title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
|---|---|---|---|---|---|
พระเทพฯ ทรงดูงาน พระเมรุฯ คืบไปกว่า ที่กำหนด | จัดสร้าง ขณะที่งานภูมิทัศน์เริ่มขึ้นหุ่นจำลองสระอโนดาตสัตว์หิมพานต์ 4 ทิศ ขึ้นโครงหุ่นพระโกศจันทน์คืบ 60 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเผยแบบพระที่นั่งราเชนทรยานลายกระจังปฏิญาณพร้อมแกะสลักลวดลาย,ที่ท้องสนามหลวง เมื่อเวลา 07.12 น. วันที่ 31 มี.ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ยังบริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ทอดพระเนตรความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ สำนักราชเลขาธิการ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศฯ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมทีมวิศวกรกรมศิลปากร เจ้าหน้าที่สำนักช่างสิบหมู่ และจิตอาสาเฝ้ารับเสด็จฯ,ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวิธานสถาปกศาลา (โรงขยายแบบ) ทอดพระเนตรความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้างพระเมรุมาศ โดยมีนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เฝ้ากราบบังคมทูลถวายรายงานความคืบหน้าการสร้างพระเมรุมาศรวมถึงอาคารประกอบงานประติมากรรมประดับพระเมรุมาศจัดสร้างพระโกศจันทน์และงานประณีตศิลป์ ได้แก่งานจัดสร้างพระโกศจันทน์ พระโกศทองคำลงยาทรงพระบรมอัฐิ รวมถึงการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถพระยานมาศ ได้แก่ ราชรถราเชนทรยาน การจัดสร้างพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย เพื่อใช้ในการอัญเชิญพระสรีรางคาร จากนั้นทอดพระเนตรการขยายแบบร่างงานจัดสร้างปั้นลวดลายและหล่อส่วนประกอบ ประดับตกแต่งและการลงสีประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศ โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเฝ้ากราบบังคมทูลถวายรายงาน,พล.อ.ธนะศักดิ์ เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า การจัดสร้างพระเมรุมาศสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ และพระยานมาศ ภาพรวมการก่อสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบต่างๆ ถือว่าก้าวหน้าไปกว่าร้อยละ 30 ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ แต่เป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบ รวมทั้งยังเน้นเรื่องความแข็งแรงมั่นคงและปลอดภัย โดยมีระบบทดสอบตรวจจับทิศทางลมด้วยกล้องอย่างดี เพื่อดูความสั่นสะเทือนของเสาแต่ละต้น แม้ว่าช่วงนี้จะมีลมแรงจากพายุฝนฤดูร้อนบ้าง ก็ไม่ได้รับผลกระทบ คาดว่าการดำเนินงานทุกอย่างจะแล้วเสร็จไม่เกินสิ้นเดือนกันยายนอย่างแน่นอน เพื่อจะได้มีเวลาดำเนินการงานศิลปกรรมและภูมิทัศน์ด้วยความละเอียดและประณีตให้ออกมาเป็นความงดงามเหมือนยกสรวงสวรรค์มาไว้ และเมื่อทราบวันที่ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ วันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ แล้วจะสามารถนับถอยหลังดำเนินการได้,รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า การจัดสร้างพระเมรุมาศนั้น งานโครงสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 55 โดยได้วางฐานราก ตั้งเสาบุษบกประธาน บุษบกซ่างและบุษบกหอเปลื้องเสร็จเรียบร้อยทั้ง 9 องค์ และเริ่มขึ้นโครงหลังคาชั้นเชิงกลอนของบุษบกชั้นที่ 4 จากทั้งหมด 7 ชั้น คาดว่าเรือนยอดบุษบกทั้ง 9 ยอดจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งโครงสร้างของพระเมรุมาศจะรองรับการติดตั้งลิฟต์ทั้งหมด 2 จุดจากพื้นจนถึงชั้นที่ประดิษฐานพระจิตกาธาน ซึ่งเป็นชั้นบนสุดบริเวณฝั่งทิศตะวันออก 1 แห่ง รองรับการเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ และอีก 1 จุดบริเวณทางขึ้นฝั่งทิศใต้ สำหรับพระวงศานุวงศ์และข้าราชบริพารในพระองค์ผู้สูงอายุและเป็นลิฟต์สำรองกรณีฉุกเฉิน อีกทั้งยังจัดทำแบบซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ทั้งหมด 3 แบบ ส่งให้กับ กทม. กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำไปให้วัดและสถานที่ต่างๆที่กำหนดให้มีการตั้งจุดถวายดอกไม้จันทน์ดำเนินการจัดสร้าง โดยในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ จะส่งต่อให้สถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศต่างๆดำเนินการ,ด้านนายพิจิตร นิ่มงาม นายช่างศิลปกรรมอาวุโส สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวว่า การจัดสร้างหีบพระบรมศพจันทน์ได้จัดทำโครงสร้างโลหะคืบหน้าไปแล้ว 60 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเรียบร้อยก็จะบุตาข่ายลวดเพื่อนำลวดลายที่ฉลุมาประกอบติดบานพระหีบจันทน์ตามตำแหน่งที่วางไว้ ซึ่งลวดลายต่างๆ จัดทำคืบหน้าแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนงานสร้างพระโกศจันทน์กำลังเริ่มเขียนรูปทรงโครงสร้างขนาดเท่าจริง อย่างไรก็ตาม ตามแผนงานจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายในสิงหาคมนี้ สำหรับการจัดสร้างพระโกศจันทน์ครั้งนี้ นอกจากมีช่างจิตอาสาที่คัดเลือกมาร่วมงานแล้ว ยังมีจิตอาสาจากจังหวัดลำปางที่เพิ่งเข้ามาช่วยงานอีก 25 คน ได้แก่ นักเรียนนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคลำปาง มาช่วยงานโกรกฉลุลวดลาย และเด็กนักเรียนจากโรงเรียนแจ้ห่มวิทยา ช่วยงานขัดกระดาษทรายไม้จันทน์,ขณะที่นายพรธรรม ธรรมวิมล ภูมิสถาปนิกสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร กล่าวว่า ได้ร่วมกับกลุ่มงานประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ จัดทำแบบจำลองสระอโนดาต ภูมิสถาปัตยกรรมรอบพระเมรุมาศ ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรก การออกแบบครั้งนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อสื่อให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพและพระราชกรณียกิจด้านน้ำของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในอัตราส่วน 1 ต่อ 10 โดยออกแบบเป็นสระน้ำล้นสีมรกตประดับด้วยโขดหินแบบไทยและสัตว์หิมพานต์ ช้าง ม้า วัว สิงห์ แบ่งเป็น 4 ทิศ ทิศละ 30 ตัว ได้แก่ ทิศเหนือเป็นสัตว์ตระกูลช้าง ทิศใต้เป็นสัตว์ตระกูลวัว ทิศตะวันออกเป็นสิงห์ และทิศใต้เป็นม้า จากนั้นจะถอดแบบสำหรับจัดสร้างเท่าขนาดจริง ซึ่งแต่ละด้านจะมีความยาว 4 เมตร รวมความสูงเกือบ 3 เมตร โดยนำภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดสุทัศนเทพวราราม มาเป็นต้นแบบในการดำเนินการและจัดวางรูปปั้นสัตว์หิมพานต์ให้มีความสง่างาม นอกจากนี้ ยังมีการลงรายละเอียดแบบกระถาง 10 แบบ งานล้อมย้ายต้นมะขามรอบพื้นที่จำนวน 14 ต้น ไปอนุบาลที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี,ส่วนนางวิจิตร ไชยวิชิต ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านช่างศิลปกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กล่าวว่า ช่างสิบหมู่ออกแบบพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย สำหรับใช้ในการอัญเชิญพระสรีรางคาร โดยขยายแบบเสร็จแล้วเริ่มดำเนินการแปรรูปไม้แกะสลักลายองค์ประกอบต่างๆ และขึ้นโครงสร้างไม้บุษบก ซึ่งการออกแบบพระที่นั่งนั้นจะใช้รูปทรงของราชรถราเชนทรยานมาเป็นต้นแบบ แต่เป็นรูปทรงบุษบกตัวเรือนทำด้วยไม้สลักลวดลายกระจังปฏิญาณประดับครุฑยุดนาค แต่ไม่มีพนักพิง ซึ่งต่างจากราชรถราเชนทรยาน ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขึ้นโครงสร้างตัวเรือนเตรียมลงมือแกะสลักลวดลายหน้ากระดาน และฐานสิงห์ มีความสูง 4.10 เมตร ซึ่งสำนักช่างสิบหมู่จะเป็นผู้จัดสร้างเองทั้งหมด,ต่อมาในเวลา 19.00 น. สมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศล มีพระพิธีธรรม 8 รูปจากวัดอนงคารามวรวิหาร และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ โดยมีมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มูลนิธิสิรินธร มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า มูลนิธิมหาจักรีสิรินธร เพื่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกุล มูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มูลนิธิสยาม บรมราชกุมารีเพื่อโรงเรียนจิตรลดา ร้านภูฟ้า และมูลนิธิราชสุดา ร่วมเป็นเจ้าภาพ,สำหรับบรรยากาศการเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตลอดวันพสกนิกรจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ สระแก้ว พัทลุง จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช ฯลฯ ได้เข้ามาถวายสักการะพระบรมศพด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 27,514 คน รวม 148 วัน มี 5,736,443 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 1,986,258 บาท รวม 148 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 474,124,533.01 บาท | สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี เสด็จฯส่วนพระองค์ทอดพระเนตรการก่อสร้างพระเมรุมาศ ขณะที่กรมศิลป์เผยภาพรวมจัดสร้างพระเมรุมาศคืบ 30 เปอร์เซ็นต์ ติดตั้งลิฟต์ 2 จุด พร้อมส่ง 3 แบบซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ให้ กทม.-มท. และ กต. | ข่าว | สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,อัศวิน ขวัญเมือง,พระเมรุมาศ,พระยานมาศฯ,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/901635 |
เตือนลอยกระทง ดื่มไม่ขับ ปี 55 อุบัติเหตุคร่าชีวิต 99 ราย | ทำให้จำนวนรถบนถนนมีเพิ่มมากโดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นสิ่งที่เป็นกังวล คือ การฉลองส่วนใหญ่มักหนีไม่พ้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถส่งผลให้การควบคุมตนเองและสมาธิในการขับขี่ลดน้อยลงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและมีความรุนแรงสูงนำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินในวันดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติโดยเทศกาลลอยกระทงในปี 2555 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร 78 ราย และเสียชีวิตจากการจมน้ำ 21 ราย รวม99 ราย บาดเจ็บ 678 ราย จึงขอให้ประชาชนลดละเลิกพฤติกรรมเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้นายพรหมมินทร์กล่าวว่า วิธีการเที่ยววันลอยกระทงให้สนุกและปลอดภัย คือ การตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งานศึกษาเส้นทางให้รอบคอบ และควรออกก่อนเวลาเพื่อเลี่ยงจราจรติดขัดเพิ่มความระมัดระวังในการขับไม่ขับเร็วเกินกำหนดไม่ดื่มสุราหากต้องขับรถ และปฏิบัติตามกฎจราจรส่วนผู้ที่นำรถจักรยานยนต์ไปเที่ยวงานต้องสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายส่วนการเล่นพลุดอกไม้ไฟ ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ อาจได้รับอันตรายการการเล่นและเกิดไฟไหม้ได้ซึ่งการเล่นพลุ ดอกไม้ไฟ หากสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น จะมีโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 14000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับสำหรับวิธีการป้องกันอุบัติภัยในวันลอยกระทงข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีดังนี้คือ1. เลือกลอยกระทงบริเวณท่าน้ำหรือโป๊ะเรือที่มั่นคงแข็งแรงหากนั่งเรือควรสวมใส่เสื้อชูชีพ รวมถึงขึ้นลงเรืออย่างเป็นระเบียบ2.ควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด และมีให้เด็กลงไปในน้ำเพื่อเก็บเงินในกระทง 3. ให้สัญญาณก่อนจุดพลุทุกครั้ง และออกให้ห่างจากบริเวณที่จุดพลุในระยะ10เมตรขึ้นไป4.ห้ามจุดพลุ ดอกไม้ไฟ บริเวณใกล้แนวสายไฟสถานีบริการน้ำมัน วัตถุไวไฟ และแหล่งชุมชน 5. ห้ามนำดอกไม้ไฟที่จุดไฟไม่ติดมาจุดซ้ำหรือใช้ปากเป่าให้ไฟติดและไม่ยื่นหน้าหรืออวัยวะต่างๆเข้าใกล้ดอกไม้ไฟที่จุดไฟแล้ว6. ไม่ดัดแปลงพลุดอกไม้ไฟ ให้มีแรงอัดหรือแรงระเบิดพลุ7. หลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอยใกล้แหล่งชุมชน 8. ห้ามปล่อยโคมลอยบริเวณโดยรอบสนามบิน หรือช่วงที่เครื่องบินขึ้น-ลง | 13 พ.ย.2556 นายพรหมมินทร์กัณธิยะผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.)กล่าวว่า เทศกาลวันลอยกระทงในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ย.ถือเป็นวันที่ประชาชนจะเดินทางไปลอยกระทง | คุณภาพชีวิต | ดื่มไม่ขับ,ลอยกระทง,อุบัติเหตุ | https://prachatai.com/journal/2013/11/49782 |
วิษณุ เผย นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ ถวายร่างแก้รธน.แล้ว | เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 18 ก.พ.2560 ที่สถาบันพระปกเกล้า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชามติให้เป็นไปตามข้อสังเกตพระราชทาน ว่า นายกฯ ได้นำร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ตอนนี้อยู่ในพระราชอำนาจ ขึ้นอยู่ว่าทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานลงมาเมื่อใด ภายใน 90 วัน เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวบัญญัติไว้ ส่วนการเปิดเผยเนื้อหาที่แก้ไขนั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการเรียบเรียง โดยตนคิดว่าจะนำเรื่องนี้รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ จากนั้นรัฐบาลจะเปิดเผยต่อไปในเร็วๆ นี้ จึงขอให้รอฟังรายละเอียดจากรัฐบาล,เมื่อถามถึงโรดแม็ปการเลือกตั้ง นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ขั้นตอนที่จะทำอะไรก่อนหลัง แต่ละขั้นมีระยะเวลาเท่าใดนั้นมีไว้แล้ว เพียงแต่ยังหาวันเวลานับหนึ่งของแต่ละขั้นไม่ได้ วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นตัวกำหนดอะไรหลายอย่าง อย่างการเลือกตั้งต้องดำเนินการภายใน 150 วัน หลังจากเริ่มบังคับใช้กฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ขอยืนยันว่าทุกอย่างในโรดแม็ปยังเป็นอย่างเดิม แต่อย่าเพิ่งคาดคั้นเวลา เพราะยังหาเวลาเริ่มต้นที่ชัดเจนไม่ได้. | วิษณุ เผย นายกฯ ได้นำร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย แล้ว รอโปรดเกล้าฯ ลงมาใน 90 วัน ส่วนการเปิดเผยเนื้อหาที่แก้ไขน่าจะมีเร็วๆ นี้ ยืนยันตามโรดแม็ปเดิม แต่อย่าคาดคั้นเอาเวลา เพราะยังหาเวลาเริ่มไม่ชัดเจน | เลือกตั้ง | ร่างรัฐธรรมนูญ,ร่างแก้ไข รธน.,วิษณุ เครืองาม,โรดแม็ป,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/content/861348 |
เดินทางอย่างระมัดระวัง | ดินจะทลาย,เผลอแป๊บเดียว มันเดินดุ่ยๆมาใกล้วันขึ้นปีใหม่อีกแล้ว,ช่วงเวลาแห่งความสุขแบบนี้แหละ ที่มีตัวป่วนทำให้อารมณ์รื่นเริงของคนไทยเหมือนดิบๆสุกๆยังไม่ชอบกล?,เริ่มจากการตีฆ้องร้องป่าวของหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะตำรวจที่มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน เพราะแต่ละเทศกาลทำให้คนไทยสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก,ภาครัฐเลยต้องออกสารพัดมาตรการป้องกัน แต่ดูเหมือนไม่ได้ทำให้อุบัติเหตุน้อยลงซักเท่าไหร่?,จนประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่เกิดอุบัติเหตุมากเป็นอันดับ 2 ของโลก จากการเก็บข้อมูลของ ศูนย์ความร่วมมือแห่งองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนในประเทศไทย,รายงานว่าในปี 2559 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 22,356 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีผู้เสียชีวิต 19,479 คน เพิ่มขึ้น 2,877 คน,และ 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายในช่วงวัยรุ่นและวัยทำงานอายุระหว่าง 15-29 ปี ถือเป็นตัวเลขที่มาก เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศที่ไม่ถึง 70 คน,ไม่รวมผู้ได้รับบาดเจ็บและพิการอีกปีละนับล้าน ตีเป็นมูลค่าความสูญเสียไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท,แถมคาดว่าปีนี้ 2560 ประเทศไทยจะมาแรงแซงโค้งมาเป็นอันดับ 1 ??,นั่นเป็นตัวเลขของ WHO จัดเก็บ และเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติของประเทศไทยที่ทุกรัฐบาลพยายามแก้ไข,ที่สำคัญ มันเป็นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลแห่งความสุข ถ้าคนไทยเองรู้จักรับผิดชอบและระมัดระวังตัว,เชื่อว่าความสูญเสียจะไม่ออกมาเป็นแบบนี้?,ที่ว่ามานี่ไม่ใช่อะไร แค่อยากเตือนสติผู้ที่กำลังเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงส่งท้ายปีเก่า 2560 ต้อนรับปีใหม่ 2561 ตามสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ ช่วยระวังให้จงหนัก,ต้องหูไวตาไวเผื่อแผ่ความระแวดระวังที่จะเกิดขึ้นไปถึงผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนด้วย,สุดท้ายขอให้แฟน นสพ.ไทยรัฐ พบกับความสุขความเจริญ อยู่รอดปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตลอดปี 2561 ที่จะมาถึงด้วยเถิด,สหบาท | วันเวลาไม่เคยรอใคร ไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้องพายุจะถล่ม ดินจะทลาย เผลอแป๊บเดียว มันเดินดุ่ยๆมาใกล้วันขึ้นปีใหม่อีกแล้ว | null | เทศกาลปีใหม่,การเดินทาง,อุบัติเหตุ,ส่องตำรวจ,สหบาท,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1165318 |
สลด สาวคอนสารขับเก๋งชนเสาไฟ ดับ3ศพที่สีคิ้ว ผัวรอจนเช้าเมียไม่ถึงบ้าน | เวลา 00.20 น. วันที่ 6 ก.พ. ร.ต.ท.ธีระพงศ์ พินิจมนตรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุรถเก๋งชนเสาไฟฟ้า มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บติดอยู่ในรถหลายคน บริเวณหลัก กม.ที่ 9 ริมถนนสายสีคิ้ว-ด่านขุนทด ท้องที่ ต.กุดน้อย อ.สีคิ้ว,ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งสีขาว ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ หมายเลขทะเบียน กง 9525 เลย ชนอัดเข้ากับเสาไฟฟ้าริมถนนขาไป อ.ด่านขุนทดจนด้านหน้าและตัวถังรถมีสภาพพังยับคล้ายเศษเหล็ก ในซากรถพบคนถูกอัดอยู่ 4 คน เมื่อเห็นว่าไม่มีทางนำตัวผู้เคราะห์ร้ายออกจากซากรถได้ พ.ต.อ.เฉลิมศัก สุขสำราญ ผกก.สภ.สีคิ้ว จึงสั่งให้หน่วยกู้ภัยนำเครื่องตัดถ่างมา ตัดเหล็กตัวถังรถออก,พบว่า 2 ใน 4 คนที่ถูกอัดก๊อบปี้เสียชีวิตแล้ว ทราบชื่อมี น.ส.ฐิติพร ไหว้บุญส่ง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290 หมู่ 8 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ คนขับ เสียชีวิตคาพวงมาลัย และนายทวี ชัยโวหาร อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 4 ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย สภาพศพมีบาดแผลทั่วตัว ,ส่วนคนเจ็บหมดสติชื่อ นายประเสริฐ ชัยโวหาร อายุ 24 ปี ลูกชายของนายทวี อยู่บ้านเดียวกัน และนางวีระวรรณ ใจซื่อ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 7 ต.โนนหัน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น หน่วยกู้ภัยรีบนำตัวส่ง รพ.สีคิ้ว และส่งต่อไปรักษาที่ รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา,ต่อมา เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.ธีระพงศ์ ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้รับแจ้งจาก รพ.เทพรัตน์ว่า แพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่นางวีระวรรณ ใจซื่อ ได้เสียชีวิตลง รวมผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ 3 ศพ,จากการสอบสวนเบื้องต้น และข้อสันนิษฐานของตำรวจ คาดว่าคนขับคงหลับใน หรือรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูง แล้วคนขับคือ น.ส.ฐิติพร หักหลบกองดินหรือสิ่งกีดขวาง เนื่องจากถนนสายนี้กำลังก่อสร้างจาก 2 เลนเป็น 6 เลน เป็นเหตุให้รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า จนมีผู้เสียชีวิตถึง 3 ศพดังกล่าว,จากนั้นเวลา 12.00 น. ได้มีนายชินกร ฉิ่งศิริ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302 หมู่ 8 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ธีระพงศ์ โดยบอกว่าเป็นสามีของ น.ส.ฐิติพร ผู้ตาย ต้องการมารับศพภรรยาไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยนายชินกรแจ้งว่า ผู้ที่นั่งมาในรถของภรรยา ทำงานเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ายี่ห้อหนึ่ง เดินทางไปสัมมนาที่บริษัทแม่จัดขึ้นที่ กทม. และหลังเสร็จจากอบรมแล้ว ภรรยาโทรศัพท์มาบอกว่ากำลังเดินทางกลับบ้าน ตนรอจนเช้าก็ยังไม่ถึงบ้าน ก่อนจะทราบข่าวร้าย ภรรยาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางมาพบตำรวจเพื่อขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน. ,(ภาพจากตำรวจ) | สาวคอนสาร จ.ชัยภูมิ ขับรถเก๋งพาเพื่อนตัวแทนจำหน่ายสินค้าไปสัมมนาที่ กทม. ก่อนโทรบอกสามีว่า กลับแล้วนะ สามีรอที่บ้านเช้ายังไม่ถึง ก่อนได้รับข่าวร้าย ภรรยาขับชนเสาไฟฟ้าที่สีคิ้ว โคราช ตายพร้อมเพื่อน 3 ศพ | null | รถเก๋งชนเสาไฟฟ้า,หลับในชนเสาไฟ,ชนเสาไฟตาย3ศพ,นครราชสีมา | https://www.thairath.co.th/content/852341 |
ซีเรียซ้อมรบครั้งใหญ่เตือนต่างชาติอย่าแทรกแซงกิจการในซีเรีย | สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลซีเรียได้เผยแพร่ภาพการซ้อมรบครั้งใหญ่ โดยจำลองสถานการณ์ว่าเป็นการปกป้องประเทศจากการรุกรานของภายนอก ซึ่งการซ้อมรบในลักษณะนี้ ถือเป็นการเตือนต่างชาติที่มีความคิดจะใช้กำลังเข้าแทรกแซงกิจการภายในของซีเรีย โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการประชุมของนานาชาติ เพื่อร่วมกันหาทางออกสำหรับสถานการณ์ในซีเรีย ที่ยังคงเต็มไปด้วยความรุนแรงตลอดระยะเวลา 16 เดือนที่ผ่านมา มีการประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 16000 คนก่อนหน้านี้นักการเมืองฝ่ายค้านของซีเรีย เรียกร้องให้ต่างชาติส่งกำลังเข้ามาเพื่อยุติการนองเลือดในซีเรีย แต่นายโคฟี่ อันนัน ผู้แทนพิเศษของยูเอ็น ยังยืนยันว่าจะหาทางออกด้วยวิถีทางการเมือง โดยอาศัยการเจรจากับสันนิบาตอาหรับ และประเทศที่มีอิทธิพลต่อซีเรีย สำหรับสถานการณ์ในซีเรียขณะนี้ยังเต็มไปด้วยความรุนแรง ส่งผลให้คณะผู้สังเกตุการณ์ของยูเอ็นเกือบ 300 คน ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในซีเรีย เก็บตัวอยู่ในโรงแรม เนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงเลวร้ายมากขึ้นทุกขณะ | ซีเรียได้จัดการซ้อมรบครั้งใหญ่เพื่อแสดงศักยภาพ ถือเป็นการเตือนต่างชาติที่คิดจะใช้กำลังเข้ามาแทรกแซงกิจการในซีเรีย | ต่างประเทศ | ซีเรีย,ซ้อมรบ,ฝ่ายค้าน,ยูเอ็น,โคฟี่ อันนัน | https://news.thaipbs.or.th/content/96532 |
นอนผวาทั้งคืน หมอฮีโร่ยิงโจรตาย โดนแจ้งเจตนาฆ่า เผยความในใจที่ไม่มีใครรู้ | ทนายรณณรงค์ เผยแนวทางช่วยเหลือหากโดนตร.แจ้งข้อหา,จากกรณี ,นายประยุทธ์ สังข์ทอง แพทย์ประจำตำบล, วัย 45 ปี ออกป้องกันเหตุในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ส.ค. ซึ่งมีเจ้าของบ้านหลังหนึ่งในชุมชนดูกล้องวงจรปิดจากมือถือ เห็นว่า บ้านของตัวเองมีโจรเข้าบ้าน จึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าวทันที แต่คนร้ายวิ่งสวนออกมาและยิงอาวุธปืนใส่แพทย์คนดังกล่าว 3 นัด จากนั้นแพทย์ประจำตำบลได้ยิงป้องกันตัวออกไป 3 นัด จนเป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต และมีกระแสข่าวออกมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนากับแพทย์ท่านนี้ด้วย,ล่าสุด ,ทีมข่าวเจาะประเด็น, มีโอกาสได้พูดคุยกับ นายประยุทธ์ สังข์ทอง แพทย์ประจำตำบล วัย 45 ปี ซึ่งชายผู้น้ี ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย และทำประโยชน์เพื่อหมู่บ้านมาโดยตลอด โดยปัจจุบันรับหน้าที่แพทย์ประจำตำบล, ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และอดีตเคยเป็นตำรวจอาสาชุมชนอีกด้วย,ในวันเกิดเหตุ ผมได้รับแจ้งว่า มีโจรบุกขึ้นบ้านของชาวบ้านคนหนึ่งในชุมชน ทันทีที่ผมทราบ ก็เดินทางไปที่บ้านหลังนั้นทันที และประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่รับทราบ เพื่อเข้ามาในที่เกิดเหตุ แต่ในขณะที่เรากำลังล้อมจับ คนร้าย 2 คนได้วิ่งออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกับชักปืนออกมายิงใส่เจ้าหน้าที่ 3 นัด,ทางผมและเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ที่ตามหลังมา ก็เลยชักปืน ยิงป้องกันตัวเองออกไป 3 นัด โดยที่ใจผมตอนนั้น แค่ป้องกันตัวเอง และไม่ได้ต้องการให้คนร้ายตาย แต่ต่อมาก็มาทราบว่า คนร้ายตายคาที่ในที่เกิดเหตุเลยครับ,ผมนอนไม่หลับทั้งคืน ภาพเหตุการณ์วินาทีนั้นมันตัดภาพซ้ำๆ อยู่ในหัว พยายามจะหลับก็หลับไม่ลง ผวาตื่นตลอดทั้งคืน ยอมรับว่าช็อกมากครับ และตัวผมเองก็ไม่คิดว่า ในชีวิตของผมชีวิตนี้ จะทำให้ใครคนหนึ่งเขาตาย,ส่วนกระแสข่าวที่ออกไปว่า มีการแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนากับผม ตรงนี้ เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหานะคะรับ มีแต่เรียกผมเข้าไปให้ปากคำ เพื่อประกอบสำนวน นายประยุทธ์ แพทย์ประจำตำบล กล่าว,ทนายรณณรงค์ เผยแนวทางช่วยเหลือแพทย์ยิงโจร (หากโดนข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา),ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ถึงกรณีแพทย์ประจำตำบล ออกป้องกันเหตุ หลังเจ้าของบ้านดูจากมือถือ เห็นผ่านกล้องวงจรปิดมีโจรเข้าบ้าน ไปถึงโจรวิ่งสวนออกมายิงใส่ เลยยิงสวนไป 3 นัด ถูกโจรตายคาที่ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าโดยเจตนาฯ ว่า เบื้องต้น มีหนทางช่วยเหลือทางคดี คือ ต้องไปต่อสู้ในชั้นตำรวจ อัยการ ศาล ว่า ตนเองไปกับเจ้าพนักงานในฐานะเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน และที่ยิงก็เพื่อป้องกันตัว จึงจะไม่ต้องรับโทษทางอาญา โดยต้องให้เจ้าพนักงานที่ไปด้วยมาเป็นพยานให้,อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายแล้ว โจรยิงสู้ เรายิงสวนออกไป เป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องไปต่อสู้ในชั้นศาล แต่กรณีเจ้าหน้าที่ตร. เป็นผู้ตั้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา อันนี้ก็ต้องไปถามจนท.ตร.ดูว่า ความเป็นจริงเป็นเช่นไร จึงต้องมาตั้งข้อหานี้.,ข่าวเกี่ยวข้อง,แพทย์ประจำตำบลซวย ไปช่วยชาวบ้าน ยิงโจรตาย โดนแจ้งฆ่าโดยเจตนา | แพทย์ประจำตำบล เผยความในใจ หลังช่วยชาวบ้านโจรขึ้นบ้าน โดนโจรยิงใส่ เลยยิงออกไปทางคนร้าย ป้องกันตัวเอง ซวยแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ช็อก นอนไม่หลับทั้งคืน | ข่าว,ทั่วไทย | แพทย์ยิงคนตาย,โจรขึ้นบ้าน,ยิงโจร,ยิงป้องกันตัวเอง,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1363922 |
จะเด็จ เชาวน์วิไล : ไม่มีฮีโร่ บนเส้นทางขบวนการ ปชช. มีแค่อุดมการณ์สู้ ความไม่เป็นธรรม | ปาฐกถา จะเด็จ เชาวน์วิไล ชายผู้ได้รับรางวัลในวันสตรีสากล จากการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมระหว่เมื่อวันที่6 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมบำรุง-วรีวรรณ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ ดอนเมือง กรุงเทพฯ สถาบันบทบาทหญิงชายและการพัฒนา ร่วมกับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี และภาคีเครือข่าย จัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้หญิงแห่งปี 2561 และผู้หญิงเก่งในสาขาอาชีพต่างๆ ปี 2561 รวม 10 รางวัล เนื่องในสัปดาห์วันสตรีสากล โดยหนึ่งในรางวัลนั้นคือผู้ชายแห่งปี 2561 ซึ่ง จะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เป็นผู้ได้รับรางวัลดังกล่าว ในฐานะผู้ที่ที่ทำงานเคลื่อนไหว ต่อสู้ความไม่เป็นธรรม เพื่อความเท่าเทียมระหว่โดย จะเด็จ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษภายหลังรับรางวัลดังกล่าวเกี่ยวกับ แรงบันดาลใจ และสร้างแรงผลักดันให้ผู้ชายคนนี้ลุกขึ้นมาทำงานต่อสู้เพื่อผู้หญิง และหยิบยกประเด็นพูดคุยเรื่อง สิทธิผู้หญิง โดยมีใจความสำคัญที่เขาตระหนักนั้นคือ การพ้นไปจากเพศแต่คือความเป็นมนุษย์ ที่ต้องสร้างให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพแบบไหนก็ตาม ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้การมองความสำเร็จ ผมอาจจะมองต่างจากคนอื่น อาจจะสุดขั้วนิดหนึ่ง ตัวตนของผมที่มายืนอยู่ตรงนี้อันนี้คือเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ว่าคนที่เห็นเรามาทุกวัเขาระบุว่า สิ่งที่สำคัญคือเราต้องรู้ว่ผมมองว่าเรื่องรางวัลในวันนี้สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่ผมยึดมั่นมาตลอด ผมจึงค่อนข้างชัดเจนว่ารางวัลต่ขณะเดียวกัน เขามองถึงการทำงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะการทำงานตรวจสอบนโยบายรัสิ่งที่จะทำให้ภูมิใจก็คืขณะที่ ทรัพยากรบุคคลในการส่งไม้ต่องค์กรภาคประชาสังคมไม่ควรเป็ผมก็ยังยืนยันแบบเดิมว่าสิ่งที่ตลอดระยะเวลา ทำงานจะเด็จสรุป ถอดบทเรียนประสบการณ์ จนเขาตกผลึกความคิดในประเด็ผมไม่ได้เชื่ออย่างนั้น หรือแม้กระทั่งผู้ชายที่เคยทำร้เพราะถ้าเราทำแค่เรื่องสิทธิสิ่งสำคัญคือการสร้างขบวนการ ขบวนผู้หญิง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก แล้วก็ต้องเชื่อว่ามันสามารถเชื่ดังนั้นผมคิดว่าเรื่องนี้เป็จะเด็จทิ้งท้ายบทสนทนา โดยย้อนไปถึงรากความคิดของเขา จนเป็นบทสรุปของโจทย์ชีวิต ที่ทำให้เขาปักหลักทำงานขับเคลื่จุดยืนของเราไม่ผิดเพี้ยน จุดยืนเรายังรักษาอยู่ ดังนั้นตอนที่ออกมาทำองค์กรใหม่ เราคิดว่าสิ่งที่เรามองไปข้ในอนาคตองค์กรจะเป็นอย่ | ปาฐกถา จะเด็จ เชาวน์วิไล ชายผู้ได้รับรางวัลในวันสตรีสากล จากการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมระหว่างชายหญิง ย้ำ ไม่มีฮีโร่ บนเส้นทางขบวนการประชาชน มีแค่อุดมการณ์สู้ ความไม่เป็นธรรม เมื่อวันที่6 | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | ความไม่เป็นธรรม,จะเด็จ เชาวน์วิไล,นิธิหญิงชายก้าวไกล,วันสตรีสากล,ฮีโร่ | https://prachatai.com/journal/2018/03/75854 |
หมอเด็ก รพ.รามาธิบดี ชี้บัตรทองขยายสิทธิปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด แบบอย่างใช้งบรัฐคุ้มค่า | สปสช.เดินหน้าขยายสิทธิรวมการปลูกถ่ายกรณีผู้บริจาคไม่ใช่ญาติ ครอบคลุมการปลูกถ่ายผู้ป่วยธาลัสซีเมีย พร้อมระบุเป็นแบบอย่างใช้จ่ายงบรัฐคุ้มค่า ระยะยาวดีต่อผู้ป่วยและงบประมาณ28 ก.ค. 2562 ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง หัวหน้าสาขาโลหิตวิทยาและโรคมะเร็ง ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุ FM.96.5 คลื่นความคิด ว่า การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตเป็นวิธีการรักษาที่มีมานาน โดยเริ่มที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อราว 50 ปีที่แล้ว ส่วนประเทศไทยเริ่มครั้งแรกเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ถือเป็นมาตรฐานการรักษาผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับโลหิตวิทยา อาทิ มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคธาลัสซีเมีย และไขกระดูกฝ่อ เป็นต้น โดยทั่วโลกให้การยอมรับ ในอดีตเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจะนำมาจากไขกระดูกเท่านั้น แต่ปัจจุบันสามารถนำเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตมาจากหลอดเลือดและรกได้การรักษาโดยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก อยู่ที่รายละ 1-3 ล้านบาท โดยจุดเริ่มต้นของสิทธิประโยชน์ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินี้ เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลือง เนื่องจากเป็นการรักษาที่ต้องต่อเนื่องภายหลังจากการให้เคมีบำบัด โดยผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตสามารถรับการรักษาได้ตามสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่เป็นไปตามข้อบ่งชี้ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตนี้จะมีทั้งการปลูกถ่ายที่ใช้เซลล์ของตนเองและเซลล์ที่รับบริจาค ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายฯ ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแล้วจำนวนมาก โดยจำกัดเฉพาะกรณีที่ผู้บริจาคเป็นญาติพี่น้องผู้ป่วยเท่านั้นศ.นพ.สุรเดช กล่าวต่อว่า ในปี 2563 เพื่อให้ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดเข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้น สปสช.ได้ขยายสิทธิให้ครอบคลุมการปลูกถ่ายโดยใช้เซลล์ของผู้บริจาคผ่านสภากาชาดไทย เนื่องจากผู้บริจาคต้องมีเนื้อเยื่อเอชแอลเอ (Human Leukocyte Antigen : HLA) ตรงกันกับผู้ป่วย ในกรณีที่ผู้บริจาคเป็นญาติพี่น้อง โอกาสที่เนื้อเยื่อนี้จะตรงกันมีเพียง 25% เท่านั้น แต่หากขยายครอบคลุมถึงผู้บริจาคที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง โอกาสในการหาผู้บริจาคที่มีเนื้อเยื่อตรงกับผู้ป่วยจะมีถึง 40-50% ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครใจแสดงเจตจำนงบริจาคเซลล์เม็ดเลือดกับสภากาชาดไทยแล้วประมาณ 200000 ราย การรักษาปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต หมอจะเป็นคนพิจารณาว่าคนไข้จำเป็นต้องได้รับการปลูกถ่ายหรือไม่ เริ่มต้นอาจตรวจดูเนื้อเยื่อของญาติพี่น้องผู้ป่วยที่บริจาคก่อน หากไม่มีก็จะส่งตัวอย่างเนื้อเยื่อผู้ป่วยไปยังสภากาดไทยเพื่อเทียบเคียงกับเนื้อเยื่อของผู้บริจาค ซึ่งในขั้นตอนนี้มีค่าใช้จ่าย 5000 บาทต่อการตรวจเนื้อเยื่อเทียบเคียงกับผู้บริจาค 1 ราย ผู้ป่วยต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเองในส่วนนี้เอง เนื่องจากสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายตั้งแต่เริ่มหาผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตได้เท่านั้น ซึ่งหากพบผู้บริจาคที่มีเนื้อเยื่อตรงกัน สภากาชาดไทยจึงจะเรียกผู้บริจาคมาบริจาค หัวหน้าสาขาโลหิตวิทยาและโรคมะเร็งฯ กล่าวและว่า ทั้งนี้การบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตแตกต่างจากการบริจาคอวัยวะ เนื่องจากผู้บริจาคสามารถทำการบริจาคได้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ศ.นพ.สุรเดช กล่าวว่า นอกจากนี้ในปี 2563 สปสช.ได้ขยายสิทธิประโยชน์การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตให้ครอบคลุมการรักษาในกลุ่มผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย เนื่องจากผลการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ชี้ชัดว่ามีความคุ้มค่าในการรักษา เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องรับการถ่ายเปลี่ยนเลือดและยาขับเหล็กอย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิตและไม่หาย ขณะที่การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตทำเพียงครั้งเดียวและมีโอกาสหายขาดได้ถึง 90% จึงเป็นวิธีการดูแลผู้ป่วยที่ดีกว่าและคุ้มค่า กรณีนี้ยังถือเป็นแบบอย่างการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่คุ้มค่า แม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณมาก ในระยะยาวถือว่าดีกว่าทั้งกับตัวผู้ป่วยเองและภาระงบประมาณเอง ศ.นพ.สุรเดช กล่าวต่อว่า หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นเรื่องใหญ่และประชาชนต้องสนใจ ไม่ใช่แค่เรียกร้องสิทธิ แต่ต้องดูว่าทำอย่างไรจึงจะคุ้มค่า และวันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะมาพูดคุยกันว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าระบบจะเดินไปอย่างไร เพราะยังมีความท้าทายรออยู่ ทั้งวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจะต้องมีวิธีการจัดการและงบประมาณรองรับ ไม่ใช่มุ่งตั้งเป้ารักษาอย่างเดียว ซึ่งความเจ็บป่วยของประชาชนถือเป็นศักดิ์ศรีมนุษย์ที่รัฐต้องดูแล แต่การดูแลอย่างไรจึงจะคุ้มค่าและรัฐบาลไม่ถังแตก ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันคิด | หมอเด็ก รพ.รามาธิบดี เผย สิทธิประโยชน์ ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต กองทุนบัตรทอง 10 ปี ช่วยผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาต่อเนื่อง เผย ปี 2563 | สังคม,คุณภาพชีวิต | สปสช.,สุขภาพ,ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต,ธาลัสซีเมีย | https://prachatai.com/journal/2019/07/83618 |
ห้ามตายเข้าใจไหม? เจ้าอาวาสวัดดังสงขลา แขวนป้ายผ้า เตรียมงานมาฆบูชา | เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ป้ายประชาสัมพันธ์ของวัดเลียบ ถนนไทรบุรี ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ที่ใช้ภาษาถิ่นใต้แท้ๆ ใครเห็นใครอ่านก็ต้องอมยิ้ม ด้วยภาษาเขียนที่เข้าใจง่ายสไตล์คนท้องถิ่น ของเจ้าอาวาสวัดเลียบ ป้ายดังกล่าวถูกนำมาติดบนกำแพงหน้าวัด สร้างสีสัน และจุดสนใจให้แก่ประชาชนที่ผ่านไปมา มีข้อความแจ้งกิจกรรมจากทางวัดเขียนไว้ว่า ,ตีความหมายให้เข้าใจง่ายคือ ระหว่างวันที่ 8-11 ก.พ. ทางวัดจะงดรับศพชั่วคราว เพราะไม่มีที่ตั้งศพ เนื่องจากต้องเตรียมงานวันมาฆบูชา เพราะฉะนั้นจึงห้ามตาย , ในภาษากลาง ส่วนอีกป้ายเขียนว่า , คำว่าตีหกครึ่งนั้น หมายถึง ,พระอนุวาที ภิกขุ เจ้าอาวาสวัดเลียบ เปิดเผยว่า ข้อความบนป้ายผ้าตนเป็นคนเขียนเอง และให้เด็กวัดนำไปแขวนไว้ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ เนื่องจากในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ. นี้ ทางวัดจะมีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันมาฆบูชา ทั้งการทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ ฟังธรรม และฟังเทศน์พิเศษ ดังนั้นในช่วงดังกล่าวทางวัดจะงดรับศพชั่วคราว และห้ามตาย เพราะไม่มีที่ตั้งศพ จึงได้เขียนข้อความบอกกล่าวชาวบ้านเป็นภาษาท้องถิ่นใต้ที่ชาวบ้านคุ้นหู และใช้พูดกันอยู่ทุกวัน เพื่อให้ประชาชนที่ผ่านไปมาได้รับทราบ | แปลกดี! เจ้าอาวาสวัดเลียบ เขียนป้ายผ้าประชาสัมพันธ์ด้วยภาษาท้องถิ่น ติดกำแพงวัด 2 ผืน 8 ถึง 11 ก.พ. งดรับศพ โยมห้ามตาย เปรียมงานมาฆบูชา และ 11 ก.พ. มาฆบูชา ตักบาตรวัดเลียบ ตีหกครึ่ง เรียกรอยยิ้มให้กับผู้คนที่ผ่านไปมา | null | ห้ามตาย,ป้ายผ้า,วัดเลียบ,วันมาฆบูชา,สงขลา | https://www.thairath.co.th/content/854368 |
คำสั่งชันสูตร สิบโทกิตติกร ศีรษะ-กระเพาะอาหารแตก ชี้ 4 ทหารร่วมกันทำร้าย | พลทหารร่วมกันทำร้ายจนถึงแก่ความตาย26 ก.ค. 2559 ศาลอาญาจังหวัดสุรินทร์ได้อ่านคำสั่งศาลในคดีชันสูตรพลิกศพสิบโทกิตติกร สุธีรพันธ์ ตามวิธีพิจารณาความอาญามาตราซึ่งผู้ตายเสียชีวิตในระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำค่ายวีรวัฒน์โยธิน มณฑลทหารบกที่ 25 จ.สุรินทร์เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2559 ที่ผ่านมา ว่าตามที่พนักงานอัยการจังหวัดสุรินทร์ยื่นคำร้อง โดยบุญเรือง สุธีรพันธ์ มารดาของผู้ตายได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมเป็นผู้ร้องในคดี ศาลอ่านคำสั่งว่า เหตุและพฤติการณ์ที่ตายคือมีการบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรงร่วมกับกระเพาะอาหารแตก เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย โดยพลอาสาสมัครชูเกียรติ นันทะพันธ์ พลทหารนลทวัช ใจมนต์ พลทหารยุทธพิชัย เสนพาท พลทหารจีระศักดิ์ สิทธิษร ร่วมกันทำร้ายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายการไต่สวนคดีดังกล่าวพนักงานอัยการได้ระบุพยาน 5 ปาก ได้แก่ นายแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพผู้ตาย พนักงานสอบสวน มารดาของผู้ตาย ผู้ต้องขังที่อยู่ภายในค่ายวรวัฒน์โยธิน มณฑลทหารบกที่ 25 และประจักษ์พยานผู้อยู่ในเหตุการ ส่วนทนายของมารดาผู้ตายได้นำพยานเข้าไต่สวน 2 ปาก ได้แก่ นายทหารผู้เป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของสิบโทกิตติกร และรักษาราชการแทนผู้บังคับเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 25 ซึ่งในการสอบพยานครั้งนี้ทนายมารดาผู้ตายได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏภาพผู้ตายกำลังถูกทำร้ายร่างกายในเรือนจำเข้าประกอบการซักพยานด้วยปรีดา นาคผิว ทนายความจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรมกล่าวว่า เนื่องจากสิบโทกิตติกรได้เสียชีวิตภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่และอยู่ในหน่วยงานของรัฐอย่างชัดเจน ทางทีมทนายและมารดาของผู้เสียชีวิตอาจจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายแก่หน่วยงานต้นสังกัด โดยยังไม่มีการฟ้องดำเนินคดีแพ่ง ทั้งนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการปรึกษาหารือเรื่องค่าเสียหายอีกทั้งปรีดายังกล่าวว่า ในส่วนของคดีอาญาเพื่อเอาผิดแก่ผู้กระทำความผิดนั้น พนักงานสอบสวนได้ยื่นเรื่องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) เพื่อรวบรวมหลักฐานไต่สวนและชี้มูลความผิดตามขั้นตอนของรัฐ ก่อนจะส่งให้อัยการในท้องที่ดำเนินการต่อไปก่อนหน้านี้มารดาของผู้ตายเคยเล่าเหตุการณ์ไว้ว่า ลูกชายของตนทำหน้าที่รับราชการอยู่ในมณฑลทหารบก 25 จ.สุรินทร์ หน่วยงานทหารราบ ร.23 เขาถูกจับกุมในวันที่ 1 ก.พ. ด้วยข้อหาให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา หลังจากนั้นตนได้พยายามยื่นประกันตัว แต่ถูกศาลทหารปฏิเสธด้วยเหตุผลว่ากลัวผู้ต้องหาหลบหนีมารดาผู้ตายกล่าวด้วยว่า จากนั้นได้พยายามที่จะเข้าเยี่ยมลูกชายตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. แต่ถูกปฏิเสธ ทางผู้คุมกล่าวว่ายังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนไม่สามารถให้เข้าเยี่ยมได้ ต่อมาตนได้ขอเข้าเยี่ยมในทุกวันเสาร์ แต่ยังถูกปฏิเสธการให้เยี่ยมด้วยเหตุผลเดิม โดยครั้งสุดท้ายที่ขอเข้าเยี่ยมคือ 20 ก.พ.ซึ่งก็ถูกปฏิเสธเช่นเดิม หลังจากนั้นเพียง 1 วันก็ได้รับโทรศัพท์ว่าลูกชายตนเองเสียชีวิตเขาไม่เคยบอกอะไรแม่เลย ไม่เคยบอกว่าลูกเจ็บหรือป่วย บอกแค่เยี่ยมไม่ได้เพราะอยู่ในชั้นสืบสวน ขนาดแม่ไปก่อนวันที่เขาโทรมาแค่วันเดียวเขายังไม่เคยบอก นางบุญเรืองกล่าว | ศาลจังหวัดสุรินทร์อ่านผลคดีชันสูตรพลิกศพสิบโทกิตติกร เสียชีวิตระหว่างถูกคุมตัวในค่ายทหาร จ.สุรินทร์ เผยบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง-กระเพาะอาหารแตก หลักฐานชี้ 1พลอาสา 3 | สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง | กองทัพ,กิตติกร สุธีรพันธ์,ค่ายวีรวัฒน์โยธิน มณฑลทหารบกที่ 25,ชันสูตรพลิกศพ,ซ้อมทรมาน,ตายในค่ายทหาร,สุรินทร์,ไต่สวนการตาย | https://prachatai.com/journal/2016/07/67093 |
โมราตาโหดจัด สเปนบุกซัดมอลตา 2-0 อิตาลีถล่มยับ สรุปผลคัดยูโร | การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มเอฟ ประจำวันอังคารที่ 26 มี.ค. คู่ที่น่าสนใจ มอลตา เปิดสนาม ตา คาลี รับการมาเยือนของ กระทิงดุ สเปน,เกมนี้ สเปน มาในระบบ 4-3-3 วาง ฆวน เบอร์นาต, มาร์โก อเซนซิโอ และ อัลบาโร โมราตา เป็นสามประสานในแนวรุก ขณะที่ มอลตา มี คีเรียน เอ็นโวโก ลงล่าตาข่าย,เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 31 สเปน ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ มาริโอ เฮอร์โมโซ เปิดบอลโด่งขึ้นมาให้ อัลบาโร โมราตา เกี่ยวบอลเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ถึงนาทีที่ 73 สเปน หนีเป็น 2-0 เฆซุส นาบาส เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ อัลบาโร โมราตา โหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม สเปน บุกชนะ มอลตา 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 6 คะแนน จาก 2 นัด นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม,ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้,กลุ่มดี,ไอร์แลนด์ ชนะ จอร์เจีย 1-0,สวิตเซอร์แลนด์ เสมอ เดนมาร์ก 3-3,กลุ่มเอฟ,นอร์เวย์ เสมอ สวีเดน 3-3,โรมาเนีย ชนะ หมู่เกาะฟาโรห์ 4-1,กลุ่มเจ,อาร์เมเนีย แพ้ ฟินแลนด์ 0-2,บอสเนีย เสมอ กรีซ 2-2,อิตาลี ชนะ ลิกเตนสไตน์ 6-0 | กระทิงดุ สเปน เดินหน้าเก็บชัย 2 นัดติด หลังบุกชนะ มอลตา 2-0 นำเป็นจ่าฝูงกลุ่มเอฟ ศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ทีมชาติสเปน,ทีมชาติมอลตา,ทีมชาติอิตาลี,ลิกเตนสไตน์,ฟุตบอลยูโร 2012 รอบคัดเลือก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1530415 |
ฟลุค พชร พร้อมสู้ เดินหน้าช่วย ตรีชฎา หาเสียง ตลาด 100 ปี หล่มเก่า | เขต 2 หาเสียง ณ บริเวณ ตลาดหล่มเก่า และตลาดนัดคลองถม หล่มเก่า ท่ามกลางการต้อนรับเป็นอย่างดีของประชาชน ถ่ายภาพร่วมท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง,นายพชร ธรรมมล บอกกับเราว่า วันนี้เดินทางมาเองด้วยความตั้งใจ อยากจะช่วยพี่ปอยหาเสียงในพื้นที่ พูดคุยกับชาวบ้าน ชูนโยบายพรรคและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชาวหล่มเก่าจะให้โอกาสพี่ปอย และส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ คนอื่นๆ ได้รับเลือกตั้งเข้าไปรับใช้ประชาชน เลือกตั้งครั้งนี้อย่าลืม กาเบอร์ 8 เขตพื้นที่ หล่มสัก หล่มเก่า น้ำหนาว ส่วนบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น อาหารอร่อยมาก อากาศดี กองเชียร์แน่น ขอขอบพระคุณพี่น้องชาวเพชรบูรณ์ และทีมงานทุกๆ ท่าน ,ขณะที่ ปอย ตรีชฎา ศรีธาดา เปิดเผยกับเราว่า ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยที่ต้องเดินหาเสียงวันละหลายกิโลฯ เพราะอยากจะเข้าถึงชาวบ้านให้ได้มากที่สุด พร้อมแสดงความจริงใจพร้อมรับใช้ประชาชน ส่วนเรื่องราวที่ผ่านมาของพรรค ก็คงต้องไปต่อตามกระบวนการ ในขณะที่ตนเองพร้อมจะสู้ไม่ถอย และยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตยต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น,พี่น้องที่นี่มีน้ำใจดีมาก ระหว่างเดินหาเสียงในตลาด มีการแบ่งปันของกินให้กับปอยและทีมงาน รู้สึกอบอุ่นมากๆ ค่ะ ขอขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่มีน้ำใจและให้การต้อนรับปอยเป็นอย่างดี ขอบพระคุณน้องฟลุคและทีมงานที่มาช่วยปอยหาเสียงในวันนี้ด้วย อย่างไรก็ขอฝากเบอร์ 8 ไว้ให้ชาวเพชรบูรณ์รับไว้พิจารณา ถึงแม้จะเป็น ส.ส.หน้าใหม่ แต่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเมืองมา 10 กว่าปี ต่อสู้เคียงข้างประชาธิปไตย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศชาติจะขับเคลื่อนพัฒนาต่อไปในทางที่ดีขึ้น | นายพชร ธรรมมล หรือ ฟลุค เดอะสตาร์ ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ พรรคไทยรักษาชาติ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อช่วยคุณปอย ตรีชฎา ศรีธาดา ส.ส.เพชรบูรณ์ | ข่าว,การเมือง | ตรีชฎา ศรีธาดา,วิเคราะห์การเมือง,เลือกตั้ง62,เพชรบูรณ์,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1500100 |
ดีเอสไอ จับมือฝ่ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ร่วมกันหาทางป้องกันการสวมสิทธิ์บัตรประชาชน | ภาพเครือข่ายยาเสพติด ที่มีการสวมบัตรประชาชนปลอม ที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ปปส. รวมรวมข้อมูลทางลับ นำมาแสดงกับทีมข่าวไทยพีบีเอส เพื่อยืนยันว่าปัญหาสวมบัตรประชาชน ของเครือข่ายยาเสพติด โดยมีเจ้าพนักงานปกครอง ร่วมทุจริต เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และเป็นจุดอ่อนไหวสำคัญเช่น นายจิระศักดิ์ ฉัตรวรนิติ หรืออาสือ เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ที่พบมีการสวมบัตรประชาชน หลายครั้งจากการเปรียบเทียบ การตรวจสอบย้อนหลังทำให้พบว่าบัตรทั้ง 2 ใบเป็นภาพหน้านายจิระศักดิ์ แต่นามสกุลต่างกัน รวมไปถึงเลขทะเบียนบัตรประชาชน และการออกบัตรแต่ละครั้งจะต่างสถานที่กันแม้นายจิระศักดิ์ จะถูกจับได้ที่ประเทศลาว หลังพยายามหลบหนี และมีการสวมบัตรประชาชนทั้งในไทย และลาว แต่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ปปส. ระบุว่ายังมีผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดที่หลบหนี หมายจับกว่า 10000 คน และการสืบสวนทางลับ พบว่ามีบางคนที่สวมบัตรประชาชนเพื่อฟอกตัวหลบหนีคดีเป็นครั้งที่ 2 ที่ดีเอสไอนำปัญหาการสวมบัตรประชาชน และการทุจริตเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์ ของผู้ไม่มีสถานะ มาพูดคุยที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่พบปัญหาจำนวนมาก โดยเฉพาะถูกระบุเป็นศูนย์กลาง ในการเข้ามาทุจริตของบุคคลที่ไม่มีสถานะ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ แต่ครั้งนี้มีสำนัก ทะเบียนจังหวัด 75 หน่วยในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตัวแทนจากสำนักทะเบียน เป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสวมบัตร และการทุจริตเพิ่มชื่อ เนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานปกครองฝ่ายทะเบียนมติการหารือ มีการยกตัวอย่างเครือข่ายยาเสพติดสวมบัตร นายถาวร สมจิตร และนายสมชัย รักยอดยิ่ง ที่ไทยพีบีเอสลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และพบความผิดปกติก่อนหน้านี้ รวมถึงการตรวจสอบพบความผิดปกติ โดยมีเจ้าพนักงานปกครอง เกี่ยวข้อง แต่กรมการปกครองชี้แจงว่ากรมการปกครองมีความพยายามจัดทำระบบอย่างรัดกุม และแก้ไขส่วนการอายัดเอกสารการขอเพิ่มชื่อ ของอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ เกือบ 19000 รายชื่อที่ตรวจสอบย้อนหลัง ที่ดีเอสไอรับมา เบื้องต้นการตรวจสอบพบเอกสารประมาณ 12000 เท่านั้น นอกจากการวิเคราะห์ความผิดปกติ ดีเอสไอ ต้องตรวจสอบอีกว่า อีก 6000 รายชื่อที่หายไป เพราะเหตุใดจึงมีหลักฐานปรากฎในข้อมูลแต่ไม่มีเอกสารอ้างอิง | ดีเอสไอ และหน่วยงานฝ่ายทะเบียนและบัตร 75 หน่วยในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันหาแนวทางการป้องกันการสวมบัตรประชาชน และ การทุจริตเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์ ในจังหวัดเชียงใหม่ หลังพบความผิดปกติของเจ้าพนักงานปกครอง ที่ไทยพีบีเอส และดีเอสไอ ร่วมตรวจสอบ โดยเฉพาะการสวมบัตรประชาชนของเครือข่ายยาเสพติด | อาชญากรรม | ดีเอสไอ,ทะเบียนราษฎร์,สวมสิทธิ์,เชียงใหม่ | https://news.thaipbs.or.th/content/146299 |
ภารกิจยิ่งใหญ่คนไทยร่วมกัน ช่วยเหลือ 13 นักเตะทีมหมูป่า | ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ 13 นักฟุตบอลและโค้ชทีม หมูป่าอะคาเดมี ที่ติดใน,ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน, ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นกระแสทางโซเชียล ท่ามกลางการเฝ้ารอคอยข่าวของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และตัวแทนนานาประเทศร่วมช่วยเหลือเต็มที่ แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของคนไทยเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทุกคนทำงานแข่งกับเวลา เร่งค้นหาและช่วยเหลือ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศในช่วงแรก สั่งให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้กำลังพลทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ออกให้ความช่วยเหลือ สั่งให้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา, ผบ.ตร. นำกำลังทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยเหลือค้นหานักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าที่หายไปทั้ง 13 คน ทำทุกทางเพื่อช่วยค้นหาให้เจอโดยเร็วที่สุด,ให้ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.เชียงราย เป็น ผบ.เหตุการณ์ สั่งให้ พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. ,พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ, หรือ ,หน่วยซีล, นำทีมมนุษย์กบหน่วยซีลทหารเรือร่วมค้นหา พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาค 3 นำกำลังทหารในพื้นที่ร่วมปฏิบัติการค้นหาเจออุปสรรคฝนตกต่อเนื่อง ปริมาณน้ำในถ้ำสูงขึ้น หน่วยซีลต้องล่าถอยออกมาวางแผนกันใหม่ ชุดช่วยเหลือคาดว่าเด็กจะหนีไปอยู่ในถ้ำจุดที่ชาวบ้านเรียกว่า หาดพัทยา,สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงติดตามการให้ความช่วยเหลือ ทรงห่วงใยกลุ่มผู้ประสบภัยขอให้ปลอดภัยทุกคน ทรงให้กำลังใจครอบครัวผู้ประสบภัย ทรงให้กำลังใจผู้ปฏิบัติที่ร่วมทีมค้นหาขอให้ประสบความสำเร็จ พระราชทานสิ่งของที่ใช้ในภารกิจการช่วยเหลือ และจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน,เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นขวัญกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ของทีมงานช่วยเหลือที่ต้องเสี่ยงชีวิต เร่งทำงาน แข่งกับเวลา ช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ในถ้ำ,นายณรงค์ศักดิ์ ผวจ.เชียงราย ได้ประชุมทีมงาน ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง หน่วยกู้ภัย มอบหน้าที่ให้ผู้เกี่ยวข้อง มอบให้หน่วยซีลทหารเรือ ร่วมกับนักดำน้ำต่างชาติ เข้าพื้นที่ไปถึงจุดที่คาดว่าเด็กจะอยู่ ให้ตำรวจ กระจายกำลังออกเดินเท้าสำรวจโพรง จุดเชื่อมบนเขาที่คาดว่าโรยตัวลงน้ำเพื่อค้นหาเด็กได้ ทหารออกลาดตระเวนสกัดกั้นทางน้ำไม่ให้ไหลลงถ้ำ หน่วยแพทย์เตรียมการขนย้ายกรณีพบเด็ก,ทุกคนตั้งใจทำงาน อดหลับอดนอน ช่วยชีวิตเด็กและโค้ชที่ไม่ทราบชะตาชีวิต ปฏิบัติการค้นหาทำต่อเนื่อง 24 ชม. ,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา, ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.มนต์ชัย เรืองจรัส ผบก.ตชด.ภ.3 พร้อมกองร้อยกู้ชีพค่ายนเรศวร ร่วมกับตำรวจพลร่มปีนสู่ยอดเขาเพื่อสำรวจโพรง หาเส้นทางเชื่อมภายในถ้ำ ผบ.ตร.สั่งให้นำกล่องแห่งความหวังหย่อนลงไปภายในถ้ำหลายสิบกล่อง มีอาหาร ปากกา โทรศัพท์มือถือ แผนที่ถ้ำ เพื่อที่จะทำให้เป็นโอกาสติดต่อทีมหมูป่า,เป็นภาพที่คนชื่นชม ผบ.ตร.ทำงานเป็น ลงพื้นที่เอง เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง กินนอนกับลูกน้อง ทำงานแบบมืออาชีพ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่ลงไปในพื้นที่ครั้งนี้ สร้างขวัญกำลังใจให้ตำรวจเป็นอย่างมาก ทำให้ตำรวจไม่ย่อท้อกับอุปสรรคที่เกิดขึ้น เหมือนนโยบายที่ ผบ.ตร.ให้ไว้เมื่อครั้งขึ้นดำรงตำแหน่ง เป็น ผบ.ตร. ผู้บังคับบัญชาต้องทำตัวเป็นปุ๋ย ไม่ใช่ยาฆ่าแมลง ไปตรงไหนจะเจริญงอกงาม ไม่ใช่ไปที่ไหนที่นั่นตาย,ภาพที่ทุ่มเททำงานเบื้องหลังไม่แพ้กัน ผู้นำทหาร พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ลงทำงานในพื้นที่อยู่กับลูกน้อง ไม่ค่อยให้ข่าว แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว เป็นกระแสในสื่อโซเชียล ผู้นำเหล่าทัพ ผบ.ทบ. ผบ.ตร. ไม่ทอดทิ้งประชาชน,มีกลไกสำคัญคือ ผวจ.เชียงราย แม่ทัพภาคที่ 3 และ ผบ.หน่วยซีล ที่ทุ่มเทปฏิบัติการภาคสนามตลอดทั้งวันทั้งคืน ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางกลับจากภารกิจที่ต่างประเทศ ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พูดคุยกับผู้ปกครอง,พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่า จะช่วยเด็กและโค้ชทั้ง 13 คนออกมาให้ได้ สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกนายทำเต็มที่ ทำให้เสมือนเด็กทั้ง 13 คน เป็นลูกหลานคนในครอบครัวของเราเอง,ภารกิจการช่วยเหลือเด็กและโค้ชทั้ง 13 ชีวิตคืบหน้าไปมาก หน่วยซีล ของทหารเรือที่เป็นหน่วยหลัก ยืนยันจะเดินหน้าค้นหาต่อเนื่อง ไม่ออกมาจนกว่าจะพบเด็ก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. นำล่ามของตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาอำนวยความสะดวก ประสานงานนักประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยต่างชาติที่มาช่วยเหลือภารกิจค้นหาและช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต ทุกหน่วยลงมาช่วยเหลือในส่วนที่รับผิดชอบกันเต็มที่,ข่าวที่ทุกคนรอคอยมาถึงเมื่อวันที่ 2 ก.ค. เวลา 22.20 น. นายณรงค์ศักดิ์ ผวจ.เชียงราย ออกมาแถลงข่าวพบเด็กทั้ง 13 คน ทุกคนปลอดภัยดี สร้างความดีใจให้กับคนทั้งประเทศ,นักดำน้ำชาวอังกฤษที่ไปพบเด็ก ห่างจากจุดหาดพัทยาไป 400 เมตร เด็กหนีน้ำไปอยู่บนเนินโขดหิน พบอยู่ในสภาพอิดโรย แต่ทุกคนดูเข้มแข็ง และหน่วยซีลได้เข้าประกบดูแลเด็กและโค้ชก่อนหาทางช่วยเหลือออกมา,เหลือขั้นตอนในการพาเด็กและโค้ชที่ต้องฝ่าฟันสภาพที่ยังมีน้ำท่วมขังหลายจุดในถ้ำหลวง ซึ่งต้องใช้การวางแผนอย่างเป็นระบบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ติดค้างทั้ง 13 คน,กว่า 221 ชั่วโมง หรือ 9 วัน กับอีก 5 ชั่วโมง ปฏิบัติการค้นหาช่วยชีวิตนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมี ทั้ง 13 คน ได้สิ้นสุดลงท่ามกลางความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนของสังคมไทย เป็นการปฏิบัติการเหนือความคาดหมายในการค้นหาและช่วยเหลือ,เป็นปรากฏการณ์เหตุการณ์สำคัญหนึ่งของประเทศไทย และบทเรียนของสังคม ที่ต้องระมัดระวัง เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ซึ่งเป็นความยากลำบากเจ้าหน้าที่และผู้คนอีกมากที่ได้รับผลกระทบจากเหตุที่เกิดขึ้น,เป็นความโชคดีที่ คสช. ที่ใช้การทำงานเชิงรุกแก้ปัญหาได้รวดเร็ว โดยเฉพาะบทบาทของผู้นำทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ที่ลงมาทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง เป็นผู้บริหารยุคใหม่ตัวจริง ที่เอางานเป็นตัววัด,เป็นดรีมทีมที่สมบูรณ์ที่สุด มาพร้อมกับน้ำใจคนไทยทั้งชาติ และชาวต่างชาติที่ให้กำลังใจ,ภารกิจสุดท้ายที่ยากกว่าการค้นหา คือการหาทางช่วยเหลือนำพาเด็กและโค้ช 13 คนของทีมหมูป่า ออกจากถ้ำหลวงให้รอดอย่างปลอดภัยทุกคน ท่ามกลางการเฝ้ารอคอยติดตามข่าวของคนไทยทั้งประเทศ,เป็นงานใหญ่ของทีมช่วยเหลือที่รออยู่เบื้องหน้า.,ทีมข่าวอาชญากรรม | พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่า จะช่วยเด็กและโค้ชทั้ง 13 คนออกมาให้ได้ สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกนายทำเต็มที่ ทำให้เสมือนเด็กทั้ง 13 คน เป็นลูกหลานคนในครอบครัวของเราเอง | ข่าว,ทั่วไทย | จักรทิพย์ ชัยจินดา,ถ้ำหลวง,ค้นหาโพรง,แกะรอยรอบสัปดาห์,ทีมข่าวอาชญากรรม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1329411 |
หนุ่มประจวบฯพิการ ใช้ไม้เท้าเดิน 3 รอบสนามกีฬา หวังแข็งแรงไม่พึ่งยา | เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปที่สนามกีฬากลางอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังทราบว่ามีชายพิการใช้เวลาช่วงเย็นเดินทางมาออกกำลังกายเป็นประจำ พบ นายกริชนารา สันติวิทยารมย์ อายุ 21 ปี บ้านชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลปากแพรก อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่พิการขา ใช้ไม้ค้ำ 2 อัน ค้ำที่แขน 2 ข้าง พยุงร่างกาย เดินรอบลู่วิ่ง ซึ่งมีระยะความยาว 800 เมตร ต่อ 1 รอบ มีพี่ชายชื่อวิชานนท์ สันติวิทยารมย์ อายุ 30 ปี เดินทางมาดูแลและร่วมออกกำลังกาย,นายกริชนารา สันติวิทยารมย์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ไม่อยากให้สุขภาพของตัวเอง เป็นคนพิการเกิดเจ็บไข้เป็นภาระของครอบครัวที่ต้องดูแล ดังนั้นเมื่อได้ดูข่าวจากสื่อไทยรัฐทีวี และไทยรัฐออนไลน์ ทราบว่าสนามแห่งนี้มีเครื่องออกกำลังกาย มีลู่วิ่ง มีสนามที่สวยงาม จึงแจ้งความประสงค์ให้บุคคลในครอบครัวทราบว่าต้องการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงไม่ต้องกินยา และในขณะที่ได้ไปออกกำลังกายจะมีกลุ่มคนที่มาออกกำลังกาย โดยการวิ่งให้กำลังใจ ซึ่งตนเองจะเดินบนลู่วิ่งวันละประมาณ 3 รอบ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จริงๆ แล้วอยากชวนประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะคนบางสะพานน้อย ที่รักสุขภาพมาออกกำลังกายที่สนามแห่งนี้กันมากๆ,นายวิชานนท์ สันติวิทยารมย์ กล่าวว่า ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย มีน้องชายเพียงคนเดียวและพิการช่วงเอวลงมาถึงเท้าตั้งแต่กำเนิด ส่วนการออกกำลังกายเป็นความมุ่งมั่นของน้องชายที่ต้องการออกกำลังเพื่อ สุขภาพ ไม่ให้เครียด ซึ่งตนเองและครอบครัวไม่ขัดข้อง เกือบทุกวันหากไม่ติดภารกิจ หรือมีฝนตก จะขับรถยนต์พามาที่สนามแห่งนี้ และสังเกตได้หลังออกกำลังกายเสร็จ เวลานอนน้องชายจะนอนหลับและนอนตั้งแต่หัวค่ำจากปกติจะเป็นคนนอนดึก ,ด้าน นายอนุศาสน์ นิลอาสน์ อายุ 29 ปี อาชีพรับราชการ กล่าวว่า ทุกวันที่เดินทางมาออกกำลังกายที่สนามแห่งนี้จะพบนายกริชนารามาออกกำลังกาย โดยการใช้ไม้เท้าแขน 2 ข้างเดินรอบสนามซึ่งมีความยาวประมาณ 800 เมตร รวม 3 รอบ จากนั้นได้พูดคุยกันทราบว่าน้องมีความสามารถพิเศษในเรื่องดูดวงโดยใช้ไพ่ยิปซี ทั้งนี้ต้องขอบคุณนายทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่จัดงบประมาณมาสร้างสนามแห่งนี้เพื่อให้กลุ่มคนทุกวัยได้มีสถานที่ออกกำลังกายอีกด้วย. | หนุ่มพิการหัวใจแกร่งให้พี่ชายพาออกกำลัง ใช้ไม้ค้ำพยุงร่างเดินรอบลู่วิ่ง 3 รอบทุกวัน หวังมีสุขภาพดีไม่ต้องกินยา ลดภาระแก่คนในครอบครัว แถมชวนชาวบ้านมาใช้สนามกีฬากลางอำเภอบางสะพานน้อยแห่งนี้มากๆ | null | คนพิการ,ออกกำลังกาย,สนามกีฬากลางอำเภอบางสะพานน้อย,อ.บางสะพานน้อย,ประจวบคีรีขันธ์,กริชนารา สันติวิทยารมย์,คนพิการขา,เดินออกกำลัง,เดินบนลู่วิ่ง | https://www.thairath.co.th/content/730344 |
บิ๊กป๊อก ยันลูกชายไม่เอี่ยวโรงไฟฟ้าขยะ ลั่นใครพาดพิง-แอบอ้าง ฟ้อง | ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ในทุกๆ เรื่อง,
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่โรงแรมเอสดีอเวนิว เขตบางพลัด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรว่า ถ้าใครจะเคลื่อนไหวอะไร ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตนยังยืนยันแบบนี้ ทั้งนี้ คสช.ยังไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้ ซึ่งในส่วนของกลุ่มสามมิตรนั้น หากมีการเคลื่อนไหวหรือชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน เท่ากับว่าเป็นการขัดคำสั่ง คสช. ซึ่ง คสช.ต้องดำเนินการเอาผิดกับคนกลุ่มนี้ ถ้าถามตนตอนนี้ คสช.ก็ต้องดำเนินการ เพื่อความสงบเรียบร้อย
,พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อบุตรชายเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ ว่า ได้สอบถามแล้ว ลูกชายตนยืนยันว่าไม่เคยไปทำ และไม่เคยรู้จัก รวมถึงไม่เคยเข้าพบ ผวจ.ภูเก็ต ตามที่เป็นข่าว ส่วนทาง ผวจ.ภูเก็ต บอกว่ามีคนมาขอพบ จึงขอดูรูป แต่ทาง ผวจ.ลบรูปไปแล้ว ซึ่งทาง ผวจ.ได้อธิบายรูปร่าง แต่ไม่ตรงกัน ทั้งนี้ยืนยันว่าตระกูลตนไม่ยุ่งเกี่ยวกับการหาผลประโยชน์พวกนี้ บริสุทธิ์แน่นอน ลูกชายบอกว่าไม่ได้เข้าพบ ไม่ได้รู้จัก ไม่ได้ทำกิจการ อย่างไรก็ตาม ให้ว่ากันไปตามกฎหมายแล้วกัน
,เมื่อถามว่า หากมีการแอบอ้างหรือต้องการใส่ร้าย จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องไปถามลูก ตนไม่ตอบแทน แต่ถ้ามากระเทือนถึงตน จะฟ้อง เพราะมั่นใจว่าไม่เคยทุจริต ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ในทุกๆ เรื่อง และที่กล่าวหาบางเรื่องไม่ใช่เรื่องของตนทั้งสิ้น ทั้งนี้ลูกชายโตแล้ว และคิดว่าเป็นคนดี ไม่ทำอะไรที่ไม่ดี ไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย เพราะรู้ว่าไม่ยอมให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับงานกระทรวง หรือใช้ชื่อตน. | บิ๊กป๊อก ย้ำกลุ่มสามมิตรเคลื่อนไหวเกิน 5 คน ถือเป็นการขัดคำสั่ง ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ยันลูกชายไม่มีเอี่ยวโรงไฟฟ้าขยะ ลั่นใครพาดพิงหรือแอบอ้างจะต้องฟ้อง เพราะมั่นใจว่าไม่เคยทุจริต | ข่าว,การเมือง | อนุพงษ์ เผ่าจินดา,รมว.มหาดไทย,กลุ่มสามมิตร,โรงขยะไฟฟ้า,แอบอ้างชื่อ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1355905 |
วันแรก กล้องเลนเชนจ์ ออกใบสั่งจอมปาด-เบียด 13977 ราย | วันนี้ (9 พ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผบก.จร. และ พ.ต.อ.กิตติ อริยานนท์ รอง ผบก.จร. ลงพื้นที่บริเวณสะพานข้ามแยกศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หลัง บก.จร.เริ่มใช้ระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนเปลี่ยนช่องเดินรถในเขตห้าม (Lane Change Camera System) ในวันนี้ โดยกล้องจะตรวจจับรถที่ขับเบียด รถขับปาด หรือขับแซง ช่วงทางขึ้นสะพานข้ามแยก และอุโมงค์ทางลอดพ.ต.อ.กิตติ เปิดเผยว่า กล้องดังกล่าว ติดตั้งและทดลองใช้มา ตั้งแต่วันที่ 1-30 เม.ย. พบว่า มีผู้ฝ่าฝืนทั้งสิ้น 226257 ราย เฉลี่ยวันละ 7542 ราย และล่าสุด บก.จร.เริ่มใช้ตรวจจับอย่างจริงจัง ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเมื่อตรวจจับจนถึงเวลา 16.30 น. พบผู้กระทำผิด 13977 ราย แบ่งรายละเอียดจุดต่างๆ ดังนี้ อันดับ 1 แยกสามเหลี่ยมดินแดง 1902 ราย อันดับ 2 สะพานศิริราชด้านอรุณอัมรินทร์ 1599 ราย อันดับ 3 ทางลอดแยกห้วยขวาง 1530 ราย อันดับ 4 สะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว ขาเข้า 1188 ราย อันดับ 5 สะพานพุทธ 1080 ราย ส่วนพื้นที่ที่มีการกระทำผิดน้อยที่สุด ได้แก่ สะพานข้ามแยกประชานุกุล พบผู้กระทำผิด 300 รายเบื้องต้น บก.จร.ติดตั้งกล้อง 15 จุด ได้แก่ สะพานข้ามแยกบางเขน ถนนงามวงศ์วาน ขาเข้ากรุงเทพมหานคร สะพานข้ามแยกศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ขาออก ไปทาง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทางลอดแยกห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า สะพานข้ามแยกบรมราชชนนี ถนนบรมราชชนนี ขาออก สะพานข้ามแยกวงเวียนบางเขน ถนนแจ้งวัฒนะขาเข้า สะพานข้ามแยกราชเทวี ถนนราชเทวี ขาเข้า แยกสามเหลี่ยมดินแดง ถนนราชเทวี ขาเข้า สะพานข้ามแยกประชานุกุล ถนนรัชดาภิเษก ขาออก สะพานศิริราชด้านอรุณอัมรินทร์ ถนนอรุณอัมรินทร์ ขาออก สะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ขาเข้า สะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ขาออก สะพานข้ามแยกวงศ์สว่าง ถนนรัชดาภิเษก ขาออก สะพานข้ามแยกพระราม 4 ถนนรัชดาภิเษก ขาออก สะพานพุทธ ถนนประชาธิปก ขาเข้า สะพานข้ามแยกกำนันแม้น ถนนกัลปพฤกษ์ ขาออกทั้งนี้ แต่ละจุดจะมีป้ายเตือน 3 ระยะ คือ ระยะ 100 เมตร 50 เมตร และ 30 เมตร ก่อนถึงจุดตรวจจับ ซึ่งจะใช้กล้อง 4 ตัว ทำงานอัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง ความคมชัดและละเอียด 2 ล้านเมกกะพิกเซลล์ สามารถตรวจจับได้ทั้งกลางวัน กลางคืน เมื่อกล้องจับภาพรถที่กระทำผิดแล้ว จะส่งกลับมายังศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) เพื่อดำเนินการออกใบสั่งไปยังเจ้าของรถภายใน 7 วันสำหรับผู้กระทำความผิด จะมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1000 บาท แต่เบื้องต้น บก.จร.จะปรับไม่เกิน 500 บาท | วันแรก กล้องเลนเชนจ์ของกองบังคับการตำรวจราจร พบผู้กระทำผิดขับรถปาดเบียดขึ้นสะพาน และอุโมงค์ลอดแยก 15 จุด 13977 ราย เตรียมส่งใบสั่งถึงบ้านภายใน 7 วัน | สังคม | กล้องเลนเชนจ์,พ.ต.อ.กิตติ,บก.จร.,ขับปาดหน้า,ขับเบียด,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/272117 |
ผุดกิจกรรมไม่ยืนเพลงสรรเสริญหลังโซเชียลแชร์กรณีเมเจอร์สั่ง พนง. เชิญคนไม่ยืนออกจากโรงก่อน | ด้านผู้จัดการสาขาแจงเป็นการชี้แจงข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ส่งเรื่องให้สำนักงานใหญ่แล้ว ประชาไทเปิดเคสไม่ยืนเพลงสรรเสริญพระบารมีในประวัติศาสตร์พบ 2 รายถูกพิพากษาจำคุกเพราะมีการพูดจาและแสดงกริยาส่อถึงความไม่เคารพ ส่วน 1 เคสนั่งเฉยๆ ช่วงเพลงสรรเสริญ อัยการไม่ส่งฟ้อง19 ส.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานว่า เฟสบุ๊คแฟนเพจ ได้ตั้งกิจกรรมในเฟสบุ๊ค ชื่อว่า โดยนัดหมายทำกิจกรรมดังกล่าวในวันที่ 31 ส.ค. 2562 เวลา 10.00 น. ที่โรงหนังเมเจอร์ สยามพารากอน อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า กิจกรรมดังกล่าวจะมีการจัดขึ้นจริงหรือไม่สำหรับกิจกรรมนี้ เกิดขึ้นหลังจากเฟซบุ๊คแฟนเพจ เปิดเผยว่าทาง เมเจอร์มีมาตรการให้พนักงานตรวจเช็คผู้ใช้บริการในช่วงเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนหนังฉาย หากพบว่ามีบุคคลที่ไม่ประสงค์ที่จะยืน จะขอให้ออกจากโรงหนังก่อน แล้วค่อยกลับเข้ามานั่งใหม่ในช่วงที่หนังเริ่มฉาย โดยมีการระบุว่า ยึดตามหลักกฎหมายและต่อมามีการเปิดเผยด้วยว่า กาญจนา ผู้จัดการโรงหนังเมเจอร์ สาขาเซ็นทรัลเชียงราย ซึ่งระบุว่ามีการชี้แจงข้อมูลที่บิดเบือนจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และขอให้ทางเพจศาสนวิทยาฯ ลบโพสต์ก่อนหน้านี้ออก เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมชี้แจงว่าได้ประสานงานเรื่องนี้ไปยังสำนักงานใหญ่เรียบร้อยแล้วอย่างไรก็ตามเวลานี้ 19.00 น. ยังไม่มีการชี้แจงจากทางเมเจอร์ว่า ข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวเป็นอย่างไร และผู้สื่อข่าวประชาไทได้ติดต่อสอบถามไปยังเพจMajor Group แล้วทั้งขอตรวจสอบข้อเท็จจริง และติดต่อผู้มีอำนาจในการตอบคำถาม แต่ยังไม่การตอบกลับแต่อย่างใดสำหรับเรื่องราวของการไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีนั้น เคยมีผู้ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วอย่างน้อย 3 ราย โดยศาลพิพากษาลงโทษ 2 ราย และ อัยการไม่ส่งฟ้อง 1 รายกรณีแรกเกิดขึ้นในปี 2521 เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับ อนุชิต (สงวนนามสกุล) นั้นปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1294/2521 อนุชิต ถูกฟ้องมาตรา 112 เนื่องจากขณะเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี จำเลยได้กล่าวถ้อยคำว่า เฮ้ย เปิดเพลงอะไรโว้ย ฟังไม่รู้เรื่อง และจำเลยมิได้ยืนตรงเช่นประชาชนคนอื่น การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์บริบทของคดีนี้ โจทก์ (อัยการ) ฟ้องว่ามีผู้อภิปรายเรื่องเกี่ยวกับการต่อต้านคอมมิวนิสต์และเรื่องการต่อต้านราคาสินค้าที่บริเวณสนามหลวง เมื่อผู้อภิปรายยุติการอภิปรายและเปิดแผ่นเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมี ประชาชนยืนตรงแสดงความเคารพพระมหากษัตริย์ จำเลยได้บังอาจกล่าวถ้อยคำดังกล่าวและไม่ยืนตรง เป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ และเป็นการแสดงอาการไม่เคารพนบนอมต่อพระมหากษัตริย์ต่อหน้าประชุมชน ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ม.112 ให้จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นส่วนศาลฎีกาพิพากษายืนเช่นกัน โดยวินิจฉัยว่า เพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเพลงที่ใช้บรรเลงในการพระราชพิธีหรือพิธีการต่างๆ เพื่อถวายพระเกียรติและถวายความเคารพแด่องค์พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะคดีนี้ประชาชนที่ไปฟังการอภิปรายย่อมเข้าใจว่า เพลงสรรเสริญพระบารมีที่เปิดขึ้นเป็นการถวายความเคารพแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทยองค์ปัจจุบัน จึงได้ยืนตรงทุกคน จำเลยเป็นนักเรียนครูวิทยาลัยครูสวนสุนันทา ย่อมต้องรู้และเข้าใจดีกว่าประชาชนธรรมดาสามัญ การที่จำเลยมิได้ยืนตรงเช่นประชาชนคนอื่นในขณะที่เพลงสรรเสริญพระบารมีเปิดขึ้น ทั้งยังบังอาจกล่าวถ้อยคำว่า เฮ้ย เปิดเพลงอะไรโว้ย ฟังไม่รู้เรื่อง เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่า จำเลยมีเจตนาที่จะดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ต่อมาในปี 2551 รัชพิณ (สงวนนามสกุล) ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษเนื่องจากในวันที่ 15 มิ.ย.51 เวลากลางวัน ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ฯ รัชโยธิน ขณะเมื่อมีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ เธอไม่ลุกขึ้นยืนถวายความเคารพ และได้ยกเท้าทั้งสองข้างพาดเก้าอี้ไปทางจอพอภาพยนตร์ พอเพลงจบก็ยังมีการตะโกนถ้อยคำหยาบคายออกมาวันที่ 19 ต.ค. ศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 112 ให้จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดลงกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีการรอลงอาญาไว้ 2 ปีเนื่องจากมีเหตุว่า จำเลยมีประวัติมีอาการทางจิตและเคยผ่านการรักษาจากโรงพยาบาลจิตเวชส่วนอีกคดีหนึ่ง เป็นคดีที่เกิดขึ้นกับ โชติศักดิ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2550 โดยเขาไมยื่นเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงหนัง อย่างไรก็ตามในวันที่ 19 ก.ค. 2555 วิศิษฐ์ สุขยุคล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4ว่า ในการพิจารณาสำนวนของอัยการ เห็นว่าการกระทำของโชติศักดิ์ เพียงแต่ไม่ได้ลุกขึ้นยืนตรงขณะที่มีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรง ภาพยนตร์ เพราะการแสดงความอาฆาตมาดร้ายจะต้องมีการกระทำแสดงให้เห็นด้วย เมื่อไม่ปรากฏพฤติการณ์อันจะมีลักษณะความผิด ในฐานแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ จึงถือว่าไม่เข้าข่ายตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112คดีนี้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้สรุปสำนวนมีความเห็นสมควรสั่งไม่ฟ้องให้อัยการ โดยอัยการได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นที่สั่งไม่ฟ้อง ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อทำความเห็นแล้ว และผบ.ตร. มีความเห็นพ้องกับพนักงานอัยการ คดีจึงเป็นอันยุติไม่ฟ้องคดี | แฟนเพจนักการมีมตั้งกิจกรรมไม่ยืนในโรงหนัง หลังเพจศาสนวิทยาฯ เปิดเรื่องแอดมินเพจเมเจอร์ออกมาตรการเชิญคนไม่ยืนช่วงเพลงสรรเสริญพระบารมีออกจากโรงหนังก่อน | การเมือง,วัฒนธรรม,สิทธิมนุษยชน | เพลงสรรเสริญพระบารมี,เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์,ศาสนวิทยา | https://prachatai.com/journal/2019/08/83935 |
บอมบ์ ไซโคลน ผลจากโลกร้อน อนาคตจะเจอ ร้อนสุดโต่ง หนาวสุดโต่ง | สภาพอากาศที่หนาวจัดและหนาวมากเป็นประวัติการณ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นปรากฎการณ์ที่สื่อมวลชนหลายสำนักเรียกว่า บอมบ์ ไซโคลน (Bomb cyclone) เพราะความเหน็บหนาวและหิมะที่ตกอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบทั้งทางบกและทางอากาศอย่างหนักหน่วงปรากฎการณ์ บอมบ์ ไซโคลน (Bomb cyclone) ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูหนาว และคำเรียกนี้นักอุตุนิยมวิทยาใช้เรียกกันมาตั้งแต่ปี 1940 เนื่องจากเป็นคำที่ให้ความรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและฉับพลันของพายุไซโคลน โดยชื่อทางการคือ บอมโบเจเนซิส (Bombogenesis)บอมบ์ ไซโคลน (Bomb cyclone) คือ extra-tropical cyclone เป็นพายุหมุนนอกเขตร้อน ที่พัฒนาตัวอย่างรุนแรงและรวดเร็วผิดปกติ โดยพายุจะมีความกดอากาศที่ใจกลางพายุลดลงอย่างน้อย 24 มิลลิบาร์ ภายในเวลา 24 ชั่วโมง หรือ 1 มิลลิบาร์/1ชั่วโมง พายุเกิดขึ้นเมื่อมวลอากาศลอยสูงขึ้น จากบริเวณที่เป็นความกดอากาศต่ำบนผิวโลก ซึ่งทำให้ดูดอากาศบริเวณโดยรอบเข้าไปเมื่อรวมตัวกันแล้ว พายุจะเริ่มหมุนตัวเร็วขึ้นและเร็วขึ้น เหมือนนักเล่นสเก็ตที่หมุนตัว ส่งผลให้ความเร็วลมเพิ่มขึ้น และความเร็วลมจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่ออยู่ใจกลางพายุนายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้ข้อมูลว่าปรากฎการณ์ดังกล่าวคล้ายกับช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมาของประเทศไทย ที่พายุจากประเทศฟิลิปปินส์เคลื่อนผ่านมา แล้วดึงลมหนาวลงมาประเทศไทย ทำให้ในขณะนั้นมีอากาศหนาวเย็น ฝนตก และอุณหภูมิลดลง แต่ไม่รุนแรงเหมือนประเทศสหรัฐอเมริกาพายุที่เกิดขึ้นบริเวณภาคตะวันออกของสหรัฐฯ ไปเหนี่ยวนำอากาศจากขั้วโลกเหนือลงมาเลี้ยงตัวพายุ จึงทำให้เกิดลมแรง แต่ปกติในฤดูหนาวจะไม่ค่อยเกิดพายุ พายุส่วนใหญ่จะเกิดในฤดูร้อนเป็นหลัก ถามว่าผิดปกติไหม ไม่ผิดปกติ เพราะเกิดขึ้นได้ เพียงแต่ไม่บ่อยนัก นายวันชัย กล่าวเมื่อนำปรากฎการณ์ดังกล่าวไปถามนักวิทยาศาสตร์ว่าสภาพอากาศที่หนาวรุนแรงแบบนี้เกิดจากปัจจัยใด ก็ได้รับคำตอบจาก รศ.สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าเป็นผลจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ ผลของโลกร้อนผลกระทบจากภาวะโลกร้อน หรือสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง จะทำให้ปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น หรือไม่ควรเกิดขึ้น ก็เกิดขึ้น หรือควรจะเกิดปรากฎการณ์ใดแล้วกลับไม่เกิด หรือเกิดน้อยมากเกิดขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สุดโต่งแบบนี้คือคำอธิบายของผลกระทบจากภาวะโลกร้อนสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง จะเป็นอะไรที่สุดโต่ง หนาวสุดโต่ง ร้อนสุดโต่ง ที่ผ่านมาเราอาจจะเห็นไม่ชัดเจน แต่จากนี้เราจะเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยขึ้น สหรัฐฯ เคยประสบปัญหาอากาศหนาวมาแล้ว บางปีหนาวมาก แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้ เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของภาวะโลกร้อน รศ.สุชนา กล่าวรศ.สุชนา กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทุกคนเชื่อและเข้าใจว่าสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทั้งร้อนและหนาว คือผลพวงจากภาวะโลกร้อน แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในขณะนี้ คือสัญญาณที่บอกว่าสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ปกติแล้ว และผลกระทบน่าจะเกินจุดเริ่มต้นไปมากแล้วปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่นับวันมีแต่เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น ขณะนี้ขั้วโลกเหนือได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด อุณภูมิเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 5 องศาเซลเซียส ส่งผลให้น้ำแข็งละลาย กระทบกับประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัยจากปัญหาดินทรุดและดินสไลด์ ขณะที่หมีหลายตัวจมน้ำตาย และไม่สามารถหาอาหารและจำศีลได้หากถามถึงวิธีแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน รศ.สุชนา กล่าวว่า ปัจจุบันเราลดโลกร้อนไม่ทันแล้ว แต่เราอาจจะชะลอการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ เช่น ลดการใช้รถยนต์ หยุดโรงงานอุตสาหกรรม แต่วิธีการดังกล่าวไม่สามารถทำได้ทันที ซึ่งต้องมีการหาพลังงานทดแทนให้ได้เสียก่อน ซึ่งทุกอย่างต้องอาศัยเวลาและเงินทุน กว่าจะทำได้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ในอนาคตสิ่งที่ทุกคนต้องทำหลังจากนี้ เมื่อไม่สามารถลดโลกร้อนได้ก็ต้องปรับตัวอยู่กับโลกร้อนให้ได้จุฑาภรณ์ กัณหา ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ | นักวิทยาศาสตร์ ระบุว่าปรากฎการณ์บอมบ์ ไซโคลน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อน และนับวันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น เพราะปริมาณก๊าซเรือนกระจกยังเพิ่มขึ้นทุกวัน ในอนาคตจะได้เห็นอากาศร้อนสุดโต่งและหนาวสุดโต่ง | ภัยพิบัติ | บอมบ์ ไซโคลน,Bomb cyclone,ประเทศสหรัฐอเมริกา,ภาวะโลกร้อน,โลกร้อน,ผลกระทบโลกร้อน,พายุไซโคลน,พายุหมุนเขตร้อน,หิมะตก,อากาศหนาว,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/269183 |
กทม.สั่งพร่องน้ำ คลองสายหลัก-แก้มลิง รับน้ำฝนในช่วง 14-17 ก.ย.นี้ | พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังประชุมเตรียมความพร้อมรับมือกับฝนที่อาจจะตกหนักในช่วงวันที่ 14-17 ก.ย.นี้ จากอิทธิพลร่องมรสุมที่จะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยขณะนี้ กทม.ได้พร่องน้ำในคลองสายหลักและแก้มลิง เช่น คลองแสนแสบ ช่วง ถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรี และ ถนนคลองตันที่ระดับน้อยกว่า 60 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางและพร่องน้ำช่วงบริเวณสะพานผ่านฟ้าที่ระดับน้อยกว่า 1 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง อีกทั้งตรวจสอบบริเวณจุดฟันหลอ รวมถึงเร่งดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และ คลองมหาสวัสดิ์ และ เสริมแนวกระสอบทรายในจุดเสี่ยงต่างๆ ด้วยพร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตตื่นตัวในการเฝ้าระวังพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณจุดอ่อนน้ำท่วม และ เก็บขยะบริเวณหน้าตะแกรงต่างๆ ในช่วงฝนตกเพื่อให้การระบายน้ำสะดวกยิ่งขึ้น ตลอดจนให้สำนักงานเขตประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนรวมถึงให้ความช่วยเหลือ ประชาชนที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วม 27 ชุมชน เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงขึ้น 1.50-1.60 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางในช่วงเดียวกันนี้ พร้อมกันนี้ กทม.ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติงาน ทุกพื้นที่เขตอย่างใกล้ชิดด้านสำนักการระบายน้ำ กทม. ได้รายงานสภาพอากาศและปริมาณฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่กรุงเทพฯ ในปัจจุบันยังไม่น่าห่วง แต่ต้องเฝ้าระวังหากเกิดพายุฝน โดยปริมาณฝนตั้งแต่มกราคมถึง 12 ก.ย.นี้ วัดได้ 942.5 มิลลิเมตร ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 21 ปี ร้อยละ 20 ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนต่าง ๆ ยังมีศักยภาพในรองรับน้ำได้อีกเมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2554 และปัจจุบันนอกจากนี้กรุงเทพมหานครได้เตรียมแผนการระบายน้ำเหนือออกไปทางฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร เนื่องจากไม่ใช่พื้นที่เศรษฐกิจ และ มีชุมชนหนาแน่นน้อย แต่หากรัฐบาลต้องการระบายน้ำจากทางเหนือ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา กทม.ก็เตรียมพร้อมแผนการป้องกันการระบายน้ำในพื้นที่อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน | กรุงเทพมหานครสั่งพร่องน้ำคลองสายหลักและแก้มลิงรองรับน้ำฝนช่วงวันที่ 14-17 ก.ย.นี้ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนัก พร้อมยืนยันมีความพร้อมระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาหากรัฐบาลต้องการให้ดำเนินการ | สังคม | กทม.,กรมอุตุฯ,น้ำท่วม,ฝนตกหนัก,พร่องน้ำ,ระบายน้ำ,รับน้ำฝน,เจ้าพระยา | https://news.thaipbs.or.th/content/111085 |
ลอบบึมชุด รปภ.ครูสงขลา จนท.รอดหวุดหวิด ผู้เฒ่าโชคร้ายขี่รถตามหลังเจ็บ | เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 59 ร.ต.ท.ประคัลภ์ บุญหวังช่วย รอง สว.สส.สภ.ห้วยปลิง อ.เทพา จ.สงขลา รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตำรวจตระเวนชายแดนชุดลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครู บนถนนสายพรุชิง-กระอาน พื้นที่บ้านพรุชิง หมู่ 7 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 คน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ปัญญวัฒน์ เพชรชุม ผกก.สภ.ห้วยปลิง เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 9 และชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุบนถนนทางเข้าหมู่บ้าน พบหลุมระเบิดกว้างประมาณ 1.50 เมตร ลึก 50 เซนติเมตร ถนนพัง รอบบริเวณมีเศษชิ้นส่วนระเบิดตกกระจายเกลื่อน มีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน คกน 205 สงขลา ล้มเสียหาย 1 คัน ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 คน พลเมืองดีช่วยนำส่ง รพ.ปัตตานี ทราบชื่อ นายเจะหนิ ดอเล๊าะ อายุ 72 ปี ชาว ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา บาดเจ็บแขนขาถลอก ศีรษะแตก ร่างกายบอบช้ำจากแรงอัดของระเบิด เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่และกันชาวบ้านให้ออกจากที่เกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งเคลียร์พื้นที่พร้อมกับเก็บเศษชิ้นส่วนวัตถุระเบิดที่ตกกระจายบนถนนเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 15-20 กิโลกรัม บรรจุถังน้ำยาแอร์นำเอาไปวางซุกซ่อนไว้ในท่อระบายน้ำใต้พื้นถนน จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร รอจนรถของเจ้าหน้าที่ขับรถผ่านมาจึงกดชนวนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่รถเจ้าหน้าที่ผ่านไปก่อนทำให้ปลอดภัย มีเพียงชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 คน,จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนชุดคุ้มครองครูประมาณ 6 นาย ขับรถลานตระเวนผ่านมา คนร้ายจึงกดชนวนระเบิดขึ้น แต่รถเจ้าหน้าที่ผ่านไปก่อน และเป็นจังหวะที่ นายเจะหนิ ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมาถึงท่อลอดถนนก็เกิดระเบิดขึ้น จนถูกแรงระเบิดอัดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งคาดว่าคนร้ายลอบวางระเบิดในครั้งนี้มุ่งทำร้ายเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและชุดสืบสวนได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อหาเบาะแสคนร้ายและติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป. | เฒ่าสงขลา ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง ตชด.ชุดรักษาความปลอดภัยครู ขณะออกลาดตระเวน เคราะห์ร้ายถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บ ส่วน จนท.ผ่านไปก่อนอย่างหวุดหวิด เชื่อ หวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ | null | ลอบวางระเบิด,ลอบบึม,สงขลา,เทพา,ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่,คนร้ายวางระเบิด | https://www.thairath.co.th/content/716200 |
อดีตเจ้าอาวาส วัดน้ำตอหลัง เปลี่ยนศาสนาหนีผิดขโมยวัตถุมงคล | วันนี้ (5 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการวัดตันติการาม หรือวัดน้ำตอหลัง ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตรวจสอบองค์พระประธานวัดที่ถูกนายหัสนิล ศิริสุวรรณ หรืออดีตพระครูปัญญาธนากร ศิริสุวรรณ เจ้าอาวาสวัด เจาะองค์พระเพื่อขโมยวัตถุมงคล ก่อนเข้าศาสนาอิสลามเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาพระครูบริหารสังฑานุวัตร เลขาฯ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส บอกว่า สาเหตุที่อดีตเจ้าอาวาสวัดเปลี่ยนเป็นศาสนาอิสลาม เพราะกลัวความผิดหลังถูกจับได้ว่าขโมยวัตถุมงคลของวัด โดยเจ้าคณะจังหวัด สั่งปลดอดีตเจ้าอาวาสวัดน้ำตอหลังพ้นจากความเป็นพระ หลังจากไม่ได้ทำพิธีลาสิกขา พร้อมแจ้งให้ทุกวัดรับทราบและสั่งตรวจสอบทรัพย์สินวัดเพิ่มเติมอดีตเจ้าอาวาสวัดน้ำตอหลัง ทำพิธีปฎิญาณตนเข้าศานาอิสลามที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 3 ต.ต.ที่ผ่านมา ทั้งที่ยังครองความเป็นพระ | เจ้าคณะจังหวัด สั่งปลดอดีตเจ้าอาวาสวัดน้ำตอหลัง จ.นราธิวาส พ้นจากความเป็นพระ หลังไม่ได้ทำพิธีลาสิกขาก่อนเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ชี้ต้องการหนีความผิดกรณีขโมยวัตถุมงคลของวัด | สังคม | พระเปลี่ยนศาสนา,เปลี่ยนศาสนา,วัดน้ำตอหลัง,วัดตันติการาม,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/256383 |
ศรีสุวรรณ จี้บิ๊กตู่ ปลด รมว.เกษตร-อธิบดีกรมชลฯ ฐานบิดเบือนปัญหาเขื่อน | 76,เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 60 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ออกแถลงการณ์ ของสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ขอเรียกร้องกรมชลประทานหยุดบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร กรณีเขื่อนห้วยทรายขมิ้น จ.สกลนคร แตก และขอเรียกร้องให้หัวหน้าคสช.ปลดอธิบดีกรมชลประทาน และ รมว.เกษตรฯ ออกเสีย,ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า กรณีที่มีพายุ เซินกา (Sonca) พาดผ่านพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือในหลายๆ จังหวัดเป็นเหตุให้เกิดพายุและฝนตกหนักน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ในขณะนี้นั้น แต่ปรากฏว่าในพื้นที่จังหวัดสกลนคร โดยเฉพาะพื้นที่เขื่อนห้วยทราย มีการปล่อยปละละเลยให้มีการกักเก็บและสะสมปริมาณน้ำในเขื่อนไว้เป็นปริมาณมากกว่า 3.05 ล้านลูกบาศ์กเมตร เกินกว่าปริมาตรความจุของเขื่อนจะรองรับได้เพียง 2.66 ล้านลูกบาศ์กเมตร,ส่งผลให้เกิดน้ำล้นคันเขื่อนจนเป็นเหตุให้สันเขื่อนแตกยาวมากกว่า 20 เมตร ทำให้เกิดน้ำทะลักกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลลงสู่ด้านท้ายของเขื่อนไปท่วมพื้นที่ ต.ขมิ้น ต.พังขว้าง ซึ่งมีบ้านเรือน เทือกสวน ไร่นา รถยนต์ของชาวบ้านและพื้นที่ทางการเกษตรจมอยู่ในน้ำ ก่อให้เกิดความเสียหายหลายร้อยหลายพันล้านบาท จนยากที่จะประเมินได้ในปัจจุบัน แต่ทว่ากรณีที่เกิดขึ้นกรมชลประทานกลับออกมาชี้แจงบิดเบือนข้อมูลข่าวสารผ่านเอกสารเผยแพร่ของกรมฯ ว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเพียง การกัดเซาะสันเขื่อนลึกประมาณ 4 เมตรยาว 20 เมตร เท่านั้น และยังอ้างอีกว่า ยังไม่มีอ่างเก็บน้ำใดๆ ที่แตกร้าว ทุกอ่างยังมีความมั่นคงแข็งแรงดี,อย่างไรก็ตาม การให้ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณชนดังกล่าวเป็นกลวิธีสร้างการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของกรมชลประทานที่ควรชี้แจงแถลงไขข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ประชาชนทราบตามที่กฎหมายและรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 59 ประกอบมาตรา 76 ให้การคุ้มครองไว้ ซึ่งยังผลให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น เพราะประชาชนเกิดการชะล่าใจจนไม่สามารถป้องกันแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมอย่างฉับพลันได้,กรณีที่เกิดขึ้นสมาคมขอเรียกร้องมายัง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ได้โปรดระงับปัญหาเสียแต่ต้นโดยการสั่งปลด อธิบดีกรมชลประทาน และ รมว.กระทรวงเกษตรฯ ในฐานะผู้บังคับบัญชาให้ออกไปเสียจากตำแหน่งเพื่อให้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแต่งตั้งบุคคลที่มีความพร้อม มีความสามารถ และไม่มีพฤติการณ์หลอกลวงประชาชนมาทำหน้าที่แทนเสียโดยพลัน,ทั้งนี้ จึงจะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาสู่รัฐบาลได้ทั้งนี้ขอเสนอให้เขื่อนทุกเขื่อน (อ่างเก็บน้ำ) ของกรมชลประทานทุกแห่ง จะต้องมีการประเมินความเสี่ยง และจัดทำแผนรองรับความเสี่ยง และมีการวางระบบการแจ้งข้อมูลสถานการณ์ของน้ำหรืออุทกวิทยาให้ประชาชนท้ายเขื่อนทราบในทุกช่องทาง เพื่อที่ประชาชนจะได้เตรียมการรับมือได้อย่างทันท่วงที และอย่าได้ใช้อำนาจรัฐและเครื่องมือสื่อสารของรัฐ บิดเบือนข้อมูลข่าวสารต่อประชาชนอีกต่อไป | ศรีสุวรรณ ในฐานะนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จี้ บิ๊กตู่ ปลด รมว.เกษตร-อธิบดีกรมชลประทาน ฐานบิดเบือนข้อมูล เขื่อนห้วยทรายขมิ้น ที่สกลนคร แตก อ้างขัดรธน.60 มาตรา 59,76 | ข่าว,การเมือง | ศรีสุวรรณ จรรยา,ฝนตกหนัก,เซินกา,สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน,น้ำท่วม | https://www.thairath.co.th/news/politic/1019549 |
แห่ตีเลข กล้วยประหลาด ออกลูก 2 พันธุ์ในเครือเดียวบ้านแม่เฒ่าตรัง | เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเมื่อวานที่ผ่านมาว่า บ้านเลขที่ 92 ม.3 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง มีต้นกล้วยประหลาด มี 2 พันธุ์ในเครือเดียวกัน เป็นที่ฮือฮาของชาวบ้านในละแวก จึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบ นางละมุน คงอ่อน อายุ 80 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ที่หลังบ้านพบต้นกล้วยถูกผูกด้วยสายสิญจน์ ใต้โคนต้นกล้วยมีกระป๋องแป้งวางอยู่ และมีร่องรอยการนำแป้งมาหาตัวเลข,นางละมุน เปิดเผยว่า หลังบ้านเป็นสวนผลไม้ ปลูกไว้หลายชนิด มีทั้งกล้วย มังคุด และลองกอง และเมื่อหลายวันก่อนมีลูกน้องสังเกตเห็นว่าต้นกล้วยตานีต้นหนึ่งในสวนหลังบ้าน มีกล้วย 2 พันธุ์ในเครือเดียวกัน คือ มีทั้งกล้วยตานี และปลายเครือเป็นกล้วยไข่ ต่อมาเพื่อนบ้านมาขอหวยตามความเชื่อ ซึ่งต้นกล้วยนี้ปลูกมาหลายปีแล้ว ออกลูกมาก็หลายเครือ แต่เพิ่งจะมาเกิดขึ้นกับเครือ,ด้าน นายประภาส ปาติปาเลท นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว อาจแบ่งเป็น 3 กรณี คือ กล้วยยังออกผลไม่สุดเครือ บวกกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ทำให้กล้วยที่กำลังจะออกผลเพิ่มหยุดการเจริญเติบโต ส่วนกรณีที่ 2 มีโรคแมลงเข้าไปรบกวนทำลายช่อดอกทำให้ไม่ติดผล และอีกกรณี กล้วยที่ออกผลมาแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดปลีออก มาเจอกับสภาพอากาศที่ฝนตกลงมา ทำให้ไปละลายธาตุอาหารในดินทำให้มีอาหารไปหล่อเลี้ยงลำต้นและส่งผลให้เริ่มติดดอกออกผลใหม่อีกครั้ง ด้วยสภาพอากาศที่สมบูรณ์ขึ้นนั่นเอง. | พบกล้วยประหลาด ออกลูก 2 พันธุ์ในเครือเดียว ในสวนหลังบ้านแม่เฒ่าเมืองตรัง ใกล้วันหวยออก ชาวบ้านรู้ข่าวแห่หาเลขเด็ด ด้าน นักวิชาการเกษตร เผย อาจเกิดจากสภาพอากาศและปัจจัยทางธรรมชาติอื่นๆ | ข่าว,ทั่วไทย | กล้วยประหลาด,กล้วย2 พันธุ์ในเครือเดียว,ขอหวย,ขอหวยต้นกล้วย,คอหวย,ตรัง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/535836 |
วัฒนา เบิกความปากแรก สู้คดีโพสต์เฟซฯหมิ่น บิ๊กตู่-คสช. | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ก.ย. 59 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 ศาลสืบพยานจำเลยครั้งแรก คดีหมายเลขดำ อ.1244/2559 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อายุ 58 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 กรณีวันที่ 1-2 มี.ค.59 จำเลยได้โพสต์แสดงข้อความหัวข้อ อีคิวต่ำไปหน่อย ในบัญชีเฟซบุ๊ก เพจชื่อ Wattana Muangsook โดยมีข้อความพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไม่คืนอำนาจให้ประชาชน ซึ่งอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 19 เม.ย.59,โดยนาย นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความของนายวัฒนา เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำพยานเข้าเบิกความต่อศาล รวม 2 ปาก ประกอบด้วย นายวัฒนา จำเลย เบิกความในช่วงเช้าจนเสร็จสิ้น ส่วนช่วงบ่ายจะนำสืบ นายโภคิน พลกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย โดยฝ่ายจำเลยจะสืบพยานจำเลยอีก 2 ปาก ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) เวลา 09.00 น. ทั้งนี้ศาลได้กำหนดวันสืบพยานสำหรับจำเลยไว้ 4 นัด ซึ่งกำหนดวันนัดสืบพยานจำเลยปากสุดท้ายในวันที่ 30 ก.ย. ก่อนที่ศาลจะนัดฟังคำพิพากษาต่อไป. | วัฒนา เบิกความสู้คดี โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์-คสช. ผิด พ.ร.บ.คอมฯ พรุ่งนี้เตรียมนำพยานขึ้นสืบอีก 2 ปาก ทนายระบุสืบพยานจำเลยนัดสุดท้ายสิ้นเดือน ก.ย.นี้ | null | หมิ่นบิ๊กตู่,หมิ่นนายกฯ,วัฒนา เมืองสุข,อดีตสส.พรรคเพื่อไทย,พ.ร.บ.คอมฯ,พล.อ.ประยุทธ์,โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์,คสช. | https://www.thairath.co.th/content/731058 |
ขสมก.เตรียมรื้อเส้นทางเดินรถเมล์ แก้ปัญหาวิ่งทับเส้นทาง | วันนี้ (20 มิ.ย. 2559) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวหลังเข้าร่วมสัมมนารับฟังความคิดเห็น ภายใต้โครงการศึกษาแผนแม่บทพัฒนาระบบรถโดยสารประจำทาง ในเขต กทม.และปริมณฑล ว่า ปัจจุบันรถโดยสารประจำทางในเขต กทม.และปริมณฑล วิ่งทับซ้อนเส้นทางมากกว่าร้อยละ 50 บางเส้นทางรถเมล์วิ่งระยะยาวถึง 60 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินรถนาน 3-4 ชั่วโมง จึงต้องปฏิรูปเส้นทางใหม่ให้มีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าแผนจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย. 2559 ก่อนที่จะเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไปนายจิรุตม์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้จะเสนอกระทรวงคมนาคมให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีปี 2526 ที่กำหนดให้ ขสมก.เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเดินรถเส้นทางกรุงเทพ-ปริมณฑลแต่เพียงผู้เดียว ภายในปลายเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อให้กรมการขนส่งทางบกมีอำนาจและกำกับบริหารดูแลการเดินรถได้หลังจากนี้ รถร่วม ขสมก.ต้องมาขอใบอนุญาตที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งสามารถมาขอได้เลย และจะเริ่มทดลองออกใบอนุญาตประกอบกิจการจากกรมการขนส่งทางบกตั้งแต่เดือน ก.ค. 2559 รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุ | กรมการขนส่งทางบกเตรียมเสนอแผนแม่บท ปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางใน กทม.และปริมณฑล โดยลดอำนาจ ขสมก.ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเดือน มิ.ย.-ก.ย.นี้ หลังพบรถวิ่งซ้อนทับเส้นทางร้อยละ 50 | สังคม | ปฏิรูประบบการเดินรถ ขสมก.,กรมขนส่งทางบก,ขสมก.,จิรุตม์ วิศาลจิตร,รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก,รถเมล์,รถเมล์วิ่งซ้อนทับเส้นทาง,กระทรวงคมนาคม,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/253302 |
ยุทธศาสตร์ 20 ปีทำให้พม่าเจ๊ง | วัดวชิรธรรมาวาส ซึ่งเป็นวัดเฉลิมพระเกียรติพระบรมราชานุสรณ์ 200 ปี รัชกาลที่ 4 กำลังสร้างที่ถนนขุมทอง-ลำต้อยติ่ง เขตลาดลาดกระบัง กทม. จัดทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนสร้างทุกเดือน,อาทิตย์ 22 กรกฎาคม 2561 เวลา 13.00 น. ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย เป็นประธานในการทอดผ้าฯ ท่านใดจะร่วมเป็นเจ้าภาพเชิญที่วัด หากมาด้วยตนเองไม่ได้ เชิญร่วมทำบุญได้ที่ธนาคาร กสิกรไทย สาขาลาดกระบัง เลขที่บัญชี 037-1-86728-7 ในวันดังกล่าวยังมีการบวชพระภิกษุ 69 รูปอีกด้วยครับ,มีการเล่นข้อมูลปลอมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพม่าในโซเชียล มีเดียภาษาไทยกันจนเละ แต่ละฝ่ายเล่าประวัติศาสตร์พม่าปลอมเพื่อให้เป็นประโยชน์กับการปกครองในปัจจุบันของตนเอง เปิดฟ้าส่องโลกขอทำหน้าที่เล่าความจริงของแท้แน่นอนให้ได้อ่านกันครับ,พม่าตกจากประเทศที่เคยส่งออกข้าวได้เป็นอันดับ 1 ของโลกมาเป็นประเทศที่ผู้คนอดอยากยากแค้น ต้องออกมาขายแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะนโยบายเศรษฐกิจของคณะปฏิวัติที่ปฏิวัติเมื่อ พ.ศ.2505 ทหารพวกนี้บ้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มากกว่าส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศในสมัยนั้น,ก่อนปฏิวัติ รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งให้งบส่งเสริมการเกษตรมากเกินร้อยละ 10 ของงบประมาณในแต่ละปี พอทหารขึ้นมา พวกนี้ตัดงบส่งเสริมการเกษตรลงเหลือเพียงไม่ถึงร้อยละ 5 ต่อปี แต่ไปเพิ่มงบสนับสนุนอุตสาหกรรมเป็นเกือบร้อยละ 40 (เช่น พ.ศ.2513/14 ได้มากถึงร้อยละ 39.5) ทุ่มเทไปเท่าใดก็ถูกพวกปฏิวัติสูบเงินเอาไปใช้ในเรื่องส่วนตัวเกือบหมด จนผลผลิตทางอุตสาหกรรมที่รัฐบาลนายพลเนวินหวังไว้ไม่ได้ผล,พอผู้คนไม่มีกินมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะไปเล่นงานรัฐบาลทหาร รัฐบาลทหารก็ถ่ายเทความผิดนี้ไปให้คนจีนที่ทำมาหากินอยู่ในพม่า ทหารปฏิบัติการจิตวิทยาด้วยการไปจับพ่อค้าจีนที่กักตุนสินค้าไว้ขายในราคาสูง จากนั้นก็ไปจัดตั้งในคนพม่าให้ไปทำร้ายฆ่าฟันคนจีน โดยโยนข้อหาทำลายเศรษฐกิจพม่า คนจีนทำให้พม่ายากจน ผู้คนอดอยาก,พอคนจีนหนีออกนอกประเทศไปจนหมดแล้ว รัฐบาลเผด็จการทหารปฏิวัติก็เร่งเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจเสียใหม่ เร่งร่างรัฐธรรมนูญออกมาลวงโลกและประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2517 และก็ยุบสภาปฏิวัติตัวการที่ทำให้ประเทศยากจนใน พ.ศ.เดียวกัน,เมื่อมีใครบ่นว่าประเทศอดอยาก พวกนี้ก็โยนความผิดไปให้สภาปฏิวัติและคนจีน พวกทหารให้ความหวังใหม่กับประชาชนด้วยพรรคโครงการสังคมนิยมพม่า แต่แท้ที่จริงก็คือเหล้าใหม่ในขวดเก่า ในพรรคมีแต่ทหาร พอใครด่าว่าเป็นเผด็จการ พวกนี้ก็จะแก้ตัวว่า เรามีรัฐธรรมนูญ เราเป็นผู้ปกครองที่มาตามรัฐธรรมนูญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ.2517-2531 นี่คือ ยุคเผด็จการที่อ้างรัฐธรรมนูญ,อาจจะมีผู้คนในบางประเทศไปลอกวิธีการของพม่ามาใช้ ทหารพม่าผู้ปกครองที่อ้างรัฐธรรมนูญมาประชุมสุมหัวกันและตั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ชื่อว่า The Long Tern Economic Policies of Burma Socialist Programme เอกสารนี้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจใหม่ของพม่า โดยยอมให้เอกชนเป็นเจ้าของธุรกิจได้มากขึ้น และรัฐบาลทหารสัญญาว่าจะไม่ยึดมาเป็นของรัฐ จากนั้นก็ให้ความสำคัญต่อการผลิตทางการเกษตร การประมง ปศุสัตว์ และป่าไม้เป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองคือการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ อันดับสามคือเหมืองแร่,พอถูกต่างประเทศโจมตี พวกทหารพม่าก็บอกกับประชาชนว่าอย่าไปฟัง เราจะพัฒนาประเทศของเราไม่ให้เหมือนใครและไม่มี ใครเหมือน เป้าหมายของเรานะครับ พี่น้องเอ๋ย พอครบ 20 ปีเมื่อใด เราจะเป็นรัฐสังคมนิยมอุตสาหกรรมก้าวหน้า,แล้วเป็นยังไงครับ พอหมดแผน 20 ปี พม่ากลายเป็นรัฐล้าหลังของโลก ผู้คนอดอยากไม่มีงานทำ ต้องหอบลูกจูงหลานมาหางานทำนอกประเทศ เรื่องนี้ผมไม่ได้พูดเอง เขียนเอง ผู้อ่านท่านที่เคารพ พิสูจน์ด้วยตัวเองได้ง่ายดายมาก ด้วยการออกไปที่ปั๊มน้ำมัน หรือที่โรงงานที่ไหนสักแห่ง จะต้องพบคนพม่าใช้แรงงานในบ้านเรา.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected], | พม่าตกจากประเทศที่เคยส่งออกข้าวได้เป็นอันดับ 1 ของโลกมาเป็นประเทศที่ผู้คนอดอยากยากแค้น ต้องออกมาขายแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะนโยบายเศรษฐกิจของคณะปฏิวัติที่ปฏิวัติเมื่อ พ.ศ.2505 | null | พม่า,รัฐบาลทหาร,รัฐธรรมนูญ,เปิดฟ้าส่องโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1292517 |
หมาป่า ดุในรัง ขย้ำ เสือเหลือง 2-1 งาบรองฝูง บุนเดสฯ | ศึกฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน ฤดูกาล 2014/2015 ประจำวันที่ 16 พ.ค. เป็นการแข่งขันในคู่ระหว่าง หมาป่า เมืองเบียร์ โวล์ฟบวร์ก รองจ่าฝูงเปิดสนาม โฟล์คสวาเกน อารีนา พบกับ เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ฟอร์มกำลังยอดเยี่ยมไร้พ่ายใน 5 เกมหลังสุด,เกมนี้เจ้าถิ่นหากคว้า 3 แต้มจะยึดรองจ่าฝูงลีกซีซั่นนี้ทันที ส่วนทีมเยือนต้องการ 3 แต้มเพื่อโอกาสตีตั๋วเข้าไปเล่นในฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้า,เปิดฉากมาไม่ถึง 1 นาที เป็นเจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากลูกชิ่งของ คาลิกูรี ไหลให้กับ เดอ บรอยน์ ก่อนวิ่งไปรับบอลหน้าประตูแปจ่อๆ เข้าไป,แต่นาทีที่ 11 ทีมเยือนมาได้ลูกโทษ จากจังหวะที่ เบนาโญ นายด่านเจ้าถิ่นไปรวบ คัมเปิล ในเขตโทษ ก่อนที่ โอบาเมยอง รับหน้าที่สังหารไม่มีพลาดส่งทีมเยือนตีเสมอ 1-1,เกมคู่คี่สูสีเหลือเกิน ทั้งสองทีมผลัดกันรุกผลัดกันรับ จนกระทั่งนาทีที่ 37 ทีมเยือนพลาดได้ประตูขึ้นนำแบบเหลือเชื่อ มาคิตาร์ยาน บรรจงเปิดไปเสาสองให้กับ โอบาเมยอง ขวิดโล่งๆ 5 หลาบอลหลุดกรอบได้อย่างไร,ครึ่งแรกไม่มีสกอร์เพิ่ม ผ่านครึ่งทาง เสมอกันอยู่ 1-1,เข้าสู่ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ หยอดให้กับ บาส โดสต์ โขกโดนกองหลังทีมเยือนบอลมาเข้าทาง นัลโด รับลูกส้มหล่นก่อนจิ้มเข้าไป,โมเมนตั้มเป็นของเจ้าบ้านทันที นาทีที่ 53 นัลโด เจ้าเก่า รับบอลจาก เปริซิซ ก่อนตะบัน 35 หลา บอลเหินข้ามคานออกไป,หลังจากนั้นทีมเยือนไม่มีอะไรจะเสีย เปิดเกมบุกเต็มสูบ แต่เกือบโดนประตูฝังหลายครั้ง และนาทีที่ 80 โซคราติส ได้ซัดจ่อๆ บอลหลุดกรอบนิดเดียวเท่านั้น,เวลาที่เหลือ ดอร์ทมุนด์ ทวงประตูคืนไม่ได้ จบเกมการแข่งขัน โวล์ฟบวร์ก เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ดอร์ทมุนด์ หวุดหวิด 2-1 การันตีรองแชมป์อย่างเป็นทางการ,สรุปผลการแข่งขันคู่อื่นๆ มีดังนี้,ไฟร์บวร์ก ชนะ บาเยิร์น มิวนิก 2-1,สตุ๊ดการ์ด ชนะ ฮัมบูร์ก 2-1,ชาลเก ชนะ พาเดอร์บอร์น 1-0,เลเวอร์คูเซน ชนะ ฮอฟเฟนไฮม์ 2-0,ไมนซ์ ชนะ โคโลญจน์ 2-0,เบรเมน แพ้ มึนเชนกลัคบัค 0-2,แฮร์ธา เบอร์ลิน เสมอ แฟรงค์เฟิร์ต 0-0 | นัลโด ยิงประตูชัยให้กับ หมาป่าเมืองเบียร์ โวล์ฟบวร์ก เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปแบบหวุดหวิด 2-1 การันตีรองจ่าฝูงศึกบุนเดสลีกาเยอรมันซีซั่นนี้เรียบร้อย | null | บุนเดสลีกา,โวล์ฟบวร์ก,โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์,ข่าวกีฬา,ผลบอล,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/499252 |
กรธ.จ่อริบอำนาจถอดถอน จาก ส.ว. มอบศาล รธน. ตัดสิน | เมื่อวันที่ 23 พ.ย.58 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาประเด็นที่มา ส.ว.และศาลรัฐธรรมนูญ,โดย นายนรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ. กล่าวหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการปฏิรูปการศึกษา และการบังคับใช้กฎหมาย โดยมี นางจุรี วิจิตรวาทการ, นายชาติชาย ณ เชียงใหม่, นายภัทระ คำพิทักษ์, นายสุพจน์ ไข่มุกด์ และนายอุดม รัฐอมฤต เป็นอนุกรรมการเพื่อพิจารณาและศึกษาแนวทางปฏิรูปการศึกษา และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ,นายนรชิต กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่มา ส.ว. กรธ.มีแนวโน้มที่ชัดเจนว่า ต้องการให้วุฒิสภาเป็นอิสระจากการเมือง ซึ่ง กรธ.ได้ศึกษาแนวทางในอดีตพบว่า การเลือกตั้ง ส.ว.ทางตรงจากประชาชน จะถูกอิทธิพลจากนักการเมือง ส่วนการสรรหาก็ขาดความเชื่อมโยงจากประชาชน และการนำทั้งสองแบบมาผสมกันก็ไม่ได้ทำให้ปัญหาที่มีหมดไป ดังนั้น กรธ.จึงมีแนวคิดว่าจะใช้การเลือกตั้งทางอ้อมโดยให้กลุ่มอาชีพ กลุ่มวิชาชีพคัดเลือกตัวแทนของตัวเองมาเป็น ส.ว. อาจจะเลือกเป็นตัวแทนตั้งแต่ระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค จนกระทั่งได้ตัวแทนกลุ่มระดับประเทศ ในส่วนคนที่ไม่มีอาชีพก็อาจบัญญัติให้สังกัดในกลุ่มอื่นๆ โดยจำนวน ส.ว.อาจจะมีจำนวน 200 คน ที่ กรธ.คิดว่าเหมาะสมที่สุด ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ กรธ.ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า ส.ว.จะไม่มีอำนาจถอดถอน,นายนรชิต กล่าวต่อว่า ในส่วนที่มีการวิจารณ์เรื่องอำนาจการถอดถอน ที่โอนไปให้องค์กรอิสระ เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะข้อเท็จจริง กรธ.กำหนดหน่วยงานที่พิจารณาให้นักการเมืองพ้นตำแหน่งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ คือ ศาลรัฐธรรมนูญเพียงหน่วยงานเดียว ส่วนช่องทางการยื่นเรื่องหรือให้องค์กรใดไต่สวน กรธ. ว่าจะเข้าข่ายพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ ยังไม่พิจารณา ขณะที่ ป.ป.ช.จะไม่มีอำนาจถอดถอน แต่จะทำหน้าที่พิจารณาไต่สวนชี้มูลความผิดนักการเมืองและข้าราชการในคดีทุจริต และส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น ดังนั้น กรธ.ไม่ได้มีการโยกอำนาจการพิจารณาการพ้นตำแหน่ง หรือการถอดถอนไปให้องค์กรอิสระแต่อย่างใด | กรธ.ย้ำชัด เตรียมริบอำนาจถอดถอน ส.ว. มอบศาล รธน.ตัดสินแทน แย้มเอาสูตร ส.ว.เลือกตั้งทางอ้อม คิดจากกลุ่มสาขาอาชีพ-วิชาชีพ เล็งกำหนดจำนวน ส.ว.ที่ 200 คน | null | การประชุม กรธ.,นรชิต สิงหเสนี,ที่มา ส.ว.,ศาลรัฐธรรมนูญ,พิจารณาแนวทางร่าง รธน.,แนวทางปฏิรูป,แนวคิดที่มา ส.ว. ของ กรธ.,การเลือกตั้งทางอ้อม,จำนวน ส.ว.,กรธ.ยัน ส.วไม่มีอำนาจถอดถอน,การวิจารณ์อำนาจถอดถอน ส.ว.,โอนอำนาจถอดถอนให้ศาล รธน.,โฆษก กรธ.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/541430 |
กล้าวิ่งหาโอกาส สิ เชื่อ ต้องเพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง | หนูสิ สิริรัตน์ เรืองศรี มิสไทยแลนด์เวิลด์ Miss Thailand World 2010 เพิ่งวิวาห์หวานกับหนุ่มหล่อนักธุรกิจ เป๊ป พีรภูมิ ปราบอริพ่าย,ชีวิตหลังแต่งงาน ได้ดั่งใจแค่ไหน จะต้องปรับตัวเข้าหากันเยอะมั้ย? ไม่ปรับเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะก่อนแต่งงาน เราใช้เวลาอยู่กันเยอะ ก็เข้ากันได้ดีค่ะ ไม่ต้องปรับเลย? ค่ะ (หัวเราะ) สรุปจะไปฮันนีมูนที่ไหน? ยังไม่ได้แพลนเลยค่ะ,อยากให้สิพูดถึง พี่ส้ม ชนากานต์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ Miss Thailand World 1990 หน่อยนะ หลังจากได้ร่วมงานทำเซรั่มบำรุงผิวด้วยกัน? พี่ส้มเป็นนางงามในยุคที่นางงามยังขลังอยู่ เป็นตัวอย่างภาพสำเร็จของทุกบทบาท เป็นนางงาม เป็นแม่ เป็นทั้งนักธุรกิจ เป็นหัวหน้า ทุกวันนี้ก็ยังไม่หยุดที่จะทำงาน พี่ส้มเป็นคนสวยเก่งกล้าแมนมาก ใจถึงดูแลน้องๆ ดีค่ะ อยากให้น้องนางงามคนอื่นๆ เป็นเหมือนพี่ส้มที่เก่งรอบด้าน, , สิกำลังจะไปเป็นกรรมการในโครงการ เฟ้นหาพรีเซ็นเตอร์ W-Thailand Beauty Thailand 2019 กล้าที่จะเปลี่ยน ของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งดับเบิ้ลยู? หลายคนชอบพูดว่า ต้นทุนคนเราไม่เท่ากัน น้อยเนื้อต่ำใจว่าต้นทุนเราไม่ดี สวยหล่อไม่เหมือนคนอื่น จริงๆ คำว่าสวยหล่อไม่มีอยู่จริง อยู่ที่ว่าพยายามวิ่งเข้าหาโอกาส เพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองหรือไม่ จริงๆ มีหลายเวทีที่เปิดโอกาสให้กับเราทุกเพศ ถ้าเราไม่ขี้เกียจ กล้าที่จะวิ่งเข้าหาโอกาสเอง อยากจะทำให้ตัวเองดีขึ้น อย่างการทำศัลยกรรมไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรา แค่ปรับปรุงให้เราดูดีขึ้น สวยหล่อขึ้น.,
,
| ยังอยู่ในช่วงหวานๆ กันอยู่ เพราะเพิ่งจัดงานแต่งงานได้ไม่นาน ของนางงามสุดเซี๊ยะ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | สิ สิริรัตน์,สิแต่งงาน,สิมิสไทยแลนด์เวิลด์,สิกรรมการประกวดนางงาม,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1512678 |
ฟินเว่อร์ สาวกเกาหลีต้องไป สแกนทัวร์พาเที่ยวแบบใกล้ชิดไอดอล K POP | มีข่าวแผ่นดินไหวเกาหลีใต้ในไม่กี่วันที่ผ่านมา บอกตรงๆ ว่าสาวกเคป๊อปอย่างเราเป็นห่วงโอปป้าและประชาชนชาวเกาหลีใต้เหลือเกิน แต่เมื่อได้ทราบข่าวว่าไม่มีการเสียชีวิตเกิดขึ้นและประเทศเกาหลีใต้ก็ยังสามารถไปเทียวกันได้ วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์จึงขอพาไปไปเจาะลึกธุรกิจใหม่ และสัมผัสประสบการณ์เค-ป๊อป แบบเอ็กซ์คลูซีฟ,พูดถึงการประเทศเกาหลีใต้ แน่นอนว่าสิ่งที่ข้ามไปไม่ได้เลย คือ วัฒนธรรมเคป๊อปที่แผ่ขยายความนิยมไปทั่วโลก ส่งผลไปถึงความนิยมทางด้านอื่นๆ อย่างอาหาร แฟชั่น และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และหากจะพูดถึงวงการบันเทิงของประเทศเกาหลีแล้วนั้น หลายๆ คนคงนึกถึงชื่อ S.M. Entertainment (เอสเอ็ม เอนเทอร์เทนเมนต์) ค่ายเพลงอันดับหนึ่งของเกาหลีที่มีศิลปินในสังกัดชื่อดังมากมาย อย่าง Super Junior (ซุปเปอร์ จูเนียร์), Girls Generation (เกิร์ลส์ เจเนอเรชั่น) และ EXO (เอ็กซ์โซ) เป็นต้น วันนี้เราจะพาไปทัวร์กับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีบอกเลยว่าเอ็กคลูซีฟสุดๆ ไปเที่ยวเกาหลี คุณจะเจออะไรบ้างเราพามาให้ชมกัน ,SMT SEOUL (เอสเอ็มที โซล),เราเริ่มต้นที่แรกกับร้านอาหารหลากสไตล์แห่งแรก ของค่าย S.M. โดยคำว่า SMT ตัว T นั้น ย่อมาจากคำว่า Table, Trend และ Tapas อาหารแนะนำของร้าน SMT SEOUL มีทั้งหมด 5 ชั้น ประกอบด้วยโซนต่างๆ หลายโซนที่จะให้บริการทั้งอาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก อาหารฟิวชั่น จากการเลือกสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันให้บริการทั้งแบบ a la carte และ course menu รวมถึงมีโซนคาเฟ่ของหวานและบาร์ให้บริการอย่างครบครันในร้านเดียว, ,ชั้นที่ 1 และ 2 ,จะเรียกว่าโซน PLAYGROUND โดยจะให้บริการอาหารนานาชาติ แบบ a la carte ไม่ว่าจะเป็น เกาหลี, จีน, ญี่ปุ่นและตะวันตก และยังมีเซตน้ำชายามบ่ายให้ทุกท่านได้มาใช้เวลายามบ่ายอย่างเพลิดเพลิน รวมถึงสามารถมาดื่มค็อกเทล ให้เพลิดเพลินในช่วงค่ำคืน,ชั้นที่ 3 และ 4 ,คือโซน PENTHOUSE เป็นโซนไพรเวทที่ถูกดีไซน์เป็นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว พร้อมสิร์ฟอาหารแบบ course menu ให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาติอาหารจากเชฟชื่อดังในบรรยากาศสุดหรู ,โดยชั้น 3 จะแบ่งห้องต่างๆ เช่น Korean Room (ห้องอาหารเกาหลีแบบต้นตำหรับ), Living Room (ห้องอาหารในบรรยากาศสบายๆ เหมือนห้องนั่งเล่น), Party Room (ห้องสำหรับจัดปาร์ตี้) และ ห้อง TVXQ (ทงบังชินกิ) ที่มีแรงบันดาลใจมาจากศิลปินเกาหลีชื่อดัง เป็นต้น,ส่วนชั้นที่ 4 โดดเด่นด้วยคอนเซปต์บ้านไวน์สุดหรูที่รวบรวมไวน์คุณภาพเอาไว้ให้คุณได้เลือกสรร รวมถึง ไวน์ Amos ที่ถูกบ่ม และอิมพอร์ตมาจากไร่ไวน์ของผู้ก่อตั้งค่ายอย่าง คุณลีซูมาน ในสหรัฐอมเริกา,และชั้นที่ 5 ,ถูกจัดเป็นห้อง Multi Room ห้องอเนกประสงค์ ที่ศิลปินในค่ายมักมาใช้บริการบ่อยๆ พร้อมด้วยสวนแนวตั้งด้านนอกให้คุณได้พักผ่อนกับบรรยากาศร่มรื่นใจกลางเมือง, SUM MARKET (ซัม มาร์เก็ต),ต่อด้วยเราจะพาไปชมซุปเปอร์มาเก็ตภายใต้แบรนด์ศิลปินในความน่ารักของ Product ที่วางเรียงรายต้อนรับอยู่จนต้องแชะภาพเก็บไว้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Lifestyle ของค่าย S.M. Entertainment ได้จับมือกับ Emart บริษัทผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้เปิดตัวซุปเปอร์มาเก็ตแห่งแรกที่สามารถนำเสนอคอนเทนต์ของความเป็น S.M. Entertainment ได้อย่างเต็มที่ผ่านสินค้าหลากหลายชนิดที่คัดสรร และครีเอทกันมาเป็นอย่างดี,นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่จัดแสดงอัลบั้มที่ปล่อยออกมาล่าสุดของศิลปินในค่าย S.M. Ent. อีกด้วย ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้แฟนคลับ ลูกค้าทั่วไป รวมถึงชาวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศเกาหลีสามารถสัมผัสถึงกิจการด้านบันเทิงของเกาหลีได้อีกหนึ่งที่เลยทีเดียว,สถานที่ไฮไลต์ SMTOWN@coexartium,ศูนย์รวมความเพลิดเพลินสำหรับสาวก K-POP และแฟนคลับของศิลปิน SMTOWN อีกหนึ่งธุรกิจครบวงจรด้านความบันเทิงจากค่าย S.M. ENTERTAINMENT,SMTOWN@coexartium เป็นอาคารสูง 6 ชั้น ตั้งอยู่ที่ COEX Artium ห้าง COEX MALL ย่านชองดัมดง สามารถใช้บริการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น. โดยในแต่ละชั้นก็จะแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ได้แก่,ชั้น 2 : SUM (Celebrity Shop),เป็นร้านขายของที่ระลึก, อัลบั้ม ซีดีเพลง และไอเท็มทางด้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์สุดแปลกใหม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านความสวยความงามของศิลปินจากค่าย S.M.ENTERTAINMENT โดยมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย เช่น หมอน, หมวก, เสื้อยืด, ชุดเครื่องเขียน, แว่นตา, กระเป๋า, แก้วน้ำ และอื่น ๆ เป็นต้น โดยภายในร้านก็จะสัมผัสได้ถึงความหรูหรา โดดเด่น แหวกแนวสุดไฮเทคตั้งแต่ทางเข้าร้านกับจอดิจิตอลที่คุณสามารถกดเลือกชมสินค้าได้,ชั้น 3 : SMTOWN STUDIO,ชั้นที่จะทำให้คุณสัมผัสประสบการณ์ และเข้าถึงความเป็นศิลปินได้ โดยการเนรมิตให้คุณกลายเป็นศิลปินจริงๆ จากทีมงานระดับมืออาชีพที่จะมาช่วยเติมเต็มความฝัน สร้างให้คุณเป็นศิลปินแบบนักร้องที่คุณชื่นชอบ เพราะที่ชั้นนี้ จะมีทั้งห้องอัดเสียง, ห้องซ้อมร้องเพลง, ห้องซ้อมเต้น, ห้องแต่งตัว, มีช่างทำผม ช่างแต่งหน้ามากฝีมือ รวมถึงสตูดิโอที่คุณสามารถถ่ายแบบ สร้างอัลบั้ม และทำมิวสิกวิดีโอเพลงของคุณเองได้ เรียกได้ว่าจะได้เรียนรู้ และมีประสบการณ์จริงกับทุกขั้นตอนของการกลายเป็นศิลปิน K-POP แบบครบครัน ไปดูกันเลยดีกว่าว่าชั้นนี้มีดีอย่างไร น่าตื่นเต้นแค่ไหน Go Go,เมื่อพูดถึงศิลปินเกาหลีแล้ว ท่าเต้นแต่ละเพลงของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่มีส่วนทำให้ทุกคนจดจำได้ดี รวมทั้งยังสามารถสัมผัสได้ถึงความพยายามอันไม่ย่อท้อของศิลปินแต่ละคนว่ากว่าที่พวกเขาจะเดบิวต์ หรืออกอัลบั้มได้ ต้องผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนักหน่วงเลยทีเดียว และทริปนี้ ก็ได้พาเรามาสัมผัสถึงการเต้นตามแบบศิลปินเกาหลีแบบพิศษสุดๆ กับคุณครูสอนเต้นรับเชิญอย่าง น้องเตนล์-ชิตพล ลี้ชัยพรกุล สมาชิกชาวไทยของวง NCT U มาสอน ,หลังจากที่ได้เข้าคลาสเรียนเต้นกับน้องเตนล์ วง NCT U ไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่จะทำให้คุณได้เข้าถึงความเป็นศิลปินตามแบบฉบับเกาหลีแท้ ก็คือ การแปลงโฉมให้เหมือนกับศิลปินเกาหลีจริงๆ ซึ่งจะมีทีมงานเกาหลีระดับมืออาชีพจากค่าย S.M. Ent. มาคอยแต่งหน้า ทำผม เปลี่ยนลุคของคุณไปเลยทีเดียว,ชั้น 4 : SUM POP-UP CAFÉ (LIVErary Café),SUM POP-UP CAFE พื้นที่ที่เป็นเสมือนตัวแทนของการสื่อสารระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ จะเป็นคาเฟ่ๆ น่ารักที่มีธีมหลักเป็นศิลปินจากค่าย S.M. Ent. โดยของที่วางขายจะมีการสร้างสรรค์ให้เกิดความโดดเด่น และแตกต่างออกไป โดยใช้ชื่อ และเอกลักษณ์ของศิลปิน เช่น ในหมวดหมู่เครื่องดื่ม ก็จะมีชื่อศิลปินอยู่หน้าขวดน้ำสุดน่ารัก, ของหวานต่าง ๆ ก็จะมีการใส่คาแรกเตอร์ตามคอนเซปต์อัลบั้มใหม่ที่ถูกปล่อยออกมาของศิลปินแต่ละคน เป็นต้น,นอกจากนี้ ภายในร้านก็มีการตกแต่งโดยใช้ artwork เป็นรูปต่างๆ ของศิลปิน รวมถึงมีพื้นที่ที่เรียกว่าโซน LIVERARY ที่จะเป็นเสมือนห้องสมุดที่รวบรวมผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดของศิลปินที่แฟนๆ สามารถเข้าไปนั่งอ่าน นั่งชมได้,ชั้น 5 - ชั้น 6: SMTOWN Theatre,เป็นชั้นของโรงละครที่รวบรวมความบันเทิงด้านการชมเอาไว้อย่างครบครัน ในส่วนของโรงละครก็จะเป็นที่ที่มีการฉาย Hologram รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ของศิลปิน เช่น Showcase, Mini Concert หรืองาน Fan Meeting ส่วนด้านนอก ก็จะมีจอภาพขนาดใหญ่ (Panavision) มีความยาวถึง 15 เมตร ที่จะเปิดภาพการแสดงคอนเสิร์ต หรือมิวสิกวิดีโอเพลงต่าง ๆ ของศิลปินตลอดเวลา, การจัดแสดง Hand Printing ของศิลปิน, Photo Box ที่คุณสามารถเข้าไปถ่ายรูปคู่กับศิลปินชื่นชอบได้, SMTOWN gallery ที่รวบรวมภาพสุดคมชัดของศิลปินจากงานคอนเสิร์ต หรือภาพจากอัลบั้ม และ 3D printing ขนาดเท่าศิลปินตัวจริงให้คุณสามารถเดินเที่ยวชมได้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย,นอกจากจะได้ไปสัมผัสความเป็นเคป๊อปแบบสุดๆ แล้ว ยังได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ฮิตๆ ของเกาหลี อย่าง ทงแดมุน พลาซ่า (DDP Plaza) เพื่อถ่ายรูปกับสวนดอกกุหลาบเรืองแสงที่ทำมาจากไฟ LED เรียงรายกันอย่างสวยงามเกือบแสนดวง และสะพานบันโพ (Banpo Bridge) ที่มีการแสดงน้ำตกหลากสีในยามค่ำคืน เป็นต้น พร้อมลิ้มรสอาหารแปลกใหม่ทั้งคัลบิจิม-ซี่โครงเนื้ออบเกาหลี, ปลาไหลย่างสไตล์เกาหลี, ปูไข่ดองซีอิ๊ว และบะหมี่ดำ พร้อมแกงกิมจิสุดอร่อย เป็นต้น | มีข่าวแผ่นดินไหวเกาหลีใต้ในไม่กี่วันที่ผ่านมา บอกตรงๆ ว่าสาวกเคป๊อปอย่างเราเป็นห่วงโอปป้าและประชาชนชาวเกาหลีเหลือเกิน แต่เมื่อได้ทราบข่าวว่าไม่มีการเสียชีวิตเกิดขึ้นเราก็โล่งใจ วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์จึงขอพาไปไปเจาะลึกธุรกิจใหม่ | ไลฟ์สไตล์,ท่องเที่ยว | เอสเอ็ม ทรู ทัวร์,เทียวเกาหลี,เที่ยวเกาหลีใต้,ประเทศเกาหลีใต้,เที่ยวแบบติ่งเกาหลี,สาวกเกาหลี,S.M. Entertainment | https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/720980 |
หมออารักษ์ เล่านาทีรักษาเด็ก 3ขวบ ฟันผุติดเชื้อรุนแรง หนองลุกลามขึ้นตา | จากกรณี นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ภาพเด็กฟันผุ ตาบวมเป่ง ในเฟซบุ๊ก Arak Wongworachat พร้อมข้อความระบุว่า ฟันผุติดเชื้อรุนแรงหนองขึ้นตาหวิดบอด ฟันผุอย่ามองข้าม โดยผู้ป่วยเด็กชายอายุ 3 ขวบเศษ มาด้วยเป็นไข้ ปวดตาซ้าย ตาบวมแดงมาก ตาปิด มองเห็นลางๆ ตรวจในช่องปาก ฟันน้ำนมผุทั้งปาก ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น ,ฟันผุอย่ามองข้าม หมอยกเคส 3 ขวบติดเชื้อรุนแรง หนองขึ้นตาหวิดบอด,ล่าสุด วันที่ 4 มิ.ย. 62 นพ.อารักษ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า คนป่วยมา รพ.ด้วยอาการตาบวมมากและไม่สามารถลืมตาได้ มองไม่เห็น มีไข้ด้วย แพทย์ก็เห็นว่าอาการค่อนข้างจะรุนแรงจึงรับตัวไว้ใน รพ. พอไปตรวจในช่องปากก็ปรากฏว่าเด็กมีฟันน้ำนมขึ้นพอสมควรแล้ว แต่ว่าฟันน้ำนมของเด็กจะผุทั้งหมดเป็นฟันที่ไม่มีลักษณะขาวอยู่เลย ฟันจะมีสีดำและหลายซี่จะมีแต่ตอ ด้านบนของฟันในด้านซ้ายจะมีตาบวมจะมีเหงือกอักเสบร่วมด้วย และมีหนองออกมาด้วย,สำหรับสิ่งสำคัญคือ แพทย์จะดูว่าลักษณะของการติดเชื้อเข้าไปในเบ้าตาด้วยหรือเปล่าและก็ลุกลามไปในไซนัสด้วยหรือเปล่า จึงส่งเด็กไปเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ปรากฏว่าพบมีหนองอยู่ในไซนัสที่อยู่ใต้ตาด้วย จึงรับเด็กไว้ใน รพ. และก็ให้ยาเข้าทางเส้นเลือด,หลังจากนั้นก็ส่งปรึกษาทันตแพทย์จะต้องถอนฟันที่ผุออกทั้งหมด เราเอกซเรย์คอมพิวเตอร์รอบๆ ดวงตาจะมีลักษณะเหมือนหนองหุ้มรอบอยู่ และที่สำคัญที่สุดในตัวเบ้าตาเองยังดีอยู่ก็ต้องรีบให้ยาฆ่าเชื้อและรีบเอาส่วนที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อออกไปโดยเฉพาะในฟัน,จากการสอบถามมารดาเด็ก ปรากฏว่ามารดาเป็นผู้ใช้แรงงาน เด็กก็ไม่ได้เข้าโรงเรียน เวลาไปทำงานจะพาลูกไปด้วย ทีนี้เวลาลูกมีอาการร้องกวนก็มักจะซื้ออมยิ้มให้เด็กอม นั่นเป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้ฟันผุคือการกินลูกอมของหวานนั่นเอง เป็นแหล่งที่ทำให้ติดเชื้อในช่องปากในช่องฟัน,หมอเล่าต่อว่า สำหรับสาเหตุที่ลุกลามไปถึงดวงตานั้นเกิดขึ้นจากที่ฟันของคนเรารากฟันมันอยู่ลึกเข้าไปและมันอักเสบสามารถที่จะแทงทะลุเข้าไปในดวงตาและบริเวณไซนัสใต้ตา บางคนเมื่ออักเสบมากๆ ถ้าภูมิคุ้มกันไม่ดีก็จะทำให้ลุกลามไปถึงสมองได้ด้วย ตรงนี้เป็นจุดเชื่อมต่อได้ด้วย,อย่างไรก็ตาม สำหรับการป้องกันสิ่งสำคัญหลังจากที่เด็ก 6 ขวบ 8 ขวบ เริ่มจะมีฟันน้ำนมฟันซี่แรกขึ้นมาและจะค่อยๆ เติมเต็มมาจนกระทั่งเต็มช่องปากก่อนที่ฟันแท้จะขึ้น เพราะฉะนั้นในช่วงที่มีฟันน้ำนมสำคัญที่สุดควรจะพาลูกไปพบหมอฟันบ้างและก็ให้ได้เคลือบฟลูออไรด์ป้องกันให้ฟันแข็งแรง ที่สำคัญที่สุดคือการรับประทานนมแม่ นมจืด อย่ากินนมข้นหวาน อย่ากินนมหวาน อย่ากินของหวาน และที่สำคัญที่สุดอย่าดูดขวดนม ดูดแล้วหลับไปก็จะทำให้ฟันผุได้ด้วย เพราะต้องดูแลช่องปากให้ดี ขนมกรุบกรอบก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ฟันผุในเด็ก การรักษาช่องปากดีๆ โรคพวกนี้จะไม่เกิด ไม่เฉพาะในเด็ก ในผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นแบบนี้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุเกิดขึ้นกันฟันแท้ มักจะทำให้เกิดการบวมติดเชื้อได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นต้องดูแลทำความสะอาดในช่องปากให้ดีๆ นพ.อารักษ์ กล่าว. | เปิดใจ หมออารักษ์ เล่านาทีพบคนไข้ ด.ช.3 ขวบ ฟันผุติดเชื้อรุนแรง กลายเป็นหนองลุกลามบวมทั้งหน้า เผยสาเหตุเกิดจากแม่ชอบให้เด็กกินอมยิ้ม พร้อมแนะวิธีป้องกัน | ข่าว,สังคม | ฟันผุ,อารักษ์ วงศ์วรชาติ,ฟันน้ำนมผุทั้งปาก,หนองที่เบ้าตา,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1583543 |
ไทยนิยมยั่งยืน | สามารถที่จะย้อนดูบันทึกคำพูดและพฤติกรรมในอดีตได้ หากปากไม่ตรงกับใจ ทำอะไรไม่ตรงไปตรงมา,จะกลับมาเชือดคอตัวเอง,สิ่งที่จะเห็นต่อไปนี้ คือการเปลี่ยนแปลงนักการเมือง ระหว่าง เก่ากับใหม่ ซึ่งไม่ได้หมายถึง คุณวุฒิหรือวัยวุฒิ แต่อยู่ที่ ทัศนคติทางการเมือง จะเป็นแบบเดิมๆ สร้างตัวเองจากวิวาทะคำพูด หรือ สร้างตัวเองจากผลงานและการกระทำ ถ้านักการเมืองทั้งที่มีต้นทุนและไม่มีต้นทุน ไม่พัฒนาตัวเองให้เข้ากับการเมืองยุคดิจิทัล ก็เตรียมตัวตายได้เลย ในขณะเดียวกัน การสร้างความสมดุล ระหว่าง ดิจิทัล กับ ไทยนิยม ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยแบบไทยนิยม หรือพฤติกรรมความเป็นไทย ความซื่อสัตย์สุจริต เทิดทูนชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องมีควบคู่ไปด้วย,ถ้าไม่มีหลักความเป็นชาติเอาไว้ก็ไปไม่รอดเหมือนกัน,สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการยกคำพูดเรื่องของ ประชาธิปไตยไทยนิยม ที่รัฐบาลเน้นนโยบายการทำความเข้าใจกับประชาชน ในการสร้างความร่วมมือและความปรองดอง ในโค้งสุดท้ายของ โรดแม็ปประชาธิปไตย โดยเฉพาะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มอบเป็นนโยบาย เพราะต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถูกเอาไปตีความจากฝ่ายการเมืองต่างๆนานา จนกลายเป็นวิวาทะไปฉิบ,การเมืองเริ่มจะร้อนตัวกับการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือแกนนำพรรคคนอื่นๆจาก ประชาธิปไตยไทยนิยม ไปสู่การเรียกร้องหลัก ธรรมาภิบาล จนกลายเป็นประเด็นการเมือง,ในความหมายของ ไทยนิยมยั่งยืน เข้าใจว่า คสช.ต้องการให้ การเมืองไทยมีความยั่งยืนในทุกด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ความปรองดองของคนในชาติ ไม่ใช่พอมีการเมืองในระบอบประชาธิปไตย,คนไทยก็ยังทะเลาะกันเองเหมือนเดิม,การเมืองมีแต่การทำลาย ไม่มีการสร้างสรรค์ ไม่ว่าขั้วไหนเข้ามาบริหารประเทศ ก็ต้องทำหน้าที่บริหารบนความขัดแย้ง ท้ายที่สุดแล้ว เกิดวิกฤติการเมืองที่ฝังรากลึก คนไทยฆ่ากันเอง พาคนไปตาย เพราะฉะนั้นจะอ้างระบอบประชาธิปไตยอย่างเดียวก็ไม่ได้ จะต้องเป็นแบบไทยนิยมที่ยั่งยืนด้วย,ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบไทยๆที่ผ่านมา,ประเทศไทยบอบช้ำมาก็เยอะ เจ็บมาก็มาก ลองทบทวนให้ดี เป็นเพราะ ทหาร หรือนักการเมือง ถ้าการเมืองไม่ทะเลาะ กันเอง เคารพกฎกติกาตามระบอบประชาธิปไตย จะมีวันนี้หรือไม่ ถามใจดู,เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ก็คงไม่มีใครอยากลงมาสู่จุดศูนย์กลางของความขัดแย้ง แต่เป็นเพราะภารกิจที่ต้องทำ ถ้าการเมืองไม่รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา จะเอาผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างเดียว ก็เท่ากับจุดไฟเผาบ้านเผาเมืองตัวเอง.,หมัดเหล็ก,[email protected], | การเมืองในยุคนี้ ขอบอกว่า แตกต่างจากการเมืองที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง ถ้าจะคิดสร้างกระแส สร้างภาพ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ไม่ได้ผลแน่นอน เพราะสื่อโซเชียลก็เหมือนดาบสองคม | null | การเมือง,ไทยนิยม,ประชาธิปไตย,คาบลูกคาบดอก,หมัดเหล็ก | https://www.thairath.co.th/news/politic/1182750 |
ส.ส.เพื่อไทยแจ้งความดำเนินคดี อุตตม หมิ่นประมาทปมหุ้นสื่อ | วันนี้ (24 มิ.ย.2562) นายนิยมเวชกามา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสกลนคร พรรคเพื่อไทย นำเอกสารเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล ชาวจังหวัดพิษณุโลก นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ นายทศพล เพ็งส้ม หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานนายนิยมอ้างว่า ร.อ.ทรงกลด ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ตรวจสอบตนเองว่า มีการถือหุ้นของบริษัท มติไท จำกัด ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน แต่ข้อเท็จจริงคือได้แจ้งจดทะเบียนยกเลิกบริษัท มติไท จำกัด ต่อกรมการพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.2547กระทั่งได้ลงสมัครรับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. และได้รับการเลือกตั้งจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จมาเผยแพร่อีกครั้ง และผู้ที่นำรายชื่อ ส.ส.เพื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ตรวจสอบ คือ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังระบุอีกว่า เป็นการกลั่นแกล้งโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ได้รับโทษทางอาญา ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ทำให้ได้รับความเสียหาย อับอาย และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงต้องการให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด | ส.ส.พรรคเพื่อไทยแจ้งความดำเนินคดีกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ แจ้งความเท็จ โดยอ้างว่า นำข้อมูลเก่าเกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อมาเผยแพร่ จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งที่มีการยกเลิกบริษัทไปตั้งแต่ปี 2547 | การเมือง | แจ้งความอุตตม,เพื่อไทย,พลังประชารัฐ,นายอุตตม สาวนายน,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/281107 |
วิษณุ อุบชื่อ กก.จิ้ม ส.ว.แย้มนักการเมือง-ขรก.ไขก๊อกนั่ง ส.ว.ได้ | เมื่อวันที่ 6 มี.ค.62 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการสรรหาวุฒิสภา(ส.ว.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหา ส.ว.ว่า กระบวนการของคณะกรรมการสรรหาฯ จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 9 มี.ค.นี้ จากนั้นจะส่งให้ คสช.เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 194 คน และจะประกาศหลังการประกาศผลเลือกตั้ง 3 วัน ทั้งนี้ในการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาฯ จะไม่มีพูดคุยกับผู้ที่ถูกคัดเลือกก่อน แต่จะนำมาตัดผู้ที่คุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญออกก่อน แล้วมาพิจารณาผู้ที่มีคุณสมบัติ บางคนแม้วันนี้คุณสมบัติยังขาด แต่สามารถเป็น ส.ว.ได้ เช่น วันนี้ยังเป็นข้าราชการอยู่ แต่สามารถนำชื่อมาก่อนได้ และสอบถามเจ้าตัวว่าอยากเป็น ส.ว.หรือยังอยากรับราชการ ถ้าต้องการเป็น ส.ว.ก็ลาออกจากราชการ ทำให้มีคุณสมบัติ นอกจากนี้ยังต้องรอดูผลการเลือกตั้ง ส.ส.เพื่อพิจารณาชื่อของคู่สมรสของผู้สมัครว่า จะได้รับเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดห้ามเป็นบุพการี คู่สมรส หรือบุตรของผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. วันนี้จึงไม่ใช่การแต่งตั้งจริง เพราะคณะกรรมการสรรหาฯจะพิจารณาชื่อมา 400 คน และเสนอให้ คสช.พิจารณาให้เหลือ 194 คนอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่มีการติดต่อกับเจ้าตัวเด็ดขาด เพราะไม่ใช่เป็นการรับสมัคร,เมื่อถามว่า คุณสมบัติ ส.ว.ที่ห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมือง แต่ไม่ได้ระบุเวลาว่า ต้องพ้นสมาชิกพรรคมาแล้วเท่าไร แสดงว่าสามารถลาออกจากสมาชิกพรรคมาเป็น ส.ว.ทันทีได้ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถลาออกจากสมาชิกพรรคการเมือง และถูกรับเลือกเป็น ส.ว.ได้ แต่สำหรับผู้ที่เคยเป็นกรรมการบริหารพรรค ต้องพ้นจากตำแหน่งไม่น้อยกว่า 5 ปี ถึงจะเป็น ส.ว.ได้ การจะมีนักการเมืองเข้ามาเป็น ส.ว.นั้น ไม่ถือว่าแปลกประหลาดอะไร เช่นเดียวกับสมาชิก สนช.ก็ต้องลาออกก่อนกระบวนการสรรหาแล้วเสร็จ,เมื่อถามว่า แสดงว่าผู้สมัคร ส.ส.ที่สอบตก สามารถลาออกจากสมาชิกพรรคการเมือง มาเป็น ส.ว.ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่น่าทัน ถ้าไม่ได้อยู่ใน 400 ชื่อ ที่ถูกเลือกมาในลำดับแรก ก็ไม่มีทางได้เป็น ส.ว.อยู่แล้ว และเมื่อเรารู้ว่าเขาสมัคร ส.ส.แล้ว จะยัดชื่อใส่เผื่อเป็น ส.ว.ทำไม,เมื่อถามว่า การไม่เปิดรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ทำให้ถูกมองว่าไม่โปร่งใสหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สังคมมองเช่นนั้นได้ แต่ไม่ใช่ไม่โปร่งใส เพราะในที่สุดแล้วจะต้องมีการเปิดเผย เพียงแต่ไม่ใช่ตอนนี้ ดังนั้นจึงจะโปร่งใสเมื่อถึงเวลาหนึ่ง วันนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เช่นเดียวกับการแต่งตั้งข้าราชการทหาร ตำรวจ ซึ่งเราไม่สามารถไปสอดรู้สอดเห็นได้ แต่เมื่อเสร็จแล้วจะเปิดเผยว่ามีกระบวนการอย่างไร | วิษณุ แย้ม ขรก.-นักการเมือง ลาออกนั่ง ส.ว.ได้ แต่ผู้เคยเป็น กก.บห.ต้องพ้นตำแหน่งไม่น้อย 5 ปี ส่วน ส.ส.สอบตกไม่น่าทันเวลา ชี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดชื่อ คกก.สรรหา ส.ว.อ้างความโปร่งใส | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,ส.ว.,สรรหา ส.ว.,วิษณุ เครืองาม,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1512415 |
สพฐ.เร่งฟื้นฟู-ซ่อมแซมโรงเรียนถูกน้ำท่วมใน 3 เดือน | สถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทยที่ส่งผลกระทบภัยพิบัติน้ำท่วมใน 64 จังหวัดนายพิษณุ ตุลสุข รองเลขาธิการ สพฐ. กล่าวถึงผลกระทบน้ำท่วมที่มีต่อโรงเรียน โดยหลังจากที่น้ำลดแล้ว สพฐ.ได้ทำการสำรวจความเสียหายของแต่ละโรงเรียน โดยเริ่มตั้งแต่ภาคเหนือ จนถึงภาคใต้ที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมพร้อมทั้งแบ่งการดำเนินงานการฟื้นฟูโรงเรียนออกเป็น3 ส่วน คือ การซ่อมแซมโรงเรียน 442 ล้านบาท ขณะนี้ได้ซ่อมแซมไปแล้ว 714 โรงเรียน ในจำนวน 14 จังหวัด 28 เขต การซ่อมแซมอุปกรณ์การเรียนการสอน 218 ล้านบาท มูลค่าไม่เกิน 50000 บาท ช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลน ชุดนักเรียน หนังสือ อุปกรณ์การเรียน ที่ได้รับความเสียหายไปในช่วงน้ำท่วม 237 ล้านบาท ขณะเดียวกันต้องใช้เวลาในการประเมินความเสียหายของโรงเรียนแต่ละแห่งขณะที่โรงเรียนบริเวณภาคกลางในหลายพื้นที่ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวม สำรวจข้อมูล และได้ตั้งงบประมาณในการฟื้นฟู้หลังน้ำลดแล้ว 1353 ล้านบาท แต่ต้องรอสำนักงบประมาณตรวจสอบความเหมาะสม และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไปรองเลขาธิการ สพฐ. ย้ำว่า การซ่อมแซมอาคารเรียน 1900 โรงเรียน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงถูกน้ำท่วมซ้ำซากได้เน้นให้วิศวกรออกแบบโครงสร้างอาคารในลักษณะใต้ถุนเปิดโล่งเพื่อให้โรงเรียนได้รับผลกระทบ และ ความเสียหายน้อยที่สุดกับหากเกิดน้ำท่วมอีก | สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. เร่งเยียวยาฟื้นฟูและซ่อมแซมโรงเรียนหลังน้ำลดภายใน 3 เดือน พร้อมออกแบบอาคารเรียนหลังใหม่ให้มีใต้ถุนโล่ง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความเสียหายกับอาคารเรียนหากเกิดน้ำท่วมขึ้นอีก | สังคม | น้ำลด,ฟื้นฟู,วิกฤตน้ำท่วม,สพฐ.,ออกแบบอาคารเรียน,เยียวยา | https://news.thaipbs.or.th/content/59676 |
เครือข่าย 9 สถาบันเพื่อการปฏิรูปประเทศแนะยกเลิกเลือกตั้ง 2 ก.พ. หวั่นเหตุบานปลาย | และก่อให้ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่อาจลุกลามบานปลาย27 ธ.ค. 2556 - เครือข่ายแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ 9 สถาบันเพื่อการปฏิรูปประเทศออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 โดยมีรายละเอียดทั้งหมดดังต่อไปนี้ ตามที่ปรากฏเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้รัฐบาลรักษาการของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้ใช้ความรุนแรงโดยการระดมยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนปืนต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เดินทางไปคัดค้านการจับสลากเลือกตั้งที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2556 ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีกทั้งได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และทำให้แพทย์ พยาบาลอาสา เจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ภัย และสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีบุคคลที่แต่งเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจทำลายทรัพย์สินของผู้มาชุมนุมโดยพลการ เช่น รถยนต์ของแพทย์พยาบาลอาสาที่เข้าไปช่วยเหลือให้การรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บจากการชุมนุม เบื้องต้น นับว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ไร้มนุษยธรรมและปราศจากจิตสำนึกต่อความเป็นพี่น้องร่วมชาติ อีกทั้งเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อหลักกาชาดสากล เครือข่ายแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ 9 สถาบัน ซึ่งประกอบด้วยแพทย์และบุคลากรทาง การแพทย์ จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เครือข่ายแพทย์ชนบท และ กลุ่มแพทย์อาสาอิสระ ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและ ขอประณามต่อการกระทำที่รุนแรงไม่ว่าจะเกิดจากฝ่ายใด ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่แล้ว ยังจะเป็นการยั่วยุให้เกิดการประท้วงและต่อต้านรัฐบาลที่รุนแรงยิ่งขึ้น เครือข่ายฯ จึงขอแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันและเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้ 1. ขอให้รัฐบาล เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้ออกมาชุมนุมและเรียกร้องสิทธิเสรีภาพอย่างบริสุทธิ์ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ2. ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องค้นหาความจริงเพื่อดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิดในการประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์ครั้งนี้3. ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความคุ้มครอง รักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่แก่ผู้มาชุมนุมโดยบริสุทธิ์ ตามสิทธิของพลเมือง บุคลากรทางการแพทย์ที่อาสามาช่วยดูแลผู้ชุมนุมและสื่อสารมวลชน4. ขอให้รัฐบาลยกเลิกกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 เนื่องจากจะเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้มีมวลมหาประชาชนออกมาต่อต้านรัฐบาล และก่อให้ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่อาจลุกลามบานปลาย5. ให้ดำเนินการปฏิรูปประเทศอย่างเป็นรูปธรรมและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม หลังจากมีการปฏิรูปประเทศแล้ว จึงกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปตามกติกาใหม่อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม6. เครือข่ายฯ ยังคงยืนหยัดในเจตนารมณ์เดิมคือ ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลาออกจากการรักษาการโดยทันที เพื่อให้เกิดความเป็นกลางในการปฏิรูปประเทศ เครือข่ายแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ 9 สถาบันเพื่อการปฏิรูปประเทศ27 ธันวาคม 2556 | เครือข่ายแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ 9 สถาบันเพื่อการปฏิรูปประเทศขอให้รัฐบาลยกเลิกกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2556 เนื่องจากจะเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้มีมวลมหาประชาชนออกมาต่อต้านรัฐบาล | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | กปปส.,การชุมนุม,การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57,เครือข่ายแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ 9 สถาบันเพื่อการปฏิรูปประเทศ | https://prachatai.com/journal/2013/12/50720 |
ร.ต.อ.เฉลิมยืนยันไม่ได้พบพ.ต.ท.ทักษิณที่ฮ่องกง | ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การเดินทางไปฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการพาครอบครัวไปเที่ยว ไม่ได้พบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามที่เป็นข่าวทั้งนี้เป็นเพราะมติคณะรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ดูแลงานของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำให้มีการพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งที่งานของตนเองในปัจจุบัน ก็มีมากอยู่แล้วสำหรับกรณีที่มีคลิปภาพตนเองกับ พ.ต.ท.ทักษิณ พบกันนั้น เป็นคลิปเก่าที่ถ่ายไว้ช่วงปลายปี 2550 ภายหลังพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งส่วนที่แกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสัญญาณจะมีปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯคนใหม่ว่า เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรค 17 คนที่รักษาการส่วน พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงษ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าอาจเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น ก็ถือว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ เป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ | ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยืนยันไม่ได้พบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนคลิปภาพที่ปรากฎนั้น เป็นเมื่อครั้งพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2550 | การเมือง | ทักษิณ,ฮ่องกง,เฉลิม,เพื่อไทย | https://news.thaipbs.or.th/content/116904 |
ติง รบ.อย่าหลงกล สนง.สลากฯ หวังเดินทางลัดใช้ ม.44 เอื้อประโยชน์เพิ่ม | วันที่ 6 เม.ย. นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะใช้อำนาจตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 44 แก้ไขปัญหาสลากแพง โดยจะช่วยให้การแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ พ.ศ.2517 มีความรวดเร็วขึ้น เพราะลดขั้นตอนในการพิจารณา ว่า การให้ข้อมูลดังกล่าว ทำให้ประชาชนเข้าใจไปว่า นายกรัฐมนตรีจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 มาเร่งรัดการแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่น่าจะใช่ เพราะโดยข้อเท็จจริง คือ เรื่องบางเรื่องสามารถดำเนินการได้เลย โดยไม่ต้องรอการแก้กฎหมาย เช่น การจะพิจารณาจัดสรรโควตาใหม่ สามารถทำได้เพราะเป็นอำนาจของบอร์ดกองสลากฯ อยู่แล้ว หรือ การจะนำเครื่องอัตโนมัติมาขายสลาก 6 ตัว ก็ทำได้ เพราะการกำหนดวิธีการจำหน่าย และการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากฯ เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่แล้ว ตามมาตรา13 ของ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517,เรื่องที่จำเป็นต้องใช้อำนาจพิเศษมาจัดการน่าจะเกี่ยวกับเรื่องยากๆ ที่ทำให้สลากฯ แพง ที่ท่านประธานบอร์ดสลากฯ ดร.สมชัย สัจจพงษ์ และท่านผู้อำนวยการ พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ไม่สามารถทำได้มากกว่า ซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายที่รู้ดีที่สุดว่า เรื่องยากๆ นั้นคืออะไร ซึ่งก็คือ คนในสำนักงานสลากกินแบ่ง นายธนากร กล่าว,นายธนากร กล่าวว่า เรื่องสร้างสรรค์ที่ยังทำไม่ได้หากยังไม่แก้พ.ร.บ.สลากฯ ก็น่าจะเป็นเรื่องกองทุนรับซื้อคืนสลากฯ ที่ขายไม่หมด ไม่แน่ใจว่าจำเป็นจะต้องเร่งรีบให้ทันเดือนมิถุนายน หรือไม่ สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ประเด็นอื่นๆ ที่ไม่ถูกพูดถึง ที่ถูกบรรจุไว้ในร่างการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ คือ การเพิ่มชนิดของสลากฯ ใหม่ๆให้ออกได้หลากหลาย โดยการแก้ไขให้บอร์ดกองสลากฯ มีอำนาจเพิ่มจำนวนและรูปแบบการออกสลากฯ ได้ และการเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถนำเงินรายได้จากการจำหน่ายสลากฯ ชนิดใหม่ๆ นี้ ไปใช้ได้ตามมติของคณะรัฐมนตรี ซึ่งตรงนี้เท่ากับการกรุยทางสร้างบ่อทองให้กับการเมืองฝ่ายรัฐบาล ชุดต่อไป และสุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นตราบาปของรัฐบาล ถูกตราหน้าว่า เป็นผู้เปิดประตูให้เกิดสลากฯ รูปแบบใหม่ๆ มามอมเมาประชาชนโดยระบบที่เป็นปัญหาอยู่กลับเกาไม่ถูกที่คัน เข้าทางกลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่ม. | เครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก ติง รัฐบาลอย่าหลงกล สนง.สลากฯ หวังเดินทางลัดใช้มาตรา 44 แก้หวยแพง ที่แท้ต้องการเพิ่มหวย-เพิ่มอำนาจ-เพิ่มผลประโยชน์ | null | มาตรา 44,เดินทางลัด,แก้หวยแพง,รัฐบาล,เครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก,สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล,ผลประโยชน์,ธนากร คมกฤส,ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ลอตเตอรี่,หวย,สลากกินแบ่งรัฐบาล,เล่ห์กลกองสลาก,กองสลาก,สลากกินแบ่งฯ,ทุจริต,เพิ่มอำนาจ,การพนัน,มอมเมา,ผีพนัน | https://www.thairath.co.th/content/491492 |
ถ้าเราเหนื่อยล้า จงเดินเข้าป่า คืออะไร มีที่มาอย่างไร ทำไมถึงฮิตกัน? | กลายเป็นอีกหนึ่งประโยคที่คนตั้งคำถามนำมาตั้งสเตตัส กับ คำว่า, วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า และประโยคที่ว่า ถ้าเราเหนื่อยล้า จงเดินเข้าป่า, เป็นการล้อกันหลังจากมีข่าวนักธุรกิจใหญ่ถูกจับจากการล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งก็ยังต้องหาข้อพิสูจน์ว่าผิดจริงหรือไม่อย่างไร แต่ประโยคนี้ก็ถูกพูดซ้ำๆ,ไทยรัฐออนไลน์ พาไปหาที่มา ปรากฏว่าเป็นเพลงที่มียอดวิวเตะร้อยล้านวิวในยูทูบ วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ของนักร้องหนุ่มสุดหล่อมากความสามารถ แม็กซ์-ณัฐวุฒิ เจนมานะ ซึ่งเป็นเพลงที่สองจาก EP: Let There Be Light โดยแต่งเนื้อร้องและทำนองโดย MXJMN and The Unicorn,Arrangement and programming - Vincent,Vocal - แม็กซ์ เจนมานะ,Chorus - หญิง พรปวีณ์ ตันกิจจานนท์,Acoustic Guitar - แม็กซ์ เจนมานะ,Electric Guitar - Vincent,Bass - วรเชษฏฐ์ ฐานุพงศ์ชรัช,Drums - มีศิลป์ พูลสวัสดิ์,Recording Engineer - จีรศักดิ์ ขวัญหวาน,Mixed and mastered by บุรินทร์ สุภัครพงษ์กุล,Recorded, mixed and mastered at Flow Space & Studio,—————————————————,Directed by : Anucha Ocharoen,Producer : Rueankhwan Sangburarat,Lighting by : Porpat Lavanamal,Director of photography : Premkamol Santiwattana,Production team : Vow-noy Production,Editing by : Vow-noy Production ,โดยมีเนื้อร้องดังนี้,Verse 1,วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ฉันเจอนกตัวหนึ่ง ,มันถามฉันว่าจะไปไหน ฉันจึงตอบ,อยากไปให้ไกล ไกลเกินกว่าที่ฉันเคยไป,Pre-Chorus,ถ้าเราเหนื่อยล้า จงเดินเข้าป่า,อย่างน้อยก็ไม่ต้องพบเจอคน…, ,Chorus,ใจร้ายอย่างเธอ คนที่ไม่มีน้ำใจ ไม่มีเยื่อใยให้คนเคยรักกัน,ใจร้ายอย่างเธอ ต้องทิ้งให้อยู่คนเดียว เผื่อเธอเหงาขึ้นมาจะได้กลับมารักกัน, ,Verse 2,วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ฉันเจอเสือตัวใหญ่,มันถามฉันว่ากลัวบ้างไหม ฉันจึงตอบว่าไม่เท่าไร ยังดีกว่าคนไร้หัวใจ,Pre-Chorus,เมื่อเราปวดร้าว จงเดินเข้าป่า,อย่างน้อยก็ไม่ต้องพบเจอคน…, ,Chorus,ใจร้ายอย่างเธอ คนที่ไม่มีน้ำใจ ไม่มีเยื่อใยให้คนเคยรักกัน,ใจร้ายอย่างเธอ ต้องทิ้งให้อยู่คนเดียว เผื่อเธอเหงาขึ้นมาจะได้กลับมารักกัน,(คนใจร้าย/วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า) | เป็นอีกหนึ่งเพลงที่มาแรงมากๆ ทั้งยังตรงกับกระแสข่าวมาแรงตอนนี้อีกด้วย สำหรับเพลง วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ของนักร้องหนุ่มสุดหล่อมากความสามารถ แม็กซ์-ณัฐวุฒิ เจนมานะ เราจึงขอพาไปเปิดเนื้อเพลงนี้กัน | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า,ถ้าเราเหนื่อยล้า จงเดินเข้าป่า,เปรมชัย กรรณสูต,ทุ่งใหญ่นเรศวร,ล่าสัตว์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1198065 |
ย้อนดูต้นตอดราม่า อ๊บไสไม้ คิดว่า? ไข่มุก BNK48 ไม่รู้จริงหรือแกล้งแบ๊ว (คลิป) | โอ๊ยยยยยย เถียงกันกระหน่ำเน็ตกับดราม่า อ๊บไสไม้ เมื่อสาวๆ BNK48 มาออกรายการ Davinci เกมถอดรหัส ที่มีพิธีกรคือ บอย ปกรณ์, แจ๊ค แฟนฉัน และ ซาร่า เอเอฟ ในเป็นช่วงทายปริศนาคำใบ้ที่มี คุณไข่ หรือ ไข่มุก BNK48 และ เจน BNK48 ออกมาทายปริศนาคำใบ้,โดยคำใบ้เป็นรูป กบตัวไส้ และไม้ ซึ่ง ไข่มุก ก็กดและตอบว่า อ๊บไสไม้ เรียกเสียงฮาครืน ก่อนที่ สาวเจน จะตอบถูกว่า กบไสไม้ ซึ่ง คุณไข่ ของโอตะ ก็ยังงงว่า กบไสไม้คืออะไร ก่อนที่ บอย และแจ๊คจะบอกว่าคือเครื่องมือช่าง,จากนั้น ไข่มุก ก็บอกว่าที่ตอบว่า อ๊บไสไม้ เพราะเห็นกบ คือคุณอ๊บๆ จึงตอบไปว่า อ๊บไสไม้ ,อีกข้อเป็นรูปภาพ ป้าย กับคนกำลังบอกทางกัน ไข่มุก ก็ตอบมา ป้าย เป่า หลง ซึ่งเธออธิบายว่า ป้ายว่างเปล่า ผู้หญิงหลงทางอยู่ จึงรวมกันเป็นคำว่า ป้าย เป่า หลง ก็เรียกเสียงฮาได้สุด ก่อนที่คำเฉลยคือคำว่า ป้ายบอกทาง,งานนี้แม้จะเรียกเสียงฮาได้มากมาย แต่ก็เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายในโลกอินเทอร์เน็ตว่า คุณไข่ หรือ สาวไข่มุก BNK ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งแอ๊บแบ๊วสร้างคาแรกเตอร์ให้ดูโก๊ะกัง น่ารัก น่าเอ็นดู,จนสุดท้ายเจอเป็นดราม่า ถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนบนโลกออนไลน์ ทั้งที่อยู่ทีมไข่มุก BNK48 อย่าง,ที่ผ่านมาชีวิตพวกมึงคงดาร์กมาก เจอความสดใสเข้าไปเลยต้องแสดงอาการแปลกๆ ออกมา เหมือนพวกผีโดนน้ำมนต์อ่ะ 5555555555555 ,จะโง่หรือแบ๊วหรืออะไรก็ตาม ไม่ได้สนใจอะไรตรงนั้นอยู่แล้ว ที่รู้ๆ คือวงนี้ตลกดีนะ ดูคลิปแบบรั่วๆ ฮาๆ คลายเครียดดี แอ๊บไม่แอ๊บเรื่องของเขา แต่เอาเป็นว่า พี่ชอบ,ตอบ อ๊บไสไม้ = ประหาร,คนโง่ที่แท้จริง คือคนที่ด่าคนอื่นว่าโง่ ทั้งๆ ที่ไม่รู้หรือเกี่ยวข้องอะไรเลย แต่เพียงแค่อยากเอาชนะคนที่ตัวเองคิดว่าโง่ ซึ่งถ้าว่ากันตามตรง คนฉลาดเขาต้องอยากเอาชนะคนที่เหนือกว่า ไม่ใช่เอาชนะคนที่ด้อยกว่า,เอาข้ออื่นๆ ให้อีพวกด่ามาลองเล่นกันดูดิ เผลอๆ ตอบไม่ได้ งงเป็นไก่ตาแตก อีก ตัดสินคนเพียงแค่เขาตอบผิดแค่ข้อเดียว ดูให้จบแล้วค่อยมาพูด บางคนนี่ด่าแบบรู้เลยสันดานเป็นคนยังไง ตอบถูกหลายข้อไม่โดนด่าว่าฉลาดแต่ตอบผิดข้อเดียวกลับโดนด่าว่าโง่เฉย สู้ๆ ครับคุณไข่ ฯลฯ,แต่บางคอมเมนต์ก็จัดหนัก ไข่มุก ว่า แอ๊บแอ้ แกล้งแบ๊ว ตอบมาได้ไง อ๊บไสไม้ ไม่ว่าจะเป็น,ดัดทั้งสมอง ดัดทั้งสำเนียง จะเป็น BNK48 นี่มันไม่ง่ายจริงๆ ค่ะ,คนธรรมดาทำบอกปัญญาอ่อน พอเป็น bnk ปุ๊บ น่ารักจังเลย แล้วพอเขาด่า พวกมึงก็ว่าเขาดาร์กอย่างนั้นอย่างนี้ คนเรามีสิทธิ์ออกความคิดเห็น ไม่ชอบคือไม่ชอบ ไม่ใช่อคติ ตื่น,เส้นบางๆ ระหว่างโง่กับแบ๊ว แบ๊วเกินเหตุ บางทีน่ารำคาญ #ติ่งแ_ดอย่าด่ากูนะ #เพราะ_ูไม่ว่างด่ากลับ,ทั้งวงนี่คือชอบแคปเฌอคนเดียว คาแรกเตอร์แบบคุณไข่นี่คือพวกผู้ชายจะชอบกันมาก แต่คือเราชอบคนแบบเฌอไง คือเจอคนแบบคุณไข่มาแอ๊บๆ แบบนี้เราก็มองบนนะ คือไม่ได้อิจฉาหรืออะไร แต่เซนส์ผู้หญิงมันบอกไงว่าไม่จริงใจ มันดูน่ารำคาญ,อย่าทะลึ่งเล่นของสูง _ึงไม่รู้เหรอประเทศนี้ห้ามแตะต้อง bnk ต้องอวยๆๆ โว้ย เล่นไม่ได้ วิจาร์ณไม่ได้ ฯลฯ,และบางคอมเมนต์ก็พูดกลางๆ ว่า จริงๆ น่าจะเป็นสคริปต์และคาแรกเตอร์ที่อาจจะต้องวางให้ น้องไข่มุก มาทางนี้,เข้ามาดูคอมเมนต์ของคนฉลาด มีทั้งด่าพ่อ ด่าปญอ. ด่า-ี_อก เรียกผญ.ว่า_ีนี่ ด่าควาย ด่าว่า ครบถ้วนจริงๆ,คือรายการส่วนใหญ่ในไทยมันตามสคริปต์อยู่แล้ว (อย่าง the rapper ที่หลอกคนดูว่าช่วง 8 บาร์ แร็ปสด ก็ออกมายอมรับแล้วว่าไม่ได้สด มีการจด ซ้อมหลายรอบ) (รายการหน้ากากก็ลิปซิงค์ แต่บอกว่าร้องสด) คือรายการเค้าแพลนมาหมดแล้ว ว่าต้องพูดอะไรบ้าง ต้องต่อมุกอะไรกันบ้าง.,เคสน้องคงตอบเอาฮา เรียกเรตติ้งรายการ รายการคงแพลนว่า ตอบให้เอาฮา ดูสนุก ถ้าตอบถูกหมด แย่งกันตอบ รายการมันจะสนุกไหมล่ะ,(ถ้าจะบอกว่าคำตอบมันดูโง่ไป ก็จริง แต่มาตามด่าว่ามันเกินไปหรือเปล่า) และถึงน้องจะโง่จริง ก็ไม่น่าไปด่าเค้าเสียๆ หาย คนเรามันถนัดไม่เหมือนกัน ไข่มุกเค้าถนัด ทำขนม เย็บผ้า ลองเอาเฌอปรางมาทำขนม ก็ไม่ถนัดเหมือนกัน,อีกอย่างคิดว่า ถ้ามันเป็นคาแรกเตอร์ที่น้องต้องสวมไว้ ว่าต้องมึนๆ อึนๆ แบ๊วๆ ก็ไม่น่าใช่เรื่องเสียหาย (เหมือนดาวขำมิน ที่แกล้งเอ๋อ เพื่อให้ตลก) (เหมือนแอนนา ที่แกล้งพูดไทยไม่ชัด),#ส่วนใหญ่ที่ด่าๆกันนิเพราะมีอคติกับbnkอยู่,หากมองจริงๆ ไข่มุก BNK48 อาจจะไม่ทราบคำตอบจริงๆ และไม่รู้จัก กบไสไม้ เลยเดาไปงงๆ ว่า อ๊บไสไม้ ตามที่เธอเข้าใจและรีบตอบ เพราะหากสังเกตดีๆ ข้ออื่นที่ยากกว่า กบไสไม้ และ ป้ายบอกทาง คุณไข่ตอบได้อย่างรวดเร็วและไม่งง,เอาเป็นว่าลองไปดูเทปต้นตอ อ๊บไสไม้ ที่ทำให้เกิดดราม่ากันเลยดีกว่า. | โอ๊ยยยยยย!! เถียงกันกระหน่ำเน็ตกับดราม่า อ๊บไสไม้ เมื่อสาวๆ BNK48 มาออกรายการ Davinci เกมถอดรหัส | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ไข่มุก BNK48,อ๊บไสไม้,Davinci เกมถอดรหัส,ไข่มุก อ๊บไสไม้,#อ๊บไสไม้,นักร้อง | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1301646 |
หนุ่มใหญ่ซดยาฆ่าหญ้าดับ คาดเครียดโรครุมเร้า | เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ม.ค.58 ร.ต.ท.ชินทัตต์ วิเชียรเจริญ ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุ มีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 109/111 ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง ,ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว มีรั้วล้อมรอบ บริเวณหลังบ้าน พบศพนายกิจ ธนกิจศรีอุไร อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่ ในลักษณะนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีส้ม กางเกงขาสั้นสีดำลายดอก ศีรษะพาดอยู่บนไม้พาเลทที่ใช้เป็นชั้นรองเครื่องซักผ้าอยู่ ใกล้กันพบกระปุกยาฆ่าหญ้ายี่ห้อ แลนเนท น้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบแก้วน้ำที่ใส่น้ำอัดลมและยาฆ่าหญ้าเหลืออยู่เกือบครึ่งแก้ว และผงยาฆ่าหญ้าตกหล่อนอยู่รอบๆ ขวดน้ำอัดลม ใกล้กันยังพบก๊อกน้ำมีรอยหักและมีรอยน้ำเปียกอยู่ตามพื้น,จากการสอบสวน ทราบว่า นายกิจผู้ตายพักอยู่ในบ้านเพียงลำพังกับสุนัขอีก 1 ตัว ส่วนญาติผู้ตายซึ่งแยกย้ายกันไปทำงาน นานๆ จะแวะมาเยี่ยมเยียนผู้ตายสักครั้ง และผู้ตายเองมักชอบเก็บตัวอยู่ตามลำพัง ไม่สุงสิงกับเพื่อนบ้าน หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุ ถูก จยย.แต่งซิ่งชนแล้วเมื่อปี 2556 ทำให้ได้รับบาดเจ็บ จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หลังจากนั้นผู้ตายก็มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินเหินด้วยความลำบาก และไม่สามารถทำงานได้เหมือนคนปกติทั่วไป นอกจากนี้ผู้ตายยังมีโรคประจำตัวหลายโรคอีกด้วย ,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะมีอาการซึมเศร้าและอยู่ตนเดียวเพียงลำพัง ประกอบกับมีโรครุมเร้า จนเกิดอาการเครียด คิดสั้นฆ่าตัวตาย โดยการดื่มน้ำอัดลมผสมยาฆ่าหญ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่น โดยจะเชิญตัวชาวบ้านที่พบศพ และเพื่อนบ้านใกล้เคียงไปสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนศพของผู้ตายได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชตรวจหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง | หนุ่มใหญ่เมืองปากน้ำ เครียดมีอาการซึมเศร้า โรครุมเร้าหลายชนิด หลังประสบอุบัติเหตุกลางปี 56 กลายเป็นคนเก็บตัวเงียบ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร คิดสั้น ตัดสินใจซดแลนเนทผสมน้ำอัดลม ฆ่าตัวตาย
| ข่าว,ทั่วไทย | กินยาตาย,หนุ่มใหญ่เครียดฆ่าตัวตาย,โรคร้ายรุมเร้า,ยาฆ่าหญ้า,แลนเนท,เครียดฆ่าตัวตาย,สภ.เมืองสมุทรปราการ,สมุทรปราการ,ภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/475405 |
แคว้นกาตาลุนญาเตรียมแผนกัน จนท.ล้มประชามติแยกตัวจากสเปน | วันนี้ (1 ต.ค.2560) จะมีการจัดลงประชามติแยกแคว้นกาตาลุนญา ออกมาเป็นประเทศเอกราชจากสเปน โดยชาวแคว้นกาตาลุนญา อ้างว่าจะมีรถแทรคเตอร์เข้ามาอีกจำนวนหลายคัน เพื่อป้องกันตำรวจจากรัฐบาลกลางที่จะบุกเข้ามาล้มการจัดลงประชามติแยกแคว้นกาตาลุนญาโดยเมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น คณะผู้จัดการลงประชามติประกาศให้ผู้สนับสนุนปฏิบัติการป้องกันคูหา และให้เตรียมรอลงประชามติเวลา 09.00 น. หรือเวลา 14.00 น.ตามเวลาในประเทศไทยแคว้นกาตาลุนญา เป็นแคว้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ทางภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน มีเมืองเอกคือ มหานครบาร์เซโลน่า โดยนายคาร์ลส พูอิกเดมอนต์ ประธานาธิบดีของแคว้น เป็นผู้นำเรียกร้องให้มีการจัดลงประชามติขณะที่รัฐบาลกลางของสเปนกลับชี้ว่า เป็นการลงประชามติโดยผิดกฏหมายตามคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ โดยสั่งเพิ่มกำลังตำรวจเป็นพิเศษ พร้อมประกาศว่าจะขัดขวางทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้มีการลงประชามติเกิดขึ้น ทำให้เกิดความหวาดเกรงกันว่าสถานการณ์กำลังจะนำไปสู่ความรุนแรง | ฝ่ายที่ต้องการจัดลงประชามติแยกแคว้นกาตาลุนญา ออกมาเป็นประเทศเอกราชจากสเปน ได้นำรถแทร็คเตอร์มาจอดขวางเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางที่จะบุกเข้ามาล้มการจัดลงประชามติในวันนี้ (1 ต.ค.2560) | ต่างประเทศ | สเปน,แคว้นกาตาลุนญา,ลงประชามติแยกตัว,รัฐบาลกลางสเปน,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/266560 |
สพฉ. เปิดสถิติ 10 อันดับเจ็บป่วยฉุกเฉินในเด็ก | วันนี้ (13 ม.ค.2560) นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ในกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองสร้างความสนุก สนานให้กับเด็กๆแต่หลายๆ ครั้งก็ทำให้เด็ก ต้องประสบกับภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินทางสพฉ.ได้รวบรวมสถิติข้อมูลเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ ของเด็กๆ อายุระหว่าง 1 -15 ปี ตลอดปี พ.ศ.2559 พบว่า มีเด็ก เจ็บป่วยฉุกเฉินทั้งสิ้น 156525 คน เป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉินเกี่ยวกับกุมารเวชกรรม มากที่สุด คือ 56101 คน รองลงมา อุบัติเหตุยานยนต์ 36203 คน นอกจากนี้ พลัดตกหกล้ม15245 คนปวดท้อง ปวดหลัง เชิงกราน ขาหนีบ 14113 คน ป่วย อ่อนเพลีย อัมพาตเรื้อรัง 12659 หัวใจหยุดเต้น 5642 คน สัตว์กัด 3141คนชัก 2617 คน ปวดศีรษะ ภาวะผิดปกติทางตา หู คอ จมูก 1599 คน และ 10 แพ้ยา แพ้อาหาร1579 คนนพ.อนุชา บอกว่า จากสถิตินี้ จะพบว่าเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ อุบัติเหตุเกี่ยวกับยานยนต์ และการพลัดตกหกล้ม เพราะเมื่อประสบอุบัติเหตุแนวโน้มในการเสียชีวิต จะมีมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะร่างกายของเด็กยังอ่อนแอและบอบบาง ผู้ปกครองควรระมัดระวังให้ดี การพาบุตรหลานออกนอกบ้าน ควรดูแลเรื่องความปลอดภัย ส่วนการพาบุตรหลานไปเล่นตามเครื่องเล่นต่างๆ หรือตามสนามเด็กเล่น ควรดูแลการพลัดตกหกล้มให้ดี ก่อนอื่นต้องดูที่ความแข็งแรงของเครื่องเล่น ไม่ชำรุดเสียหาย อุปกรณ์ทุกชิ้นต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน มีความแข็งแรง และถ้าเครื่องเล่นที่มีความสูง ต้องมีราวกันตกหรือผนังกันตก เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการตก และก่อให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรง | วันเด็กปีนี้ สพฉ.เตือนผู้ปกครองระวังอันตรายจากอุบัติเหตุ เด็กพลัดตกหกล้ม และภัยจากสนามเด็กเล่น หลังพบปี 2559 10 อันดับเจ็บป่วยฉุกเฉินในเด็กสูงถึง 1.5 แสนคน | สังคม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,วันเด็ก,นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร,สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ,อุบัติเหตุ | https://news.thaipbs.or.th/content/259487 |
สถานการณ์น้ำท่วมอำเภอสามร้อยยอดเริ่มคลี่คลาย | สภาพพื้นที่บริเวณหมู่ที่ 5 และ 6 ใน ต.ศาลาลัย และหมู่ที่ 9 ต.ศิลาลอย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง หลังจากถูกน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรี ไหลหลากเข้าท่วมเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 พ.ย.) ส่งผลให้บ้านเรือนกว่า 100 หลังถูกน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว ขณะที่โรงเรียนเปิดการเรียนการสอนตามปกติ คงเหลือเฉพาะบางพื้นที่ที่ลุ่มต่ำมากๆยังคงเหลือน้ำขังอยู่บ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนายน้อย สวัสดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.ศาลาลัย ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ออกสำรวจตามบ้านของประชาชนที่ถูกน้ำท่วม พบว่า คลี่คลายปัญหาเกือบหมดแล้ว แต่สิ่งที่พบคือ ปัญหาที่ทำให้น้ำระบายช้าจนท่วมบ้าน คือ ที่บริเวณถนนเพชรเกษม มีสะพานข้ามคลองศาลาลัย เพียงแค่ฝั่งเดียวคือฝั่งล่องใต้ แต่อีกฝั่งเป็นเพียงท่อลอดถนน ที่มีขนาดเล็กกว่า ทำให้การระบายน้ำไม่สะดวก รวมทั้งมีขยะ และกิ่งไม้จำนวนมากไหลลงมาขวางทางน้ำยิ่งทำให้การระบายน้ำยากขึ้น หากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาด้วยการก่อสร้างเป็นสะพานข้ามคลองศาลาลัยทั้ง 2 ด้าน ก็จะทำให้น้ำไหลสะดวก มากขึ้นไม่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ | สถานการณ์น้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ใน อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ล่าสุดเริ่มคลี่คลายจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว | ภูมิภาค | ตะนาวศรี,ประจวบคีรีขันธ์,ศิลาลอย,สามร้อยยอด | https://news.thaipbs.or.th/content/127022 |
นักสหภาพแรงงานเกาหลีชุมนุมหน้าสถานทูตไทย จี้ปล่อยตัว สมยศ | นักสหภาพแรงงานกลุ่ม KHIS (Korean House of International Solidarity) พร้อมด้วยตัวแทนจากสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมโรงพยาบาล (KHMU) และ สมาพันธ์แรงงานสิ่งทอและเคมีภัณฑ์เกาหลี(KCTF). ได้จัดแถลงข่าวและชุมนุมหน้าสถานทูตไทย ประจำกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและศาลไทยปล่อยตัวโดยให้สิทธิในการประกันตัวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุขวันนี้(22 ก.ค.) นักสหภาพแรงงานกลุ่ม KHIS (Korean House of International Solidarity) พร้อมด้วยตัวแทนจากสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมโรงพยาบาล (KHMU) และ สมาพันธ์แรงงานสิ่งทอและเคมีภัณฑ์เกาหลี(KCTF). ได้จัดแถลงข่าวและชุมนุมหน้าสถานทูตไทย ประจำกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและศาลไทยปล่อยตัวโดยให้สิทธิในการประกันตัวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักกิจกรรมด้านแรงงาน และบรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ออฟทักษิณและเรดพาวเวอร์ซึ่งได้ถูกตำรวจตรวจคน เข้าเมืองจับกุมเมื่อ 30 เม.ย.ที่ผ่านมาในหมายจับตามข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และถูกควบคุมตัวที่เรือนจำกลางคลองเปรมจนถึงปัจจุบันโดยไม่ได้รับการประกัน ตัวโดย นา ฮยอน-ปิล์ (Na Hyun-pil) จาก KHIS และ ฮัน ยง อัน(Han Yong-un) รองประธานสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมโรงพยาบาล เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ต่อสื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวสมยศ พฤกษาเกษมสุข ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 และหยุดคุกคามขบวนการแรงงานและขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมในประเทศไทยหลังจากนั้น ฮัน ยง อัน เป็นตัวแทนยื่นแถลงการณ์ให้กับตัวแทนจากสถานทูตไทยด้านองค์กรรณรงเพื่อเสื้อผ้าสะอาดปราศจากการกดขี่แรงงาน หรือ Clean Clothes Campaign ได้เผยแพร่วีดีโอคลิปรณรงค์เรียกร้องให้มีการปล่อยตัว สมยศฯ วานนี้(21 ก.ค.) นอกจากนั้นยังมีการเผยแพร่คริปสัมภาษณ์ความเห็นของแต่ละคนเกี่ยวกับการเรียก ร้องให้มีการปล่อยตัวสมยศฯ | นักสหภาพแรงงานกลุ่ม KHIS (Korean House of International Solidarity) พร้อมด้วยตัวแทนจากสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมโรงพยาบาล (KHMU) และ สมาพันธ์แรงงานสิ่งทอและเคมีภัณฑ์เกาหลี(KCTF). | การเมือง,ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน | KCTF,KHIS,KHMU,สมยศ พฤกษาเกษมสุข,เกาหลีใต้ | https://prachatai.com/journal/2011/07/36152 |
สถานีใต้ดิน สนามไชย สวยสุดในโลกจริงหรือ? | ภาพจาก : การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย,ผมได้ยินเสียงร่ำลือมานานพอสมควรแล้วว่า สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สนามไชย ซึ่งเป็นสถานีแห่งใหม่ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อจากหัวลำโพงไปถึงบางแคนั้น ได้ชื่อว่าเป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยมาก,สวยที่สุดในประเทศไทยนั้นแน่นอนอยู่แล้ว รวมทั้งน่าจะสวยที่สุดในเอเชียอีกด้วย เพราะตระเวนมาทั่วทวีปนี้แล้ว ของเราน่าจะสวยกว่าทุกแห่ง,ที่ยังไม่แน่ก็ตรงการเปรียบเทียบระดับโลกนั่นแหละ ว่าเราจะสวยสุดในโลกด้วยหรือเปล่าเท่านั้น?,ด้วยกิตติศัพท์ข้างต้นนี้เอง ทำให้ผมและคณะไทยรัฐที่เคยไปเยือน โครงการไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ที่ สปป.ลาว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ต้องถือโอกาสทาบทามคุณ ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีเค พาวเวอร์ฯ ผู้ดูแลโครงการไซยะบุรี เอาไว้ล่วงหน้า,ขอให้ช่วยจัดโปรแกรมนำคณะของเราไปเยี่ยมชม สถานีสนามไชย ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างสักครั้งหนึ่ง ในวันใดวันหนึ่งเมื่อกลับถึง กทม.,เหตุที่ต้องทาบทามผ่านคุณ ธนวัฒน์ ก็เพราะบริษัทซีเคฯของคุณธนวัฒน์เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสนามไชย นั่นเอง,ปรากฏว่าได้ผลครับ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คุณธนวัฒน์ก็ส่งรถมารับพวกเราชาวไทยรัฐร่วมๆ 30 ชีวิต เพราะมีทีมงานข่าว หน้าสตรี ของเราขอตามไปด้วย,ขณะเดียวกันก็มีทีมข่าวเศรษฐกิจของไทยรัฐทีวี และไทยรัฐออนไลน์ร่วมไปด้วยอีก 1 ชุดใหญ่,ได้พบได้สัมผัสกับความงดงามของ สถานีสนามไชย อย่างเต็มอิ่ม,แถมยังลงไปเดินลอดอุโมงค์ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ต่อไปจะเป็นเส้นทางเดินของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จากหัวลำโพงไปถึงบางแคในอนาคต,ได้ความรู้ได้ประสบการณ์มาฝากท่านผู้อ่านของผม ถ้าเทียบกับผลไม้ก็ได้มาหลายชะลอมเลยทีเดียว,มาตอบคำถามที่ร่ำลือกันเสียก่อน ว่าสถานีสนามไชยสวยจริงไหม? และควรจะสวยอยู่ในอันดับไหนของโลก?,ผมค่อนข้างลำเอียงและหลงใหลชื่นชมในความเป็นไทยมากกว่าอะไรทั้งหมด ยิ่งตอนนี้ยิ่งอินมากกับละคร,ประวัติศาสตร์ไทยเรื่อง บุพเพสันนิวาสขออนุญาตให้คะแนนจากความเห็นส่วนตัวของผมว่าสวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินมาก็แล้วกัน,ผมยังไปไม่ทั่วโลก ยังไม่เคยเห็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของยุโรปตะวันออก หรือรัสเซีย แต่เห็นบ่อยๆและคุ้นมากๆก็คือ นิวยอร์ก, ลอนดอน, ปารีส, โตเกียว แล้วก็ฮ่องกง ฯลฯ ผมยกให้ สถานีสนามไชย ของเราสวยที่สุดครับ,สวยตั้งแต่ทางลงใต้ดิน ซึ่งอยู่หน้าอาคารเก่ากระทรวงพาณิชย์ ที่เดี๋ยวนี้กลายมาเป็นอาคารมิวเซียมสยามนั่นเลยละครับ,พอลงบันไดเลื่อนไปข้างล่างถึงบริเวณที่เป็นชั้นจำหน่ายตั๋วและประตูทางเข้าออกสถานี ก็ถึงกับต้องหยุดยืนตะลึงอยู่ครู่ใหญ่,เพราะนึกว่าคณะของเรากำลังเดินย้อนยุคอยู่ในท้องพระโรงสมัยอยุธยาแบบพ่อหมื่นแม่การะเกดอย่างไรอย่างนั้น,เป็นท้องพระโรงจำลองที่ออกแบบโดยท่าน รศ.ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) ผู้เชี่ยวชาญสถาปัตยกรรมไทย ออกแบบวัด ออกแบบสิ่งปลูกสร้างสไตล์ไทยๆเอาไว้หลายแห่งหลายที่,อาจารย์ภิญโญใช้โทนสีเพียงแค่ 3 สีเท่านั้น คือ สีแดง สีขาว และสีทอง แต่สามารถทำให้บรรยากาศของท้องพระโรงแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ หรือบริเวณห้องขายตั๋วสถานีสนามไชยสวยงามสดใสได้อย่างเหลือเชื่อ,พวกเราหลายคนโดยเฉพาะทีมข่าวหน้าสตรีบ่นเสียดายตามๆกันที่มิได้แต่งชุดไทยมาด้วย มิฉะนั้นก็จะสวมวิญญาณ ออเจ้า ถ่ายแบบเป็นที่ระลึกไว้ได้อย่างสวยงามกว่าชุดธรรมดาๆที่แต่งไปวันนี้,แต่ฝ่ายประสานงานของ ช.การช่าง บอกว่า แต่งอย่างนี้ดีแล้วค่ะ เพราะถ้าแต่งชุดแม่การะเกดไปเดินลุยอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาละก็ รับรองได้ เหงื่อกาฬจะไหลทะลักท่วมสไบออเจ้าแน่นอน,จริงอย่างที่น้องๆฝ่ายประสานงานบอกเอาไว้เรายังต้องไปเดินลอดอุโมงค์กันอีกเพราะฉะนั้นข้อเขียนวันนี้จึงยังจบวันนี้ไม่ได้,ขอต่อภาค 2 พรุ่งนี้นะครับ นอกจากเดินลอดแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังมีความจำเป็นที่จะต้องเอ่ยถึงอีก 3 สถานีในบริเวณใกล้เคียงกันที่จะออกมางดงามทัดเทียมกันชนิดไม่เขียนถึงไม่ได้เลย.,ซูม | ผมได้ยินเสียงร่ำลือมานานพอสมควรแล้วว่า สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สนามไชย ซึ่งเป็นสถานีแห่งใหม่ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อจากหัวลำโพงไปถึงบางแคนั้น | null | สนามไชย,สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน,ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์,เหะหะพาที,ซูม | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1244269 |
หนุ่มควบกระบะ หลับในเสยเสาไฟหัก ไฟดับวงกว้าง | เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. 58 ร.ต.อ.สายใจ คำจุลลา พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุรถปิกอัพพุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นขวางถนน เส้นทางขาเข้า ภายในซอยวัดทุ่งโปรง ถนนสาย 332 ม.9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานการไฟฟ้าสัตหีบ ทำการตัดกระแสไฟ เพื่อความปลอดภัย,ที่เกิดเหตุ เป็นป่าหญ้าริมถนนพบรถปิกอัพ นิสสัน ฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ผฉ 9216 ชลบุรี สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ชนอัดก๊อบปี้ติดอยู่กับโคนเสาไฟฟ้าแรงสูง ที่หักโค่นลงมาขวางถนนใน 2 ช่องทาง ทำให้การจราจรไม่สามารถใช้การได้ ส่วนคนขับทราบชื่อ นายอนุพงษ์ นาคสุข อายุ 41 ปี อยู่ในอาการสะลึมสะลือ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ทำการตัดกระแสไฟ พร้อมเร่งดำเนินการซ่อมทำให้แล้วเสร็จ เนื่องจากมีชาวบ้านในชุมชนหนองหญ้าน้อย และชาวบ้านที่อาศัยในละแวก ได้รับผลกระทบไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้นับร้อยหลังคาเรือน,สอบถาม นายอนุพงษ์ คนขับ เผยว่า ได้ขับรถออกมาจากบ้านพัก เพื่อไปทำธุระภายในซอยดังกล่าว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ประกอบกับที่ตนพักผ่อนไม่เพียงพอ กระทั่งหลับใน ทำให้รถเสียการทรงตัวพุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งตนยินดีจะยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางราชการทั้งหมด. | หนุ่มควบกระบะหลับใน เสยเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นขวางถนน ใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้านนับร้อยหลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ตร.ประสานการไฟฟ้าสัตหีบเร่งดำเนินการซ่อมแซม
| ข่าว,ทั่วไทย | สภ.สัตหีบ,ชนเสาไฟฟ้า,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ชลบุรี,สัตหีบ,พุ่งชนเสาไฟฟ้า,เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น | https://www.thairath.co.th/news/local/503613 |
แฟนคลับฟิน ณิชา อวยพรวันเกิด โตโน่ ดูน่ารักจนใครๆ ก็อิจฉา | น่าจะเป็นวันเกิดที่ฟินทั้งเจ้าของวันเกิดและแฟนคลับสำหรับนักร้องนักแสดงหนุ่ม โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เพราะงานนี้นอกจากจะมีเพื่อนๆ ตลอดจนแฟนคลับเข้ามาอวยพรในไอจีกันมากมายแล้ว นางเอกสาวหน้าใส ณิชา ณัฏฐนิชา ดังวัธนาวณิชย์ ก็ยังอวยพรวันเกิดหนุ่มโตโน่ผ่านทางไอจีตัวเองด้วย,โดย ณิชา ได้โพสต์ภาพคู่กับโตโน่ที่ดูแล้วน่ารักพร้อมทั้งอวยพรว่า Happy birthday @mootono29 wishing you all the best and happiness. ขอให้สุขภาพแข็งแรง (ที่คิดว่าตัวเองมีพลังมากกว่าคนอื่น ก็ขอให้พลังมันมากขึ้นๆ จนล้นโลก) ดูแลตัวเองดีดี ไม่ว่าจะทำอะไร หวังอะไรก็ขอให้สมหวังทุกๆอย่าง and Ill always support you, no matter what you choose to do. ขอบคุณที่ชวนทำแต่สิ่งดีๆเรื่องดีๆ มันเป็นพลังงานบวกในชีวิตจริงๆ ยิ้มเยอะๆๆๆๆ นะ,งานนี้นอกจากจะมีแฟนๆ เข้ามาแซวและอวยพรวันเกิดโตโน่แล้ว คุณแม่ของโตโน่ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ในไอจีด้วยอิโมติคอนรูปหัวใจด้วย ส่วนเจ้าของวันเกิดอย่างโตโน่ก็คอมเมนต์ตอบกลับว่า ฮี่ฮี่ขอบใจนะเจ้าเด็กน้อย ทำเอาแฟนๆ คู่จิ้น โตโน่-ณิชา ฟินกระจายเลยจ้า | น่าจะเป็นวันเกิดที่ฟินทั้งเจ้าของวันเกิดและแฟนคลับสำหรับโตโน่ ภาคิน หลังจากที่ ณิชา ณัฏฐนิชา อวยพรวันเกิดหนุ่มโตโน่ผ่านทางไอจีตัวเอง | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ณิชา ณัฏฐณิชา,โตโน่ ภาคิน,โตโน่ ณิชา,โตโน่ ภาคิน วันเกิด,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1365418 |
กทช. ฟังความเห็นก่อนประกาศแผนแม่บทฯ | ประชาไท -- 9 มิ.ย. 48 วันนี้พวกเรามีความภาคภูมิใจที่จะเสนอร่างแผนแม่บทกิจการโทรคม นาคม โดยเน้นที่การแข่งขันอย่างเป็นธรรมและเรายังตระหนักเป็นอย่างยิ่ง ในการเปิดกว้างรับความเห็นไปปรับปรุง แม้จะออกเป็นพระราชกฤษฎีกาแล้วก็ตาม พลเอกชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2548-2550 วันนี้ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้สนใจร่วมประชุมนับพันคน ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ กทช. เป็นองค์กรอิสระ เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 และพ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคม นาคม พ.ศ.2543 โดยมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งเมื่อ 1 ต.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งการจัดทำแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมฉบับดังกล่าว จะใช้เป็นกรอบในการกำกับดูแลและส่งเสริมการประกอบกิจการโทรคมนาคมของประเทศ เพื่อให้มีการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม โดยต้องเสร็จสิ้นและเสนอเป็นพระราชกฤษฎีกา 9 กรกฎาคมนี้ ซึ่ง กทช.พร้อมที่จะนำไปดำเนินการทันที ขณะที่ นายกุลิศ สมบัติศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นผู้นำเสนอร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมฯ พร้อมกล่าวว่า แผนนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในยุคการค้าเสรี สู่ความพร้อมในการรองรับแรงผลักดันจากเวทีโลกและ เอฟทีเอ นายกุลิศ ชี้ถึงปัจจัยต่างๆ ที่กระทบต่อกิจการโทรคมนาคมในขณะนี้ว่า เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเติบโตที่เติบโตขึ้น จึงส่งผลให้โทรคมนาคมเติบโตมากขึ้น 10% และมือถือเติบโตตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา มีจุดเปลี่ยนถึง 200% และยังคงเติบโต 20-30% มาโดยตลอด ทั้งยังมีการใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางด้านโครงสร้างประชากร และปัจจัยระหว่างประเทศเกี่ยวข้องด้วย ในเวทีระหว่างประเทศ เราจะเข้าไปสนับสนุนและมุ่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ โดยจะช่วยลดช่องว่างและคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ประเทศไทยได้ประโยชน์มากที่สุด นายกุลิศ กล่าว สำหรับการระดมความคิดเห็นในวันนี้ มีการจัดประชุมกลุ่มย่อยใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ การแข่งขันประกอบกิจการโทรคมนาคม และการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบริการ การอนุญาตการประกอบกิจการโทรคมนาคม และการส่งเสริมกิจการโทรคมนาคมเฉพาะกิจ การใช้ เชื่อมต่อโครงข่ายและการบริหารทรัพยากรโทรคมนาคม ลำดับต่อมาคือ การกระจายบริการด้านโทรคมนาคมให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกันทั่วประเทศ และการคุ้มครองผู้ใช้บริการ สุดท้ายคือการส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม และการเตรียมพร้อมในยามเกิดเหตุฉุกเฉินหรือภัยพิบัติ ซึ่งแต่ละกลุ่มมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย แผนฉบับนี้เสร็จไปแล้ว 60-70% ยังขาดแต่ความร่วมมือร่วมใจและความคิดที่เป็นประโยชน์จากทุกส่วน โดยแผนนี้ยังสามารถปรับปรุงแก้ไขได้อีก ไม่เพียงเฉพาะแต่วันนี้เท่านั้น เมื่อมีความเห็นเพิ่มเติมเรายินดีที่จะแก้ไขเสมอ นายกุลิศ กล่าวทิ้งท้าย | ประชาไท -- 9 มิ.ย. 48 วันนี้พวกเรามีความภาคภูมิใจที่จะเสนอร่างแผนแม่บทกิจการโทรคม นาคม โดยเน้นที่การแข่งขันอย่างเป็นธรรมและเรายังตระหนักเป็นอย่างยิ่ง ในการเปิดกว้างรับความเห็นไปปรับปรุง | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/06/4356 |
บิ๊กตุ๊ด ยันไม่หนีหนี้ เดินหน้าทำราชตฤณมัยสมาคมฯ ต่อ ไม่ปลดพนักงาน | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ย.2561 ที่ห้องประดิพัทธภูบาล ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะกรรมการอำนวยการราชตฤณมัยสมาคมฯ จัดประชุมใหญ่สมาชิกสามัญประจำปี 2561 โดยมีวาระประชุมสำคัญ คือ ขอรับมติจากที่ประชุมให้ดำเนินกิจการของราชตฤณมัยสมาคมฯ ต่อไป หรือเลิกสมาคม เนื่องจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ยกเลิกสัญญาเช่าที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งสนามม้านางเลิ้งในปัจจุบัน และขอให้ราชตฤณมัยสมาคมฯ ส่งมอบพื้นที่ในวันที่ 4 ต.ค.2561 โดยมีสมาชิกสามัญมาร่วมประชุมและฟังท่าทีคณะกรรมการอำนวยการราชตฤณมัยสมาคมฯ เป็นจำนวนมาก,เมื่อการประชุมเริ่มต้น ปรากฏว่า เป็นการเปิดตัวคณะกรรมการอำนวยการชุดใหม่ ซึ่งประกอบด้วย พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ พล.อ.จำลอง บุญกระพือ พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัฒน์ พล.อ.วันชัย นิลเขียว และพันเอกดิลก ธนภัทร โดยมี พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการบริหารราชตฤณมัยสมาคมต่อไป ขณะที่ พล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ รองประธานคณะกรรมการอำนวยการ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการกิตติมศักดิ์ พล.อ.วัฒนา สรรพานิช นายสนาม พล.อ.นพดล อินทปัญญา กรรมการประชาสัมพันธ์ พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ เหรัญญิกกิตติมศักดิ์ นายอภัย ระติสุนทร กรรมการกำกับการเงิน และ นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ ปฏิคมและกีฬา ได้ขอลาออกจากคณะกรรมการอำนวยการฯ ไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา และต่างไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุม,พล.อ.วัธนชัย กล่าวว่า การประชุมวันนี้ เป็นการชี้แจงให้สมาชิกราชตฤณมัยสมาคม ฯ ทราบว่า ราชตฤณมัยสมาคมฯ จะดำเนินกิจการต่อไป โดยมีตน พร้อมด้วย พล.อ.จำลอง บุญกระพือ พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัฒน์ พล.อ.วันชัย นิลเขียว และพันเอกดิลก ธนภัทร ทำหน้าที่เป็นรักษาการคณะกรรมการอำนวยการเป็นการชั่วคราวจนกว่าราชตฤณมัยสมาคมฯ จะฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ ซึ่งพนักงานของราชตฤณมัยสมาคมฯ ทุกคนที่เหลืออยู่ จะยังทำงานได้รับเงินต่อไป,ประธานคณะกรรมการอำนวยการบริหารราชตฤณมัยสมาคม กล่าวด้วยว่า ส่วนหนี้สินกว่า 1,300 ล้านบาท คณะกรรมการฯ ชุดใหม่ จะพยายามหารายได้มาใช้หนี้จนหมด เราจะไม่ปิดราชตฤณมัยสมาคม และเราก็จะไม่หนี เพราะการหนีไม่ใช่การแก้ปัญหา ตอนนี้เรากำลังเตรียมเจรจากับเจ้าหนี้ต่างๆ เพื่อขอพักชำระหนี้ ไปก่อนจนการราชตฤณมัยสมาคมฯ จะสามารถจัดแข่งม้าใหม่ได้ สำหรับการจัดหาที่ทำการและสนามแข่งม้าแห่งใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับกลุ่มทุนรายใหญ่ 2-3 ราย ที่ให้ความสนใจจะร่วมลงทุนกับราชตฤณมัยสมาคมฯ ส่วนจะเป็นใครบ้างตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่เบื้องต้นได้มองที่ดินย่านหนองจอกไว้ เป็นสถานที่ก่อสร้างสนามม้าแห่งใหม่ | บิ๊กตุ๊ด ยืนยันทำราชตฤณมัยสมาคมฯ ต่อ พร้อมกับตั้งคณะกรรมการฯ ชุดใหม่ เพื่อเดินหน้าหาที่กลุ่มทุนสร้างสนามม้าแห่งใหม่ใน กทม.ย้ำจะไม่ปลดพนักงาน และไม่หนีหนี้ 1.3 พันล้าน | ข่าว,การเมือง | ราชตฤณมัยสมาคม,สนามม้านางเลิ้ง,วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์,ย้ายสนามม้า,แผนหารายได้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1381761 |
ประชาชนเข้าสักการะพระศพ สมเด็จพระสังฆราชฯ อย่างต่อเนื่อง | ตลอดทั้งวันพระและพุทธศาสนิกชนต่างเดินทางไปสักการะพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหารฯอย่างต่อเนื่อง เพื่อถวายความอาลัย แม้ว่าในช่วงบ่ายจะมีฝนตก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนที่เดินทางไปสักการะพระศพลดน้อย โดยมีประชาชนเข้าแถวยาวไปจนถึงถนนราชดำเนินนางไสว โคกโพธิ์ อายุ 82 ปี บอกว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสได้เข้ากราบสมเด็จพระสังฆราชฯ เพราะทำงานในต่างประเทศ ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวจึงเดินทางมาที่วัด เพื่อหวังจะได้กราบพระศพเป็นครั้งสุดท้าย ในวันพรุ่งนี้ (30 ต.ค.) จะมีการบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร ครบ 7 วัน โดยเวลา 10.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป จะสวดพระพุทธมนต์ พระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 ถวายภัตตาหารเพลและพระสงฆ์ 10 รูป สดัปปกรณ์ จากนั้นพระสงฆ์ 4 รูป จะสวดพระอภิธรรม ในเวลา 19.00 น. สำหรับประชาชนหรือองค์กรต่างๆ ที่ต้องการเป็นเจ้าภาพพิธีบำเพ็ญพระกุศลพระศพ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักอำนวยการบำเพ็ญกุศลพระศพ วัดบวรนิเวศวิหารฯ โดยทางวัดจะรวบรวมรายชื่อไว้ก่อน แล้วกำหนดตารางวันอีกครั้ง | วันที่ 5 ของพิธีบำเพ็ญพระกุศลพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ยังคงมีพุทธศาสนิกชน เดินทางไปสักการะพระศพอย่างต่อเนื่อง | สังคม | พระศพ,สมเด็จพระสังฆราชฯ,สิ้นพระชนม์ | https://news.thaipbs.or.th/content/204246 |
ผ่าซากโลมา ตายบนเกาะพะงัน คาดติดอวน-อดอาหาร | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. น.ส.วัชรา ศากรวิมล นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ศวทก.) พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ฯ เข้าตรวจสอบซากโลมา ตายมาเกยอยู่บริเวณชายหาดบางน้ำเค็ม หมู่ 4 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังรับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพบซากโลมาดังกล่าวลอยมาเกยอยู่ตั้งแต่คืนวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา,จากการตรวจสอบพบเป็นโลมาพันธุ์อิรวดี เพศผู้ คาดว่ามีอายุประมาณ 30-40 ปี วัดความยาวลำตัวได้ 2.1 เมตร น้ำหนักประมาณ 80-100 กก. มีสภาพเน่าส่งกลิ่นเหม็น เชื่อว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน เจ้าหน้าที่จึงทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งผลการผ่าซากพิสูจน์พบว่ามีความบอบช้ำของกล้ามเนื้อ และพบบาดแผลบริเวณผิวหนังจากเชื่อว่าเกิดจากอวน และเครื่องมือประมง นอกจากนี้ยังพบว่าในกระเพาะอาหาร และในระบบลำไส้ ไม่มีเศษอาหารหลงเหลือ,เจ้าหน้าที่ลงความเห็นในเบื้องต้นว่า สาเหตุอาจเกิดจากโลมาตัวดังกล่าวอาจจะเสียชีวิตเพราะติดซากอวนของชาวประมง ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะออกหากินได้ ซึ่งสาเหตุการตายของโลมาที่พบส่วนใหญ่ จะเกิดจากเครื่องมือการทำประมงเป็นหลัก ส่วนซากโลมาดังกล่าว อาจจะหากินอยู่แถบบริเวณหมู่เกาะอ่างทอง ไม่ไกลจากเกาะพะงัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะนำชิ้นเนื้อส่งตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป. | ศูนย์วิจัย ทช. ผ่าซากโลมา อายุประมาณ 80-100 ปี ตายบนเกาะพะงัน คาดติดอวนประมง ทำให้ไม่มีแรงออกไปหาอาหาร ทำอดตาย ส่งชิ้นเนื้อ ตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง | ข่าว,ทั่วไทย | ซากโลมา,เกาะพะงัน,ติดอวน,อดอาหาร,สุราษฎร์ธานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/985498 |
ควายน้ำทะเลน้อย เครียด-ขาดอาหาร ห่วงตายเพิ่ม | วันนี้(13 ม.ค.2560) น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมทีมเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จ.พัทลุง ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เข้าช่วยเหลือควายน้ำหรือควายทะเลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหลังจากทยอยตายแล้ว 50 ตัวโดยทีมงานได้ลงเรือเข้าพื้นที่ไปช่วยเหลือควายที่อยู่บนเกาะเนินดิน ที่ทางเขตห้ามล่าสัตว์อนุญาตให้ทำเป็นเนินสูง เพื่อให้ควายทั้งหมดประมาณ 1000 ตัว ได้หนีน้ำอย่างปลอดภัยจากผลการประเมินสุขภาพพบว่า ควายทั้งหมดสุขภาพค่อนข้างแย่ ร่างกายซูบผอม อิดโรย โดยเฉพาะลูกควายเผือกเกิดใหม่หลายตัวเป็นเพราะขาดอาหารเป็นเวลานาน ไม่สามารถลงดำน้ำกินหญ้าได้ มีความเครียด ซึ่งภาวะเครียดนี้เอง อาจส่งผลให้ควายดังกล่าวเกิดโรคติดต่อกันได้ จึงได้ให้ยาบำรุงและรักษาสุขภาพให้ก้อนเกลือแร่ และประสานไปยังปศุสัตว์ จ.พัทลุง ซึ่งสนับสนุนเรื่องอาหารกับควายในพื้นที่ทะเลน้อยดีอยู่แล้วไปเพิ่มที่เกาะนั้นด้วยน.สพ. ภัทรพล บอกว่าถึงแม้ว่าควายเหล่านี้จะว่ายน้ำอยู่ในน้ำ ดำน้ำกินหญ้าได้ก็ตาม แต่กรณีที่น้ำท่วมสูงขาควายหยั่งน้ำไม่ถึง ลอยน้ำตลอด ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้า หมดแรง ทำให้จมน้ำตายมาแล้วกว่า 50 ตัว และอาจจะมีทยอยตายเรื่อยๆ โดยเฉพาะลูกควายเผือกที่กำลังอยู่ในวัยกินนมนอกจากนั้นยังได้ให้การแนะนำและเตรียมความพร้อมเพื่อลดการสูญเสียกับกรณีที่มีการพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกหนักในอีก2-3 วันข้างหน้า ซึ่งควายน้ำฝูงนี้เป็นควายฝูงสุดท้ายที่ดำรงชีวิตในน้ำ โดยมีคุณประโยชน์กับระบบนิเวศในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ทะเลน้อย เช่น ไฟป่าลดลง เพราะควายจะเดินบุกตามป่าทำให้ป่าเตียน ไม่เกิดไฟป่าในหน้าแล้ง | สัตวแพทย์กรมอุทยาน ตรวจโรคควายน้ำทะเลน้อยฝูงสุดท้าย หลังทยอยตาย 50 ตัว ให้ใช้พื้นที่เกาะในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยพักอาศัย 1000 ตัว พบภาวะเครียด-ขาดอาหาร | สิ่งแวดล้อม | ควายน้ำ,ควายจมน้ำ,ควายน้ำทะเลน้อย,ควนขนุน,ทะเลสาบสงขลา,พัทลุง,น้ำท่วมภาคใต้,ข่าวสิ่งแวดล้อม | https://news.thaipbs.or.th/content/259500 |
จากแรงศรัทธาสู่อาชีพ ไปดูลุงอ้วน-กาแฟพระเครื่อง ห้อยรอบรถ 500 องค์ | วันที่ 2 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่ผ่านไปมา บริเวณหน้าโลตัสศรีนครินทร์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ส่วนมากจะต้องเคยพบเห็น รถขายกาแฟโบราณ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ต่อเป็นสามล้อจอดอยู่ริมถนน มีคันหนึ่งที่แปลกตากว่าคันอื่นคือ รถขายกาแฟของคุณลุงกนก ปลื้มใจ หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ลุงอ้วน อายุ 57 ปี ซึ่งรอบคันรถเต็มไปด้วยพระเครื่องจำนวนกว่า 500 องค์ ที่คุณลุงนำมาตกแต่งและแขวนบูชาไว้เต็มรถ จากความศรัทธาและชื่นชอบเป็นส่วนตัว มานานกว่า 6 ปี,ทั้งนี้ ลุงอ้วน เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้น ก่อนจะมีพระเครื่องมากขนาดนี้ เนื่องจากเมื่อก่อนตนเคยทำงานรับจ้างขับรถนำเที่ยวให้กับบริษัทเอกชนมีโอกาส ขับรถพานักท่องเที่ยวไปทำบุญตามวัดต่างๆ ทั่วภูมิภาคของประเทศ จึงได้เกิดความศรัทธาและคุ้นเคยกับวัด เดินทางไปที่วัดไหนก็มักจะได้พระเครื่องติดไม้ติดมือกลับมาด้วย ประกอบกับความชื่นชอบจึงหันมาสะสมเรื่อยมา นานกว่า 30 ปี แล้ว ปัจจุบันมีพระเครื่องมากกว่า 1 พันองค์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหลวงปู่ทวด หลวงพ่อเสือ วัดดอนยายเผื่อน จ.สิงห์บุรี หลวงพ่อโสธร ที่มีมากเป็นพิเศษ,ส่วนสาเหตุที่นำพระเครื่องส่วนหนึ่งออกมาแขวนไว้ที่รถขายกาแฟ ลุงอ้วน บอกว่า เนื่องจากอยากแบ่งปันให้กับลูกค้าทั้งเด็กและวัยรุ่นสมัยใหม่ได้รู้จักกับพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ และยังเป็นจุดดึงดูดลูกค้าที่ชอบพระเครื่องเหมือนกัน ได้เข้ามาดูและแลกเปลี่ยนรู้ในวงการพระเครื่องอีกด้วย,หากเราเก็บพระไว้ที่บ้านอย่างเดียว พระเครื่องก็ไม่แตกต่างจากวัตถุอื่นทั่วไป แต่ถ้าหากพาท่านออกมาเปิดหูเปิดตาบ้างก็จะเป็นสิ่งดี ที่สำคัญหลังจากนำออกมาแขวนบูชาที่รถ ก็รู้สึกว่าทำมาค้าขายดีขึ้น แต่นั่นก็อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละบุคคล สำคัญที่สุดคือต้องมีความซื่อสัตย์กับอาชีพของตัวเองด้วยการไม่เอาเปรียบลูกค้า จึงจะสามารถดึงลูกค้ากลับมาอุดหนุนได้,ลุงอ้วน กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ขายกาแฟโบราณเข้าปีที่ 6 แล้ว มีลูกค้าเข้ามาแวะเวียนอุดหนุนกันมากหน้าหลายตา ซึ่งการลงชงกาแฟนั้น ตนจะใส่ใจเป็นพิเศษทั้งคุณภาพและรสชาติ เพราะการชงกาแฟโบราณสิ่งสำคัญต้องใช้เตาถ่านในการต้มน้ำ เนื่องจากจะทำให้น้ำร้อนอยู่ตลอดเวลา และจะทำให้กาแฟหอม ท้องไม่อืด ซึ่งแตกต่างจากการใช้เตาแก๊สต้มน้ำ จนทำกาแฟของตนเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า พากันแวะเเวียนมาซื้อ อีกอย่างราคาก็ไม่แพง เพียงแก้วละ 15-20 บาทเท่านั้น ส่วนพระเครื่องที่แขวนไว้เต็มรถ มีลูกค้าที่ชื่นชอบขอเช่าไปบูชาบ้าง ซึ่งตนก็ปล่อยเช่าในราคาไม่สูงมาก ถือว่าเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่งที่นำมาจุนเจือครอบครัวให้อยู่ได้ ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้. | จากแรงศรัทธา สู่อาชีพสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวลุงอ้วนรถขายกาแฟโบราณหน้าโลตัสศรีนครินทร์ ผู้สร้างเอกลักษณ์ด้วยการนำพระเครื่องกว่า 500 องค์มาแขวนรอบรถ บอกรู้สึกเหมือนค้าขายดีขึ้น แต่ที่สำคัญที่สุด คือความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า | null | กาแฟพระเครื่อง,กาแฟลุงอ้วน,กนก ปลื้มใจ,รถขายกาแฟ,แขวนพระรอบรถ,พระเครื่อง500องค์,สมุทรปราการ | https://www.thairath.co.th/content/710783 |
ร้อยเรียงพระราชกรณียกิจ อนุรักษ์ ส่งเสริม และสืบสานงานผ้าไทย | เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2561 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พระชนมพรรษา ครบ 86 พรรษา และเป็น วันแม่แห่งชาติ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เชิญชวนพสกนิกรชาวไทยร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และถวายพระพรชัยมงคล พร้อมร่วมกิจกรรมต่างๆ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 10-16 สิงหาคม,กิจกรรมที่น่าสนใจเริ่มด้วยนิทรรศการ ธ ทรงกอบทรงเกื้อหนุน โอบเอื้ออบอุ่นไผทสยาม ที่ร้อยเรียงพระราชกรณียกิจ ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และสืบสานงานผ้าไทย ทั้งจากราชสำนักและจากท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่บริเวณ ฮอลล์ ออฟ เฟม ชั้น M โดยนิทรรศการแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ พระฉายาลักษณ์และพระราชประวัติ, ก่อกำเนิด ศิลปาชีพ, สาธิตการทอผ้า ได้แก่ ภาคเหนือ-สาธิตการทอผ้าชาวไทยภูเขา, ภาคกลาง-สาธิตการปักผ้าสำหรับชุดโขน, ภาคใต้-สาธิตการปักผ้าซอยแบบไทย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-สาธิตการมัดลาย และการกรอไหมสำหรับผ้ามัดหมี่ เป็นต้น, ชุดไทยพระราชนิยม ซึ่งนำเสนอคุณค่าทางศิลปะที่อยู่ในผ้าและเครื่องประดับของไทยผ่านฉลองพระองค์ชุดไทย ที่ภายหลังเรียกว่า ชุดไทยพระราชนิยม โดยประยุกต์จากการแต่งกายของสตรีสมัยโบราณ ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น, ชุดไทยจิตรลดา, ชุดไทยอมรินทร์, ชุดไทยบรมพิมาน, ชุดไทยดุสิต, ชุดไทยจักรี, ชุดไทยศิวาลัย และชุดไทยจักรพรรดิ, เครื่องแต่งกายโขนพระราชทาน และ Designer Collabora-tion Showcase ที่เหล่านักออกแบบชั้นนำ ได้ร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์มาสเตอร์พีซ เพื่อจัดแสดงในงานนิทรรศการครั้งนี้ อาทิ กระเป๋าผ้าไทย จากแบรนด์ BOYY, รองเท้าบูตผ้าไทยจากแบรนด์ Kloset ฯลฯ,นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ที่แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 และในวันที่ 12 ส.ค. เวลา 19.19 น. ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความจงรักภักดี ด้วยการแต่งกายด้วยสีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และร่วมในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล โดยมีคณะผู้บริหาร และศิลปิน นำโดย เจมส์-จิรายุ และคุณแม่โชติกา ตั้งศรีสุข มาร่วมพิธี บริเวณทางเชื่อมวันสยาม (Sky Walk สี่แยกปทุมวัน) และพาร์คพารากอน สยามพารากอน ซึ่งพิธีจุดเทียนชัยจะมีขึ้นพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ. | เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2561 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พระชนมพรรษา ครบ 86 พรรษา และเป็น วันแม่แห่งชาติ | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | วันแม่,วันเฉลิมพระชนมพรรษา,สยามพารากอน,มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ,ถวายพระพรชัยมงคล | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1345790 |
น้ำท่วม ศาลปู่ศรีสุทโธ แต่คนยังแน่น ส่องขันน้ำมนต์ รังผึ้ง หาเลขเด็ด | วันที่ 13 ส.ค. เวลา 13.00 น. ผู้สื่อทราบข่าวว่า ที่บริเวณศาลปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา หลังเก่าที่อยู่ห่างเกาะคำชะโนดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เกือบหนึ่งกิโลเมตร ที่ชาวบ้านโนนเมือง หมู่ที่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี กราบไหว้กันมาหลายสิบปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ภายในเกาะคำชะโนด ช่วงในพื้นที่อำเภอบ้านดุง จ.อุดรธานี ฝนตกบ่อย จึงทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณศาลเก่า มานานหลายสิบวันแล้ว ทางคณะกรรมบริหารคำชะโนด จึงได้ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปกราบไหว้ในบริเวณศาลปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมาหลังเก่า และได้จัดจุดไหว้ที่บริเวณด้านข้างที่น้ำท่วมไปถึง ซึ่งได้ปิดศาลเก่าเป็นอาทิตย์แล้ว และคาดว่าจะยาวต่อไปอีก เนื่องจากขณะนี้น้ำได้ขึ้นอยู่ตลอด หากจะมากราบไหว้ที่ศาลปู่หลังเก่าก็ได้ แต่เข้าไปหน้าศาลไม่ได้ โดยมีน้ำท่วมสูงประมาณ 80 เซนติเมตร,สำหรับที่เกาะคำชะโนดนั้น ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ากราบไหว้ตามปกติ ปีนี้คาดว่าน้ำคงไม่ท่วม วันนี้หลังวันแม่ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้ขอพรขอโชคลาภ ก่อนเดินทางกลับไปทำงาน บางคนก็มาแก้บนหลังจากบนกับปู่ย่าไว้แล้วสำเร็จ หลังจากนักท่องเที่ยวทำพิธีที่จุดบวงสรวง ก็เดินเข้าไปในเกาะไหว้ปู่ย่าเสร็จแล้ว ก็ไปที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และขอโชคลาภที่ต้นมะเดื่อยักษ์ บางคนก็โชคดีมองเห็นเลขเด็ดที่ขันน้ำมนต์ หากคนไหนจะโชคดีขอให้ดูที่ขันน้ำมนต์มีเลขอะไรบ้าง บางคนก็ส่องดูรังผึ้งหลวงว่ามีกี่รังแล้วมาตีเป็นเลขเด็ด นับได้ 13 รัง คอหวยก็ยังตีเป็นเลขเด็ดกันจนได้ | อุดรธานี น้ำท่วมศาลปู่ศรีสุทโธหลังเก่า ส่วนศาลหลังใหม่คนแน่น พร้อมส่องขันน้ำมนต์ ดวงใครดวงมัน บางคนส่องดูรังผึ้งหลวงแล้วตีเป็นเลขเด็ด นับได้ 13 รัง | ข่าว,ทั่วไทย | ศาลปู่ศรีสุทโธ,ปู่ศรีสุทโธ,น้ำท่วม,ขันน้ำมนต์,เลขเด็ด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1353823 |
โสภณ พรโชคชัย: ศาสนาไม่ใช่ปัจจัยเพียงอย่างเดียวในการปราบปรามการทุจริต | ศาสนาจึงไม่ใช่เครื่องมือที่จะสามารถใช้เพื่อการปราบทุจริตและประพฤติมิชอบ กระบวนการตรวจสอบที่ชัดเจนต่างหากที่เป็นหลักประกันความโปร่งใส ผมได้เดินทางไปทัศนศึกษายังประเทศอินเดียในฐานะนักศึกษาหลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส) รุ่นที่ 2 ของสำนักงานคณะกรรมการ ปปช ผมสังเกตว่าประชาชนที่นั่นส่วนใหญ่ต่างยึดถือศาสนาอย่างเหนียวแน่น แต่กลับมีการทุจริตเกิดขึ้นมากมาย ดัชนีความโปร่งใส หรือ Corruption Perception Indexs (CPI) ก็ค่อนข้างต่ำ คือได้คะแนนเพียง 3.1 เต็ม 10 ผมได้เรียนถามท่านวิชา มหาคุณ กรรมการ ปปช. ซึ่งเป็นอาจารย์ที่นำคณะทัศนศึกษาในครั้งนี้ ท่านให้ความกระจ่างว่า ศาสนานั้นน่าจะมีส่วนในแง่ของการป้องกัน แต่เรื่องปราบปรามแล้วใช้ศาสนาอย่างเดียวน่าจะไม่เพียงพอ ต้องมีปัจจัยอื่นเสริมความเข้มแข็งด้วย ผมได้นำข้อมูลดัชนีความโปร่งใสประจำปี 2554 มาพิจารณาร่วมกับอัตราของผู้ไม่มีศาสนาในแต่ละประเทศ พบว่าประเทศที่มีการทุจริต ขาดความโปร่งใสที่สุด 20 ประเทศแรก (ยกเว้นเกาหลีเหนือ) ประชากรเกือบทั้งหมด (99.4%) ต่างนับถือศาสนา มีเพียง 0.6% เท่านั้นที่ระบุว่าไม่มีศาสนา แต่ในทางตรงกันข้าม ประเทศที่มีความโปร่งใสที่สุด 20 ประเทศแรก (ยกเว้นนอร์เวย์และเดนมาร์ก) ปรากฏว่ามีประชากรถึง 30% ที่ไม่ได้นับถือศาสนาใด เมื่อพิจารณาในรายละเอียด เช่นในกรณีศาสนาพุทธที่ไทยคุ้นเคย จะพบว่าประเทศพม่า ลาว กัมพูชา ล้วนเป็นประเทศที่ประชากรเกือบทั้งหมดนับถือศาสนาพุทธเช่นประเทศไทย แต่ก็มีดัชนีความโปร่งใสต่ำมาก ประเทศที่เหนียวแน่วในศาสนาฮินดู เช่น เนปาล และอินเดีย ก็มีปัญหาการทุจริตมากมายเช่นกัน แต่ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ระบุว่า ไม่นับถือศาสนา กลับมีดัชนีความโปร่งใสสูงอยู่ระดับต้น ๆ ของโลก ประกอบด้วย ประเทศญี่ปุ่น เชค เอสโทเนีย เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ประเทศที่มีประชากรเกินหนึ่งในสามจนถึงเกือบครึ่งหนึ่งที่ไม่มีศาสนา แต่ประเทศโปร่งใสมากประกอบด้วย ฝรั่งเศส มาเก๊า เบลเยียม เยอรมนี นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร ประเทศที่ในอดีตขึ้นชื่อด้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ เช่น เกาหลีใต้ และโดยเฉพาะฮ่องกง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการ ปปช. ถึงกับเชิญมาแสดงปาฐกถาเมื่อปี 2553 นั้น ไม่ได้ใช้ศาสนามากล่อมเกลาให้หยุดการทุจริต เพราะประชาชนส่วนใหญ่ระบุชัดว่าไม่ได้นับถือศาสนาไหน ความสำเร็จของการปราบปรามการทุจริตเกิดจากการที่หน่วยงานปรามปรามการทุจริตเร่งดำเนินการอย่างจริงจังโดยมีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวด ทำให้โอกาสการทุจริตมีน้อยลงและค่อย ๆ ลดลงไปในที่สุด กลับกันมาดูประเทศที่อุดมด้วยศาสนา ไม่ว่าจะเป็นไทย ลาว พม่า เขมร เนปาล อินเดีย ศาสนสถานก็มีอยู่แทบทุกหมู่บ้าน มีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างต่อเนื่องเคร่งครัด แต่การที่ประชากรในประเทศเหล่านี้ระบุว่าตนเป็นศาสนิกชนก็ใช่ว่าจะปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีที่ไม่กระทำการทุจริต บางครั้งศาสนิกชนที่ดีบางส่วนก็อาจถือว่า ธุระไม่ใช่ จึงไม่ขัดขวางการทุจริตหรือไม่ร่วมกับสังคมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ การทุจริตจึงเกิดขึ้นดาดดื่นในประเทศเหล่านี้เสมือนหนึ่งเป็นประเทศที่ไร้ศีลธรรมจรรยา ในอีกนัยหนึ่ง ศาสนาอาจเป็นเพียงเครื่องมือในการปกครองประเทศ ดูอย่างในประเทศอินเดีย ความเชื่อทางศาสนาสามารถใช้ควบคุมประชาชนให้อยู่ในกรอบ แม้ประชาชนผู้อยู่ในวรรณะระดับล่างสุดก็ยังยึดถือในคำสอนของศาสนาโดยเคร่งครัดโดยไม่กล้ากบฏหรือปฏิวัติความคิดของตนเอง การยึดมั่นในชนชั้นวรรณะตามหลักศาสนากลับเป็นการช่วยชนชั้นผู้ได้เปรียบได้มีโอกาสอยู่ในสถานะนี้นาน ๆ มากกว่าจะเพื่ออำนวยประโยชน์ทางโลกแก่ประชาชนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามบางท่านอาจโต้แย้งว่า คนที่ระบุตนว่าเป็นศาสนิกชนนั้น อาจเป็นเฉพาะในนามเท่านั้น แต่ไม่ปฏิบัติธรรม จึงไม่ได้นำคำสอนที่ดีงามต่าง ๆ ตามหลักศาสนาของตนมาใช้ แต่ก็น่าแปลกที่บุคคลที่ระบุว่าตนว่าไม่นับถือศาสนาใด กลับดูประหนึ่งมีธรรมในหัวใจ ปฏิบัติตนตามทำนองคลองธรรมได้อย่างไร การรณรงค์กล่อมเกลาคนด้วยศาสนานั้น คงได้ผลกับเยาวชนเป็นหลัก ถือเป็นการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมที่ดี เป็นมาตรการป้องกันในระยะยาว แต่ในท่ามกลางการทำสงครามกับการปรามปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการที่ประเทศชาติต้องเอาชนะให้ได้โดยเร็วก่อนจะสายเกินแก้นั้น การปราบปรามมีความสำคัญที่สุด และเครื่องมือในการปราบปรามรวมทั้งการป้องกันก็คือ การมีระบบตรวจสอบการทุจริตที่มีประสิทธิภาพสูง ทันการและเที่ยงธรรม ยิ่งกว่านั้น ท่านอาจารย์วิชา มหาคุณ ยังได้ให้ข้อคิดสำคัญว่านอกจากการตรวจสอบแล้วก็ยังมีเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด การให้ค่าตอบแทนและสวัสดิการที่เพียงพอแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งการคุ้มครองพยาน และการไม่มีอายุความในคดีทุจริต เป็นต้น ประเทศไทยต้องเร่งรณรงค์ปราบปรามการทุจริตให้เข้มแข็ง ต้อง เชือดไก่ให้ลิงดู คอยตรวจสอบ ตรวจจับการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างต่อเนื่อง-เกาะติด เผยแพร่ความรู้และเร่งสร้างความตระหนักรู้ของประชาชนต่อการร่วมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ การจุดไฟให้สว่าง สร้างความโปร่งใสให้ขยายตัวออกไปเรื่อย ๆ ความมืดก็จะหมดไป ผีย่อมกลัวแสงสว่าง ดัชนีความโปร่งใส หรือ Corruption Perceptions Index (CPI) ซึ่งดำเนินการทุกปีโดย the Transparency International โดยผลการสำรวจปีล่าสุด ปรากฏที่ http://cpi.transparency.org/cpi2011/results/#CountryResults Wikipedia. Religions by Country. http://en.wikipedia.org/wiki/Religions_by_country Change Fusion. แนวทางต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น กรณีศึกษา : ฮ่องกง & เกาหลีใต้ ข้อเสนอแนะเชิงยุทธศาสตร์ http://www.spt-th.com/attachments/2403_8_%20Change%20Fusion.pdf | ประเทศที่ประชากรเกือบทั้งหมดนับถือศาสนากลับมีดัชนีความโปร่งใสต่ำ แต่หลายประเทศที่ประชากรจำนวนมากระบุว่า ไม่มีศาสนา กลับมีความโปร่งใสสูง | การเมือง | การทุจริตคอรัปชั่น,ศาสนา,โสภณ พรโชคชัย | https://prachatai.com/journal/2012/05/40319 |
ต้องไปดูเอง สุดยอดงานสถาปัตย์ SOA-X10.2 ของเด็ดศรีปทุม | อธิบายหรือสื่อสารลำบาก เราก็จะสรุปว่า เค้าคือ ศิลปิน แต่จริงๆ ความหมายของศิลปะ ศิลปิน มันก็มีอยู่แล้วแบบจำเพาะเจาะจง สถาปัตยกรรม ก็เช่นกัน ที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแนวคิดของผู้ออกแบบนั่นเอง ,วันนี้เราจะพาไปดูงานสถาปัตยกรรมศาสตร์ งานดีของมหาวิทยาลัยศรีปทุม งานที่มีศิลปะผสมผสาน งานนี้มีดีอะไร ความน่าสนใจอยู่ตรงไหน เราไปฟังพ่องานอธิบายกันหน่อย,อาจารย์ธีรบูลย์ ฉลองมณีรัตน์ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวถึงงาน SOA-X10.2 ที่จัดขึ้น ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 20-25 มิถุนายน 2560 ว่า การจัดงานดังกล่าวเป็นกิจกรรมของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่จัดขึ้นพร้อมๆ กันหลายกิจกรรม ซึ่งประกอบด้วย 1. กิจกรรม THESIS EXHIBITION 2017 นิทรรศการงานวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาสาขาสถาปัตยกรรมและการออกแบบภายใน 2. กิจกรรม International Lecture Series EP.3 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว 3. International WorkShop ที่เป็นเวิร์กชอประหว่างคนไทยและนักเรียนต่างชาติ และ 4. งานปัจฉิมนิเทศ เพื่อให้โอวาทและความรู้แก่นักศึกษาที่จบการศึกษาไป,ทั้งนี้ เราจัดงานทั้งหมดรวมกัน เพราะทุกงานมีความเชื่อมโยงกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งโดยเปิดโอกาสให้กับคนภายนอก ได้เข้ามาชื่นชมผลงานของนักศึกษา และเราก็เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความสามารถและศักยภาพของแต่ละคนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักศึกษา ในการนำเสนอผลงานอย่างเต็มที่ เพื่อต่อยอดเป็นอาชีพหรือธุรกิจต่อไป ขณะเดียวกันนักศึกษาของเราก็ยังมีโอกาสจะได้พบกับคนในวงการสถาปัตยกรรม มีโอกาสได้ฟังความคิดเห็นและความรู้ จากมืออาชีพ ก็จะสามารถสร้างอนาคตให้กับนักศึกษาได้,ส่วนตัวผม ผมว่าวงการสถาปัตยกรรม เป็นวงการที่คนไม่ค่อยเข้าถึง คนชอบถามว่า เฮ้ยมันทำอะไรวะ? เฮ้ยนั่นคืออะไรวะ? ส่วนตัวผมเข้าใจนะ ผมก็สายสถาปัตย์ คือจะบอกว่า เด็กสถาปัตย์จะเป็นเด็กกลุ่มหนึ่ง ที่ถูกบิลด์ให้มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก พอเด็กมีความมั่นใจสูงมาก เด็กก็เลยไม่ได้มองหรือไม่ได้สนใจหรอก ว่าใครจะเข้าใจ หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เค้าทำ แต่เค้าสนใจแค่ว่า สิ่งที่เค้าทำมันดี ถามว่าแล้วผมในฐานะอาจารย์ต้องทำยังไง นี่ไงงานนี้ที่จัดขึ้น คือคำตอบ ก็เพื่อให้กลุ่มคนที่เค้าสนใจงานประเภทนี้ ได้มาดูงานนักศึกษาที่ดีๆ บางคนเค้าไม่ได้สนใจงานนิทรรศการ แต่อาจสนใจงาน Lecture Series เค้าก็จะมาฟัง แต่อย่างน้อยผมว่า เมื่อเค้ามาแล้ว ก็จะเดินดูผลงานเด็กด้วย สมมติเจ้าของโรงงานไม้มาฟัง Lecture Series แต่ตาเหลือบไปเห็นงานนักศึกษา และมันน่าสนใจ เค้าก็จะต่อยอดกันไป นี่แหละคือ การสื่อสาร ที่เราต้องการจะสื่อสารงานของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ของเรา ให้ออกไปสู่สายตาประชาชน ผู้ประกอบการ รวมถึงเพื่อนพี่น้องในวงการเดียวกัน,นอกจากนี้ อาจารย์ธีรบูลย์ ยังกล่าวอีกว่า ผมว่าถ้ามีของดี เราก็ต้องโชว์ให้คนรับรู้ ผลงานเด็กศรีปทุมก็เช่นกัน ครั้งหนึ่งเคยมีบริษัทชื่อดังจากเมืองนอก เข้ามารีครูทนักศึกษาศรีปทุมของเราไปทำงานที่อังกฤษ คือเค้าตั้งใจมารีครูทนักศึกษาคนนั้นโดยเฉพาะเลย หรืออย่างหลายคนที่จบไปจากคณะเรา ก็มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่บางคนอาจไม่ได้ทำงานสถาปัตย์โดยตรง เพราะเด็กที่จบสถาปัตย์ส่วนใหญ่ จะมีความคิดที่ดี ที่แตกต่าง และที่สร้างสรรค์กว่าใคร นี่คือจุดดีของคนสถาปัตย์ ที่เค้าสามารถไปทำงานอะไรก็ได้ ที่ใช้ทักษะความสร้างสรรค์เป็นหลัก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมห่วง คือเรื่องของการสื่อสาร เพราะเค้าจำเป็นต้องสื่อสารให้ลูกค้า ให้คนอื่นเข้าใจในสิ่งที่เค้าทำ ถ้ายิ่งเข้าใจมากเท่าไร สิ่งที่เค้าคิด เค้าสร้าง มันจะเป็นจริงได้มากที่สุด,ด้าน นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวชื่นชมผลงานของนักศึกษาที่จัดแสดงภายในงานดังกล่าวว่า เด็กศรีปทุมต้องเก่งและแข็งแรงมากในด้านองค์ความรู้ เด็กที่จะจบจากคณะนี้ไป ต้องผ่านการสกรีนจากอาจารย์อย่างเข้มข้น หลายผลงานที่ผมได้ดู ผมว่าผลงานนักศึกษาหลายผลงานนั้นดีมาก ซึ่งผมแอบถามนักศึกษาว่าได้เกรดอะไร เค้าตอบว่าได้ B ได้ C นั่นหมายความว่า อาจารย์จะต้องดูแลเด็กเป็นอย่างดี สอนและเคี่ยวเข็ญเด็กให้ได้องค์ความรู้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเด็กที่จบสถาปัตย์จากที่นี่ จะต้องเป็นเด็กที่มีความสามารถอย่างมาก,ผมว่าการเรียนเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์ เราจงคิดว่า เราเรียนเพื่อผู้อื่น เราไม่ได้เรียนเพื่อตัวเรา ยิ่งตัวเราเรียนสูงเท่าไร เรายิ่งต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้อื่นมากขึ้นเท่านั้น แล้วองค์ความรู้ทั้งหมดเหล่านั้น เรียนทั้งชีวิตก็ไม่พอ การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ สถาปัตย์ฯ ก็เหมือนกับศาสตร์อื่นๆ ที่สอนให้เราคิดเป็น 70% สอนให้เราคิดเป็น ส่วนอีก 30% เค้าสอนให้เราถนัดเฉพาะด้าน ดังนั้นการจะทำศึกษาป้อนตลาดอย่างเดียว คงไม่ใช่คำตอบ เราไม่ได้สอนให้เค้าทำอย่างไร แต่เราสอนให้เค้าคิดเป็น มีกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ยิ่งยุคปัจจุบันการศึกษาก้าวหน้ากว่ายุคผมเป็น 1,000 เท่า ดังนั้นความคิดสร้างสรรค์ จึงมีความสำคัญ เด็กสมัยนี้ควรจะเปิดกว้าง รับทุกศาสตร์ทุกด้าน อะไรที่ยาก ก็อย่าไปวิ่งหนีมัน ยิ่งการเป็นสถาปนิกยิ่งจะต้องรอบรู้ แต่ปัจจุบันศาสตร์อื่นก็ต้องรอบรู้เช่นกัน เราสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างเร็วมาก แค่เราเปิดอินเทอร์เน็ต เมื่อโลกมันเปลี่ยนไป เราก็ต้องตื่นตัวและรับรู้กับการเปลี่ยนแปลงนั้น ไม่มีคำว่าสายเกินไป ยังไงมนุษย์ก็มีศักยภาพเหนือเครื่องจักรเสมอ ,เรามาดูสุดยอดผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่ 5 จากสาขาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ธรณิศวร์ สุขสวัสดี หรือเติ้ล เล่าถึงที่มาที่ไปของผลงานตัวเอง ว่า ผลงานชิ้นนี้ชื่อว่า สตาร์ทอัพเซ็นเตอร์ รัชดาภิเษก คือการนำแนวคิดเชิงธุรกิจในการจัดหาพื้นที่ทำงานที่เรียกว่า สตาร์ทอัพเซ็นเตอร์ เป็นสถานที่ทำงานของคนรุ่นใหม่ แทนสถานที่ทำงานอย่างออฟฟิศแบบเดิมๆ โดยหวังให้สร้างพื้นที่ทำงานดังกล่าว เป็นพื้นที่เปิดรับกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่อย่างสตาร์ทอัพ ให้มาทำงานในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งจะใช้พื้นที่ Co-Working Space เป็นพื้นที่ทำงานร่วมกัน นอกเหนือจากการแชร์พื้นที่ทำงานร่วมกัน การได้พูดคุยเจรจา พึ่งพาอาศัยกัน และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกัน ก็ยังเป็นอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ของผลงานชิ้นนี้ด้วย,ขณะที่สาวสวยอีกหนึ่งคน สุนทรี มาเต็ง หรือน้องเอ็มวี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากสาขาการออกแบบภายใน ซึ่งนำเสนอผลงานตัวเองที่ชื่อ การออกแบบศูนย์นวัตกรรมเศษวัสดุรีไซเคิล ว่า ตนเองเล็งเห็นความสำคัญเรื่องขยะเป็นสำคัญ เนื่องจากขยะส่งผลต่อปัญหาโลกร้อนโดยตรง จึงคิดที่จะกำจัดขยะ แต่ต้องทำอย่างวิธี ซึ่งหากจะจัดการปัญหาขยะอย่างเดียว อาจเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ จึงอยากถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการกำจัดขยะให้กับบุคคลทั่วไป เพื่อให้ทุกคนสามารถร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องขยะได้อย่างยั่งยืน ศูนย์นวัตกรรมเศษวัสดุรีไซเคิล จึงถูกออกแบบขึ้นมา เพื่อเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้เรื่องการกำจัดขยะให้กับทุกคน ,เอาล่ะ รีบไปด่วนๆ งาน SOA - X10.2 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งจัดขึ้นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 20-25 มิถุนายน 2560 ทั้งนี้ภายในงานจะประกอบด้วยกิจกรรมมากมาย โดยกิจกรรมที่ 1 THESIS EXHIBITION 2017 จัดขึ้นวันที่ 20-25 มิ.ย. 60 2. กิจกรรม Lecture Series & Professional Workshop จัดขึ้นวันที่ 23-24 มิ.ย. 60 3. กิจกรรม ARCHINDY–DOMINO CHALLENGE 2017 จัดขึ้นวันที่ 25 มิ.ย.60 อย่างไรก็ตาม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้,ที่นี่, | บางที ศิลปะ ก็อธิบายยาก หลายต่อหลายครั้งที่อธิบายไม่ได้ เราก็จะบอกว่ามันคือ ศิลปะ กับการกระทำของมนุษย์ก็เช่นกัน อะไรที่เค้าทำแล้วมัน | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | มหาวิทยาลัยศรีปทุม,สถาปัตยกรรมศาสตร์,งาน SOA-X10.2,งานสถาปัตย์,สถาปัตย ศรีปทุม | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/982085 |
โคตรเดือด ลอฟเรน เหน็บแรงใส่ผี รถบัส-อุดเจ๊า-ชนะน่าเกลียดมาเต็ม | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 มี.ค. ว่า เดยัน ลอฟเรน เซนเตอร์ฮาล์ฟของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ออกมาเหน็บ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งในวันแดงเดือดเสาร์นี้ คงจะเล่นสไตล์จอดรถบัสเหมือนนัดล่าสุดที่เจอกัน,เกมแรก หงส์แดง ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ ผีแดง แบบไร้สกอร์ 0-0 โดยเกมนัดต่อไปวันเสาร์นี้ทั้งคู่จะกลับมาเจอกันอีกครั้งแต่คราวนี้กลับไปเล่นที่บ้านของผีแดงบ้าง,ล่าสุด ลอฟเรน กลัวเกมจะไม่เดือดจะไซโคคู่รักคู่แค้นก่อนเลยว่า คราวก่อนเมื่อพวกเขามาบ้านเราพวกเขาตั้งรับซะลึกเลย เดี๋ยวมาคอยดูว่าคราวนี้จะรถบัสอีกมั้ย,บางทีพวกเขาไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุดแต่พวกเขาก็ยังเอาชนะแบบน่าเกลียดๆ แต่ประเด็นสำคัญก็คือแต้ม มันจะเป็นการท้าทายที่ยากลำบาก,สำหรับพวกเขาบางทีแต้มเดียวก็พอใจแล้วมั้งแต่สำหรับเราเราไม่เคยเล่นเพื่อแต้มเดียวเลย,เราจะไปที่นั่นและเราจะทุ่มเทเต็มที่ เราจะเล่นอย่างที่เราเล่นในทุกๆวันและนั่นก็คือสไตล์บุกไม่ยั้ง มาสนุกกันเหอะ | เดยัน ลอฟเรน ปราการหลังของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ต้มมาม่าก่อนวันแดงเดือด หยัน ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงจะเล่นสไตล์ไม่พ้นจอดรถบัสเหมือนเกมที่เจอกันนัดที่ผ่านมา | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,เดยัน ลอฟเรน,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1223457 |
มีน้ำโห หนุ่มเก๋งถืออาวุธขู่ 2 ต่างชาติที่พัทยา ต่างฝ่ายประชันกล้อง (คลิป) | เมื่อวันที่ 1 เม.ย. โลกออนไลน์แห่แชร์คลิปวิดีโอจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เหตุการณ์ขณะชาวต่างชาติขับขี่จักรยานยนต์และมีเรื่องกระทบกระทั่งบนท้องถนนกับผู้ใช้รถเก๋งในเขตเมืองพัทยา โดยคนขับรถเก๋งได้ควักอาวุธขึ้นมาข่มขู่ขณะที่สาวต่างชาติเดินไปถ่ายทะเบียนรถยนต์ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป โดยต่างฝ่ายต่างบันทึกคลิปวิดีโอเก็บไว้,ทีมข่าวสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยจาก นางสาวเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเจ้าของคลิปวิดีโอ ทราบว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา บนถนนสุขุมวิทใกล้กับตลาดน้ำ 4 ภาค โดยตนไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ฝ่ายทะเลาะอะไรกันมา แต่เมื่อมาถึงบริเวณหน้าร้านค้าของตน รถเก๋งได้บีบแตรเสียงดังสนั่นและเบียดจักรยานยนต์ของชาวต่างชาติจนเซไถลเกือบจะล้ม โดยช่วงที่ชายชาวต่างชาติกำลังถีบขาตั้งเพื่อจอดรถ ฝั่งรถเก๋งได้คว้าอาวุธจะพุ่งเข้ามา ซึ่งช่วงนั้นตนไม่ได้บันทึกคลิปวิดีโอไว้ แต่สามารถถ่ายได้ในจังหวะที่หญิงต่างชาติซึ่งซ้อนมาด้วยกันกำลังเดินไปถ่ายป้ายทะเบียนรถ โดยชายคนขับรถเก๋งได้คว้าอาวุธข่มขู่และจะเดินเข้ามา ก่อนถอยกลับไป ซึ่งตนนำมาโพสต์ในโซเชียล เพราะส่วนตัวมองว่า ดูแล้วเกินไป มันน่าเกลียด แต่หลังจากที่ทั้งคู่แยกย้ายกันไปโดยที่ต่างฝ่ายต่างบันทึกภาพเก็บไว้ ตนก็ไม่ทราบว่าเหตุการณ์ต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไร. | เหตุกระทบกระทั่งบนท้องถนน! หนุ่มไทยควักอาวุธขู่หญิงต่างชาติขณะถูกถ่ายป้ายทะเบียนรถยนต์ ก่อนจะงัดกล้องประชันสู้ ด้าน คนเห็นเหตุการณ์บอกไม่รู้ทะเลาะอะไรกันมา แต่ดูแล้วเกินไป มันน่าเกลียด | ข่าว,ทั่วไทย | ถืออาวุธขู่,ชาวต่างชาติ,พัทยา | https://www.thairath.co.th/news/local/902160 |
เปิดต่างชาติถือหุ้น 100% ผลิต-ซ่อมอากาศยานแต่ต้องให้เทคโนโลยี | ไฟเขียวแผนความปลอดภัยการบินแห่งชาติ,นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนนิรภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นแผนชาติด้านความปลอดภัยการบินของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมี,โดยเป็นกรอบกำกับความปลอดภัยเรื่องการบินให้ผู้ประกอบการการบินทุกประเภทต้องปฏิบัติตาม ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) กำหนดให้ทุกประเทศต้องมีแผนให้ชัดเจนว่ารัฐและผู้ประกอบการต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้มีความปลอดภัยด้านการบิน,ทั้งนี้ ได้มีการรายงานให้ที่ประชุมทราบว่า ร่าง พ.ร.บ.การเดินอากาศ (ฉบับที่) พ.ศ. ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทั้ง 2 ฉบับแล้ว คาดว่าจะประกาศใช้เดือน เม.ย.62 โดยฉบับแรกเป็นการแก้ไขสัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จะทำการผลิตอากาศยาน หรือผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน หรือทำเป็นศูนย์ซ่อมประเภทซ่อมทั้งลำในไทย จากปัจจุบันคนไทยต้องถือหุ้นสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 51% และต่างชาติไม่เกิน 49% โดยได้ปรับเป็นเปิดเสรีให้ต่างชาติถือหุ้นสูงสุดได้ 100% แต่ต้องปฏิบัติตามร่างพระราชกฤษฎีกาเงื่อนไขรายละเอียดการลงทุน อาทิ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาด้วย คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ พ.ค.นี้ ส่วนฉบับที่ 2 แก้ไข พ.ร.บ.การเดินอากาศ 200 ประเด็นให้สอดคล้องกับมาตรฐานของไอเคโอ โดยเฉพาะการกำหนดหน้าที่ของ กบร. ที่จะทำหน้าที่เป็นกรรมการนโยบายด้านการบิน และกำกับดูแลเศรษฐกิจ เช่น การพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการการค้าขายการเดินอากาศ (เอโอแอล) จากเดิม รมว.คมนาคม เป็นผู้พิจารณาและลงนาม แต่กฎหมายใหม่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก กบร. และ รมว.คมนาคม เป็นผู้ลงนาม นอกจากนี้ จะกำกับดูแลค่าโดยสาร การคุ้มครองผู้บริโภค และมาตรฐานการให้บริการของสายการบิน,นอกจากนี้ยังมีการรายงานผลการใช้ระบบการบินสนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองรองของประเทศไทยตามนโยบายของรัฐบาล 23 ท่าอากาศยานทั่วประเทศ ปรากฏว่า มีผู้โดยสารเดินทางไปเมืองรอง 15 ล้านคน คิดเป็น 10% ของผู้โดยสารทั้งหมดและมีเที่ยวบิน 126,381 เที่ยวบิน โดยท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มีผู้โดยสารและเที่ยวบินสูงสุด และเพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองรองมากขึ้น และ กพท.จะเปิดให้สายการบินที่ทำการบินจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย บินเข้ามายังท่าอากาศยานในจังหวัดเมืองรองภาคใต้ 6 สนามบิน ได้โดยตรง. | นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนนิรภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ | ข่าว,เศรษฐกิจ | การบินพลเรือน,แผนนิรภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ,ความปลอดภัยการบิน,ผู้ถือหุ้น,ผลิตอากาศยาน,ชิ้นส่วนอากาศยาน,ศูนย์ซ่อมอากาศยาน | https://www.thairath.co.th/news/business/1513945 |
ปิยบุตร ยัน ไม่ได้คิดร้ายบ้านเมือง หลัง คณะก้าวหน้า ลุยเชียงราย | ที่ จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะก้าวหน้า ได้จัดโครงการ Common School On Tour โดยเป็นการบรรยายโดยวิทยากร 3 คน คือ 1.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคก้าวไกล บรรยายในหัวข้อ การกระจายอำนาจกับโอกาสของเชียงราย 2.อภิชิต ศิริชัย นักวิชาการอิสระด้านเชียงรายศึกษา บรรยายในหัวข้อ พัฒนากาการเมืองการปกครองเชียงราย ยุครัตนโกสินทร์ และ 3.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า บรรยายในหัวข้อ ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ทวงคืนอำนาจสู่ท้องถิ่น บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนใจของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียงจำนวนมาก โดยทั้งนี้ทางผู้จัดงานได้เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานทำการลงทะเบียนมาก่อนล่วงหน้า เนื่องจากจำเป็นต้องกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมงานให้เหมาะสมกับพื้นที่ และเป็นไปตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้เริ่มการบรรยายด้วยการอธิบายถึงที่มาของหลักสูตร ว่า ภารกิจที่สำคัญของเราคือการทำงานในทางความคิด จึงได้ก่อตั้งสถาบันการศึกษาเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม โดยให้ชื่อว่า Common School สาเหตุที่ใช้ชื่อนี้คือ Common หมายถึงร่วมกัน ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน และในอีกความหมายหนึ่ง Common หมายถึงสามัญชนคนธรรมดาทั่วไป จึงเป็นโรงเรียนของคนทุกๆ คน และ Common ในความหมายสุดท้าย เราเอามาจาก Common Sense หรือสามัญสำนึก เพราะเราต้องการจะใช้โรงเรียนแห่งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงสามัญสำนึกให้เป็นแบบใหม่ที่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย โดยเราตั้งใจทำเป็นหลักสูตรในหลายๆ เรื่อง แต่ทั้งนี้ก็ติดเรื่องของโควิด-19 ทำให้เดินทางมาต่างจังหวัดไม่ได้ และทำให้ไม่สามารถจัดห้องเรียนที่เชิญคนมาเข้าฟังได้ ที่ผ่านมาจึงใช้การบรรยายผ่านทางออนไลน์ไปก่อน โดยเริ่มด้วยซีรีส์พิเศษเรื่อง วิกฤตการณ์โควิด-19 (84) โดยนอกจากเป็นชื่อไวรัสโคโรนาแล้วนั้น ยังล้อไปกับชื่อนวนิยายของจอร์จ ออเวลล์ ที่ชื่อว่า 1984 ด้วย ซึ่งการเกิดวิกฤติโควิดได้ส่งผลให้รัฐกลายเป็นรัฐที่มีอำนาจมากขึ้น มีอำนาจนิยมมากขึ้น โดยมาในนามของการรักษาสุขภาพ นี่จึงเป็นที่มาของชื่อหลักสูตรดังกล่าว โดยมีด้วยกันจำนวนทั้งสิ้น 7 ตอน ซึ่งทุกท่านสามารถไปหารับชมได้ใน เพจคณะก้าวหน้า และช่องทาง YouTube ของคณะก้าวหน้าได้ และในครั้งนี้ที่มาที่จังหวัดเชียงราย เป็นการจัดแบบเดินสายไปในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ ต่างๆ ทั่วประเทศไทย ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยก่อนหน้านี้ครั้งแรกได้จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้หลักสูตรที่เกี่ยวกับเรื่องท้องถิ่นและการทวงคืนอำนาจสู่ท้องถิ่นผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงของการบรรยายเลขาธิการคณะก้าวหน้าได้อธิบายถึงที่มาและประวัติความเป็นของการสร้างเขตแดน และการสร้างรัฐชาติของประเทศต่างๆ รวมถึงการรวมชาติเป็นรัฐสมัยใหม่ของประเทศไทยว่า เกิดขึ้นในช่วงเวลาใด รวมทั้งได้บรรยายถึงพัฒนาการของการกระจายอำนาจที่ก่อตัวขึ้นมาบนหลักการสากล และได้ถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่หลักการกระจายอำนาจมีความละเอียดและครบถ้วนที่สุด แต่ทั้งนี้ภารกิจทั้งหมดก็ยังไม่ได้ถูกถ่ายโอนไปที่ท้องถิ่นทั้งหมดอย่างแท้จริง โดยมีการแบ่งออกเป็น พ.ร.บ.กำหนดแผน และขั้นตอนกระจายอำนาจ พ.ศ.2542 ที่ได้มีการกำหนด และมีลำดับขั้นตอนการถ่ายโอนอำนาจของราชการส่วนกลางมาที่ท้องถิ่นตามลำดับแต่เมื่อมีการรัฐประหารเกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ย.2549 สิ่งที่คิดฝันในการพัฒนาการกระจายอำนาจได้สะดุดหยุดลง และเมื่อมีการรัฐประหาร 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ การกระจายอำนาจก็ได้ถอยหลังเข้าคลอง ซึ่งในข้อเท็จจริงหลักการกระจายอำนาจมักไปด้วยกันไม่ได้กับการรวมศูนย์อำนาจที่เมื่อรัฐประหาร มักจะต้องการรวมอำนาจมาไว้ที่คนคนเดียวคือหัวหน้าคณะรัฐประหาร อีกทั้งการกระจายอำนาจที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดในวิธีคิดของเขา ไม่ได้เป็นไปตามหลักสากล โดยจะมีลักษณะสั่งการบังคับบัญชาผู้บริหารท้องถิ่น หรือก่อนหน้านี้ก็มีไม้กายสิทธิ์ในการแขวน การปลด การแต่งตั้งผู้บริหารท้องถิ่น ด้วยมาตรา 44 ที่เห็นได้ชัดคือการใช้มาตรา 44 ตั้งผู้ว่า กทม.มานานหลายปีแล้ว นอกจากนี้ยังไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมาเกือบทศวรรษแล้ว และยังต้องมาคอยทวงถามว่าเมื่อไรถึงจะจัดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ก็เต็มไปด้วยความไม่ชัดเจน เลขาฯ คณะก้าวหน้า กล่าวนายปิยบุตร กล่าวว่า สมัยตอนเป็นพรรคอนาคตใหม่ ได้เคยเสนอนโยบายไว้ว่าต้องการยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ทวงคืนอำนาจให้ท้องถิ่น ซึ่งที่ต้องใช้คำว่าขอทวงคืน เพราะอำนาจแต่เดิมเป็นของท้องถิ่น แต่บางยุคบางสมัยได้ถูกรวมอำนาจไป ซึ่งถึงเวลาเอาอำนาจเหล่านั้นกลับคือมาได้แล้ว โดยต่อไปนี้ต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่หมด โดยอำนาจการจัดทำบริการสาธารณะต้องเป็นของท้องถิ่น ทั้งนี้ถ้าเรื่องไหนที่สำคัญก็มีกฎหมายยกเว้นว่าให้เป็นของส่วนกลาง และการแบ่งรายได้ก็ควรแบ่งกันระหว่างท้องถิ่นและส่วนกลาง 50:50 ไม่ใช่เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันที่ให้งบประมาณท้องถิ่นมาเพียงแค่ 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเงินก้อนนี้ยังรวมถึงงานฝากของส่วนกลาง เช่น จ่ายค่าเบี้ยคนชรา ค่าจ้างผู้บริหารและบุคลากรท้องถิ่น ทำให้เหลือเงินที่ใช้ในการสร้างสรรค์และพัฒนาท้องถิ่นเพียงนิดเดียว และต่อไปยังจำเป็นต้องให้ท้องถิ่นมีความสามารถในการหาเงินในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น ไม่ใช่แค่การได้เงินจากการเก็บภาษีโรงเรือนและภาษีป้ายนอกจากนี้ ในส่วนของการผลักดันนโยบายการกระจายอำนาจให้เป็นไปตามหลักสากลและเป็นคืนอำนาจให้แก่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ก้อนระดับชาติ เป็นเรื่อบของรัฐบาลกลางว่าจะปล่อยอำนาจมายังไง ซึ่งในส่วนนี้ผมและคณะก้าวหน้าไม่สามารถเข้าไปกำหนดได้เพราะเราไม่ใช่รัฐบาล และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองและพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปแล้ว โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 7 คน แต่เมื่อในสมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เราก็ได้มีการผลักดันตามกลไกที่มีอยู่ ทั้งในชั้นกรรมาธิการ และการตั้งกระทู้ถามสด และอภิปรายในสภา ทั้งนี้ เมื่อพรรคโดนยุบ ส.ส.ที่ไม่ถูกตัดสิทธิ์ก็ย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกล ทำงานในสภา และจากที่ผมเป็นผู้สังเกตการณ์ เข้าใจว่า ส.ส.ของพรรคก็คงจะสืบสานนโยบายและเจตนารมณ์ของพรรคอนาคตใหม่ โดยอีกก้อนหนึ่ง คือ การส่งคนสมัครรับเลือกตั้งเข้าไปผลักดัน เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองในระดับท้องถิ่น ซึ่งทางคณะก้าวหน้าได้ผลักดันในส่วนนี้ โดยประกาศจะส่งผู้สมัครในทุกระดับจำนวน 4000 แห่ง แต่ขณะนี้มีเพียงผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จำนวน 17 แห่ง เท่านั้น ที่ทางคณะก้าวหน้าประกาศส่งอย่างเป็นทางการ เพราะกระบวนการได้สืบเนื่องมาจากสมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ แต่ในส่วนอื่นๆ ยังไม่มีการส่ง ทั้งนี้ จะเปิดรับสมัครทางเว็บไซด์พร้อมกันในวันที่ 15 ก.ค.นี้ จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ ที่เป็นคนหน้าใหม่ และมีใจอยากร่วมกันพัฒนาท้องถิ่น อยากร่วมกันเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองเพื่อคืนผลประโยชน์กลับสู่ท้องถิ่น สามารถสมัครเข้ามาได้ผ่านทางออนไลน์ และจะมีกระบวนการคัดเลือกภายในต่อไป นายปิยบุตร กล่าวผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังจบช่วงบรรยาย ได้มีคำถามและข้อคิดเห็นจากประชาชนที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เช่น สิ่งที่ทำมาถูกต้องแล้ว และช่วยผลักดันเรื่องเลือกตั้งท้องถิ่นให้เกิดขึ้นไวๆ ด้วยนะครับ และ สิ่งที่ตั้งเป้าหมาย ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ทวงคืนอำนาจให้ท้องถิ่น วางแผนไว้กี่ปีถึงจะสำเร็จโดย เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้ตอบว่า ไม่เคยตั้งปีปฏิทินเอาไว้ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของอนาคต เมื่อลงมือทำความสำเร็จเกิดขึ้นแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด อาจจะไม่ทันเห็นในช่วงชีวิต แต่นี่คือการทำให้ประชาชนเห็นว่าความหวังยังมีอยู่ ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องของการคิดร้ายต่อแผ่นดินเกิด ซึ่งแน่นอนว่าวิธีการของแต่ละฝ่ายไม่เหมือนกัน ซึ่งส่วนตัวอยากให้ประเทศไทยเดินหน้า พัฒนา ประชาชนได้ประโยชน์และมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา มีวิกฤติที่รอเต็มไปหมด. | คณะก้าวหน้า ลุยเชียงราย ด้าน ปิยบุตร ยัน ไม่ได้คิดร้ายต่อบ้านเมือง ลั่น 15 ก.ค.เปิดรับสมัครผู้สมัครท้องถิ่นทั่วประเทศ ทางออนไลน์ | ข่าว,การเมือง | คณะก้าวหน้า,ปิยบุตร แสงกนกกุล,ไม่เคยคิดร้ายต่อบ้านเมือง,เชียงราย,Common School On Tour,เลือกตั้งท้องถิ่น,รับสมัครทางออนไลน์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1889163 |
คูตินโญ เบิ้ล หงส์แดง บุกเฉือนปืนใหญ่ สุดมัน 4-3 | การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเปิดฤดูกาล 2016-17 ประจำวันอาทิตย์ที่ 14 ส.ค. เกมไฮไลต์อยู่ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดียม ปืนใหญ่ อาร์เซนอล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล,เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 30 อาร์เซนอล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อิโวบี จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษด้านขวาให้ ธีโอ วัลคอตต์ ซัดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าไป,จากนั้นช่วงทดเจ็บครึ่งแรก นาทีที่ 45+1 ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกระยะหวังผล และเป็น ฟิลิปเป คูตินโญ ปั่นด้วยขวา บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมด้านซ้ายเข้าไปอย่างสวยงาม ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ถึงนาทีที่ 49 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ อดัม ลัลลานา เก็บบอลได้ในเขตโทษด้านขวา ก่อนยิงเน้นๆ เข้าไปอย่างเฉียบขาด,จากนั้นนาทีที่ 55 ลิเวอร์พูล นำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ นาธาเนียล ไคลน์ เปิดบอลเรียดจากด้านขวาเข้ากลาง ฟิลิปเป คูตินโญ วิ่งมาซัดเข้าไปไม่เหลือซาก,ถัดมา 7 นาที ลิเวอร์พูล หนีเป็น 4-1 เมื่อ ซาดิโอ มาเน ใช้ความเร็วพาบอลแหวกแนวรับลิเวอร์พูลเข้าเขตโทษด้านขวาก่อนลากตัดเข้ากลางแล้วซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม,จากนั้น นาทีที่ 64 อาร์เซนอล ไล่มาเป็น 2-4 จากจังหวะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน พาบอลเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไป,และในนาทีที่ 74 อาร์เซนอล ได้ประตูไล่จี้มาเป็น 3-4 จากจังหวะได้ฟรีคิกทางกราบซ้าย ซานติ กาซอร์ลา เปิดบอลโค้งเข้ากรอบเขตโทษ คาลัม แชมเบิร์ส โหม่งเช็ดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม,ช่วงเวลาที่เหลือทั้ง 2 ทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ไป 4-3 ประเดิม 3 แต้มสำเร็จ,รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม,อาร์เซนอล:ปีเตอร์ เช็ก,นาโช มอนเรอัล,คาลัม แชมเบอร์ส,เฮคตอร์ เบเยริน,ร็อบ โฮลดิง,ฟรานซิส โกคูแล็ง,อารอน แรมซีย์,โมฮาเหม็ด เอลเนนนี,ธีโอ วัลคอตต์,อเล็กซิส ซานเชส,อเล็กซ์ อิโวบี,ลิเวอร์พูล:ซิมง มินโญเลต์,รักนาร์ คลาวาน,เดยัน ลอฟเรน,นาธาเนียล ไคลน์,อัลเบอร์โต โมเรโน,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม,อดัม ลัลลานา,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,ฟิลิปเป คูตินโญ,โรเบอร์โต เฟอร์มิโน,ซาดิโอ มาเน | ฟิลิปเป คูตินโญ ฟอร์มสุดฮอต ทำ 2 ประตู ช่วยให้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล 4-3 เก็บ 3 แต้ม ประเดิมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016-17 ได้สำเร็จ | null | พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,อาร์เซนอล,ผลบอล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/690401 |
เมียอาชีพ EP.2 ดาว ต้องเร่งพิชิตใจ กษิดิศ เพื่อปิดดีลให้เร็วที่สุด | โรเบิร์ต ที่รู้ว่าพ่อของดาวอาการทรุดก็สั่งให้ เมนี่ ไปดูแล โดยห้ามไม่ให้บอกเพื่อน และวางแผนเร่งให้ดาวปิดดีลนี้ให้เร็วที่สุด คืนนี้ห้ามพลาด เมียอาชีพ เวลา 20.20 น. ช่อง 3กษิดิศ (วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ) กับ ดาว (กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล) เดินทางไปร่วมงานเอ็กซ์โปโลจิสติกด้วยกันที่พัทยา และได้เจอ มหานที(กัมมัญญ์ กลมแก้ว) กษิดิศไม่ค่อยพอใจเพราะคู่แข่งดูสนิทสนมกับเลขาฯ ตน บวกกับ โชนแสง(มารุต ชื่นชมบูรณ์) เพื่อนสนิทโทร.มาบอกว่าเคยเห็นดาวกับมหานทีไปที่ร้านบ่อยๆ ยิ่งทำให้เขาไม่สบายใจ จึงพยายามกีดกันไม่ให้ทั้งสองติดต่อกัน ส่วน แอนนา(นิศาชล ต้วมสูงเนิน) พอมาถึงพัทยา รู้ว่าเพื่อนสนิทกับเลขาฯ พักห้องเดียวกันก็โกรธมาก ปรึกษากับ สาธิต หรือ เท็ด(พล นพวิชัย) เพื่อนสาวคนสนิท วางแผนเขี่ยดาวให้ออกห่างจาก กษิดิศ โดยในงานประกาศรางวัล Young Gen Award 2019 แอนนาได้พยายามแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกษิดิศต่อหน้าดาว แต่กลับโดนเขาปฏิเสธ ด้าน โรเบิร์ต ที่รู้ว่าพ่อของดาวอาการทรุดก็สั่งให้ เมนี่ ไปดูแล โดยห้ามไม่ให้บอกเพื่อน และวางแผนเร่งให้ดาวปิดดีลนี้ให้เร็วที่สุดห้ามพลาด ติดตามชมละครเรื่อง เมียอาชีพ ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3ขอบคุณเนื้อหาจากช่อง 3อ่านเรื่องย่อนิยายไทยรัฐทุกเรื่อง >> คลิกที่นี่ | โรเบิร์ต ที่รู้ว่าพ่อของดาวอาการทรุดก็สั่งให้ เมนี่ ไปดูแล โดยห้ามไม่ให้บอกเพื่อน และวางแผนเร่งให้ดาวปิดดีลนี้ให้เร็วที่สุด คืนนี้ห้ามพลาด เมียอาชีพ เวลา 20.20 น. ช่อง 3 | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เมียอาชีพ,เมียอาชีพ EP2,นิยาย,เรื่องย่อ เมียอาชีพ,ปราง กัญญ์ณรัณ,ไม้ วฤษฎิ์,ละคร | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1890573 |
คัมรัน-ญาจาง ริเวียร่าแห่งทะเลจีนใต้ | สายการบิน Bangkok Airways เปิดเส้นทางบินตรงสู่สนามบินคัมรันเพื่อเป็นประตูไปสู่ญาจาง เหตุเพราะญาจาง โดยผังเมืองนั้นถือว่าขยายไปไม่ได้อีกแล้ว รัฐบาลเวียดนามจึงเนรมิตเมืองคัมรันซึ่งอยู่ติดกัน ให้เป็นเมืองที่มีท่าอากาศยานขนาดใหญ่รองรับเที่ยวบินได้มาก เส้นทางคมนาคมตรงสู่ญาจางในเวลาไม่เกิน 30-45 นาที,เครื่องบินลำยักษ์ของ Bangkok Airways ลงจอดที่ท่าอากาศยานคัมรัน เมืองชายฝั่งตอนใต้ของเวียดนาม ที่ตอนเครื่องลงจอดจะเห็นน้ำทะเลสีฟ้าสด และชายหาดยาวสุดลูกหูลูกตารอต้อนรับอยู่อย่างอบอุ่น,และเมื่อรถแวนคันใหญ่แล่นเข้าสู่ตัวเมืองคัมรัน ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยการก่อสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว และโรงแรมที่เป็นเชน ซึ่งพากันมาเปิดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังหลั่งไหลเข้าสู่คัมรันและญาจางมากขึ้นเรื่อยๆ,ที่พักของเราคืนนี้ ชื่อโรงแรม The Anam Camlam เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว อยู่ติดทะเล มีห้องพักถึง 213 ห้อง พร้อมชายหาดส่วนตัว มีตั้งแต่ห้องธรรมดาๆบนตึก วิลล่าหลังเล็กๆ ส่วนตัว และพูล วิลล่า ที่มีสระว่ายน้ำ สำหรับว่ายเล่นในบ้าน และบริการสารพันในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นสปาหรู ห้องอาหารถึง 3 ห้อง บาร์และเลาจน์อีก 3 แห่ง มุม Kids Zone สำหรับเด็กๆ รวมไปถึงสนามเทนนิส และเธียเตอร์ขนาดกลางที่สามารถเข้าไปนั่งชมภาพยนตร์ได้,หลังรีเฟรชชิ่งตัวเองเล็กน้อย เราก็ไปรับประทานอาหารกันที่ห้องอาหาร Lang Viet Restaurant&Bar ซึ่งเป็นห้องอาหารติดทะเล ยืนยันว่าติดทะเลจริงๆ เพราะที่นี่ชายหาดยาวกว่า 30 เมตร เป็นหาดส่วนตัวที่คุณสามารถจะลงเล่นน้ำ นอนอาบแดดได้แบบสบายๆเลยละ,อิ่มอร่อยกับอาหารมื้อเที่ยงสไตล์เวียดนามฟิวชันแล้ว ก็ได้เวลาออกตะลุยญาจางกันล่ะ,จากโรงแรมที่พักประมาณ 35 นาที เราก็มาถึงตัวเมืองญาจาง,เดวิด ไกด์ชาวเวียดนาม มารอรับพวกเรา เพื่อไปชม Po Nagar Temple หรือ ปราสาทโพนคร ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา บริเวณปากแม่น้ำไค (Cai River) เป็นโบราณสถานแห่งอาณาจักรจาม ที่ถือว่าเก่าแก่ที่สุดของเวียดนามตอนกลาง เพราะสร้างในช่วง ค.ศ.781 ด้านในประกอบด้วย อาคารหลัก 7 หลัง เป็นที่ประดิษฐานเทวรูปขององค์เทวะตามความเชื่อของศาสนาฮินดู โดยหนึ่งในนั้น คือ เทวรูปเทพสตรีภัควตี ภาคหนึ่งของพระอุมาเทวี ซึ่งเป็นเทพีประจำอาณาจักรจามปาภาคใต้ นอกจากเทวรูปแล้ว ภายในปราสาทโพนคร ยังมีรูปหินสลักเป็นศิวลึงค์และโยนี สัญลักษณ์การกำเนิดอันยิ่งใหญ่ของชาวฮินดู อันมีความหมายถึงการสรรค์สร้างสรรพสิ่งต่างๆขึ้นมาบนโลกด้วย,หลังลงจากปราสาทโพนคร ก็เป็นเวลาตะลอนและตะลุยกินอาหารถิ่นญาจาง เริ่มจากร้านกาแฟสุดชิก GONG Coffee คาเฟ่เท่ๆ ที่แต่งร้านในคอนเซปต์ทหาร ตั้งแต่โต๊ะ เก้าอี้ และข้าวของประดับตกแต่งในร้าน รวมทั้งพนักงานในร้านก็แต่งตัวแนวทหารด้วย เป็นร้านกาแฟที่มีสาขามากกว่า 40 สาขาในเวียดนามรวมทั้งญาจางด้วย เมนูเด็ดของร้าน คือ Vietnamese Coconut Coffee กาแฟเข้มขมผสมน้ำกะทิ ที่บอกเลยว่า ต้องลองแล้วจะติดใจ,จากร้านกองด์ ไปต่อกันที่ แพนเค้กแบบเวียดนาม กึ่งๆขนมเบื้องญวนผสมหอยทอด ใช้ชื่อว่าแพนเค้ก แต่เป็นอาหารคาวที่คนเวียดนามนิยมรับประทานในช่วงเย็นๆ ยังๆไม่จบ จากแพนเค้กยังมีมินิแพนเค้กอันนี้ คนยืนรอคิวกันเต็ม ลักษณะการทำใช้เตาขนมครก หยอดแป้งและใส่อาหารทะเลที่ชอบลงไป เช่น กุ้ง ปลาหมึก หอย เหมือนขนมครกซีฟู้ดนั่นเอง,อิ่มจนท้องจิแตกได้เวลาสนุกสนานกับกิจกรรม Night life บน Skylight Nha Trang ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 45 ของ Vahanna Hotel Nha Trang ที่นอกจากจะมี Skydeck จุดชมวิวเมืองญาจางแบบ 360 องศาแล้ว ที่นี่ยังมีร้านอาหารอิตาเลียน ออกแนวผสมผสาน เปิดให้บริการด้วย และหลังอิ่มหนำสำราญกับอาหารมื้อค่ำ ก็ได้เวลา Put Your Hands up ไปกับ Rooftop Beach Club ดิสโก้เธค บนตึกที่สูงที่สุดริมหาด เรียกว่า แดนซ์กันกระจาย งานนี้ หมวยจีนกับสาวเกาหลี เต้นประชันกันแบบสุดเหวี่ยงจริงๆ,อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ ด้วยอาหารเช้าแบบอาลาคาท ที่สามารถสั่งได้เอง จะเป็นแบบอเมริกัน เบรกฟาสต์ หรือเฝอร้อนก็เลือกได้ตามอัธยาศัย,วันนี้เรามีนัดไปดูสนามกอล์ฟ KN ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟที่ทันสมัยมากในคัมรัน ออกแบบโดยเกรก นอร์แมน นักออกแบบสนามกอล์ฟชื่อดังที่ต้องบอกเลยว่า สำหรับนักกอล์ฟไม่ควรพลาดสนามนี้ ทั้งสนุก ทั้งท้าทายออก 2 รอบเช้า-บ่ายสบายๆเลย,อีกวัน เป็นทัวร์สวนสนุก นี่ก็ไฮไลต์อีก สำหรับ Vinpearl Land สวนสนุกที่ทันสมัยใกล้เคียงกับดิสนีย์แลนด์เลยล่ะมีทั้งสวนน้ำ สวนสนุก อควาเรียม สวนสัตว์ สวนดอกไม้ โรงแรม และหาดส่วนตัว การเดินทางไปยัง Vinpearl Land ไปได้ 2 ทาง คือนั่งเรือไป กับนั่งเคเบิลคาร์ ข้ามทะเลพวกเราเลือกอย่างหลังเพราะตื่นเต้นกว่า,สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส บินตรงสู่คัมรัน-ญาจาง สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์,อ้อ ขอบอกว่า นี่แค่ออเดิร์ฟนะ คัมรัน และ ญาจางยังมีอะไรให้ได้สัมผัสอีกมาก ถ้ามีเวลาแนะนำเลยว่า New destination ที่ไม่ไกลเมืองไทยก็ที่นี่ละ,ญาจางริเวียร่าแห่งทะเลจีนใต้ | มาแรงแซงโค้ง สำหรับคัมรัน และ ญาจาง เมืองตากอากาศน้องใหม่ของเวียดนาม ที่ต้องบอกว่า สวยงามและยังสดอยู่มากๆ สำหรับการเป็นเมืองชายทะเลที่มีชายหาดยาวมากกว่า 30 กิโลเมตร | null | ท่องเที่ยว,เวียดนาม,คัมรัน,ญาจาง,บางกอกแอร์เวย์ส,บินตรง,เที่ยวตามตะวัน,เที่ยว | https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/abroad/1526340 |
ชวนเดินชม Lighting ดีไซน์เก๋ 10 จุดย่านตลาดน้อย ในงาน #BKKDW2018 | เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2561 หรือ Bangkok Design Week 2018 เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (27 ม.ค.) และหนึ่งในไฮไลต์น่าสนใจที่ THE STANDARD อยากแนะนำให้คุณหาโอกาสไปชมด้วยตาตัวเองสักครั้งคือการรวมตัวกันของกลุ่มคนทำงานด้านการออกแบบแสงไฟ หรือ Lighting Designer ที่เข้ามาเนรมิตพื้นที่ 10 จุดในย่านตลาดน้อย เยาวราช ด้วยเทคนิคของการจัดไฟหลากคอนเซปต์ เพิ่มเสน่ห์ให้ย่านสุดฮิปนี้กลายเป็นอีกรูปแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนThe Wall คือกิจกรรมการออกแบบแสงไฟที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของกลุ่ม Lighting Designers Thailand จัดทำขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับย่านตลาดน้อยในยามค่ำคืนด้วยการคัดสรร 10 จุดในย่านนี้ขึ้นมาเพื่อรังสรรค์และออกแบบแสงสว่างให้กับพื้นที่นั้นๆ ให้เกิดความแตกต่าง ทั้งยังต้องการจะนำเสนอภาพของชุมชนและสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นผ่านการออกแบบแสงสว่างในครั้งนี้อีกด้วย และที่งานนี้เขาใช้ชื่อว่า The Wall ก็เพราะว่าการออกแบบแสงสว่างบนพื้นผิวเรียบแนวตั้งของกำแพงหรือผนัง คือหนึ่งวิธีที่นักออกแบบแสงสถาปัตยกรรมเลือกใช้ และเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการให้แสงสว่างเสมอภายในเส้นทางเดินชมแสงไฟ คุณจะได้พบการออกแบบแสงไฟที่แตกต่างกันอย่างมีเสน่ห์ถึง 10 จุด ซึ่งต่างก็เลือกหยิบใช้เรื่องราวหรือสิ่งที่มีอยู่แล้วในชุมชนขึ้นมาต่อยอดในการออกแบบ เช่น Wall of Roses การดีไซน์แสงไฟรูปดอกกุหลาบบนกำแพงทางเดินเข้าวัดพระแม่ลูกประคำ (กาลหว่าร์) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อภาษาอังกฤษของวัดที่ชื่อ Holy Rosary Church อันหมายถึง มงกุฎดอกกุหลาบ หรือถ้าใครเป็นทาสแมว เราอยากให้คุณไปเดินตามหาผลงานที่ชื่อ Follow Fellow ไฟนีออนรูปร่างคล้ายแมวซึ่งจะติดตั้งอยู่บริเวณปากซอยแฟลตทรัพย์สิน เพื่อนใหม่ตัวน้อยนี้จะพาคุณไปพบกับอะไร ต้องลองเดินตามเข้าไป และอีกจุดที่น่าสนใจคือการออกแบบแสงไฟให้เป็นเสมือนก้านเซียมซีกับผลงาน Shake A Wish ที่จะติดตั้งไว้ภายในบริเวณศาลเจ้าโรงเกือกThe Wall ผลงานไลติ้งดีไซน์จากกลุ่ม Lighting Designers Thailand นี้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2561 โดยจะติดตั้งกระจัดกระจายอยู่ภายในย่านตลาดน้อย เยาวราช ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. สามารถกดดูแผนที่การเดินชมทั้ง 10 จุดได้ที่ goo.gl/KakE9P | The Wall คือกิจกรรมการออกแบบแสงไฟที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของกลุ่ม Lighting Designers Thailand จัดทำขึ้นก็เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับย่านตลาดน้อยในยามค่ำคืน โดยจะติดตั้งกระจัดกระจายอยู่ภายในย่านตลาดน้อย เยาวราช ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ | null | null | https://thestandard.co/bangkok-design-week-2018-lighting/ |
คดีทำร้ายป.4 พะเยาไม่ได้ข้อยุติ ส่งรุ่นพี่ไปฟื้นฟูจิตใจหลังโซเชียลถล่ม | เมื่อวันที่ 11 ต.ค.61 เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องทั้งครู เจ้าหน้าที่คุ้มครองสิทธิเด็ก ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย ได้นำเด็กทั้ง 8 คน ได้ร่วมกันเจรจา หาข้อยุติ กรณีรุ่นพี่ทำร้ายรุ่นน้อง ป.4 ที่บ้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลดงสุวรรณ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา โดยใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อหาข้อยุติ,เบื้องต้น ฝ่ายผู้ปกครองของเด็ก ป.4 ที่ถูกกระทำ ยืนยันว่า จะดำเนินการลงบันทึกประจำวันกับทางสถานีตำรวจภูธรดอกคำใต้ เพื่อรอดูพฤติกรรมของเด็ก ทั้ง 8 คน นอกจากนั้น จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับเด็ก 4 คน ที่ปรากฏในคลิป ที่เข้าทำร้ายร่างกายเด็กรุ่นน้องอย่างรุนแรง ขณะที่ในส่วนของการเยียวยา ค่าทำขวัญ ยังไม่สามารถได้ข้อสรุปที่ชัดเจนได้ ขณะนี้ ได้เพียงข้อสรุปเป็นบางส่วน แต่จะเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง ,ด้าน พ.ต.อ.เอกสมภพ สุภาพร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรดอกคำใต้ เปิดเผยว่า ทางด้านผู้ปกครองได้มาลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรดอกคำใต้ เพื่อเป็นหลักฐานในการดูพฤติกรรมของเด็ก ในกรณีดังกล่าว ทั้ง 8 คน ซึ่งหากยังคงมีพฤติกรรมที่ยังกระทำซ้ำอีก ก็จะสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ ขณะที่เด็กทั้ง 8 คน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการที่จะนำไปฟักฟื้นสภาพจิตใจ ที่ถูกสังคมโซเชียลรุมด่าประณามอย่างหนัก ,ผกก.สภ.ดอกคำใต้ กล่าวด้วยว่า จากการสอบถามผู้ปกครองเด็กที่เป็นผู้ทำร้ายเด็กรุ่นน้องดังกล่าว ระบุว่า เด็กที่ได้กระทำลงไปเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และเกิดความคึกคะนอง แต่ก็มีการสำนึกผิดแล้วและได้เข้ากราบขอโทษผู้ปกครองเด็กที่ถูกทำร้ายไปก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึ่ง โดยล่าสุดทั้งสองฝ่ายจะเข้าเจรจาในเรื่องการเยียวยาอีกรอบ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเจรจาหาข้อสรุปในเรื่องของจำนวนเงินในการเยียวยาได้. | ผู้ปกครองสองฝ่ายเจรจาหาข้อยุติกรณีรุ่นพี่ทำร้ายรุ่นน้องป. 2 ไม่ได้ข้อสรุป แต่ขอจับตาพฤติกรรม 8 รุ่นพี่ ก่อนส่งไปฟื้นฟูจิตใจหลังโซเชียลด่ายับเยิน ยันมาจากความคึกคะนองรู้เท่าไม่ถึงการณ์ | ข่าว,ทั่วไทย | รุ่นพี่ทำร้ายรุ่นน้อง,ทำร้ายเด็ก ป.4,พะเยา,สภ.ดอกคำใต้,เจรจาค่าเยียวยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1395164 |
จะขาดใจมั้ย? เมื่อคอโซเชียล ถูกสั่งห้ามใช้ เฟซบุ๊ก 1 สัปดาห์เต็ม | ยอมรับมาเถอะว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนในยุคปัจจุบันไปแล้ว จนทำให้เราต้องหยิบสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตขึ้นมาวันละหลายๆ รอบ ทั้งคอยอัพเดตความเคลื่อนไหวบนสังคมออนไลน์ หรือแชร์เรื่องราวต่างๆ ให้เพื่อนในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของคุณ,เคยลองคิดเล่นๆ มั้ยว่า ถ้าคุณถูกสั่งห้ามใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กซัก 1 สัปดาห์ ชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไร?,ล่าสุด มีนักวิจัยจากสถาบันวิจัยความสุขในโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจ เกี่ยวกับการศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กราว 1,095 คน ซึ่งใช้งานสังคมออนไลน์ดังกล่าวอยู่เป็นประจำ โดยกว่า 94% ของผู้ทำการทดสอบนี้ ระบุว่าพวกเขาใช้งานเฟซบุ๊กทุกวันจนเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน,อย่างไรก็ตาม การทดลองในครั้งนี้ได้แบ่งผู้ใช้งานออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ถูกห้ามให้ใช้งานเฟซบุ๊กเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และกลุ่มที่สามารถใช้เฟซบุ๊กได้ตามปกติ โดยผลการวิจัยดังกล่าว ระบุว่า 88% ของผู้ที่ไม่ได้เข้าเฟซบุ๊กเป็นเวลา 1 สัปดาห์นั้น มีความสุขเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับอีก 81% ที่ยังคงใช้งานเฟซบุ๊กตามปกติ,นอกจากนี้ จากการวิจัยยังพบว่า กลุ่มที่ถูกห้ามใช้เฟซบุ๊กนั้น มีอารมณ์โกรธเคืองต่อสิ่งต่างๆ น้อยลง และกลับมามีความกระตือรือร้นในการดำเนินชีวิตประจำวันมากขึ้น รวมถึงการเข้าสังคม และการร่วมกิจกรรมทางสังคมก็เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กตามปกติ กว่า 55% ระบุว่าพวกเขามีความเครียดเพิ่มขึ้น,จากการวิจัยดังกล่าว นักวิจัยได้สรุปว่าการมีความเครียดเพิ่มขึ้นของผู้ที่ใช้งานเฟซบุ๊กเป็นประจำนั้น อาจมาจากการที่พวกเขาต้องรับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ของเพื่อนบนโลกออนไลน์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาวะความคิด และอารมณ์ของพวกเขานั่นเอง,แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องบอกว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวิจัยจากพฤติกรรมคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และยังมีภาวะแวดล้อมแตกต่างกัน จึงไม่อาจใช้เป็นบทสรุปได้ว่า ผู้ใช้งานหรือไม่ได้ใช้เฟซบุ๊ก จะมีพฤติกรรมเดียวกันนี้,ที่มา : ,nextshark | ตามไปดูสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับการใช้งานสังคมออนไลน์ดัง จากการวิจัย 1,095 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ใช้งานได้ และห้ามใช้งานโดยเด็ดขาด… | ข่าว,ไอที | เฟซบุ๊ก,facebook,วิจัย เฟซบุ๊ก,ผลวิจัย facebook,ลอง งดใช้เฟซบุ๊ก,งดเล่น สังคมออนไลน์,ผลข้างเคียง การใช้เฟซบุ๊ก,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไอที | https://www.thairath.co.th/news/tech/539869 |
อินโดฯเผยผลสอบเบื้องต้น ไลอ้อนแอร์ตก ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย | อินโดฯ เผยผลสอบเบื้องต้นไลอ้อนแอร์ตก ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ข้อมูลกล่องดำเผยนักบินพยายามบังคับเครื่องบินเชิดหัวขึ้นกว่า 11 ครั้ง ขณะที่ระบบ anti satll ก็กดเครื่องบินทิ่มหัวลงต่อเนื่อง ก่อนนักบินจะสูญเสียการควบคุม,เมื่อ 28 พ.ย.61 สำนักข่าวรอยเตอร์ และเว็บไซต์ เดลี่เมล ในอังกฤษ รายงาน คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของอินโดนีเซีย (KNKT) เปิดเผยรายงานเบื้องต้นการสอบสวนกรณีโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737Max8 ของสายการบิน,ไลอ้อน แอร์ เที่ยวบิน JT610, จาการ์ตา-ปังกัลปีนัง ประสบเหตุตกในทะเลชวา หลังบินขึ้นเพียง 13 นาที เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตหมดทั้งลำ 189 ราย เมื่อเช้าวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า เครื่องบินไลอ้อนแอร์ลำนี้ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน โดยนักบินหลายคนที่ขับเครื่องบินลำนี้ ล้วนแต่ประสบปัญหาคล้ายกันก่อนเครื่องบินลำมรณะจะตกทะเล,รายงานของ KNKT เมื่อวันพุธที่ 28 พ.ย. เผยรายละเอียดเกี่ยวกับความพยายามของนักบินหลายคนที่ขับเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max8 ลำนี้ว่า ล้วนแต่รายงานพบปัญหาที่ระบบไฟลต์ คอนโทรล ขณะที่บันทึกด้านเทคนิค ระบุไว้ว่า เครื่องบินลำนี้ถูกนำมาให้บริการได้ 2-3 เดือน แต่มีปัญหาที่ระบบเครื่องตรวจวัด หนึ่งวันก่อนตก เพราะระบบอ่านความเร็วเชื่อถือไม่ได้,ข้อมูลที่กู้ได้จากกล่องดำ บันทึกข้อมูลการบิน ซึ่งเป็นกล่องดำแรกที่พบ แสดงให้เห็นว่า หลังกัปตันนำเครื่องบินทะยานขึ้นจากสนามบินจาการ์ตา ปรากฏว่า ระบบ Stick Shaker หรือระบบสั่นคันบังคับ(เตือนความเร็วกำลังเข้าใกล้ความเร็วร่วงหล่นแล้ว) ได้เตือนเป็นส่วนใหญ่ตลอดเที่ยวบิน อีกทั้งกัปตันยังพยายามบังคับเครื่องบินให้เชิดหัวขึ้นมากกว่า 11 ครั้ง ขณะที่ระบบอัตโนมัติ anti-stall ทำให้เครื่องบินหัวทิ่มลง กระทั่งนักบินสูญเสียการควบคุม เครื่องบินดิ่งตกทะเล,รายงานของ KNKT พบว่า นักบินที่ขับเครื่องบินลำนี้ หนึ่งวันก่อนตก ได้ประสบปัญหาขณะนำเครื่องบินขึ้นจากสนามบินเดนปาซาร์ บนเกาะบาหลี มายังจาการ์ตา กระทั่งกัปตันและนักบินผู้ช่วยต้องปิดสวิตช์ระบบ และใช้การควบคุมแบบแมนนวล หรือขับเครื่องบินด้วยตนเอง เพื่อให้เครื่องบินบินได้อย่างปกติ โดยเมื่อนำเครื่องบินมาถึงปลายทาง นักบินได้แจ้งปัญหาต่อทีมซ่อมบำรุงของสายการบินไลอ้อนแอร์ ซึ่งจากนั้นได้มีการตรวจเช็ก ซ่อมแซม และอนุญาตให้นำเครื่องบินขึ้นบินได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น,รอยเตอร์ชี้ว่า รายงานเบื้องต้นของ KNKT ระบุว่า ปัญหาที่พบควรถูกพิจารณาว่าเครื่องบินไม่มีความปลอดภัยตามมาตรฐานการบิน และไม่ควรให้ทำการขึ้นบินต่อ อย่างไรก็ตาม นายนูร์คาห์โย อูโตโม เจ้าหน้าที่สอบสวนของ KNKT กล่าวว่า ทาง KNKT ยังไม่ได้ระบุชี้ชัดว่า ระบบ anti-stall เป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องบินตก และคงเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไลอ้อนแอร์ตกทะเล | อินโดฯ เผยผลสอบเบื้องต้นไลอ้อนแอร์ตก ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ข้อมูลกล่องดำเผยนักบินพยายามบังคับเครื่องบินเชิดหัวขึ้นกว่า 11 ครั้ง ขณะที่ระบบ anti satll ก็กดเครื่องบินทิ่มหัวลง | ข่าว,ต่างประเทศ | ไลอ้อนแอร์ตก,ไลอ้อนแอร์,ไลอ้อนแอร์ตกทะเล,ผลสอบสาเหตุตก,อินโดนีเซีย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1432200 |
พท. เสียอดีต ส.ส.เขต 28 คน มั่นใจ หาคนแทนทัน ยัน ไม่คุย คสช. 7ธ.ค.นี้ | เพื่อไทย เสียอดีต ส.ส.เขต 28 คน ไม่รวมปาร์ตี้ลิสต์ ภูมิธรรม มั่นใจ หาคนลงแทนได้ทัน ยัน ไม่คุย คสช. 7 ธ.ค.นี้ ชี้ไม่ใช่หน้าที่ รบ. ขอแค่ปลดล็อกพรรคการเมืองหาเสียงเต็มรูป ท้าประยุทธ์เปิดหน้าสู้เลือกตั้ง ย้ำ ไม่หวั่นพรรคถูกยุบ,วันที่ 28 พ.ย. นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ตอบโต้กระแสข่าวลือเพื่อไทย เสียอดีต ส.ส.ออกจากพรรคกว่า 70-80 คน ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะหากนับจากปี 2554 พรรคเพื่อไทย เสียอดีต ส.ส.เขตไป 28 คน ไม่รวมกับที่ย้ายไปพรรคไทยรักษาชาติ เช่น ภาคกลาง อย่าง ลพบุรี นครปฐม สมุทรสาคร เพชรบูรณ์ และภาคอีสาน อย่าง นครพนม นครราชสีมา ขณะ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่ได้นำมารวมด้วย เพราะที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับ ส.ส.เขตมากกว่า ส่วนจะส่งครบทั้ง 350 เขต หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่จะส่งให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม การหาเสียงขณะนี้ พรรคได้จัดทัพเตรียมพร้อม เพราะสมาชิกทุกคนถือเป็นส่วนสำคัญในการลงพื้นที่ รวมถึง นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่มาสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคด้วย ส่วน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่,นายภูมิธรรม มั่นใจว่าจะหา ส.ส.ลงสมัครในเขตที่มีผู้สมัครย้ายพรรคไปได้ เพราะเพื่อไทยไม่ได้ประสบปัญหาขาดแคลนผู้สมัคร มีผู้สมัครมากเกินกว่าความต้องการอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่า การที่ผู้มีอำนาจพยายามดูดอดีต ส.ส.จากทุกพรรคการเมืองไปนั้น ก็อาจไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย เพราะการเลือกตั้งทุกครั้งมีอยู่ 20 ถึง 30% ที่พลาดเป้า นอกจากนี้ประชาชนจะตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่สามารถทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น ดังนั้นตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา ประชาชนรู้ว่ามีอะไรดีขึ้นต่อตัวเขาหรือไม่,ส่วนที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า อดีต ส.ส.เลือกที่จะย้ายพรรคในช่วงโค้งสุดท้าย เป็นการจงใจให้พรรคเพื่อไทยหาคนไม่ได้หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม มองว่า การจะลาออกจากพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพรรคเพื่อไทยมีเครดิต มีคะแนนนิยม ดังนั้นการตัดสินใจของอดีต ส.ส.ก็ต้องพิจารณาในเรื่องดังกล่าว,นายภูมิธรรม ยังยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่เข้าร่วมหารือกับ คสช.และรัฐบาล ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ เนื่องจากมองว่าไม่ใช่หน้าที่ คสช.และรัฐบาล แต่เป็นหน้าที่ของ กกต. ในการเชิญพรรคการเมืองหารือเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกพรรคมีความพร้อม แต่ติดขัดแค่คำสั่ง คสช. ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือให้ คสช.ปลดล็อกทางการเมืองให้เร็วที่สุด เพื่อให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่,ส่วนที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะปลดล็อกให้ทุกพรรคการเมืองหาเสียงได้ หลังวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ทำให้พรรคการเมืองมีเวลาหาเสียงเพียง 60 วัน นายภูมิธรรม มองว่า มันผิดวิสัยปกติของประเทศที่เป็นประชาธิปไตย,นายภูมิธรรม ยังมองเรื่องที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รอพรรคการเมืองทาบทามเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยว่า ตนเองไม่ห่วงเรื่องกฎหมาย เพราะเชื่อว่านายกรัฐมนตรีมีมือดีด้านกฎหมายที่ดูแล แต่มองว่าไม่สง่างาม ดังนั้นหากจะลงเล่นการเมืองจริงๆ ขอให้เปิดหน้าลงมาแข่งขันแบบนักการเมืองทั่วไปอย่างตรงไปตรงมา,เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงวันนี้ อัยการจะสั่งฟ้องกรณีที่แกนนำ 8 คน ของพรรคแถลงข่าว ผิดมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่นั้น ว่า ไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อการถูกยุบเพื่อไทย เพราะคดีความยังไม่ถึงขั้นนั้น และยังมีอีกหลายขั้นตอน แต่ยอมรับว่าในช่วงสองถึงสามวันที่ผ่านมามีขบวนการปล่อยข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบ ทำให้เกิดความสับสน และความรู้สึกไม่มั่นคงภายในพรรค. | เพื่อไทย เสียอดีต ส.ส.เขต 28 คน ไม่รวมปาร์ตี้ลิสต์ ภูมิธรรม มั่นใจ หาคนลงแทนได้ทัน ยัน ไม่คุย คสช. 7 ธ.ค.นี้ ชี้ไม่ใช่หน้าที่รบ. ขอแค่ปลดล็อกพรรคการเมืองหาเสียงเต็มรูป ท้าประยุทธ์เปิดหน้าสู้ | เลือกตั้ง | เพื่อไทย,เสียอดีตส.ส. 28 คน,ภูมิธรรม เวชยชัย,เลือกตั้ง,ปลดล็อกการเมือง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1431785 |
เปิดตำนานทุ่งลานนา โรงเรียนที่เกิดจากพระราชดำริในหลวงรัชกาล 9 | เป็นที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของปวงชนไทยอยู่แล้วว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงห่วงใยและตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะทรงถือว่า การศึกษาเป็นกระบวนการพัฒนาชีวิตมนุษย์ ฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าพื้นที่นั้นจะตั้งอยู่แห่งหนตำบลใด และทุรกันดารมากถึงเพียงใด แต่เมื่อไรที่พสกนิกรยังคงใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยาก ลำบาก ก็มิอาจรอดพ้นสายพระเนตรพระองค์ท่านไปได้,เปิดประวัติ ก่อนจะเป็นมัธยมของชุมชนราชดำริ,โรงเรียนราชดำริ, ,อีกหนึ่งสถานศึกษาที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเปิดโอกาสให้เด็กในชุมชน ที่ลำบากยากไร้ ได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ขอพาย้อนกลับไปในวันที่ในหลวง ร.9 มีพระราชดำริ จัดตั้งสถานศึกษาแห่งนี้ขึ้นมา เหตุการณ์วันนั้นเป็นอย่างไร พระองค์ทรงเห็นอะไร และตรัสว่าอย่างไร ใครยังพอจำได้อยู่บ้าง? วันนี้ ทีมข่าวฯ ได้เชื้อเชิญผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาร่วมบอกเล่าถึงความเป็นมา ก่อนเป็นโรงเรียนราชดำริอย่างเช่นวันนี้ ,ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 ครั้งที่ ,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, ได้เสด็จฯ มาทรงตัดลูกนิมิตอุโบสถวัดทุ่งลานนา แขวงดอกไม้ เขตประเวศ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของเจ้าอาวาสในขณะนั้น ซึ่งหลังจากที่ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจด้านศาสนาเสร็จแล้ว พระองค์ท่านพระราชทานวโรกาสให้พสกนิกรเข้าเฝ้าฯ แสดงความจงรักภักดี,เมื่อตรัสถามถึงทุกข์สุข จากชาวบ้านในชุมชน ก็ได้ทรงทราบว่า เยาวชนในตำบลนี้ ส่วนใหญ่มีการศึกษาค่อนข้างต่ำ และไม่มีโอกาสได้เรียนถึงขั้นระดับมัธยมศึกษา เนื่องจากไม่มีโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำท้องถิ่น ด้วยเหตุนี้ พระองค์ท่านทรงมีความห่วงใยเป็นอย่างมาก จึงมีพระราชดำริให้พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ เจ้าอาวาสวัดทุ่งลานนา และกรรมการวัด รับภาระดำเนินการ,หลังจากนั้น พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ เจ้าอาวาสวัดทุ่งลานนา และกรรมการวัด ก็ได้มีการกระจายข่าวไปยังชุมชนทุ่งลานนา เพื่อหาผู้บริจาคที่ดิน สร้างเป็นสถานศึกษาแห่งใหม่ของชุมชน,กระทั่ง มีผู้สละที่ดินส่วนตน บริจาคที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนมัธยมของชุมชน ได้แก่ ,นายขุนทอง-นางฉะอ้อน บุญมาเลิศ บริจาคที่ดิน จำนวน 8 ไร่ นางสมถวิล มีสายทอง บริจาคที่ดิน จำนวน 4 ไร่ และนางลิป ปานเถื่อน บริจาคที่ดิน จำนวน 71 ตารางวา, ทำให้มีที่ดินทั้งหมด 12 ไร่ 71 ตารางวา ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการสร้างสถานศึกษา,โดยขณะนั้น ,นายชิต-นางพิศ สว่างเนตร, ซึ่งได้ประสงค์จะบริจาคที่ดิน จำนวน 6 ไร่ 55 ตารางวา ให้แก่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 2 อยู่แล้ว ก่อนที่จะมีการตั้งโรงเรียนราชดำริขึ้น เมื่อคุณหญิงบุญเลื่อน เครือตราชู (ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมขณะนั้น) ได้ทราบเรื่องว่าจะมีการก่อสร้างโรงเรียนราชดำริ ตามคำบอกเล่าของคณะกรรมการวัด จึงได้ไปขอความกรุณาใช้ที่ดินส่วนนี้ เพราะตั้งอยู่ใกล้สถานที่ก่อสร้าง กระทั่ง นายชิต-นางพิศ สว่างเนตร ก็ยินดีโอนที่ดินแปลงดังกล่าว ให้ใช้ในราชการโรงเรียนราชดำริได้ จึงทำให้ที่ดินของโรงเรียนราชดำริ เพิ่มเป็น 18 ไร่ 55 ตารางวา,หลังจากนั้น ทางกรรมการวัดจึงได้ประสานงานติดต่อกับ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศจัดตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งนี้ ในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2518 โดยคณะกรรมการวัดและผู้บริจาคที่ดิน ได้ลงมติเอกฉันท์ว่า ควรให้ชื่อว่า ,โรงเรียนราชดำริ, เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ในหลวง ร.9 มีพระราชดำริจัดตั้งมัธยมของชุมชนราชดำริ ตรัสผ่าน พระครูเนกขัมมคุณาจารย์,ทั้งนี้ เพื่อได้ร่วมกันระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ ในหลวง ร.9 ว่า เหตุการณ์วันที่พระองค์เสด็จฯ มาวัดทุ่งลานนา พระองค์ตรัสกับ พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ ว่าอย่างไรบ้าง เหตุใดถึงได้มีชาวบ้านยอมสละที่ดินทำกิน น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินสร้างสถานศึกษาในทันที,เป็นโชคดีของทีมข่าวฯ ที่ได้มีโอกาสพบกับ ,พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ เจ้าอาวาสวัดทุ่งลานนา ผู้ที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ และเป็นบุคคลเดียวที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตรัสเรื่องการสร้างโรงเรียนแห่งนี้อย่างใกล้ชิด,ภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดทุ่งลานนา พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ ยังคงมีสีหน้าแช่มชื่น สดใส สุขภาพพลานามัยภายนอกดูแข็งแรง แม้จะมีอายุมากถึง 89 ปีแล้ว แต่ก็ทราบจากลูกศิษย์เจ้าอาวาสว่า หลวงพ่อค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการได้ยิน ดังนั้น การสนทนากับท่าน ลูกศิษย์จะขอทำหน้าที่สอบถามแทนผู้สื่อข่าว, ลูกศิษย์ตะโกนข้างหูซ้าย,พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ ท่านนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าตอบรับว่า ,จำได้,ทีมข่าวฯ และคณะครูโรงเรียนราชดำริ มองหน้ากันด้วยสีหน้าตื่นเต้น และรอฟังคำบอกเล่าจากปาก พระครูเนกขัมมคุณาจารย์,ผ่านไปเกือบ 10 นาที พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ ยังคงนึกย้อนถึงความทรงจำในวันนั้น ภายในกุฏิเงียบสนิท ไม่มีเสียงรบกวนใดๆ กระทั่ง ลูกศิษย์เห็นว่า หลวงพ่อนิ่งเงียบไปพักใหญ่ จึงตัดสินใจตะโกนถามไปอีกครั้ง,ประมาณ 10 นาทีผ่านไป พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ เริ่มมีอาการเหนื่อยจากการนึกย้อนความหลัง ซึ่งถือเป็นที่น่าเสียดายมากที่พวกเราไม่ได้มีส่วนรับรู้ถึงเหตุการณ์สุดประทับใจในวันนั้น เนื่องจากหลวงพ่อมีอายุมากแล้ว อาจทำให้ความทรงจำบางส่วนหายไปบ้าง,อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวฯ ก็ยังได้พูดคุยกับอีกหนึ่งท่าน ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วยเช่นกัน ,นายอินตา จันทร์ถา, เล่าย้อนเหตุการณ์กลับไปในช่วงบ่ายของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 ว่า วันนั้นมีพสกนิกรชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนวัดทุ่งลานนา มารอรับเสด็จนับพันคน ตนก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่สำหรับเรื่องพระราชดำริให้สร้างสถานศึกษาขึ้นมาในชุมชนนั้น พระองค์ท่านได้รับสั่งกับ พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งก็ไม่ทราบว่าพระองค์ตรัสว่าอย่างไรบ้าง,แต่ภาพที่เห็นคือ ในหลวงตรัสกับพระครูเนกขัมมคุณาจารย์ อย่างใกล้ชิดมาก ผมรับรู้ได้ถึงอากัปกิริยาของ พระครูเนกขัมมคุณาจารย์ ที่ดูตื่นเต้น มือไม้สั่น และคงปลื้มปีติที่สุดในชีวิต,หลังจาก ในหลวงเสด็จฯ กลับไป พระครูเนกขัมมคุณาจารย์บอกเล่าให้ฟังในทำนองว่า ,ในหลวงทอดพระเนตรเห็นความยากลำบากของราษฎรในชุมชน และตรัสว่า พื้นที่ทิวทัศน์ข้างวัดนั้น น่าจะเหมาะสมเป็นโรงเรียน ให้ทางวัดไปดำเนินการจัดตั้งเป็นโรงเรียนมัธยม เพื่อให้ลูกหลานชาวบ้านในพื้นที่ได้มีโอกาสทางการศึกษา จึงรับสั่งให้เจ้าอาวาสรับภาระดำเนินการต่อ, นายอินตา เผยจากคำบอกเล่าของเจ้าอาวาสวัดทุ่งลานนา,ลูก-หลาน ผู้บริจาคที่ดิน ปลื้มที่สุดในชีวิต ที่ครั้งหนึ่งบรรพบุรุษสละที่ทำกินสนองพระราชดำริในหลวง,นอกจากนี้ บุคคลสำคัญที่มีส่วนให้เกิดสถานศึกษาแห่งนี้ขึ้นมา ก็คือ ผู้บริจาคที่ดินทุกท่าน แม้ว่าวันนี้เราจะไม่มีโอกาสได้พูดคุย ถามไถ่ถึงเหตุผลที่ยอมสละที่ดินทำกิน บริจาคเป็นโรงเรียนราชดำริแห่งนี้ เนื่องจากทราบจากลูกหลานว่า ทุกท่านได้เสียชีวิตหมดแล้ว,ผู้สื่อข่าวก็มีโอกาสได้ฟังคำบอกเล่าจากปาก ลูก-หลาน ของหนึ่งในผู้บริจาคที่ดิน ,นางศรีสุข เทียมอุดม (บุญมาเลิศ), เล่าถึงความภูมิใจที่ครั้งหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่ได้มีโอกาสน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดิน เพื่อสนองพระราชดำริของในหลวง ร.9 ว่า คงไม่สามารถตอบแทนเหตุผลเหล่านั้นได้ทั้งหมด แต่ทราบว่า,เมื่อพระองค์ท่านทอดพระเนตรเห็นถึงความยากลำบากและโอกาสในการรับการศึกษาของเด็กในชุมชนค่อนข้างน้อย และได้ตรัสผ่านเจ้าอาวาสว่า อยากให้มีโรงเรียนมัธยมศึกษาเกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ พ่อขุนทองและแม่ฉะอ้อนก็ตัดสินใจบริจาคที่ดินส่วนตน จำนวน 8 ไร่ทันที โดยไม่คิดหวงใดๆ เพราะลูกหลานชาวบ้านในชุมชนก็ได้รับโอกาสเรียนด้วย,น.ส.จรูญทรัพย์ เทียนอุดม หลานสาวของนายขุนทอง-นางฉะอ้อน บุญมาเลิศ, เล่าเสริมด้วยว่า สมัยเด็ก ครั้งที่ไปนอนเฝ้าคุณยาย ยายมักจะเล่าถึงความปลื้มปีติให้ฟังอยู่เสมอว่า ,ยายและตาได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายโฉนดที่ดิน เพื่อสนองพระราชดำริของในหลวงด้วย,เมื่อครั้งที่ พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในชุมชนทุ่งลานนา พระองค์ทรงพระดำเนินลุยท้องนา ลุยดินโคลน พระบาทของพระองค์ทรงเหยียบย่ำลงไปในท้องนาตลอดทุกย่างก้าว โดยไม่มีบ่น เพียงแต่ทรงแสดงความเป็นห่วงถึงชาวบ้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่ว่า ชาวบ้านคงต้องใช้ชีวิตกันยากลำบาก จะเดินทางไปไหนมาไหนก็คงลำบากแย่, น.ส.จรูญทรัพย์ กล่าวถึงคำบอกเล่าของตาและยาย,หลังจากเกิดเป็นโรงเรียนมัธยมของชุมชนแห่งนี้ เปิดอย่างเป็นทางการ แต่ในสมัยนั้นด้วยความที่สภาพโรงเรียนยังค่อนข้างทุรกันดาร ไม่มีอาคารเรียน สภาพโรงเรียนยังมีเพียงท้องนาและป่าเท่านั้น ,นายนพคุณ ทรงชาติ มาดำรงตำแหน่งเป็นครูใหญ่คนแรก, บอกเล่าถึงความรู้สึกในวันนั้นว่า ,กระทั่ง ในช่วงปลายปี 2518 ,นางสาวสุวรรณา เอมประดิษฐ์ เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการอย่างเป็นทางการ, จนได้ชื่อว่าเป็นผู้อำนวยการบุกเบิกโรงเรียน ตั้งแต่อาคารเรียน บ้านพักครู และบ้านพักภารโรง ซึ่งได้มีโอกาสพัฒนาโรงเรียนไปพร้อมกับการสอนหนังสือในสมัยนั้น, ผอ.โรงเรียนราชดำริคนที่ 1 กล่าวพร้อมกับพนมมือแนบอก,มาถึงวันนี้ ระยะเวลา 41 ปี ที่เหล่าคณาจารย์และนักเรียนได้ร่วมกันสนองพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และดูแลรักษามัธยมของชุมชนแห่งนี้มาตลอด ,นายมนตรี รัตนพจน์ รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนราชดำริ, กล่าวด้วยว่า แม้ ณ วันนี้ พระองค์ท่านได้จากปวงชนชาวไทยไปแล้ว แต่ทางโรงเรียนก็จะเดินตามรอยพระองค์ จะให้โอกาสเด็กทุกคนได้รับโอกาสทางการศึกษา และจะปลูกฝังให้นักเรียนทุกคนได้รู้จักสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า หากไม่มีพระราชดำริของในหลวง ร.9 ก็คงไม่มีโรงเรียนมัธยมแห่งนี้,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ มีพระราชดำริจัดตั้งสถานศึกษาสำหรับเยาวชนในท้องถิ่นนี้ เป็นเหตุให้โรงเรียนแห่งนี้ได้นามอันเป็นมงคลว่า โรงเรียนราชดำริ ควรที่เราทั้งหลายอันประกอบด้วยครู อาจารย์ นักเรียน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งมวล จะได้สำนึกและปฏิบัติให้สมควรตามภาระหน้าที่ของตน เพื่อให้เกิดประโยชน์อันแท้จริง สนองพระราชดำรินั้น | หากไม่มีพระราชดำริจากในหลวง ร.9 ให้จัดตั้งโรงเรียนในวันนั้น ก็คงไม่มีมัธยมของชุมชนราชดำริ ในวันนี้ นายนพคุณ ทรงชาติ อดีตครูใหญ่คนแรกของโรงเรียนราชดำริ | ข่าว,ทั่วไทย | โรงเรียนราชดำริ,ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,ความเป็นมาโรงเรียนราชดำริ,พระราชดำริ,พระครูเนกขัมมคุณาจารย์,วัดทุ่งลานนา | https://www.thairath.co.th/news/local/778301 |
บิ๊กตู่ ไฟเขียวตั้ง คกก.คุมทำหนังช่วย 13 หมูป่า ออกถ้ำหลวงฯ | เมื่อวันที่ 24 ก.ค.61 ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ถึงการจัดงานเลี้ยงขอบคุณผู้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือคณะเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 คน ออกจากวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า งานดังกล่าวใช้ชื่อว่า รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน United As One จะมีขึ้นในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ระหว่างเวลา 18.00-21.00 น. ที่พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งเป็นการรับพระราชทานเลี้ยง โดยมีอาหารพระราชทานและการแสดงต่างๆ ที่มีความเหมาะสม ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายฝ่ายต่างๆ ไปดำเนินการและกำลังประสานงานกันระหว่าง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง รวมถึงมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมถึงคณะทูตต่างประเทศมาร่วมงาน,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนขอให้สื่อมวลชนมีความระมัดระวังต่อผู้ปกครองและเด็กทั้ง 13 คนด้วย ซึ่งบางครั้งผู้ปกครองของเด็กเหล่านี้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากการที่มีคนมาพูดคุยด้วยถึงเรื่องต่างๆ ที่อาจส่งผลไปถึงอนาคตได้ ดังนั้นเราต้องทำให้เด็กเหล่านี้คิดว่าเขาไม่ได้ทำผิดอะไร เป็นการที่เขาใช้ชีวิตปกติเหมือนกับคนอื่นๆ ในพื้นที่ รวมถึงเป็นการที่เขาเข้าไปเที่ยวพักผ่อน ไปฝึกในถ้ำดังกล่าว แต่บังเอิญเกิดเหตุการณ์ทางธรรมชาติจนทำให้ต้องไปเผชิญชะตากรรมดังกล่าว ที่อาจเรียกว่าเป็นการผจญภัยก็ได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของรัฐบาลต้องมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อแก้ปัญหาอย่างนี้,ผมขอฝากสิ่งเหล่านี้ไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมขอขอบคุณผู้ปกครองกับเด็กๆ ไม่มีใครโทษใครทั้งสิ้น เป็นเรื่องการสร้างเสริมประสบการณ์ของพวกเรา เป็นเรื่องการแก้ปัญหาภัยพิบัติของเราที่ทั้งโลกติดตาม 190 กว่าประเทศรู้เรื่องหมูป่า และนี่คือการทำงานโดยที่เราไม่ต้องประชาสัมพันธ์อะไรเลย เพราะปรากฏด้วยข้อเท็จจริงและภาพตามสื่อต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทผลิตภาพยนตร์สนใจจะมาทำภาพยนตร์เกี่ยวกับการช่วยเหลือทีมหมูป่าฯ ว่า ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลตรงนี้ ซึ่งคงจะมีการพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง. | นายกฯ สั่งตั้ง คกก.คุมทำหนังช่วยชีวิตทีมหมูป่า ขอพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง ระบุจัดงานเลี้ยงขอบคุณทีมช่วยเหลือ 1 ส.ค.นี้ | ข่าว,การเมือง | ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯ,ทีมหมูป่า,ถ้ำหลวง,13 ชีวิต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1340890 |
รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่พัทลุง คาดแล้วเสร็จภายในวันนี้ | เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรรถจักรจากชุมทางรถไฟหาดใหญ่ และ วิศวกรกำกับการกองลากเลื่อน เขตทุ่งสง นำเครื่องปั้นจั่น เคลื่อนย้ายตู้โบกี้รถไฟขบวนบัตเตอร์เวิดร์ธที่ประสบอุบัติเหตุตกรางห่างจากสถานีรถไฟบ้านควนเคี่ยม ตำบลฝาละมี อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวนมาก เมื่อวานนี้โดยสามารถกู้รถไฟได้แล้ว 4 โบกี้ จากทั้งหมด 6 โบกี้ ส่วนที่เหลือคาดว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันนี้จากนั้นจะสำรวจ และซ่อมแซมหมอนรถไฟที่เสียหายก่อนเปิดบริการตามปกติในวันพรุ่งนี้ ( 25 ส.ค.)สาเหตุของรถไฟตกรางในครั้งนี้ นายวิจิตร จิตรานนท์ นายสถานีรถไฟจังหวัดพัทลุง ระบุว่า รางรถไฟสายใต้โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดพัทลุงบางจุดผ่านการใช้งานมาหลายสิบปีทำให้ไม้หมอนผุตัวนอตยึดรางหลุดเมื่อรถไฟวิ่งผ่านมาด้วยความเร็วสูงจึงตกรางสำหรับการเดินรถไฟสายใต้ตั้งแต่จังหวัดนราธิวาส-จังหวัดสงขลา ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครต้องขึ้นรถไฟที่จังหวัดพัทลุง หรือ สถานีทุ่งสงจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนรถไฟขบวนท้องถิ่นจากสถานีหาดใหญ่ไปยังภาคใต้ตอนบนยังหยุดเดินรถทุกขบวน | เหตุรถไฟขบวนบัตเตอร์เวิร์ธตกราง ในจังหวัดพัทลุง ล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทยนำเครื่องปั้นจั่นยกตู้โบกี้ได้แล้ว 4 โบกี้ จากทั้งหมด 6 โบกี้ คาดว่าจะสามารถกู้ขบวนรถไฟที่เหลือให้เสร็จในวันนี้ ( 24 ส.ค.) | ภูมิภาค | การรถไฟ,ขบวนรถไฟ,ตกราง,ปั้นจั่น,รถไฟ,รฟท.,โบกี้ | https://news.thaipbs.or.th/content/107121 |
ขอแวะแป๊บดูขำๆ ลุงเมาซิ่งชนบ้านคนอื่น เพื่อนมาช่วยหายแวบ (ชมคลิป) | วันที่ 17 พ.ค. ร.ต.อ.ภัค มหาวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งชายเมาสุรา ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะวิ่งหลบหนีไป เหตุเกิดบ้านเลขที่ 1279/360 ซอยโนรี ถนนสุขุมวิท ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบ,บริเวณหน้าประตูบ้านหลังดังกล่าว พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำตาลขาว หมายเลขทะเบียน 1กย1103 กรุงเทพฯ จอดอยู่ ส่วนบริเวณประตูบ้าน ซึ่งเป็นเหล็กเลื่อน ถูกรถจักรยานยนต์พุ่งชนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีเทา หมายเลขทะเบียน ฆฬ 4972 กรุงเทพฯ ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน บริเวณกันชนหลังมีรอยถูกเฉี่ยวชนเสียหาย ส่วนคนขี่รถจักรยานยนต์หลังเกิดเหตุได้ทิ้งรถและหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะไปถึง ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุนทร เวียงใน อายุ 51 ปี,สอบถาม นางยุพิน อมรโชติกุล อายุ 66 ปี เจ้าของบ้าน บอกว่า ขณะที่ตนและครอบครัว นอนพักอยู่ในบ้าน จู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงรถพุ่งเข้ามาชนประตูบ้าน จึงรีบเปิดประตูออกมาดู คนขับขี่เมื่อเห็นตน ได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ให้เพื่อนก่อนวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว จึงได้โทรแจ้งตำรวจ,ขณะที่ นายแสน สิริชาติ อายุ 49 ปี เพื่อนนายสุนทร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายสุนทร และตนได้นั่งดื่มสุราอยู่ที่บ้านพักภายในซอยดังกล่าว จากนั้น นายสุนทร ขอยืมรถจักรยานยนต์ขี่ออกไป โดยบอกว่าจะไปซื้อข้าว ซึ่งตนพยายามห้ามนายสุนทรแล้ว แต่ไม่ฟัง กระทั่งเห็นนายสุนทรขี่รถจักรยานยนต์พุ่งเข้าไปชนบ้านคนอื่น จึงรีบวิ่งตามมาช่วย ซึ่งตอนนั้นนายสุนทรกำลังเข็นรถออกมาจากที่เกิดเหตุ ตนจึงรีบเข้าไปพยุงรถไว้ แต่นายสุนทรกลับหนีไป โดยให้ตนเป็นคนรับหน้าแทน และไม่รู้ว่านายสุนทรหนีไปที่ไหน,อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว กล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่หน้าบ้านเกิดเหตุ ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่นายสุนทร ซึ่งมีอาการคล้ายคนเมา ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งเข้ามาชนประตูบ้านเอาไว้ได้ทั้งหมด จึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ไว้เป็นหลักฐาน,เบื้องต้นตำรวจได้นำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปไว้ ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมกับจะติดตามตัวนายสุนทรมาให้ปากคำ เพื่อชดใช้ค่าเสียหายกับเจ้าของบ้านต่อไป. | หนุ่มใหญ่วัย 51 ปี ที่ปากน้ำ นั่งร่ำสุรากับเพื่อน ก่อนขอยืม จยย.ขี่ไปซื้อข้าว เพื่อนบอกเมาแล้วอย่าไปเลย ไม่เชื่อ ออกมาได้หน่อยเดียวเลี้ยวเข้าบ้านชาวบ้านชนแหลก เพื่อนรีบวิ่งมาช่วยประคอง ลุงได้ทีหนีเลย | null | คลิปลุงขี่จยย.,ขี่จยย.เข้าบ้าน,ลุงเมา,ชนแล้วหนี,สมุทรปราการ,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/content/621580 |
ทำใจ เชอรี่ สามโคก ไม่โกรธ นิกกี้ อัดคลิปอยากมีเซ็กซ์ | เป็นที่รู้จักการจากเล่นภาพยนตร์แนวอีโรติกโชว์ความเซ็กซี่มาตลอดสำหรับ เชอรี่ ลฎาภา รัชตะอมรโชติ หรือ เชอรี่ สามโคก ล่าสุดโดดมารับงานแสดงซีรีส์สยองขวัญ ยายกะลา ตากะลี ที่จะออนแอร์ให้ชมทุกวันพุธ 23.00 น. ทางช่อง 7 เริ่ม 7 ก.ย. นี้ ซึ่งแว่วว่าบทของเจ้าตัวค่อนข้างแรงเหมือนกัน งานนี้ไม่รู้ว่าจะเจอดราม่าหรือกระแสแอนตี้ตามมารึเปล่า พอได้เจอ เชอรี่ มาร่วมงานเปิดตัวซีรีส์ ยายกะลา ตากะลี ที่บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถ.ประชาอุทิศ เลยให้เจ้าตัวพูดถึงบทบาทที่ได้รับ รวมทั้งถามถึงกรณีที่ นิกกี้ สุระ ธีระกล หรือ นิกกี้ 9 นิ้ว อัดคลิปบอกว่าอยากมีเซ็กซ์กับเชอรี่ด้วย,พูดถึงการแสดงในซีรีส์นี้หน่อย? ด้วยบทซึ่งค่อนข้างยากนิดนึง เราก็กดดันมาตั้งแต่ที่บ้านอยู่แล้ว แต่ก็พยายามทำการบ้านมาอย่างดีนะคะ พยายามสื่อสารกับพี่เต้นท์ (กัลป์ กัลย์จาฤก) เยอะๆ ว่าเขาต้องการอะไรค่ะ มันก็จะมีอุปสรรคบ้าง ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ถามว่ามีปัญหาในการเล่นกับนักแสดงมืออาชีพไหมก็ไม่ค่อยนะคะ ต้องลองถามเขาดูว่าเชอรี่โอเคไหม แต่เราก็ไม่ได้ทำให้เสียเวลาอะไรเพราะเรามากมายนัก อีกอย่างเราก็เล่นเต็มทั้งสองเรื่องเลย ก็ถือว่ามาได้เป็นที่น่าพอใจ ทำไมถึงตัดสินใจรับ? หนึ่งเชอรี่ชอบเรื่องการแสดงอยู่แล้ว ยิ่งทางกันตนาเราก็เคยร่วมงานด้วย พอติดต่อเราก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ก็อยากเล่นเลยค่ะ ตอนแรกก็รับเล่นเรื่องเดียว พอมีอีกเรื่องนึง เขาบอกว่าบทเหมาะกับเราเหมือนกัน บทแรงนิดนึง เราก็ตัดสินใจไม่ลังเลค่ะ บทที่ผ่านมากับบทเรื่องนี้แตกต่างกันยังไง? ที่ผ่านมาก็มีชื่อเสียงของการเล่นหนังแผ่น หนังอีโรติก คนไม่ค่อยโฟกัสเรื่องการแสดงของเรา โฟกัสเรื่องโป๊เปลือย พอเรามาตรงนี้เหมือนเราได้รับโอกาสแสดงความสามารถจริงๆ ถามว่าเรื่องโป๊เปลือยมีไหมมีบ้าง แต่มันจะเน้นเรื่องอารมณ์ การแสดง และยิ่งเป็นพี่เต้นท์กำกับด้วย เขาไม่ได้ต้องการให้ดูหวือหวาเพื่อก่อให้เกิดอารมณ์ใดๆ เขาต้องการจะสื่ออารมณ์ตัวละครจริงๆ เพราะฉะนั้นมันก็ค่อนข้างแตกต่างค่ะ,กลัวเสียงวิจารณ์ตามมาไหม? การวิพากษ์วิจารณ์มันก็มีตามมาอยู่แล้วค่ะ ไม่ได้น้อยใจ แต่ทำอะไรก็โดนด่าอยู่แล้ว (หัวเราะ) เพราะมันค่อนข้างเล่นแรงเหมือนกันกับเรื่องของความเชื่อในสังคม ทัศนคติเก่าๆ เกี่ยวกับละคร ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้มันเป็นสายดาร์ค มันฉีกทุกกฎแหวกทุกอย่าง ฉะนั้นมันก็จะมีคนที่ชอบและไม่ชอบ ก็ยินดีรับทุกกระแสทุกความคิดเห็นค่ะ เราอยากจะเปลี่ยนภาพลักษณ์เราด้วยรึเปล่า? เชอรี่ไม่ได้คิดอยากเปลี่ยนภาพลักษณ์เลย อันนี้ก็เป็นอีกงานนึงที่ได้รับโอกาสมา มันเปลี่ยนภาพลักษณ์ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะภาพเก่าในอดีต ภาพหลุดมันสิบปีแล้ว ทุกวันนี้คนก็ยังพูดถึงอยู่ เราเองก็รับอีเวนต์ในทางเซ็กซี่ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนไปทางเรียบร้อยขึ้นมา แต่พอได้รับโอกาสตรงนี้ ก็ถือว่าเป็นอีกงานนึงค่ะ ไม่ได้เปลี่ยนภาพอะไร ก็ยังคงเซ็กซี่อยู่ เราก็พยายามทำอะไรให้เหมาะสมกับบทบาท กลัวคนแอนตี้เราไหม? อย่าแอนตี้เลย (หัวเราะ) ทุกอย่างที่เชอรี่ทำที่ผ่านมาคือการทำงาน เชอรี่ไม่เคยทะเลาะกับใครหรือยุ่งกับใครเลย ถึงแม้งานจะดูแซ่บแต่ก็ทำงานค่ะ อันนี้ก็เป็นอีกงานนึง ไม่ชอบก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่อย่าแอนตี้เลย ขอนะคะ พร้อมรับดราม่าที่อาจเกิดขึ้นไหม? มันน่าจะมีนะคะ ก็รอดูว่าจะมีดราม่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับทำใจกับทุกดราม่าค่ะ แต่เราก็เต็มที่ที่สุดกับงานค่ะ มีวันนึงถ่าย 24 ชม. ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเช้าของอีกวัน มีเชอรี่ทุกฉาก เชอรี่ก็สู้ ไม่งอแงเพื่องานนี้เลยค่ะ,ถามถึงเรื่องที่นิกกี้ 9 นิ้ว อัดคลิปขอมีเซ็กซ์กับเรา? ก็เห็นคลิปแล้วค่ะ แต่เชอรี่ก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไรมากนะคะ ก็มีคนพยายามจะสัมภาษณ์เหมือนกัน แต่เชอรี่มองว่าเหมือนคนที่อัดคลิปอยากจะอะไรกับเรา เราจะต้องพูดอะไรยังไงค่ะ เรารู้สึกว่าแรงไปไหม? พี่นิกเขาก็เป็นสไตล์นั้นอยู่แล้วที่เขาจะพูดอะไรแรงๆ ประมาณนี้ ซึ่งเชอรี่ก็ไม่ทราบว่าเขาคิดขึ้นมาเองหรือเขาต้องทำไปเพราะอะไร ก็มีคนมาถามเชอรี่ เชอรี่ก็เลยไม่รู้จะตอบยังไง จะตอบว่าเฮ้ย ยินดีมากเลยค่ะ มันก็ไม่ใช่ใช่ปะ (หัวเราะ) หรือจะบอกว่าเฮ้ย โกรธเขามาก ทำไมเขาต้องมาพูดอย่างนี้ มันเหมือนเป็นการพูดสนุกโจ๊กๆ ขึ้นมามากกว่ามั้งเชอรี่ว่า เชอรี่ก็เคยทำงานร่วมกับเขานะคะ ก็ไม่เห็นเขาจะมาก้อร่อก้อติกอะไรเลย แต่คนอาจจะคิดมากตรงนี้ค่ะ พอมีข่าวออกมาได้คุยกันหลังไมค์ไหม? ก็ไม่ได้พูดคุยนะคะ แต่เขาให้คนรู้จักเชอรี่อีกคนมาถามว่าเชอรี่คิดมากรึเปล่า ขอโทษนะ แค่โจ๊กๆ เชอรี่ก็ไม่ได้อะไร ไม่ได้โต้ตอบเขากลับ เพราะไม่รู้จะตอบอะไร ในเมื่อคนจะมาขอแบบนั้น คนอยากจับนั่น เราจะตอบว่ายังไงล่ะ รู้สึกแย่ไหมที่กลายเป็นคนจะพูดอะไรแบบนี้กับเราก็ได้? เราไม่ได้รู้สึกแย่หรอกค่ะ เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องเป็นอยู่แล้ว เพราะเรานำเสนองานในทางเซ็กซี่ เพราะฉะนั้นเซ็กซี่มันก็ดึงดูดความสนใจทางเพศ มันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้ ไม่ได้อยากให้มองเป็นเรื่องปกติ แต่เป็นเรื่องทีต้องเป็นอยู่แล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะยังไง ถ้าเชอรี่ออกมาพูดว่าเฮ้ย เสียใจมากเลย ทำไมพี่นิกกี้พูดอย่างนั้น เดี๋ยวสังคมก็ดราม่าใส่เชอรี่ว่าก็เธอโปรโมตเรื่องความเซ็กซี่เองรึเปล่าค่ะ,จริงๆ แล้วเรามีโกรธไหม? มันไม่ได้โกรธหรอกค่ะ คือมันไม่ใช่แค่พี่นิกกี้ มันก็อาจจะมีคนอื่นๆ อัดคลิปด่าเชอรี่ขึ้นมา บางทีเราก็คิดว่าเขาอาจจะอยากให้เราด่ากลับ แต่เราไม่ได้มีเรื่องอะไรกับเขาค่ะ เคยเจอเคสอื่นที่เป็นสไตล์แบบนี้ไหม? เยอะแยะไปค่ะ ในแฟนเพจหรืออินสตาแกรมจะมีทั้งคนไทยกับฝรั่ง ตอนแรกๆ ก็เครียด แต่ไปๆ มาๆ ก็คือเรานำเสนอในรูปแบบเซ็กซี่ เขาก็เห็นแต่รูปเซ็กซี่เรา เขาก็เลยอาจมีอารมณ์ ก็ต้องมาปลดปล่อยมาระบาย แต่ถ้ามีการละเมิดเกินไป อย่างบางคนเขาส่งรูปอวัยวะตัวเองมาให้เรา เราก็บล็อก เพราะด่าไปก็เท่านั้น บอกให้เขาหยุดก็ไม่หยุดหรอก เขาก็จะติดต่อเราไม่ได้ เราเคยมีคิดฟ้องคนพวกนี้ที่ก่อกวนเราไหม? ถ้าสมมติเป็นการคุกคามเยอะเกินไปอาจจะต้องแจ้งความก็ว่ากันไป แต่ว่าในทุกวันนี้เรายังจัดการได้อยู่ จิตใจตัวเราเองก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมายนักนะคะ เขาก็ทำได้แค่ส่งรูปส่งอะไรมา แต่ถ้ามาสะกดรอยตาม จะมาทำร้าย หรือฉุดกระชากลากถู อันนี้ก็ต้องแจ้งความค่ะ แต่ตอนนี้เราก็ยังรับได้เพราะเราเลือกเองที่จะมาเส้นทางแบบนี้ กับตัวเราและนิกกี้เองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน? ไม่ได้มีปัญหาค่ะ เคยทำงานร่วมกันครั้งเดียว ก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก ถามว่าถ้ามีโอกาสร่วมงานจะยินดีรับไหม ก็ต้องดูเป็นงานๆ ไปว่าเป็นยังไงค่ะ. | เชอรี่ สามโคก ไม่โกรธนิกกี้ สุระ อัดคลิปบอกอยากมีเซ็กซ์กับตน เชื่อพูดขำๆ มากกว่า เผยหลังมีข่าวฝ่ายชายให้คนมาคุยกับตนและขอโทษแล้ว ไม่โกรธเพราะตนเป็นผู้หญิงสายเซ็กซี่อยู่แล้ว วอนอย่าแอนตี้เล่นซีรีส์ ยายกะลา ตากะลี ทางช่อง 7 | null | เชอรี่ สามโคก,นิกกี้ สุระ ธีระกล,นิกกี้ 9 นิ้ว,อัดคลิป,คลิป,เซ็กซ์,เชอรี่ ลฎาภา รัชตะอมรโชติ,ซีรี่ส์,ซีีรี่ส์สยองขวัญ,ยายกะลา ตากะลี,ช่อง 7,ข่าว,ข่าวบันเทิง,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/706444 |
ไทยพ่ายสหรัฐฯ 7-9 ศึกฟลอร์บอลหญิงชิงแชมป์โลก | การแข่งขันฟลอร์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 11 (The 2017 Womens World Floorball Championships) ที่ประเทศสโลวาเกีย เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ลงแข่งนัดที่ 2 เจอกับ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา,พีเรียดแรก ไทยออกนำ 2-0 จาก สิรินันท์ บุญบุตร ทั้ง 2 ลูก ตั้งแต่ 29 วินาทีแรก กับนาทีที่ 8 แต่มาโดนโทษฟาวล์ต้องเล่นน้อยกว่า 1 คน ถึง 5 นาที ทำให้โดนสหรัฐฯ ยิงรวดเดียว 4 ประตู พลิกกลับมานำ 4-2 ก่อนที่ อรอุมา อังสุดา จะยิงไล่มา 3-4 ,จากนั้นในพีเรียดที่สอง เกมเป็นไปอย่างสูสีจนกระทั่งสหรัฐฯ มาซัด 3 เม็ดติด หนีห่างเป็น 7-3 แต่ ธนาภรณ์ ทองคำ ซัดให้ไทยไล่มาเป็น 4-7 ในนาทีที่ 38 จากนั้นสหรัฐฯ ยิงอีกลูก ขึ้นนำ 8-4,ในพีเรียดที่ 3 สหรัฐฯ ยิงนำ 9-4 ก่อนที่ สิรินันท์ จะซัดแฮตทริกได้สำเร็จ ไทยตามมา 5-9 ในนาทีที่ 46 ต่อด้วย ทิฆัมพร สกุลพิทักษ์ ซัดมุมแคบนาทีที่ 53 ไล่มาเป็น 6-9 มาถึงนาทีที่ 57 สิรินันท์ลากไปซัดให้ไทยขยับไล่มา 7-9 แต่ทำได้แค่นั้น จบเกม ไทย แพ้ สหรัฐฯ 7-9,สำหรับนัดสุดท้าย ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคมนี้ | ทีมชาติไทย แพ้ให้กับ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ไปแบบสนุกตื่นเต้น 7-9 ในศึกฟลอร์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 11 ทำให้แพ้ 2 นัดติดต่อกัน นัดต่อไปเจอญี่ปุ่น 4 ธ.ค.นี้ | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ฟลอร์บอล,ฟลอร์บอลหญิงชิงแชมป์โลก,ทีมชาติไทย,ทีมชาติสหรัฐอเมริกา,ทีมชาติญี่ปุ่น | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1143652 |
หอการค้าต่างชาติยื่น 7 ข้อเสนอ ขอรัฐเยียวยาหลังน้ำท่วม | นายนันเดอร์ จี ฟอน เดอ ลู ประธานหอการค้าต่างประเทศในไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน หลังประชุมกับกรรมการหอการค้าไทยว่าหอการค้าต่างประเทศ มีข้อสรุปเพื่อเป็นข้อเสนอ 7 ข้อ ให้รัฐบาลไทยสนับสนุนธุรกิจต่างชาติที่ลงทุนในไทย ได้แก่ มีเงินทุนสำหรับการกู้ยืม (ซอฟโลน) โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ยืดระยะเวลาจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับการจ้างงาน ขอให้มีระเบียบที่ชัดเจน ดำเนินการกับแรงงานที่ไม่ได้ทำงาน และผู้ประกอบการควรจ่ายเงินเดือนหรือไม่ อย่างไร ส่วนของการประกันภัย เป็นกรณีที่นักลงทุนต่างชาติกังวลมาก และมีผลต่อความเชื่อมั่นเมื่อเริ่มพบว่าบริษัทประกันภัยหลายแห่งไม่รับประกันภัยธุรกิจเสี่ยงน้ำท่วม ดัดงนั้น นี้รัฐบาลต้องเร่งจัดการ เพื่อความเชื่อมั่นของธุรกิจและรัฐบาลต้องเร่งฟื้นฟู มีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งรัฐต้องมีแผนระยะยาวว่าจะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมเช่นนี้เกิดขึ้นอีก โดยเสนอให้เป็นวาระแห่งชาติ สุดท้ายปัญหาข้อมูล ข่าวสารเรื่องน้ำท่วม รัฐควรประสานข้อมูลมายังหอต่างประเทศอย่างเป็ฯทางการมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นหอต่างประเทศรับรู้ข้อมูลผ่านสื่อซึ่งสร้างความสับสน | หอการค้าต่างชาติหารือร่วมหอหารค้าไทย ได้ข้อสรุป 7 ข้อเสนอรัฐบาล ฟื้นฟูหลังน้ำท่วม เสนอปัญหาน้ำเป็นวาระแห่งชาติ | เศรษฐกิจ | ความเชื่อมั่น,น้ำท่วมวาระแห่งชาติ,รัฐบาล,หอการค้าต่างชาติ,หอการค้าไทย | https://news.thaipbs.or.th/content/45207 |
คุมเข้ม ธุรกิจการค้าสลากทั่วประเทศ แสดงตัวตน | เมื่อวันที่ 18 ก.พ.58 นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงกรณีที่ประชาชนในจังหวัดพิษณุโลกร้องเรียนว่า ถูกกลุ่มบุคคลนำชื่อไปใช้ในการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท โดยไม่ได้ประกอบกิจการจริงว่า กรมฯ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล เพื่อประกอบกิจการตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในจังหวัดพิษณุโลก ระหว่างปี 53-55 จำนวน 739 ราย ในจำนวนนี้ไม่ได้นำส่งงบการเงิน 101 ราย ซึ่งเป็นความผิดอาญา ทำให้ผู้มีชื่อเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการตกเป็นผู้ต้องหา และถูกหมายเรียกจากตำรวจให้ไปชำระค่าปรับ เพราะสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดพิษณุโลก ได้ส่งรายชื่อให้ตำรวจออกหมายเรียก ให้นิติบุคคลมาชำระค่าปรับ ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งที่ได้รับหมายเรียก และไม่ทราบว่าถูกกลุ่มบุคคลนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมาจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทเข้าร้องเรียน,ทั้งนี้ กรมฯ ได้ประสานไปยังประชาชนกลุ่มดังกล่าว ทำให้ทราบว่า มีกลุ่มนายหน้าชักชวนให้ชาวบ้านนำบัตรประจำตัวประชาชนมาเพื่อร่วมกิจกรรมสังคม ในการสงเคราะห์คนพิการ และคนตาบอด โดยไม่ได้ให้กรอกรายละเอียดในเอกสารใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและมอบบัตรประจำตัวประชาชนให้ไป ในเบื้องต้น กรมฯ ได้แนะนำให้ชาวบ้านที่ถูกหลอกลวง ไปที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดต่างๆ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้แนะนำให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมฯ จะตรวจสอบในเชิงลึกตามขั้นตอน และวิธีการทางกฎหมาย หากพบว่าชาวบ้านถูกหลอกจริงจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่,อย่างไรก็ตาม หากประชาชนสงสัยหรือเข้าข่ายว่าตนจะถูกหลอกลวง โดยมีกลุ่มบุคคล หรือนายหน้ามาขอบัตรประจำตัวประชาชนไป หรือได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว ให้รีบติดต่อสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าในจังหวัดที่อาศัยอยู่ หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทุกแห่งโดยด่วน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจถูกหลอกลวงจากบุคคลที่ไม่หวังดี พร้อมกันนั้น กรมฯ เตรียมเรียกผู้แทนนิติบุคคลตัวแทนค้าสลากฯ ทั่วประเทศ 21,073 ราย ให้ยืนยันตัวตน และรับรู้สถานะการจดทะเบียน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และอาจสร้างความเสียหายแก่ประชาชนในวงกว้าง,ส่วนระหว่างปี 53-55 มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท เพื่อประกอบกิจการตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นจำนวนมากจนผิดสังเกต ตั้งแต่ปลายปี 56 กรมฯ จึงได้กำหนดมาตรการเพื่อตรวจสอบการมีตัวตนของผู้ที่เข้ามาเป็นหุ้นส่วน กรรมการ และผู้ถือหุ้นในการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท เพื่อประกอบกิจการตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างเข้มงวด ทำให้ในปี 57 มีการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทเพื่อค้าสลากเพียง 166 ราย ลดลง 96.82% หรือลดลง 5,058 รายจากปี 56 | กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คุมเข้มจดทะเบียนธุรกิจค้าสลาก หลังพบชาวบ้าน จ.พิษณุโลก แห่ร้องเรียนถูกกลุ่มนายหน้าหลอกเอาสำเนาบัตรประชาชนไปใช้จดทะเบียนเปิดบริษัท เตรียมเรียกธุรกิจค้าสลากกว่า 2 หมื่นรายทั่วประเทศแสดงตัวตน | null | ธุรกิจสลากการค้า,พาณิชย์,กรมพัฒนาธุรกิจการค้า,สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดพิษณุโลก,นิติบุคคล,ตัวแทนจำหน่าย,สลากกินแบ่งรัฐบาล,จดทะเบียนห้างหุ้นส่วน,บริษัทเพื่อค้าสลาก,เศรษฐกิจ,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/482034 |
ขึ้นค่ารถเมล์ 1 บาท กระอักมีผล 10 ก.พ. | รถร่วมโวย ให้ปรับ3บ. ขู่จะหยุดวิ่ง ส่วนแท็กซี่ขอขยับ13%,คนกรุงต้องทำใจ คมนาคมให้ขึ้นค่ารถเมล์แล้ว 1 บาท มีผล 10 ก.พ.นี้ แต่ผู้ประกอบการรถร่วมไม่เห็นด้วย ขีดเส้นขอขึ้น 3 บาท ใน 1 สัปดาห์ อ้างสะท้อนต้นทุนเอ็นจีวีที่เพิ่มขึ้น ยันสัปดาห์หน้าไม่ได้คำตอบ จะทยอยหยุดวิ่ง อ้างไม่มีเงินเติมแก๊ส ด้านแท็กซี่ร่วมซ้ำ ขู่หากไม่ให้ขึ้นค่าโดยสารรอบ 2 ที่ 13 เปอร์เซ็นต์ อาจเห็นปฏิเสธผู้โดยสารเพิ่ม ขณะที่ รมว.คมนาคมแบะท่าให้รถเมล์ปรับราคา เหตุไม่ได้ขึ้นมานานจริง แต่ขอดูข้อมูลก่อน โดยเร่งพิจารณาให้ทัน 10 ก.พ.นี้ ขณะเดียวกันน้ำมันก็ปรับขึ้นอีก 50 สต./ลิตร,คนกรุงเทพฯเตรียมควักกระเป๋าจ่ายค่าโดยสารรถประจำทางเพิ่ม โดยเมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 3 ก.พ. นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการ รถโดยสารประจำทาง พร้อมด้วยตัวแทนผู้ประกอบการรถร่วมบริการ ขสมก.เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนการปรับค่าโดยสารของรถโดยสารประจำทางธรรมดา 3 บาท จาก 8 บาท เป็น 11 บาท และรถโดยสารปรับอากาศอีกระยะละ 3 บาท ภายใน 1 สัปดาห์ โดยมีนายพงษ์ไชย เกษมทวีศักดิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นตัวแทนในการรับมอบ ในเวลาเดียวกัน นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร ก็ได้มายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้พิจารณาขึ้นค่าโดยสารรอบสองเป็น 13 เปอร์เซ็นต์ และให้ขายแก๊สในราคาเท่าเดิม,นายพงษ์ไชยกล่าวหลังรับมอบหนังสือว่า เบื้องต้นคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ได้เห็นชอบให้ผู้ประกอบการรถร่วมปรับขึ้นค่าโดยสารแล้ว 1 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.นี้ แต่หากผู้ประกอบการต้องการให้ทบทวนใหม่ กระทรวงคมนาคมพร้อมรับข้อเสนอไปพิจารณาทบทวนมติเดิม เพื่อให้สะท้อนกับต้นทุนแก๊สเอ็นจีวีที่เพิ่มขึ้น และเป็นไปได้ว่าอาจอนุมัติให้ขึ้นค่าโดยสารเกิน 1 บาท เนื่องจากการประชุมก่อนหน้านี้เป็นการพิจารณาก่อนที่กระทรวงพลังงานจะปรับขึ้นเอ็นจีวี,นายพงษ์ไชยกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือไม่ให้ผู้ประกอบการหยุดเดินรถเพราะประชาชนจะเดือดร้อน แต่จะหาข้อสรุปทันใน 1 สัปดาห์ตามที่เรียกร้องหรือไม่ ต้องขอหารือก่อน แต่ในส่วนของกระทรวงคมนาคมอยากให้รอราคาพลังงานนิ่งก่อน และค่อยมาพิจารณารอบเดียว เพราะ ทราบว่ากระทรวงพลังงานอาจขึ้นเอ็นจีวีไปเรื่อยๆ จนถึง กก.ละ 15 บาท แต่หากผู้ประกอบการรอไม่ได้ อาจพิจารณาให้เร็วที่สุด และอาจใช้วิธีทยอยปรับขึ้นเป็น 2 รอบ ตามราคาพลังงานที่เปลี่ยนแปลง,ด้านนางภัทรวดีกล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลพิจารณาขึ้นค่าโดยสาร 3 บาทให้ทันภายใน 1 สัปดาห์ หรือก่อนวันที่ 10 ก.พ.นี้ ไม่เช่นนั้นอาจเห็นผู้ประกอบการรถร่วม 2,500 คันทยอยหยุดวิ่งให้บริการ แต่ไม่ใช่หยุดเพราะเป็นการประท้วง แต่มาจากการไม่มีเงินเติมแก๊ส และต้องขออภัยประชาชนด้วยหากต้องทำให้เดือดร้อน ส่วนหากรัฐบาลจะให้ขึ้นค่าโดยสารก่อน 1 บาท ในวันที่ 10 ก.พ.นี้ ผู้ประกอบการก็ไม่พอใจกับแนวทางนี้ และรัฐต้องชี้แจงเหตุผลให้รับทราบได้ เพราะหากขึ้นไปแล้วจะให้ขึ้นอีกรอบ จะอธิบายสังคมได้ลำบาก และผู้ประกอบการรถร่วมจะดูเหมือนเป็นผู้ร้ายในสายตาประชาชนผู้ใช้บริการทันที,ที่มาเรียกร้องเพราะผู้ประกอบการทนไม่ไหว จริงๆที่ต้องทนรับสภาพการขาดทุนมานานตั้งแต่ปี 51 โดยรัฐบาลไม่เคยเหลียวแลเพียงแต่บอกให้ช่วยตัวเองไปก่อน ผิดกับผู้ประกอบการแท็กซี่ที่โชคดีได้ขึ้นราคาไปแล้ว และที่ผ่านมาก็ไม่ทราบว่าเมื่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาให้รถเมล์ขึ้นค่าโดยสารไปแล้ว 1 บาท แต่ทำไมถึงไม่บอกให้ประชาชน รับทราบ และผู้ประกอบการก็มีการพิมพ์ตั๋วรอแล้ว ด้วย แต่ก็ยอมรับว่าราคานี้ไม่ได้สะท้อนต้นทุนจริง เพราะเป็นการนำผลจากปี 55 มาใช้ ซึ่งราคาเอ็นจีวียังถูกอยู่ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางกล่าว,ด้านนายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นโยบายการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี 2 ครั้งหลังรวม 1.50 บาทของกระทรวงพลังงาน ส่งผลกระทบทำให้รายจ่ายผู้ขับขี่แท็กซี่เพิ่มขึ้นวันละ 100 บาท ทำให้ต้องวิ่งแบบขาดทุนมาตลอด และยังถือว่าเป็นนโยบายที่ขัดแย้งกันเองของหน่วยงานในรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่จะเพิ่มรายได้ให้กับแท็กซี่ โดยอนุมัติให้แท็กซี่ปรับขึ้นค่าโดยสาร 13 เปอร์เซ็นต์ เพื่อแก้ไขปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร และปรับปรุงมาตรฐานการให้บริการให้กับประชาชน แต่กระทรวงพลังงานกลับใช้มาตรการเพิ่มรายจ่ายให้แท็กซี่,ทั้งนี้ ระหว่างที่แท็กซี่รอการปรับขึ้นราคาระยะที่ 2 ในเดือน เม.ย.2558 กระทรวงพลังงานก็ได้ปรับ ราคาก๊าซเอ็นจีวีขึ้นไปอีก ดังนั้น แท็กซี่จะขอให้กระทรวงคมนาคมปรับเพิ่มเพดานการขึ้นค่าโดยสารระยะที่ 2 จาก 5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 13 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง และขอให้ประสานกระทรวงพลังงานให้ระงับการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีในครั้งต่อไป รวมทั้งหามาตรการเยียวยาจากการปรับขึ้นเอ็นจีวี 2 ครั้ง หลังที่ผ่านมาด้วยการเพิ่มวงเงินชดเชยจาก กก.ละ 3 บาท เป็น 4.50 บาท เพื่อให้ครอบคลุมกับราคาพลังงาน ที่เพิ่มขึ้นรวม กก.ละ 1.50 บาท,หากรัฐบาลไม่อนุมัติให้แท็กซี่ปรับขึ้นราคาระยะที่ 2 อีก 13 เปอร์เซ็นต์ ตามที่เราขอ หรือไม่มีมาตรการอุดหนุนราคา เราเชื่อว่าปัญหาเดิมๆในการใช้บริการแท็กซี่ของประชาชนทั่วไปจะต้องกลับมาอีก อย่างแน่นอน เช่น การปฏิเสธผู้โดยสาร การให้บริการที่ต่ำกว่ามาตรฐาน สภาพรถที่ให้บริการเก่า เราจะให้เวลากระทรวงคมนาคมพิจารณาสักระยะ หากพ้นระยะเวลาที่เหมาะสมแล้วยังไม่ได้คำตอบ ผมจะเรียกสมาชิกในเครือข่ายประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวต่อไป ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ฯกล่าว,ต่อมา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะให้มีการปรับราคารถร่วม ขสมก. เพราะไม่ได้มีการปรับมานาน 6-7 ปี แต่จะให้ปรับเท่าไรขอดูข้อมูลประกอบก่อน โดยจะเร่งพิจารณาให้ทันภายในวันที่ 10 ก.พ.นี้ ซึ่งตอนนี้ยังมีเวลาหากจะประกาศให้ปรับราคาอาจเป็นช่วงวันเสาร์หรืออาทิตย์ก็ยังได้ แต่ขอดูข้อมูลทั้งหมดให้รอบด้านก่อน พร้อมกับขอร้องอย่าเพิ่งหยุดเดินรถเพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ เรื่องนี้กระทรวงพร้อมจะพิจารณาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย,อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ลงนามอนุมัติให้มีการปรับราคาค่าโดยสารรถเมล์ร่วมบริการ สำหรับรถร้อนและรถปรับอากาศเพิ่มขึ้นอีก 1 บาท ซึ่งมีผลวันที่ 10 ก.พ.นี้ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในเดือน ธ.ค.57 และเดือน ม.ค.58 นั้น เปลี่ยนไปจากเดิมมาก จึงให้มีการเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมผลกระทบจากราคาก๊าซเอ็นจีวีที่ปรับเพิ่มขึ้นเพื่อประกอบการพิจารณา,นอกจากนี้ วันเดียวกัน ปตท.และบางจากแจ้งประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 50 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 4 ก.พ.2558 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 27.40 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 26.08 บาท/ลิตร ขณะที่อี 85 ลดลง 30 สตางค์/ลิตร อยู่ที่ 21.98 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม ราคาเบนซิน 95 คงเดิมอยู่ที่ 33.96 บาท/ลิตร เช่นเดียวกับดีเซลคงเดิมอยู่ที่ 25.09 บาท/ลิตร | คนกรุงต้องทำใจ คมนาคมให้ขึ้นค่ารถเมล์แล้ว 1 บาท มีผล 10 ก.พ.นี้ แต่ผู้ประกอบการรถร่วมไม่เห็นด้วย ขีดเส้นขอขึ้น 3 บาท ใน 1 สัปดาห์ อ้างสะท้อนต้นทุนเอ็นจีวีที่เพิ่มขึ้น | null | ขึ้นค่ารถเมล์,ค่าโดยสาร,รถเมล์,ภัทรวดี กล่อมจรูญ,ประจิน จั่นตอง,วิฑูรย์ แนวพานิช,แท็กซี่,ขึ้นราคา,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/478974 |
จักรทิพย์ กำชับรับมือโค้งสุดท้ายประชามติ-ยังไม่พบขบวนการจ้องป่วน | ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ ยังไม่มีหลักฐานพบขบวนการจ้องขัดขวางการลงเสียงประชามติ เชื่อ การเผาทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติหลายพื้นที่ เป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งได้ดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมดแล้ว พร้อมกำชับให้ทุกพื้นที่ เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด,วันนี้ 22 ก.ค.59 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ตำรวจได้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ ก่อนการลงเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการเพิ่มเติม ให้ประสานงานกับกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ประจำจังหวัด ในการจัดกำลังตำรวจไปดูแลความสงบเรียบร้อย กรณีที่จะมีการจัดสัมมนา หรือนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะจัดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ,ส่วนที่มีการเผาทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติในหลายพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่า จะเป็นการกระทำของขบวนการขัดขวางการลงประชามติ แต่อาจเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกคน ฐานทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว แต่ยอมรับว่า อาจมีการเคลื่อนไหวบิดเบือนข้อเท็จจริงในร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้กำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และหากมีประชาชนถูกสวมสิทธิชื่อในทะเบียนบ้าน สามารถแจ้งตำรวจได้ทันที ,ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ย้ำว่า ตำรวจพร้อมในการดูแลความเรียบร้อยในวันลงเสียงประชามติ วันที่ 7 สิงหาคมนี้ อย่างเต็มที่ และไม่กังวลเรื่องใดเป็นพิเศษ เพราะการจัดลงเสียงประชามติมีรูปแบบคล้ายการเลือกตั้งทั่วไป. | ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ ยังไม่มีหลักฐานพบขบวนการจ้องขัดขวางการลงประชามติ เชื่อ การเผาทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติหลายพื้นที่ เป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งได้ดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมดแล้ว | null | ลงประชามติ,ประชามติ,ลงประชามติร่างรธน.,ร่างรธน.,รธน.59,โค้งสุดท้ายประชามติ,ป่วนลงประชามติ,ร่างรัฐธรรมนูญ,ผบ.ตร.,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/670029 |
พรานโหดยิงกวางป่าหวังชำแหละเนื้อ ดิ้นหนีตาย ขาติดบ่วงตกน้ำรอด | ผู้กระทำผิดด่วนเมื่อวันที่ 8 ม.ค.63 น.ต.วิระ คุณา ผบ.ร้อย ทพ.นย.544 ฐานดงจิก อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ร่วมกับนายอภิสิทธิ์ ปิดทอง หัวหน้าศูนย์เพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว นายสมหมาย กวางทอง หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าวังกระแพน นายบุญชู กวางทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลทับไทร นำกำลังพลในสังกัดและจิตอาสาพรานบูรพา หลังได้รับรายงานจากชุดซุ่มเฝ้าระวัง ว่าคืนวันที่ 7 ม.ค.63 เวลาประมาณ 21.00 น. ได้ยินเสียงปืนดังมาจากแนวชายป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว 1 นัด คาดว่ามีการล่าสัตว์เกิดขึ้น จึงพากันเดินเท้าเข้าพื้นที่กระจายค้นหาตามจุดที่รับแจ้ง จนพบกวางป่า เพศผู้ อายุประมาณ 7-8 ปี น้ำหนักประมาณ 100 กก. ลอยคออยู่ในสระน้ำของชาวบ้าน ลักษณะอ่อนเพลีย จึงลงไปช่วยเหลือนำขึ้นจากสระน้ำ ฉีดยาสลบจากการตรวจสอบพบว่า ที่ขาหน้าข้างซ้ายระหว่างกระดูกข้อต่อขากับอุ้งเท้าขาดห้อยร่องแร่ง โดยมีบ่วงเชือกไนล่อนสีเขียวรูดติดอยู่ นอกจากนี้ยังมีรอยกระสุนปืนบริเวณลำตัวข้างขวาอีกหลายเม็ด คาดเป็นลูกปรายของปืนลูกซอง จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำไปรักษาและอนุบาลที่ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสอยดาว ซอย 14 อ.โป่งน้ำร้อน ดำเนินการช่วยเหลือตามหลักวิชาการเบื้องต้นคาดว่ากวางหนุ่มอาจเดินติดบ่วงมาหลายวันแล้ว และนายพรานมาพบจึงใช้ปืนยิงหวังจะเอาเนื้อมาชำแหละ แต่กวางดิ้นจึงยิงไม่เข้าจุดสำคัญ กวางหนีสุดชีวิตจนขาที่ติดบ่วงขาด และหนีเอาตัวรอดตกลงในสระน้ำชาวบ้าน ซึ่งจะได้สืบหาติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ทพ.นย.-ป่าไม้ บุกช่วยชีวิต กวางหนุ่ม ติดบ่วง คาดพรานป่ามาพบแล้วใช้ปืนยิงหวังชำแหละเนื้อ จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนดิ้นหนีตายจนขาที่ติดบ่วงขาด กระโจนลงน้ำเอาตัวรอด แต่ต้องพิการ จนท.เร่งล่าตัว | ข่าว,ทั่วไทย | กวางป่า,พรานโหด,ยิงกวาง,ขาติดบ่วง,ทพ.นย.,จันทบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1742850 |
เดอะมอลล์ ฉลองครบ 3 รอบยิ่งใหญ่ เปิดโชว์เต็มรูปแบบศิลปินดังเกาหลี GOT7ถึงถิ่นอีสาน | แต่เดอะมอลล์สั่งตรงมาเปิดแสดงให้ชาวอีสานได้ชมเป็นแห่งแรกของปีนี้ ที่ เดอะมอลล์ โคราช และเป็นครั้งแรกในภูมิภาคอีสานอีกด้วย,วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหาร เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า การฉลองครบ 3 รอบของเดอะมอลล์นี้ ได้จัดแคมเปญ THE MALL SHOPPING CENTER ANNIVERSARY HAPPY SURPRISE เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ผูกพันกับเดอะมอลล์มายาวนานถึง 36 ปี ด้วยการมอบของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ เพื่อสร้างความประทับใจ โดยร่วมกับ โฟร์โนล็อค (4NOLOGUE), และพันธมิตรทางธุรกิจ นำศิลปินบอยแบนด์เกาหลี GOT7 มาโชว์เต็มรูปแบบใน GOT7 THAILAND TOUR 2017 NESTIVAL ที่ เดอะมอลล์ โคราช พร้อมกันนี้ยังจัดให้มีพิธีเปิดตัวแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ที่ เดอะ มอลล์ บางกะปิ โดยมอบของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าคนพิเศษ อาทิ บัตรชมการแสดงเต็มรูปแบบของบอยแบนด์เกาหลี GOT7 ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี, ลุ้นทริปเที่ยว โอซากา ประเทศญี่ปุ่น และของรางวัลอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งงานนี้ เริ่มแล้ววันนี้- 2 ก.ค. ที่ เดอะมอลล์ ทุกสาขา และพิเศษสำหรับลูกค้าบัตร,M CARD และลูกค้า AEON ช็อปสูงสุด 80 ท่านแรก (วันนี้ถึง 14 มิ.ย.2560) รับฟรี บัตรชมการแสดงเต็มรูปแบบ GOT7 THAILAND TOUR NESTIVAL จำนวนท่านละ 1 ใบ มูลค่า 4,800 บาท โดยเข้าชมได้ในวันที่ 17 มิ.ย. ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี นอกจากนี้ยังมี Lucky Surprise เมื่อช็อปที่เดอะมอลล์ทุกสาขา ครบ 2,000 บาทขึ้นไป ลุ้นรางวัลเที่ยวเมืองโอซากา พร้อมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และที่พักจำนวน 5 รางวัลอีกด้วย. | ฉลองครบรอบ 36 ปี เดอะมอลล์ ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ ส่งความสุขด้วยโชว์เต็มรูปแบบจากศิลปินดังบอยแบนด์เกาหลี GOT7 ที่เคยสร้างสถิติการจำหน่ายบัตรหมดภายใน 3 นาที | ข่าว,ทั่วไทย | วรลักษณ์ ตุลาภรณ์,เซอร์ไพรส์,เดอะมอลล์ กรุ๊ป,โฟร์โนล็อค,GOT7,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/969222 |
ส.ส.ประชาธิปัตย์อภิปรายโจมตีโครงการรับจำนำข้าวล้มเหลว | นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ชี้ว่าที่ผ่านมาโครงการรับจำนำข้าวเกิดความผิดพลาดส่งผลกระทบต่อกลไกตลาดค้าข้าวจากการกำหนดราคารับซื้อสูงกว่าราคาตลาดถึงร้อยละ 40-50 ทำให้ไทยเสียแชมป์ส่งออกข้าว คุณภาพข้าวไทยลดลง เกิดปัญหาการทุจริตในกระบวนการรับจำนำทุกขั้นตอน ทั้งการการสวมสิทธิ์ การระบายข้าวที่ไม่โปร่งใส และเกิดปัญหาภาระทางการคลัง โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 680000 ล้านบาท และมีการประเมินว่าโครงการนี้ขาดทุนกว่า 400000 ล้านบาท หรือมากกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับวงเงินที่ใช้รับจำนำ แต่มีชาวนาส่วนน้อยที่ได้ประโยชน์ ไม่นับรวมโครงการรับจำนำข้าวในปีนี้ที่ต้องใช้วงเงินรับจำนำอีก 270000 ล้านบาท ขณะที่การระบายข้าวได้เงินคืนมาเพียง 140000 ล้านบาท ทำให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรขาดสภาพคล่องในการจ่ายเงินรับจำนำข้าวให้กับชาวนาในฤดูกาลนี้นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา อภิปรายถึงปัญหาการทุจริตในการระบายข้าวในประเทศผ่านการทำข้าวถุงธงฟ้าลดค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยทั้งโครงการข้าวถุงธงฟ้า ข้าวถุงถูกใจ ตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. โดยระบุว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางรายที่ทำหน้าที่ปรับปรุงคุณภาพข้าว จัดทำข้าวสารบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัม ในหลายครั้ง จำหน่ายในราคาถุงละ 70 บาท แต่กลับส่งข้าวไม่ครบตามจำนวนที่ระบุ ขณะเดียวกัน ยังได้ประโยชน์จากส่วนต่างราคาขาย ทำให้ประเทศเสียหายขณะที่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม อภิปรายถึงกระบวนการระบายข้าวที่ไม่โปร่งในขององค์การคลังสินค้าหรือ อคส.ว่ามีบริษัทเอกชนที่ได้ประโยชน์จากการปรับปรุงคุณภาพข้าวของรัฐ โดยระบุว่าจากการลงพื้นที่ในบางจังหวัดพบว่ามีข้าว อคส.ที่มีการปรับปรุงผ่านบริษัทดังกล่าวจำหน่ายตามร้านค้าเพียงเล็กน้อย ขณะเดียวกัน พบว่ามีการขายเกินราคาตั้งแต่ถุงละ 75-90 บาท พร้อมกับนำคลิปมาแสดง จากนั้น เวลาประมาณ 01.35 น. นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ก็ได้ปิดการประชุม | การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มีการอภิปรายจากสมาชิกจำนวน 10 คน มีประเด็นสำคัญในช่วงท้ายของการอภิปราย ก่อนที่จะปิดการประชุมในเวลา 01.35 น. ทาง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายโจมตีโครงการรับจำนำข้าวล้มเหลว มีการทุจริตทุกขึ้นตอน | การเมือง | ข้าว,ทุจริต,ประชาธิปัตย์,รับจำนำข้าว,ส.ส.,อภิปราย,โจมตี | https://news.thaipbs.or.th/content/209122 |
ทำใจ ท่วมหนัก-ติดหนึบ: ประมวล 4 สาเหตุหลักน้ำท่วมกรุงเทพฯ | ทุกครั้งที่เกิดวิกฤตเช่นนี้ คำถามถึงสาเหตุที่กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองที่อ่อนไหวต่อภาวะฝนตกหนัก-น้ำท่วม-รถติด มักดังขึ้นเสมอ ไทยพีบีเอสออนไลน์ ประมวลสาเหตุของปัญหาการระบายน้ำของกรุงเทพฯ ที่ กทม.และผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ได้ดังนี้1.พื้นที่ แก้มลิง น้อยเกินไปนายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กทม.เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ เมื่อเกิดฝนตกหนักเป็นเพราะ กรุงเทพฯ มีพื้นที่แก้มลิงหรือพื้นที่ลุ่ม สระ บึงสำหรับรองรับน้ำฝน น้อยเกินไปโดยปกติ ก่อนหน้าที่จะมีฝนตกหนัก กทม.จะเตรียมรับมือโดยการพร่องน้ำในคลองสายหลักและพื้นที่แก้มลิงเพื่อรองรับน้ำ คลองสายหลักมีทั้งหมด 3 คลอง คือ คลองแสนแสบ คลองผดุงกรุงเกษม และคลองดาวคะนอง แต่การพร่องน้ำก็ต้องระวังไม่ให้ระดับน้ำน้อยเกินไปจนส่งผลกระทบต่อการเดินเรือโดยสารด้วยในส่วนของพื้นที่แก้มลิงรองรับน้ำของกรุงเทพฯ นั้น สำนักการระบายน้ำ กทม. แบ่งพื้นที่แก้มลิงเป็น 2 ประเภท คือ 1) แก้มลิงเอกชน ได้แก่ ที่ลุ่ม บึง สระน้ำในพื้นที่เอกชนหรือหมู่บ้าน ซึ่งไม่มีศักยภาพในการรับน้ำมากนัก เพราะไม่มีการบริหารจัดการพร่องน้ำเพื่อรองรับน้ำ 2) แก้มลิงสาธารณะ ได้แก่ บึง สระน้ำสาธารณะที่มีขนาดใหญ่ รองรับน้ำได้ในปริมาณมาก อยู่ใกล้คลองและระบบระบายน้ำ มีการถ่ายน้ำเข้า-ออกได้ บริหารจัดการโดย กทม.หรือหน่วยงานของรัฐ เช่น บึงมักกะสัน บึงพระราม บึงกุ่ม บึงเอกมัย บึงเรือนจำคลองเปรม เป็นต้นนายอมรระบุว่า กทม.มีพื้นที่แก้มลิงอยู่ 25 แห่ง ควรจะต้องหาเพิ่มให้ได้อีก 10 แห่ง เพื่อเป็นพื้นที่หน่วงน้ำประมาณ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร2.การขยายตัวของเมืองการขยายตัวของเมืองรวมถึงการใช้ประโยชน์ที่ดินเพิ่มขึ้น เป็นอุปสรรคหนึ่งของการระบายน้ำในกรุงเทพฯ ข้อมูลจากสำนักการระบายน้ำระบุว่าการขยายตัวของชุมชนอย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นที่ว่างที่เคยเป็นที่รองรับและกักเก็บน้ำตามธรรมชาติหายไป น้ำที่เคยมีที่ดูดซับไว้ก็ไม่มีที่ไปจึงไหลมารวมกันตามผิวจราจรตัวอย่างเช่นพื้นที่เขตลาดพร้าว ในอดีตเคยเป็นทุ่งรับน้ำ แต่ต่อมามีการสร้างอาคารพาณิชย์ หมู่บ้านจัดสรร และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ ไม่เว้นแม้แต่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ กลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้กทม.มีพื้นที่รับน้ำลดลงนายพิจิตต รัตนกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ข้อมูลไว้เมื่อปลายปี 2558 ว่า การเจิรญเติบโตของเมือง ทำให้พื้นที่รับน้ำที่เชื่อมกับคลองใน กทม.ลดลงเกือบร้อยละ 40 โดยเฉพาะกรุงเทพชั้นนอก ที่มีการพัฒนาเมืองจนไม่เหลือพื้นที่รับน้ำ3.ท่อระบายน้ำมีศักยภาพจำกัดศ.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เปิดเผยว่า ปัญหาดินทรุดในกรุงเทพฯ ส่งผลให้ท่อระบายน้ำทรุดตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับการระบายน้ำ เพราะท่ออาจชำรุด ขณะที่ศักยภาพของท่อระบายน้ำก็มีขีดจำกัด เนื่องจากสามารถระบายน้ำได้เพียง 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นสอดคล้องกับความคิดเห็นของ รศ.เสรี ศุภราทิตย์ เมื่อครั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต เปิดเผยว่าระบบท่อระบายน้ำของ กทม.ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมีขนาดเล็ก จึงไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกเกินได้ น้ำจึงไม่ไหลเข้าสู่อุโมงค์ยักษ์4.ปริมาณขยะมากขึ้นสำนักการระบายน้ำ กทม. ระบุว่า ปัญหาขยะอุดตันคลองเป็นอุปสรรคสำหรับการระบายน้ำอย่างมาก ทุกวัน กทม.ต้องเก็บขยะออกจากคลองสายหลักวันละ 10-20 ตัน ที่ส่วนใหญ่มักจะพบขยะขนาดใหญ่ เช่น โซฟา ที่นอน ซากไม้ และข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน | วิกฤตน้ำท่วม-รถติดอย่างแสนสาหัสในพื้นที่ตอนเหนือของกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.2559) นอกจากจะทำให้หลายคนยังเซ็งไม่หายหรืออาจถึงขั้นหวาดผวาที่ต้องอยู่ในภาวะ กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง บนท้องถนนแล้ว ยังเป็นภาพสะท้อนล่าสุดถึงปัญหาการระบายน้ำของกรุงเทพฯ | ภัยพิบัติ | น้ำท่วม,ฝนตก,รถติด,สาเหตุ,ทำไมกรุงเทพน้ำท่วม,ฝนตกหนัก,อมร กิจเชวงกุล,แก้มลิง,ท่อระบายน้ำ,ขยะ,ถนน,การระบายน้ำ,กทม.,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/256330 |
ที่ประชุมสมาคมฟุตบอลฯ โหวดรับธรรมนูญฟีฟ่า หลังประชุมช้ากว่ากำหนด 4 ชม. | สมาคมฟุตบอลตั้งตรวจใบมอบอำนาจตั้งแต่ทางเข้าสมาคมฟุตบอลด้านหน้า ทำให้ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อ นายวิรัช ชาญพานิชย์ และนายอรรณพ สิงห์โตทอง พร้อมสโมสรสมาชิก ผู้สนับสนุนไม่สามารถเข้ามาในที่ประชุมได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องใบมอบอำนาจที่ไม่ใช่ของสมาคมฟุตบอล จึงเกิดการถกเถียงกันเล็กน้อยขณะที่การจราจรบริเวณทางเข้าสมาคมเกิดความติดขัด หลายคนต้องเดินเข้ามาภายในที่ทำการสมาคม เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ฟีฟ่าหลังจากเกิดความวุ่นวาย เธียรี่ เลอเกอเนส หัวหน้าคณะฟีฟ่าได้เชิญนายวิรัช ชาญพานิชย์ พร้อมกับแกนนำฝั่งตรงข้ามสมาคมเข้ามาพูดคุยกว่า 4 ชั่วโมง จึงมีข้อสรุปให้สโมสรสมาชิกทั้งหมดเข้ามาประชุมได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีใบมอบอำนาจจากสมาคมฟุตบอลดังนั้นสโมสรสมาชิก 163 เสียงจึงเข้าสู่ที่ประชุมพร้อมกับสภากรรมการอีก 14 คน รวมเป็น 177 ล่าสุดมีรายงานว่าเสียงที่เข้าประชุมโหวตรับธรรมนูญฟีฟ่ากลับมีเพิ่มมาอีก 21 เสียงการประชุมเพื่อรับรองธรรมนูญฟีฟ่าจึงเริ่มต้นขึ้น ใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ที่ประชุมมีมติรับธรรมนูญฟีฟ่าเกือบทั้งหมด มีการคัดค้านเพียงแค่ 3 เสียงเท่านั้น และแม้จะรับธรรมนูญฟีฟ่าทั้งหมด ในธรรมนูญข้อ 21 ยังเป็นข้อถกเถียงถึงที่มาของ 72 เสียง ซึ่งฟีฟ่าให้เป็นเรื่องที่ นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลฯ กับกลุ่มของนายวิรัช ไปหารือกันมาภายใน 2 สัปดาห์การเจรจาเรื่องที่มาของ 72 เสียงทั้ง 2 ฝ่ายต้องมาพูดคุย ซึ่งในส่วนของ นายวรวีร์ พร้อมพูดคุยกับกลุ่มของนายวิรัช เพื่อหาข้อสรุปในประเด็นนี้ และพอใจกับผลการประชุมรับรองธรรมนูญฟีฟ่าที่ออกมาด้วย | การประชุมวิสามัญสมาคมฟุตบอลเพื่อแก้ไขข้อบังคับธรรมนูญฟีฟ่ามีความวุ่นวายเกิด ขึ้นโดยเฉพาะเรื่องใบมอบอำนาจทำให้การประชุมล่าช้ากว่ากำหนดเดิมถึง 4 ชั่วโมง แต่สุดท้ายที่ประชุมมีการโหวตรับธรรมนูญฟีฟ่า แต่ในข้อ 21 ขอหารือกันระหว่างสมาคมฟุตบอลกับกลุ่มของนายวิรัช ชาญพานิชย์ | กีฬา | ธรรมนูญฟีฟ่า,ฟีฟ่า,ฟุตบอล,สมาคมฟุตบอล | https://news.thaipbs.or.th/content/188895 |
บิ๊กเฮดจ์ฟันด์มะกันถูกยิงดับ-สื่อเผยฝีมือลูกชาย | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ว่า นายโธมัส กิลเบิร์ต อายุ 70 ปี ผู้ก่อตั้งกองทุนบริหารความเสี่ยงเพื่อเก็งกำไร (เฮดจ์ฟันด์) มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ชื่อ เวนสค็อตต์ แคพปิตอล พาร์ทเนอร์ส ฟันด์ ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2554 ขณะที่รายละเอียดทางคดีอื่นๆยังไม่ถูกเปิดเผยมากนัก,อย่างไรก็ดี นสพ.วอลล์ สตรีท เจอร์นัล และนสพ.เดอะ นิวยอร์ก โพสต์ รายงานอ้างการเปิดเผยของตำรวจคนหนึ่งที่ระบุว่ากิลเบิร์ต ถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด และเชื่อว่าผู้เหนี่ยวไกปืนคือลูกชายวัย 30 ปีของผู้ตาย โดยยังพบปืนสั้นตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ทั้งนี้หลังกิลเบิร์ตและลูกชายทะเลาะกันรุนแรงซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป,วันเดียวกัน ตำรวจหลายพันนายจากทั่วสหรัฐฯ ประชาชนทั่วไปจำนวนมากและสมาชิกครอบครัวแห่เข้าร่วมพิธีฝังศพของเหวินเจียน หลิว ตำรวจอเมริกันเชื้อสายจีน วัย 32 ปี ซึ่งถูกบุกยิงสังหารพร้อมราฟาเอล รามอส เพื่อนตำรวจ วัย 40 ปีขณะนั่งในรถลาดตระเวนในนิวยอร์กเมื่อ 20 ธ.ค.ปีก่อน คนร้ายที่เป็นชาวอเมริกันผิวสีอ้างก่อเหตุเพื่อแก้แค้นให้คนผิวสี 2 คน ที่ถูกยิงสังหารโดยตำรวจผิวขาว พิธีจัดขึ้นที่สุสานย่านบรู๊คลินและเป็นอีกครั้งที่นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก นายบิล เดอบลาซิโอ ถูกตำรวจราว 30 นาย ประท้วงด้วยการหันหลังให้และไม่ให้ความสนใจ ไม่ต่างจากช่วงที่เดอ บลาซิโอ เข้าร่วมพิธีศพของรามอสที่มีขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะที่ตำรวจส่วนใหญ่ในงานไม่ได้ประท้วงด้วยหลังได้รับการร้องขอจากบิล แบรตตัน ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจนิวยอร์ก (เอ็นวายพีดี) ไว้ก่อนแล้ว,โดยเดอ บลาซิโอ ที่ถูกมองว่าแสดงท่าทีสนับสนุนการประท้วงต่อต้านตำรวจที่ปะทุขึ้นทั่วสหรัฐฯรวมทั้งในมหานครนิวยอร์ก หลังชาวอเมริกันผิวสีโกรธแค้นและเห็นว่าตำรวจเลือกปฏิบัติ มักใช้กำลังกับเฉพาะกลุ่มคนผิวสีและชนกลุ่มน้อยอื่นๆในสหรัฐฯ กระทั่งถูกตำรวจบางส่วนต่อต้าน ได้กล่าวสดุดีและไว้อาลัยตำรวจผู้เสียชีวิตว่า วันนี้ ชาวนิวยอร์กหัวใจแตกสลายทั้งเมือง หลิวเป็นคนกล้าหาญ เสียสละและมีน้ำใจ ซึ่งตามพ่อแม่มาจากจีนตั้งแต่อายุ 12 ปี มาอยู่นิวยอร์กเพื่อตามล่าฝัน อเมริกัน ดรีม,ด้านนางเพ่ย เซียะ เฉิน ที่เพิ่งแต่งงานกับหลิวได้ไม่กี่เดือนก่อน กล่าวไว้อาลัยสามีผู้ล่วงลับว่าตนได้สูญเสียคู่แท้และสามีที่ดีเยี่ยมไปแล้ว ส่วนพ่อของหลิว กล่าวว่าครอบครัวภูมิใจและจะรักลูกชายคนนี้ตลอดไป. | พบถูกยิงเสียชีวิตคาเตียงนอนในอพาร์ตเมนต์หรู 8 ชั้นในย่านแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เมื่อ 4 ม.ค. ด้านตำรวจอยู่ระหว่างสอบ สวนนายโธมัส กิลเบิร์ต จูเนียร์ ลูกชายวัย 30 ปีของนายกิลเบิร์ต แต่ยังไม่ถูกตั้งข้อหาใดๆ | null | เฮดจ์ฟันด์,นิวยอร์ก,โธมัส กิลเบิร์ต,ยิง,ลูกชาย,โธมัส กิลเบิร์ต จูเนียร์,ทะเลาะ | https://www.thairath.co.th/content/472955 |
กำลังซื้อหด-ภัยแล้ง ฉุดดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตฯ มิ.ย. ร่วงต่อเนื่องเดือนที่ 6 | เมื่อวันที่ 21 ก.ค.นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึง ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน มิ.ย. 58 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน มิ.ย. 58 อยู่ที่ระดับ 84.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 85.4 ในเดือน พ.ค.58 และปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยค่าดัชนีฯ ที่ลดลง เกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ,สำหรับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในเดือน มิ.ย. 58 ที่ปรับลดลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน เนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปัญหาภัยแล้งที่ลุกลามในหลายพื้นที่ ที่กระทบต่อรายได้ของเกษตรกรที่เป็นกำลังซื้อสำคัญของภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ทำให้ผู้ประกอบการต่างระมัดระวังในการประกอบการและการขยายการลงทุน,อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการเห็นว่าการค้าชายแดนยังขยายตัวได้ดี และมีส่วนช่วยพยุงภาคการส่งออกของไทย ขณะเดียวกันในช่วงเวลาที่เหลือของปีงบประมาณ 2558 หากภาครัฐสามารถเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการใช้งบประมาณ ก็จะมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย,ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 99.0 ลดลงจากระดับ 100.9 ในเดือน พ.ค. 58 โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ,สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มี ต่อภาครัฐในเดือน มิ.ย. นี้ คือ เร่งรัดการใช้จ่ายของภาครัฐให้เป็นไปตามแผนการใช้งบประมาณ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพิ่มการใช้จ่าย และการบริโภคภายในประเทศด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ พร้อมหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง และช่วยเสริมสภาพคล่องของผู้ประกอบการ SMEs โดยสนับสนุนให้สถาบันการเงินพิจารณาปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ. | ส.อ.ท. เผย ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย. 58 ร่วงที่ระดับ 84.0 จาก 85.4 ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เหตุมาจากความกังวลศก.ในประเทศ ภัยแล้งลุกลาม ฉุดกำลังซื้อลดลง | null | สุพันธุ์ มงคลสุธี,ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย,ส.อ.ท.,ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรม,ความกังวลต่อเศรษฐกิจ,การสั่งซื้อ,ผู้ประกอบการค้า,การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ,ผลกระทบ,ปัญหาภัยแล้ง,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/513178 |
อุดมสุข 42 ฝาท่อระบายน้ำแตก วอนหน่วยงานแก้ไข | รอนานเกินนางทองหยิบ ปั้นทอง อายุ 60 ปี เกษียณอายุออกจากงาน ทำเรื่องยื่น ขอเงินบำนาญชราภาพ ตั้งแต่ มิ.ย.60 จนป่านนี้ยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว สอบถามหน่วยงานก็เงียบ ติดขัดอยู่ที่ตรงไหน? ฝาก กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ช่วยตรวจสอบให้ที,ปัญหาฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า ตอนที่ 1 ชาวบ้านริมถนนเดือดร้อนหนัก ทุกวันนี้ต้องกินข้าวคลุกฝุ่น หลังมีการร้องเรียนส่งคนมารดน้ำแค่เพียง 2-3 วัน ฝุ่นก็ยังเยอะเหมือนเดิม วอน เขตบางกะปิ ส่งคนมารดน้ำถี่ๆ ทีได้มั้ย?,ฝาท่อระบายน้ำเป็นรูโหว่ชาวซอยอุดมสุข 42 ถนนบางนา-ตราด 19 แขวงและเขตบางนา แจ้งมา ฝาปูนปิดท่อระบายน้ำแตกเหลือแต่โครงเหล็ก ร้องเรียนหน่วยงานยังไม่มีการแก้ไข หรือต้องรอให้เกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บเสียก่อน ฝาก เขตบางนา ลงพื้นที่แก้ไขด่วน,แจ้งถนนชำรุดช่องทางยูเทิร์น บริเวณถนนเทพรักษ์ตัดกับถนนสุขาภิบาล 5 ช่วง สะพานข้ามคลองหนองบัวบาน ฝั่งแยกวัชรพล ผิวถนนพังเป็นลูกคลื่นหลายจุด สัญจรกลางคืนลำบากโดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุหลายราย ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงบประมาณซ่อมแซมหน่อย,ยึดถนนสาธารณะบริเวณถนนเลียบคลองหลอด ติดกับกรมสรรพากรพื้นที่ 1 ด้านหลัง รร.มิราม่า แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร ชาวบ้านแจ้งมา มีคนนำรั้วมากั้นเพื่อเป็นที่จอดรถส่วนตัว รถสัญจรไปมาลำบาก แม้แต่คนยังเดินผ่านไม่ได้ ชาวบ้านเดือดร้อนร้องเรียนไปหลายรอบก็เงียบ ฝาก เจ้าหน้าที่เขตพระนคร เข้าพื้นที่จัดระเบียบ,[email protected] | ชาวซอยอุดมสุข 42 ถนนบางนา-ตราด 19 แขวงและเขตบางนา แจ้งมา ฝาปูนปิดท่อระบายน้ำแตกเหลือแต่โครงเหล็ก ร้องเรียนหน่วยงานยังไม่มีการแก้ไข | ข่าว,ทั่วไทย | ห้องร้องทุกข์,ฝาท่อระบายน้ำ,เงินบำนาญ,ถนนพัง,ฝุ่นละออง | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1116079 |
ผบช.ภ.5 สั่งเด้งตำรวจน่าน 5 นายร่วมขนยาบ้า 1 ล้านเม็ด | ตำรวจภูธรสอง จังหวัดแพร่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันปราบปรามยาเสพติด และฝ่ายปกครองอำเภอสอง บุกตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 9 จุด ในหมู่บ้านแม่แรม ตำบลเตาปูน อำเภอสอง หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งพักยาเสพติด โดยจับนายสุรศักดิ์ แซ่ย่าง ผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมปืนลูกซองยาว และกระสุนจำนวนหนึ่ง แต่ไม่พบยาเสพติดซุกซ่อนในพื้นที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจภูธรภาค 5 ประชุมร่วมหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่กำชับให้ตรวจค้นรถยนต์ของทางราชการที่ขับผ่านด่านตรวจอย่างเข้มงวด หลังพบว่าขบวนการค้ายาเสพติดหันมาใช้เจ้าหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดล่าสุด พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มีคำสั่งไล่ออกข้าราชการตำรวจ 5 นาย ที่ร่วมกันใช้รถตำรวจขนยาบ้า 1 ล้านเม็ด ไปส่งให้กับขบวนการค้ายาเสพติดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย และดำเนินคดีอาญาส่วนมารตรการป้องกัน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เดินทางไปเปิดศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เพื่อประสานงานของสถานีตำรวจ 24 สถานี ใน 18 อำเภอ โดยติดตั้งกล้องซีซีทีวีตามจุดเสี่ยงแนวชายแดน รวม 32 จุด เพื่อเฝ้าระวัง และจากเปิดทดลองใช้มากว่า 6 เดือน สามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ | ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มีคำสั่งไล่ออกสารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจอวน จังหวัดน่าน พร้อมตำรวจอีก 4 นาย ที่ร่วมกันขนยาบ้า 1 ล้านเม็ด ให้กับขบวนการค้ายาเสพติดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะที่ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 9 จุด และจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้ 1 คน | อาชญากรรม | ตำรวจ,น่าน,ผบช.ภ.5,พระนครศรีอยุธยา,ยาบ้า,สั่งเด้ง,แพร่ | https://news.thaipbs.or.th/content/132929 |
โอบามา ยกเลิกคุย ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ หลังกร้าวอย่ามาสอนเรื่องสิทธิมนุษยชน | นายโรดิรโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เจ้าของฉายา โดนัลด์ ทรัมพ์ แห่งเอเชีย กล่าวคำสบถต่อประธานาธิบดีบารัค โอบามา ระหว่างการแถลงข่าวก่อนบินไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยด่านายโอบามาว่าเป็นลูกโสเภณีและเตือนว่าอย่ามาสั่งสอนเรื่องสิทธิมนุษยชน พร้อมกับประกาศกร้าวว่า จะกล่าวคำสบถต่อโอบามาในที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนแบบไม่ไว้หน้า หากถูกต่อว่าในเรื่องสิทธิมนุษยชน ประธานาธิบดีดูเตอร์เต ยังบอกให้ประธานาธิบดีโอบามาคิดให้ดีที่จะพูดเรื่องนี้ และว่าเขาไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของสหรัฐอเมริกา แต่เป็นผู้นำประเทศอธิปไตยและไม่จำเป็นต้องตอบคำถามใคร ยกเว้นชาวฟิลิปปินส์การใช้ถ้อยคำที่หยายคายเผ็ดร้อนของนายดูเตอร์เตมีขึ้น หลังจากมีคำเตือนว่าเขาจะเผชิญกับการถูกซักถามจากประธานาธิบดีโอบามาในเรื่องการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดอย่างเฉียบขาดในฟิลิปปินส์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 2400 คน ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือนกว่า นับตั้งแต่ที่นายดูเตอร์เตเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งคำเตือนดังกล่าวสร้างความหงุดหงิดให้กับดูเตอร์เตเป็นอย่างมากนายดูเตอร์เตมีกำหนดพบปะแบบทวิภาคีกับประธานาธิบดีโอบามา ในช่วงบ่ายวันนี้ (6 ก.ย.2559) ระหว่างพบกันนอกรอบในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว แต่หลังจากถูกดูเตอร์เตด่าอย่างหยาบคาย ประธานาธิบดีก็ชักจะลังเลว่าควรจะพบกับนายดูเตอร์เตหรือไม่ ล่าสุดมีรายงานว่า ทำเนียบขาวได้ตัดสินใจยกเลิกการพบปะระหว่างประธานาธิบดีโอบามากับประธานาธิบดีดูเตอร์เตแล้วล่าสุด ฟิลิปปินส์ได้ออกแถลงการณ์ก่อนพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในวันนี้ (6 ก.ย.2559) ว่า นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แสดงความเสียใจที่ใช้วาจาไม่สุภาพกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในการตอบคำถามผู้สื่อข่าวฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารของผู้นำฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่าทั้ง 2 ฝ่ายตกลงเลื่อนการหารือแบบทวิภาคีออกไปก่อนจนกว่าจะกำหนดวันและเวลาที่แน่นอนอีกครั้ง | ปธน.โรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์จุดกระแสความร้อนแรงก่อนบินไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศลาว กล่าวคำสบถต่อบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ และเตือนว่าอย่ามาสั่งสอนเรื่องสิทธิมนุษยชนระหว่างการพบกันที่ลาว ทำให้ทำเนียบขาวยกเลิกการพบปะระหว่างผู้นำทั้งสอง | ต่างประเทศ | โอบามา,ดูเตอร์เต,ฟิลิปปินส์,ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน,ลาว,ข่าวอาเซียน,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/255512 |
ฐนพงศ์ ลือขจรชัย: 110 ปีสนธิสัญญาอังกฤษ-สยาม ประวัติศาสตร์แบบไม่ชาตินิยม | และเส้นพรมแดนบนแผนที่ตีกรอบความรู้สึกนึกคิดของเราได้อย่างไรเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 110 ปีก่อนในวันที่พรมแดนของไทยหรือสยามยังคลุมเครือ แต่ด้วยสนธิสัญญาอังกฤษ-สยามหรือสนธิสัญญาบางกอก ปี 1909 การขีดลมเป็นพรมแดนจึงชัดเจน ตัดแบ่งดินแดนมลายูออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งอยู่ในการดูแลของอังกฤษ อีกส่วนอยู่ภายใต้การปกครองของสยาม สนธิสัญญานี้สร้างบาดแผล 2 รอยที่มาจากการมองกันคนละองศาด้วยพล็อตเรื่องในแนวประวัติศาสตร์ชาตินิยมกระแสหลักของไทย มันคือการเสียดินแดนอันเจ็บปวดรวดร้าวอีกครั้งที่สยามถูกนักล่าอาณานิคมข่มเหง พรมแดนที่ถูกขีดขึ้นตีกรอบความรู้สึกนึกคิดสืบเนื่องกระทั่งปัจจุบันและด้วยพล็อตเรื่องในประวัติศาสตร์ชาตินิยมอีกเช่นกัน มันคือการแย่งยึดและเฉือนแบ่งราชอาณาจักรปัตตานีมาเป็นของจักรวรรดินิยมสยาม รอยแผลเป็นที่ใช้หล่อเลี้ยงสถานการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้งาน เสียดินแดนมลายู ประวัติศาสตร์ชาติ ฉบับ Plot Twist ของฐนพงศ์ ลือขจรชัย มิได้มุ่งวิเคราะห์พล็อตที่ 2 แต่ชวนวิเคราะห์พล็อตเรื่องแรกและปัจจัยที่ทำให้เกิดสนธิสัญญา ซึ่งจะสั่นคลอนคำว่า เสียดินแดน เพราะเอาเข้าจริงมันอาจเป็นการ แบ่งดินแดน ที่สมประโยชน์กันทั้งฝั่งสยามและอังกฤษ โดยมีหัวเมืองมลายูเป็นเพียงก้อนเค้กกล่าวอย่างถึงที่สุด การทำความเข้าใจสนธิสัญญาอังกฤษ-สยามอาจไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์สามจังหวัดชายแดนใต้ทุเลาลง เราเชื่อว่ามันจะช่วยเพิ่มองศาต่อการมองสถานการณ์ ลดความคับแค้นจากการเสียดินแดน และเพิ่มความเข้าอกเข้าใจต่อประวัติศาสตร์บาดแผลผมกลับไปอ่านสนธิสัญญาว่าถ้าตอนนั้นปัตตานีไปอยู่กับอังกฤษ เจ้าปัตตานีจะได้เป็นยังดีเปอตวนอากงหรือไม่ พออ่านสนธิสัญญากลับพบว่าข้อความในสนธิสัญญาที่เราเรียกว่าเสียดินแดนในแต่ละครั้ง จริงๆ ไม่ได้เขียนว่าเสียดินแดน ผมมีพื้นฐานปริญญาตรีนิติศาสตร์มาก่อน ผมเห็นว่ามันเขียนไม่เหมือนกัน ทำไมทุกคนปฏิบัติต่อมันเหมือนกัน นี่คือจุดตั้งต้นของการกลับมาค้นคว้าผมก็กลับไปอ่านงานออริจินัลของอาจารย์เพ็ญศรี ดุ๊ก หรืออาจารย์สุวิทย์ ธีรศาศวัตที่ศึกษาเอกสารชั้นต้นอย่างละเอียดและดีมาก แล้วก็เกิดคำถามว่าหรือเราเสียดินแดนจริงๆ ก็กลับไปอ่านงานอาจารย์ธงชัย วินิจจะกูลอีก ก็รู้สึกว่าเราไม่ได้เสียดินแดน งานสองชิ้นนี้สามารถดำรงอยู่ด้วยกัน แสดงว่ามันต้องมีช่องที่ขัดแย้งกัน หลังจากนั้นผมก็นำหนังสือที่เกี่ยวกับการเสียดินแดนเกือบทั้งหมดสี่สิบห้าสิบเล่มเท่าที่หาได้ มานั่งลิสต์ทุกเล่มเพื่อดูว่าอะไรที่งานสองกลุ่มนี้รับกันและไม่รับกัน ผมจึงกลับมาที่ดินแดนมลายูซึ่งมีความละเอียดอ่อนน้อยกว่าด้านแม่น้ำโขงหรือด้านอื่นๆ เพราะกรณี ร.ศ.112 เราถูกทำให้เจ็บแค้นต่อฝรั่งเศสมากกว่าอังกฤษเยอะในบทนำเขียนว่าแนวคิดเรื่องดินแดนมี 2 แบบคือเราเสียดินแดนกับไม่ได้เสีย งานชิ้นนี้ฟันธงหรือเปล่างานชิ้นนี้พยายามไม่ยุ่งกับการเสียดินแดนเพราะเคยคุยกับอาจารย์เหมือนกันว่า เสียมันพูดยากมาก มันมีเสียในทางกรรมสิทธิ์กฎหมาย ถ้าไม่เป็นของผมก็ไม่เสีย ดังนั้น ประเด็นว่าเราเสียดินแดนหรือเปล่า ผมจึงไม่ไปยุ่งเท่าไหร่ แค่ต้องการให้เห็นว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วไปตัดสินกันเองถ้าเรียกให้ถูก ผมคิดว่าเป็นการแบ่งดินแดนและแลกเปลี่ยนบนพื้นฐานที่ไม่เท่าเทียม แต่อยู่บนพื้นฐานทางการทูต ไม่ได้ใช้กำลังยึดไป ดังนั้น มันจะผ่านกระบวนการคิดและไตร่ตรองของทั้งสองฝ่ายระดับหนึ่งแล้ว ดินแดนที่อาจจะรู้สึกว่าเสียจริงๆ ในความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายคือทั้งฝ่ายจักรวรรดินิยมที่มองว่าสยามเสียดินแดนและสยามก็มองว่าตนเสียดินแดนก็มีแค่กรณีวิกฤตปากน้ำ ร.ศ.112 แต่ในการเจรจาครั้งอื่นๆ ทั้งก่อนหน้านั้นและหลังจาก ร.ศ.112 ตัวชนชั้นนำสยามก็ไม่ชัดเจนว่าตนเองเสียไปหรือได้มา อังกฤษกับฝรั่งเศสเองก็ไม่ได้รู้ว่าได้หรือเสียผมจึงคิดว่างานเกี่ยวกับเสียดินแดน เหตุการณ์ ร.ศ.112 ถูกใช้เป็นแกน แล้วขยายออกไปว่าเสียหรือไม่เสีย ฝ่ายที่บอกว่าไม่เสียก็ใช้เหตุการณ์ ร.ศ.112 เป็นแกนและบอกว่าตรงนั้นเป็นดินแดนลาว ดังนั้น สยามจึงไม่เสียดินแดน ทั้งสองฝ่ายต่างใช้เหตุการณ์ ร.ศ.112 เป็นแกนผมไม่เห็นด้วยกับงานกลุ่มที่บอกว่าพรมแดนของรัฐไม่ฟังก์ชั่น แต่ผมมองว่าฟังก์ชั่นมันเปลี่ยนไป ในบทนำผมจึงเขียนว่าพรมแดนเปลี่ยนชีวิตและความเป็นอยู่มากกว่าจะใช้แค่แบ่งดินแดน พรมแดนจึงยังมีความสำคัญอยู่ในฐานะขอบเขตนโยบายของรัฐ ขอบเขตการใช้กฎหมาย ขอบเขตทางการรับรู้ ดังนั้น พรมแดนระหว่างรัฐยังมีคุณค่าต่อการศึกษา เช่น เราค่อนข้างละเอียดอ่อนกับสามจังหวัดชายแดนมาก แต่ทุ่งสังหารในเขมร ทั้งที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากกว่า เรากลับไม่ได้รู้สึกอินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเราถูกพรมแดนของรัฐบอกว่าเป็นของประเทศอื่น พรมแดนจึงเป็นเส้นกั้นการรับรู้ของประชาชนเพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่ชัดเจนที่สุด สยามถูก Aggressive อย่างชัดเจนที่สุดและถูกขยายความไปหลายครั้ง ของฝรั่งจะเรียกว่าวิกฤตปากน้ำ เป็น Crisis แต่ถ้าอ่านงานไทยจะถูกพัฒนาไปเป็นกึ่งสงคราม ภาพถูกสร้างว่าเรากึ่งๆ จะแพ้สงครามและเงินที่เราต้องจ่ายไปสองสามล้านฟรังก์ มันคือค่าปฏิกรรมสงคราม มันถูกขยายให้ใหญ่ว่านี่คือจุดที่สยามถูกคุกคามอย่างไม่เป็นธรรมที่สุด ถ้าเทียบนี่ก็เป็นแผลลึกที่สุดแล้ว แล้วเราก็ใช้แผลนี้มาอธิบายว่าแผลอื่นๆ ก็เป็นแผลย่อยๆ ที่โดนมาตลอด เอาไคลแมกซ์มาเล่าก่อนสำหรับผมเรียกว่าแบ่งดินแดน แต่สำหรับงานหลายชิ้นก็เรียกว่า เสียดินแดน เช่น เสียเกาะปีนังซึ่งสำหรับผม ผมไม่รู้สึกว่าเราเสียเกาะปีนัง ไม่เคยรู้สึกด้วยว่าปีนังเป็นของเรา หรืออีกกรณีหนึ่งคือเสียเขมรส่วนนอก อุดงมีชัย ก็เรียกว่าเสียดินแดน แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกว่ามันคือการเสียดินแดนเลย หรือเมื่อไปอ่านงาน รัชกาลที่ 4 ก็ไม่รู้สึกว่าเสียไปเท่าไหร่ แต่เหตุการณ์ ร.ศ.112 เป็นที่เห็นตรงกันว่าเสีย รัชกาลที่ 5 ก็รู้สึกว่าฉันกำลังเสีย แล้วฝรั่งเศสก็มีลงหนังสือพิมพ์ว่ากำลังได้ดินแดน แทบจะเป็นเหตุการณ์เดียวที่มีความรู้สึกของการได้และเสียที่ชัดเจนที่สุดแบบตรงไปตรงมาใช่ ผมพยายามวิเคราะห์งานสองกลุ่มนี้ ถ้าเทียบงานอาจารย์ธงชัยเป็นจุดซ้อนก็ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาที่ดำรงอยู่คู่กันได้ทั้งสองฝ่าย ชนกันบ้าง แต่ไม่เคยแลกหมัดกันเลย มันอยู่กันได้ยังไง ผมพบว่าจริงๆ แล้วงานฝ่ายที่บอกว่าเราไม่เสียดินแดน เขาไม่ได้เถียงเรื่องราวของฝ่ายเสียดินแดนแม้แต่นิดเดียว เขาเถียงเรื่องความรู้สึก เรื่องความเป็นเจ้าของ เช่น งานอาจารย์ธงชัยชัดเจนที่สุดว่าไม่เถียงว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือการถูกคุกคาม แต่เขาเถียงว่าดินแดนตรงนี้มันไม่เคยเป็นของเรามาก่อน เขาไปเปลี่ยนมุมมอง แต่เรื่องเล่าหลักไม่ได้แตะ หรืองานสายอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ งานของอาจารย์ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ ที่ทำออกมาว่ารัชกาลที่ 6 ที่อยู่ในช่วงสมัยติดกัน ไม่เคยรู้สึกว่าเราเป็นศัตรูกับฝรั่งเศสหรือเสียดินแดนให้ฝรั่งเศส เขาเน้นว่ามันไม่เคยเป็นของเรา เราไม่เคยรู้สึกเสีย เพิ่งจะมารู้สึกเสียในยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม แต่ไม่เคยซัดกันตรงๆ ในเรื่องเล่าหลักว่างานเสียดินแดนมีความผิดพลาดตรงไหน หรืองานอาจารย์ธงชัยซัดว่าเป็นประวัติศาสตร์นิพนธ์ เหมือนพล็อตเรื่องแนวเสียเอกราช แต่เรื่องเล่าหลักที่เป็นเอกสารชั้นต้น เขาไม่ได้ดู มันก็เลยไม่เคยปะทะกัน แล้วมันก็อยู่กันคนละมิติของเรื่องสยามต้องทำ ไม่ใช่อังกฤษต้องทำ ในงานผมชัดเจนว่าอังกฤษต้องการดีบุกในภาคใต้ แต่เหมืองดีบุกในภาคใต้เป็นของอังกฤษเกือบทั้งหมดแล้ว อังกฤษไม่มีความจำเป็นต้องผนวกดินแดนเพิ่มเติม แถมยังได้สิทธิ์พิเศษที่สยามกับอังกฤษทำสนธิสัญญาลับกันที่ทำให้สยามกึ่งๆ เหมือนจะเสียอธิปไตยบางส่วนเหนือดินแดนนี้ในทางนิตินัยไปแล้ว จึงเป็นสยามเองที่ต้องการดึงอำนาจนิตินัยตรงนี้กลับมาเป็นของสยามโดยสมบูรณ์ และสยามเองก็กำลังรู้สึกว่าสุลต่านทางภาคใต้เริ่มจะไม่พอใจตนและพยายามปลดแอกตนเองและหนีไปอยู่กับอังกฤษ สยามจึงต้องตัดสินใจทำสนธิสัญญานี้ หลักๆ คือยกเลิกสนธิสัญญาลับที่ทำให้อำนาจทางนิตินัยของตนสูญเสียไปกับสร้างทางรถไฟเพื่อให้ตนเองสามารถควบคุมดินแดนส่วนนี้ได้ดียิ่งขึ้นใช่ สยามเป็นผู้เปิดการเจรจาเอง เป็นคนเสนอให้เอง โดยตั้งเงื่อนไขขึ้น พอเจรจาไปอาจไม่ได้ตามเงื่อนไขอย่างที่ตัวเองคิดขนาดนั้น แต่ก็ยังเป็นเงื่อนไขที่ตนเองเสนอไปสิ่งที่สยามได้แน่ๆ คือยกเลิกสนธิสัญญาลับ ยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตบางส่วน ได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ กู้จากอังกฤษและให้อังกฤษเป็นคนสร้างทางรถไฟ แต่ถ้ามองในมุมมองของสโตเบลที่เป็นที่ปรึกษาของสยามมองว่าสยามจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบดินแดนพวกนี้ด้วยการควบคุมดินแดนแต่ละแห่งไม่ว่าจะเป็นสยามหรืออังกฤษมีค่าใช้จ่าย ไม่ใช่ว่ายิ่งเยอะยิ่งดี บางทียิ่งเยอะก็ยิ่งต้องเสียงบประมาณในการควบคุม สโตเบลมองว่าสยามเปลืองเงินไปกับการพยายามรักษาดินแดนตรงนี้เยอะมาก สู้ปล่อยไปแล้วนำเงินไปพัฒนาอย่างอื่นยังดีเสียกว่า ขณะที่ขุนนางสยามก็มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนก็มองว่ายังไงดินแดนก็สำคัญที่สุด เช่น รัชกาลที่ 6 มองว่าดินแดนสำคัญที่สุด แม้สิ่งที่ได้มาจะมีคุณค่าบางอย่าง แต่ก็เทียบกับดินแดนไม่ได้ แต่กรมพระยาดำรงราชานุภาพเห็นว่าคุ้ม เพราะดินแดนที่ได้มาก็ไม่เคยไปปกครอง ไม่สามารถเก็บภาษีจากมันได้ มีแต่ค่าใช้จ่ายในการควบคุมสนธิสัญญาลับทำหลังจากเหตุการณ์ ร.ศ.112 ถ้าจะให้ชัดเจนจริงๆ ต้องบอกว่าหลังจากที่อังกฤษและฝรั่งเศสทำปฏิญญาว่าจะรักษาเอกราชของสยามไว้ให้เป็นแนวกันชนและเขตอิทธิพล คือแนวกันชนนี้อังกฤษกับฝรั่งเศสทำกัน แสดงว่ามันไม่ผูกพันสยาม มันผูกพันกันเอง ดังนั้น จึงเหลือดินแดนทางตอนใต้ที่ยังอยู่นอกเขตอิทธิพล ยังไม่มีการตกลงกัน ณ เวลานั้นเยอรมนีกับรัสเซียก็เริ่มเข้ามา ซึ่งอังกฤษรู้สึกว่าปัญหาคือการที่เยอรมนีพยายามเข้ามาแม้อังกฤษจะสามารถควบคุมรัฐบาลสยามได้ระดับหนึ่ง แต่อังกฤษพบว่าสุลต่านเมืองต่างๆ ก็พร้อมทำสนธิสัญญากับเยอรมนีโดยไม่ฟังสยาม ดังนั้น การรับรองใดๆ กับสยามจึงเป็นปัญหา อังกฤษจึงคุยกับสยามว่าดินแดนส่วนนี้ทั้งหมดอังกฤษจะช่วยป้องกันไม่ให้ใครมายึด แลกกับว่าสยามห้ามให้มหาอำนาจอื่นมาเซ็นสัญญากับเจ้าเมือง สยามต้องคุมให้อยู่ ซึ่งสุดท้ายมันเป็นเรื่องกึ่งๆ สมประโยชน์ สยามจึงพยายามควบคุมดินแดนมลายูโดยมีอังกฤษคอยช่วย เพราะอังกฤษกลัวว่าเจ้าเมืองอื่นๆ จะไปเซ็นสัญญากับมหาอำนาจอื่นเวลานั้นสยามกลัวว่าจะถูกยึดไปเลย สยามจึงยอมเซ็นสนธิสัญญาลับ เพราะอย่างน้อยดินแดนยังอยู่ แต่อังกฤษพบว่าสยามคุมดินแดนส่วนนี้ไม่อยู่ สุลต่านพร้อมจะไปเซ็นสัญญากับอเมริกา กับเยอรมนี ที่สุลต่านเห็นว่ามีประโยชน์ ส่วนสยามก็เห็นว่าพอประเทศอื่นๆ มาขอสยาม แต่ด้วยสนธิสัญญาลับนี้ สยามจะทำอะไรต้องขออังกฤษ ซึ่งอังกฤษต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะบอกว่าอนุมัติหรือไม่ ซึ่งร้อยละ 90 ไม่อนุมัติ แต่สยามพูดไม่ได้ว่าทำไมจึงไม่อนุมัติ เยอรมนี รัสเซีย จึงไม่พอใจสยามว่าทำไมจึงให้สัมปทานแต่ฝ่ายอังกฤษ สยามก็รู้สึกว่าปล่อยไปแบบนี้จะทำให้ความสัมพันธ์กับประเทศอื่นร้าวฉาน ขณะที่ประเทศต่างๆ เหล่านั้นเมื่อขอกับสยามแล้วไม่ได้ จึงมาขอตรงกับสุลต่านที่เป็นแหล่งทรัพยากรจริงๆ มันเกิดการแก้ปัญหาในเบื้องต้นก่อนคือในปี 1902 เกิดกบฏพระยาแขกเจ็ดหัวเมือง คนที่ส่งข่าวให้สยามว่าเจ้าเมืองแขกคิดก่อกบฏก็คืออังกฤษ เจ้าเมืองแขกบอกอังกฤษว่าให้ช่วยยึดตัวเองได้หรือไม่ อังกฤษบอกว่าไม่ได้ เจ้าเมืองแขกจึงบอกว่าถ้าอังกฤษไม่ช่วยก็จะไปหามหาอำนาจอื่นให้มาช่วย แต่อังกฤษเซ็นสนธิสัญญาลับรับรองดินแดนส่วนนี้ ห้ามยึด แต่จะปล่อยให้คนอื่นมายุ่งก็ไม่ได้ อังกฤษจึงส่งข่าวให้สยาม สยามจึงส่งเรือรบมาหนึ่งลำแล้วจัดการเบ็ดเสร็จ หลังจากนั้นไม่นาน สยามกับอังกฤษก็ร่วมกันตั้งที่ปรึกษาไปยังกลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี พอตั้งที่ปรึกษาเสร็จ สยามจัดการพระยาแขกทั้งเจ็ดหัวเมืองได้ อังกฤษพอใจว่าสยามคุมดินแดนได้ ประเทศอื่นเข้ามาไม่ได้แล้ว อังกฤษจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะยึดดินแดน เหตุการณ์ปี 1902 ทำให้ทั้งอังกฤษและสยามปฏิบัติตามสนธิสัญญาลับได้ทั้งสองฝ่าย สยามและอังกฤษแทบจะร่วมมือกันปราบมลายูและยกให้สยามเพราะสนธิสัญญาลับระบุว่าอังกฤษห้ามยึดเมื่ออังกฤษได้ตามที่ต้องการหมดแล้วจึงไม่มีเหตุผลที่จะทำสนธิสัญญาอีก เป็นสยามเองที่รู้สึกว่าปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไป ระยะยาวจะเสียเยอะกว่าผมใช้คำว่าเป็น 5 ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการเจรจาแล้วค่อยวิเคราะห์ว่าแต่ละปัจจัยส่งผลแค่ไหน อย่างไร บางปัจจัยก็อาจจไม่ได้ส่งผลต่อการแบ่งดินแดนอย่างชัดเจน เพราะงานที่ผมศึกษาคือถ้าฝ่ายที่เชื่อว่าประเทศไทยเสียดินแดน แล้วทำไมอังกฤษไม่เอาปัตตานีไปด้วย ในทางกลับกัน ทำไมสยามเสียไปแค่นี้ ไม่เสียมากกว่านี้ หรือทำไมสยามไม่รักษากลันตัน ตรังกานู ไทรบุรีไว้เหมือนเดิม อะไรคือเหตุผลที่ทำให้แบ่งดินแดนกันแบบนี้ โดยเฉพาะดินแดนสตูลที่เป็นส่วนหนึ่งของไทรบุรี ทำไมไปตัดมาติ่งหนึ่ง หรือตากใบก็ไปตัดมาหน่อยหนึ่ง รามันก็ตัดไปหน่อยหนึ่ง ทำไมจึงเกิดสิ่งนี้ขึ้น ผมจึงตั้งปัจจัยขึ้นมาและสันนิษฐานว่าปัจจัยพวกนี้แหละน่าจะมีผลปัจจัยแรกคือชาติและชาติพันธุ์ เพราะว่าสยามตอนนั้นต้องการก้าวเข้าสู่ความเป็นรัฐสมัยใหม่ ซึ่งบางคนพยายามตีขลุมไปเลยว่าก้าวสู่ความเป็นรัฐชาติ (Nation State) ซึ่งคุณต้องมานิยามเรื่องชาติใหม่ ตอนนั้นสยามคุมดินแดนก็ยังไม่เยอะ ชาติพันธุ์ก็หลากหลาย คุณจะใช้เกณฑ์ชาติพันธุ์หรือชาติอะไรที่จะบอกว่าดินแดนตรงนั้นเป็นดินแดนของคุณหรือไม่ใช่ของคุณ ณ วันนั้น ชนชั้นนำสยามกำลังมองว่าใครคือคนของคุณบ้าง มลายูก็ชัดเจนว่าไม่ใช่เพราะเราเรียกเขาว่าคนมลายู แล้วทำไมจึงพยายามเก็บปัตตานีไว้ เกิดอะไรขึ้น เขาก็เป็นคนมลายูไม่ใช่หรือผมก็เลยสำรวจชาติพันธุ์บริเวณนั้นว่ามีการเรียกต่างกันมั้ยหรือเราเรียกมลายูต่างกัน ซึ่งก็พบว่าปัตตานีค่อนข้างต่างจากกลันตัน ตรังกานู และไทรบุรีอยู่บ้าง ตรงที่ปัตตานีเป็นเมืองใหญ่และเป็นเมืองที่อยุธยาต้องเอาเป็นเมืองประเทศราชอยู่เสมอ ไม่ปล่อยไว้ แม้แต่ตอนรัชกาลที่ 1 ก็ต้องลงไปตีปัตตานีให้ได้ ผมไม่รู้ว่าเป็นดินแดนเดียวหรือเปล่า แต่ปัตตานีเป็นดินแดนหลักที่ถูกกวาดต้อนคนมากรุงเทพฯ กลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี สยามแทบไม่เคยลงไปเลย เพิ่งจะเคยลงไปครั้งแรกสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยซ้ำ เราไม่เคยส่งกองทัพลงไปทำอะไรเหมือนปัตตานี ผมจึงสันนิษฐานว่าหรือเรามีความผูกพันกับปัตตานีว่าจะต้องเอาเป็นเมืองขึ้นให้ได้ไว้ก่อนหรือเปล่า การศึกษาของคุณสุจิตต์ วงศ์เทศ จะพบว่าในกรุงเทพฯ จะมีถนนตานี เรียกว่ามีสัมพันธ์กับปัตตานีมากกว่า ตรงกันข้ามกับกลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี ที่เราไม่ได้มีการติดต่อจริงๆ ยกเว้นได้รับต้นไม้เงินต้นไม้ทองนอกจากประเด็นชาติพันธุ์ก็ยังมองเรื่องรัฐสืบทอด ผมนำแนวคิดจากอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ เรื่องการเมืองสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี เพราะผมเชื่อตามนั้นก่อนว่าอยุธยาล่มสลายไปแล้ว ผมกลับไปดูว่าสมัยรัชกาลที่ 1 พยายามจะควบคุมดินแดนตรงไหน อย่างไร ก็พบว่าเจ็ดหัวเมืองแต่ก่อนคืออาณาจักรปัตตานี แล้วก็ถูกแบ่งโดยสยาม แต่กลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี เราก็ไม่เคยยุ่งกับเขาในยุคนั้น แม้ว่าเขาจะขอเป็นประเทศราชของเราในเวลาใกล้เคียงกันหลังจากเห็นปัตตานีแพ้สยาม แต่เจ็ดหัวเมืองเราคุมตลอด ในยุครัชกาลที่ 1 อาจจะทำให้เห็นว่ากษัตริย์องค์ใหม่ของกรุงรัตนโกสินทร์ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กษัตริย์อยุธยา ในเบื้องต้นจึงต้องเอาดินแดนประเทศราชของอยุธยาคืนกลับมาทั้งหมดก่อนอีก 3 ปัจจัยจะค่อนข้างชัดกว่า เศรษฐกิจและการปกครอง ผมไม่ได้แยกสองเรื่องนี้ออกจากกันเพราะเกี่ยวพันกัน ผมกลับไปดูว่าดินแดนมลายูบริเวณนั้นทั้งหมด หน่วยเศรษฐกิจและการปกครองของสยามมีอะไร หลักๆ ก็เจอว่าปัตตานีเป็นแหล่งปลูกข้าวบางส่วนและก็มีผู้คน แต่ไม่ใช่แหล่งใหญ่เพราะมันไกล ไม่คุ้ม แล้วดินแดนนี้สำคัญต่อสยามอย่างไร ทำไมต้องเอาให้ได้ ผมไม่ได้พบอะไรสำคัญเป็นพิเศษนอกจากให้ยอมรับบารมี จนกระทั่งตะวันตกเข้ามาและต้องการเหมืองดีบุก ดินแดนตรงนี้จึงเริ่มสำคัญขึ้นมาเพราะเป็นรายได้ จากเดิมที่ไม่มีอะไร บริบทโลกตอนนั้นเกิดสงครามน้อยใหญ่ในที่ต่างๆ ดีบุกคือสิ่งสำคัญในการทำอาหารกระป๋อง ซึ่งราคาถีบตัวขึ้นสูงมาก ตรงมลายูคือแหล่งดีบุกสำคัญของโลก นับวันมลายูก็ยิ่งสร้างรายได้ให้สยามมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งตะวันตกเข้ามาขอสัมปทานมากเท่าไหร่ รายได้สยามก็ยิ่งเยอะในทางกลับกัน ยิ่งตะวันตกเข้ามาเท่าไหร่ สยามก็เริ่มรู้สึกว่าคุมไม่อยู่ เริ่มสูญเสียการปกครอง เพราะดีบุกไม่ได้สำคัญต่อสยาม สยามไม่มีเทคโนโลยีในการใช้ดีบุกเลย อังกฤษต่างหากที่ต้องการ อังกฤษจึงต้องการพื้นที่ที่มีดีบุก แต่สยามไม่ได้สนใจตรงนั้นตราบใดที่ยังได้รายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่พอสยามเริ่มรู้สึกว่าสูญเสียการควบคุมดินแดนตรงนี้ไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าต้องจัดการอะไรสักอย่าง ซึ่งผลก็คือการเซ็นสนธิสัญญาลับเพื่อควบคุม แต่สุดท้าย ณ วันที่จะทำสนธิสัญญาปี 1909 มันชัดเจนว่า อังกฤษขีดเอาเฉพาะดินแดนที่มีเหมืองดีบุก อังกฤษไม่แคร์อย่างอื่นเลย ปัตตานีไม่มีดีบุก สตูลก็ไม่มีทรัพยากรอะไรที่อังกฤษต้องการ นี่จึงน่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งให้มีการแบ่งปัตตานีออกมาก็สูญเสียค่าสัมปทาน แต่ตอนนั้นต้องชั่งน้ำหนักกัน สโตเบลเห็นว่าค่าใช้จ่ายที่สยามต้องส่งทหารไปคุมอาจจะเปลืองกว่า มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรต้องเก็บดินแดนไว้เมื่อรายได้พอๆ กับรายจ่ายที่รับมาอีกปัจจัยหนึ่งคือภาพลักษณ์ หลายคนมองว่าเป็นเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขต แต่ผมมองว่าเป็นเรื่องภาพลักษณ์ของสยาม เพราะสยามต้องการก้าวไปเป็นหนึ่งในผู้นำโลกยุคนั้น แล้วในรัฐยุคใหม่ที่ถูกวางหลักไว้ในสนธิสัญญาเวสต์ฟาเลียที่ว่าต้องยอมรับประเทศนั้นในฐานะเท่าเทียมกัน นั่นหมายความว่าต้องยอมรับกฎหมายของประเทศนั้นๆ สิทธิสภาพนอกอาณาเขตในสายตาผม มันคือการมองว่าสยามป่าเถื่อนในตัวมันเอง มากกว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องการตัดสินคดีการยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้สยามได้รับการยอมรับว่าศิวิไลส์แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ชนชั้นนำสยามในยุคนั้นซีเรียสมากที่ต้องการให้อังกฤษกับฝรั่งเศสยอมรับสยาม ผมวิเคราะห์ว่าสิทธิสภาพนอกอาณาเขตที่สยามยอมแลกจริงๆ คือแลกกับฝรั่งเศส สยามยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตกับฝรั่งเศสก่อน แต่กับอังกฤษไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ที่มันไม่เท่ากันเพราะตอนที่เราสูญเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตเพราะเราทำสนธิสัญญาเบาว์ริ่ง แล้วประเทศอื่นๆ ก็ทำตาม ในทางกลับกัน สโตเบลคิดว่าถ้าฝรั่งเศสยอมยกเลิกแล้ว เราจะใช้จุดนี้ไปบีบให้ประเทศอื่นยอมยกเลิกโดยไม่ต้องแลกอะไร เหมือนที่เวลาต่อมาอังกฤษ เยอรมนี ยอมยกเลิกโดยที่เราไม่ต้องเสียดินแดนอะไรเพิ่ม ผมจึงมองว่ากรณีที่ขอยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตกับอังกฤษก็พ่วงไปด้วยกันเลยในการทำสนธิสัญญา 1909 แต่ไม่ใช่เหตุผลหลักที่เรายอมเสียดินแดนเพื่อแลกกับสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ต่างกับฝรั่งเศสที่เป็นเหตุผลหลักที่เรายอมปล่อยไปสโตเบลเขียนชัดเจน ถ้าเขาไม่เสียชีวิตไปก่อนที่จะเจรจาสำเร็จ เขาต้องการแบ่งสนธิสัญญาออกเป็น 2 ฉบับ เรื่องดินแดนเรื่องหนึ่งกับเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขตเรื่องหนึ่ง เพราะเขากลัวคนเข้าใจผิดว่าสยามยอมเสียดินแดนเพื่อยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขต แล้วจะทำให้ประเทศอื่นเอาอย่างบ้าง ผมจึงวิเคราะห์ว่ามันเป็นแค่ปัจจัยรองส่วนปัจจัยสุดท้ายคือนโยบายจักรวรรดินิยมเอง อังกฤษมีดินแดนทั่วโลกมหาศาล ดินแดนตรงนี้เป็นแค่ติ่งหนึ่งของจักรวรรดิ เช่นเดียวกับฝรั่งเศส ดังนั้น อย่าเพิ่งมองว่าอังกฤษหรือฝรั่งเศสตัดสินใจกับสยามเหมือนที่สยามตัดสินใจกับเขา จริงๆ การที่อังกฤษต้องการมลายูเพราะอังกฤษต้องการควบคุม 2 อย่างคือช่องแคบมะละกาซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือจากอินเดียสู่จีนและต้องการเหมืองดีบุก ถ้าเป็นเพราะเหตุผลนี้อังกฤษก็ไม่ต้องการดินแดนลึกเข้ามาในส่วนลึกของสยามทำให้เกิดการแบ่งดินแดนในสนธิสัญญา 1909 ในภาพรวมคงไม่มีใครกล้าฟันธงจริงๆ ว่าเขาคิดอะไรกันอยู่ คนในยุคนั้นก็คงไม่ชัดเจนขนาดนั้น ผมเคยทำงานกระทรวงต่างประเทศก็เห็นอยู่ว่าบางทีการเจรจาก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แล้วยิ่งสนธิสัญญา 1909 เริ่มคุยตั้งแต่ปี 1907 เปลี่ยนคนเจรจาก็หลายคน แต่จาก 5 ปัจจัยที่สรุปมาได้ทำให้เกิดการแบ่งดินแดนกันเช่นนี้เขาอยากจะอยู่กับสยามในฐานะประเทศราช เขาไม่อยากอยู่กับสยามในฐานะรัฐที่เป็นหนึ่งเดียว เขาเห็นแล้วว่าถ้าอยู่กับอังกฤษมันจะมีระบบต่างๆ ที่มาแทรกแซงการปกครองของเขา อยากเป็นประเทศราชของสยามเหมือนเดิม คุมเมืองได้เหมือนเดิม มีหน้าที่แค่ส่งบรรณาการ แต่ถ้าให้เขาโดนแบบปัตตานี โดนเปลี่ยนแปลงเป็นมณฑล ผมคิดว่าเขาก็ไม่อยู่กับสยามเหมือนกันปัตตานีโดนเรือรบ ปัตตานีมองว่าเมืองที่อยู่กับอังกฤษโอเคกว่า เขาก็อยากอยู่กับอังกฤษ อย่างน้อยก็มีอำนาจคุมพื้นที่ตัวเอง แม้จะถูกอังกฤษส่งที่ปรึกษามาควบคุม แต่เขาก็ยังเป็นเจ้าเมือง แต่อยู่กับสยามเขาไม่ได้เป็นเจ้าเมือง การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ อยู่กับใครแล้วได้ผลประโยชน์ เขาก็อยากอยู่กับตรงนั้นมันส่งผลแน่นอน อย่างน้อยมันส่งผลต่อวิธีคิดว่าดินแดนส่วนนี้เป็นของสยามมาแต่ช้านานและคนพวกนี้เป็นคนไทย ต้องอยู่กับเรา การปฏิบัติต่อเรื่องนี้ว่าเป็นปัญหาเชิงพื้นที่ลบเส้นเขตแดนออกกับการที่คุณมองว่ามันคือปัญหาภายในประเทศ มันก็นำไปสู่การจัดการปัญหาที่แตกต่างกันแล้ว ผมเคยคุยกับแฟนบนรถแท็กซี่ว่าน่าจะให้สามจังหวัดปกครองกันเองเหมือนพัทยา แท็กซี่หันกับมาพูดว่าไม่ได้ นี่มันดินแดนของประเทศไทย จะปล่อยให้พวกมันปกครองกันเองไม่ได้ มันปิดกั้นความนึกคิด พรมแดนทำให้คุณต้องเรียนว่าพระยาแขกคิดก่อกบฏ ถ้าคุณอยู่มาเลย์ คุณอาจได้เรียนว่าพระยาแขกพยายามปลดแอกตัวเอง ปัญหาที่ชัดเจนที่สุดของพรมแดนสมัยใหม่ที่มันกั้นคนไม่ค่อยได้ แต่กั้นความรู้สึกนึกคิดและมุมมองแต่ถามว่าโดยตัวพรมแดนเองมันสร้างปัญหามั้ย ผมเชื่อว่ารัชกาลที่ 5 กับกรมพระยาดำรงฯ รู้อยู่แล้วว่าอาจเกิดปัญหา ยุคนั้นกรมพระยาดำรงฯ ปกครองมณฑลปัตตานีค่อนข้างพิเศษ อะลุ่มอล่วยเยอะมาก ไม่มีการเกณฑ์ทหาร เกณฑ์ตำรวจแทน ปล่อยให้มีศาลอิสลามตัดสินกันเอง ไม่บังคับให้นับถือศาสนาพุทธ จนยุคถัดมา ตั้งแต่รัชกาลที่ 6 เรื่อยมาถึงจอมพล ป. สิ่งเหล่านี้ถูกยกเลิกไป เพราะดินแดนตรงนี้เป็นของฉันแน่นอน ไม่มีความลังเลเหมือนในยุครัชกาลที่ 5ดินแดน เขตแดน เป็นสิ่งที่ปิดกั้นความรู้สึกนึกคิดและมุมมองเป็นบาดแผลที่สำคัญที่สุดใช่ ยิ่งฝ่ายเสียดินแดนฮาร์ดคอร์เท่าไหร่ พื้นที่ก็จะมีเรื่องเล่าที่ฮาร์ดคอร์สวนกลับมา ต้องอ่านงานแนวประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรปัตตานีก็จะออกแนวชาตินิยมปัตตานี พอๆ กับชาตินิยมไทย ยิ่งฮาร์ดคอร์ยิ่งชนกันแรง ก็ยิ่งเกิดปัญหาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ผมอยากจะบอกว่าการแบ่งดินแดน ณ วันนั้น ไม่ได้เคร่งเครียดขนาดนี้ ขนาดว่าดินแดนแม้แต่ 1 ตารางนิ้วก็จะไม่ยอมเสียไป มันเป็นการคุยกันแบบผ่อนคลาย และคุณควรมองพื้นที่ตรงนั้นเป็นดินแดนที่อยู่ในคาบสมุทรมลายู เป็นของใครก็ไม่รู้ แต่เป็นอู่อารยธรรมเก่า ไม่ต่างกับอยุธยา ทำให้พรมแดนมันจางลง ทำให้ความรู้สึกเกี่ยวกับพรมแดนมันจางลงทั้งสองฝ่าย | ครบรอบ 110 ปีสนธิสัญญาอังกฤษ-สยาม ปี 1909 ชวนคุยกับผู้เขียน เสียดินแดนมลายู ประวัติศาสตร์ชาติ ฉบับ Plot Twist เข้าใจปัจจัยที่ทำให้ต้องมีสนธิสัญญา ไทยเสียดินแดนจริงหรือ? อะไรคือบาดแผลบนดินแดนปัตตานี? | การเมือง,สังคม | ชายแดนใต้,สัมภาษณ์,หนังสือ,เสียดินแดนมลายู ประวัติศาสตร์ชาติ ฉบับ Plot Twist,ฐนพงศ์ ลือขจรชัย,สนธิสัญญาอังกฤษ-สยาม 1909,จักรวรรดิอังกฤษ,วิกฤตปากน้ำ ร.ศ.112,ปัตตานี,กลันตัน,ตรังกานู,ไทรบุรี,มณฑลปัตตานี,ปาตานี,ประวัติศาสตร์,อาณานิคมภายใน | https://prachatai.com/journal/2019/04/82109 |
เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ เสนอ 5 ประเด็นแก้ปัญหาค้ามนุษย์ | โดยจัดให้มีการรับฟังหรือการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคม29 ก.ค. 2558 เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) ออกแถลงการณ์ ข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทยปรับปรุงกลไกในการคุ้มครองเหยื่อการค้ามนุษย์ และบุคคลที่ตกอยู่ในความเสี่ยง โดยระบุว่า ที่ผ่านมา แม้จะเห็นความพยายามในการแก้ไขปรับปรุงสถานการณ์ด้านการค้ามนุษย์ของรัฐบาล แต่ก็พบว่า รัฐบาลยังมีข้อผิดพลาดปราศจากความรู้ความเข้าใจ ทำให้มาตรการที่ผ่านมาเป็นการปรามปรามมากกว่าการป้องกันและช่วยเหลือ ใน 7 ประเด็น พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหา 5 ข้อ โดยหวังว่าประเทศไทยจะใช้เงื่อนไขที่ถูกจัดให้อยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 เป็นโอกาสทบทวนถึงสภาพปัญหาของการแก้ไขและปราบปราบการค้ามนุษย์ กระบวนการคุ้มครองและเยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยจัดให้มีการรับฟังหรือการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคมหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เพื่อสร้างวัฒนธรรมด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน การเยียวยาผู้เสียหาย และทำให้กระบวนการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของประเทศและภูมิภาคอาเซียนเติบโตไปได้พร้อมกับความมั่นคงของมนุษย์แบบยั่งยืนตามที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี 2558 และประกาศในรายงานให้ประเทศไทย อยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมายสหรัฐอเมริกาและไม่มีความพยายามแก้ไขปัญหา ซึ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเห็นว่า ประเทศไทยเป็นทั้งประเทศปลายทางและประเทศทางผ่านสำหรับแรงงานย้ายถิ่น บางส่วนได้ถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ มีการบังคับใช้แรงงานในกิจการประมง หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประมง ในโรงงาน และลูกจ้างทำงานบ้าน นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เสียหายบางส่วนถูกผลักดันกลับโดยมิได้มีกระบวนการคัดแยกเหยื่อตามขั้นตอนที่เหมาะสม ปราศจากหลักประกันความปลอดภัย บางรายถูกบังคับให้เป็นขอทานบนท้องถนน หรือเข้าสู่ธุรกิจการค้าประเวณีเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) เห็นถึงความพยายามแก้ไขปรับปรุงสถานการณ์ด้านการค้ามนุษย์ของรัฐบาลตั้งแต่ภายหลังจากมีรายงานประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2557 แต่ก็ยังปราศจากความรู้ความเข้าใจ ทำให้มาตรการที่ผ่านมาเป็นการปรามปรามมากกว่าการป้องกันและช่วยเหลือซึ่งทำให้ขาดมาตรการที่ต่อเนื่องและเป็นระบบในหลายประการ1. รัฐบาลไทยได้มีความพยายามมุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหาของกรณีแรงงานประมง ทั้งการปรับปรุงกฎกระทรวงในการคุ้มครองแรงงานประมง การพยายามขึ้นทะเบียนเรือประมงและแรงงานประมง แต่ยังไม่ปรากฏข้อมูลของการนำผู้ที่เกี่ยวข้องหรือนายจ้างที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์แรงงานประมงมาดำเนินคดีได้สำเร็จ2. รัฐบาลไทยได้พยายามปราบปรามกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ในกลุ่มผู้อพยพชาวโรฮิงญา มีการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 100 ราย แต่ก็มีหลักฐานที่ยืนยันว่ารัฐยังคงไม่สามารถหยุดยั้งกลุ่มขบวนการการค้ามนุษย์ได้ และการดำเนินคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญามักจะมีการพิพากษายกฟ้องจำเลยในคดี เนื่องจากกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ที่อ่อนแอมาก เจ้าหน้าที่ยังคงเน้นจำนวนตัวเลขของผู้ถูกจับกุมมากกว่าประสิทธิภาพ3. รัฐบาลไทยยังคงละเลยการให้ความคุ้มครองดูแลผู้เสียหาย และพยาน ที่เป็นเด็กและผู้หญิง รวมทั้งผู้ชายที่มีสถานะเข้าเมืองผิดกฎหมาย ยังไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน ไม่มีการสนับสนุน ช่วยเหลือและเสริมศักยภาพการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะบ้านพักเด็กและครอบครัวฯ สถานคุ้มครองผู้เสียหายฯ การทำงานของสหวิชาชีพยังคงถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงซึ่งไม่มีความรู้ความเข้าใจ ขาดการสนับสนุนล่ามในการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่ไม่มีสัญชาติ และขาดแนวทางการพิสูจน์สัญชาติ โดยเฉพาะการพิสูจน์สัญชาติของกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง อย่างแรงงานข้ามชาติ ผู้อพยพ และไม่มีความคืบหน้าในการป้องกัน ช่วยเหลือในกรณีของการตกเป็นแรงงานขัดหนี้4. รัฐบาลไทยยังคงไม่มีแนวทางในการให้ความคุ้มครองกลุ่มที่มีความเปราะบางเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่เป็นผู้ติดตามครอบครัว หรือเด็กที่เดินทางโดยลำพัง รวมถึงขาดกระบวนการคัดกรองที่ชัดเจน ทำให้มีเด็กบางส่วนถูกจัดให้อยู่ร่วมกับกลุ่มผู้ใหญ่ และหลายคนพลัดพรากจากผู้ปกครอง6. รัฐบาลยังคงปล่อยให้หน่วยงานความมั่นคงของรัฐข่มขู่ กดดันการทำหน้าที่ของภาคประชาสังคมและสื่อมวลชน โดยเฉพาะการฟ้องหมิ่นประมาทนักวิจัยและสื่อมวลชนที่นำเสนอเรื่องค้ามนุษย์ เช่น กรณีที่กองทัพเรือฟ้องสำนักข่าว Phuket Wan7. รัฐบาลยังไม่ได้ให้ความสำคัญในการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคมในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติที่ทั้งหมดเป็นข้าราชการประจำ หน่วยงานด้านความมั่นคง และทหาร ซึ่งทำให้กระบวนการจัดการแก้ไขปัญหาของรัฐยังเป็นลักษณะของการรวมศูนย์อำนาจการจัดการและยังขาดความรู้ความเข้าใจด้านการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์เพื่อให้เกิดการพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) จึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาลไทยดังนี้1. รัฐบาลจะต้องปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างของคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ โดยให้คณะกรรมการมีสัดส่วนจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะส่วนงานที่เป็นอิสระนอกเหนือจากหน่วยงานภาครัฐ และผลักดันให้เกิดคณะทำงานในระดับจังหวัด2. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีแนวทางการให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับสถานะและเงื่อนไขของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นไปหลักการสากล โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบชัดเจน รวมถึงติดตามและให้ความช่วยเหลือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง หรืออยู่นอกเหนือไปจากเงื่อนไขที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองอันเนื่องมาจากข้อจำกัดทางกฎหมายและหน่วยงานของรัฐ3. รัฐบาลจะต้องสนับสนุน สร้างหลักประกันทางกฎหมายให้กับองค์กรภาคประชาสังคม รวมถึงสื่อมวลชนในการทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ ปรับปรุงการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่อาจกระทบต่อการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ4. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องกำหนดแนวทางและมาตรการในการคัดแยกผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ที่มีความเกี่ยวพัน ทับซ้อนกับสถานะอื่นๆ ของผู้อพยพเคลื่อนย้ายอื่นๆ เช่น ผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ผู้แสวงหาที่พักพิง ผู้ลี้ภัย รวมถึงให้ความสำคัญกับกระบวนการพิสูจน์สัญชาติ และการให้หลักประกันความปลอดภัยแก่ผู้เสียหายก่อนจะดำเนินการส่งกลับประเทศต้นทาง โดยบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภายนอกภาครัฐที่เกี่ยวข้อง5. รัฐบาลจะต้องมีแนวทางการให้ความคุ้มครองสถานะ เหมาะสมกับเงื่อนไขของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นไปหลักการสากล และลดอุปสรรคในการเข้าถึงการปกป้องคุ้มครองตามกฎหมายของคนที่ไม่มีสถานะทางกฎหมายไม่เฉพาะแค่แรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย แต่รวมถึงผู้ติดตาม ผู้แสวงหาที่พักพิง และผู้ลี้ภัยเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) หวังว่าประเทศไทยจะใช้เงื่อนไขที่ถูกจัดให้อยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 เป็นโอกาสให้รัฐบาลไทยได้ทบทวนถึงสภาพปัญหาของการแก้ไขและปราบปราบการค้ามนุษย์ กระบวนการคุ้มครองและเยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยจัดให้มีการรับฟังหรือการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคมหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เพื่อสร้างวัฒนธรรมด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน การเยียวยาผู้เสียหาย และทำให้กระบวนการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของประเทศและภูมิภาคอาเซียนเติบโตไปได้พร้อมกับความมั่นคงของมนุษย์แบบยั่งยืนเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) | หวังไทยใช้เงื่อนไขที่ถูกจัดให้อยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 เป็นโอกาสทบทวนถึงสภาพปัญหาของการแก้ไขและปราบปราบการค้ามนุษย์ กระบวนการคุ้มครองและเยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ | การเมือง,คุณภาพชีวิต,แรงงาน | ค้ามนุษย์,เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ,แรงงานข้ามชาติ | https://prachatai.com/journal/2015/07/60585 |
ศาลสูงสหรัฐฯ มีมติห้ามเลิกจ้างแรงงานด้วยเหตุผลการเป็น LGBT | กลุ่ม LGBT ทั่วอเมริกาเฮ ศาลสูงลงมติคุ้มครองแรงงานไม่ให้ถูกนายจ้างปลดออกโดยอ้างเรื่องรสนิยมทางเพศ หรือการแสดงออกด้านอัตลักษณ์ทางเพศเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. คณะตุลาการศาลสูงสหรัฐฯ ลงมติ 6-3 เสียง เห็นชอบในการวินิจฉัยว่า ตามกฎหมายการจ้างงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ห้ามนายจ้างเลือกปฏิบัติ ห้ามเหยียดเพศ ต่อพนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือกลุ่ม LGBT ยังรวมไปถึงการแสดงออกเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศในการแสดงออกว่าตัวเองเป็นเพศไหนด้วย ส่งผลให้การที่นายจ้างบอกเลิกจ้างพนักงานด้วยเหตุผลว่าเป็นเกย์ เลสเบี้ยน คนข้ามเพศ หรือรักเพศเดียวกัน เป็นการละเมิดต่อกฎหมายสิทธิพลเมือง Title VII of the Civil Rights Act of 1964โดยคำวินิจฉัยของศาลครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะของบรรดาแรงงานกลุ่ม LGBT และเครือข่ายพันธมิตรทั้งหมดในสหรัฐฯด้านนายจอห์น โรเบิร์ตส์ หัวหน้าคณะตุลาการศาลสูง และนายนีล กอร์ซีส ผู้พิพากษาแนวทางอนุรักษนิยม ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างออกเสียงสนับสนุนตุลาการฝ่ายเสรีนิยมอีก 4 คน ส่งผลให้มีตุลาการที่ออกเสียงสนับสนุนรวมเป็น 6 คนโดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2558 คณะกรรมการพิจารณาโอกาสการจ้างงานอย่างเท่าเทียม (Equal Employment Opportunity Commission) ในสมัยรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้มีคำตัดสินห้ามนายจ้างเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกลุ่ม LGBT แต่รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ กลับเลือกเข้าข้างบรรดานายจ้างที่ถูกฟ้องร้องว่าเลือกปฏิบัติต่อลูกจ้างที่มีความหลากหลายทางเพศถึง 3 คดีด้วยกัน โดยคำตัดสินที่เกิดขึ้นได้นำมาสู่การตัดสินล่าสุดของตุลาการศาลสูงสหรัฐฯ. | กลุ่ม LGBT ทั่วอเมริกาเฮ ศาลสูงมีมติคุ้มครองแรงงานไม่ให้ถูกนายจ้างปลดออกโดยอ้างเรื่องรสนิยมทางเพศ หรือการแสดงออกด้านอัตลักษณ์ทางเพศเพศ | ข่าว,ต่างประเทศ | LGBT,เกย์,เลสเบี้ยน,กฎหมาย,คนข้ามเพศ,ห้ามเลิกจ้าง | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1869813 |
คนปทุมฯ เตรียมแผนรับมือพระธุดงค์ธรรมกาย จ่อยื่นร้องผู้ว่าฯ 29 ธ.ค. | เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2558 ที่บริเวณหน้าป้ายคัตเอาต์เกาะกลางถนนปทุมธานี-รังสิต ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี นายคิว อรุโณรส ผู้ประสานงานพุทธศาสนิกชนคนปทุมธานี พร้อม น.ส.พลอยวิพร ธรรมศิริสุนทร เครือข่ายสตรีปกป้องพระพุทธศาสนา และนายวีระ ศรีพิทักษ์ ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน ออกมาตรวจสอบความเรียบร้อยป้ายคัดค้านกิจกรรมบุญเดินธุดงค์ ของทางวัดพระธรรมกาย ซึ่งมีการติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ มีข้อความว่า หยุดธรรมกาย หยุดธุดงค์ธรรมชัย หยุดเส้นทางธัมมชโย ซึ่งป้ายนี้ไม่ได้ถูกทำลายแต่อย่างใด,นายคิว กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้า พวกตนทำหนังสือไปแจ้งยัง สภ.เมืองปทุมธานี ให้รับทราบว่า ในวันที่ 29 ธ.ค. กลุ่มคัดค้านจะไปยื่นหนังสือเปิดผนึก ต่อนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ในเรื่องเกี่ยวกับกิจกรรมบุญธุดงค์ธรรมชัย ของวัดพระธรรมกาย ที่เห็นว่าเป็นการบิดเบือนพระธรรมวินัย บิดเบือนหลักพุทธศาสนา โดยจะยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ ในช่วงเช้า ยึดสันติอหิงสา ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ซึ่งทางตำรวจก็อนุญาตให้ทำหนังสือได้ และนอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือถึง พล.ต.ต.ถาวร ขาวสะอาด ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี อีกด้วย ขอยืนยันว่าทางกลุ่มจะยึดหลักของกฎหมาย และทำตามกฎระเบียบของ คสช.อย่างเคร่งครัด,น.ส.พลอยวิพร กล่าวว่า ในฐานะกลุ่มสตรี ไม่อยากให้ทางวัดธรรมกายมาสร้างความเดือดร้อน ย่ำยีหัวใจคนไทย ดังนั้น จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่รักความเป็นจริงรักความสงบ และผู้ที่รักความถูกต้องให้มาร่วมกันในวันพรุ่งนี้ และเราขอย้ำว่าเราไม่ได้มาชุมนุม แต่เราจะมาร่วมกันสวดมนต์ เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา,ขณะที่นายวีระกล่าวว่า กิจกรรมในวันพรุ่งนี้จะเริ่มเวลา 09.09 น. จะมีการอ่านจดหมายเปิดผนึก ที่จะยื่นให้กับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ว่าถ้าปล่อยให้มีการเดินธุดงค์ธรรมชัยเข้ามาในเขตชุมชน เป็นการผิดหลักตามที่พระพุทธศาสนาและพระพุทธเจ้าได้บัญญัติไว้ ทางเราก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ส่วนจะมีแผนการใดนั้น ได้มีการเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ทางกลุ่มอยากจะให้ทางผู้ว่าฯ และประชาชนทั่วไปรับรู้ว่าการเดินธุดงค์ของวัดพระธรรมกาย ว่าทำถูกต้องหรือไม่ คาดว่าในวันพรุ่งนี้จะมีผู้ร่วมกิจกรรมคัดค้านการเดินธุดงค์จำนวนมาก โดยเราได้เตรียมแผนรับมือการเดินธุดงค์ครั้งนี้ไว้แล้ว,วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังตัวแทนของทางวัดพระธรรมกาย เพื่อให้ชี้แจงในกรณีที่เกิดขึ้น ได้รับคำตอบว่าทางวัดพระธรรมกาย จะไม่มีการตอบโต้แต่อย่างใด และจะเดินหน้าทำกิจกรรมธุดงค์ธรรมชัยต่อไป แต่อาจจะมีการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในวันที่ 2 ม.ค. 59 เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น. | กลุ่มต่อต้านเดินธุดงค์ธรรมยาตรา วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี เตรียมยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงผู้ว่าฯ วันพรุ่งนี้ ลั่นมีแผนจัดการแน่นอน หากยังไม่ล้มเลิกการเดินธุดงค์ ด้านธรรมกายไม่ตอบโต้ เตรียมเปิดแถลงข่าววันที่ 2 ม.ค. 59 | null | วัดพระธรรมกาย,คัดค้านกิจกรรมบุญเดินธุดงค์,เดินธุดงค์ธรรมกาย,พลอยวิพร ธรรมศิริสุนทร,คิว อรุโณรส,พุทธศาสนิกชนคนปทุมธานี,เครือข่ายสตรีปกป้องพระพุทธศาสนา,ชาวบ้านปทุมธานี,กิจกรรมบุญธุดงค์ธรรมชัย,ธุดงค์ธรรมชัย,ปทุมธานี,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/555510 |
ไม่แคร์ คนด่าลูกหมา ไขปมคนกินนมหมา แพทย์ชี้อันตรายถึงชีวิต | สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มนุษย์เลี้ยงไว้เพื่อเป็นเพื่อนเล่น หรือเฝ้าบ้าน จึงไม่แปลกที่ใครหลายคนต่างรักและผูกพันต่อสุนัขของตนมาก ถึงขั้นพาติดตัวไปทุกที่เหมือนเพื่อนคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ อย่างกรณีของพ่อเฒ่า วัย 79 ปี ระบุว่า รอดชีวิตมาได้ เพราะกินนมสุนัข เนื่องจากแม่แท้ๆ ป่วย ไม่มีน้ำนมให้ จึงถือว่าแม่สุนัขตัวนี้มีบุญคุณต่อตนมาก และทุกวันนี้ใครด่าหรือเรียกตนว่า ลูกหมา ตนไม่เคยว่า เพราะหมามีบุญคุณเลี้ยงมาจนโต รอดตายมาได้เพราะนมหมา,หลายคนอาจจะค้างคาใจ ว่า จริงๆ แล้ว นมสุนัขสามารถรับประทานได้จริงหรือ? และจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อเด็กหรือไม่ ? ในวันนี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ได้สอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านนมเด็ก ,พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด รพ.BNH และอนุกรรมการมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย และผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อ.นสพ.ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร อาจารย์ประจำภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, เพื่อมาตอบทุกข้อสงสัยและให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้,กินนมสุนัข ตั้งแต่เด็กจนโต เป็นไปได้ จริงหรือ?,พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด รพ.BNH และอนุกรรมการมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย, กล่าวว่า การกินนมสุนัขมาตั้งแต่วัยแรกเกิดจนโต โดยที่ไม่ได้กินนมอื่นๆ หรือรับประทานอาหารร่วมด้วยนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน เนื่องจากนมจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ต้องผ่านกระบวนการดัดแปลงเป็นนมผง กระบวนการพาสเจอร์ไรส์ หรือสเตอริไรส์ รวมถึงกระบวนการทำให้ปลอดภัยในระดับที่สามารถรับประทานได้ มิเช่นนั้น อาจส่งผลให้เด็กเป็นโรคท้องร่วง หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากเด็กยังเป็นวัยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ รวมถึงน้ำนมสุนัขนั้นไม่ได้ถูกปรุงแต่งมาสำหรับมนุษย์, พญ.สุธีรา ระบุ,พญ.สุธีรา กล่าวอีกว่า เคยมีงานวิจัยเกี่ยวกับน้ำนมจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยใช้หนูทดลอง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ นมแม่หนู กับ นมวัว ผลการทดลองสรุปว่า หนูที่กินนมจากแม่วัว ค่อยๆ ทยอยตาย เนื่องจากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ซึ่งโดยธรรมชาติขของหนูเป็นสัตว์ที่ต้องการโปรตีนค่อนข้างมาก แต่ในนมวัวมีปริมาณโปรตีนน้อย จึงส่งผลให้หนูทดลองกลายเป็นโรคขาดสารอาหารและตายในที่สุด,ทั้งนี้ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด รพ.BNH และอนุกรรมการมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เสนอแนะอีกว่า สำหรับคุณแม่ที่ไม่สามารถให้นมแก่ลูกได้ เช่น แม่เป็นโรคเอดส์ หรือองค์ประกอบอื่นๆ ที่ทำให้ไม่มีน้ำนม กรณีนี้สามารถทำเรื่องขอนมฟรีได้ที่โรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลจะพิจารณาแต่ละกรณี เช่น แม่ไม่สามารถให้นมแก่ลูกได้เพราะอะไร หรือไม่มีเงินซื้อนม เนื่องจากฐานะยากจน เป็นต้น ,รู้หรือไม่? นมสุนัข คุณค่าอาหารสูงกว่า นมวัว 10 เท่าตัว,ด้าน ,อ.นสพ.ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร อาจารย์ประจำภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, อธิบายว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะมีน้ำนมได้ก็ต่อเมื่อมีการตั้งท้องและมีลูก ดังนั้น เมื่อคลอดลูกออกมา ฮอร์โมนในร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างน้ำนมขึ้น และเมื่อฮอร์โมนเริ่มลดลงหรือลูกสุนัขหย่านมไปได้ 1-2 เดือน น้ำนมสุนัขจะลดลงและหมดไป สุนัขที่มีอายุมาก กระบวนการสร้างน้ำนมจะยิ่งด้อยทั้งปริมาณและคุณภาพ,โดยองค์ประกอบของน้ำนมในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประกอบด้วยสารไขมันนม โปรตีน น้ำตาล และแร่ธาตุ ซึ่งจะมีปริมาณและความเข้มข้นของแร่ธาตุแตกต่างกัน ข้อดีของน้ำนมสุนัข คือ มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่านมวัว เนื่องจากนมสุนัขมีความเข้มข้นของไขมันนมและโปรตีนสูงกว่าในนมวัว ประมาณ 10 เท่าตัว โดยไขมันในนมวัว มีอยู่ 4 เปอร์เซ็นต์ และนมสุนัข มีอยู่ 8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนโปรตีนในนมวัว มีอยู่ 3.5-3.7 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่โปรตีนในนมสุนัข มีมากถึง 9.5 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีข้อสรุปว่า นมสุนัขมีประโยชน์กว่านมวัว แต่จะกล่าวได้ว่า นมสุนัขมีคุณค่าทางอาหารสูง เพียงแต่มีปริมาณน้ำนมน้อย ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ควรจะได้รับ,นมสุนัข มีประโยชน์ กินได้ แต่? ,อ.นสพ.ดร.ทิลดิสร์ เปิดเผยว่า น้ำนมจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถรับประทานได้หมด ขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์ เนื่องจากสัตว์แต่ละชนิดจะมีการดึงแคลเซียมในร่างกาย เพื่อสร้างแคลเซียมให้ลูกของมันกิน ดังนั้น น้ำนมของสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นวัว แพะ สุนัข และแมว ต่างมีประโยชน์ทั้งสิ้น โดยมนุษย์สามารถรับประทานได้ก็ต่อเมื่อน้ำนมสะอาด ปราศจากอันตราย และไม่มีการปนเปื้อน,แม่สุนัขจะมีน้ำนมได้ จะต้องมีลูกสุนัข ดังนั้น เมื่อคนกินนมสุนัขเท่ากับเป็นการแย่งน้ำนมลูกสุนัขกิน ทำให้ลูกสุนัขได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ซึ่งคนก็เช่นกัน เนื่องจากสุนัขมีปริมาณน้ำนมค่อนข้างน้อย ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการและสารอาหารที่ของมนุษย์ควรจะได้รับ ฉะนั้น การกินนมสุนัขเป็นอาหารหลัก ไม่มีอาหารหรือนมอื่นๆ ร่วมด้วย เชื่อว่าไม่มีทางเป็นไปได้ และคาดว่าพ่อเฒ่ารายนี้น่าจะกินอาหารอื่นร่วมด้วย ,สิ่งปนเปื้อน เต้าสุนัข อันตรายมากแค่ไหน? ,โดยธรรมชาติสุนัข เป็นสัตว์ที่ใช้ชีวิตและนอนแนบกับพื้น มีโอกาสสูงที่เต้านมจะได้รับความสกปรกจากสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ทั้งแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งแตกต่างจากวัว แม้จะเป็นสัตว์ที่นอนแนบกับพื้นเช่นเดียวกับสุนัข แต่เนื่องจากนมวัวต้องผลิตเป็นอุตสาหกรรมเชิงธุรกิจ ดังนั้น นมวัวจะผ่านกระบวนการรีดและทำความสะอาด รวมถึงผ่านการตรวจคุณภาพสามารถรับประทานได้ และไม่เป็นอันตรายต่อคน, อ.นสพ.ดร.ทิลดิสร์ กล่าว,เด็กดูดนมจากเต้าสุนัข เสี่ยงท้องเสีย อันตรายถึงชีวิต,อ.นสพ.ดร.ทิลดิสร์ กล่าวอีกว่า ปนเปื้อนและแบคทีเรียต่างๆ ที่ปะปนมากับน้ำนม เมื่อเด็กดูดนมจากเต้าสุนัข ส่งผลให้เด็กมีโอกาสท้องเสียและโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เนื่องจากเด็กยังเป็นวัยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ดังนั้น อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็กมีสูงมาก,สุนัข เป็นสัตว์ที่มีปริมาณน้ำนมน้อย จึงไม่เพียงพอต่อความต้องการและคุณค่าอาหารที่เด็กควรได้รับ ทำให้มีผลต่อพัฒนาเด็กและสมอง ซึ่งไม่ได้เกิดจากองค์ประกอบในน้ำนมสุนัข เพราะน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีองค์ประกอบเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่ปริมาณและความเข้มข้นของแร่ธาตุ,ในทางสัตวแพทย์ หากลูกสุนัขดูดนมจากเต้านมแม่สุนัข โดยที่แม่สุนัขมีปัญหาเรื่องเต้านมอักเสบและเป็นหนอง จะส่งผลให้ลูกสุนัขเกิดท้องเสียทันที จะมีอาการเสียน้ำและเกลือแร่เป็นจำนวนมาก มีโอกาสที่จะเสียชีวิตได้ ส่วนกรณีที่คนดูดนมสุนัขจากเต้า มีโอกาสเสียชีวิตหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณของเชื้อที่ปนเปื้อนมากับเต้านมและปริมาณน้ำนมที่กินเข้าไป , อ.นสพ.ดร.ทิลดิสร์ กล่าวทิ้งท้าย,สุนัข ขึ้นชื่อว่าเป็น เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ดังนั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ อาจจะเป็นเพียงความเชื่อ หรือข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งของสังคม แต่อย่างไรก็ดี น้ำนมสุนัขไม่ได้มีปริมาณที่มากพอต่อความต้องการหรือพัฒนาของมนุษย์ ลำพังชีวิตลูกสุนัขนับสิบตัวก็แทบจะไม่พอกินอยู่แล้ว รวมถึงการกินนมสุนัขนั้น เป็นสิ่งที่สังคมไม่ให้การสนับสนุนเท่าที่ควร | หายคนอาจจะค้างคาใจว่า จริงๆ แล้ว นมสุนัขสามารถรับประทานได้จริงหรือ ? กินไปแล้วอันตรายหรือไม่ และเพียงพอต่อพัฒนาการเด็กที่ควรจะได้รับแค่ไหนวันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านนมเด็กและสัตวแพทย์มาให้ความรู้ในเรื่องนี้ | null | คนกินนมหมา,พ่อเฒ่ากินนมหมา,นมหมากินได้หรือไม่,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,คุณค่าน้ำนมหมา,สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม,นมหมาอันตรายหรือไม่,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว,นมหมา,กินนมหมา,นมสุนัข,ดื่มนมกันเถอะ | https://www.thairath.co.th/content/522671 |
ไทยตอนบนอากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ภาคกลางฝุ่นสะสมน้อย | วันที่ 7 เม.ย. 2563 กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วยเมื่อเวลา 04.00 น. ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นฝุ่นละอองในระยะนี้ ลมใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีกำลังแรง ทำให้การสะสมของ ฝุ่นละออง/หมอกควันยังคงน้อย ส่วนภาคเหนือตอนบนอากาศลอยตัวขึ้นได้ไม่ดีในตอนเช้า เกิดการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันมาก ส่วนมากทางตอนบนของภาคพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 น.วันนี้ ถึง 06:00 น.วันพรุ่งนี้ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ภาคตะวันออก อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว และฉะเชิงเทรา อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. | วันนี้ไทยตอนบนมีอาการร้อนถึงร้อนจัด รวมทั้งมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยเฉพาะภาคอีสานที่มีฝนครอบคลุมถึงร้อยละ 30 ของพื้นที่ | ข่าว,ทั่วไทย | สภาพอากาศวันนี้,สภาพอากาศ,พยากรณ์อากาศ,กรมอุตุนิยมวิทยา,ฝนฟ้าคะนอง,ฝนตก,อากาศร้อน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1813858 |
อนุ กมธ. คณะ 6 ชี้ 5 ปมกระจายอำนาจ-ท้องถิ่น | 1.ปัญหาเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไม่มีความต่อเนื่องในการดำเนินการ ฝ่ายบริหารไม่ให้ความสำคัญในการกระจายอำนาจจริง 2.ปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการจัดทำบริการสาธารณะที่ซ้ำซ้อนกับส่วนกลาง 3.ปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ราชการส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่น ที่ส่วนกลางไม่ให้ความเป็นอิสระในการบริหารงานส่วนท้องถิ่น 4.ปัญหาเชิงโครงสร้างและรูปแบบ อปท. 5.ประชาชนขาดการมีส่วนร่วมในการบริหารงานของ อปท.,พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวต่อว่า โดยอนุ กมธ.ได้เสนอหลักการสำคัญที่ควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 9 ข้อคือ 1. กำหนดบทบัญญัติให้มีความสำคัญในการกระจายอำนาจของ อปท. 2.ให้มีกฎหมายสาระสำคัญที่ต่อเนื่องและบังคับใช้ได้จริงต่อ อปท. 3.อปท.ต้องเป็นหน่วยงานหลักในการจัดบริการสาธารณะพื้นฐานในท้องถิ่น การสร้างความมั่นคง ทางการศึกษาและสังคมของท้องถิ่น 4.ให้อปท.มีอิสระในการบริหารจัดการตอบสนองความต้องการ แก้ปัญหาที่หลากหลายในพื้นที่,5. ให้ปรับปรุงระบบการบริหารงานของ อปท.ทุกด้าน 6.ให้ อปท.มีอิสระ มีมาตรฐานกลาง 7.ปรับระบบความสัมพันธ์ราชการส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่นให้ อปท.เป็นหน่วยงานหลักในการจัดการบริการสาธารณะ 8.การเปิดโอกาสให้ อปท.มีโครงสร้าง รูปแบบที่หลากหลายยึดโยงประชาชน มีศักยภาพให้บริการทั่วถึง 9. การส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารงานใน อปท.เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของโดยเฉพาะโครงการที่มีผลกระทบ ,พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวต่อว่า การประชุมกรรมาธิการยกร่างฯในวันที่ 9 ธ.ค.เวลา 10.00 น. จะพิจารณาในการสร้างความปรองดอง โดยมีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน จากนั้นวันที่ 11 ธ.ค. จะพิจารณาเรื่ององค์กรตามรัฐธรรมนูญ และวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เวลา 09.30 น. พรรคเพื่อไทย ได้มอบหมายให้นายโภคิน พลกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยมาให้ข้อมูล ความเห็นและให้ข้อเสนอแนะต่อกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ วันเดียวกันในช่วงบ่ายจะเป็นการพิจารณาเรื่องสถาบันการเมือง ชุดนายสุจิต บุญบงการ เป็นประธาน และในวันที่ 15-17 ธ.ค. จะมีการพิจารณารายละเอียดของสปช.ก่อนที่จะส่งให้ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อไป ซึ่งจะมีการเปิดให้ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ด้วย | อนุกรรมาธิการคณะ 6 ชี้ 5 ปมกระจายอำนาจ-ท้องถิ่น ชง 9 ข้อแก้ปัญหา เพิ่มอิสระ-ลดซ้ำซ้อน แจงตารางการทำงาน กรรมาธิการยกร่างฯ | null | เลิศรัตน์ รัตนวานิช,โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ,โฆษก กมธ.,ยกร่าง รธน.,สถาบันการเมือง,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/467936 |
ภูริต ซิ่งระห่ำ ขึ้นโพเดียมศึกบลองค์แปง จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ | 2019 เรซแรก ที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย,วันที่ 6 เม.ย. การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ บลองค์แปง จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย ที่กลายเป็นการแข่งขันรถยนต์จีที แชมเปียนชิพ ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย ประเดิมฤดูกาลด้วยรถแข่งทั้งหมด 30 คัน โดยเฉพาะในรุ่นจีที 3 มีรถร่วมแข่งถึง 25 คัน เป็นสถิติใหม่ของสนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เลยทีเดียว,สำหรับการชิงชัยในเรซแรก ใช้เวลา 60 นาที บนสนามความยาว 5.543 กิโลเมตร ภูริต ภิรมย์ภักดี กับรถออดี้ อาร์ 8 แอลเอ็มเอส จีที 3 อีโว หมายเลข 59 ออกสตาร์ตในกริดสตาร์ตอันดับ 11 แต่นักขับชาวไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ขยับอันดับขึ้นมาอยู่ที่ 5 ก่อนจะเปลี่ยนมือให้ กันตศักดิ์ กุศิริ ลงมาขับเข้าเส้นชัยในอันดับ 4 โอเวอร์ออล และสร้างผลงานเป็นอันดับ 2 ของรุ่นโปรแอม ได้ขึ้นโพเดียมประเดิมตั้งแต่สนามแรกของฤดูกาล โดยสิงห์-แพลนบี บาย แอบโซลูท เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 31.056 วินาที,ด้านอันดับ 1 โอเวอร์ออล หลังผ่าน 1 ชั่วโมงของการแข่งขัน เจฟฟรีย์ ลี นักขับชาวไต้หวัน และ อเลสซิโอ พิคาเรียลโล จากเบลเยียม 2 นักขับของทีมคราฟท์-แบมบู เรซซิ่ง ในรถเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที 3 หมายเลข 88 ซึ่งเป็นรถในรุ่นโปรแอมเช่นกัน เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 3.877 วินาทีอันดับ 2 เอ็มจี ชอย นักขับชาวเกาหลีใต้ และ กาเบรียลเล เพียนา นักขับชาวอิตาลี ของทีมโซไลท์ อินดิโก เรซซิ่ง ในรถเมอร์เซเดซ-เอเอ็มจี จีที 3 หมายเลข 97 ที่ตามหลังเข้ามา 4.604 วินาที และอันดับ 3 เฟอร์รารี 488 จีที 3 หมายเลข 27 ของทีมฮับออโต คอร์ซา ที่ขับโดย ยูยะ ซากาโมโต และ เดวิด รัสเซลล์ ที่ทำเวลาเข้ามา 1 ชั่วโมง 12.804 วินาที | ภูริต ภิรมย์ภักดี และ กันตศักดิ์ กุศิริ 2 นักขับทีมสิงห์-แพลนบี บาย แอบโซลูท เรซซิ่ง เข้าเส้นชัยอันดับ 2 รุ่นโปรแอม ประเดิมโพเดียมศึกรถยนต์ทางเรียบ บลองค์แปง จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | ภูริต ภิรมย์ภักดี,กันตศักดิ์ กุศิริ,รถยนต์ทางเรียบ,บลองค์แปง จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย,สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต | https://www.thairath.co.th/sport/others/1538945 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.