title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
รัฐมนตรีต่างประเทศพม่า ยืนยัน ยะไข่สงบแล้ว
นายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศพม่า กล่าวขณะเยือนประเทศฟิลิปปินส์ ว่าสถานการณ์ในเมืองซิตต่วย รัฐยะไข่ กลับสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธและชาวโรฮิงญา ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา จนบานปลายกลายเป็นเหตุวุ่นวาย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 29 คน และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 30000 คน รวมทั้งบ้าน 2500 หลังถูกเผาเสียหายทั้งนี้ นายวันนะ ย้ำว่ารัฐบาลจะดูแลทุกสิ่งทุกอย่างและให้ความสำคัญกับความมั่นคงในรัฐยะไข่เป็นอันดับแรก ส่วนนายเดล โรซาริโอ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวว่าไม่อยากให้เหตุวุ่นวายในรัฐยะไข่กลายเป็นปัญหาในการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยของพม่าขณะที่ชาวพม่าประมาณ 50 คน รวมทั้งพระสงฆ์ รวมตัวที่หน้าสถานทูตพม่าประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการยุติความขัดแย้งในเมืองซิตต่วยในทันที พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาวโรฮิงญาและชาวพุทธในรัฐยะไข่ให้ยุติความรุนแรงและสร้างสันติภาพร่วมกัน
รัฐมนตรีต่างประเทศพม่า ยืนยันว่าสถานการณ์ในรัฐยะไข่ของพม่ากลับสู่ความสงบ หลังเกิดความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิม จนกลายเป็นจลาจล
ต่างประเทศ
พุทธ,ยะไข่,ยืนยัน,รัฐมนตรีต่างประเทศพม่า,สงบ,โรฮิงญา
https://news.thaipbs.or.th/content/91575
เดือดวัยรุ่น ยกพวกเข้ารุมตีคู่อริ งานสงกรานต์ จันทบุรี ตร.เร่งล่า
วันที่ 17เม.ย.ตำรวจขลุง ได้รับแจ้ง มีเหตุทะเลาะวิวาท ในงานเทศกาลสงกรานต์เมืองขลุง บนถนนสุขุมวิท บริเวณใต้สะพานลอย หน้าโรงพยาบาลขลุง อ.ขลุง จ.จันทบุรี หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.เชนณรงค์ เหยือกเงิน ผกก.สภ.ขลุง พ.ต.ท.พิสุทธิ์ สังฆวัตร รอง ผกก. ร.ต.อ.วัลลภ พูลผล ร้อยเวร พร้อมกำลังตำรวจ หหาร ตลอดจนตำรวจ ตชด.เข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาท โดยใช้อาวุธปืน,โดยผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่ประชาชนโดยทั่วไปกำลังเล่นสงกรานต์ กันอย่างสนุกสนาน ได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทจากคน 2 กลุ่ม ตะโกนท้าทายกันไปมา โดยต่างฝ่ายต่างมีอาการมึนเมา จนอีกฝ่ายเป็นชายสวมเลื้อแจ็กเก็ตสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกแก็ปสีดำ ชักปืนขึ้นมายิงขึ้นฟ้า จำนวน 1 นัด เพื่อเปิดทางให้พรรคพวกที่รออยู่ เข้าไปรุมทำร้ายคู่อริ จนแตกกระเจิงเหลือเพียง 1 ราย ที่หนีไม่ทัน ถูกคู่อริรุมทำร้ายจนสะบักสะบอม จากนั้น มีเสียงปืนดังขึ้น อีก 2 นัด ทำให้วัยรุ่นทั้ง 2 ฝ่ายวิ่งหนี ไปคนละทิศละทาง,ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนไม่ทราบขนาด ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน ที่เกิดเหตุอย่างละเอียด จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร พบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่น่องด้านซ้ายเลือดออกไม่หยุด กู้ชีพขลุงมูลนิธิ จึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งรพ.ขลุง เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา ทราบชื่อ ภายหลังคือ นายสมพงษ์ นองเนือง อายุ 20 ปี,โดยนายสมพงษ์ เล่าว่า ตนไม่ได้มีเรื่องกับใครเลย สาเหตุที่ถูกยิงน่าจะเป็นลูกหลง เนื่องจากตนกับเพื่อนดินผ่านมาทาง ที่มีการทะเลาะวิวาทพอดี ตนไม่รู้เลยว่า ถูกยิงจนกระทั่งรู้สึกว่ามีเลือดไหลออกมามากบริเวณน่องจึงแจ้งกู้ชีพเข้าทำการช่วยเหลือ จึงทราบว่า ตัวเองถูกยิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีในลำดับต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ชี้แจงให้ประชาชนที่ยังเล่นสาดน้ำสงกรานต์ อยู่ให้เดินทางกลับ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน เกรงจะไม่ปลอดภัย,ซึ่งความคืบหน้า วันนี้ พ.ต.อ.เชนณรงค์ เหยือกเงิน ผกก.สภ.ขลุง ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนประชุมเร่งด่วน และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งรวบรวมวีดีโอที่พลเมืองดีถ่ายไว้ได้ในที่จุดเกิดเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่จัดงานเพื่อเร่งรวมรวมพยานหลักฐาน ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุมาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุ รวมทั้งเพื่อเตรียมขออนุมัติศาลจังหวัดจันทบุรี ออกหมายจับตามภาพกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 ฝ่าย ที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำภาพวีดีโอและภาพกล้องวงจรปิดมาเปิดภาพดูตรวจสอบอย่างละเอียด รวมทั้งจะมีการเชิญตัว นายสมพงษ์ วัยรุ่นที่ถูกยิงมาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อโยงไปสู่กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 ฝ่าย,ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พอจะรู้ตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว และจะมีการเรียกเข้ามาสอบสวนหามือยิงและวัยรุ่นที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดี ส่วนสาเหตุหลักตำรวจยังตั้งประเด็น การเมาสุรา และเกิดการเขม้นกันภายในงาน ก่อนจะนำไปสู่การทะเลาะวิวาทชกต่อยและสาดกระสุนใส่กัน,ขณะที่ พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จันทบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชนณรงค์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามกลุ่มวัยทั้ง 2 ฝ่าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจในช่วงที่มีประชาชน และนักท่องเที่ยวกำลังเล่นน้ำสงกรานต์กันอยู่ และทำให้งานสงกรานต์เสื่อมเสียชื่อเสียงของจังหวัดจันทบุรี อีกด้วย
สงกรานต์เดือด วัยรุ่นจันทบุรี เลือดร้อน ชักปืนยิงขู่ ยกพวกเข้ารุมตีคู่อริ ก่อนจะมีเสียงปืนอีก 2 นัด จนทั้ง 2 กลุ่มแตกกระเจิง พบวัยรุ่นโดนลูกหลงเข้าที่น่องข้างซ้าย ก่อนถูกนำตัวส่งรพ. ตร.พอรู้ตัวคนร้ายก่อเหตุแล้ว
ข่าว,ทั่วไทย
วัยรุ่นรุมตีคู่อริ,ทะเลาะวิวาท,จันทบุรี,สงกรานต์,ชักปืนยิง
https://www.thairath.co.th/news/local/central/915382
สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร แจกฟรีเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด เพื่อช่วยเกษตรกร
ปัจจุบันเกษตรกรคุ้นเคยกับการใช้สารเคมีในพื้นที่ทำการเกษตร โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา ทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ การปลูกพืชไม่ได้ผลหรือได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร จึงเสนอกรมพัฒนาที่ดินอนุมัติดำเนินการโครงการใช้ปุ๋ยพืชสดปรับปรุงบำรุงดินและคลุมดิน โดยต่อยอดมาจากโครงการส่งเสริมการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดและพืชคลุมดิน เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตเมล็ดพันธุ์ปอเทือง ถั่วพุ่ม และถั่วพร้า เนื่องจากเป็นชนิดพืชที่มีความเหมาะสมกับดินในจ.กำแพงเพชรและเป็นชนิดพืชที่มีปริมาณน้ำหนักสดต่อไร่ค่อนข้างสูง เมื่อไถกลบลงในพื้นที่เกษตร สามารถย่อยสลายเป็นอินทรียวัตถุมีปริมาณธาตุอาหารที่พืชต้องการสูง เหมาะสำหรับใช้ปรับปรุงบำรุงดิน พื้นฟูคุณภาพดิน เพิ่มผลผลิต และลดรายจ่ายให้กับเกษตรกร,นายธเนตร ภู่เจริญ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร กล่าวว่า สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร ได้ส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกพืชปุ๋ยสด คือพืชตระกูลถั่ว ที่เหมาะสมในพื้นที่ ได้แก่ ปอเทือง ถั่วพร้า และถั่วพุ่ม ให้กับเกษตรกร ในฤดูหลังการเก็บเกี่ยวข้าวและพืชไร่ต่างๆ โดยในพื้นที่ลุ่มปลูกข้าวจะส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกถั่วพุ่ม หรือปอเทือง พื้นที่ปลูกพืชไร่ก็จะส่งเสริมเกษตรกรให้ใช้ถั่วพร้า โดยเกษตรกรจะนำเอาเมล็ดพันธุ์ไปหว่านหรือหยอดเป็นแถว จนเติบโตถึงระยะออกดอก จึงไถกลบลงดินให้ต้นและใบย่อยสลายเป็นอินทรียวัตถุปรับปรุงบำรุงดินต่อไป,ประโยชน์ของพืชปุ๋ยสด เมื่อไถกลบลงดินแล้วจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินและยังช่วยให้เกษตรกร ลด ละ เลิก การเผาตอซังพืชในพื้นที่ทำการเกษตร หันมาปลูกพืชปุ๋ยสดหลังฤดูเก็บเกี่ยว เพื่อให้ดินกลับมามีความอุดมสมบูรณ์สามารถปลูกพืชได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังช่วยให้ระบบนิเวศในพื้นที่การเกษตรดีขึ้น,วิธีการใช้ปุ๋ยพืชสดนั้น สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร จะให้บริการเมล็ดพันธุ์แก่เกษตรกรไปสาธิตการปลูกในพื้นที่ดอน ปลูกพืชไร่สาธิตให้เกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์ ปอเทือง และถั่วพร้า ส่วนในนาข้าวก็จะแนะนำให้ใช้เมล็ดพันธุ์ปอเทืองและถั่วพุ่ม ซึ่งในขณะนี้เกษตรกรได้หันมาให้ความสนใจในด้านการปรับปรุงบำรุงดิน โดยการใช้พืชตระกูลถั่วเป็นปุ๋ยพืชสดมากขึ้น โดยเฉพาะชนิดพืชที่เกษตรกรต้องการมากคือปอเทือง จะใช้วิธีหว่านเมล็ดพันธุ์ลงในพื้นที่และดูแลจนถึงระยะเวลาออกดอกสีเหลืองอร่ามเต็มพื้นที่ จึงทำการไถกลบช่วงที่ปอเทืองออกดอกจะมีระยะเวลาประมาณ 15 - 20 วัน พบว่าระหว่างที่ปอเทืองออกดอกจะมีคนเข้ามาดูและถ่ายภาพ สามารถทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรไปในตัวอีกด้วย,หากเกษตรกรท่านใดที่สนใจอยากจะปลูกพืชปุ๋ยสด เพื่อการปรับปรุงบำรุงดิน สามารถมาแจ้งจำนงขอเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดได้ที่สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร หรือติดต่อขอรับเมล็ดพันธุ์กับสถานีพัฒนาที่ดินใกล้บ้านท่านได้เลย ซึ่งเมื่อเข้ามารับเมล็ดพันธุ์แล้ว เจ้าหน้าที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชปุ๋ยสดและแนะนำการดูแลรักษาที่ถูกวิธี โดยให้ป้องกันศัตรูพืชที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ต้นพืชปุ๋ยสดกำลังเจริญเติบโต คือหนอนกินใบเข้ามาทำลายให้ต้นของพืชปุ๋ยสดไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ซึ่งตรงนี้เป็นส่วนสำคัญ และสถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร อยากให้เกษตรกรใช้พืชปุ๋ยสดไปปลูกและไถกลบในพื้นที่ทำการเกษตร เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร โดยรวมกลุ่มเพื่อจัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดเพื่อให้มีเก็บเมล็ดพันธุ์สามารถหมุนเวียนการใช้เมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดในพื้นที่อันจะนำไปสู่การทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืนต่อไป.
สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร ส่งเสริมปลูกพืชปุ๋ยสด คือพืชตระกูลถั่ว ได้แก่ ปอเทือง ถั่วพร้า และถั่วพุ่ม ซึ่งเหมาะสมกับพื้นที่ สนใจขอรับได้ฟรี
ข่าว,ทั่วไทย
สถานีพัฒนาที่ดิน,กำแพงเพชร,พืชปุ๋ยสด,แจกเมล็ดพันธุ์พืช,พืชตระกูลทั่ว,เกษตร
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1590645
ตร.พัทลุงกวาดล้าง อาวุธปืน-ยาเสพติด
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 10 ก.ย. หลายรายการ โดย ร.ต.อ.วิรัตน์ จีนเมือง หน.ชุด ชปส.ภ.จ.พัทลุง ร่วมกับตำรวจชุด ชปส.ภ.9, กก.3 บก.ปส.4, กก.ปพ.บช.ปส. พร้อมกำลังทหารช่าง 401 ค่ายอภัยบริรักษ์ ได้จับกุมนายเบญจา เหล็มปาน อายุ 27 ปี และนายนิรุตย์ เจริญลาภ อายุ 28 ปี บ้านอยู่ อ.กงหราพร้อมด้วยของกลางปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 16 นัด ยาบ้า 339 เม็ด และยาบ้าเป็นผงน้ำหนัก 5.26 กรัม เหตุเกิดที่บ้านที่กำลังก่อสร้าง หมู่ 6ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง,นอกจากนี้ตำรวจ สภ.ป่าบอน ได้จับกุมนายธวัชชัย บัวสม อายุ 31 ปี บ้านอยู่ อ.ป่าบอนจ.พัทลุง พร้อมของกลางยาบ้า 253 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก35.67 กรัม ปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ 3 กระบอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด และต้นพืชกระท่อม 1 ต้น รวมทั้งจับกุม น.ส.ศิริพันธุ์ จันทรชาติ อายุ 25 ปี พร้อมใบพืชกระท่อมจำนวนหนึ่ง ขณะที่ตำรวจป่าพะยอม จับกุมนายอภิเชษฐ์ นาวงศ์ อายุ 32 ปี พร้อมด้วยยาบ้า 27 เม็ด นอกจากนี้ยังได้จับกุมผู้ต้องหาอีก 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้าและต้นพืชกระท่อมจำนวนหนึ่ง สำหรับอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาวุธปืนลูกซองสั้นที่ตรวจจับได้ในครั้งนี้ ทางตำรวจจะได้ส่งไปตรวจพิสูจน์หลักฐานใน จ.สงขลาต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมามีการใช้อาวุธปืนสงครามมาก่อคดียิงถล่มบ้านชาวบ้าน และยิงถล่มผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตไปหลายราย.
ที่ห้องประชุมกาบบัว ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.พัทลุง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล ผบก.ภ.จ.พัทลุง และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง
ข่าว,ทั่วไทย
พัทลุง,วินัย บัวประดิษฐ์,กวาดล้าง,อาวุธปืน,ยาเสพติด,ธวัชชัย บัวสม,แถลงข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/news/local/524464
ศาลทหารยกคำร้อง ไม่ปล่อยตัว ไผ่ ดาวดิน คดีชูป้ายต้านรัฐประหารชี้ไม่อาจรับฟังได้ว่าขังเกินกำหนดโทษ
อัยการแจ้งโทรตามตัวไม่ได้ พยานสื่อมวลชนให้การว่าวันเกิดเหตุถูกสั่งห้ามถ่ายภาพ ถูกคุมตัวเข้าค่าย ถูกขอเทปบันทึกภาพ20 พฤศจิกายน 2560 ที่ศาลทหาร มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น ได้มีการเบิกตัว จตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษจังหวัดขอนแก่น มาเพื่อฟังการไต่สวนพยานโจทก์ในคดีฝ่าฝืนคำสั่ง หัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 จากการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ครบรอบ 1 ปี การรัฐประหาร คสช. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ใกล้ศาลหลักเมือง จ.ขอนแก่น โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 และครั้งนี้เป็นการสืบพยานโจทก์ปากที่ 3 จากทั้งหมด 5 ปากอัยการได้แถลงต่อศาลว่า จากเดิมที่มีกำหนดนัดหมาย พตท.นรวัฒน์ คำภิโล และ นายราชา ถิ่นทิพย์ (45ปี) ช่างภาพไทยพีบีเอส TPBS มาให้การ แต่ในวันนัด ไม่สามารถติดต่อ พตท.นรวัฒน์ เจ้าพนักงานตำรวจที่เข้าร่วมทำการจับกุม 7 นศ.ดาวดิน ได้แม้ว่าได้ส่งหมายนัดไปเป็นที่เรียบร้อย และในวันนี้ (วันนัด) ก็ไม่สามารถโทรติดต่อได้ จึงขอให้สืบพยานเพียงแค่ปากเดียวจากนั้น ศาลจึงได้มีคำสั่งยกคำร้อง จากการที่ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลผู้พิจารณาคดีนี้มีคำสั่งปล่อยตัวจำเลย ที่มีคำสั่งให้ขังตามหมายขังที่ลงวันที่ 27 มีนาคม 2560 เนื่องจากครบกำหนดขังตามอัตราโทษสูงสุด (6 เดือน)โดยให้เหตุผลว่าการจะมีคำสั่งให้ปล่อยตัวหรือไม่ถือเป็นดุลพินิจของศาล และศาลถือว่าไผ่ถูกขังตามหมายขังในคดี 112 อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่พิจารณาในเวลานี้ขณะที่ อานนท์ นำภา ทนายได้แย้งว่าจำเลยมีหมายขังอยู่ 2 ใบ คือในคดี 112 จากการแชร์ข่าวพระราชประวัติ ร.10 ของ BBC กับและคดีชูป้ายไม่เอารัฐประหาร ในวาระ ครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร คสช. ของศาลทหาร โดยหลักกฏหมายแล้ว เมื่อขังครบตามกำหนดโทษสูงสุดศาลก็ต้องมีคำสั่งให้ปล่อยตัวเนื่องจากไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการขังต่อทนายความยังกล่าวต่ออีกว่าโดยปกติแล้ว หากเป็นศาลพลเรือน ศาลจะแนะนำให้จำเลยที่ถูกขังอยู่แล้วในคดีอื่นไปถอนประกันคดีหลังอีกคดีเพื่อให้ขังไปพร้อมๆ กัน จะได้หักวันนับโทษออกซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์กับจำเลย แต่สำหรับกรณีนี้ ศาลทหารยังคงมีคำสั่งขังไผ่ระหว่างพิจารณาคดีจนเกินกำหนดโทษสูงสุดตามกฎหมาย จึงอาจเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย และละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนของจำเลย โดยเฉพาะหากว่าศาลตัดสินว่าจำเลยมีความผิดและให้จำคุกต่อจากคดี 112 ก็อาจทำให้จำเลยเสียสิทธิในการนับโทษ โดยอาจไม่ถูกหักวันที่ถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีออกสุดท้ายศาลได้ให้บันทึกข้อโต้แย้งลงในกระบวนพิจารณาคดีแต่ยังคงยืนยันว่าการสั่งให้ปล่อยตัวและการกำหนดนับวันขังอยู่ที่ดุลพินิจของศาลจากนั้นจึงเริ่มการสืบพยานโจทก์ปากที่ 3 ราชา ถิ่นทิพย์ ได้ตอบข้อซักถามของทนายจำเลยว่า ตนได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ใน TPBS มาแล้วประมาณ 10 ปี ได้ผ่านการถ่ายภาพเคลื่อนไหวในกิจกรรมต่างๆ ทั้งในกิจกรรมชุมนุมปี 53 และการรัฐประหารปี 57 มาแล้ว แต่กิจกรรมที่ จตุภัทรและเพื่อนทำไม่ได้เหมือนกับการชุมนุมจากสองเหตุการณ์ขัางต้น ราชาได้ให้การต่อว่า ได้เคยติดตามรายงานข่าวกิจกรรมของจตุภัทร์และกลุ่มดาวดินอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนเช่นเรื่องการค้านการทำเหมืองทอง การให้สัมปทานขุดเจาะแก็ซธรรมชาติ การค้านการสร้างเขื่อน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ทำกินของชาวบ้าน และรับรู้ว่า จตุภัทร์และกลุ่มดาวดินยังได้เคยรับรางวัลจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและรางวัลเยาวชนต้นแบบจากรายการ คน ค้น คน แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องทัศนะการเมืองและทัศนะต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดช่างภาพจาก TPBS ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้พบในวันนั้นว่า ได้มี นศ.ประมาณ 10 คนมายังบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและได้เข้าทำกิจกรรมชูป้ายผ้า ในขณะนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบยืนรออยู่แล้วประมาณยี่สิบคน แต่ไม่ได้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการห้ามปรามระงับเหตุ ต่อเมื่อนักศึกษาชูป้ายผ้าขึ้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการแย่งป้ายผ้าและแผ่นกระดาษ แต่ไม่ได้ถ่ายภาพขณะที่ นศ.ถูกจับกุมอุ้มขึ้นรถ เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้ออกคำสั่งว่าห้ามไม่ให้สื่อถ่ายภาพเหตุการณ์ และกันให้สื่อถอยห่างออกไป และแม้แต่เมื่อถอยไปยังจุดที่ทหารกำหนดแล้วจะทำการบันทึกภาพต่อ ทหารก็ยังชี้หน้าและโบกมือให้สัญญาณว่าห้าถ่ายบันทึกภาพสื่อมวลชนช่างภาพผู้เป็นพยานโจทก์ได้ให้การต่อศาลว่านอกจากการจับกุม จตุภัทร์ และนศ.กลุ่มดาวดินทั้ง 7 คน เข้าค่ายแล้ว ตัวเองซึ่งเป็นสื่อมวลชนก็โดนคุมตัวเข้าค่ายทหารไปพร้อมกัน ในค่าย นายทหารได้ขอเทปบันทึกภาพเหตุการณ์จากพยาน แต่พยานได้เจรจาต่อรองให้เหตุผลว่ามันเป็นงานที่ต้องส่งให้ทางกองบรรณาธิการ TPBS พิจารณาเผยแพร่ต่อสาธารณะสุดท้ายจึงได้ข้อสรุปว่าทางทหารของสำเนาข้อมูลที่ถ่ายเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการพิจารณาไต่สวนครั้งนี้ได้มีนำคลิปวิดีโอความยาวประมาณสิบนาทีที่ถูกระบุว่าพยานเป็นผู้ถ่ายไว้ออกมาเปิดดู แต่เมือเปิดได้ประมาณแค่ครึ่งเดียว เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดคลิปวิดีโอของทางศาลก็หยุดทำงาน ศาลจึงถามพยานว่า ยืนยันหรือไม่ว่าคลิปวิดีโอนี้เป็นคลิปที่พยานถ่าย ซึ่งพยานได้ยืนยัน แต่ให้การเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพนิ่งที่ได้จากการแคปเจอร์จากวิดีโอใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดนั้นไม่สามารถยืนยันว่าเป็นของตนหรือไม่ เพียงแต่ว่าได้ถ่ายจากมุมเดียวกับที่ตนยืนอยู่ซึ่งในจุดนั้นมีคนถ่ายภาพหลายคนซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นใครบ้างศาลกำหนดให้มีการพิจารณาคดีครั้งหน้าในวันที่ 22 มกราคม 2561 เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป โดยให้อัยการได้นัดหมายพยานโจทก์ปากที่ 4 และ 5 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหัวหน้าชุดจับกุมและสอบสวนมาเพื่อให้การสืบพยานโจทก์แล้วเสร็จในวันเดียวจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน จำเลยและผู้ต้องขังในกรณีนี้ได้กล่าวถึงความเป็นไปจากการที่มีข่าวว่าตนได้ถูกผู้คุมเรือนจำ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ทำร้ายร่างกายและกระทำการละเมิดต่อสิทธิเหนือร่างกายตนว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นแล้ว ยังไม่ได้มีการละเมิดในทางกายภาพอีก และหลังจากนี้ตนได้ถูกย้ายมาขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อสืบพยานในคดีชูป้ายคัดค้านรัฐประหารและคดีพูดเพื่อเสรีภาพจนถึงเดือนมกราคมแล้วขึงจะถูกส่งตัวกลับไปเรือนจำ อ.ภูเขียว เพื่อสืบพยานในคดีประชามติต่ออีกสำหรับในการมาศาลครั้งนี้ ทางเรือนจำไม่ได้ตีตรวน ใส่กุญแจข้อเท้า หรือกุญแจมือจตุภัทร์ เพียงแต่มีผู้คุมและสารวัตรทหารควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดเท่านั้น เมื่อถามว่าได้รับการปฏิบัติจากทางศาลทหารดีกว่าที่ศาลจังหวัดภูเขียว ชัยภูมิหรือไม่ ไผ่กล่าวว่า จะให้พูดว่าดีกว่าได้อย่างไรก็ในเมื่อทหารเองเป็นคนแจ้งความเอาผิดจนผมต้องถูกขังอยู่ถึงทุกวันนี้สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปบริเวณศาลทหาร นอกจากพ่อ-แม่ และคนรักแล้วยังได้มีนักศึกษาและประชาชนทั่วไปมาร่วมรับฟังการพิจารณาคดีประมาณยี่สิบคน และมีชายแต่งกายในชุดพลเรือนแต่ตัดผมเกรียนนั่งพูดคุยอยู่ในบริเวณผู้มารับฟังการพิจาณาและเดินเตร่ไปมาโดยรอบประมาณสี่ถึงห้าคน ผู้มาร่วมรับฟังให้ความเห็นว่าน่าที่จะเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ
ทนายแย้งอาจเป็นคำสั่งที่อยู่นอกอำนาจกฎหมายและอาจเป็นการละเมิดสิทธิ จำเลยอาจไม่ได้นับวันลดโทษหลังถูกออกหมายขัง ขณะเดียวกัน การพิจารณาคดีล่าช้าออกไปอีก เหตุพยานโจทก์ปากสำคัญเบี้ยวนัดไม่มาศาล
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา,ชูป้ายค้านรัฐประหาร,ราชา ถิ่นทิพย์,อานนท์ นำภา,ไผ่ ดาวดิน
https://prachatai.com/journal/2017/11/74216
นายกฯ ย้ำสถานะเป็น นักการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาด้านการศึกษาที่สถาบันวิทยสิริเมธีและโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จ.ระยอง โดยได้ร่วมร้องเพลงปาฏิหาริย์กับนายทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี ศิลปินเจ้าของเพลง ที่มาร่วมในงานด้วย พร้อมกล่าวย้ำว่า ปาฎิหาริย์ไม่มีจริง ต้องสร้างด้วยตัวเอง อย่าหวังให้คนอื่นสร้างนายกรัฐมนตรี ยังฝากเยาวชนร่วมกันทำให้คนในชาติเกิดความรักสามัคคี ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงที่ต้องแก้ปัญหาของประเทศ พร้อมทั้งขอให้ลืมภาพตัวเองที่เป็นทหารแต่ให้คำนึงถึงความจำเป็นที่ประเทศต้องมีทหาร อย่ามองว่า เป็นเรื่องของการลงทุนที่ไม่มีกำไรและยอมรับว่า ทุกวันนี้ศักดิ์ศรีเหลือน้อย เพราะถูกต่อว่าทุกวันนายกรัฐมนตรี ยังเป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือภาคีทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาโครงการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง ก่อนที่จะเป็นประธานในพิธีเปิดหน้าดิน เพื่อใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการ อีอีซีไอ (EECi)
เมื่อวานนี้ (27 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีมีภารกิจตรวจราชการที่ จ.ระยอง และบอกกับประชาชนที่จังหวัดระยองว่า ให้ลืมว่าตัวเองเป็นทหาร แต่ก็ย้ำว่าประเทศยังจำเป็นต้องมีกองทัพ และนอกจากนี้ก็ยังร้องเพลงให้ฟังด้วย
การเมือง
ระยอง,ทหาร,ประยุทธ์,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/278043
ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจปักหัวลงติดดิน ธปท.ขู่ฟอดๆ ห้ามออนไลน์ล่ม เหตุคนแห่ทำธุรกรรมหนีไวรัส
นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาระบบการชำระเงินออนไลน์ของสถาบันการเงินบางแห่งมีปัญหาขัดข้องไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลานาน ธปท. ได้เร่งติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด เพราะในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่า มีปริมาณการทำธุรกรรมออนไลน์ของประชาชน และภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงได้กำชับสถาบันการเงินให้เร่งแก้ไข เมื่อเกิดปัญหาให้ระบบกลับมาใช้งานได้ โดยให้ธนาคารที่เกิดปัญหาตรวจสอบ และจัดการธุรกรรมให้ลูกค้าให้ถูกต้อง และแล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมงผู้สื่อข่าวรายงานว่าไตรมาสที่ 4 ปี 2562 เกิดการขัดข้องของกรณีดังกล่าวรวม 6 ธนาคาร อาทิ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) พบว่า Mobile Banking หรือการให้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ขัดข้อง 1 ครั้ง เป็นเวลา 3 ชั่วโมง (ชม.) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) Mobile Banking ขัดข้อง 2 ครั้งเป็นเวลา 2 ชม. Internet Banking หรือการให้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร ขัดข้อง 2 ครั้ง เป็นเวลา 2 ชม. เป็นต้นล่าสุด ธปท.ได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่าลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ 44.1 มาอยู่ที่ 42.6 เป็นการลดลงของกลุ่มขนส่งที่มีความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อ และผลประกอบการที่ลดลงมาก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านการลงทุน การจ้างงานลดลงด้วย ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีความเชื่อมั่นลดลงตามการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ชะลอลง และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ความเชื่อมั่นกลุ่มโรงแรม และบริการด้านอาหารมีความเชื่อมั่นลดลงต่อเนื่องสำหรับดัชนีของภาคการผลิตค่อนข้างทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 สะท้อนความเชื่อมั่นที่แย่ลง เพราะแม้ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ ของผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มคลี่คลาย ทำให้ความเชื่อมั่นด้านการผลิตกลับมาปรับเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์มีความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อและการผลิตลดลงมาก และภาคเอกชนมีความกังวลต่อความสามารถในการซื้อสินค้าราคาสูงของผู้บริโภค รวมทั้งกลุ่มผลิตอาหารที่มีความเชื่อมั่นลดลงจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะสะท้อนความไม่เชื่อมั่นของภาคธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด โดยคาดว่าดัชนีจะลดลงจากเดือนก่อนสู่ระดับ 43.6 เป็นการลดลงต่ำกว่าระดับ 50 หรือระดับความเชื่อมั่นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่ ก.ค.2558 และเป็นการลดลงในทุกภาคธุรกิจจากโควิด-19.
สัปดาห์ที่ผ่านมาระบบการชำระเงินออนไลน์ของสถาบันการเงินบางแห่งมีปัญหาขัดข้องไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลานาน ธปท. ได้เร่งติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด
ข่าว,เศรษฐกิจ
โควิด-19,ไอแบงก์กิ้ง,ธนาคารกรุงเทพ ล่ม,ธปท.,ธุรกรรมออนไลน์,ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1810456
ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ สั่งเตรียมพร้อม รับมือมวลน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์
เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2560 นายไกสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โดยจากการติดตามสถานการณ์ล่าสุดพบว่าระดับน้ำชีตลอดระยะทางพนังกั้นลำน้ำชีในพื้นที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีระยะทางกว่า 35 กม. สถานการณ์ยังคงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เนื่องจากพนังสูง และระดับน้ำยังต่ำกว่าพนังกั้นอยู่อีกกว่า 1 เมตร แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ตลอดระยะทางพนังกั้นลำชีในพื้นที่ อ.ฆ้องชัย กว่า 22 กม. สถานการณ์ปัจจุบันนั้นน่าเป็นห่วง เนื่องจากพนังกั้นน้ำค่อนข้างต่ำ และมีหลายจุดระดับน้ำในแม่น้ำชีหนุนสูงจนเกือบถึงขอบพนังกั้น โดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงที่ต่ำ และเป็นประตูระบายน้ำ โดยได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเจ้าหน้าที่ร่วมกับประชาชนเร่งนำกระสอบทรายเข้าเสริมพนังให้สูงขึ้น และถมอัดดินให้พนังมั่นคงแข็งแรงมากขึ้น เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนประชาชนแล้ว,ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวต่อว่า พร้อมทั้งได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางอำเภอจัดเวรยามเฝ้าระวังจุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยสูบน้ำในพื้นที่น้ำท่วมออกสู่แม่น้ำชี รวมทั้งจัดเตรียมจุดอพยพไว้ที่วัดบ้านท่ากลาง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย และบริเวณที่ทำการ อบต.ลำชี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมขึ้น,สถานการณ์แม่น้ำชี ล่าสุด ปริมาณน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณเขื่อนระบายน้ำวังยาง ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดระดับน้ำหน้าเขื่อนและท้ายเขื่อนอยู่ที่ 140.44 ม.รทก.(เมตรเทียบกับทะเลปานกลาง) จากระดับกักเก็บปกติ 137 ม.รทก.ซึ่งเหลืออีกเพียง 61 ซม.ก็ใกล้จะเท่ากับระดับน้ำสูงสุดที่มีสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ซึ่งมีระดับอยู่ที่ 141.03 ม.รทก.โดยเจ้าหน้าที่ต้องแขวงบายประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เพื่อระบายน้ำผ่านเขื่อน 1,088 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือ 94 ล้าน ลบ.ม.,ส่วนสถานการณ์ท่วมล่าสุดในพื้นที่ อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมรวม 11 หลังคาเรือน โรงเรียน 1 แห่ง วัด 1 แห่ง พื้นที่การเกษตรจำนวน 540 ไร่ ขณะที่สถานการณ์เขื่อนลำปาวล่าสุดมีน้ำไหลเข้า 16 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,815 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 92% ซึ่งปัจจุบันยังคงปิดประตูระบายน้ำทั้ง 4 บาน และสามารถรับน้ำได้อีก 165 ล้าน ลบ.ม.เพื่อช่วยลดพื้นที่น้ำท่วมและไม่ให้มวลน้ำไหลไปสมทบกับแม่น้ำชีในช่วงนี้.
ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งจนท.ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมรับมือมวลน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ ที่จะไหลมาถึงกาฬสินธุ์ ห่วง อ.ฆ้องชัย พนังกันน้ำริมแม่น้ำชีไม่สูง จึงต้องเร่งเสริม จัดเวรเฝ้า 24 ชั่วโมง พร้อมเตรียมจุดอพยพหากเกิดน้ำท่วม
ข่าว,ทั่วไทย
แม่น้ำชี,กาฬสินธุ์,ไกสร กองฉลาด,รับมือน้ำท่วม,น้ำท่วม
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1102630
บิ๊กตู่ ยันมีเลือกตั้งแน่ ไม่บิดพลิ้ว แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 60 ที่หอประชุมอาคารอเนกประสงค์ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งถึงการเลือกตั้งว่า การเลือกตั้งใหม่จะทำอย่างไรให้ได้รัฐบาลที่ทำงานให้คนทั้งประเทศได้จริง ทั้งนี้ อย่างไรการเลือกตั้งต้องมี แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องจะเสร็จหรือไม่ ขออย่ามากดดันตนเรื่องนี้ ตนไม่บิดพลิ้วอะไรทั้งสิ้น ตนให้ใจท่านทั้งหมด เหลือแค่การปฏิบัติ ตนทนไม่ได้อีกแล้วที่เห็นคนไทยทั้งประเทศดวงตาแห้งผาก,ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้ถามว่ามีใครเกลียดตนหรือไม่ โดยมีประชาชนตะโกนบอกรักนายกฯ ซึ่งเมื่อนายกฯ ได้ยินก็ตอบกลับว่า รักนานๆ อย่ารักแป๊บเดียวนะ,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องไม่ขัดแย้งอีก ถึงจะเป็นประชาธิปไตย พร้อมกับถามประชาชนด้วยว่า ต้องการให้ประเทศไทยมีความขัดแย้งหรือไม่ และการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยครั้งหน้าต้องเลือกให้ดีใช่หรือไม่ จะเลือกใคร จะกาให้ใครดูให้ดี ท้องถิ่นด้วยต้องปรับปรุงตัวเอง ไม่ใช่คิดแค่จะยุบหรือไม่ยุบ สำคัญคือต้องพัฒนาตัวเองก่อน
นายกฯ ลั่นไม่บิดพลิ้วมีเลือกตั้งแน่นอน แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์-ก.ม.ที่เกี่ยวข้อง ขออย่ากดดัน
เลือกตั้ง
นายกฯ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,เลือกตั้ง,โรดแม็ป,นายกฯตรวจน้ำท่วม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1148038
นักข่าวพลเมือง: นิสิต ม.สารคาม เดินหน้ากิจกรรมให้กำลังใจน้องใหม่ ต้านระบบว้าก
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่กลุ่มนิสิตของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ลุกขึ้นมาทำกิจกรรม เพื่อทวงถามถึงรูปแบบและวิธีการรับน้องของคณะกรรมการเชียร์ที่ส่อไปในทางการใช้อำนาจเผด็จการนิยม การว้ากและตะโกนด่าน้อง โดยระบุว่าทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อสภาพจิตใจ และนำให้นิสิตใหม่ที่เข้าร่วมกิจกรรมเกิดอาการเป็นลมจำนวนมาก และการล็อคตัวผู้ประท้วงการรับน้องแบบเผด็จการบนเวที และการใช้คำพูดของประธานเชียร์ที่ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา นิสิตกลุ่มดังกล่าวได้ไปร่วมให้กำลังใจน้องใหม่ของวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยไปนั่งข้างๆ พื้นที่ที่มีการรับน้อง และทำการโชว์ป้ายรณรงค์ให้เกิดการรับน้องแบบสร้างสรรค์ ทั้งนี้ กลุ่มนิสิตดังกล่าวใช้วิธีแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ คือ การปรบมือ และชูป้ายให้กำลังใจหลังจากที่น้องร้องเพลงเสร็จ และชูป้ายแสดงข้อความให้สตาฟฟ์เลิกว้ากน้อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักศึกษาที่ไปทำกิจกรรม ไม่มีการตะโกนพูด และไม่มีการเข้าแทรกแซงกระบวนการรับน้อง อีกทั้ง ไม่มีการใช้ความรุนแรงใดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อทางกองกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามทราบว่านิสิตกลุ่มดังกล่าวมาทำกิจกรรมชูป้ายประท้วงก็ได้มีการรวมตัวกันเข้ามาดูแลความสงบ โดยสั่งห้ามไม่ให้มีการถ่ายรูปและวีดีโอโดยเด็ดขาด อ้างว่าตอนนี้กำลังมีคดีเกี่ยวกับคลิปวีดีโอเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.54 ที่มีการนำไปโพสไว้บนยูทิวป์ ซึงทางกลุ่มนิสิตก็ปฏิบัติตามโดยไม่ถ่ายรูปและวีดีโอ นางสาวสุนิษา ปุ่มวงษ์ นิสิตสาขาการเมืองการปกครองหนึ่งในกลุ่มนิสิตที่เคยไปประท้วงการประชุมเชียร์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และทำกิจกรรมให้กำลังใจน้องใหม่ครั้งนี้ กล่าวให้ข้อมูลว่า กลุ่มนิสิตต้องการเห็นการรับน้องแบบสร้างสรรค์ ซึ่งทางกลุ่มเองก็จะต้องแสดงให้เห็นว่าหากเรียกร้องให้มีการยกเลิกการรับน้องแบบเก่าแล้ว สิ่งที่ต้องการสื่อ หรือรูปแบบวิธีการที่ต้องการให้เป็นรูปแบบของการรับน้องเป็นอย่างไร และสิ่งที่ต้องทำมากในตอนนี้คือการสื่อสารให้คนอื่นๆ ที่ยังไม่รับรู้เจตนารมณ์ของกลุ่มได้รับทราบข้อมูลและวิธีการของกลุ่ม เพื่อหาแนวร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น ที่เรามาวันนี้ ก็เพราะเรายืนยันในเจตนารมณ์ คือ เราต้องการเห็นการรับน้องที่มันสร้างสรรค์ ก็ยอมรับว่าปีนี้วิทยาลัยการเมืองการปกครองก็มีนโยบายการรับน้องโดยให้ลดการว้ากลง แต่ก็ยังมีอยู่ แต่เราต้องการให้ยกเลิก เพราะเราเป็นปัญญาชน พูดดีๆ กันคงรู้เรื่อง อีกอย่างการสร้างค่านิยมเกี่ยวกับความเป็นรุ่น มันเป็นการแสดงถึงชนชั้น ทำไมไม่บอกว่าเป็นนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครอง ปี 1 หรือ ปี 2 ก็พอ ไม่ต้องมาบอกว่าเป็นรุ่นนั้นรุ่นนี้ และพวกรุ่นพี่เองเวลาที่มีการพิสูจน์รุ่น ก็มักจะปลูกฝังค่านิยมเรื่องนี้ ทำไมเหรอไม่มีรุ่นแล้วจะเรียนไม่จบหรืออย่างไร และเรามาวันนี้เรามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้นเอง เช่น ชูป้าย ปรบมือ และให้กำลังใจน้อง แต่ทำไมต้องมาห้ามเราถ่ายรูปและวีดีโอ เราไม่เข้าใจ นางสาวสุนิษากล่าว หมายเหตุ: ชื่องานเขียนเดิม \การแสดงออกเชิงสัญญะ กับความท้าทายการรับน้องแบบประเพณีนิยม\
หลังการเผยแพร่คลิปต่อต้านการรับน้องที่ ม.มหาสารคาม ในอินเทอร์เน็ต กลุ่มนิสิตต้านการว้ากยังเดินหน้าทำกิจกรรมต่อ รวมตัวให้กำลังใจน้องใหม่ พร้อมโชว์ป้ายรณรงค์ให้เกิดการรับน้องแบบสร้างสรรค์
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,การศึกษา,สังคม
SOTUS,การรับน้อง,กิจกรรมเชียร์,มหาวิทยาลัยมหาสารคาม,ระบบโซตัส,เผด็จการ
https://prachatai.com/journal/2011/06/35435
ทำเสียว รถบัสภูเก็ตลงเนินเบรกแตก พุ่งชนบ้านคน กวาดรถยนต์พังยับ 2 คัน
(ภาพจากตำรวจ สภ.ถลาง),ระทึก รถบัสเบรกแตกขณะลงเนินพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนริมถ.อนุสาวรีย์-บ้านป่าคลอก รถยนต์ที่จอดอยู่ 2 คัน พังเสียหาย ตร.สภ.ถลาง เร่งสอบ เคราะห์ดีไม่มีใครเจ็บ,เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 59 ร.ต.ท.สุนันท์ เพชรหนู รอง สว.(สอบสวน) สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดอุบัติเหตุรถบัสเบรกแตกพุ่งชนบ้าน และรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณซอยไม่มีชื่อ ตรงข้ามวัดป่าคลอก ถ.อนุสาวรีย์-บ้านป่าคลอก อ.ถลาง ส่งผลให้บ้านและรถพังเสียหาย จึงนำกำลังสายตรวจรุดไปตรวจสอบ,ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยดังกล่าว พบรถบัสสีแดง ทะเบียนป้ายเหลือง 30-3953 ภูเก็ต สภาพพุ่งชนติดอยู่กับกันสาดหน้าบ้านไม่มีเลขที่จนหักโค่นลงมา กระจกด้านหน้ารถฝั่งคนขับแตกและด้านข้างขวาเสียหาย โดยบริเวณหน้ารถมีรถกระบะมาสด้า ถูกชนเข้ากลางรถพังเสียหาย ใกล้กันพบรถฮอนด้าแจ๊ส สีขาว ไม่พบแผ่นป้ายทะเบียนถูกชนเสียหาย ตรวจสอบไม่พบผู้บาดเจ็บ โดยมีนายสมโชค ฤทธิฉิม อายุ 46 ปี โชเฟอร์รถบัสยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่,จากการสอบสวน นายสมโชค ทราบว่าได้ขับรถบัสคันดังกล่าวเข้าไปภายในซอย จากนั้นได้ขับกลับออกมา โดยภายในซอยจะมีเนินลาดชันสูง อาจทำให้รถเกิดเบรกไม่อยู่ในขณะลงเนิน และพุ่งเข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีรถกระบะและรถเก๋งจอดอยู่ ส่งผลให้พุ่งชนได้รับความเสียหายดังกล่าว หรืออาจหักหลบบางอย่าง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ระทึก!! รถบัสเบรกแตกขณะลงเนินพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนริมถ.อนุสาวรีย์-บ้านป่าคลอก รถยนต์ที่จอดอยู่ 2 คัน พังเสียหาย ตร.สภ.ถลาง เร่งสอบ เคราะห์ดีไม่มีใครเจ็บ
null
พุ่งชนบ้าน,รถบัสเบรกแตก,สภ.ถลาง,อ.ถลาง,ภูเก็ต
https://www.thairath.co.th/content/820594
ประชาธิปัตย์ - เพื่อไทย เห็นพ้องสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237
จากข้อเสนอของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้งด้านกิจการพรรคการเมืองที่เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 โดยการกำหนดให้มีบทลงโทษจากยุบพรรคเหลือเพียงตัดสิทธิ์ทางการเมือง โดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยมองว่าเป็นข้อเสนอที่ดี เนื่องจากจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ร่างโดยบุคคลที่มีอคติกับนักการเมือง ทำให้พรรคการเมือง นักการเมือง และประชาชน อ่อนแอ แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับ ส.ส.ร.จะพิจารณา โดยพรรคเพื่อไทยจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือชี้นำการแก้ไขรัฐธรรมนูญขณะที่นายเทพไท เสนพงษ์ กรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าพรรคไม่ขัดข้อง หากจะยกมาตรา 237 ขึ้นมาแก้ไขเพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากการให้อำนาจยุบพรรคการเมือง จากการกระทำความผิดคณะกรรมการบริหารพรรค ถือว่าไม่ยุติธรรมสำหรับพรรคการเมืองที่มีสมาชิกพรรคเป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน พร้อมกันนี้ ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาที่พรรคถ่วงเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเล่นเกมการเมืองในคณะกรรมาธิการด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ ในฐานะอดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ยืนยันถึงความจำเป็นที่กำหนดบทลงโทษยุบพรรค และการตัดสิทธิ์ทางการเมืองในรัฐธรรมนูญมาตรา 237 เพื่อป้องกันการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งหลังมีผลบังคับใช้พรรคการเมืองมีความระมัดระวังมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด โดยดูได้จากผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองยังคงอยู่เบื้องหลังคุมนโยบายพรรคอยู่ รวมถึงการลดจำนวนกรรมการบริหารพรรคลง เพื่อป้องกันการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากการยุบพรรค
พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 จากบทลงโทษการยุบพรรคให้เหลือเพียงการถูกตัดสิทธิทางการเมือง ขณะที่อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ ระบุถึงเหตุผลที่ต้องมีบทลงโทษการยุบพรรคในมาตรา 237 เพื่อป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง
การเมือง
กกต.,ตัดสิทธิทางการเมือง,ประชาธิปัตย์,ยุบพรรค,รัฐธรรมนูญ,เพื่อไทย,แก้ไข
https://news.thaipbs.or.th/content/70229
ประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสานค้านจีนสร้างเขื่อนในประเทศลาว ชี้หลายเขื่อนที่มีอยู่กระทบมากพอแล้ว
2563 คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง(Mekong River Commission: MRC)เปิดเผยต่อสาธารณะว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จะริเริ่มดำเนินการกระบวนการปรึกษาหารือเบื้องต้น(Prior Consultation)สำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำสานะคาม ซึ่งเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติ เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง ของ คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ในกรณีที่รัฐสมาชิก ประกอบด้วย ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม จะมีการดำเนินการโครงการที่ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำโขงเนื้อหาข้อมูล และข้อเรียกร้องภายในแถลงการณ์ของเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน ระบุว่า บริษัทที่เข้ามาทำโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำสานะคาม มีบริษัท ต้าถัง (ลาว) สานะคาม ไฮโดรพาเวอร์ จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการฯ โดยบริษัทดังกล่าวนี้เป็นบริษัทลูกของ บริษัท ต้าถัง ซึ่งเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของ สาธารณะรัฐประชาชนจีน ตามเอกสารของโครงการเขื่อนไฟฟ้าลังน้ำสานะคาม ที่เสนอต่อคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ได้มีการระบุว่า เขื่อนมีลักษณะเป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่าน ขนาด 684 เมกะวัตต์ พื้นที่ก่อสร้างเขื่อนอยู่ระหว่างแขวงไซยะบุรีและนครหลวงเวียงจันทร์ เมืองสานะคาม โดยอยู่ห่างจาก อ.เชียงคาน จ.เลย เพียงแค่ 2 กิโลเมตร และตั้งอยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทร์ประมาณ 155 กิโลเมตร ประเทศลาวมีความคาดหวังว่า จะสามารถเริ่มก่อสร้างโครงการนี้ได้ในปี 2563 และจะแล้วเสร็จในปี 2571 ต้นทุนของการก่อสร้างโครงการมีมูลค่าประมาณ 6.6 หมื่นล้านบาท ไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะถูกส่งมาขายให้กับประเทศไทยทั้งนี้ในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงในเขตประเทศจีนไปแล้วกว่า 11 แห่ง และประเทศลาวมีเป้าหมายการก่อสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงจำนวน 7 แห่ง โดยแล้วเสร็จไปแล้ว 1 เขื่อน คือ เขื่อนไซยะบุรี อีกทั้งยังมีเขื่อนบนแม่น้ำโขงอีก 2 แห่ง ที่อยู่ในแผนการก่อสร้าง มีที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขงพรมแดนไทย-ลาว คือ เขื่อนปากชม อ.ปากชม จ.เลย และเขื่อนบ้านกุ่ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เขื่อนดังกล่าวเหล่านี้อยู่ในแผนการพัฒนาเขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้าที่เรียงรายเป็นขั้นบันไดตลอดตามลำแม่น้ำโขงทางเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน เห็นว่าระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขื่อนแม่น้ำโขงในเขตประเทศจีน รวมทั้งเขื่อนไซยะบุรี ในเขตประเทศลาวที่มีการเดินหน้ากักเก็บน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในแม่น้ำโขงให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ได้แก่ การผันผวนของระดับน้ำที่ไม่เป็นไปตามฤดูกาล เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการพังทลายของตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขงกับพื้นที่เกษตรริมแม่น้ำโขง การลดลงของความหลากหลายทางชีวภาพโดยเฉพาะพันธุ์ปลาและสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในแม่น้ำโขง ปัญหาการดักตะกอนดินของเขื่อนตอนบนนำมาซึ่งผลกระทบในด้านธาตุอาหารของระบบนิเวศแม่น้ำล่างและเกิดการเปลี่ยนสีของแม่น้ำอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สิ่งเหล่านี้เป็นผลกระทบสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดนที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนานจึงมีข้อเสนอ ต่อรัฐบาลไทยและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องว่า รัฐไทยควรมีการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อสถานการณ์ปัญหาและผลกระทบทางด้านระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในแม่น้ำโขง ซึ่งเกิดขึ้นมาจากเขื่อนต่างๆ ในแม่น้ำโขง และรัฐบาลไทยควรมีการทบทวนจุดยืนในการซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำโขงโดยเฉพาะเขื่อนสานะคาม ที่จะนำมาซึ่งหายนะภัยต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของแม่น้ำโขง ที่สำคัญต้องมีการเปิดเผยข้อมูลและข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหา ผลกระทบที่เกิดจากการพัฒนาลุ่มน้ำโขงสู่สาธารณะ โดยเปิดพื้นที่ให้กับภาคประชาสังคมและภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการนำเสนอปัญหาและเสนอทางเลือกด้านการพัฒนา และแนวทางการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ทั่วทุกมุมโลก รัฐบาลแต่ละประเทศ รวมทั้งหน่วยงาน องค์กร และภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่างร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างขันแข็งด้วยความหวังที่จะรอดพันจากหายนะภัยที่มีต่อมวลมนุษยชาติในครั้งนี้ แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลลาวภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานจากประเทศจีน กลับฉวยโอกาสในสภาวะวิกฤติครั้งนี้ เร่งรัดผลักดันโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำโขงโครงการล่าสุดคือ เขื่อนสานะคามสืบเนื่องจากวันที่ 11 เดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง(Mekong River Commission: MRC)เปิดเผยต่อสาธารณะว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จะริเริ่มดำเนินการกระบวนการปรึกษาหารือเบื้องต้น(Prior Consultation)สำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำสานะคาม กระบวนการนี้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติ เรื่อง การแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง ของ คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ในกรณีที่รัฐสมาชิก ประกอบด้วย ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม จะมีการดำเนินการโครงการที่ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำโขง ทั้งนี้ โครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำสานะคาม มีบริษัท ต้าถัง (ลาว) สานะคาม ไฮโดรพาเวอร์ จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการฯ บริษัทดังกล่าวนี้เป็นบริษัทลูกของ บริษัท ต้าถัง ซึ่งเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของ สาธารณะรัฐประชาชนจีนตามเอกสารของโครงการเขื่อนไฟฟ้าลังน้ำสานะคาม ที่เสนอต่อคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ได้มีการระบุว่า เขื่อนมีลักษณะเป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่าน ขนาด 684 เมกะวัตต์ พื้นที่ก่อสร้างเขื่อนอยู่ระหว่างแขวงไซยะบุรีและนครหลวงเวียงจันทร์ เมืองสานะคาม โดยอยู่ห่างจาก อ.เชียงคาน จ.เลย เพียงแค่ 2 กิโลเมตร และตั้งอยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทร์ประมาณ 155 กิโลเมตร ประเทศลาวมีความคาดหวังว่า จะสามารถเริ่มก่อสร้างโครงการนี้ได้ในปี 2563 และจะแล้วเสร็จในปี 2571 ต้นทุนของการก่อสร้างโครงการมีมูลค่าประมาณ 6.6 หมื่นล้านบาท ไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะถูกส่งมาขายให้กับประเทศไทยการเดินหน้าผลักดันโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำโขง ได้เกิดขึ้นมาอย่าต่อเนื่องในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงในเขตประเทศจีนไปแล้วกว่า 11 แห่ง และประเทศลาวมีเป้าหมายการก่อสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงจำนวน 7 แห่ง โดยแล้วเสร็จไปแล้ว 1 เขื่อน คือ เขื่อนไซยะบุรี อีกทั้งยังมีเขื่อนบนแม่น้ำโขงอีก 2 แห่ง ที่อยู่ในแผนการก่อสร้าง มีที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขงพรมแดนไทย-ลาว คือ เขื่อนปากชม อ.ปากชม จ.เลย และเขื่อนบ้านกุ่ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เขื่อนดังกล่าวเหล่านี้อยู่ในแผนการพัฒนาเขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้าที่เรียงรายเป็นขั้นบันไดตลอดตามลำแม่น้ำโขงพวกเรา เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน ในฐานะองค์กรภาคประชาสังคมและเครือข่ายภาคประชาชน ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์การพัฒนาในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง โดยเฉพาะการผลักดันและการก่อสร้างเขื่อนต่าง ๆ บนแม่น้ำโขงที่ส่งผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดนต่อชุมชนลุ่มน้ำโขงในเขตภาคอีสานในช่วงระยะเวลามากกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ได้มีมุมมองและข้อสังเกตต่อ สถานการณ์การสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขง ดังต่อไปนี้ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขื่อนแม่น้ำโขงในเขตประเทศจีน รวมทั้งเขื่อนไซยะบุรี ในเขตประเทศลาวที่มีการเดินหน้ากักเก็บน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในแม่น้ำโขงให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ได้แก่ การผันผวนของระดับน้ำที่ไม่เป็นไปตามฤดูกาล เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการพังทลายของตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขงกับพื้นที่เกษตรริมแม่น้ำโขง การลดลงของความหลากหลายทางชีวภาพโดยเฉพาะพันธุ์ปลาและสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในแม่น้ำโขง ปัญหาการดักตะกอนดินของเขื่อนตอนบนนำมาซึ่งผลกระทบในด้านธาตุอาหารของระบบนิเวศแม่น้ำล่างและเกิดการเปลี่ยนสีของแม่น้ำอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สิ่งเหล่านี้เป็นผลกระทบสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดนที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนานผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบทางสังคม ที่เกี่ยวโยงกับฐานความมั่นคงทางอาหารของชุมชนแม่น้ำโขงตอนล่าง ทั้ง 4 ประเทศ ชาวประมงพื้นบ้านต้องสูญเสียอาชีพกับรายได้ และคนในหลายชุมชนต้องสูญเสียพื้นที่ทางการเกษตรริมฝั่งแม่น้ำโขง ตลอดจนผลกระทบที่มีต่อแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ กับพื้นที่สำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ตลอดตามลำน้ำโขงได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ทำให้คนในชุมชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องต้องสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาล ฉะนั้น การผลักดันโครงการเขื่อนสานะคาม จึงเป็นการตอกย้ำปัญหาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคมในแม่น้ำโขงที่มีต่อชุมชนลุ่มน้ำโขงให้มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างทบทวีจากสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวข้างต้น พวกเรา มีข้อเสนอ ต่อรัฐบาลไทยและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องว่า รัฐไทยควรมีการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อสถานการณ์ปัญหาและผลกระทบทางด้านระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในแม่น้ำโขง ซึ่งเกิดขึ้นมาจากเขื่อนต่างๆ ในแม่น้ำโขง และรัฐบาลไทยควรมีการทบทวนจุดยืนในการซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำโขงโดยเฉพาะเขื่อนสานะคาม ที่จะนำมาซึ่งหายนะภัยต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของแม่น้ำโขง ที่สำคัญต้องมีการเปิดเผยข้อมูลและข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหา ผลกระทบที่เกิดจากการพัฒนาลุ่มน้ำโขงสู่สาธารณะ โดยเปิดพื้นที่ให้กับภาคประชาสังคมและภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการนำเสนอปัญหาและเสนอทางเลือกด้านการพัฒนา และแนวทางการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นด้วยจิตคาราวะเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน29พฤษภาคม 2563หน่วยงาน/องค์กร/เครือข่าย/บุคคล1. สมาคมส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม2. ศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่3. กลุ่มฮักแม่น้ำเลย4.กลุ่มฮักเชียงคาน5. กลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำโขง อ.ปากชม จ.เลย6. กลุ่มลุ่มน้ำโขงศึกษา7. เครือข่ายอนุรักษ์ภูหินเหล็กไฟ8. สมาคมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเทือกเขาเพชรบูรณ์9. สภาผู้นำลุ่มน้ำพุงและป่าสักตอนบน10. เครือข่ายองค์กรชุมชนเทือกเขาเพชรบูรณ์11. สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ12. สภาผู้ผลิตและบริโภค จังหวัดเลย13. เครือข่ายอนุรักษ์ป่าหัวไร่ปลายนา จังหวัดหนองบัวลำภู14. เครือข่ายชาติพันธุ์เทือกเขาเพชรบูรณ์15. สภาองค์กรชุมชนตำบลวังสะพุง16. เครือข่ายลุ่มน้ำชีตอนล่าง จังหวัดร้อยเอ็ด17. เครือข่ายชาวบ้านลุ่มน้ำชีตอนล่าง จังหวัดยโสธร18. เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำ ภาคอีสาน19. กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ตำบลเชียงเพ็ง20. เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภาคอีสาน21. สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนราศีไศล22. สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนหัวนา23. โครงการทามมูน24. ศูนย์พิทักษ์สิทธิการจัดการทรัพยากรชุมชนลุ่มน้ำชีตอนล่าง25. คณะกรรมการประชาชนคัดค้านโรงน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล (คปน.) ภาคอีสาน26.ชุมชนคนฮักน้ำของ จังหวัดอุบลราชธานี27.มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน28.เครือข่ายชุมชนและภาคประชาสังคมติดตามสถานการณ์ธุรกิจและสิทธิมนุษยชน29.ขบวนการอีสานใหม่30.มูลนิธิเพื่อการบริหารการจัดการน้ำแบบบูรณาการ(ประเทศไทย)31.กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน)32.กลุ่มฮักบ้านเกิด เมืองเพีย จังหวัดขอนแก่น33.มูลนิธิพิทักษ์ธรรมชาติเพื่อชีวิต จังหวัดอุบลราชธานี34.สภาองค์กรชุมชน ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น35.กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมห้วยเสือเต้นและโคกหินขาว36.เครือข่ายประชาชนไทย8จังหวัดลุ่มน้ำโขง37.สมาคมเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มโขง จังหวัด ภาคอีสาน (คสข.)38.สถาบันชุมชนลุ่มน้ำโขง39.สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต40.สมัชชานักศึกษาอีสาน41.กลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขง42.กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี43.ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ อีสาน44.ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม45.กลุ่มผู้ผลิตสื่อสารคดีเพื่อเสรีภาพแม่น้ำโขง46. กลุ่มรักษ์เชียงของ47. มูลนิธิเลยเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาอย่างยั่งยืน48.มูลนิธิพัฒนาอีสาน จ.สุรินทร์49. ศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคมLegal Center for Human Rights50.ตลาดสีเขียวขอนแก่นKhon Kaen Green Market51.กลุ่มเพื่อนคนไร้บ้าน--------------------------------------------------------นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (2552-2558)นายสันติภาพ ศิริวัฒน์ไพบูลย์ดร.เลิศชาย ศิริชัยศาสตราจารย์สุริชัย หวันแก้วดร.ชยันต์ วรรธนะภูติผศ.ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ่ ดาวดิน)นายณรงค์ฤทธิ์ อุปจันทร์นายนิวัตน์ ร้อยแก้วนางสาวมณีรัตน์ มิตรปราสาทนายปิยศักดิ์ สุคันธพงษ์ เลขานุการ เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและพลังงานจังหวัดสุรินทร์นายวุฒิรักษ์ แพงตาแก้วนายพุฒิพงศ์ มหาอุตรนายการัณ ดิษเจริญนายพิทักษ์ สอนจะโปะนางสาว ส. รัตน์มณี พลกล้า ทนายความนายนิรุตณ์ บัวพา คณะกรรมการบริหารเลขา-สมาคมป่าชุมชนอีสานนายเดชา เปรมฤดีเลิศนายณัฐวุฒิ กรมภักดีนางสาวศิวิมล วงศาอ้วนนายฐากูร สรวงศ์สิรินายสมพงศ์ อาษากิจ
29 พ.ค. 2563 เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน ออกแถลงการณ์ เรื่อง ข้อเสนอต่อสถานการณ์การผลักดันโครงการก่อสร้างเขื่อนสานะคาม บนแม่น้ำโขง หลังทราบว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.
การเมือง,สังคม,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต,สิ่งแวดล้อม
เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน,ผลกระทบสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน,คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง,เขื่อนสานะคาม
https://prachatai.com/journal/2020/05/87873
ยอดมือถือหัวเว่ยไทยทรุด 50%
ความเชื่อมั่นถดถอยแต่ยังไม่มีแคมเปญพิเศษกระตุ้น,ผู้สืิ่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกคำสั่งทางบริหารให้บริษัทในสหรัฐอเมริกายุติการทำธุรกิจร่วมกับบริษัทต่างชาติที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ อันทำให้กูเกิลได้ประกาศยุติการทำธุรกิจกับหัวเว่ย ยักษ์โทรคมนาคมจากจีนในท้นที จนภายหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯได้ออกประกาศให้เวลาท้ง 2 คู่ค้าเตรียมความพร้อมและรับมือกับผลกระทบทีจะเกิดขึ้นกับลูกค้าของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นเวลา 90 วันนั้น,คำสั่งและท่าทีของกูเกิล ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในแบรนด์หัวเว่ยทันที โดยเฉพาะมือถือ เนื่องจากการที่กูเกิลประกาศยุติการทำธุรกิจร่วมกับหัวเว่ยนั้น อาจทำให้ผู้ใช้มือถือหัวเว่ยไม่สามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่นยอดนิยมต่างๆ ของกูเกิล ไม่ว่าจะเป็น กูเกิล เพลย์สโตร์, กูเกิลแม็ป รวมท้งยูทูป เป็นต้น และยังอาจไม่สามารถอัปเดตการใช้งานด้านความปลอดภัยในเวอร์ชันล่าสุดได้ด้วย,ข้อวิตกกังวลดังกล่าวเกิดขึ้นกับผู้ใช้มือถือหัวเว่ยทั่วโลก จนมีข่าวปรากฎในสื่อต่างประเทศ ได้แก่ เว็บไซต์ฟอร์บส์ รวมทั้งหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ สเตรทไทม์ มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน โดยระบุว่าราคามือถือหัวเว่ยในตลาดมือสอง ตกต่ำลงอย่างมาก ขณะที่ราคาของซัมซุงยังอยู่ในระดับเดิม สำนักข่าวบลูมเบิร์กยังรายงานบทสัมภาษณ์โฆษกของเว็บ WeBuyTek ระบุสัปดาห์ก่อนหน้ามีคนเอามือถือหัวเว่ยมาปล่อยขายเพิ่มขึ้น 540% แต่ยอดคนสนใจคลิกเข้าชมลดลง 46% ขณะที่ยอดคลิกของซัมซุงเพิ่มขึ้น,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากการสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่ายมือถือหัวเว่ยในไทย 2-3 รายพบว่า ยอดขายในประเทศไทยลดลงวันละ 50% แล้ว โดยในช่วงแรกที่เกิดเหตุการณ์ยอดขายลดลงประมาณ 15% แต่ขณะนี้ลดลงครึ่งหนึ่งจากที่เคยขายได้ เนื่องจากความเชื่อมั่นที่ถดถอยลง อย่างไรก็ตามจากการสอบถามการเดินหน้าทำโปรโมชั่น แคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขายยังคงเป็นไปในแนวทางเดิม ยังไม่มีการเคลื่อนไหวด้านการขายและการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอันเป็นนัยสำคัญ.
หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกคำสั่งทางบริหารให้บริษัทในสหรัฐอเมริกายุติการทำธุรกิจร่วมกับบริษัทต่างชาติที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
ข่าว,เศรษฐกิจ
ความเชื่อมั่น,แคมเปญ,โดนัลด์ ทรัมป์,หัวเว่ย,แอพพลิเคชั่น,ยอดมือถือ
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1579976
กวีประชาไท: กฤช เหลือลมัย กับบทสนทนาถึงผู้มาก่อนกาล
หลายครั้งเรา ไม่อาจรู้แสงหรุบหรู่อยู่ต่อหน้าคือรุ่งอรุณหรือสนธยาเช้า ? หรือเย็น ?ความมืดมิด เมื่อยาวนานการข้ามผ่าน ย่อมยากเข็ญเรางุนงงหลงประเด็นไม่เห็นทางความทรงจำ อันรางเลือนยิ่งเสมือนดังความต่างภาพและคำ ล้วนอำพรางความเป็นไปแต่รุ่งอรุณหรือสนธยาห้วงเวลา สำคัญไฉน ?ในเมื่อมีคนมากมายเคยมุ่งหน้ามาก่อนกาล.ข้าฯ ขอระลึก นึกถึงพวกเขาผู้คน–เรื่องราว อันวีระอาจหาญภาระ พันธะ และมโนปณิธานเราจักสืบสานสั่งสมสืบไปรุ่งอรุณมืดมนดังแดนสนธยาแลไปข้างหน้าแทบไม่เห็นจุดหมายหากฟ้าอีกฟาก แสงจากคบไฟยังสว่างไสวอยู่ในใจเราอยู่ในความงาม ความจริง ความลวงนำทางเราล่วง พ้นห้วงความเขลาเรา ผู้เหยียบยืนอยู่บนรอยเท้าของผู้ที่ก้าวล่วงมาก่อนกาลข้าฯ เคยสงสัย ว่าที่ผ่านไปหากไม่มีพวกเขาในห้วงเวลาอันเนิ่นนานยาว ในทุกหย่อมย่านจะเกิดอะไรขึ้นกับเมืองไทย เมื่อครั้งวันวานหากไม่มีการอภิวัฒน์ครั้งนั้นจะอยู่กันอย่างไร ?เราคงยังเป็น รัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์รวมศูนย์ผูกขาด เผด็จอำนาจ โดยถูกกฎหมายลูกหลานเราคงไม่เคยรู้จัก กษัตริย์นักประชาธิปไตยเพราะอาจไม่มี ประชาธิปไตย ในบ้านเมืองนี้ การรอบัญชาจากฟ้าลงมา เสียเวลาเปล่าถ้ารัฐธรรมนูญไม่ถูกพวกเขาร่างขึ้นที่นี่คงต้องรอการพระราชทานฯ ไปอีกร้อยปีเพราะประเทศนี้ยังไม่พร้อมจะมีการเลือกผู้แทนฯเราคงมีเพียงอเนกชนนิกรสโมสรสมมุติเป็น Absolute เหนือคนอื่นๆ อีกนับหมื่นแสนแต่งตั้ง - ถอดถอน ทุกตำแหน่งขั้นตอน ได้ทั่วทิศทั่วแดนทั่วทุกเขตร์แคว้นในแผ่นดินนี้ผ่านองคมนตรีสภา หากไม่มีพวกเขา เราคงต้องเสียภาษีสมพัตสรหรือถูกริบทรัพย์กลับเป็นกรรมกรอย่างอนาถาหากไม่มีพวกเขา เราคงยังเสียอากรค่านารัชชูปการต่างๆ นานา มาจนเดี๋ยวนี้หากไม่มีพวกเขา ก็อาจไม่มี กรณีสวรรคตฯไม่มีใครต้องตายอย่างน่าเศร้าสลด ไร้สิ้นศักดิ์ศรีผืนแผ่นดินไทยคงยังเป็นบ้านของท่านปรีดีฯนายชิต นายบุศย์ นายเฉลียวคงมีลูกหลานอีกมากมายเพราะมีพวกเขาเราจึงมองเห็นความเป็นมนุษย์เห็นความฉ้อฉลและความบริสุทธิ์ของทั้งเจ้าและไพร่เห็นการแก่งแย่งแบ่งสรรอำนาจฝ่ายนอกฝ่ายในไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนงมงายได้ทั้งสิ้นทั้งนั้นข้าฯ ขอเคารพในความงดงามของความหาญกล้านำพาเมืองไทยเดินไปข้างหน้า ในเวลาคับขันพวกเขาเคยทำให้เสียงของเราทุกคนเท่าเทียมกันแม้ช่วงสั้นๆก่อนชะงักงันมาครึ่งศตวรรษ มืดมิดมาตลอดคืน เราตื่นเช้ายังเป็นแผ่นดินเก่าอันเงียบสงัดหากความคิดเราแจ่มแจ้ง กระจ่างชัดมุ่งสู่การเปลี่ยนผลัด ในไม่ช้าความคิดเราช่างแจ่มแจ้ง กระจ่างชัดรอเวลาเปลี่ยนผลัดในไม่ช้าฯกฤช เหลือลมัยอ่านที่หมุดเหล็กคณะราษฎร์ ลานพระรูปฯ24 มิถุนายน 2553
หลายครั้งเรา ไม่อาจรู้ แสงหรุบหรู่อยู่ต่อหน้า คือรุ่งอรุณหรือสนธยา เช้า ? หรือเย็น ? ความมืดมิด เมื่อยาวนาน การข้ามผ่าน ย่อมยากเข็ญ เรางุนงงหลงประเด็น ไม่เห็นทาง ความทรงจำ อันรางเลือน
การเมือง,วัฒนธรรม
กฤช เหลือลมัย,กวีประชาไท,การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475,คณะราษฎร
https://prachatai.com/journal/2010/06/30084
ประกันสังคม ควัก 2.6 พันล้าน จ่ายเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร ลูกต่างด้าวได้ด้วย
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึง การปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรจากสำนักงานประกันสังคม จากเดิมที่เคยจ่าย 400 บาท เป็น 600 บาท ว่า เดิมที สปส. จ่ายเงินสงเคราะห์บุตรให้กับผู้ประกันตน ที่มีบุตรตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี จำนวน 400 บาท ต่อเดือน/คน,ทั้งนี้ จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่แจ้งไว้ทุกเดือน แต่หลังจากวันที่ 31 ม.ค. 62 ประกันสังคมได้ปรับอัตราการจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรให้กับผู้ประกันตนจาก 400 เป็น 600 บาท โดยจะจ่ายย้อนหลังให้จนถึงเดือน ม.ค. 2561 เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรของประชาชนและภาคแรงงานให้สามารถเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี,สำหรับการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตน ยังเป็นการส่งเสริมให้คนไทยมีบุตรมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีอัตราการเกิดน้อย โดยบุตรของผู้ประกันตนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ขวบ จำนวน 3 คน จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรจำนวน 600 บาทต่อคน ในวันที่ 31 ม.ค. 62 สปส.จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ประกันตนย้อนหลังไปจนถึงเดือน ม.ค. 61 จำนวนเดือนละ 200 บาท รวม 12 เดือน เป็นจำนวน 2,400 บาท บวกกับของเดือน ม.ค. 62 อีก 600 บาท มีเด็กที่ได้รับสิทธิจำนวน 1.3 ล้านคน,อย่างไรก็ตาม ประกันสังคมต้องจ่ายเงินในส่วนนี้เป็นเงิน 2.6 พันล้านบาท โดยบุตรของแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องและอยู่ในระบบประกันสังคม ก็จะได้รับสิทธิเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรเหมือนคนไทยด้วย นายอนันต์ชัย กล่าว.
สำนักงานประกันสังคม ควัก 2.6 พันล้าน จ่ายเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร 600 บาท แก่ลูกผู้ประกันตนกว่า 1.3 ล้านคน พร้อมโอนเข้าบัญชี 31 ม.ค. 62 ส่วนบุตรแรงงานต่างด้าวได้รับสิทธิด้วย
ข่าว,เศรษฐกิจ
ประกันสังคม,เงินสงเคราะห์บุตร,เงินสงเคราะห์บุตร 600 บาท,จ่ายเงินย้อนหลัง,อนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1464836
ร้านไก่ทอดแนชวิลล์ กับพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก เปิดเมนูจี๊ดใหม่ให้ลองแล้ว
Fowlmouth ร้านไก่ทอดสไตล์แนชวิลล์ (Nashville) ในโครงการ The Commons ทองหล่อ 17 ฉลองเปิดสาขาใหม่ในซอยสุขุมวิท 11 พร้อมออก 5 เมนูใหม่ ที่ให้ความเผ็ดจี๊ดจ๊าดได้เช่นเคยโดย Fowlmouth สาขาที่ 2 นี้ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 11 บนพื้นที่ที่เคยเป็น Bed Supper Club โดยร้านขยายใหญ่ขึ้นกว่าเก่า มีที่นั่งให้เลือก 2 ชั้นด้วยกัน ส่วนเมนูใหม่เอาใจแฟนๆ ร้านไก่ทอดเผ็ดนี้มีตั้งแต่ Fried Pickles แตงกวาดองรสเปรี้ยวแบบคนไม่ชอบกินก็กินได้ เพราะนำไปทอดจนกรอบ จิ้มกับบัตเตอร์มิลก์แรนช์ Hot Chicken Nachos เมนูนาโชจากแป้งตอร์ติญ่าที่มีรสเผ็ด ทั้งกรอบและชีสเยิ้ม ถูกใจคนรักชีสจากเมนู Mac & Cheese ดั้งเดิม ซึ่งเมนูนี้ถูกนำมาปรับสูตรพิเศษที่ทำให้ชีสข้นยิ่งขึ้นไปอีก Hot Chicken Tacos ทาโก้ไก่ทอดรสเผ็ดร้อน ใส่ซัลซ่าปิโกเดอกัลโล ครีมมีสลอว์และซอส Come Back รสเผ็ด เสิร์ฟบนแป้งตอร์ติญ่าแบบนิ่ม เมนูใหม่ยังรวมไปถึง Hot & Sunny Burger แฮมเบอร์เกอร์ปรับโฉมจาก Chicken Burger เบอร์เกอร์ไก่ทอดจากเมนูเดิม เสริมเพิ่มพร็อพให้มี อะไร ยิ่งกว่า ด้วยเนื้อไก่ชุ่มฉ่ำส่วนสะโพก เบคอนชิ้นเบิ้มจากร้าน Sloanes เชดดาร์ชีสรสเข้ม ซอส Come Back โปะด้วยไข่ดาวเยิ้มๆ กินคู่กับ Curly Fries ที่ทอดจนกรอบเป็นสีทอง และเมนูสุดท้ายคือ BBQ Grilled Cheese แซนด์วิชไก่ที่ใช้เนื้อส่วนสะโพก ใส่เชดดาร์ชีส เสริมความหอมด้วยพริกย่าง ซอส Jack Daniels BBQ มาพร้อมกับ Curly Fries เช่นกัน ไก่ทอดสูตรเด็ดของแนชวิลล์ของร้าน Fowlmouth โดดเด่นที่การใช้เนื้อไก่หมักในบัตเตอร์มิลก์ แล้วจึงนำมาทอดแบบเดียวกับไก่ทอดเกาหลี คือทอดถึง 2 ครั้ง ด้วยไฟอ่อนและไฟแรงตามลำดับ ในน้ำมันที่ปรุงรสด้วยเครื่องเทศอีกชั้นหนึ่ง ทำให้รสชาติของเครื่องเทศซึมอยู่ในตัวเนื้อแป้ง มอบทั้งความกรอบและความเผ็ดร้อนในเวลาเดียวกัน เมื่อทอดเสร็จร้อนๆ แล้วนำมาทาให้ชุ่มด้วยซอสจากน้ำมันที่ได้จากเบคอนผสมกับเนยฝรั่งเศส เพิ่มระดับความจัดจ้านด้วยเครื่องเทศ ทั้งพริกขี้หนูป่น พริกเสฉวน และพริกแคโรไลนา รีปเปอร์ (Carolina Reaper) พริกที่ติดการจัดอันดับของ Guinness World Records ว่า เผ็ดที่สุดในโลก ปิดท้ายการันตีความแซ่บ แล้วนำมาเสิร์ฟบนแผ่นขนมปัง พร้อมเครื่องเคียงแนชวิลล์เป็นเมืองในรัฐเทนเนสซีที่ขึ้นชื่อเรื่องไก่ทอด ว่ากันว่าโด่งดังมานานกว่า 70 ปี ซึ่งที่มาของเมนูจานร้อนนี้ ทางร้านเล่าว่า เป็นเมนูที่เกิดขึ้น โดยบังเอิญ มาตั้งแต่ปี 1930 โดยทางร้านมีให้เลือกระดับความเผ็ดของไก่ได้ตามใจชอบทุกเมนู ตั้งแต่บัตเตอร์มิลก์ที่ไม่ใส่เครื่องเทศ Mild Medium Hot ไปจน Extra Hot ที่ท้าลิ้นด้วยพริกฮาบาเนโร คาเยน โกสต์ชิลี หรือที่เรียกกันว่า พริกปีศาจ และแคโรไลนา รีปเปอร์ หรือหากยังจืดชืดไม่พอลิ้นเหล็กของคุณ เราขอให้ท้าความกล้ากับ Death ที่ทางร้านว่าเผ็ดที่สุด เพราะใส่เครื่องเยอะขึ้นเป็นทวีคูณก็ไม่ว่ากัน ร้านสาขาใหม่นี้ยังเสิร์ฟคราฟต์เบียร์หลายชนิดให้เลือกมากินคู่กับไก่ทอดได้อีกด้วย อาทิ เบียร์บาวาเรียนจาก And Union Anderson Valley Rogue หรือลาเกอร์และ IPA จาก Eleventh Fort ของไทยเช่นกันเมนูใหม่นี้สามารถสั่งได้ทั้งสาขา The Commons ทองหล่อ 17 และสุขุมวิท 11พิสูจน์อักษร:
ร้านไก่ทอดสไตล์แนชวิลล์ Fowlmouth ฉลองสาขาที่ 2 บนถนนสุขุมวิท 11 กับ 5 เมนูใหม่ ได้แก่ Fried Pickles Hot Chicken Nachos Hot Chicken Tacos Hot & Sunny Burger และ BBQ Grilled Cheeseเมนูใหม่นี้สามารถสั่งได้ทั้งสาขา The Commons ทองหล่อ 17 และสุขุมวิท 11
null
null
https://thestandard.co/fowlmouth-2/
คุมทำแผน คลั่งฆ่ารตอ. อ่วม6ข้อหา
ยอมรับเมายาบ้า ปูนยศพล.ต.ต.,ตำรวจคุมตัวไอ้โหดทำแผนฯ ,เมาคลั่งจ่อยิง ร.ต.อ.เสียชีวิต, ขณะเข้าระงับเหตุ ส่วนตำรวจอาสาบาดเจ็บสาหัส ตำรวจตั้ง 6 ข้อหาหนัก ไม่ให้ประกันตัว ผู้ต้องหายอมรับก่อนก่อเหตุเสพยาเข้าไป ในขณะที่ ผบ.ตร. สั่งปูนบำเหน็จ 5 ขั้น 4 ชั้นยศ จาก ร.ต.อ. เป็น พล.ต.ต. พร้อมปรับยุทธวิธีจับกุมใหม่,กรณี ร.ต.อ.อิสระพงศ์ กุลจินดา รอง สวป.สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นำกำลังเข้าระงับเหตุนายนิรุตต์ จิตมั่น อายุ 39 ปี เมาสุราอาละวาดที่บ้านเลขที่ 207/275 หมู่ 11 ต.หนองขาม แต่พลาดท่าถูกนายนิรุตต์ยิงเสียชีวิต ส่วนนายศุภสิทธิ์ หม่องเลี้ยง อายุ 37 ปี ตำรวจอาสาบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุตำรวจระดมกำลังปิดล้อมจับกุมนายนิรุตต์ไว้ได้ในสภาพเมาสุรา พร้อมปืน 9 มม. 2 กระบอก ปืน .38 อีก 1 กระบอก มีใบอนุญาต 2 กระบอก เป็นปืน .38 กับ 9 มม. ส่วนปืน 9 มม. อีกกระบอกไม่มีใบอนุญาต กระสุน 10 นัด ยาเค และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา,ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 7 ก.พ.พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรีพร้อมกำลัง ควบคุมตัวนายนิรุตต์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรกบริเวณหน้าบ้านนายนิรุตต์ผู้ต้องหา เป็นจุดที่นายนิรุตต์ชักปืนยิงใส่นายศุภสิทธิ์ตำรวจอาสาบาดเจ็บและทำปืนตก จุดที่ 2 ภายในบ้านที่เปิดเป็นร้านขายของชำเป็นจุดที่นายนิรุตต์วิ่งเข้าไปหยิบปืน 9 มม.อีกกระบอกออกมายิงใส่ ร.ต.อ.อิสระพงศ์เสียชีวิต ภายหลังทำแผนฯ ตำรวจควบคุมตัวนายนิรุตต์กลับไปยัง สภ.หนองขาม ขณะเดียวกันญาติพยายามขอประกันตัวนายนิรุตต์ แต่ตำรวจไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีอุกอาจ พนักงานสอบสวนจะนำตัวนายนิรุตต์ส่งฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดชลบุรี ในวันที่ 8 ก.พ.นี้,พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เผยว่า จากการตรวจปัสสาวะนายนิรุตต์พบว่ามีสารเสพติด ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเสพยามา เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาขัดขืนต่อสู้เจ้าพนักงาน, ฆ่าเจ้าพนักงาน, พยายามฆ่าผู้ช่วยเจ้าพนักงาน, พกพาอาวุธโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนในพื้นที่สาธารณะ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โดยผิดกฎหมาย ส่วนการเยียวยาผู้เสียชีวิต ทางตำรวจมีสวัสดิการให้เป็นเงินเกือบ 2 ล้านบาท และได้ยศ พล.ต.ต. นอกจากนี้ ทายาทของผู้เสียชีวิตจะได้รับราชการเป็นตำรวจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีมาตรการทบทวนยุทธวิธี เพราะครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับตำรวจเป็นอย่างมาก,พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น เพราะถือว่าเป็นตำรวจน้ำดีที่ตั้งใจทำงาน ต้องมาเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ สั่งให้ดูแลสวัสดิการและช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่ ผู้เสียชีวิตจะได้รับความชอบพิเศษ 5 ขั้น 4 ชั้นยศ เลื่อนจาก ร.ต.อ. เป็น พล.ต.ต. ญาติจะได้รับเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจและเงินบำเหน็จตกทอดช่วยเหลือกว่า 1,900,000 บาท สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะบรรจุทายาทของตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ให้ได้เข้ารับราชการตำรวจ 1 คน ด้าน,พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า เป็นการเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนยุทธวิธีการเข้าจับกุมผู้ต้องหานั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทบทวนยุทธวิธีในทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ในกรณีดังกล่าวจะถือเป็นความประมาทหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ,ช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่วัดศรีรัตนาราม (บ่อหิน) ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 ไปเป็นประธานรดน้ำศพ ร.ต.อ.อิสระพงศ์ กุลจินดา รอง สวป.สภ.หนองขาม ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน พล.ต.ท.จิตติกล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น เพราะถือว่าเป็นตำรวจน้ำดี ตั้งใจทำงาน ต้องมาเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดูแลอย่างเต็มที่ สำหรับศพของ ร.ต.อ.อิสระพงศ์ จะตั้งสวด บำเพ็ญกุศลไปถึงวันที่ 13 ก.พ. และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 14 ก.พ. เวลา 16.00 น.
ตำรวจคุมตัวไอ้โหดทำแผนฯ เมาคลั่งจ่อยิง ร.ต.อ.เสียชีวิต ขณะเข้าระงับเหตุ ส่วนตำรวจอาสาบาดเจ็บสาหัส ตำรวจตั้ง 6 ข้อหาหนัก
ข่าว,ทั่วไทย
เมาคลั่ง,ยิงตำรวจ,ชลบุรี,นิรุตต์ จิตมั่น,อิสระพงศ์ กุลจินดา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1198442
กรมเชื้อเพลิงฯ ส่งวิเคราะห์คราบน้ำมันหาดประจวบฯ หาต้นตอ
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี รักษาการอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ได้ไปตรวจสอบคราบน้ำมันบริเวณชายหาด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่เขาตะเกียบจนถึงหาดชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งมีระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (27 ต.ค.) และได้เก็บตัวอย่างเพื่อส่งสำรวจ เบื้องต้นคาดว่าไม่ได้เกิดเหตุน้ำมันรั่วจากกิจกรรมด้านการสำรวจและผลิต หรือขนถ่ายปิโตรเลียมแต่อย่างใด,ทั้งนี้ บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งทาง กรมเชื้อเพลิงฯ ได้ว่าจ้างให้เป็นที่ปรึกษาโครงการสร้างความรู้ความเข้าใจ และการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับปรากฏการณ์การเกิดก้อนน้ำมันดิน (Tar Ball) ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันดินบริเวณเขาตะเกียบ และหาดชะอำ โดยจะนำตัวอย่างดังกล่าวส่งวิเคราะห์ไปยังห้องปฏิบัติการ ณ ประเทศเบลเยียม คาดว่าจะใช้เวลาวิเคราะห์ประมาณ 4-6 สัปดาห์ จึงรู้ผลแล้วจะนำผลการวิเคราะห์ตัวอย่างก้อนน้ำมันดินมาเปรียบเทียบ เอกลักษณ์ลายพิมพ์นิ้วมือกับน้ำมันดิบ จากแหล่งผลิตในอ่าวไทย เพื่อพิสูจน์ว่ามาจากแหล่งผลิตในอ่าวไทยหรือไม่ สำหรับผลการวิเคราะห์ตัวอย่าง ที่ส่งไปวิเคราะห์ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะติดตามผลมารายงานต่อไป,นอกจากนี้ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านการสำรวจ และผลิตปิโตรเลียม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลด้านการสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมของบริษัทผู้รับสัมปทานในอ่าวไทย ทั้งในกิจกรรมการขุดเจาะ การผลิต และการขนถ่ายเพื่อซื้อ-ขาย จากเรือกักเก็บน้ำมันดิบ พบว่าไม่มีเหตุน้ำมันรั่วจากกิจกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด,อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ระดมเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วน ทำความสะอาด เก็บก้อนน้ำมันดิน เมื่อบ่ายวานนี้ คาดว่าหากไม่มีก้อนน้ำมันดินเกิดขึ้นเพิ่ม จะสามารถดำเนินการเก็บทำความสะอาดเรียบร้อยทั้งหมดภายในวันนี้ ส่วนบริเวณหาดชะอำในช่วงเช้า พบว่าช่วงน้ำขึ้นไม่มีคราบน้ำมันแต่อย่างใด และประชาชนได้ลงไปใช้ชายหาดได้ตามปกติแล้ว.
กรมเชื้อเพลิงฯ เก็บตัวอย่างคราบน้ำมันชายหาดประจวบฯ ใช้เวลาวิเคราะห์ 4-6 สัปดาห์ คาด ไม่ได้เกิดจากกิจกรรมปิโตรเลียม ยันเช้านี้ไม่พบคราบน้ำมันเพิ่ม เปิดให้คนใช้ชายหาดได้ปกติ
null
คราบน้ำมัน,คราบน้ำมันหาดประจวบ,หาดชะอำ,ประจวบ,กรมเชื้อเพลิง,ก้อนน้ำมันดิน,วิเคราะห์คราบน้ำมัน,น้ำมันรั่ว,ปิโตรเลียม,ขุดเจาะน้ำมัน,วีระศักดิ์ พึ่งรัศมี,เขาตะเกียบ,น้ำมัน,น้ำมันบนหาด,อ่าวไทย,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/535420
นายกฯ ชู ศก.พอเพียง บนเวที อาเซียน-รัสเซีย สู่การพัฒนา-ลดความขัดแย้ง
ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์,เมื่อวันที่ 18 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่อยู่ระหว่างการเยือนสหพันธรัฐรัสเซีย อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 17-21 พ.ค. ว่า เมื่อเวลา 17.45 น. ของวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางถึงท่าอากาศยานนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยมีผู้แทนผู้ว่าการนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเดินทางมาต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังโรงแรม Four Seasons Lion Palace ซึ่งเป็นโรงแรมที่พัก ก่อนร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ที่รองผู้ว่าการนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี,สำหรับภารกิจในวันนี้ (18 พ.ค.) นายกรัฐมนตรี วางพวงมาลาและตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ณ สุสานทหารนิรนาม นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก  ในเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นเวลา 10.30 น. เป็นประธานเปิดงาน Thailand – Russia Business Dialogue  ที่ โรงแรม Four Seasons Lion Palace ส่วนช่วงบ่าย จะพบหารือกลุ่มเล็กกับนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ก่อนหารือทวิภาคีแบบเต็มคณะ โดยภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีทั้งสองจะเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลง ก่อนแถลงข่าวร่วมกัน,พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในวันนี้ (18 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางต่อไปยังนครโซชิ เพื่อเตรียมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - สหพันธรัฐรัสเซีย สมัยพิเศษ (ASEAN – Russia Commemorative Summit) โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-รัสเซีย ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีในการพัฒนาแนวทางความสัมพันธ์อาเซียนแบบใหม่ เพื่อตอบสนองผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ในบริบทสถานการณ์โลกที่มีความตึงเครียดทางการเมือง และการแข่งขันสูงทางเศรษฐกิจ โดยฝ่ายอาเซียนมองว่า รัสเซียควรมีบทบาทแข็งขันและสร้างสรรค์ในภูมิภาค ที่จะสร้างความสมดุลในความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจในภูมิภาค,พล.ต.วีรชน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การหารือในวงอาเซียนเห็นว่า ขณะนี้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกภูมิภาคกำลังเผชิญกับภัยคุกคามในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เราเจอกับเรื่องราวของการก่อการร้าย ลัทธิสุดโต่งต่างๆ กำลังเผชิญหน้ากับเรื่องอากาศเปลี่ยน และผลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงจะใช้เวทีนี้หารือกับรัสเซียเพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหา โดยในเวทีดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจะเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและต้นตอของปัญหา ด้วยการใช้แนวทางการพัฒนา ลดช่องว่างรายได้ โดยจะน้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ใช้แก้ปัญหาในไทย มาแบ่งปันประสบการณ์ให้ หลายประเทศตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ที่ได้,พล.ต.วีรชน กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้จะมีเอกสารผลลัพธ์ของการประชุม 3 ฉบับคือ ปฏิญญาโซชิ ร่างแผนปฏิบัติการอย่างครอบคลุมเพื่อส่งเสริมความร่วมมืออาเซียนกับสหพันธรัฐรัสเซีย ค.ศ. 2016-2020 และรายงานข้อเสนอแนะแนวทางความสัมพันธ์อาเซียน-รัสเซียของกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิอาเซียน-รัสเซีย นอกจากนี้ระหว่างการร่วมประชุมอาเซียน-รัสเซียในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้พบปะหารือทวิภาคีกับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย เกี่ยวกับความร่วมมือของสองประเทศ และยังจะได้พบหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีของเวียดนามอีกด้วย.
นายกฯ เตรียมหารือรัสเซีย ขยายความร่วมมือทุกด้าน กระชับความสัมพันธ์ อาเซียน-รัสเซีย รอบ 20 ปี สนองผลประโยชน์ 2 ฝ่าย พร้อมเสนอแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางพัฒนา-ลดช่องว่างรายได้ ชงรัสเซียเข้ามามีบทบาท ถ่วงสมดุลมหาอำนาจอื่น
null
นายกฯ เยือน รัสเซีย,ความสัมพันธ์ ไทย-รัสเซีย,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯหารือ รัสเซีย,ประชุม รัสเซีย-อาเซียน,ภารกิจนายกฯเยือนรัสเซีย,เศรษฐกิจพอเพียง,ความขัดแย้ง,ประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซียน,อาเซียน,สหพันธรัฐรัสเซีย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/622151
ศรีสุวรรณ ค้านสลาก 12 นักษัตร ซัดรัฐบาลเริ่มถังแตก มอมเมาประชาชน
วันที่ 1 ส.ค. 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผยแถลงการณ์สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย คัดค้านการออกสลากรูปภาพ 12 นักษัตร ภายหลังคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มีมติเห็นชอบผลการศึกษาของคณะทำงานศึกษาผลิตภัณฑ์และเกมสลากรูปแบบอื่นๆ โดยเห็นชอบกับรูปแบบสลากรูปภาพ 12 นักษัตร หรือ picture 12 ซึ่งอ้างว่ามีความเหมาะสมกับสภาพสังคมไทยและสอดคล้องกับ มาตรา 13(7/1) แห่ง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2562 โดยการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์มีแอปพลิเคชันที่จะนำมาใช้ในการจำหน่ายนั้น (อ่านข่าวก่อนหน้า ,เคาะแล้วหวยใหม่ สลากภาพ 12 นักษัตร ขายใบละ 50 บาท ถูก 4 หลักรับรางวัล,),ทั้งนี้ การเพิ่มผลิตภัณฑ์สลากและเพิ่มช่องทางการขายสลากดังกล่าว จะเป็นการส่งเสริมการมอมเมาประชาชนให้ลุ่มหลงในอบายมุขที่ผิดศีลธรรมทางศาสนา ให้กลายเป็นสิ่งที่ยอมรับได้โดยผลของกฎหมายซึ่งเป็นตราบาปที่ สนช. ในอดีตได้จัดทำกฎหมายนี้ขึ้นมา โดยที่สลากกินแบ่งรูปแบบเดิมก็เป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมที่ถูกกฎหมายที่รัฐบาลควรที่จะควบคุมให้เข้มงวด โดยเฉพาะการขายให้กับเด็กเยาวชน มากกว่าที่จะส่งเสริมโดยการที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาล่อใจมอมเมาประชาชนเพิ่มขึ้นตลอดเวลาเยี่ยงนี้,รัฐบาลจะใช้ช่องทางหารายได้ด้วยวิธีการนี้ ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลเริ่มถังแตก หมดปัญญาที่จะหารายได้เข้ารัฐด้วยวิธีการอื่น ซึ่งรัฐบาลที่ดีเขาต่างมุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจการหารายได้จากภายนอกประเทศจากการค้าการขายและการท่องเที่ยวเป็นหลัก หาใช่ใช้วิธีการที่สิ้นไร้ไม้ตอกด้วยการมอมเมาหาเงินจากประชาชน โดยเฉพาะกับคนยากคนจนที่กลายเป็นผู้ที่นิยมการเล่นหวยอยู่ในขณะนี้ ที่สำคัญรัฐบาลควรหยุดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นมากกว่าการหารายได้ด้วยวิธีการนี้เสีย เช่น หยุดการซื้อเรือดำน้ำ หยุดการซื้อรถถังสไตรเกอร์ หยุดการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ หยุดการขึ้นเงินเดือนให้ ส.ส. และ ส.ว. หยุดการรับเงินเดือนหลายทางของทหารบางคน,อย่างไรก็ตาม นายศรีสุวรรณ ระบุด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้บอกความจริงกับประชาชนว่า การออกสลากฯ รูปภาพ 12 นักษัตร มีโอกาสถูกรางวัลทั้งตรงและสลับรวมได้เพียง 24 รูปแบบจาก 20,736 รูปแบบ ซึ่งจากการคำนวณมีอัตราถูกรางวัลจะมีเพียงประมาณ 0.115% เท่านั้น และไม่ว่าผู้ซื้อจะมากหรือน้อยเท่าไร มูลค่ารางวัลก็ยังคงเป็น 10,000 บาทต่อรางวัลเสมอ อีกทั้ง การออกสลากเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนและสังคม ขัดต่อหลักนิติธรรมและหลักศาสนา และเป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา อันขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 25, 31, 43(1), 46 และ 67 ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทยทุกคนที่ไม่เห็นด้วยกับการมอมเมาประชาชนของรัฐบาลด้วยการออกสลากใหม่ดังกล่าวจะสามารถใช้สิทธิตาม มาตรา 43(3) ประกอบ มาตรา 50(1) ในการคัดค้านการดำเนินการดังกล่าวของสำนักงานสลากฯ และรัฐบาลได้ รวมทั้งการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อระงับการใช้อำนาจดังกล่าวได้ด้วย,ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ ยังได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ในสัปดาห์หน้าทางกลุ่มจะเริ่มการเชิญชวนประชาชนที่ไม่เห็นด้วย เข้าชื่อเพื่อใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญในการคัดค้านโครงการนี้ โดยจะไปยื่นหนังสือต่อรัฐบาลและสำนักงานสลากฯ ในภายหลัง หากโครงการนี้ยังเดินหน้าแล้วผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ก็จะใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ระงับการออกสลาก 12 นักษัตรต่อไป.
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์คัดค้านสลาก 12 นักษัตร จวกมอมเมาประชาชนให้ลุ่มหลงอบายมุข คาด รัฐบาลเริ่มถังแตก หมดปัญญาที่จะหารายได้เข้ารัฐด้วยวิธีการอื่น
ข่าว,การเมือง
หวยใหม่,สลากใหม่,สลาก 12 นักษัตร,ศรีสุวรรณ จรรยา,สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1627568
ทำไมฮ่องกงต้องลุกฮือ ฮ่องกงกับความเป็นนิติรัฐ อัตลักษณ์ที่ชาวฮ่องกงไม่ต้องการสูญเสีย
ปรากฏการณ์การประท้วงในฮ่องกงกลายเป็นที่สนใจไปทั่วโลกตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หลังทางการฮ่องกงพยายามผลักดันร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งถูกมองว่าเป็นการขยายอิทธิพลทางการเมืองของจีน ถึงแม้ในเวลาต่อมาคณะบริหารฮ่องกงจะตัดสินใจระงับการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อลดความเดือดดาลของประชาชน แต่ผู้ประท้วงก็ยังเดินหน้าจัดการชุมนุมอย่างต่อเนื่องการประท้วงล่าสุดจัดขึ้นในวันครบรอบ 22 ปีแห่งการส่งมอบฮ่องกงคืนให้กับจีน ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าชาวฮ่องกงจำนวนมากไม่ต้องการให้จีนเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในเกาะ โดยเฉพาะระบบยุติธรรมที่เข้มแข็งของพวกเขาผศ.ดร.จันจิรา สมบัติพูนศิริ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปัจจุบันทำงานวิจัยให้กับสถาบัน German Institute for Global and Area Studies (GIGA) ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี มองว่าปรากฏการณ์การประท้วงในฮ่องกงสะท้อนแง่มุมที่น่าสนใจหลายเรื่องเรื่องแรกเป็นการสะท้อนถึงอาการของความอัดอั้นไม่พอใจของคนฮ่องกงนับล้านที่มีต่อคณะบริหาร ซึ่งที่ผ่านมาถูกมองว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาลจีน ถึงแม้คณะบริหารฮ่องกงจะให้เหตุผลว่าการแก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะช่วยให้สามารถนำอาชญากรทั้งหลายมาดำเนินคดีได้ง่ายขึ้นแต่ความไม่พอใจลึกๆ ของประชาชนมาจากพัฒนาการทางการเมืองหรือความสัมพันธ์ระหว่างคณะบริหารของฮ่องกงกับรัฐบาลจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัญหาที่สั่งสมมานานถ้าเราติดตามข่าวมาตั้งแต่เหตุการณ์ประท้วงที่มีชื่อว่า การปฏิวัติร่ม เมื่อปี 2014 หรือเมื่อ 5 ปีก่อน มันสะท้อนว่าคนในฮ่องกงจำนวนมากไม่ไว้ใจรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่และกลัวว่าจะถูกครอบงำฮ่องกงกลับคืนสู่การปกครองของจีนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1997 หรือเมื่อ 22 ปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านั้นฮ่องกงเติบโตมาในฐานะ ซิตี้ สเตท (City State) หรือพูดง่ายๆ ก็คือนครรัฐ เป็นรัฐที่ค่อนข้างเจริญ มีความทันสมัย และที่สำคัญคือมีระบบการเมืองที่ค่อนข้างเข้มแข็ง ซึ่งเป็นมรดกมาจากเจ้าอาณานิคมอังกฤษเมื่อมองดูบรรดาประเทศที่เคยตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษแล้วจะเห็นได้ว่าประเทศเหล่านั้นมีความภาคภูมิใจในระบบยุติธรรมของตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็ตาม สิ่งนี้ทำให้พวกเขามีความรู้สึกว่าเป็น นิติรัฐนิติรัฐคือประเทศหรือรัฐที่ยึดหลักนิติธรรม (Rule of Law) ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถทำอะไรได้ตามพลการหรือตามอำเภอใจ เพราะฉะนั้นหลักนิติธรรมก็เป็นการตรวจสอบอำนาจรัฐในอีกทางหนึ่งนั่นเองเมื่อทางการฮ่องกงนำเสนอร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน คนจึงกลัวว่าระบบตุลาการที่เข้มแข็งของพวกเขาจะถูกทำลายลง เพราะเรื่องนี้โยงกับ อัตลักษณ์ หรือความเป็นชาติของฮ่องกง คนฮ่องกงอยากเห็นว่าตัวเองต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่พวกเขารู้สึกว่าไม่มีอารยะเท่าพวกเขาดังนั้นเมื่อมองในแง่ของพัฒนาการทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นมรดกประชาธิปไตยหรือระบบตุลาการในฮ่องกงนั้นจึงเป็นความภาคภูมิใจของคนฮ่องกง เพราะฉะนั้นมันคือสัญลักษณ์ของชาติหรือความเป็นตัวตนของชาวฮ่องกง ซึ่งมันก็เชื่อมโยงกันในหลายระดับอีกประเด็นน่าสนใจคือมีการตั้งข้อสงสัยว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกผลักมาจากจีนแผ่นดินใหญ่จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการนำเสนอกฎหมายเพื่อเอาใจจีนของ แคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษ หรือคณะรัฐบาลที่มีนโยบายโปรปักกิ่งดร.จันจิรา มองแยกเป็นสองด้านว่าหากร่างกฎหมายนี้ผลักดันโดยฝ่ายจีนแผ่นดินใหญ่จริง ก็ยิ่งตอกย้ำว่าจีนพยายามกลืนชาติแต่ถ้าเป็นรัฐบาลฮ่องกงที่เป็นคนผลักดันเอง (ซึ่ง ดร.จันจิรา เชื่อในข้อหลังมากกว่า) ก็ยิ่งสะท้อนว่าระบบการปกครองตั้งแต่หลังปี 1997 เป็นต้นมาไม่ถือเป็นตัวแทนของเสียงประชาชนอย่างแท้จริงดังนั้นเวลารัฐบาลฮ่องกงออกนโยบายต่างๆ จึงไม่ได้สะท้อนความรู้สึกรักชาติของคนฮ่องกง ซึ่งหลายครั้งคณะบริหารถูกกล่าวหาว่าขายชาติสถานการณ์ในฮ่องกงเวลานี้ค่อนข้างซับซ้อน สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจก็คือจริงๆ แล้วความรู้สึกไม่ไว้ใจจีนไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นแต่ในฮ่องกงเท่านั้น แต่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย ยกตัวอย่างกรณีของเรือประมงฟิลิปปินส์ที่ถูกเรือสัญชาติจีนชนจนอับปางในทะเลน่านน้ำฟิลิปปินส์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาคำถามคือเรือของจีนมาทำอะไรในน่านน้ำของฟิลิปปินส์ เหตุการณ์นี้ทำให้คนฟิลิปปินส์โกรธมาก แต่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ กลับไม่ได้มีท่าทีที่แข็งกร้าวหรือวิพากษ์วิจารณ์จีนอย่างหนักแน่นแต่อย่างใดเพราะฉะนั้นความไม่ไว้ใจจีนในเอเชียมีค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันก็สะท้อนบรรยากาศการเมืองโลกด้วย เนื่องจากจีนกำลังผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของโลก ดังนั้นเวลาจีนจะทำอะไรก็ถูกจับจ้องเป็นพิเศษ ขณะที่ความน่าเชื่อถือของจีนในมุมมองของคนทั่วไปก็มีไม่มากเท่าประเทศฝั่งตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือสหรัฐฯ คนส่วนใหญ่จึงไม่รู้ว่าจีนต้องการอะไรกันแน่ เพราะจีนมีรัฐบาลที่ปิด เวลาจีนพูดอะไร คนก็จะไม่เชื่อว่าเป็นความจริง ทุกอย่างดูเป็น Propaganda หรือการโฆษณาชวนเชื่อไปหมดเมื่อดูภาพรวมในเวทีการเมืองระหว่างประเทศแล้ว ตำแหน่งของจีนในแผนที่โลกยังดูง่อนแง่นอยู่มาก จีนเองก็วิตกว่าเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านจีนในฮ่องกงจะยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของจีนในเวทีโลก ยิ่งไปกว่านั้นก็กังวลด้วยว่าจะไปปลุกกระแสการประท้วงในจีนเองด้วย เพราะคนจีนที่ไม่พอใจรัฐบาลก็มีจำนวนมากพอสมควร โดยเฉพาะรัฐบาลจีนในยุคของสีจิ้นผิง มีการดำเนินนโยบายก้าวล่วงในหลายสิ่งที่รัฐบาลชุดก่อนๆ ไม่เคยทำก้าวต่อไปของจีนดร.จันจิรา เชื่อว่าการผลักดันร่างกฎหมายครั้งนี้เป็นเจตจำนงของคณะบริหารฮ่องกงที่มีจุดประสงค์เพื่อเอาใจจีน โดยเหตุผลที่มองเช่นนั้นเพราะมีข้อวิเคราะห์ว่าจีนอาจถอด แคร์รี ลัม ออกจากตำแหน่ง ถึงแม้รัฐบาลจีนจะประกาศสนับสนุน แคร์รี ลัม อยู่เพื่อช่วยรักษาหน้าให้กับเธอ แต่ภายในน่าจะมีการพูดคุยกันว่าจะเอาลงจากตำแหน่ง เพราะมองว่าเป็นก้าวที่ผิดพลาดของเธอที่ผ่านมาอาจมีหลายสิ่งที่ แคร์รี ลัม ทำโดยที่ไม่ได้มาจากคำสั่งของรัฐบาลจีน หนึ่งในนั้นคือการสลายการชุมนุม หรือการกล่าวหาผู้ชุมนุมว่าเป็นผู้ก่อการจลาจล ทั้งๆ ที่ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ใช้แนวทางสันติวิธี แต่เป็นตำรวจต่างหากที่ใช้ความรุนแรงทั้งหมดนี้ล้วนทำให้เครดิตหรือภาพลักษณ์ของจีนในสายตาฮ่องกงยิ่งแย่กว่าเดิม ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนอาจไม่พอใจกับความเคลื่อนไหวของคณะบริหารฮ่องกงครั้งนี้ เพราะนโยบายหรือท่าทีหลายอย่างที่แสดงออกในช่วงหลังถูกตีความว่าจีนพยายามครอบงำฮ่องกงขณะเดียวกันคณะบริหารฮ่องกงก็มีปัญหาเรื่องความชอบธรรมสูงมาก เนื่องจากกระบวนการเลือกตั้งในฮ่องกงถูกบิดเบือนไปโดยรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะฉะนั้นคณะบริหารที่ได้มาจึงต้องโปรจีนแผ่นดินใหญ่อย่างแน่นอน ปัญหาก็เลยสะสมมาตั้งแต่ระบบการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นพฤติกรรมที่ปรากฏออกมาของ แคร์รี ลัม จึงเป็นผลพวงของระบบการเลือกตั้งมากกว่าจะเป็นคำสั่งโดยตรงของรัฐบาลจีนแนวโน้มประท้วงอาจยืดเยื้อ ขึ้นอยู่กับคณะบริหารดร.จันจิรา มองว่าโอกาสที่ชาวฮ่องกงจะจัดการชุมนุมประท้วงต่อเนื่องมีสูง แต่ถ้า แคร์รี ลัม ยอมลาออกและมีการประกาศอย่างชัดเจนว่าจะฉีกร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนทิ้ง ผู้ประท้วงก็อาจยอมถอยแต่สิ่งที่ทำให้การประท้วงครั้งนี้มีสเกลที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ก็เพราะมันเป็นประเด็น Single Issue ที่เจาะจงร่างกฎหมายเจ้าปัญหาฉบับเดียว ไม่ได้ครอบคลุมถึงการเรียกร้องแยกตัวเป็นเอกราชจากจีน เพราะถ้ามีประเด็นนี้เกี่ยวข้องด้วยก็น่าจะเป็นปัญหา เพราะคนจำนวนมากก็อาจไม่แชร์จุดยืนด้วยพอเป็นเรื่องใหญ่เรื่องเดียวและเชื่อมโยงกลับไปถึงความรู้สึกหวงแหนอัตลักษณ์และมรดกทางการเมืองที่คนฮ่องกงภูมิใจกันก็ทำให้เกิดพลังมวลชน เพราะพวกเขามองว่านี่คือระบบตุลาการของเราที่เข้มแข็ง ทำไมต้องยอมให้ระบบตุลาการของจีนที่บิดเบี้ยวมาครอบงำได้เพราะฉะนั้นถ้ากฎหมายถูกปัดตกไปและมีคำมั่นสัญญาว่าจะไม่นำร่างกฎหมายฉบับนี้กลับขึ้นมาพิจารณาในสภานิติบัญญัติอีก ก็น่าจะทำให้กระแสการประท้วงแผ่วลงอย่างไรก็ตาม อาจมีคนบางกลุ่มที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งเป็นพวกที่ไม่ต้องการจีนเลย หรือพรรคการเมืองที่ต้องการประกาศเอกราชจากจีน คนเหล่านี้อาจจะมีการเคลื่อนไหวประท้วงอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะสามารถรวมพลังมวลชนได้มากเท่ากับตอนที่คณะบริหารฮ่องกงพยายามผลักดันร่างกฎหมายในสภานิติบัญญัติเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพิสูจน์อักษร:
ผศ.ดร.จันจิรา สมบัติพูนศิริ แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่าก่อนที่ฮ่องกงจะกลับคืนสู่การปกครองของจีนในปี 1997 ฮ่องกงเติบโตมาในฐานะ ซิตี้ สเตท (City State) หรือนครรัฐ ซึ่งมีระบบการเมืองที่เข้มแข็ง อันเป็นมรดกมาจากอังกฤษ พวกเขาภูมิใจในระบบยุติธรรมของตัวเอง เพราะสิ่งนี้ทำให้พวกเขามีความรู้สึกว่าเป็น นิติรัฐแต่การที่ทางการฮ่องกงพยายามผลักดันร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งอาจเปิดทางให้จีนใช้เป็นเครื่องมือปราบปรามผู้เห็นต่างและกำจัดศัตรูทางการเมืองได้ ทำให้ประชาชนกลัวว่าระบบตุลาการที่เข้มแข็งจะถูกทำลายลง เพราะเรื่องนี้โยงกับ อัตลักษณ์ หรือความเป็นชาติของฮ่องกง คนฮ่องกงต้องการเห็นว่าตัวเองต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งพวกเขารู้สึกว่าไม่มีอารยะเท่าการเสนอร่างกฎหมายอาจเป็นเจตจำนงของคณะบริหารฮ่องกงที่ต้องการเอาใจจีน ซึ่งฝ่ายจีนอาจไม่พอใจกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เพราะมองว่าเป็นก้าวที่ผิดพลาดของ แคร์รี ลัม เนื่องจากเหตุประท้วงที่บานปลายทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลจีนยิ่งย่ำแย่ลง
null
null
https://thestandard.co/hong-kong-protests-why-people-taking-to-streets/
สุเทพเสนอจัดตั้งรัฐบาลประชาชน
หลังกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและเครือข่ายเคลื่อนขบวนดาวกระจายไปยังพื้นที่ 13 เส้นทาง และได้เข้ายึด 4 หน่วยงานราชการ ประกอบด้วย สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์ และกระทรวงการต่างประเทศ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมได้ระบุถึงเหตุผลในการเข้าไปชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว โดยอ้างว่าประชาชนได้ยึดอำนาจ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นระบอบประชาธิปไตย และจะไม่ให้ระบอบทักษิณมาปกครองอีกต่อไปนายสุเทพยังระบุด้วยว่า จะไม่มีการเจรจากับรัฐบาล เพราะรัฐบาลเป็นโมฆะ ตั้งแต่ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจะตั้งคณะกรรมการภาคประชาชนขึ้นมาสถาปนารัฐบาลของประชาชน และหลังจากที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนี้เสร็จสิ้นลง เชื่อว่า รัฐบาลจะประกาศยุบสภาฯ โดยอ้างว่า เพื่อคืนอำนาจในการเลือกตั้งให้กับประชาชน ซึ่งนายสุเทพ เห็นว่า จะไม่ใช่ทางออกที่ดีของประเทศ เนื่องจากจะมีการโกงเลือกตั้ง ซื้อเสียง เหมือนที่ผ่านมา ขณะที่ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการชุมนุมในพื้นที่กระทรวงการต่างประเทศว่า แกนนำผู้ชุมนุมได้รับปากว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เข้าไปภายในอาคารที่ทำการ และไม่ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และจะยินยอมให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่เดินทางออกจากกระทรวงฯ ได้โดยปลอดภัย เบื้องต้นกระทรวงฯ ได้มอบหมายผู้แทนไปพูดคุยกับแกนนำผู้ชุมนุม เพื่อขอคืนพื้นที่ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สามารถกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติในวันนี้ โดยหวังว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะคำนึงถึงภารกิจด้านการต่างประเทศของกระทรวงฯ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนไทย
กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลยังคงใช้เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นสถานที่หลักในการจัดการชุมนุม ส่วนสถานที่ราชการ 4 แห่งที่เข้าไปจัดเวทีปราศรัยจะมีการชุมนุมยืดเยื้อต่อไป และมีความเป็นไปได้ว่า วันนี้ (26 พ.ย.) อาจมีความเคลื่อนไหวเข้ายึดพื้นที่อีกหลายแห่ง โดยแกนนำการชุมนุมปฏิเสธที่จะเจรจากับรัฐบาล โดยอ้างว่า รัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ นับตั้งแต่ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
การเมือง
ชุมนุม,ยิ่งลักษณ์,ระบอบทักษิณ,รัฐบาล,สุเทพ
https://news.thaipbs.or.th/content/208970
ตร.เตรียมประสานทุกหน่วยงานติดตามตัว วรยุทธ อยู่วิทยา
วันนี้ ( 1 พ.ค.2560 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ กล่าวถึงการติดตามตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา (บอส) ผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 มาดำเนินคดีว่า คดีนี้แบ่งเป็น 2 ประเด็นคือ 1.การขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่ตำรวจสน.ทองหล่อ จะต้องเป็นผู้ร้องขอให้พนักงานอัยการพิจารณาประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศที่ผู้ต้องหาหลบหนีไปกบดาน ให้นำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยและ 2.ตำรวจ สน.ทองหล่อ จะต้องส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาสั่งการให้กองการต่างประเทศ ตรวจสอบแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหา หากไม่พบว่าอยู่ในประเทศอังกฤษตามกระแสข่าวจริง ตำรวจสากลของไทยจะออกหมายสีน้ำเงินไปยังตำรวจสากลทั้ง 190 ประเทศ ให้ตรวจสอบและหากยังไม่ทราบแหล่งที่อยู่ไม่พบตัวผู้ต้องหาจะต้องนำหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ยื่นไปยังองค์การตำรวจสากล เพื่อพิจารณาเปลี่ยนเป็นหมายจับสากล โดยสัปดาห์นี้เตรียมประสานตำรวจอังกฤษ หารือช่วยตรวจสอบแหล่งที่พักของนายวรยุทธว่าอยู่ในประเทศอังกฤษจริง ตามที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนหรือไม่ขณะที่ ภาพล่าสุดของนายวรยุทธ ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา โดนสำนักข่าวเอพี ติดตามไปที่หน้าอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ แม้ว่าจะพบตัวเขาในระยะใกล้แต่ไม่มีคำตอบใด ๆ จากนายวรยุทธเมื่อสื่อมวลชนพยายามตะโกนถามหลายครั้ง ว่าเขา จะเข้าพบอัยการตามนัดหรือไม่ ท่ามกลางชายลักษณะคล้ายบอดี้การ์ดที่พยายามกันสื่อมวลชนออกจากพื้นที่และเสียงของนายวรยุทธ ที่บอกให้คนในบ้านออกมาเปิดประตูให้เท่านั้น
กองการต่างประเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมประสานตำรวจสากล เพื่อสืบหาที่อยู่ที่ชัดเจนของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ก่อนดำเนินการยื่นเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน พร้อมประสานไปยังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางของผู้ต้องหา
อาชญากรรม
นายวรยุทธ อยู่วิทยา,หมายจับ,ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดง,พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา,ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน,กระทรวงการต่างประเทศ,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/262068
เตรียมพบกับ MAZDA VEHICLE ARCHITECTURE ความหนึบหลังพวงมาลัย
Mazda Vehicle Architecture ทำหน้าที่พื้นฐานในเทคโนโลยี Skyactiv เวอร์ชั่นต่อไป โดยได้รับการปรับแต่งเพื่อความมั่นใจในการใช้งาน ความปลอดภัยและความรู้สึกในการควบคุมรถยนต์ที่เป็นธรรมชาติในการรักษาสมดุลขณะที่รถกำลังขับเคลื่อน ส่วนประกอบต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อคนขับและผู้โดยสาร เช่น เบาะนั่ง ตัวถัง แชสซี ยาง ล้อ และระบบรองรับ ในการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ของ Mazda วิศวกรแบรนด์ Zoom Zoom เน้นไปที่ความสะดวกสบาย การจัดสรรฟังก์ชัน รวมถึงการออกแบบที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวภายใต้สัญลักษณ์ Skyactiv แพลตฟอร์มแบบใหม่ที่สามารถสื่อสารระหว่างรถยนต์กับคนขับเป็นแนวคิดแบบ Jinba-ittai เพื่อปรับให้รถยนต์ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ,การพัฒนาความสมดุลของรถยนต์โดยวิเคราะห์รูปแบบการเดินของมนุษย์ ,เมื่อมนุษย์เดิน ร่างกายของเราจะสร้างแกนการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ซึ่งทำหน้าที่พื้นฐานสำหรับรักษาความสมดุล โดยใช้ความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลัง วิศวกรของ Mazda เรียกเส้นนี้ว่า แกนความก้าวหน้า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการรักษาสภาพสมดุลเชิงพลวัต กระดูกเชิงกรานและส่วนบนของร่างกายเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับการออกแรงกล้ามเนื้อ การปรับท่าทางเล็กน้อยเพื่อควบคุมจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายและหักล้างการเคลื่อนที่ของศีรษะ,หมายความว่า เมื่อคนเดินเปลี่ยนทิศทางหรือพบการเปลี่ยนแปลงระดับความลาดเอียงของพื้น ร่างกายสามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่องในทิศทางที่ตั้งใจไว้ อย่างไรก็ตาม มนุษย์ไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เท่าไร ความสามารถในการทรงตัวนั้น เป็นความสามารถขั้นสูง เป็นทักษะที่มนุษย์เกือบทุกคนใช้เป็นประจำโดยไม่รู้ตัว ความสามารถของการทรงตัวนั้น ร่างกายจะต้องรักษาท่าทาง โดยกระดูกเชิงกรานจะเป็นแนวตั้ง ส่วนกระดูกสันหลังเป็นรูปตัว S ขณะที่แรงปฏิกิริยาจากพื้นถูกส่งถ่ายไปยังกระดูกเชิงกรานผ่านขาท่อนล่าง ทำให้กระดูกเชิงกรานเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นในรูปแบบที่เป็นระบบและต่อเนื่อง,การเคลื่อนไหวของมนุษย์ที่กำลังเดินแสดงให้เห็นถึงสภาพการเคลื่อนไหวในอุดมคติ ทำให้มนุษย์เดินได้อย่างสะดวกสบายและมีความเมื่อยล้าน้อยที่สุด ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะตอบสนองต่อการรบกวนอย่างฉับพลันทันทีด้วยระบบประสาทที่มีความรุดหน้า Mazda ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่เหมาะสม โดยมีจุดมุ่งหมายก็คือ การออกแบบรถยนต์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารใช้ความสามารถในการทรงตัวตามธรรมชาติและสัญชาตญาณของตนเช่นเดียวกับการเดิน ,เบาะที่นั่งในรถยนต์ช่วยทำให้คนขับนั่งอยู่บนกระดูกเชิงกรานที่รองรับแกนกระดูกสันหลัง ขณะที่แรงปฏิกิริยาจากพื้นถนนถูกถ่ายโอนจากระบบรองรับอย่างราบรื่น ผ่านโช้คอัพ สปริง และจุดยึดต่างๆ ของช่วงล่างอย่างต่อเนื่องตลอดการขับเคลื่อน แนวคิด Mazda Vehicle Architecture ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับร่างกายของมนุษย์ เช่น เบาะที่นั่ง ตัวถัง แชสซี ยาง เพื่อสร้างรถยนต์ที่มีการเคลื่อนตัวเป็นธรรมชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อการขับขี่ที่ผ่อนคลาย ศีรษะไม่โยกคลอน ผู้โดยสารและคนขับสามารถตอบสนองได้ทันทีเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมของการขับขี่ ,เพื่อทำให้ผู้โดยสารและคนขับสามารถทรงตัวตามธรรมชาติได้อย่างเต็มที่เมื่ออยู่ในรถ การเคลื่อนไหวของมวลกลายเป็นจุดสำคัญ เช่น รถกำลังวิ่งเข้าโค้ง มวลเหนือสปริงจะต้องเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นและมีความต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการอธิบายพื้นผิวทรงกลม ในขณะที่เบาะนั่งซึ่งอยู่ระหว่างมวลเหนือสปริงกับกระดูกเชิงกรานของคนในรถเคลื่อนที่ไปด้วยกันโดยไม่หน่วงเวลา พลังงานอินพุตจะถูกส่งผ่านไปยังอุ้งเชิงกรานของคนในรถได้อย่างราบรื่น ,เพื่อพัฒนามวลเหนือสปริงที่มีความสามารถและมีประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่อย่างราบรื่นต่อเนื่อง Mazda ได้มุ่งไปที่ประเด็นหลักๆ ดังต่อไปนี้,1 มั่นใจว่า พลังงานได้ถูกส่งผ่านจากมวลใต้สปริงไปยังมวลเหนือสปริงในรูปคลื่นเรียบ,2 ทำให้แรงไปในทิศทางเดียวกัน,3 ลดความแปรผันของความแข็งแรงระหว่างมุมตรงข้ามในแนวทแยงมุม ,การบรรลุจุดมุ่งหมายทั้งสามข้อ ช่วยทำให้มั่นใจได้ว่า มุมตรงข้ามในแนวทแยงมุมจะเคลื่อนไปข้างหน้าโดยไม่หน่วงเวลาเมื่อเกิดการส่งและรับพลังงาน ,เบาะที่นั่งแบบใหม่ เคลื่อนที่ไปพร้อมกับมวลเหนือสปริง,ใน Mazda Vehicle Architecture ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิจัยเกี่ยวกับชีววิทยาของมนุษย์ถูกนำไปรวมไว้กับการออกแบบเบาะนั่ง เพื่อทำให้ผู้โดยสารใช้ความสามารถในการทรงตัวได้อย่างเต็มที่เมื่ออยู่ในรถยนต์ โครงกระดูกเชิงกรานของผู้โดยสารจะได้รับการรองรับ เพื่อรักษาแนวของกระดูกสันหลังให้โค้งเป็นรูปตัว S เทคโนโลยีนี้ รองรับกระดูกเชิงกรานด้านบน เพื่อให้แน่ใจว่ามันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ขณะเดียวกัน รูปทรงของเบาะนั่งจะอยู่ที่จุดศูนย์ถ่วงของกระดูกซี่โครง (ตรงกับส่วนบนของเส้นโค้งรูปตัว S ของกระดูกสันหลัง) ช่วยรักษาแนวของกระดูกสันหลังในตำแหน่งดังกล่าว รูปทรงและความแข็งแรงของเบาะรองกระดูกต้นขาช่วยทำให้ผู้โดยสารสามารถปรับมุมของต้นขาได้อย่างอิสระ โดยเบาะที่นั่งสามารถรองรับและปรับให้เข้ากับสรีระความแตกต่างของร่างกายได้ ,Mazda เพิ่มความแข็งแรงของเบาะนั่งในแต่ละส่วนรวมไปถึงจุดยึดที่จะถ่ายเทกำลังจากตัวถัง ช่วยลดการหน่วงเวลาระหว่างการเคลื่อนที่ของมวลใต้สปริงและเบาะที่นั่ง พลังงานที่ส่งถ่ายไปยังอุ้งเชิงกรานของผู้โดยสารได้อย่างราบรื่น Mazda ได้ทำโครงสร้างภายในของเบาะนั่งให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุเบาะนั่งที่ดีจะช่วยลดอาการบาดเจ็บได้เมื่อทำงานร่วมกับอุปกรณ์นิรภัยในส่วนอื่นๆ ,Skyactiv Body,การส่งถ่ายพลังงานจากพื้นถนนไปสู่ตัวถัง Mazda ได้นำโมเดลพื้นฐาน Skyactiv Body ภายใต้กรอบแนวคิด เส้นตรงและต่อเนื่อง โดยทำการปรับแต่งแชสซีและตัวถังให้ดีขึ้น โครงสร้างรูปวงแหวนที่เชื่อมต่อกับแชสซีในแนวดิ่งและแนวขวางในตัวถังของรถยนต์ Mazda รุ่นก่อนหน้านี้ วิศวกรของ Mazda ได้เพิ่มการเชื่อมต่อจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อปรับโครงสร้างแบบวงแหวนหลายทิศทางที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในแนวทแยง แผงข้างด้านหน้า จุดยึดตัวหน่วงด้านหน้าและด้านหลัง การเปิดประตูบานหลังได้รับการวางตำแหน่งใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ขึ้นตรงกับการวิเคราะห์ทิศทางของพลังงานที่ถูกถ่ายเทตลอดการขับเคลื่อน ,ผลลัพธ์ที่เกิดจากโครงสร้างวงแหวนแบบหลายทิศทาง ทำให้ความล่าช้าในการถ่ายเทพลังงานอินพุตสู่เส้นทแยงมุมที่ยืดออกจากด้านหน้าไปด้านหลังลดลงถึง 30% เมื่อเทียบกับตัวถังของรถยนต์ Mazda ในปัจจุบัน โดยมีแรงส่งเกือบจะทันทีระหว่างเส้นทแยงมุมทั้งหมด 4 เส้น ,พลังงานอินพุตที่ส่งจากพื้นถนนไปยังตัวถังผ่านระบบรองรับหรือช่วงล่าง Mazda Vehicle Architecture ถูกออกแบบเพื่อลดขนาดของแรงที่ส่งไปยังมวลเหนือสปริง เป็นแนวคิดใหม่เพื่อทำให้แรงที่ส่งไปยังมวลใต้สปริงมีความราบเรียบตลอดเวลา Mazda ได้ทำการออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อจัดสรรส่วนประกอบต่างๆ ให้ลงตัวและทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ,ในขณะที่ระบบรองรับทำงานในแนวดิ่ง มุมของปีกนกจะหันหน้าลง (เป็นรูปตัว V แบบกลับหัว) แรงเฉี่อยของมวลใต้สปริงจะกดหน้ายางลงไปที่พื้นถนน ขณะเดียวกัน การใช้บูชทรงกลมทำให้การส่งถ่ายพลังงานมีความสอดคล้องกัน ไม่มีอาการลื่นและง่ายต่อการติดตั้งปีกนกรวมถึงจุดข้อต่อและจุดยึดต่างๆ ของช่วงล่างเพื่อปรับให้ช่วงล่างทำงานได้อย่างราบรื่น ,Mazda ยังปรับการทำงานของยางเพื่อทำให้สามารถถ่ายเทประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ โดยเน้นไปที่ความยืดหยุ่นในแนวดิ่งของยาง วิศวกรพยายามปรับระบบรองรับในรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะออกขายในอนาคตให้เข้ากับ Mazda G-Vectoring Control ซึ่งเป็นอุปกรณ์ควบคุมความสมดุลในย่านความเร็วต่ำในขั้นตอนแรกของการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อทำให้การทรงตัวของรถยนต์มีความเสถียรสูงสุด ยางล้อคือชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ดูดซับแรงสั่นสะเทือนและช่วยลดแรงกระแทกในระดับสูงสุด ในขณะที่การถ่ายเทน้ำหนักที่เกิดขึ้นในระหว่างการเลี้ยวก็มีความสมดุล ทำให้ควบคุมทิศทางของรถได้ง่ายยิ่งขึ้น ,Mazda G-Vectoring Control ทำการปรับแรงบิดจากเครื่องยนต์ให้ตอบสนองต่อการบังคับทิศทางของคนขับ เพื่อควบคุมแรงจากการเร่งในแนวขวางและแนวยาวของตัวรถ โดยทั้งสองแรงจะถูกควบคุมแยกจากกัน การปรับให้ยางสามารถอยู่ในแนวดิ่งเพื่อทำให้การทรงตัวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เป็นการเสริมความสะดวกสบายในการโดยสารหรือขับขี่ ลดอาการโคลงตัวและช่วยทำให้ไม่เมารถเมื่อขับบนเส้นทางภูเขา ,สมรรถนะด้านการเก็บเสียง การสั่นสะเทือนและความแข็งกระด้างที่ถูกปรับปรุงใหม่หมด,การทำให้ห้องโดยสารเงียบสงบปราศจากเสียงแปลกปลอมจากภายนอกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญ Skyactiv Vehicle Architecture เป็นก้าวย่างสำคัญของประสิทธิภาพด้านการเก็บเสียง ลดแรงสั่นสะเทือน อาการกระด้างของช่วงล่าง จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับกลไกการรับฟังของมนุษย์ เราจะรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อมีเสียงแปลกปลอมและแรงสั่นสะเทือนเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ภายใต้สภาวะปกติ Mazda พยายามปรับลดเสียงแปลกปลอมจากภายนอกด้วยวัสดุซับเสียงและมาตรการป้องกันเสียงจากภายนอกรวมถึงเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ รวมถึงอาการสั่นสะเทือนเมื่อขับผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างรถยนต์ที่มีห้องโดยสารเงียบสงบและมีการสั่นสะเทือนน้อยลงกว่าเดิมเมื่อวิ่งบนผิวถนนที่ขรุขระ,คุณลักษณะของตัวหน่วงพลังงานที่ลดอาการสั่นสะเทือนมีความสำคัญในแง่มุมของการควบคุมรถยนต์ทั้งในเวลาที่มีเสียงรบกวนจากภายนอก Mazda ใช้ตัวหน่วงที่มีประสิทธิภาพแบบใหม่ซึ่งรวมไปถึงพันธะของการหน่วง ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของจุดที่พลังงานมีแนวโน้มที่จะเกิดความหนาแน่น ,ด้วยงานสถาปัตยกรรมยานยนต์แบบใหม่ที่คำนึงถึงความสบายและการควบคุมที่ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนั้นช่วยสร้างมาตรฐานที่ดีในการผลิตรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบที่งดงาม ความสามารถของระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ ความสะดวกสบายของห้องโดยสารที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดีพร้อมระบบความปลอดภัยที่รุดหน้า สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยทำให้รถยนต์ Mazda ในเจนเนอเรชั่นต่อไปมีความน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น Skyactiv กลายเป็นนวัตกรรมที่ผลักดันให้ Mazda ก้าวไปสู่อนาคต ด้วยรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพและมีรูปแบบที่หลากหลาย กลายเป็นแบรนด์รถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นที่ใส่ใจต่อการพัฒนาอย่างสูงสุด.,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
Mazda Architecture วิจัยท่านั่ง เบาะรองนั่ง ตัวถังและช่วงล่าง สำหรับรถยนต์ Mazda รุ่นใหม่ที่จะออกขายในอนาคตอันใกล้
ข่าว,ยานยนต์
ยานยนต์,รถยนต์,Mazda Skyactiv-X,MAZDA VEHICLE ARCHITECTURE,อาคม รวมสุวรรณ
https://www.thairath.co.th/news/auto/news/1113882
เดี๋ยว_ึงไม่ตายดี มือปาหินเก๋งภูเก็ต มอบตัว อ้างถูกปาดหน้า-ตะโกนด่า
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 59 นายวัฒนา ถิ่นเกาะแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านเกาะแก้ว ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต ได้พาตัว นายอนุชา ยีมูดา อายุ 20 ปี และ น.ส.ขนิษฐา ยีมูดา อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุใช้ก้อนหินปาใส่กระจกรถยนต์มาสด้า 2 ของ นายจตุพร กันภัย อายุ 25 ปี จนเกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (,อ้างขับปาดหน้า โจ๋ห้าวปาหินใส่เก๋งพ่อแม่ลูกที่ภูเก็ต ชนเสาไฟหวิดดับ (ชมคลิป),) เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา เพื่อต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมาย,ทั้งนี้ นายอนุชา สมัครใจให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานโดยระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากเกาะแก้วซอย 16 ถ.เทพกระษัตรี ต.เกาะแก้ว มุ่งหน้าเข้าเมืองภูเก็ต โดยมี น.ส.ขนิษฐา นั่งซ้อนท้าย จนมาถึงบริเวณจุดกลับรถหน้าโรงเรียนบ้านสะปำ มีรถยนต์มาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน กบ 5271 ภูเก็ต ขับปาดหน้า จึงขี่รถจักรยานยนต์ติดตามมาจนทันกันบริเวณปากทางเข้าซอบแหลมหิน เพื่อจะสอบถามและต่อว่า แต่คนขับรถยนต์ไม่หยุดและยังพยายามขับปาดหน้าไปมาอีก กระทั่งรถยนต์จอดพร้อมกับตะโกนออกว่า เดี๋ยวมึงจะไม่ได้ตายดี พร้อมกับขับรถออกไปกลับรถที่หน้าหมวดการทางภูเก็ต หรือจุดกลับรถควนดินแดง แล้วขับมาตามถนน,จากนั้น นายอนุชา จึงหยิบก้อนหินริมถนนพร้อมกับวิ่งข้ามถนนไปดักรอที่บริเวณเกาะกลางถนน เมื่อรถ นายจตุพร ขับมาจึงขวางก้อนหินออกไป ทำให้รถเกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างดังกล่าว หลังเกิดเหตุรู้สึกตกใจจึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตั้งหลัก ก่อนที่จะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
หนุ่มขว้างหินใส่รถยนต์พ่อแม่ลูกจนเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง เข้ามอบตัวตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต แล้ว อ้าง ถูกขับปาดหน้าและตะโกนด่า จึงวิ่งข้ามถนนไปดักเก๋งก่อนก่อเหตุ
null
ปาหิน,ขว้างหิน,ปาหินใส่รถ,ปาหินเก๋งภูเก็ต,ภูเก็ต,มือปาหิน,ปาดหน้า,ตะโกนด่า,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/615038
ศอฉ.ออกหมายเรียกพยานปากเอกหน่วยกู้ภัย วสันต์ สายรัศมี
นายวสันต์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยทําอะไรที่ผิดกฎหมาย แต่ที่เข้าไปอยู่ภายในวัดปทุมวนารามในวันนั้น เนื่องจากเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่อยู่ในวัด ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุรุนแรงในพื้นที่ และไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมนปช. ซึ่งในใจตนคิดว่าการที่ศอฉ.นําหมายมาแปะที่หน้าบ้านเพื่อเรียกตนไปพบนั้น ก็เพื่อต้องการให้ตนเป็นพยานในคดีต่างๆ เพราะไม่รู้หาวิธีไหนเชิญตนไปพบ เพราะไม่มีความผิด และขณะนี้ตนต้องอยู่แบบหวาดผวา หวาดกลัวต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไปตามสถานที่ต่างๆ และตนจะไม่เดินทางไปพบแน่ นอนเพราะไม่ได้ผิดอะไร วันเดียวกัน ที่ศาลาประชาคม ภายในชุมชนบ่อนไก่ นางมาลี แสนประเสริฐศรี มารดา นายมานะ หรือเบิร์ด แสนประเสริฐศรี อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่ถูกยิงศีรษะเสียชีวิตขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ได้จัดพิธีทําบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ลูกชายที่ครบรอบการเสียชีวิต 49 วัน มีบรรดาเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง และผู้ที่เคยติดอยู่ภายในวัดปทุมฯและที่เคยร่วมชุมนุมอยู่บริเวณบ่อนไก่ มาร่วมงานกว่า 100 คน รวมทั้งน.ส.นวรัตน์ ฤกษ์มงคลรุจ อายุ 20 ปี แฟนสาวนายมานะ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้จัดบอร์ดแสดงภาพเหตุการณ์สลายม็อบของรัฐบาล และภาพนายมานะที่ถูกยิงเสียชีวิตน.ส.นวรัตน์กล่าวว่า ตนกับพี่มานะคบหากันมากว่า 2 ปี และเขาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้เดือดร้อน นิสัยดี และเป็นคนขยันทุกวันเขาจะออกไปขับแท็กซี่ที่ซื้อไว้เกือบทุกวัน และเวลามีเหตุก็จะให้ผู้โดยสารลง ส่วนตัวเองก็ไปช่วยเหลือทันที โดยไม่คิดเงินลูกค้า และช่วงที่อยู่ด้วยกันตนยังเคยออกไปกู้ภัยกับเขาด้วย แต่พอมาช่วงหลังที่มีม็อบไม่ได้ไป เพราะพี่มานะไม่ให้ไป บอกว่ามันอันตราย ก่อนหน้าที่พี่มานะเสียชีวิตขณะนั้นอยู่กับตนในร้านเกมหลังโลตัส พระราม 4 ระหว่างนั้นพี่มานะเอามือมาจับแก้มตน และตนก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าทั้งๆที่พี่มานะเพิ่งอาบน้ำมา ไม่นานพี่มานะก็หอมแก้มตนและก็ออกไปทำงานเพราะมีเหตุยิงกันที่บ่อนไก่ เหมือนเป็นลางบอกเหตุ หลังจากหายไปนานหลายชั่วโมงจนเกือบค่ำ ตนได้โทร.หาพี่มานะก็มีคนรับสายแทนบอกว่าพี่มานะตายแล้ว ตนตกใจมากรีบไปที่โรงพยาบาลทันที ตนเสียใจและเศร้าใจมาก ความจริงพี่มานะบอกตนว่าหากผ่อนรถแท็กซี่หมด ก็จะเก็บเงินสักก้อนมาขอตนแต่งงาน และสร้างบ้านอยู่ด้วยกัน แต่ต้องมาเสียชีวิตเสียก่อนวันเดียวกัน นายวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ ผู้ช่วยรมต.ประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เป็นประธานพิธีมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. จำนวน 71 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 5 ราย และผู้บาดเจ็บ 66 ราย รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาทโดยนายวุฒิกร กล่าวว่า เงินช่วยเหลือที่มอบให้ผู้เสียหายในวันนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 71 ราย รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายตามระยะเวลาที่เข้าพักรักษาตัว ที่ระบุในหลักเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยพม.ได้มอบเงินเยียวยาให้ผู้เสียหายไปแล้ว 12 ครั้ง รวมครั้งนี้ด้วยเป็น 1381 ราย เป็นเงิน 70743209 บาทวันเดียวกัน นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้นายสุทิพย์ ไชยเดช นิติกรปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองฯ เดินทางมาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนายพงศ์พิชาญ ธนาถิรพงศ์ อายุ 47 ปี โชเฟอร์แท็กซี่เหยื่อปืน ให้สัมภาษณ์ว่าค่าสินไหมทดแทนที่ร้องขอถูกตัดออกจากวาระการประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาในวันนี้ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา จนเกิดควมเครียดปีนขึ้นบันไดชั้น 8 ขู่ฆ่าตัวตายนายสุทิพย์ กล่าวว่า ขอชี้แจงว่าคณะกรรมการพิจารณาฯ ต้องตรวจสอบพิจารณาตามลำดับเรื่องที่ร้องขอเข้ามา โดยเรื่องที่นายพงศ์พิชาญร้องเข้ามาในวันที่ 21 พ.ค. อยู่ในลำดับที่ 62 จึงยังไม่ได้เข้าวาระการประชุม เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐานว่ามีคุณสมบัติตามที่ พ.ร.บ. ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 กำหนดไว้หรือไม่ โดยนายพงศ์พิชาญให้การว่าโดนยิงประมาณ 5 ทุ่ม ขณะเดินอยู่บริเวณถ.ราชปรารภเพื่อไปทำธุระ จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น และเห็นแสงเลเซอร์สีฟ้าพุ่งมาบริเวณหน้าผาก จึงยกแขนขึ้นมาบังและรู้สึกว่าแขนข้างซ้ายถูกยิงจนเลือดไหล จึงหลบเข้าข้างกำแพงและนั่งรถจักรยานยนต์ออกมา ก่อนมีคนมาช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล มีความขัดแย้งกับที่ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ว่าโดนยิงประมาณ 5 ทุ่ม ขณะไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง บริเวณหน้าปั๊มเอสโซ่ ซ.รางน้ำ ถ.ราชปรารภการที่กรรมการพิจารณาฯ จะอนุมัติจ่ายเงินซึ่งเป็นเงินหลวงแก่ใคร จำเป็นต้องตรวจสอบหลักฐานทั้งจากตำรวจ โรงพยาบาล และพยานแวดล้อม ให้แน่ชัดเพื่อนำมาประกอบกับกฎ หมายตามพ.ร.บ.ฯ มาตราที่ 3 ที่ระบุว่าผู้เสียหายหมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิตหรือร่างกายหรือจิตใจ เนื่องจากการกระทำความผิดทางอาญาของผู้อื่น โดยตนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนั้น ร่วมกับรายการท้ายพ.ร.บ.ฯ ลักษณะ 10 ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย หมวด 1 ความผิดต่อชีวิต มาตรา 288 ถึง 294 และหมวด 2 ความผิดต่อร่างกาย มาตรา 295 ถึง 300 ประกอบกัน ซึ่งถ้าเป็นตามที่ผู้ร้องได้ให้สัมภาษณ์ก็ถือเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และผิดหลักเกณฑ์การร้องขอดังกล่าว นิติกรปฏิบัติการ กล่าว
เมื่อวันที่ 2 ก.ค.53เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า นายวสันต์ หรือเก่ง สายรัศมี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมอาสาพยาบาลที่ติดอยู่ภายในวัดปทุมวนาราม เมื่อวันสลายม็อบแดง 19 พ.ค. เปิดเผยว่า
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
ชุมชนบ่อนไก่,มานะ แสนประเสริฐศรี,วสันต์ สายรัศมี,วัดปทุมวนาราม,ศอฉ.,หน่วยกู้ชีพ,หมายเรียก
https://prachatai.com/journal/2010/07/30189
ชาญวิทย์ พบ ปอท. กรณีแชร์ภาพกระเป๋าภรรยานายกฯ
วันนี้ (31 ม.ค.2561) ศาสตราจารย์พิเศษชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักวิชาการ เข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในความผิด ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือกระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนส่วนกรณีแชร์ภาพกระเป๋าถือของนางนราพร จันทร์โอชา ภริยาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแสดงความคิดเห็นในลักษณะว่า เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมดังมีราคาแพงที่คนชั้นสูงใช้กันศาสตราจารย์พิเศษชาญวิทย์ ให้การปฎิเสธยืนยันว่า สิ่งที่ทำเป็นการแสดงความคิดเห็นในฐานะประชาชนซึ่งมีสิทธิ์ในการวิพากษ์วิจารย์ผู้นำ ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ สามารถพึงกระทำได้ไม่ผิดกฎหมายหรือศีลธรรม มองว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของการเมือง เนื่องตลอดเวลาที่ผ่านมาตนมีความเกี่ยวข้องในเรื่องของการเมืองมาทุกสมัย และเชื่อว่ากรณีของตัวเองเป็นหนึ่งในหลายกรณีที่เรียกได้ว่า กรณีปิดปากที่มีการใช้หน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะของรัฐ เพื่อดำเนินคดีเพื่อเป็นตัวอย่างให้ผู้อื่นเกิดความเกรงกลัวไม่กล้ากระทำ
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ ปอท. กรณีแชร์ภาพกระเป๋าถือของภรรยาพล.อ.ประยุทธ์ ในเฟซบุ๊ก
สังคม
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ,กระเป๋า,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/269806
@PravitR: ทวีตนี้แด่อากง SMS
วันนี้ (24 พ.ย. 54) ข่าวคราวเรื่องอากง SMS หรือ คุณอำพล ขอสงวนนามสกุล (ที่ผมไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ามาก่อน) โดยตัดสินจำคุก 20 ปี ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ทำให้ผมรู้สึกสลดใจมาก แต่แทนที่ผมจะหลบไปดูหนังเพื่อให้ลืมสภาพสังคมไทยยุคสองพันห้าร้อยกว่าปี หลังพุทธกาล ผมกลับตัดสินใจลุกขึ้นมาสื่อสารกับโลกภายนอกผ่านทางทวิตเตอร์ ต่อผู้ที่เห็นด้วย เห็นต่าง หรือมองไม่เห็นอะไรเลย จึงขอคัดมาบางส่วนเพื่อให้ผู้อ่านประชาไทลองพิจารณาดูว่า บ้านเมืองนี้สภาพเป็นจริงเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกเป็นอย่างไร1. คิดว่าลูกหลานอากง SMS คงตาสว่างเลิกซาบซึ้งไป 7 ชั่วโคตร 2. คุณไม่สามารถทำให้คนมารักและเคารพผู้อื่นโดยการขู่ขังเขาได้ 3. Big Bag ก็ไม่ต่างจาก ม.112 เท่าไหร่ คุณจะรู้สึกดีและซาบซึ้ง หากคุณอยู่ฝั่งที่ได้ประโยชน์ อีกฝั่งเป็นไงไม่สน4. จะอีเกีย (IKEA) หรืออากง พวกคลั่งเจ้าก็ยังคงคลั่งได้เสมอต้นเสมอปลาย5. พวกคลั่งเจ้าเคยถามตนเองไหมว่า การโยนคนเข้าคุกจะทำให้คน รัก ในหลวงมากขึ้นได้อย่างไร 6. จะสอนคิดวิเคราะห์ไปได้ไกลแค่ไหน ในเมื่อสังคมบอกคุณว่า การคิดวิเคราะห์บางเรื่องเป็นอาชญากรรม7. ผมพบว่า การถกเถียงเรื่องสถาบันฯ บนทวิตเตอร์ สะท้อนความเป็นจริงหลากมุมมอง ต่างจากภาพที่ถูกควบคุมโดยสื่อกระแสหลักอย่างสิ้นเชิง8. หากคุณขอให้เขาเคารพสิทธิในความเป็นมนุษย์ของคนที่เห็นต่างไม่ได้ คุณจะขออะไรได้เล่า 9. เมื่อคุณห้ามไม่ให้คนคิดวิเคราะห์เรื่องอะไรบางอย่าง สังคมมันจะเติบโตด้วยสมองของตนเองได้อย่างไร10. อากง SMS ติดคุก 20 ปี เป็นอีกสัญญาณที่บอกว่า คนไทยไม่ควรมีสิทธิแสดงความเห็นต่างเกี่ยวกับสถาบัน11. ทุกคนในสังคมไทย ต้องรักและไม่ตั้งคำถามต่อสถาบันกษัตริย์หรือ? 12. ม.112 เป็นหัวข้อที่ ละเอียดอ่อน สำหรับผู้ที่ไม่มีความละเอียดอ่อนเรื่องความยุติธรรมและเสรีภาพในการแสดงออก13. ส่ง SMS หยาบๆ สี่ครั้ง โดนคุก 20 ปี ประเทศนี้เขาคำนวณความยุติธรรมกันอย่างไร 14. ผมไม่รู้จักอากง SMS แต่ไม่ว่า อากงหรือากู๋ ไม่มีใครสมควรต้องติดคุกเพราะการใช้โทรศัพท์มือถือ15. ที่ต้องมาทวีตเรื่อง ม.112 เพราะสื่อกระแสหลักมักไม่กล้าวิเคราะห์ ลองถามอดีตอดีตนายกสมาคมนักข่าวฯ @Prasong_Lert ดูสิครับ16. จงมั่นใจว่า สุดท้าย ความเงียบที่ยัดเยียดให้ผู้เห็นต่าง จะนำมาซึ่งแสงสว่างทางปัญญาแก่ผู้อื่นอีกมากมาย17. คุณทำให้เขาเงียบได้ แต่คุณทำให้เขาหยุดคิดไม่ได้ 18. เรื่อง ม.112 คือการถกเถียง ต่อสู้ขั้นพื้นฐาน ว่ามนุษย์ ไม่ว่าจะรวย จน ไพร่ หรือเจ้า ควรได้สิทธิแสดงออกอย่างเท่าเทียมกันตามกฎหมายไหม19. ทุกหนึ่งเสียงที่ถูกทำให้เงียบ จะปลุกคนอีกร้อยพันให้ ตาสว่าง 20. ขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายที่ถกเถียงเรื่องเจ้ากับ ม.112 ละเว้นการใช้คำหยาบ เหยียดหยาม และหันมาใช้เหตุผลมากขึ้น 21. ผมขอร้องให้ royalist เปิดใจให้กว้าง และมองให้เห็นว่า คนคิดเท่าทันสถาบันฯ มีอยู่มากในสังคม และควรพูดคุยกันอย่างสันติและสุภาพ22. ผมขอร้องให้ผู้เห็นต่างเรื่องสถาบันฯ ละเว้นการด่าทอ และการใช้ข้อมูลที่พิสูจน์ไม่ได้ แล้วพยายามพูดคุยกับ royalist ด้วยเหตุผล 23. พวกคลั่งเจ้า อำนาจลดลงเยอะในทวิตเตอร์ เพราะพวกเขาไม่สามารถตะโกนกลบเสียงที่เห็นต่างได้ 24. พอพวกคลั่งเจ้าบางคนโกรธ เขาจะหยุดใช้เหตุผล แล้วด่าพ่อล่อแม่ ผมสงสัยว่า ปกติเขาใช้เหตุผลหรือไม่ 25. คุณยิ่งขัง ประชาชนเขายิ่งคิด26. จะอยู่กันอย่างไร? คนกลุ่มหนึ่งบอก ต้องการพื้นที่เพื่อพูดเท่าทันสถาบันฯ คนอีกกลุ่มบอก จงเข้าตารางไป27. Royalist เลิกหลอกตัวเองว่า คนไทย ทุกคน รักในหลวงเถอะครับ หากจงยอมรับและกล้าพูดว่า หากใครไม่รักในหลวง ควรติดตาราง28. การโยนคนเข้าตารางเพียงเพราะคนคิดเท่าทันสถาบันฯ รังแต่จะทำให้คนตาสว่างมากขึ้น 29. เมื่อคุณกักขังคนที่เห็นต่างได้ คุณก็คงไม่ได้มองเขาเป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์กับการคิดแยกกันไม่ออก 30. เหตุผลของการทำให้คนเห็นต่างต้องเงียบและกลัวคือ การไม่ต้องการให้คนคิดเป็นเหตุเป็นผล 31. มีอะไรไม่ชอบมาพากลในสังคมหรือ คุณถึงอยากให้ผู้เห็นต่างต้องเงียบ 32. คุณขังกายคนได้ แต่ขังใจเขาไม่ได้ 33. ประชาชนไม่ได้โง่ พวกเขาคิดเองได้ ถึงแม้บางคนจะถูกจองจำเพราะข้อหาคิด ตรง เกินไป34. ทักษิณไปเรียนรู้เรื่องการป้องกันน้ำท่วมที่เกาหลีใต้ พวกคลั่งเจ้าควรไปเรียนรู้อะไรที่เกาหลีเหนือ 35. ท่านผู้นำเกาหลีเหนือคงทึ่ง ที่เมืองไทยจัดการกับผู้เห็นต่างได้อย่างรวบรัดดี36. คนไทยจะไม่ตกเป็นเครื่องมือใคร หากมีข้อมูลโปร่งใส ถกในสาธารณะได้ โดยไม่ต้องติดตาราง37. คุณอยากให้เด็กคิดเองเป็น แต่คุณบอกให้เขาจงเชื่อ และยัดเยียดข้อมูลด้านเดียวให้ตลอดทุกๆ วัน38. อย่าไปหวังว่า คนจำนวนมากจะคิดเป็น หากไม่สามารถคิดเป็นเหตุเป็นผลเรื่องสถาบันฯอย่างเปิดเผยได้ 39. หรือเอาเข้าจริง เขาไม่ต้องการความรัก หากอยากสร้างความกลัว 40. ฝรั่งถาม: ทวีตเป็นชั่วโมงซ้ำๆ เรื่อง ม. 112 ได้อย่างไร? ผมถามกลับ: คุณทนฟังข้อมูลด้านเดียวเรื่องสถาบันฯ ทุกๆ วันผ่านทุกสื่อได้อย่างไร? 41. ฝรั่งที่ถามผมเรื่องทวีตเยอะๆ เรื่องม.112 อึ้ง และตอบไม่ได้ เมื่อผมถามกลับว่า ทนฟังข้อมูลประจบเจ้าผ่านสื่อทุกวันได้ไง 42. อากงโดน 20 ปี หากใครจะพูดเรื่องปัญหา ม.112 ไปอีก 20 ปีก็ไม่เห็นแปลกปล. หลังจากที่ผมทวีตไปได้หลายชั่วโมง ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนนึงบอกให้ผมไปกินยานอนหลับแล้วตายซะ (เขาใช้คำว่า แดกยานอนหลับ แล้วไปตายซะ) แถมบอกด้วยว่า จะคอยสาปแช่งให้พ่อผมซึ่งเขาเรียกว่าควายให้ตายเร็วๆ วันละสามเวลา ซึ่งผมก็ทวีตบอกอีกคนหนึ่งว่า นี่แหละครับ ผลของสังคมที่ถูกยัดเยียด ห้ามไม่ให้ใช้เหตุผลพอตกเย็น ผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกคนหนึ่งชื่อ คำนูณ สิทธิสมาน ผู้เป็น ultra-royalist ตัวพ่อ ตัดสินใจมาติดตามบัญชีทวิตเตอร์ผม ผมจึงทวีตไปว่า ประตูมีหู ทวิตเตอร์มีตาส่วนตาใครจะสว่างหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
วันนี้ (24 พ.ย. 54) ข่าวคราวเรื่องอากง SMS หรือ คุณอำพล ขอสงวนนามสกุล (ที่ผมไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ามาก่อน) โดยตัดสินจำคุก 20 ปี ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และ
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ,ประวิตร โรจนพฤกษ์,อากง,อำพล
https://prachatai.com/journal/2011/11/38020
รวมพลคนปั้นดิน ชมบ้านดิน-ศิลปะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. โดยมีศิลปินและชุมชนคนสร้างบ้านดินทั่วประเทศมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อให้บ้านดินคำปู้จู้เป็นสถานที่ศึกษาทางด้านวัฒนธรรมและด้านศิลปะของชุมชน อีกทั้งเป็นสถานที่แสดงผลงานการสร้างบ้านดินและศิลปะปั้นดิน พร้อมกับการจัดนิทรรศการร้านค้าและผลงานหัตถกรรม ตลอดจนศิลปกรรมหลากหลายและเสวนาชาวดินด้วย,นายวุฒิธิกรณ์ พรหมเสน หรือมิก อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเทศบาล 2 (แม่ต๋ำอรุณเวทย์) 1 ในลูกศิษย์เปิดเผยว่า บ้านดินคำปู้จู้ จัดนิทรรศการเปิดสตูดิโอขึ้นเพื่อให้บรรดานักเรียนยุวชนและผู้คนทั่วไปมาร่วมงานและศึกษาหาความรู้ ทำให้ได้รับความรู้ สามารถนำไปประกอบอาชีพเสริมได้ อาทิ งานปั้นดินในรูปแบบต่างๆ ที่ทางคุณครูศักดิ์ชัยและคุณครูชลดา เวยื่อ สอนให้สามารถนำ ไปเป็นแนวทางสร้างรายได้ โดยยึดเอาแนวทางของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง และบ้านดินคำปู้จู้ ที่สร้างด้วยดินหลังนี้ ตนพร้อมกับเพื่อนๆได้ช่วยคุณครูสร้างจนสำเร็จ,นายศักดิ์ชัยเปิดเผยว่า นิทรรศการบ้านดิน นอกจากจะโชว์ผลงาน จัดจำหน่ายงานศิลปะและบ้านดินแล้ว ยังมีการเสวนาครอบครัวชาวดิน และชุมชนบ้านดินอีกด้วย โดยมีอาจารย์ศิลปะจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานพร้อมถ่ายทอดความรู้อีกด้วย.
นายศักดิ์ชัย เวยื่อ และนางชลดา เวยื่อ 2 สามีภรรยา ได้จัดนิทรรศการบ้านดินคำปู้จู้ (สตูดิโอ) และเสวนาชาวดินหรือครอบครัวชาวดิน และงานปั้นดินขึ้น ที่บ้านดินคำปู้จู้ เลขที่ 238 หมู่ 1 ซอย 2 ต.ท่าวังทอง อ.เมืองพะเยา
ข่าว,ทั่วไทย
ศักดิ์ชัย เวยื่อ,พะเยา,รวมพลคนปั้นดิน,นิทรรศการบ้านดิน,วุฒิธิกรณ์ พรหมเสน
https://www.thairath.co.th/news/local/808582
จากเพลิงพิโรธ ณ ถลาง ย้อนเหตุจลาจลครั้งใหญ่ เผา รง.แทนทาลัม
ขับรถตราโล่ไล่กวดจักรยานยนต์ต้องสงสัย กระทั่งพลาดท่าพุ่งชน 2 วัยรุ่น จนร่างลอยละลิ่วหัวโหม่งพื้นกะโหลกเปิด-ใบหูขาด บาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนทางเข้าน้ำตกโตนไทร ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง และไปเสียชีวิตในโรงพยาบาล นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุ พบกระเป๋าซุกยาบ้า 50 เม็ด และใบกระท่อมอีก 1 กก. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ,หลังเกิดเหตุ ปฏิกิริยาเริ่มต้นได้เกิดขึ้นทันที เมื่อญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูศพที่ห้องฉุกเฉินเมื่อญาติผู้ตายทราบว่าผู้ที่ขับรถชนเป็นตำรวจ? ส่วนรถคันที่ก่อเหตุคือ รถกระบะอีซูซุแค็บ สีขาว ทะเบียนตราโล่ 40310 บนหลังคาติดไฟไซเรน,ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. กลุ่มญาติพี่น้องและเพื่อนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย จำนวนกว่า 100 คน รวมตัวกันที่หน้า สภ.ถลาง เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หลังผ่านไปราว 1 ชั่วโมง สถานการณ์ทำท่าจะลุกลามบานปลาย เมื่อกลุ่มญาติผู้ตายพากันส่งเสียงโห่ร้องดังขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่พอใจที่ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดออกมาชี้แจง,ฟ้าเริ่มมืด มวลชนเริ่มรวมตัวกว่า 300 ก่อนกลายเป็นจลาจล,เหตุการณ์เริ่มบานปลายขึ้น กระทั่งเวลา 19.00 น. กลุ่มญาติและเพื่อนๆ ของผู้ตายทั้ง 2 ราย รวมตัวกันราว 300 คน นำเต็นท์และแผงเหล็กมาปิดกั้นถนนเทพกระษัตรี บริเวณหน้า สภ.ถลาง ทั้ง 2 ฝั่ง ส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวหลายกิโลเมตร เนื่องจากถนนสายดังกล่าวเป็นถนนสายหลักเข้า-ออกเมืองภูเก็ต พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นำตัวตำรวจสายตรวจที่ก่อเหตุขับรถชนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย มาพบกับกลุ่มญาติๆ,ต้องการให้นำตัวตำรวจที่ก่อเหตุออกมาพบ เพื่อจะได้สอบถามว่าเหตุใดต้องทำรุนแรงถึงเพียงนี้ หากลูกทำความผิดจริงยินดีให้จับกุมตามขั้นตอนกฎหมาย และส่งฟ้องเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน ไม่น่าจะต้องขับรถพุ่งชนจนลูกต้องเสียชีวิต ในฐานะประชาชนอยากถามหาความรับผิดชอบจากเจ้าหน้าที่ที่อ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนว่าคุ้มหรือไม่ที่ทั้ง 2 คนต้องตายไปโดยไม่มีโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เรื่องนี้จะไม่ยอมความแน่ จะต่อสู้จนถึงที่สุดเพราะตำรวจทำเกินกว่าเหตุมาก อีกทั้งลูกชายตนไม่ได้พกพาอาวุธใดๆ ที่จะไปทำร้ายหรือต่อสู้ขัดขืนการจับกุมได้ นายทวีสิทธิ์ ปะณะรักษ์ บิดา นายปฐมวัฒน์ ปะณะรักษ์ 1 ใน 2 วัยรุ่นที่เสียชีวิต กล่าว,ชาวบ้านได้ปิดถนน ส่งผลรถนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากสนามบินภูเก็ตเพื่อมุ่งหน้าไปโรงแรม และแหล่งท่องเที่ยว เกิดติดขัดอย่างหนัก กระทั่ง เวลา 21.00 น. สถานการณ์ยังคงตึงเครียด ถนนหน้า สภ.ถลาง ทั้ง 2 ฝั่งก็ยังถูกปิด รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ขณะที่ตำรวจประสานกำลังทหาร มทบ.41 และกำลังตำรวจภูธรภาค 8 จำนวน 5 กองร้อย เข้าพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย โดยมอบให้ ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต เป็น ผบ.เหตุการณ์ ร่วมกับ ผวจ.ภูเก็ต ทำความเข้าใจกลุ่มผู้ชุมนุมให้เข้ามาพูดคุยกัน และกั้นพื้นที่,เมื่อเวลา 22.45 น. มีกลุ่มวัยรุ่นใช้ผ้าโพกหัวและปิดบังใบหน้า ใช้น้ำมันเบนซินบรรจุขวดแก้วทำเป็นระเบิดเพลิง ขว้างใส่รถยนต์ที่จอดอยู่ภายในรั้ว สภ.ถลาง ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้รถยนต์ 4 คัน ประกอบด้วย รถตู้ตำรวจติดไซเรน 1 คัน รถกระบะ 2 คัน และรถเก๋ง 1 คัน นอกจากนี้ยังใช้ก้อนหินขว้างปารถเก๋งอีก 2 คัน ที่จอดอยู่ใกล้กันเสียหายกระจกแตกรอบคัน ขณะเดียวกันกลุ่มวัยรุ่นยังใช้ก้อนหินขว้างปากระจกโรงพักแตกทั้ง 3 ชั้น,สถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ตำรวจที่เข้าเวรอยู่ต้องเก็บข้าวของ อาวุธปืน และย้ายผู้ต้องขัง อพยพออกจากโรงพัก พร้อมตัดกระแสไฟฟ้า เพราะเกรงผู้ชุมนุมที่บางส่วนอยู่ในอาการมึนเมา จะบุกเข้ามาปล้นอาวุธปืนรวมทั้งเผาโรงพัก ขณะที่เจ้าหน้าที่สั่งระดมกำลังเสริม ทั้งหน่วยปราบจลาจล ตำรวจ นปพ.ภ.จ.ภูเก็ต, ทหารเรือทัพเรือภาค 3, ทหาร มทบ.41 พร้อมอาวุธครบมือรวมกว่า 500 นาย เตรียมพร้อมในที่ตั้งใกล้โรงพักถลาง เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์,02.00 น. ผู้ชุมนุมยังไม่สลายตัว และบางคนยังได้เผาทำลายรถที่จอดหน้าโรงพัก และพยายามเข้าไปในโรงพัก ทางเจ้าหน้าที่หน่วยควบคุมฝูงชน จึงได้ตรึงกำลังไว้ประมาณ 40 นาย,กระทั่ง 03.30 น. พล.ต.ธีร์ณฉัฏฐ์ จินดาเงิน ผบ.มทบ.41 จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาถึงบริเวณ สภ.ถลาง เข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยขอให้เห็นแก่เมืองภูเก็ต และหากชุมนุมยืดเยื้อไปก็จะเกิดความเสียหายไปกันใหญ่ มีปัญหาอะไรให้ไปหาทางออกโดยการเจรจากัน กระทั่งผู้ชุมนุมได้ยินยอมสลายตัว และจะนัดรวมพลอีกครั้งวันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 09.00 น. ที่ศาลาอเนกประสงค์บ้านดอน อ.ถลาง,ระหว่างที่กำลังแยกย้ายกัน กลับเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นอีก เมื่อมีชาวบ้านรายหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นใครตะโกนขึ้น ว่ามีตำรวจรุมตีประชาชน ห่างจากจุดเกิดเหตุ 300 เมตร เมื่อชาวบ้านไปตรวจสอบกลับไม่พบสิ่งใด แต่พบกลุ่มเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลที่กำลังเตรียมตัวกลับ ซึ่งอยู่บริเวณห้างแม็คโครถลาง กลุ่มผู้ชุมนุมจึงฮือหยิบของแข็งวิ่งไปทำร้ายเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บหลายนาย เช่น ศีรษะแตก มีแผลตามร่างกาย,08.30 น. จากการตรวจสอบความเสียหาย พบว่า มีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ถูกเผาเสียหายกว่า 20 คัน ภายใน สภ.ถลาง ได้รับความเสียหาย กระจกแตก ข้าวของเสียหาย,จลาจลเผาวอด รง.ไทยแลนด์แทนทาลัม ,ย้อนกลับไปเมื่อปี 2529 เกิดเหตุจลาจลครั้งใหญ่ ที่จังหวัดภูเก็ต โดยศูนย์กลางความขัดแย้งอยู่ที่ โรงงานแทนทาลัม,ในอดีต เมืองภูเก็ตสร้างรายได้จาก แร่ดีบุก ซึ่งการทำเหมืองแร่ดีบุก ก็พบแร่ แทนทาลัม ด้วย ต่อมาราคาแทนทาลัมมีราคาสูงขึ้นจากอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เพราะถูกนำมาใช้ประกอบเป็นไมโครชิพ จึงมีการก่อตั้งโรงงานแทนทาลัมขึ้น ด้วยการร่วมทุนกับต่างชาติ โดยเริ่มลงทุนตั้งแต่ ปี พ.ศ.2524 ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานเมื่อปี 2526 และมีกำหนดเปิดดำเนินการ วันที่ 15 ส.ค.2529 ตอนก่อสร้างชาวบ้านไม่ทราบว่าเป็นโรงงานอะไร แต่เมื่อมีนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ข้อมูลกับประชาชนว่าอาจจะก่อให้เกิดมลพิษ จึงเป็นที่มาของชนวนเกิดจลาจล,เมื่อภาคประชาชนตื่นตัว ก็เดินหน้าเคลื่อนไหว กลุ่มนักศึกษา 24 สถาบัน และกลุ่มชมรมอนุรักษ์ 15 สถาบันได้เป็นแกนนำประชาชนจังหวัดภูเก็ตทั้ง 3 อำเภอทั่วทุกตำบลเดินขบวนคัดค้าน ที่บริเวณตัวเมืองภูเก็ต แรงต้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากหลักพัน เป็นหลักหมื่น ตอนนั้น รัฐบาล ,พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์, ได้สั่งการให้มีการทำความเข้าใจกับประชาชน ,นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.อุตสาหกรรม, ขณะนั้น ได้บินด่วนลงไป เพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าจะเปิดโรงงาน,เมื่อ รมว.อุตสาหกรรม ลงถึงพื้นที่ ก็เจอกลุ่มผู้คัดค้าน โดยมี ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 6 นายเรวุฒิ จินดาพล เป็นแกนนำ นำโลงศพ ประธานบริษัทแทนทาลัมฯ มาเผา จากนั้น นายจิรายุ ได้เดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร โดยมีผู้ชุมนุมกว่า 3 พันคนล้อมกรอบ โห่ร้อง ระหว่างทางยังถูกทุบทำลายรถที่นายจิรายุนั่งอยู่ บางคนถึงกับมานอนขวางรถ จนผู้ว่าราชการภูเก็ตต้องมาขอร้องจนรถไปได้ เหตุความวุ่นวายทำให้ นายจิรายุ ตัดสินใจยุติไปพบผู้ชุมนุมกว่า 6 หมื่นคน ที่รออยู่ที่ศาลาประชาคม,เมื่อ รมว.อุตสาหกรรม ไม่ได้ไป อารมณ์ผู้ชุมนุมถึงกับระอุขึ้นเรื่อยๆ, ,กระทั่งไปตามหาที่โรงแรม มีการบุกเผารถของโรงแรม กระทั่งช่วงบ่ายสอง ผู้ชุมนุมราว 1 หมื่นคน ได้บุกเข้าทำลายโรงงาน และใช้น้ำมันจุดไฟเผา เพลิงลุกท่วมโรงงานแถมยังไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับเพลิง ตลอดทั้งบ่ายจังหวัดภูเก็ตเต็มไปด้วยความโกลาหล เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะไม่มีผู้บังคับบัญชาสั่งการ กระทั่งช่วงเย็น ตำรวจและทหารเข้าเคลียร์พื้นที่หน้าโรงแรมภูเก็ตเมอร์ลินโดยใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายฝูงชนที่ค่อยๆ สลายตัว ต่อมาในช่วงค่ำรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดภูเก็ต,จลาจลครั้งนั้น คาดว่าได้ก่อความเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท จนกระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน นายสนอง รอดโพธิ์ทอง ได้รับคำสั่งย้ายเข้าเป็นผู้ตรวจการในกระทรวงมหาดไทยเพื่อลงโทษในกรณีที่ปล่อยให้มีการจลาจลขึ้น บริษัท ไทยแลนด์แทนทาลัมอินดัสตรีประเทศไทย จำกัด มีมติให้ย้ายโรงงานจากภูเก็ตไปตั้งที่อื่น เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายเรวุฒิ จินดาพล กับน้องชาย ในข้อหาร้ายแรงร่วมกับพวกเกิน 10 คน ก่อการจลาจลยุยงส่งเสริมให้มีการเผาทรัพย์สินเอกชนและทรัพย์สินสาธารณะ,จากเหตุดังกล่าว ทำให้อนาคตของภูเก็ตเปลี่ยนแปลงไป ยุติการทำเหมืองแร่ และเดินหน้าเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเหตุจลาจลดังกล่าว มีรายงานว่า ผู้อยู่เบื้องหลังจากกลุ่มทุนบางกลุ่มที่ได้มีการเบี่ยงเข็มทิศทางธุรกิจท่องเที่ยวอยู่ก่อน ซึ่งภูเก็ตก็กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวในปัจจุบัน,แต่เหตุการณ์ไม่พอใจจนกลายเป็นการจลาจลวานนี้ ก็นับว่าเป็นการทำลายภาพการท่องเที่ยวไม่น้อย ล่าสุด นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เจรจาพร้อมจะตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมา มีทั้งอัยการ ฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจ ร่วมกันดูแลคดีนี้อย่างเป็นธรรมที่สุด และจะมีการเยียวยาเต็มที่ตามกฎหมาย พร้อมจะพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเกิดจากใคร หากเกิดจากตำรวจก็จะต้องดำเนินคดีแน่นอน คาดว่าจะทราบผลการสอบสวนภายใน 30 วัน
จากเหตุจับยาเสพติด จนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ กลายเป็นเหตุบานปลายเป็นเหตุจลาจล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มต้นเมื่อเวลา 11.20 น. วานนี้ (10 ต.ค.) เมื่อสายตรวจ สภ.ถลาง
ข่าว,ทั่วไทย
จลาจลภูเก็ต,จลาจลถลาง,โรงพักถลาง,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,ประท้วงตำรวจ,เผาโรงพักภูเก็ต,เผารถ,จลาจลโรงงานแทนทาลัม,เผาโรงงานแทนทาลัม,ถลาง,ภูเก็ต,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/531523
ฝนถล่มกรุงกว่าชั่วโมง น้ำท่วมขังถนนหลายสาย รถติดหนึบ
หลังฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ กว่าชั่วโมง ช่วงเวลาเลิกงาน ทำน้ำท่วมขังบนถนนหลายสาย รถติดหนึบเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ มีฝนตกลงอย่างหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำใหัถนนโชคชัย 4 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กทม. ช่วงบริเวณปากทางเข้าตลาดโชคชัย 4 มีน้ำท่วมขังเสมอฟุตปาท เป็นระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนมีความลำบาก เนื่องจากเป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนกัน ทำให้รถเคลื่อนตัวช้าทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกส่วนประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาด ต้องเดินลุยน้ำเข้าออกตลาดอย่างทุลักทุเลส่วนบรรยากาศสภาพการจราจรในเส้นทางต่างๆ หลังเวลา 17.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่เลิกงาน และยังมีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ ทำให้ถนนกรุงธนบุรี ขาออก ลงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน มุ่งหน้าแยกตากสิน ฝนตก รถเคลื่อนตัวช้า กระทบลงมาบนถนนสาทรใต้ถนนรัชดาขาเข้ามีน้ำขังบนผิวการจราจรเลนซ้ายสูงเสมอฟุตปาท ตั้งแต่ ซ.รัชดา 36 จนถึงสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้าใหม่ ทำให้รถเคลื่อนตัวช้าถนนลาดพร้าว ขาเข้ามีปริมาณรถสะสมเคลื่อนตัวช้า เนื่องจากมีน้ำขังบนพื้นผิวจราจรเป็นช่วงๆ ถนนพหลโยธินขาออกมีปริมาณน้ำสูงขึ้นไปบนฟุตปาท รถเล็กต้องเบี่ยงใช้ช่องทางขวาสุดเท่านั้น ตั้งแต่ช่วงแยกเสนาจนถึงหน้ากรมพัฒนาที่ดิน ทำให้มีรถสะสมเคลื่อนตัวช้าสลับหยุดนิ่งเป็นเวลานานกว่า 1 ชม. หัวแถวอยู่แยกเสนาท้ายแถวยาวเลยห้าแยกลาดพร้าวต่อเนื่องสวนจตุจักร ระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ทำให้การจราจรบนถนนรัชดาขาออกมีรถสะสมติดพันหัวแถวแยกรัชโยธิน ท้ายแถวศาลอาญาอย่างไรก็ตาม หลังฝนตกปริมาณน้ำขังได้ลดลง แต่การจราจรยังคงติดขัด.
หลังฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ กว่าชั่วโมง ช่วงเวลาเลิกงาน ทำน้ำท่วมขังบนถนนหลายสาย รถติดหนึบ
ข่าว,ทั่วไทย
ฝนตก,รถติด,น้ำท่วมขัง,ฝนตกกทม.,ข่าวทั่วไทย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1909721
อนาคตใหม่-เพื่อไทย-เพื่อชาติถกการเมืองกระแสของคนรุ่นใหม่และประชาธิปไตย
เปิดมุมมองต่อคนรุ่นใหม่และประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2562 เวลา 16.30-18.30 น. นักศึกษาสาขาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดวงเสวนาธรรมชาติเสวนาสภากาแฟ จิบกาแฟเบาๆนั่งเมาท์การเมือง โดยมีวิทยากรผู้ร่วมวงเสวนาได้แก่ เทพฤทธิ์ สีน้ำเงิน จากพรรคเพื่อไทย ชัยธวัช ตุลาธน จากพรรคอนาคตใหม่ และรยุศด์ บุญทัน จากพรรคเพื่อชาติ ร่วมวงเสวนาพูดคุยกับนักศึกษาที่สนใจประเด็นทางการเมืองในปัจจุบันประเด็นที่ร่วมพูดคุยมีหลากหลายประเด็นที่เข้ากับสภาพสังคมปัจจุบันและสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน งานนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิดสบายๆ ใกล้ชิด ไม่เป็นทางการมากนัก เพื่อให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงและเชื่อว่าการเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัว ไม่ใช่เรื่องสกปรกชัยธวัช พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่าสำหรับอนาคตใหม่ที่ถูกให้ราคาในเวทีสื่อทางการเมืองตลอดว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ แท้จริงแล้วเป้าหมายสูงสุดของพรรคอนาคตใหม่ก่อตั้งขึ้นมาตามเจตนารมณ์ที่เคยประกาศไว้ คือการเป็นพรรคทางออกของคนทุกคนในประเทศ พร้อมเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้กับทุกคนมีส่วนร่วมทางการเมืองและพร้อมสร้างการเมืองในมิติใหม่ที่มีความสร้างสรรค์รยุศด์ พรรคเพื่อชาติกล่าวว่าโดยส่วนตัวที่เป็นอาจารย์สอนทางด้านรัฐศาสตร์ การมองคนรุ่นใหม่อยากมองในประเด็นที่เป็นการขับเคลื่อนสังคมซึ่งคนรุ่นใหม่หรือคนหนุ่มสาวได้แสดงให้เห็นถึงพลังในการต่อสู้และการเรียกร้องความชอบธรรมทางการเมืองมาตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 เหตุการณ์พฤษภา 2535 ซึ่งเราจะสามารถเห็นพัฒนาการการแสดงออกต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นใน พ.ศ.นี้ ที่กระแสคนรุ่นใหม่มีพื้นที่ในการแสดงออกหลากหลาย โดยตนชื่นชมพรรคอนาคตใหม่ในการสร้างบริบททางการเมืองไทยให้ก้าวข้ามวาทกรรมทางการเลือกตั้งที่ว่า ส่งเสาไฟฟ้าลง ก็ยังเลือกเสาไฟฟ้าอยู่ดี อย่างที่ทราบกันการแข่งขันในพื้นที่แต่ละเขตเลือกตั้งที่มีการผูกขาดยาวนานเป็นเรื่องยากที่จะชนะ ส.ส.เขตได้ แต่วันนี้พรรคอนาคตใหม่ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า พลังความต้องการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่สามารถก้าวข้ามบริบททางการเมืองที่ผูกขาดอำนาจมายาวนานได้ โดย ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ไม่มีใครที่เคยเป็น ส.ส.มาก่อนเลยเทพฤทธิ์ จากพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าทางพรรคเพื่อไทยเองได้มีการวางยุทธศาสตร์ที่เล็งเห็นความสำคัญของคนรุ่นใหม่ เช่น การสร้างอาชีพจาก strat up E-sport ต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ให้สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ตามความสนใจและความถนัด และไม่นานมานี้พรรคเพื่อไทยได้มีการนำเอา กลุ่มเพื่อไทยพลัสเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพรรค เพื่อช่วยในการวางแผนสร้างนโยบายต่างๆ ที่มีการตอบโจทย์กับความต้องการของประชาชนทุกช่วงวัย การทำงานของเพื่อไทยพลัสจึงเป็นเหมือนการผสมผสานการทำงานของคนทั้งสามรุ่นในพรรค เพื่อให้มีนโยบายที่ตองสนองต่อความต้องการของประชาชนสูงสุดรยุศด์ กล่าวว่า ตนมองว่าประชาธิปไตยมันควรยึดตามหลักสากล คือพูดถึงสิทธิ เสรีภาพ รวมถึงการรับรองด้วยหลักประกันทางสังคมที่มีความเป็นธรรม อย่างรัฐธรรมนูญ ตนมองว่ารัฐธรรมนูญมีความสำคัญอย่างมากในการดำเนินชีวิตของประชาชน และหากพูดถึง รธน.ปี 60 มันเป็นความท้าทายว่า ในหลายๆกระแสในสังคมต่างมีการวิพากษ์วิจารณ์ด้านต่างๆ ของรัฐธรรมนูญ 60 ทั้งด้านการโหวตนายกรัฐมนตรีและเรื่องอื่นๆ ความท้าทายนั้นคือเมื่อเรามองว่ากติกาไม่มีความเที่ยงธรรม หากวันหนึ่งมีโอกาสในการปรับเปลี่ยนจะปรับเปลี่ยนให้เที่ยงธรรมมากขนาดไหน จะเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดหรือไม่จึงถือว่าเป็นอีกความท้าทายของประชาธิปไตยของสังคมไทยในปัจจุบันเทพฤทธิ์ กล่าวว่าตนมองว่าประชาธิปไตยมันควรมาพร้อมการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดี การกินอยู่ ปากท้อง เป็นเรื่องสำคัญและเป็นวาระที่เร่งด่วน แต่เราก็ไม่ควรมองข้ามหลักการสากลที่เป็นที่ยอมรับของสากล เพราะประชาธิปไตยเป็นระบบอบที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ มีเสียงในการเรียกร้องในสิ่งที่ประชาชนต้องการ สวัสดิการพื้นฐานที่ประชาชนควรได้รับ ดังนั้นกติกาจึงต้องมีความแฟร์เกมพอสมควร และเราต้องต่อสู้กันต่อไปแม้กติกาอาจไม่ได้สร้างมาเพื่อให้พรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยมีบทบาทก็ตามขณะที่ชัยธวัชกล่าวว่าสำหรับประชาธิปไตยแล้วตนมองว่ามันต้องมีความต่อเนื่อง คนในชาติต้องตระหนักในสิทธิและเสรีภาพที่ควรมีของพลเมืองรายงานข่าวระบุด้วยว่าการดำเนินกิจกรรมจัดขึ้นโดยนักศึกษาเพื่อสร้างความรู้และพัฒนาทักษะตนเอง และจะมีการจัดกิจกรรมในครั้งต่อไปที่ต่อเนื่องจากกิจกรรมนี้ โดยมีการเปลี่ยนสถานที่ไปที่คณะศึกษาศาสตร์ เนื่องจากคณะรัฐศาสตร์ ไม่เปิดกว้างทางวิชาการ และไม่อนุมัติการจัดกิจกรรมทางการเมือง
นักศึกษารัฐศาสตร์ มช.จัดวงเสวนาสภากาแฟจิบกาแฟเบาๆ นั่งเมาท์การเมือง ท่ามกลางความยากลำบากในการจัดงาน เหตุไม่อนุมัติการจัดกิจกรรมทางการเมือง ตัวแทน อนาคตใหม่-เพื่อไทย-เพื่อชาติ
การเมือง,การศึกษา
คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,พรรคเพื่อไทย,พรรคอนาคตใหม่,พรรคเพื่อชาติ,การเลือกตั้ง,คนรุ่นใหม่,ประชาธิปไตย
https://prachatai.com/journal/2019/08/84017
กุหลาบ สายประดิษฐ์ กับบทบาทสำคัญในการพัฒนานวนิยายไทย
โรงเก็บรถยนต์หรือโรงม้าของท่านพวกผู้ลากมากดี ขยับจะน่าอยู่กว่าบ้านของนายระพินทร์ ยุทธศิลปไปเสียอีก ดูไปดูมา อ้ายคนอย่างเราจะมีค่าน้อยกว่ารถยนต์หรือม้าเป็นไหนๆ คำตัดพ้อของคนจนใน สงครามชีวิต สะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และเป็นสิ่งที่นักเขียนอย่าง ศรีบูรพา เรียกร้องสำนึกทางมนุษยธรรมต่อผู้ยากไร้ในสังคมมาตลอด เค้าโครงเรื่องที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Poor People วรรณกรรมแจ้งเกิดฟีโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี้ ชาวรัสเซีย แม้โด่งดังมาก่อนถึงกว่า 80 ปี แต่การหยิบมาถ่ายทอดในบริบทสังคมไทยช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง คือหนึ่งในก้าวสำคัญของนวนิยายไทย ที่เริ่มมีเป้าหมายในการวิพากษ์วิจารณ์สังคมชมัยภร แสงกระจ่าง นักวิจารณ์วรรณกรรม สิ่งที่สงครามชีวิตให้กับนิยายไทยก็คือการเปลี่ยนเรื่องโรแมนติกพาฝันให้เป็นเรื่องรักที่สะท้อนสังคมแม้มีวรรณกรรมประโลมโลกมากมาย แต่ผลงานที่ศรีบูรพา หรือกุหลาบ สายประดิษฐ์ จะหยิบมาแปลนั้น ก็มักจะเป็นไปเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น เช่น แม่ จากเรื่อง Mother ของแมกซิม กอร์กี้ หรือ เขาถูกบังคับให้เป็นขุนโจร ของ Kenncally รสนิยมและอุดมคติอย่างเดียวกันยังอยู่ในความยึดมั่นของ ชนิด สายประดิษฐ์ คู่ชีวิตนักแปล เห็นได้จากการหยิบงานของวิกเตอร์ อูโก้ เรื่อง Les Miserables มาแปลในชื่อ เหยื่ออธรรม สะท้อนความทุกข์ยากของคนจน // ไปจนถึงผลงานรวมวรรณกรรมแปลเรื่องสั้นของทั้งคู่ชื่อ ในยามถูกชมัยภร แสงกระจ่าง นักวิจารณ์วรรณกรรม มันเป็นความชอบของคนทั้งคู่ ที่จะเขียนวรรณกรรมคำนึงถึงบ้านเมือง มีส่วนเสริมกันและกัน สินธุ์สวัสดิ์ ยอดบางเตย ผู้ใกล้ชิดครอบครัว สายประดิษฐ์ คนอาจจะคิดว่าเรื่องที่เขียนเป็นคนอุดมคติ แต่ครอบครัวนี้แสดงให้เห็นจริงๆ ว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างนั้นตั้งแต่เริ่มเส้นทางอาชีพนักเขียนและนักหนังสือพิมพ์ กุหลาบ สายประดิษฐ์ ไปรับเชิญไปศึกษางานในต่างประเทศบ่อยครั้ง ทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และโซเวียต โดยในแต่ละครั้งก็ได้เก็บสิ่งที่พบเห็นมากลั่นเป็นผลงาน เช่นการไปออสเตรเลีย 2 ปี ที่มีบันทึกประสบการณ์ในชื่อ ข้าพเจ้าได้เห็นมา ตลอดจนซึมซับแนวคิดการทำเพื่อผู้อื่น มาเขียนเป็นนิยายเรื่อง จนกว่าเราจะพบกันอีก หากการเยือนประเทศจีนและไม่ได้หวนคืนบ้านเกิดอีกเลยใน 16 ปีสุดท้ายของชีวิต ก็ทำให้ประวัติด้านงานวรรณกรรมของศรีบูรพาขาดตอนจบไปอย่างน่าเสียดายศรีบูรพาเป็นหนึ่งในนักเขียนที่สร้างคุณูปการให้กับวงการวรรณกรรมไทย ในวันนี้ซึ่งเป็นวันนักเขียนก็จะมีการมอบรางวัลศรีบูรพาให้กับนักคิดนักเขียนรุ่นหลังด้วย
ทุกปีในวันนักเขียน จะมีพิธีมอบรางวัลศรีบูรพาให้กับศิลปิน นักคิดนักเขียน และนักหนังสือพิมพ์ ผู้มีผลงานทรงคุณค่า และมีชีวิตที่เป็นแบบอย่าง ชื่อของรางวัลนี้เป็นนามปากกาของ กุหลาบ สายประดิษฐ์ นักหนังสือพิมพ์ที่ยึดถือในอุดมการณ์ และเป็นนักเขียนที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนานวนิยายไทย จากความสนใจในวรรณกรรมเพื่อชีวิตของต่างชาติ
ศิลปะ-บันเทิง
กุหลาบ สายประดิษฐ์,นวนิยาย,พัฒนา
https://news.thaipbs.or.th/content/167296
เบื้องหลังกลุ่มทุนสร้างหอชมเมืองกรุงเทพฯ
วันนี้ (29 มิ.ย.2560) กลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังโครงการหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ไอคอน สยาม ซึ่งเป็นโครงการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามูลสูงสุดที่สุดในประวัติศาสตร์ เริ่มต้นเมื่อปี 2555 ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมหรูริมน้ำ โรงแรม 5 ดาว มีศูนย์ประชุม ห้างสรรพสินค้า ศูนย์กีฬา และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกว่าครบวงจร มูลค่าการลงทุนกว่า 50000 ล้านบาท อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ย่านคลองสานไอคอน สยาม มีกลุ่มทุน 3 กลุ่มจับมือกัน คือสยามพิวรรธน์ แมกโนเลีย และเครือเจริญโภคภัณฑ์ หากแยกตามกิจการที่ 3 กลุ่มทำอยู่ สามาถจำแนกได้ดังนี้ สยามพิวรรธน์ คือเจ้าของสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัพเวอรี่ และร่วมกับกลุ่มเดอะมอลล์ สร้างสยามพารากอน นี่แค่ตัวอย่างยังเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย ผู้ถือหุ้นใหญ่ เช่น บริษัท เอ็มบีเค หรือเจ้าของธุรกิจห้างมาบุญครอง ถือหุ้นใหญ่ มีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นรองลงมาส่วนกลุ่มที่ 2 แมกโนเลีย กลุ่มบริษัทที่ที่ทำที่พักอาศัยเจาะตลาดลูกบ้านระดับบนทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม แมกโนเลีย เป็นบริษัทในเครือของซีพี ที่แตกไลน์ออกมาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มสุดท้าย เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือกลุ่มซีพี ซึ่งธุรกิจของซีพีมีอยู่เป็นจำนวนมาก ในทางเทคนิคจะเห็นว่ามี 3 กลุ่ม แต่แมกโนเลียกับซีพี คือเครือเดียวกัน สรุปได้นี่คือการจับมือกันระหว่าง ซีพี กับสยามพิวรรธน์นี่คือเบื้องหลังกลุ่มธุรกิจไอคอน สยาม แต่เมื่อจะสร้างหอชมเมือง 2 กลุ่มธุรกิจยักใหญ่นี้ได้ตั้งมูลนิธิหอชมเมืองขึ้นมา มีนายพนัส สิมะเสถียร เป็นประธานมูลนิธิ และนายสิมะ ยังเป็นกรรมการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่ถือหุ้นอยู่ในสยามพิวรรธน์ 4000 กว่าล้านบาท ที่จะสร้างหอชมเมืองส่วนหนึ่งเอกชนช่วยกันระดมทุน อีกส่วนกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ถือหุ้นใหญ่โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จะเห็นความเชื่อมโยงกันทั้งหมดส่วนการที่หอชมเมืองมาเกี่ยวกับรัฐ เนื่องจากจุดที่จะก่อสร้างเป็นที่ราชพัสดุ จึงต้องให้ ครม.อนุมัติ และถ้าจะไม่ประมูลก็ต้อง ครม.อนุมัติเช่นกัน ถ้ามองในมุมของรัฐ ทำไมจึงไม่เปิดประมูล ทำไมจึงปล่อยเช่าราคาถูกเกือบ 200 ล้านบาท ตลอด 30 ปี เฉลี่ยปีละ 6 ล้านกว่าบาทเท่านั้น คำตอบ คือ ไอคอน สยาม เป็นของกลุ่มสยามพิวรรธน์และซีพีอยู่แล้ว คงไม่มีเอกชนรายไหนกล้าเข้ามาลงทุนอยู่ใจกลางโครงการของ 2 ยักษ์ใหญ่ เพราะลำพังหอชมเมืองอย่างเดียวอาจจะไม่ได้สร้างรายได้อะไรมากมาย แต่มันคือส่วนประกอบของ ไอคอน สยาม คนทำก็ควรจะเป็นกลุ่มเดียวกับ ไอคอน สยามนอกจากนี้ ที่ดินผืนนี้เป็นที่ตาบอด เข้าออกได้แค่ทางน้ำ ตำรวจน้ำเคยใช้งานอยู่ แต่ยกเลิกไปแล้ว รัฐอาจจะมองว่าปล่อยเช่าดีกว่าไม่ได้อะไรเลย และรัฐไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว ถ้าสร้างเสร็จกรุงเทพฯ ก็จะมีหอชมเมืองเป็นสัญลักษณ์เป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ โดยที่รัฐร่วมลงทุนแค่ให้เช่าที่ดิน ค่าเช่าอาจจะไม่ได้มากเพียงปีละ 6 ล้านกว่าบาท แต่ถ้าเทียบกับหอชมเมืองที่ได้มูลค่ากว่า 4000 ล้านบาท ดูคุ้มค่า นี่คือเหตุผลของฝ่ายรัฐที่บอกว่าคุ้ม
ประโยชน์จากการสร้างหอชมเมืองกรุงเทพฯ คงจะพิจารณาจากหอชมเมืองอย่างเดียวไม่ได้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการไอคอน สยาม ซึ่งเป็นกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังโครงการหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร ประกอบไปด้วย สยามพิวรรธน์ แมกโนเลีย และเครือเจริญโภคภัณฑ์
เศรษฐกิจ
ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,หอชมเมือง,หอชมเมืองกรุงเทพฯ,หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร,กรมธนารักษ์,ประมูล,PPP,ซีพี,เครือเจริญโภคภัณค์,สยามพิวรรธน์,ไอคอน สยาม,แมกโนเลีย
https://news.thaipbs.or.th/content/263944
มารีญา พร้อม 5 ดารา-นักร้องพบ ตร. รีวิวสินค้าเมจิกสกิน
วันนี้(15 มิ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 พร้อมด้วย 5ดารานักแสดง นักร้อง คือ ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์ และ ฐิสา วริฎฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จากกรณีรีวิวโฆษณาสินค้าเครือเมจิสกิน ทั้งประเภทวิตามิน ครีมทาผิว และ อาหารเสริมพล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ขณะนี้เรียกสอบปากคำดาราที่ทำการรีวิวทั้งหมด 59 คน สอบเสร็จสิ้นแล้ว 46 คน เหลือเพียง 13 คนที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำ คาดว่าภายในอาทิตย์หน้าการสอบปากคำดาราจะเสร็จสิ้น ขณะที่ดารานักแสดง เน็ตไอดอล ที่เดินทางเข้าให้ปากคำทั้งหมด ยังไม่ได้ตกอยู่ในฐานะของผู้ต้องหา แต่เป็นเพียงผู้เข้าให้ข้อมูลเท่านั้น จากนี้จะต้องรอผลการตรวจสารที่มีอยู่ภายในผลิตภัณฑ์ของเมจิสกินจากผู้เชี่ยวชาญก่อนรองผบ.ตร.กล่าวว่า เนื่องจากดาราที่มีการโฆษณารีวิวเมจิสกินเป็นดารา นักแสดงที่มีชื่อเสียง ทำให้เป้าหมายของบริษัทเมจิกสกิน เนื่องจากมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก โดยหวังว่าจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ หลังจากสอบปากกลุ่มดาราทั้งหมดแล้ว จะมีการรวบรวมข้อมูลส่งให้กับผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์การโฆษณา มาวิเคราะห์ว่าสิ่งที่ดารานักแสดงแต่ละคนที่มีการพูดรีวิวนั้น มีเนื้อหา ลักษณะการแสดงออกในการโฆษณา บุคคลใดเข้าข่ายความผิดหรือไม่
มารีญา พร้อมกับ 5 ดารานักแสดง -นักร้อง ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์ เข้าให้ปากคำตำรวจกรณีรีวิวสินค้าในเครือเมจิกสกิน รองผบ.ตร.ยืนยันดารานักแสดงเข้ามาสอบสวน 46 คน และยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา
อาชญากรรม
เมจิกสกิน,มารียา พูลเลิศลาภ,พิ้งกี้ สาวิกา,พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา,อาหารเสริม,อย.,พอร์ช ศรัณย์
https://news.thaipbs.or.th/content/272792
โยธาฯไม่สน อพท. เดินหน้าวางผังพีพี
20 เม.ย.48เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2548 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายสว่าง ศรีศกุล อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้จัดประชุมรับฟังวความคิดเห็นจากชาวบ้านและผู้ประกอบการจากเกาะพีพีประมาณ 50 คน เกี่ยวกับการจัดผังเมืองเกาะพีพี ตามแนวทางของกรมโยธาธิการ นายสว่าง กล่าวในที่ประชุมว่า เป็นการรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำกลับไปพิจารณาถึงความเป็นไปได้ ในการพัฒนาฟื้นฟูเกาะพีพีให้กลับมามีความสวยงามเหมือนอย่างที่ผ่านมา โดยจะมีการจัดระเบียบใหม่ทั้งหมด เช่น จะมีการรื้อถอนอาคารที่ได้รับความเสียหาย การจัดทำแผนที่อุบัติภัย เช่น การปลูกป่า และทำทางหนีภัย และสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ระบบเตือนภัย ซึ่งดำเนินการได้เลย โดยไม่ต้องรอการดำเนินการขององค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. สำหรับแนวทางการจัดทำผังเมืองของกรมโยธาธิการและผังเมืองนั้น จะให้ปลูกสร้างถอยร่นจากชายหาดออกไป 30 เมตร มีการจัดทำถนนกว้าง 4 - 6 เมตร เพื่อความสวยงาม และคำนึงการใช้ประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และชุมชนบนเกาะพีพี นายสว่าง กแล่าว นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ประชาชนเกาะพีพีส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการจัดผังเมืองเกาะพีพี ตามแนวทางกรมโยธาธิการและผังเมือง เนื่องจากชาวบ้านและผู้ประกอบการในเกาะพีพี สามารถที่จะกลับไปทำธุรกิจในที่ดินเดิมได้ ถึงแม้ว่าอาจจะต้องสูญเสียที่ดินไปบ้างบางส่วน แต่ทุกคนก็ยอมเสียสละ เพื่อให้ได้เข้าไปทำธุรกิจ หรืออาศัยอยู่ในที่เดิม ซึ่งต่างกับแนวทางของอพท. ที่จะย้ายทุกอย่างขึ้นไปอยู่บนที่สูงแล้วดึงทุนใหญ่เข้ามาลงทุนด้านการท่องเที่ยว
20 เม.ย.48 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2548 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายสว่าง ศรีศกุล อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอานนท์ พรหมนารท
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2005/04/3695
เฒ่าชาวนาผูกคอลาโลก เครียดทำนามีแต่หนี้ หมดอาชีพจนต้องเก็บถุงขาย
เมื่อวันที่ 14 มี.ค.60 พ.ต.ต.สุรชัย โพธิ์พันธราช สว.(สอบสวน) สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ต.บ้านช้าง อ.อุทัย จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยพุทไธสวรรย์ ไปตรวจสอบ,บ้านเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นล่าง พบศพ นายช่อ รัตนเณร อายุ 67 ปี ใช้เชือกไนลอนผูกคอตายกับขื่อ สภาพศพใส่เสื้อยืดสีน้ำเงิน สวมกางเกงขายาวสีขี้ม้า ตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ตรวจในกระเป๋าเสื้อพบกระดาษเขียนด้วยลายมือผู้ตาย ใจความระบุว่า แจ๋ว ขอโทษ ที่ทำอย่างนี้ ลาก่อน,ด้านนางฉวี รัตนเณร อายุ 64 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สามีเป็นผู้นำครอบครัว มีอาชีพเช่าที่ดินทำนาปรังจำนวนกว่า 30 ไร่ ที่ผ่านมาประสบปัญหาในการทำนาปรังมาโดยตลอด ทั้งถูกน้ำท่วม ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ นกหนูแมลงรบกวน ล่าสุดมาเกิดปัญหาภัยแล้งอีก จากเดิมมีหนี้สินกับ ธ.ก.ส.เพียง 50,000 บาท ผ่านมาเกือบ 10 ปี หนี้สินจากการทำนาปรังพอกพูนเป็น 500,000 บาท ล่าสุดปีนี้ผลผลิตข้าวเปลือกทำท่าจะไม่ดีอีก เพราะต้นข้าวไม่สมบูรณ์ ขาดน้ำ ทำให้สามีเครียด ลูกหลานในบ้านก็ช่วยกันปลอบใจและให้กำลังใจ พร้อมช่วยกันหาเงิน โดยเก็บถุงพลาสติกจากกองขยะมาคัดแยกล้างทำความสะอาดส่งขายใหม่ พอมีเงินซื้อข้าวกินไปวันๆ ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายเครียดเรื่องหนี้สิน ที่ทำนามีแต่ขาดทุน จึงคิดสั้นเขียนจดหมายลาตาย ก่อนไปผูกคอตาย.,(ภาพจาก กู้ภัยพุทไธสวรรย์)
ผู้เฒ่าชาวนากรุงเก่า เช่าที่ทำนาปรังกับครอบครัว แต่ยิ่งทำยิ่งจน เจอทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง ข้าวราคาร่วง หนี้สินจาก 5 หมื่น เพิ่มเป็น 5 แสน ลูกหลานต้องออกไปเก็บถุงพลาสติกมาล้างขาย สุดท้ายเขียน จม.ขอโทษญาติๆ ก่อนผูกคอตายลาโลก
ข่าว
ชาวนาผูกคอตาย,ผูกคอตาย,เครียดเป็นหนี้,อยุธยา,ทำนาปรัง
https://www.thairath.co.th/news/884502
ประวิตร ขู่ ขัดแย้งพระไม่จบต้องใช้กฎหมาย
บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอ ไม่ยุ่งเรื่องพระ แต่ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องต้องว่าตามกฎหมาย ให้กรธ.ตัดสินใจ ดีเบต ร่าง รธน.หรือไม่,วันที่ 18 ก.พ. เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงปัญหาของพระสงฆ์ในขณะนี้ว่า ไม่ขอตอบเรื่องพระ ตนเป็นฆราวาส ปล่อยให้สงฆ์เป็นผู้ดำเนินการ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งพระก็มีกติกาถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่อยากให้ทะเลาะกัน เนื่องจากทุกเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงทั้งสิ้น ส่วนกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำการสอบสวนกรณีรถหรูของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ และตนไม่ใช่ดีเอสไอ,พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเสนอให้นำตัวแทนพรรคการเมืองมาดีเบตเรื่องร่างรัฐธรรมนูญผ่านสื่อว่า เป็นเรื่องที่ทำกันอยู่แล้ว แต่จะต้องรอให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จก่อน ส่วนจะดีเบตหรือไม่จะให้กรธ.เป็นผู้ดำเนินการ เพราะเชื่อว่ามีเวลาในการแสดงความเห็นร่างรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว
บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอ ไม่ยุ่งเรื่องพระ แต่ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องต้องว่าตามกฎหมาย ให้ กรธ.ตัดสินใจ ดีเบต ร่าง รธน.หรือไม่
null
สมเด็จช่วง,ประวิตร,ไม่จบ,ใช้กฎหมาย,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,รองนายกรัฐมนตรี,รมว.กลาโหม,ไม่ยุ่งเรื่องพระ,กรธ.,ดีเบต,ร่างรธน.,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/579172
ยายทวด 5 แผ่นดิน 109 ปียังแข็งแรง เผยเคล็ดลับ กินผัก-ไม่หลับกลางวัน
วันที่ 21 มิ.ย. 59 นายไพศาล ศรีเทพ นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าเยี่ยม คุณยายเปลี่ยว เพชรพวง อายุ 109 ปี ที่บ้านเลขที่ 77 ม.4 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ หลังทราบว่าคุณยายเปลี่ยว เป็นคนที่มีอายุยืนมากที่สุดในจังหวัดกระบี่ที่ยังมีชีวิตอยู่ และยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง พบคุณยายกำลังนั่งกวาดใบไม้และเก็บเศษขยะมาเผาที่บริเวณหลังบ้าน ยังเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว และเดินได้อย่างรวดเร็วไม่เหมือนกับคนชราทั่วไป นอกจากนี้ ยังสามารถพูดคุยตอบโต้ได้อย่างฉะฉาน เป็นคนอารมณ์ดี สร้างความประหลาดใจแก่เจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก,คุณยายเปลี่ยว เล่าว่า ตนอาศัยอยู่กับลูกชายคนโต และหลานๆ ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยลูกของตนมีทั้งหมด 9 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 4 คน ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 4 คน ตนอยู่บ้านตอนกลางวันไม่ได้ทำอะไร จะง่วงนอน จึงต้องไปเก็บกวาดขยะรอบๆ บ้าน เพื่อไม่ให้ง่วงเพราะตนไม่ชอบนอนกลางวัน ในเรื่องอาหารการกินก็กินได้ตามปกติ ลูกหลานทำอาหารอะไรให้ก็กินได้หมด แต่จะไม่ชอบอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ส่วนอาหารโปรดคือ ปลาและผักลวกจิ้มน้ำพริก ซึ่งจะกินได้ทุกวัน และไม่ชอบความเครียด,ด้าน นายไพศาล ศรีเทพ นายอำเภอปลายพระยา กล่าวว่า นางเปลี่ยว เกิดในปี พ.ศ. 2450 ซึ่งอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีอายุยืนมาจนถึงปัจจุบันรัชกาลที่ 9 รวมแล้ว 5 รัชกาล ถือว่าคุณยายเปลี่ยวมีอายุผ่านมาแล้ว 5 แผ่นดิน ปัจจุบันคุณยายยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ตายังมองเห็นดี และหูก็ฟังเสียงชัดเจน สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ มีความจำดี ไม่เหมือนคนชราทั่วไป ที่ผ่านมาไม่เคยเจ็บป่วยหนักถึงขั้นต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงถือเป็นบุคคลตัวอย่างของคนที่ดูแลสุขภาพได้ดี นอกจากนี้ สภาพแวดล้อม ธรรมชาติในพื้นที่ ยังมีความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลทำให้คุณยายมีสุขภาพจิตที่ดีด้วย.
พบยายทวดอายุยืนที่สุดของ จ.กระบี่ เกิดสมัย ร. 5 มีอายุยืนยาวมาถึง 5 แผ่นดิน 109 ปี ยังเดินเหินแข็งแรง กวาดขยะไปเผา หูได้ยิน ตามองเห็น เผยกินปลา ผักต้ม ไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ และเป็นคนไม่นอนกลางวัน ไม่เครียด
null
ยายอายุยืน,ยายอายุ 109ปี,คุณยาย5แผ่นดิน,ยาย 109 ปี กระบี่,5แผ่นดิน,เปลี่ยว เพชรพวง,ปลายพระยา,กระบี่,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/643761
ได้หลักฐานสำคัญ ศรีวราห์ โอ่โยงคนบงการ
อ้างเอาจากในรถทนายดาวดิน สุนัยขออียูบีบคสช.ปล่อยนศ. บวรศักดิ์ยอมตามองคมนตรี,ผบช.น.เจอหลักฐานชิ้นสำคัญในรถทนาย ดาวดิน โยงคนบงการ จ่อออกหมายจับ เพิ่ม ลั่นสาวถึงใครจับหมด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจชื่อดังปัดเป็นคนชักใยกลุ่มต้าน ท้าใครมีหลักฐานพร้อมเผชิญหน้าเคลียร์ พท.-ปชป.โดดอุ้ม 14 นศ.จี้นายกฯคืนอิสรภาพ กลุ่มต้านคึกจัดกิจกรรมเขียนความในใจใส่ จม.น้อยถึง นศ. ทหาร-ตร.ไม่ขวาง แค่มาซุ่ม เก็บภาพ ฮิวแมนไรต์วอชชวนอียูร่วมออกแถลงการณ์บีบ คสช.ปล่อยตัวดาวดิน บิ๊กตู่ บุก จ.เชียงใหม่ ประชุม ครม.สัญจร วางทริปขึ้นดอยสุเทพ-เดินชมตลาดค้าง 1 คืน บวรศักดิ์ ยอมแก้หมวดศาลตามองคมนตรี ปรับเกณฑ์ ก.ต.คนนอก-ลบคำ นิติธรรม ใน ม.219 วันชัย แฉ กมธ.ยกร่างฯวิ่งฝุ่นตลบล็อบบี้ สปช.ผ่านร่าง รธน.,จากกรณีกลุ่มนักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการทำรัฐประหารและ คสช. โดยล่าสุดได้มีการจับกุม 14 นักศึกษานั้น,ผบช.น.พบหลักฐานเด็ดในรถทนาย,เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 28 มิ.ย.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์และเจ้าหน้าที่ทหารได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวกลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตย ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง 14 คน ตามหมายจับจากนั้นนำตัวส่งฝากขังที่เรือนจำว่า หลังจากจับกุมตัวกลุ่มนักศึกษา ทางการข่าวได้เบาะแสว่า มีพยานหลักฐานชิ้นสำคัญที่เชื่อมโยงการกระทำความผิดของกลุ่มนักศึกษาซุกซ่อนอยู่ภายในรถฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี ทะเบียน กค 9966 ยโสธร จอดอยู่บริเวณข้างศาลทหารกรุงเทพ รถดังกล่าวเป็นของ น.ส.ศิริกาญจน์ เจริญศิริ อายุ 29 ปี ทนายความจากศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน หนึ่งในทีมทนายความของนักศึกษาทั้ง 14 คน,เจอมือถือ 5 เครื่อง–ยันตรวจค้นตาม ก.ม.,พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้น พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง ซึ่งเป็นของกลุ่มนักศึกษา ทั้งนี้ตามปกติแล้วการตรวจค้นยานพาหนะ ตามกฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่มีอำนาจสามารถตรวจค้นได้ทันที แต่กรณีดังกล่าวได้มีการขอหมายศาลตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง,ตามที่ น.ส.ศิริกาญจน์ อ้างตัวเป็นทนายความของกลุ่มนักศึกษานั้น แต่พนักงานสอบสวนแจ้งว่า ยังไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นทนายความให้กับกลุ่มนักศึกษาทั้ง 14 คน อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด,โยงคนบงการ–จ่อหมายจับเพิ่ม,ผบช.น. กล่าวด้วยว่า การตรวจค้นรถพบวัตถุพยานสำคัญที่คาดว่าอาจจะมีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้เพราะคดีอยู่ในสำนวน หากพบว่าสามารถเชื่อมโยงการกระทำความผิดไปถึงบุคคลใดก็ตาม หรือสืบทราบว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลัง หรือสนับสนุนในการกระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำการออกหมายจับ และติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะนี้ยืนยันว่าคดียังไม่สิ้นสุด จากการตรวจสอบหลักฐานพบว่ายังมีผู้เกี่ยวข้องอีก พนักงานสอบสวนน่าจะมีการออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มอีก และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ พนักงานสอบสวนจะดำเนินคดี น.ส.ศิริกาญจน์ ด้วยหรือไม่ ก็กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา,ลั่นทำตามหน้าที่สาวถึงใครจับหมด,เมื่อถามว่า การข่าวจะมีนักศึกษากลุ่มอื่นๆ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบ กองทัพดูแลด้านความมั่นคงจะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการ และมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่แล้ว ส่วนตำรวจก็สืบสวนไปตามกระบวนการ หากศาลทหารออกหมายจับใคร ตำรวจก็จับไปตามหน้าที่เพราะมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นที่มีการโต้แย้งว่า พลเรือนไม่ควรขึ้นศาลทหาร พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ในทางกฎหมายขณะนี้ระบุไว้ชัดเจน หากไม่เห็นด้วยก็ขอให้ไปแก้ไขกฎหมาย งานด้านความมั่นคงเป็นหน้าที่ของกองทัพที่ดูแลอยู่แล้ว แต่เมื่อมีคดีเกิดขึ้นก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ หากศาลออกหมายจับใคร ตำรวจมีหน้าที่จับก็จับไป หากพบว่ามีความผิดถึงใครก็จับกุมคนนั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง หากพบว่ามีความผิดถึงก็จับทุกอย่างอยู่ในสำนวนอยู่แล้ว,ธนาธร ปัดเป็นคนชักใยกลุ่ม นศ.,นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจชื่อดังที่ถูกโซเชียลมีเดียกล่าวหาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักศึกษา ชี้แจงว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการกล่าวหาตนจากช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งมีเนื้อหาคล้อยตามไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนักศึกษาต่อต้านเผด็จการในนามกลุ่มประชาธิปไตยใหม่เพื่อวัตถุประสงค์ ในการล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าเหตุเกิดลำพังเพียงโจมตีตนเท่านั้น คงไม่มีความประสงค์จะตอบโต้อันใด เนื่องด้วยการใส่ความอย่างมดเท็จนี้ไม่ใช่เป็นครั้งแรกและหาได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริงไม่ หากแต่ครั้งนี้การใส่ความกระทบกระเทือนถึงกลุ่มนักศึกษาที่กำลังถามหาประชาธิปไตยด้วยการเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญกับกลุ่มพลังอประชาธิปไตย ดังนั้นจึงไม่เป็นธรรมกับพวกเขาเท่าไหร่หาก,ตนจะนิ่งเฉย,ท้าใครมีหลักฐานโยงมาเคลียร์กันได้,ขอชี้แจง 3 ข้อดังนี้ 1.ผมไม่เคยเข้าร่วม มีส่วนรู้เห็น หรือก่อการใดๆ ในขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เลย 2.ผมไม่เคยข้องเกี่ยวหรือรับเงินจากคุณทักษิณเพื่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ และ 3.ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยว ชักจูงหรือมีอิทธิพลทางความคิดต่อกลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ใดๆเลย การกระทำของพวกเขาล้วนมาจากเจตจำนงอันแน่วแน่และเป็นอิสระของพวกเขาทั้งสิ้น หากท่านใดมีหลักฐานเป็นอื่น ผมพร้อมเผชิญหน้าอย่างตรงไปตรงมา นายธนาธรกล่าว,กลุ่มต้านจัดกิจกรรมความในใจใส่ จม.น้อย,ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนต่อต้านรัฐประหาร เมื่อเวลา 12.00 น.ที่กำแพงกาลเวลา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ฝั่งประตูท่าพระจันทร์ กลุ่มต่อต้าน คสช.ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียนัดหมายประชาชนที่เห็นต่าง รวมตัวทำกิจกรรม คุกขังเขาได้แต่หัวใจอย่าปรารถนา post it for friends โดยมีการแจกจ่ายกระดาษ post it เพื่อให้เขียนข้อความในใจถึงกลุ่ม นศ.ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 14 คน ที่ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษ เพื่อติดไว้เป็นสัญลักษณ์บนกำแพงประวัติศาสตร์ ท่ามกลางบรรยากาศอันคึกคักไปด้วยเหล่ามวลชนเสื้อแดง และนักศึกษาราว 100 คน ที่ต่างพร้อมใจร่วมเขียนข้อความส่งกำลังใจกลุ่ม นศ. เรียกร้องปล่อยตัว และข้อความโจมตี คสช.นับร้อยชิ้น ติดบนกำแพง แต่ไร้แววกลุ่มนักวิชาการ นักเขียน 60 คนที่เพิ่งลงรายชื่อกัน อ้างเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นศ.ตัวจริง,ทหาร–ตร.ไม่ขวางแต่มาซุ่มเก็บภาพ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารมาขัดขวาง แต่ซุ่มจับตาใกล้ชิดและบันทึกภาพเก็บหลักฐานทั้งหมด รวมข้อความให้กำลังใจ จากนักวิชาการ อย่าง นายเกษียร เตชะพีระ คณะรัฐศาสตร์ มธ. นายพิชญ์ พงษสวัสดิ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นายสุรพศ ทวีศักดิ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์การศึกษาหัวหิน นอกจากนี้ยังมีแกนนำอย่างนางสุดสงวน สุธีสร อดีตนักวิชาการมธ.เข้าร่วม,นายเอกชัย ไชยนุวัติ รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.สยาม ซึ่งเดินทางมาเขียนข้อความว่า ผมขี้ขลาด พวกคุณกล้าหาญ ติดบนกำแพง กล่าวว่า สิ่งที่นักศึกษาทำวันนี้ถือว่ากล้าหาญมาก นักศึกษาบางคนที่ถูกจับ ตนรู้จักเป็นส่วนตัว ยืนยันเด็กพวกนี้ไม่มีใครมาสั่งได้ ถ้าได้พ่อแม่คงสั่งไม่ให้มาร่วม สิ่งที่เด็กๆทำเป็นความชอบธรรม เพราะแค่ต้องการใช้สิทธิ์ในการแสดงออก จึงไม่ควรต้องมาถูกดำเนินคดีแบบนี้ หากผู้มีอำนาจยังคงใช้กำลังมาแก้ไขปัญหา ทุกอย่างจะอยู่ในวงเวียนของการรัฐประหารไม่รู้จบ,ฮิวแมนไรต์วอชฟ้องอียูช่วยบีบ คสช.,นายสุนัย ผาสุก ผู้ประสานงานองค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอช ประจำประเทศไทย ระบุว่า มีการประสานงานไปยังอียู เพื่อให้ร่วมออกแถลงการณ์เรียกร้อง คสช.เร่งปล่อยตัวนักศึกษา โดยไม่มีเงื่อนไข คาดว่าจะมีแถลงการณ์จากอียูภายในสัปดาห์หน้า ขณะนี้สงสัยว่าทำไมคณะกรรมการสิทธิ มนุษยชน ของไทยถึงไม่ออกมาเคลื่อนไหว ที่น่าแปลกกว่านั้น คือ การที่ นศ.ถูกจับกุมครั้งนี้ รวมทั้งการถูกทหารเข้าลิดรอนแสดงความเห็นทางวิชาการ กลับไม่มีความคิดเห็นใดๆ จากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยบ้างเลย,จากนั้นกลุ่มมวลชนต้านรัฐประหาร ราว 60 คน นำโดยนางสุดสงวน สุธีสร ทยอยเดินทางไปรวมตัวที่ร้านแมคโดนัล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อพูดคุยสังสรรค์กัน โดยมีการนัดหมายรวมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ วันที่ 29 มิ.ย. เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจกลุ่ม นศ.ด้วย,บิ๊กต๊อก สั่งราชทัณฑ์ดูแลให้เรียบร้อย,พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกลุ่มมวลชนต้านรัฐประหาร นัดหมายรวมตัวที่เรือนจำพิเศษ วันที่ 29 มิ.ย.เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มนักศึกษาที่ถูกควบคุมตัวว่า ไม่ได้สั่งการอะไรไปมากมาย เพราะถือเป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว เพียงแต่กำชับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ระมัดระวังอย่าให้มีปัญหา ยืนยันการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบที่มีอยู่ ปฏิบัติเช่นเดียวกับคนอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิของผู้ที่ถูกควบคุมตัว แต่ทั้งนี้คงต้องพูดคุยกับนักศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจ เพราะถือว่ายังเป็นเยาวชนอยู่ ไม่อยากให้มีการดึงเรื่องกันไปมาจนกลายเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนมาตรการอื่นๆ ในการดูแลความเรียบร้อย คงต้องรอดูแนวทางฝ่ายความมั่นคงอีกทางหนึ่ง,14 นศ.ขอเป็นนักโทษการเมือง,ต่อมาเวลา 17.00 น.ที่ห้องจารุพงษ์ ทองศิลป์ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ทีมทนายความของกลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นำโดยนายกฤษฏางค์ นุตจรัส แถลงว่า จากการที่ทีมทนายความได้เข้าเยี่ยม นศ.ทั้ง 14 คน มีข้อความฝากมายังสื่อมวลชนว่า 1.นศ.ทั้งหมดยืนยันว่าเป็นนักโทษการเมือง ข้อหาทั้งหมดล้วนเป็นข้อหาทางการเมือง ขณะนี้ทุกคนยังมีกำลังใจดีจะขอต่อสู้เพื่อเสรีภาพ และประชาธิปไตย ตามความตั้งใจที่มีอยู่ 2.การยื่นขอประกันตัว ตอนนี้ยังไม่คิด เว้นกรณีใครเจ็บป่วยเท่านั้นเมื่อหายดีก็จะกลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำใหม่ 3.จนถึงขณะนี้ นศ.ทั้งหมดยังยืนยันไม่ยอมรับอำนาจศาลทหาร หากจะดำเนินคดีต้องเป็นคดีจากศาลพลเรือนเท่านั้น 4. ทั้งหมดเห็นพ้องว่า หากจะปล่อยตัว นศ.จะต้องปล่อยตัวนักโทษการเมืองคนอื่นๆด้วยโดยไม่มีเงื่อนไข,อ้างมือถือใช้เป็นวัตถุพยานไม่ได้,น.ส.เยาวลักษณ์ อนุพันธ์ ทนายความจาก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน หนึ่งในทีมทนายความ กล่าวถึงเหตุการณ์ถูกเจ้าหน้าที่ค้นรถทีมทนายว่า ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ข่มขู่ทนายความของผู้ถูกกล่าวหา เริ่มตั้งแต่คืน วันที่ 26 มิ.ย. ที่หน้าศาลทหาร จนถึงเช้าวันที่ 27 มิ.ย. เจ้าหน้าที่พยายามอ้างจะตรวจค้นยึดโทรศัพท์มือถือของ นศ. มีการล็อกล้อและยื้อกันกว่า 15 ชั่วโมง สุดท้ายเมื่อพนักงานสอบสวนนำหมายค้นมาได้ 5 เครื่อง กลับนำไปที่โรงพักโดยไม่มีการรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมารับ ภายหลังนำกลับมาคืนที่เดิม และรอจนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมารับไปในที่สุด ซึ่งทางกฎหมายการทำผิดขั้นตอนของเจ้าหน้าที่เช่นนี้ ถือว่าสิ่งของที่ยึดไปไม่สามารถนำไปเป็นวัตถุพยานในศาลได้อีก,บิ๊กตู่ ไปแน่เชียงใหม่ถก ครม.สัญจร,พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 29-30 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.มีกำหนดการเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 2 จ.เชียงใหม่ และลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก โดยช่วงเย็นวันที่ 29 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ วัดพระธาตุ ดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และก่อนเดินทางเข้าที่พัก จะเดินทางเยี่ยมชมและพบปะประชาชนที่ตลาดหน้าศาลากลาง ต.ช้างเผือก ส่วนวันที่ 30 มิ.ย. นายกฯจะเป็นประธานประชุม ครม. ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ จากนั้นช่วงบ่ายนายกฯ และคณะจะเดินทางต่อไปยัง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ติดตามการบริหารจัดการน้ำ โครงการข้าวและการทวงคืนผืนป่า ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันเดียวกัน,ระดับ รปภ.ปกติ–คนแบ่งสีมีน้อย,พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นไปตามปกติ เพราะรัฐบาลมั่นใจว่าประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่เข้าใจถึงปัญหา ไม่ได้มองว่า จ.เชียงใหม่เป็นพื้นที่คนเสื้อแดงหรือสีอะไร ถ้าจะมีคนที่ไม่เข้าใจอยู่บ้าง ก็แค่รายสองรายหรือจำนวนหนึ่งเท่านั้น ก็เป็นสิ่งที่สังคมต้องพิจารณาเอา เพราะวันนี้ประเทศไทยต้องอธิบายด้วยเหตุผลข้อเท็จจริง จะเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งแล้วบอกว่าต่อต้านการทำรัฐประหาร มันไม่ใช่เวลา,ห่วงกลุ่มต้านโฟกัสเสรีภาพจนขาดสติ,พล.ต.สรรเสริญ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งออกมาต่อต้านรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้สังคมมีสติ วันนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงที่ต้องรับฟังข้อเท็จจริงและเหตุผล ดังนั้นทุกฝ่ายต้องบริโภคข้อมูลข่าวสารและคิดทุกเรื่องอย่างมีสติจึงจะสามารถผ่านวิกฤติเหล่านี้ไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่อยากให้ทุกคนมองเพียงเรื่องเสรีภาพ หรือสิ่งที่เราจะได้รับจากสังคม ทุกคนควรมองสิ่งที่จะปฏิบัติหรือให้กับสังคมด้วย เพื่อที่จะสามารถอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุขและร่มเย็น เน้นสร้างสังคมให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่หวาดระแวง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกคนรู้จักหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่คิดแต่เสรีภาพกับสิ่งที่เราจะได้จากสังคมเท่านั้น และเชื่อว่าสังคมเราคิดแบบนี้อยู่แล้ว แต่อาจจะมีส่วนน้อยที่ยังไม่ได้ตระหนัก,พท.กาง รธน.ชั่วคราวอัด คสช.,นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการจับกุมตัว 14 นักศึกษาที่เคลื่อนไหวต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า กลุ่มนักศึกษาแค่ประกาศหลักการสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้ปลุกระดมประชาชนออกมาต่อต้าน หรือก่อความไม่สงบ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่อย่างใด จึงถือว่าไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ไม่ได้ผิดในมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว และไม่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป แต่ปฏิบัติตามที่พวกคุณเขียนไว้เองในมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่ว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ประชาชนย่อมมีสิทธิเสรีภาพแสดงออกตามวิถีแห่งประชาธิปไตย ขอแนะนำถ้าจะให้ชอบตามคำสั่งที่ 3/2558 ให้ไปแก้มาตรา 2 ใหม่เป็นว่า ประเทศไทยปกครองระบอบเผด็จการ หรือ ประเทศนี้พักใช้ระบอบประชาธิปไตยชั่วคราว จึงจะชอบตามรัฐธรรมนูญ,จวกยุคผู้ดีเดินตรอกขี้ครอกเดินถนน,นายวัฒนา กล่าวว่า คณะรัฐประหารกระทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง มีความผิดฐานกบฏแต่กลับใช้อำนาจออกกฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้แก่ตนเองและพรรคพวก ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นอย่างรุนแรง ใครไม่เชื่อฟังก็ลงโทษ ในขณะที่น้องนักศึกษามาเรียกร้องสิทธิของพวกเขาที่ถูกยึดไปด้วยความบริสุทธิ์โดยสงบและปราศจากอาวุธ กลับถูกจับกุมดำเนินคดี หรือสังคมไทยได้กลายเป็นสังคม กาขาว ที่เป็นยุคของผู้ดีเดินตรอกขี้ครอกเดินถนน ตนว่ารีบคืนอำนาจให้ประชาชนเถอะ ให้พวกเขาได้กำหนดวิถีทางทางการเมืองด้วยตัวเอง อย่าไปคิดแทนประชาชน,เด็ก ปชป.จี้นายกฯ ปล่อย 14 นศ.,นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มนักศึกษา 14 คนถูกจับฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ควรใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 นิรโทษกรรมให้นักศึกษากลุ่มนี้ทั้งหมดเพราะไม่มีประโยชน์ที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ สิ่งที่น้องๆทำเพราะเชื่อมั่นว่าถูกต้องและบริสุทธิ์ใจ อย่าเพิ่งมองในแง่ร้าย เราเป็นผู้ใหญ่ต้องให้อภัยและเข้าใจในวัยของคนหนุ่มสาว คสช.มีหน้าที่สร้างความเข้าใจให้คนทั้งสังคมเข้าใจ อย่าให้เกิดช่องว่างทั้งในเมืองและชนบท ต้องชี้ให้เห็นว่า การที่เข้ามาปฏิรูปนี้เพราะความจำเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ที่น่ากังวลคือมีคนบางกลุ่มกำลังวางแผนเสี้ยมให้นักศึกษาชนกับทหารโดยอาศัยคำว่าประชาธิปไตยเป็นเหยื่อล่อ อย่าให้มือที่มองไม่เห็นสร้างสถานการณ์แล้วโยนบาปให้ทหารเหมือนกรณีชายชุดดำที่ยังเป็นแผลใจของสังคมมาถึงทุกวันนี้,วิษณุ งัดกฎอัยการศึกตีกรอบเสรีภาพ,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปนั้น ขัดกับรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 มาตรา 2 ที่ระบุว่าประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่า ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพจริง แต่ในรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้ด้วยใน มาตรา 5 ว่าเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญบังคับแก่กรณีใด ให้กระทำตามประเพณีการปกครองประเทศไทย ซึ่งประเพณีการปกครองที่ว่านี้ หมายรวมถึงรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆก่อนหน้าด้วย ซึ่งสิทธิเสรีภาพที่เขียนไว้ มีข้อจำกัดได้ ด้วยกฎอัยการศึก หรือกฎหมาย ดังนั้น คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่กล่าวมาออกตามกฎอัยการศึกจึงถือว่ามีฐานกฎหมายรองรับ,บวรศักดิ์ แก้ ก.ต.คนนอกตามองคมนตรี,สำหรับความเคลื่อนไหวในการยกร่างรัฐธรรมนูญ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญของ กมธ.ยกร่างฯใน 2 ประเด็นคือ 1.ความไม่ชัดเจนในความหมายคำว่า ยุติธรรม ตามมาตรา 219 2.การคัดค้านผู้ทรงคุณวุฒิจากคนนอกมาเป็นคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯฝากมาชี้แจงว่า ข้อห่วงใยทั้งสองข้อดังกล่าวของนายธานินทร์ นอกจากได้ยื่นหนังสือแสดงความเป็นห่วงผ่านทางนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังได้ส่งหนังสือแสดงความเป็นห่วงมายังประธาน กมธ.ยกร่างฯด้วย แต่เป็นการทำในนามประชาชนคนหนึ่ง ซึ่ง กมธ.ยกร่างฯพิจารณาแล้ว พร้อมจะปรับปรุงแก้ไขให้ทั้งสองเรื่อง โดยในเรื่องการให้มีผู้ทรง คุณวุฒิจากคนนอกที่ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 มาเป็น ก.ต.ตามมาตรา 225 นั้น จะแก้ไขเป็นให้มีบุคคลภายนอก 2 คน ที่มาจากการสรรหาของวุฒิสภามาเป็น ก.ต.ตามหลักการเดิมของรัฐธรรมนูญปี 2550,ลบคำว่า นิติธรรม ใน ม.219 ด้วย,พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวว่า ส่วนข้อห่วงใยเรื่องความไม่ชัดเจนของคำว่า ยุติธรรม ในมาตรา 219 ที่ระบุว่า ให้การพิจารณาพิพากษาคดีเป็นอำนาจของศาล ซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปโดยยุติธรรม ตามหลักนิติธรรม ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย กมธ.ยกร่างฯเห็นว่า จะแก้ไขเป็น ให้การพิจารณาพิพากษาคดีเป็นอำนาจของศาล ซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปโดยยุติธรรมทางอรรถคดี ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยตัดคำว่า หลักนิติธรรมทิ้งไป และเพิ่มคำว่า ทางอรรถคดี ขึ้นมา เพราะคำว่านิติธรรมอาจเกิดการตีความได้กว้างขวาง ทำให้เกิดความคลุมเครือ พร้อมกับเพิ่มคำว่า ความยุติธรรมทางอรรถคดี เพื่อให้การตีความมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น,วันชัย แฉ กมธ.ยกร่างฯวิ่งล็อบบี้,นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวถึงการล็อบบี้ให้ สปช.ยอมผ่านร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังพิจารณาปรับแก้ไขเพิ่มเติมว่า กมธ.ยกร่างฯพยายามวิงวอน สปช.ให้ผ่านรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลักการนี้ผิด กมธ.ยกร่างฯต้องยึดหลักการของตัวเอง ถ้าคิดว่าเป็นปัญหาก็ต้องแก้ไข ต้องไม่ยอม แต่ตอนนี้กลับพยายามโอ้โลมปฏิโลมเอาใจให้ สปช.ผ่านความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ก่อนหน้านี้แข็งขันไม่ยอม สปช. แต่พอ สปช.จะถูกยุบแน่นอนหลังแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กมธ.ยกร่างฯจึงมาเอาใจเพื่อให้รัฐธรรมนูญผ่านเพื่อ กมธ.ยกร่างฯจะได้ไม่เสียหน้าและได้อยู่ทำหน้าที่ต่อ ซึ่งตนคิดว่าไม่ถูก ตอนนี้พยายามล็อบบี้ว่าเป็นพวกเดียวกันต้องให้รัฐธรรมนูญผ่าน,จีบได้ 126 เสียงโหวตหนุนก็พอ,กระแสล็อบบี้ให้ผ่านมีมากพอสมควร พยายามอยากให้ผ่านบอกว่า 126 เสียงเขาก็พอใจแล้ว อ้างศักดิ์ศรี เขาลนลานกลัวจนออกหน้าออกตาว่าจะไม่ผ่าน ทั้งที่มีหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญให้ดีที่สุด อย่ามาเอาใจ หรืออ้างว่าเป็นแฝดอินจันทอดทิ้งกันไม่ได้ ซึ่งเชื่อว่าการล็อบบี้คงจะเข้มข้นขึ้นโดยใช้สารพัดวิธีโน้มน้าว สปช. ถึงขนาดพยายามเชิญ สปช.แต่ละกลุ่มไปทำความเข้าใจ ทั้งที่เมื่อก่อนการแก้ไขออกระเบียบเคร่งครัด แต่ตอนนี้ยังไงก็ได้โดยที่รัฐธรรมนูญไม่ได้เปิดช่องไว้ให้ อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อว่าวิธีการล็อบบี้จะสำเร็จเพราะ สปช.รู้สึกว่าก่อนหน้านี้แข็งกร้าวแต่ตอนนี้โอนอ่อนทุกอย่าง จึงจะพิจารณาร่างสุดท้ายแล้วจะตัดสินใจเอง นายวันชัย กล่าว,งัด 4 ปมชนวนคว่ำ–สับพลิ้วไปเรื่อย,นายวันชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้พบว่า สปช. แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ทั้งที่พอใจและไม่พอใจในหลายเรื่อง เช่น 1.กรณีนายกฯคนนอก กลุ่มที่ต้องการให้มาจาก ส.ส.เท่านั้น ก็ไม่พอใจอาจประสานกับพรรคการเมืองแสดงออกว่าไม่เอาเรื่องนี้ 2.กรณีที่มาของ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่แค่ปรับลดจำนวนลง ก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย 3.กรณีที่มาของ ส.ว.สรรหา ก็มีทั้งพอใจและไม่พอใจรวมถึงพรรคการเมือง 4. กรณีสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กับผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่แยกเหมือนเดิม ไม่เป็นไปตามที่ กมธ.ยกร่างฯระบุว่าจะควบรวม แสดงว่า กมธ.ยกร่างฯไม่มีจุดยืนและหลักที่มั่นคง เอนไปตามกระแส เพราะมีวัตถุประสงค์ต้องการให้รัฐธรรมนูญผ่าน โดยคิดว่าอะไรที่ สปช. พรรคการเมือง หรือรัฐบาลต้องการก็พยายามปรับเปลี่ยน ทั้งที่ไม่ตรงกับหลักการที่ตัวเองวางไว้แก้ปัญหาจากอดีตจนถึงอนาคต,กลุ่มสตรีฯบี้หญิงเท่าเทียมชาย,เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) และองค์กรเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ จัดสัมมนาเสียงผู้หญิงต่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของเครือข่ายสตรี เกี่ยวกับความเท่าเทียมของชายหญิง และสัดส่วนของผู้หญิงที่จะมีส่วนตัดสินใจทางสังคมทุกระดับ ที่ควรบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่,จากนั้น น.ส.อุษา เลิศ ศรีสันทัด ผอ.มูลนิธิผู้หญิง พร้อมด้วยเครือข่ายสตรีฯ ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ผ่านนางนรีวรรณ จินตกานนท์ รองประธาน กมธ.ยกร่างฯ เรียกร้องให้ กมธ.ยกร่างฯเพิ่มเติมเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญที่มีความเสมอภาคระหว่างเพศ และสัดส่วนชายหญิง ทางการเมืองที่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ หลังจากที่ กมธ.ยกร่างฯส่งร่างสุดท้ายให้กับ สปช.แล้ว หากร่างฯ ดังกล่าวเนื้อหาไม่เป็นไปตามข้อเสนอของกลุ่มผู้หญิงจะเคลื่อนไหวกดดัน สปช.ไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญ,แจ้งข้อหาอดีตบิ๊กสรรพากรโกงแวต,นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ ป.ป.ช.สั่งอายัดทรัพย์ทองคำมูลค่า 179 ล้านบาท ของนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร กรณีการทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาทว่า ล่าสุดคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาท ที่มีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ ได้แจ้งข้อหากรณีการทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นายสาธิตทราบแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอให้นายสาธิตมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คาดว่าประมาณเดือน ก.ค.-ส.ค.น่าจะมีสรุปผลคดีนี้ได้ ส่วนการอายัดทรัพย์ทองคำมูลค่า 179 ล้านบาทของนายสาธิต ขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปให้คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการร่ำรวยผิดปกติที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน เพื่อพิจารณาตรวจสอบทรัพย์สินส่วนอื่นๆเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากทองคำว่า จะมีการสั่งอายัดทรัพย์สินในส่วนอื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่,บุญทรง–ภูมิ ส่อหนาวเจอจีทูจีภาค 2,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดกรณีการทุจริตการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ต่อนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ไปแล้ว ป.ป.ช.ได้มีการไต่สวนกรณีการทุจริตซื้อขายข้าวจีทูจีในรอบสอง โดยได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนางปราณี ศิริพันธ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ภายหลังจากพบเหตุควรสงสัยว่า การซื้อขายข้าวจีทูจีรอบใหม่กับ 4 บริษัทจากประเทศจีน รวมปริมาณกว่า 14 ล้านตัน ส่อไปในทางมิชอบ เนื่องจากทั้ง 4 บริษัท มิได้เป็นตัวแทนจากรัฐบาลจีนให้มาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีกับรัฐบาลไทย และมีการหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม โดยมีนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นในระดับหนึ่ง และพบว่า นายบุญทรงและนายภูมิอาจจะเกี่ยวข้องในกรณีการทุจริตซื้อขายข้าวจีทูจีในครั้งนี้อีกด้วย รวมไปถึงนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ แต่ยังต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนอีกครั้ง จึงจะสามารถสรุปสำนวน และแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหาได้,รบ.เชื่อคำสั่งเด้ง–ดองไม่ทำ ขรก.เฉื่อย,ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีข้าราชการท้องถิ่นมีรายชื่อถูกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2558 โยกย้ายในกรณีถูกสอบการทุจริตว่า อย่างที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถ้าสอบแล้วไม่พบการทุจริตก็คืนกลับสู่หน้าที่ เมื่อถูกตรวจสอบก็แสดงให้เห็นว่าเกิดข้อผิดสังเกตในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเจ้าตัวย่อมรู้ดี ใครก็ตอบแทนไม่ได้ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆจะถูกตรวจสอบ เมื่อถามว่า การที่ข้าราชการระดับล่างถูกตรวจสอบจำนวนมาก จะเป็นผลให้ข้าราชการไม่กล้าขยับทำอะไรหรือไม่ ม.ล.ปนัดดาตอบว่า อยู่ที่ความรับผิดชอบของหัวหน้าส่วนราชการจะต้องรับผิดชอบขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จให้ได้ ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. สั่งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีลงพื้นที่ขันนอตข้าราชการระดับล่างนั้น เป็นการไปแนะนำกรอบการทำงานตามโรดแม็ป,โต้กลับ-นศ.มาหน้าคุกจี้ปล่อยเพื่อน,ต่อมาเวลา 20.00 น. ที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดาผู้เสียชีวิตในเหตุสลายการชุมนุมปี 53 และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นศ.ธรรมศาสตร์ นัดหมายมวลชนราว 50 คน เดินทางมารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้ปล่อยตัว นศ.ท่ามกลางการจับตาใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น ทั้งนี้ทางกลุ่มได้จุดเทียนขึ้น จากนั้นตะโกนว่า ปล่อยนักศึกษาๆ ก่อนร้องเพลงร่วมกัน และนำเทียนที่จุดไว้มาวางเรียงเป็นรูปหัวใจ เวลาต่อมากลุ่ม นศ. ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จำนวน 15 คน นำลูกโป่งสีขาว 14 ใบ เท่าจำนวน นศ.ที่ถูกคุมขัง มาปล่อยลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยมีการอ่านแถลงการณ์เรียกร้อง ปล่อยตัว นศ. ทั้ง 14 คน แล้วจึงร่วมร้องเพลงบทเพลงแห่งสามัญชน ก่อนแยกย้ายกลับในที่สุด
ผบช.น.เจอหลักฐานชิ้นสำคัญในรถทนาย ดาวดิน โยงคนบงการ จ่อออกหมายจับ เพิ่ม ลั่นสาวถึงใครจับหมด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจชื่อดังปัดเป็นคนชักใยกลุ่มต้าน
null
ข่าวหน้า1,รถทนาย,ดาวดิน,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,ศิริกาญจน์ เจริญศิริ,นักศึกษา,ต่อต้านรัฐประหาร,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/508163
คะแนนนิยมยังแรง นายกฯชินโสะ อาเบะ นั่งแท่นหัวหน้าพรรคแอลดีพีต่อ
นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น คะแนนนิยมยังไม่ตกได้รับเลือกให้นั่งเก้าอี้ประธานพรรครัฐบาล เสรีประชาธิปไตย ต่อเป็นสมัยที่ 2 แบบไร้คู่แข่ง สื่อชี้ ถือเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดได้ยากมากในแดนปลาดิบ ที่มักเปลี่ยนตัวผู้นำพรรคบ่อย,เมื่อวันที่ 8 ก.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นยังได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้น ได้รับเลือกจากสมาชิกร่วมพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือแอลดีพีให้ดำรงตำแหน่งประธานพรรคแอลดีพีเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ในการเลือกตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันนี้ (8 ก.ย.) จนนายอาเบะอาจสร้างประวัติศาสตร์ ได้นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรครัฐบาลในญี่ปุ่น ยาวนานที่สุด,ข่าวแจ้งว่า การรับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีของนายอาเบะ มีขึ้นแบบไร้คู่แข่ง เนื่องจากไม่มีผู้สมัครในพรรคลงชิงชัยแข่งขันกับเขา จนทำให้นายอาเบะ ซึ่งประกาศจะเดินหน้าสานต่อนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของเขาต่อไป จะได้เป็นตัวแทนของพรรคแอลดีพีลงชิงชัยตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งสมัยหน้า ในปี 2561,ก่อนหน้านี้ นายอาเบะเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคแอลดีพีมาแล้ว ในช่วงปี 2549-2550 และจากการที่นายอาเบะได้รับเลือกให้เป็นประธานพรรคแอลดีพีติดต่อเป็นสมัยที่ 2 ถือเป็นเหตุการณ์ทางการเมือง ในญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นได้ยากมาก เนื่องจากมักมีการเปลี่ยนตัวผู้นำบ่อย โดยสำนักข่าวเกียวโดในญี่ปุ่น รายงานว่า ยังไม่มีหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใดตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ที่จะหวนกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคโดยไร้คู่แข่งเหมือนกับนายอาเบะ
นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น คะแนนนิยมยังไม่ตกได้รับเลือกให้นั่งเก้าอี้ประธานพรรครัฐบาล เสรีประชาธิปไตยต่อเป็นสมัยที่ 2 สื่อชี้ ถือเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดได้ยากมากในแดนปลาดิบ ที่มักเปลี่ยนตัวผู้นำพรรคบ่อย
null
ชินโสะ อาเบะ,นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น,หัวหน้าพรรค,แอลดีพี,พรรครัฐบาล,เลือกหัวหน้าพรรค,ญี่ปุ่น,เสรีประชาธิปไตย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/523851
2 เด็กหญิงล่าชื่อยกเลิกของเล่นพลาสติกแถมอาหารฟาสต์ฟู้ดได้นับแสนชื่อ
พวกเธอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่าเพราะต้องการลดขยะพลาสติกและส่งเสริมให้ใช้วัตถุดิบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า27 มิ.ย. 2562 นับตั้งแต่แมคโดนัลด์ออกชุดอาหารสำหรับเด็ก แฮปปี้มีล เมื่อปี 2522 ก็ทำให้เด็กทั่วโลกได้รับอาหารพร้อมของเล่นเล็กๆ เป็นของแถม อย่างไรก็ตาม เด็กหญิงอายุ 9 ปี และ 7 ปี ชื่อ เอลลา และเคทลิน แมคอีวานได้ล่ารายชื่อคำร้องขอให้หยุดการแถมของเล่นพลาสติกพร้อมกับอาหารชุดพวกเธอเริ่มต้นคำร้องนี้ผ่านทางเว็บไซต์ change.org มาตั้งแต่ 8 เดือนที่แล้ว สาเหตุที่พวกเธอต้องการให้ยกเลิกการแถมของเล่นพลาสติกเป็นเพราะว่าอยากให้แฟรนด์ไชส์ฟาสต์ฟูดเหล่านี้ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ในเนื้อหาคำร้องของพวกเธอระบุว่า พวกเราชอบไปทานอาหารที่เบอร์เกอร์คิงส์และแมคโดนัลด์ แต่เด็กๆ มักจะเล่นของเล่นที่พวกเขาให้เรามาแค่เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่จะทิ้งไปซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสัตว์ สร้างมลภาวะต่อทะเลเอลลาและเคทลินกล่าวว่าพวกเธอได้เรียนรู้เรื่องมลภาวะจากพลาสติกจากที่โรงเรียน และได้เรียนรู้ว่าการทิ้งขยะพลาสติกอย่างไม่เหมาะสมจะสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมได้ เด็กหญิงทั้งสองคนเสนอว่าแทนที่จะทำของเล่นขึ้นมาจากพลาสติก บริษัทฟาสต์ฟูดควรจะลงทุนกับการผลิตของเล่นที่มาจากวัสดุอื่นๆ นอกเหนือจากพลาสติกพวกเราอยากให้อะไรก็ตามที่พวกเขาแถมให้เป็นสิ่งที่ยั่งยืน เพราะพวกเราจะสามารถปกป้องโลกเอาไว้เพื่อตัวพวกเราเองและเพื่อคนรุ่นหลัง เอลลาและเคทลินระบุในเนื้อหาคำร้องผ่านเว็บไซต์ change.orgคำร้องเรียนของพวกเธอมีผู้ลงนามแล้วอย่างน้อย 168000 รายชื่อ จากเป้าหมาย 200000 รายชื่อ พวกเธอได้ออกรายการวิทยุพูดถึงประเด็นนี้ในช่องบีบีซีวันเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา พวกเธอเชื่อว่าการปรากฏตัวในรายการวิทยุจะทำให้พวกเธอได้รายชื่อมากขึ้นและจูงใจให้แมคโดนัลด์กับเบอร์เกอร์คิง ทำการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนเมื่อ 3 เดือนที่แล้วพี่น้องคู่นี้ได้รับการตอบสนองจากเบอร์เกอร์คิงเกี่ยวกับการรณรงค์ของพวกเธอ ในถ้อยแถลงของเบอร์เกอร์คิงระบุว่าความคิดเห็นของสองพี่น้องนี้ถูกส่งไปถึงทีมผู้บริหารของบริษัทและหวังว่าพวกเขาจะสามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้ในอนาคต ในกรณีของแมคโดนัลด์นั้น พวกเธอได้รับเป็นคำตอบในแบบของระบบโต้ตอบแบบอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามทางแมคโดนัลด์ก็เคยประกาศว่าจะยกเลิกการใช้ฝาปิดพลาสติกและชามสลัดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งในอังกฤษเพื่อทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเบธ ฮาร์ต ผู้อำนวยการห่วงโซอุปทานของบริษัทแมคโดนัลด์สาขาอังกฤษและไอร์แลนด์กล่าวว่ามันเป็นการตัดสินใจครั้งล่าสุดของพวกเขาที่จะเกื้อหนุนด้านความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม และบอกอีกว่าพวกเขามีพันธกิจในการรับฟังลูกค้าของพวกเขาและแสวงหาทางออกร่วมกับผู้จัดหาวัตถุดิบในแบบที่นำมาใช้ได้ และพวกเขาจะมีนโยบายปรับเปลี่ยนวัตถุดิบเหล่านี้ต่อไป
เด็กนักเรียนหญิง 2 คนในอังกฤษล่ารายชื่อในเว็บไซต์ change.org เรียกร้องให้แมคโดนัลด์ และเบอร์เกอร์คิง สองร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ ยกเลิกการแถมของเล่นพลาสติกที่มาพร้อมกับชุดอาหารเด็ก
ต่างประเทศ,สิ่งแวดล้อม
ฟาสต์ฟูด,ขยะ,พลาสติก,เอลลา แมคอีวาน,เคทลิน แมคอีวาน,แมคโดนัลด์,เบอร์เกอร์คิง,การล่ารายชื่อ
https://prachatai.com/journal/2019/06/83161
ดาร์เมียน เปิดซิง ผีแดง ตบ พาเลซ 2-0 จี้ท็อปโฟร์ 1 แต้ม
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015/16 ประจำวันที่ 20 เม.ย. เป็นการแข่งขันในคู่ระหว่าง ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 ของตาราง เปิดสนาม โอลด์แทรฟเฟิร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ ปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 16 ของตาราง,เกมนี้เจ้าถิ่นต้องการ 3 แต้มเพื่อลดช่องว่างท็อปโฟร์ให้ได้ โดย หลุยส์ ฟานกัล นายใหญ่ของทีมเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากนัดล่าสุดเล็กน้อย โดย มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาประจำการหน้าเป้าผนึกกำลังร่วมกับ อองโธนีย์ มาร์เชียล และ เจสซี ลินการ์ด อีกครั้ง ขณะที่ เวย์น รูนีย์ หอกกัปตันทีม ถูกร่นมายืนตำแหน่งมิดฟิลด์แดนกลางแทน ส่วนทีมเยือนแนวรุกยังใช้งาน วิลเฟรด ซาฮา อดีตเด็กเก่าของเจ้าถิ่นลงลากเลื้อยร่วมกับ บาการี ซาโก โดยมี เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยืนเป็นหอกตัวเป้าคนเดียว,เริ่มเกมมาไม่ทันไร 4 นาทีเท่านั้นเจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะเติมเกมรุกขึ้นมาของ มัตเตโอ ดาร์เมียน ถึงเส้นหลังก่อนจะหักเข้ากลาง เดเมียน เดอลานีย์ ไม่ทันระวังสกัดผิดเหลี่ยมส่งบอลเข้าประตูตัวเอง,อีก 4 นาทีต่อมา ผีแดง เกือบได้ลูกที่สอง แรชฟอร์ด รับบอลจาก มาร์เชียล ก่อนจะไหลให้ ฮวน มาตา ตะบันด้วยซ้ายเดือดร้อนถึง สเปโรนี ต้องเซฟออกไป,ปิศาจแดง บุกต่อเนื่องนาทีที่ 23 อองโธนีย์ มาร์เชียล เกือบใส่สกอร์ที่สองให้เจ้าถิ่น หลังได้จังหวะยิงแต่ สเปโรนี บินปัดออกหลังไปอีกครั้ง,วันนี้เกมรุกของเจ้าถิ่นไหลลื่นดีจริงและพลาดโอกาสทองได้ลูกที่สอง ในนาทีที่ 39 แรชฟอร์ด ได้ยิงเสาแรก สเปโรนี ต้องปัดออกหลัง และจากจังหวะเตะมุม มาตา โยนมาให้กับ ลินการ์ด ยิงเน้นๆ แต่บอลก็ไปเข้าซองของ สเปโรนี อีกแล้ว,จบครึ่งแรกปิศาจแดง ยังไม่ได้ลูกที่สอง สกอร์ยังคงเดิมเจ้าถิ่นออกนำอยู่ 1-0,มาถึงครึ่งหลังนาทีที่ 55 ความพยายามของเจ้าถิ่นก็เป็นผล ได้ประตูหนีห่าง 2-0 จนได้จากลูกเตะมุม เดอลานีย์ เจ้าเก่า โขกเคลียร์ไม่ขาดบอลมาเข้าทาง มัตเตโอ ดาร์เมียน พักอกหนึ่งจังหวะก่อนวอลเลย์ด้วยซ้าย บอลทะยานฟ้าชนเสาในเข้าไปอย่างสวยสดงดงาม และเป็นประตูแรกในสีเสื้อปิศาจแดงของดาวเตะชาวอิตาเลียนรายนี้ด้วย,นาทีที่ 62 ปิศาจแดง ไม่ได้ลูกสามเหลือเชื่อ ลินการ์ด หลุดไปยิงเหน่งๆ บอลติดขา สเปโรนี แต่บอลมาเข้าทาง แรชฟอร์ด ยิงอีกหน แต่ สเปโรนี ก็ยังไวปัดออกไปได้หวุดหวิด,หลังจากนั้น ปิศาจแดง เริ่มครองบอลมากขึ้น โอกาสเข้าทำน้อยลงก่อนจะรักษาความได้เปรียบ กระทั่งจบเกมการแข่งขันส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไปแบบไม่ยากเย็น 2-0 เก็บ 3 แต้มไล่จี้ท็อปโฟร์เหลือ 1 แต้มแล้ว,ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นมีดังนี้,ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-0,เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ วัตฟอร์ด 3-1
มัตเตโอ ดาร์เมียน ซัดประตูสุดสวยและเป็นประตูแรกในสีเสื้อ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พาต้นสังกัดเปิดบ้านเอาชนะ ปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ ไปแบบสบายๆ 2-0 เก็บ 3 แต้มสำคัญไล่จี้ท็อปโฟร์เหลือแต้มเดียวแล้ว
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,มัตเตโอ ดาร์เมียน,คริสตัล พาเลซ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ผลบอล,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/608715
สำรวจวัดและปราสาทเขมรยุคปลาย เมื่อเถรวาทรุ่งเรืองในเมืองพระนคร
นอกจากปราสาทบายนและพระราชวังหลวงที่ถือเป็นจุดเด่นของเมืองนครธมแล้ว ถ้าใครเคยไปเที่ยวจะเห็นได้ว่า ตลอดถนนสองข้างทางนั้นมีวัดพุทธอยู่หลายแห่ง ที่เห็นชัดๆ คือรอบปราสาทบายนมีวัดที่ยังมีพระสงฆ์และแม่ชีประจำวัดมากถึง 3 แห่งด้วยกัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อาจคิดว่าเป็นวัดใหม่ ก็จะละเลย ไม่ได้เข้าไปดู บ้างก็ไม่มีเวลา ไกด์ไม่พาเข้าไปบ้าง หรือไม่ ความยิ่งใหญ่ของปราสาทบายนก็บดบังความน่าสนใจของวัดพวกนี้ไปเสียทว่า ในแง่มุมของการศึกษาโบราณคดีแล้ว วัดเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นหลักฐานที่สำคัญมาก เพราะแสดงถึงการเปลี่ยนผ่านทางศาสนา จากเดิมที่นับถือพุทธศาสนามหายานไปสู่ศาสนาพุทธเถรวาท และยังสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์ของอยุธยาอีกด้วยบทความนี้ ผมจะพาไปสำรวจวัดเหล่านี้อย่างคร่าวๆ เผื่อโอกาสหน้าผู้อ่านมีโอกาสไปจะได้พินิจเยี่ยมชมวัดกลุ่มนี้มากขึ้น จะได้เก็บเกี่ยวอะไรมากกว่าการไปดูปราสาทนครวัด ปราสาทบายน เพียงอย่างเดียวประตูทางเข้าเมืองนครธม ยอดประตูประดับด้วยใบหน้าของเทพองค์ใดองค์หนึ่ง อาจเป็นบริวารของพระอินทร์ หรือใบหน้าของพระโพธิสัตว์ยุคเปลี่ยนศาสนา ทำลายรูปเคารพ ก่อนเป็นพุทธเถรวาทในช่วง พ.ศ. 1700-1850 นับเป็นช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นของประวัติศาสตร์แถบกัมพูชา-ไทย เพราะมีทั้งความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธ และการทำลายพระพุทธรูป โดยในกัมพูชาปรากฏหลักฐานค่อนข้างชัดเจน แต่ในไทยนี่แทบจะเรียกได้ว่า เป็นช่องว่างของความรู้ นักวิชาการท่านหนึ่งถึงกับเรียกยุคนี้ว่า ยุคมืด เลยทีเดียวผมขอเล่าถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางศาสนาในกัมพูชาสักหน่อยคือ เมืองนครธม หรือเอกสารฝ่ายไทยมักเรียกว่า เมืองอินทปัตถ์ นั้นเป็นเมืองที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (ครองราชย์ พ.ศ. 1724-1761) ทรงสร้างขึ้น มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างยาวด้านละ 3 กม. กลางเมืองมีปราสาทสำคัญคือ ปราสาทบายน ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากยอดปราสาทที่ทำเป็นใบหน้าของเทพองค์ใดองค์หนึ่ง ซึ่งทฤษฎีเดิมกล่าวว่าเป็นพระพรหม และภายหลังมีทฤษฎีใหม่ๆ ที่เชื่อว่า อาจเป็นหน้าของพระโพธิสัตว์หรือหน้าของเหวัชระ แต่ไม่ว่าจะเป็นหน้าของเทพองค์ใด ที่แน่ๆ ปราสาทนี้สร้างขึ้นเนื่องในพุทธศาสนามหายานหลังจากพระองค์สวรรคต รัชทายาทของพระองค์คือ พระเจ้าอินทรวรมันที่ 2 ยังคงนับถือพุทธมหายานอย่างเหนียวแน่น จนกระทั่งพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ขึ้นครองราชย์ เมื่อ พ.ศ. 1786 ไม่ทราบด้วยเหตุผลใด พระองค์ได้หันมานับถือศาสนาพราหมณ์ และเชื่อว่า เป็นช่วงเวลาที่ปราสาทหินและพระพุทธรูปจำนวนมากที่สร้างในพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั้นถูกทำลาย ในภาษาวิชาการเรียกว่า Iconoclasm คือลัทธิทำลายรูปเคารพถ้าหากผู้อ่านได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ปราสาทบายนหรือปราสาทตาพรหม ลองสังเกตกันดูจะพบว่า ภาพสลักของพระพุทธเจ้าถูกกะเทาะหายไป หรือบ้างก็พยายามแปลงให้กลายเป็นศิวลึงค์ แต่การทำลายนี้ก็จำกัดวงอยู่เฉพาะในเขตกัมพูชาเท่านั้น และยังไม่ทราบเหตุผลที่แน่นอนว่าทำไมปราสาทบายน ศูนย์กลางของนครธมในช่วงสมัยที่พุทธมหายานกำลังรุ่งเรืองนั้น ศาสนาพุทธเถรวาทก็ค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมีจุดเปลี่ยนสำคัญคือ เมื่อพระเจ้าปรากรมพาหุที่ 1 ทรงปฏิรูปศาสนาในลังกาเมื่อ พ.ศ. 1708 ได้ส่งผลทำให้เกิดความนิยมในศาสนาพุทธเถรวาทมากขึ้นในกลุ่มบ้านเมืองต่างๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกลายเป็นศาสนาทางเลือกหนึ่ง ความนิยมนี้ถึงขั้นที่พระโอรสองค์หนึ่งของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ไปบวชเรียนที่ลังกากันเลยด้วยหลายๆ ปัจจัยที่ยังไม่แน่ชัด พระเจ้าอินทรวรมันที่ 3 หรือรู้จักกันในอีกพระนามหนึ่งคือ พระเจ้าศรีนทรวรมัน (พ.ศ. 1838-1851) ผู้เป็นลูกเขยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธเถรวาทแทน และน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างศาสนสถาน เนื่องในศาสนาพุทธเถรวาทขึ้นศาสนสถานพวกนี้ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การสร้างวิหารขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยใบเสมา มีพระประธานปางมารวิชัยเป็นประธาน และมีเจดีย์หรือปราสาทเป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งสะท้อนอิทธิพลที่ได้รับจากทางลังกา ทั้งหมดนี้แตกต่างจากแนวคิดเดิมของการสร้างปราสาทในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่เน้นปราสาทขนาดใหญ่ ไม่มีวิหาร และไม่มีใบเสมาประกอบปราสาทนครวัด หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งควรไปเที่ยวสักครั้งหนึ่งในชีวิตวัดพุทธเถรวาทใต้แมกไม้เมืองนครธมภายใต้แมกไม้ใหญ่ที่ปกคลุมเมืองนครธมนั้น ความจริงแล้วมีวัดเนื่องในศาสนาพุทธเถรวาทกระจายตัวอยู่มากกว่า 70 วัดด้วยกัน แต่ยังไม่ได้รับการขุดแต่งขุดค้น เพราะจำกัดด้วยงบประมาณจำนวนของวัดที่มากเท่านี้สำคัญอย่างไร คือจากเดิมที่มักจะมองกันว่า หลังจากรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ลงมานั้น การก่อสร้างต่างๆ ในเมืองนครธมนั้นแทบจะไม่มี และมักจะกล่าวกันว่า ปราสาทหลังสุดท้ายที่สร้างในเมืองนครธมนั้นคือ ปราสาทมังคลธะ นั้นอาจต้องมาพิจารณากันใหม่เพราะความจริงแล้ว ประเพณีของการทำปราสาทนั้นยังคงสืบทอดต่อมา แต่เมื่อความเชื่อเปลี่ยน รูปแบบสถาปัตยกรรมก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย ดังนั้น จึงพบปราสาทบางหลังที่สร้างขึ้นใหม่ แต่มีขนาดย่อม และยังสร้าง วิหาร หรือ พระวิหาร เป็นจำนวนมาก ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมปราสาทหลายหลังที่ถูกแปลงกลายเป็นวัดพุทธเถรวาท เช่นที่มีชื่อเสียงสุดที่คือ ปราสาทนครวัดแอนดูว แฮร์รีส นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยโทรอนโต ได้สำรวจบุกป่าฝ่าดง จนพบวิหารสมัยเมืองพระนครช่วงปลายเป็นจำนวนมาก โดยพบว่า วัดพวกนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มกลุ่มแรก เป็นวัดที่มีปราสาทเป็นศูนย์กลาง แต่ไม่มีใบเสมา พบจำนวน 12 แห่ง วัดกลุ่มนี้ถูกเรียกในภาษาวิชาการว่า Terrace Structureกลุ่มที่สอง เป็นวิหารที่มีใบเสมาปักล้อมรอบ เรียกว่า วิหาร (Vihar) วัดทั้งสองกลุ่มมักตั้งอยู่ใกล้กับแนวถนนโบราณ โดยเฉพาะเส้นจากทางใต้ขึ้นไปทางเหนือ และกระจุกตัวในเขตพระราชวังหลวงทางด้านเหนือและทิศตะวันออก พบจำนวน 59 แห่ง ถ้าดูจากแผนที่ สังเกตได้ว่า พื้นที่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองนครธมนี้ไม่ค่อยพบวัด นั่นเป็นเพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพระราชวังหลวงนั่นเองแผนที่ตำแหน่งของวัดหรือปราสาทเนื่องในพุทธศาสนาเถรวาทในเมืองนครธม (ที่มาของแผนที่ Google Earth)ในบรรดาวิหารและปราสาทกว่า 70 แห่งนี้ ผมมีปัญญาสำรวจได้เพียงแค่บางแห่งที่เข้าถึงได้ง่ายๆ เท่านั้น เพราะแค่ต้องการเข้าใจรูปแบบทางสถาปัตยกรรมเนื่องในพุทธศาสนาเถรวาทยุคต้นๆ เท่านั้น ขืนถ้าต้องสำรวจแบบบุกป่าฝ่าดงทั้งหมด นอกจากจะเสี่ยงแล้ว ยังอาจทำให้เขียนวิทยานิพนธ์ไม่เสร็จสักที งานงอกนั่นแหละครับกลุ่มวัดที่ผมสำรวจเป็นอันดับต้นๆ คือ กลุ่มที่อยู่ทางเหนือของพระราชวังหลวง ที่สำคัญได้แก่ ปราสาทวัดป่าเลไลยก์ วัดเทพพนม และปราสาทพระพิธู จากนั้นคือกลุ่มที่อยู่ตามแนวถนนโบราณและรอบปราสาทบายน ซึ่งเป็นวิหารขนาดเล็กๆวัดป่าเลไลยก์ถึงจะอยู่ในแผนที่การท่องเที่ยว แต่น้อยคนจะเข้าไป เพราะปราสาทค่อนข้างเล็กและไม่สมบูรณ์ เรียกว่าถ้าคนไม่สนใจก็จะเฉยๆ แต่ถึงจะเป็นปราสาทขนาดเล็ก แต่มีของดีซ่อนอยู่ ที่โคปุระ (ประตูทางเข้า) ของวัดมีภาพสลักหินที่บอกเล่าพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า โดยมีด้านหนึ่งทำเป็นปางปาลิไลยก์คือ ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปอยู่ที่ป่าเลไลยก์ แล้วมีช้างและลิงถวายการปรนนิบัติ ก่อนเดินเข้าโคปุระจะมีวิหารขนาดย่อมอยู่หลังหนึ่ง ที่ท้ายของวิหารนี้มีพระพุทธรูปหินทรายขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ซึ่งไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นของเก่า และตั้งอยู่ในตำแหน่งดั้งเดิม วิหารนี้เดิมคงสร้างด้วยเครื่องไม้มุงกระเบื้อง แต่พังทลายลงมาหมดปราสาทประธานวัดป่าเลไลยก์ นักวิชาการบางคนเสนอว่า มีลักษณะร่วมกับปรางค์วัดราชบูรณะ ที่ทำเป็นฐานสูงเช่นเดียวกันช้างกำลังถวายอาหารแด่พระพุทธเจ้า ภาพสลักที่โคปุระของวัดป่าเลไลยก์วัดเทพพนมเป็นวัดที่มีวิหารขนาดใหญ่มาก เท่าที่กะด้วยสายตาคงมีขนาดยาวไม่ต่ำกว่า 40 เมตร มีใบเสมาคู่ล้อมรอบ ที่ท้ายของวิหารมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประทับนั่งปางมารวิชัย ความสูงประมาณ 5 เมตร นอกจากนี้ด้านท้ายของวิหารยังมีพระพุทธรูปประทับยืนทำจากหิน 1 องค์ เป็นศิลปะแบบหลังบายน หรือเราอาจเรียกว่าเป็นศิลปะพุทธเถรวาทวัดนี้น่าสนใจตรงที่รอบวิหารมีเจดีย์ขนาดเล็กอยู่รายรอบจำนวน 27 องค์ ซึ่งรูปแบบของแผนผังแบบนี้คล้ายคลึงกับที่วิหารวัดพระพายหลวง เมืองเก่าสุโขทัย เรื่องนี้ผมได้ข้อสังเกตมาจากอาจารย์ของผมที่ลอนดอนคือ ดร.แอชลีย์ ทอมป์สัน ซึ่งเป็นไปได้ที่ทั้งสองแห่งนี้จะมีความสัมพันธ์กันไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งก่อนที่รับอิทธิพลกัน แต่อย่างน้อยที่สุดแสดงว่าในช่วงราว พ.ศ. 1800-1850 นั้นคงมีพระสงฆ์และกลุ่มช่างเดินทางถึงกันระหว่างเมืองสุโขทัยกับเมืองนครธมนั้นเจดีย์รายทำจากหินที่อยู่รอบวิหารวัดเทพพนม คล้ายคลึงกับที่วัดพระพายหลวงวิหารขนาดใหญ่ของวัดเทพพนมทำจากหินทราย ด้านหน้ามีสิงห์และพญานาคประดับสมุดบันทึกภาคสนามของผู้เขียน วาดแผนผังของวัดเทพพนม ซึ่งประกอบด้วยวิหาร เจดีย์รายรอบวิหาร และวิหารต่างๆ ในพื้นที่ ตัวเลขด้านบนนั้นเป็นพิกัดทางภูมิศาสตร์ (GPS)เจดีย์รายทำจากศิลาแลงที่วัดพระพายหลวง ประดับอยู่รอบวิหาร ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์กับวัดเทพพนมที่กัมพูชาปราสาทพระพิธู ปราสาทนี้เดินเข้าไปค่อนข้างไกลหน่อยจากแนวถนน ปราสาทหลังนี้ปัจจุบันมีป้ายปักด้านหน้าในชื่อ Ta Tuot Temple ซึ่งทำให้ผมหลงทางอยู่สักพักหนึ่งเลย แต่โชคดีที่เจอกับชาวกัมพูชาที่กำลังเก็บฟืน จึงบอกว่าคือที่นี่ ปราสาทพระพิธูมีความน่าสนใจตรงที่ห้องโถงภายในห้องโถงภายในของปราสาทประธานมีการแกะสลักภาพพระพุทธเจ้า 31 องค์ อยู่ในซุ้มเรือนแก้ว การจัดวางองค์ประกอบเช่นนี้คล้ายกับจิตรกรรมในปรางค์สมัยอยุธยาตอนต้น เช่น ปรางค์วัดมหาธาตุราชบุรี นอกจากนี้มีบางองค์ที่มีเปลวรัศมีเป็นเปลวเพลิงแบบสุโขทัย แสดงว่าจะต้องมีความสัมพันธ์กันในทางศิลปะและศาสนา และอาจกำหนดอายุให้อยู่ในช่วง พ.ศ. 1800-1900 เช่นกันภาพสลักหินพระพุทธรูปที่ประดับในปราสาทประธานของปราสาทพระพิธู สะท้อนความสัมพันธ์กับศิลปะอยุธยาถัดจากกลุ่มปราสาทพวกนี้ ผมขอข้ามไปสู่การสำรวจวิหาร โดยเลือกยกตัวอย่างเพียงวัดเดียวเท่านั้น ซึ่งผมว่าน่าสนใจคือ วัดพระง็อก วัดนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของปราสาทบายน ติดกับแนวถนนใหญ่ และเป็นทางที่สามารถเดินไปปราสาทบาปวนได้ วัดนี้มีจุดน่าสนใจอยู่ 3 สิ่งด้วยกันอย่างแรกมีวิหารขนาดใหญ่ มีทางเข้าอยู่ทางทิศตะวันออก ขนาดของวิหารยาวสัก 20 เมตร เห็นจะได้ รอบวิหารปักใบเสมาคู่ขนาดใหญ่ ลักษณะเด่นของใบเสมาเขมรคือ การทำกลีบบัวเป็นยอดอยู่บนหัวของเสมา ท้ายวิหารมีพระประธานทำจากหินทรายขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ ด้านท้ายของวิหารมีฐานของอาคารอยู่หลังอาจเป็นเจดีย์ ถ้าพิจารณาจากแผนผังของวัดในสมัยอยุธยาที่มักจะทำเจดีย์ไว้ท้ายวิหารใบเสมาคู่ขนาดใหญ่หน้าวิหารวัดพระง็อกอย่างที่สอง โลงศพหิน โลงศพหินนี้วางอยู่หลายใบที่ด้านทิศตะวันตกของฐานเจดีย์ ไม่ทราบที่มาที่ไปชัดเจน แต่คงจะเป็นของในวัดนี้ เพราะไม่พบในวัดอื่น ที่มองว่าเป็นโลงศพไม่ใช่อ่างล้างเท้า เพราะมีการเจาะรูเอาไว้ ไม่แน่ใจว่าเดิมใส่ศพจริงๆ หรือไม่ หรือใส่เพียงอัฐิ ประเพณีการใช้โลงศพนี้ไม่ได้เป็นของใหม่ แต่พบในสมัยก่อนหน้านั้น เช่น ปราสาทบันทายสำเร โลงศพพวกนี้คงมีไว้สำหรับชนชั้นสูงหรือเจ้านาย และต่อมาโลงพวกนี้ก็คงแปลงกลายเป็นโกศแบบหนึ่งที่นิยมนำไปฝังไว้ใกล้กับฐานของเจดีย์กลุ่มของโลงศพท้ายฐานเจดีย์ที่วัดพระง็อกอย่างที่สามคือ สถูปหรือเจดีย์ ที่อยู่ใกล้กับฐานเจดีย์ มีอยู่ 2 องค์ สภาพเกือบสมบูรณ์ 1 องค์ จากรูปแบบลวดลายที่องค์ระฆังของเจดีย์คาดว่าคงสร้างขึ้นราวปลายพุทธศตวรรษที่ 18 หรือหลังจากนั้นเล็กน้อย ทรวดทรงของเจดีย์แบบนี้อาจเทียบเคียงได้กับเจดีย์ในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้น เช่น เจดีย์องค์หนึ่งที่วัดมหาธาตุ จังหวัดลพบุรี และคล้ายกับกลุ่มของเจดีย์ในสายสุพรรณภูมิที่นิยมทำเจดีย์ทรงระฆังรองรับด้วยฐานแปดเหลี่ยมเจดีย์ที่อยู่หลังวิหารวัดพระง็อกมีรูปแบบร่วมสมัยกับเจดีย์สมัยอยุธยาตอนต้นหรือก่อนอยุธยาบทความนี้ค่อนข้างยาวสักนิด แต่คิดว่าคงช่วยให้ผู้อ่านได้เห็นว่า เมืองพระนครนั้นไม่ได้มีแค่ปราสาทหลังใหญ่ๆ เช่น นครวัดหรือบายนเท่านั้น หากแต่ยังมีกลุ่มของศาสนสถานที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของศาสนาในกัมพูชารวมถึงไทย และช่วยทำให้เห็นว่า ทั้งไทยและเขมรนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างแนบชิดกันมานานแล้วหลายร้อยปี พูดอีกแบบคือ การจะเข้าใจพัฒนาการของศาสนาพุทธไทยนั้นต้องทำให้ความเข้าใจศาสนาพุทธเขมรด้วยครับพิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
เมืองพระนครนั้นไม่ได้มีแค่ปราสาทหลังใหญ่ๆ เช่น นครวัดหรือบายนเท่านั้น หากแต่ยังมีกลุ่มของศาสนสถานที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของศาสนาในกัมพูชารวมถึงไทย และช่วยทำให้เห็นว่า แต่ยังไม่ได้รับการขุดแต่ง ขุดค้น เพราะจำกัดด้วยงบประมาณจำนวนของวัดที่มากเท่านี้สำคัญอย่างไร คือจากเดิมที่มักจะมองกันว่า หลังจากรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ลงมานั้น การก่อสร้างต่างๆ ในเมืองนครธมนั้นแทบจะไม่มี และมักจะกล่าวกันว่า ปราสาทหลังสุดท้ายที่สร้างในเมืองนครธมนั้นคือ ปราสาทมังคลธะ นั้นอาจต้องมาพิจารณากันใหม่
null
null
https://thestandard.co/khmer-architecture/
Christo เตรียมกลับมาห่ออีกครั้งในรอบ 10 ปี และแผนของเขาคือห่อ Arc de Triomphe
คริสโต ศิลปินวัย 84 ปี ชาวบัลแกเรีย ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการห่อเป็นที่สุด กำลังจะกลับมาทำงานในสไตล์ของเขาอีกครั้งในรอบ 10 ปี นับจากการจากไปของ ฌอง-โคลด ภรรยาศิลปินของเขาที่เคยร่วมมือกันเอาผ้าห่ออาคารไรชส์ทาค ในเมืองเบอร์ลินกันมาแล้วเมื่อปี 1995 และครั้งนี้เขาจะบินเดี่ยว ซึ่งล่าสุดรัฐบาลฝรั่งเศสอนุญาตให้เขาทำงานชิ้นใหม่ได้แล้วด้วยการห่อประตูชัยด้วยผ้าที่มีขนาดใหญ่เท่ากับโซน ICONLUXE ของไอคอนสยามหลังจากเมื่อปีก่อน คริสโตเพิ่งฝากความฮือฮาให้ชาวลอนดอนด้วยการวางภูเขาถังน้ำมันสีสันสดใสไว้กลางไฮด์ปาร์ก ในปีหน้านี้เขาพร้อมจะสร้างบันทึกใหม่ให้ประวัติการทำงานของเขาด้วยการนำผ้าโพรพิลีนสีฟ้าเหลือบเงินขนาดราว 25000 ตารางเมตร และเชือกสีแดงที่มีความยาวรวมๆ ประมาณ 7010 เมตร คลุมประตูชัย สถาปัตยกรรมชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเขาได้รับความร่วมมือจาก The Center for National Monuments หน่วยงานของรัฐบาลฝรั่งเศสที่ดูแลรักษาและฟื้นฟูอาคารสถานที่และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อห่อประตูชัยให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งน่าจะเปิดให้ผู้ชมได้เห็นกับตาตัวเองได้ในช่วงเดือนเมษายนปีหน้านี้อยากรู้ว่าคริสโตและฌอง-โคลดเคยห่ออะไรมาแล้วบ้าง สามารถรับชมผลงานของเขาเพิ่มเติมได้ที่ christojeanneclaude.net ภาพ: Christo and Jeanne-Claude พิสูจน์อักษร: อ้างอิง:
คริสโต ศิลปินวัย 84 ปี ชาวบัลแกเรีย ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการห่อเป็นที่สุด กำลังจะกลับมาทำงานในสไตล์ของเขาอีกครั้งในรอบ 10 ปี และล่าสุดรัฐบาลฝรั่งเศสอนุญาตให้เขาทำงานชิ้นใหม่ได้แล้ว นั่นคือการห่อประตูชัยด้วยผ้าที่มีขนาดใหญ่เท่ากับโซน ICONLUXE ของไอคอนสยาม
null
null
https://thestandard.co/christo-to-wrap-the-arc-de-triomphe-in-paris/
ผู้ช่วยผบ.ตร.ตรวจเยี่ยม สภ.บ้านไผ่ กำชับออกเหตุต้องมียุทธวิธีกันสูญเสีย
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 และคณะตรวจเยี่ยมติดตามผลการปฏิบัติงานของตำรวจ สภ.บ้านไผ่ โดยมี พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ นายธวัชชัย รอดงาม นายอำเภอบ้านไผ่ และคณะต้อนรับ พร้อมกับตำรวจ สภ.บ้านไผ่ นำเทคโนโลยีสำหรับการปฏิบัติงานมาจัดแสดงด้วย,พล.ต.ท.วิสนุ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า วันนี้ นอกจากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แล้วได้เน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ต้องมีใจเป็นจิตอาสา ในการบริการความสะดวกให้ประชาชนในทุกด้านอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส เพราะนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ต้องการให้ทุกสถานีตำรวจยกระดับการบริการในทุกด้าน ต้องตอบสนองความต้องการของประชาชนให้ได้มากยิ่งขึ้น ต้องไม่มีผู้มีอิทธิพล ไม่มียาเสพติด สถานบันเทิงต้องปิดตรงเวลา ต้องปลอดอาชญากรรมทุกประเภท เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อให้สังคมต้องเป็นสุข,สำหรับ สภ.บ้านไผ่นั้น ได้นำนโยบายมาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมเป็นการยกระดับการบริการของสถานีตำรวจทั้งในและนอกสถานี มีการประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ประชาชน เข้าใจถึงวิธีป้องกันตนเองจากอาชญากรรม ยาเสพติด มีการใช้แอปพลิเคชัน Police i lert u แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายมายังสถานีตำรวจ มีการปลูกฝังให้ตำรวจมีจิตใจบริการ โดยประชาชนที่เข้ามาใช้บริการบนจะต้องได้รับการบริการที่ดี ตำรวจต้องยิ้มแย้มแจ่มใส เต็มใจให้บริการประชาชน เมื่อเดินออกไปจะต้องมีรอยยิ้มกลับไป มีการพัฒนาอาคารสถานที่ให้สะอาดและพร้อมบริการประชาชน,พล.ต.ท.วิสนุ กล่าวต่อว่า นอกจากการยกระดับสถานีตำรวจแล้ว ตำรวจผู้ปฏิบัติงานให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขต้องมีความปลอดภัยด้วย เพราะเมื่อไม่นานมานี้ พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 ได้สูญเสียตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ไป 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม ต้องมียุทธวิธีในการปกป้องตัวเองและป้องกันตัวอย่างดีด้วย.
วิสนุ ปราสาททองโอสถ ลงพื้นที่ สภ.บ้านไผ่ ตรวจเยี่ยมติดตามการปฏิบัติงานพร้อมให้กำลังใจกำลังพล ชมมีการยกระดับการบริการประชาชนตามนโยบาย
ข่าว,ทั่วไทย
ยกระดับโรงพัก,ตรวจเยี่ยมโรงพัก,สภ.บ้านไผ่,วิสนุ ปราสาททองโอสถ,ตำรวจ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1283226
ยึดได้เพียบหนังเสือ-เขี้ยว-ตะกรุด คาดทำของขลัง จ่อค้นกุฏิหลวงตาจันทร์
จากปฏิบัติการตรวจยึดเสือของกลางที่ฝากเลี้ยงไว้ที่วัดป่าหลวงตาบัว หรือวัดเสือ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จำนวน 137 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ แห่งชาติ นำโดย นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นางเตือนใจ นุชดำรงค์ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เข้าดำเนินการตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 2 มิ.ย. สามารถขนย้ายเสือไปได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น ขณะเดียวกันได้พบซากของลูกเสือจำนวน 40 ตัว แช่เย็นไว้ในห้องเย็นที่ใช้เก็บอาหารเสือ ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยว่า จะมีการทำเครื่องรางของขลังจากชิ้นส่วนของเสือหรือไม่ (,จนท.พบซากลูกเสือ 40 ตัว กับหัวสัตว์ซุกในห้องเย็นวัดป่าหลวงตาบัว,),วันที่ 2 มิ.ย. ในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้ดำเนินการขนย้ายเสือ เพิ่มอีกจำนวน 20 ตัว 20 ตัว  ส่วนช่วงบ่ายน่าจะได้อีกประมาณ 20 ตัว รวมจับเสือแล้ว 104 ตัว นอกจากนี้ได้ตรวจพบ วัวแดง 1 ตัว และไม้แปรรูปจำนวนหนึ่ง ยังไม่ทราบชนิดของไม้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ,จากนั้นเวลา 12.40 น. นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธบดีกรมอุทยานฯ ได้รับรายงายว่า เจ้าหน้าที่ประตูทางออกของวัด มี ชาย2คนพร้อมพระ1รูป นั่ง ขับรถยนต์กระบะ โตโยต้า ไทเกอร์ หมายเลขทะเบียน ชษ 5583 กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ได้ตรวจรถยนต์พบหนังเสือ และสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากเสือจำนวนหนึ่ง จึงได้ตรวจยึดไว้ ประกอบด้วย 1. หนังเสือ 2 ผืนใหญ่ (ตัว) 2. ตะกรุดหนังเสือ 1,045 ชิ้น 3. เขี้ยวเสือ 9 เขี้ยว 4. หนังเสือชิ้น 33 ชิ้น (ขนาดเล็ก) 5. เหรียญหลวงตามหาบัว 65 เหรียญ 6. เหรียญหลวงตาจันทร์ 13 เหรียญ 7. ตะกรุดเขี้ยวเสือ 2 ดอก   ,พร้อมกันนี้ได้ควบคุมตัวชาย 2 คน ทราบว่า ชื่อนายก้องเกียรติ จันเพ็ง อายุ 37 ปี และนายเนตร กุลเรืองไกล อายุ 42 ปี ทั้งสองเป็นชาว อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี คาดว่าเป็นลูกศิษย์วัด ซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนในรายละเอียด ล่าสุดมีรายงานว่าทางฝ่ายเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการเพื่อเข้าตรวจค้นภายในกุฏิของหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดเสือด้วย,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าการที่สามารถตรวจยึดของกลางในครั้งนี้ เนื่องมาจากผู้ครอบครองต้องการโยกย้าย และเป็นการอำพรางการตรวจของเจ้าหน้าที่ที่ทำการเฝ้าประตู โดยทำเป็นออกไปบิณฑบาตตอนเช้า ซึ่งทำติดต่อกันเป็นเช้าที่ 4 แล้ว ขณะที่ชาวบ้านบอกว่าพระวัดนี้ไม่เคยออกบิณฑบาต เมื่อมีพระในวัดออกบิณฑบาตทุกเช้าจึงเป็นที่ผิดสังเกต,ต่อมา นายอดิศรสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปูพรมตรวจค้นตามอาคารต่างๆ ในวัด จุดแรก อาคาร 2 ชั้นที่เลี้ยงเสือเก่า พบ ลูกเสือพร้อมอวัยวะเสือดองในโหลเป็นจำนวน 31 โหล อวัยวะหมีควายดอง 1 โหล  รวม 32 โหล เขากวางอ่อน และอุปกรณ์การผลิตอาหารเสริม เขากวางอ่อนพลังเสือ มีสติกเกอร์ป้ายแสดงสรรพคุณเป็นอาหารเสริม  ,จุดที่สอง ศาลาเก็บของข้างศาลาการเปรียญ พบไม้แปรรูป ประดู่ 19 แผ่น ขนาด กว้าง 60 ซม. หนา 5 ซม. ยาว 3 เมตร ไม้สักแปรรูป 8 แผ่น  กว้าง 50 ซม. หนา 10 ซม. ยาว 4 เมตร รวมปริมาตร 5.886 ลบ.เมตร  ,จุดที่สามกุฏิ หลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาส พบล็อกเกตหลวงตาจันทร์แปะหนังเสือ 54 องค์ หนังเสือแผ่นเคลือบพลาสติก 44 ชิ้น ตะกรุดหนังเสือ 410 ดอก ซากกะโหลกหัวกระทิง 1 หัว เขาละมั่ง 4 กิ่ง เขี้ยวเสือ 1 เขี้ยว เจ้าหน้าที่จึงบันทึกตรวจยึดไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนต่อไป. 
จนท.กรมอุทยานฯ ตะลึงไปอีก เข้ายึดเสือที่วัดป่าหลวงตาบัว ล่าสุดเจอวัวแดง ไม้แปรรูปยิ่งกว่านั้นมีชาย 2 คนกำลังขนเครื่องรางของขลังออกจากวัด มีทั้งหนังเสือทั้งตัว เขี้ยวเสือ ตะกรุดหนังเสือกว่าพันดอก เตรียมค้นกุฏิหลวงตาจันทร์
null
ยึดเสือ,วัดเสือ,วัดป่าหลวงตาบัว,เขี้ยวเสือ,เสือของกลาง,กรมอุทยาน,เสือวัดป่า,หลวงตาบัว,ไทรโยค,กาญจนบุรี,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/630623
ก.แรงงาน ลุยสมุทรสาคร เยี่ยมแรงงานมนุษย์ไฟฟ้า ในโรงงานผลิตอาหาร
อดุลย์ ควง อธิบดี กพร. ลงพื้นที่สมุทรสาครตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการ มโนราห์อุตสาหกรรมอาหาร เพื่อเยี่ยมแรงงานปฏิบัติงานด้านช่างไฟฟ้า ที่ผ่านการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้เข้ารับการประเมิน เพื่อรับหนังสือรับรองรับรองความรู้ความสามารถ เป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมาย,พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน ได้มอบนโยบายระดับพื้นที่ (Area Based) ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดต่างๆ และภาคีเครือข่าย มีการบูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดความคล่องตัว และบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมกับขับเคลื่อนนโยบาย 3A ด้วยการลงพื้นที่ในแต่ละจังหวัด รวมถึงการตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการในแต่ละพื้นที่ เพื่อชี้แจงและติดตามการปฏิบัติงานด้านแรงงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ได้ตรวจเยี่ยมบริษัท มโนราห์อุตสาหกรรมอาหาร จำกัด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นสถานประกอบกิจการด้านผลิตข้าวเกรียบและขนมขบเคี้ยวชนิดต่างๆ,ทั้งนี้ นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสมุทรสาคร และสำนักงานรับรองความรู้ความสามารถ ร่วมตรวจเยี่ยม ประชาสัมพันธ์การพัฒนาฝีมือแรงงาน การทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน การส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการดำเนินการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานของตนเองตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน 2545 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการปฏิบัติงานด้านช่างไฟฟ้าที่ต้องดำเนินการโดยช่างที่ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ,การออกตรวจเยี่ยมผู้ประกอบกิจการในครั้งนี้ สำนักงานรับรองความรู้ความสามารถ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติงานด้านระบบไฟฟ้าภายในอาคาร ซึ่งผู้ดำเนินการในสาขาอาชีพดังกล่าว ต้องดำเนินการโดยผู้ที่ได้รับการรับรองความรู้ความสามารถแล้วเท่านั้น เพื่อให้สถานประกอบกิจการให้ความสำคัญต่อชีวิตและทรัพย์สิน ที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุระบบไฟฟ้าขัดข้อง ซึ่งเป็นการลดความสูญเสียได้ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมช่างไฟฟ้าหรือบุคลากรที่เกี่ยวข้อง มีโอกาสในการยกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ (Super Worker) ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงแรงงาน ด้าน Safety Thailand พร้อมกับให้คำแนะนำในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินความรู้ความสามารถ ผ่านแอพพลิเคชั่น เพียงค้นหาโดยพิมพ์คำว่า DSD Smart Skill and Services ก็สามารถศึกษาข้อมูลหรือค้นหาช่างไฟฟ้าที่ผ่านการประเมินได้อีกด้วย สะดวกทั้งผู้ที่สนใจเข้ารับการประเมินและผู้ที่ต้องการใช้บริการช่างไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน,จะมีการขยายผลการตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากการประกาศตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ที่ต้องตระหนักและให้ความสำคัญของการป้องกันอุบัติเหตุต่อสาธารณะ ซึ่งตรวจเยี่ยมดังกล่าวได้มอบหมายให้สถาบันฯ และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานในแต่ละจังหวัดวางแผนออกตรวจเยี่ยมและให้คำแนะนำในด้านต่างๆ ต่อไป ดังนั้น จึงของเชิญชวนให้ผู้ประกอบอาชีพช่างไฟฟ้า นายจ้างและสถานประกอบกิจการ ส่งพนักงานเข้าทดสอบและเข้ารับการประเมิน เพื่อรับหนังสือรับรองรับรองความรู้ความสามารถ เป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dsd.go.th./oloc หรือสอบถามสำนักรับรองความรู้ความสามารถ 0 2245 1703, 0 2248 4788 หรือกองสื่อสารองค์กร 0 2247 6606 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4
อดุลย์ ควง อธิบดี กพร.ลงพื้นที่สมุทรสาครตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการ มโนราห์อุตสาหกรรมอาหาร เพื่อเยี่ยมแรงงานปฏิบัติงานด้านช่างไฟฟ้า ที่ผ่านการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้เข้ารับการ
ข่าว,ทั่วไทย
กระทรวงแรงงาน,กพร.,มนุษย์ไฟฟ้า,แรงงานคุณภาพ,อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1424298
ตร.สงขลา เผย มีผู้ต้องหาค้ามนุษย์ โรฮิงญา 2 รายไม่กล้าจับกุม เหตุกลัวอิทธิพล
หลังศาลจังหวัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา อนุมัติหมายจับ นายประสิทธิ์ เหล็มเหลีะ อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลปาดังปาซาร์ นายสาโรจน์ แก้วมณีโชติ เจ้าของบ่อนไก่ ต.ปาดังเปซาร์ และ นายจามานาดีน สัญชาติพม่า ในข้อหานำพาชาวต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฏหมายและ กักขังหน่วงเหนี่ยวชาวโรฮิงญากว่า 800 คน ในต.ปาดังเปซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ตามหมายจับขณะที่พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 สั่งเร่งรัดให้ตำรวจภูธรปาดังเปซาร์ และ ตำรวจภูธรสะเดา เจ้าของพื้นที่เร่งจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้เร็วที่สุดหลังพบว่า คดีมีความล่าช้า พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลชุดสืบสวนพบว่า ขบวนการนี้มีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 3 คน แต่ตำรวจยังไม่สามารถสาวถึงตัวได้ ซึ่งคาดว่า ต้องรอให้ตำรวจจับกุมผู้ที่ถูกออกหมายจับทั้ง 3 คนได้ก่อน จึงจะขยายผลถึงกลุ่มที่เหลือขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนเปิดเผยว่า มีผู้ต้องหาอย่างน้อย 2 คน ซึ่งเป็นขบวนการค้ามนุษย์ที่ถูกออกหมายจับ ยังกบดานอยู่ในต.ปาดังเปซาร์ แต่ตำรวจเจ้าของคดีทั้ง 2 พื้นที่ ไม่กล้าจับกุมแม้มีหมายจับจากศาล เพราะเกรงกลัวอิทธิพล
ตำรวจชุดสืบสวนจ.สงขลา ระบุว่า มีผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 2 ราย ยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ต.ปาดังเปซาร์ อ.เดา แต่ยังไม่กล้าจับกุมเนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพล ขณะที่ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 สั่งเร่งรัดคดีนี้ หลังคดีมีความล่าช้า
ภูมิภาค
ค้ามนุษย์,ตำรวจชุดสืบสวนจ.สงขลา,โรฮิงญา
https://news.thaipbs.or.th/content/141438
หนุ่มแจ้ง ตร. อ้างถูกนายก ส.สื่อฯ ภูมิภาค ฉ้อโกงเงินแสนสร้างหลวงปู่ทวด
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 59 นายสุทธิพงษ์ นันทะโกมล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 ม.6 ต.โกรกพระ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.สุนทร รัตนพร สว.(สอบสวน) สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายธรรมรัตน์ เอียดแก้ว นายกสมาคมผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ส่วนภูมิภาค ในข้อหา ฉ้อโกง,นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อประมาณปี 2557 ตนมีเรื่องเกี่ยวกับคดี และได้รู้จักกับผู้สื่อข่าวคนหนึ่งที่ จ.ตาก จึงได้ปรึกษาเรื่องคดีความ จากนั้นผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว ได้แนะนำตนให้มาพบ และทำความรู้จักกับ นายธรรมรัตน์ ที่บ้านพักย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี จากนั้นก็มีการปรึกษาเรื่องคดี ทั้งติดต่อหาทนายความให้ โดยตนก็ยอมเสียเงินว่าจ้างทนายให้ไปส่วนหนึ่ง จากนั้นไม่นาน ก็มาบอกตนว่า จะมีการสร้างหลวงปู่ทวด รุ่นปรางธุดงค์ ที่ จ.สงขลา พร้อมกับให้ตนร่วมลงทุน 1 แสนบาท พร้อมกับได้ชวนตนไปดูสถานที่จัดสร้าง โดยกล่าวว่า มีการเตรียมความพร้อมแล้ว แต่พอไปถึง กลับพบเป็นสำนักสงฆ์ หรือที่ปฏิบัติธรรม ทำให้ตนคิดว่าอาจจะถูกหลอก จึงได้มีการติดต่อเพื่อขอเงินคืน ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง จึงมาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีดังกล่าว,ต่อมา ผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง นายธรรมรัตน์ พร้อมสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว โดย นายธรรมรัตน์ เผิดเผยว่า ได้รับโทรศัพท์จาก พ.ต.ต.สุนทร รัตนพร สว.(สอบสวน) สภ.คลองห้า แล้วว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษตน และตนก็พร้อมที่จะเดินทางไปแสดงความบริสุทธิ์ และให้ปากคำในวันที่ 3 ต.ค. 59 ที่จะถึงนี้ พร้อมจะนำหลักฐานทั้งหมด พร้อมใบเสร็จต่างๆไปแสดงให้สื่อมวลชนได้ดู ตนไม่เคยหลอกหรือฉ้อโกงใคร ตนทำบุญมาตลอด ช่วยสังคมมามากมาย และการที่ผู้ร้องกล่าวถึงเรื่องเงิน 1 แสนบาทนั้น ตนยอมรับว่ามีการจ่ายจริง แต่เป็นการร่วมลงทุนหนังสือสัญญาตนมี เอาไว้วันนั้นก็จะรู้ความจริง พร้อมขอบคุณที่ให้ความเป็นธรรม ไม่นำเสนอข่าวด้านเดียว.
หนุ่มนครสวรรค์ โร่แจ้งความ อ้างถูกนายกสมาคมสื่อฯ ส่วนภูมิภาค ฉ้อโกงเงินแสน สร้างหลวงปู่ทวด เจ้าตัวยันไม่ได้โกง มีหลักฐานชัดเจน พร้อมให้ปากคำ ตร. 3 ต.ค.นี้
null
สร้างพระ,หลอก,หลอกลวง,ฉ้อโกง,สุทธิพงษ์ นันทะโกมล,นายกสมาคมผู้สื่อข่าว,ภูมิภาค,หลวงปู่ทวด,ปรางธุดงค์,ลงทุน1แสนบาท,สำนักสงฆ์,ปฏิบัติธรรม,ถูกหลอก,คลองหลวง,คลองห้า,ปทุมธานี
https://www.thairath.co.th/content/737552
เลิกทำนา เปลี่ยนอาชีพมาขายไอศกรีม ลุงน้อยไอศกรีมสู้ชีวิต
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ลุงน้อย หรือ นายนิด สิตระศักดิ์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/3 หมู่ 17 ต.วังทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ประสบปัญหาขาดทุนกับการทำนาข้าวมาหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งค่าเช่าที่ทำนาก็มีราคาแพง แต่ด้วยภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละวันที่ต้องรับผิดชอบ รวมทั้งต้องส่งลูกเรียนหนังสือซึ่งเป็นภาระที่หนักมาก จึงนำรถไถนาหรือรถอีต๊อก ติดตั้งโครงหลังคามุงแฝก นำถังไอศกรีมตั้งทำเป็นร้านค้าเคลื่อนที่ เร่ขายไอศกรีมไปตามหมู่บ้าน ตั้งชื่อว่าลุงน้อย ไอศกรีมสู้ชีวิต สร้างรายได้อย่างดีจนส่งลูกสาวคนสุดท้องเรียนจนจบปริญญาตรีและมีงานทำ,ลุงน้อย เล่าว่า เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ตนเช่าทำนา 30 ไร่ แต่ในช่วงนั้นประสบปัญหาขาดทุนมาตลอด ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าเมล็ดพันธุ์ โดยเฉพาะค่าเช่าที่ดินเพื่อทำนาข้าวในช่วงหลังๆ นี้แพงถึงไร่ละ 1,000 บาท ทำเท่าไรก็ไม่ได้กำไรมีแต่เสมอตัวหรือไม่ก็ขาดทุนมา จึงคิดที่จะทำร้านขายของเร่ขายไปตามถนนหนทางตรอกซอกซอยในหมู่บ้านต่างๆ,ในแต่ละวันจะต้องตื่นมาทำไอศกรีมตั้งแต่ตี 4 ก่อนจะออกขายในเวลา 10 โมงเช้า และกลับเข้าบ้านอีกครั้งก็ราวๆ 6 โมงเย็น เดินทางวันละกว่า 5-6 กิโลเมตรเป็นอย่างนี้เรื่อยมา โดยเฉพาะถ้ารู้ว่าทุ่งไหนมีการเกี่ยวข้าว ขุดมันสำปะหลัง หรือกิจกรรมที่มีคนไปรวมตัวกันเยอะๆ อย่างเช่นงานวัด การประชุมหมู่บ้าน จะต้องไปที่นั่นเพราะจะขายดี ซึ่งต้องหูตากว้างไกลคอยดูว่าที่ไหนมีงานอะไรจะได้ไปขายไอติม ลุงน้อยกล่าว,ลุงน้อยยังกล่าวอีกว่า ฝากไปถึงคนที่ท้อแท้สิ้นหวัง และชาวนาที่ประสบปัญหาเป็นหนี้สินว่าถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ขอให้สู้ การค้าขายจะมีรายได้ทุกวัน ผิดกับการทำนาจะได้เก็บเกี่ยวก็ต้องนานถึง 4 เดือนจึงจะได้เงิน ซึ่งรายได้จากการขายไอศกรีมกำไรสุทธิวันละ 500-600 บาทดีกว่าการทำนาและไม่เหนื่อยเหมือนทำนา ไม่ต้องกลุ้มใจว่าจะเจอปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ราคาข้าวตกต่ำ แมลงศัตรูพืชระบาด และไม่ต้องเสียสุขภาพจากยาสารพัดที่ใช้ในนาข้าวด้วย
ลุงน้อยไอศกรีมสู้ชีวิต เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส บอกลาอาชีพทำนาข้าว ใช้รถอีต๊อก ติดโครงหลังคามุงแฝก นำถังไอศกรีมตั้ง ขับรถตระเวนไปทั่ว สร้างกำไรสุทธิวันละ 500-600 บ. เก็บเงินส่งลูกเรียนหนังสือ ให้กำลังใจ อย่าท้อแท้สิ้นหวัง
ข่าว,ทั่วไทย
ขายไอศกรีมสู้ชีวิต,เลิกทำนา,ลุงน้อย,นิด สิตระศักดิ์,รถอีต๊อก,ขายไอติม,ขายไอศกรีม,ไอศครีม,กำแพงเพชร,ลุงน้อย ไอศกรีมสู้ชีวิต,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวภูมิภาค,ชาวนา
https://www.thairath.co.th/news/local/536279
ภาพข่าวยอดเยี่ยมประจำวันที่ 12-18 สิงหาคม 2561
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โบกมือทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ ขณะลงพื้นที่ตรวจการแก้ไขปัญหาจราจร ตามโครงการเชื่อมต่อเส้นทาง ล้อ ราง เรือ พร้อมรับฟังการสรุปข้อมูลการแก้ไขปัญหาจราจรอันเนื่องมาจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า และแผนงานการพัฒนาการเดินเรือในคลองภาษีเจริญ และส่วนต่อขยายในอนาคตภาพ: ฐานิส สุดโตเอเชียนเกมส์ 2018 ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้จัดพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 สิงหาคม 2561 ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามเกโลรา บังการ์โน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียภาพ: REUTERSชาวมุสลิมจำนวนมากกำลังร่วมพิธีกรรมทางศาสนา รอบกะอ์บะฮ์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางมัสยิดฮะรอม ในนครศักดิ์สิทธิ์ของซาอุดีอาระเบียอย่างเมืองเมกกะห์ ก่อนที่พิธีฮัจญ์ประจำปีนี้จะเริ่มต้นขึ้น คาดว่ามีชาวมุสลิมเดินทางมาจาริกแสวงบุญกว่า 2 ล้านคนในปีนี้ภาพ: Bandar Ai-Dandani / AFPวาฬหลังค่อมกระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ Uramba Bahía Málaga ประเทศโคลอมเบีย วาฬหลังค่อมอพยพตามฤดูกาล จากคาบสมุทรแอนตาร์กติกมายังบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก รวมระยะทางราว 8500 กิโลเมตร เพื่อคลอดและเลี้ยงลูกภาพ: Miguel Medina / AFPสะพานมอเตอร์เวย์ A10 หรือสะพานโมรันดี ในเมืองท่าที่สำคัญของอิตาลีอย่างเมืองเจนัว พังถล่มลงมายังแม่น้ำ เส้นทางรถไฟ และอาคารบ้านเรือนที่อยู่เบื้องล่าง หลังเกิดพายุฝนอย่างหนัก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 ราย ภาพ: AFPช่างภาพแอบอยู่หลังกำแพง โดยทำตามคำสั่งของทางการอิสราเอลที่ไม่อยากให้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกำลังปะทะกับชาวปาเลสไตน์ที่ออกมาประท้วงในพื้นที่เวสต์แบงก์ภาพ: AFPสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พร้อมด้วยสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ทรงโค้งคำนับต่ออนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงดวงวิญญาณชาวญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ กรุงโตเกียว ในโอกาสครบรอบ 73 ปีที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามภาพ: AFPน้ำท่วมรัฐเกรละ ประเทศอินเดีย ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 324 ราย นับเป็นเหตุอุทกภัยที่เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 100 ปี จากอิทธิพลของลมมรสุมที่พัดถล่มอย่างหนักภาพ: AFPลูกค้าสาวชาวญี่ปุ่นกำลังจิบเครื่องดื่มพร้อมรับชมภาพยนตร์ในโรงหนังอ่างน้ำ New Bathtub Cinema บนชั้นดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่งในย่านชิบุย่า ประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดฉายภาพยนตร์ระหว่างวันที่ 17-19 สิงหาคมภาพ: Kazuhiro Nogi / AFPสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ถือป้ายข้อความเดินทางมาที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านกฎกระทรวงที่กำลังจะมีการแก้ไขใหม่ จำนวน 3 ข้อ เรียกร้องให้ยกเลิกร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการศึกษาเรียนรู้ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เนื่องจากมีข้อบัญญัติซึ่งรุกล้ำความเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง อีกทั้งเนื้อความมีความหมายกำกวม สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเครื่องมือสำหรับปิดกั้นสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพทางการแสดงออกของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ภาพ: ฐานิส สุดโตเจ้าหน้าที่กำลังหยอดยาโปลิโอให้กับเด็ก ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ กำลังมองดูอย่างใกล้ชิด ที่ประเทศอัฟกานิสถานภาพ: AFPซิสเตอร์คลารา เดินอยู่ท่ามกลางรองเท้าจำนวนมากนอกวิหารเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน เพื่อสนับสนุนแคมเปญของโป๊ปฟรานซิส ที่เรียกร้องให้ผู้นำประเทศต่างๆ ช่วยเหลือผู้อพยพและผู้ลี้ภัยทั่วโลก ภาพ: Ben Stansall / AFPพิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
จากนายกฯ ไทยโบกมือบนเรือถึงจักรพรรดิญี่ปุ่นทรงโค้งคำนับ จากเหตุอุทกภัยในอินเดียถึงเหตุสะพานถล่มในอิตาลี จากพิธีเปิดเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 ถึงพิธีกรรมทางศาสนา รอบกะอ์บะฮ์ พบกับภาพข่าวยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ในสายตาของ THE STANDARD ได้ที่นี่
null
null
https://thestandard.co/best-pictures-of-the-week-12-18-august-2561/
พีมูฟผิดหวังรัฐบาลเบี้ยวไม่นำเรื่องชาวบ้านเข้าครม. รมว.มหาดไทยรับปากใหม่
15 พ.ค.56 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.) ซึ่งปักหลักชุมนุมอยู่ข้างกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาของชาวบ้านในหลายพ้นที่ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังอย่างรุนแรง หลังจากรัฐบาลรับปากว่าจะนำเรื่องความเดือดร้อนต่างๆ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าไม่มีการพิจารณาใดๆ ตามที่รับปากไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ปัญหากรณีเขื่อนปากมูล โฉนดชุมชนภาคเหนือ ข้อเรียกร้องเครือข่ายสลัมสี่ภาค และกรณีพิพาทเรื่องที่ดิน โดยพีมูฟสะท้อนความผิดหวังอย่างมากและยืนยันจะชุมนุมต่อเนื่องอย่างมีวุฒิภาวะ เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาสัญญาแก้ปัญหาชาวบ้าน และสาธารณชนสนับสนุนกระบวนการของพีมูฟ (อ่านแถลงการณ์ด้านล่าง)วันเดียวกัน เวลาประมาณ 13.30 น.นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าพบกลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟ เพื่อรับฟังปัญหาที่ดินของพีมูฟ โดยมีข้อสรุปจะมีการนัดประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินสาธารณประโยชน์และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้างในวันที่ 17 พ.ค.นี้ ที่ตึกบัญชาการ 1 กระทรวงมหาดไทย เวลา 13.30 น. ซึ่งนายประชายืนยันจะนั่งเป็นประธานในที่ประชุมเอง พร้อมทั้งรับปากว่าจะนำทุกกรณีปัญหาของพีมูฟเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการในวันดังกล่าว หากประเด็นใดสามารถแก้ปัญหาได้โดยคณะอนุกรรมการจะมีมติทันที สำหรับประเด็นที่ยังไม่สามารถแก้ได้ในอนุกรรมการจะนำเรื่องไปรายงานต่อนายกรัฐมนตรีนอกจากนั้นนายประชา ประสพดียังได้ยืนยันว่ากรณีการขออนุญาตก่อสร้างบ้านมั่นคง ที่จะพีมูฟได้ผลักให้นำเข้าสู่การพิจารณาของครม.แต่ไม่ได้นำเข้าเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่เรื่องยาก โดยจะให้มีการประชุมกลุ่มย่อยแก้ปัญหาเรื่องนี้ในวันที่ 17 พ.ค. ร่วมกับอธิบดีกรมที่ดิน======================สืบเนื่องจากการประสานงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลโดยรองนายกฯ เฉลิม อยู่บำรุง กับ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เมื่อวันที่ ๗ พ.ค.๒๕๕๖ ได้มีข้อตกลงที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาของ ขปส.ไว้ ๓ ขั้นตอนคือเบื้องต้น จะนำ 4 เรื่องที่มีความเห็นร่วมกันแล้วจากการประชุมระดับต่างๆ เข้าครม.ในวันที่ ๑๔ พ.ค.๒๕๕๖ ทั้ง 4 เรื่องประกอบด้วย๑. นำผลการเจรจาแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ระหว่างสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูลกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๖ และมติที่ประชุมคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เข้าพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ๒. นำผลการเจรจาแก้ไขปัญหาที่ดิน กรณีโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ๕ ชุมชนภาคเหนือ เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖ เข้าพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ๓. นำผลการเจรจาการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายสลัมสี่ภาค กรณีการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ของชุมชนที่ดำเนินโครงการบ้านมั่นคง เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๖ เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในการก่อสร้างอาคาร ตามกฎกระทรวงของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๐๔. การแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาท กรณีพื้นที่ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการประสานงานจัดให้มีโฉนดชุมชนแล้ว เพื่อให้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งมอบพื้นที่ และในระหว่างการส่งมอบพื้นที่ให้มีการคุ้มครองพื้นที่ให้สามารถอยู่อาศัยตามวิถีดั้งเดิมได้ และเข้าถึงการบริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐจากนั้น ในวันที่ ๒๐ พ.ค.๒๕๕๖ ก็จะจัดให้มีการประชุมกรรมการโฉนดชุมชนที่รองฯ เฉลิมเองเป็นประธาน และขั้นตอนสุดท้ายคือการนำเรื่องทั้งหมดที่ผ่านการประชุมอนุกรรมการทั้ง ๑๐ ชุด ที่จะจัดให้มีการประชุมขึ้นระหว่างวันที่ ๑๕-๒๕ พ.ค.นี้ เข้าประชุมหาข้อยุติของกรรมการอำนวยการฯ ชุดใหญ่ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ที่รองฯ เฉลิมเป็นประธานเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ รองนายกฯ เฉลิมเป็นผู้ปรึกษาทำข้อตกลงกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ( ขปส.) ด้วยตัวเองในห้องทำเนียบรัฐบาลเมื่อบ่ายวันที่ ๗ พ.ค.๕๖เมื่อมีข้อตกลงเป็นมั่นเหมาะดังกล่าว รัฐบาลได้ประสานงานให้ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ย้ายที่ชุมนุมจากหน้าทำเนียบไปอยู่ในจุดอื่นเพื่อความเหมาะสมซึ่งขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้ให้ความร่วมมือโดยการย้ายที่ตั้งชุมนุมไปอยู่ด้านริมคลองรั้วกระทรวงศึกษาธิการอย่างสงบ และรอคอยความคืบหน้าอย่างมีความหวัง ด้วยความมั่นใจในคำสัญญาจากรองนายกฯ ที่ได้ขอโทษจากการดำเนินการล่าช้าใน 3 เดือนที่แล้ว แต่ได้รับบัญชาอีกครั้งจากนายกฯ ในการประชุม ครม.เช้าวันที่๗ พ.ค.๕๖แต่แล้วรัฐบาลก็ได้ผิดสัญญากับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) อีกครั้งหนึ่ง เพราะไม่มีการนำเรื่องใดๆ ของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เข้า ครม.วันอังคารที่ ๑๔ พ.ค.แม้แต่เรื่องเดียว ซึ่งแน่นอนว่าได้สร้างความผิดหวังอย่างสาหัสต่อประชาชนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เพราะไม่มีวี่แววใดๆ มาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอย่างไรก็ตาม แม้ว่าการผิดสัญญาของรัฐบาลครั้งนี้จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาประชาชน ของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) อย่างใหญ่หลวงนักก็ตาม แต่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ก็ยังเห็นว่า กระบวนการโดยรวมของการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในการประชุมอนุกรรมการทั้ง ๑๐ ชุด จะเป็นบทพิสูจน์ความจริงใจอีกครั้งหนึ่งซึ่งจากนี้ไป ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จะยังคงปักหลักร่วมกันแก้ปัญหากับรัฐบาลต่อไป โดยที่มีเป้าหมายการมุ่งแก้ปัญหาความยากจน โดยไม่มีวาระซ่อนเร้นอื่นใดทั้งสิ้น ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จะมองไปที่อนาคตอย่างมีวุฒิภาวะที่จะไม่ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าและอุปสรรคใดๆ มาเป็นอุปสรรคขัดขวาง การเจรจาหาข้อยุติต่างๆ ดังนั้น ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จึงมีข้อเสนอดังนี้๑.ขปส.จะยังคงปักหลักชุมนุมต่อไปจนกว่ากระบวนการแก้ปัญหาร่วมกับรัฐบาลทุกขั้นตอนตามที่ได้ตกลงไว้๒.ขปส.ขอให้รัฐบาลต้องมีความรับผิดชอบต่อสัญญาประชาคมที่ตกลงไว้ให้ครบถ้วนกระบวนการ และต้องไม่ให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นอีกต่อการแก้ปัญหาคนจน๓.ขปส.ขอเรียกร้องให้สังคม สาธารณะชนทุกภาคส่วน ร่วมสนับสนุนกระบวนการเจรจาของ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) กับรัฐบาลในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดรูปธรรมการแก้ปัญหา นำสู่รูปธรรมลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) และรัฐบาลก็อยู่ร่วมกันในกระบวนการประชาธิปไตย ที่ทุกฝ่ายจะสามารถใช้สิทธิในวิถีทางประชาธิปไตยอย่างมีเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ วิถีทางที่ได้มาซึ่งอำนาจประชาธิปไตยของรัฐบาล ก็ได้ผ่านกิจกรรมกระบวนการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ จนนำไปสู่การประกาศเป็นแนวทางการเคลื่อนไหวมวลชนตามระบบประชาธิปไตย ซึ่งไม่ต่างกับการเคลื่อนไหวของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เพียงแต่ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ปัญหาความยากจนเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อจุดมุ่งหมายเพื่อมีอำนาจทางการเมืองจึงหวังว่ารัฐบาลที่ประกาศตน ว่าตัวเองมาจากวิถีประชาธิปไตย จะยอมรับและ เปิดพื้นที่การเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมของประชาชน และยึดมั่นในคำมั่นสัญญา ข้อตกลงที่เกิดขึ้นร่วมกัน และนั่นคือหนทางที่จะนาไปสู่ความสงบสุขและความเป็นธรรมของสังคมในที่สุดด้วยความเชื่อมั่นในวิถีทางประชาธิปไตยขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
15 พ.ค.56 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.) ซึ่งปักหลักชุมนุมอยู่ข้างกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาของชาวบ้านในหลายพ้นที่ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังอย่างรุนแรง
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม
pmove,ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม,ประชา ประสพดี,พีมูฟ,แถลงการณ์
https://prachatai.com/journal/2013/05/46743
งบลงทุนรัฐวิสาหกิจปี 62 วูบ 2 แสนล้าน รัฐสั่งเร่งเบิกจ่ายเต็มพิกัด 95%
เน้นต่อยอดโครงสร้างพื้นฐาน,นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบงบลงทุนประจำปี 2562 ของรัฐวิสาหกิจ 55 แห่ง ภายใต้ 16 กระทรวง วงเงิน 2,058,196 ล้านบาท และวงเงินจ่ายลงทุน 638,943 ล้านบาท ลดลงจากปี 2561 ที่มีวงเงิน 846,337 ล้านบาท หรือลดลง 207,394 ล้านบาท โดยกำหนดให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า 95% ของวงเงินที่อนุมัติ และให้รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานและการลงทุนปี 2562 ให้ สศช.ทราบทุกวันที่ 5 ของเดือนอย่างเคร่งครัด,ทั้งนี้ การลดลงของงบลงทุนเป็นผลจากการปรับลดการลงทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่มที่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยกรอบวงเงินลงทุนส่วนใหญ่จะมุ่งลงทุนในโครงการการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศโดยเฉพาะด้านคมนาคม ขนส่ง พลังงาน ประปา การสื่อสาร และที่อยู่อาศัย โดยมีโครงการสำคัญ เช่น โครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-วงแหวนกาญจนาภิเษก รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี เป็นต้น นอกจากนั้น ครม.ยังอนุมัติกรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท ระหว่างปีงบประมาณ 62-65 ดำเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพของ สศช.ด้วยการตั้งสถาบันพัฒนานโยบายสาธารณะ ภายใต้มูลนิธิสุริยานุวัตร ของ สศช. ทำหน้าที่เป็นคลังสมองของประเทศในเรื่องนโยบายสาธารณะ ขณะที่ สศช.ยังทำหน้าที่ปกติต่อไป,ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.ยังเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ขอขยายโครงการเน็ตประชารัฐเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตามงบประมาณเหลืออยู่ 1,638 ล้านบาท โดยให้ไปตกลงเรื่องการใช้เงินกับสำนักงบประมาณ และดำเนินการในพื้นที่ที่จำเป็นจริงๆ โดยขยายการเบิกเงินได้จนถึงเดือน ธ.ค.นี้,ส่วนประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงประสิทธิภาพของเน็ตประชารัฐ ทางนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดีอี ชี้แจงว่า ได้ตั้งระบบตรวจสอบการใช้งานของทุกหมู่บ้านว่าสัญญาณขัดข้องหรือไม่ เป็นแบบเรียลไทม์หรือไม่ เช่น เมื่อเวลา 07.20 น. ของวันที่ 25 ก.ย.2561 พบว่ามีการขัดข้อง 2% ของ 24,700 หมู่บ้าน ซึ่งแก้ไขได้ใน 15 นาที แต่หากมีกรณีชำรุดเสียหายต้องเดินทางเข้าไปพื้นที่จะขึ้นกับระยะทาง ขณะที่ข้อมูลจากคอลเซ็นเตอร์ 1111 ต่อ 88 พบว่าไม่ได้แจ้งข้อบกพร่อง แต่ส่วนใหญ่สอบถามวิธีการใช้.
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบงบลงทุนประจำปี 2562 ของรัฐวิสาหกิจ 55 แห่ง ภายใต้ 16 กระทรวง วงเงิน 2,058,196 ล้านบาท
ข่าว,เศรษฐกิจ
งบลงทุน 2562,รัฐวิสาหกิจ,ปตท.,โครงสร้างพื้นฐาน,ทศพร ศิริสัมพันธ์
https://www.thairath.co.th/news/business/1384058
คนแม่เมาะลุ้นคดีฟ้องรัฐละเว้นปฏิบัติหน้าที่เอาผิด กฟผ.
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-12 เม.ย.48ที่ศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ทนายประจำคดีเผยความคืบหน้า กรณีชาวบ้านแม่เมาะยื่นฟ้อง ที่ละเว้นการปฏิบัติงานโดยมิชอบ โดยเป็นการฟ้องเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ให้ระงับและเพิกถอนประทานบัตรการขุดเหมืองลิกไนต์แม่เมาะ หลังจากที่ชาวบ้าน บ.ห้วยคิง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง จำนวน 62 ราย ได้เข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ให้เอาผิด รมว.อุตสาหกรรม อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษและสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรณีวิทยา จ.ลำปาง กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และกรมควบคุมมลพิษและสิ่งแวดล้อม ที่ละเว้นการปฏิบัติงานโดยมิชอบนั้น นางมะลิวัลย์ นาควิโรจน์ แกนนำชาวบ้านห้วยคิง ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง กล่าวว่า การที่ชาวบ้านจำต้องยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐในครั้งนี้ ก็เพราะว่า ก่อนนั้น ได้ขอให้ไต่สวนฉุกเฉินไปแล้ว แต่ทุกฝ่ายก็ไม่ยอมระงับ ทั้งที่ว่า รู้อยู่แล้วว่า โรงไฟฟ้าแม่เมาะได้ก่อผล กระทบต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ทำการระงับแต่อย่างใด การยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐทั้งหมด ก็เพื่อต้องการให้ศาลมีคำสั่งให้ชะลอการระเบิดเหมืองแร่ และให้มีการเพิกถอนการสัมปทานบัตรเหมืองแร่ อีกทั้งให้มีการตรวจสอบและเรียกค่าเสียหายจากแหล่งที่เกิดมลพิษ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งคงต้องรอให้ศาลปกครองทำการแสวงหาข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จก่อน นางมะลิวัลย์ กล่าว ล่าสุด นายธีระศักดิ์ ชึขุนทด ทนายความประจำคดี จากสภาทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ ทางศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ กำลังทำการสืบพยาน คดีที่ฟ้องหน่วยงานรัฐในฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่ชาวบ้านในฐานะโจทก์ได้ยื่นคำฟ้อง และให้หน่วยงานรัฐยื่นคำให้การ และฝ่ายโจทก์ก็ได้ยื่นคำคัดค้านไปแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ศาลต้องทำการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้น่าจะทราบผลการตัดสินคดี
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-12 เม.ย.48 ที่ศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ทนายประจำคดีเผยความคืบหน้า กรณีชาวบ้านแม่เมาะยื่นฟ้อง ที่ละเว้นการปฏิบัติงานโดยมิชอบ โดยเป็นการฟ้องเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2005/04/3624
เจ๋งมาก สอง สยมภู ได้รางวัลใหญ่ระดับโลก
Film Independent Spirit Awards 2018 เป็นอีกเวทีสำคัญที่โลกภาพยนตร์ ให้การยอมรับนับถือมาอย่างยาวนาน ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 33 จัดแจกจบไปแล้ว ที่ซานต้าโมนิก้า สหรัฐอเมริกา,น่าดีใจด้วยมากๆ เพราะปีนี้ช่างภาพชาวไทย สอง สยมภู มุกดีพร้อม ชนะรางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยม BEST CINEMATOGRAPHY จากหนังชายรักชายสุดเสน่หาเรื่อง คอลมีบายยัวร์เนม Call Me by Your Name ของผู้กำกับชื่อดังชาวอิตาลี ลูกา กัวดาญิโน ชนะหนังดัง 4 เรื่องที่เข้าชิงมีดังนี้ The Killing of a Sacred Deer ,Columbus ,Beach Rats ,The Rider ส่วนพระเอกดาวรุ่งพุ่งสุดๆ ทิมมี่ ทิโมธี ชาลาเมท์ ก็ชนะใจกรรมการชนะ นำชายยอดเยี่ยม BEST MALE LEAD จากคอลมีบายยัวร์เนม Call Me by Your Name ,(คลิกดูผลรางวัลทั้งหมด) ,ก่อนหน้านี้ สอง สยมภู ได้เข้าชิงในสาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม จากหลายเวทีประกวด แต่แห้วหมด รางวัลจากเวทีฟิล์มอินดิเพนเดนท์สปิริตอวอร์ด สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม BEST CINEMATOGRAPHY ถือเป็นรางวัลแรกของหนัง คอลมีบายยัวร์เนม Call Me by Your Name แฟนหนังที่ได้ดูแล้ว ต่างเคลิ้มไปกับภาพอันงดงามเรียบง่าย สื่อตรงถึงใจกับการถ่ายของ สอง สยมภู ไทยรัฐออนไลน์ได้สัมภาษณ์สดตรงกับ สอง สยมภู ที่ตอนนี้กำลังทำธุระอยู่กระบี่,โห โทรมาหาเป็นคนแรกเลย ก็ดีใจครับ ดีใจมากๆ กับรางวัลจากเวทีฟิล์มอินดิเพนเดนท์สปิริตอวอร์ด เพราะเวทีนี้เหมาะกับสไตล์ทำงานของเรา คือผมเป็นช่างภาพอิสระ ผมไม่ได้ไปร่วมงานด้วย คิดว่าผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ จะเก็บรางวัลไว้ให้แล้ว เดี๋ยวอีกประมาณ 1-2 เดือนน่าได้กลับไปที่อิตาลี เพื่อถ่ายทำหนังใหม่กับ ลูกา กัวดาญิโน พรุ่งนี้ผมก็จะรอลุ้นออสการ์ให้กับทิมมี่ (ทิโมธี ชาลาเมท์ พระเอกที่ได้ชิงออสการ์ นำชายยอดเยี่ยมจาก คอลมีบายยัวร์เนม Call Me by Your Name).
ทำดีเด่นโดนใจ ได้รางวัลไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะไปลุ้นระทึกกับรางวัลใหญ่ออสการ์ เช้าวันจันทร์ที่ 5 มีนาคมนี้ มีการประกาศผลรางวัล ฟิล์มอินดิเพนเดนท์สปิริตอวอร์ด
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
สอง สยมภู,call me by your name,คอลมีบายยัวร์เนม หนังเกย์,ทิโมธี ชาลาเมท์,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1219058
พาโชเฟอร์ใช้บีบีกันจี้สาวเข้าโรงแรม อ้างเห็นแล้วหื่น บอกเพิ่งทำครั้งแรก
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุใช้ปืนบีบีกัน จี้สาววัย 33 ปี ที่กำลังจอดรถแต่งหน้าในลานจอดรถแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า โดยคนร้ายได้บอกให้สาวคนดังกล่าวขับไปยังโรงแรมม่านรูดหวังขืนใจ แต่สาวคนดังกล่าวถอยหลังชนเก้าอี้พนักงานของโรงแรมและหนีออกมาได้ ตามที่รายงานข่าวไปก่อนหน้านี้ (,รวบโชเฟอร์หื่น ใช้ปืนปลอมจี้สาวหวังข่มขืน อ้างเห็นสวย เกิดอารมณ์,),ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนร้าย คือ นายฐากูล อินทร์รุ่ง อายุ 46 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนที่จะคุมตัวผู้ต้องหามาคุมขังที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ โดยในชั้นสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัว ก่อนที่จะนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ เช้าวันที่ 2 ส.ค.62,จากการสอบถามผู้จัดการโรงแรม ระบุว่า ช่วงเกิดเหตุ คนร้ายได้พาผู้เสียหายเข้ามาที่โรงแรมประมาณ 11.40 น. ก่อนที่เด็กรับรถจะให้เข้าไปจอดที่ห้อง 143 ซึ่งอยู่กลางตึก แต่ระหว่างที่พนักงานกำลังโบกรถให้รถถอยเข้าห้อง ผู้เสียหายได้ขับรถชนเก้าอี้พนักงาน ก่อนที่จะผู้เสียหายจะเปิดประตูออกมาขอความช่วยเหลือ,นอกจากนี้ สาวคนดังกล่าวยังได้ตะโกนบอกว่า โจรๆ ช่วยด้วย ขณะนั้นทุกคนอยู่ในอาการตกใจ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะมีอาวุธจึงไม่มีใครกล้าเข้าไป คนร้ายจึงขับรถออกไป,ทั้งนี้ ยืนยันว่าทางโรงแรมได้อบรมให้พนักงานคอยสังเกตพฤติกรรมของแขกที่เข้ามาพักที่โรงแรม พร้อมกับจดทะเบียนรถเพื่อป้องกันเหตุที่ไม่คาดฝัน แต่สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วมาก หลังคนร้ายออกไป จึงได้เชิญผู้เสียหายขึ้นมาพูดคุย และรีบแจ้งตำรวจทราบ,นายฐากูล ผู้ก่อเหตุได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นำรถของผู้บริหารเข้าไปตรวจเช็กที่ศูนย์ บีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งตั้งอยู่ติดกับห้างดังกล่าว ระหว่างที่ช่างเช็กรถอยู่ ตนจึงมาเดินเล่นที่ห้างดังกล่าวเพื่อรอเวลา ขณะที่เดินอยู่ในลานจอดรถชั้นที่ 1 ได้พบเห็นผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ขับรถเข้ามาจอด จึงเกิดอารมณ์,ก่อนจะทำทีพูดคุยโทรศัพท์อยู่บริเวณดังกล่าว เพื่อรอจังหวะที่ผู้เสียหายเปิดประตูจะลงจากรถ จนสบโอกาสจึงได้เข้าไปประชิดตัว พร้อมกับหยิบปืนบีบีกันที่อยู่ในกระเป๋าสะพายออกมา และจี้บังคับให้หญิงสาวคนดังกล่าวขับรถมาโรงแรม แต่ยังไม่ทันทำอะไร หญิงคนดังกล่าวได้เปิดประตูกระโดดหนีออกจากรถไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรม ยืนยันว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก
ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ พาโชเฟอร์หื่นใช้บีบีกันจี้สาวเข้าโรงแรม ไปทำแผนฯ สารภาพเห็นแล้วหื่น เพิ่งทำครั้งแรก
ข่าว,สังคม
ข่มขืน,ชิงทรัพย์,โชเฟอร์หื่น,สมุทรปราการ,หวังข่มขืน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1627940
สรรพากร พร้อมบริการคืนภาษีเงินได้นิติบุคคล ผ่านพร้อมเพย์ ดีเดย์ 1 พ.ค.นี้
กรมสรรพากร ร่วมสนับสนุนการทำธุรกรรม digital พร้อมให้บริการคืนภาษีเงินได้นิติบุคคล ผ่านระบบพร้อมเพย์ เริ่ม 1 พ.ค. 2563วันที่ 28 เม.ย. 2563 นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป กรมสรรพากรพร้อมให้บริการคืนเงินภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านระบบพร้อมเพย์ ซึ่งเป็นการสนับสนุนการทำธุรกรรม digital ให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่องรวมทั้งเป็นอีกหนึ่งช่องทางของผู้เสียภาษีในการขอรับเงินคืนนอกจากการรับคืนเป็นเช็คหรือการรับโอนผ่านบัญชีธนาคาร โดยการคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับนิติบุคคลที่มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้1. เป็นนิติบุคคลที่มีพร้อมเพย์2. มีเงินคืนภาษีไม่ถึง 100 ล้านบาท3. ไม่เปลี่ยนแปลงสถานะนิติบุคคลสำหรับนิติบุคคล ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและได้สมัครลงทะเบียนพร้อมเพย์แล้ว กรมสรรพากร จะพิจารณาคืนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกไว้กับเลขทะเบียนนิติบุคคล 13 หลัก ส่วนนิติบุคคลอื่นๆ ที่ไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น กรมสรรพากรจะยังคืนเป็นเช็ค หรือโอนผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งเป้าหมายในอนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการคืนเงินภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านระบบพร้อมเพย์แทนการคืนเงินเป็นเช็คหรือโอนผ่านบัญชีธนาคารทุกรายทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนนโยบายการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) ลดต้นทุนการทำธุรกรรมทั้งภาครัฐและเอกชน เพิ่มความสะดวก และความปลอดภัยในการให้บริการ โดยช่องทางการลงทะเบียนสมัครพร้อมเพย์ เพียงเตรียมเอกสารและติดต่อธนาคารที่บริษัทท่านมีบัญชีอยู่อย่างไรก็ตาม สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.rd.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161 หรือที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ.
กรมสรรพากร ร่วมสนับสนุนการทำธุรกรรม digital พร้อมให้บริการคืนภาษีเงินได้นิติบุคคล ผ่านระบบพร้อมเพย์ เริ่ม 1 พ.ค. 2563
ข่าว,เศรษฐกิจ
กรมสรรพากร,สรรพากร,พร้อมเพย์,เงินภาษี,คืนเงินภาษี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1832408
คืนสู่อกแม่ หนูน้อยขวบ 6 เดือน ถูกสาวจ้างเลี้ยงลักไป อ้างรักเหมือนลูก
วันที่ 8 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.ณัฐฐา อยู่คำ อายุ 20 ปี ชาว จ.สุโขทัย เดินทางร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยติดตามตัว ด.ช.ฐิติกร อยู่คำ หรือ น้องกร ลูกชายวัย 1 ขวบ 6 เดือน ซึ่งถูก นางสาวเกตุวดี (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี อาแท้ๆ ขอไปเลี้ยงที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม โดยอ้างช่วยแบ่งเบาเวลาที่ตนไปทำงานต่างจังหวัด ผ่านไปร่วม 3 เดือนติดต่อไม่ได้เลย จนล่าสุดมาบอก ลูกถูกคนข้างห้องที่ฝากเลี้ยงอีกที,ขโมยลูก,ไปแล้ว จากนั้นได้เข้าแจ้งความที่ สภ.สวรรคโลก เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา และขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ,ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อ นางสาวเกตุวดี มาสอบปากคำ และให้การว่า ตนได้นำหลานไปฝากคนข้างห้องเช่าเลี้ยง ชื่อ นางพัชรี อุดสุรินทร์ อายุ 32 ปี เพราะเห็นว่านางพัชรีอยู่ข้างห้องเช่า ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง จึงจ้างให้เลี้ยงหลานเป็นรายชั่วโมง ครั้งละ 50-100 บาท หลังจากฝากให้เลี้ยงดูได้ประมาณ 1 เดือน จู่ๆ นางพัชรี ก็หายไปพร้อมกับน้องกร หลานชาย ซึ่งตนเองก็ได้พยายามตามหา แต่ที่ไม่ได้บอก เพราะเกรงว่าพี่ชายตนเองซึ่งเป็นพ่อเด็กตอนนี้อยู่ในเรือนจำ จะเครียด ส่วนที่ไม่ได้บอกแม่เด็กเนื่องจากกลัวว่าแม่เด็กจะเอาเรื่อง จึงพยายามตามหาจนผ่านไป 2 เดือน จึงได้ตัดสินใจแจ้งให้แม่เด็กทราบ และเป็นเรื่องดังกล่าว ,จนกระทั่งเมื่อเวลา 15.00 น. นางปวีณา พานางสาวณัฐฐา เดินทางไปที่ สภ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย หลังทราบข่าวจาก พ.ต.อ.สมชาย ชำนิ ผกก.สภ.สุโขทัย ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุโขทัย ได้ช่วยเหลือ เด็กชายฐิติกร ซึ่งถูก นางพัชรี ลักไปไว้ได้แล้วที่ จ.มหาสารคาม และกำลังคุมตัว นางพัชรี เดินทางไปที่ สภ.สุโขทัย,ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่พาตัว ด.ช.ฐิติกร ถึง สภ.สุโขทัย เมื่อนางสาวณัฐฐา เห็นหน้าน้องกร ถึงกับวิ่งเข้าไปโผกอดลูกชายด้วยความดีใจ โชคดีที่ลูกชายปลอดภัย และขอบคุณ นางปวีณา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวรรคโลก ทุกนาย ที่ช่วยเหลือลูกชายได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ,พ.ต.อ.สมชาย ชำนิ ผกก.สภ.สวรรคโลก กล่าวว่า สำหรับตัวนางพัชรี ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ แต่จากการสอบถามทราบว่า นางพัชรี ได้เลี้ยงน้องกรด้วยความรัก เนื่องจากไม่มีลูกชาย และน้องกรเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย จึงได้พาน้องกรไปอยู่ด้วย และเลี้ยงดูเหมือนลูกในไส้.
หนูน้อยวัยขวบ 6 เดือน กลับคืนสู่อ้อมอกแม่ชาวสุโขทัย หลังร้องเรียนปวีณาฯ อาแท้ๆ เอาไปเลี้ยง ก่อนถูกสาวที่เอาไปจ้างเลี้ยงอีกทอดลักไป อ้างรักเหมือนลูก เพราะไม่มีลูกชาย
ข่าว,ทั่วไทย
ลักเด็ก,ลูกหาย,ร้องปวีณา,เด็กหาย,สุโขทัย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1199198
จับตัวคนล่อลวงเด็กชายวัย 11 ขวบล่วงละเมิดทางเพศ
วานนี้ (28 ต.ค.2562)กรณีที่น้องไฮเตอร์ เด็กชายวัย 11 ขวบหายจากบ้านพัก จ.พระนครศรีอยุธยา ทีมตำรวจสืบสวนไปพบน้องไฮเตอร์ เล่นอยู่ในเกมออนไลน์ อยู่ในเขตที่พัทยา จ.ชลบุรี จากนั้นน้องไฮเตอร์ ได้กลับมาบ้านเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมาล่าสุด เพจเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์ความคืบหน้าว่าทีมตำรวจ ปคม.และสืบจังหวัดอยุธยา สามารถจับกุม นายวันชาติ จิตบุญชื่น อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดอ่างทอง คนที่พาเด็กชายวัย 11 ขวบออกจากบ้านไปนานนับเดือนได้ที่ที่บริเวณหน้าวัดพระญาติ เขตอ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ซึ่งตรวจสอบพบว่าที่ถูกโจรกรรมมาจากจ.ระยองเมื่อ 2 เดือนก่อนนายวันชาติ จึงถูกเชิญตัวมา สภ.พระนครศรีอยุธยา แต่ให้การว่าพาเด็กไปตามที่ต่างๆ พาไปเล่นเกมตามร้านจนเด็กไว้ใจ เพราะสนุก แต่มีรายละเอียดอีกหลายเรื่องที่ต้องพิสูจน์ทราบ ตามกระบวนการทาง กฏหมาย และการคุ้มครองเด็ก มารดาได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษว่าผู้ก่อเหตุปราศจากเหตุสมควร พรากเด็กไปจากมารดาเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำน้องไฮเตอร์ ตามขบวนการสอบสวนเด็กต่อหน้าผู้ปกครองและนักจิตวิทยาเสร็จแล้ว พร้อมนำตัวส่งไปให้แพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ตรวจพิสูจน์หาร่องรอยการกระทำล่วงทางเพศ เพื่อนำผลการพิสูจน์มาเป็นหลักฐานมัดตัว นายวันชาติ ผู้ต้องหา หลังภาคเสธอ้างว่าไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศน้องไฮเตอร์แต่ด้วยพยานหลักฐานในการสอบปากคำน้องไฮเตอร์ พยานแวดล้อม เบื้องต้นตำรวจตั้ง 2 ข้อหา กักขังหน่วงเหนี่ยว และข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่ออนาจารและกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี คุมตัวฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทันทีอ่าน
ตำรวจจับตัว นายวันชาติ จิตบุญชื่น คนล่อลวงน้องไฮเตอร์ อายุ 11 ปีที่หายจากบ้านพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยานานนับเดือนได้แล้ว หลังจากมีหลักฐาน และพยานว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยแจ้ง 2 ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีเพื่อทำอนาจาร
อาชญากรรม
น้องไฮเตอร์,เด็กหาย,พระนครศรีอยุธยา,มูลนิธิกระจกเงา
https://news.thaipbs.or.th/content/285595
ตบสาวไทย สุดเจ๋ง กวาด 4 รางวัล ศึกลูกยาง มอนเทรอซ์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 5 มิ.ย.ว่า หลังจบการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในศึกวอลเลย์บอล รายการ มอนเทรอซ์ วอลเลย์ มาสเตอร์ 2016 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้มีการประกาศรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม 6 ตำแหน่ง 8 รางวัล ซึ่งนักกีฬาจากประเทศไทยกวาดไป 4 รางวัลเทียบเท่ากับนักกีฬาจากจีนแชมป์ในปีนี้,สำหรับรางวัลที่นักกีฬาสาวไทยได้รับประกอบด้วย รางวัลตำแหน่งหัวเสายอดเยี่ยม 2 ได้แก่ น้องเพียว อัจฉราพร คงยศ,รางวัลตำแหน่งบอลเร็วยอดเยี่ยม 2 ได้แก่ น้องเตย หัตถยา บำรุงสุข,รางวัลตำแหน่งตัวเซ็ตยอดเยี่ยม ได้แก่ ซาร่า นุศรา ต้อมคำ และ รางวัลตำแหน่งตัวรับอิสระยอดเยี่ยม ได้แก่ แป้น ปิยะนุช แป้นน้อย ,ขณะที่ผู้เล่นทรงคุณค่าประจำทัวร์นาเมนต์คือ ฮุ่ย รั่วฉี จอมตบจากจีนที่กดไป 15 แต้มสูงสุดในเกมพบกับไทย,สรุปรางวัลทั้งหมดมีดังนี้,ผู้เล่นทรงคุณค่า : ฮุ่ย รั่วฉี (จีน),ตำแหน่งตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม 1 : ฮุ่ย รั่วฉี (จีน),ตำแหน่งตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม 2 : เพียว อัจฉราพร คงยศ (ไทย),ตำแหน่งบอลเร็วยอดเยี่ยม 1 : จาง เสี่ยวหยา (จีน),ตำแหน่งบอลเร็วยอดเยี่ยม 2 : เตย หัตถยา บำรุงสุข (ไทย),ตำแหน่งตัวตบตรงข้ามหัวเสายอดเยี่ยม : กง เสี่ยวหยู (จีน),ตำแหน่งตัวเซ็ตยอดเยี่ยม : ซาร่า นุศรา ต้อมคำ (ไทย),ตำแหน่งตัวรับอิสระยอดเยี่ยม : แป้น ปิยะนุช แป้นน้อย (ไทย),ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.volleymasters.ch/
ทัพนักตบลูกยางสาวไทย สุดเจ๋ง! กวาด 4 รางวัลยอดเยี่ยม ส่งท้าย ศึกวอลเลย์บอล มอนเทรอซ์ วอลเลย์ มาสเตอร์ 2016 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
null
วอลเลย์บอลหญิง,ทีมชาติไทย,ทัพนักตบลูกยางสาวไทย,มอนเทรอซ์ วอลเลย์ มาสเตอร์ 2016,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/632616
อดีตผู้สมัคร ส.ส.-สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ 120 คน ลาออก อ้างไม่ทำตามสัญญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ต.ค. 2562) อดีตผู้สมัคร ส.ส.,พรรคอนาคตใหม่, และสมาชิกพรรคส่วนหนึ่งจำนวน 120 คน นำโดย ,นายนิพนธ์ แจ่มจำรัส, อดีตผู้สมัครลงรับเลือกตั้งชลบุรี เขต 2 ยื่นขอลาออกจากการเป็นสมาชิก,พรรคอนาคตใหม่, ทั้งนี้ ,นายนิพนธ์, ,ชี้แจงถึงเหตุผลการลาออกว่าเป็นปัญหาจากตัวผู้นำพรรค ที่ไม่มีสัจจะของผู้นำ ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง ว่า จะให้ผู้สมัครที่สอบตกดำรงตำแหน่งอื่นในสภาผู้แทนราษฎร, เช่น เลขานุการ และที่ปรึกษา ส.ส. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้แต่เรื่องเล็กๆ เหล่านี้ยังไม่รักษาสัจจะ แล้วจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนทั้งประเทศได้อย่างไร อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการบริหารงานของพรรค โดยเฉพาะศูนย์ประสานงานของพรรคด้วย โดยปฏิเสธว่าสาเหตุไม่ได้มาจากการต่อรองตำแหน่งทางการเมือง,พร้อมกันนี้ยืนยันว่ายังมีความคิดและอุดมการณ์ศรัทธาต่อพรรคอนาคตใหม่ เพราะเข้ามาตั้งแต่พรรคเกิด ยังไม่มีกระแสความนิยม และย้ำว่าไม่ได้จ้องทำลายพรรคช่วงขาลง การลาออกครั้งนี้ไม่มีการทาบทามให้ไปร่วมงานทางการเมืองกับพรรคการเมืองใด,สำหรับอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ที่ลาออก นอกจาก ,นายนิพนธ์, แล้วยังมี ,นายภูวนาถ กาศสกุล, อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 ,นายสมชาย เนื่องจำนงค์, อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ของจังหวัดชลบุรี, ,นายวรพจน์ บุ่นจันทึก, อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 13 จังหวัดนครราชสีมา รวมถึงสมาชิกพรรคซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกแบบตลอดชีพ จำนวนรวม 120 คน พร้อมเปิดเผยว่าอดีตผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรคยังมีการนัดกันในวันที่ 30 ต.ค.นี้ เพื่อมายื่นลาออกจากพรรคอีกกลุ่มหนึ่ง,อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายนิมาน สุไลมาน กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้ยื่นลาออกจากพรรคด้วยเหตุผล กรณีการโหวตของ ส.ส.พรรคต่อ พ.ร.ก.การโอนอัตรากำลังพลฯ สวนทางกับความเห็นของกรรมการบริหารพรรค.
นิพนธ์ แจ่มจำรัส นำอดีตผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ รวม 120 คน ขอลาออก อ้าง ปัญหาเกิดจากตัวผู้นำพรรค ไม่มีสัจจะ ไม่ทำตามสัญญา
ข่าว,การเมือง
พรรคอนาคตใหม่,นิพนธ์ แจ่มจำรัส,ลาออกพรรคอนาคตใหม่,สมาชิกพรรคอนาคตใหม่,อนาคตใหม่
https://www.thairath.co.th/news/politic/1691691
อคส.ยันไม่เบี้ยว ค่าเช่าให้ สิงห์โตทอง แน่ รอเคลียร์กรมบัญชีกลางอยู่
เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2562 พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ดอคส.) เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ระบุว่า อคส.ไม่จ่ายเงินค่าเช่าโกดังฝากเก็บข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล และไม่ได้ทำสัญญาเช่าคลังเพิ่มเติมว่า กรณีดังกล่าว เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนที่ตนจะรับตำแหน่งประธานบอร์ด อคส.ด้วยซ้ำ โดยเป็นกรณีที่รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้อนุมัติให้ อคส.จัดทำข้าวสารบรรจุถุงขายราคาถูกเพื่อช่วยเหลือประชาชน อคส.ได้เปิดประมูลหาภาคเอกชนที่จะเป็นผู้ดำเนินการ โดยผู้ชนะประมูล ได้เบิกข้าวสารออกจากสต๊อกของรัฐบาล เพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพ และบรรจุถุง แต่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ และไม่ครบถ้วนตามปริมาณข้าวที่รัฐบาลได้อนุมัติไว้ ก็พบการทุจริตเกิดขึ้น รัฐบาลจึงได้สั่งให้ระงับโครงการ แล้วให้ภาคเอกชนนำข้าวที่ยังไม่ได้ปรับปรุงคุณภาพและบรรจุถุง มาคืนให้กับรัฐบาล,ตามความเป็นจริง ผู้ชนะประมูล ต้องคืนข้าวให้กับโกดังกลาง ที่รัฐเช่าเพื่อฝากเก็บข้าวในสต๊อก โดยเอาไปจากโกดังไหนก็ต้องคืนโกดังนั้น แต่ครั้งนั้น กลับเป็นการคืนข้าวในโกดังที่ใกล้ที่สุด ซึ่งก็คือ โกดังของบริษัท สิงห์โตทองไรซ์ เหมือนเป็นการฝากเก็บข้าวหลวงไว้กับโกดังของสิงห์โตทอง แต่ไม่ได้มีการทำสัญญาฝากเก็บอย่างถูกต้อง เรื่องคาราคาซังมานานจนถึงขณะนี้ เมื่อไม่ได้ทำสัญญาฝากเก็บไว้ อคส.ก็ไม่สามารถจ่ายเงินค่าเช่าโกดังให้กับสิงห์โตทองได้ ประธานบอร์ด อคส. กล่าว,พล.ต.ท.ไกรบุญ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม อคส.ได้พยายามหาทางออกในเรื่องดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ได้ทำเรื่องหารือไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าจะทำสัญญากับสิงห์โตทองแบบย้อนหลังได้หรือไม่ ซึ่งสำนักงานอัยการ ได้ตอบกลับมาว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของระเบียบพัสดุ ต้องหารือกับกรมบัญชีกลาง ดังนั้น อคส.จึงได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกรมบัญชีกลางว่าทำสัญญาย้อนหลังได้หรือไม่ และ อคส.จ่ายเงินให้สิงห์โตทองได้หรือไม่ ขณะนี้ กำลังรอหนังสือตอบกลับจากกรมบัญชีกลางอยู่ หากตอบกลับมาว่าอย่างไร ก็พร้อมดำเนินการตามคำแนะนำ,ประธานบอร์ด อคส.ได้เชิญสิงห์โตทอง มาชี้แจงทำความเข้าใจแล้วว่า อคส.ได้ดำเนินการอย่างไรไปบ้าง และได้ทำหนังสือหารือไปยังกรมบัญชีกลางแล้ว ขณะนี้รอหนังสือตอบกลับมาอยู่ ยืนยันว่า อคส.ไม่ได้ต้องการผิดสัญญา หรือเบี้ยวสิงห์โตทองแน่นอน และได้สั่งการให้ อคส.เตรียมดำเนินการตามคำแนะนำของกรมบัญชีกลางไว้แล้ว.
ปธ.บอร์ด อคส.ยัน ไม่ได้เบี้ยวจ่ายค่าเช่าโกดังสิงห์โตทองแน่นอน แจงเพราะไม่ได้ทำสัญญาเช่าตั้งแต่ต้น เลยจ่ายเงินไม่ได้ แต่ได้ทำหนังสือสอบถามกรมบัญชีกลางแล้ว ทำสัญญาย้อนหลัง-จ่ายเงินได้หรือไม่
ข่าว,เศรษฐกิจ
สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น,สิงห์โตทองไรซ์,ค่าเช่าโกดัง,โกดังเก็บข้าว,อคส.,ทุจริตจำนำข้าว,ไกรบุญ ทรวดทรง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1631895
พล.ท.สรรเสริญ ปัดจัดระเบียบสื่อ แค่ขอความร่วมมือทำสกู๊ป ครม.สัญจร
จากกรณีกรมประชาสัมพันธ์เชิญองค์กรสื่อร่วมประชุมการรายงานข่าวคณะรัฐมนตรีสัญจร เนื้อหาการประชุมเป็นการขอความร่วมมือให้สื่อแต่ละสำนักแบ่งหน้าที่ติดตามทำข่าวรัฐมนตรี เพื่อทยอยออกอากาศทางช่องเอ็นบีที จนสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ วันนี้ (17 ส.ค.2560) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ในฐานะอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ระบุว่า ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวมักติดตามรายงานข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐบาลอยากให้เกิดภาพคณะรัฐมนตรีทุกคนที่ปฏิบัติภารกิจปรากฎสู่สายตาประชาชน จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนช่วยติดตามภารกิจของรัฐมนตรี และนำออกอากาศทางช่องเอ็นบีทีระหว่างวันที่ 21-22 ส.ค.พล.ท.สรรเสริญ อ้างว่า ภารกิจนี้ไม่สามารถใช้เพียงหน่วยงานของรัฐเข้าไปประชาสัมพันธ์ได้ และยืนยันว่าการขอความร่วมมือไม่ใช่การจัดระเบียบสื่อขณะที่ ศ.ปาริชาต สถาปิตานนท์ คณะบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งขอสังเกตถึงความเป็นห่วงเรื่องการจำกัดเสรีภาพสื่อว่า การขอความร่วมมืออาจจะเท่ากับการจำกัดเสรีภาพสื่อ เพราะสื่อไม่ได้ถูกกำกับเรื่องเนื้อหาทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีสัญจรจะลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.ขอนแก่น จ.ร้อยเอ็ด จ.อุบลราชธานี และ จ.ชัยภูมิ ระหว่างวันที่ 19-22 ส.ค.นี้
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ในฐานะอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ยืนยันรัฐบาลไม่ได้จัดระเบียบสื่อ แค่ขอความร่วมมือให้สื่อแต่ละสำนักแบ่งหน้าที่ทำข่าวรัฐมนตรี ระหว่างลงพื้นที่ ครม.สัญจร
การเมือง
ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,กรมประชาสัมพันธ์,สื่อมวลชน,สื่อสารมวลชน,ทีวี,ทำข่าว,ทำข่าวรัฐมนตรี,รัฐบาล,ทำข่าวรัฐบาล,พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
https://news.thaipbs.or.th/content/265325
เขาเป็นใคร ? 10 รู้จัก ท็อป บิ๊กแบง ซุปตาร์เกาหลีกับข่าวแรงสูบกัญชา
ซึ่งแฟนคลับหลายคนอาจจะรู้จักหนุ่มคนนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าใครยังไม่รู้จักเราจะพาไปทำความรู้จักกัน,1. ท็อป (T.O.P) มีชื่อจริงว่า ชเวซึงฮยอน (Choi Seung-hyun) เกิดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2530 เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกวงฮิปฮอปที่โด่งดังที่สุดในเกาหลี วง BIGBANG สังกัดค่ายใหญ่ วายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (YG Entertainment),2. ท็อปมีตำแหน่ง แรปเปอร์ ในโทนเสียงต่ำ ซึ่งเสียงแรปหรือเสียงพูดของเขาเป็นเอกลักษณ์ที่หลายคนต้องจดจำได้อย่างแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งสมาชิกในวง ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาแต่ทั้งยังมีความสามารถด้านการแต่งเพลงและบีทบ็อกซ์อีกด้วย,3. ก่อนหน้าที่ท็อปจะเดบิวต์ในนามของวง BIGBANG หนุ่มหล่อคนนี้เคยร้องเพลงใต้ดินมาก่อน โดยใช้ชื่อว่าเทมโปคู่กับศิลปินรุ่นพี่ชื่อเอ็นบีเค นอกจากนี้เขายังมีผลงานการแสดงมากมาย เช่น IRIS, I am Sam, 71 into the fire, 19 (Nineteen), Commitment และเรื่องล่าสุดภาพยนตร์ร่วมกับจีน Out of Control,4. BIGBANG เดบิวต์ในวันที่ 19 สิงหาคม 2006 ซึ่งปีนี้เข้าปีที่ 11 แล้ว สำหรับวงการเคป๊อปของเกาหลี เรียกได้ว่าพวกเขาเป็นวงที่อยู่มาอย่างยาวนาน ทั้งยังโด่งดังมากอีกด้วย,5. บิ๊กแบงเคยมาจัดคอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศไทยมีชื่อว่า บิ๊กแบง โกลบอล วอร์นนิ่ง ทัวร์ ไลฟ์อินแบงค็อก 2008 (BIGBANG Global Warning Tour Live in Bangkok 2008) ในวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2551 ณ อินดอร์สเตเดียมหัวหมาก และครั้งล่าสุดที่เขาทั้ง 5 คนได้ลัดฟ้ามาหาแฟนคลับอีกครั้งเมื่อสองปีที่แล้ว กับคอนเสิร์ตใหญ่  BIGBANG 2015 WORLD TOUR [MADE] ในวันเสาร์ที่ 11 และวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2558 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี,6. บิ๊กแบงมีกลุ่มแฟนคลับที่ค่อนข้างเหนียวแน่นชนิดที่ว่าจับมือกันไม่มีวันปล่อย โดยชื่อแฟนคลับของบิ๊กแบงคือ V.I.P เป็นชื่อย่อมาจาก very important people,7. นิสัยส่วนตัวของท็อปที่แฟนคลับหลายคนรู้กันอยู่ ท็อปเป็นพี่ใหญ่ของวงที่ภายนอกดูเคร่งขรึม หน้าดุ นิ่งๆ อยู่บนเวทีแล้วคาริสม่ากระจาย แต่ข้างในค่อนข้างจะเกรียนกว่าน้องๆ ชอบทำอะไรเกรียนๆ ให้ได้ฮากันในรายการต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่การโพสต์รูปภาพแปลกๆ ในอินสตาแกรมที่หลายครั้งแฟนคลับมักไม่เข้าใจในการกระทำนี้ แต่หลายคนก็มองเป็นเรื่องขบขัน ทั้งนี้ทั้งนั้นหนุ่มซุปตาร์คนนี้เป็นคนหลงใหลในงานศิลปะชอบเดินชมงานนิทรรศการต่างๆ โดยเฉพาะเก้าอี้ ซึ่งเขามีของสะสมเป็นเก้าอี้หลายๆ แบบ,8. สมาชิกวงบิ๊กแบงไม่ได้มีข่าวฉาวของท็อปเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้มีข่าวฉาวอยู่หลายครั้งแต่ด้วยแฟนคลับที่เหนียวแน่นและผลงานดีมีคุณภาพ เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ทางด้านดนตรี ถูกจริตใครหลายๆคน ทำให้พวกเขาทั้งห้ายังคงเป็นศิลปินอันดับต้นๆ ของเกาหลีใต้,9. ท็อปเข้ากรมเมื่อไม่นานในวันที่ 9 ก.พ.2560 โดยไม่พบปะสื่อ แฟนคลับหรือสมาชิกในวง และในวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีข่าวที่ทำให้หลายๆ คนตกใจ กับการเปิดเผยจากตำรวจว่าพบสารตกค้างจากการใช้กัญชาของท็อป และหลังจากนั้นทางต้นสังกัดได้ออกจดหมายขอโทษต่อสาธารณชน และนอกจากนั้นตัวท็อปเองก็ได้เขียนจดหมายด้วยลายมือของตัวเองเพื่อขอโทษในเรื่องราวที่เกิดขึ้นและบอกว่า ไม่มีคำแก้ตัวๆ ทั้งยังรู้สึกละอายเป็นอย่างมาก ซึ่งจะไม่ทำให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก,10. ล่าสุดสื่อเกาหลีรายงานว่า จากข่าวฉาวเรื่องกัญชาในครั้งนี้ทำให้ท็อปเครียดจนใช้ยาเกินขนาด ทำให้หมดสติ จนต้องส่งตัวเข้าโรงพยาบาล และยังมีกระแสข่าวออกมามากมาย ซึ่งวันนี้ 4 โมงเย็นเวลาเกาหลี แพทย์ของท็อปจะแถลงข่าวเกี่ยวกับอาการและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง,ภาพ : ,choi_seung_hyun_tttop
หลายวันที่ผ่านมานี้ในวงการเคป๊อปมีข่าวที่น่าตกใจไม่น้อย เมื่อศิลปินดังอันดับต้นๆ ของเกาหลีใต้ T.O.P. หนึ่งในสมาชิกวง BIGBANG มีสารตกค้างจากการใช้กัญชาภายในร่างกาย งานนี้เรียกได้ว่าเป็นกระแสร้อนๆ มาแรงในเกาหลีอยู่ไม่น้อย
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ท็อป บิ๊กแบง,ท็อปสูบกัญชา,T.O.P,BIGBANG,ท็อป กัญชา
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/965510
ทำไมไม่โดนหินปา ต้นหอม-อั๋น-บุ๋ม รุมเมนต์เจ็บ อ้วน รีเทิร์น
ไอจีแทบแตก เม้นต์สนั่นโลกออนไลน์ เมื่อแม่อ้วน รีเทิร์น อนันต์ เสมาทอง นักแสดงรุ่นใหญ่ฝีมือดุ อายุไม่ใช่ปัญหาจริงๆ เพราะหุ่นยังเป๊ะเว่อร์ได้อีกๆ ใจกล้ามาก ไม่แคร์แก่ สลัดผ้าถ่ายแบบเซ็กซี่แตกกลางทะเลทราย โอมาน พร้อมแคปชั่นเรียกแขก แก่แล้วไง ทรายสีเพลิง งานนี้ดาวดังแห่เมนต์แรงๆ ไม่ไหวจะฮา เช่นต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ แรงจริงจังแบบขำๆ คนแห่ไลค์สนั่น ทำไมไม่โดนปาหินอั๋น ภูวนาท เมนต์แรงต่อ ขอกลั้นใจตายสักครู่บุ๋ม ปนัดดา นางงามสายแซ่บ เมนต์สั้นๆ บ่งบอกชัดว่า แม่ลูกเกด เมทินี ถึงกับเมนต์ยอมบอกเลยว่า sexyใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เมนต์ชัดๆ สแปม รีพอร์ท สแปม รีพอร์ททริปส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของ เจ๊อ้วน รีเทิร์น หยุดยาวๆ หลายวันตั้งใจมาชิลที่โอมาน โดยติดใจหนึบมาหลายครั้งหลายปีมากกว่า 20 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็ยังคงเลือกใช้บริการกับไกด์หนุ่มโอมาน เซากี ฆอริบ หรือชื่อไทย สมชาย และมีหนุ่มนักศึกษาไทย ซอย ฟาน เจะสะนิ นักเรียนทุนของโอมาน คอยนำเที่ยวแบบสุดๆ ไปเลย.
ไอจีแทบแตก เมนต์สนั่นโลกออนไลน์ เมื่อแม่อ้วน รีเทิร์น อนันต์ เสมาทอง นักแสดงรุ่นใหญ่ฝีมือดุ อายุไม่ใช่
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ข่าวบันเทิง,อ้วน รีเทิร์น อนันต์ เสมาทอง,อ้วนรีเทิร์นเที่ยวโอมาน ทะเลทราย,ดาราเม้นต์ไอจีอ้วนรีเทิร์น,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1741813
‘ปัญหาภายใน’ ปมร้าวที่ทำให้โปเชตติโนต้องไป และทำไมมูรินโญต้องมา
เวลา 19.30 น. ตามเวลาที่อังกฤษ สโมสรท็อตแนม ฮอตสเปอร์แถลงข่าวการปลด เมาริซิโอ โปเชตติโน พ้นจากตำแหน่ง รวมถึงทีมงานส่วนตัวของเขาทั้งชุด ที่ตกงานพร้อมกันข่าวนี้ถือเป็นข่าวช็อกวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีครับ เพราะไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า สเปอร์สจะ กล้า ตัดสินใจปลดผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนตินา คนที่พาทีมก้าวมาได้ไกลจนเกือบถึงดวงดาวในเวลาและสถานการณ์แบบนี้แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี สัญญาณ ออกมาเลยย้อนหลังกลับไปเมื่อวานนี้ (19 พฤศจิกายน) บนหน้าสื่ออังกฤษและสเปน ปรากฏข่าวในทิศทางเดียวกันถึงเรื่องอนาคตของโปเชตติโนว่า อาจจะอำลาสเปอร์สในอนาคต มีการคาดการณ์ถึงสโมสรหรือทีมที่เขาจะไปต่อแม้จะไม่มีความชัดเจนใดๆ นอกจากรู้ว่า เขาต้องการจะกลับไปที่สเปน หรือกลับไปทำฟาร์มในบ้านเกิดที่อาร์เจนตินา (ซึ่งคงไม่ใช่ในเวลาอันใกล้) แต่สิ่งที่ผู้จัดการทีมวัย 47 ปี จะไม่ทำแน่ๆ คือการตกลงรับข้อเสนอจากทีมบาร์เซโลนา ในฐานะที่เป็นสายเลือดของเอสปันญอล สโมสรคู่ปรับร่วมแคว้นกาตาลุญญาอย่างไรก็ดี ในบทวิเคราะห์ ซึ่งรวมถึงจาก กิลเญม บาลาเก ผู้สื่อข่าวฟุตบอลสเปนชื่อดังเอง วิเคราะห์สถานการณ์อยู่ถึงแค่จุดนี้ครับ เขายังเชื่อว่า โปเชตติโนจะไม่ออกจากสเปอร์ส แม้ว่าอนาคตจะไม่ได้อยู่ในมือของเขาก็ตามเวลานั้นไม่มีใครคิดว่าฟ้าจะผ่าลงมากลางลอนดอนในตอนค่ำจนกระทั่งมีแถลงการณ์จากสเปอร์ส ที่กูรูอย่างบาลาเกเองถึงกับไม่เชื่อสายตา และต้องมีการแสดงความเห็นเพิ่มเติมผ่านทวิตเตอร์ของตัวเองในถ้อยแถลงนั้น แดเนียล เลวี ประธานสโมสร ชี้แจงเหตุผลในการตัดสินใจว่า มาจากเรื่องของผลงานที่ย่ำแย่อย่างมากในช่วงที่ผ่านมาและสโมสรตัดสินใจอย่างรอบคอบแล้ว ไม่ใช่การตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นบนเหตุผลของเลวี เขามีสถิติสนับสนุนที่พอจะอ้างอิงได้อยู่ครับในฤดูกาลนี้ (2019/20) สเปอร์สทำผลงานในการเริ่มต้นฤดูกาลได้แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008-2009 โดยเก็บได้เพียง 14 คะแนน จากการเล่น 12 นัด และจมอยู่ในอันดับที่ 14 เวลานี้ อยู่ห่างจากโซนตกชั้นเพียงแค่ 4 อันดับเท่านั้นอย่างไรก็ดี สเปอร์สไม่ได้เพิ่งจะย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ เพราะความจริงพวกเขาแย่มานานแล้ว โดยตลอดปี 2019 สเปอร์สเป็นทีมที่แพ้ในลีกมากที่สุดถึง 18 นัดจริงอยู่ที่โปเชตติโนสามารถนำสเปอร์สผ่านเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ซึ่งเป็นความสำเร็จสูงสุดของเขากับสเปอร์สที่ไม่มีใครจะลืม แต่ลึกๆ แล้วทีมเกิดปัญหาภายในมากมายสิ่งที่แย่คือ ปัญหาภายในนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแค่สองฝักสองฝ่าย ไม่ใช่แค่ระหว่างโปเชตติโนกับเลวี หรือโปเชตติโนกับลูกทีมแต่ปัญหาเกิดขึ้นกับทั้ง 3 ฝ่าย คือ โปเชตติโน นักฟุตบอลในทีม และประธานสโมสร ที่ล้วนมี ปม ระหว่างกันและกันทั้งหมดเรื่องมันจึงยุ่งเหยิงมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆภาพของสเปอร์สที่เป็นสโมสรที่มีการบริหารจัดการทีมอย่างยอดเยี่ยม เน้นการสร้างมากกว่าการซื้อ ใช้เงินอย่างคุ้มค่าในการลงทุน และเพิ่งเปิดสนามแข่งขนาดยักษ์แห่งใหม่ที่จะเป็นรากฐานสำคัญของอนาคต รวมถึงการผ่านเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีก มันช่วยปกปิดความผิดปกติได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถปกปิดได้ตลอดไปในมุมของผู้เล่น – เป็นที่รู้และพอจับอาการกันได้มาสักพักแล้วว่า นักเตะระดับแกนนำหลายคนของทีมไม่มีความสุขและต้องการจะย้ายออกจากทีมคริสเตียน อีริคเซน กองกลางตัวทำเกม ซึ่งเป็นหัวใจหลักของทีมในยุคของโปเชตติโน คือตัวอย่างที่ชัดเจนของคนที่ต้องการจะย้ายออกจากทีมในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมานอกจากนี้ยังมี โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ ที่ต้องการจะไปตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว แดนนี โรส ที่มีข่าวจะย้ายทีมมา 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ขณะที่ แยน แฟร์ธองเกน เองก็เหลือสัญญาแค่สิ้นสุดฤดูกาลนี้ และไม่คิดที่จะอยู่กับทีมอีกต่อไปที่นักเตะเหล่านี้ต้องการจะไป เพราะพวกเขาเชื่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พวกเขาได้ทุ่มเทให้กับสโมสรอย่างเต็มที่แล้ว แต่สิ่งที่ได้รับตอบแทนกลับมานั้นไม่คุ้มค่าหนึ่งในปมปัญหาใหญ่คือ การที่สเปอร์สให้ค่าตอบแทนนักเตะเหล่านี้ไม่มากพอที่พวกเขาต้องการ หรือเชื่อว่าควรจะได้รับ โดยมีตัวกระตุ้นปฏิกิริยาคือ การย้ายทีมของ ไคล์ วอล์กเกอร์ หนึ่งในคีย์แมนของทีม ที่ไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และได้รับการตอบแทนค่าเหนื่อยอย่างงามไม่แปลกถ้าพวกเขาจะต้องการก้าวไปต่อ เพราะรู้ว่าอยู่ต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นนักฟุตบอลสเปอร์สมอง แดเนียล เลวี ไม่ต่างจาก ไมค์ แอชลีย์ ประธานสโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งขึ้นชื่อว่า เคี่ยวและเลวร้ายที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ และทุกอย่างก็เลวร้ายยิ่งขึ้น เมื่อทุกคนรู้ว่า เลวีได้รับเงินตอบแทนจากการทำงานถึง 6 ล้านปอนด์ เมื่อปีกลายความไม่พอใจนั้นนำไปสู่การเคลื่อนไหวของเลวี ที่สุดท้ายต้องยอมผ่อนปรนเรื่องเพดานค่าเหนื่อยของสโมสร ยอมต่อสัญญากับนักเตะระดับสตาร์หลายราย เช่น แฮร์รี เคน เดเล อัลลี เอริค ลาเมลา โดยคนที่ได้มากที่สุดคนหนึ่งคือเคน ที่ได้เพิ่มจาก 120000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เป็น 150000 ปอนด์ และมีโอกาสจะเพิ่มถึง 200000 ปอนด์ ตามเงื่อนไขแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้นักเตะเหล่านี้รู้สึกพอใจขึ้นจนลืมทุกอย่างในอีกด้านหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างโปเชตติโนกับลูกทีมเองก็มีแต่จืดจางลง5 ปีครึ่งที่ผ่านมา สเปอร์สเป็นทีมที่ พิเศษ กว่ายุคไหนได้ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างนายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์กับลูกทีมที่หลอมรวมความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันนักเตะมีความเชื่อในตัวของผู้จัดการทีม และมันคือต้นกำเนิดพลังวิเศษที่ช่วยให้สเปอร์สก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรระดับท็อปของอังกฤษ ได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีก 4 ฤดูกาลติด ทั้งๆ ที่ 22 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยได้ไปรายการระดับสุดยอดของยุโรปเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นอย่างไรก็ดี ในการจะเล่นสไตล์ของโปเชตติโน นักฟุตบอลจำเป็นต้องทุ่มเทพลังทุกอย่างจนถึงที่สุดการเพรสซิงเร็ว การวิ่งให้มากกว่าคู่แข่ง การเต็มที่กับทุกจังหวะ การเล่นอย่างละเอียดในทุกจุดในระยะแรกนั้นดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนก็เริ่มล้าตามรายงานเชิงลึก นักเตะในทีมเริ่มเบื่อหน่ายกับการฝึกสอนของโปเชตติโน ที่ ซ้อมเหมือนเดิม พูดเหมือนเดิม ในขณะที่สภาพร่างกายของผู้เล่นในทีมเริ่มรับกับความต้องการของเจ้านายไม่ไหว ไม่ใช่ทุกคนจะทนตะบี้ตะบันได้เหมือนเดิมตลอดมันมาถึงจุดที่นักเตะอ่อนล้า ไม่เฉพาะร่างกาย แต่ยังรวมถึงจิตใจอาจจะไม่ถึงขั้นที่สามารถพูดได้ว่า โปเชตติโนได้สูญเสียความไว้วางใจจากลูกทีม เพราะนักเตะทุกคนเองก็รู้คุณคน พวกเขารู้ดีว่า หากไม่มีนายใหญ่คนนี้ พวกเขาก็คงไม่สามารถจะก้าวมาได้ไกลถึงเพียงนี้แต่การจะกลับไปเหมือนเดิมเป็นเรื่องที่ยากเกินไปโปเชตติโนเองก็รู้สึกในแบบเดียวกันครับ เขารู้มาสักระยะแล้วว่า ทีมที่เขามีอยู่กำลังจะหมดไฟ และเรียกร้องต้องการให้สโมสรมีการจัดการเติมผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเพื่อทดแทนอีริค ไดเออร์ โรส อัลเดอร์ไวเรลด์ วานยามา ซิสโซโก อีริคเซน แซร์จ อูริเยร์ คือตัวอย่างกลุ่มนักเตะที่เขาต้องการจะให้ย้ายออกไป แต่มีเพียงแค่ เดมเบเล คนเดียวที่ได้ย้ายออกไปแต่การ ถ่ายเลือด ที่เขาต้องการไม่เคยเกิดขึ้นเราอาจกล่าวได้ว่า จุดเริ่มต้นของการล่มสลายสำหรับสเปอร์สเกิดขึ้นในฤดูกาล 2018/19 เมื่อไม่มีการเสริมนักเตะใหม่เข้ามาแม้แต่เพียงรายเดียวโปเชตติโนทำอะไรไม่ได้ นอกจากทนใช้นักเตะเท่าที่มีต่อไปก่อน และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่เขากลัวนั้นไม่ผิดเลย เพราะสเปอร์สได้สูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดในการเล่นของพวกเขาอย่าง แรงขับดัน ไปนักเตะเหล่านี้ไม่สามารถจะเล่นได้ดุดันเหมือนที่เคยเป็นในปี 2016 หลายคนฟอร์มตกและยังหาทางกลับไม่เจอ แม้กระทั่งนักเตะที่เคยถูกมองว่าจะเป็นสตาร์แห่งอนาคตอย่าง อัลลีแน่นอนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ระหว่างโปเชตติโนกับเลวี หรือกับลูกทีมเองที่มองตากันไม่สนิทใจเหมือนเดิม ทำให้เขามีความคิดว่าอยากจะไปเริ่มต้นใหม่กับสโมสรที่ใดสักแห่ง โดยก่อนหน้านี้มีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเรอัล มาดริด ที่ให้ความสนใจในตัวเขาอย่างจริงจังแต่กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ยังตัดสินใจได้ไม่เด็ดขาด อารมณ์ของเขาเปลี่ยนแปลงไปมาเหมือนคลื่นและแรงลม ดีบ้างร้ายบ้าง แต่ก็เคยยอมรับว่า เขาคิดที่จะไปจริงๆ หากทีมล้มลิเวอร์พูลได้ในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกได้ แต่เมื่อไม่สำเร็จ สิ่งที่เขาทำคือ การเดินทางกลับบ้านที่บาร์เซโลนา ไม่ได้ร่วมเดินทางกลับมาลอนดอนกับลูกทีม (และทำให้มีรอยร้าวเกิดขึ้น)แม้กระทั่งก่อนจะถูกสั่งปลด ซึ่งความจริงแล้วมีการเจรจากันระหว่างฝ่ายเขาและฝ่ายบริหารมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ก็ยังไม่มีทีท่าที่ชัดเจนจากฝั่งของโปเชตติโนสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเขามีความรัก ผูกพัน และภูมิใจกับสิ่งที่เขาสร้างอย่างมาก รวมถึงยังคงเชื่อว่า สเปอร์สจะมีอนาคตที่สวยงามภายใต้บ้านหลังใหม่ ในวงเล็บว่า หากเขาสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปนั่นเป็นหนึ่งในเหตุที่ฉุดรั้งเขาเอาไว้ ขณะที่เหตุผลประกอบคือ การที่สถานการณ์ในเวลานี้เปลี่ยนแปลงไป โอกาสจะไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหรือเรอัล มาดริดไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้แต่สำหรับเลวี ซึ่งประนีประนอมมาพอสมควรในช่วงฤดูร้อนด้วยการเสริมทัพให้หลายราย รวมถึง ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล และเกือบได้ เปาโล ดีบาลา มาร่วมทีม เขาขอเลือกที่จะไม่รออีกต่อไปแม้รู้ทั้งรู้ว่านี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ที่สุดของเขานับตั้งแต่เข้ามาเป็นประธานสโมสรตั้งแต่ปี 2001 เพราะเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะหาคนที่มีความสามารถและสามารถทำงานภายใต้กรอบนโยบายของเขาได้ดีเท่ากับโปเชตติโน แต่เขาเชื่อว่า ไม่มีหนทางที่กุนซืออาร์เจนไตน์จะนำทีมกลับมาได้อาจจะโหดร้าย แต่ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดในเรื่องนี้ในความรู้สึกของผมคือ เลวีน่าจะให้โอกาสและเวลากับโปเชตติโนจนถึงสิ้นสุดฤดูกาล เพราะการแยกทางกันตรงนี้ ตอนนี้ มันดูจะเร็วเกินไปสักหน่อย เมื่อคิดถึงสิ่งที่พยายามร่วมสร้างด้วยกันมาเป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็เคยมีช่วงเวลาที่เลวร้ายกับบาร์เซโลนาและบาเยิร์น มิวนิก แต่ก็ยังได้รับโอกาสในการทำงานจนจบฤดูกาลเจอร์เกน คล็อปป์ เคยเจอสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าโปเชตติโนในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่สุดท้ายสโมสรก็ยังให้อยู่ทำทีมจนได้บอกรักและบอกลาแฟนๆ ด้วยน้ำตาหรือ อาร์แซน เวนเกอร์ อยู่ทนกับอาร์เซนอล เป็นเวลาหลายปี ก่อนที่สุดท้ายจะยอมรับการตัดสินใจของสโมสรที่ต้องการให้เขาวางมือ แต่อย่างน้อยก็ได้บอกลาอย่างสมเกียรติในสิ่งที่โปเชตติโนทำให้สเปอร์สมาทั้งหมด ผมเชื่อว่า เขาควรจะได้รับการบอกลาที่เหมาะสมเมื่อจบฤดูกาลแต่ชีวิตก็มักจะโหดร้ายแบบนี้เสมออย่างไรก็ดี ในความรู้สึกของแฟนสเปอร์ส ถึงจะไม่มีความสำเร็จเป็นรูปธรรม แต่โปเชตติโนจะมีพื้นที่อยู่ในหัวใจของพวกเขาเสมอความทรงจำดีๆ ที่มีร่วมกัน การต่อสู้ฟันฝ่าหนักหนาสาหัสที่ผ่านมาคืนแห่งปาฏิหาริย์ที่อัมสเตอร์ดัม ภาพของโปเชตติโนที่หลั่งน้ำตาขอบคุณทั้งนักเตะและแฟนบอลทุกคน และยังไม่อาจสะกดกลั้นความรู้สึกได้แม้กระทั่งในช่วงของการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนความรักที่เขามีให้สเปอร์สนั้นคือของแท้ และความทรงจำเหล่านี้ไม่มีอะไรจะพรากไปได้เรื่องของเรื่องคือ เวลามันแค่หมดลงสำหรับเขาและทุกคนก็มีเส้นทางของตัวเองให้ก้าวเดินต่อไปThe Special One คือทางออกที่ถูกต้อง?คำถามต่อมาสำหรับสเปอร์สคือ การแต่งตั้ง โชเซ มูรินโญ เป็นนายใหญ่คนใหม่ (ในบทเฮดโค้ช ไม่ใช่ผู้จัดการทีม) แค่ 12 ชั่วโมงหลังการปลดโปเชตติโน คือทางออกที่ถูกต้องไหมในความรู้สึกของผมเองแล้วคิดว่าไม่ใช่จริงอยู่ที่ The Special One คือยอดผู้จัดการทีมระดับหัวแถวของโลก ซึ่งแม้จะผลงานตกต่ำลงในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะกับเชลซีหรือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่มาตรฐานผลงานของเขาก็ถือว่าการันตีความสำเร็จได้ประมาณหนึ่งแต่ปัญหาอยู่ที่แนวทางและสไตล์การทำทีมโดยเฉพาะการทำงานภายใต้เจ้าของสโมสรที่เขี้ยวลากดินอย่างเลวี ในช่วงเวลาที่สโมสรจำเป็นต้อง รัดเข็มขัด เพราะมีภาระผูกพันก้อนใหญ่กับการสร้างสนามที่ใช้เงินมากมายมหาศาลถึง 1000 ล้านปอนด์ (สโมสรต้องกู้เงิน 637 ล้านปอนด์ เพื่อดำเนินการ แต่ 500 ล้านปอนด์ เป็นการรีไฟแนนซ์)นั่นจะขัดกับแนวทางของมูรินโญ ที่เป็นคนที่ชอบซื้อผู้เล่นที่ตอบโจทย์ของตัวเองมากกว่าจะสร้างหรือพัฒนาผู้เล่นที่มีอยู่น่าสนใจว่า มูรินโญจะทำงานร่วมกับเลวีได้จริงหรือไม่อย่างไรก็ดี เมื่อคิดถึงสถานการณ์ คิดถึงทางเลือกที่มีอยู่ในตลาดของเลวี และคิดถึงทางเลือกของมูรินโญที่รอคอยงานใหม่มายาวนานตั้งแต่โดนปลดจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนธันวาคมปีกลาย ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก การเจรจาจึงเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาไม่กี่วันเช่นนั้นก็อาจจะหาจุดตรงกลางที่สามารถทำงานร่วมกันได้ อย่างน้อยในช่วงนี้แต่ที่ต้องจับตาก่อนคือ อาการของลูกทีมสเปอร์สว่า พวกเขาจะปรับตัวเข้ากับสไตล์การทำงานของมูรินโญ ซึ่งมีความแตกต่างจากโปเชตติโนอย่างมากได้หรือไม่ไม่เฉพาะในสไตล์การเล่น แต่เป็นเรื่องของสไตล์การทำงาน เรื่องความสัมพันธ์ถ้ามูรินโญสามารถเอาชนะใจผู้เล่นได้เร็ว เขามีโอกาสจะพาทีมกลับมาผงาดได้อีกครั้งแต่ถ้าทำไมได้ ก็มีโอกาสที่ The Special One จะเอาชื่อมาทิ้ง (ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขายอมรับงานกับสโมสรในระดับที่ไม่ใช่ Big Team) เหมือนที่เจอฝันร้ายในโอลด์แทรฟฟอร์ดพิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
กลายเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ในแวดวงลูกหนังกับประเด็นที่ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ออกแถลงปลด เมาริซิโอ โปเชตติโน พ้นจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ภายหลังจากทำหน้าที่เป็นระยะเวลา 5 ปีไม่นานหลังจากสเปอร์สปลดโปเชตติโนลงจากตำแหน่ง ก็ได้แต่งตั้ง โชเซ มูรินโญ ยอดโค้ชชาวโปรตุเกส เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ถึงฤดูกาล 2022/23
null
null
https://thestandard.co/jose-mourinho/
ดำเนินคดีครูหญิงสร้างเรื่องลักพาตัวและทำร้ายร่างกาย
เมื่อวานนี้ (26 ก.พ.2561) พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงกรณี น.ส.รุ่งทิวา จิตรประนอม ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.แม่ฮ่องสอน แจ้งความถูกผู้ก่อเหตุ 2 สามีภรรยาลักพาตัวไป ก่อนจะทำร้ายร่างกายว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ สอบปากคำพยานแวดล้อม และหาหลักฐาน ภาพวงจรปิด รวมทั้งสอบปากคำ น.ส.รุ่งทิวา จนสุดท้ายยอมรับสารภาพว่าได้กุเรื่องว่าถูกลักพาตัว ซึ่งความจริงไปเช่าห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ก่อนจะใช้มีดคัดเตอร์กรีดแขนตัวเอง เพื่อใช้อ้างว่าถูกทำร้ายร่างกายรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวอีกว่า น.ส.รุ่งทิวา ร่วมกับคนกลุ่มหนึ่ง ชักชวนผู้อื่นไปร่วมลงทุน เป็นจำนวนเงิน 7 ล้านบาท แต่เมื่อถึงเวลาจะต้องจ่ายเงินคืน ไม่สามารถหามาจ่ายได้ จึงกุเรื่องว่าถูกลักพาตัว โดยตำรวจได้แจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ พร้อมทั้งขอให้ผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนกับ น.ส.รุ่งทิวา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนด้วย
ความคืบหน้าคดีครูหญิงหายตัวไปที่ จ.แม่ฮ่องสอน ล่าสุด ถูกดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จ โดยยอมรับว่ากุเรื่องขึ้นมาทั้งการลักพาตัวและทำร้ายร่างกาย
อาชญากรรม
ครูหญิงหายตัว,ลักพาตัว,ทำร้ายร่างกาย,แม่ฮ่องสอน,แจ้งความเท็จ,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/270590
ดีเอสไอ ไปตามนัด เข้าตรวจรถหรู วัดปากน้ำ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งขาติ เปิดเผยความคืบหน้าการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ว่า ยังไม่ได้หารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย และหนังสือมติมหาเถรสมาคมเรื่องมติการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ก็ยังอยู่ที่ตัวเอง ยังไม่ได้ส่งไปให้นายกรัฐมนตรี ส่วนกรณีที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ทำการตรวจสอบรถหรูของสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ก็จะได้นำเรื่องนี้มาพิจารณาร่วมกัน ก่อนที่จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีตามขั้นตอน โดยจะไม่มีการทำให้เรื่องล่าช้าอย่างแน่นอน,ด้านพระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตอนนี้องค์กรภาคีเครือข่ายในต่างจังหวัด กำลังสนใจและติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด มีข้อยุติร่วมกันใน 4 ประเด็น คือ ทำความเข้าใจแก่พระสงฆ์ในพื้นที่ และพุทธศาสนิกชนทั้งหมด จับตาดูและเตรียมกำหนดเคลื่อนไหวเพื่อเตือนสติ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ออกมาเคลื่อนไหว เตรียมพระภิกษุสามเณรให้พร้อมเมื่อถึงคราวแสดงสังฆามติ และให้กำลังใจรัฐบาลให้เดินหน้าตามกฎหมายและจารีตประเพณี,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวนจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้เดินทางไปยังวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อตรวจสอบรถยนต์โบราณของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง ตามคำเชิญของทางวัดปากน้ำ ที่ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งการไปตรวจสอบครั้งนี้จะมีการยื่นเอกสารสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย.
พนักงานสอบสวนของดีเอสไอ เดินทางไปตรวจรถหรู-รถโบราณ สมเด็จช่วง ที่วัดปากน้ำฯ ตามคำเชิญชวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขณะที่ รมต.สุวพันธุ์ ยืนยันยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการแต่งตั้งสังฆราช ต้องรอผลการตรวจรถหรูก่อน
null
กรมสอบสวนคดีพิเศษ,ดีเอสไอ,ตรวจสอบรถหรู,รถหรูสมเด็จช่วง,สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์,วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ,แสดงความบริสุทธิ์ใจ,สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ,พระเมธีธรรมาจารย์,ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย,มติการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/564841
ครม.อนุมัติแผนบูรณาการลดเหลื่อมล้ำ-แก้จน ตั้งบอร์ดนโยบายและบอร์ดบริหาร
ครม.อนุมัติแผนการบูรณาการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน ตั้งทั้งคณะกรรมการนโยบายฯ และคณะกรรมการบริหารฯ18 ธ.ค.2561 รายงานว่า วันนี้ (18 ธ.ค 61) เวลา 15.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวทำเนียบรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงแก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับคณะรัฐมนตรีรับทราบแผนการบูรณาการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบูรณาการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน พ.ศ. ซึ่ง เป็นครั้งแรกที่มีการจัดตั้งหน่วยงานกลาง เพื่อดูแลลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจนทั้งนี้ ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบูรณาการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน พ.ศ. ประกอบด้วย1) กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน (กนล.) ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวน 15 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนไม่เกิน 3 คน โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ กนล. มีหน้าที่และอำนาจกำหนดกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์ วางแนวทาง หลักเกณฑ์ วิธีการดำเนินงานการบูรณาการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจนในทุกมิติ ทุกระดับ ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงาน เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี กำกับติดตามประเมินผลการดำเนินงาน ออกประกาศ และคำสั่งเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามระเบียบนี้2) กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน (กบล.) ประกอบด้วย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นรองประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวน 4 คน และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนไม่เกิน 3 คน เป็นกรรมการ ทั้งนี้ กบล. มีหน้าที่และอำนาจกำหนดกรอบตัวชี้วัดด้านความเหลื่อมล้ำทางสังคมของประเทศ เสนอแนวทาง หลักเกณฑ์ และแผนปฏิบัติการในการบูรณาการพิจารณากลั่นกรองแผนงานและงบประมาณ กำกับการดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน เสนอแนะต่อ กนล. ในการกำหนด จัดทำ แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายและมาตรการต่าง ๆรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า การบูรณาการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนประเทศ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ในด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยมีเป้าหมายหลัก เพื่อดึงพลังของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชนท้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อน และสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนในการร่วมคิดร่วมท่าเพื่อส่วนรวม การกระจายอ่านาจและความรับผิดชอบ ไปสู่กลไกบริหารราชการแผ่นดินในระดับท้องถิ่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการตนเอง และการเตรียมความพร้อมของประชากรไทยทั้งมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อม ให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ พึ่งตนเอง และทำประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้มากที่สุด โดยรัฐให้หลักประกัน การเข้าถึงบริการและสวัสดิการที่มีคุณภาพอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
ครม.อนุมัติแผนการบูรณาการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน ตั้งทั้งคณะกรรมการนโยบายฯ และคณะกรรมการบริหารฯ กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี : ภาพจากเว็บไซต์ทำเนียบฯ18
การเมือง,คุณภาพชีวิต
ความเหลื่อมล้ำ,ความยากจน
https://prachatai.com/journal/2018/12/80142
1 ธ.ค. วันเอดส์โลก รวมพลังชุมชน ยุติเอดส์
วันนี้ (30 พ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ปัจจุบันภาครัฐให้สิทธิการตรวจหาเชื้อ HIV ได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง ทุกสิทธิการรักษา แต่เพราะผู้ต้องการตรวจหาเชื้อ HIV อาจไม่สะดวกใจเดินเข้าโรงพยาบาลรัฐด้วยเหตุผลต่างๆ การพบแพทย์ใน คลินิก และศูนย์บริการภาคเอกชนจึงกลายเป็นทางเลือกของประชาชนคลินิกเทคนิคการเอ็มพลัส ซอยชมจันทร์ ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ คือองค์กรด้านสุขภาพที่มีบทบาทให้คำปรึกษา และค้นหากลุ่มเสี่ยง กลุ่มชายรักชาย สาวประเภทสอง และผู้ทำงานบริการที่นี้ มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา และห้องปฎิบัติการที่ได้มาตรฐาน สามารถแจ้งผลการตรวจเลือดได้ในเวลาไม่นาน ส่วนหนึ่งเพื่อความรวดเร็วในการจ่ายยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ HIV หรือ เพร็พ แก่กลุ่มเสี่ยงนายพงศ์ภีระ พัฐภีระพงศ์ รอง ผอ.มูลนิธิเอ็มพลัส ระบุว่า ในอดีต ประชาชนมีความเข้าใจว่าโรคเอดส์เป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่ปัจจุบันเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น ผู้ติดเชื้อที่เข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทานยาต้านไวรัสจะสามารถใช้ชีวิตได้ปกติไม่ต่างจากคนทั่วไป การติดต่อของโรคก็ไม่ได้ติดต่อกันได้ง่าย สามารถกินข้าว ว่ายน้ำ ทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันร่วมกันได้ หรือแม้แต่มีเพศสัมพันธ์ก็สามารถทำได้ หากรู้จักวิธีป้องกันแต่ปัญหาที่ยังพบ คือหลายคนยังไม่กล้าเข้ารับการตรวจ ทำให้ไม่รู้สถานะของตัวเอง หากรับเชื้อ HIV ไป แต่ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการรักษา ก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกทำร้ายลง และมีโอกาสแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นปัจจุบัน พบว่ากลุ่มเยาวชนมีการติดเชื้อ HIV เพิ่มขึ้น เพราะมีความอยากรู้ อยากลอง ทำให้มีเพศสัมพันธ์ในอายุที่น้อยลง แต่กลับไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกัน ถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น หรือยาเพร็พนพ.สุเมธ องค์วรรณดี ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 ระบุว่า ในภาพรวมการแก้ปัญหาโรคเอดส์ในระดับประเทศ พบว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลดลง จำนวนผู้ติดเชื้อที่มีชีวิตก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น เพราะการได้รับการรักษาด้วยการกินยาต้านไวรัสเร็วขึ้น และได้รับยาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลงมากส่วนพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อที่ยังชีวิต ตามฐานข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ อยู่ประมาณ 55000 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลดลง เพราะได้รับยาต้านไวรัสเร็วขึ้น ช่วยลดการกระจายเชื้อได้ดีโดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดการติดเชื้อยังคงมาจากพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ และการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ทั้งนี้ ครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อ เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย กลุ่มต่อมา คือกลุ่มพนักงานบริการหญิง และพนักงานบริการชายในสถานบันเทิงต่างๆ ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อได้มากกว่าประชากรทั่วไป ขณะที่กลุ่มเยาวชน ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่นิยมใช้ถุงยางอนามัยสำหรับมาตรการป้องกัน สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 ได้สนับสนุนถุงยางอนามัยให้กับโรงพยาบาล และหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน นำไปกระจายต่อให้กลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งการรณรงค์ไปยังสื่อต่างๆส่วนมาตรการป้องกันรูปแบบใหม่ คือ การจ่ายยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ HIV หรือ เพร็บ ฟรี สำหรับประชากรที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ซึ่งตรวจเลือดแล้วไม่พบเชื้อ HIV ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่นำร่องใน 21 จังหวัดทั่วประเทศ ในภาคเหนือตอนบน มี 6 หน่วยบริการอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และ เชียงราย ( รพ.นครพิงค์ เชียงดาว ไชยปราการ ฝาง สันป่าตอง และ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์)โดยกรณีที่ ภรรยา หรือ สามี ติดเชื้อ HIV แล้ว แต่คู่ชีวิตยังไม่ติดเชื้อ หากทานยาเพร็บอย่างสม่ำเสมอ ภายใต้การควบคุมของแพทย์ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้เกือบ 100%ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีชีวิตอยู่ 460000 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในปีนี้ 5500 คน หรือ เฉลี่ยวันละ 15 คนโดยแผนการยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 มีเป้าหมาย ลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เหลือปีละ ไม่เกิน 1000 คน ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อ HIV เหลือปีละไม่เกิน 4 พันคน และ ลดการรังเกียจ และเลือกปฎิบัติ ลงจากเดิมร้อยละ 90วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก (World Aids Day)เป็นวาระสำคัญที่ทุกประเทศในโลกร่วมกันรณรงค์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเอดส์ จากรายงานของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ พบว่าใน ปี 2561 มีผู้ติดเชื้อ HIV ทั่วโลกสะสม 37.9 ล้านคน และ มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ 770000 คนสำหรับ คําขวัญวันเอดส์โลก 1 ธ.ค. 2562 คือ รวมพลังชุมชน ยุติเอดส์
คลินิกทางเลือกกับบทบาทในการค้นหากลุ่มเสี่ยง และจ่ายยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ HIV หรือ เพร็พ หนึ่งในเครื่องมือยับยั้งการแพร่กระจายโรคเอดส์
ภูมิภาค
เชื้อHIV,ถุงยางอนามัย,วันเอดส์โลก,มูลนิธิเอ็มพลัส
https://news.thaipbs.or.th/content/286581
รอดตายปาฏิหาริย์ มีผู้โดยสารตกเครื่อง 1 ราย หลังบินอิหร่านโหม่งโลก
เมื่อ 19 ก.พ.61 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานความคืบหน้าเหตุเครื่องบินโดยสาร ATR 72 ของสายการบิน,อาเซมาน แอร์ไลน์ส, ในอิหร่าน เที่ยวบิน EP 3704 จากกรุงเตหะราน ไปยังเมืองยาซุจ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ประสบเหตุตกบนภูเขาดีนา ในเทือกเขาซากรอส ใกล้เมืองซีมิรอม จังหวัดอิสฟาฮาน เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย มีหมอกลงจอด หลังเครื่องบินได้บินจากสนามบินในกรุงเตหะรานมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ขณะที่มีผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบิน 66 รายนั้น,ต่อมา ทางสายการบินอาเซมาน แอร์ไลน์ส ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ด้วยเหตุที่ทีมกู้ภัยอิหร่านยังเข้าไม่ถึงบริเวณเครื่องบินตก เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ลงจอดไม่ได้เพราะทัศนวิสัยย่ำแย่ สภาพอากาศเลวร้าย มีหมอกลงจัด สิ่งที่ทำได้คือการส่งทีมกู้ภัยเดินเท้าเข้าไปในบริเวณเครื่องบินตกอย่างเดียว จึงทำให้ไม่อาจยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่ชัดจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้ หลังจากก่อนหน้านี้ ทางโฆษกสายการบินอาเซมาน แอร์ไลน์ส แถลงว่า ผู้โดยสาร 60 คน และลูกเรืออีก 6 คน บนเครื่องบินลำนี้ เสียชีวิตทั้งหมด,นอกจากนั้นยังเกิดเหตุการณ์ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์กับผู้โดยสารคนหนึ่ง ที่เกิดพลาดไปไม่ทันขึ้นเครื่องบินเที่ยวบินดังกล่าว จึงทำให้มีผู้โดยสารเดินทางไปกับเที่ยวบิน EP 3704 จากเดิมที่แจ้งว่า 60 คน เหลือเพียง 59 คนเท่านั้น และทำให้จำนวนผู้โดยสารและลูกเรือที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ลดลงจาก 66 ราย มาอยู่ที่ 65 ราย.
สายการบินอาเซมาน แอร์ไลน์ส ในอิหร่าน ชี้แจงใหม่ ยังไม่ขอยืนยันยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกบนภูเขา เพราะทีมกู้ภัยยังเข้าไม่ถึงจุดตก ขณะที่มีผู้โดยสารคนหนึ่งเกิดตกเครื่อง มาไม่ทันเที่ยวบินนี้ ทำรอดตายหวุดหวิด
ข่าว,ต่างประเทศ
เครื่องบินอิหร่านตก,เครื่องบินโดยสารตก,อาเซมาน แอร์ไลน์ส,อิหร่าน
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1207898
อดีตนักมวยดังบุกสภา ร้องช่วยดูแลระบบ หลังเลิกชก
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. เวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา นายสามารถ มะลูลีม ที่ปรึกษาชมรมลูกหลานนายขนมต้ม นำอดีตนักมวยชื่อดัง อาทิ ผุดผาดน้อย วรวุฒิ, เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง, แซมชั่น กระทิงแดงยิม และ ดีเซลน้อย ส.ธนิกุล เป็นต้น เข้ายื่นหนังสือต่อ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ (สปท.) คนที่หนึ่ง และนายชาญวิทย์ ผลชีวิน รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกีฬา ศิลปวัฒนธรรม การศาสนา คุณธรรม และจริยธรรม สปท. เพื่อข้อให้ช่วยเหลือและสนับสนุน 1. ระบบการดูแลช่วยเหลือนักมวยหลังเลิกชกไปแล้วกรณีเจ็บป่วย โดยให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับนักมวย โดยการลดขั้นตอนของทางการกีฬาแห่งประเทศไทย และการรับสมัครสมาชิก ควรเพิ่มเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้เรื่องนักมวยไทยมาบ้าง 2. สงวนอาชีพครูสอนมวยไทยให้กับคนไทยเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น 3. ควรนำมวยไทยเข้าสอนเป็นหลักสูตรในโรงเรียน โดยเป็นวิชาเลือกให้นักเรียนที่สนใจ และ 4. รางวัลเกียรติยศควรจะมีนักมวยร่วมเป็นกรรมการตัดสินด้วย,ด้าน นายอลงกรณ์ กล่าวว่า จะนำข้อเสนอเหล่านี้มอบหมายให้ กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านกีฬาฯ ไปพิจารณาเพื่อให้การปฏิรูปเกิดขึ้น เพื่อที่จะดูแลคุณภาพของนักมวย เพราะเวลานี้ต่างประเทศให้ความสนใจกับมวยไทย โดยมีค่ายมวยไทยถึง 1 หมื่นแห่งทั่วโลก,ขณะที่ ผุดผาดน้อย วรวุฒิ กล่าวว่า เวลานี้นักมวยไทยมีความลำบากมาก ไม่ได้รับการดูแล จะมาสนใจเฉพาะเวลาที่แข่งขันชนะ และมีชื่อเสียงโด่งดันเท่านั้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง
อดีตนักมวยดัง บุกสภา ร้อง สปท.ช่วยเหลือหลังแขวนนวม-สงวนอาชีพเป็นของคนไทย บอก ตอนนี้นักมวยไทยลำบากมาก จะได้รับการดูแลเฉพาะตอนที่ชกชนะ และมีชื่อเสียงเท่านั้น
null
อดีตนักมวยดัง,บุกสภา,ร้องสปท.,แขวนนวม,สามารถ มะลูลีม,ที่ปรึกษาชมรมลูกหลานนายขนมต้ม,ผุดผาดน้อย,ชาญวิทย์ ผลชีวิน,กมธ.,หลังเลิกชก,นักมวย,อลงกรณ์ พลบุตร,รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ,สปท.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/640750
เอร์เรรา มี สโคลส์ เป็นแรงบันดาลใจค้าแข้งกับผีแดง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 14 ก.พ. ว่า อังเดร เอร์เรรา กองกลางของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผย เขามี พอล สโคลส์ อดีตกองกลางจอมยิงไกลของทีมปิศาจแดง เป็นแรงบันดาลใจสำหรับการค้าแข้งกับต้นสังกัด,เอร์เรรา วัย 25 ปี ย้ายมาจาก แอธเลติก บิลเบา เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว โดยลงเล่นไปแล้ว 18 นัด ทำไป 5 ประตู นอกจากนี้ยังทำได้ 2 ประตูจากการลงเล่น 2 นัดล่าสุดอีกด้วย โดย เอร์เรรา เปิดเผยว่าเขาสามารถทำผลงานได้ดีกว่านี้ โดยมี พอล สโคลส์ ที่เคยค้าแข้งอยู่กับยูไนเต็ดมานานถึง 19 ปี เป็นแรงบันดาลใจ,พอล สโคลส์ คือกองกลางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมรู้ดีว่าผมคือ เอร์เรรา แต่ผมต้องการเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากนักเตะอย่าง พอล สโคลส์, ไมเคิล คาร์ริก รวมทั้ง เวย์น รูนีย์ ผมหวังว่าสักวันหนึ่งผมจะมีความสำคัญสำหรับแฟนบอล ซึ่งผมต้องทำงานมากๆ หากจะหวังเป็นแบบนั้น แต่ผมเพิ่งอายุ 25 ปี ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเพื่อนร่วมทีมของผมและยอดนักเตะอย่าง พอล สโคลส์ และผมจะเรียนรู้ต่อไป เอร์เรรา กล่าว
อังเดร เอร์เรรา มิดฟิลด์ชาวสเปนของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบุ เขามี พอล สโคลส์ อดีตกองกลางของทีมปิศาจแดงเป็นแรงบันดาลใจในการค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ด
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,พอล สโคลส์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,อังเดร เอร์เรรา
https://www.thairath.co.th/content/483302
ร้อง สน.ดุสิต เอาผิดกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อปชต. ทำโปสการ์ดธนบัตรวันชาติ ผิด ม.112
รายงานว่า วันนี้ (4 ก.ค.56) นำโดย นายอุดร แสงอรุณ เลขาธิการเครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบันฯ พร้อมด้วยสมาชิกเครือข่ายฯ เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคล โดยระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ต่อเนื่อง 24 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งต่อมาทราบว่าคือ กลุ่มประกายไฟการละคร ได้มีการจัดกิจกรรมรำลึกวันชาติไทย ภายใต้งานเฉลิมฉลองวันชาติ 24 มิถุนายน โดยหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นมาเป็นเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึกของคนไทย และเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยการจัดจำหน่ายโปสการ์ดคล้ายธนบัตรที่มีรูปของบุคคลสำคัญทางการเมืองในอดีต โดยกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตยโดยกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตยระบุว่า ด้วยความสำคัญของวันชาติราษฎรที่คนไทยเริ่มหลงลืมกันไป ทางกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย ขอนำเสนอโปสการ์ดธนบัตรวันชาติขึ้น โดยเป็นการนำเสนอวันชาติในแบบฉบับ 2475 ทั้งนี้นอกจากเพื่อฟื้นฟูคุณค่าประชาธิปไตยในเชิงสัญลักษณ์แล้ว ก็ยังเป็นการระดมทุนสำหรับการทำกิจกรรมของทางกลุ่มในช่วงปีการศึกษาถัดไปด้วย เนื่องจากกลุ่มเราเป็นการรวมตัวกันของนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่สนใจการเมืองและปัญหาสังคม การขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องมีทุนสนับสนุนเช่นกันอนึ่ง ชุดโปสการ์ดธนบัตรวันชาติ ประกอบด้วยโปสการ์ดภาพ 4 บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย 1. ปรีดี พนมยงค์ ผู้นำคณะราษฎร อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบุรุษ ผู้นำคณะราษฎรสายพลเรือน และผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง 2. พระยาพหลพลพยุหเสนา ผู้นำคณะราษฎรและอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ภาพในโปสการ์ดเป็นภาพการอ่านประกาศคณะราษฎร ฉบับที่ 1 ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า วันที่ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง3. จอมพล ป พิบูลสงคราม สมาชิกคณะราษฎรผู้ร่วมการเปลี่ยนแปลงการปกครอง อดีตนายกรัฐมนตรีหลายสมัย ผู้สร้างนิยามความเป็นไทย วางรากฐานสู่ความเป็น รัฐสมัยใหม่ 4. กุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือ ศรีบูรพา นักเขียนและนักหนังสือพิมพ์ที่มีบทบาทในยุคเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ประชาธิปไตย ผู้ต่อสู้เพื่อราษฎรและมนุษยธรรมด้วยปลายปากกา
หนึ่งในชุดโปสการ์ดบรรพชนอภิวัฒน์ โดยนักศึกษากลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (ที่มา: กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย) สำนักข่าวทีนิวส์ รายงานว่า วันนี้ (4 ก.ค.56)
การเมือง,สังคม
24 มิถุนายน 2475,คณะราษฎร,ธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย,มาตรา 112,วันชาติ,เครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบันฯ,โปสการ์ด
https://prachatai.com/journal/2013/07/47540
ยก นน.เอเชียจัดตามกำหนด ยังไม่มีชาติใดถอนตัว
เผยยังไม่มีชาติใดถอนตัว โดยเฉพาะจีน ยังส่งชุดใหญ่มาเหมือนเดิม ด้านพ่อเมืองภูเก็ตสั่งดูแลความปลอดภัยเต็มที่ พร้อมประสานกองทัพเรือคุ้มกันอีกทาง ขณะที่สรพล เถระพัฒน์ ผู้จัดการทีม มั่นใจจอมพลังไทยมีเหรียญทองแน่อย่างน้อย 3 รุ่น,ความเคลื่อนไหวการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2015 (หญิง ครั้งที่ 26 และชาย ครั้งที่ 45) ที่ประเทศไทย โดยสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดในระหว่างวันที่ 3-12 ก.ย.นี้ ที่โรงยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง เทศบาลนครภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเหตุการณ์วางระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก,เกี่ยวกับเรื่องนี้ เสธ.ยอด พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมยกน้ำหนักฯขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยในส่วนของการจัดแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2015 ที่จ.ภูเก็ต ยังจะดำเนินต่อไปอย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้หน่วยความมั่นคงของประเทศไทย ได้วางแผนดูแลความปลอดภัยไว้ในทุกพื้นที่แล้ว ขณะที่ประเทศต่างๆ ที่ตอบรับลงชิงชัยก็ยังไม่ได้สอบถามหรือถอนตัวแต่อย่างใด โดยเฉพาะจีนยังส่งชุดใหญ่มาเหมือนเดิม,นักกีฬาหลายประเทศจะเดินทางด้วยเที่ยวบินตรงไปยัง จ.ภูเก็ต เลย ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาจากจีน, เกาหลีใต้, อิรัก, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อุซเบกิสถาน, ไต้หวัน หรือหากประเทศที่ต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเทพฯ ก็จะเดินทางต่อไป จ.ภูเก็ต ทันที ขอยืนยันว่าการแข่งขันจะยังมีขึ้นตามกำหนดการเดิม พล.ต.อินทรัตน์กล่าว,พล.ต.อินทรัตน์กล่าวต่อว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยได้ดูแลในส่วนของความมั่นคงและความปลอดภัยอย่างเต็มที่ รวมทั้งยังได้ประสานกับกองทัพเรือที่ดูแลพื้นที่บริเวณ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันจึงมั่นใจได้ว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย,ด้านนายสรพล เถระพัฒน์ กรรมการบริหารสมาคมยกน้ำหนักฯ ในฐานะผู้จัดการทีม กล่าวว่า นักกีฬาทีมชาติไทยตอนนี้มีความสมบูรณ์ทุกคน โดยมีลุ้นอย่างน้อยถึง 3 รุ่น ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวมีหลายชาติ ซึ่งแน่นอน จีน ที่ครองเจ้ากีฬายกน้ำหนักของโลกอยู่ เป็นคู่ต่อกรสำคัญที่สุด โดยจะมีการแถลงข่าวความพร้อมในวันที่ 25 ส.ค.เวลา 14.00 น. ที่ห้อง 222 สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.),สำหรับรายชื่อจอมพลังทีมชาติไทย ที่จะลงชิงชัย 15 คน ประกอบด้วย หญิง 7 คน พนิดา คำศรี รุ่น 48 กก., กิตติมา สุธานันต์ รุ่น 53 กก., สุกัญญา ศรีสุราช รุ่น 58 กก., ธิดารัตน์ รอดกิ่ง รุ่น 58 กก., พิมศิริ ศิริแก้ว รุ่น 63 กก., ชิดชนก พูลทรัพย์สกุล รุ่นมากกว่า 75 กก., แพรวนภา เคนจันทึก รุ่นมากกว่า 75 กก. ส่วนชาย 8 คน สินธุ์เพชร์ กรวยทอง รุ่น 56 กก., วิธวัฒน์ กฤษเพ็ชร รุ่น 62 กก., ธวัชชัย พลเชียงสา รุ่น 62 กก., วิษณุ จันทรี รุ่น 69 กก., จตุภูมิ ชินวงค์ รุ่น 77 กก., พรชัย ลบศรี รุ่น 77 กก., ศรัท สุ่มประดิษฐ รุ่น 94 กก., ติณณภพ กันระวังชัย รุ่น 105 กก.
ศึกยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2015 ระหว่างวันที่ 3-12 ก.ย.นี้ ที่ จ.ภูเก็ต เดินหน้าจัดตามกำหนดเดิม เสธ.ยอด พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย มั่นใจหน่วยงานความมั่นคงของไทย จะดำเนินการทุกอย่างด้วยความเรียบร้อย
null
ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2015,ภูเก็ต,อินทรัตน์ ยอดบางเตย,เสธ.ยอด,สมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/519277
คอบอลรอชม ยูฟ่า เนชันส์ลีก สิงโตดวลกระทิง บอลลีกทีมชาติมีตกชั้น
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 24 ม.ค. ว่า สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ทำการจับสลากแบ่งกลุ่มการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติของทวีปยุโรปรายการใหม่ที่ใช้ชื่อว่า ยูฟ่า เนชันส์ลีก โดยเริ่มแข่งฤดูกาล 2018-19 นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม แข่งเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน 2018 ส่วนนัดชิงชนะเลิศ แข่งเดือนมิถุนายน 2019,สำหรับรูปแบบการแข่งขัน ยูฟ่า เนชันส์ลีก จะแบ่งชาติสมาชิกทั้ง 55 ชาติ ออกเป็น 4 ลีก โดยวัดจากอันดับแรงกิ้งฟีฟ่าของแต่ละชาติ ดังนี้,ลีกเอ มีทีมชาติอันดับ 1-12 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม ทีมอันดับ 1 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ ทีมชนะในรอบรองฯ จะเข้าไปเล่นนัดชิงชนะเลิศ ทีมแพ้ในรอบรองฯ ไปชิงอันดับ 3 ส่วนทีมอันดับ 3 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะหล่นลงไปเล่นลีกบี ในฤดูกาลต่อไป,ลีกบี มีทีมชาติอันดับ 13-24 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม ทีมอันดับ 1 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นลีกเอในฤดูกาลต่อไป ส่วนทีมอันดับ 3 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะหล่นลงไปเล่นลีกซีในฤดูกาลต่อไป,ลีกซี มีทีมชาติอันดับ 25-39 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม 3 กลุ่ม และมี 1 กลุ่ม 3 ทีม ทีมอันดับ 1 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นลีกบีในฤดูกาลต่อไป ส่วนทีมอันดับ 4 ของ 3 กลุ่ม และทีมอันดับ 3 ที่มีผลงานแย่สุดอีก 1 ทีม จะหล่นลงไปเล่นลีกดีในฤดูกาลต่อไป,ลีกดี มีทีมชาติอันดับ 40-55 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยทีมอันดับ 1 ของทั้ง 4 กลุ่ม จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นลีกซีในฤดูกาลต่อไป,ลีกเอ :, ,กลุ่ม 1 เยอรมนี, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์,กลุ่ม 2 เบลเยียม, สวิตเซอร์แลนด์, ไอซ์แลนด์,กลุ่ม 3 โปรตุเกส, อิตาลี, โปแลนด์,กลุ่ม 4 สเปน, อังกฤษ, โครเอเชีย,ลีกบี :,กลุ่ม 1 สโลวาเกีย, ยูเครน, เช็ก,กลุ่ม 2 รัสเซีย, สวีเดน, ตุรกี,กลุ่ม 3 ออสเตรีย, บอสเนีย, ไอร์แลนด์เหนือ,กลุ่ม 4 เวลส์, ไอร์แลนด์, เดนมาร์ก,ลีกซี :, ,กลุ่ม 1 สกอตแลนด์, แอลเบเนีย, อิสราเอล,กลุ่ม 2 ฮังการี, กรีซ, ฟินแลนด์, เอสโตเนีย,กลุ่ม 3 สโลวีเนีย, นอร์เวย์, บัลแกเรีย, ไซปรัส,กลุ่ม 4 โรมาเนีย, เซอร์เบีย, มอนเตเนโกร, ลิทัวเนีย,ลีกดี :, ,กลุ่ม 1 จอร์เจีย, ลัตเวีย, คาซัคสถาน, อันดอร์รา,กลุ่ม 2 เบลารุส, ลักเซมเบิร์ก, มอลโดวา, ซานมารีโน,กลุ่ม 3 อาเซอร์ไบจาน, หมู่เกาะแฟโร, มอลตา, โคโซโว,กลุ่ม 4 มาซิโดเนีย, อาร์มีเนีย, ลิกเตนสไตน์, ยิบรอลตาร์
ยูฟ่า เนชันส์ลีก ศึกลูกหนังรายการใหม่ของยุโรป ทีมชาติแบ่งกันแข่ง 4 ลีก มีตกชั้น สุดมันต้องยกให้ลีกเอ อังกฤษ เจอ สเปน และ เยอรมนี เจอของแข็งทั้ง ฝรั่งเศส และ เนเธอร์แลนด์ เริ่มแข่ง ก.ย.นี้
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ยูฟ่า เนชันส์ลีก,ยูฟ่า,สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป,ฟุตบอลยุโรป,ฟุตบอลทีมชาติ
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1185953
โค้ชด่วน ชี้ชัดเหตุสาวไทยพ่ายเบลเยียม ยก 3 สิ่งที่คู่แข่งเหนือกว่า
ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสนอของ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ออกมาเปิดใจหลังเกมพ่าย วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเบลเยียม 0-3 เซต ในศึก วอลเลย์บอล เนชันส์ลีก 2019,วันที่ 30 พ.ค. 62 ความเคลื่อนไหวหลังเกมที่ทาง ตบลูกยางสาว วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย แพ้ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเบลเยียม 0-3 เซต ด้วยคะแนน 21-25, 22-25, 23-25 ในศึก วอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ ลีก 2019 สัปดาห์ที่ 2 กลุ่ม 7 นัดที่ 3 (นัดส่งท้ายของสัปดาห์นี้) สนามมาเก๊า ฟอรัม เขตบริหารพิเศษมาเก๊า สาธารณรัฐประชาชนจีน,ล่าสุด โค้ชด่วน ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมออกมากล่าวว่า ผมว่าเป็นเกมที่ดีเกมหนึ่งเพราะว่าเราได้เรียนรู้กับทีมที่รูปร่างที่สูงและความเหนียวแน่นในเรื่องของการรับบอล รวมถึงประสิทธิภาพในการตีผมว่าเขาพัฒนาสิ่งเหล่านี้ขึ้นเยอะ แต่วันนี้ต้องยอมรับว่าตัวหลักเราในวันนี้ทำคะแนนได้น้อยมาก ข้อผิดพลาดของการเสิร์ฟและการรับเสิร์ฟทำให้มันส่งผลเสียในแต่ละเซต,บทสรุปของสัปดาห์นี้อยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้ มีวันนี้ที่ลูกทีมมาตรฐานตกลงไปหน่อยแต่อาจเพราะเป็นผลมาจากเกมเมื่อวานกับเกาหลีใต้ที่เราใส่เต็มที่ เพราะฉะนั้นเราพยายามเติมพลังให้กับเด็กในเรื่องของการเล่นของเกมหนักๆ 3 วัน 3 เกม เราจึงต้องเร่งแก้ไขต่อไป
ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนของ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ออกมาเปิดใจหลังเกมพ่าย วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเบลเยียม 0-3 เซต ในศึก วอลเลย์บอล เนชันส์ลีก 2019
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
โค้ชด่วน,ดนัย ศรีวัชรเมธากุล,วอลเลย์บอล,วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย,วอลเลย์บอล เนชันส์ลีก
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1580591
นิชคุณ กรี๊ดเอง ร่วมงานซุปตาร์ปั้นไอดอล ลุยงานไทยจีนญี่ปุ่น พร้อมซุ่มทำอัลบั้มโซโล่
กรี๊ดเดย์, ที่ ,Viu, จัดให้สมาชิก ,Viu Premium, เรียกเสียงกรี๊ดกระหึ่มทั่วลานฮาร์ดร็อก สยามสแควร์ ที่งานนี้รวมทั้งสองนักแสดงนำจากซีรีส์ ,My Bubble Tea หวานน้อยรัก 100%, นำโดยนักแสดงนำ ,มีน–พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, และ ,นิชคุณ หรเวชกุล, ที่คราวนี้นอกจากมาใกล้ชิดแฟนๆ นิชคุณ ยังมาอัปเดตผลงานล่าสุด หลังมีภาพโปรเจกต์ ,The Brothers, รวม 4 ซุปตาร์ตัวท็อป ,ติ๊ก–อนันดา–มาริโอ้–นิชคุณ, ฟอร์มทีมปั้นไอดอลชาย,เลยต้องถามนิชคุณเรื่องที่มาร่วมโปรเจกต์นี้?,เป็นรุ่นพี่มากกว่า ผมเอาประสบการณ์ที่ผมทำงานมาสิบกว่าปีในวงการมาแบ่งปันให้กับน้องๆ รุ่นน้องที่จะเข้ามาเทรนเป็นเวลา 90 วัน,ร่วมงานกับติ๊ก อนันดา มาริโอ้ ด้วย? ,ผมเป็นแฟนคลับพี่ติ๊ก พี่อนันดามานานแล้ว โอ้ก็เป็นเพื่อนกัน ก็รู้สึกดีใจครับที่เค้าเลือกผมมาเป็นหนึ่งในรุ่นพี่,ถือเป็นแนวถนัดของเรา?,ไม่แน่ใจครับ ถ้าเรื่องประสบการณ์ผมก็มีมาสิบกว่าปีแล้ว น่าจะมีอะไรที่แบ่งปันให้กับรุ่นน้องได้ เพื่อจะช่วยให้เค้ามีอนาคตสดใสขึ้น ดีขึ้น,รวม 4 หนุ่มฮอตมาก? ,ผมเคยให้สัมภาษณ์แล้วว่ามีโปรเจกต์นึงที่สาวไทยต้องกรี๊ดแน่นอน ก็เป็นโปรเจกต์นี้แหละครับที่คันปากอยากจะบอกมานานแล้ว ก็ได้บอกซะที จริงๆ ยังไม่ได้เริ่มถ่าย ผมว่ามันน่าจะดี, แค่ปล่อยภาพออกมาสาวๆก็กรี๊ด? ,ใช่ ผมก็กรี๊ดเหมือนกัน,ถามถึงงานต่างๆปีนี้? ,ผมก็มีงานที่ไทย ที่จีน ที่ญี่ปุ่น และตอนนี้กำลังเตรียมอัลบั้มโซโล่เดี่ยวของผมอยู่ และกำลังจะมีคอนเสิร์ตปลายปีนี้ที่ญี่ปุ่น ก็กำลังฟิตอยู่,งานที่เกาหลีล่ะ? ,ไม่ได้รับงานเยอะเพราะเราไม่มีเวลา คือพอกลับไปเกาหลีปุ๊บก็ต้องบินไปจีนไปญี่ปุ่นต่อ ตอนนี้ที่เกาหลีงานหลักๆก็จะมีเอ็มซี วีเคป๊อป,เป็นเราเองที่ไม่ได้รับ? ,ก็ด้วยครับ คือผมก็อยากจะมาโฟกัสงานที่เมืองไทยและคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น เวลาก็ไม่ค่อยมีเท่าไหร่แล้ว,งานที่เกาหลีมีติดต่อมามั้ย? ,จริงๆงานที่เกาหลีก็มีติดต่อนะ แต่ด้วยเวลาก็ยากหน่อย งานที่ผมรับคือรับในสิ่งที่ผมอยากรับไม่ใช่รับทุกอย่าง ผมก็ทำในสิ่งที่อยากจะทำ,เกี่ยวกับบทมั้ย? ,บางทีก็เกี่ยว เพราะบางทีการพูดภาษาเกาหลีเก่งกับการที่แอ็กติ้งเก่งมันก็คนละเรื่อง อย่างภาษาไทยแล้วต้องมาแอ็กติ้งภาษาไทยผมยังเพี้ยนอะ พอเป็นภาษาเกาหลีมันก็เลยจะเพี้ยนมากกว่า เรื่องนี้มันสำคัญมาก ตอนนี้ก็เน้นงานเพลงไปก่อน.
เรียกว่ารวมตัวที่สุดของศิลปินหนุ่มหล่อชวนฝัน 8 คน มารวบตึงไว้ในอีเวนต์ กรี๊ดเดย์ ที่ Viu จัดให้สมาชิก Viu Premium เรียกเสียงกรี๊ดกระหึ่มทั่วลานฮาร์ดร็อก สยามสแควร์
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
นิชคุณ หรเวชกุล,ไอดอลเกาหลี,ติ๊ก เจษฎาภรณ์,มาริโอ้ เมาเร่อ,อนันดา เอเวอริงแฮม,อัปเดตผลงาน,มีน พีรวิชญ์,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1697595
จับเอ็มระห์-วรรณาสามีภรรยาจัดหาที่พักให้ผู้ต้องหาวางระเบิดราชประสงค์ -ตร.ประสานขอตัวมาดำเนินคดี
วานนี้ (3 ธ.ค.2558) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงรายงาน การควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีระเบิดแยกราชประสงค์ได้เพิ่มเติม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานของอัยการและกระทรวงการต่างประเทศเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยมีรายงานว่าผู้ที่ถูกจับกุมตัวได้ในครั้งนี้คือ น.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเลาะห์ และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ชาวตุรกี 2สามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีออกจากประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากทางการตุรกีพบว่า อาศัยอยู่เกินกำหนดและถือหนังสือเดินทางปลอม โดย น.ส.วรรณา ถูกกล่าวหาทำหน้าที่เป็นผู้ที่เปิดห้องเลขที่ 9106 ภายในอาคารที่พักอาศัยย่านมีนบุรี ซึ่งผลจากการตรวจค้นภายในห้องพักพบของกลางที่สามารถนำมาทำระเบิดได้ขณะที่นายเอ็มระห์ ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาที่พักให้กลุ่มผู้ต้องหาที่อยู่ในขบวนการวางระเบิดทั้งที่บริเวณราชประสงค์ และท่าเรือสาทร และพบว่ามีการรับโอนเงินจากบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ เพื่อใช้ซื้อสารประกอบวัตถุระเบิด
มีรายงานว่า มีการควบคุมตัวผู้ต้องหา 2 คน ในคดีระเบิดราชประสงค์ ได้ในต่างประเทศ โดยรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อขอนำตัวกลับมาดำเนินคดี
อาชญากรรม
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,ระเบิด,ราชประสงค์,วรรณา,วรรณา สวนสัน,เอ็มระห์ ดาวูโตกลู,ไมซาเลาะห์
https://news.thaipbs.or.th/content/6504
ชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน แนะปรับระบบดูแลเด็กป่วยเบาหวานชนิดที่ 1
ช่วยเข้าถึงการรักษาอย่างต่อเนื่อง เสนอปรับระบบดูแลเด็กป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 อย่างเหมาะสม เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมระบุเด็กป่วยเบาหวาน เติบโตเหมือนเด็กทั่วไป มีทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ วิศวกร และเนติบัณฑิต ช่วยพัฒนาประเทศได้3 มี.ค. 2562 นางโสภา รัตนทัศนีย์ ที่ปรึกษาชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน และคุณแม่ดูแลลูกมีภาวะเบาหวานชนิดที่ 1 มา 27 ปี กล่าวว่า โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นโรคที่พบในเด็ก ส่วนใหญ่พบช่วงอายุ 9-11 ปี แต่ระยะหลังมานี้เริ่มพบในกลุ่มเด็กเล็กมากขึ้น ทั่วประเทศคาดว่ามีประมาณ 10000 ราย การดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 มีความยุ่งยากกว่าเบาหวานในผู้ใหญ่อย่างมาก เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดจะแกว่งอย่างรวดเร็ว จากระดับน้ำตาลสูงลดลงต่ำอย่างฉับพลันได้ ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อภาวะช็อกได้ จึงต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยเน้นการสร้างสมดุลระหว่างอาหารที่รับประทานและการฉีดอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รวมทั้งการออกกำลังกายควบคู่อย่างสม่ำเสมอ โดยผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 จะขาดยาไม่ได้และต้องได้รับการฉีดอินซูลินไปตลอดชีวิต กรณีคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว จ.นนทบุรี ที่มีลูกอายุ 7 ปีป่วยเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 และลูกต้องอยู่บ้านคนเดียวถือว่ามีความเสี่ยงมาก หากไม่ได้รับยาและเกิดภาวะช็อกขึ้นทำให้เสียชีวิตได้ส่วนความถี่ในการฉีดยาอินซูลินในแต่ละวันนั้น ขึ้นอยู่กับภาวะของผู้ป่วยเด็ก ซึ่งอย่างต่ำต้องรับยาฉีด 4 ครั้งต่อวัน บางรายฉีด 5 ครั้งต่อวัน หรืออาจมากกว่านั้นได้ เพื่อให้มีอินซูลินไปเลี้ยงร่างกายอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการฉีดหลังรับประทานอาหาร มีบางคนฉีดถึง 10 ครั้งต่อวันก็มีนางโสภา กล่าวว่า ปัจจุบันสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ได้ครอบคลุมสิทธิประโยชน์การรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 แล้ว ช่วยให้เด็กที่ป่วยด้วยโรคนี้เข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้น หลายคนได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 พันบาท/เดือน แต่ยังมีปัญหาการเข้าไม่ถึงบริการอยู่ เนื่องจากโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นโรคที่ต้องรักษาและดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ เพราะภาวะโรค อาการรวมถึงการดูแลรักษาที่มีความแตกต่างจากเบาหวานในผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่แพทย์เหล่านี้จะประจำในโรงพยาบาลใหญ่ เด็กที่มีสิทธิการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลจะใช้วิธีการส่งตัว ซึ่งผู้ปกครองต้องไปรับใบส่งตัวที่โรงพยาบาลก่อนทุกครั้ง และเมื่อรักษาระยะหนึ่งทางโรงพยาบาลจะงดการส่งตัวและดึงผู้ป่วยกลับมารักษาเอง โดยให้เหตุผลว่าโรงพยาบาลมีศักยภาพรักษาได้เพราะมีบริการรักษาโรคเบาหวานผู้ใหญ่อยู่แล้ว ปรากฏว่าเด็กจะได้รับการดูแลที่แตกต่างจากโรงพยาบาลใหญ่ จากยาที่เคยได้รับและถูกปรับขนาดอย่างเหมาะสมกับเด็กแล้ว ก็ต้องปรับเปลี่ยนใหม่เนื่องจากโรงพยาบาลไม่มียาดังกล่าว ส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาล กระทบกับเด็กขณะที่เข็มฉีดยาที่ได้รับก็เป็นขนาดเดียวกับผู้ใหญ่ ซึ่งเด็กที่ป่วยเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ต้องฉีดยาอินซูลินอย่างน้อย 4 ครั้งต่อวัน และฉีดทุกวัน ซ้ำยังต้องเจาะเลือดบ่อยครั้งเพื่อวัดปริมาณน้ำตาลในเลือด แต่เข็มที่ใช้กลับเป็นเข็มขนาดเดียวกับที่ผู้ใหญ่ได้รับ คิดดูว่าเด็กจะเป็นอย่างไร ทำให้บางรายมีการขอรับบริจาคเข็มฉีดยาเบาหวานที่เหมาะสมกับเด็กในกลุ่มผู้ป่วยด้วยกันสำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ในเด็ก นางโสภา กล่าวว่า ระดับน้ำตาลของผู้ป่วยจะค่อนข้างแกว่งมาก ทำให้ในแต่ละวันต้องมีการวัดระดับน้ำตาลในเลือดค่อนข้างบ่อย เพื่อปรับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ดังนั้นแผ่นวัดระดับน้ำตาลจึงเป็นวัสดุทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ เท่าที่ทราบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้กำหนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายแผ่นวัดระดับน้ำตาลให้กับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 แต่ด้วยราคาที่สูงเฉลี่ย 10 บาทต่อแผ่น ทำให้มีการจำกัดการเบิกจ่าย 4 ชิ้นต่อวัน ซึ่งมีผู้ป่วยบางรายต้องใช้มากกว่า 4 แผ่น เพราะน้ำตาลในเลือดแกว่งมาก จึงอยากให้มีการปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายให้สอดคล้องกับสภาวะผู้ป่วย ทั้งบางครั้งยังติดการเบิกจ่ายที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ยังอยากให้มีการกำหนดแนวทางการรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ในโรงพยาบาลทุกแห่งให้ปรับเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้เกิดการดูแลเด็กอย่างเหมาะสมเด็กที่ป่วยเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ต้องเข้าใจว่าอวัยวะทุกอย่างในร่างกายเขาดีหมด มีเพียงตับอ่อนที่มีปัญหาการทำงานไม่ปกติเท่านั้น ต่างจากผู้ใหญ่ที่อวัยวะในร่างกายเริ่มเสื่อมถอยแล้ว หากเด็กเหล่านี้เข้าถึงการรักษาอย่างเหมาะสม มีการดูแลที่ดีต่อเนื่องก็สามารถเติบโตได้อย่างเด็กปกติทั่วไป ที่ผ่านมามีเด็กป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ไม่น้อยได้ประกอบอาชีพต่างๆ ที่ช่วยดูแลสังคม มีทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ วิศวกร และเนติบัณฑิตได้ รวมถึงอาชีพที่ต้องเดินทางต่อเนื่อง ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป เราจะไม่รู้เลยว่าเขาเหล่านี้เป็นเบาหวานหากไม่หยิบเข็มขึ้นมาฉีดอินซูลินที่ปรึกษาชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน กล่าวว่า ทั้งนี้เด็กที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นกลุ่มเด็กที่น่าสงสารมาก นอกจากต้องคอยฉีดยาและเจาะเลือดวันละหลายครั้งแล้ว มีหลายคนยังถูกเพื่อนล้อเลียนบ้าง แกล้งบ้าง เคยมีกรณีผลักขณะฉีดยาก็มี ทำให้เด็กบางคนไม่ยอมฉีดยา และไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก ดังนั้นทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันดูแลนางโสภา กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้รัฐบาลให้การสนับสนุนการรักษาโรคอื่นๆ อย่างเต็มที่ อยากให้เพิ่มเติมการดูแลโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ที่ผู้ป่วยยังเป็นเด็กอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับโรคอื่น ซึ่งเด็กเหล่านี้เป็นอนาคตให้กับประเทศชาติได้ ให้เด็กๆ เข้าถึงการรักษาที่ดีและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ที่ปรึกษาชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน เผยเด็กป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ฉีดอินซูลินอย่างต่ำ 4 เข็ม/วัน ซ้ำเป็นโรคไม่หายขาดต้องรับยาฉีดไปตลอดชีวิต เผยค่ารักษาเฉลี่ย 3-4 พันบาท/เดือน สิทธิบัตรทอง
สังคม,คุณภาพชีวิต
สปสช.,เบาหวาน,เยาวชน,สุขภาพ,ชมรมเพื่อเด็กและวัยรุ่นเบาหวาน
https://prachatai.com/journal/2019/03/81308
กอล์ฟ-ไมค์ แจกอาหารที่มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย
2 พี่น้อง กอล์ฟ พิชญะ และ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล เดินทางมาช่วยแจกอาหารที่มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ให้กับประชาชนที่เดินทางมาถวายความสักการะ ในวันนี้ ที่ท้องสนามหลวง ซึ่ง 2 พี่น้องเผยถึงความรู้สึกที่ได้มาช่วยแจกอาหารในวันนี้ว่า,ไมค์ เผยว่า วันนี้รู้สึกดีใจ เพราะมีประชาชนชาวไทยมาต่อแถวเพื่อรับอาหาร มีข้าวเหนียวไก่ทอด ถามว่าได้อยู่ในบูธเดียวกับพระองค์โสม ที่ทรงทอดไก่ด้วยพระองค์เองรู้สึกอย่างไร รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสแจกข้าวเหนียวไก่ทอดที่พระองค์ท่านทรงเป็นคนทอด ตอนที่พระองค์ท่านทรงทอดไก่อยู่ ท่านมีรับสั่งว่า ข้าวเหนียวไก่ห่อไหนที่ห่อไม่ดี ให้ห่อใหม่ พระองค์ท่านบอกว่าคิวซีไม่ผ่านให้ห่อใหม่ เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่พระองค์ท่านทรงใส่ใจ ซึ่งวันนี้มากันทั้งครอบครัวเลย คุณพ่อคุณแม่ก็มาด้วย แต่ครั้งนี้ไมค์มาเป็นวันแรก เพราะผมเพิ่งบินกลับมาจากจีน เมื่อ 2 วันแล้ว พอมาเห็นบรรยากาศที่คนไทยมารวมตัวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นแล้วรู้สึกชื่นใจว่าคนไทยยังรักกันอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่ผมอยู่จีน ทราบข่าวว่าพระองค์ท่านเสด็จสวรรคตตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ความรู้สึกของผมเหมือนกับประชาชนคนไทยทุกคน แต่ด้วยความที่ผมอยู่ที่จีนผมเป็นคนไทยคนเดียว ด้วยความที่คนต่างชาติอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ มีแนวพระราชดำรัสอะไรที่ยึดถือ? ไมค์จะใช้เรื่องการอยู่อย่างพอเพียง พอเพียงในที่นี้ เราต้องพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ หลังจากนี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องของหน้าที่ ชาวไทยทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง ส่วนเรื่องพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน ไมค์ประทับใจในเรื่องของดนตรี ที่พระองค์ท่านทรงเป่าแซกโซโฟน และทรงเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด และไมค์ได้เห็นคลิปที่พระองค์ท่านทรงสนทนาเป็นภาษาฝรั่งเศส ผมก็เลยแอบคิดว่า เราก็อยากจะลองเรียนภาษาฝรั่งเศสดู เพราะพระองค์ท่านทรงพูดออกมาได้ไพเราะมาก ต้องบอกตามตรงว่า ผมเองไม่เคยรู้มาก่อนว่าพระองค์ท่านสามารถพูดได้ถึง 6 ภาษา,ส่วนเรื่องการทำความดีถวายพระองค์ท่าน ไมค์คิดว่าควรเริ่มจากครอบครัวตัวเองก่อน เริ่มจากทำดีกับคุณพ่อคุณแม่ ถ้าคุณพ่อของเรายังอยู่ เราก็เริ่มจากดูแลท่านให้ดี พ่อแม่พี่น้องทุกคนก็ดูแลให้ดี ไมค์คิดว่าควรเริ่มต้นจากหน้าที่ของตัวเองให้ดีก่อน เริ่มจากตัวเราไม่ต้องไปเริ่มที่ใคร ,ด้าน กอล์ฟ เผยว่า เราก็ตอบรับเลยทันที เพราะมันเป็นสิ่งที่ดี กอล์ฟกับขวัญ (อุษามณี ไวทยานนท์) มาช่วยกันตลอดอยู่แล้ว วันนี้รู้สึกปลาบปลื้มที่ครั้งหนึ่งได้มาถวายงานกับพระองค์ท่านช่วยเหลือผู้อื่น รู้สึกดีใจในฐานะที่เราเป็นประชาชนชาวไทย ความรู้สึกของผมทุกครั้งที่มาสนามหลวงเห็นทุกคนที่มาร่วมมือร่วมใจกันช่วยอะไรได้ก็ช่วย เป็นสิ่งที่รู้สึกปลาบปลื้ม และคิดว่าไม่อยากให้เป็นแค่ช่วงนี้ หรือวันนี้ อยากให้เป็นตลอดไป ไมใช่แค่มาช่วยแจกของ แต่อาจจะมาช่วยทำความสะอาดก็ได้ จุดที่มันสกปรก อยากให้พ่อหลวงมองลงมาแล้วพระองค์ท่านรู้สึกว่า ลูกของท่านไม่ได้มารวมตัวแค่ช่วงนี้นะ แต่ต่อๆ ไปก็ยังสามัคคีกันอยู่ เคยมีโอกาสได้ถวายงานพระองค์ท่านไหม? เรื่องเข้าเฝ้าฯ กอล์ฟยังไม่เคยมีโอกาส แต่เคยเล่นละครเทิดพระเกียรติ เรื่อง ลูกหนี้ที่รัก เป็นเรื่องเกี่ยวกับความพอเพียง การบริหารจัดการเงินให้พอตัวเท่าที่เรามี ถ้าใช้มากไปเราก็จะเป็นหนี้ ส่วนเรื่องการทำความดีถวายในหลวง กอล์ฟคิดว่าการที่เราเป็นศิลปินดารา เราสร้างความสุขให้แก่คนดูก็ถือว่าเป็นบุญอย่างหนึ่งแล้ว แต่ถ้าเราสามารถชักจูงคนอื่นๆ ให้มาร่วมทำความดีด้วยได้ ผมคิดว่ามันจะเป็นบุญมหาศาล ผมภูมิใจมากที่ได้เกิดในรัชกาลที่ 9 เราอาจจะเกิดในช่วงที่ไม่ได้รู้ว่าท่านทำงานเหนื่อยขนาดไหน แต่พอเราโตขึ้นมา เราได้ซึมซับจากการเรียน และเห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ทำให้เรารู้ว่า พระองค์ท่านทรงทำอะไรเพื่อเราบ้าง ทำให้เราภาคภูมิใจว่า การได้เกิดในรัชกาลที่ 9 ถือว่าเราโชคดีมาก เพราะประเทศเจริญแล้ว และสิ่งดีๆ ที่ในหลวงทรงทำให้เราได้อยู่อย่างมีความสุข และจะเป็นสิ่งที่กอล์ฟจะไปเล่าให้ลูกหลานของเราฟังตลอดไป จริงๆ การเริ่มต้นทำความดี เราควรจะเริ่มต้นทำความดีจากสิ่งเล็กๆรอบๆ ตัวเราก่อน ไม่ต้องคิดว่าทำเพื่อใคร แค่ทำดี ซื่อสัตย์ต่อตัวเองและคนรอบข้างเรา กอล์ฟคิดว่าถ้าทุกคนคิดแบบนี้ มันจะทำให้ประเทศของเราดี เพราะถ้าจิตใจของเราดี คนรอบตัวดี ทุกคนมีความคิดบวก มีแต่พลังบวก กอล์ฟคิดว่า ประเทศเราจะน่าอยู่มากขึ้นอื่น 
2 พี่น้อง กอล์ฟ พิชญะ และ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล เดินทางมาช่วยแจกอาหารที่มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ให้กับประชาชนที่เดินทางมาถวายความสักการะ ในวันนี้ ที่ท้องสนามหลวง
null
ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล,ไมค์ พิรัตช์ นิธิไพศาลกุล,กอล์ฟ ไมค์,ดาราจิตอาสา,ข่าว,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/771922
เช็คที่นั่ง ส.ส. ฝ่ายต้าน คสช. - ฝ่ายหนุนพลังประชารัฐ (27 พ.ค. 62 | 23.00 น.)
(หักกรณีธนาธรจะเหลือ 245 ที่นั่ง)พรรคพลังประชารัฐและพันธมิตร รวมเสียง ส.ส. ได้ 188 ที่นั่ง และพรรคที่ยังไม่ประกาศจุดยืน 66 ที่นั่งแม้ผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 จ.เชียงใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ค. พรรคอนาคตใหม่ชนะถล่มทลายจนได้ ส.ส. มาอีก 1 ที่นั่ง รวมเป็น 81 ที่นั่ง อย่างไรก็ตามสำหรับที่นั่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อลำดับสุดท้าย เมื่อคำนวณคะแนนทั้ง 350 เขตทั่วประเทศแล้ว ผลอย่างไม่เป็นทางการ จะทำให้พรรคไทรักธรรมที่เดิมมี ส.ส. 1 ที่นั่ง ต้องหลุดจากตำแหน่งไป ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ จะได้ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มมาพรรคละ 1 ที่นั่งโดยขั้วของพรรคเพื่อไทยและแนวร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. ทั้งหมด 7 พรรครวม ส.ส. 246 ที่นั่ง(แต่หากนับกรณีธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ตามคำสั่งศาลธรรมนูญ จะเหลือ 245 ที่นั่ง)ส่วนขั้วพรรคพลังประชารัฐและแนวร่วม ทั้งนี้แม้จะชนะการลงมติประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธาน อย่างไรก็ตามขั้วของพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มีทั้งหมด 16 พรรคการเมือง รวมที่นั่ง ส.ส. 188 ที่นั่งส่วนกลุ่มที่ยังไม่ประกาศจุดยืน ขณะนี้รวมกัน 66 ที่นั่ง ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส. 53 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา ส.ส. 10 ที่นั่ง และพรรคชาติพัฒนา ส.ส. 3 ที่นั่งสำหรับท่าทีของพรรคการเมืองขนาดกลาง ในวันที่ 27 พ.ค. พรรคประชาธิปัตย์รับเทียบเชิญร่วมรัฐบาลจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ยังไม่ตอบรับ โดยเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าต้องรอมติจากกรรมการบริหารพรรค ด้านอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแถลงข่าวร่วมกับ อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล พรรคชาติไทยพัฒนากลับเสนอจุดยืนใหม่ โดยนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงว่า การร่วมลงมติเลือกชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนเป็นการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ยังไม่ถึงขั้นเข้าร่วมรัฐบาล เป็นการทำหน้าที่ ส.ส. เพียงแต่ลงมติไปทางเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ การมี ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็ถือเป็นเรื่องดี และพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ได้มีการเทียบเชิญเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ในเรื่องของการเข้าร่วมรัฐบาล ฝ่ายบริหารจะต้องมีการพูดคุยรายละเอียดที่ชัดเจนให้กรรมการบริหารพรรคตัดสินใจเขาระบุด้วยว่า พรรคชาติไทยพัฒนาเคยเป็นมาหมดแล้วทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่ที่ยังไม่เคยเป็น ก็คือพรรคการเมืองที่ดำรงตนอยู่ในสภาพเป็นกลางในสภา หรือฝ่ายกลางในสภา คือไม่สังกัดฝ่ายใด เป็นการทำหน้าที่โดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน แต่ทำหน้าที่นิติบัญญัติโดยโหวตเป็นวาระๆ ไป ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้ ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจขณะเดียวกัน ยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ว่าจะร่วมงานทางการเมืองกับฝ่ายใด
นับจำนวนที่นั่ง ส.ส. ของขั้วสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และขั้วสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ จนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 เวลา 23.30 น. โดยพรรคเพื่อไทยและพันธมิตร รวมเสียง ส.ส. ได้ 246 ที่นั่ง
การเมือง
จัดตั้งรัฐบาล,เลือกตั้ง 62,สาระ+ภาพ,พรรคภูมิใจไทย,พรรคพลังประชารัฐ,พรรคเพื่อไทย,พรรคอนาคตใหม่,พรรคประชาธิปัตย์
https://prachatai.com/journal/2019/05/82672
คลัง เคารพการตัดสินใจ กนง.คงดอกเบี้ย คาดเบิกจ่ายงบ 60 ตามเป้า
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% ว่า กระทรวงการคลังเคารพการตัดสินใจของทุกฝ่าย ซึ่งหน้าที่ในการกำกับดูแลนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีความเป็นอิสระอยู่แล้ว โดย กนง.ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ก็ยังมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ถึง 3.8% เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจขณะนี้ยังไปได้ดี โดยกระทรวงการคลัง จะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 60 อีกครั้งในเดือน ต.ค. และมองว่าช่วงไตรมาส 3 เศรษฐกิจน่าจะขยายตัวได้ดีกว่า 2 ไตรมาสแรกของปี จึงทำให้ทั้งปีมีโอกาสสูงมากที่จะเศรษฐกิจจะโตได้ถึง 3.8%,ส่วนสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าในช่วงที่ผ่านมานั้น เชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ติดตามดูแลอยู่ และที่ผ่านมา กนง. ได้มีการพิจารณาประเด็นต่างๆ อย่างใกล้ชิด โดยในส่วนของกระทรวงการคลังไม่ได้มีความเป็นห่วงแต่อย่างใด เพียงแต่ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่สะท้อนมุมมองของภาคต่างๆ ที่ได้แสดงความกังวลเข้ามาเท่านั้น,สำหรับความเห็นของ กนง.ที่ระบุว่าเงินบาทไม่ได้แข็งค่าไปกว่าประเทศคู่แข่งนั้น เป็นมุมมองของ กนง.ที่ต้องมองในภาพรวมของเศรษฐกิจ และที่ผ่านมาทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังได้มีมุมมองต่อตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ค่อนข้างตรงกัน เพียงแต่ กนง.อาจมองภาพในระยะสั้นก่อน และจะมีการปรับมุมมองทุก 6 สัปดาห์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น,ขณะที่การลงทุนภาครัฐที่ชะลอตัวลง อาจเป็นได้ในบางช่วง แต่เชื่อว่าจะส่งผลดีในช่วงถัดไป เนื่องจากงบลงทุนในปีงบประมาณ 60 ได้เบิกจ่ายไปแล้ว 70.7% และมีการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว 85.1% ซึ่งในส่วนนี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้,ส่วนภาพรวมการใช้จ่ายของภาครัฐปีงบประมาณ 60 ล่าสุด ณ วันที่ 22 ก.ย. 60 พบว่าเบิกจ่ายไปแล้ว 93.3% และคาดว่าถึงสิ้นปีงบประมาณจะทำได้ตามเป้าหมาย ขณะที่  มีการทำสัญญาผูกพันโครงการไปแล้ว 96.7% สำหรับงบกลางปี 1.9 แสนล้านบาทนั้น สามารถเบิกจ่ายได้แล้ว 49.8% และน่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เข้ามาช่วยเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ของปีนี้.
คลัง เคารพการตัดสินใจ กนง.คงดอกเบี้ย จ่อปรับประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้ง เดือน ต.ค. มองทั้งปีจีดีพี จะโต 3.8% เผยภาครัฐ เบิกจ่ายแล้ว 93.3% คาดตามเป้า
ข่าว,เศรษฐกิจ
คงดอกเบี้ย,มติกนง.,คลังเคารพการตัดสินใจกนง.,กนง.,เศรษฐกิจไทยปี 60,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1083589
ฮือฮา ปรากฏการณ์ฟ้าต่างสี วันเห-มา-ยัน ฟ้ากับขาวตัดกันชัดเจน (ชมคลิป)
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 ธ.ค.58 ผู้สื่อข่าว จ.สุโขทัย รายงานว่า ได้มีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นบนท้องฟ้า จากที่ในช่วงเช้าท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้าสดใส พระอาทิตย์ส่องแสงสวยงามตามปกติ แต่พอเริ่มสาย ได้มีผืนเมฆสีขาวกว้างใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาปกคลุมจากทางทิศใต้อย่างช้าๆ ใช้หลายชั่วโมง จนฟ้าแบ่งเป็นสองสี คือสีขาวกับสีฟ้าอย่างชัดเจน มองดูสวยงามแปลกตา,จากการที่ได้เฝ้าดูอยู่ตลอดพบว่า ในที่สุดผืนเมฆสีขาวได้แผ่ปกคลุมและบดบังดวงอาทิตย์กับผืนฟ้าจนมิดหมด ส่งผลให้บรรยากาศครึ้มลง โดยชาวบ้านต่างพากันออกมาเงยหน้าดู พร้อมวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา หลายคนนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิปส่งต่อกันในโลกโซเชียล เนื่องจากเป็นภาพที่หาดูได้ยาก ซึ่งหลายคนบอกว่า ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน,อย่างไรก็ตาม วันนี้ (22 ธ.ค.) นักดาราศาสตร์ระบุว่า เป็นวัน เห-มา-ยัน หรือวันตะวันอ้อมข้าว ซึ่งเป็นวันที่กลางคืนจะมีเวลามากกว่ากลางวันถึง 41 นาที ถือเป็นวันเปลี่ยนฤดู โดยซีกโลกเหนือจะเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่ซีกโลกใต้ เปลี่ยนเข้าสู่ฤดูร้อน,ส่วนที่ จ.แพร่ เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดบนท้องฟ้า ชาวบ้านหลายหมู่บ้านพากันแตกตื่นออกมาดูก้อนเมฆขนาดใหญ่ รวมตัวเกาะกันลักษณะแนวกำแพง เป็นแนวยาวอยู่ทางด้านทิศตะวันออก บางแห่งเป็นเมฆโปร่งขาว บางแห่งมืดดำ จากนั้นในช่วงเวลา 15.00-16.00 น. ก้อนเมฆที่เกาะตัวก็สลายกลายเป็นเมฆเล็กๆ เหมือนคลื่นน้ำในทะเล บางแห่งคล้ายขั้นบันได ทำให้ชาวบ้านที่เห็น ต่างออกมาถ่ายรูป นำไปโพสต์ลงในโซเชียล,ด้าน นายพงศ์กร แจ้งสว่าง ผอ.อุตุนิยมวิทยาจังหวัดแพร่ เผยว่า ไม่ใช่เหตุการณ์ประหลาดอะไร เป็นเพียงกลุ่มเมฆที่หนาทึบมารวมตัวกันและเกาะเป็นก้อน เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง ไม่มีกระแสลมแรง ทำให้เมฆเกาะตัว จะเห็นได้ว่า ก้อนเมฆเหล่านี้เริ่มมาจากทางด้านทิศตะวันออก และค่อยๆ กระจายขึ้นท้องฟ้า ไหลลงไปทางทิศตะวันตก จะเห็นได้ชัดเจนในพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็น ซึ่งทราบว่า มีทั้งในเขต จ.น่าน แพร่ และอุตรดิตถ์.,อ่านเพิ่มเติม,สดร.เผย 22 ธ.ค. วัน เห-มา-ยัน ตะวันอ้อมข้าว กลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี
ชาวสุโขทัยฮือฮา ท้องฟ้าแบ่งเป็น 2 ฝั่ง 2 สี ในวันเห-มา-ยัน ที่กลางวันสั้นกว่ากลางคืน 41 นาที จากที่ตอนเช้าท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้าสดใส แต่ถูกแผ่นเมฆสีขาวค่อยๆ เคลื่อนเข้ามา จนในที่สุดฟ้าถูกแบ่งเป็น 2 สีอย่างชัดเจน มองดูสวยงามแปลกตา
ข่าว,ทั่วไทย
ฟ้าสองสี,ฟ้าต่างสี,ฟ้าแบ่งสี,ปรากฏการณ์,วันเห-มา-ยัน,ตะวันอ้อมข้าว,กลางคืนยาวที่สุด,สุโขทัย,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/552687
ประยุทธ์ ใช้ม.44 เปลี่ยนใจ เลิกตั้ง นัฑ ผาสุข เป็นเลขาฯ สภาผู้แทนฯ
ประยุทธ์ ใช้ม.44 เปลี่ยนใจ เลิกตั้ง นัฑ ผาสุข เป็นเลขาฯ สภาผู้แทนฯ แล้ว หลังข้าราชการสภาฯ นัดแต่งดำประท้วง ด้านพรเพชร รับเสนอชื่อ นัฑ หวั่นกระเพื่อมขอหัวหน้า คสช. ยกเลิก ยัน จเร ทำสภาใหม่ช้า19 ต.ค. 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช) ที่ 38/2558 ลงนามโดย พล.อ.ปะยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 37/2558 มีเนื้อหาว่าเพื่อให้การดำเนินงานขององค์กรฝ่ายนิติบัญญัติและการบริหารราชการในสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้นสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) 2557 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้ข้อ 1 ให้ยกเลิกข้อ 3 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 37/2558 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2558 โดยให้ถือว่า นายนัฑ ผาสุข มิเคยพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และมิเคยได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มาก่อน ทั้งนี้ ไม่เป็นการกระทบต่อการใดๆ ที่นายนัฑ ผาสุข ได้กระทำลงไปในฐานะเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับข้อ 2 ตามที่คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภาได้มีมติเห็นชอบให้นายนัฑ ผาสุข ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการวุฒิสภา สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แล้วนั้น ให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไปให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายข้อ 3 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปโดยเมื่อวันที 16 ต.ค. ที่ผ่านมา รายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 ย้าย นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้ นายนัฑ มาเป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จนทำให้เกิดปฏิกิริยาจากข้าราชการ ฝั่งสำนักงานเลขาธิการผู้แทนราษฎรบางส่วนโดยได้เริ่มส่งข้อความผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ไปในหมู่ข้าราชการด้วยกัน ให้แต่งกายชุดดำมาทำงานในวันจันทร์ที่ 19 ต.ค. นี้ เนื่องจากไม่พอใจที่มีการแต่งตั้งคนจากทางฝั่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา มาเป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แทนที่จะให้ลูกหม้อของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรขึ้นมาดำรงตำแหน่ง19 ต.ค. 2558 รายงานว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึง กรณีพล.อ.ประยุทธ์ ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.แก้ไขคำสั่งวานนี้ดังกล่าวว่า ตนมองว่าการที่ให้นายจเร พ้นจากตำแหน่งนั้น เป็นเพราะดำเนินการล่าช้าในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ก่อสร้างได้เพียงร้อยละ15-16 เท่านั้น ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนนี้ก็จะครบกำหนดในการก่อสร้าง รวมถึงยังมีเรื่องการร้องเรียนการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง คสช. จึงมีความกังวลและได้ปรับเปลี่ยนการทำงานให้นายจเร ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรีแทนทั้งนี้ นายพรเพชร ยอมรับว่า ตนได้เป็นคนเสนอชื่อ นายนัฑ ให้มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนไม่ได้มองว่าจะเป็นการขัดหรือข้ามการทำงานระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพราะตนคิดว่าสองสภานี้ก็ต้องทำงานร่วมกัน อีกทั้งตนเห็นว่า เรื่องปัญหาการก่อสร้างรัฐสภาหรือการแก้ปัญหาการทุจริต ต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาแก้ไข ตนยืนยันว่าไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังใดๆอย่างไรก็ตาม เมื่อมีการพูดถึงกรณีนี้กันมาก ทางนายกรัฐมนตรีก็มีความเป็นห่วง ซึ่งตนก็ไม่อยากให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองขึ้น จึงได้มีคำสั่งหัวหน้าคสช.ยกเลิกการแต่งตั้ง นายนัฑ ผาสุข นั่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรสำหรับการแต่งตั้งตำแหน่งเลขาสภาผู้แทนราษฎร นายพรเพชร กล่าวว่า ต้องใช้เวลาในการพิจารณา โดยขณะนี้ก็จะใช้รักษาการแทนไปก่อน คือ นางจันทร์เพ็ญ อานามวัฒน์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่มีอาวุโสสูงสุด และได้มีการพูดคุยกันแล้ว ซึ่งถ้ารับได้ในการทำงานก็จะดำเนินการนำเรื่องโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป อีกทั้งกล่าวว่า จะต้องหาคนที่จะมาแก้ปัญหาการดำเนินการล่าช้าในการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ให้ได้นอกจากนี้นายพรเพชร กล่าวถึง ประชุมคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. เพื่อลงมติเลือกกรรมการ ป.ป.ช. ให้เหลือ 5 คน (จากผู้สมัครจำนวน 59 คน) ว่า ตนประเมินตาม3ข้อ ซื่อสัตย์ ไม่มีตำหนิ ไม่เคยถูกฟ้องร้องหรือสอบสวนวินัย มีประวัติการทำงานดีเด่น ประประโยชน์แกประเทศชาติ มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ และเป็นที่ปรึกษา ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประกอบอาชีพใดๆไม่ได้ วันนี้เป็นการพิจารณาแต่จะยังไม่ได้ผลเลย เพราะขาดประธานศาลปกครองสูงสุดเข้าร่วมประชุม เกรงว่าคะแนนเสียงในการแต่งตั้งจะเท่ากันแล้วเกิดปัญหาขึ้น
ประยุทธ์ ใช้ม.44 เปลี่ยนใจ เลิกตั้ง นัฑ ผาสุข เป็นเลขาฯ สภาผู้แทนฯ แล้ว หลังข้าราชการสภาฯ นัดแต่งดำประท้วง ด้านพรเพชร รับเสนอชื่อ นัฑ หวั่นกระเพื่อมขอหัวหน้า คสช. ยกเลิก ยัน จเร ทำสภาใหม่ช้า 19
การเมือง
การโยกย้ายข้าราชการ,คำสั่งหัวหน้า คสช.,จเร พันธุ์เปรื่อง,นัฑ ผาสุข,ปะยุทธ์ จันทร์โอชา,ม.44,เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
https://prachatai.com/journal/2015/10/62015
กะทันหัน เมสซีเจ-มานูเอล ควงคู่ถอนทัพ ช้างศึก ชวดโซ้ยเมียนมา
วันที่ 4 ต.ค. 60 ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลาง และ มานูเอล ทอม เบียรห์ กองหลังทีมชาติไทย ถอนตัวจาก ทัพช้างศึก กะทันหัน ระหว่างเก็บตัวที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ก่อนพบกับ ทีมชาติเมียนมา ในเกมกระชับมิตร ภายใต้ปฏิทินฟีฟ่าเดย์,โดยทั้งคู่เดินทางมาเก็บตัวกับ ทีมชาติไทย ตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าล่าสุดในรายของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มีอาการป่วยกะทันหัน รวมถึงมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ทีมแพทย์และทีมงานสตาฟฟ์โค้ช เห็นว่าควรถอนตัวออกไปทั้งในเกมกับ ทีมชาติเมียนมา และ ทีมชาติเคนยา เพื่อไปพักฟื้นที่ประเทศไทยอย่างเต็มที่,อุกฤษฏ์ ฉวีวรรณากร แพทย์ประจำทีมชาติไทย กล่าว่วา ตั้งแต่มาถึง เจ (ชนาธิป สรงกระสินธ์) มีอาการเจ็บคอ อีกวันหนึ่งเหมือนจะหนักขึ้นในช่วงเช้า จากนั้นสายๆ ไปซ้อม หลังกลับมาปรากฏว่าเจ็บคอมากขึ้น มีคออักเสบ ตรวจแล้วดูคอแดงๆ มีต่อมน้ำเหลืองโตนิดหน่อยด้วย เป็นอาการหนึ่งของคออักเสบ อีกทั้งยังมีไข้และปวดหัวมาก พอกินยาแล้วแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งไม่พร้อมเล่นกับ เมียนมา แน่นอน,ถ้าอยู่ต่อไปหรืออยู่ซ้อม อาการคงหนักขึ้นเพราะแดดที่นี่แรงด้วย ผมจึงเห็นว่าอาจต้องตรวจเลือดด้วย จึงตัดสินใจให้กลับ รวมถึงทีมโค้ชเองก็โอเค และ เจ ก็มีอาการเจ็บกล้ามเนื้ออักเสบ ด้านหลังต้นขาขวาด้วย,ขณะที่ มานูเอล ทอม เบียรห์ จำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทยเช่นกัน เนื่องจากภรรยาที่อยู่คนเดียว มีกำหนดคลอดลูกพอดี ในช่วงเช้าวันที่ 5 ตุลาคม 2560 แต่เจ้าตัวจะตามมาสมทบกับทีมอีกครั้ง ในช่วงเช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2560 ก่อนเกมพบกับ ทีมชาติเคนยา ในเกมกระชับมิตร วันที่ 8 ตุลาคม ที่เอสซีจี สเตเดียม
ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ มานูเอล ทอม เบียรห์ สองแข้งตัวเก่งของ ช้างศึก ทีมชาติไทย ถอนตัวออกจากทีมแบบกะทันหัน ก่อนที่จะลงอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติเมียนมา ในวันพรุ่งนี้
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
เมสซีเจ,ชนาธิป สรงกระสินธ์,มานูเอล ทอม เบียรห์,ทีมชาติไทย,ช้างศึก
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1089745
ยา? หมอประชารัฐ
เพราะฉะนั้น การแจกเงินคนไร้ที่พึ่งที่กำลังเป็นข่าวอื้อฉาว จึงผิดทั้งหลักการ ผิดทั้งการกระทำ ที่กำลังถูกลำเลิกเบิกประจานว่าสุมหัวกินกันทั้งกระทรวง,ผมสงสัยคนไร้ที่พึ่ง คนขอทาน รวมอยู่ในกลุ่มคนจน ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สองกลุ่ม กลุ่มแรกมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อปี กลุ่มที่สองรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปีหรือเปล่า?,คำตอบ ไม่ใช่ กลุ่มคนไร้ที่พึ่ง เป็นกลุ่มเล็ก มีจำนวนน้อย เท่าที่มีข่าวจังหวัดละราวๆ 5 พันคน นราธิวาสน้อยมาก มีแค่ 38 คน ส่วนคนจนกลุ่มแรก 5 ล้านกว่า กลุ่มสอง 11 ล้านกว่า,สองกลุ่มนี้ เท่าที่ยอมรับว่าเป็นคนจน ลงทะเบียนเอาไว้ เป็นงานที่ ทีมหมอประชารัฐสุขใจ จะบุกบั่นไปคุยหาวิธีเยียวยารักษาโรคจนถึงบ้าน,ผมพยายามมโนหมอประชารัฐสุขใจ ตั้งชื่อดูดีขนาดนี้ เนื้อตัวหน้าตาเป็นอย่างไร,เริ่มได้คำตอบบ้างจากทีมหมอประชารัฐ ฟากกระทรวงพาณิชย์ ที่เอาผู้หญิงไปฝึกวิชา แม่บ้าน ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นความจริงที่เจาะใจ บ้านเมืองเราตอนนี้ขาดแคลนอาชีพแม่บ้าน,ขนาดยังฝึกวิชาไม่จบหลักสูตร ก็มีองค์กรใหญ่ไปถามหา,แม่บ้านนั้น ผู้หญิงเป็นโดยหน้าที่ แต่บางลักษณะงาน เช่นงานเช็ดกระจก ยังไม่เคยทำก็ถูกสอนให้ทำ,ภาคโรงแรมขาดแม่บ้านมาก ผมดูข่าวผู้หญิงถูกฝึกให้ปูเตียงนอน เรียบตึง แบบที่เห็นในโรงแรมห้าดาว,นี่ก็เป็นอีกแขนงวิชาที่แม่บ้านชั้นดีที่สอบผ่านจะได้ค่าตอบแทนยุติธรรม,ได้วิชา แม่บ้าน ก็มีโอกาสที่จะหายจากโรคความจนได้ในเวลาไม่ช้า,อีกหนึ่งวิชา ที่ได้ทั้งหญิงและชายวิชาชงกาแฟ หมอประชารัฐไม่เพียงถ่ายทอดวิชาชงกาแฟให้อร่อยแล้วก็ยังหาลู่ทางให้ซื้อแฟรนไชส์ เปิดร้านให้ขายกาแฟ,ค่าแฟรนไชส์แพง ก็ขอราคาคนจน แต่ปัญหาที่จะได้เป็นเจ้าของร้านกาแฟ สำหรับคนจนส่วนใหญ่ก็ยังยาก เพราะต้องแสดงบัญชีธนาคาร ให้ หมอประชารัฐ เห็น หาเงินเป็น หมุนเงินเป็น,แม่ค้าขายผ้า แสดงบัญชีหมุนเงินหกเดือนก็เข้าตา หมอประชารัฐ ได้เป็นเจ้าของร้านกาแฟไป มีรายได้สูงกว่าอาชีพขายผ้า ลืมตาอ้าปากได้มากกว่าเดิม,ถ้ารักษามาตรฐานของกำไรไว้ได้ โรคความจนเรื้อรังก็คงหาย,รวมความว่า การรักษาโรคความจนด้วยฝีมือ หมอประชารัฐสุขใจ ฝ่ายกระทรวงพาณิชย์ ไม่ทิ้งหลักนักสังคมสงเคราะห์ คือให้วิชาหาลู่ทางค้าขายช่วยให้หากำไรด้วยตัวเอง,ไม่ใช่แจกเงินง่ายๆ เปิดช่องให้ข้าราชการรุมทึ้ง เหมือนที่บางกระทรวงทำ,สำหรับหมอประชารัฐฝ่ายอื่นๆ ผมกำลังตั้งใจสดับตรับฟังว่าจะใช้ยาขนานไหนใช้วิธีอะไร,ถ้าหมอมีศรัทธาให้คนไข้ และคนไข้ก็มีศรัทธาให้หมอผมเชื่อว่า ต้นทุนชีวิตคนหนึ่ง มีสมอง มีสองแขน สองขา ก็เริ่มต้นได้เหมือนกัน,จะติดขัดก็ตรงที่คนจน ที่ไม่รู้ตัวว่าจน ไม่ได้ไปลงทะเบียนเอาไว้จะพอมีโอกาสเข้าคอร์สรักษาโรคจนของหมอประชารัฐ อีกหรือไม่,ผมเชื่อว่า ถ้ารัฐบาลมีศรัทธาหนักแน่น ข้อติดขัดแค่เรื่องไม่มีบัตรคนจน คงถูกแก้ไขผ่อนคลาย,ขอเพียงมีแรง ช่วยได้ก็ช่วยกันไป ถ้าคนไทยทุกคนหาเงินได้ ก็เอาไปกินไปใช้ ภาษีเป็นของรัฐบาลทั้งนั้น รัฐบาลเอาทั้งต้นทุนทั้งกำไรคืนได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง.,กิเลน ประลองเชิง
หลักหนึ่งของนักสังคมสงเคราะห์ อย่าช่วยคนด้วยการหาปลาไปให้กิน แต่ให้ช่วยด้วยเครื่องมือ อวน เบ็ด หรือเรือ เพื่อให้เขาไปจับปลากินได้เอง เพราะฉะนั้นการแจกเงินคนไร้ที่พึ่งที่กำลังเป็นข่าวอื้อฉาว
null
คนไร้ที่พึ่ง,หมอประชารัฐสุขใจ,โกงเงินคนจน,ชักธงรบ,กิเลน ประลองเชิง
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1222503
คสช.ย้ำต่อทูตทหาร 18 ชาตินำสถานการณ์สู่การเลือกตั้งโดยเร็ว
คสช.แจงทูตทหาร 18 ประเทศทั่วโลก เหตุต้องทำรัฐประหารเพราะจำเป็น ยันนำสถานการณ์ไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว พร้อมขอมิตรประเทศช่วยอธิบายเหตุความจำเป็น18 มิ.ย. 2557 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.และในฐานะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ประชุมประเมินสถานการณ์ในช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางการจับตามองกรณี คสช.จะมีมาตรการแก้ไขปัญหาแรงงานข้ามชาติที่อพยพกลับประเทศเพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากต้องลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจ หลัง คสช.มีคำสั่งจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวใหม่ทั้งระบบขณะเดียวกันผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศรวม 22 คนจาก 18 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เข้ารับฟังการชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทย จากทีมโฆษก คสช.ที่ห้องรับรองกองบัญชาการกองทัพบกโดย พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษก คสช. เป็นผู้ชี้แจงสรุปการทำงานของ คสช.ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมอธิบายถึงเหตุผลและความจำเป็นกรณีกองทัพเข้ามาควบคุมสถานการณ์และบริหารประเทศ เพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น โดยไม่สามารถปล่อยปะละเลยกับเหตุรุนแรง ซึ่งมีทั้งการบาดเจ็บและล้มตายของคนในชาติได้ ทั้งนี้ยืนยันว่ากองทัพทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติพ.อ.วีรชนระบุว่า หลังจากวันที่ 22 พ.ค. เป็นต้นมา ประชาชนจับตาการทำงานของ คสช. อย่างใกล้ชิด พร้อมความคาดหวังในทุกภารกิจ ซึ่ง คสช. ก็ได้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้ยังระบุถึงการใช้มาตรการเคอร์ฟิว และการประกาศกฎอัยการศึก ว่าเพื่ออำนวยความสะดวกในการแก้ปัญหาและได้พยายามใช้อย่างจำกัดแล้ว โดยพยายามยกเลิกเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นนอกจากนั้นยังกล่าวย้ำที่จะนำสถานการณ์ไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว จึงขอความร่วมมือจากมิตรประเทศ ช่วยอธิบายเหตุความจำเป็นที่เกิดขึ้นด้วยทีมโฆษก คสช. กล่าวด้วยว่า การชี้แจงวันนี้ เป็นการแสดงความจริงใจ ความชัดเจน ในการดำเนินการของทหาร และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้ความชัดเจนในเรื่องความร่วมมือต่างๆ ในอนาคต โดยหวังว่า ผู้ช่วยทูตทหารทุกคน จะนำข้อมูลที่ได้รับทราบวันนี้ กลับไปรายงานต่อรัฐบาลของแต่ละประเทศ ถึงจุดยืนของประเทศไทย ที่มีความเข้าใจต่อท่าทีของทุกประเทศ และขอให้ทุกประเทศเข้าใจ และเห็นใจกองทัพไทย รวมทั้งให้เวลาในการทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
คสช.แจงทูตทหาร 18 ประเทศทั่วโลก เหตุต้องทำรัฐประหารเพราะจำเป็น ยันนำสถานการณ์ไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว พร้อมขอมิตรประเทศช่วยอธิบายเหตุความจำเป็น 18 มิ.ย.
การเมือง
การเลือกตั้ง,คณะรักษาความสงบแห่งชาติ,ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ,คสช.,ทูตทหาร,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ระบอบประชาธิปไตย,วีรชน สุคนธปฏิภาค
https://prachatai.com/journal/2014/06/54077
หลายจังหวัดฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วม
ฝนที่ตกหนักตลอด 3 วัน บนเทือกเขาเพชรบูรณ์ ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำเข็ก เพิ่มสูงขึ้น และล้นตลิ่งเข้าท่วมร้านค้า บริเวณน้ำตกแก่งซอง ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เสียหายหลายแห่ง / สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดพิษณุโลก ประกาศเตือนผู้ที่อาศัย 2 ฝั่งลำน้ำ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ส่วนเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาพลายชุมพล เร่งซ่อมคลองส่งน้ำที่บ้านจระเข้ผอม ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เพื่อให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หลังเสียหายจากการใช้มาเป็นเวลานาน / นอกจากนี้ยังเร่งขุดลอกคลอง ความยาว 3 กิโลเมตร ให้เสร็จในปลายเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเตรียมรับน้ำที่ไหลมาจากทางเหนือที่จังหวัดน่าน ชาวบ้านปอน หมู่ 6 ตำบลปอน อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ปัญหาแม่น้ำน่าน กัดเซาะตลิ่ง จนต้องรื้อถอนหอประชุม เพื่อหนีน้ำ / นายสุพงศ์ ขะจาย รองนายก อบต.ปอน เปิดเผยว่า ได้ของบประมาณก่อสร้างแนวหิน เพื่อป้องกันแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าส่วนที่จังหวัดนครสวรรค์ เทศบาลตำบลพยุหะคีรี ได้เตรียมพร้อมรับมือปัญหาน้ำท่วม โดยลอกท่อระบายน้ำ ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา และเร่งทำแนวป้องกั้นน้ำ หน้าเทศบาล โดยเสริมคอนกรีตเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันน้ำท่วมส่วนระดับน้ำในแม่น้ำโขง ด้านจังหวัดหนองคาย ยังทรงตัวที่ 9 เมตร 26 เซนติเมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 11 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง และน้ำเหนือไหลมาสมทบ อาจส่งผลให้ระดับน้ำโขงสูงขึ้น กระทบต่อบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรริมฝั่งโขงเจ้าหน้าที่สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ตรวจสอบความพร้อมของคันกั้นน้ำหนองตะลุมปุ๊ก และพื้นที่แก้มลิง บ้านหนองพลวง ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ที่สร้างเมื่อปีที่แล้ว สามารถรองรับน้ำ กว่า 2 ล้าน 5 แสนลูกบาศก์เมตร ซึ่งเชื่อว่า จะแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ในตำบลหนองบัวศาลาได้แม้หลายพื้นที่จะเฝ้าระวังน้ำท่วม แต่ในบางจังหวัดกำลังประสบปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะที่จังหวัดศรีสะเกษ ชาวนาในอำเภอเมือง เร่งสูบน้ำเข้านาข้าว ที่กำลังตั้งท้อง หลังฝนทิ้งช่วงนานกว่า 1 เดือน / ส่วนนาข้าวในเขตชลประทาน เจ้าหน้าที่ปล่อยน้ำเพียงสัปดาห์ละ 3 วัน หลังพบว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่ง เหลือเพียงร้อยละ 40
ฝนที่ตกต่อเนื่องในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในจังหวัดหนองคาย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำโขง ที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ในอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ร้านค้าบริเวณน้ำตกแก่งซอง ถูกน้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมเสียหาย
ภูมิภาค
null
https://news.thaipbs.or.th/content/103661
แนะโจทย์วิจัยคำนึงแนวโน้มอาชีพ
จากการเสวนา โจทย์วิจัยทางการอุดมศึกษา : มุมมองของผู้ใช้ผลวิจัย ดร.อรสา ภาววิมล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ภารกิจหลักของอุดมศึกษาจึงเป็นการผลิตคน ทั้งสร้างองค์ความรู้ใหม่ สร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การอุดมศึกษาจึงถือเป็นความหวังของประเทศ ขณะเดียวกัน เรากำลังจะมีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งจะเป็นต้นน้ำในการสร้างคนและบูรณาการงานวิจัยเพื่อให้การทำงานเกิดเอกภาพโดยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 11 ฉบับ ทุกฉบับมีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนตรงกันว่าอุดมศึกษาจะต้องเชื่อมงานวิจัย เพื่อการพัฒนาประเทศ,รองเลขาธิการ กกอ.กล่าวต่อว่า การอุดมศึกษาต้องเปลี่ยนแปลง 4 ด้าน คือ 1.เป็นการเรียนตลอดชีวิต รูปแบบการจัดการศึกษาที่มีทั้งปริญญาบัตรและประกาศนียบัตร 2.เป็นการเรียนที่เน้นศักยภาพเป็นหลัก 3.ปรับรูปแบบการเรียนเป็นระบบออนไลน์หรือใช้สื่อที่ผสมผสาน 4.มีการทำวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่โดยเชื่อมโยงกับภาคส่วนต่างๆ เช่น ชุมชน ภาคอุตสาหกรรม ภาคความมั่นคง เป็นต้น รวมทั้งทำวิจัยแบบข้ามศาสตร์ อย่างไรก็ตาม โจทย์การทำวิจัยของอุดมศึกษาจะต้องคำนึงถึงแนวโน้มของอาชีพในอนาคตซึ่งได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ซึ่งจะมีทั้งบางอาชีพในปัจจุบันที่หายไป อาชีพที่คงอยู่ และอาชีพที่จะเกิดใหม่ในอนาคต รวมทั้งแนวทางการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ซึ่งต้องการทำงานอิสระ ทำงานหลายอย่างพร้อมกันโดยใช้คอมพิวเตอร์ ขณะที่มหาวิทยาลัยต้องร่วมมือกันเป็นเครือข่าย ปรับรูปแบบการบริหาร เพราะจำนวนประชากรวัยเรียนที่ลดลง เพื่อใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า,นายสมปรารถนา สุขทวี รองเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า ครม.ได้อนุมัติแผนแม่บทการวิจัยและนวัตกรรม ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเมื่อมีกระทรวงการอุดมศึกษาฯแล้ว ก็จะเป็นผู้กำกับทิศทางการวิจัยตามแผนแม่บทให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้ง วช. มีแนวคิดที่จะหาทางส่งเสริมให้นักวิจัยได้มีอาชีพเป็นนักวิจัยอย่างแท้จริง เพื่อสานต่อการผลิตนักวิจัยจากสถาบันอุดมศึกษา เนื่องจากขณะนี้ในระบบราชการยังไม่มีตำแหน่งนักวิจัยรองรับ มีเพียงตำแหน่งนักวิชาการด้านต่างๆเท่านั้น.
การอุดมศึกษาต้องเป็นผู้นำขับเคลื่อนประเทศ เพราะเป็นการศึกษาระดับสุดท้ายก่อนที่จะส่งคนเข้าไปทำงานตามภาคส่วนต่างๆ ของประเทศ
ข่าว,สังคม
คณะกรรมการการอุดมศึกษา,กกอ.,กระทรวงการอุดมศึกษา,กระทรวงการอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม,งานวิจัย,อุดมศึกษา,อรสา ภาววิมล,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/society/1533181
สมคิด ถกทีมศก. ดันยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว ตั้งเป้าปี 60 โกยเงิน 2.5 ล้านล้าน
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการประชุมทีมเศรษฐกิจที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ได้มีการหารือถึงการเร่งผลักดันนโยบายให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวไทยปี 2558-2560 เน้นคุณภาพนักท่องเที่ยวมุ่งเน้นกระจายรายได้ และสร้างความสมดุลของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การกระจายรายได้สู่ชุมชนด้วยการส่งเสริมให้ใช้สินค้าท้องถิ่นมากขึ้น พร้อมดูแลและร่วมมือกับภาคเอกชนจัดวางสินค้าในแหล่งท่องเที่ยว คาดว่าในปี 2560 จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 2.5 ล้านล้านบาท,ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ที่ประชุม ไม่ได้กำชับเรื่องใดกับ ธปท.เป็นพิเศษ แต่เป็นการหารือภาพรวมเศรษฐกิจทั่วไป,ขณะที่นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์เตรียมที่จะผลักดันและส่งเสริมพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเครือข่ายวิสาหกิจ (คลัสเตอร์) ภาคบริการให้มากขึ้น เช่น ธุรกิจสปา และสุขภาพ เป็นต้น โดยจะนำการหาตลาดเข้ามาช่วยส่งเสริมเพื่อให้สามารถเติบโตและเป็นช่องทางการสร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งในวันนี้ (28 ก.ย.) นายสมคิดจะเรียกประชุมคลัสเตอร์ต่างๆ เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานต่อไป.
สมคิด ถกทีมศก. ผลักดันยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว เน้นคุณภาพนักท่องเที่ยว กระจายรายได้ชุมชน จับมือเอกชนจัดวางสินค้าในแหล่งท่องเที่ยว คาดปี 60 โกยเงินเข้าประเทศ 2.5 ล้านล้าน พร้อมเพิ่มขีดความสามารถ เครือข่ายคลัสเตอร์ภาคบริการ
null
ประชุมทีมเศรษฐกิจ,ยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวไทย,คลัสเตอร์,รายได้ท่องเที่ยว,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร,ท่องเที่ยวไทย,เครือข่ายวิสาหกิจ,อภิรดี ตันตราภรณ์,ประสาร ไตรรัตน์วรกุล,แบงก์ชาติ,ทีมเศรษฐกิจ,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,พาณิชย์
https://www.thairath.co.th/content/528437
นายกฯ ต้อนรับที่ปรึกษา ปธน.ปาเลสไตน์ หนุนสันติภาพตะวันออกกลาง
เมื่อวันที่ 4 พ.ค.60 นายมามุด อาล ฮับบาช ที่ปรึกษาประธานาธิบดีแห่งรัฐปาเลสไตน์ ด้านกิจการศาสนาและความสัมพันธ์ทางศาสนาอิสลาม เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในโอกาสเยือนไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ,โดย พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ได้พบ โดยนายกฯกล่าวถึงการเยือนไทยของที่ปรึกษาประธานาธิบดีแห่งรัฐปาเลสไตน์ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีในการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยเฉพาะทางด้านศาสนา ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และยินดีที่ความสัมพันธ์มีการพัฒนาและขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ เป็นลำดับ โดยเฉพาะการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีแห่งรัฐปาเลสไตน์ในปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสหารือในหลายประเด็น ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้าขึ้นมาตามลำดับ ส่วนกรอบการประชุม Conference of East Asian Countries for Palestinian Development (CEAPAD) ไทยพร้อมจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยกำลังอยู่ระหว่างการหารือกำหนดช่วงเวลาการประชุมที่เหมาะสมต่อไป,ทั้งนี้ไทยและปาเสสไตน์ยังเห็นพ้องให้มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมให้มากขึ้นด้วย โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง ซึ่งนายกฯย้ำว่าไทยสนับสนุนการเจรจาระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล ซึ่งนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มั่นคงและมีพรมแดนที่ชัดเจนในอนาคตตามแนวทางสองรัฐ (two-state solution) และสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายกลับเข้าสู่การเจรจาอีกครั้ง เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อความมั่นคงและสันติภาพที่ยั่งยืน ซึ่งที่ปรึกษาประธานาธิบดีกล่าวขอบคุณการสนับสนุนของไทย และเห็นพ้องว่าการแก้ปัญหาต่างๆ จะต้องดำเนินด้วยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง
ที่ปรึกษาประธานาธิบดีแห่งรัฐปาเลสไตน์ ด้านกิจการศาสนา-ความสัมพันธ์ทางศาสนาอิสลาม เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ แลกเปลี่ยนความคิดสร้างสันติภาพตะวันออกกลาง
ข่าว,การเมือง
นายกฯ,ปาเลสไตน์,สันติภาพ,ตะวันออกกลาง,ไทย-ปาเลสไตน์
https://www.thairath.co.th/news/politic/931247
ขับปิกอัพฝ่าฝน ระยะทางไม่ถึง 100 เมตร หมุนฟาดเสาไฟพับครึ่ง
แต่คนปลอดภัยเวลา 19.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. 63 ร.ต.อ.สุริยา ภูมิวัฒน์ รองสว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุรถกระบะชนเสาเหล็กเกาะกลางถนน ตรงข้ามหมู่บ้านทดใน ถนนสิริโสธร ขาเข้าบางปะกง หมู่ 5 ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกงพบรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บว 9940 พิษณุโลก เสียหลักขึ้นเกาะกลางชนการ์ดเรล ก่อนจะไปฟาดกับเสาเหล็กเกาะกลางถนน จนรถเกือบขาด 2 ท่อน พังเสียหายทั้งคัน ส่วนคนขับทราบชื่อ นายศักดิ์ชัย เรืองเอี่ยม อายุ 43 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยสอบสวนนายศักดิ์ชัย ให้การว่า ขับรถออกมาจากงานศพพ่อเพื่อนที่วัดท่าสะอ้าน ขณะฝนตก เพื่อมารับหลานที่สี่แยกท่าสะอ้าน ระยะทางก็ไม่เกิน 100 เมตร โดยช่วงที่ขับลงมาจากสะพานแล้วเข้าทางโค้ง จู่ๆ รถเกิดหมุนแล้วบังคับไม่ได้ ก่อนจะเสียหลักพุ่งขึ้นเกาะกลาง แล้วชนเหินการ์ดเรลไปฟาดกับเสาเหล็กเต็มแรง โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
หนุ่มบางปะกงขับรถกระบะฝ่าสายฝน ออกมาจากงานศพพ่อเพื่อน มารับหลาน ระยะทางไม่เกิน 100 เมตร ขณะวิ่งลงสะพานเข้าโค้ง จู่ๆ รถเกิดเสียหลักหมุนขึ้นเกาะกลาง ฟาดกับเสาเหล็กจนรถพับกลางเกือบขาด 2 ท่อน
ข่าว,ทั่วไทย
ฝนตกถนนลื่น,ขับรถฝ่าฝน,รถชนเสาไฟ,ชนรถพับครึ่ง,ชนขาดสองท่อน,อุบัติเหตุ ฉะเชิงเทรา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1870397
แน็ก หืดขึ้นคอ รับบทเทพเกรียนออนไลน์
แน็ก–ชาลี, เห็นบทของ โย หัวโจกทีมแก๊งเกมเมอร์ใน ,GGEZ (จีจีอีซี่) เกรียนเมพเทพศาสตร์, ซีรีส์เรื่องแรกจาก Bearcave Studio จับมือกับ LINE TV กลับหลงใหลทั้งที่เจ้าตัวเล่นเกมออนไลน์ไม่เป็น โดย ,แน็ก, เผยว่า,ผมอยากเล่นมาก รู้สึกว่าตื่นเต้นกับบทนี้มาก ปกติผมเป็นคนไม่อ่านหนังสือ แต่พอทีมงานส่งเรื่องย่อเรื่องนี้มาแล้วผมนั่งอ่านๆๆๆ ทั้งคืนจนยุงกัดก็นั่งอ่านต่อ รู้สึกดีใจมากเลย ไม่เคยตื่นเต้นกับบทนี้มาก่อน รู้สึกว่ามันแปลกใหม่มาก เพราะบทโยในเรื่องจะเป็นเด็กเกรียนบ้านรวย ชอบใช้เงินหลอกล่อเพื่อนให้มาติดกับทุกอย่าง จนระดมทีมเพื่อทำตามฝันมุ่งมั่นไปแข่งเกมระดับโลกให้ได้ ซึ่งรู้สึกยากและท้าทายตัวเองมาก เพราะหนึ่งคือเราไม่เล่นเกมด้วย พวกศัพท์เกมนี่ก็ไม่รู้เรื่องเลย ทำให้พอวันที่เราต้องมาทำงานเกี่ยวกับเกม เราก็ต้องค้นคว้าข้อมูลเยอะ พยายามรู้เรื่องเกมให้มากขึ้น แล้วอีกจุดที่ยากคือเรื่องนี้บทยาวมาก เพราะเราเล่นเป็นคนคุมทีม เป็นหัวหน้าทีม ก็ต้องพูดเยอะ จนบางคืนผมอ่านบทจนถึงตีสามตีสี่ แล้วมากองตีห้าเล่น แทบ ไม่ได้ นอนเลย ก็ต้องฝากซีรีส์เรื่องนี้ไว้ด้วยนะครับ,ตามชม GGEZ (จีจีอีซี่) เกรียนเมพเทพศาสตร์ ได้ทุกวันพุธ 20.00 น. บน LINE TV.
ขึ้นชื่อว่าเป็นติสต์แตก รับเฉพาะงานที่ชอบเท่านั้น แต่พอ แน็ก–ชาลี เห็นบทของ โย หัวโจกทีมแก๊งเกมเมอร์ใน GGEZ (จีจีอีซี่) เกรียนเมพเทพศาสตร์
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
แน็ก ชาลี,เกรียนเมพเทพศาสตร์,GGEZ,LINE TV,ละครซีรีส์,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1331809
อวดโฉม จยย.สายตรวจ ใหม่ 300 ซีซี สาธิตยุทธวิธีไล่ล่าเด็กแว้น
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 พ.ย.60 ที่ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ บางมด พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบก.น.8 ร่วมเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถจยย.ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.8 หลังได้รับการจัดสรร รถจยย.สายตรวจรุ่นใหม่ เป็นรถขนาด 300 ซีซี มาจำนวน 157 คัน โดยมีการเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญการขับขี่รถจยย.มาถ่ายทอดความรู้และทักษะด้านการขับขี่ทางยุทธวิธีให้เจ้าหน้าที่สายตรวจและตำรวจจราจรในสังกัด บก.น.8 ได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์ที่ถูกต้อง,ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติหน้าที่ สร้างความมั่นใจในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ระงับเหตุร้ายให้แก่ประชาชนทั่วไป อันเป็นส่วนหนึ่งตามแนวคิด Police Mind ของ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. โดยพิธีดังกล่าวยังได้มีการสาธิตการขับรถจยย.แปรรูปขบวนของสายตรวจร่วมกับตำรวจจราจร การใช้ยุทธวิธีเข้าตรวจค้นตีวงสุรา และการใช้ยุทธวิธีขี่รถจยย.ไล่ล่าจับกุมเด็กแว้น มีการเชิญอดีตผู้ต้องหาคดีแข่งขันรถจยย.ในทางสาธารณะซึ่งมีทักษะในการขับขี่ รถจยย.เป็นอย่างดีเข้าร่วมแสดงเป็นเด็กแว้นผู้ถูกไล่ล่า เพื่อความสมจริงในการฝึกครั้งนี้,พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า โครงการจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานและพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้ต้องการความช่วยเหลือยามเกิดเหตุร้ายขึ้น หากตำรวจสายตรวจมีทั้งความชำนาญในการขับขี่รถจยย.ประกอบกับมีทักษะทางยุทธวิธีที่ดี ก็จะยิ่งช่วยให้การระงับเหตุต่างๆ เป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันแสดงออกให้เห็นถึงความเป็นตำรวจมืออาชีพ ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง.
บิ๊กหลวง ร่วมเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ จยย.ตำรวจสายตรวจ บก.น.8 หลังได้รับจัดสรรรถรุ่นใหม่ ขนาด 300 ซีซี พร้อมเชิญอดีต เด็กแว้นตัวจริง เข้าร่วมแสดงเป็นผู้ถูกไล่ล่า
ข่าว,อาชญากรรม
บก.น.8,จยย.สายตรวจ,เด็กแว้น,อวดโฉม,300 ซีซี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1135485
พี่สาว กัน นภัทร โพสต์ คนนอกก็คือคนนอก หลังลือครอบครัวไม่ปลื้ม มารี
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนวิจารณ์หนักมาก สำหรับกรณีข่าวลือรักร้าวของคู่รักดัง กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ และ มารี เบิร์นเนอร์ ซึ่ง มารี ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่ามีปัญหากันจริง แต่ยังไม่ฟันธงสถานะว่าเลิกหรือไม่ เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจได้ในชั่วข้ามคืน พร้อมทั้งโพสต์ไอจีเคลียร์ข่าวเม้าท์พ่อแม่ของ กัน นภัทร ไม่ปลื้มว่าไม่ใช่เรื่องจริงด้วยล่าสุด ข้าว นันทกานต์ พี่สาวของกัน นภัทร ก็ได้โพสต์ภาพท้องฟ้าสวยสดใส พร้อมทั้งเขียนข้อความปกป้องน้องชายของตนเองว่า บ้านเราล้อมรั้วไว้ดีอยู่แล้ว ในบ้านเรามีแค่ครอบครัว เพื่อนๆ มีคนที่รักและหวังดีกับเรา แฟนคลับนี่คือในรั้วเรา คนที่ไม่ชอบก็อยู่นอกรั้วไป เขาจะตะโกนยังไงก็อยู่นอกบ้านอะไรที่ไม่ใช่เรื่องจริงสักวันก็จะจางหายไปเอง อะไรที่ไม่ใช่เรื่องจริงต่อให้คนวิพากษ์วิจารณ์ยังไงก็ทำร้ายเราไม่ได้เช่นกัน เราไม่จำเป็นต้องทำให้สังคมที่โหดร้ายพอใจเราไปซะทุกอย่าง : )ทั้งนี้เรื่องราวทั้งหมดจะจบลงยังไงก็ต้องรอดูกันต่อไป แต่ตอนนี้แฟนๆ รีบส่งกำลังใจให้ กัน-มารี และครอบครัวกันเยอะๆ นะจ๊ะ.
ข้าว นันทกานต์ พี่สาวของกัน นภัทร โพสต์ไอจีปกป้องน้องชาย บอกบ้านเราล้อมรั้วไว้ดีอยู่แล้ว คนที่ไม่ชอบก็อยู่นอกรั้วไป อะไรที่ไม่ใช่เรื่องจริง ต่อให้คนวิพากษ์วิจารณ์ยังไงก็ทำร้ายเราไม่ได้
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
กัน นภัทร,มารี เบิร์นเนอร์,กัน มารี,กัน มารี เลิก,ข้าว นันทกานต์ พี่สาวกัน นภัทร,ข่าวบันเทิง,อินสตาแกรมดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1849708
น่าลอง เสือเตี้ย แบะท่า พร้อมหวนคุมฟ้าขาวแบบไร้ค่าตัว
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 21 ก.ค. ว่า ดิเอโก มาราโดนา อดีตดาวยิงระดับตำนานของโลก ประกาศพร้อมหวนรับใช้ชาติอีกครั้ง ด้วยการคุมทีมชาติอาร์เจนตินาแบบไม่คิดค่าจ้าง หลังจากทีมชาติบ้านเกิดกำลังอยู่ในภาวะระส่ำระสาย ทั้งโค้ชและนักเตะโบกมือลาทีมไปหลายราย    ,หลังจาก เคราร์โด มาร์ติโน ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายใหญ่ของทัพลูกหนังฟ้าขาวในทันทีที่ไม่สามารถพาทีมแก้ตัวด้วยการคว้าแชมป์โกปา อเมริกา เซนเตนาริโอ 2016 ได้สำเร็จ รวมถึงสภาพทีมโดยรวมก็แพแตก เมื่อ ลิโอเนล เมสซี และแข้งดังระดับซีเนียร์ ต่างหันหลังให้กับทีมชาติด้วยเช่นกัน    ,กระทั่งล่าสุด มาราโดนา อดีตดาวยิงชื่อก้อง เผยกับฟ็อกซ์ สปอร์ต ว่า พร้อมกลับมาทำหน้าที่กุนซือบ้านเกิดอีกครั้ง แบบไม่คิดค่าจ้าง พร้อมเปรยด้วยว่า ชักเริ่มเปรี้ยวปากคิดถึงการปะทะคารมกับสื่ออีกครั้ง   ,(ดิเอโก ซิเมโอเน) ไม่สนใจงานนี้ด้วยเหตุผลด้านการเงิน แต่เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมหรอกนะ ผมเป็นโค้ชทีมชาติให้แบบฟรีๆ เลยก็ได้ เพราะตอนนี้ผมชักจะเริ่มคิดถึงการทำงานโค้ชขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการปะทะกับสื่อด้วยเช่นกัน    ,สำหรับ มาราโดนา เคยคุมทีมชาติอาร์เจนตินาในระหว่างปี 2008-2010 ก่อนจะประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้
เสือเตี้ย ดาวยิงระดับตำนานของทีมฟ้าขาว ประกาศพร้อมหวนคุมทัพบ้านเกิดอีกครั้งแบบไม่คิดค่าแรง หลังจากอาร์เจนตินากำลังอยู่ในภาวะแพแตก ทั้งนักเตะและโค้ชหันหลังให้กับทีมชาติกันหลายราย
null
เสือเตี้ย,ดิเอโก มาราโดนา,ทีมชาติอาร์เจนตินา,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/669259
จตุพร เชื่อ คสช. หนุน มีชัย นั่งประธาน กรธ. รับเสียดาย อานันท์
เมื่อวันที่ 1 ต.ค.58 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ปรากฏรายชื่อทหารที่จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จำนวนมากว่า เรื่องนี้อยู่ที่ความตั้งใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าจะให้รัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร ตามที่ได้ประกาศไว้ในที่ประชุมสหประชาชาติ ว่าจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมต้องแสดงเจตนาให้ชัดจากการแต่งตั้ง กรธ. และสิ่งที่ใหญ่กว่าเรื่องตัวบุคคล คือเรื่องเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญ คนที่มาเป็นประธาน กรธ. จะมีทัศนะที่เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นประชาชนหรือกล้าเห็นต่างจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ คือสิ่งสำคัญ,นายจตุพร กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมองว่า นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนมากกว่า เนื่องจากมีประสบการณ์ในการร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งถ้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธาน กรธ. สามารถนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาแก้ไขปรับปรุงประเด็นการตรวจสอบที่เป็นจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ แต่สัญญาณจากแม่น้ำทุกสายใน คสช. ก็ส่งเสียงเชียร์แต่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ตนคาดว่ารายชื่อ กรธ. ที่ออกมาจะไม่ต่างกับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญชุด นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ซึ่งทำตามคสช.ทุกอย่าง แต่ก็ยังถูกทิ้งจากเรือแป๊ะลงทะเล,นายกรัฐมนตรีต้องแสดงเจตนาให้ชัดเจนในเรื่องประชาธิปไตยที่เป็นสากล ดังที่ได้ประกาศไว้ในที่ประชุมสหประชาชาติ ใครจะเป็นประธานกรธ.อยู่ที่นายกฯ จะตัดสินใจ น่าเสียดายนายอานันท์ที่น่าจะได้รับการยอมรับจากประชาชนมากกว่า แต่ดูองคาพยพแล้วมาทางนายมีชัย นายจตุพร กล่าว
จตุพร ชี้กระแส คสช.หนุน มีชัย นั่งประธาน กรธ. รับเสียดาย อานันท์ ประชาชนยอมรับมากกว่า จี้ นายกฯ แสดงเจตนาให้ชัด เรื่องประชาธิปไตยสากล ตามที่ได้ประกาศไว้ ในที่ประชุมสหประชาชาติ
null
จตุพร พรหมพันธุ์,ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ,ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ,ประธาน กรธ.,มีชัย ฤชุพันธุ์,รายชื่อกรธ.,รัฐธรรมนูญ,ร่างรัฐธรรมนูญ,อานันท์ ปันยารชุน,คสช.หนุน มีชัย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/529258