title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
พบเยาวชน สตรี ผู้สูงอายุไทย เล่นพนันอื้อ จับตาช่วงบอลโลกแนวโน้มสูง |
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.61 ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ศูนย์ศึกษาปัญหาพนัน ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาจากการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดการประชุมวิชาการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันปี 2561 ชีวิตเสี่ยงพนันจะป้องกันเยาวชนอย่างไร?,โดยนายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. กล่าวเปิดการประชุมว่า ปัญหาการพนันมีผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ มีแนวโน้มเกี่ยวข้องกับการพนันมากขึ้น ทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงกลุ่มแรงงาน ที่น่าเป็นห่วงในเดือนมิ.ย.นี้ จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ยิ่งทำให้มีการพนันฟุตบอลออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้มีผลวิจัยระบุชัดว่า เยาวชนที่เริ่มเล่นพนันฟุตบอลมีแนวโน้มจะเล่นพนันต่อเนื่องสูงถึงร้อยละ 82.6 สูงกว่ากลุ่มที่เริ่มต้นจากการเล่นพนันประเภทอื่นอย่างชัดเจน ที่น่าห่วงผลสำรวจสถานการณ์การเล่นพนันของนักเรียนมัธยมต้น ปี 2561 พบว่า เด็กเริ่มเล่นพนันครั้งแรกตอนอายุน้อยที่สุดที่ 6 ปี ส่วนผลสำรวจประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป พบผู้เริ่มต้นเล่นพนันครั้งแรกอายุต่ำสุดที่ 7 ปี เหตุผลเพราะอยากลอง เล่นสนุกชั่วครั้งชั่วคราว พนันด้วยเงินเล็กน้อย แต่จะเพิ่มระดับขึ้น ทั้งวงเงินและความถี่ในการเล่น ทุกภาคส่วนจึงต้องจริงจังในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน และผลักดันให้รัฐบาลเห็นความสำคัญกำหนดให้การปกป้องเด็กและเยาวชนจากการพนันเป็นวาระแห่งชาติ
,ด้าน รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ร่วมกับ ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ สำรวจสถานการณ์พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทยทุก 2 ปี โดยปี 2560 สำรวจประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15 ก.ย. - 12 ต.ค.60 จำนวน 7,008 ตัวอย่าง พบว่า คนไทยร้อยละ 75.2 หรือเกือบ 40 ล้านคนเคยเล่นพนัน เกินครึ่งเริ่มเล่นพนันครั้งแรกตอนอายุไม่เกิน 20 ปี กลุ่มเริ่มเล่นพนันครั้งแรกอายุต่ำสุดที่ 7 ปี ประเภทการพนันที่เล่นมากที่สุด คือ สลากกินแบ่งรัฐบาลเนื่องจากมีการเพิ่มปริมาณสลากฯ แบบก้าวกระโดด ตามด้วย หวยใต้ดิน ไพ่ และพนันบอล ตามลำดับ นอกจากนี้พบภาพรวมปี 2560 คนไทยเล่นพนันช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ร้อยละ 54.6 หรือเกือบ 29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านคนเมื่อเทียบกับปี 2558 ในจำนวนนี้เป็นนักพนันหน้าใหม่ถึง 6 แสนกว่าคน ทั้งยังพบผู้หญิงเล่นมากขึ้น 1.3 ล้านคน และประมาณ 9 แสนกว่าคนมีหนี้จากการพนันสูงถึง 12,258 ล้านบาท เฉลี่ยคนละ 13,188 บาท ที่น่ากังวลใจพบว่ากลุ่มเยาวชนเล่นพนันมากขึ้นร้อยละ 17 โดยเฉพาะการพนันบอลเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มเยาวชน เพราะได้เสียเงินง่ายและเร็ว จึงต้องรณรงค์ให้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ผู้ปกครองต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมทางการเงินที่ผิดแปลก เช่นเดียวกับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเล่นพนันเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากการพนันที่แพร่หลาย มีเวลาว่าง แก้เหงา มีเงินเก็บ ต้องพยายามชักชวนให้มาทำกิจกรรมในชุมชนมากขึ้น. | อึ้ง!! เยาวชน-สตรี-ผู้สูงอายุ ในประเทศไทยหันมาเล่นการพนันมากขึ้น จับตาเดือนหน้าแข่งขันบอลโลก แนวโน้มจะเล่นพนันสูงถึง 82.6 พบเยาวชนเล่นพนันครั้งแรกอายุ 6-7 ปี ชี้ได้เสียเงินง่ายและเร็ว | ข่าว,ทั่วไทย | พนัน,พนันบอล,พนันออนไลน์,สสส.,ศูนย์ศึกษาปัญหาพนัน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1284286 |
ไทย ระวังพายุฤดูร้อน 27-29 มี.ค.ฝนตก ลมกระโชกแรง ลูกเห็บ | วันที่ 27 มี.ค. เริ่มต้นวันทำงานวันแรกของสัปดาห์ก็มาพร้อมกับสายฝนที่ตกลงมาในหลายพื้นที่ ซึ่งกลุ่มฝนเหล่านี้ก็เป็นผลพวงของพายุฤดูร้อนที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศเตือนไปจนถึงวันที่ 29 มีนาคมนี้ ทั้งนี้จากการพยากรณ์อากาศของไทยรัฐทีวีเดอะเวตเตอร์ คัมพานี พบว่า ประเทศไทยจะมีสภาวะอากาศแปรปรวน บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งสภาวะอากาศดังกล่าวจะเกิดขึ้นตามภาคต่างๆ ดังนี้,ในช่วงวันที่ 27-29 มีนาคม 2560 ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคกลาง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ภูเก็ต และพังงา,ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น จึงทำให้พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งได้ในช่วงวันที่ 27-29 มีนาคมนี้,โดยจากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ในเช้าวันนี้จะพบว่า บริเวณประเทศไทยตอนบน มีเมฆเป็นส่วนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำ และเมฆฝนฟ้าคะนอง ปกคลุมภาคเหนือ บริเวณจังหวัดลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดเลย นครราชสีมา อุบลราชธานี ภาคกลาง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา สุพรรณบุรี สระบุรี ลพบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล,ส่วนภาคตะวันออก พบกลุ่มฝนบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก จันทบุรี ตราด และภาคใต้ พบกลุ่มเมฆฝนบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์,และจากการคาดการณ์ลักษณะการตกของฝนในวันนี้ตลอดทั้งวัน จะพบว่ากลุ่มฝนส่วนใหญ่ยังคงปกคลุมในบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก รวมถึงบริเวณภาคใต้เน้นๆ ฝั่งอ่าวไทยตั้งแต่ตอนบนจนถึงตอนล่าง โดยล่าสุดนี้ ห้องปฏิบัติการเฝ้าระวังและเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่ม กรมทรัพยากรน้ำ ได้มีการแจ้งเตือนภัยให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ระดับสีเหลือง เก็บสิ่งของที่จำเป็น ด้วยปริมาณน้ำฝนสะสม 12 ชั่วโมง 106.0 มิลลิเมตร บริเวณบ้านเขาวงพระจันทร์ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี และบริเวณบ้านปางมะโอ ต.วังเงิน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 102.0 มิลลิเมตร ส่วนที่บ้านโป่งคอม ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี มีปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 96.0 มิลลิเมตร แจ้งเตือนภัยระดับสีเขียว คือให้เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์จากหอกระจายข่าว,สำหรับภาพรวมสภาพอากาศในแต่ละภาควันนี้ เป็นดังนี้ ,ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร และกำแพงเพชร ,อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส ,อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส,ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส ,อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ,ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ,ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ,ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส ,อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส | ไทยอากาศแปรปรวน มีพายุฤดูร้อน 27-29 มี.ค. ฝนตก ลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตกบางพื้นที่ เฝ้าระวังพื้นที่ จ.กาญจนบุรี อ.แม่ทะ ลำปาง และ ด่านช้าง สุพรรณบุรี ปริมาณฝนสะสม 12 ชม. | ข่าว,ทั่วไทย | พยากรณ์อากาศ,ไทยอากาศแปรปรวน,ฝนตก,ลูกเห็บ,ลมกระโชกแรง | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/896677 |
โชคดีนะ ปิยะนุช ฉายเดี่ยว บินร่วมทัพอัลทาย วีซี | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ก.ย. 60 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ น้องแป้น ปิยะนุช แป้นน้อย นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย เดินทางไปยังประเทศรัสเซียเพื่อเข้าร่วมเก็บตัวฝึกซ้อมกับสโมสรอัลทาย วีซี ต้นสังกัดใหม่ ด้วยสายการบินแอร์โรฟอร์ซ เที่ยวบินที่ เอสยู 271 มีแฟนคลับจำนวนหนึ่ง และเพื่อนร่วมทีมชาติไทย รวมถึงเพื่อนร่วมทีมสุพรีม ชลบุรี อี.เทค มาส่งถึงสนามบิน,ปิยะนุช กล่าวถึงการเดินทางในครั้งนี้ว่า การไปร่วมทีมอัลทาย วีซี ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง แม้จะเคยไปเล่นลีกที่ประเทศอาเซอร์ไบจาน กับ นุศรา ต้อมคำ มาก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ไปเพียงคนเดียว จะพยายามช่วยเหลือทีมให้ดีที่สุด ,ดีใจที่ทีมอัลทาย วีซี ติดต่อให้ไปร่วมทีม ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของตัวเอง นานแล้วที่ไม่ได้ไปเล่นลีกต่างประเทศ ถือเป็นปีที่ดีที่จะได้ไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ส่วนตัวไม่ได้กดดันอะไรมาก เพราะเราโตแล้ว แม้จะไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่พยายามฝึกไปเรื่อยๆ เพื่อให้เข้าใจมากกว่าเดิม จะพยายามช่วยทีมอัลทาย วีซี ให้ดีที่สุด ปิยะนุช กล่าว ,สำหรับ ปิยะนุช ตัวรับอิสระทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ย้ายจากทีมสุพรีม ชลบุรี อี.เทค ไปร่วมทัพอัลทาย วีซี ทีมวอลเลย์บอลในประเทศคาซัคสถาน เป็นเวลา 1 ฤดูกาล เริ่มตั้งแต่ช่วงตุลาคม 2560-มีนาคม 2561 โดยมีกำหนดลงแข่งอุ่นเครื่องที่ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 29 กันยายน-2 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ | น้องแป้น ปิยะนุช แป้นน้อย เดินทางไปรัสเซีย เพื่อร่วมเก็บตัวฝึกซ้อมกับต้นสังกัดใหม่ อัลทาย วีซี ก่อนลุยศึกลูกยาง ลีกคาซัคสถาน | กีฬา,วอลเลย์บอล | ปิยะนุช แป้นน้อย,น้องแป้น,วอลเลย์บอลหญิง,อัลทาย วีซี,สุพรีม ชลบุรี อี.เทค | https://www.thairath.co.th/sport/volleyball/1083547 |
ดิว นัทธพงศ์ โชว์หุ่นจนได้เรื่อง เจอคนถามรับงานเอนเตอร์เทนหรือเปล่า | เพราะมีรูปร่างหน้าตาที่สาวแท้สาวเทียมเห็นแล้วต้องรู้สึกหวั่นไหว ไหวหวั่น สำหรับหนุ่ม,ดิว เดอะสตาร์ 9, หรือ ,นัทธพงศ์ พรมสิงห์, ที่ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวได้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งด้วยการสลัดผ้าถ่ายแบบสยิวโชว์กล้ามแน่นๆ ให้สาวแท้สาวเทียมได้เห็นกัน และเพราะผลงานถ่ายแบบชิ้นนั้นของหนุ่มดิว เลยทำให้เจ้าตัวได้กลับมาโลดแล่นในวงการบันเทิงอีกครั้ง มีงานเข้ามาเพิ่มขึ้น,แต่เพราะมีรูปร่างหน้าตาที่ถูกใจใครหลายคนแบบนี้ จึงทำให้หนุ่ม,ดิว เดอะสตาร์, ถูกทาบทามให้มาทำงานเอนเตอร์เทน ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจเล่าให้ฟังว่า,ภาพเป็นหนุ่มเซ็กซี่ มีสาวแท้สาวเทียมติดต่อมารับงานอย่างอื่นมั้ย? , มีเยอะเลยครับ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ไม่ได้ติดต่อขอเลี้ยงแบบให้เงินเดือน แต่มีจ้างไปกินข้าว ไปเที่ยวต่อ พวกงานเอนเตอร์เทนครับ (หัวเราะ) เสนอมาเป็นหลักแสนก็มี แต่เราไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า,ผมไม่กล้ารับ เพราะข้อความทุกอย่างแคปไว้ได้ และผมไม่รู้ว่าถ้าผมไปแล้ว เค้าจะวางยาผมมั้ย ผมก็กลัวเหมือนกัน ในเมื่อตอนนี้เราก็ไม่ได้เดือดร้อนที่เราจะต้องทำขนาดนั้น ก็เซฟตัวเองดีกว่า ส่งข้อความเข้ามาทางไดเรกแมสเสจทางไอจี แรกๆ ส่งมาเยอะมากเลยครับ มาทุกรูปแบบเลย แต่พอเค้ารู้ว่าผมไม่รับงานเอนฯ เค้าก็ถามว่ารับงานขับรถมั้ย มาขับรถพาไปเที่ยวหน่อย แค่นั้นแหละ (หัวเราะ),หลายคนบอกว่าผมโชคดีที่ผมถ่ายแบบแนวนี้แล้วไม่มีคนซ้ำเติมในด้านไม่ดี มีแต่คนเข้าใจที่มาที่ไปว่าทำไมถึงต้องถ่ายแบบแนวนี้ ฟีดแบ็กดี ทำให้ผมมีงาน ผมต้องขอบคุณทุกอย่างเลย โอกาสดีๆ จากผู้ใหญ่ จากแฟนๆ ที่เค้าชื่นชอบชื่นชมในตัวผมที่ผมเป็นแบบนี้ จะตั้งใจพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ ครับ | ดิว นัทธพงศ์ ยอมรับหลังโชว์หุ่นโชว์กล้ามแน่นๆ เจอทั้งผู้หญิงผู้ชายส่งข้อความมาถามรับงานเอนเตอร์เทนหรือเปล่า | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ดิว เดอะสตาร์ 9,ดิว นัทธพงศ์,ดิว เดอะสตาร์ ถ่ายนู้ด,นักร้อง,เดอะสตาร์,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1684143 |
ชื่นชม พ่อแม่กลัวลูก 2 เดือนร้องไห้ดัง เตรียมที่อุดหู-ขนมแจกบนเครื่องบิน | เฟซบุ๊ก ,Nutthon Limmontree, โพสต์ภาพและข้อความเล่าเรื่องราวดีๆ ของผู้โดยสารครอบครัวหนึ่งที่มีเด็กทารกขึ้นเครื่องบินมาด้วย และเกรงว่าหากน้องร้องไห้อาจส่งเสียงรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น เลยนำ ear plug ใส่ซองพร้อมข้อความและขนมเตรียมไว้ 12 อัน ฝากลูกเรือไว้แจกผู้โดยสารรอบข้างเผื่อน้องร้องไห้,เราเคยพูดกับเพื่อนๆ เราเสมอว่า จะเป็นพ่อแม่คนคือต้องพร้อม ไม่ใช่แค่พร้อมแค่การเงิน เวลา ความทุ่มเท แต่ต้องพร้อมที่จะเลี้ยงลูกให้โตมาแบบมีคุณภาพได้ แล้วครอบครัวนี้ก็น่ารักมาก มารยาทงามมาก คือแค่จากที่เห็นแทบจะใช้คำว่า foresee ได้เลยว่าลูกจะโตมาเป็นคนแบบไหน,โดยมีข้อความหน้าซองเขียนว่า ,สวัสดีครับ ผมอายุ 2 เดือนครับ ตอนนี้ผมกำลังกลับไทยเพื่อไปอยู่กับครอบครัวที่ไทยครับ วันนี้ถ้าผมร้องไห้เสียงดังรบกวน ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมได้เตรียมที่อุดหูและขนมเล็กน้อย เพื่อเป็นการขอบคุณทุกคนที่เอ็นดูผมครับ,,อย่างไรก็ตาม พบว่าในเวลาต่อมามีคนเข้ามาแสดงความชื่นชมครอบครัวดังกล่าวจำนวนมาก ที่มีความรับผิดชอบ ใส่ใจคนรอบข้าง.,(,โพสต์ต้นฉบับ,),(ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ,Nutthon Limmontree,) | ผู้โดยสารพาลูกชายตัวน้อยวัย 2 เดือน ขึ้นเครื่องบิน แต่กลัวลูกร้องไห้เสียงดังรบกวน ขอร้องพนักงานช่วยแจกซองใส่ที่อุดหูกับขนม ที่เตรียมมาแจกคนรอบข้าง | ข่าว,สังคม | ที่อุดหู,เลี้ยงลูก,เด็กร้องไห้,เครื่องบิน,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1691080 |
เจ้าแม่ผมม่วงทีเด็ด สาวมะกัน โหดจัดอัดดัตช์ 2-0 ซิวแชมป์บอลโลกสมัย 4 | การแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 วันที่ 7 ก.ค. รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม สต๊าด เดอ ลียง เป็นการพบกันระหว่าง สหรัฐอเมริกา พบกับ เนเธอร์แลนด์ ,ครึ่งแรกสหรัฐอเมริกาเหนือกว่าเห็นๆแต่ทำอะไรสาวดัตช์ไม่ได้กระทั่งครึ่งหลังจุดเปลี่ยนนาทีที่ 61 ผู้ตัดสินดู VAR ก่อนชี้ว่า สเตฟานี ฟาน เดอร์ กรากต์ ไปทำฟาวล์พร้อมกับโดนใบเหลือง ก่อนที่ เมแกน ราฟิโอเน เจ้าแม่ผมสีม่วงตัวทีเด็ดก็ซัดประตูให้สหรัฐฯออกนำ 1-0 พร้อมกับเป็นประตูที่ 6 ในทัวร์นาเมนต์,จากนั้นอีก 8 นาทีต่อมา สหรัฐอเมริกา มาได้ประตูตอกฝาโลง 2-0 โรส ลาเวลล์ ลากมาเองก่อนซัดด้วยขวาเสียบมุมขวามือเข้าไปแบบสวยสดงดงาม,เวลาที่เหลือ สหรัฐอเมริกา ครองเกมได้หมดก่อนจะจบเกมการแข่งขัน สหรัฐอเมริกา เอาชนะ เนเธอร์แลนด์ ไปได้ 2-0 ป้องกันแชมป์สำเร็จ พร้อมกับคว้าแชมป์บอลโลกเป็นสมัยที่ 4 ต่อจากปี 1991, 1999 และ 2015,ส่วนดาวซัลโวปีนี้มีด้วยกันสามคน เมแกน ราฟิโอเน กับ อเล็กซ์ มอร์แกน ของสหรัฐอเมริกา ยิงไป 6 ประตูเท่ากับ เอลเลน ไวท์ จากอังกฤษ | เมแกน ราฟิโนเอ เจ้าแม่ผมสีม่วงของสหรัฐอเมริกา ซัดจุดโทษเป็นประตูขึ้นนำก่อนที่ โรส ลาเวลล์ จะตอกฝาโลงพาทีมเอาชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-0 คว้าแชมป์บอลโลกหญิงเป็นสมัยที่ 4 สำเร็จ | กีฬา,ฟุตบอลโลก | ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019,ฟุตบอลโลกหญิง 2019 | https://www.thairath.co.th/sport/worldcup/1609518 |
กระสุนปริศนายิงแท็กซี่ เฉี่ยวหัวคนขับแค่ 10 ซม. เชื่อบารมีหลวงพ่อโสธร | เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 13 ม.ค. ร.ต.ท.จาตุรัตน์ สุริยะธรรมกุล รอง สารวัตร (สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุรถแท็กซี่ถูกยิงหลายนัด บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานบางบัว ถ.ประเสริฐมนูกิจ ด้านขาเข้า แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องรุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ ริมถนนเลนซ้ายสุด เชิงสะพานข้ามคลองบางบัว ถ.ประเสริฐมนูกิจ ด้านขาเข้ามุ่งหน้าแยกเกษตร พบรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส หมายเลขทะเบียน มฎ 6677 กรุงเทพมหานคร มีรอยถูกยิงเข้าที่บริเวณขอบประตูหน้าฝั่งคนขับ กระสุนฝังเสาคานประตูจำนวน 2 นัด กระจกแตกกระจายเกลื่อนถนน และมีรอยกระสุนอีกนัด บริเวณกันชนหน้าฝั่งซ้าย ทะลุไปถูกยางรถล้อหน้าฝั่งซ้ายแตก มีนายสมควร กนกเพชร อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ถ.โรงเรียนวัดศรีมงคล ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี คนขับกำลังพยายามเปลี่ยนยางรถด้วยความหวาดกลัว,นายสมควร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนรับผู้โดยสารเป็นสองพ่อลูกมาจากฟู้ดแลนด์ ถ.งามวงศ์วานขาเข้า ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตร เพื่อไปส่งที่คอนโดฯแห่งหนึ่ง ใกล้ศูนย์รถยนต์นิสสัน ถ.ประเสริฐมนูกิจ ขาเข้า ซึ่งมีระยะทางเพียง 4 กม. ขณะที่กำลังกลับรถใต้สะพานข้ามคลองบางบัว กำลังจะเบี่ยงเข้า ถ.ประเสริฐมนูกิจขาเข้า จู่ๆได้ยินเสียงปืนดัง 3-4 นัด ถูกกระจกรถฝั่งที่ตนนั่งจนแตกกระจาย ตนและผู้โดยสารพากับหมอบหลบกระสุน ก่อนที่ตนจะพยายามประคองรถเข้าไหล่ทาง ห่างจากจุดที่กระจกแตกประมาณ 50 เมตร หลังจากนั้นได้ลงมาตรวจสอบความปลอดภัยของผู้โดยสารทั้งหมดปลอดภัยดี ตนแนะนำให้ผู้โดยสารไปตรวจที่โรงพยาบาล แต่ผู้โดยสารตกใจกลัว รีบจ่ายค่าโดยสาร และเดินไปเรียกรถแท็กซี่อีกคันไป, ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าเป็นพุทธคุณของพระเครื่องที่คล้องคออยู่จำนวนกว่า 23 องค์ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหลวงพ่อโสธร ปี 2500 ที่ทำให้แคล้วคลาดจากคมกระสุนที่ห่างจากศีรษะตนไปเพียง 10 ซม. เท่านั้น ตนขอยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยมีเรื่องกับใคร และไม่ได้ไปขับรถปาดผู้ใช้ทางคนอื่นแต่อย่างใด ,ต่อมา พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน เดินทางมาตรวจสอบความเสียหายรถคันดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์เบื้องต้นทราบว่า ก่อนที่รถแท็กซี่จะกลับรถมา มีกลุ่มวัยรุ่นเดินอยู่บนฟุตปาธใกล้กับจุดกลับรถ และมีชายคนหนึ่งลงมาจากรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ก่อนจะชักอาวุธปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่น ขณะนั้นแท็กซี่ขับมาขวางพอดี ทำให้กระสุนถูกกระจกแตก ก่อนชายที่ก่อเหตุ จะรีบขับรถหนีไป ซึ่งคาดว่า เหตุที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นลูกหลง ไม่ได้เป็นการตั้งใจยิงแท็กซี่แต่อย่างใด ,จากนั้น ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) มาตรวจสอบรถแท็กซี่หาหัวกระสุน และได้ให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด หาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | โชเฟอร์แท็กซี่หวิดดับ กระสุนปริศนาเจาะกระจกรถ ห่างหัว แค่ 10 ซม. ขณะขับผ่านจุดกลับรถใต้สะพานบางบัว เพื่อมุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสาร เชื่อหลวงพ่อโสธรช่วยชีวิต ตร.คาดเป็นเหตุลูกหลง เช็กวงจรปิดล่าตัวมือยิง | null | ยิงแท็กซี่,กระสุนปริศนา,ลูกหลง,จุดกลับรถใต้สะพานบางบัว,วงจรปิด | https://www.thairath.co.th/content/835386 |
แม่ฮ่องสอนสกัดโควิด-19 ระบาด ประกาศเคอร์ฟิว 4 ทุ่มถึงตี 4 ห้ามออกบ้าน | เมื่อวันที่ 1 เม.ย.63 นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ออกคำสั่งประกาศจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 เรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ฉบับที่ 3) เนื่องด้วยจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในหลายอำเภอ และมีแนวโน้มจะระบาดเพิ่มมากขึ้นดังนั้นเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไปสู่ประชาชนวงกว้างและการควบคุมพื้นที่ ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้มาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มข้น เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง จึงมีคำสั่งดังนี้1. ห้ามให้ประชาชน เข้า-ออก พื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอนในเวลา 22.00 น. - 04.00 น. เว้นแต่ทางการแพทย์และผู้ที่ได้รับการอนุญาต2. ให้ผู้อาศัยใน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห้ามไม่ให้ออกนอกเคหสถาน ในเวลา 22.00 น. - 04.00 น.3. ห้ามคนที่ไม่มีสัญชาติไทยเข้าพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยเด็ดขาด ยกเว้น 3.1 ผู้ที่เดินทางเข้ามาก่อนประกาศนี้ 3.2 เป็นผู้ที่นายกรัฐมนตรีให้การยกเว้น 3.3 เป็นบุคคลในคณะทูตต่างประเทศ4. ผู้ที่มีสัญชาติไทยเดินทางมาจากกรุงเทพและจังหวัดในปริมณฑลหรือจังหวัดที่เสี่ยงให้รายงานตัวกับ อสม.หรือผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่ทุกราย เพื่อกักตัว 14 วันนับจากวันที่รายงานตัว5. ให้ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พักต่างๆ คัดกรองไข้ก่อนทุกครั้ง จัดทำทะเบียนคุมผู้บริการหากเป็นชาวต่างชาติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคทันที หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไปการออกประกาศคำสั่งดังกล่าวฯ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย เนื่องจากจะเป็นมาตรการเดียวที่สามารถควบคุม การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีคำสั่งประกาศเคอร์ฟิวออกมานั้น แหล่งข่าวแจ้งว่าที่หมู่บ้านต่างๆ ในเขตเส้นทางออกไปสู่จุดผ่อนปรนชายแดน ปรากฏว่าในห้วงเวลากลางคืน ราษฎรในหมู่บ้านพบเห็นมีรถจากต่างถิ่น วิ่งเข้า-ออก ในหมู่บ้านและมีการขนย้ายคน ซึ่งคาดว่าเป็นต่างด้าว กลับเข้ามาเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศเมียนมา โดยคาดว่าจะเดินหลบด่านเจ้าหน้าที่กลับไปยังเมียนมาตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนเหล่านี้ติดเชื้อโควิด บ้างหรือไม่ เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคฯ อย่างรุนแรง. | ผวจ.แม่ฮ่องสอน ประกาศเคอร์ฟิว 22.00 ถึง 04.00 น.ห้ามออกนอกเคหสถาน และห้ามชาวต่างชาติ และคนต่างถิ่นเข้าเมือง หวังสกัดการระบาดของโควิด-19 ด้าน ประชาชนยอมรับมาตรการนี้ | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,แม่ฮ่องสอน,ประกาศเคอร์ฟิว,ห้ามออกจากบ้าน,สุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1809824 |
เทพไท แย้ง อนุทิน รมว.สธ. ยัน ชงเพิ่มเงิน อสม. 1.5 พันบาท ทุกเดือน | นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคปชป. เห็นแย้ง อนุทิน รมว.สธ.ยัน ชงเพิ่มเงินอสม. 1.5 พันบาททุกเดือน ไม่ใช่เดือนละ 500 บาท ลั่น เห็นด้วยเพิ่มศักยภาพ รพ.สต.-อสม.วันที่ 2 มิ.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุข มีนโยบายบริหารงบประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท สร้างความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุขของประเทศ โดย 1. เพิ่มค่าตอบแทนให้แก่ อสม. คนละ 500 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือน มี.ค.2563 จนถึง ก.ย. 2564 2.เพิ่มศักยภาพ ขีดความสามารถของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ด้วยการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ วงเงิน 200000 บาท ว่า ต้องขอขอบคุณ รมว.สาธารณสุข ที่เห็นความสำคัญของบุคลากรด้านสาธารณสุขในชนบท ที่ถูกทอดทิ้งและเสียโอกาสในด้านการพัฒนามาพอสมควร แต่ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า บุคลากรด้านสาธารณสุขในชนบท คือ ด่านหน้าในการต่อสู้กับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทุกฝ่ายชื่นชม และเห็นความสำคัญ จึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และสนับสนุนด้านงบฯที่ขาดแคลนในหลายๆด้าน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน ที่ผ่านมา ตนจึงได้อภิปรายเรียกร้องปรับค่าตอบแทนให้กับ อสม.ต่อรัฐบาล เพื่อขอปรับค่าตอบแทน ให้แก่ อสม.เดือนละ 1500 บาท แต่การที่ รมว.สาธารณสุข มีนโยบายเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่ อสม.คนละ 500 บาท เป็นเวลา 19 เดือนนั้น อาจจะไม่ตรงเป้าหมาย หรือ วัตถุประสงค์ที่แท้จริง แต่ก็ถือว่า เป็นการเยียวยา หรือช่วยเหลือในเบื้องต้นไปก่อน เพราะวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของตนนั้น มีความต้องการให้รัฐบาลปรับค่าตอบแทน ให้แก่ อสม.ทุกคนเป็นรายเดือน เดือนละ 1500 บาทในทุกเดือนตลอดไป และหวังว่ากระทรวงสาธารณสุขคงจัดเป็นแผนงานงบประมาณ ค่าตอบแทนเดือนละ 1500 บาท ให้แก่ อสม.ทั่วประเทศ จำนวน 1040000 คนในปีงบประมาณปี 2564 อย่างแน่นอนส่วนเรื่องการเพิ่มศักยภาพของ รพ.สต. ในวงเงินงบประมาณ แห่งละ 200000 บาท เพื่อซื้ออุปกรณ์ และคุรุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคนนั้น ผมเห็นว่า เป็นวงเงินงบประมาณที่เหมาะสม แต่อยากให้กระทรวงสาธารณสุข จัดงบประมาณอีกส่วนหนึ่ง เพื่อจัดซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์ให้แก่ อสม. เพื่อใช้ในการปฎิบัติงานดูแลสุขภาพของสมาชิกตามครัวเรือนต่างๆ เช่น เครื่องแบบตรวจการณ์ เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องตรวจนำ้ตาลในเลือด เครื่องชั่งน้ำหนัก ปรอทวัดไข้ และกระเป๋าสำหรับใส่อุปกรณ์ ฯลฯ จึงอยากจะให้กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งรัดดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด นายเทพไท กล่าว | นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคปชป. เห็นแย้ง อนุทิน รมว.สธ.ยัน ชงเพิ่มเงิน อสม. 1.5 พันบาททุกเดือน ไม่ใช่เดือนละ 500 บาท ลั่น เห็นด้วยเพิ่มศักยภาพ รพ.สต.-อสม. | ข่าว,การเมือง | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,อสม.,เงินอสม.1.5 พันบาท,เทพไท เสนพงศ์,อนุทิน ชาญวีรกูล,ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1859381 |
มหกรรมลอยกระทง 58 กระตุ้นท่องเที่ยวไทยพุ่งสุดรอบ 3 ปี สวนทางวิกฤติโลก | สำหรับ ,เทศกาลลอยกระทง, ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นค่ำคืนที่ประชาชน ต่างนำกระทงไปลอยลงในแม่น้ำลำคลอง จุดประสงค์ เพื่อขอขมาต่อพระแม่คงคา ที่เราได้ชำระล้างหรือทิ้งสิ่งสกปรกลงไปในแม่น้ำ ลอยความโศกเศร้าไปจากชีวิต ทิ้งสิ่งที่ไม่ดีใส่กระทงลอยไป
และจุดประสงค์อีกอย่างหนึ่ง คือ เพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจ รวมถึงการค้าขายของเหล่าบรรดาผู้ประกอบการ ที่ต่างผุดไอเดียสร้างสรรค์กระทงสารพัดแบบสุดทันสมัย มาจำหน่ายตั้งแต่ 30 บาท ยันหลักพัน ขึ้นอยู่กับความสวยงามและความอลังการ สร้างรายได้เข้ากระเป๋าเป็นกอบเป็นกำ รวมทั้งยังจัดงานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยว ดึงเม็ดเงินเข้าสู่สังคม จังหวัด ต่อยอดไปจนถึงในระดับประเทศนั่นเอง
,หากพูดถึงจังหวัดที่มีความโดดเด่นไม่แพ้ที่ไหน คงไม่พ้น จังหวัดเชียงใหม่ กับประเพณี,การลอยโคมยี่เป็ง, ซึ่งเป็นการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนมาถึงปัจจุบัน กลายเป็นกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาร่วมในประเพณีที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลลอยกระทง
,นายพรชัย จิตรนวเสถียร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่, เปิดเผยว่า ภาพรวม นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวใน จังหวัดเชียงใหม่ ปีนี้ อยู่ที่ประมาณ เกือบ 2 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่ประมาณ 70% ส่วนที่เหลือ 30% เป็นชาวต่างชาติ ส่วนภาพรวมรายได้จากการท่องเที่ยว อยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่ในปีหน้า คาดว่า รายได้จากการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น ประมาณ 30% ขณะที่ตลาดการท่องเที่ยวหลักในช่วงเทศกาลลอยกระทง คือ คนไทย ซึ่งได้จองที่พัก ไปแล้ว 80%
,อีกหนึ่งจังหวัด ที่ขึ้นชื่อด้าน การแสดงแสงเสียงสุดอลังการ อย่าง ,งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย, พร้อม กิจกรรมการประกวดกระทงใหญ่ของแต่ละอำเภอ ใช้ฝีมืออันประณีตละเอียดอ่อน สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองสุโขทัย นอกจากนี้ ยังมีตลาดแลกเบี้ย จำลองบรรยากาศการซื้อขายสมัยสุโขทัย ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมครั้งในอดีต ด้วยการแลกหอยเบี้ยแทนเงินสด เพื่อใช้ซื้อขายอาหารต่างๆ,นายโกวิท ทรงคุณ นายกสมาคมท่องเที่ยว จังหวัดสุโขทัย, กล่าวว่า สุโขทัยเป็นเมืองมรดกโลก สำหรับการท่องเที่ยวช่วงเทศกาล จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมประมาณ 2 แสนคน โดยคาดการณ์ เงินสะพัดอยู่ประมาณ 300 ล้านบาท,สำหรับเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศ ช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ,นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, เผยว่า ช่วงเทศกาลลอยกระทง จะมีมูลค่าการใช้จ่าย 11,413 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่มีการสำรวจมาในปี 49 โดยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มจากปีก่อน 2.5% เพราะราคาสินค้าที่แพงขึ้น รวมถึงได้รับอานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และประชาชนมองว่าเศรษฐกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว จึงพร้อมเดินทางท่องเที่ยว ใช้จ่ายเงินซื้อสินค้า และบริการตามสถานที่จัดงาน,บรรยากาศของเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ น่าจะคึกคักสุดในรอบ 3 ปี เห็นได้จากประชาชนได้วางแผนไปลอยกระทงตามสถานที่ที่มีการจัดงาน หรือตามสวนสาธารณะมากขึ้นจากปีก่อน ซึ่งการไปลอยกระทงไกลบ้าน จะทำให้เกิดการใช้จ่ายอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีการใช้จ่ายรวม 4,082 ล้านบาท ขยายตัว 3.8% มากสุดรอบ 3 ปี และในต่างจังหวัดมูลค่า 7,425 ล้านบาท ขยายตัว 3.1% มากสุดในรอบ 2 ปี,อีกประเด็นหนึ่ง ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมที่ไม่ควรมองข้าม คือ อันตรายจากการเล่นพลุหรือดอกไม้ไฟ ทั้งนี้ คงเคยได้ยินข่าวเรื่องพลุระเบิด จนได้รับอันตรายจากการเล่นอยู่บ่อยครั้ง บางคนอาจจะไม่ได้เล่น แต่ก็อาจจะโดนลูกหลงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ดังนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงต้องวางมาตรการป้องกันเหตุร้ายต่างๆ จากสิ่งเหล่านี้ ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบร้านค้า หรือแม้แต่ประสานเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลในสถานที่จัดงาน เพื่อสร้างความมั่นใจและประทับใจแก่บรรดานักท่องเที่ยว,นอกจากนี้ สิ่งที่หลายฝ่ายกังวล นั่นคือการปล่อยโคมลอย ทั้งหวั่นวิตก หากโคมไปลอยติดที่หลังคาบ้าน จะทำให้เกิดไฟไหม้ได้ รวมทั้งผลกระทบต่อสายการบิน ที่ต้องมีการเลื่อนเที่ยวบินหรือการยกเลิกเที่ยวบิน เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายจากโคมลอย, นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ กล่าว,เทศกาลลอยกระทง นอกจากจะเป็นการทำตามความเชื่อทางศาสนาและประเพณี เป็นโอกาสในการยกระดับการท่องเที่ยว ที่เป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญในประเทศไทย การลอยกระทง ยังถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี สำหรับการพาคนในครอบครัว หรือ คนที่เรารัก ทำความดี สร้างบุญกุศล ร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย และผลบุญก็จะส่งให้เราสุขใจไปด้วยนั่นเอง. | จากเหตุการณ์ความรุนแรงกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ส่งผลให้ยอดจองทัวร์ของนักท่องเที่ยวไทยไปยุโรปลดน้อยลง แต่ขณะเดียวกัน ยอดจองของนักท่องเที่ยวที่หันมาเที่ยวในไทย ที่กำลังเข้าสู่ช่วง เทศกาลลอยกระทง กลับเพิ่มจำนวนขึ้น | null | ลอยกระทง,เทศกาลลอยกระทง,วันเพ็ญเดือนสิบสอง,ท่องเที่ยวไทย,ลอยโคมยี่เป็ง,โคมลอย,นักท่องเที่ยว,ลอยกระทง เชียงใหม่,ยี่เป็ง เชียงใหม่,ลอยกระทง สุโขทัย,ลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ,พรชัย จิตรนวเสถียร,โกวิท ทรงคุณ,ธนวรรธน์ พลวิชัย,สกู๊ปออนไลน์,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/541351 |
หมออึ้ง หนุ่มอินเดียปวดท้องหนัก ส่องกล้องเจอเหรียญ-ตะปู เกือบ 400 ตัว | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายมักซูด ข่าน อายุ 35 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสัญชัย คานธี ในเมืองสัตนะ รัฐมัธยประเทศ ด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรง แพทย์จึงตรวจสอบด้วยการส่องกล้องเอนโดสโคป แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบ เหรียญ, ตะปู, ใบมีดโกน, เศษแก้ว, ก้อนหิน และเศษใบเคียวเหล็กขึ้นสนิมยาว 6 นิ้ว อยู่ในท้องของเขา แพทย์จึงลงมือผ่าตัดนำวัตถุแปลกปลอมน้ำหนักรวมกว่า 7 กก. ออกจากท้องของเขาทันที,ดร.ปรียัง ชาร์มา ผู้ทำการผ่าตัดเปิดเผยว่า คนไข้รายนี้บอกว่าปวดท้อง เราจึงทำการตรวจด้วยกล้องเอนโดสโคป เราตกใจมากเมื่อพบว่า เหรียญ, ตะปู และน็อต อยู่ในท้องของเขา นี่เป็นครั้งแรกในอาชีพของผมที่พบเหตุการณ์แบบนี้ ดร.ชาร์มาเสริมว่า ชายคนนี้ดูเหมือนมีภาวะจิตใจไม่มั่นคง เพราะคนปกติคงไม่ทำอะไรเช่นนี้,แพทย์ของโรงพยาบาลสัญชัยเผยด้วยว่า นายข่านทำงานเป็นคนขับรถตุ๊กตุ๊ก และมักจะกลืนเหรียญที่ลูกค้าให้มาเป็นประจำ โดยที่ไม่เคยแสดงผลกระทบใดๆ จนกระทั่ง 3 เดือนก่อน ที่นายข่านเริ่มรู้สึกปวดท้อง ซึ่งการผ่าตัดพบว่า ตะปูบางตัวทิ่มลำไส้ของเขาทำให้มีเลือดออก ส่งผลให้ฮีโมโกลบินลดลง,ขณะที่ญาติของเขาระบุว่า นายข่านมีอาการซึมเศร้า ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาหันไปกินโลหะ. | หนุ่มอินเดียถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการปวดท้อง เบื้องต้นหมอคิดว่าป่วยอาหารเป็นพิษ แต่พอตรวจดูถึงกับอึ้ง เมื่อพบเหรียญ 263 เหรียญ ตะปู และสิ่งแปลกปลอมอีกมากกว่า 100 ชิ้นในท้องของเขา | ข่าว,ต่างประเทศ | กินเหรียญ,กินตะปู,อินเดีย,ส่องกล้อง,ตะปูในท้อง | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1137275 |
เยียวยา 5000 คืบหน้าร้อยละ 99 โอนเงินแล้ว 14.2 ล้านคน | วันนี้ (21 พ.ค.2563) นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการมาตรการเยียวยา 5000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ค.2563 สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ร้อยละ 99 ในส่วนที่ยังคงเหลืออีกเพียงร้อยละ 1 คือการดำเนินการในส่วนที่ยังตกค้างเกี่ยวกับการขอทบทวนสิทธิ 2.4 แสนคน โดยมาตรการเยียวยา 5000 บาท มีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 28.8 ล้านคน มีการลงทะเบียนซ้ำ 4.8 รายการ และลงทะเบียนไม่สำเร็จ 1.7 ล้านคน ทำให้มีผู้ลงทะเบียนที่เข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองตามหลักเกณฑ์ จำนวน 22.3 ล้านคน มีผู้ผ่านเกณฑ์ 15 ล้านคน ไม่ได้รับสิทธิ 7 ล้านคน และอยู่ระหว่างการดำเนินการทบทวนสิทธิ 2.4 แสนคนคาดโอนเงินเยียวยาครบถ้วนในสัปดาห์นี้ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผ่านเกณฑ์ 15 ล้านคน โอนเงินเยียวยาแล้ว 14.2 ล้านคน ส่วนที่เหลือจะโอนเงินเยียวยาได้ครบถ้วนทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ โดยมีรอบการโอนวันที่ 21 พ.ค.2563 จำนวน 2.3 แสนคน และวันที่ 22 พ.ค.2563 จำนวน 4.4 แสนคน ซึ่งบัญชีของผู้รับจะต้องไม่มีปัญหาในเรื่องบัญชีไม่ตรงกับชื่อนามสกุลที่ลงทะเบียน บัญชีถูกปิด หรือไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งจะเป็นเหตุให้การโอนเงินไม่สำเร็จดังนั้น สำหรับกลุ่มผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว แต่ยังติดขัดเรื่องบัญชีสำหรับรับโอนเงินเยียวยา โปรดดำเนินการผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด โดยไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีก กระทรวงการคลังจะมีการตรวจสอบและโอนเงินให้ใหม่เป็นประจำทุกสัปดาห์จำแนกกลุ่มไม่ได้รับสิทธิเยียวยา 7 ล้านคนนายลวรณ กล่าวว่า กลุ่มไม่ได้รับสิทธิ 7 ล้านคน จำแนกเป็นผู้ไม่ขอทบทวนสิทธิ 4.8 ล้านคน ผู้ไม่ผ่านการขอทบทวนสิทธิ 1 ล้านคน ผู้ยกเลิกการลงทะเบียนหรือยกเลิกการขอทบทวนสิทธิ 9 แสนคน และกลุ่มที่ขอข้อมูลการประกอบอาชีพเพิ่มเติม แต่ไม่ได้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมภายในเวลาที่กำหนดประมาณ 3 แสนคนก.คลัง เตรียมส่ง SMS แจ้งผู้ขอทบทวนสิทธิส่วนกลุ่มที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทบทวนสิทธิ 2.4 แสนคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1 ของจำนวนผู้ที่เข้าสู่การคัดกรองตามหลักเกณฑ์ ที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้ขอทบทวนสิทธิ 8 หมื่นคน จะได้รับการติดต่อจากทีมผู้พิทักษ์สิทธิ เพื่อนัดหมายยืนยันตัวตนและตรวจสอบการประกอบอาชีพตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ กลุ่มที่ 2 ประมาณ 1 แสนคน เป็นผู้ขอทบทวนสิทธิ ซึ่งเคยได้รับการติดต่อจากทีมผู้พิทักษ์สิทธิแล้ว แต่ไม่สามารถนัดพบได้หรือที่อยู่จริงในปัจจุบันไม่ตรงกับที่ได้ลงทะเบียนไว้ตอนขอทบทวนสิทธิ ทำให้ผู้พิทักษ์สิทธิไม่สามารถเจอตัวได้ และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่ผู้พิทักษ์สิทธิได้พยายามติดต่อไปหาแล้วหลายครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้จำนวน 6 หมื่นคนสำหรับผู้ขอทบทวนสิทธิในกลุ่มที่ 2 และ 3 จำนวน 1.6 แสนคน กระทรวงการคลังจะมีการส่ง SMS แจ้งให้ทราบอีกครั้ง และขอให้ไปติดต่อที่สาขาธนาคารกรุงไทยที่สะดวกที่สุด เพื่อยืนยันตัวตนและการประกอบอาชีพ โดยนำบัตรประชาชนตัวจริงไปแสดงพร้อมหลักฐานการประกอบอาชีพได้จนถึงวันที่ 29 พ.ค.2563 | โฆษกกระทรวงการคลัง เผยดำเนินการมาตรการเยียวยา 5000 บาท คืบหน้าร้อยละ 99 มีผู้ผ่านเกณฑ์ 15 ล้านคน โอนเงินแล้ว 14.2 ล้านคน ส่วนที่เหลือจะโอนเงินเยียวยาภายในสัปดาห์นี้ | เศรษฐกิจ | COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,เยียวยา,เงินเยียวยา,เยียวยา 5000 บาท | https://news.thaipbs.or.th/content/292747 |
จดหมายถึงกรณ์: การเคลื่อนไหว ของ กปปส.ไม่เหมือน Les Miserables แต่เหมือนสี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล | ถึง คุณ กรณ์ จาติกวณิช (อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ที่ตัวสูงที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีรัฐมนตรีฯ มา)ประโยคข้างต้นผมนั่งเทียนเขียนครับ เหมือนที่คุณกรณ์ นั่งเทียนเขียนเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของมวลมหาประชาชนว่าเหมือน Les Miserablesผมเชื่อว่า คุณกรณ์ตัวสูงที่สุด ทั้งที่ผมไม่ได้ค้นคว้า ไม่ทำการบ้าน และอาจไม่มีประสบการณ์ได้เคยเห็นรัฐมนตรีฯ ที่ตัวสูงกว่าคุณกรณ์ เหมือนที่คุณกรณ์ อาจไม่ได้ค้นคว้า ไม่ได้ทำการบ้าน และอาจไม่ได้เข้าใจ Les Miserables อย่างที่มันควรจะเป็น หรืออย่างที่ผมและคนอีกจำนวนมากเคยเข้าใจอย่างที่น้อยที่สุด การเคลื่อนไหวของ กปปส. ไม่ใช่การเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมการเมือง แต่เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อขัดฝืนการเปลี่ยนแปลงของสังคมการเมือง พูดให้ถึงที่สุด วันนี้ มวลมหาประชาชน กำลังทำตาม จินตนาการของกำนันสุเทพด้วยการก้าวข้าม ประเด็นใจกลางการเคลื่อนไหวแต่แรก ไปสู้การล้มประชาธิปไตยคุณกรณ์ เลือกเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของมวลมหาประชาชน กับ Les Miserables ซึ่งผมคิดว่า ขบวนการของกำนันสุเทพ และคุณกรณ์ ห่างไกลเหลือเกินจากการเคลื่อนไหวนั้น โดยเฉพาะในเชิงจุดประสงค์ อย่างไรก็ตาม ผมไม่อาจก้าวล่วงจินตนาการอันเหลือล้ำของคุณกรณ์ได้ ในห้วงยามที่ คุณกรณ์ และพวกของคุณกรณ์ ต่างจินตนาการและหยิบยื่นจินตนาการชุดใหญ่ที่ไม่หลักทางวิชาการใดๆ รองรับ มานำเสนอสังคมไทยอย่างถี่ยิบ ตั้งแต่ นายกฯ ลาออกรักษาการ ขัดขวางการเลือกตั้ง รับเอาสภาประชาชน เป็นสรณะในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองทั้งนี้ โดยที่คุณกรณ์และพวกของคุณกรณ์ ไม่เคยถามความต้องการของ มวลมหาประชาชน ทั้งประเทศ ซึ่งอาจมีจำนวนมากกว่า มวลมหาประชาชน (ราชดำเนิน)พวกของคุณกรณ์ ซึ่งมีจำนวนมากในสายตาของคุณกรณ์ แต่อาจมีจำนวนน้อยในสายตาของผม และคนอีกมาก ดึงดันจะเอาอย่างที่ต้องการเท่านั้น โดยไม่สนใจเสียงส่วนใหญ่ และความเห็นอื่นๆ ที่ปรากฏเรียงรายในสังคมการเมือง เสมือนประเทศนี้ไม่ได้ชื่อประเทศไทย และปกครองโดยคนไทยคนอื่นๆ ร่วมกัน แต่เป็นเหมือนประเทศสุเทพที่มีสุเทพและมวลมหาประชาชนของคุณสุเทพเท่านั้นที่เป็น ประชาชน และพึงได้รับการยอมรับ ซึ่งขัดแย้งกับการเคลื่อนไหวใน Les Miserables ที่การเคลื่อนไหวของพวกเขา เป็นเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน เพื่อล้มการปกครองที่พวกเขาไม่พึงปรารถนาแล้วการเคลื่อนไหวของ กปปส. จะเหมือนละครเวทีเรื่องอะไรหล่ะ ถ้าไม่ใช่ Les Miserables ?ผมคิดว่า คุณกรณ์ คงเคยดู สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล ฉบับของถกลเกียรติ วีรวรรณ นักการละครคนสำคัญของประเทศไทย ซึ่งจัดแสดงที่รัชดาลัยกว่า 100 รอบ และที่สำคัญ สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ก็ได้เสด็จไปทอดพระเนตรด้วย พร้อมกับตรัสชมการแสดงดังกล่าวแล้วการเคลื่อนไหวของ กปปส.เหมือน ละครเวที สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล ตรงไหน ?ผมพบว่า สุเทพฯ เหมือน แม่พลอย หลายอย่าง โดยเฉพาะ ความต้องการของทั้งคู่ที่โหยหา เรียกร้อง กระวนกระวาย อยากกลับไปใช้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ ผมคงคิดไม่ผิดไป หากพิจารณาข้อเสนอของคุณสุเทพตลอดมา โดยเฉพาะ การขอนายกพระราชทาน มาตรา 7 และอื่นๆ อีกมายมายทั้งในเชิงวิธีการและเป้าหมายเพื่อล้มประชาธิปไตยในสี่แผ่นดิน ตัวละครตัวหนึ่งชื่อ อ้น ซึ่งเป็นลูกของ พลอย พยายามนำประเทศเปลี่ยนระบอบไปสู่การปกครองแบบมีประชาธิปไตย โดยการปฏิวัติ 2475 และนำเอากษัตริย์มาอยู่ใต้ รธน. อย่างไรก็ตาม พลอยผิดหวังกับ อ้นมาก และเธอก็พูดกับ อ้น ว่า แม่ไม่คิดว่า ลูกของแม่ จะทำร้ายคนที่แม่รักคนที่แม่รัก คือ ในหลวง รัชกาลที่ 7 และในตอบจบของเรื่อง คึกฤทธิ์ก็เขียนให้ อ้น สำนึกผิดว่า เขาไม่ควรเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศมาเป็นประชาธิปไตย การใช้ชีวิตในระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ เป็นสิ่งสมบูรณ์พูนสุขแล้ว เขาไม่ต้องการนักการเมืองเลวมาปกครองประเทศสำนึกของอ้นก็คือ สำนึกของมวลมหาประชาชน พูดให้ถึงที่สุด มวลมหาประชาชนทั้งหลาย สำนึกแล้วว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่ากลับไปปกครองแบบไม่เอาประชาธิปไตย เพราะถ้าเอาประชาธิปไตยแต่มีการนักการเมืองเลว พวกเขาก็ไม่เอาวิธีคิดของแม่พลอย ก็คือ วิธีคิดแบบสุเทพและมวลมหาประชาชน เป็นวิธีคิดเดียวกันที่โหยหาระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ และไม่ชอบประชาธิปไตย รวมความคือ พวกเขาไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงเพราะการเปลี่ยนแปลงไม่ให้ผลประโยชน์ใดๆ กับพวกเขา ขณะเดียวกันพวกเขาก็เลือกแล้ว ที่จะเดินหน้าขัดฝืนการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในสังคมพวกเขาเลือกแล้วที่จะเดินหน้าล้มประชาธิปไตยเส้นทางเดินของสี่แผ่นดิน ตลอดเรื่องทำให้เราเห็นว่า แม่พลอยไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เธอไม่ชิน/ไม่คุ้นกับการเปลี่ยนแปลงสมัยใหม่ เช่น ใส่หมวก เปลี่ยนการปกครอง เธอไม่ชอบการเมือง เธอบ่นตลอดว่าการเมืองทำให้ครอบครัวของเธอแตกแยกแน่นอนครับ เธอไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เพราะการเปลี่ยนไม่เคยให้ผลดีกับครอบครัวของเธอ เหมือนที่สุเทพไม่ชอบ ประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยให้ผลประโยชน์สุเทพน้อยมาก อย่างน้อยที่สุด ดูได้จาก ประชาธิปัตย์และสุเทพไม่เคยชนะในระบอบนี้เลยอย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจลืมใคร่ครวญไปว่า มีคนอีกจำนวนมากในประเทศนี้ที่ชอบการเปลี่ยนแปลง และได้ผลประโยชน์มากมายจากการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่า ผมเข้าใจ แม่พลอย เพราะเรารู้ว่า ทำไมแม่พลอยจึงโหยหาระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ เพราะทั้งชีวิตเธอได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากเจ้าตลอดมา เธอดำรงชีวิตอย่างมีค่าและความหมาย เพราะยึดเอาสถาบันกษัตริย์เป็นใจกลางของชีวิต มิพักต้องเอ่ยว่า เธอใช้ชีวิตในสังคมที่มีความหลากหลายของความต้องการน้อยแต่ สุเทพไม่ใช่ ? สุเทพอยู่และเกิดในสมัยที่ประเทศไทยเผชิญหน้ากับความหลากหลาย และหลากหลายเกินกว่า จะพาพวกเราทั้งประเทศ กลับไปกก/ฝังตัว อยู่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ในสังคมที่มีความแตกต่างหลากหลายเช่นนี้ คำตอบไม่ใช่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ แต่เป็นประชาธิปไตยที่จะช่วยเรา หาความต้องการร่วมของผู้คน และอยู่ร่วมกันกับคนที่แตกต่างหลากหลายไปจากเราในสี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล บทร้องจบของเรื่องคือ เรียนรู้บทเรียนที่ผ่านเลยไป พรุ่งนี้จะต้องสดใส ดั่งมีแสงทองส่องมา บทเรียนในสี่แผ่นดินคือ อย่าไปเปลี่ยนของสำคัญในบ้านเมือง อย่าไปยุ่งกับของสำคัญในบ้านเมือง หรือทางที่ดีอย่าไปเปลี่ยนอะไรมากเลยให้กับบ้านเมือง แม้กระทั่งเปลี่ยนการปกครอง เมืองไทยเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์นี่หล่ะที่เป็นคำตอบ อยู่ห่างประชาธิปไตยเข้าไว้จะดี จะได้ไม่วุ่นวายอย่างไรก็ตาม ถ้าเรา จะลอง (อ่าน/ทำความเข้าใจ) บทละครให้เข้ากับบริบทในสถานการณ์ปัจจุบัน เราจะอ่านมันอย่างไร ? บทเรียนใหม่ของเราก็คือ ทุกคนฝืนการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ สังคมไทยเดินทางมาไกลเกินกว่าจะปิดตาที่สว่างแล้วของผู้คนระบอบการปกครองในวันที่ประเทศมีความแตกต่างหลากหลายเช่นนี้ หนีไม่พ้น ประชาธิปไตยประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่สุเทพ และใครๆ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทางการเมืองในแง่นี้ จุดหมายปลายทางของ กปปส. จึงเหมือนสี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล แต่ขัดกับจุดหมายปลายทางใน Les Miserables อย่างสิ้นเชิงคุณกรณ์จึงไม่ควรใช้ตัวอย่าง Les Miserables เพื่อจะเปรียบเทียบกับการชุมนุมของ กปปส. แต่ควรใช้ สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล เป็นตัวอย่างจะดีกว่า เพราะตรงไปตรงมากว่ายกเว้นคุณกรณ์จะอยู่ในโลกของจินตนาการ เกินกว่าจะกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงปัจจุบันเจนวิทย์ เชื้อสาวะถี ศึกษาอยู่คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | ถึง คุณ กรณ์ จาติกวณิช (อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ที่ตัวสูงที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีรัฐมนตรีฯ มา)ประโยคข้างต้นผมนั่งเทียนเขียนครับ เหมือนที่คุณกรณ์ | การเมือง,วัฒนธรรม | Les Miserables,กปปส.,กรณ์ จาติกวณิช,คึกฤทธิ์ ปราโมช,สี่แผ่นดินเดอะมิวสิคัล,เจนวิทย์ เชื้อสาวะถี | https://prachatai.com/journal/2014/01/50962 |
สรยุทธ-ไร่ส้ม ยังไม่พ้นวิบาก จ่อฟ้องเพิ่ม ฉ้อโกง-ปลอมแปลงเอกสาร | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 พ.ค. พนักงานสอบสวน สน.พญาไท นำนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตนักเล่าข่าวชื่อดัง และ กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม, บจก.ไร่ส้ม จำกัด, น.ส.มณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่ บจก.ไร่ส้ม และนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทำลายเอกสารของผู้อื่น พร้อมสำนวนและความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ส่งให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เพื่อมีความเห็นสั่งคดี กรณีบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ แก้ไขเอกสารและไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลา เป็นผลให้ บมจ.อสมท เสียหาย 138,790,000 บาท,ทั้งนี้ ทนายความนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หนึ่งในผู้ต้องหากล่าวว่า ในส่วนของนางพิชชาภา ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการให้พิจารณาแล้ว เนื่องจากคดีนี้เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีอาญาที่มีคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้ และคดีที่ศาลแขวงพระนครเหนือ อีกทั้งพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจดำเนินคดี เพราะนางพิชชาภาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งต้องรอพนักงานอัยการมีความเห็นต่อไป,ด้านนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า พนักงานอัยการได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนไว้เพื่อพิจารณาแล้ว โดยอธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานอัยการเพื่อพิจารณาสำนวน 7 คนประกอบด้วย รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา 3 คน อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 อีก 1 คน อัยการเจ้าของสำนวน 2 คน และพนักงานอัยการเลขาฯคณะทำงาน 1 คน ขั้นตอนต่อไปหลังรับสำนวนแล้ว พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนจะตรวจสำนวนและมีการประชุมคณะทำงานครั้งแรกในวันที่ 25 พ.ค. โดยพนักงานอัยการนัดให้ นายสรยุทธ กับพวก มาฟังคำสั่งในช่วงเช้าวันที่ 2 มิ.ย.นี้,สำหรับ คดีบริษัท ไร่ส้มฯ ยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลากว่า 138 ล้านบาท ในรายการ คุยคุ้ยข่าว ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อสมท ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ.59 ให้จำคุก นางพิชชาภา เป็นเวลา 30 ปี ปรับบริษัท ไร่ส้ม เป็นจำนวนเงิน 1.2 แสนบาท จำคุก นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา คนละ 20 ปี แต่ทางนำสืบเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก นางพิชชาภา เป็นเวลา 20 ปี จำคุกนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา คนละ 13 ปี 4 เดือน และปรับบริษัท ไร่ส้มฯ เป็นเงิน 8 หมื่นบาท ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำเลยที่ 1, 3 และ 4 ซึ่งคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ จำเลยทั้งสามได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์. | ตำรวจส่งสำนวน บริษัท ไร่ส้ม จำกัด พร้อมอดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ฉ้อโกง-ปลอมแปลงเอกสาร ช่วงเวลาโฆษณาของบริษัท อสมท ให้อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 3 นัดฟังคำสั่ง 2 มิ.ย. ขณะที่ทนายความจำเลยร้องขอความเป็นธรรม ระบุเป็นการฟ้องซ้ำ | null | สรยุทธ,ฟ้องสรยุทธ,ฟ้องเพิ่ม,สรยุทธ สุทัศนะจินดา,ฟ้องฉ้อโกง,ไร่ส้ม,บริษัทไร่ส้ม,อสมท,อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา3,อาชญากรรม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,กทม. | https://www.thairath.co.th/content/625037 |
เจอแล้ว สาวไทยทำงานเกาหลีดวงเฮง ถูกหวย30ล้าน เหลือชุดเดียว ไม่มีใครซื้อ | ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ,Jinny Bandasak, ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า รางวัลที่ 1 จำนวน 30 ล้านงวดนี้ อยู่ที่เกาหลีใต้ โดยผู้โชคดีเป็นสาวไทย ที่ไปทำงานอยู่ที่ร้านไทยเอเชียมาร์ท เมืองอันซอง ประเทศเกาหลีใต้ ถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 356564 จำนวน 5 ใบ มูลค่า 30 ล้านบาท,จากการสอบถามไปยังนางแสวง อ่อนศรี ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้า ของผู้ถูกรางวัลลอตเตอรี่ 30 ล้าน เปิดเผยว่า ผู้ถูกรางวัลชื่อว่า นางสาวจินตหรา บรรดาศักดิ์ ชาวบ้านดอนมัน ตำบลโคกกลาง อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ ต่อเนื่องกันเป็นเวลากว่า 5 ปีมาแล้ว โดยไปช่วยน้าสาวซึ่งทำธุรกิจร้านมินิมาร์ท โดยได้รับการยืนยันจากการโทรศัพท์ สอบถามแล้วว่า ถูกรางวัล 30 ล้านบาทจริง และกำลังจะเดินทางกลับประเทศไทยเลยทันที ซึ่งขณะนี้ ที่บ้านกำลังไปรอรับผู้โชคดีที่สนามบินกันแล้ว,ส่วนที่มีการสงสัยกันว่า เหตุใดที่ประเทศเกาหลีใต้ จึงมีการขายลอตเตอรี่ของประเทศไทย เนื่องมาจากน้าสาวของนางสาวจินตหรา มีสามีเป็นชาวเกาหลีใต้ จึงได้ไปประกอบธุรกิจเปิดร้านมินิมาร์ท ขายสินค้าของประเทศไทย ให้กับชาวไทยที่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งนำเข้าลอตเตอรี่ของประเทศไทยไปขายด้วยรวมกับสินค้าชนิดอื่น เพื่อให้คนไทยที่ทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ห่างไกลบ้าน,ส่วนลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลนั้น ทราบว่าเหลือจากการจำหน่ายเพียงแค่ชุดเดียว นางสาวจินตหรา จึงได้ทำการซื้อไว้ก่อนจะถูกโชครางวัลใหญ่ดังกล่าว โดยหลังจากขึ้นเงินรางวัลแล้วจะตระเวนทำบุญก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้อีกครั้ง.,ชมคลิป ,ที่นี่ | สาวไทยไปทำงานมินิมาร์ทในเกาหลีใต้ สุดเฮง ถูกลอตเตอรี่ 30 ล้าน หลังชุด 5 ใบซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ไม่มีใครซื้อ เลยซื้อไว้เอง เตรียมเดินทางกลับไทยทันที | ข่าว,ทั่วไทย | ถูกลอตเตอรี่,ถูกรางวัลที่ 1,ถูกหวย,สาวไทย,เกาหลี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1446951 |
รัฐบาลยังอยู่ได้ตราบที่สังคมยังเห็นว่า คนเสื้อแดงสมควรตาย | วอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินว่า (มติชนออนไลน์ 17 พ.ค.53)หากข้อความในข่าวข้างต้นเป็นความจริง ก็แสดงว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์คาดการณ์ล่วงหน้าอยู่แล้วว่า มาตรการ กระชับวงล้อม กลุ่มผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์ เพื่อ คืนความสงบสุขสู่สังคม อาจมีคนเสียชีวิตถึง 200-500 คนซึ่งหมายความว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่า การยอมให้เกิดการสูญเสียชีวิตคน 200-500 คน จะสามารถ คืนความสงบสุขสู่สังคม ได้ ในขณะที่เขาไม่เชื่อว่าการ ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่โดยเร็ว จะทำให้สังคมสงบสุขได้น่าสังเกตว่า การตัดสินใจบนพื้นฐานความเชื่อดังกล่าว ไม่กังวลต่อการสูญเสียชีวิตคนมากนัก เพราะ เสียชีวิต 35 คน ถือว่ายังยอมรับได้ คาดว่าจะมีการเสียชีวิตมากถึง 200-500 คน ก็ยังตัดสินใจเดินหน้าต่อเพื่อ คืนความสงบสุขสู่สังคม (ซึ่งไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร มันจะเกิดสิ่งนี้ได้อย่างไรด้วยคนตายจำนวนมากขนาดนั้น)ประวัติศาสตร์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาที่มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 เหตุการณ์ พฤษภา 35 ล้วนแต่ทำให้รัฐบาลต้องพ้นอำนาจไป แต่เหตุการณ์นับแต่ 10 เมษา 53 จนปัจจุบัน นับศพไปแล้วราว 66 ศพ บาดเจ็บ 1169 คน แต่รัฐบาลนี้ก็ยังอยู่ได้ และเดินหน้าสู่ความสูญเสียต่อไปนี่หมายหมายความว่า จำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้เสมอไป สมัยรัฐบาลทักษิณเกิดกรณีตากใบ มีผู้เสียชีวิต จำนวน 84 ศพ และสูญหายอีกจำนวนมากกว่า 60 คน และยังกรณีฆ่าตัดตอนในสงครามยาเสพติดซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีผู้เสียชีวิต ราว 2500 คน แต่รัฐบาลทักษิณก็ยังอยู่ได้1) รัฐบาลสามารถอธิบายให้สังคม (อย่างน้อย เสียง ที่สนับสนุนรัฐบาล) เชื่อว่า คนเหล่านั้นสมควรตายหรือจำเป็นต้องตาย เพราะทำผิดกฎหมาย กระทำหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ชั่วร้าย เช่นยาเสพติด การก่อการร้าย เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ2) เป็นไปได้ (ไหม) ว่าสังคม โดยเฉพาะสังคมของคนชั้นนำ คนมีการศึกษาที่สามารถส่ง เสียง ผ่านสื่อ หรือมีอำนาจในการกำหนดทิศทางของบ้านเมือง อาจมองว่าชีวิตของคนเหล่านั้นไร้ค่า เพราะถ้าไม่พัวพันกับกระบวนการค้ายาเสพติด ก็พัวพันกับกระบวนการที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ฉะนั้น การสูญเสียชีวิตของ คนไร้ค่า เหล่านั้น จึงไม่ทำให้สังคมรู้สึก สะเทือนใจ หรือรู้สึกว่า สูญเสีย อะไร บางทีดีเสียอีกที่การสูญเสียเช่นนั้นจะทำให้ สังคมดีขึ้น หรือ แผ่นดินสูงขึ้นการสูญเสียชีวิตของคนเสื้อแดงก็ถูกรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์อธิบายในทำนองเดียวกันว่า คนเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐและสถาบันกษัตริย์ เพราะพวกเขาคือ ผู้ก่อการร้าย หรือ ขบวนการล้มเจ้า หรือไม่ก็เป็นแนวร่วม เป็นเครื่องมือของผู้ก่อการร้าย ขบวนการล้มเจ้า หรือนักการเมืองโกง ฉะนั้น จะสูญเสีย 200-500 ชีวิตก็จำเป็นต้องสูญเสียข้ออ้างเรื่อง ผู้ก่อการร้าย แฝงอยู่ในผู้ชุมนุม มี ขบวนการล้มเจ้า คือข้ออ้างที่ทำให้รัฐบาลคิดว่าตนเองมีความชอบธรรมที่จะ กระชับวงล้อม ให้คนเสื้อแดง ยุติการชุมนุม เพื่อ คืนความสงบสุขสู่สังคม (ย้ำแม้คาดว่าอาจจะมีคนตายถึง 200-500 คน) ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจาก คนเสื้อหลากสี และ คนเสื้อเหลือง ที่เรียกร้องให้รัฐบาล ไม่ต้องยุบสภา แม้แต่แผนปรองดองของอภิสิทธิ์ก็ถูก แกนนำ ของคนพวกนี้มองว่าเป็นการ ลอยแพสถาบันกษัตริย์ ฉะนั้นแล้วในสายตาของคนพวกนี้ คนเสื้อแดงจึงเป็น คนไร้ค่า สมควรตาย (เท่าไรก็ได้?) พวกเขาเสนอให้กองทัพใช้ กฎอัยการศึก จัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์ นักวิชาการระดับมันสมองของพวกเขาเคยแสดงความเห็นทางทีวีว่า การสูญเสียครั้งนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับการสูญเสียในสงครามกลางเมืองของสหรัฐอเมริกาในแง่หนึ่งมันถูกมองว่าเป็นความจำเป็นต้องสูญเสียในจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ ซึ่งหลายประเทศในโลกก็ผ่านการสูญเสียเช่นนี้และมากกว่านี้มาแล้วเช่นกัน แต่ในแง่หนึ่งมันถูก เรียกร้อง ว่าสมควรยอมให้เกิดการสูญ ชีวิตคนไร้ค่า เพื่อรักษาสิ่งที่มีค่ากว่าเอาไว้คือ ความมั่นคงของรัฐ (ของรัฐบาล?) และ สถาบันหลักของชาติข้อเท็จจริงที่สนับสนุนการเรียกร้องให้รัฐบาลและสังคมยอมรับการสูญเสีย ชีวิตคนไร้ค่า เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐและสถาบันหลักของชาติเอาไว้ คือ สิ่งที่เราเห็นจนชินตาทาง ASTV ที่มีผู้ส่งข้อความประณามคนเสื้อแดงผ่าน SMS จำนวนมาก เช่น เรียกคนเสื้อแดงว่า พวกขยะสังคม และ ฯลฯ (หยาบเกินกว่าที่จะนำมาเขียน) ควบคู่กับผู้ดำเนินรายการที่ทั้งพูดจาและแสดงน้ำเสียงสีหน้าท่าทางดูถูก หรือ สะใจ กับการสูญเสียชีวิตของคนเสื้อแดง และเชียร์ให้ทหารจัดการให้ จบเร็วๆ (แต่รัฐบาลก็ไม่มีสติปัญญาพอจะมองออกว่านี่เป็นสื่อที่บิดเบือนและปลุกเร้าความรุนแรง)กล่าวโดยสรุป ชุดของคำอธิบายที่ว่า 1) มีความจำเป็นต้องสูญเสียชีวิตประชาชนในจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ 2) จำเป็นต้องสูญเสียชีวิตคน (เท่าไรก็ได้?) เพื่อปกป้องสิ่งที่เรียกกันว่า ความมั่นคงของรัฐ และ สถาบันหลักของชาติ และ 3) สมควรสูญเสียชีวิตของ คนไร้ค่า (ซึ่งหมายถึงคนจน คนไร้การศึกษา ไม่รู้ประชาธิปไตย ถูกหลอกมาเป็นเครื่องมือของพวกนักการเมืองโกง พวกล้มเจ้า พวกผู้ก่อการร้าย) ใช่หรือไม่ที่รัฐบาล นักวิชาการ สื่อ หรือสังคมนี้ใช้เป็นเหตุผลสนับสนุนว่า คนเสื้อแดงจำเป็นต้องตายกระทั่งสมควรตาย (อย่าลืมสังเกตจากที่คาดว่าอาจมีคนตายถึง 200-500 คน ยังเดินหน้าปราบ) และรัฐบาลยังคมมีความชอบธรรมที่จะเดินสู่ความสูญเสียยิ่งขึ้น และเป็นรัฐบาลอยู่ต่อไป | วอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินว่า สถานการณ์ชุมนุมน่าจะยืดเยื้อต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตที่ 35 คน ถือว่ายังยอมรับได้ เพราะเดิมคาดว่าจะเสียชีวิต 200-500 คน (มติชนออนไลน์ 17 | การเมือง | การชุมนุมเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2553,นปช.,นักปรัชญาชายขอบ,พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | https://prachatai.com/journal/2010/05/29569 |
สลด สิบล้อเลี้ยวขึ้นถนน กระบะพุ่งชนอย่างจัง ดับคาที่ 1 สาหัส 1 | เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 17 พ.ค. 2562 ร.ต.อ.สุวิทย์ ทองสุภา รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถบรรทุกสิบล้อ มีผู้เสียชีวิตคาซากรถกระบะ 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสายเบญจมฯ–น้ำแคบ ฝั่งเข้าเมือง หมู่ 3 ต.นาเคียน อ.เมือง จึงพร้อมด้วยกำลังจนท.มูลนิธิต่างๆ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ,ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ไมท์ตี เอ็กซ์ สีเขียว ทะเบียน บบ-4049 นครปฐม สภาพหน้ารถพังยับชนอัดก๊อบปี้ติดกับส่วนท้ายรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน 80–6927 พัทลุง ท้ายบรรทุกไม้ยางพาราเต็มคัน ตรวจสอบภายในรถกระบะมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณเบาะนั่งหน้าด้านข้างคนขับทราบชื่อนาย นิกร เภรีพล อายุ 49 ปี อยู่ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช สภาพศพร่างอัดติดคอนโซลหน้า นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกรายทราบชื่อนาย ยง อมรกล อายุ 48 ปี เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ นำตัวส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้แล้ว,จากสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายยง คนขับ และนายนิกร ผู้ตาย รวม 2 คน ขับรถกระบะมาตามถนนสายดังกล่าวด้วยความเร็ว มุ่งหน้ากลับบ้านที่ ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ปรากฏว่าเมื่อถึงที่เกิดเหตุรถบรรทุกสิบล้อคันเกิดเหตุ เลี้ยวออกจากถนนเส้นทางลัดเข้าเมือง ขึ้นบนถนนสายเบญจมฯ–น้ำแคบ เป็นจังหวะเดียวกับรถกระบะที่ขับมาด้วยความเร็ว เบรกไม่ทันจึงพุ่งชนรถบรรทุกสิบล้อเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตามสาเหตุอุบัติเหตุที่แท้จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป | เกิดอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนรถบรรทุกสิบล้อที่กำลังเลี้ยวขึ้นมาบนถนนอย่างรุนแรง โดยรถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน | ข่าว,ทั่วไทย | กระบะชนรถบรรทุก,นครศรีธรรมราช,อุบัติเหตุ,รถชน,รถสิบล้อ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1570396 |
กว่าจะมาเป็นเครื่องดื่ม Game of Thrones วอดก้าเหล้าบ๊วย รัมพร้อมดื่ม ชมวิวัฒนาการล้ำเบื้องหลังแนวคิดแก้วโปรด | เคยสังเกตไหมว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เราจิบๆ กัน หรือเห็นหน้าบาร์ ไปยังหยิบจับง่ายในร้านสะดวกซื้อนั้น แท้จริงแล้วต้องผ่านกระบวนการคิดอะไรมาบ้าง ก่อนจะมาตกถึงมือนักจิบอย่างเราๆ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019 แบรนด์ขนมอย่าง Oreo ประกาศเปิดตัวคุกกี้รสช็อกโกแลตประทับตราตระกูลทั้ง 7โดยเตรียมเปิดจำหน่ายเมื่อ ฤดูหนาวมาเยือน หรือเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ที่ปัจฉิมบทมหากาพย์ Game of Thrones จะออกอากาศ ซึ่งนับเป็นการจับกระแสความคลั่งก่อนฉายภาคสุดท้ายของ Game of Thrones ได้อย่างชาญฉลาด ไม่แพ้กับแลปแลนด์ โฮเทล (Lapland Hotel) ที่เนรมิตอาณาจักรทั้ง 7ออกมาเป็นโรงแรมน้ำแข็งธีมเวสเทอรอส ดึงดูดแฟนๆ ให้มุ่งสู่ฟินแลนด์กันยกใหญ่ ก่อนจะปิดโรงแรมก่อนเข้าฤดูร้อนปลายเดือนเมษายนนี้นอกเหนือจากแนวคิดของบรรดาแบรนด์ของกินและโรงแรมที่จับกระแสป๊อปคัลเจอร์ได้อย่างเก่งกาจแล้ว เหล่าเครื่องดื่มดีกรีร้อนแรงก็ขยับตัวตามไม่แพ้กัน ใครอยากชิมไวต์วอล์กเกอร์ออนไอซ์บ้าง?ก่อนหน้านั้นเราได้เห็นการจับมือร่วมกันอันชาญฉลาดของแบรนด์ที่ทำให้แฟนๆ ต้องตื่นตา อย่างการเปิดตัวเครื่องดื่มวิสกี้ Johnnie Walker รุ่น White Walkerเมื่อปี 2018 ที่ตั้งชื่อตามไวต์วอล์กเกอร์ (White Walker) สิ่งลึกลับนอกกำแพงจากดินแดนที่หนาวนานนิรันดร์ในตำนาน จากหนังสือดังของ จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน (George R. R. Martin) ซึ่งเครื่องดื่มดังกล่าวมีกลิ่นของคาราเมล วานิลลา และพืชพันธุ์ผลไม้อย่างเบอร์รีสีแดง โดยแนะให้นักดื่มทั้งในและนอกอาณาจักรทั้ง 7 ดื่มคู่กับน้ำแข็งเย็นเจี๊ยบสดๆ จากช่องแช่แข็ง เพื่อสุนทรีของการจิบ และเพื่อได้ลิ้มรสของความหนาวเย็นในแดนของเหล่าไวต์วอล์กเกอร์ และเรายังได้เห็นซีรีส์ซิงเกิลมอลต์ทั้ง 7 ที่นักสะสมแฟนคลับชาวเวสเทอรอสต้องตาโตที่แทบจะไม่โปรโมตในไทย โดยหยิบเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มซิงเกิลมอลต์มาเข้ากับเรื่องราวเบื้องหลังของตระกูลทั้ง 7 อาทิ Talisker ที่เป็นซิงเกิลมอลต์ที่มีกลิ่นไอแห่งท้องทะเล จากพื้นที่บ่มที่อยู่ได้รับลมทะเลเต็มๆ จึงเป็นที่มาของการประทับตราตระกูลเกรย์จอย (Greyjoy) ที่พื้นเพเป็นชาวประมง เป็นต้นคอลเล็กชันซิงเกิลมอลต์ชุด Game of Thrones ที่ทำนักสะสมตาลุกวาวการจับเทรนด์ได้อย่างรวดเร็วและว่องไวของแบรนด์ไม่ได้เกิดเฉพาะช่วงซีรีส์ทีวีดังเท่านั้น แต่คือการขยับตัวเข้ากับกลุ่มผู้บริโภคแต่ละพื้นที่ที่มีความต้องการต่างกันออกไปไม่นานมานี้ THE STANDARD ได้บุกเข้าชมศูนย์นวัตกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC Technical Innovation Center) ที่ทำการของ ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ ไทยแลนด์ (Diageo Moet Hennessy Thailand) ภูมิภาคเอเชีย อันเป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการใหญ่ของเอเชีย ณ ประเทศสิงคโปร์ ที่เราค้นพบว่าเบื้องหลังแนวคิดเจ๋งๆ ของเครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบที่เห็นบ่อยครั้งนั้น แท้จริงแล้วมาจากทีมงานนักวิทยาศาสตร์ นักคิดค้นพัฒนาเครื่องดื่ม ที่น่าสนใจคือพวกเขาเป็นผู้หญิงทีมนักวิทยาศาสตร์หญิงเก่งผู้อยู่เบื้องหลังเครื่องดื่มที่เราเห็นจนคุ้นเคยทีมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมนี้ประกอบไปด้วยบุคลากรหญิงมากความสามารถ 5 คน 5 สัญชาติ อันได้แก่ จีน ฮ่องกง แคนาดา อินโดนีเซีย และอังกฤษ และพวกเธอนี่เองเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดเด็ดๆ ที่เราเห็นมากมายในร้านสะดวกซื้อศูนย์นวัตกรรมเครื่องดื่มแห่งนี้ยังได้สร้างนวัตกรรมเครื่องดื่มใหม่ๆ ผ่านการทำวิจัยและพัฒนา (Innovation R&D Centre) เครื่องดื่มในเครือของแบรนด์ทั้งในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง ภายใต้แนวคิด From grain to glass ที่สื่อถึงกระบวนการสร้างสรรค์เครื่องดื่ม โดยเริ่มตั้งแต่นำไลฟ์สไตล์และเทรนด์ผู้บริโภคมาวิเคราะห์ ทดลองสร้างสรรค์และผลิตเพื่อตอบโจทย์ จนถึงขั้นตอนการบรรจุลงขวดแก้วเตรียมส่งถึงมือนักจิบหนึ่งในนวัตกรรมที่เราได้เห็น (และอาจได้ลองจิบ) ที่มาจากฝีมือชั้นหัวกะทิของพวกเธอก็คือ Smirnoff Ice Umeshu ที่มีขายเฉพาะในประเทศไทย โดยถือกำเนิดจากการตั้งคำถามว่า เพื่อนสาวดื่มอะไรกันที่บ้าน คำถามง่ายๆ ที่นำไปสู่นวัตกรรมเครื่องดื่มยอดฮิตกว่าจะออกมาเป็นวอดก้าเหล้าบ๊วยที่คิดค้นผ่านนวัตกรรมภายในศูนย์นักวิจัยหญิงชาวอังกฤษในทีมได้ออกสำรวจเทรนด์การจิบของนักดื่มสาวชาวไทย และค้นพบว่า ผู้หญิงไทยนิยมดื่มเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นอย่างเหล้าบ๊วย ที่ตอบโจทย์ความชอบในรสเปรี้ยวหวาน ดื่มง่ายแบบที่เอเชียคุ้นเคย ทั้งผู้หญิงไทยยังนิยมชวนเพื่อนๆ มาสังสรรค์ที่บ้านกันไม่น้อย เปิดดู Netflix หรือล้อมวงพูดคุยเข้าสังคมมากกว่านั่งหน้าบาร์เป็นกลุ่มใหญ่ แต่ถึงกระนั้นพวกเธอมองหาอะไรที่หยิบจับง่าย เปิดง่าย ทั้งยังมีรสหวานนำและมีกลิ่นบ๊วยแทรกอยู่ ดังนั้นจึงต้องเข้าถึงได้ง่าย และสามารถดื่มได้แบบคนเดียวและแบบแชร์ก็ได้ ทั้งยังให้ความรู้สึกไม่ต่างกับการดื่มหน้าบาร์หรือที่ร้านอาหาร กระบวนการคิดนี้ใช้เวลาราวๆ 6 เดือนในการสร้างสรรค์ออกมาเป็นวอดก้ารสบ๊วยดังที่เราเห็นขณะที่ในญี่ปุ่นแบรนด์เดียวกันยังผุดไอเดีย Midnight Max ในรูปแบบขวดที่สามารถแชร์กับเพื่อนร่วมงาน หรือก๊วนเพื่อนกลุ่มใหญ่ได้ สนับสนุนคนญี่ปุ่นให้เข้าสังคม ต่างจากแบบกระป๋องที่เหมาะกับดื่มคนเดียวมากกว่านอกจากนั้น Liquid Technologist หรือทีมนักวิจัยยังเผยอีกว่า อาศัย 5 การรับรู้ (5 Senses) ช่วยในการระบุว่าคนจะสนใจผลิตภัณฑ์นั้นๆ หรือไม่ โดยทำการทดสอบทางโสตประสาทสัมผัส (Sensory Test) เพื่อความเป็นกลางปราศจากอคติ และเพื่อให้มั่นใจว่า สี รส และสัมผัส จะเข้าตานักดื่มแคมเปญหมีขี้เกียจของออสเตรเลียข้ามฝั่งไปยังออสเตรเลีย นักพัฒนาหญิงชาวออสเตรเลียกลับมองว่า ชาวออสซี่มักไม่นิยมดื่มเหล้ารัมกันนัก แต่นิยมดื่มเบียร์มากกว่า ด้วยเหตุผลว่า รู้สึกดื่มง่ายกว่า เบากว่า ทั้งยังหยิบจับง่าย เปิดง่าย และดื่มเมื่อใดก็ได้แม้ยามสายหรือบ่าย อันเป็นจุดกำเนิดของรัมพร้อมดื่มขนาดเดียวกับขวดเบียร์ นั่นคือ Bundaberg Lazy Bear กับรูปหมีขนปุยดื่มรัมริมหาด และแคมเปญชิลๆ ของเพื่อนจอมเอื่อยริมหาดเครื่องดื่มนี้มีน้ำตาลต่ำกว่าซอฟต์ดริงก์โซดาชนิดอื่นๆ และยังมีแอลกอฮอล์อยู่ที่ 3-3.5% เท่านั้น จากรัมเพียง 5% ใส่บางๆ ด้วยรสมะนาวชวนให้รู้สึกสดชื่นเมื่อจิบช่วงอากาศร้อนๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนออสเตรเลียเมืองแดดจัดที่ต้องการหาอะไรจิบยามบ่ายที่เบาและแอลกอฮอล์ไม่สูง ทั้งยังรู้สึกสดชื่นไปพร้อมกัน โดยนักวิจัยหญิงชาวแดนจิงโจ้เผยว่า เครื่องดื่มที่เธอคิดค้นให้ความรู้สึกสดชื่นแบบพอดี ไม่ต่างกับการดื่มจินเจอร์เอลหรือดื่มเบียร์เลยBrancott Estate กับการคิดค้นไวน์แอลกอฮอล์ต่ำที่ดื่มได้เรื่อยๆ ตามกระแสสุขภาพรัมพร้อมดื่มดังกล่าวยังสอดรับกับเทรนด์ของผู้บริโภคของทั่วโลกที่เริ่มหันมาหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับฝั่งนิวซีแลนด์ ที่แบรนด์ไวน์อย่าง Brancott Estate เองก็เริ่มผลิตไวน์แคลอรีต่ำอย่าง Low-cal Flight ออกมาให้นักจิบไวน์ได้เลือก ทั้งโซวิญง บลองก์ และปิโนต์ กริจิโอ โดยเน้นกระบวนการผลิตให้ไวน์มีแคลอรีต่ำกว่าเดิมถึง 20% โดยมีเพียง 88 แคลอรีเมื่อรินใส่แก้ว 5 ออนซ์เท่านั้น และมีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 10% ทำให้ดื่มได้เรื่อยๆ ไม่รีบหน้าแดงไปเสียก่อนเช่นกันแต่เทรนด์การดื่มจะไปในทิศทางไหน จะอิงละครดังเรื่องใดต่อไป เป็นปริศนาน่าตื่นเต้นชวนสนุกที่ชวนให้ทั้งนักดื่มและนักวิจัยคนเก่งต้องตั้งตาคอย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรดื่มอย่างพอเหมาะ ปลอดภัย และเมาไม่ขับ นั่นคือเรื่องสำคัญที่สุดภาพ: พิสูจน์อักษร: | เบื้องหลังแนวคิดเจ๋งๆ ของเครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบที่เห็นในมือบ่อยครั้งนั้น มาจากทีมงานนักวิทยาศาสตร์ นักคิดค้นพัฒนาเครื่องดื่ม อันเกิดขึ้นที่ศูนย์นวัตกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC Technical Innovation Center) ที่ประเทศสิงคโปร์ และผู้อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นผู้หญิง 5 คน จาก 5 ชาติ ได้แก่ จีน ฮ่องกง แคนาดา อินโดนีเซีย และอังกฤษLiquid Technologist หรือทีมนักวิจัยเผยว่า อาศัย 5 การรับรู้ (5 Senses) ช่วยในการระบุว่าคนจะสนใจผลิตภัณฑ์หรือไม่ โดยทำการทดสอบทางโสตประสาทสัมผัส (Sensory Test) เพื่อความเป็นกลางปราศจากอคติ และให้มั่นใจว่า สี รส และสัมผัส จะเข้าตานักดื่ม โดยเริ่มจากการตั้งคำถามง่ายๆ อาทิ เพื่อนสาวชาวไทยดื่มอะไรกันที่บ้าน อันนำไปสู่เครื่องดื่มวอดก้ารสเหล้าบ๊วยสไตล์ญี่ปุ่นที่คิดขึ้นมาเจาะกลุ่มคนไทย | null | null | https://thestandard.co/apac-technical-innovation-center/ |
เฮลั่น นักวิทย์สหรัฐฯ พบโมเลกุล RNA หยุดเซลล์ติดเชื้อ HIV แบ่งตัวแล้ว | เมื่อ 26 ก.ย.62 เว็บไซต์,เดอะ ซัน, และ,เดลี่เมล ,รายงานว่า ความหวังของบรรดาผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ที่นำไปสู่การเป็นโรคเอดส์ อาจได้รับการรักษาจนหายจากการติดเชื้อร้ายกำลังใกล้เข้ามาอีกขั้น เมื่อทีมนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซาน ดิเอโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ค้นพบโมเลกุล RNA ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็น kill swith หรือปุ่มหยุดการทำงาน ที่สามารถหยุดยั้งเซลล์ที่ติดเชื้อ HIV แบ่งตัวสร้างเซลล์ใหม่ หลังจากบรรดานักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้พยายามค้นหาโมเลกุลนี้กันมานานนับ 30 ปี,ทีมนักวิทยาศาสตร์พบว่า ถ้ามีการนำโมเลกุล RNA ดังกล่าวออกไปจากเซลล์แล้ว จะสามารถหยุดเชื้อไวรัส HIV ไม่ให้หวนกลับมาได้อีก โดยจากการทดลองในห้องแล็บพบว่า โมเลกุล RNA ที่มีลักษณะเฉพาะนี้ สามารถปิดสวิตช์ เคลียร์เชื้อไวรัสเอชไอวีที่สงบนิ่งอยู่ในเซลล์ร่างกายได้ โดย ดร.ทาริก รานา ผู้เขียนงานวิจัยเรื่องนี้กล่าวว่า นี่เป็นหนึ่งในสวิตช์สำคัญเกี่ยวกับการพยายามรักษาผู้ติดเชื้อไวรัส HIV หลังจากมีการพยายามค้นหามานานนับ 3 ทศวรรษเลยทีเดียว,ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้คนติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และเป็นโรคเอดส์ ราว 36.9 ล้านคนทั่วโลก โดยปัจจุบันผู้ติดเชื้อเอชไอวีจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษาโรคด้วยยาต้านไวรัสหลายชนิดรวมกันไปจนตลอดชีวิต เพื่อทำให้จำนวนเชื้อไวรัสในร่างกายลดลง หรืออยู่ในระยะสงบ แต่ไม่ได้กำจัดให้หายไปอย่างเด็ดขาด โดยการได้รับยาต้านไวรัสไม่ใช่การรักษา เพียงแต่การทำให้เชื้อไวรัสยังคงสงบนิ่งอยู่ในเซลล์ อยู่ในระยะสงบและเป็นการหยุดยั้งไม่ให้พัฒนาไปถึงระยะที่ระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายถูกทำลายเกือบทั้งหมด และปริมาณเชื้อไวรัส HIV สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือเรียกว่าเป็นโรคเอดส์ (AIDS). | ผู้ติดเชื้อ HIV มีหวังแล้ว นักวิทย์สหรัฐฯ พบโมเลกุล RNA ทำหน้าที่เป็น ปุ่มหยุดการทำงาน ของเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส HIV แบ่งตัวสร้างเซลล์ใหม่แล้ว หลังนักวิทย์ทั่วโลกพยายามหากันมานานนับ 30 ปี | ข่าว,ต่างประเทศ | เชื้อไวรัสHIV,HIV,เอดส์,โรคเอดส์,โมเลกุลRNA | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1669528 |
นาข้าวพะเยา กว่า 3000 ไร่ ขาดน้ำทำนาในรอบ 15 ปี | วันที่ 17 ก.ค. 58 นางแก้ว วรรณจักร อายุ 56 ปี ชาวนาบ้านหนองขวาง หมู่ที่ 3 ต.ศรีถ้อย อ.แม่ใจ จ.พะเยา เปิดเผยว่า นาแถวนี้มีประมาณ 3,000 ไร่ ตนเองและชาวนาในพื้นที่บ้านหนองขวางประสบปัญหาข้าวแห้งตาย และผืนนาแห้งแล้งแตกระแหง เนื่องจากไม่มีน้ำทำนาและหล่อเลี้ยงต้นข้าว,หลังจากมีการขุดลอกหนองน้ำที่ร่องน้ำเดิมของหนองเล็งทราย ซึ่งมีขนาดความลึก 3 เมตร กว้างประมาณ 6-10 เมตร ตามสัดส่วนของธรรมชาติ โดยรอบคันคลองแนวป้องกันการบุกรุกพื้นที่หนองเล็งทราย เนื้อที่กว่า 5,500 ไร่ แต่ความลึกของร่องน้ำมีเพียง 1.50 เมตร จึงไม่สามารถกักเก็บน้ำได้เพียงพอต่อการเพาะปลูก,ซึ่งชาวนาแถบนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำมากว่า 15 ปีแล้ว จึงไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า โดยไปกู้เงินจากสหกรณ์การเกษตรแม่ใจ จำกัด มา 3 แสนบาทเพื่อลงทุนทำนา แต่มาเจอภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำจึงเดือดร้อนมาก หากไม่มีฝนตกลงมาเร็วๆ นี้คงไม่มีเงินทั้งต้น ทั้งดอกไปใช้หนี้,ซึ่งแต่เดิมบริษัทเอกชนที่นำเครื่องจักรมาขุดลอกก็ไม่ได้บอกว่าเป็นโครงการของใคร ดังนั้นชาวนาบ้านหนองขวางจึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขขอความลึก 3 เมตรของร่องน้ำคืน เพื่อที่จะสามารถเก็บกักน้ำเพื่อที่ไว้ใช้ทำนา และทำการเกษตรอื่นๆ ต่อไป | ชาวนาบ้านหนองขวาง จ.พะเยา ขาดน้ำทำนาในรอบ 15 ปี เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขุดลอกหนองเล็งทราย ขอความลึก 3 เมตร ของร่องน้ำคืน เผยกู้เงินสหกรณ์ฯ หลายแสนบาทลงทุนหว่านไถ กลับต้องพบกับนาข้าวยืนต้นตาย | ข่าว,ทั่วไทย | นาข้าวพะเยา,ขาดน้ำทำนา,บ้านหนองขวาง,พะเยา,ภัยแล้ง,วิกฤติภัยแล้ง,ดินแตกระแหง,หนองเล็งทราย,ขาดแคลนน้ำ,กรมชลประทาน,หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง,เร่งช่วยเหลือ,ขุดลอกคลอง,ร่องน้ำตื้น,กักเก็บน้ำ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,การเกษตร,เกษตรกร | https://www.thairath.co.th/news/local/512292 |
เร่งไขปม นักกิจกรรมวีลแชร์ ฆ่าตัวตาย | วันนี้ (5 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพบศพผู้พิการนักกิจกรรมเสียชีวิตจากการถูกยิงที่ใต้สะพานต่างระดับใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ แม้กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุจะไม่พบผู้ต้องสงสัย และเป็นไปได้ว่าจะเป็นการยิงตัวตายตำรวจภูธรแม่ปิงอ.เมือง จ.เชียงใหม่ เข้าตรวจสอบสภาพศพ นายชลันธร นิลพันธุ์ อายุ 38 ปี นั่งอยู่บนวีลแชร์ บริเวณใต้สะพานต่างระดับ แยกเชียงขาง ข้างสวนสุขภาพ 700 ปี ต.ท่าศาลาผู้เสียชีวิตเป็นผู้พิการขาขาดตั้งแต่หัวเข่าลงไปมีบาดแผลรอยกระสุนปืนที่บริเวณขมับขวาทะลุขมับซ้าย และบริเวณหน้าอก ที่หน้าตักมีอาวุธปืนขนาด 11 มม.ขึ้นลำวางอยู่ ส่วนบริเวณใกล้เคียง พบหัวกระสุนปืน ขนาด 11 มม.ตกอยู่ 2 หัวพนักงานส่งสินค้า ผู้พบศพให้การว่า ขณะขับรถบรรทุกเข้ามาจอด เห็นร่างชายพิการนั่งวีลแชร์พิงกับเสาสะพาน มีเลือดไหลที่ขมับ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าได้ยินเสียงดังคล้ายปืน 2 ครั้ง ในช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง พบภาพผู้เสียชีวิตเข็นรถวีลแชร์มาตามลำพัง ลอดใต้สะพาน ไปโผล่ยังอีกมุมหนึ่งของสะพาน และอ้อมไปด้านเสาสะพาน จึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่าผู้เสียชีวิตอาจฆ่าตัวตายเอง อย่างไรก็ตามทางตำรวจ สภ.แม่ปิงเชียงใหม่ จะสอบปากคำแม่ของผู้เสียชีวิต เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งสำหรับนายชลันธร แยกทางกับภรรยา และนำลูกไปให้แม่ ที่ค่อนข้างมีฐานะเป็นผู้ดูแล ที่ผ่านมาเป็นแกนนำชักชวนผู้พิการ ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยเฉพาะการเก็บขยะใต้ทะเลร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หลังผ่านการฝึกฝนทักษะการดำน้ำ จนเป็นผู้พิการขาขาด ที่ได้ร่วมเป็นอาสาสมัครดำน้ำ เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติใต้ท้องทะเลเป็นคนแรกของประเทศไทยโดยเฟซบุ๊ก ของ Parkpoom Patumcharoen ได้โพสต์ข้อความว่า Rip ครับพี่เอก พร้อมกับรูปถ่ายในขณะที่ชลันธร ผู้พิการต้องนั่งวีลแชร์ที่เข้าร่วมโครงการวิ่ง นครพิงค์มินิมาราธอน : วิ่งด้วยใจ ก้าว ไปด้วยกัน เมื่อเดือนธ.ค.2560โดยบอกว่าเรื่องราว ชีวิต ของพี่จะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราทุกๆคนใครพอจะติดต่อ ครอบครัว หรือคนใกล้ตัวพี่เขาได้บ้างผมจะส่งภาพ เหล่านี้ไปให้ครับ | ตำรวจ เร่งหาสาเหตุการเสียชีวิตของ นายชลันธร นิลพันธุ์ นักกิจกรรมวีลแชร์วัย 38 ปีที่เคยร่วมวิ่งในโครงการก้าวคนละก้าวปี 2560 หลังพบบาดแผลถูกยิงที่ขมับขวา และอาวุธปืนตกในที่เกิดเหตุ สันนิษฐานอาจฆ่าตัวตาย ขณะที่โซเชียลร่วมอาลัย | อาชญากรรม | ชลันธร นิลพันธุ์,นักกิจกรรม,วีลแชร์,เชียงใหม่,ฆ่าตัวตาย,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/278176 |
พระเมธีฯ ค้านคำวินิจฉัย ก.ม.คณะสงฆ์ปี 2505 ของผู้ตรวจการแผ่นดิน-ชี้ทำให้สังคมสับสน | วันนี้ (6 มี.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เตรียมแถลงท่าทีต่อกรณีคำวินิจฉัยกฎหมายคณะสงฆ์ ปี 2505 ฉบับแก้ไขปี 2535 ในมาตรา 7 เรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่สรุปว่ากระบวนการเสนอชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เพื่อสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ทำผิดขั้นตอนกฎหมายพระเมธีธรรมาจารย์ เปิดเผยว่า คำวินิจฉัยนี้จะทำให้สังคมสับสน ทั้งที่ปฏิบัติตามหลักกฎหมาย และตามจารีตประเพณีอย่างถูกต้อง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ เป็นห่วงว่าการปกครองคณะสงฆ์จะถูกบั่นทอน จากองค์กรอิสระต่างๆ ที่เข้ามาแทรกแซงองค์กรปกครองสูงสุดคณะสงฆ์ คือมหาเถรสมาคม (มส.)ส่วนที่ตีความว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะเลขานุการที่ประชุม มส.ไม่ได้มีหน้าที่เสนอรายชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ให้ มส.รับรอง เพราะควรเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการเริ่มต้นกระบวนการนั้น ถือว่าเป็นเรื่องภายในคณะสงฆ์ และเป็นมารยาทที่อาณาจักรจะไม่ก้าวล่วงศาสนจักร ซึ่งที่ผ่านมา พศ.ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องแล้ว | เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยเตรียมแถลงท่าทีต่อกรณีคำวินิจฉัยกฎหมายคณะสงฆ์ปี 2505 ของผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยเห็นว่าคำวินิจฉัยนี้ทำให้สังคมสับสน | สังคม | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,พระเมธีธรรมาจารย์,สมเด็จพระสังฆราช,กฎหมายคณะสงฆ์,สมเด็จช่วง,มหาเถรสมาค,สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ | https://news.thaipbs.or.th/content/250687 |
จับโจ๋แสบวัย 21 อมเยียวยา ลุงแก่เฉาก๊วย (คลิป) | กดเบิก 5 พันให้พันเดียว คนฝ่าฝืนเคอร์ฟิวเพียบบาท ลุงตัดสินใจแจ้งความเอาเรื่อง รับสารภาพอ้างเกิดอารมณ์ชั่ววูบ พนักงานสอบสวนคุมตัวส่งฟ้องฐานลักทรัพย์ทันที ศาลสั่งลงโทษปรับ 5000 บาท จำคุก 3 เดือน รอลงอาญา 1 ปี ขณะที่หลายจังหวัดยังคุมเข้มกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศเคอร์ฟิวหลายรายรวบหนุ่มลักเงินเยียวยาลุงขายเฉาก๊วยซ้ำเติมคนตกทุกข์ได้ยากในยามวิกฤติ ตำรวจนำตัวส่งฟ้องศาลตัดสินลงโทษทันที โดยช่วงสายวันที่ 16 เม.ย. พ.ต.อ.มานพ ภุชชงค์ ผกก.สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นำกำลังเข้าจับกุมนายพัฒนา รัปชัย อายุ 21 ปี อยู่เลขที่ 326 หมู่ 2 บ้านขนงพระใต้ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง หลังถูกนายบุญใหล มอมขุนทด อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 5 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง เข้าแจ้งความว่าถูกนายพัฒนาโกงเงินเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลรายละ 5000 บาทนายบุญใหลให้การว่า มีอาชีพขายเฉาก๊วย ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ต้องเช่าเดือนละ 1000 บาท เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมาได้ไปขายเฉาก๊วยหน้า ร.ร.ขนงพระใต้ ต.ขนงพระ มีนายพัฒนาที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเข้ามาซื้อและสอบถามถึงการลงทะเบียนรับเงินเยียวยาจากโรคระบาด ตนบอกไม่รู้เรื่อง อ่านหนังสือไม่ออก นายพัฒนาเลยอาสาลงทะเบียนให้พร้อมกับบอกว่าอีกไม่กี่วันเงินจะเข้าบัญชีธนาคาร จากนั้นวันที่ 15 เม.ย.นายพัฒนาโทรศัพท์บอกเงินเข้าแล้วและพาไปกดเงินที่หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กม.4 บ้านนา สามแยกถนนธนะรัชต์ทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กดอยู่ 2-3 รอบ เสร็จแล้วส่งให้ 1000 บาท บอกเงินเข้าแค่นี้นายบุญใหลให้การอีกว่า ตอนนั้นเห็นว่าเด็กหนุ่มคนนี้เขามีน้ำใจเลยให้เฉาก๊วยไปให้ 10 กว่าถ้วยหลังจากนายพัฒนาแยกย้ายไปแล้วมีแม่ค้าขายของหน้าร้านเซเว่นฯมาถามว่าได้เงินเท่าไร พอรู้ได้ 1000บาท แม่ค้าบอกลุงว่าถูกโกงแล้ว จากนั้นมีคนช่วยเอาสมุดบัญชีไปปรับที่ธนาคารกรุงไทย สาขาปากช่องพบว่าถูกโกงเงินไป 4000 บาท เลยอาสาพาไปแจ้งความ หลังตำรวจติดต่อนายพัฒนาให้มาพบที่โรงพักปรากฏว่านายพัฒนาโทรศัพท์มาขอผ่อนเงินคืนให้อาทิตย์ละ 1000 บาท แต่ตนไม่ยอมถ้าไม่คืนให้ทั้งหมดจะดำเนินคดีให้ตำรวจจับเข้าคุกด้านนายพัฒนา ผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ทีแรกตอนลงทะเบียนให้นายบุญใหลก็ไม่คิดจะเอาเงิน แต่ตอนไปกดเงินเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมาก็รู้สึกอยากได้ เพราะครอบครัวตนเดือดร้อน ตอนนี้เอารถไปซ่อมไม่มีเงินจ่าย ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบเอาเงินของลุงไปใช้ วันนี้ตั้งใจจะหาเงินจากญาติพี่น้องเอาไปคืนให้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมเสียก่อน หลังสอบปากคำเวลา 16.00 น. พนักงานสอบสวนคุมตัวนายพัฒนาส่งอัยการยื่นฟ้องศาลจังหวัดสีคิ้ว (ปากช่อง) ในข้อหาลักทรัพย์ทันที ศาลตัดสินจำคุก 3 เดือน ปรับ 5000 บาท โทษจำให้รอลงอาญา 1 ปี ด้านพ.ต.อ.มานพเผยว่า ถึงแม้ผู้ต้องหารับสารภาพจะคืนเงินให้ผู้เสียหาย แต่ความผิดสำเร็จแล้ว ที่สำคัญเป็นนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน จึงรีบส่งฟ้องศาลด้วยวาจาข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งยอมความกันไม่ได้ส่วนผู้กระทำความผิดฝ่าฝืนท้าทาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินและประกาศเคอร์ฟิวยังมีให้เห็นต่อเนื่อง โดยที่จ.สงขลา พล.ต.อดิศักดิ์ ประชากิตติกุล ผบ.มทบ.42 สั่งการให้ ร.อ.สาธิต สุวรรณราช ผล.มว.คทร.และ ร.ต.เอนก พรหมสวัสดิ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสงขลา สนธิกำลังร่วมตำรวจสภ.สะเดา และฝ่ายปกครองบุกจับนักพนันที่บ้านเลขที่ 39/4 ซอยลอยเลื่อน ถนนกาญจนวนิช ซอยลอยเลื่อน ต.สะเดา อ.สะเดา ขณะนั่งเล่นพนันไพ่รัมมี่ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ก่อนรวบผู้ต้องหาได้ 8 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง7คน พร้อมของกลาง 6 รายการ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ข้อหาร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน(ไพ่รัมมี่) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมและมั่วสุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายสุพงษ์วิณัย ชูยก นายอำเภอท่าศาลา สั่งให้นายศักดิ์ชาย นันทเกษตร ปลัดอำเภอนำกำลังร่วมกับกำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ตั้งจุดตรวจบนถนนสายยางด้วน หมู่ 7 ต.โพธิ์ทอง เพื่อจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิวพบผู้กระทำความผิด 3 คน คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ดำเนินคดีในข้อหาว่าออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.โดยไม่มีความจำเป็นหรือข้อยกเว้นฯ นอกจากนี้ยังตรวจพบผู้ต้องหาเสพยาเสพติด จึงส่งเข้าศูนย์บำบัดฟื้นฟูยาเสพติดต่อไปที่ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.อัทธชนม์ ช่วงงาม รอง ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ แถลงจับกุมเด็กแว้น 8 คนพร้อมรถ จยย.ของกลางดัดแปลงสภาพ 7 คัน มีนายพรชัย ไกรรักษ์ อายุ 19 ปี พร้อมผู้ต้องหาเยาวชนอายุตั้งแต่ 12-17 ปีอีก 7 คน หลังทั้งหมดนัดแข่งรถกันบนถนนเลียบคลองส่งน้ำบ้านหนองอีหล่ำ-บ้านหนองเครือซุด อ.เมืองศรีสะเกษ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบ ตามความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นผู้จัด ผู้สนับสนุนหรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตด้าน พ.ต.ท.พรรษา จิวรรักษ์ สว.สส.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นำกำลังออกตรวจพื้นที่ตอนดึกคืนวันที่ 15 เม.ย. มาถึงป้อม รปภ.ทางเข้าหมู่บ้านเอื้ออาทรนนทบุรี (วัดกู้ 3) ซอยวัดกู้ หมู่ 6 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางพูด พบชาย 3 คนมั่วสุมเล่นเกมออนไลน์กันอย่างสนุกสนานไม่สนใจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สอบสวนทราบชื่อนายณรงค์ฤทธิ์ ลาดแก้ว อายุ 22 ปี นาย ศราวุธ รักศรี อายุ 18 ปี และนายเอกราช เรืองทิม อายุ 34 ปี พร้อมอาวุธปืนออโตเมติกขนาด 9 มม. และกระสุน 9 นัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายของนายเอกราช ก่อนนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกาออกคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ฉบับที่ 4 ความว่า ตามที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรและนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลาที่ระบุในข้อกำหนดเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับยกเว้นนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมประธานศาลฎีกาจึงออกคำแนะนำดังต่อไปนี้การใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษแก่จำเลย ศาลพึงคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการออกข้อกำหนดว่าเป็นไปเพื่อป้องกันมิให้ประชาชนไปประกอบกิจกรรมไม่พึงประสงค์อันนำไปสู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส การกำหนดโทษแก่จำเลยในอัตราโทษที่เหมาะสมและมีผลในการบังคับโทษโดยทันทีย่อมส่งผลให้จำเลยเข็ดหลาบไม่กล้ากระทำความผิดอีก ตลอดระยะเวลาตามข้อกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินส่งผลดีต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและส่งผลต่อประชาชนโดยทั่วไปที่จะยับยั้งชั่งใจและระมัดระวังที่จะไม่กระทำความผิดในฐานดังกล่าวแต่ในภาวะเช่นนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงการส่งจำเลยเข้าไปรับโทษกักขังในสถานที่กักขังหรือจำคุกในเรือนจำ เพราะเป็นการเสี่ยงที่จำเลยจะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสไปแพร่ระบาดในสถานที่กักขังหรือเรือนจำ จึงสมควรที่ศาลจะนำมาตรการที่มีอยู่หลากหลายในประมวลกฎหมายอาญามาใช้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทั้งในทางลงโทษผู้กระทำความผิดและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง สำหรับมาตรการทางอาญาที่ศาลจะพิจารณานำมาใช้ให้เหมาะสมตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเพื่อให้การลงโทษที่สามารถใช้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้จำเลยจะมีโอกาสเป็นพาหะนำโรคระบาดไปในเรือนจำหรือสถานกักขังก็มีการกำหนดไว้ในหลายรูปแบบด้วยกัน เช่นการลงโทษปรับ การรอการลงโทษ การรอการกำหนดโทษ การกักขังในสถานที่อื่นที่กำหนด อาจจะเป็นในเคหสถาน เป็นต้นที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงว่า ผลการปฏิบัติงานฝ่ายความมั่นคงช่วงเคอร์ฟิวคืนวันที่ 15 เม.ย. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 16 เม.ย. มีการฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน 823 ราย น้อยลงกว่าคืนก่อน 13 ราย ชุมนุมมั่วสุม 168 ราย มากกว่าคืนก่อน 87 ราย 10 จังหวัดที่มีผู้ฝ่าฝืนมากที่สุดได้แก่ นนทบุรี กทม. ระยอง สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ภูเก็ต นครราชสีมา การเอาตัวเลขตรงนี้มาพูดไม่ใช่ประจาน แต่อยากให้ประชาชนรับทราบข้อมูลและจังหวัดเหล่านี้มีผู้ฝ่าฝืนเยอะ อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเข้มแข็ง ประชาชนคอยแจ้งเบาะแส คนกระทำผิดต่างหากที่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่อยากให้มองเป็นมุมด้านลบอย่างเดียว วอนร่วมมือร่วมใจให้ได้เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ต่อมา เวลา 17.00 น. วันที่ 16 เม.ย. พ.ต.ท.ธนนท์ ล้นเหลือ รอง ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนัน ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ภายในโกดังรับซื้อของเก่า เลขที่ 3/2 หมู่ 8 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน ได้ผู้ต้องหา 27 คน มีนางสาวกรศิริ เรืองศร อายุ 42 ปี รับเป็น ผู้ดูแลสถานที่ ยึดของกลางเงินสด 540 บาท และอุปกรณ์การเล่นพนันหลายรายการ สอบสวนนักพนัน ทั้งหมดรับสารภาพว่าจับกลุ่มมั่วสุมเล่นการพนัน (กำถั่ว) จริง โดยสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้ามือ | ตำรวจบุกรวบหนุ่มอมเงินเยียวยาลุงขายเฉาก๊วย หลังเห็นผู้เสียหายยืนขายของอยู่ เลยเข้าไปสอบถามถึงการลงทะเบียนขอรับเงินพร้อมอาสาจัดการให้ แถมพาไปกดเงินเอง ก่อนส่งให้แค่ 1000 บาท เก็บไว้ 4000 | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว,ห้ามออกจากบ้านหลัง 4 ทุ่ม,พรก.ฉุกเฉิน,หลอกลุงขายเฉาก๊วย,เงินเยียวยา 5 พัน,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1822788 |
หวั่นราคายาอินเดียพุ่งกระทบผู้ติดเชื้อไทย 1.5 แสน | ประชาไท - 2 มี.ค.48น.ส.แสงศิริ ตรีมรรคา หัวหน้างานรณรงค์มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวถึงกรณีที่ประเทศอินเดียประกาศกฤษฎีกาแก้ไขกฎหมายสิทธิบัตรว่า การแก้กฎหมายสิทธิบัตรของ อินเดียวนั้นเอื้อประโยชน์ต่อบรรษัทยาข้ามชาติให้สามารถผูกขาดการค้าและกำหนดราคายาได้ตามอำเภอใจ ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ป่วยเอดส์ในประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกที่ต้องอาศัยการนำเข้ายาสูตรสามัญจากอินเดีย ซึ่งจะมีราคาถูกกว่ายาต้นแบบของบรรษัทยาข้ามชาติเป็นอย่างมาก ในขณะที่การใช้ยาจากบริษัทยาของสหรัฐต้องใช้ค่าใช้จ่ายประมาณ 600000 บาทต่อปี ยาสูตรสามัญที่ผลิตโดยบริษัทยาจากอินเดียมีราคา 14000 บาทต่อปี ประเทศไทยเองก็มีความเป็นไปได้ว่าเร็วๆ นี้ไทยอาจต้องนำเข้ายาต้านไวรัสสูตรสามัญจากอินเดียบางตัวเพื่อเป็นยาสูตรสำรองในการรักษาผู้ติดเชื้อในระบบหลักประกันสุขภาพ เพราะมีราคาถูก ดังนั้นกฎหมายนี้จะกระทบกับผู้ติดเชื้อในไทยกว่า 150000 คนที่ต้องใช้ยาต้านไวรัสด้วย น.ส.แสงศิริกล่าว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความเคลื่อนไหวนั้น เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย และองค์กรพันธมิตรที่รณรงค์ด้านสิทธิในการเข้าถึงการรักษา ได้ขอเข้าพบเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีกำหนดการเข้าพบเพื่อยื่นจดหมายและหารือถึงข้อห่วงใยต่อกฎหมายดังกล่าวในราวกลางเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ | ประชาไท - 2 มี.ค.48 น.ส.แสงศิริ ตรีมรรคา หัวหน้างานรณรงค์มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวถึงกรณีที่ประเทศอินเดียประกาศกฤษฎีกาแก้ไขกฎหมายสิทธิบัตรว่า การแก้กฎหมายสิทธิบัตรของ | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/03/2965 |
เซาท์ แคโรไลนาอ่วม เขื่อนแตก น้ำทะลักซ้ำพื้นที่ประสบอุทกภัย อพยพวุ่น | ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 13 ราย,เมื่อวันที่ 6 ต.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ ในหลายเมืองของรัฐเซาท์ แคโรไลนา ประเทศสหรัฐฯ เนื่องมาจากฝนตกหนัก จากอิทธิพลของเฮอริเคนวาคีน โดยบางพื้นที่ของรัฐเกิดฝนตกหนักที่สุดในรอบ 1,000 ปี เท่าที่มีการบันทึกไว้ว่า ขณะนี้ ประชาชนในรัฐเซาท์ แคโรไลนา ต้องยิ่งตระหนกตกใจมากขึ้น เมื่อเขื่อนอย่างน้อย 18 แห่ง ในรัฐ ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามหาศาลได้ จนทำให้เกิดรอยร้าวและปริแตกแล้ว หรือมีบางแห่งแตก จนทำให้เกิดน้ำทะลักไหลท่วมพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม จนสถานการณ์อุทกภัยยิ่งเลวร้ายหนักกว่าเดิม,ซีเอ็นเอ็น แจ้งว่า หนึ่งในเขื่อนที่แตกแล้ว อยู่ที่เมืองฟอเรสต์ แอคเรส ในเขตริชแลนด์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนในเมืองโคลัมเบีย ซึ่งอยู่ใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน โดยอุทกภัยที่เกิดขึ้นในรัฐเซาท์ แคโรไลนา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และที่รัฐนอร์ท แคโรไลนา อีก 2 คน,ขณะเดียวกัน มีรายงานแจ้งด้วยว่า ทางสำนักงานดับเพลิงในเมืองโคลัมเบีย ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ประสบอุทกภัยรุนแรง ได้รับแจ้งว่า ทะเลสาบ อาร์คาเดีย, ฟอเรสต์ เลค และเลค ด็อกวูด ได้รับผลกระทบจากเขื่อนหลายแห่งแตก โดยที่เมืองโคลัมเบีย ได้เกิดฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 7.7 นิ้ว ระหว่างเวลา 11.00 น. วันเสาร์ที่ 3 ต.ค.-11.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 4 ต.ค. จนทางการได้ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์จนถึงเช้าวันจันทร์ที่ 5 ต.ค. นอกจากนั้น ทางการยังได้ส่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำ บางคนต้องหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนหลังคา | รัฐเซาท์ แคโรไลนา เจอภัยพิบัติซ้ำเขื่อนหลายแห่ง รองรับปริมาณน้ำมหาศาลไม่ไหว เกิดรอยร้าวปริแตก และมีบางแห่งถึงขั้นแตกแล้วไหลทะลักท่วมซ้ำเติมพื้นที่ประสบอุทกภัย จนต้องเร่งอพยพประชาชนกันโกลาหล | null | เซาท์ แคโรไลนา,เขื่อนแตก,เขื่อนแตกในเซาท์ แคโรไลนา,ฝนตกหนัก,เขื่อนร้าว,สหรัฐฯ,เฮอริเคนวาคีน,เฮอริเคน,อิทธิพลพายุ,พายุถล่ม,น้ำท่วม,อุทกภัย,อพยพประชาชน,หนีน้ำท่วม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/530390 |
บาโล สะดุ้ง เอฟเอ ตั้งข้อหากรณีโพสต์เหยียดยิว | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 5 ธ.ค. ว่า มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าเจ้าปัญหาทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรดังประจำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ตั้งข้อหา กรณีโพสต์ข้อความเชิงเหยียดชาวยิวลงบนอินสตาแกรมของตัวเองเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนจะลบออกในภายหลัง,อย่างไรก็ตาม แม้ดาวยิงวัย 24 ปีจะออกมาขอโทษเป็นที่เรียบร้อยผ่านทางทวิตเตอร์ แต่ล่าสุดเอฟเอ ก็ลงมือสอบสวนก่อนตัดสินใจตั้งข้อหากับ บาโลเตลลี ว่าละเมิดกฏข้อ E3 ว่าห้ามโพสต์รูปหรือข้อความที่ไม่เหมาะสม และให้มารับทราบข้อกล่าวหาภายในเวลาที่เอฟเอกำหนด,แถลงการณ์จากเอฟเอระบุว่า มาริโอ บาโลเตลลี ถูกตั้งข้อหาโดยเอฟเอเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดียเมื่อไม่นานมานี้ นักเตะของลิเวอร์พูลถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฏเอฟเอข้อ E3(1) ซึ่งระบุว่าการโพสต์ของเขาถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม,สบประมาท และนี่คือการละเมิดที่ร้ายแรงยิ่งกว่าตามกฏข้อ E3(2) ของเอฟเอที่รวมถึงการดูถูกถึงชาติกำเนิด,สีผิว,เชื้อชาติ,สัญชาติ,หรือศาสนา, หรือความเชื่อ ซึ่งนักเตะมีเวลาไปจนถึง 6 โมงเย็น ของวันที่ 15 ธันวาคม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา | สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ตั้งข้อกล่าวหา มาริโอ บาโลเตลลี ดาวยิงฟอร์มฝืด ของ ลิเวอร์พูล กรณีลงภาพที่มีข้อความเชิงเหยียดชาวยิวลงบนอินสตราแกรมของตัวเอง | null | พรีเมียร์ลีก,มาริโอ บาโลเตลลี,เหยียดยิว,สมาคมฟุตบอลอังกฤษ,เอฟเอ,ลิเวอร์พูล,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/467495 |
หนุ่มดวงกุด ขี่ จยย.พุ่งชนท้ายเทรนเลอร์ จอดฉี่ข้างทางดับสลด | ดังกล่าว จึงโทรแจ้ง ตร.,เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 29 พ.ย.61 ร.ต.อ.นนทกร ศาลาคราม รอง สว.(สอบสวน) สภ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี รับแจ้งมีเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเทรนเลอร์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่บริเวณถนนสายเอเชีย ขาขึ้นภาคเหนือ หลักกิโลเมตรที่ 100-101 หมู่ที่ 1 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงรุดไปทำการสอบสวน ,ที่เกิดเหตุพบรถเทรนเลอร์ ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียนตัวรถ 70-9989 ฉะเชิงเทรา หมายเลขทะเบียนตัวพ่วง 70-9990 ฉะเชิงเทรา จอดอยู่ที่บริเวณไหล่ทาง สภาพรถด้านท้ายตัวพ่วงได้รับความเสียหายเล็กน้อย ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 8 กด 5953 กรุงเทพมหานคร ล้มอยู่ท้ายรถสภาพพังยับเยิน ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ทราบชื่อ นายปรีชา สำราญรมย์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 5 ต.ห้วยแก้ว อ.บึงนาราง จ.พิจิตร เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ,จากการสอบสวน นายอาทิตย์ ประสพศิลป์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 9 ต.เขิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย คนขับรถเทรนเลอร์ ให้การว่าตนเองขับรถเทรนเลอร์เพื่อจะไปส่งสินค้าที่ภาคเหนือ มาถึงที่เกิดเหตุตนเองจอดรถปัสสาวะ พอขึ้นรถได้ยินเสียงดังโครมจึงลงมาดู ทราบว่ามีรถจักรยานยนต์มาชนท้าย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการต่อไป | เกิดเหตุ จยย.ชนท้ายรถเทรนเลอร์ บนถนนสายเอเชีย ขาขึ้นภาคเหนือ จ.สิงห์บุรี ส่งผลให้คนขับ จยย.เสียชีวิต ด้านคนขับเทรนเลอร์ เผยจอดรถลงไปฉี่ กลับขึ้นรถได้ยินเสียงดังโครม ลงมาดู พบเหตุสลด | ข่าว,ทั่วไทย | ชนท้าย,พุ่งชนท้าย,จยย.ชนท้ายเทรนเลอร์,จยย.ชนเทรนเลอร์,อุบัติเหตุ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1432503 |
สุเทพเจอดีเดินตลาดแพร่ ถูกยื่นปฏิทินทักษิณ-ยิ่งลักษณ์เย้ยอีก | สุเทพ เดินคารวะแผ่นดินแพร่ ลงตลาดสามวัย ถูกมือดีมอบปฏิทินทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ก่อนถูกการ์ดกันตัวออกไป ขณะที่หลายตลาดยังมีแม่ค้าแห่ขอถ่ายรูป เปรยชมคนแพร่ใจงามไม่เหมือนจังหวัดอื่น เผยวันเลือกตั้งเป็นหน้าที่ กกต.ส่วนปัญหาชาวบ้านหลักคือเศรษฐกิจไม่ดีเหมือนกันทั่วประเทศ,เมื่อวันที่ 18 ม.ค.62 เวลา 16.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำและผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ เพื่อเดินคารวะแผ่นดิน โดยได้ไปกราบศาลหลักเมืองจังหวัดแพร่ จากนั้นเดินทางไปเดินในตลาดบ้านทุ่ง อำเภอเมืองแพร่ ซึ่งปรากฏว่า พ่อค้า แม่ค้า ยิ้มแย้มแจ่มใสให้การต้อนรับ ไม่มีปฏิกิริยาในทางลบ หลายคนก็วิ่งมาขอถ่ายรูปด้วยอาการดีใจและยิ้มแย้ม,จากนั้นนายสุเทพ ได้เดินไปทักทายพ่อค้าแม่ค้าประชาชนชาวแพร่ ที่ตลาดอรทัย ซึ่งใกล้ๆ กับตลาดบ้านทุ่ง และเดินเข้าร้านค้าถนนสายช่อแฮ ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี จนถึงเวลา 17.30 น. คณะเดินทางไปยังกาดสามวัย ข้างเทศบาลเมืองแพร่ หน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ ก็ได้รับการต้อนรับจากพ่อค้าแม่ค้า ต่างพากันมาขอถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน,ขณะที่เดินคารวะแผ่นดินที่แพร่ นายประสงค์ ชุ่มเชย แกนนำคนสนิท แม่เลี้ยงติ๊ก จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้พานายสุเทพ และคณะเดินไปตาม ตลาดต่างๆ และฝากเนื้อฝากตัว กับพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่เดินทางมาจับจ่าย,นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการมาเดินคารวะแผ่นดินที่แพร่ ซึ่งตนก็เคยมาหาเสียงหลายครั้ง และครั้งนี้ถือว่าได้รับน้ำใจจากพี่น้องชาวแพร่เป็นอย่างดี ให้การต้อนรับอบอุ่น ไม่ค่อยเหมือนจังหวัดอื่น ส่วนการเลือกตั้ง ย้ำว่าเป็นหน้าที่ กกต. ส่วนปัญหาชาวบ้านก็เหมือนๆ กับจังหวัดอื่นๆ คือเศรษฐกิจไม่ดีเหมือนกันทั่วประเทศ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่คณะนายสุเทพเดินคารวะแผ่นดินจุดสุดท้ายที่ตลาดสามวัยก็มีชาวบ้านคนหนึ่งได้เดินเข้าไปมอบปฏิทิน เป็นรูปอดีตนายกฯทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่นายสุเทพไม่รับและการ์ดของนายสุเทพได้กันออกไป ส่วนบรรยากาศทั่วไปเป็นไปด้วยดีเรียบร้อย. | สุเทพเดินคารวะแผ่นดินแพร่ ลงตลาดสามวัย ถูกมือดีมอบปฏิทินทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ก่อนถูกการ์ดกันตัวออกไปขณะที่หลายตลาดยังมีแม่ค้าแห่ขอถ่ายรูป เปรยชมคนแพร่ใจงามไม่เหมือนจังหวัดอื่น เผยวันเลือกตั้ง | ข่าว,ทั่วไทย | สุเทพ เทือกสุบรรณ,พรรครวมพลังประชาชาติไทย,ดินคารวะแผ่นดิน,ปฏิทินยิ่งลักษณ์,แพร่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1473038 |
รฟท.ชี้แจงกรณีคลิปวีดีโอที่ปัดน้ำฝนรถไฟ-ชำรุดจริงและได้ซ่อมแล้ว | และถูกตักเตือน-คาดโทษ12 มิ.ย. 2557 - รายงานว่า กองประชาสัมพันธ์ ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอที่ใช้ที่ปัดน้ำฝนของรถไฟ จากกรณีที่มีการโพสต์คลิปวีดีโอการทำงานของพนักงานขับรถขบวนหนึ่งในขณะปฏิบัติงานในช่วงฝนตกหนัก โดยใช้มือข้างหนึ่งควบคุมที่ปัดน้ำฝน และมืออีกข้างหนึ่งยังขับรถไฟอยู่ เกิดความลำบากในการทำงาน ผ่านโลกโซเชียลมีเดียและเกิดการแพร่กระจายของสื่อไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคลิปวีดีโอดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และไม่มั่นใจต่อการให้บริการของการรถไฟ เป็นอย่างยิ่งทั้งนี้ ร.ฟ.ท. โดยนายเชิดสกุล บัวขาว วิศวกร 8 รักษาสารวัตรงานซ่อมรถจักรดีเซล บางซื่อ พร้อมด้วยทีมวิศวกรของฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงของเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขบวนรถดังกล่าวเป็นขบวนรถท้องถิ่นที่ 446 ใช้รถจักรดีเซล เลขที่ 4409 ห้องขับที่ 2 เดินทางจากสถานีชุมทางหาดใหญ่-สถานีชุมพร ระหว่างทางเกิดฝนตกหนัก พนักงานขับรถจึงทำการเปิดเครื่องปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ปรากฏว่าเครื่องไม่ทำงาน พนักงานจึงได้เปลี่ยนมาใช้ระบบควบคุมด้วยมือแทน เมื่อขบวนรถถึงกลับกรุงเทพฯ หน่วยซ่อมบำรุงได้ตรวจสอบและพบว่า วาล์ว ปิด-เปิด ควบคุมการทำงานของเครื่องปัดน้ำฝนชำรุด 1 ตัว ซึ่งที่ปัดน้ำฝนในรถจักรทั้ง 2 ด้านมีทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งหน่วยซ่อมได้ทำเปลี่ยนและสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว ทั้งนี้ ระบุว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารสำหรับผู้โพสต์คลิปวีดีโอดังกล่าว ด้านนายปลื้ม เพชรทองเกลี้ยง หัวหน้ากองเทคนิคศูนย์ลากเลื่อน ฝ่ายการช่างกล การรถไฟ ชี้แจงว่า ได้นำหัวรถจักรหมายเลข 4409 ซึ่งปรากฏภาพในสื่อสังคมออนไลน์มาให้สื่อตรวจสอบ ยืนยันว่า หัวรถจักรทุกคันของการรถไฟฯ มีที่ปัดน้ำฝนระบบอัตโนมัติ แต่ถูกออกแบบให้มีระบบแมนนวล หรือใช้มือร่วมด้วย ถ้าหากระบบอัตโนมัติขัดข้อง และจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่หัวรถจักรดังกล่าวรายงานว่าหัวรถจักรต้องใช้งานต่อเนื่อง 3 วัน เมื่อระบบปัดน้ำฝนขัดข้อง จึงให้ช่างเครื่องมาช่วยปัดน้ำฝน ซึ่งเป็นเหตุเฉพาะหน้าทั้งนี้ ช่างเครื่องคนดังกล่าวยอมรับว่าโพสต์ภาพในสื่อออนไลน์เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยถูกตักเตือนและคาดโทษแล้ว ทั้งนี้ รฟท. ยืนยันว่าหัวรถจักรทุกคัน จะตรวจตามมาตรฐานความปลอดภัย ได้แก่ อุปกรณ์หลัก 7 ประเภท และอุปกรณ์เสริม 3 ประเภท ซึ่งรวมไปถึงที่ปัดน้ำฝนด้วย | กรณีคลิป พขร.รฟท.ใช้มือดันที่ปัดน้ำฝนรถไฟ การรถไฟชี้แจงเป็นรถขบวนท้องถิ่น 446 ที่ปัดน้ำฝนเสีย 1 ตัว ซึ่งได้ซ่อมแล้วและสามารถใช้งานปกติ ส่วนพนักงานผู้โพสต์คลิปยอมรับว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ | คุณภาพชีวิต | การรถไฟแห่งประเทศไทย,รถไฟ,ระบบขนส่งสาธารณะ | https://prachatai.com/journal/2014/06/53965 |
ความสามารถรอบตัว เบลล่า ทั้งร้องทั้งเต้นร่วมฟีเจอริ่ง วงมายด์ | หลังจากมีข่าวว่าหนุ่มเครางาม เป้ วงมายด์ แอบเขินเบอร์แรงเมื่อมีโอกาสได้ใกล้ชิดนางเอกสุดฮอตจากละครสุดฟีเวอร์สะท้านแผ่นดิน เรื่อง บุพเพสันนิวาส อย่างสาว เบลล่า ราณี แคมเปน เหตุเพราะทั้งคู่มีโปรเจกต์พิเศษร่วมกัน นั่นก็คือการนำเพลง เธอคือของขวัญ (baby I love you) ต้นฉบับของ สิงโต นำโชค นำมา Cover ใหม่ โดยเพิ่มกลิ่นอายของความเป็นแร็ป เพื่อให้เพลงในเวอร์ชั่นนี้สนุกขึ้น,เมื่อทั้งคู่มีโอกาสเจอกันที่ห้องอัด ต่างคนก็ต่างเขิน เพราะฝ่ายสาว เบลล่า ก็เป็นแฟนเพลงของ วงมายด์ มาตั้งแต่อัลบั้มแรก ด้านหนุ่มเป้ ก็อวยอายขวยเขินไม่น้อย แต่ก็อึ้ง เพราะไม่คิดว่าสาวเบลล่าจะมีความสามารถพิเศษด้านการร้องเพลงอีกด้วย,ผมมีความสุขมากครับ เรียกว่าร้องดีเลยทีเดียว จริงๆ แล้วไม่เคยเห็นด้านที่เป็นการร้องเพลงของเบลล่ามาก่อน ส่วนตัวผมเองไม่เคยทราบ แต่รู้สึกว่าวันนี้ได้มาเจอกัน ประสบการณ์ดีๆ แล้วก็ได้รู้ว่านอกเหนือจากประสบการณ์ด้านการแสดง เบลล่าสามารถร้องเพลงได้ด้วย,ด้าน เบลล่า ก็บอกว่า แหม พี่เป้อวยกันเกินไปแล้ว ต้องขอบคุณพี่ๆ ทุกคนด้วยค่ะ ที่ช่วยบิวต์ ความจริงติดตามผลงานของวงมายด์มาตั้งแต่อัลบั้มแรกเลยค่ะ วันนี้ก็มาในเพลง เธอคือของขวัญ ซึ่งวงมายด์ก็นำมาทำใหม่ น่ารักสดใสขึ้น แล้วก็มีท่อนแร็ปด้วย ก็จะเป็นอะไรใหม่ๆ อยากจะให้ทุกคนรอติดตามนะคะ ว่าจะสนุกแค่ไหนค่ะ,นอกจากจะร้องเพลงร่วมกันแล้ว ทั้งหนุ่มเป้และสาวเบลล่า ยังมีโอกาสได้ถ่าย MV ร่วมกันด้วย งานนี้ทั้งแฟนละคร แฟนเพลง คงได้เห็นภาพน่ารักๆ และความสดใสของทั้งคู่ผ่าน MV เธอคือของขวัญ ในอีกเวอร์ชั่นที่เชื่อแน่ว่าจะติดตาตรึงใจคนดูทั่วประเทศแน่นอน,เธอคือของขวัญเป็นเพลงที่ดีครับ เหมาะมากสำหรับการที่จะส่งความรู้สึกดีๆ ให้กับคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพลงนี้จะเป็นตัวแทนของความสุขให้กับทุกคน ทุกคนจะมีความสุขที่ได้ฟัง และส่งต่อความสุขด้วยเพลงนี้ให้กับทุกๆ คนได้ในทุกๆ วันครับ,ส่วนเบลก็อยากจะให้แฟนๆ ติดตามผลงานนี้ของเบลกับพี่เป้และวงมายด์ด้วยนะคะ รับรองว่าจะไม่เคยเห็นเบลแบบนี้แน่นอน เบลเชื่อว่าทุกคนจะประทับใจแน่นอน ฝากด้วยนะคะ. | ซิงเกิลใหม่! สุดเซอร์ไพรส์เพลง เธอคือของขวัญ เวอร์ชั่นพิเศษของ เบลล่า และ วง Mild | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เบลล่า ราณี,เป้ วงมายด์,บุพเพสันนิวาส,เธอคือของขวัญ (baby I love you),เบลล่า ร้องเพลง,นักร้อง | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1326514 |
แห่พญานาคขอฝน เทวดาจัดหนัก ถล่มท่วม ต.แม่ปะ จ.ลำปาง ปชช.ร้องระงม | เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 30 พ.ค.61 นายอนุสรณ์ นันทเขียว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านแม่ปะดอย ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง นายอำพัน พงษานิช ว่าที่นายกสมาคมเครือข่ายเฝ้าระวัง และเตือนภัยพิบัติภาคเหนือพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ สนง.ปภ.ลำปาง สาขาเถิน กำลังทหาร ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังจากช่วงกลางดึกที่ผ่านมาในพื้นที่บริเวณเหนือภูเขาในตำบลแม่ปะเกิดฝนตกหนัก ทำให้ช่วงตีห้ากว่าๆน้ำในลำห้วยแม่ปะไหลเอ่อ ท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 7 บ้านแม่ปะดอย มีบ้านเรือนชาวบ้านถูกน้ำท่วมได้รับผลกระทบกว่า 10 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 10-20 ซม. บางจุดท่วมสูงเกือบ 50 เซนติเมตร แต่เนื่องจากท้องฟ้ายังคงมีมืดครึ้มอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ชาวบ้านเฝ้าระวัง และเก็บข้าวของไว้ที่สูง เพราะเกรงว่าหากมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมอาจจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและขยายวงกว้าง
,ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า เมื่อวานนี้ (29 พ.ค.61) ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ชาวบ้านตำบล แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมอนุรักษ์ประเพณีขอฟ้าขอฝน มีชาวบ้านเข้าร่วมพิธีกว่า 150 คนโดยตั้งขบวนแห่ พญานาคจำลอง ช้างจำลองไปตามถนนในป่ารอบหมู่บ้าน ตามความเชื่อและประเพณีที่สืบทอดกันมา. | เทวดาจัดหนัก!! หลังชาวบ้านทำพิธีแห่พญานาค ช้างจำลองขอฝน ทำให้ตกหนักน้ำทะลักลำห้วยไหลท่วมบ้านเรือน ชาวบ้าน ต.แม่ปะ ได้รับผลกระทบ พร้อมสั่งเฝ้าระวัง หวั่นจะตกซ้ำลงมาอีก
| ข่าว,ทั่วไทย | ฝนตก,น้ำท่วม,ขอฟ้าฝน,ตำบลแม่ป,ลำปาง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1294866 |
เสียดายกรุงเบรุต | พุธเมื่อวาน ผมเขียนถึงอดีตนายกรัฐมนตรี 2 พ่อลูกของเลบานอน คนพ่อคือนายรอฟิก ฮารีรี ที่โดนระเบิดพลีชีพเมื่อ พ.ศ.2548 คนลูกคือ,นายซาอัด ฮารีรี, ซึ่งประกาศลาออกเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2560 แล้วก็เก็บตัวเงียบอยู่ที่ซาอุดีอาระเบีย,หลายท่านอ่านข่าวตะวันออกกลางแล้วก็บ่นว่า ประเทศทางแถบนี้ทำไมจึงรบพุ่งกันไม่มีวันสงบ อ่านข่าวครั้งใดเจอแต่การก่อการร้าย ระเบิดพลีชีพ พวกคุณเกิดมากันทั้งชีวิตมีแต่สงครามทำลายล้างกันอย่างเดียวหรืออย่างไร,ขอเรียนว่าประเทศทางแถบนี้โดนพวกตะวันตกซ่อนระเบิดเวลาเอาไว้เยอะมาก ดินแดนแถวนี้เมื่อก่อนเป็นของจักรวรรดิออตโตมันที่ครองโลกมานานหลายร้อยปี หลายพื้นที่ของยุโรปก็ยังโดนพวกออตโตมันปกครอง เมื่อจักรวรรดิออตโตมันล่มเพราะแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 พวกสัมพันธมิตรซึ่งเป็นประเทศทางตะวันตก อังกฤษ ฝรั่งเศส จึงแบ่งพื้นที่ของออตโตมันออกเป็นส่วนๆ ไม่ให้รวมตัวกันได้อีก,ตามข้อตกลงซานเรโม ฝรั่งเศสได้ปกครองซีเรียเป็นดินแดนอาณัติ ตอนนั้นเลบานอนเป็นภาคหนึ่งของซีเรีย ฝรั่งเศสไม่ไว้ใจซีเรีย มาปกครองแล้วก็เลยแยกซีเรียให้ย่อยเล็กลงไปอีก ด้วยการเอาส่วนของเลบานอนให้เป็นประเทศใหม่แล้วตั้งเบรุตเป็นเมืองหลวง,ใครไปกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอนแล้วต้องเอ่ยปากว่าเสียดายกันทุกคน เป็นเวลามากกว่า 30 ปีก่อนหน้า พ.ศ.2518 กรุงเบรุตนี่คือศูนย์กลางของแท้ของโลกอาหรับ ธนาคารของตะวันตกและอาหรับต้องมาเปิดสาขาที่นี่ การลงทุนทำมาค้าขาย บริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ในโลกอาหรับ ต้องมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเบรุต การอุตสาหกรรมทุกประเภทมารวมอยู่ที่นี่ทั้งหมด ตอนนั้นดูไบยังเป็นทารก หรือยังอยู่ในครรภ์มารดา ยังไม่คลอดเสียด้วยซ้ำไป,มีอยู่ 2 กรุงครับ ที่ผู้คนบ่นเสียดาย คือกรุงโคลัมโบของศรีลังกา นี่ก็เคยเป็นศูนย์กลางสำคัญมาก่อน เรือเดินสมุทรที่เล่นไปมาระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับแปซิฟิกต้องแวะกรุงโคลัมโบ ใครจะไประยะไกล ก็ต้องไปต่อเครื่องที่กรุงโคลัมโบ,กรุงเบรุตก็เหมือนกันครับ เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ต้องมาจอดเทียบท่าที่นี่ การท่าเรือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในกรุงเบรุต ในกรุงนี้มีเขตปลอดภาษีสำหรับส่งต่อสินค้าไปยังจุดหมายสำคัญอื่นๆ เป็นสถานที่ต่อเครื่องบินไปประเทศอื่นเช่นกัน,ใครจบปริญญาจากกรุงเบรุตนี่ถือว่าใช้ได้ ประเทศมหาอำนาจนิยมไปตั้งสถาบันการศึกษาเพื่อคัดคนสมองดีเอามาใช้ ที่ดังมากสมัยโน้นก็คือมหาวิทยาลัยอเมริกันแห่งเบรุต ใครจบแพทยศาสตร์จากที่นี่ถือว่าสุดยอด สหรัฐฯทุ่มการเรียนการสอนทางแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอเมริกันแห่งเบรุตนี่มาก ฝรั่งเศสเองก็ไปลงทุนด้านการเรียนการสอนอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูที่มหาวิทยาลัยเซนต์โจเซฟ,อียิปต์เองซึ่งสมัยก่อนถือว่าเป็นมหาอำนาจของโลกอาหรับ ก็ไม่ยอมเหมือนกัน อียิปต์มีมหาวิทยาลัยใหญ่ชื่ออะเล็กซานเดรีย ก็ไปตั้งวิทยาเขตที่กรุงเบรุตชื่อมหาวิทยาลัยอาหรับ ส่วนรัฐบาลเลบานอนก็ทุ่มเทตั้งมหาวิทยาลัยเลบานอน,ศาสตราจารย์เก่งๆ ที่เขียนตำราและมีงานวิจัยทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ของตะวันออกกลาง มีพื้นฐานมาจากสถาบันการศึกษาของเบรุตจำนวนไม่น้อย เบรุตกรุงเดียวมีสมาคมผู้ทรงคุณวุฒิและสถาบันวิจัยมากกว่า 10 แห่ง มีสมาคมบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถานและอาคารเก่าแก่มากกว่า 60 แห่ง มีสถาบันเกอเธ่ ของเยอรมนี สถาบันจอห์น เอฟ เคนเนดีของสหรัฐฯ มีสโมสรวัฒนธรรมอาหรับ มีหอศิลป์ มีโรงบัลเลต์ มีที่แสดงดนตรีทั้งสากลและอาหรับ ฯลฯ,ความเจริญก้าวหน้าทั้งหลายทั้งปวงมาพังไปเพราะการทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างผู้คนที่นับถือศาสนาอิสลามและคริสต์ เดิมประชากรคริสต์มากกว่ามุสลิม เมื่อยิวเข้าไปยึดที่ดินของพวกปาเลสไตน์เอาไปตั้งประเทศอิสราเอล พวกปาเลสไตน์จำนวนหนึ่งก็ทิ้งปาเลสไตน์ไปอยู่เลบานอน ทำให้สัดส่วนพลเมืองมุสลิมมีมากกว่าชาวคริสต์,ศรีลังกากลายเป็นประเทศล้าหลังทุกวันนี้ เพราะพวกทมิฬอพยพจากอินเดียตอนใต้มาอยู่เรื่อยๆ พอมีจำนวนมากก็ตั้งขบวนการแบ่งแยกดินแดนพยัคทมิฬอีแลม กว่าจะปราบอยู่ก็ใช้เวลานานหลายสิบปี,เลบานอนพังเพราะสงครามกลางเมืองที่รบกันระหว่างมุสลิมกับคริสต์ ถึงตอนนี้ มีประเด็นซาอุดีอาระเบียและอิหร่านเข้ามาเกี่ยวด้วย ฟังแล้วยุ่งจริงๆ.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected], | หลายท่านอ่านข่าวตะวันออกกลางแล้วก็บ่นว่า ประเทศทางแถบนี้ทำไมจึงรบพุ่งกันไม่มีวันสงบ อ่านข่าวครั้งใดเจอแต่การก่อการร้าย ระเบิดพลีชีพ พวกคุณเกิดมากันทั้งชีวิตมีแต่สงครามทำลายล้างกันอย่างเดียวหรืออย่างไร
| null | กรุงเบรุต,เลบานอน,เปิดฟ้าส่องโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,ก่อการร้าย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1126958 |
ยัดห่วงไทยได้เฮ รับหน้าเสื่อจัดศึกยู-19 หญิงชิงแชมป์โลก | สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติร่อนสารแจ้งข่าวดีอนุมัติให้ไทยเป็นเจ้าภาพยัดห่วงหญิงชิงแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีหญิงรอบสุดท้าย โดยจะมี 16 ทีมตัวแทนจากทวีปต่างๆ และทีมไทยร่วมชิงชัยระหว่าง 20-28 ก.ค.62 โดยใช้อาคารกีฬาเวสน์ 1-2 เป็นสังเวียนแข่ง เฮียต่าย นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกยัดห่วงไทยเผยเป็นเกียรติสูงสุด โดยเป็นผลพวงจากผลงานที่สมาคมได้จัดหลายศึกใหญ่ได้รับคำชื่นชมมาตลอด คาดว่า ต้องใช้งบมากถึง 20 ล้านบาทในการจัดแข่งขัน,เฮียต่าย นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เผยว่า ตามที่สมาคมได้รับการทาบทามเพื่อเป็นหนึ่งในชาติที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพบาสเกตบอลชิงแชมป์โลก รายการ FIBA U 19 Womens Basketball World Cup 2019 จากทางสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ (ฟีบา) ซึ่งสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการมาเป็นลำดับนั้น ล่าสุดได้รับข่าวดีว่าทางฟีบาได้พิจารณาตัดสินให้ประเทศไทยชนะคู่แข่งที่เสนอตัวจากชาติอื่นๆให้เป็นเจ้าภาพอย่างเป็นทางการแล้ว,ทั้งนี้เป็นจดหมายตอบรับจากมิสเตอร์แพทริก บาวมันน์ เลขาธิการฟีบา แจ้งว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริหารสหพันธ์เมื่อวันที่ 11 ส.ค. อนุมัติอย่างเป็นทางการให้สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพรายการนี้โดยใช้สนามแข่งขันที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) 2 สนามคือ อาคารกีฬาเวสน์1 และ 2 เป็นสนามแข่งขัน กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 20-28 ก.ค.2562 ซึ่งจะมีชาติที่เป็นตัวแทนจากทวีปต่างๆทั่วโลก 15 ทีม และทีมไทย 1 ทีมแข่งขันเพื่อชิงชนะเลิศในรอบสุดท้าย โดยขณะนี้ได้รายชื่อประเทศเข้ารอบสุดท้ายแล้ว ประกอบด้วย สหรัฐฯ, แคนาดา, อาร์เจนตินา, โคลอมเบีย, เยอรมนี, สเปน, ฮังการี, ลัตเวีย, เบลเยียม, มาลี, โมซัมบิก และไทย ยังขาดอยู่อีก 4 ทีมที่จะคัดเลือกตัวแทนทวีปเอเชียในเดือน ต.ค.นี้,นายกสมาคมยัดห่วงกล่าวอีกว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่ฟีบาให้เกียรติกับประเทศไทยอย่างสูงสุด ซึ่งมาจากผลงานของสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยได้สร้างขึ้นมาและได้รับคำชมมาอย่างต่อเนื่องทั้งรายการยู-19 ชิงแชมป์โลกประเภททีมหญิงเมื่อปี 2551, ชิงแชมป์เอเชีย ประเภททีมหญิง เมื่อปี 2556 และอีกหลายรายการในระดับเอเชีย โดยรายการยู 19 หญิงชิงแชมป์โลกนี้จะมีทีมจาก ทั่วโลก 16 ทีมรวมทั้งทีมไทยร่วมแข่งขัน ซึ่งเป็นไป ตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่จะดึงเกมใหญ่ๆระดับโลกมายังประเทศไทย และจะช่วยปลุกกระแสให้กีฬาบาสเกตบอลแพร่หลายมากขึ้นอย่างมาก รวมทั้งยกระดับการเล่นของนักกีฬาไทยอีกด้วย คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณราวๆ 20 ล้านบาท ซึ่งเราได้ประสานกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทยขอการสนับสนุนบางส่วนไปแล้ว รวมกับภาคส่วนอื่นๆ จึงมั่นใจว่าพร้อมในการจัดการแข่งขันครั้งนี้. | สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติร่อนสารแจ้งข่าวดี อนุมัติให้ไทยเป็นเจ้าภาพยัดห่วงหญิงชิงแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีหญิงรอบสุดท้าย ชิงชัยระหว่าง 20-28 ก.ค.62 โดยใช้อาคารกีฬาเวสน์ 1-2 เป็นสังเวียน | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร,สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย,บาสเกตบอลหญิงยู-19 ชิงแชมป์โลก,ฟีบา | https://www.thairath.co.th/sport/others/1382546 |
นายกฯปฏิเสธพรรคเพื่อไทยขัดแย้งปมแก้รธน. ชี้เป็นเพียงความเห็นต่าง | นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเห็นที่แตกต่างภายในพรรคเพื่อไทยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ต่างกัน ซึ่งขณะนี้เป็นเพียงการหารือกันถึงวิธีการแก้ไข แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะทำอย่างไรส่วนความเห็นของหลายฝ่ายที่ระบุว่าอยากให้แก้เป็นรายมาตรานั้น ก็อยากให้มีการหารือกันถึงรายละเอียด โดยเฉพาะประชาชนได้ประโยชน์อย่างไร หรือการทำประชามติจะมีหัวข้ออะไรบ้าง ซึ่งส่วนนี้เป็นหน้าที่ของทางคณะทำงานตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อทำความเข้าใจ และรับฟังข้อคิดเห็นแต่ละส่วนก่อนนายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นจึงอยากให้คณะทำงานได้หารือถึงรายละเอียด เพื่อให้ประชาชนสบายใจ ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรทั้งนี้ หากการทำประชามติ ไม่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์ ก็สามารถกลับไปแก้ไขรายมาตราตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญได้ ขณะเดียวกัน ได้มีการหารือกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีแล้ว ที่เห็นว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา เพราะง่ายกว่าการทำประชามติ | นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีระบุถึงความเห็นต่างภายในพรรคเพื่อไทย ถึงกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่ใช่ความขัดแย้ง และในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหารือเพื่อหาข้อสรุปในกรณีดังกล่าว | การเมือง | ทักษิณ,ยิ่งลักษณ์,รัฐธรรมนูญ,เฉลิม,เพื่อไทย,เห็นต่าง | https://news.thaipbs.or.th/content/135217 |
ภาพบาดตา หนุ่มก่อสร้างหึง เจอเมียน้อยอยู่กับทหาร คว้ามีดฟันฝ่ายชายดับ | เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 26 เม.ย. 60 พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ แพงไพรี พนักงานสอบสวน สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่งใน ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จึงประสานอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตสวมกางเกงลายพรางทหาร เสื้อยืดสีเขียว มีบาดแผลบริเวณศีรษะ ที่ลำคอมีร่องรอยจากการตีด้วยของแข็งจนเขียวช้ำ ทราบชื่อ ส.อ.ศราวุธ สุนทรนันท์ อายุ 48 ปี ทหารสังกัดหนึ่ง ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อ นางเกตุวดี สอนเรือง อายุ 42 ปี ได้รับบาดเจ็บจากของมีคม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล,จากการสอบสวนเพื่อนข้างห้อง เปิดเผยว่า ผู้ตายมารับผู้บาดเจ็บช่วงบ่ายของวันนี้ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินทางกลับมาพร้อมกันยังห้องพักเมื่อกลางดึก ต่อมา นายกล้า (ยังไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) อายุประมาณ 40-50 ปี อาชีพก่อสร้าง ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้บาดเจ็บ มักมีปากเสียงและอาการหวาดระแวงจากการหึงหวงอยู่เป็นประจำ โดย นายกล้า แอบขับรถมาดูกลางดึก พบว่า ส.อ.ศราวุธ อยู่ภายในห้องเช่ากับฝ่ายหญิงด้วยกัน จึงมีปากเสียงกัน พร้อมตะโกนท้าทายว่าจะกลับมาอีกครั้ง จากนั้น นายกล้า ออกไปที่บ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนักและกลับมาพร้อมมีด ก่อนเคาะประตูห้องพัก เมื่อเข้าไปได้ก็เงื้อมฟันไปที่ศีรษะของผู้ตายจนเกิดการต่อสู้กัน เมื่อผู้ตายเห็นว่าสู้ไม่ไหว จึงวิ่งหนีออกมาจากห้องพัก แต่ นายกล้า ตามมากระหน่ำตีจนนอนแน่นิ่งและเสียชีวิต ก่อนจะขับรถหลบหนี เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพอทราบที่อยู่ของผู้ลงมือก่อเหตุแล้ว เตรียมจัดชุดลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมดำเนินคดี,อย่างไรก็ตาม ทราบว่า นางเกตุวดี แอบคบหากับ นายกล้า ซึ่งมีภรรยาอยู่แล้ว ส่วน ส.อ.ศราวุธ ก็มีความสนิทสนมกับ นางเกตุวดี มานานโดยให้การว่าเป็นเพื่อนกัน จึงสันนิษฐานว่าก่อเหตุด้วยความหึงหวง. | หนุ่มก่อสร้างแอบมาดูสาวคนสนิทที่คบหากันกลางดึก เจอภาพบาดตาอยู่กับนายทหารที่อ้างว่าเป็นเพื่อน โมโหกลับบ้านคว้ามีดมาฟันหัวฝ่ายชายและกระหน่ำตีจนเสียชีวิต ส่วนฝ่ายหญิงได้รับบาดเจ็บ พบ คนก่อเหตุมีภรรยาอยู่แล้ว | ข่าว,อาชญากรรม | หึงหวง,หึงโหด,เมียน้อย,ฆ่าคนตาย,ฉะเชิงเทรา | https://www.thairath.co.th/news/crime/924055 |
ดุสิตโพล คนหนุนปรับ ครม. ให้รัฐบาลเดินหน้า เปิดโอกาสคนเก่ง-เหมาะสม | สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,146 คน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน กรณี กระแสข่าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการปรับ ครม. ทุกกระทรวง ซึ่งรายชื่อของผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งต่างๆ นั้น มีทั้งคนนอกและคนเก่าที่อาจสลับเปลี่ยนกันไป โดยเฉพาะ ทีมเศรษฐกิจที่ถูกจับตามองอย่างมาก,สรุปผลได้ ดังนี้ เมื่อถามว่า ประชาชนคิดอย่างไร? กับ กระแสข่าวการปรับ ครม. อันดับ 1 ร้อยละ 75.34 เห็นว่า เป็นการปรับเพื่อให้รัฐบาลทำงานได้ดีขึ้น มีเสถียรภาพมากขึ้น อันดับ 2 ร้อยละ 72.61 เห็นว่า คงต้องรอดูว่าจะปรับใหญ่ทุกกระทรวงตามที่เป็นข่าวหรือไม่ ใครบ้างที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี อันดับ 3 ร้อยละ 65.73 เห็นว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมือง อาจมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และ อันดับ 4 ร้อยละ 60.40 เห็นว่า อยากให้การปรับ ครม.ครั้งนี้ เป็นไปด้วยดี ทั้งประชาชนและต่างประเทศให้การยอมรับ,ต่อข้อถาม ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? ที่จะมีการปรับ ครม. อันดับ 1 ร้อยละ 64.10 เห็นด้วย เพราะมีหลายเรื่องที่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หลายกระทรวงยังไม่มีผลงานให้เห็นชัดเจน เศรษฐกิจย่ำแย่ ข้าวของแพง ประชาชนอยู่อย่างลำบาก ฯลฯ อันดับ 2 ร้อยละ 23.94 ไม่แน่ใจ เพราะ ไม่รู้ว่าเมื่อปรับ ครม.ใหม่แล้ว สถานการณ์ต่างๆ ในบ้านเมืองจะดีขึ้นหรือไม่ คงต้องรอดูว่าจะมีการปรับใหม่ทั้งหมดหรือปรับเพียงบางกระทรวง ยังไม่รู้ว่ารัฐมนตรีใหม่ที่จะเข้ามามีใครบ้าง ฯลฯ อันดับ 3 ร้อยละ 11.96 ไม่เห็นด้วย เพราะการบริหารประเทศต้องหยุดชะงัก ไม่ต่อเนื่อง กลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ถูกนำมาใช้ในการโจมตีและสร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง อาจเกิดความขัดแย้งภายในรัฐบาลได้ ฯลฯ,เมื่อถามว่า การปรับ ครม. ครั้งนี้ ควรจะปรับใหญ่หลายกระทรวง หรือ ปรับเล็กบางกระทรวง อันดับ 1 ร้อยละ 58.89 เห็นว่า ควรปรับใหญ่หลายกระทรวง เพราะเพื่อความยุติธรรมสำหรับทุกคน เปิดโอกาสให้คนใหม่ที่เหมาะสมเข้ามาทำงาน รัฐบาลจะได้เดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฯลฯ อันดับ 2 ร้อยละ 41.11 เห็นว่า ควรปรับเล็กบางกระทรวง เพราะควรปรับเปลี่ยนบางกระทรวงที่มีปัญหาจริงๆ มีหลายกระทรวงที่ตั้งใจทำงาน ผลงานค่อนข้างน่าพอใจ ฯลฯ ส่วน 3 กระทรวง ที่ประชาชนอยากให้ปรับมากที่สุด อันดับ 1 ร้อยละ 83.11 คือ กระทรวงการคลัง อันดับ 2 ร้อยละ 80.28% คือ กระทรวงพาณิชย์ และ อันดับ 3 ร้อยละ 72.15 คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ,เมื่อถามว่า คิดอย่างไร? ระหว่างผลดี-ผลเสีย ของการปรับ ครม. อันดับ 1 ร้อยละ 51.88 เห็นว่า มีผลดีมากกว่า เพราะ จะได้ปรับปรุงแก้ไขการทำงานต่างๆ ให้ดีขึ้น ได้ผู้ที่เหมาะสม มีความรู้ความสามารถที่แท้จริงเข้ามาทำงาน รัฐบาลมีเสถียรภาพ ประชาชนเชื่อมั่นและมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำผลงานได้ดีขึ้น ฯลฯ อันดับ 2 ร้อยละ 40.39 เห็นว่า มีผลดี-ผลเสียพอๆกัน เพราะขึ้นอยู่กับคนส่วนใหญ่ว่าจะยอมรับหรือคัดค้านมากกว่ากัน ต้องรอดูไปก่อนว่ารัฐมนตรีใหม่มีใครบ้าง การออกมาชี้แจงของนายกรัฐมนตรีจะมีความชัดเจน สมเหตุสมผลมากน้อยเพียงใด ฯลฯ และ อันดับ 3 ร้อยละ 7.73 เห็นว่า มีผลเสียมากกว่า เพราะอาจเกิดความขัดแย้งในรัฐบาล ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายและกังวลว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนอีก หากหลายกระทรวงไม่มีผลงานที่น่าพอใจ ส่งผลให้การทำงานหยุดชะงัก ฯลฯ,ต่อข้อถาม ทำอย่างไร? การปรับ ครม.จึงจะไม่ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมหรือสร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง อันดับ 1 ร้อยละ 74.23 เห็นว่า ผู้ที่เข้ามาต้องเป็นคนเก่ง คนดี มีฝีมือ เหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับ คนส่วนใหญ่ยอมรับได้ อันดับ 2 ร้อยละ 69.70 เห็นว่า การปรับ ครม.จะต้องมีความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม อันดับ 3 ร้อยละ 63.56 เห็นว่า นายกรัฐมนตรีต้องเด็ดขาด ชัดเจน สามารถชี้แจงได้ทุกกรณี และ อันดับ 4 ร้อยละ 52.08 เห็นว่า อาจนำโผรายชื่อออกมา และดูกระแสตอบรับจากทุกฝ่ายว่าเป็นอย่างไร. | ดุสิตโพล เผยผลสำรวจ คนหนุนปรับ ครม. ให้รัฐบาลเดินหน้า ชี้หลายกระทรวงยังเห็นผลงานไม่ชัดเจน แนะเปิดโอกาสคนเก่ง-เหมาะสม คนส่วนใหญ่ยอมรับ เข้ามาทำงาน เพื่อลดแรงกระเพื่อม | null | สวนดุสิตโพล,โพล,ความคิดเห็น,ประชาชน,ปรับครม.,กระทรวง,นักการเมือง,ทำงาน,คนเก่ง,ครม.,แรงกระเพื่อม,ทีมเศรษฐกิจ,ข่าว,ข่าวการเมือง,ข่าวการศึกษา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/518579 |
ผู้ว่าฯระยองประกาศให้เกาะเสม็ดเป็นพื้นที่ภัยพิบัติจากคราบน้ำมัน | กองทัพเรือภาคที่ 1 ส่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจคราบน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ที่เกิดรั่วไหลลงสู่อ่าวไทยเกือบ 70000 ลิตร ห่างจากชายฝั่งท่าเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ประมาณ 18 กิโลเมตร เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมาจากการสำรวจพบว่ากลุ่มน้ำมันได้เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมชายหาดเกาะเสม็ด บริเวณอ่าวพร้าว และอ่าวขาม หมู่ 4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ยาวกว่า 1 กิโลเมตร ห่างออกไปในทะเลประมาณ 200 เมตร มีลักษณะเป็นสีดำหนา ตีแผ่เป็นวงกว้างในลักษณะคล้ายฟิล์ม กำลังเคลื่อนตัวเข้าปิดล้อมตัวเกาะเสม็ด โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสกัดกั้นอย่างสุดความสามารถ ร่วมกับเรือรบอีก 3 ลำที่กองทัพเรือส่งเข้าปฏิบัติการ เพื่อไม่ให้คราบน้ำมันเข้าไปกระทบกับสภาพแวดล้อมที่ชายฝั่งของอ่าวอื่นๆนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ได้ประกาศให้เกาะเสม็ดเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเลแล้ว โดยขั้นแรกจะต้องป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันกระจายไปยังชายหาดอื่นที่อยู่ใกล้เคียงให้เร็วที่สุด พร้อมประสานไปยังหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ขอเสริมกำลังทหารอีก 100 นาย คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 15 วัน ในการเก็บกู้คราบน้ำมัน และฟื้นฟูชายหาด ขณะเดียวกัน ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำจนกว่าเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งบางส่วนเริ่มทยอยออกจากเกาะเสม็ดแล้วขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำชับให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เร่งแก้ปัญหา และระดมอุปกรณ์เครื่องมือเข้ามาดำเนินการกับคราบน้ำมันบริเวณชายหาดและในทะเลให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด พร้อมกล่าวว่าทางกระทรวงฯ ยังไม่ได้มองเรื่องการฟ้องร้อง แต่จะให้เป็นหน้าที่ของกรมเจ้าท่าขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่กังวลว่าคราบน้ำมันที่เกาะอยู่บริเวณอ่าวพร้าว จะส่งผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากบริษัท ปตท. ยังไม่ให้ความชัดเจนว่าสารเคมีที่นำมาสลายคราบน้ำมันเป็นชนิดใด และจะส่งผลในระยาวหรือไม่ เนื่องจากจุดขายของเกาะเสม็ดคือการท่องเที่ยว ส่วนการเก็บคราบน้ำมันบริเวณชายหาดยังคงใช้กำลังทหารเรือเข้าจัดเก็บ พร้อมกับใช้เครื่องดูดน้ำมัน ล่าสุด เริ่มประสบปัญหา เนื่องจากขณะนี้น้ำทะเลขึ้น ทำให้คลื่นซัดคราบน้ำมันไกลกว่าเดิม | แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามเร่งขจัดคราบน้ำมันดิบที่รั่วไหลลงทะเลใน จ.ระยอง แต่ยังไม่สามารถทำได้ตามแผนที่กำหนดไว้ เพราะมีคราบน้ำมันกว่า 3000 ลิตร หลุดลอดจากทุ่น ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งบริเวณหาดอ่าวพร้าว จนเริ่มส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่พากันทยอยออกเกาะเสม็ดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองประกาศให้เกาะเสม็ดเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเลแล้ว หลังสถานการณ์คราบน้ำมันมีแนวโน้มขยายวงกว้างออกไปอีก โดยคาดว่าจะใช้เวลาถึง 15 วัน ในการเก็บกู้คราบน้ำมัน และฟื้นฟูชายหาด | ภูมิภาค | OilSpill,คราบ,น้ำมัน,น้ำมันรั่ว,ประกาศ,ผู้ว่าฯ,ภัยพิบัติ,ระยอง,สารเคมี,เกาะเสม็ด | https://news.thaipbs.or.th/content/186831 |
อนาคตแรงงานไทยเมื่อจักรกล AI รุกคืบ | (Artificial Intelligence : AI) และจักรกลอัจฉริยะเพื่อทำงานแทนมนุษย์,ไม่เพียงกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลกที่ต้องปรับเปลี่ยนไปจากอดีต แรงงานวิชาชีพในทุกประเทศทั่วโลกต่างจับตาพัฒนาการรุกคืบของเหล่าจักรกลอัจฉริยะเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือกับผลกระทบจะเกิดขึ้น,สถาบันระหว่างประเทศแมคเคนซี ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา ได้ทำการศึกษาผลกระทบจากหุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ ที่กำลังเข้ามามีบทบาททำงานหลายอย่างแทนคน โดยได้เก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างหลากหลายอาชีพมากถึง 800 อาชีพ ใน 46 ประเทศ,ผลสำรวจบ่งชี้ว่าภายในปี ค.ศ.2030 หรืออีก 12 ปีจากนี้ (พ.ศ.2573) จะมีคนตกงานทั่วโลก 800 ล้านตำแหน่งจากการถูกหุ่นยนต์เข้ามาทดแทนคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 1 ใน 5 ของตลาดแรงงานโลก,โดยตำแหน่งงานที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด คือผู้ที่ทำงานควบคุมเครื่องจักร และแรงงานในอุตสาหกรรมอาหาร โดยประเทศที่มั่งคั่งร่ำรวยจะได้รับผลกระทบมากกว่า เพราะนายจ้างมีศักยภาพที่จะนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาทดแทนการใช้แรงงานคนได้ทันที ขณะที่ประเทศยากจนยังต้องใช้เวลา,สำหรับประเทศไทยกลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์และประกันภัยที่ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดูจะเป็นธุรกิจที่เริ่มเห็นผลกระทบเป็นอันดับต้นๆ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา,ธนาคารพาณิชย์ ได้ปิดสาขาไปแล้วกว่า 121 สาขา และยังประเมินต่อไปด้วยว่าในที่สุดสาขารูปแบบเดิมจะถูกปิดลงไปไม่ต่ำกว่า 50% หรือรวมกันทั้งระบบจะมีไม่เกิน 3,500 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ถึง 6,734 แห่ง,สอดคล้องกับข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NSO) ที่ระบุว่ากลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการทำลายล้าง ของโลกดิจิทัล หรือ ดิจิทัลดิสรัปต์ จะเป็นตำแหน่งงานที่มีลักษณะซ้ำๆ ซึ่งมีประมาณ 30% หรือ 170,000 ตำแหน่ง เป็นผู้ให้บริการลูกค้า หรือเคาน์เตอร์สาขา 94,000 คน รองลงมาคือนักบัญชีและการเงิน 51,000 คน จากปริมาณการจ้างงานในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงินและประกันภัยทั้งระบบที่มี 548,000 คน,ทั้งหมดนี้ทำให้ ทีมเศรษฐกิจ ต้องเปิดพื้นที่สำรวจและสอบถามกูรูทั้งหลาย ที่สุดแล้วโฉมหน้าของกระแสไหลบ่าที่ว่านี้จะส่งผลกระทบไปมากน้อยแค่ไหน และเราต้องเตรียมรับมือกันอย่างไรในอนาคต,*************,เทคโนโลยีเป็นเสมือนดาบ 2 คม,นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉายภาพรวมกับ ทีมเศรษฐกิจ ว่า ในปัจจุบันเทคโนโลยี นอกจากส่งผลดีต่อการทำธุรกิจ และการเกษตรแล้ว ยังเป็นความท้าทาย หรือความเสี่ยงไปพร้อมๆกัน โดยเฉพาะแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น โรงงานผลิตรถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี ที่ปัจจุบันมีการใช้หุ่นยนต์เข้ามาทดแทนคนมากขึ้น,สำหรับภาคเกษตรนั้นในระยะสั้น และกลาง ยังไม่น่าห่วงเรื่องการตกงานมากนัก เพราะยังใช้หุ่นยนต์ หรือเครื่องจักรกลทางการเกษตรน้อย ส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักรเฉพาะการเก็บเกี่ยว ไถดินเท่านั้น แต่ในระยะยาวเมื่อมีการใช้เครื่องจักรมากขึ้น อาจทำให้การใช้แรงงานคนลดลงเช่นกัน,ในบางอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักร หรือหุ่นยนต์มากขึ้นนั้นอาจมีการจ้างงานลดลง แต่บางอุตสาหกรรมยังต้องการแรงงานคนอยู่ โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยยังขาดแคลนอยู่เป็นจำนวนมาก จึงไม่ต้องกลัวจะตกงาน แต่กลุ่มแรงงานที่อาจเผชิญปัญหาตกงานส่วนใหญ่เพราะเรียนมาในสายที่ไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน หรือบางคนเลือกงาน,ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ปัญหา โดยนำแรงงานที่เรียนมาไม่ตรงกับสายงานไปฝึกอบรมใหม่ให้ตรงกับความต้องการ หรือสนับสนุนให้เด็กเรียนสายช่างมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต ขณะที่ภาคเกษตรเองก็ต้องปรับตัวให้เป็น สมาร์ท ฟาร์เมอร์ มากขึ้น ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น สามารถสร้างแพลตฟอร์มเพื่อการสื่อสาร ระหว่างนายจ้างและลูกไร่ หรือมีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้การทำงานในไร่ง่ายขึ้น,ห่วงโซ่แรงงานที่จ่อ สูญพันธุ์,สำหรับประเทศไทย เราจะเริ่มเห็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่แรงงานตั้งแต่ต้นปี 2562 โดยจะเห็นภาพที่ชัดเจนและรวดเร็วในธุรกรรมการเงิน ซึ่งคนไทยสามารถเปิดบัญชีผ่านช่องทางดิจิทัล ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง ผ่านร้านสะดวกซื้อ และสามารถทำธุรกรรมการเงิน จ่ายบิลต่างๆ โดยไม่ต้องผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ ผลที่ตามมาก็คือ จำนวนสาขาของธนาคารพาณิชย์จะทยอย,ปิดตัวลงไปเรื่อยๆในทุกธนาคาร นายธนิต รองประธานสภาที่ปรึกษา เพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ ให้ภาพรวมกับ ทีมเศรษฐกิจ เพิ่มเติม,เขาระบุด้วยว่าคาดว่า ภายใน 2-3 ปีจากนี้ ธนาคารพาณิชย์อาจทยอยลดจำนวนสาขาลงอีก 2 ใน 3 ของสาขาที่เปิดบริการอยู่ในขณะนี้ แม้แต่เครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (เอทีเอ็ม) ก็มาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว เพราะเทคโนโลยีเริ่มล้าสมัยไปแล้ว การเลิกจ้าง พนักงานประจำสาขาของธนาคารต้องทยอยเกิดขึ้นแน่,ขณะที่การซื้อขายสินค้าผ่านธุรกรรมออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) จะทำให้รูปแบบการค้าปลีกในระยะ 1-2 ปีข้างหน้านี้เปลี่ยนไป เพราะล่าสุดสัดส่วนการซื้อขายสินค้าผ่าน อี-คอมเมิร์ซคิดเป็น 50% ของระบบค้าปลีกแล้ว จากที่เคยต้องอาศัยหน้าร้านและพนักงานขาย,แต่เมื่อ กลุ่มอาลีบาบา ธุรกิจออนไลน์รายใหญ่ของจีนรุกเข้ามาใช้ไทยเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าอี-คอมเมิร์ซที่ใหญ่สุดในภูมิภาค ส่งผลให้ธุรกิจค้าออนไลน์ขยายตัวรวดเร็วยิ่งกว่าคลื่นสึนามิ ผลที่เห็นในขณะนี้คือ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่งต้องปิดกิจการหรือลดขนาดพื้นที่ของห้างลง โดยเฉพาะในสหรัฐฯ,จึงมีคำถามว่าสมาร์ทเทคโนโลยี ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยงานมนุษย์หรือเป็นมหันตภัยคุกคามมนุษย์ DISRUPTIVE TECHNOLOGY กันแน่ วันนี้คำตอบอาจยังคลุมเครือ เพราะรายงานการศึกษาทั้งในและต่างประเทศยังไม่สามารถชี้วัดได้ว่าการรุกคืบของเทคโนโลยีเหล่านี้ จะทำให้ความต้องการแรงงานมนุษย์ถดถอยลงไปถึงระดับใด,อนาคตบัณฑิตเตะฝุ่นทะลัก,ล่าสุดองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้ออกแถลงการณ์เตือนแรงงานในกลุ่มอาเซียนว่า เป็นกลุ่มที่มีโอกาสถูกกระทบจากการเข้ามาของเทคโนโลยี โดยเฉพาะแรงงานภาคการผลิต และบริการทั้งยังคาดการณ์ว่าในระยะเวลา 10 ปีจากนี้ไป แรงงานกลุ่มเสี่ยงอื่นๆก็มีโอกาสจะถูกทดแทนด้วยเช่นกัน,ในส่วนของแรงงานไทยที่อาจได้รับผลกระทบเสี่ยงถูกเลิกจ้างจะสูงถึง 4.9 ล้านคน ทำให้หลายๆอาชีพจะทยอยหายไปจากวงจร อาทิ ภาคธุรกิจบริการ, สถาบันการเงิน, ค้าส่ง-ค้าปลีก, พนักงานขายของ, แคชเชียร์, งานที่เกี่ยวกับการกระจายสินค้า, พนักงานรักษาความปลอดภัย, งานประเภทเคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือธุรกรรมที่ต้องใช้คนจำนวนมาก ฯลฯ,ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับผลศึกษาของกระทรวงแรงงาน โดยสภาที่ปรึกษาแรงงานแห่งชาติ ซึ่งได้ศึกษาผลกระทบด้านการผลิตและบริการร่วมกับผู้ประกอบการและตัวแทนสหภาพแรงงาน พบว่า คลัสเตอร์ หรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่เริ่มนำร่องใช้หุ่นยนต์ทดแทนแรงงานนั้นสามารถทดแทนแรงงานได้เฉลี่ย 20-30% ของการจ้างงาน ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, ธนาคารพาณิชย์, ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ซึ่งจะเห็นได้ว่านายจ้างกลุ่มนี้มีการลดการรับพนักงานเพิ่มชัดเจน,ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันหามาตรการแก้ไข รัฐบาลหลังการเลือกตั้งต้องจัดทำเป็นวาระแห่งชาติ ตั้งคณะทำงานศึกษาผลกระทบอย่างจริงจัง ต้องปรับหลักสูตรการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอาชีวศึกษาขึ้นไปจนถึงปริญญาตรี ให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมใหม่ เพราะสาขาที่เรียนกันในมหาวิทยาลัยในปัจจุบันกว่าครึ่งนั้นบอกเลยว่าอาจไม่มีการจ้างงานอีกต่อไป,AI : ใช่-ไม่ใช่จักรกลสังหาร,ขณะที่นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ชี้ว่าการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ ฐานข้อมูลบิ๊ก ดาต้า (Big Data) ตลอดจนการเก็บข้อมูลต่างๆไว้ในระบบคลาวด์ (Cloud) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์อัตโนมัติเข้ามาประยุกต์ใช้ในกระบวนการทำงานในโลกยุคดิจิทัลนั้นไม่ได้มุ่งหวังจะเข้ามาทดแทนคนอย่างที่เข้าใจ,ประโยชน์ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เห็นได้ชัด คือความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ ขณะเดียวกัน เทคโนโลยียังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ช่วยเพิ่มคุณภาพงาน ทั้งยังช่วยลดต้นทุน ทดแทนการขาดแคลนแรงงานในงานที่มีความอันตราย,ในธุรกิจอาหาร หุ่นยนต์อัตโนมัติสามารถยกระดับความปลอดภัยในกระบวนการผลิตอาหาร (Food Safety) ด้วยการลดการปนเปื้อนจากคนสู่สินค้าได้ รวมทั้งยังช่วยให้การจัดการวิเคราะห์และทำนายข้อมูลในอนาคตมีความแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย,อย่างไรก็ตาม ในเนื้องานที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วางแผนทักษะการบริหารจัดการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ รวมไปถึงการคิดค้นนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนั้น หุ่นยนต์อัตโนมัติยังไม่สามารถทดแทนมนุษย์ได้ เพียงแต่ช่วยให้งานเหล่านี้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้เท่านั้น,สำหรับเทคโนโลยีที่ซีพีเอฟนำมาประยุกต์ใช้กับกระบวนการผลิตนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ทำให้การจ้างแรงงานในอนาคตลดลงอย่างที่กังวลกัน เนื่องจากส่วนใหญ่จะถูกใช้ในการทำงานที่ทำซ้ำๆ และงานที่อันตรายเท่านั้น และแรงงานที่ถูกเครื่องจักรแทนที่นั้น ซีพีเอฟได้นำแรงงานเหล่านี้ไปพัฒนาเพิ่มทักษะ (Reskill) เพื่อให้ทำงานในส่วนที่เครื่องจักรทำไม่ได้ หรือพัฒนาเป็นผู้ควบคุมเครื่องจักรแทน,สำหรับทิศทางการจ้างงานในอนาคต แรงงานที่มีทักษะ (Skill Labour) ยังจะเป็นกลุ่มคนที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่แรงงานเองก็ต้องได้รับการพัฒนาทักษะเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน,**********,ทั้งหมดคือภาพรวมในอนาคตอันใกล้ของกระแสไหลบ่าแห่งปัญญาประดิษฐ์ (AI) แห่งโลก Digital Disrupt ที่กำลังสั่นคลอนตลาดโรงงานทั่วโลกรวมทั้งตลาดแรงงานไทย.,ทีมเศรษฐกิจ | ปฏิเสธไม่ได้ว่าภายใต้โลกธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามกระแสดิจิทัล Internet of Things : IoT และการรุกเข้ามาของ ปัญญาประดิษฐ์ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ปัญญาประดิษฐ์,กระแสดิจิทัล,แรงงานไทย,สกู๊ปเศรษฐกิจ,ทีมเศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1468566 |
วราวุธ ร่วมรำลึก 29 ปี การจากไปของ สืบ นาคะเสถียร ที่ห้วยขาแข้ง | เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2562 มีการจัดพิธีรำลึกการเสียชีวิตของ สืบ นาคะเสถียร อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ครบ 29 ปี วันเสียชีวิต (เมื่อ 1 ก.ย. 2533) ที่อนุสรณ์สถานสืบนาคะเสถียร บริเวณที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพื่อรำลึกถึงคุณความดีและผลงานของอดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่ทำไว้ ซึ่งต่อมาอุดมการณ์ของสืบนาคะเสถียรได้รับการสืบสานและขยายผลจนส่งผลดีต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างอเนกอนันต์ โดยพิธีวันนี้มีประชาชน เยาวชน องค์กรภาครัฐ และเอกชน ร่วมกิจกรรมคึกคัก,ในการนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ร่วมวางพวงหรีดรำลึกที่หน้าอนุสรณ์สถานสืบนาคะเสถียร ตามด้วยผู้แทนหน่วยงานประชาชน และเยาวชน ประกอบพิธีถวายสังฆทานแด่พระภิกษุ เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่สืบนาคะเสถียร และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่,จากนั้นมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าห้วยขาแข้ง นอกจากนี้ในงานยังจัดให้มีกิจกรรมการเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ การปลูกต้นไม้ นิทรรศการชีวิตและผลงานของสืบนาคะเสถียร ฯลฯ. | รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ นำ จนท.วางพวงหรีดรำลึก 29 ปีการเสียชีวิตของ สืบ นาคะเสถียร บริเวณที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพื่อรำลึกถึงผลงานการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าและป่าไม้ | ข่าว,ทั่วไทย | สืบ นาคะเสถียร,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง,วราวุธ ศิลปอาชา,อุทัยธานี,อนุรักษ์สัตว์ป่า,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,29 ปี สืบนาคะเสถียร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1650746 |
หนีร้อนรับไอเย็นริมน้ำ ชวนเที่ยวหลบแดด ส่อง 5 จุดสุดฮิป เอเชียทีค | วันนี้ ,ไทยรัฐออนไลน์, เลยจะพาไปเดินเที่ยวพร้อมส่อง 5 แลนมาร์คสำคัญที่ควรแวะไปเยี่ยมเยือนและถ่ายรูป ในแหล่งช็อปปิ้งสุดฮิปอีกแห่งของกรุงเทพฯ อย่าง ,เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์, นั่นเอง,ที่นี่เดิมเป็นท่าเรือเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยสมัยนั้นพระองค์ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศเดนมาร์ก จึงได้ก่อตั้งท่าเรือของบริษัท อีสท์ เอเชียติก ขึ้นมา เพื่อทำการค้าไม้สักไปยังต่างประเทศ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของประตูการค้าสากลระหว่างสยามประเทศกับยุโรป ,ภายหลังถูกปรับปรุงทำให้เฟื่องฟูอีกครั้ง โดยการสร้างเป็น ไลฟ์สไตล์มอลล์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ออกแบบอาคารต่างๆ ให้ยังคงกลิ่นอายความเป็นเท่าเรือในยุคอดีต เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เราไปดูกันดีกว่าว่า 5 จุดสำคัญที่น่าสนใจภายในเอเชียทีค มีอะไรบ้าง ,1. อาคารโบราณ ,สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1912 อายุกว่า 100 ปี เป็นอาคารทรงไทยโบราณ 2 ชั้น สร้างในยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองในด้านการค้าขายกับยุโรป บนพื้นที่ของ บริษัทอีสท์ เอเชียติก เดิมเป็นสำนักงานศุลกากร ปัจจุบันทางเอชียทีคต้องการรักษาไว้ให้อยู่ในสภาพเดิมมากที่สุดจึงกั้นขอบเขตไว้ไม่ให้เข้าไป และปลูกต้นไม้ล้อมรอบเพื่อความสวยงาม อาคารโบราณหลังนี้หากมองเข้าไปหลายคนอาจจะมองว่าดูน่ากลัวเพราะความเก่าแก่ แต่ก็ดูมีมนต์ขลัง และเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของไทย,2. Juliet Love Garden Bangkok,จากบทประพันธ์ตำนานรักอันเลื่องชื่อ Romeo & Juliet ได้ถูกนำมาจำลองเป็นสวนแห่งความรักของจุูเลียต มีรูปปั้นของจูเลียตที่งดงามสะดุดตาอยู่กลางสวน ซึ่งนำมาจากประเทศอิตาลี โดยมีราคาถึง 2 ล้านบาท โดยเป็นรูปปั้นจำลอง รูปที่ 2 จากต้นฉบับเลยทีเดียว ทั้งยังมีระเบียง กำแพงอิฐ ที่เรียกได้ว่าเป็นบ้านของจูเลียต เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานรักแท้นี้ ,ภายนอกสวนล้อมรอบด้วยรั้วที่มีกุญแจรูปหัวใจคล้องไว้ มีความเชื่อกันว่า กุญแจนี้เป็นสื่อแทนใจใช้ล็อกความรักไว้ให้มั่นคง ถ้าเขียนชื่อของคู่รักลงไป จะทำให้ได้กลับมาเจอกันและรักกันตลอดไป บริเวณนี้จะมีจุดขาย แม่กุญแจ ไว้บริการสำหรับผู้ที่สนใจ มีราคาตั้งแต่ 250-350 บาท นอกจากจะมาแชะภาพสวยๆ กับจูเลียตแล้ว การคล้องกุญแจยังเป็นหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวด้วย,3. เอเชียทีคสกาย (asiatique sky) หรือ ชิงช้าสวรรค์,เอเชียทีคสกาย เป็นชิงช้าสวรรค์ใหญ่ยักษ์ที่โดดเด่นเห็นแต่ไกล ด้วยความสูงกว่า 60 เมตร แต่ละตู้จะเย็นฉ่ำด้วยแอร์ ระบบปลอดภัยดีเยี่ยม เมื่อขึ้นไปแล้วจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของกรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในยามเย็นจนไปถึงยามค่ำคืน ภายในระยะเวลาประมาณ 20 นาที เรียกได้ว่าเป็นจุดยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกัน ประมาณว่าเห็นอยู่ไกลๆ แล้วรู้เลยว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่เอเชียทีค,สำหรับค่าบริการนั้น ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท และยังมีแบบ ตู้ชิงช้า Private Gondola 1,000 (2 คน), VIP Gondola 1,500 บาท (2-3คน), VIP Gondola 2,000 บาท (4-5 คน) แอบกระซิบว่า เวลาช่วงเย็นที่พระอาทิตย์อัสดงนั้น สวยงามสุดๆ รอคุณไปพิสูจน์ด้วยตาอยู่นะจ๊ะ,4.ร้านอาหารนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุยส์), ,ที่นี่เป็นร้านอาหารไทย ที่มีสไตล์การตกแต่งร้านงดงามตามแบบฉบับไทยแท้ๆ พร้อมมีอาหารรสเลิศไว้ให้เลือกชิมมากมาย นอกจากนี้จะมีการแสดงหุ่นละครเล็กทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลาประมาณ 19.30 น. เพื่อให้ลูกค้าเพลิดเพลินไปกับการแสดงทางวัฒนธรรมไทยอีกด้วย,ในส่วนของโรงละครนั้นกำลังก่อสร้างอยู่ อดใจรอหน่อยนะจ๊ะ เพราะคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดทำการแสดงได้ประมาณช่วงเดือน มีนาคม 2559 นี้ เตรียมพบกับการแสดงแบบเต็มรูปแบบอย่างจุใจที่เอเชียทีคแห่งนี้แน่นอน ส่วนตอนนี้หากใครอยากจะลิ้มรสอาหารไทยพร้อมรับชมการแสดงหุ่นละครเล็กแบบไทยๆ แนะนำให้ไปช่วงเย็นๆ หรือช่วงใกล้เวลาที่จัดรอบการแสดง,5. ย่านโรงงาน,ที่นี่เป็นย่านที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพบปะสังสรรค์หลังเลิกงานสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เป็นศูนย์รวม ผับ ร้านค้า หลากหลายสไตล์ ให้เลือกสรร ทั้งสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับตกแต่ง เพียบพร้อมด้วยร้านอาหารที่น่าลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย ญี่ปุ่น อิตาเลียน จีน ซีฟู้ด ถูกออกแบบให้เหมือนบรรยากาศโรงงานในสมัยก่อน มีเครื่องจักรโบราณประดับตกแต่ง ผสมผสานเข้ากับยุคสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี,นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมน้ำยามค่ำคืน สัมผัสกับลมพัดเย็นสบาย คลายความเหนื่อยล้าแล้ว ยังได้ช็อปปิ้งสินค้ามากมายติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ย่านโรงงานนี้จะอยู่บริเวณฝั่งริเวอร์ฟรอนท์ โกดัง 7,8,9,10 ติดกับท่าเทียบเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยานั่นเอง | อุณหภูมิเมืองไทยตอนนี้ร้อนแรงเหลือเกิน ครั้นจะออกไปเที่ยวตอนกลางวัน ก็ทนพิษแสงแดดไม่ไหว จะเข้าห้างของก็แพงไปอีก ดังนั้นการออกมาเดินเที่ยวในย่านช็อปปิ้งตอนเย็น จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด | ไลฟ์สไตล์,ท่องเที่ยว | เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์,เที่ยวเอเชียทีค,ท่องเที่ยว,เที่ยวรอบกรุง,เที่ยวกรุงเทพฯ,อยากเที่ยวกรุงเทพฯ ไปไหนดี,เที่ยวยามเย็น เอเชียทีค,เที่ยวย่านเจริญกรุง เอเชียทีค,วันหยุดนี้ ไปไหนดี,วันหยุด เที่ยวไหนดี,ร้านอาหารนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุยส์),เอเชียทีคสกาย,asiatique sky,Juliet Love Garden Bangkok,สวนจูเลียต เอเชียทีค,อาคารโบราณ เอเชียทีค,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/509966 |
ช่วยวุ่น หนุ่มเมายาบ้า ปีนหลังคาตึก แม่ยืนลุ้น ห่วงลูกจนลมจับ | เมื่อตอนบ่ายวันที่ 16 ก.พ. 59 ร.ต.ท.พงษ์สวัสดิ์ มอมุงคุณ พงส.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนยืนอยู่บนหลังคาอาคารที่ 40 การเคหะแห่งชาติบ้านเอื้ออาทรนาจอมเทียน หมู่ 2 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ เพื่อจะฆ่าตัวตาย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชุติเดช จันทร์ทรง ผกก.สภ.นาจอมเทียน พร้อมประสานขอรับสนับสนุนเบาะลม และรถกระเช้า หน่วยบรรเทาสาธารณภัย เมืองพัทยา กำลังหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน รุดเข้าช่วยเหลือ,ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น บนหลังคา พบชายคนหนึ่ง ทราบชื่อต่อมาคือ นายจงกล ทับทิม อายุ 30 ปี กำลังยืนอยู่ในลักษณะคลุ้มคลั่ง พร้อมจะกระโดดลงมาได้ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ต้องเจรจาเกลี้ยกล่อม ส่งน้ำเย็นให้ดื่ม ก่อนประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมืองพัทยา มาตัดกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น ก่อนนำถุงลมนิรภัย มาวางบริเวณพื้นด้านล่าง และนำกระเช้า ขึ้นไปเจรจาหว่านล้อมนานกว่า 1 ชั่วโมง,ต่อมา นายสุทธิพงษ์ บุญมาฉาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ใช้เชือกผูกตัวขึ้นบนหลังคา โรยตัวลงมาคว้าตัวช่วยเหลือไว้ได้อย่างจนปลอดภัย โดยมีนางธิเบญจา คมขำ อายุ 46 ปี ผู้เป็นแม่ ยืนร้องไห้ หลังจากพยายามเกลี้ยกล่อมลูกชายจนตัวเองเป็นลมหมดสติไป จากนั้นจึงควบคุมตัวไปที่โรงพักเพื่อตรวจปัสสาวะ พบว่ามีสารเสพติดประเภทยาบ้า,จากการสอบถามญาติพี่น้องทราบว่า นายจงกล มีภรรยาและมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกัน จนภรรยาหอบลูกสาวหนีออกจากบ้าน ทำให้คิดมาก เกิดความเครียด และเสพยาบ้าจนคลุ้มคลั่ง เดินวนเวียนด้วยอาการกระสับกระส่ายหลายรอบ ก่อนจะปีนขึ้นไปบนหลังอาคารเพื่อหวังจะกระโดดฆ่าตัวตาย ยังดีที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยช่วยกันเกลี้ยกล่อม ก่อนจะคว้าตัวเอาไว้ได้. | หนุ่มเมียหนี เมายาบ้าปีนหลังคาตึกเคหะเอื้ออาทรที่นาจอมเทียน จ.ชลบุรี ขึ้นไปยืนทำท่าน่าหวาดเสียว ทั้งตำรวจ กู้ภัยวุ่นกันทั้งเมือง เจรจาไม่เป็นผลต้องปีนขึ้นไปคว้าตัวช่วยเอาไว้ได้ ส่วนแม่ยืนลุ้นอยู่ข้างล่าง เป็นลมล้มพับ | null | ปีนหลังคา,เมายาบ้า,คลั่งปีนหลังคา,เมียหนี,เสพยาบ้า,ตึกการเคหะ,บ้านเอื้ออาทร,นาจอมเทียน,สัตหีบ,ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์,คลุ้มคลั่ง,คลั่งยา,ยาบ้า,พี้ยา | https://www.thairath.co.th/content/578331 |
สมช. ประชุมสรุปแนวทางพูดคุยสันติภาพ วันนี้ (26 เม.ย.) | พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นัดคณะทำงานพูดคุยสันติภาพ ซึ่งประกอบไปด้วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และตัวแทนจากกองทัพหารือช่วงเช้าวันนี้ (26 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกำหนดกรอบรายละเอียดของการพูดคุยสันติภาพกับตัวแทนขบวนการแบ่งแยกดินแดน BRN ในวันจันทร์ที่ 29 เมษายน ที่ประเทศมาเลเซีย หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายรับข้อเสนอจากการพูดคุยครั้งแรก กลับไปหารือในรายละเอียดก่อนนำเรื่องกลับมาพูดคุยในการหารือรอบที่สองทั้งนี้ มีข้อสังเกตตลอดช่วงที่ผ่านมา หลาย ฝ่ายแสดงความไม่มั่นใจว่าตัวแทนขบวนการบีอาร์เอนที่ร่วมพูดคุยสันติภาพ สามารถคุมกองกำลังติดอาวุธที่ก่อเหตุในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้หรือไม่ เนื่องจากยังเกิดเหตุไม่สงบอย่างต่อเนื่องหลังการพูดคุยด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี คณะทำงานพูดคุยสันติภาพรอบแรก เชื่อว่า นายฮัซซัน ตอยิบ เป็นตัวแทนของขบวนการบีอาร์เอน ที่ยังมีอำนาจสั่งการกองกำลังในพื้นที่ได้ ส่วนที่เหตุการณ์ยังไม่สงบเนื่องจกการพูดคุยที่ผ่านมายังไม่ได้ข้อยุติในเรื่องของการหยุดยิง เพื่อลดความรุนแรงในพื้นที่ | คณะทำงานพูดคุยสันติภาพ ที่นำโดยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติจะนัดหารือกันช่วงเช้านี้ (26 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกำหนดแนวทางการพูดคุยสันติภาพในวันจันทร์ที่29 เมษายนนี้ ซึ่งจะมีการนำเรื่องกระบวนการอำนวยความยุติธรรมและการลดสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นหารือ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการพูดคุยรอบที่2 | ภูมิภาค | คณะทำงานพูดคุยสันติภาพ,จังหวัดชายแดนภาคใต้,เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ | https://news.thaipbs.or.th/content/165118 |
ดูซิว่าดีรึเปล่า? วิเคราะห์ iPad รุ่นใหม่ 9.7 นิ้ว ราคาแค่ 11500 บาท | เมื่อคืนนี้ แอปเปิลเพิ่งเปิดตัว iPad 9.7 นิ้ว ในงาน Creative New Ideas for Teachers and Students ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีทีเดียวเมื่อคนดูได้เห็นราคา,ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ออกมาสนับสนุนฮาร์ดแวร์สำหรับการศึกษาอย่างจริงจัง และครั้งนี้คงต้องยอมรับว่าแอปเปิลทำได้เหนือความคาดหมายจริงๆ กับการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ ที่มีขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว ในราคาเพียง 11,500 บาท,iPad 9.7 นิ้วตัวนี้ เป็นการผสมผสานฟีเจอร์เด่นๆ ของ iPad รุ่นที่เปิดตัวในปีที่แล้วมาผสมผสานกับคุณสมบัติบางประการของ iPad Pro เพื่อให้เหมาะสมที่จะให้ในแวดวงการศึกษา อาทิ รองรับแอปพลิเคชันสำหรับครูและนักเรียน ,IT by Choice, ขออาสาพาคุณไปเจาะคุณสมบัติเด่นๆ ของ iPad ตัวใหม่นี้กัน ว่าจะโดนใจคุณหรือไม่,คุณสมบัติที่โดดเด่น,- มาพร้อมกับชิพ A10 Fusion และสถาปัตยกรรม 64 บิต ดีไซน์แบบ 4 คอร์ นั่นแปลว่า iPad ตัวนี้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม้การตัดต่อวิดีโอก็จะทำได้ง่ายมากขึ้น,- รองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil เช่นเดียวกับ iPad Pro,- รองรับแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับการศึกษาทั้งหมด,- ราคาเริ่มต้น 10,800 บาทสำหรับนักศึกษา และ 11,500 บาทสำหรับบุคคลทั่วไป มีให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่ 32GB และ 128GB,ส่วนประสิทธิภาพอื่นๆ ก็ไม่น้อยหน้า,- จอภาพ Multi-Touch แบล็กไลต์แบบ LED ขนาด 9.7 นิ้ว (แนวทแยง) พร้อมเทคโนโลยี IPS,- ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซลที่ 264 ppi พร้อมเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ,- สามารถใช้งานร่วมกับ AR หรือเทคโนโลยีเสมือนจริงได้อย่างราบรื่น,- กล้องหลังความละเอียดสูงถึง 8MP และกล้องหน้าความละเอียด 1.2MP,- ขนาดและน้ำหนัก สูง 9.4 นิ้ว, กว้าง 6.6 นิ้ว, หนา 0.29 นิ้ว และมีน้ำหนักเพียง 469 กรัม ,อย่างไรก็ตาม iPad 9.7 นิ้ว รุ่นนี้ จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยในเดือนพฤษภาคม 2018 ในราคา Wi-Fi 32 GB ราคา 11,500 บาท และ Wi-Fi 128 GB ราคา 14,900 บาท ส่วนรุ่นที่เพิ่ม Cellular จะมีราคา 16,900 บาท สำหรับ 32GB และ 19,900 บาทสำหรับ 128 GB,ที่สำคัญ นี่คือ iPad ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ด้านการศึกษา ดังนั้นนักเรียน-นักศึกษา จึงสามารถซื้อได้ในราคา 10,800 บาท แถมฟรี iCloud 200GB จากเดิม 5GB | แอปเปิลเพิ่งเปิดตัว iPad รุ่น 9.7 นิ้ว อย่างสดๆ ร้อนๆ ไปเมื่อคืน ไปดูกันดีกว่าว่าคุณสมบัติจะตรงใจคุณหรือไม่ | ข่าว,ไอที | ข่าวไอที,แอปเปิล,iPad 2018,iPad 9.7 นิ้ว ราคา,iPad ราคา | https://www.thairath.co.th/news/tech/1241192 |
สลด แม่พิการไม่อยากอยู่เป็นภาระลูก ขอกินขนมจีนของโปรด ก่อนผูกคอดับ | หญิงพิการ วัย53ปี ที่ชัยนาท เอ่ยปากกับลูกชาย ขอกินขนมจีนน้ำพริกของโปรด ลูกแปลกใจเพราะแม่ไม่เคยขออะไร กลายเป็นมื้อสุดท้าย กลับมาเจอแม่ผูกคอตายในบ้าน เชื่อไม่อยากอยู่เป็นภาระให้ลูก เพราะครอบครัวยากจน เพื่อนบ้านต้องลงขันช่วยจัดงานศพจากเหตุการณ์ที่ นางนกเล็ก พวงเงิน อายุ 53 ปี ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว ป่วยหนักโรครุมเร้า ผูกคอตายที่ บ้านเลขที่ 290 หมู่ 7 ต.ท่าชัย อ.เมืองชัยนาท สร้างความสะเทือนใจแก่ครอบครัว และชาวบ้าน เหตุเกิดช่วงสายวันที่ 24 เม.ยต่อมา เวลา 18.00 น. ครอบครัวได้นำศพมายังวัดอัมพวนาราม (วัดหลังดอน) เพื่อเตรียมสวดอภิธรรมศพ โดยมีบรรดาคนรู้จักและญาติ ทยอยเดินทางมากราบไหว้และร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางครอบครัวได้ทำการตั้งสวดอภิธรรมศพ จำนวน 2 คืน และจะฌาปนกิจ ในวันจันทร์นี้ เนื่องจากทางครอบครัวมีฐานะยากจน ส่วนเรื่องงานศพ มีผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ช่วยกันลงขันจัดงานขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้ง และเงินเยียวยาจำนวนหนึ่ง ให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตนายสะอาด เพ็งพ่วง อายุ 29 ปี บุตรชายของนางนกเล็ก ได้มากราบไหว้แม่ และนำนมที่แม่ชอบดื่ม มาเคาะโลงบอกกับแม่ว่าไม่ต้องห่วง จะดูแลครอบครัวอย่างดีที่สุด นายสะอาด ยังกล่าวด้วยว่า ก่อนออกไปทำงานวันนี้ เหมือนมีลางบอกเหตุ เพราะแม่บอกว่า อยากกินขนมจีนน้ำพริก จึงรีบไปซื้อให้แม่กิน โดยปกติแล้วแม่จะไม่เคยบอกว่าอยากกินอะไร พอกินเสร็จตนจึงกอดและบอกแม่ว่า วันนี้จะไปทำงานแล้วนะ พอออกไปทำงานกับลุงไม่กี่ชั่วโมง ลุงก็บอกว่าลืมเครื่องมือช่างที่ต้องใช้ไว้ เลยกลับมาเอา ปรากฏว่ามีรถตำรวจจอดเต็มหน้าบ้าน และป้าก็มาบอกว่า แม่เสียแล้ว รีบวิ่งมาดู กอดแม่ด้วยความเสียใจ ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะมาจากไม่อยากเป็นภาระของครอบครัว ก่อนหน้านี้แม่ก็เคยกินยาฆ่าตัวตายมาแล้ว แต่มีคนมาเห็น ช่วยไว้ทันด้านนางสุวรรณ์ เพ็งพ่วง อายุ 54 ปี พี่สาวของสามีผู้ตาย ผู้ดูแลครอบครัว เผยว่า ตนดูแลน้องสะใภ้ เมียของน้องชาย มาตลอด ดูแลหลานด้วย เพราะตัวหลานก็เป็นโรคลมชัก ส่วนเมียก็สติไม่สมประกอบ ผู้ตายมาป่วยหนักเมื่อช่วงหลังสามีตาย ครอบครัวลำบากมาก บ่นกับตนตลอดว่า ไม่อยากเป็นภาระ บ่นอยากตาย แต่ตนก็บอกให้อดทน เก็บผักตามริมรั้ว ตามคันนาขาย อยู่กันไปตามสภาพ งานศพก็ต้องอาศัยชาวบ้าน อาศัยผู้นำชุมชน ช่วยลงขันกัน เลยเอาไว้แค่ 2 คืน เดี๋ยวค่าใช้จ่ายจะบานปลาย นางสุวรรณ์ กล่าว | หญิงพิการ วัย53ปี ที่ชัยนาท เอ่ยปากกับลูกชาย ขอกินขนมจีนน้ำพริกของโปรด ลูกแปลกใจเพราะแม่ไม่เคยขออะไร กลายเป็นมื้อสุดท้าย กลับมาเจอแม่ผูกคอตายในบ้าน เชื่อไม่อยากอยู่เป็นภาระให้ลูก | ข่าว,ทั่วไทย | ผูกคอตาย,ไม่อยากอยู่เป็นภาระ,หญิงพิการผูกคอตาย,ขอกินของโปรด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1829686 |
หลายชาติเข้าคิวซื้อข้าวไทย ศรีลังกา-บังกลาเทศ ออเดอร์ประเทศละ 2 แสนตัน | เมื่อวันที่ 16 ก.ค. นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ราคาผลผลิตข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ หรือปี 60/61 ของไทยน่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะมีความต้องการซื้อข้าวไทยจำนวนมากจากหลายประเทศ โดยล่าสุด ประเทศศรีลังกา และบังกลาเทศ ได้ตกลงจะซื้อข้าวจากไทย โดยศรีลังกาต้องการซื้อข้าวนึ่ง และข้าวขาวปริมาณ 200,000 ตัน ขณะที่บังกลาเทศต้องการซื้อข้าวนึ่งปริมาณ 200,000 ตันเช่นกัน ส่วนราคาซื้อจะอยู่ที่เท่าไร ยังต้องหารือในรายละเอียดต่อไป และจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือน ก.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งจะรองรับข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ของไทย ที่ผลผลิตจะทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย.นี้เป็นต้นไป,ข้าวที่ไทยจะส่งมอบให้ศรีลังกาและบังกลาเทศ จะเป็นข้าวฤดูกาลใหม่ทั้งหมด เพราะข้าวนึ่งต้องซื้อข้าวเปลือกมานึ่ง ก่อนนำมาทำให้แห้ง แล้วสีเอาเปลือกออก ซึ่งจะช่วยระบายข้าวใหม่ออกต่างประเทศได้ส่วนหนึ่ง ส่วนราคายังตกลงกันไม่ได้จะขายแบบไหน แบบเอฟโอบี ที่ส่งมอบ ณ ท่าเรือของไทย หรือแบบซีไอเอฟ ที่รวมราคาสินค้า ค่าระวางเรือ และค่าประกันภัย โดยฝ่ายผู้ขายจะส่งมอบให้ถึงประเทศผู้ซื้อเลย ซึ่งทั้งเอฟโอบี และซีไอเอฟ จะคิดราคาต่างกันไป แต่ราคาข้าวเราก็อยากขายตามราคาตลาด หรือใกล้เคียงราคาตลาดมากที่สุด,อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทั้ง 2 ประเทศยังมีความต้องการนำเข้าอีกมากไม่ต่ำกว่าล้านตัน เพราะผลผลิตเสียหายจากภัยธรรมชาติ ทั้งภัยแล้ง และน้ำท่วม ส่งผลให้ศรีลังกาต้องกลับมานำเข้าข้าวเป็นครั้งแรกในเกือบ 50 ปี แต่ทั้ง 2 ประเทศพยายามซื้อจากหลายประเทศ ทั้งอินเดีย เวียดนาม รวมถึงไทยด้วย,นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ทำหนังสือทวงถามไปยังจีน เพื่อให้เร่งรัดการเจรจาซื้อข้าวจากไทยลอตที่ 5 หรือแสนตันที่ 5 จากปริมาณที่ทำสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ทั้งหมด 1 ล้านตัน และส่งมอบไปแล้ว 400,000 ตัน ซึ่งการส่งมอบจะเป็นข้าวฤดูกาลใหม่ทั้งหมด ส่วนการเจรจาทำสัญญาซื้อขายกับจีนล้านตันที่ 2 คาดว่า น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกันในเร็วๆ นี้ ฟิลิปปินส์จะเปิดประมูลเป็นการทั่วไปเพื่อนำเข้าข้าวขาว 25% อีกประมาณ 250,000 ตัน ซึ่งภาคเอกชนไทยคงเข้าร่วมการประมูลด้วย,สำหรับการระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลภายใต้รัฐบาลชุดนี้ หรือตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57-มิ.ย.60 รวม 13.62 ล้านตัน จากปริมาณที่รับมาจากรัฐบาลชุดก่อนประมาณ 18.7 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าที่ขายได้ทั้งสิ้น 126,471 ล้านบาท. | กรมการค้าต่างประเทศ เผยหลายประเทศเข้าคิวรอซื้อข้าวไทย ล่าสุดศรีลังกา-บังกลาเทศ ขอซื้อประเทศละ 2 แสนตัน พร้อมทำหนังสือจี้จีน เจรจาซื้อขายลอตที่ 5 และเตรียมร่วมประมูลของฟิลิปปินส์อีก 2.5 แสนตัน | ข่าว,เศรษฐกิจ | ข้าวไทย,ต่างประเทศซื้อข้าวไทย,เข้าคิวซื้อข้าวไทย,ราคาข้าว,ขายข้าว,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/business/1006690 |
อนันดา ยินดี จี๊ด เตรียมแต่งงาน รับมีสาวคุย แต่ไม่พร้อมเรียกแฟน | เป็นทางการ,ฝั่งอดีตแฟนสาวอย่างนางแบบทรงโต จี๊ด แสงทอง เกตุอู่ทอง เตรียมเข้าพิธีวิวาห์แล้ว หลายคนก็อยากรู้ว่า งานนี้พระเอกหนุ่มเซอร์ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม จะไปร่วมแสดงความยินดีรึเปล่า ซึ่ง อนันดาเองก็เจอกระแสข่าวว่ามีกิ๊กใหม่แล้วเป็นสาวฝรั่งซะด้วย แต่บางคนก็ยังลุ้นให้คืนดีกับนักแสดงสาว โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล พอได้เจออนันดาในงานแถลงข่าวเปิดตัว มหาสมุทร คันทรี่ คลับ หัวหิน ที่มหาสมุทร คันทรี่ คลับ เซลส์ สวีท ณ มหานคร พาวิเลียน เลยถามเจ้าตัวทุกเรื่อง,ถามถึงเรื่องที่จี๊ดจะแต่งงาน? ก็รู้เรื่องครับ จริงๆ ผมไม่ได้คุยกับจี๊ดนานมาก นานๆ ทีเจอกันครับ จะไปร่วมงานไหม? ถ้าเขาชวนก็ไปอยู่แล้วครับ แต่ผมก็ไม่ได้สนิทกับทางครอบครัว ทางเจ้าบ่าว หรือเพื่อนของจี๊ดเอง ไม่ได้เจอนานมาก ไปก็อาจจะประหลาดนิดหน่อย เขายังไม่ได้ชวนเป็นทางการใช่ไหม? ไม่มีครับ คือมันห่างกันนานจริงๆ มันไม่ได้โกรธเกลียดอะไรเลยนะ เพียงแต่สังคมของเขากับเรามันห่างกันมาหลายปีมาก ผมก็ไม่รู้ว่าถ้าผมไปงานแต่งงานเขา ผมจะรู้จักใครรึเปล่านอกจากตัวเขาเอง (หัวเราะ) อยากอวยพรอะไรไหม? ก็รู้สึกยินดีกับเขามากครับ ผมรู้สึกดีครับ ใครที่หาความรักได้ คนที่มีคู่ แล้วเราล่ะจะมีเมื่อไร? เออ นั่นน่ะดิ (ยิ้ม) หาได้รึยัง? (หัวเราะ) คือไม่ใช่ว่าไม่มี แต่มันแค่ช่วงนี้มันไม่มี ให้ทำไงได้ล่ะ ก็มีคุยบ้าง แต่ว่าถ้าลงเอยเดี๋ยวก็รู้กันเองแหละ ผมไม่ได้เป็นคนที่ปิดบังอะไรอยู่แล้ว หลายคนก็ลุ้นให้รีเทิร์นกับโดนัท? โอ๊ย ตอนนี้อาจจะยาก เพราะเขายุ่งกับงานเขา ผมก็ยุ่งกับงานผม แต่ก็ยังคุยกันปกติครับ เขาเข้ามากำกับในช่วงที่เราเริ่มคบกัน มันจะมีเรื่องตรงนี้ที่เรายังปรึกษากันตลอดเวลา,มีกระแสว่า อนันดามีกิ๊กใหม่เป็นฝรั่ง? ไม่ได้มีแฟนนะ แต่เห็นลงรูปกับฝรั่งในอินสตาแกรมเยอะมาก? อ๋อ (เสียงสูง) นางแบบ ไปถ่ายโฆษณามาด้วยกัน แต่ก็ปลื้ม (ยิ้ม) ตอนเล่นโฆษณาด้วยกันก็คิด กระโดดฉีกขาทีหลงรักเลย ยิ่งกว่าเจ๊จิ๋มอีก (ยิ้ม) สเปกสาวจะเป็นสาวไทยหรือฝรั่ง? ไม่เกี่ยงครับ ขอใจดี รักผมก็พอแล้วครับ เป็นคนในหรือนอกวงการดี? คือจริงๆ เคยพูดไว้ว่าถ้านอกวงการก็ดี แต่บางทีมันก็พูดยากครับ ผมชอบคิดไปเองว่าอยากได้อย่างนั้นอย่างนี้ แล้วมันจะเป็นตรงข้ามตลอด สปาร์คคนง่ายมากไหม? เปล่าหรอก ความรักเป็นสิ่งที่กำหนดยากครับ พอมันเกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้นครับ มันก็จะรู้เองเมื่อมันมีครับ เราก็ไม่ได้กำหนดสเปกขนาดนั้นใช่ไหม? ไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นครับ ถ้ามีภาพปาปารัซซี่ออกมาก็คือคนนั้นใช่ไหมที่คุยอยู่? คือเราแค่หมายถึงว่าไม่มีแฟนเป็นทางการ แต่หมายถึงว่าผมก็มนุษย์ปกติ ผมก็ไปเจอ ออกเดท กินข้าวเหมือนคนอื่นแหละ เพียงแต่ว่าถ้าอยากจะให้พูดเต็มปากเต็มคำก็ขอให้เป็นรูปเป็นร่างกว่านี้หน่อย ยังไม่ได้ขอเขาเป็นทางการ? คือตอนนี้ตัวเราเองยังไม่พร้อมที่จะมีใครเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนั้นครับ. | อนันดา ยินดี จี๊ด แสงทอง เตรียมแต่งงาน ยินดีไปร่วมงานหากอีกฝ่ายชวน ปัดกิ๊กนางแบบฝรั่ง แจงแค่เคยถ่ายโฆษณาด้วยกัน โอกาสลุ้นคืนดี โดนัท มนัสนันท์ คงยากเพราะงานยุ่งทั้งคู่ รับคุยสาวบ้างแต่ยังกั๊กแฟน เพราะยังไม่พร้อมมีใคร | null | อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม,จี๊ด แสงทอง,แสงทอง เกตุอู่ทอง,แต่งงาน,อนันดา จี๊ด,กิ๊ก,นางแบบฝรั่ง,คืนดี,โดนัท มนัสนันท์,มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล,แฟน,เปิดตัว,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ข่าวไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/490472 |
บิ๊กตู่ รัวเป็นชุด 5 ปีทุ่มเทตลอด เสียดาย 2 วันแทนที่จะได้ประโยชน์ | เมื่อเวลาราว 22.30 น. วันที่ 26 ก.ค. 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงด้วยอารมณ์ว่า เรื่องพิธีถวายสัตย์จบแล้ว ในส่วนการที่ผู้อภิปรายพูดหลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่าเสียดาย 2 วันที่ผ่านมา เพราะการแถลงนโยบายต้องการรับฟังประโยชน์ หวังจะจากกันด้วยดีถูกทำลายไป แม่และภรรยาของตนเองก็เป็นครู ไม่มีใครแสดงกิริยาแบบนี้ และไม่โกรธ พร้อมพูดถึงเรื่องศาสนาว่า ตั้งใจใช้ศาสนากล่อมเกลาจิตใจ ตนเองเข้าใจแก่นแท้ดี ส่วนตัวทุ่มเทมาตลอด 5 ปี นึกถึงที่ตนเองเลือกไม่ได้บ้าง ไม่มีใครอยากทำ ถ้าทำไม่ดีทั้งหมดคงจะไม่ได้เข้ามาแบบประชาธิปไตยแบบนี้ พยายามหลายปี ส่วนพรรคคร่วมทุกคนก็ตั้งใจทำงาน,วันนี้ติดหล่มประเทศมา 10 กว่าปีแล้ว กำลังจะเป็นประเทศที่ล้มเหลว บ้านที่กำลังจะพัง ทุกคนต้องช่วยต่อเติมไม่ใช่เอาชะแลงมางัด จะพูดอะไรต้องมีหลักการและเหตผล วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง และรัฐสภาจะมีเกียรติหรือไม่อยู่ที่คนนั่งในสภา ในเรื่องปัญหาสังคมและเศรษฐกิจก็ต้องช่วยกันแก้ ไม่ต้องมาโทษคนนั้นคนนี้ ทุกวันนี้ระมัดระวังที่สุดแล้ว ต้องแบกภาระคนทั้งประเทศ 70 กว่าล้านคน ลองเปรียบเทียบว่าที่ผ่านมา 5 ปี ได้ทำความผิดฐานละเมิดและละเว้นหรือไม่ ลงโทษทุกประการ ขอแยกให้ออกว่าอะไรคือการทุจริตเชิงนโยบาย มีหน่วยงานหลายระดับ พูดเหมือนคนล้านกว่าคนไม่ทำอะไรเลย เขาจะไม่เสียใจหรอ,สำหรับเรื่องยาเสพติดก็ทุ่มเทดำเนินการเต็มที่ แต่คนเลวก็มี แจ้งมาก็จับให้หมด บอกมาว่าที่ไหนจะไปจีบพรุ่งนี้ ความล้มเหลวเกิดมาจากอะไร ต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งหมด เว้นแต่คนสร้างความเสียหายแต่ไม่อยู่ไทย ไม่รู้ว่าใคร รัฐบาลพูดทุกอย่างเรื่องเศรษฐกิจ ถ้าไม่ช่วยกันจะทำได้ไหม สร้างแต่ความขัดแย้ง วันนี้เงินหายไปเท่าไหร่ ปล่อยปละละเลยจนใช้ว่อนไปหมด พอเข้มงวดก็ว่ารังแกประชาชน ถ้าอยากอยู่แบบเดิมๆ ก็ไปเลือกตั้งใหม่ กรณีนาปรังไม่ได้ห้าม เพียงเตือนว่าอย่าทำช่วงน้ำน้อย ไปห้ามชาวนาได้ไหม อย่าพูดบิดเบือนกลไกตลาดทั้งหมด รอแต่รัฐบาลช่วย แต่ไม่ว่าใครรักหรือเกลียดก็รับได้หมด,ทั้งนี้ การขึ้นภาษีเหล้ายาบุหรี่ หากไม่เหมาะสมก็ปรับใหม่ ปัญหาสาธารณสุขก็มีมาก เรื่องความรุนแรงในสังคม อย่างเด็กแว้น ช่วยกันพูดไม่ให้ขี่ได้ไหม ให้เคารพกฎจราจรได้หรือไม่ ถ้าทำให้เกิดความแตกก็เดินไปไม่ได้ อย่าพูดเอาสนุก เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ใจดีตลอดเวลา ไม่เคยไม่ให้เกียรติใคร เหมือนจะชอบเห็นนายกรัฐมนตรีโมโหกัน ไม่ใช่คนบ้าแบบนั้น ใช้อดทนมากตลอด 2 วัน เรื่องคดีก็ให้ศาลตัดสิน ไม่ควรรบกวนกระบวนการยุติธรรม บ้านเมืองแย่เราก็ให้ยา แต่กลับมาเติมเชื้อโรคเข้าไป เราบริหารแบบประเทศไทย ต้องทำใหม่ ซื่อสัตย์ สุจริต,ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ยังพูดเรื่องหัวหน้า คสช. ว่า มีอำนาจเหนือจาก 3 อำนาจ และบางทีก็มีอารมณ์ พร้อมขอโทษ ส.ว. ไม่ค่อยเห็นตนเองเป็นแบบนี้ ยอมรับว่าเครียด เตรียมเอกสาร ร่างมา เขียนมา แต่ที่ไม่เขียนชัดเจนเพื่อจะได้มีความอ่อนตัว ถ้าโครงการนี้ทำไม่ได้ก็ไปทำโครงการอื่น ปรับเปลี่ยนได้ตลอด อย่าคิดแบบเดิมๆ เคยอยู่ใต้การปกครองรัฐบาลท่านมาตลอด เตือนตลอดก็ไม่เคยฟัง ลองมาเป็นตนเองจะรู้. | นายกฯ อารมณ์ขึ้นอีกรอบ โดนพาดพิงตลอด 2 วัน บอก เสียดายแทนที่จะได้ประโยชน์และจากกันด้วยดี จวก ไม่ช่วยกันมีแต่ทำลาย ลั่น ทุ่มเทมาตลอด5 ปี | ข่าว,การเมือง | ประชุมสภา,ประชุมรัฐสภา,แถลงนโยบายรัฐบาล,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,มอนิเตอร์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1623958 |
อาบูไซยาฟโหด ลักพาตัว-ตัดคอฆ่าทหารปินส์ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สิบเอก อันนี ซิราจี จากกองกำลังทหารราบที่ 32 ของกองทัพฟิลิปปินส์ ผู้ถูกนักรบของกลุ่มติดอาวุธอาบูไซยาฟลักพาตัวไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถูกสังหารแล้วด้วยการตัดคอ โดยศพของเขาถูกพบเมืองปาติกุล ของจังหวัดซูลู ขณะที่ศีรษะของเขาถูกพบห่างออกไปราว 50 ม.,พลจัตวา ซิริลิโต โซเบฮานา ผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจร่วมซูลู เปิดเผยผ่านแถลงการณ์ว่า ศพของสิบเอกซิราจีอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยบ่งชี้ว่าเขาถูกสังหารมาไม่น้อยกว่า 3 วันแล้ว และเมื่อดูจากศพที่อยู่ห่างจากจุดที่เขาถูกลักพาตัวเพียง 2.5 กม.และศีรษะที่ถูกทิ้งไว้ห่างออกไป ทำให้เชื่อว่า อาบูไซยาฟ สังหารสิบเอกซิราจีด้วยความเร่งรีบ เนื่องจากถูกกองกำลังของพวกเขาไล่ตาม,นายพลโซเบฮานาระบุด้วยว่า สิบเอกซิราจีอาจถูกลักพาตัวไปและถูกสังหารเพราะเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธในจังหวัดซูลู โดยนายซิราจีเคยเป็นสมาชิกกองกำลังแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร (MNLF) ที่ยอมทำข้อตกลงกับรัฐบาล และมีนักรบหลายคนรวมทั้งนายซิราจี เข้าร่วมกับกองทัพฟิลิปปินส์ด้วย | กลุ่มกบฏอาบูไซยาฟในฟิลิปปินส์ ก่อเหตุลักพาตัวทหารนายหนึ่งไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่ทหารนายนี้จะถูกพบเป็นศพถูกฆ่าตัดคอเมื่อวันอาทิตย์ | ข่าว,ต่างประเทศ | อาบูไซยาฟ,ฆ่าตัดคอ,ฟิลิปปินส์,เจรจาสันติภาพ,ลักพาตัว | https://www.thairath.co.th/news/foreign/921152 |
สุวิทย์ เรียกประชุมทีมงาน หลังยูเนสโกเสนอไทยร่วมบูรณะพระวิหาร | ท่าทีของผู้อำนวยการยูเนสโกเสนอทางออกให้ไทยเข้าร่วมในแผนการณ์บูรณะตัวปราสาทพระวิหารเพื่อแลกเปลี่ยนกับการเลื่อนพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารออกไป ฝ่ายไทยต้องจึงต้องแสดงความเห็นต่อข้อเสนอของผู้อำนวยการยูเนสโกที่กำลังจะประชุมในกลางเดือนนี้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหัวหน้าคณะทำงานเจรจามรดกโลกไทย เรียกประชุมคณะทำงานประกอบด้วย ตัวแทนจากกระทรวงทรัพยากร ฯ ตัวแทนกองทัพ ตัวแทนกระทรวงวัฒนธรรม และ กระทรวงการต่างประเทศเพื่อกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกัน โดยการประชุมได้หารือถึงร่างมติล่วงหน้าของที่ประชุมมรดกโลก เรื่องแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ที่นางอิริน่า โบโกว่า ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก เสนอให้ฝ่ายไทยพิจารณาร่างมติให้ไทยเข้าร่วมในแผนบูรณะตัวปราสาทพระวิหารเพื่อแลกเปลี่ยนกับการเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทออกไปนายสุวิทย์ บอกว่า มีแนวโน้มที่ฝ่ายกัมพูชาจะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของยูเนสโก และ จะเสนอให้ที่ประชุมมีมติรับรองแผนบริหารจัดการของกัมพูชาส่วนข้อเสนอเรื่องบูรณะตัวปราสาทของทางยูเนสโกนายสุวิทย์ ยอมรับว่า คณะทำงานยังมีความเห็นแตกต่างกัน และ เห็นว่า ก่อนบูรณะตัวปราสาทควรจะถอนทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่รอบปราสาทซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดความเสียหาย | กลางเดือนนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 19 - 29 มิถุนายน ประเด็นที่ต้องติดความเคลือนไหวการประชุมครั้งนี้ คือ คณะกรรมการมรดกโลกจะหารือกันถึงแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้าที่ไทยและกัมพูชา ได้ประชุมในเวทีนอกรอบแบบทวิภาคีไปแล้ว และ ทั้ง 2 ฝ่ายยังมีความเห็นไม่ตรงกัน | ต่างประเทศ | คณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 35,ปราสาทพระวิหาร,ยูเนสโก,สุวิทย์ คุณกิตติ,อิริน่า โบโกว่า,ไทย-กัมพูชา | https://news.thaipbs.or.th/content/15730 |
กังขากระบวนการตั้ง-คุณสมบัติ ผอ.ไทยพีบีเอสคนใหม่ พนง.เตรียมเรียกร้องผู้บริหารชี้แจง | กรณีคณะกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ซึ่งมีนายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ เป็นประธานฯ ลงมติ 6 ต่อ 3 เลือก ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ อดีตผู้จัดการกองสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นผู้อำนวยการไทยพีบีเอสคนใหม่ เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมาล่าสุด (24 ม.ค.) แหล่งข่าวจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสระบุว่า ขณะนี้พนักงานไทยพีบีเอส จำนวนหนึ่งเตรียมเคลื่อนไหวเพื่อให้คณะกรรมการนโยบายฯ ชี้แจงกระบวนการแต่งตั้งดังกล่าว ก่อนการรับตำแหน่งของ ทพ.กฤษดา ในเดือนกุมภาพันธ์นี้แหล่งข่าวระบุว่า ข้อกังขาทั้งจากคนในและสังคมภายนอกที่สำคัญคือ เรื่องคุณสมบัติผู้สมัครที่อาจจะขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 มาตรา 32 (3) ที่ระบุว่า ต้องเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ในกิจการวิทยุกระจายเสียงกิจการวิทยุโทรทัศน์หรือการสื่อสารมวลชนตลอดการทำงานของนายกฤษดา ไม่เคยผ่านงานด้านนี้มาก่อน ทำให้สังคมเกิดการตั้งคำถามต่อกระบวนการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาและกรรมการนโยบายของไทยพีบีเอสว่าโปร่งใสหรือไม่ เพราะจากผู้สมัครจำนวน 13 คนมีเพียงนายกฤษดาคนเดียวที่ไม่มีเคยทำงานด้านสื่อมวลชนมาก่อน แต่กลับคัดเลือกและออกประกาศจะให้เริ่มงานในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ พนักงานจึงจะยื่นหนังสือเพื่อให้กรรมการนโยบายชี้แจงเร็วๆ นี้ แหล่งข่าวระบุแหล่งข่าวยังตั้งข้อสังเกตว่า การสรรหาผู้อำนวยการไทยพีบีเอสก่อนหน้า ล้วนแล้วแต่ได้บุคคลที่มีประสบการณ์ทำงานในวงการสื่อสารมวลชน เนื่องจากไทยพีบีเอสเป็นสถาบันสื่อสาธารณะ ผู้นำสูงสุดต้องมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการบรรณาธิการฯ ดูได้จากวิกฤตการณ์ทางสังคมที่ผ่านมา ที่องค์กรฯ ต้องตัดสินใจทำหน้าที่สื่อมวลชนโดยอิงบนผลประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่แค่ประโยชน์เฉพาะองค์กรฯ ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายที่กำหนดให้ผู้อำนวยการไทยพีบีเอสต้องมีประสบการณ์ด้านสื่อมวลชนทั้งนี้ ผู้อำนวยการไทยพีบีเอสสองคนที่ผ่านมา คือ นายเทพชัย หย่อง และ นายสมชัย สุวรรณบรรณ ซึ่งต่างก็มีประสบการณ์ด้านสื่อมวลชนมานานหลายสิบปี โดยนายเทพชัย ก่อนมาดำรงตำแหน่ง เคยทำหน้าที่บรรณาธิการในเครือเดอะเนชั่นและผู้อำนวยการฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ส่วนนายสมชัยเคยเป็นบรรณาธิการข่าววิทยุบีบีซี ภาคภาษาไทย ประจำกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษนอกจากนี้ รายงานข่าวจากไทยพีบีเอสระบุด้วยว่า ช่วงเดือนสิงหาคม 2558 นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หนึ่งในกรรมการ สสส. ได้เคยขอร้องให้นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการไทยพีบีเอสขณะนั้น ลาออกจากตำแหน่ง โดยอ้างว่า องค์กรฯ เกิดปัญหาแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน อีกทั้งมีปัญหาบริหารงานสื่อสาธารณะ ไม่เป็นการขับเคลื่อนสังคม แต่นายสมชัยไม่ยินยอม ต่อมา มีการร้องขออีกครั้งจากนายณรงค์ ด้วยเหตุผลว่านายสมชัยบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ จนนำมาสู่มติของคณะกรรมการนโยบายฯ ปลดนายสมชัยจากตำแหน่งในที่สุด เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2558อนึ่ง คณะกรรมการนโยบาย ไทยพีบีเอส ประกอบด้วย ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ประธานฯ ปราณี ทินกร ธีรภัทร สงวนกชกร ลดาวัลย์ บัวเอี่ยม สมพันธ์ เตชะอธิก สมศรี หาญอนันทสุข ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ รุ่งมณี เมฆโสภณ และ พิพัทธ์ ชนะสงครามสำหรับรายชื่อผู้สมัครรับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการไทยพีบีเอสคนใหม่ 13 คน ประกอบด้วย1. พัฒนะพงศ์ จันทรานนทวงศ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ในเครือโพสต์พับบลิชชิง จำกัด2. นลินี สีตะสุวรรณ อดีตกรรมการบริหารด้านสื่อสารมวลชนของ ส.ส.ท.3. สุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท (MCOT)4. วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตรองผู้อำนวยการ ส.ส.ท.5. วีระยุทธ โชคชัยมาดล ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ อาร์เอสยู วิสดอม ทีวี (RSU Wisdom TV) คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต6. ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค สื่อมวลชนอาวุโส7. สะหะศักดิ์ กลิ่นสุวรรณ นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน8. อนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ กรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายข่าว บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด9. สุวรรณา บุญกล่ำ รองผู้อำนวยการฝ่ายข่าวและรายการสถานีข่าวโทรทัศน์ TNN2410. สุรภากร ศรีวุฒิวงศ์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการบริหาร บริษัท ไททีวี วิทยุโทรทัศน์ จำกัด11. ธนกร ศรีสุกใส ผู้ปฏิบัติงานประจำ กสทช. อดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ TITV ก่อนเปลี่ยนเป็นไทยพีบีเอส12. กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ อดีตผู้จัดการกองสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)13. ยุทธนา วรุณปิติกุล อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวไทยพีบีเอส | พนักงานไทยพีบีเอสตั้งคำถามกระบวนการตั้ง-คุณสมบัติ ผอ.คนใหม่ เตรียมเคลื่อนไหวเรียกร้องให้กรรมการนโยบายชี้แจง ก่อน หมอกฤษดา รับตำแหน่ง ก.พ.นี้ | การเมือง | กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์,สมชัย สุวรรณบรรณ,สสส.,ไทยพีบีเอส | https://prachatai.com/journal/2016/01/63655 |
ระอุ เชลซี เปิดบ้านดวลเดือด อาร์เซนอล ลอนดอนดาร์บี้แมตช์ | สิงห์บลู เชลซี ตั้งเป้าเก็บชัยชนะ 2 นัดติดต่อกัน เมื่อจะเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึกลอนดอนดาร์บี้ รับการมาเยือนของ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล คู่ปรับร่วมเมืองหลวง ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2018-19 คืนนี้ เกมนี้เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือ สิงห์บลู เตรียมส่งเอเดน อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติ เบลเยียม ลงประสานแนวรุกร่วมกับวิลเลียน และอัลบาโร โมราตา ขณะที่อูไน เอเมรี กุนซืออาร์เซนอล หวังพาทีมไม่แพ้เป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน โดยจะจัด ลากาแซตต์ กับโอบาเมยอง ยืนเป็นคู่กองหน้า พร้อมด้วย เมซุต โอซิล, อารอน แรมซีย์ และมคิตาร์ยาน ช่วยกัน ปั้นเกมรุก เริ่มเตะ 5 ทุ่มครึ่ง ยิงสดให้ชมทางทรูบีอิน สปอร์ต 1 ด้าน ไก่เดือยทอง สเปอร์ส หวังซิวชัย 2 นัดติด โดยจะเปิดบ้านรับน้องใหม่ เจ้าสัวน้อย ฟูแลม ในเกมลอนดอนดาร์บี้ นัดนี้เจ้าบ้านสเปอร์สจะส่งแฮร์รี เคน ลงล่าตาข่าย เริ่มเตะ 3 ทุ่มตรง สดทาง ทรูบีิอิน สปอร์ต 1 ส่วน ทอฟฟี่ เอฟเวอร์ตัน จะเปิดรัง ดวล นักบุญ เซาแธมป์ตัน เริ่มแข่ง 21.00 น.เป็นต้นไป,ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-19 ประจำวันเสาร์ที่ 18 ส.ค. มีเกมดวลแข้งรวมทั้งสิ้น 6 คู่ โดยคู่เอกซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ เป็นเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์คู่ยักษ์ชนยักษ์ ระหว่าง สิงห์บลู เชลซี จะเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซนอล คู่ปรับร่วมเมืองหลวง ยิงสดให้ชมทางทรูบีอิน สปอร์ต 1 (676) เริ่มเวลา 23.30 น.,สิงห์บลู เชลซี ประเดิมซิวชัยฉลองการคุมทีมในลีกนัดแรกของ เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือคนใหม่ชาวอิตาเลียน ด้วยการบุกไปถล่มฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ขาดลอยคาถิ่น 3-0 จากการเรียงหน้าซัลโวของ เอ็นโกโล ก็องเต, จอร์จินโญ และเปโดร โรดริเกซ ในนัดเปิดซีซันพรีเมียร์ลีก 2018-19 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน,สำหรับเกมนี้ ซาร์รี กุนซือชาวอิตาเลียนของเชลซี จะชวดใช้งาน เชส ฟาเบรกัส กองกลางตัวเก๋าชาวสเปน ที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้เชสจะหมดสิทธิ์ลงสนามเจอกับทีมเก่าของตัวเองอย่างอาร์เซนอล อย่างไรก็ตาม สิงห์บลู จะส่ง เอเด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมนี้ ประสานงานในแนวรุกร่วมกับ วิลเลียน ปีกทีมชาติบราซิล และอัลบาโร โมราตา กองหน้าทีมชาติสเปน โดยมี เอ็นโกโล ก็องเต กับ จอร์จินโญ ทำเกมแดนกลาง ทั้งนี้เชลซีหวังจะเอาชนะอาร์เซนอลในเกมนี้ให้ได้ เพื่อคว้าชัยชนะ 2 นัดติดต่อกัน,ส่วนทางฝั่ง ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ภายใต้การคุมทัพของ อูไน เอเมรี กุนซือคนใหม่ชาวสเปน ประเดิมนัดแรกของซีซันด้วยความพ่ายแพ้ หลังโดนแชมป์เก่าอย่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาอัดกระบอกแตกคารังเอมิเรตส์ สเตเดียม 2-0 จากการทำประตูของ ราฮีม สเตอร์ลิง และแบร์นาโด ซิลวา,เกมนี้ อาร์เซนอลต้องเจอคู่ต่อกรระดับเฮฟวีเวทเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน แต่พวกเขาจะแพ้อีกไม่ได้เด็ดขาด เพราะจะเป็นการออกสตาร์ตที่ย่ำแย่แพ้ 2 นัดรวดในลีก คาดว่าเกมนี้ อูไน เอเมรี นายใหญ่คนใหม่ของอาร์เซนอล เตรียมปรับทัพจากเกมแรกที่แพ้แมนฯซิตี้คาบ้าน โดยน่าจะส่งอเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ ลงมายืนกองหน้าคู่กับ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมยอง,ส่วนแดนกลางจะส่ง ลูคัส ตอร์เรรา กองกลางร่างเล็กทีมชาติอุรุกวัย ลงเป็นตัวจริง ประสานงานกับ กรานิต ชากา เป็นมิดฟิลด์คู่กลาง ขณะที่ เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์ชาวเยอรมัน ที่นัดแรกถูกจับไปเล่นปีกและโชว์ฟอร์มไม่ออก น่าจะหุบเข้ามาเล่นกลางรุก อยู่หลังคู่กองหน้า โดยมี เฮนริก มคิตาร์ยาน กับ อเล็กซ์ อิโวบี ไปยืนเป็นปีกทั้งสองฝั่ง สำหรับตำแหน่งแบ็กซ้ายที่เป็นปัญหาของทีม เนื่องจากเซอัด โคลาชินัช กับ เอนส์ลีย์-เมตแลนด์ ไนล์ ต่างบาดเจ็บทั้งคู่ ทำให้ สเตฟาน ลิคสไตเนอร์ แบ็กตัวเก๋าชาวสวิส จะได้ลงมาเล่นแทน,แนวโน้มเกมนี้คาดว่า ขุนพล ปืนใหญ่ จะวิ่งสู้ฟัดเต็มที่ เพราะไม่ต้องการแพ้รวดในการออกสตาร์ต 2 เกมแรกของซีซัน และน่าจะบุกมายันเสมอเจ้าบ้านเชลซีได้แบบสนุก,ทางด้าน ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ หวังจะคว้าชัยในลีกเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน เมื่อจะเปิดบ้านรับมือน้องใหม่อย่าง เจ้าสัวน้อย ฟูแลม ทีมคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน เริ่มแข่งเวลา 21.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรูบีอิน สปอร์ต 1 เกมนี้ เมาริซิโอ โปเชตติโน กุนซือสเปอร์ส จะส่ง เดเล อัลลี, คริสเตียน อีริกเซน และแฮร์รี เคน เป็นสามประสานแนวรุกเหมือนเดิม แต่จะไร้ ซอน เฮือง มิน กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ต้องไปรับใช้ชาติลงเล่นฟุตบอลชายในกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย ขณะที่ ฟูแลม ของ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือขรัวเฒ่า ที่นัดเปิดซีซันแพ้ต่อพาเลซคาบ้านมา 0-2 จะวาง ไรอัน เซสเซยอง, อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช และอังเดร ชูร์เล เป็นสามประสานแดนหน้า,สำหรับโปรแกรมคู่อื่นๆ คาร์ดิฟฟ์ พบ นิวคาสเซิล เริ่ม 18.30 น. (สดทางทรูบีอิน สปอร์ต 1), เอฟเวอร์ตัน พบ เซาแธมป์ตัน เริ่ม 21.00 น. (สดทางทรูบีอิน สปอร์ต 2), เลสเตอร์ พบ วูล์ฟส์ เริ่ม 21.00 น. (สดทางทรูบีอิน สปอร์ต 4), เวสต์แฮม พบ บอร์นมัธ เริ่ม 21.00 น. (สดทางทรูบีอิน สปอร์ต 3) | สิงห์บลู เชลซี ตั้งเป้าเก็บชัยชนะ 2 นัดติดต่อกัน เมื่อจะเปิดบ้าน ทำศึกลอนดอนดาร์บี้ รับการมาเยือนของ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล คู่ปรับร่วมเมืองหลวง ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | เชลซี,อาร์เซนอล,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1356361 |
ถ้วยจักรพรรดิคังซี มีแค่ 3 ใบในโลก ประมูลออกราคาเกือบพันล้านบาท | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 3 เม.ย. บริษัทจัดประมูล ซัทเทบีส์ ในฮ่องกง ประมูลขายถ้วยเซรามิก ที่สร้างขึ้นในยุคราชวงศ์ชิงเพื่อถวายแด่จักรพรรดิคังซี (พ.ศ. 2197-2265) ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 3 ใบในโลกเท่านั้น โดยขายออกไปในราคาสูงถึง 30.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 948 ล้านบาท,ตามการเปิดเผยของนาย นิโคลัส ชอว์ ประธานบริษัท ซัทเทบีส์ สาขาเอเชีย ถ้วยใบนี้ถูกประมูลขายออกไปภายในเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น โดยผู้ประมูลทางโทรศัพท์ที่ไม่เปิดเผยชื่อจากจีนแผ่นดินใหญ่,อนึ่ง บริษัท ซัทเทบีส์ ระบุว่า ถ้วยหายากใบนี้ มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวเพียง 14.7 ซม.เท่านั้น สร้างขึ้นที่โรงงานหลวงภายในพระราชวังต้องห้าม โดยช่างฝีมือกลุ่มหนึ่งและได้ความช่วยเหลือจากคณะเยสุอิตจากยุโรป ซึ่งนำเทคนิคและวัตถุดิบใหม่ๆ เข้ามายังแดนมังกร เห็นได้จากเทคนิคเขียนสีแบบฟาฟลาง (falangcai) ซึ่งผสมระหว่างเทคนิคของจีนกับตะวันตก และรูปดอกแดฟโฟดิลซึ่งปกติจะไม่ค่อยพบในเครื่องเคลือบของจีน,อย่างไรก็ตาม แม้จะประมูลออกไปในราคาสูง แต่ถ้วยใบนี้ไม่ใช่เครื่องเคลือบจีนที่มีราคาสูงที่สุดในโลก แต่เป็นถ้วยอายุ 1,000 ปีจากราชวงศ์ซ่ง ที่ขายออกไปเมื่อปีก่อนในราคาสูงถึง 37.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1,176 ล้านบาท | ถ้วยหายากสมัยราชวงศ์ชิง ถูกประมูลออกไปในงานประมูลที่ฮ่องกง ด้วยราคาสูงเกือบ 1,000 ล้านบาท โดยผู้ประมูลปริศนา | ข่าว,ต่างประเทศ | เครื่องเคลือบ,ประมูล,ถ้วยยุคราชวงศ์ชิง,จักรพรรดิคังซี,จีน | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1246922 |
รัฐบาลให้ลดธง 30 วัน ข้าราชการ-จนท.รัฐไว้ทุกข์มีกําหนด 1 ปี | โดยระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสํานักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 นั้น รัฐบาลได้รับทราบด้วยความโทมนัสอย่างยิ่ง จึงเห็นสมควรประกาศ ดังต่อไปนี้1. ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. 2559 เป็นต้นไป2. ให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์มีกําหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. 2559 เป็นต้นไปสําหรับประชาชนทั่วไป ขอให้พิจารณาดําเนินการตามความเหมาะสมโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงการณ์ ตอนหนึ่งด้วยว่าการเตรียมงานพระบรมศพในส่วนของรัฐบาล และประชาชนให้สมพระเกียรติยศ และสมกับความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทย ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ ทั้งนี้การดำเนินการ ทั้ง 2 ประการนี้ รัฐบาลจะแจ้งให้ พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะ ต่อไปในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเรื่องต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย และราชประเพณี รัฐบาลจึงขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายรับฟังข่าวสารอย่างเป็นทางการ จากหน่วยงานราชการ อย่าเชื่อข่าวที่ลือ ที่ไม่ปรากฏแหล่งอ้างอิง พร้อมกันนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนคนไทย ที่รักทุกท่านแต่งกายถวายความอาลัย เป็นเวลาหนึ่งปี สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน และทุกภาคส่วน ควรพิจารณางดการจัดงานรื่นเริงต่างๆ เป็นเวลา 30 วันพล.อ.ประยุทธ์ แถลงด้วยว่า ท่านทั้งหลายอาจเข้าร่วมพิธีหรือ จัดกิจกรรมทางศาสนาของตน ถวายเป็นพระราชกุศล หรือ จัดเป็นพระบรมราชานุสรณ์ อีกทั้งควรใช้โอกาสนี้ ให้กำลังใจแก่กันและกัน เพราะเราทุกคนต่างก็มีหัวอกเดียวกัน เพราะมีพ่อของแผ่นดินร่วมกัน และโปรดช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง มิให้ผู้ใด ฉวยโอกาส แทรกเข้ามาก่อความขัดแย้ง จนกลายเป็นความวุ่นวาย ขอพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมส่งเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ ด้วยการรักษาแผ่นดินของพ่อ ด้วยความรัก และความสามัคคี ตลอดไป | 13 ต.ค. 2559 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต โดยระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสํานักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช | การเมือง | การลดธง,ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,สวรรคต,ไว้ทุกข์ | https://prachatai.com/journal/2016/10/68343 |
สถาบันสิริกิติ์ พร้อมโชว์ผลงานปีกแมลงทับเต็มรูปแบบ ประชันศิลปกรรมชิ้นเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ | ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างเสร็จสิ้นและจะมีพระราชพิธีเปิดวันที่ 10 มิ.ย.นี้ โดยสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี จะเสด็จฯแทนพระองค์ ทรงประกอบพระราชพิธีเปิด,โอกาสนี้ สถาบันสิริกิติ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดนำชม พร้อมแถลงถึงการจัดงาน ศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ 7 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต โดยมี ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ และ ท่านผู้หญิงสุภรณ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระ บรมราชินีนาถ และ อ.เผ่าทอง ทองเจือ ร่วมให้รายละเอียดของศิลปกรรมชิ้นเอกจากฝีมือช่างสถาบันสิริกิติ์,ท่านผู้หญิงสุภรณ์เพ็ญ กล่าวว่า งานศิลป์แผ่นดินปีนี้จะเปิดห้องปีกแมลงทับอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกันนี้สถาบันสิริกิติ์ได้จัดสร้างเรือนยอด 9 ยอด แห่งแรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเป็นศิลปกรรมชิ้นเอกสำหรับการจัดงานศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ 7 ซึ่งงบก่อสร้างมาจากบัตรค่าเข้าชมงานศิลป์แผ่นดิน,จากนั้น อ.เผ่าทอง พาชมห้องปีกแมลงทับ แบ่งเป็น 3 ส่วน โดยผนังด้านขวาตกแต่งแผ่นสานย่านลิเภาสอดด้วยเส้นเงิน เส้นทอง เส้นนาก ประดับตราสัญลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี และตราสัญลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ ส่วนผนังซ้ายตกแต่งตราสัญลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 7 รอบ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ,ส่วนห้องที่ 2 อัญเชิญพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประดิษฐานภายในกรอบทองเขียนลายรูปหงส์เคล้าลายกนกเทศ ผนังห้องตกแต่งแผ่นสานย่านลิเภาสานเป็นลายขิด แล้วสอดด้วยปีกแมลงทับ ยังมีไม้แกะสลักเป็นพญานาคาเกี้ยวกระหวัด ส่วนตัวพญานาคาตกแต่งปีกแมลงทับ ฝังตาทับทิม เพดานบนมีโคมระย้าพญา, นาค และหงส์ ประดับปีกแมลงทับและแก้วเจียระไน ห้องที่ 3 จัดแสดงงานถมเงินถมทอง พัฒนาต่อยอดงานถมโบราณเป็น งานถมกลับพื้น ใช้โลหะทำเป็นพื้นสีเงินแทนพื้นดำ พร้อมประดับฝาผนังคร่ำสามกษัตริย์เต็มพื้นที่ฝาผนัง ผสมแผ่นเสื่อสานเส้นเงินสอดเส้นนากเป็นลายขิดโบราณ,สำหรับเรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ เป็นโลหะหล่อจากต้นแบบที่เป็นผลงานไม้แกะสลักฝีมือช่างศิลปาชีพ สถาบันสิริกิติ์ ถือเป็นอาคารโลหะหลังแรกของไทย หน้าบันของเรือนยอดมี 8 หน้าบัน อัญเชิญรูปอักษรพระปรมาภิไธย รูปอักษรพระนามาภิไธย และรูปอักษรพระนามของทุกพระองค์ ด้านล่างมีประติมากรรมหล่อโลหะรูปช้างสำคัญประจำรัชกาลทั้ง 10 ช้าง โดยจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.นี้. | พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ สถาบันสิริกิติ์ จัดสร้างเรือนยอด และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานนามว่า เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ ที่สนามด้านทิศตะวันออกของพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | สถาบันสิริกิติ์,สร้างเรือนยอด,เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์,พระที่นั่งอนันตสมาคม,มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ,ศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ 7,ห้องปีกแมลงทับ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวสตรี,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/633792 |
5 วิธีจัดการคราบไวน์แบบสนุกสุดเหวี่ยงแค่ไหนก็เอาอยู่ #ขวัญเอ๋ยขวัญมา | ใครเคยทำไวน์หกใส่เสื้อผ้าบ้างยกมือขึ้น …น่าเสียดายที่เรามองผ่านจอไปหาคุณไม่ได้ แต่เรารู้ว่าที่แน่ๆ เชื่อว่าทุกคนย่อมเคยมีโมเมนต์ทำไวน์หกใส่ตัวเอง หรือโรแมนติกกว่านั้นคือกระฉอกหกใส่เพศตรงข้ามหน้าตาชวนมองแบบในหนังนั่นไง แต่การทำไวน์หกใส่วัสดุอะไรก็ตามแต่ที่ดูดซึมน้ำไวน์ราวกับชอบดื่มไวน์ไม่แพ้คุณนั้นไม่ใช่เรื่องน่าสนุก เพราะอาจเป็นเรื่องสยองสองบรรทัดเอาได้ง่ายๆ เช่น ไวน์แดงหกใส่ลินินสีขาว ไวน์หกใส่พรมผืนใหม่ ไวน์หกใส่ที่นอน กระทั่งชีราซบนชุดแต่งงาน… ทั้งนี้อย่าเพิ่งแพนิกจนกลัวการจิบไวน์หรือกลัวแม่ดุไป เราพกวิธีเด็ดในการกำจัดคราบเปื้อนจากไวน์ไว้ให้ดังนี้Photo: giphy.comเกลือช่วยคุณได้วิธีนี้ดีต่อใจและคราบเปื้อนบนพรมเอามากๆ แนะนำว่าเมื่อไวน์แดงหกใส่พรม รีบหาผ้ามาซับน้ำออกให้เยอะที่สุดเป็นอย่างแรก จากนั้นเทเกลือลงไปอย่าได้ยั้ง ให้เกลือกลบจนไม่เห็นรอยเปื้อน โดยเกลือจะทำการดูดซึมน้ำไวน์จนแห้งอย่างมหัศจรรย์ ทำให้เหลือร่องรอยทิ้งเอาไว้น้อยที่สุด และเมื่อแห้งสนิทค่อยนำไปซักทำความสะอาด ท่องไว้ #พรมของเราต้องรอดPhoto: giphy.comน้ำยาล้างจาน + ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ลืมการรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปล้างคราบไวน์ที่มักออกมาแบบคนเสื้อผ้าเปียกปอนในงานปาร์ตี้ไปก่อน วิธีนี้เหมาะแก่การขจัดคราบที่ติดบนเสื้อผ้าได้ดีเลิศ เพราะน้ำยาล้างจานนั้นมีอานุภาพในการทำความสะอาดคราบอาหารได้อย่างดีเยี่ยม และเมื่อนำมาผสมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อย่างละครึ่งแล้วยิ่งช่วยให้คราบออกได้อย่างหมดห่วง ขอแค่นำผ้าที่เปื้อนแช่ในส่วนผสมทั้งสอง ทิ้งไว้สักพักแล้วคุณจะพบว่าคราบไวน์นั้นจางจนเกือบหายไปได้อย่างง่ายดาย จากนั้นจึงนำไปซักปกติ ขอบอกว่าวิธีนี้เวิร์กสุดๆ กับผ้าสีอ่อนหรือผ้าขาว เนื่องด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้าไปทำปฏิกิริยาฟอกผ้าออกนิดๆ นั่นเอง ทีนี้ถ้าไปทำไวน์หกใส่หนุ่มสาวที่ไหนก็ลองเสนอแนะวิธีนี้กับเขาและเธอดูสิPhoto: giphy.comน้ำส้มสายชู + น้ำยาซักผ้าอีกหนึ่งวิธีที่ดีต่อเสื้อผ้า (เพราะเรารู้ว่าเสื้อผ้าสำคัญต่อลุคแค่ไหน) นำน้ำส้มสายชูราดบนรอยเปื้อน วิธีนี้ช่วยให้สีม่วงและแดงของน้ำไวน์เจือจางลง แล้วจึงทาน้ำยาซักผ้าลงไปบนคราบ จากนั้นจึงนำไปซักด้วยน้ำอุ่น แค่นี้ก็โบกมือลาความสกปรกไปได้เลยPhoto: giphy.comฟอกได้แม้จะเป็นทางออกสุดท้ายและไม่ควรนำไปใช้กับรอยเปื้อนทุกกรณี แต่วิธีนี้เหมาะสุดๆ สำหรับเสื้อเชิ้ตหรือเดรสสีขาวที่ทำเปรอะในงานแต่งงานที่คุณสนุกเกินเรื่องไปหน่อย ทำได้ง่ายๆ โดยการนำผ้าขาวแช่ในน้ำยาฟอกราว 10 นาที จากนั้นจึงนำไปซักในน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน คราบน้ำองุ่นจะหายไปอย่างไม่ต้องเปลืองแรงPhoto: giphy.comน้ำเดือดวิธีนี้เหมาะสำหรับเมื่อมีคนมือซนทำไวน์หกบนโต๊ะอาหารใส่ผ้าปูโต๊ะลายสวยที่บ้าน โดยต้มน้ำร้อนใส่กา จากนั้นหากะละมังหรือชามแก้วขนาดใหญ่มา นำผ้าที่เปื้อนมาแผ่จนครอบกะละมัง (พยายามหาที่ยึดผ้าให้ตึงเอาไว้ แนะให้ใช้ไม้หนีบผ้า) จากนั้นนำน้ำเดือดมาราดใส่บนรอยเปื้อนโดยพยายามยกกาให้สูง จะเห็นว่ารอยเปื้อนค่อยๆ จางลงจนหายไปในที่สุด แต่เน้นให้ระวังสักนิด เพราะน้ำที่เทนั้นร้อนจัดจนอาจลวกเอาได้นะและหาก 5 ทริคข้างบนเห็นจะไม่เวิร์กอาจเป็นเพราะคราบนั้นแห้งหรือทิ้งเอาไว้นาน ขอแนะให้ลองผลิตภัณฑ์ที่ถือกำเนิดมาเพื่อชีวิตของนักจิบน้ำองุ่นโดยเฉพาะ ลองถามอากู๋ถึงสิ่งที่เรียกว่า Wine Away ดูสิ Photo: giphy.comส่วนใครที่ตื่นมาจากงานปาร์ตี้ทีไรแล้วพบว่ามีคราบไวน์หกใส่ให้ตื่นตระหนกอยู่เป็นนิจ เราขอแนะนำให้ยึดไวน์ขาวหรือสปาร์กลิงไวน์ไว้เป็นดี…ยอดฮิต ไว้ลาย เย้ายวน เรียบง่าย หาคำตอบว่าคาแรกเตอร์ไวน์ขาวไหนที่เหมาะกับคุณได้ที่นี่อ่านเรื่องคิดผิดคิดใหม่ Sparkling Wine ใครว่าเป็นไวน์ของแค่สาวๆ ได้ที่นี่ภาพประกอบ:พิสูจน์อักษร: | รวบรวม 5 วิธีขจัดคราบไวน์อย่างอยู่หมัดให้ออกไปกินดื่มสังสรรค์ได้อย่างไม่ต้องกังวล ทั้งคราบบนเสื้อ บนพรม หรือบนผ้าปูโต๊ะน้ำยาล้างจานนั้นมีอานุภาพในการทำความสะอาดคราบอาหารได้อย่างดีเยี่ยม และเมื่อนำมาผสมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อย่างละครึ่งแล้ว ยิ่งช่วยให้คราบออกได้อย่างหมดห่วง | null | null | https://thestandard.co/jacobscreek-get-rid-of-wine-stains/ |
ต้อยติ่งวัชพืชต่างถิ่น | แพร่กระจายมากที่สุดในประเทศเขตร้อนชื้นประเทศไทยมีการนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย เพื่อปลูกเป็นไม้ประดับแต่เนื่องจากเป็นพืชที่แพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว จึงกลายเป็นวัชพืชที่สำคัญชนิดหนึ่งในบ้านเรา พบแพร่กระจายในทุกภาคทั่วประเทศเป็นไม้ล้มลุก สูง 60-100 ซม. ตามลำต้นจะมีขนอ่อนๆขึ้นปกคลุมเล็กน้อย ใบเดี่ยว ออกเรียงกันเป็นคู่ๆไปตามข้อของลำต้น แผ่นใบมีสีเขียว ลักษณะใบเป็นรูปมนรี ปลายใบมน โคนใบแหลม ส่วนขอบใบเรียบ และอาจมีคลื่นเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-1.5 นิ้ว และยาวประมาณ 2.5-3 นิ้ว ออกดอกเป็นช่อ หรือบางทีออกเป็นดอกเดี่ยวๆตามง่ามใบบริเวณส่วนยอดของต้นดอกเป็นสีม่วงรูปกรวย ปลายดอกแยกออกเป็น 5 กลีบ กลางดอกมีเกสร 4 ก้าน แบ่งเป็นก้านสั้น 2 ก้าน และก้านยาว 2 ก้าน ผลเป็นฝักยาว 1 นิ้ว ภายในฝักมีเมล็ดอยู่ 8 เมล็ด เปลือกของเมล็ดสีดำ เมื่อนำเมล็ดมาแช่น้ำจะปริแตกอย่างรวดเร็ว และมีเสียงดังแป๊ะๆต้อยติ่งสามารถนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรรักษาโรคต่างๆได้มากมายรากใช้เป็นยารักษาโรคไต โรคไอกรน เป็นยาขับเลือด ถ้าใช้ในปริมาณที่เจือจางสามารถกำจัดสารพิษในเลือด บรรเทาอาการสารพิษตกค้างในปัสสาวะใบใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ หรือใช้พอกแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้. | ฤดูฝนตามสวนสาธารณะ ท้องไร่ท้องนา มักพบต้นวัชพืชดอกสีม่วงสวยงามผุดขึ้นมากมาย รู้จักกันมาแต่โบราณว่า ต้อยติ่ง บ้างเรียก อังกาบ เป๊าะแป๊ะ จัดเป็นวัชพืชต่างถิ่น มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ | ข่าว,ทั่วไทย | ต้อยติ่ง,วัชพืชต่างถิ่น,ไม้ล้มลุก,ยาสมุนไพร,ดอกสีม่วง,กำจัดสารพิษ,ยาถ่ายพยาธิ,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/local/1883363 |
คค.อนุมัติงบศึกษา ออกแบบสร้างสนามบินขอนแก่น คาดได้ใช้ปี 2563 | เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 59 ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดขอนแก่น กรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ผู้แทนจากกรมท่าอากาศยาน สำนักงานการบินพลเรือนและผู้จัดการสายการบิน ที่เปิดให้บริการในเส้นทางการบินขอนแก่น และหอการค้าขอนแก่น ได้ประชุมร่วมกันในการติดตามความคืบหน้า การสำรวจและออกแบบแผนการดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานขอนแก่นระยะที่ 2 หลังกระทรวงคมนาคมได้อนุมัติงบประมาณในการศึกษาสำรวจออกแบบและเตรียมแผนการก่อสร้างและปรับปรุงสนามบินขอนแก่น ที่มีอายุการใช้งานมานานกว่า 20 ปี,ทั้งนี้ปัจจุบันสนามบินขอนแก่น มีจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการทั้งขาเข้าและขาออก กว่า 3,500 คนต่อวัน ให้บริการของสายการบินพาณิชย์ 4 สายการบิน ประกอบด้วย ไทยสมายล์ ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์และกานต์แอร์ รวมไปถึงเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ ครอบคลุมทุกเส้นทางและเชื่อมต่อภูมิภาคของไทยทั้งหมด ทั้งจากสถานีต้นทางที่สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่และสนามบินหาดใหญ่ โดยมีเที่ยวบินให้บริการมากถึง 18 เที่ยวบินต่อวัน ถ้านับรวมไปและกลับ คือ 36 เที่ยวบิน เฉลี่ยการทำการบินในทุก 45 นาที,สำหรับแผนการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ลานจอดเครื่องบิน รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ นั้น กระทรวงคมนาคมได้มีการอนุมัติงบประมาณในการศึกษาออกแบบ โดยขณะนี้บริษัทฯ ที่ถูกว่าจ้างได้มีการนำเสนอการออกแบบอาคารหรือเรียกว่าการก่อสร้างระยะที่ 2 จากเดิมที่มีอยู่คืออาคารทำการบิน 1 อาคารเท่านั้น รูปแบบใหม่จะเป็นอาคาร 3 อาคาร แยกเป็น อาคารจอดรถ 7 ชั้น, อาคารสำนักงานและพิธีการบินซึ่งจะเป็นอาคารตรงกลางความสูง 3 ชั้น และอาคารผู้โดยสารต่างประเทศ รวมทั้งที่ตั้งของสำนักงานสายการบินและสำนักงานของกรมท่าอากาศยานประจำ จ.ขอนแก่น ซึ่งจะเป็นอาคารที่ตั้งอยู่ติดกัน,ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าวอีกว่า อาคารหลักที่ใช้ปฏิบัติการการบินนั้น จะมีความสูง 3 ชั้นเป็นอาคารเดิมที่ตั้งอยู่แต่จะมีการขยายการก่อสร้างในระยะที่ 2 ออกไป โดยใช้บันไดเลื่อนที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นกึ่งกลางของอาคารผู้โดยสารใหม่ทั้งหมด และจะมีการเวนคืนพื้นที่ด้านข้าง ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารบ้านพักของเจ้าหน้าที่ออกไปทั้งหมด ทั้งนี้ 3 ชั้นที่ใช้ในการปฏิบัติการบินและอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารนั้น จะแยกเป็นชั้น โดยชั้นที่ 1 เป็นอาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้นที่ 2 เป็นอาคารผู้โดยสารขาออก,ขณะเดียวกันจะมีการก่อสร้างเคาน์เตอร์เช็กอินทั้งหมด 24 จุด ในชั้นที่ 2 เพื่อให้บริการแก่สายการบินพาณิชย์ได้ครบและสมบูรณ์แบบที่สุด รวมทั้งการเพิ่มที่พักผู้โดยสารหลังจากตรวจบัตรโดยสารไปแล้ว โดยจะสอดคล้องกับหลุมจอดเครื่องบิน คือ 6 หลุมจอด และ 6 GATE จุดที่ 3 เพิ่มที่ทำการของศุลกากรและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจท้องที่ที่จะต้องมาปฏิบัติหน้าที่ทุกวัน ให้เป็นสัดส่วนและสามารถให้บริการแก่ผู้โดยสารได้อย่างสะดวกสบายและครอบคลุมที่สุด,ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าวต่ออีกว่า อาคารผู้โดยสารรูปแบบใหม่นี้จะสามารถรองรับการให้บริการผู้โดยสารได้มากถึง 5 ล้านคนต่อปี ซึ่งขณะนี้อัตราเฉลี่ยของจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการอยู่ที่ปีละไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านคน โดยแผนการก่อสร้างดังกล่าวจะอยู่ในระยะเวลาของการคาดการณ์ 10 ปี โดยจะสามารถเริ่มทำการก่อสร้างได้ในปี 2561 และจะแล้วเสร็จในปี 2563,ทั้งนี้ ขอนแก่น เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีอัตราการใช้บริการและการให้บริการของสายการบินแบบก้าวกระโดด เพิ่มการให้บริการของเที่ยวบินพาณิชย์ได้จากเดิม 6 เที่ยวบินต่อชั่วโมงเป็น 10 เที่ยวบินต่อชั่วโมง โดยสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ คือ Airbus A330 Boeing 777 รวมไปถึงเครื่องบินขนาดกลาง อย่าง Airbus A320 และ Boeing 737 สำหรับการทำการบินภายในประเทศและต่างประเทศได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด,อย่างไรก็ตามขณะนี้แม้จะเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี สนามบินขอนแก่น ยังคงเป็นที่สนใจของสายการบินพาณิชย์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ติดต่อประสานงานผ่านองค์กรต่างๆ เพื่อขอทำการบิน โดยเฉพาะกับการเชื่อมต่อภูมิภาคและกลุ่มประเทศอาเซียน | คมนาคมอนุมัติงบศึกษาออกแบบก่อสร้างสนามบินขอนแก่นระยะที่ 2 รองรับจำนวนผู้โดยสาร 5 ล้านคนต่อปี คาดแล้วเสร็จปี 2563 เพื่อยกระดับสู่สนามบินนานาชาติ | null | ปรับปรุงสนามบินขอนแก่น,สายการบินพาณิชย์,สนามบินนานาชาติ,ขอนแก่น,ข่าว,ทั่วไทย,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/649766 |
แห่ซื้อปลาเขมร ปลาไทยขาดแคลน เหตุเรือหยุดออกทะเล | เมื่อตอนเช้าวันที่ 1 ก.ค.58 ที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้มีพ่อค้า แม่ค้าปลาในตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค แห่กันมาแย่งกันซื้อปลาน้ำจืดที่พ่อค้า แม่ค้าชาวกัมพูชานำเข้ามาส่งขายทำให้บริเวณหน้าด่านพรมแดนคลองลึก คึกคักเป็นพิเศษ,พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าชาวกัมพูชาบรรทุกปลาน้ำจืดใส่ตะกร้าขนาดใหญ่ และบรรทุกมาในรถเข็น จากฝั่งเขมรเข้ามาส่งขายในประเทศไทยโดยผ่านด่านพรมแดนอรัญประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการสอบถามทราบว่ามีแม่ค้าปลาสดในตลาดโรงเกลือ เร่งสั่งซื้อปลาน้ำจืดจากฝั่งเขมรจำนวนมากโดยเฉพาะปลาเป็น เช่น ปลาช่อน ปลาไหล เพื่อนำไปส่งขายให้ลูกค้าตามจังหวัดต่างๆ เนื่องจากขณะนี้อาหารทะเล เช่น ปู ปลา กุ้งเริ่มขาดตลาดและมีราคาแพงขึ้น หลังจากเรือประมงได้หยุดออกหาปลาทั่วประเทศ พ่อค้าแม่ค้าปลาสดในตลาดโรงเกลือ เกรงอาหารทะเลจะขาดแคลนและราคาสูง จึงได้เร่งสั่งปลาน้ำจืดจากฝั่งเขมรเพื่อนำมาขายทดแทนปลาทะเล,ด้าน ร.อ.อภินันท์ สงครามชัย ผบ.ร้อย ทพ.1201ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนตลาดโรงเกลือ และหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบการค้าขายอาหารทะเลในตลาดโรงเกลือ พบว่ามีราคาสูงขึ้น เช่น ปูม้า ปูทะเล กุ้งทะเล และปลาทะเล มีน้อยทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งแม่ค้าขายอาหารทะเลในตลาดโรงเกลือบอกว่า เรือประมงหยุดออกทะเล ทำให้อาหารทะเลขาดแคลน และมีราคาสูงขึ้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ จนต้องสั่งซื้อปลาน้ำจืดจากเขมรเข้ามา โดยเฉพาะปลาช่อน และปลาไหลที่ยังเป็นๆ จะขายดีมาก,อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงที่ประเทศกัมพูชา สั่งปิดโตนเลงสาบ ทะเลสาบน้ำจืด ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเพื่อให้ปลาวางไข่ในช่วงฤดูวางไข่ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-31 ส.ค. 58 ทำมีปลาน้ำจืดจากฝั่งเขมรเข้ามาน้อยลง และมีราคาแพง เห็นได้จากปลาช่อน และปลาไหล เดิมพ่อค้าปลาเขมรเคยส่งเข้ามาขายในตลาดโรงเกลือวันละกว่า 10,000 กก.ขณะนี้เหลือประมาณ 4,000-5,000 กก.เท่านั้น,ขณะเดียวกัน ที่บริเวณท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบว่ามีเรือประมงเริ่มเข้ามาที่ท่าเทียบเรือจำนวนมาก เนื่องจากเกรงว่าจะถูกจับกุม หลังจากรัฐบาลประกาศ ใช้มาตรการเด็ดขาดจับกุมเรือประมงที่ผิดกฎหมาย หรือผิดระเบียบทุกประเภท ขณะที่เจ้าของเรือประมงส่วนใหญ่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้รัฐบาลผ่อนผันมาตรการนี้ออกไปก่อน เนื่องจากได้รับผลทั้งเรื่องรายได้จากการขายปลา และเงินที่ต้องเช่าที่เทียบเรือ รวมถึงโรงงานแปรรูปสินค้าสัตว์น้ำ หรือแพปลาต้องหยุดกิจการตามไปด้วย และยังเกิดปัญหาคนว่างงานจำนวนมาก,นายเสนาะ มงคลโสภณรัตน์ นายกสมาคมประมง จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ผู้ประกอบการเรือประมงใน จ.สมุทรปราการ มีใบอาชญาบัตรเพียง 2 เปอร์เซ็นเท่านั้น จึงทำให้เรือที่มีมากว่า 350 ลำ ต้องหยุดหาปลา สำหรับปัญหาตอนนี้ตนได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการให้นำไปเรือไปจอดเทียบตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาก่อน พร้อมเน้นย้ำว่า อย่านำเรือไปทิ้งสมอขวางทางเดินเรือเพราะจะส่งผลให้เกิดอันตรายกับเรือพาณิชย์ และเรืออื่นๆ ด้วย,ส่วนบรรยากาศแพปลาในองค์การสะพานปลา ค่อนข้างเงียบเหงากว่าปกติเนื่องจากไม่มีเรือออกไปหาปลา โดยแพปลาบางส่วนเริ่มทยอยนำปลาแช่แข็งที่เก็บไว้ออกมาขายมากขึ้น เนื่องจากมีปลาค้างอยู่ในตู้อีกมาก แต่เกรงว่าอนาคตราคาอาหารทะเลจะพุ่งสูงขึ้น ส่วนบริเวณตลาดปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นแหลงจำหน่ายอาหารทะเลสด พบว่าพ่อค้าแม่ค้ายังคงจำหน่ายอาหารทะเลตามปกติ แต่มีอาหารทะเลบางชนิดเริ่มปรับขึ้นราคาแล้ว เพราะต้องรับมาจากต้นทางในราคาสูง โดยคาดว่าหลังจากนี้ ราคาอาหารทะเลจะมีการปรับตัวสูงขึ้นกว่าเดิมแน่นอน. | เริ่มแล้ววันแรก ตรวจเข้มอาชญาบัตรเรือประมง เรือไทยหยุดออกทะเล พ่อค้าเขมรส้มหล่น แม่ค้าที่ตลาดโรงเกลือแห่ซื้อปลาน้ำจืดขายแทนปลาทะเลที่ราคาแพง ส่วนแพปลาที่ปากน้ำ ต้องงัดปลาแช่แข็งมาขาย เชื่อต่อไปราคาพุ่งกระฉูดแน่ | ข่าว,ทั่วไทย | หยุดเรือ,เรือประมง,ตรวจเรือประมง,ปลาขาดแคลน,อาหารทะเล,ซื้อปลาเขมร,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/508740 |
คอหวยขอโชค หลวงพ่อสมหวัง หลังงวดที่แล้วชาวบ้านถูกหวย เลขเด็ด ทั้งตำบล | ชาวบ้านแห่ขอโชค หลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ หลังงวดที่แล้วนักเสี่ยงโชคถูกหวย เลขเด็ด ทั้งตำบล รอบนี้ไม่พลาดได้เลขหลักกิโลเมตรลุ้นรวยวันที่ 24 ก.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในวัดกลางบางพระ (หลวงพ่อสมหวัง) ต.บางพระ อ.นครชัยศรี แม้จะไม่ใช่วันหยุดราชการ แต่ก็ยังมีสาธุชนหลั่งไหลมากราบไหว้ขอพร ขอโชคลาภกับ องค์หลวงพ่อสมหวัง อย่างต่อเนื่องแต่ไม่แน่นเหมือนวันหยุด ส่วนใหญ่จะฮือฮาเลขเด็ดถ่ายภาพกับหินอ่อนที่แกะเป็นเลข 86 ไว้เป็นที่ระลึกทางด้าน นางสุนีย์ ป้อมทอง อายุ 45 ปี ค้าขายอยู่ จ.กาญจนบุรี เผยว่า เดินทางมาเป็นครั้งแรกหลังจากอ่านข่าวว่าที่วัดชาวบ้านถูกกันทั้งตำบล เลยต้องการมาให้เห็นแก่ตา และได้เขย่าเซียมซีได้เลข 17 ซึ่งเมื่อดูแล้วไปตรงกับหลักกิโล ที่วัดเขียนไว้ จากนครปฐมมาวัด 17 ก.ม. และหลักกิโลยังมีอีกเลข 46 จากกรุงเทพฯ มาวัด โดยจะเอาเลขทั้ง 2 ไปหาซื้อลอตเตอรี่เสี่ยงโชคต่อไปส่วนนายอำพล เอี่ยมพิกุล อายุ 40 ปี พ่อค้าแผงลอตเตอรี่ในวัด เผยว่า งวดนี้เลข 17 กับเลข 46 ที่วัดเขียนในหลักกิโลเมตร มีคนมาซื้อเหมาหมดทุกแผงและเลขที่ชาวบ้านหามากที่สุดขายหมดตั้งแต่วันแรกคือเลข 27 กับ 238 โดยเลข 27 เป็นเลขวันเกิดของพระประธานในโบสถ์ หลวงพ่อทับทิม ส่วนเลข 238 เป็นเลขอายุที่สร้างขึ้นนำประดิษฐาน ทั้ง 2 เลขในนครปฐมหาไม่ได้แล้วต้องไปซื้อยังจังหวัดอื่นทั้งนี้ พระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาสออกมา เผยว่า ขอเชิญชวนสาธุชนและศิษยานุศิษย์ หลวงพ่อสมหวัง ร่วมงานวันเกิดครบ 238 ปี วันเกิดหลวงพ่อทับทิม พระประธานประจำวัด ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถหลังเก่า สร้างในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2325 ขนาดหน้าตัก 60 นิ้ว สูง 1.8 เมตร พิมพ์นั่งขัดสมาธิ สร้างจากหินทรายแดงซึ่งจะมีอายุครบ 238 ปี ในวันที่ 27 ก.ค.63 นี้ โดยจะมีพิธีฉลองอย่างยิ่งใหญ่ เริ่มตั้งแต่เช้าจะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตัดบาตรอุทิศส่วนกุศล เลี้ยงภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์จากนั้น จะมีพิธีแจกทานให้กับผู้ยากไร้ และบริจาคสิ่งของให้กับโรงเรียน และโรงพยาบาลเพื่อมำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับหลวงพ่อทับทิม และอดีตเจ้าอาวาส อดีตเกจิดังหลวงพ่อพุฒิ ที่มรณภาพไปแล้ว แต่ศพของท่านไม่เน่าไม่เปื่อย อยู่ในโลงแก้ว ตั้งให้สาธุชนกราบไหว้ภายในศาลาวัดกลางบางพระ.อ่านโค้งสุดท้ายหวย เลขเด็ด งวด 01/08/63 ลุ้นได้ที่ไทยรัฐทีวี-ไทยรัฐออนไลน์คอหวยแห่ขอ เลขเด็ด ไอ้ไข่จำลอง หลังงวดที่ผ่านมา มีคนดวงเฮงรับโชคเพียบสาวเผย เลขเด็ด หลังดวงเฮงถูกหวยกว่า 50 ใบ ถวายฆ้องยักษ์แก้บน ปู่ศรีสุทโธคอหวยยิ้มหวานได้ เลขเด็ด อ่างน้ำมนต์ กุมารแก้วปิ่นเพชร ลุ้นโชคงวด 1/8/63คอหวยแห่ คำชะโนด กราบไหว้ พ่อปู่-แม่ย่าวันหยุด ขอเลขเด็ดงวดนี้ | ชาวบ้านแห่ขอโชค หลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ หลังงวดที่แล้วนักเสี่ยงโชคถูกหวย เลขเด็ด ทั้งตำบล รอบนี้ไม่พลาดได้เลขหลักกิโลเมตรลุ้นรวย | ข่าว,ทั่วไทย | หวยไทยรัฐ1-8-63,เลขเด็ด,ตรวจหวย,สลากกินแบ่งรัฐบาล 1 สิงหาคม 2563,เลขเด็ด1-8-63,เลขเด็ด 1 ส.ค. 63,หวย | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1896636 |
ทั่วโลกฉลองปีใหม่คึกคัก | นิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกของโลกที่เข้าสู่วันปีใหม่ ซึ่งตรงกับเวลา 18.00 น.ตามเวลาในไทย มีการจุดพลุฉลองอย่างยิ่งใหญ่ แม้ว่าเกือบทั่วประเทศจะมีฝนตกหนัก และหลายพื้นที่ต้องประกาศยกเลิกการจัดงานฉลองปีใหม่ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยส่วนบรรยากาศพิธีนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย ซึ่งตรงกับเวลา 20.00 น.ในไทย ปีนี้ใช้พลุในการแสดงมากถึง 7 ตัน จุดที่จัดการแสดงคือบริเวณอ่าวซิดนีย์ ซึ่งมีประชาชนประมาณ 1.5 ล้านคนไปจับจองพื้นที่รอบๆ อ่าวเพื่อรอชมการแสดงพลุไฟที่จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งปีนี้ถือว่ายิ่งใหญ่อลังการกว่าปีที่ผ่านๆ มาขณะที่ไต้หวัน การจัดงานนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่จัดขึ้นในกรุงไทเป ใกล้กับอาคาร 101 มีจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีนายหม่า อิง จิ่ว ประธานาธิบดีเข้าร่วมงานนี้ด้วยส่วนที่ญี่ปุ่น เมื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว ผู้เข้าร่วมงานได้ปล่อยลูกโป่ง ซึ่งด้านในบรรจุกระดาษที่เขียนคำอธิษฐานไว้ หลังจากนั้นที่วัดเก่าแก่จะตีระฆังเพื่อเป็นสัญญาณของวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในช่วงเริ่มต้นปีใหม่ชาวญี่ปุ่นจะเดินทางไปที่วัดและศาลเจ้าเพื่อขอพรให้โชคดีตลอดทั้งปีที่ฮ่องกง บรรยากาศการฉลองบริเวณอ่าววิคตอเรียเต็มไปด้วยแสงไฟจากพลุที่ถูกจุดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาที่เกาหลีใต้ ก็มีการฉลองทั้งในวัดที่มีการตีระฆังในช่วงเข้าสู่ปีใหม่ นางแองเกลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันปีใหม่ซึ่งมีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ โดยให้กำลังใจชาวยุโรปที่กำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า ช่วงเวลาแห่งความยากลำบากยังไม่ยุติ และยุโรปกำลังเผชิญกับบททดสอบที่แสนสาหัสที่สุดในทศวรรษ แต่ในที่สุดแล้ววิกฤตในครั้งนี้จะทำให้ยุโรปแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมด้านนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้อ่านแถลงการณ์เนื่องในวันปีใหม่เช่นกัน โดยกล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่สหรัฐฯ เผชิญกับความท้าทายและความสำเร็จหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามเครือข่ายอัลกออิดะห์ ซึ่งทำให้สหรัฐฯ มีความมั่นคงปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สหรัฐฯ ยืนหยัดเคียงข้างสหายกับประเทศพันธมิตรทั่วโลก เพื่อรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติและการปฏิวัติ หวังว่าในปีหน้าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะฟื้นตัวส่วนที่จีน ทั้งสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐบาลจีนได้ถ่ายทอดถ้อยแถลงของนายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีของจีน ที่ส่งผ่านไปถึงชาวจีน ชาวฮ่องกง ชาวมาเก๊า และชาวไต้หวัน รวมถึงชาวจีนในต่างประเทศ ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าบริหารประเทศให้มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เน้นการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนแนวทางการบริหารเขตปกครองพิเศษ รัฐบาลยังคงยึดถือแนวทาง 1 ประเทศ 2 ระบบ และเชื่อมั่นว่า ตราบใดที่ชาวจีนทั้งประเทศทำงานร่วมกัน จีนจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตทุกอย่างไปได้ | บรรยากาศการจุดพลุดอกไม้ฉลองปีใหม่ทั่วโลกเป็นไปอย่างสนุกสนานและน่าตื่นตาตื่นใจ ขณะเดียวกันผู้นำหลายประเทศก็ได้อ่านแถลงการณ์ให้กำลังใจประชาชนโดยขอให้เข้มแข็งและพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า | ต่างประเทศ | จีน,ฉลองปีใหม่,ญี่ปุ่น,นิวซีแลนด์,บารัก โอบามา,ออสเตรเลีย,ฮ่องกง,เยอรมนี | https://news.thaipbs.or.th/content/56718 |
ฐิสา รับห่าง กัน อีกครั้ง ไม่เกี่ยวความโลเลของฝ่ายชาย | ตอนนี้ก็มีคนเข้ามาคุยบ้าง ไม่ใช่ไม่เปิดใจแต่ยังไม่เจอคนที่ใช่มากกว่า,ยอมรับว่าห่างกันอีกรอบ สำหรับสาว ฐิสา วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร กับนักร้องหนุ่ม กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ ซึ่งฝ่ายหญิงเป็นคนออกมายอมรับเองว่าครั้งนี้ห่างกัน และไม่ได้คุยกันมานานแล้ว ส่วนสถานะความสัมพันธ์นั้น สาวฐิสาก็บอกว่า เราเป็นแค่เพื่อนกันมาตั้งแต่แรกแล้ว,มีข่าวว่าเรากับ กัน นภัทร ห่างกันอีกรอบแล้ว? ตอนนี้ไม่ได้คุยกันเลยค่ะ ไม่ได้เพราะสาเหตุอะไรแต่อาจจะด้วยหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องเวลาและการทำงานของแต่ละคน ตอนนี้เป็นเพื่อนกันค่ะ คือพอช่วงหลังไม่ค่อยได้เจอได้คุยกันมันเลยดูห่างไปเอง ลดสถานะความสัมพันธ์ลง? ถามว่าลดมั้ย เราก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่แรก ตอนนี้ไม่ได้คุยกันเลยค่ะ ห่างกันครั้งนี้ คนเลยมองว่าเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนคราวที่แล้ว? ไม่หรอกค่ะ ชีวิตตอนนี้ยังมีอะไรหลายอย่างที่ไม่ลงตัว วุ่นวายนิดนึง ไม่ขอตอบแทนเขาแล้วกันเนาะ ถามว่ามีการปรับจูนกันไหม เชื่อว่าต่างคนก็ต่างรู้ว่าแต่ละคนเป็นยังไง เรารู้จักกันมานานแล้วแทบไม่ต้องปรับอะไรแล้ว เรื่องไม่มีเวลารอบนี้คิดว่าไม่เป็นปัญหา และไม่ได้มีเรื่องมือที่สามค่ะ คนมองว่าความไม่แน่นอน ไม่ชัดเจนของกัน ทำให้เราถอยห่างออกมา? อย่ามองแบบนั้นดีกว่าค่ะ ถ้าคนสองคนโอเคต่อกันมันก็คงเดินหน้าไปได้ เพราะกันไม่ยอมเปิดเผยชัดเจนว่าคบกันในสถานะไหนหรือเปล่า? หนูไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น ที่ผ่านมาเราก็รู้ว่าเราเป็นยังไง เรากับเขาก็โอเค ณ จุดที่เราอยู่อยู่แล้ว,รอบนี้ไม่มีโอกาสกลับมาเหมือนเดิมอีกเพราะถูกผู้ใหญ่สั่งห้าม จริงไหม? อันนี้ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ กับผู้ใหญ่หนูไม่เคยมีปัญหาค่ะ ทางผู้จัดการไม่อยากให้ฐิสากลับไปคุยกับกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว? อันนี้ไม่ทราบ คงต้องไปถามฝั่งนั้นมากกว่า แต่โดยตัวหนูไม่ได้มีปัญหากับใครค่ะ เราสองคนตกลงยุติความสัมพันธ์กันเอง? เราก็ยังเป็นเพื่อนกับเขาอยู่ค่ะ ยังเป็นห่วงและกำลังใจเขาอยู่ แต่แค่ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้ติดต่อกันเลยค่ะ แต่ไม่ถึงขั้นบล็อกไลน์กันขนาดนั้น มีโอกาสกลับมาคุยกันอีกรอบไหม? ตอนนี้หนูยังไม่คิดว่าเราจะกลับมาคุยกันอีกรอบมั้ย ไม่อยากคาดหวังอะไร ปล่อยให้เป็นเรื่องของกาลเวลา และอนาคตดีกว่า น้องชายเรามีส่วนช่วยคุยเป็นกาวใจให้ไหม เพราะเขาก็สนิทกับกัน? ปกติแล้วน้องไม่ได้ยุ่งเรื่องอะไรพวกนี้เลยค่ะ เอาที่เราสบายใจ ถ้าเราโอเค เขาก็โอเค เรามีความสุข น้องเราก็มีความสุข ยังคุยกันได้ใช่ไหม? เราไม่ได้ผิดใจกันหรือมีปัญหากัน ถ้าจะคุยก็คุยกันได้,แฟนคลับว่ายังไงบ้าง? ส่วนมากไม่ค่อยมาถามอะไรเรื่องนี้นะคะ จะถามเรื่องละครมากว่าว่าเมื่อไหร่จะออนแอร์ พอโสดแล้วมีหนุ่มๆ เข้ามาจีบไหม? ก็มีมาคุยบ้าง แต่ยังไม่ใช่ ไม่ใช่ว่าไม่เปิดใจนะคะ เรื่องคุยกันมันต้องใช้เวลา ส่วนมากคนที่เข้ามาเป็นหนุ่มนอกวงการค่ะ เข็ดกับหนุ่มในวงการแล้ว? ไม่อยากจะคิดว่าจะคุยกับคนนอกหรือในวงการนะคะ ไม่ว่าจะเป็นคนในหรือนอกวงการถ้าเขาเป็นคนดีเราอยู่ด้วยก็สบายใจหนูก็โอเค เพียงแต่ช่วงเวลานี้ไม่มีคนเข้ามาคุย หรือไม่ได้คุยแบบต้องพัฒนาความสัมพันธ์ พอเราคุยแล้วรู้สึกไม่ใช่เราก็ไม่คุย กับกันยังเป็นพี่น้องในวงการที่รู้จักกันได้อยู่? ได้อยู่ค่ะ. | ฐิสา วริฏฐิสา รับห่าง กัน นภัทร รอบสอง ไม่ได้คุยกันนานแล้ว อาจจะด้วยเรื่องของเวลาและการทำงาน ไม่ได้มีปัญเรื่องสถานะเพราะทั้งคู่คบกันเป็นเพื่อนมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เผยยังเป็นห่วงและให้กำลังใจอยู่ แค่ไม่ได้คุยกันแล้วเท่านั้นเอง | null | ฐิสา,ฐิสา กัน,ฐิสา วริฏฐิสา,วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร,กัน นภัทร,นภัทร อินทร์ใจเอื้อ,ฐิสา กัน เลิกกัน,ฐิสา กัน ห่างกัน,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/737427 |
คกก.สอบข้อเท็จจริงการตาย ธวัชชัย เผยผลชันสูตร 4 หน่วยงานตรงกัน | นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจังหวัดพังงา ที่เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยผลชันสูตรศพจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นโดยกระทรวงยุติธรรม ประกอบด้วยแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช และราชวิทยาลัย ซึ่งมีความเห็นที่สอดคล้องกันขณะที่นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายละเอียดผลการชันสูตรจากคณะกรรมการและติดใจกับผลการตรวจสอบ เนื่องจากไม่ได้รับรายงานว่านายธวัชชัยเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด หากผลทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมาชัดเจนก็จะรับผลได้ โดยวันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.) เตรียมเดินทางเข้าพบผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อรับฟังผลการชันสูตรศพของสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ได้รับฟังผลอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ | คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงยุติธรรม กรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา ระบุว่าผลการชันสูตรพลิกศพจากคณะแพทย์ 4 หน่วยงานตรงกัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และเตรียมส่งให้พนักงานสอบสวนประกอบสำนวนคดี | อาชญากรรม | เบญจพจน์ ทิพย์กมลแสง,ธวัชชัย อนุกูล,กระทรวงยุติธรรม,ผลชันสูตร,ผูกคอตาย,ดีเอสไอ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ | https://news.thaipbs.or.th/content/256372 |
ไม่เข็ด หนุ่มอุดรฯเคยติดคุก หวนค้ายาบ้า อ้างหาทุนค้าขาย | เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 59 พ.ต.อ.พรหมณัฏฐเขตร์ ฮามอำไพ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี แถลงข่าวจับ นายนาวี สีดาแจ่ม อายุ 40 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1,800 เม็ด,พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีการลักลอบจำหน่ายยาบ้าในเขต อ.เมืองอุดรธานี จึงออกไปสืบสวน และวางแผนล่อซื้อยาบ้า 10 ถุง 2,000 เม็ด ราคา 160,000 บาท โดยนัดหมายส่งยาที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านโนนบุญมี ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี,ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลานัดหมาย พบ นายนาวี มีตำหนิรูปพรรณที่ได้รับรายงาน นั่งอยู่บนกระท่อมนา ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พบยาบ้า 9 ถุง 1,800 เม็ด สอบสวนให้การรับสารภาพว่า เมื่อปี 54 เคยถูกตำรวจจับข้อหาขายยาบ้า 135 เม็ด ติดคุก 3 ปี 7 เดือน พ้นโทษเดือน ก.ย. ปี 58 อยากมีเงินทุนค้าขายทำอาชีพสุจริต จึงหวนกลับมาค้ายาบ้าเพื่อหาเงินทุน,พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ กล่าวอีกว่า การติดต่อขอซื้อยาบ้ามาจาก นายมานะ ชาวลาว ซึ่งตนได้เบอร์โทรศัพท์มาจากชาวลาวที่ติดคุกด้วยกัน ได้นำยาบ้ามาส่งให้ตามหลักกิโลเมตร ถนนหนองคาย-บึงกาฬ ครั้งละ 10 ถุง ราคาถุงละ 20,000 บาท แบบขายก่อนจ่ายเงินภายหลัง ตนนำมาขายส่งให้ลูกค้าถุงละ 23,000-25,000 บาท ซึ่งลักลอบทำมา 3 ครั้งแล้ว กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว | ตร.อุดรธานี ล่อซื้อยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด มูลค่ากว่า 160,000 บาท จากนายนาวี สารภาพเคยติดคุกมาแล้วในคดีเดียวกัน อ้างที่กลับมาขายยาอีกครั้งเพราะหาเงินทุนทำการค้า | null | ค้ายาบ้า,หนุ่มอุดรค้ายาบ้า,เคยติดคุกกลับมาค้ายา,ติดคุก,ขายยาบ้า,อุดรธานี,ข่าว,ทั่วไทย,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/645242 |
คลัง ตัดใจใช้เงินภาษีล้างหนี้ 9 หมื่นล. เด้งรับแผนฟื้นฟูขสมก. | และโอนให้กรมขนส่งทางบกดูแล ด้านสัมปทานให้เอกชน-กทม.เข้ามาร่วมเดินรถ,นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้หารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซุปเปอร์บอร์ด ถึงแผนฟื้นฟูกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีหนี้สูงกว่า 80,000-90,000 ล้านบาท ซึ่งหากปล่อยทิ้งหนี้ก้อนนี้เอาไว้นานๆ อาจจะสร้างปัญหาให้กับภาครัฐ จึงมีแนวคิดที่จะใช้เงินภาษีไปชำระหนี้ให้ ขสมก.โดย ขสมก.ต้องปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจใหม่ เช่น การให้เอกชนมาเดินรถในเส้นทางที่ ขสมก.ขาดทุน ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้ จะไม่กระทบต่อพนักงาน และเจ้าหนี้ของ ขสมก.,กระทรวงคมนาคมกำลังศึกษาว่า จะดำเนินการอย่างไรกับ ขสมก. กระทรวงการคลังพร้อมจะเข้าไปดูแลหนี้ให้ แต่ ขสมก.ต้องปรับปรุงการดำเนินการใหม่ และให้เอกชนรายใหม่เข้ามาสัมปทานเส้นทางเดินรถ ซึ่งพยายามสรุปเรื่องนี้ให้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ เพราะที่ผ่านมาหนี้ ขสมก.พอกพูนจนเป็นจอมปลวก ถ้าไม่เร่งเคลียร์จะมาสร้างปัญหาในอนาคต,ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการทำงานของ ขสมก.ค่อนข้างเหลวแหลก หากกระทรวงการคลังจ่ายหนี้ให้แล้ว ขสมก.ยังทำงานแบบเดิมต่อไป ภายใน 5-10 ปี หนี้ก็กลับมาเหมือนเดิม จึงคิดว่าน่าจะให้เอกชนเข้ามาทำดีกว่า เพราะถ้าทำแล้วออกมาดีก็คุ้มค่าที่รัฐบาลจะรับหนี้แทน ซึ่งการให้เอกชนเข้ามาดำเนินงานนั้น สามารถทำผ่าน พ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) โดยอาจจะแยกเป็นโซน หรือเส้นทางต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงจะต้องมีการหารือในรายละเอียดอีกที,ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง มีแนวคิดที่จะให้กระทรวงการคลังรับผิดชอบหนี้สินของ ขสมก. ทั้งหมดและให้ ขสมก.หยุดการให้บริการและมีแนวคิดที่จะให้เอกชนเข้ามาเป็นผู้ให้บริการแทนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินว่า ในเรื่องนี้ทางกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะยังคงยืนยันตามแนวทางการปฏิรูปฟื้นฟู ขสมก. ของ คนร. ที่จะให้ ขสมก. มีหน้าที่เดินรถอย่างเดียว ส่วนหน้าที่กำกับดูแลและให้สัมปทานให้โอนไปอยู่ที่กรมการขนส่งทางบก เป็นผู้รับผิดชอบ รวมถึงให้ ขสมก. ปรับเส้นทางการเดินรถใหม่ทั้งหมด และเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมเดินรถมากขึ้น และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้ามาร่วมเดินรถได้เช่นเดียวกับ ขสมก.และรถร่วมบริการ ขสมก. ซึ่งจะมีการกำหนดเป็นมาตรการออกมา,ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาขาดทุนกว่า 92,000 ล้านบาทนั้น ในเรื่องนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้ ทางกระทรวงคมนาคมขอเป็นผู้ดำเนินการเอง เพราะการเดินรถถือเป็นการบริการเชิงสังคมสาธารณะ และเกิดปัญหาการดำเนินงานที่สะสมมานานหลายปี ดังนั้นเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องหลักที่กระทรวงคมนาคมจะต้องเข้ามาดำเนินการและแก้ไขปัญหา. | สมหมาย เล็งใช้เงินภาษีล้างหนี้ ขสมก. 8-9 หมื่นล้านบาท ด้านคมนาคม พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูตามมติ คนร. ปรับเส้นทางเดินรถให้ ขสมก.เดินรถอย่างเดียว | null | ฟื้นฟูกิจการ,ขสมก.,ล้างหนี้,สมหมาย ภาษี,ปรับเส้นทางเดินรถ,สัมปทาน,เอกชน,ร่วมเดินรถ,กระทรวงการคลัง,ชำระหนี้,ขาดทุน | https://www.thairath.co.th/content/477738 |
พระวีระตูผู้นำกลุ่มขวาจัดพม่าเดินขบวนหนุนธรรมกาย-ธัมมชโย | ขณะที่เมื่อปีก่อนพระวีระตูและคณะมีกิจนิมนต์เมืองไทย-เดินสายร่วมงานมาฆบูชาที่วัดพระธรรมกาย ไปงานมอบรางวัล องค์กรผู้นำพุทธโลก เยือน มจร วังน้อย เพื่อพบปะผู้สนับสนุนในชั้นเรียนหนึ่ง24 ก.พ. 2560 วานนี้ (23 ก.พ.) ที่เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของพม่า พระวีระตูผู้นำกลุ่มชาวพุทธขวาจัด มะบ๊ะต๊ะ นำพระสงฆ์และชาวพม่าเดินขบวนสนับสนุนวัดพระธรรมกาย พร้อมถือป้ายที่พิมพ์ลงในไวนิลมีข้อความ ภาวนาเพื่อพุทธศาสนาในประเทศไทย พื้นหลังเป็นรูปมหาธรรมกายเจดีย์ ขอให้พระธัมมชโย ปลอดภัยและสุขภาพแข็งแรง พื้นหลังเป็นรูปพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยในเฟซบุ๊คของพระวีระตูได้ที่มัณฑะเลย์ด้วยนอกจากนี้พระวีระตูยังโพสต์สเตตัส ลงข้อความประณามรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ผู้ทำลายศาสนา รัฐบาลประยุทธ์ ออกจากธรรมกายเดี๋ยวนี้ (Sasanar Destroyer Prayuts Government Get Out Immediately From Dhammakaya.) โดยยังแนบภาพประกอบสเตตัสเป็นรูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับพรจากผู้นำศาสนาอิสลาม และภาพตำรวจทหารประจำการหน้าทางเข้าวัดพระธรรมกายโดย พระเทพญาณมหามุนี หรือ ไชยบูลย์ ธมฺมชโย หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายและประธานมูลนิธิธรรมกาย ปัจจุบันตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ขณะที่มีรัฐบาล คสช. ใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 5/2560 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ กำหนดให้วัดพระธรรมกาย ตลอดจนพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกายใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นพื้นที่ควบคุม และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าปิดล้อมและค้นภายในวันพระธรรมกาย อนึ่งพระวีระตู เป็นผู้นำสำคัญในกลุ่มมะบ๊ะต๊ะ หรือ สมาคมปกป้องเชื้อชาติและศาสนา ซึ่งเป็นกลุ่มพุทธขวาจัดในพม่า โดยวีระตูเป็น 1 ในกรรมการคนสำคัญ ขณะที่ประธานมะบ๊ะต๊ะคือ พระภัททันตะ ติโลกาภิวังสา เป็นเจ้าอาวาสวัดยวามะปริยัติ ทางตอนเหนือของย่างกุ้งสำหรับพระวีระตูนั้นในเดือนกันยายน 2555 เคยนำพระสงฆ์เดินขบวนในมัณฑะเลย์เรียกร้องประธานาธิบดีเต็งเส่งให้ส่งชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาไปประเทศที่ 3 และภายหลังเหตุจลาจลในรัฐยะไข่ พระวีระตูเองก็เป็นผู้โหมกล่าวถ้อยคำกระพือความเกลียดชังชุมชนมุสลิมในพม่าจนเกิดเหตุจลาจลหลายระลอกนอกจากนี้ในปี 2557 สมาชิกกลุ่มมะบ๊ะต๊ะ ยังได้รณรงค์ต่อต้านการตั้งเสาโทรศัพท์มือถือของ Ooredoo ซึ่งเป็นบริษัทจากกาตาร์โดยเมื่อปี 2558 รัฐสภาพม่าได้ลงมติผ่านกฎหมาย เพื่อปกป้องเชื้อชาติและศาสนา และกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับซึ่งผลักดันโดยกลุ่ม มะบ๊ะต๊ะ ซึ่งมีเนื้อหาควบคุมเรื่องการเปลี่ยนศาสนา การแต่งงานข้ามศาสนา และบังคับห้ามแต่งงานมีภรรยาหลายคน รวมทั้งเสนอการควบคุมประชากรก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ 2559 พระวีระตู และกลุ่มมะบ๊ะต๊ะ เดินทางมายังประเทศไทย โดยเข้าร่วมพิธีเวียนเทียนวันมาฆบูชา ที่วัดพระธรรมกายเมื่อ 22 ก.พ. 2559วันถัดมาเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2559 เดินทางไปรับรางวัล ผู้นำพุทธโลก ในงานสัมมนาทางวิกฤตพระพุทธศาสนาในเวทีโลกซึ่งจัดโดยองค์กรผู้นำพุทธโลก (พล./WABL) องค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (WFB) และเครือข่ายองค์กรพุทธนานาชาติ ที่ห้องประชุมของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย โดยเป็นการรับรางวัลในนามกลุ่ม มะบ๊ะต๊ะนอกจากนี้ในวันที่ 24 ก.พ. พระวีระตูและคณะเดินทางไปพบผู้สนับสนุนที่มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร) วิทยาเขตวังน้อย โดยพระสงฆ์พม่าจากท่าขี้เหล็กถวายปัจจัย 20000 บาท นอกจากนี้ยังมีพระนิสิตขอถ่ายรูปและชูป้าย เรารักวีระตู ด้วย โดยพระสงฆ์ที่ร่วมถ่ายรูปมีทั้งที่ห่มจีวรแบบคณะสงฆ์พม่าและคณะสงฆ์ไทย อนึ่งในคำชี้แจงที่เผยแพร่ในมติชนออนไลน์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่พระวีระตูเดินทางมาที่ มจร. เพราะ มจร. ไม่ได้เชิญอย่างเป็นทางการ ส่วนจะมีอาจารย์ท่านใดเชิญมาเป็นกรณีพิเศษในรายวิชาที่สอน ก็ทำได้ เพราะท่านเป็นพระสงฆ์ แต่ไม่เกี่ยวกับ มจร.พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ชี้แจงว่า วัดพระธรรมกายไม่ได้เป็นผู้จัดงานมอบรางวัลผู้นำพุทธโลกนพ.พรชัย พิญญพงษ์ ประธานองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ปฏิเสธว่า งานมอบรางวัลไม่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย และ มจร. เพราะองค์กรนี้เป็นองค์กรเอกชน ไม่สังกัดหน่วยงานรัฐใด ส่วนการมอบรางวัลผู้นำชาวพุทธโลกนั้นได้คัดสรรองค์กร พระสงฆ์ และฆราวาสทั่วโลก ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลตัวอย่างทางด้านศาสนามารับรางวัล เพื่อสร้างขวัญ และกำลังใจในการทำงานเพื่อพระพุทธศาสนากรณีพระวิระตู ยืนยันว่าไม่ได้มอบให้โดยตรง แต่มอบให้กลุ่มมะบ๊ะต๊ะ ที่พระวีระตูสังกัด ก่อนหน้านี้ในปี 2557 ไทยพับลิก้าเคยเสนอข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ในการรับรางวัลผู้นำพุทธโลกครั้งที่ 1 เครือข่ายของวัดพระธรรมกายได้รับรางวัลเยอะสุด และมีชื่อศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่นด้วย และต่อมา นพ.พรชัย ได้ทำหนังสือชี้แจงวัตถุประสงค์การมอบรางวัลผู้นำพุทธโลก ว่าเป็นการจัดงานเพื่อมุ่งให้กำลังใจแก่ชาวพุทธผู้อุทิศตน ปกป้อง สนับสนุน เผยแผ่พระพุทธศาสนาทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะประเทศที่ชาวพุทธเป็นชนกลุ่มน้อย และเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลมาฆบูชาแห่งชาติในไทย | พระวีระตูผู้นำกลุ่มพุทธพม่าขวาจัด มะบ๊ะต๊ะ เดินขบวนที่มัณฑะเลย์ สนับสนุนวัดพระธรรมกาย-พระธัมมชโย พร้อมโพสต์เฟซบุ๊กประณาม พล.อ.ประยุทธ์ - | ต่างประเทศ,วัฒนธรรม | ธรรมกาย,พม่า,พระธัมมชโย,พุทธศาสนา,มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย,มะบ๊ะธะ,มาตรา 44,วีระธู,ศาสนา | https://prachatai.com/journal/2017/02/70248 |
ดอน เผย เอสเอฟโอ ร่วมมือให้ข้อมูล สินบน โรลส์-รอยซ์ แล้ว | เมื่อวันที่ 24 ม.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) การประสานขอข้อมูลจากต่างประเทศ กรณีบริษัท โรลส์-รอยซ์ จ่ายสินบนในการซื้อขายเครื่องยนต์อากาศยาน และเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม ให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐในประเทศไทย จากสำนักงานปราบปรามการฉ้อฉลร้ายแรง (เอสเอฟโอ) ว่า ทางสถานทูตไทยได้ติดต่อกับ ป.ป.ช.อังกฤษแล้ว โดยเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า ป.ป.ช.อังกฤษพร้อมให้ความร่วมมือกับเรา ขณะเดียวกันทาง ป.ป.ช.และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ของไทย ก็ได้ติดต่อกับ ป.ป.ช.อังกฤษเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ข้อมูลที่ออกมาจากสื่อมีแต่ว่าในช่วงปีนั้นๆ เป็นรัฐบาลไหน แต่ถ้าเขาให้ข้อมูลมา ข้อมูลจะชัดเจนกว่านั้น,ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ข่าวเรื่องการให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ประเทศในสายตาต่างชาติหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า อะไรที่เป็นสินบนชนิดที่ไปเรียกร้องจากเขาถือว่าผิด ถือว่าไม่ดีไม่งาม แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ก็สมควรจะมีการหาความชัดเจน รัฐบาลเองเอาใจใส่เรื่องนี้ ซึ่งในการประชุม ครม.ก็มีการรายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ให้ทราบ. | ดอน เผย ป.ป.ช.อังกฤษ พร้อมร่วมมือ ให้ข้อมูลสินบน โรลส์-รอยซ์ เชื่อจะชัดเจนขึ้นใครเป็นใคร
| null | โรลส์-รอยซ์,สินบน,อังกฤษ,ดอน ปรมัตถ์วินัย,เอสเอฟโอ | https://www.thairath.co.th/content/842980 |
ต้องรวมถึงจะรอด ก้าวต่อไปของสตาร์ทอัพไทยยุค 4.0 | ตื่นเต้นที่จะให้ข้อมูลแก่ผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่างานนั้นสร้างแรงกระเพื่อมมหาศาลให้หมู่มวลเข้าใจคำว่า StartUp มากยิ่งขึ้น และสตาร์ทอัพก็กลายมาเป็นเทรนด์ธุรกิจที่หลายคนจับตามอง คนมีฝันโดยเฉพาะหนุ่มสาวที่ยังมีเวลาเสี่ยงในชีวิตอยากกระโดดเข้ามาเล่น อยากทำอะไรสักอย่างเป็นของตัวเอง ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะมันเท่ ท้าทาย ดูมีโอกาสรวยเร็ว และเพื่อตอบรับกับนโยบาย Thailand 4.0,เช่นเคย ในฐานะคนชอบพลังของจิตวิญญาณผู้ประกอบการเลยยังคลุกคลีอยู่กับแวดวงเพื่อนๆ สตาร์ทอัพอยู่เรื่อยๆ และมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสการทำงานของ ,NIA (สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ), และ ,Startup Thailand อยู่บ้าง, เลยอยากมาเล่าต่อ ถือว่าตอนนี้เป็นนิมิตหมายอันดีที่รัฐบาลตั้งใจและพยายามทุกวิถีทางที่จะผลักให้ Thailand 4.0 เกิดขึ้นจริงๆ หลายคนอาจคิดว่ารัฐบาลไม่เข้าใจ มีแค่คำว่าไทยแลนด์ 4.0 เป็นตุ๊กตาหรือเปล่า?,สิ่งที่เฟื่องได้สัมผัสคือ ตอนนี้ภาครัฐเปิดกว้างมากขึ้น และมีหลายอย่างที่รัฐตั้งใจช่วยยกระดับระบบนิเวศสตาร์ทอัพให้ไปได้ เรื่องที่หลายคนอาจไม่รู้ เช่น รัฐบาลสานสัมพันธ์อันดีกับประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยี เช่น สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น อิสราเอล ฯลฯ นำอีเวนต์ระดับภูมิภาคมาจัดแสดงในไทย และให้พื้นที่สตาร์ทอัพไทยออกบูธ อย่างงาน ,Echelon Thailand, จัดโครงการ ,SPARK (ค่ายบ่มเพาะสตาร์ทอัพ), และพาทีมสตาร์ทอัพในโครงการไปดูงานและออกบูธที่ ,Tech in Asia, เป็นการสนับสนุนด้านคอนเน็กชั่น ผลพลอยได้ก็คือต่างชาติเริ่มเห็นไทยเป็น 1 ใน Startup Hub มากขึ้น เพราะบ้านเราดูคึกคัก และวางตำแหน่งตัวเองไว้ชัดเจน,ด้านการเงิน ปีนี้เป็นปีที่ 2 แล้วที่รัฐแจก ,Startup Voucher 800,000, บาทให้กับสตาร์ทอัพที่ประกวดชนะ แต่เขาก็ไม่ได้ให้ฟรีๆ นะคะ สตาร์ทอัพต้องได้รายได้กลับมา 1 ล้านบาทก่อนภายในเวลาที่กำหนด ถึงจะเบิกเงิน 800,000 ไปได้ การทำแบบนี้ทำให้สตาร์ทอัพที่เคยลำบาก จากปัญหาไม่มีเงิน เริ่มมีเงินไปทำให้ธุรกิจเติบโต,อย่างไรก็ตาม ,Idea is free execution is the key, หรือใครๆ ก็มีไอเดียในการแก้ปัญหาได้ การลงมือทำให้เกิดขึ้นจริงต่างหากที่จะเป็นตัววัด ใครเร็วกว่าชนะ ,ตอนนี้ที่เห็นคือหลายๆ คนกำลังเริ่มทำอะไรเหมือนๆ กัน แก้ Pain point เดียวกัน ส่วนใหญ่เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยทำให้ชีวิตประจำวันดีขึ้น ไม่ได้แก้ปัญหาระดับเปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งไม่ผิด แต่ง่ายที่จะโดน Copy จากผู้ที่มีความพร้อมมากกว่า ทั้งด้านการเงิน และฐานคนในมือ ดังนั้นเฟื่องมองว่า สุดท้ายแล้ว การที่ต่างตนต่างพยายามโตคนเดียวในธุรกิจที่คล้ายกัน เป็นการแข่งกันเอง และอาจไปไม่รอด,เฟื่องเชื่อว่า ในโลกที่เดินเร็วเป็นเข็มเสี้ยววินาทีเช่นนี้ เป็นยุคแห่ง ,Sharing Economy ต้องรวมถึงจะรอด, ยูนิตเล็กๆ แยกกันไปทำสิ่งที่ตัวเองถนัดให้ชำนาญ และมารวมตัวกันเป็นจิ๊กซอว์ในภาพใหญ่ ทำเช่นนี้ก็จะได้ภาพที่สมบูรณ์มากขึ้น หากเราเอาแต่แข่งกันเอง แม้รัฐจะลงเงินมหาศาล ทุ่มกันขนาดไหน สุดท้ายก็เหมือนการพายเรือในอ่าง ไม่สามารถต่อกรกับต่างชาติได้,ปัญหาตอนนี้คือ ประเทศไทยไม่มีสตาร์ทอัพที่เป็นยูนิคอร์น หรือสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญ ทั้งๆ ที่ประเทศในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เขามีกันหมดแล้ว ทำให้แม้ภาพลักษณ์ด้าน Tech ของไทยถึงจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่มันยังไม่สุด,อย่างไรก็ตามเฟื่องเชื่อว่าคนไทยเก่งค่ะ และเรากำลังไปในทิศทางบวก อย่าทิ้งฝัน แต่ไม่ได้จำเป็นว่าต้องทำคนเดียวเองทั้งหมดทุกอย่าง โตไปด้วยกันน่าจะยั่งยืนและมีทางรอดมากกว่า,และสำหรับงาน, Startup Thailand 2017, ปีนี้ เริ่มแล้วนะคะ โดยตระเวนไปต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ก่อน และจะกลับมาปิดท้ายที่กรุงเทพ งานใหญ่ 6-9 กรกฎาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เหมือนเดิม ปีนี้จัดใหญ่ขึ้นอีก มีบูธมากขึ้น มีบูธต่างต่างชาติด้วย ตื่นเต้นแล้วค่ะที่จะเห็นไทยแลนด์ 4.0 โตขึ้นเรื่อยๆ,ABOUT ME,facebook.com/faunglada,youtube.com/faunglada,IG: ,@faunglada,Twitter: ,@faunglada,www.faunglada.com | วันก่อน Facebook Memories เด้งขึ้นมาเตือน งาน Startup Thailand ผ่านมา 1 ปีเต็มแล้ว ยังคงจำบรรยากาศงานที่ครึกครื้น และพลังของเหล่าสตาร์ทอัพที่มาออกบูธ | คนดังนั่งเขียน,ข่าว | คนดังนั่งเขียน,เฟื่องลดา,สตาร์ทอัพ,Startup Thailand,Thailand 4.0 | https://www.thairath.co.th/news/tech/technology/959055 |
อุทยานฯเกาะช้าง ประกาศปิดท่องเที่ยวดำน้ำ หมู่เกาะรัง ฟื้นฟูปะการัง | เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 พ.ค. 60 นายนิตย์ชัย พันธุ์เดช หัวหน้าสายตรวจส่วนกลาง สำนักงานอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า ปัจจุบันทางอุทยานฯเกาะช้าง ได้ประกาศปิดการท่องเที่ยว ดำน้ำชมปะการัง บริเวณ เกาะหยวก-เกาะกระ-เกาะเทียน-เกาะทองหลาง แบบไม่มีกำหนด เพื่อฟื้นฟูปะการังที่ได้รับความเสียหายให้กลับคืนสภาพเดิม เนื่องจากที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้มีการสำรวจพบว่า ปะการังใต้ท้องทะเลชนิดต่างๆ ตามแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำดังกล่าว ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เช่น ปะการังเขากวาง, ปะการัง กัลปังหา, ปะการังสมอง โดยเฉพาะบริเวณหมู่เกาะรังบางส่วน ที่เป็นแหล่งดำน้ำ ชมปะการังที่สำคัญ เพราะปะการังได้เกิดปรากฏการณ์ฟอกขาว เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน ปะการังบางส่วนได้รับความเสียหาย เนื่องจากการกระทำโดยฝีมือมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่น การโยนสมอเรือลงไปกระทบปะการัง ซึ่งเรือส่วนใหญ่ที่มาจอด ก็จะเป็นเรือนำเที่ยวทั้งขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ บางส่วนเสียหายจากนักท่องเที่ยวที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ลงไปดำน้ำ แล้วก็ไปเหยียบปะการังจนหัก,นายนิตย์ชัย กล่าวว่า ปกติแล้วในอดีตที่ผ่านมา ทางอุทยานฯ เกาะช้าง จะประกาศปิดท่องเที่ยวดำน้ำ-ชมปะการังที่หมู่เกาะรัง ประมาณ 5 เดือน คือตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น หรือฤดูมรสุม จะเกิดคลื่นลมในทะเลค่อนข้างรุนแรง น้ำทะเลจะขุ่น ไม่เหมาะกับการท่องเที่ยวทางทะเล ดำน้ำ-ชมปะการัง เพื่อเปิดโอกาสให้ปะการัง ที่เสื่อมโทรมได้ฟื้นตัว ทางหัวหน้าอุทยานฯ เกาะช้าง จึงได้มีการประกาศปิดการท่องเที่ยวดำน้ำบริเวณหมู่เกาะดังกล่าวไว้ก่อน เป็นไปตามคำสั่งของอธิบดีกรมอุทยานฯ โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ติดตามดูอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากปะการังที่เสียหาย ยังไม่ฟื้นตัว ก็จะประกาศปิดต่อไปโดยไม่มีกำหนดเปิด จนกว่าปะการังเหล่านั้นจะกลับมามีความสมบูรณ์เหมือนเดิม,อย่างไรก็ตาม ยังมีหมู่เกาะอีกบางส่วนที่ยังสามารถท่องเที่ยว ดำน้ำได้ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งทางอุทยานฯ ได้มีการประชาสัมพันธ์ และทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของโรงแรม, รีสอร์ต, ธุรกิจเรือทัวร์นำเที่ยว, บูธทัวร์, ผู้นำท้องถิ่น รวมไปถึงไกด์นำเที่ยว มัคคุเทศก์ และส่วนเกี่ยวข้องให้ได้รับทราบโดยทั่วกันแล้ว,ด้าน นายสัคศิษฏ์ มุ่งการ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ตราด กล่าวว่า การประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำ-ชมปะการัง ของอุทยานฯเกาะช้างดังกล่าว ทางผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างก็เห็นดีด้วย เนื่องจากพบว่าปะการังใต้ทะเลบริเวณโดยรอบเกาะดังกล่าวนั้น ได้เกิดการฟอกขาว และได้รับความเสียหายจำนวนมาก จำเป็นจะต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านๆ มา ทางอุทยานฯ ได้มีการประกาศปิดเพื่อฟื้นฟูปะการังในช่วงนี้เป็นประจำ หากไม่มีการประกาศปิด ปะการังตามแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำต่างๆ อาจจะเสื่อมโทรม และเสียหายไปมากกว่านี้ ซึ่งทางผู้ประกอบการ ธุรกิจด้านท่องเที่ยว ทั้งในพื้นที่เกาะช้าง, เกาะกูด และเกาะหมาก ก็ได้ทราบปัญหา และพร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ ในการงดเว้นโปรแกรมนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำดูปะการังตามเกาะที่มีการประกาศปิด. | อุทยานฯเกาะช้าง ประกาศปิดท่องเที่ยวดำน้ำ หมู่เกาะรัง ช่วงมรสุม เพื่อฟื้นฟูปะการัง ที่เกิดปรากฏการณ์ฟอกขาว และบางส่วนเสียหายจากการทิ้งสมอเรือ | ข่าว,ทั่วไทย | เกาะช้าง,มรสุม,ปิดเกาะ,ปะการังฟอกขาว,หมู่เกาะรัง | https://www.thairath.co.th/news/local/central/955410 |
ใครบ้าง ชบาแก้ว ประกาศ 23 ขุนพลลุยศึก ชิงแชมป์อาเซียน | วันที่ 27 มิ.ย.61 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ทำการประกาศรายชื่อนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จำนวน 23 คน เพื่อร่วมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ที่เมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้,ผู้รักษาประตู,1. น.ส. วราภรณ์ บุญสิงห์ ,2. น.ส. สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง ,3. น.ส. ณัฐรุจา มุทนาเวช,กองหลัง,4. น.ส. กาญจนาพร แสนคุณ,5. น.ส. ณัฐกานต์ ชินวงษ์,6. น.ส. ดวงนภา ศรีตะลา ,7. น.ส. อินทร์อร พันธุ์ชา,8. น.ส. วารุณี เพ็ชรวิเศษ,9. น.ส. สุนิสา สร้างไธสง ,10. น.ส. ดารัตน์ ช่างปลูก,11. น.ส. พิสมัย สอนไสย์,กองกลาง,11. น.ส. พิกุล เขื่อนเพ็ชร,12. น.ส. ศิลาวรรณ อินต๊ะมี,13. น.ส นิภาวรรณ ปัญโญสุข,14. น.ส. ขวัญฤดี แสงจันทร์,15. น.ส. วิลัยพร บุตรด้วง,16. น.ส. สุดารัตน์ ชูชื่น,กองหน้า,17. น.ส. อลิษา รักพินิจ,18. น.ส. รัตติกาล ทองสมบัติ,19. น.ส. อรทัย ศรีมะณี,20. น.ส. ธนีกานต์ แดงดา,22. น.ส. กาญจนา สังข์เงิน,23. น.ส. สุชาวดี นิลธำรงค์,สำหรับนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จะเดินทางไปยังเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 13 กรกฎาคม 2561 โดยอยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ ประเทศติมอร์-เลสเต, มาเลเซีย, กัมพูชา และออสเตรเลีย,โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน รอบแบ่งกลุ่ม ของทีมชาติไทย มีดังนี้,2 กรกฎาคม 2561 เวลา 16.00 น. ทีมชาติไทย พบกับ ติมอร์ เลสเต ที่สนาม จาก้า แบริง, ปาเลมบัง,4 กรกฎาคม 2561 เวลา 16.00 น. ทีมชาติไทย พบกับ กัมพูชา ที่สนาม จาก้า แบริง, ปาเลมบัง,6 กรกฎาคม 2561 เวลา 19.00 น. ทีมชาติไทย พบกับ มาเลเซีย ที่สนาม จาก้า แบริง, ปาเลมบัง,8 กรกฎาคม 2561 เวลา 16.00 น. ทีมชาติไทย พบกับ ออสเตรเลีย ที่สนาม จาก้า แบริง, ปาเลมบัง | สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศรายชื่อ 23 ขุนพล ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ลุยศึก ชิงแชมป์อาเซียน | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ชบาแก้ว,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1319404 |
ดีเอสไอยันไม่ไปวัดพระธรรมกาย ชี้ ธัมมชโย ต้องมาตามนัด 26 พ.ค. | เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2559 พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยภายหลังการประชุมแนวทางการดำเนินคดีพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย,พ.ต.ท.สมบูรณ์ ระบุว่า จะยังคงให้เวลาพระธัมมชโยมามอบตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถึงวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ ซึ่งหากเดินทางมา ยืนยันจะพิจารณาการประกันตัว แต่หากไม่เดินทางมา จะประชุมในวันที่ 27 พฤษภาคมเพื่อกำหนดแนวทางอีกครั้ง,รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ทางดีเอสไอยังไม่ได้รับข้อมูลอาการอาพาธล่าสุด ที่มีการเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนวานนี้ (22 พ.ค.) จากทางวัดพระธรรมกาย รวมถึงยังไม่ได้รับหนังสือขอให้พนักงานสอบสวนเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 25 พฤษภาคม จึงไม่มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมในวันนี้ ส่วนกรณีที่ทางวัดพระธรรมกายเรียกร้องให้นำแพทย์เข้าไปตรวจร่างกายพระธัมมชโยภายในวัด ทางพนักงานสอบสวนจะไม่พิจารณาในเรื่องนี้ เนื่องจากเลยขั้นตอนดังกล่าวไปแล้ว และศาลได้อนุมัติออกหมายไปแล้ว ,พ.ต.ท.สมบูรณ์ ระบุว่า ไม่ได้ไม่เชื่อว่าพระธัมมชโยไม่อาพาธ แต่เชื่อว่าสามารถเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเองได้ ทางดีเอสไอได้มีมติตั้งคณะทำงาน 2 ชุด โดยชุดแรกจะเป็นการตรวจสอบการออกใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี จังหวัดราชบุรี ว่าเหตุใดถึงมีการออกใบรับรองแพทย์ แต่พระธัมมชโยไม่ได้เข้ารับการรักษา ส่วนชุดที่ 2 จะตรวจสอบการเผยแพร่ข้อความของทางวัดพระธรรมกายว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการตรวจสอบขั้นตอนทั้งหมด ส่วนกรณีที่ กลุ่มลูกศิษย์จะฟ้องร้องพนักงานสอบสวนฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ระบุว่า กลุ่มลูกศิษย์ได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ไปเมื่อสองสัปดาห์ ที่ทางดีเอสไอได้เตรียมข้อมูลไว้แล้วและพร้อมชี้แจงกับ ป.ป.ช.ในทุกประเด็น,อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ดีเอสไอไม่เข้าจับกุมในทันทีเนื่องจากต้องพิจารณาข้อกฎหมาย ประกอบกับพระธัมมชโยมีลูกศิษย์เยอะ เกรงจะเกิดการปะทะขึ้น จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ. | ดีเอสไอยืนยันให้พระธัมมชโย มอบตัว 26 พฤษภาคมนี้ หากไม่มอบตัวพร้อมดำเนินการขั้นต่อไป พร้อมระบุไม่เข้าไปแจ้งข้อกล่าวที่วัดพระธรรมกาย เพราะเลยกระบวนการดังกล่าวมาแล้ว | null | พระธัมมชโย,ธัมมชโย,วัดพระธรรมกาย,ธัมมชโย ป่วย,พระเทพญาณมหามุนี,สมบูรณ์ สาระสิทธิ์,ปกรณ์ สุชีวกุล,ดีเอสไอ,หมายนัด,ธัมมชโย อาพาธ,ตรวจสอบใบรับรองแพทย์,รับทราบข้อกล่าวหา,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/624404 |
เหรียญทองแลกด้วยศักดิ์ศรี ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น? | ตูยอมใจเอ็งเลย คำอุทานสั้นๆพ่นออกมาจากปากผมโดยไม่รู้ตัว อะไรมันจะขนาดนั้นครับ อยากได้เหรียญทองจนตัวสั่นถึงขนาดแลกด้วยศักดิ์ศรีกันเลยหรอ? ทำไมถึงต้องทำขนาดนั้น แบบนี้มันจะมีความภาคภูมิใจได้อย่างไรกันว่าเราได้เหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์ ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาที่ใหญ่ที่สุดแห่งแคว้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,แข่งกันแบบนี้ กีฬาสีบางโรงเรียนยังดูดีกว่าเลยมั้งครับ จากซีเกมส์จนหลายคนเรียกว่าซีโกงไปแล้ว ก่อนอื่นเลยผมขอคาราวะทีมงานจัดการแข่งขันซีเกมส์ในปีนี้ของเจ้าภาพอย่างยิ่ง ที่ช่างสรรหากลยุทธ์พิชิตมาร ทำทุกอย่างทั้งในและนอกสนามเพื่อที่ตัวเองจะผงาดเป็นเจ้าเหรียญทอง,ไล่ตั้งแต่ตัดกีฬาสากลที่ตัวเองไม่ถนัดออกจากการแข่งขันพร้อมกับใส่กีฬาพื้นบ้านที่มั่นใจว่าซิวเหรียญทองเพิ่มเป็นกุรุส (แหม่เริ่มแรกก็มีพิรุธแล้ว) ต่อมาขออ้างจากที่นักกีฬาไทยเจอนอกสนามก็แล้วกัน อาทิ ไม่ยอมเอารถบัสไปรับที่โรงแรมเพื่อไปซ้อมที่สนามซ้อมทำให้ต้องโบกแท็กซี่ไปเอง, ไม่ยอมให้ซ้อมที่สนามอ้างสารพัดสารเพ, ไม่ยอมให้อาหารกลางวันกับนักกีฬากินอ้างว่าเกินเวลากำหนด, กับข้าวมีไม่พอ, ส่งรถบัสมารับแต่ไม่มีคนขับ, อาหารที่ทำสุดชุ่ยมีขนจากของลับติดมาด้วย และอื่นๆอีกมากมาย,มาถึงในสนามบ้างเอาแบบเคสใหญ่สุดเลยละกันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ในการแข่งขันยิมนาสติกม้าหูชายชิง 1 เหรียญทอง เจ้าภาพส่งนักกีฬาทำการแข่งขันสองคน เริ่มมาก็เริ่มตะหงิดๆแล้ว แม่เจ้า ไม่มีสกอร์บอร์ดระหว่างการแข่งขัน เอาละสิจะไปรู้สกอร์ได้จากไหน จะแก้เกมกันอย่างไร,ใช่ครับสกอร์โผล่ออกมาหลังนักกีฬาทุกคนแข่งจบแล้ว ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อสกอร์ของนักกีฬาเจ้าภาพทั้งสองคนเท่ากันที่ 13.650 และทั้งสองคนได้คะแนนสูงสุดด้วยนะ อ้าวเห้ยคะแนนอะไรมันจะเท่ากันเป๊ะเว่อร์ขนาดนั้น ขนาดจุดทศนิยมมันยังจะเท่ากันเลย? แบบนี้มันไม่แฟร์เลยนี่หว่า? สารพันคำถามโผล่ขึ้นมาจากคู่แข่งของเจ้าภาพ,แล้วจะทำอย่างไรเมื่อคะแนนสูงสุดเท่ากัน? นั่นละฮะท่านผู้ชม ไม่มีอะไรยากเกินไปที่เจ้าภาพซีเกมส์ปีนี้จะทำไม่ได้ ตัดสินอย่างรวดเร็วโดยไม่ถงไม่ถามสุขภาพคนอื่นเลยสักคำ จัดการมอบเหรียญทองให้นักกีฬาของเราไปคล้องคอทั้งคู่เลยแล้วกัน (หืมแบบนี้ก็ได้เหรอ) งงอีกรอบสิครับเมื่อรายการนี้เขาชิงกันแค่ 1 เหรียญทองแต่เจ้าภาพได้ 2 เหรียญทอง จนกลายเป็นมหากาพย์ดราม่ากันยกใหญ่,เดือดร้อนไปถึงนักกีฬาไทยของเราเลย จามร พรหมณี ที่ทำคะแนนมาเป็นอันดับสาม 13.250 แทนที่จะได้เหรียญเงิน แต่ทางเจ้าภาพให้เพียงเหรียญทองแดงเท่านั้น หลังเกม นาวาตรีศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมยิมนาสติกของไทยถึงกับฟิวส์ขาดออกโรงจวบยับเจ้าภาพที่จัดการแข่งขันได้ห่วยแตก ไร้มาตรฐาน อยากได้เหรียญทองจัด อีกทั้งยังออกมาแฉว่าในการควบคุมการแข่งขันมันต้องมีผู้แทนจากสหพันธ์เอเชียอย่างน้อย 5 คนแต่ดันไม่มีเลย และผู้แทนจากสหพันธ์ยิมนาสติกนานาชาติก็เข้ามาเพียงคนเดียวเท่านั้น,ยังเหลืออีกหลายวันในซีเกมส์ครั้งนี้ ต้องดูกันต่อไปว่าเจ้าภาพจะก่อวีรกรรมฉาวโฉ่อะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ แต่เมื่อพวกเขาอยากได้เจ้าเหรียญทอง ก็ยอมยกให้เขาไปเหอะ.,>>> บอล คอนโด <<< | เรื่องฉาวในซีเกมส์ปีนี้ เรารับข่าวสารทุกวัน จากเรื่องโมโหนานเข้าไปบางทีก็เป็นเรื่องตลกนะครับ ดูอย่างเคสที่เจ้าภาพท็อปฟอร์มแจกเหรียญทองสองเหรียญในกีฬาที่มีชิงเหรียญทองเหรียญเดียวให้กับนักกีฬาของเขา ผมนี่ถึงขนาดหัวเราะออกมา
| null | ซีเกมส์ ครั้งที่ 29,ซีเกมส์ | https://www.thairath.co.th/sport/others/1046929 |
ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ใกล้ฟุกุชิมะ | สถานีโทรทัศน์ ของญี่ปุ่น รายงานข่าวด่วนว่า เมื่อเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น หรือ 04.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.3 แมกนิจูด ใกล้กับจังหวัดฟุกุชิมะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นโดยภูมิภาคดังกล่าวเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.9 มาแล้วเมื่อ 11 มีนาคม ปี 2554 ซึ่งเกิดสึนามิตามมาและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเกิดสถานการณ์วิกฤตต่อโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะด้านองค์กรด้านอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นยังเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ บริเวณชายฝั่งของจังหวัดฟุกุชิมะด้วย โดยประเมินความสูงของคลื่นอยู่ที่ 3 เมตร กินเวลาประมาณ 5 นาทีในรายงานเพิ่มเติมของ ประชาชนได้อพยพขึ้นไปอยู่บนที่สูง รถไฟความเร็วสูงหยุดดำเนินการ ขณะที่มีรายงานเกิดคลื่นยักษ์ขนาด 1.4 เมตร พัดเข้าที่ชายฝั่งเมืองเซนได โดยยอดรวมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวมีทั้งสิ้น 12 คนและก่อนเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หน่วยงานที่ออกคำเตือนได้ลดระดับคำเตือน และต่อมาได้ยกเลิกคำเตือนเรื่องคลื่นยักษ์สึนามิ | สถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่น รายงานข่าวด่วนว่า เมื่อเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น หรือ 04.00 น. | ต่างประเทศ,สิ่งแวดล้อม | ญี่ปุ่น,ฟุกุชิมะ,แผ่นดินไหว | https://prachatai.com/journal/2016/11/68946 |
พี่เผยทั้งน้ำตา น้ำตาล เดอะสตาร์ เสี่ยงเจ้าหญิงนิทรา แต่มั่นใจน้องต้องหาย (คลิป) | โดยมีเลือดไหลออกทางปาก จมูก และหายใจไม่สะดวก จนต้องทำการปั๊มหัวใจที่บ้าน ก่อนที่ญาติจะเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร โดยเบื้องต้นอาการยังอยู่ในขั้นวิกฤติ และขณะนี้ทางครอบครัวได้เตรียมส่งตัวมารักษาที่กรุงเทพฯ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ล่าสุด พี่น้ำผึ้ง พิมพ์ลดา ทองชิว อายุ 31 ปี พี่สาวคนโตของน้ำตาลได้ อัปเดตอาการป่วยล่าสุดของ น้ำตาล เดอะสตาร์ 5 ทั้งน้ำตา หลังจากย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลในช่วงเช้าที่ผ่านมา เบื้องต้นการของ น้ำตาล ตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัว อาการทรงตัว ยังคงให้เลือดอยู่ ก่อนหน้านี้ทางทีมแพทย์โรงพยาบาลสมุทรสาคร วินิจฉัยว่าเลือดส่วนใหญ่นั้นออกมาจากปอดเป็นหลัก ต้องประเมินอาการ นาทีต่อนาที เพราะ น้ำตาลสามารถจากเราไปได้ทุกนาที เรารอจนข้ามวัน เพื่อจะเคลื่อนย้ายโรงพยาบาลศิริราช,โดย ผศ.นพ.ปรัญญา สากิยลักษณ์ แพทย์ประจำสาขาวิชาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก ภาควิชาศัลยศาสตร์ และทีมแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพ ไปนำหัวใจและปอดเทียมจากโรงพยาบาลประจำจังหวัด ก่อนที่จะทำการผ่าตัดที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ก่อนเคลื่อนย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชต่อ เพราะกรณีของน้ำตาล คาดว่าไม่ใช่กรณีที่เกิดขึ้นบ่อยกับคนทั่วไป,พี่น้ำผึ้งกล่าวต่อว่า ทางทีมแพทย์ทั้ง 2 โรงพยาบาล วินิจฉัยเบื้องต้นเหมือนกัน น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับปอด เพราะเลือดที่ออกมาจากปอด ตอนนี้ปอดแตกไป 1 ข้าง มีการเจาะปอดอีก 1 ข้าง ซึ่งตนจำไม่ได้ว่าข้างไหน ส่วนตอนนี้ทางทีมแพทย์เป็นห่วงเรื่องสมอง เพราะออกซิเจนไม่ได้ไปเลี้ยงสมอง ถึง 2 ครั้งแล้ว หากไม่ฟื้น ก็จะเป็นเจ้าหญิงนิทราไปเลย ซึ่งทางครอบครัวคุยกันว่าเราสามารถรับได้ หากน้องหายเพียงแต่ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่อนาคตอยากจะหายดีก็ได้,โดยก่อนที่ น้ำตาลจะมีอาการแบบนี้ ช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้น น้ำตาล ก็ยังคงสดใสร่าเริง ทานข้าวกับครอบครัว แต่อยู่ๆ ก็มีเลือดออกมาทางจมูก ทีแรกทางครอบครัวเข้าใจ ว่า เลือดกำเดาไหล แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น เลือกไม่หยุดไหลและออกมามากขึ้น กระทั่งอยู่ๆ ก็มีอาการชักและหมดสติไปทางครอบครัวจึงรีบนำตัวส่งไปที่ โรงพยาบาลสมุทรสาครทันที,น้ำตาลสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาก ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ไม่มีโรคประจำตัว และน้ำตาลไม่เคยป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับปอดเลย แต่มีปัญหาเกี่ยวกับจมูก ในตอนเด็กๆ น้ำตาลจะเลือดกำเดาไหลบ่อย ทุกครั้งที่ไหล จะแตกต่างจากคนอื่น คือไหลออกมาเยอะ และออกมาเป็นฟอง ซึ่งคิดว่าอาจจะมีผลด้วย,ตอนนี้ทางครอบครัวกำลังใจเต็มร้อย เรามีความหวัง ทำทุกอย่างให้น้องหายดี น้องต้องหาย ทุกคนทำสุดความสามารถ เลือกสิ่งที่ดีที่สุด ทางครอบครัวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ให้ความช่วยเหลือ หากน้องรู้ น้องต้องดีใจมาก อยากให้น้องตื่นขึ้นมาเป็นที่รักของทุกคนเหมือนเดิม. | ความคืบหน้าอาการป่วยของ น้ำตาล บุตรศรัณย์ ทองชิว หรือ น้ำตาล เดอะสตาร์ 5 หลังเกิดอาการป่วยหนักอย่างกะทันหัน | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | น้ำตาล เดอะสตาร์,น้ำตาล เดอะสตาร์5,น้ำตาล เดอะสตาร์ป่วย,อาการน้ำตาล เดอะสตาร์,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1590030 |
รวบหัวหน้าลักรถ เน้นรุ่นดีแมคซ์ ศิษย์เอกมือดี อดุลย์ อุ้มญาติ | ชื่อ กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน เผยเลือกเฉพาะกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ไม่ติดจีพีเอส ป้องกันเจ้าของตามเจอ พบประวัติได้วิชาจาก แจ็ค อุ้มญาติ หัวหน้าแก๊งลักรถรายใหญ่พื้นที่ภาคกลางที่ถูกจับไปก่อนหน้า,ตำรวจศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.) จับแก๊งลักรถกระบะ เปิดเผยขึ้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. หน.ชุดปฏิบัติการ ศปจร.น. พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ทินกร สมวันดี ผกก.สน.พระโขนง พร้อมชุดปฏิบัติการ ศปจร.น. แถลงข่าวจับกุมนายภาณุพงศ์ ครองบุญ หรือฉายาเต้ย อ่างทอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/18 หมู่ 17 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ จ.408/2562 ลงวันที่ 31 ก.ค.62 ฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะของกลางชิ้นส่วนรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ กว่า 100 รายการ อุปกรณ์การโจรกรรมและเครื่องตรวจสัญญาณจีพีเอส,สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 04.20 น. วันที่ 10 ก.ค. เกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ลักรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ณฉ 7895 กรุงเทพมหานคร ที่หน้า หจก.แจ็คแอร์เซอร์วิส มายด์ (2007) ภายในซอยวชิรธรรมสาธิต 57 แยก 15 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงพบคนร้ายใช้รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน บท 7275 ประจวบคีรีขันธ์ เป็นยานพาหนะ กระทั่งทราบว่านายภาณุพงศ์ร่วมกับพวกที่หลบหนีตระเวนลักรถกระบะใน กทม.และต่างจังหวัด นำรถที่โจรกรรมไปซุกซ่อนที่บ้านพักใน จ.อ่างทอง ก่อนนำไปอู่ซ่อมรถใน ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เพื่อแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่ จึงสืบหาเบาะแสติดตามจับกุมตัวไว้ได้,สอบสวนนายภาณุพงษ์ให้การรับสารภาพว่า เคยติดคุกที่เรือนจำกลางจังหวัดสมุทรสงคราม หลังถูกจับคดียาเสพติด พ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี 61 ไม่มีงานทำจึงเริ่มตระเวนก่อเหตุลักรถกระบะ ทำมานานประมาณ 1 ปี สาเหตุที่เลือกขโมยรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ เพราะเป็นรถตลาดขายได้ราคาดี เครื่องยนต์ขายได้ประมาณ 3-4 หมื่นบาท ทุกครั้งเมื่อเจอรถกระบะเป้าหมายจะใช้ไขควงแทงเบ้ากุญแจต่อสายตรงขับกลับมาที่บ้านใน จ.อ่างทอง โดยให้เพื่อนขับรถคันใช้ก่อเหตุตามมา ก่อนชำแหละแยกชิ้นส่วนขายที่ร้านรับซื้ออะไหล่และโพสต์ขายตามเฟซบุ๊กในชื่อ กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน ส่วนเครื่องตรวจสัญญาณจีพีเอส มีไว้เพื่อใช้ตรวจรถเป้าหมายที่จะโจรกรรมว่าติดจีพีเอสไว้หรือไม่ ถ้าติดจะไม่ก่อเหตุ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าของรถติดตามสัญญาณจีพีเอสมาถึงจุดที่ซ่อนรถ,จากการขยายผลพบนายภาณุพงศ์กับพวกก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง อาทิ ก่อเหตุลักรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีน้ำตาล ทะเบียน ปพ 5863 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ท้องที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน บท 7275 ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ท้องที่ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน บน 9168 ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ท้องที่ สภ.หัวหิน และรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ณฉ 7895 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ท้องที่ สน.พระโขนง มีข้อมูลด้วยว่านายภาณุพงศ์เป็นเครือข่ายและลูกศิษย์ของนายกฤษณะ หรืออดุลย์ หรือแจ็ค อุ้มญาติ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาลักรถรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง ถูกตำรวจ สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา จับกุมไปก่อนหน้านี้ คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดำเนินคดี | ตำรวจศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.) ตามจับ เต้ย อ่างทอง หัวหน้าแก๊งลักรถกระบะ ก่อนนำไปชำแหละขายอะไหล่ในเฟซบุ๊ก | ข่าว,ทั่วไทย | จับแก๊งลักรถ,ขโมยรถ,รถกระบะ,อีซูซุ ดีแมคซ์,ขายอะไหล่,ชำแหละรถ,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1632875 |
นศ. 3 มหาวิทยาลัย จ.สงขลา เรียกร้องขอลดค่าเทอม | ตัวแทน นศ. ม.ทักษิณ ม.ราชภัฏสงขลา และ ม.เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เรียกร้องขอให้มหาวิทยาลัยปรับลดค่าธรรมเนียมบำรุงการศึกษา ปรับลดหรือช่วยเหลือค่าครองชีพประจำวัน หลังได้รับผลกระทบจาก COVID-194 พ.ค. 2563 รายงานว่าตัวแทนของ 3 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ยื่นหนังสือถึงนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผ่านนายเจือ ราชสีห์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมเรียกร้องขอให้มหาวิทยาลัยปรับลดค่าธรรมเนียมบำรุงการศึกษาลงจากเดิมร้อยละ 50 และหรือให้มีกำหนดให้นิสิต-นักศึกษาสามารถแบ่งชำระค่าธรรมเนียมบำรุงการศึกษาเป็นงวดได้อย่างน้อย 3 งวด ในภาคเรียนที่ 1 หรือจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จะหมดไปนอกจากนี้ขอให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งปรับลดหรือช่วยเหลือค่าครองชีพประจำวันที่เป็นค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าอินเทอร์เน็ต ให้แก่นิสิต-นักศึกษา และขอให้มีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือนิสิต-นักศึกษาที่ต้องทำงานหลังเลิกเรียน หรือ Part Time ในระหว่างการศึกษาเล่าเรียน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานประกอบการปิดต่อเนื่อง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง โดยนายเจือ ราชสีห์ รับที่จะนำปัญหาความเดือดร้อนของนิสิต-นักศึกษา นำเสนอไปยังรัฐมนตรี เพื่อเร่งรัดช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน | ตัวแทน นศ. ม.ทักษิณ ม.ราชภัฏสงขลา และ ม.เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เรียกร้องขอให้มหาวิทยาลัยปรับลดค่าธรรมเนียมบำรุงการศึกษา ปรับลดหรือช่วยเหลือค่าครองชีพประจำวัน หลังได้รับผลกระทบจาก COVID-19ที่มาภาพ: | การเมือง,เศรษฐกิจ,สังคม,การศึกษา,คุณภาพชีวิต | COVID-19,หาวิทยาลัยทักษิณ,มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย,ค่าธรรมเนียมบำรุงการศึกษา,ค่าเทอม | https://prachatai.com/journal/2020/05/87496 |
คนกาญจน์ เตรียมทำบุญให้เสือดำ สร้างรูปปั้นชวนประชาชนต้านล่าสัตว์ | เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 17 มี.ค.62 ความคืบหน้าคดี เปรมชัยเข้าป่าล่าเสือดำ ที่ จ.กาญจนบุรี นายสมชาย พรหมชนะ ประธานชมรมคนรักเสือดำจังหวัดกาญจนบุรี เปิดบ้านพักในตำบลดอนตาเพชร อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี พร้อม ดร.สำเนียง เมืองนิล ดร.ธวัชชัย พิกุลแก้ว ดร.มานพ พรหมชนะ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ อดีต ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี นายอนุรักษ์ คชนา นายก อบต.ดอนตาเพชร ร่วมแถลงข่าวเพื่อ ชี้แจง แถลงการณ์ ของชมรมฯ โดยนายสมชายเริ่มอ่านแถลงการณ์ ว่า กรณี กลุ่มบุคคลได้เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก แล้วถูกเจ้าหน้าที่ จับกุม พร้อมซากสัตว์ป่า โดยเฉพาะซากเสือดำ และอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุน ,ทางชมรมคนรักเสือดำ จึงตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ป่าที่ตายเพราะการถูกล่า เพื่อไม่ให้ตายฟรี จึงรวมตัวกันก่อตั้งชมรมฯ นี้ขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนกาญจนบุรี ต่อต้านการล่าสัตว์ป่า และสร้างจิตสำนึกในการรักษาคุ้มครองสัตว์ป่า กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และจะส่งเสริม สนับสนุน การคุ้มครองสัตว์ป่า ตามที่องค์กรต่างๆ จัดขึ้น รวมถึง ยกย่องเชิดชูผู้ทำคุณประโชยน์ด้านการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม ,สำหรับกิจกรรมต่อไป ของชมรมคนรักเสือดำ จังหวัดกาญจนบุรี จะจัดขึ้นในวันที่ 7 เมษายน 2561 จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเสือดำ และสัตว์ป่าที่ตาย ,ส่วนสถานที่ กำลังทำหนังสือ ขออนุญาตกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อขอเข้าพื้นที่ ไปทำกิจกรรม ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก และในวันดังกล่าว ขอเชิญชวน นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะชาวจังหวัดกาญจนบุรี สวมเสื้อรณรงค์ ต่อต้านการล่าสัตว์ป่าด้วย นอกจากนี้ จะจัดเตรียมสร้างรูปปั้นเสือดำ เพื่อเป็นการจุดประกาย ให้เห็นคุณค่าและร่วมกันอนุรักษ์สัตว์ป่า. | ชมรมคนรักเสือดำกาญจนบุรี เตรียมทำบุญอุทิศให้กับเสือดำที่ตาย และจะสร้างรูปปั้นเสือดำ ชวนประชาชนต่อต้านการล่าสัตว์ และทารุณกรรมสัตว์ | ข่าว,ทั่วไทย | เปรมชัย กรรณสูต,เสือดำ,ล่าสัตว์,ชมรมคนรักเสือดำ,กาญจนบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1231012 |
ติ๊นา ร่ำไห้คิดถึง ร.9 ทั้งคืน ก่อนร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ (คลิป) | เมื่อเวลา 14.00 น. นักร้องสาวรุ่นใหญ่ ติ๊นา คริสติน่า อากีล่าร์ ได้เดินทางมาร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก โดยภายในงานมีประชาชนมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก จนแถวยาวล้นออกไปนอกวัดและเลยโรงเรียนพระราม 9 กาญจนาภิเษก ออกไปอีก ท่ามกลางการอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่และจิตอาสานับร้อยชีวิต ก่อนที่จะเปิดใจให้สัมภาษณ์ในระหว่างต่อคิวเข้าแถวรอถวายดอกไม้จันทน์ในเวลา 14.47 น.,ซึ่ง ติ๊นา ได้เผยถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าวให้ฟังว่า คิดว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะสามารถมาลาพ่อได้ ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งได้เห็นถึงความตั้งใจของทุกคน ไม่ว่าจะลำบากยังไงทุกคนก็พร้อมใจกันเพื่อที่จะมาส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ความรู้สึกจนถึงแม้แต่วินาทีนี้มันแย่มาก เมื่อคืนร้องไห้ทั้งคืนเลย (น้ำตาไหล) ไม่เคยรู้สึกเสียใจอะไรเท่านี้ในชีวิตมาก่อน คิดถึงพระองค์ทุกวัน,วันนี้จะมีความตั้งใจที่อยากจะมาลาพระองค์และอยากจะบอกว่าจริงๆ แล้วถึงพระองค์จะไม่ได้อยู่กับพวกเรา แต่ทุกคำสอน ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงทำให้พวกเราเห็นจะอยู่กับตัวเราตลอดไป ในฐานะลูกของพระองค์ท่านคนหนึ่ง สิ่งที่สามารถทำได้ก็คือทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ขอให้ทำด้วยความตั้งใจเต็มที่ สานต่อในสิ่งที่ดีสิ่งที่พระองค์ได้วางรากฐานเอาไว้,ติ๊นายึดเรื่องการให้มาใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต รวมถึงความตั้งใจในการทำงาน เชื่อว่าตลอดชีวิตของพระองค์ท่านทรงเป็นผู้ให้มาตลอด และเรื่องของการคิดดี พูดดี ทำดี ทั้งหมดนี้ควรเริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อน จากนั้นก็เผื่อแผ่ให้กับคนรอบข้าง,ติ๊นาเชื่อว่าตอนนี้พระองค์ท่านพักผ่อนอยู่บนสรวงสวรรค์แล้ว และก็เชื่อว่าพระองค์กำลังรอพวกเราอยู่ สิ่งที่ตนจะตั้งจิตในขณะที่วางดอกไม้จันทน์คงจะเป็นเรื่องของการเป็นลูกที่ดีของพ่อค่ะ. | ติ๊นา คริสติน่า ร่วมถวายดอกไม้จันทน์ ณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เปิดใจทั้งน้ำตาร้องไห้คิดถึงในหลวง ร.9 ทั้งคืน | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ติ๊นา คริสติน่า อากีล่าร์,ติ๊นา คริสติน่า ถวายดอกไม้จันทน์,ในหลวง รัชกาลที่ 9,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ส่งใจสู่ฟ้าอาลัยพ่อ,นักร้อง | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1108739 |
ฆ่าโหดชายชราเจ้าของสวนฝรั่ง จับมัดมือ-เท้า ทุบหัวชิงทรัพย์ | เร่งล่า ,เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 23 มี.ค. 59 พ.ต.ท.ภิญโญ มุกสิกสาร รอง ผกก.สอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รับแจ้งพบศพชายชราถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 95/2 หมู่ 5 ต.โคกพระเจดีย์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พร้อมชิงทรัพย์ จึงรายงาน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช. ภ.7 พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ 7 พ.ต.อ.รัตนะ ปาลจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว. นครปฐม พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ ผกก. สส.1 ภ 7 พ.ต.อ.อุดม เปี่ยมศักดิ์ ผกก. ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาร รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รองผกก.กสส.ภ.จว.นครปฐม ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 แพทย์เวร รพ.นครชัยศรี มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ ครึ่งปูนครึ่งไม้ มีรั้วรอบขอบชิด มีสวนฝรั่งปลูกรอบบ้าน เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไป พบศพ นายไพฑูรย์ กลิ่นพยอม อายุ 79 ปี เจ้าของบ้าน นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ที่พื้น ในสภาพมือถูกมัดไขว้หลัง ขาถูกมัดไว้ด้วยผ้าขาวม้า ที่ศีรษะมีรอยถูกของแข็งทุบจนแตกกะโหลกยุบ ที่คอถูกรัดด้วยสก็อตเทปใสจนรอบ มีเลือดกระเซ็นไปทั่ว ห่างจากศพ 4 เมตร พบเตียงนอนไม้ที่ผู้ตายนอนอยู่เป็นประจำ แอ่นจนเกือบหัก คาดว่ามีการต่อสู้กันอย่างรุนแรง,จากการสอบถาม นายธรรศ กลิ่นพะยอม อายุ 39 ปี อาชีพครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอสามพราน จ.นครปฐม บุตรชายของผู้ตาย ซึ่งมาพบศพ และแจ้งความตำรวจ ทราบว่า ปกติที่บ้านหลังนี้จะมีพ่ออยู่กับพี่สาวอีก 2 คน ส่วนตนอยู่กับภรรยาที่สามพราน ซึ่งตนก็จะมาเยี่ยมพ่อทุกวัน แต่เมื่อวานไม่ได้มา จึงมาหาตอนเช้าเวลา 06.30 น. โดยจะเข้าด้านหลังบ้านเนื่องจากมีกุญแจ แต่พบว่าหน้าต่างข้างบ้านมีรอยงัดจนเปิดอ้าออก จึงเอะใจ เมื่อรีบไขกุญแจประตูเข้าไปดู พบว่าพ่อนอนอยู่ที่พื้นบ้าน เมื่อพลิกดูจึงรู้ว่าเสียชีวิตไปแล้ว,ขณะกำลังตรวจสอบ น.ส.ประภา กลิ่นพะยอม อายุ 45 ปี บุตรสาวได้เดินทางมาหลังทราบข่าวว่าพ่อถูกทำร้ายเสียชีวิต พร้อมเผยว่า ทุกวัน เวลา 03.00 น. ตนเองจะออกไปขายฝรั่งกับน้องสาว ที่ตลาดปากน้ำ กรุงเทพฯ คืนก่อนออกไปก็ยังไม่มีเหตุการณ์ร้ายแต่อย่างใด พ่อยังนอนอยู่บนเตียง มาทราบจากน้องว่า พ่อถูกทำร้ายเสียชีวิตจึงรีบกลับมา สำหรับทรัพย์สินที่พ่อใส่ติดตัว มีสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พระสมเด็จเลี่ยมทอง 1 องค์ แหวนทองคำ และกระเป๋าเงินได้หายไป ขณะที่ทรัพย์สินอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่ามีอะไรหายอีกหรือไม่,ด้าน พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.นครชัยศรี เผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและดูสภาพศพแล้ว คนตายมีรูปร่างใหญ่ ถึงแม้จะอายุมาก คนร้ายคนเดียวเอาไม่อยู่แน่ ต้องมีไม่ต่ำกว่า 2 คนอย่างแน่นอน จึงมีการต่อสู้กัน และคาดว่าน่าจะเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกสาวออกไปขายของ โดยคนร้ายน่าจะงัดเข้ามาทางหน้าต่าง และเป็นคนที่รู้ความเคลื่อนไหวของคนในบ้านเป็นอย่างดี ว่าช่วงไหนที่ผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว ซึ่งครอบครัวผู้ตายค่อนข้างมีฐานะ เพราะมีสวนฝรั่งหลายสิบไร่ ขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 นครปฐม ทำการเก็บลายนิ้วมืออย่างละเอียด พร้อมกับให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามถนนและซอย เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี. | คนร้ายงัดบ้าน ก่อนจับชายชรา มัดมือ-เท้า ทุบศีรษะเสียชีวิต ก่อนชิงทรัพย์สิน เป็นสร้อยคอหนัก 5 บาท พระสมเด็จเลี่ยมทอง ฯลฯ หนี โดยก่อเหตุช่วงเช้ามืดที่ผู้ตายนอนอยู่บ้านคนเดียว คาดคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน รู้ความเคลื่อนไหวอย่างดี | null | ฆ่าชิงทรัพย์,ชายชรา,มัดมือเท้า,ฆ่าโหด,นครชัยศรี,นครปฐม,งัดบ้าน,ลักทรัพย์,ลายนิ้วมือ,เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน,ข่าว,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/595252 |
คอหวย แห่มา คำชะโนด ส่องขันน้ำมนต์ ลูบแป้ง สุดฮือฮา เลขดังผุด | 79 สุดแต่ความเชื่อ,วันที่ 29 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปที่เกาะคำชะโนด วังนาคินทร์ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่สถิตพญานาคราช พ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา บ้านโนนเมือง หมู่ที่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่า วันนี้ใกล้วันหวยออก ตามปกติของคนที่ชอบเสี่ยงโชค ได้เดินทางมาที่เกาะคำชะโนดเพื่อแสวงหาเลขเด็ด หลังจากทุกคนที่มากราบไหว้เพื่อขอพรขอโชคลาภกันแล้ว เพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วก็เดินเข้าไปยังบริเวณต้นมะเดื่อยักษ์ แต่ก่อนจะเข้าไปคนไหนที่ชอบเลขเด็ด ก็จะแวะดูขันน้ำมนต์ที่วางอยู่ทางเข้า บางคนก็ส่องหาเลขเด็ด บางคนเอามือถือมาถ่ายรูป บางคนบอกว่าเห็นน้ำตาเทียนเป็นเลข 8 ไทยบ้าง เลข 5 ไทย และยังมองเห็นเป็นเลข 1 ไทย สุดแท้แต่จะมองเห็นเป็นอะไร เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลห้ามกันไม่ได้,ส่วนที่โคนต้นมะเดื่อ อยู่ข้างศาลปู่ทางทิศตะวันตกยังมีคอหวยฝืนกฎที่คณะกรรมการบอกว่า ห้ามทาแป้งต้นไม้ที่ลูบหาเลขเด็ด แต่ก็ห้ามไม่ได้ แต่คอหวยใช้วิธีทาเสร็จ รีบลูบแล้วรีบนำมือถือมาถ่ายรูปไว้ เพื่อนำไปดูที่บ้านเผื่อโชคดี ส่วนที่บริเวณจุดบวงสรวงด้านนอก ก็มีการทำพิธีบวงสรวงตามปกติ เป็นการขอโชคลาภและการแก้บน ซึ่งทางพ่อจ้ำก็ทำขันน้ำมนต์ในระหว่างทำพิธีเผื่อคนชอบหาเลขเด็ด บางคนก็เห็นเป็นเลข 922 และ 79 สุดแท้แต่ความเชื่อของใครของมัน ทางคณะกรรมการไม่สนับสนุนให้เล่นการพนัน หากต้องการเสี่ยงดวงก็มีแม่ค้า พ่อค้า ขายลอตเตอรี่ จำนวน 300 แผง นำมาจำหน่าย ซึ่งหวยที่ขายดีที่สุดที่แผงลอตเตอรี่ คือ 25 ไม่ทราบเป็นหวยดังมาจากไหน. | อุดรธานี ใกล้ถึงวันแห่งความหวังของคอหวย ดิ้นหาเลขเด็ดลอตเตอรี่ขายดี ที่เกาะคำชะโนด ทั้งส่องขันน้ำมนต์ เอาแป้งลูบโคนต้นมะเดื่อยักษ์ ผุดเลขดัง 25 มาแรง บางคนก็เห็นเลข 922, 79 สุดแต่ความเชื่อ | ข่าว,ทั่วไทย | คำชะโนด,ขันน้ำมนต์,ปู่ศรีสุทโธ,หวย,เลขเด็ด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1432680 |
ส.ว.ดังสะกิดรัฐบาล ทบทวนยุทธศาสตร์ | เมินเปิดวิสามัญ ปลัด สธ. ยันอีกไม่แตะบัตรทองซ้ำรอยสิงคโปร์ ชัยชนะ อวยมาถูกทางแล้ว ควรรอให้ลุล่วงก่อน อัครเดช เบรก สนท.ปลุก ม็อบฟรอมโฮม รอจบโควิดก่อนค่อยมาไล่ ลุงตู่ ด้าน วันชัย ดักคอแค่จะใช้เวทีสภาฯด่ารัฐบาล สะกิดคนกันเองรื้อแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีไม่ทันโลก ปลัด สธ.การันตีไม่มีหมกเม็ดตัดงบบัตรทอง โฆษกรัฐ ย้ำนายกฯสั่งการทำอะไรต้องไม่กระทบประชาชน มหรรณพ เตือนการ์ดอย่าตก ผ่อนปรนต้องมีเงื่อนไข จาตุรนต์ เชียร์เปิดรับฟังรอบด้าน เหน็บถ้าโปร่งใสไม่มีเหตุผลต้องหวาดกลัว วัฒนา เย้ยโอกาสอยู่ในมือคนโง่ก็เป็นวิกฤติ วันนอร์ ลั่นเป็น ส.ส.กินภาษีจะนิ่งอยู่เฉยไม่ได้ฝ่ายรัฐบาลไม่ตอบรับข้อเรียกร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ขอให้รัฐบาลเปิดให้มีการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ และแนวทางการแก้ปัญหาโควิด-19 ทั้งวิปรัฐบาลและวุฒิสภา ต่างอ้างว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหามาถูกทางแล้ว และเหลืออีกเพียง 1 เดือนจะเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญอยู่แล้ววิรัช นัดถกแกนนำวิป รบ.27 เม.ย.เมื่อวันที่ 25 เม.ย. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะเสนอให้มีการเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญชำแหละ พ.ร.ก.กู้เงินว่า ในความเห็นส่วนตัวมองว่าไม่ควรที่จะมีการประชุมสภาในขณะนี้เพราะหลายฝ่ายกำลังร่วมมือกันเพื่อกำจัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้หมดไป ถือว่าใกล้ประสบความสำเร็จแล้ว หากมีการเปิดประชุมสภาฯแล้วมีคนมารวมตัวกันทำให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดขึ้นมาอีก แล้วจะทำอย่างไร อย่างไร ก็ตาม วิปรัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยกับข้อเสนอของฝ่ายค้าน ในการประชุมวันที่ 27 เม.ย. จะหารือร่วมกับแกนนำวิปรัฐบาลแต่ละพรรค เพื่อหาข้อสรุปเรื่องนี้อีกครั้งรีบปลดล็อกผวาติดเชื้อพุ่งแบบสิงคโปร์ประธานวิปรัฐบาลกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะมีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐบาล มองว่าขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงหลักสิบต้นๆ หากเราสามารถพยุงไว้เช่นนี้ได้ จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง หากมีการเปิดให้ใช้ชีวิตตามปกติก็อาจจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงอย่างก้าวกระโดดแบบบางประเทศ เช่น สิงคโปร์ ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละมากกว่า 1500 คน ดังนั้นหากมีการเปิดประชุมสภาฯแล้วทำให้ประเทศไทยเป็นอย่างนั้นบ้างจะทำอย่างไรวิป ปชป.ค้านเปิดประชุมสภาฯวิสามัญนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมการประสานงาน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านขอเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญว่า ไม่เห็นด้วย ขณะนี้รัฐบาลอยู่ในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รัฐบาลยังไม่ได้ประกาศว่าจะยกเว้นให้สภาผู้แทนราษฎรจัดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญได้หรือไม่ เพราะยังมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ให้หยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติอยู่ นอกจากนี้ การเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญประจำปี 63 ตามกำหนดเดิมที่จะเปิดในวันที่ 22 พ.ค.อยู่ในห่วงเวลาใกล้เคียงกันพรรคฝ่ายค้านจึงควรจะรอให้มีความชัดเจนของสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดก่อนจะดีกว่า เพราะต้องยอมรับว่าการแก้ไขทั้งการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ รัฐบาลดำเนินการมาถูกทาง มีผู้ติดเชื้อลดจำนวนลงมาก ส่อไปในทิศทางที่ดีจึงควรจะรอการสรุปสถานการณ์ การวางมาตรการในการคลายล็อกควบคู่ไปกับการช่วยเหลือ สนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหานี้ให้ลุล่วงผ่านไปก่อนจะดีกว่าเบรก สนท.รอจบโควิดค่อยไล่ รบ.นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกวิปรัฐบาลกล่าวถึง ข้อเรียกร้องให้เปิดประชุมสภาฯวิสามัญเร่งอนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงินและรับฟังแนวรับมือผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ว่า วิปรัฐบาลนัดหารือเตรียมการพิจารณากฎหมายที่จะเข้าสู่สภาฯสมัยสามัญแล้ว จึงอยากให้อดทนรอ เวลานี้ยังอยู่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดอยู่ ขณะที่ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับวงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทมีผลบังคับใช้แล้วรัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้แล้ว อีกไม่ถึงเดือนเมื่อถึงช่วงเปิดประชุมสภาฯ พวกเราในฐานะ ส.ส. มาใช้เวทีสภาฯร่วมกัน เพื่อชี้แนะเพิ่มเติมได้ยังไม่ช้าเกินไป เพราะวิกฤติครั้งนี้ยังใช้เวลานานพอสมควร ในการฟื้นฟูประเทศ จึงอยากให้ทุกฝ่ายรวมไปถึงสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ที่ออกมาทำแคมเปญ #MobFromHome ได้ให้เวลารัฐบาลทำงานก่อน ประเทศต้องการความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนสนับสนุนให้ฟันฝ่าวิกฤติไปให้ได้ โควิดไม่ใช่แค่แพร่ไวรัส แต่ยังเป็นปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจด้วย อยากให้ สนท.มาร่วมฟันฝ่าวิกฤติกับประชาชน เรื่องทางการเมืองเมื่อจบโควิดหมดวิกฤติเมื่อไหร่ ค่อยมาว่ากันใหม่ปลัด สธ.การันตีไม่ตัดงบบัตรทองเมื่อเวลา 12.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงการจัดสรรงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) โดย นพ.สุขุมกล่าวถึงกระแสข่าวจะมีการตัดงบบัตรทองว่า งบประมาณในส่วนนี้จำนวน 2400 ล้านบาท ไม่ได้ถูกตัดตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด ยืนยันไม่กระทบการดูแลประชาชน อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์โควิด-19 งบฯอาจจะไม่เพียงพอ ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบฯกลาง 3000 ล้านบาท ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพิ่มเติม สามารถใช้ในการตรวจจากผู้ป่วย ทำห้องความดันลบ ยืนยันการดูแลประชาชนไม่มีเปลี่ยนแปลงมีแต่จะดีขึ้นขอให้มั่นใจ เพราะงบฯบัตรทองวางไว้ตั้งแต่ต้นปี นายกฯยังให้มาสนับสนุนเพิ่มเติมในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ส่วนการบรรจุบุคลากรทางการแพทย์กว่า 40000 ตำแหน่งตามมติ ครม.วันที่ 15 เม.ย. แต่ละปี สธ.มีรายได้จากงบประมาณและนอกงบประมาณที่เป็นการบริจาคต่างๆของประชาชน ตอนต้นปีมีการกำหนดเงินเดือนจากแหล่งที่มาต่างๆ คนที่ได้รับการบรรจุมีการเตรียมงบฯบำรุงอยู่แล้ว สามารถดำเนินการได้นายกฯย้ำทำอะไรต้องไม่กระทบ ปชช.ด้านนางนฤมลกล่าวว่า นายกฯให้ความสำคัญกับบุคลากรทางการแพทย์ และการดูแลสุขภาพประชาชน จึงมอบให้กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงบประมาณหารือกันเพื่อหาเงินมารองรับไม่ให้กระทบทั้งสองส่วน ทั้งการบรรจุบุคลากรทางการแพทย์ และการดูแลประชาชนที่ถือสิทธิบัตรทอง ยืนยันผู้ถือสิทธิประโยชน์ของบัตรทองไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้น ขอให้มั่นใจยังมีสิทธิ์รักษาตามเดิมทั้งหมด ส่วนการบรรจุบุคลากรทางการแพทย์กว่า 40000 ตำแหน่ง มีแหล่งงบประมาณรองรับไว้แล้ว นายกฯได้สั่งการว่าการดำเนินการใดๆ ก็ตาม ต้องไม่กระทบกับประชาชน โดยเฉพาะผู้ถือสิทธิบัตรทองไก่ อัดโอกาสในมือคนโง่เป็นวิกฤตินายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า วิกฤติโควิด-19 คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะทำให้เศรษฐกิจทุกประเทศในโลกพังพินาศ กลับมานับหนึ่งเหมือนกันหมด เศรษฐกิจไทยที่แย่กว่าชาติอื่น จะมีโอกาสได้เริ่มต้นใหม่ พฤติกรรมของมนุษย์ภายหลังโควิด-19 จะให้ความสำคัญกับสุขภาพและสุขลักษณะจะทำให้การเริ่มต้นของไทยได้เปรียบชาติอื่น เริ่มจากสภาพแวดล้อมที่ไวรัสไม่ชอบ ความเข้มแข็งของการสาธารณสุขโดยเฉพาะโครงการ 30 บาท ที่กลายเป็นต้นแบบของโลก อดีตประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แนะนำว่า ไทยควรลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข คัดกรองคนเข้าประเทศ ทำให้ไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัยจากความตายที่มองไม่เห็น จะทำให้การลงทุนและการท่องเที่ยวกลับมาอย่างรวดเร็ว ไทยจะกลายเป็นสวรรค์ของพวกกลัวตาย ทำให้อสังหาริมทรัพย์ที่ร่อแร่มีโอกาสฟื้นตัว แต่ถ้าเจอผู้นำอีกแบบ โอกาสจะกลายเป็นวิกฤติแทนซัดรัฐราชการช่วยช้าได้แต่คำสาปแช่งเช่น การจ่ายเงินเยียวยา ถ้ารัฐบาลจ่ายให้กับทุกครอบครัว ครอบครัวละ 10000 บาทต่อเดือน ให้หัวหน้าครอบครัวเอาบัตรและทะเบียนบ้านไปรับเงินที่ธนาคารก่อน แล้วรัฐบาลค่อยโอนเงินไปคืนให้ธนาคาร จะทำให้คนไทยมีเงินใช้ทันที จะเกิดการจับจ่าย กระตุ้นการบริโภคภายใน และเงินที่จ่ายแม้ต้องกู้มาก็ไม่มีใครว่า มีแต่จะได้รับคำยกย่อง ที่เคยทำเศรษฐกิจพังมาคนจะลืมและให้อภัย แต่บางรัฐบาลกลับทำให้โอกาสกลายเป็นวิกฤติแทน สร้างเงื่อนไขการจ่ายเงินยุ่งยากแบบรัฐราชการ จ่ายเงินล่าช้าและไม่ทั่วถึงจนคนต้องฆ่าตัวตายทั้งที่เป็นเงินของประชาชน แทนที่จะได้คำชมก็เลยได้คำสาปแช่งจากทุกสารทิศ ตรงกับคำกล่าวที่ว่าถ้าโอกาสไปตกอยู่ในมือคนโง่จะกลายเป็นวิกฤติแบบที่เห็นสมคิด ฉะข้อมูลมั่วช่วยเกษตรกรยุ่งอีกนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจ่ายเงินเยียวยาของรัฐบาล ที่มีปัญหาจ่ายให้กับบางคนที่ไม่มีสิทธิ เช่น พนักงานรัฐวิสาหกิจว่า เป็นความไม่รอบคอบของรัฐบาลเอง ความจริงการพิสูจน์สิทธิไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เมื่อเราใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบคัดกรองไปในเบื้องต้นแล้ว ควรให้เจ้าหน้าที่ในองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาตรวจสอบข้อมูลอีกสักครั้ง ไม่ได้เสียเวลาอะไรมากมาย แต่จะทำให้ข้อมูลถูกต้องไม่ผิดพลาด และไม่ต้องมาเรียกเก็บเงินคืนกันภายหลัง เพราะถ้ายังปล่อยให้เกิดกรณีแบบนี้บ่อยๆ จะสร้างปัญหาไม่รู้จบ รัฐบาลจึงควรหันกลับมาดูวิธีการว่า ทำไมจึงมีช่องโหว่แบบนี้อยู่ ส่วนตัวมองว่านอกจาก ให้ท้องถิ่นเข้ามาช่วยแล้ว ระบบข้อมูลรัฐบาลควรจะพัฒนาได้ดีกว่านี้ เพราะถ้าข้อมูลยังไม่มีการปรับปรุงการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ค.จะเป็นปัญหาอีก ดังนั้นเวลานี้ก่อนจะจ่ายเงินให้กับเกษตรกร รัฐบาลควรไปตรวจสอบข้อมูลกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เรียบร้อยก่อน อย่าให้มีปัญหาแบบนี้อีก เพราะวันนี้เกษตรกรเขารอการช่วยเหลืออยู่อ๋อย เชียร์เปิดเวทีรับข้อเสนอรอบด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าชื่อเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ แก้วิกฤติโควิด-19 ว่า ขณะนี้จำเป็นที่สุดต้องให้เปิดประชุมรัฐสภา ส.ว.อาจไม่เห็นความสำคัญเพราะปกติไม่ค่อยทำหน้าที่บทบาทในรัฐสภา ที่ต้องตรวจสอบการทำงานรัฐบาล รัฐบาลไม่ได้เตรียมงบฯไว้สำหรับสถานการณ์วิกฤตินี้ จำเป็นต้องใช้เงินเยียวยาประชาชนและภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แม้แต่งบฯด้านสาธารณสุขยังขาดแคลน จึงจำเป็นต้องรีบพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณเพื่อให้ใช้งบฯปี 63 ได้โดยเร็ว แล้วพิจารณา พ.ร.ก. 3 ฉบับเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายทางการเงินและการคลัง เป็นการใช้เงินและงบประมาณมหาศาล ปัญหาเหล่านี้หากเปิดประชุมสภาแล้วรัฐบาลเสนอขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ จะได้เสียงสะท้อนปัญหาและข้อเสนอรอบด้าน ทำให้ทุกฝ่ายมองเห็นปัญหาในภาพรวม แก้ปัญหาตรงจุดและรวดเร็วมากขึ้นถ้าโปร่งใสไม่มีเหตุผลต้องหวาดกลัวในอดีตเวลามีปัญหาใหญ่ๆประชาชนเดือดร้อนกันมากๆ การเปิดอภิปรายในสภาช่วยให้รัฐบาลรับรู้และแก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้นมาตลอด สถานการณ์ขณะนี้ยิ่งจำเป็น หากรัฐบาลทำงานทุกอย่างโปร่งใสก็ไม่มีเหตุผลหวาดกลัวการประชุมสภาหรือเสียงสะท้อนจากประชาชน สิ่งที่นายกฯควรทำขณะนี้คือเปิดไฟเขียวให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมสนับสนุนให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญและรัฐบาลควรเป็นฝ่ายเสนอขอเปิดให้มีอภิปรายทั่วไปเพื่อรับฟังความคิดเห็น ส.ส. นายจาตุรนต์กล่าวบี้ รบ.ทำแผนคลายล็อกชัดไม่ลักลั่นนายจาตุรนต์กล่าวว่า ส่วนกระแสเรียกร้องคลาย ล็อกให้เศรษฐกิจเดินได้ หลัง พ.ร.ก.ฉุกเฉินครบกำหนดวันที่ 30 เม.ย. เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ควรนำมาอภิปรายกันในสภา ขณะนี้การควบคุมการแพร่ระบาดทำได้ดี แต่มีค่าใช้จ่ายทางเศรษฐกิจที่ประชาชนต้องร่วมกันจ่ายด้วยการต้องหยุดงาน ไม่มีรายได้ ทำให้ประชาชนจำนวนมากเดือดร้อน ถึงขั้นไม่มีจะกิน ข้อเสนอทางวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขที่เห็นว่าควรเปิดให้เศรษฐกิจโดยมีมาตรการที่เข้มงวดรองรับ แต่รัฐบาลยังขาดความชัดเจนจะตัดสินใจอย่างไร ทำให้เกิดการปฏิบัติที่ลักลั่นและคาดการณ์เตรียมการที่ต่างๆ กันไป ที่สำคัญรัฐบาลควรตัดสินใจและมีแผนอย่างเป็นขั้นตอน ควรทำความเข้าใจถึงมาตรการและเงื่อนไขเปิดกิจการและทำ กิจกรรมต่างๆว่าต้องมีแนวปฏิบัติอย่างไร แล้วจัดให้ชี้แจงของผู้รับผิดชอบด้านต่างๆทางทีวีพูลเลย ไม่ควรปล่อยให้ข้อมูลออกมาจากที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง จนไม่มีใครรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงเฉ่งข้อมูลสับสนคนรู้วงในได้เปรียบนายจาตุรนต์กล่าวว่า หากปล่อยให้ทุกอย่างสับสนอยู่ อาจทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทำธุรกิจ เพราะผู้ประกอบการบางส่วนรู้ข้อมูลวงในเตรียมพร้อมได้ก่อน ผู้ไม่ได้ข้อมูลไม่กล้าเตรียมการ ถึงเวลาเปิดก็เปิดไม่ได้ ที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อเปิดแล้วอาจไม่มีมาตรการทางด้านสาธารณสุขและมาตรการการจัดระยะห่างทางสังคมที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ทำให้ปัญหาวนไปเวียนมาหาทางออกไม่เจอ ในขณะที่ประชาชนนับสิบๆล้านคนเดือดร้อนมากขึ้นวันนอร์ ชู ส.ส.กินภาษี ปชช.อยู่นิ่งไม่ได้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์กรณีท่าที ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการขอเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ และแนวทางการแก้ปัญหาโควิดว่า เราต้องเคารพในความคิดเห็นของเขา แต่ส่วนตัวคิดว่าเมื่อประชาชนเดือดร้อน ฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านหรือรัฐบาลควรร่วมกันให้ความคิดเห็นกับรัฐบาลที่เป็นฝ่ายบริหาร ให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ที่เราต้องการเปิดสภาฯไม่ต้องการไปขัดขวางรัฐบาล แต่อยากให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ทันการณ์กว่านี้ เพราะเห็นว่ารัฐบาลทำอะไรอืดอาดไม่ทันการณ์ ถ้าเปิดสภาฯมีการพูดจากันอาจมีมาตรการต่างๆมาบอกรัฐบาลให้การทำงานดีขึ้น และเรา ส.ส. ที่กินเงินเดือนของประชาชนอยู่ เมื่อประชาชนเดือดร้อนจะนิ่งเฉยให้รัฐบาลทำฝ่ายเดียวคงไม่ถูกต้อง การไปช่วยเหลือประชาชนในเขตเลือกตั้งของตัวเองคงแก้ปัญหาได้ไม่ทั้งหมด จึงน่าจะร่วมกันแสดงความคิดเห็นให้กลไกของรัฐบาลกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้นและจะทำให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพมากขึ้น เงินงบประมาณที่จะกู้เป็นเงินไม่น้อย จึงต้องช่วยกันวางมาตรการต่างๆเพื่อให้การใช้เงินจำนวนนี้ได้ประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติเฉ่งเยียวยาช้ายิ่งเสียหายหนักกว่าเมื่อถามถึงกรณีการจ่ายเงินเยียวยาของรัฐบาล ที่มีปัญหาจ่ายให้กับบางคนที่ไม่มีสิทธิ์ เช่น พนักงานรัฐวิสาหกิจ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า การจ่ายเงินอาจมีผิดพลาดบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เพราะคนที่ขอรับสิทธิ์มีจำนวนมาก เมื่อผิดพลาดต้องเรียกคืนภายหลัง แต่สิ่งที่จะสร้างความเสียหายมากกว่าความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ นี้คือความล่าช้า ถ้ามัวแต่กลั่นกรองกันมากไปชาวบ้านจะลำบาก จึงอยากให้จ่ายเงินด้วยความรวดเร็วกว่าที่เป็นอยู่ เพราะชาวบ้านจะอดตายกันทุกวัน ตั้งแต่ประกาศล็อกดาวน์ เป็นเดือนกว่าเงินยังไปไม่ถึง ส่วนที่ผิดพลาดค่อยเรียกคืนทีหลัง วันนี้รัฐบาลต้องเอาเงินมาชดเชยให้เร็วที่สุดปดิพัทธ์ฉะไร้ประสิทธิภาพคนอดโซนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่าขอวิจารณ์มาตรการของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาผ่าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการเยียวยาผ่านมาตรการเราไม่ทิ้งกัน ที่มีประชาชนตกค้างไม่ได้รับการเยียวยาจำนวนมาก เข้าใจใน ความจำเป็นทางสาธารณสุข ที่ยังคงต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรายังไว้ใจสถานการณ์ไม่ได้ แต่อีกด้านหนึ่งตัวเลขคนฆ่าตัวตายสูงขึ้น และปัญหาปากท้องเป็นวิกฤติรุนแรงไม่แพ้กัน การปิดเมืองต่อโดยที่ไม่ปิดประเทศ และไม่มีการเยียวยาประชาชนอย่างถ้วนหน้า จะนำพาความเดือดร้อนทุกข์ยากแสนสาหัสมาสู่คนพิษณุโลกและจังหวัดอื่นเพิ่มขึ้น กลุ่มคนที่อยู่ในกลุ่มพื้นที่เสี่ยง เช่น ผับ บาร์ ร้านอาหาร เป็นกลุ่มแรกที่ถูกปิด และเป็นกลุ่มท้ายๆที่จะเปิดได้ เป็นกลุ่มที่โดนทั้งค่าเช่า หนี้สินทั้งในและนอกระบบ คำขู่ยึดที่ ยึดรถ ไล่ออกจากห้องเช่า แผงต่างๆ ไล่ตามจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร คำถามคือแล้วรัฐช่วยพวกเขาให้อยู่บ้านเฉยๆได้อย่างไร พวกเขาควรเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการยกเว้นค่าเช่า มอบถุงยังชีพ และดูแลครอบครัวไม่ใช่หรือ แต่ทำไมมีแต่คำสั่งปิดและทิ้งกลุ่มนี้ไว้ในฐานะที่เสี่ยงกับคนที่เหลือ นี่ คือความไม่ยุติธรรม ไม่รอบคอบ ไม่มีประสิทธิภาพในการออกนโยบายแนะ 6 มาตรการควรทำได้ทันทีนายปดิพัทธ์กล่าวว่า ขอเสนอมาตรการที่เราควรทำและทำได้เลย อย่างน้อยใน จ.พิษณุโลก คือ 1.ทำด่านการเดินทางสาธารณะต่อไปอย่างเข้มแข็ง และจัดสรรงบฯให้เพียงพอ 2.แจกหน้ากากและ Face shield ให้ทุกคนทุกบ้านและบังคับให้ใส่เมื่อออกนอกบ้าน 3.อนุญาตให้ร้านอาหารนั่งทานและร้านตัดผมเปิดได้ แต่จำกัดจำนวนคนต่อครั้ง ไม่ให้เกินตามที่กำหนด และลูกค้าต้องเช็กอินเพื่อส่วนกลางจะได้มีฐานข้อมูลเฝ้าระวัง 4.ให้ตลาดนัดจัดการแผงใหม่ห่างกัน 1.5-2 เมตร สลับคิวให้เข้ามาตั้งร้านได้ไม่เกินที่กำหนด มีทางเข้าออกทางเดียวและมีจุดสแกน แจกเจลแอลกอฮอล์ จุดล้างมือให้บริการ 5.คนที่อยู่ในพิษณุโลกโดยไม่มีอาการครบ 28 วันแล้วให้ติดสติกเกอร์ที่บัตรประชาชน และ 6.ตรวจเชิงรุกคนที่มีอาการทุกคน ไม่ต้องรอมาขอตรวจและกักตัวตามมาตรการเดิม เรื่องพวกนี้ทำได้ทันที เอาเงินที่ต้องแจกไปเรื่อยๆมาลงทุนด้านมาตรการความปลอดภัย แล้วค่อยๆผ่อนคลายไปทีละพื้นที่-กลุ่มงาน ควบคู่การเยียวยากลุ่มที่ยังเปิดไม่ได้ และขอเรียกร้องให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพราะมีหลายเรื่องที่เราต้องตรวจสอบรัฐบาล โดยเฉพาะเงินกู้ 2 ล้านล้าน ต้องนำเสนอมาตรการหลายอย่างที่จะทำให้การแก้ปัญหาโควิดมีประสิทธิภาพขึ้น โดยเราจัดประชุมอย่างปลอดภัยได้เทพไทบี้ รบ.ช่วยค่าไฟคนรากหญ้านายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับร้องทุกข์จากประชาชนว่าค่าไฟฟ้าสูงมากผิดปกติจำนวนมาก ปัญหาหนึ่งมีผู้มีรายได้น้อย คนหาเช้ากินค่ำต้องเช่าบ้านหรือเช่าห้อง มีมิเตอร์ไฟฟ้าพ่วงรวมกับมิเตอร์ของเจ้าของบ้าน เจ้าของห้องพัก มีจำนวนมากที่ไม่ได้รับเยียวยาจากรัฐบาล เจ้าของจะไม่ลดหย่อนค่าไฟฟ้าให้ ตามอัตราการจัดเก็บค่าไฟฟ้าที่รัฐช่วยเหลือคือคิดเหมารวม จึงอยากให้เข้าไปดูแลสอดส่องหอพัก ห้องเช่าหรือบ้านเช่า เพื่อช่วยเหลือเยียวยากลุ่มนี้ด้วย เพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันไฟฟ้า-ประปาซ้ำเติม ปชช.ควรให้ใช้ฟรีนายเทพไทกล่าวอีกว่า อยากนำเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้ได้ทราบถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ในการใช้บริการในด้านสาธารณูปโภคของรัฐบาล ทั้งการไฟฟ้าและการประปา ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนโดยตรง เจตนารมณ์การจัดตั้งรัฐวิสาหกิจคือการให้บริการและดูแลความเดือดร้อนประชาชนโดยไม่หวังผลกำไรและขาดทุน แตกต่างกับกิจการบริษัทของภาคเอกชน ที่ต้องการกำไรสูงสุด อยากให้กลับไปดูเจตนารมณ์ของการไฟฟ้าและการประปา ตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นตามพระราชปณิธานของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 5 ว่า มีหน้าที่ให้บริการดูแลบริการประชาชนอย่างไร จึงเรียกร้องให้รัฐบาลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือความ เดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในลักษณะรัฐสวัสดิการ ให้บริการฟรีในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย นายเทพไทกล่าวอู๊ดด้า–ผู้การแต้มแจกถุงยังชีพหลักสี่เมื่อเวลา 15.00น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรค นางกานต์ มูสิกะอดีตสมาชิกสภากรุงเทพ (ส.ก.) และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ คณะที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ ร่วมลงพื้นที่เดินเคาะประตูบ้านในชุมชนร่วมพัฒนา ทุ่งสองห้อง เขต หลักสี่ ช่วยชมรมเพื่อนแต้มแจกจ่ายข้าวสารอาหารแห้ง ถุงยังชีพแก่ประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างแม่บ้านบริษัท หรือพนักงานรักษาความปลอดภัย ที่บางส่วนถูกเลิกจ้างชั่วคราว เพราะสถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด จึงไม่มีรายได้ในสถานการณ์นี้ โดยนายจุรินทร์ได้สอบถามชาวบ้านถึงความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของแต่ละ ครอบครัว พร้อมระบุว่า โครงการช่วยชาวบ้านของพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากแจกหน้ากากอนามัยแบบผ้าไปตามสาขาพรรคทั่วประเทศแล้ว ยังให้สมาชิกพรรค ทั้งอดีต ส.ส. อดีตผู้สมัคร ส.ส. ออกช่วยประชาชน เคาะประตูบ้านเยี่ยมชาวบ้านอย่างเต็มกำลังความสามารถ ภายใต้สถานการณ์ที่ประชาชนเดือดร้อน อย่างน้อยจะเป็นการรับเรื่องร้องทุกข์และคอยประสานงานในสิ่งที่ขาดเหลือ หลายพื้นที่นำถุงยังชีพและอื่นๆ ตามกำลังไปช่วยประชาชน ร่วมกับทุกภาคส่วนของสังคมต่อไปพงศ์กวิน ฟุ้งมั่นใจ รบ.ฟื้นประเทศได้นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ชุมชนแออัดริมคลองราชมนตรี และบริเวณตลาดบางแค เพื่อแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้เดือดร้อนจากภัยโควิด-19 โดยนายพงศ์กวินกล่าวว่า วิกฤติจากภัยโควิด-19 เป็นวิกฤติที่รุนแรงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อประชาชนในทุกระดับ แต่ที่ต้องเป็นห่วงอย่างแรกคือประชาชนผู้มีรายได้น้อย กำลังจะขาดแคลนอาหาร หลายบ้านไม่สามารถออกไปทำมาหากินกันได้ เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนตอนนี้พรรคพลังประชา-รัฐมีนโยบายให้ ส.ส.ลงพื้นที่เพื่อเร่งทำกิจกรรมบรรเทาปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น เห็นด้วยกับรัฐบาลว่าชีวิตและสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญเหนืออื่นใดจะต้องมั่นใจว่าโรคระบาดจะไม่ลุกลาม แล้วค่อยทยอยผ่อนปรนมาตรการต่างๆ มั่นใจว่ารัฐบาลมีทีมงานด้านเศรษฐกิจที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ที่จะออกนโยบายเพื่อเยียวยาประชาชนในทุกภาคส่วน และฟื้นประเทศให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุดวันชัย ชี้ไม่ถึงเดือนสภาฯเปิดไม่ต้องเร่งนายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวถึงข้อเรียกร้องของฝ่ายค้านให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อเร่งอนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงิน และรับฟังแนวรับมือผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ว่า การประชุมวิปวุฒิสภาครั้งล่าสุด ไม่ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าว นอกจากเตรียมการประชุมเพื่ออนุมัติ พ.ร.ก. 4 ฉบับของรัฐบาลช่วงเปิดประชุมสมัยวิสามัญที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 22 พ.ค. คิดว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพราะรัฐบาลได้แก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 โดยมีข้อมูลบริหารจัดการได้รอบด้านอยู่แล้ว ที่สำคัญจากวันนี้ไปถือว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือน จะถึงวันเปิดสมัยประชุมแล้ว ช้าหรือเร็วคงไม่น่าจะมีผลใดๆต่อการแก้ไขปัญหาประเทศ รัฐบาลสามารถใช้ พ.ร.ก.เดินหน้าไปได้ตอกฝ่ายค้านแค่จะเปิดวิสามัญด่า รบ.หากฝ่ายค้านหรือ กมธ. คณะใดในสภาฯ ต้องการเสนอความเห็นต่อรัฐบาล สามารถทำได้ โดยส่งเป็นเอกสารถึงรัฐบาลได้ เชื่อว่ารัฐบาลจะฟังฝ่ายการเมือง ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพ่อค้ามหาเศรษฐี การพยายามใช้ช่วงเวลาแห่งการสงบปากสงบคำ การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มาใช้เวทีสภาฯเพื่อพูดจาโจมตี กระแนะกระแหนรัฐบาลเป็นเรื่องทำให้ประเทศเสียเวลาแก้ปัญหาวิกฤติประเทศ ควรปล่อยให้รัฐบาลทำแล้วร่วมกันเสนอแนะฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน หากรัฐบาลไม่ฟัง ถึงเวลาเปิดสภาฯมาเมื่อไหร่ก็ซัดได้เต็มที่อยู่แล้ว นายวันชัยกล่าวสะกิดรื้อปรับใหม่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนายวันชัยกล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดเชื้อโควิด-19 ระบาดประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองรองรับต่อการบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหากันครั้งใหญ่ ทั้งการเงินงบประมาณให้แก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นวิกฤติจะซ้ำซ้อนวิกฤติ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผน ปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน บวกด้านการศึกษา 1 ด้าน รวมเป็น 12 ด้านที่กำหนดไว้ก่อนเชื้อโควิดจะมาอย่างไม่มีใครคาดคิด จึงทำให้ไม่มีแผนและยุทธศาสตร์รองรับต่อวิกฤติที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครคิดว่าแต่ละประเทศต้องปิดประเทศ คนต้องอยู่ในบ้าน เลิกสัญจรไปมา จึงถึงคราวต้องทบทวนเรื่องเหล่านี้ ให้ทันยุคทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลงและการแก้วิกฤติของประเทศ วิกฤติที่เกิดขึ้นครั้งนี้นอกเหนือจากการคาดคิด นอกตำรา ฝ่ายการเมืองต้องนำเรื่องเหล่านี้มาพิจารณาไปแก้ไข อย่าปล่อยให้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศเป็นเพียงตัวอักษรในเล่ม แต่ไม่รองรับการแก้ปัญหา ทั้งที่เป็นแผนจัดการการแก้วิกฤติอย่างเป็นรูปธรรมอย่าการ์ดตกผ่อนปรนต้องมีเงื่อนไขนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว. กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น อัตราผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตลดลง เพราะประชาชนให้ความร่วมมือกับมาตรการของรัฐ ตระหนักถึงภัยเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือว่าประเทศไทยแก้ปัญหามาถูกทางแล้ว แต่ขณะนี้มีนักการเมือง นักวิชาการบางกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด รวมทั้งผ่อนปรนมาตรการต่างๆลง ทั้งที่รัฐบาลมีข้อมูลวิชาการ ข้อเท็จจริงต่างๆที่ใช้ กำหนดมาตรการ และผ่อนปรนมาตรการต่างๆอย่างดีแล้ว ดังนั้นอยากขอความร่วมมือประชาชนทุกคนอย่าการ์ดตก ขอให้ฟังมาตรการที่รัฐบาลกำหนดขึ้น การผ่อนปรนต่างๆรัฐบาลค่อยๆผ่อนปรนอย่างมีเงื่อนไข ไม่ให้เชื้อโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดอีกเหมือนประเทศสิงคโปร์และประเทศอื่นๆที่เกือบจะควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่พลาดท่าจนเกิดการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงไม่อยากเห็นประเทศไทยกลับไปสู่วิกฤติที่รุนแรงมากขึ้น ถ้าคนไทยการ์ดตก เชื้อร้ายนี้จะกลับมาเล่นงานเราอีก จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกัน ต้องรอเวลาคิดค้นวัคซีนอีกอย่างน้อย 1 ปีเตือนอย่าฝากความหวังไว้ที่เศรษฐีนายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐ-ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ขอให้ 20 มหาเศรษฐีไทย เร่งส่งเอกสาร โครงการและข้อเสนอต่อรัฐบาลในการช่วยกันแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ว่า จริงอยู่กลุ่มคนเหล่านี้มีบทบาทและอิทธิพลทางเศรษฐกิจในประเทศ แต่รัฐบาลจะหวังพึ่งเพียงคนกลุ่มนี้ไม่ได้จะต้องฟังเสียงทุกกลุ่มอย่างรอบด้าน ทั้งจากประชาชนและภาคประชาสังคม การนำเเนวทางของกลุ่มมหาเศรษฐีมาปฏิบัติ ก็จะต้องทำอย่างโปร่งใส ก่อนหน้านี้เมื่อมีการเเถลงของนายกฯ เรื่องการที่จะให้บรรดากลุ่มทุนเศรษฐีได้ร่วมเเสดงความเห็น จนกระทั่งมีจดหมายออกมาชัดเจน ทุกคนมีคำถามเรื่องดีลต่างๆ เพราะเรื่องของทุนกับการเมืองเป็นสิ่งที่เเยกกันไม่ออกกระบวนการทำงานหลังจากนี้ต้องตรวจสอบได้ เปิดเผยให้สังคมได้เห็นคือมีธรรมาภิบาลทางการเมือง จะต้องชี้เเจงข้อวิจารณ์เรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทน ให้ได้ และจะไปฝากความหวังไว้กับกลุ่มทุนเหล่านี้ไม่ได้ กลุ่มทุนเหล่านี้เขาก็เป็นผู้สนับสนุนได้ แต่จะมาให้เขาเป็นตัวกำหนดนโยบายเลยคงไม่ได้ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่รู้จะมีรัฐบาลไว้ทำไมจี้เลิก พ.ร.ก.หวั่นคนเครียดฆ่าตัวตายสูงนายยุทธพรกล่าวถึงผลสำรวจเรื่องตัวเลขการฆ่าตัวตายจากความเครียดระหว่างการระบาดของโควิดว่า วันนี้เราต้องรักษาคนไม่ได้รักษาโรค การหยุดสถานประกอบการ หยุดกิจกรรมบางอย่างในสังคม ทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของคน วันนี้เราจะต้องรักษาคนด้วย ไม่ใช่เเค่รักษาโรค อะไรที่ผ่อนคลายได้ ต้องเริ่มผ่อนคลาย การบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้เป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ รัฐบาลพยายามใช้กฎหมายเเล้วเอารัฐเป็นตัวตั้ง เอาเรื่องสาธารณสุขมาสร้างความชอบธรรม ใช้กฎหมายนำวิถีชีวิตของคน อาจจะเหมาะในช่วงต้นที่โรคระบาดมาก แต่เมื่อลดลงก็ต้องปรับเปลี่ยน ถ้ารัฐบาลยังไม่ปรับเปลี่ยนวิธีการ ก็มีโอกาสที่คนจะเครียดฆ่าตัวตายมากขึ้น ก่อนหน้านี้จะเห็นคนฆ่าตัวตาย เพราะมีปัญหาเศรษฐกิจก่อนโควิดจะระบาดก็เริ่มเห็นแล้วพอมีโควิดปัญหาเศรษฐกิจก็รุมมาอีก ประกอบกับปัญหาสังคมทำให้ภาวะการฆ่าตัวตายมากขึ้น คิดว่าต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อน แล้วกลับมาใช้กฎหมายปกติ เช่น กฎหมายโรคติดต่อหรือแม้แต่การมีมาตรการผ่อนคลายให้ประชาชนบ้าง และต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือว่าต้องมองไปช่วงหลังวิกฤติโควิด ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด เพราะการเยียวยาจากรัฐบาลต่างๆมีผลแค่เพียงระยะสั้นเท่านั้นไฟไหม้บ้าน ส.ส.กวินนาถเมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ต.จีรศักดิ์ แอบแฝง พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ร้านอาหารแอบแซ่บ ตั้งอยู่ภายในซอยมาบสอง-ค่ายมวย 17/1 จึงได้ประสานหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองหนองปรือ เข้าดับไฟ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นร้านอาหารแอบแซ่บและบ้านพัก ซึ่งเป็นที่ทำการ ส.ส. ของน.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7 พรรคพลังท้องถิ่นไท ตั้งอยู่เลขที่ 24/23 ม.6 ซอยมาบสอง-ค่ายมวย 17/1 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาล เมืองหนองปรือ ได้ทำการฉีดน้ำสกัดเพลิงไหม้พร้อมกระทุ้งหลังคาเพื่อให้ควันไฟลอยตัวออกไปนอกบ้าน พบทรัพย์สินภายในร้านเสียหายจำนวนมาก จากการสอบถามนายยศพนธ์ อ่อนตา ผู้ช่วย ส.ส.ชลบุรี เขต 7 เล่าว่า ต้นเพลิงน่าจะเกิดจากห้องนอนเด็ก เนื่องจากจุดที่ชาร์จไฟอยู่ต่ำ และมีการชาร์จไฟฟ้าอยู่ใกล้ที่นอน ต้นเพลิงอยู่ตรงจุดนั้น อาจเป็นสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จะได้รวบรวมหลักฐานสืบหาสาเหตุเพลิงไหม้ต่อไป | วิปรัฐบาลจับมือ ส.ว. ปิดประตูเปิดสภาฯวิสามัญ วิรัช อ้างสงครามโควิดใกล้สำเร็จ ส.ส.มารวมตัวไวรัสระบาดจะทำอย่างไร ค้านปลดล็อกดาวน์ผวาติดเชื้อก้าวกระโดด | ข่าว,การเมือง | ข่าวหน้า1,ยุทธศาสตร์ชาติ,วันชัย สอนศิริ,วิปวุฒิสภา,พรรคร่วมฝ่ายค้าน,ประชุมรัฐสภา,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1830358 |
แม่ขู่ไม่กินยาจะให้ตำรวจจับ ลูกป่วยจิตเวชรีบหนีเข้าป่า ไร้วี่แววหาเจอ | เมื่อวันที่ 19 ก.พ.62 ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า นายสมศักดิ์ ชูแสง ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครองอำเภอตะกั่วป่า พ.ต.ต.ก้องภพ โพธิแสน ผบ.ร้อย ตชด.425 ร.ต.อ.นิพนธ์ พลอยขาว รอง ผบ.ร้อย ตชด.425 หน.ชุด ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ บุญศรี รอง สวป.สภ.ตะกั่วป่า นายสมาท นาเจริญ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.บางนายสี พร้อมชาวบ้านกว่า 70 คน ได้ประชุมเร่งช่วยเหลือค้นหานายอาบัส อุมาสะ อายุ 25 ปี เป็นผู้ป่วยจิตเวช ในพื้นที่ ม.4 บ.บางใหญ่ ตฺ.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังได้หายออกจากบ้านเมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ก.พ.62 เป็นเวลา 3 วันยังไม่พบตัว,ทางชาวบ้านได้ช่วยกันค้นหาในพื้นที่ป่าและริมทะเลที่คาดว่าจะไปหลบอาศัย โดยตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ทางชาวบ้านได้ไปพึ่งไสยศาสตร์ว่า คนที่หายได้หลบซ่อนตัวอยู่ในป่า ที่เป็นต้นไม้ยางขนาดใหญ่ เป็นปาง 3 ปาง ซึ่งข้างล่างปกคลุมด้วยหญ้าซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกันค้นหาแต่ยังไร้วี่แวว,นางแสงเดือน โคกเคียน แม่ผู้สูญหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ออกไปทำงานนอกบ้านตั้งแต่เช้าและให้ลูกที่ป่วยจิตเวชอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว แต่เมื่อตนเองกับจากบ้านมาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ก.พ.62 พบว่าลูกชายคือนายอาบัส อุมาสะ อายุ 25 ปี เป็นผู้ป่วยจิตเวช หายออกจากบ้านจึงได้ไปแจ้งให้ทางผู้ใหญ่บ้านทราบก่อนที่ทางชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ช่วยกันออกตามหาภายในป่าบริเวณหลังบ้านแต่ยังไม่พบร่องรอย,แม่ผู้สูญหาย กล่าวด้วยว่า ลูกของตนได้ป่วยเป็นผู้ป่วยจิตเวช และรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ต่อมาไม่ได้รักษาอย่างต่อเนื่องจึงทำให้มีอาการกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง และเก็บตัวอยู่คนเดียวในบ้านไม่ออกไปไหน ซึ่ง 1 วันก่อนเกิดเหตุทางแม่ได้ขู่ลูกว่า ถ้าไม่ยอมไปหาหมอจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพาไปโรงพยาบาลเพื่อรับยา แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจริง จึงทำให้ลูกชายเกิดอาการหวาดกลัวหนีเข้าป่าหายไปหลายวัน. | วุ่นทั้งหมู่บ้าน แม่ขู่ลูกชายป่วยจิตเวชว่า ให้ตำรวจมารับไปรักษา จนตกใจกลัวหนีหายเข้าป่าลึกลับในพื้นที่บ้านบางใหญ่ อ.ตะกั่วป่า ยังไร้วี่แวว ระดม จนท.ตำรวจและชาวบ้านกำลังกว่า 70 คน เร่งตามหา | ข่าว,ทั่วไทย | หนุ่มป่วยจิตเวช,หายตัวไป,ค้นหาคนหลงป่า,อ.ตะกั่วป่า,พังงา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1500036 |
วัด ประชา รัฐฯ รณรงค์คัดแยกขยะเปียก-แห้ง | ฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากคณะสงฆ์ทุกจังหวัด โดยปีนี้มีวัดที่เข้าร่วมโครงการ 1,500 วัด ซึ่งทางโครงการกำหนดแผนในการดำเนินงานให้มีวัดเข้าร่วมโครงการนี้ 24,000 วัดทั่วประเทศ ภายในปี 2565,ทั้งนี้โครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่อยู่ในแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาของ มส. เพื่อต้องการพัฒนาวัดใน 3 พันธกิจสำคัญคือ 1.ทางกายภาพ ต้องพัฒนาวัดให้ทุกพื้นที่ของวัดมีความร่มรื่นให้วัดมีลักษณะทางภายภาพที่สมบูรณ์ 2.ทางสังคม ต้องมีความร่วมมือกับสังคมโดยรอบวัดให้เข้ามาร่วมพัฒนาวัด และ 3.ศีล ปัญญา เมื่อวัดสะอาด ก็จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆทางพระพุทธศาสนา เช่น การปฏิบัติธรรม ทำให้เกิดการรักษาศีล และเกิดปัญญาตามมา โดยการจะทำให้ 3 พันธกิจสำเร็จได้ ต้องอาศัยแนวทาง 5 ส คือ 1.สะสาง 2.สะอาด 3.สะดวก 4.สร้างมาตรฐาน และ 5.สร้างวินัย,พระธรรมรัตนาภรณ์กล่าวต่อไปว่า เรื่องขยะเป็นสิ่งที่ทางโครงการให้ความสำคัญมาก โดยจะรณรงค์ให้วัดที่เข้าร่วมโครงการมีการแยกขยะเปียกและขยะแห้ง จัดวางถังขยะให้เป็นที่เป็นทาง ทั้งให้นำขยะเปียกมาทำเป็นปุ๋ย เพราะขยะเปียกสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติกลายเป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้ได้ ซึ่งทางวัดเขียนเขตจะ เป็นต้นแบบในการดำเนินการด้วย. | พระธรรมรัตนาภรณ์ (สมศักดิ์ โชตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะ จ.ปทุมธานี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข | ข่าว,ทั่วไทย | พระธรรมรัตนาภรณ์,สมศักดิ์ โชตินฺธโร,ปทุมธานี,พระพุทธศาสนา,ขยะเปียก,ขยะแห้ง,รณรงค์,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/1663921 |
กมธ.รธน.ทบทวน 23 ประเด็น รวมที่มานายกฯ คนนอก-ส.ว. | เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2558 นายมานิจ สุขสมจิตร รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญคนที่สอง เปิดเผยกับ ไทยรัฐทีวี ว่า คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้พิจารณา 23 ประเด็นที่แขวนไว้เสร็จเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (31 มี.ค.) แล้ว โดยวันนี้ที่ประชุมจะพิจารณาประเด็นนอกเหนือที่แขวนไว้ ซึ่งจะนำประเด็นที่มาของ ส.ว.เข้ามาพิจารณาทบทวนอีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อยุติ โดยยอมรับว่าประเด็นที่หลายฝ่ายเสนอให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งก็น่ารับฟัง ส่วนตัวก็เห็นว่า ถ้าให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง ก็ควรมาจากการสรรหาจำนวนหนึ่งก่อนแล้วไปให้ประชาชนเลือก นอกจากนั้น ยังมีประเด็นที่นำเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีเข้ามาหารือในที่ประชุมด้วย ที่มีแนวโน้มอาจทบทวนกรณีที่มาของนายกรัฐมนตรีหากไม่ได้เป็น ส.ส. อาจต้องใช้เสียงที่มากขึ้น จากเดิมที่ให้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร อาจเป็นต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎรก็ได้,กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้พบปะกับสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช.จังหวัดเมื่อวานนี้และเกิดความเข้าใจที่ดีต่อกัน จึงมีข้อเสนอให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่เป็น สมาชิก สปช. จำนวน 21 คน ไปอธิบายทำความเข้าใจกับคณะกรรมาธิการปฏิรูป 18 คณะเพื่อให้ซักถามข้อข้องใจก่อนจะอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกในวันที่ 20-26 เม.ย.2558 นี้,ขณะที่ นายวราวุฒิ ศิริยุทธิ์วัฒนา ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นำคณะตุลาการศาลปกครองและเจ้าหน้าที่สำนักงานบังคับคดีในศาลปกครอง นำหนังสือ ซึ่งลงนามโดย นายปิยะ ปะตังทา รองประธานศาลปกครองสูงสุดปฏิบัติหน้าที่แทนประธานศาลปกครองสูงสุด ยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทบทวนและแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มีกลไกในการบังคับคดีปกครองในสังกัดศาลยุติธรรมทำหน้าที่บังคับให้เป็นไปตามคำสั่งคำพิพากษาของศาลปกครอง. | คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาทบทวนเนื้อหา 23 ประเด็น ที่แขวนไว้ในร่างรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว โดยที่ประชุมเตรียมทบทวนเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีคนนอกและที่มาของ ส.ว.ให้ได้ข้อยุติ | null | กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ,มานิจ สุขสมจิตร,พิจารณาทบทวน,ที่มาของ ส.ว.,นายกรัฐมนตรีคนนอก,วราวุฒิ ศิริยุทธิ์วัฒนา,การบังคับคดีปกครอง,ศาลปกครองสูงสุด,กระทรวงยุติธรรม,ข่าวการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/490467 |
ธนพล คว้าแชมป์จักรยาน เสือภูเขาดาวน์ฮิลล์ เป็นสนามที่ 4 ติดต่อกัน | จักรยานเสือภูเขาดาวน์ฮิลล์ ชิงเเชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร สนาม 4 ที่ตำบลวังทับไทร จังหวัดพิจิตร ไฮไลต์อยู่ที่รุ่นทั่วไปชายที่คับเคี่ยวกันอย่างสูสี ระหว่างปอ ธนพล จารุเพ็ง ที่กวาดเเชมป์มาได้ 3 สนามซ้อนในปีนี้ กับ วิชชากร เพ็ชรสังหาร เเชมป์กีฬานักเรียนนักศึกษาเเห่งประเทศไทยปีล่าสุด เเละ เป็นปอ ที่ลงเเข่งเป็นคันสุดท้าย อาศัยเทคนิคเเละประสบการณ์เเชมป์เก่า 3 ปีซ้อนปั่นทำเวลาดีที่สุด 1 นาที 17 วินาที เฉือนชนะ วิชชากร นักปั่นจากปราจีนบุรีวัย 18 ไปเพียง 4 วินาที คว้าเเชมป์ได้ 4 สนามติดต่อกันเเต่นับเป็นพัฒนาการก้าวกระโดดของไนท์ที่ได้ สิทธิชัย เกตุเเก้วมณี อดีตเเชมป์ประเทศไทย 8 สมัยติวเข้มตลอด 2 ปีล่าสุด ทำให้ไนท์ วิชชากร ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 2 ได้เป็นสนามที่ 3ในปีนี้นอกจากนั้นในกีฬาเยาวชนเเห่งชาติ ไนท์ ยังคว้ารองเเชมป์ได้ 2 รายการติดต่อกัน ส่วนรุ่นทั่วไปหญิงเเชมป์เป็นของ วิภาวี ดีคาบาเลส เเชมป์เก่าจากเชียงใหม่ ที่กวาดเเชมป์ครบทั้ง 4 สนามในปีนี้ สำหรับการเเข่งขันเสือภูเขาชิงเเชมป์ประเทศไทยสนาม 5 จะเเข่งในวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคมที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย | ธนพล จารุเพ็ง เเชมป์สามสมัยซ้อน เฉือนชนะนักปั่นดีกรีเเชมป์กีฬานักเรียนนักศึกษาไปอย่างหวุดหวิดในการเเข่งชิงเเชมป์ประเทศไทยที่จังหวัดพิจิตร | กีฬา | จักรยาน,ดาวน์ฮิลล์,ธนพล จารุเพ็ง,เสือภูเขา | https://news.thaipbs.or.th/content/67228 |
ย้ำคำเดิม ยุ้ย ธัญญ์ ยังไม่แต่ง รอลงตัวค่อยว่ากัน | ตอนนี้อยู่แบบนี้ก็มีความสุขแล้ว,เนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 34 ของนางเอกสาว ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม เจ้าตัวเลยถือโอกาสชวนครอบครัวแฟนหนุ่ม ธัญญ์ ธนากร รวมถึงเพื่อนๆ และน้องๆ ในค่ายสปีดวันมาร่วมกิจกรรมทำบุญไถ่ชีวิตโค-กระบือ ณ วัดเสมียนนารี พระอารามหลวง โดยสาวยุ้ย บอกว่า,วันนี้เป็นเหมือนวันคล้ายวันเกิดยุ้ยค่ะ ยุ้ยเกิด 18 ก.พ. ค่ะ ซึ่งตรงกับวันนี้ และก็เป็นวันพุธวันเดียวกันเลย เมื่อเช้าทำบุญ จริงๆ ตั้งใจทำความดี เมื่อวานเป็นวันพระด้วยพอดี ก็เลยงดเว้นการกินเนื้อสัตว์มาถึงวันนี้ เลยคิดว่าถ้าทำได้ก็จะทำไปอีก แล้วก็วันนี้ได้มาทำบุญถวายสังฆฑาน ถวายเพล แล้วก็ไถ่ชีวิตกระบือค่ะ ขอพรอะไรไหม? อยากให้มีแต่สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่เป็นสิริมงคลเข้ามาชีวิต และที่สำคัญขอให้แข็งแรง จะได้มีแรงที่จะทำอะไรดีๆ ต่อไปเรื่อยๆ ทำไมถึงเลือกที่จะไถ่ชีวิตโค-กระบือ? เราผ่านการทำบุญมาหลายๆ แบบแล้ว และก็ไถชีวิตโค-กระบือครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ได้ทำ แล้วก็รู้สึกดีมาก เราไม่เคยทำเลย แล้ววันนี้ได้มาทำ และไม่ใช่ยุ้ยคนเดียว มีธัญญ์และมีน้องๆ คุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ในสปีดวัน มาร่วมกันทำด้วย เพราะเป็นบุญใหญ่ค่ะ,นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงของขวัญวันเกิด ว่า ปีนี้หนุ่มธัญญ์ได้ให้อะไรเป็นพิเศษรึเปล่า ซึ่งทั้งยุ้ยและธัญญ์ ก็บอกว่า ให้ของขวัญกันบ่อยอยู่แล้ว ในวันนี้ขอแค่มีเวลาอยู่ด้วยกันก็พอ,ธัญญ์ให้ของขวัญวันเกิดเป็นอะไร? ธัญญ์ ของขวัญวันเกิดอยากจะบอกว่า ทุกปีเราก็อยากให้เค้ามีสุขภาพแข็งแรง เห็นยุ้ยทำงานหนัก เล่นละครแต่ละเรื่องเค้าเครียด เราก็อยากให้ดูแลร่างกายและสุขภาพมากกว่า ของขวัญวันเกิดเราเป็นคนที่ซื้อของให้กันตลอดอยู่แล้ว วันนี้เค้าก็มีกฎของเค้า เค้าบอกว่า วันนี้เป็นวันของเค้า ขอทั้งวันต้องตามใจ ยุ้ย ของขวัญปีนี้ก็ขอไปแล้ว และวันนี้ก็ไปกดเงินมาเลย จะต้องพาไปช็อปปิ้ง พาไปทานข้าว 1 วันเต็ม แสดงว่า วันนี้ต้องมีดินเนอร์? ธัญญ์ ตอนนี้มีอยู่ 300 (หัวเราะ) อย่างที่บอกของขวัญปีนี้ วันนี้คงไปตามประสาเราอ่ะครับ เดี๋ยวคงไปกินข้าว ดูหนัง ไปช็อปปิ้งของที่เค้าอยากได้ และตอนเย็นต้องกลับไปหาคุณแม่เค้าด้วย,ยุ้ยมีของที่อยากได้ในใจรึยัง? ยุ้ย อยากได้ในใจไม่มีหรอกค่ะ จริงๆ ถ้าอยากได้อะไรก็ขอเค้าตลอดอยู่แล้ว เค้าก็ซื้อให้ตลอด เพียงแต่วันนี้เค้ามีธุระอะไรเค้าก็จะไม่ไป คือวันนี้อยู่กับเรา ให้เรา 1 วันเต็มๆ จะมีเซอร์ไพรส์ข่าวดีในวันเกิดไหม? ธัญญ์ โห ยังๆครับ (ยิ้ม) อีกสักพักดีกว่าครับ อย่างที่บอก เรารอให้พร้อมกว่านี้ก่อน ตอนนี้อยู่ขั้นไหนแล้ว? ธัญญ์ อย่างที่บอก ตอนนี้ก็กำลังสร้างรากฐานกันอยู่ ร้านอาหารเสร็จแล้ว เดี๋ยวมีรีสอร์ต ต่อไปก็เป็นบ้านของเรา,ไปเที่ยวน้ำตกเป็นยังไงบ้าง? ธัญญ์ ก็สนุก มีความสุข อีกอย่างเมืองไทยถ้าเราไม่ไปเที่ยวเราก็ไม่รู้ เพราะมันสวยจริงๆ ยุ้ย สวยมาก อาจจะลำบากในการเดินทางหน่อย แต่ถ้าไปถึงแล้วมันสวยจริงๆ ค่ะ ไปเที่ยวที่ไหน? ยุ้ย น้ำตกทีลอซู จ.ตากค่ะ เที่ยวรับวาเลนไทน์รึเปล่า? ยุ้ย ทีลอซูเนี่ยตั้งใจมานานแล้ว แต่ว่าไม่มีโอกาสได้ไปสักทีหนึ่ง เพิ่งจะว่างตรงกัน ก็เลยได้ไป ถือโอกาสพักผ่อนด้วยค่ะ แพลนการแต่งงานยังไม่ใช่เร็วๆ นี้? ธัญญ์ อีกสักพักครับ อย่างที่บอกว่าเรารอ ยุ้ยเค้าก็อยากทำงาน ยังไม่รีบเลยครับ ถ้าเกิดรู้เมื่อไรเดี๋ยวบอกเลยครับ,รอบ้านเสร็จแล้วพร้อมเลย? ธัญญ์ ใช่ครับ อยากให้พร้อมมากกว่านี้ก่อน คือบ้านเสร็จรอให้ทุกอย่างลงตัวก่อน กดดันบ้างไหมที่โดนถามบ่อยมาก? ธัญญ์ กดดันมั้ย หลายคนก็ถามเราตลอด และเราก็บอก คือเราไม่ได้กดดันนะ ก็ตอบไปปกติของเรา เราก็ไม่ได้เครียดไม่ได้อะไร ทุกคนหวังดีและลุ้นไปกับเรามากกว่า เราก็ดีใจที่ทุกคนลุ้นไปกับเรา ตอนนี้เรารอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ เราก็เร็วๆ นี้แหละครับ ยุ้ยรอได้เนอะ? ยุ้ย รอได้ ไม่รีบค่ะ เก็บเงินอยู่ ทุกวันนี้ก็มีความสุขดีค่ะ. | ยุ้ย จีรนันท์ ควง ธัญญ์ ธนากร และเพื่อนๆ ทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ปลื้มฝ่ายชายยกเค้กมาเซอร์ไพรส์ ขอพรอยากให้ตัวเองมีร่างกายที่แข็งแรง ไม่กดดันถูกถามเรื่องแต่งงานบ่อย บอกรอสร้างบ้านเสร็จและพร้อมทั้งคู่ค่อยคิด | null | ยุ้ย ธัญญ์,ยุ้ย จีรนันท์,จีรนันท์ มะโนแจ่ม,ธัญญ์ ธนากร,ค่ายสปีดวัน,สปีดวัน,ยุ้ยธัญญ์แต่งงาน,วันเกิดยุ้ยจีรนันท์,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/482068 |
Cool Trend 30/09/61 | ติดต่อลูกได้ทันที : M800 ผู้นำด้านระบบเครือข่าย Voice Over IP จากประเทศฮ่องกง (CPaas) โดยใช้ระบบ SDK Suite ได้ร่วมมือกับ POMO HOUSE ผู้นำทางด้านการพัฒนาสมาร์ทวอทช์ป้องกันเด็กหาย ความร่วมมือของสองบริษัทในครั้งนี้ เพื่อให้สมาร์ทวอทช์รุ่น POMO Waffle ซึ่งถูกออกแบบมาสามารถทำให้ ผู้ปกครองติดต่อกับลูกได้ทันทีผ่าน Internet Call feature บนนาฬิกาหรือผ่านแอปพลิเคชันที่ติดตั้งไว้บนสมาร์ทโฟนของผู้ปกครองด้วยความง่ายดาย ผ่านรูปแบบ SDK Suite รวมทั้งระบบอื่นๆที่ M800ได้วางโครงสร้างไว้อย่างครอบคลุมทั่วถึง รวมไปถึงระบบเชื่อมต่อขั้นพื้นฐานที่จำเป็นซึ่งประสิทธิ-ภาพมากกว่าและครอบคลุมการโทร.ผ่านอินเตอร์เน็ตได้มากถึงกว่า 100 ประเทศ.,กลับมาแล้ว : Ricoh (ริโก้) เผยโฉมกล้องถ่ายภาพรุ่นใหม่ล่าสุด Ricoh GR III ที่มีความโดดเด่นเป็นกล้องคอมแพกต์ขนาดเล็กเพียง 109.4×61.9×33.2 มม. เล็กขนาดใส่กระเป๋ากางเกงได้ น้ำหนักเบากับเซ็นเซอร์ APS-C ขนาดใหญ่อัปเกรดเซ็นเซอร์เป็น 24.2 ล้านพิกเซล มีซอฟต์แวร์อินเตอร์เฟซใหม่เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น หลังจากเงียบหายไปนาน กลับมาครั้งนี้ทางบริษัทระบุว่ากล้องรุ่นนี้เป็นกล้องถ่ายภาพบนถนนที่ดีที่สุด เพิ่มคุณสมบัติ Wi-Fi และ NFC เตรียมวางจำหน่ายต้นปีหน้า.,เคส iPhone รุ่นใหม่ : JTLegend เปิดตัวเคส iPhone รุ่น Guardian Z สำหรับ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ดีไซน์สวยงามสะดุดตา แต่ปกป้องตัวเครื่องถึงขีดสุด มาตรฐานความทนทานระดับกองทัพผสานเทคโนโลยี ElastShock Techno-logy ระดับสิทธิบัตรของ JTLegend ที่ประกอบด้วยโครงสร้างการป้องกันแบบไฮบริดด้วยโครงด้านในแบบก้าง ปลา ส่งผลให้ JTLegend iPhone Guardian Z ปกป้องตัวเครื่องจากแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ราคา 950 บาท.,สำหรับเด็ก : GARMIN (การ์มิน) แนะนำสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ Vicofit Jr.2 สำหรับเด็ก ลวดลายสไปเดอร์แมน ซุปเปอร์ฮีโร่ของเด็กๆ เป็นสายรัดข้อมือหน้าจอสีที่สามารถ ปรับแต่งได้ตามความ ต้องการ สามารถติดตาม สุขภาพ อาทิ การนับก้าว การติดตามสุขภาพการนอนหลับ ขณะที่พ่อแม่ก็ติดตามได้ผ่านแอปพลิเคชันทางสมาร์ทโฟนของตน จำหน่ายผ่านเว็บไซต์ Garmin สนนราคา 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนลวดลายเป็นลายอื่นได้ เช่น ของดิสนีย์ เช่น สตาร์วอร์ส, อเวนเจอร์, มินนีเมาส์ ด้วยการเพิ่มเงินอีก 30 ดอลลาร์. | M800 ผู้นำด้านระบบเครือข่าย Voice Over IP จากประเทศฮ่องกง (CPaas) โดยใช้ระบบ SDK Suite ได้ร่วมมือกับ POMO HOUSE | ข่าว,ไอที | เครือข่าย Voice Over IP,Ricoh,เคส iPhone,GARMIN,Cooltrend | https://www.thairath.co.th/news/tech/1386536 |
วิษณุ ยัน บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม ไม่นั่งนายกฯ คนนอก | เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 59 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาโจมตีข้อเสนอ คสช. ที่ส่งไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า เรารู้ว่าจะมีการโจมตีจึงไม่ปกปิดอะไร ทั้งที่จริงเรื่องนี้สามารถคุยเป็นการส่วนตัวก็ได้ แต่เราไม่คุยเพราะต้องการให้ทุกฝ่ายเข้าใจ โปร่งใสตรงไปตรงมา และที่บางฝ่ายยังกังวลว่าจะมีการสืบทอดอำนาจ เนื่องจากเปิดช่องให้คนนอกสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ยืนยันแล้วว่า ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะไม่ใช่ทั้ง พล.อ.ประวิตร และตัวนายกฯ,นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนต่อ นายกฯ ว่าการประกาศใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 ที่มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น จะส่งผลกระทบต่อพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) จำนวนมาก ว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวที่ระบุว่า ผู้ที่จะมาเป็น รปภ.จำเป็นต้องจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นั้น เป็นความจริง เขาจึงกังวลว่าจะกระทบกับผู้ที่ประกอบอาชีพดังกล่าวอยู่ แต่บทเฉพาะกาลใน พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ยกเว้นผู้ที่ประกอบอาชีพ รปภ.อยู่เดิม สามารถประกอบอาชีพได้ต่อ เพียงแต่อาจมีการจัดหลักสูตรอบรมพิเศษให้ ซึ่งถือเป็นการคุ้มครองพนักงาน รปภ.เดิม ส่วนผู้ที่จะเข้ามาเป็น รปภ. หลัง พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกาศใช้ ต้องจบการศึกษาภาคบังคับ เรื่องนี้เมื่อมีการยื่นร้องเรียนถึง นายกฯ ก็ได้มอบหมายให้ตนชี้แจงเรื่องดังกล่าว | วิษณุ ชี้ใบสั่ง คสช. แก้ร่าง รธน.ตรงไปตรงมา ยัน บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม ไม่นั่งนายกฯ คนนอก เหตุรับปากไว้แล้ว แจง พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ไม่กระทบ รปภ.เดิม แต่คนที่ทำงานหลัง ก.ม.บังคับต้องจบ ม.3 | null | ข้อเสนอ คสช.,ใบสั่ง คสช.,วิษณุ เครืองาม,แก้ไขร่างฯ,ร่างรัฐธรรมนูญ,นายกฯคนนอก,ส.ว.สรรหา,ส.ว.ลากตั้ง,รปภ.,พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย,ยาม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/592423 |
เตือนฝนตกชุดสัปดาห์นี้ | ชาวนาในตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากนาข้าวกว่า 3000 ไร่ หลังถูกน้ำท่วมขังต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยหวังว่าต้นข้าวจะได้รับความเสียหายน้อยที่สุด และสามารถเก็บเกี่ยวได้ ส่วนฝนที่ตกหนักต่อเนื่องและน้ำที่หลากมาจากจังหวัดกำแพงเพชร ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเอ่อล่นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 70 หลัง ในตำบลรังนก อำเภอสามง่าม ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องใช้เรือเป็นพาหนะเข้าออก ขณะที่พื้นที่การเกษตรได้รับเสียหายรวมกว่า 3600 ไร่ส่วนสภาพอากาศในระยะนี้หากดูภาพแผนที่ลมคาดการณ์ล่วงหน้า 7 วัน จากเว็บไซต์ของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร จะเห็นว่ากลุ่มฝนอยู่ทางด้านตะวันตกของประเทศพม่า มีการเคลื่อนตัวเข้าหาฝั่ง โดยทางฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นด้านที่รับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับทางฝั่งตะวันออกของประเทศไทยจะเห็นบริเวณความกดอากาศต่ำซึ่งเป็นบริเวณที่มีกลุ่มฝน อยู่ที่บริเวณทะเลจีนใต้ใกล้กับประเทศฟิลิปปินส์ ก็มีการเคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศเวียดนามซึ่งลักษณะเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดฝนตกชุกหนาแน่นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันตก ช่วงวันที่ 16 และ 17 มิถุนายนนี้ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ โดยเฉพาะเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันนี้ -17 มิถุนายนนี้ | น้ำท่วมนาข้าวและชุมชนใน อ.โพธิ์ประทับช้างและ อ.สามง่าม จังหวัดพิจิตร ขยายวงกว้างมากขึ้น ส่วนทั่วทุกภาคจะมีฝนตกเกือบทุกวันเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่าน โดยได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดพาความชื้นมาปกคลุมประเทศ | สังคม | ข้าว,คลื่นลม,น้ำท่วม,ฝน,พิจิตร,สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร,อันดามัน,อ่าวไทย,เรือ | https://news.thaipbs.or.th/content/15794 |
หลายหน่วยงานเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม | ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตยและประชาชน แสดงออกการต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เชิงสัญลักษณ์ โดยกิจกรรมสำคัญ คือการเป่านกหวีด บริเวณถนนสีลม ส่งผลให้ต้องปิดเส้นทางการจราจรในย่านดังกล่าว เกือบ 4 ชั่วโมง โดยประกาศจะนัดชุมนุมอีกครั้งในวันพุธที่ 6 พฤศจิกายนนี้อีกครั้ง ซึ่งหากรัฐบาลยังไม่ถอนร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ก็ชุมนุมทุกวันจันทร์และวันพุธของสัปดาห์อย่างต่อเนื่องด้านองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ประเทศไทย ที่ต่อต้านการออกกฎหมายฉบับนี้ ยื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย สำนักงานสหประชาชาติ สถานเอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกา และสถานทูตประเทศที่เป็นสมาชิกองค์กรสหประชาชาติ เพื่อต่อต้านทุจริต 140 ประเทศ เพื่อให้จับตาการผลักดันกฎหมายฉบับดังกล่าว ขัดอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านคอร์รัปชั่น ซึ่งไทยลงนามไว้หรือไม่นอกจากนี้ ตัวแทนจากคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันเอกชน (กกร.) ที่เข้าร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยังหารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และ ตัวแทนคณบดีมหาวิทยาลัยแห่งประเทศ 27 สถาบัน เห็นตรงกันจะเดินหน้ายื่นหนังสือต่อสถานทูต วุฒิสภา และศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ขัดกับหลักนิติรัฐ และการต่อต้านคอร์รัปชั่น ทั้งนี้ กกร. ยังออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วง และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกันขณะที่ อธิการบดีแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะมีเนื้อหาในกฎหมายขัดหลักนิติรัฐ และหลักสากล ซ้ำยัง สร้างมาตรฐานที่ผิดในสังคม และ ทำลายความพยายามรณรงค์ต่อต้านการคอร์รัปชั่น จึงให้เสรีนิสิต นักศึกษา คณาจารย์ เคลื่อนไหวแสดงออกทางการเมืองตามกรอบกฎหมายขณะเดียวกันยังมีสถาบันการศึกษาอีกหลายแห่งที่ออกแถลงการณ์คัดค้านในลักษณะเดียวกัน เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยสงขลานครรินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยขอนแก่น และที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ เป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีองค์กร และเครือข่ายอื่นๆ แสดงจุดยืนในการคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เช่น หอการค้าไทย คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย และเครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้ส่วนความเคลื่อนไหวของเครือข่ายแพทย์ นพ.สมชาย ศรีสมบัณฑิต ประธานชมรมแพทย์ชนบท 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ได้นำภาพป้ายคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว ออกเผยแพร่ทางเฟสบุคของชมรมแพทย์ชนบทอย่างต่อเนื่องต่อไปความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ทำให้ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุว่า ต้องการให้การแสดงออกทางการเมืองเป็นไปในนามส่วนตัว หรือในฐานะกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นมา ไม่ควรนำสถาบันไปใช้ เช่น ในนามแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข หรือ ในนามโรงเรียนแพทย์ เพราะหากนำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องจะกลายเป็นการไม่สมควรด้านนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช.จะแถลงท่าทีต่อ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในเวลา 14.00 น. วัน 5 พฤศจิกายน โดยเฉพาะในมาตรา 3 ที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ทางคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ส่งมายัง ป.ป.ช. และคดีที่ ป.ป.ช.กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่หลายคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองตั้งแต่ปี 49 ถึงปัจจุบัน | หลายหน่วยงาน องค์กร ภาคธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษา ออกแถลงการณ์คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รวมถึงแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าวจำนวนมาก | การเมือง | ชุมนุม,นิรโทษกรรม,พ.ร.บ.นิรโทษกรรม,ม็อบ | https://news.thaipbs.or.th/content/205322 |
จับแก๊งพริตตี้ เปิดห้องหรูสไตล์ญี่ปุ่น ควงหนุ่มมั่วยา ฉลองคืนปล่อยผี | เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 1 พ.ย.61 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.กก.ดส.บช.น. พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว
พ.ต.ท.กฤช กัญชนะ พ.ต.ท.ชยเดช ไคยฤทธิ์ พ.ต.ท.วิทวัส บูรณะ รอง ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ สว.กก.ดส.บช.น. ร่วมกันนำกำลังการสนธิกำลังตำรวจ กก.ดส.บช.น. และตำรวจ สน.ลาดพร้าว เข้าปิดล้อมตรวจค้นจับกลุ่มวัยรุ่นจัดปาร์ตี้ยาเสพติดภายในเจแปน ทาวน์ รีสอร์ท ซอยโยธินพัฒนา 3 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา,
พ.ต.อ.จิรกฤต เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตามนโยบายของ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ รรท.ผบช.น. ได้เน้นย้ำปราบปรามกวาดล้างอาชญากรรม โดยเน้นหนักไปที่ปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงเป็นภัยต่อสังคม ทาง กก.ดส.บช.น. จึงทำการออกติดตามสืบสวนสอบสวน จนได้รับข้อมูลว่ามีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวตระเวนมั่วสุมจัดปาร์ตี้เสพยาเสพติดตามโรงแรม รีสอร์ต และห้องเช่าต่างๆ จึงทำการสืบสวนออกกวาดล้าง กระทั่งพบเบาะแสว่าภายในสถานที่แห่งนี้มีการรวมตัวของกลุ่มคนดังกล่าวกันอีกครั้ง หลังจากเลิกท่องเที่ยวตามสถานบันเทิง อีกทั้งเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา เป็นช่วงเทศกาลวันฮาโลวีน ซึ่งมีบรรดานักเที่ยวจำนวนมากออกมาท่องเที่ยวตามสถานบันเทิง รวมทั้งกลุ่มผู้เสพเหล่านี้ จากนั้นทางตำรวจจึงนำกำลังไปตรวจสอบรีสอร์ตดังกล่าว
,โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง พบว่ารีสอร์ตแห่งนี้เป็นอาคารสูง 1 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง ตกแต่งในสไตล์ประเทศญี่ปุ่นหรูหรา มีรั้วรอบขอบชิด เปิดให้บริการเช่าพักอาศัย 24 ชั่วโมง ต่อมาพบว่ามีห้องพักจำนวน 2 ห้อง มีกลุ่มคนจำนวนมากเปิดเพลงส่งเสียงดัง และกำลังมั่วสุมกันภายในห้อง จากนั้นทางตำรวจได้แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด เข้าทำการตรวจค้นพบว่าภายในห้องทั้ง 2 พบกลุ่มคนอยู่ในอาการมึนเมาคล้ายกำลังเสพยาเสพติดกัน ทางตำรวจจึงทำการตรวจค้นภายในห้องอย่างละเอียด ผลปรากฏว่า ในห้องแรกมีผู้เข้ามามั่วสุม 11 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 5 คน ส่วนห้องที่สองมีผู้มั่วสุม 9 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 3 คน โดยหญิงสาวที่พบในห้องส่วนใหญ่หน้าตาดี ทั้งนี้ยังพบยาเคตามีน ชนิดเกล็ด น้ำหนักรวม 6.95 กรัม ยาเคตามีนชนิดผง น้ำหนักรวม 6.65 กรัม และยาอี ชนิดเม็ดสีชมพูจำนวน 1 เม็ด นอกจากนี้ทางตำรวจได้ทำการขยายผลตรวจค้นรถยนต์ผู้ที่มามั่วสุมครั้งนี้ ได้ที่จอดรถไว้บริเวณรีสอร์ตดังกล่าว ซึ่งผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนจำนวน 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนจึงทำการตรวจยึดไว้ ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาสอบสวนที่ กก.ดส.บช.น.
,จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาที่มามั่วสุมภายในห้อง จะหาหญิงสาวส่วนใหญ่ทำงานเป็นพริตตี้ ได้รวมกลุ่มกันมาเที่ยวสถานบันเทิงในวันเทศกาลฮาโลวีน ซึ่งบางคนพาแฟนหนุ่มมาเที่ยวด้วย หลังจากสถานบันเทิงเลิกแล้วจึงพากันมาเสพยาเสพติดกันต่อในรีสอร์ตแห่งนี้ เบื้องต้นแจ้งข้อหา มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (ยาเคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย เป็นชาย 3 ราย ข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ชาย 3 ราย ทั้งนี้ สมัครใจเข้ารับการบำบัดยาเสพติดตามคำสั่ง คสช. จำนวน 14 ราย เป็นชาย 6 คน หญิง 8 คน ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ตำรวจ ดส.ทลายปาร์ตี้ยาเค-ยาอี! พบพริตตี้สาวหน้าตาดี ควงหนุ่มๆ เปิดห้องพักหรูสไตล์ญี่ปุ่น นั่งอัพยา ฉลองคืนวันฮาโลวีน ในสภาพเมาสุดเหวี่ยง | ข่าว,อาชญากรรม | มั่วยา,พริตตี้,ปาร์ตี้ยา,กก.ดส.,ยาเสพติด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1409243 |
จัดแจกสะท้านโลกนางงาม พี่เลี้ยงยอดเยี่ยม | เป็นที่รู้ๆ กันแล้วว่า เวทีนางงามใหญ่บางเวที ไม่เห็นค่า ไม่ให้ความสำคัญกับพี่เลี้ยงนางงาม บางเวทีถึงกับตั้งข้อรังเกียจเดียดฉันท์แรงๆ กีดกันไสหัวให้ไปไกลๆ เลย อย่ามาเยอะ ยิ่งถ้าได้มงใหญ่แล้วอย่ามายุ่งนะ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว พี่เลี้ยงนางงามคือคนสำคัญมากๆ ขอย้ำรอบที่ร้อย พี่เลี้ยงนางงามสำคัญมากๆ ที่จะคอยขัดเกลานิสัย และช่วยดูแลรูปร่างตั้งแต่หัวจดเท้า จัดหาจัดเตรียมทุกสิ่งอย่างให้พร้อมสรรพ เพื่อเจียระไนให้นางงามของตัวเอง ได้เจิดจรัสได้อย่างเต็มที่บนเวที จนสวยพุ่งไปคว้ามงมาได้ ,มิติใหม่ของวงการนางงามไทย เมื่อเวทีประกวดนางงามเก่าแก่จริง ทรงคุณค่าจริงในระดับโลก มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss International Thailand 2018 ปีนี้ดำเนินการโดย นุ อนุสรณ์ จารุวัฒนานุกูล, ใจกล้าใจใหญ่เห็นความสำคัญอย่างเป็นรูปธรรม จึงจัดมอบตำแหน่ง Best Supporter หรือพี่เลี้ยงยอดเยี่ยม แจกแหลกมากถึง 100,000 บาท สำหรับพี่เลี้ยงนางงามที่ดีจริงเก่งจริง ที่คอยสนับสนุนส่งเสริมนางงามที่ตัวเองส่งเข้าประกวด,ส่วนเวทีประกวดนางงามเวทีอื่นๆ จะเลียนแบบตำแหน่ง Best Supporter พี่เลี้ยงยอดเยี่ยม นุ อนุสรณ์ ผู้อำนวยการกองประกวด มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss International Thailand 2018 ไม่สงวนสิทธิ์แต่อย่างใด ยินดีให้ลอกเลียนได้เลย เพราะนางงามจะโดดเด่นเด้งได้ ก็ต้องมีพี่เลี้ยงที่เก่งจริงเป็นงาน คอยช่วยสนับสนุนนั่นเอง,รีบคลิกติดตามมิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss International Thailand 2018 ได้เลยทางแฟนเพจ FB : Miss International Thailand หรือทางไอจี IG : Miss International Thailand1 ถ่ายทอดสดรอบตัดสิน น่าจะทำได้อย่างสวยงามตระการตา เสาร์ที่ 6 ตุลาคมนี้ ทีวีช่องนาว NOW 26 และรอลุ้นๆ ต่อเลย กับประกวดต่อบนเวทีใหญ่ระดับโลก มิสอินเตอร์เนชั่นแนล Miss International 2018 ครั้งที่ 58 ที่โตเกียวโดมซิตี้ฮอลล์ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น 9 พฤศจิกายนนี้.,
,
| เป็นที่รู้ๆ กันแล้วว่า เวทีนางงามใหญ่บางเวที ไม่เห็นค่า ไม่ให้ความสำคัญกับพี่เลี้ยงนางงาม บางเวทีถึงกับตั้งข้อรังเกียจเดียดฉันท์แรงๆ กีดกันไสหัวให้ไปไกลๆ เลย | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ Miss International Thailand 2018,นุ อนุสรณ์ จารุวัฒนานุกูล,พี่เลี้ยงยอดเยี่ยม Best Supporter,มิสอินเตอร์เนชั่นแนล Miss International 2018 โตเกียว ญี่ปุ่น,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1388557 |
โหด ดิบ เลือดสาด 10 เรื่องรู้จัก Fight Club Thailand คลับใต้ดิน | Fight Club Thailand, ดังทั่วโลกโซเชียล จนมีเจ้าหน้าที่ระบุว่า การต่อยข้างถนน อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ. 2542 ขณะเดียวกันทางทีมงานคลับดังกล่าวโพสต์ว่า การต่อยข้างถนนเป็นเพียงการออกกำลังกาย ,ไทยรัฐออนไลน์, จึงนำมาให้ทุกคนรู้จักคลับดังกล่าว โดยได้รวบรวมเรื่องราวไว้เป็น 10 เรื่องต้องรู้,มาเร่ิม Fight กันเลย ,1. Fight Club Thailand หรือ FCTH เป็นกลุ่มปิดในเฟซบุ๊ก เริ่มครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2559 ปัจจุบันมีสมาชิกเกือบ 45,000 คน และมีทีท่าว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่อยู่ในวัยฉกรรจ์ โดยทั้งหมดมารวมตัวกัน เพื่อติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวการต่อยมวยข้างถนน,2. จากการบอกเล่า การต่อยมวยข้างถนนของกลุ่ม Fight Club Thailand จะมีขึ้นทุกวันเสาร์เว้นเสาร์ เวลาเริ่มต้นตั้งแต่ 21.00 น. อย่างที่บอกสถานที่จะมีการประชุมเพื่อสรุปว่าจะไปต่อยกันที่ไหนกันทุกสัปดาห์ ซึ่งอาจไม่ใช่สนามเดิมเสมอไป ส่วนผู้ที่เป็นนักกีฬาจะทราบสถานที่ก่อนวันจริงเพียง 1 วัน เรียกว่าจัดกันไม่ให้ทันตั้งตัวเลยทีเดียว,3. ผู้ที่จะต่อยที่เข้าร่วมมาเปรียบมวยกัน พวกเขาจะเรียกกันว่า นักกีฬา ส่วนใหญ่จะเป็นเพศชายที่มีความหลากหลายทางด้านอาชีพ (ตามที่เขาระบุ) หน้าที่การงาน และอายุ บางคนเป็นนักกีฬา บางคนรูปร่างใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่ทุกคนล้วนมีใจที่จะมาต่อยข้างถนน อยากจะมาท้าทายขีดจำกัดของตัวเองแบบไร้กติกา,4. ทั้งนี้ การรับสมัครนักกีฬา จะมีทีมงานในกลุ่มนี้ประกาศรับสมัครนักกีฬาตามโพสต์ในกลุ่ม Fight Club Thailand ซึ่งผู้ที่จะต่อยข้างถนนได้ จะต้องลงสมัครที่โพสต์รับสมัครเท่านั้น ส่วนการโพสต์แนะนำตัวในกลุ่ม ทีมงานไม่ได้ถือว่าเป็นการสมัครแต่อย่างใด,5. การต่อยข้างถนน จะแบ่งนักกีฬาเป็นไซส์ ได้แก่ S 52-57, SS 58-63, M 64-69, MM 70-75, L 76-81, LL 82-87 และ XL 88 ขึ้นไปไม่จำกัด นักกีฬาจะต้องเช็กน้ำหนักให้ตรงรุ่นที่จะลงสมัครด้วย,6. สำหรับกติกาเรื่องนี้ก็สำคัญมาก ในการโพสต์แนะนำตัวในกลุ่ม Fight Club Thailand จะเน้นย้ำเสมอว่า 1. ห้ามท้าทาย ยุแหย่ ให้เกิดอารมณ์ หรือมีความขัดแย้ง 2. ห้ามจับคู่กันเอง หรือนัดชกกันเองภายในกลุ่ม 3. ห้ามสร้างศัตรู แสดงตัวตนโอ้อวด ห้ามท้าทายสถาบันการศึกษา ทั้งกลุ่มคนและตัวบุคคลเด็ดขาด 4. ห้ามนักกีฬาที่ผ่านเวทีต่างๆ ที่เป็นรายการชิงแชมป์อาชีพ หรือนักชกอาชีพ ห้ามลงสมัคร (รายการจะเปิดรับเป็นรอบพิเศษเท่านั้นสำหรับสายอาชีพ) และ 5. ยึดหลักสร้าง มิตรภาพ ตามความคิดอุดมการ์ณของ FCTH เป็นหลักสูงสุด พวกเขาระบุเอาไว้แบบนั้น,7. ข้อห้าม การชกในสนาม คือ 1. ห้ามโจมตีอวัยวะเพศ 2. ห้ามโจมตีลูกกระเดือก 3. ห้ามโจมตีท้ายทอย แนวกระดูกสันหลัง 4. ห้ามจับทุ่ม ห้ามจับเหวี่ยง และ 5. ห้ามซ้ำเวลาเพื่อนล้ม หรือเพื่อนหันหลังไม่สู้ ซึ่งจะมีกรรมการตัวใหญ่และทีมงานค่อยป้องกันอุบัติเหตุ หรือเหตุผิดพลาดไม่คาดฝันเกิดขึ้น โดยทีมงานก็แบ่งหน้าที่กันเป็นระบบ เช่น กรรมการ โปรดิวเซอร์ ช่างถ่ายภาพนิ่ง หน่วยพยาบาล ช่างภาพวิดีโอและฝ่ายประสานงาน ,8. กฎของการชก 3 ครั้งไม่มีแพ้ VS ชนะ และระบุไว้ว่า คือ กฎคือไม่มีกฎ แต่เราเปิดโอกาสให้คุณแสดงความมีน้ำใจ และแสดงความเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายได้อย่างเต็มที่ และเราเปิดโอกาสให้คุณได้ใช้ศิลปะการต่อสู้ได้ทุกรูปแบบโดยไม่จำกัด โดยใช้เวลาชกกัน 3 นาที ,9. Fight Club Thailand ยังระบุไว้อีกว่า สำหรับคนที่มา เราอยากให้ทุกท่านให้ความร่วมมือกับทางทีมงาน ทางเราขอให้ทุกท่านที่มาชม งดการดื่มสุราหรือสิ่งเสพติดทุกชนิด และทางทีมงานไม่สนับสนุนการพนัน,10. อย่างไรก็ตาม Fight Club Thailand มาจากกระแสภาพยนตร์ดังที่ชื่อ Fight Club ที่มีแบรด พิตต์ และเอ็ดเวิร์ด นอร์ตันเล่น ซึ่งเป็นภาพยนตร์ตลกร้ายแสนลึกลับ ผลงานของ เดวิด ฟินเชอร์ ผู้กำกับ Seven โดยนอร์ตัน รับบทแจ็ค ชายผู้เป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง ผู้พยายามหาทางออกให้แก่ชีวิตอันน่าเบื่อของตนเอง จนเมื่อเขาได้พบ ไทเลอร์ เดอร์เดน (พิตต์) เซลส์แมนขายสบู่ ผู้มาพร้อมปรัชญาแหกคอกที่ว่า การสะสมมีไว้สำหรับคนอ่อนแอ แต่คนกล้าของแท้ ต้องรู้จักละทิ้ง ชีวิตที่จืดชืดของแจ็ค จึงแปรผันไป…เขาและไทเลอร์เริ่มชกต่อยกัน ณ ลานจอดรถหน้าบาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งนำชายฉกรรจ์อีกมากหน้ามาเข้าร่วม และรวมกันก่อตั้งสังเวียนลับที่พวกเขาเรียกว่า ไฟต์ คลับ,ล่าสุด ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีการจัดชกมวยที่ปรากฏคลิปวิดีโอ ชื่อว่า Fight Club Thailand ว่า เบื้องต้นได้รับชมคลิปดังกล่าวแล้ว คาดว่าอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ม.26 วรรคหนึ่งห้ามมิให้ผู้ใดจัดแข่งขันกีฬามวยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน เว้นแต่การแข่งขันกีฬามวยบางประเภทตามที่มีกำหนดในกฎกระทรวง มีความผิด ม.55 ผู้ใดจัดการแข่งขันกีฬามวยโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม ม.26 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่คงต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง,ย้ำอีกที กฎข้อแรก ห้ามผู้หนึ่งผู้ใดคุยเรื่อง Fight Club,กฎข้อที่ 2 ห้ามผู้ใดผู้หนึ่งคุยเรื่อง Fight Club,กฎข้อที่ 3 ผู้ใดบอกให้หยุด ปวกเปียก หมดสติ การต่อสู้สิ้นสุด,กฎข้อที่ 4 สู้กันได้ทีละสองคน,กฎข้อที่ 5 สู้กันทีละคู่เท่านั้น,กฎข้อที่ 6 ถอดเสื้อ ถอดเกือก,กฎข้อที่ 7 ให้สู้กันต่อไปเรื่อยๆ ถ้ายังไหว,กฎข้อที่ 8 และข้อสุดท้าย ถ้าหากคุณมา Fight Club เป็นคืนแรก คุณต้องต่อสู้,แต่ความแรงของ Fight Club Thailand ก็กลายเป็นเรื่องที่โด่งดังสู่สังคมในที่สุด ชนิดที่คนถกเถียงกันถึงความเหมาะสม และไม่เหมาะสมมากมาย ชนิดที่ห้ามใครพูดถึงความแรงของคลับนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน.,ชมคลิป,ชมคลิป : ,ปรากฎการณ์ มวยข้างถนน | จากกรณีที่มีคลิปวิดีโอต่อยกันข้างถนน ชื่อว่า Fight Club Thailand ดังทั่วโลกโซเชียล จนมีเจ้าหน้าที่ระบุว่า การต่อยข้างถนน อาจ | null | Fight Club Thailand,การต่อยข้างถนน,ต่อยมวยข้างถนน,Fight Club,ไฟต์คลับ,แคมปัส,แคมปัสไทยรัฐ,ข่าวแคมปัส,พี่แคมปัส,ข่าว,ข่าวไทยรัฐ,ข่าวไลฟ์สไตล์,ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ,ไทยรัฐไลฟ์สไตล์,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/699123 |
พระพุทธรูปอุลตร้าแมน ไม่ใช่ดราม่าครั้งแรก ตีความแตกต่าง ผิดหรือไม่ลบหลู่ศาสนา | จนเจ้าของผลงานต้องออกมาขอโทษในความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะต้องการสื่อให้เห็นว่าพระพุทธเจ้าเป็นฮีโร่ เหมือนอุลตร้าแมน สามารถอดทนต่อสิ่งเร้ารอบด้าน ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้กับมนุษย์ ทำให้โลกมนุษย์สงบสุขได้,ขณะที่คนอีกกลุ่มกลับมองเป็นความสร้างสรรค์ในแง่ศิลปะ เริ่มจาก อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ได้ออกมาปกป้องให้กำลังใจนักศึกษาสาว ให้สร้างสรรค์งานดีๆ ต่อไป การไปมองว่าลบหลู่ศาสนา จึงเป็นเรื่องบ้าบอคอแตก เช่นเดียวกับ อ.สุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณกรรม มองว่า เพียงแค่นี้รับไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปไหนในสากลโลกนี้แล้ว อยู่แต่ในวัดต่อไป,รวมถึงแวดวงพระสงฆ์ พระมหาไพรวัลย์ วรวัณโณ พระวัดสร้อยทอง ระบุว่า การนำตัวนักศึกษาเจ้าของผลงานไปกราบขอขมาผ่านพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และเข้าข่ายบังคับใช้อำนาจกับเด็กที่เป็นเจ้าของผลงาน ซึ่งมีเจตนาบริสุทธิ์ในการแสดงมุมมองต่อพระพุทธเจ้าเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ และในงานศิลปะก็ไม่ใช่เรื่องผิด ทุกคนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ จึงอยากให้มองและตีความสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในภาพวาดมากกว่าของนักศึกษาคนนี้มากกว่า ,ในอดีตพระพุทธรูปไม่ใช่รูปเคารพของคนไทย เพราะคนไทยกราบไหว้ ต้นโพธิ์ และรอยพระพุทธบาทมาก่อน และพระพุทธรูปก็มีหลายปาง อย่าง พระเศรษฐีนวโกฏิ มี 9 เศียร หรือ พระพุทธรูปปางทรงกษัตริย์มีการสวมชุด สวมชฎา หรือแม้แต่พระปูนปั้นของวัดตะคร้อ จ.นครสวรรค์ ที่มีรูปร่างประหลาด เรายังกราบไหว้และสักการะ การวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของนักศึกษาคนนี้ จึงเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนได้ว่า ชาวพุทธในไทยส่วนหนึ่งยังมีมุมมองที่ไม่เข้าใจแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา, ,ในแง่ของนักศาสนาวิทยา ,ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์, กล่าวกับ ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ โดยมองอย่างเป็นกลางจากพื้นฐาน 2 ข้อ 1.เป็นการลบหลู่หรือไม่ และ 2.ต่อให้ลบหลู่ มีความผิดหรือไม่ ซึ่งการลบหลู่หรือไม่นั้น เป็นปัญหายุ่งยากมาก จากการตีความโดยศิลปินผู้วาด และการตีความโดยบรรดาคนที่เห็น บางคนมีความคิดว่าเป็นการหมิ่นและลบหลู่ บางคนไม่คิดจากการมองรูปลักษณ์ในการนำเสนอว่ามีเจตนาอะไร และเมื่อเจ้าของผลงานออกมาชี้แจงจะมีใครเชื่อหรือไม่ว่าไม่ลบหลู่ แต่วิธีนำเสนอผลงานอาจแตกต่างจากจารีต,ใครจะนำเสนอผลงานพระพุทธรูป จะต้องเป็นไปตามจารีตแนวนี้เท่านั้น หากแตกต่างก็ถือว่าผิด แต่ในแง่ศิลปะมองว่าพระเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ ในแนวคิดของเขา แล้วแต่คนฟังจะเชื่อหรือไม่เชื่อ บางคนอาจมองเป็นการแก้ตัว มันขึ้นอยู่กับเราว่าตีความอย่างไร ผิดไปจากหลักศาสนา หรือผิดในเรื่องรูปแบบตามที่คนไทยยึดถือ มองว่าลบหลู่ ซึ่งตรงข้ามกับชาวต่างชาติ อย่างเช่นการยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ คนไทยรับไม่ได้ แต่ต่างชาติไม่ถือ หรือคนไทยมองว่าผู้หญิงด้อยกว่า ไม่ควรมีหน้าที่การงานที่สูง แต่คนในอารยธรรมที่ไกลกว่า กลับไม่มองเช่นนั้น หรืออย่างญี่ปุ่น นับถือศาสนาพุทธเช่นกัน ไม่ถือว่าเป็นการลบหลู่ ที่ผ่านมามีการนำเสนอผลงานพุทธศาสนาหลากหลายก้าวไกลในแวดวงศิลปะ,อีกกรณีหากเป็นการลบหลู่ จะมีความผิดหรือไม่นั้น มองว่าเป็นสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาและสามารถแสดงความคิดเห็นแสดงออกได้ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งในแง่ของกฎหมายไม่มีแง่ใดผิดกฎหมาย หรือสมมติต่อให้มีการลบหลู่ หรือศิลปินบอกจากใจว่าลบหลู่เป็นสิ่งผิด ก็ถือเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ดังนั้นหลักการของศาสนวิทยา หากไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์จะอันตรายมาก จะทำให้ศาสนาครอบงำสังคมแบบผิดๆ หากไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์หรือมีสิทธิเสรีภาพอย่างเสรีได้ สุดท้ายสังคมจะถูกครอบงำและถูกทำร้ายจากภัยศาสนา ซึ่งที่ผ่านมาสังคมโดนมาตลอด,สังคมจำเป็นต้องยอมรับฟังกันและกันในเรื่องศาสนาได้แล้ว ควรให้เสรีภาพในการวิจารณ์ มองว่าเคสพระพุทธรูปอุลตร้าแมน จะไม่ใช่เคสสุดท้าย จะมีแบบนี้เกิดขึ้นอีก ถึงเวลาต้องผลักดันในการแสดงสิทธิเสรีภาพของศาสนาอย่างเต็มที่ เหมือนๆ อารยประเทศอื่นๆ ไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตราย เพราะศาสนาเป็นเรื่องศรัทธา ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ไม่สามารถอ้างสิทธิคนในสังคม แต่ต้องทำตามฉันได้เท่านั้น ทั้งๆ ที่ศาสนาควรเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล หรือเอามาตราเป็นกฎหมายมาบังคับผู้คน,สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทยต้องยอมรับว่าคนรุ่นเดิมอายุ 40 ปีขึ้นไป ถูกปลูกฝังเรื่องศาสนามานาน จะต้องพุทธศาสนาแบบเถรวาทเท่านั้น ซึ่งแตกออกมาเป็นนิกายย่อยๆ หรือเป็นสิ่งที่ปลูกฝังในท้องถิ่นเท่านั้น จะเป็นแบบอื่นไม่ได้ หากแตกต่างไปกว่านั้นถือว่าผิด ยกเว้นคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันเปิดกว้างในการแสดงออก อาจมองว่าพระพุทธรูปอุลตร้าแมนเป็นความคิดสร้างสรรค์ ไม่ใช่การลบหลู่อย่างที่หลายคนมองก็ได้.,กับ พระพุทธรูปอุลตร้าแมน,ปิดจ๊อบประมูลภาพ พระพุทธรูปอุลตร้าแมน ราคาพุ่ง 6 แสน วอนยุติดราม่า,กลุ่มพุทธฯแจ้งจับ นศ.วาด พระพุทธรูปอุลตร้าแมน อ.เฉลิมชัยโดนด้วย,ชาวเน็ตให้กำลังใจเจ้าของภาพ พุทธรูปอุลตร้าแมน เข้าใจไม่ได้ลบหลู่ศาสนา | ไม่ใช่ดราม่าครั้งแรกที่เกิดในสังคมไทย เมื่อภาพวาด พระพุทธรูปอุลตร้าแมน ของนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ถูกคนบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์เป็นการลบหลู่ดูหมิ่นพุทธศาสนา | ข่าว,ทั่วไทย | พระพุทธรูปอุลตร้าแมน,พระพุทธรูปงานศิลปะ,ศาสนาพุทธ,ลบหลู่พุทธศาสนา,ผลงานพุทธศาสนา,ข่าวร้อน,ข่าวเด่น,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1656701 |
3 ตระกูลดังติดโผมหาเศรษฐีเอเชีย | ด้านตระกูล จิราธิวัฒน์ เจ้าของห้างเซ็นทรัล อยู่อันดับ 14 และตระกูล โลเฮีย ชาวอินเดียที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทยนานกว่า 20 ปีจนได้สัญชาติไทย ติดอันดับ 28 เผยตระกูลเศรษฐีชาวภารตะติดโผรวยอู้ฟู่ถึง 17 ตระกูล,50 ตระกูลมหาเศรษฐีเอเชีย มีเจ้าสัวนามสกุลดังเมืองไทยติดอับดับถึง 3 ตระกูล ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ว่า เมื่อเร็วๆนี้ นิตยสารแนวธุรกิจการเงินชื่อดังของสหรัฐฯ ฟอร์บส์ ได้เผยแพร่รายงานอันดับครอบครัว หรือตระกูลมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากที่สุด 50 อันดับในภูมิภาคเอเชีย โดยใช้เกณฑ์วัดความร่ำรวยจากราคาสินทรัพย์ในตลาดหุ้น และอัตราแลกเปลี่ยนที่ปิดตลาดช่วงวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ครอบครัวที่เข้าเกณฑ์ติดอันดับต้องอาศัยอยู่ในเอเชีย และก่อตั้งสร้างธุรกิจส่งทอดกันมาอย่างน้อย 3 รุ่น มีทรัพย์สินรวมตั้งแต่ 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 119,000 ล้านบาท) ขึ้นไป ซึ่งปีนี้ ตระกูลร่ำรวยที่สุด 50 อันดับในเอเชีย มาจากหลาก หลายวงการ ทั้งเทคโนโลยี ปศุสัตว์ เรียล เอสเตท น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มีทรัพย์สินรวมกันกว่า 519,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 18.165 ล้านล้านบาท) โดยมีตระกูลนักธุรกิจจากอินเดีย ติดอันดับมากถึง 1 ใน 3 หรือ 17 ตระกูล,แชมป์ตระกูลร่ำรวยที่สุด 50 อันดับในเอเชียดังกล่าวของปีนี้ อันดับ 1 คือตระกูล ลี เจ้าของเครือธุรกิจ ซัมซุง กรุ๊ป ของเกาหลีใต้ มีธุรกิจด้านส่งออก แปรรูปอาหาร สิ่งทอ และอิเล็กทรอนิกส์ มีทรัพย์สินรวมมูลค่า 29,600 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 1.036 ล้านล้านบาท) เป็นผลจากการคาดการณ์ผลกำไรของการประกอบการไตรมาส 3 ที่สูงกว่ากำไรของปีที่แล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ การรั้งอันดับ 1 ตระกูลร่ำรวยที่สุดในเอเชียของตระกูล ลี มีขึ้นขณะซัมซุงยังมีปัญหามือถือสมาร์ทโฟน รุ่นกาแลคซี โน้ต 7 ที่แบตเตอรี่ร้อนเกินปกติ ทั้งขณะชาร์จไฟและไม่ได้ชาร์จไฟ รวมทั้งเกิดไฟลุกไหม้จนต้องเรียกคืนมือถือรุ่นนี้หลายล้านเครื่องทั่วโลก และกรณีร้องเรียนเครื่องซักผ้าแบบเปิดฝาด้านบนเกิดสั่นรุนแรงขณะทำงานจนฝาหลุด ทำให้ต้องเรียกคืนสินค้าในสหรัฐฯเช่นกัน,ส่วนอันดับ 2 ตระกูล เจียรวนนท์ เจ้าของกลุ่มธุรกิจบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 27,700 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 969,500 ล้านบาท) และอันดับ 3 คือตระกูล อัมบานี ของอินเดีย เป็นเจ้าของธุรกิจด้านโทรคมนาคม และอื่นๆในเครือ รีไลแอนซ์ กรุ๊ป มีทรัพย์สินอยู่ที่ 25,800 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 903,000 ล้านบาท) อันดับ 4-5 คือตระกูล กว๊อค ในฮ่องกง เขตบริหารพิเศษของจีน เจ้าของบริษัท ซัน ฮุง ไค่ ทำธุรกิจด้านการเงินการลงทุนและอื่นๆ ครอบครองทรัพย์สิน 25,200 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 882,000 ล้านบาท) และตระกูล หลี ในฮ่องกงเช่นกัน ทำธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และอื่นๆ,ในนามบริษัท เฮ็นเดอร์สัน ดีเวลอปเมนต์ มีทรัพย์สิน 24,700 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 864,500 ล้านบาท) ตามลำดับอันดับ 6-10 ประกอบด้วย ตระกูล ฮาร์โตโน (อันดับ 6) ในอินโดนีเซีย ทำธุรกิจบุหรี่กานพลู ภายใต้ชื่อบริษัท ดจารุม เป็นเจ้าของทรัพย์สินรวม 18,600 ล้านดอลลาร์ฯ ตระกูล เกวก/เควิก (อันดับ 7) เจ้าของบริษัท หง เหลียง กรุ๊ป ตั้งอยู่ในสิงคโปร์และมาเลเซีย ทำธุรกิจด้านการเงินการธนาคาร มีทรัพย์สินรวม 18,500 ล้านดอลลาร์ฯ ตระกูล เฉิง (อันดับ 8) ในฮ่องกง เจ้าของบริษัท โจว ไท้ ฟุค เอนเตอร์ไพรส์ ซึ่งเป็นธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม เครื่องประดับและอื่นๆ มีทรัพย์สิน 17,300 ล้านดอลลาร์ฯ ตระกูล ไช่ (อันดับ 9) ชาวไต้หวัน เจ้าของบริษัท คาเธ่ย์ ไฟแนนเชียล ด้านการเงินการธนาคารและอื่นๆรวมทั้งประกันภัย มีทรัพย์สินรวม 15,300 ล้านดอลลาร์ฯ และอันดับ 10 คือตระกูล ฮินดูจา มีถิ่นพำนักอยู่ที่อินเดียและอังกฤษ เจ้าของบริษัท ฮินดูจา กรุ๊ป ทำธุรกิจหลากหลายทั้งการเงินการธนาคารไปจนถึงเคเบิลทีวี และรถบรรทุก มีทรัพย์สิน 14,900 ล้านดอลลาร์ฯ,ส่วนอันดับอื่นๆที่น่าสนใจ ตระกูล ชุง ของเกาหลีใต้ เจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์ ฮุนได ติดอันดับ 12 มีทรัพย์สิน 14,500 ล้านดอลลาร์ฯ และตระกูล มิตทาล ของอินเดีย ทำธุรกิจด้านเหล็กและเหมืองแร่ ติดอันดับ 16 ด้วยทรัพย์สินรวม 13,200 ล้านดอลลาร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีตระกูลมหาเศรษฐีร่ำรวยในไทยที่ติดอันดับด้วยอีก 2 ตระกูล คือตระกูล จิราธิวัฒน์ ธุรกิจค้าปลีก เจ้าของห้าง สรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซา ติดอันดับ 14 มีทรัพย์สินรวม 13,800 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 483,000 ล้านบาท) และตระกูล โลเฮีย ชาวอินเดียที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทยนานกว่า 20 ปีจนได้สัญชาติไทย ติดอันดับ 28 ทำธุรกิจด้านพลาสติกและอื่นๆที่เกี่ยวข้องในชื่อบริษัท อินโดรามา คอร์ปอเรชั่น เป็นเจ้าของทรัพย์สินรวม 6,300 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 220,500 ล้านบาท) | นิตยสารฟอร์บส์จัดอันดับ 50 ตระกูลมหาเศรษฐี เอเชีย ยก เจียรวนนท์ ของเจ้าสัวซีพี ติดโผอันดับ 2 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินร่วม9.6 แสนล้านบาท ส่วนอันดับ 1 เป็นของเจ้าพ่อ ซัมซุง ครองแชมป์รวยมหาศาลกว่า 1 ล้านล้านบาท | null | ข่าวหน้า1,ฟอร์บส์,นิตยสารฟอร์บส์,จัดอันดับตระกูลมหาเศรษฐี,ตระกูลมหาเศรษฐี,เจียรวนนท์,เจ้าสัวซีพี,ซัมซุง,จิราธิวัฒน์,ห้างเซ็นทรัล,โลเฮีย,ตระกูลมหาเศรษฐีคนไทย,จัดอันดับคนรวย,ตระกูลร่ำรวยในเอเชีย,มหาเศรษฐีเอเชีย,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/780852 |
น้ำตาจะไหล คลอปป์ หมดคำแก้ตัว ขอโทษเดอะค็อป ทำร่วงสองถ้วยติด | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 28 ม.ค. ว่า เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล หมดสภาพกล่าวขอโทษแฟนบอลหงส์แดงทุกคนที่ทำให้ทีมร่วงตกรอบเอฟเอคัพ ด้วยการแพ้คาบ้านต่อวูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทีมจากเดอะแชมเปี้ยนชิพ 1-2,หงส์แดง ยังทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังเริ่มปี 2017 มาชนะได้เพียง 1 นัดจาก 9 นัด รวมถึงการพ่าย 3 เกมในบ้านติดต่อกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2012 อีกด้วย,โดยหลังเกม คลอปป์ สำนึกผิดสัมภาษณ์แบบหมดอาลัยตายอยากว่า เราเริ่มไม่ดี และมันก็ไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ทุกคนเห็นมันแล้ว มันไม่มีอะไรจะพูดถึงเรื่องๆดีๆในเกมนี้ ยากที่จะอธิบาย,แน่นอนการเริ่มเกมทำให้พวกเขาเพิ่มความมั่นใจทันทีซึ่งเป็นตอนที่เรายังไม่พร้อมอะไรเลย เราได้บอลก็ทำบอลเสีย ทำฟาว์ลโดนลูกฟรีคิกแล้วมันก็เป็นประตู ผมไม่อยากเห็นมันอีกครั้ง,เราพยายามแล้วแต่มันก็ไม่ดีพอในครึ่งแรก แน่นอนในครึ่งหลังเราทำได้ดีกว่าเดิมแต่เราก็ควรทำให้ดีกว่านี้ เราควรทำให้ดียิ่งขึ้นถึงแม้ว่ามันจะใกล้เคียงกับคำว่าเป็นไปไม่ได้ ผมไม่อะไรจะพูดอีกต่อไป ผมขอโทษและขอโทษ | เยอร์เกน คลอปป์กุนซือของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล หมดคำแก้ตัวกล่าวขอโทษเดอะค็อปที่ทำให้ทีมร่วงบอลถ้วยสองรายการติดต่อกันในระยะเวลาเพียง 3 วัน | null | พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,เยอร์เกน คลอปป์,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/845930 |
ตัวแทนรัฐบาลไทย พร้อมพูดคุยสันติภาพ ชายแดนใต้ 28 มี.ค. | พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. นำรายชื่อผู้ร่วมคณะพูดคุยสันติภาพ ชี้แจงต่อคณะรัฐมนตรี ก่อนเปิดหารือแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นัดแรก กับกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น โคออดิเนต ที่ประเทศมาเลเซีย ในวันพรุ่งนี้ ( 28 มี.ค.) ขณะที่ นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยรายชื่อผู้ร่วมเจรจา ก่อนที่จะไปพูดคุยสันติภาพ โดยระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลเปิดเผยรายชื่อ ฝ่ายรัฐบาลที่ยังไม่มีการเปิดเผย ภายในวันนี้(27 มี.ค.) นอกเหนือจากที่เปิดเผย รายชื่อ 5 คน คือ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และ พล.ต.นักรบ บุญบัวทอง รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5ด้านหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้มีการจัดเวทีพูดคุยกับคนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องหลายเวที โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับ การเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบซ้ำ ในห้วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา และผู้นำทางธรรมชาติเป็นตัวแทนในการพูดคุย สำหรับความเคลื่อนไหวรับฟังความเห็นจากภาคประชาชนของฝ่ายความมั่นคงครั้งนี้ มีรายงานว่า สร้างความไม่พอใจให้กับ นายฮาซัน ตอยิบ รองเลขาธิการ และคณะกรรมการของกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะไม่ต้องการให้มีกรรมการจากภาคประชาชนเข้าร่วมหารือในครั้งนี้ เพราะเห็นว่า คู่ขัดแย้งที่ทำให้เกิดความรุนแรงเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลและบีอาร์เอ็น ซึ่งทางกลุ่มบีอาร์เอ็น เชื่อว่า จะสามารถทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ได้เองกรณีนี้ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยังไม่มีรายงานว่า แกนนำบางกลุ่มจะไม่ร่วมพูดคุยด้วย พร้อมยืนยันจะไม่กลายเป็นปัญหาทำให้การเจรจาต้องสะดุด รวมถึงยังไม่กังวลต่อการเคลื่อนไหว ในลักษณะคัดค้านการพูดคุย รวมถึงการขึ้นป้ายรัฐปัตตานีในพื้นที่ภาคใต้ เพราะถือเป็นการแสดงออกของผู้เห็นต่างเท่านั้น ซึ่งคำชี้แจงนี้ สอดคล้องกับความเห็นของนายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ที่ระบุถึงกรณีป้ายผ้าว่า ไม่ได้เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหาย เพราะเป็นการแสดงความเห็นในเชิงบวก และอยากมีส่วนร่วมในการพูดคุยสันติภาพ แต่เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ได้สั่งให้มีการนำป้ายผ้าที่ติดอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ 16 จุด ทั้งที่อำเภอเมือง อำเภอหนองจิก อำเภอโคกโพธิ์ และอำเภอแม่ลาน ออกจากจุดที่มีการติดตั้งแล้ว ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปประสานการพูดคุยล่วงหน้า ในมาเลเซีย พลโทภราดร กล่าวปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น | การพูดคุยสันติภาพ ระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทย กับขบวนการบีอาร์เอ็น โคออดิเนต ในวันพรุ่งนี้ (28 มี.ค.) ตามที่ได้นัดหมายกันไว้หลังมีการพูดคุยกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะมีเสียงสนับสนุนการพูดคุยสันติภาพในครั้งนี้ แต่ก็มีรายงานว่า การที่ฝ่ายความมั่นคงเดินสายพูดคุยกับภาคประชาชนในพื้นที่ สร้างความไม่พอใจให้กับแกนนำบีอาร์เอ็น ที่ไม่ต้องการให้ภาคประชาชนร่วมเจรจา เพราะเห็นว่า เป็นเรื่องระหว่างรัฐกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายชื่อผู้เข้าร่วมเจรจา | สังคม | ขบวนการบีอาร์เอ็น โคออดิเนต,ตัวแทนรัฐบาลไทย,สันติภาพ | https://news.thaipbs.or.th/content/157411 |
คนรุ่นใหม่กับการเลือกตั้งที่(อาจ)จะเกิดขึ้น 24 กุมภาพันธ์ 2562 | ประกาศคลายล็อคการเมือง เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2561 จำนวน 1576 วัน กับระยะเวลาที่ประเทศไทยไม่มีการเลือกตั้ง ยังไม่นับรวมก่อนวันที่ คสช.เข้ามายึดอำนาจ ก่อนการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ถือว่าเป็นเวลาที่นานพอสมควรนอกจากระยะเวลาที่นาน สิ่งสำคัญที่สุดคือการโดนปิดกั้นการแสดงออกถึงเสรีภาพของคนรุ่นใหม่ ปิดกั้นความคิด ปิดกั้นสิทธิ การที่ต้องเติบโตมาในสภาวะการขาดเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การแสดงความคิดเห็นที่โดนเพ่งเล็ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ จนไปถึงเรื่องใหญ่ๆในสังคมที่ปราศจากการเลือกตั้ง จากสังคมรอบข้างในการแสดงทรรศนะที่เกี่ยวกับการเมือง การตั้งคำถามของสังคมกับการเข้าไปมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่ และการเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ บรรยากาศทำให้เกิดการตั้งคำถามมากขึ้นกับสภาพสังคมที่เป็นอย่างทุกวันนี้จำนวนคนรุ่นใหม่ที่อายุครบ 18 ที่ยังไม่เคยได้เลือกตั้งระดับประเทศ ตั้งแต่ปี 2555 - 2560 พบว่ามีคนรุ่นใหม่ ที่ยังไม่เคยได้สัมผัสการเลือกตั้งระดับประเทศมีจำนวนมากถึง 5616261 คน นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 – 2560 เห็นได้ว่าถ้านับช่วงอายุจะเป็น คนรุ่นใหม่ อายุไม่เกิน 22 ปี ในปัจจุบัน ข้อมูลยังไม่รวม ปี พ.ศ.2561 ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งถ้ายิ่งยื้อการเลือกตั้งออกไปนานเท่าไหร่จำนวนคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ก็จะยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆจากสถิติที่พบเกี่ยวกับจำนวนคนรุ่นใหม่ที่ยันไม่เคยได้สิทธิเลือกตั้งกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดข้อมูลในปี2560จากข้อมูลพบว่า มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสการเลือกตั้งมากถึง 11 % ของทั้งหมดจำนวน 11% ที่ไม่เคยสัมผัสบรรยากาศการเลือกตั้ง การหาเสียง การรณรงค์ การเข้าคูหา และ การนับคะแนน ซึ่งทั้งหมด คือบรรยากาศของความเป็นประชาธิปไตย ที่คนรุ่นใหม่ยังไม่เคยได้สัมผัสเข้าไปมีส่วนร่วม เป็นการเสียโอกาสในการเรียนรู้ประสบการณ์การเลือกตั้งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยสิทธิการเลือกตั้งคือปัจจัยขึ้นพื้นฐานของความเป็นพลเมืองที่ทุกคนพึงมี แต่การที่ไม่ได้โอกาสในการใช้สิทธินั้นตามระบอบประชาธิปไตย ของการเข้ามามีส่วนร่วม และ คนรุ่นใหม่ที่โดนปิดกั้นในการแสดงออกทางการเมืองขั้นพื้นฐาน จะเป็นปัจจัยให้การเลือกตั้ง ในปี 2562 ข้างหน้านี้นั้น เป็นแรงขับเคลื่อนพลังของคนรุ่นใหม่ต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น และเป็นการรอเลือกตั้งครั้งแรกของ 5.6ล้านคน หรือ 5.6 ล้านเสียง ที่ยังไม่เคยเข้าคูหา กาบัตรเลือกตั้ง หย่อนบัตรเลือกตั้ง เลยสักครั้งเดียวในชีวิต เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่ได้รับการจับตามองอย่างมากไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและนอกประเทศการก้าวต่อไปในอนาคตของคนรุ่นใหม่กับการเลือกตั้งคนรุ่นใหม่ ที่ยังไม่เคยได้สัมผัสการเลือกตั้งระดับประเทศมีจำนวนมากถึง 5616261 คน นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 – 2560รายงานสถิติจำนวนประชากรประจำปี 2560ระบบสถิติทางการทะเบียนOfficial Statstics Registration Sytstems.ส่วนบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีการทะเบียนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง59 หมู่ 11 ตำบลบึงทองหลาง อำเภอลำลูกกาจังหวัดปทุมธานี 12150-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- จำนวนคนมีสิทธิเลือกตั้ง ปี 2560สสช.สำนักงานสถิติแห่งชาติสถิติประชากรศาสตร์ ประชากรและเคหะจำนวนประชากรจากการทะเบียน จำแนกตามอายุ เพศ และจังหวัด พ.ศ. 2560 | ยุคสมัยการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น หลังจากที่ คสช.ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จวบจนวันนี้ผ่านมารวมระยะเวลาได้เป็นจำนวน 4 ปี 4 เดือน หรือจะเอาข้อมูล แบบจำนวนวันชัดๆก็ 1576 วัน นับถึงวันที่ คสช. | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | bokapyth,WeWatch,เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์เลือกตั้ง,การเลือกตั้ง | https://prachatai.com/journal/2018/09/78870 |
ค้นอิทธิพลอุทัยธานี บ้านอดีต ส.ส.ชาดา-อดุลย์ แถมเครือข่าย 11 จุด | ตำรวจสนธิกำลังทหารและฝ่าย ปกครองค้น 11 จุด เป้าหมายกลุ่มผู้มีอิทธิพลใน จ.อุทัยธานี เข้าตรวจ บ้าน 2 อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ชาดา ไทยเศรษฐ์ และ อดุลย์ เหลืองบริบูรณ์ พร้อมปูพรมค้นบ้านนักการเมืองท้องถิ่น ขณะที่ ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เผยผลการตรวจค้นดำเนินคดี 2 ราย และยึดของกลางไว้ตรวจสอบ,ตำรวจสนธิกำลังเข้าค้นบ้านผู้มีอิทธิพลที่ จ.อุทัยธานี เปิดเผยเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 12 เม.ย. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบช.ภ.6 พล.ต.ต สมจิตร์ ทองแท่ง ผบก.ภ.จ.อุทัยธานี พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ปทส. พ.ต.อ. อัครพล ศรีเสาวลักษณ์ พ.ต.อ.พิษณุ หาญบุญเศรษฐ์ พ.ต.อ.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุทัยธานี สนธิกำลังร่วมกับทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.อุทัยธานี นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน จ.อุทัยธานี 11 จุด ตามนโยบายแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นที่มีพฤติการณ์เป็นผู้กระทำผิด 16 มูลฐานความผิด,จุดแรกเข้าค้นบ้านกลางเขา หมู่ 7 ต.ดอนขวาง อ.เมือง เป็นบ้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 24 ถนนมณีรัตน์ ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง บ้าน น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี พบกระสุนปืนหลายขนาดรวม 131 นัด แมกกาซีนปืน 3 อัน มีด 3 เล่ม ไพ่ 2 สำรับ ลูกเต๋า 1 ถุง กระเป๋าใส่ปืน 1 ใบ จุดที่ 3 บ้านเลขที่ 1-3 ถนนเปรมประชา ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง บ้านนายอดุลย์ เหลืองบริบูรณ์ อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา พบผลิตภัณฑ์แปรรูปงาช้าง 28 ชิ้น อุปกรณ์ลดเสียงอาวุธปืน 1 อัน สำเนาใบเสร็จรับเงินและใบคำสั่งรายชื่อหน่วยลงทุนอีกจำนวนหนึ่ง,จุดที่ 4 บ้านเลขที่ 40/2-3 ต.หลุมข้าว อ.หนองขาหย่าง บ้านนายปภาวิชญ์ บุษวะดี ส.อบจ.เขต 2 อุทัยธานี พบงาช้าง 9 คู่ เขากวาง 2 หัว สร้อยงาช้าง 1 เส้น กำไลงาช้าง 1 อัน มีดงาช้าง 6 เล่ม วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง แผ่นป้ายทะเบียนรถ 9 แผ่น เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว จุดที่ 5 บ้านเลขที่ 49/3 หมู่ 1 ต.ท่าโพ อ.หนองขาหย่าง บ้านนายเผด็จ นุ้ยปรี นายก อบจ.อุทัยธานี พบโฉนดที่ดิน 27 ฉบับ ปืน 9 มม. 1 กระบอก และกระสุน 9 นัด,จุดที่ 6 บ้านเลขที่ 94 หมู่ 7 ต.ท่าซุง อ.เมือง บ้านนายวิชัย ปั้นงาม พบตู้เซฟ 2 ตู้ อุปกรณ์การเล่นไฮโล 1 ชุด ไพ่ 1 สำรับ ปืน 9 มม. 1 กระบอก ปืน 11 มม. 1 กระบอก ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ปืนฉมวก 1 กระบอก มีดพร้า 3 เล่ม และเงินสด 2 แสนบาท จุดที่ 7 บ้านเลขที่ 11 ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน บ้านนายสุรชาติ ตั้งวรชัย พบปืน .32 จำนวน 1 กระบอก จุดที่ 8 บ้านเลขที่ 55 หมู่ 1 ต.หนองแก อ.เมือง บ้านนายอภิรัตน์ ชินพีระเสถียร พบไม้กระยาเลยแปรรูปจำนวนหนึ่ง เขาสัตว์ 4 คู่ วัว 4 ตัว ควาย 28 ตัว จุดที่ 9-10 บ้านเลขที่ 210/39 ต.หนองฉาง อ.หนองฉาง บ้านนายดำรง นพรัตน์ พบปืน 9 มม. กระสุน 9 นัด ปืน .38 พร้อมกระสุน 13 นัด และจุดสุดท้ายบ้านเลขที่ 301/5 หมู่ 1 ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ บ้านนายมนูญ ดอกกุหลาบ พบปืน .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 5 นัด และมีด 11 เล่ม,พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า การตรวจค้นบ้านเป้าหมายทั้งหมด 11 จุด เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายปภาวิชญ์ บุษวะดี ในความผิดมียุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะกันกระสุน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และนายอภิรัตน์ ชินพีระเสถียร ในฐานความผิดมีสัตว์พาหนะไว้ในครอบครองโดยไม่มีตั๋วรูปพรรณ นำสัตว์พาหนะข้ามเขตโดยไม่ผ่านการตรวจของแพทย์ มีซากสัตว์ (เขาสัตว์ป่าคุ้มครอง) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับของกลางประเภทปืน เครื่องกระสุนปืน ไม้แปรรูปและงาช้าง ตำรวจยึดไว้ตรวจสอบหากผิดกฎหมายจะดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป | ตำรวจสนธิกำลังทหารและฝ่ายปกครองค้น 11 จุด เป้าหมายกลุ่มผู้มีอิทธิพลใน จ.อุทัยธานี เข้าตรวจบ้าน 2 อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ชาดา ไทยเศรษฐ์ และ อดุลย์ เหลืองบริบูรณ์ พร้อมปูพรมค้นบ้านนักการเมืองท้องถิ่น | null | ข่าวหน้า1,ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,อุทัยธานี,ชาดา ไทยเศรษฐ์,ค้นอิทธิพล,อดุลย์ เหลืองบริบูรณ์,นักการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/605155 |
ร่วมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี แห่งการสำรวจดวงจันทร์ ไปกับเรือนเวลาแรกที่สวมใส่บนดวงจันทร์ – SPEEDMASTER APOLLO 11 – 50th Anniversary Limited Edition [Advertorial] | เมื่อ 50 ปีก่อน วันที่ 21 กรกฎาคม ปี 1969 มนุษยชาติต่างรุมเฝ้าหน้าจอ เพื่อรอดูเหตุการณ์ครั้งสำคัญของโลกและของมวลมนุษยชาติเรายอมรับว่า แม้เราเองจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นเพราะเกิดไม่ทัน แต่ตอนที่เราดูวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ในครั้งนั้น ยอมรับว่าเราน้ำตาคลอ เพราะไม่คาดคิดว่าก้าวเล็กๆ ก้าวนั้นจะสำคัญอย่างยิ่งยวดมากถึงขนาดนี้วินาทีที่ทั้ง นีล อาร์มสตรอง และ บัซซ์ อัลดริน ประทับรอยเท้าลงบนพื้นผิวของดวงจันทร์ เราอาจจะสนใจแค่ภาพรอยเท้าเล็กๆ บนดวงจันทร์ แต่มากกว่านั้นคือ การที่บนข้อมือของหนึ่งในนั้นสวมใส่เรือนเวลา สัญลักษณ์แห่งความช่างประดิษฐ์ที่นำพาเราเดินทางไปสู่ดินแดนใหม่ที่แท้จริงโอเมก้า สปีดมาสเตอร์ โปรเฟสชันแนล (Omega Speedmaster Professional) คือนาฬิกาเรือนแรกของมวลมนุษยชาติที่ถูกสวมใส่บนดวงจันทร์อย่างแท้จริงและเพื่อเฉลิมฉลองแห่งวาระครบรอบ 50 ปี กับความสำเร็จของภารกิจสำรวจดวงจันทร์ โครงการอพอลโล 11 – โอเมก้า (OMEGA) จึงได้ผลิตเรือนเวลารุ่นพิเศษ เชิญชวนคุณให้รำลึกถึงคืนวันแห่งประวัติศาสตร์นี้ไปด้วยกันกับ SPEEDMASTER APOLLO 11 – 50th Anniversary Limited Edition ในจำนวนจำกัดเพียง 6969 เรือนในโลกเท่านั้นความน่าสนใจก็คือ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ภายใน ที่แสดงถึงความใส่ใจและความเอ็กซ์คลูซีฟในการผลิตเรือนเวลาครั้งประวัติศาสตร์นี้เริ่มต้นด้วยวัสดุสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จดสิทธิบัตรและเป็นเอกสิทธิ์พิเศษเท่านั้นของ OMEGA อย่างมูนไชน์โกลด์ 18 กะรัต (18K MoonshineTM Gold) พร้อมโทนสีทองคำชนิดใหม่ที่สีอ่อนและนวลกว่าเยลโลว์โกลด์เดิม แถมด้วยความทนทานและความเงางามตลอดไปอีกด้วยนี่คือนวัตกรรมและวิศวกรรมที่กลมกลืนกันเป็นหนึ่งเดียว เรือนเวลารุ่นพิเศษนี้จะยังคงความคลาสสิกของสปีดมาสเตอร์เจเนอเรชันที่ 4 ไว้อย่างครบถ้วน ด้วยตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร ผลิตจากสเตนเลสสตีล พร้อมขอบตัวเรือนสีดำขัดเงา รังสรรค์จากเซรามิก ZrO2 ที่ผ่านกระบวนการผลิตสุดสลับซับซ้อนประดับตัวเลขบนมาตรวัดทาคีมิเตอร์ด้วยเซร่าโกลด์ (OMEGA CeragoldTM) และยังสง่างามไปอีกขั้นด้วยอินเด็กซ์ โลโก้ และเข็มบอกเวลา ที่รังสรรค์จากมูนไชน์โกลด์ 18 กะรัต ตัดกับพื้นหน้าปัดสีเทาดำอย่างเลอค่าและลงตัวมาดูดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจและเพิ่มความล้ำค่ายิ่งขึ้นไปอีก อาทิ เลข 11 ที่ตำแหน่ง 11 นาฬิกา สื่อถึงยานอพอลโล 11 ภาพแกะสลักเลเซอร์ของ บัซซ์ อัลดริน ขณะก้าวเท้าไต่ลงมาจากยานอพอลโล 11 บนวงหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกาพลิกฝาหลังจะพบกับ รอยเท้าของนักบินอวกาศ ที่ซ่อนอยู่ใต้กระจกคริสตัลแชฟไฟร์ แกะสลักอย่างประณีตด้วยเลเซอร์บนพื้นสีดำ ให้ความสมจริงเป็นที่สุด ล้อมกรอบวงกลมด้วยประโยคในตำนานของ นีล อาร์มสตรอง ที่ว่า THATS ONE SMALL STEP FOR A MAN ONE GIANT LEAP FOR MANKIND ที่แน่นอนว่าเป็นตัวอักษรที่ชุบมูนไชน์โกลด์ 18 กะรัตอีกด้วยส่วนวงแหวนฝาหลังด้านนอกแกะสลักข้อความ APOLLO 11 / 50th ANNIVERSARY และ LIMITED EDITION รวมถึงหมายเลขลำดับนาฬิกาตัวอักษรสีดำ และข้อความ NAIAD LOCK Cal. 3861 และ CO-AXIAL MASTER CHRONOMETER แกะสลักอย่างกลมกลืนไปกับเนื้อสเตนเลสสตีลเหนือระดับไปอีกขั้นกับกลไล OMEGA Co-Axial Master Chronometer คาลิเบอร์ 3861 ที่ใช้เวลาในการพัฒนายาวนานถึง 4 ปี ยกมาตรฐานการแสดงเวลาของโอเมก้าให้มีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูงสุดยิ่งกว่าเดิม ต้านทานต่อสนามแม่เหล็กได้ถึง 15000 Gauss และผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับมาสเตอร์ โครโนมิเตอร์ (Master Chronometer)ความพิเศษนี้ไม่ได้มาแค่เรือนเวลาสุดพิเศษแห่งวาระประวัติศาสตร์ 50 ปี แห่งการสำรวจดวงจันทร์นี้เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมสายนาฬิกาสเตนเลสสตีลขัดเงาตัดสลับขัดด้าน พร้อมประทับตราสัญลักษณ์โอเมก้า Ω ลงบนบานพับสำหรับล็อกสายนาฬิกาอีกด้วยพิเศษกว่านั้นคือ กล่องนาฬิกาออกแบบพิเศษในสไตล์นาซา ภายในประกอบด้วย SPEEDMASTER APOLLO 11 50th Anniversary Limited Edition ดิสเพลย์ดีไซน์คล้ายกับยานสำรวจดวงจันทร์ (Lunar Module) มาพร้อมกับอุปกรณ์เปลี่ยนสายและสายสำรองที่ออกแบบพิเศษโดยใช้วัสดุเดียวกับฉนวนกันความร้อนที่จรวด Saturn V ใช้ป้องกันความร้อนมหาศาลจากการปล่อยตัวออกจากฐานสู่นอกโลกSPEEDMASTER APOLLO 11 5oth Anniversary Limited Edition ผลิตจำกัดเพียง 6969 เรือน ราคา 335000 บาทพบกับ ทั้งเรือนเงินและเรือนทอง ได้ที่งาน Golden Moments เอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี แห่งความสำเร็จให้กับภารกิจพิชิตดวงจันทร์ นำท่านย้อนเวลาสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ เข้าสู่ห้วงวินาทีที่สองนักบินอวกาศแห่งโครงการอพอลโล 11 ประทับรอยเท้าอันยิ่งใหญ่แห่งมวลมนุษยชาติลงบนพื้นผิวดวงจันทร์พร้อมดื่มด่ำกับความล้ำค่าของเหล่าเรือนเวลาสปีดมาสเตอร์ นวัตกรรมแห่งเวลาเรือนแรกที่ถูกสวมใส่บนดวงจันทร์และพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ คุณเทอร์รี่ เวิร์ตส์ วีรบุรุษแห่งองค์การนาซา นักบินอวกาศผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลากมิชชันสุดหฤโหด และ คุณเกรกอรี คิสสลิง Head of Product Management ของโอเมก้า สวิตเซอร์แลนด์ ที่บินตรงร่วมฉลองไปพร้อมกับคุณในวันอังคารที่ 6 สิงหาคมนี้ เวลา 18.30 น. ณ วัน แบงค็อก (One Bangkok)และสัมผัสนวัตกรรมชั้นเลิศและประสบการณ์เหนือระดับไปกับ OMEGA ได้ที่บูติก สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 0 2160 5959สาขาสยามพารากอน โทร. 0 2129 4878สาขาดิเอ็มโพเรียม โทร. 0 2664 9550พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล | เมื่อ 50 ปีก่อน วันที่ 21 กรกฎาคม ปี 1969 มนุษยชาติต่างรุมเฝ้าหน้าจอ เพื่อรอดูเหตุการณ์ครั้งสำคัญและเป็นประวัติศาสตร์ อย่างการประทับรอยเท้าลงบนพื้นผิวของดวงจันทร์ โดยสองนักบินอวกาศ นีล อาร์มสตรอง และ บัซซ์ อัลดรินมากกว่านั้นคือ การที่บนข้อมือของหนึ่งในสองนักบินอวกาศได้สวมใส่เรือนเวลาสัญลักษณ์แห่งความช่างประดิษฐ์ลงไปสำรวจดวงจันทร์ด้วยOMEGA ร่วมเฉลิมฉลองวาระพิเศษนี้ด้วย SPEEDMASTER APOLLO 11 – 50th Anniversary Limited Edition ที่ผลิตขึ้นเพียง 6969 เรือนบนโลกเท่านั้น | null | null | https://thestandard.co/speedmaster-apollo-11-50th-anniversary-limited-edition/ |
ชาวบ้านแห่กราบไหว้ ศาลตาจันดี-ยายสี หลังให้เลขเด็ดอยู่ในรางวัลที่ 1 | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ก.ค.63 รางวัลที่ 1 ได้แก่ 3 4 7 2 5 8 ปรากฏว่า ชาวบ้านหางคลอง ม.5 ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย เกือบทั้งหมู่บ้านได้เดินทางมา ที่ ศาลตาจันดี-ยายสี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งตั้งอยู่ภายใน วัดพลายชุมพล วัดเก่าแก่สมัยสุโขทัยกว่า 700 ปี ตั้งอยู่ที่บ้านหางคลองเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.63 ได้มีการทำพิธีขอโชคลาภ ซึ่งชาวบ้านได้พากันจ้องมองหยดน้ำตาเทียน ที่ลอยเกาะกลุ่มกัน ในอ่างน้ำมนต์ บริเวณหน้าศาล เพื่อนำไปตีเป็นเลขเด็ด ปรากฏว่า น้ำตาเทียนลอยเกาะกลุ่มกันเห็นเลขทั้งหมด 5 ตัว คือ 1-2-5-6-8 ทำให้ชาวบ้านและบรรดาคอหวยนักเสี่ยงโชค นำเลขทั้ง 5 ตัวนี้ ไปเสี่ยงโชคเมื่อประกาศผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 ก.ค.63 พบว่ามีเลข 5 8 อยู่ในรางวัลที่ 1 จึงเป็นที่ฮือฮาให้กับวงการหวยอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้มีคนถูกหวย 3 ตัวตรง ด้วยเลขเด็ดในอ่างน้ำมนต์ของศาลตาจันดี-ยายสี เป็นจำนวนมากน.ส.อนงค์ แย้มสา อายุ 34 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนไปร่วม พิธียกเสาเอกพระอุโบสถหลังใหม่ ของวัดพลายชุมพล ก่อนกลับได้ไปกราบขอโชคลาภที่ศาลตาจันดี-ยายสี พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน เมื่อจ้องมองในอ่างน้ำมนต์ ก็เห็นน้ำตาเทียนลอยเกาะกลุ่มกันมีเลข 1-2-5-6-8 จึงนำไปเสี่ยงโชคได้เงินมาเกือบ 2 หมื่นบาท. | ชาวบ้านแห่กราบไหว้ ศาลตาจันดี-ยายสี วัดพลายชุมพล หลังให้ เลขเด็ด ขันน้ำมนต์มีเลข 5 8 อยู่ในรางวัลที่ 1 งวด 1/7/63 | ข่าว,ทั่วไทย | หวยไทยรัฐ1-7-63,ตรวจหวย,หวย,เลขเด็ด,สลากกินแบ่งรัฐบาล 1 กรกฎาคม 2563,เลขเด็ด1-7-63,ศาลตาจันดี-ยายสี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1880484 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.