title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
นายกฯอังกฤษประกาศทำทุกวิถีทาง ยุติเหตุจลาจลในอังกฤษ | เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่สามารถดับเพลิงที่ลุกไหม้อาคารศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทโซนี่ ที่ถูกบุกปล้นและวางเพลิงเมื่อคืนนี้ซึ่งเป็นคืนที่ 3 ที่มีการก่อเหตุจลาจลในเขตพื้นที่ชานกรุงลอนดอนของอังกฤษได้นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีหลายพื้นที่ที่วัยรุ่นรวมตัวก่อเหตุปล้นร้านค้าและบุกรุกบ้านเรือน แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปห้ามปราม แม้ว่าตำรวจนครบาลอังกฤษจะเสริมกำลังเจ้าหน้าที่เกือบ 2000 นายทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจ แต่ผู้ว่าการกรุงลอนดอนตำรวจต้องกระจายกำลังไปยังพื้นที่ต่าง ๆ จนกำลังไม่เพียงพอเหตุจลาจลยังขยายวงไปในหลายเมืองนอกเหนือจากกรุงลอนดอน เช่นที่เมืองลิเวอร์พูล เบอร์มิงแฮม น็อตติ้งแฮม และบริสตอล โดยมีรายงานว่าตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุแล้วราว 450 คน และมีผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาแล้ว 69 คนนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงยืนยันกับประชาชนว่า จะทำทุกทางให้กรุงลอนดอนกลับคืนสู่ความสงบเรียบร้อยด้วยการเพิ่มกำลังตำรวจอีกเท่าตัว และ ประณามการก่อเหตุจลาจลปล้นสะดมที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ใช้มาตรการเด็ดขาดอย่างการขอกำลังเสริมจากกองทัพ นอกจากนี้ผู้นำอังกฤษยังเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรแม้อยู่ระหว่างพักสมัยประชุมในฤดูร้อนเพื่อรับมือกับปัญหา | นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้กรุงลอนดอนกลับคืนสู่ความสงบเรียบร้อย หลังเกิดเหตุจลาจลต่อเนื่อง 3 วัน สร้างความเสียหายแก่ย่านธุรกิจ อาคารบ้านเรือน โดยล่าสุดมีรายงานตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุแล้วกว่า 400 คน | ต่างประเทศ | กรุงลอนดอน,จลาจลต่อเนื่อง 3 วัน,นายกรัฐมนตรีอังกฤษ,เดวิด คาเมรอน,เหตุจลาจลในอังกฤษ | https://news.thaipbs.or.th/content/27434 |
อย่างฮา ญาญ่า ทวงเครดิตรูปจาก ณเดชน์ หลังโพสต์ภาพแรกลงไอจี | เปิดไอจีให้แฟนๆ ได้ติดตามกันแล้วสำหรับพระเอกหนุ่มฮอต ,ณเดชน์ คูกิมิยะ, หลังปล่อยให้แฟนๆ รอมานานหลายปี และเจ้าตัวก็ได้ถามแฟนๆ ผ่านทางไอจีสตอรี่ว่าอยากเห็นเจ้าตัวลงรูปอะไรเป็นรูปแรก ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าคำตอบส่วนใหญ่น่าจะอยากให้ลงรูปคู่ของณเดชน์และหวานใจอย่างนางเอกสาว ,ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์,ล่าสุด, ณเดชน์, ได้โพสต์ภาพแรกลงไอจีแล้ว แต่เป็นการโพสต์ภาพ 9 ภาพ ที่รวมกันเป็นภาพเดี่ยวของตัวเอง แต่ไฮไลต์อยู่ที่ภาพนี้เป็นภาพที่ ,ญาญ่า, ถ่ายนี่แหละ ซึ่งในช่วงแรกณเดชน์ไม่ได้ใส่เครดิตรูปไว้ แต่เมื่อ ,ญาญ่า, โผล่คอมเมนต์กลางไอจีว่า ขอ credit ตากล้องด้วยค่ะ :) @kugimiyas ทำเอา ,ณเดชน์, ต้องรีบตอบกลับว่า ครับป๋มได้คร้าบ เดี๋ยวนี้เลยคร้าบ ก่อนที่จะรีบแก้ไขแคปชั่นให้เครดิตรูปกับ ,ญาญ่า, ทันทีทันใด งานนี้เลยมีแฟนๆ เข้ามาแซวว่าพ่อบ้านใจกล้า พอที่รักมาทวงเครดิตนี่ไวเลยนะ บ้างก็บอกว่าน่ารักและส่งไอคอนรูปหัวใจกันรัวๆ,เป็นการคอมเมนต์ที่สัมผัสได้ว่ากลิ่นความรักลอยมาเลยจ้า ว่าแต่ ,ณเดชน์, ไม่ค่อยกลัว ,ญาญ่า, เลยเนอะ อิอิ. | ณเดชน์ คูกิมิยะ โพสต์ภาพแรกลงไอจีแล้ว แต่เจอ ญาญ่า อุรัสยา โผล่คอมเมนต์ทวงเครดิตรูป ทำเอาแฟนๆ แซวกันเพียบ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ณเดชน์ คูกิมิยะ,ญาญ่า อุรัสยา,ณเดชน์ ญาญ่า,ณเดชน์ ไอจี,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1670665 |
เรียนรู้สายน้ำสำคัญในกรุงรัตนโกสินทร์ จากงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาวฯ | เพื่อสะท้อนความงดงามของวัฒนธรรมประเพณีและศิลปะแบบไทยๆ ภายใต้ชื่องาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ณ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561-19 มกราคม 2562,งานอุ่นไอรักฯครั้งนี้ นอกจากสะท้อนอารยธรรมไทยให้คนรุ่นหลังได้ซึมซับแล้ว ยังจะได้เรียนรู้ถึงสายน้ำสำคัญในกรุงรัตนโกสินทร์ ที่พระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาลทรงมีพระราชดำริให้ขุดสร้างขึ้นเพื่อสร้างความสุข ความเจริญแก่บ้านเมืองและราษฎร เพราะแม่น้ำถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต ทั้งความเป็นอยู่ เส้นทางการสัญจร และแหล่งอาหาร รวมทั้งยังเป็นคูเมือง ป้อมปราการป้องกันศัตรูที่มารุกรานอีกด้วย ศ.เกียรติคุณ ดร.ม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ รองประธานฝ่ายจัดนิทรรศการงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ได้อธิบายถึงคูคลอง แม่น้ำสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่องค์ปฐมกษัตริย์จนถึงรัชกาลปัจจุบัน,ในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงย้ายพระนครจากฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงธนบุรี มาฝั่งตะวันออก ทรงสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ.2325 ทรงโปรดให้ขุดคลองบางลำพู หรือคลองโอ่งอ่าง ซึ่งเป็นคลองเดียวกัน แต่มี 2 ชื่อ เป็นคูเมืองด้านทิศเหนือ และขุดคลองมหานาค ทำให้กรุงรัตนโกสินทร์เป็นเกาะเหมือนกรุงศรีอยุธยา ที่มีแม่น้ำ 3 สายล้อมรอบ โดยทรงมีพระราชปณิธานในการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ ให้คล้ายกรุงศรีอยุธยา คูเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นคูเมืองป้องกันศัตรูด้วยและใช้เป็นเส้นทางคมนาคมด้วย,ในสมัยรัชกาลที่ 2 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้าง สวนขวา ในพระมหาราชวังขึ้น และทรงให้ขุดสระน้ำ ก่อปราสาท ก่อเก๋งจีน ก่อตึกฝรั่งขึ้น ปลูกไม้ดอกไม้ผล เป็นสวนที่งดงาม สมัยรัชกาลที่ 3 มีการค้าขายกับประเทศจีน มีเรือสำเภามาค้าขายปีละเป็นพันลำ แม่น้ำเจ้าพระยาจึงมีความสำคัญมาก สมัยรัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองผดุงกรุงเกษมขึ้น เป็นคูเมืองชั้นนอกอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังโปรดเกล้าฯให้ขุดคลองเจดีย์บูชา เพื่อใช้เป็นเส้นทางไปสักการะพระปฐมเจดีย์ ขุดคลองดำเนินสะดวกขึ้นเป็นประโยชน์ต่อชุมชมแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำแม่กลองได้ติดต่อค้าขายง่ายขึ้น,ในรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ขุดคลองเปรมประชากร ขุดคลองรังสิต เพื่อใช้ทำนาปลูกข้าว โปรดเกล้าฯให้สร้างสะพานที่สวยงามในกรุงเทพฯ เช่น สะพานผ่านฟ้าลีลาศ สะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นต้น,นอกจากนี้ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างสะพานขึ้นในทุกวันเฉลิมพระชนมพรรษา 20 กันยายน โดยใช้ชื่อสะพานขึ้นต้นว่า เฉลิม เช่น สะพานเฉลิมศรี สะพานเฉลิมยศ ฯลฯ สำหรับในสมัยรัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯให้สร้างพระตำหนักจิตรลดารโหฐานขึ้น โดยให้ขุดคูล้อมรอบ และทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯให้สร้างสะพานในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เช่นกัน โดยใช้ชื่อสะพานขึ้นต้นว่า เจริญ ในรัชกาลที่ 7 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างสะพานพุทธยอดฟ้าขึ้น เพื่อฉลองกรุงเทพฯ 150 ปี และรัชกาลที่ 8 เสด็จฯไปว่านข้าวในทุ่งบางเขน สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ราษฎร,ในรัชกาลที่ 9 ทรงมีโครงการพระราชดำริมากมาย ในการจัดการน้ำครบวงจร มีการสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ อ่างเก็บน้ำ สร้างฝายชะลอน้ำ ทำฝนหลวง กังหันชัยพัฒนา และโครงการป้องกันน้ำท่วมต่างๆ เช่น คลองลัดโพธิ์ และในรัชกาลปัจจุบัน ทรงสืบสานพระราชกรณียกิจของพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี ในการรักษาแหล่งน้ำและสายน้ำให้สะอาด บ้านเมืองสวยงาม โดยปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนมีจิตอาสาร่วมกันดูแลบ้านเมือง,นอกจากความรู้จะได้รับจากนิทรรศการที่จัดแสดงแล้ว ในงานยังมีการจำลองสิ่งสำคัญๆที่ทำให้เราได้รำลึกถึงวัฒนธรรมอันงดงามของไทย อย่างการจำลองเรือพระราชพิธี จำนวน 4 ลำ ขนาดครึ่งของลำจริง ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ขนาดยาว 25 เมตร, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 ขนาดยาว 26 เมตร, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ขนาดยาว 24 เมตร, เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ขนาดยาว 25 เมตร นอกจากนี้ยังมีพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์จำลอง ที่ประดิษฐานกลางน้ำ และมีการจำลองเรือสำเภาให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นอีกด้วย,พร้อมกันนี้ยังมีงานเขียนภาพจิตรกรรมทิวทัศน์และภาพสามมิติ โดยสำนักช่างสิบหมู่ เป็นภาพที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เกี่ยวเนื่องกับสายน้ำและวิถีเกษตรกรรมไทยที่สวยงาม เช่น ภาพปลา 3 มิติกระโดดจากน้ำ และภาพ ทิวทัศน์ท่าราชวรดิษฐ์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พระบรมมหาราชวัง, ภาพสามมิติเป็นภาพเด็กและเครื่องมือจับปลาสมัยโบราณ, ภาพประเพณีลอยกระทง เป็นต้น,ในงานยังมีการสาธิตงานช่างฝีมือ จากวิทยาลัยในวังหญิงและวิทยาลัยในวังชาย รวมถึงการออกร้านทั้งของกินของใช้ เพื่อให้ผู้ไปชมงานได้ชิมช็อปอย่างเพลิดเพลินไม่รู้เบื่อ ได้แก่ สินค้าจากร้านจิตอาสา 904 ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญกว่า 36 ร้าน และอิ่มอร่อยกับอาหารในตลาดบก ตลาดน้ำ 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดเดินชิมริมทาง, ตลาดบกวิถี 4 ภาค, ตลาดน้ำในฝัน แวะไปสัมผัสงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ได้ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. โดยวันศุกร์และเสาร์ เปิดถึงเวลา 22.00 น. และอย่าลืมพกบัตรประชาชนติดตัวไปด้วย. | นับเป็นบุญของประชาชนชาวไทยอีกครั้งที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดงานฤดูหนาวแบบย้อนยุคขึ้น | ข่าว,พระราชสำนัก | อุ่นไอรัก ครั้งที่ 2,พระลานพระราชวังดุสิต,สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์,สวนขวา,สนามเสือป่า | https://www.thairath.co.th/news/royal/1441596 |
โซรัน ใช้เกมอุ่นกำแพงเพชร เฟ้นตัวจริงลงฟัดญี่ปุ่นศึก M-150 คัพ | วันที่ 3 ธ.ค. 60 ที่แคมป์เกียรติธานี คันทรี คลับ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงทำการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอล M-150 Cup ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคม 2560,สำหรับการฝึกซ้อมครั้งนี้ ถือเป็นการซ้อมครั้งสุดท้ายก่อนลงอุ่นเครื่องกับ กำแพงเพชร เอฟซี ซึ่งนักเตะทุกคนต่างมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ และใช้เวลาฝึกซ้อมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 30 นาที,โดยหลังการฝึกซ้อม โซรัน ยานโควิช เฮดโค้ชทีมช้างศึกยู-23 กล่าวว่า การซ้อมครั้งนี้ ก็เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับเกมอุ่นเครื่อง ซึ่งเกมนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากเกมทั่วไป เราก็พยายามติวเข้มว่าผู้เล่นแต่ละคนต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง ในแต่ละจังหวะ แต่ละนาที นอกจากนี้ก็มีการซ้อมลูกตั้งเตะในหลายๆ จุด,หลังจบเกมพรุ่งนี้เราก็จะเพิ่มสิ่งที่ขาด และเลือกคนที่จะได้เป็นตัวจริงในเกมกับญี่ปุ่น เราจะแบ่งทีมเป็นสองครึ่ง ครึ่งละชุด ผมอยากเห็นทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด,สำหรับผู้เล่นที่ยังไม่ได้มาสมทบก็จะมีการซ้อมแยก เราต้องดูเรื่องความฟิตของเขาก่อนว่า ร่างกายสมบูรณ์มากน้อยขนาดไหน เราจะค่อยๆ ใส่เข้าไป ผู้เล่นบางคนที่มาได้อาจจะมีอาการบาดเจ็บ หรือติดภารกิจของสโมสรแต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ผมก็จะเลือกผู้เล่นที่มีอยู่ ที่พร้อม และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีม ผมก็เสียดายแทนผู้เล่นบางคนที่ไม่ได้มา แต่อย่างไรก็แล้วแต่เรารอใครไม่ได้,ด้าน รัตนัย ส่องแสงจันทร์ ผู้รักษาประตูของทีม กล่าวว่า การซ้อมก็ถือว่าโอเคครับ ครั้งนี้เขาก็เน้นเรื่องร่างกาย กล้ามเนื้อ และแท็กติกต่างๆ ที่ละเอียดมากขึ้น สำหรับตัวผมก็พร้อมเต็มที่ ทัวร์นาเมนต์นี้ก็ถือเป็นรายการใหญ่ ก็จะทำให้เต็มที่ที่สุด และพยายามดูแลตัวเองให้ดี | นายใหญ่ของทีมช้างศึกยู-23 ติวเข้มลูกทีมอย่างละเอียด ก่อนลับแข้งกับ กำแพงเพชร เอฟซี พร้อมใช้เกมดังกล่าวส่องตัวผู้เล่น เพื่อเตรียมรับมือญี่ปุ่น ในศึก M-150 Cup | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ทีมชาติไทยยู-23,ช้างศึก,โซรัน ยานโควิช,M-150 Cup,กำแพงเพชร เอฟซี | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1143150 |
บ้านหลังที่สามของนักช็อปยุคดิจิทัล | เข้าสู่ยุคดิจิทัล อะไรๆ ก็ต้องรวดเร็วปรู๊ดปร๊าดทันใจ และเต็มไปด้วยลูกเล่นใหม่ๆถึงจะโดนใจ ในฐานะผู้นำวงการค้าปลีกเมืองไทย ค่ายซีพีเอ็นสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ฮือฮา ด้วยการลุกขึ้นปรับโฉมหน้าศูนย์การค้า ไปสู่คอนเซปต์สุดล้ำ Co-Create Center of Life เพื่อให้เป็นเสมือนบ้านหลังที่สามของนักช็อป ที่ทั้งสบายอบอุ่น สนุกสนานและเต็มไปด้วยความผูกพัน,ในฐานะผู้บริหารใหญ่ซีพีเอ็น ปรีชา เอกคุณากูล บอกเล่าไอเดียว่า ภายใต้แนวคิด Co-Create Center of Life จะทำให้ศูนย์การค้าของซีพีเอ็น กลายเป็นเซ็นเตอร์ของนักช็อปทุกคนที่มาใช้ชีวิตแฮงก์เอาต์รวมอยู่ด้วยกัน เสมือนเป็นบ้านอีกหลังของคนยุคใหม่ พร้อมเป็นทุกสิ่งเพื่อนักช็อป ไม่ว่าจะเป็น Family Destination ตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่, Food Destination ตอบโจทย์ทุกเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกินครบครัน, Fashion Destination เป็นศูนย์รวมสินค้าแฟชั่น และการจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ, Co-Working Destination มีพื้นที่สำหรับนั่งทำงานเพื่อสร้างสรรค์แบ่งปันไอเดีย, Sport Destination จัดพื้นที่ให้ออกกำลังกายเพื่อเอาใจคนรักสุขภาพ และ Co-Creating Digital Platform เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้การช็อปปิ้งและใช้บริการสะดวกสบายตลอดเวลา โดยแนวคิดทั้งหมดนี้จะเปิดตัวก่อนใน 5 โครงการไฮไลต์คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์โฉมใหม่, เซ็นทรัล ภูเก็ต, เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้, เซ็นทรัล พลาซา อยุธยา และเซ็นทรัล วิลเลจ ด้านพาร์ตเนอร์คู่ค้าที่มาร่วมงานและเคียงข้างกันมากว่า 10 ปี,สิริพร ใจสะอาด ผู้บริหารจาก บมจ.ไทยประกันชีวิต ชื่นชมว่า ความโดดเด่นของซีพีเอ็นคือ เป็นศูนย์การค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศและมีไอเดียครีเอทีฟตลอด ไม่เคยหยุดนิ่ง ขณะเดียวกัน ซีพีเอ็นสามารถทำออกมาอย่างไร้รอยต่อ ทั้งในด้านของออนไลน์ก็นำเทรนด์และตอบโจทย์ทุกอย่างในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่อย่างแท้จริง. | เข้าสู่ยุคดิจิทัล อะไรๆ ก็ต้องรวดเร็วปรู๊ดปร๊าดทันใจ และเต็มไปด้วยลูกเล่นใหม่ๆถึงจะโดนใจ ในฐานะผู้นำวงการค้าปลีกเมืองไทย ค่ายซีพีเอ็นสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ฮือฮา ด้วยการลุกขึ้นปรับโฉมหน้าศูนย | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ปรีชา เอกคุณากูล,ซีพีเอ็น,Family Destination,สิริพร ใจสะอาด,Food Destination,อื่นๆ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/shopping/1298362 |
สายแว้นเมืองชล ออกอาละวาด ตร.ตั้งด่านกวดขัน จับได้กว่า 50 คัน | เมื่อเวลา 24.00 น. ของวันที่ 23 ต.ค. 60 พ.ต.อ.จักรพันธุ์ กิตติสิริพรกุล ผกก.สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี ระดมกำลังตำรวจกว่า 40 นาย ตั้งจุดตรวจบริเวณหน้าสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ชลบุรี จำกัด ถนนสุขุมวิท ขาเข้าตัวเมืองชลบุรี ตามนโยบายของ คสช. ซึ่งสามารถจับรถจักรยานยนต์ที่เด็ก และวัยรุ่นขี่กันมาได้ประมาณ 50 คัน,พ.ต.อ.จักรพันธุ์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นรถดัดแปลงแต่งซิ่ง ไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน็อก จึงได้ทำการจับกุมคนขี่ซึ่งเป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ได้ตักเตือนก่อนครั้งแรก หากทำผิดซ้ำจะดำเนินคดีก่อนปล่อยตัวไป ก่อนยึดรถจักรยานยนต์ไว้ตรวจสอบว่าเป็นรถที่เคยนำไปก่ออาชญากรรมหรือไม่,นอกจาก ยังพบรถยนต์กระบะและรถเก๋งที่ทำผิดในลักษณะดัดแปลงสภาพ รวมทั้งรถป้ายแดงนำมาวิ่งกลางคืนอีกจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งที่จริงแล้วเด็กและเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี ไม่ควรออกมานอกบ้าน ควรจะอยู่กับครอบครัว,ทั้งนี้ จากคำสั่งของ คสช.หากพบเด็กและเยาวชนซิ่งรถจักรยานยนต์กันในทางสาธารณะถือว่าพ่อแม่ และผู้ปกครองมีความผิดด้วย จึงอยากจะฝากเตือนผู้ปกครองไว้ว่าอย่าปล่อยบุตรหลานออกมาซิ่งแข่งรถกันในเวลาค่ำคืน | สายแว้นเมืองชล ออกอาละวาด ตำรวจตั้งด่านกวดขันหนัก พบ จยย.กว่า 50 คัน มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี แถมท้ายด้วยกระบะแต่งซิ่ง และรถป้ายแดงที่มีวิ่งช่วงกลางคืน | ข่าว,ทั่วไทย | สายแว้น,เด็กแว้น,สภ.เสม็ด,แว้นซิ่งป่วนเมือง,ชลบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1105910 |
โควิด-19 พ่นพิษ ธปท.จับมือแบงก์ช่วย ลูกหนี้บ้าน รถ บัตรเครดิตฝ่าวิกฤติ | จากกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด- 19 ที่มีแนวโน้มลุกลาม และส่งผลกระทบรุนแรงในวงกว้างต่อธุรกิจ และประชาชนทั่วไป ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. มองว่าจีดีพีของไทยจะขยายตัวลดลง ทำให้สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนขยายตัวเพิ่มขึ้น 79.1% ขณะที่การส่งออกและค่าเงินบาทภัยแล้ง น้ำท่วม PM 2.5 และไวรัสโควิด–19 ทำให้แรงงานและสังคมไทยได้รับผลกระทบนั้น (สศช.หวั่นปัจจัยลบถล่มสังคมไทย)ล่าสุด นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. ได้ร่วมกับสถาบันการเงิน กำหนดมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ลูกหนี้ธุรกิจทุกประเภท และครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเน้นการให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องและเร่งปรับโครงสร้างหนี้ กำหนดเป็นมาตรการชั่วคราวระยะเวลา 2 ปี ระหว่าง 1 ม.ค. 63 - 31 ธ.ค. 64 ดังนี้- ให้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่ม - พักชำระหนี้เป็นการชั่วคราว - ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ - ลดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม - ผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิตได้ต่ำกว่าร้อยละ 10 - เพิ่มวงเงินชั่วคราวสำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อช่วยให้ลูกหนี้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปได้ทั้งนี้ เพื่อให้สถาบันการเงินช่วยเหลือด้านสภาพคล่องและปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหนี้ได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที ธปท. จึงได้ปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดชั้นและการกันเงินสำรอง รวมทั้งการรายงานข้อมูลเครดิตของลูกหนี้เพื่อให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้นธปท. คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ลูกหนี้จะได้รับประโยชน์จากการดำเนินการตามมาตรการข้างต้น และส่งผลให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพสามารถพลิกฟื้นธุรกิจได้ทันท่วงที ทั้งนี้สามารถติดตามมาตรการการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ของแต่ละสถาบันการเงินผ่านเว็บไซต์ของสถาบันการเงินนั้นๆ และ ธปท.(ดูรายละเอียดของแต่ละธนาคารที่ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่นี่) | โควิด-19 พ่นพิษหลายภาคส่วนเริ่มได้รับผลกระทบ แบงก์ชาติจับมือธนาคาร ช่วย ลูกหนี้ บ้าน รถ บัตรเครดิต ฝ่าวิกฤติ ทั้ง ลดดอกเบี้ย พักชำระหนี้ ขยายเวลาผ่อน ให้ทุนหมุนเวียน เพิ่มสภาพคล่องในระบบ | ข่าว,เศรษฐกิจ | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ธนาคารแห่งประเทศไทย,มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้,ลูกหนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1784590 |
โซเซียดาด แถลง เปิดตัว มอยส์ อย่างเป็นทางการ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 13 พ.ย. ว่า เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ ได้เปิดตัวคุมบังเหียนให้กับ เรอัล โซเซียดาด ทีมดังแห่งศึกลาลีกา สเปน อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้เป็นเวลา 18 เดือน และจะประเดิมรับงานคุมทีมพบกับ ลากอรุนญา ในอีก 2 สัปดาห์หน้าเป็นนัดแรกทันที,หลังฟอร์มการเล่นอันย่ำแย่ของโซเซียดาดในปีนี้ ทำให้ทางสโมสรทนไม่ไหวต้องไล่ ฆาโกบา อาร์ราซาเต กุนซือคนเก่าออกจากทีมหลังจากทำผลงานชนะเพียง 2 นัดเท่านั้นจาก 11 เกมหลังสุด จนตกไปอยู่อันดับที่ 15 ของตาราง ทำให้ เดวิด มอยส์ คือผู้ที่ทางบอร์ดบริหารเลือกสำหรับการกู้วิกฤติที่กำลังย่ำแย่อยู่นี้,ผมมีข้อเสนอจากหลายทีมให้กลับมาคุมที่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง รวมไปถึงสโมสรอื่นในยุโรปก็ติดต่อมาหาผม แต่เรอัล โซเซียดาด เป็นสโมสรเดียวที่โน้มใจผมมากที่สุด ซึ่งทำให้ผมได้มีโอกาสคุมทีมในลีกลาลีกา มันเป็นลีกที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกเลยนะ ผมจะบอกว่ามันเหนือกว่าพรีเมียร์ลีก อีก เพราะนักเตะหลายคนต่างลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศทั้งยูฟาแชมเปียนส์ลีก รวมไปถึง ยูโรปาลีก กันหลายต่อหลายครั้งเหลือเกิน อดีตกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเผย,ทั้งนี้ มอยส์ ยังกล่าวต่อว่า ผมไม่มีข้อสงสัยใดใด เกี่ยวกับความสามารถของผม สิ่งที่น้าวโน้มใจผมคือประธานสโมสร เขาเป็นคนที่หลงไหลเกี่ยวกับสโมสรของเขามาก เขาบอกผมว่า สโมสรนี้มีสิ่งพิเศษอะไร และมันสำคัญต่อตัวเขามาก รวมไปถึงความรักที่มอบให้กับสโมสรคือแรงดึงดูดตัวผมมาที่นี่ การได้คุมทีมที่นี่มันเป็นความใฝ่ฝันของผมเสมอที่จะมาคุมทีมต่างแดน ผมคิดว่าเราต้องฝึกอะไรอีกเยอะ รวมไปถึงภาษาและวัฒนธรรม ผมพักผ่อนมา 6 เดือนแล้ว ถึงคราวที่ผมจะกระตือรือร้นอีกครั้ง | เรอัล โซเซียดัด ทีมดังของลาลีกา สเปน แถลงเปิดตัว เดวิด มอยส์ กุนซือเลือดวิสกี อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ พร้อมรับสัญญาเป็นเวลา 18 เดือนด้วยกัน | null | ลาลีกา สเปน,ลาลีกา 2014,เดวิด มอยส์,เรอัล โซเซียดัด,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/463260 |
ชมพู่ พร้อมแล้ว พรมแดงคานส์วันแรก ปะทะดาราฮอลลีวูด | เป็นถึงควีน ออฟ คานส์ ทั้งที เสื้อผ้าหน้าผม ก็ต้องสวยเป๊ะที่สุด สาวชมพู่ อารยา ไม่รอช้า พอเดินทางมาถึงเมืองคานส์ปุ๊บ สาวชมก็ตรงดิ่งไปตะลุยฟิตติ้งชุดสำหรับเดินพรมแดงในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2016 ทันที ซึ่งงานนี้ชมได้พบกับสไตลิสต์ระดับโอต์ กูตูที่มาช่วยเลือกชุด ส่วนเช้าวันนี้ก็ลุกขึ้นมาเลือกเครื่องประดับสุดหรูจาก Chopard เพื่อเนรมิตให้เปล่งประกายบนพรมแดงวันแรกในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ ลอรีอัล ปารีส เมคอัพ ดีไซน์เนอร์ Dazzling Temptation เพิ่มรัศมีเฉียบหรูให้เธอพร้อมกระทบไหล่เซเลบริตี้และซุปเปอร์สตาร์มากมาย รับประกันได้เลยว่า สาวชมจะต้องสวยเริดบนพรมแดง พร้อมสะกดสายตาสื่อมวลชนและผู้ชมทั่วโลกอย่างแน่นอน ซึ่งแฟนๆ ชาวไทยสามารถติดตามลุคแรกของเธอบนพรมแดงเมืองคานส์วันแรกได้คืนนี้ 11 พ.ค. ช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. (เวลาประเทศไทย),โดยลุคแรก ชมพู่ มากับแบรนด์เครื่องประดับ Chopard และชุดจาก Ralph Russo Couture Spring 2016,เกาะติดความเคลื่อนไหวและกิจกรรมข่าวสารต่างๆ ที่คานส์แบบใกล้ชิดติดขอบพรมแดงได้ที่ ไทยรัฐออนไลน์ และ ,www.lorealparisthailand.com/cannesmunity,www.facebook.com/lorealparisthailand ;,Instagram: @lorealmakeup และ @chomismaterialgirl | ชมพู่ อารยา พร้อมเดินพรมแดงเมืองคานส์วันแรกคืนนี้ ปะทะดาราฮอลลีวูด รับประกัน ต้องสะกดสายตาสื่อมวลชน และผู้ชมทั่วโลกได้แน่นอน | null | ชมพู่,ชมพู่ อารยา,ชมพู่ คานส์,ชมพู่พรมแดงคานส์,อารยา เอ ฮาร์เก็ต,แฟชั่นชมพู่,ชุดชมพู่ เดินคานส์,พรมแดงคานส์,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/618900 |
ผบ.ตร.แบ่งงาน 3 พื้นที่เน้นดูแลคันกั้นน้ำ-ความขัดแย้งประชาชน | พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนต์กับกองบัญชาการที่ได้รับผลกระทบจากภาวการณ์อุทกภัย ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภาค 1 ภาค 2 ภาค 3 ภาค 6 และภาค7 ร่วมถึงหน่วยสนับสนุนอย่างตำรวจตะเวนชายแดน และ สอบสวนกลาง สรุปสถานการณ์ 26 จังหวัด ใน 6 ภาคที่ประสบปัญหาอุทกภัย มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 2 ล้านคน ผู้เสียชีวิต รวม 384 คน และ สูญหาย 2 คน โดยพื้นที่กรุงเทพมหานครที่อยู่นอกแนวกั้นน้ำ ได้รับผลกระทบ 27 ชุมชน รวม 1209 ครัวเรือน และ มีพื้นที่น้ำท่วมขัง 87 จุดหลังการประชุม พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติในภาวะอุทกภัย ระบุ ที่ประชุมมอบหมายแบ่งหน้าที่ใน 3 พื้นที่ คือ นครบาล ให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวแห่งชาติ รับผิดชอบ ส่วน ปทุมธานีให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา รักษาราชการแทนที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 ดูแล ขณะที่นนทบุรี ให้ พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินอกจากภารกิจดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนแล้วยังเน้นการเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม จัดการจราจร และ ดูแลเรื่องประตูระบายน้ำ ซึ่งเน้นย้ำให้แต่ละพื้นที่แก้ไขปัญหาความขัดแย้งของประชาชนพื้นที่ประสบอุทกภัย เน้นเป็นพิเศษบริเวณคลองประปา เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตน้ำดื่มน้ำใช้ ในเขตกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และนนทบุรี ซึ่งพื้นที่ริมคลองประปาพบปัญหาการรั่วซึมของคันกั้น และยังมีความขัดแย้งของประชาชน | ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนต์กับกองบัญชาการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแบ่งงาน 3 พื้นที่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และ นนทบุรี เน้นดูแลรักษาแนวคันกั้นน้ำ และ ความขัดแย้งระหว่างประชาชน | อาชญากรรม | ผบ.ตร.,วิกฤตน้ำท่วม,เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์,แบ่งงาน 3 พื้นที่ | https://news.thaipbs.or.th/content/43214 |
รถทัวร์สมุย-โกลก ขยี้ จยย.กลางดึกผัวเมียตายคาที่ 2 ศพ | เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 27 ส.ค. ร.ต.อ.วิรัตน์ วงษ์สวัสดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถทัวร์โดยสารชนกับรถ จยย. มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย บนถนนสายขนอม-คลองเหลง บ้านเขาหัวย้อย หมู่ 11 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เธียร บาลทิพย์ ผกก.สภ.ขนอม, แพทย์เวร รพ.ขนอม และ จนท.มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งและมูลนิธิประชาร่วมใจ ร่วมกันเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบรถทัวร์ปรับอากาศประจำทางสีขาว ยี่ห้อวอลโว่ ทะเบียน 10-1098 นราธิวาส สายเกาะสมุย-สุไหงโกลก เสียหลักจอดกลางถนนสภาพด้านหน้ายุบ และห่างไปเล็กน้อยพบรถ จยย.ยี่ห้อซูซูกิ สีดำ ทะเบียน คจง 998 นครศรีธรรมราช สภาพพังเสียหายล้มอยู่กลางถนน โดยบนถนนพบศพผู้เสียชีวิตคาที่จำนวน 2 ราย สอบสวนทราบชื่อ นายชำนาญ ชูพันธ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 14 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และอีกศพชื่อ นางสุวรรณา ถิ่นระยะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 หมู่ 3 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพกะโหลกศีรษะแตก แผลถลอกทั่วร่าง
,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ นายอนันตชัย คงจันทร์ อายุ 36 ปี ชาว จ.พังงา ได้ขับรถทัวร์โดยสารคันดังกล่าว มีผู้โดยสารเต็มคัน จาก อ.เกาะสมุย มุ่งหน้าไปยัง อ.สุไหงโก-ลก ไปตามถนนสายดังกล่าว ถึงที่เกิดเหตุรถทัวร์ได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถ จยย.คันดังกล่าวอย่างจัง ทำให้ นายชำนาญ และ นางสุวรรณี 2 ผัวเมียร่างกระแทกพื้นถนนตายคาที่ดังกล่าว โดยมี นายอนันตชัย คนขับรถทัวร์โดยสารคันดังกล่าวยืนรอมอบตัวกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนศพทั้งสองทางญาติได้รับศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป. | ถึงคราว!! 2 ผัวเมียซิ่ง จยย.กลางดึก ถูกรถทัวร์โดยสารสายสมุย-สุไหงโกลก เฉี่ยวชน ร่างกระแทกพื้นดับอนาถคาถนนสายขนอม-คลองเหลง จ.นครศรีธรรมราช
| ข่าว,ทั่วไทย | รถทัวร์ชนจยย.,ชน2ผัวเมียดับ,ทัวร์เฉี่ยวชนจยย.,รถทัวร์สมุย-โกลก,นครศรีธรรมราช,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1363457 |
ค้านประกัน 24 ผู้ต้องหา บุก รร.มัธยมวัดสิงห์ | วันนี้ (26 ก.พ.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังญาติของกลุ่มผู้ต้องหายื่นคำร้อง พร้อมขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา 20 คนคดีบุกทำร้ายร่างกายครูและนักเรียนในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ต่อศาลอาญาธนบุรี โดยศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เเล้ว เห็นว่าพฤติการณ์เเห่งคดีตามคำร้องขอฝากขังบ่งชี้ว่าผู้ต้องหากับพวกไม่เคารพกฎหมาย หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหากับพวกอาจก่อภยันตรายเเก่พยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ ทำให้เกิดความเสียหายเเก่การรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน กรณีนี้ยังไม่มีเหตุสมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา จึงมีคำสั่งยกคำร้อง หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาไปยังเรือนจำต่อไป ส่วนเยาวชนอีก 4 คน ที่พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปฝากขังตามขั้นตอนของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวเช่นกันขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ผู้รักษากฎหมายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้เร่งรัดจัดการกับกลุ่มผู้กระทำความผิดอย่างจริงจังและเร่งด่วน โดยมองว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ขาดจิตสำนึกทั้งดื่มสุราในวัด ทั้งใช้ความรุนแรงในโรงเรียน เป็นการกระทำที่สร้างผลกระทบต่อสังคม | ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา 24 คน คดีบุกรุกโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ หลังส่งตัวฝากขัง พร้อมระบุหากปล่อยชั่วคราวอาจก่อภยันตรายเเก่พยาน | สังคม | โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์,มัธยมวัดสิงห์,วัดสิงห์,PAT5,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/278006 |
ประธานผู้ตัดสินสมาคมฟุตบอลไทย ห่วงสถาณการณ์ของผู้ตัดสิน | พล.อ.ชินเสณ ทองโกมล ประธานผู้ตัดสินสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ในงาน มีท เดอะ เพรส ประจำสัปดาห์ โดยเนื้อหาสำคัญได้มีการพูดถึงเหตุที่ผู้ตัดสิน นคร สะอาด ซึ่งเป็นผู้ตัดสินฟุตบอลชายหาดระดับฟีฟ่า ถูกลอบยิงจำนวน 5 นัด โชคดีที่ผู้ร้ายมุ่งหวังข่มขู่ จึงยิงไปที่บริเวณขา โดยอาการไม่หนักมาก และตอนนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าพล.อ.ชินเสณ บอกว่า ตามที่ได้คุยกับ ผู้ตัดสิน นคร เชื่อว่าไม่มีเรื่องส่วนตัว พร้อมกับได้ตั้งข้อสงสัยไว้ 2 ประเด็น ก็คือการสร้างสถานการณ์ทำให้วงการฟุตบอลแตกแยกกันเอง เนื่องจากช่วงนี้อยู่ระหว่างการเลือกตั้งนายกสมาคม รวมถึงกรณีถูกผู้มีอิทธิพลตามเอาคืน หลังจากนายนคร ทำหน้าเป็นผู้กำกับเส้นในเกมปัญหา ระหว่างระยอง กับ ท่าเรือ จนถูกลงโทษแบนห้ามทำหน้าที่เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน มาก่อนหน้านี้นอกจากนี้ พล.อ.ชินเสณ ยังบอกว่า เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ในเกมที่เหลือในฤดูกาลนี้ของทุกลีก จะให้แต่ละทีมมาจับสลากผู้ตัดสินกันเอง เพื่อเป็นการลดข้อครหาเรื่องล็อกผลการแข่งขัน หรือเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ส่วน เรื่องจำนวนผู้ตัดสินที่อาจจะมีไม่เพียงพอ ทาง พล.อ.ชินเสณ เชื่อว่า ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใดทางทีพีแอล จะขอกำลังตำรวจ และทหาร มาช่วยดูแลความเรียบร้อย ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล โดยเฉพาะเกมบิ๊กแมทช์ ที่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ จะเพิ่มมาตราการรักษาความปลอดภัยให้แน่นหนามากขึ้น | ประธานผู้ตัดสินสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นห่วงถึงสถานการณ์ของผู้ตัดสินที่ถูกคุกคาม หลังจากผู้ตัดสินถูกทำร้ายบ่อยขึ้นในช่วงหลัง | กีฬา | ผู้ตัดสิน,ลอบทำร้าย,ลอบยิง,สมาคมฟุตบอล | https://news.thaipbs.or.th/content/199561 |
เกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ สถานการณ์ร้อนๆล่าสุด | ตลาดหุ้นทั้งในยุโรปและอเมริกาดูจะดีใจเป็นที่สุด ดัชนีพุ่งพรวดๆ ทันทีที่ผลการเลือกตั้งรอบแรกออกมาดังที่ผมเขียนไว้,แต่จู่ๆอีกแค่วันเดียวถัดมาสถานการณ์โลกกลับพลิกผันไปเสียอีกแล้วและทำให้นักวิเคราะห์กลับมาเป็นทุกข์อีกครั้งจนได้,สาเหตุก็มาจากเหตุการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีนั่นแหละครับ หลังจากที่สงบมาพักหนึ่งพอมาถึงวันอังคารที่ 25 เมษายน ก็มีข่าวว่าเรือดำน้ำใช้พลังนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ,ยูเอสเอสมิชิแกน, ไปโผล่ที่ริมฝั่งทะเลเมืองปูซานเกาหลีใต้,เรือดำน้ำลำนี้มาพร้อมกับจรวดโทมาฮอว์กประจำเรือที่มีการติดตั้งไว้ถึง 154 ลูกด้วยกัน,แม้ข่าวจากกองทัพเรือสหรัฐฯจะระบุว่าเป็นการไปเยี่ยมเยียนอย่างปกติธรรมดา ที่ทำเป็นประจำนานๆก็ไปกระชับสัมพันธ์กันบ้าง ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ,แต่เมื่อไปโผล่ในช่วงเวลาที่เกาหลีเหนือจะมีงานฉลอง ,85 ปีของการก่อตั้งกองทัพประชาชน, ซึ่งก็คือวันที่ 25 เมษายน ด้วยเช่นกัน ก็ทำให้นักวิเคราะห์อดคิดกันไม่ได้ว่านี่เป็นการท้าทายหรือยั่วยุอะไรหรือเปล่า?,หรือจะเป็นการปรามเกาหลีเหนืออย่างที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แถลงไว้ รวมทั้งเคยสั่งการให้กองเรือสหรัฐฯ อีกชุดหนึ่งที่นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบิน ,คาร์ล วินสัน, ให้เดินทางมาสู่คาบสมุทรเกาหลี,เพียงแต่มีการเข้าใจคำสั่งคลาดเคลื่อน หรืออะไรสักอย่างทำให้เรือ ,คาร์ล วินสัน, ยังมาไม่ถึงทว่า ข่าวล่าสุดก็แจ้งว่ากำลังจะมาถึงในวันนี้วันพรุ่งนี้,ที่วิตกกันมากก็ตรงที่เกาหลีเหนือเองก็พูดอยู่เสมอๆ ว่าไม่เคยกลัวคำขู่ของสหรัฐฯ และพร้อมจะโจมตีกองเรือสหรัฐฯ ทันที หากมาซ้อมรบยั่วยุใกล้ๆ,รวมทั้งพร้อมจะตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันในทุกวิถีทางด้วยอาวุธต่างๆ ที่เกาหลีเหนือมีอยู่,ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศจีนเพิ่งจะขอร้องให้ทุกๆฝ่ายใจเย็นๆ อย่ายั่วยุทั้งทางวาจาและการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะสถานการณ์เปราะบางมาก และดูเหมือนว่าล่าสุด ประธานาธิบดีจีนก็โทรศัพท์ไปย้ำกับประธานาธิบดีทรัมป์อีกครั้งในประเด็นนี้,แต่บัดนี้เรือดำน้ำสหรัฐฯก็มาถึงแล้วและกองเรือใหญ่อีกชุดกำลังจะมาจะถือเป็นการยั่วยุและท้าทาย ซึ่งหน้าหรือไม่?,ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวจากสหรัฐอเมริกาว่าประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เชิญสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดให้เข้าไปรับฟังสถานการณ์ล่าสุดของเกาหลีเหนือในวันพุธที่ 26 เมษายน ที่ทำเนียบขาว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เคยดำเนินการอย่างเป็นปกติ แต่อย่างใด,ทำให้นักวิเคราะห์อดมิได้ที่จะตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมชี้แจงเรื่องเกาหลีเหนือครั้งนี้เพื่ออะไร? และสหรัฐฯมีแผนอะไรลึกๆอยู่หรือเปล่า?,เฮ้อ อ่านข่าวนี้แล้วก็อดคิดมิได้ว่าความสุขของโลกนี้ทำไมถึงสั้นเสียจัง สุขอยู่ได้แผล็บเดียวทุกข์เสียแล้ว,ผมก็หวังเหมือนทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ตึงเครียดเกิดขึ้นแหละครับว่าทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จะใช้สติใช้ปัญญาอย่างถึงที่สุด,ไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามวู่วามแม้จะมีการยั่วยุอะไรกันขึ้นบ้างก็ตามที,ก็ฝากความหวังไว้กับท่านประธานาธิบดี ,สีจิ้นผิง, แห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีนล่ะครับที่ช่วยเป็นกรรมการห้ามมวยระหว่าง นาย ,โดนัลด์ ทรัมป์, กับ นาย ,คิม จองอึน, ไม่ให้ปะทะกันรุนแรงได้สำเร็จ,เขียนมาถึงตอนนี้ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่า ขณะที่เขียนต้นฉบับอยู่นี้ (25 เมษายน) มีข่าวเรือดำน้ำโผล่มาในหน้าหนังสือพิมพ์ถึง 2 ลำด้วยกัน,นอกจากเรือดำน้ำสหรัฐฯ ที่ไปโผล่เกาหลีนี้แล้ว อีกลำก็คือเรือดำน้ำจีนมาโผล่ให้รัฐบาลไทย ซื้อไปแล้วหนึ่งลำทำให้ผู้คนออกมาตั้งคำถามอยู่พอสมควรว่าอนุมัติซื้อตั้งแต่เมื่อไร? ทำไมไม่แถลงข่าว?,แต่เทียบกันแล้วเรือดำน้ำในบ้านเราคงจะค่อยๆ คลี่คลายไปหลังจากรัฐบาลชี้แจงทำความเข้าใจอย่างละเอียดอีกครั้ง,ในขณะที่เรือดำน้ำสหรัฐฯ ที่ไปโผล่เกาหลีคงไม่จบง่ายๆ แน่น่าจะต้องติดตามลุ้นอย่างเครียดกันไปอีกระยะหนึ่งล่ะครับ.,ซูม | ผมเพิ่งจะเขียนถึงความสุขและความโล่งใจของชาวโลกที่ติดตามการเลือกตั้งที่ฝรั่งเศสไปเมื่อวานนี้หยกๆ เมื่อคนหนุ่มคนดีมีนโยบายเป็นกลางๆ ไม่สุดโต่ง มีโอกาสจะได้เป็นประธานาธิบดีของฝรั่งเศสค่อนข้างสูงมากในการเลือกตั้งรอบ 2 วันที่ 7 พฤษภาคม | null | เหะหะพาที,ซูม,เกาหลีเหนือ,สหรัฐ,เรือดำน้ำ | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/923297 |
แข่งอ่านอักษรเบรลล์มาราธอน สะท้อนปัญหาการขาดแคลนสื่อ | นอกจากต้องอ่านด้วยการใช้ทักษะไล่นิ้วไปตามตัวอักษรเบรลล์อย่างคล่องแคล่ว ชลธิชา สวรรค์กสิกร ผู้เข้าแข่งขันการอ่านอักษรเบรลล์มาราธอน ยังต้องอดทนกับความเมื่อยล้า และอดนอนนานถึง 33 ชั่วโมง 33 นาที จนในที่สุดก็ทำลายสถิติการอ่านอักษรเบรลล์มาราธอนที่ตัวเองเคยทำไว้เมื่อ 3 ปีก่อน และคว้าแชมป์ในปีนี้เป็นสมัยที่ 2 โชคดีที่เธอได้ฝึกหัดอ่านมาตั้งแต่เด็ก ขณะที่คนตาบอดอีกหลายคนยังขาดโอกาส เพราะไม่เพียงขาดแคลนหนังสือที่พิมพ์เป็นอักษรเบรลล์ แต่โรงเรียนสำหรับผู้พิการกลุ่มนี้ก็ยังมีอยู่น้อยมาก เครื่องแสดงผลเบรลล์มีราคาแพงมาก แค่แสดงผลได้ทีละบรรทัดก็ราคาเป็นแสน เพราะฉะนั้นโอกาสที่คนตาบอดจะได้ใช้คอมพิวเตอร์ควบคู่กับอักษรเบรลล์จึงยากมาก มณเฑียร บุญตันประธานโครงการแข่งขันการอ่านอักษรเบรลล์มาราธอนต้องฝึกอ่านเยอะๆค่ะ และจะมีประโยชน์ให้เรารู้ตัวอักษรที่สะกดออกมาว่าถูกผิดอย่างไร และก็ให้ฝึกอ่านเยอะๆ ชลธิชา สวรรค์กสิกร ผู้ชนะเลิศการแข่งขันอ่านอักษรเบรลล์มาราธอนปัจจุบันมีโรงเรียนสอนคนตาบอดทั่วประเทศเพียง 14 แห่งเท่านั้น และสามารถรับนักเรียนได้โรงเรียนละไม่เกิน 20 คนต่อปี แต่มีเด็กในวัยเรียนที่พิการทางสายตาถึงกว่า 200000 คนทั่วประเทศการจัดการประกวดแข่งขันอ่านและเขียนอักษรเบรลล์ จึงไม่เพียงเพื่อเป็นเวทีแสดงความสามารถของผู้พิการทางสายตา หากยังกระตุ้นให้ผู้เกี่ยวข้องหันมาให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ของผู้พิการอย่างจริงจัง | สื่ออักษรเบรลล์ที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้การเรียนรู้ของผู้พิการทางสายตายังไม่แพร่หลาย เวทีแข่งขันเขียนอ่านอักษรเบรลล์ ไม่เพียงพิสูจน์ศักยภาพของผู้พิการกลุ่มนี้ แต่ยังสะท้อนปัญหาการขาดแคลนสื่อ และโรงเรียนที่ยังมีอยู่น้อยมาก | ศิลปะ-บันเทิง | ขาดแคลนสื่อ,มาราธอน,อักษรเบรลล์,แข่งอ่าน | https://news.thaipbs.or.th/content/142519 |
ฆ่าในครัว หลานนั่งกินข้าวทะเลาะกับอา คว้ามีดแทงดับ | เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 58 พ.ต.ท.ประสงค์ วงษ์สิน พนักงานสอบสวนชำนาญการ สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น รับแจ้งเหตุ คนถูกแทงตายที่บ้านเลขที่ 21 ม.1 บ้านสนามชัย ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤติเดช วิรัชกิจ ผกก. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน,ที่บ้านเกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มอยู่ และมีกองเลือดบนพื้นดิน กับรอยเลือดหยดเป็นทางไปประมาณ 40 เมตร จากในบ้านออกไปที่ริมถนนหน้าบ้าน พบศพนายสังวาลย์ ช่างประเสริฐ อายุ 40 ปี สภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลถูกแทงบริเวณหน้าอกใต้ราวนมขวา ต้นขาขวาและต้นแขนขวา รวม 3 แผล,พ.ต.อ.กฤติเดช วิรัชกิจ ผกก.สภ.กระนวน เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นางอรุณ ช่างประเสริฐ มารดาผู้ตาย ในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายนพเดช ช่างประเสริฐ อายุ 35 ปี หลานชาย ซึ่งพักอยู่บ้านหลังเดียวกัน มานั่งกินข้าวอยู่ นายสังวาลย์ ผู้ตาย ซึ่งเป็นอา แล้วมีเรื่องทะเลาะกันเสียงดังลั่นบ้าน จากนั้น นายนพเดช คว้ามีดที่วางอยู่ในครัว แทงนายสังวาล ผู้เป็นอาหลายครั้งจนเลือดท่วมร่าง วิ่งออกจากในบ้าน ไปล้มอยู่ริมถนนหน้าบ้านก่อนจะเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนนายนพเดช ก็วิ่งออกจากบ้านหนีหายไป,อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนของ สภ.กระนวน ได้ออกตามหาตัว นายนพเดช ผู้ก่อเหตุรายนี้แล้ว คาดว่ายังหนีไปได้ไม่ไกล หากจับตัวได้ ทางพนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | เกิดศึกระหว่างหลานชายกับอา ขณะนั่งกินข้าวในครัว ทะเลาะกันเสียงดังลั่น ก่อนที่หลานจะคว้ามีดแทงอาเลือดท่วม วิ่งไปล้มขาดใจตายอยู่ข้างถนน ส่วนตัวเองหนีเตลิด | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่ากันตาย,แทงกันตาย,หลานฆ่าอา,แทงอา,กระนวน,ขอนแก่น,ฆาตกรรรม,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/488664 |
รัฐบาล ยัน ไม่มี ตัดลดงบบัตรทอง มีแต่เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้มากขึ้น | วันที่ 17 ส.ค. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยืนยัน ครม.อนุมัติงบกองทุนบัตรทอง ปี 63 กว่า 1.91 แสนล้านบาท เพิ่มเม็ดเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจากปี 62 กว่า 6.5 พันล้านบาท เป็นงบเหมาจ่ายรายหัว 3,600 บาทต่อคนเพิ่มสิทธิประโยชน์ปี 63 เพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุมและมีคุณภาพและมาตรฐาน ทั้งเพิ่มการฉีดวัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงในเด็ก การคัดกรองมะเร็งลำไส้ การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจยีน การผ่าตัดทางกล้องช่วยลดเวลาที่ต้องนอนใน รพ. เพิ่มยาป้องกันโรคเอดส์ เพิ่มการล้างไตทางหน้าท้องด้วยเครื่องที่บ้านให้กับผู้ป่วยที่ต้องล้างไต,โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ครม. อนุมัติงบประมาณตามที่ สปสช. เสนอ แต่ให้ไปตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ จึงอาจทำให้ทางภาคประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าจะต้องใช้ตัวเลขของสำนักงบประมาณ,ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงในวันมอบนโยบายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีสาธารณสุข เน้นการบริหารงบประมาณปี 63 ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปรับระบบบริการ ลดความแออัด ให้ประชาชนมีทางเลือกในการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการนัดแพทย์ผ่านระบบ Application ลดเวลารอคิวที่โรงพยาบาล | รัฐบาล ยัน ไม่มีตัดลดงบบัตรทอง มีแต่เพิ่มสิทธิประโยชน์ในการรักษาบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ขอประชาชนอย่าเข้าใจคลาดเคลื่อน | ข่าว,การเมือง | งบบัตรทอง,รัฐบาล,ไม่มีตัดลดงบบัตรทอง,สปสช.,โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี,หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ,นฤมล ภิญโญสินวัฒน์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1639828 |
อุดมเดช ย้ำหนักแน่น เร่งพัฒนาท่าเทียบเรือ | พร้อมรับฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่รับผิดชอบและอุปสรรค นำข้อมูลไปเสนอกับรัฐบาลในการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เพื่อเร่งแก้ไขและพัฒนาท่าเทียบเรือปัตตานีให้เป็นศูนย์กลางทางการค้า ด้านการประมงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวประมงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยท่าเทียบเรือปัตตานีแห่งนี้ มีปริมาณสัตว์น้ำเข้าท่าเรือกว่า 99,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,900 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือเป็นท่าเรือที่สำคัญแห่งหนึ่งที่จำเป็นต้องมีการพัฒนาเพื่อก้าวสู่ท่าเทียบเรือที่มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมธุรกิจด้านการประมงให้เกิดความยั่งยืน,พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เปิดเผยว่า เดินทางลงมาตรวจดูท่าเทียบเรือประมงปัตตานีเพราะเป็นจุดสำคัญของเศรษฐกิจของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเท่าที่รับฟังข้อมูลและดูพื้นที่แล้วก็พบว่าเรือประมงจากที่ต่างๆ และสัตว์น้ำทั้งหมดจะเข้าที่ท่าเทียบเรือปัตตานี และจะกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจากพื้นที่ขณะนี้เป็นเรื่องของสภาพสุขาภิบาลที่ต้องมีการจัดระเบียบ ปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงส่งผลให้เกิดน้ำท่วม ซึ่งทางผู้ว่าฯปัตตานีก็ได้มีการของบประมาณแล้ว 40 ล้านบาทมาแก้ปัญหา แต่ท่าเรือแห่งนี้ยังต้องมีการพัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพในเรื่องการจัดทำอาคารคลังสินค้า การทำตลาด รวมไปถึงอุตสาหกรรมแปรรูปต่างๆ ขณะนี้ทางจังหวัดกำลังรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพราะผู้ประกอบการต้องการสิทธิพิเศษ บางอย่างเพื่อเป็นความจูงใจให้มาลงทุน ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจในพื้นที่มีผลโดยตรงกับความเป็นอยู่ของประชาชน ฉะนั้นจะต้องเร่งขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจในพื้นที่ให้ดีขึ้น,อย่างไรก็ตาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ถือ เป็นนโยบายที่รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะปัญหาความไม่สงบที่ส่งผลกระทบหลายอย่าง ฉะนั้นต้องสร้างความเจริญและสร้างเศรษฐกิจให้กับคนในพื้นที่ก็จะทำให้ปัญหาลดน้อยลง รัฐบาลอยากให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของรัฐบาลขยายตัวออกไป ไม่ใช่กำหนดแค่อำเภอหนึ่งของจังหวัดเท่านั้น แต่ต้องเป็นทุกอำเภอเพื่อให้ทั้งจังหวัดมีความสมบูรณ์ ฉะนั้นทุกหน่วยงานต้องช่วยกันยกระดับด้วยความตั้งใจจริง เพราะเราหวังว่าท่าเทียบเรือประมงปัตตานีเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการประมงให้มีประสิทธิภาพและจะยกระดับความเจริญยิ่งขึ้น พลเอกอุดมเดชกล่าวในที่สุด. | เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 มี.ค. ที่ท่าเทียบเรือปัตตานี พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการปรับปรุงที่เทียบเรือปัตตานี | ข่าว,ทั่วไทย | อุดมเดช สีตบุตร,ท่าเทียบเรือปัตตานี,ปรับปรุงท่าเทียบเรือ,ประมง,จังหวัดชายแดนภาคใต้ | https://www.thairath.co.th/news/local/south/899807 |
สมคิด เผย มาตรการกระตุ้น ศก.ส่วนแรก งบ 1.3 แสนล้าน | วันที่ 1 ก.ย. 58 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่วนแรก ภายใต้วงเงินราว 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งจะเร่งรัดการใช้จ่ายให้เม็ดเงินลงสู่ระบบภายในปีนี้ เพื่อให้เห็นผลในระยะสั้นโดยเร็วจากการหมุนของเม็ดเงินดังกล่าว ต่อจากนี้รัฐบาลยังมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อฟื้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป,ด้าน นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ชุดมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย มาตรการแรก เป็นการปล่อยเงินกู้ผ่านกองทุนหมู่บ้านวงเงินราว 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและธนาคารออมสิน ซึ่งจะไม่คิดดอกเบี้ยใน 2 ปีแรก อายุโครงการ 7 ปี ไม่จำกัดวงเงินกู้ต่อราย แต่ขึ้นอยู่กับความจำเป็นที่คณะกรรมการกองทุนฯ จะเป็นผู้พิจารณา โดยรัฐบาลจะอุดหนุนภาระดอกเบี้ยให้ในช่วง 2 ปีแรก เพราะเชื่อว่าปีที่ 3 เป็นต้นไปประชาชนจะสามารถหาเงินมาชำระคืนดอกเบี้ยได้ ซึ่งคิดเป็นเม็ดเงินที่รัฐบาลต้องรับภาระปีละ 2 พันล้านบาท,ขณะที่ มาตรการที่ 2 เป็นการเร่งรัดการใช้จ่ายสู่ระดับตำบลกว่า 7 พันตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท คิดเป็นวงเงินราว 3.6 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาด้านต่างๆ รวมถึงการจ้างงานในชุมชน และมาตรการที่ 3 เป็น การเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนของโครงการขนาดเล็กโครงการละประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่มีเงินงบประมาณอยู่แล้ว 1.6 หมื่นล้านบาท ที่จะเร่งให้เกิดการใช้จ่ายภายในปีนี้ และอีก 2.4 หมื่นล้านบาท จะเปิดให้ส่วนราชการของบประมาณในโครงการขนาดเล็กเพิ่มเติมได้. | สมคิด เผย มาตรการกระตุ้น ศก.ส่วนแรก งบ 1.3 แสนล้านสู่ระบบภายในปีนี้ ด้าน รมว.คลัง ระบุ มาตรการแรก ปล่อยเงินกู้ผ่านกองทุนหมู่บ้าน 6 หมื่นล้าน ขณะที่ มาตรการ 2 เร่งรัดการใช้จ่ายสู่ 7 พันตำบล เป็นเงินราว 3.6 หมื่นล้าน | null | มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ,กระตุ้นเศรษฐกิจ,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,ครม.,อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์,คลัง,ปล่อยเงินกู้,กองทุนหมู่บ้าน,ดอกเบี้ย,การจ้างงาน,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์,รัฐบาล,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/522230 |
ครอบครัวให้อภัยชาวเผ่า ระดมยิงธนูฆ่าหนุ่มมะกันลักลอบขึ้นเกาะ | สำนักข่าว ,บีบีซี, รายงานว่า ครอบครัวของ นายจอห์น อัลเลน เชา ชายชาวอเมริกัน ซึ่งลักลอบขึ้นเกาะเซนติเนลเหนือ ในหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม จนถูกชนเผ่า เซนทิเนล ที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ใช้,ธนูระดมยิงจนตาย, ออกมาระบุว่า พวกเขาให้อภัยแก่ผู้ที่สังหารนายจอห์น,จอห์น อัลเลน เชา รักพระเจ้า, รักชีวิต, ชอบช่วยเหลือคนที่กำลังลำบาก และไม่มีอย่างอื่นให้ชาวเซนทิเนลนอกจากความรักของเขา ครอบครัวของนายจอห์นระบุในแถลงการณ์ พวกเขายังยืนยันด้วยว่านายจอห์นไปยังเกาะแห่งนี้ด้วยความตั้งใจของตัวเอง และขอให้ตำรวจอย่าดำเนินคดีกับชาวบ้านท้องถิ่นที่เขาขอให้พาไปยังเกาะ,ชาย 7 คน ซึ่ง 5 คนเป็นชาวประมงที่ช่วยนายจอห์นขึ้นเกาะ ถูกตำรวจจับกุมตัว ขณะที่รัฐบาลอินเดียระบุว่า ต้องใช้เวลาหลายวันในการเก็บกู้ศพของจอห์น โดยพวกเขาส่งเฮลิคอปเตอร์และเรือเข้าใกลัเกาะแห่งนี้เพื่อระบุตำแหน่งของศพนายจอห์นแล้ว,ทั้งนี้ เจฟฟ์ คิง ประธานองค์กรห่วงใยชาวคริสต์สากล (International Christian Concern) ที่นายจอห์นเป็นแนวร่วมบอกกับบีบีซีว่า ได้ติดต่อกับนายจอห์นในช่วงก่อนเกิดเหตุ จอห์นไปที่นั่นเพื่อนำคำสอนของพระเยซูไปให้กับคนเหล่านี้ เขาพูดถึงเรื่องนี้ และวางแผนมาสักพักแล้ว มันจึงไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ มันไม่ใช่การเล่นสนุก นายคิง เผยด้วยว่า จอห์นเคยไปที่เกาะนี้ถึง 4 ครั้ง,ขณะที่ตามข้อมูลจากบันทึกของนายจอห์น ที่เผยแพร่โดย วอชิงตัน โพสต์ ในการไปเยือนเกาะเซนทิเนลเหนือครั้งก่อน นายจอห์นตะโกนบอกกับชาวเผ่าว่า ผมชื่อจอห์น ผมรักพวกคุณ พระเยซูก็รักพวกคุณ แต่หนึ่งในชาวเป่ายิงธนูใส่เขา ลูกดอกปักทะลุคัมภีรไบเบิลกันน้ำของเขา,นายจอห์นย้ำในบันทึกสุดท้ายของตัวเองว่า พวกคุณอาจคิดว่าผมบ้าที่ทำเรื่องพวกนี้ แต่ผมคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะเผยแพร่คำสอนของพระเยซูแก่คนเหล่านี้ พระเจ้า ผมไม่อยากตาย | ครอบครัวของชายอเมริกันที่ถูกชนเผ่าในอินเดียยิงธนูใส่จนตายหลังจากลักลอบขึ้นเกาะ ออกแถลงการณ์ว่า พวกเขาให้อภัยแก่ผู้ที่ลงมือสังหาร ระบุผู้ตายมีแต่ความรักให้แก่ชนเผ่านี้ | ข่าว,ต่างประเทศ | ชนเผ่า,เกาะเซนทิเนลเหนือ,นักท่องเที่ยวถูกฆ่า,เผยแพร่ศาสนา,ให้อภัย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1427465 |
อนุทิน ปัดใช้กฎหมายความมั่นคงฯ คุม COVID-19 | วันนี้ (1 มี.ค.2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กปฏิเสธข่าวเตรียมเสนอให้นายกรัฐมนตรี ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อห้ามชุมนุมทางการเมืองว่าเป็นข่าวเท็จโดยยืนยันว่าไม่เคยคิดสกัดกั้นหรือห้ามการชุมนุมทางการเมือง เพื่อแสดงออกถึงสิทธิ เสรีภาพ ทางความคิดและการพูดของประชาชนไม่ว่ากลุ่มใดๆ ก็ตาม หากการชุมนุมนั้นไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น และเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่ขัดต่อกฎหมายและหลังจากโรคCOVID-19ประกาศเป็นโรคติตต่ออันตรายซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้นั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขจะต้องจัดทำประกาศกระทรวงเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนว่ากิจกรรมใดควรทำ กิจกรรมไม่ควรทำ เพื่อการควบคุมการระบาดของโรคติดต่ออันตราย เช่น ไม่ควรเดินทางไปยังพื้นที่เขตติดโรค แต่หากต้องไปหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยต้องถูกกักบริเวณ 14 วัน แม้จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนรวมถึงดูแลความปลอดภัยของประชาชนเช่นไม่ควรจัดกิจกรรมทุกประเภทที่จะก่อให้เกิดการมารวมตัวกันหรือการชุมนุมของประชาชนจำนวนมาก และมีโอกาสที่จะสัมผัสหรือติดต่อทางละอองน้ำลาย น้ำมูก จากการพูด ไอ จาม ใส่กันในระยะใกล้และหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้จัดต้องจัดเตรียมแนวทางและให้บริการอุปกรณ์แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อป้องกันการระบาดของโรค กรณีที่มีการติดต่อของโรคเกิดขึ้นผู้จัดกิจกรรมและเจ้าของสถานที่ ต้องรับผิดตามกฎหมายทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถออกคำสั่งระงับการจัดกิจกรรมได้ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อที่ประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายและทราบดีว่าอาจถูกแปรเจตนาเป็นอื่นและถูกกล่าวหาว่าหวังผลทางการเมือง ซึ่งได้หยิบยกเรื่องนี้มาหารือและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็เป็นห่วงว่า หากเกิดการระบาดในกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมาก กระทรวงฯอาจไม่มีความสามารถที่จะควบคุมโรคได้และอาจทำให้ไทยเข้าสู่สถานการณ์ระบาด เช่นเดียวกับบางประเทศที่มีSuper Spreader รวมถึงข้อกังวลของบุคลากรสาธารณสุขในฐานะเจ้าพนักงาน หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายโรคติดต่อจะเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมให้สัมภาษณ์สื่อถึงแนวทางของรัฐบาล ในการแก้ปัญหาโรคCOVID-19วันพรุ่งนี้ (2 ก.พ.) หลังประกาศโรคติตต่ออันตรายมีผลบังคับใช้วันนี้ หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษทางกฎหมายอย่างไร | รมว.สธ. ชี้แจงข่าวเท็จเสนอ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ยันไม่ห้ามการชุมนุมเพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ขออย่านำการเมืองมาซ้ำเติมสถานการณ์โรคระบาด | สังคม | COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,อนุทิน ชาญวีรกูล | https://news.thaipbs.or.th/content/289408 |
ปชช.อเมริกันออกมาใช้สิทธิ์เลือก ปธน.สหรัฐฯ คึกคัก-ซีเอ็นเอ็นเริ่มรายงานเอกซิสต์ โพล | วันนี้ (9 พ.ย. 2559) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานบรรยากาศการเลือกตั้งประธานาธิดีสหรัฐฯ คนที่ 45 ที่เมืองดิกซ์วิลล์ นอทช์ (Dixville Notch) ทางตอนเหนือของรัฐนิวแฮมเชียร์ ซึ่งเป็นสถานที่แรกในสหรัฐฯ ที่เปิดคูหาเลือกตั้งให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ ว่า พบผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเพียงแค่ 8 คน ทำให้รู้ผลคะแนนเร็วกว่าทุกที่ และจากการนับคะแนนปรากฏว่า นางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตชนะไปด้วยคะแนน 4 เสียง ส่วน นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ได้ 2 เสียง นายแกรี จอห์นสัน จากพรรคลิเบอร์ทาเรียน ได้ 1 เสียง และนายมิตต์ รอมนีย์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันในศึกชิงประธานาธิบดีครั้งก่อนได้ 1 เสียง ซึ่งผลที่ออกมาได้สร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้สนับสนุนของนางคลินตัน แม้จะไม่สามารเป็นตัวชี้วัดผลการเลือกตั้งได้ก็ตามส่วนบรรยากาศการลงคะแนนตามคูหาเลือกตั้งทั่วประเทศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยคูหาเลือกตั้งในแต่ละรัฐเปิดให้ลงคะแนนในเวลาที่แตกต่างกันไปเริ่มตั้งแต่ 06.00 น. 07.00 น. และ 08.00 น. และส่วนใหญ่จะปิดหีบลงคะแนนในเวลา 20.00 น.นอกจากนี้ ยังพบว่าคูหาเลือกตั้งหลายแห่งมีผู้มารอลงคะแนนเป็นแถวยาว โดยเฉพาะในรัฐที่จะมีการช่วงชิงคะแนนกันมากที่สุดหรือแบทเทิลกราวด์ สเตทส์ อย่างรัฐเพนซิลเวเนีย และรัฐโอไฮโอ โดยผู้ลงคะแนนใน 2 รัฐ บอกว่าเป็นที่หน้าทีและความรับผิดชอบที่จะต้องออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ขณะที่ผู้ลงคะแนนในนครนิวยอร์กส่วนใหญ่เทเสียงให้นางคลินตันด้าน นางคลินตัน และนายทรัมพ์ ออกมาใช้สิทธิ์ที่คูหาในเขตเลือกตั้งของตัวเอง เช่นเดียวกับบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ท่ามกลางความสนใจของกองทัพสื่อ ทั้งนี้ นางคลินตันออกไปใช้สิทธิ์พร้อมกับอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน สามี ที่โรงเรียนในเมืองชัพปาคัว รัฐนิวยอร์ก ท่ามกลางเสียงเชียร์ให้กำลังใจจากผู้สนับสนุนขณะที่ นายทรัมพ์ พร้อมด้วยนางเมลาเนียภรรยา และอิวานกา ทรัมพ์ บุตรสาว เดินทางมาลงคะแนนที่โรงเรียนในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคเดโมแครตท่ามกลางเสียงเชียร์จากผู้สนับสนุน และเสียงโห่ไล่จากผู้ประท้วงสำนักข่าวต่างประเทศรายงานต่ออีกว่า คาดว่าจะทราบผลการเลือกตั้งในช่วงประมาณเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 12.00 น. วันนี้ (9 พ.ย.) ตามเวลาในประเทศไทยขณะที่ สำนักข่าวซีซีเอ็นเอ็นเริ่มรายงานผลเอกซิสต์ โพล ซึ่งเป็นการสุ่มคะแนนหน้าคูหาเลือกตั้งแล้ว | บรรยากาศการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นไปอย่างคึกคัก ชาวอเมริกันทั่วประเทศต่างออกมาใช้สิทธิ์ เพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นผู้นำคนใหม่ระหว่าง ฮิลลารี คลินตัน ที่คร่ำหวอดในวงการเมือง กับ โดนัลด์ ทรัมพ์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจ ซึ่งมีแนวนโยบายแบบสุดโต่ง | ต่างประเทศ | เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ,ฮิลลารี คลินตัน,โดนัลด์ ทรัมพ์,รัฐนิวแฮมเชียร์,รัฐสวิง สเตทส์,เอกซิสต์ โพล เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ,ซีเอ็นเอ็น,แบทเทิลกราวด์ สเตทส์,เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,USElection2016 | https://news.thaipbs.or.th/content/257532 |
ยังเดินหน้ารณรงค์ต่อ หวังเชียงใหม่ งดใช้พลาสติก-โฟมแบบถาวร | วันนี้ (17 พ.ย. 2561) เทศบาลนครเชียงใหม่ ยังเดินหน้าโครงการเชียงใหม่ต้องการคุณ ด้วยการแจกถุงผ้าและเดินรณรงค์งดใช้โฟม และถุงพลาสติกในตลาดประตูเชียงใหม่เพื่อให้ประชาชนหันมาสนใจและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาขยะก่อนจะขยายผลไปสู่ภาคส่วนอื่น ๆ เช่น โรงแรม สถานศึกษา และร้านค้า เพื่อยกเลิกการใช้กล่องโฟมบรรจุอาหาร และลดการใช้ถุงพลาสติก แต่ให้เปลี่ยนมาใช้ภาชนะอื่นทดแทน เช่น ถุงผ้า ปิ่นโต และวัสดุย่อยสลายได้นายอัศนี บูรณุปกรณ์ เลขานุการนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปริมาณขยะในเขตเทศบาลฯ มีมากถึง 330 ตันต่อวัน โดยขยะประเภทโฟมและพลาสติกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงสิ้นเปลืองงบประมาณและพื้นที่ฝังกลบ หากสามารถงดการใช้โฟมและพลาสติคได้ทั้งหมด จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะได้เป็นจำนวนมากขณะที่ประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าบางส่วน ได้เริ่มเปลี่ยนมาใช้ถุงผ้าและใช้ใบตอง ห่ออาหารแทนกล่องโฟมแล้ว เพราะเห็นว่าจะช่วยลดปริมาณขยะ และลดปัญหามลพิษได้ในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีกับสิ่งแวดล้อมข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า การใช้โฟมบรรจุอาหารที่ร้อนจัดจะทำให้สารสไตรีนและเบนซิน แตกตัวออกมาผสมกับอาหาร หากรับทานเข้าสู่ร่างกาย จะมีผลในการทำลายไขกระดูก ตับ ไต มีผลต่อประสาทส่วนกลาง และส่วนปลาย ทำให้การเคลื่อนไหวและการทรงตัวไม่ดีรวมทั้งเป็นสารก่อมะเร็ง หากรับประทานอาหารจากกล่องโฟมวันละ1 มื้อ ติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี จะทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งสูงกว่าปกติถึง 6 เท่า | ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณขยะที่ต้องจัดเก็บมากกว่า 300 ตันต่อวัน ซึ่งร้อยละ10 เป็นขยะประเภทโฟมและพลาสติกที่ย่อยสลายได้ยาก เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความพยายามในการณรงค์เพื่อลดปริมาณขยะเหล่านี้ | ภูมิภาค | เทศบาลนครเชียงใหม่,เชียงใหม่,ลดใช้ถุงพลาสติก,กล่องโฟม,ขยะ,ถุงผ้า,ปิ่นโต,รณรงค์,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/275749 |
เดสชองส์ ยันไม่ไขก๊อก ลั่นสู้ต่อพาทัพตราไก่บุกบอลโลก 2018 | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 11 ก.ค. ว่า ดิดิเยร์ เดสชองส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ยืนยันว่าเขาจะยังนั่งบังเหียนทัพตราไก่ต่อไปและต้องการนำลูกทีมของเขาลุยศึกฟุตบอลโลกครั้งต่อไปที่ประเทศรัสเซียในอีก 2 ปีข้างหน้า,กุนซือวัย 47 ปี ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักหน่วงหลังเกมนัดชิงยูโร 2016 ที่ลูกทีมของเขาพ่ายต่อโปรตุเกส 0-1 จนต้องชวดแชมป์ในบ้านเกิดอย่างน่าเสียดาย,อย่างไรก็ตาม เดสชองส์ ที่สัญญามีถึงจบศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ก็ยืนยันว่าเขาไม่มีความตั้งใจที่จะลาออกแม้จะถูกกดดันจากหลายฝ่ายก็ตาม และเขาต้องการพาทีมประสบความสำเร็จในศึกฟุตบอลโลกครั้งต่อไปให้ได้,มันต้องเป็นไปอย่างนั้นแหละ ผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับตัวเองหรอกนะ ผมจะต้องใช้เวลาประมวลทุกๆ อย่าง นักเตะจะไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับสโมสรของพวกเขา ผมจะวิเคราะห์สิ่งต่างๆ กับสตาฟฟ์ของผมและเราจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับสิ่งที่รอเราอยู่ในสองปีข้างหน้า,เมื่อเปรียบเทียบกับสองปีก่อน ตอนเราเล่นในฟุตบอลโลก ที่นี่เรามาถึงรอบชิงชนะเลิศเลยนะ ทีมหนุ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และผมภูมิใจมากที่ประสบความสำเร็จกับกลุ่มนี้ เราไปจนถึงแมตช์สุดท้ายแต่เราไม่ได้ถ้วยแชมป์แต่ผมยังมีทีมที่ยอดเยี่ยมอยู่ | ดิดิเยร์ เดสชองส์ นายใหญ่ทีมชาติฝรั่งเศส ปัดไขก๊อกหลังผิดหวังชวดแชมป์ยูโร 2016 พร้อมประกาศลั่นพาทีมลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียต่อไป | null | ยูโร 2016,ดิดิเยร์ เดสชองส์,ตราไก่,ฝรั่งเศส,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/661339 |
หักหน้าขาเม้าท์เดี๋ยวก็เลิก ปู แบล็กเฮด โพสต์หวานครบรอบ 4 ปี นุ๊กซี่ แฟนเด็ก | ก่อนหน้านี้ ปู แบล็กเฮด หรือ อานนท์ สายแสงจันทร์ นักร้องหนุ่มรุ่นใหญ่ ได้เปิดตัวแฟนเด็กที่อายุห่างกันถึง 18 ปี แถมยังเป็นพริตตี้สาวสวยสุดเซ็กซี่อย่าง นุ๊กซี่ อัญพัชญ์ วัฒนาตันติรัตน์ งานนี้บอกเลยว่าทำเอาหนุ่มๆ หลายคนอิจฉาในความโชคดีของหนุ่มปูมากมายแต่นอกจากจะอิจฉาแล้ว ก็ยังมีบรรดาขาเม้าท์ทั้งหลาย พูดเอาไว้ว่า คบไม่นานเดี๋ยวก็เลิกกัน เพราะอายุที่ห่างกันมากถึง 18 ปีของทั้งคู่ แต่ล่าสุด ปู แบล็กเฮด และ นุ๊กซี่ ก็ได้โพสต์รูปและข้อความสุดหวานในวันครบรอบคบกัน 4 ปีของทั้งคู่ผ่านอินสตาแกรม โดยหนุ่มปูโพสต์ว่า คุยกันดียันปีที่สี่สัมผัสได้ถึงความห่วงใยและความพยายามเข้าใจในเรื่องบางเรื่องที่ไม่น่าจะมีคนเข้าใจได้เลยนอกจากนุ๊ก ขอบคุณที่อยู่ดูแลกันในทุกๆ ช่วงเวลานะคะเราได้ไปต่อค่ะ เฮ้ส่วนทางด้านสาวนุ๊กซี่ก็โพสต์ข้อความว่า จะขอยืนยันว่าจะรักพี่ปูต่อไปเจ็บช้ำเป็นตายเป็นไปยังไงไม่หวั่นเลย ครบรอบ4ปี ความพิเศษปีนี้คือนอนดูหนังที่บ้านกินส้มตำแล้วก็ปลาเผา แต่ระหว่างทาง4ปีมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่อยากบอกอะไรมากเพราะพี่รู้ว่าหนูรักพี่ตลอดเวลาอยู่แล้วหวานขนาดนี้เมื่อไหร่จะมีข่าวดีกันนะ แฟนๆ รอลุ้นกันตัวโก่งแล้ว | ปู แบล็กเฮด นักร้องหนุ่มรุ่นใหญ่ โพสต์อวยพรครบรอบ 4 ปี แฟนเด็ก นุ๊กซี่ อัญพัชญ์ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ปู แบล็กเฮด,นุ๊กซี่ อัญพัชญ์,ปู นุ๊กซี่ แฟน,ปู นุ๊กซี่,ปู แบล็กเฮด แฟน,ข่าวดารา,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1852088 |
ไม่ใช่แค่ พล.อ.ประวิตร คนโหวต 94% ชี้ คสช.ทั้งคณะหมดเวลาแล้ว | ผู้ร่วมโหวตกับแฟนเพจประชาไท 94% หนุน คสช.ควรออกทั้งคณะ ขณะที่ให้ พล.อ.ประวิตร ออกเฉพาะบุคคลมีเพียง 6%หลังกระแสสังคมเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่ง หลังจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีนาฬิกาหรู ซึ่งไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินกับ ป.ป.ช.นั้น ต่อมา พล.อ.ประวิตร ออกมาบอกว่า ถ้าประชาชนไม่ต้องการผมก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้ แต่ล่าสุดวันนี้ (7 ก.พ.61) พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าตนเองไม่มีแรงกดดันอะไรอย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแค่ พล.อ.ประวิตร เท่านั้นที่ออกมาพูดในทำนองว่า หากประชาชนไม่ต้องการก็พร้อมจะไป เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เคยพูดทำนองนี้เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน ประกอบกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งยอมรับว่าเป็น ช่วงขาลง นั้น ประชาไท จึงได้โพสต์ถามในเฟซบุ๊กแฟนเพจ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าแท้จริงแล้ว อยากให้ พล.อ.ประวิตร ลาออกเฉพาะบุคคล หรือ อยากให้ คสช. ออกไปทั้งคณะได้แล้วผลมีผู้ร่วมโหวตกว่า 7800 โหวต โดยคนส่วนใหญ่ 94% หรือ ประมาณ 7300 โหวต ขณะที่มีเพียง 6% หรือ 467 โหวตเท่านั้นที่อยากให้ พล.อ.ประวิตร ออกเพียงลำพังส่วนผู้ที่กดหัวใจให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร และ คสช. อยู่ต่อเพื่อสานต่อการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ที่ทำมาเกือบ 4 ปีแล้วอยู่ 17 โหวตด้วยกกัน | ผู้ร่วมโหวตกับแฟนเพจประชาไท 94% หนุน คสช.ควรออกทั้งคณะ ขณะที่ให้ พล.อ.ประวิตร ออกเฉพาะบุคคลมีเพียง 6% หลังกระแสสังคมเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่ง | การเมือง | คสช.,ประวิตร วงษ์สุวรรณ | https://prachatai.com/journal/2018/02/75318 |
อีกแล้ว ครูปรีชา ร้องศาล ทนายษิทรา นำคลิปเสียงหวย 30 ล้าน โพสต์ลงเฟซฯ | จากกรณีที่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.61 องค์คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้พิจารณาจำหน่าย ที่นายปรีชา ใคร่ครวญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล จำเลย ซึ่งคดีนี้ศาลกำหนดเพื่อรอฟังผลคดีอาญา ตามคำร้องขอของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายความประชาชน ทนายความส่วนตัวของ ร.ต.ท.จรูญ,ล่าสุด เวลา 18.45 น. วันที่ 3 พ.ค.61 นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ อยู่บ้านพักบ้านนะโม หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคลิปที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายของ ร้อยตำรวจโท จรูญ วิมูล ได้นำมาเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวนั้น โดยคลิปนั้นเป็นหลักฐานของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทางนายษิทราได้นำมาเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ไม่รู้ว่าจะเป็นการละเมิดศาลหรือไม่ ดังนั้นวันนี้ทางตนได้มีการมอบหมายให้ทางทนายไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ไต่สวนในเรื่องที่นายษิทราได้นำหลักฐานในกระบวนการยุติธรรมเผยแพร่ต่อสาธารณชน,ดังนั้นขอบอกกับทางนายษิทรา ว่า เป็นการยอมรับความจริงใช่มั้ยว่าขนาดซีดีคลิปเสียงที่ใช้เป็นหลักฐานในคดียังหาย แล้วสลากกินแบ่งฯ ทำไม่จะหายไม่ได้ ซึ่งทางนายปรีชาได้กล่าวเพิ่มว่า เรื่องที่คดีหวย 30 ล้านในโซเชียลควรจะเงียบได้แล้ว เพราะเรื่องได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว โดยศาลแพ่งได้ทำการจำหน่ายคดีชั่วคราว เพื่อรอศาลอาญาทำการไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 4 มิถุนายน 2561 โดยรวมแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดล้วนเกิดมาจากฝั่งนายษิทราและร้อยตำรวจโท จรูญ ที่พยายามจะสร้างกระแสสังคมให้ตนเป็นผู้ผิด ถ้าจะทำอะไรก็ควรที่จะคิดก่อนที่จะทำ. | ครูปรีชามาอีกแล้ว! ให้ทนายยื่นฟ้องร้องศาล เปิดไต่สวนกรณี ทนายษิทรา นำคลิปเสียง หวยอลเวง 30 ล้าน หลักฐานในศาลโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เผยแพร่ต่อสาธารณชน | ข่าว,ทั่วไทย | หวย 30 ล้าน,ครูปรีชา,ทนายษิทรา,ร้องศาลไต่สวน,คลิปเสียงโพสต์เฟซบุ๊ก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1272424 |
กรมอุตุ เตือน พายุดีเปรสชัน ถล่ม28จังหวัด ภัยฝนตกหนัก | ยเขื่อน เชียงใหม่อ่วมน้ำป่าทะลักท่วม 2 อำเภอ ดินสไลด์ปิดถนนเส้นทางท่องเที่ยว 6 จุด แม่ฮ่องสอนฝนถล่มหนักหลายหมู่บ้านสัญญาณเตือนภัยดัง ผู้ว่าฯสั่งอพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ส่วนพะเยาแม่น้ำร่องช้างเอ่อล้นตลิ่งท่วม 4 ตำบล อ.ดอกคำใต้ ประชาชนเดือดร้อนหนัก 500 ครัวเรือน เพชรบูรณ์น้ำป่าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจเสียหายหนักสุดในรอบ 20 ปี,จากอิทธิพลพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมขัง และน้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 12 ก.ย. นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า กรมอุตุฯออกประกาศเตือน พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ ฉบับที่ 7 ความว่า พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 500 กม. ทางตะวันออกเฉียงใต้เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กม./ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าชายฝั่งประเทศเวียดนาม วันที่ 12 ก.ย. และจะเคลื่อนเข้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางของประเทศไทย วันที่ 13 ก.ย.นี้ จะเคลื่อนเข้าภาคกลางและภาคเหนือในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง จังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากกับฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้นคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 13-19 ก.ย.นี้ และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด,พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังการประชุมรับมือพายุดีเปรสชันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ หารือและทำงานบูรณการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากกรมอุตุฯประกาศช่วงวันที่ 13-15 ก.ย. จะมีพายุดีเปรสชันก่อให้เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่อาจทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมได้ ที่ประชุมมอบหมายให้กรมอุตุฯ ทำหน้าที่ให้ข้อมูลบริเวณที่พายุพัดผ่านและคำนวณปริมาณน้ำฝน กรมชลประทานทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ในเขตชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำทำหน้าที่ดูแลพื้นที่นอกเขตชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทำหน้าที่เตรียมแผนเผชิญเหตุและรับมือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากเกิดปัญหาน้ำท่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะทำหน้าที่สนับสนุนให้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ,นายทองเปลว กองจันทร์ รอง อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า พายุดีเปรสชันจะส่งผลดีต่อประเทศไทย ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆจะเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำในเขื่อนที่เพิ่มสูงขึ้นจะไม่ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำล้นเขื่อนหรือน้ำท่วมในพื้นที่ท้ายเขื่อน เนื่องจากเขื่อนต่างๆสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก รวมทั้งกรมชลฯพร่องน้ำบางส่วนออกจากคลองส่งน้ำและเส้นทางระบายน้ำต่างๆให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว จะไม่เกิดปัญหาน้ำล้นตลิ่งอย่างแน่นอน,ส่วนสถานการณ์ที่ จ.เชียงใหม่ เกิดฝนตกหนักส่งผลให้น้ำป่าจากดอยสูงไหลลงลำห้วยแม่แจ่ม เอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ ต.ช่างเคิ่ง ต.ท่าผ่า ต.แม่สึก ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม รวม 23 หมู่บ้าน นอกจากนี้ น้ำป่าไหลหลากลงลำห้วยแม่กำปอง เอ่อล้นตลิ่งท่วม ธารทองรีสอร์ต บ้านธารทอง หมู่ 8 ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จนได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกัน น้ำป่าท่วมถนนบ้านแม่ลาย-บ้านป้อก หมู่ 1 ต.ห้วยแก้ว ประชาชนสัญจรด้วยความลำบาก และมีดินสไลด์ปิดถนนบ้านแม่กำปอง หมู่ 3 ต.ห้วยแก้ว จำนวน 6 จุด เป็นเส้นทางท่องเที่ยวทำให้ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อเปิดเส้นทางแล้ว,จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากลงลำห้วยแม่จ๋า ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน น้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะพื้นที่บ้านไม้ซางหนาม น้ำป่าพัดดินทรายและก้อนหินมากองทับถมพื้นที่ไร่ข้าวโพดและไร่นาเสียหายอย่างหนัก นอกจากนี้พบวัวถูกน้ำป่าพัดเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนา รวมถึงมีดินโคลนถล่มปิดทับถนนเส้นทางเข้าหมู่บ้านห้วยหวาย ต.ห้วยโป่ง จนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ นายวิรุฬ พรรณเทวี รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นในพื้นที่หลายหมู่บ้าน ต.ห้วยโป่ง สั่งให้ผู้นำหมู่บ้านเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเร่งย้ายไปอยู่ในพื้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย,ส่วนที่บ้านกุงไม้สัก ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน น้ำจากลำห้วยแม่สะงาที่เอ่อท่วมไร่นากว่า 400 ไร่ ขณะนี้น้ำเริ่มลดระดับลง ส่วนบริเวณสะพานซูตองเป้ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ระดับน้ำเริ่มลดจนใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ จากเดิมที่ท่วมสูงใกล้ถึงราวสะพาน หากฝนไม่ตกลงมาภายใน 2 วันนี้ คาดว่าจะเปิดสะพานให้นักท่องเที่ยวได้ชมตามปกติ,ที่ จ.ลำปาง เกิดฝนตกหนักส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาวังเหนือไหลหลากลงแม่น้ำวังเอ่อท่วมพื้นที่ ต.วังทอง อ.วังซ้าย และ ต.วังทราย อ.วังเหนือ บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรได้รับความ เสียหาย นอกจากนี้ น้ำป่าไหลหลากกัดเซาะถนนหลายสายในพื้นที่จนรถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ นายเกรียงศักดิ์ แสงยุนนท์ นายอำเภอวังเหนือ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังเนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง,จ.ลำพูน น้ำป่าจากดอยกานไหลท่วมพื้นที่บ้านห้วยน้ำดิบ บ้านห้วยปางผ้า บ้านห้วยแทงใต้ และบ้านสะเหลียมหวาน ต.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง นายณรงค์ อ่อนสอาด ผวจ.ลำพูน เปิดเผยว่า สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตามเฝ้าระวัง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีฝนตกหนัก,ส่วน จ.พะเยา ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้น้ำจากแม่น้ำร่องช้างเอ่อล้นท่วมพื้นที่ หมู่ 1, 2, 7, 10 ต.บ้านปิน หมู่ 1, 2, 3 ต.คือเวียง หมู่ 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8 ต.หนองหล่ม และหมู่ 8, 10 ต.สันโค้ง อ.ดอกคำใต้ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 500 ครัวเรือน ขณะเดียวกัน เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่ ต.ท่าจำปี อ.เมืองพะเยา นอกจากนี้ มีน้ำท่วมขังพื้นที่เขตเทศบาลเมืองพะเยา โดยเฉพาะถนนหน้าแขวงทางหลวงพะเยา และหน้าโรงพยาบาลพะเยาราม ทำให้ประชาชนสัญจรด้วยความยากลำบาก,จ.แพร่ มีฝนตกตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ระดับน้ำในฝายแม่ยม ต.บ้านกลาง อ.สอง เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ที่ 5.38 เมตร และน้ำมีสีแดงขุ่น ชาวบ้านในพื้นที่ต่างวิตกกังวล เนื่องจากมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้น้ำในฝายแม่ยมเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ได้ นายปรีชา ด้วงบุญมา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.แพร่ เปิดเผยว่า ประชุมทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมรับมือหากเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก นอกจากนี้ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเนื่องจากจะมีฝนตกหนัก,ที่ จ.เพชรบูรณ์ น้ำป่าจากเทือกเขาซับสมอทอด และเขาซับไม้แดง ไหลทะลักท่วมพื้นที่เขตเทศบาลตำบลซับสมอทอด อ.บึงสามพัน เป็นพื้นที่ย่านเศรษฐกิจส่งผลให้ร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 600 หลังคาเรือน โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 3 บ้านไทรงาม ต.ทับสมอทอด ระดับน้ำท่วมสูง 50-60 ซม. หนักที่สุดในรอบ 20 ปี ขณะที่ถนนสายซับสมอทอด-วังพิกุล น้ำท่วมสูงประมาณ 30-40 ซม. รถสัญจรด้วยความยากลำบาก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลซับสมอทอด นำเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง ติดตั้งตามจุดต่างๆเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่,นายสุพจน์ ปั้นทรัพย์ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีฝนตกหนักในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ติดกับเทือกเขาภูพาน เช่น อ.เขาวง อ.กุฉินารายณ์ อ.สมเด็จ อ.คำม่วง อ.สามชัย และอ.ท่าคันโท อาจมีน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด นายปิยปัญญา ภูขวัญเมือง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาว 17 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำกักเก็บ 881 ล้าน ลบ.ม. หรือ 44 เปอร์เซ็นต์ จากปริมาณความจุ 1,980 ล้าน ลบ.ม.,จ.ชลบุรี เกิดฝนตกหนักนานกว่า 7 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมถนนสายสุขุมวิท กม.176 เส้นทางสัตหีบ-พัทยา ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ เป็นพื้นที่ต่ำประชาชนสัญจรด้วยความลำบาก คาดสาเหตุมาจากระบายน้ำไม่ทัน ขณะเดียวกัน ชาวประมงในพื้นที่ต่างเร่งนำเรือขนาดเล็กและขนาดกลางกลับเข้าฝั่งอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทะเลมีพายุและคลื่นลมแรง อาจเป็นอันตรายต่อเรือและลูกเรือประมง | กรมอุตุฯเผยพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้จ่อเข้าไทย เตือน 28 จังหวัด เตรียมรับมือฝนตกหนัก บิ๊กฉัตร เผยนายกฯห่วงน้ำท่วมถกสั่งทุกหน่วยงานรับมือ กรมชลฯชี้พายุส่งผลดีช่วยเติมน้ำในเขื่อน มั่นใจแผนไม่เกิดปัญหาน้ำล้นตลิ่งพื้นที่ท้า | null | ข่าวหน้า1,พายุดีเปรสชัน,ฝนตกหนัก,น้ำท่วม,ภาคเหนือ,ภาคอีสาน | https://www.thairath.co.th/content/720785 |
กรมสรรพากร เตรียมให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีลูกคนที่ 2 | วันนี้ (7 ธ.ค.2560) นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรเตรียมพิจารณาร่างแก้ไขประมวลรัษฎากร เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้มีบุตรมากกว่า 1 คน โดยหากมีบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไป สามารถหักลดหย่อนภาษีได้คนละ 120000 บาท แบ่งเป็นลดหย่อนค่าใช้จ่ายลูกคนที่ 2 จำนวน 60000 บาทต่อปี และลดหย่อนค่าใช้จ่ายในการฝากท้องโรงพยาบาลอีก 60000 บาท ต่อคนต่อปี คาดว่าจะเริ่มใช้ปีภาษี 2561 เป็นต้นไป หรือในการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี เดือนมกราคม-มีนาคม 2562นายประสงค์กล่าวอีกว่า กรมสรรพากรตระหนักถึงปัญหาการก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุ แต่การใช้มาตรการภาษีสนับสนุนให้มีลูกมากขึ้นเพียงอย่างเดียวอาจขาดประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีมาตรการอื่นๆ รองรับ เช่น มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ผลิตแรงงานคุณภาพ อาจต้องปรับปรุงหลักสูตร และสร้างทักษะแรงงานให้พร้อมรับมือปัญหาที่เกิดขึ้นปัจจุบัน กรมสรรพากรให้สิทธิ์ค่าลดหย่อนค่าใช้จ่ายบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบุตรตามสายเลือดได้ 30000 บาทต่อคนต่อปี โดยไม่จำกัดจำนวนบุตร ซึ่งทั้งสามีและภรรยาสามารถใช้สิทธิ์นี้คนละ 30000 บาท | กรมสรรพากรเตรียมแก้ไขกฎหมาย เพิ่มสิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกคนที่ 2 คนละ 120000 บาท หวังจูงใจให้ประชาชนมีลูกมากขึ้น คาดจะบังคับใช้ในปีภาษี 2561 | เศรษฐกิจ | ลดหย่อนภาษี,กรมสรรพากร,60000บาทต่อปี,แก้กฎหมาย,ลูกคนที่2,บุตรคนที่2,2561,ร่างแก้ไขประมวลรัษฎากร,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/268326 |
ญาติผู้เสียชีวิตเหตุจลาจลฟุตบอลในอียิปต์ ตำหนิ จนท.ไม่หยุดเหตุวุ่นวาย | จอมพลโมฮัมเหม็ด ตันตาวี ประธานสภากองทัพสูงสุดที่ได้รับมอบอำนาจการดูแลประเทศจากอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค เข้าพูดคุยกับสตาฟท์โค้ช และ ลูกทีมอัล อาห์ลี ที่เดินทางกลับจากการแข่งขันที่เมืองพอร์ต ซาอิต หลังเกิดเหตุจลาจลหลังเกมส์การแข่งขันครั้งจนมีผู้เสียชีวิตถึง 74 คน และ บาดเจ็บอีกนับพัน โดยจอมพลตันตาวี ประกาศจะติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมให้มีการไว้อาลัยทั้งประเทศเป็นเวลา 3 วันขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตกล่าวโทษกองกำลังความมั่นคงว่า เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ที่ส่งมาดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยระหว่างการแข่งขัน ไม่ยอมหยุดยั้งความวุ่นวายจนกลายเป็นเหตุจลาจล และ มีผู้เสียชีวิตถึง 74 คน บาดเจ็บนับพันคน และเชื่อว่า กลุ่มผู้ที่ก่อเหตุไม่ใช่แฟนบอลของทีมอัล มาสรี ซึ่งเป็นทีมเจ้าบ้าน แต่เป็นกลุ่มที่ได้รับการจ้างวานมาก่อเหตุวุ่นวายเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของประเทศโดยเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นหลังการแข่งขันฟุตบอลทำให้นายเซปป์ แบลตเตอร์ ประธานฟีฟ่า ออกมาแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต และระบุว่านับเป็นวันที่มืดมนของวงการฟุตบอล รวมทั้งมองว่าเหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น | ญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลหลังการแข่งขันฟุตบอลในอียิปต์โทษเจ้าหน้าที่ว่า ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนได้ ขณะที่ประธานสภากองทัพสูงสุดประกาศจะติดตามผู้ก่อเหตุมาลงโทษ | ต่างประเทศ | จลาจลฟุตบอล,จอมพลโมฮัมเหม็ด,ฟีฟ่า,อียิปต์,เซปป์ แบลตเตอร์ | https://news.thaipbs.or.th/content/63532 |
มิติใหม่ของกลุ่มชาติพันธุ์มอญในพม่า | โดยผู้ถูกกระทำมีทั้งประชาชนพม่าเองและชนกลุ่มน้อยต่าง ๆประชาชนอยู่ด้วยความยากลำบาก มีความไม่ไว้ใจหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ทั้งระหว่างรัฐกับประชาชนและประชาชนต่อประชาชนด้วยกันเอง อันเนื่องมากจากประเทศเมียนมาร์มีชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ มากมายทั้งที่จับอาวุธต่อสู้กับอำนาจรัฐ และทนยอมตกอยู่ภายภายใต้อำนาจรัฐ ด้วยปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ ทำให้ประเทศเมียนมาร์ถูกกดดันอย่างหนักทั้งจากภายนอกประเทศและภายในประเทศเรียกร้องให้ปรับตัวให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมกับหยุดการละเมิดสิทธิในทุกด้านปัจจุบันประเทศเมียนมาร์มีพัฒนาการด้านการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม อย่างกว้างขวาง มีการเจรจาสงบศึกกับชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ เปิดประเทศให้นักลงทุนจากทั่วโลกเดินทางมาลงทุน ทำให้เกิดราคาที่ดินแพงยิ่งกว่าประเทศไทยเท่าตัว ตอนนี้ประชาชนตื่นตัวสูงมากทั้งทางด้านการปกครอง สิทธิในการแสดงความคิดเห็น สิทธิในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนของตน กลุ่มชาติพันธุ์มอญ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธและมีการเจรจาสงบศึกกับรัฐบาลพม่ามานานหลายปี เปิดประชุมใหญ่เพื่อเตรียมตัวประชุมสมัชชาใหญ่ปลายปีนี้ และเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนากลุ่มชาติพันธุ์ตนเองต่อไปในอนาคต การประชุมครั้งนี้ได้รับงบสนับสนุนจากต่างประเทศโดยผ่านองค์กรกลุ่มนักเคลื่อนไหวมอญในเมืองมะละแหม่งสถานที่ประชุมเป็นหอประชุมใหญ่ใจกลางเมือง ในเมาะละแหม่ง รัฐมอญ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลพม่าเปิดโอกาสให้กลุ่มชาติพันธุ์มอญใช้หอประชุมอันเป็นสถานที่ราชการได้ โดยตัวแทนหลัก ๆ ที่เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยการประชุมวันแรกคือวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 รัฐบาลพม่าส่ง มาเป็นประธานเปิดการประชุม โดยมี ร่วมเดินทางมาเปิดการประชุมด้วย สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์มอญนอกจากมีหัวหน้าพรรคต่าง ๆ เดินทางมาร่วมประชุมแล้ว ยังมีคณะบุคคลมอญเดินทางมาร่วมประชุมหลายประเทศ เช่นจาก ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา และไทยวันแรกของการประชุมเปิดโอกาสให้คนมีชื่อเสียงขึ้นบนเวทีแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์มอญและอนาคตคนมอญหลังเปิด AEC เพราะประชาชนคนมอญในประเทศเมียนมาร์ตื่นตัวมากกับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ผนวกกับในปี 2558 ประเทศเมียนมาร์ จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศอีกด้วย เป็นพระมหาเถระสงฆ์มอญที่คนมอญทั่วโลกเคารพนับถือ พระสงฆ์รูปนี้เรียกร้องให้รัฐมอญ ซึ่งเป็นดินแดนของบรรพบุรุษมอญกลับมาเป็นของมอญ พร้อมเรียกร้องสิทธิต่าง ๆ ของคนมอญในฐานะเจ้าของแผ่นดินเดิม ผ่านทั้งข้อเขียนและคำเทศนา เคยถูกรัฐบาลพม่าจับกุมติดคุกหลายครั้ง เป็นพระสงฆ์ที่มีบทบาทสูงมากในหมู่คนมอญ คำพูดของท่านเมื่อขึ้นเวทีในงานนี้คำแรกคือหมายถึงคนมอญหมดเวลาที่จะทะเลาะกัน ชิงดีชิงเด่นกันแล้ว มอญจะต้องร่วมมือกันเพื่อก้าวต่อไปสำหรับอนาคตที่ดีงาม อดีตนายกองค์การนักศึกษาเรียกร้องประชาธิปไตย 2531 (1888) ซึ่งเป็นคนมอญ เคยถูกจับกุมขังหลายปี เรียกร้องให้คนมอญรวมตัวกันเพื่อกลุ่มชาติพันธุ์มอญเอง ซึ่งเป็นชนชาติดั้งเดิมในประเทศเมียนมาร์ พร้อมกับพัฒนาให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกด้านสิทธิสตรี ก็มีการรวมตัวกันเพื่อปกป้องสิทธิสตรีนำโดย เรียกร้องให้สตรีมอญลุกขึ้นมาปกป้องกลุ่มชาติพันธุ์มอญ เรียกร้องด้านสิทธิและการมีส่วนร่วมทางการเมืองด้านวัฒนธรรม การศึกษา ผู้แสดงความคิดเห็นคือ ถือว่าเป็นนักปราชญ์มอญ เก่งทางด้านประวัติศาสตร์ รอบรู้ด้านอักษรมอญโบราณ โบราณคดี แต่งหนังสือหลายเล่ม ท่านพูดยังน่าสนใจว่าเหตุผลที่กลุ่มชาติพันธุ์มอญไม่ก้าวหน้าอันเนื่องมาจากการประชุมวันที่ 29 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ 2 เปิดโอกาสให้กลุ่มชาติพันธุ์มอญที่เข้าร่วมประชุมแจ้งเจตจำนงร่วมแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่เรียกร้องให้พรรคการเมืองมอญทั้ง 2 พรรคยุบรวมตัวกันเป็นพรรคเดียวเพื่อสู้ลงศึกในสนามเลือกตั้งอีก 2 ปีครั้งหน้าซึ่งแนวคิดนี้สอดรับกับกลุ่มพระสงฆ์มอญกลุ่มหนึ่งที่ตั้งชื่อกลุ่มว่า มีการประชุมนอกรอบก่อนหน้านี้และมีการเชิญผู้เขียนเข้าร่วมประชุมด้วย ชี้แจงเป้าหมายเบื้องลึกในการจัดประชุมในครั้งนี้นอกจากเพื่อเตรียมงานประชุมใหญ่ปลายปีนี้แล้ว เป้าหมายเบื้องลึกที่กลุ่มพระสงฆ์กลุ่มนี้ต้องการจริง ๆ และพยายามขับเคลื่อน กดดัน มาตลอด 18 เดือน โดยมีการพูดคุยกับแกนนำพรรคการเมือง 2 พรรค คือ พรรคพัฒนาประชาธิปไตยทั่วรัฐมอญ และพรรคประชาธิปไตยมอญ คือต้องการให้ยุบทั้ง 2 พรรครวมเป็นพรรคเดียวกัน เพราะพระสงฆ์กลุ่มนี้เชื่อว่าการที่กลุ่มชาติพันธุ์มอญมีพรรคการเมือง 2 พรรค นำมาซึ่งความแตกแยกในหมู่ประชาชนมอญ และทั้งพระสงฆ์กลุ่มนี้ยังเชื่อว่ามีแกนนำพรรคมอญบางคนถูกรัฐบาลพม่าซื้อตัวไปแล้ว การประชุมในวันนี้นำความคิดเห็นของกลุ่มชาติพันธุ์มอญตลอด 2 วันที่ผ่านมา ๆมาสรุป เบื้องต้นมีข้อสรุปหลายประการอาทิ เรียกร้องให้พรรคมอญใหม่ รวมทั้ง 2 พรรคการเมือง ร่วมเจรจากับรัฐบาลพม่าแก้ไขข้อตกลงเดิมที่พรรคมอญใหม่ได้ทำไว้ก่อนเจรจาสงบศึก เพราะในการประชุมครั้งนี้ผู้ร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นว่าข้อตกลงเดิมที่พรรคมอญใหม่ได้ทำไว้กับรัฐบาลพม่าทางกลุ่มชาติพันธุ์เสียเปรียบ และทั้งรัฐบาลพม่าไม่มีความจริงใจในการทำตามสัญญาที่ตกลงไว้ โดยเฉพาะด้านสิทธิประโยชน์ต่าง ๆในรัฐมอญ ทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุขและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และรวมทั้งขอบเขตดินแดนซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคการเมืองทั้ง 2 พรรค เห็นด้วยกับที่ประชุมแต่ขอเป็นเรื่องของอนาคต เพราะเท่าที่สังเกตทั้ง 2 พรรคยังสงวนท่าทีที่จะรวมตัวกัน ถามจากพระสงฆ์และผู้เข้าร่วมประชุมให้คำเห็นตรงกันว่าการยุบรวมเป็นพรรคเดียวระดับหัวหน้าพรรคเห็นด้วย แต่มีแกนนำพรรคบางคนที่เป็นรัฐมนตรีประจำรัฐมอญไม่เห็นด้วย ก่อให้เกิดปัญหาเรื้อรังมาจนทุกวันนี้ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวลงสู่ทะเล เป็นเมืองเก่าแก่ อังกฤษเคยปกครองมาก่อน มีตึกและศาสนสถานเก่าแก่ทั้งตึก โบสถ์คริสต์ มัสยิด และวัดโบราณสถานที่เก่าแก่ ประชาชนทั่วไปร้อยละ 60 เป็นกลุ่มชาติพันธุ์มอญ มีหลายล้านคน ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตรกับคนไทยเพราะส่วนใหญ่รู้จักประเทศไทยและเคยมาทำงาน มาเที่ยวในประเทศไทย สินค้าส่วนใหญ่มาจากประเทศไทย มีร้านอาหารไทย 2-3 แห่งซึ่งเปิดโดยคนท้องถิ่น มีนักลงทุนไทยไปลงทุนสนามกอล์ฟปัจจุบันมีสายการบินนกแอร์ของไทยบินจากแม่สอดถึงเมืองมะละแหม่ง ซึ่งใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น และในอนาคตไม่เกินปลายปีนี้ สายการบินนกแอร์มีนโยบายบินตรงจากกรุงเทพ – เมืองมะละแหม่งจังหวัดเมาะละแหม่ง และ จังหวัดสะเทิม มี 10 อำเภอ แต่สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์มอญเองได้การปกครองในรัฐมอญออกเป็น 4 จังหวัด คือ จังหวัดมะแหม่ง จังหวัดสะเทิม จังหวัดด่านพระเจดีย์สามองค์ และ จังหวัดทะวายการประชุมใหญ่ของกลุ่มชาติพันธุ์มอญในครั้งนี้ แม้รัฐบาลพม่าจะแสดงความจริงใจด้วยการเปิดโอกาสให้ใช้หอประชุมอันเป็นสถานที่ราชการ ประธานาธิบดีเต่งเส่ง มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุม แต่เท่าที่สังเกตและฟังจากผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ยังมีความหวาดระแวงต่ออำนาจรัฐ โดยเฉพาะวันที่เปิดการประชุมเกิดไฟดับทั่วเมืองมะละเหม่ง หอประชุมใหญ่ต้องใช้ไฟปั่น ทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านรอบเมือง ตรวจตราอย่างเข้มข้น แม้กระทั้งสนามบินมีแรงงานมอญท่านหนึ่งเดินทางไปกับผู้เขียนก็ไม่เว้นถูกสายสืบจับกุม เพราะไม่มีบัตรประชาชนพกติดตัว เหตุการณ์เหล่าทั้งหมด คนมอญบางคนเชื่อว่า เป็นเจตนาของรัฐบาลพม่าที่ต้องการขัดขวางการประชุม ซึ่งในอนาคตคงจักต้องดูต่อว่าประเทศเมียนมาร์จะไปทางไหน แต่ที่แน่ ๆ สำหรับประเทศไทย นายลีกวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีสิงค์โปร์เปรียบเทียบว่าบทความใช้ เมียนมาร์ เรียกชื่อประเทศตามหลักสากล และใช้คำว่า พม่า แสดงชาติพันธุ์ | ประเทศเมียนมาร์ในอดีตที่ผ่านมาถือว่าเป็นประเทศหนึ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก เพราะถูกกล่าวหาว่ามีการปกครองด้วยระบอบทหาร มีการละเมิดสิทธิ | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | กลุ่มชาติพันธุ์,พม่า,มิ้นโกหน่าย,รัฐบาลพม่า,รัฐมอญ | https://prachatai.com/journal/2013/10/49113 |
คสช.เร่งตรวจสอบเอกสารบิดเบือน รธน. พบใน 2 จังหวัดภาคเหนือ | วันนี้ (14 ก.ค.) พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า คสช. กำลังเร่งตรวจสอบติดตามที่มาของเอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดตามกฎหมายประชามติแล้ว โดยพบว่ามีรายละเอียดข้อมูลบิดเบือนหลายด้าน เช่น การยกเลิกนโยบายประกันสุขภาพ 30 บาท และการยกเลิกเบี้ยผู้สูงอายุเบื้องต้นพบการเคลื่อนไหวในลักษณะแจกจ่ายเอกสารบิดเบือนในจังหวัดทางภาคเหนือ 2 จังหวัด แต่ยังไม่พบในพื้นที่อื่น ซึ่งต้องติดตามกลุ่มสนับสนุนทั้งด้านการเงินและการเคลื่อนไหวต่อไป พร้อมย้ำว่า คสช. ไม่ได้สร้างสถานการณ์ขึ้นเองขณะที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช เลขาธิการ คสช. ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.) กำชับให้ทุกหน่วยปฏิบัติงานเพื่อสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการบริหารประเทศ โดยใช้กลไกศูนย์ดำรงธรรมแก้ปัญหาในพื้นที่ต่างๆ และหากมีการชุมนุมเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการเมืองให้ดำเนินการไปตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ | ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กำชับทุกหน่วยดูแลความมั่นคงให้เอื้อต่อการบริหารประเทศและการออกเสียงประชามติ ขณะที่ คสช.เร่งติดตามกลุ่มเผยแพร่เอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ | การเมือง | คสช.,ร่างรัฐธรรมนูญ,ออกเสียงประชามติ,ประชามติ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/254033 |
จู่โจมบุกค้นเรือนจำกลางเชียงราย 6 แดน ไร้ยาเสพติด สิ่งผิด ก.ม. | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่เรือนจำกลางเชียงราย นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผวจ.เชียงราย พร้อมด้วยนายพิรุณ หน่อแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย นายคณิต ภาพีรนนท์ หัวหน้า ปปส.เชียงราย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ สนธิกำลังบุกเข้าตรวจค้นเรือนนอนนักโทษ โรงฝึกอาชีพ ล็อกเกอร์เก็บของ ราวตากผ้า จำนวน 6 แดน ตั้งแต่แดน 1-6 ทั้งชายหญิง เพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย ของต้องห้ามภายในเรือนจำ โดยใช้เวลาการตรวจค้น 3 ชั่วโมง พบเพียงเหล็กที่เหลาเป็นมีดปลายแหลม มีดคัตเตอร์ กรรไกรหัก อันเล็กๆ และช้อนที่ดัดแปลงเป็นมีดป้องกันตัวเล็กน้อยที่แดน 3 และเมื่อตรวจปัสสาวะผู้ต้องโทษทุกคน ผลการตรวจไม่พบว่ามีสารเสพติดตกค้าง,นายพิรุณ กล่าวว่า การจู่โจมเข้าตรวจค้นครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและรัฐบาล ที่กำหนดให้การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายเร่งด่วนและเป็นวาระแห่งชาติ โดยกำหนดให้เรือนจำทุกจังหวัดเป็นเรือนจำสีขาว และขณะนี้เรือนจำกลางจังหวัดเชียงรายได้เสนอรายชื่อผ่านอัยการจังหวัดไปถึงศาลจังหวัดเชียงราย เพื่อขอปล่อยตัวนักโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษจำนวน 107 คน และผู้ต้องขังที่ได้รับการลดโทษ 200 คน รวมชุดที่ 2 จะได้รับการปล่อยตัวครั้งนี้ 350 คน ซึ่งก่อนการปล่อยได้ประสานกับนักสังคมสงเคราะห์ สัมภาษณ์ผู้ต้องขังพิจารณาความเหมาะสม เมื่อปล่อยตัวออกไปจะอยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมอย่างไร และติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของกระทรวงยุติธรรม 5 ก้าวย่างแห่งการเปลี่ยนแปลงปี 2559 ต้องให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ต้องโทษมีคุณภาพชีวิตที่ดีไม่หวนกลับเข้าไปใหม่. | สนธิกำลัง 7 ฝ่ายจู่โจมค้นคุกเรือนจำกลางเชียงราย 6 แดน ตามนโยบาย บิ๊กต๊อก ต้อนนักโทษกว่าครึ่งหมื่นตรวจฉี่ ไร้สารเสพติด พบเพียงช้อนดัดแปลงและอาวุธมีด ขณะที่เรือนจำเตรียมปล่อยนักโทษเพิ่มอีก 350 คน | ข่าว,ทั่วไทย | ค้นเรือนจำ,เรือนจำกลางเชียงราย,จู่โจมตรวจค้นยาเสพติด,บุญส่ง เตชะมณีสถิตย์,ผวจ.เชียงราย,พิรุณ หน่อแก้ว,ผบ.เรือนจำกลางเชียงราย,ค้นคุกเชียงราย6แดน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/692228 |
จระเข้ โผล่แล้ว พบนอนอาบแดด บนหาดกะตะ เร่งแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว | นักท่องเที่ยวแล้ว ,ความคืบหน้าการติดตามจระเข้ ที่มีการพบเห็นลอย และว่ายอยู่กลางทะเลอันดามัน บริเวณใกล้หาดในหาน-หนองน้ำในหาน ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นช่วงเย็นวันที่ 20 ก.ค.เจ้าหน้าที่ชุดติดตามจระเข้ พบจระเข้ว่ายน้ำออกจากหาดในหาน ต.ราไวย์ ผ่านอ่าวเสน แหลมกระทิง ผ่านหาดนุ้ย มุ่งหน้าไปยังพื้นที่หาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง,ล่าสุด เมื่อเวลา 07.44 น. วันที่ 21 ก.ค. นายทวี ทองแช่ม นายกเทศบาลตำบลกะรน ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมย่านหาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง ว่า พบเห็นจระเข้นอนผึ่งแดดอยู่บริเวณชายหาดกะตะ ก่อนจะลงทะเลไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาล ตำบลกะรน รวมถึงไลฟ์การ์ดประจำชายหาดกะตะ ได้เฝ้าสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง,ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงสายวันเดียวกัน นายนรภัทร ปลอดทอง ผวจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ร.ท.สมนึก เปรมปราโมทย์ ผบ.ทร.3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมคณะทำงานที่ศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยประชาชน-นักท่องเที่ยว หาดยะนุ้ยและหาดในหาน เพื่อติดตามจระเข้ตัวดังกล่าว ซึ่งนำโดยนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ และชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อรายงานข้อมูลเพิ่มเติมทั้งหมด ก่อนร่วมกันปิดศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยประชาชนและนักท่องเที่ยว หาดยะนุ้ย-หาดในหาน เนื่องจากจระเข้ได้ออกจากหาดในหาน ต.ราไวย์ไปยังที่หาดกะตะ ต.กะรนแล้ว,จากการสอบถามไปยังนายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลกะรน เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เทศบาลอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและพิกัดจระเข้ รวมถึงเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณชายหาดและในทะเลว่าพบเห็นจระเข้อยู่อีกหรือไม่ หากพบเห็นอีกจะมีการตั้งศูนย์เฝ้าระวังเช่นเดียวกับที่หาดในหาน แต่ถ้าไม่พบเห็นจระเข้หรือจระเข้ผ่านไปยังชายหาดอื่น จะไม่มีการตั้งศูนย์เฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่อยู่บริเวณหน้าชายหาด ทั้งหาดกะตะและหาดกะรน เฝ้าระวังพร้อมกับเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังแล้ว | พบจระเข้ตัวเขื่อง โผล่ นอนอาบแดด หาดกะตะ จ.ภูเก็ต เชื่อเป็นตัวเดียวกันที่เห็นลอยน้ำบริเวณหาดในหาน ก่อนหนีลงทะเลไป ด้านผวจ.ภูเก็ต ผบ.ทร.3 เร่งจัดทัพเฝ้าระวัง พร้อมสั่งจนท.เร่งเตือน | ข่าว,ทั่วไทย | จระเข้,นอนอาบแดด,เตือนนักท่องเที่ยว,หาดกะตะ,ภูเก็ต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1338982 |
ชาววังสะพุงสบายใจ อบต.เปิดอ่างพักน้ำเทือกเขาเพชรบูรณ์ ให้เล่นคลายร้อน | เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่อ่างเก็บน้ำขึ้น-น้ำลงบ้านวังหิน หมู่ 8 บ้านวังสะพุง ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ มีประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่จำนวนมาก ต่างพากันนำอาหารเครื่องดื่มนั่งล้อมวงรับประทาน และบางคนก็ลงเล่นน้ำคลายร้อน ในอ่างพักน้ำขนาดเล็ก ความกว้าง 10 เมตร ยาว 10 เมตร และ ลึก 1 เมตร มีระดับน้ำประมาณ 80 เซนติเมตร,โดย องค์การบริหารส่วนตำบลวังหิน ได้มาสร้างไว้ เพื่อใช้รับน้ำที่ไหลมาจากธรรมชาติ ตามเทือกเขาเพชรบูรณ์หนึ่ง มาพักไว้ก่อนไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำขึ้น-น้ำลงวังหิน เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอุปโภค บริโภค และภาคการเกษตร,นายมานิจ อูบแก้ว นายก อบต.วังหิน กล่าวว่า เทือกเขาเพชรบูรณ์หนึ่ง นับว่าเป็นแหล่งต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ และนับว่ามีความสำคัญต่อประชาชน โดยจะมีน้ำซับไหลลงมาเข้าอ่างตลอดทั้งปี น้ำที่ไหลลงมามักมีสีแดงขุ่น จึงดำเนินการสร้างอ่างพักน้ำขนาดเล็ก เพื่อใช้สำหรับพักน้ำก่อนไหลลงสู่อ่างฯ ตามปกติ,ทั้งนี้ พอเข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง สภาพอากาศร้อนอบอ้าว จึงเปิดให้ประชาชนมาเล่นน้ำคลายร้อนกันได้ฟรี แต่มีข้อแม้ต้องช่วยกันรักษาความสะอาด เก็บขยะสิ่งของที่นำมาให้เรียบร้อย ซึ่งตั้งแต่เริ่มเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่มาประมาณ 1 เดือน ปรากฏว่ามีประชาชน นักท่องเที่ยวจำนวนมาก พาลูกหลานมาเล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ. | ชาววังสะพุง อ.วังโป่ง แห่เล่นน้ำคลายร้อนที่อ่างพักน้ำขึ้น-น้ำลง เทือกเขาเพชรบูรณ์ บางครอบครัวหอบลูกจูงหลานมานั่งล้อมวงทานข้าว นายก อบต.บอกชาวบ้านเล่นได้เต็มที่ แต่ต้องช่วยกันรักษาความสะอาด | ข่าว,ทั่วไทย | อ.วังโป่ง,ชาววังสะพุง,เทือกเขาเพชรบูรณ์,เพชรบูรณ์,อ่างพักน้ำ | https://www.thairath.co.th/news/local/north/907061 |
คุ้มแน่หรือเจรจา RCEP? บทเรียนการคุ้มครองนักลงทุน (มากกว่าประชาชน) | ประเด็นของการคุ้มครองนักลงทุนต่างชาติในข้อตกลง RCEP ที่กำลังเจรจากันอยู่จึงเป็นเรื่องน่าอกสั่นขวัญแขวนไม่น้อยสำหรับสาธารณชนผู้เสียภาษีให้รัฐ เพราะรัฐของท่านเสี่ยงจะถูกฟ้องร้องและต้องจ่ายค่าชดเชยมหาศาลให้เอกชน หากวันดีคืนดีถึงทางแยกที่ต้องเลือกระหว่างผลประโยชน์เอกชนกับสาธารณชน แล้วรัฐของท่านเลือกอย่างหลังอาจต้องกล่าวก่อนว่า การเจรจาการค้ากลุ่มใหญ่ในโลกตอนนี้มีอยู่ 2 ข้อตกลงสำคัญ นำโดย 2 มหาอำนาจ อันหนึ่งคือ TPP (Trans Pacific Partnership) ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็น CPTPP (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership) และสหรัฐอเมริกาในสมัยประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งถอนตัวออกไปเมื่อต้นปีเพราะเปลี่ยนทิศทางไปเน้นการเจรจาแบบทวิภาคี (ประเทศต่อประเทศ) แล้ว อีกอันหนึ่งคือ RCEP มีจีนเป็นพี่เบิ้ม สถานะของประเทศไทยนั้นร่วมการเจรจากับ RCEP มาหลายปีแล้ว และกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะร่วม CPTPP หรือไม่กล่าวสำหรับขนาดของ RCEP นั้นก็เป็นข้อตกลงฉบับใหญ่มาก จำนวนประชากรของ 16 ประเทศที่กำลังเจรจากันอยู่นี้นับเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรโลก รวมกันแล้วมีขนาดจีดีพีคิดเป็น 29% ของจีดีพีทั้งโลก สมาชิก RCEP มีตั้งแต่ประเทศพัฒนาน้อย กำลังพัฒนาไปจนถึงพัฒนาแล้ว เฉพาะ 3 ประเทศใหญ่อย่างจีน อินเดีย ญี่ปุ่น ซึ่งมีบทบาทสำคัญนั้นพบว่า มี GDP รวมกันในปี 2559 สูงถึง 18 ล้านล้านเหรียญสหรัฐหรือ 77.3% ของ GDP รวมทุกประเทศใน RCEPในปี 2559 ไทยมีการค้าขายกับสมาชิก RCEP รวม 2.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 59% ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย จึงเป็นตลาดที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญและพยายามผลักดันการเจรจาอย่างยิ่ง โดยไทยพยายามผลักดันให้จีน อินเดีย ญี่ปุ่น ลดภาษีนำเข้าสินค้าไทย เช่น ประมงแปรรูป (ปลาทูน่า กุ้ง ปลาหมึก) มันสำปะหลังอัดเม็ด น้ำตาลจากอ้อย ข้าว ปิโตรเคมี ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯเป็นเรื่องน่าย้อนแย้งและแสบทรวงที่มีข้อมูลว่า แม้แต่ประเทศที่ร่วมเจรจา RCEP ด้วยกันเองยังมีการพิจารณาจะถอนตัวจากข้อตกลงที่มีกลไก ISDS นี้เองเลย เช่น อินเดียและอินโดนีเซียกำลังจะถอนตัวจาก BITs อัยการสูงสุดของสิงคโปร์และหัวหน้าผู้พิพากษาของศาลสูงสุดในออสเตรเลียได้แสดงความกังวลต่อกลไก ISDS หัวหน้าผู้พิพากษาของนิวซีแลนด์ตั้งข้อสังเกตว่า การพิจารณาคดีโดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนในศาลท้องถิ่นต่างๆ อาจก่อให้เกิดการฟ้องร้องโดยใช้กลไก ISDS ได้ส่วนประเทศยักษ์ใหญ่อื่นๆ ก็มีท่าทีคัดค้านกลไก ISDS เช่นกัน เช่น รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีคัดค้านกลไก ISDS ในการเจรจา FTA ระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ สมาชิกรัฐสภาของเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และออสเตรียคัดค้านกลไก ISDS ในการเจรจา FTA กับแคนาดาและสหรัฐฯ สภาในระดับรัฐของสหรัฐฯ ของทุกรัฐคัดค้านกลไก ISDS ในสนธิสัญญาต่างๆแม้แต่ในรายงานของผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติและผู้เชี่ยวชาญอิสระในเรื่องสิทธิมนุษยชน 10 คนยังกล่าวถึงคดีภายใต้กลไก ISDS ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า กลไกการกำหนดนโยบายของรัฐและอำนาจในการออกกฎหมายเพื่อผลประโยชน์สาธารณะ กำลังอยู่ในอันตรายเพราะจะทำให้การออกกฎหมายและนโยบายต่างๆ ของรัฐต้องเป็นอัมพาต FTA Watch ระบุประเด็นของการคุ้มครองนักลงทุนต่างชาติในข้อตกลง RCEP ที่กำลังเจรจากันอยู่จึงเป็นเรื่องน่าอกสั่นขวัญแขวนไม่น้อยสำหรับสาธารณชนผู้เสียภาษีให้รัฐ เพราะรัฐของท่านเสี่ยงจะถูกฟ้องร้องและต้องจ่ายค่าชดเชยมหาศาลให้เอกชน หากวันดีคืนดีถึงทางแยกที่ต้องเลือกระหว่างผลประโยชน์เอกชนกับสาธารณชน แล้วรัฐของท่านเลือกอย่างหลัง | จับตาก่อนถึงวันประชุมการค้าพหุพาคี 16 ประเทศ RCEP ที่กรุงเทพฯ หวั่นผลประโยชน์นักลงทุน นำหน้าประโยชน์สาธารณะ จับตากลไกระงับข้อพิพาทรัฐ-เอกชน ISDS ที่คุ้มครองนักลงทุนข้ามชาติ เอื้อต่อเอกชนมากกว่ารัฐ | เศรษฐกิจ,ต่างประเทศ | RCEP,การค้า,การค้าระหว่างประเทศ,การค้าเสรี,การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ,ความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค,อนุญาโตตุลาการ,อาเซียน,อาเซียน 6 | https://prachatai.com/journal/2018/07/77788 |
แนะผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางไปสนามบินดอนเมือง 2-3 ชม. | นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้โดยสารทยอยเดินทางมาใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวาน (30 ธ.ค.2559) มีเที่ยวบินทั้งสิ้น 733 เที่ยวบิน ผู้โดยสารประมาณ 109000 คน และวันนี้ (31 ธ.ค.2559) มีเที่ยวบิน 713 เที่ยวบิน ผู้โดยสารประมาณ 104000 คน ซึ่งมีจำนวนสูงกว่าเมื่อเทียบกับปี 2558อย่างไรก็ตามคาดว่าวันพรุ่งนี้ (1 ม.ค.2560) จะมีผู้โดยสารเดินทางมาที่อากาศยานดอนเมืองประมาณ 104000 คน และวันที่ 4 ม.ค.2560 ซึ่งเป็นที่ประชาชนหลายคนเดินทางกลับ คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางประมาณ 105000 คน ทั้งนี้ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมงขณะที่ภาพรวมที่ท่าอากาศยานดอนเมืองยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนเรื่องความปลอดภัยได้จัดชุดตรวจผสมทั้งภายในและภายนอกออกตรวจและเพิ่มความถี่มากขึ้น สำหรับราคาสินค้าภายในท่าอากาศยานดอนเมืองที่เคยมีปัญหาราคาสูง จากการตรวจสอบราคาสินค้ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติและได้ติดป้ายแสดงราคาไว้อย่างชัดเจน | ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ระบุวันนี้ (31 ธ.ค.2559) ประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมาใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง ส่วนภาพรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย | สังคม | ท่าอากาศยานดอนเมือง,หยุดยาว,เทศกาลปีใหม่,ผู้โดยสาร,เที่ยวบิน,เพ็ชร ชั้นเจริญ,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/259158 |
YENI อดีตนักศึกษาพม่า ยุคเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตย 888 | (เหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตย 888) และผันตัวเองมาเป็นผู้สื่อข่าวทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง ส่งต่อข่าวสารความเป็นไปภายในประเทศของตนสู่โลกภายนอก ต่อไปนี้ เป็นบทสนทนาระหว่างนักข่าวประชาไท กับสื่อผู้พลัดถิ่นคนนี้ YENI : ผมเป็นผู้สื่อข่าวของ THE IRRAWADDY (www.irrawaddy.org) เป็นนิตยสารวิเคราะห์ภาษาอังกฤษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวของประเทศพม่า และจัดส่งไปให้องค์กรหน่วยงานต่างๆ รวมทั้ง นักวิชาการ นักการทูต นักศึกษา ผู้นำองค์กร และผู้ที่สนใจทั่วไป ทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นหลังเหตุการณ์ 888 ที่ผ่านมา หมายถึง วีรชนผู้หาญกล้า ตั้งขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงเพื่อนรักที่เสียชีวิตในการเรียกร้องประชาธิปไตยในครั้งนั้น ยอมรับว่า เป็นรัฐบาลที่เก่งที่สุดที่เคยผ่านมา โดยเฉพาะ ตันส่วย (พล.อ.(อาวุโส) ตันฉ่วย-ผู้นำสูงสุดของพม่า-ผู้สัมภาษณ์ ) เป็นนักจิตวิทยาที่เก่งในด้านการบริหาร การใช้คน การวางแผนกลยุทธ์ในการทำงาน แต่ทว่าเขาเป็นคนเก่งก็จริง แต่ในทางปฏิบัติเขาไม่ได้คำนึงถึงประชาธิปไตยไม่คำนึงถึงประชาชน หากคิดถึงถึงแต่กองทัพ คิดถึงแต่อำนาจของกลุ่มพวกพ้องตัวเอง ซึ่งก็คงเหมือนกับรัฐบาลของทักษิณที่มุ่งแต่ธุรกิจ แต่ไม่ได้สนใจและคำนึงถึงประชาธิปไตย ดังนั้นรัฐบาลพม่ายังคงเชื่อว่าการบริหารประเทศ จะต้องใช้กองทัพเข้าไปมีควบคุมทั้งหมดเท่านั้น แนวโน้มที่จะเกิดประชาธิปไตยจึงดูยากมาก ใช่ เพราะทุกวันนี้ รัฐบาลยังคงมองว่า หากปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี จะทำให้ประเทศพม่าไม่มีความสงบสุข เพราะจะต้องมีการเรียกร้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แต่ประชาชนในพม่ายังคงมีการเรียกร้องประชาธิปไตยกันอยู่ เพราะทุกคนคิดว่า วันใดที่มีประชาธิปไตยก็จะทำให้ประชาชนทุกคนเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดีกว่า เนื่องจากสามารถมองเห็นและรับรู้ถึงปัญหาข้างในดีกว่า และทุกคนเชื่อมั่น ปัญหาเหล่านั้นสามารถแก้ได้ จริงๆ แล้ว ถ้ามองลึกลงไป ประชาธิปไตยอาจไม่ใช่ธรรมชาติของคนพม่า เพราะประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ล้วนถูกกดขี่มาโดยตลอด แต่ประชาชนยังต้องการและยังมีความหวัง และมีทางเดียวคือ ต้องทำการเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อไป ไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย เพราะมันไม่ได้เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย ซึ่งท้ายสุดมีแต่ความขัดแย้งและความสูญเสียยากที่จะแก้ไขปัญหานั้นได้และยังส่งผลกระทบต่อกระบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า ซึ่งทำให้ยากขึ้นอีกด้วย ถ้าไทใหญ่ หรือกะเหรี่ยง ต้องการแยกการปกครอง ในความคิดของตนก็สามารถทำได้ ไม่มีปัญหา เพราะโดยส่วนตัวก็เชื่อในระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว และทุกฝ่ายต่างเจอปัญหาเดียวกันมานานถึง 43 ปี หลังจากถูกครอบครองจากอังกฤษ เหตุระเบิดเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้มีการลอบวางระเบิดไปหลายๆ จุดพร้อมกัน ไม่ว่าที่เมืองมัณฑะเลย์หรือย่างกุ้ง และแต่ละครั้งก็มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลทหารพม่าก็ไม่สามารถจับตัวผู้กระทำผิดได้ อีกทั้งยังมีการปิดข่าวความจริง พร้อมกับปล่อยข่าวลวงมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้คนพม่าก็ไม่มีใครเชื่ออยู่แล้ว และที่รัฐบาลพม่าวิเคราะห์ว่า อาจจะเป็นฝีมือของชนกลุ่มน้อย ทั้ง 3 กลุ่มคือ กะเหรี่ยงเคเอ็นยู กองกำลังไทใหญ่ และกะเหรี่ยงก้าวหน้าหรือกะเหรี่ยงแดงนั้น ไม่น่าเป็นไปได้เพราะทั้ง 3 กลุ่ม ไม่มีประสิทธิ ภาพพอที่จะเข้าไปปฏิบัติการในเมืองได้ ทั้งขณะนี้ต่างก็กำลังมีการสู้รบกันตามแนวชายแดน ส่วนที่รัฐบาลพม่าออกมากล่าวหาการวางระเบิดในครั้งนี้อีกว่า เป็นฝีมือกลุ่มเคลื่อนไหวที่สนับสนุนประชาธิปไตย หรือกลุ่มผู้สนับสนุนนางออง ซาน ซูจี ด้วยนั้น ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะคนกลุ่มนี้ต่อต้านความรุนแรงอยู่แล้ว ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติวิธี ส่วนที่มองว่า เป็นฝีมือของลูกน้องเก่าของ พล.อ.ขิ่นยุ้นต์ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกจับกุมนั้น แม้มีเหตุผลอยู่ แต่เมื่อวิเคราะห์กันต่อไป อาจเป็นไปได้ยาก เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มสมาชิกลูกน้องของขิ่นยุ้นต์ รัฐบาลทหารของตันส่วยจะรู้หมดว่า ใครเป็นใคร กำลังทำอะไรอยู่ หากเป็นฝีมือกลุ่มนี้จริง รัฐบาลสามารถออกมายืนยันชี้ชัดได้ อีกกลุ่มหนึ่งก็คือ กลุ่มมุสลิมในพม่า ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มมุสลิมโรฮิงยาในรัฐอาระกัน ตั้งอยู่ภาคตะวันตกของพม่า ได้ถูกรัฐบาลทหารพม่าเข้าไปควบคุม กดขี่ข่มเหงอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด ปัญหานี้อาจคล้ายๆ กับปัญหา 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยในขณะนี้ นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดกระแสความขัดแย้งของมุสลิมในพม่า การลอบวางระเบิดในแต่ละครั้ง มีการระเบิด 4 ครั้ง 4 จุด ในเวลาเดียวกัน ซึ่งมุ่งหวังประสงค์จะเอาชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ จึงเชื่อว่าเป็นฝีมือระดับอินเตอร์เนชั่นแนลเลยทีเดียว ซึ่งทางรัฐบาลทหารของพม่าก็ไม่สามารถสอบสวนหาสาเหตุได้แน่ชัด แต่ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งเราต้องรอดูรัฐบาลพม่าต่อไปว่าจะสอบสวนหาความจริงออกมาให้ได้ ผมจะกลับไปประเทศพม่าในวันรุ่งขึ้นทันที | ร้านกาแฟเล็กๆ บนถนนสายหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นที่นัดหมายของเรากับ Yeni ผู้นำนักศึกษาพม่า ซึ่งหนีภัยการเมืองจากบ้านเกิดเมืองนอนหลังเหตุการณ์เรียกร้องวันที่ 8 สิงหาคม 1988 | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/05/4020 |
ลุ้นเจอพระศพราชินีเนเฟอร์ติติ สาบสูญ 3พันปี หลังกำแพงห้องเก็บศพตุตันคาเมน | ลุ้นระทึก ไขปริศนาพระศพราชินีเนเฟอร์ติติหายไปนานนับ 3พันปี อยู่ที่ไหน รมว.โบราณวัตถุอียิปต์ยืนยัน ผลสรุปจากการใช้เรดาร์สแกนตรวจสอบกำแพงในห้องเก็บพระศพฟาโรห์ตุตันคาเมน มีความเป็นไปได้ถึง 90% ว่ามีห้องลับอยู่ด้านหลังกำแพง แต่ต้องติดตามกันต่อว่า ใช่พระศพราชินีเนเฟอร์ติติหรือไม่,เมื่อ 17 มี.ค. 59 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานความคืบหน้าปริศนาคาใจนักโบราณคดีมาเนิ่นนาน เกี่ยวกับพระศพราชินีเนเฟอร์ติติ แห่งยุคอียิปต์โบราณ ที่หายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยนานนับ 3,000 ปี โดยเมื่อ ส.ค. ปี 58 ดร.นิโคลาส รีเวส นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ได้สร้างความหวังในการพบหลุมพระศพราชินีเนเฟอร์ติติ ซึ่งทรงมีพระสิริโฉมงดงาม โดยเขาได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า ห้องเก็บพระศพราชินีเนเฟอร์ติติอาจซ่อนอยู่ด้านหลังกำแพงของห้องเก็บพระศพฟาโรห์ตุตันคาเมน อดีตกษัตริย์ซึ่งทรงมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในยุคอียิปต์โบราณ บริเวณหุบเขากษัตริย์ ในเมืองลักซอร์ ทางภาคใต้ของอียิปต์ โดย ดร.รีเวช เชื่อว่า มีประตูลับ 2 บานจากห้องพระศพฟาโรห์ตุตันคาเมน ซึ่งบานหนึ่งจะนำไปสู่ห้องเก็บพระศพราชินีเนเฟอร์ติตินั้น,ด้าน นายแมมดูห์ อับ เดอมาตี รัฐมนตรีกระทรวงโบราณวัตถุของอียิปต์ ยืนยันถึงความคืบหน้าในการค้นหาพระศพราชินีเนเฟอร์ติติ ว่า จากการใช้เรดาร์สแกนตรวจสอบห้องเก็บพระศพฟาโรห์ตุตันคาเมนของทีมนักโบราณคดี พบว่า มีความเป็นไปได้ถึง 90% ที่มีห้องลับ ถูกสร้างซ่อนอยู่หลังกำแพงของห้องเก็บพระศพฟาโรห์ตุตันคาเมน ,ก่อนหน้านี้ เมื่อ พ.ย. 58 ทีมนักโบราณคดีต่างชาติได้ข้อสรุปเบื้องต้น ในการใช้เรดาร์สแกนกำแพงห้องเก็บพระศพฟาโรห์ตุตันคาเมน ซึ่งเชื่อว่าเป็นพระโอรสของราชินีเนเฟอร์ติตินั้น นักโบราณคดีพบว่า มีส่วนหนึ่งที่ไม่ถูกเปิด อยู่ด้านหลังประตูลับ 2 บานในห้องเก็บพระศพฟาโรห์ตุตันคาเมน โดยเชื่อว่ามีห้องเก็บพระศพอีกห้องหนึ่งซ่อนอยู่บริเวณกำแพงด้านทิศเหนือของห้องเก็บพระศพฟาโรห์องค์นี้ ขณะที่ นายฮิโรคัตสึ วาตานาเบ ผู้เชี่ยวชาญด้านเรดาร์ ชาวญี่ปุ่น ยังชี้ว่าจากการใช้เรดาร์สแกนกำแพงในห้องเก็บพระศพฟาโรห์ตุตันคาเมน ยังพบหลักฐานว่ามีประตูลับบานที่สอง ซ่อนอยู่ในห้องเก็บพระศพของฟาโรห์ ทางกำแพงฝั่งทิศตะวันตก.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,ฮือฮา หลุมพระศพราชินีเนเฟอร์ติติที่หายสาบสูญ อาจถูกฝังข้างฟาโรห์ตุตันคาเมน | ลุ้นระทึก ไขปริศนาพระศพราชินีเนเฟอร์ติติหายไปนานนับ 3พันปี อยู่ที่ไหน!! รมว.โบราณวัตถุอียิปต์ยืนยัน ผลสรุปจากการใช้เรดาร์สแกนตรวจสอบกำแพงในห้องเก็บพระศพฟาโรห์ตุตันคาเมน มีความเป็นไปได้ถึง 90% ว่ามีห้องลับอยู่ด้านหลังกำแพง | null | ราชินีเนเฟอร์ติติ,ฟาโรห์ตุตันคาเมน,ตุตันคาเมน,อียิปต์โบราณ,หุบเขากษัตริย์,เมืองลักซอว์,อียิปต์,น้กโบราณคดี,พบห้องลับ หลังกำแพงห้องเก็บศพตุตันคาเมน,ลุ้นพบศพราชินีเนเฟอร์ติติ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/592415 |
จนท.เขตห้ามล่าฯ เกาะลิบง เตรียมชันสูตรซากฉลามวาฬที่ลอยตายกลางทะเลวันนี้ | กรณีชาวประมงพื้นบ้าน เกาะลิบง จ.ตรัง พบซากฉลามวาฬยักษ์ สภาพสด น้ำหนัก 2 ตัน ลอยตายกลางทะเลเกาะลิบง ,ล่าสุดช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ย.25 62 นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง เจ้าหน้าที่สำนักงาน ทช.ที่ 7 (ตรัง) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบงและชาวบ้านร่วมเคลื่อนย้ายซากฉลามวาฬ โดยใช้เรือของชาวบ้านในชุมชนลากซากเข้ามายังฝั่ง บริเวณหาดยาวบังกะโล ม.6 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งใช้เวลาลากเข้าฝั่งกว่า 3 ชั่วโมง และต้องใช้รถแบ็กโฮ ในการเคลื่อนย้ายขึ้นจากน้ำเนื่องจากมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ขณะเคลื่อนย้ายได้มีกลุ่มชาวบ้าน ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ยืนดูเป็นจำนวนมาก ซึ่งอยู่ในอาการตกตะลึง ต่างเก็บภาพเป็นที่ระลึก จากการวัดขนาดพบว่ามีขนาดความยาว 4.96 เมตร ความยาวรอบตัว 3 เมตร น้ำหนักประมาณ 2 ตัน,ขณะที่ นางเสาะระ หมาดตุด อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า ตนก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นฉลามวาฬ รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ทะเลบ้านเรามีฉลามวาฬมาให้เห็น แต่ก็น่าเสียดายที่มันต้องตาย,ขณะที่ ด.ช.กมล หมู่มาก อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านหาดยาว บอกว่า ตนเห็นซากฉลามวาฬที่ตายแล้วรู้สึกสงสาร ปกติตนก็เคยเห็นฉลามวาฬมาแล้ว แต่ตัวนี้มีขนาดใหญ่ ตนรู้สึกชอบแต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจมากที่ฉลามวาฬต้องมาตาย โดยหลังจากนี้ตนก็จะขอรักษาสิ่งแวดล้อมไว้อย่างดี,ต่อมา เจ้าหน้าที่ฯ ได้ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กันตัง และได้ประสานไปทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง และอาสาสมัครจากชุมชนบ้านมดตะนอย เพื่อร่วมกันผ่าพิสูจน์ซากในช่วงเช้าวันที่ 16 พ.ย.62 นี้ เพื่อหาสาเหตุการตาย ข่าวคืบหน้าจะรายงานต่อไป. | จนท.เขตห้ามล่าฯ เกาะลิบง ย้ายซากฉลามวาฬหนัก 2 ตัน เข้าฝั่งเตรียมผ่าชันสูตร โดยพบตัวแรกในรอบ 8 ปีชาวบ้านแห่ชม เก็บภาพเซลฟี่กันเพียบ บางคนบอกเกิดมายังไม่เคยเห็นตัวจริงๆ รู้สึกเสียดาย | ข่าว,ทั่วไทย | ฉลามวาฬ,เกาะลิบง,เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง,ตรัง,ผ่าซากฉลามวาฬ,หาเหตุการตาย,ชัยพฤกษ์ วีระวงศ์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1705470 |
กกต.ใจดีสู้เสือ ลุยรับรอง ส.ส. | ไม่มีทางเลือกอย่างอื่นจึงทำอย่างนี้ เพราะเดดไลน์ที่กำหนดให้ กกต.ต้องประกาศรายชื่อ ส.ส.ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อภายในวันที่ 9 พ.ค.62,อย่างน้อยก็ต้องให้ได้ 95% เป็นเบื้องต้น,มิฉะนั้นการเลือกตั้งจะต้องโมฆะและแน่นอนก็คือ กกต.จะต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะถือว่าขัดกฎหมาย,เบื้องต้นในวันที่ 7 พ.ค.62 กกต.จะประกาศรายชื่อ ส.ส.เขตและถัดไปอีกวันคือ 8 พ.ค.62 จะประกาศรายชื่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์,ไม่ว่าจะเป็นแบบเขตหรือบัญชีรายชื่อยังมีปัญหาค้างคาอยู่,การได้มาซึ่ง ส.ส.เขตนั้นคือการที่ประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งในแต่ละเขตทั่วประเทศ แม้จะกาบัตรเพียงใบเดียวกันที่สามารถเลือก ส.ส.เลือกพรรค และเลือกนายกฯด้วย,แม้จะสามารถได้ ส.ส.เขตง่ายกว่าแบบบัญชีรายชื่อในการคิดคำณวน แต่เนื่องจากมีการร้องว่าผู้สมัคร ส.ส.กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนคือการตรวจสอบว่ากระทำผิดหรือไม่,ว่ากันว่ามีจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะบรรดาว่าที่ ส.ส.ที่สอบได้,ขั้นตอนนี้จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบว่ามีความผิดหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบแล้ว 1 ราย คือว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง,กกต.จึงแจก ใบส้ม ไปแล้วทำให้ไม่มีผลต่อการเลือกตั้ง ไม่นับคะแนนที่ได้ และไม่สามารถส่งลงสมัครในการเลือกตั้งทั้งคนและในนามพรรค,ที่สำคัญก็คือ ส.ส.เขตนั้นหากพบว่ามีการกระทำความผิดกันจำนวนมาก จะส่งผลต่อคะแนนรวมของพรรคการเมืองนั้นด้วย,แนวทางก็คือ ประกาศรายชื่อไปก่อนสำหรับผู้สมัครที่ได้คะแนนมากสุดในเขตนั้น หากพบความผิดในภายหลังก็จะต้องจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งตามกระทงความผิด,หนัก-เบา อยู่ที่ กกต.จะตัดสิน,อีกส่วนหนึ่งคือ ส.ส.บัญชีรายชื่อมีปัญหาไม่ต่างกัน นั่นคือ วิธีการคิดคำนวณตัวเลขว่าจะใช้สูตรไหนเพื่อไม่ให้ขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง,ประเด็นนี้ยื้อกันมานานเนื่องจากมีมุมมองที่ต่างกันถึงขั้น กกต.ก็ไม่แน่ใจ แต่เพื่อให้แน่ใจจึงยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย,ปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เหตุผลเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องตัดสินใจเอง และเมื่อยังไม่มีการดำเนินการจะรู้ได้อย่างไรขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ,จึงมีการร้องไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปรากฏว่ารับพิจารณาเรื่องและได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นกัน,ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยเรื่องนี้และจะมีการแถลงผลการวินิจฉัยในวันที่ 8 พ.ค.62 ในตอนเช้าว่าไปแล้วยังอยู่ในเงื่อนเวลาไม่เกินวันที่ 9 พ.ค.62,ซึ่งตรงกับวันที่ กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อเช่นเดียวกัน มีคำถามว่าทำไม กกต.จึงไม่รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพราะยังมีเวลาอีก 1 วัน,อาจจะเป็นเพราะเชื่อมั่นว่าสูตรที่คิดนั้นไม่ขัดกติกา,ให้รอดูตรงนี้ให้ดีก็แล้วกันหากวันนั้น กกต.ประกาศรายชื่อช่วงบ่ายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสร็จไปแล้วก็คงไม่มีปัญหา,เพราะเท่าที่รู้ก็คือ กกต.คงทำบัญชีรายชื่อเอาไว้ 2 ส่วน คือ สูตร 1 และสูตร 2 ออกมาแบบไหนก็พร้อมชงได้ทันที,หากไม่เป็นไปอย่างนี้ ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน.,สายล่อฟ้า | ประกาศก่อน สอยทีหลัง ไม่มีทางเลือกอย่างอื่นจึงทำอย่างนี้ เพราะเดดไลน์ที่กำหนดให้ กกต.ต้องประกาศรายชื่อ ส.ส.ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อภายในวันที่ 9 พ.ค.62 | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,รับรองผลการเลือกตั้ง,ผลการเลือกตั้ง,สูตรคำนวณ ส.ส.,ประกาศผลเลือกตั้ง,กล้าได้กล้าเสีย,สายล่อฟ้า,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1561290 |
บ่อนพนัน–ตำรวจมันของคู่กัน | วันหยุดคุยกันเบาๆ เรื่องบ่อนพนันกับตำรวจ,ตอนนี้เหมือนเป็นช่วงนาทีทอง ที่การเมืองเพิ่งสะเด็ดน้ำ ได้รัฐบาลใหม่ถอดด้าม แต่นายกรัฐมนตรียังหน้าเดิมคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นเดียวกับรัฐมนตรีอีกหลายคน,บรรยากาศอบายมุขผิดกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะบ่อนการพนันเลยดูเริงร่า ไฟเขียวอื๋อจนเปิดเล่นกันทุกพื้นที่ ชนิดที่เรียกได้ว่า จับตรงไหนก็โดนตรงนั้น?,อย่างเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ตีปี๊บนัดผู้สื่อข่าวตั้งแต่เที่ยงว่าจะบุกจับบ่อนพนันรายใหญ่,เป็นสมัยก่อน ป่านนี้ขนหัวลุกรีบปิดกันเป็นแถว,แต่ยุคนี้เหมือนหมูไม่กลัวน้ำร้อน กว่าทหารชุดนี้จะเข้าจับกุมเวลาล่วงเลยไปถึงช่วงกลางคืน ถึงบุกจับบ่อนไฮโลและไพ่เสือมังกรในดาวดึงษ์สนุ้กเกอร์คลับ ตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 2 คูหา เลขที่ 101-102 ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 5,ยังจับนักพนันชายหญิงและเจ้ามือได้ 31 คน เงินสด 141,720 บาท ยึดของกลางอุปกรณ์การเล่นจำนวนมาก เรียกว่าไม่ได้ให้ความสำคัญความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่แม้แต่น้อย?,ทำเอา 4 เสือ สน.สุทธิสาร โดนเด้งไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.น.2 ตามระเบียบ,อีกไม่กี่วันถัดมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.สมุทรสาคร บุกจับบ่อนไฮโลอิทธิพล แอบอ้างว่าตีตั๋วกับ นายสมคิด จันทมฤก ผวจ.สมุทรสาคร แล้ว,ไม่มีใครกล้าจับ,พอมีหญิงชาวบ้านที่เดือดร้อนจากสามีที่ติดพนันงอมแงมไปร้องเรียน พ่อเมืองสมุทรสาครถึงกับเดือดปุดๆ สั่งกำลังบุกจับบ่อนไฮโลอิทธิพลบริเวณอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 1 คูหา เลขที่ 38/80 ชุมชนซอยเจ็ดศอก หมู่ 2 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร ทันที,รวบนักพนันพร้อมเจ้ามือ 51 คน เป็นชาย 24 คน และหญิง 27 คน ในจำนวนนี้มีชาวกัมพูชา 3 คน ชาวพม่า 3 คน และไร้สัญชาติ 1 คน,4 เสือ สภ.เมืองสมุทรสาคร ถูกเด้งเข้า ศปก.บก.ภ.จ.สมุทรสาคร ตามระเบียบ,อันนี้เหมือนใครพลาดก็ต้องไปพักร้อน ย้ายกันพอเป็นพิธี เรื่องเงียบก็ย้ายกลับมาใหม่, ,สอนให้รู้ว่า บ่อนการพนันกับตำรวจมันของคู่กัน ไม่มีวันแยกออกได้หรอก?,สหบาท | เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ตีปี๊บนัดผู้สื่อข่าวตั้งแต่เที่ยงว่าจะบุกจับบ่อนพนันรายใหญ่ | null | จับบ่อน,บ่อนไฮโล,เด้ง 4 เสือ,บ่อนการพนัน,สมุทรสาคร,ส่องตำรวจ,สหบาท | https://www.thairath.co.th/news/local/1613491 |
ทัพลูกยางสาวไทย เตรียมพร้อมลุยศึกอซ.กรังด์ปรีซ์ ที่ฟิลิปปินส์ | อร อรอุมา สิทธิรักษ์ กัปตันทีม เผยทีมเราซ้อมกันมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากจบการแข่งขันในสนามที่แล้ว และรายการนี้ถือว่าจะได้ฝึกซ้อม อุ่นเครื่อง และเตรียมทีมก่อนการแข่งขันซีเกมส์ พร้อมคาดหวังหากลบข้อผิดพลาดต่างๆได้ จะนำมาซึ่งชัยชนะในที่สุด,เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบิน TG 624 สู่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อเข้าร่วมแข่งขันวอลเลย์บอลอาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2019 สนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2562,ทั้งนี้ ทีมชาติไทยคว้าแชมป์สนามแรก ที่เทอร์มินอล 21 โคราช จ.นครราชสีมา โดยเอาชนะ เวียดนาม 3-0 เซต, ฟิลิปปินส์ 3-1 เซต และเอาชนะอินโดนีเซีย 3-1 เซต ซึ่งในสนามที่ 2 ยังไม่มีชื่อของนุศรา ต้อมคำ มือเซตกัปตันทีม ที่ยังไม่หายจากการผ่าตัดเท้า รวมถึงทัดดาว นึกแจ้ง และฑิฆัมพร ช้างเขียว โดยเพิ่มชิตพร กำลังมาก บอลเร็ว และสุพัตรา ไพโรจน์ ตัวรับอิสระ เข้ามาเสริมทัพ,อร อรอุมา สิทธิรักษ์ กัปตันทีมในชุดนี้ กล่าวว่า ทีมเราซ้อมกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากจบการแข่งขันในสนามที่แล้ว และรายการนี้ถือว่าจะได้ฝึกซ้อม อุ่นเครื่อง และเตรียมทีมก่อนการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค.นี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนความคาดหวังคิดว่าเราอยากให้ทีมเรามีความแน่นอนในเกมมากขึ้น เพราะสนามที่โคราช เราเสียเองกันเยอะ หวังว่าเราจะได้ฝึกซ้อมระบบทีมให้ดีขึ้นกว่าเดิม,ส่วน กิ๊ฟ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ หัวเสาทีมชาติไทย กล่าวว่า สำหรับรายการนี้ถือเป็นการเตรียมตัวก่อนการแข่งขันซีเกมส์ ส่วนคู่แข่งจากที่เราเจอมาจากสนามแรก ทุกทีมมีการพัฒนาการที่ดีขึ้น ดังนั้น เราจะไม่ประมาทกับการไปเล่นในครั้งนี้,อนึ่งสำหรับโปรแกรมการแข่งขันวอลเลย์บอลอาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2019 สนามที่ 2 ที่ซานตา โรซา สปอร์ต คอมเพล็กซ์ ยิมเนเซียม กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ มีดังนี้ วันที่ 4 ตุลาคม ฟิลิปปินส์ พบ เวียดนาม เวลาไทย 14.00 น., ไทย พบ อินโดนีเซีย เวลาไทย 16.00 น. ส่วนวันที่ 5 ตุลาคม อินโดนีเซีย พบ เวียดนาม เวลา 14.00 น., ฟิลิปปินส์ พบ ไทย เวลา 16.00 น. และวันที่ 6 ตุลาคม ไทย พบ เวียดนาม เวลา 14.00 น., ฟิลิปปินส์ พบ อินโดนีเซีย เวลา 16.00 น. | ทีมตบลูกยางสาวไทย พร้อมทำศึกวอลเลย์บอลอาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2019 สนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2562 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยจะเจอกับอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ตามลำดับ | ข่าว | วอลเลย์บอล,ทัพลูกยางสาวไทย,อรอุมา สิทธิรักษ์,วอลเลย์บอลอาเซียน กรังด์ปรีซ์ | https://www.thairath.co.th/news/1674495 |
จาก จ๊ะกูแม ถึง มูจาฮีดีนปัตตานี ความจริงในความลวง? | The Islamic Militant qroups องค์กรนี้มีชื่อเต็มว่า องค์กร เจอร์รากาน มูจาฮีดีน อิสลามปัตตานี (Gerakan Mujahidin Islam Pattani - GMIP) มีนาย จ๊ะกูแม โต๊ะกาเยาะหรือ กูต๊ะอัสบิน บินอาหมัด เป็นประธานกรรมการของขบวนการ มี นายดอรอแม เล๊าะแม ซึ่งเคยอยู่อาศัยที่ ต.กาลูปัง อ.รามัน จ.ยะลา เป็นหัวหน้ากองกำลัง ข้อมูลในแฟ้มอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า นายกูต๊ะอัสบิน บินอาหมัด อายุ 58 ปี(2547) ภูมิลำเนาอยู่ที่ 234 ม.4 เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกศาลจังหวัดปัตตานี ออกหมายจับเลขที่ จ.19/2545 ข้อหากบฏ และหมายจับเลขที่ จ.294/2546 ข้อหา ปล้นทรัพย์ โดยเขาเป็นบุคคลอันดับหนึ่งที่ทางการไทยต้องการตัวโดยตั้งค่าหัวสูงสุดถึง 5 ล้านบาท รองจากนายสะแปอิง บาซอ ครูใหญ่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จ.ยะลา ซึ่งมีค่าหัว 10 ล้านบาท สำหรับ มูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี ตามข้อมูลฝ่ายข่าวกรองไทยระบุว่า มีการเชื่อมโยงกับองค์กร ปูลัม มูจาฮีดิน มาเลเซีย ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับ องค์กรเจไอ (เจมาอิสลามิยาห์) และโยงใยกับ อัลเคดา หรือ อัลกออิดะ ซึ่งเป็นเครือข่ายก่อการร้ายสากล โดยมีผู้นำที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ โอซามา บินลาเดน เนื่องจากสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงถึงองค์กรก่อการร้ายสากลอย่าง อัลเคดา ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับหน่วยงานซีไอเอของสหรัฐ ก่อนเกิดเหตุการณ์ 9-11 ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า มูจาฮีดีนในประเทศมุสลิมหลายประเทศ รวมถึงมูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี เกิดขึ้นจากการขยายอิทธิพลของมหาอำนาจขั้วเดี่ยวอย่างสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าครอบครองแหล่งน้ำมันในตะวันออกกลางและอีกหลายพื้นที่ที่ผลประโยชน์ของสหรัฐดำรงอยู่ ข้อมูลข่าวกรองระบุว่า สมาชิกของมูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี ได้รับการฝึกฝนทั้งการทหาร และการรบแบบกองโจร การก่อวินาศกรรม รวมทั้งการผลิตดินระเบิดประเภทต่างๆ การบังคับระเบิดด้วยคลื่น วิทยุ เพื่อใช้ในการก่อการร้ายจากประเทศซีเรีย กองกำลังหลักมาจากอาสาสมัครเข้าร่วมรบต่อต้านการรุกรานของประเทศอเมริกา ที่เข้ายึดครองประเทศอิรัก ทั้งนี้มีการประเมินว่า ขบวนการฯ นี้ มีความสามารถถึงขั้นก่อวินาศกรรมอาคารใหญ่ เส้นทางคมนาคม รวมทั้งการยอมพลีชีพ ด้วยการขับรถเข้าก่อการวินาศกรรม เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในประเทศต่างๆ จากข้อมูลของฝ่ายข่าวกรองที่ปรากฏอยู่ในสื่อมวลชนระบุว่า มีการเคลื่อนไหวของมูจาฮีดีนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ อาทิ 28 พฤศจิกายน 2546 สื่อรายงานโดยอ้างข้อมูลจากฝ่ายข่าวว่า ขบวนการมูจาฮีดีน บุกถล่มกองร้อย อ.ส. หวังปล้นปืนที่ อ.เทพา จ.สงขลา แต่ไม่สำเร็จ โดยก่อนหน้านี้เคยบุกปล้นปืนกองร้อย อ.ส. อ.บาเจาะ จ.ยะลา มาแล้วรอบหนึ่ง รวมถึงคดีจับตัวนายไสวกับนายเมธา พริกเล็ก 2 อาหลานไปเรียกค่าไถ่และฆ่าตัดคอในช่วงกลางปี2544 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ระบุว่า เป็นฝีมือของขบวนการเดียวกัน สำหรับสมาชิกระดับนำของมูจาฮีดินฯ ที่ฝ่ายข่าวกรองระบุว่าเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น อาทิ มะรูดี ปิยา หรือโต๊ะแนแบ รับผิดชอบเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.ปัตตานี มาโซ ตาเอ๊ะ หรือเปาะมาไซ เบตง รับผิดชอบเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.ยะลา มะรีเพ็ง มาหะ หรือมะรีเป็ง ทำหน้าที่ชักใยเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยทั้ง 3 แกนนำได้รับคำสั่งมาจากประธานองค์กรฯ ซึ่งกบดานอยู่ในพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ก่อนมีข่าวการจับกุมตัวเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักวิชาการมุสลิมกลับเห็นว่า ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันชัดเจนว่า มีขบวนการมูจาฮีดีนเคลื่อนไหวในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ทั้งนี้เพราะการยอมรับว่า มี มูจาฮีดี นั้นเท่ากับยอมรับว่า ขบวนการก่อการร้ายในไทยยกระดับเป็นขบวนก่อการร้ายสากล หรือได้เชื่อมต่อกับกลุ่มก่อการร้ายจากต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยปฏิเสธมาโดยตลอดแล้ว ทั้งนี้กลุ่มดังกล่าวที่ก่อเหตุปล้น ฆ่า ชิงทรัพย์ น่าจะเป็นเพียงกองกำลังติดอาวุธเล็กของกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่มากกว่า | องค์การมูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี ซึ่งพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีฟันธงว่า เป็นเพียงหนังเก่าที่จืดแล้วนั้น เพียงแต่ชื่อเรื่องยังดี จึงมีคนนำมาใช้นั้น ปรากฏเป็นข่าวใหญ่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/01/2461 |
ไทยตอนบนอุณหภูมิลด อากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง ชาวบ้านก่อกองไฟคลายหนาว | ไทยตอนบนอุณหภูมิลด จ.เลย อุณหภูมิลด ชาวบ้านต้องก่อกองไฟคลายหนาว จ.ตาก อากาศหนาว เจอปัญหาฟืนก่อกองไฟเริ่มขาดแคลน เนื่องจากทุกบ้านเรือนต้องสะสมไว้ใช้ ในพื้นที่ จ.นครพนม บ้านเรือนริมฝั่งโขง เจอลมกระโชกแรง กระทบชาวบ้านเดินเรือข้ามฟาก ขณะที่ นทท. ยังแห่สัมผัสหนาวริมโขง ขอพรแลนด์มาร์กพญานาคต่อเนื่อง ,วันที่ 7 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศจังหวัดเลยเช้าวันนี้ อุณหภูมิลดลงจากเมื่อวาน ทำให้บางพื้นที่อากาศหนาวเย็น หมอกปกคลุมท้องฟ้าและถนน ชาวบ้าน อ.นาแห้ว อ.ภูเรือ อ.ด่านซ้าย ต้องออกมาก่อกองไฟ เพื่อคลายหนาวก่อนออกไปทำไร่ อุณหภูมิอยู่ที่ 15-17 องศาฯ ส่วนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูเรือ อุณหภูมิลดลงเหลือ 8 องศา สภาพอากาศหนาวเย็น มีลมแรง หมอกหนาบนยอดภูเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า,ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดตามอำเภอต่างๆ เช้าวันนี้ (หน่วยวัดเป็นองศาเซลเซียส) ดังนี้ อ.เมืองเลย 15.5 องศาฯ อ.วังสะพุง 19.2 องศาฯ อ.ด่านซ้าย 15.0 องศาฯ อ.เชียงคาน 19.0 องศาฯ อ.ท่าลี่ 16.0 องศาฯ อ.ภูกระดึง 15.0 องศาฯ อ.ภูเรือ 15.0 องศาฯ ,อ.นาแห้ว 16.4 องศาฯ อ.ปากชม 20.0 องศาฯ อ.นาด้วง 15.0 องศาฯ อ.ภูหลวง 17.0 องศาฯ อ.ผาขาว 17.4 องศาฯ อ.เอราวัณ 18.0 องศาฯ อ.หนองหิน 19.0 องศาฯ,อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 11.5 องศาฯ อุทยานแห่งชาติภูเรือ 8.0 องศาฯ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูเรือ 8.0 องศาฯ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเลย อ.ภูเรือ 14.7 องศาฯ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ.นาแห้ว 14.0 องศาฯ,จากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนตอนใต้แผ่ปกคลุมประเทศไทยในภาคเหนือและอีสาน ส่งผลทำให้ในหลายพื้นที่มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เขาสูงในช่วงเช้าอุณหภูมิ อยู่ 13-16 องศาฯ ยอดดอย อยู่ 6-8 องศาฯ,ที่ โรงเรียนขุนห้วยแม่ตื่น ซึ่งเป็นโรงเรียนในหุบเขา รอยต่อตำบลแม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก กับ อ.ออมก๋อย จ.เชียงใหม่ นักเรียนต้องออกมาก่อไฟผิง พร้อมกับนำหัวมันเทศที่ปลูกไว้ในโรงเรียนนำมาปิ้งกิน เพื่อสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายในช่วงหัวค่ำก่อนเข้านอน เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นลง ประกอบกับนักเรียนบางคนขาดแคลนเสื้อกันหนาว โดยช่วงบ่ายจะพากันไปหาฟืนตามชายป่า เพื่อมาสุมในช่วงค่ำ แต่ช่วงนี้ ฟืนหายาก เพราะชาวบ้านเกือบทุกบ้านเรือนต้องสะสมฟืนไว้ใช้ จึงต้องเดินทางไกลหลายกิโลเมตรถึงจะได้แต่ก็แสนยาก,ในพื้นที่ อ.แม่ระมาด มีหมอกมากปกคลุม อ.พบพระ และ อ.อุ้มผาง มีอากาศหนาวเย็น มีลมกรรโชกแรงในช่วงเช้า สำนักงาน ปภ. จังหวัดตาก ยังไม่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติหนาวแต่อย่างใด เนื่องจากรอการแจ้งขอความช่วยเหลือจากประชาชนในพื้นที่อีกครั้ง,ขณะที่ พันเอกกิจติพงษ์ ชื่นใจชน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 นำผ้าห่มไปมอบให้กับราษฎรในพื้นที่บ้านเรผาโด้ บ้านหน้าถ้ำ และบ้านห้วยผักกูด ต.พะวอ อ.แม่สอด ที่ขาดแคลนผ้าห่มกันหนาวแล้ว,สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง มีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ประมาณ 14-15 องศาเซลเซียส ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ประสบปัญหาภัยหนาว ยังส่งผลกระทบหนักสำหรับบ้านเรือน ที่อยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขง รวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร ต้องเจอปัญหาลมกระโชกแรง ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะร้านค้าร้านอาหาร ที่ติดกับแม่น้ำโขง ต้องเตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยหนาว จะส่งผลให้ลูกค้าซบเซา,นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อการเดินเรือโดยสารข้ามฟาก ตามจุดการค้าชายแดน ระหว่างประเทศไทย–ลาว เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือ เพราะในช่วงนี้มีลมกระโชกแรง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ต้องมีการควบคุมบรรทุกผู้โดยสาร รวมถึงสินค้าน้อยลง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางเรือ,ขณะเดียวกัน หลังจากสภาพอากาศหนาวเย็นกับเป็นผลดี มีประชาชน นักท่องเที่ยวบางส่วน เดินทางมาท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวเย็น และชมทิวทัศน์ ความสวยงามบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เนื่องจากเป็นจุดที่มีธรรมชาติสวยงามลงตัว สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ฝั่งลาวได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะบริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช หรือแลนด์มาร์กพญานาคศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในช่วงนี้จะมีประชาชน เดินทางมาท่องเที่ยว กราบไหว้ขอพร และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก รวมถึงชื่นชมความงาม และสัมผัสอากาศหนาวริมโขงกันคึกคัก,สถานีอุตุนิยมวิทยาศรีสะเกษ รายงานอากาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีอากาศเย็นและลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส,นายณรงค์ หอมสุวรรณ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สภาพอากาศดังกล่าว ทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงอีก จากที่เมื่อสองวันที่ผ่านมา ตามพื้นที่ราบ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 19 องศาเซลเซียส บนยอดภูต่ำสุดอยู่ที่ 18 องศาเซลเซียส วันนี้ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา อุณหภูมิบนยอดภูลดลงมาต่ำสุดอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส ซึ่งเมื่อวานนี้บนยอดภูอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 18 องศาเซลเซียส วันนี้ลดลง 2 องศาเซลเซียส,จากการที่อุณหภูมิลดลงดังกล่าว ส่งผลให้แทบทุกพื้นที่ของศรีสะเกษมีอากาศเย็นลงถึงกับหนาว โดยเฉพาะชาวบ้านที่อาศัยอยู่หมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งอยู่ติดป่าเขา เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มกันหนาวไม่เพียงพอ ต้องทนสู้กับความหนาวเย็น ชาวบ้านต้องลุกขึ้นก่อไฟผิงสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย. | ไทยตอนบนอุณหภูมิลด! จ.เลย อุณหภูมิลด ชาวบ้านต้องก่อกองไฟคลายหนาว จ.ตาก อากาศหนาว เจอปัญหาฟืนก่อกองไฟเริ่มขาดแคลน เนื่องจากทุกบ้านเรือนต้องสะสมไว้ใช้ ในพื้นที่ จ.นครพนม บ้านเรือนริมฝั่งโขง เจอลมกระโชกแรง | null | อากาศหนาวเย็น,อุณหภูมิลดลง,ผิงไฟ,ริมฝั่งโขง,แลนด์มาร์คพญานาคศักดิ์สิทธิ์ | https://www.thairath.co.th/content/804121 |
เพื่อนศิลปินตลกร่วมอาลัย รดน้ำศพ ดอน จมูกบาน | เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ก.ค.2559 ที่ศาลาวุฒิธรรมสุนทร หรือศาลา 9 วัดบางพลีใหญ่ใน พระอารามหลวง (วัดหลวงพ่อโต) ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ครอบครัวของ นายเล็ก เพียรเกตวิทย์ หรือ ดอน จมูกบาน ตลกอาวุโส ได้จัดพิธีรดน้ำศพเพื่อแสดงความไว้อาลัย โดยมี นางวรรณภรณ์ เพียรเกตวิทย์ ภรรยา พร้อมด้วย น.ส.ธนัญญา เพียรเกตวิทย์ บุตรสาว และ นายธนภพ หรือโจ เพียรเกตวิทย์ บุตรชาย รอรับบรรดาญาติ เพื่อนดารา และเพื่อนศิลปินตลก เช่น ถั่วแระ เชิญยิ้ม, ดู๋ ดอกกระโดน, รอง เค้ามูลคดี, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง, ตูมตาม เชิญยิ้ม, ยาว อยุธยา ที่ทยอยเดินทางมาร่วมรดน้ำศพ และร่วมฟังสวดอภิธรรมในคืนแรก รวมทั้งประชาชนที่ทราบข่าว และผู้ติดตามผลงานของดอน จมูกบาน มาร่วมงานไว้อาลัยด้วย,นายธนภพ หรือโจ เพียรเกตวิทย์ บุตรชาย กล่าวว่า ตั้งแต่บิดามีอาการป่วยก็ทรุดลงและเข้ารับการรักษาตัว ทางครอบครัวก็ทำใจกันมาสักระยะแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเสียชีวิตรวดเร็วแบบนี้ เมื่อวานที่บิดาเสีย ตน และครอบครัว ยืนอยู่กันพร้อมหน้าข้างเตียงและทุกคนพูดกับบิดาว่า ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราจะดูแลกัน ต่อจากนี้ให้บิดาหลับอย่างสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร จากนั้นแพทย์ได้ปล่อยชีพจรให้ค่อยๆ เบาลงจนบิดาสิ้นลมในที่สุด โดยทางครอบครัวกำหนดจัดงานบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรม ตั้งแต่วันที่ 3-8 ก.ค. เวลา 19.00 น. และฌาปนกิจศพในวันเสาร์ที่ 9 ก.ค.นี้,สำหรับกิจการน้ำพริกปลาร้า ที่บิดาได้ทำขายที่วัดหลวงพ่อโตแห่งนี้ ก็จะยังคงทำต่อไป โดยขายทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ส่วนงานการแสดงของตน หากมีผู้จัดท่านใดติดต่อมาตนก็ยินดี เพราะไม่ได้เซ็นสัญญาอยู่ในสังกัดใด ซึ่งก่อนหน้านี้บิดาได้เคยสอนตนไว้ว่า เวลาไปกองถ่ายละคร ให้นำสมองไป ไม่ต้องนำปากไป เพราะหากพูดเยอะก็จะไม่ดี ควรจะตั้งใจทำงานมากกว่า,นายธนภพ หรือโจ กล่าวเพิ่มเติมว่า และสุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นกำลังใจและความช่วยเหลือต่างๆ ที่มีให้แก่บิดาและครอบครัวตนมาตลอด รวมถึงท่านเจ้าคุณพระราชเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่ใน พระอารามหลวง ที่ให้ความอนุเคราะห์ในการจัดงานศพของบิดาในครั้งนี้ด้วย. | ครอบครัวนำศพ ดอน จมูกบาน ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบางพลีใหญ่ใน พระอารามหลวง โดยมีเพื่อนในวงการ และศิลปินตลก ทยอยรดน้ำศพ แสดงความอาลัย ก่อนฌาปนกิจ เสาร์ที่ 9 ก.ค.นี้ | null | ดอน จมูกบาน,ดอน จมูกบาน เสียชีวิต,ดอน จมูกบาน มะเร็ง,เล็ก เพียรเกตวิทย์,ตลกอาวุโส,ศิลปินตลก,ดาราตลก,รดน้ำศพ,บำเพ็ญกุศล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/content/653831 |
น้องเมย์ บินแจมทัพขนไก่ไทยลุย อูเบอร์ คัพ ลุ้นคืนมือ 1 โลก | เมย์ รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่สาวไทย เดินทางไปสมทบทีมหญิงไทย เตรียมทำศึกแบดมินตันชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย และทีมหญิง โธมัส-อูเบอร์คัพ 2016 วันที่ 15-22 พ.ค.นี้ ที่เมืองคูชาน ประเทศจีน โดยหากทำผลงานได้ดี รัชนกมีโอกาสคัมแบ็กขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก,ความเคลื่อนไหวทีมตบลูกขนไก่ทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย และทีมหญิง โธมัส-อูเบอร์คัพ 2016 ระหว่างวันที่ 15-22 พ.ค.นี้ ที่เมืองคูชาน ประเทศจีน โดยรอบแรก ทีมชายโธมัส คัพ ของไทย อยู่กลุ่มบี ร่วมกับ อินโดนีเซีย, อินเดีย และ ฮ่องกง ขณะที่ทีมหญิงอูเบอร์ คัพ ไทยอยู่กลุ่มซี ร่วมกับ อินโดนีเซีย, บัลแกเรีย และ ฮ่องกง,ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา เมย์ รัชนก อินทนนท์ พร้อม เซี่ยะ จื่อ หัว ผู้ฝึกสอน และนักกายภาพบำบัด รวมถึง เอิร์ธ พุธิตา สุภจิรกุล และ โค้ชโอม เทศนา พันวิศวาส ออกเดินทางไปยังเมืองคูชาน ประเทศจีน ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 662 เพื่อสมทบกับเพื่อนร่วมทีม ที่เดินทางไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ รัชนก มีโอกาสที่จะทำคะแนนขึ้นไปรั้งมือ 1 ของโลกในสัปดาห์หน้าได้ เพราะทุกนัดที่ลงแข่ง หากชนะจะได้ 10 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนที่มี ซึ่งปัจจุบันเมย์มี 81,558 คะแนน,สำหรับโปรแกรมแข่งขันของทีมไทยในรายการนี้ ทีมชาย วันที่ 15 พ.ค. พบ อินเดีย เวลา 07.30 น., วันที่ 17 พ.ค. พบ อินโดนีเซีย เวลา 18.00 น. และวันที่ 18 พ.ค. พบ ฮ่องกง เวลา 12.30 น. ทีมหญิง วันที่ 15 พ.ค. พบ ฮ่องกง เวลา 07.30 น., วันที่ 16 พ.ค. พบ บัลแกเรีย เวลา 07.30 น., วันที่ 17 พ.ค. พบ อินโดนีเซีย เวลา 12.30 น. ทรูวิชั่นส์ ช่องทรูสปอร์ต 7 (686),ทรูสปอร์ต เอชดี (666) และทรูสปอร์ต เอชดี 3 (668) ถ่ายทอดสด. | เมย์ รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่สาวไทย เดินทางไปสมทบทีมหญิงไทย เตรียมทำศึกแบดมินตัน โธมัส-อูเบอร์คัพ 2016 วันที่ 15-22 พ.ค.นี้ ที่เมืองคูชาน ประเทศจีน โดยหากทำผลงานได้ดี รัชนกมีโอกาสคัมแบ็กขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก | null | น้องเมย์,รัชนก อินทนนท์,แบดมินตัน,โธมัส คัพ 2016,อูเบอร์ คัพ 2016,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/620206 |
ประชาชนอาเซียนผิดหวัง พม.จัดเวทีแยก เหตุไม่ส่งชื่อผู้เข้าร่วมให้รัฐ | เริ่มขึ้นแล้ว มหกรรมประชาชนอาเซียน 2019 (ASEAN Civil Society Conference ASEAN Peoples Forum: ACSC/APF 2019) ภายใต้หัวข้อ Advancing Peoples Movement ส่งเสริมการขับเคลื่อนของประชาชนเพื่อความยุติธรรม สันติภาพ ความเท่าเทียม ยั่งยืนและประชาธิปไตย ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งภาคประชาสังคมไทยร่วมกับภาคประชาสังคมจาก 10 ประเทศอาเซียน ร่วมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 12 ก.ย.2562 ณ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานีช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวของคณะกรรมการจัดงานมหกรรมประชาชนอาเซียน นำโดย นางสุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง และ นางชลิดา ทาเจริญศักดิ์ ประธานร่วมจัดงาน ระบุว่า ผิดหวังต่อการกระทำของรัฐบาล โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่จัดเวทีคู่ขนานกับมหกรรมประชาชนอาเซียน โดยใช้งบประมาณและสถานที่ ที่โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ ซึ่งเตรียมการไว้แต่เดิม สำหรับจัดมหกรรมประชาชนอาเซียนสาเหตุสำคัญ ที่ไม่สามารถจัดร่วมกันได้ในที่สุด เนื่องจากคณะกรรมการจัดงานฯ ภาคประชาสังคม ไม่สามารถกระทำการที่จำกัดสิทธิการประชุมที่อิสระ โดยการส่งรายชื่อผู้เข้าร่วมให้รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงได้ จึงต้องย้ายสถานที่มายังศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต ด้วยการระดมเงินบริจาคลงขันกันเอง ส่วนเวทีที่รัฐบาลจัด กลับไม่มีเครือข่ายภาคประชาสังคมจากอาเซียนเข้าร่วมนางชลิดา ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยต้องให้เกียรติและเคารพในเสรีภาพ ด้วยการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนอาเซียน โดยไม่เบียดบังและแทรกแซงอย่างเช่นที่กระทำอยู่ในขณะนี้ เพราะทำให้ศักดิ์ศรีของประเทศไทย ในฐานะประเทศประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพของประชาชนถูกทำลายลง พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน 9 ล้านบาท ว่าเป็นไปด้วยความถูกต้องชอบธรรมหรือไม่อย่างไรก็ตาม ภาคประชาสังคมและประชาชนอาเซียน จะดำเนินการจัดงานมหกรรมภาคประชาชนอาเซียน 2562 ต่อไป ให้บรรลุผลด้วยความสมานฉันท์ เพื่อยืนยันจุดยืน และแนวทางการรังสรรค์อาเซียนให้เป็นภาคภูมิที่สงบสุข ปลอดภัย และยั่งยืนอย่างแท้จริง พร้อมเชิญชวนประชาชนที่เห็นความสำคัญของสิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน หรือ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ให้มาร่วมงานในครั้งนี้สถานการณ์สิทธิอาเซียน น่าเป็นห่วงสำหรับกิจกรรมภายใต้มหกรรมประชาชนอาเซียน ที่ภาคประชาสังคมร่วมกันจัด ได้แบ่งห้องรองรับการเสวนาในหัวข้อย่อยต่าง ๆ เช่น เวทีเสวนา สถานการณ์และความท้าทายในประเทศไทย ในด้านต่าง ๆ เช่น สิทธิของนักเคลื่อนไหวทางสังคม ความหลากหลายทางเพศ สิทธิสตรี สิทธิแรงงาน สิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์น.ส.กรกนก คำตา เยาวชนนักกิจกรรมทางการเมือง ระบุถึงปัญหาการลิดรอนสิทธิในการแสดงออกของเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นการขู่ทำร้าย จับกุม และดำเนินคดีจากภาครัฐ สถาบันการศึกษาที่ไม่เห็นด้วยกับการเรียกร้องสิทธิ และสถาบันครอบครัว ที่ไม่เข้าใจในอุดมการณ์ของบุตรหลาน ทำให้เยาวชนหลายคนเกิดความเครียดเธอยังกล่าวทั้งน้ำตา ถึงกรณีการจับกุมนักศึกษาในคดีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หลังแชร์ข้อความของสำนักข่าวต่างประเทศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน นักกิจกรรมทางสังคม ต้องโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน และ น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ อดีตโฆษกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ที่ต้องขอสถานะลี้ภัยไปยังประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงเพื่อนคนอื่น ๆ ที่หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และหายตัวไปอย่างปริศนา พร้อมเรียกร้องให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงในสังคมอาเซียนนายพฤ โอโดเชา นักกิจกรรมกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ กล่าวถึงความเหลื่อมล้ำและความเสียเปรียบของกลุ่มชาติพันธุ์ในด้านต่าง ๆ เช่น กลไกการตลาดที่ไม่เป็นธรรม จากการทำเกษตรที่ต้นทุนสูง แต่ถูกนายทุนกดราคาขายผลผลิตให้ต่ำเกินมาตรฐานรวมถึงปัญหาด้านสิทธิในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย และข้อพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์ อย่างกรณี บิลลี่ นายพอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงแก่งกระจาน ที่เรียกร้องความยุติธรรม จากการที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เผาบ้าน และยึดคืนพื้นที่อยู่อาศัยที่ทำกินในป่า ก่อนจะหายตัวไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 และพบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยการเปิดเผยของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมานอกจากนี้ ยังมีเสียงสะท้อนในประเด็นต่าง ๆ จากผู้ร่วมเสวนาคนอื่น ๆ เช่น การไม่ให้ความสำคัญต่อการเรียกร้องสิทธิสตรีในทางกฎหมายและนโยบาย และการไม่ได้รับความเป็นธรรมของแรงงานข้ามชาติหนึ่งในนั้น คือ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ระบุว่าตนเป็นชาวโรฮิงญา ได้เรียกร้องให้ศาลอาเซียนสร้างความยุติธรรมต่อชาวโรฮิงญา ที่ถูกทำร้ายในประเทศเมียนมาร์ ทั้งจับกุม ล่วงละเมิดทางเพศ และฆ่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวเมียนมาร์ไม่ควรกระทำกับคนชาติเดียวกันสำหรับการประชุมครั้งนี้ มีตัวแทนภาคประชาสังคมกว่าพันคนเข้าร่วมพบปะ หารือ แลกเปลี่ยน และเรียนรู้ เพื่อร่วมกันกำหนดอนาคตประชาชนอาเซียนผ่าน 7 กลุ่มประเด็นสำคัญ คือ 1) สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตยและการเข้าถึงความยุติธรรม 2) การค้าการลงทุนและอำนาจของภาคธุรกิจ 3) สันติภาพและความมั่นคง 4) การอพยพย้ายถิ่น การค้ามนุษย์และผู้ลี้ภัย 5) งานที่มีคุณค่า สุขภาพ และการคุ้มครองทางสังคม 6) ความยั่งยืนทางนิเวศวิทยา 7) นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ และสิทธิทางดิจิทัล ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ก.ย.นี้ โดยจะมีการพบปะกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ จาก 3 ประเทศ คือ ไทย อินโดนิเซีย และบรูไน เพื่อสะท้อนปัญหาดังกล่าวให้ระดับผู้บริหารประเทศรับทราบ | กรรมการจัดงานมหกรรมประชาชนอาเซียน แถลงผิดหวัง รัฐบาลไม่ให้เกียรติและไม่เคารพเสรีภาพภาคประชาสังคม แต่พร้อมจัดงานต่อ เตรียมส่งข้อมูลปัญหาให้ผู้นำอาเซียน ชี้จับตาการใช้งบประมาณ พม.จัดเวทีรัฐ เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ | ต่างประเทศ | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,แก่งกระจาน,บิลลี่,อาเซียน | https://news.thaipbs.or.th/content/284014 |
จเร ยื่น จ.ม.ขอความเป็นธรรม ปมสร้างสภาใหม่ล่าช้า | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค.58 นายจเร พันธุ์เปรื่อง อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เขียนจดหมายเปิดผนึก เพื่อชี้แจงและขอความเป็นธรรม กรณีถูกตั้งข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยร้ายแรง กรณีปัญหาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ล่าช้า ในสาระการสำคัญของจดหมาย นายจเร ระบุว่า ความล่าช้าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งกรณี โรงเรียนโยธินบูรณะและ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เอง ส่งมอบที่ดินล่าช้า เพราะการบริหารจัดการภายใน และปัญหาน้ำท่วม บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด มหาชน ผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่สามารถทำงานได้ทันตามกำหนดสัญญาเดิม ที่จะหมดลงวันที่ 24 พ.ย.58 ทั้งนี้ ผู้รับเหมาก่อสร้างจึงเสนอขยายสัญญาการก่อสร้าง พร้อมได้ขอแก้ไขแบบก่อสร้าง ขอลดปริมาณเหล็กเสริมชั้นใต้ดิน B2 โดยที่ไม่แสดงรายละเอียดชี้แจง โดยเฉพาะประเด็นความมั่นคงแข็งแรง ตนและคณะกรรมการบริหารโครงการก่อสร้าง ที่ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษาบริหารโครงก่อสร้าง (CAMA) และผู้ควบคุมการก่อสร้าง จึงเห็นว่า คำขอร้องของบริษัทชิโน-ไทย ชี้แจงเหตุผลไม่ครบถ้วน จึงไม่อนุมัติขยายเวลาอย่างไม่มีเจตนาละเลยให้เกิดความล่าช้าในการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่แต่อย่างใด,อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตการบริจาคมูลดิน ที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ที่นำไปบริจาคให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์จำนวน 5 แสนลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกิดขึ้นสมัยนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แต่เมื่อมีการแจ้งว่า ตัวแทนของมูลนิธิฯนำดินไปใช้ไม่ถูกต้อง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรสมัยของตน จึงได้สั่งยุติการส่งมอบบริจาคที่ดินทันที,ผมและทีมงานทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของทางราชการ ปัญหาความล่าช้าของโครงการ มีสาเหตุหลักจากการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า เป็นเหตุสุดวิสัย เป็นเพราะปัญหาความไม่พร้อมในการปฏิบัติตามสัญญาของผู้รับจ้าง หรือเป็นเพราะหน่วยงานบางหน่วยงาน จงใจละเลยเพื่อให้การส่งมอบพื้นที่ล่าช้า หรือมีเหตุแทรกซ้อนอย่างอื่น ผมและทีมงาน ยืนยันได้ว่าไม่เคยคิดกระทำการทุจริต ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด แต่การปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดินในครั้งนี้ กลับได้รับผลตอบแทนไม่เป็นธรรม คือ ข้อกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ผมจึงต้องถือโอกาสนี้ขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนและประชาชนคนไทยด้วย นายจเร กล่าว. | จเร ร่อนจดหมายเปิดผนึกแก้ต่าง-ขอความเป็นธรรม ปมสร้างสภาใหม่ล่าช้า ยันทำเพื่อป้องผลประโยชน์ชาติ แต่กลับถูกฟัน 157 | null | จเร พันธุ์เปรื่อง,จเร ยื่น จ.ม.ขอความเป็นธรรม,สร้างรัฐสภาแห่งใหม่,ความล่าช้าการสร้างรัฐสภา,ม. 157,ทุจริตสร้างอาคารรัฐสภา,อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร,บริษัทชิโน-ไทย,สัญญาการก่อสร้าง,ความคืบหน้าสร้างรัฐสภา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง,รัฐสภาใหม่,ก่อสร้างรัฐสภา,รัฐสภาล่าช้า,ชิโน-ไทย,ยื่นจดหมาย,ขอความเป็นธรรม,จเร | https://www.thairath.co.th/content/541671 |
รวม 9 สกินแคร์ที่ต้องพกขึ้นเครื่อง บอกลาปัญหาหน้าไม่พร้อมเมื่อแลนดิ้ง | นั่งเครื่องบินมันก็จะสัปหงกสัปเงยหน่อยๆ ยิ่งเดินทางไกลๆ ยุโรปหรืออเมริกาด้วยแล้ว ยิ่งหลับกันเป็นวัน ถ้าสาวๆ จะหน้ามัน หน้าย่น หน้าแห้ง หรือหน้าไม่พร้อม มันคงจะไม่น่ามองเวลาลงเครื่อง ดังนั้น ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, จะมาแนะนำ ,9 สกินแคร์, (Skincare) ที่คุณสาวๆ ต้องพกขึ้นเครื่องบิน เตรียมไปให้หมดจะได้อุ่นใจ แต่เน้นให้เป็นไซส์เล็กนะคะ เพราะหากเกินปริมาณที่กำหนด ก็จะยุ่งยากไปอีก ไปค่ะไปดูกัน,1. โฟมล้างหน้า,นั่งไกลๆ ก็ควรต้องล้างหน้าแล้วนอนยาวๆ ค่ะ อย่าหลับไปพร้อมกับเครื่องสำอางเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ดูแย่มาก เวลาที่คุณตื่นนอน โฟมล้างหน้าจะช่วยทำความสะอาด ทั้งก่อนนอนและหลังจากตื่นขึ้นมา พกไปด้วยค่ะสำคัญมากๆ,2. ที่มาสก์หน้า,เวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุด ให้ผิวหน้าคุณได้พักผ่อนบ้าง ล้างเครื่องสำอางให้หมด แล้วมาสก์หน้ากันค่ะ จะแผ่นมาสก์ หรือ Sleeping Mask ได้หมดจ้ะสาวๆ ตอนตื่นผิวคุณจะดูดีมากๆ,3. เซรั่มทาหน้า,ขาดไม่ได้เลยค่ะ กับการบำรุงขั้นสำคัญ คือเซรั่มที่ดูแลสภาพผิวหน้าของแต่ละคน เลือกที่มันใช่สำหรับเรานะคะ และพกพาเจ้าเซรั่มนี้ขึ้นเครื่องไปด้วย,4. มอยเจอไรเซอร์,อันนี้สำคัญที่สุด เพราะการที่เราอยู่บนเครื่องบินนานๆ ร่างกายจะขาดน้ำไปโดยปริยาย เราต้องดื่มน้ำจิบน้ำบ่อยๆ นอกเหนือจากนั้น เราต้องบำรุงมอยเจอไรเซอร์ให้กับผิวหน้าด้วย ไม่อย่างงั้นหน้าจะแห้งมาก เมื่อลงเครื่องไปเที่ยว หรือไปทำงาน ผิวหน้าคุณจะแห้งแตกขุย จะเติมแป้งก็ยังยากจะติดใบหน้า ดังนั้นต้องพกขึ้นเครื่อง ห้ามลืมเด็ดขาด,5. ครีมกันแดด,อะๆ สำหรับการเดินทางใกล้ๆ แต่การทาครีมกันแดดตอนเช้าอย่างเดียว สมัยนี้คงไม่เพียงพอแล้ว เราต้องนำครีมกันแดดขึ้นเครื่องไปด้วย เมื่อจะต้องลงเราก็ชโลมกันแดดลงบนใบหน้าของเราเลย เลือกที่มันทาทับได้ และไม่เหนอะหนะนะคะ อย่างครีมกันแดดของราชเทวีคลินิก ก็ถือว่าดีมากๆ เพราะมีรางวัลการันตี สำคัญคือดิฉันใช้เอง ใช้มาเป็นสิบๆ ปีแล้วจ้า อย่าลืมหย่อนครีมกันแดดใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องนะคะ,6. อายครีม,บางคนอาจนอนไม่หลับ นอนดึก นอนไม่เพียงพอ ใต้ตาก็มานะจ๊ะ ดังนั้น อายครีม จะเป็นตัวช่วยสำคัญ ในการทำให้การแต่งหน้าลงเครื่องของเราครั้งนี้ รอดไปได้อย่างสวยงาม,7. ลิปมัน,อย่างที่บอกอากาศมันแห้ง ถ้าปากแห้ง แตกเป็นขุย ดูทรงแล้วจะลำบากมากสาวๆ เอ๊ย ดังนั้นก่อนนอนหรือหลับตาลง รบกวนทาลิปมันด้วยค่ะ กันไว้ก่อนดีกว่าแก้,8. แฮนด์ครีม,ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะพกแฮนด์ครีมขึ้นเครื่อง เพราะจะทำให้มือเรานุ่ม ไม่แห้ง ดูเป็นมือซอมบี้ สุขภาพมือ ก็สำคัญนะคะสาวๆ,9. ครีมทาผิว,สิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่ง คือ ครีมทาผิว ชโลมไปให้ทั้งร่างกาย แล้วคุณจะรู้สึกดีจริงๆ เมื่อลงเครื่อง,ทั้งหมดที่กล่าวมา ถือเป็น สกินแคร์ ที่สาวๆ ต้องพกพาขึ้นเครื่องบินจริงๆ แต่อย่างอื่น อย่างเช่นอุปกรณ์การแต่งหน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ที่เราไม่ได้กล่าวถึง นั่นอาจเพราะสายการบินดีๆ อาจเตรียมไว้ให้คุณสาวๆ เสร็จสรรพ แต่ถ้าสายการบินไหนไม่มี ก็อย่าลืมติดกระเป๋าไปนะคะ,Safe Flight ค่ะสาวๆ,ขอเชิญร่วมสนุกกับกิจกรรมความงาม แชร์ผ่านเฟซบุ๊กพร้อมแคปชั่นโดนๆ สวยปิ๊งต้อง เติมคำที่สะท้อนความเป็นคุณมากที่สุด และติดแฮชแท็ก #แชร์ให้ปังลุ้นสวยปิ๊ง #ไทยรัฐxราชเทวี จากนั้นให้ตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ (Public) เพียงแค่นี้ ก็ลุ้นสวยปิ๊งกันได้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 เพราะความสวยเป็นเรื่องของผู้หญิงอย่างคุณ. | ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะมาแนะนำ 9 สกินแคร์ (Skincare) ที่คุณสาวๆ ต้องพกขึ้นเครื่องบิน บอกลาปัญหาหน้าไม่พร้อมเมื่อเครื่องบินจอด ไปเที่ยวก็ต้องสวยนะคะสาวๆ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | สกินแคร์,ขึ้นเครื่องบิน,พกขึ้นเครื่อง,Skincare,แชร์ไทยรัฐให้ปังลุ้นสวยปิ๊งจากราชเทวีคลีนิก | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1430391 |
อำนาจป้องกันแชมป์IBFสำเร็จ-มนัสประเดิมชกชนะมวยอาชีพ | เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.2558) ที่อินดอร์ สเตเดี้ยมหัวหมาก แฟนมวยและนักมวยสากลสมัครเล่นจำนวนมาก เดินทางมาให้กำลังใจอำนาจ เกษตรพัฒนา และมนัส บุญจำนงค์ อดีต 2 นักชกทีมชาติไทยโดยอำนาจ ป้องกันแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท 112 ปอนด์ ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ไฟต์บังคับกับจอห์น รีล คาซิเมโร ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ สำหรับการของชกคู่นี้ อำนาจอาศัยจังหวะเข้าออกเร็วและเหลี่ยมมวยกอดรัด จนผู้ท้าชิงออกหมัดไม่ถนัด ซึ่งอำนาจ ต่อย คาซิเมโร ล้มให้กรรมการนับ 8 ถึง 2 ครั้งในยกที่ 2 และยกที่ 7 หลังจากนั้นเน้นเข้ากอดทำลายจังหวะผู้ท้าชิง จนถูกกรรมการตัดคะแนนในยกที่ 11 แต่ครบ 12 ยก อำนาจเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ 116 ต่อ 110 113 ต่อ 112 และ 115 ต่อ 110 ป้องกันแชมป์โลกครั้งที่ 4 ได้สำเร็จอำนาจระบุภายหลังการแข่งขัน ว่าวันนี้ชกได้ไม่มีนัก ส่วนหนึ่งเกิดจากความกดดันที่ไม่อยากแพ้ในบ้านขณะที่อีกคู่เป็นการกลับมาขึ้นชกอีกครั้งในรอบ 4 ปี ของ มนัส อดีตนักชกเหรียญทองและเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ โดยครั้งนี้เป็นการชกมวยอาชีพไฟต์แรก พบ ฮาเหม็ด จาลารันเต นักชกอินโดนีเซีย ซึ่งมนัสออกหมัดไล่คู่ชกตลอด 4 ยก และสามารถประเดิมเอาชนะคะแนนได้ มนัสกล่าวภายหลังการแข่งขัน ว่าระหว่างการชกนั้นอึดอัดเพราะกางเกงที่ใส่รัดมาก แต่พอใจกับฟอร์มการชกที่ห่างหายไปถึง 4 ปี และไฟต์ต่อไปอาจขึ้นชกเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเรียกความฟิต รวมทั้งประเมินตัวเองว่าสามารถจะชิงแชมป์โลกได้หรือไม่ด้านสมจิตร จงจอหอ และวรพจน์ เพชรขุ้ม อดีตนักชกฮีโร่เหรียญทองและเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ ที่เดินทางมาชมการชกของมนัส ระบุว่าการกลับมาชกมวยอีกครั้งของมนัสอยู่ในระดับที่ดี แต่ต้องลดน้ำหนักเพื่อให้มีโอกาสเป็นแชมป์โลกสำหรับการชกมวยอาชีพของอำนาจ และมนัส ขณะนี้ทางโปรโมเตอร์ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าไฟต์หน้าจะมีขึ้นเมื่อใด โดยต้องรอความชัดเจนของอำนาจที่จะป้องกันแชมป์โลกไฟต์ที่ 5 ว่าจะล้มแชมป์กับใครหรือไม่นั้น อยู่ที่การเจรจากับโปรโมเตอร์แชมป์โลกของสภามวยโลก (WBC) และสมาคมมวยโลก (WBA) ซึ่งจะมีความคืบหน้าในเร็วๆ นี้ | อำนาจ เกษตรพัฒนา ป้องกันแชมป์โลก IBF ด้วยการเอาชนะคะแนนผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์แบบเอกฉันท์ ขณะที่มนัส บุญจำนงค์ เอาชนะนักชกอินโดนีเซียในการประเดิมชกมวยอาชีพครั้งแรก | กีฬา | IBF,ข่าวกีฬา,มนัส บุญจำนงค์,มวยอาชีพ,อำนาจ เกษตรพัฒนา | https://news.thaipbs.or.th/content/3270 |
มทภ.1 ตรวจเยี่ยมชายแดนด้าน กกล.บูรพา ก่อนหารือร่วมบิ๊กทหารกัมพูชา | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.60 พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาค 1 พร้อมคณะฯ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ความมั่นคงของกองกำลังบูรพา โดยได้นั่งเฮลิคอปเตอร์จากกองกำลังบูรพา บ้านหนองกุง ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มาลงที่สำนักงานเทศบาลตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พร้อมด้วย นายพรเพ็ชร เพ็ญพาส ผวจ.สระแก้ว และ พล.ต.สุขสันต์ หนองบัวล่าง ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ร่วมคณะมาด้วย โดยมีนายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอตาพระยาฯ และ พ.ต.อ.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผกก.ตชด.12 นำข้าราชการ ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพร้อมด้วยราษฎร และนักเรียน โรงเรียนตาพระยา มาร่วมต้อนรับ
,ทั้งนี้ พล.ท.กู้เกียรติ ได้มอบผ้าห่มกันหนาวและวีลแชร์ พร้อมไม้เท้าช่วยเดินให้แก่ผู้สูงอายุในพื้นที่ชายแดน อ.ตาพระยาฯ ที่มาต้อนรับ และมอบอุปกรณ์กีฬา และถังน้ำให้แก่โรงเรียนและนักเรียนโรงเรียนตาพระยา สร้างความปลาบปลื้มดีใจให้แก่ราษฎรไทยบริเวณชายแดน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นอย่างยิ่ง จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของ จนท.บริเวณจุดผ่อนปรนบ้านตาพระยา-บึงตากวน ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรนชายแดน ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
,ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาค 1 พร้อมคณะฯ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของ จนท.ตม.จว.สระแก้ว ที่ด่าน ตม.อรัญประเทศ และกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ด่านพรมแดนคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ โดยมีนายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว นำข้าราชการในสังกัดร่วมต้อนรับ
,จากนั้นพล.ท.กู้เกียรติ ได้เดินเท้าไปต้อนรับ พล.อ.บุน เซง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชาพร้อมคณะนายทหารกัมพูชา เดินทางมาต้อนรับแม่ทัพภาค 1 ของไทย ที่บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้จับมือทักทายกันอย่างสนิทสนม เป็นการสร้างไมตรีที่ดีต่อกันท่ามกลางสายตาที่ชื่นชมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านเข้า-ออกด่านพรมแดนอรัญประเทศ เป็นอย่างยิ่ง ก่อนทั้ง 2 ฝ่ายจะได้ประชุมหารือร่วมกันที่ห้องประชุมกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยการประชุมหารือทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันดูแลด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนร่วมกัน และพร้อมร่วมกันป้องกันปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติตามแนวชายแดนด้วย. | แม่ทัพภาค 1 ตรวจเยี่ยมชายแดน จ.สระแก้ว ก่อนหารือร่วม ผบ.ภาค 5 กัมพูชา โดยยืนยันจะร่วมป้องกันปัญหายาเสพติด และอาชญากรรมข้ามชาติตามแนวชายแดน ก่อนเดินทางไปมอบผ้าห่มกันหนาว วีลแชร์พร้อมอุปกรณ์กีฬาให้ราษฎรและนักเรียน | ข่าว,ทั่วไทย | แม่ทัพภาคที่1,กู้เกียรติ ศรีนาคา,ตรวจเยี่ยมชายแดน,ด่านอรัญประเทศ,จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1151992 |
การนิรโทษกรรมทางการเมืองในสังคมไทยตั้งแต่ 2475 ถึงปัจจุบัน | ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาออกกฎหมายนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง จากบุคคลหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นจากนักวิชาการคณะนิติราษฎร์ จากคนเสื้อแดง จากกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล และตัวผู้ต้องขังเอง แต่ดูเหมือน รัฐบาลทำตัวเป็นเกษตรกรที่มักเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ราวกับว่า คำตอบอยู่ในสายลมกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย หากนับแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อปี 2475 ประเทศไทยมีกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมืองมาแล้ว ดังนี้ 11 ครั้ง เป็นกฎหมาย 13 ฉบับ รัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ เป็นระราชกำหนด (พรก.) 2 ฉบับ พระราชบัญญัติ (พรบ.) 11 ฉบับ1.1 พระราชกำหนดนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดฐานกบฏและจลาจล พุทธศักราช 24881.2 พระราชบัญญัติอนุมัติพระราชกำหนดนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดฐานกบฏและจลาจล พุทธศักราช 2488 พุทธศักราช 24881.3 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำรัฐประหาร พ.ศ. 2490(การรัฐประหารกระทำโดยพลโทผิน ชุณหะวัณและพวก)1.4 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในโอกาสครบ 25 พุทธศตวรรษ พ.ศ. 2499 (การปฏิวัติโดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม)1.5 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในโอกาสครบ 25 พุทธศตวรรษ พ.ศ. 2499 (ฉบับที่ 2)(กำหนดเวลาสิ้นสุดการขอคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ยศหรือบรรดาศักดิ์เสียภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2502)1.6 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการยึดอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 พ.ศ. 2500(การยึดอำนาจโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์)1.7 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการปฏิวัติ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 พ.ศ. 2502 (การปฏิวัติโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์)1.8 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการปฏิวัติเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 พ.ศ. 2515 (ปฏิวัติตัวเองโดย จอมพลถนอม กิตติขจร)1.9 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 พ.ศ. 2519 (คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่)1.10 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการอันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ระหว่าง วันที่ 25 และวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2520 พ.ศ. 2520 (กรณีพล อ. ฉลาด) 1.11 พระราชกำหนดนิรโทษกรรมแก่ผู้ก่อความไม่สงบเพื่อยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม ถึงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2524 พ.ศ. 2524 (กบฏเมษา ฮาวาย โดยพล.อ.สัณฑ์ จิตรปฏิมา เสธฯสนั่นกับพวก จปร. 7)1.12 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ก่อความไม่สงบเพื่อยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินระหว่าง วันที่ 8 และวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2528 พ.ศ. 2531 (ก่อการโดยพลตรีมนูญ รูปขจร และพวก)1.13 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 พ.ศ. 2534ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2534 ณวันที่1มีนาคมพุทธศักราช2534มาตรา32บรรดาการกระทำประกาศหรือคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติหรือของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติที่ได้กระทำประกาศหรือสั่งก่อนวันใช้ธรรมนูญการปกครองนี้ทั้งนี้ที่เกี่ยวเนื่องกับการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดินเมื่อวันที่23กุมภาพันธ์พ.ศ.2534ไม่ว่าจะกระทำด้วยประการใดหรือเป็นในรูปใดและไม่ว่าจะกระทำประกาศหรือสั่งให้มีผลใช้บังคับในทางนิติบัญญัติในทางบริหารหรือในทางตุลาการให้ถือว่าการกระทำประกาศหรือคำสั่งรวมทั้งการกระทำของผู้ปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งนั้นตลอดจนการกระทำของบุคคลใดๆซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดหรือควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดินดังกล่าวเป็นการกระทำประกาศหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย1.14 การนิรโทษกรรมโดยการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยพลเอกสนธิ บุณยรัตกลินและพวกมาตรา 37บรรดาการกระทำทั้งหลายซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549 ของหัวหน้าและคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมตลอดทั้งการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวหรือของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือของผู้ซึ่งได้รับคำสั่งจากผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันได้กระทำไป เพื่อการดังกล่าวข้างต้นนั้น การกระทำดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่ว่าเป็นการกระทำเพื่อให้มีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการรวมทั้งการลงโทษและการกระทำอันเป็นการบริหารราชการอย่างอื่น ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อนหรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมายก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง3 ครั้ง เป็นพรบ. 3 ฉบับ2.1 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนซึ่งกระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกับการเดินขบวน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2516 พ.ศ. 25162.2 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ระหว่างวันที่ 4 ถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 พ.ศ. 25212.3 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการอันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 25324 ครั้ง เป็นพรบ. 3 ฉบับ พรก. 1 ฉบับ3.1 พระราชกำหนดนิรโทษกรรมในคราวเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พุทธศักราช 24753.2 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในการจัดการให้คณะรัฐมนตรีลาออกเพื่อให้มีการเปิดสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2476 (ฝ่ายทหารจี้บังคับให้ครม.พลเรือนลาออกทั้งคณะ)3.3 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการต่อต้านการดำเนินการสงครามของญี่ปุ่น พุทธศักราช 2489 (นิรโทษกรรมให้กลุ่มที่ต่อต้านญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ สอง เช่น เสรีไทย)3.4 พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ที่ได้นำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 กลับมาใช้ พ.ศ. 2494 (การรัฐประหารเงียบ โดยคณะทหาร คณะราษฎร และบุคคล โดยอ้างสถานการณ์ภัยคุกคามคอมมิวนิสต์ และคอรัปชั้น และอ้างความมั่นคงแห่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บรมราชจักรีวงศ์ และระบอบรัฐธรรมนูญ)เมื่อได้ตรวจสอบเหตุผลของการออกกฎหมายนิรโทษกรรม จะพบว่าเมื่อมีการยึดอำนาจทางการเมืองโดยคณะทหารที่ก่อการกบฏแต่ไม่สำเร็จ การก่อการกบฏ หรือยึดอำนาจรัฐอันมิได้เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยนั้น เป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา (ปัจจุบัน)หรือกฎหมายลักษณะอาญา ในยุคก่อนการใช้ประมวลกฎหมายอาญา (หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475- ก่อนพฤศจิกายน 2499) จะพบเหตุผลที่หลากหลาย แต่เหตุผลหนึ่งก็เพื่อ สร้างสรรความสามัคคีของชนในชาติ หรือ รัฐบาลนี้มีความประสงค์อย่างแน่วแน่ที่จะให้เกิดความสามัคคีในระหว่างชนในชาติ หรือ ความสามัคคีของชนในชาติจึงเป็นสิ่งจำเป็นและรีบด่วนที่จะต้องสร้างสรรให้มีขึ้นให้จงได้ การดำเนินการทางคดีต่อไปมีแต่จะก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนยิ่งขึ้น ดังรายละเอียด1. พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการอันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 25 และวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2520 พ.ศ. 2520เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระชนมพรรษาเจริญวัฒนามาครบ 50 พรรษาบริบูรณ์ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2520 ซึ่งนับเป็นอภิลักขิตสมัยที่สำคัญ เพื่อเป็นการแผ่พระมหากรุณาธิคุณและให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นได้ร่วมกันทำคุณประโยชน์และช่วยจรรโลงประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น2. พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่างวันที่ 4 ถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 พ.ศ. 2521เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐบาลได้พิจารณาเห็นว่า การพิจารณาคดีเนื่องในการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ระหว่างวันที่ 4 ถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 นั้น ได้ล่วงเลยมานานพอสมควรแล้วและมีท่าทีว่าจะยืดเยื้อต่อไปอีกนาน ถ้าจะดำเนินคดีต่อไปจนเสร็จสิ้นก็จะทำให้จำเลยต้องเสียอนาคตในทางการศึกษาและการประกอบอาชีพยิ่งขึ้น และเมื่อคำนึงถึงว่าการชุมนุมดังกล่าวก็ดี การกระทำอันเป็นความผิดทั้งหลายทั้งปวงก็ดี เกิดขึ้นเนื่องจากความไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่แท้จริงเพราะเหตุแห่งความเยาว์วัยและการขาดประสบการณ์ของผู้กระทำความผิด จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้3. พระราชกำหนดนิรโทษกรรมแก่ผู้ก่อความไม่สงบเพื่อยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินระหว่างวันที่ 31 มีนาคม ถึงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2524 พ.ศ. 2524เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกำหนดฉบับนี้ คือ ตามที่ได้มีผู้ก่อความไม่สงบขึ้นเพื่อยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินในระหว่างวันที่ 31 มีนาคม จนถึงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2524 โดยใช้กำลังอาวุธเข้ายึดสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง อันเป็นการกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรในการดำเนินการปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบดังกล่าว รัฐบาลได้ใช้ความระมัดระวังมิให้เกิดการต่อสู้กันขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรและทรัพย์สินของทางราชการและเกิดความไม่ปลอดภัยแก่ประเทศชาติและราชบัลลังก์ได้ รัฐบาลจึงได้ประกาศให้ผู้ก่อความไม่สงบวางอาวุธและกลับคืนสู่หน่วยที่ตั้งตามปกติของตนภายในระยะเวลาที่กำหนด แล้วรัฐบาลจะไม่เอาความผิด ซึ่งปรากฏว่าผู้ก่อความไม่สงบได้เชื่อฟังและปฏิบัติตามประกาศของรัฐบาลด้วยดี มิได้มีการต่อต้านหรือขัดขืนหรือใช้กำลังอาวุธให้ต้องเสียเลือดเนื้อแต่ประการใด ทำให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้ว รัฐบาลได้ดำเนินการสอบสวนเพื่อทราบถึงพฤติการณ์แห่งการกระทำของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยประกาศให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปรายงานตัวต่อกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบแห่งชาติภายในเวลาที่กำหนด เพื่อให้ชี้แจงถึงการกระทำของตน ในขณะเดียวกันเนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมาย การดำเนินการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญาแก่ผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดจึงต้องกระทำไปตามกระบวนการแห่งกฎหมายควบคู่ไปด้วย บัดนี้ จากผลแห่งการสอบสวนเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ผู้ก่อความไม่สงบส่วนใหญ่ได้ปฏิบัติตามประกาศของรัฐบาลโดยครบถ้วน เป็นการสมควรที่จะนิรโทษกรรมการกระทำของผู้ก่อความไม่สงบเหล่านั้นให้ตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ ฉะนั้น เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยของประเทศและกรณีเป็นเรื่องฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนที่ไม่อาจปล่อยให้เนิ่นช้าได้จึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนดนี้เมื่อหันมาดูเนื้อหาของกฎหมายนิรโทษกรรม จะพบว่ามีสาระสำคัญอยู่ 2 ประการ กล่าวคือ เช่น- ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา- ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์- ความผิดฐานกบฏและจลาจลดังกรณีพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการอันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2532มาตรา 3บรรดาการกระทำของบุคคลใด ๆ ซึ่งได้กระทำก่อนวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 หากการกระทำนั้นเป็นความผิดดังต่อไปนี้(1) ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา(2) ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์(3) ความผิดฐานอื่นที่เป็นกรรมเดียวกับความผิดตาม (1) หรือ (2)ทั้งนี้ เฉพาะที่มิใช่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิด และให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษแล้ว ก็ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดนั้น ถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลงกรณี ความผิดเกี่ยวเนื่องกับการเดินขบวนของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เมื่อได้คำนึงถึงว่าการกระทำนั้นได้กระทำไปโดยปรารถนาจะให้มีรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขให้รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงสมควรให้มีนิรโทษกรรมแก่บรรดานักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์เดินขบวนนั้น- ก่อให้เกิดความผิดต่อชีวิตและร่างกายของบุคคลและ- ความเสียหายแก่ทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการเดินขบวน- ไม่ว่ากระทำในฐานะเป็นตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมาย ก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิงกฎหมายนิรโทษกรรมทุกฉบับ ให้ทุกคนที่กระทำผิดได้รับประโยชน์ เช่น ผู้ที่ได้กระทำความผิดฐานกบฏจลาจล และผู้ที่ได้กระทำความผิดอันเกี่ยวเนื่องจากการกระทำการป้องกัน ระงับหรือปราบปรามการกบฏหรือจลาจล (กรณีกบฏ 8 พฤศจิกายน 2499 กรณีการเดินขบวนของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และ ซตุลาคม 2519 เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือผู้กระทำตามคำสั่งในการปราบปรามนักศึกษา ประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ไม่มีความผิด ไม่ต้องรับโทษ- ให้การกระทำเช่นนั้นไม่เป็นความผิด เช่น บรรดาการกระทำทั้งหลายทั้งสิ้นเหล่านั้นไม่ว่าของบุคคลใด ๆ ในคณะราษฎรนี้ หากว่าจะเป็นการละเมิดบทกฎหมายใด ๆ ก็ดี ห้ามมิให้ถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายเลย (มาตรา 3พระราชกำหนดนิรโทษกรรมในคราวเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พุทธศักราช 2475) และ- ให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับโทษตามคำสั่งดังกล่าวอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับหรือไม่ก็ตาม ก็ให้พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลงในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (กรณี พล.อ.ฉลาด) และ- ถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษแล้ว ก็ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดนั้น- ถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง ปล่อยตัวไป เช่น ในพรบ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ระหว่างวันที่ 4 ถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 พ.ศ. 2521 มาตรา 4ให้ศาลทหารกรุงเทพดำเนินการปล่อยตัวจำเลยทั้งหมดซึ่งถูกฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ 253 ก/2520 ของศาลทหารกรุงเทพ (ใช้กฎ 6 ต.ค. 19) และให้ศาลอาญาดำเนินการปล่อยตัวจำเลยทั้งหมดซึ่งถูกฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ 4418/2520 ของศาลอาญาบรรดาการกระทำที่เป็นเหตุให้จำเลยถูกฟ้องในคดีตามวรรคหนึ่ง ถ้ามิได้รับนิรโทษกรรมตามมาตรา 3 และการกระทำนั้นผิดกฎหมาย ก็ให้จำเลยพ้นจากความผิดและความรับผิดด้วยดังนั้นเมื่อสำรวจกฎหมายนิรโทษกรรมตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา อาจตั้งเป็นข้อสังเกตได้ว่า การก่อการกบฏ การก่อจราจล การรัฐประหาร การเดินขบวนเพื่อเรียกร้องรัฐธรรมนูญหรือการชุมนุมเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองตามวิถีทางประชาธิปไตย ล้วนเป็นคดีการเมืองทั้งสิ้น การไม่เอาผิดแก่ผู้ชุมนุมเรียกร้องหรือดำเนินการทางการเมืองเพื่อให้ได้มาซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย ต้องถือว่าเป็นการกระทำทางการเมือง หากการกระทำนั้นเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาในหมวดความมั่นคงแห่งรัฐ หรือกระทำความผิดทางอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับการเรียกร้องประชาธิปไตย ต้องถือเป็นการกระทำทางการเมือง ที่ต้องพิจารณาให้ได้รับการนิรโทษกรรมทางการเมืองทั้งสิ้นแม้แต่นายทหารที่มิได้ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ที่พยายามยึดอำนาจรัฐด้วยการก่อการกบฏ ก็ยังถือเป็นคดีการเมืองที่ได้รับการนิรโทษกรรม จึงไม่มีเหตุผลใดที่การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มนปช. หรือกลุ่มพันธมิตรฯ หากมีความผิดตามกฎหมาย ก็สมควรได้รับการนิรโทษกรรมทั้งสิ้น เสมอภาคกัน ทั้งนี้อาจสอดคล้องกับการเหตุผลของกฎหมายนิรโทษกรรมในอดีตที่ต้องเร่งจัดให้มีขึ้นเพราะ รวบรวมและเรียบเรียงโดย ศราวุฒิประทุมราช ผู้อำนวยการสถาบันหลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ณ วันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2549 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 123/ตอนที่ 102 ก/1 ตุลาคม 2549] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 94/ตอนที่ 121/ฉบับพิเศษ หน้า 1/3 ธันวาคม 2520 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 95/ตอนที่ 97/ฉบับพิเศษ หน้า 1/16 กันยายน 2521 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98/ตอนที่ 69/ฉบับพิเศษ หน้า 1/5 พฤษภาคม 2524 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 106/ตอนที่ 142/ฉบับพิเศษ หน้า 4/30 สิงหาคม 2532 พระราชกำหนดนิรโทษกรรมแก่ผู้ก่อความไม่สงบเพื่อยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินระหว่างวันที่ 31 มีนาคม ถึงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2524 พ.ศ. 2524 อ้างแล้ว | การนิรโทษกรรมทางการเมืองในสังคมไทยตั้งแต่ 2475 ถึงปัจจุบัน[1] ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาออกกฎหมายนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง จากบุคคลหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นจากนักวิชาการคณะนิติราษฎร์ | การเมือง | กฎหมายนิรโทษกรรม,นักโทษการเมือง,ประมวลกฎหมาย,ศราวุฒิ ประทุมราช | https://prachatai.com/journal/2013/01/44740 |
Edward Enninful ผู้อพยพจากกานาสู่การเป็น บก. ใหม่ British Vogue บุคคลที่วงการแฟชั่นกำลังพูดถึงมากสุดขณะนี้ | เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2017 ที่ผ่านมา หน้าฟีดโซเชียลมีเดียของคนที่สนใจแฟชั่นจะเต็มไปด้วยข่าวที่ว่า บริษัท Conde Nast ประกาศชื่อบรรณาธิการบริหารคนใหม่ของนิตยสาร British Vogue นั่นก็คือ เอ็ดเวิร์ด เอ็นนินฟูล (Edward Enninful) สไตลิสต์ชื่อดังที่มาสานต่อหน้าที่จากอเล็กซานดรา ชูลแมน บรรณาธิการที่อยู่มานานถึง 25 ปี และช่วยสร้างชื่อเสียงให้ British Vogue อย่างท่วมท้น และถ้าเข้าไปดูอินสตาแกรมของ @davidbeckham @victoriabeckham @bellahadid @marcjacobs @caradelevigne ในสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณจะเห็นพวกเขาลง 1 รูปเหมือนกัน รูปที่ทั้งวงการแฟชั่นต่างเฝ้ารอมาหลายเดือน นั่นก็คือปกนิตยสาร British Vogue ฉบับเดือนธันวาคม ภายใต้การควบคุมของบรรณาธิการบริหารคนใหม่ เอ็ดเวิร์ด เอ็นนินฟูล ผู้ชายที่เส้นทางชีวิตของเขาได้จุดประกายให้คนทุกสีผิว เชื้อชาติ เพศ และฐานะ มีจุดยืนในวงการ แฟชั่น ในที่สุดเอ็ดเวิร์ดตอนวัยรุ่นผลงานสร้างชื่อของเอ็ดเวิร์ด เอ็ดเวิร์ด เอ็นนินฟูล เกิดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1972 ที่ประเทศกานา กับพี่น้องอีก 5 คน โดยทั้งครอบครัวได้อพยพไปอยู่ที่ลอนดอน และคุณแม่ประกอบอาชีพเป็นช่างเย็บผ้า ตอนอายุ 16 เอ็ดเวิร์ดได้เจอกับสไตลิสต์คนหนึ่งชื่อ ไซมอน ฟอกซ์ตัน ในรถไฟใต้ดินที่ลอนดอน ซึ่งได้ชวนให้เอ็ดเวิร์ดมาเป็นนายแบบสำหรับงานที่ถ่ายกับ นิก ไนต์ อีกหนึ่งช่างภาพแฟชั่นระดับตำนานที่ทำงานกับ อเล็กซานเดอร์ แม็กควีน เป็นประจำ หลังจากนั้นเอ็ดเวิร์ดก็ได้เป็นนายแบบอีก 2 ปี และเรียนรู้การทำงานเบื้องหลังทุกสัดส่วน พอเอ็ดเวิร์ดอายุ 18 เขาได้สร้างประวัติศาสตร์กับการเป็น Fashion Director นิตยสารหัวใหญ่ที่อายุน้อยสุดหลังจาก เทอร์รี โจนส์ ผู้ก่อตั้งนิตยสาร i-D เลือกให้เอ็ดเวิร์ดมาทำตำแหน่งนี้ ซึ่งตอนนั้นเอ็ดเวิร์ดก็ต้องทำงานควบคู่ไปกับการเรียนที่มหาวิทยาลัย Goldsmiths University of London ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่เอ็ดเวิร์ดได้ทำงานที่นิตยสาร i-D เขาก็ได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์และสะท้อนบริบทของสังคม ณ ปัจจุบัน ทั้งยังพูดถึงเรื่องราวของเยาวชนอยู่เสมอ ผลงานของเขาไม่ได้พยายามสร้างโลกแฟนตาซีที่ฟุ้งซ่าน แต่เลือกเอาแฟชั่นชั้นสูงมาปรับใส่ในโลกปัจจุบัน นอกจากนี้เอ็ดเวิร์ดยังเป็นสไตลิสต์ให้กับแบรนด์มากมาย อาทิ Versace Prada และ Gap โดยผลงานสร้างชื่อของเขาคือ Vogue Italia เล่มเดือนกรกฎาคม ปี 2008 ที่ชื่อ Black Issue ซึ่งทำร่วมกับช่างภาพ สตีเวน ไมเซล และใช้นางแบบผิวสีทั้งเล่ม เล่มนี้ประสบความสำเร็จมากจนบริษัท Conde Nast ตัดสินใจพิมพ์เพิ่มอีก 60000 ก๊อบปี้ พอมาในปี 2011 เอ็ดเวิร์ดได้ย้ายไปอยู่มหานครนิวยอร์ก เพื่อไปเป็น Creative and Fashion Director ของนิตยสาร W ของเครือ Conde Nast ภายใต้การดูแลของบรรณาธิการบริหาร Stefano Tonchi ซึ่งชื่อเสียงของเอ็ดเวิร์ดก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะนิตยสาร W จะมีการถ่ายแบบกับเหล่าศิลปินและดาราฮอลลีวูดเป็นประจำ เช่น ริฮานน่า จนถึง เอ็มมา สโตน ซึ่งก็ช่วยเพิ่มคอนเน็กชันให้เอ็ดเวิร์ดอย่างมหาศาล และน่าจะเป็นจุดแข็งที่ทำให้เขาโดดเด่นกว่าตัวเลือกคนอื่นๆ สำหรับตำแหน่งที่ British Vogue เพราะการันตีว่าเหล่าดาราที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์สำคัญๆ จะยอมมาถ่ายแฟชั่นลงในเล่มBritish Vogue เล่มแรกของเอ็ดเวิร์ดกับปกนางแบบ Adwoa Aboah ที่กำลังเป็นเทรนด์กับ #NewVogue ตลอดระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา หลังจากเอ็ดเวิร์ดได้รับตำแหน่ง บก.บห. คนใหม่ของนิตยสาร British Vogue ก็มีข่าวอยู่ทุกวี่ทุกวันที่ไม่ได้สวยงามไปหมดทุกเรื่อง เริ่มตั้งแต่การที่เขาได้เปลี่ยนทีมใหม่จนถึงการที่ Style Director คนเก่าของเล่ม ลูซินดา แชมเบอร์ส ออกมาเปิดโปงว่าเธอโดนไล่ออก ส่วน บก.บห. คนเก่า อเล็กซานดรา ชูลแมน ก็เขียนคอลัมน์อารมณ์เหน็บแนมในเว็บไซต์ Business of Fashion ว่าการเป็น บก.บห. นิตยสารที่ดีไม่ใช่แค่วันๆ เอาแต่ถูกถ่ายรูปในชุดแบรนด์เนม แต่อเล็กซานดราก็ได้แก้ข่าวกับหนังสือพิมพ์ The Guardian ว่า เธอไม่ได้หมายถึงเอ็ดเวิร์ด แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกไม่แฮปปี้ที่ทีมเก่าของเธอหลายคนโดนไล่ออกจาก British Vogue สำหรับ British Vogue เล่มแรกของเอ็ดเวิร์ดเขาได้เลือกนางแบบแห่งยุคเชื้อสายอังกฤษ-กานาอย่าง Adwoa Aboah มาขึ้นปก ซึ่งได้ สตีเวน ไมเซล มาถ่ายภาพให้ตามคาด ร่วมถึง แพท แม็กกราธ ช่างแต่งหน้าเบอร์หนึ่งของวงการมาช่วยแต่งหน้า ซึ่งแพทกับเอ็ดเวิร์ดก็เป็นเพื่อนสนิทกันมานานเพราะเข้าวงการในช่วงเดียวกัน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าแปลกใจเกี่ยวกับปกเล่มนี้ คือ การเลือกชุดของแบรนด์อเมริกันอย่าง Marc Jacobs แทนที่จะเป็นแบรนด์อังกฤษตามคอนเซปต์เล่ม Great Britain ที่ยกย่องความเป็นอังกฤษอย่างเต็มเปี่ยม แล้วนิตยสาร British Vogue ภายใต้การควบคุมของเอ็ดเวิร์ด จะประสบความสำเร็จไหม? สำหรับเล่มแรกเราเชื่อว่ายอดขายต้องถล่มทลายเพราะคนก็อยากซื้อเก็บ แถมตอนนี้ถ้าไปดู #NewVogue ในอินสตาแกรมก็จะเห็นว่าเป็นเทรนด์ดิ้งไปแล้วกับการที่ใครต่อใครถ่ายรูปปกนิตยสารเล่มนี้ในรูปชีวิตประจำวัน ในส่วนของตัวเลขการทำเงินเชิงโฆษณา ทางบริษัท Conde Nast เปิดเผยว่า ฉบับเดือนธันวาคมนี้ยอดโฆษณาสูงขึ้นมา 40% จากปีก่อน แต่ยอดขายตัวเล่ม British Vogue หน้าแผงก็ตกลงมา 1.5% ตั้งแต่ต้นปี ส่วนเวอร์ชันออนไลน์ก็ตก 25.5% ส่วนด้านดิจิทัลของ British Vogue เอ็ดเวิร์ดก็ดูเหมือนจะทุ่มทุนเป็นพิเศษ จ้างให้ผลิตวิดีโอเป็นว่าเล่น เช่น การสัมภาษณ์ระหว่างผู้ว่าฯ ลอนดอน ซาดิก ข่าน และนางแบบ นาโอมิ แคมป์เบลล์ และยังมีวีดีโอที่ลงทุนไปถ่ายเรื่องราวชีวิตในวัยเยาว์ของ จอห์น กัลลิอาโน วิกตอเรีย เบคแฮม ซีโมน โรชา โจนาธาน แอนเดอร์สัน และคริสโตเฟอร์ เบลีย์ อีกด้วย แถมตัวเอ็ดเวิร์ดเองก็ต้องออกกล้องมากขึ้น เช่น ออกช่อง Snapchat ของ British Vogue เป็นประจำและทำวิดีโอสัมภาษณ์กับเหล่าดีไซเนอร์ สิ่งที่ท้าทายต่อไปสำหรับเอ็ดเวิร์ด คือ เขายังคงจะทำให้ British Vogue เป็นกระแสต่อไปได้หรือไม่ พอเข้าเล่มสอง สาม สี่ และสิ่งที่น่าศึกษาต่อไปคือพอเอ็ดเวิร์ดได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของ British Vogue ให้มีความติดดินขึ้น อาร์ตขึ้น และแฟชั่นขึ้น ฐานคนซื้อประจำของเล่มจะชอบไหม และกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่จะเชื่อมั่นในมุมมองของเอ็ดเวิร์ดหรือไม่ อย่างไรก็ดี มุมมองและการสร้างเส้นทางชีวิตของเอ็ดเวิร์ดก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ตั้งใจ เชื่อมั่น และหลงรักในสิ่งที่ตัวเองทำ เพื่อก้าวขึ้นสู่ยอดเขาของวงการได้ในที่สุด มองย้อนกลับไป 101 ปีก่อนหรือในปี 1916 ที่นิตยสาร British Vogue ก่อตั้งเป็นครั้งแรก ถ้ามีการทำนายว่าในปี 2017 British Vogue จะมีบรรณาธิการบริหารเป็นผู้ชายผิวสีคนแรก อพยพมาจากประเทศกานา ชอบใส่แต่เสื้อผ้าสีดำ และทุกอย่างที่กินต้องใส่ซอส Tabasco เราเชื่อว่าหลายคนต้องส่ายหัว แต่เราก็เดินทางมาถึงจุดนี้ กับผู้ชายที่ชื่อ เอ็ดเวิร์ด เอ็นนินฟูล บรรณาธิการคนใหม่ของ British Vogueเอ็ดเวิร์ดกับแฟน Alec Maxwell และสุนัขชื่อ Ru EnninfulPhoto:squarespace.comอ้างอิง:เกร็ดความรู้เพิ่มเกี่ยวกับเอ็ดเวิร์ด เอ็นนินฟูล | ตอนเอ็ดเวิร์ด เอ็นนินฟูล อายุ 18 เขาได้สร้างประวัติศาสตร์กับการเป็น Fashion Director นิตยสารหัวใหญ่ที่อายุน้อยสุดหลังจาก นิตยสาร i-D เลือกให้เอ็ดเวิร์ดมาทำตำแหน่งนี้หนึ่งในผลงานสร้างชื่อของเขา คือ Vogue Italia เล่มเดือนกรกฎาคม ปี 2008 ที่ชื่อ Black Issue ซึ่งทำร่วมกับช่างภาพ สตีเวน ไมเซล และใช้นางแบบผิวสีทั้งเล่ม 7 เดือนที่ผ่านมาหลังจากเอ็ดเวิร์ดได้รับตำแหน่ง บก.บห. ใหม่ของนิตยสาร British Vogue ก็มีข่าวอยู่ทุกวี่ทุกวัน เริ่มตั้งแต่การที่เขาได้เปลี่ยนทีมใหม่ จนถึงการที่ Style Director คนเก่าของเล่ม ลูซินดา แชมเบอร์ส ออกมาเปิดโปงว่าเธอโดนไล่ออก | null | null | https://thestandard.co/edward-enninful-new-british-vogue-editor/ |
ผจก.ร้องคดีไม่คืบ เด็กแว้นคะนองรุมสกรัมหนุ่มปั๊มน้ำมัน | ผจก.ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา โร่หาความเป็นธรรม หลังสามพนักงานหนุ่มถูกเด็กแว้นกว่า 30 คน รุมสหบาทายับ บึ่งนำหลักฐานภาพวิดีโอวงจรปิดเข้าแจ้งความผ่านมา 1 เดือน ยังจับคนร้ายไม่ได้ ขณะ ตร.เผยกล้องไม่ชัดขาดคุณภาพยากต่อการจับกุม,เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ค. 58 นายญาณินพิทักษ์ บุญเทพปสันน์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 806/6 หมู่ 9 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเจ้าของและผู้จัดการปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใกล้สี่แยกนาน้อย หมู่ 6 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ร้องเรียนผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา กรณีเด็กปั๊มน้ำมันถูกเด็กแว้นรุมทำร้ายร่างกายเข้าแจ้งความแล้วแต่คดีไม่มีความคืบหน้า,สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 23 เม.ย. 58 ที่ผ่านมา ขณะที่พนักงานปั๊มน้ำมันทำงานกันอยู่ภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว ได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 30 คน ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆ แต่งซิ่งประมาณ 20 คัน เข้ามาจอดรวมตัวและเร่งเครื่องส่งเสียงดังภายในปั๊มน้ำมันเพื่อจะประลองความเร็วในถนนสายหลัก ของถนนสาย 331 กบินทร์บุรี-สัตหีบ,ขณะนั้นพนักงานในปั๊มจึงหันไปมองกลุ่มเด็กแว้นดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มวัยรุ่น โดยหนึ่งในกลุ่มเด็กแว้นได้ใช้หมวกกันน็อกขว้างใส่พนักงานในปั๊มน้ำมัน ซึ่งกำลังเติมน้ำมันให้รถคันอื่นอยู่ หลังจากนั้นกลุ่มเด็กแว้นทั้งหมดได้วิ่งกรูกันเข้ามาทำร้ายร่างกายนายประจักษ์ เลิศสงคราม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 377 หมู่ 5 ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา นายวีรวัฒน์ กันธิยะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/4 หมู่ 7 ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และนายตะวัน กาฬสินธ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 483 หมู่ 14 ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งทั้ง 3 คนถูกรุมทำร้ายบาดเจ็บถลอกตามร่างกายและศีรษะปูดบวมเขียวช้ำ ก่อนที่พนักงานทั้ง 3 คนจะวิ่งหลบหนีเอาตัวรอดเข้ามาอยู่ในห้องด้านหลังของปั๊มน้ำมัน,นายญาณินพิทักษ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ตนได้รับแจ้งจากพนักงานจึงพาผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพขณะเกิดเหตุที่ชัดเจนมาก ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมสารคาม เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 เวลา 11.00 น. โดยมี รตท.บุญเลิศ มุกดาสนิท เป็นร้อยเวรเจ้าของคดี แต่เวลาผ่านมาจนขณะนี้เป็นเวลาเกือบ 1 เดือนแล้ว คดีไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เรียกผู้เสียหายไปสอบปากคำเพิ่มเติม มีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พนมสารคาม มาสอบถามและแนะนำให้ติดกล้องวงจรปิดใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่านี้,ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าถ้ากล้องวงจรปิดของตนไม่มีคุณภาพคงไม่ซื้อมาติดอย่างแน่นอน เพราะติดตั้งแล้วใช้ประโยชน์ไม่ได้ ส่วนการกระทำของเด็กแว้นกลุ่มนี้ ตนได้ถามพนักงานของตนทั้ง 3 คนแล้ว ทั้งหมดไม่เคยรู้จักเด็กแว้นกลุ่มนี้และไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อน ซึ่งการกระทำดังกล่าวป่าเถื่อนมากเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป ทำร้ายสุจริตชนคนทำงาน และเหตุการณ์ดังกล่าวห่างกันประมาณ 12 วัน และอยู่ในเดือนเดียวกันกับที่เด็กแว้นอีกกลุ่มทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สวป.พนมสารคาม ภายในปั๊มน้ำมันจนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งคดีนั้นตำรวจสามารถติดตามคนร้ายได้เพียงวันเดียว ผิดกับคดีของตนที่มีหลักฐานภาพวงจรปิดแต่คดีไม่คืบหน้า ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมเด็กแว้นคนที่ลงมือทำร้ายร่างกายมาดำเนินคดี เพราะเกรงว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้จะไปสร้างปัญหาให้กับสังคมอีก,ด้าน พ.ต.อ.ดร.สงคราม เสงี่ยมพักตร์ ผกก.สภ.พนมสารคาม เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวคดียังไม่คืบหน้าเพราะหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความแล้ว ตนได้ให้ชุดสืบสวนนำกล้องวงจรปิดมาเปิดดู แต่ปรากฏว่าภาพไม่ชัดเจนสาเหตุ เพราะว่ากล้องที่ติดตั้งไม่มีคุณภาพและติดตั้งใว้ไกลมาก เราจึงไม่สามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้,ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตำรวจจึงไม่ได้เรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพียงแต่ให้ชุดสืบสวนไปแนะนำให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดและปรับทิศทางใหม่ ส่วนเด็กแว้นที่ก่อเหตุนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกลุ่มไหน ซึ่งแตกต่างกับคดี สวป.พนมสารคาม ถูกทำร้าย ที่สามารถติดตามคนร้ายได้อย่างรวดเร็วก็เพราะว่า กล้องวงจรปิดของปั๊มดังกล่าวชัดเจนมาก อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนายตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ | ผจก.ปั๊มน้ำมันใน จ.ฉะเชิงเทรา โร่หาความเป็นธรรม หลังสามพนักงานหนุ่มถูกเด็กแว้นกว่า 30 คน รุมสหบาทายับ บึ่งนำหลักฐานภาพวิดีโอวงจรปิดเข้าแจ้งความผ่านมา 1 เดือน ยังจับคนร้ายไม่ได้ ขณะ ตร.เผยกล้องไม่ชัดขาดคุณภาพยากต่อการจับกุม | ข่าว,ทั่วไทย | คดีไม่คืบหน้า,เด็กแว้น,พนักงานปั๊ม,ทำร้ายร่างกาย,ปั๊มน้ำมัน,ความเป็นธรรม,รุมสกรัม,กลุ่มเด๊กแว๊น,กล้องวงจรปิด,ภาพวงจรปิด,สภ.พนมสารคาม,ฉะเชิงเทรา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/498813 |
จ๊ะท้าหนุ่มๆ จีบหน่อย อร่อยแน่ ท่าเต้นฮือฮา โดนใจสายสก๊อย | จ๊ะ อาร์สยาม (นงผณี มหาดไทย), สังกัด ,ค่าย อาร์สยาม, ก็รีบส่งมิวสิกวีดิโอเพลงใหม่ ,จีบหน่อย อร่อยแน่, ฉบับสมบูรณ์ ให้สาวก ,สาวจ๊ะ, ได้แกะท่าเต้นสุดแซ่บกันเต็มๆ โหแค่หนูโชว์ท่าเต้นเพลงใหม่ จีบหน่อย อร่อยแน่ แบบขำๆ เป็นน้ำจิ้มเล็กๆ ในงานคอนเสิร์ตแค่นั้นล่ะ ก็มีคนถ่ายคลิปไปลงโซเชียลจนยอดวิวทะลุล้าน ยิ่งพอปล่อยตัวอย่างเอ็มวีออกมา ก็ยิ่งเป็นกระแสขอแกะท่าเต้นแนวสก๊อยกันใหญ่เราเลยต้องรีบส่งเอ็มวีตัวเต็มๆ เอาใจแฟนๆ เพราะหนูว่าเราผ่านความเศร้ากันมา หนูเลยอยากส่งมอบความสุข ความบันเทิง เพื่อตอบแทนแฟนเพลงให้สมกับที่ทุกคนให้กำลังใจหนูมาตลอดค่ะ ส่วนเนื้อหาเพลงนี้ ก็ตามนั้นเลยค่ะ (หัวเราะ) หนูสวยไม่ค่อยมาก แต่ท่ายากๆหนูได้ คือจริงๆ คนที่ชอบหนูก็จะชอบเลย เพราะหนูเป็นแบบนี้ ตรงๆ ทะลึ่งได้ แต่คนไม่ชอบอะไรที่โผงผาง ก็จะไม่กล้ายุ่งกับหนูเลย แต่อยากจะบอกว่าหนูไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ลองเขยิบมาใกล้ๆ หนูซิ รับรอง จีบหน่อย อร่อยแน่ ไม่เชื่อลองชมเอ็มวีแซ่บๆของหนูได้เลยจ้า. | ฮือฮากับท่าเต้นสุดสก๊อยกันไปแล้ว ล่าสุดศิลปินลูกทุ่งสาวเซ็กซี่ จ๊ะ อาร์สยาม (นงผณี มหาดไทย) สังกัด ค่าย อาร์สยาม ก็รีบส่งมิวสิกวีดิโอเพลงใหม่ จีบหน่อย อร่อยแน่ ฉบับสมบูรณ์ ให้สาวก สาวจ๊ะ ได้แกะท่าเต้นสุดแซ่บกันเต็มๆ | null | จ๊ะ อาร์สยาม,จีบหน่อย อร่อยแน่,มิวสิกวีดิโอ,ท่าเต้น | https://www.thairath.co.th/content/848768 |
รวมเลขเด็ด 1/7/63 งวดล่าสุด ก่อนลุ้นหวยออกวันนี้ | อย่าช้า รีบมาให้ไวรวมข่าวเลขเด็ด 1/7/63 งวดล่าสุด ก่อนลุ้นหวยออกวันนี้ ช่วงบ่ายได้รู้ ใครจะได้เป็นเศรษฐีหน้าใหม่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เป็นวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งแผงขายลอตเตอรี่หลายแผงพบว่า ยังมีสลากเหลืออยู่ แต่ก็ไม่มากเท่ากับงวดก่อนหน้าอย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ยังไม่มีเลขเด็ดในใจ ไทยรัฐออนไลน์ สรุปรวมเลขเด็ดจากทั่วทุกสารทิศ ที่นักเสี่ยงโชค ยืนยันว่าแม่น ขอแล้วเคยได้โชคมาให้ แต่เรื่องแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ และดวงของแต่ละคน จะตามไม่ตาม ก็ขอให้ดูเงินในกระเป๋า ซื้อแต่พอดีโค้งสุดท้ายหวย เลขเด็ด งวด 01/07/63 ลุ้นได้ที่ไทยรัฐทีวี-ไทยรัฐออนไลน์เลขตารางไทยรัฐออนไลน์ ที่หลายคนซื้อตามแล้วถูก แต่ก็ขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคนอย่างที่บอกเสี่ยโรงน้ำดื่ม ยันเลข 73 มาแน่งวดนี้ หลังถูกรัวๆ 34 งวดแล้วเสี่ยเจ้าของโรงงานน้ำดื่ม ผู้ที่ถูกหวยติดต่อกันถึง 34 งวด ยันงวดนี้ยังมี 73 พร้อมยืนยันมางวดนี้แน่ เผยเลขมาจากพลังบุญพญานาคและแร่หินแห่งโชคลาภ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในโรงงานและบ้านพัก ที่ต้องการช่วยเพื่อนมนุษย์ และหากถูกงวดนี้ งวดหน้าให้แทง 39 ต่อ เพราะจะเป็นงวดสุดท้ายที่จะบอก เพราะองค์เทพจะจำศีลนาน 18 เดือนส่องอ่างน้ำมนต์พ่อขุนช้าง เจอเลขเด็ดโผล่ กระซิบขอพรให้ได้โชคนักเสี่ยงโชค แห่ส่องอ่างน้ำมนต์พ่อขุนช้าง วัดไผ่แขก ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหวยออก เจอเลขเด็ดโผล่ 3 ตัว พร้อมกระซิบขอพรให้ได้โชค หลายคนมาเขย่าเซียมซี ขณะที่แม่ค้าหวยยิ้ม เลขขายดีเกลี้ยงแผงแม่ตะเคียนทรายแก้วแฝงร่างดีเจจ๊ะจ๋า คอหวยแห่ดู เลขเด็ด เห็น 6 มาคนอ่างทอง ทำพิธีอัญเชิญแม่ตะเคียนทรายแก้ว มาอยู่วัดโคกมะรุม จู่ๆ ก็แฝงร่างดีเจจ๊ะจ๋า ซึ่งในพิธีปรากฏว่ามีลมพายุพัดแรงไปทั่วบริเวณท้องฟ้ามืดครึ้ม และยังพบว่าพระอาทิตย์ทรงกลดด้วย คอหวยแห่ดู เลขเด็ด เห็น 6 มาเลขด่วนขบวนล่าสุด เทพกุมารแก้วปิ่นเพชร เลขเด็ดล่าสุดจากอ่างน้ำมนต์ เทพกุมารแก้วปิ่นเพชร หลังจากให้ถูกมาแล้ว 3 งวดติดๆ ไม่เคยพลาด ผู้ที่นิยมเลขเด็ดต่างไปกราบไหว้บนบานส่วนใครจะจับคู่แบบไหนตัวใดเป็นโชควาสนาของแต่ละคนจะได้ไป เมื่อโชคดีก็จะพากันมาเซ่นไหว้มาแก้บน โดยเครื่องเซ่นไหว้ที่กุมารแก้วปิ่นเพชรชอบคือ เบียร์ หนูนาผัดเผ็ด ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน น้ำแดง และขนมหวานชนิดต่างๆเซียนหวยมาขอโชค กุมารทองจุกดำ ไม่ผิดหวังได้ เลขเด็ดคอหวยมาขอโชค กุมารทองจุกดำ วัดสว่างอารมณ์ ไม่ผิดหวังได้ เลขเด็ด กลับไปลุ้นเสี่ยงโชคงวด 1/7/63 พร้อมเผยหากถูกรางวัล จะกลับมาแก้บนเลขเด็ดเงินปากนาคที่คำชะโนด คอหวยตะลึงเลขสวยจริงเลขเด็ดเงินปากนาค ที่คำชะโนด คอหวยรอคออยากเสี่ยงโชคงวดวันที่ 1 ก.ค. 63 ตกตะลึงเลขสวยจริงๆ และด้วยความบังเอิญ เลขเด็ด 32 ตรงกับช่องไทยรัฐทีวี คอหวยชอบมากคุณแม่อั้นไม่อยู่คลอดลูกแฝดบนรถ หน้าตาจิ้มลิ้ม คอหวยมองทะเบียนมีเลขเบิ้ลคุณแม่ วัย 30 ปีที่สงขลา เจ็บท้องแต่อั้นไม่อยู่ คลอดลูกแฝดบนรถ หน้าตาจิ้มลิ้มเป็นเพศชายทั้งคู่ สุดเอ็นดูสมบูรณ์แข็งแรงร้องเสียงดังมาก คอหวยมองทะเบียนมีเลขเด็ด มีเลขเบิ้ลมนต์สิทธิ์ คำสร้อย มาแล้ว เผยเลขเด็ดประจำงวดนี้ แถมอวยพรขอให้เฮงและรวยไม่เคยจะขาดตกบกพร่องในหน้าที่ สำหรับนักร้องลูกทุ่งเจ้าพ่อให้หวย มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ต้องมาบอกเลขเด็ดในดวงใจให้กับแฟนๆ ของตัวเองให้เอาไปเสี่ยงโชคลุ้นไปด้วยกันอย่างสม่ำเสมอ และในงวดประวันจำวันที่ 1 ก.ค.63 มนต์สิทธิ์ก็ไม่พลาด เจ้าตัวก็บอกใบ้เลขเด็ดแบบไม่มีกั๊ก พร้อมโชว์ลอตเตอรี่ในมือปึกใหญ่เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ถอยรถหรูเพิ่ม คอหวยไม่พลาดส่องทะเบียนป้ายแดงเป็นอีกหนึ่งนักร้องสาวที่งานรุ่งพุ่งสุดๆ สำหรับ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ เจ้าของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น และคนแต่งเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งจะซื้อบ้านหลังใหม่เป็นสมบัติอีกชิ้นให้กับตัวเอง และล่าสุด สาวเจนนี่ได้ควักเงินในกระเป๋าเพื่อถอยรถหรูป้ายแดงคันใหม่เพิ่มอีกคันส่องเลขเด็ด #แบมแบมของขลัง งวดนี้มาทั้งเทียนบนเค้ก-จำนวนโพสต์ในไอจีคนในโลกโซเชียล ไม่พลาดส่อง แฮชแท็ก #แบมแบมของขลัง เลขเด็ดที่เกี่ยวข้องกับ แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือ แบมแบม GOT7 (ก๊อตเซเว่น) ที่เหล่าอากาเซ หรือแฟนคลับศิลปิน GOT7 ใจดีแบ่งปันให้ทุกคนได้ตามซื้อเลขเด็ดกันทุกงวด แถมเข้าเป้าจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ตลอดตรวจหวย 1/7/63 | ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 กรกฎาคม 2563 | อย่าช้า รีบมาให้ไว รวมข่าวเลขเด็ด 1/7/63 งวดล่าสุด ก่อนลุ้นหวยออกวันนี้ ช่วงบ่ายได้รู้ ใครจะได้เป็นเศรษฐีหน้าใหม่ | ข่าว,ทั่วไทย | หวยไทยรัฐ1-7-63,เลขเด็ด,ตรวจหวย,สลากกินแบ่งรัฐบาล 1 กรกฎาคม 2563,เลขเด็ด1-7-63,เลขเด็ด 1 ก.ค. 63,หวย | https://www.thairath.co.th/news/local/1880096 |
เจ เจตริน โพสต์ถึงพ่อแม่รับลูกกลับจาก ตปท. ต้องกักตัว-ไม่ปะปนคนอื่น | หลังจากที่นักร้องหนุ่มชื่อดัง เจ เจตริน และนักแสดงสาว ปิ่น เก็จมณี วรรธนะสิน ไปรับลูกชายทั้ง 3 คน น้องเจ้านาย น้องเจ้าขุน น้องเจ้าสมุทร ที่เพิ่งกลับจากประเทศอังกฤษ และพาไปตรวจเชื้อโควิด-19 ทันที ซึ่งผลปรากฏว่าผลตรวจเป็นลบ คือไม่พบเชื้อทั้ง 3 คน แต่ก็ยังคงต้องกักตัว 14 วันแต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเมืองไทยที่ยังน่าเป็นห่วง อีกทั้งยังมีคนที่มาจากต่างประเทศ แต่ยังคงไม่กักตัว เจ เจตริน จึงโพสต์ฝากถึงพ่อแม่ที่รับลูกกลับจากต่างประเทศว่าให้ลูกๆ กักตัวในบ้าน 14 วัน ห้ามออกไปปะปนกับคนอื่น โดยบอกว่า ฝากถึงพ่อๆ แม่ๆ ที่เพิ่งส่งตัวลูกๆ กลับจากโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยที่อังกฤษหรือในประเทศที่มีการระบาดต่อเนื่อง แม้ว่าท่านจะมีจดหมายรับรองหรือเอกสารอะไรก็ตาม ท่านต้องกักตัวลูกๆ ท่านเป็นเวลา 14 วันในบ้าน คือ ห้ามออกมาปะปนกับคนอื่นถ้าจะส่งไปบ้านพักตากอากาศ ตจว. ก็คือ ต้องอยู่แต่ในที่ส่วนตัว ไม่ใช่ออกมาเดินชิวริมทะเล เดินห้าง ไปร้านสะดวกซื้อ ห้ามปะปนกับคนอื่น รบกวนขอความร่วมมือด้วยนะครับ ห้ามประมาทและต้องคิดถึงส่วนรวม แว่วๆ มาว่ามีบางคนการไม่กักตัวและใช้ชีวิตในเมืองปะปนคนอื่น ขอร้องให้รีบหยุดพฤติกรรมนั้น ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน ขอบคุณครับนอกจากนี้ เจ เจตริน ยังได้เผยถึงลูกๆ ทั้ง 3 คน ว่าหลังกลับจากอังกฤษ อาการยังปกติดี โดยบอกว่า ลูกๆ ผมทั้ง 3 คน ตรวจหาเชื้อและไม่พบเชื้อใดๆ undetectable และโดนกักบริเวณในบ้าน 14วันเช่นกัน นี่ผ่านไปหลายวันแล้ว ออกกำลังกาย แยกรับทานอาหาร ใช้เวลาเรียนออนไลน์ในห้อง ทุกคนปกติดี ไม่มีไอ ไม่มีไข้ ใดๆ ทั้งสิ้น #jjetrin #covid19. | เจ เจตริน โพสต์ถึงพ่อแม่ที่เพิ่งรับลูกกลับจากต่างประเทศ ควรกักตัวในบ้าน 14 วัน ไม่ให้ไปปะปนคนอื่น หากไม่ทำระวังจะได้ไม่คุ้มเสีย เผยหลังลูกชายทั้ง 3 คนกลับจากอังกฤษ อาการยังปกติดี | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เจ เจตริน,เจ เจตริน ลูกชาย,เจ้านาย จิณเจษฎ์,เจ้าขุน จักรภัทร,เจ้าสมุทร จักร,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1800604 |
ธนาธร ปะทะ ชูวิทย์ ปมถือครองหุ้นสื่อ เพราะอะไรทำไมถึงคิดแตกต่าง (คลิป) | เชื่อแน่ว่าวันที่ 20 พ.ย.นี้ คอการเมืองต้องมีรายการ ,ซู้ดปาก, แถมกองเชียร์ของ ,ส้มหวาน, พรรคอนาคตใหม่ ต้องมีลุ้นกันตัวโก่งเป็นแน่ เมื่อศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดีถือครองหุ้นสื่อของหัวหน้าพรรค นาย,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, ที่ถูกศาลสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ แน่นอนว่าไม่ว่าผลตัดสินจะออกมาอย่างไร ย่อมสั่นสะเทือนการเมืองไทยมิใช่น้อย ไม่ว่าในแง่บวกหรือลบ,เชื่อว่าหลายคนคงยังจำลีลาการตอบคำถามของ ,พ่อของฟ้า ,นายธนาธร ในศาล รธน.ได้เป็นอย่างดี ที่สวมบทตอบเพียงว่า ,ไม่รู้และจำไม่ได้, อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสสัมภาษณ์แบบเปิดใจหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ทั้ง นั่งยัน-นอนยัน ส่งสัญญาณว่าจะไม่หนีไปไหนอย่างแน่นอน ไม่ว่าผลจะลงเอยอย่างไรในอนาคต ทั้งนี้รวมไปถึงในคดีอื่นๆ,อย่างไรก็ดี ทุกอย่างย่อมมี 2 ด้านเสมอ เสมือนเหรียญ ,มีหัวก็ต้องย่อมมีก้อย, กองเชียร์ของธนาธรก็ต้องคาดหวังให้ ,พ่อของฟ้า ,ไร้ความผิด ขณะที่อีกด้าน อดีตนักการเมืองชื่อดังอย่าง ,นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย, ก็ออกมาให้ความเห็นส่วนตัวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์เช่นกัน ส่วนจะมีความเห็นเป็นอย่างไรก็ลองไปดูกันได้เลย, ,เริ่มกันที่ ,นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, ตอบโต้ปมกล่าวหาว่า ลูกพรรคและ ส.ส.อนาคตใหม่ ต้องฟังคำสั่งตนเองกับนายปิยบุตรเท่านั้น ยากจะมีความเห็นเป็นอื่นว่า คนเป็นผู้นำองค์กรจะรู้แน่ว่ามีปัญหาเข้ามาทุกวัน เรื่องไหนต้องตัดสินใจเราก็ต้องตัดสินใจ อย่างน้อยตัวผมเองไม่มีปัญหาเรื่องการตัดสินใจ แต่ต้องคำนึงด้วยว่าเรื่องไหนใหญ่เกินตัวเราเอง ตั้งเข้ามาประชุมพรรค ปรึกษาทีมงานจังหวัด,20 พ.ย.นี้ ศาล รธน.นัดวินิจฉัยปมถือครองหุ้นสื่อ ส่วนตัวรู้สึกอย่างไร, นายธนาธร กล่าวว่า ประเด็นแรกก่อน ผมไม่ได้รู้สึกอะไรมากนะ ในการเป็นคุณสมบัติ ส.ส. ไม่ว่า จะเชื่อมั่นความบริสุทธิ์เราแค่ไหน ก็อย่าไปคิดอะไรมาก เป็นหรือไม่เป็น ส.ส.ก็เดินหน้าทำงานให้ประเทศไทยได้ สถานะการเป็น ส.ส.ไม่ใช่เรื่อง ความชี้เป็นชี้ตาย ถึงไม่ได้เป็น ส.ส. ก็เป็นแคนดิเดตนายกฯ อยู่ ไม่ได้เป็น ส.ส. ก็ออกไปพบปะประชาชน เอาปัญหาที่พบเห็นเอาไปให้เพื่อนที่เป็น ส.ส.อภิปรายในสภาได้อยู่ ก็ยังทำงานได้,ฉะนั้นการจะได้เป็น ส.ส.หรือไม่ได้เป็น ส.ส. สำหรับผมแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันมากนัก ต่อมานิดนึงคำถามเราเห็นเรื่องนี้อย่างไร ถ้าใครดูการไต่สวนศาล รธน. ผมคิดว่าปัญหาใหญ่คือ เจตนารมณ์ของกฎหมายการที่ห้ามนักการเมืองถือหุ้นสื่อ นั่นคือเจตนารมณ์ของกฎหมาย ถามว่าที่ผ่านมาผมมีการกระทำใดๆ ไปทิศทางนั้นหรือไม่ บริษัทวีลัคมีเดีย ยังมีสถานะเป็นบริษัทหรือไม่? 1.วีลัค ในวันที่ผมลงสมัคร ส.ส. ในทางปฏิบัติปิดตัวไปแล้ว แม้ตัวบริษัทยังไม่ได้ปิดเพราะอยู่ในการชำระบัญชี แต่ตัวบริษัทไม่มีกิจกรรมใดๆ ไปแล้ว 2.ต่อให้ทำอยู่ วีลัค ทำนิตยสารให้นกแอร์กับการบินไทย มีเรื่องการเมืองหรือไม่ ไม่มี ฉะนั้นเรื่องมันจบตั้งแต่ตรงนี้แล้วครับ ถ้าถามผม ผมเรียนมาตลอด มันมั่นใจในความบริสุทธิ์ตัวเอง ไม่โดนแน่นอน นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าคนหรือองค์กรที่ตั้งคำถามซักถามผมทั้งหมด ไม่ว่าเป็น กกต. สื่อมวลชนสำนักไหนก็ตาม ก็ไม่มีใครมาหักล้างได้เลยจนถึงวันนี้ นายธนาธร กล่าว,กับคำถามหวั่นว่าพรรคอนาคตใหม่จะแตกกระจายไหม?, หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า ผมเห็นว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องตลกดีครับ ถ้าจะให้ความเป็นธรรมกับพรรคของผมบ้าง พรรคกลุ่มคนที่พยายามจะมาดึงไป กำลังทำลายระบบพรรคการเมืองในประเทศไทยหรือเปล่า ส.ส.พรรคผมหลายคนไม่ใช่คนรวย ก็เหมือนกับเราๆ ท่านๆ ส่วนใหญ่ 80% ก็เหมือนคนทั่วไป ทุกคนแทบไม่เคยมีใครเคยเห็นเงินสด 10 ล้านมาก่อน ฉะนั้นผมก็ต้องถามว่า ตกลงเราไม่ต้องพูดถึงกลุ่มคนที่ตั้งใจพยายามจะทำลายพรรคการเมืองเลยหรือ ตกลงใครเป็นจำเลยกันแน่ เหมือนพยายามทำให้ผมกับพรรคผมเป็นจำเลยสังคม,คุณธนาธรเคยคุยกับภรรยา-คุณแม่ หรือญาติไหม ถ้าเกิดวันหนึ่งต้องถูกจำคุกจากการเมือง แล้วครอบครัวจะทำอย่างไร? ,หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า จำคุกก็จำคุก ผมพูดแต่แรกว่าไม่มีหนีแน่นอน เพราะตั้งใจมาทำตรงนี้สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่มีอะไรเลย ที่ไม่ได้คาดเดามาก่อน ไม่มีอะไรเลยนะครับ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเราตั้งพรรคมาเพื่ออะไร ยืนหยัดเพื่ออะไร ฉะนั้นไม่ว่าเป็นคดีความ, กรณีร้องเรียนในศาล รธน., ใน กกต. หรือที่อยู่ในชั้นศาลอาญา หรือชั้นอัยการ ทุกอย่างเราคาดเดาอยู่แล้ว ตั้งแต่วันตัดสินใจสร้างพรรคว่าต้องโดนแน่ๆ การกดดันทางสังคม คดีความทางกฎหมาย การข่มขู่คุกคาม ที่มาถึงตัวเอง ญาติมิตร และครอบครัว เรารู้อยู่แล้วว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องเกิดขึ้น,เมื่อเดินมาถึงตรงนี้ พูดกันตรงไปตรงมา เตรียมใจติดคุกไว้แล้ว ถ้าต้องถึงติดคุก ก็ต้องติดคุกไม่หนีแน่ๆ ผมก็อยากถาม ตกลงตั้งพรรคการเมืองเข้ามา ถึงแม้กติกามันจะห่วย บรรยากาศไม่เป็นคุณกับเราเลย แต่เราก็ตั้งพรรคการเมืองมาแบบนี้ เลือกตั้งเราก็เลือกตั้งมา เราทำงานในสภาให้ประชาชน เราก็ทำตรงไปตรงมา อยากเรียกร้องปฏิรูปกองทัพก็พูดตรงๆ อยากกระจายอำนาจให้ต่างจังหวัดเราก็พูดตรงๆ จะแก้ รธน.ก็พูดในสภาตรงๆ มันผิดบาปมากนักหรือในประเทศนี้ เราเดินทุกอย่างตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย หลักสิทธิมนุษยชนในประเทศนี้ มันผิดบาปนักหรือ ดังนั้นถามผมเตรียมตัวยังไง เตรียมใจอย่างไร เตรียมตัวยังไง ผมบอกกับทุกคนหลายครั้ง ตั้งใจทำตรงนี้แล้ว ทำให้สุดทาง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ให้ไปถึงความฝัน โดยไม่ใช่เงิน ไม่ใช่อิทธิพล คิดอะไรก็บอกประชาชนตรงๆ ถามว่า คุณเคยมีความฝันไหม ในเมื่อมีแล้วมันคุ้มหรือไม่ นายธนาธร กล่าว,มาที่ ,นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย, กล่าวให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ กรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะถูกศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดีถือครองหุ้นสื่อ ว่า คุณธนาธร คิดว่าจะเข้ามาเปลี่ยนการเมือง ผมเข้าใจ แต่ผมเกรงว่าการเมืองจะเปลี่ยนแปลงคุณธนาธรมากกว่า เพราะการเปลื่ยน ,องคาพยพ ,ทั้งหมดมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คิดว่าเป็นเรื่องยากเหมือน เข็นครกขึ้นภูเขา แล้ววันหนึ่งการเมืองก็จะมาเปลี่ยนแปลงคนของคุณ ยกตัวอย่าง เช่น กรณีงูเห่า ตอนนี้ก็มีนะผมว่า แต่เขาก็บอกว่าไม่มีนะ ก็การเมืองมันไม่มีอะไรผิด มันไม่ใช่นิติศาสตร์ รอยร้าวเกิดขึ้นภายใน คุณธนาธรต้องเข้าใจด้วยว่า การทำธุรกิจกับการทำงานการเมืองมันไม่เหมือนกัน คนที่เป็น ส.ส.หน้าใหม่ ก็นึกว่า ตัวเองเก่ง จากสมัยก่อนเรียกว่า ,คุณ, พอเป็น ส.ส.ปั๊บเขาเรียก ,ท่านคะเชิญทางนี้ค่ะ, พวกนี้เป็น ส.ส.เป็นครั้งแรก ,งง, ไปหมดเลย รับไม่ทัน เปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ทัน นี่คือสิ่งที่น่ากลัว คุณธนาธรเป็นเสี่ย พ่อแม่ทำธุรกิจมา เข้าไปถึงก็ชี้นิ้วสั่ง แต่งานทางการเมืองคุณต้องถูกชี้ก่อน คุณถึงไปชี้นิ้วคนอื่นได้ แต่ถ้าเข้ามาชี้นิ้วเลยเสียคนหมด เพราะอะไร เหมือนคุณเข้าไปกาสิโน เห็นคนอื่นเขาเล่นได้ เอ้าเราก็เล่นได้สิ แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น มันไม่ง่ายอย่างนั้นจริงๆ ผมเข้าใจคุณธนาธร แล้วผมก็ไม่ได้ต้องการว่าร้ายคุณธนาธร ผมเห็นคุณธนาธรมีธุรกิจเยอะ,การแก้ตัวกับศาลไม่ใช่บอกว่า ลืมเช็คในกระเป๋าแล้วเอาไปซักแห้ง ลืมไปเงินผมมีเยอะแยะ ผมก็ลืมไป ศาลไม่ได้ตั้งมาตรฐานแบบคุณ ศาลเขาตั้งมาตรฐานที่เป็นมาตรฐานจริงๆ เฮ้ยเงินคุณ 5-6 ล้านมันก็ไม่ใช่น้อยนะ เอ้า คุณลืมมันเรื่องคุณนะ เพราะคุณรวย แต่ศาลเขาไม่ได้ตั้งมาตรฐานตัดสินแบบคนรวย ตัดสินแบบคนจน คนไม่มี ศาลเขาก็ต้องมีมาตรฐาน ฉะนั้น 20 พ.ย.นี้ ผมถือว่าคุณธนาธร พิ้วพิ้ว คุณธนาธรยังไม่เข้าใจการเมืองทั้งหมด นายชูวิทย์ กล่าว,นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ผมถามสั้นๆ ง่ายๆ คุณธนาธร ที่เอาเงินไปให้เขากู้ 100-200 ล้าน ที่เห็นเนื่ย ที่กำลังจะเป็นคดีต่อไปเนื่ย คุณธนาธรผมถามจริงๆ คุณธนาธรหวังจะได้เงินคืนไหม ถ้าคุณธนาธรบอกว่า หวังได้คืน แล้วคุณธนาธรจะเอาเงินคืนจากไหนล่ะ เพราะการเมืองมันไม่ใช่ธุรกิจ ถ้ากู้ไป เขาให้กู้ แสดงว่าคนกู้ทุกคนก็หวังเงินต้นคืน+ดอกเบี้ย เอาล่ะ บางคนอาจบอกว่าให้กู้ไป ไม่หวังดอกเบื้ย ขอเงินต้นคืนก็พอ แล้วพรรคอนาคตใหม่จะหาเงินจากการเมืองไปคืนทางไหนล่ะ คำถามสั้นๆ ง่ายๆ ถ้าคุณกู้ทุกคนที่ให้กู้ก็อยากให้เงินต้นคืน มีคนไหนให้กู้บอกยกให้เลยฟรี มันไม่มี ฉะนั้นคุณธนาธรเอาเงินให้พรรคอนาคตใหม่กู้ พรรคอนาคตใหม่สามารถหาเงินทางการเมืองมาคืนคุณธนาธรได้ไหม ถ้าบอกว่าคงไม่ได้ เพราะเราไปทำงานการเมืองไม่ได้ทำการค้า ถ้าอย่างนั้นคุณธนาธรเอาเงินให้กู้ไปได้อย่างไร เห็นไหม ไม่ใช่คนมันรวยอยู่แล้ว คุณธนาธรมีเงินเป็นหมื่นล้าน กู้ 100-200 ล้าน ก็ให้กู้ไปอย่างนั้นล่ะ มันคิดอย่างนั้นไม่ได้ ฉะนั้นถ้าถามคุณธนาธรมีอนาคตไหม ผมว่าลำบากนะ,ถามต่อว่า มันจะถึงขั้นยุบพรรคไหม ผมเห็นว่า อาจไม่ถึงขั้น เรื่องคุณธนาธรมันเป็นเรื่องส่วนบุคคล เรื่องหุ้นก็ดี เรื่องเงินกู้ เป็นส่วนบุคคล จะลามไปถึงพรรคไหม ผมว่าอาจไม่ถึง พรรคอนาคตใหม่ก็อาจอยู่ได้ เป็นเจ้าไม่มีศาล อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าว,งานนี้ ดุเด็ดเผ็ดมันส์ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของคนทั้งคู่ และคงไม่มีผลกระทบอะไร คงต้องรอฟังคำวินิจฉัยของศาล รธน. 20 พ.ย.นี้ดีกว่า อันนั้นถึงรู้ว่าชะตากรรมของธนาธร ฟ้ารักพ่อ จะเป็นเช่นไร ซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังพรรคสีส้มอนาคตใหม่ในอนาคตอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ,แน่นอน ทั้งด้านบวกและด้านลบ | ธนาธรเผย เมื่อเดินมาถึงตรงนี้ พูดกันตรงไปตรงมา เตรียมใจติดคุกไว้แล้ว ถ้าต้องถึงติดคุก ก็ต้องติดคุกไม่หนีแน่ๆ ผมก็อยากถาม ตกลงตั้งพรรคการเมืองเข้ามา ถึงแม้กติกามันจะห่วย บรรยากาศไม่เป็นคุณ | ข่าว,การเมือง | ธนาธร,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์,อนาคตใหม่,ถือครองหุ้นสื่อ,ถือหุ้นสื่อ,ธนาธรปะทะชูวิทย์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1701725 |
ฮือฮา กัลบกวัยเก๋า ตัดผม-โกนหัวฟรี บริการ 24 ชม. | เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 เม.ย. 58 ผู้สื่อข่าวทราบมาว่า มีร้านตัดผมผู้ชายแห่งหนึ่งในตลาดเทศบาลตำบลท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เปิดให้บริการตัดผมตลอด 24 ชั่วโมง และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือเด็กเล็ก นักเรียน คนแก่ และผู้ที่จะโกนผมบวช จะบริการให้ฟรีโดยไม่คิดเงิน ส่วนประชาชนทั่วไปก็แล้วแต่จะให้ตามศรัทธา จึงเดินทางไปที่ร้านดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายทุ่งใหญ่-พระแสง ในเขตเทศบาล ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ มีชื่อร้านว่า นุกูล เกษา เป็นร้านเล็กๆ ติดพัดลม,ที่ร้าน ได้พบกับนายนุกูล จุลเพชร อายุ 67 ปี เจ้าของร้าน และเป็นช่างตัดผมอยู่ประจำร้าน (มีคนเดียว) กล่าวว่า ตนเป็นช่างตัดผมมานานกว่า 30 ปี โดยเมื่อครั้งยังหนุ่ม ได้ไปยืนดูช่างตัดผมคนหนึ่ง ที่เปิดร้านอยู่ในตลาดสุขาภิบาลท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ สมัยนั้น ยังเป็นสุขาภิบาลท่ายาง แล้วจดจำนำมาฝึกหัดลองทำอยู่เกือบ 1 สัปดาห์ ปรากฏว่าตัดผมออกมาแล้วดูดี จึงหันมายึดอาชีพเป็นช่างตัดผมตั้งแต่นั้นมาถึงปัจจุบันกว่า 30 ปีเข้าไปแล้ว,ส่วนเรื่องราคาค่าบริการ เมื่อก่อนจะคิดหัวละ 20-30 บาท เนื่องจากต้องเช่าบ้านเขาอยู่เพื่อเปิดเป็นร้านตัดผม แต่ปัจจุบันมีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว พอจะมีกินมีใช้ จึงไม่ได้คิดราคากับลูกค้า แล้วแต่จะให้ มีน้อยก็ให้น้อย ไม่มีก็ไม่เอา ในส่วนของคนแก่คนชรา เด็กเล็ก เด็กนักเรียน และคนที่จะบวชมาโกนผมที่ร้าน จะตัดให้ฟรี ขณะที่ลูกค้าประชาชนทั่วไปบางรายที่มาตัดผม เขาก็ให้หัวละ 80 บาท 100 บาทก็มี บางรายจ่ายให้ถึง 500 บาท ก็เคยมีมาแล้ว แต่น้อยมาก,นายนุกูล ช่างตัดผมมือเก๋ามากด้วยประสบการณ์ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันยังได้เปิดร้านตัดผมทั้งกลางวันกลางคืน ลูกค้าขาประจำจะรู้กันว่า เมื่อมาถึงร้านแล้วไม่พบเจ้าของร้านก็จะโทรศัพท์ตาม โดยได้จดเบอร์โทรศัพท์ติดไว้ที่ฝาผนังของร้าน หลังจากลูกค้าโทรตามแล้วไม่เกิน 5 นาทีก็จะมาถึง,มีรายได้เฉลี่ยวันละ 500 บาท อยู่ได้อย่างพอเพียง จึงคิดอยากจะคืนกำไรให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการบ้างในยามที่เศรษฐกิจไม่ดี นายนุกูล กล่าวในที่สุด | กัลบกวัยดึกยึดอาชีพตัดผมมานานกว่า 30 ปี คิดคืนกำไรลูกค้าด้วยการไม่คิดเงินคนแก่ เด็กเล็ก นักเรียน หรือถ้าจะให้ก็ตามแต่ศรัทธา ใครจะบวชมาโกนผมบริการโกนให้ฟรี ทั้งยังให้บริการตลอด 24 ชม.โทรตามได้ตลอดเวลา | ข่าว,ทั่วไทย | ตัดผมฟรี,โกนหัวฟรี,ร้านตัดผม,กัลบก,นุกูล จุลเพชร,นุกูล เกษา,ตัดผม24ชั่วโมง,ทุ่งใหญ่,ข่าวแปลก,ข่าว,นครศรีธรรมราช,ไทยรัฐ,ข่าวภูมิภาค,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/490457 |
บิ๊กเจี๊ยบ ไม่ฟันธงขู่คาร์บอมบ์กรุง โยง จชต.พร้อมสั่งเข้มพื้นที่เสี่ยง | เมื่อวันที่ 12 ต.ค.59 ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช.กล่าวถึงกรณีการแจ้งเตือนผู้ไม่หวังดี เตรียมก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในวันที่ 25-30 ต.ค.นี้ว่า ในฐานะที่เป็นหน่วยปฏิบัติได้เตรียมการตรวจสอบจะจริงหรือไม่นั้น เราต้องตรวจสอบก่อน เพราะการแจ้งเตือนถือเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ตนอยากชี้แจงให้ทราบว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่ทั้งโลกก็เจอกับสถานการณ์ก่อการร้าย เมื่อมีการแจ้งเตือนมา ทางหน่วยทั้งหมดด้านความมั่นคงก็จะมีความเข้มงวดขึ้นในการระมัดระวัง ซึ่งการเตือนดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก เพราะทุกๆ ครั้งที่มีการแจ้งเตือนเราไม่ได้นิ่งเฉย โดยมีการจัดกำลังไปตรวจสอบ ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี,พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการแจ้งเตือนดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนบ้างเล็กน้อย เพราะจะมีการตั้งด่านตรวจสอบเหตุ ซึ่งตนอยากให้เข้าใจการทำงาน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของประชาชน พร้อมทั้งฝากให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างปกติ อย่าตื่นตระหนักกับการแจ้งเตือนดังกล่าว แต่อยากให้มาตื่นตัวช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัย และช่วยกันเป็นหูเป็นตา ถ้าพบสิ่งผิดปกติก็สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่ได้ สำหรับบทบาทของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เราได้ประสานงานกำลังกับตำรวจในทุกภูมิภาค และทำงานร่วมกันทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชน พื้นที่สาธารณะ และศูนย์การค้า ส่วนเรื่องกฎหมายนั้นก็จะให้ตำรวจดำเนินการเป็นหลัก,พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการดูแลรักษาความสงบในพื้นจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ได้ใช้กำลังเข้มงวดกวดขันอยู่แล้วทั้งในเชิงรับ และเชิงรุก เพื่อพยายามควบคุมพื้นที่ให้ได้ โดยทาง พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ได้ดูแลมาตรการด้านการข่าวเข้มงวด, การใช้และการปรับกำลัง,เมื่อถามว่าการแจ้งเตือนดังกล่าวมีความพยายามเชื่อมโยงว่ารถที่จะใช้ก่อเหตุมาจากพื้นที่ จชต. พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า เราทราบกันอยู่แล้วว่ามีรถที่หายไปเพื่อนำไปใช้ก่อเหตุ ซึ่งไม่ได้ยืนยัน 100% เพียงแต่เราจะจัดระเบียบในเรื่องการตรวจตราให้เข้มงวดขึ้น,บางส่วนข้อมูลที่ออกมาถือว่าเป็นประโยชน์ เพราะจะสามารถเป็นเบาะแส ถ้าพวกเราช่วยกันเป็นหูเป็นตา สิ่งเหล่านี้ก็จะคลี่คลายลงไป แล้วการที่เรากำหนดมาตรการเข้มงวดเพิ่มเติมขึ้นมา ผมคิดว่าฝ่ายที่กำลังจะก่อการคงทำงานลำบาก ส่วนวัตถุประสงค์ที่จะก่อเหตุนั้น ผมก็ไม่ทราบ เพราะได้รับข้อมูลด้านการข่าวมาเหมือนกันว่าจะมีการก่อเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใดก็ตาม ก็เป็นเรื่องไม่ดี พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว และว่า การแจงเตือนดังกล่าว ตนคิดว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับการพูดคุยสันติสุข,นอกจากนี้ พล.อ.เฉลิมชัย ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยว่า ในภาพรวมได้มีการประกาศภัยพิบัติ 16 จังหวัด โดย 7 จังหวัดทางภาคเหนือได้มีปริมาณน้ำหลากมายังภาคกลาง โดยทางกรมชลประทานได้ระบายน้ำออกไปทางจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดสระบุรี ซึ่งปริมานน้ำก็ลดลงไป ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาน้ำท่วมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็เร่งรัดเข้าไปช่วยเหลือให้เป็นรูปธรรม ส่วนกองทัพได้ร่วมมือกับป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในการประสานงานทำแผนการใช้กำลัง โดยเราได้ใช้กำลังทหารเข้าไปช่วยขนย้ายสิ่งของ โดยมีหน่วยของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) ได้ประสานรายละเอียดกับทางจังหวัดที่ประสบปัญหาดังกล่าวตลอด สำหรับข้อกังวลในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานครนั้น ตนคิดว่าเวลานี้ถ้าระบายน้ำก้อนที่กำลังลงออกไปยังพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรเสร็จแล้ว ประกอบไม่มีฝนตกลงมาหนักมาก คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร พร้อมกันนี้เราได้ร่วมมือ และบูรณาการกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ถ้าหน่วยงานใดที่มีปัญหาเรื่องกำลังในการช่วยเหลือประชาชน ก็ประสานมายังกองทัพบกได้,เมื่อถามว่า ประชาชนมีปัญหาที่บางพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนกับบางคนที่ไม่ได้รับความเดือดร้อน จนทะเลาะกัน จะมีการส่งหน่วยงานใดเข้าไปแก้ไขปัญหา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวก็มีอยู่บ้าง แต่คิดว่าไม่มากนัก เพราะบางพื้นที่ส่วนใหญ่จะเข้าใจกัน เพราะทหารและเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่นไปช่วยกันเจรจา. | ผบ.ทบ. ไม่ฟันธงข่าวขู่ลอบคาร์บอมบ์ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เชื่อมโยงชายแดนใต้ สั่งกำชับ กกล.รส. ตรวจเข้ม ชุมชน-สาธารณะ-ศูนย์การค้า วอน ปชช.อย่าตื่นตระหนก สั่งทหารพร้อมช่วยเหลือประชาชนประสบน้ำท่วม | null | คาร์บอมบ์,ขู่คาร์บอมบ์ กทม.,เฉลิมชัย สิทธิสาท,ผบ.ทบ.,ระเบิด,ขู่ลอบวางระเบิด,กกล.รส.,ชายแดนใต้,ไฟใต้,น้ำท่วม,บริหารจัดการน้ำ,ช่วยเหลือประชาชน | https://www.thairath.co.th/content/751496 |
รวบแล้วหวยแพงพระธาตุดอยคำ แฉเต็มไปด้วยผลประโยชน์ จ้างโปรโมตวัด | ก่อนเที่ยงวันที่ 16 มี.ค. 61 พ.ท.ธนารักษ์ พรหมสิทธิ์ ผบ.ร้อย.รส.ที่ 3 พัน.พัฒนา 3 ชุดกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง (อส.) อ.เมืองเชียงใหม่ เข้าร่วมตรวจสอบการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนด บริเวณวัดพระธาตุดอยคำ ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่,ผลการตรวจสอบ พบผู้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนด (ชุด 5 ใบ ราคา 500 บาท) จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นางบุญเทียม อุ่นแก้ว ที่อยู่ 65 ม.6 ต.นาดินดำ อ.เมือง จ.เลย นายสุรพงษ์ ศรีประเสริฐ ที่อยู่ 71 ม.6 ต.นาดินดำ อ.เมือง จ.เลย และ นายมด พลซา ที่อยู่ 65 ม.15 ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กฎหมายกำหนด และให้ผู้กระทำผิดไปเสียค่าปรับที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ รายละ 5 พันบาท,ด้าน นายสุรพงษ์ ศรีประเสริฐ หนึ่งในพ่อค้าที่ถูกจับเผยว่า กรณีมีข่าวทางโซเชียลออกมาว่ามาเที่ยวทำบุญวัดพระธาตุดอยคำ ถูกพ่อค้าขายสลากกินแบ่งมาตามตื๊อขายสลาก หากไม่ซื้อก็จะถูกขูดสีรถนั้น ไม่จริง ส่วนสลากที่พวกตนขายเกินราคาเพราะต้องไปรับซื้อมาจากยี่ปั๊วใบละ 92 บาท นำมาเร่ขายใบละ 100 บาท ยอมเสี่ยงถูกตำรวจจับเอา หากงวดไหนถูกจับไปปรับก็ขาดทุนไป,มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีการโพสต์ และแชร์กันทางโซเชียล ระบุว่า มาที่วัดแห่งนี้แล้วถูกพ่อค้าตามตื๊อให้ซื้อลอตเตอรี่ พอไม่ซื้อก็ถูกขูดรถ โดยมีพ่อค้าบางรายยอมรับด้วยว่า ถูกทางวัดเรียกเก็บเงินจากคนขายลอตเตอรี่ที่มาขายในวัด รายละ 700-800 บาท ซึ่งวัดพระธาตุดอยคำแห่งนี้ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระเจ้าทันใจอายุหลายร้อยปี โดยก่อนหน้านี้ มีลูกศิษย์ป้ารายหนึ่งออกมาให้ข่าวบ่อยครั้งว่า ถูกลอตเตอรี่งวดละหลายร้อยใบ ถูกติดๆกันนับสิบนับร้อยงวด นำพวงมาลัยดอกมะลิมาถวายนับพันพวง แต่ช่วงหลัง ป้า หายไปพร้อมกับข้อสังเกตเรื่องที่ออกมาโปรโมตวัด,ขณะที่คนข้างวัดส่วนหนึ่งบอกว่า วัดแห่งนี้เต็มไปด้วยผลประโยชน์ มีกลุ่มคนที่เป็นผู้ขายสลากฯรายใหญ่อยู่บนวัด และขายพื้นที่กับพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย มาเดินเร่ขายสลากฯจำนวนร้อยกว่าราย ที่ต้องเสียค่าเช่าให้กับบุคคลบางกลุ่ม ทางประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ จึงอยากจะให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบผลประโยชน์และรายได้ของวัดทั้งหมด เพื่อสร้างความโปร่งใสให้กับชาวพุทธ อย่าให้บุคคลเข้ามาใช้พื้นที่ของวัด แสวงหาผลประโยชน์ได้อีก
| จับแล้วพ่อค้าขายหวยแพงบนวัดพระธาตุดอยคำ หลังโซเชียลขุดมาแฉ เรื่องไปเที่ยวแล้วถูกขูดรถ โปรโมตวัดด้วยภาพถูกลอตเตอรี่งวดละหลายร้อยใบ คนข้างวัดบอกที่นี่มีแต่ผลประโยชน์ | ข่าว,ทั่วไทย | หวย,หวยแพง,จับขายหวยแพง,ขายลอตเตอรี่เกินราคา,วัดพระธาตุดอยคำ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1230011 |
พิษร้าย ไวรัสโคโรน่า ซัดเศรษฐกิจพัง ท่องเที่ยวเสียหายกว่าแสนล้านบาท | ไม่ต่ำกว่า 80000-120000 ล้านบาท หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในต้นเดือน มี.ค.แต่หากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยและเอเชียได้ โดยอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจเอเชียปีนี้ อาจไม่กระเตื้องขึ้นอย่างที่คาด โดยอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอาจต่ำกว่า 5.8% ในปีนี้ และอาจทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ไม่ถึง 6% และมีความเป็นไปได้มากที่เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสสองจะขยายตัวได้เพียง 1.8-2.4% เท่านั้นผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป สถาบันเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า ผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อ ไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ จะทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจเอเชียปีนี้อาจไม่กระเตื้องขึ้นอย่างที่คาด โดยอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอาจต่ำกว่า 5.8% ในปีนี้ และอาจทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ไม่ถึง 6% ส่วนผลกระทบที่มีต่อภาคการท่องเที่ยวไทยและเศรษฐกิจไทย จะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรงกว่าการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส แต่ผลกระทบต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิตและอัตราการเสียชีวิตอาจไม่รุนแรงเท่าโรคไข้หวัดซาร์ส และการแพร่ระบาดไม่น่าจะยืดเยื้อเท่ากรณีโรคซาร์ส เนื่องจากมีการใช้มาตรการเฉียบขาดทางด้านสาธารณสุขในการควบคุมโรคผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจรุนแรงฉับพลันในระยะสั้น มากกว่าโรคซาร์ส จากการควบคุมการเดินทางอย่างเข้มงวด การปิดเมืองห้ามเข้าออกไปยังเมืองอู่ฮั่น เมืองจือเจียง เมืองซื่อปี้ เมืองหวางกาง รวมทั้งการสั่งห้ามจัดกิจกรรมทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศของทางการจีน แม้ทางองค์การอนามัยโลกจะยังไม่ประกาศ กรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก แต่ต้องคอยติดตามสถานการณ์ว่า การปิดเมืองและการห้ามการเดินทางเข้าออกในหลายพื้นที่ จะสามารถหยุดภาวะการแพร่ระบาดได้แค่ไหน มีความเป็นไปได้มากที่เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสสองอาจจะขยายตัวได้เพียง 1.8-2.4%เบื้องต้นคาดผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 80000-120000 ล้านบาท หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในต้นเดือน มี.ค. แต่หากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยและเอเชียได้ขณะนี้ เบื้องต้นจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนในปีนี้ลดลงประมาณ 1-2 ล้านคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงไม่ต่ำกว่า 2% ของเป้าหมาย จากที่รัฐบาลต้องการให้ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเป็น 41.8 ล้านคนในปีนี้และสร้างรายได้เพิ่มเป็น 2.2 ล้านล้านบาท ติดอันดับ 1 ใน 6 ของประเทศที่สร้างรายได้ท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก เศรษฐกิจไทยจึงเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพาภาคบริการและภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จึงกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับที่รุนแรงกว่าการแพร่ระบาดของโรคซาร์สเมื่อ 17 ปีที่แล้วนอกจากนี้องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ระบุว่า รายได้ของภาคท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิก จะเติบโตไม่เกิน 7% เมื่อเจอกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในจีนย่อมทำให้การเติบโตลดลงอาจไม่ถึง 5% ย่อมส่งผลกระทบต่อรายได้การท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยวหรือธุรกิจเชื่อมโยงกันทำให้อัตราการเติบโตของรายได้รวมท่องเที่ยวไทยลดลงในปีนี้ ปี 2563 คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยจะหดตัวในปีนี้อย่างไรก็ตาม ทางการไทยควรปรับกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายต่อหัวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น มากกว่า เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และไม่ควรนำเอามาตรการ ชิมช้อปใช้ อินเตอร์ หรือ แจกเงินฟรีให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเนื่องจากผิดหลักการของการดำเนินนโยบาย เพราะเงินที่เอามาแจกนั้นเป็นเงินของประชาชนผู้เสียภาษีชาวไทย หากจะกระตุ้นการท่องเที่ยว ควรบริหารจัดการค่าเงินบาทให้อ่อนค่า ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคร้ายให้ได้ แก้ปัญหาฝุ่นควันพิษ มลพิษทางการอากาศ PM 2.5 เร่งรัดให้สามารถนำงบลงทุนจากงบปี 2563 มาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว จะแก้ปัญหาการท่องเที่ยวได้ดีกว่าเอาเงินภาษีประชาชนมาแจกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ. | การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ มีระดับความรุนแรงเช่นเดียวกับโรคซาร์ส เมื่อ 17 ปีก่อน คาดเบื้องต้นจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจอย่างต่อเนื่อง | ข่าว,เศรษฐกิจ | ไวรัสโคโรน่า,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า,โคโรน่าไวรัส,ไวรัสโคโรน่ากระทบเศรษฐกิจ,ไวรัสอู่ฮั่น,ข่าวร้อน,ชิมช้อปใช้อินเตอร์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1757218 |
สิ้นตำนานไก่เดือยทอง แมคคาย ลาโลกด้วยวัย 80 ปี | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 3 มี.ค. เดฟ แมคคาย อดีตกัปตันทีมทอตแนม ฮอตสเปอร์ ยุครุ่งเรือง สิ้นลมอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลในเมืองนอตติ้งแฮม ประเทศอังกฤษ ท่ามกลางครอบครัวและคนใกล้ชิด ที่มาร่วมดูใจเป็นครั้งสุดท้าย,อดีตกองหลังทีมชาติสกอตแลนด์ พาทีมทอตแนม ฮอตสเปอร์ ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในยุค 60 โดยสามารถพาทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอล เอฟเอ คัพ และคว้าแชมป์ได้ในปี 1962 และ 1967 อีกทั้งคว้าแชมป์รายการใหญ่ได้ 10 ครั้ง ตลอดการลงเล่นอาชีพ,สโมสรไก่เดือยทอง ได้ออกแถลงการณ์ร่วมอาลัยในการจากไปของตำนานผู้ยิ่งใหญ่ ผ่านหน้าเว็บไซต์หลักว่า เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสร เขาคือคนไม่เคยย่อท้อต่อความล้มเหลวใดๆ ตลอดชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เราขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยต่อการจากไปในครั้งนี้,นอกจากนี้ จอร์จ เบสต์ อดีตตำนานผู้ล่วงลับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ ยังได้เขียนถึง แมคคาย ในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองด้วยว่า เขาคือกองหลังที่เล่นด้วยยากที่สุดคนหนึ่ง,สำหรับ เดฟ แมคคาย ได้สร้างเกียรติประวัติไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการติดทีมชาติสกอตแลนด์ 22 ครั้ง และเป็นหนึ่งในขุนพลชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก ในปี 1958 ที่ประเทศสวีเดน เคยค้าแข้งกับหลายสโมสรทั้ง ฮาร์ท, ดาร์บี เคาน์ตี้, ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ก่อนจะปิดฉากชีวิตการค้าแข้งกับสวินดอน ทาวน์ ในปี 1972,ส่วนผลงานในตำแหน่งผู้จัดการทีม เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้เล่นและผู้จัดการทีมกับ สวินดอน ทาวน์, นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์, ดาร์บี เคาน์ตี้, วอลซอลล์, เบอร์มิงแฮม ซิตี้ นอกจากนี้ ยังเป็นกุนซือให้กับหลายทีมดังในแถบตะวันออกกลางทั้ง อัล ชาบับ, อัล อราบี คูเวต และปิดท้ายชีวิตในฐานะการคุมทีมข้างสนามด้วยการเป็นโค้ชทีมชาติคูเวต ในปี 1995. | เดฟ แมคคาย กองหลังผู้สร้างตำนานความยิ่งใหญ่ให้กับทอตแนม ฮอตสเปอร์ สิ้นใจอย่างสงบด้วยวัย 80 ปี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและแฟนบอล พร้อมกับทิ้งตำนานความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ให้กับกองเชียร์ไก่เดือยทองได้จดจำ | null | เดฟ แมคคาย,ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส,ไก่เดือยทอง,ทีมชาติสกอตแลนด์,ฟุตบอลโลก 1958,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/484639 |
ขนส่งเรียกอู่แท็กซี่ให้ข้อมูล ผู้ต้องหาข่มขืนนักท่องเที่ยวบราซิล | วันนี้ (26 เม.ย.2560) ตามที่เป็นข่าวผ่านสื่อออนไลน์ กรณีนายคำคูณ ค้อนจัตุรัส (นายสมเกียรติ ค้อนจัตุรัส) ผู้ขับรถแท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน ทย 4448 กรุงเทพมหานคร ได้รับผู้โดยสารนักท่องเที่ยวชาวบราซิล ซึ่งได้เดินทางจากประเทศมาเลเซีย มาลงที่สนามบินดอนเมืองเพื่อไปซอยทองหล่อ แต่ปรากฏว่า นายคำคูณ ฯ ได้พาออกนอกเส้นทางและกระทำการข่มขืน ผู้โดยสารซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 เม.ย 2560 เวลาประมาณ 13.30 น. ในเขตพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี และต่อมาเจ้าหน้าที่ สภ.ทุ่งคอก จ.พรรณบุรี ได้จับกุม นายคำคูณ ฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน นั้นกรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ได้เชิญสหกรณ์แท็กซี่ ธนาสยาม จำกัด ผู้ประกอบการรถแท็กซี่คันดังกล่าว มาดำเนินการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ได้ให้การยอมรับว่า ได้ให้นายคำคูณ ค้อนจัตุรัส (นายสมเกียรติ ค้อนจัตุรัส) เช่าขับรถคันหมายเลขทะเบียน ทย 4448 กรุงเทพมหานคร โดยไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ และไม่ได้จัดส่งประวัติมายังนายทะเบียน นอกจากนี้ยังพิจารณาเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 จึงได้ดำเนินการพิจารณาลงโทษผู้ประกอบการ ดังนี้1) เพิกถอนทะเบียนรถแท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน ทย 444 8 กรุงเทพมหานคร 2) ระงับการเพิ่มรถเป็นเวลา 6 เดือน 3) ปรับฐานยินยอมให้ผู้ซึ่งไม่ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะเข้าขับรถของตน ตามมาตรา 56 ประกอบมาตรา 60 ในอัตราสูงสุดเป็นจำนวนเงิน 2000 บาท 4) ปรับฐานไม่จัดส่งประวัติผู้ขับรถให้นายทะเบียน ตามมาตรา 5(15) ประกอบมาตรา 58 ในอัตราสูงสุดเป็นจำนวนเงิน 1000 บาททั้งนี้ สำหรับนายคำคูณ ค้อนจัตุรัส (นายสมเกียรติ ค้อนจัตุรัส) ผู้ขับรถ ได้แจ้งข้อหาไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ | กรมการขนส่งทางบกเชิญสหกรณ์แท็กซี่ ธนาสยาม ให้ข้อมูลกรณีนายคำคูณ ค้อนจัตุรัส ผู้ต้องหาคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวบราซิล พบไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ และไม่ได้จัดส่งประวัติมายังนายทะเบียน | สังคม | แท็กซี่,สื่อออนไลน์,คำคูณ ค้อนจัตุรัส,สมเกียรติ ค้อนจัตุรัส,นักท่องเที่ยว,บราซิล,มาเลเซีย,สนามบินดอนเมือง,ทองหล่อ,ข่มขืน,สุพรรณบุรี,สภ.ทุ่งคอก,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/261949 |
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 9 - 15 ก.ค. 2556 | 9 ก.ค.56 - นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ว่า ที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงานรถไฟฟ้าบีทีเอส ทั้งในส่วนเส้นทางสัมปทานของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส และเส้นทางของกทม. ในส่วนต่อขยายสุขุมวิทและสายสีลมประจำเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน โดยภายหลังที่บีทีเอสได้ปรับขึ้นค่าโดยสาร พบว่าจำนวนผู้โดยสารไม่ได้ลดน้อยลง ยังอยู่ที่ประมาณวันละ 770000 เที่ยวคนต่อวัน ส่วนกรณีที่กทม.ได้ปรับลดค่าโดยสารเส้นทางส่วนต่อขยายจาก 15 บาท เหลือ 10 บาทตามนโยบายผู้ว่าฯกทม.นั้น พบว่ามีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ระหว่าง 170000-220000 เที่ยวคนต่อวันนายอมร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กทม.ได้สำรองเงินค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าให้บีทีเอส 647 ล้านบาท เพื่อสำรองจ่ายค่าจ้างเดินระบบในระยะ 18 เดือน ตามสัญญาจ้าง 30 ปี แต่เนื่องจากการปรับลดค่าโดยสารเหลือ 10 บาทในส่วนต่อขยาย ทำให้กทม.แบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จึงต้องพิจารณาว่าจะสามารถสำรองจ่ายลดลงมาในระยะ 12 เดือนหรือไม่ เพื่อไม่ให้กระทบกับการเดินรถทั้งระบบ แต่กทม.มีรายได้ทางตรงจากพื้นที่เชิงพาณิชย์ปีละ 80-90 ล้านบาท และทางอ้อมจากการจัดเก็บภาษีโรงเรือนในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เพิ่มขึ้น จึงคาดว่าจะสามารถสำรองจ่ายค่าเดินรถได้ 14 เดือนขณะที่การลดราคารถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ(บีอาร์ที) จาก 10 บาทเหลือ 5 บาท พบว่ามีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 16000 คนต่อวัน เป็น 20000 กว่าคนต่อวัน จึงมอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง กทม.ไปสำรวจว่าจำนวนรถเพียงพอหรือไม่ ซึ่งอาจต้องเพิ่มจำนวนรถจาก 25 คันเป็น 30 คัน ส่วนแผนการเพิ่มเส้นทางที่เคยวางไว้ ก็ได้ทับซ้อนกับเส้นทางรถไฟฟ้าของรัฐบาลเกือบทุกเส้น จึงมีแนวคิดจะเพิ่มเส้นทางในพื้นที่ฝั่งธนบุรี บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 1 แต่ยังติดปัญหากายภาพและสาธารณูปโภคในพื้นที่ จึงต้องพิจารณากันอีกครั้ง นายอมร กล่าว(คมชัดลึก 9-7-2556)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ หรือ World Skill ครั้งที่ 42 ที่เมืองไลพ์ซิก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีปิดฉากลงแล้วอย่างสวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนาน และครึกครื้นของเยาวชนจาก 54 ประเทศทั่วโลก ที่ขึ้นรับเหรียญรางวัล และชมการแสดงแสงสีเสียง ที่ประเทศเจ้าภาพจัดขึ้น โดยเยาวชนไทยเจ๋งสามารถคว้า 2 เหรียญทอง จากการแข่งขันฝีมือแรงงานครั้งนี้ได้(แนวหน้า 9-7-2556)นางศุภนา คุ้มวงศ์ดี จัดหางานจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานแจ้งว่านายจ้างไต้หวันซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนโทรศัพท์ (smartphone) ได้ขออนุญาตนำเข้าแรงงานไทย(หญิง) ต่อสำนักงานแรงงาน ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) ไทเป จำนวน 230 คน จึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้ทีประสงค์เดินทางไปทำงานในไต้หวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มแรงงานที่มีอายุระหว่าง 18-30 ปี จบการศึกษาอย่างน้อยมัธยมศึกษาตอนปลาย หรืออาชีวศึกษา สามารถพูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษได้บ้าง เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้ในการทำงาน ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้สนใจ ขอให้มาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ไปทำงานได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด นครปฐม โทร 0-3425-0861-2 ต่อ 21อนึ่งสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครปฐมขอแจ้งว่าขณะนี้ทางสถานประกอบการใน ไต้หวันมีความประสงค์จะจ้างแรงงานไทยจำนวนมากเนื่องจากมีการระงับการให้แรง งานต่างชาติบางชาติเข้ามาทำงานในไต้หวัน ดังนั้นถ้าคนหางานไทยประสงค์จะไปทำงานในไต้หวันให้ติดตามข่าวประชาสัมพันธ์ จากสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครปฐมได้ต่อไป(สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครปฐม 10-7-2556)นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้สำรวจความต้องการแรงงาน ในภาคอุตสาหกรรม ล่าสุด พบว่าขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบยังขาดแคลนแรงงานอยู่กว่า 300000 คน โดยทั้งหมดนี้เป็นการขาดแคลนแรงงานที่จบการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา ปวช.และ ปวส. อนุปริญญา รวมกันเกือบ 270000 คน ที่เหลืออีก 30000 คน เป็นการขาดแรงงานระดับปริญญาตรี-ปริญญาเอกนายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานแล้ว ภาคอุตสาหกรรมยังมีปัญหาเรื่องการรับแรงงานเข้าทำงาน ไม่ตรงกับวิชาชีพที่เรียนมา เนื่องระบบการผลิตภาคอุตสาหกรรมมีการพัฒนามากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตที่ ผ่านมา โดยมีการใช้ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาในกระบวนการผลิต ในขณะที่หลักสูตรการศึกษาด้านแรงงานของประเทศไทย ยังไม่มีการพัฒนาหลักสูตรเพื่อฝึกฝีมือแรงงาน ให้มีความพร้อมกับระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้นายจ้างต้องยอมจ้างงานจากแรงงานที่จบการศึกษาในระบบปัจจุบัน โดยไม่มีทางเลือกมากนักผลการสำรวจของ ส.อ.ท.พบว่า ขณะนี้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ขาดแคลนแรงงานเพราะมีการเติบโตต่อเนื่อง และยังมีแนวโน้มที่นักลงทุนต่างชาติจะทยอยเข้ามาตั้งโรงงานในประเทศ ทำให้การขาดแคลนแรงงานของกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวเพิ่มขึ้นทุกๆปีนายพยุงศักดิ์ กล่าวอีกว่า เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคอุตสาหกรรม ส.อ.ท.ก็จะเพิ่มความร่วมมือกับภาคการศึกษา โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดทำหลักสูตรและพัฒนาบุคลากร จากระบบการศึกษาวิชาชีพช่างอุตสาหกรรมให้มีการผลิตแรงงานใหม่ๆออกมาสู่ตลาด แรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการ.(ไทยรัฐ 10-7-2556)รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ทำหนังสือแจ้งหัวหน้าสถานศึกษาและหน่วยงานในสังกัด สอศ.ทั่วประเทศ เพื่อให้ดำเนินการเรื่องให้ข้าราชการได้รับการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่ว คราว ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของ ข้าราชการและลูกจ้างประจำส่วนราชการฉบับที่ 5 พ.ศ.2555 โดยได้เพิ่มเติมระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครอง ชีพชั่วคราวฯ พ.ศ.2548 เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553 และวันที่ 20 กันยายน 2554 ที่เห็นชอบให้ปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ที่บรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่กำหนดคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่ กำหนดไว้โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.ในกรณีที่กำหนดให้คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนั้น ต้องใช้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ซึ่งบรรจุหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15000 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเงินเดือนจนครบ 15000 บาท และ 2.กรณีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ที่มีเงินเดือนค่าจ้างไม่ถึง 12285 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 1500 บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 12285 บาท และกรณีจำนวนเงินที่ได้รับดังกล่าวรวมกันไม่ถึงเดือนละ 9000 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นอีกจนถึงเดือนละ 9000 บาทรายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับข้าราชการ ลูกจ้างประจำของ สอศ. อาทิ ครูผู้ช่วย ครู พนักงานธุรการ พนักงานบัญชี เป็นต้น ที่จะได้รับการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวครั้งนี้ มีจำนวน 1398 คน ส่วนใหญ่จะเป็นครูผู้ช่วย ครู ในวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี วิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยอาชีวศึกษา วิทยาลัยการอาชีพ วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-30 กันยายนนี้(ประชาชาติธุรกิจ 10-7-2556)10 ก.ค. 56 - กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออกได้ออกมาเรียกร้องให้บริษัท สมบูรณ์ โซมิค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ประกอบกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (ลูกหมาก) ส่งให้กับบริษัท Toyota Honda Izusu และ Mitsubishi รับกรรมการบริหารของสหภาพแรงงานสมบูรณ์โซมิคที่ถูกพักงานทั้งหมดกลับเข้าทำ งานในอัตราค่าจ้างและสภาพการจ้างเดิมทุกประการโดยเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 56 ที่ผ่านมาบริษัทได้แจ้งคำสั่งหยุดงานโดยได้รับค่าจ้าง (หรือสั่งพักงาน) เพื่อรอคำสั่งศาลเลิกจ้างกรรมการลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการบริหารของสหภาพแรง งานสมบูรณ์โซมิค จำนวน 5 คน โดยระบุว่ากรรมการบริหารของสหภาพแรงงานสมบูรณ์โซมิคทั้ง 5 คนนี้ ได้กระทำการปลุกปั่น ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือกระทำด้วยวิธีการอื่นใด เพื่อให้พนักงานคนอื่นๆ ของบริษัท ชะลอการทำงานในเวลาทำงานปกติ และหยุดงานล่วงเวลาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร อันเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้อง และทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ในช่วงปี 2555 ที่ผ่านมาแต่ทั้งนี้ทางสหภาพแรงงานสมบูรณ์โซมิคได้ระบุว่ากรรมการบริหารของสหภาพ แรงงานสมบูรณ์โซมิคทั้ง 5 คน ไม่ได้มีการปลุกปั่นพนักงานให้เฉื่อยงานแต่ประการใด โดยในช่วงระยะเวลาดังกล่าวที่บริษัทระบุนั้น (ปี 2555) มีเพียงเหตุการเครื่องจักรเสีย จนต้องสั่งซื้อจากประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ซึ่งส่งผลให้บริษัทสูญเสียผลกำไรไปกว่า 100 ล้านบาท และทางสหภาพแรงงานระบุว่าเหตุผลที่นายจ้างกล่าวอ้างนั้นไม่ใช่เหตุอันควรใน การเลิกจ้างโดยทางกลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก เห็นว่าการกระทำของบริษัทฯ ไม่เป็นธรรมแก่คนงาน จึงขอเรียกร้องให้บริษัท สมบูรณ์ โซมิค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ปฏิบัติตามกฎหมาย และหลักปฏิญญาสากล ดังต่อไปนี้1. ให้บริษัท สมบูรณ์ โซมิค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด รับกรรมการลูกจ้างทั้งหมดกลับเข้าทำงานในอัตราค่าจ้างและสภาพการจ้างเดิมทุก ประการโดยไม่มีเงื่อนไข2. ห้ามมิให้บริษัท สมบูรณ์ โซมิค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ขัดขวางการดำเนินงานของสหภาพแรงงานสมบูรณ์โซมิค ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม3. ห้ามมิให้บริษัทฯ ขัดขวางการดำเนินการโดยการกลั่นแกล้งการลงโทษหรือเลิกจ้างลูกจ้างที่เป็น กรรมการและสมาชิกของสหภาพแรงงานฯ ด้วยเหตุผลอันไม่เป็นธรรมอีกต่อไป4. ให้บริษัทสมบูรณ์ โซมิค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด จัดให้มีการเจรจาหาข้อยุติปัญหาการกลั่นแกล้งสหภาพแรงงานฯ ระหว่างผู้แทนของสหภาพแรงงานฯ และผู้แทนของบริษัทฯ เพื่อหาทางออกร่วมกันโดยเร็ว(ประชาไท 10-7-2556)เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เปิดเผยว่า ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีหนังสือแจ้งกลับมายัง สปส.แล้วว่า ผู้ที่เป็นหรือเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 40 สามารถกู้เงินกองทุน สปส.ในโครงการสินเชื่อเพื่อไปทำงานต่างประเทศได้ ด้วยเหตุนี้ ในการประชุมบอร์ด สปส. จึงมีมติเห็นชอบอนุมัติให้ดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อไปทำงานต่างประเทศ โดย สปส.กำหนดกรอบวงเงินไว้ทั้งหมด 5000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้กู้ทั้งสิ้นประมาณ 10000 คน เบื้องต้นจะมีการนำร่องโครงการก่อนโดยใช้วงเงิน 500 ล้านบาท และธนาคารกรุงไทยจะเป็นผู้ปล่อยกู้คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6 คงที่ 2 ปีนพ.สมเกียรติกล่าวอีกว่า สำหรับเงื่อนไขการกู้เงินโครงการนี้ผู้กู้ต้องเป็นหรือเคยเป็นผู้ประกันตนมา ตรา 33 หรือ มาตรา 40 โดยกรณีมาตรา 40 นั้นต้องส่งเงินสมทบติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน นอกจากนี้ ผู้ยื่นกู้ต้องมีหลักฐานประกอบด้วยหนังสือรับรองจาก สปส.ว่าเป็นผู้ประกันตนหรือเคยเป็นผู้ประกันมาตรา 33 หรือ มาตรา 40 และมีหนังสือรับรองจากกรมการจัดหางาน (กกจ.) ว่าทำงานต่างประเทศและมีนายจ้างจริง ซึ่งสามารถยื่นกู้ได้รายละ 150000 บาท โดยไม่ต้องใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่จะต้องทำสัญญากับธนาคารกรุงไทยยินยอมให้หักเงินเดือนเพื่อผ่อนชำระหนี้ สปส.ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาต่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหาหนี้เสียสปส.จะลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับธนาคารกรุงไทย ซึ่งจะเป็นผู้บริหารจัดการเงินกู้ของโครงการในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ หลังจากนั้นคาดว่าเดือนสิงหาคม โครงการจะเริ่มปล่อยกู้ได้ เมื่อทำเอ็มโอยูกับธนาคารกรุงไทยแล้ว สปส.จะนำเงินกองทุนประกันสังคมก้อนแรก 10 ล้านบาท ไปฝากไว้กับธนาคารกรุงไทย โดยเงินฝากของ สปส.นั้นก็จะได้รับดอกเบี้ยจากธนาคารด้วยในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 คงที่ 2 ปี ประธานบอร์ด สปส.กล่าว และว่า ที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบให้ปรับระบบการจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามกลุ่ม วินิจฉัยโรคร่วม (ดีอาร์จี) เช่น โรคมะเร็ง โรคไต ในอัตราตามระดับความรุนแรงของโรค (RW) ตั้งแต่ระดับเกินกว่า 2 ขึ้นไปให้จ่ายอยู่ที่ระดับละ 15000 บาท แต่หากวงเงินค่ารักษาทั้งหมดเกินกว่าเกณฑ์ที่ สปส.กำหนด โรงพยาบาลที่ผู้ประกันตนมีบัตรรับรองสิทธิจะต้องเป็นผู้จ่ายเงินส่วนต่างที่ เพิ่มขึ้นเอง(ประชาชาติธุรกิจ 11-7-2556)11 ก.ค.56 - ที่ศาลอาญา รัชดา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.จิตรา คชเดช น.ส.บุญรอด สายวงศ์ และนายสุนทร บุญยอด อดีตผู้นำแรงงาน ในความผิดฐานมั่วสุมกันก่อการวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 216 ว่าด้วยการชุมนุมมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป จากกรณีที่คนงานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ชุมนุมประท้วงหน้ารัฐสภา สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2552โดยประเด็นที่ศาลพิจารณา คือโจทก์ฟ้องจำเลยว่า ชุมนุมปิดถนน ปิดประตูทำเนียบ ทางออกที่ 4 ปิดทางเข้ารัฐสภา ปิดช่องทางเดินรถหลายช่องทางไม่ให้รถผ่าน ทำให้การจราจรติดขัด ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งเป็นการก่อความไม่สงบจากการนำสืบ ศาลพิจารณาจากพยานโจทก์ที่เป็นตำรวจซึ่งเบิกความว่า เมื่อผู้ชุมนุมยื่นหนังสือเสร็จก็กลับ ตรงกับที่พยานโจทก์ที่เป็นตำรวจอีกราย เบิกความว่า ผู้ชุมนุมแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้วว่าจะมาชุมนุม และเบิกความว่าไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย เมื่อยื่นหนังสือร้องเรียนเสร็จก็กลับกรณีที่ฟ้องว่าจำเลยปิดช่องทางจราจร ซึ่งในคดีมีการกล่าวหาว่าผู้ชุมนุมได้นำแผงเหล็กมากั้นนั้น พยานโจทก์ที่เป็นตำรวจเบิกความว่า แผงเหล็กที่ถนน ตำรวจเอามาเอง ศาลพิจารณาแล้วน่าเชื่อว่าแผงเหล็กนี้เป็นของตำรวจมากกว่าของลูกจ้าง ซึ่งตำรวจเอามาเพื่อจำกัดขอบเขตการชุมนุม เพื่อรักษาความปลอดภัยส่วนประเด็นที่บอกว่ามีการปิดช่องทางจราจร ศาลพิจารณาจากเอกสารภาพถ่ายพบว่า ผู้ชุมนุมมีจำนวนมากกว่า 300 คน การใช้ช่องทางหลายช่องทางเกิดจากการรวมตัวกันตามสภาพ และจากภาพถ่าย ผู้ชุมนุมไม่ได้ใช้ช่องทางทั้งหมด และยังมีช่องทางจราจรที่ใช้ได้ส่วนการที่มายื่นหนังสือ แม้ว่าจะส่งผลต่อการจราจรก็ถือเป็นการใช้วิธีที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น ยังไม่ถือเป็นการก่อความวุ่นวาย และดูที่เจตนาว่ามายื่นหนังสือถึงผู้มีอำนาจให้เข้ามาจัดการแก้ไขปัญหา โดยก่อนหน้านี้เคยมายื่นหนังสือแล้วไม่คืบหน้า ผู้ชุมนุมเลยเดินทางมาเพื่อขอทราบความคืบหน้า และเมื่อยื่นเสร็จแล้วก็กลับ ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย ไม่เป็นความผิดอาญาตามมาตรา 215 ศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสามสุนทร บุญยอด กล่าวว่า แม้ศาลจะยกฟ้องคดีนี้ แต่มองว่าคำตัดสินจะมีผลต่อการชุมนุมในอนาคต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือคนที่ไม่พอใจกับการชุมนุมอาจหยิบเรื่องการปิดถนนมา ใช้จัดการได้ นอกจากนี้ จากคำพิพากษา ซึ่งมีการพิจารณาถึงจำนวนผู้ชุมนุม ต่อไปหากมากันจำนวนน้อยก็เสี่ยงต่อการถูกฟ้องได้จิตรา คชเดช กล่าวว่า คำตัดสินคดีนี้ถือเป็นการสร้างมาตรฐานว่า การชุมนุมโดยสงบ และมีข้อเรียกร้องชัดเจน ต่อไปจะไม่ถูกตำรวจนำมาแจ้งจับโดยง่าย อย่างไรก็ตาม กังวลว่า ต่อไปถ้าผู้ชุมนุมมีจำนวนน้อยอาจถูกฟ้องได้ โดยกรณีของตัวเองนั้น ผู้ชุมนุมมาจากหลายสถานประกอบการ คนจึงเยอะ แต่บางกรณีปัญหา คนอาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ จึงอาจต้องเปลี่ยนรูปแบบการชุมนุมใหม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา รัฐบาลต้องเตรียมหน่วยงานรับผิดชอบ ลงพื้นที่โดยตรง ผู้ชุมนุมอาจไม่ได้ต้องมาที่ทำเนียบหรือรัฐสภา เพราะแค่ต้องการให้แก้ปัญหาเท่านั้น จิตรากล่าวจิตรา เปิดเผยด้วยว่า หลังประชุมปรึกษาหารือกับทีมทนายความ ต่อจากนี้จะดูรายละเอียดทั้งหมดและฟ้องกลับตำรวจทุกประเด็น ทั้งเรื่องการทดลองใช้เครื่องขยายเสียงระดับไกล หรือ LRAD ของเจ้าหน้าที่ต่อคนงาน เรื่องทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง การละเมิดสิทธิ ฯลฯ ทั้งนี้รอคัดคำพิพากษา แล้วจะไปยื่นให้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและคงจะได้เปิดประเด็น รายงานของกรรมการสิทธิฯ ต่อกรณีนี้ พร้อมจัดเสวนาประเด็นนี้ต่อไปบุญรอด สายวงศ์ อดีตเลขาธิการสหภาพแรงงานไทรอัมพฯ กล่าวหลังฟังคำพิพากษาว่า จากคำพิพากษาทำให้แรงงานจะออกมาต่อสู้สิทธิของตัวเองได้ รวมถึง ก่อนหน้านี้มีความเชื่อว่าศาลจะไม่ลงเพราะเราไม่ได้ทำผิดจริงๆทั้งนี้ปัจจุบัน บุญรอด ไม่ได้เป็นเลขาธิการสหภาพแรงงานฯ โดยบุญรอดเปิดเผยว่าต่อจากนี้ก็จะร่วมกับเพื่อนอดีตคนงานไทรอัมพ์ฯ ผลิตกางเกงชั้นในกับกลุ่มสหกรณ์คนงานธาร์ยอาร์ม ที่เป็นอดีตคนงานไทรอัมพ์ฯ ที่ถูกเลิกจ้างแล้วรวมตัวกันผลิตสินค้าต่อไปอนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 และ 216 มีรายละเอียดว่า มาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับถ้าผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ บรรดาผู้ที่กระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับถ้าผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิดนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับมาตรา 216 เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกไป ผู้ใดไม่เลิก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(ประชาไท 11-7-2556)นางศุภนา คุ้มวงศ์ดี จัดหางานจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ขอประชาสัมพันธ์การไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ ระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย. ซึ่งประเทศสวีเดน สามารถขออนุญาตไปทำงานได้ในรูปแบบการเป็นลูกจ้างของนายจ้างในประเทศไทย โดยไม่ต้องเสียภาษีรายได้ร้อยละ 25 ให้แก่สวีเดน ขณะที่นายจ้างจะกำหนดค่าจ้าง และประกันรายได้ให้เดือนละ 18975 โครนาสวีเดน หรือประมาณ 85000 บาท พร้อมจัดทำประกันสุขภาพให้ลูกจ้างนางศุภนากล่าวต่อว่า ส่วนอีกประเทศฟินแลนด์ อนุญาตให้เดินทางไปทำงานได้วิธีเดียวคือ การเดินทางด้วยตนเอง สอบถาม โทร.0-3425-0861-2 ต่อ 23 ในวันเวลาราชการ(ข่าวสด 11-7-2556)ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เปิดเผยว่า จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 107/2556 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อศึกษาทบทวนความเหมาะสมของค่าตอบแทนของผู้บริหารและบุคลากรในหน่วยงาน ภาครัฐในภาพรวมทั้งหมด โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุด วันที่ 18 กรกฎาคมนี้ คณะกรรมการชุดนี้จะประชุมหารือกันเป็นครั้งแรก เพื่อกำหนดแนวทางในการพิจารณาความเหมาะสมของค่าตอบแทนของผู้บริหารและ บุคคลากรในหน่วยงานภาครัฐทั้งระบบขณะเดียวกันจะพิจารณาข้อเรียกร้องของตัวแทนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ต้อง การให้มีการปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนของพนักงานรัฐวิสาหกิจโดยเร่งด่วน เพื่อให้สอดคล้องอัตราค่าครองชีพในปัจจุบัน และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วัน และปรับขึ้นเงินเดือนปริญญาตรีเป็น 1.5 หมื่นบาท/เดือน ซึ่งทำให้พนักงานรัฐวิสาหกิจบางส่วนได้รับผลกระทบจากที่พนักงานใหม่ได้รับ เงินเดือนค่าจ้างในระดับที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกับพนักงานเดิม ขณะที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ออกหลักเกณฑ์เยียวยาข้าราชการที่ได้รับผลกระทบใน ลักษณะเดียวกันไปแล้วตนเห็นว่าการผลักดันปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนและผลตอบแทนของหน่วย งานราชการและรัฐวิสาหกิจเป็นเรื่องที่ควรสนับสนุน เพราะนอกจากช่วยดึงดูดบุคลากรที่มีประสิทธิภาพเข้าสู่ภาครัฐแล้ว ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจอีกทางหนึ่ง เรื่องนี้แม้แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็พยายามผลักดันเต็มที่ จึงได้มีคำสั่งสำนักนายกฯ แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณา โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และตัวแทนภาคเอกชนร่วมอยู่ในคณะกรรมการด้วยดร.ทศพรกล่าวว่า ยอมรับว่าแนวทางในการพิจารณาปรับโครงสร้างเงินเดือนรัฐวิสาหกิจเป็นเรื่อง ที่ต้องใช้เวลา เนื่องจากแต่ละองค์กรมีกฎหมายจัดตั้งเฉพาะ กำหนดโครงสร้างในการบริหารจัดการในลักษณะที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม หลังการหารือในที่ประชุมน่าจะได้แนวคิดและทางเลือกที่เหมาะสม จากนั้นจะเสนอให้กระทรวงการคลังและ ครม.พิจารณาอีกครั้งหนึ่งแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า ในส่วนของกระทรวงการคลัง ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กำลังอยู่ระหว่างปรับบัญชีโครงสร้างเงินเดือนรัฐวิสาหกิจเช่นเดียวกัน หลังจากก่อนหน้านี้ ครม.เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้เห็นชอบแนวทางจ่ายโบนัสแก่พนักงานรัฐวิสาหกิจ และปรับอัตราค่าตอบแทนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจไปแล้ว ฝ่ายกฎหมาย สคร.กำลังทำเรื่องปรับบัญชีโครงสร้างเงินเดือนใหม่อยู่ โดยดึงบัญชีจากทุกรัฐวิสาหกิจมาพิจารณาแนวทางการปรับบัญชีโครงสร้างเงินเดือนใหม่จะปรับจากเดิมที่มี 58 ขั้น เป็น 70 ขั้น เนื่องจากปัจจุบันเกิดปัญหาขั้นเงินเดือนตันในระดับขั้นสูงสุด เพราะที่ผ่านมามีการปรับขึ้นเงินเดือนในระดับฐานข้างล่างไปแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับการขึ้นเงินเดือนข้าราชการไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท แต่ฐานข้างบนยังไม่ได้ปรับ หลังดำเนินการเสร็จเรียบร้อยจะเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตามขั้นตอน ต่อไปสำหรับวงเงินที่จำเป็นต้องนำมาใช้จ่ายเพิ่ม กรณีเป็นรัฐวิสาหกิจที่สามารถจ่ายเงินเดือนเองได้ ก็สามารถใช้รายได้ของตัวเองจ่ายเงินเดือน อย่างไรก็ดี เมื่อค่าใช้จ่ายบุคลากรของรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้การคำนวณผลกำไรลดลง ทำให้การจ่ายเงินปันผล และการนำส่งรายได้เข้ารัฐก็จะลดลงตามไปด้วย จะกระทบทางอ้อมต่อรายได้รัฐบาล ขณะเดียวกันในกรณีเป็นรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน ซึ่งปกติต้องของบประมาณจากรัฐบาล รัฐก็จะมีผลกระทบโดยตรงอย่างไรก็ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง จะต้องพิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็น และแนวทางที่ชัดเจน เพื่อเสนอระดับนโยบายตัดสินใจต่อไปทั้งนี้ ปัจจุบันรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง มีพนักงานรวมกันแล้วมีจำนวนมากกว่า 2.94 แสนคน ที่ผ่านมา สคร.เคยศึกษาปรับโครงสร้างเงินเดือนมาก่อนแล้ว ยกเว้นรัฐวิสาหกิจกลุ่มที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯโดยโครงสร้างเงินเดือนรัฐวิสาหกิจมีอยู่ 3 กลุ่ม กลุ่มแรก มีกว่า 30 แห่ง คือรัฐวิสาหกิจที่ใช้บัญชีโครงสร้างอัตราเงินเดือนค่าจ้าง 58 ขั้น ตามประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ อาทิ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การประปานครหลวง (กปน.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท ขนส่ง จำกัด องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นต้นกลุ่มที่ 2 มี 13 แห่ง เป็นรัฐวิสาหกิจที่ ครม.เคยมีมติให้สามารถกำหนดอัตราเงินเดือนค่าจ้างและสวัสดิการเองได้ ตามมาตรา 13 (2) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ฯ อาทิ บมจ.ปตท. บมจ.กสท โทรคมนาคม บมจ.ทีโอที บมจ.อสมท. บมจ.การบินไทย เป็นต้นและกลุ่มที่ 3 มี 16 แห่ง ใช้บัญชีโครงสร้างอัตราเงินเดือนค่าจ้างเป็นของตัวเอง อาทิ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน เป็นต้นด้านแหล่งข่าวจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สรส.ในฐานะตัวแทนพนักงานรัฐวิสาหกิจพยายามเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลปรับ โครงสร้างอัตราเงินเดือนอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครส.) กระทรวงแรงงาน โดยผ่านทางนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีต รมว.แรงงาน ตั้งแต่ต้นปี 2554 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากที่รายได้ไม่สอดคล้องค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ผู้ใช้แรงงานและข้าราชการมีรายได้เพิ่มจากการปรับขึ้นค่าแรงและอัตรา เงินเดือนช่วงก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาทางแก้ไขโดยด่วนขณะเดียวกัน สรส.ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างอัตรา เงินเดือน เนื่องจากโครงสร้างอัตราเงินเดือนของรัฐวิสาหกิจบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2537 หรือเมื่อ 19 ปีก่อน ทำให้พนักงานขาดขวัญและกำลังใจในการทำงาน ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานรัฐวิสาหกิจทั้งระบบ กระทบต่อเนื่องผลประกอบการและการนำเงินรายได้ส่งเข้ารัฐโดยตรง จึงอยากให้รัฐเข้ามาดูแลและหาทางออกโดยเร็วสำหรับร่างบัญชีอัตราโครงสร้างเงินเดือนใหม่ที่ได้จัดทำขึ้น มีทั้งดำเนินการในนาม สรส.ซึ่งได้เสนอให้กำหนดอัตราเงินเดือนไว้ที่ 58 ขั้นเท่าเดิม เพียงแต่ปรับอัตราเงินเดือนแต่ละขั้นสูงขึ้นจากอัตราที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ตามมติ ครม.เมื่อ 28 มีนาคม 2554 อาทิ ขั้น 1.0 ปรับขึ้นจากเงินเดือน 5780 บาท เป็น 9040 บาท ขั้น 1.5 ปัจจุบันที่ 5780 บาท เป็น 9310 บาท ขั้น 2.0 ที่ 5780 เป็น 9580 บาท ขั้น 2.5 จาก 5780 บาท เป็น 9870 บาท ขั้น 3.0 จาก 5780 เป็น 10150 บาท ขั้น 3.5 จาก 5780 จาก 10150 บาท ขั้น 21.0 ที่ 15000 บาท เป็น 28980 บาท และขั้นสูงสุดขั้นที่ 58 จากปัจจุบัน 119200 บาท เป็น 189330 บาทขณะที่ในส่วนของร่างบัญชีโครงสร้างเงินเดือนที่จัดทำโดยกลุ่มประสานงาน บุคคลรัฐวิสาหกิจ (กบร.) เสนอให้ปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนจากเดิม 58 ขั้น เป็น 70 ขั้น อาทิ ขั้นที่ 1.0 จนถึง 4.0 อัตราเงินเดือน 5780 บาท จากนั้นในขั้น 4.5 เงินเดือน 5940 บาท ขั้น 5.0 ที่ 6110 บาท ขั้น 6.5 ที่ 6630 บาท ขั้น 21 เงินเดือน 15000 บาท ขั้น 21.5 ที่ 15440 บาท ขั้น 58.0 ที่ 119200 บาท และสูงสุดขั้น 70.0 ที่ 231280 บาท เป็นต้นเป็นที่น่าสังเกตุว่าร่างบัญชีโครงสร้างอัตราเงินเดือนที่เสนอให้ภาครัฐ พิจารณาส่วนใหญ่มีการปรับขั้นจากอัตราเดิมถึงกว่า 50-60% อาทิ เงินเดือนระดับปริญญาตรีปัจจุบันที่ 9670 บาท ขยับเพิ่มเป็น 15000 บาท ขณะที่อัตราขั้นที่ 1.0 ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุด จากปัจจุบัน 5780 บาท ปรับเพิ่มเป็น 9040 บาท เป็นต้นด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการระดับชาติเพื่อศึกษาทบทวนความเหมาะสมของค่าตอบแทนของ ผู้บริหารและบุคลากรในหน่วยงานภาครัฐในภาพรวมทั้งหมด เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอข้อมูลเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนข้า ราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจจากกระทรวงการคลัง โดยนัดประชุมพิจารณาเรื่องนี้ครั้งแรกวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะพยายามดำเนินการให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว เบื้องต้นจะกำหนดหลักเกณฑ์และวางแนวทางในการพิจารณาอย่างเป็นระบบ เพราะเกี่ยวโยงถึงหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจทั้งระบบ(ประชาชาติธุรกิจ 11-7-2556)เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 11 ก.ค. พ.อ.อุทิศ อนันตนานนท์ รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตามจุดสกัดต่างๆ ของหน่วยที่มีอยู่ภายในจังหวัดระนองและใกล้เคียง ทั้งทางบกและทางน้ำ ให้เพิ่มการการตรวจค้นรถที่มีการบรรทุกแรงงานต่างด้าวอย่างละเอียด ในส่วนของทางเข้าปากแม่น้ำที่จะมีต่างด้าวโดยสารทางเรือโดยสารมายังฝั่ง ระนอง ก็ให้เพิ่มความตรวจเข้มเช่นกัน นอกจากนี้ในช่วงมืด ได้กำชับให้หน่วยฉลามนำเรือเร็วออกลาดตระเวนด้วย เพื่อป้องกันการลักลอบนำต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าประเทศ เนื่องจากในช่วงนี้ทางประเทศไทยได้เปิดให้นายจ้างนำแรงงานต่างด้าวมาขึ้น ทะเบียนเพื่อทำบัตรแรงงานในจุดนี้เอง อาจจะส่งผลให้นายหน้าค้าแรงงานนำไปใช้ เพื่อชักจูงแรงงานต่างด้าวเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้น โดยใช้เหตุผลว่าเข้ามาแล้วสามารถทำบัตรและทำงานได้อย่างถูกกฎมาย ซึ่งอาจจะจะส่งผลให้แรงงานต่างด้าวทะลักเข้าประเทศเป็นจำนวนมากนอกจากนี้ยังได้สั่งกำชับ ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการได้สืบหาข่าว การลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ผ่านเส้นทางป่าที่จะเชื่อมไปยังจังหวัดชุมพรอยู่บ่อยครั้ง โดยในห้วงที่ผ่านมาสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองได้จำนวนหลาย ครั้งพร้อมผู้นำพา(เดลินิวส์ 11-7-2556)เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 11 กรกฎาคม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าให้การช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน กว่า 3500 คน ของบริษัท สหฟาร์ม จำกัด ที่นายจ้างสั่งพักงาน เพราะการขาดสภาพคล่องทางการเงิน และค้างจ่ายค่าจ้างผู้ใช้แรงงาน ว่าได้มอบให้ นายอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ไปดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานอย่างเต็มที่ พร้อมกำชับให้ค้นหาสภาพปัญหาที่แท้จริงของบริษัทสหฟาร์ม ด้วยว่าเกิดจากสาเหตุใด และต้องแก้ไขอย่างไรหากพบว่ามีปัญหาขาดทุนก็ต้องหาทางช่วยลดต้นทุนและช่วยหาแหล่งทุนให้กู้ ยืม ต้องช่วยเหลือทั้งนายจ้างและแรงงาน ไม่มองนายจ้างเป็นศัตรู มีอะไรให้ทางกระทรวงแรงงานช่วยก็แจ้งมาได้เพราะเป้าหมายของเราคือต้องการ ช่วยผู้ใช้แรงงาน โดยในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ นายจ้างนัดจ่ายค่าจ้างงวดแรก 34 ล้านบาทผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้เริ่มมีกระแสธุรกิจต่างๆ ประสบปัญหาขาดทุนเพิ่มขึ้น ทำให้กระทบต่อผู้ใช้แรงงาน จะช่วยเหลืออย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ปัญหาของภาคธุรกิจขณะนี้ไม่ได้เกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายค่าจ้าง 300 บาท เพราะนโยบายนี้ไม่ได้มีปัญหา และกระทรวงแรงงานคงไม่ลงไปแก้ปัญหาลึกถึงในส่วนของผู้ประกอบการเพราะไม่ใช่ หน้าที่ การช่วยเหลือผู้ประกอบการเป็นหน้าที่ของกระทรวงอื่นๆ กระทรวงแรงงานมีหน้าที่แค่เฉพาะดูแลคนตกงานให้มีงานทำ ได้รับค่าจ้าง สวัสดิการและการคุ้มครองแรงงานเท่านั้น(ประชาชาติธุรกิจ 11-7-2556)วันที่ 11 ก.ค. ที่บริเวณบ้านคลองพร้าวหมู่ 4 ต.เกาะช้าง นายชุมพล ทรัพย์ประสพ นายอำเภอเกาะช้าง จ.ตราด ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤษฏิ์ ศิริประเสริฐโชค ผกก.สภ.เกาะช้าง เป็นประธานในการปล่อยแถวออกกวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวเถื่อนในพื้นที่ ประกอบด้วยการ สนธิกำลังกัน ระหว่าง ทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง-ตำรวจท่องเที่ยว- กำนัน-ผญบ.-อุทยานฯ ชรบ.อส.ตร.รวมกว่า 100 นาย โดยมี พ.ต.ท.ศิลายุทธ จิตติยาธีรากูล รอง ผกก.สส.เข้าร่วมวางแผนโดยได้มีการแบ่งกำลังกัน เข้าตรวจค้นตามเป้าหมายคือ ซอยโลกีย์ ในพื้นที่บ้านไชยเชษฐ์ หมู่ 4 ต.เกาะช้าง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลว่าบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งที่มีแรงงาน ต่างด้าวชาวกัมพูชาพักอาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ทั้งเช่าบ้านอยู่เองและอาศัยอยู่กับบ้านพักคนงาน และมักรวมกลุ่มกันนั่งดื่มสุราส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย บางค่ำคืนก็พากันออกมา เดินเพ่นพ่านขวางถนน ก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่นักท่องเที่ยว เป็นประจำ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงยังในซอยเป้าหมายก็ได้แยกย้ายกระจายกำลังเข้าตรวจค้น ตามบ้านพักที่สร้างอยู่เป็นแถวติดต่อกันกว่า 30 หลังคาเรือน พร้อมกับเคาะประตูเรียกเพื่อขอตรวจค้นทุกหลังคาเรือนอย่างละเอียดก็ได้พบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาทั้งชายและหญิงกำลังงัวเงีย ส่วนใหญ่รับจ้างใช้แรงงานอยู่ตามโรงแรม-รีสอร์ท-ร้านอาหาร และบางส่วนทำงานก่อสร้างทั่วไป เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจดูบัตรอนุญาตใช้แรงงานก็ปรากฏว่าแต่ละคน ไม่มีบัตรรวมทั้งหมดจำนวน 23 คนด้วยกัน น่าจะเป็นแรงงานเถื่อน จึงควบคุมตัวต่างด้าวทั้งหมดส่งให้ พ.ต.ท.ประสาท สามารถกุล พนักงานสอบสวน สภ.เกาะช้าง ก่อนจะมีการนำส่งตม.เพื่อทำการผลักดันออกนอกประเทศทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาด เล็ก อ.คลองใหญ่ต่อไป ที่น่าสังเกตุก็คือก่อนหน้าที่จะมีการสนธิกำลังวางแผนเข้าจับกุมในครั้งนี้ ทางนายอำเภอเกาะช้างได้รับข้อมูลว่าบริเวณดังกล่าวมีแรงงานต่างด้าวเถื่อน ชาวกัมพูชาอาศัยอยู่นับร้อยคน แต่พอเข้าตรวจค้นกลับเงียบผิดปกติ เหลืออยู่เพียงผู้หญิงและเด็กจึงเป็นไปได้ที่ข่าวได้รั่วก่อนจึงทำให้แรงงาน เถื่อนเหล่านั้นได้หลบหนีไปอยู่ที่อื่น ก่อนนายชุมพล กล่าวภายหลังทราบผลการปฏิบัติว่า การที่ต้องระดมเจ้าหน้าที่ออกกวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวในครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับรายงานและมีการร้องเรียนมาทางอำเภอบ่อยครั้งว่า มีแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา แอบลักลอบขึ้นมาอาศัยรับจ้างใช้แรงงานอยู่ อย่างผิดกฏหมาย โดยไม่มีบัตร เป็นจำนวนมาก มีการปลูกสร้างที่พักอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ กระจายอยู่ตามย่านชุมชน แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง อีกทั้งที่ผ่านมาแรงงานต่างด้าวบางกลุ่มเหล่านั้น ยังได้เหิมเกริมตั้งกลุ่มลักทรัพย์นักท่องเที่ยว และพอจับกลุ่มดื่มสุราจนมึนเมา ได้ส่งเสียงดังเอะอะโวยวายอย่างไม่สนใจใคร บางกลุ่มก็ถือว่ามีลูกพี่ดี ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซิ่งประมาทหวาดเสียว ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้แก่คนไทยและชาวต่างชาติเป็นประจำ ไม่ค่อยเคารพกฏหมายบ้านเมืองไทย ถ้าขืนเจ้าหน้าที่ไม่มีการเข้มงวด ปล่อยให้แรงงานเหล่านั้นอาศัยอยู่อย่างอิสระเสรีเช่นนั้นต่อไป ก็จะทำให้ยากต่อการควบคุม และก็จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมกับแหล่งท่องเที่ยว ถึงในครั้งนี้จะได้ตัวผู้ต้องหาจำนวนน้อย ก็ยังดีกว่าที่ไม่มีการทำอะไรเลย ต่อจากนี้ไปทางฝ่ายปกครองคงจะมีการวางแผนสนธิกำลังเข้ากวาดล้างจับกุมแรงงาน ต่างด้าวที่อาศัยอยู่อย่างผิดกฎหมาย ตามแหล่งที่พักอาศัยใหญ่ๆบนพื้นที่เกาะช้างอีกหลายจุด พร้อมทั้งจะเอาผิดกับผู้ให้ที่พักพิงทุกรายโดยไม่มีการละเว้น(ข่าวสด 11-7-2556)(11 ก.ค.56) พ.ต.อ.โสภณ เพียรร่มทองไทย ผู้กำกับการสภ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ปัญหาแรงงานชาวพม่าที่อยู่ภายในบริษัทโกลด์เด้นไลน์ บิสซิเนส จำกัด ในเครือสหฟาร์ม เดิมทีมีอยู่เกือบ 4 พันคน ล่าสุดออกไปแล้ว 1 พันคน คงเหลืออยู่ประมาณ 3 พันคน โดยบริษัทให้คนงานชาวพม่ายื่นใบลาตามความสมัครใจ เพื่อให้หัวหน้าคนงาน พาออกไปทำงานข้างนอก หรือบางส่วนกลับประเทศ หากสหฟาร์มมีงาน ก็สามารถเข้ามาทำงานได้อีกในระยะ 2-3 เดือนต่อจากนี้โดยกลุ่มแรงงานชาวพม่า ที่เหลืออยู่ในโรงงานทั้งหมดกำลังรอเงินที่บริษัทสัญญาไว้ คือ วันที่ 15 ก.ค.56 นี้ ซึ่งเป็นค่าแรงงานเดือนพฤษภาคม ที่ยังค้างอยู่อีก 25% ส่วนเงินค่าจ้างเดือนมิถุนายน ที่ค้างจ่ายทั้งหมด 100% กำหนดจ่ายครบในวันที่ 31 กรกฎาคมที่จะถึง ซึ่งระหว่างนี้ทางบริษัทดูแลเรื่องอาหารให้ เพียงแต่ไม่ได้รับเงินเดือนพ.ต.อ.โสภณ กล่าวอีกว่า ระหว่างนี้ตนได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.บึงสามพัน ออกตรวจภายในโรงงานบริษัทโกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จำกัด (สหฟาร์ม) โดยเฉพาะแคมป์คนงานทุกวัน ทั้งเช้า กลางวัน และเย็น พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ รปภ.บริษัท ประมาณ 40 คน ที่คอยดูแลชาวพม่า ให้ติดต่อตำรวจทันทีหากเกิดเหตุ เพราะภายในโรงงานเป็นสถานที่ปิด ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไป จำเป็นต้องดูแลเข้มงวดในสถานการณ์เช่นนี้ ต้องประเมินสถานการณ์เลวร้ายไว้ก่อน แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นก็ตาม เชื่อมั่นว่า ก่อนวันที่ 15 ก.ค.56 ที่เป็นวันนัดจ่ายเงิน สถานการณ์ยังคงปกติโดยในวันที่ 15 ก.ค.56 นั้น สภ.บึงสามพัน วางแผนเตรียมระดมกำลังจาก สภ.ข้างเคียงแล้ว จำนวน 2 กองร้อยๆ ละ 120 นาย รวม 240 คน รับมือหากมีเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ และได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ให้จ่ายเร็วขึ้น จากเดิม เงินออกช่วง 3-4 โมงเย็น ก็ควรร่นเข้ามาเป็นช่วงเที่ยงๆ เพื่อป้องกันปัญหาความวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม แต่ชั่วโมงนี้ สถานการณ์ยังเป็นปกติ มั่นใจว่าสามารถรับมือได้ แต่ทุกอย่างต้องเตรียมพร้อมรายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ล่าสุดขณะนี้กลุ่มแรงงานชาวพม่าของบริษัทโกลด์เด้นไลน์ฯ ได้ใช้เวลาไปกับการผักผ่อน ทำอาหาร และเล่นกีฬา คือ ตะกร้อ บรรยากาศไม่ตึงเครียด ส่วนที่มีแรงงานบางส่วนขายจักรยาน ซึ่งเป็นพาหนะคู่ชีพนั้น ก็ซื้อขายกันภายในโรงงาน เนื่องจากแรงงานชาวพม่าย้ายถิ่นไปทำงานที่อื่น จำเป็นต้องขาย แต่ยังไม่มีการนำออกมาขายภายนอกบริษัท(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 11-7-2556)12 ก.ค. 56 - ที่โรงแรมดิ เอมเมอรัล รัชดาภิเษก มีงานแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ข้อมูลแรงงานแห่งชาติ (NLIC) โดยมีนายพูลศักดิ์ เศรษฐนันท์ รองปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธานเปิดงาน และกล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลแรงงานดังกล่าว เป็นการรวบรวมข้อมูลด้านแรงงานทั่วประเทศ โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน เพื่อให้การบริการแก่ประชาชน ผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบการ ผู้ว่างงานและผู้ที่เกี่ยวข้องได้อย่างสะดวก ถูกต้อง ทันสมัยและรวดเร็ว โดยศูนย์ข้อมูลแรงงานแห่งชาตินำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นช่องทางในการ สื่อสาร ผ่านเว็บไซต์ http://nlic.mol.go.th ซึ่งภายในเว็บไซต์ จะมีทั้งตำแหน่งงานว่าง ข้อมูลคนหางาน กฎหมายด้านแรงงานและสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน เป็นต้นนอกจากนี้ เว็บไซต์ดังกล่าวยังออกแบบให้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งรวบรวมทิศทางตลาดแรงงาน การวิเคราะห์ความต้องการจ้างงาน อัตราการว่างงาน และสัดส่วนกำลังแรงงานของไทย ไว้ให้ผู้ที่สนใจได้นำไปใช้ประโยชน์ได้ และสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายนอกและภายใน กระทรวงแรงงานด้วยอีกทั้งยังมีระบบเตือนภัยด้านแรงงานซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ รับรู้ปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบด้านแรงงานที่จะเกิดขึ้น ทั้งภาวะเศรษฐกิจ ฯลฯ โดยจะมีการรายงานเข้ามายังศูนย์และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำเสนอกับผู้บริหาร กระทรวงแรงงาน ซึ่งผู้ที่สนใจหากสมัครเป็นสมาชิกจะได้รับการส่งข้อมูลให้โดยอัตโนมัติและ สามารถใช้บริการได้แล้ว(มติชนออนไลน์ 12-7-2556)12 ก.ค. 56 - ร.ต.อ.เฉลิม สั่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ขยายผลโครงการโรงงานสีขาวทั่วประเทศ ป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด พร้อมจัดโครงการถนนสีขาว นำร้องถนนปู่เจ้าสมิงพลาย สมุทรปราการ ก่อนขยายพื้นที่อื่นทั่วประเทศร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงนโยบายการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานประกอบการ ว่า ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ดำเนินการขยายผลโครงการโรงงานสีขาวไปยังสถานประกอบการทั่วประเทศ โดย กสร.บูรณาการการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งขอความร่วมมือสถานประกอบการให้ช่วยรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของยา เสพติดในสถานประกอบการ ส่วนแรงงานที่ติดยาเสพติดให้ถือเป็นผู้ป่วยต้องเข้ารับการบำบัดรักษา หากผ่านการบำบัดแล้วยังเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน กสร.ได้จัดโครงการถนนสีขาวขึ้น โดยจะนำร่องที่ถนนปู่เจ้าสมิงพราย อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งตนเองจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมและเป็นประธานในพิธีเปิดตัวโครงการในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ พร้อมขอความร่วมมือสถานประกอบการในการตรวจสารเสพติดด้วยด้านนายอาทิตย์ อิสโม อธิบดี กสร. กล่าวว่า มีสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 20 คนขึ้นไปผ่านเกณฑ์มาตรฐานเป็นโรงงานสีขาวแล้วประมาณ 75000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสถานประกอบการที่จะผ่านเกณฑ์ต้องมีนโยบาย ป้ายรณรงค์ และกิจกรรมแก้ปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการที่ชัดเจน และในปีนี้ได้ขยายผลโครงการโรงงานสีขาวไปสู่สถานประกอบการที่มีลูกจ้างต่ำ กว่า 20 คน นอกจากนี้ ยังได้จัดทำโครงการถนนสีขาวปลอดยาเสพติดขึ้น โดยเริ่มที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากนั้นจะขยายผลไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ(สำนักข่าวไทย 12-7-2556)วันที่ 12 ก.ค.ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลพิพากษาจำคุก นางภาวิณี ศิริวงศ์ ณ อยุธยา จำเลยความผิดฐาน ร่วมกันจัดหางานให้คนงานในต่างประเทศโดยหลอกลวงและไม่ได้รับอนุญาตและร่วม กันฉ้อโกงประชาชนเป็นเวลา 66 ปี แต่รับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เหลือจำคุก 33 ปีแต่คงให้จำคุกจำเลยไว้ 20 ปีและให้จำเลยคืนเงิน 1955000 บาทแก่ผู้เสียหาย คดีนี้อัยการเป็นโจทก์ฟ้องสรุปว่าจำเลยกับพวกบังอาจร่วมกันจัดหางานไปต่าง ประเทศและมีเจตนาทุจริตหลอกลวงและฉ้อโกง มีผู้เสียหาย 22 รายหลงเชื่อจ่ายเงินค่าใช้จ่ายแก่จำเลยไปรวม 1955000 บาทจนท.(ปคม.)จับกุมจำเลยได้ชั้นสอบสวนปฏิเสธแต่รับในชั้นศาล(ข่าวสด 12-7-2556)อินเวสไวน์ เว็บไซต์ข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวด้านการเงิน การลงทุนและไลฟ์สไตล์ในอาเซียน เปิดเผยบทความกึ่งวิเคราะห์ตีแผ่ จุดอ่อน ของประเทศไทย 10 ประการ ซึ่งเป็นตัวการฉุดรั้งขีดความสามารถการแข่งขันของไทยในเวทีประชาคมอาเซียน (เออีซี) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จุดอ่อนประการแรกของไทย คือ ความอ่อนแอของรัฐบาล โดยรายงานระบุว่า การดำเนินงานของพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรนับตั้งแต่ปี 2554 สะท้อนให้เห็นว่า แท้ที่จริงแล้วรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันคือรัฐบาล หุ่นเชิด ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่คอยสั่งการอยู่เบื้องหลังจากต่างประเทศนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือต่อประชาชนได้ และไม่กล้าตัดสินใจในเรื่องสำคัญ อีกทั้งยังไร้ความสามารถในการแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งถือเป็นประเด็นที่กระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติโดยตรง อินเวสไวน์ระบุนอกจากนี้ รัฐบาลไทยชุดปัจจุบัน ยังมีการโยกย้ายเปลี่ยนตำแหน่งคณะรัฐมนตรีกันอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 แล้วนับตั้งแต่ขึ้นบริหารประเทศในปี 2554 เพื่อเปิดทางให้กลุ่มคนที่จงรักภักดีต่อทักษิณขึ้นมามีอำนาจมากขึ้นตามใบ สั่งของทักษิณ ทำให้คณะรัฐมนตรีที่ขึ้นมาบริหารงานเพียงวาระสั้นๆ ยังไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเพื่อชาติได้เลย และความอ่อนแอของรัฐบาล ก็นำมาซึ่งจุดอ่อนประการที่ 2 การเมืองไร้เสถียรภาพอินเวสไวน์ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ในปีนี้ อาจเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง 2 ขั้วที่ต่างฝ่ายต่างระดมพลออกมาแสดงความต่อต้านซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นแรงกดดันให้อาจเกิดการรัฐประหารขึ้นมาอีกครั้งนอกจากนี้ ประเทศไทย ยังเผชิญอยู่กับ ปัญหาคอรัปชั่น ที่ปรากฏอยู่ในทุกภาคส่วนของประเทศ ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกลวงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไปจนถึงการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลที่มีฐานะและมีอิทธิพลในสังคมโครงการพัฒนาและลงทุนใดๆจะมีความคืบหน้าต่อเมื่อมีการติดสินบน และที่น่าแปลกใจว่านั้นคือ จากผลสำรวจพบว่า ประชาชนมองว่าการติดสินบนเป็นเรื่องที่รับได้ อินเวสไวน์ระบุนอกเหนือจากประเด็นการเมือง จุดอ่อนของไทยที่ปรากฏอย่างเด่นชัด ก็คือ ปัญหาด้านแรงงานที่มีทักษะต่ำรายงานอ้างคำวิพากษ์วิจารณ์ของบรรดานักลงทุนต่างชาติ ทั้งภาคอุตสาหกรรม การเงินและภาคบริการ ที่ต่างระบุว่า แรงงานไทยมีทักษะความสามารถต่ำ ไล่ตั้งแต่การขาดความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงไร้ความสามารถด้านการจัดการ อันเป็นผลจากระบบการศึกษาของไทยที่ไม่ได้มาตรฐาน และรัฐบาลไม่ได้ส่งเสริมให้มีการอบรมเพิ่มขีดศักยภาพแรงงานไทยอย่างเพียงพอเช่นเดียวกับ ทักษะภาษาอังกฤษ ของแรงงานไทย ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวของไทย ทว่ารัฐบาลยังคงนิ่งเฉยในการแก้ปัญหาดังกล่าวขณะเดียวกัน ความสามารถการแข่งขันและผลิตภาพของอุตสาหกรรมไทย ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็นไทยควรยกระดับสถานะจากการเป็นแหล่งผลิตและประกอบสินค้าคุณภาพต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับอัตราแรงงานขั้นต่ำขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการส่งเสริมศักยภาพแรงงานให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อรับมือกับสภาวะการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้นจากการเปิดประชาคมอา เซียน รายงานระบุไม่เพียงเท่านี้ ระบบจัดการภาคการเงินของรัฐบาลไทยเข้าข่ายไร้คุณภาพ พิสูจน์ได้จากความขัดแย้งระหว่างกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ในการออกนโยบายทางการเงินและการคลัง สะท้อนถึงความไร้เสถียรภาพทางการเงินของชาติ ที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติโดยตรงนอกจากนี้ อินเวสไวน์ ยังมองอีกว่า ไทยพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวมากเกินไป เห็นได้จากการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวอย่างไร้ ข้อจำกัดความเคลื่อนไหวนี้ ส่งผลให้คุณภาพของการท่องเที่ยวต่ำลง นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากถูกเอารัดเอาเปรียบจากการโก่งค่าบริการ ตลอดจนเป็นเหยื่อของความรุนแรง ซึ่งจะสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับประเทศในระยะยาวและจุดอ่อนประการสุดท้ายของไทย คือ การที่คนไทยส่วนใหญ่ มัก เมินเฉยต่อโลกภายนอกรายงานดังกล่าว ระบุว่า อาจเป็นเพราะไทย ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติ จึงส่งผลให้ไทย ไม่เคยเรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่อรับมือกับวัฒนธรรมต่างชาติ ส่งผลให้คนไทยส่วนใหญ่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมอื่นๆ ซึ่งกลายเป็นผลเสียต่อการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียนในที่สุด(ISNHOTNEWS 14-7-2556)(14 ก.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงานกล่าวถึงนโยบายการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานประกอบ การว่า ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) ดำเนินการขยายผลโครงการโรงงานสีขาวไปยังสถานประกอบการต่างๆทั่วประเทศ โดยกสร.จะต้องบูรณาการการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งขอความร่วมมือสถานประกอบการให้ช่วยรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของยา เสพติดภายในสถานประกอบการ ขณะเดียวกันกสร.ได้จัดโครงการถนนสีขาวปลอดยาเสพติดขึ้นโดยเริ่มนำร่องที่ถนน ปู่เจ้าสมิงพราย อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งตนจะไปเป็นประธานในพิธีเปิดตัวโครงการในวันที่ 25 ก.ค.นี้ผมจะเดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการอย่างเต็มที่ เมื่อก่อนผู้ค้าผู้เสพทำยังไงก็ได้ แต่จากนี้ไปต้องทำในรั้วรอบขอบชิดเท่านั้น เมื่อต้องทำกันในรั้วรอบขอบชิดก็ดูแลป้องกันได้ง่าย จะให้กสร.ขอความร่วมมือสถานประกอบการรณรงค์ป้องกันและตรวจสอบว่ามีลูกจ้าง ติดยาเสพติดหรือไม่ โดยผู้ใช้แรงงานที่ติดยาเสพติดให้ถือเป็นผู้ป่วยต้องบำบัดรักษา ถ้ายังเกี่ยวข้องอีกก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย รมว.แรงงาน กล่าวด้านนายอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกสร. กล่าวว่า กสร.ได้ดำเนินการตามนโยบายของรมว.แรงงาน โดยจะขยายผลโครงการโรงงานสีขาวไปยังสถานประกอบการและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งกสร.จะบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานประกอบการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 20 คนขึ้นไปผ่านเกณฑ์มาตรฐานเป็นโรงงานสีขาวแล้วประมาณ 7.5 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ซึ่งสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์ต้องมีนโยบาย ป้ายข้อความรณรงค์และกิจกรรมแก้ปัญหายาเสพติดที่ชัดเจนปีนี้กสร.ได้ขยายผลโครงการโรงงานสีขาวไปสู่สถานประกอบการขนาดเล็กที่มี ลูกจ้างต่ำกว่า 20 คน นอกจากนี้ยังได้จัดทำโครงการถนนสีขาวปลอดยาเสพติดขึ้น โดยเริ่มที่จ.สมุทรปราการ หลังจากนั้นจะขยายผลไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ อธิบดีกสร. กล่าว(เดลินิวส์ 14-7-2556)(15 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพนักงานจ้างเก็บขยะ และกวาดถนนของเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวนประมาณ 50 คน ได้นัดรวมตัวกันที่บริเวณใต้สะพานแม็คโคร และเดินถือแผ่นป้ายไวนิลคัดค้านการเลิกจ้างมุ่งหน้าเข้ามายังที่ทำการสำนัก งานเทศบาลเมืองคอหงส์ เพื่อต้องการคำชี้แจง และยื่นหนังสือขอความเห็นใจจากคณะผู้บริหาร หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า ทางเทศบาลจะทำการว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามารับเหมาการจัดเก็บขยะในเร็วๆ นี้ ซึ่งหากเป็นความจริงก็จะส่งผลกระทบต่อพนักงานจ้างของเทศบาลในส่วนที่เกี่ยว ข้องทั้งระบบโดย นายพยงค์ อรัญดร นายกเทศมนตรีเมืองคอหงส์ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ชาณิตย์ ชุ่มชื่น รอง นายกฯ นายทิพย์ สายแก้ว ปลัดเทศบาล และ นางมณฑา ไชยงาม หัวหน้ากองสาธารณสุข ได้ลงมาพบกับกลุ่มผู้ประท้วงท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาเป็นระยะๆ พร้อมเผยว่า ทางเทศบาลเมืองคอหงส์ได้มีการวางแผนที่จะว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาจัดเก็บ ขยะจริง แต่ขั้นตอนดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เท่านั้น และไม่ได้มีการตกลงเซ็นสัญญากับทางบริษัทตามที่ตกเป็นข่าวลือแต่อย่างใดทั้งนี้ เนื่องมาจากปัจจุบันเมืองคอหงส์ได้มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงต้องการให้การจัดเก็บขยะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นการแก้ไขปัญหางบการเงินของทางเทศบาลที่ตอนนี้สูงเกิน 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผิดกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อีกทั้งเพื่อแก้ปัญหาการข้อร้องเรียนจากประชาชนที่ระบุว่า ทางเทศบาลไม่ดูแลปัญหาขยะ ปล่อยให้สกปรก และพนักงานบางส่วนก็อู้งานอีกด้วยขณะที่ทางตัวแทนของกลุ่มพนักงานจ้างเก็บขยะก็ได้ขอให้ทางเทศบาลรับรอง ว่าจะจ้างพวกตนให้ทำงานต่อไป พร้อมประกาศคัดค้านไม่ให้ว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามารับช่วงต่อ ถึงแม้จะมีรายได้ดีกว่าเดิมก็ตาม เนื่องจากสามารถรับได้แค่พนักงานบางส่วนเท่านั้น ส่วนคนที่เหลือก็จะตกงานไม่มีเงินหาเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งจะเกิดปัญหาโละพนักงานทิ้ง แล้วรับเอาแรงงานพม่าเข้ามาทำงานแทน เพราะค่าจ้างถูกกว่ามากส่วนประเด็นปัญหาขยะตกค้างนั้นมาจากการที่พนักงานมีไม่เพียงพอที่จะ แบกรับภาระงานอันหนักอึ้งได้ เพราะเมืองคอหงส์มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคอนโดฯ บ้านจัดสรร บ้านเช่า และหอพัก ที่สร้างขึ้นใหม่จำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาขยะล้นเมืองตามไปด้วย ซึ่งรถขยะทั้งขนาดเล็ก และใหญ่ จำนวน 6 คัน กับพลขับ และคนเก็บขยะ 43 คน ไม่เพียงพอ บางครั้งจำเป็นต้องบรรทุกขยะเกินน้ำหนักที่รถรับได้ จึงอยากให้ทางเทศบาลรับฟัง และแก้ปัญหาให้ตรงจุดด้วยทั้งนี้ ทางเทศบาลเองคอหงส์ได้รับเรื่องดังกล่าวเอาไว้ และจะมีการเรียกประชุมคณะผู้บริหารอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนัดตัวแทนกลุ่มพนักงานจ้างเก็บขยะมาร่วมรับฟัง และทำข้อตกลงร่วมกันในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้านี้(ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 15-7-2556) | กทม.โอดลด BTS ส่วนต่อขยายค่าใช้จ่ายเพิ่ม เล็งปรับยอดสำรองจ่ายค่าจ้างเหลือ 14 เดือน 9 ก.ค.56 - นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร | คุณภาพชีวิต,แรงงาน,สังคม | สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ | https://prachatai.com/journal/2013/07/47700 |
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ชี้ ปลดล็อกรถคันแรก ซ้ำเติมภาวะตลาดรถยนต์ซบเซา | แม้จะตัดสินใจซื้อรถจากโครงการรถยนต์คันแรก แต่ปัจจุบัน นายไพฑูรย์ เปาเล้ง ยังเลือกเดินทางไปทำงานด้วยรถโดยสารประจำทาง เพราะมองว่าการใช้รถยนต์แต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า นอกจากนี้ในแต่ละเดือน ยังต้องขอเงินจากทางบ้านมาจ่ายค่าผ่อนรถ แต่ยังไม่คิดขายรถในตอนนี้ แม้มีเงื่อนไขลดระยะเวลาการขายต่อได้เร็วขึ้นนอกจากเสียงสะท้อนของผู้ใช้รถที่กังวลถึงความคุ้มค่า นายธนบูลย์ จิระไตรลักษณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วแสดงทัศนะว่า แนวคิดการยกเลิกเงื่อนไขการขายรถยนต์ในโครงการรถยนตร์คันแรก จากห้ามขายภายใน 5 ปี เหลือ 3 ปี อาจเป็นการซ้ำเติมตลาดรถยนต์มือสองด้าน นายองอาจ พงศ์กิจวรสิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า หากเงื่อนไขลดจำนวนปีการครอบครองรถยนต์คันแรกสามารถกระตุ้นให้ตลาดรถฟื้นตัวได้จริง จะส่งผลดีต่อกระบวนการผลิตต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ แต่ทั้งหมดยังเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้นนายองอาจกล่าวอีกว่า ปีนี้ตลาดการซื้อขายรถยนต์มือหนึ่งมียอดจำหน่ายเพียง 3-4 แสนคัน จากที่ตั้งเป้าไว้ 8 แสนคัน ส่วนตลาดรถยนตร์มือสองยอดขายในแต่ละเดือนลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ ค่ายรถยนต์ทุกบริษัทลดกำลังผลิตลง ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่ออาชีพและรายได้ของสายพานการผลิตรถยนต์ทั้งหมดอย่างไรก็ดี ทั้งนายองอาจ และนายธนบูลย์ เห็นสอดคล้องกันว่า จากตัวเลขนี้ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ามีจำนวนรถยนต์ที่ค้างสต็อกทั้งมือหนึ่งและมือสอง จึงเห็นควรชะลอการกระตุ้นตลาดรถยนต์ด้วยเงื่อนไขในข้างต้นและรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัว เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการปลุกกำลังซื้อให้เป็นไปตามกลไกตลาดอย่างแท้จริง | ผู้ใช้รถจากโครงการรถยนต์คันแรกบางส่วน ไม่เชื่อว่าการปลดล็อกเงื่อนไขให้สามารถขายรถยนต์จาก 5 ปี เหลือ 3 ปี นั้นเป็นการแก้ปัญหาโดยตรง สอดคล้องกับผู้ประกอบการรถยนต์ทั้งมือหนึ่งและมือสองที่คาดการณ์ว่า แนวคิดนี้อาจไม่ใช่วิธีการกระตุ้นให้ตลาดรถฟื้นตัว ติดตามจากรายงาน | เศรษฐกิจ | thaipbs,Thaipbsnews,ค่ายรถยนต์,ตลาดรถยนต์,ธนบูลย์ จิระไตรลักษณ์,นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว,ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์,ปลดล็อกรถคันแรก,ปลดล็อกรถยนต์คันแรก,รถยนต์มือสอง,สถานการณ์ตลาดรถยนต์ของไทย,สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย,สอท.,องอาจ พงศ์กิจวรสิน,โครงการรถยนต์คันแรก,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/4658 |
ม.ชินวัตร-CNR จับมือทางวิชาการ ต่อยอดงานวิจัยสู่ธุรกิจ | เมื่อวันที่ 12 ก.พ.59 มีรายงานว่า มหาวิทยาลัยชินวัตร และ สภาวิจัยแห่งอิตาลี (CNR National Research Council of Italy) จัดพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการและงานวิจัย ณ มหาวิทยาลัยชินวัตร วิทยาคารกรุงเทพ โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ H.E. Francesco Saverio Nisio เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยการลงนามครั้งนี้ มีขอบเขตครอบคลุมในด้านต่างๆ ทั้งด้านการเกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี ตลอดจนมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงกระบวนการของการพัฒนางานธุรกิจที่จะทำให้เกิดรูปธรรมในเชิงพาณิชย์ต่อยอดได้ต่อไป,รศ.ดร.บุญสม เลิศหิรัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร เปิดเผยว่า CNR มีดำริที่จะขยายความร่วมมือของงานด้านวิจัยมาทางภาคพื้นเอเชีย จึงได้ตระหนักถึงศักยภาพและโอกาสในการทำการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัย ทั้งยังเป็นการดำเนินการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและอิตาลีในแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น,ด้าน Dr.Paolo Annunziato ผู้อำนวยการ CNR เปิดเผยด้วยว่า รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยชินวัตรในครั้งนี้ เนื่องจาก CNR สนใจที่จะเพิ่มกิจกรรมการศึกษาและวิจัยในภูมิภาคเอเชียให้เพิ่มมากขึ้น เพราะปัจจุบันกิจกรรมของ CNR ในยุโรปและอเมริกามีสัดส่วนที่สูงกว่ามาก โดยเล็งเห็นว่าเอเชีย รวมถึงประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญและมีความน่าสนใจในหลายด้าน ดังนั้น การวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการพัฒนาต่อยอดที่เป็นประโยชน์ในภาพรวมของประเทศไทยและอิตาลีเองด้วย. | มหาวิทยาลัยชินวัตร จับมือ สภาวิจัยแห่งชาติ อิตาลี ประกาศร่วมมือทางวิชาการ พร้อม ลงนามเตรียมเดินหน้างานวิจัยและพัฒนา ต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ | null | มหาวิทยาลัยชินวัตร,สภาวิจัยแห่งอิตาลี,CNR,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,พัฒนางานธุรกิจ,บุญสม เลิศหิรัญวงศ์,อธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร,ไทย-อิตาลี,Dr.Paolo Annunziato,ผู้อำนวยการ CNR,วิจัยในภูมิภาคเอเชีย,ข่าว,ข่าวการศึกษา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/576507 |
รู้แล้ว เว็บแพร่คลิปคู่รักมีเซ็กซ์เอาต์ดอร์ ในมหาลัย เชื่อตามตัวไม่ยาก | กรณีโลกโซเชียลมีการแชร์คลิปชายหญิงแอบไปมีเพศสัมพันธ์กันในรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดัง ย่านบางเขน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิด โดยไม่กลัวว่าใครจะมาเห็น เบื้องต้นฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้ว พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับต้นปาล์มขนาดใหญ่ของสนามเทนนิสในมหาวิทยาลัย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (สั่งล่าตัว ชายหญิงในคลิปฉาว เปลือยกายเริงรัก เอาต์ดอร์ใน ม.ดัง บางเขน)ความคืบหน้า ที่ สน.บางเขน เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 ม.ค.63 พ.ต.ท.อนันต์ วรสาตร์ รอง ผกก.สส. สน.บางเขน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบทะเบียนรถจากภาพกล้องวงจรปิดภายในมหาวิทยาลัย และใกล้เคียงบนถนนงามวงศ์วาน และวันเวลาที่เกิดเหตุ น่าจะติดตามตัวได้ไม่ยาก เพราะมหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ปิด คาดว่า 1-2 วัน จะมีความคืบหน้าขณะนี้ติดปัญหานิดหน่อยที่ว่า ในภาพคลิปฉาวเห็นหน้าคู่ชายหญิงไม่ชัดเจน และการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ นอกจากนี้คาดว่าทางมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่เกิดเหตุในฐานะผู้เสียหาย คงจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความในเร็วๆนี้พ.ต.ท.อนันต์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบุคคลที่นำคลิปมาเผยแพร่ เพื่อจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย เบื้องต้นทราบว่า เว็บไซต์ที่เผยแพร่เป็นเว็บไซต์ของต่างประเทศ ไม่สามารถดำการเนินการสั่งปิดได้ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว ดูจุดเกิดเหตุหน้าสำนักการกีฬาที่ต้นปาล์มต้นแรกติดกับสนามเทนนิส พบกับพนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งเชื่อว่าคู่รักชายหญิงไม่น่าเป็นนิสิตของสถาบัน น่าจะเป็นคนนอกมากกว่า และอยากให้ตำรวจจับกุมให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นการกระทำอื้อฉาว บุกรุกสถาบัน และยังเป็นการลบหลู่สถานที่ หมิ่นเกียรติยศของสถาบันด้วยขระที่ รปภ.ผลัดดึกอาคารนี้มีคนเดียว อาจดูแลไม่ทั่วถึง และกล้องวงจรปิดมีเพียงด้านในอาคาร ด้านนอกไม่มี และไม่รู้ว่ากล้องข้างในบันทึกภาพไว้ได้บ้างหรือไม่. | ตำรวจเร่งตามตัว หนุ่มสาวมีเซ็กซ์เอาต์ดอร์ในมหาลัยชื่อดัง ย่านบางเขน เผยรู้ต้นทางเว็บไซต์ที่เผยแพร่แล้ว อยู่ต่างประเทศ สั่งปิดไม่ได้ | ข่าว,สังคม | คลิปฉาว,ร่วมรัก,มหาวิทยาลัย,บางเขน,เปลือยกาย,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1751081 |
ตามล่า หนุ่มใหญ่ชัยนาท แทงสาวเจ้าของร้านคาราโอเกะดับ คาดปมหึงหวง | เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 11 ม.ค.63 พ.ต.ต. สำราญ ม่วงศรีเมืองดี สว. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยนาท รับแจ้งเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บถูกแทงด้วยอาวุธมีด ที่ร้านน้องมิ้นคาราโอเกะ ริมถนนชัยนาท-วัดสิงห์ทั้งนี้ พบนางสาวผกามาศ หรือผึ้ง แสงขำ อายุ 29 ปี เจ้าของร้านถูกแทงที่ช่องท้องจนไส้ทะลัก เสียเลือดจำนวนมาก นอนฟุบอยู่กับพื้นข้างโต๊ะแคชเชียร์ บนโต๊ะพบปลอกมีดเหน็บ ยาวประมาณ 10 นิ้ว ตกอยู่ 1 ปลอก พนักงานในร้านจึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทรอย่างเร่งด่วน ซึ่งล่าสุดนางสาวผกามาศได้เสียชีวิตแล้วพยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายบุญเลิศ กลั่นคำ อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งเป็นลูกค้าที่เข้ามาติดพันนางสาวผกามาศ และได้เกิดการทะเลาะมีปากเสียงกัน จากความหึงหวงลูกค้ารายอื่นๆ ที่มานั่งกินในร้านโดยได้พากันเข้าไปคุยเคลียร์ปัญหาที่บริเวณด้านในของร้าน ผ่านไปไม่นานก็เห็นนายบุญเลิศ รีบเดินออกจากร้านโดยถือมีดเหน็บเปื้อนเลือดออกจากร้านแล้วขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีเทา หลบหนีไปทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบที่อยู่ของนายบุญเลิศแล้วว่าอยู่หมู่บ้านข้างๆ กัน จึงออกไล่ล่าติดตามตัว พร้อมสกัดเส้นทางหลบหนีแล้ว | ตำรวจตามล่า หนุ่มใหญ่ชัยนาท หลังก่อเหตุแทงสาวเจ้าของร้านคาราโอเกะเสียชีวิต คาดปมหึงหวงเพราะลูกค้าชายที่เข้ามานั่งกินในร้าน | ข่าว,สังคม | ฆ่าสาวคาราโอเกะ,ฆ่าเจ้าของร้านคาราโอเกะ,หึงหวง,ชัยนาท,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1744998 |
โจรบุกเดี่ยวจี้ร้านทอง ห้างตั้งฮั่วเส็ง โกยไป 179 บาท 4.6 ล้าน | เมื่อเวลาประมาณ 20.20 น. วันที่ 5 ก.ย.62 ร.ต.อ.สุดสาคร สโมสร รอง สว.(สอบสวน) สน.บางพลัด รับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า สาขาตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมตำรวจ สน.บางพลัด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน,ที่เกิดเหตุอยู่บนชั้น 1 ของห้างดังกล่าว พบพนักงานหญิงจำนวน 2 คนอยู่ในอาการหวาดกลัว จากการสอบสวนพนักงาน ให้การว่าคนร้ายเป็นชายไทย ผิวดำ อายุประมาณ 40 ปี สูงประมาณ 160 เซนติเมตร สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ และสวมหมวกแก๊ปสีขาว โดยคนร้ายทำทีเข้ามาเลือกซื้อทอง แล้วยื่นกระดาษที่มีข้อความให้อ่าน จังหวะที่เธอก้มอ่าน คนร้ายก็ชักปืนข่มขู่ แล้วพูดอย่างใจเย็นบอกว่า ให้อยู่ในความสงบ บังคับให้เอาทองใส่ถุงผ้าที่คนร้ายเตรียมมา เน้นทองเส้นใหญ่ ระหว่างนั้นเธอพยายามหยิบทองช้าๆเพื่อให้คนมอง แต่ก็ไม่มีใครสังเหตุเห็นคงามผิดปกติ โดยคนร้ายได้ทองรูปพรรณไปน้ำหนักรวม 179 บาท มูลค่าประมาณ 4 ล้าน 6 แสนกว่าๆพร้อมเงินสดอีก 4 หมื่นบาท ก่อนหลบหนีไป ยังไม่ทราบเส้นทาง,เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า กล้องวงจรปิดของร้านสามารถจับภาพพนักงานหญิง 2 คนกำลังยืนให้บริการลูกค้าชายคนหนึ่งซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นุ่งกางเกงยีน และสวมหมวกแก๊ปสีขาว อยู่ที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ จู่ๆชายคนดังกล่าวก็ชักปืนออกมาจากกางเกง แล้วจี้ข่มขู่พนักงานให้หยิบทองที่แขวนอยู่ในตู้โชว์ใส่ถุงผ้าที่เตรียมมา ก่อนจะยืนรออย่างใจเย็น เวลาผ่านไปนานกว่า 2 นาที ก่อนที่คนร้ายจะเก็บปืน แล้วสะพายถุงผ้าที่ภายในมีทองอยู่เต็ม แล้วเดินออกจากร้าน,หลังเกิดเหตุตำรวจได้วิทยุสกัดจับคนร้าย ซึ่งพบเบาะแสว่าขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกสีดำแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีไปทางตลิ่งชัน พร้อมแกะรอยกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่หลบหนี เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี,ด้านนางมะลิ มั่นจิตร อายุ 25 ปีพนักงานบอกว่า เธอสามารถจดจำใบหน้าของคนร้ายได้ และเคยเห็นเขา ทำทีเป็นลูกค้า เข้ามาดูลาดเลาเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา. | โจรบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า สาขาตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี ได้ทองรูปพรรณ 179 บาทมูลค่า 4 ล้าน 6 แสน พร้อมเงินสด 4 หมื่นบาท โดยทำทีเหมือนเข้ามาซื้อก่อนยื่นกระดาษให้อ่านแล้วลงมือ | ข่าว,อาชญากรรม | จี้ร้านทอง,จี้ทอง,โจรบุกเดี่ยว,ร้านทองออโรร่า,ห้างตั้งฮั่วเส็ง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1654391 |
ห้องร้องทุกข์ 04/05/60 | ยาบ้ายังไม่หมด, ชาวบ้านแจ้งมา ที่ ,อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด, ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ติดกันงอมแงม คนขาย ขายกันเป็นล่ำเป็นสัน ,จับกันไม่หมดสักที, ฝาก สภ.เจ้าของท้องที่ เข้ามาช่วยกวาดล้างให้สิ้นซากด้วย,โต๊ะพนันบอล, เปิดอย่างโจ่งแจ้ง ใน ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ,พลเมืองดีแจ้งมา, พบคนพลุกพล่าน ผลัดกันเข้าๆ ออกๆ เดินถือโพยบอลแทงกันเพลินทั้งวันทั้งคืน ,จริงเท็จอย่างไร?, ฝาก ,สภ. เจ้าของท้องที่, ลงพื้นที่ตรวจสอบ,ดูความทุกข์ใจของ ,ชาวบ้าน ต.ยายแพง, อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เจอ ,ไฟฟ้าตกมานานหลายปี, บางบ้านแค่เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมๆกันยังไม่ได้ ,ร้องเรียนหน่วยงานไม่มีการแก้ไข, ทุกวันนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าพังหมดแล้ว ,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.สมุทรสงคราม, กระตุ้นหน่อย,มาที่,ถนนเลียบหาดปากน้ำปราณ, ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ,นักท่องเที่ยวแจ้งมา,จุดดังกล่าว ,บรรดาร้านส้มตำ จิ้มจุ่ม, ตั้งร้านเกะกะขวางทาง ,ทำการจราจรติดขัด, อีกที่ติดกัน ,บริเวณริมเขื่อน, มีกลุ่มคน ,ตั้งวงดื่มเหล้า, ส่งเสียงดัง วอน ,อบต.เจ้าของพื้นที่, จัดระเบียบด่วน,นายธีร์ พัฒนากูล, เลขานุการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ชี้แจงกรณี ,ชาวบ้านหมู่ 13 ต.บ้านแก้ง, อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ร้องเรียน ,น้ำประปาหมู่บ้านขุ่นมีกลิ่นเหม็น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตรวจสอบแล้ว, ปรากฏว่าระบบประปาหมู่บ้านดังกล่าว ได้รับการแก้ไขและสามารถใช้อุปโภคบริโภคได้ปกติแล้ว,[email protected], | ยาบ้ายังไม่หมด!,อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด,จับกันไม่หมดสักที! | null | ห้องร้องทุกข์,ยาบ้า,โต๊ะพนันบอล,ไฟฟ้าตก,น้ำประปาหมู่บ้านขุ่น | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/930127 |
ความในใจ ผบ.ตร. | ควันหลงคดีระเบิดป่วนกรุงหลายจุดที่เกิดขึ้น,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นหัวหอกนำทีมสืบสวนสอบสวนแกะรอยด้วยการเดินทางล่องใต้สู่ปลายด้ามขวานประเทศเป็นว่าเล่นเพื่อเค้นปากคำผู้ต้องสงสัยนับตั้งแต่เกิดเหตุวันแรกๆ,ไม่แปลกที่เจ้าตัว นอตหลุด ตัดพ้อต่อกลุ่มผู้สื่อข่าวกลางงานแถลงความคืบหน้าของคดีทั้งที่ปกติจะเก็บปากสงบคำไม่พูดอะไรเกินขอบเขตข้อมูลรายละเอียดบางส่วนในสำนวน,ผู้นำสูงสุดของหน่วยเปิดประเด็นว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันทุกวันไม่มีวันหยุด นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ทางผู้สื่อข่าวก็ติดตามข่าวกับทางเราทุกวัน พยายามไซโคว่า ผบ.ตร.และทีมงานไม่ให้ข่าวอะไรเลย บางสื่อบอกว่า ไม่กล้าเจอนักข่าว บางสื่อก็ว่าเวลาตอบคำถามก็ตอบมุบๆมิบๆ,ผมรู้หมด แต่ผมไม่ตอบเอง เพราะยังไม่ถึงเวลา ผมรู้ว่า สื่อบางคนสนิทกับทีมงานของผม แต่ก็ไม่เคยตำหนิใคร รู้ทั้งรู้ว่ามีการแอบส่งข่าวกัน แต่ผลเสียหายที่ตามมาก็คือ ทำให้คนร้ายที่เหลือขยับตัว,แม่ทัพสีกากีย้อนถามว่า ใครจะรับผิดชอบ,ขอร้องให้เข้าใจการทำงานของตำรวจ คดีอย่างนี้ไม่ได้ง่าย อยากให้ข่าวใจจะขาด แต่ถ้าถามกันทุกวัน ให้ข่าวกันทุกวัน คนร้ายไม่ได้โง่ เพราะติดตามข่าวสารจากสื่อทั้งนั้น,ดังนั้น ต้องเห็นใจคนทำงาน ต้องให้เวลา ที่ผ่านมาไม่เคยมีคดีเหตุระเบิดคดีไหนที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ภายใน 10 ชั่วโมง,พล.ต.อ.จักรทิพย์ว่า แผนประทุษกรรมต่างๆของกลุ่มคนร้าย บอกได้เลยไม่เหมือนกับโจรไทย ถ้าการสืบสวนสอบสวนเป็นแบบงานง่าย คิดว่าถ้าจับผู้ต้องหาได้สักคน คดีที่เหลือต้องออกหมด,ทว่าในความเป็นจริงคดีทางภาคใต้ไม่ใช่อย่างนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์อธิบายเหตุผล เพราะแต่ละคนรับงานมารู้แค่หน้างานของตัวเอง ในส่วนหน้างานของคนอื่นไม่มีใครรู้,ที่พูดมาไม่ได้น้อยใจ แค่รำพึงรำพันให้พวกท่านฟังเจ้าสำนักปทุมวันย้ำ,ที่ระบายความอัดอั้นทั้งหมด เขายืนยันทิ้งท้าย,ไม่ได้ใช้อารมณ์ เพราะไม่พูดมา 7 วัน ทำงานอย่างเดียว.,สหบาท | พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นหัวหอกนำทีมสืบสวนสอบสวนแกะรอยด้วยการเดินทางล่องใต้สู่ปลายด้ามขวานประเทศเป็นว่าเล่นเพื่อเค้นปากคำผู้ต้องสงสัยนับตั้งแต่เกิดเหตุวันแรกๆ | null | ผบ.ตร.,จักรทิพย์ ชัยจินดา,ระเบิดป่วนกรุง,วางระเบิด,ก่อความไม่สงบ,ส่องตำรวจ,สหบาท | https://www.thairath.co.th/news/local/1635815 |
หุ่นยนต์ ใช้เสียงนำทาง และทำแผนที่สิ่งแวดล้อม | Credit : Eliakim et al.,นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟในประเทศอิสราเอล ได้รายงานลงในวารสารวิชาการด้านชีวสารสนเทศศาสตร์ เผยการคิดค้นและพัฒนาสร้างหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่าโรแบท (Robat) ชื่อก็บอกอย่างกลายๆ แล้วว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากสัตว์ปีกอย่างค้างคาว โดยเฉพาะคุณลักษณะที่โดดเด่นของมันคือการใช้เอคโคโลเกชัน (echolocation) เป็นการหาตำแหน่งที่อยู่ของวัตถุโดยคำนวณจากเวลาและทิศทางของการสะท้อนกลับ,ส่วนหุ่นยนต์โรแบทถูกสร้างให้มีอิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ โดยใช้ความสามารถที่ลอกเลียนมาจากค้างคาวคือการใช้เอคโคโลเกชัน เมื่อหุ่นยนต์เคลื่อนที่ผ่านสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ก็จะใช้เสียงเพื่อนำทางและดึงข้อมูลจากเสียงที่ก้องสะท้อนกลับจากวัตถุในสภาพแวดล้อมนั้นๆ ซึ่งในตัวของหุ่นยนต์โรแบทมีการติดตั้งลำโพงอัลตราโซนิค (ultrasonic) ที่เลียนแบบปาก และสร้างความถี่เสียงร้องจ๊อกแจ๊กในแบบเดียวกับที่ค้างคาวใช้ โดยใช้เครือข่ายประสาทเทียมเป็นตัวสร้างแผนที่ของพื้นที่ดังกล่าวออกมา,ทั้งนี้ ทีมนักพัฒนาหุ่นยนต์โรแบทเผยว่า การสร้างแผนที่สภาพแวดล้อมที่ได้มานั้นมีความแม่นยำถูกต้อง ซึ่งแสดงถึงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมในการใช้เสียงสำหรับการทำงานของหุ่นยนต์ในอนาคต. | นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟในประเทศอิสราเอล ได้รายงานลงในวารสารวิชาการด้านชีวสารสนเทศศาสตร์ เผยการคิดค้นและพัฒนาสร้างหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่าโรแบท (Robat) | ข่าว,ทั่วไทย | นักวิจัย,หุ่นยนต์,อิสราเอล,โรแบท,ชื่นชีวิต,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/1384377 |
ห้อยพระอะไร? อดีต ส.ส.ตาก ควบฟอร์จูนเนอร์ตีลังกา หวิดดับยกคัน | ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2560 ช่วงเย็นที่ผ่านมา เกิดเหตุรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ เลขทะเบียน กฐ 3406 กรุงเทพมหานคร ของนายธนิตพล ไชยนันทน์ อดีต ส.ส.จังหวัดตาก เขต 3 ที่เดินทางพร้อมนายดิฐชัย ฉันติกุล อดีตรองนายก อบจ.ตาก และนายถิระยุทธ ฉันติกุล รองนายกเทศมนตรีนครแม่สอด ได้ประสบอุบัติเหตุรถตีลังกาพลิกคว่ำหงายท้อง ระหว่างจะเดินทางออกจากพื้นที่ชนบทบ้านดู-บลอ-คี ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ที่ถนนเป็นดินโคลน จนไม่สามารถเดินทางออกมาได้,ภายหลังคณะของอดีต ส.ส.ตาก ได้เดินทางเข้าไปเลี้ยงอาหารและแจกของให้เด็กนักเรียนชาวดอย เนื่องจากถนนเสียหายมากจากการที่ฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยคนขับรถคันดังกล่าวได้พยายามออกแรงในช่วงที่ถนนบริเวณจุดเกิดเหตุทรุดและมีดินโคลนมาก เมื่อเร่งสปีดเครื่องด้วยความเร็ว ทำให้รถหมุนและเสียหลักพลิกคว่ำ ล้อรถชี้ขึ้นฟ้า ซึ่งจุดดังกล่าวไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ รถยนต์ที่ติดตามไปด้วยอีก 2 คัน ได้เข้าทำการช่วยเหลือ แต่ละคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย รถพังยับ ในขณะที่ครูดอย กศน. ผู้ใหญ่บ้าน ดู-บลอ-คี และพี่น้องชาวบ้านจำนวนมากมาช่วยกู้รถ และให้การดูแลคณะเดินทางเป็นอย่างดี รวมทั้งนำพาคณะเดินทางกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยช่วงเช้าวันนี้. | อดีต ส.ส.ตาก เดินทางมอบของเด็กดอย พื้นที่ชนบท ต.แม่อุสุ ขากลับเจอทางลื่น เร่งเครื่องช่วงที่ถนนมีดินโคลนมาก รถหมุน เสียหลักพลิกคว่ำ ล้อรถชี้ขึ้นฟ้า รถพังยับ คณะที่เดินทางมาด้วย บาดเจ็บเล็กน้อย | ข่าว,ทั่วไทย | อุบัติเหตุ,รถพลิกคว่ำ,อดีตส.ส.ตาก,หวิดดับ,ถนนลื่น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1099695 |
มิค บรมวุฒิ เจอป้าอ้างเป็น ขรก.กระทรวงใหญ่สั่งอาหารร่วมแสน ไร้เงาคนรับ | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ สน.พหลโยธิน มิค บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ ดารานักแสดง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธีฬะเกียรติ ฑีฆะบุตร รอง สว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน เพื่อให้ติดตามตัว ป้าปุ๊ก ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงแห่งหนึ่ง ได้สั่งปูไข่เยิ้มและข้าวผัดจากร้าน ปูไข่เยิ้ม by Mick ที่ตนเป็นเจ้าของร้าน รวมกว่า 200 กล่อง มูลค่ากว่า 1 แสนบาท แต่เมื่อนำไปส่งกลับไม่สามารถติดต่อป้าปุ๊กได้ ทั้งยังพบว่าเจ้าตัวเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแห่งนี้,นักแสดงดังเจ้าของร้านปูไข่ดอง กล่าวว่า วันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้จัดการร้านได้รับโทรศัพท์จากป้าปุ๊ก ระบุว่าเป็นข้าราชการกระทรวงแรงงาน สั่งออเดอร์ปูดอง 100 ชุด และข้าวผัดอีกร่วมร้อยชุด มูลค่าไม่รวมค่าจัดส่งกว่า 1 แสนบาท ให้ไปส่งที่กระทรวงแรงงานตอนเช้าวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุชื่อผู้รับเป็นเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวง แต่ป้าอ้างว่ายังจ่ายเงินไม่ได้เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ ราชการเบิกจ่ายเงินไม่ได้ ซึ่งป้าคุยกับผู้จัดการ ราวกับว่าได้พูดคุยหรือรู้จักตนมาก่อนแล้ว ทำให้ดูน่าเชื่อถือ ประกอบกับตนเคยร่วมงานกับราชการบ่อยๆ จึงไม่ได้เอะใจ เพราะปกติแล้วเวลาสั่งอาหารกับร้านจะต้องจ่ายเงินมัดจำก่อน,นายบรมวุฒิ กล่าวต่อว่า เมื่อถึงกำหนดส่งสินค้า ผู้จัดการก็ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังชื่อผู้รับที่ไม่ใช่ป้าปุ๊ก ปลายสายก็ระบุว่าไม่ได้สั่ง รวมถึงกระทรวงไม่ได้จัดเลี้ยง จึงขอตรวจสอบชื่อสกุลจริงป้าปุ๊ก และพบว่าเคยเป็นข้าราชการกระทรวงจริง แต่ได้ลาออกไปแล้ว แต่เมื่อสอบถามกับป้าปุ๊กอีกครั้ง ก็ยังอ้างว่าได้จ่ายเงินไปแล้ว ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงเชื่อว่าถูกหลอกและมาปรึกษาตำรวจวันนี้ พร้อมได้เตือนพนักงานในร้านไปว่าปกติแล้ว หากราชการจะจัดงานต้องวางแผนไว้ก่อนแล้ว จะมาอ้างว่าเบิกจ่ายไม่ได้ ทั้งนี้ ตนก็ไม่ทราบว่าป้าปุ๊กจะก่อเหตุนี้ทำไม เพราะตนก็ไม่มีศัตรู หากจะกลั่นแกล้งด้วยวิธีนี้ก็ไม่ใช่,เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้ลงในบันทึกประจำวัน พร้อมแนะนำให้ผู้เสียหายดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่งด้วยตนเองเนื่องจากไม่เข้าข่ายคดีอาญา. | มิค บรมวุฒิ ร้องตำรวจถูกมนุษย์ป้าอดีต ขรก.กระทรวงใหญ่หลอกสั่งปูไข่ กับข้าวผัดร่วม 1 แสนบาท ก่อนไร้เงาคนรับ ด้าน ตร.รับลงบันทึกประจำวัน แนะให้ไปฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย เพราะไม่ใช่คดีอาญา | ข่าว,อาชญากรรม | บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ,มิค บรมวุฒิ,ปูไข่เยิ้ม by Mick,หลอกสั่งข้าวกล่อง,ปูไข่ดอง,สน.พหลโยธิน,ข้าราชการกระทรวงดัง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1707528 |
เปรียบเทียบนโยบายพรรคการเมือง ว่าด้วย รัฐสวัสดิการและสวัสดิการสังคม | ตั้งแต่เกิดจนตาย ไล่เรียงเริ่มต้นจาก 1) ด้านการศึกษาเงินสนับสนุนการศึกษาในแต่ละช่วงวัยตามเส้นความยากจน 2) สุขภาพ เสนอให้มีกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าระบบเดียว วงเงิน 8000-8500 บาท/คน/ปี 3) ที่อยู่อาศัยและที่ดิน 4) งาน รายได้ ประกันสังคม เสนอให้ค่าแรงขั้นต่ำคิดตามดัชนีผู้บริโภค 500 บาท/วัน พัฒนาระบบประกันสังคมถ้วนหน้า 5) บำนาญแห่งชาติถ้วนหน้า 3000 บาท/เดือน 6) สิทธิทางสังคม พหุวัฒนธรรม ประชากรกลุ่มเฉพาะเข้าถึงรัฐสวัสดิการ และ 7) การปฏิรูประบบภาษีและงบประมาณโดยคำนึงถึงการลดความเหลื่อมล้ำเครือข่าย วีแฟร์ เห็นว่า การที่ รัฐสวัสดิการ เป็นนโยบายสำคัญที่พรรคการเมืองให้ความสนใจใช้ประชันขันแข่งกันในการหาเสียงเลือกตั้ง 2562 ถือเป็นพัฒนาการสำคัญของนโยบายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตสังคม และยกระดับรัฐสวัสดิการเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน และเป็นสัญญาณในเชิงบวกจากปรากฏการณ์ความขัดแย้งทางสังคมการเมืองไทย เนื่องจาก ผู้คนไม่อาจรู้สึกเป็นชุมชนเดียวกันได้อย่างสมัครใจ เนื่องจากเห็นความแตกต่างที่มีเหลือหลาย (Stiglitz 2011) ซึ่ง ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ และความกระจุกตัวด้านความมั่งคั่งและอำนาจ นับเป็นโครงสร้างที่อยู่เบื้องหลังความคับข้องใจ (ผาสุก 2557)เครือข่าย วีแฟร์ เชื่อว่า รัฐสวัสดิการจะเป็นเครื่องมือในการแก้ไขความขัดแย้งและความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ซึ่งทำให้คนไทย 1 % ถือครองความมั่งคั่งหรือมีทรัพย์สินรวม 66.9% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ ในขณะที่ ข้อมูลภาพรวมรายได้กลุ่มประชากร ปี พ.ศ. 2559 ประชากรวัยทำงาน 52 ล้านคน มีรายได้ประชาชาติเฉลี่ย 18660 บาทต่อเดือน กลุ่มรวยที่สุด 10% มีส่วนแบ่งรายได้ 53% (เฉลี่ย 99072 บาทต่อเดือน) และคนรวยที่สุด 1% มีรายได้ 20.23% (เฉลี่ย 377426 บาทต่อเดือน) ส่วนคนที่จนที่สุด (bottom 50%) มีส่วนแบ่ง 13% (เฉลี่ย 4941 บาทต่อเดือน) กล่าวคือ คนที่มีรายได้น้อยทีสุด 50% ต้องทำงานหนึ่งเดือนถึงจะเท่ากับรายได้ของคนที่รวยที่สุด 10% ในหนึ่งวันข้อมูลความเหลื่อมล้ำด้านทรัพย์สิน (ดวงมณี เลาวกุล 2561) มูลค่าทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของทั้งหมดกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มครัวเรือน 10% แรก ที่มีมูลค่าทรัพย์สินมากที่สุด โดยมีมูลค่าทรัพย์สินเฉลี่ยสูงกว่าครัวเรือนกลุ่มที่มีมูลค่าทรัพย์สินต่ำสุด 10% สุดท้ายถึง 375.2 เท่า;ข้อมูลทรัพย์สินที่ดิน ในปี 2555 ค่าสัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาคในการถือครองที่ดิน ซึ่งคำนวณจากขนาดการถือครองที่ดินประเภทโฉนด มีค่าสูงถึง 0.89 ผู้ถือครองที่ดิน 10% แรกที่ถือครองที่ดินมากที่สุด ถือครองที่ดิน 61.48% ของที่ดินที่มีโฉนดทั้งหมด ผู้ถือครองที่ดิน Top 1% ถือครองที่ดินคิดเป็น 1 ใน 4 ของที่ดินที่มีโฉนดทั้งหมด ;ข้อมูลเศรษฐีไทย ซึ่งจัดเก็บโดย Forbes ปี พ.ศ. 2552-2561 มีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 1000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 10 เท่า จากมูลค่า 13900 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2552 เพิ่มเป็น 149150 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2561เครือข่าย WE FAIR มุ่งหวังว่า นโยบายของพรรคการเมืองว่าด้วยรัฐสวัสดิการที่รวบรวมไว้ จะนำไปสู่การปฏิบัติได้เป็นจริง จากการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งความเอาจริงเอาจังของพรรคการเมือง การสร้างนโยบายของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งการติดตาม Monitor จากภาคประชาสังคม | เครือข่าย WE FAIR เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม เปรียบเทียบนโยบายพรรคการเมืองว่าด้วยรัฐสวัสดิการ ทาบจากชุดข้อเสนอ รัฐสวัสดิการถ้วนหน้า จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน 7 ด้าน | การเมือง | เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม,We fair,การเลือกตั้ง,เลือกตั้ง 62 | https://prachatai.com/journal/2019/03/81657 |
รวบทีมงาน อ.โชกุน แก๊งต้มทัวร์ไปญี่ปุ่น 5คนโผล่ด่านระนอง คุมเข้ากทม. | ภาพจาก เจ้าหน้าที่ ตม.ระนอง,ตำรวจท่องเที่ยวคุมตัวแม่ข่ายแชร์ลูกโซ่ที่ลอยแพลูกทัวร์กว่าสองพันคนมาสอบปากคำที่กองปราบ ส่วนตัวการเคยก่อเหตุหลายครั้งแต่ผู้เสียหายยอมความ ผบช.ก.ประกาศออกหมายจับล่าตัว ชี้เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่-ฉ้อโกงประชาชน ต้องโดนยึดทรัพย์ ล่าสุดควบคุมทีมงาน อ.โชกุน เจ้าของบริษัทได้ที่ระนอง ,เมื่อช่วงเที่ยงวัน วันที่ 12 เม.ย. ตำรวจท่องเที่ยว ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชิญตัวหัวหน้ากลุ่มแชร์ลูกโซ่บริษัท เวลท์เอเวอร์ เวิล ฟอร์ไลท์ จำกัด เป็นหญิงสาว 2 คน มาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม หลังหลอกเหยื่อให้ร่วมลงทุนแล้วอ้างว่าจะได้รับแพ็กเกจทัวร์ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในราคาถูก ก่อนลอยแพลูกทัวร์กว่า 2,000 คน ที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อคืนที่ผ่านมา,จากการสอบปากคำเบื้องต้น หญิงสาวทั้ง 2 คนให้การว่า ตัวเองเป็นสมาชิกของบริษัทดังกล่าวจริง ซึ่งในระหว่างที่เป็นสมาชิก ไม่เคยเกิดปัญหา และก่อนที่จะมาขายทัวร์ไปญี่ปุ่น ได้ซื้อสินค้าและได้รับรางวัลเป็นแพ็กเกจในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะบินกลับมารับกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อถึงวันเดินทาง กลับพบปัญหา ไม่สามารถเดินทางได้ ,ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อร่วมวางกรอบและแนวทางในการทำงานเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงและร่วมสอบปากคำผู้เสียหาย โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ในวันนี้จะมีผู้เสียหายประมาณ 30 คนซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามดำเนินคดีกับบริษัท และกรรมการบริหารบริษัท รวมถึงแม่ข่ายในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยคดีนี้มีผู้เสียหายจากทั่วประเทศมากกว่า 2,000 คน,ขณะที่ นางสาวผ่องนภา ฐิติวัชระ ผู้เสียหายเล่าว่า เพื่อนเป็นคนชักชวนให้ตนไปเที่ยวญี่ปุ่นเพราะมีโปรโมชั่นตั๋วถูกจากบริษัท เวลท์เอเวอร์ ในราคาหมื่นกว่าบาท จึงสนใจและได้โอนเงินจำนวนหมื่นกว่าบาท เดินทางมาที่สนามบินตามเวลานัดหมาย แต่ก็ไม่พบตัวแทนและไม่มีเอกสารใดๆ มีเพียงสลิปเงินที่ตนโอนเพียงเท่านั้น ซึ่งหลังเกิดเหตุ ก็ไม่สามารถที่จะติดต่อตัวแทนหัวหน้าทีมได้อีกเลย จึงเดินทางมาแจ้งความที่กองปราบ ส่วนเพื่อนคนที่จะร่วมเดินทางเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ บอกว่ายังเชื่อว่าจะได้เงินคืนจากหัวหน้าทีม จึงไม่ได้แจ้งความ,ด้าน พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรซับซ้อน ตัวผู้กระทำผิดมีประวัติเคยก่อเหตุลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง และเคยมีการออกหมายจับแต่ผู้เสียหายยอมความ และมีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้งเพื่อมาจัดตั้งบริษัท ซึ่งตำรวจจะตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เร่งวางแผนแนวทางการทำงาน และสืบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง เพื่อติดตามเงินของผู้เสียหายคืนมาให้ได้มากที่สุด พร้อมติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี และออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวชัดเจนว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ และฉ้อโกงประชาชน ดังนั้น จะต้องถูกดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์ด้วย,ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ด่าน ตม.ระนอง และตำรวจกองปราบปรามพบคนใกล้ชิดของซินแสโชกุน หรืออาจารย์โชกุน หรือ พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ สาวทอมเจ้าของบริษัทฯ เป็นผู้ติดตาม 3 คน ทีมงาน 2 คน ได้เชิญตัวทั้ง 5 เข้ากทม.เพื่อขยายผลต่อไป โดยท่ียังไม่พบตัวอาจารย์โชกุน. ,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,สุวรรณภูมิ จัดพื้นที่ อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ถูกหลอกเที่ยวญี่ปุ่น,ยังหวังได้เที่ยวญี่ปุ่น ลูกทัวร์บางส่วน รอไฟล์ทบินตี 5,คลิปเสียงอ้างเป็นซินแสดัง เผยเหตุยกเลิกทัวร์ญี่ปุ่น ขอทุกคนสลายตัว,สุวรรณภูมิวุ่น ลูกทัวร์ไปญี่ปุ่น ถูกลอยแพนับพัน, | ตำรวจท่องเที่ยวคุมตัวแม่ข่ายแชร์ลูกโซ่ที่ลอยแพลูกทัวร์กว่าสองพันคนมาสอบปากคำที่กองปราบ ส่วนตัวการเคยก่อเหตุหลายครั้งแต่ผู้เสียหายยอมความ ผบช.ก.ประกาศออกหมายจับล่าตัว ชี้เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่-ฉ้อโกงประชาชน ต้องโดนยึดทรัพย์ | ข่าว,ทั่วไทย | ทัวร์ญี่ปุ่น,สุวรรณภูมิ,ลอยแพทัวร์ญี่ปุ่น,จับทีมงาน,บริษัทขายตรง | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/912037 |
ได้เวลาสัมมนาแห่งปี ทิศทางเศรษฐกิจไทย 2561 | ส่วนใหญ่ก็เพื่อจะทบทวนดูว่า เศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร? และอนาคตคือในปีหน้าที่จะถึงจะเป็นอย่างไร? จะเสมอตัว? จะดีขึ้น? หรือว่าจะย่ำแย่ลง?,ถือเป็นฤดูทำงานของบรรดาโหรเศรษฐกิจ หรือหมอดูเศรษฐกิจใหญ่น้อยของประเทศไทยว่าอย่างนั้นเถอะ,เหตุที่มีการจัดสัมมนาใหญ่เรื่องนี้ ในช่วงเวลาอย่างนี้ ก็เพราะเดือนพฤศจิกายนถือเป็นเดือนที่ 11 แล้ว ย่างเข้าสู่ช่วงปลายปีแล้ว พอจะมีข้อมูล มีข้อเท็จจริงที่สามารถจะนำมาใช้พูดเป็นตัวแทนของภาวะเศรษฐกิจได้ตลอดทั้งปี,ด้วยเหตุนี้เราจึงมักจะได้ยินข่าวการจัดสัมมนาว่าด้วยภาวะเศรษฐกิจไทยของสำนักโน้น สำนักนี้ หรือสถาบันโน้น สถาบันนี้ ค่อนข้างถี่ใน2-3 วันมานี้ ซึ่งเริ่มย่างเข้าสู่กลางเดือนพฤศจิกายน,รวมทั้งสัมมนาใหญ่ ทิศทางเศรษฐกิจไทย ปี 2561 ของ สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ที่ผมจะเขียนแนะนำในวันนี้,ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะกว่า 25 ปี หรือใกล้ๆ 30 ปีแล้วละ ที่ สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ริเริ่มจัดสัมมนาใหญ่ในลักษณะระดมนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมาร่วมทำนายทิศทางเศรษฐกิจไทยของปีต่อๆไป และก็ปรากฏว่าทำนายได้แม่นกว่าโหรจริงๆเสียอีก ทำให้การสัมมนาของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์เป็นที่ยอมรับของวงการเศรษฐกิจและธุรกิจมาโดยตลอด,ถึงขนาดมีการรอคอยกันว่าสมาคมฯจะจัดเมื่อไร? ที่ไหน? แทบทุกๆปี รวมทั้งปีนี้ก็มีการถามไถ่มาที่ผมพอสมควร,ก็ขอถือโอกาสแจ้งเลยนะครับว่า งานสัมมนาใหญ่ของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ จะเริ่มขึ้น ในวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ 08.00 น. เป็นต้นไป ที่ห้อง คริสตัล บอลรูม โรงแรม พลาซ่า แอทธินี กรุงเทพ ถนนวิทยุโน่นละครับ,ในหัวข้อ เอสเอ็มอีไทยก้าวไปกับไทยแลนด์ 4.0 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยกันหาทางออกแก่ เอสเอ็มอี หรือธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม ที่ส่วนใหญ่ยังมีปัญหาให้สามารถปรับตัวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ให้จงได้ในที่สุด,ประเด็นของการสัมมนาปีนี้จึงเน้นไปที่เอสเอ็มอีโดยตรง,เริ่มจากหัวข้อที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ได้แก่การพยากรณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยในปีหน้า 2561 ซึ่งปีนี้จะมองแบบให้ความสำคัญแก่เอสเอ็มอีด้วย ในหัวข้อ เศรษฐกิจไทย ปี 2561 นัยสำคัญต่อเอสเอ็มอี,โดยนักเศรษฐศาสตร์ดาวรุ่งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แก่ ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย, ดร.ชนินทร์ มโนภินิเวส และ ดร.อมรเทพ จาวะลา ดำเนินการสนทนาโดย ดร.กิริฎา เภาพิจิตร,ตามมาด้วยหัวข้อ ทรัพยากรมนุษย์ : ยกระดับปรับให้ทัน 4.0, ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีการบริหารจัดการ และ เพิ่มมูลค่าการผลิตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี,ทุกหัวข้อเสวนาจะมีวิทยากรที่มีความรู้และประสบการณ์ในแต่ละหัวข้อมาเป็นผู้แสดงความคิดความเห็น เพียงแต่เนื้อที่ของผมมีจำกัดจึงไม่สามารถจะเอ่ยชื่อเอาไว้ได้,แต่สำหรับรายการพิเศษตบท้ายในหัวข้อ สนทนากับผู้ว่า ธปท. : เอสเอ็มอีไทยก้าวไปกับไทยแลนด์ 4.0 ยังไงๆก็ต้องเอ่ยเพราะวิทยากรที่จะมาสนทนาในแบบเราถาม ท่านตอบ จะเป็นใครที่ไหนไปมิได้ นอกเสียจากท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยตัวจริงเสียงจริง ดร.วิรไท สันติประภพ นั่นเอง,คุณชนินท์ ว่องกุศลกิจ นายกสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ แจ้งมาว่าบัตรเข้าฟังสัมมนาพร้อมอาหารกลางวันและอาหารว่างตลอดวัน ราคาท่านละ 3,000 บาทครับ ไม่ได้ขึ้นราคามาเป็นสิบปีแล้ว ติดต่อซื้อได้ที่ สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ โทร.0-2226-4397, 0-2613-2439,08-1800-1187 หรือที่ ,Facebook : facebook.com/ tu.econ.alumni, ตั้งแต่วันนี้.,ซูม | ราวๆกลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงกลางเดือนธันวาคมของทุกๆปี จะเป็นช่วงเวลาของเทศกาลการจัดสัมมนาด้านเศรษฐกิจประจำปีนั้นๆ โดยสำนักงานบ้าง องค์กรหลักที่เกี่ยวข้องบ้าง ฯลฯ | null | สัมมนา,เศรษฐกิจไทย,ทิศทางเศรษฐกิจไทย,สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์,เหะหะพาที | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1123880 |
สมานฉันท์แรงงาน ค้านมติบอร์ดค่าจ้าง ชี้ปรับขึ้นไม่สอดคล้องค่ากินค่าอยู่ | วอนรัฐบาลทบทวนก.แรงงานมั่นใจปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนี้สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล20 ต.ค. 2559 จากกรณีที่วานนี้ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 19 ครั้งที่ 9/2559 ว่า คณะกรรมการค่าจ้างได้ประชุมพิจารณาการขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ประจำปี 2560 โดยใช้สูตรการคำนวณใหม่ ซึ่งเพิ่มปัจจัยชี้วัดทางเศรษฐกิจให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมกว่า 10 รายการโดยได้แบ่งค่าจ้างเป็น 4 กลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มที่ไม่ขึ้นเลย จนถึงขึ้น 10 บาท ซึ่งจะนำผลสรุปของคณะกรรมการค่าจ้างเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนจะประกาศบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2560 ต่อไป () นั้นวันนี้ (20 ต.ค.59) รายงานว่า ชาลี ลอยสูง รักษาการประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวถึงผลการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำ ของคณะกรรมการค่าจ้างว่า ทาง คสรท.และพี่น้องแรงงานต่างไม่พอใจ เพราะผลที่ออกมาทำให้เสียความรู้สึก เนื่องจาก 1.มีจังหวัดที่ไม่ได้ปรับค่าจ้าง หนำซ้ำจังหวัดที่ได้ปรับสูงสุดเพียง 10 บาท ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน และจังหวัดที่ไม่ปรับก็หนักไปอยู่ทางภาคใต้ ความจริงไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะภาคใต้มีความเป็นอยู่ลำบาก ไม่ควรไปกดค่าจ้าง ไม่เพิ่มเลยรัฐบาลบอกว่าจะพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และจะเอาเศรษฐกิจไปลงสามจังหวัดภาคใต้ แต่กลับไม่เพิ่มค่าแรงให้คนในจังหวัด แสดงว่าจะทำให้เป็นจังหวัดที่มีค่าแรงต่ำสุดหรือไม่อย่างไร แบบนี้มองได้หลายมุม เราจึงสงสัยว่าทำไมไม่ปรับให้เท่ากันทั่วประเทศ หากจะปรับ 10 บาท ก็ควรทุกจังหวัดเท่ากันก็ยังดีกว่าปรับขึ้น 5 บาท 8 บาท 10 บาท ไม่เท่ากันแต่ละจังหวัดอีก ปรับแบบนี้ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ค่าครองชีพ ค่ากินค่าอยู่ จะทำอะไรได้ ชาลี กล่าวชาลีกล่าวอีกว่า 2.น่าสังเกตว่ามีการพิจารณาหลักเกณฑ์ใหม่ 10 รายการระบุกว้างๆ แต่ไม่มีรายละเอียด ซึ่งหากเป็นไปได้ควรจะชี้แจงว่า จังหวัดที่ไม่ปรับได้คะแนนเท่าไร และเกณฑ์คืออะไร และแต่ละข้อใครเป็นผู้พิจารณา นักวิชาการคนไหน ไปเอาตัวไหนเป็นตัวตั้งในการพิจารณา ซึ่งเรื่องแบบนี้มีคนตั้งข้อสังเกตเยอะ คนก็มองเรื่องความยุติธรรมหรือไม่ 3.ในเมื่อใช้คณะอนุกรรมการจังหวัดเป็นเครื่องมือมาตั้งแต่ต้น และมีการเสนอก่อนหน้านั้นว่าควรปรับ 13 จังหวัดในอัตรา 4 บาทไปจนถึง 60 บาท แต่พอมาถึงขั้นคณะกรรมการค่าจ้างกลับไม่ได้เอาข้อเสนอจากคณะอนุกรรมการจังหวัดเลย แบบนี้จะมีไปทำไมอย่างกรณีปรับขึ้น 5 บาท หากคิดจริงๆ ผ่านมา 5 ปีเพิ่งจะมาปรับค่าจ้าง ดังนั้น เราคิดเฉลี่ยแล้วตกปีละ 1 บาทเอง ถามว่าปรับเพิ่มปีละ 1 บาท ถูกต้องหรือไม่เครือข่ายแรงงานจะมีการหารือกัน และจะทำหนังสือร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อแรงงานทุกคน ชาลี กล่าวด้าน สุทธิ สุโกศล ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะรองโฆษกกระทรวงแรงงาน ยันว่า ขั้นตอนการพิจารณาการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ประจำปี 2560 ทุกขั้นตอนภายใต้คณะกรรมการค่าจ้าง ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนรอบด้านแล้ว ซึ่งข้อมูลทุกอย่างได้ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดแต่ละจังหวัด ที่มีผู้แทนทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างด้วยแล้ว รวมทั้งผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรอง สำหรับการพิจารณาครั้งนี้ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจไปกำหนดแนวทางเพื่อใช้สูตรการคำนวณใหม่ ซึ่งเพิ่มเติมตัวชี้วัดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยที่เกี่ยวข้อง อาทิ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับในปัจจุบัน ดัชนีชี้วัดค่าครองชีพ อัตราค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อในปี 2558 - 2559 มาตรฐานค่าเฉลี่ยค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิตราคาสินค้าและบริการ ความสามารถในการประกอบธุรกิจ ผลิตภาพแรงงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ (จีดีพี) คำนวณจากปี 2553 - 2557 รวมทั้งคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ขณะเดียวกันได้ศึกษาค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศเพื่อนบ้านด้วยทั้งนี้ ขั้นตอนต่อไปกระทรวงแรงงานจะนำผลสรุปของคณะกรรมการค่าจ้างดังกล่าวเสนอ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จากนั้นรัฐมนตรีว่ากระทรวงแรงงานจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนจะออกประกาศให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2560 ต่อไป จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2560 นี้สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวม | บอร์ดค่าจ้าง จ่อเสนอครม.ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 4 กลุ่มจังหวัด ตั้งแต่ ไม่ขึ้น ถึง 10 บ. ด้านสมานฉันท์แรงงาน ค้านมติบอร์ดค่าจ้าง ชี้ปรับขึ้นไม่สอดคล้องค่ากินค่าอยู่ | แรงงาน | กระทรวงแรงงาน,คณะกรรมการค่าจ้าง,คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย,ค่าจ้างขั้นต่ำ,ชาลี ลอยสูง | https://prachatai.com/journal/2016/10/68458 |
ล่ามิจฉาชีพไซเบอร์ สร้างข่าวบิดเบือน- เปิด FB เรี่ยไรช่วย 13 ชีวิต | ภายหลัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ออกมาตำหนิมิจฉาชีพฉวยโอกาสทำเพจและแฮกเฟซบุ๊กขอเงินบริจาค อ้างช่วยเด็กติดถ้ำ ว่า ใช้ไม่ได้ เลว ชี้ผิดอาญาข้อหาฉ้อโกง โทษสูงสุดจำคุก 6 เดือน ถึง 7 ปี ต่อมา บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ฟันคำสั่งชุดตำรวจปฏิบัติการพิเศษโซเชียลมีเดีย หาข้อมูลไล่ล่าตัวมิจฉาชีพมาดำเนินคดี ,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า นอกจากบุคคลเหล่านี้จะไร้ซึ่งจิตสำนึกของเพื่อนมนุษย์แล้ว ยังหากินบนความเดือดร้อนเสียใจของญาติ เด็กๆ ทั้ง 13 คน รวมไปถึงเว็บข่าวปลอมสร้างกระแส แต่งเรื่องชี้นำบิดเบือนจากข้อเท็จจริง เพื่อเรียกยอดวิวจากผู้อ่าน ทำเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง สั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาดำเนินการเร่งด่วน ลากตัวคนร้ายมารับบทลงโทษในเร็ววัน,ขณะที่ครอบครัวของเด็กๆ ยังรอคอยลูกๆ กลับมาอย่างมีความหวัง เว็บเหล่านี้ก็ปล่อยข่าวปลอมๆ ออกมาสร้างกระแสให้ครอบครัวต้องทะเทือนใจ ไหนจะคนแฮกเฟซบุ๊กรับเงินบริจาคช่วยเหลือการดำเนินงานค้นหา อันนี้ล้วนแล้วแต่ทำลายสภาพจิตใจของครอบครัว รวมไปถึงทำร้ายความรู้สึกประชาชนที่อ่านข่าว ไหนจะคนที่ตกเป็นเหยื่อหลวมตัวเชื่อแล้วโอนเงินไป สร้างความเสียหาย และไม่ควรเกิดขึ้นในสถานการณ์แบบนี้. | บิ๊กโจ๊ก สั่ง ชุดปฏิบัติการพิเศษ กวาดล้างอาชญากรรมทางโซเชียลมีเดีย หาข้อมูลมิจฉาชีพสร้างเว็บข่าวปลอมเรียกยอดวิว เกี่ยวกับการค้นหา 13 ชีวิตในถ้ำหลวง และผู้แฮกเฟซบุ๊กขอเงินบริจาคช่วยเด็ก | ข่าว,ทั่วไทย | ถ้ำหลวง,ขุนน้ำนางนอน,ช่วย13ชีวิต,ข่าวบิดเบือน,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1319447 |
เร็วยิ่งกว่าชินคันเซน คนนี้ไง เม สาวคนใหม่ หมอสอง สามีเก่าหญิงแย้ | เป็นสาวคนใหม่ที่หมอสองออกตัวแรงว่ากำลังอยู่ในช่วงพูดคุยอยู่จ้า ,1.นิศาชล ต้วมสูงเนิน ชื่อเล่น เม,2.หน้าหวานๆ ไทยจ๋าแบบนี้ เม เกิดที่จังหวัดอุดรธานี ,3.เมเรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต,4.เคยเข้าประกวดนางงามในเวทีมิสไทยแลนด์เวิล์ด ได้ตำแหน่งนางงามรูปร่างดี,5.ตอนที่เข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิล์ด เม ค่อนข้างถูกจับตามองในเรื่องของใบหน้าที่มีความเป็นไทยและความเป็นกันเองสนุกสนานร่าเริง จนทำให้เพื่อนๆ ในกองประกวดต่างหลงรักในความรักและเฟรนด์ลี่ของเธอ,6.แว่วมาว่าเธอเป็นลูกรักคนใหม่ของช่อง 3 ที่ทางช่องพร้อมจะผลักดันให้เป็นนางเอกในหลายๆ เรื่อง,7.ออกงานกับหมอสองครั้งเดียวก็ถูกจับตามองว่าเป็นสาวคนใหม่ทันที,8.เมเป็นหนึ่งสาวที่ชอบถ่ายรูปมากๆ ยิ่งในไอจีส่วนตัวจะลงรูปของตัวเองแบบรัวๆยกเว้นรูปหมอสอง ,อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของนางเอกหน้าหวานกับหมอสองจะพัฒนาไปในทิศทางไหน จะใช่หรือไม่ใช่? คงต้องรอดูว่าหมอสองจะเอาชนะใจสาวเมได้หรือเปล่านั่นเอง,ที่มา :,mae_nisachon | ถูกจับตามองเป็นสาวคนใหม่ของหมอสอง นพรัตน์ รัตนวราห หลังนางเอกสาวหน้าหวาน เม นิศาชล ต้วมสูงเนิน ถูกทาบไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ประจำคลินิกศัลยกรรมความงามให้กับหมอสอง งานนี้ทั้งคู่เกิดอาการปิ๊งปั๊งกันจนมีข่าวเม้าท์ว่า สาวเม | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | เม นิศาชล นางเอกช่อง3,หมอสอง ควงเม นางเอก,หมอสอง เม นิศาชล,เมหมอสอง,คลินิกหมอสอง | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/love/958488 |
จังหวัดพิษณุโลก คุมเข้มตรวจสอบโรงสีรับจำนำข้าว หลังพบช่องทางทุจริต | เจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ตรวจยึดข้าวเปลือก 32 กระสอบ น้ำหนัก 1600 กิโลกรัม ระหว่างที่กลุ่มผู้ลักลอบ กำลังลำเลียงข้าวขึ้นฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณบ้านโบกม่วง และบ้านบุ่งข้อง ตำบลนาแวง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี แต่กลุ่มผู้ลักลอบหลบหนีไปได้ส่วนเจ้าหน้าที่ จังหวัดสระแก้ว จับกุมรถบรรทุกขนข้าวเปลือก 30 ตัน ที่มีนายปรีชา พงษ์ลุน เป็นคนขับ โดยไม่สามารถแสดงเอกสารการขนย้ายข้าวเปลือกได้ แจ้งเพียงจะนำข้าวเปลือกจากจังหวัดศรีสะเกษไปส่งที่ลาดกระบัง จึงได้นำของกลางมาสอบขยายผลเพื่อหาที่มาของข้าวเปลือก และตรวจเข้มรถที่ผ่านเข้าออกพื้นที่เพื่อป้องกันการนำข้าวมาสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากข้าวเปลือกจากประเทศเพื่อนบ้านมีราคาเพียงกิโลกรัมละ 8-10 บาท หากนำมาขายเข้าร่วมโครงการ ราคาจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดการผ่านเข้าออกตามแนวชายแดนมากขึ้นส่วนหลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม้จะยังไม่สามารถเปิดรับจำนำได้ แต่คณะกรรมการตรวจสอบการรับจำนำข้าวเปลือกระดับจังหวัด อย่างเช่นที่อุดรธานี และบุรีรัมย์ ได้เข้าตรวจสอบสถานที่รับจำนำและโกดังเก็บข้าว ซึ่งส่วนใหญ่มีความพร้อมรับจำนำ แต่ยังมีบางโรงสีที่ยังมีข้าวค้างสต๊อก ซึ่งผู้ประกอบการจะเร่งระบายข้าวให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อเตรียมเปิดรับจำนำในเดือนหน้าส่วนคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลโครงการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด และอำเภอ จังหวัดพิษณุโลก พร้อมตัวแทนโรงสีทั้ง 19 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว ร่วมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อวางมาตราการป้องกันการทุจริตจำนำข้าว รวมทั้ง ติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ที่เชื่อว่ากระทำผิดในโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจาก มีโรงสีเพียง 10 แห่ง ที่ผ่านหลักเกณท์ใหม่ของโครงการรับจำนำข้าวปี 2555/56 ที่กำหนดให้โรงสีต้องสามารถรับจำนำข้าวเปลือกได้ไม่เกิน 50 เท่าของกำลังการผลิต จากเดิมที่กำหนดไว้ 30 เท่า ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาส่งมอบข้าวไม่ทันกำหนด และ เป็นช่องทางที่อาจนำไปสู่การทุจริตได้ | คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลโครงการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด และอำเภอจังหวัดพิษณุโลกสั่งเข้มงวดตรวจสอบโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว หลังพบช่องทางที่อาจนำไปสู่การทุจริต และพบมีการลักลอบนำข้าวเปลือกจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทางจังหวัดชายแดน เช่น สระแก้ว และ อุบลราชธานี ซึ่งคาดว่าจะนำมาสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลนี้ | สิ่งแวดล้อม | ทุจริต,พิษณุโลก,รับจำนำข้าว,โรงสี | https://news.thaipbs.or.th/content/119451 |
วัยรุ่นยิงกันงานสงกรานต์ปาร์ตี้โฟม จ.พระนครศรีอยุธยา เจ็บ 4 | วานนี้ (13 เม.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นยิงกันภายในงานสงกรานต์ ปาร์ตี้โฟม จ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจทหาร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณลานจอดรถศูนย์การค้าแห่งหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่ให้เช่าจัดงาน พบเพียงกองเลือดที่พื้น และทราบว่ามีผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 คนและชาย 3 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลราชธานีไปก่อนหน้าแล้ว และที่เกิดเหตุยังพบหัวกระสุนตกที่พื้น 4 หัวขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ ดนตรีก็ยังเล่นอยู่หว่างนั้นได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้น 4-5 นัด สักพักก็มีคนเจ็บลงไปกองอยู่ที่พื้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยช่วยนำโรงพยาบาลสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีประชาชนที่ส่วนใหญ่มาเล่นสาดน้ำสงกรานต์ที่บริเวณลานจัดงานดังกล่าว โดยมีการแสดงดนตรี ขณะที่ใกล้จะเลิกงาน ปรากฏว่ามีกลุ่มวัยรุ่นที่เดินออกไปจากลานจัดงานใช้ปืนยิงเข้ามายังกลุ่มวัยรุ่นในงาน ทำให้มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว ก่อนหลบหนีไปก่อนหน้านี้ เกิดเหตุวัยรุ่นยิงปืนใส่กลุ่มวัยรุ่นด้วยกันบริเวณถนนหน้าอ่างเก็บน้ำพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุ่งภูเขาทอง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คน ซึ่งผู้ก่อเหตุทิ้งรถไว้ก่อนหลบหนีไป โและคาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มก่อเหตุกลุ่มเดียวกันที่ตามคู่อริมายังบริเวณจัดงานศูนย์การค้าฯ ดังกล่าว | เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นยิงกันภายในงานสงกรานต์ ปาตี้โฟม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คน | ภูมิภาค | ยิง,สงกรานต์,ปาร์ตี้โฟม,พระนครศรีอยุธยา,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/261626 |
ซิ่งเร็วตายโหงหลายศพ เหยียบ 120 แรงปะทะ เท่ากับตกตึก 19 ชั้น รอดยาก | นะจังงัง, กับไอเดียของ ,ศักดิ์สยาม ชิดชอบ, เจ้ากระทรวงคมนาคม ชูแก้รถติดให้รถยนต์ส่วนบุคคล วิ่งบนถนน 4 ช่องจราจรขึ้นไป ได้เร็วสุด 120 กม.ต่อชม. ส่วนคนขับช้าเหยียบไม่ถึง 80 กม.ต่อชม.ในเลนขวา ตัวปัญหาทำให้รถติดอาจถูกจับ,ขณะที่งานวิจัยของมูลนิธิไทยโรดส์ ระบุสถิติอุบัติเหตุทางถนนของสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง พบว่า ร้อยละ 73 ของอุบัติเหตุบนทางหลวง มีมูลเหตุสันนิษฐานจากการขับรถเร็วเกินอัตราที่กำหนด เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตบนทางหลวง คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 2 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนทางหลวงทั้งหมด โดยจำนวนผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการใช้ความเร็วที่เกิดขึ้นบนทางหลวงทุกๆ 100 ครั้ง โดยเฉลี่ยจะมีผู้เสียชีวิต 12 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 80 ราย รวมถึงสถิติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า จำนวนอุบัติเหตุจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 15-20 ของจำนวนอุบัติเหตุทั้งหมด,จากประเด็นร้อนดังกล่าว ,นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์, ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) เปิดเผยกับ ,ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์, ว่า การเพิ่มความเร็วรถยิ่งเป็นการเสริมความเสี่ยงเหมือนเอาใจคนขับรถ อยากให้ฝ่ายการเมืองคิดให้รอบคอบ ไม่ควรใช้กระแสเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะข้อมูลที่ผ่านมาพบว่าคน 2 ใน 3 เสียชีวิตจากการขับรถเร็วบนทางหลวง และปีที่แล้วมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนทั่วไป 2 หมื่นกว่าคน โดย 1 ใน 4 หรือ 22% มีสาเหตุจากการใช้ความเร็ว,ควรวิเคราะห์ให้รอบคอบ ถ้าต้องการระบายจราจร คงไม่ใช่เรื่องเพิ่มความเร็ว หากทำไปแล้วจะเปลี่ยนแปลงภายหลังก็จะยาก อย่าตามใจคนไทยให้มาก ต้องดูตัวเลขที่ผ่านมามีคนตายจากความเร็วจำนวนมาก หากทำโพลก็ควรสำรวจคนทั่วๆไป ไม่ใช่เฉพาะคนขับรถ เพราะถนนและทางโค้งในเมืองไทยถูกออกแบบตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด แต่เห็นด้วยกับการเอาผิดขับช้าชิดขวา แต่ต้องพิจารณาด้วยกรณีชะลอรถเพื่อเข้ายูเทิร์น ตรงเกาะกลางถนน ควรให้วิ่ง 90 กม.ต่อชม. และควรออกแบบการบังคับใช้โดยใช้กล้องจับความเร็วอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาสะดุดเพราะคนไม่มาจ่ายค่าปรับ,นอกจากนี้การเพิ่มความเร็วรถจะสร้างผลกระทบด้านความปลอดภัย ซึ่งพบว่าความเร็วที่เพิ่มขึ้นจะมีความเสี่ยงในเรื่องแรงปะทะ โดยความเร็ว 120 กม.ต่อชม. มีแรงปะทะเท่ากับการตกตึก 19 ชั้น อีกทั้งความรุนแรงจากแรงปะทะจะทำให้การตัดสินใจสั้นลง อย่างปกติขับ 90 กม.ต่อชม. วิ่งตามรถคันหน้า หากต้องแตะเบรกเท่ากับว่าใช้เวลาในการตัดสินใจประมาณ 1 วินาที และกรณีขับความเร็ว 120 กม. ซึ่งการแตะเบรกช่วง 1 วินาที ต้องอยู่รถคันหน้าประมาณ 33 เมตร,ทั้งนี้หากมองในมุมการระบายจราจร ต้องพิจารณาด้านกายภาพของถนนว่าสามารถรองรับอย่างปลอดภัยหรือไม่ อยากให้เทียบเคียงกับมอเตอร์เวย์ ถูกออกแบบให้สามารถวิ่งได้ 120 กม. เนื่องจากถนนมี 4 เลนในทิศทางเดียวกัน ถูกควบคุมการเชื่อมทางในการให้เข้าด่าน ทำให้รถถูกตัดกระแส และมีการควบคุมรถที่วิ่งช้า เช่น มอเตอร์ไซค์ ซาเล้ง ไม่ให้ขึ้นมาวิ่ง รวมถึงไม่มีสุนัขมาวิ่งตัดหน้า และไม่มีความเสี่ยงต่อการชนจากการมียูเทิร์น ซึ่งตรงข้ามกับทางหลวงทั่วไป มีจุดยูเทิร์นตัดกระแสรถอันตรายมาก จะทำให้เกิดการชนด้านหน้าและด้านข้างรถยนต์ หากร่างกายคนเราโดนชนด้านหน้า แม้จะขับเพียง 70 กม.ก็เสียชีวิตได้,ถนนเส้นอื่น ยกตัวอย่างพระราม 2 และสายเอเชีย ช่วงบางปะอิน-อยุธยา มีบางช่วงที่มี 4 เลน สามารถวิ่ง 120 กม.ได้ ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องต้องกลับมาดูรายละเอียดว่าสามารถทำได้เหมือนมอเตอร์เวย์หรือไม่ ทำอย่างไรไม่ให้มอเตอร์ไซค์ รถซาเล้ง และหมามาวิ่งตัดหน้า แม้มีการทำสะพานเกือกม้าให้กลับรถ ทำให้ปลอดภัย แต่ยังไม่มีการเชื่อมทาง และข้างทางยังมีต้นไม้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยให้ทบทวนความเร็วและวิเคราะห์ศึกษาให้ถนนบางพื้นที่วิ่งได้ 110-110 รวมถึงทางด่วน มีการเชื่อมทางเพื่อให้เพิ่มความเร็วได้ จึงยังไม่ควรฟันธงให้วิ่ง 120 เพราะเหมาะเฉพาะมอเตอร์เวย์เท่านั้น แต่ไม่เหมาะกับทางหลวง ขนาดมาเลเซียมีไฮเวย์ ยังให้วิ่งอยู่ที่ 90 กม.เท่านั้น,. | ทำคนในสังคม นะจังงัง กับไอเดียของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เจ้ากระทรวงคมนาคม ชูแก้รถติดให้รถยนต์ส่วนบุคคล วิ่งบนถนน 4 ช่องจราจรขึ้นไป ได้เร็วสุด 120 กม.ต่อชม. | ข่าว,ทั่วไทย | ความเร็ว 120,เพิ่มความเร็วรถ,แก้ปัญหาจราจร,ศักดิ์สยาม ชิดชอบ,รถวิ่งเร็ว,แนวคิดศักดิ์สยาม,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1628088 |
ในฐานะผู้นำ ตอง ขอโทษแฟนช้างศึกชวด 3 แต้มจากยูเออี | วันที่ 14 มิ.ย.60 กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กัปตันทีมป้ายแดงของทีมชาติไทย ออกโรงขอโทษแฟนบอลช้างศึก หลังทำได้เพียงแค่เปิดบ้านเสมอกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปอย่างน่าเจ็บใจ 1-1 ในเกมคัดบอลโลก 2018 โซนเอเชีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา,โดยเกมดังกล่าวทีมชาติไทยได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากการยิงของ มงคง ทศไกร แต่ในช่วงท้ายกลับโดนทีเด็ดของ อาลี มาบคูต ยิงตีเสมอให้ยูเออีเป็น 1-1 แบ่งแต้มกับไทยไปในที่สุด,ซึ่ง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ในฐานะกัปตันทีมชาติไทย ได้ออกมาขอโทษแฟนบอลแทนทุกคนที่พลาดโอกาสเก็บสามแต้มอย่างน่าเสียดายในเกมนี้ ทุกคนก็พยายามทำงานกันอย่างหนัก ที่ผ่านมาระหว่างฝึกซ้อมทุกคนก็มุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ เราผิดหวังที่ไม่ได้ 3 แต้ม แต่ทุกคนก็ทำเต็มที่แล้ว จากนี้ก็ต้องกลับไปแก้ไขข้อผิดพลาดแล้วทำให้มันดีกว่าเดิม,แน่นอนมันน่าเสียดาย แต่ยูเออีก็เป็นทีมที่แข็งแกร่ง มองอีกมุมเราก็ต่อกรกับเขาได้ดี ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคน และแฟนบอลที่ร่วมสู้ไปกับเราครับ ในฐานะกัปตันทีมผมต้องขอโทษแฟนบอลชาวไทยทุกคน และสัญญาว่าจากนี้เราจะทำให้ดีกว่าเดิม. | กัปตันตอง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นตัวแทนขุนพลช้างศึกขอโทษแฟนบอลไทย หลังพลาดคว้าสามแต้มเหนือยูเออีในเกมคัดบอลโลก พร้อมยืนยันว่าจะพยายามทำงานหนักเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์,ช้างศึก,ทีมชาติไทย,ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก,โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/972335 |
ป๋อ ณัฐวุฒิ วอนแฟนๆ ใจบุญช่วยเหลือ เป้า ปรปักษ์ หลังป่วยจนซูบผอม (คลิป) | ทำเอาพระเอกหนุ่มเข้ม ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ออกอาการช็อก เมื่อเห็นภาพของ วินัย ยืนยง หรือ เป้า ปรปักษ์ ผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดัง ซึ่งในอดีตมีเงินทองมากมาย สุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นนักกีฬา แต่มาวันนี้เจ้าตัวกลับต้องเจอโรคร้ายรุมเร้าอย่างหนักจนซูบผอม ประกอบกับไม่มีงานทำ เงินเก็บแทบไม่มี จึงทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก,โดยในยูทูบแชนแนล SKIDJAI ได้มีการไลฟ์สดรายการ คุยนิดสะกิดใจ กับ ป๋อ ณัฐวุฒิ : พี่เป้า ปรปักษ์ ผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดัง (ชมคลิป ,คลิกที่นี่,) ซึ่งเป็นคลิปที่ป๋อโทรติดต่อพูดคุยกับเป้า ปรปักษ์ พร้อมทั้งขออนุญาตเผยภาพล่าสุดของเป้า ซึ่งเกิดจากที่น้ำหนักลดลงไปถึง 37 กก. ภายในอาทิตย์เดียว ทำให้หนุ่มป๋อรู้สึกตกใจมาก ซึ่งเป้า ปรปักษ์ เล่าว่า รูปที่เห็นว่าผอมแล้ว ตอนนี้ผอมยิ่งกว่าในรูปที่เห็นอีก คือตอนนี้น้ำหนักไม่เกิน 59 กก. เพราะในรูปตอนนั้นยังหนัก 67-68 กก. จากเดิมหนัก 96 กก. สาเหตุมาจากการกินที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ระบบลำไส้มีปัญหา กินอะไรไม่ได้ กินแล้วท้องเสีย อาเจียน,ซึ่งหนุ่มป๋อเองก็ขอให้ เป้า ปรปักษ์ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ เพราะว่าจริงๆ เป้า ปรปักษ์ ไม่ได้ต้องการที่จะเปิดเผยถึงเรื่องนี้ แต่ตนขอร้องเพราะคิดว่าถึงเวลาที่สังคมจะได้แสดงความรักต่อพี่เป้า มีคนอีกมากมายที่เป็นห่วง ก่อนจะบอกเลขที่บัญชีของ เป้า ปรปักษ์ ชื่อจริง วินัย ยืนยง เลขบัญชีธนาคารกสิกรไทย 0492078613,และในช่วงหนึ่งของไลฟ์สด (ประมาณนาทีที่ 29.40) เป้า ปรปักษ์ ถึงกับร่ำไห้ โดยบอกว่า ผมต้องการให้ประชาชนคนดูหนังไทยมีความสุข ถึงแม้ตัวเราจะเจ็บป่วยแทบตาย (เริ่มร้องไห้) เราไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตวันนึงจะลำบากถึงขนาดนี้ ถ้าผมยังมีพลังอยู่ก็คงไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ชีวิตพี่ 60-70 ปีไม่เคยเป็นอย่างนี้ เรารู้ว่าสักวันเราจะต้องตายจากโลกใบนี้ เราจะทำอะไรดี แน่นอนเราต้องทำความดีคือทำบุญให้มากที่สุด เพราะเราต้องตายไงครับ,ผมโชคดีที่มีน้องที่ช่วยอนุเคราะห์ (ร้องไห้) ผมอธิษฐานจิตว่าถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ ผมขอสร้างบุญสร้างกุศล สร้างบารมีถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณทุกคนให้เขาอย่าได้เจอโรคภัยแบบที่ผมได้พบเลย มีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ตอนนี้สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือต้องการประคองชีวิตให้อยู่เพื่อเพียรสร้างบุญบารมี,เมื่อป๋อถามว่าอยากไปตรวจที่ รพ. มั้ย เป้า ปรปักษ์ บอกว่า สาธุ ไว้ถึงวันนั้นก่อน ตอนนี้ยังเดินได้ ยังพอกินอาหารได้เป็นบางอย่าง กำลังใจดีมาก ตอนนี่ยังกินได้ไม่เยอะ พอกินเยอะจะปวดท้องแบบทรมานมาก เราเลยต้องกินให้น้อย กินให้บ่อย แต่ผมไม่มีครัว ชีวิตพเนจร บางครั้งเช้าอยากกินมาก แต่กว่าจะได้กินข้าวก็ 2-3 โมงเย็น จะไม่กินกลางคืน แต่ก็ยังพลาดกิน 3-4 ทุ่ม ซึ่งตรงนี้ทรมานมาก,สุดท้ายป๋อขออนุญาตถามว่า ป่วยเป็นมะเร็งใช่มั้ย เป้า ปรปักษ์ ตอบว่า มันทุกโรคนะป๋อ มีตับ ปอด ม้าม หัวใจ กระเพาะ ลำไส้ มันจะต่อเนื่องถึงกันหมดเลย และที่มันร้ายสุดคือคำว่ามะเร็ง มันเป็นเนื้อร้ายที่อยู่กับร่างกายเรามาหลายสิบปีแล้วไม่ถูกเซลล์ตัวใหม่มารักษาได้ แต่พี่ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ พี่ไม่เคยทำอะไรที่ทำร้ายร่างกายตัวเองนะ บำรุงดูแลตัวเองตลอด,พี่เลยยังมีความมั่นใจว่าไม่ว่าจะเป็นอะไร พี่จะขออยู่ต่อไปด้วยบุญ การที่ป๋อเป็นสะพานบุญ บอกให้พี่น้องแฟนคลับได้มีโอกาส อย่างน้อยๆ ส่งความคิดถึง ไม่ต้องถึงขนาดช่วยเหลือเงินทองก็ได้ ชีวิตที่เหลืออยู่พี่ก็ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาใช้ นอกจากอยู่ด้วยบุญที่ป๋อเป็นสะพานบุญ พี่จะเก็บเงินก้อนนี้เอาไว้กินในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถึงเวลาก็ต้องไป หนีไม่พ้น ขอบคุณแฟนภาพยนตร์ไทยทุกคนที่มีจิตเมตตา ที่ไม่เคยลืมเป้า ปรปักษ์ สาธุผ่านป๋อครับ,และในไอจีส่วนตัวของป๋อ ก็ได้โพสต์ภาพในรายการดังกล่าว พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า ผมชอบคำพี่เป้า ปรปักษ์ ระหว่างการคุยมากๆ จาก ดวงดาวสู่ก้อนดิน พี่เป้าเคยมีอดีตที่โด่งดัง ยิ่งใหญ่ เงินทองมากมาย แต่มาวันนี้ วันที่โรคร้ายรุมเร้าหนักมาก ประกอบกับไม่มีงานทำ เงินก็แทบจะไม่มี เหมือนกับสูตรสำเร็จของดาราใช่มั้ยครับ ดูดีแต่ตอนท้ายจบแทบจะไม่สวย,ผมจะไม่โต้แย้งประเด็นนี้ แต่จะขอเสริมว่า .พี่เป้ารับได้ครับ และพี่เป้าไม่เคยขอร้องเรื่องเงินทองจากใคร ถ้าไม่สุดๆ จริงๆ พี่เป้าเล่าเรื่องที่สุดแสนลำบากของตัวอย่างเรียบง่าย ดูสบายและเข้าใจมัน อธิบายความเจ็บปวดในร่างกายอย่างรู้เจ็บ รู้ปวด และอยู่กับมันอย่างเข้าใจชีวิต .พี่เป้าจึงปลีกวิเวกไปตามทางของตัวเอง เข้าวัด ทำบุญ เดินทางด้วยตัวเอง ไม่มีใคร และไม่ขอร้องหยิบยืมเงินจากผู้ใด,ผมต่างหากที่เป็นฝ่ายขอร้องให้พี่เป้าเปิดเผยตัว เพราะยังมีสังคมที่น่ารักอีกมากมายที่เคยชื่นชมในผลงานของพี่ อาจจะมีผู้มีจิตเมตตา ผู้มีกำลังทรัพย์ และอยากช่วยเหลือพี่อีกมากมาย ในวันพระใหญ่นี้ ผมก็ขอเป็นสะพานเล็กๆ เชื่อมต่อทุกท่านผู้ใจดีกับเรื่องราวของลูกผู้ชายตัวจริงนักบู๊คนนี้นะครับ,เค้าเป็นทั้ง พี่ เพื่อนร่วมงาน ผู้กำกับคิวบู๊ และยังเป็นครูที่สอนให้ผมเห็นว่าจงอย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท จงทำแต่ความดี และชีวิตนี้สั้นนัก ถ้าทำอะไรแล้วมีความสุข แล้วมันไม่เดือดร้อนต่อใคร.ทำเลยครับ อย่ารอ เพราะโอกาสที่เราจะได้ทำมันอีก อาจจะไม่กลับมาอีกแล้วก็เป็นได้ #เป้าปรปักษ์ #สู้ๆวัยรุ่น#คุยนิดสะกิดใจ.,
,
| ป๋อ ณัฐวุฒิ ไลฟ์สดโทรคุยกับ เป้า ปรปักษ์ ที่ตอนนี้ป่วยหนัก โรครุมเร้าจนน้ำหนักลดไปมากกว่า 30 กก. ประกอบกับไม่มีงานทำ เงินเก็บแทบไม่มี จึงทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ป๋อ ณัฐวุฒิ,เป้า ปรปักษ์,เป้า ปรปักษ์ ป่วย,เป้า ปรปักษ์ ป่วยจนผอม,ดาราป่วย,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1617016 |
จับนศ.หนุ่มมหาลัยดัง รับทำใบขับขี่ปลอม ยอดเงินหมุนเวียนนับ 10 ล. | เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 พ.ย.61 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.กันต์ทวี อดุลยาศักดิ์ รรท.สว.กก.สนับสนุน บก.ป. และนายกฤษกมล นันทะวงษ์ หัวหน้าหมวดอบรมและทดสอบ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 5 และนายชัยวัฒน์ มากวงศ์ หัวหน้าหมวดใบอนุญาตขับรถ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 5 กรมการขนส่งทางบก ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพุฒิพงศ์ ตรีเพ็ชรศิริกุล อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อยู่บ้านเลขที่ 249 ถ.จันทร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2509/2561 ลงวันที่ 12 พ.ย. 61 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน พร้อมของกลางนาฬิกาหรูยี่ห้อโรเล็กซ์ 6 เรือน มูลค่ารวม 2 ล้านบาท ธนบัตรเงินสด 7 แสนบาท และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการกระทำผิดอีกหลายรายการ จับได้ที่หน้าตึกอาคารพานิชย์ เลขที่ 2, 4, 8 ถ.จันทร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร,พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้รับแจ้งเบาะแสผ่านเพจเฟซบุ๊ก กองปราบปราม ว่ามีผู้โพสต์เฟซบุ๊กรับจ้างทำใบขับขี่โดยไม่ต้องไปทำที่สำนักงานขนส่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สืบหาเบาะแสจนทราบว่าตั้งแต่ช่วงปลายปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายรายโพสต์ภาพและข้อความรับจ้างทำใบขับขี่ผ่านกลุ่มเฟซบุ๊กแฟนเพจต่างๆ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขั้นต่ำ 2,000 บาทขึ้นไปจนถึงหลักหมื่น ตามแต่ความยากง่ายของแต่ละคน หากมีผู้สนใจจะให้ติดต่อผ่านเข้ามาทางแอปพลิเคชันไลน์ตามไอดี 5 ไอดี ที่ลงไว้ให้ จากนั้นผู้ต้องหาจะส่งรายละเอียดขั้นตอนเกี่ยวกับการทำใบขับขี่ให้กับผู้เสียหาย พร้อมทั้งหลอกให้แจ้งข้อมูลส่วนตัว เช่น ภาพถ่าย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ก่อนจะหลอกให้โอนเงินค่ามัดจำในเบื้องต้นจำนวน 1,000 บาท แล้วตามด้วยค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ในภายหลัง อาทิ ค่าบัตรส่วนที่จะต้องจ่ายเพิ่ม ค่าขนส่งและอื่นๆ อีกมากมาย ที่ผ่านมามีบางรายถูกหลอกเสียเงินกว่า 20,000 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดรับใบขับขี่กลับไม่ได้รับจริง อีกทั้งผู้ต้องหายังได้บล็อกไลน์ และพยายามปิดช่องทางการติดต่อกับผู้เสียหาย,พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายรายใดพยายามจะเรียกร้องขอเงินคืน คนร้ายก็จะทำการข่มขู่ว่าผู้เสียหายเป็นผู้กระทำผิดทางกฎหมายด้วยจากกรณีดังกล่าว จนทำให้ผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าแจ้งความเอาผิด เจ้าหน้าที่จึงได้แกะรอยเส้นทางการเงิน จนทราบว่า นายพุฒิพงศ์ เป็นผู้ต้องหา จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนจะนำกำลังจับกุมพร้อมของกลางดังกล่าว จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินยังพบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหามากกว่า 4,000 ครั้ง มีเงินหมุนเวียนในบัญชีนับ 10 ล้านบาท คาดว่าน่าจะเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมากกว่า 2 พันราย รวมทั้งยังมีพฤติกรรมล้วงข้อมูลส่วนบุคคล และแฮกเฟซบุ๊กของบุคคลอื่นเพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดอีกด้วย,สอบสวน นายพุฒิพงศ์ ให้การรับสารภาพ เงินที่ได้ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ซื้อของใช้หรูราคาแพงและใช้เที่ยวเตร่ทั่วไป เบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป,ด้าน นายกฤษกมล กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบก ไม่เคยมีนโยบายรับทำใบขับขี่ผ่านบุคคลภายนอก โดยที่ไม่ต้องไปแสดงตัวที่สำนักงานขนส่ง เพราะขั้นตอนต่างๆ ในการทำใบขับขี่จะต้องผ่านกระบวนการของขนส่งแต่เพียงเท่านั้น ดังนั้นหากพบเห็นการโฆษณาเชิญชวนรับจ้างทำใบขับขี่ในลักษณะดังกล่าว ขอให้พึงระวังว่ากลุ่มคนเหล่านี้น่าจะเป็นมิจฉาชีพแฝงตัวหลอกลวงเอาเงิน. | กองปราบแกะรอยตามรวบ หนุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดัง รับจ๊อบเสริม เปิดเฟซบุ๊กรับจ้างทำใบขับขี่ปลอม เรียกขั้นต่ำหัวละ 2 พัน มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก | ข่าว,อาชญากรรม | ใบขับขี่ปลอม,รับทำใบขับขี่ปลอม,นศ.หนุ่ม,กองปราบ,มหาวิทยาลัยดัง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1420106 |
สั่งสอบ 4 ตำรวจ ปมเรียกรับเงิน อดีตภรรยา ร.ต.ต. 10000 บาท | จากกรณีนายตำรวจ ฝ่ายสืบสวน ยศ ร.ต.ต. สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช อ้างว่าอดีตภรรยาถูกตำรวจทางหลวง 4 นาย เรียกรับเงินจำนวน 10000 บาท บนถนนสายเอเชีย 41 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมาวันนี้ (27 มิ.ย.2563) เปิดเผยว่าอดีตภรรยาของนายตำรวจคนดังกล่าว ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ ให้ดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวง จำนวน 4 นาย ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมที่จะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดทั้งนี้ การดำเนินคดีอาญาดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพฤติการณ์กระทำความผิด ซึ่งเข้าข่ายความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการส่งเอกสารสอบสวนและเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยัง ป.ป.ท.เขต 8 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้วด้าน พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว ทั้งในส่วนกรณีที่กล่าวหาตำรวจทางหลวงรับเงินจากทางผู้เสียหายและกรณีที่นายตำรวจ ฝ่ายสืบสวน ยศ ร.ต.ต.ร่วมอยู่ในเหตุการณ์เจรจาเรียกรับเงินและนำภาพคลิปไปร้องเรียนสื่อมวลชน โดยให้รายงานผลการตรวจสอบภายใน 7 วันเบื้องต้น พ.ต.อ.รัฐชยุตม์ วัชรโกมลมาศ ผกก.7 บก.ทล ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกิดขึ้น พร้อมมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นายที่ถูกกล่าวหา ปฏิบัติหน้าที่อำนวยการประจำ ส.ทล.4 กก.7 โดยให้งดปฏิบัติหน้าที่ที่พบปะกับประชาชนและเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นไปด้วยความยุติธรรมทั้งสองฝ่ายนอกจากนี้ รอง โฆษก ตร. ระบุอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว ให้ความเป็นธรรม เน้นย้ำคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเร่งคลี่คลายข้อสงสัยให้แก่สังคม หากพบตำรวจกระทำความผิดตามที่กล่าวอ้างจริง ให้เร่งดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด พร้อมพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ฐานปล่อยปละละเลย ไม่สอดส่องดูแลความประพฤติผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น | รองโฆษก ตร.เผย ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ ผกก.7 บก.ทล สั่งตั้งกรรมการสอบกรณีตำรวจยศ ร.ต.ต.อ้างอดีตภรรยาถูกตำรวจทางหลวงเรียกเก็บเงิน 10000 บาท ขีดเส้น 7 วันรู้ผล พร้อมสั่งตำรวจ 4 นายที่ถูกกล่าวหางดปฏิบัติหน้าที่ที่พบประชาชน | อาชญากรรม | เรียกรับเงิน,ตำรวจทางหลวง,นครศรีธรรมราช | https://news.thaipbs.or.th/content/294040 |
ยกเลิกหนังสือเดินทางทักษิณ ชินวัตร - บัวแก้วระบุให้สัมภาษณ์หมิ่นเกียรติภูมิชาติ | และกรณีดังกล่าวถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ม.326 ม.327 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์27 พ.ค. 2558 - ประกาศเมื่อเวลา 14.39 น. หัวข้อ การยกเลิกหนังสือเดินทางของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร โดยระบุว่า ด้วยฝ่ายความมั่นคงได้เสนอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องภายในอำนาจหน้าที่ เกี่ยวกับเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พิจารณาเห็นว่า ถ้อยคำให้สัมภาษณ์ของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร มีเนื้อหาบางส่วนที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยหรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย ประกอบกับกรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ๓๒๖ และ ๓๒๘ และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๔ (๓) (๕)กระทรวงการต่างประเทศได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เข้าข่ายที่จะยกเลิกหนังสือเดินทางตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๒๑ (๔) และข้อ ๒๓ (๒) จึงได้ประกาศยกเลิกหนังสือเดินทาง เลขที่ U957441 และเลขที่ Z530117 ของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ | กรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ - กระทรวงการต่างประเทศ ประกาศยกเลิกหนังสือเดินทาง ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากคำให้สัมภาษณ์มีผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัย ชื่อเสียง เกียรติภูมิของประเทศไทย | การเมือง | กระทรวงการต่างประเทศ,ข้ามพรมแดน,คสช.,ชาติไทย,ชุมชนในจินตกรรม,ทักษิณ ชินวัตร,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,พาสปอร์ตทักษิณ,ม.112,ยกเลิกหนังสือเดินทาง,รัฐชาติ,หนังสือเดินทาง,เกียรติภูมิชาติ | https://prachatai.com/journal/2015/05/59497 |
พล.อ.ธนะศักดิ์ ตรวจอุปกรณ์ยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ | วันนี้ (12 ต.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.00 น. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตรวจความพร้อมของพื้นที่จัดสร้างพระเมรุมาศและการทดสอบความมั่นคงแข็งแรงของอุปกรณ์ในการเตรียมการยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตามที่กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงในการนี้ กองกิจการในพระองค์ฯ ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงรับเชิญเสด็จฯ ไปในการนี้ ในวันพุธที่ 18 ต.ค.2560 ฤกษ์ระหว่างเวลา 17.19-21.30 น. กรมศิลปากรจึงได้ทำการซักซ้อมและทดสอบความมั่นคงแข็งแรงของอุปกรณ์ต่างๆ ในการยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติทั้งนี้ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ปักยอดพระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีขนาดความกว้าง 1.20 เมตร สูง 5.10 เมตร พระนพปฎลมหาเศวตฉัตรเป็นฉัตรขาว 9 ชั้น แต่ละชั้นของฉัตรมีระบายขลิบทองแผ่ลวด 3 ชั้น ชั้นล่างสุดห้อยอุบะจำปาทอง ปลียอดฉัตรเป็นทรงองค์ระฆังต่อด้วยบัวกลุ่ม ปลียอดฉัตรทำด้วยทองเหลืองกลึงปิดทอง พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ถือเป็นฉัตรสำหรับพระมหากษัตริย์ที่ทรงรับพระบรมราชาภิเษกตามโบราณขัตติยราชประเพณีแล้ว ฉัตร เป็นเครื่องสูง มีรูปร่างคล้ายร่มที่ซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้นๆ โดยชั้นบนมีขนาดเล็กกว่าชั้นล่าง เป็นเครื่องสูงที่ใช้ทั้งสำหรับแขวน ปัก ตั้ง หรือเชิญเข้ากระบวนแห่เป็นเกียรติยศ มีหลักฐานว่าไทยเราใช้ฉัตรเป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศสำหรับพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่สมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจ้าอู่ทอง | พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ตรวจความพร้อมของพื้นที่จัดสร้างพระเมรุมาศและการทดสอบความมั่นคงแข็งแรงของอุปกรณ์ในการเตรียมการยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 | สังคม | ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,รัชกาลที่9,ในหลวง รัชกาลที่9,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,พระเมรุมาศ,พระบรมศพ,พระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ | https://news.thaipbs.or.th/content/266886 |
ตร.เฝ้าระวังเข้ม หลังการข่าวเตือนเหตุคาร์บอมบ์กรุงเทพฯ-ระเบิดภาคใต้ตอนบน | วันนี้ (10 ต.ค.2559) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนของตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรภาคภาค 2 ตำรวจภูธรภาคภาค 7 ตำรวจสันติบาล ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจสอบสวนกลาง หลังมีการข่าวแจ้งเตือนว่าจะมีกลุ่มเตรียมก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงระหว่างวันที่ 25-30 ต.ค.2559 จำนวน 3 จุด โดยมีเป้าหมายเป็นแหล่งชุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญพล.ต.อ.ศรีวราห์ยอมรับว่า การแจ้งเตือนที่ผ่านมามักจะเป็นการแจ้งเตือนการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากช่วงเดือนตุลาคมเป็นวันครบรอบของเหตุการณ์หลายอย่าง รวมทั้งเป็นวันสถาปนาของกลุ่มต่างๆ ส่วนการแจ้งเตือนในพื้นที่กรุงเทพมหานครยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจ แต่คาดว่าต้องการสร้างสถานการณ์รองผบ.ตร.ให้ข้อมูลด้วยว่าวันนี้ (10 ต.ค.) เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยมีความเป็นห่วงสถานการณ์จึงได้เดินทางมาสอบถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งตำรวจยืนยันว่าได้กำชับให้ทุกหน่วยกำหนดมาตรการป้องกันเหตุการก่อการร้ายและการก่อวินาศกรรมในทุกพื้นที่แล้ว และเน้นสืบสวนหาข่าวเชิงลึกด้านความมั่นคง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลเป้าหมายตร.ภูธรภาค 8 เตือนระวังเหตุระเบิดคล้ายวินาศกรรม 11-12 ส.ค.การข่าวของฝ่ายความมั่นคงพบความเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนถึงแผนการวางระเบิดตามสถานที่สำคัญคล้ายกับเหตุการณ์วินาศกรรมในหลายจังหวัดเมื่อวันที่ 11-12 ส.ค.2559 ซึ่งล่าสุดผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีหนังสือแจ้งเตือนตำรวจทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงพล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการการตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีหนังสือด่วนแจ้งเตือนให้ตำรวจทุกสถานีเฝ้าระวังการก่อเหตุ ระบุว่า ได้รับรายงานด้านการข่าวว่า จะมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายนำระเบิดมาเพื่อก่อความไม่สงบในพื้นที่ จึงขอให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และใช้มาตรการเชิงรุกในการปฏิบัติ โดยให้มีการประสานการปฏิบัติร่วมกันในพื้นที่สำคัญ เช่น สนามบิน ท่าเรือโดยสาร สถานีรถไฟ และแหล่งท่องเที่ยวด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ทุกสถานีที่เป็นจุดตรวจร่วมสัมพันธ์เพิ่มความถี่ในการตั้งด่านตรวจบนถนนเพชรเกษมหรือถนนสาย 41 โดยให้สถานีตำรวจแต่ละแห่ง ดำเนินการตั้งด่านตรวจสลับสับเปลี่ยนกันครั้งละ 3 ชั่วโมง และย้ายจุดไปตามพื้นที่ แต่ละสถานีตำรวจรับผิดชอบให้ครอบคลุมตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังคงมีจุดตรวจร่วมความมั่นคงถาวร ที่จะตั้งด่านตรวจตลอด 24 ชั่วโมง | พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร.เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน หลังการข่าวแจ้งเตือนมีกลุ่มบุคคลเตรียมก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3 จุด ช่วงระหว่างวันที่ 25-30 ต.ค.2559 ขณะที่ ผบช.ภ.8 สั่งเฝ้าระวังการก่อเหตุระเบิดในจังหวัดภาคใต้ตอนบน | อาชญากรรม | การข่าว,วางระเบิด,คาร์บอมบ์,กรุงเทพ,ภาคใต้ตอนบน,วินาศกรรม,เตือนเหตุระเบิดกรุงเทพ,พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล,ตำรวจภูธรภาค 8,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/256524 |
กล้าให้นายกฯ ตู่ ตรวจสอบ ตั๊ก มั่นใจ สามี จวกเจ็บ DSI รู้ดี | หมดความอดทน จำต้องโพสต์ชี้แจงปกป้องสามีสุดที่รัก ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล โพสต์จัดหนักจัดเต็ม จวกเละ ดีเอสไอ DSI (Department of Special Investigation กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ที่พาดพิงไปถึงสามีมหาเศรษฐีแสนล้าน บุญชัย เบญจรงคกุล กรณีบ้านสุดหรูหราบนเขา ที่น่าจะเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าใน จ.พังงา หรือไม่อย่างไร,ตั๊ก บงกช เปิดใจอย่างว่องไวเสียงดังๆ กับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ตอนนี้บ้านหลังนั้นไม่ใช่ชื่อคุณบุญชัยแล้ว น่าจะมากกว่า 10 ปีได้แล้ว แต่ยังมาบอกว่าเป็นชื่อเราอยู่ได้ ทาง DSI ควรให้ความเป็นธรรมกับเราก่อน ไม่อยากจะให้ไปกระทบกับคนอื่นๆ ที่ตรงนั้นซื้อมาตั้งแต่ตั๊กยังไม่เกิด ตั๊กไม่รู้ด้วยซ้ำ ตอนนี้ตั๊กถามสามีแล้ว เ,ขาบอกไม่รู้เรื่อง ไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นมากว่า 10 กว่าปี เป็นชื่อของคนอื่นๆ ไปแล้ว ซึ่ง DSI ก็รู้ว่าตอนนี้ใครครอบครองอยู่,ไม่อยากให้เขียนไปเรื่อย เม้าท์ไปเรื่อยๆ จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ใช่มาว่าคุณบุญชัย เขียนแบบใหญ่โตอลังการ มันเสียหาย ตั๊กก็เป็นแม่คนแล้วอะ หรือเรื่องเอาเงินไปทำบุญ อย่าพูดเลยเถิด เช่นเรื่องเงินทำบุญ ก็เป็นเงินเราเอง ไม่ได้เอาเงินของใครไปทำบุญ ถ้าเกิดเราผิดจริงๆ ทำไมตั๊กถึงกล้าให้นายกฯ มาตรวจสอบได้ล่ะ ให้มันจริงก่อนค่อยมาว่ากันดีมั้ย คนสมัยนี้คอมเมนต์กันหยาบคายมากค่ะ เช่นมาด่าว่าเราเป็น (เซ็นเซอร์). | หมดความอดทน จำต้องโพสต์ชี้แจงปกป้องสามีสุดที่รัก ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล โพสต์จัดหนักจัดเต็ม จวกเละ! ดีเอสไอ DSI (Department of Special Investigation กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ที่พาดพิงไปถึง | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล ดีเอสไอ,ตั๊ก บุญชัย ที่ดินดีเอสไอ,ตั๊ก บงกช โพสต์ด่า DSI,บุญชัย ผัวตั๊กบงกช ที่ดินบุกรุกเขาพังงา,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/972670 |
ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบนายกฯ กรณีถวายสัตย์ไม่ครบ | วันนี้ (13 ส.ค.2562)นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้สอบสวนไต่สวนพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กรณีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้อยแรง ตามมาตรา 234 (1) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 และมาตรา 5 ประกอบมาตรา 160(5) ของรัฐธรรมนูญ 2560 และพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตาม มาตรา 170 (4) ของรัฐธรรมนูญ 2560นายศรีสุวรรณยังขอให้นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพื่อเปิดทางให้เริ่มต้นกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ถวายสัตย์ปฏิญาณและประชุม ครม. รอบใหม่ เพื่อให้กระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งพลเอกประยุทธ์เคยพูดอยู่เสมอว่า ขอให้ทำตามกฎหมาย และระบุว่า จะรับผิดชอบเพียงผู้เดียว แต่มาถึงวันนี้ผ่านไป 1 สัปดาห์ ยังไม่มีสัญญาณการแสดงความรับผิดชอบจากพลเอกประยุทธ์ จึงอยากให้แสดงสปิริต รับผิดชอบด้วยการลาออกส่วนนายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่ากฎหมายไม่ได้กำหนดบทลงโทษเอาไว้ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่านักกฎหมายไม่ได้มีหน้าที่แก้ไขจึงขออย่าตะแบง อย่าทำตัวเหมือนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีส่วนข้อสังเกตว่า หากการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน อาจทำให้พลเอกประยุทธ์มีอำนาจเต็มตามมาตรา 44 อยู่ เพราะถือว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังไม่ปฏิบัติหน้าที่นั้น นายศรีสุวรรณ ย้ำว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณโดยขั้นตอนถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว เพียงแต่กล่าวไม่ครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น ไม่ถือว่าพลเอกประยุทธ์ยังมีอำนาจเต็มตามมาตรา 44 อยู่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีองค์กรอื่นๆ ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ขอให้เอาผิดพลเอกประยุทธ์ โดยน.ส.อุบลกาญน์ อมรสิน ประธานกลุ่มองค์กรตรวจการดำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม พร้อมด้วยนายฐิติพงษ์ หมื่นหาญ โฆษกพรรคพลังปวงชนไทย และนายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช ให้ดำเนินการตรวจสอบและไต่สวน พลเอกประยุทธ์ กรณีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนเช่นเดียวกันโดยกล่าวหาจงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจขัดต่อมาตรา 161 เพราะไม่ยอมกล่าวว่า ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการและขอให้หาทางออกด้วยการขอพระบรมราชานุญาตถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่ให้สมบูรณ์ หรือแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก เพราะการถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนในครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลแค่ต่อนายกรัฐมนตรี แต่ยังส่งผลต่อรัฐมนตรีทั้งคณะอีกด้วย | ภาคประชาชนแห่ยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ถวายสัตย์ไม่ครบ ขัดรัฐธรรมนูญ จริยธรรม เรียกร้องลาออกแสดงความรับผิดชอบ | การเมือง | กรณีถวายสัตย์,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ถวายสัตย์,คณะรัฐมนตรี,ศรีสุวรรณ จรรยา | https://news.thaipbs.or.th/content/282793 |
ฝนถล่มอำลา ม้าลาย เฉือนเวโรนา 2-1 ปิดตำนานบุฟฟอนสุดยิ่งใหญ่ | การแข่งขันฟุตบอลกัลโชเซเรียอา อิตาลี ฤดูกาล 2017/18 ประจำวันที่ 19 พ.ค. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง ม้าลาย ยูเวนตุส เปิดสนามอัลลีอันซ์ สเตเดียม พบกับ เฮลลาส เวโรนา,ม้าลายได้แชมป์ไปแล้วแต่ไฮไลต์ในเกมนี้อยู่ที่เป็นนัดสุดท้ายของตำนานอย่าง จิอันลุยจิ บุฟฟอน รวมถึงนัดสุดท้ายของ สเตฟาน ลิคสไตเนอร์ และ ควัดโว อซาโมอาห์ ด้วย,เกมในครึ่งแรกทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0 ก่อนที่ครึ่งหลังเริ่มไม่ถึงนาทีเจ้าบ้านจะมาได้ประตูออกนำ 1-0 ปานิช เล่นเตะมุมสั้น ดักลาส คอสตา ถึงเส้นหลังก่อนสับไกติดเซฟ แต่รูกานีซ้ำเข้าไป,อีกสามนาทีต่อมา ม้าลาย นำห่าง 2-0 จากลูกฟรีคิกก่อนที่ มิราเล็ม ปานิช จะปั่นเข้าประตูไปแบบสวยงาม,นาทีที่ 63 เป็นวินาทีเรียกน้ำตาแฟนบอลทั้งสนาม บุฟฟอน ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ก่อนส่ง คาร์โล ปินโซโญ ลงประเดิมเกมลีกนัดแรก ซึ่งนั่นคือนัดสุดท้ายของเขากับม้าลาย,มาถึงนาทีที่ 76 ทีมเยือนตีไข่แตก 1-2 โรมูโล มาริมเส้นกราบขวาก่อนเปิดให้กับ แชร์ชี ยิงเข้าไป,เกมดำเนินมาถึง 5 นาทีสุดท้าย ม้าลาย ได้จุดโทษหลังเวโรนาไปทำแฮนด์บอลทว่า ลิคท์สไตเนอร์ ดันยิงไปติดเซฟซะอย่างนั้น,ในช่วงทดเจ็บ ลิคท์สไตเนอร์ ถูกเปลี่ยนตัวออกและเป็นการปิดตำนานของทีมเช่นกัน ก่อนจะจบเกมการแข่งขัน ยูเวนตุส เอาชนะ เฮลลาส เวโรนา ไปได้ 2-1 | เกมสุดท้ายของ จิอันลุยจิ บุฟฟอน ในสีเสื้อของ ม้าลาย ยูเวนตุส สุดยิ่งใหญ่ เดินจับมือแฟนบอลรอบสนาม ก่อนที่ต้นสังกัดจะเอาชนะ เฮลลาส เวโรนา 2-1 | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ยูเวนตุส,เฮลลาส เวโรนา,กัลโชเซเรียอา,จิอันลุยจิ บุฟฟอน | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1286297 |
มันชินี เชื่อ ชาคิรี จะประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีก | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 3 ก.ค. ว่า โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีม งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน สโมสรแกร่งในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เชื่อว่า เซอร์ดาน ชาคิรี กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ จะประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างแน่นอน ท่ามกลางข่าวลือว่าดาวเตะรายนี้เตรียมย้ายไปร่วมทีม ช่างปั้นหม้อ สโต๊ก ซิตี้,ชาคิรี วัย 23 ปี ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิก มาร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน เมื่อช่วงต้นปี แต่ไม่สามารถสอกแทรกขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้ ทำให้ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงในการย้ายออกจากทีม ถึงขั้นมีข่าวว่าทาง อินเตอร์ ตอบรับข้อเสนอจำนวน 12 ล้านปอนด์ จาก สโต๊ก ซิตี้ แล้วอีกด้วย ซึ่งล่าสุดดูเหมือนว่าดีลนี่จะใกล้ความจริงเข้าไปทุกที หลังนายใหญ่ของอินเตอร์อย่าง มันชินี ออกมาเผยว่า ชาคิรี จะประสบความสำเร็จในศึกพรีเมียร์ลีกแน่นอน,ตอนที่เราทำการเซ็นสัญญาคว้าตัว ชาคิรี มาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมนั้น เป็นเพราะเรามีความเชื่อมั่นในตัวเขา แต่เรามีข้อจำกัดที่สามารถมีนักเตะในทีมชุดใหญ่ได้เพียง 25 คน ดังนั้นทำให้มีนักเตะบางส่วนที่ต้องย้ายออกไป ซึ่งผมคิดว่า ชาคิรี จะทำได้ดีในพรีเมียร์ลีก มันชินี กล่าว | โรแบร์โต มันชินี กุนซือทีมอินเตอร์ มิลาน เชื่อมั่น เซอร์ดาน ชาคิรี จะประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างแน่นอน ท่ามกลางข่าวลือว่าดาวเตะรายนี้เตรียมย้ายซบ สโต๊ก ซิตี้ | null | พรีเมียร์ลีก,สโต๊ก ซิตี้,อินเตอร์ มิลาน,เซอร์ดาน ชาคิรี,โรแบร์โต มันชินี,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/509318 |
ระยอง สิ้น ทวด 5 แผ่นดิน อายุ 106 ปี เกิดสมัยรัชกาลที่ 6 | ตผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 6 มี.ค.63 ที่วัดเภตราสุขารมย์ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง มีงานสวดพระอภิธรรมศพ นางเอื้อน เรียวอารีย์ อายุ 106 ปี คุณทวดอายุยืน 5 แผ่นดิน ซึ่งคืนนี้ถือเป็นการสวดคืนที่ 3 แล้ว ซึ่งคืนนี้ชมรมผู้สูงอายุจังหวัดระยองเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพโดย นายชรินทร์ รวมนรินทร์ ประธานชมรมผู้สูงอายุจังหวัดระยอง กล่าวว่า ทวดเอื้อน เรียวอารีย์ อายุ 106 ปี ทางชมรมเสียดายการจากไปของท่านมาก เพราะท่านเป็นคนน่ารัก มาร่วมประชุมร่วมกิจกรรมของชมรมสม่ำเสมอ และยังเป็นคนอารมณ์ดีด้วยด้าน นางศรีวรรณ เรียวอารีย์ อายุ 65 ปี บุตรสาวของผู้ตาย กล่าวว่า คุณแม่เกิดในสมัยรัชกาลที่ 6 รวมทั้งสิ้น 5 แผ่นดิน ท่านสอนให้ลูกรักกัน สามัคคี และซื่อสัตย์สุจริต ท่านทำตัวอารมณ์ดีอยู่เสมอ หมั่นออกกำลังกาย กินผักกับปลาเป็นอาหารหลัก | สิ้นแล้ว ทวดเอื้อน 5 แผ่นดิน อายุ 106 ปี ญาติมิตร-คนรู้จัก-ชาวระยอง ร่วมอาลัย ลูกสาว เผยแม่เกิดในแผ่นดินรัชกาลที่ 6 เป็นคนอารมณ์ดี ชอบออกกำลับกาย พร่ำสอนให้ลูกรักกัน-สามัคคี-ซื่อสัตย์สุจริ | ข่าว,ทั่วไทย | สิ้นทวด 5 แผ่นดิน,ทวด 5 แผ่นดิน,คน 5 แผ่นดิน,ทวดเอื้อน,คนเกิดสมัย ร.6,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1789078 |
รวบ 6 เฒ่าฝรั่งเศส มาเที่ยวภูเก็ต เช่าเรือออกทะเลดำยิงปลานกแก้ว | ,เวลา 14.20 น. วันที่ 18 ม.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.ฉลอง นำโดย พ.ต.ท.โยคิน จันคง สวป.สภ.ฉลอง ร่วมจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส 6 ราย ประกอบด้วย 1.MR.DANIEL ALBERT อายุ 71 ปี 2.MR.PATRICE JACQUES COMTE อายุ 65 ปี 3.MR.JEAN JACQUES PIERRE อายุ 61 ปี 4.MR.DIDIER TAPIN อายุ 61 ปี 5.MR.LE CORT ANDRE อายุ 65 ปี 6.MR.WERNER CLAUDETTE อายุ 66 ปี พร้อมของกลางประกอบด้วย ปลานกแก้วความยาวไม่เกิน 50 เซนติเมตร จำนวน 8 ตัว และปืนยิงปลาประกอบขึ้นเองจำนวน 5 กระบอก,เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ขณะชุดจับกุมออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ได้รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ใช้อุปกรณ์ยิงปลาบริเวณเกาะแก้วใหญ่ (หน้าแหลมหรหมเทพ) ม.6 ต.ราไวย์ และกำลังโดยสารเรือเพื่อกลับขึ้นฝั่งที่หาดราไวย์ เจ้าหน้าที่จึงรีบเดินทางไปยังหาดราไวย์ ก่อนพบเรือหางยาว ชื่อและลักษณะตามที่รับแจ้งกำลังแล่นกลับมาจอดที่ฝั่ง โดยมีผู้โดยสารเต็มลำ จึงแสดงตัวขอตรวจสอบ,พบปลานกแก้วซึ่งเป็นปลาต้องห้ามอยู่ด้วย จึงเชิญตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวน ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจับดัก ล่อฆ่า นำขึ้นจากทะเลหรือกระทำการใดๆ หรือสัตว์ทะเลหายากอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด (ปลานกแก้วในวงศ์) ก่อนส่งตัวให้ ร.ต.อ.สมเกียรติ สารสิทธิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ฉลอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย,ทั้งนี้ ตามประกาศทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต บัญชีปลาสวยงามแนบท้ายประกาศ ลำดับที่ 76 ปลานกแก้วทุกชนิด (ความยาวไม่เกิน 50 ซม.) การจับหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งปลาสวยงามตามบัญชีแนบท้ายดังกล่าวข้างต้น เป็นความผิดตามมาตรา 45 ประกอบมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 มีบทลงโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ. | จับ 6 พ่อเฒ่าฝรั่งเศส มาเที่ยวภูเก็ต เช่าเรือออกทะเล ใช้ปืนยิงปลานกแก้วขนาดเล็กกว่า 50 ซม. ใกล้แหลมพรหมเทพ ของกลางมีปลาถูกยิงตาย 8 ตัว ปืนประกอบขึ้นเอง 5 กระบอก | ข่าว,ทั่วไทย | ยิงปลา,ยิงปลานกแก้ว,นักท่องเที่ยวยิงปลา,ภูเก็ต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1181510 |
6 ศาลใหม่ | ทั้งนี้ไม่รวมถึงศาลขนาดย่อมกว่า เช่น ศาลจังหวัด ศาลแขวง ฯลฯ,ในเดือนสิงหาคม 2562 จะมีการเปิดทำการศาลชั้นต้นขนาดใหญ่ขึ้นอีก 6 แห่งในเขตกรุงเทพมหานคร คือ ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง และศาลอาญาพระโขนง ซึ่งมีการออกพระราชบัญญัติจัดตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้ว,เหตุผลในการจัดตั้งศาลทั้ง 6 เพิ่มขึ้นระบุว่า โดยที่ปัจจุบันศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลจังหวัดตลิ่งชัน และศาลจังหวัดพระโขนง มีสถิติคดีรับใหม่มีจำนวนมาก โดยเมื่อพิจารณาเฉพาะคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลจังหวัดปรากฏว่ามีจำนวนปริมาณคดีรับใหม่ เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับปริมาณคดีรับใหม่ของศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลแพ่งธนบุรี ศาลอาญาธนบุรี ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร และมีจำนวนปริมาณคดีรับใหม่มากกว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ,ประกอบกับปัจจุบันประชากรของกรุงเทพมหานครมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มที่จะมีคดีเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ,ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาคดีเกิดความเป็นเอกภาพและส่งเสริมให้กระบวนการยุติธรรม มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรแยกประเภทคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวง ออกจากกัน และสมควรจัดตั้งศาลชั้นต้นขึ้นใหม่ให้มีฐานะเทียบเท่า ศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลแพ่งธนบุรี ศาลอาญาธนบุรี ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร,ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารราชการศาลยุติธรรมเหมาะสมกับปริมาณคดีและมีผู้พิพากษาที่มีอาวุโสในระดับเดียวกันเป็นผู้พิจารณาพิพากษาคดี ซึ่งจะทำให้การพิจารณาคดีของศาลเกิดประสิทธิภาพเป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน,ในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลดังกล่าวกำหนดให้จัดตั้ง ศาลแพ่งขึ้นในกรุงเทพมหานครเรียกว่า ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลแพ่งตลิ่งชัน และ ศาลแพ่งพระโขนง จัดตั้งศาลอาญาขึ้นในกรุงเทพมหานครเรียกว่า ศาลอาญามีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน และ ศาลอาญาพระโขนง,ให้ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลแพ่งตลิ่งชัน และศาลแพ่งพระโขนง เป็นศาลชั้นต้น ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งทั้งปวงที่มิได้อยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมอื่น ให้ศาลอาญามีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน และศาลอาญาพระโขนง เป็นศาลชั้นต้น ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงที่มิได้อยู่ในอำนาจศาลยุติธรรมอื่น,ศาลแพ่งมีนบุรีและศาลอาญามีนบุรีมีเขตตลอดท้องที่ของเขตมีนบุรี เขตหนองจอก เขตลาดกระบัง เขตบางเขนเฉพาะแขวงท่าแร้ง เขตสายไหมเฉพาะแขวงสายไหม และแขวงออเงิน เขตคันนายาว เขตสะพานสูง เขตลาดพร้าวเฉพาะแขวงจรเข้บัว และเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร,ศาลแพ่งตลิ่งชันและศาลอาญาตลิ่งชันมีเขตตลอดท้องที่ของเขตตลิ่งชัน เขตทวีวัฒนา เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ เขตบางพลัด และเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร,ศาลแพ่งพระโขนงและศาลอาญาพระโขนงมีเขตตลอดท้องที่ของเขตบางนา เขตประเวศ เขตพระโขนง และเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร,พระราชกฤษฎีกากำหนดที่ตั้งและวันเปิดทำการศาลใหม่ทั้ง 6 แห่งกำหนดให้มีศาลแพ่งตลิ่งชันและศาลอาญาตลิ่งชัน ตั้งอยู่ ณ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ให้มีศาลแพ่งพระโขนงและศาลอาญาพระโขนง ตั้งอยู่ ณ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร ให้มีศาลแพ่งมีนบุรีและศาลอาญามีนบุรี ตั้งอยู่ ณ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร โดยให้ศาลทั้ง 6 ศาล เปิดทำการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป,วันพรุ่งนี้จะว่ากันด้วยตัวผู้บริหารในศาลทั้ง 6.,ซี.12 | ศาลชั้นต้นขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานครนั้นเป็นที่รู้จักรับทราบกันมานานแล้วว่ามีอยู่ 6 ศาล คือ ศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลแพ่งธนบุรี ศาลอาญา ธนบุรี ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลอาญากรุงเทพใต้ | null | ศาลชั้นต้น,ศาลแพ่ง,ศาลอาญา,ศาลแพ่งมีนบุรี,ศาลอาญามีนบุรี,ศาลแพ่งตลิ่งชัน,มุมข้าราชการ,ราชการ | https://www.thairath.co.th/news/politic/1579188 |
คลังเสนอแก้ กม.เพื่อชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ | ในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ กระทรวงการคลังเตรียมหารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.และธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ถึงแนวทางการลดภาระดอกเบี้ยหนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่เหลือประมาณ 45000 ล้านบาทต่อปี โดยจะเสนอแก้กฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย ในส่วนวิธีการลงบัญชีระหว่างบัญชีผลประโยชน์ กับ บัญชีกำไรสะสมเพื่อให้สามารถนำดอกผลที่เกิดจากบัญชีทุนสำรองเงินตรา ที่มีอยู่ปีละประมาณ 25000 ล้านบาท มาชำระภาระดอกเบี้ยนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จะเตรียมข้อมูลหารือกับคณะลูกศิษย์หลวงตามหาบัว เพื่อยืนยันว่าการปรับวิธีการลงบัญชีจะไม่แตะต้องในส่วนของเงินต้นและทองคำ แต่จะนำเฉพาะดอกผลหรือกำไรในแต่ละปีมาชำระหนี้นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดแก้กฎหมาย เพื่อนำเงินจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากที่ได้จากการเรียกเก็บเงินจากสถาบันการเงินร้อยละ 0.4 เฉลี่ยเป็นเงินประมาณ 29000 ล้านบาท มาสมทบเพื่อชำระภาระดอกเบี้ย โดยเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงินนายธีระชัย กล่าวว่า การจะให้ ธปท.ชำระดอกเบี้ยต้องอยู่ในกรอบวินัยทางการคลัง ซึ่งหากชำระเกินกำไร ก็เหมือนบังคับให้ ธปท.ต้องพิมพ์ธนบัตรเพิ่ม ส่งผลให้สถาบันการเงินต่างประเทศ เช่น ธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือขาดความเชื่อมั่น และทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่ใช้เงินเกินความจำเป็นอย่างอาร์เจนติน่า และซิมบับเว | กระทรวงการคลังเตรียมหาแนวทางที่เหมาะสมแก้หนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจำนวน1.14 ล้านล้านบาท โดยจะเสนอให้แก้กฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทยปรับวิธีการลงบัญชี นำกำไรจากทุนสำรองเงินตราและนำเงินสมทบจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากมาชำระหนี้ฯ | เศรษฐกิจ | กองทุนฟื้นฟูฯ,คลัง,ชำระหนี้ | https://news.thaipbs.or.th/content/56259 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.