title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
อนุสาร อ.ส.ท. | ที่น่าเสียดายที่สุดในสายตาของสังคมคือ คู่สร้าง คู่สม ของ ดำรง พุฒตาล, ,ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเป็นไปตามวิถีที่ควรจะเป็น จึงมี อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโส ของ ททท. ปรารภถึง นิตยสารเล่มหนึ่ง ซึ่งคงอยู่คู่สังคมไทยมานาน คือ อนุสาร อ.ส.ท. ซึ่งเป็นหนังสือของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ คือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ยืนหยัดมาตั้งแต่ปี 2503 สมัยก่อตั้งองค์กร จนถึงปีนี้ 58 ปีเต็มๆ,โดยไม่หล่นหายตายจากจนวันนี้แม้จะประสบชะตากรรมเดียวกับหนังสือทุนหนาคู่ตลาดมานาน เหมือนฉบับอื่นๆ โดยระบุว่าประวัติหนังสือเล่มนี้เกิดจากวิสัยทัศน์ของคนชื่อ,พันเอก เฉลิมชัย จารุวัสตร์ (ยศขณะนั้น) อดีตผู้อำนวยการ อ.ส.ท.คนแรก คราก่อตั้งหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อหารายได้เข้าประเทศ และส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวในประเทศ ป้องกันเงินไหลออกให้ต้องเสียดุลการท่องเที่ยว พันเอก เฉลิมชัย วิเคราะห์ตลาดขณะนั้นแล้ว เห็นว่าการดำเนินงานด้านตลาด ชวนไทยเที่ยวไทย ลำพังแค่การให้ข้อมูลผ่านระบบโทรศัพท์ เปิดเคาน์เตอร์ให้บริการข่าวสาร พิมพ์โปสเตอร์ เอกสารแผ่นพับ แผ่นปลิว ทำภาพยนตร์สารคดีท่องเที่ยวเผยแพร่ คงไม่พอ,จึงคิดออกหนังสือชื่ออนุสาร อ.ส.ท. เพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ในเชิงสาระคู่กับคดีที่หมายถึงเรื่อง กลายมาเป็นสารคดีท่องเที่ยว โดยมีลีลาการนำเสนอให้น่าสนใจ จนเกิดความคิดวางแผนเดินทาง ซึ่งก็ได้ผลด้วยมีสมาชิกตอบรับอย่างกว้างขวางในเวลาต่อมา,มีข้อน่ารู้อีกอย่างหนึ่งว่า การผลิตหนังสือเล่มนี้ที่ผ่านๆมา ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปบันทึกภาพข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว แล้วออกแบบและพิมพ์ด้วยยอดพิมพ์เคยสูงถึงเดือนละ 70,000 ฉบับนั้น มิได้ใช้งบประมาณแผ่นดินประจำปี หากแต่ใช้งบรายได้จากการจำหน่ายหนังสือ ที่มียอดคืนกลับเดือนละ 10% ส่วนหนึ่ง กับการขายพื้นที่โฆษณาอีกส่วนหนึ่งเลี้ยงตัวเอง,ถือเป็นการสร้างมูลค่าด้านส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวในประเทศ สูงไม่ต่างการใช้อุปกรณ์เครื่องมือดำเนินการตลาดด้านอื่นๆ,วินิจ รังผึ้ง ผู้ทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารคนล่าสุด ยอมรับวิกฤตการณ์ตลาดหนังสือครั้งนี้ มีส่วนกระทบต่ออนุสาร อ.ส.ท.อยู่บ้าง ทางด้านเงินทุนหมุนเวียนการผลิต แต่เมื่อวัตถุประสงค์หลักของหนังสือเล่มนี้ คือต้องการให้เป็นคู่มือสำหรับขายไทยเที่ยวไทย จึงพร้อมจะปรับกระบวนการผลิตให้สอดรับกับงบลงทุน โดยยืนยันจะยังคงดำเนินการต่อไปเช่นปกติ,โดย ททท. ได้เริ่มนำมาตรการ อัฐตาซื้อขนมยาย ด้วยการนำงบส่งเสริมสนับสนุน การจัดกิจกรรมงานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นต่างๆ มาซื้อพื้นที่โฆษณากิจกรรมนั้นๆ ขณะเดียวกันก็ได้ประสานงานพันธมิตร,ผู้ประกอบธุรกิจขายสื่อโฆษณามาร่วมดำเนินงานในส่วนนี้บก.วินิจ ยังบอกอีกว่า นอกจากนี้อนุสาร อ.ส.ท.ยังได้สร้างนวัตกรรมใหม่ ให้ทันกับเทรนด์ตลาดท่องเที่ยวยุคปัจจุบัน ด้วยการสร้างช่องทางการสื่อสารผ่านระบบออนไลน์ ให้กับสมาชิกหรือผู้สนใจที่จะบริโภควิธีการขายท่องเที่ยว ของอนุสาร อ.ส.ท.ผ่าน Facebook : ,อนุสาร อ.ส.ท., และ ,www.osothomagazine.com, ได้อีกด้วย,ก้าวใหม่ของ อนุสาร อ.ส.ท.คงสร้างความพึงใจให้สมาชิกทั้งดั้งเดิมและหน้าใหม่,ซี.12 | มาถึงวันนี้วงการหนังสือต้องหยุดตัวเองไปแล้วหลายเล่ม จากกระแสการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโลกปัจจุบันยุคสังคมดิจิทัล ที่น่าเสียดายที่สุดในสายตาของสังคมคือ คู่สร้าง คู่สม ของ ดำรง พุฒตาล | null | สังคมดิจิทัล,คู่สร้างคู่สม,อนุสาร อ.ส.ท.,มุมข้าราชการ,ซี.12 | https://www.thairath.co.th/news/politic/1231466 |
อัดแพ็กเกจภาษีฟันธุรกิจ ผับบาร์-สนามกอล์ฟ-บุหรี่-น้ำผลไม้ ได้ประโยชน์ | นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยระหว่างมอบนโยบายให้แก่ข้าราชการเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เห็นชอบแพ็กเกจภาษีสรรพสามิตเพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจและประชาชน หลังโควิด-19 คลี่คลาย โดยในส่วนสถานบริการนั้นจะจัดเก็บภาษีในอัตรา 0% จนถึงวันที่ 30 ก.ย.2563 แต่มีเงื่อนไขคือต้องจ้างแรงงานไว้เท่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการขยายเวลาเขตปลอดอากร เพื่อการส่งออกและนำเข้าสินค้าให้มากขึ้น จากเดิมมีกรอบเวลาไว้ 15-20 วัน โดยขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลังพิจารณาอยู่ว่า จะขยายระยะเวลาออกเป็นเท่าไรทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า ครม.ได้เห็นชอบมาตรการทางภาษีสรรพสามิตเพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีธุรกิจสถานบริการที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต อาทิ ผับ บาร์ อาบอบนวด สนามม้า สนามกอล์ฟ เป็นต้น เริ่มตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ไปจนถึง 30 ก.ย.2563 นอกจากนี้ ยังเลื่อนเวลาการปรับภาษีบุหรี่และยาเส้นออกไปอีก 1 ปี จากเดิมมีแผนปรับภาษีบุหรี่ในมูลค่าอัตราเดียว 40% ของราคาขายปลีกแนะนำ ในช่วงเดือน ต.ค.2563 ให้เลื่อนไปเป็นต.ค.2564อย่างไรก็ตาม ครม.ยังมีมติลดภาษีให้กับเครื่องดื่มนวัตกรรมที่มีสัดส่วนผสมน้ำผักและผลไม้ต่ำกว่า 10% ของผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำถั่วแดง น้ำข้าวโพด น้ำมะเขือเทศ เป็นต้น ให้เสียภาษีแค่ 3%รวมถึงปรับลดภาษีรถสามล้อไฟฟ้าลงเหลือ 2% ส่วนสินค้านำเข้าและส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินทั่วโลก ครม.เห็นชอบขยายเวลาการชำระภาษีให้กับสินค้าทุกชนิดที่อยู่ในพิกัดสรรพสามิต ที่เก็บอยู่ในคลังสินค้าสนามบิน ให้สามารถยืดเวลาการชำระภาษีออกไปได้จากเดิมที่กำหนดไว้ 7-15 วัน. | โดยมติดังกล่าวยังเป็นความลับจนกว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ แพ็กเกจดังกล่าวจะช่วยเหลือกลุ่มบุหรี่ ยาเส้นรถยนต์ น้ำผลไม้ และสถานบริการ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ภาษีสรรพสามิต,ผับ-บาร์,สนามกอล์ฟ,บุหรี่,น้ำผลไม้,กรมสรรพสามิต,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1867920 |
กกต.ใช้สูตร 27 พรรคได้ปาร์ตี้ลิสต์ นครปฐม ปชป.ชนะอนาคตใหม่ แค่ 4 คะแนน | วันที่ 29 เม.ย. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ กรณีสูตรการคำนวณคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ(ปาร์ตี้ลิสต์) ที่มีข่าวจะเสนอ 3 สูตร ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต.เลือกเคาะ ว่า ตอนนี้ขอยืนยันว่า สูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีเพียงสูตรเดียว คือ สูตรที่ กรรมการร่าง รธน. (กรธ.) เป็นผู้คิดและเป็นผู้เสนอ ยืนยันไม่มีสูตรอื่น คือมี 27 พรรคการเมืองได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนสูตรของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร หรือ นายโคทม อารียา อดีต กกต. ที่มี 16 พรรคการเมืองได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้นไม่ใช่ ,พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวต่อว่า กกต.ไม่ได้กังวลว่า ถ้า กกต.ใช้สูตรของ กรธ.แล้วจะเกิดการร้องเรียนไปที่ศาล รธน. จากพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วย เพราะอย่างกรณีที่ระบุว่า สูตรนี้อาจมีปัญหา เพราะหากใช้เกณฑ์พรรคการเมืองได้คะแนน 7.1 หมื่นคะแนนจะได้ ส.ส. 1 คน แต่สูตรนี้จะทำให้พรรคการเมืองเล็กบางพรรคอาจได้คะแนนแค่ 3-4 หมื่นคะแนนก็ได้ ส.ส. 1 คนนั้น อันนี้ก็อย่างที่ นายอุดม รัฐอมฤต โฆษก กรธ.เคยให้สัมภาษณ์ ส.ส.เขตเอง บางเขตได้ 2 หมื่นคะแนนยังได้เป็นส.ส. ,เลขาธิการ กกต. กล่าวต่อว่า ถึงตอนนี้ กกต.มั่นใจว่า จะสามารถประกาศรับรอง ส.ส.ได้ครบ 95% เพื่อเปิดสภาผู้แทนราษฎร และมีรัฐบาลใหม่ได้แน่ ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ หากศาล รธน.ไม่มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เพราะผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องให้ศาลวินิจฉัย ,ส่วนกรณีการสั่งนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ของ เขต 1 จ.นครปฐม เมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งมีข่าวว่า ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พลิกกลับมาชนะผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส.เพิ่มอีก 1 คนนั้น ล่าสุด (ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ) พรรคประชาธิปัตย์ชนะพรรคอนาคตใหม่ เพียง 4 คะแนนเท่านั้น เลขาธิการ กกต. กล่าว,ส่วนคำถามว่า ผลคะแนนที่พลิกกลับไปกลับมาสูสีแบบนี้ จะทำให้เขตเลือกตั้งอื่นที่มีคะแนนสูสีกัน อาจร้องขอให้นับคะแนนหรือเลือกตั้งใหม่ ไม่หวั่นวุ่นวายหรือ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เป็นห่วงในเรื่องนั้น เพราะการจะนับคะแนน หรือเลือกตั้งใหม่ มันต้อง มีเหตุมีผล ไม่ใช่ใครจะมาร้องแล้ว กกต.ต้องทำตาม | เลขาธิการ กกต.เผย ใช้สูตรคำนวณ 27 พรรคการเมือง ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ มั่นใจ 9 พ.ค. รับรอง ส.ส.ครบ 95% ได้แน่ ล่าสุดผลนับคะแนนเลือกตั้งเขต 1 นครปฐม ปชป.ชนะสุดเฉียดฉิว 4 คะแนน | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,กกต.,สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ,ปาร์ตี้ลิสต์,ปชป.ชนะอนาคตใหม่,เลือกตั้งเขต1 นครปฐม,ข่าวร้อน,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1555655 |
ชัชชาติ-สมชัย ปฏิเสธรับตำแหน่งกรรมการยุทธศาสตร์ฯ | นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก ปฏิเสธรับตำแหน่งกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ภายหลังมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2560 พร้อมกับกระแสวิจารณ์ถึงแนวทางการสร้างความปรองดอง ด้วยเหตุที่นายชัชชาติเคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายชัชชาติ ชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่รับตำแหน่ง เพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และส่วนตัวยังไม่เข้าใจแนวคิดและหลักการยุทธศาสตร์ชาติอย่างถ่องแท้ รวมทั้งยังติดภารกิจในบริษัทและครอบครัว จึงไม่สามารถที่จะทำหน้าที่กรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติได้อย่างเต็มกำลังพร้อมขอโทษนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาให้ข้อมูลว่าตนตอบรับเรื่องนี้แล้ว ซึ่งอาจเป็นเพราะการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน เนื่องจากทีมงานของนายวิษณุได้แจ้งวันที่ 27 ก.ย.2560 โดยส่วนตัวระบุว่าจะขอดูในรายละเอียดก่อน แล้วจะแจ้งกลับไปในวันที่ 28 ก.ย.2560เช่นเดียวกับนายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยได้แจ้งผ่านเฟซบุ๊ก ปฏิเสธรับตำแหน่ง พร้อมขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้เกียรติและหลังจากนี้จะทำหนังสือลาออกจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติอย่างเป็นทางการ | กรรมการ 2 คนในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ประกาศขอไม่รับตำแหน่ง หนึ่งในนั้นคือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยให้เหตุผลว่าไม่มีเวลาเพียงพอเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และส่วนตัวยังไม่เข้าใจยุทธศาสตร์ชาติอย่างถ่องแท้ | การเมือง | คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ,ชัชชาติ สิทธิพันธุ์,สมชัย จิตสุชน,ปฏิเสธรับตำแหน่ง,เฟซบุ๊ก,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/266563 |
ฟรีเดล มั่นใจ ไก่ไม่เสีย โยริส ให้ผีแดง | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 6 ส.ค. ว่า แบร็ด ฟรีเดล อดีตผู้รักษาประตูมือฉมังของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ สโมสรประจำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความเชื่อมั่น อูโก โยริส มือกาวคนปัจจุบัน จะไม่อำลาทีมในซัมเมอร์นี้ หลังมีข่าวกำลังตกเป็นเป้าหมายเสริมทัพของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,นายด่านเลือดน้ำหอม ย้ายจากทีมลียง มาเฝ้าเสาในถิ่นไวท์ ฮาร์ทเลน เมื่อปี 2012 และได้ทำผลงานจนถูกเลือกให้เป็นมือหนึ่งของทีมแทนที่ของฟลีเดล เมื่อฤดูกาล 2012-13 อย่างไรก็ตาม ในซัมเมอร์นี้ก็มีกระแสข่าวออกมาว่า ปิศาจแดง ได้แสดงความสนใจอยากได้โยริสมาร่วมทีมเพื่ออุดช่องว่าง หากเสีย ดาบิด เด เคอา ให้กับทีมเรอัล มาดริด,แต่ถึงกระนั้น ฟลีเดลได้แสดงความมั่นใจว่า มือกาววัย 28 ปี จะไม่ทิ้งทีมในตอนนี้อย่างแน่นอน โดยบอกว่า สำหรับตัวผมเอง ผมไม่รู้ล่วงหน้าว่าการย้ายทีมจะเกิดขึ้นในตอนไหน,อูโกเป็นผู้เล่นของทอตแนม เขาเป็นกัปตันทีมทอตแนม และยังคงเป็นผู้เล่นของทอตแนม และผมไม่เห็นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น ผมไม่คิดว่ามันจำเป็นที่เราจะมาหารือเรื่องความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ และผมก็หมายความถึงแบบนั้นจริงๆ | แบร็ด ฟรีเดล อดีตผู้รักษาประตูมือฉมัง แสดงความมั่นใจ อูโก โยริส นายด่านรุ่นน้องของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ จะไม่อำลาทีมในซัมเมอร์นี้ หลังมีข่าวตกเป็นเป้าหมายของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด… | null | พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,ไก่เดือยทอง,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,อูโก โยริส,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,แบร็ด ฟรีเดล | https://www.thairath.co.th/content/516587 |
เก็บซากเอฟ16 หาเหตุ-การตก พ่อนักบินเศร้า | ความคืบหน้าเหตุเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 เอ ของกองทัพอากาศ ประสบอุบัติเหตุตกบริเวณกลางทุ่งนา หมู่ 4 บ้านโป่งขาม (เขาเขียว) ต.วังเพลิง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ขณะปฏิบัติภารกิจใช้อาวุธต่อเป้าหมายภาคพื้น ในการฝึกร่วมผสมทางทหารคอบร้าโกลด์ 2015 ทำให้ ร.อ.นพนนท์ นิวาศานนท์ นักบินประจำหมวดบิน 3 ฝ่ายยุทธการ ฝูงบิน 103 กองบิน 1 จ.นครราชสีมา เสียชีวิต เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมนิรภัยการบินพร้อมด้วยชุดกู้ภัยกองทัพอากาศ และผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมกันตรวจหาและเก็บซากชิ้นส่วนของเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 เอ ที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ รวมถึงหาหลักฐานที่ทำให้เครื่องบินตก โดยมีการปักจุดพิกัดบริเวณซากเครื่องบินเพื่อให้รู้ถึงการกระจายตัวของเครื่องบิน รวมถึงปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาในที่เกิดเหตุ ส่วนศพ ร.อ.นพนนท์ยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล จ.ลพบุรี จะมีการเคลื่อนย้ายศพ วันที่ 22 ก.พ. เพื่อไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะส่งเศษชิ้นเนื้อ ร.อ.นพนนท์ ไปตรวจสอบที่สถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ เพื่อตรวจหาสารเคมีช่วงที่เครื่องบินตก,ด้านนายปัญญา ศรเครือ อายุ 56 ปี เจ้าของที่นาบริเวณจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เหตุเครื่องบินตกทำให้เกิดสะเก็ดไฟกระเด็นไปไหม้ตอซังข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วเป็นวงกว้างประมาณ 3-4 ไร่ ทั้งนี้ชาวบ้านอยู่ในความหวาดกลัวเนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ห่างจากหมู่บ้านเพียง 150 เมตร และอยู่ใกล้กับสนามฝึกรบแต่ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากชาวบ้านได้มาอยู่ทีหลัง อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านจะรวมตัวกันทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับนักบินที่เสียชีวิต,ด้าน พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ศพของ ร.อ.นพนนท์จะเคลื่อนย้ายออกจากกองบิน 2 จ.ลพบุรี เวลา 09.30 น. วันที่ 22 ก.พ. โดยเครื่องบินแบบลำเลียงซี 130 จะถึงท่าอากาศทหาร บน.6 เวลา 10.00 น. โดย พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะเป็นประธานในพิธีรับศพพร้อมด้วยกองทหารเกียรติยศ จากนั้นจะนำศพ ร.อ.นพนนท์ไปพักรอไว้ที่โรงพยาบาลภูมิพล ก่อนจะมีการประกอบพิธีทางศาสนา เวลา 18.00 น. ที่ศาลาทักษิณาประดิษฐ์ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน พล.อ.อ.ตรีทศจะเป็นประธานพิธีรดน้ำศพและในเวลา 18.30 น. จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และสวดอภิธรรมศพ เวลา 19.00 น. โดยกองทัพอากาศจะเป็นเจ้าภาพในพิธีบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 22-28 ก.พ. และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 1 มี.ค.,พล.อ.อ.มณฑลกล่าวต่อว่า ร.อ.นพนนท์ เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่จะได้รับการปูนบำเหน็จ 7 ขั้น ได้รับพระราชทานยศเป็น น.อ. ทางครอบครัวจะได้รับเงินสงเคราะห์ตามสิทธิ์จากกองทัพอากาศ จำนวนกว่า 2.4 ล้านบาท ส่วนสาเหตุของเครื่องบินตกอยู่ระหว่างการตรวจสอบต้องใช้เวลาพอสมควร จากนั้นจะสรุปรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต่อไป,วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 152 หมู่ 2 ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว บ้านเกิดของ ร.อ.นพนนท์ พบว่าเป็นบ้านไม้สองชั้นมีรั้วรอบขอบชิดพบกับ น.ท.เฉลียว นิวาศานนท์ อายุ 65 ปี บิดา อดีตนายทหารกองทัพอากาศ และนางศิริวรรณ นิวาศานนท์ อายุ 58 ปี มารดา ร.อ.นพนนท์ โดย น.ท.เฉลียวเปิดเผยว่า มีลูกชาย 2 คน โดยคนโตคือ ร.อ.นพนนท์ คนเล็กคือนายอนาวิล เป็นวิศวกรทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ภายหลังทราบ ร.อ.นพนนท์ เสียชีวิตทำใจไม่ได้ที่สูญเสียลูกอย่างกะทันหัน ตนกับภรรยาได้เดินทางไปดูศพที่ จ.ลพบุรี เมื่อเห็นศพลูกถึงกับพูดอะไรไม่ออกเพราะลูกเสียสละเพื่อชาติ จากนั้นตนและภรรยาได้เดินทางกลับมาบ้านเพื่อเตรียมตัวนำสิ่งของไปงานประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เชื่อว่ากองทัพอากาศจะสามารถสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ เพื่อนำมาเป็นบทเรียนในการป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียอีก | กองทัพอากาศจับมือผู้เชี่ยวชาญ สหรัฐฯ เก็บซากเครื่องบินเอฟ 16 เอ ตรวจสอบหาสาเหตุตกพื้นที่ จ.ลพบุรี ขณะซ้อมรบคอบร้าโกลด์ ปูนบำเหน็จ 7 ขั้น นักบินพลีชีพ เลื่อนยศเป็น น.อ. พระราชทานเพลิงศพ 1 มี.ค. | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,เครื่องบินตก,เอฟ16ตก,เอฟ16,เครื่องบินขับไล่,ลพบุรี,คอบร้าโกลด์,นพนนท์ นิวาศานนท์,นักบิน,เก็บซากเครื่องบิน,เฉลียว นิวาศานนท์ | https://www.thairath.co.th/news/local/482745 |
ตะไลชนโคม กีฬาพื้นบ้านไทยแท้ จัดสืบทอด 80 ปี ยังมีอ่างทอง | วันที่ 21 ก.ค. 59 ผู้สื่อข่าว จ.อ่างทอง พาไปดูการแข่งขันตะไลชนโคม กีฬาพื้นบ้านที่เป็นสีสัน สร้างความสนุกสนานแก่ผู้ชมที่เข้าร่วมงานบุญวันเข้าพรรษาวัดเกาะ ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โดยคณะกรรมการวัดเกาะ ได้จัดให้มีการแข่งขัน ตะไลชนโคม ขึ้นทุกปีในวันเข้าพรรษา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและรำลึกถึงหลวงพ่อเล็ก เกจิอาจารย์ดัง ที่เป็นผู้ริเริ่มนำการแข่งขันกีฬาตะไลชนโคม มาทำการแข่งขันในงานประจำปีที่วัดเกาะเมื่อ 80 ปีที่ผ่านมา หลังจากท่านได้มรณภาพไปแล้ว ทางลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดได้ทำจัดการแข่งขันติดต่อกันมาในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อเป็นการแสดงความเคารพบูชาหลวงพ่อเล็ก,พ.ท.ธานี ชงกรานต์ทอง อายุ 65 ปี รองประธานจัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า การแข่งขันตะไลชนโคม ในงานประจำปีวันเข้าพรรษา วัดเกาะ ได้จัดติดต่อกันมา 80 ปีแล้ว หลังจากหลวงพ่อเล็ก อดีตเจ้าอาวาส เกจิชื่อดังได้มรณภาพ ทางวัดก็ได้จัดการแข่งขันตะไลชนโคม เพื่อเป็นการรำลึกบูชาหลวงพ่อเล็ก ที่เป็นผู้ริเริ่มนำตะไลชนโคมเข้ามาแข่งขันภายในวัดเกาะ เป็นการสร้างความรัก ความสามัคคี และความสนุกสนานแก่ชาวบ้าน,สำหรับการแข่งขันตะไลชนโคมที่วัดเกาะ จะใช้สุ่มไก่จำนวน 4 อัน ผูกไว้สี่มุม และมีสุ่มปลาจำนวน 1 อัน ผูกไว้ตรงกลาง นำไปแขวนไว้ด้านบนที่สูงประมาณ 30 เมตร แล้วให้ผู้แข่งขันแต่ละทีมได้ทำการจุดตะไลให้ขึ้นไปบนท้องฟ้า หากตะไลเข้าไปติดอยู่ภายในสุ่มจะได้คะแนน โดยแต่ละทีมมี 4 คน แต่ละคนนั้นมีตะไลให้ทำการจุดจำนวน 4 ดอก โดยยืนอยู่ด้านล่างตรงกับสุ่ม ก่อนจะจุดตะไลไปบนท้องฟ้า หากเข้าสุ่มไก่ที่แขวนอยู่ด้านบน จะได้ 5 คะแนน แต่ถ้าชนสุ่มคะแนนจะลดลงไป ตามกติกาที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่สร้างความสนุกสนานแก่นักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่เข้ามาเที่ยว และทำบุญเข้าพรรษาเป็นอย่างมาก,ที่สำคัญก่อนการแข่งขันของแต่ละทีม ทางวัดเกาะจะให้ผู้เข้าแข่งขันทำการจุดตะไลถวายหลวงพ่อเล็ก เพื่อเป็นการบูชาก่อน 1 ดอก หากตะไลที่จุดวิ่งเข้าไปในสุ่มปลาขนาดเล็กที่แขวนไว้ตรงกลาง จะได้เงินรางวัลจากคณะกรรมการไปทันที จำนวน 1,000 บาท เป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ทีมที่เข้าร่วมแข่งขัน พ.ท.ธานี กล่าว. | วัดเกาะ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง จัดแข่งขันตะไลชนโคมกีฬาพื้นบ้านหนึ่งเดียว เป็นการสืบสานภายหลังจากหลวงพ่อเล็ก เป็นผู้ริเริ่มไว้เมื่อ 80 ปีก่อน จัดในเทศกาลเข้าพรรษา ทั้งสนุกสนาน สร้างความสามัคคี และเป็นการบูชาเกจิดัง | null | ตะไลชนโคม,แข่งขันตะไลชนโคม,กีฬาพื้นบ้าน,วัดเกาะ,หลวงพ่อเล็ก,อ่างทอง,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/668872 |
สปท.ชง กรธ. ห้ามนายกฯ ยุบสภาหนีปัญหาการเมือง | เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.58 นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมืองสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า ในการประชุมสปท.การเมืองวันที่ 13 ธ.ค.ได้หารือถึงแนวทางปฏิรูปการเมืองที่จะเสนอต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยมีข้อเสนอ 4 ประเด็น ที่จะเสนอต่อ กรธ.คือ 1. ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะเสนอให้มีเฉพาะ ส.ส.เขต 400 คน ไม่มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใช้การเลือกตั้งแบบวันแมนวันโหวตประชาชน 1 เสียง เลือก ส.ส.ได้ 1 คนเท่านั้น 2. ระบบพรรคการเมืองเสนอให้แบ่งระบบการบริหารพรรคเป็นสองส่วนคือ กรรมการบริหารพรรค และตัวผู้สมัคร ให้แยกส่วนออกจากกันอย่างเด็ดขาด ไม่ให้ ส.ส.เป็นกรรมการบริหารพรรค เพื่อป้องกันไม่ให้พรรคตกเป็นของนายทุนพรรค 3. การเลือกตั้งให้มีความสุจริตโปร่งใส เสนอให้มีบทลงโทษรุนแรงแก่ผู้ซื้อเสียง ผู้ขายเสียง หัวคะแนน นายทุนพรรค ที่กระทำทุจริตเลือกตั้ง ให้มีบทลงโทษถึงขั้นจำคุกและตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตแก่นักการเมืองที่ทุจริตเลือกตั้ง,นายเสรี กล่าวว่า 4. การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ เสนอให้มีบทลงโทษที่รุนแรงเรื่องการทุจริต การให้ฝ่ายนิติบัญญัติแยกอำนาจออกจากฝ่ายบริหารอย่างชัดเจน ไม่ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจยุบสภา เมื่อเวลามีปัญหาทางการเมือง เพื่อไม่ให้ ส.ส.และรัฐบาลมีผลประโยชน์เกื้อกูลกันและไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ให้มุ่งเน้นไปที่การถอดถอนและการดำเนินคดีอาญาผู้กระทำผิดแทนทั้งนี้ในวันที่ 15 ธ.ค. สปท.การเมืองจะสรุปข้อเสนออย่างเป็นทางการทั้งหมด เพื่อส่งความเห็นการปฏิรูปการเมืองให้ กรธ.ภายในสัปดาห์นี้ | สปท.ชง 4 ข้อเสนอปฏิรูปการเมืองต่อ กรธ. ตัดขาดอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ-ฝ่ายบริหาร ออกจากกันอย่างเด็ดขาด ห้าม นายกฯ ใช้อำนาจยุบสภาหนีปัญหาการเมือง พร้อมให้ตัดสิทธิการเมืองคนทุจริตเลือกตั้งตลอดชีวิต | null | ปฏิรูป,จำนวน ส.ส.,เสรี สุวรรณภานนท์,ส.ส.บัญชีรายชื่อ,การเลือกตั้ง,การเลือก ส.ส.,ระบบพรรคการเมือง,ทุจริตเลือกตั้ง,ตัดสิทธิทางการเมือง,ตรวจสอบ,อำนาจรัฐ,ยุบสภา,สปท.,กรธ.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/549022 |
อนุพงษ์ ชื่นชม พิธา อภิปรายตรงประเด็น แจงมีทั้งทำแล้ว ทำได้ และไม่ได้ | วันที่ 26 ก.ค. 2562 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงในที่ประชุมรัฐสภา ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อภิปรายหลายเรื่องเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ ในเรื่องกลุ่มชาติพันธุ์ คนชายขอบ รัฐบาลให้สัญชาติเรียบร้อยแล้ว ต้องคนที่เข้ามาก่อนปี 2538 และลูกก็ได้สัญชาติหมดเพราะทำตามขั้นตอน ซึ่งกลุ่มแรกที่ตกสำรวจมีไม่มากนัก กฎหมายกำหนดว่าต้องอยู่มาแล้ว 10 ปี คนที่ไม่ได้ให้คือคนที่อยู่ในที่พักพิง ขณะที่คนจนทำการเกษตรทั้งสิ้น คนที่ไม่ใช่คนไทยเข้ามาทำกินจะให้เป็นเจ้าของอะไรเป็นดาบสองด้าน เพราะคนไทยบางส่วนยังไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง ส่วนเรื่องพวกคนไม่มีแผ่นดินอยู่ เราได้รับคำชมจากต่างชาติเพราะให้มาก,พล.อ.อนุพงษ์ ยังได้กล่าวชมเชยอีกว่า นายพิธา พูดได้เข้าประเด็นทั้งหมด ทำการบ้านมาดี ซึ่งขณะนั้น นายพิธา ได้ยกมือไหว้ขอบคุณ ส่วนเรื่องโฉนดที่ดิน ประเทศไทยก็ดูแลเกษตรกรโดยการให้ที่ สปก. ที่รกร้างก็เข้าไปทำได้เลยถ้าเสียภาษีตามขั้นตอน ออกโฉนดที่ดินได้ด้วย ส่วนที่ๆ ละเอียดอ่อนคือ ป่าสงวน อุทยาน ป่าชายเลน เพราะมี พ.ร.บ.คณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่ทุกคนต้องรู้ว่าคนที่ดูแลรักษาป่าไม่ใช่เจ้าของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดูแลป่าให้คนทั้งชาติ เขามีอัตราว่าควรจะให้ได้เท่าไหร่ ทุกวันนี้ปลดแม้กระทั่งป่าลุ่มน้ำชั้นที่ 1 แต่ไม่ใช่จะให้ใครก็ได้ ให้แล้วอย่าไปขาย ส่วนตัวไม่มีผลประโยชน์ ตรวจสอบได้ ในเรื่องของผังเมืองประชาชนเขียน ความหมายคือ ประชาชนต้องมีส่วนร่วมและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีแนวคิดว่านำที่เกษตรที่ไม่สร้างรายได้มาทำเป็นที่ท่องเที่ยวหรือโฮมสเตย์,นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงเรื่องที่ดินเกษตรกรด้วยว่า คนที่มีที่ดินขอบ้านเลขที่ได้ ขอน้ำและไฟได้หมด แต่ถ้าเป็นที่ป่า การไฟฟ้าปักเสาไฟฟ้าไม่ได้เด็ดขาด เพราะถือเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ต้องแก้กฎหมายจึงจะทำได้ ขณะที่ภัยแล้งซ้ำซากก็ให้ความสำคัญทุกรัฐบาล แต่ก็ไม่ใช่แล้งทั้งหมด ความเป็นจริงประเทศไทยอยู่ด้วยน้ำฝนเท่านั้น น้ำท่วมก็ต้องใช้ไฟฟ้าปั๊มน้ำทิ้ง แต่ 2 เดือนต่อมากลับแล้งเพราะไม่มีที่กักเก็บ และอยากให้ลองย้อนดูว่าใครหรือรัฐบาลไหนทำมากหรือน้อย ทุกวันนี้ ประชาชนเหลือไม่กี่สิบหมู่บ้านซึ่งให้ดำเนินการเรื่องประปาหมู่บ้านอยู่ อย่างไรก็ตาม เรื่องจะเอาที่ดินคนรวยมานั้น เป็นเรื่องใหญ่มากต้องมีจุดลงตัว และบางเรื่องก็ยังไม่สามารถตอบได้ พร้อมขอบคุณคำแนะนำ. | รมว.มหาดไทย ชื่มชม พิธา มีความคิดสร้างสรรค์ อภิปรายได้ครบทุกประเด็น พร้อมแจงเรื่องที่ทำแล้ว ทำได้ และไม่ได้ | ข่าว,การเมือง | ประชุมสภา,ประชุมรัฐสภา,แถลงนโยบายรัฐบาล,พิธา ลิ้มเจริญรัตน์,อนุพงษ์ เผ่าจินดา,มอนิเตอร์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1623890 |
ตัวนี้แจ่ม เป๊ป เทเงินก้อนยักษ์หวังพรากสตาร์จิ้งจอกฯร่วมก๊วน | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 7 ม.ค.61 ว่า เป๊ป กวาดิโอลา ผู้จัดการทีมชาวสเปนของ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวเตรียมทุ่มเงินก้อนโต เพื่อหวังคว้า แฮร์รี แมคไกวร์ แนวรับคนเก่งของ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีม,เป็นที่เข้าใจกันว่า ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางของ ยอดทีมแห่งถิ่น เอติฮัด สเตเดียม เหลือเพียง นิโคลัส โอตาเมนตดี และ เอเลียควิม ม็องกาลา ไว้ให้ใช้งานเพียงเท่านั้น เนื่องจากในรายของ แวงซองต์ กอมปานี และ จอห์น สโตนส์ 2 แนวรับ มีอาการเจ็บออดๆ แอดๆ จนแทบไม่ได้ลงสนามให้ทีมแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย,ล่าสุด มีรายงานว่า เป๊ป กวาดิโอลา ปิ๊งฟอร์มของ แมคไกวร์ เข้าอย่างจัง และเตรียมที่จะยื่นข้อเสนอระดับ 50 ล้านปอนด์ เพื่อหวังคว้าตัวนักเตะมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมในเวลานี้ เพื่อรักษาโอกาสในการลุ้น 4 แชมป์ต่อไปนั่นเอง,ทั้งนี้นอกเหนือจาก แมคไกวร์ แล้ว เป๊ป ยังมีตัวเลือกอื่นๆ อย่าง จอห์นนี อีแวนส์ ของ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน, อินญิโก มาร์ติเนซ ของ เรอัล โซเซียดาด และ มุคตาร์ เดียกาบี ของ โอลิมปิก ลียง ที่อยู่ในข่ายที่สนใจด้วยเช่นกัน. | เป๊ป กวาดิโอลา เทรนเนอร์เลือดกระทิงดุของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกเป็นข่าวเตรียมทุ่มเงินก้อนโต เพื่อหวังคว้านักเตะกำลังสำคัญของ เลสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทัพ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | เป๊ป กวาดิโอลา,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,แฮร์รี แมคไกวร์,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1171180 |
กฎแห่งการล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิว | คุณเป็นแบบนี้หรือเปล่า? หลังจากออกไปใช้ชีวิตมาทั้งวัน ไม่ว่าจะเรียน ทำงาน หรือออกไปท่องเที่ยว พอกลับมาถึงบ้านก็ถึงกับหมดแรงจนไม่อยากทำอะไรเลย บางคนเผลอหลับไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลบเครื่องสำอางออกด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าคนที่เป็นสิว หากไม่ให้ความสำคัญกับการล้างหน้า ปัญหาสิวก็มีแต่จะแย่ลง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเหนื่อยแค่ไหนก็ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนนอน ต่อไปนี้คือกฎแห่งการล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิวเพื่อการมีผิวสะอาด อันเป็นจุดเริ่มต้นของการมีผิวใสห่างไกลสิวเช็ดเมกอัพก่อนล้างหน้าเสมอก่อนล้างหน้าทุกครั้ง ควรเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด ก่อนไปสู่ขั้นตอนการล้างหน้าซึ่งการเช็ดเครื่องสำอางสำหรับคนเป็นสิวนั้น ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น คลีนซิ่งออยล์ เพราะหากล้างออยล์ออกไปไม่หมด จะยิ่งสร้างปัญหามากกว่าเดิม เพราะว่าผลิตภัณฑ์ประเภทออยล์นั้นจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น หรือเพิ่มความมันบนใบหน้า อาจก่อให้เกิดการอุดตัน และทำให้เกิดสิวได้ง่าย ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางชนิดน้ำที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม น้ำมัน และแอลกอฮอล์ ในการเช็ดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้าทุกครั้ง ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่ระคายเคืองผิวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ล้างหน้ากับคนเป็นสิว ไม่ว่าจะเป็นสบู่ออร์แกนิก เจล หรือโฟมล้างหน้า ควรเน้นเรื่องความอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ และมีคุณสมบัติลดความมันส่วนเกินบนผิวหน้า รวมถึงการขจัดสิ่งอุดตันบนผิวได้อย่างล้ำลึก เราแนะนำผลิตภัณฑ์ล้างหน้าประเภทเจลอย่าง Tomei Facial Cleanser ซึ่งเป็นเจลทำความสะอาดผิวหน้าสูตรพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวและผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ จุดเด่นอยู่ที่การช่วยทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ล้างหน้าเสร็จแล้วรู้สึกได้ว่าผิวไม่แห้งตึง เพราะมีค่า pH Balance ที่เหมาะกับผิวหน้า ไม่ระคายเคืองผิว เพราะไม่มีพวกสารทำร้ายผิวอย่าง น้ำหอม แอลกอฮอล์ และสาร SLS แถมยังมีคุณสมบัติควบคุมความมันและลดการสะสมของแบคทีเรีย P.Acnes ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวอีกด้วย ไม่ขัดถูผิวหน้าแรงๆ บางคนยิ่งกังวลเรื่องสิว เวลาล้างหน้ายิ่งต้องการความสะอาดอย่างหมดจด จึงยิ่งขัดและถูผิวแรงๆ หวังจะขจัดสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ตามรูขุมขน แต่หารู้ไม่ว่านั่นเป็นการทำร้ายผิวโดยตรง เพราะการขัดถูหน้ามากเกินไป สารลดแรงตึงผิวในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ล้างเครื่องสำอางจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้ ระวังเรื่องอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ล้างหน้าไม่ว่าจะเป็นสิวหรือไม่เป็นสิว ก็ควรให้ความสำคัญกับเรื่องอุณหภูมิที่ใช้ล้างหน้า หลายคนชอบใช้น้ำอุ่นล้างหน้า เพราะรู้สึกสบาย แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้น้ำที่มีอุณหภูมิอุ่นเกินไป ความร้อนจะไปทำลายความชุ่มชื้นและน้ำมันที่จำเป็นต่อการปกป้องผิว ทำให้ผิวแห้งตึง ลอก ระคายเคืองง่าย ในระยะยาวยังเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยต่างๆ อีกด้วย แต่หากใช้น้ำเย็นเกินไปก็จะล้างน้ำมันออกได้ยาก ดังนั้นควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติ (หรืออุ่นเพียงเล็กน้อยประมาณ 35-37 องศาเซลเซียส) จะดีที่สุด ในที่สุดหนุ่มๆ สาวๆ ก็ได้รู้จักวิธีการล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิวอย่างถูกวิธีกันแล้ว หวังว่าจะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อให้การทำความสะอาดผิว สำหรับคนเป็นสิว นั้นระคายเคืองน้อยที่สุด และปลอดภัยมากที่สุด | แนะนำวิธีการล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิว ตั้งแต่ขั้นตอนการเช็ดเครื่องสำอาง การล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่สร้างการระคายเคืองผิว ห้ามพฤติกรรมขัดถูผิวแรงๆ และให้ความสำคัญกับอุณหภูมิที่ใช้ล้างหน้า | null | null | https://thestandard.co/face-washing-for-acne/ |
นักท่องเที่ยวขอวีซ่าเข้าไทย | เจ้าของบริษัททัวร์รัสเซียคนที่ว่าส่งนักท่องเที่ยวยุโรปตะวันออกให้เมืองไทยปีละหลายหมื่นคน ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียก็ไม่มีปัญหาอะไรมากดอกครับ เพราะวิสัยทัศน์อันดีเยี่ยมของกระทรวงการต่างประเทศไทยช่วยให้นักท่องเที่ยวรัสเซียมาเมืองไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า,ทว่า ความยุ่งยากอยู่ที่นักท่องเที่ยวชาวเบลารุส มอลโดวา อาเซอร์ไบจาน ทาจิกิสถาน และผู้คนจากประเทศอื่นที่ไปทำงานในรัสเซีย เมื่อจะมาเที่ยวเมืองไทยก็ยังต้องใช้วีซ่า ทว่าช่วงที่ผ่านมา ทราบวีซ่าออกช้ากว่าปกติ ทำให้เกิดความโกลาหลอลหม่านไม่เฉพาะกับนักท่องเที่ยวของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่เกิดขึ้นกับทุกบริษัท, ,เมื่อลูกค้าจ่ายเงินจองบริการจากบริษัททัวร์ บริษัทก็ต้องจ่ายเงินจองโรงแรมและบริการอื่นๆล่วงหน้า ถ้าวีซ่าไม่ออก หรือออกไม่ทัน เงินที่จ่ายมัดจำไปแล้วก็จะสูญเปล่า ต่อไปบริษัททัวร์ก็จะแขยงแขงขนในการส่งนักท่องเที่ยวมาเมืองไทย,สองสัปดาห์ที่แล้ว แผนกวีซ่าของบริษัททัวร์รัสเซียแห่งหนึ่งเล่าว่า ทางกงสุลไทยที่มอสโกไม่สามารถรับพาสปอร์ตได้ทั้งหมด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่พอ จึงขอรับเพียงครึ่งหนึ่งของที่เคยรับ แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่าเมื่อใดท่านจึงจะรับพาสปอร์ตได้ตามปกติ,ทราบว่าพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยวค้างอยู่ตามบริษัททัวร์แทบทุกแห่ง ณ วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2560 มีพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยวตกค้างอยู่ที่แผนกวีซ่าของบริษัททัวร์แห่งหนึ่งมากถึง 571 เล่ม,สาธารณรัฐเบลารุสมีกงสุลกิตติมศักดิ์ แต่เป็นกงสุลที่ไม่มีอำนาจออกวีซ่า เมื่อก่อนนักท่องเที่ยวยังไปขอวีซ่าได้จากกงสุลกิตติมศักดิ์ในกรุงคีฟของอูเครน หรือกรุงมอสโกของรัสเซีย แต่ตอนนี้ ต้องมาขอที่กรุงมอสโกอย่างเดียว ความยุ่งยากจึงเกิด,บริษัททัวร์ของรัสเซียหลายแห่งบอกว่า อยากให้ไทยมีกงสุลกิตติมศักดิ์ที่เมืองโนโวซีบีสค์ เพราะโนโวซีบีสค์เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์การทำเหมืองแร่ แท่นอัดไฮดรอลิก เคมีภัณฑ์ เหล็กกล้า เป็นศูนย์กลางการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มีชาวต่างชาติที่มาทำงานที่เมืองทางแถบนี้เยอะ ซึ่งพอถึงฤดูหนาวก็อยากหนีหนาวมารับแสงอาทิตย์ที่เมืองไทย แต่เพราะเมืองนี้อยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ไกลจากกรุงมอสโกมาก การไปทำวีซ่าที่กรุงมอสโกจึงลำบาก,ไทยโชคดีกว่าประเทศอื่นตรงที่เรามีสถานทูตและ ททท.ส่งเสริมการท่องเที่ยวกันอย่างมุ่งมั่น จนคาดกันว่าปีนี้ นักท่องเที่ยวน่าจะเข้าไทยมากถึง 32 ล้าน ถ้านักท่องเที่ยวมากขนาดนั้น รายได้จากการท่องเที่ยวจะเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 20 ของจีดีพี,มีบางคนคาดการว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเมืองไทยมากถึง 60 ล้านคน ถึงวันนั้น การท่องเที่ยวก็คือหม้อข้าวใบที่ใหญ่มากของเรา,คนไทยต้องขอบคุณสถานทูตไทย หน่วยงานราชการ และภาคเอกชนทุกแห่ง ผมไปประเทศไหน ใครๆก็ชมเราเรื่องการท่องเที่ยว บางทีมีปัญหาเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้น เราก็ต้องรีบช่วยกันบอกกล่าวและช่วยกันแก้ไขคนละไม้คนละมือ มนุษย์เรานะครับ เวลา 1 วันมีเพียง 24 ชั่วโมง จะให้มานั่งประทับวีซ่ากันทั้ง 24 ชั่วโมงก็คงไม่ได้ ทางที่ดีก็คือ เราอาจจะเพิ่มคนทำงาน ถ้า 2 คนยังทำไม่ทัน ก็เพิ่มเป็น 3 คน 4 คน,ขอฝากไว้หน่อยหนึ่งครับ ว่าเราอย่าต้องการ จำนวน นักท่องเที่ยวกันมากซะจนลืมเรื่อง 1.อาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์และการก่อการร้าย และ 2.การพัฒนาให้การท่องเที่ยวซึ่งเป็นหม้อข้าวใบใหญ่ที่สุดของเราเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เป็นการท่องเที่ยวที่ได้ไม่คุ้มเสีย การท่องเที่ยวที่นายทุน ได้ แต่ประชาชนคนรากหญ้าทั่วไป เสีย,นักท่องเที่ยวที่เข้ามาบ้านเราปีละหลายสิบล้านคนนี่ ถ้ามีพวกที่จะเข้ามาประกอบอาชญากรรม มีส่วนเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือเป็นสมาชิกของกลุ่มการก่อการร้าย เพียงร้อยละ 1-2 ผมว่าเราก็ปวดหัวแล้ว ทางแก้ก็คือ เราต้องมีหน่วยข่าวที่คอยตรวจสอบคนที่จะเข้ามาอย่างมีประสิทธิภาพด้วยครับ.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected] | ผมรู้จักเจ้าของบริษัททัวร์ของรัสเซียคนหนึ่งตั้งแต่แกยังเป็นหนุ่ม ตั้งแต่ยังตั้งโต๊ะขายตั๋วรถไฟเพียงตัวเดียว เวลาผ่านไป 25 ปี แกกลายเป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งของรัสเซียซะแล้ว | null | นักท่องเที่ยว,ขอวีซ่า,รัสเซีย,เปิดฟ้าส่องโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1140060 |
กมธ.ดีอีเอส หนุนพัฒนาเชียงใหม่ สู่ Smart city เล็งตรวจสอบเน็ตชายขอบ | เมื่อวันที่ 19 ม.ค.63 คณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กมธ.ดีอีเอส นำโดย น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายดล เหตระกูล นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล และคณะลงพื้นที่ ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เพื่อศึกษาดูงานและรับฟังข้อมูลเรื่องการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมทั้งได้มีการตรวจสอบคุณภาพสัญญาณคลื่นความถี่ ณ สถานีฐานราชพฤกษ์ (Base station)โดย น.ส.กัลยา กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้ถือเป็นการขึ้นมาจังหวัดทางภาคเหนือเป็นครั้งแรกของ กมธ.ดีอีเอส เพื่อตรวจสอบการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการดำเนินโครงการ Smart city พร้อมทั้งได้ตรวจวัดคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พบว่า จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาเพื่อนำไปสู่ Smart city อย่างสมบูรณ์แบบ จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งด้านการศึกษา การแพทย์ การเดินทางสัญจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว ที่ จ.เชียงใหม่ ถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย ดังนั้นการเป็น Smart city อย่างสมบูรณ์แบบได้โดยเร็ว เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นน.ส.กัลยา ยังกล่าวถึงผลการตรวจวัดสัญญาณที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ภาพรวมในการใช้เครื่องตรวจวัดสัญญาณ ไม่มีปัญหาในเรื่องความขัดข้อง เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้การเตรียมพร้อมจึงค่อนข้างดี รวมถึง จ.เชียงใหม่ อยู่ในแผน Smart city ด้วยน.ส.กัลยา กล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) กมธ.ดีอีเอส จะได้ลงพื้นที่เกาะติดการตรวจสอบโครงการการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) และพื้นที่ชายขอบ (Zone C+) ณ ศูนย์ให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะประจำหมู่บ้าน (USO net) ภายในโรงเรียนบ้านสหกรณ์ 2 ต.สหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ โดยการลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะเราจะได้รับทราบข้อมูลในพื้นที่จริงว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไร อย่างไรโครงการสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ รวมถึงอนาคต กมธ.ดีอีเอส ก็จะได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป | กัลยา นำทีม กมธ.ดีอีเอส ลุยเชียงใหม่ ตรวจโครงสร้างพื้นฐานฯ ชี้ จ.เชียงใหม่ มีศักยภาพพัฒนาสู่ Smart city อย่างสมบูรณ์แบบ เล็ง ตรวจสอบเน็ตชายขอบต่อเนื่อง | ข่าว,ทั่วไทย | กมธ.ดีอีเอส,Smart city,เชียงใหม่,เมืองอัจฉริยะ,เมืองเทคโนโลยี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1751078 |
เมืองคอนพร้อมตั้งแสดง เรือหลวงวิทยาคม สร้างแลนมาร์กหนุนการท่องเที่ยว | เมื่อ 27 ส.ค.2561 นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานประชุมคณะทำงานจัดตั้งเรือหลวงวิทยาคม หมายเลข 322 ณ แหล่งท่องเที่ยวชายทะเล เขาพลายดำเฉลิมพระเกียรติ ตำบลทุ่งใส อำเภอสิชล โดยมีนาวาเอกวิชชุ บำรุง ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน สำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายกองทัพเรือและจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน,สำหรับการประชุมดังกล่าวมีขึ้น เพื่อร่วมหารือถึงแนวทางการจัดเตรียมความพร้อม และการบริหารจัดการในระดับพื้นที่ สืบเนื่องจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ขอสนับสนุนเรือรบปลดประจำการจากกองทัพเรือไปประกอบกับอนุสาวรีย์พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ตำบลทุ่งใส อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล สง่างาม เหมาะสมและจะได้พัฒนาให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ และเชื่อมโยงการท่องเที่ยว,ขณะนี้ กองทัพเรืออยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติยกเรือให้จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการประชุมคณะทำงานครั้งนี้เป็นการร่วมหารือถึงแนวทางการเตรียมความพร้อม และการบริหารจัดการในระดับพื้นที่ เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ทั้งในประเด็นของการจัดหางบประมาณในการลากจูงเรือ การปรับปรุงและตกแต่งเรือรบวิทยาคม 322 เพื่อให้มีความสง่า สวยงาม รวมทั้งแนวทางการบริหารจัดการในระดับพื้นที่ภายหลังการจัดตั้งเรือรบแล้วเสร็จ,ทั้งนี้ เรือหลวงวิทยาคม หมายเลขเรือ 322 เป็นเรือเร็วโจมตี ติดอาวุธปล่อยนำวิถีเอ็กโซเซ่ต์ มีระวางขับน้ำ ปกติ 270 ตัน เต็มที่ 300 ตัน มีขนาดความยาว 49.80 เมตร ความกว้าง 7.50 เมตร กินน้ำลึก 1.70 เมตร เครื่องจักรเป็นเครื่องยนต์ดีเซล จำนวน 3 เครื่อง กำลัง 4,500 แรงม้า ใบจักร 3 ใบ ความเร็วสูงสุด 36 นอต มัธยัสถ์ 15 นอต มีทหารประจำเรือ 46 นาย เป็นเรือที่ต่อที่ อู่กันติเอรินาวาเล เบรดา ประเทศอิตาลี วางกระดูกงู เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2520 ปล่อยเรือลงน้ำเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2521 และขึ้นระวางประจำการ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2522. | จังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมพร้อมจัดตั้งแสดงเรือหลวงวิทยาคมที่ปลดประจำการ ประกอบคู่กับอนุสาวรีย์ กรมหลวงชุมพรฯ เพื่อสร้างแลนด์มาร์กใหม่หนุนการท่องเที่ยว | ข่าว,ทั่วไทย | เรือหลวงวิทยาคม,นครศรีธรรมราช,อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์,จำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา,แลนด์มาร์กแห่งใหม่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1363259 |
ปั่นป่วนปี 59 เว็บปลอม เพจลวง ระบาด พาดหัวกุข่าวมั่ว ชาวเน็ตชีช้ำ เงิบซ้ำแล้วซ้ำอีก | ข้อเท็จจริงและข่าวลวง มาย้อนไปชมกันว่าคุณได้เคยตกเป็นเหยื่อ เชื่อถือเว็บปลอมจนยอมกดแชร์ข่าวไหนไปแล้วบ้าง,เสียวสะท้าน คลิปหลุดปันปันว่อนเน็ต,ผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าว คลิปหลุด ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ โดยแอบอ้างชื่อดาราสาว และปลอมเว็บไซต์ของสื่อบันเทิงชื่อดัง เพื่อกุข่าวลวงว่า ดาราสาวโดนปล่อยคลิปหลุดว่อนเน็ต ผู้คนจำนวนมากไม่ทราบว่าเป็นข่าวลวง พากันแชร์สนั่นโซเชียล จนคำว่า คลิปปันปัน กลายเป็นคำค้นติดอันดับยอดนิยมในวันนั้นทันที หลายคนค้นหาเพราะอยากจะชมคลิป แต่ผลที่ได้ก็ทำเอาผิดหวังไปตามๆ กัน เพราะลิงค์ที่คลิกเข้าไปนั้นกลับกลายเป็นเว็บโป๊ ,(หลอกให้คลิก เว็บลามกปล่อยข่าวลวง คลิปปันปัน หลุดว่อนเน็ต),พริตตี้โวยช่วยกดสแปมที ไม่รู้จัก ดีเจเก่ง,มือดีรายเดิมแอบตีเนียนไปกับกระแสวิจารณ์พฤติกรรม ดีเจเก่ง-ภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ ที่ขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้สีดำ ถอยหลังชนรถโตโยต้ายาริสสีแดง ทำทีกุข่าวลวงจนเกิดการแชร์สนั่นในโลกโซเชียล อ้างว่า ดีเจเก่งถูกแฟนสาวหน้าตาดี ที่เป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์ขอเลิก เพราะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมที่มีปัญหาบนท้องถนน ซึ่งแท้จริงแล้วหญิงสาวที่อยู่ในภาพนั้นไม่ใช่แฟนสาวของดีเจเก่งแต่อย่างใด จนเจ้าตัวต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก เห้ย คือไร ไม่รู้จักไอ้บ้านี่ด้วยซ้ำ ช่วยกันกดสแปมที ,(ช่วยกดสแปมที มือดีปลอมเว็บสื่อดัง กุข่าว ดีเจเก่ง โดนแฟนสาวบอกเลิก),คนใช้รถผวา รถเก่าเกิน 7 ปีห้ามวิ่ง,ผู้ไม่หวังดีไม่ใช่แค่กุข่าว แต่ยังมีพฤติกรรมชอบหยิบข่าวเก่ามาเล่าใหม่ อย่างกรณีการจำกัดอายุการใช้งานรถยนต์ ห้ามรถเก่าอายุเกิน 7 ปีวิ่งในกรุงเทพฯ เนื้อหาและรายละเอียดทั้งหมดเป็นข่าวเก่า ที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วตั้งแต่ 2 ปีก่อน แถมยังเขียนเหมือนเดิมทุกประการ เคยมีการถกเถียงกันลุกลาม จนมีการทำโพลออกมาว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย จึงทำให้ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าถึงโครงการนี้ แต่คนกลับแชร์ข่าวและคอมเมนต์กันรัวๆ จนกลับมาเป็นประเด็นวิจารณ์ในโลกโซเชียลอีก ,(หยุดแชร์ ห้ามรถอายุเกิน 7 ปีวิ่งในกรุงเทพฯ เป็นข่าวเก่า),กุข่าวคนดังตาย จุดขายของเว็บปลอม,พฤติกรรมของเว็บไซต์หลอกคลิกคนดู เพื่อหวังจะได้ยอดโฆษณา จึงนิยมนำคนดังมาแอบอ้าง กุข่าวว่าเสียชีวิต อย่างกรณีมือดีปลอมเว็บไทยรัฐกุข่าว อดีตพระเอกหนุ่ม สเตฟาน ฐสิษฐ์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนที่สหรัฐฯ จนเจ้าตัวออกมายืนยันว่ายังไม่ตาย และจากการตรวจสอบภาพข่าว พบว่าเป็นภาพที่ถูกเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นรายงานเกี่ยวกับสถิติอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงปี 2548 ไม่ใช่อุบัติเหตุของพระเอกหนุ่มแต่อย่างใด ,(ยังไม่เลิก มือดีป่วนโซเชียล ปลอมเว็บไทยรัฐกุข่าว สเตฟาน ตาย),สาวไซด์ไลน์เครียดจัด โดดตึกถูกถ่ายคลิปประจาน,เว็บปลอมได้สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้สังคมออนไลน์จำนวนมาก หลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าวว่า อายจัด สาวไซด์ไลน์ที่โดนถ่ายคลิปประจาน พบเป็นศพโดดตึก 24 ชั้น เผยจดหมายเด็ด โดยเนื้อหาอ้างอิงจากคลิปดัง ที่หญิงสาวคนหนึ่งถ่ายคลิปประจาน หลังแฟนหนุ่มพาหญิงอื่นเข้ามาในห้อง สุดท้ายก็โอละพ่อ เพราะมีคนทำเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ปลอม แล้วนำภาพจากข่าวอื่นเมื่อปี 2558 ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และแต่งเรื่องเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ,(หยุดแชร์ เว็บปลอมกุข่าวมั่ว สาวไซด์ไลน์โดดตึกไม่จริง),ตำรวจงงตาแตก ข่าวลวงแขวนคอหมา,แม้แต่ตำรวจเองก็ยังโดนคนทำเว็บปลอมนำไปกุข่าว เช่นกรณีสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพสุนัขถูกฆ่าแขวนคอ จากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง โดยเนื้อหาอ้างว่า สุนัขพันธุ์ไทยสีดำถูกตัดแขนตัดขาออกเหลือเพียงส่วนหัวแขวนอยู่กับรั้วหน้าบ้าน เจ้าของบ้านเป็นตำรวจอยู่ที่ขอนแก่น โมโหที่สุนัขปัสสาวะใส่ล้อรถยนต์ป้ายแดง ผู้คนแห่แชร์จนลำบากถึงตำรวจที่ต้องไปตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่าบ้านเลขที่ที่ถูกอ้างอิงในข่าวไม่มีอยู่จริง มิใช่บ้านของตำรวจ ไม่มีศพสุนัข ภาพที่แชร์เป็นภาพเก่า และไม่ได้เกิดขึ้นในไทย ,(ตร.ขอนแก่น โต้ข่าวทำร้ายสุนัขแขวนคอหน้าบ้าน เร่งติดตามผู้โพสต์),คลิปมั่วแชร์วนไปให้ถึงคนชอบกินไก่,อาหารการกินที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมักถูกหยิกยกขึ้นมาหลอกให้คนแชร์บ่อยครั้ง อย่างกรณีเว็บปลอมกุข่าว นำคลิปมั่วมาอ้างว่าเป็นกรรมวิธีในการผลิตไก่ทอดของร้านฟาสต์ฟู้ด ระบุข้อความว่า พนักงานร้านไก่ชื่อดังโชว์วิธีหมักปีกไก่ทอดโดยใช้เท้าเหยียบ จนผู้ดูแลแฟนเพจของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง ต้องออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงถึงคลิปที่มีการแชร์ว่อนโลกโซเชียล ระบุว่าเว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวและคลิปวิดีโอเป็นเว็บไซต์ปลอม พนักงานไม่ทำเช่นนั้นแน่ ผู้บริโภคมั่นใจได้ ,(แอดมิน KFC แจงโซเชียล เว็บปลอมปล่อยคลิปมั่ว หนุ่มพนักงานใช้เท้าเหยียบไก่),ผวาทั่วไทย เฟซบุ๊กแจ้งเตือนเหตุระเบิด,ส่งท้ายปีด้วยเหตุการณ์ผวาสนั่นโซเชียลจาก ฟีเจอร์ เซฟตี้ เช็ค (Safety Check) ของเฟซบุ๊กที่เกิดทำงานผิดพลาด แจ้งเตือนเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ในกรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ ,17 ส.ค.59 ไปยังผู้ใช้งาน เพื่อให้ระบุความปลอดภัย เพื่อแจ้งให้เพื่อนหรือครอบครัวได้รับรู้ โดยสาเหตุความผิดพลาดนี้ ปรากฏพบเว็บไซต์แห่งหนึ่งได้นำข่าวที่เผยแพร่ไว้ของสำนักข่าว BBC มารายงานซ้ำ และนำมาแชร์ต่อหลายครั้ง จนระบบบนเฟซบุ๊กเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ,(อย่าตกใจ เฟซบุ๊กแจ้งเตือนระเบิดกลางเมือง กทม. พบดึงข้อมูลเก่าปี 58),อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา โฆษกเฟซบุ๊กได้แถลงว่าระบบแจ้งเตือนไม่ได้ทำงานผิดพลาด แต่อ้างอิงตามรายงานของสื่อท้องถิ่นที่รายงานชายประท้วงปีนหลังคาอาคารในทำเนียบรัฐบาล และมีการโยนระเบิดปิงปองลงมาจำนวนหนึ่ง ,(เฟซบุ๊ก แจง ระบบเตือนความปลอดภัย อ้างอิงเหตุปาระเบิดปิงปองท่ีทำเนียบฯ),หลายคนอาจเกิดคำถามในใจว่า แล้วคนพวกนี้ทำเว็บปลอมกุข่าวไปเพื่ออะไร? นายฐิติชัย อัฏฏะวัชระ ที่ปรึกษาชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ ไอซีที ได้อธิบายไว้ว่า คนที่ปลอมเว็บไซต์ปลอมเหล่านี้ สาเหตุแรกคืออยากได้ผู้ชม (Traffic) เพื่อได้ค่าโฆษณา สาเหตุต่อมาคือต้องการทำลายชื่อเสียงบุคคลหรือองค์กร รวมไปถึงอาจมีสาเหตุแอบแฝงอื่นๆ อีก ดังนั้นอยากจะให้ทุกคนสังเกต หากเห็นชื่อเว็บเป็นเว็บข่าวก็จริง แต่กรุณาอ่านใต้ภาพด้วย แต่ถ้ากดแล้วไม่เด้งไปที่อื่น คุณรีบปิดเลย ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องคีย์อะไร และถ้าให้ดีควรติดตั้งโปรแกรมที่เกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัยไว้ในคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันไวรัสที่อาจแอบแฝงมาได้ ,(หลอก ล่อ ล้วง เว็บปลอม อาชญากรรมไซเบอร์ แค่เล่น quiz ก็ผิดแล้ว),สำหรับปรากฏการณ์เว็บปลอมระบาดในปี 2559 ทีมข่าวสายตรวจโซเชียลขอฝากข้อคิดไว้ส่งท้ายปีนี้ โปรดเช็กให้ดีก่อนแชร์ หากไม่อยากเงิบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราเตือนคุณแล้ว | โลกยุคออนไลน์เฉกเช่นในปัจจุบัน สื่อโซเชียลได้เข้ามาครอบงำความคิดของผู้คนอย่างหนักหนาสาหัส ซึ่งตลอดทั้งปี 2559 ที่ผ่านมา มีการแชร์ข้อมูลมหาศาล กระจายอย่างรวดเร็ว แต่ทั้งหมดถูกแฝงไปด้วย | null | เว็บปลอม,Click Bait,ข่าวลวง,เช็กก่อนแชร์ | https://www.thairath.co.th/content/825057 |
วอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชุดชิงแชมป์โลก อัจฉรา คงยศ นักกีฬาตัวหลักบาดเจ็บ | เมื่อช่วงค่ำเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ทีมวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทยได้ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อไปเข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์โลก ที่สาธารณรัฐเช็ก ในระหว่างวันที่ 21-30 มิถุนายนนี้ โดยโค้ชยะ ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค หัวหน้าผู้ฝึกสอนให้สัมภาษณ์ว่า ทีมอาจจะต้องขาดอัจฉราพร คงยศ ตัวตบตัวหลักที่เคยก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา หลังจากอัจฉราพรได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าในระหว่างการฝึกซ้อมขณะเดียวกันโค้ชยะยังบอกอีกว่า ทีมมีเวลาเตรียมตัวกันค่อนข้างน้อย โดยหลังจากนำทีมไปอุ่นเครื่องที่เวียดนามเมื่อเดือนที่แล้ว นักกีฬาแต่ละคนต่างก็ต้องแยกย้ายไปรับใช้ต้นสังกัดในการแข่งขันวอลเลย์บอลถ้วย ก. และวอลเลย์บอลซูเปอร์ลีก แต่แม้จะร่วมทีมกันน้อย ก็จะพยายามสร้างผลงานให้ดีที่สุดสำหรับทีมวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทยอยู่ร่วมสายกับจีน ญี่ปุ่น เซอร์เบีย และโคลัมเบีย โดยจะประเดิมนัดแรกในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ด้วยการพบญี่ปุ่น ต่อด้วยโคลอมเบีย จีน และเซอร์เบียในนัดสุดท้าย | ทีมวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงทีมชาติไทยโชคร้ายอัจฉราพร คงยศ ตัวตบตัวหลักได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า จนอาจพลาดการลงเล่นในศึกวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์โลก ที่สาธารณรัฐเช็ก | กีฬา | ทีมชาติ,บาดเจ็บ,วอลเลย์บอล,อัจฉราพร คงยศ,เช็ก | https://news.thaipbs.or.th/content/178039 |
95.8%ยันไปเลือกตั้งแน่นอน | นิด้าโพลบ่งชัด จตุพรเค้นกกต. ให้พูดความจริง เสี่ยอิมพีเรียล นำทัพเพื่อชาติ,วิษณุ โยน กกต.ชี้ขาดเลื่อน-ไม่เลื่อนเลือกตั้ง ผบ.ตร.ตั้งศูนย์รับมือปลุกระดม อ้างมีการข่าวขบวนการยั่วยุปลุกปั่น สนธิรัตน์ โว พปชร.ผู้สมัครทับซ้อนเป็นร้อย อุตตมอ่อยชาวไร่อ้อยแย้มข่าวดีขึ้นราคาอีกระลอก สุดารัตน์ ขึ้นห้างแพลทินัมถกแม่ค้า-ล่าสมาชิก ไม่แคร์ลูกทีมตีจาก โพลทักษิณ ฟันธง พท.-เครือข่ายกวาด 290 ส.ส. ถ่ายเทลูกพรรคยังไม่สะเด็ดน้ำ สงคราม นำทัพ เพื่อชาติ ทุ่มเทบั้นปลายชีวิตให้ประเทศ จตุพร จี้ กกต.พูดความจริงขยับหย่อนบัตร เหตุ 31 พรรคยังไม่ได้จดจัดตั้ง,จรุงวิทย์ โต้พร้อมจัดคูหา เร่งรับรองอีกแค่ 12 พรรค อภิสิทธิ์-จุติ ควงคู่นอนมารั้งหัวหน้าและเลขาฯปชป. อภิรักษ์ ผงาดประธานเฟ้นผู้สมัคร นิด้าโพลชี้คนไทยตื่นตัวอยากใช้สิทธิร้อยละ 95.8 แต่ไม่รู้กาบัตรกี่ใบ ต่างเขตคนละเบอร์ ดุสิตโพลระบุแฟนคลับไม่เปลี่ยนใจเลือกพรรคเดิม,หลังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีออกมาชี้แจงไทม์ไลน์การเลือกตั้ง แต่ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ฝ่ายการเมือง ที่ยังคงเชื่อว่าจะมีเหตุให้เลื่อนการเลื่อนตั้งจากวันที่ 24 ก.พ.2562 ออกไปอีก ล่าสุดนายวิษณุได้ระบุว่า หาก กกต.ไม่พร้อมจัดการเลือกตั้ง ยังสามารถเลื่อนออกไปได้ โดยเป็นหน้าที่ของ กกต.จะพิจารณา ไม่ใช่เรื่องของ คสช.,วิษณุ แจงข้อห้าม บิ๊กตู่ ชิงนายกฯ,เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบรับให้พรรคการเมืองใด เสนอชื่อชิงนายกฯ ในการเลือกตั้ง จะสามารถปราศรัยหาเสียงได้หรือไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์เดินสายลงพื้นที่ในฐานะนายกฯคนปัจจุบันได้ เนื่องจากยังทำหน้าที่การบริหารราชการแผ่นดินอยู่ ยังเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม เพียงแต่ช่วงหาเสียง พล.อ.ประยุทธ์ พูดโน้มน้าวให้เลือกพรรคที่สนับสนุนตัวเองไม่ได้ ถือเป็นความผิด แม้จะอยู่นอกเวลาราชการเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นผู้สมัครของพรรค เป็นเพียงผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ยังถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และร่วมเวทีปราศรัยพรรคการเมืองที่สนับสนุนไม่ได้ด้วย ต้องวางตัวเป็นกลาง และไม่ให้คุณให้โทษต่อพรรค การเมือง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.บัญญัติห้ามไว้ เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองนั้นๆไปหาเสียงสนับสนุนใครเป็นนายกฯ แต่พูดเชิญชวนให้มาใช้สิทธิเลือกตั้งได้,เลื่อนเลือกตั้งหรือไม่โยน กกต.ชี้ขาด,นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีที่ คสช.จะนัดหารือกับพรรคการเมือง หากหลายพรรคการเมืองระบุเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่พร้อมเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 จะเป็นเหตุให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปหรือไม่ว่า กรณีดังกล่าวตนไม่ทราบ เนื่องจากคนกำหนดวันเลือกตั้งคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อ กกต.ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากพรรคการเมืองแล้วต้องคิดเอง เพราะหาก กกต.ไม่พร้อมจัดการเลือกตั้ง ยังสามารถเลื่อนวันออกไปได้ แต่เมื่อวันนี้ กกต.บอกว่าพร้อม แต่หากคนอื่นบอกว่าไม่พร้อมต้องไปพิจารณา ไม่ใช่เรื่องของ คสช.,ผบ.ตร.ตั้งศูนย์รับมือป่วนเลือกตั้ง,พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน มีผู้กระทำความผิดอาญาในรูปแบบหลากหลาย การกระทำของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล มีลักษณะเป็นเครือข่าย ขบวนการ องค์กรและอาจเชื่อมโยงทั้งในและต่างประเทศ อาจมีการปลุกระดมให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ เพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหรือกระทำการเพื่อลดความเชื่อถือต่อองค์กร ที่เป็นการกระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ความผิดอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีงามของพี่น้องประชาชน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของรัฐ สำนักงานตำรวจแห่งชาติตระหนักถึงความสำคัญเรื่องความมั่นคงของรัฐ จึงได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 599/2561 ลงวันที่ 17 ต.ค. เรื่องศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบการกระทำอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของรัฐ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอสม.ตร.),คุมยิบความสงบ-ความมั่นคงแห่งรัฐ,ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า มอบหมายให้ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รรท.รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รรท.รอง ผบช.สกบ. เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ กำหนดอำนาจหน้าที่ควบคุม กำกับ สั่งการ การบริหารราชการ และการดำเนินงานตรวจสอบ ติดตาม ปราบปรามการกระทำความผิดต่อความสงบ เรียบร้อย หรือความมั่นคงของรัฐตามประมวลกฎหมาย อาญา หรือความผิดที่มีโทษทางอาญา ไม่ว่าจะเป็นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด ยาเสพติดให้โทษ ขอประชาสัมพันธ์ประชาชนหากต้องการแจ้งข้อมูล เบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลมายังศูนย์ ศอสม.ตร.ชั้น 9 อาคาร 1 สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 หรือจะแจ้งมายังสายด่วน 1599 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ,อ้างมีข่าวปลุกระดมการเมืองว่อนสื่อ,มีรายงานว่าคำสั่งจัดตั้ง ศอมส.ตร. เนื่องจากมีการข่าวเข้ามาหลายทางทั้งในสื่อปกติและสื่อโซเชียลเข้าข่ายมีการปลุกระดมทางการเมือง เพื่อทำให้สับสนและยั่วยุให้เกิดความเข้าใจผิดเป้าหมาย ดิสเครดิตในการบริหารงานของรัฐบาล รวมทั้งการให้ข่าวที่เป็นเท็จ เพื่อทำให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง กระทำเป็นขบวนการจงใจปล่อยข่าวออกมาในช่วงที่มีการเตรียมจัดการเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องจัดตั้งศูนย์ ศอมส.เข้ามารับผิดชอบ ติดตามด้านการข่าวและจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงต้นตอของข่าวที่ปล่อยออกมา,พปชร.เบิกโรงรับสมาชิก 13 พ.ย.,เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (อาคารปานศรี) ถนนรัชดาภิเษก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรค นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการบริหารพรรค นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ เหรัญญิก เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อตรวจสอบความพร้อมการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคในวันที่ 13 พ.ย. เป็นวันแรก โดยนายสนธิรัตน์และนายกอบศักดิ์ ได้ทดลองสมัครสมาชิกผ่านเครื่องอ่านบัตรประชาชน ที่นำมาใช้รับสมัครสมาชิก และประชุมเตรียมความพร้อมการทำกิจกรรมของพรรค โดยนายสนธิรัตน์กล่าวว่า วันที่ 13 พ.ย. พรรคพร้อมเปิดรับสมัครสมาชิกเป็นวันแรก 4 รัฐมนตรีแกนนำพรรคจะมาสมัครเป็นสมาชิกก่อนเวลา 08.00 น. จากนั้นจะไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และได้เตรียมสถานที่รับสมาชิกพรรคไว้พร้อมหมดแล้วทั่วประเทศ และพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง,เนื้อหอมผู้สมัคร ส.ส.ทับซ้อนนับร้อย,นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่าขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจเข้าเป็นสมาชิกพรรคเป็นจำนวนมาก ทั้งบุคคลที่มีชื่อเสียงและตัวแทนองค์กรต่างๆ เวลา 10.30 น. วันที่ 18 พ.ย. พรรคจะประชุมใหญ่ที่โรงแรมแชงกรีลาพร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บางส่วน ขณะนี้มีผู้สนใจจะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาทับซ้อนพื้นที่กันเป็นร้อย พรรคจึงใช้วิธีทำโพลเพื่อดูคะแนนนิยมการได้รับการยอมรับจากประชาชน อย่างไรก็ตาม พรรคอยากได้คนเติบโตและพร้อมเดินไปกับพรรค ได้คนที่เป็นตัวแทนองค์กรมากกว่าคนที่มีชื่อเสียงหรือเซเลบ,ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าหลัง กกต.รับรองพรรคจะดำเนินการเต็มรูปแบบจากที่กล้าๆ กลัวๆ เกรงจะถูกยุบพรรค เลยไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง วันที่ 25-26 พ.ย. จะครบ 90 วันก่อนการเลือกตั้ง ต้องเตรียมผู้สมัครให้เรียบร้อย 15 วันจากนี้ต้องจัดให้ลงตัวให้ได้ครบทุกเขต แม้มีพื้นที่ทับซ้อนมากก็ตาม จะมีศิลปิน ดารา นักร้องด้วย ส่วน 4 รัฐมนตรีขอทำงานอีกระยะหนึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่งจะลาออกพร้อมกัน ส่วนวันที่ 15 พ.ย.กลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคจะไปจัดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์,อุตตม แย้มข่าวดีชาวไร่อ้อย,นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะเดินทางไปที่สมาคมชาวไร่อ้อยเขต 11 ที่หมู่ 1 ต.หัวหวาย อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ที่มีการจัดประชุมสมาชิก ประจำปี 2561 มีสมาชิกเข้าร่วมประมาณ 4,000 คน นายอุตตมได้เดินเยี่ยมเกษตรกรชาวไร่อ้อย รับทราบข้อมูลจากชาวไร่อ้อย และแจ้งข่าวดีว่า ตามประกาศของกระทรวงฯ ราคาอ้อยอยู่ที่ตันละ 680 บาท ในวันที่ 15 พ.ย. ผู้เกี่ยวข้องจะทำประชาพิจารณ์ อาจมีการปรับราคาอ้อยเพิ่มขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง ขอให้เกษตรกรรอฟังข่าวดีนี้,โพลทักษิณ ชี้ พท.กับพวกได้ 290 ส.ส.,ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ว่าจ้างบริษัททำโพลชื่อดังระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ลงพื้นที่ทำโพลสำรวจคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย และพรรคเครือข่าย อาทิ พรรคไทยรักษาชาติ เพื่อชาติเพื่อธรรม ประชาชาติ เสรีรวมไทย ปรากฏว่าได้สัดส่วนคะแนนเสียงสูงถึง 58% หรือคิดเป็นจำนวน ส.ส. 290 คน สำหรับสำนักโพลดังกล่าวนายทักษิณเคยว่าจ้างทำโพลมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะการเลือกตั้งเมื่อปี 51 และ 54 ซึ่งผลสำรวจที่ออกมามีความแม่นยำสูงมาก บวกลบไม่เกิน 10 ที่นั่ง จึงทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคเครือข่าย จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะจากคะแนนเสียงที่สำรวจออกมา ขอเพียงรวบรวม ส.ส.จากพรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก อีกไม่กี่พรรค จะสามารถโหวตเลือกนายกฯ ที่ใช้เสียง 376 ส.ส.ได้แล้ว,คิดหนักเกลี่ยผู้สมัครทำหน้าที่,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโพลดังกล่าวชี้ว่าพรรคเพื่อไทยที่เน้นเป้าหมายใน ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้งจะได้ ส.ส.200 ที่นั่งขึ้นไป โดยขณะนี้จากการใช้ยุทธศาสตร์แยกพรรค แยกเป้าหมายระบบ ส.ส. ส่งผลให้บุคลากรส่วนหนึ่งที่คาดหวังได้รับเลือกเป็น ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ทยอยย้ายไปอยู่ที่พรรคเครือข่าย โดยเฉพาะพรรคไทยรักษาชาติ แต่ทั้งหมดยังไม่ลงตัวดีนัก เนื่องจากต้องเกลี่ยคนว่าใครเหมาะสมจะไปอยู่พรรคไหน เพื่อทำหน้าที่อะไร เช่น การปราศรัยหาเสียง ที่แต่ละพรรคต้องมีแกนนำหลักในการลงพื้นที่ขึ้นเวที รวมถึงการวางตัวให้คนที่มีฝีมืออภิปราย จำเป็นต้องได้รับเลือกให้เป็น ส.ส. เพื่อทำหน้าที่ในสภาฯ,ภูมิธรรม เข้าใจหัวอก ส.ส.ตีจาก,วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ส่งข้อความทางไลน์ถึงอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ด้วยความเข้าใจและเห็นใจอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เดินออกไปเลือกทางเดินใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญและกติกาที่ผู้มีอำนาจกำหนดขึ้น มุ่งทำลายความเป็นสถาบันของพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคใหญ่ ขอเป็นกำลังใจ เข้าใจและเห็นใจยิ่งกับทุกคน ขอให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ช่วยเป็นพลังสำคัญทำให้สังคมไทยมีความเป็นประชาธิปไตย และเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาชีวิตและปากท้องให้พี่น้องประชาชน,เจ๊หน่อย ตะลุยประตูน้ำหาสมาชิก,เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ห้างสรรพสินค้าแพลทินัม ประตูน้ำ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำ อาทิ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกฯ ลงพื้นที่เชิญชวนประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่าประชาชนและผู้ค้าส่วนใหญ่สะท้อนปัญหาเศรษฐกิจยอดขายตก บางร้านตก 80-100 เปอร์เซ็นต์ แม้จะอัดงบประมาณลงระดับรากหญ้า แต่ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ จึงมอบให้นายกิติรัตน์ ณ ระนอง และนายโภคิน พลกุล ไปหาแนวทางแก้ไข เพื่อวางนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ น่าเสียดายพรรคการเมืองถูกปิดกั้นไม่ให้สื่อสารกับประชาชน ทั้งที่กฎหมายการเลือกตั้งบังคับใช้แล้ว ไม่กลัวหาเสียงไม่ทันมั่นใจว่า 60 วันหาเสียงได้ทัน แต่กลัวการปิดกั้นการรับฟังประชาชน,ไม่แคร์ลูกทีมย้ายหนีบอกเรื่องธรรมดา,คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวถึงกรณีที่มีอดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวณิชย์ จะย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักษาชาติว่า วันนี้อย่าพยายามจับคนนั้นคนนี้ เพราะวงการการเมืองมีพรรคใหม่ๆเกิดขึ้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ว่าใครอยากไปตรงไหน เราไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างย่อมมีเหตุผลว่าทุกคนต้องการกลับมาทำงาน ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เป็นสิทธิที่ต่างคนจะหาว่าตัวเองจะเดินทางไหนแล้วแต่จะตัดสินใจ เป็นเรื่องธรรมดาไม่เป็นอะไร ใครจะไปอยู่พรรคไหนก็ได้ เป็นเรื่องธรรมดา,โภคิน ขู่ใครเลื่อนเลือกตั้งมีปัญหาแน่,นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯเปิดไทม์ไลน์การเลือกตั้งว่า วันนี้ประชาชนรอวันเลือกตั้ง รอวันจะไปลงคะแนน เพราะไม่ได้ลงมา 7 ปีแล้ว จะเอาอย่างไรก็เอา หากวันที่ 24 ก.พ.2562 ไม่มีเลือกตั้ง ใครทำให้เลื่อนอออกไป ต้องมีปัญหาแน่ เพราะยืนยันไว้แล้ว แต่ก่อนวันที่ 24 ก.พ.2562 การดำเนินการต่างๆ อยากให้ทำด้วยความยุติธรรม ต้องให้โอกาสประชาชน อย่าไปกลั่นแกล้งรังแก เพราะประชาชนลำบากอยู่แล้ว อยากขอให้เริ่มต้นด้วยดีไปสู่จุดนั้น และยอมรับผลการเลือกตั้ง,สงคราม ถือธงนำพรรค เพื่อชาติ,วันเดียวกัน ที่อาคารอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว พรรคเพื่อชาติแถลงข่าวเปิดตัวนายสงคราม กิจเลิศ-ไพโรจน์ อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ โดยนายสงครามกล่าวว่า ได้รับการทาบทามจากหลายคนในพรรคเพื่อชาติ ให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ได้ทบทวนอยู่หลายวัน เพราะจริงๆแล้วอยู่ที่เดิมก็สบายดี หากพรรคเดิมที่สังกัดอยู่ได้เป็นรัฐบาล ตนมีโอกาสได้รัฐมนตรี แต่คิดดูแล้วทุกวันนี้ถึงจะมีการเลือกตั้งไปแล้ว ไม่ว่าฝ่ายใดเป็นรัฐบาล การบริหารประเทศจะไม่ราบรื่น เป็นรัฐบาลเป็ดง่อย หากฝ่ายประชาธิปไตยได้เป็นรัฐบาล คงไม่ต่างกัน เพราะโครงสร้างเป็นเสมือนรัฐซ้อนรัฐ มีอีกหลายองค์กรที่สามารถอยู่เหนือกว่ารัฐบาลในอนาคต,ลั่นทุ่มเทบั้นปลายชีวิตให้ประเทศ,แต่ที่ผ่านมาพรรคเพื่อชาติ ชูนโยบายเกาะกลางทางการเมือง เปิดพื้นที่คุยกับทุกฝ่าย ไม่ว่าฝ่ายใด สีอะไรก็สามารถหารือกันได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนจุดยืน เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ จึงตัดสินใจรับเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนจะได้เป็นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคจะประชุมกันในวันที่ 23 พ.ย. เท่าที่ทราบมาพรรคนี้ไม่มีใครสั่งใครได้ หากสมาชิกเลือกผมเป็นหัวหน้าพรรคก็ยินดีรับใช้ ยอมรับว่าเหนื่อยยากกว่าเดิม แต่ในทางการเมือง หากไม่มีคนเสียสละประเทศก็เดินหน้าต่อไม่ได้ จึงขอทุ่มเทเวลาบั้นปลายชีวิตให้ประเทศ นายสงครามกล่าว,ตู่ จี้ กกต.พูดความจริงเลื่อนกาบัตร,เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมประชามติ ศูนย์การค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.แถลงถึงสถานการณ์บ้านเมืองว่า กกต.และ คสช.ควรพูดความจริงกับประชาชนว่าการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.2562 ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ต้องเลื่อน 100 เปอร์เซ็นต์ แม้ไม่มีปัจจัยทางการเมืองก็ตาม ทางเทคนิคแล้วไม่มีทางเป็นไปได้ ยังมีพรรคที่อยู่ระหว่างการรับจดจัดตั้งพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง 31 พรรค กรอบเวลาวันสุดท้ายที่จัดการเลือกตั้งได้คือวันที่ 9 พ.ค.62 ยังมีระยะเวลาที่จะไปถึง เชื่อว่าอีกไม่กี่วัน กกต.จะออกมายอมรับว่าไม่สามารถจัดเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.2562 ได้ทัน เพราะยังเหลือพรรคที่ไม่ได้จดจัดตั้ง ขอให้ กกต.และคสช.หารือตกผลึกได้ข้อสรุปวันเลือกตั้งที่ชัดเจน วันใดก็ได้ตามที่ คสช.และ กกต.สบายใจ แต่ต้องเลื่อนครั้งสุดท้าย ต้องพูดความจริงกับประชาชน ขอประชาชนอย่ามีความรู้สึกกับการเลื่อนเลือกตั้ง มองข้ามความรู้สึกว่าถูกหลอก รับไม่ได้ก็ต้องทน มิฉะนั้นเราจะเดินไปไม่ถึงวันเลือกตั้ง,ยกหัวเรือใหญ่ผู้เสียสละเพื่อ ปชต.,นายจตุพรกล่าวต่อว่า กรณีอดีตพระพุทธะอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กให้ทุกฝ่ายให้อภัยต่อกันเพื่อความปรองดอง เชื่อว่ามีกลิ่นอายของความแตกต่างแต่ไม่แตกแยก เพราะตนและอดีตพระพุทธะอิสระต่างต่อสู้ตามความคิดของแต่ละฝ่าย แต่พอเข้าไปอยู่ในเรือนจำมีสถานะเดียวกัน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องบ้านเมือง ได้มองว่าแม้จะมีความคิดแตกต่างกัน แต่อยู่ในสังคมร่วมกันโดยไม่แตกแยกได้ ไม่คิดว่าความแตกต่างคือศัตรู สามารถอยู่ร่วมกันได้แม้จะคิดไม่เหมือนกัน สำหรับกรณีพรรคเพื่อชาติเสนอชื่อนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติคนใหม่ ในฐานะเป็นกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ เห็นด้วยทุกประการที่พรรคเสนอชื่อนายสงคราม เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เพราะนายสงครามเสียสละ เพื่อประชาธิปไตยมายาวนานกว่า 10 ปี ให้กลุ่มการเมืองที่เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยได้ใช้พื้นที่ในห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ไม่ได้สิ่งตอบแทนใดๆ การจะหาคนแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย,ตระเวนอีสาน-ใต้ตั้งสาขาพบสมาชิก,ด้าน น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง ทีมสื่อสารทางการเมืองพรรคเพื่อชาติ แถลงว่า พรรคเพื่อชาติจะลงพื้นที่ต่างจังหวัดพบปะสมาชิกพรรคและเปิดสาขาพรรค วันที่ 15 พ.ย. ไป อ.ปากช่อง เปิดศูนย์ประสานงาน จ.นครราชสีมา วันที่ 16 พ.ย. ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์และศรีสะเกษ ตั้งศูนย์ประสานงานที่ จ.บุรีรัมย์ วันที่ 17 พ.ย. ตั้งศูนย์ประสานงานที่ จ.ชัยภูมิ วันที่ 18 พ.ย. ตั้งศูนย์ประสานงาน จ.เลยและเพชรบูรณ์ วันที่ 20 พ.ย. ลงพื้นที่ จ.ยะลา นราธิวาสและปัตตานี จากนั้นวันที่ 23 พ.ย. พรรคจะจัดประชุมใหญ่ประจำปีครั้งที่ 3 ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่,มาร์ค นอนมา วรงค์-จ้อน ถอนตัว,เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ฯ ถนนวิภาวดีรังสิต พรรคประชาธิปัตย์จัดการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 2/2561 เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 41 คน และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 11 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีอดีต ส.ส. สมาชิกพรรคเข้าร่วมกว่า 500 คน โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก และนายอลงกรณ์ พลบุตร 2 อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าเข้าร่วมด้วย รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ นิวเด็ม (New Dem) ก้าวนอกกรอบ อาทิ ไอติม-นายพริษฐ์ วัชรสินธุ และปลื้ม-นายสุรบถ หลีกภัย บุตรชายนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ มารณรงค์เปิดตัวสมาชิกและแนวนโยบายจากคนรุ่นใหม่ด้วย โดยได้ยืมเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ของ กกต. 44 เครื่องมาใช้ ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ ขณะที่นายสงกรานต์ ตั้งจิตติสุทธิภากร อดีต ส.ส.นครสวรรค์ เสนอชื่อ นพ.วรงค์ แต่ นพ.วรงค์ขอถอนตัว พร้อมกล่าวขอโทษบางสิ่งที่ทำไปอาจล้ำเส้นบ้างและขอเสนอชื่อนายศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี เป็นรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน ส่วนนายชาลี เจริญสุข สมาชิกพรรคเสนอชื่อนายอลงกรณ์ ซึ่งขอถอนตัวไปเช่นกัน,ทีมมาร์ค คุมเบ็ดเสร็จรอง หน.ภาค,จากนั้นที่ประชุมให้สมาชิกเข้าคูหาลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรค มีผู้ใช้สิทธิ 259 คน นายอภิสิทธิ์ได้รับเสียงสนับสนุนร้อยละ 96.77 จากนั้นเลือกรองหัวหน้าภาค โดยนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู (แม่เลี้ยงติ๊ก) อดีต ส.ส.แพร่ ได้เป็นรองหัวหน้าภาคเหนือแบบไร้คู่แข่ง นายวิฑูร นามบุตร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นรองหัวหน้าภาคอีสาน หลังนายศุภชัย ศรีหล้า ขอถอนตัว นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.ระยอง ยังเป็นรองหัวหน้าภาคกลาง ภาคใต้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง แข่งกับนายวิทยา แก้วภารดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่ได้ร้อยละ 38.5 นายนิพิฏฐ์ชนะไปด้วยคะแนนร้อยละ 61.02 รองหัวหน้าภาค กทม. นายองอาจ คล้าม–ไพบูลย์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ร้อยละ 45.55 พ่ายนายสรรเสริญ สะมะลาภา อดีต ส.ส.กทม. ที่ได้ไปร้อยละ 53.06 ช่วงบ่ายได้เลือกรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ 8 คน ได้แก่ 1.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ 2.นายนิพนธ์ บุญญามณี 3.นายอิสสระ สมชัย 4.นายกรณ์ จาติกวนิช 5.นายชินวรณ์ บุญเกียรติ์ 6.นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ 7.นายอลงกรณ์ พลบุตร และ 8.นายอัศวิน วิภูศิริ,จุติ เลขาฯอีกยกดันเด็กรองเลขาฯอื้อ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่ประชุมเสนอชื่อนายจุติ ไกรฤกษ์ อดีต ส.ส.พิษณุโลก เป็นเลขาธิการพรรคต่อโดยไม่มีคู่แข่ง จากนั้นนายจุติเสนอชื่อรองเลขาธิการพรรค 9 คน ให้ที่ประชุมโหวตเลือกได้ 6 คน ได้แก่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นายนราพัฒน์ แก้วทอง นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ นายมนตรี ปานน้อยนนท์ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร และนายอภิชาติ ศักดิเศรษฐ์ ส่วนนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ เป็นเหรัญญิกพรรค น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ นายทะเบียนพรรค และเลือกนายธนา ชีรวินิจ เป็นโฆษกพรรค ส่วน กก.บห. สัดส่วนของสภาท้องถิ่น คือนายขยัน วิพรมชัย นายนิพนธ์ บุญทองซุ่น นายณัฐพงษกร คุ้มตะกั่ว และนายไพร พัฒโน ตามด้วย กก.บห. ที่สมาชิกโหวตเลือก 8 คน คือ 1.นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ 2.นายราเมศ รัตนเชวง 3.น.ส.รัชดา ธนาดิเรก 4.นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง 5.น.ส.นริศา อดิเทพวรพันธุ์ 6.นายวิรัช ร่มเย็น 7.นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ และ 8.นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ทั้งนี้ ยังขาดอีก 5 คน เป็นสัดส่วนจากตัวแทนสาขาพรรค จะประชุมอีกครั้ง,อภิรักษ์ ผงาด ปธ.คัดผู้สมัคร ส.ส.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชุด 11 คน ประกอบด้วย 1.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นประธาน 2.นางอัญชลี วานิช เทพบุตร 3.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน 4.นายเทพไท เสนพงศ์ 5.นายจุติ ไกรฤกษ์ 6.น.ต.สุธรรม ระหงษ์ 7.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช 8.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ 9.นายอิสสระ สมชัย 10.นายนิพนธ์ บุญญามณี 11.นายอัศวิน วิภูศิริ โดยมีคณะที่ปรึกษา คือนายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ และนายสามารถ มะลูลีม,มาร์ค ลั่นชิงเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล,จากนั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคและ กกต.พรรคทั้ง 2 ชุดว่า ทุกคนเหนื่อยกับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค นั่นเป็นแค่ตีนภูเขา แต่ยอดเขาที่แท้จริงคือการนำพาประเทศและฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ที่ไม่ใช่แค่วัดจีดีพี หรือดีเฉพาะคนบางกลุ่ม ที่สำคัญต้องมีส่วนร่วมสร้างคนดีเข้าสู่การเมือง เราต้องเข้มแข็งสามัคคี อีก 2 วันจะมีคนรุ่นใหม่ของพรรคที่ท้าทายทั้งหมดจะถึงยอดเขาได้ เราต้องชนะการเลือกตั้งและมีบทบาทที่ชัดเจน เป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล เราไม่เล่นเกมแตกพรรคหรือเกมต่อรอง เราจะเป็นผู้คืนการเมืองให้ประชาชน และร่วมพาคนไทยไปสู่ยอดเขาด้วยกัน,สุเทพ ไปโก–ลก อ้อนอย่าทิ้งลุงกำนัน,เมื่อเวลา 07.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และอดีตเลขาธิการ กปปส. พร้อมนายสุรเชษฐ์ แวอาแซ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ด.ต.มโณ วารีวะนิช ส.จ.นราธิวาส ออกจากโรงแรมเก็นติ้ง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเดินแจกจ่ายใบสมัครสมาชิกพรรค ท่ามกลางสายฝนประปราย อ้อนพ่อค้าแม่ค้าทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม และประชาชนที่มาเลือกซื้อสินค้า ที่ตลาดสดเก็นติ้ง ชูป้ายพรรคและข้อความถ้ารักลุงกำนันจริง อย่าทิ้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย มีประชาชนขอถ่ายรูปตลอดเส้นทาง,นายสุเทพ เปิดเผยว่า ชาวสุไหงโก-ลก ต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่พูดว่ามีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ย้ายมาอยู่พรรครวมพลังประชาชาติไทยจำนวนมากนั้น ขอแก้ข่าวว่าไม่จริง แต่เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยทำงานใกล้ชิดกับตน มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกันสมัครใจมาอยู่ มั่นใจว่าจะได้ ส.ส.ภาคใต้มากทีเดียว เพราะว่าประชาชนภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นคนรักพวกพ้อง จริงใจต่อมิตร พี่น้องจะไม่ทิ้งกัน,ภท.ทยอยเปิดสาขาปักษ์ใต้นำร่อง,นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดสาขาพรรคภูมิใจไทยตามภาคต่างๆว่า พรรคภูมิใจไทยจะเปิดสาขาพรรค ดังนี้ สาขาพรรคลำดับที่ 1 ที่ภาคใต้ จ.พัทลุง วันที่ 17 พ.ย. จะประชุมเลือกกรรมการ สาขาพรรค กำหนดสถานที่ตั้งตามกฎหมาย ส่วนวันที่ 23 พ.ย. จะเปิดสาขาพรรค ลำดับที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.บุรีรัมย์ ส่วนสาขาพรรคที่เหลืออีก 2 แห่ง คือภาคเหนือ จ.นครสวรรค์ และภาคกลาง จ.ปทุมธานี จะเปิดภายในสิ้นเดือน พ.ย. ตามลำดับ หลังจาก กกต.ประกาศเขตเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 350 เขตแล้ว พรรคจะเร่งดำเนินการเลือกตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ให้แล้วเสร็จกลางเดือน ธ.ค.,เลขาฯ กกต.ยันพร้อมจัดคูหา 24 ก.พ.62,พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.มั่นใจว่าเลื่อนการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 อีก เพราะนายทะเบียนพรรคการเมืองไม่สามารถรับจดจัดตั้งอีก 31 พรรคได้ทันว่า ได้ลงนามรับรองพรรคใหม่ไปแล้ว 25 พรรค จากที่ยื่นมา 37 พรรคเหลือเพียง 12 พรรค ที่กำลังตรวจสอบความถูกต้อง ล่าสุดมีบางพรรคเพิ่งยื่นเอกสารเข้ามาวันที่ 7 พ.ย. จะเร่งทำงานเต็มที่ สถานะความเป็นพรรคการเมืองจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่นายทะเบียนพรรคการเมืองลงนามทันทีไม่จำเป็นต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ขณะที่สถานะสมาชิกพรรคของผู้ร่วมก่อตั้งพรรคนั้น จะมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่พรรคการเมืองได้ยื่นเอกสารต่อ กกต. ขอยืนยันด้วยว่าสำนักงาน กกต.มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 แน่นอน,ปชช.ไม่รู้กาบัตรกี่ใบต่างเขตต่างเบอร์,วันเดียวกัน นิด้าโพล สถาบัน บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีอายุ 18 ปี 1,261 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง ความเข้าใจของคนไทยต่อการเลือกตั้งแบบใหม่ 2562 ระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย. พบว่าเมื่อถามถึงการ กาบัตรลงคะแนน คนละกี่ใบ ร้อยละ 77.80 ระบุว่าไม่ทราบต้องกาบัตรลงคะแนนกี่ใบ ร้อยละ 22.20 ระบุว่าทราบว่าต้องกาบัตร 1 ใบ ขณะที่ประเด็นหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตของแต่ละพรรคในต่างเขตเลือกตั้ง จะมีหมายเลขเดียวกันหมด หรือต่างเขตเลือกตั้งต่างหมายเลข ร้อยละ 82.79 ระบุว่าไม่ทราบ มีเพียงร้อยละ 17.21 ที่ทราบว่าต่างเขตเลือกตั้งต่างหมายเลข ทั้งนี้ร้อยละ เมื่อถามถึงช่วงเวลาการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ร้อยละ 73.51 ระบุว่าไม่ทราบช่วงเวลาการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ร้อยละ 20.30 ทราบว่าเป็น ช่วงเวลา 08.00-17.00 น. และร้อยละ 6.19 ไม่ระบุ/ ไม่แน่ใจ ในจำนวนผู้ที่ไม่ทราบนั้น มีถึงร้อยละ 75.73 คิดว่าเป็นช่วงเวลา 08.00-15.00 น. และร้อยละ 24.27 ระบุว่าเป็นช่วงเวลา 08.00-16.00 น.,แต่ตื่นตัวพร้อมไปใช้สิทธิร้อยละ 95.8,เมื่อถามถึงการไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. 62 ร้อยละ 95.80 ระบุว่าไปแน่นอน ร้อยละ 2.22 ระบุว่าไม่ไปแน่นอน เพราะเลือกไป ไม่มีอะไรดีขึ้น บางส่วนไม่สะดวกเดินทางไปลงคะแนนเสียง และร้อยละ 1.98 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ เมื่อถามผู้ที่จะไปลงคะแนนวันที่ 24 ก.พ. แน่นอนว่าจะเลือกผู้สมัคร เลือกพรรค เลือกว่าที่นายกฯที่พรรค สนับสนุน หรือเลือกนโยบายพรรค ร้อยละ 47.02 ระบุว่าเลือกนโยบายพรรค ร้อยละ 19.62 ยังไม่ตัดสินใจ ร้อยละ 14.15 เลือกพรรค ร้อยละ 13.91 เลือกผู้สมัคร และร้อยละ 5.30 เลือกว่าที่นายกฯที่พรรคสนับสนุน,ตามข่าว พท.-เทือกถูกต้านเดินหาเสียง,ขณะที่สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,176 คน เรื่องพรรคการเมืองควรทำอย่างไร? จึงจะโดนใจประชาชน เมื่อวันที่ 7-10 พ.ย. โดยพรรคที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ คือพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 46.67 เห็นว่าเป็นพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลชัดเจน มีรัฐมนตรีร่วมบริหารพรรค ร้อยละ 32.38 ถูกจับตามองมีกลุ่มสามมิตร ดึงนักการเมืองดังๆเข้าร่วม และร้อยละ 20.95 ได้เปรียบ มีเวลามากกว่าพรรคอื่น ส่วนพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 50.34 ทราบว่าประสบปัญหาทั้งภายในและภายนอก ร้อยละ 34.16 มีกระแสข่าวการยุบพรรคและเตรียมจัดตั้งพรรคใหม่ ร้อยละ 15.50 เป็นพรรคที่คนส่วนใหญ่ยังสนใจติดตามข่าว โดยเฉพาะข่าวอดีตนายกฯทักษิณ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 37.53 สนใจการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคร้อยละ 32.65 ควรปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ เพื่อขยายฐานเสียงให้มากขึ้น และร้อยละ 29.82 ควรจัดการเรื่องภายในพรรคให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง ส่วนพรรคอนาคตใหม่ ร้อยละ 38.60 เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีนโยบาย แนวคิดทันสมัย น่าสนใจ ร้อยละ 35.67 ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และร้อยละ 25.73 ลงพื้นที่หาเสียง พบเห็นตามสื่อมากขึ้น และพรรครวมพลังประชาชาติไทย ร้อยละ 50.95 นายสุเทพเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการหาเสียงของพรรค ร้อยละ 31.56 การลงพื้นที่มีกระแสต่อต้านมากกว่าตอบรับ และร้อยละ 17.49 สมาชิกพรรคคนอื่นๆ ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก,แฟนคลับไม่เปลี่ยนใจเลือกพรรคเดิม,เมื่อถามว่า พรรคการเมืองควรทำอย่างไร จึงจะโดนใจประชาชน ร้อยละ 38.76 ไม่ใส่ร้าย โจมตี หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งพรรคคู่แข่ง ร้อยละ 34.86 ต้องทำเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ร้อยละ 33.90 มีความสามัคคี ทำงานเป็นทีม ร้อยละ 30.48 ชูนโยบายที่ทำได้จริง เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ และร้อยละ 15.52 มีจุดยืน เดินหน้าหาเสียงอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม ทั้งนี้ร้อยละ 45.15 ระบุว่าไม่เปลี่ยนใจที่จะเลือกพรรคการเมือง เพราะชอบพรรคการเมือง ชอบผู้สมัคร มีผลงานให้เห็น มีคนเก่ง มีประสบการณ์ ช่วยเหลือประชาชนได้ดี อยากให้สานงานต่อ ส่วนร้อยละ 33.57 ยังไม่ตัดสินใจ รอดูก่อน และร้อยละ 21.28 เปลี่ยนใจ เพราะผลงานไม่น่าพอใจ ทำไม่ได้ตามที่พูด มีพรรคการเมืองใหม่ๆ ที่น่าสนใจหลายพรรค มีตัวเลือกมากขึ้นผู้สมัครหน้าใหม่หลายคน อยากลองเปิดโอกาสให้พรรคอื่นดูบ้าง ฯลฯ,นายกฯ ร่วม 100 ปียุติสงครามโลกที่ 1,เมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 11 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. พร้อมด้วยภริยา นางนราพร จันทร์โอชา และคณะ เดินทางไปยังกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เข้าร่วมพิธีวันรำลึกการครบรอบ 100 ปี การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 และพิธีเปิดการประชุมสันติภาพปารีส ระหว่างวันที่ 11-12 พ.ย. ต่อมาเวลา 07.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง) นายกฯเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติชาร์ลส์ เดอ โกล กรุงปารีส จากนั้นเดินทางมายังโรงแรมเลอ รัวยาล มงโซ ราฟเฟิล โรงแรมที่พัก มีคนไทยในฝรั่งเศสมาต้อนรับและมอบของที่ระลึกให้นายกฯ และภริยา นายกฯได้กล่าวขอบคุณ ต่อมาเวลา 11.00 น. นายกฯเดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส และขึ้นรถบัสไปประตูชัยเข้าสู่อัฒจันทร์ร่วมพิธีรำลึกการครบรอบ 100 ปี การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเติมน้ำมันไฟบริเวณหลุมศพทหารนิรนาม ตรงกลาง ประตูชัย ผู้นำทั้งหมดแตะไหล่เป็นสัญลักษณ์การเติมน้ำมันไฟร่วมกันและยืนสงบนิ่ง,มอบหนังสือ 3 เล่มห้องสมุดสันติภาพ,จากนั้นนายกฯเดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส เพื่อร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันประมุขและผู้นำรัฐบาล และเข้าร่วมประชุมสันติภาพปารีส ณ หอประชุมใหญ่ Grande Halle de La Villette โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวเปิดการประชุม นางอังเกลา แมร์เคล นายกฯสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และนายอันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการสหประชาชาติ ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ และถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน หลังพิธีเปิดการประชุมนายกฯได้มอบหนังสือ 3 เล่ม ได้แก่ 1.Sufficiency Thinking : Thailands gift to an unsustainable world 2.Thailands Sustainable Development Sourcebook และ 3.A Call to Action:,Thailand and The Sustainable Development Goals เนื้อหาเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาอย่างยั่งยืน ให้ห้องสมุดสันติภาพ โดยนายกฯและคณะจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเวลา 14.45 น. วันที่ 12 พ.ย.,ค้าน ป.ป.ช.แก้ไขประกาศแจ้งทรัพย์สิน,นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า จะไปยื่นคัดค้านการแก้ไขประกาศ ป.ป.ช. เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กรรมการสภามหาวิทยาลัย ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินด้วย ในวันที่ 13 พ.ย. เวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี นอกจากนี้ยังได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบและไต่สวนกรณีกรรมการบอร์ด อสมท นำบริษัทของตนมาหาประโยชน์ใน อสมท มีข้อพิรุธและไม่โปร่งใสกรณีการสนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์หลายประเภทให้กับงานการประชุมด้านความยั่งยืนของแบรนด์ หรือ Sastainable Brands 2018 Bangkok เมื่อวันที่ 12-13 ต.ค.ที่ผ่านมา ณ พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย บางกะเจ้า ให้กับบริษัทเอกชนที่ได้รับมอบสิทธิประโยชน์ บริษัทดังกล่าวมีกรรมการอิสระท่านหนึ่งของบอร์ด อสมท เป็นเจ้าของ อ้างว่าสร้างภาพลักษณ์ให้แก่ช่อง 9 MCOT HD ฯลฯ โดยขอส่วนลดค่าใช้จ่ายต่อ อสมท 100 เปอร์เซ็นต์ เข้าข่ายการเอื้อประโยชน์ให้กันและกันและเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. 2561 | วิษณุ โยน กกต.ชี้ขาดเลื่อน-ไม่เลื่อนเลือกตั้ง ผบ.ตร.ตั้งศูนย์รับมือปลุกระดม อ้างมีการข่าวขบวนการยั่วยุปลุกปั่น สนธิรัตน์ โว พปชร.ผู้สมัครทับซ้อนเป็นร้อย | เลือกตั้ง | วิษณุ เครืองาม,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,เลือกตั้ง,กกต.,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/politic/1418590 |
พบพิรุธ ฐานพระประธาน โดนเจาะ | เก็บของลํ้าค่า หลวงพ่อคูณ อาจถูกขโมย,รักษาการไวยาวัจกรวัด บ้านไร่ ร่วมกับ กำนัน ป่อง อดีตกรรมการวัดบ้านไร่ เร่งตรวจสอบทำบัญชีทรัพย์สิน ตามคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา แฉพบพิรุธฐานพระประธานในโบสถ์ที่บรรจุพระเครื่องเก่าของหลวงพ่อคูณถูกเจาะแล้วโบกปูนปิด สงสัยถูกคนร้ายขโมยวัตถุมงคลที่บรรจุอยู่ภายใน ด้านผู้ดูแลวิหารเทพวิทยาคม แจงหนี้ค่าก่อสร้างวิหารกว่า 100 ล้านบาท สำรองจ่ายไปก่อน กับเงินหนี้ร้านค้าวัสดุ ก่อสร้าง คณะกรรมการวัดรู้รายละเอียดอยู่แล้ว ต้องนำเงินรายได้จากผู้ร่วมทำบุญและขายสินค้าในวิหารมาจ่ายคืน ไม่คิดให้หลวงพ่อคูณหรือวัดเป็นหนี้ แต่ถ้าจะไม่ใช้คืนก็ได้ ส่วนที่ รพ.ศรีนครินทร์ มข. ยังมีประชาชนเข้ามากราบสักการะรูปพ่อคูณอย่างต่อเนื่อง,แม้ว่าสรีระสังขารพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ถูกนำไปดองเป็นอาจารย์ใหญ่ที่ห้องพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ชั้น 7 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษา แต่ยังมีพุทธศาสนิกชนที่เคารพศรัทธาแวะเวียนมากราบสักการะภาพหลวงพ่อคูณ ตั้งอยู่ชั้นล่างตึกผู้ป่วยนอก รพ.ศรีนครินทร์ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ ซึ่งนายเกรียงไกร จารุทวี อดีตรองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ ผู้ดูแลวิหารเทพวิทยาคม แจกหนังสือแจงยอดเรื่องการก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคม ระบุมียอดหนี้กว่า 100 ล้านบาท แยกเป็นเงินที่นายเกรียงไกรสำรองจ่ายไปกว่า 96 ล้านบาท และหนี้ค้างชำระอื่นๆอีก 4 ล้านบาท,ความคืบหน้าการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. นายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของวัดบ้านไร่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบฯ ให้คณะกรรมการวัดบ้านไร่ รวบรวมบัญชีทรัพย์สินต่างๆ แยกเป็น 6 หมวดหมู่ อาคาร ที่ดิน ยานพาหนะ บัญชีเงินฝากธนาคาร ทรัพย์สินมีค่าและทรัพย์สินอื่นๆ แล้วให้ส่งรายละเอียดบัญชีทรัพย์สินให้กับนายอำเภอด่านขุนทด ภายใน 1 เดือน เพื่อรวบรวมเสนอให้กับคณะกรรมการตรวจสอบฯ จากนั้นจะนัดวันประชุมหารือสรุปเรื่องบัญชีทรัพย์สินอีกครั้ง ส่วนการก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคมที่มีการสำรองจ่ายเงินไปก่อน เป็นเรื่องที่ผู้สำรองจ่ายเงินและคณะกรรมการวัดบ้านไร่ต้องไปหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรแล้วค่อยแจ้งกับทางคณะกรรมการตรวจสอบฯ,พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ว่า ไม่ได้กำหนดวันตายตัวจะต้องเสร็จเมื่อไหร่ ให้คณะกรรมการใช้เวลาตามที่เห็นสมควรเพื่อหารายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนที่มันซุกซ่อนและสูญหายอันนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทางสื่อมวลชน ญาติโยมต่างก็รอฟังคำตอบ เชื่อว่าอีกไม่นานคงจะได้ความกระจ่างขึ้นมาเป็นระยะๆ,ส่วนนายเกรียงไกร จารุทวี อดีตรองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ ผู้ดูแลวิหารเทพวิทยาคม ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่าหลวงพ่อคูณ และวัดบ้านไร่มีหนี้สินจำนวน 95 ล้านบาทจากการก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคม ว่าวิหารเทพวิทยาคมเริ่มสร้างเมื่อปี 2554 ใช้งบประมาณ 355 ล้านบาท ใช้เงินจากลูกศิษย์จัดสร้างพระกริ่งเทพวิทยาคมจำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือเป็นลูกศิษย์กลุ่มนักธุรกิจและประชาชนทั่วไปบริจาคสมทบอีกกว่า 100 ล้านบาท รวมเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท มีศิลปินกลุ่มหนึ่งและชาวบ้าน 400-500 คนมาช่วยกันก่อสร้าง ในช่วงนั้นเงินที่ใช้ก่อสร้างมีไม่พอ ปรึกษากรรมการวัดบ้านไร่ตกลงว่าตนจะไปขอกู้คนรู้จัก จำนวน 50 ล้านบาท โดยนำอาคารพาณิชย์ของตนไปค้ำประกันไว้ โดยคณะกรรมการวัดบ้านไร่เห็นชอบด้วยและมีหนังสืออนุมัติให้กู้เงิน,ผู้ดูแลวิหารเทพวิทยาคมกล่าวต่อว่า ช่วงนั้นตนได้สำรองจ่ายเงินไปก่อนแล้วเพื่อให้งานเสร็จ ไม่เคยคิดว่าจะให้หลวงพ่อคูณหรือวัดเป็นหนี้ และได้แจ้งกับคณะกรรมการวัดบ้านไร่ไปแล้วว่า ถ้าวิหารมีรายได้ค่อยนำเงินมาใช้คืนก็ได้ แต่ขอให้ใช้หนี้ร้านค้าวัสดุก่อสร้างก่อน ซึ่งตอนนี้มีเหลืออยู่ราว 4 ล้านบาท ส่วนเงินที่ตนสำรองจ่ายไปจำนวน 95 ล้านบาท รอนำเงินรายได้ของวิหารชำระคืน โดยรายได้ของวิหารเทพวิทยาคมมาจากการบริจาค และการขายสินค้าในวิหาร เฉลี่ยเดือนละ 2.5-3 ล้านบาท มีรายจ่ายประมาณ 2 ล้านบาท ทั้งค่าน้ำค่าไฟ ค่าจ้างพนักงานรวม 129 คน บางเดือนก็เหลือบางเดือนก็ไม่เหลือ มีบัญชีคุมการใช้จ่าย 2 บัญชี นับจากนี้การบริหารจัดการวิหารฯให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่ที่จะแต่งตั้งมา ส่วนเงิน ที่ยังติดค้างอยู่ทั้งสองรายการ ถ้าไม่คืนก็ไม่คืน,ที่วัดบ้านไร่ นายธวัช เรืองหร่าย หรือวัดร้าง รักษาการไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ นายธวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ หรือกำนันป่อง อดีตกรรมการวัดบ้านไร่ ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ พร้อมด้วยลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ ร่วมกันออกสำรวจทรัพย์สินของวัดบ้านไร่ โดยไม่เน้นว่าเป็นหมวดไหนส่วนใหญ่อยู่ในหมวดอาคาร ยานพาหนะและของมีค่า โดยใช้เวลากว่าครึ่งวัน สามารถสำรวจได้เพียง 44 รายการ อาทิ โบสถ์ ศาลาการเปรียญ อาคารสมเด็จพระเทพฯ ไปจนถึงห้องน้ำต่างๆ รถยนต์อีกหลายคัน นอกนั้นจะเป็นของมีค่าต่างๆ เช่น โต๊ะไม้ฝังมุกที่เคยเป็นโต๊ะเสวยพระกระยาหารของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งที่เสด็จฯมากราบหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ รวมถึงพระพุทธรูปรูปหล่อหลวงพ่อคูณ และอื่นๆ จำนวนมาก,จากนั้น นายธวัฒน์ชัย หรือกำนันป่อง เปิดเผยว่า พบสิ่งผิดปกติอยู่ 1 แห่ง บริเวณใต้ฐานพระประธานในอุโบสถ ซึ่งเมื่อปี 2536 จำวันที่ไม่ได้ เวลาประมาณ 01.00 น. หลวงพ่อคูณมอบหมายให้ตนพร้อมด้วยลูกศิษย์คนอื่นๆอีก 5 คน นำวัตถุมงคลล้ำค่ารุ่นเก่าๆของหลวงพ่อคูณจำนวนหนึ่งไปบรรจุไว้แล้วหล่อปูนทับ แต่จากการตรวจสอบวันนี้พบร่องรอยคล้ายมีการเจาะใต้ฐานพระพุทธรูปตรงบริเวณดังกล่าวโบกปูนทับลงไป คาดว่าอาจจะมีการแอบมาเจาะเพื่อขโมยวัตถุมงคลเก่าออกไปแต่ตนไม่สามารถตอบได้ว่าร่องรอยเกิดมานานขนาดไหน จะต้องรายงานให้คณะกรรมการชุดใหญ่ทราบเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบหรือดำเนินการตามที่เห็นสมควรต่อไป,ด้านนายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา ประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร ในโอกาสหลวงพ่อคูณมรณภาพครบ 15 วัน ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ ว่าเดิมจะจัดพิธีที่หอประชุมสงฆ์วัดพายัพ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าสถานที่อาจจะคับแคบไป จึงเปลี่ยนมาทำพิธีบริเวณสนามหน้าศาลากลางและบริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีแทน โดยในช่วงเย็นวันที่ 30 พ.ค. จะมีพิธีสวดพระพุทธมนต์ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา และในช่วงเช้าวันที่ 31 พ.ค. มีพิธีทำบุญตักบาตรอุทิศถวายแด่หลวงพ่อคูณ ที่หน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี นอกจากนี้ จังหวัดนครราชสีมายังให้ทั้ง 32 อำเภอจัดงานพร้อมกัน โดยแต่ละอำเภอเลือกสถานที่เอง ผู้มาร่วมงานแต่งกายชุดไว้ทุกข์และคาดว่าจะมีศิษยานุศิษย์หลวงพ่อคูณเดินทางมาร่วมงานครั้งนี้นับหมื่นคน ส่วนเงินที่มีผู้ร่วมทำบุญทั้งหมดจะถูกไปทำสาธารณประโยชน์ตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ,ที่ชั้นล่างตึกผู้ป่วยนอก รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ยังมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบสักการะรูปหลวงพ่อคูณตลอดทั้งวัน ซึ่ง รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า ได้เปลี่ยนภาพหลวงพ่อคูณจากเดิมขนาด 1 เมตรคูณ 1.50 เมตร เป็นขนาด 1.50 เมตรคูณ 2 เมตร เพื่อให้ประชาชนสามารถมองเห็นอย่างเด่นชัดขึ้น และกำลังติดตั้งจอทีวีรับการถ่ายทอดสัญญาณจากห้องเก็บสรีระหลวงพ่อคูณให้ชมด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ มข. ได้จัดเตรียมดอกบัวไว้บริการประชาชนฟรี และนำตู้รับบริจาคเงินสมทบกองทุนหลวงพ่อคูณปริสุทฺโธ มาตั้งไว้บริเวณด้านหน้าสถานที่กราบไหว้ตามความเรียกร้องของประชาชนที่ยังต้องการทำบุญกับหลวงพ่อคูณอยู่เป็นจำนวนมาก | รักษาการไวยาวัจกรวัด บ้านไร่ ร่วมกับ กำนัน ป่อง อดีตกรรมการวัดบ้านไร่ เร่งตรวจสอบทำบัญชีทรัพย์สิน ตามคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา แฉพบพิรุธฐานพระประธานในโบสถ์ที่บรรจุพระเครื่องเก่าของหลวงพ่อคูณถูกเจาะแล้วโบกปูนปิด | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,ข่าว,หลวงพ่อคูณ,วัดบ้านไร่,พบพิรุธ,ฐานพระประธาน,บรรจุพระเครื่องเก่า,ถูกเจาะโบกปูนปิด,วัตถุมงคล,หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ,ตรวจสอบทรัพย์สิน,รวบรวมบัญชีทรัพย์สิน,วิหารเทพวิทยาคม,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/501363 |
สเปน นำ อาร์เจนติน่า 2-1 เทนนิสเดวิส คัพ | การเเข่งขันเทนนิสเดวิส คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่เมืองเซบีญ่า ประเทศสเปน วันที่ 2 ประเภทคู่ วานนี้ (3 ธ.ค.) โดยการแข่งขันในวันเเรก ประเภทเดี่ยวสลับมือทีมชาติสเปน อดีตเเชมป์ 4 สมัย นำ อาร์เจนติน่า 2-0 ซึ่งการแข่งขันในประเภทคู่ ดาวิด นัลบาเดียน กับ เอดูอาร์โด ชแวงค์ จากอาร์เจนติน่า ชนะ เฟลิเซียโน โลเปซ กับ เฟร์นานโด เบร์ดาสโก ของสเปน 3-0 เซต 6-4 6-2 เเละ 6-3 ส่งผลให้ สเปน นำ อาร์เจนติน่า 2-1 ทำให้การตัดสินหาเเชมป์ประจำปีนี้ จะต้องตัดสินในประเภทเดี่ยว โดย ราฟาเอล นาดาล จะพบ มาร์ติน เดล ปอโตร และ ดาวบิด เฟร์เรร์ พบ ฮวน โมนาโก หรือ นัลบาเดียน | ดาวิด นัลบาเดียน-เอดูอาร์โด ชแวงค์ นักเทนนิสอาร์เจนติน่า ชนะ เฟลิเซียโน โลเปซ-เฟร์นานโด เบร์ดาสโก นักเทนนิสสเปน ทำให้สเปน นำ อาร์เจนติน่า 2-1 ในการเเข่งขันเทนนิสเดวิส คัพ รอบชิงชนะเลิศ | กีฬา | null | https://news.thaipbs.or.th/content/50807 |
รมว.และกงสุลภูฏานเยี่ยมครูที่หายตัว แพทย์ระบุอาการดีขึ้น เตรียมออกรพ. | เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ก.พ.60 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ตำรวจ นายนีมา เชมโป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ประจำประเทศภูฏาน พร้อมด้วย นายอูเยน ดอร์จิ กงสุลประเทศภูฏาน เดินทางเข้าเยี่ยมนายฮาร์กา บาฮาเดอร์ ซัปบา อายุ 39 ปี ครูภูฏานที่หายตัวไปจากโรงแรมย่านพหลโยธินเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเมื่อทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ประจำประเทศภูฏานและกงสุลประเทศภูฏานเข้าเยี่ยมนายฮาร์กา บาฮาเดอร์ ซัปบา สามารถพูดคุยภาษาภูฏานได้ตามปกติแต่ยังมีสีหน้าอิดโรยและบาดแผลถลอกตามร่างกายและขาซ้ายที่เป็นแผลอักเสบอยู่,ทาง พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า สำหรับอาการนายฮาร์กานั้น มีบาดแผลบริเวณขาข้างซ้ายบวม มีหนองติดเชื้อจึงทำให้มีไข้ขึ้นสูง ขณะนี้ยังดูอาการเป็นระยะเนื่องจากแผลยังไม่หายดีเกรงว่าจะติดเชื้อซ้ำ โดยทีมแพทย์ยังให้ยาฆ่าเชื้อและให้เกลือแร่ทางสายน้ำเกลืออยู่เนื่องจากขาดสารอาหารมาเป็นเวลานาน แต่สามารถทานอาหารได้บ้าง ส่วนการซักถามหรือพูดคุยกับนายฮาการ์นั้นค่อนข้างยากเนื่องจากไม่สามารถพูดคุยภาษาอื่นได้ ซึ่งพูดได้เพียงภาษาภูฏานได้เพียงเท่านั้น ทั้งนี้จะต้องดูอาการเป็นระยะแบบวันต่อวัน แต่ภาพรวมนั้นเป็นไปในทางที่ดีขึ้น คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์จะสามารถเดินทางออกจากโรงพยาบาลและเดินทางกลับประเทศได้,ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกประจำ สตช. เปิดเผยว่า กรณีนายฮาการ์นั้น จะต้องรอให้อาการดีขึ้นก่อนจึงจะสามารถสอบถามถึงสาเหตุและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันพร้อมจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทั้งในส่วนการรักษาพยาบาลและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เนื่องจากผู้ป่วยเป็นชาวต่างชาติที่ยังพักรักษาตัวอยู่ จึงไม่เข้าข่ายความผิดการอยู่เกินกำหนดแต่อย่างใด ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีภูฏานได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อขอบคุณทางรัฐบาลไทย และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการติดตามตัว และดูแลช่วยเหลือพลเมืองของประเทศภูฏานเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นอย่างดี. | รมว.แรงงานและกงสุลประเทศภูฏาน รุดเยี่ยมอาการครูชาวภูฏานที่หายตัวจากโรงแรมย่านพหลโยธิน แพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ ระบุอาการดีขึ้น คาด 1 สัปดาห์ออกจาก รพ. ได้ | null | ครูภูฏาน,ครูพลัดหลง,ครูภูฏาน หายตัว,อาการดีขึ้น,ฮาร์กา บาฮาเดอร์ ซัปบา | https://www.thairath.co.th/content/850377 |
COVID-19 และตัดสิทธิ GSP ฉุดส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ปี 63 ติดลบ 9.2% | วันนี้ (1 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกรายงานการวิจัย เรื่อง COVID-19 ทำให้ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 63 หดตัว 9.2% ครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยระบุว่า ขณะนี้สหรัฐฯ ได้กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในฝั่งภูมิภาคอเมริกา ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เดินเข้าสู่ภาวะชะงักงันเช่นเดียวกับหลายประเทศโดยคาดว่า สหรัฐฯ น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้นหลังจากไตรมาส 2/2563 แต่ภาวะอ่อนแรงตลอดปีก็ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งปี 2563 อาจหดตัวถึง 4.0% อีกทั้งมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสที่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิต เศรษฐกิจและรายได้ของผู้บริโภคชาวอเมริกัน ทำให้การใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นจะถูกลดลงโดยอัตโนมัติ ซึ่งส่งผลการซื้อสินค้าจากไทยตลอดปี 2563ปัจจุบันกว่า 60% ของสินค้าไทยที่ส่งออกไปสหรัฐฯ เป็นสินค้ากึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูปในกลุ่มฟุ่มเฟือย อาทิ ยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์สำหรับการเดินทาง ส่วนประกอบเครื่องจักร ที่ผู้บริโภคสหรัฐฯ น่าชะลอการบริโภคออกไปนอกจากนี้ ยังมีสินค้าฟุ่มเฟือยบางรายการก็จะถูกตัดสิทธิ GSP วันที่ 25 เม.ย.2563 ซึ่งแม้ว่าจะมีมูลค่าการส่งออกไม่สูง แต่ก็ทำให้สินค้าไทยสูญเสียโอกาสทำตลาดมากขึ้นไปอีก อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เซรามิก ยางล้อ มอเตอร์ไซค์ รองเท้า กระเป๋าสาน ดอกไม้ประดิษฐ์ อุปกรณ์กีฬา อีกทั้งสินค้ากลุ่มอาหารที่เป็นสินค้าจำเป็นต่อการบริโภค ก็ต้องเผชิญแรงกดดันทั้งจากกำลังซื้อของชาวอเมริกัน และธุรกิจปลายทางนำเข้าอาหารไทยที่ก็ประสบวิกฤตไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารไทย โรงแรม และการท่องเที่ยวอย่างไรก็ดี มีสัญญาณบวกจากการส่งออกเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ สินค้าเพื่อการ Work From Home แต่ก็มีมูลค่าไม่สูงพอจะสนับสนุนภาพรวมได้ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ผลของ COVID-19 ทำให้การส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ ในปี 2563 ลดลงมาอยู่ที่ 28467 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว 9.2% นับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี นับจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจทางการเงินของสหรัฐฯ ที่ทำให้การส่งออกของไทยในปี 2552 หดตัวแรงถึง 17.8%ซึ่งถ้าหากหลังจากนี้ตลาดสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้เร็วด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็มีโอกาสที่การส่งออกของไทยจะหดตัวน้อยลงมาอยู่ที่หดตัว 7.3% มูลค่าการส่งออก 29000 ล้านดอลลาร์ฯ แต่ถ้าหากสหรัฐฯ ไม่สามารถควบคุมการระบาดของ COVID-19 ให้ได้ในช่วงครึ่งปีแรก การส่งออกของไทยอาจหดตัวลึกลงไปที่ 12.8% มูลค่าการส่งออก 27325 ล้านดอลลาร์ฯ | ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าสถานการณ์ COVID-19 และการตัดสิทธิ GSP ฉุดส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ปี 63 ติดลบ 9.2% ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี นับจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจทางการเงินของสหรัฐฯ | เศรษฐกิจ | โควิด-19,โควิด19,COVID-19,COVID19,ไวรัสโคโรนา 2019,ไวรัสโคโรนา,ตัดสิทธิ GSP,ส่งออก,สหรัฐฯ,ศูนย์วิจัยกสิกรไทย | https://news.thaipbs.or.th/content/291934 |
มิน จำติดตาภาพพ่อหลวง ร.9 พระเสโทไหล เอาไว้ระลึกถึงเวลาท้อ | ตั้งใจเดินทางมาสักการะพระบรมศพแต่เช้า สำหรับนางเอกสาว มิน พีชญา วัฒนามนตรี แต่เห็นคิวยาวมาก เจ้าตัวเลยเสียสละให้คนต่างจังหวัดได้เข้าไปสักการะก่อน เพราะตนเองเองอยู่ใกล้ ค่อยมาวันหลังก็ได้,จริงๆ วันนี้ตอนแรกตั้งใจมาร่วมต่อแถวเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ พอมาถึงแถวยาวมาก เราก็มาเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเราอยู่ในกรุงเทพฯ ค่ะ อยากเสียสละให้กับคนต่างจังหวัดเข้าไปก่อน ก็มาเดินแจกพัด แจกน้ำ แจกโบค่ะ ให้กำลังใจถ่ายรูปค่ะ มินว่าเป็นปรากฏการณ์ที่คนไทยมาแสดงน้ำใจกันเยอะขนาดนี้ เป็นอะไรที่ดีมาก เพราะสิ่งที่ท่านหลงเหลือไว้ให้กับเราก็คงจะเป็นความดีแล้วก็ความรักที่ทำให้พี่น้องเรารักกันโดยไม่มีเงื่อนไข แล้วก็อยากที่จะลุกขึ้นมาทำความดีกัน วันนี้ก็เห็นได้ชัดว่าคนไทยทุกคนก็ทำด้วยใจจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นอาสาน้องๆ ลูกเสือเนตรนารี เข็นรถเข็นกัน ทุกคนก็มาโดยที่อยากทำความดี,สำหรับมินพระองค์ท่านเป็นต้นแบบในเรื่องของการทำงาน ท่านทรงเป็นต้นแบบที่ดี ในเรื่องของการทรงงานที่หนัก การเสียสละ การรับผิดชอบในหน้าที่ต่างๆ อย่างมินเองวันที่ทราบข่าวของพระองค์ท่านก็ทำงานอยู่ที่ประเทศจีนค่ะ วันที่ทราบก็เหมือนไม่อยากทำงานเลย (น้ำตาคลอ) แต่เราก็คิดว่าถ้าท่านยังอยู่กับเราท่านก็คงอยากให้เราทำ เราก็เลยทำงานต่อไป,ตั้งแต่เกิดเลยค่ะ ภาพจำจะเป็นภาพที่พระเสโท (เหงื่อ) ของท่าน ไหลลงมากลางหน้า และท่านทรงงานหนักตลอด เวลาเราดูรูปเฉยๆ ตอนเด็กเราไม่เข้าใจหรอกค่ะ เวลาเราทำงานแล้วเราเดินทางบ่อยๆ เรายังรู้สึกล้าจนอยากบ่น แต่พอได้เห็นรูปของท่านหรือว่าระลึกถึงขึ้นมา เราก็กลายเป็นแค่จุดเล็กๆ จุดหนึ่งเท่านั้น (เสียงสั่นน้ำตาคลอ) แม้ว่าตัวมินจะยังไม่เคยได้ถวายงานหรือใกล้ชิดพระองค์ท่าน แต่เคยมีโอกาสได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีให้ท่าน ร่วมกับช่อง 7 ล่าสุดก่อนที่ท่านจะสวรรคตเราก็มีโปรเจกต์ที่ทำเพื่อพ่อกับแม่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังต้องถ่ายทำต่อไป แล้วมินก็ดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้ทำให้ท่านครั้งสุดท้าย หลังจากนี้มินคิดว่าคนไทยจะได้ตระหนักถึงความรักที่เราแบ่งปันให้กันด้วยหัวใจ ความรับผิดชอบที่เราจะต้องทำในหน้าที่ของแต่ละคน มีอาชีพอะไรก็ทำให้เต็มที่ และจรรยาบรรณของแต่ละอาชีพมินคิดว่ามันน่าจะกระจ่างและชัดเจนมากขึ้น. | มิน พีชญา เผยวันนี้ตนตั้งใจจะเข้าสักการะพระบรมศพ แต่คนเยอะ เลยคิดว่ามาวันหลังก็ได้ เพราะอยู่ใกล้ๆ เสียสละให้คนต่างจังหวัดเข้าไปก่อน ปลื้มใจเห็นคนไทยทุกคนมาร่วมทำความดี จะได้ตระหนักถึงความรักที่เราแบ่งปันให้กันด้วยหัวใจ | null | มิน,มิน พีชญา,พีชญา วัฒนามนตรี,พระบรมศพ,สักการะพระบรมศพ,ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระราชกรณียกิจ | https://www.thairath.co.th/content/767952 |
นร.ไทยคว้า 37 รางวัลคณิตศาสตร์นานาชาติ | วันนี้ (8 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เด็กนักเรียนไทย 37 คน จาก 20 โรงเรียนทั่วประเทศ ไปร่วมแข่งขันรายการคณิตศาสตร์นานาชาติ หรือ IMWIC 2018 (International Mathematics Wizard Challenge) ที่ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 2 -7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งสามารถกวาดมาได้ถึง 37 รางวัล เป็น 13 เหรียญทอง 14 เหรียญเงิน และ 7 เหรียญทองแดง นอกจากนี้ ยังได้เกียรติบัตรรางวัลชมเชยมาอีก 3 รางวัล ซึ่งทั้งหมดเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมีคณาจารย์ ผู้ปกครอง มารอต้อนรับร่วมแสดงความยินดีนายภูมิเทพ คลังอุไร ประธานโครงการ Thai Talent Training เปิดเผยว่า รายการนี้เป็นการแข่งขันของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 - มัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งสามารถทำคะแนนสูงสุด คว้าตำแหน่งแชมป์เปี้ยนได้ 3 ระดับชั้น คือ ระดับเกรด 4 จากผลงานของ ด.ช.เกียรติภูมิ สิเจริญ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เกรด 6 จาก ด.ช.ศุภเกียรติ มนัสศิริวิทยา โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และเกรด 8 เป็นของ ด.ญ.ปารพิม อัตตาหกุล โรงเรียนสตรีวิทยารายการ IMWiC 2018 เป็นการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ ประเภทบุคคล ที่เกิดจากการร่วมมือระหว่างประเทศของสถาบัน สมาคม และบุคคลต่างๆ ที่ต้องการส่งเสริมความรู้ด้านคณิตศาสตร์ทั่วโลก โดยยึดหลักการที่ว่า คณิตศาสตร์ไม่มีพรมแดน ซึ่งจะมีการแข่งขันทุกปี โดยหมุนเวียนประเทศเจ้าภาพ สลับกันในหมู่สมาชิก | นักเรียนไทยที่ไปร่วมแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติที่ประเทศอินโดนีเซีย ประจำปี 2018 เดินทางกลับแล้ว หลังกวาดมาได้ถึง 37 รางวัล รวมทั้งยังคว้าตำแหน่งแชมป์เปี้ยนถึง 3 ระดับชั้น มาได้อีกด้วย | สังคม | นักเรียนไทย,คณิตศาสตร์นานาชาติ,คณิตศาสตร์,อินโดนีเซีย,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/272085 |
ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในโตเกียวพุ่ง 120 ราย สูงสุดในรอบ 2 เดือน | เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน ทางการญี่ปุ่นพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในกรุงโตเกียวมากถึง 120 ราย ถือเป็นการพบผู้ป่วยรายใหม่ที่มากที่สุดในรอบสองเดือน ซึ่งโตเกียวเริ่มพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมากขึ้นหลังจากที่มีการรายงานผู้ติดเชื้อจำนวน 55 ราย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยผู้ป่วยที่พบเป็นกลุ่มผู้ทำงานกลางคืนอายุราว 20 ถึง 30 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการของโรค ขณะที่ทางการโตเกียวอ้างว่าการพบผู้ป่วยเป็นจำนวนมากส่วนหนึ่งเกิดจากการเดินหน้าตรวจหาผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มเสี่ยงด้านนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวยืนยันว่าโรงพยาบาลในกรุงโตเกียวได้เตรียมพร้อมสำหรับการแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อ และยังไม่มีการเตรียมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแต่อย่างใด ล่าสุดญี่ปุ่นมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสม18874 และเสียชีวิต 975 ศพที่มา:https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-japan/japan-will-not-revive-state-of-emergency-as-tokyo-covid-19-cases-rise-idUSKBN244091?il=0https://www.japantimes.co.jp/news/2020/07/02/national/tokyo-107-coronavirus-cases/#.Xv6ur5Mzb64 | ยอดผู้ป่วยโควิด-19 โตเกียวพุ่งสูงที่สุดในรอบสองเดือน ย้ำโรงพยาบาลรับมือไหว ไม่ประกาศมาตรการฉุกเฉิน | ข่าว,ต่างประเทศ | โควิด-19,ยอดผู้ป่วยโควิด ญี่ปุ่น,โควิดญี่ปุ่น,ข่าวต่างประเทศ,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1881669 |
ผัวหึงโหดราดเบนซินเผาเมียทั้งเป็น ไฟลามลวกลูกสาว 3 ขวบ-น้าสาหัส | เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 13 ต.ค.61 ร.ต.อ.พชรพล ตอรบรัมย์ รองสว.(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุทะเลาะวิวาท โดยใช้น้ำมันราดจุดไฟเผา ภายในโครงการบ้านเอื้ออาทร จังหวัดสมุทรปราการ (ประชาอุทิศ) การเคหะแห่งชาติ หมู่ 10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานหน่วยบรรเทาสาธารณภัย อบต.ในคลองบางปลากด เจ้าหน้าที่อาสาสมัครปอเต็กตึ้ง
,ที่เกิดเหตุเป็นอาคารให้เช่า ตึก 5 ชั้น 5 ห้องที่ 9/540 มีผู้ได้รับสาหัส 4 ราย โดยอาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้งนำส่งโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อต่อมา 1.เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 3 ปี ถูกไฟลวกที่แขนด้านซ้าย 2. นางสาวปิติพร พิกุล อายุ 31 ปี พนักงานสาวฝ่ายธุรการ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกไฟลวกบาดเจ็บสาหัสทั้งตัว 3. นางสาวยุพา ช้างพันธ์ 61 ปี ซึ่งเป็นน้าสาวของ นางสาวปิติพร ถูกไฟลวกบาดเจ็บที่หัวไหล่ด้านขวาและขาทั้งสองข้าง และ 4. นายณัฐพล ลิมปิติรังสี อายุ 26 ปี ถูกไฟลวกทั้งลำตัวบาดเจ็บสาหัส และเป็นผู้ก่อเหตุ,ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยถูกไฟลวกทั้งลำตัว และอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยใช้เวลา ประมาณ 30 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบในห้องพักอาศัย พบไฟไหม้ภายในห้องนอนเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ที่เกิดเหตุพบขวดน้ำมันบรรจุ โดยลักษณะคล้ายน้ำมันเบนซินเจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน,สอบถามนายนาค ณวิเชียร อายุ 38 ปี ห้องข้างเคียง ทราบว่า น.ส.ปิติพร เข้ามาขอความช่วยเหลือ บอกว่า ถูกไฟไหม้ และเกิดไฟไหม้ที่ห้องด้วย สาเหตุเกิดจากนายณัฐพล ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.ปิติพร เกิดอาการหึงหวง กลัวว่าจะตีตัวออกห่าง เนื่องจากหญิงสาวหน้าตาดี ก่อนหน้านี้ก็มีปากเสียงกันหลายครั้ง แล้วแยกกันอยู่ชั่วคราว กระทั่งวันนี้ นายณัฐพลกลับมาที่ห้องพัก เพื่อเคลียร์ปัญหากับ น.ส.ปิติพร แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ นายณัฐพลจึงไปซื้อน้ำมันเบนซินมาราด น.ส.ปิติพร และภายในห้องพัก ก่อนจุดไฟเผา จนทำให้เกิดไฟไหม้ห้องพักและมีผู้บาดเจ็บ
,จากการสอบสวนนายณัฐพล ให้การรับสารภาพว่า ตนใช้น้ำมันมาราดบริเวณหน้าห้องพักของ น.ส.ปิติพร ขู่ว่าจะเผา น.ส.ปิติพร เห็นดังนั้นจึงเข้ามาแย่งไฟแช็ค ทำให้เกิดไฟไหม้ที่บริเวณหน้าห้อง แล้วลามเข้าในห้องจนไฟลวกทั้ง ลูกสาวและน้าสาวของ น.ส.ปิติพร ไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งตัวนายณัฐพลไปรักษา และทำการอายัดตัวไว้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ผัวหึงเลือดขึ้นหน้า เห็นฝ่ายหญิงหน้าตาดี กลัวตีตัวออกห่าง คว้าน้ำมันเบนซินราดตัว ก่อนจุดไฟเผา สรุปลวกสาหัสทั้งคู่ ส่วนลูกสาว 3 ขวบ และน้าวัย 61 ก็โดนด้วย ตร.อายัดตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดีแล้ว | ข่าว,ทั่วไทย | ราดเบนซิน,ราดเบนซินเผาเมีย,ราดน้ำมันเผาเมีย,ผัวหึงโหด,เผาทั้งเป็น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1396374 |
สภาผ่านฉลุยงบปี 2556 วุฒิสภานัดถกงบ 3-4 ก.ย.นี้ | สวนดุสิตโพลล์ชี้หลังการอภิปรายงบประมาณ การเมืองไทยยังยุ่งอยู่เหมือนเดิมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 วงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท ได้มีการพิจารณาเสร็จสิ้นและลงมติวาระสามเมื่อเวลา 01.39 น.ของวันที่ 18 สิงหาคม 2555 ด้วยคะแนน 279 เสียงต่อ 8 เสียง งดออกเสียง 127 เสียง โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว. คลัง ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ และจะนำข้อสังเกตของสมาชิกไปปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการบ้านเมืองต่อไป จากนั้นจึงปิดประชุมในเวลา 01.43 น.โดยตลอด 3 วันของการพิจารณา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปนั่งฟังการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายแค่ 10 นาทีด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แถลงข่าวในเช้าวันเดียวกันถึงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 เมื่อวันที่ 15-17 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลล้มเหลวในการชี้แจงในหลายประเด็น และรัฐบาลควรได้รับสมญานามว่า เป็นรัฐบาลที่ เปิดช่องทุจริต ปิดโอกาสของประชาชน ใน 4ประเด็นหลัก คือ 1.เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วม ปีพ.ศ. 2555 รัฐบาลมีงบกลาง 1.2 แสนล้านบาท ที่ใช้ในการป้องกันและเยียวยาน้ำท่วม ในการเฉพาะหน้าและเรื่องเร่งด่วน เป็นสิ่งที่ฝ่ายค้านจำเป็นต้องรู้ว่างบในจำนวนนี้รัฐบาลใช้ไปอย่างมี ประสิทธิภาพและเหมาะสมหรือไม่ในการที่จะอนุมัติของบประมาณเพิ่มเติม ในปี 2556 แต่รัฐบาลพยายามที่จะเลื่อนการมอบเอกสารและหาข้อแก้ตัว นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามเปิดช่องทุจริตโครงการน้ำท่วมในปีนี้ เพราะจะมีเงินกู้เข้ามาอีก 3.5 แสนล้านนายชวนนท์ ยังออกมาตั้งข้อสังเกตถึงการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ ซึ่งขณะนี้ถูกอัยการสั่งฟ้องเรื่องการประพฤติมิชอบ และอาจเข้าข่ายการทุจริต ในตำแหน่งหน้าที่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ กรณีส่งเสือไปจีนซึ่งตนปล่อยให้เรื่องแบบนี้ผ่านไปไม่ได้ และเชื่อว่าคนไทยไม่สบายใจที่นายกฯมอบหมายให้นายปลอดประสพมาดูแลเงินจำนวนนี้อย่างแน่นอน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปลี่ยนคนที่ดูแลเงินก้อนนี้นายชวนนท์ กล่าวว่า 2.การรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร ซึ่งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ออกมาระบุว่า จะแก้ปัญหายางพารา โดยการลดพื้นที่ปลูกป่า และตัดยางต้นเก่าทิ้ง 1 แสนไร่ รวมถึงส่งออกยางให้น้อยลง 1.5 แสนตัน แล้วยังจะขออนุมัติงบประมาณที่เหลืออีก 1.5 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่เคยขออนุมัติ ครม.ไว้ 3 หมื่นล้านบาท และได้ใช้ไปแล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท? ตนอยากถามว่า 1.5 หมื่นล้านบาทแรก ที่นายณัฐวุฒิ นำไปใช้พยุงราคาให้ถึง 104 บาทต่อกิโลกรัมนั้น การใช้เงินเป็นอย่างไรและจะขอเพิ่มไปทำอะไรและนี่จะเป็นการเปิดช่องให้ทุจริต โกงกินการเมือง รัฐบาลเปิดช่องทุจริต ปิดโอกาสประชาชนนายชวนนท์ กล่าวอีกว่า 3.โครงการจำนำข้าว รัฐบาลพยายามตัดตอนการทุจริต สร้างภาพว่าการทุจริตเป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือผู้ มีอำนาจ พยายามให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอสร้างภาพว่าลงไปตรวจสอบอย่างเต็มที่ ตนอยากเรียนว่าท่านทำตอนนี้เพราะเป็นช่วงงบประมาณเท่านั้น เพราะท่านต้องการก้อนเงินเม็ดโตอีก 2.6 แสนล้านบาท ที่จะนำไปรับจำนำถลุงกันเล่นในปีฤดูกาลผลิตที่จะถึงนี้ ซึ่ง 2.6 แสนล้านบาท ตามตัวเลขของทีดีอาร์ไอจะถึงมือเกษตรกรแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ อีก 80 เปอร์เซ็นต์ จะตกอยู่ในมือนักการเมือง และผู้ที่เกี่ยวข้องในการทุจรติคอร์รัปชั่น นี่เป็นการทุจริตมหาศาลและทำลายประเทศไทยอย่างสิ้นเชิงไม่รู้ว่าเจ๊ ดที่กล่าวถึงเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แค่ไหน แต่มีข่าวลือว่า คนที่อยู่ในอาณัติต้องผลักดันโครงการนี้ให้ได้ เพราะเจ๊ดัน นอกจากนี้ม.หอการค้าไทยได้ออกมาแสดงผลการสำรวจโดยพบว่าเกษตรกรมีหนี้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น3-5เปอร์เซ็น ดังนั้นหากโครงการนี้ดีจริงเหตุใดเกษตรกรจึงมีหนี้เพิ่มขึ้น นายชวนนท์ กล่าวโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า และ 4.น้ำมัน ซึ่งโครงสร้างน้ำมัน ประกอบด้วย ราคาขายหน้าปั๊มน้ำมัน และกองทุนน้ำมัน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเพื่อไม่ให้ระดับราคาน้ำมันในประเทศสูง เมื่อไหร่ที่กองทุนน้ำมันติดลบแสดงว่ารัฐบาลเอาเงินไปช่วยประชาชน ให้ได้ใช้น้ำมันราคาถูก แต่วันนี้เราเกิดปฏิกิริยาสองเด้ง ขณะนี้กองทุนน้ำมันเป็นหนี้ ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท และกำลังจะต้องกู้เพิ่ม ถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้จริงน้ำมันและแก๊สต้องมีราคาถูก แต่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ทำกองทุนน้ำมันติดลบ น้ำมัน และแก๊สแพง เจ๊งกันหมดทุกฝ่าย ตกลงว่าเงินจำนวน 2 หมื่นล้านที่กู้มาตอนต้นปี กู้เพื่อให้เอกชนทางด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอชื่นชมฝ่ายค้านที่ให้ความร่วมมือในการอภิปรายงบประมาณ ตามกรอบตลอด 3 วันที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีบางคนที่ล้ำเส้นและพูดพาดพิงบุคคลที่ 3 บ้างแต่ก็ยังอยู่ในวิสัยที่พอรับได้ อย่างไรก็ตาม ในแง่ของเนื้อหาต้องถือว่าฝ่ายค้านสอบตก เพราะไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ที่น่าสนใจ แค่เอาข่าวตัดแปะจากหนังสือพิมพ์มาอภิปรายเท่านั้นนอกจากนี้ ยังเอาแต่ร้องแลกแหกกระเชอ ขอเอกสารซึ่งได้มอบให้ไปหมดแล้ว อยากฝากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ในการอภิปรายการแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 1 ปี รวมทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ขอให้ทำการบ้านให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เอาแต่คุยโม้แล้วสุดท้ายก็มาพูดจาวกวน ซ้ำซาก ไร้สาระ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรนอกจากความสะใจของตัวเองผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ในส่วนของวุฒิสภานั้นนายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 วุฒิสภา เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าทางกรรมาธิการฯ จะมีการนัดประชุมเพื่อสรุปรายงาน และข้อเสนอแนะในการพิจารณางบประมาณฯ จากนั้นจะนำเสนอรายงานต่อประธานวุฒิสภา เพื่อให้บรรจุในระเบียบวาระการประชุม ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่หารือกับนายนิคม ไวยรัชพานิช ว่าที่ประธานวุฒิสภา มีความเป็นไปได้ว่า วุฒิสภาจะนัดประชุมเพื่อพิจารณา วันที่ 3-4 ก.ย. นี้อย่างไรก็ตามสำหรับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ56 ของวุฒิสภา ซึ่งทำควบคู่ไปกับการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร พบการจัดงบประมาณที่ไม่โปร่งใส ซึ่งเป็นไปตามข้อสังเกตของส.ส.พรรคฝ่ายค้าน เช่น งบโครงสร้างพื้นฐาน สร้าง ซ่อมแซมถนน แหล่งน้ำ พบว่ามีการจัดสรรไปในพื้นที่ส.ส.ในพรรครัฐบาลมากกว่าพื้นที่อื่น เป็นต้น อย่างไรก็ตามการพิจารณาของวุฒิสภา จะเป็นไปในภาพกว้าง อาจไม่ลงลึกอย่างที่ ส.ส.ทำ เพราะวุฒิสภาไม่สามารถไปปรับลดงบประมาณส่วนใดได้เช้าวันเดียวกันน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธาน เปิดโครงการประเทศไทยก้าวไกล ไร้ทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเปิด 3 ช่องทางร้องเรียนเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ได้แก่ ตู้รับเรื่องร้องเรียนทุจริตทั่วประเทศ สายด่วน 1206 และสื่อออนไลน์ www.stopcorruption.co.th เพื่อรับข้อมูลจากประชาชน โดยข้อมูลทั้งหมดที่ประชาชนร้องเรียนจะส่งตรงถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้แต่ละทีมงานตรวจสอบต่อไปน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่าโครงการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลต้องการสร้างความโปร่งใสใน การปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านธุรกิจ ทั้งนี้เป็นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น ในด้านการตระหนักรู้ ทัศนคติเชิงบวก สร้างภูมิคุ้มกัน และความเข้มแข็งให้กับสังคมไทย ควบคู่กับการสร้างค่านิยมบนพื้นฐานความถูกต้อง โดยอาศัยกลไกทางสังคมเป็นการลงโทษผู้กระทำผิด และสร้างความโปร่งใสในการบริหารราชการ ประกอบกับที่ผ่านมารัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า จะป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น และความประพฤติมิชอบในภาครัฐให้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหา และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานของประเทศนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่าเรื่องนี้ทุกอย่างต้องค่อยๆ ทำและดูในเรื่องของการชี้วัดมากกว่า ไม่อยากให้ตั้งเป้าว่า คดีจะต้องจบ เพราะทุกอย่างถ้าจบที่การปราบปรามก็จะไม่มีทางออกแต่ถ้าจบการที่การสมัครใจ จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กว่า การใช้มาตรการในการตรวจจับ แล้วค่อยมาป้องกันปัญหาคงไม่ใช่ทางออก แต่เราต้องป้องกันแต่แรก โดยต้องสร้างจิตสำนึก และให้ทุกคนร่วมมือกันด้วยใจมากกว่า เพราะวันนี้ประชากรมีเยอะ เราคงไม่สามารถใช้กฎระเบียบต่างๆ มาขีดได้อย่างไรก็ตามภายหลังเปิดงาน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีได้ร่วมแปรตัวอักษรบนลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด เป็นคำว่า สต๊อปคอร์รัปชั่น หรือหยุดคอร์รัปชั่น เพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์แทนความร่วมมือของทุกภาคส่วน จากนั้นได้เขียนคำปฏิญาณลงบนกำแพงสีขาว เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่น และความตั้งใจจริงในการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ที่ฝ่ายค้านออกมาโจมตีเรื่องของการทุจริต และมีการหักค่าหัวคิว นายกฯ กล่าวว่า ถ้าฝ่ายค้านมีหลักฐานก็ยินดี เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดำเนินคดีอยู่แล้ว วันนี้เราต้องติดตามและถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ฝ่ายค้านมีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย ถือเป็นกลไกตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ?ยืนยัน รัฐบาลไม่ต้องการให้มีเรื่องนี้อยู่แล้ว และถ้ามีเมื่อไหร่ เราดำเนินการตามหน้าที่แน่นอนไม่ต้องเป็นห่วงผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเปิดงานต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ปรากฏว่า ได้มีเหตุระทึกขึ้นในบริเวณเดียวกัน เนื่องจากมีชายปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับลานเซ็นทรัลเวิล์ด แสควร์ ที่นายกฯมาเปิดงานทำให้นายตำรวจติดตามนายกฯ ต้องประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่มาดูแล19 ส.ค. 55 - หลังจากที่มีการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ที่มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 สค.-17 สค. เสร็จสิ้นลงโดยที่ประชุมมีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณดังกล่าว เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนได้มีส่วนร่วมทางการเมืองและเป็นฐานข้อมูลให้กับผู้เกี่ยวข้อง สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน ที่สนใจติดตามการ อภิปรายทั่วประเทศ จำนวน 1157 คน ระหว่างวันที่ 15-18 สิงหาคม 2555 1. ประชาชนมีความคิดเห็นต่อ การอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี ดังนี้อันดับ 1 จะได้รู้ว่าในปีหน้ารัฐบาลมีโครงการอะไรบ้างที่จะช่วยเหลือประชาชน และประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรจากงบประมาณดังกล่าว /ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ 38.46%อันดับ 2 เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีการอภิปรายเพื่อพิจารณาความถูกต้อง โปร่งใส ป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น/เป็นการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล 37.18%อันดับ 3 เป็นการทำหน้าที่ของทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านที่จะต้องมีการอภิปรายและชี้แจง /มีการถกเถียงกันในประเด็นต่างๆ เนื่องจากมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน /ขัดแย้งกันเหมือนเดิม 24.36%2. ประชาชนได้ประโยชน์จากการอภิปรายครั้งนี้หรือไม่?อันดับ 1 ได้ประโยชน์ 46.15% เพราะ จะได้รู้ว่ารัฐบาลนำเงินไปใช้ในเรื่องอะไรและช่วยเหลือประชาชนได้หรือไม่ เป็นงบประมาณจำนวนมากที่ควรมีการชี้แจง ฯลฯอันดับ 2 ไม่แน่ใจ 42.32%เพราะ ยังมีบางประเด็นที่รัฐบาลตอบข้อซักถามไม่ชัดเจนและฝ่ายค้านมุ่งจับผิดมากเกินไป ต้องรอดูผลงานในปีหน้า ฯลฯอันดับ 3 ไม่ได้ประโยชน์ 11.53%เพราะ เป็นการเล่นเกมการเมืองมากเกินไป มีการตอบโต้กันไปมาและมีการประท้วงเหมือนเช่นเคย ฯลฯ3. ประชาชนคิดอย่างไร? กับ การอภิปรายของรัฐบาลอันดับ 1 เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องตอบข้อซักถามหรือชี้แจงเหตุผลให้ฝ่ายค้านและประชาชนเข้าใจ 48.23%อันดับ 2 การตอบข้อซักถามยังไม่ชัดเจน บางครั้งขาดเอกสารหลักฐานหรือข้อมูลมายืนยัน 31.74%อันดับ 3 รัฐบาลถือเสียงข้างมากย่อมผ่านมติในที่ประชุมอยู่แล้ว 20.03%4. ประชาชนคิดอย่างไร? กับ การอภิปรายของฝ่ายค้านอันดับ 1 เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องตรวจสอบการทำงานและความโปร่งใสของรัฐบาล 39.08%อันดับ 2 เนื้อหาที่อภิปรายส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว อยากให้เน้นเรื่องงบประมาณในปีหน้าให้มากกว่านี้ 31.81%อันดับ 3 ฝ่ายค้านมุ่งจับผิดเกินไป จนบางครั้งทำให้บรรยากาศในการประชุมดูแย่ลง 29.11%5. สิ่งที่ประชาชน พึงพอใจ ต่อการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 อันดับ 1 การอภิปรายงบประมาณครั้งนี้อยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด 40.20%อันดับ 2 ประชาชนมีความเข้าใจและได้รับรู้ข้อมูลต่างๆเพิ่มมากขึ้น 32.46%อันดับ 3 งบประมาณจำนวนนี้น่าจะช่วยพัฒนาประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนได้เต็มที่ 27.34%6. สิ่งที่ประชาชน ไม่พึงพอใจ ต่อการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 อันดับ 1 บรรยากาศในการประชุมยังคงมีการประท้วง การทะลาะเบาะแว้งอยู่เหมือนเดิม /เสียเวลาที่ประชุม 59.54%อันดับ 2 รัฐบาลตอบข้อซักถามไม่ชัดเจน /ฝ่ายค้านพูดเรื่องเก่าและพูดนอกเรื่องมากเกินไป 22.68%อันดับ 3 เอกสาร ข้อมูลต่างๆที่นำมาใช้ในการอภิปรายมีน้อยไป ขาดความน่าเชื่อถือ 17.78%7. ประชาชนคิดว่าสภาพการเมืองไทยหลังการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 เสร็จสิ้นลง จะเป็นอย่างไร?อันดับ 1 เหมือนเดิม 64.11%เพราะ ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านยังคงมีความคิดเห็นที่ขัดแย้ง แตกแยกอยู่เหมือนเดิม การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์เป็นการเล่นเกมการเมืองที่ไม่มีวันจบสิ้น ฯลฯอันดับ 2 ดีขึ้น 23.07% เพราะรัฐบาลสามารถเดินหน้าดำเนินงานตามนโยบายต่างๆที่กำหนดไว้ได้อย่างเต็มที่ การเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น ฯลฯอันดับ 3 แย่ลง 12.82%เพราะ เรื่องงบประมาณยังคงเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นไปอีก การออกมาเคลื่อนไหวหรือต่อต้านจากกลุ่มต่างๆ อาจมีการนำงบประมาณไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม เกิดการทุจริต คอร์รัปชั่น ฯลฯ | สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 วงเงิน 2.4 ล้านล้านบาทด้วยคะแนน 279 เสียงต่อ 8 เสียง งดออกเสียง 127 เสียง วุฒิสภาเตรียมถกงบต่อ 3-4 ก.ย.นี้ ด้านยิ่งลักษณ์ระบุขอฝ่ายค้านส่งข้อมูลทุจริต | การเมือง | การประชุมสภาผู้แทนราษฎร,รัฐสภา,ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556,สภา,สภาผู้แทนราษฎร | https://prachatai.com/journal/2012/08/42142 |
เทพไท จวก ดอน เสียมารยาทการทูต ชี้ช่อง ฝ่ายค้าน จองกฐินซักฟอก | เทพไท จวก ดอน ชักศึกเข้าบ้าน เสียมารยาทการทูต ชี้ช่อง ฝ่ายค้านจองกฐินอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนโฆษก กต. ออกมาปฏิเสธว่าเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน ฟังไม่ขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 ม.ค. 2563 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า สหรัฐอเมริกาได้แจ้งให้ประเทศไทยทราบล่วงหน้า ก่อนการสังหารพลเอก คาเซม โซไลมานี่ ผู้บัญชาการกองกำลังลับ คุดส์ ฟอร์ซ (Quds force) ของอิหร่านนั้น ว่า ตนรู้สึกแปลกใจ และตกใจ กับการออกมาพูดถึงกรณีนี้ของนายดอน ปรมัตถ์วินัย เป็นอย่างมาก เพราะไม่เชื่อว่าคำพูดในลักษณะเช่นนี้จะออกมาจากปากของคนระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และมีประสบการณ์เป็นนักการทูตมืออาชีพมาก่อน การออกมาเปิดเผยความลับทางการทูตในลักษณะเช่นนี้ เป็นการเสียมารยาททางการทูตหรือไม่ และสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความบาดหมาง หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ เพราะการออกมาแสดงท่าทีในลักษณะเช่นนี้ จะเป็นการนำประเทศไทย เข้าสู่ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศได้ จึงทำให้สงสัยว่า นายดอน ออกมาพูดในลักษณะเช่นนี้หวังผลอะไร พูดเพื่ออะไร เพราะการพูดในลักษณะเช่นนี้ จะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีแน่จากกรณีดังกล่าว ถ้าเกิดปัญหามีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือเป็นประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศ หรือมีปัญหาด้านความสัมพันธ์ทางการทูต นอกจากตัว นายดอน ปรมัตถ์วินัย จะต้องรับผิดชอบแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกฯ และ รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลจะปฏิเสธความรัฐผิดชอบไม่ได้ด้วย ผมเชื่อว่าในกรณีนี้จะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยไม่ทางตรง ก็ทางอ้อมอย่างแน่นอน และน่าจะเป็นประเด็นที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะหยิบยกขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.การต่างประเทศ อีกประเด็นหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องวุฒิภาวะของการเป็นรัฐมนตรี เรื่องประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ และสำคัญสุดคือ เรื่องผลกระทบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ส่วนการที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ หรือกรมสารนิเทศ ออกมาปฏิเสธว่าเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อนนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะนายดอน เป็น รมว.การต่างประเทศ เป็นเจ้ากระทรวง เป็นผู้บริหารสูงสุดของกระทรวง การพูดย่อมมีน้ำหนักมากกว่า คำแถลงของโฆษกกระทรวงแน่นอน | เทพไท จวก ดอน ชักศึกเข้าบ้าน เสียมารยาทการทูต ชี้ช่อง ฝ่ายค้านจองกฐินอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนโฆษก กต. ออกมาปฏิเสธว่าเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน ฟังไม่ขึ้น | ข่าว,การเมือง | เทพไท เสนพงศ์,ดอน ปรมัตถ์วินัย,อิหร่าน,ชักศึกเข้าบ้าน,เสียมารยาทการทูต,อภิปรายไม่ไว้วางใจ,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1742501 |
เปิดตัวแสตมป์ นักษัตรปีจอ ภาพวาดฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ | วันที่ 29 ธ.ค.2560 นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดตัวตราไปรษณียากรชุด นักษัตรปีจอ (สุนัข) รับศักราชใหม่ปี 2561 หนึ่งในภาพแสตมป์ซีรี่ส์ชุด 12 นักษัตร นำเสนอภาพสัญลักษณ์เป็น สุนัข ที่มีลักษณะของความซื่อสัตย์ จริงใจ และจงรักภักดี ประกอบกับคนที่เกิดปีจอมักเป็นคนไว้ใจได้และเป็นที่รักของคนรอบตัว ซึ่งเป็นภาพวาดฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานให้มาจัดทำเป็นแสตมป์ชุดนักษัตรต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 นับจากปีมะแม (แพะ) วอก (ลิง) และระกา (ไก่)แสตมป์ชุดดังกล่าว จำหน่ายในชนิดราคาดวงละ 3 บาท (เต็มแผ่น 10 ดวง) ซองวันแรกจำหน่าย 11 บาท ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถหาซื้อแสตมป์ชุดดังกล่าว ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2561 เป็นต้นไป ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ สอบถามเพิ่มเติมที่ ฝ่ายการบริหารลูกค้า โทรศัพท์ 02-831-3856 หรือทางเฟซบุค stampinlove และไลน์ไอดี @stampinlove | ไปรษณีย์ไทย (ปณท) เปิดตัวแสตมป์นักษัตร เจ้าตูบ ภาพวาดฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เริ่มจำหน่ายวันจันทร์ที่ 1 ม.ค.2561 | สังคม | ภาพวาดฝีพระหัตถ์,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ,แสตมป์,ไปรษณีย์ไทย,นักษัตรปีจอ,แสตมป์ซีรี่ส์ชุด 12 นักษัตร | https://news.thaipbs.or.th/content/268934 |
ฝนถล่มพื้นที่ อ.เมืองอุบลฯ และวารินชำราบ ชุ่มฉ่ำน้ำล้นท่อรอการระบาย | ฝนถล่มพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี และ วารินชำราบ เมื่อช่วงเช้ามืด เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบาย เนื่องจากน้ำล้นท่อระบายน้ำในถนนหลายจุด บางสายสูงครึ่งคันรถ ก่อนจะเร่งระบายจนกลับสู่ปกติผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 05.40 น.วันที่ 4 พ.ค.63 ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนักในพื้นที่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ ส่งผลให้น้ำระบายไม่ทัน เอ่อท่อระบายน้ำไหลท่วมขังบนถนนสายสำคัญของ อ.เมืองอุบลราชธานี และ อ.วารินชำราบ โดยเฉพาะหน้าโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ถนนบางสายน้ำขึ้นสูงถึงครึ่งคันรถเก๋งที่จอดไว้ข้างทางจนได้รับความเสียหาย กลายเป็นเป็นภาพที่แชร์กันในโลกออนไลน์จำนวนมากผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า สำหรับพายุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งลมและฝนอย่างหนักในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนฝนจะเบาบางลง น้ำที่เอ่อท่วมก็ยุบลง สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครอุบลราชธานีเร่งเก็บกวาดทำความสะอาดขยะที่เอ่อออกจากท่อระบายน้ำทิ้งร่องรอยไว้บนพื้นถนนเพื่อเปิดการจราจร. | ฝนถล่มพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี และ วารินชำราบ เมื่อช่วงเช้ามืด เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบาย เนื่องจากน้ำล้นท่อระบายน้ำในถนนหลายจุด บางสายสูงครึ่งคันรถ ก่อนจะเร่งระบายจนกลับสู่ปกติ | ข่าว,ทั่วไทย | ฝนตกหนัก,พายุถล่ม,น้ำท่วมอุบล,น้ำรอการระบาย,น้ำล้นท่อ,น้ำท่วม,โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1836794 |
หื่นซ้ำสอง ขนส่งฯลงดาบแล้ว โชเฟอร์แท็กซี่ช่วยตัวเองต่อหน้าผู้โดยสารสาว | ผู้โดยสารสาวโพสต์เฟซบุ๊กร้องเรียน เจอโชเฟอร์แท็กซี่หื่นช่วยเหลือเอง ล่าสุด กรมการขนส่งทางบกฯ ลงโทษปรับโชเฟอร์แท็กซี่ 5,000 บาท พร้อมส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดี และยังพบว่าเคยกระทำความผิดลักษณะเดียวกันมาก่อนตั้งแต่ปี 2558,กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพและข้อความร้องเรียนไปยัง แฟนเพจเฟซบุ๊ก ร้องเรียนแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ร้องเรียนแท็กซี่บริการห่วย บริการแย่ ระบุข้อความว่า เจอtaxiช่วยตัวเองโชว์บนรถเลยค่ะ เมื่อกี้นี้เลย (21.15 น. โดยประมาณ) แท็กซี่สีเหลือง เรียกรถจากหน้าสถาบันนิติเวชแถวๆ สยามพารากอน ไปสาทรซอย1 พอถึงหน้าสวนลุมคนขับปรับกระจกมองหลังต่ำๆ เราก็งงว่าหักลงขนาดนั้นจะมองรถหลังเห็นได้ยังไง พอมองเห็นไปกระจกสิ่งที่เห็นคือ กำลังชักขึ้นชักลงเลยค่ะ (จะอ้วก) เราสะกิดเพื่อน (มากับเพื่อนอีก 1 คนค่ะ) เพื่อนไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลย ตอนแรกกะจะบอกเพื่อนทางไลน์แต่นาทีนั้นเราต้องรีบถ่ายรูปทะเบียน ถ่ายภาพหลักฐาน ในใจคือทำไมเขาถึงกล้าทำแบบนี้อ่ะ เท่เหรอ กลัวไม่ได้เป็นข่าวหรือกลัวเราจะไม่เอาเรื่องเอาราวอะไร ที่ไม่โวยวายใน taxiตอนนั้น เพราะกลัวว่า ถ้าเขามีอาวุธหรือขับไปแบบไม่จอดให้ลงนี่จะซวยกว่าเดิม ยังไงก็ได้ให้เราถึงที่หมายได้ลงจากรถก่อนเหอะ (เพื่อนลงก่อนตรง MRT) แต่ตอนนี้ได้แจ้งไปศูนย์ร้องเรียนแล้ว อยากรู้ว่าพอแจ้งไปเขาจะจัดการเรื่องยังไง ไล่ออกเลยมั้ยหรือยึดใบ อนุญาตขับขี่ เรากลัวว่าคนอื่นจะเจอเรื่องแย่ๆ แบบเราอีก,หลังจากที่เรื่องราวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก รวมถึงแฟนเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องนี้ด้วย โดยใจความส่วนหนึ่งระบุว่า ฝากเตือนทุกคนเจอเคสนี้ให้ตั้งสติให้ดี อย่าไปกลัว อย่าโวยวายเพราะคนขับอาจมีอาวุธ ให้นิ่งๆแล้วเก็บหลักฐานให้ได้มากที่สุด ตอนถ่ายรูปอย่าลืมปิดเสียงล่ะ คนแบบนี้ต้องโดนถอนรากถอนโคน,ล่าสุด วันที่ 11 ม.ค.60 กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ได้ติดตามตัวผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริง พบว่า ผู้ขับชื่อ นายพิสิฐ โพธิ์แก้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้กระทำผิดจริง จากการตรวจสอบพบว่า นายพิสิฐ ได้กระทำผิดในลักษณะเดียวกันและถูกเพิกถอนใบอนุญาตแล้วเมื่อวันที่ 17 มี.ค.58 พิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม จึงได้ดำเนินการ ดังนี้,1. นายพิสิฐ โพธิ์แก้ว ผู้ขับรถ มีความผิดตาม พรบ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ตามมาตรา 65 ฐานขับรถระหว่างถูกเพิกถอนใบอนุญาตฯปรับในอัตราสูงสุด เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท และเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 5(15/1) ประกอบ มาตรา 58/1 ฐานกระทำการลามกอนาจาร เป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท พร้อมส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆเพื่อดำเนินคดี ตามที่ผู้โดยสารได้แจ้งความไว้,2.ผู้ประกอบการ คือ สหกรณ์ แท็กซี่กรุงเทพ จำกัด มีความผิดตาม พรบ. รถยนต์ 2522 ตามมาตรา 56 ประกอบ 60 ฐานยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตฯ ขับรถ เปรียบเทียบปรับสูงสุด จำนวน 2,000 บาท และตามมาตรา 5(15) ฐานไม่ส่งประวัติผู้ขับรถต่อกรมการขนส่งทางบก เปรียบเทียบปรับ 1,000 บาท,นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการพิจารณาเพิกถอนทะเบียนรถคันหมายเลข ทส-6438 กรุงเทพฯ ออกจากใบอนุญาตประกอบการ และพิจารณาไม่ให้ผู้ประกอบการเพิ่มรถเป็นเวลา 6 เดือน | ผู้โดยสารสาวโพสต์เฟซบุ๊กร้องเรียน เจอโชเฟอร์แท็กซี่หื่นช่วยตัวเอง ล่าสุด กรมการขนส่งทางบกฯ ลงโทษปรับโชเฟอร์แท็กซี่ 5,000 บาท พร้อมส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดี | null | แท็กซี่,ช่วยตัวเอง,กรมการขนส่งทางบก,ลงโทษ,ผู้โดยสาร | https://www.thairath.co.th/content/833269 |
ชาวประมงพื้นบ้าน จ.พังงา นำเรือเทียบท่า หลบพายุไซโคลน อำพัน | เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวปาวประมงนำเรือประมงพื้นบ้าน บริเวณบ้านในไร่ หมู่ 7 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ทยอยเข้าฝั่งเพื่อเทียบท่าหลบคลื่นลมแรง พร้อมนำอุปกรณ์หาสัตว์น้ำเก็บขึ้นชายฝั่ง หลังจากทางภาครัฐประกาศงดเดินเรือโดย นายณชพงศ ประนิตย์ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา ออกประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา เรื่องระมัดระวังในการเดินเรือ ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 17–20 พฤษภาคม 2563 พายุดีเปรสชัน บริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลางได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน อำพัน มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบน ซึ่งจะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 17-20 พฤษภาคม 2563 ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล และคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฟ้าฝนคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ในระหว่างวันที่ 17-20 พฤษภาคม 2563 นี้ โดยให้ผู้ควบคุมเรือทุกลำ ตรวจสอบความพร้อมของตัวเรือ เครื่องยนต์เรือ ตลอดจนเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำเรือ รวมทั้งเรือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตให้พร้อมใช้งานได้ทุกขณะ สวมใส่ชูชีพตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเรือนายอนันต์ เขื่อนหมั้น อายุ 46 ปี ชาวประมงพื้นบ้านในไร่ กล่าวว่า ชาวประมงจะทราบดีว่าสามารถออกทะเลหาสัตว์น้ำได้หรือไม่ จากการสังเกตธรรมชาติ จากประสบการณ์ การเปลี่ยนแปลงของลม น้ำจะมีการเปลี่ยนกระแสน้ำกะทันหัน ซึ่งได้เก็บอุปกรณ์เครื่องมือหาสัตว์น้ำขึ้นจากเรือ ซึ่งต้องหยุดเดินเรือนานจนสิ้นเดือน และสามารถออกเรือหาสัตว์น้ำได้ในช่วงต้นเดือนหน้าเนื่องจากเป็นต้นฤดูฝน โดยช่วงนี้ชาวเรือต้องหารายได้อย่างอื่นเพิ่มเติม. | ชาวประมงนำเรือประมงพื้นบ้าน บริเวณบ้านในไร่ หมู่ 7 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ทยอยเข้าฝั่งเทียบท่า หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนพายุไซโคลน อำพัน | ข่าว,ทั่วไทย | พายุไซโคลน,พายุ,พายุอำพัน,พายุไซโคลน อำพัน,กรมอุตุนิยมวิทยา,ชาวประมงพื้นบ้าน,ชาวประมงพังงา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1846788 |
คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ เข้าพบผู้รายงานพิเศษ UN ณ นครเจนีวา | ตามเวลาประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ได้มีโอกาสเข้าพบเจ้าหน้าที่ในคณะทำงานผู้รายงานพิเศษด้านนักปกป้องสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ (Office o the High Commissioner for Human Rights) ซึ่งปัจจุบันมีนางมากาเร็ต เซคาก์ยา ทำหน้าที่ SR on HRDs ที่อาคาร Palais Wilson นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ทั้งนี้ นางอังคณา ได้เสนอรายงานความห่วงใยต่อสถานการณ์นักสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะนักสิทธิมนุษยชนผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมได้เคยมีความคิดในการเสนอมาตราการเพื่อคุ้มครองนักสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยการนำข้อปฏิบัติในการคุ้มครองนักสิทธิมนุษยชน ขององค์การสหประชาชาติมาปรับใช้ อย่างไรก็ดีพบว่าจนปัจจุบันรัฐบาลไทยยังไม่มีมาตราการใดๆ ในการแสดงความจริงใจให้การคุ้มครองการทำงานของนักสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด โดยเฉพาะนักสิทธิมนุษยชนที่ทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายพิเศษต่างๆ มักได้รับการคุกคาม จากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่อยู่เสมอ เช่น การปิดล้อมตรวจค้นสำนักงานสิทธิมนุษยชน การถ่ายรูป หรือการเข้าค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของนักสิทธิมนุษยชนผู้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ถูกละเมิดสิทธิต่างๆ เป็นต้นเจ้าหน้าที่คณะทำงานผู้รายงานพิเศษด้านนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ได้แสดงความห่วงใยอย่างสูงต่อสถานการณ์นักสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้กฎอัยการศึก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และพระราชบัญญัติความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งกำลังประกาศใช้ในปัจจุบัน โดยผู้รายงานพิเศษฯ จะได้เสนอรายงานสถานการณ์และผลกระทบต่อนักสิทธิมนุษยชน ต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาติ ในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมีนาคม ที่นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอน์แลนด์ นางมากาเร็ต เซคาก์ยา ได้เคยเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคม 2552 และได้เคยทำหนงสือถึงรัฐบาลไทยแสดงความห่วงใยในการที่ หน่วยงานความมั่นคงได้สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ สำนักงานปัตตานีเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ในประเทศไทย นับแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน มีนักสิทธิมนุษยชนถูกสังหารและถูกทำให้สูญหาย แล้วทั้งสิ่น 22 คน | คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ แจ้งข่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2552 เวลาประมาณ 15.30 น. | สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง,สังคม | คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ,จังหวัดชายแดนภาคใต้,นักสิทธิมนุษยชน | https://prachatai.com/journal/2009/12/26844 |
ผู้ค้าน้ำมันห่วงระบายน้ำกระทบคลังน้ำมันสุวรรณภูมิ-สมุทรสาคร | นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การระบายน้ำลงสู่ทะเลทั้งด้านฝังตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพฯอาจกระทบคลังน้ำมัน 2 จุด คือ คลังน้ำมันท่าอากาศยานซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกที่ต้องรับน้ำจากลาดกระบัง และอยู่แนวนอกคันกั้นน้ำของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยคลังน้ำมันแห่งนี้ มีน้ำมันจำนวน 370 ล้านลิตร ที่ต้องให้บริการน้ำมันกับสายการบินต่างๆ ในสนามบินสุวรรณภูมิเดือนละ 15000 เที่ยวขณะที่ฝั่งตะวันตกเป็นคลังน้ำมันสมุทรสาครมีคลังน้ำมันของผู้ค้าน้ำมันหลายบริษัท เช่น ปตท. บางจาก เชลล์ เพื่อสำหรับขนส่งไปยังสถานีบริการในพื้นที่ภาคกลาง ถึงภาคใต้ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยบริษัทบางจากฯมีสถานีบริการ 200 แห่ง ที่รับน้ำมันจากคลังแห่งนี้ แต่ได้เตรียมมาตรการรองรับกรณีน้ำท่วมจนไม่สามารถขนส่งจากคลังนี้ได้สำหรับคลังน้ำมันบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเปิดให้บริการในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ หลังระดับน้ำลดลงเหลือ 50-60 เซนติเมตร ทำให้รถบรรทุกน้ำมันสามารถวิ่งผ่านได้ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้ลงทุน 4000-5000 ล้านบาทที่บางปะอินเช่นกัน ได้รับความเสียหาย จนต้องเปลี่ยนแผงอุปกรณ์ทั้งหมด จากนี้ไปบริษัทจะใช้เงินจำนวน 150 ล้านบาททำคันกั้นน้ำถาวรทั้งส่วนของคลังน้ำมัน และโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ | ผู้บริหารบริษัท บางจากปิโตรเลียมห่วงว่าการระบายน้ำลงสู่ทะเลด้านฝั่งตะวันตกและตะวันออกของกรุงเทพฯจะกระทบคลังน้ำมันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และคลังน้ำมันสมุทรสาคร โดยส่งผลต่อการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงของสายการบินต่างๆ และสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้บางส่วน | เศรษฐกิจ | คลังน้ำมัน,น้ำท่วม,บางจาก,ผู้ค้าน้ำมัน,ระบายน้ำ,สมุทรสาคร,สุวรรณภูมิ | https://news.thaipbs.or.th/content/45382 |
ชำนาญ จันทร์เรือง: เมื่อพระราชบัญญัติขัดแย้งกับคำสั่งหรือประกาศ คสช. | สิ่งที่กำลังเป็นปัญหาปวดเศียรเวียนเกล้าต่อผู้ปฏิบัติเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้เป็นอย่างยิ่งก็คือการที่ได้มีพระราชบัญญัติ (พรบ.) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ออกมาบังคับใช้แล้วใน 2 เรื่องใหญ่ๆก็คือการประกาศใช้พรบ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2558 เป็นต้นมา โดยที่ก่อนหน้านั้นก็ได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3/2558 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2558 และได้มีการประกาศใช้พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2560 โดยที่ก่อนหน้านั้นได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 57/2557 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2557 ห้ามมิให้พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วดำเนินการประชุม หรือดำเนินกิจการใดๆ ในทางการเมือง จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่าตกลงจะเอาอย่างไรกันแน่ฝ่ายรัฐบาลหรือ คสช.ก็ยังยืนยันที่จะบังคับใช้คำสั่งและประกาศของตนเองต่อไปทั้งๆที่มีพรบ.และพรป. ประกาศใช้แล้วโดยอ้างว่าบ้านเมืองยังไม่เรียบร้อย จึงเกิดเป็นประเด็นปัญหาสำหรับนักกฎหมายว่าตกลงจะเอาอย่างไรกัน เพราะที่ร่ำเรียนเขียนอ่านกันมาจากครูบาอาจารย์และตำหรับตำราก็บอกว่าถ้ากฎหมายในเรื่องเดียวกันที่มีลำดับศักดิ์เท่ากันก็ให้ถือว่ากฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่าไปโดยปริยาย ตามหลัก กฎหมายใหม่ย่อมเลิกกฎหมายเก่าซึ่งมีเนื้อหาอย่างเดียวกัน นั่นเองแต่บางคนก็แย้งว่าคำสั่งหรือประกาศ คสช.นั้นมีที่มาจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมก็บอกว่าทั้ง พรบ.การชุมนุมสาธารณะฯและ พรป.พรรคการเมืองฯ ก็มาจากรัฐธรรมนูญเช่นกันและมีลำดับศักดิ์ทางกฎหมายเท่ากันกับคำสั่งและประกาศ คสช.ทั้ง 2 ฉบับเหมือนกันปกติแล้วกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว ย่อมมีผลใช้บังคับอยู่ต่อไปจนกว่าจะได้มีการยกเลิกกฎหมายนั้น ซึ่งมีหลักการ ดังนี้1.1 มีการกำหนดเวลายกเลิกกฎหมายไว้ในกฎหมายฉบับนั้นเอง เช่น ให้กฎหมายนี้สิ้นสุดลงเมื่อพ้นกำหนด 3 ปี 5ปี เป็นต้น1.2 มีกฎหมายฉบับใหม่ที่มีลักษณะเช่นเดียวกันระบุยกเลิกไว้โดยตรง ซึ่งอาจเป็นกฎหมายเรื่องเดียวกัน หรือกฎหมายอื่น ๆ หรือกฎหมายฉบับต่อ ๆ มาได้บัญญัติยกเลิกไว้ ซึ่งในการยกเลิกนี้อาจเป็นการยกเลิกกฎหมายทั้งฉบับ หรือเป็นการยกเลิกเฉพาะบางบทบางมาตราก็ได้ โดยการจะยกเลิกอย่างไรต้องระบุไว้ให้ชัดเจนในกฎหมายฉบับนั้น1.3 เมื่อพระราชกำหนดได้ประกาศใช้แต่ต่อมาสภาฯไม่อนุมัติพระราชกำหนดนั้น มีผลทำให้พระราชกำหนดนั้นถูกยกเลิกไป ทั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อกิจการที่ได้กระทำไปในระหว่างที่บังคับใช้พระราชกำหนดนั้น หมายถึง กรณีที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติอย่างชัดแจ้งให้ยกเลิก แต่เป็นที่เห็นได้จากเนื้อหาของกฎหมายฉบับใหม่ว่าเป็นการยกเลิกกฎหมายเก่าไปโดยปริยาย เช่น2.1 กฎหมายใหม่และกฎหมายเก่ามีข้อความขัดแย้งหรือไม่ตรงกัน คือ กฎหมายใหม่และกฎหมายเก่ามีการบัญญัติข้อความไว้ไม่เหมือนกัน จึงถือว่ากฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่าโดยปริยาย2.2 กรณีที่กฎหมายเก่ามีข้อความขัดกับกฎหมายใหม่ คือ ข้อความที่บัญญัติไว้ในกฎหมายเก่ากับกฎหมายใหม่นั้นบัญญัติไว้ตรงข้ามกัน ทั้ง ๆที่เป็นเรื่องเดียวกัน จึงถือว่ากฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่าโดยปริยาย2.3 กฎหมายใหม่และกฎหมายเก่ามีบทบัญญัติในกรณีใดกรณีหนึ่งเป็นอย่างเดียวกัน กรณีนี้ยังต้องถือว่ากฎหมายใหม่ยกเลิกกฎหมายเก่าในกรณีเช่นเดียวกัน โดยกฎหมายใหม่ไม่ประสงค์จะให้ใช้หรืออ้างอิงกฎหมายเก่า แม้ว่าจะมีข้อความเดียวกับกฎหมายใหม่ก็ตาม มิเช่นนั้นจะออกกฎหมายใหม่มาทำไม2.4 เมื่อยกเลิกกฎหมายในลำดับที่สูงกว่าแล้วกฎหมายในลำดับรองที่ออกโดยอ้างอิงอำนาจตามกฎหมายที่สูงกว่าย่อมถูกยกเลิกไปโดยปริยาย เช่น เมื่อยกเลิกพระราชบัญญัติแล้ว พระราชกฤษฎีกาที่ออกโดยอำนาจของพระราชบัญญัตินั้นจะถูกยกเลิกไปในตัวด้วยเพราะพระราชบัญญัติเป็นกฎหมายแม่บท เมื่อกฎหมายแม่บทถูกยกเลิกไปแล้ว พระราชกฤษฎีกาซึ่งออกมาเพื่อจะให้มีดำเนินการให้เป็นกฎหมายแม่บทก็จะถูกยกเลิกไปด้วย ฯลฯ แต่ในเรื่องของรัฐธรรมนูญเมื่อถูกฉีกหรือถูกยกเลิกแล้วไทยเรายังมีความลักลั่นกันอยู่อย่างมาก เช่น เมื่อประชาชนจะยื่นเสนอร่างกฎหมายก็อ้างว่ารัฐธรรมนูญเก่าถูกยกเลิกไปแล้วรัฐธรรมนูญใหม่ (ชั่วคราวปี 57) ไม่มีเรื่องนี้จึงเสนอไม่ได้ แต่ในกรณีองค์กรอิสระทั้งหลายที่ตั้งขึ้นโดยพรป.ทั้งปี40และ50 กลับยังคงอยู่ต่อหน้าตาเฉยโดยอ้างว่ารัฐธรรมนูญถูกยกเลิกไปก็จริงแต่พรป.ไม่ได้ถูกยกเลิกไปด้วยนี่ อย่างนี้ก็มีจากหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าเมื่อมี พรบ.การชุมนุมสาธารณะฯ ออกมาบังคับใช้แล้วคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมหรือมั่วสุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปย่อมสิ้นผลไปโดยปริยายตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2558 เป็นต้นมาแล้ว และในทำนองเดียวประกาศ คสช.ที่ 57/2557 ในส่วนของการห้ามดำเนินการประชุม หรือดำเนินกิจการใดๆ ในทางการเมืองย่อมสิ้นผลไปโดยปริยายเช่นกันกอปรกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 279 วรรคแรก บัญญัติให้การยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศหรือคำสั่งของ คสช.หรือหัวหน้าคณะ คสช.ให้กระทำได้โดยทำเป็นพระราชบัญญัติ ซึ่งทั้งสองกรณีก็มี พรบ.ว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะฯ และ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฯ ออกมาบังคับใช้แล้วอีกด้วยเช่นกันแต่ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือการเลือกปฏิบัติหรือการเลือกบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติที่ยังลักลั่นในเรื่องของการชุมนุมสาธารณะ เดี๋ยวใช้พรบ.ชุมนุมฯ เดี๋ยวใช้คำสั่ง คสช.ฯ และการไม่กล้าดำเนินการประชุม หรือดำเนินกิจการใดๆ ในทางการเมืองของพรรคการเมืองตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฯ (ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงแล้วพรรคการเมืองมีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองโดยพฤตินัยกันอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะมีแถลงการณ์ในนามของพรรคฯออกมาได้อย่างไรหากไม่มีการประชุมกัน) เพราะเกรงจะถูกดำเนินคดีหรือถูกดำเนินการด้วยวิธีอื่นใดผมอยากเรียกร้องให้นักกฎหมายได้ใช้ความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพและความกล้าหาญที่จะยืนหยัดและยืนยันความถูกต้องตามหลักวิชาการในการตีความกฎหมายเพื่อที่จะให้บ้านเมืองกลับสู่ทำนองคลองธรรมตามหลักนิติรัฐนิติธรรมเผยแพร่ครั้งแรกในกรุงเทพธุรกิจฉบับประจำวันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2560 | สิ่งที่กำลังเป็นปัญหาปวดเศียรเวียนเกล้าต่อผู้ปฏิบัติเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้เป็นอย่างยิ่งก็คือการที่ได้มีพระราชบัญญัติ (พรบ.) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ออกมาบังคับใช้แล้วใน 2 | การเมือง | ชำนาญ จันทร์เรือง,กฎหมาย,ข้าราชการ | https://prachatai.com/journal/2017/11/74245 |
ผวาเปิด 2 เลขทะเบียนรถ แอนนา รีส เห็นความหมายแล้วสยองสุดๆ | ภายหลังจากที่อดีตสาวเซ็กซี่ แอนนา รีส เมาอาละวาดขับรถหรู BMWสีขาวเฉี่ยวชนทำลายข้าวของสถานบันเทิง ย่านรัชดาซอย7 ทำให้ถูกจับเป่าแอลกฮอล์พบว่ามีแอลกฮอล์เกินขนาด งานนี้ถูกจับคุมสติกว่าหลายชั่วโมง และหากย้อนหลับไป ไทยรัฐออนไลน์ขอบอกว่าเมื่อปี2558 เธอประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถยนต์มาแล้ว1ครั้ง และครั้งนั้นทำให้หลายคนรู้จักเธอ ในฐานะคนดังเมาแล้วขับ เพราะจากเหตุการณ์รถชนดังกล่าว มีนายตำรวจเสียชีวิตคาที่ทันที,ผ่านไป2ปี แอนนา รีส ซ้ำรอยเดิมขับรถโดยประมาทอีกครั้ง แต่จากการตรวจสอบไม่ใช่รถยนต์คันเก่า หากพูดในเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับรถยนต์ยี่ห้ออะไรไม่ถูกฉโลก สี หรือแม้กระทั่งตัวเลขทะเบียน ว่ามีตัวเลขแบบใดแฝงอยู่แล้วจะเกิดอุบัติเหตุ เกิดความเครียด งานนี้ไทยรัฐออนไลน์ต่อสายตรงไปยัง แมน การิน ศตายุ เจ้าของฉายา แมน แมทจิเชียน นักออกแบบตัวเลขร้อยล้าน งานนี้หนุ่มแมนตีตัวเลขทะเบียนรถหรูของสาวแอนนา รีส ที่ขับชนครั้งก่อน และครั้งนี้ ทำให้เรา ผวาๆไม่น้อยเลยทีเดียว แมนเผย,อ่านเพิ่ม : ,เห็นหน้าต้องร้องอ๋อ ใครกัน แอนนา รีส 10 ข้อ ทำความรู้จักด่วน,สำหรับทะเบียน 1กภ 4176,สำหรับคันนี้ตามอันดับของการเกิดอุบัติเหตุมันจะไม่มี แต่ว่ารถคันนี้มีเลข 7 กับเลข6 อยู่ในทะเบียนซึ่งมันจะเสียเงินหรือเสียทรัพย์ การขับรถไปทำธุรกิจ จะโดนเรื่องของการเสียเงินตลอด เสียเงินได้ง่าย ทะเบียนนี้ไม่มีเลขของความใจร้อนชัด หรือเลขอุบัติเหตุเกี่ยวข้อง ซึ่งต่างจากทะเบียนแรกเกือบ100เปอร์เซ็นต์,มีวิธีเสริมดวงมั้ย?,ภายนอกอารมณ์ของรถคันนี้อยากให้มีสีน้ำตาลเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะสีน้ำตาลเป็นสีของความสุขุม อบอุ่น รถคันนี้ภาพรวมเกี่ยวข้องกับอารมณ์ บางครั้งการใช้รถคันนี้มีตัวเลขเกี่ยวกับ417 ซึ่งมีความเครียดอยู่ในเลขรถนี้เหมือนกัน แต่ไม่มีอุบัติเหตุ,ส่วนทะเบียน 1กต 3344 ที่ขับชนเมื่อ2 ปีก่อน ,เป็นทะเบียนรถเลขที่จะเกิดอุบัติเหตุ3อันดับแรกมี 3 กับ7 อันดับที่2 คือ 1 กับ 3 แล้วทะเบียนนี้มี 1กับ 3 เป็นส่วนประกอบของทะเบียนรถ แล้วตัวเลขที่แกะตามศาสตร์จากตัวอักษร ก.ไก่ กับต.เต่า แกะออกมาได้เป็น 1 กับ 3 ก.ไก่คือ1 ต.เต่า 3 (เลข๓ไทย) เป็นเลขที่เกิดอุบัติเหตุโดยตรงนั่นคือเป็นเลขที่มีความเสี่ยง แต่ไม่ได้บอกว่าจะเกิดทุกคัน แต่มันจะมีแนวโน้ม ว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเราก็ต้องระมัดระวังอย่าประมาท แต่ถ้าเราประมาทกินเหล้า ไม่ระวังมันก็มีโอกาสเกิดสูงมากกว่าตัวเลขอื่นๆ,แมน แนะวิธีแก้ก็คือ?,เมื่อเรารู้ว่าทะเบียนเรามีความเสี่ยงกับอุบัติเหตุ เราก็ต้องไม่ประมาท เช่นการดื่มแอลกฮอล์ก็ไม่จำเป็น เพราะมันจะทำให้เราขาดสติ งดกิจกรรมเสี่ยงในหลายๆด้านทะเบียนรถคันนี้มี 33 คนขับใจร้อน 34อยู่ติดกัน บางทีคนขับจะบ่นกันหรือทะเลาะกันง่าย เพราะฉะนั้นที่เรามี 334 อยู่ติดกันต้องพยายามปรับ 1.หาของใช้ที่มีโทนสีฟ้ามาเกี่ยวข้องเพื่อนำมาเบรคอารมณ์ 2.เพลงหาเพลงเปิดในรถห้ามเงียบ มันจะหงุดหงิด มีภาวะอารมณ์ร้อน ยิ่งเราไม่มีสติสัมปชัญญะ รถคันนี้ก็จะเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าเลขปกตินั่นเอง | ภายหลังจากที่อดีตสาวเซ็กซี่ แอนนา รีส เมาอาละวาดขับรถหรู BMWสีขาวเฉี่ยวชนทำลายข้าวของสถานบันเทิง ย่านรัชดาซอย7 ทำให้ถูกจับเป่าแอลกฮอล์พบว่ามีแอลกฮอล์เกินขนาด งานนี้ถูกจับคุมสติกว่าหลายชั่วโมง และหากย้อนหลับไป ไทยรัฐออนไลน์
| ข่าว,ยานยนต์ | แมน การิน,แอนนา รีส พังข้าวของในผับ,แอนนา รีส เมาขับรถ,เลขทะเบียนรถ,ทะเบียนรถยนต์ | https://www.thairath.co.th/news/auto/949073 |
จนท.ฝ่ายความมั่นคง 4 จ.ชายแดนใต้ คุมเข้มกันเหตุรุนแรงช่วงวันก่อตั้งบีอาร์เอ็น | ตำรวจและอาสาสมัครรักษาดินแดนกว่า 30นายเข้าประจำจุดตรวจความมั่นคงตำบลควนมีดอำเภอจะนะจังหวัดสงขลาเพื่อรักษาความปลอดภัยและป้องกันบุคคลแอบแฝงก่อเหตุรุนแรงในอำเภอหาดใหญ่เพราะยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังเหตุรุนแรงในวันครบรอบ53ปีของการก่อตั้งขบวนการบีอาร์เอ็น เนื่องจากเส้นทางนี้ถือเป็นเส้นทางหลักสำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก 3จังหวัดชายแดนภาคใต้เจ้าหน้าที่จึงต้องเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจรถที่เข้าออก โดยในวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.) ทหารประจำจุดตรวจทุกนาย จะถอนกำลังออกนอกพื้นที่ตามความเห็นของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้าที่เห็นว่าพื้นที่อำเภอจะนะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นมากว่า2ปีจึงสมควรให้ฝ่ายปกครองอื่นรับผิดชอบแทนส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และจังหวัดยะลาคุมเข้มพื้นที่เช่นกันโดยเฉพาะที่จังหวัดยะลาเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจความมั่นคง4จุดก่อนเข้าตัวเมืองยะลาต่อเนื่อง หลังแหล่งข่าวด้านความมั่นคง จังหวัดยะลาระบุว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบโดยเฉพาะแนวร่วมรุ่นใหม่จะมีการก่อเหตุครั้งใหญ่ประมาณกลางเดือนเมษายนขณะที่เมื่อคืนวานนี้ (13 มี.ค.) เกิดเหตุชาย2คนขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงนายมะยาโก๊ะสาแมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่5บ้านลูโบ๊ะกาเยาะตำบลเฉลิม อำเภอระแงะจังหวัดนราธิวาสทำให้นายมะยาโก๊ะสาแมเสียชีวิตขณะช่วยภรรยาขายโรตีหน้าบ้านพักเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ | เกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อความสงบยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาสเสียชีวิต เมื่อคืนวานนี้ (13 มี.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคุมเข้มพื้นที่เฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัย เนื่องจากยังอยู่ในช่วงครบรอบ 53 ปี การก่อตั้งขบวนการบีอาร์เอ็น | ภูมิภาค | ก่อตั้ง,นราธิวาส,บีอาร์เอ็น,ยะลา,สถาปนา | https://news.thaipbs.or.th/content/154089 |
ยังไม่ดีขึ้น กทม.-ปริมณฑล ฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน 34 จุด | วันนี้ (27 ธ.ค.2561) เวลา 08.00 น. กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ PM2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ พื้นที่ริมถนน เกินค่ามาตรฐาน ตรวจวัดได้ระหว่าง 45-79 มคก./ลบ.ม. จากค่ามาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 20 พื้นที่ ได้แก่-ริมทางคู่ขนานถนนพระราม 2 อ.เมืองสมุทราสาคร ตรวจวัดได้ 79 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนลาดพร้าว ซ.ลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง ตรวจวัดได้ 79 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง ตรวจวัดได้ 78 มคก./ลบ.ม-ริมถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ เขตธนบุรี ตรวจวัดได้ 74 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม ตรวจวัดได้ 71 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน ตรวจวัดได้ 67 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนลาดพร้าว โชคชัย 4 เขตวังทองหลาง ตรวจวัดได้ 67 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนสามเสน เขตพระนคร ตรวจวัดได้ 66 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร ตรวจวัดได้ 66 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน ตรวจวัดได้ 66 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนนราธิวาส เขตบางรัก ตรวจวัดได้ 65 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ ตรวจวัดได้ 65 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี ตรวจวัดได้ 64 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน ตรวจวัดได้ 64 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนตรีมิตร วงเวียนโอเดียน เขตสัมพันธวงศ์ ตรวจวัดได้ 64 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนดินแดง เขตดินแดง ตรวจวัดได้ 63 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนซอยนิคมบ้านพักรถไฟธนบุรี 5 เขตบางกอกน้อย ตรวจวัดได้ 62 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา ตรวจวัดได้ 61 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนพระราม 6 เขตพญาไท ตรวจวัดได้ 59 มคก./ลบ.ม.-ริมถนนพญาไท เขตราชเทวี ตรวจวัดได้ 56 มคก./ลบ.ม.พื้นที่ทั่วไปเกินค่ามาตรฐาน 14 พื้นที่ ได้แก่-ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตรวจวัดได้ 80 มคก./ลบ.ม.-ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ตรวจวัดได้ 79 มคก./ลบ.ม.-แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ตรวจวัดได้ 75 มคก./ลบ.ม.-ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทราปราการ ตรวจวัดได้ 71 มคก./ลบ.ม.-แขวงคลองเตย เขตคลองเตย ตรวจวัดได้ 68 มคก./ลบ.ม.-แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร ตรวจวัดได้ 68 มคก./ลบ.ม.-แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ ตรวจวัดได้ 63 มคก./ลบ.ม.-แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ตรวจวัดได้ 63 มคก./ลบ.ม.-แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ ตรวจวัดได้ 61 มคก./ลบ.ม.-แขวงบางนา เขตบางนา ตรวจวัดได้ 58 มคก./ลบ.ม.-ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ตรวจวัดได้ 58 มคก./ลบ.ม.-ต.ตลาด อ.พระประแดง จ.สมุทราปราการ ตรวจวัดได้ 57 มคก./ลบ.ม.-แขวงดินแดง เขตดินแดง ตรวจวัดได้ 56 มคก./ลบ.ม.-แขวงพญาไท เขตพญาไท ตรวจวัดได้ 52 มคก./ลบ.ม.ทั้งนี้ ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ (26 ธ.ค.) ที่พบเกินมาตรฐานบริเวณริมถนน 21 พื้นที่ และพื้นที่ทั่วไป 11 พื้นที่ เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นมาปกคลุมพื้นที่กดอากาศอุ่นกว่าที่ระดับพื้นผิวไว้ ทำให้อากาศไม่สามารถลอยตัวขึ้นไปชั้นบรรยากาศระดับบนได้ และมีการสะสมของฝุ่นละอองในบรรยากาศเพิ่มขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในวันที่ 28-29 ธ.ค.2561 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนตก ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่ดีขึ้น | กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์สถานการณ์ PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากเมื่อวานนี้ (26 ธ.ค.) พบเกินมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล บริเวณริมถนน 20 พื้นที่ และพื้นที่ทั่วไป 14 พื้นที่ | สิ่งแวดล้อม | ฝุ่น,pm2.5,ฝุ่นละออง,ฝุ่นละอองขนาดเล็ก,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/276580 |
อุตตม ยัน คลังพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโควิดให้ครอบคลุมมากที่สุด | อุตตม ชี้แจงเพิ่มเติม ยัน กระทรวงการคลังจะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ครอบคลุมมากที่สุดเมื่อเวลา 17.51 น. วันที่ 9 เมษายน 2563 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 โดยระบุว่า จากการชี้แจงกรณีการยืดระยะเวลาผู้ได้รับการเยียวยาจาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน น่าจะสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนได้แล้ว แต่ก็ยังมีอีกบางกรณีที่จำเป็นต้องชี้แจงเพิ่มเติม โดยเฉพาะข้อกังวลที่ว่าอาจมีผู้เดือดร้อนบางกลุ่มไม่ได้รับความช่วยเหลือ ดังที่อธิบายไปว่าตัวเลขระยะเวลา 6 เดือนนั้น เป็นการตั้งกรอบระยะเวลางบประมาณ โดยประมาณการรายจ่ายเป็นรายเดือน ซึ่งสามารถปรับระยะเวลายืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ เงินเยียวยานี้อยู่ภายใต้เม็ดเงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นก้อนงบประมาณเพื่อเยียวยา 6 แสนล้านบาท และก้อนงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก 4 แสนล้านบาทดังนั้นในหลักการ เม็ดเงินในก้อนเยียวยา 6 แสนล้าน หากประเมินแล้วเห็นว่ายังสามารถใช้ขยายความช่วยเหลือไปยังกลุ่มที่ต้องช่วยเหลือเพิ่มเติมได้อีก กระทรวงการคลังก็จะดำเนินการ เพราะตั้งงบประมาณเผื่อไว้แล้ว และหากงบประมาณ 6 แสนล้านไม่พอ ก็ยังสามารถนำงบประมาณในส่วนของการฟื้นฟู 4 แสนล้าน มาใช้เพื่อการเยียวยาได้ด้วยเช่นกันเป้าหมายของมาตรการเยียวยานั้น กระทรวงการคลังต้องการช่วยเหลือกลุ่มคนที่มีความจำเป็นต้องช่วยและให้ครอบคลุมมากที่สุด ส่วนกลุ่มที่ได้รับมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ของรัฐอยู่แล้ว ก็ขอให้ท่านเหล่านั้นใช้สิทธิเดิมที่มีอยู่ เช่น กลุ่มประกันสังคมตาม ม.33 เป็นต้น ขณะเดียวกันหากมีกลุ่มใดนอกเหนือจากนี้ เห็นว่าจำเป็นต้องช่วยเหลือก็จะมีมาตรการออกมารองรับได้อีก | อุตตม ชี้แจงเพิ่มเติม ยัน กระทรวงการคลังจะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ครอบคลุมมากที่สุด | ข่าว,เศรษฐกิจ | เราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนรับเงิน 5000,รับเงิน 5000,เงินเยียวยา,อุตตม สาวนายน,โควิด-19 | https://www.thairath.co.th/news/business/1816591 |
มท.1 กำชับผู้ว่าฯ คุมเข้มเมืองท่องเที่ยว เพิ่มมาตรการความปลอดภัย | เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 58 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เป็นประธานการประชุมหารือข้อราชการกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อร่วมกันสอดส่องและเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัยเข้ามาในพื้นที่และเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ทุกรูปแบบ,นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวหลังจากออกห้องประชุมว่า ทาง มท. 1 ได้กำชับให้ทางฝ่ายปกครอง ร่วมกับตำรวจทหาร อยู่เวรตรวจตราเฝ้าระมัดระวังตามสถานที่ราชการ หรือแหล่งที่มีคนไปอยู่รวมกันมากๆ ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเที่ยงวันนี้ มณฑลทหารบกที่ 33 กำลังประชุมร่วมกันเพื่อหามาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งทางฝ่ายปกครองก็จะประสานไปยังนายอำเภอ ผ่านไปถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยกันเฝ้าระวัง ,ในส่วนของตำรวจ ก็มีการจัดชุดกำลังในการออกตรวจตรารอบๆ บริเวณชุมชนต่างๆ มากขึ้น พร้อมกับประสานขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองเชียงใหม่กว่า 10 แห่ง ให้มีการจัด รปภ.เข้มขึ้น พร้อมกับหาข้อมูลนักท่องเที่ยว กลุ่มผู้ต้องสงสัยที่เข้ามาเที่ยวเชียงใหม่ผ่านทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง,หากผลวิเคราะห์ออกมาว่า เหตุระเบิดเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อดิสเครดิตเมืองท่องเที่ยว เชียงใหม่ก็ติดอยู่ในกลุ่มไปด้วย หากกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน เราก็ติดกลุ่มเป้าหมายมีความเสี่ยงอีกเช่นกัน เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว ขอให้พี่น้องประชาชน รับข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด ดำรงชีวิตตามปกติแต่ขอให้ระวังตัวมากขึ้น หากพบอะไรที่ผิดสังเกตขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว | กระทรวงมหาดไทย (มท.1) กำชับผู้ว่าฯ เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยในจังหวัดตนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวที่อาจตกเป็นเป้าหมายของคนร้าย ขณะที่เชียงใหม่เตรียมเฝ้าระวัง พร้อมประชาสัมพันธ์ไปยังชุมชน | ข่าว,ทั่วไทย | กระทรวงมหาดไทย,มท.1,สอดส่อง,เฝ้าระวัง,สถานการณ์,มาตรการรักษาความปลอดภัย,สถานที่ราชการ,ความปลอดภัย,ชุมชน,นักท่องเที่ยว,แหล่งรวมคน,เชียงใหม่,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/519153 |
โคตรตำนาน เฟเดเรอร์ ซิวแชมป์วิมเบิลดันสมัย 8 รับเฉียดร้อยล้านเข้าเป๋า | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 16 ก.ค. การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมที่สามของปี วิมเบิลดัน ครั้งที่ 131 คอร์ตหญ้า ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ชิงเงินรางวัลรวม 31,600,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1,394 ล้านบาท เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศของประเภทชายเดี่ยวระหว่าง โรเจอร์ เฟเดเรอร์ มือ 3 ของรายการจากสวิตเซอร์แลนด์เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลมรายการนี้มากสุด 7 สมัยพบกับ มาริน ซิลิช มือ 7 ของโครเอเชีย,ผลปรากฎว่า เฟเดเรอร์ เหนือกว่าเยอะไล่ต้อนเอาชนะ ซิลิช ไปแบบขาดลอย 3 เซตรวด 6-3, 6-1 และ 6-4 ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 43 นาทีผงาดเป็นนักเทนนิสชายคว้าแชมป์รายการนี้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ 8 สมัย และเป็นแชมป์แกรนด์สแลมใบที่ 19 ในอาชีพมากสุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย พร้อมกับรับเงินรางวัล 2.2 ล้านปอนด์หรือประมาณ 97.2 ล้านบาทไปครอง,เฟเดเรอร์ ในวัย 35 ปีแซงหน้า พีท แซมพราส และ วิลเลียม เรนชอว์ กลายเป็นนักเทนนิสชายที่คว้าแชมป์วิมเบิลดันมากสุด 8 สมัย ส่วนในประเภทเดี่ยวเขาตามหลัง มารินา นาฟราติโลวา ตำนานนักหวดหญิงที่เคยคว้าแชมป์วิมเบิลดันสูงสุดในประวัติศาสตร์ 9 สมัย,นอกจากนี้แล้ว เฟเดเรอร์ ยังคว้าแชมป์แกรนด์สแลมปีนี้ไปแล้วถึง 2 ใบหลังคว้าแชมป์แกรนด์สแลมออสเตรเลียน โอเพ่นมา และยังเก็บแชมป์แกรนด์สแลมเพิ่มเป็น 19 ใบนำโด่งอันดับ 1 ในประวัติศาสตร์นำหน้า ราฟาเอล นาดาล ยอดนักหวดชาวสเปนอันดับสองถึง 4 รายการแล้ว | โคตรตำนานจริงๆสำหรับ โรเจอร์ เฟเดเรอร์ ผงาดคว้าแชมป์วิมเบิลดันเป็นสมัยที่ 8 และเป็นแกรนด์สแลมที่ 19 ในชีวิตสูงสุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังเทนนิสโลก พร้อมกับรับเงินเฉียดร้อยล้านบาทเข้ากระเป๋า | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | วิมเบิลดัน,โรเจอร์ เฟเดเรอร์,แกรนด์สแลม,มาริน ซิลิช | https://www.thairath.co.th/sport/others/1006795 |
ในหลวง-ราชินี วางพวงมาลารัชกาลที่ 5 | วันปิยมหาราช พสกนิกรไทย ร่วมน้อมรำลึก,ในหลวง-ราชินี พร้อมพระเจ้า ลูกเธอสองพระองค์ เสด็จฯไปทรงวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระลานพระราชวังดุสิต เนื่องในวันปิยมหาราช พร้อมทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโครงการจิตอาสาและประชาชนจิตอาสาปรับภูมิทัศน์สถานีรถไฟหัวลำโพง ขณะที่ท้องสนามหลวงมีพิธีทำบุญตักบาตร น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวง ราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลาและทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระลานพระราชวังดุสิต เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ต.ค.,ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 07.00 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลและทำบุญตักบาตร พระสงฆ์และสามเณร 457 รูป เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณพิธีท้องสนามหลวง โดยมีองคมนตรี ประธาน ส.ว. ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรอิสระ คณะรัฐมนตรี หน่วยราชการในพระองค์และประชาชนเข้าร่วมพิธี เสร็จแล้วนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาและพิธีถวายบังคมและในเวลา 19.30 น. นายวิษณุเป็นประธานในพิธีจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ขณะที่ในส่วนภูมิภาคดำเนินการพร้อมกับส่วนกลาง,อีกด้านเมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทาน โครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.ให้หน่วย พระราชทาน ร่วมกับประชาชนจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในโครงการ เราทำความดี ด้วยหัวใจ พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์สถานีรถไฟหัวลำโพง ถวายเป็นพระราชกุศล และ น้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระดมพลังความรักความสามัคคีทั้งของหน่วยงานในพระองค์ หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ชุมชนและประชาชน ร่วมพัฒนาทำความสะอาดสถานีรถไฟและบริเวณโดยรอบ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธานกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว และเปิดกิจกรรม,จากนั้นจิตอาสาฯ ดำเนินการพัฒนาความสะอาดตามจุดที่กำหนด สำหรับกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 โซนประกอบด้วยโซน A พัฒนาล้างทำความสะอาดและทาสีรั้ว บริเวณหน้าสถานีรถไฟ โซน B พัฒนาทำความสะอาดบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟและโซน C พัฒนาทำความสะอาดบริเวณอนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวงและตู้รถไฟ ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการใหญ่ได้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ให้บริการอาหารแก่จิตอาสาที่ร่วมกิจกรรมพัฒนาทำความสะอาดสถานีรถไฟหัวลำโพงตลอดวันอีกด้วย,วันเดียวกัน สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็น ประธานการบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงสถาปนาวัดราชบพิธฯเป็นพระอารามประจำรัชกาลที่ 5 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต และพิธีบรรจุพระบรมอัฐิรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 6 ลงในฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถ วัดราชบพิธฯ โดยโปรดให้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ ปฏิบัติแทนพระองค์ในการเชิญพระผอบศิลาบรรจุพระบรมอัฐิเข้าประดิษฐานในคูหาบนฐานพุทธบัลลังก์,สำหรับพระบรมอัฐิในรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 6 ส่วนนี้ เป็นส่วนที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ทรง เก็บรักษาไว้ถวายสักการะบูชา ต่อมาได้ตกทอดเป็นพระมรดกมาสู่หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งได้ทรงอัญเชิญมาถวายแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จึงโปรดให้ อัญเชิญพระบรมอัฐิสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทั้ง 6 รัชกาล มาบรรจุ ไว้ใต้ฐานพุทธบัลลังก์ เพื่อเป็นที่สักการบูชาของมหาชนสืบไป โดยมีราชสกุลมหาสาขารัชกาลที่ 5 ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา มูลนิธิ สมาคม องค์กร คณะบุคคล และประชาชน ร่วมกันวางพวงมาลาถวายบังคมพระบรม ราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธฯเป็นจำนวนมาก | ในหลวง-ราชินี พร้อมพระเจ้า ลูกเธอสองพระองค์ เสด็จฯไปทรงวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระลานพระราชวังดุสิต | ข่าว,พระราชสำนัก | ในหลวง,พระราชินี,วางพวงมาลา,วันปิยมหาราช,ข่าวหน้า1,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | https://www.thairath.co.th/news/royal/1689035 |
สลด เด็ก14 ควบ จยย. ตัดหน้ากระบะ หักหลบไม่ทัน อัดก๊อบปี้ดับ เจ็บอีก 6 | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.พ.2559 ร.ต.ท.ประโยชน์ หวันชิตนาย ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองเต็ง ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถชนกันที่บริเวณ กม.10 ถนนเพชรเกษม ตรัง-ห้วยยอด ในเขตเทศบาลคลองเต็ง ต.นาท่ามเหนือ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังรับแจ้ง พร้อมด้วย ร.ต.ต.ชวน พลเดช นายกเทศมนตรี ต.คลองเต็ง หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตรัง รุดตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุพบกลุ่มชาวบ้านกำลังมุงดูเหตุการณ์อย่างคับคั่ง ในที่เกิดเหตุพบ ผู้เสียชีวิต 1 ศพ สภาพโดนอัดก๊อบปี้กับรถกระบะตายคาที่ ทราบชื่อ ด.ช.โบ๊ท (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ส่วนอีกคนที่ขับรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน มีอาการบาดเจ็บสาหัส แขนขาหัก คือ ด.ช.ตั้ม (นามสมมติ) ทางเจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลตรังอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้บาดเจ็บที่มากับรถยนต์กระบะ จำนวน 5 คน ผู้ชาย 1 คน หญิง 3 คน และเด็กอีก 1 คน ซึ่งมี นายสายัณห์ ปานนิล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 ม.1 ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เป็นคนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย และอีก 4 คนไม่ทราบชื่อ ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลตรังเช่นเดียวกัน,จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นทราบว่า รถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน กจ 7473 ตรัง และรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน จ.ตรัง ได้ขับรถมาเส้นทางเดียวกัน โดยมาจากทาง อ.ห้วยยอด มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองตรังและเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ซึ่งนั่งซ้อนกันมา 2 คน คือ ด.ช.โบ๊ท และ ด.ช.ตั้ม ได้ขับตัดหน้ารถยนต์กระบะอย่างกะทันหันเพื่อจะข้ามไปเลนขวา ในขณะที่รถยนต์กระบะ โดยมีนายสายัณห์ ปานนิล เป็นคนขับและผู้โดยสารในรถ อีก 4 คน ได้ขับมาพอดีและหักหลบไม่ทันและชนเข้ากับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจนรถยนต์กระบะเกิดการพลิกคว่ำและอัดก๊อปปี้จน ด.ช.โบ๊ท เสียชีวิตทันที ส่วน ด.ช.ตั้ม บาดเจ็บสาหัส แขนขาหัก อาการร่อแร่ ส่วนคนขับรถยนต์กระบะ บาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณแขน และผู้โดยสารอีก 4 คนบาดเจ็บเล็กน้อย,อย่างไรก็ตาม ในที่เกิดเหตุ พ่อแม่และพี่ชายของ ด.ช.โบ๊ท ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ ปานใจขาดใจ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำร่าง ด.ช.โบ๊ท ไปชันสูตรพลิกศพ ที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะให้ญาติรับศพมาบำเพ็ญกุศลต่อไป ขณะที่ชาวบ้านที่มายืนมุงดูเหตุการณ์ต่างกล่าวชื่นชม ร.ต.ต.ชวน พลเดช นายกเทศมนตรี ต.คลองเต็ง ที่ลงมือให้การช่วยเหลือผู้เสียชีวิต และลำเลียงคนเจ็บด้วยตัวเองอย่างไม่ถือตัว ส่วนเรื่องคดีทางเจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีต่อไป. | กระบะมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองตรัง เสียหลักพลิกคว่ำ หลังถูก จยย.ขับตัดหน้ากะทันหัน เป็นเหตุให้ เด็กชายวัย 14 ปี คนขับ จยย.ถูกอัดก๊อบปี้ดับสยอง มีผู้บาดเจ็บ 5 สาหัสอีก 1 ราย ด้านไทยมุงชื่นชม นายกเทศมนตรีฯ ลุยช่วยเหลือเอง
| null | กระบะ,จยย.ตัดหน้า,จยย. เลี้ยวตัดหน้า,กระบะพลิกคว่ำ,รถชนกัน,หักหลบไม่ทัน,กระบะอัดก๊อบปี้,เสียชีวิต,บาดเจ็บ,จักรยานยนต์,อ.ห้วยยอด,ตรัง,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/580553 |
พณ. ตรวจสอบการสวมสิทธิ์โครงการแทรกแซงราคาหอมแดง จ.ศรีสะเกษ | ตัวแทนเกษตรกร อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ยื่นหนังสือต่อ นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการแทรกแซงราคาหอมแดง กระทรวงพานิชย์ ให้ตรวจสอบกรณีการสวมสิทธิ์เกษตรกรเข้าร่วมโครงการแทรกแซงราคากับองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.ชาวบ้านระบุว่า การดำเนินโครงการรอบแรก มีเกษตรกรใน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เข้าร่วมโครงการด้วย ทำให้งบประมาณที่รัฐจัดสรรจำนวน 295 ล้านบาท ไม่เพียงพอกับเกษตรกรใน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตรงกับการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการ ที่พบข้อมูลว่า มีเกษตรกรจากจังหวัดบุรีรัมย์กว่า 100 คน นำหอมแดงเข้าร่วมโครงการ และยังไม่ได้รับเงินวันนี้ (3 พ.ค.) คณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการแทรกแซงราคาหอมแดง เข้าตรวจสอบปริมาณหอมแดง ที่เก็บไว้ภายในอาคารเอนกประสงค์ หอประชุมที่ว่าการอำเภอยางชุมน้อยว่า ตรงกับปริมาณที่ อคส.รายงานหรือไม่ เพื่อนำเสนอรายงานผลการตรวจสอบไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิจารณาเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง | คณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการแทรกแซงราคาหอมแดงกระทรวงพาณิชย์ เข้าตรวจปริมาณหอมแดงว่าตรงกับจำนวนที่องค์การคลังสินค้ารายงานหรือไม่ขณะที่ตัวแทนเกษตรกรจากอำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีการสวมสิทธิ์ในโครงการนี้ | การเมือง | คลังสินค้า,บุรีรัมย์,พาณิชย์,ราคา,ศรีสะเกษ,หอมแดง,แทรกแซง | https://news.thaipbs.or.th/content/82779 |
เปิดบัญชีทรัพย์สิน 3 อดีต รมต.บิ๊กตู่-พิเชฐ รวยสุด เพิ่ม 10 ล. | เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 61 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบ ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ของรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 จำนวน 3 ราย ได้แก่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมต.สำนักนายกฯ, นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เมี่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.วิทยาศาสตร์ฯ, นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ,โดยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ม.ล.ปนัดดา พบว่า เมื่อเข้ารับตำแหน่งมีทรัพย์สิน 1,315,332,228 บาท ส่วนเมื่อวันที่พ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปีมีทรัพย์สิน 1,319,750,225 บาท ซึ่งพบว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 4 ล้านบาท จากเงินฝากและเงินลงทุน,สำหรับบัญชีทรัพย์สินของ นายพิเชฐ พบว่า เมื่อวันที่เข้ารับตำแหน่งมีทรัพย์สิน 68,436,865 บาท ส่วนเมื่อวันที่พ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปีมีทรัพย์สิน 78,765,248 บาท ซึ่งพบว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 10 ล้านบาท จากเงินฝากและเงินลงทุน,ส่วนบัญชีทรัพย์สินของ นายธีระเกียรติ พบว่า เมื่อวันที่เข้ารับตำแหน่งมีทรัพย์สิน 37,883,183 บาท ส่วนเมื่อวันที่พ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปีมีทรัพย์สิน 41,222,034 บาท ซึ่งพบว่า เพิ่มขึ้นประมาณ 4 ล้านบาท จากเงินลงทุน ที่ดิน โรงเรือน และสิ่งปลูกสร้าง | ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน-หนี้สิน อดีต รมต.รัฐบาล บิ๊กตู่ พบ หม่อมเหลน-ธีระเกียรติ รวยขึ้น 4 ล้าน ส่วน พิเชฐ รวยขึ้น 10 ล้าน
| ข่าว,การเมือง | ป.ป.ช.,บัญชีทรัพย์สิน,บัญชีทรัพย์สิน รมต.,ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน,แสดงบัญชีทรัพย์สิน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1199768 |
สงกรานต์วันไหลพัทยาเจ้าคุณธงชัยแจกผ้ายันต์-ระยองนำปาร์ตี้โฟมร่วมสนุก | เมื่อวันที่ 13 เม.ย.60 ที่บริเวณลานชายหาดพัทยากลาง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยา ท่านเจ้าคุณธงชัย แห่งวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ฉ่ำเย็นวิถีไทยวันไหลพัทยา ระหว่างวันที่ 12-20 เม.ย.60 สำหรับเทศกาลสงกรานต์ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย และเป็นประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีงามสืบทอดกันมาแต่โบราณ การจัดงานครั้งนี้ถือว่าเป็นการสนับสนุนนโยบายให้เมืองพัทยา กลับมาสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และคงซึ่งไว้ประเพณีอันงดงาม ส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นไทยสู่สากล และสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งเมืองพัทยานั้นเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศที่มีชายหาดงดงามติดอันดับโลก และมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก,บรรยากาศภายในงานฉ่ำเย็นวิถีไทยวันไหลพัทยา มีการสรงน้ำพระพุทธรูป ขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุ 9 พระองค์รอบเมืองพัทยา ไฮไลต์สำคัญคือเมืองพัทยาได้เชิญท่านเจ้าคุณธงชัย แห่งวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร มาร่วมปลุกเสกผ้ายันต์ที่มีสัญลักษณ์เมืองพัทยาอยู่ตรงกลางผ้า และแจกให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวจำนวน 11,000 ผืน ขณะที่การเล่นสาดน้ำในเมืองพัทยายังมีเล่นกันแบบบางตา โดยจะเล่นกันมากบริเวณถนนสายชายหาด ที่มีสถานประกอบการบาร์เบียร์ ซึ่งชาวต่างชาติจะร่วมเล่นสาดน้ำกันอย่างคึกคัก ทั้งนี้ คาดว่าเมืองพัทยาจะมีคนแห่เข้ามาเล่นสาดน้ำจำนวนมากนับหมื่นคนในวันที่ 18 เม.ย.วันไหลนาเกลือ และในวันที่ 19 เม.ย.วันไหลพัทยา,ที่ริมถนนสุขุมวิทหน้ามูลนิธิสว่างพรกุศล จ.ระยอง ตรงข้ามโรงพยาบาลระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีการจัดปาร์ตี้โฟมให้เล่นกันอย่างสนุกสนาน โดยมีประชาชนทั้งหญิงและชาย เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างพรกุศลจำนวนหลายคนและเด็กๆ มาเล่นกันเป็นจำนวนมากรวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินผ่านไปมาได้เข้าไปร่วมสนุกสนานกัน สร้างความครึกครื้น โดยมีการเปิดเพลงจากเครื่องเสียงรถยนต์และเต้นรำกัน,นายนิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 45 ปี ผู้ดูแลหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศล จ.ระยอง กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่จัดแบบนี้ ได้มีการขอจากทางนายไพฑูรย์ รัตนพรวารีสกุล หัวหน้าหน่วยกู้ภัยแล้ว โดยมีการซื้อผงฟองและผงข้นอย่างละ 5 ลิตรแล้วนำมาผสมน้ำแล้วใช้เครื่องปั๊มน้ำดูดออกมาผ่านเครื่องระบายควันที่ทางมูลนิธิมีเครื่องมือใช้อยู่แล้วมาตีให้เกิดฟองจำนวนมาก ค่าใช้จ่าย 1,000 บาทจะเล่นได้ตลอดทั้งวัน โดยวันนี้เริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยคิดว่าคงน่าจะเลิกกันช่วงมืดๆ และไม่มีคนแล้ว และฟองดังกล่าวนั้นไม่ทำให้เกิดอันตราย หลังจากจบแล้วก็จะได้นำรถฉีดน้ำมาล้างทำความสะอาดต่อไป. | สงกรานต์ชุ่มฉ่ำเปิดงาน ฉ่ำเย็นวิถีไทยวันไหลพัทยา เชิญเจ้าคุณธงชัย แจกผ้ายันต์ 11,000 ผืน เป็นสิริมงคล ขณะที่หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง นำปาร์ตี้โฟมริมถนนสุขุมวิทให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศคลายร้อนเล่นฟรีลงทุนแค่พันบาท | ข่าว | สงกรานต์,สงกรานต์60,พัทยา,ปาร์ตี้โฟมระยอง,เจ้าคุณธงชัย | https://www.thairath.co.th/news/913112 |
อึ้ง โบราณวัตถุ เครือข่าย พงศ์พัฒน์ บางชิ้นมาจากศาสนสถาน (ชมคลิป) | เมื่อเวลา 13.00 น. ที่หอสมุดแห่งชาติ นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร แถลงข่าวการตรวจสอบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และของมีค่า ซึ่งเป็นของกลางที่ยึดจากเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ อดีต ผบช.ก. ว่า กรมศิลปากร หลังได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมประชุม เพื่อตรวจพิสูจน์หลักฐานที่เป็นของกลางในคดี จึงมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มทะเบียนโบราณวัตถุไปตรวจสอบในชั้นแรก พบว่า มีของกลาง ทั้งส่วนที่เป็นโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ โดยแยกตามวัสดุ มีทั้ง ไม้ หิน โลหะ ภาพวาด และเครื่องถ้วยอีกจำนวนหนึ่ง จัดทำบัญชีเบื้องต้นไว้ 20,000 กว่าชิ้น,ทั้งนี้ ในขั้นตอนต่อไป จะส่งเจ้าหน้าที่ไปคัดแยกสิ่งของ ให้ชัดเจนว่าอะไรเป็นโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เพราะมีกฎหมายควบคุมที่แตกต่างกัน จากนั้นจะจัดทำบัญชี ทะเบียน แต่ละชิ้น โดยจะเริ่มดำเนินการคัดแยกวันที่ 1 ธ.ค.นี้ เน้นตรวจพิสูจน์ชิ้นหลักๆ ของสำคัญชิ้นใหญ่ก่อน และจะมีการประเมินมูลค่าภายหลัง,อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีของมีค่ากว่า 30,000 ชิ้น กรมศิลปากร โดยคณะกรรมการตรวจพิสูจน์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ รวมถึงบุคคลภายนอก จะเข้ามาร่วมทำงาน จะต้องใช้ความชำนาญ ประสบการณ์ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์มาใช้ในการดำเนินงาน แยกแยะบ่งชี้ว่า ชิ้นไหนเป็นของจริง หรือของปลอม และต้องขอเวลาในการพิสูจน์ความชัดเจน เพื่อส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิด โดยคาดว่าจะสามารถตรวจสอบให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา 2 เดือน ทั้งนี้ หากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว กรมศิลปากร จะนำโบราณวัตถุ มาจัดเก็บรักษาเป็นสมบัติแผ่นดิน ที่คลังโบราณวัตถุกลาง อ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ส่วนศิลปวัตถุ จะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บไว้ก่อน เพราะมีจำนวนมาก เป็นของล้ำค่า ,อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ กรมศิลปากรจะประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบที่มาของการครอบครองว่ามีอะไรบ้าง เพราะกฎหมายประเทศไทย ไม่ได้ห้ามบุคคลมีโบราณวัตถุไว้ในครอบครอง แต่หากมีการครอบครองแล้ว จะต้องชี้แจงได้ว่าได้มาครอบครอง ได้อย่างไร,นอกจากนี้ จะต้องตรวจสอบว่า โบราณวัตถุบางชิ้นที่คนทั่วไป ไม่สามารถมีไว้ในครอบครองได้ และควรอยู่ในศาสนสถาน เช่น เทวรูปหินทราย สันนิษฐานว่า เป็นศิลปะลพบุรี พุทธศตวรรษที่ 12 อายุประมาณ 1,200 ปี และ พระพุทธรูปไม้ ศิลปะอยุธยาตอนปลาย อีกประเด็นหนึ่ง เนื่องจากของกลางยังมีพระพุทธรูปอีกจำนวนมาก ที่ทำจากไม้และสำริด ดังนั้น จะมีการตรวจพิสูจน์ เพื่อเป็นหลักฐานเปรียบเทียบกับกรณีที่มีการแจ้งหายมาก่อนหน้านี้ ซึ่งที่ผ่านมา กรมศิลปากรได้จัดทำทะเบียนโบราณวัตถุ โดยเฉพาะที่อยู่ในครอบครองของวัด หรือสถานที่ราชการ หรือเอกชน ไว้แล้ว,เท่าที่ดู เทวรูปหินทราย ที่มีโค้งยึด หากเป็นของจริง ก็จะเป็นมรดกที่มีความเก่าแก่มาก มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 ซึ่งจะต้องอยู่ในเทวสถาน หรือปราสาทหิน แน่นอน ซึ่งมีทั้งในเมืองไทยและประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในปราสาทหินเมืองไทย ไม่มีการนำของจริงมาไว้แน่นอน เพราะจะเก็บไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และจากการตรวจสอบ ก็ไม่พบว่าสูญหาย ดังนั้น คาดว่าจะมาจากที่อื่น จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องให้ผู้ครอบครองมาชี้แจง หากได้มาโดยมิชอบ มีฐานทำผิด พ.ร.บ.โบราณสถาน ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535 มาตรา 31 ผู้ใดซ่อนเร้น จำหน่าย เอาไปเสีย หรือรับซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุอันได้มา โดยการกระทำความผิดตามมาตรา 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว,นายบวรเวท กล่าวอีกว่า กรมศิลปากร ยังเปิดให้ประชาชน วัด หรือศาสนสถาน แจ้งเข้ามาเพื่อขอตรวจสอบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่สูญหาย หากมีหลักฐานตรงกับของกลางที่ยึดก็จะดำเนินการส่งคืนให้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนโบราณวัตถุที่ กรมศิลปากรดูแลในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขณะนี้ พบว่า ยังอยู่ครบ ไม่ได้หายไปไหน เพราะฉะนั้น ของที่ยึดมาได้นั้น บางชิ้นประเทศไทยไม่มีผู้ที่ครอบครองได้แน่นอน และอาจจะเป็นโบราณวัตถุที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ หลังจากพิสูจน์ทราบว่า ของที่ไม่ใช่พบในประเทศไทย แต่เป็นของจากต่างประเทศ ก็จะมีการกระบวนการประสานให้ส่งหลักฐานจากประเทศนั้นๆ มา เพื่อที่จะส่งกลับไปยังประเทศที่เป็นเจ้าของได้ตามขั้นตอน | ตะลึง! เทวรูปหินทราย สันนิษฐาน อายุกว่า 1,200 ปี กรมศิลป์แถลง โบราณวัตถุของกลางเครือข่าย พงศ์พัฒน์ ที่พบ บางชิ้นไม่สามารถมีไว้ครอบครองได้ คาดตรวจสอบแล้วเสร็จ ใน 2 เดือน ก่อนเก็บรักษาเป็นสมบัติแผ่นดิน | null | เทวรูปหินทราย,กรมศิลป์,โบราณวัตถุ,เครือข่ายพงศ์พัฒน์,พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์,ไม่สามารถมีไว้ครอบครอง,อธิบดีกรมศิลปากร,ศิลปวัตถุ,อดีตผบช.ก. | https://www.thairath.co.th/content/466118 |
กอล์ฟ กาต้าร์ มาสเตอร์ วันแรก ธงชัย ใจดี อยู่ที่ 36 ร่วม | ที่สนาม โดฮา กอล์ฟ คลับ ในประเทศกาต้าร์ โปรช้าง ธงชัย ใจดี มือ 1 ของไทย ทำไป 4 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ มี 2 อันเดอร์ อยู่ที่ 36 ร่วม ขณะที่ พรหม มีสวัสดิ์ มี 1 อันเดอร์ อยู่ที่ 48 ร่วมส่วนผู้นำในรอบแรกเป็นของ ริคาร์โด้ ซานตอส โปรจากโปรตุเกส ทำไป 8 เบอร์ดี้ เสีย 1 โบกี้ มี 7 อันเดอร์ ส่วนที่ 2 มีคะแนนเท่ากัน 3 คน ที่ 6 อันเดอร์ ได้แก่ อเล็กซานเดอร์ คาเลก้า จากฝรั่งเศส แอนโธนี่ วอลล์ จากอังกฤษ และ ปีเตอร์ ไวท์ฟอร์ด โปรจากสก็อตแลนด์ กอล์ฟ รายการนี้ชิงเงินรางวัลรวม 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70 ล้านบาทขณะที่ การแข่งขันเทนนิส ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ประเภทชายเดี่ยว รอบก่อนรองชนะเลิศ โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ มือ 2 ของโลก จากสวิสเซอร์แลนด์ พบกับ โจ วิลฟรีด ซองก้า จากฝรั่งเศส เกมนี้ เฟดเดอเรอร์ เล่นได้แน่นอนกว่า และเป็นฝ่ายชนะไป 3-2 เซต ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ และมีลุ้นแชมป์ รายการนี้ | การแข่งขัน กอล์ฟ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ รายการ กาต้าร์ มาสเตอร์ วันแรก ผู้นำเป็นของ ริคาร์โด้ ซานตอส โปรจากโปรตุเกส ส่วน ธงชัย ใจดี อยู่ที่ 36 ร่วม | กีฬา | กอล์ฟ,กาต้าร์,กาต้าร์ มาสเตอร์,ธงชัย ใจดี | https://news.thaipbs.or.th/content/141854 |
เอาใจไปเลย 2 แข้งทีมชาติไทย ลั่น พร้อมเล่นทุกตำแหน่งเพื่อชาติ | วันที่ 12 ต.ค. ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางจากการท่าเรือ เอฟซี และ ศศลักษณ์ ไหประโคน วิงแบ็กจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2 นักฟุตบอลทีมชาติไทย ยืนยัน พร้อมเล่นทุกตำแหน่งให้กับทัพช้างศึก หลังได้มีโอกาสลงเป็นตัวจริงในเกมอุ่นเครื่องที่เปิดบ้านเสมอ ทีมชาติคองโกไป 1-1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา,ธนบูรณ์ กล่าวว่า ในแง่ฟอร์มส่วนตัว พอใจในระดับหนึ่งครับ ผมพยายามเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าตำแหน่งไหน ก็พยายามช่วยทีมให้ได้มากที่สุด ก็อย่างที่เคยบอกไปทุกครั้ง บทบาทไหน ผมไม่เกี่ยงอยู่แล้วครับ ทุกอย่างอยู่ที่มุมมองของโค้ช เมื่อมีโอกาส ผมแค่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด หรือถ้าผมไม่ได้ลงเล่น ก็ยังมีทั้ง เก่ง (อดิศร พรหมรักษ์), พี่โย่ง (พรรษา เหมวิบูลย์) และเอเลียส ดอเลาะ ที่เป็นตัวเลือกที่ดีครับ,ขณะที่ ศศลักษณ์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ผมพยายามตั้งใจโชว์ผลงานในลีกให้ดี และ มีโอกาสติดทีมเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสลงเล่นมากเท่าไหร่ พอครั้งนี้มีโอกาสบ้างแล้ว ก็อย่างที่บอกครับว่าดีใจมากๆ และไม่ว่าจะได้เล่นตรงไหน ผมก็พยายามไขว่คว้า เก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรงนั้นมาพัฒนาตัวเอง เพื่อที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีของ ทีมชาติไทยให้ได้ครับ จริงๆ ปีกขวาเป็นตำแหน่งเก่าที่ผมเคยเล่นครับ และคิดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ผมทำได้ดีที่สุดแล้ว,โปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทย จะเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 3 กลุ่มจี วันที่ 15 ตุลาคม 2562 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เริ่มแข่งในเวลา 19.00 น. และถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32. | ได้ใจไปเต็มๆ สำหรับ 2 ดาวเตะทีมชาติไทยที่ออกมาประกาศว่าพร้อมเล่นทุกตำแหน่งให้กับช้างศึก | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ทีมชาติไทย,ช้างศึก,ธนบูรณ์ เกษารัตน์,ศศลักษณ์ ไหประโคน | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1680726 |
13 เครือข่ายนักปกป้องสิทธิฯ ร้องผู้รายงานพิเศษ UN เผยหลังรัฐประหารถูกคุกคามหลายร้อยกรณี | นักปกป้องสิทธิฯเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา รายงานข่าวแจ้งว่า จากการที่ มิเชลล์ ฟอร์ส (Mr.Michel Forst) ผู้รายงานพิเศษเรื่องนักปกป้องสิในการนี้เครือข่ายนักปกป้องสิทธิโดยรายละเอียดของข้อเรียกร้องที่ 13 เครือข่ายนักปกป้องสิทธิมนุษยชนแต่ตอนนี้สิทธิเหล่านี้ถูกลดทอรายละเอียดข้อเรียกร้องของ13 เครือข่ายนักปกป้องสิทธิมนุษยชน3. การใช้การดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตปราณม สมวงศ์ ตัวแทนเครือข่ายองค์กร Protection International (PI) กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลของ องค์กร Protection International ในช่วงระหว่าง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีนักต่อสู้ด้าขณะที่ไมตรี จำเริญสุขสกุล ประธานกลุ่มรักษ์ลาหู่ จ.เชียงใหม่ ผู้ใกล้ชิด ชัยภูมิ ป่าแส ที่ถูกคุกคามและขู่ฆ่าภายหลังจาผมเป็นเหมือนญาติของน้องชัยภูมิธีรเนตร ไชยสุวรรณ กรรมการบริหารของสหพันขณะที่ อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติซึ่ในวันนี้กรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นทั้งนี้ตัวแทนเครือข่ายนักปกป้อ2. ขอให้ทำงานอย่างต่อเนื่องตื่นตั3. ให้พิจาณาในเรื่องของการอำนวยคว4. อยากให้ช่วยย้ำกับรัฐบาลไทยว่าเ5. ต้องเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติกและ 6. ขอให้ช่วยกระตุ้นเตือนให้ประ | นักปกป้องสิทธิฯกว่า 13 องค์กร ร้องผู้รายงานพิเศษว่าด้วยสถานการณ์ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ช่วยเตือนรัฐไทยทำตามปฏิญญาว่าด้วยการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิฯ | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | กลุ่มรักษ์ลาหู่,การสูญหาย,ชัยภูมิ ป่าแส,ธีรเนตร ไชยสุวรรณ,นักปกป้องสิทธิมนุษยชน,ปราณม สมวงศ์,ผู้รายงานพิเศษเรื่องนักปกป้องสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ,พอละจี รักจงเจริญ,มิเชลล์ ฟอร์ส,สหประชาชาติ,สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้,อังคณา นีละไพจิตร,เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน,เครือข่ายประชาชนเจ้าของเหมืองแร่แห่งประเทศไทย,เด่น คำแหล้,ไมตรี จำเริญสุขสกุล | https://prachatai.com/journal/2017/05/71704 |
มีชัย อัด สนช.ไปยุ่งเรื่องคนอื่นทำไม แก้สรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้ง | เมื่อวันที่ 7 ส.ค. เวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 เพื่อแก้ไขการสรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้ง ว่า ผู้ตรวจการเลือกตั้ง เป็นมือไม้ของ กกต.ในการทำงานในรูปแบบที่ไม่ได้เป็นคณะกรรมการเพื่อให้การทำงานเกิดความรวดเร็ว ส่วนตัวยังไม่ทราบถึงแนวทางที่สมาชิก สนช.ได้เสนอเพื่อแก้ไขกฎหมายดังกล่าว โดยหลักแล้วผู้ตรวจการเลือกตั้ง ควรเป็นหน้าที่ของ กกต.ชุดปัจจุบันกับชุดใหม่ควบคู่กันไป ใครที่ถูกตั้งมาแล้วเป็นอำนาจของ กกต. เพราะกลัวว่าจะไม่ทันกับการเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องสรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้ง แต่ กกต.ชุดใหม่ มีสิทธิ์จะดำเนินการเช่นกัน เพราะเท่าที่ดูประกาศของ กกต. ทำให้ไม่แน่ใจว่า กกต.ได้ทำการเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งแล้วหรือไม่,ในตอนท้ายของประกาศ มีการระบุว่า ประกาศมาเพื่อทราบเพื่อเสนอความคิดเห็น และจะได้แต่งตั้งต่อไป ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้ตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ดังนั้น หากยังไม่ได้ตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง เท่ากับว่า กกต.ชุดใหม่สามารถเข้ามาพิจารณาได้ และคิดว่าน่าจะแก้ไข หากพบว่ามีบุคคลที่ไม่เหมาะสม ผู้ตรวจการเลือกตั้ง คือ มือไม้ของ กกต. ไม่ใช่คนที่มาทำหน้าที่แทน กกต. เพราะอำนาจทั้งหมดอยู่ที่ กกต. ดังนั้น ต้องเลือกคนที่เขาไว้ใจได้มาเป็นหูเป็นตาแทนเขา นั่นคือเป้าหมายที่เราต้องมีไว้ แล้วทำไมถึงจะไปยุ่งกับคนอื่นเขา เพราะนี่มันมือไม้ของ กกต. นายมีชัย กล่าว,นายมีชัย กล่าวว่า เมื่อดำเนินการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับ กกต.แล้ว โดยปกติต้องควรสอบถามความคิดเห็น กกต. เพราะขนาดตอนที่ กรธ.ยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญยังต้องฟัง กกต.เป็นหลัก เพราะ กกต.มีประสบการณ์และพื้นฐานดีกว่า เว้นแต่ในทางทฤษฎีที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ แต่หาก สนช.จะทำการเสนอร่างกฎหมายแต่เพียงฝ่ายเดียวย่อมทำได้ เพราะเป็นอำนาจทางนิติบัญญัติ ส่วนที่หลายฝ่ายวิจารณ์การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ มีเหตุผลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง รายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งอาจไม่ถูกสเปกนั้น เป็นเรื่องนานาจิตตัง เวลาที่ สนช.ตั้งคณะกรรมการหรือคณะกรรมาธิการ ไม่ได้แปลว่า คนข้างนอกจะพอใจ อะไรที่เป็นอำนาจของคนอื่นก็ต้องฟังคนอื่น | มีชัย จวก สนช. ไปยุ่งเรื่องคนอื่นทำไม กรณีแก้ไขการสรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้ง เหตุเป็นมือไม้ของ กกต. แนะ ต้องรับฟังความเห็นก่อนลงมือแก้กฎหมาย | ข่าว,การเมือง | มีชัย ฤชุพันธุ์,ผู้ตรวจการเลือกตั้ง,ไม่ยุ่งกับคนอื่นทำไม,สนช.,กรธ.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1350034 |
สาวขับกระบะชนจยย.ดับ เจ้าหน้าที่ปกครองสุดงง ผกก.สั่งกู้ภัยนำศพไปโรงพัก | เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 2 ม.ค. 63 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ปรเมศวร์ ศรเพชร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับจักรยานยนต์ที่ถนนสายด่านขุนทด-หนองสรวง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งนี้ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น จากนั้นพร้อมด้วย พ.ต.อ.พูลศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สภ.ด่านขุนทด และหน่วยกู้ภัยปริสุทฺโธ (ฮุก 31 จุดด่านขุนทด) ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบศพนายกันตพัฒน์ พรหมพันธ์ใจ อายุ 41 ปี ขณะที่นางสาวศุภลักษณ์ ศิริธรรม อายุ 29 ปี คนขับรถยนต์กระบะฟอร์ด ทะเบียน 5 กด 375 กรุงเทพฯ นั่งดมยาดมอยู่ข้างรถ และอยู่ในอาการตกใจ โดยมีนางธรรมรงค์ เหล็กลอย อายุ 49 ปี แม่สามียืนปลอบใจข้างๆนางสาวศุภลักษณ์ เล่าว่า ตนและแม่สามี ไปทำบุญปิดทองลูกนิมิต และกำลังขับรถกลับบ้านที่ อ.โนนไทย ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์พุ่งออกมาจากปากทางเข้าบ้านโคก ด้านซ้ายมือ ตนพยายามบีบแตรเตือน และชะลอรถลงเบี่ยงออกทางขวามือ แต่ก็เบรกไม่ทัน เกิดเฉี่ยวชนอย่างแรง ทำให้รถพุ่งออกไปคนละฝั่งถนน โดยนายกันตพัฒน์ นอนเสียชีวิตตรงจุดที่รถชนดังกล่าวผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น พ.ต.อ.พูลศักดิ์ ได้อำนวยการสั่งการให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบ บันทึกสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดตลอดเวลา พร้อมกับห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้จุดเกิดเหตุมากนัก รวมทั้ง นายสุรศักดิ์ ขันตี ปลัดอำเภอด่านขุนทด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่ไปดูที่เกิดเหตุ เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชา เพราะยังอยู่ในช่วง 7 วันอันตราย ต้องรีบกลับก่อน เพื่อรอหาข้อมูลภายหลังโดยนายสุรศักดิ์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ไปรอที่หน้าห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลด่านขุนทด เพื่อหาข้อมูลผู้ประสบอุบัติเหตุ โดยรอเป็นเวลานาน ไม่เห็นมีการนำศพส่งโรงพยาบาล จึงโทรศัพท์สอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง และหน่วยกู้ภัยจนทราบจากหน่วยกู้ภัยว่า ผกก.สภ.ด่านขุนทด สั่งให้นำศพไปเก็บไวัที่สถานีตำรวจ เพื่อรอให้ญาติผู้ตายนำเอกสารมาติดต่อเจ้าพนักงาน นายสุรศักดิ์ จึงได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่ สภ.ด่านขุนทด จึงพบว่าศพผู้ตายถูกห่อด้วยผ้าของหน่วยกู้ภัยอย่างดี วางไว้บนพื้นคอนกรีตติดสวนหย่อมข้างอาคารโรงพักโดยห้ามบุคคลเข้าใกล้ศพ รอจนกระทั่งมารดาของผู้ตาย และญาตินำเอกสารมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ โดย ผกก.ให้นำตัวคู่กรณีขึ้นไปสอบปากคำบนชั้นสอง หน้าห้องทำงานผกก. ห้ามบุคคลอื่นขึ้นไปสังเกตการณ์ เสร็จแล้วจึงให้หน่วยกู้ภัยนำศพผู้ตาย ส่งโรงพยาบาลด่านขุนทด เพื่อชันสูตรการเสียชีวิตต่อไป | สาวขับกระบะชนจยย.ดับคาที่ สุดงง ผกก.สั่งกู้ภัยนำศพไปโรงพัก ขณะที่เจ้าหน้าที่ปกครองรอเก้อที่ รพ. เพราะต้องนำข้อมูลรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เนื่องจากยังไม่พ้น 7 วันอันตราย | ข่าว,สังคม | พ.ต.อ.พูลศักดิ์ พูลสวัสดิ์,พาศพไปโรงพัก,สภ.ด่านขุนทด,นครราชสีมา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1739275 |
กินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ แล้วจะเป็นมะเร็งไหม หมอมีคำตอบ | ต้องเกริ่นก่อนว่ายาคุมฉุกเฉินเดิมที่เรียกว่า ยาคุมหลังเพศสัมพันธ์ (Post Coital Pill) ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นยาคุมฉุกเฉิน (Emergency Contraceptive Pills) ทำขึ้นเพื่อให้ใช้เฉพาะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด อาทิ มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้คาดการณ์ ถูกข่มขืน ลืมกินยาคุม ถุงยางอนามัยรั่วหรือแตก ยาฝังยาฉีดหมดอายุ เป็นต้นเนื่องด้วยประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดนั้นด้อยกว่าการคุมกำเนิดมาตรฐานทั่วไป ชนิดกิน ฉีด ฝัง ซึ่งคุมกำเนิดได้ 99% (ตามทฤษฎี) ส่วนยาคุมฉุกเฉินนั้น สามารถคุมกำเนิดได้ราว 75-85% เท่านั้น โดยประสิทธิภาพการคุมกำเนิดของยาคุมฉุกเฉิน ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอีก 3 ประการดังนี้ค่ะชนิดของยาคุมฉุกเฉินมีอะไรบ้างโดยยาคุมฉุกเฉินทั้ง 3 ชนิดนั้น ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดคือ ยูลิพริสตอล และไมเฟพริสโตน และลีโวนอร์เจสเตรล ได้ผลรองลงมา ส่วนยาคุมกำเนิดชนิดแผงได้ผลน้อยกว่าค่ะกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ของยาได้แก่ เปลี่ยนแปลงมูกปากมดลูกให้เหนียวข้น ทำให้อสุจิเดินทางไปผสมกับไข่ได้ยาก เปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูกให้ตัวอ่อนฝังตัวได้ยาก เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวท่อนำไข่ และสามารถห้ามการตกไข่ได้บ้างข้อห้ามของยาคุมฉุกเฉินไม่มีข้อห้ามค่ะ ต่างจากฮอร์โมนยาคุมกำเนิดทั่วไปที่มีข้อห้ามเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดอุดตัน สงสัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม หรือผู้ที่มีการทำงานของตับบกพร่องรุนแรงที่ไม่ควรใช้งานวิจัยยืนยัน ยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือก่อให้เกิดมะเร็งทุกชนิดค่ะแต่หากกำลังเป็นมะเร็งอวัยวะสืบพันธ์ุสตรี เช่น มะเร็งเต้านม รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก ปากมดลูก หมอแนะนำว่าไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉิน เนื่องจากฮอร์โมนที่รับประทานอาจเพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเหล่านั้นได้ค่ะอ่านเรื่อง ผู้หญิงไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินเกินสองครั้งในชีวิตจริงหรือไม่? ได้ที่นี่พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์ | งานวิจัยยืนยัน ยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือก่อให้เกิดมะเร็งทุกชนิด แต่หากเป็นมะเร็งอวัยวะสืบพันธ์ุสตรี เช่น มะเร็งเต้านม รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก ปากมดลูก ไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉิน เนื่องจากฮอร์โมนที่รับประทานอาจเพิ่มการเจริญเติบโตของมะเร็งได้ | null | null | https://thestandard.co/emergency-contraceptive-pills-cancer-risk/ |
กมธ.สนช.ชงคำถามประชามติ ให้ ส.ว.ร่วมโหวตนายกฯ | เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 59 นายธานี อ่อนละเอียด คณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ในการประชุม กมธ.กฎหมายฯ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการหารือเรื่องการเสนอประเด็นคำถามพ่วงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยได้ข้อสรุปว่า กมธ.กฎหมายฯ ขอส่งประเด็นคำถามพ่วงประชามติ ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 5 ปี ท่านเห็นควรที่จะกำหนดบทเฉพาะกาลให้รัฐสภา ให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพื่อส่งให้คณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาเสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ที่มี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. เป็นประธาน นำไปรวบรวมกับคำถามพ่วงประชามติของคณะกรรมาธิการชุดอื่นๆ ของ สนช. เพื่อส่งให้ที่ประชุมใหญ่ สนช.ลงมติชี้ขาดต่อไป,โดยเหตุผลที่ กมธ.กฎหมายฯ ส่งคำถามพ่วงประชามติประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าควรให้ ส.ว.ร่วมเป็นกลไกระยะเปลี่ยนผ่าน 5 ปี เพื่อแก้ปัญหาติดล็อกทางการเมืองในอดีต กรณีเกิดปัญหายุบสภา และไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ควรให้ ส.ว.มีส่วนร่วมแก้ปัญหาดังกล่าว ยืนยันว่า ไม่มีใบสั่งจากใครให้เสนอคำถามนี้ ในวันดังกล่าวมี กมธ.คนอื่นๆ เสนอประเด็นคำถามเข้ามาหลายข้อ แต่ กมธ.พิจารณาแล้วเห็นว่า ประเด็นนี้จะกระทบกับการแก้เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ น้อยที่สุด,นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน คณะกรรมาธิการการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า กมธ.การเมือง ได้ข้อสรุปในการตั้งประเด็นคำถามพ่วงประชามติว่า ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่จะใช้บัตรเลือกตั้งสองใบ มิใช่หนึ่งใบตามร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการใช้บัตรสองใบจะสะท้อนเจตนารมณ์ความต้องการของประชาชนที่จะเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ซึ่งอาจจะอยู่ต่างพรรคกัน และประชาชนคุ้นเคยกับการลงคะแนนโดยใช้บัตรเลือกตั้งสองใบมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่าคำถามดังกล่าวจะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม สนช.หรือไม่ ต้องรอนำเข้าที่ประชุม สนช. ในวันที่ 7 เม.ย. เพื่อพิจารณาคำถามพ่วงประชามติ ที่ กมธ.ชุดอื่นๆ เสนอมาด้วยว่า ในที่สุดแล้ว สนช.จะมีมติอย่างไร | กมธ.ก.ม.สนช. เสนอคำถามประชามติ ให้ ส.ว.ร่วมโหวตนายกฯ แก้ปัญหาติดล็อกการเมือง ขณะที่ กมธ.การเมือง ชูประเด็นใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ยันไม่มีใบสั่ง | null | คำถามประชามติ,ส.ว.โหวตนายกฯ,กมธ.กฎหมาย สนช.,ธานี อ่อนละเอียด,ติดล็อกการเมือง,ช่วงเปลี่ยนผ่านฯ,ร่างรัฐธรรมนูญ,สนช.,คำถามพ่วง,นายกฯคนนอก,ใบสั่ง,เนื้อหาร่างฯ,เลือก ส.ส.,ปาร์ตี้ลิสต์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/599621 |
มุ้ย เปิดใจซบซานเฟรซเซ พูดถึงเจคู่แข่งลีกใหม่ ชาวไทยคลั่งบุกเพจตรึม | วันที่ 19 ธ.ค. หลังจากที่ เจ้ามุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทยเปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ของ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา ทีมดังจากศึกเจลีก ญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ เจ้าตัวก็ได้เปิดใจเป็นครั้งแรกยอมรับทำความฝันเป็นจริงแล้ว,ก็ดีใจครับกับการย้ายทีมครั้งนี้ ผมก็ใฝ่ฝันเหมือนกันว่าครั้งหนึ่งจะได้เล่นเจลีกอะไรแบบนี้ และครั้งนี้ความฝันของผมเป็นจริง ซึ่งผมดีใจมากๆ ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่กับการย้ายทีม มุ้ยกล่าว,นอกจากนี้มุ้ยยังพูดถึงเป้าหมายในการเล่นเจลีกด้วยว่า ผมว่าจริงๆแล้วนักฟุตบอลทุกคนแหละครับน่าจะรู้จักเจลีกเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นการไปเล่นเจลีก ก็คือการได้ไปเล่นในลีกที่มีคุณภาพระดับต้นๆของเอเชีย การที่ได้ไปเล่นก็คงเป็นเรื่องดีสำหรับผมที่ได้ไปเจอคู่ต่อสู้เก่งๆ ผมก็อยากพัฒนาตัวเอง และคิดว่าจะพยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อทีมและสโมสรและเป็นปีที่ดีสำหรับผม และหวังว่าผลงานจะออกมาดีทั้งของผมและของทีมด้วย,อีกทั้งมุ้ยยังพูดถึง เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพื่อร่วมทีมชาติไทยที่มาค้าแข้งในเจลีกอยู่ก่อนหน้าแล้ว 1 ปีด้วยว่า มันก็ดีใจเหมือนกันที่ เจ ทำผลงานได้ดี แต่มันก็เป็นส่วนของเจ ผมก็ต้องพยายามทำงานหนัก และหวังว่าจะมีผลงานที่ดีเหมือนกัน,ภาพและคลิปวิดีโอจาก J.League(เจลีก-ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น),นอกจากนี้หลังจากที่สโมสรซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา ได้เปิดตัวเจ้ามุ้ย แฟนบอลชาวไทยก็ไม่รอช้าบุกเพจทางการโดยคอมเมนต์ให้กำลังใจกันแบบไม่ได้นัดหมาย | เจ้ามุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกทีมชาติไทยเปิดใจครั้งแรกหลังเปิดตัวกับทีม ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา ทีมดังในศึกเจลีก ญี่ปุ่นวันนี้ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา,ธีรศิลป์ แดงดา | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1157517 |
ทางนี้ถึงเร็วกว่า 2 ผัวเมียเปิด GPS กลับบ้าน ไม่หลงแต่รถคว่ำล้อชี้ฟ้า | เมื่อวันที่ 26 พ.ค.61 สมาคมร่วมใจกู้ภัยเมืองเลย จุดท่าลี่ อ.ท่าลี่ จ.เลย ได้รับแจ้งมีเหตุรถกระบะพลิกคว่ำ ถนนสายบ้านโคกใหญ่-อ.ภูเรือ บ้านห้วยไคร้ หลัก กม.ที่ 4-5 ซึ่งเป็นทางขึ้นเขาลาดชัน จึงประสานไปยัง สภ.ท่าลี่ อบต.โคกใหญ่ เดินทางออกตรวจสอบ,ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะอีซูซุดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน 1 ฒธ 3342 กรุงเทพมหานคร บรรทุกมะม่วงมาเต็มคัน พลิกคว่ำหงายท้องอยู่ร่องน้ำข้างทางขึ้นเขา มีนายธวัชชัย เกิดสุข อายุ 35 ปี คนขับ และภรรยา รอให้ข้อมูลอยู่ ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บ,นายธวัชชัย กล่าวว่า ตนกับภรรยาไปซื้อมะม่วงจากชาวสวนที่ อ.เชียงคาน เต็มคันกลับไปขายที่ จ.พิษณุโลก ด้วยที่ไม่ชินทาง และไม่เคยขับมาเส้นทางดังกล่าว ภรรยาจึงได้เปิด GPS เพื่อช่วยนำทาง แต่ GPS ไม่พาไปเส้นทางถนนสายหลัก พามาเส้นทางลัดขึ้นเขาลาดชันมาก,เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถบรรทุกมะม่วงเต็มคันรถและมีน้ำหนักมาก ขึ้นเขาไม่ไหวรถได้ถอยหลังลงเขา ตนเองพร้อมแฟนรีบเปิดประตูรถหนีตาย จนรถพลิกคว่ำล้อขี้ฟ้าอยู่ริมทางถนน ส่วนตนเองและภรรยา ไม่ได้รับบาดเจ็บ จนมีกู้ภัยฯ มาช่วยเหลือ | ทางนี้เร็วกกว่าไม่มีหลง! 2 ผัวเมียเปิด GPS กลับบ้านที่พิษณุโลก หลังขับกระบะขนมะม่วงมาเต็มคันรถจาก อ.ภูเรือ ปรากฏพามาเส้นทางลาดชัน จนรถขึ้นไม่ไหวพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า | ข่าว,ทั่วไทย | GPS,เปิดจีพีเอส,เปิด GPS,GPS นำทาง,เลย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1291999 |
เข้มด่านอรัญฯ ล่าเสี่ยอ้วน ปิดตายช่องทางธรรมชาติ ประสานกัมพูชาสกัด | ตั้งแต่เมื่อเช้าวันที่ 1 ส.ค.61 ที่ สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บท-3631 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถของนายปัญญา ยิ่งดี หรือเสี่ยอ้วนภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรีที่ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และ นายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 21 ปี เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.61 ที่ผ่านมา จอดอยู่บริเวณข้างถนนสาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว บริเวณหมู่บ้านบ้านทับ อ.เมือง จ.สระแก้ว แต่ไม่มีผู้ใดอยู่ในรถ ทำให้ จนท.ได้ทราบเบาะแสว่านายปัญญา ยิ่งดี หรือเสี่ยอ้วนภูเก็ต ได้หลบหนีมาทาง จ.สระแก้ว,ดังนั้น พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เกรงว่าผู้ต้องหาที่มีหมายจับ คือ นายปัญญา ยิ่งดี หรือเสี่ยอ้วนภูเก็ต จะหลบหนีออกไปประเทศกัมพูชาทางชายแดน จ.สระแก้ว จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.อ.นิโรธ ทองม่วง ผบ.ชค.กรม.ทพ.12 (ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12) ระดมกำลังร่วมกันออกลาดตระเวนสกัดกั้นตลอดแนวชายแดน พร้อมทั้งร่วมกันตั้งด่านตรวจค้น บริเวณจุดตรวจบุคคลประจำยานพาหนะ ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยร่วมกันตรวจยานพาหนะทุกคันที่ขับออกจากประเทศไทยไปฝั่งกัมพูชา แม้รถบรรทุกสินค้า จนท.ก็ขึ้นไปตรวจค้นเนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจลักลอบหลบขึ้นรถบรรทุกหนีออกไปฝั่งกัมพูชา โดยได้มีการนำภาพถ่ายหมายจับของเสี่ยอ้วน และนายจิรศักดิ์ อุนัยบัน ให้ จนท.ถือเปรียบเทียบหน้าตากับบุคคลที่มากับยานพาหนะทุกคัน,นอกจากนี้ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.บัณฑิต พรหมพล สว.ตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือไปยัง จนท.ตำรวจกัมพูชา และ ตชด.กัมพูชา ที่ดูแลรักษาความมั่นคงบริเวณแนวชายแดน ตรงข้ามกับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ให้ช่วยปิดช่องทางธรรมชาติเพื่อป้องกันผู้ต้องหาหนีออกไปฝั่งกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งทางกัมพูชายินดีให้ความร่วมมือกับไทยอย่างเต็มที่ด้วยการปิดตายช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนฝั่งกัมพูชาด้วย,ส่วน พ.อ.นิโรธ ทองม่วง ผบ.ชค.กรม.ทพ.12 ได้สั่งการให้กองร้อยทหารพรานหน้าแนวชายแดนทุกกองร้อยปิดตายช่องทางธรรมชาติ พร้อมทั้งร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตามเส้นทางตามแนวตะเข็บชายแดน เพื่อป้องกันและสกัดจับผู้ต้องหาตามหมายจับ จะลักลอบหนีออกไปฝั่งกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ โดยจากการตรวจเข้มยังไม่พบผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 คนเข้ามาในพื้นที่แนวชายแดนอรัญประเทศ. | ตำรวจสระแก้วร่วมกับทหารพรานอรัญฯ และ ตม.สระแก้ว ปิดตายช่องทางธรรมชาติชายแดนไล่ล่าเสี่ยอ้วนภูเก็ตพร้อมพวกหลบหนีหมายจับออกประเทศ ประสาน ตร.และ ตชด.กัมพูชาช่วยสกัด | ข่าว,ทั่วไทย | เสี่ยอ้วน,สปาย ฟอส,ฆ่า 2 ศพ,สระแก้ว,ด่านอรัญประเทศ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1346075 |
จี้ถอนร่างก.ม.สิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ - ใช้ม.44 สอดไส้เนื้อหา EHIA | วันนี้(6 ธ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนจากทั่วประเทศ เช่น กรณีคัดค้านโครงการเหมืองทองคำจังหวัดเลย เหมืองโปแตส จ.อุดรธานี โรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงน้ำตาล จ.อำนาจเจริญ เหมืองถ่านหิน จ.ลำปาง และโครงการโรงไฟฟ้า ถ่านหินเทพา จ.สงขลา และจังหวัดกระบี่ ทยอยเดินทางมาชุมนุมที่บริเวณสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ฝั่งตรงข้ามประตู 4 ทำเนียบรัฐบาลอย่างต่อเนื่องโดยข้อเรียกร้องสำคัญของการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ยังคงย้ำ และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยุติกระบวนการพิจารณา และถอนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่อยู่ในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ให้เริ่มต้นจัดทำร่างใหม่ เพราะเห็นว่าร่างกฎหมายดังกล่าวไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 77 คือขาดการมีส่วนร่วมในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้เสียอย่างครอบคลุมตั้งแต่เริ่มกระบวนการและไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 58 ในการปฏิรูปรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA และยังมีการบรรจุเนื้อหาตามคำสั่งคสช.ที่ 9/2559 ออกโดยอาศัยมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญในเนื้อหาของหมวดประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ผู้ประสานงานกลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา กล่าวว่า หลังจากที่ร่างกฎหมายเข้าสู่ชั้นกฤษฎีกา ได้รวมเอากิจการพลังงานเข้าไปด้วย ทั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ซึ่งขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกฟผ. และเอกชน ที่กำลังประมูล รวมสัมปทานขุดเจาะสัมปทานปิโตรเลียม จะยกเว้นไม่ต้องให้อีไอเอผ่าน และหาผู้ประมูลไว้ได้เลย เป็นการทำลายหลักการ มีส่วนของประชาชนอย่างรุนแรงกลุ่มเครือข่ายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ระบวุ่า จะปักหลักชุมนุมไปจนกว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องในการยุติการพิจารณา และถอนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณ ภาพสิ่งแวดล้อมฉบับดังกล่าว และเริ่มต้นกระบวนการร่างแก้ไขกฎหมายใหม่ ที่มีส่วนร่วมประชาชนทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง โดยมีเจ้าหน้าที่ ตำรวจควบคุมฝูงชนกว่า 2 กองร้อยวางกำลังดูแลความเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่ | เครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมตัวเคลื่อนไหวคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่อยู่ในขั้นของการพิจารณาจาก สนช. โดยเรียกร้องให้ยุติกระบวนการพิจารณาและถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไป จนกว่าจะเกิดการมีส่วนร่วมและยอมรับจากประชาชน | สิ่งแวดล้อม | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์,กลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา,กลุ่มเครือข่ายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน | https://news.thaipbs.or.th/content/268291 |
อึ้ง ลิงบาบูนตัวเดียว ทำไฟดับกระทบชาวแซมเบียครึ่งแสน | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 ก.ค.) เกิดเหตุไฟดับขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศแซมเบีย กระทบประชาชนกว่า 50,000 คน โดยสาเหตุเกิดจากลิงบาบูนเพียงตัวเดียว ไปดึงสายไฟของสถานีผลิตไฟฟ้าในเมืองลิฟวิงสโตน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการมีสัตว์ป่ามาป้วนเปี้ยนรอบๆ เนื่องจากอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติ,ตามการเปิดเผยของนายเฮนรี คาปาตา โฆษกบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าในแซมเบีย ลิงบาบูนตัวนี้ลักลอบเข้าไปดึงสายไฟฟ้าแรงสูงภายในสถานีผลิตไฟฟ้า ส่งผลให้เกิดไฟดับในเมืองลิฟวิงสโตนและพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดเวสเทิร์น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถแก้ไขจนสถานการณ์กลับมาเป็นปกติแล้ว,ส่วนลิงบาบูนตัวต้นเหตุ ถูกไฟฟ้าช็อตได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เจ้าหน้าที่หน่วยงานพิทักสัตว์ป่าให้ความช่วยเหลือและรักษาชีวิตของมันเอาไว้ได้ โดยขณะนี้มันกำลังอยู่ระหว่างการพักฟื้น ขณะที่มีรายงานด้วยว่า มีผู้ถูกดำเนินคดีเพราะกรณีนี้ด้วย 1 คน แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด,อนึ่ง เมื่อปีก่อนก็,เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ที่ประเทศเคนยา, โดยลิงตัวหนึ่งปีนหลังคาโรงไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในเคนยา ก่อนตกใส่หม้อแปลงไฟฟ้า ทำให้เกิดไฟดับทั่วทั้งประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะทำให้ระบบกลับมาเป็นปกติ ขณะที่ลิงตัวนี้รอดตายด้วย | เกิดเหตุไฟฟ้าดับกระทบประชาชนกว่าครึ่งแสนในจังหวัดทางตะวันตกของประเทศแซมเบีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยสาเหตุเกิดจากลิงบาบูนเพียงตัวเดียว | ข่าว,ต่างประเทศ | บาบูน,ไฟดับ,ลิงตัวเดียวทำไฟดับ,แซมเบีย,เมืองลิฟวิงสโตน | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1008062 |
เจจีซีแนะเปลี่ยน มลพิษ ให้เป็น เงิน เลิกเผา ฟางข้าว สร้าง พลังงานทดแทน | แต่ด้วยภาวะเร่งรัดในการทำนาครั้งต่อไป การเผาฟางจึงกลายเป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด แม้ว่าเกษตรเองจะไม่อยากเผาฟางก็ตาม หากแต่ว่าผลกระทบที่ตามมานั้นไม่เพียงความร้อนที่เกิดจากการเผาจะทำลายธาตุอาหารในดิน และได้ผลผลิตคุณภาพไม่ดีแล้ว การเผาฟางยังเป็นการปลดปล่อยมลพิษทางอากาศอีกด้วย ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจจากกรมควบคุมมลพิษ พบว่าพื้นที่ที่มีการเผาฟางข้าวมากที่สุดในประเทศไทยมีถึง 13 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคกลาง เช่น ชัยนาท ลพบุรี สุพรรณบุรี อยุธยา และอ่างทอง เป็นต้น น.ส.ไตรทิพย์ สุรเมธางกูร นักศึกษาปริญญาเอก บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) กล่าวว่า ปัจจุบันแนวทางหนึ่งในการจัดการฟางข้าวที่น่าสนใจ คือการนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทนโดยการสนับสนุนของภาครัฐในการใช้ชีวมวลเพื่อทดแทนพลังงานจากฟอสซิล ซึ่งในหลายประเทศเริ่มมีการใช้ฟางข้าว (rice straw) และฟางข้าวสาสี (wheat straw) เป็นเชื้อเพลิงของหม้อต้มไอน้ำในการผลิตความร้อนและผลิตกระแสไฟฟ้าพลังไอน้ำบ้างแล้ว เช่น ประเทศเดนมาร์ก อังกฤษ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น ขณะที่ประเทศไทยมีความพยายามในการนำฟางข้าวมาใช้ประโยชน์ในรูปพลังงานมากแต่ยังประสบความสำเร็จไม่มากนัก เนื่องจากฟางข้าว เป็นชีวมวลที่มีค่าความร้อนต่ำ อีกทั้งยุ่งยากในการเก็บเกี่ยว และมีค่าขนส่งที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเศษวัสดุจากอุตสาหกรรมที่กำลังใช้กันอยู่ เช่น แกลบ เศษไม้ เปลือกปาล์ม ส่งผลให้ฟางข้าวกว่า 50 % ต้องถูกเผาทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นเพื่อหาเทคโนโลยีที่นำฟางข้าวไปใช้อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เกิดประโยชน์ที่ได้ผลคุ้มค่าต่อการลงทุน อันจะช่วยหยุดสร้างมลพิษจากการเผาฟาง และได้แหล่งพลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้น จึงได้ศึกษานโยบายเกี่ยวกับการนำฟางข้าวมาผลิตพลังงานในประเทศไทย ด้วยการประเมินความเป็นไปได้ใน 4 ด้าน คือ 1.ศักยภาพของทรัพยากรที่สามารถนำออกมาใช้ได้จริง 2.ความเหมาะสมของประเภทและขนาดของเทคโนโลยีกับศักยภาพของทรัพยากรที่มีอยู่ 3.ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ทั้งในแง่ของผู้ลงทุนและสังคมรวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ และ 4.สิ่งแวดล้อม โดยเสนอแนวทางของนโยบายที่ภาครัฐควรจะสนับสนุนผลจากการประเมินพบว่า ฟางข้าวมีศักยภาพเพียงพอที่จะนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทนได้ ด้วยการนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงของหม้อต้มน้ำอุตสาหกรรมในโรงงานจะมีศักยภาพมากว่าการผลิตกระแสไฟฟ้า และเสนอให้รัฐสนับสนุนการใช้ฟางโดยการให้เงินสนับสนุนต่อปริมาณฟางที่ใช้ 300-340 บาทต่อกิโลกรัม (แทนที่จะสนับสนุนต่อหน่วยกระแสไฟฟ้าที่ขายให้การไฟฟ้าฯ) เพื่อเปิดโอกาสให้นำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆด้วย ซึ่งเงินสนับสนุนนี้คำนวณโดยคำนึงถึงต้นทุนสิ่งแวดล้อมที่ไม่ต้องจ่ายหากเราหยุดเผาฟางได้ สำหรับการนำไปใช้ก็สามารถทำได้ทันที เพราะในภาคกลางยังมีโรงงานที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมันเตา ถ่านหิน สำหรับหม้อต้มน้ำอุตสาหกรรมจำนวนมาก ซึ่งหากเป็นถ่านหินผู้ประกอบการสามารถเปลี่ยนมาใช้ฟางข้าวได้ทันที แต่ถ้าเป็นน้ำมันเตาก็เปลี่ยนเพียงหัวเตาเท่านั้น ในส่วนการประเมินความคุ้มทุนนั้นพบว่า ฟางข้าวจะต้องมีราคาต่ำกว่า 860 บาทต่อตัน ซึ่งวิธีการลดต้นทุนที่ทำได้เลยในขณะนี้คือ ให้เกษตรเก็บฟางข้าวเป็นก้อนสี่เหลี่ยมไว้ข้างนา โดยอัดให้แน่น (ประมาณ 18-20 กก.ต่อฟ่อน) ด้วยเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้กันแพร่หลายอยู่แล้ว จากนั้นผู้ประกอบการส่งรถพ่วง 2 ตอน มารับซื้อจากนาโดยตรง และเตรียมความพร้อมของฟางก่อนป้อนเข้าเตาเผาด้วยการสับให้ชิ้นเล็กลง ส่วนในอนาคตเสนอให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้เกษตรกรเก็บฟางข้าวให้อยู่ในรูปแบบของเชื้อเพลิงอัดแท่งได้ทันที่ทุ่งนา เพื่อให้บรรทุกได้ในปริมาณมากขึ้นในพื้นที่เท่ากัน ซึ่งนอกจากจะลดจำนวนเที่ยวและประหยัดค่าการขนส่งแล้ว ยังนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ทันทีโดยไม่ต้องสับ แต่ทั้งนี้ยังต้องอาศัยการผลักดันจากภาครัฐในการพัฒนาเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่อไปน.ส.ไตรทิพย์ กล่าวว่า การใช้ฟางเป็นเชื้อเพลิงทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล นอกจากจะช่วยให้หยุด มลพิษทางอากาศ ได้แล้ว ยังได้ พลังงาน และ ลดโลกร้อน ด้วย ซึ่งการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตรงนี้ จะนำไปขายกับประเทศที่มีพันธกิจการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใต้การตกลงในพิธีสารเกียวโต โดยปัจจุบันในตลาดโลกมีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตผ่านกลไกการพัฒนาที่สะอาด (Clean Development Mechanism: CDM) บ้างแล้วในหลายประเทศ โดยภาครัฐควรมีการสนับสนุนโครงการCDM เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรด้วย อย่างไรก็ดีปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ปัจจุบันโรงสีข้าวและโรงน้ำตาลเริ่มนำแกลบและกากอ้อยไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงไฟฟ้าขนาดย่อมของตนเองมากขึ้น ส่งผลให้ชีวมวลเหล่านี้เริ่มมีราคาแพงและขาดแคลนมากขึ้น ดังนั้นชีวมวลที่ไม่ได้ใช้ทั้ง ฟางข้าว ใบอ้อย ยอดอ้อย ลำต้นข้าวโพด ล้วนเป็นชีวมวลทางเลือกใหม่ ที่จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในภาวะขาดแคลนพลังงานในอนาคต | ปัญหาอย่างหนึ่งของเกษตรกรในการทำนา คือการจัดการกับฟางข้าวภายหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งแม้ปัจจุบันฟางข้าวจะสามารถนำไปใช้ประโยชนได้หลากหลาย เช่น อาหารสัตว์ ปุ๋ยหมักชีวภาพ | การศึกษา,สิ่งแวดล้อม,สังคม | JGSEE,ก๊าซเรือนกระจก,บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม,ฟางข้าว,เชื้อเพลิง | https://prachatai.com/journal/2009/12/26932 |
รวบ พ.ต.ท.เก๊ อ้างอยู่หน่วยสันติบาล คางานแต่งงาน | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. 58 พ.ต.อ.อุดร มณีสาย ผกก.สภ.กันทรารมย์ พ.ต.อ.สัญชัย มัยญะกิต ผกก.2 บก.ส.1 และ พ.ต.ต.ศิริบุญธรรม ฟักทอง สว.กก.2 บก.ส.1 ได้นำตัวนายประกาศิต จุลหอม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/318 หมู่ 3 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงและแอบอ้างว่าเป็นข้าราชการตำรวจ ยศ พันตำรวจโท สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล มาทำการแถลงข่าว และสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมของกลางปืนพกสั้น ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 22 นัด บัตรอิเล็กตรอน หรือบัตร ATM จำนวน 8 ใบ หนังสือเดินทางชื่อนายประกาศิต 2 เล่ม ชุดเครื่องแบบตำรวจ พร้อมเครื่องหมายยศพันตำรวจโท จำนวน 1 ชุด และกระบี่ ชุดภาพถ่ายการแต่งกายยศ พันตำรวจโท 1 ภาพ,พ.ต.อ.สัญชัย มัยญะกิต ผกก.2 บก.ส.1 กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า มีบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์แอบอ้างว่าเป็นข้าราชการตำรวจยศพันตำรวจโท สังกัดตำรวจสันติบาล ในพื้นที่ ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ โดยจะชอบมาแอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือบุคคลภายนอกเข้ารับราชการในหน่วยงานต่างๆ หรือโยกย้าย และโอนไปดำรงตำแหน่งที่ต้องการได้ โดยเฉพาะ ข้าราชการตำรวจ และทหาร แต่ต้องเสียเงินค่าดำเนินการ 1-2 แสนบาท มีคนหลงเชื่อและโอนเงินให้หลายรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล จึงได้ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.กันทรารมย์ ทำการสืบสวน หาข้อมูลจนรู้ตัวผู้ต้องหา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าจับกุมตัว นายประกาศิต ที่ ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ ซึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบปกติขาวยศ พันตำรวจโท ขณะกำลังเข้าพิธีแต่งงานอยู่ในพื้นที่ตำบลละทาย อำเภอกันทรารมย์ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 58 โดยที่ญาติฝ่ายเจ้าสาวไม่รู้และไม่สงสัยมาก่อนว่า นายประกาศิตไม่ได้เป็นตำรวจ,พ.ต.อ.สัญชัย กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นนายประกาศิต ให้การรับสารภาพว่า แอบอ้างว่าเป็นนายตำรวจสันติบาลจริง และทำมานานแล้ว โดยจะอ้างว่าสามารถโอนนายทหารชั้นประทวน มาเป็นตำรวจได้ ซึ่งจะเรียกรับเงินค่าดำเนินการครั้งละ 1-2 แสนบาท ส่วนที่แต่งชุดเครื่องแบบตำรวจมาแต่งงานนั้น ก็เพราะจะหลอกญาติๆ ทางฝ่ายหญิงว่าตนเป็นนายตำรวจยศ พันตำรวจโท เพื่อให้ญาติทางฝ่ายหญิงเชื่อถือ และให้ตัวเองดูดีมีฐานะ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งข้อหานายประกาศิต ว่า สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยไม่มีสิทธิ์ ใช้ตำแหน่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์โดยไม่มีสิทธิ์ ก่อนจะนำตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.กันทรารมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ตร.กันทรารมย์ รวบหนุ่มสมุทรสาคร อ้างเป็น พ.ต.ท.อยู่หน่วยสันติบาล แต่งเครื่องแบบตำรวจ ขณะหลอกสาวเข้าพิธีแต่งงาน ที่ศรีสะเกษ พบพฤติกรรมเรียกเงิน อ้างช่วยเข้าทำงานทหาร-ตร.
| ข่าว,ทั่วไทย | ตร.เก๊,ประกาศิต จุลหอม,อ้างเป็นตร.สันติบาล,หลอกสาวกันทรารมย์แต่งงาน,อุดร มณีสาย,ผกก.สภ.กันทรารมย์,สัญชัย มัยญะกิต,ผกก.2 บก.ส.1,พ.ต.ท.เก๊,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคมทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/502816 |
โฆษก ปชป.วอนรัฐเร่งจัดการ Fake News ชี้ ทำให้เสียหายเป็นวงกว้าง | นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษก ปชป.วอนรัฐเร่งจัดการ Fake News จริงจัง ชี้ ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ขอหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งดำเนินการวันที่ 8 มี.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวเท็จ หรือ เฟกนิวส์ ส่งต่อกันในสื่อโซเชียลว่า ต้องยอมรับว่าสังคมไทยมีการรับข่าวสารที่ผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงมาก มีกระบวนการใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จสื่อสารให้สังคมเกิดความสับสน สร้างความเสียหายต่อบุคคลอื่น ต่อสังคมและประเทศ ที่ร้ายแรงที่สุด คือ การนำคำพูดอันเป็นเท็จไปประกอบภาพของบุคคลอื่นจนก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นคำพูดของบุคคลดังกล่าว จึงทำให้เกิดความเสียหายขึ้นและขยายวงกว้างเกินกว่าที่จะหยุดยั้งหรือลบได้ทัน แม้รัฐบาลตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามข่าวเท็จ (Fake News) แล้ว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการด้วยความรวดเร็วและเมื่อมีการดำเนินคดีแล้ว ควรจะมีการแจ้งข่าวให้ประชาชนทราบว่าผู้ที่กระทำความผิดได้ถูกดำเนินคดีแล้ว พร้อมกับตัวอย่างประกอบให้เห็นว่าการสื่อสารด้วยข้อความที่เป็นเท็จลักษณะดังกล่าวมีความผิดอย่างไร ก็จะเป็นการให้ข้อมูลความรู้ที่ป้องปรามได้ดี รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องให้ความรู้ถึงการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง สื่อสารอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่นและสังคมโดยรวมก็จะเกิดประโยชน์. | นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษก ปชป.วอนรัฐเร่งจัดการ Fake News จริงจัง ชี้ ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ขอหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ | ข่าว,การเมือง | เฟกนิวส์,Fake News,รัฐบาลจัดการเฟกนิวส์,โฆษกปชป.,ประชาธิปัตย์,ราเมศ รัตนะเชวง,ศูนย์ป้องกันและปราบปรามข่าวเท็จ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1789923 |
เหนือ-อีสาน หนาวสุดๆ ต่ำ10 คนกรุงมีเฮ อากาศเย็น 16 องศา | เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2562 กรมอุตุนิยมวิทยา ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนตอนกลางวันท้องฟ้าโปร่งและมีแดดจัด บริเวณพื้นราบในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส,สำหรับบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-19 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยไว้ด้วย,สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมามีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้,ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 04.00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 น.วันนี้ ถึง 06:00 น.วันพรุ่งนี้,ภาคเหนือ , บริเวณพื้นราบ อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-7 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, บริเวณพื้นราบ อากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-27 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-8 องศาเซลเซียส,ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.,ภาคกลาง, อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.,ภาคตะวันออก, อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,ภาคใต้ฝั่งตะวันออก, อากาศเย็นกับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร,ภาคใต้ฝั่งตะวันตก, เมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ,กรุงเทพมหานคร, อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. | ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้ตอนบนโดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยและยอดภูหนาวจัดมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ | ข่าว,ทั่วไทย | กรมอุตุ,อุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,อากาศวันนี้,อากาศประเทศไทย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1719940 |
รองโฆษก ตร.เตือนพวกไลฟ์สดพูดเร็วหลอกขายทอง เพชร ระวังติดคุก 5 ปี | เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงการแฉเบื้องหลังกลโกงไลฟ์ขายทอง ขายเพชร ว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าว มีผู้ค้ารายหนึ่ง ไลฟ์ขายทอง ขายเพชร ออนไลน์ใช้เทคนิคการหลอกขาย โดยการพูดเร็ว ๆ ขายทอง ขายเพชร ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดหลายเท่า แต่สุดท้ายลูกค้ากลับได้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงกับที่ได้แจ้งเอาไว้ พอลูกค้าจะขอเงินคืน ไม่อยากได้สินค้า ผู้ค้าก็จะหักเปอร์เซ็นเป็นค่าเสียเวลาหรือประจานลูกค้า ส่งผลให้มีผู้เสียหายหลายรายในวงกว้างนั้นการกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100000 หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรืออาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน ขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับรอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ขอประณามการกระทำในลักษณะดังกล่าว ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ในการนี้ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ก่อนชำระเงินซื้อสินค้าใดๆ ก็ตามควรดูลักษณะร้านค้าออนไลน์ หรือผู้ขาย ที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น มีการลงทะเบียนธุรกิจออนไลน์ ดูจากเครื่องหมายทะเบียน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือ DBD มีการตอบรับในทางที่ดีหรือไม่ โดยสังเกตจากกระทู้ หรือเว็บไซต์การรีวิวสินค้านั้นๆ มีการบอกรายละเอียดสินค้าครบถ้วน ชัดเจนหรือไม่ รวมถึงเงื่อนไขการประกันสินค้า การบริการหลังการขาย ที่สำคัญต้องขายสินค้าที่ถูกกฎหมาย ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเป็นสินค้าเลียนเเบบ พึงระลึกไว้ว่าของฟรีไม่มีในโลก ของถูก ต้องถูกอย่างมีเหตุผล การลงทุน การซื้อสินค้าออนไลน์ ต้องตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้รอบด้านเสียก่อนตัดสินใจทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบว่า ตนเองถูกหลอก สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุที่สถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุทั่วประเทศ บก.ปอท. หรือ ศปอส.ตร. หมายเลขสายด่วน 1599 หรือ 1155 ได้ตลอด 24 ชม.เครดิตภาพบางส่วน: เฟซบุ๊ก ณัฐฐิญา มาค่ะ | พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.ฮึ่ม พ่อค้าไลฟ์สดใช้เทคนิคพูดเร็ว หลอกขายทอง ขายเพชร เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100000 หรือทั้งจำทั้งปรับ | ข่าว,อาชญากรรม | หลอกขายทอง,หลอกขายทองราคาถูก,หลอกขายทองออนไลน์,ไลฟ์สดหลอกขายทอง,ฉ้อโกงประชาชน,พูดเร็วหลอกขายทอง,กฤษณะ พัฒนเจริญ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1881629 |
ขอนแก่น ได้รับการรับรองเป็นเมืองแห่งผ้ามัดหมี่โลก | วันนี้ (3 ธ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือรับรองจากสภาหัตถกรรมโลกประกาศให้ จ.ขอนแก่น เป็นเมืองแห่งผ้ามัดหมี่โลก ประจำปี 2018 จากคณะกรรมการสภาหัถตกรรมโลก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งจากไทยและต่างประเทศ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันผลักดันและนำเสนอวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ผูกผันกับการทอผ้า โดยเฉพาะผ้าไหมมัดหมี่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตท้องถิ่นนายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า จ.ขอนแก่น มีชื่อเสียงเรื่องผ้าไหมมัดหมี่ โดยเฉพาะ อ.ชนบท และการได้รับการรับรองให้เป็นเมืองแห่งผ้ามัดหมี่โลก ถือว่าเป็นการยืนยันคุณภาพของงานหัตถกรรม ซึ่งเป็นฝีมือของคนในชุมชน และเชื่อว่าจากนี้จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ และขยายตลาดผ้าไหมและสินค้าชุมชนได้มากขึ้นนายเข็มชาติ กล่าวอีกว่า จ.ขอนแก่น ยังพร้อมเป็นศูนย์กลางตลาดผ้าจากชุมชนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยสภาหัตถกรรมโลกเตรียมมอบใบประกาศรับรองการเป็นเมืองแห่งผ้ามัดหมี่โลกอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) และตั้งแต่วันพรุ่งนี้ จนถึงวันที่ 6 ธ.ค.นี้ จ.ขอนแก่น ยังเป็นเจ้าภาพจัดประชุมงานมัดหมี่โลก ครั้งที่ 4 ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องผ้ามัดหมี่จากทั่วโลกเข้าร่วม | จ.ขอนแก่น เตรียมจัดงานประชุมงานมัดหมี่โลก ครั้งที่ 4 หลังได้รับการรับรองจากสภาหัตถกรรมโลกให้เป็นเมืองแห่งผ้ามัดหมี่โลก โดยการผลักดันของภาคเอกชน เพื่อเป็นศูนย์กลางผ้ามัดหมี่ทั้งการผลิตจากผ้าไหมและผ้าฝ้าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน | ภูมิภาค | ขอนแก่น,ผ้าไหมมัดหมี่โลก,ผ้ามัดหมี่,ผ้าไหม,ผ้าฝ้าย,งานมัดหมี่โลก,สภาหัตถกรรมโลก,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/276074 |
สุเทพ ขอความเห็นใจให้ตั๊นยันเจ้าตัวหวังทำประโยชน์ให้บ้านเมือง | ,เมื่อวันที่ 24 ก.ย.58 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือ ตั๊น สมัครเข้ารับการแต่งตั้งเป็นตำรวจว่า ตนยังไม่ได้คุยกับ น.ส.จิตภัสร์ แต่คิดว่าเรื่องนี้เป็นโชคร้ายของ น.ส.จิตภัสร์ ที่มาอยู่ในสถานการณ์นี้ ทั้งที่วันนี้ไม่ใช่ว่าเมื่อพวกตนเป็น กปปส.แล้วจะต้องถูกตัดสิทธิทำอะไรไม่ได้ ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้ ใครมาตั้งข้อรังเกียจอย่างนี้ก็ผิดแล้ว เพราะคนที่จะมาเป็นตำรวจ หรือเข้ารับราชการที่ไหนก็แล้วแต่ ก็ต้องมีคุณสมบัติของผู้สมัคร และต้องเปิดโอกาสให้ใครก็สมัครได้ จะเป็น กปปส. นปช. หรือใครก็แล้วแต่ ถ้าคุณสมบัติควรก็ไม่ใช่จะมาตั้งข้อรังเกียจ เพราะหากคุณสมบัติไม่ครบก็เป็นไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ก็เป็นตัวอย่างว่าการกีดกันอย่างนี้ไม่ใช่ความถูกต้อง ทั้งที่ น.ส.จิตภัสร์ เคยแสดงออกถึงความตั้งใจที่จะรับใช้บ้านเมือง ทั้งการลงสมัคร ส.ส.หรือร่วมการต่อสู้กับประชาชน และยังเป็นคนที่มีความรู้ภาษาอังกฤษดีมาก และพอตำรวจต้องการใช้คนที่มีความสามารถด้านภาษาขึ้นมา น.ส.จิตภัสร์ ก็ไปสมัคร ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่ก็เข้าใจว่าจะมีกระบวนการต่อต้านเป็นธรรมดา,การแสดงออกอย่างนี้ มันไม่ใช่ความสวยงาม ไม่เกิดความปรองดองได้ เพราะเราต้องไม่แสดงอาการรังเกียจเดียดฉันท์คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ต้องให้ความเท่าเทียมกันทุกฝ่าย ส่วนถ้าเขาทำไม่ถูกต้องก็ว่ากันไป แต่กฎเกณฑ์กติกาต้องเปิดกว้าง เสมอภาคทุกกลุ่มทุกฝ่าย หากมีการตั้งข้อรังเกียจว่า กปปส.เป็นอะไรไม่ได้ ก็แย่เลย ยุ่งไปใหญ่ นายสุเทพ กล่าว, ,นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องข้อเสนอการปฏิรูปตำรวจกับการสมัครเป็นตำรวจของ น.ส.จิตภัสร์ เป็นคนละเรื่อง และไม่อยากจะเปรียบเทียบกับยุคสมัยอื่นที่รับคนมาเป็นตำรวจ มีชื่อนั้น ชื่อนี้ แต่อยากขอความเป็นธรรมในกรณี น.ส.จิตภัสร์ให้มองด้วยใจที่เปิดกว้าง เพราะคงคิดว่ามีช่องทางที่จะทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ ก็อยากจะทำ. | สุเทพวอนขอความเป็นธรรมให้ ตั๊น แนะควรเปิดใจให้กว้าง ดูที่คุณสมบัติ ไม่ตั้งข้อรังเกียจ-แบ่งแยก ยันเจ้าตัวหวังทำประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง | null | สุเทพ เทือกสุบรรณ,ตั๊นถอดสิทธิ์สมัครรับราชการตำรวจ,จิตภัสร์ กฤดากร,มูลนิธิมวลมหาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย,กปปส.,ตั๊น,สมัครตำรวจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง,ตั๊น จิตภัสร์,ตั๊น สมัครตำรวจ,แกนนำ กปปส.,เทพเทือก | https://www.thairath.co.th/content/527643 |
ชาวผอมโปรดฟัง น้ำตาลจากผลไม้อ้วนหรือไม่? | จากผู้เชี่ยวชาญมาบอก,นนท์ อัลภาชน์ หรือมิกกี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาจากมหาวิทยาลัยโอเรกอน สเตท ของสหรัฐฯ สาขาฟิตเนส แอนด์ นิวทรีชั่น และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย ECU Edith Cowan University สาขา Strength and Conditioning จากประเทศออสเตรเลีย จะมาบอกความจริงว่า ถ้ามนุษย์เรารับน้ำตาลจากผลไม้เข้าไปจะทำให้อ้วนหรือไม่,
1. น้ำตาลที่อยู่ในผลไม้ เวลาที่เราทานคือ ฟรุกโตส (Fructose) คือน้ำตาลที่มาจากธรรมชาติ
,2. แต่ฟรุกโตสมีทั้งมาจากธรรมชาติ จึงมีแคลอรีที่น้อยกว่า และมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า มาจากการกลั่น หรือสกัดมาอีกทีหนึ่ง ที่รู้กันในนาม High fructose corn syrup (HFCS) ซึ่งจะใช้ทำให้น้ำอัดลมทั้งหลายมีความหวาน หรืออาหารกระป๋องที่ผ่านขั้นตอนการผลิต (processed food) และอาหารประเภทนี้ที่มี fructose ค่อนข้างที่จะมีแคลอรีสูง และไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการ
,3. ฟรุกโตสทั้งสองแบบนี้จะถูกเก็บไว้ในตับของเราก่อนเป็น liver glycogen และตับเรามีจำนวนจำกัดที่จะเก็บ ฟรุกโตสได้ (ประมาณ 50 กรัม/วัน) เช่น แอปเปิ้ล ลูกนึงมีฟรุกโตสประมาณ 11 กรัม แต่ถ้าเทียบน้ำอัดลมที่อาจมี ฟรุกโตสถึง 50 กรัม และแคลอรียังเยอะกว่าอีกด้วย ดังนั้น การที่ liver glycogen เราจะเต็มจนร่างกายเอาฟรุกโตสจากผลไม้ที่เรากินไปเป็นไขมันจึงยาก แล้วยิ่งถ้าออกกำลังกายอีก สบายเลยทีเดียว
,4. เมื่อเราอยู่ในช่วงที่ ไดเอตหรือออกกำลังกายเยอะ จนเราเอาแคลอรีออกมากกว่าเข้า ร่างกายก็จะเปลี่ยนฟรุกโตสไปเป็นกลูโคส หรือเก็บเป็น liver glycogen แทนที่จะเก็บเป็นไขมัน เพราะ liver glycogen เราจะยังไม่เต็ม
,5. จะรู้ได้ยังไงว่าอาหารอะไรมีฟรุกโตสมากน้อยแค่ไหน? ให้ดูป้ายคุณค่าทางโภชนาการข้างหลังตรง ingredients
,6. ที่สำคัญฟรุกโตสที่เราทานเป็นหลักควรมาจากธรรมชาติ เช่นผักและผลไม้ และควรเลี่ยงพวกน้ำอัดลม
,7. อย่ามัวแต่คอยห่วงว่า วันนี้ฟรุกโตส ฉันจะเกินยัง ? หรือกลัวว่าจะอ้วน เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย และตราบใดที่คุณทานน้ำตาลส่วนมากจากผลไม้ ซึ่งมาจากธรรมชาติ ประโยชน์นั้นมากกว่าโทษแน่นอน บวกกับยิ่งถ้าออกกำลังกายอีกด้วย ก็หายห่วงได้เลย
,8. ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช้ว่าห้ามกินอาหารที่มีฟรุกโตสที่สกัดมา หรือ High fructose corn syrup แต่อย่างใด เพราะอาหารบางประเภทที่เราอยากทาน มันต้องมีบ้างแหละ แต่ก็เหมือนเดิมทานอะไรจงมีสติและอยู่ในความพอดี
| หนุ่มสาวหลายคนหันมาดูแลสุขภาพ จริงจังเหลือเกินกับการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการนับแคลอรี ดูน้ำตาลในอาหาร บ้างก็เลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยมาทาน หลายคนสงสัยว่าน้ำตาลจากผลไม้ทำให้อ้วนหรือไม่ ไทยรัฐออนไลน์มีคำตอบ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | น้ำตาลจากผลไม้,น้ำตาลจากผลไม้อ้วนมั้ย,น้ำตาลจากผลไม้อ้วนหรือไม่,น้ำตาล,ผลไม้,ผลไม้ลดความอ้วน,ลดความอ้วน,นนท์ อัลภาชน์,ข่าว, ไทยรัฐออนไลน์, ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไทยรัฐ,ไลฟ์สไตล์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/484518 |
ศาลให้ประกัน นาจิบ ราซัค คดีทุจริต 1MDB ฟ้องเพิ่ม 25 กระทง | วันนี้ (21 ก.ย.2561) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลแขวงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย อนุมัติคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว หลังทนายฝ่ายจำเลยยื่นหลักทรัพย์ 3.5 ล้านริงกิต หรือประมาณ 28 ล้านบาท เพื่อค้ำประกัน และห้ามมิให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยผู้พิพากษากำหนดวันไต่สวนครั้งต่อไปในวันที่ 16 พ.ย. นี้ทั้งนี้นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกจับกุมตัวเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ในข้อหาการใช้อำนาจในทางมิชอบ และการโอนเงินจากกองทุนวันเอ็มดีบี 2600 ล้านริงกิต หรือประมาณ 20700 ล้านบาท เข้าในบัญชีส่วนตัว ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธมาโดยตลอด โดยในภายหลังอัยการสั่งฟ้องนายนาจิบเพิ่มอีก 25 กระทง แบ่งเป็น 21 กระทงในข้อหาฟอกเงิน และอีก 4 กระทงฐานใช้อำนาจมิชอบขณะที่นายนาจิบยืนยันว่าเขา ไม่ใช่ขโมย และพร้อมแสดงหลักฐานเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ซึ่งข้อกล่าวหาที่อัยการสั่งฟ้องนายนาจิบเพิ่มเติมนี้ รวมกับข้อกล่าวหาที่มีการสั่งฟ้องแล้ว 7 กระทงเป็นอย่างน้อย 32 กระทงแล้ว และหลายข้อกล่าวหามีระวางโทษสูงสุด คือ การจำคุกตลอดชีวิต | ศาลมาเลเซียให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยวงเงินประกัน 28 ล้านบาท หลังอัยการฟ้องเพิ่มอีก 25 กระทง ในคดีทุจริตกองทุนพัฒนาแห่งชาติ (วันเอ็มดีบี) | ต่างประเทศ | นาจิบ ราซัค,มาเลเซีย,ทุจริต,วันเอ็มดีบี,ศาล,ประกันตัว,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/274706 |
5 คนปีนเหยียบโบราณสถานรับทราบข้อหา โพสต์โซเชียลเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ | เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 26 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ,นักท่องเที่ยวทั้ง 5 คน, ที่ถูก นางสาวสุกัญญา เบานิด ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ,แจ้งความดำเนินคดี,นั้น ได้เดินทางมาถึง สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับทราบข้อหา โดยทั้ง 5 คนประกอบด้วย 1.นางสาวสลิลทิพย์ แซ่โง้ว อายุ 30 ปี 2.นางสาววิยะณี อาจหาญ อายุ 31 ปี 3.นายบวร อยู่พิทักษ์ อายุ 34 ปี 4.นายพรเทพ วงษ์ชื่น อายุ 29 ปี และ 5.นายยุติวิชษ์ พานทองประเสริฐ อายุ 27 ปี ซึ่งเมื่อมาถึงกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ,พ.ต.อ.สุรพงศ์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พากลุ่มผู้ต้องหาเข้าห้องสอบสวนทันที ภายหลังเสร็จสิ้นการสอบสวน ผู้สื่อข่าวสอบถามกับ นางสาวสุกัญญา ให้สัมภาษณ์ว่า จากการสอบถามกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้ง 5 คน ให้การว่า นัดรวมกลุ่มกันมาท่องเที่ยวที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 61 ขณะนั้นเดินชมโบราณสถานต่างๆ จนมาถึงบริเวณวัดมหาธาตุ เห็นว่าบริเวณตรงนั้นสามารถปีนขึ้นไปได้ จึงชักชวนกันขึ้นไปเพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ,ในตอนนั้นมีมัคคุเทศก์ตะโกนบอกให้ลงมา หลังพากันลงมาจึงได้หันไปเห็นป้ายเตือน รู้สึกตกใจมากและรู้ตัวว่าทำผิด ส่วนการโพสต์รูปลงโซเชียลเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พวกตนยอมรับผิดตามข้อกล่าวหาทุกอย่าง, คือ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 13 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปะวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2535 ,ซึ่งในข้อ 2 วงเล็บ 4 ระบุไว้ว่า ผู้เข้าชมโบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ต้องไม่ปีนป่ายโบราณสถานหรือทำการใดๆ อันอาจเป็นเหตุให้เกิดความชำรุดเสียหาย หรือก่อให้เกิดความสกปรกและไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยแก่โบราณสถาน และวงเล็บ 6 ไม่กระทำการใดๆ ภายในเขตโบราณสถานอันเป็นที่น่ารังเกียจ หรือเป็นที่เสื่อมเสียต่อศีลธรรมอันดี หรือลบหลู่ดูหมิ่นต่อศาสนาและวัฒนธรรม หรือก่อความรำคาญแก่ผู้เข้าชมอื่นๆ อันมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท,หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่าจะปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราว เพราะมิได้มีพฤติการณ์หลบหนี และวันนี้ก็ติดต่อขอเข้ามามอบตัวเอง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งผู้ต้องหาทั้งหมดฟ้องศาลในวันที่ 28 ก.พ. 61 ,ด้าน พ.ต.ท.ศรุต ระยานนท์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฝากประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ช่วยกันสังเกตป้ายเตือนต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ตามสถานที่เพื่อที่จะได้ปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง หรือหากท่านพบเห็นการกระทำใดๆ อันไม่สมควรจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ให้ช่วยกันตักเตือนหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยกันอนุรักษ์และรักษาสมบัติของชาติอันเป็นสิ่งที่บรรพชนหวงแหน ให้ลูกหลานหรือคนรุ่นหลังได้มาเที่ยวชมกันต่อไป ,หากไม่ช่วยกันรักษา ก็ขอร้องว่าอย่าทำลาย ,อนึ่ง วัดมหาธาตุ นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุแล้ว ยังถือเป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางเมืองและเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีต่างๆ สมัยกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย. | 3 หนุ่ม 2 สาว ปีนขึ้นเหยียบโบราณสถานวัดมหาธาตุ พระนครศรีอยุธยา เข้ารับทราบข้อหา ยอมรับทำผิด เผย เหตุตั้งแต่ 28 ม.ค. 61 วันนั้นมีมัคคุเทศก์ตะโกนบอก ส่วนที่โพสต์โซเชียลเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ | ข่าว,ทั่วไทย | วัดมหาธาตุ,วัดมหาธาตุ อยุธยา,โบราณสถาน,เหยียบโบราณสถาน,อยุธยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1214423 |
นิธิ เอียวศรีวงศ์: มองการเมืองไทยผ่านกรัมชี่ | อํานาจที่จะปกครองรัฐได้นั้นมีสองส่วน หนึ่งคืออำนาจครอบงำ (domination) ซึ่งหมายถึงการเข้าไปกุมกลไกของรัฐ เช่น กองกำลังติดอาวุธ ระบบราชการ เครื่องมือสื่อสาร ฯลฯ กลายเป็นอำนาจใหญ่ที่ไม่มีใครต้านทานได้ ผูกขาดความรุนแรง และด้วยเหตุดังนั้นจึงเป็นผู้ตัดสินกรณีพิพาททั้งหมดแต่ผู้เดียว แต่อำนาจครอบงำอย่างเดียวถึงสามารถปกครองได้ก็ไม่ยั่งยืน เพราะอำนาจประเภทนี้มีวิธีใช้อยู่อย่างเดียว คือกดขี่ปราบปราม ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับในโลกปัจจุบันไปแล้ว นอกจากนั้น แม้ไม่มีป่าเหลือให้หลบหนีอีกแล้ว แต่ก็มีพื้นที่อื่นๆ ที่เกิดใหม่ในโลกปัจจุบัน ซึ่งทำให้ผู้คนสามารถเล็ดลอดหลบหลีกไปจนได้ เช่นในระบบการสื่อสารของโลกปัจจุบัน อาจจะง่ายกว่าสมัยโบราณที่ยังมีป่าอยู่ด้วยซ้ำ เพราะไม่ต้องเตรียมเสบียงอาหารมากนักและไม่ต้องขนเอาครอบครัวอพยพหนีตามไปด้วยดังนั้น อำนาจส่วนที่สองจึงมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าการครอบงำ นั่นคือ อำนาจนำ (hegemony) ซึ่งก็คือฐานทางวัฒนธรรมที่ทำให้สังคมยอมรับอำนาจครอบงำซึ่งรัฐต่างๆ ยึดกุมอยู่ รัฐที่อ่อนแอมีแต่อำนาจครอบงำ ในขณะที่รัฐแข็งแกร่งแทบไม่ใช้อำนาจครอบงำเลย หากใช้แต่อำนาจนำเท่านั้นในการปกครอง เพราะอำนาจนำของรัฐเช่นนั้นมีพลังไพศาลจนเกิดการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งสังคม การจลาจลหรือการแข็งข้อของคนบางกลุ่มบางเหล่าในสังคม จึงแทบไม่กระทบต่ออำนาจปกครองของรัฐเลย ไม่พักต้องพูดถึงการวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งย่อมเปิดกว้างแก่ทุกคนในแง่นี้จะพูดว่าอำนาจนำมีความสำคัญกว่าอำนาจครอบงำก็ได้ เพราะในรัฐเช่นนั้น อำนาจนำย่อมแข็งแกร่งเสียจนยากที่ใครจะสร้างอำนาจนำทางเลือกขึ้นมาแข่งอย่างได้ผล อย่างไรก็ตาม ในช่วงจังหวะเวลาทางประวัติศาสตร์บางอย่าง บาง ชนชั้น (ซึ่งไม่ได้มีความหมายในเชิงเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงสำนึกทางปัญญาและศีลธรรมที่เหมือนกัน หรือสำนึกใน วัฒนธรรม เดียวกันด้วย) ก็อาจประสบความสำเร็จในการสร้างอำนาจนำทางเลือกขึ้นมาแข่ง จนทำให้การยอมรับของผู้คนต่ออำนาจครอบงำของรัฐซึ่งมีอยู่สั่นคลอนไปอำนาจนำไม่ว่าจะเป็นของ ชนชั้น ใด ไม่เคยเป็นระบบปิด หรือระบบความคิดและวัฒนธรรมที่หยุดนิ่งไม่ยอมขยับเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด หากสามารถปรับเปลี่ยนไปได้ตามสำนึกใหม่ๆ ซึ่งเกิดขึ้นในสังคม เช่น การยอมรับสิทธิคนผิวสี การยอมรับสิทธิเสมอภาคของสตรีและ LGBT ฯลฯ เพราะการยอมรับเช่นนี้ไม่ได้ทำให้หลักสำคัญของอำนาจนำสั่นคลอนลงแต่อย่างไร คนดำ ผู้หญิงและกะเทยก็ยังล้วนเป็นสินค้าในตลาดไม่ใช่หรือ ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ อำนาจนำใดๆ ที่พยายามเป็นระบบปิด ไม่ยอมปรับเปลี่ยนเลย ย่อมแสดงให้เห็นว่าอำนาจนำนั้นอยู่สภาวะอ่อนแอจนจะไปไม่รอดอยู่แล้วผมคิดว่า หากมองรัฐไทยและสังคมไทยในช่วงจังหวะทางประวัติศาสตร์ขณะนี้ จากทรรศนะของกรัมชี่ ก็จะเกิดความเข้าใจอย่างหนึ่ง ซึ่งน่าวิตกห่วงใยอยู่มาก พร้อมกับเกิดความหวังใหม่อีกบางอย่างไปพร้อมกัน จึงขอแบ่งปันทั้งความเศร้าและความสุขแก่ผู้อ่านเห็นได้ชัดนะครับว่า รัฐที่ถูก คสช.ยึดเอาไปนั้น ในขณะนี้เหลือแต่เพียงอำนาจครอบงำเท่านั้น นับตั้งแต่วันแรกที่ยึดอำนาจได้ คสช.ก็ใช้อำนาจของกลไกรัฐ โดยเฉพาะกองทัพ เพื่อบีบบังคับให้ทุกฝ่ายต้องสยบยอมให้หมด บางครั้งยกกองกำลังและอาวุธยุทธภัณฑ์จำนวนมากอย่างน่าตกใจ เพื่อขับไล่ฝูงชนที่ปราศจากอาวุธซึ่งออกมารวมตัวกันเพื่อต่อต้านการรัฐประหาร แม้ประท้วงโดยสัญลักษณ์ของคนจำนวนน้อย ก็ยังต้องใช้กองกำลังติดอาวุธเป็นร้อยเพื่อจับกุม การเรียกคนไป ปรับทัศนคติ ในค่ายทหารยังทำต่อไปจนถึงทุกวันนี้แม้กระนั้นการประท้วงในรูปแบบต่างๆ แล้วแต่ว่าบุคคลจะคิดสร้างสรรค์ขึ้นใหม่เพื่อสื่อสารกันเองในสังคม ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ตลอดมา แสดงให้เห็นว่ามาตรการที่อาศัยอำนาจครอบงำเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถสยบคนในสังคมลงได้ไม่ใช่ว่า คสช.จะไม่มีสำนึกถึงความสำคัญของอำนาจนำเสียเลย หัวหน้า คสช.ได้เสนอค่านิยม 12 ประการมาตั้งแต่ยึดอำนาจระยะแรกๆ แล้ว กลไกของรัฐ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ องค์กรปกครองทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น และสื่อต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ก็พยายามเผยแพร่ค่านิยมนี้ในหมู่ประชาชน แต่หากดูจากปฏิกิริยาตอบรับของสังคมต่อค่านิยม 12 ประการ ก็จำเป็นต้องกล่าวว่า คสช.ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงที่จะสถาปนาอำนาจนำขึ้นในสังคมได้สำเร็จวิธีการสถาปนาอำนาจนำของทหาร เป็นวิธีการที่ไม่มีความหวังใดๆ ว่าจะสำเร็จด้วย เพราะใช้แต่อำนาจครอบงำเป็นเครื่องมือเพียงอย่างเดียว การใช้ ม.112 อย่างพร่ำเพรื่อและรุนแรง เท่ากับไปยกศัตรูของ คสช.ให้กลายเป็นศัตรูของสถาบันพระมหากษัตริย์ไปด้วย การจับกุมหรือเรียกตัวผู้คนมาปรับทัศนคติตามอำนาจในกฎอัยการศึก แม้ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า คสช.ไม่มีอำนาจนำอยู่ในมือเอาเลย แม้แต่จะยึดกุมฐานคติของอำนาจนำเก่ายังทำไม่ได้อีกด้วยผมไม่คิดว่า ทั้งนี้เพราะผู้นำของ คสช.ล้วนเป็นนักเรียนเก่าของโรงเรียนนายร้อย นายเรือ และนายเรืออากาศ จึงทำให้ไม่มีความสามารถจะสถาปนาอำนาจนำได้ ผมได้รู้จักกับนักเรียนเก่าของเวสต์ปอยท์จำนวนหนึ่งเมื่อสมัยไปเรียนในสหรัฐ ก็พบว่าความสามารถของพวกเขาไม่ใช่การสถาปนาอำนาจนำแน่ แต่พวกเขาโชคดีที่ไม่ได้อยู่ในสังคมที่คาดหวังให้พวกเขาเข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรกับอำนาจนำ ไม่ว่าจะสร้างขึ้นใหม่หรือปรับเปลี่ยนของเก่าให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงกรัมชี่พบว่า ความเป็นไปได้ในประวัติศาสตร์ (ยุโรป) มีอยู่สามอย่าง หนึ่งคือการใช้กำลังกลไกของรัฐปราบปราม ชนชั้น อื่นๆ ที่ไม่ยอมรับอำนาจครอบงำอย่างเด็ดขาด ดังเช่นรัสเซียในสมัยพระเจ้าซาร์ สองคือการปฏิรูป (transformisto) เพื่อแย่งพื้นที่จาก ชนชั้น ก้าวหน้าทั้งหลาย ที่มีศักยภาพจะสร้างอำนาจนำใหม่ ในขณะเดียวกันก็สร้างอำนาจรัฐให้ครอบงำสังคมจนหมดตัว ในสภาพเช่นนี้กลุ่มคนระดับล่างก็หมดทางจะต่อรองกับรัฐ เพราะผู้นำของตนถูกผนวกเข้าไปกับรัฐ หรือกลายเป็นสมาชิก สนช.และ สปช.หมดแล้ว ตัวอย่างในประวัติศาสตร์คืออิตาลีหลังรวมประเทศได้จนถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่างที่สามน่าสนใจมากคือการสร้างระบบอำนาจนำปลอมขึ้น นั่นคือผู้ปกครองรัฐทำตัวประหนึ่งว่าเป็นตัวแทนของบาง ชนชั้น ใด ชนชั้น หนึ่ง ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เป็น เพื่อทำให้เกิดภาพพจน์ของอำนาจนำ ดังเช่นนโปเลียน ซึ่งเถลิงอำนาจของตนขึ้นประหนึ่งว่าเป็นแชมเปี้ยนความใฝ่ฝันของกระฎุมพี ซึ่งเคยนำการปฏิวัติฝรั่งเศสมาก่อนผมคิดว่าวิธีแบบพระเจ้าซาร์ใช้ไม่ได้ผลเสียแล้วในประเทศไทยปัจจุบัน สถานะของไทยในประชาคมโลกไม่อนุญาต (เทียบกับพม่าภายใต้เนวินและสลอร์คไม่ได้) อีกทั้งยิ่งจะนำไปสู่การปะทะกันโดยตรงมากขึ้น ดังกรณีการสังหารหมู่ในปี 2553 กลับทำให้การเผชิญหน้ากับมวลชนในเมืองตึงเครียดมากขึ้น แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากการสังหารหมู่ในวันที่ 6 ตุลา 2519ดูเหมือนวิธีปฏิรูป เป็นวิธีที่ คสช.เลือกใช้ แต่ผมอยากเดาว่าไม่ได้ผลอย่างที่พรรคการเมืองในอิตาลีใช้เมื่อรวมประเทศได้ เหตุผลก็เพราะ คสช.ไม่สามารถขยายเครือข่ายความสัมพันธ์ข้ามไปยังกลุ่มที่กำลังพยายามสถาปนาอำนาจนำทางเลือกให้ทั่วถึง ดังที่กล่าวกันว่ามีคนตกรถไฟ คสช.จำนวนมาก ทั้งจากสลิ่มและสีแดง เรื่องนี้กรัมชี่พูดถึงการสร้างแนวร่วมของพรรคการเมืองทั้งปฏิรูปและปฏิวัติไว้มาก ซึ่งผมขอไม่กล่าวถึง ขอสรุปสั้นๆ แต่ว่า คสช.ไม่มีทั้งสมรรถนะและเจตนาที่จะทำอย่างนั้น เหตุดังนั้นเส้นทางปฏิรูปของ คสช.จึงไม่มีทางนำไปสู่รัฐที่ขาดอำนาจนำ แต่มั่นคงพอสมควรดังเช่นอิตาลีในช่วงนั้นอย่างแน่นอนส่วนการสร้างอำนาจนำปลอม ซึ่ง คสช.พอทำได้โดยขึ้นมาเป็นตัวแทนของชนชั้นนายทุน หาก คสช.ตั้งใจจะทำอย่างนี้ ผมก็อยากบอกว่าคงไม่สำเร็จเสียแล้ว หากดูคำวิจารณ์ของท่านนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน เมื่อเร็วๆ นี้ หรือแม้คำวิจารณ์ของรองประธานองค์กรธุรกิจเอกชนอะไรอีกสักอย่างหนึ่งก่อนหน้านั้น ในยามที่การแข่งขันมีสูงขึ้นจากโลกาภิวัตน์ นายทุนไทยหวังเอาตัวรอดจากการขูดรีดแรงงานและภาวะปลอดคอร์รัปชั่น ซึ่งผมเชื่อว่า คสช.ให้ไม่ได้ทั้งสองอย่าง (อย่างน้อยก็ให้ไม่ได้จนถึงนาทีนี้)ในขณะที่พูดถึงความไร้สมรรถภาพของ คสช.ในการสร้างอำนาจนำ ผมควรกล่าวไว้ด้วยว่า คสช.อาจเป็นคณะรัฐประหารที่โชคร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์การรัฐประหารของไทย เพราะ คสช.เข้ามายึดรัฐในช่วงที่อำนาจนำซึ่งเคยผดุงรัฐไทยมาก่อนกำลังเสื่อมสลายลงอย่างรวดเร็ว คมช.ในปี 2549 ก็เผชิญกับสถานการณ์คล้ายอย่างนี้ แต่ไม่รุนแรงเท่า หากนับแต่นั้นเป็นต้นมา อำนาจนำในสังคมไทยก็เสื่อมสลายลงอย่างรวดเร็ว รัฐไทยเหลือแต่อำนาจครอบงำ ซึ่งยิ่งนำมาใช้มากขึ้นก็ยิ่งบั่นรอนอำนาจนำให้เสื่อมเร็วขึ้น จนแม้แต่อำนาจครอบงำเอง ก็แตกแยกจนไร้เอกภาพที่จะทำงานได้อีกต่อไป รัฐบาลก่อนรัฐประหารจึงเหลือทางเลือกอยู่ทางเดียวคือประนีประนอม โดยไม่ต้องอิงหลักการอะไรทั้งสิ้น เพราะเมื่อไม่มีอำนาจนำ ก็ไม่มีหลักการอะไรให้ต้องยึดถือ | อํานาจที่จะปกครองรัฐได้นั้นมีสองส่วน หนึ่งคืออำนาจครอบงำ (domination) ซึ่งหมายถึงการเข้าไปกุมกลไกของรัฐ เช่น กองกำลังติดอาวุธ ระบบราชการ เครื่องมือสื่อสาร ฯลฯ | การเมือง,การศึกษา | นิธิ เอียวศรีวงศ์,อันโตนิโอ กรัมชี | https://prachatai.com/journal/2014/12/57007 |
แห่สมัคร กสทช. กว่า 40 คนแล้ว คาดโค้งสุดท้ายทะลุครึ่งร้อย | วานนี้ (7 มี.ค.54) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดรับใบสมัครเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ณ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น จนถึงวัน 7 มี.ค.54 มีผู้ยื่นใบสมัครรวมแล้ว 41 ราย โดยการรับสมัครเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 2 มี.ค.และจะสิ้นสุดลงในวันนี้ (8 มี.ค.)โดยมีกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) ปฏิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช. ร่วมยื่นใบสมัครแล้ว 5 รายได้แก่ นายประสิทธิ์ ประพิณมงคลการ นายสุธรรม อยู่ในธรรม นายพนา ทองมีอาคม พันเอกนที ศุกลรัตน์ นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร รวมถึงนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ กสทช. และนายรัฐชทรัพย์ นิชิดา ผู้ปฏิบัติงานประจำ กทช. และมีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายประเสริฐ อภิปุญญา ปฏิบัติหน้าที่แทนรองเลขาธิการ กสทช. จะยื่นใบสมัครในวันสุดท้ายด้วยนอกจากนี้ยังมี ข้าราชการ ผู้บริหารระดับสูงของหลายองค์กร รวมถึงที่ปรึกษารัฐมนตรี อาทิ นายพงศ์ศักดิ์ เสมสันต์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ดร.รอมหิรัญพฤกษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. นายอนันต์ วรธิติพงศ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นายวสันต์ ภัยหลักลี้ รองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย(ไทยพีบี เอส)และพลอากาศเอก พุฑฒิ มังคละพฤกษ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) นายธรรศ อุดมธรรมภักดี อดีตส.ส.สกลนคร นายสุรสีห์ โกศลนาวิน อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายกฤษณพร เสริมพาณิช อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายประยูร จันทรุสอน นายกสมาคมกิจการวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ นายจักรพันธ์ ยมจินดา ผู้ประกาศข่าว ททบ.5 และประธานบริหาร บริษัท แม็กซิม่า สตูดิโอ นายศรีรัตน์ นุชนิยม ผู้อำนวยการบริหารสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาตินายชาญชัย โกศลธนากุล ผู้ช่วยทูตฝ่ายแรงงาน ณ.สถานอัครราชทูตไทย ณ.ประเทศซาอุดิอาระเบีย นายชัยนันท์ งามจรกุลกิจ อัยการจังหวัดพังงา นายสุพงษ์ ลิ้มธนากุล รองอธิการบดี ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ นายไพโรจน์ ตั้งอาษาศิลป์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วิน วิน เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัดสำหรับคณะกรรมการ กสทช.มี 11 คน แบ่งเป็นผู้ที่มีผลงานมีความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในกิจการกระจายเสียง 1 คน โทรทัศน์ 1 คน โทรคมนาคม 2 คน กฎหมาย 2 คน เศรษฐศาสตร์ 2 คน คุ้มครองผู้บริโภค หรือการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ด้านการศึกษา วัฒนธรรม หรือการพัฒนาสังคม 1 คนส่วนการคัดเลือกจะทำโดยให้สมาคมวิชาชีพ สถาบันอุดมศึกษา และองค์กรเอกชน เสนอชื่อบุคคลผู้เหมาะสม (บัญชีที่ 1) และการสมัครเพื่อเข้ารับการสรรหา (บัญชีที่ 2) ซึ่งระหว่างวันที่ 29 มกราคม-27 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้เปิดให้องค์กรต่างๆ ขอขึ้นทะเบียนเพื่อมีสิทธิเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมในบัญชี 1 ไปแล้วกระบวนการหลังจากนี้จะให้ผู้ได้รับการคัดเลือกจากบัญชีที่ 1 ประชุมคัดเลือกกันเองให้เหลือเพียง 22 คน ขณะที่ผู้สมัครในบัญชีที่ 2 คณะกรรมการสรรหา กรรมการ กสทช. ซึ่งมีนายจตุรงค์ ปัญญาดิลก ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานสรรหาคณะกรรมการ กสทช. จะประชุมเพื่อคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติจำนวน 22 คน เรียงตามลำดับคะแนนสูงสุดก่อนที่เลขาธิการวุฒิสภาจะเสนอรายชื่อทั้ง 2 บัญชี รวม 44 คน เสนอต่อประธานวุฒิสภาภายใน 30 วัน เพื่อให้วุฒิสภาดำเนินการคัดเลือกต่อไป เนื่องจาก ตาม พ.ร.บ.กสทช. ระบุให้ต้องตั้ง คณะกรรมการ กสทช. จำนวน 11 คน ภายใน 180 วัน หรือราว ก.ย.นี้ที่มา: | วานนี้ (7 มี.ค.54) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดรับใบสมัครเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงวิทยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ณ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา อาคารสุขประพฤติ | การเมือง,ไอซีที | กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,กสทช.,สมาคมวิชาชีพ | https://prachatai.com/journal/2011/03/33425 |
สถานทูตฯ เตือนคนไทยเลี่ยงเดินทางไป อาซาดแคชเมียร์ | วันนี้ (7 ส.ค.2562) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด ประกาศแจ้งเตือนชุมชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมือง Azad Kashmir และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงตามที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ รายงานเหตุการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนปากีสถานและอินเดีย โดยเฉพาะบริเวณแนวเส้นควบคุม (Line of Control - LoC) ในเมือง Azad Kashmir และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงสถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด ขอแจ้งเตือนคนไทยที่อยู่อาศัยอยู่ในปากีสถานและนักท่องเที่ยวที่มีกำหนดเดินทางมาท่องเที่ยว โปรดหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมือง Azad Kashmir และบริเวณแนวเส้นควบคุม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงได้ตลอดเวลา โดยสามารถติดต่อสถานเอกอัคราชทูตฯ ได้ทางหมายเลข +92 315 900 9949 ตลอด 24 ชั่วโมง และทางเฟซบุ๊ก @Thai.islamabadจึงเรียนมาเพื่อโปรตทราบโดยทั่วกันทั้งนี้ สถานการณ์ความตึงเครียดภายในรัฐชัมมูและแคชเมียร์ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างอินเดียกับปากีสถานเข้มข้นมากขึ้น หลังอินเดียเพิกถอนสถานะพิเศษของพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างอินเดียกับปากีสถานสามารถปกครองตนเองได้ | สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด เตือนคนไทยเลี่ยงเดินทางไปเมืองอาซาดแคชเมียร์ หลังสถานการณ์พิพาทตึงเครียดอินเดียและปากีสถาน | ต่างประเทศ | อินเดีย,ปากีสถาน,แคชเมียร์ | https://news.thaipbs.or.th/content/282546 |
ผู้ว่าฯ สุโขทัยลงตรวจน้ำท่วม คีรีมาศ -สั่งระบายน้ำสูง 1 เมตร | วันนี้(21พ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.คีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ยังคงมีน้ำจากอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร และ น้ำจากเทือกเขาหลวงไหลเข้าท่วมใน 10 ตำบลของอ.คีรีมาศ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 5000 ครอบครัวนายปิติ แก้วสลับศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยพลตรีทรงวุฒิ จิตตานนท์ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดสุโขทัย ลงเรือ เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยจากเหตุน้ำป่าไหลหลากโดยมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านห้วยน้ำใส หมู่ที่ 1 ต.สามพวง และต.หนองจิก อ.ศีรีมาศ จำนวน 126 ครัวเรือน ที่ประสบอุทกภัย และเส้นทางในหมู่บ้านถูกตัดขาดจากภายนอก เนื่องจากมีน้ำท่วมขังสูงถึง บ้านเรือนประชาชนสูง 50 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องขนย้ายทรัพย์สินไว้บนที่สูง และไหล่ถนนเนื่องจากทั้ง 2 จุดนี้ถือว่า รับผลกระทบหนักที่สุด นายปิติ ผู้ว่าฯ สุโขทัย กำลังเร่งหาทางระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่มีทางระบายน้ำ เพียงจุดเดียว คือ ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย | นายปิติ แก้วสลับศรี ผู้ว่าราชการสุโขทัย ลงพื้นที่ตรวจสภาพปัญหาน้ำท่วมในอ.คีรีมาศ โดยพบว่า 2 ตำบล ระดับน้ำท่วมบ้านประชาชน ครึ่งเมตร ส่วนพื้นที่การเกษตรระดับน้ำสูง 1 เมตรกว่า ชาวบ้านต้องขนย้ายของขึ้นพื้นที่สูง | ภัยพิบัติ | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,นายปิติ แก้วสลับศรี,ผวจ.สุโขทัย,คีรีมาศ,สุโขทัย,น้ำท่วม | https://news.thaipbs.or.th/content/262667 |
ตลาดนัดหัวเขียว : เดอะมอลล์อัดแคมเปญยักษ์ส่งท้ายปี | โดยเฉพาะภาครัฐได้เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างเต็มกำลังและภาคธุรกิจต่างเตรียมจัดแคมเปญและกิจกรรมดึงกำลังซื้อลูกค้าเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ,ด้านธุรกิจ,รีเทล เดอะมอลล์ กรุ๊ป, เดินหน้าอัดแคมเปญใหญ่ เตรียม พร้อมคืนความสุขให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างคึกคัก โดย นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจรีเทลในช่วงไตรมาส 4 เริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตจากปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาครัฐ รวมถึงภาคธุรกิจเริ่มมีความตื่นตัวลุกขึ้นมาจัดกิจกรรมและโปรโมชันส่งเสริมการขายกันมากขึ้น,ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี พร้อมมอบความสุขให้กับลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 350 ล้านบาท จัดแคมเปญ ,The Mall Group Joy of Giving, อัดโปรโมชันแบบจัดเต็มทั้งส่วนลด, ของรางวัลพิเศษ และกิจกรรมมาก มาย รวมถึงการสร้างบรรยากาศและประสบการณ์ในการช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ๆให้กับลูกค้า ที่เดอะมอลล์ทุกสาขา, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์,กับเป้าหมายใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าในช่วงปลายปีและช่วยเพิ่มปริมาณลูกค้าเข้ามาในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เพิ่มกว่า 25% จากช่วงเวลาปกติ คาดว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี สามารถสร้างยอดขายได้รวมกว่า 16,800ล้านบาท และมั่นใจว่าจะพิชิตยอดขายสิ้นปี 58,000 ล้านบาท,สำหรับโปรโมชันพิเศษและกิจกรรมของแคมเปญ ,THE MALL JOY OF GIVING x WE BARE BEARS WE WISH YOU A BEARY CHRISTMAS, มูลค่ามากกว่า 37 ล้านบาท อาทิ ช็อปครบ 18,000 บาทขึ้นไป พร้อมแสดงบัตรหรือ, M Card Application, รับฟรี, Luggage We Bare Bears Limited Collection, ช็อปครบ 8,000 บาทขึ้นไป รับฟรี ,FLIP PILLOW We Bare Bears Limited Collection, พิเศษสมาชิกบัตรเครดิต, SCB M VISA, ช็อปภายในศูนย์ฯครบ 5,000 บาทขึ้นไป รับฟรี, Travel Set We Bare Bears Limited Collection, เฉพาะวันที่ 23-24 พ.ย.2562 รับฟรี บัตรกำนัลห้างฯสูงสุดมูลค่า 2,500 บาท พร้อมสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตชั้นนำรวมถึงสิทธิพิเศษสำหรับพาร์ตเนอร์ต่างๆ ตลอดจนกิจกรรมและโปรโมชันสุดเซอร์ไพรส์อีกมากมาย จนถึง 12 ม.ค.63,นอกจากนี้ ยังจัดแคมเปญ ,Brilliant Thanks 2020, ระหว่างวันที่ 2 ธ.ค.62-5 ม.ค.63 เมื่อช็อปทุก 2,000 บาท รับสิทธิ์ลุ้นรับ ,M Point ,1 ล้านคะแนน จำนวน 20 รางวัล รวม 20 ล้านคะแนน และยังเพิ่มความแรงด้วยการมอบโปรโมชันสุดพิเศษเมื่อช็อปในห้างฯ อาทิ รับคูปองส่วนลดสูงสุด 40% ระหว่างวันที่ 2-19 ธ.ค.62 โดยหวังโกยยอดจากแคมเปญนี้รวมกว่า 7,000 ล้านบาท,ขณะกูร์เมต์ มาร์เก็ต และโฮม เฟรช มาร์ท เปิดแคมเปญ ,Blissful Hampers 2020, ภายใต้คอนเซปต์, Spread The Joy, กระเช้าของขวัญคอลเลกชันสุดพิเศษ ที่สร้างสรรค์ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมท้องถิ่น โดยได้ดึงเอาเอกลักษณ์และความสวยงามของหัตถกรรมไทย มาดีไซน์ให้ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น เป็นกระเช้าของขวัญผักตบชวาและกระจูด ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และสวยงามในปีนี้ พร้อมโปรโมชันรับคืนรวมสูงสุดถึง 46 พร้อมบริการผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% สูงสุดนาน 6 เดือน และจัดส่งฟรีเมื่อสั่งกระเช้าออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้-15 ม.ค.63,รวมทั้งบริการพิเศษ ,M Card Chat & Shop, ผู้ช่วยส่วนตัวนักช็อป แชต มาช็อปให้ ส่งถึงที่ บริการ ,Social Commerce, ผ่านช่องทาง ,Line Application, เพียงเพิ่มเพื่อน ,LINE @MCARDSHOP, และแชตโต้ตอบกับพนักงาน สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทุกชิ้นทุกแผนกภายในห้างฯเสมือนมาช็อปด้วยตัวเอง รวมทั้งยังมีบริการเสริม ,PERSONALIZATION, ให้ลูกค้าออกแบบดีไซน์สินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อด้วยตัวเองเพื่อเป็นของขวัญในแบบไม่ซ้ำใคร อาทิ ปักชื่อบนกระเป๋า พิมพ์ข้อความบนริบบิ้นห่อของขวัญ พร้อมจัดส่งทั่วไทย,การเตรียมการรับเทศกาลในโค้งสุดท้ายของปลายปี ดูเหมือนว่าการจัดแคมเปญพิเศษไม่ธรรมดาที่ต้องระดมสมองจัดเพื่อช่วงชิงกำลังซื้อกัน ทางฝั่งผู้บริโภคเองต้องทำการบ้านด้วยว่าจะช็อปปิ้งอย่างไรให้คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่ควักไปในยุคเศรษฐกิจยังมีปัญหาอยู่.,วานิชหนุ่ม,[email protected], | โค้งสุดท้ายปลายปีถือเป็นไฮซีชันสำคัญของทุกธุรกิจ เป็นช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการมองว่าจะเป็นโอกาสทองที่จะเร่งโปรโมตดึงกำลังซื้อที่คาดว่าจะกลับคืนมาจากหลายๆปัจจัย | null | ตลาดนัดหัวเขียว,วานิชหนุ่ม,เดอะมอลล์ กรุ๊ป,เทศกาลคริสต์มาส,แคมเปญยักษ์,ห้างสรรพสินค้า,กระตุ้นเศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1709770 |
เน็ตไอดอล ชน 10 ล้อสาหัส ครูอ๋อ ติวเตอร์ สงสัยหลับใน | เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดซากรถช่วยเหลือออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลอย่างทุลักทุเล,อุบัติเหตุติวเตอร์สาวสวยเน็ตไอดอลขับเก๋งชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อบาดเจ็บสาหัสรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 5 ส.ค.ร.ต.ท.ปรเมศร์ ดวงแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อมีผู้บาดเจ็บบริเวณสะพานต่างระดับชัยพฤกษ์ตัดราชพฤกษ์ ถนนชัยพฤกษ์ ฝั่งมุ่งหน้าไป อ.บาง บัวทอง ต.บางพลับ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร ผกก.สภ.ปากเกร็ด และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู,ที่เกิดเหตุอยู่กลางสะพานพบรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ศอ 1989 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ของทางด้านซ้าย สภาพหน้ารถด้านซ้ายพังยับเยิน กระจกหน้ารถแตกละเอียด ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัสทราบชื่อ น.ส.ศศิวิมล หรือครูอ๋อ อนุเศรษฐพงศ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/15 ถนนศิริธร ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ติดคาซาก เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดช่วยเหลือออกมาอย่างทุลักทุเล ก่อนนำส่ง รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ใกล้กันพบรถบรรทุกสิบล้อ ทะเบียน 83-1472 ปทุมธานี จอดอยู่กลางถนนด้านท้ายมีรอยถูกชนเสียหาย,สอบสวนนายพงษ์สวัสดิ์ พงษ์บริบูรณ์ อายุ 31 ปี ขับรถบรรทุกสิบล้อ ให้การว่า ขณะขับรถมาตามถนนในช่องทางเดินรถที่สองมุ่งหน้าไปทางบางบัวทอง ถึงบริเวณกลางสะพาน จู่ๆมีรถเก๋งคันดังกล่าววิ่งตามหลังพุ่งชนท้ายอย่างจัง ก่อนแฉลบไปกระแทกกับแบริเออร์กั้นขอบทางได้รับความเสียหายเป็นเหตุให้ น.ส.ศศิวิมล หรือครูอ๋อ คนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบจอดรถลงไปดูคาดอาจหลับใน,สำหรับ น.ส.ศศิวิมล อนุเศรษฐพงศ์ หรือครูอ๋อ สำเร็จการศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกียรตินิยมอันดับ 1 ทำงานเป็นติวเตอร์สอนพิเศษภาษาอังกฤษที่มีเทคนิคการสอนสนุกสนาน เข้าใจง่าย มีไลฟ์สไตล์ยิ้มง่ายเป็นกันเอง ประกอบกับรูปร่างหน้าตาสะสวย ทำให้มีลูกศิษย์ทางออนไลน์จำนวนมาก จนกลายเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังในขณะนี้ | อุบัติเหตุหวิดคร่าชีวิต ครูอ๋อ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษเน็ตไอดอล สาวสวยช่ือดัง หลังขับรถเก๋งพุ่งเสยท้ายรถบรรทุกสิบล้อบนสะพานต่างระดับชัยพฤกษ์ตัดราชพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รถพังยับ ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดคาเบาะ | null | ข่าวหน้า1,อุบัติเหตุ,รถชน,เน็ตไอดอล รถชน,ครูอ๋อ รถชน,ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ,ชนท้ายรถบรรทุก,ชนท้ายสิบล้อ,นนทบุรี,ครูอ๋อ,ชนรถบรรทุก,ครูสาวเน็ตไอดอล,ครูอ๋อขับเก๋งชนสิบล้อ,ศศิวิมล อนุเศรษฐพงศ์,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/682996 |
คุกคนละ 4 ปี 4 เดือน 4 แกนนำ คดีนปช.บุกบ้านป๋า | ประยุทธ์ อารมณ์ดีควง สมคิด ตั้งวงหม่ำข้าวกับสื่อทำเนียบฯ เผยเคล็ดลับพ่อเฮี้ยบ จนได้ดี เมียดุต้องยอมเงียบ ปิดประตูไม่ขอเป็นนายกฯคนนอก วิษณุ แจงหั่นเวลาร่าง รธน.เล็กน้อยเหลือ 18 เดือน เร่งสปีดได้แค่ขั้นยกร่าง-ประชามติ-ทำ ก.ม.ลูก แนะยำรวมข้อดี รธน.ปี 40-50 และร่างปี 58 ลั่นจำเป็นต้องมี คปป.ไว้ชี้ถูกชี้ผิดรัฐบาล พท.จวกต้นแบบมีแล้วไม่ควรเขียนใหม่เกิน 3 เดือน อภิสิทธิ์ ให้ดูสาระอย่ายึดติดกรอบเวลา ฮิวแมนไรต์ฯเฉ่งคสช.ละเมิดสิทธิ์ยอดแย่ เชื่อเวทียูเอ็นทวงคำตอบโรดแม็ป บิ๊กตู่ นักศึกษาประชาธิปไตยใหม่นัดชุมนุม 9 ปี 19 ก.ย.49 ต้านรัฐประหาร วรชัย โวยทหารบุกบ้านคุกคาม ศาลอาญาสั่งจำคุก 4 ปี 4 เดือน ณัฐวุฒิ-เหวง-วิภูแถลง-วีระกานต์ 4 แกนนำ นปช.พร้อมพวกรวม 5 ราย คดีบุกบ้าน ป๋าเปรม ทนายยื่นประกันคนละ 5 แสน ศาลปล่อยตัว ห้ามเดินทางไป ตปท.,จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.สั่งการให้ปรับลดระยะเวลาในการยกร่างรัฐธรรมนูญให้สั้นลงนั้น ล่าสุดนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีระบุว่า สามารถตัดลดลงได้เพียงบางขั้นตอนเหลือ 18 เดือน,เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงระยะเวลาการร่างรัฐธรรมนูญตามสูตร 6-4-6-4 ว่าสามารถลดเวลาลงมาได้ โดยร่างเร็วขึ้นจาก 6 มาเหลือ 5 เดือน โดยรีบเขียนและรีบทำความเห็น แต่ 4 เดือนในการรับฟังความคิดเห็นคงลดเวลาลงมาไม่ได้มากนัก เพราะต้องแจกรัฐธรรมนูญ อย่างมากลดลงมาได้ครึ่งเดือนเท่านั้น ส่วน 6 เดือนที่ทำกฎหมายลูก แบ่งเป็นใช้เวลายกร่างกฎหมายลูก 2 เดือน เข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 3 เดือน และส่งศาลรัฐธรรมนูญตรวจ 1 เดือน ซึ่งขั้นตอนนี้อาจเหลือ 5 เดือนได้ ถ้าเริ่มร่างรอไว้บ้าง แล้วค่อยมาเติมเอานิดเดียว เอาคน สนช.มาช่วยร่าง ถึงเวลาเข้า สนช.จะช่วยพูดได้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จึงขอนายกฯว่าให้มี สนช.มาเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) 1-2 คน ขณะที่ 4 เดือนสุดท้ายไม่มีทางลดได้เลย เพราะต้องนำกฎหมายลูกขึ้นทูลเกล้าฯ 1 เดือน อีก 3 เดือนขยับไม่ได้เลยเพราะเป็นเรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้น 20 เดือน อาจเหลือ 18-19 เดือนได้,เมื่อถามว่า ถ้าจะให้เร็วจะใช้รัฐธรรมนูญบางฉบับมาเป็นตัวตั้งได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าหยิบฉบับใดฉบับหนึ่งขึ้นมาเลย 7 วัน ร่างทำให้เสร็จได้ แต่ตอบโจทย์อื่นไม่ได้ ถ้าหยิบรัฐธรรมนูญปี 50 ขึ้นมาก็ถามว่าแล้วจะยึดอำนาจทำไม ขนาดนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างฯ ที่เป็นเลขานุการร่างรัฐธรรมนูญปี 40 ยังไม่หยิบมาใช้ หาก กรธ.จะไปยกปี 40 ขึ้นมาจะอธิบายกับสังคมได้อย่างไร ดังนั้น ควรหยิบบางส่วนของปี 40 และปี 50 และร่างของปี 58 ที่แก้ปัญหาบางอย่างไป ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวที่จะทำให้เร็วขึ้นได้และออกมาดูดีด้วย,ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีองค์กรมาคอยควบคุมรัฐบาลอีก เหมือนคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) อาจถูกมองไม่เป็นประชาธิปไตย นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่เห็นว่าเป็นการครอบงำรัฐบาล เพราะถ้าสงสัยอะไรให้ถามไป แล้วให้เขาตอบว่าถูกหรือผิด ถ้าผิดจะได้ไม่ต้องทำ ถ้าถูกจะได้เดินหน้า วันนี้ถ้าไม่มีอะไรมาตอบคำถามถูกหรือผิด พอทำไปหากผิดขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น มันจะนำไปสู่การถอดถอน บ้านเมืองจะเกิดช่องว่าง หรือบางครั้งเมื่อไม่มีคนตอบเลย ไม่มีใครกล้าทำทั้งที่ความจริงเป็นสิ่งที่ถูก เราเลยพลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น จึงไม่คิดว่าเป็นการครอบงำ ร่างใหม่ตนอยากให้มีอันนี้อีก,นายวิษณุกล่าวว่า สำหรับรายชื่อ กรธ. คนจัดการตัวจริงคือนายกฯ คงดูอยู่ อาจมีการปรึกษาหรือถามใครบ้าง ตนยังไม่รู้เลย แม้แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็ไม่รู้ เมื่อถามว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช. มีอยู่ในใจด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่กล้านึก เพราะท่านเคยพูดทีเล่นทีจริงตอนทำรัฐธรรมนูญชั่วคราว ฉบับแก้ไข ให้ช่วยเขียนสเปก กรธ.ไม่ให้เข้าตัวท่าน ส่วน พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ อดีตเจ้ากรมพระธรรมนูญที่มีชื่อหน้าสื่อ ไม่กล้าพูดกลัวเป็นการชี้นำ แต่เป็นคนเก่งกฎหมาย ทั้งนี้ การประชุม คสช.กับ ครม.วันที่ 22 ก.ย.จะได้ชื่อ กรธ. แต่ยังไม่ประกาศ เพราะวันที่ 23 ก.ย.นายกฯไปต่างประเทศ เมื่อได้รายชื่อแล้วต้องถามเจ้าตัวยินยอมหรือไม่ อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้หากใครถอนตัว จากนั้นรอให้นายกฯกลับมาเซ็นแล้วประกาศรายชื่อที่ต้องทำเร็วกว่า,วันที่ 6 ต.ค. ในส่วน กรธ.จะไม่มีสัดส่วนพรรคการเมือง ไม่เหมือนกับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ซึ่งตนเห็นว่ามีการเชิญพรรคการเมืองเข้าร่วมบ้าง บางพรรคส่งชื่อมาแล้ว เน้นพรรคการเมืองใหญ่ที่มีผลกระทบต่อประชาชน ส่วนพรรคใดไม่ส่งเข้าร่วมก็ไม่เป็นไร ส่วน กรธ.ชุดใหม่สมควรที่จะมี กมธ.ยกร่างฯ ชุดเดิมหรือไม่นั้น ไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่ตนอาจเป็นตัวประสานหากรัฐบาลจะดึงใครเข้ามา,ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายซาเบร์ โฮชเชน เชาว์ดรี ประธานสหภาพรัฐสภา (ไอพียู) เข้าเยี่ยมคารวะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ จากนั้นนายวิษณุให้สัมภาษณ์ว่า นายซาเบร์แสดงความเข้าใจสถานการณ์การเมืองไทย ให้คำแนะนำว่า แม้เป็นสภาที่มาจากการแต่งตั้ง แต่ทำหน้าที่ได้ด้วยการทำงานใกล้ชิดกับประชาชน ส่วนที่นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ระบุว่าประชาธิปไตยไทยดูห่างไกลออกไปกว่าเดิม เป็นความเห็นกลางๆตามภาษาคนเป็นห่วง รัฐบาลจะส่งสัญญาณไปว่าขอบคุณในความเป็นห่วง ไทยเป็นห่วงเช่นกัน และจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่อยากให้สูตร 6-4-6-4 ถูกต่างชาติตีความว่าเป็นการยืดเวลา,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่า มีการแบ่งสัดส่วนตามที่เป็นข่าวออกมา มีทั้งทหาร 50 คน อดีต สปช.60 คน รวมถึงมีส่วนของนักการเมือง นักวิชาการเข้ามาด้วย ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายการเมืองเสนอรายชื่อบุคคลเข้ามาแล้ว จากนั้นจะคัดเลือกเอาแค่พอประมาณ อยากให้มีนักกฎหมายรุ่นใหม่ๆเข้ามาด้วย เพราะการปฏิรูปเป็นเรื่องของอนาคต และนายกฯยืนยันแล้วถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เมื่อถามว่า ทูตสหรัฐอเมริกาและอังกฤษมีความเป็นห่วงเรื่องประชาธิปไตยในประเทศไทย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อย่างที่เป็นอยู่ก็ดีที่สุดแล้ว เราทำให้เกิดความสงบและพยายามทำให้เกิดประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ไม่เคยใช้อำนาจเกินเหตุ แต่นักการเมืองออกมาพูดจาให้ร้ายทำแบบนี้ไม่ได้ ช่วงนี้ปล่อยให้เราวางพื้นฐานในการสร้างประเทศให้เกิดความมั่นคง,เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. พร้อมด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบฯ เป็นครั้งที่ 4 โดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจัดอาหารกลางวัน เป็นข้าวเหนียว-ไก่ย่างเขาสวนกวาง ข้าวขาหมูตรอกซุง ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟวัดแขก ขนมจีนแกงเขียวหวานปลากรายป้าน้อย ถนนดินสอ ลอดช่องวัดเจษ ไอศกรีมมหาชัย ผลไม้ เป็นต้น โดยใช้เวลารับประทานอาหาร พูดคุยเรื่องชีวิตส่วนตัว และตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวร่วมครึ่งชั่วโมง,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงชีวิตส่วนตัวตอนหนึ่งว่า วันนี้อยากทานอะไรเปรี้ยวๆ เป็นคนที่ทานอะไรง่ายๆ เวลาทำงานอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้าจะสั่งอาหารย่านตลาดนางเลิ้ง ข้าวแกงบ้าง ก๋วยเตี๋ยวบ้าง และตั้งแต่เด็กคุณพ่อผมสอนให้ทำทุกอย่าง พ่อเราเย็บเสื้อก็ได้ เย็บจักรเป็น เย็บกระดุมเสื้อก็ทำได้ ทำกับข้าวก็เก่ง สอนเราทุกอย่าง ช่วงเด็กๆ ลำบากไม่มีใครมาทำอะไรให้ ต้องทำทุกอย่างเองตั้งแต่รีดผ้า แต่วันนี้มีคนคอยดูแลให้จะได้มีแรงทำงานให้กับประเทศ ไม่เคยคิดที่จะทำอะไรเพื่อตัวเอง ยอมรับว่าคุณพ่อเป็นคนดุ ถ้าไม่ดุป่านนี้เสียคนไปแล้ว ถ้าทำผิดก็ตี ส่วนคุณแม่ใจดี ตอนนี้ท่านป่วยไปตามวัยอายุ 92 ปีแล้ว ตนสอนลูกก็มีตีบ้าง สอนเราไปในตัวและทบทวนด้วยว่าขนาดลูกยังคิดไม่เหมือนเรา แล้วจะมาให้คนอื่นมาคิดแบบเราทั้งหมดคงไม่ได้ อยู่ที่ว่าจะร่วมมือกันได้ตรงไหน,เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เวลานายกฯใจร้อนและเผลอหลุดคำพูดต่างๆออกมา ภรรยาดุหรือตำหนิบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า ผมดุก่อน แต่พอเขาดุมา ผมก็สู้ไม่ได้ เขาเป็นอาจารย์ ผมเป็นลูกศิษย์ พอเวลาภรรยาผมดุ ผมก็เงียบ ผู้สื่อข่าวจึงกระเซ้าว่า เจอแล้วคนที่นายกฯกลัวที่สุดในประเทศ ทำให้นายกฯย้อนถามกลับว่า แล้วไม่กลัวหรือ ต้องเกรงใจด้วยนะ คือในบ้านมันควรจะไม่มีอะไร โมโหไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งวันนี้เราโมโหอะไรไม่ได้เลย พอเข้าบ้านเราอยากให้บ้านเราสงบสุขสบายใจ,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่เราพูดและรัฐบาลทำมาอาจจะไม่ถูกใจใคร สิ่งที่เป็นห่วงมากคือเวลาข่าวออกไปต่างประเทศแล้วแก้ลำบาก ในความเป็นจริงเราควรแก้ปัญหาของเรา ตอนทะเลาะก็ทะเลาะกันในประเทศ คนเพียงไม่กี่คนมาสร้างความวุ่นวาย ตนก็เบื่อหน่าย ยิ่งสื่อไปเปิดพื้นที่ให้คนเหล่านี้ประชาชนจะเข้าใจผิด ไม่ได้ว่าใครดีไม่ดี ขี้เกียจทะเลาะกับคนแล้ว แต่ตนอาจเหมาะสมกับสถานการณ์แบบนี้ ส่วนตัวไม่ได้รังเกียจรังงอนใคร ไม่คิดไปสร้างฐานอำนาจ อย่างเรื่องนางกนกทิพย์ รชตะนันท์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ดูแลเยียวยา เรื่องจบแล้ว เราต้องอย่าสอนให้คนมุ่งหวังแต่อำนาจ คนไทยส่วนใหญ่อยากมีอำนาจ แล้วใช้ไม่เป็น ใช้ไม่ถูกต้อง ใช้ไม่สร้างสรรค์ เลยทำให้ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ วันนี้ตนไม่ทะเลาะกับใครยังพยายามมาเล่นงานอยู่ได้ทุกวัน,เมื่อถามถึงการปล่อยตัวกลุ่มนักการเมืองหลัง คสช.เรียกควบคุมตัวไปปรับทัศนคติ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า หลังจากนี้สัญญาอะไรต้องทำตามกันบ้าง วันนี้ไม่ใช่เวลาของเขา ไม่ใช่วันที่เลือกตั้ง ถ้าเลือกตั้งชนะก็เข้ามา แล้วจะมาพูดทำนองให้ร้ายรัฐบาลไม่ได้ เมื่อถามว่า คิดว่าอีก 20 เดือน คนจะเบื่อนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่ต้องมาเบื่อตน ทุกวันนี้เบื่อตัวเองอยู่แล้ว บอกแล้วว่าอยู่มากอยู่น้อยแล้วแต่ แต่ถามว่าที่อยู่มาวันนี้คุ้มกับที่อยู่หรือไม่ ทุกวันนี้ปัญหาทับซ้อน เราพร้อมส่งต่อให้คนในวันหน้า แต่ต้องถามว่าเขาจะทำหรือไม่,เมื่อถามว่า ถ้าได้นักการเมืองหน้าเดิมกลับมาจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า จะให้ทำอย่างไร อำนาจเป็นของทุกคนในการเลือกตั้ง เมื่อถามย้ำว่า ทหารจะเข้ามาอีกในอนาคตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่มีแล้ว เพราะสถานการณ์เปลี่ยนโลกล้อมประเทศอยู่ ใครจะเข้ามาต้องพยายามไม่ให้เกิดขึ้นอีก หากเกิดสถานการณ์เหมือนเดิมอีกก็ไม่เกี่ยว กลับบ้านแล้ว ขึ้นอยู่กับทุกคน และไม่ต้องมากลัวนายกฯคนนอก ตนไม่เป็นแน่นอน เมื่อถามว่า ถ้ามีประชาชนเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็ทำอะไรไม่ได้ ใครมาสั่งก็เรียกตนไม่ได้ เพราะรู้ทำอะไรได้แค่ไหน ถ้าตนทำเสร็จก็จบในห้วงที่ตนอยู่ ถ้าไม่เสร็จก็หาคนมาทำใหม่,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับการร่นเวลาโรดแม็ปจากสูตร 6-4-6-4 ให้สั้นลงว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ประเมินให้ฟังในฐานะนักกฎหมายประเมินมาว่าลดได้แค่ไหน เราบอกไปว่าลดได้ก็ลด ไม่ใช่ไปสั่ง บอกแล้วว่า 20 เดือนก็ 20 เดือน รัฐธรรมนูญประกาศใช้ออกไปได้ก็ 20 เดือน หรือน้อยกว่านั้น แต่ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอย่างไร เมื่อถามว่า ถ้า 20 เดือนตามโรดแม็ปจะมีการเลือกตั้งเดือน ก.ค.2560 ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า จำไม่ได้แล้ว นับไป 20 เดือน ถ้าเร็วกว่านั้นได้ตัดทอนแต่ละขั้นลดไปได้อย่างละครึ่งเดือนบ้าง รวมกันกี่เดือนไม่รู้ สำหรับโควตาสัดส่วนสมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) ตนปรับทุกวัน ตอนนี้ชื่อประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยังไม่มี,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการเดินทางไปประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-1 ต.ค.ว่า จะไปพูด 2 หัวข้อ คือการแก้ปัญหาความยากจน และความยั่งยืน ในห้วง 2015 เป็นต้นไป 15 ปี ใน 4 เสาหลัก ยกตัวอย่างแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนการเดินหน้าตามโรดแม็ป ไม่ได้อยู่ในวาระจะพูดแค่ว่าเราทำเต็มที่ขับเคลื่อนประเทศไทยให้ไปสู่การเป็นประชาธิปไตย ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแม็ป ทำไมต้องไปอธิบายให้เยอะ ทำไมต้องไปอธิบายเดือนไหน ปีไหน เมื่อไหร่ มันได้ก็ได้ ตนไม่ได้อยากจะครองอำนาจอะไรนักหนา วันนี้ไปดูว่ามีอะไรดีขึ้นมาบ้าง อย่าไปทบทวนว่าตนมาอย่างไร จะทำอย่างไรให้ประเทศ ไทยมีที่ยืนใน เวทีโลก เป็นเมืองแห่งการเจริญเติบโต ไม่ใช่ประเทศที่มีความขัดแย้ง เราไม่ใช่ประเทศที่รบกันทุกวัน ถ้าไม่แก้เราจะเป็นแบบนั้น ไม่อยากจะพูดว่ามันเลวร้ายหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมทางการเมืองของเราจะมีอารมณ์ โกรธ เกลียด รักเยอะ ทุกคนทำตามใจตัวเองหมด ถึงตนจะดูแบบนี้ แต่เป็นคนที่รับฟังหมด,ช่วงเย็นที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.เป็นประธานมอบนโยบายสำคัญแก่ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า การที่สถาบันถูกโจมตีให้ร้ายต่างๆเพราะมีคนเลวที่ต้องการอำนาจทั้งหมดในประเทศไทย โดยทำลาย 2 อย่างคือทหารกับสถาบัน เพื่อครองประเทศไทย ใช้อำนาจการบริหาร การปกครองที่ทุกคนไว้วางใจ ทำทุกอย่างบิดเบือนหมด ไปคิดเอาว่าใครทำแบบนี้บ้าง มีมือที่หนึ่ง สอง สาม สี่ หรือเปล่า ไม่รู้นะ เวลานี้อยู่ในโรดแม็ป ระยะที่ 2 ไม่ได้อยากอยู่เลย วันนี้เหนื่อยสาหัส โทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเอง ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดที่เข้ามา ปัญหาเยอะเหลือเกิน เหตุการณ์มันแตกต่างจากปี 53 ครั้งนั้นเป็นการกระทำของคนฝ่ายหนึ่งกับราชการ ใช้อาวุธยิงเข้าคลังน้ำมัน กระทรวงกลาโหม วัดพระแก้ว แล้วกล่าวหาทหารเป็นคนยิง คอยสร้างวาทกรรมเช่นนี้ตลอดเวลา ตนพยายามพูดให้เบาที่สุด แต่จำเป็นต้องพูดเพื่อหยุดความขัดแย้งให้ได้ ต้องเข้ามาและต้องไม่กลับไปยืนที่เดิมอีก,วันเดียวกัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ มีการเชิญคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย 66 ประเทศ และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ 11 องค์การ เข้ารับฟังการชี้แจงโรดแม็ปและกระบวนการทางการเมือง มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ชี้แจงรายละเอียดกรอบเวลาการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นนายดอนเปิดเผยว่า ได้บรรยายไปตามที่คณะทูตสนใจโรดแม็ปและระยะเวลาการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ แต่ไม่มีประเทศใดสอบถาม ไทยมีรัฐธรรมนูญมา 19 ฉบับ เราร่างรัฐธรรมนูญ เพื่ออุดช่องว่างและหาทางแก้ไข ป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดกลายเป็นวงจรกลับมาอีก หลายประเทศเขียนรัฐธรรมนูญลักษณะนี้เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ประเทศไทยจะมีกฎหมายมาตราพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะตัวของเรา,ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. กล่าวถึงกระแสข่าวหัวหน้า คสช.มอบหมายให้คัดเลือก สนช.ที่จะเข้าไปเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า นายกฯไม่ได้มอบหมายให้ทำหน้าที่คัดเลือก ส่วนจะมี สนช.เข้าไปเป็น กรธ.หรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายกฯ ไม่ต้องไปแนะนำอะไร แต่มองว่า สนช.ทั้ง 5 คนที่เคยเป็น กมธ.ยกร่างฯแล้ว ไม่ควรเข้ามาเป็นอีก ส่วนข้อถกเถียงในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ที่ต้องการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดทำประชามติ คงต้องมีการแก้ไขต่อไป แต่ข้อเท็จจริงประเด็นนี้ชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า นายกฯระบุว่าไม่ให้ตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วม กรธ.ด้วย นายพรเพชร กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวฯกำหนดเงื่อนไขบุคคลที่จะเป็น กรธ.ไว้เหมือนกับ กมธ.ยกร่างฯก็ต้องห้ามเช่นกัน,นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. คนที่ 2 กล่าวว่า การประชุมร่วม คสช. ครม. และ สนช. เมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายกฯขอให้แม่น้ำแต่ละสายหาแนวทางร่นระยะเวลาโรดแม็ปการบริหารราชการแผ่นดินลง หากบรรยากาศภายในประเทศสามัคคีปรองดองกัน นายกฯอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ระยะเวลา 20 เดือน อาจลดลงได้ นายกฯเน้นย้ำเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นสากล ประเด็นสำคัญขอให้ไปใส่ในบทเฉพาะกาลแทน ขณะที่กระบวนการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ สนช.จะกลับไปช่วยกันหาแนวทางลดเวลาเช่นกัน วันที่ 19 ก.ย. สนช.จะจัดสัมมนาโดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บรรยายเรื่องโรดแม็ปรัฐบาลและ คสช.ให้ สนช.ฟัง เพื่อนำไปปรับการทำงานของ สนช.ให้สอดคล้องกับโรดแม็ปใหม่ คสช.,นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิก สปช. กล่าวถึงกระแสข่าว คสช.จัดโควตาสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ให้อดีต สปช.จำนวน 60 ที่นั่งว่า เป็นอำนาจของนายกฯ ซึ่งรู้ดีว่าจะจัดสรรตำแหน่งให้ สปท.เท่าใด อดีต สปช.คนใดทำงานดี เชื่อว่านายกฯคงมีแผนอยู่แล้ว ส่วนการให้โควตานักการเมืองเป็น สปท.นั้น หากใครอยากเข้ามาทำงานเพื่อปฏิรูปประเทศ หรือมีแนวทางดีๆ เข้ามาช่วยงานได้เลยไม่ขัดขวาง แต่หากใครจะเข้ามาเพื่อขวางทางปฏิรูป เพื่อปั่นป่วนคน หรือหาประโยชน์ อย่าเข้ามาดีกว่าจะเป็นตัวถ่วงการพัฒนาประเทศ,นายนิรันดร์ พันทรกิจ อดีตสมาชิก สปช.กล่าวถึงกระแสข่าวว่า คสช.จะลดสัดส่วนที่นั่งของ สปท.200 คน แบ่งให้อดีต สปช.แค่ 60 คนว่า นายกฯมีอำนาจพิจารณาอยู่แล้ว คงไม่มีใครก้าวล่วง ยืนยันว่าอยากให้มีสัดส่วนของอดีต สปช. 100 คน เพราะจะเป็นผู้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การปฏิรูปได้เป็นอย่างดี แต่อีก 100 คน ควรมาจากข้าราชการกระทรวง ทบวง กรม และนักการเมืองเข้ามา เพราะการปฏิรูป โดยเฉพาะด้านการเมือง ต้องให้ผู้เล่นเข้ามาถึงจะรู้ดีที่สุดว่าควรจะปฏิรูปอะไร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุแล้วว่าไม่มีปัญหา หากคนในพรรคเข้าร่วมเป็นสปท. แต่ไม่ได้มาในนามพรรคเท่านั้น ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีสัดส่วนนักธุรกิจเอกชนที่มีเพิ่มเข้ามา 10 ที่นั่ง ไม่ทราบมาจากไหน แต่น่าจะเป็นเรื่องที่ดี ภาคเอกชนคงจะช่วยการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจได้,น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า การเลือก สปท.ควรปรับลดสัดส่วนข้าราชการลง ที่ผ่านมาข้าราชการเป็นปัญหาสำคัญของการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ การให้ข้าราชการปัจจุบัน ทั้งฝ่ายพลเมือง ทหาร มารับตำแหน่งจะทำงานขับเคลื่อนการปฏิรูปได้จริงหรือไม่ คนกลุ่มนี้รับข้าราชการอยู่ ทำให้ได้รับค่าตอบแทนสองทาง จึงไม่ควรเป็น สปท.จะสิ้นเปลืองงบประมาณ ถ้าต้องการปฏิรูปลดความเหลื่อมล้ำจริง ต้องดึงภาคประชาชน ภาคสังคมร่วม ขอให้รัฐบาลประกาศให้ชัดว่า เจตนารมณ์การตั้ง สปท.ขึ้นมามีอำนาจอย่างไร ขอให้รัฐบาลตอบเจตนารมณ์ตรงนี้ให้ชัด,ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายกฯจะเชิญนักการเมืองร่วมเป็นสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่า ใครก็เข้าไปร่วมได้ เพราะต้องการให้สังคมมีการปฏิรูปอยู่แล้ว ในแง่ของการเมืองไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอะไร อย่างไรก็ตามขณะนี้พรรคการเมืองประชุมไม่ได้ ดังนั้น หากใครจะไปในนามตัวแทนพรรค คงไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าสมาชิกคนใดสนใจการปฏิรูปก็ไปได้ ส่วนเรื่องโรดแม็ปการทำงานนั้น รัฐบาลไม่ควรพูดอะไรล่วงหน้า โดยต้องดูว่าคณะกรรมการ กรธ. 21 คน จำเป็นต้องใช้เวลา 6 เดือนหรือไม่ ต้องดูสาระมากกว่าระยะเวลา และทั้ง 21 คนที่จะเข้ามาต้องเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม เพราะในที่สุดแล้วประชาชนเป็นคนให้ความเห็นชอบ ขอฝากไปยังคณะกรรมการ กรธ.ต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชนไว้ก่อน,นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อเสนอการนำรัฐธรรมนูญ ปี 40 ปี 50 และร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกตีตกไปมาเป็นต้นแบบการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทำได้ แต่รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับมีข้อดีข้อเสีย ถ้าจะนำทั้ง 3 ฉบับมาพิจารณายกร่างใหม่ ผู้ร่างต้องยอมรับข้อดี รัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 ก่อน เพื่อนำมากำหนดเป็นโครงสร้าง ส่วนใดเป็นจุดอ่อนให้นำเนื้อหาร่างฉบับที่ตกไปเข้ามาเสริม แต่ต้องเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ยอมรับได้ ไม่ควรนำระบบเลือกตั้ง หรือระบบการตรวจสอบในร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกตีตกไปมาใช้ เพราะทำให้รัฐบาลเป็นเป็ดง่อย และไม่ควรเปิดโอกาสให้ผู้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเป็นนายกฯ ไม่ควรวางกฎเกณฑ์กีดกันบุคคลเข้าสู่การเมืองที่เข้มงวดเกินไป องค์กรใดตั้งมาแล้วเป็นปัญหาขัดแย้ง ไม่ควรมี ผู้ยกร่างต้องเปิดใจกว้าง ยอมรับฟังความเห็นฝ่ายต่างๆ การร่างรัฐธรรมนูญไม่ควรเกิน 3 เดือน เพราะมีต้นแบบอยู่แล้ว,นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงการให้ผู้แทนกระทรวงต่างๆร่วมเป็น สปท.ว่า การให้ข้าราชการประจำ ข้าราชการเกษียณเป็นสปท. ไม่ต่างจากการใช้กลไกปกติมาขับเคลื่อนการปฏิรูป ไม่จำเป็นต้องตั้งเป็น สปท.ให้เปลืองงบประมาณ จะถูกตั้งสมญานามว่า สภาเกษียณ รองรับพรรคพวกตัวเองมานั่งฆ่าเวลา และอดีต สปช.ที่ทำงานล้มเหลว ไม่ควรมาวิ่งเต้นขอตำแหน่งอะไรอีก จะถูกหาว่าเสพติดอำนาจ ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ตั้งนักการเมืองเป็น กรธ.นั้น ควรฟังฝ่ายการเมืองด้วย โดยเลือกเฉพาะ 2 พรรคการเมืองใหญ่ และกลุ่มการเมืองคู่ขัดแย้ง ไม่ควรตั้งแง่ไม่รับฟังแล้วไปเลือกคนกลุ่มเดิมๆที่ก้าวไม่ข้ามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ,นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขานุการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบท่าที คสช.จะให้พรรคการเมือง กลุ่มการเมืองร่วมเป็น สปท.จริงหรือไม่ คงเป็นความหวังดีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างมีความรับผิดชอบ มูลนิธิฯเห็นว่าทุกฝ่ายควรให้ความร่วมมือ มูลนิธิฯเป็นตัวแทน กปปส.จะพิจารณาถ้าติดต่อมา ขอยืนยันว่ามูลนิธิฯจะเดินหน้าสานต่อการปฏิรูปตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน จะให้ความร่วมมือสนับสนุนรัฐบาล องค์กรต่างๆ ผลักดันการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง,อีกเรื่อง พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีองค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์ วอทช์ตำหนิรัฐบาลไทยกำลังขยายการควบคุมแบบเผด็จการด้วยการใช้อำนาจโดยพลการว่า มั่นใจว่าคนในประเทศเข้าใจมากกว่าต่างประเทศ มั่นใจว่าถ้ามีการอธิบาย ความไม่เข้าใจจะดีขึ้น เวลาที่นายกฯเดินทางไปต่างประเทศ หรือทูตประเทศต่างๆ มาไทยพบว่า ความไม่เข้าใจต่อรัฐบาล คสช.ดีขึ้นเป็นลำดับ นอกจากนี้นายกฯเป็นห่วงการเดินทางไปประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกาช่วงปลายเดือน ก.ย.ว่า จะมีคนไปแสดงปฏิกิริยาไม่เห็นด้วย ขณะเดียวกันมีคนไทยไม่น้อยที่เป็นห่วงนายกฯ อยากไปให้กำลังใจ นายกฯเป็นห่วงว่า ต่างประเทศจะไม่เข้าใจเรื่องนี้ จึงอยากฝากว่าไม่มีใครรักประเทศไทยมากกว่าคนไทย ถ้าสำเหนียกสำนึกว่าเป็นคนไทยขอให้คิดถึงประเทศ และความเสื่อมเสียต่อบ้านเมือง ต้องคิดให้หนัก,นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี คสช.เรียกผู้แสดงความเห็นต่างทางการเมืองไปปรับทัศนคติ ว่า ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของร่างรัฐธรรมนูญ คสช.และรัฐบาลควรเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็น หากปิดกั้นคนจะอึดอัด ถ้าชี้ถึงจุดบกพร่องของรัฐธรรมนูญไม่ควรปิดกั้น ถ้าปิดกั้นแบบที่ใครพูดอะไรโดนเรียกหมด จะส่งผลเสียต่อรัฐบาลเอง อาจกระทบต่อการทำประชามติในอนาคตได้ แต่หากการแสดงความเห็นมีนัยของคนบางกลุ่ม ที่ต้องการสร้างความแตกแยกก็น่าเห็นใจ คสช. เพราะต้องใช้วิจารณญาณแยกแยะอย่างหนัก ยิ่งต่างชาติกำลังจับตารัฐบาลอยู่ ยิ่งต้องระวัง,นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 11.30 น. วันที่ 16 ก.ย. มีทหารแต่งชุดลายพราง 6 คน เดินทางมาที่บ้านพักตนที่ จ.สมุทรปราการ โดยจอดรถซุ่มไว้ข้างบ้าน จากนั้นได้เดินทางมาที่บ้านตน พร้อมถามคนในบ้านว่า ตนหายไปไหน คนที่บ้านบอกว่าไม่อยู่ ไปต่างจังหวัด ทหารกลุ่มดังกล่าวจึงถ่ายรูปรถยนต์ และบ้านพักตน แล้วกลับไปโดยไม่ยอมแจ้งสังกัด อ้างเพียงว่าเจ้านายให้มาเยี่ยม สร้างความตื่นตระหนกให้เพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงอย่างมาก ถือเป็นการคุกคามสิทธิประชาชนหรือไม่ อยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ว่าส่งทหารมาที่บ้านตนทำไม เพื่ออะไร หากอยากจับตัวหรือเรียกไปปรับทัศนคติ แค่ให้ทหารโทร.มาหาก็ได้ พร้อมไปรายงานตัวทันที ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้,นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์ วอทช์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ถ้าไทยต้องการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมระหว่างประเทศ ควรปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนแบบเท่าเทียม ไม่ใช่เฉพาะกับกลุ่มที่ตัวเองได้ประโยชน์ ตลอดปีเศษที่ผ่านมาในสายตานานาชาติ สถานการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยนับว่าแย่มาก ยิ่งกรณีเรียกตัวคนเห็นต่างกับ คสช.ไปควบคุมตัวในที่ลับ ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์เข้าไปอีก การที่นายบันคีมูน เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เชิญหัวหน้าคณะ คสช.ไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่สหรัฐฯ ที่ประชุมคงรอฟังรายงานจากไทย กรณีที่หัวหน้า คสช.เคยพูดถึงโรดแม็ปนำประเทศไทยไปสู่การเลือกตั้งในที่ประชุมสหประชาชาติ ที่ญี่ปุ่น ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม สถานการณ์ในไทยยิ่งถดถอย เป็นสิ่งที่นานาชาติเห็นโดยข้อเท็จจริง ไม่ต้องมีใครไปฟ้อง ภายหลังการรัฐประหาร ฮิวแมนไรท์ วอทช์เหมือนเป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาล คสช. เพราะองค์กรสิทธิมนุษยชนไทยเงียบหาย เหลือเพียงบทบาทขององค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่มอง คสช.ละเมิดสิทธิมนุษยชนมาตลอด ล่าสุด องค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในและต่างประเทศกำลังจับตาการจัดกิจกรรมครบรอบ 9 ปีการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 ของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (เอ็นดีเอ็ม) วันที่ 19 ก.ย. เพราะมีความเสี่ยงที่กลุ่มนักศึกษาจะถูกดำเนินการจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเป็นกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารที่ขัดคำสั่งของ คสช.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ กำลังจับตาความเคลื่อน ไหวครั้งใหม่ของฝ่ายต่อต้านการรัฐประหาร หรือกลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (เอ็นดีเอ็ม) ล่าสุดได้ใช้พื้นที่โซเชียลมีเดีย นัดหมายผู้เห็นต่างกับ คสช.ในโลกออนไลน์ ให้เข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.ซึ่งตรงกับวันครบ 9 ปี ของรัฐประหาร คมช.เมื่อปี 49 โดยประกาศจะเดินขบวนจากมหาวิทยาลัย– ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทั้งนี้นายรังสิมันต์ โรม นศ.ปริญญาโท นิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ แกนนำเอ็นดีเอ็ม ให้สัมภาษณ์ว่าการนัดหมายนี้ไม่ใช่การชุมนุม เป็นแค่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อคัดค้านรัฐประหาร แต่จะทำอะไรขออุบไว้ก่อน ยืนยันไม่มีการชุมนุมยืดเยื้อ หรือมีความรุนแรงใดๆ ยอมรับขณะนี้เริ่มมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาสอบถาม แสดงความกังวลว่าหากมีการเคลื่อนขบวนมวลชน จาก ม.ธรรมศาสตร์ อาจขัดต่อ พ.ร.บ.การชุมนุมฯ แต่เราไม่ห่วงยืนยันว่าจะจัดกิจกรรมนี้ต่อ เอ็นดีเอ็มอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคณะรัฐประหารเป็นธรรมดาที่จะไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งที่คณะรัฐประหาร ส่วนกรณี คสช.เริ่มมีการควบคุมตัวผู้เห็นต่างไปปรับทัศนคติ เคยถูกจับไปขังคุกมา 12 วัน เราจึงก้าวข้ามความกลัวเรื่องนี้ไปหมดแล้ว,เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีอัยการเป็นโจทก์ฟ้องแกนนำ นปช. จำนวน 7 ราย ได้แก่ 1.นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล 2.นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน 3.นายวันชัย นาพุทธา 4.นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ 5.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 6.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท 7.นพ.เหวง โตจิราการ เป็นจำเลยที่ 1-7 ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง กรณีนำผู้ชุมนุมหลายพันคนเคลื่อนย้ายจากเวทีปราศรัยที่สนามหลวงไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 22 ก.ค.50 อย่างไรก็ตาม นายวีระกานต์จำเลยที่ 4 มอบให้ทนายความยื่นเรื่องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปก่อน เพราะมีอาการป่วย ซึ่งศาลอนุญาตให้อ่านคำพิพากษาเฉพาะจำเลยที่เหลือ,หลังจากศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่า จำเลย 4-7 ได้ปราศรัยชักชวนกลุ่มผู้ชุมนุมให้มารวมตัวกันในวันที่ 22 ก.ค.50 เพื่อให้เคลื่อนขบวนจากเวทีสนามหลวงมาที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ มีการฝ่าด่านสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง พิพากษาว่าจำเลยที่ 4-7 มีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญ และใช้ให้ผู้อื่นขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ให้จำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ จำคุก 2 ปี 8 เดือน และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2-3 เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ,นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นปช. กล่าวว่า ขณะนี้จำเลยทั้งสี่ได้ยื่นเงินสดคนละ 5 แสนบาทขอประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีชั้นอุทธรณ์ ส่วนนายวีระกานต์ต้องรอให้ออกจากการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจึงค่อยมาศาลตามนัดฟังคำพิพากษา จึงยื่นประกันตัวสู้คดีต่อไป,ต่อมาศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทั้งสี่ ประกันตัวไประหว่างอุทธรณ์โดยตีราคาประกันคนละ 5 แสนบาท พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล,ที่สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดนนทบุรี นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการส่งรายชื่อข้าราชการพัวพันการทุจริตลอต 3 ให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการหารือกับ ศอตช. ขณะนี้ ป.ป.ช. กำลังเตรียมข้อมูลรายชื่อข้าราชการอยู่ จะเป็นกรณีที่ถูกตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และมีพฤติการณ์ส่อว่ามีมูล รวมถึงเป็นข้าราชการที่ใช้อำนาจ อิทธิพลแทรกแซงขั้นตอนการไต่สวนคดีได้ แต่ยังสรุปไม่ได้มีจำนวนเท่าใด ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารหรือข้าราชการท้องถิ่น เพราะมักมีอิทธิพลในพื้นที่,วันเดียวกัน มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 28/2558 เรื่อง ให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ระบุว่าตามที่มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 12/2558 วันที่ 8 พ.ค.58 ให้นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ดํารงตําแหน่งประธาน ป.ป.ช.ต่อไปจนถึงวันที่ 21 ก.ย.58 นั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ หัวหน้าคสช.จึงใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 มีคำสั่งให้นายปานเทพดำรงตำแหน่งประธาน ป.ป.ช.ต่อไป จนกว่าจะมีประธานกรรมการป.ป.ช. ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่เข้ามารับหน้าที่ โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 16 ก.ย.58 เป็นต้นไป,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า จะฟ้องร้องตามตัวบุคคลที่ ป.ป.ช.กล่าวโทษเท่านั้น เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเรียกค่าเสียหายกับ ครม.ทุกชุดของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ เพราะเป็นนโยบายต่อเนื่อง นายวิษณุตอบว่า คนอื่นที่ ป.ป.ช.ไม่ได้กล่าวโทษจะไปเรียกค่าเสียหายไม่ได้ เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้ตัวเลขที่จะเรียกเก็บมูลค่าความเสียหายหรือยัง นายวิษณุตอบว่า ได้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย,วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า วันนี้มีโอกาสได้พาหลานๆ มาทานร้านนาโกย่า อิซากาย่า ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่แถวพัฒนาการค่ะ อาหารร้านนี้หลาก หลายดี มีทั้งยากิโซบะห่อไข่ สเต๊กเนื้อ ชาบู อาหารปิ้งย่าง โดยเฉพาะไก่ทอดอร่อย ทำให้อดนึกถึงตอนไปญี่ปุ่น ได้ลองทานไก่ทอดนาโกย่า รสชาติคล้ายกันเลยค่ะ นอกจากทานอาหารแล้วยังได้พูดคุยกับหลานๆด้วย ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงหลานๆในเวลาแบบนี้ มีญาติและหลานๆ อยู่ข้างๆก็อบอุ่นใจดีนะคะ,สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อ 16 ก.ย.ว่า นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักข่าวอาวุโสของหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น ซึ่งเพิ่งถูก คสช.ปล่อยตัวเมื่อ 15 ก.ย.นั้น ได้ลาออกจาก นสพ.เดอะ เนชั่น แล้ว เพราะถูกกดดันจาก นสพ.เดอะ เนชั่นเอง โดยนายประวิตรเผยว่า ทาง นสพ.เดอะ เนชั่น ขอร้องให้ตนลาออกเพราะถูกกดดันหลังตนถูกควบคุมตัว ซึ่งตนก็ตกลงลาออกเนื่องจากเห็นว่า นสพ.เดอะ เนชั่น คล้ายกับบ้านของตนซึ่งตนไม่อยากทำลาย เอพีรายงานด้วยว่า นายประวิตรถูกนำตัวไปกักขังโดยไม่สามารถติดต่อกับคนภายนอกได้ตั้งแต่ 13 ก.ย. ซึ่ง คสช.เรียกว่าเป็นการนำตัวไป ปรับทัศนคติ เขาเป็นนักวิพากษ์ วิจารณ์รัฐบาลทหารหรือ คสช. ที่ตรงไปตรงมาหาได้ยาก ทั้งในหนังสือพิมพ์และทวิตเตอร์ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มักตำหนินักข่าวหรือคนอื่นๆที่วิพากษ์วิจารณ์การก่อรัฐประหารของ คสช. | เต้น-เหวง-วิภู-วีระกานต์โดนหมด บิ๊กตู่ ควง สมคิด หม่ำข้าวกับสื่อฯ เผยเคล็ดได้ดี เชื่อพ่อ-หงอเมีย | null | ศาลอาญา,สั่งจำคุก,แกนนำ นปช.,บุกบ้าน,ป๋าเปรม,วีระกานต์ มุสิกพงศ์,ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ,วิภูแถลง พัฒนภูมิไท,เหวง โตจิราการ,บ้านพักสี่เสาเทเวศร์,เปรม ติณสูลานนท์ | https://www.thairath.co.th/content/525815 |
กมธ.ร่วมฯ วุฒิสภา ตั้งข้อสังเกต จารุชาติ ตายผิดธรรมชาติ | วันนี้ (4 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนร่วมประชุมวางแนวทางสอบข้อเท็จจริง กรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ซึ่ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เปิดเผยถึงข้อสังเกตการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง พยานในชั้นอัยการว่า เป็นการด่วนสรุปจนเป็นข้อพิรุธ ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการฆ่าตัดตอนหรือไม่สำหรับการประชุมของกรรมาธิการสามัญของวุฒิสภา เป็นการร่วมประชุมระหว่างกรรมาธิการฯ แก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ ร่วมกับกรรมาธิการสิทธิ สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภคของวุฒิสภา โดยประเด็นสอบเป็นเรื่องความเร็วของรถ สารโคเคน และพยานในชั้นอัยการ 2 คน ซึ่งในที่ประชุมตั้งข้อสังเกตร่วมกันถึงการเสียชีวิตของนายจารุชาติ ว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ รวมถึงความผิดปกติที่ซิมโทรศัพท์หาย การรู้จักกันมาก่อนเกิดเหตุ และไม่มีสักขีพยานในที่เกิดเหตุล่าสุด นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีคำสั่งให้คณะกรรมาธิการสามัญ 3 คณะ ทำงานร่วมกันเป็นคณะเดียว คือคณะเฉพาะกิจ เพื่อสอบข้อเท็จจริงกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ เพื่อคลายความสงสัยของสังคมและการทำงานที่ไม่ซ้ำซ้อนกัน และในวันที่ 5 ส.ค.นี้ คณะกรรมาธิการฯ ชุดเฉพาะกิจจะประชุมร่วมกันนัดแรก โดยเชิญตัวแทนอัยการเข้าชี้แจงการใช้ดุลยพินิจสั่งไม่ฟ้องสำหรับกรรมาธิการสามัญ 3 คณะที่ตั้งเรื่องสอบข้อเท็จจริงในเรื่องเดียวกัน ซึ่งต้องทำงานร่วมงานกันเป็นคณะเดียว ประกอบไปด้วย กรรมาธิการฯ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน กรรมาธิการฯ กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกรรมาธิการฯ การตำรวจของสภาผู้แทนราษฎร | ที่ประชุมร่วม กมธ.สามัญฯ ของวุฒิสภา ตั้งข้อสังเกตกรณีการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง ว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการฆ่าตัดตอนหรือไม่ | การเมือง | บอสอยู่วิทยา,บอส อยู่วิทยา,บอสกระทิงแดง,จารุชาติ มาดทอง,ตายผิดธรรมชาติ,กมธ.สามัญของวุฒิสภา | https://news.thaipbs.or.th/content/295157 |
เยียร์ส แอนด์ เยียร์ส โชว์อีโรติกคาบาเร่ต์ | เสิร์ตในบ้านเรา ส่วน คาลิด ก็ขยันปล่อยผลงานสุดเย้ายวนมาให้ชื่นชม,ศิลปิน – เยียร์ส แอนด์ เยียร์ส (Years & Years),เพลง – If Youre Over Me ,จัดจำหน่าย – ยูนิเวอร์แซล มิวสิค,แนวเพลง – ป๊อป,Palo Santo ได้ฤกษ์ดีคลอดออกมาเป็นอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 แล้ว ครั้งนี้ เยียร์ส แอนด์ เยียร์ส จัดหนัก จัดเต็ม ขนเพลงดังๆ มาฝากแฟนเพลงผ่านจินตนาการของ ออลลี่ อเล็กซานเดอร์ นักร้องนำวงที่กล่าวถึง สถานที่ที่สามารถมีอิสระและเสรีภาพอันสูงสุด ชนิดที่ไม่ยึดติดกับเพศสภาพใดๆ และยังปล่อยหนังสั้นเกี่ยวกับอัลบั้มนี้ออกมาให้ชมกัน ซึ่งพวกเขาเล่าว่ามาจาก ไม้ศักดิ์สิทธิ์ แต่ในหนังสั้นนี่คำว่า Palo Santo คือคำแทนสำหรับเมืองแห่งหนึ่งบนดาวเคราะห์ห่างไกล ในเมืองนั้น มนุษย์ เป็นสินค้าหายาก สังคมหุ่นแอนดรอยด์ นับถือและเชิดชูบูชากันมาก ออลลี่กับมนุษย์คนอื่นๆ จึงรวมตัวกันเพื่อแสดงอีโรติกคาบาเร่ต์สุดพิเศษให้ เดอะ โชว์แมน หรือนายใหญ่ของหุ่นยนต์ได้ชมเป็นขวัญตา หนังสั้นชุดนี้ยังรวบรวมภาพจากมิวสิกวิดีโอเพลง Sanctify และ If Youre Over Me ไว้ด้วย,ศิลปิน – คลีน แบนดิท (Clean Bandit),เพลง – Solo ,จัดจำหน่าย – ยูนิเวอร์แซล มิวสิค ,แนวเพลง – ป๊อป,Solo ผ่าน 81 ล้านวิวแล้วจ้า นี่นับกันเฉพาะยอดเข้าชมมิวสิกวิดีโอซิงเกิลฮิตผ่านช่องทางยูทูบเท่านั้นนะ แม้ว่ายอดเข้าชมส่วนหนึ่งน่าจะมาจากฐานแฟนเพลงของเดมี่ โลเวโต้ แต่ตัวเลขระดับใกล้ร้อยล้านครั้งแบบนี้คงไม่ค่อยน่าตื่นเต้นสำหรับแฟนเพลงตัวจริงของ คลีน แบนดิท เจ้าของเพลงอิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง อย่าง Rockabye, Symphony, และ I Miss You ที่เคยส่งยอดสตรีมเฉพาะในเอเชียสูงถึง 205 ล้านครั้งมาแล้ว ล่าสุด เจ้าแห่งเพลงฮิต เพิ่งส่งท้ายเดือนมิถุนายนด้วยเวอร์ชั่น M-22 รีมิกซ์ที่กระหน่ำจังหวะให้ซิงเกิลฮิตติดหูเพลงนี้น่าลุกขึ้นดีดดิ้นกัน เตือน ตั๋วคอนเสิร์ตของพวกเขาค่ำวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ณ อิมแพค เอ็กซ์ฮิบิชั่น ฮอลล์ 1 ใกล้เต็มแล้วนะ ,ศิลปิน – คาลิด (Khalid),เพลง – OTW ,จัดจำหน่าย – RCA/BEC-Tero Music ,แนวเพลง – อาร์ แอนด์ บี,OTW เป็นซิงเกิลที่ไม่รวมอยู่ในอัลบั้มใดๆ ของ คาลิด ศิลปินแนวเพลงอาร์ แอนด์ บี หนุ่มจอร์เจีย (สหรัฐอเมริกา) วัย 20 ปี (เกิด 11 กุมภาพันธ์ 1998) ซึ่งได้ ไท ดอลล่า ซายน์ แร็ปเปอร์หนุ่มแอลเอ กับ แบล็ค ฮิพฮอพหนุ่มที่โด่งดังจากจอร์เจียเช่นกัน มาร่วมรังสรรค์เพลงฟังเพลินจนขึ้นไปถึง Top 20 ใน นิวซีแลนด์ เบลเยียม เดนมาร์ก และขึ้นไปถึงอันดับที่ 35 บนชาร์ต US Hot R&B/Hip-Hop Songs ของบิลบอร์ดในอเมริกา และไต่ถึงอันดับ 60 บนชาร์ต UK Singles ของอังกฤษ ส่วนมิวสิกวิดีโอที่กำกับโดย คาลเมติค ก็กำลังจะผ่านหลัก 5 ล้านวิว หลังจากปล่อยลงยูทูบ (เมื่อ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา) ไม่ถึง 10 วัน ล่าสุดเขาทำเพลงประกอบหนัง SuperFly ด้วย ขยันจริงๆ,Entertain@Home ดีใจแทนแฟนเพลงของ คริส ดอฮ์ทรี ผู้เข้าประกวด อเมริกัน ไอดอล ซีซั่น 5 ปัจจุบันเป็นนักร้องนำที่จะควงผองเพื่อนสุดร็อกในนาม ดอฮ์ทรี มาขึ้นเวทีโชว์เต็มรูปแบบกันสดๆ ที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ค่ำวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคมนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด,โชว์ไทม์ | ศุกร์กลางเดือนกรกฎาคม ร้อนแรงฝ่าสายฝนเมื่อ เยียร์ส แอนด์ เยียร์ส พลีกายเป็นตัวแทนมนุษยชาติขึ้นโชว์อีโรติกคาบาเร่ต์ให้ได้อึ้งกัน มิวสิกวิดีโอซิงเกิลดัง คลีน แบนดิท ก็มาแรงแซงยอดขายตั๋วคอน | null | เอนเตอร์เทน@โฮม,โชว์ไทม์,เยียร์ส แอนด์ เยียร์ส,คลีน แบนดิท,คาลิด,นักร้อง | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1332855 |
คาร์ดิฟฟ์ฯ ดึงเกม ร้องฟีฟ่า-เอฟเอตรวจสอบก่อนจ่ายค่าตัว ซาลา | เอฟเอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ลงมาสอบสวนเกี่ยวกับการย้ายทีมของ เอมิเลียโน ซาลา กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก หลังมีข้อสงสัยหลายอย่าง ซึ่ง บลูเบิร์ดส์ ตั้งคำถามต่อการย้ายทีมครั้งนี้เอาไว้ 10 ข้อ ก่อนตัดสินใจจะจ่ายค่าตัวหรือไม่ โดยสโมสรเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าตัวของดาวยิงวัย 28 ปี ทั้งหมดหรือเสียเพียงแค่เล็กน้อยให้กับน็องต์เท่านั้น,เดอะ ซัน หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษเปิดเผยว่า คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ออกมาเรียกร้องให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า), สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาสอบสวนการย้ายทีมของ เอมิเลียโน ซาลา อดีตกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ โดย บลูเบิร์ดส์ เชื่อว่าสโมสรไม่จำเป็นต้องเสียค่าตัวหรืออาจจะเสียแค่บางส่วนเท่านั้น คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ได้เซ็นสัญญาคว้าตัวของ ซาลา มาจากน็องต์ ทีมในศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส ด้วยค่าตัวเป็นสถิติสโมสรจำนวน 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 645 ล้านบาท) แต่กองหน้าวัย 28 ปีได้ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินส่วนตัวตก ในขณะที่กำลังเดินทางจากน็องต์ เพื่อมายังคาร์ดิฟฟ์และเสียชีวิตในที่สุด,ก่อนหน้านี้น็องต์ได้ยืนยันว่า คาร์ดิฟฟ์จะต้องจ่ายค่าตัวของซาลา เนื่องจากการย้ายทีมได้ลุล่วงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและเตรียมดำเนินการทางกฎหมายหากทีมดังจากศึกพรีเมียร์ลีกไม่ยอมจ่ายค่าตัวของดาวยิงรายนี้ โดยเฉพาะเงินก้อนแรกจำนวน 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 215 ล้านบาท) ที่ถึงเวลาต้องจ่ายแต่ บลูเบิร์ดส์ ยังไม่ยอมจ่ายและขอเวลาตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ก่อนและยืนยันว่าจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง,ล่าสุดสื่อดังกล่าวได้อ้างว่า คาร์ดิฟฟ์เชื่อว่าสโมสรไม่ต้องจ่ายเงินจำนวน 15 ล้านปอนด์ หรืออาจจะเสียเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะเชื่อว่าโดนหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการย้ายทีมให้เสียเงินก้อนโต โดยเฉพาะวิลลี แม็คเคย์ เอเย่นต์คนดังที่ยอมรับว่าโกหกว่ามีทีมอื่นนอกเหนือจากคาร์ดิฟฟ์ ที่สนใจ ซาลาเพื่อที่จะโก่งค่าตัว ซึ่งมีหลักฐานของเรื่องดังกล่าวคืออีเมลที่แม็คเคย์ส่งให้ซาลาหลุดออกมาทำให้ทางคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ได้ต้องการให้ทั้ง ฟีฟ่า, เอฟเอ และตำรวจเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้ พร้อมกับตั้งคำถามเอาไว้ 10 ข้อ โดยที่พวกเขาต้องการคำตอบที่ชัดเจนก่อนตัดสินใจว่าจะจ่ายค่าตัวของ ซาลาหรือไม่,สำหรับคำถาม 10 ข้อนั้น ประกอบด้วย 1. ซาลายังเป็นนักเตะของน็องต์ ในตอนที่เขาขึ้น เครื่องบินหรือไม่ 2.ใครเป็นคนจัดเที่ยวบิน และทำไมคนคนนั้นถึงให้ซาลาขึ้นเครื่องบินขนาดเล็กที่มีเครื่องยนต์แค่ตัวเดียว แถมยังเป็นการขึ้นบินในตอนกลางคืน โดยที่ไม่มีเครื่องช่วยเหลือเวลาฉุกเฉิน ที่เหมาะสม 3.ใครเป็นคนตัดสินใจให้ซาลาขึ้นเครื่องบินลำนั้น 4.ทำไมเจ้าของเครื่องบินถึงไม่ออกมาชี้แจงให้ชัดเจน 5.เครื่องบินลำดังกล่าวมีใบอนุญาตในการทำธุรกิจรับ-ส่งผู้โดยสารรึเปล่า 6.เดวิด อิบบ็อตสัน นักบินเครื่องบินลำดังกล่าวมีใบอนุญาตให้ทำการบินรับ-ส่งผู้โดยสารหรือไม่ 7.มีกลุ่มบุคคลที่ 3 เป็นเจ้าของซาลารึเปล่า 8.บอร์กโดซ์ซึ่งเป็นทีมเก่าของซาลา มีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งจากการย้ายทีม 50 เปอร์เซ็นต์ตามเงื่อนไขการขายต่อที่เจรจากับน็องต์ ในปี 2015 จริงๆหรือไม่ 9.วิลลี แม็คเคย์ นายหน้าในการย้ายทีมครั้งนี้ได้ส่วนแบ่งเท่าไหร่ และ 10.ค่านายหน้าที่แม็คเคย์ได้รับ หรือเงินส่วนหนึ่งของการย้ายทีมมีการแบ่งกันระหว่างกลุ่มที่เกี่ยวข้องในการย้ายทีมของซาลาหรือไม่ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ในกลุ่มดังกล่าวมีใครบ้าง | คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทีมดังจากพรีเมียร์ลีกดิ้นเฮือกสุดท้ายร้อง ฟีฟ่า, เอฟเอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ลงมาสอบสวนเกี่ยวกับการย้ายทีมของ เอมิเลียโน ซาลา กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้,พรีเมียร์ลีก,เอมิเลียโน ซาลา,น็องต์,ฟีฟ่า | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1499658 |
นายกฯ ขอคนไทยตั้งจิตส่งดวงพระวิญญาณ ในหลวง สถิตในสรวงสวรรค์ | ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ และงานพระบรมศพอย่างสมพระเกียรติ,เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้อ่านแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ระบุว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่อยู่ในราชอาณาจักร และในต่างประเทศทั่วโลกทุกท่าน วันที่ชาวไทยทั้งปวง ไม่ต้องการแม้แต่จะนึกคิด และไม่ปรารถนาแม้แต่จะได้ยิน ก็มาถึง เมื่อสำนักพระราชวัง ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคตแล้ว ในวันนี้ ณ โรงพยาบาลศิริราช ถือว่าเป็นการสูญเสีย และความวิปโยคยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ นับแต่การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 พี่น้องประชาชนชาวไทย ทุกคนได้ติดตามข่าวสาร และรับทราบมาเป็นลำดับว่า ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร และได้เสด็จฯ ไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะ เมื่อพระอาการบรรเทาลงก็จะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ตามปกติด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เพื่อความผาสุกของพสกนิกร ตลอดเวลาที่ผ่านมา คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด พระอาการดีขึ้น เป็นลำดับ ยังความปลาบปลื้มแก่ประชาชนคนไทยทั้งชาติ แต่ในที่สุด พระอาการประชวรหาคลายไม่ ประกอบกับพระชนมพรรษามาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต พระชนมพรรษา ปีที่ 89 เสด็จดำรงสิริราชสมบัติ 70 พรรษา วันที่ 13 ตุลาคม จะเป็นวันที่อยู่ในความทรงจำของประชาชนชาวไทยตลอดไปนานแสนนาน ดุจวัน ปิยมหาราช 23 ตุลาคม,พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า พี่น้องที่เคารพทั้งหลาย ระยะเวลา 70 ปี ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดชเริ่มต้นขึ้น ภายหลังจากที่มหาสงครามโลกเพิ่งสิ้นสุดลง ประเทศชาติกำลังฟื้นตัวจากภัยสงคราม ประชาชนเปี่ยมด้วยความหวัง เมื่อประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ครองราชย์เป็นผู้นำ เปลี่ยนความท้อแท้ของผู้คน กลายเป็นความแน่วแน่ มั่นคง องอาจที่จะยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ตลอดรัชสมัยเป็นช่วงเวลาที่มีการพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทรงเป็นกษัตริย์ ผู้เป็นที่รัก เทิดทูน ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ นับเป็น 70 ปี ที่ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยามโดยแท้ บัดนี้ 70 ปี ในรัชสมัยของ สมเด็จพระภัทรมหาราช พระมหากษัตริย์ ผู้ประเสริฐยิ่ง ของปวงชนชาวไทยได้สิ้นสุดลงแล้ว พระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมากมาย ล้นพ้นหาที่สุดมิได้ มากเพียงใด ความวิปโยคอาลัยของพสกนิกรชาวไทย ก็มากมายท่วมท้นหาที่สุดมิได้เพียงนั้น,พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า รัฐบาลขอเชิญชวนให้เราทุกคนร่วมกันตั้งจิตภาวนาตามศาสนา ที่ทุกท่านนับถือ ดังที่เราเคยร่วมกัน ภาวนาถวายพระพร และอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพนับถือให้อภิบาลคุ้มครองตลอดเวลาที่ทรงพระประชวรเพื่ออธิษฐานภาวนา ขอให้ดวงพระวิญญาณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ สถิตในสรวงสวรรค์ และทรงอภิบาลคุ้มครองราชอาณาจักรไทย ประชาชนชาวไทย ผู้เป็นพสกนิกรของพระองค์ ให้มีความสงบสุข และความสันติสุข ดุจดังที่ประเทศไทย และประชาชนชาวไทย มีมาโดยตลอด ภายใต้ร่มพระบารมียาวนาน 70 ปี,พี่น้องประชาชนที่เคารพถึงแม้เราจะอยู่ในยามทุกข์โศกน้ำตานองหน้าทั่วกันเพียงใด ประเทศไทย อันเป็นที่รักของพวกเราและของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศต้องดำรงต่อไป อย่าให้การเสด็จสวรรคตครั้งนี้ ทำให้พระราชปณิธาน ที่จะเห็นราชอาณาจักรของพระองค์ มีความเจริญรุ่งเรือง พสกนิกรมีความผาสุกสวัสดี มีเมตตาและไมตรีต่อกัน ต้องหยุดชะงักลง นายกรัฐมนตรี ระบุ,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การจะแสดงความจงรักภักดี และความอาลัยที่ดีที่สุด คือ เจริญรอยตามพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธาน ที่จะรักษาเอกราช อธิปไตย ความสมบูรณ์พูนสุข และความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ตลอดจนการปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทพระราชดำรัส ที่เคยพระราชทานไว้ ภารกิจสำคัญ ที่จะต้องดำเนินการ ในบัดนี้มี 2 ประการ คือ การดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ ตามกฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พุทธศักราช 2467 ตลอดจนตามราชประเพณี,ในส่วนของการสืบราชสันตติวงศ์ซึ่งสอดคล้องต้องกัน เพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินต่อไป อย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลจะแจ้งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนาพระรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลไว้แล้ว เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 จากนั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป อีกประการหนึ่ง คือการเตรียมงานพระบรมศพในส่วนของรัฐบาล และประชาชนให้สมพระเกียรติยศ และสมกับความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทย ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ ทั้งนี้การดำเนินการ ทั้ง 2 ประการนี้ รัฐบาลจะแจ้งให้ พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะต่อไป,นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเรื่องต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย และราชประเพณี รัฐบาลจึงขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายรับฟังข่าวสารอย่างเป็นทางการ จากหน่วยงานราชการ อย่าเชื่อข่าวที่ลือ ที่ไม่ปรากฏแหล่งอ้างอิง พร้อมกันนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านแต่งกายแสดงความอาลัย เป็นเวลาหนึ่งปี สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน และทุกภาคส่วนควรพิจารณางดการจัดงานรื่นเริงต่างๆ เป็นเวลา 30 วัน ทั้งนี้ท่านทั้งหลายอาจเข้าร่วมพิธีหรือจัดกิจกรรมทางศาสนาของตนถวายเป็นพระราชกุศล หรือจัดเป็นพระบรมราชานุสรณ์ อีกทั้งควรใช้โอกาสนี้ให้กำลังใจแก่กันและกัน เพราะเราทุกคนต่างก็มีหัวอกเดียวกัน เพราะมีพ่อของแผ่นดินร่วมกัน และโปรดช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง มิให้ผู้ใดฉวยโอกาส แทรกเข้ามาก่อความขัดแย้ง จนกลายเป็นความวุ่นวาย,ขอพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมส่งเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ด้วยการรักษาแผ่นดินของพ่อ ด้วยความรัก และความสามัคคี ตลอดไป พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งหลาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตแล้ว ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลใหม่ทรงพระเจริญ นายกรัฐมนตรี ระบุ | นายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต เป็นความสูญเสีย-วิปโยคที่สุดของปวงชนชาวไทย ร่วมแสดงความจงรักภักดีตามรอยพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธาน ระบุ 2 ภารกิจของรัฐบาล ดำเนินการตาม รธน.-กฎมณเฑียรบาล | null | ในหลวง,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ในหลวงสวรรคต,นายกฯอ่านแถลงการณ์,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,สวรรคต,แถลงการณ์รัฐบาล | https://www.thairath.co.th/content/753157 |
นักดำน้ำเกาะพีพี เห็นด้วยจัดระเบียบ อช.ทางทะเล-ฟื้นฟูแนวปะการัง | จากกรณีที่ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการทางทะเล และสมาชิก สปช.ที่ออกมาพูดเรื่องของการปฏิรูปอุทยานแห่งชาติทางทะเล โดยเฉพาะการร่วมกันฟื้นฟูและดูแลแนวปะการังที่ปัจจุบันนี้ เช่น เกาะพีพี ที่มีความเสียหายไปมาก โดยเฉพาะปะการังน้ำตื้นตามอ่าวต่างๆ เช่น อ่าวปิเละ หรือ ลากูน หรืออ่าวมาหยา ที่เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะพีพี,เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2558 นายจีรศักดิ์ พุทธวรรณ เลขานุการชมรมวิทยุสมัครเล่นเกาะพีพี และเป็นผู้ประกอบการทัวร์ดำน้ำ กล่าวว่า เห็นด้วยกับ ดร.ธรณ์ ในเรื่องการจัดระเบียบอุทยานแห่งชาติทางทะเล เพราะนับตั้งแต่การท่องเที่ยวเกาะพีพีโด่งดังตั้งแต่มีการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเดอะบีช หลังจากนั้นก็มีทัวร์จากจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต และพังงา เข้ามาจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นประเภทมาเช้าเย็นกลับ และการที่เรือเข้ามามาก ก็ทำให้ปะการังน้ำตื้นถูกทำลาย ทั้งจากการทิ้งสมอจากผู้ประกอบการที่ไร้จิตสำนึก รวมถึงเครื่องยนต์เรือที่วิ่งผ่าน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อปะการัง นอกจากนั้นยังมีการยิงปลา จึงอยากจะให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้ไขและป้องกัน รวมทั้งฟื้นฟูโดยเร็ว,เลขานุการชมรมวิทยุสมัครเล่นเกาะพีพี กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการดำน้ำในเกาะพีพี ต่างก็ทุ่มเทช่วยกันอนุรักษ์ ทั้งการนำทุ่นไปผูกไว้ตามจุดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณเรือที่เข้ามามาก ก็ทำให้ไม่สามารถดูแลได้ ส่วนปะการังน้ำลึกนั้น ถือว่าเกาะพีพียังคงสมบูรณ์อยู่ และเป็นสิ่งที่ดีมาก หากทุกคนช่วยกันแก้ปัญหาของเกาะพีพี เพราะเกาะพีพี เป็นของคนไทยทั้งประเทศ. | ผู้ประกอบการทัวร์ดำน้ำเกาะพีพี เห็นด้วยกับการปฏิรูปอุทยานแห่งชาติทางทะเล หลังจากเกาะพีพีเสื่อมโทรมหนัก จากการที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก และผู้ประกอบการที่ยังขาดจิตสำนัก วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไขป้องกัน | ข่าว,ทั่วไทย | เกาะพีพี,อุทยานแห่งชาติทางทะเล,จัดระเบียบ,ฟื้นฟู,จีรศักดิ์ พุทธวรรณ,นักดำน้ำ,ปะการังน้ำตื้นถูกทำลาย,การท่องเที่ยว,ทัวร์ดำน้ำ,กระบี่,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/501616 |
ระทึก เรือโดยสารเฟอร์รี่เร็ว มาเก๊า-ฮ่องกง ชนวัตถุใต้น้ำ เจ็บกว่าร้อย | เมื่อ 26 ต.ค. 58 สำนักข่าวบีบีซี รายงาน เกิดอุบัติเหตุเรือโดยสารเฟอร์รี่เร็ว จากเกาะมาเก๊า มายังฮ่องกง ประสบอุบัติเหตุรุนแรง ชนกับวัตถุใต้น้ำ เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 124 คน ในจำนวนนี้ อาการสาหัส 5 คน,หลังรับแจ้งเหตุร้าย ตำรวจน้ำของฮ่องกงได้รีบไปช่วยเหลือผู้โดยสาร และลูกเรือบนเรือเฟอร์รี่เร็วลำนี้ทันที ขณะที่มีผู้โดยสารและลูกเรือบนเรือเฟอร์รี่ รวม 174 คน เพียงแต่มีผู้โดยสารจำนวนหนึ่งต้องรออยู่บนเรือนานหลายชั่วโมง กว่าจะได้รับความช่วยเหลือจนหมด,ไฟบนเรือดับลงทันที ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายในตอนแรก ก่อนต่อมาผู้โดยสารจะเริ่มสงบลง ผู้โดยสารคนหนึ่งเล่าเหตุระทึกกับ นสพ.เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์,ทั้งนี้ เส้นทางเดินเรือมายังฮ่องกง ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางจราจรทางเรือที่คับคั่งที่สุดในโลก โดยเฉพาะเส้นทางจากเกาะมาเก๊า ซึ่งเป็นแหล่งคาสิโนที่ดึงดูดนักเสีี่ยงโชคทั้งหลาย มายังฮ่องกง ขณะที่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุทางเรือร้ายแรงหลายครั้ง แม้จะมีมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างสูงก็ตาม โดยเมื่อปี 2556 ได้เกิดอุบัติเหตุคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อมีเรือเฟอร์รี่ชนกับวัตถุใต้น้ำ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน | เรือโดยสารเฟอร์รี่เร็วข้ามเกาะมาเก๊า มายังฮ่องกง ประสบเหตุร้ายแรง ชนวัตถุใต้น้ำช่วงใกล้ค่ำ มีผู้โดยสารบาดเจ็บกว่า 120 คน ขณะที่ฮ่องกงรีบส่งตำรวจน้ำเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทันที | null | เรือโดยสารเฟอร์รี่,เกาะมาเก๊า,มาเก๊า,ฮ่องกง,ชน,วัตถุใต้น้ำ,บาดเจ็บ,ผู้โดยสาร,เรือเฟอร์รี่ประสบอุบัติเหตุ,เรือเฟอร์รี่ฮ่องกงเกิดอุบัติเหตุ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/534893 |
พม.นำเด็กหญิงวัย 15 ปีแจ้งความ หลังถูก พ่อ-ตร.-คนขับแท็กซี่ ทำอนาจาร | เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำเด็กหญิงชั้น ม. 3 วัย 15 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรหนองเสือ จ.ปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับบิดาแท้ ๆ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง อายุต่ำกว่า 15 ปีเด็กหญิงผู้เสียหาย เล่าว่า ถูกบิดาบังเกิดเกล้า ซึ่งมีอาชีพเก็บของเก่าทำอนาจารตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ หลังจากที่แยกทางกับมารดากระทั่งเมื่อเรียนชั้น ม. 3 ได้เข้าไปอบรมเป็นอาสาจราจรในโครงการจิตอาสาจราจรของ สถานีตำรวจภูธรประตูจุฬาลงกรณ์ อ.ธัญบุรีได้ถูกตำรวจจราจร 3 นาย เข้ามาตีสนิทและชักชวนไปหลับนอนในโรงแรมและระหว่างนั่งแท็กซี่ออกจากโรงแรมกลับถูกแท๊กซี่ลวงไปทำอนาจารจนรับสภาพไม่ไหวจึงเข้ามาขอความช่วยเหลือเพื่อเอาผิดกับผู้ที่ทำอนาจารทั้งหมด เบื้องต้นบิดาที่ถูกกล่าวหา ให้การปฏิเสธ ส่วนตำรวจจราจรทั้ง 3 นาย และ แท็กซี่ต้องให้เด็กผู้เสียหายไปแจ้งความยังพื้นที่เกิดเหตุ | เด็กหญิงวัย 15 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ ในอ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี หลังถูกตำรวจจราจร คนขับแท็กซี่ และ พ่อ ทำอนาจาร | สังคม | ข่มขืน,คนขับแท็กซี่,ตร.,พ่อ,อนาจาร,เด็กหญิง | https://news.thaipbs.or.th/content/97240 |
ปล่อย นช.มะกันในอิหร่านเลบานอน | เมื่อ 19 มี.ค. นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า นายไมเคิล ไวท์ ชาวรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถูกคุมขังในอิหร่านนานกว่า 1 ปี ขณะไปเยี่ยมแฟน แล้วถูกศาลอิหร่านตัดสินโทษจำคุก 10 ปี ข้อหาดูหมิ่นผู้นำสูงสุด ได้รับการพักโทษไปอยู่ที่สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ในอิหร่าน ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจะเร่งให้ปล่อยอย่างเต็มตัวโดยเร็ว ขณะเดียวกัน นายเอเมอร์ ฟาก์ฮูรี อดีตกลุ่มติดอาวุธเลบานอนใต้ (เอสแอลเอ) ซึ่งได้เป็นพลเมืองอเมริกันเมื่อปีกลาย เจ้าของร้านอาหารรัฐนิวแฮมพ์เชียร์ และถูกจำคุกที่เลบานอน หลังกลับบ้านเกิดไปเยี่ยมครอบครัว ในข้อหาทำร้ายร่างกายและฆาตกรรมก็ได้รับการปล่อยตัว ด้วยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฟาก์ฮูรีถูกขังนานกว่า 10 ปีนับแต่ถูกตั้งข้อกล่าวหาซึ่งฟาก์ฮูรีปฏิเสธ และยังถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขั้นที่ 4ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ก็ใช้โอกาสนี้เสริมชาวอเมริกันเพิ่มที่ต้องได้รับการปล่อยตัว รวมถึงนายออสติน ไทซ์ ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน ซึ่งหายสาบสูญในซีเรียเมื่อปี 2555 อันเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ปล่อยตัวชาวอเมริกันที่ถูกจับเป็นตัวประกันหรือถูกขังยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ ชม.หลังข่าวปล่อยตัวชาวอเมริกัน 2 คนนี้ สถานทูตสหรัฐฯ ประกาศให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีความจำเป็นเดินทางออกจากเลบานอน โดยอ้างว่าไม่เกี่ยวกับการปล่อยตัว แต่เป็นเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19. | นายไมเคิล ไวท์ ชาวรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถูกคุมขังในอิหร่านนานกว่า 1 ปี ขณะไปเยี่ยมแฟน แล้วถูกศาลอิหร่านตัดสินโทษจำคุก 10 ปี ข้อหาดูหมิ่นผู้นำสูงสุด | ข่าว,ต่างประเทศ | ไมค์ ปอมเปโอ,รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ,ปล่อยตัวนักโทษ,ไมเคิล ไวท์,ดูหมิ่นผู้นำสูงสุด,ออสติน ไทซ์,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1800281 |
ก.ม.ห้ามถอดเล็บวิฬาร์ | เมื่อนายแอนดริว คูโอโม ผู้ว่าการรัฐลงนามรับรอง นิวยอร์กจะเป็นรัฐแรกในสหรัฐฯที่มีกฎหมายห้ามถอดเล็บแมว สัตวแพทย์ผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับถึง 1,000 ดอลลาร์ (ราว 32,000 บาท) เลยทีเดียว,การถอดเล็บแมว (Cat declawing) ซึ่งต่างจากการตัดเล็บแมว เป็นสิ่งผิดกฎหมายหลายประเทศในยุโรปและหลายรัฐในแคนาดา รวมทั้งในนครลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก และเมืองเดนเวอร์ในสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีรัฐใดในสหรัฐฯ,มีกฎหมายห้ามถอดเล็บแมว แม้ประเมินว่าแมวบ้านในสหรัฐฯ อย่างน้อย 25% ถูกถอดเล็บ,ฝ่ายสนับสนุนกฎหมายนี้ชี้ว่าการถอดเล็บแมวโหดร้ายป่าเถื่อน ทำให้พวกมันเจ็บปวด สูญเสียธรรมชาติสัตว์นักล่า เพราะอวัยวะสำคัญที่สุดของแมวคือกรงเล็บ เอาไว้ล่าสัตว์และป้องกันตัว การถอดเล็บยังอาจทำให้พฤติกรรมของแมวเปลี่ยนไปตลอดชีวิต,เล็บแมวไม่เหมือนกับเล็บคน เพราะมันยึดติดกับกระดูกข้อเท้า ในการผ่าตัดถอดเล็บแมว ซึ่งปกติทำที่ขาหน้าของแมวเท่านั้น สัตวแพทย์ต้องตัดกระดูกนิ้วส่วนปลายซึ่งมีเส้นเอ็นและเส้นประสาทออกไปพร้อมกับเล็บด้วย,ส่วนสาเหตุที่เจ้าของพาแมวไปถอดเล็บ เพราะพวกมันซุกซน ชอบข่วนทำลายเฟอร์นิเจอร์ โซฟา ผ้าม่าน เสื้อผ้า รองเท้า และข้าวของอื่นๆ เสียหาย แมวบางตัวยังดุร้าย ชอบข่วนเจ้าของ ซึ่งถ้าใครมีภูมิคุ้มกันต่ำ ถูกแมวข่วนเป็นแผล อาจติดเชื้อ เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ นิสัยชอบข่วนนี้มักแก้ไม่หายเพราะเป็นธรรมชาติของแมว แม้เจ้าของจะพยายามแก้ปัญหาด้วยการติดตั้งเสาหรือที่ลับเล็บต่างๆให้พวกมันก็ตาม,อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ยังเปิดช่องให้สัตวแพทย์ถอดเล็บแมวได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ เช่นถ้าแมวได้รับบาดเจ็บหรือติดเชื้อที่นิ้ว ส่วนสมาคมสัตวแพทย์รัฐนิวยอร์กก็คัดค้าน กฎหมายนี้ ขอให้มีข้อยกเว้น สามารถถอดเล็บแมวที่ข่วนข้าวของจนแก้ไม่หาย หรือเจ้าของเป็นโรคภูมิแพ้ติดเชื้อได้ง่าย แต่ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสัตวแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างดีและมีใบอนุญาต,ฝ่ายต่อต้านกฎหมายยังเตือนว่า ถ้าห้ามถอดเล็บแมว บรรดาเจ้าของแมวซึ่งทนพฤติกรรม ข่วนแหลก ของพวกมันไม่ไหว อาจเอาแมวไปทิ้ง หรือเอาไปให้คนอื่นเลี้ยงแทนมากขึ้น,หรืออาจถึงขั้นขอให้สัตวแพทย์ทำ การุณยฆาต ฆ่าพวกมันทิ้ง,บวร โทศรีแก้ว | พลพรรค คนรักแมว คงสนใจข่าวสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาของรัฐนิวยอร์กลงมติผ่านกฎหมาย ห้ามถอดเล็บแมว ด้วยเสียงท่วมท้น เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นพิเศษ! | null | คนรักแมว,ห้ามถอดเล็บแมว,แอนดริว คูโอโม,การถอดเล็บแมว,กฎหมายห้ามถอดเล็บแมว,หน้าต่างโลก,บวร โทศรีแก้ว,กฏหมาย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1588258 |
โปรเม มีลุ้นซิว 3 แชมป์ติด จบวันสามสวิง วอลวิค ยังรั้งฝูง | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 28 พ.ค. การแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ วอลวิค แชมเปียนชิพ 2016 ที่สนามทราวิส พอยต์ คันทรี คลับ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา พาร์ 72 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 45.5 ล้านบาท) เดินทางมาถึงการแข่งขันในวันที่ 3 แล้ว,ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า โปรเม เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟสาวฟอร์มแรงของไทยฟอร์มแผ่วในวันนี้ออกทะเลเสียโบกี้ในหลุมที่ 3,4,9 และ 13 ก่อนจะมาเร่งเครื่องเก็บเบอร์ดีในหลุมที่ 14 และอีเกิลในหลุมสุดท้าย จบวันที่ 3 ตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ 73 ทำให้สกอร์รวมอยู่ที่ 10 อันเดอร์พาร์ 206 แต่ยังรั้งตำแหน่งผู้นำต่อไปโดยนำหน้า เจสซิกา คอร์ดา และ คริสตินา คิม สองสาวเจ้าถิ่นอยู่ 1 สโตรก,ขณะที่ สายป่าน ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ โปรสาวสวยชาวไทยโชว์ฟอร์มดีตีเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67 จบ 3 วันสกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 211 รั้งอันดับ 9 ร่วมกับโปรกอล์ฟอีก 4 คน,ส่วนโปรสาวไทยคนอื่นๆยังทำผลงานไม่ค่อยดีไม่ว่าจะเป็น โปรเนท นนทยา ศรีสว่าง สกอร์รวม 1 อันเดอร์พาร์อยู่อันดับ 32 ร่วมกับโปรอีก 7 คน,โปรโม โมรียา จุฑานุกาล พี่สาวของโปรเม ตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์อยู่ที่ 59 ร่วม, โปรพริม พรีมา ธรรมรักษ์ ตีเกินไป 3 โอเวอร์พาร์ รั้งที่ 67 ร่วม,โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ ตีเกิน 5 โอเวอร์พาร์รั้ง 76 ร่วม และ โปรกิ๊ฟ เบญญาภา นิภัทร์โสภณ ตีเกินไป 7 โอเวอร์พาร์อยู่ที่ 79 ร่วม | โปรเม เอรียา จุฑานุกาล ก้านเหล็กสาววัย 20 ชาวไทยมีโอกาสคว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ 3 รายการติดต่อกัน หลังจบวันที่ 3 สวิง วอลวิค แชมเปียนชิพ 2016 แดนลุงแซมยังรั้งตำแหน่งผู้นำ ถึงแม้วันนี้จะแผ่วตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ก็ตาม | null | กอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์,วอลวิค แชมเปียนชิพ 2016,โปรเม,เอรียา จุฑานุกาล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ผลกอล์ฟ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/627532 |
จารย์ยังผงะ ผีแดงปิ๊งฟอร์มแบ็กขวารายใหม่ สนดึงร่วมทัพ (คลิป) | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 21 เม.ย. ว่า ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังพิจารณาคว้าตัว คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ มาสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ด ในช่วงซัมเมอร์นี้,ทริปเปียร์ วัย 28 ปี เป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติอังกฤษชุดคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2018 แต่ฟอร์มกับสโมสรตกลงไปพอสมควรในฤดูกาลนี้ ทำให้ทีมทอตแนม ฮอตสเปอร์ พร้อมเปิดรับฟังข้อเสนอในการปล่อยตัวเขาออกจากทีม เพื่อนำเงินมาซื้อตัว อารอน วาน บิสซากา แบ็กขวาของคริสตัล พาเลซ,ซึ่งรายงานข่าวล่าสุดจาก จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ นักข่าวชื่อดังชาวอิตาลี ระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในทีมที่ให้ความสนใจ ทริปเปียร์ เนื่องจากต้องการแบ็กขวาคนใหม่มาแทนที่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ส่ออำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้ และมาแย่งตำแหน่งตัวจริงกับ แอชลีย์ ยัง ที่กำลังฟอร์มย่ำแย่ แต่คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องเจอคู่แข่งสำคัญอย่าง นาโปลี ที่อยากได้ดาวเตะจอมซัดฟรีคิกรายนี้ไปร่วมทีมเช่นกัน,คลิกชมคลิปทริปเปียร์ | ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าว ให้ความสนใจคว้าตัวแบ็กขวาฝีเท้าเด็ดดวงมาเสริมความแข็งแกร่ง | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,คีแรน ทริปเปียร์,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1549016 |
สาวแสบฮุบ 60 ล้าน หลอกขายหวยถูก | บางรายสูญกว่า 10 ล้าน ผู้ว่าฯนครพนมรู้เรื่องจี้ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนดำเนินคดี พร้อมประสานธนาคารอายัดบัญชีห้ามเคลื่อนย้ายเงินที่ สภ.เมืองนครพนม สายวันที่ 22 มี.ค. กลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล นำโดยนายไกรวิทย์ กาลำดวน อายุ 48 ปี นายสุระวร ประเทือง อายุ 37 ปี ชาว อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม พร้อมผู้เสียหายอีกกว่า 50 ราย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อเอาผิดติดตามทวงเงินคืนจากนางวรรณดี จันลุน อายุ 45 ปี ชาว อ.เมืองนครพนม เอเย่นต์จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่อ้างกับกลุ่มผู้เสียหายว่า สามารถติดต่อกับยี่ปั๊วรายใหญ่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ในราคาถูก ใบละ 70-75 บาทเท่านั้น จากปกติราคาใบละ 80-85 บาท ทำให้มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ ผู้เสียหายแต่ละรายได้โอนเงินให้นางวรรณดี รายละประมาณ 4-5 แสนบาท รายที่สูญเงินมากที่สุดเกือบ 10 ล้านบาท แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครได้สลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่าย ขณะนี้มั่นใจว่าถูกนางวรรณดี หลอกอย่างแน่นอนนายไกรวิทย์ กาลำดวน อายุ 48 ปี พ่อค้าลอตเตอรี่รายย่อยอ้างว่า ปกติจะซื้อสลากฯจากยี่ปั๊วใน จ.นครพนม เนื่องจากโควตารับตรงไม่พอขาย และมีญาติพี่น้อง กลุ่มผู้ค้าที่รู้จักคุ้นเคยฝากซื้อ ต่อมาได้รู้จักกับนางวรรณดี จันลุน เพราะทำอาชีพขายลอตเตอรี่ บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช และอ้างว่ามีสลากฯราคาถูกตกใบละ 70-75 บาท มาจำหน่ายให้ เลยหลงเชื่อสั่งซื้อไป พร้อมโอนเงินสดให้ก่อนประมาณ 4 ล้านบาท เพื่อนำมาขายในงวดวันที่ 1 เม.ย.63 นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ค้ารายย่อยอีกหลายรายที่ติดต่อซื้อพร้อมกันกระทั่งเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ปกติจะต้องได้รับสลากฯไม่เกินวันที่ 20 มี.ค. ปรากฏว่าในกลุ่มพวกตนยังไม่มีใครได้รับสลากฯแม้แต่รายเดียว พอทวงถามกลับถูกบ่ายเบี่ยง นางวรรณดีอ้างว่าถูกเอเย่นต์ อีกคนที่อยู่กรุงเทพฯ โกงเงินไปทั้งหมด และไม่ได้สลากฯมาขาย พวกตนตกใจมากเพราะโอนเงินสดให้ล่วงหน้าไปแล้ว จะไปซื้อสลากฯที่อื่นก็ไม่ทันแล้ว ต้องพากันเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับนางวรรณดี และร้องทุกข์ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งรัดช่วยเหลือ เกรงว่าเงินจะสูญเปล่า เบื้องต้นรวมมีผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 50 ราย สูญเงินไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาทผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากแห่ขึ้น สภ.นครพนม แจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว และนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ทราบเรื่อง ได้ประสานให้ พล.ต.ต.ธนชาติ รอด-คลองตัน ผบก.ภ.จ.นครพนม สั่งการให้ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเร่งด่วน ให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เร่งรวบรวมพยานหลักฐานไว้เบื้องต้น พร้อมประสานสถาบันการเงิน ขออายัดบัญชีเงินฝากของบุคคลที่ถูกกล่าวหา และเร่งสืบสวนติดตามตัวมาสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงต่อไป | พ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่แห่แจ้งความ อ้างถูกเอเย่นต์สาวใหญ่สุดแสบ เชิดเงินจองสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 เม.ย.63 รวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท เผยมีผู้เสียหายกว่า 50 รายหลงเชื่อ | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,พ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่,แจ้งความ,ถูกหลอกขายหวยถูก,เชิดเงินจองสลากกินแบ่งรัฐบาล,นครพนม,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1801433 |
ส่อทุจริตขุดสระน้ำทับซ้อนโครงการ SML | งบประมาณปี 2559 วงเงิน 493,000 บาท เริ่มดำเนินการ 20 ม.ค.2559 สิ้นสุดสัญญา 6 มี.ค.2559 ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ทับบริเวณพื้นที่ขุดลอกของโครงการ SML ก่อนหน้านี้ โดยนายศราวุธ จิรพิทักษ์กุล นายอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการขุดสระน้ำดังกล่าว,ชาวบ้านชี้แจงว่า เมื่อปี 2555 นายวันที พรมเมตตา อดีตผู้ใหญ่บ้านนาไฮ หมู่ 16 ได้นำงบประมาณโครงการ SML มาขุดลอกสระน้ำที่บริเวณดังกล่าวมีความลึก 3.5 เมตร ต่อมาทาง อบต.บ้านหันได้ขุดลอกซ้ำ ใช้งบประมาณ 493,000 บาท ระดับความลึก 4.5 เมตร และกว้างเท่าเดิม ดินที่นำมาถมที่สาธารณประโยชน์ส่วนหนึ่งใช้รถแบ็กโฮเกลี่ยดินลงสระน้ำห้วยโคโทน โดยไม่มีการแจ้งให้ชาวบ้านทราบ ทั้งๆที่สระน้ำแห่งนี้เป็นน้ำประปาผิวดิน ใช้ผลิตน้ำประปาร่วมกันของหมู่บ้านนาไฮ หมู่ 7 และหมู่ 16 ต.บ้านหัน,นายศราวุธ จิรพิทักษ์กุล กล่าวว่า หลังได้รับการร้องเรียน เบื้องต้นได้ทำหนังสือแจ้งให้นายก อบต.บ้านหันรับทราบแล้ว พร้อมให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันได้แต่งตั้งคณะกรรมการลงไปตรวจสอบแล้ว ต้องดูว่าใครเป็นคนควบคุมงาน ใครเป็นคนตรวจรับงาน มีการเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับเหมาหรือไม่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามผู้เกี่ยวข้องแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป. | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ส.ค. ชาวบ้านนาไฮ หมู่ 7 ต.บ้านหัน อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ได้ทำหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรมให้ตรวจสอบโครงการขุดสระน้ำห้วยโคโทนของหมู่บ้านนาไฮ หมู่ 7 และหมู่ 16 ต.บ้านหัน ดำเนินการโดย อบต.บ้านหัน | null | ร้องศูนย์ดำรงธรรม,ขุดสระน้ำ,ห้วยโคโทน,อบต.บ้านหัน,ชัยภูมิ,โครงการ SML,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/691633 |
ปลุกคณะสงฆ์ตื่นตัวรับรัฐธรรมนูญใหม่ | สะกิด มส.อย่ามัวแต่นั่งปลง จี้ ผอ.พศ.จริงใจทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา,ผศ.ร.ท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งเอเชีย (สพอ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์พระพุทธศาสนาในประเทศไทยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ตนห่วงว่าพระพุทธศาสนาในประเทศไทยที่คนส่วนใหญ่นับถือจะเกิดการสั่นคลอน ภายหลังรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ประกาศใช้ แม้ว่าเนื้อหาที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนานั้น บางส่วนไม่เป็นที่น่าพอใจของชาวพุทธ แต่ก็ต้องเคารพกติกาของบ้านเมือง แต่สิ่งที่จะทำได้ในขณะนี้ คือ อยากเสนอให้พระมหาเถระและมหาเถรสมาคม (มส.) พิจารณารับรู้สถานการณ์จากนี้ไปว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เปิดทางให้ชาวบ้านเข้าถึงเรื่องของพระง่ายขึ้น โดยเฉพาะทรัพย์สินของวัด ซึ่งทราบว่าขณะนี้นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้เริ่มกระบวนการขอตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของวัดทั่วประเทศจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แล้ว บทบาทของ พศ. ขณะนี้ไม่ได้เน้นสนองงานคณะสงฆ์ หรือช่วยสนับสนุนพระเท่าที่ควร แต่กลับเปิดทางให้ตรวจสอบง่ายขึ้น โดยอ้างว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ขณะที่คณะสงฆ์เองกำลังภูมิใจกับกฎหมายที่คนทั่วไปร่างให้มากกว่าพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ ทั้งที่ความจริงพระพุทธเจ้าให้พระธรรมวินัยไว้เพื่อคุ้มครองคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา,ผศ.ร.ท.ดร.บรรจบกล่าวอีกว่า การเปลี่ยนบทบาทของ มส.เป็น มหาเถรสภา จะเป็นการระดมมันสมองของคณะสงฆ์ให้ร่วมกันบริหารกิจการพระพุทธศาสนาตามหลักพระธรรมวินัย และช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้ถูกย่ำยีจนไม่เหลือศักดิ์ศรีเหมือนเช่นทุกวันนี้ได้ ตนรักคณะสงฆ์ จึงอยากแนะนำให้คณะสงฆ์ และ มส.หาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังไม่ใช่นั่งปลงรอวันพระพุทธศาสนาพินาศจากผืนแผ่นดินไทย ขอให้คณะสงฆ์ช่วยกลับมาเข้มแข็งตามหลักพระธรรมวินัย ที่สำคัญฝากถึง ผอ.พศ.ให้ช่วยพระพุทธศาสนาด้วยความจริงใจ โดยเฉพาะบทบาทของพระ วัด ต้องมองจากความเป็นจริง ไม่ใช่ฟังใครที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงพระพุทธศาสนา หรือคิดกันไปเอง มิเช่นนั้น จะกลายเป็นว่าชาวพุทธเป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนาด้วยมือเราเอง. | ผศ.ร.ท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งเอเชีย (สพอ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์พระพุทธศาสนาในประเทศไทยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ตนห่วงว่าพระพุทธศาสนาในประเทศไทยที่คนส่วนใหญ่นับถือจะเกิดการสั่นคลอน | ข่าว | บรรจบ บรรณรุจิ,พระพุทธศาสนา,รัฐธรรมนูญใหม่,พระธรรมวินัย,มหาเถรสภา | https://www.thairath.co.th/news/915302 |
ชาวบ้านริมแม่น้ำป่าสัก จ.สระบุรี ร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพน้ำ หลังพบเป็นสีดำ | สภาพน้ำในแม่น้ำป่าสัก ช่วงตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เปลี่ยนเป็นสีดำเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตรทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบคุณภาพน้ำ เนื่องจากมีชาวบ้านในตำบลสองคอน 6 หมู่บ้าน รวมกว่า 200 เรือนต้องใช้น้ำในแม่น้ำป่าสักอุปโภคบริโภคหลังจากน้ำเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อนำน้ำมาใช้ได้มีอาการคันตามร่างกายทำให้หลายครอบครัวต้องซื้อน้ำจากนอกพื้นที่มาใช้ โดยชาวบ้านบอกว่าบริเวณต้นแม่น้ำมีโรงงานอุตสาหกรรม 3 แห่ง จึงเกรงว่า จะมีสารเคมีปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อร่างกายล่าสุดนายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนได้สั่งการให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และ สิ่งแวดล้อมจังหวัด เข้าตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานดังกล่าวและตรวจสอบคุณภาพน้ำเพื่อหาสาเหตุต่อไป ทั้งนี้ยังได้สั่งการให้เก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบกรณีปลาทับทิมของผู้เลี้ยงปลาในกระชังริมแม่น้ำป่าสัก ตำบลบ้านป่า อำเภอแก่งคอย ตายเป็นจำนวนมากด้วย เพราะเชื่อว่า อาจจะมีสาเหตุที่เชื่อมโยงกัน | ชาวบ้านริมแม่น้ำป่าสัก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำป่าสัก หลังพบน้ำเป็นสีดำ และส่งผลให้ชาวบ้านที่ใช้น้ำริมแม่น้ำเป็นผื่นคัน โดยเกรงว่าอาจจะมีสารเคมีปนเปื้อนมากับน้ำ | ภูมิภาค | คุณภาพน้ำ,ตรวจน้ำ,ปนเปื้อน,สระบุรี,สารเคมี,แก่งคอย,แม่น้ำป่าสัก | https://news.thaipbs.or.th/content/84396 |
จูนทัศนคติสักนิด กระแสท้องในวัยเรียน ห้ามไม่ได้ก็ต้องรู้จัก Safe sex | กระแสร้อนแรงในโลกโซเชียลล่าสุดในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นกรณีคุณแม่วัยใส ตั้งครรภ์ในวัยเรียน บางส่วนติติงว่าไม่ใช่เรื่องดีงาม ไม่ใช่เรื่องน่าภาคภูมิใจ ส่วนฟากคนท้องที่อายุยังน้อยบางรายก็บอกว่าเลี้ยงได้ ไม่ได้เดือดร้อนใคร แต่หากถามถึงความเหมาะสมคงจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก ที่จะต้องมาดรอปชีวิตวัยเรียนเพื่อเลี้ยงดูเลือดเนื้อเชื้อไขในวันที่ยังไม่พร้อม,พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ให้คำแนะนำถึงกรณีนี้กับทางไทยรัฐออนไลน์ว่า เด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่ในสมัยนี้ ถ้าไปห้ามเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก็อาจจะไม่สามารถทำได้ หรือทำได้ยาก เพราะฉะนั้น ผู้ใหญ่หรือสถาบันการศึกษาจะต้องสอนให้รู้จัก Safe sex เช่น การใช้ถุงยางอนามัย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์ หรือการติดโรคต่างๆ ที่หากพลาดไปก็ไม่สามารถกลับไปแก้ได้ ในช่วงวัยนี้อยากให้สนใจเรื่องการศึกษาเป็นหลัก,ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก ก็มีการประเมินช่วงอายุที่เหมาะสมในการตั้งครรภ์ คือ 20 ปีขึ้นไป ขณะที่อัตราการตั้งครรภ์ในช่วงอายุ 15-19 ปี มีจำนวน 10 ใน 1,000 คน โดย พญ.มธุรดา กล่าวเพิ่มเติมว่า หญิงในวัย 20 ปีขึ้นไป จะมีร่างกายที่สมบูรณ์แล้ว มีการดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ การตั้งครรภ์จะทำให้บุตรเจริญเติบโตเต็มที่ สมบูรณ์ ไม่แคระแกร็น หรือมี IQ - EQ ที่ต่ำจนเกินไป จึงอยากให้เด็กหรือวัยรุ่นในสมัยนี้รู้จักการป้องกันให้มากขึ้น,แต่ก็ไม่ใช่กับทุกกรณี บางรายอาจจะมีความพร้อมที่จะเลี้ยง พร้อมจะหยุดเรียน พร้อมจะใช้ชีวิตการเป็นแม่ตั้งแต่ยังเด็ก และรักลูกมากจริงๆ อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ ผู้ปกครอง และครอบครัว ก็ต้องมีส่วนในการช่วยกันดูแลเลี้ยงดูบุตรหลาน คอยห้ามปรามในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร แต่หากเกิดผิดพลาดตั้งครรภ์ขึ้นก็ควรพูดคุยอย่างใจเย็น ให้คำแนะนำที่ดี ไม่อยากให้ใช้อารมณ์ หรือการซ้ำเติมกันด้วยถ้อยคำที่ไม่ถนอมน้ำใจ เพราะอาจเกิดเรื่องไม่คาดคิดตามมา. | ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ แนะ เด็กและวัยรุ่น Safe sex ป้องกันตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรและโรค ผู้ปกครองควรดูแล-ชี้แนะ ขอ อย่าซ้ำเติมผู้ผิดพลาด | ข่าว,สังคม | แม่วัยใส,ท้องในวัยเรียน,เด็กท้อง,ตั้งท้อง,Safe sex,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/975560 |
ชาวบ้านร่ำไห้ เณรกำพร้าตกซุ้มประตูวัดดับ สุนัขเฝ้าศพไม่ห่าง | สามเณรวัย 18 ที่บวชตั้งแต่เล็ก เพราะกำพร้า เกิดอุบัติเหตุตกซุ้มประตูวัดขณะปีนขึ้นทาสี ชาวบ้านตามมาดูร่ำไห้ระงม ด้านสุนัขที่สามเณรเลี้ยงไว้ 2 ตัวยังคอยเฝ้าศพไม่ห่าง,เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มี.ค.58 มีรายงานว่า พ.ต.ต.ประภากร ทะชมภู พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งมีสามเณรตกจากซุ้มประตูมรณภาพ ที่บริเวณในวัดม่อนจำศีล เขตชุมชนบ้านป่าขามหล่ายเหมือง ต.พระบาท อ.เมือง จึงออกไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ลำปาง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยนครลำปาง,ที่เกิดเหตุตรงบันไดใต้พื้นซุ้มประตูวัดพบร่างของสามเณรวุฒิชัย จอมใจ อายุ 18 ปี เณรลูกวัดม่อนจำศีล ลักษณะศพนอนคว่ำหน้ากับพื้นบันไดมีเลือดไหลออกจากศีรษะไหลนองพื้น ชันสูตรเบื้องต้น พบว่า คอหัก แขนทั้งสองข้างหัก เนื่องจากกระแทกพื้นอย่างแรง ในที่เกิดเหตุยังพบบันไดไม้ไผ่พาดกับซุ้มประตูวัด 1 อัน รองเท้าแตะยาง 1 คู่ และอุปกรณ์ถังสีและแปรงทาสีหลายชิ้นวางอยู่ข้างซุ้มประตู,สอบถาม พระจารุวิทย์ ฉันทะธรรมโม พระลูกวัดเดียวกันทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ตนกับสามเณรวุฒิชัยได้นำอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำสีขึ้นไปทาซุ้มตั้งแต่บนยอดซุ้มรวมถึงบริเวณรอบซุ้มก่อนสามเณรวุฒิชัย นำบันไดไม้ไผ่มาพาดกับซุ้มและขึ้นไปทาสีของยอดซุ้มที่มีความสูงกว่า 5 เมตร โดยนำถังสีขนาดใหญ่ 1 ใบ ในถังมีสีประมาณครึ่งใบขึ้นไปด้วย ส่วนตนเองผสมสีอยู่ข้างล่าง กระทั่งได้ยินเสียงดังตุ้บ และเห็นสามเณรนอนราบกับพื้นแน่นิ่งจึงตะโกนให้ประชาชนที่อยู่ข้างวัดเข้ามาช่วยเหลือ แต่สามเณรได้มรณภาพไปแล้ว,ส่วนสาเหตุที่ตกลงมาคาดว่า ขณะที่สามเณรวุฒิชัยนำถังสีขึ้นไปห้อยบนยอดซุ้มประตู อาจจะเหยียบตรงขอบลายไทยทำจากซีเมนต์แล้วเกิดหักไปหลายส่วน รองเท้าแตะเป็นยางอาจพลิกและพลัดตกลงมากระแทกพื้นดังกล่าว,ในขณะที่มีประชาชนศรัทธาที่อยู่ใกล้วัดต่างพากันร้องไห้สงสาร เนื่องจากสามเณรวุฒิชัย กำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนญาติที่ อ.เสริมงาม จ.ลำปาง พาเข้ามาบวชเป็นสามเณรที่วัดแห่งนี้ตั้งอายุ 13 ปี และขณะที่เกิดเหตุมีสุนัขพันธุ์พื้นเมืองสีดำ 2 ตัว ที่เณรวุฒิชัยเลี้ยงดูเดินวนเวียนอยู่ข้างศพไม่ห่าง แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามไล่ออกไปแต่สุนัขก็ยังมาเดินวนเวียนอยู่ เป็นที่น่าเวทนากับผู้พบเห็น | สามเณรวัย 18 ที่บวชตั้งแต่เล็ก เพราะกำพร้า เกิดอุบัติเหตุตกซุ้มประตูวัดขณะปีนขึ้นทาสี ชาวบ้านตามมาดูพบสุนัขที่เลี้ยงไว้ 2 ตัวคอยเฝ้าศพไม่ห่าง ต่างรู้สึกสะเทือนใจ | ข่าว,ทั่วไทย | เณรตกซุ้มประตูวัด,พลัดตกที่สูง,ตกซุ้มประตูวัด,ทาสีประตูวัด,ตกจากที่สูง,ลำปาง,คอหัก,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/488238 |
ทุบประวัติศาสตร์ วงเฟลม เพลง คนโดนเท120 ล้านวิว | แม้จะอยู่ในวงการยาวนานกว่า 10 ปี มีผลงานอัลบั้มมากมาย แต่ซิงเกิลล่าสุด คนโดนเท กลับเป็นเพลงที่ทุบประวัติศาสตร์วงเฟลม(Flame) ด้วยสถิติทะลุทะลวง 100 ล้านวิวทาง YouTube Rsiam-musicภายใน 2 เดือน เก่ง นักร้องนำเผย พวกเรารู้สึกตกใจ ตั้งแต่วันที่ปล่อยเอ็มวีครั้งแรกแล้วครับ เพราะโซเชียลแทบแตก แฟนเพลงพร้อมใจกันขึ้นแคปชั่น #คนโดนเท กับข้อความในเนื้อ เพลงอย่าง แฟนเก่าทิ้งไปกูไม่เสียดาย และยอดวิวก็พุ่งเร็ว และแรงมากเป็นประวัติการณ์วงเฟลม จนถึงวันนี้ 120 กว่าล้านวิวแล้ว เวลาไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหน ก็จะเห็นน้องๆทุกวงดนตรีแกะเพลงเราไปเล่นด้วย รู้สึกชื่นใจมากครับ เห็นว่าจะมีการจัดฉลอง 100 ล้านวิวด้วย? ครับเราตั้งใจจะมีจัด มีตติ้ง คนโดนเทเซไปทะเล ตั้งแต่ตอนทะลุ 100 ล้านวิวใหม่ๆ เพราะอยากพาน้องๆ แฟนคลับไปล่องเรือเที่ยวทะเลกัน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ไปกันเลยครับ เพราะคิวคอนเสิร์ตยาวมาก ขึ้นเหนือล่องใต้ ไปอีสาน อย่างอาทิตย์นี้ เพิ่งกลับจาก จ.สตูล ก็มา จ.บุรีรัมย์ แล้ววิ่งไป จ. นครสวรรค์ ก่อนกลับมา จ.ชลบุรี เสร็จแล้วย้อนไป จ.กำแพงเพชร ใหม่ ค่อยไปต่อ จ.หนองคาย วนไปโคราช ก่อนจะข้ามไปเล่นคอนเสิร์ตที่ สปป.ลาว โหคิวยาวเลยครับช่วงนี้. | แม้จะอยู่ในวงการยาวนานกว่า 10 ปี! มีผลงานอัลบั้มมากมาย แต่ซิงเกิลล่าสุด คนโดนเท กลับเป็นเพลงที่ทุบประวัติศาสตร์วงเฟลม(Flame) ด้วยสถิติทะลุทะลวง 100 ล้านวิว | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | คนโดนเท,เฟลม,สถิติ,นักร้อง,ยอดวิว | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1226943 |
รถไฟชนกระบะ อ.เวียงสระ เสียชีวิต 2 เจ็บ 1 คน | วันนี้ (18 พ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 08.00 น. เกิดเหตุรถไฟชนกับรถยนต์กระบะ ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชายอายุ 45 ปี คนขับรถ และเด็กหญิงอายุ 9 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 คน นำส่งโรงพยาบาลยุพราชเวียงสระจากการสอบถามพนักงานขับรถไฟ ทราบว่า ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดตัด ได้เปิดวูดเสียงแจ้งเตือน แต่รถคันดังกล่าวได้หักเลี้ยวเพื่อจะข้ามทางจนถูกชน เบื้องต้นคาดว่าผู้ขับขี่ขับมาถึงที่เกิดเหตุและไม่ทันสังเกตว่ามีรถไฟวิ่งมาขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบ ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายขบวนรถออกจากที่เกิดเหตุ โดยเส้นทางระหว่างบ้านพรุกระแชง-บ้านส้อง ซึ่งเป็นทางลักผ่าน ไม่มีเครื่องกั้นถนนล่าสุด เวลา 11.15 น. มีรายงานว่า ครอบครัวที่อยู่ในรถกระบะเสียชีวิตทั้ง 3 คน คือ นายกฤษฎา เหล่าอุบล อายุ 45 ปี เด็กหญิงอนัญลักษณ์ เหล่าอุบล อายุ 9 ขวบ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่นางดวงพร อายุ 42 ปี เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล | เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุรถไฟชนรถกระบะ ทำให้ครอบครัวที่อยู่ในรถกระบะเสียชีวิต 3 คน ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นจุดตัดรถไฟที่ไม่มีแผงกั้น | อาชญากรรม | รถไฟชนกระบะ,รถไฟ,รถชน,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/280147 |
เครื่องบินแอร์ฟรานซ์ 2 ลำลงจอดฉุกเฉิน เหตุมีปัญหาด้านความปลอดภัย | วันนี้ (18 พ.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพฝรั่งเศสเปิดเผยภาพวีดีโอปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสในซีเรีย ระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย.2558 หลังเกิดเหตุโจมตีกรุงปารีส โดยโฆษกกองทัพฝรั่งเศสเปิดเผยว่า เครื่องบินรบของกองทัพ 10 ลำ บินไปโจมตีกลุ่มไอเอสจากฐานทัพในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และจอร์แดน โดยเป้าหมายการโจมตีเป็นศูนย์บัญชาการกลางและศูนย์เกณฑ์นักรบในเมืองรักกา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของกลุ่มไอเอสขณะที่นายฌองอีฟ เลอดริออง รมต.กลาโหมของฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ว่า เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินชาร์ล เดอ โกลล์ เดินทางถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่อยู่ติดกับซีเรีย ฝรั่งเศสจะมีเครื่องบินรบ 36 ลำที่พร้อมปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอเอสในซีเรียส่วนความคืบหน้าการหาเบาะแสของผู้ที่ร่วมขบวนการก่อการร้าย ล่าสุดตำรวจฝรั่งเศสเผยภาพของหนึ่งในมือระเบิดฆ่าตัวตายที่ก่อเหตุหน้าสนามกีฬาสต๊าด เดอ ฟรองในกรุงปารีส โดยขอให้ผู้ที่รู้จักชายในภาพเข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจ ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตมีทั้งหมด 7 คน แต่จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวได้ 5 คนนอกจากนี้ตำรวจฝรั่งเศสยังพบรถต้องสงสัยคันที่ 3 ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเบลเยี่ยม เป็นรถยี่ห้อเรโนลต์สีดำ ถูกจอดทิ้งไว้ที่เขต 18 ทางตอนเหนือของกรุงปารีส เชื่อว่าเป็นพาหนะของกลุ่มผู้ก่อเหตุและเข้าตรวจค้นห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นที่กบดานของผู้ก่อเหตุ โดยพบหลักฐานเป็นเข็มฉีดยาและท่อ ซึ่งอาจเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำระเบิดสื่อของฝรั่งเศสรายงานว่า รถยนต์ที่พบคันล่าสุด ผู้เช่าคือนายซาลาห์ อับดีสลาม ผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวพันเหตุโจมตีกรุงปารีสและยังคงหลบหนี นอกจากนี้ตำรวจฝรั่งเศสยังเปิดเผยเทปวิดีโอที่ยืนยันว่ามีผู้ต้องสงสัยที่ร่วมก่อเหตุเป็นคนที่ 9 ซึ่งหมายความว่า มีบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีกรุงปารีสที่ยังคงหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจอีก 2 คน ได้แก่นายอับดีสลาม และผู้ต้องสงสัยคนล่าสุดที่ยังไม่เปิดเผยชื่อมีรายงานว่า เครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ของฝรั่งเศส 2 ลำ ซึ่งออกเดินทางจากสหรัฐอเมริกามุ่งหน้ากรุงปารีส ต้องบินวนและกลับไปจอดในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีปัญหาด้านความปลอดภัย โดยลำแรกออกเดินทางจากนครลอสแองเจลิส ต้องวนกลับไปลงจอดที่เมืองซอลท์ เลค รัฐยูท่าห์ ส่วนลำที่ 2 ออกเดินทางจากรัฐวอชิงตัน ต้องลงจอดฉุกเฉินที่เมืองฮาลิแฟกซ์ ประเทศแคนาดา โดยโฆษกสำนักงานการบินระบุว่า เครื่องบินทั้ง 2 ลำลงจอดอย่างปลอดภัย ผู้โดยสารทุกคนไม่มีใครได้รับอันตราย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมระบุถึงสาเหตุของการลงจอดฉุกเฉินส่วนการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างเยอรมนีกับเนเธอร์แลนด์ ในเมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี ถูกยกเลิกก่อนที่การแข่งขันจะเริ่ม 2 ชั่วโมง หลังตำรวจมีเบาะแสว่าจะมีการวางแผนโจมตีด้วยระเบิด โดยแฟนบอลต้องอพยพออกจากสนามกีฬา ท่ามกลางรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ขณะที่มีรายงานว่านางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีและรัฐมนตรีของเนเธอร์แลนด์อีก 2 คน มีกำหนดเดินทางมาชมการแข่งขันฟุตบอลนัดนี้ นอกจากที่สนามกีฬาแล้ว ตำรวจยังอพยพคนออกจากสถานที่จัดงานคอนเสิร์ตของเมืองฮันโนเวอร์ด้วยนอกจากนี้ยังมีการพบวัตถุต้องสงสัยในสถานีรถไฟหลักของเมืองฮันโนเวอร์ โดยผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีชายคนหนึ่งวางวัตถุต้องสงสัยทิ้งไว้ก่อนจะเดินออกจากขบวนรถไฟ ซึ่งขบวนรถดังกล่าวเดินทางจากเบรเมนไปโอลเดนเบิร์ก หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่สั่งปิดพื้นที่บางส่วนของสถานีรถไฟหลักและปิดสถานีรถไฟใต้ดินอีกหลายแห่ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบวัตถุระเบิด | เครื่องบิน 2 ลำของสายการบินแอร์ฟรานซ์ของฝรั่งเศสลงจอดฉุกเฉิน หลังออกเดินทางจากสนามบินในสหรัฐอเมริกามุ่งหน้าสู่กรุงปารีสของฝรั่งเศส เนื่องจากมีปัญหาด้านความปลอดภัย ขณะที่ฝรั่งเศสเผยภาพวีดีโอปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสในซีเรีย | ต่างประเทศ | ฝรั่งเศส,ลงจอดฉุกเฉิน,วัตถุต้องสงสัย,สายการบินแอร์ฟรานซ์,ฮันโนเวอร์,โจมตีทางอากาศ,ไอเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/6139 |
ทั้งฝนทั้งหนาว วันนี้อีสาน-เหนืออุณหภูมิลดอีก กทม.ต่ำสุด 21 องศา | เมื่อวันที่ 2 พ.ย.62 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศลักษณะทั่วไป ระบุ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า หย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมประเทศกัมพูชาและภาคตะวันออกของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง มีฝนตกกับมีลมแรง เกิดขึ้นได้,ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง,สำหรับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นด้วย,ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้,ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนมากทางตอนบนของภาค กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น กับมีลมแรง ส่วนมากทางตอนบนของภาค โดยมีฝนเล็กน้อย ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา และบุรีรัมย์ อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.,ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีลมแรง โดยมีฝน ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ,ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.,ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส,ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม/ชม ,ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีลมแรง มีเมฆมาก โดยมีฝน ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. | กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปวันนี้ เหนือ-อีสาน มีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง แนะประชาชนดูแลสุขภาพ ขณะที่กรุงเทพ อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศา | ข่าว,ทั่วไทย | อุณหภูมิลด,กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,อากาศหนาว,หนาว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1695330 |
บึงกาฬ โจ๋หื่น อ้าง ปวดหัวบุกหวังข่มขืนพยาบาลสาว บังคับอมนกเขา | (เครดิตภาพ facebook ที่ชื่อว่าหมออนามัยขี้Muoth),บึงกาฬ โจ๋หื่น อ้าง ปวดหัวบุกเข้าทำร้ายหมายข่มขืนพยาบาลสาว รพ.ตำบล ชกท้อง ปาก บังคับให้อมนกเขา จนพยาบาลสาวต้องออกอุบายเอาตัวรอด ก่อนแจ้งตร. ตามรวบคนร้ายไว้ได้ที่บ้านพัก รับสารภาพ ,จาก facebook ที่ชื่อว่า หมออนามัยขี้Muoth ได้มีการโพสต์โอดครวญถึงเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยในชีวิตของเจ้าหน้าที่ประจำ รพ. ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล เหตุการณ์ซ้ำๆ ซากๆ กับหมออนามัยที่ไม่มีใครเหลียวแล มีแต่ปิดข่าวและโทษคนที่มาออกข่าว และมักแก้ตัวอ้างว่า รพ.สต.มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีตลอดๆเมื่อไหร่ข่าวแบบนี้จะหมดไปซะที เหตุเกิดกับน้องหมออนามัยที่เพิ่งทำงานไม่นาน ยังไม่ได้บรรจุราชการ เหตุเกิดในเวรนอกเวลา ที่ รพ.สต. แห่งหนึ่งใน จ.บึงกาฬ โดยคนร้ายทำทีมารับบริการที่ รพ.สต. และได้ทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน ตอนนี้น้อง admit ที่รพ.แล้ว และจับคนร้ายได้แล้ว เป็นเยาวชนในพื้นที่, จากกรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 16 เม.ย. ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่สาวระดับหัวหน้ากลุ่มงานคนหนึ่งระบุว่า เป็นเรื่องจริง และเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อเวลา 21.30 น.คืนที่ผ่านมา ได้มีชายวัยรุ่น ชื่อ นายบอยนามสมมติ อายุ 17 ปี เข้ามาเคาะประตูห้องเรียก นางสาวเอ(นามสมมุติ) อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่พยาบาลสาวประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ อ.เซกา จ.บึงกาฬ ซึ่งขณะนั้นอยู่ รพ.คนเดียว เพื่อมาขอรับยาแก้ปวดศีรษะ เมื่อพยาบาลสาวเดินจะไปเปิดห้องทำงาน คนป่วยแปลงร่างเป็นคนร้ายหื่น ปรี่เข้าชกที่หน้าท้องสาวจนทรุดตัวงอกองกับพื้น จากนั้นได้ลากตัวไปเข้าห้องทำอนาจารลวนลาม โดยใช้มือลูบคลำอวัยวะเพศ พร้อมกับจูบปาก หญิงสาวจึงกัดเข้าที่ลิ้น แต่ก็ถูกคนร้ายชกที่ปาก ใบหน้าและบีบลำคอ จึงต้องแกล้งทำยินยอมเพื่อเอาตัวรอด จากนั้นคนร้ายได้บังคับเข้าไปห้องน้ำ เพื่อให้อมนกเขา แต่สาวเห็นอวัยวะเพศไม่แข็งจึงออกอุบายว่า มียาดีทำให้แข็งนะ นายบอยจึงบังคับให้พาเดินไปหยิบเอายา หลังจากกินยาแล้ว สาวพยาบาลผู้เคราะห์ร้ายจึงออกอุบายต่อว่า ให้ดื่มน้ำตามไปด้วยมากๆ จึงจะเห็นผลเร็ว จังหวะนั้น สาวพยาบาลจึงออกตัววิ่งหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในอีกห้องข้างกัน พร้อมกับล็อกกลอนประตูและโทรแจ้งตำรวจ เมื่อตำรวจมาถึงสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากผู้เสียหายแล้ว จึงตามไปจับกุมนายบอยได้ที่บ้านพัก เบื้องต้นให้การรับสารภาพ จึงควบคุมตัวพร้อมรถ จยย.มาที่ สภ. เพื่อรอเจ้าหน้าที่เข้าสอบสวนพร้อมกันต่อหน้า นักจิตวิทยา อัยการ และทนาย ต่อไป. | บึงกาฬ โจ๋หื่น อ้าง ปวดหัวบุกเข้าทำร้ายหมายข่มขืนพยาบาลสาว รพ.ตำบล ชกท้อง ปาก บังคับให้อมนกเขา จนพยาบาลสาวต้องออกอุบายเอาตัวรอด ก่อนแจ้งตร. ตามรวบคนร้ายไว้ได้ที่บ้านพัก รับสารภาพ | ข่าว,ทั่วไทย | โจ๋หื่น,ข่มขีนพยาบาลสาว,อมนกเขา,รพ. ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล,บึงกาฬ | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/915240 |
ดอน ลั่น พร้อมร่วมมือจีน แก้ ไวรัสโคโรน่า ไม่สั่งระงับเข้า-ออกไทย | วันที่ 28 ม.ค. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า ยืนยัน ไทยมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการช่วยเหลือและดูแล แต่ขณะนี้ทางการจีนที่เป็นประเทศต้นทางของการเกิดโรค แจ้งว่า ทางจีนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และจำเป็นต้องปิดเมืองจำกัดการเข้า-ออก เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเพิ่มเติม ตัวเองมองว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสม ดังนั้นไทยต้องให้ความร่วมมือกับทางการจีนและให้โอกาสทางจีนได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาภายในก่อน พร้อมย้ำว่า ไทยมีความพร้อมสำหรับการนำเครื่องบินของกองทัพอากาศ C130 ไปรับคนไทยในจีนกลับประเทศนั้น ขณะนี้เป็นแค่การเตรียมความพร้อมและเท่าที่ทราบขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดที่เข้าไปรับคนในอู่ฮั่นได้ และในอดีตเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เพียงแต่คราวนี้มีกระแสทางโซเชียลเยอะมาก ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีประเทศไหนเข้าไปอพยพคนออกมาส่วนมาตรการระงับการเดินทางเข้ามาของคนจีนในประเทศไทยนั้น ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องระงับคนจีนเข้าประเทศ เพราะไทยไม่มีมาตรการสกัดกั้น แต่จีนควบคุมสถานการณ์และห้ามชาวอู่ฮั่นเดินทางออกนอกประเทศแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายรับรู้สถานการณ์ดีว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร นายดอน กล่าวในส่วนเรื่องความพร้อมรับมือฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายดอน กล่าวว่า เตรียมพร้อมตามปกติ ส่วนข้อมูลก็เตรียมไว้เป็นไปตามที่สื่อมวลชนนำเสนอ และจะมีอะไรเพิ่มเติมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขอไม่บอกรายละเอียด พร้อมยืนยันส่วนตัวไม่มีปัญหาต่อการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ. | รมว.ต่างประเทศ ยัน ไทยมีความพร้อม ยันให้ความร่วมมือจีนแก้ปัญหา เชื่อ เป็นมาตรการที่เหมาะสม ขณะไทยยังไม่มีการระงับ การเข้า-ออกของคนจีน มั่นใจ เตรียมข้อมูลโต้ศึกซักฟอกแล้ว | ข่าว,การเมือง | ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่,ดอน ปรมัตถ์วินัย,โคโรน่าไวรัส,อู่ฮั่นล่าสุด,ข่าวโรคระบาดในจีน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1757930 |
สุวิทย์-อภิศักดิ์ ลาออกบอร์ดเอกชน จ่อร่วมครม.เศรษฐกิจ ตู่ 3 | มีรายงานว่า นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ได้แจ้งการลาออกจากการเป็นกรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ ของ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) และลาออกจากการเป็นกรรมการ (อิสระ) กรรมการตรวจสอบ กรรมการบรรษัทภิบาล สรรหา และกำหนดค่าตอบแทนใน บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO) ท่ามกลางกระแสข่าวการเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ คาดว่าจะมานั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยการลาออกจากการเป็นกรรมการของ TOP มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. และการลาออกจากการเป็นกรรมการของ TVO มีผลตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา,ขณะที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ แจ้งการลาออกจากการเป็นกรรมการอิสระ และประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงของ TOP รวมทั้งได้แจ้งลาออกจากตำแหน่งกรรมการ บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้มีกระแสว่า นายอภิศักดิ์ เป็นหนึ่งในรายชื่อผู้ที่จะเข้าร่วม ครม.ชุดใหม่เช่นเดียวกัน คาดว่าจะมานั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง,นอกจากนี้ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (SPI) ได้ส่งหนังสือเรียนกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องแจ้งการลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) มีเนื้อหาว่า ด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้มีหนังสือถึงบริษัทฯ ลงวันที่ 17 ส.ค. ขอลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ เนื่องจากติดภารกิจอื่น จึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการบริษัทได้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. เป็นต้นไป,อย่างไรก็ตาม นายสมคิด เป็นอีกหนึ่งในรายชื่อที่จะเข้าร่วม ครม.ชุดใหม่ คาดว่าจะมานั่งรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ แทน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล โดยล่าสุดได้มีการนำรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อลงพระปรมาภิไธยแล้ว. | สุวิทย์-อภิศักดิ์ ลาออกจากบอร์ดเอกชน คาดเข้าร่วมครม.ตู่ 3 ทำงานทีมเศรษฐกิจนำโดย สมคิด ที่ก่อนหน้าลาออกจากบอร์ดสหพัฒน์ เตรียมนั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ | null | ครม.ตู่3,โผครม.ใหม่,ครม.ประยุทธ์,ครม.ชุดใหม่,ทีมเศรษฐกิจ,สมคิด,หม่อมอุ๋ย,ร่วมครม.,บอร์ดเอกชน,สุวิทย์ เมษินทรีย์,อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,รายชื่อครม.ใหม่,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ประยุทธ์,รัฐบาลประยุทธ์,บิ๊กตู่ | https://www.thairath.co.th/content/519283 |
ปั๊มยอดค้าออนไลน์ขึ้นที่ 1 อาเซียน | ว่า กรมฯตั้งเป้าหมายผลักดันยอดค้าขายผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ของไทยให้เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ภายใน 5 ปีนับจากปี 2560 โดยคาดว่า ปี 2564 มูลค่าการค้าขายผ่านออนไลน์ของไทยจะแตะ 5 ล้านล้านบาท ขึ้นแท่นอันดับ 1 ประเทศที่มีมูลค่าค้าขายออนไลน์สูงที่สุดในอาเซียน,ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ที่ประชุมเห็นพ้องให้ขับเคลื่อนผู้ประกอบการชุมชนในการใช้ช่องทาง e-Commerce ทำการตลาดและกระจายสินค้าใน 3 แนวทาง คือ พัฒนาผู้ประกอบการให้มีองค์ความรู้ผ่านการจัดอบรม และใช้ช่องทาง e-Marketplace ในการขยายช่องทางการตลาด โดย ในปี 2561 กรมฯตั้งเป้าหมายพัฒนาผู้ประกอบการชุมชนเข้าสู่ e-Commerce อย่างน้อย 10,000 ราย และสร้างยอดขายได้มากกว่า 500 ล้านบาท,ส่วนแนวทางที่ 2 คือ การสร้างบรรยากาศการซื้อขายผ่าน e-Commerce ด้วยการกระตุ้นให้ผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าออนไลน์มีตัวตนและความน่าเชื่อถือของร้านค้า ผ่านการขอรับเครื่องหมายรับรอง DBD Registered หรือ DBD Verified จากกรมฯและสุดท้าย การจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการค้าออนไลน์ เช่น การจัดงาน Thailand Online Mega Sale, e-Commerce Festival และ Offline 2 Online Expo ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายของผู้ประกอบการ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในตลาดออนไลน์ คาดว่า จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 100 ล้านบาท. | นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) และผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) รายใหญ่ | ข่าว,เศรษฐกิจ | กุลณี อิศดิศัย,ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์,ค้าขายออนไลน์,ร้านค้า | https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1163608 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.