sysid
stringlengths
1
6
title
stringlengths
8
870
txt
stringlengths
0
257k
611147
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อไทย ตำบลวังท่าดี ตำบลท่าด้วง อำเภอหนองไผ่ และตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อไทย ตำบลวังท่าดี ตำบลท่าด้วง อำเภอหนองไผ่ และตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อไทย ตำบลวังท่าดี ตำบลท่าด้วง อำเภอหนองไผ่ และตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อไทย ตำบลวังท่าดี ตำบลท่าด้วง อำเภอหนองไผ่ และตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบ่อไทย ตำบลวังท่าดี ตำบลท่าด้วง อำเภอหนองไผ่ และตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อไทย ตำบลวังท่าดี ตำบลท่าด้วง อำเภอหนองไผ่ และตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลบ่อไทย ตำบลวังท่าดี ตำบลท่าด้วง อำเภอหนองไผ่ และตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าลำกง และป่าคลองตะโก ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๔๖/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611141
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าขุนแม่ลาย ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๔๓/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611139
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเหมนในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๔๐/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611137
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาเขน ตำบลเขาต่อ อำเภอปลายพระยา และตำบลนาเหนือ ตำบลเขาใหญ่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาเขน ตำบลเขาต่อ อำเภอปลายพระยา และตำบลนาเหนือ ตำบลเขาใหญ่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาเขน ตำบลเขาต่อ อำเภอปลายพระยาและตำบลนาเหนือ ตำบลเขาใหญ่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาเขน ตำบลเขาต่อ อำเภอปลายพระยา และตำบลนาเหนือ ตำบลเขาใหญ่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเขาเขน ตำบลเขาต่อ อำเภอปลายพระยา และตำบลนาเหนือ ตำบลเขาใหญ่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาเขน ตำบลเขาต่อ อำเภอปลายพระยา และตำบลนาเหนือ ตำบลเขาใหญ่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเขาเขน ตำบลเขาต่อ อำเภอปลายพระยา และตำบลนาเหนือ ตำบลเขาใหญ่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาแก้วและป่าควนยิงวัว ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๓๗/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611135
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลควนกรด ตำบลเขาขาว ตำบลนาไม้ไผ่ ตำบลเขาโร อำเภอทุ่งสง และตำบลบางขัน ตำบลบ้านลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลควนกรด ตำบลเขาขาว ตำบลนาไม้ไผ่ ตำบลเขาโร อำเภอทุ่งสง และตำบลบางขัน ตำบลบ้านลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลควนกรด ตำบลเขาขาว ตำบลนาไม้ไผ่ ตำบลเขาโร อำเภอทุ่งสง และตำบลบางขัน ตำบลบ้านลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลควนกรด ตำบลเขาขาว ตำบลนาไม้ไผ่ ตำบลเขาโร อำเภอทุ่งสง และตำบลบางขัน ตำบลบ้านลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลควนกรด ตำบลเขาขาว ตำบลนาไม้ไผ่ ตำบลเขาโร อำเภอทุ่งสง และตำบลบางขัน ตำบลบ้านลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลควนกรด ตำบลเขาขาว ตำบลนาไม้ไผ่ ตำบลเขาโร อำเภอทุ่งสง และตำบลบางขัน ตำบลบ้านลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลควนกรด ตำบลเขาขาว ตำบลนาไม้ไผ่ ตำบลเขาโร อำเภอทุ่งสง และตำบลบางขัน ตำบลบ้านลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพหรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอ่าวกราย ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้วสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๓๔/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611133
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอบ้านนา อำเภอองครักษ์ อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอบ้านนา อำเภอองครักษ์ อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอบ้านนา และอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๑๘ และพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอบ้านนา อำเภอองครักษ์ อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิก (๑) พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอบ้านนา และอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๑๘ (๒) พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านพริก ตำบลอาษา ตำบลทองหลาง ตำบลบางอ้อ อำเภอบ้านนา ตำบลโพธิ์แทน ตำบลบางปลากด ตำบลทรายมูล ตำบลคลองใหญ่ ตำบลองครักษ์ ตำบลบึงศาล ตำบลบางสมบูรณ์ ตำบลบางลูกเสือ ตำบลศีรษะกระบือ ตำบลพระอาจารย์ อำเภอองครักษ์ ตำบลท่าช้าง ตำบลวังกระโจม ตำบลดงละคร ตำบลดอนยอ ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมืองนครนายก และตำบลเกาะโพธิ์ ตำบลปากพลี ตำบลท่าเรือ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอบ้านนา อำเภอองครักษ์ อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอบ้านนา และอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๑๘ และพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่อำเภอบ้านนา อำเภอองครักษ์ อำเภอเมืองนครนายกและอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๓๑/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611131
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยน้ำขาว และตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยน้ำขาว และตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยน้ำขาว และตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยน้ำขาว และตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลห้วยน้ำขาว และตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยน้ำขาว และตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลห้วยน้ำขาวและตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองพน และป่าบากัน ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๒๘/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611129
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล และตำบลบึงบูรพ์ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล และตำบลบึงบูรพ์ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล และตำบลบึงบูรพ์ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล และตำบลบึงบูรพ์ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล และตำบลบึงบูรพ์ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล และตำบลบึงบูรพ์ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศลและตำบลบึงบูรพ์ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงใหญ่ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๒๕/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611123
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยส้มและป่าภูผาแดง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๒๒/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611119
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฟ้าห่วน อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร และตำบลธาตุน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฟ้าห่วน อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร และตำบลธาตุน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฟ้าห่วน อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธรและตำบลธาตุน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฟ้าห่วน อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร และตำบลธาตุน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลฟ้าห่วน อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร และตำบลธาตุน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฟ้าห่วน อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร และตำบลธาตุน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลฟ้าห่วน อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร และตำบลธาตุน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงใหญ่ ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๑๙/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611109
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกุดน้ำใส และตำบลน้ำอ้อม อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกุดน้ำใส และตำบลน้ำอ้อม อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกุดน้ำใส และตำบลน้ำอ้อม อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกุดน้ำใส และตำบลน้ำอ้อม อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลกุดน้ำใส และตำบลน้ำอ้อม อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกุดน้ำใส และตำบลน้ำอ้อม อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลกุดน้ำใส และตำบลน้ำอ้อม อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบ้านแจนแลน ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๑๖/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611105
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งมน ตำบลดงเจริญ และตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งมน ตำบลดงเจริญ และตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งมน ตำบลดงเจริญ และตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งมน ตำบลดงเจริญ และตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลทุ่งมน ตำบลดงเจริญ และตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งมน ตำบลดงเจริญ และตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลทุ่งมน ตำบลดงเจริญและตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าหนองแดงในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๑๓/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611099
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งยาว และตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งยาว และตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งยาวและตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งยาว และตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลทุ่งยาว และตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งยาว และตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลทุ่งยาว และตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าควนสำนักควนปอม ป่าเทือกเขาบรรทัด แปลง ๒ ตอน ๑ และป่าเลนคลองหยงสตาร์ - คลองหลักขันธุ์ - คลองลิพัง ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑พฤษ๓าคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๑๐/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611093
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านนา ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน และตำบลบ้าหวี ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านนา ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน และตำบลบ้าหวี ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านนา ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียนและตำบลบ้าหวี ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านนา ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน และตำบลบ้าหวี ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านนา ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน และตำบลบ้าหวี ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านนา ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน และตำบลบ้าหวี ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลบ้านนา ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน และตำบลบ้าหวี ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าเลนคลองปรน - คลองควนยาง - คลองหินคอกควาย ป่าพรุชีล้อม ป่าแก่คอกช้าง และป่าควนล้วนในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๗/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
611085
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว และตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว และตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาวและตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว และตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาวและตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว และตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว และตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีป่าโพรงจระเข้ - ในควน ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๔/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
610947
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกสะบ้า อำเภอนาโยง และตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกสะบ้า อำเภอนาโยง และตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกสะบ้า อำเภอนาโยง และตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกสะบ้า อำเภอนาโยง และตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลโคกสะบ้า อำเภอนาโยง และตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกสะบ้า อำเภอนาโยง และตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลโคกสะบ้า อำเภอนาโยงและตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากสมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าเขาอ้อย ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๕๑ ก/หน้า ๑/๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
609497
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาหลวง และตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาหลวง และตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาหลวง และตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาหลวง และตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเขาหลวง และตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาหลวง และตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเขาหลวง และตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูห้วยปูนและป่าภูแผงม้า ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๔๓/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609533
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไสโป๊ะแปลงที่หนึ่งและแปลงที่สอง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๔๐/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609527
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลผาช้างน้อย ตำบลงิม ตำบลออย ตำบลนาปรัง ตำบลขุนควร ตำบลควร ตำบลปง อำเภอปง ตำบลสระ ตำบลเชียงม่วน ตำบลบ้านมาง อำเภอเชียงม่วน และตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยาให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลผาช้างน้อย ตำบลงิม ตำบลออย ตำบลนาปรัง ตำบลขุนควร ตำบลควร ตำบลปง อำเภอปง ตำบลสระ ตำบลเชียงม่วน ตำบลบ้านมาง อำเภอเชียงม่วน และตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลผาช้างน้อย ตำบลงิม ตำบลออย ตำบลนาปรัง ตำบลขุนควร ตำบลควร ตำบลปง อำเภอปง ตำบลสระ ตำบลเชียงม่วน ตำบลบ้านมาง อำเภอเชียงม่วน และตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลผาช้างน้อย ตำบลงิม ตำบลออย ตำบลนาปรัง ตำบลขุนควร ตำบลควร ตำบลปง อำเภอปง ตำบลสระ ตำบลเชียงม่วน ตำบลบ้านมาง อำเภอเชียงม่วน และตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลผาช้างน้อย ตำบลงิม ตำบลออย ตำบลนาปรัง ตำบลขุนควร ตำบลควร ตำบลปง อำเภอปง ตำบลสระ ตำบลเชียงม่วน ตำบลบ้านมาง อำเภอเชียงม่วน และตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลผาช้างน้อย ตำบลงิม ตำบลออย ตำบลนาปรัง ตำบลขุนควร ตำบลควร ตำบลปง อำเภอปง ตำบลสระ ตำบลเชียงม่วน ตำบลบ้านมาง อำเภอเชียงม่วน และตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลผาช้างน้อย ตำบลงิม ตำบลออย ตำบลนาปรัง ตำบลขุนควร ตำบลควร ตำบลปง อำเภอปง ตำบลสระ ตำบลเชียงม่วน ตำบลบ้านมาง อำเภอเชียงม่วน และตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ยม ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ปริยานุช/ผู้จัดทำ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๓๗/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609519
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยลาน ตำบลป่าซาง ตำบลดงสุวรรณ ตำบลสันโค้ง ตำบลดอนศรีชุม และตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินพ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยลาน ตำบลป่าซาง ตำบลดงสุวรรณ ตำบลสันโค้ง ตำบลดอนศรีชุม และตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยลาน ตำบลป่าซาง ตำบลดงสุวรรณ ตำบลสันโค้ง ตำบลดอนศรีชุม และตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยลาน ตำบลป่าซาง ตำบลดงสุวรรณ ตำบลสันโค้ง ตำบลดอนศรีชุม และตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลห้วยลาน ตำบลป่าซาง ตำบลดงสุวรรณ ตำบลสันโค้ง ตำบลดอนศรีชุม และตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยลาน ตำบลป่าซาง ตำบลดงสุวรรณ ตำบลสันโค้ง ตำบลดอนศรีชุม และตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลห้วยลาน ตำบลป่าซาง ตำบลดงสุวรรณ ตำบลสันโค้ง ตำบลดอนศรีชุม และตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยดอกเข็ม และป่าแม่อิงฝั่งขวา ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๓๔/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609515
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองบัว ตำบลโนนฆ้อง ตำบลบ้านฝาง ตำบลป่ามะนาว อำเภอบ้านฝาง และตำบลจระเข้ ตำบลยางคำ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่นให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองบัว ตำบลโนนฆ้อง ตำบลบ้านฝาง ตำบลป่ามะนาว อำเภอบ้านฝาง และตำบลจระเข้ ตำบลยางคำ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองบัว ตำบลโนนฆ้อง ตำบลบ้านฝาง ตำบลป่ามะนาว อำเภอบ้านฝาง และตำบลจระเข้ ตำบลยางคำ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองบัว ตำบลโนนฆ้อง ตำบลบ้านฝาง ตำบลป่ามะนาว อำเภอบ้านฝาง และตำบลจระเข้ ตำบลยางคำ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลหนองบัว ตำบลโนนฆ้อง ตำบลบ้านฝาง ตำบลป่ามะนาว อำเภอบ้านฝาง และตำบลจระเข้ ตำบลยางคำ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองบัว ตำบลโนนฆ้อง ตำบลบ้านฝาง ตำบลป่ามะนาว อำเภอบ้านฝาง และตำบลจระเข้ ตำบลยางคำ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลหนองบัว ตำบลโนนฆ้อง ตำบลบ้านฝาง ตำบลป่ามะนาว อำเภอบ้านฝาง และตำบลจระเข้ ตำบลยางคำ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่นมีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพหรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าโคกตลาดใหญ่ ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๓๑/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609509
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองขอน และตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานีให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองขอน และตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองขอน และตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองขอน และตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลหนองขอน และตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองขอน และตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลหนองขอน และตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงเปือย ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๒๘/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609505
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอซับใหญ่ อำเภอจัตุรัส อำเภอเทพสถิต อำเภอบำเหน็จณรงค์ และอำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอซับใหญ่ อำเภอจัตุรัส อำเภอเทพสถิต อำเภอบำเหน็จณรงค์ และอำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอซับใหญ่ อำเภอจัตุรัส อำเภอเทพสถิต อำเภอบำเหน็จณรงค์ และอำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลซับสีทอง ตำบลท่าหินโงม ตำบลห้วยต้อน ตำบลนาฝาย ตำบลนาเสียว ตำบลโคกสูง ตำบลห้วยบง ตำบลโพนทอง ตำบลบ้านเล่า อำเภอเมืองชัยภูมิ ตำบลช่องสามหมอ ตำบลห้วยไร่ ตำบลบ้านโสก อำเภอคอนสวรรค์ ตำบลภูแลนคา ตำบลชีบน อำเภอบ้านเขว้า ตำบลโสกปลาดุก อำเภอหนองบัวระเหว ตำบลท่ากูบ ตำบลซับใหญ่ ตำบลตะโกทอง อำเภอซับใหญ่ ตำบลส้มป่อย ตำบลกุดน้ำใส ตำบลบ้านกอก ตำบลหนองบัวโคก อำเภอจัตุรัส ตำบลนายางกลัก ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต ตำบลโคกเพชรพัฒนา ตำบลบ้านชวน อำเภอบำเหน็จณรงค์ และตำบลตาเนิน ตำบลรังงาม อำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในอำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอซับใหญ่ อำเภอจัตุรัส อำเภอเทพสถิต อำเภอบำเหน็จณรงค์ และอำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วยต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๒๕/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609501
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานีให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ห้วยนาว ในท้องที่ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งทางราชการได้ประกาศหวงห้าม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๒,๔๐๐ ไร่ ปัจจุบันปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้วบางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๑,๐๒๓ ไร่ สมควรกำหนดเขตที่ดินซึ่งได้เปลี่ยนสภาพบางส่วนนี้ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๒๒/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609495
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์บ้านราไวเหนือ - ราไวใต้ ในท้องที่ตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เนื้อที่ประมาณ ๖๔๔ ไร่ ซึ่งพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน ปัจจุบันปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๑๙/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609493
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าหลังสอดและป่าควนบากันเกาะ ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๑๖/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609491
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยหินลาด ตำบลหินกอง ตำบลสระคู ตำบลทุ่งหลวง ตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ ตำบลกำแพง ตำบลเมืองบัว ตำบลกู่กาสิงห์ ตำบลดงครั่งน้อย ตำบลดงครั่งใหญ่ ตำบลทุ่งทอง อำเภอเกษตรวิสัย ตำบลศรีสว่าง ตำบลท่าหาดยาว ตำบลสามขา ตำบลยางคำ อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด และตำบลเมืองเตา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยหินลาด ตำบลหินกอง ตำบลสระคู ตำบลทุ่งหลวง ตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ ตำบลกำแพง ตำบลเมืองบัว ตำบลกู่กาสิงห์ ตำบลดงครั่งน้อย ตำบลดงครั่งใหญ่ ตำบลทุ่งทอง อำเภอเกษตรวิสัย ตำบลศรีสว่าง ตำบลท่าหาดยาว ตำบลสามขา ตำบลยางคำ อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด และตำบลเมืองเตา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอสุวรรณภูมิและกิ่งอำเภอโพนทราย อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๑๙ และพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๑ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยหินลาด ตำบลหินกอง ตำบลสระคู ตำบลทุ่งหลวง ตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ ตำบลกำแพง ตำบลเมืองบัว ตำบลกู่กาสิงห์ ตำบลดงครั่งน้อย ตำบลดงครั่งใหญ่ ตำบลทุ่งทอง อำเภอเกษตรวิสัย ตำบลศรีสว่าง ตำบลท่าหาดยาว ตำบลสามขา ตำบลยางคำ อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด และตำบลเมืองเตา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิก (๑) พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอสุวรรณภูมิ และกิ่งอำเภอโพนทราย อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๑๙ (๒) พระราชกฤษฎีกากำ หนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำ เภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๑ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลห้วยหินลาด ตำบลหินกอง ตำบลสระคู ตำบลทุ่งหลวง ตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ ตำบลกำแพง ตำบลเมืองบัว ตำบลกู่กาสิงห์ ตำบลดงครั่งน้อย ตำบลดงครั่งใหญ่ ตำบลทุ่งทอง อำเภอเกษตรวิสัย ตำบลศรีสว่าง ตำบลท่าหาดยาว ตำบลสามขา ตำบลยางคำ อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด และตำบลเมืองเตา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยหินลาด ตำบลหินกอง ตำบลสระคู ตำบลทุ่งหลวง ตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ ตำบลกำแพง ตำบลเมืองบัว ตำบลกู่กาสิงห์ ตำบลดงครั่งน้อย ตำบลดงครั่งใหญ่ ตำบลทุ่งทอง อำเภอเกษตรวิสัย ตำบลศรีสว่าง ตำบลท่าหาดยาว ตำบลสามขา ตำบลยางคำ อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด และตำบลเมืองเตา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอสุวรรณภูมิ และกิ่งอำเภอโพนทราย อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๑๙ และพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่อำเภอสุวรรณภูมิ กิ่งอำเภอโพนทราย อำเภอสุวรรณภูมิ และอำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ปริยานุช/ผู้จัดทำ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๑๓/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609489
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลถ่อนนาลับ ตำบลบ้านจันทน์ ตำบลนาไหม ตำบลบ้านดุง ตำบลวังทอง ตำบลบ้านม่วง ตำบลโพนสูง ตำบลศรีสุทโธ ตำบลนาคำ ตำบลดงเย็น ตำบลบ้านชัย ตำบลอ้อมกอ และตำบลบ้านตาด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลถ่อนนาลับ ตำบลบ้านจันทน์ ตำบลนาไหม ตำบลบ้านดุง ตำบลวังทอง ตำบลบ้านม่วง ตำบลโพนสูง ตำบลศรีสุทโธ ตำบลนาคำ ตำบลดงเย็น ตำบลบ้านชัย ตำบลอ้อมกอ และตำบลบ้านตาด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๔ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลถ่อนนาลับ ตำบลบ้านจันทน์ ตำบลนาไหม ตำบลบ้านดุง ตำบลวังทอง ตำบลบ้านม่วง ตำบลโพนสูง ตำบลศรีสุทโธ ตำบลนาคำ ตำบลดงเย็น ตำบลบ้านชัย ตำบลอ้อมกอ และตำบลบ้านตาด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๔ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลถ่อนนาลับ ตำบลบ้านจันทน์ ตำบลนาไหม ตำบลบ้านดุง ตำบลวังทอง ตำบลบ้านม่วง ตำบลโพนสูง ตำบลศรีสุทโธ ตำบลนาคำ ตำบลดงเย็น ตำบลบ้านชัย ตำบลอ้อมกอ และตำบลบ้านตาด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลถ่อนนาลับ ตำบลบ้านจันทน์ ตำบลนาไหม ตำบลบ้านดุง ตำบลวังทอง ตำบลบ้านม่วง ตำบลโพนสูง ตำบลศรีสุทโธ ตำบลนาคำ ตำบลดงเย็น ตำบลบ้านชัย ตำบลอ้อมกอ และตำบลบ้านตาด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วยต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๑๐/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609487
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าอ้อดอนชัย ตำบลท่าสาย ตำบลสันทราย ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย และตำบลโป่งแพร่ ตำบลบัวสลี ตำบลป่าก่อดำ ตำบลจอมหมอกแก้ว ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าอ้อดอนชัย ตำบลท่าสาย ตำบลสันทราย ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย และตำบลโป่งแพร่ ตำบลบัวสลี ตำบลป่าก่อดำ ตำบลจอมหมอกแก้ว ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๙ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าอ้อดอนชัย ตำบลท่าสาย ตำบลสันทราย ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย และตำบลโป่งแพร่ ตำบลบัวสลี ตำบลป่าก่อดำ ตำบลจอมหมอกแก้ว ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๙ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลป่าอ้อดอนชัย ตำบลท่าสาย ตำบลสันทราย ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย และตำบลโป่งแพร่ ตำบลบัวสลี ตำบลป่าก่อดำ ตำบลจอมหมอกแก้ว ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าอ้อดอนชัย ตำบลท่าสาย ตำบลสันทราย ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย และตำบลโป่งแพร่ ตำบลบัวสลี ตำบลป่าก่อดำ ตำบลจอมหมอกแก้ว ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๗/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609484
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางนายสี และตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางนายสี และตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางนายสี และตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางนายสี และตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบางนายสี และตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางนายสี และตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลบางนายสี และตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขามามังและป่าเขาบางเต่า ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ เมษายน ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๔/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
609482
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำปิง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๑/๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608593
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนจาน อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม และตำบลโพธิ์ไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนจาน อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม และตำบลโพธิ์ไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลโพนจาน อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม และตำบลโพธิ์ไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างระบบส่งน้ำตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินชะแนนใหญ่ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กับมาตรา ๕ วรรคสาม และมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ประกอบกับมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พุทธศักราช ๒๔๘๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๐ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนจาน อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม และตำบลโพธิ์ไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้มีกำหนดสามปี มาตรา ๔ ที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างระบบส่งน้ำตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินชะแนนใหญ่ มาตรา ๕ ให้อธิบดีกรมชลประทานเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ มาตรา ๖ เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ อยู่ในท้องที่ตำบลโพนจาน อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม และตำบลโพธิ์ไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ มาตรา ๗ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนจาน อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม และตำบลโพธิ์ไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องก่อสร้างระบบส่งน้ำตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินชะแนนใหญ่ ในท้องที่ตำบลโพนจาน อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนมและตำบลโพธิ์ไพศาล อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน การส่งน้ำสำหรับพื้นที่การเกษตร ตลอดจนการอุปโภคและบริโภค ในการนี้ สมควรกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๙๑/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608591
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานีให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานีให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงผักขา ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๘๘/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608589
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่สอย และตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่สอย และตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่สอย และตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่สอย และตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลแม่สอย และตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่สอย และตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลแม่สอย และตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าจอมทองในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๘๕/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608587
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลสว่าง และตำบลแก่งโดม อำเภอสว่างวีระวงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลสว่าง และตำบลแก่งโดม อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลสว่าง และตำบลแก่งโดม อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลสว่าง และตำบลแก่งโดม อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลสว่าง และตำบลแก่งโดม อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลสว่าง และตำบลแก่งโดม อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลสว่าง และตำบลแก่งโดม อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าโนนฮังรังแร้ง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๘๒/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608585
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนายาง ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลนายาง ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลนายาง ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลนายาง ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลนายาง ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนายาง ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลนายาง ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่านาอิน - นายาง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๗๙/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608583
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ่อภาค ตำบลชาติตระการ ตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ และตำบลบ้านพร้าว ตำบลนาบัว ตำบลนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบ่อภาค ตำบลชาติตระการ ตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ และตำบลบ้านพร้าว ตำบลนาบัว ตำบลนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบ่อภาค ตำบลชาติตระการ ตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ และตำบลบ้านพร้าว ตำบลนาบัว ตำบลนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบ่อภาค ตำบลชาติตระการ ตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ และตำบลบ้านพร้าว ตำบลนาบัว ตำบลนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบ่อภาค ตำบลชาติตระการ ตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ และตำบลบ้านพร้าว ตำบลนาบัว ตำบลนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบ่อภาค ตำบลชาติตระการ ตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ และตำบลบ้านพร้าว ตำบลนาบัว ตำบลนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลบ่อภาค ตำบลชาติตระการ ตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ และตำบลบ้านพร้าว ตำบลนาบัว ตำบลนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ได้แก่ ป่าน้ำภาคฝั่งขวา ป่าน้ำภาคและป่าลำแควน้อยฝั่งซ้าย และป่าแดงและป่าชาติตระการ ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๗๖/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608581
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว ตำบลบ่อโพธิ์ ตำบลเนินเพิ่ม ตำบลหนองกะท้าว และตำบลห้วยเฮี้ย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว ตำบลบ่อโพธิ์ ตำบลเนินเพิ่ม ตำบลหนองกะท้าว และตำบลห้วยเฮี้ย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว ตำบลบ่อโพธิ์ ตำบลเนินเพิ่ม ตำบลหนองกะท้าว และตำบลห้วยเฮี้ย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว ตำบลบ่อโพธิ์ ตำบลเนินเพิ่ม ตำบลหนองกะท้าว และตำบลห้วยเฮี้ย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว ตำบลบ่อโพธิ์ ตำบลเนินเพิ่ม ตำบลหนองกะท้าว และตำบลห้วยเฮี้ย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว ตำบลบ่อโพธิ์ ตำบลเนินเพิ่ม ตำบลหนองกะท้าว และตำบลห้วยเฮี้ย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลยางโกลน ตำบลนาบัว ตำบลบ่อโพธิ์ ตำบลเนินเพิ่ม ตำบลหนองกะท้าว และตำบลห้วยเฮี้ย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเนินเพิ่ม ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ปริยานุช/ผู้จัดทำ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๗๓/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608579
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ และตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ และตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ และตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ และตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ และตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ และตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการและตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าโป่งแค ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๗๐/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608575
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแม่พุง ตำบลวังชิ้น ตำบลป่าสัก และตำบลสรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่พุง ตำบลวังชิ้น ตำบลป่าสัก และตำบลสรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่พุง ตำบลวังชิ้น ตำบลป่าสักและตำบลสรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่พุง ตำบลวังชิ้น ตำบลป่าสัก และตำบลสรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลแม่พุง ตำบลวังชิ้น ตำบลป่าสัก และตำบลสรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่พุง ตำบลวังชิ้น ตำบลป่าสัก และตำบลสรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลแม่พุง ตำบลวังชิ้น ตำบลป่าสัก และตำบลสรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่สรอย ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ปริยานุช/ผู้จัดทำ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๖๗/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608571
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแม่ด้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่าสองยาง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ปริยานุช/ผู้จัดทำ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๖๔/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608569
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล และตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยช้าง และป่าปู่เจ้า ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๖๑/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608567
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าคาย อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลป่าคาย อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลป่าคาย อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลป่าคาย อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลป่าคาย อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลป่าคาย อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลป่าคาย อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงช้างดี ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๕๘/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608565
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแม่จั๊วะ ตำบลเด่นชัย และตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่จั๊วะ ตำบลเด่นชัย และตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่จั๊วะ ตำบลเด่นชัย และตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่จั๊วะ ตำบลเด่นชัย และตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลแม่จั๊วะ ตำบลเด่นชัย และตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่จั๊วะ ตำบลเด่นชัย และตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลแม่จั๊วะ ตำบลเด่นชัยและตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่พวกในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๕๕/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608561
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหัวฝาย อำเภอสูงเม่น และตำบลแม่จั๊วะ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหัวฝาย อำเภอสูงเม่น และตำบลแม่จั๊วะ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหัวฝาย อำเภอสูงเม่น และตำบลแม่จั๊วะ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหัวฝาย อำเภอสูงเม่น และตำบลแม่จั๊วะ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลหัวฝาย อำเภอสูงเม่น และตำบลแม่จั๊วะ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหัวฝาย อำเภอสูงเม่น และตำบลแม่จั๊วะ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลหัวฝาย อำเภอสูงเม่นและตำบลแม่จั๊วะ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่จั๊วะ และป่าแม่มาน ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๕๒/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608558
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลไทรย้อย อำเภอเด่นชัย และตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลไทรย้อย อำเภอเด่นชัย และตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลไทรย้อย อำเภอเด่นชัย และตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลไทรย้อย อำเภอเด่นชัย และตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลไทรย้อย อำเภอเด่นชัย และตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลไทรย้อย อำเภอเด่นชัย และตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลไทรย้อย อำเภอเด่นชัยและตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบ่อแก้ว ป่าแม่สูง และป่าแม่สิน ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ปริยานุช/ผู้จัดทำ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๔๙/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608554
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ และตำบลอีเซ ตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ และตำบลอีเซ ตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ และตำบลอีเซ ตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ และตำบลอีเซ ตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ และตำบลอีเซ ตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ และตำบลอีเซ ตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์และตำบลอีเซ ตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าโนนลาน ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๔๖/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608552
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคอนกาม ตำบลยางชุมน้อย ตำบลยางชุมใหญ่ และตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลคอนกาม ตำบลยางชุมน้อย ตำบลยางชุมใหญ่ และตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคอนกาม ตำบลยางชุมน้อย ตำบลยางชุมใหญ่ และตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลคอนกาม ตำบลยางชุมน้อย ตำบลยางชุมใหญ่ และตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลคอนกาม ตำบลยางชุมน้อย ตำบลยางชุมใหญ่ และตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลคอนกาม ตำบลยางชุมน้อย ตำบลยางชุมใหญ่ และตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลคอนกาม ตำบลยางชุมน้อย ตำบลยางชุมใหญ่ และตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแตงแซง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๔๓/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608550
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยางชุมน้อย ตำบลบึงบอน อำเภอยางชุมน้อย และตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลยางชุมน้อย ตำบลบึงบอน อำเภอยางชุมน้อย และตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยางชุมน้อย ตำบลบึงบอน อำเภอยางชุมน้อย และตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลยางชุมน้อย ตำบลบึงบอน อำเภอยางชุมน้อย และตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลยางชุมน้อย ตำบลบึงบอน อำเภอยางชุมน้อย และตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลยางชุมน้อย ตำบลบึงบอน อำเภอยางชุมน้อย และตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลยางชุมน้อย ตำบลบึงบอน อำเภอยางชุมน้อย และตำบลอีปาด อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่ายางชุมน้อยและป่าทุ่งมั่ง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้วสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๔๐/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608548
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบ้านพอก ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๓๗/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608546
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย และตำบลบัวน้อย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย และตำบลบัวน้อย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย และตำบลบัวน้อย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย และตำบลบัวน้อย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย และตำบลบัวน้อย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย และตำบลบัวน้อย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย และตำบลบัวน้อย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงใหญ่ ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้วสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๓๔/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608544
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลรังแร้ง อำเภออุทุมพรพิสัย และตำบลคูซอด อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลรังแร้ง อำเภออุทุมพรพิสัย และตำบลคูซอด อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลรังแร้ง อำเภออุทุมพรพิสัย และตำบลคูซอด อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลรังแร้ง อำเภออุทุมพรพิสัย และตำบลคูซอด อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลรังแร้ง อำเภออุทุมพรพิสัย และตำบลคูซอด อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลรังแร้ง อำเภออุทุมพรพิสัย และตำบลคูซอด อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลรังแร้ง อำเภออุทุมพรพิสัย และตำบลคูซอด อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าโนนทราย ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้วสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๓๑/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608542
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าไผ่ ตำบลลี้ และตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลป่าไผ่ ตำบลลี้ และตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลป่าไผ่ ตำบลลี้ และตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าไผ่ ตำบลลี้ และตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลป่าไผ่ ตำบลลี้ และตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลป่าไผ่ ตำบลลี้ และตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลป่าไผ่ ตำบลลี้ และตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ลี้ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๒๘/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608540
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลศรีวิชัย ตำบลแม่ตืน และตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลศรีวิชัย ตำบลแม่ตืน และตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลศรีวิชัย ตำบลแม่ตืน และตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลศรีวิชัย ตำบลแม่ตืน และตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลศรีวิชัย ตำบลแม่ตืน และตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลศรีวิชัย ตำบลแม่ตืน และตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลศรีวิชัย ตำบลแม่ตืนและตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ตืนและป่าแม่แนต ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๒๕/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608535
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยยาบ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ และตำบลมะเขือแจ้ ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลห้วยยาบ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ และตำบลมะเขือแจ้ ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยยาบ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิและตำบลมะเขือแจ้ ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลห้วยยาบ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ และตำบลมะเขือแจ้ ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลห้วยยาบ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ และตำบลมะเขือแจ้ ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยยาบ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ และตำบลมะเขือแจ้ ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลห้วยยาบ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ และตำบลมะเขือแจ้ ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ธิ แม่ตีบ แม่สาร ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๒๒/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608533
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเหล่ายาว และตำบลบ้านโฮ่ง ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง และตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลเหล่ายาว ตำบลบ้านโฮ่ง ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง และตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลเหล่ายาว ตำบลบ้านโฮ่ง ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง และตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลเหล่ายาว ตำบลบ้านโฮ่ง ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง และตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเหล่ายาว ตำบลบ้านโฮ่ง ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่งและตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลเหล่ายาว ตำบลบ้านโฮ่ง ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง และตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเหล่ายาว ตำบลบ้านโฮ่ง ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง และตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบ้านโฮ่ง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๑๙/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608531
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ และตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้และตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้และตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้และตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ และตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้และตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้และตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์จำนวน ๔ แปลง ได้แก่ แปลงที่ ๑ ที่ดินสาธารณประโยชน์พรุโต๊ะฤทธิ์ ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ และทางราชการได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ ๒๘๕๗๑ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ เนื้อที่ประมาณ ๑,๗๒๑ ไร่ ๑ งาน ๒๕ ตารางวา แปลงที่ ๒ ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งควนไม้ฮ่อง ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ และทางราชการได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเลขที่ ๒๘๕๗๒ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ เนื้อที่ประมาณ ๑,๗๙๘ ไร่ ๓ งาน ๓๔ ตารางวา แปลงที่ ๓ ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งโคกหรังหรือทุ่งบ่อเรียน ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ซึ่งทางราชการได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙ สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ เนื้อที่ประมาณ ๑,๐๐๐ ไร่ แต่เมื่อมีการสำรวจรังวัดใหม่ปรากฏว่ามีเนื้อที่ประมาณ ๒,๔๙๗ ไร่ ๒ งาน ๖๙ ตารางวา และแปลงที่ ๔ ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งควนขานาง ในท้องที่ตำบลโพรงจระเข้และตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ ซึ่งทางราชการได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ ๑๙๗๖๒ ลงวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ เนื้อที่ประมาณ ๒,๓๕๒ ไร่ ๓ งาน ๗๓ ตารางวา ปัจจุบันปรากฏว่าได้มีการเปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้วสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๑๖/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608526
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลสมเด็จเจิรญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์และตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าหนองรี ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๑๓/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608524
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบึงทับแรต ตำบลหนองหลวง ตำบลลานกระบือ ตำบลจันทิมา ตำบลโนนพลวง อำเภอลานกระบือ และตำบลวังตะแบก ตำบลคุยบ้านโอง ตำคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบึงทับแรต ตำบลหนองหลวง ตำบลลานกระบือ ตำบลจันทิมา ตำบลโนนพลวง อำเภอลานกระบือ และตำบลวังตะแบก ตำบลคุยบ้านโอง ตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบึงทับแรต ตำบลหนองหลวง ตำบลลานกระบือ ตำบลจันทิมา ตำบลโนนพลวง อำเภอลานกระบือ และตำบลวังตะแบก ตำบลคุยบ้านโอง ตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบึงทับแรต ตำบลหนองหลวง ตำบลลานกระบือ ตำบลจันทิมา ตำบลโนนพลวง อำเภอลานกระบือ และตำบลวังตะแบก ตำบลคุยบ้านโอง ตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบึงทับแรต ตำบลหนองหลวง ตำบลลานกระบือ ตำบลจันทิมา ตำบลโนนพลวง อำเภอลานกระบือ และตำบลวังตะแบก ตำบลคุยบ้านโอง ตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบึงทับแรต ตำบลหนองหลวง ตำบลลานกระบือ ตำบลจันทิมา ตำบลโนนพลวง อำเภอลานกระบือ และตำบลวังตะแบก ตำบลคุยบ้านโอง ตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลบึงทับแรต ตำบลหนองหลวง ตำบลลานกระบือ ตำบลจันทิมา ตำบลโนนพลวง อำเภอลานกระบือ และตำบลวังตะแบก ตำบลคุยบ้านโอง ตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีป่าหนองหลวง ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๑๐/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608522
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่าไม้ และตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลท่าไม้และตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลท่าไม้และตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลท่าไม้และตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลท่าไม้และตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่าไม้และตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลท่าไม้ และตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากสมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าแม่ระกา (แปลง ๑) และป่าแม่ระกา (แปลง ๒) ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ปริยานุช/ผู้จัดทำ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๗/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608520
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลนาสักและตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๐ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาสัก และตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาสัก และตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินครอบคลุมบริเวณบ้านใหม่รัตนโกสินทร์ ในท้องที่ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง แต่ในปัจจุบันทางราชการไม่มีโครงการที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมบริเวณบ้านใหม่รัตนโกสินทร์ ประกอบกับมีพื้นที่บางแห่งที่ไม่สมควรกำหนดเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน สมควรปรับปรุงแนวเขตปฏิรูปที่ดินตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเสียใหม่ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๔/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
608518
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลถ้ำกระต่ายทองและตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลถ้ำกระต่ายทองและตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลถ้ำกระต่ายทองและตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลถ้ำกระต่ายทองและตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลถ้ำกระต่ายทองและตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลถ้ำกระต่ายทอง และตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลถ้ำกระต่ายทอง และตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าคลองห้วยทรายในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๓ ก/หน้า ๑/๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
606521
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกก่ง ตำบลป่าก่อ อำเภอชานุมาน ตำบลหนองไฮ อำเภอเสนางคนิคม ตำบลหนองข่า ตำบลคำโพน อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ ตำบลโนนสวาง อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกก่ง ตำบลป่าก่อ อำเภอชานุมาน ตำบลหนองไฮ อำเภอเสนางคนิคม ตำบลหนองข่า ตำบลคำโพน อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ ตำบลโนนสวาง อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกก่ง ตำบลป่าก่อ อำเภอชานุมาน ตำบลหนองไฮ อำเภอเสนางคนิคม ตำบลหนองข่า ตำบลคำโพน อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ ตำบลโนนสวาง อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ งต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกก่ง ตำบลป่าก่อ อำเภอชานุมาน ตำบลหนองไฮ อำเภอเสนางคนิคม ตำบลหนองข่า ตำบลคำโพน อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ ตำบลโนนสวาง อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลโคกก่ง ตำบลป่าก่อ อำเภอชานุมาน ตำบลหนองไฮ อำเภอเสนางคนิคม ตำบลหนองข่า ตำบลคำโพน อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ ตำบลโนนสวาง อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกก่ง ตำบลป่าก่อ อำเภอชานุมาน ตำบลหนองไฮ อำเภอเสนางคนิคม ตำบลหนองข่า ตำบลคำโพน อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ ตำบลโนนสวาง อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลโคกก่ง ตำบลป่าก่อ อำเภอชานุมาน ตำบลหนองไฮ อำเภอเสนางคนิคม ตำบลหนองข่า ตำบลคำโพน อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ ตำบลโนนสวาง อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานีมีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพหรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าดงคำเดือย - ฝั่งขวาห้วยทม ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๔๓/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606519
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองสิม และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองสิม และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองสิม และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองสิม และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลหนองสิม และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองสิม และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลหนองสิม และตำบลหนองผือ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากสมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าดงคำเดือย - ฝั่งขวาห้วยทมในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๔๐/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606517
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคำไหล อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคำไหล อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคำไหล อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคำไหล อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลคำไหล อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคำไหล อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลคำไหล อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าสุวรรณวารี ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๓๗/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606515
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินที่ได้จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีป่าหนองรี ในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๓๔/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606512
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยทา และป่าห้วยขยุงในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๓๑/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606509
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยยูง ตำบลโคกยาง อำเภอเหนือคลอง และตำบลเพหลา ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยยูง ตำบลโคกยาง อำเภอเหนือคลอง และตำบลเพหลา ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยยูง ตำบลโคกยาง อำเภอเหนือคลอง และตำบลเพหลา ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยยูง ตำบลโคกยาง อำเภอเหนือคลอง และตำบลเพหลา ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลห้วยยูง ตำบลโคกยาง อำเภอเหนือคลอง และตำบลเพหลา ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยยูง ตำบลโคกยาง อำเภอเหนือคลอง และตำบลเพหลา ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลห้วยยูง ตำบลโคกยาง อำเภอเหนือคลอง และตำบลเพหลา ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ได้แก่ (๑) ป่าเขาขวาง ป่าโคกยาง และป่าช่องบางเหรียง และ (๒) ป่าเขาช่องเสียด ป่าเขากลม และป่าเขาช่องบางเหรียง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๒๘/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606506
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยสีเสียด อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า อำเภอหนองหิน และตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยสีเสียด อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า อำเภอหนองหิน และตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยสีเสียด อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า อำเภอหนองหิน และตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยสีเสียด อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า อำเภอหนองหิน และตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลห้วยสีเสียด อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า อำเภอหนองหิน และตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยสีเสียด อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า อำเภอหนองหิน และตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลห้วยสีเสียด อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า อำเภอหนองหิน และตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูค้อ และป่าภูกระแตในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๒๕/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606504
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งบกหยวก ในท้องที่ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ซึ่งทางราชการได้ประกาศหวงห้าม เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๕ สำหรับพลเมืองใช้ไม้ ตัดฟืน และเลี้ยงสัตว์พาหนะ และได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ ๒๘๓๕๗ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๘ เนื้อที่ประมาณ ๓,๒๒๑ ไร่ ๖๓ ตารางวา แต่ปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้ว โดยที่ได้มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินในที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าวไปแล้วบางส่วน คงเหลือที่ดินสาธารณประโยชน์ที่จะนำมาดำเนินการปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่ประมาณ ๑,๑๙๕ ไร่ สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๒๒/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606502
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปากทรง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปากทรง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปากทรง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปากทรง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลปากทรง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปากทรง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลปากทรง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์จำนวน ๔ แปลง ได้แก่ ที่ดินสาธารณประโยชน์บ้านทับขอน เนื้อที่ประมาณ ๒๔๕ ไร่ ที่ดินสาธารณประโยชน์บ้านต่อตั้ง เนื้อที่ประมาณ ๕๑๓ ไร่ ที่ดินสาธารณประโยชน์บ้านพานนาง เนื้อที่ประมาณ ๕๒๗ ไร่ และที่ดินสาธารณประโยชน์ท่ายายพวง เนื้อที่ประมาณ ๔๕๖ ไร่ ๓ งาน ปัจจุบันปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๑๙/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606500
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลพร่อน ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ และตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลพร่อน ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ และตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลพร่อน ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ และตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลพร่อน ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ และตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลพร่อน ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ และตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลพร่อน ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ และตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลพร่อน ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ และตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๑๖/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606498
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเกาะยาวน้อย และตำบลเกาะยาวใหญ่ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเกาะยาวน้อย และตำบลเกาะยาวใหญ่ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเกาะยาวน้อย และตำบลเกาะยาวใหญ่ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเกาะยาวน้อย และตำบลเกาะยาวใหญ่ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเกาะยาวน้อย และตำบลเกาะยาวใหญ่ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเกาะยาวน้อย และตำบลเกาะยาวใหญ่ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเกาะยาวน้อย และตำบลเกาะยาวใหญ่ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๑๓/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606496
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาทอง ป่าไสไทย และป่าอ่าวนาง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๑๐/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606494
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งพระยา ตำบลท่ากระดาน ตำบลคู้ยายหมี ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม ตำบลท่าตะเกียบตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา และตำบลหนองหว้า ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งพระยา ตำบลท่ากระดาน ตำบลคู้ยายหมี ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม ตำบลท่าตะเกียบ ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา และตำบลหนองหว้า ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอพนมสารคามและอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งพระยา ตำบลท่ากระดาน ตำบลคู้ยายหมี ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม ตำบลท่าตะเกียบ ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา และตำบลหนองหว้า ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอพนมสารคามและอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลทุ่งพระยา ตำบลท่ากระดาน ตำบลคู้ยายหมี ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม ตำบลท่าตะเกียบ ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา และตำบลหนองหว้า ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งพระยา ตำบลท่ากระดาน ตำบลคู้ยายหมี ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม ตำบลท่าตะเกียบ ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา และตำบลหนองหว้า ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอพนมสารคาม และอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอพนมสารคาม และอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๗/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606492
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโปงทุ่ง และตำบลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโปงทุ่ง และตำบลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโปงทุ่ง และตำบลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโปงทุ่งและตำบลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลโปงทุ่ง และตำบลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโปงทุ่งและตำบลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลโปงทุ่ง และตำบลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่หาดในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๔/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
606490
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลสะลวง ตำบลขี้เหล็ก ตำบลห้วยทราย และตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลสะลวง ตำบลขี้เหล็ก ตำบลห้วยทราย และตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีที่ ๖๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลสะลวง ตำบลขี้เหล็ก ตำบลห้วยทรายและตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลสะลวง ตำบลขี้เหล็ก ตำบลห้วยทราย และตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลสะลวง ตำบลขี้เหล็ก ตำบลห้วยทราย และตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลสะลวง ตำบลขี้เหล็ก ตำบลห้วยทราย และตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลสะลวง ตำบลขี้เหล็ก ตำบลห้วยทราย และตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖/ตอนที่ ๔๐ ก/หน้า ๑/๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
595320
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลน้ำสุด ตำบลมะนาวหวาน และตำบลห้วยขุนราม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลน้ำสุด ตำบลมะนาวหวาน และตำบลห้วยขุนราม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลน้ำสุดตำบลมะนาวหวาน และตำบลห้วยขุนราม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลน้ำสุด ตำบลมะนาวหวาน และตำบลห้วยขุนรามอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลน้ำสุดตำบลมะนาวหวาน และตำบลห้วยขุนราม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๘ ก/หน้า ๒๒/๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
595318
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก และตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก และตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก และตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก และตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก และตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก และตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก และตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมากและโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์โคกกุงบ้านมะอึ ในท้องที่ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก และตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งทางราชการได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ ๑๖๗๗๖ ลงวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เนื้อที่ประมาณ ๘๗๐ ไร่ ๒ งาน ๖๖๖/๑๐ ตารางวา แต่เมื่อมีการสำรวจรังวัดใหม่ปรากฏว่ามีเนื้อที่ประมาณ ๙๑๗ ไร่ ปัจจุบันปรากฏว่า ได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๘ ก/หน้า ๑๙/๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
595316
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่น้ำเข็ก ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๘ ก/หน้า ๑๖/๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
595314
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลสักงาม ตำบลคลองน้ำไหล และตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลสักงาม ตำบลคลองน้ำไหล และตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๑ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลสักงาม ตำบลคลองน้ำไหล และตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๑ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลสักงาม ตำบลคลองน้ำ ไหลและตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลสักงาม ตำบลคลองน้ำไหล และตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๘ ก/หน้า ๑๓/๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
595312
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งอ้ายโต้ ในท้องที่ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ซึ่งทางราชการได้ประกาศหวงห้าม เมื่อพ.ศ. ๒๔๗๕ สำหรับพลเมืองใช้ไม้ ตัดฟืน และเลี้ยงสัตว์พาหนะ เนื้อที่ประมาณ ๓,๖๐๐ ไร่ แต่เมื่อมีการสำรวจรังวัดใหม่ปรากฏว่ามีเนื้อที่ประมาณ ๓,๙๙๕ ไร่ ปัจจุบันปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๘ ก/หน้า ๑๐/๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
595310
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งเหนือบ้านควนขนุน ในท้องที่ตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ซึ่งทางราชการได้ประกาศหวงห้ามเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ เนื้อที่ประมาณ ๔๐๔ ไร่ ๓๒ ตารางวา แต่เมื่อมีการสำรวจรังวัดใหม่ปรากฏว่ามีเนื้อที่ประมาณ ๓๓๘ ไร่ ปัจจุบันปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๘ ก/หน้า ๗/๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
595307
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาปู่ อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาปู่ อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาปู่ อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาปู่ อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลเขาปู่ อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขาปู่ อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลเขาปู่ อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งโพเล ในท้องที่ตำบลเขาปู่ อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง ซึ่งทางราชการได้ประกาศหวงห้าม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ สำหรับพลเมืองใช้ไม้ ตัดฟืน และเลี้ยงสัตว์พาหนะ เนื้อที่ประมาณ ๙,๕๑๓ ไร่ ๓ งาน แต่เมื่อมีการสำรวจรังวัดใหม่ปรากฏว่ามีเนื้อที่ประมาณ ๔,๓๕๔ ไร่ ปัจจุบันปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๘ ก/หน้า ๔/๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
595305
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งหนองบ่อ ในท้องที่ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ซึ่งทางราชการได้ประกาศหวงห้าม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ สำหรับพลเมืองใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ เนื้อที่ประมาณ ๒,๔๐๐ ไร่ แต่เมื่อมีการสำรวจรังวัดใหม่ปรากฏว่า มีเนื้อที่ประมาณ ๑,๔๙๘ ไร่ ปัจจุบันปรากฏว่าได้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นที่ดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้วสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๘ ก/หน้า ๑/๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
595301
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองฉนวน อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองฉนวน อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองฉนวน อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองฉนวน อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลคลองฉนวน อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานีและตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองฉนวน อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลคลองฉนวน อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราชมีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพหรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าทุ่งหนองควาย ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๗ก/หน้า ๕๒/๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๑
595299
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพนทอง ตำบลโคกตูม ตำบลบัวลอย ตำบลคชสิทธิ์ ตำบลหนองปลิง ตำบลหนองไข่น้ำ ตำบลหนองจรเข้ ตำบลหนองแขม ตำบลไผ่ต่ำ ตำบลกุ่มหัก ตำบลหนองโรง อำเภอหนองแค และตำบลหนองหมู อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพนทอง ตำบลโคกตูม ตำบลบัวลอย ตำบลคชสิทธิ์ ตำบลหนองปลิง ตำบลหนองไข่น้ำ ตำบลหนองจรเข้ ตำบลหนองแขม ตำบลไผ่ต่ำ ตำบลกุ่มหัก ตำบลหนองโรง อำเภอหนองแค และตำบลหนองหมู อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๙ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพนทอง ตำบลโคกตูม ตำบลบัวลอย ตำบลคชสิทธิ์ ตำบลหนองปลิง ตำบลหนองไข่น้ำ ตำบลหนองจรเข้ ตำบลหนองแขม ตำบลไผ่ต่ำ ตำบลกุ่มหัก ตำบลหนองโรง อำเภอหนองแคและตำบลหนองหมู อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๙ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลโพนทอง ตำบลโคกตูม ตำบลบัวลอย ตำบลคชสิทธิ์ ตำบลหนองปลิง ตำบลหนองไข่น้ำ ตำบลหนองจรเข้ ตำบลหนองแขม ตำบลไผ่ต่ำ ตำบลกุ่มหัก ตำบลหนองโรง อำเภอหนองแค และตำบลหนองหมู อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพนทอง ตำบลโคกตูม ตำบลบัวลอย ตำบลคชสิทธิ์ ตำบลหนองปลิง ตำบลหนองไข่น้ำ ตำบลหนองจรเข้ ตำบลหนองแขม ตำบลไผ่ต่ำ ตำบลกุ่มหัก ตำบลหนองโรง อำเภอหนองแคและตำบลหนองหมู อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๗ ก/หน้า ๔๙/๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๑
595297
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจันทเขลม ตำบลคลองพลู ตำบลตะเคียนทอง ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ และตำบลฉมัน ตำบลปัถวี ตำบลวังแซ้ม ตำบลท่าหลวง ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจันทเขลม ตำบลคลองพลู ตำบลตะเคียนทอง ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ และตำบลฉมัน ตำบลปัถวี ตำบลวังแซ้ม ตำบลท่าหลวง ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๑ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจันทเขลม ตำบลคลองพลู ตำบลตะเคียนทอง ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ และตำบลฉมัน ตำบลปัถวี ตำบลวังแซ้ม ตำบลท่าหลวง ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๑ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลจันทเขลม ตำบลคลองพลู ตำบลตะเคียนทอง ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ และตำบลฉมัน ตำบลปัถวี ตำบลวังแซ้ม ตำบลท่าหลวง ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจันทเขลม ตำบลคลองพลู ตำบลตะเคียนทอง ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ และตำบลฉมัน ตำบลปัถวี ตำบลวังแซ้ม ตำบลท่าหลวง ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วยต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๗ ก/หน้า ๔๖/๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๑
595247
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคูหา ตำบลเขาแดง และตำบลบาโหย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่น้ำเข็ก ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๘ ก/หน้า ๑๖/๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
595245
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งหมอ ตำบลท่าโพธิ์ ตำบลปริก ตำบลปาดังเบซาร์ และตำบลสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งหมอ ตำบลท่าโพธิ์ ตำบลปริก ตำบลปาดังเบซาร์ และตำบลสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งหมอ ตำบลท่าโพธิ์ ตำบลปริก ตำบลปาดังเบซาร์ และตำบลสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งหมอ ตำบลท่าโพธิ์ ตำบลปริก ตำบลปาดังเบซาร์ และตำบลสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลทุ่งหมอ ตำบลท่าโพธิ์ ตำบลปริก ตำบลปาดังเบซาร์และตำบลสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลทุ่งหมอ ตำบลท่าโพธิ์ ตำบลปริก ตำบลปาดังเบซาร์ และตำบลสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลทุ่งหมอ ตำบลท่าโพธิ์ ตำบลปริก ตำบลปาดังเบซาร์ และตำบลสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าควนโต๊ะดุด ป่าควนทวด และป่าควนสามง่อน ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๖ ก/หน้า ๑๓/๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๑
595243
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฉลุง ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ และตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฉลุง ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ และตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฉลุง ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ และตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฉลุง ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ และตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลฉลุง ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ และตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลฉลุง ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ และตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลฉลุง ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ และตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำ เนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าควนเขาวัง ป่าคลองต่อ และป่าเทือกเขาแก้ว ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วัชศักดิ์/ผู้จัดทำ ๖ มกราคม ๒๕๕๒ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๖ ก/หน้า ๑๐/๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๑
595240
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง และตำบลทุ่งหมอ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง และตำบลทุ่งหมอ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง และตำบลทุ่งหมอ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง และตำบลทุ่งหมอ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง และตำบลทุ่งหมอ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง และตำบลทุ่งหมอ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง และตำบลทุ่งหมอ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขาแก้ว ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้วสมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๖ ก/หน้า ๗/๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๑
595238
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางเหรียง ตำบลโคกเจริญ ตำบลถ้ำทองหลาง และตำบลทับปุด อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางเหรียง ตำบลโคกเจริญ ตำบลถ้ำทองหลาง และตำบลทับปุด อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางเหรียง ตำบลโคกเจริญ ตำบลถ้ำทองหลาง และตำบลทับปุด อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางเหรียง ตำบลโคกเจริญ ตำบลถ้ำทองหลาง และตำบลทับปุด อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลบางเหรียง ตำบลโคกเจริญ ตำบลถ้ำทองหลางและตำบลทับปุด อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบางเหรียง ตำบลโคกเจริญ ตำบลถ้ำทองหลาง และตำบลทับปุด อำเภอทับปุด จังหวัดพังงาให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในท้องที่ตำบลบางเหรียง ตำบลโคกเจริญ ตำบลถ้ำทองหลาง และตำบลทับปุด อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา มีเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินประกอบเกษตรกรรมเป็นของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขาสูง ในส่วนที่มีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว สมควรกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าวให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๓๖ ก/หน้า ๔/๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๑
589177
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยแก้ว ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว และตำบลแม่ปืม ตำบลบ้านใหม่ตำบลบ้านต๊ำ ตำบลท่าจำปี ตำบลบ้านต๋อม ตำบลท่าวังทอง ตำบลสันป่าม่วง ตำบลบ้านสาง ตำบลบ้านตุ่น ตำบลแม่นาเรือ ตำบลแม่ใส ตำบลจำป่าหวาย ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยแก้ว ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว และตำบลแม่ปืม ตำบลบ้านใหม่ ตำบลบ้านต๊ำ ตำบลท่าจำปี ตำบลบ้านต๋อม ตำบลท่าวังทอง ตำบลสันป่าม่วง ตำบลบ้านสาง ตำบลบ้านตุ่น ตำบลแม่นาเรือ ตำบลแม่ใส ตำบลจำป่าหวาย ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๑ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยแก้ว ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว และตำบลแม่ปืม ตำบลบ้านใหม่ ตำบลบ้านต๊ำ ตำบลท่าจำปี ตำบลบ้านต๋อม ตำบลท่าวังทอง ตำบลสันป่าม่วง ตำบลบ้านสาง ตำบลบ้านตุ่น ตำบลแม่นาเรือ ตำบลแม่ใส ตำบลจำป่าหวาย ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๑ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลห้วยแก้ว ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว และตำบลแม่ปืม ตำบลบ้านใหม่ ตำบลบ้านต๊ำ ตำบลท่าจำปี ตำบลบ้านต๋อม ตำบลท่าวังทอง ตำบลสันป่าม่วง ตำบลบ้านสาง ตำบลบ้านตุ่น ตำบลแม่นาเรือ ตำบลแม่ใส ตำบลจำป่าหวาย ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลห้วยแก้ว ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว และตำบลแม่ปืม ตำบลบ้านใหม่ ตำบลบ้านต๊ำ ตำบลท่าจำปี ตำบลบ้านต๋อม ตำบลท่าวังทอง ตำบลสันป่าม่วง ตำบลบ้านสาง ตำบลบ้านตุ่น ตำบลแม่นาเรือ ตำบลแม่ใส ตำบลจำป่าหวาย ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกานี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ปริยานุช/ผู้จัดทำ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๑ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๑๐ ก/หน้า ๗/๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๑
584569
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังแดง ตำบลน้ำอ่าง ตำบลบ้านแก่ง และตำบลหาดสองแคว อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังแดง ตำบลน้ำอ่าง ตำบลบ้านแก่ง และตำบลหาดสองแคว อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๑ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังแดง ตำบลน้ำอ่าง ตำบลบ้านแก่ง และตำบลหาดสองแคว อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๑ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลวังแดง ตำบลน้ำอ่าง ตำบลบ้านแก่ง และตำบลหาดสองแคว อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังแดง ตำบลน้ำอ่าง ตำบลบ้านแก่ง และตำบลหาดสองแคว อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วยต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๙๐ ก/หน้า ๑๓/๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๑
584567
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่าสองคอน ตำบลหนองปลิง ตำบลโคกก่อ และตำบลบัวค้อ อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่าสองคอน ตำบลหนองปลิง ตำบลโคกก่อ และตำบลบัวค้อ อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่าสองคอน ตำบลหนองปลิง ตำบลโคกก่อ และตำบลบัวค้อ อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลท่าสองคอน ตำบลหนองปลิง ตำบลโคกก่อ และตำบลบัวค้อ อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่าสองคอน ตำบลหนองปลิง ตำบลโคกก่อ และตำบลบัวค้อ อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมาตรา ๒๕ วรรคสามแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ บัญญัติว่า การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักก็ได้ ซึ่งต่อมาได้มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ใช้บังคับ เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ทำให้เขตปฏิรูปที่ดินครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๙๐ ก/หน้า ๑๐/๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๑
584565
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยางคราม ตำบลสันติสุข ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ และตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยางคราม ตำบลสันติสุข ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ และตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๕ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยางคราม ตำบลสันติสุข ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ และตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลยางคราม ตำบลสันติสุข ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ และตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยางคราม ตำบลสันติสุข ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ และตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๙๐ ก/หน้า ๗/๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๑
584563
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังตะเคียน ตำบลกุดจอก ตำบลหนองมะโมง ตำบลสะพานหิน อำเภอหนองมะโมง และตำบลบ่อแร่ ตำบลหนองบัว ตำบลหนองขุ่น ตำบลมะขามเฒ่า ตำบลวังหมัน ตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังตะเคียน ตำบลกุดจอก ตำบลหนองมะโมง ตำบลสะพานหิน อำเภอหนองมะโมง และตำบลบ่อแร่ ตำบลหนองบัว ตำบลหนองขุ่น ตำบลมะขามเฒ่า ตำบลวังหมัน ตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๕ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังตะเคียน ตำบลกุดจอก ตำบลหนองมะโมง ตำบลสะพานหิน อำเภอหนองมะโมง และตำบลบ่อแร่ ตำบลหนองบัว ตำบลหนองขุ่น ตำบลมะขามเฒ่า ตำบลวังหมัน ตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาทให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลวังตะเคียน ตำบลกุดจอก ตำบลหนองมะโมง ตำบลสะพานหิน อำเภอหนองมะโมง และตำบลบ่อแร่ ตำบลหนองบัว ตำบลหนองขุ่น ตำบลมะขามเฒ่า ตำบลวังหมัน ตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังตะเคียน ตำบลกุดจอก ตำบลหนองมะโมง ตำบลสะพานหิน อำเภอหนองมะโมง และตำบลบ่อแร่ ตำบลหนองบัว ตำบลหนองขุ่น ตำบลมะขามเฒ่า ตำบลวังหมัน ตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วยต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๙๐ ก/หน้า ๔/๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๑
583310
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาตาล ตำบลกุดจิก ตำบลท่าคันโท ตำบลกุงเก่า ตำบลยางอู้ม และตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาตาล ตำบลกุดจิก ตำบลท่าคันโท ตำบลกุงเก่า ตำบลยางอู้ม และตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๐ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาตาล ตำบลกุดจิก ตำบลท่าคันโท ตำบลกุงเก่า ตำบลยางอู้ม และตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลนาตาล ตำบลกุดจิก ตำบลท่าคันโท ตำบลกุงเก่า ตำบลยางอู้ม และตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนาตาล ตำบลกุดจิก ตำบลท่าคันโท ตำบลกุงเก่า ตำบลยางอู้ม และตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกานี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้ว สมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ ปริยานุช/ผู้จัดทำ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๑ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๘๖ ก/หน้า ๔/๙ กรกฎาคม ๒๕๕๑
583304
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าซาง ตำบลดงมหาวัน ตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และตำบลผางาม ตำบลเมืองชุม ตำบลเวียงชัย ตำบลดอนศิลา อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2551
พระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าซาง ตำบลดงมหาวัน ตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และตำบลผางาม ตำบลเมืองชุม ตำบลเวียงชัย ตำบลดอนศิลา อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่กิ่งอำเภอเวียงชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๑ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าซาง ตำบลดงมหาวัน ตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และตำบลผางาม ตำบลเมืองชุม ตำบลเวียงชัย ตำบลดอนศิลา อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑” มาตรา ๒[๑] พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่กิ่งอำเภอเวียงชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๑ มาตรา ๔ ให้ที่ดินในท้องที่ตำบลป่าซาง ตำบลดงมหาวัน ตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และตำบลผางาม ตำบลเมืองชุม ตำบลเวียงชัย ตำบลดอนศิลา อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี [เอกสารแนบท้าย] ๑. แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลป่าซาง ตำบลดงมหาวัน ตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และตำบลผางาม ตำบลเมืองชุม ตำบลเวียงชัย ตำบลดอนศิลา อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกานี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่กิ่งอำเภอเวียงชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่กิ่งอำเภอเวียงชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยถือเขตอำเภอดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขตปฏิรูปที่ดินที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย ต่อมาเมื่อมาตรา ๒๕ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ กำหนดให้การกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินให้กำหนดเฉพาะที่ดินที่จะดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นจะถือเขตของตำบลหรืออำเภอเป็นหลักแล้วสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อกำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะที่ดินที่มีการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ วิภา/ปรับปรุง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ ปริยานุช/ผู้จัดทำ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๑ [๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๘๖ ก/หน้า ๑/๙ กรกฎาคม ๒๕๕๑