title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
ทับทิม มหัศจรรย์ผลไม้บำบัดโรคหัวใจ
ที่นอกจากจะไม่เพิ่มน้ำหนักแล้วยังมีส่วนในการป้องกันโรคหลายชนิดได้อีกด้วย,มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่สนับสนุนว่า การบริโภคผลไม้ที่นอกจากจะเป็นแหล่งรวมของวิตามิน เกลือแร่และใยอาหารแล้ว ผลไม้ยังเป็นแหล่งของสารพฤกษเคมีที่ช่วยชะลอความเสื่อมและป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆได้มากมาย โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากอิทธิพลของอนุมูลอิสระที่มีผลต่อการทำลายระบบเซลล์ต่างๆในร่างกาย,ผลไม้ที่ถือว่าเป็นสุดยอดของการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีมีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พรุน ซึ่งมีปริมาณสารโพลีฟีนอลสูง และมีใยอาหารสูง ทั้งใยอาหารชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ มีฤทธิ์ระบายท้องและบำบัดอาการท้องผูกได้,เป็นอย่างดี องุ่นแดง ซึ่งมีวิตามินและสารฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระอยู่สูง ทั้งยังมีสารอาหารสำคัญ คือ เรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งช่วยยับยั้งการก่อตัวของสารอุดตันในหัวใจ ที่อาจช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ แคน– เบอร์รี่ ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซี ช่วยลดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะของผู้หญิง ที่เป็นสาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นต้น,และล่าสุด ทับทิม ได้กลายมาเป็นผลไม้ยอดฮิตอีกชนิดหนึ่งที่คนนิยมบริโภคกันมาก โดยเชื่อว่ามีผลดีต่อสุขภาพ โดยเป็นผลไม้ที่มีสารโพลีฟีนอล ซึ่งมีประโยชน์ในการรักษาโรคหัวใจได้,ทับทิม (Pomegranate) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Punica granatum อยู่ในวงศ์ของ Lythracea มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเปอร์เซียและเทือก เขาหิมาลัยตะวันตก มีการปลูกกัน มากในอิหร่าน เมดิเตอร์เรเนียน แคลิฟอร์เนียและอีกหลายภูมิภาค จากการศึกษาพบว่า มีการใช้ ทับทิมเพื่อบำบัดโรคต่างๆ มานานหลายศตวรรษ,ในบันทึกของอียิปต์โบราณบนกระดาษปาปิรุสอีเบอร์ (Papyrus Ebers) บันทึกไว้ว่า ชาวอียิปต์ใช้ทับทิมรักษาพยาธิตัวตืดและพยาธิอื่นๆ ตำราอายุรเวทของอินเดีย มีการใช้ทับทิมในการรักษาเบาหวานและพยาธิ รักษาโรคทางเดินอาหาร เช่น แผลร้อนใน ท้องร่วงและแผลในกระเพาะ ฯลฯ,ด้วยสรรพคุณมากมายดังกล่าว ทำให้ทับทิมได้รับการขนานนามว่าเป็น ซุปเปอร์ฟรุต (Super fruit) ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก เนื่องจากมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญมากมาย เช่น วิตามินซี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์บุผิวและพัฒนาการของเซลล์ รวมทั้งช่วยลดการอักเสบของเซลล์ วิตามินอี ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของผิว นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารพฤกษเคมีต่างๆ ทั้ง แทนนิน ฟลาโวนอยด์, แอนโทไซยานิน, แคททีชิน, กรดเอลลาจิก และ เอลลาจิแทนนิน โดยเฉพาะ สารพูนิคาลาจิน, พูนิคาลิน และ กรดกัลลาจิก เป็นต้น,การศึกษาด้านฤทธิ์ของสารสกัดจากทับทิมในการต้านขบวนการออกซิเดชัน ที่เกี่ยวกับการอักเสบและการต้านอนุมูลอิสระพบว่า สารสกัดจากทับทิมมีฤทธิ์ต้านขบวนการออกซิเดชั่นสูงกว่าใบชาเขียว,ถึง 3 เท่า ซึ่งเข้มข้นกว่าในกลุ่มน้ำผลไม้อื่นๆ เช่น ส้ม องุ่น แคนเบอร์รี่ ลูกแพร แอปเปิ้ล และยังมีฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระได้สูง โดยสามารถยับยั้งฤทธิ์ต้านขบวนการออกซิเดชั่นของไขมันชนิดแอลดีแอล ชนิด copper ion-induced LDL oxidation ได้ถึง 94% และฤทธิ์ต้านขบวนการเปอร์ออกซิเดชั่นของไขมัน (lipid peroxidation) ได้สูงถึง 38%,สำหรับสาวๆที่อยากมีผิวพรรณอ่อนกว่าวัย มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า ทับทิมมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ที่นอกจากจะช่วยให้มีผิวอ่อนกว่าวัยแล้ว ยังป้องกันผิวจากการเสื่อมสภาพตามวัยจากรังสีอัลตราไวโอเลต ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิว,ส่วนผู้สูงอายุ การดื่มน้ำทับทิม จะช่วยรักษาโรคเรื้อรังรังต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง ลำไส้อักเสบเรื้อรัง และยังสามารถยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิดได้ด้วย,งานวิจัยของ Sharma, Mc Clees and Afaq ล่าสุดในปี 2017 ระบุว่า สารสกัดจากทับทิมมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ยับยั้งการเกิดเซลล์กลายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งตามมา และช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ขณะที่งานวิจัยของ Sreeja et al ระบุว่า ทับทิมมีศักยภาพในการประยุกต์ใช้เป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ในการบำบัดทดแทนฮอร์โมน เนื่องจากมีความเข้มข้นของฮอร์โมนหญิงจากพืชสูงที่สุด,ปัจจุบันการดื่มน้ำทับทิมและการบริโภคผลไม้ชนิดนี้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่า เป็นผลไม้ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยเฉพาะด้านหัวใจและหลอดเลือด จากสารโพลีฟีนอลที่มีฤทธิ์ต้านขบวนการออกซิเดชั่นที่เกี่ยวกับการอักเสบ ลดการสะสมไขมันในเซลล์เม็ดเลือดขาวและผนังหลอดเลือดหัวใจ และยับยั้งการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวแมคโครฟาจ ที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ ทำให้สามารถป้องกันและช่วยในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้,แต่แม้ว่าทับทิมจะมีสรรพคุณดีมากในเรื่องของโรคหัวใจ แต่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ก็ยังคงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง รับประทานผักและผลไม้ รวมถึงอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่มใส เบิกบาน ไม่เครียด รวมถึงการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ,เปลี่ยนก่อนป่วยย่อมดีกว่าป่วยแล้วรักษาแน่นอน
กระแสการกินเพื่อสุขภาพ ได้กลายมาเป็นเทรนด์ใหม่ของการใช้ชีวิตในยุคนี้ โดยเฉพาะการเลือกปฏิเสธอาหารประเภทที่ย่อยยาก เช่น เนื้อสัตว์ หรืออาหารปิ้งย่าง มาเป็นการกินผักและผลไม้แทน
ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์
ทับทิม,สมาร์ทไลฟ์,ผลไม้,บำบัดโรคหัวใจ
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1034865
สิ้นหลวงปู่แบน พระเถระสายพระป่า สหธรรมิกหลวงตามหาบัว ละสังขารอายุ 91 ปี
สิ้นแล้ว หลวงปู่แบน พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร พระเถระสายพระป่า ผู้เป็นสหธรรมิก และได้รับการวางใจจาก หลวงตามหาบัว ให้เป็นเสาหลักของคณะพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ละสังขารอย่างสงบสิริอายุ 91 ปี 69 พรรษาเมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 16 มกราคม 2563 ที่กุฏิเจ้าอาวาสวัดดอยธรรมเจดีย์ ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร หรือหลวงปู่แบน ธนากโร เจ้าอาวาสวัดดอยธรรมเจดีย์ สังกัด ธรรมยุตินิกาย ได้ละสังขารลงอย่างสงบ สิริรวมอายุ 91 ปี 69 พรรษา โดยมีกำหนดการถวายเพลิงสรีรสังขารองค์หลวงปู่แบน ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคมนี้ ณ วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร เวลา 13.00 น.โดยมี นายจรินทร์ จักกะพาก อดีต ผวจ.สกลนคร สมาชิกวุฒิสภา เดินทางมาเคารพศพ และนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผวจ.สกลนคร นำข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เดินทางไปดูแลการก่อสร้างเมรุชั่วคราวหลวงปู่แบน ธนากโร ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ชีวประวัติหลวงปู่แบน ธนากโร นามเดิมว่า สุวรรณ กองจินดา เกิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2471 ณ บ้านหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี บิดาชื่อนายเล็ก มารดาชื่อ นางหลิม กองจินดา มีอาชีพทำสวนทำไร่ ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวจังหวัดจันทบุรีหลวงปู่แบน ได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ณ วัดเกาะตะเคียน ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี โดยมีพระอมรโมลี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพิพัฒน์พิหารการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เนื่องจากศรัทธาในวัตรปฏิบัติของหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ ภายหลังได้ติดตามหลวงปู่กงมามาที่วัดดอยธรรมเจดีย์ จนหลวงปู่กงมามรณภาพ ท่านเป็นผู้มีความเด็ดเดี่ยว รักษาข้อวัตรปฏิบัติของครูบาอาจารย์พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตฺโต ไว้อย่างเคร่งครัด เป็นที่เคารพของพระบรมวงศานุวงศ์หลวงปู่แบน นอกจากเป็นสหธรรมิกผู้ใกล้ชิดกับพระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสมฺปนฺโน) และได้รับการวางใจจากหลวงตามหาบัว ให้เป็นเสาหลักของคณะพระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตนอกจากนี้ ท่านยังสร้างสาธารณกุศลอีกมากมาย เช่น สร้างโรงพยาบาลพระอาจารย์แบน ธนากโร ที่อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ปลูกสวนป่าหลายแห่ง สร้างตึกหัวใจ 8 ชั้น ที่โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร มีดำริก่อสร้างถนนรอบหนองหาร โดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน โดยมีหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมสนับสนุน เป็นต้น
สิ้นแล้ว หลวงปู่แบน พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร พระเถระสายพระป่า ผู้เป็นสหธรรมิก และได้รับการวางใจจาก หลวงตามหาบัว ให้เป็นเสาหลักของคณะพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 91 ปี.
ข่าว,ทั่วไทย
หลวงปู่แบน,หลวงปู่แบนละสังขาร,หลวงปู่แบน มรณะภาพ,หลวงปู่แบน วัดดอยธรรมเจดีย์,วัดดอยธรรมเจดีย์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1749140
ฉก.ทพ.36 ทำความดีถวายพ่อ เกี่ยวข้าวช่วยชาวนาลดภาระค่าใช้จ่าย
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.59 ฉก.ทพ.36 ค่ายเทพสิงห์ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านที่มีฐานะยากจนเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งต้องจ่ายค่าจ้างให้ผู้มารับจ้างเกี่ยว วันละ 250-300 บาท และไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าจ้างทาง ฉก.ทพ.36 จึงได้จัดชุด ชป.ลงช่วยชาวนา ทำให้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของชาวบ้านไปได้มาก ตามนโยบายโครงการทหารช่วยเก็บเกี่ยวข้าวทำความดีถวายเพื่อพ่อ,พ.อ.ภาส วงศ์สาระภี ผบ.ฉก.ทพ.ที่ 36 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กำลังพลในสังกัด 1 ชป.ออกไปช่วยเหลือชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวในนา ของนายเลิศ ปวงแก้ว บ้านเลขที่ 221 ราษฎรบ้านแพะคะปวง หมู่ 12 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องชาวนาชาวไร่ ได้ลดค่าใช้จ่ายจากการจ้างแรงงานที่สูงถึงวันละ 250-300 บาท แต่พอเก็บเกี่ยวได้แล้วข้าวเปลือกกลับมีราคาถูกขายไม่ได้ราคา อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ และความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนกับทหาร ที่สำคัญเป็นการปฏิบัติตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ถือเป็นการทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ด้านนายเลิศ ปวงแก้ว อายุ 64 ปี เจ้าของที่นา เผยว่า ตนเองสุขภาพไม่ดีป่วยเป็นโรคหัวใจ และเป็นเบาหวาน ได้ไปผ่าตัดลิ้นหัวใจมา ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงทำงานหนักไม่ได้ มีบุตร 2 คน คนโตลูกสาวดิ้นรนส่งตัวเองเรียนจบปริญญาตรีมาแล้ว ตอนนี้ตกงาน ลูกชายคนเล็ก ไปเป็นทหารเกณฑ์ฝึกอยู่ที่ค่ายทหาร อ.ปาย ส่วนภรรยาสุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรงทำงานหนักไม่ได้,ทั้งนี้ได้ปลูกข้าวไว้ทั้งหมด 4 ไร่ กับ 2 งาน โดยถ้าเก็บเกี่ยวและโม่ข้าวเสร็จจะได้ผลผลิตประมาณ ไม่ต่ำกว่า 200 ถัง ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้กินเองและแบ่งส่วนหนึ่งไว้ขาย เพื่อเอาเงินไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ดีใจและปลื้มใจที่ได้ทหารพรานมาช่วย รู้สึกขอบคุณในน้ำใจทหารพรานที่มาช่วยเก็บเกี่ยวข้าว เนื่องจากตนเองมีฐานะยากจน ไม่มีเงินจ้างแรงงาน ถ้าเกี่ยวกันเองในครอบครัวคงต้องใช้เวลาอีกเป็นอาทิตย์กว่าจะแล้วเสร็จ.
ภาพดีๆ มีให้เห็น!! ทหารพราน36 วางปืนถือเคียวลงนาเกี่ยวข้าวช่วยชาวบ้าน ลดภาระค่าใช้จ่าย ปฏิบัติความดีถวายพ่อตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
ข่าว,ทั่วไทย
ช่วยชาวนา,ทหารเกี่ยวข้าว,ราคาข้าวตกต่ำ,ลดต้นทุนชาวนา,ฉก.ทพ.36
https://www.thairath.co.th/news/local/789562
ไม่รอด รวบหนุ่มแสบแต่งทหารยศพันโท ตุ๋นเงินชาวบ้านที่กาญจน์
เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 5 มิ.ย. 58 นายสมคิด ศรีสงคราม อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 1 ต.ตระคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้นำเงินสดจำนวน 3 แสนบาทเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เจนณรงค์ สมเสถียร ผกก.สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เพื่อขอลงบันทึกประจำวัน ไว้เป็นหลักฐาน,โดยนายสมคิด ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 58 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ชายคนหนึ่งแต่งกายชุดนายทหารยศพันโทเต็มยศ ขับรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เลขทะเบียน กต 5571 สุพรรณบุรี เข้ามาหาตนที่บ้านโดยผู้ชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าชื่อ พันโทอภิธิศักดิ์ สุระวารีนนท์ เป็นนายทหารระดับเสนาธิการทหารประจำอยู่ที่ค่ายธนรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมบอกกับตนว่า ตอนนี้ตนกำลังถูกชาวบ้านร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมที่กาญจนบุรี เรื่องการเตรียมขุดดินเพื่อตักทรายขาย ตนบอกว่ายังไม่ได้ทำ แต่กำลังจะทำ,นายสมคิด เล่าต่อไปว่า จากนั้น ผู้ชายคนดังกล่าวได้บอกว่า ถ้าตนอยากทำก็ทำได้ โดยอ้างว่า เขาสามารถวิ่งเต้นเคลียร์กับศูนย์ดำรงธรรม และวิ่งเต้นขอใบอนุญาตเปิดบ่อทรายที่อุตสาหกรรมจังหวัดฯ พร้อมกับอ้างว่ามีความรู้จักและสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ในศูนย์ดำรงธรรม และผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบัน แต่ต้องใช้เงินวิ่งเต้นทำเรื่อง จำนวน 3 แสน 5 หมื่นบาท ซึ่งในเวลานั้นตนบอกว่า ตนมีเงินสดติดบ้านเพียง 5 หมื่นบาทเท่านั้น,ชายคนดังกล่าวซึ่งอ้างตัวเป็นนายทหารก็บอกว่า ไม่เป็นไรจ่ายค่ามัดจำเดือนเรื่องมาก่อน 5 หมื่นบาท ส่วนอีก 3 แสนบาท ค่อยมาจ่ายอีกทีในวันที่ 5 มิ.ย. 58 ตนหลงเชื่อเพราะเห็นว่าเป็นนายทหารยศพันโท แถมภายในรถก็มีเสื้อคลุมแจ็กเกตสีดำ ที่หน้าอกปักชื่อ เสธ.อ้าย แขวนอยู่ จึงจ่ายเงินจำนวน 5 หมื่นบาทให้ไป จากนั้นผู้ชายคนดังกล่าวก็ขับรถออกจากบ้านไป ตนได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับหุ้นส่วนซึ่งทุกคนก็ลงความเห็นว่าน่าจะถูกหลอก,พอถึงเวลาวันนัดหมายในวันนี้ ตนได้นำเงินจำนวน 3 แสนบาทไปรอที่ทำการจุดตรวจจุดสกัดบ้านท่าตะคร้อ แต่ชายคนดังกล่าวที่อ้างตัวว่าเป็นายทหารก็ไม่มาตามนัด พอโทรไปสอบถามผู้ชายคนดังกล่าวก็อ้างว่าติดธุระ ขอเลื่อนเวลาเป็น 17.00 น. ส่วนสถานที่ขอเป็นที่โรงปั้นดินของโรงปุ๋ยแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 12 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา ตนเกรงว่าอาจจะถูกหลอก จึงเดินทางมาเพื่อปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันโดยถ่ายสำเนาธนบัตรไว้เป็นหลักฐาน,หลังจากนั้น พ.ต.อ.เจนณรงค์ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พิชัยพนธ์ ภักดีศิริเกษม รอง ผกก.สส.ฯ ร่วมกับ พ.ต.ท.มานพ น้ำประสานไทย สว.สส.ฯ และ พ.ต.ต.อำนาจ ปรีชาวาท สวป.ฯร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯเดินทางไปทำการซุ่มโป่งยังจุดนัดหมาย จนกระทั่งเวลา 17.30 น.ของวันดังกล่าว ขณะที่นายสมคิด ไปจอดรถรออยู่ที่โรงปั้นดินตามสถานที่นัดหมาย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังปิดล้อมอยู่ ผู้ชายคนดังกล่าวก็ได้ขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีขาวเข้ามายังที่นัดหมาย,จากนั้นนายสมคิด ก็เข้าไปเจรจา พร้อมทั้งนำเงินสดจำนวน 3 แสนบาทมอบให้ไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการแสดงตัว ผู้ชายคนดังกล่าวเมื่อเห็นและทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับสีหน้าถอดสี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวพร้อมเงินสดจำนวน 3 แสนบาทไปทำการสอบสวนที่จุดตรวจจุดสกัดบ้านท่าตะคร้อ หมู่ 1 ต.ตะคร้ำเอน,จากการสอบสวนปากคำผู้ชายที่อ้างตัวเป็นนายทหาร คือ นายจตุพัช ศรีทองกูล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 5 ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยรับสารภาพว่า ได้วางแผนทำการหลอกลวงนายสมคิด เจ้าของโรงปุ๋ยที่กำลังจะทำกิจการขุดทรายขาย โดยนายจตุพัช อ้างว่าก่อนหน้าที่จะวางแผนต้มตุ๋นนายสมคิด ได้เกิดไปรู้จักกับหลานชายของนายสมคิด ที่นำรถแบ็กโฮไปซ่อมที่อู่ช่างพงษ์ ไม่ทราบนามสกุลตั้งอยู่ในเขต อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และทราบว่านายสมคิด น้าชายกำลังกลุ้มใจที่จะขุดดินในที่ดินของตัวเองเพื่อตักทรายขาย แต่ไม่รู้จะไปปรึกษา หรือขออนุญาตใคร,นายจตุพัช เล่าต่อไปว่า จากนั้นตนจึงบอกว่ากับหลานชายของนายสมคิด ไปว่าสามารถช่วยได้ จึงวางแผนขับรถไปหานายสมคิดที่บ้าน และบอกกับนายสมคิดว่า นายสมคิด ถูกชาวบ้านร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมเรื่องขุดทรายขาย โดยบอกว่าสามารถวิ่งเต้นศูนย์ดำรงธรรมได้ แต่ต้องเสียเงินค่าวิ่งเต้นไม่ให้ศูนย์ดำรงธรรมมาตรวจสอบเป็นเงิน 5 หมื่นบาท นายสมคิด หลงเชื่อก็จ่ายเงินมัดจำค่าวิ่งเต้นยุติเรื่องให้,ส่วนชุดนายทหารยศพันโทที่นำสวมใส่ในวันที่ขับรถเข้าไปหานายสมคิด ที่บ้านนั้น เป็นชุดเครื่องแบบของ พันโทอภิธิศักดิ์ สุระวารีนนท์ เสนาธิการทหารผู้หนึ่ง ปัจจุบันประจำอยู่ที่ค่ายธนรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งเสื้อคลุมแจ็กเกตสีดำที่ปักชื่อนายทหารใหญ่ เพราะในอดีตตอนที่ตนเป็นทหารเกณฑ์นั้น เคยทำงานเป็นคนขับรถให้ ตนสบโอกาส จึงได้แอบเก็บชุดเครื่องแบบนี้ไว้เพื่อใช้ในการหลอกลวงต้มตุ๋นชาวบ้าน วิ่งเต้นช่วยเหลือเรื่องที่ชาวบ้านเดือดร้อน,หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนปากคำเสร็จเรียบร้อยจึงได้ประสานไปที่ พันโทณัฐพงษ์ ตะโกใหญ่ ผบ.ป.พัน 109 / ผบ.ชุดประสานงานประจำพื้นที่ ป.พัน 109 และ รอ.สุวิทย์ ทองกวาว หน.ชุดประจำพื้นที่ ป.พัน 109 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเดินทางมาตรวจสอบและตรวจค้นภายในรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ของนายจตุพัช พบว่าภายในรถมีเอกสารหลักฐานหลายอย่าง อาทิ เสื้อผ้า บัตรประจำตัวประชาชน และบัตรอดีตข้าราชการทหารของนายสยาม ศรีทองกูล ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นนายจตุพัช ศรีทองกูล เลขที่ 67/2534 สมัยที่ยังเป็นทหารตำแหน่ง ผบ.กรมนักเรียน รร.ร.ศ.ร สังกัดกรม รร.ร.ศร.อีกด้วย จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ชาวบ้านทราบข่าวว่า นายจตุพัช ศรีทองกูล ถูกตำรวจวางแผนล่อซื้อจับกุมและนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา ก็ได้มีเจ้าทุกข์หลายรายจาก จ.สุพรรณบุรี จ.นครปฐม และกาญจนบุรี ซึ่งเป็นนักธุรกิจผู้รับเหมาก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร เจ้าของบ่อทราย ต่างเดินทางมาชี้ตัวนายจตุพัช ว่าถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงต้มตุ๋นเอาเงินไปรายละ 2-3 แสนบาท,โดยนายธนกร สมบูรณ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/11 หมู่ 14 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม 1 ในจำนวนผู้เสียหายที่ทำธุรกิจก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งถูกนายจตุพัช ศรีทองกูล แต่งชุดนายทหารยศพันโท อ้างตัวว่าเป็นพันโทอภิธิศักดิ์ หลอกลวงเอาเงินไป 2 แสน 5 หมื่นบาท กล่าวว่านายจตุพัช ผู้ต้องหารายนี้ได้หลอกลวงต้มตุ๋นเอาเงินจากชาวบ้าน และนักธุรกิจไปแล้วจำนวนกว่า 10 ราย ใน 3 จังหวัดได้เงินไปเป็นหลายล้านบาท คาดว่าหลังเป็นข่าวทางสื่อมวลชนแล้วน่าจะมีผู้เสียหายตามจังหวัดต่างๆ เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษอีกเป็นจำนวนมาก
หนุ่มแสบแต่งชุดทหารยศพันโทหลอกต้มตุ๋นชาวบ้าน จนมุมแล้ว หลังวางแผนหลอกตุ๋นเงินคนตามถนัด ล่าสุด เจ้าของโรงปุ๋ยเมืองกาญจน์ ไหวตัวทัน เข้าแจ้งตร. ดักรวบ คาดหลอกตุ๋นเงินเหยื่อมาแล้วนับ 10 ราย ในเขต 3 จังหวัด ได้เงินไปหลายล้าน
ข่าว,ทั่วไทย
ชาวบ้าน,แต่งกาย,ทหารชุดพันโท,หลอก,ตุ๋นเงิน,กาญจนบุรี,ตำรวจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,หนุ่มหลอกต้มตุ๋น
https://www.thairath.co.th/news/local/503410
ถึง เพื่อนคนหนึ่ง ที่คิดว่าคนเสื้อแดงยังก้าวไม่พ้นทักษิณ และ ประชาธิปไตย ไม่ได้แปลว่าเลือกตั้ง
(ในสถานการณ์การเมืองปัจจุบันที่การรับรู้ของคนกรุงเทพฯ และนักเรียนไทยในต่างแดนจำนวนไม่น้อยเกี่ยวกับการเมืองไทยติดอยู่กับกรอบความคิด ม็อบ = ความวุ่นวาย ม็อบแดง = ทักษิณจ้างมา/ถูกหลอก-โง่/ล้มเจ้า ฯลฯ) ผมก็จะโพสต์ลงในหน้าเฟซบุคของผม โดยที่ไม่บ่อยนัก เพื่อน ในลิสต์ผมจะมาสนใจหรือแสดงความคิดเห็นเป็นจริงเป็นจัง อย่างมากก็มากด like (แสดงความปลาบปลื้ม) หรือแซวเล่นๆ ขำๆ สั้นๆ ด้วยความที่ (ผมคิด) ว่า เพื่อน เหล่านั้นส่วนหนึ่งคงถือคติ เป็นกลาง ทางการเมือง (กุไม่รู้ กุไม่สน กุเมา -- ฮา) อีกส่วนหนึ่งคงเป็นนักเรียนไทยในต่างแดนที่งานที่อาจารย์สั่งก็เยอะพอแล้ว ไม่มีเวลามาถกเถียง และอีกกลุ่มหนึ่งก็น่าจะเป็นคนที่เกลียดทักษิณ เกลียดเสื้อแดงเข้าไส้ แต่ไม่อยากมาโพสต์เถียงกับผมเรื่องการเมือง เพราะคงกลัวผม (และตัวเอง) เสียความรู้สึก เนื่องด้วยความแตกต่างทางความคิดแต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ผมได้โพสต์บทความ คนเสื้อแดง ก้าวพ้น ทักษิณแล้ว คุณล่ะ? () ในหน้าเฟซบุคของตัวเอง ปรากฏว่ามีเพื่อนนักเรียนไทยในต่างแดน (ศึกษาต่อในสหรัฐฯ เหมือนกัน) ได้ให้เกียรติมาแสดงความคิดเห็นต่อบทความชิ้นนี้ ความว่า:เห็นด้วย ในกรณี ที่รัฐบาล ควรลองมองข้ามเงื่อนไขที่ชื่อทักษิณ แล้วดูว่า ผู้ชุมนุมที่มาเพราะความเดือดร้อนจิงๆ นั้น เค้าต้องการอะไร ทำยังไงถึงจะช่วยเค้าได้ เพราะนั่นคือหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้วแต่ไม่เห็นด้วย ที่บอกว่าคนเสื้อแดงก้าวพ้นทักษิณ แล้ว เพราะการปราศรัยทุกวันของเสื้อแดงมีคำว่าทักษิณ เยอะยิ่งกว่า preposition รวมถึงคำพูดของแกนนำก็กล่าวอ้างทักษิณตลอดดด และเงื่อนไขของเสื้อแดงอีกอันหนึ่งก็คือ การนำทักษิณกลับประเทศ อย่างงี่จะบอกว่าก้าวข้ามได้ไง??และอีกอันที่เราไม่เห็นด้วยนะ ก็คือ เราไม่คิดว่าการยุบสภา และให้เลือกตั้งใหม่ จะเป็นการแก้ไขอะไรได้ ยุบสภา-->ซื้อเสียง--> ถ้าประชาธิปัตย์ได้ ทักษิณก้อต้องหาวิธีปลุกปั่นใหม่ ว่ามีอำมาตย์ คุณท้าวอะไรอยู่เบื้องหลัง ถ้าเพื่อไทยได้ เสื้อเหลืองก็ออกมาอีกก --???? vicious cycleประชาธิปไตย ใครๆ ก็อยากได้ ทุกๆ ที่ในโลกรู้ว่ามันเป็นระบบที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศที่สุดตอนนี้ แต่ก็อย่าลืมว่า initial condition แต่ละที่มันไม่เหมือนกัน แล้วอีกอย่าง การเลือกตั้งก็เป็นแค่ tool หนึ่งในประชาธิปไตยเท่านั้น ประชาธิปไตย ไม่ได้แปลว่าเลือกตั้งด้วยเหตุที่นานๆ ทีจะมีคนแวะมาแสดงความคิดเห็นคัดค้านกับบทความที่ผมโพสต์ (และมาด้วยอารมณ์ รักชาติ) ผมจึงยอมสละเวลา 2 ชั่วโมงของวันดังกล่าวเพื่อ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทางการเมืองกับเธอโดยเฉพาะ โดยมีใจความดังนี้เรื่องก้าวข้ามทักษิณรึเปล่าเนี่ย จริงๆ แล้วมันก็มองได้หลายแง่ แต่โดยทั่วไปเนี่ย การชุมนุมทางการเมืองมันมีหลาย component คนหลากหลายกลุ่มมีเป้าหมายย่อยๆ แตกต่างกัน แต่มี จุดร่วม บางอย่างเหมือนกัน อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ในขณะที่คนเสื้อแดงประกอบด้วยคนจำนวนมากที่นิยมทักษิณ แต่คนอีกจำนวนไม่น้อยก็เข้าร่วมไม่ใช่เพราะรักทักษิณ แต่มันมีสิ่งที่เรียกว่า สองมาตรฐาน จริงๆ ในการเมืองไทยครับ เริ่มตั้งแต่สื่อมวลชนไทย ตอนพธม.ยึดสนามบิน ยึดทำเนียบฯ กลับไม่ทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างเต็มที่ หรือไม่ฉายภาพ ผู้ร้าย ดังเช่นที่กระทำกับเสื้อแดงเมื่อเร็วๆ นี้ ตอนนั้นจำได้เลยว่าได้ฟังวิทยุพธม.ในช่วงนั้น การปราศรัยมีแต่คำหยาบคาย สัตว์เลื้อยคลานเต็มไปหมด (ในขณะที่เสื้อแดงอย่างมากก็ด่า พวกพันธมาร อีแอบ) ลดทอนความเป็นมนุษย์ของฝ่ายทักษิณอย่างมาก แต่สื้อก็ไม่ได้นำเสนอในจุดนี้เท่าที่ควรจะเป็น หรือแม้กระทั่งหลังจากเหตุการณ์ยึดสนามบิน แกนนำพันธมิตรฯ บอกว่า ไม่ได้ยึด เดินเข้าไปเฉยๆ แต่ผอ.สนามบินฯ เป็นคนสั่งปิดเอง ทำไมสื่อฟรีทีวีไทยเงียบเฉย แถมคดีนี้ก็เงียบหายไปเลย (คือไม่เป็นข่าว) ในขณะที่คนเสื้อแดงขยับนิดหน่อยก็โดนจับผิดแล้วน่ะครับ หรือแม้กระทั่งเรื่อง GT 200 เนี่ย นี่ก็ทุจริตเห็นๆ แต่ทำไมเงียบไปครับ หรือเป็นเพราะผู้นำทหารไม่ใช่ฝ่ายเสื้อแดง เขาจึงทำอะไรก็ไม่ผิด ฉะนั้น หลักใหญ่ใจความของคนเสื้อแดงที่มีร่วมกันก็คือเรื่องนี้ครับ ความอยุติธรรม เลือกที่รักมักที่ชังของกระบวนการยุติธรรมไทย รวมถึงสื่อมวลชนกระแสหลักในกทม.ครับ และการเรียกร้องสิทธิเลือกตั้งในฐานะสิทธิขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยน่ะครับ 1 คน 1 เสียง เป็นหลักประกันว่าพลเมืองแต่ละคนมีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ไม่มีใครเสียงดังกว่าใคร แถมเป็นวิธีการให้ได้มาซึ่งผู้แทนประชาชนอันเป็นวิถีทางที่สันติที่สุด ในขณะที่การรัฐประหารเป็นไปในทางตรงกันข้าม เสียงของคนถือปืนสำคัญที่สุด แม้รัฐประหารที่เกิดขึ้นในปี 49 ไม่ได้ทำให้ใครบาดเจ็บล้มตายอะไร แต่ความสงบที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมันหมายถึง ไม่รุนแรง เหรอครับ การเมืองสงบ เพราะคนชุมนุมไม่ได้ เนื่อกจากกลัวปืน-รถถัง ก็เหมือนกับความเงียบของการที่โจรถือปืนเข้าบ้านเรา แล้วเอามาจ่อปากเราแหละครับ เขายังไม่ยิงเลยนะ แต่เราก็ต้องเงียบ ถ้าคุณโดนกระทำแบบนี้อยู่ แล้วมีเพื่อนบ้านคุณเดินผ่านมาบอกว่า เออ สงบดีเนอะ ไม่มีอะไรรุนแรงเลย คุณจะรู้สึกยังไงครับการเลือกตั้งอาจมิใช่วิธีการได้มาซึ่งอำนาจการปกครองที่ดีที่สุด แต่มันก็เป็นวิธีการที่เลวน้อยที่สุดนะครับ ปัญหาสำคัญในการเมืองไทยก็คือ ภาพของ ตัวร้าย ของระบบเลือกตั้งมีเพียงกลุ่มเดียวคือ พรรคของฝ่ายทักษิณ ทั้งๆ ที่เลือกตั้ง 50 ที่ผ่านมา ผมเป็นคน ตจว. ชาวบ้านในจังหวัดผมก็มีการร้องเรียนเรื่องการซื้อเสียงของพรรคเก่าแก่ แต่คดีกลับเงียบหาย สื่อไม่ตามติด กระบวนการยธ.ยื้อเรื่อง กลายเป็นว่าพรรคเก่าแก่เป็นพระเอก มือสะอาด ซื่อสัตย์ ไม่ซื้อเสียง แต่คนส่วนใหญ่ไม่เลือก เพราะดันพากันไปเลือกพรรคที่ซื้อเสียง ด้วยเหตุนี้การเลือกตั้งจึงถูกกระบวนการลดทอนความสำคัญลง เพราะมันไม่ได้ทำให้ คนดี เข้ามาบริหารประเทศ ญาติผู้ใหญ่ผมเป็นคนใต้เยอะเหมือนกัน ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมท่านบ่อยๆ ก็ได้รับรู้มาว่าพรรคเก่าแก่ก็ซื้อเสียงเหมือนกัน ฉะนั้น ปัญหาสำคัญก็คือว่า1. ซื้อเสียงกันหมดแทบทุกพรรค แต่ทำไมโดนคดีอยู่แต่พรรคที่ไม่ใช่พรรคเก่าแก่?2. ภาคอีสาน-เหนือ พรรคเก่าแก่ก็มีซื้อเสียงเหมือนกัน แต่ทำไมคนก็ยังไม่เลือก (แพ้เลือกตั้งอยู่ดี)?ประเด็นที่หนึ่งเป็นหนึ่งใน ที่มา ของคนเสื้อแดงครับ แต่ประเด็นสองก็สำคัญครับ ทำไมคนบ้านนอกไม่เลือกพรรคคนหล่อล่ะ? คำตอบที่ผมพอจะให้ได้ ณ ที่นี้ก็คือ เพราะประวัติศาสตร์ (หรือ กรรม ในอดีต) มันไล่ล่าพรรคคนหล่อครับ ในอดีต สมัยนายหัวชวน ชาวบ้านเกษตรกรภาคอีสานไปชุมนุมหน้าทำเนียบฯ เพราะเดือดร้อนเรื่องปากท้อง แต่กลับถูกปฏิบัติด้วยการเอาสุนัขตำรวจไปไล่กัดเขา นั่นก็ดอกหนึ่ง พอตอนไล่ทักษิณก่อนเกิดรัฐประหาร 19 กันยา คนหล่อก็ออกไปเรียกร้อง ม.7 ก็เป็นอีกดอกหนึ่ง และพอหลังเกิดรปห. พรรคคนหล่อก็เงียบ เพราะได้ประโยชน์จากระบอบทหาร ก็เป็นอีกดอก และกรณีการขึ้นสู่อำนาจโดยการหนุนหลังของ เครือข่ายเสื้อเหลือง (กระบวนการยธ.-ทหาร-พธม.) และการที่คนหล่อไปกอดกับเนวิน ก็เป็นอีกดอกหนึ่ง ทั้งนี้ไม่นับการที่พรรคคนหล่อวิจารณ์นโยบาย ประชานิยม ของฝ่ายตรงข้ามมาตั้งแต่สมัยปี 47 แต่สุดท้ายตัวเองก็ก็อปมาแทบทั้งดุ้นตอนเลือกตั้ง 50 (แค่เปลี่ยนชื่อนิดหน่อยในหลายๆ โครงการ) สิ่งเหล่านี้มันทำให้ชาวบ้านจำนวนมาก เอือม และมองว่าพรรคคนหล่อ สะตอเบอรี่ น่ะครับสิ่งที่เล่ามาจนถึง ณ ตอนนี้ก็คือพยายามจะบอกว่า ใน sense ของคำว่าการข้ามพ้นทักษิณของเสื้อแดงนั้น ก็คือการข้ามพ้นในแง่การให้ความสำคัญที่ตัวบุคคลน่ะครับ ทำไมชาวบ้านเค้าจะไม่รู้ว่าใครโกงไม่โกง เผลอๆ เค้ารู้ดีกว่าเราด้วยซ้ำว่าพรรคเก่าแก่ทุ่มซื้อเสียงเยอะกว่าพรรคอื่นมากเท่าไหร่เมื่อตอนเลือกตั้ง 50 ในขณะที่คนกทม.ก็ยังมองพรรคเก่าแก่ว่าเป็นพระเอก ใสซื่อมือสะอาด แต่เนื่องจากพรรคของฝ่ายทักษิณทำให้พวกเขารู้สึกว่า การเลือกตั้งมีความหมาย เลือกผู้แทนระดับชาติแล้วเขาทำตามสัญญา นโยบายเป็นรูปธรรม พัฒนาคุณภาพชีวิตชาวบ้านได้มากกว่าที่เคยเป็นมาในยุครัฐบาลผสมในช่วงก่อนรัฐธรรมนูญปี 40 ฉะนั้น มองโดยผิวเผินก็จะเห็นว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเชียร์ทักษิณ แต่ลึกๆ แล้วเจตจำนงของคนเสื้อแดงโดยภาพรวมคือการพยายามยืนยันถึง ระบอบ ที่ประกันว่า สิทธิและความเป็นมนุษย์ของคนไทยควรจะเป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน และ หลักการ ว่าด้วยเรื่อง 1 คน 1 เสียง และความยุติธรรมในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอหน้ากันครับ ถ้าคนเสื้อแดงโดยภาพใหญ่ขึ้นอยู่กับทักษิณเพียงคนเดียว ก่อนคดียึดทรัพย์เค้าก็คงชุมนุมโวยวาย เผาบ้านเผาเมือง เพื่อสร้างเงื่อนไขให้เกิดรปห.แล้วครับ แต่นี่เขาเลื่อนชุมนุมออกไปเป็นช่วงหลังวันตัดสินคดี เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ (ทหาร) ที่จ้องจะปราบเขาทุกเมื่อผมได้เรียนรู้อย่างนึงว่า ประชาธิปไตยคือการอดทนกับความคิดเห็นที่แตกต่างครับ ตอนช่วงปี 47 ผมก็อินไปกับกระแสต่อต้านทักษิณครับ ผมซื้อหนังสือแนว รู้ทัน เยอะแยะ พอกลับบ้านที่อุบลฯ ผมก็เอาเอกสารแบบนี้ไปให้พ่อผมอ่าน (พ่อผมนิยมทักษิณ) ผมก็ถือว่า ความคิดคนเราเปลี่ยนยาก แต่มันเปลี่ยนได้ อาจใช้เวลานานหน่อย สุดท้าย ถ้าพ่อผมอ่านสิ่งที่ผมให้ไป แต่ยืนยันจะเลือกทักษิณเช่นเดิม ผมก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของพ่อครับ ไม่ใช่ว่า พ่อยังจะเลือกทักษิณอยู่อีกเหรอ งั้นขังพ่อไม่ให้ไปเลือกตั้งดีกว่า ที่เล่าให้ฟังก็เหมือนกับสภาพการเมืองไทยในช่ว 3-4 ปีที่ผ่านมานี่แหละครับ สิ่งที่ เครือข่ายเสื้อเหลือง กระทำมาตลอดนับตั้งแต่รปห. 49 จนถึงปัจจุบันก็เหมือนการที่ผม (ถ้าเป็นเสื้อเหลือง) ไปกักขังพ่อไม่ให้ออกไปเลือกตั้ง เพียงเพราะกลัว (หรือรู้ว่า) พ่อจะเลือกทักษิณนั่นแหละครับสำหรับผม การเมืองไทยจะตัดวงจรอุบาทว์ได้ในเบื้องต้นก็คือ การที่ทุกฝ่ายต้องเข้าใจและอดทนกับความไม่สมบูรณ์แบบ (imperfection) ของระบอบประชาธิปไตยและการเลือกตั้งครับ ยอมรับว่าคนเรามีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกัน ความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ เขาไม่เลือกคนหรือพรรคที่เรานิยมชมชอบก็ต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยเราทำหน้าที่ watchdog และผู้วิจารณ์ที่อดทนอดกลั้น จนกว่าคนส่วนใหญ่เหล่านั้นจะคล้อยตามข้อมูลที่เรานำเสนอ ส่วนพรรคการเมือง (เช่นพรรคเก่าแก่) ก็ต้องนำเสนอนโยบายที่ชนะใจประชาชน (และทำได้จริงๆ) ให้ได้ คนเราจะทำให้คนอื่นมารักใคร่ชอบพอเราต้องทำตัวเองให้ดีให้เขามารัก ไม่ใช่ไปกำจัดคนที่เขารัก เพื่อให้เขามารักเรา ตรรกะการคิดแบบหลังนี้จะเห็นว่า มันไม่เวิร์คทั้งในชีวิตคนระดับปัจเจก และในทางการเมืองครับ สื่อมวลชนไทยก็มีบทบาทสำคัญโดยสามารถทำหน้าที่ educate สังคมโดยรวมให้มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน จะยกย่องเชิดชูหรือวิพากษ์วิจารณ์ใครก็ต้องมีความเป็นกลาง หากหลังเลือกตั้ง พธม. ยังออกมาสร้างความวุ่นวายก็ต้องสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาให้สังคมรู้ว่า พฤติกรรมพันธมิตรฯ เป็นเช่นไร การชุมนุมเป็นไปโดย สันติ-อหิงสา จริงหรือไม่ เหตุผลในการชุมนุมมีความชอบธรรมมากน้อยเพียงใด ในเมื่อรัฐบาลที่อยู่ในตำแหน่งนั่นมาจากการเลือกตั้ง ประเด็นข้อกล่าวหาจะต้องได้รับการถกเถียงและให้น้ำหนักอย่างรอบด้าน เช่นกรณีล่าสุด โฆษก ปชป. ออกมาระบุว่า มีการจ้างรถปิคอัพ-คนเชียร์จัดตั้งในกทม. มาสร้างกระแสว่าคนกทม.เห็นด้วยกับการชุมนุม() เป็นตัวอย่างหนึ่งของการให้ข้อมูลในลักษณะข่าวลือเพื่อดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม หากสื่อนำเสนอข่าวนี้ ก็ควรจะมีการติดตามด้วยว่า มีหลักฐานหรือไม่ แหล่งข่าวของฝ่าย ปชป. เป็นใคร มีตัวตนจริงหรือเปล่า ฯลฯ รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มอำนาจต่างๆ ในการเมืองไทย สื่อควรทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา มิใช่เลือกปฏิบัติดังเช่นทุกวันนี้
ปกติผมเป็นแฟนประชาไทตัวจริงครับ เปิดคอมพิวเตอร์ทีไร สองเว็บแรกที่จะต้องเปิดดูก่อนเลยก็คือเว็บประชาไท กับเฟซบุค เวลามีบทความไหนเนื้อหาถูกใจ หรือผมเห็นว่าน่าเผยแพร่
การเมือง
เด็กอุบลฯ ในต่างแดน
https://prachatai.com/journal/2010/03/28538
ใบเฟิร์น ถ่ายโฆษณาบรา ท็อป เห็นจะเป็นลม เจ้าตัวยอมรับอาย
ทำให้โลกตะลึงได้ เมื่อเห็นภาพโฆษณาบราเซียแบรนด์ดังของนางเอกสาว ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ใส่ยกทรงโชว์ความเซ็กซี่อย่างที่ไม่คาดคิดว่านางเอกสาวหน้าใสๆจะกล้าบ้าบิ่นได้ขนาดนี้ อยากรู้เหมือนกันว่าคิดอะไรอยู่? แล้วแฟนหนุ่มอย่าง ท็อป-จรณ ล่ะรู้สึกอย่างไร? อีกทั้งเพิ่งจะผ่านพ้นวันเกิดของสาว ใบเฟิร์น ไปไม่กี่วันนี้เอง เห็น ท็อป ส่งเค้กมาเซอร์ไพรส์ด้วย หลายเรื่องราวขอเคลียร์รวดเดียวในงาน GDH× นาดาว Party,ใบเฟิร์นพูดถึงวันเกิดที่เพิ่งผ่านมาก่อน,อายุ 26 ปีแล้วค่ะ มีของขวัญส่งมาให้ถึงบ้าน ก็มีทั้งของเพื่อนและของพี่ท็อป แล้วก็ไปร้านคาราโอเกะกัน เซอร์ไพรส์ทั้งหมด ช่วงแรกที่สนามบินไปถ่ายหนังที่ต่างประเทศกลับมา แฟนคลับมารอเซอร์ไพรส์ จากนั้นก็เป็นเพื่อนๆและก็พี่ท็อป,คนมองว่าเค้กที่ท็อปเอามาให้เหมือนเค้กแต่งงานเลย? ,เพิ่งเห็นว่าเป็นเค้ก 2-3 ชั้น เป็นเรื่องราวที่เราไปเที่ยวสวนสัตว์,มีของพิเศษอะไรให้อีกมั้ย?,มีของเล็กๆน้อยๆที่พี่เค้าทำให้มันก็ดีใจ,เฟิร์นอยากให้ของขวัญอะไรกับตัวเองบ้าง?,ขอให้ผลงานทุกเรื่องที่ทำอยู่ปังๆ สาธุ ไม่มีของขวัญให้ตัวเอง เพราะไม่ได้อยากได้อะไร,ท็อปอวยพรอะไรพิเศษมั้ย?,อวยพรเรื่องงาน และยินดีกับทุกความสำเร็จของเฟิร์น,เห็นโฆษณาเสื้อชั้นใน คนก็สังเกตว่าทำไมถึง ดูมๆ ขนาดนั้น?,เพราะว่าเป็นฟองดูมลิขสิทธิ์จากซาบีน่า,ก็มีคนสงสัยว่าเราไปทำอัปอึ๋ม?,พูดเลยว่าไม่อัปไม่ฉีด ดูว่าแท้ต้องเนินอกชัด ขายให้สุด ถามว่าเขินมั้ย ถ้ามีคนแซวนะ คือไม่ต้องมีคนแซวแค่เห็นเองก็ยังเขินแล้ว แต่ว่าก็คุยกับพ่อแม่คุยกับผู้จัดการแล้ว,ต่อไปจะมีงานเซ็กซี่เข้ามาอีกมั้ย?,เฟิร์นรับโดยตัวงานโฆษณา แต่โดยปกติไม่ได้จะเปลี่ยนมาเป็นเซ็กซี่ เพราะว่าหนูไม่ใช่คนอินเนอร์เซ็กซี่ ถ้าเป็นโอกาสเป็นจังหวะที่ดีค่อยว่ากัน,เห็นโฆษณาออกมาแล้วเราชอบมั้ย?,ความเกรียนมันคล้ายๆ เฟิร์น แต่ถามว่าเป็นคนเซ็กซี่ เฟิร์นไม่ใช่คนเซ็กซี่, ท็อปว่ายังไงบ้าง?,พี่ท็อปบอกว่าเวลาเดินผ่านก็จะเป็นลมเบาๆ ไม่กล้าถามว่าเห็นแล้วเป็นยังไง,เค้ามีห้ามมั้ย?,ไม่เคยคุยเรื่องงานกันเลย จะไปคุยกับผู้จัดการมากกว่า เค้าไม่ได้ห่วง มีแต่แซวว่าเป็นลมเบาๆ,ก่อนที่โฆษณาจะออกเค้ารู้มั้ยว่ามันจะขนาดนี้?,ไม่รู้อะไรเลย เวลาทำงานคนที่ไปคุยรายละเอียด มีแค่ตัวเฟิร์น คุณพ่อคุณแม่ และผู้จัดการ.
ทำให้โลกตะลึงได้! เมื่อเห็นภาพโฆษณาบราเซียแบรนด์ดังของนางเอกสาว ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ใส่ยกทรงโชว์ความเซ็กซี่อย่างที่ไม่คาดคิดว่านางเอกสาวหน้าใสๆจะกล้าบ้าบิ่นได้ขนาดนี้
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์,ท็อป จรณ,ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ชุดชั้นใน,ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก,ใบเฟิร์น ท็อป จรณ,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1397204
สเปนผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ หลังจากชนะจุดโทษ โปรตุเกส
ที่สนาม ดอนบาส อารีน่า ในประเทศ ยูเครนทีม สเปน แชมป์เก่า พบกับ โปรตุเกส โดย สเปน เปลี่ยนเทคติกการเล่นด้วยการส่ง อัลบาโร่ เนเกรโด้ ลงเป็นกองหน้า หลังจากที่รอบที่ผ่านมาใช้ เชส ฟาเบรกาส ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนทางฝั่ง โปรตุเกส ใช้ ฮูโก้ อัลเมด้า เป็นกองหน้าแทน เฮลเดอร์ โปสติก้า ที่เจ็บเกมทั้ง 90 นาที ทั้งคู่สู้กันสูสี แต่ไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที แต่ก็ไม่มีผู้ชนะ ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ คนแรก ของ สเปน เป็น ซาบี้ อลองโซ่ ที่ยิงไม่เข้า ส่วน คนแรกของ โปรตุเกส เป็น เจา มูตินโญ่ ที่ยิงไม่เข้าคนที่ 2 ของสเปน เป็น อันเดรียส อิเนสต้า ที่ยิงเข้า สเปน นำ 1-0 ส่วน โปรตุเกส เป็น เปเป้ ที่ยิงเข้าไป ตามมาเป็น 1-1คนที่ 3 ของสเปน เป็น เค-ราด ปีเก้ ยิงเข้าไปนำ 2-1 และคนที่ 3 ของโปรตุเกส คือ นานี่ ยิงตีเสมอ 2-2คนที่ 4 ของ สเปน เป็น เซอร์คิโอ้ รามอส ยิงเข้า สเปน นำ 3-2 ขณะที่ บรูโน่ อัลเวส ของ โปรตุเกส ยิงไม่เข้าทำให้ คนที่ 5 ของ สเปน คือ เชส ฟาเบรกลาส ยิงเข้าทีมจะชนะทันที และ ฟาเบรกลาส ก็ไม่พลาด ยิงให้สเปน ชนะไป 4-2 โดย เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ฟาเบรกลาส ก็เป็นคนยิงจุดโทษ คนสุดท้าย ช่วยให้ สเปน ชนะ อิตาลี ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดย สเปน จะเข้าไปยืนรอพบผู้ชนะ ระหว่าง เยอรมนี และ อิตาลี ที่จะทำการแข่งขันกันในคืนนี้ (28 มิ.ย.)
ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบรองชนะเลิศ คู่แรกสเปน แชมป์เก่า ผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ หลังจากที่เป็นฝ่ายดวลจุดโทษชนะ โปรตุเกส หลังจากที่ 120 นาที จบไปแบบไม่มีผู้ชนะ
ต่างประเทศ
2012,จุดโทษ,ฟุตบอล,ยูโร,สเปน,โปรตุเกส
https://news.thaipbs.or.th/content/94269
กสทช.ยันทรูจ่ายเงินประมูลคลื่น 900 MHz ภายใน ก.พ.นี้-แจส โมบาย ยังนิ่ง
วันนี้ (9 ก.พ.2559) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ซึ่งเป็น 1 ใน 2 บริษัทที่ชนะประมูล 4 จี คลื่นความถี่ 900 MHz ว่าจะขอชำระค่าประมูล 4 จี งวดแรก มูลค่า 8040 ล้านบาท พร้อมกับหนังสือรับรองทางการเงินที่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (แบงก์การันตี) ภายในเดือน ก.พ.นี้ แต่ยังไม่แจ้งว่าวันไหน ส่วนบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ ยังไม่มีการติดต่อเข้ามา แต่มั่นใจว่าทั้ง 2 บริษัทจะมาจ่ายภายในวันที่ 21 มี.ค.นี้ก่อนหน้านี้ กลุ่มทรูประกาศเพิ่มทุน 60000 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาชำระในงวดแรก และมีหนังสือค้ำประกันทางการเงิน 73000 ล้านบาท โดยมีธนาคาร 5 ราย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย กรุงไทย ไทยพาณิชย์ และธนาคารไอซีบีซี ออกหนังสือค้ำประกันในวงเงินที่เท่ากันรายละ 14600 ล้านบาท
เลขาธิการ กสทช.เผย ทรู เตรียมจ่ายเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz งวดแรก มูลค่า 8040 ล้านบาท ภายในเดือน ก.พ.นี้ ส่วน แจส โมบาย ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามา
เศรษฐกิจ
กสทช.,ทรู,ประมูล,คลื่นความถี่,แจส โมบาย,ค่าประมูล
https://news.thaipbs.or.th/content/250051
ทำทีเป็นนักท่องเที่ยว พ่อค้ายา พาเมียท้องแก่ ลูก 5 ขวบ บังหน้า
เมื่อเวลา 18.00 น. ต่อเนื่องถึงเที่ยงคืนวันที่ 8 พ.ค. เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ หรือ ชุดตะวัน และชุดปราบปรามยาเสพติดภาค 9 นำโดย พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สส.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.ปรีชา พันดร หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 9 ส่งสายล่อซื้อไอซ์ และจู่โจมเข้าจับกุม นายกฤษณะ มีวงศ์ หรือ แม็ก อายุ 28 ปี ภายในห้องพัก 302 ของโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่,ทั้งนี้ นายแม็ก เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาในคดียาเสพติด และเป็นหนึ่งในเอเย่นต์ค้ายาเสพติดใน อ.หาดใหญ่ หลังจากที่มาเปิดห้องพักเพื่อซ่อนตัวและค้ายาเสพติด โดยขณะเข้าตรวจค้นได้นำภรรยาที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอด และลูกสาววัย 5 ขวบ มาพักอยู่ภายในห้องด้วย ทำว่าพาครอบครัวมาพักผ่อนเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ,จากการตรวจค้นในห้องพัก พบไอซ์ 13 ถุง น้ำหนักรวม 9.92 กรัม อุปกรณ์การเสพยาไอซ์ 1 ชุด และระหว่างถูกจับกุม นายกฤษณะ ถึงกับหลั่งน้ำตาร่ำไห้ เพราะสงสารลูกเมียและสำนึกผิด แต่ก็สายเกินไป,สอบสวน นายกฤษณะ รับว่าทำเพียงคนเดียว ภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายา โดยสั่งซื้อมาจากเพื่อนชื่อโอ๋ ครั้งละ 60-100 กรัม แล้วนำมาแบ่งขายต่อให้กับลูกค้า ถุงละ 200 บาท 300 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายกฤษณะ ไปตรวจค้นที่บ้านพักภายในซอย 6 ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 2 อ.หาดใหญ่,ปรากฏว่าระหว่างนั้น ได้มี นายศักดา หรือ อี๊ด แซ่ตั้น ได้เดินมาเคาะประตูบ้านพัก ตำรวจจึงได้เข้าควบคุมตัวและตรวจค้น พบยาไอซ์อีก 2 ถุง น้ำหนัก 5 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสตางค์ สอบสวนสารภาพว่านำไอซ์ จำนวน 5 กรัม มาคืนให้กับนายกฤษณะ เพราะเป็นยาคุณภาพต่ำ เสพแล้วหลับ ลูกค้าไม่ชอบ ,เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหาทั้งสองคนมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวน และจะเร่งขยายผลไปยังเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ต่อไป
ตำรวจจู่โจมจับพ่อค้ายาคาโรงแรมที่หาดใหญ่ ตะลึง พาเมียท้องแก่กับลูกสาวมาพัก ทำให้เหมือนนักท่องเที่ยว ลูกค้าซวยเอายาไอซ์มาคืน อ้างเกรดต่ำ เสพแล้วหลับ เลยโดนรวบเข้าซังเตไปด้วยกัน
ข่าว,ทั่วไทย
จับพ่อค้ายาบ้า,จับคาโรงแรม,เอาเมียมาบังหน้า,พ่อค้ายาเสพติด,หาดใหญ่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1275896
เตือนภัย นศ.สาวเมืองคอนเจอโรคจิตสำเร็จความใคร่ กลางวันแสกๆ (ชมคลิป)
ผู้ใช้ชื่อว่า Thipphaphorn Koii เป็นคลิปที่มีความยาว 42 วินาที เป็นภาพขณะที่ชายคนหนึ่ง นั่งสำเร็จความใคร่ สลับกับมองไปทางผู้หญิงที่แอบถ่ายคลิป โดยเหตุเกิดบนที่นั่งในศาลาริมทาง ผู้โพสต์ระบุข้อความว่า #พิกัด ศาลาหน้า ม.ไสใหญ่ ระวังตัวกันด้วยนะสาวๆ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่มีชาวเฟซบุ๊กเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่แสดงอาการด่าทอถึงพฤติกรรมชายคนดังกล่าวที่มีพฤติกรรมแบบคนโรคจิตด้วยการสำเร็จความใคร่ในที่สาธารณะและกลางวันแสกๆ,ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ใช้เฟซบุ๊กที่โพสต์คลิป เป็นนักศึกษาหญิง ชั้นปีที่ 4 สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (เกษตรไสใหญ่) ตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังเที่ยงวันของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ขณะเจ้าของคลิปไปนั่งรอเพื่อน และเกิดขึ้นต่อหน้าเพื่อนนักศึกษาหญิงอีก 4 คน โดยผู้ก่อเหตุขี่รถไปจอดด้านหน้าศาลาที่พักริมทาง ก่อนทำอนาจาร และหญิงสาวรวบรวมความกล้าแอบถ่ายคลิปไว้ ส่วนผู้ก่อเหตุได้ขี่รถหลบหนีไป หลังแม่ค้าน้ำอ้อยบริเวณนั้นไปแจ้ง รปภ.ของมหาวิทยาลัย และจากการสอบถามทราบว่าเป็นการกระทำครั้งที่ 4 ภายในวันเดียวกัน,ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบบริเวณศาลาที่พักผู้โดยสารที่เกิดเหตุ พบว่า อยู่ฝั่งติดกับมหาวิทยาลัย โดยติดกับทางแยกเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง และเป็นจุดรอรถโดยสาร ส่วนใหญ่ผู้ที่ใช้จะเป็นนักศึกษาที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยใกล้กับศาลาดังกล่าว,สำหรับจุดเกิดเหตุ เคยมีป้อมยามตำรวจ แต่ถูกรื้อออกไปช่วงปลายปี 2558 เนื่องจากการขยายถนน นักศึกษาหญิงจึงฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหมั่นไปตรวจตรา และถ้าเป็นไปได้ ก็ขอให้ตั้งป้อมยามตำรวจใหม่อีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
นักศึกษาหญิงโพสต์คลิปประจานเตือนภัยให้ระมัดระวัง หลังพบหนุ่มโรคจิตสำเร็จความใคร่ต่อหน้าผู้หญิง กลางวันแสกๆ
null
โรคจิต,สำเร็จความใคร่,ช่วยตัวเอง,นักศึกษาสาว,เตือนภัย
https://www.thairath.co.th/content/870676
ฝายวังยางกาฬสินธุ์ ยังปล่อยน้ำออกวันละ 40 ล้าน ลบ.ม.
เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2559 จากการติดตามสถานการณ์น้ำตามลำชี ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่าช่วงนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงเฉลี่ยวันละ 5 เซนติเมตร เนื่องจากทางเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่นได้ลดการระบายน้ำลงจึงทำให้ระดับน้ำในลำน้ำชีเริ่มลดระดับลง แต่ปริมาณน้ำยังสูงและกระแสน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้ฝายวังยาง ตำบลลำชี อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังคงแขวนประตูระบายน้ำทั้ง 6 บานเพื่อให้น้ำไหลสะดวกขึ้น,นายพัฒนะ พลศรี หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 (เขื่อนวังยาง) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในลำน้ำชีในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เริ่มลดระดับลงแล้ว วันนี้ พบว่าระดับน้ำลดลงประมาณ 5 เซนติเมตร แต่ปริมาณน้ำยังถือว่าสูงอยู่และยังมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว ทางฝายวังยาง ยังคงทำการแขวนประตูระบายน้ำขึ้นทั้ง 6 บาน เพื่อให้น้ำไหลผ่านสะดวกไม่ให้น้ำเอ่อสูงขึ้น ซึ่งมีน้ำไหลผ่านประมาณ 473 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยมีระดับน้ำหน้าเขื่อนและท้ายเขื่อนประมาณ 137 ม.รทก.โดยทางฝายวังยางจะยังคงระบายน้ำให้ไหลผ่านไปจนกว่าสถานการณ์น้ำจะกลับมาปกติ จึงจะเริ่มปิดประตูระบายน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งปีหน้า โดยทางฝายวังยางยังอยากให้ประชาชนเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ตลอดเวลา
ฝายวังยางกาฬสินธุ์ ยังคงแขวนประตูระบายน้ำขึ้นทั้ง 6 บาน ปล่อยน้ำออก วันละ 40 ล้าน ลบ.ม. จนกว่าสถานการณ์ปกติ แนะ ปชช. ติดตามสถานการณ์ รับมือตลอดเวลา
null
ฝายวังยาง,กาฬสินธุ์,ระบายน้ำ,ประตูระบายน้ำ,ลำน้ำชี
https://www.thairath.co.th/content/794402
รมว.การต่างประเทศเล็งพิจารณาเชิญ ทูตอังกฤษ คุย หลังทวิตเหตุจับนศ.ไปราชภักดิ์
พร้อมแสดงความเห็นว่า เข้าใจว่าการที่คน 200 คนสามารถประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ได้จะหมายถึงการเริ่มมีเสรีภาพในการชุมนุมเสียอีก ()วันนี้ (8 ธ.ค.58) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลใช้เจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยกับทุกฝ่ายเท่าเทียมกัน การดำเนินการเพื่อป้องกันผิดตรงไหน ไม่ใช่ตนจะปล่อยไปเฉยๆ และยืนยันว่าไม่ได้สองมาตรฐานในการใช้มาตรการกับผู้ชุมนุม เป็นการคิดกันไปเอง รัฐบาลทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความสงบ ไม่ขัดแย้ง และไม่เสียเลือดเนื้อ อย่างไรก็ตามคงต้องให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ชี้แจงวันเดียวกัน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) กรณีที่นิตยสารไทม์ส วิพากษ์วิจารณ์ว่าไทยมีมาตรการ 2 มาตรฐานต่อเรื่องสิทธิเสรีภาพ ว่า ที่ประชุมครม.ไม่ได้มีการพูดกันเรื่องนี้โดยตรง แต่พอเห็นว่าต่างประเทศกำลังโยงบางเรื่อง เช่น มีการโยงเรื่องที่นักศึกษาเดินทางด้วยรถไฟยังไปอุทยานราชภักดิ์เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา และเรื่องการประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน โดยเรื่องที่นักศึกษาเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์นั้น มีผลสะท้อนต่อการเมืองภายในอย่างชัดเจน ไม่ใช่เรื่องการแสดงความรักของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จึงไม่อยากจะพูดว่าเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นคนละเรื่อง จึงไม่สามารถนำมาโยงกันได้ ขออย่าไปโยงว่าฝ่ายนักศึกษาไม่มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก เพราะมีนัยยะในการสร้างปัญหาทางการเมืองนายดอน ยังกล่าวถึงการที่นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ที่เขียนข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยนำกรณีที่ทหารจับกุมนักศึกษาที่กำลังเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ ไปเปรียบเทียบกับการชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ถึง 200 คน ว่า ต้องขอดูรายละเอียดและพิจารณาก่อนว่าจะมีการเชิญมาพูดคุยกันหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีความเห็นหลายทาง อย่างไรก็ตาม ปัญหาของบ้านเมืองขณะนี้ต้องทำให้เกิดความสงบ ซึ่งรัฐบาลพยายามทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและมีความสุข เมื่อถามว่านายกฯได้ฝากเรื่องการแสดงความคิดเห็นของทูตประเทศต่างๆ หรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถาม ซึ่งตนอธิบายไป ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้หารือกับคณะเอกอัครราชทูตจากสหภาพยุโรปแล้ว โดยตนได้อธิบายในประเด็นเหล่านี้ซึ่งเขามีความพอใจ
จากกรณีที่ มาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยได้รีทวีตข้อความของ นิรมล โฆษ ผู้สื่อข่าวสเตรทไทม์ที่ระบุว่ารัฐบาลทหารได้กันไม่ให้นักกิจกรรมนักศึกษาเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์
การเมือง
2 มาตรฐาน,ดอน ปรมัตถ์วินัย,ทวิตเตอร์,ทูตอังกฤษ,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,มาร์ค เคนท์,อุทยานราชภักดิ์,เสรีภาพในการชุมนุม
https://prachatai.com/journal/2015/12/62848
รวบดาบมารถ มือฆ่าทอมโบกปูนฝังดิน ไม่น่าเชื่อ โดนจับใบขับขี่
อดีตนายดาบตำรวจ สภ.เมืองกาญจน์ ดาบมารถ ผู้ต้องหาคดีร่วมอดีตผกก.บ้านโป่ง อุ้มฆ่า สาวทอม โบกปูนฝังดินเมื่อปี 60 ขับรถเก๋งผ่านด่านไม่มีใบขับขี่ ค้นเจอทั้งปืน กระสุน ยาไอซ์ ยาบ้า เลยเกม เผยเป็นคนลงมือฆ่า ,วันที่ 30 ม.ค. ความหน้ากรณี ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ตั้งด่านตรวจ สามารถจับกุม นายสามารถ แสงสิน หรือ ดาบมารถ อายุ 52 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ที่ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ก่อเหตุฆ่าหมายจับในคดีร่วมกับพวกลักพาตัวและฆ่าโบกปูนฝังดิน น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง อายุ 28 ปี สาวทอม หน้าตาดีในท้องที่ สน.หนองค้างพลู,ทั้งนี้ นายสามารถ ได้ขับรถเก๋ง ซูซูกิ สีขาว เลขทะเบียน กธ 4431 สุพรรณบุรี ผ่านมาที่ด่านตรวจจึงเรียกสอบถามและทำการตรวจสอบพบไม่มีใบขับขี่ เมื่อตรวจค้นรถ พบ 1. อาวุธปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ จำนวน 1 กระบอก 2. เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ 15 นัด 3. ยาไอซ์ 3 ถุง น้ำหนักรวม 29.98 กรัม และ 4. ยาบ้าจำนวน 7 เม็ด อยู่ในรถ จึงจับกุม นำตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองกาญจนบุรี และตรวจปัสสาวะพบมีสีม่วง ,ล่าสุด เวลา 14.00 น. วันที่ 30 ม.ค. พ.ต.ท.อดิศร แก้วโหมดตาด รอง ผกก.(สอบสวน) สน.หนองค้างพลู ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้เดินทางมาสอบปากคำนายสามารถ แสงสิน เพิ่มเติม ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี โดยเมื่อมาถึง พ.ต.ท.อดิศร พร้อมเจ้าหน้าที่ สน.ห้วยค้างพลู ได้เข้าไปพบนายสามารถ ภายในห้องฝากขัง จากนั้นได้พิมพ์ลายนิ้วมือ พร้อมถ่ายภาพเอาไว้เพื่อทำประวัติอาชญากรรม โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จและใส่เครื่องพันธนาการเอาไว้ นำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมภายในห้องพนักสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพแต่อย่างใด ระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำตัวนายสามารถออกมาจากห้องฝากขัง พบว่านายสามารถ หรือ ดาบมารถ มีสีหน้าที่เรียบเฉย ,หลังจากนั้น พ.ต.ท.อดิศร ได้แสดงหมายจับ สอบปากคำเพิ่มเติม จและแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายสามารถในข้อหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน โดยเบื้องต้น นายสามารถให้การปฏิเสธเกี่ยวกับคดีทั้งหมด,มีรายงานข่าวว่า ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ สน.หนองค้างพลูตามหมายจับศาลตลิ่งชัน นายสามารถจะต้องถูกดำเนินคดี ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรีก่อน ,สำหรับ ดาบมารถ หรือ นายสามารถ แสงสิน อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 199/9 ม.9 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เป็นบุคคลมีหมายจับในคดีที่ร่วมกับพวกลักพาตัวและฆ่าฝังดิน น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง อายุ 28 ปี สาวทอมหน้าตาดี ที่ไปติดพันกับสาวคนสนิทของอดีตผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จนถูกคำสั่งอุ้มนำมาฆ่าฝังดินในรีสอร์ตร้าง อ.เมืองกาญจนบุรี,คดีนี้ ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว อดีตผกก.สภ.บ้านโป่ง พร้อมสาวคนสนิท รวมถึงทีมฆ่าได้เกือบยกทีมแล้ว ซึ่งนายสามารถ แสงสิน เป็นผู้ที่ถูกเพื่อนร่วมขบวนการซัดทอดว่าเป็นคนลงมือฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ ก่อนนำศพไปฝังดินและโบกปูนทับที่รีสอร์ตร้างใน จ.กาญจนบุรี เป็นคดีดังเมื่อช่วงต้นปี 2560 
อดีตนายดาบตำรวจ สภ.เมืองกาญจน์ ดาบมารถผู้ต้องหาคดีร่วมอดีตผกก.บ้านโป่ง อุ้มฆ่าสาวทอมโบกปูนฝังดินเมื่อปี 60 ขับรถเก๋งผ่านด่านไม่มีใบขับขี่ ค้นเจอทั้งปืน กระสุน ยาไอซ์ ยาบ้า เลยเกม
ข่าว,ทั่วไทย
ฆ่าสาวทอม,ฆ่าฝังดิน,คดีฆ่าสาวทอม,ฆ่าโบกปูนฝังดิน,สามารถ แสงสิน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1483836
สมคิด สั่งพลังงานเดินหน้าเต็มพิกัดช่วยผู้มีรายได้น้อย
วันนี้ (15 ส.ค.2562) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ได้เดินทางมามอบนโยบายที่กระทรวงพลังงาน โดยระบุถึงแผนพลังงาน 20 ปี เช่น กรณีแผนพัฒนาไฟฟ้า (PDP) ก็ต้องมีความยืดหยุ่นจากกรณีพลังงานทดแทนมีบทบาทมากขึ้น แต่ต้องคำนึงถึงความมั่นคง และในกรณีผลกระทบทางเศรษฐกิจก็อยากให้รัฐวิสาหกิจทั้ง ปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีเงิน 30000 ล้านบาท มาช่วยลดค่าครองชีพประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้อย่างไร เพราะช่วงราคาน้ำมันลดลงกองทุนฯ คงจะอุดหนุนลดลงกองทุนฯ มีกว่า 30000 ล้านบาทไปฝากดอกเบี้ยต่ำคงไม่มีประโยชน์นอกจากนี้ นายสมคิดยังสั่งการให้ กลุ่ม ปตท.เดินหน้านโยบายรัฐบาลในการดำเนินโครงการปุ๋ยสั่งตัดช่วยเหลือเกษตรกรด้วย ซึ่งหาก ปตท.ไม่เชี่ยวชาญ ก็ควรเชิญนักลงทุนหรือผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศมาร่วมทุนหรือร่วมดำเนินการ กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการแย่งตลาดปุ๋ยจากเอกชน เพราะเน้นปุ๋ยสูตรที่จำเป็นเพื่อลดต้นทุนเกษตรกรเท่านั้น รวมทั้งให้ทำห้องเย็น เก็บผลไม้ทั้งที่ภาคใต้ และภาคตะวันออกให้ยาวนานเพื่อลดปัญหาราคาตกต่ำด้านนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท.กำลังวางแผนทำทั้ง 2 เรื่อง แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำให้เบ็ดเสร็จ หากสร้างห้องเย็นแล้วไม่มีช่องทางจำหน่ายในอนาคตจะทำอย่างไร ส่วนปุ๋ยสั่งตัดขณะนี้ก็กำลังทดลองหลายพื้นที่ และใช้ผลพลอยได้จากปิโตรเคมีในกลุ่ม ปตท.มาผลิตและจะใช้เอนไซม์ หรือส่วนผสมอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยร่วมมือกับกรมที่ดินในการพัฒนาปุ๋ยสั่งตัดให้เหมาะสมกับพื้นที่ด้วย
รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจสั่งกระทรวงพลังงานวางแผนช่วยลดค่าครองชีพประชาชนต่อเนื่อง สั่ง ปตท.เดินหน้าโครงการปุ๋ยสั่งตัดช่วยเหลือเกษตรกร
เศรษฐกิจ
สมคิด,พลังงาน,แผนพีดีพี,ปตท.,กฟผ.
https://news.thaipbs.or.th/content/282933
น้ำท่วมภาคเหนือ ส่วนภาคอีสานวิกฤตภัยแล้ง
ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เข้าตรวจสอบความเสียหายภายใน หมู่บ้านสัก บ้านปง และบ้านปงหลวง ตำบลบ้านเอื้อม อำเภอเมืองลำปาง หลังจากน้ำป่าจากห้วยแม่เฟือง ที่ไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน ส่งผลให้สะพานระหว่างหมู่บ้านถูกกระแสน้ำกัดเซาะขาด ถนนเสียหายบางส่วน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เพราะเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่นที่ไกลกว่าเดิมแทน ส่วนพื้นที่ ตำบลบ้านค่า ยังมีน้ำป่าจากภูเขาไหลข้ามถนนสายลำปาง-เมืองปาน เข้าท่วมบ้าน กว่า 30 หลัง ภายในหมู่บ้านสบค่อม และ บ้านใหม่รุ่งเจริญ ทำให้ทรัพย์สินของชาวบ้านเสียหายจำนวนมากส่วนที่จังหวัดอุตรดิตถ์ แม้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอลับแล จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่น้ำที่ยังท่วมขังนาข้าวกว่า 2000 ไร่ ทำให้ชาวนาเกรงว่า หากยังมีฝนตกต่อเนื่อง อาจทำให้ผลผลิตที่เพิ่งลงมือปลูกเพียงหนึ่งเดือน เสียหายทั้งหมดขณะที่ชาวนาในตำบลขามสะแกแสง อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา ยังคงประสบปัญหาภัยแล้ง จากภาวะฝนทิ้งช่วงมานานเกือบ 3 เดือน ทำให้เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอขามสะแกแสง ต้องออกสำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือเกษตรกร โดยพบว่ามีนาข้าวได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้วกว่า 5 หมื่นไร่ จากพื้นที่ปลูกข้าวนาปีทั้งหมดประมาณ 100000 ไร่ขณะที่ เจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาค สาขาเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องนำรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายให้กับประชาชน หลังฝนที่ทิ้งช่วงนานหลายเดือน ทำให้น้ำในพรุกระจูด ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำหลักในการผลิตประปาของเกาะ เริ่มแห้งขอด จนทำให้การประปาต้องลดปริมาณการจ่ายน้ำลง เหลือเพียงวันละ 19000 ลูกบาศก์ลิตร จากความต้องการใช้น้ำที่ประมาณ 20000 ลูกบาศก์ลิตรต่อวัน
สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดนครราชสีมายังคงวิกฤต จากภาวะฝนทิ้งช่วงมานานเกือบ 3 เดือน ขณะที่น้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนในจังหวัดลำปาง ทำให้สะพานระหว่างหมู่บ้านถูกกระแสน้ำกัดเซาะขาด
ภูมิภาค
น้ำท่วม,ฝนตก,ภาคอีสาน,ภาคเหนือ,แล้ง
https://news.thaipbs.or.th/content/107729
ชบาแก้วซ้อมเข้มก่อนบู๊ โค้ชก้าง ชี้ต้องป้องกันแชมป์ให้ได้
วันที่ 26 ส.ค.62 ความเคลื่อนไหวของฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งมีคิวลงฟาดแข้งในเกมนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2019 พบกับทีมชาติเวียดนาม ในวันอังคารที่ 27 สิงหาคมนี้,โดยล่าสุด โค้ชก้าง นฤพล แก่นสน หัวหน้าผู้ฝึกสอน ได้นำลูกทีมลงซ้อมอย่างต่อเนื่อง โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ โดยเน้นไปที่การฟื้นฟูสภาพร่างกาย และปิดท้ายด้วยการยิงจุดโทษ,หลังการซ้อม เฮดโค้ชทัพชบาแก้วเผยว่า แน่นอนว่า เมื่อวานเราล้ามากจากเกมรอบรองฯ เพราะว่าทีมชาติเมียนมาวิ่งใส่แล้วโต้กลับ เมื่อวานเราเองก็เสียบอลค่อนข้างเยอะ ดังนั้นในวันนี้ทำได้เพียงแค่ฟื้นฟูร่างกาย เพื่อให้ในวันพรุ่งนี้ทุกคนมีความสมบูรณ์มากที่สุด,ด้านนายกสมาคมฯ ท่านมีรางวัลให้แน่นอน แต่ว่าจะเท่าไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับท่าน นักเตะเท่าที่คุยทุกคนไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้ เวลาที่เขาลงสนามมันคือศักดิ์ศรีของตัวเขาเอง ศักดิ์ศรีของประเทศชาติที่ได้ไปฟุตบอลโลก ไม่ต้องห่วงเรื่องของหัวใจพวกเขาทำเต็มที่อยู่เเล้ว,เวียดนามเขามีวิธีการเล่นที่ชัดเจนอยู่แล้ว ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบสุดท้าย ความเป็นทีมเวิร์กของเขาดี แล้วรวมตัวฝึกซ้อมกันค่อนข้างนานเราก็เห็น แต่ในวันพรุ่งนี้ เราจะทำให้ดีที่สุดเราเล่นในบ้าน ผลจะออกมายังไงถ้าทุกคนทำเต็มที่แล้วเราต้องยอมรับในสิ่งที่อาจจะเกิด แต่เมื่อเล่นในบ้านทุกคนมีความคาดหวัง เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้เราจะทำให้เหมือนปีที่แล้ว
แข้งสาวไทยซ้อมครั้งสุดท้าย ก่อนฟาดแข้งในเกมนัดชิงดำอาเซียนพบกับเวียดนาม ด้าน โค้ชก้าง รับแม้นักเตะจากมีอาการล้าจากรอบตัดเชือก แต่ทุกคนพร้อมสู้เต็มที่เพื่อป้องกันแชมป์เอาให้ได้อีกสมัย
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
ชบาแก้ว,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน 2019,โค้ชก้าง,นฤพล แก่นสน
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1646483
ลูกสาวสุดเศร้า แม่ฆ่าตัวตายต่อหน้า ตัวเองเจ็บขาใส่เฝือก ลุกช่วยไม่ได้
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 27 ก.พ.61 ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ชุณหเมธาทิพย์รองสว.(สอบสวน) สน.บางคอเหลม รับแจ้งเหตุ มีผู้หญิงใช้อาวุธมีดแทงตนเองถึงแก่ความตาย ภายในบ้านเลขที่ 218/30 ซอยสุขสวัสดิ์ 7 ถนนสุขสวัสด์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก ไพรศรี ผกก.สน.บางคอแหลม,ที่เกิดเหตุพบ ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อ นางจรัสศรี หวังกิจไพศาล อายุ 77 ปี นอนเสียชีวิตกลางบ้าน มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายเหลมแทงเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย 2 แห่ง ใกล้กันมี นางอัญชลี หวังกิจไพศาล ลูกสาวผู้เสียชีวิต นั่งร้องไห้เสียใจอยู่บนเก้าอี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บที่ขา ต้องใส่เฝือก ทำให้เดินไม่สะดวก
,จากการสอบสวน นางประไพศรี ใจแก้ว อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ผู้ตายเคยคิดจะฆ่าตัวตายมาหลายครั้งแล้ว เนื่องจากเครียดที่สามีก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง ส่วนลูกสาวก็ได้รับบาดเจ็บที่ขา เพราะตกบันได ทำให้เดินไปไหนมาไหนลำบาก ขณะเดียวกันผู้ตายก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และเครียดที่ตัองใส่ขาเทียม เนื่องจากเป็นโรคมะเร็ง ต้องตัดขาขวา และใช้ชีวิตแบบนี้มานานกว่า 40 ปี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้ตายได้พูดคุยกับตนเอง ซึ่งผู้ตายบอกว่าจะไปกระโดดน้ำตายที่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่ตนก็ห้ามไว้ แล้วบอกให้สวดมนต์ทำบุญจะได้ไม่คิดมาก แต่สุดท้ายก็มาเกิดเหตุสลดดังกล่าว,ด้านนางอัญชลี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เป็นแม่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แล้วหยิบมีดมาถือ ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร จู่ๆ ก็ใช้มีดแทงตัวเองที่หน้าอกซ้าย ด้วยความที่ขาเจ็บใส่เฝือกอยู่เห็นแม่ทำร้ายตัวเอง แต่ไม่สามารถห้ามและเข้าช่วยเหลือแม่ไว้ได้.
อาม่าวัย 77 เครียดโรครุมเร้า คว้ามีดแทงหน้าอกดับ ต่อหน้าลูกสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ แต่เจ้าตัวเจ็บที่ขา ต้องใส่เฝือก ทำให้ไม่สามารถลุกไปห้าม และช่วยเหลือผู้เป็นแม่ไว้ได้
ข่าว,อาชญากรรม
ฆ่าตัวตาย,แทงตัวตาย,อาม่า,ฆ่าตัวตายต่อหน้าลูกสาว,โรครุมเร้า,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1214928
โซเซียดัด ไม่คม บุกเจ๊า เกตาเฟ 1-1
การแข่งขันศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2015-16 ประจำคืนวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม ซึ่งเป็นการพบกันเอง ของสองทีมในโซนครึ่งล่างตาราง โดย เกตาเฟ อันดับที่ 15 เปิดบ้านที่สนาม โคลิเซียม อัลฟองโซ เปเรซ พบกับ เรอัล โซเซียดาด ซึ่งทั้งคู่คะแนนห่างอยู่เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น,เริ่มเกมในครึ่งแรกเป็นฝ่ายทีมเยือนที่บุกได้น้ำได้เนื้อกว่า และมีลุ้นก่อนในนาทีที่ 18 จากลูกเข้าชาร์จระยะจ่อๆ ของ คาร์ลอส เวล่า แต่นายทวารเจ้าถิ่นยังพุ่งปัดเอาไว้ได้,ถัดมานาที 25 เกตาเฟ มีโอกาสได้ลุ้นบ้าง เมื่อ ปาโบล ซาราเบีย ลากบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนหักเข้ามากลางประตู และยิงด้วยขวาข้างถนัด แต่บอลยังไม่ผ่านมือนายทวาร เรอัล โซเซียดัด,จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือของครึ่งแรก ทั้งคู่สู้กันอยู่กลางสนามเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีโอกาสที่จะแจ้งมากนัก ทำให้เสมอกันอยู่ 0-0,แต่เริ่มต้นครึ่งหลังได้เพียงแค่นาทีเดียว เกตาเฟ ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ ฮวน โรดริเกวซ เปิดบอลเข้าไปหน้าประตู และเป็น ปาโบล ซาราเบีย โฉบโหม่งที่เสาแรกเข้าประตูไป,นาที 50 เรอัล โซเซียดัด พลาดโอกาสตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อ อิมาโนล อกีร์เรตเซ ได้แปจ่อๆ ระยะประมาณ 3 หลาหน้าประตู แต่นายทวารเจ้าถิ่นโชว์ซุปเปอร์เซฟเอาไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ,กระทั่งนาที 67 ความพยายามของทีมเยือนก็มาสัมฤทธิ์ผล เมื่อ อิมาโนล อกีร์เรตเช หลุดกับดักการเช็กล้ำหน้า เข้าไปยิงให้กับ เรอัล โซเซียดัด ตามตีเสมอเป็น 1-1,และในนาที 75 เรอัล โซเซียดัด ก็เกือบได้ประตูชัย จากจังหวะที่ เซร์จิโอ คานาเลซ โยนบอลไปที่เสาสองให้กับ โจนาธาส หัวหอกตัวสำรอง ได้โขกคนเดียวโล่งๆ แต่นายทวารของเจ้าถิ่นยังเซฟเอาไว้ได้แบบหวุดหวิดอีกครั้ง,ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูได้ ทำให้จบเกม เกตาเฟ เปิดบ้านเสมอกับ เรอัล โซเซียดัด ไปอย่างสนุก 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน.,ผลการแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา,ไมนซ์ 05 เสมอ สตุ๊ตการ์ท 0-0
อิมาโนล อกีร์เรตเซ สวมบทฮีโร่ เมื่อมาทำประตูตีเสมอให้กับ เรอัล โซเซียดัด บุกมาแบ่งแต้มกับ เกตาเฟ ได้ถึงถิ่น 1-1 ในศึกลาลีกา เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
null
ผลบอล,ลาลีกา,เรอัล โซเซียดัด,เกตาเฟ,อิมาโนล อกีร์เรตเซ,ปาโบล ซาราเบีย,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/547940
อุกอาจ คนร้ายจ่อยิงหนุ่ม กฟผ. ดับคารถบัสรับส่ง พนง.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ก.ค. 58 พ.ต.ท.วาสุเทพ คงกล่อม รอง ผกก.สส.สน.บางพลัด เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนขับรถรับส่งพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โรงไฟฟ้าพระนครใต้ ยิง นายโสภณ เจียระผกานนท์ อายุ 56 ปี พนักงาน กฟผ.เสียชีวิต บนรถบัสรับส่งพนักงาน บริเวณถนนสิรินธร ใกล้ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง,ในขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว คือ นายสถิตย์ หรือ แตงอ่อน จูมทอง อายุประมาณ 40 ปี คนขับรถบัสรับส่งพนักงาน กฟผ. ใช้ปืนลูกโม่ยิงใส่ นายโสภณ 4 นัด เสียชีวิตบนรถบัส หลังผู้ตายขึ้นรถก่อนถึงแยกบางพลัด จากนั้นคนขับได้ขับรถออกนอกเส้นทางเข้าถนนสิรินธร ก่อนจะจอดรถ ลุกจากที่นั่งคนขับมายิงนายโสภณ และขึ้นรถแท็กซี่สีชมพูไม่ทราบทะเบียนหลบหนีไป,ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว เตรียมสอบปากคำพยานบนรถบัสที่นั่งมาด้วยกันประมาณ 6-8 คน และครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือจากคนขับแท็กซี่ที่คาดว่าจะรับนายสถิตย์ ซึ่งแต่งกายคล้ายชุดซาฟารี สีน้ำเงินเข้ม หลบหนีไป เข้าให้ข้อมูล เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เกิดเหตุคนขับรถรับส่ง พนง.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จ่อยิงหนุ่มใหญ่อายุ 56 ปี พนักงาน กฟผ.ดับคาเบาะบนรถบัส บริเวณถนนสิรินธร ใกล้ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ก่อนหลบหนี ขณะ ตร.ขอความร่วมมือโชเฟอร์แท็กซี่เข้าให้ข้อมูล
ข่าว,ทั่วไทย
จ่อยิง,พนักงาน กฟผ.,อุกอาจ,ยิงกันตาย,ยิงใกล้ห้างตั้งฮั่วเส็ง,พนักงานกฟผ.โดนยิง,พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต,ถนนสิรินธร,โชเฟอร์รถบัส,คนขับรถรับส่ง,สน.บางพลัด,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/512295
หิมะตกหนักในอินเดีย
ทะเลสาบดาล (Dal) ในแคว้นจัมมู-แคชเมียร์ ทางภาคเหนือของอินเดีย ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม ต้องกลายสภาพเป็นน้ำแข็ง หลังมีหิมะตกหนัก ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่พายเรือหาเลี้ยงชีพอยู่ในลำน้ำ หิมะที่ตกปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ยังทำให้สภาพภายในเมืองศรีนคร เมืองเอกของแคว้นจัมมู-แคชเมียร์ กลายเป็นอัมพาตขณะที่รัฐฌาร์ขันฑ์ (Jharkhand) ทางภาคตะวันออก ต้องเผชิญกับหมอกลงจัดและสภาพอากาศที่เหน็บหนาว ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการเดินทาง สถานีรถไฟและสนามบินต้องยกเลิกการเดินทาง ส่งผลให้ผู้โดยสารจำนวนมากติดค้างอยู่ในเมืองรานชิ (Ranchi) ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐ การติดต่อสื่อสารได้รับผลกระทบอย่างหนัก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินเดียคาดการณ์ว่า อุณหภูมิในพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศจะอยู่ระหว่าง 2-3 องศาเซลเซียสส่วนที่ประเทศออสเตรีย มีหิมะตกหนักในเขตไทรอล (Tyrol) ทางภาคตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานตากอากาศสำหรับเล่นสกีในเขตเทือกเขาแอลป์ที่ได้รับความนิยม เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนหลายสายที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดหิมะถล่ม ขณะที่หมู่บ้านและเมืองหลายแห่งถูกหิมะตัดขาด แม้หิมะจะตกหนัก แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับนักเล่นสกี ซึ่งต่างก็ชอบให้มีหิมะมากๆ เพราะจะได้สนุกกับการเล่นสกี
อินเดียเผชิญหิมะตกหนักในแคว้นจัมมู-แคชเมียร์ ทางภาคเหนือ ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ ขณะที่ออสเตรีย หิมะตกหนักในย่านสถานตากอากาศสำหรับเล่นสกีที่ได้รับความนิยม ทำให้ต้องปิดถนนหลายสาย ป้องกันหิมะถล่ม
ต่างประเทศ
ทะเลสาบดาล,หิมะ,ออสเตรีย,อินเดีย
https://news.thaipbs.or.th/content/58245
ไม่เคยปิดกั้น แลมพาร์ด ยัน พร้อมจับเข่าถกอนาคต ชิรูด์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 22 ต.ค.ว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมเชลซียืนยัน พร้อมพูดคุยกับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ในเร็วๆ นี้ หลังจากที่กองหน้าชาวฝรั่งเศสมีข่าว อยากเก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์,โดยกุนซือใหญ่ของทีมสิงห์บลู กล่าวหลังจากพาทีมเก็บชัยชนะเหนือนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ผมได้คุยกับโอลี (ชิรูด์) เรียบร้อยแล้ว และผมก็เคารพผู้เล่นทุกคนในทีม โดยเฉพาะนักเตะที่อายุน้อยกว่า 30 ปี,ผมชอบความเป็นมืออาชีพของเขา เขาพูดแบบเปิดอกกับผม และการให้สัมภาษณ์ระหว่างที่อยู่ในแคมป์ทีมชาติฝรั่งเศส เพราะไม่รู้สึกแฮปปี้ที่ไม่ได้ลงสนาม นั่นคือสิ่งที่นักเตะที่ดีควรทำ ผมคิดว่าโอลีจะได้รับโอกาส เพราะเขามีอิทธิพลเป็นอย่างมากกับทีมของเรา,ในตอนนี้เป็นโอกาสของแทมมี่ (อับราฮัม) เพราะฟอร์มการเล่นของเขา ดังนั้นผมจะคุยกับโอลีอย่างมีความสุขในเดือนมกราคม ที่ผมทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขากำลังจะจากไปหรอกนะ แต่เป็นเพราะผมอยากให้เขาอยู่ที่นี่ต่อไปต่างหาก,สำหรับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ทำประตูให้กับเชลซีไปแล้ว 19 ลูก จาก 38 เกม นับตั้งแต่ย้ายมาจากอาร์เซนอลเมื่อเดือนมกราคมปี 2018.
กุนซือสิงห์บลูยืนยัน พร้อมจับเข่าคุยกับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ อย่างจริงจังเกี่ยวกับบทบาทในทีม พร้อมการันตีชัดยังอยากให้ดาวยิงชาวฝรั่งเศสอยู่กับทีมต่อไป
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
แฟรงค์ แลมพาร์ด,โอลิวิเยร์ ชิรูด์,เชลซี,พรีเมียร์ลีก
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1687478
ศบค.แถลงวันนี้ ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม-เสียชีวิต
วันนี้ (16 มิ.ย.63) พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3135 คน หายดีแล้ว 2993 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 84 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดเสียชีวิตสะสม 58 คน ขณะที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุ 20-29 ปี และ 30-39 ปี หรือกลุ่มวัยทำงาน และระยะหลังพบผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการมากขึ้น เน้นย้ำสวมหน้ากากอนามัย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อกลับถึงบ้านขณะที่ สถานการณ์ผู้ติดเชื้อCOVID-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 8112933 คน เสียชีวิต 439061 คน โดยสหรัฐฯ ติดเชื้อมากที่สุด ป่วยเพิ่มกว่า 20000 คน สะสม 2182950 คน เสียชีวิตสะสม 118283 คน ขณะที่อินเดียพบติดเชื้อเพิ่ม 10000 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 343026 คน เสียชีวิตกว่า 9.9 พันคน ส่วนไทยอยู่อันดับ 88 ของโลกขณะที่ ผลสำรวจของสวนดุสิตโพล พบว่า คนไทยอยากไปท่องเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ มากที่สุด รองลงมา ประจวบคีรีขันธ์ กทม. ชลบุรี และกาญจนบุรี โดยให้ความสำคัญของการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว คัดกรองวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากาก ใช้เจลแอลกอฮอล์ ยังย้ำความจำเป็นในการสแกนไทยชนะเมื่อเข้าห้างสรรพสินค้า และสแกนในแต่ละร้านค้าย่อย เพราะหากตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จะจำกัดวงสอบสวนโรคได้ เนื่องจากแต่ละวันมีผู้ใช้บริการห้างฯ มากถึง 80000 คน
ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม สะสม 3135 คน หายดีแล้ว 2993 คน รักษาตัวใน รพ. 84 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม สะสม 58 คน
สังคม
COVID-19,โควิด-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,COVID19,โควิด19
https://news.thaipbs.or.th/content/293656
หมอกควันปกคลุมไปทั่วพะเยา ตัวเมืองปริมาณฝุ่นเกินมาตรฐาน
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 มี.ค. มีรายงานว่าพื้นที่ จ.พะเยา ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันไปทั่วทั้งจังหวัด โดยเฉพาะตัวเมือง ทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน เนื่องจากหมอกควันได้กระจายไปทั่ว อาทิ กว๊านพะเยา โดยทิวทัศน์ที่มีภูเขา ซึ่งอยู่อีกฝั่งของกว๊านพะเยา ถูกบดบังไปหมด ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 139 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์เกินมาตรฐาน มีผลกระทบต่อสุขภาพ,ด้านนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ระยะนี้สภาพอากาศหมอกควันมีมาก ซึ่งได้ประชาสัมพันธ์รณรงค์ไม่ให้มีการเผาทุกชนิดทั้งในป่า นอกป่า และในชุมชน ซึ่งหมอกควันที่ได้กระจายทั่วท้องฟ้าและปกคลุมไปทั่ว จึงขอประชาชนให้ดูแลสุขภาพ และเมื่อออกจากบ้านให้สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการออกกำลังในที่โล่งแจ้ง ส่วนเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก และหากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์.
เช้านี้หมอกควันปกคลุมไปทั่วพะเยา จนกว๊านพะเยามองไม่เห็นทิวทัศน์ภูเขาที่อยู่อีกฝั่ง ภายในตัวเมืองอ่วม ปริมาณฝุ่นละอองมีค่าเกินมาตรฐาน กระทบต่อสุขภาพ พ่อเมืองกำชับหากออกจากบ้านต้องสวมหน้ากาก
ข่าว,ทั่วไทย
ปัญหาหมอกควัน,หมอกควันภาคเหนือ,หมอกควันปกคลุมพะเยา,หมอกควันไฟป่า,เผา,กว๊านพะเยา,ฝุ่นละออง,ศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ,ผลกระทบหมอกควัน,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/589234
ธุรกิจเช่าซื้อระยะที่เหลือปี 2554-2555 เติบโตสูงต่อเนื่องจากแรงส่งมาตรการใหม่
มาตรการภาษีรถคันแรกที่รัฐบาลประกาศใช้ในช่วง 16 ก.ย. 2554-31 ธ.ค. 2555 (ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ย. 2554) อาจก่อให้เกิดความต้องการซื้อรถยนต์ใหม่เพิ่มมากขึ้น ผ่านการเพิ่มอำนาจซื้อให้กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันตลาดรถมือสองที่คงจะต้องปรับลดราคาลง เพื่อให้สามารถขายแข่งได้นั้น จะทำให้ผู้ซื้อมีโอกาสได้ซื้อรถในราคาที่ต่ำลง อีกทั้งยังมีโอกาสขอสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถได้ง่ายขึ้น เนื่องจากราคารถที่ลดลง ทำให้ความเสี่ยงด้านมูลค่าหลักประกันของผู้ประกอบการให้เช่าซื้อลดลงตามไปด้วย ในกรณีที่จำเป็นต้องยึดรถและนำออกขายทอดตลาด ซึ่งปัจจัยดังกล่าว น่าจะสามารถชดเชยผลกระทบจากราคารถที่ลดลง และหนุนตลาดสินเชื่อรถมือสองได้เมื่อผนวกกับกลยุทธ์เชิงรุกของผู้เล่นรายใหญ่ที่เป็นธนาคารพาณิชย์ ประกอบกับแรงกดดันต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายลง อาจเป็นผลดีต่อธุรกิจให้เช่าซื้อรถในระยะต่อไป จึงทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ธุรกิจเช่าซื้อรถในระบบสถาบันการเงินมีโอกาสเติบโตระดับสูงต่อเนื่องประมาณ 28-30% ในปี 2554 และเหนือ 25% ในปี 2555อย่างไรก็ตาม คาดว่าผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ อาจต้องมีการปรับกลยุทธ์ เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงที่ระมัดระวังมากขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบจากกรณีที่ผู้บริโภคที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีบางกลุ่มอาจประสบปัญหาการชำระหนี้ อันนำมาสู่ปัญหาการทิ้งรถ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจไทยผ่านช่องทางเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้นได้ ขณะเดียวกัน ด้วยเป้าหมายธุรกิจเชิงรุกของผู้เล่นใหญ่หลายราย คงทำให้มีโอกาสเห็นภาวะการแข่งขันในธุรกิจนี้ที่ยังคงความรุนแรงต่อเนื่อง ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว คงส่งผลดีต่อผู้บริโภค
มาตรการจูงใจของรัฐบาล ในการให้นโยบายซื้อรถคันแรกลดภาษี ทำตลาดรถมือสอง ต้องปรับตัวด้วยการปรับลดราคาลง
เศรษฐกิจ
ธนาคารพาณิชย์,ธุรกิจเช่าซื้อ,มาตรการภาษี,รถคันแรก,หลักประกัน
https://news.thaipbs.or.th/content/36264
เมินหน้าแหก ชี้ชัด ที่ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จักรวาลเปิดทางให้ใคร?
รออีกหน่อยได้รู้ผลกันแล้ว นับถอยหลังลุ้นๆ ระทึกๆ กับการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ Miss Universe Thailand 2017 ทั้ง 3 ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่กูรูนางงาม แต่ชื่นชอบตามติดการประกวดนางงามมานานหลายปีหลายเวทีแล้ว จะมาเลือกตัวเต็งในดวงใจเพียง 1 คนเท่านั้น ที่มงจะลงหัว ได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนใหม่,นุ อนุสรณ์ จารุวัฒนานุกูล เคยเป็นเจ๊ดันส่งนางงามได้ที่ 1 ในหลายเวทีมาแล้ว ล่าสุดนางงามที่ดูแลอยู่ มิลค์ ภัทลดา กุลภัคธนภัทร์ ก็จะเป็นตัวแทนนางงามจากไทยไปประกวดมิสเวิลด์ Miss World 2017 ในปีนี้ด้วย และ นุ อนุสรณ์ ยังเป็นออร์แกไนซ์สุดปังเป๊ะ เป็นต้นตำรับงานยักษ์ ที่รวมนางงามระดับชาติหลายเวทีที่สุด เยอะที่สุดย่ิงใหญ่ที่สุดแห่งสยามประเทศในงานบิวตี้ เลเจนด์ Beauty Legend,สวยเก๋ดูดี เหมือนมีอะไรๆ มีสิทธิ์ได้มง เลือกเชียร์เบอร์ 17 เฟิน (รัชนา พระนิมิตร อายุ 24 ปี ส่วนสูง 170 ซม. กำลังศึกษาระดับปริญญาโท ปี 2 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาจุลชีววิทยา และเทคโนโลยีจุลินทรีย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย),,ถ้าคุณแดง สุรางค์ ไม่ใจร้ายมากเกินไป มงก็น่าจะลงที่เบอร์ 5 (มารีญา พูลเลิศลาภ อายุ 25 ปี ส่วนสูง 184 ซม., จบการศึกษาระดับปริญญาโท Marketing, Stockholm Business School) ชอบเชียร์มารีญา เดาว่ามารีญาต้องได้ ไม่น่าพลาด นางน่าจะคว้ามงไปได้นะ เพราะเป็นคนที่พร้อมหมดทั้งรูปร่างหน้าตา ภาษา มีความเป็นอินเตอร์สูง น่าจะสู้กับนางงามต่างชาติได้เลย (เสียงดังแสบแก้วหู),แจ็ค ธีระธรรม อุปถัมภ์กิจสิริ ดีไซเนอร์ฝีมือฉกาจแห่งห้องเสื้อ I F N T by theeratham เคยตัดชุดอย่างเยอะให้นางเอกดัง เซเลบ นางงามระดับประเทศ เพื่อใส่ไปงานเฉิดฉายมาเยอะหลายงาน รวมถึงครั้งล่าสุดก็จะตัดชุดสวยให้ ฟ้า ชัญษร สาครจันทร์ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2011 ไปใส่เจิดจรัสในงานรอบตัดสิน มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ Miss Universe Thailand 2017 ในปีนี้อีกด้วย,เลือกเลยนะ เลือกเบอร์ 22 ลูกศร (ธนพร สรนันท์ อายุ 26 ปี ส่วนสูง 170 ซม. จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ สาขามัธยมศึกษา เอกภาษาอังกฤษ และภาษาไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ลูกศรอาจไม่ใช่คนที่ดูแล้วสวยที่สุด แต่บ่งบอกถึงความเป็นเอเชี่ยนลุค (Asian Look) ได้ดีที่สุด สาวผิวสีกับดีกรีแอร์โฮสเตส ภาษาและการสื่อสารที่ดี น่าจะเป็นตัวแทนคนใหม่บนเวทียูนิเวิร์สได้ดี เพราะผู้หญิงยุคใหม่ที่จะไปถึงเวทีมิสยูนิเวิร์สได้นั้น อาจไม่ใช่คนที่สวยที่สุด ต้องมีความพร้อม และสมบูรณ์แบบในทุกๆ ด้าน,ให้ลูกศร ธนพรได้ที่ 1 แต่ก็แอบเชียร์มารีญา ด้วยนะครับ (หัวเราะ) เพราะน้องพร้อมหมดทั้งรูปสมบัติและคุณสมบัติ มีทัศนคติที่ดีด้วย มีความมั่นใจในตัวเองแบบผู้หญิงยุคใหม่ Confidently Beautiful ตามคอนเซปต์ของเวทีมิสยูนิเวิร์ส,ช่างแต่งหน้าฝีมือเฉียบ ข้าวปุ้น สุริยา ทองอ่อน เป็นอีกคนที่ช่วยๆ หยิบเพชรเม็ดงามอย่าง น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์  2016 มาเจียระไนจนเปล่งประกายทะลุจักรวาล ,ชอบเลยนะ 5 คนนี้ เบอร์ 3 ฟ้าใส ปวีณสุดา, เบอร์ 5 มารีญา, เบอร์ 17 เฟิน รัชนา, เบอร์ 26 ม่านฟ้า ปาลศรี, เบอร์ 37 ใบเฟิร์น กัญภัสภร จริงๆ ต้องดูรอบพรีลิมก่อน (Preliminary) จึงจะรู้ว่าใครโดดเด่นออกมา เลือกยากมาก (ลากเสียงยาว) ขอเลือกมารีญา เพราะนางพร้อมสุด พร้อมทุกอย่าง ถ้าไม่มีอะไรพลาดนะ มารีญามาแน่ๆ,.
รออีกหน่อยได้รู้ผลกันแล้ว นับถอยหลังลุ้นๆ ระทึกๆ กับการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ Miss Universe Thailand 2017 ทั้ง 3 ออกตัวก่อนว่า
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ตัวเต็งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ Miss Universe Thailand 2017,มารีญา พูลเลิศลาภ,นุ อนุสรณ์ จารุวัฒนานุกูล ออแกไนซ์บิวตี้เลเจนท์ beauty legend,แจ็ค ธีระธรรม อุปถัมภ์กิจสิริ ดีไซเนอร์ฝีมือฉกาจแห่งห้องเสื้อ I F N T by theeratham,ข้าวปุ้น สุริยา ทองอ่อน,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1017301
เอกชนหลอนค่าแรง 360 บ. เอสเอ็มอีเสี่ยงขาดทุน-ปิดกิจการเพิ่ม
ส.อ.ท.ค้านสุดตัวขึ้นค่าแรง 360 บาททั่วประเทศ ชี้ให้นำบทเรียนปรับค่าแรง 300 บาท มาเตือนสติ ทำธุรกิจเอสเอ็มอีเจ๊งกันระนาวมาแล้ว ขณะที่สถาบันสิ่งทอคาดยอดส่งออกสิ่งทอปีนี้โต 2% ตั้งเป้า 10 ปี ยกระดับผู้ผลิตไทยเข้าสู่แบรนด์ระดับโลก 1–2 ราย,นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กรณีที่คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) เสนอให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศจากวันละ 300 บาท เป็นวันละ 360 บาท เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้นนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการไตรภาคี ที่จะพิจารณาในช่วงสิ้นปีนี้ เพื่อกำหนดค่าแรงในปี 2559 ใหม่ เพราะตัวเลขที่เสนอมา เป็นการปรับขึ้นค่าแรงถึง 20% ซึ่งเห็นว่าเป็นอัตราที่สูงเกินไป,การขอปรับขึ้นค่าแรง 360 บาททั้งประเทศรอบนี้ ควรจะต้องนำเงินเฟ้อมาใช้เป็นข้อมูล และที่สำคัญค่าครองชีพของแต่ละพื้นที่ในประเทศไทย ก็ไม่เท่ากัน ซึ่งเห็นว่าสูตรคิดเดิมจะมีความเหมาะสมมากกว่า ไม่ใช่คิดแบบกรณีการขึ้นค่าแรงทันทีทั่วประเทศ 300 บาท ส่งผลให้บางพื้นที่ค่าแรงขยับขึ้นทันที 80% ทำให้ธุรกิจขนาดกลางและย่อมหรือเอสเอ็มอีในขณะนั้น ต้องทยอยปิดกิจการจำนวนมาก ซึ่ง ส.อ.ท.ก็เคยเตือนรัฐบาลชุดที่แล้วมาโดยตลอด,ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ มีกำหนดที่จะต้องพิจารณาอีกครั้งในปลายปีนี้เพื่อประกาศใช้ในปี 2559 ซึ่ง ส.อ.ท.มีความเห็นว่าคณะกรรมการไตรภาคีควรพิจารณาแนวทางให้รอบคอบ ซึ่งหากจะต้องขึ้นไปถึง 360 บาทต่อวันจริง จะมีผลกระทบต่อธุรกิจ ที่เพิ่งปรับตัวรับมือค่าแรง 300 บาทต่อวันไปไม่นาน โดยกลุ่มเอสเอ็มอีที่ไม่มีกำไรมากจะเสี่ยงกับการขาดทุนและปิดกิจการได้อีกครั้ง เนื่องจากเศรษฐกิจปัจจุบันการบริโภคภายในประเทศชะลอตัว ขณะที่การส่งออกทั้งปีประเมินว่าจะไม่เติบโต,สำหรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันในขณะนี้ของไทย ถือว่าเป็นระดับค่าแรงที่แพงมาก เมื่อเทียบกับคู่แข่งทางการค้าในอาเซียน จึงทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก ต่างทยอยปรับตัวหันไปลงทุนยังประเทศเพื่อนบ้านแทน ดังนั้น หากมีการขึ้นค่าแรงที่สูงเกินไปซ้ำอีก ก็จะยิ่งผลักดันให้อุตสาหกรรมเหล่านี้ ต้องหันไปประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลจะผลักดันให้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน เพื่อรองรับการใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากมีการขึ้นค่าแรง การเข้าไปลงทุน แม้จะได้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ผู้ประกอบการก็จะต้องคิดถึงต้นทุนในภาพรวม ว่าคุ้มกับสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) หรือไม่,ด้านนางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า สถาบันฯมีแผนที่จะผลักดันอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยให้รักษาระดับความเป็นผู้นำในอาเซียน และสร้างแบรนด์ไทยให้โดดเด่นในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม การส่งออกในอุตสาหกรรมสิ่งทอปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ 2% หรือมีมูลค่า 200,000 ล้านบาท เนื่องจากตลาดโลกซบเซา โดยตลาดหลักยังเป็นประเทศเวียดนาม พม่า และบังกลาเทศ ที่นำไป ผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่มต่อไป ทั้งนี้ แม้ว่าประเทศเวียดนามจะหันมาผลิตผ้าผืนที่เป็นสินค้าต้นน้ำในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม แต่ก็เป็นสินค้าขั้นพื้นฐานต่างจากไทยที่เป็นสินค้าเกรดพิเศษ ซึ่งไทยยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ในอาเซียน โดยสถาบันฯได้ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาแบรนด์แฟชั่นไทย 1-2 แบรนด์ ให้ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ชั้นนำในระดับโลก ภายใน 10 ปี.
ส.อ.ท.ค้านสุดตัวขึ้นค่าแรง 360 บาททั่วประเทศ ชี้ให้นำบทเรียนปรับค่าแรง 300บาท มาเตือนสติ ทำธุรกิจเอสเอ็มอีเจ๊งกันระนาวมาแล้ว ขณะที่สถาบันสิ่งทอคาดยอดส่งออกสิ่งทอปีนี้โต 2% ตั้งเป้า 10 ปี ยกระดับผู้ผลิตไทยเข้าสู่แบรนด์ระดับโลก
null
ข่าวเศรษฐกิจ,วัลลภ วิตนากร,ส.อ.ท.,ขึ้นค่าแรง 360 บาท,คัดค้าน,บทเรียนปรับค่าแรง 300 บาท,ธุรกิจเอสเอ็มอีเจ๊ง
https://www.thairath.co.th/content/490577
รายงาน: มนัส ลบหนองบัว นักต่อสู้แห่งภูคี
และเพื่อธรรมชาติที่ยั่งยืน บนผืนแผ่นดิน ทุ่งซำเสี้ยว ที่บรรพบุรุษได้ฝังร่างไว้เมื่อหันหน้าไปหาตะวัน จึงมองเห็นคันดินฝั่งขวามือของตัวบ้านสูงกว่าคันนาฝั่งซ้าย พ่อมนัสบอกนั่นเป็นบ่อเลี้ยงปลาเก่าที่ตนกับลูกเคยลงทุนเลี้ยง แต่ไม่ได้ผลกำไรดีนัก จึงปรับบ่อเลี้ยงปลาให้เป็นแปลงปลูกตะไคร้ซึ่งกำลังเขียวชอุ่ม และมีหลายแปลงทอดตัวยาวไปเกือบจรดภูคี ภูสูงส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูแลนคา จ.ชัยภูมิ ตะไคร้หลายแปลงที่มองเห็นคือปากท้องที่ครอบครัวพ่อมนัส ลบหนองบัว ชายชราร่างโย่ง ซึ่งปีนี้อายุครบ 66 ปี แต่ยังดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงได้ฝากความหวังไว้พ่อมนัสชี้มือพลางบอกว่า พ่อมีที่ดิน 50 ไร่ กะแบ่งให้ลูกคนละครึ่ง แทวนี้พ่อแบ่งให้อ้ายเหม แทวพู้นของอ้ายแหวว ลูกชายหญิงสองคน กับแม่บัวผัน ลบหนองบัว ซึ่งปีนี้มีอายุ 59 ปีถ้วน ส่วนลูกชาย เหมราช ลบหนองบัว อายุ 39 ปี ลูกผู้หญิงหรือพี่แหวว ชวนชม ปลอดกระโทก อายุ 40 ปี ต่างเป็นครอบเป็นครัว และกลับมาตั้งหลักแหล่งอยู่ใกล้บ้าน มีงานส่วนตัว บวกงานในไร่นา และเป็นหลักในงานส่วนรวมของหมู่บ้านทั้ง 2 คนดีที่พ่อบ่มีหนี้ พ่อมนัสกล่าวพลางพาเดินชมสวน มีไม้ยืนต้น ไม้ให้ผล ให้ใบ ในแบบฉบับไร่นาสวนผสมอย่างที่เราเข้าใจอย่างแจ่มชัด ส่วนในบิ้งนาฝั่งซ้ายมือ พ่อมนัสเปลี่ยนมันเป็นร่องลงตระไคร้ ซึ่งตอนนี้กำลังเขียวสะบัดอยู่เช่นกัน และแทรกร่องแปลงด้วยผักพื้นบ้าน จำพวกกระเทียม พริก ผักชี ผักกาด ฯลฯ รวมถึงผักยืนต้นและผลไม้บางชนิด เช่น มะพร้าว สะเดาฯ ซีกฝั่งเหนือของนา มีแปลงอ้อยของพี่แหววอยู่ไม่เกินไร่ ใกล้กันมีสระเลี้ยงปลา ซึ่งสุมทุมพุ่มกล้วยปกคลุมอยู่รายรอบ อีกมะม่วง และมะขามหลายต้น ยังเป็นราคา แต่พ่อมนัสบอก บางปีก็เก็บไปขายบ่ทัน ปล่อยให้หมากมันสุกคาต้นอยู่จั๋งซั่นละ ส่วนตะไคร้บางแถวยังมีรอยตัดใบสดๆ มีพ่อค้าจากหล่มสักมารับซื้อทุกเดือน เขาเอาไปเฮ็ดยาสมุนไพรส่งต่างประเทศ นอกจากปุ๋ยขี้วัว เขาเลยบ่ให้ใส่ยาจักอย่าง เดือนหนึ่งพ่อกะขายได้หลายพันพอได้อยู่ได้กิน ปลูกตะไคร้พวกเฮาเปลืองแต่น้ำมันใส่เครื่องสูบน้ำท่อนั่นละ แต่กี้พ่อกะมีงัว แต่ขายไปเบิดตอนไปม็อบหนักๆ ตอนนี้กะเลี้ยงแต่เป็ดแต่ไก่ แนวมันดูแลง่ายไม่ต้องเบิ่งแงงยากนั่นละ พ่อมนัสบอกเล่าวิถีการทำกินบนที่ดินผื้นน้อยพ่อมนัส เป็นคนบ้านอื่น แต่มาแต่งงานกับแม่บัวผัน หลานสาวพ่อตู้หมา งอนภูเขียว ผู้บุกเบิกทำกินจนกลายเป็นบ้านทุ่งซำเสี้ยว ต.สระโพนทอง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่ก่อนปี 2470 จนเกิดเป็นกลุ่มเครือญาติ ออกลูกออกหลาน แล้วแบ่งที่แบ่งทางทำไร่ทำนา และอยู่มาจนนากลายเป็นบ้าน ก่อนนาจะถูกพันธนาการด้วยคำประกาศของรัฐในปี 2528 ว่า มูนมังสังขยาที่พ่อตู้หมาและเครือญาติทำกินอยู่กว่า 555 ไร่ เป็นที่ดินทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณะประโยชน์ของทางอำเภอ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จริงประมาณ 875 ไร่ อีกกว่า 53 ครัวเรือนที่นั่น จึงกลายเป็นคนนอกกฎหมาย ต้องถูกอพยพโยกย้ายออกจากที่สาธารณะอย่างเร่งด่วนหลังจากนั้นพวกพ่อก็ไปเรียกร้อง ไปยื่นหนังสือหลายม่อง ทั้งอำเภอ จังหวัด ไปบอกผู้แทน เฮ็ดเบิดทุกทาง เขากะยังมาไล่เฮาออกจากม่องที่เฮาเฮ็ดอยู่เฮ็ดกินมาแต่พ่อแต่แม่คือเก่า แต่เฮากะสู้ จนปี 2535 พี่น้องทุ่งซำเสี้ยวจึงเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับ สกย.อ.หรือสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน มีการชุมนุมต่อรองจนเกิดการพิสูจน์สิทธิ์ และดำเนินการแก้ไขปัญหาเกือบลุล่วง แต่เรื่องยังติดอยู่ที่จังหวัด ซึ่งยังยึดเอาหลักกฎหมายเป็นบรรทัดฐานในการมองปัญหา คนทุ่งซำเสี้ยวจึงยังถูกฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล ถูกขับไล่อยู่เป็นระยะ โดยเฉพาะพ่อมนัส ซึ่งถูกศาลฏีกาพิพากษาในช่วงปี 2542 ว่า มีความผิดในข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ และมีคำสั่งให้จำคุก 1 ปี แต่ยังให้รอลงอาญาขณะที่การต่อสู้เรียกร้อง เพื่อขอความเป็นธรรมของชาวบ้านไม่เคยหยุดนิ่ง แม้จะผิดหวังกับผู้นำการเคลื่อนไหวบางคน จนพ่อมนัสขอแยกกลุ่มออกมาสู้เอง และได้ส่งเรื่องถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้ลงมาศึกษา และคณะกรรมการสิทธิ์ฯ มีคำสั่งยืนยันความชอบธรรมในการครอบครองที่ดินของชาวบ้าน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการแก้ไข แต่ทุกฝ่ายก็ยังคงนิ่งเฉย จนปี 2550 พ่อมนัส และสาแหรกเครือญาติที่เหลือ 24 ครัวเรือน จึงเข้าร่วมเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในที่ดินทำกินร่วมกับ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) ลูกชายพ่อก็ลาออกจากราชการมาช่วยงานพี่น้องอยู่บ้าน เขาก็ช่วยได้หลาย เฮ็ดข้อมูล ตุ้มโฮมพี่น้องดีขึ้น ทางเครือข่ายฯ เพิ่นก็ดี คำหยาบคำด่า บ่พาเว้า พ่อมนัสบอกเล่าจากแนวทางการปฏิรูปที่ดิน ภายใต้หลักคิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมโดยชุมชน ธรรมนูญชุมชนทุ่งซำเสี้ยว จึงเกิดขึ้น เป็นกฎกติกาในการอยู่ร่วมกัน โดยเน้นสาระไปที่การพัฒนารูปแบบการจัดการที่ดินในนาม โฉนดชุมชน เพื่อสร้างสำนึกในการวางแผนการครอบครองและใช้ประโยชน์จากที่ดิน โดยยึดหลักกรรมสิทธิ์รวมหมู่อยู่เหนือกรรมสิทธิ์ส่วนตน มี กองทุนที่ดิน เป็นกลไกการแลกเปลี่ยนซื้อขาย และยังเป็นกองทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทุ่งซำเสี้ยว โดยใช้วิธีการจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้าในรูปเงินออม ตามเงื่อนไขใครใช้ประโยชน์จากที่ดินที่ตนมีอยู่ ก็เก็บภาษีปีละ 20 บาท/ไร่ ส่วนที่ดินแปลงไหนที่พี่น้องปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าโดยไม่ทำการผลิต ก็เก็บปีละ 40 บาท/ไร่ และหากมีการซื้อ ขาย หรือเปลี่ยนการใช้ประโยชน์จากที่ดินเดิม ต้องผ่านมติจากคณะกรรมการกองทุนฯ ที่ชุมชนร่วมกันตั้งขึ้นมาจัดการดูแลเรื่องดังกล่าวนอกจากนี้ คนบ้านทุ่งซำเสี้ยวยังมีกองทุนออมทรัพย์ มีกองทุนสวัสดิการ และมีกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ ไว้คอยดูแลรับผิดชอบชีวิตลูกบ้าน ในยามเจ็บยามไข้ หรือยามจำเป็นต้องใช้เงิน ตามที่ระบุไว้ในธรรมนูญชุมชนอีกโสดหนึ่ง ปัจจุบัน แม้องค์การบริหารส่วนตำบลสระโพนทอง ยังต้องการที่ดินบางส่วนของบ้านทุ่งซำเสี้ยวไปทำที่ทิ้งขยะ แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้ท้อถอย และยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่และสร้างสรรค์งานรวมกลุ่มอย่างคึกคัก พี่แหววลูกสาวคนโตพ่อมนัสกล่าวว่า ตอนนี้พวกเฮาอยากพากันเฮ็ดเกษตรธรรมชาติ หลังจากที่พากันไปเบิ่งงานตลาดสีเขียวเมืองสุรินทร์มา แต่ก่อนหน้านั้นเพิ่นกะเฮ็ดตะไคร้แปลงรวมแล้ว ตอนนี้กำลังเลี้ยงหมู่หลุม จักหน่อยอาจสิเลี้ยงไก่สบายๆ หรือลองกลับมาปลูกเห็ดนำกันอีกเทื่อ การรวมกลุ่มเพื่อทำการผลิตแบบรวมหมู่ โดยพึ่งพาตนเองและธรรมชาติ จึงเป็นทิศทางในการยกระดับ และพัฒนาตนเองของคนทุ่งซำเสี้ยว เพื่อให้คนในชุมชนอยู่ได้อย่างเป็นสุขและมีความยั่งยืนยิ่งหากนโยบายโฉนดชุมชนสำเร็จ เมื่อรัฐการันตีความมีตัวตนของคนทุ่งซำเสี้ยว โดยรับรองสิทธิในที่ดินทำกิน และเปิดโอกาสให้ชุมชนกำหนดความเป็นไปของตน และได้บริหารจัดการกันเองตามสิทธิชุมชนที่มีอยู่แต่เดิม ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยรับรอง นอกจากสาแหรกตระกูลพ่อตู้หมาทั้ง 24 ครอบครัวจะสบายใจสบายกายขึ้น นั่นเพราะไม่ต้องไปชุมนุมเรียกร้อง อีกเพราะมีสิทธิเข้าถึงบริการพื้นฐานของรัฐเหมือนชุมชนอื่น คนทุ่งซำเสี้ยวคงมีเวลามาเต็มที่กับงานทำการผลิต และงานพัฒนาภายในชุมชนเอง เหมือนในวันนี้ ที่พ่อมนัส ผู้ซึ่งร่วมเคลื่อนไหวต่อสู้กับพี่น้องมาตั้งแต่ต้น จะเป็นผู้ขะมักเขม้นยิ่งนัก ทั้งกับงานแปลงตน แปลงรวม หรือกระทั่งงานรวมกลุ่มประชุมสัมมนาอื่นๆ กับเครือข่ายฯ อย่างไม่ย่นระย่อ นั่นเพื่อชุมชน เพื่อชีวิต เพื่อลูกหลาน และเพื่อธรรมชาติที่ยั่งยืน บนผืนแผ่นดินที่บรรพบุรุษของตนได้ฝังร่าง โฉนดชุมชน จึงเป็นอีกหนึ่งความหวัง ของผู้หว่านเพาะต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกิน มาเป็นเวลาเกือบค่อนครึ่งศตวรรษนับจากการก่อตั้งชุมชน และเกือบครึ่งค่อนชีวิตของพ่อมนัส ลบหนองบัว ผู้ซึ่งสังคมสมควรบันทึกจดจำ และสมควรแก่การขนานนามว่า เป็นหนึ่งในนักต่อสู้แห่งภูคี
โฉนดชุมชน อีกหนึ่งความหวังของผู้หว่านเพาะต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกินมายาวนานอย่าง พ่อมนัส ลบหนองบัว หนึ่งในนักต่อสู้ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อชุมชน เพื่อชีวิต เพื่อลูกหลาน
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สังคม
กฤษณา พาลีรักษ์,ทุ่งซำเสี้ยว,มนัส ลบหนองบัว,เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.),โฉนดชุมชน
https://prachatai.com/journal/2010/02/27840
อัยการส่งฟ้องคดี112 นักศึกษามหานคร
ทั้งนี้ อัครเดช ถูกฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตรา 33 (ริบของกลาง) และมาตรา 14 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550อัครเดช อายุ 24 ปี เป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร กำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 4 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมที่ห้องพักเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.57 ถูกฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.จนถึงปัจจุบัน พ่อของเขายื่นประกันตัวรวม 4 ครั้งแต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันด้วยเหตุว่าเกรงจะหลบหนีเขาถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ใช้นามแฝง น้าดมก็รักในหลวงนะ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 1 ข้อความในวันที่ 15 มี.ค.57 จากนั้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมมีผู้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเขากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสารพร้อมนำหลักฐานเชื่อมโยงมายังตัวอัครเดชมาให้เจ้าหน้าที่ด้วยนายสุรพล (สงวนนามสกุล) พ่อของจำเลยเคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ก่อนหน้าจะถูกจับกุมลูกชายทะเลาะกับคนในเฟซบุ๊กที่มีความคิดทางการเมืองไม่ตรงกัน และโพสต์ข้อความตั้งคำถามไปเพียงแต่มีการพาดพิงอันเนื่องมาจากบทสนทนาทางการเมือง
11 ก.ย.2557 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้อัยการส่งฟ้องคดีที่นายอัครเดช (สงวนนามสกุล) เป็นจำเลยในความผิดดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ และศาลนัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 30 ก.ย.นี้
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
นักศึกษา,มาตรา 112,หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ,อัครเดช,อัยการส่งฟ้อง
https://prachatai.com/journal/2014/09/55484
หักมุม ไก่ ปาดหน้า ทอฟฟี่ โค้งท้ายฉก ซิสโซโก เข้าเล้า 5 ปี
หักมุมกันโค้งสุดท้ายจริงๆ แม้ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน จะตกลงค่าตัว มุสซา ซิสโซโก กองกลางดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสกับ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้แล้ว แต่กลับกลายเป็น ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส มาปาดหน้ากระชากตัวไปแบบเจ็บแสบด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์เซ็นสัญญายาว 5 ปี,สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 31 ส.ค. ว่า ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส ปาดหน้า ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน คว้าตัว มุสซา ซิสโซโก กองกลางดีกรีรองแชมป์ยูโร 2016 จาก สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มาร่วมทีมด้วยราคา 30 ล้านปอนด์เซ็นสัญญายาว 5 ปี,ก่อนหน้านี้ไม่นานมีข่าวจากหลายสำนักระบุว่า ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ได้บรรลุข้อตกลงกับ สาลิกาดง ในการคว้าตัวดาวเตะวัย 27 ปีรายนี้ไปร่วมทีมด้วยราคา 30 ล้านปอนด์แต่ทว่าก่อนตลาดเดดไลน์ ไก่เดือยทอง ได้ยื่นข้อเสนอในราคาเท่ากัน และตัวนักเตะกลับเลือกที่จะไปค้าแข้งกับไก่เดือยทอง ปล่อยให้เอฟเวอร์ตัน รับประทานแห้วหน้าตาเฉย,ส่งผลให้เมืองลิเวอร์พูล เวลานี้กำลังอยู่ในองศาร้อนระอุหลัง แฟนบอลเอฟเวอร์ตัน หลายรายไม่พอใจที่ ไก่เดือยทอง มาปาดหน้าพรากแข้งรายนี้ต่อหน้าต่อตาพวกเขา
หักมุมกันโค้งสุดท้ายจริงๆ แม้ เอฟเวอร์ตัน จะตกลงค่าตัว มุสซา ซิสโซโก กองกลางดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสกับ นิวคาสเซิล ได้แล้ว แต่กลับกลายเป็น ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส มาปาดหน้ากระชากตัวไปแบบเจ็บแสบด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ เซ็น 5 ปี
null
พรีเมียร์ลีก,ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส,มุสซา ซิสโซโก,นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด,เอฟเวอร์ตัน
https://www.thairath.co.th/content/708780
วางใจไม่ได้ ทั่วไทยยังมีฝน กทม.-ปริมณฑล ตกร้อยละ40
วันที่ 6 พ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ระบุ คลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และ ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้,พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้,ภาคเหนือมีเมฆเ ป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ,ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 25 กม./ชม. ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ,ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ,ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ,ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. 
บริเวณประเทศไทย ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ เตือนระวังอันตรายจากฝนตกสะสม ขณะที่ กทม.-ปริมณฑล เมฆมาก มีฝนเพียงร้อยละ 40
ข่าว,ทั่วไทย
กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,อากาศวันนี้,อุณหภูมิ,ฝนตก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/1274214
ประชุมครม.ชุดเล็กถกขยาย-ยกเลิก พ.ร.บ.มั่นคงฯ
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี ถึงความจำเป็นและความเหมาะสมในการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ รวมถึงถึงงบประมาณและจำนวนกำลังพล โดยพล.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงเหตุผลว่า การชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ มีการปลุกระดมคนแสดงเจตจำนงล้มรัฐบาล และตรวจพบอาวุธหลายชนิด จึงเห็นว่าไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบอีกทั้ง นายกรัฐมนตรีจีนเดินทางเยือนรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ จึงประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ควบคุมการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งใช้กำลังตำรวจ 56 กองร้อย หรือ 21550 นาย และใช้งบประมาณในการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ครั้งนี้ 206 ล้านบาท และไม่ใช่เรื่องแปลกที่รัฐบาลประกาศใช้กฎหมายพิเศษในการดูแล เพราะรัฐบาลที่แล้วใช้ไป 15 ครั้ง โดยใช้กับการชุมนุมไป 12 ครั้ง ส่วนที่เหลือไม่มีการชุมนุมในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก เพื่อหารือว่าจะยกเลิก หรือขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ที่จะสิ้นสุดในวันนี้ออกไปหรือไม่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เห็นว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ในห้วงเวลาที่ผ่านมา สามารถควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยได้ ส่วนจะขยายพื้นที่การบังคับใช้กฎหมายเพิ่มเติมจากเดิมเฉพาะ 8 แขวงในพื้นที่ 3 เขตของกทม.หรือไม่ หลังหน่วยงานความมั่นคงประเมินการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือคปท. ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ยังไม่มีท่าทีที่จะยุติ อาจจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันนี้
วันนี้ (18 ต.ค.) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก เพื่อพิจารณายกเลิก หรือ ขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรที่จะสิ้นสุดในวันนี้หรือไม่ ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงช่วงที่มีการใช้กฎหมายพิเศษดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ได้ใช้กำลังตำรวจมากถึง 20000 นาย และใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท
การเมือง
คปท.,ครม.,ชุมนุม,พ.ร.บ.มั่นคงฯ,รัฐบาล,ศอ.รส.
https://news.thaipbs.or.th/content/202218
ความคืบหน้า พระเมรุมาศ เสร็จเกินครึ่ง
อธิบดีกรมศิลปากรเผยงานก่อสร้างพระเมรุมาศคืบหน้ากว่าที่กำหนด,เมื่อเช้าวันที่ 25 พ.ค. กรมศิลปากรเปิดพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้และอาคารวิธานสถาปกศาลา และโรงขยายแบบให้สื่อมวลชนติดตามความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช,นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ภาพรวมการก่อสร้างพระเมรุมาศคืบหน้าไปกว่า 55% เร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ ในส่วนของงานโครงสร้างนั้นแล้วเสร็จเกือบทั้งหมด ยังเหลือการติดตั้งส่วนยอดอาคารทับเกษตร การประกอบสถาปัตยกรรมอาคารพระเมรุมาศ และพระที่นั่งทรงธรรม พระเมรุมาศได้ติดตั้งองค์ประกอบสถาปัตยกรรมฐานเทวดา เสารั้วราชวัตร ฐานสิงห์ บนชานชาลาทั้ง 3 ชั้น และงานประกอบสถาปัตยกรรมพระที่นั่งทรงธรรม คืบหน้ากว่า 55% มีการติดตั้งหลังคา กรุผนัง ฝ้าเพดาน ภายในเดือน มิ.ย.จะรื้อถอนโรงขยายแบบทั้ง 4 หลัง เพื่อก่อสร้างศาลาลูกขุน 3 สำหรับทหารกองเกียรติยศ ตั้งจุดอำนวยการพยาบาล เคลื่อนย้ายงานประติมากรรมมาลงสีที่ศาลาลูก ขุนฝั่งทิศใต้ 2 หลังที่จะแล้วเสร็จในอีก 1 เดือนแทน รวมทั้งอาจจะขนย้ายการทำงานบางส่วนไปที่โรงละครเล็กแทน เตรียมจัดทำถนนกลางบริเวณท้องสนามหลวงรองรับริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ และทุบกำแพงด้านหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ทำถนนสำหรับการฉุดชักราชรถออกมาซักซ้อมให้แล้วเสร็จในเดือน ส.ค.,ด้านนายก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรม สำนักสถาปัตยกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ได้ติดตั้งนั่งร้านประกอบชั้นเชิงกลอน ชั้นหลังคายอดพระเมรุมาศ กรุเสาในส่วนบุษบกองค์ประธาน ตามด้วยตกแต่งส่วนฝ้าและหอเปลื้อง จัดทำหลังคาคลุมส่วนต่างๆ ของอาคารพระเมรุมาศที่ยังไม่มีพื้นผนังและหลังคาคลุมเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อวัสดุในช่วงฤดูฝน ส่วนองค์ประกอบสถาปัตยกรรมอยู่ระหว่างการประกอบชิ้นส่วน เริ่มส่งมาติดตั้ง ณ สถานที่ก่อสร้างด้านงานภูมิสถาปัตยกรรม เริ่มปรับผิวดินภายในบริเวณมณฑลพิธี มีการประสานไปยังมูลนิธิชัยพัฒนา ขอยืมกังหันน้ำชัยพัฒนามาติดตั้ง ประสานขอความอนุเคราะห์ไม้ดัดอย่างไทยโบราณและเขามอจากวัดคลองเตยใน ในส่วนของไม้ดอกสีเหลืองได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากมูลนิธิโครงการหลวง,นายสุรัฐกิจ พรีพงศ์ศิลป์ หัวหน้ากลุ่มจิตรกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้าการลงสีประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ ว่าอยู่ระหว่างการเขียนสีพระนารายณ์และพระพรหม โดยพระนารายณ์ รูปกายเป็นสีม่วงอ่อน เครื่องทรงลงลวดลายสีทอง พระศิวะกายสีขาว ส่วนพระอินทร์กายสีเขียว เป็นแนวคิดที่คณะกรรมการจัดสร้างพระเมรุมาศฯ วางแนวทางไว้ให้กับกลุ่มจิตรกรรม ส่วนท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เมื่อทำพิมพ์แล้วเสร็จจะทยอยนำมาเขียนสีต่อไป ส่วนครุฑยืนกำลังหล่อไฟเบอร์กลาส พระพิฆเนศที่จะปั้นเพิ่มคาดว่าจะลงผิวกายสีแดงตามตำรา ส่วนแท่นฐานเทวดาจะไม่ใช้การลงสี แต่ใช้เทคนิคการตอกกระดาษเหมือนงานพระเมรุมาศครั้งที่ผ่านมา,นายพิจิตร นิ่มงาม นายช่างศิลปกรรมอาวุโส สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดสร้างฐานรองพระโกศจันทน์ (พระหีบจันทน์) และพระโกศจันทน์ ว่า เหลือในส่วนประกอบลวดลายส่วนด้านข้างกับด้านหลังได้ทยอยประกอบแล้ว เมื่อเสร็จจะนำตัวครุฑมาประกอบบนพื้นลาย คาดว่าการประกอบพระหีบจันทน์จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มิ.ย. แล้วจะประกอบขึ้นลายตัวพระโกศจันทน์ทันที ขณะนี้อยู่ระหว่างการขึ้นโครงตัวพระโกศและส่วนฝาพระโกศ ล่าสุดได้รับแบบลายของพระโกศมาบ้างแล้ว จะเริ่มจากการประกอบลายสำคัญเช่นลายเทพยดาเป็นลำดับแรก การทำงานมีช่างจิตอาสาเลื่อยฉลุไม้จันทน์วันละ 40 คน อยู่ระหว่างการเลื่อยฉลุส่วนประกอบของครุฑที่ใช้นำมาประกอบลายพระหีบจันทน์
กรมศิลปากรเปิดให้สื่อมวลชนเข้าพื้นที่สนามหลวง ติดตามความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิง รัชกาลที่ 9
ข่าว,ทั่วไทย
พระเมรุมาศ,ในหลวงรัชกาลที่ 9,พระโกศจันทน์,ช่างสิบหมู่,ข่าวหน้า1
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/952858
ไม่ยอมแพ้ มู ยังหวังเซ็นแข้งเป้าหมายเก่า เท่าไรก็ยอม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 9 ม.ค. ว่า โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกสของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำแห่งวงการพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวยังหวังที่จะเดินหน้าคว้าตัว แกเรธ เบล ปีกชาวเวลส์ของ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด มาเสริมความแข็งแกร่ง,เป็นที่เข้าใจกันว่า มูรินโญ ตกเป็นข่าวแสดงความสนใจในตัวของ เบล มานาน แต่กระนั้นข่าวดูจะซาลงไปเมื่อทีมไปได้ตัว เฮนริกห์ มคิตาร์ยาน แข้งชาวอาร์เมเนีย มาร่วมทีม อย่างไรก็ตาม แข้งวัย 28 ปี แทบจะไม่มีที่ยืนในสังคมอสูรแดงในเวลานี้เพราะฟอร์มตกสุดขีด อันทำให้ กุนซือวัย 54 กะรัต เตรียมหวนกลับไปล่าอดีตเพลงแข้ง ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ มาร่วมทีมอีกครั้ง,ล่าสุด Daily Express สื่อชื่อดังของแดนผู้ดี ประโคมข่าวว่า เดิมทีนั้น มูรินโญ มีความคิดที่จะดำเนินการดีลนี้ในช่วงจบซีซั่น แต่จากการที่ ทีมมีคะแนนตามหลัง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ถึง 15 คะแนน ก็เป็นสถานการณ์บังคับให้ตัวเขาเร่งบอร์ดบริหารของสโมสรเดินหน้าในช่วงเดือนมกราคมนี้เลยแม้อาจต้องทุ่มเงินสูงเท่าไรก็ตาม
โชเซ มูรินโญ เทรนเนอร์ตราฝอยทองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแดนผู้ดี ตกเป็นข่าวยังหวังที่จะคว้าตัวแข้งเป้าหมายเก่ามาร่วมทีมให้ได้
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
โชเซ มูรินโญ,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,พรีเมียร์ลีก,แกเรธ เบล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1172642
คุมสื่อครอบจักรวาล ออนไลน์เพจดังโดนหมด
(ที่กำลังขับเคลื่อนประเทศถอยหลังไปสู่ยุคไดโนเสาร์) ,ก็ลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ผ่านร่างกฎหมายควบคุมสื่อ ในชื่อสวยหรู ร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน เห็นด้วย 141 เสียง ไม่เห็นด้วย 13 เสียง งดออกเสียง 17 เสียง,จากนี้ไปจะรวมข้อเสนอจากการอภิปรายสรุปส่งให้ ,ประธาน สปท., พิจารณา ก่อนส่งให้ ,ครม., พิจารณาต่อไป ไม่รู้จะมีความหวังอีกเฮือกหรือไม่,พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานกรรมาธิการด้านสื่อสารมวลชน สปท. กล่าวสรุปว่า ส่วนตัวยอมถอยถึง 3 ครั้ง ปรับลดตำแหน่งปลัดกระทรวงจาก 4 คน เหลือ 2 คน ในคณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ ปรับเรื่อง ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน เป็น ใบรับรองวิชาชีพ ที่ออกโดยองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน จึงไม่มีโทษจำคุกและปรับสื่อและเจ้าของสื่อ แต่ยังให้มี สภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ ต่อไป,ใน ,บทเฉพาะกาล, จะมีการปรับให้ ,2 ปลัดกระทรวงในคณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติอยู่ในวาระ 5 ปี, เช่นเดียวกับสมาชิกวุฒิสภาที่มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 5 ปี ,หลังจากนั้นอาจจะตัดตัวแทนปลัด 2 คนออกไป, อาจจะไปเพิ่มในส่วนของสื่อจาก 9 คน เป็น 11 คน หรืออาจจะตัดปลัด 2 คนออกไปทันที ให้เหลือคณะกรรมการฯเพียง 13 คน จากเดิม 15 คน,มีอำนาจก็ว่ากันไป คนออกกฎหมายไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอยู่แล้ว และมีความตั้งใจที่จะออกกฎหมายฉบับนี้มาควบคุมสื่อ ทั้งที่สื่อปัจจุบันก็ถูกควบคุมโดย กฎหมายอาญา และ กฎหมายแพ่ง อยู่แล้ว,แต่เรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่า ,ประชาชนคนไทยทุกคนต้องรู้, และ ,ต้องให้ความสนใจ, ก็คือกฎหมายควบคุมสื่อฉบับนี้ ,ไม่ได้ควบคุมเฉพาะสื่อ, แต่ ,ควบคุมไปถึงสื่อออนไลน์ทุกชนิด เพจดังทุกเพจ, ที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก,เรื่องนี้ พล.ต.ต.พิศิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงในสภาถึง คำนิยาม ของ สื่อมวลชน ในกฎหมายฉบับนี้ว่า จะครอบคลุมไปถึง สื่อออนไลน์ เจ้าของเพจดัง ที่มีแฟนเพจติดตามเป็นหมื่นๆคนด้วย กลุ่มเหล่านี้ถือว่าเป็นทั้งนักข่าวและบรรณาธิการ แต่ไม่มีสังกัด แม้จะอ้างว่าไม่มีรายได้เป็นค่าตอบแทนโดยตรงจากงานที่ทำ แต่มีรายได้ทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากรายได้โฆษณาออนไลน์ เพราะมีผู้ติดตามจำนวนมาก จึงต้องบัญญัติให้กลุ่มเหล่านี้เป็นสื่อด้วย,เมื่อกฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับ ,ดารา นักร้อง นักแสดง คนดัง, ที่มีเพจของตัวเองใน ,อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก, หรือ ,สื่อออนไลน์อื่น, ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ก็จะเข้าข่ายต้องเข้ามาอยู่ใต้กฎหมายควบคุมสื่อฉบับนี้,กฎหมายฉบับนี้ตั้งใจจะ ควบคุมสื่อไทย แต่ไม่แน่ใจว่า สื่อต่างประเทศ นักข่าวต่างประเทศ สื่อออนไลน์ต่างประเทศ จะอยู่ใต้กฎหมายฉบับนี้ด้วยหรือไม่ โลกวันนี้เป็นโลกยุค 4.0 ไม่ใช่ยุคไดโนเสาร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังประกาศนโยบายประเทศเป็น ไทยแลนด์ 4.0 ไปโรดโชว์เรียกร้องให้บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกมาลงทุนในประเทศไทย จะทำให้ ประเทศไทย เป็น ศูนย์กลางการสื่อสารของภูมิภาค แต่วันนี้ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กลับออกกฎหมายมาทำลายนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลเอง มีกฎหมายฉบับนี้เมื่อไหร่ ก็อย่าหวังว่าจะมีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ไหนในโลกจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดและทำมาตลอด 3 ปี จะเสียเปล่า เพราะกฎหมายควบคุมสื่อฉบับเดียว,ผมก็ฝากความนี้ไปถึง ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.,กฎหมายควบคุมสื่อฉบับนี้ยังต้อง ผ่าน ครม. จึงจะไปทำเป็นกฎหมายได้ ผมเชื่อว่า นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงจะเข้าใจคำว่า ไทยแลนด์ 4.0 ได้ดีที่สุด.,ลม เปลี่ยนทิศ
ในที่สุด สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ,ก็ลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ผ่านร่างกฎหมายควบคุมสื่อ ในชื่อสวยหรู ร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน เห็นด้วย 141 เสียง ไม่เห็นด้วย 13 เสียง งดออกเสียง 17 เสียง
null
หมายเหตุประเทศไทย,ลม เปลี่ยนทิศ,พ.ร.บ.ควบคุมสื่อ,กฎหมายควบคุมสื่อ,เพจออนไลน์
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/929817
พื้นที่อุทยานทับลาน ออกทับที่ ส.ป.ก.​
วันนี้ (9 ส.ค.2562) พลเอกวิทวัส รชตะนันทน์ ประธาน ลงพื้นที่ที่เทศบาลตำบลครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนหลายอำเภอใน จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี ที่อาศัยทำกินในพื้นที่ที่เกิดปัญหาทับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาดของหน่วยงานภาครัฐและเป็นปัญหาเรื้อรังมานานกว่า 20 ปีชาวบ้านระบุว่า พวกเค้าเป็นผู้ได้รับสิทธิทำกินในที่ดิน ส.ป.ก. ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2521 ซึ่งขณะนั้นกรมป่าไม้และ ส.ป.ก. ได้ร่วมกันสำรวจรังวัดแนวเขตตามค่าพิกัดของกรมแผนที่ทหารต่อมาปี 2524 มีการประกาศพระราชกฤษฎีกา กำหนดแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยไม่ได้ไปสำรวจพื้นที่จริง จนเกิดปัญหาแผนที่ทับซ้อนแม้ภาครัฐจะรับทราบปัญหาและหลายหน่วยงานก็ได้ร่วมกันสำรวจรังวัดเพื่อปรับปรุงแนวเขตในระหว่างปี 2533 ถึง 2543 แต่การแก้ไขพระราชกฤษฎีกาปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานกลับไม่แล้วเสร็จ กรมอุทยานฯ จึงต้องยึดถือพระราชกฤษฎีกาฯ ที่ประกาศในปี 2524 ซึ่งมีปัญหาเรื่องแนวเขต นำไปสู่การดำเนินคดีชาวบ้านว่าบุกรุก จนเกิดปัญหาพิพาทและเกิดความขัดแย้งระหว่างภาครัฐและชาวบ้านในพื้นที่หลังมีการร้องเรียนต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อปี 2557 นำไปสู่การไต่สวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งล่าสุด ผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยส่งถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2562 เสนอแนะให้หน่วยงานดำเนินการดังนี้ 1. ให้กระทรวงทรัพยากรฯ ปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ตามผลสำรวจร่วมในปี 2543 2. ในส่วนพื้นที่เขตอุทยานฯ ให้กรมอุทยานฯ พิจารณาอนุญาตให้ประชาชนอาศัยทำกิน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อยไขทางกฎหมาย3. พื้นที่เสื่อมโทรมที่ถูกกันออกจากเขตป่า เสนอให้กรมป่าไม้ รายงานเหตุผลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ ออกกฎกระทรวงยกเลิกแนวเขต และส่งมอบพื้นที่แก่ ส.ป.ก.พื้นที่ที่เกิดปัญหาครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอใน 2 จังหวัด คือ อำเภอวังน้ำเขียว ปักธงชัย ครบุรี เสิงสาง จ.นครราชสีมา และอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี ทั้งนี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุคำวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน
ผู้ตรวจการแผ่นดิน​ ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน จ.นคราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี เสนอแนวทางแก้พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน​ ออกทับซ้อนพื้นที่ ส.ป.ก.​ซึ่งเป็นความผิดพลาดของหน่วยงานรัฐและเรื้อรังมานานกว่า​ 20 ปี​
อาชญากรรม
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,สถานีประชาชน,ส.ป.ก.
https://news.thaipbs.or.th/content/282664
ผบ.ซีลยอมรับ ภารกิจช่วยหมูป่าฯ สุดหิน เผย 13 คนกรูลงมาหานักดำน้ำ
จากกรณีปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตทีมหมูป่าฯ ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย กระทั่งสามารถช่วยเหลือทั้งหมดออกมาได้อย่างปลอดภัย,เวลา 18.00 น. วันที่ 11 ก.ค. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการ ศอร. พร้อมด้วย พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ, นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์, นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, นายสุขชัย เจรียงประเสริฐ เกษตรจังหวัดเชียงราย และ พลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ร่วมกันแถงข่าว ,พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือซีล กล่าวว่า ,ก่อนอื่นขอบอกว่า เราไม่ใช่ฮีโร่ หลายๆ คนเป็นฮีโร่ งานนี้สำเร็จได้ด้วยพวกเราทุกคน หน่วยซีลมีภารกิจที่ถือมาในลักษณะนี้เป็นประจำ กองทัพเรือมีสโลแกนว่า กองทัพเรือจะไม่ทิ้งประชาชน ส่ิงนี้เป็นสิ่งที่กองทัพเรือยึดมั่น เมื่อได้รับการขอจากเชียงราย ขอหน่วยซีลมาช่วยผู้ประสบภัยในถ้ำที่มีน้ำ รอบแรก ระดมพลด่วน เครื่องบินออกเที่ยงคืนครึ่ง มาถึงเกือบตีสอง นำกำลังพลรอบแรกมา 20 นาย ตี4 ลุยเข้าไปในถ้ำ และอยู่ในถ้ำจนถึงสามแยก ตอนแรกไปได้ถึงตรงนั้น หน่วยกู้ภัยเดิมไม่สามารถไปได้ เพราะไม่สามารถทะลุช่องที่มีทรายทับถม ขณะนั้นเมื่อทะลุช่องทางนั้นไปแล้ว นักดำน้ำทีมซีลได้เข้าไปจากสามแยกเข้าไปถึงพัทยาบีช และเห็นแต่คราบรอยเท้า แต่ไม่เจอน้อง ดำน้ำต่อไป แต่สภาพของถ้ำมืดมาก ไม่เคยเจอมาก่อน จึงต้องถอยกลับมาเตรียมอุปกรณ์ และวันนั้นฝนตกหนักมาก ต้องถอยร่นออกมาจากสามแยก ต้องถอยมาถึงโถง 3,ช่วงนั้นเอง ได้รับรายงานตลอด แต่ไม่เข้าใจ จนต้องมาดูเอง และลงพื้นที่ หกโมงเย็นเข้าไปถึงโถง 3 พยายามลุยในเรื่องสูบน้ำออก แต่สู้น้ำไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็ต้องถอยร่นกำลังพลออกจากถ้ำ 10 โมงเช้า ได้เห็นความยากลำบาก จึงขอกำลังพลจากกองทัพเรือมาเป็นระลอกที่ 2-3 แต่สู้กำลังน้ำไม่ได้ ถอยมาเรื่อยๆ จนถึงปากถ้ำ ตอนนั้นความหวังเหลือนิดเดียว เพราะระดับน้ำขนาดนี้จะเข้าไปช่วยได้อย่างไร วันนั้นก็วันที่ 7-8 แล้ว ขณะนั้นมีหน่วยอื่นใช้เครื่องสูบน้ำออก สู้กับน้ำ 2-3 วัน แต่น้ำลดไปแค่วันละ 1-2 ซม.,อย่างไรก็ตาม ได้เข้าไปดู จากโถง 1 ไปโถง 3 สุดท้าย ก็มุดน้ำดำลงไปถึงโถง 3 พบว่า โถง 3 มีที่ว่าง ที่จะตั้งกองบัญชาการส่วนหน้าได้ แต่การเข้าไปสาหัสสากรรจ์พอสมควร ต้องเดิน ดำน้ำ ขึ้นโขดหิน ปีน แต่ต้องสู้ สุดท้ายจึงตัดสินใจสู้กับน้ำ โดยต้องหาขวดอากาศมาเป็นจำนวนมาก ตอนแรกภาคเอกชน 200 ขวด ต่อมาได้รับพระราชทานอีก 200 ขวด ได้ร่วมใจกันว่าต้องเอาขวดอากาศวางเรียงไว้ในน้ำ เพื่อต้องสู้เอาน้องๆ ออกมาให้ได้ แต่ละคนเอาขวดอากาศไว้คนละ 3 ขวด เพื่อต้องหาน้องๆ ให้ได้ โชคดีที่มีเพื่อนๆ นานาชาติมาช่วย มีนักดำน้ำจากหลายประเทศ จากสหรัฐฯ ออสเตรเลีย จีน และเครือสหภาพยุโรป อังกฤษ เยอรมนี ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และกลุ่มเชี่ยวชาญการดำน้ำในถ้ำโดยตรง วางแผนทำอย่างไรต้องหาน้องๆ เจอ ประเมินว่าถึงสามแยกต้องเลี้ยวซ้าย วางเบสไลน์ครั้งละ 200 เมตร ถ้าเลี้ยวซ้ายไม่เจอ ก็ต้องเลี้ยวขวา,โชคดีสุดท้ายนักประดาน้ำจากอังกฤษรับในช่วงนั้น และเจอ 13 คนอยู่ในถ้ำ สภาพอิดโรย น้องๆ อยู่ได้อย่างไร น้องๆ วิ่งลงมาหาเลย เป็นเรื่องน่าแปลกต้องซักถามกันต่อไปว่าทำตัวอย่างไร ส่งหน่วยซีล 4 คน คนหนึ่งคือ หมอภาคย์ มีขีดความสามารถด้านนี้ เข้าไปถึงตัวน้องๆ ต่อมาส่งไปอีก 3 คน สุดท้ายมี 4 คนอยู่กับน้องๆ น่าจะอยู่ได้เป็นเดือน ส่งข้าวส่งอาหาร ดูช่องทางอื่น เจาะภูเขาจะเป็นไปได้หรือไม่ แต่สุดท้ายเจอข้อจำกัด เรื่องอากาศในถ้ำน้อยลง ปริมาณออกซิเจนน้อยลง วันแรกที่ตรวจมีแค่ 15% วิตกกังวลมาก พยายามเติมออกซิเจน อีกอย่างคือ ปริมาณน้ำฝน ต้านทานไม่ได้จะทำอย่างไร หากน้ำเต็มถ้ำ 100% จะทำอย่างไร ถ้าออกซิเจนน้อยลง เด็กๆ จะต้องซึมลง ความหนาของหิน 500 เมตร เหมือนการงมเข็มในมหาสมุทร ข้อจำกัดอยู่ที่ปัจจัยเวลา ทีมดำน้ำคุยกัน,สุดท้าย มีแผน และนักดำน้ำมืออาชีพของโลก รวมกันอยู่ในประเทศไทย จึงนำตัวน้องๆ ออกมาและได้รับการอนุมัติจาก ผบ.ศอร. และจากหน่วยเหนือ และนำออกมาได้ครบทั้ง 13 ชีวิต ภารกิจตรงนี้ถือว่ายากมาก ยากจริงๆ ไม่เคยเจอ เป็นบทเรียนที่จะพัฒนาบุคลากรเพิ่มไปอีก ผู้บัญชาการซีล กล่าว ,ขณะที่ นายณรงค์ศักดิ์ ผบ.ศอร. ได้กล่าวถึงความสำคัญของทีมสูบน้ำ ทั้งทีมสูบน้ำในถ้ำ และสูบข้างนอกถ้ำ โดยสามารถพร่องน้ำลงไปได้ประมาณ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยน้ำในถ้ำมีประมาณ 5 แสนลูกบาศก์เมตร ทว่าแต่ละวันมีน้ำเติมเข้ามาเนื่องจากฝนตกเฉลี่ยวันละ 2-3 หมื่นลูกบาศก์เมตร จึงเห็นว่าถ้ายังล่าช้าอีกวันสองวัน จะล่าช้ากว่านี้เยอะ ขณะที่อีกทีมที่อยู่บนยอดดอย เจอหลุมที่มีศักยภาพ 18 หลุม แต่หินหนา 500 เมตร จะเจาะได้อย่างไร ใช้เวลานานขนาดไหน อีกทั้งไม่รู้พิกัด จึงต้องปฏิบัติภารกิจในด้านการพาน้องๆ ดำน้ำออกมา.
ผู้บัญชาการซีล ยอมรับภารกิจช่วย 13 ชีวิต ออกจากถ้ำหลวงยากมาก แปลกใจเด็กอยู่ในถ้ำนานหลายวัน แต่เด็กวิ่งลงมาหานักดำน้ำต่างชาติที่ไปเจอคนแรก เผยซีลชุดแรก 4 คน มีหมอภาคย์ หมอทหาร ทบ.เข้าไป
ข่าว,ทั่วไทย
ถ้ำหลวง,แถลงข่าว,ผู้ว่าแถลงข่าว,สรุปข่วย13หมูป่า,ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1332523
สุรพศ ทวีศักดิ์: ซากีย์และปัญหาศาสนากับประชาธิปไตย
ผมอ่านบทสัมภาษณ์ของมูฮัมหมัดอิลยาส หญ้าปรังและเก่งกิจ กิติเรียงลาภ เกี่ยวกับกรณี ซากีย์ พิทักษ์คุมพล หนึ่งใน 250 สว.ที่โหวตเลือกประยุทธ์เป็นนายกฯ (ดู ) มีสองประเด็นหลักๆ ที่อยากแลกเปลี่ยน คือประเด็นจุดยืนของผู้ที่ยืนยันเสรีนิยมประชาธิปไตย กับประเด็นศาสนากับประชาธิปไตย ประเด็นหลังนี้ขยายให้เห็นปัญหาแบบเดียวกันของพุทธศาสนาไทยด้วยประเด็นแรก ผมเห็นด้วยกับเก่งกิจว่า ซากีย์ขาดความกล้าหาญทางศีลธรรม (moral courage) ในการยืนยันหลักการที่ถูกต้องที่ตนเองนำเสนอสู่สังคม และผมขอเสริมว่า หากคุณเป็นนักวิชาการที่นำเสนอหลักการเสรีนิยมประชาธิปไตยต่อสาธารณะสม่ำเสมอจริง คุณย่อมปฏิเสธตั้งแต่แรกที่ถูกเสนอชื่อเป็น สว.ในฐานะตัวแทนคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยแล้วแต่ในบทสัมภาษณ์ของมูฮัมหมัดอิลยาสยืนยันว่า องค์กรศาสนาอิสลามจำเป็นต้องมีตัวแทนไปนั่งในสภาโดยตำแหน่ง ความจำเป็นนี้มาจากสองเหตุผลคือ อำนาจรัฐกำหนดให้องค์กรศาสนาอิสลามเลือกตัวแทนมาเพราะมีปัญหาภาคใต้ และความจำเป็นหนึ่งมาจากอิสลามมี ลักษณะพิเศษ แตกต่างจากศาสนาอื่นๆ ที่จำเป็นต้องมี ผู้รู้หลักอิสลาม ไปนั่งในสภาเพื่อจะให้ความเห็นได้ถูกต้องเวลาจะบัญญัติกฎหมายที่กระทบต่อหลักอิสลาม ดังคำให้สัมภาษณ์ของเขาที่ว่าจากความเห็นนี้แสดงว่ามูฮัมหมัดอิลยาสยืนยัน เพื่อปกป้องหลักศาสนาของตน ประเด็นของความมีอภิสิทธิ์นี้ไม่เพียงอยู่ที่ว่า ต่อให้ระบบมันไม่ชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยคุณก็ยืนยันว่าจำเป็นต้องมีตำแหน่ง สว. แต่มันมีประเด็นพื้นฐานกว่านั้นมาก นั่นคือ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ยืนยันอภิสิทธิ์จากจุดยืนทางศาสนาการมีอภิสิทธิ์เป็น สว.โดยตำแหน่งในฐานะตัวแทนความเชื่อทางศาสนาเช่นนี้ ไม่เพียงแต่มีอภิสิทธิ์เหนือศาสนาอื่นๆ ที่ไม่มีตำแหน่งเป็นตัวแทนทางศาสนาของตนโดยเฉพาะเท่านั้น ยังเป็นอภิสิทธิ์ที่ไม่เป็นธรรมต่อคนไม่มีศาสนาอีกด้วย เพราะคุณมีตำแหน่งสาธารณะ รับเงินเดือนจากภาษีของคนทุกศาสนาและคนไม่มีศาสนา และใช้อำนาจสาธารณะในการออกกฎหมายบนจุดยืนทางศาสนาของตนเองอันเป็นความเชื่อเฉพาะของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นมันไม่มีหลักฐาน หรือข้อเท็จจริงใดๆ ยืนยันได้เลยว่า หากไม่มีตำแหน่งตัวแทนองค์กรศาสนาอิสลามในสภาแล้วจะส่งผลเสียหายต่อ เสรีภาพทางศาสนา ของชาวมุสลิมในไทยที่ต้องมีได้ในแบบเดียวกับคนศาสนาอื่นๆด้วยเหตุนี้จึงกล่าวไม่ได้อย่างสมเหตุสมผลว่า ระบบไม่เป็นประชาธิปไตยบังคับให้คุณไม่มีทางเลือก เพราะที่จริงคุณเองก็เลือกจากจุดยืนทางศาสนาตามที่คุณยกมาอ้าง และถ้าจุดยืนของคุณคือความจำเป็นทางศาสนาดังกล่าว ก็แปลว่า ถึงจะเป็นระบอบประชาธิปไตย คุณก็ยังหาทางที่จะไปมีตำแหน่งในสภาเพื่อ ใช้อำนาจสาธารณะ ปกป้องหลักศาสนาอันเป็นความเชื่อส่วนตัวของกลุ่มตนอยู่นั่นเอง โดยไม่สนใจว่าการมีอภิสิทธิ์ทางศาสนาแบบนั้นขัดหลักเสรีนิยมประชาธิปไตยหรือไม่ ยิ่งการยืนยัน อินโดนีเซียโมเดล ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ใช่การยืนยันหลักการเสรีนิยมประชาธิปไตยผมเคารพเพื่อนชาวมุสลิม ชาวพุทธ หรือศาสนิกของศาสนาใดก็แล้วแต่ที่รักศาสนาของตัวเองและต้องการทำสิ่งที่ดีเพื่อศาสนาของตน แต่มัน ไม่ยุติธรรม โดยสิ้นเชิงกับผมและประชาชนทุกคนที่ยืนยันเสรีภาพและประชาธิปไตย ที่กลุ่มบุคคลใดๆ จะอ้าง อภิสิทธิ์ เรื่องทำเพื่อศาสนาของตนเองด้วยการไปเพิ่มน้ำหนักให้กับอำนาจที่เหยียบสิทธิและเสรีภาพทางการเมืองของผมและประชาชนทุกคนกรณีซากีย์ แม้ผมจะเข้าใจสถานะ เงื่อนไข ความจำเป็นต่างๆ นานาตามที่มูฮัมหมัดอิลยาสพยายามอธิบาย แต่คำอธิบายเหล่านั้นไม่สามารถลบล้างสถานะ อำนาจ การทำหน้าที่ และการรับเงินเดือนจากภาษีประชาชนของซากีย์ ซึ่งถือเป็น อภิสิทธิ์ ที่ขัดกับความชอบธรรมตามหลักการเสรีประชาธิปไตยที่คุณเสนอ แน่นอนว่าบรรดานักกฎหมาย นักรัฐศาสตร์ และนักอื่นๆ ใน 250 สว.ย่อมขัดกับความชอบธรรมนี้ด้วยเช่นกันประเด็นต่อมาคือ ปัญหาศาสนากับประชาธิปไตย ถ้ายืนยันว่า จำเป็นต้องมีตัวแทนขององค์กรอิสลามไปเป็น สว.ในฐานะเป็นปากเสียงแทนชาวมุสลิม แบบนี้จะต่างอะไรกับการยืนยันว่า ผบ.เหล่าทัพต้องเป็น สว.โดยตำแหน่ง การยืนยันเช่นนี้คือการยืนยัน อภิสิทธิ์ บนจุดยืนทางศาสนาที่ขัดกับหลักการเสรีประชาธิปไตยชัดเจนดังนั้น การอ้างความจำเป็นทางศาสนาเพื่อเข้าไปมีตำแหน่งในโครงสร้างอำนาจรัฐแบบนี้ ไม่ใช่การอ้าง สิทธิ ที่จะมาเรียกร้องให้คนศาสนาอื่นๆ และคนไม่มีศาสนา เข้าใจยอมรับ และเคารพ ได้เลย เพราะมันคือการอ้าง อภิสิทธิ์ อย่างชัดแจ้ง ไม่ต่างจากการอ้างเรื่องบัญญัติในรัฐธรรมนูญให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติด้วยเหตุผลว่าเป็นศาสนาของคนส่วนใหญ่เลย เพราะตามหลักการเสรีประชาธิปไตยไม่ว่าศาสนาของคนส่วนใหญ่หรือคนส่วนน้อยก็ต้องไม่มีอภิสิทธิ์คำถามต่อองค์กรทางศาสนา กลุ่มบุคคลทางศาสนา หรือบุคคลทางศาสนาก็คือ การที่คุณสนับสนุนเผด็จการขัดกับหลักศาสนาของคุณไหม? หรือการที่คุณยอมสนับสนุนเผด็จการเพื่อจะมีอภิสิทธิ์ไปมีตำแหน่งสาธารณะ ใช้ภาษีสาธารณะ และใช้อำนาจสาธารณะปกป้องศาสนาของตนขัดกับหลักศาสนาของคุณไหม? ถ้าคำตอบคือ ขัด แต่คุณยังทำ ก็แปลว่า การกระทำของคุณขัดทั้งหลักการประชาธิปไตยและหลักศาสนาของตนเองผมเข้าใจหากชาวมุสลิมไม่พอใจถ้ารัฐจะยกพุทธศาสนาให้เป็นศาสนาประจำชาติ หรือให้อภิสิทธิ์แก่พุทธศาสนามากกว่าศาสนาอิสลามและศาสนาอื่นๆ ผมเห็นด้วยว่าชาวมุสลิมและคนศาสนาอื่นๆ ควรต่อต้านการกระทำเช่นนั้น แต่ขณะเดียวกันชาวมุสลิมก็ต้องไม่พยายามที่จะมีอภิสิทธิ์ต่างๆ โดยอ้าง ลักษณะพิเศษ ของศาสนาตัวเอง เพราะทุกศาสนาล้วนมีลักษณะพิเศษทั้งนั้น รัฐในฐานะตัวแทนอำนาจประชาชน และต้องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคนเสมอกัน มีหน้าที่ตอบสนองลักษณะพิเศษของศาสนาใดๆ ด้วยหรือถ้าเราอ้างเรื่อง ลักษณะพิเศษ ของแต่ละศาสนามาพูดคุยกัน ปัญหาไม่จบ เช่น คนที่ยืนยันการสวมฮิญาบเข้าไปในโรงเรียนวัดก็จะอ้างว่าต้องทำ เพราะการแต่งกายแบบนี้เป็นความเชื่อทางศาสนาตนเอง อีกฝ่ายก็จะอ้างว่าเข้ามาในบริเวณวัดต้องเคารพต่อสถานที่ เช่น ถอดหมวก เอาผ้าคลุมศีรษะออก หรืออื่นๆ เพื่อปฏิบัติตามความเชื่อทางศาสนาของเจ้าที่ เถียงกันไปชั่วกัลปาวสานก็ไม่จบ เพราะต่างคนต่างถูกตามความเชื่อของตน แต่ผิดตามความเชื่อของคนอื่นแต่ถ้าทุกฝ่ายยึด กติกากลาง ในการสนทนากัน คือยึดหลักสิทธิและเสรีภาพ ก็ย่อมหาข้อสรุปร่วมกันได้ว่า การแต่งกายแบบไหนก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล สวมฮิญาบเข้าไปในวัดถ้าไม่ไปทำลายทรัพย์สินวัด หรือทำร้ายพระ ก็ย่อมไม่ผิด เพราะไม่ได้ละเมิดสิทธิใครในเรื่องที่รัฐจะออกฎหมายต่างๆ ก็เหมือนกัน ไม่ควรมีศาสนิกของศาสนาใดอ้างอภิสิทธิ์ไปมีตำแหน่งในสภาเพื่อพิจารณากฎหมายนั้นๆ ได้ ในเมื่อคุณลงสมัคร ส.ส.ให้ประชาชนเลือกได้อยู่แล้ว และคุณยังสามารถแสดงออกผ่านสื่อ ภาคประชาชน และช่องทางอื่นๆ ได้อยู่แล้วหากเห็นว่าการออกกฎหมายนั้นๆ ละเมิดเสรีภาพทางศาสนาของคุณ และรัฐเองก็มีหน้าที่เพียงว่าจะออกฎหมายแบบไหนที่ไม่ไปละเมิดเสรีภาพทางศาสนาเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ออกกฎหมายให้ถูกตามหลักคำสอนของศาสนาใดๆ หรือเพื่อสิทธิพิเศษและผลประโยชน์ของศาสนาใดๆส่วนที่มูฮัมหมัดอิลยาสบอกว่า ไม่อยากให้มองการเมืองเป็นสองขั้วขาวดำ หรือแยกฝ่ายเทพฝ่ายมาร ผมคิดว่าจะเป็นปัญหามาก ถ้าหากกว่าทศวรรษมานี้เราไม่ตระหนักต่อ ความจริงที่ชัดแจ้ง ว่าการเมืองที่เราเผชิญอยู่คือการเมืองแบบ กลับขาวเป็นดำ กลับดำเป็นขาว ผมคงไม่ต้องยกหลักฐานมาแจกแจงนะครับ เชื่อว่าเราต่างรู้กันอยู่แล้วการมีเสรีภาพและประชาธิปไตยต่างหากที่รองรับ การเมืองสีเทา ได้จริง เพราะมันเปิดกว้างมากกว่าที่จะให้ฝ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะมีความคิดความเชื่อ อุดมการณ์ ศาสนา หรือภาพลักษณ์แบบไหนเข้ามาต่อสู้ต่อรองภายใต้หลักสิทธิและเสรีภาพที่เท่าเทียม และเป็นการต่อสู้ที่ แฟร์ มากกว่า เนื่องจากไม่ใช่การต่อสู้บนจุดยืนทางศาสนาใดๆ โดยเฉพาะ แต่เป็นจุดยืนของ พลเมือง ที่ต้องการปกป้องเสรีภาพทางศาสนาเสมอไปพร้อมๆ กับไม่ให้อภิสิทธิ์แก่ศาสนาใดๆ เพื่อที่คนทุกศาสนาและคนไม่มีศาสนาจะมีสิทธิและเสรีภาพที่เท่าเทียมในการเลือกสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตและเข้าถึงผลประโยชน์พื้นฐานอื่นๆ เช่น การศึกษา อาชีพ รายได้ สุขภาพ การบริการสาธารณะและสวัสดิการอื่นๆ อย่างเป็นธรรมในฐานะคนเท่ากันอย่างแท้จริงแต่ทว่าการมีเสรีภาพและประชาธิปไตยจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มา คำถามต่อเพื่อนชาวมุสลิมและชาวพุทธที่มีเพียงสองศาสนาซึ่งนำเรื่องศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองก็คือว่า แล้วจุดยืนทางศาสนาของคุณอยู่ตรงไหนในกระบวนการต่อสู้นี้
ซากีย์ พิทักษ์คุมพลผมอ่านบทสัมภาษณ์ของมูฮัมหมัดอิลยาส หญ้าปรังและเก่งกิจ กิติเรียงลาภ เกี่ยวกับกรณี ซากีย์ พิทักษ์คุมพล หนึ่งใน 250 สว.ที่โหวตเลือกประยุทธ์เป็นนายกฯ (ดู
การเมือง
ส.ว.สรรหา,สุรพศ ทวีศักดิ์,เก่งกิจ กิตติเรียงลาภ,ซากีย์ พิทักษ์คุมพล,มูฮัมหมัดอิลยาส หญ้าปรัง,ปรัชญาเกียรติ ว่าโร๊ะ
https://prachatai.com/journal/2019/06/83068
บิ๊กตู่ หนุนกองทุนอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ไทยประเดิมเงินก้อนแรก
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS Summit) ครั้งที่ 8 ที่โรงแรมแชงกรี-ลา โดยมีผู้นำประเทศสมาชิก อูวินมยิน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา นายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าร่วม,ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุมภายใต้หัวข้อ การก้าวไปสู่ประชาคมลุ่มแม่น้ำโขงที่เชื่อมโยงกัน ว่า การรวมตัวและความเชื่อมโยงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เราจะต้องช่วยกันสร้างประชาคม ACMECS ให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียว และเป็นแกนนำสำคัญเสริมสร้างประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ประเทศไทย โดยการสนับสนุนจาก 4 ประเทศสมาชิก ได้ริเริ่มจัดทำแผนแม่บท ACMECS (ค.ศ. 2019-2023) ซึ่งเป็นแผนแม่บทฉบับแรกของอนุภูมิภาค เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า,สำหรับเป้าหมาย 3 ประการ ได้แก่ 1.การเสริมสร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อในอนุภูมิภาค เน้นการเติมเต็มโครงสร้างพื้นฐาน 2.การสอดประสานด้านเศรษฐกิจ เน้นการปรับแก้กฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุนให้สอดคล้องกัน ลดความซับซ้อนของกฎระเบียบ 3.การพัฒนาภูมิภาคในลักษณะยั่งยืนและมีนวัตกรรม เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และเห็นพ้องจัดทำโครงการระยะเริ่มแรก 2 ปี ส่งเสริมความเชื่อมโยงตามระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก และตอนใต้ พร้อมเสนอจัดตั้งกองทุน ACMECS Fund ภายใต้แผนแม่บทฯทั้ง 3 เสา โดยไทยพร้อมสนับสนุนจัดตั้งกองทุนด้วยทุนเริ่มต้นก่อตั้งจำนวนหนึ่ง และขอเชิญชวนประเทศสมาชิกเป็นหุ้น รวมถึงประเทศที่มีศักยภาพ ทั้งในเอเชีย ยุโรป องค์กรระหว่างประเทศรวมถึงสถาบันการเงินต่างๆ,พร้อมกล่าวในตอนท้ายว่า การรวมตัวของสมาชิก ACMECS ถือเป็นการส่งสัญญาณสำคัญต่อประชาคมโลกว่า ACMECS พร้อมที่จะผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อเดินหน้าและกำหนดทิศทางขับเคลื่อนความร่วมมือของ ACMECS ในการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอนุภูมิภาคของพวกเรา โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง มั่นใจว่าจะเป็นอนุภูมิภาคเศรษฐกิจใหม่ ที่เป็นกลจักรสำคัญของโลกได้อย่างแท้จริง.
นายกฯ เปิดประชุมผู้นำเศรษฐกิจลุ่มอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ชูแผนแม่บทฉบับแรก บรรลุ 3 เสา ผนึกกำลังเป็นอนุภาคเศรษฐกิจแห่งใหม่ ประเดิมเงินก้อนแรก จัดตั้งกองทุน
ข่าว,การเมือง
ลุ่มแม่น้ำโขง,ประชุมร่วมมือเศรษฐกิจ,ACMECS Summit,สมาชิกลุ่มน้ำโขง,กองทุน ACMECS Fund,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1309501
กรมอุทยานฯ เร่งติดตามสาวโพสต์ภาพกิน แมวดาว
วันนี้ (14 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีผู้โพสซากแมวดาวซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และนำมาประกอบอาหารเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ตรวจสอบพบว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กกระทำความผิด 4 ราย แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบ 3 รายเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กเดียวกัน คาดว่ามีผู้ร่วมกระทำผิด 2 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทราบชื่อและเบอร์โทรศัพท์แล้ว และพบว่าอาศัยอยู่ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ส่วนอีก 1 คน คาดว่าจะเป็นญาติซึ่งไม่ทราบชื่อ และรายละเอียดที่ชัดเจนอย่างไรก็ตาม สื่อสังคมออนไลน์ได้แสดงความไม่พอใจ และแชร์โพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก กระทั่งเจ้าตัวได้ลบโพสต์และปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานจากการโพสต์ไว้แล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจกับผู้พบเห็นจึงได้มีประชาชนแจ้งไปที่สถานีตำรวจภูธรเบตง จ.ยะลา และตำรวจ บก.ปทส. โดยในส่วนของกรมอุทยานฯ ได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่รับผิดชอบติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไปทั้งนี้ กรมอุทยานฯ แจ้งว่าหากประชาชนพบเบาะแสเพิ่มเติมสามารถแจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วน 1362 และขอบคุณทุกภาคส่วน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่แจ้งข้อมูลเข้ามาเป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวดง​ กรมอุทยานแห่งชาติ​สัตว์ป่า​และพันธุ์พืช ประสานหน่วยงานเร่งติดตามจับกุมสาวโพสต์ภาพนำซากแมวดาวไปทำอาหาร คาดมีผู้ร่วมกระทำผิด 2 คน อยู่ในพื้นที่ จ.ยะลา
สิ่งแวดล้อม
แมวดาว,สัตว์ป่าคุ้มครอง,ชุดเหยี่ยวดง,กรมอุทยานฯ
https://news.thaipbs.or.th/content/291115
จากใจลูกน้อง ผอ.กำพล บุคคลสำคัญของโลกล่าสุด
ตามประสาของคนชาตินิยมที่รักประเทศไทย รักคนไทย ตามเชียร์นักกีฬาไทยในการแข่งขันทุกประเภททั่วโลกว่าอย่างนั้นเถอะครับ,ไม่เพียงแต่เรื่องการแข่งขันกีฬาเท่านั้น ผมยังตามเชียร์ในทุกเรื่อง ไม่ว่าการประกวดนางงาม ประกวดร้องเพลง ประกวดคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฯลฯ ดังที่เคยเขียนไว้หลายหนผ่านคอลัมน์นี้,รวมไปถึงการยกย่องการสำรวจการให้คะแนน หรือการจัดอันดับต่างๆขององค์กร หรือสถาบันที่มีชื่อเสียงต่างๆ,ด้วยเหตุนี้ผมจึงติดตามข่าวคราวการประกาศยกย่องบุคคลสำคัญของยูเนสโกอย่างใจจดใจจ่อมาโดยตลอด และจะรู้สึกดีใจและภูมิใจทุกครั้งที่คนไทยเราได้รับการยกย่องจากองค์การนี้,รวมทั้งในการแถลงข่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่มีข้อใหญ่ใจความว่า ยูเนสโกได้ประกาศยกย่อง ผอ.กำพล วัชรพล อดีตผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษาและสื่อสารมวลชนในโอกาสครบรอบ 100 ปีชาตกาล 27 ธ.ค.2562,ผมอ่านข่าวแล้วก็บังเกิดความตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง,ยินดีทั้งในฐานะที่เป็นคนไทย จึงรู้สึกภูมิใจที่คนไทยเราได้รับการยกย่องดังที่ได้กล่าวไว้แล้ว,ขณะเดียวกันก็เกิดความยินดีเพิ่มขึ้นอีกเป็นกำลังสอง เพราะคนไทยท่านนี้เป็นบุคคลที่ผมรู้จักคุ้นเคยใกล้ชิดสนิทสนม ในฐานะ ลูกน้อง คนหนึ่งของท่าน,มีโอกาสได้เดินตามหลังท่าน ทำงานภายใต้การนำของท่าน ในฐานะแม่ทัพใหญ่ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมาเกือบๆ 30 ปี,ได้เรียนรู้ได้ฟังคำแนะนำสั่งสอน ได้เห็นได้สัมผัสกับวิสัยทัศน์ของท่านที่เป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการทำหนังสือพิมพ์ และการพัฒนาการศึกษาผ่านโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ทั้ง 101 แห่งทั่วประเทศ,ผมเชื่อมาโดยตลอดว่า ท่านเป็นบุคคลสำคัญ เป็นบุคคลตัวอย่าง เป็นบุคคลอันทรงคุณค่าของประเทศชาติ ฯลฯ จากการที่ได้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับท่านดังกล่าว,บัดนี้ความเชื่อของผมก็ได้รับการยืนยันแล้วจากองค์กรซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลกอย่างยูเนสโกว่า ท่าน ผอ.เป็นบุคคลสำคัญ ไม่เพียงแค่ของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งของโลกด้วย,ผมเห็นรายชื่อของบุคคลสำคัญของโลกในปีนี้แล้วก็ขนลุกครับ มีทั้ง ลีโอนาร์โด ดาร์วินชี จิตรกรชาวอิตาลี, แมกซิม กอร์กี้ นักประพันธ์ชาวรัสเซีย และ เนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ฯลฯ,ภูมิใจจริงๆที่ท่าน ผอ.กำพล ในฐานะคนเอเชียเพียงคนเดียวที่ปรากฏชื่อเคียงบ่าเคียงไหล่กับบุคคลสำคัญของโลกที่เอ่ยถึง,ต้องขอขอบคุณมิตรประเทศ 3 ประเทศที่ให้การสนับสนุนในการเสนอชื่อ ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย และเกาหลีใต้ รวมทั้งต้องขอขอบคุณ ที่ประชุมยูเนสโกทุกระดับนับตั้งแต่ระดับกลั่นกรองจนถึงที่ประชุมใหญ่ ที่ให้การสนับสนุน โดยไม่มีเสียงคัดค้าน,ผมเห็นด้วยกับบทสรุปของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ว่าเราควรใช้โอกาสในการเฉลิมฉลอง 100 ปีชาตกาล ผอ.กำพล 27 ธันวาคม 2562 เผยแพร่เรื่อง สื่อสารมวลชน กับการศึกษา โดยเชื่อมโยงบทบาทของการสื่อสารมวลชน และการศึกษาเข้าด้วยกัน,เพื่อให้เกิดการพัฒนาคู่กับทั้งด้านการศึกษาและสื่อสารมวลชนทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยูเนสโกตั้งเป้าหมายไว้,พวกเราในไทยรัฐ ในฐานะผลิตผลที่ ผอ.กำพลสร้างไว้ ยินดีที่จะดำเนินการในส่วนที่ท่านรัฐมนตรีอยากเห็น เท่าที่พวกเราจะสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่,การศึกษากับการสื่อสารมวลชนจะต้องไปด้วยกัน และมีส่วนเกื้อกูลสนับสนุนซึ่งกันและกัน ดังที่ ผอ.กำพล วัชรพล ท่านมองเห็นมาก่อน และได้ดำเนินการมาด้วยตัวท่านเองโดยตลอด,พวกเราจะช่วยกันสานต่อ และจะเดินตามที่ ผอ.กำพลท่านนำร่องไว้แล้วอย่างแน่นอนครับท่านรัฐมนตรีครับ.,ซูม
ทุกครั้งที่องค์การยูเนสโกประกาศรายชื่อบุคคลสำคัญของโลก ผมจะต้องหยิบรายงานข่าวของยูเนสโกมาอ่านก่อนข่าวอื่นๆอยู่เสมอ เพื่อจะลุ้นว่าจะมีคนไทยเราได้รับการยกย่องด้วยหรือไม่
null
เหะหะพาที,ซูม,กำพล วัชรพล,100 ปีชาตกาล,ยูเนสโก
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1128283
ตาต่อตา สหรัฐฯ-โสมขาว จับมือติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THADD แล้ว
เมื่อ 8ก.ค.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน รัฐบาลสหรัฐฯและเกาหลีใต้ตกลงที่จะมีการนำระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD (Terminal High Attitude Area Defence System) เข้ามาติดตั้งในเกาหลีใต้แล้ว โดยกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์เมื่อ 8ก.ค.ว่า เกาหลีใต้และสหรัฐฯได้ตัดสินใจร่วมกันที่จะนำระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD มาติดตั้งในเกาหลีใต้แล้ว อันเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการป้องกันเพื่อเป็นการรับประกันความมั่นคงของประเทศเกาหลีใต้ และการดำเนินการนำระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD มาติดตั้งในดินแดนเกาหลีใต้นั้น จะเป็นไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้,บีบีซี แจ้งว่า เบื้องต้น ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า จะมีการนำระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD มาติดตั้งที่ใด และใครจะเป็นควบคุมระบบขีปนาวุธนี้ขั้นตอนสุดท้าย โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐฯและเกาหลีใต้ได้เริ่มการเจรจาอย่างเป็นทางการ เพื่อติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐฯในดินแดนเกาหลีใต้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากเกาหลีใต้เหนือได้มีการทดลองยิงขีปนาวุธพิสััยไกล ท่ามกลางการคัดค้านจากรัฐบาลจีน ที่เห็นว่าระบบป้องกันขีปนาวุธ THADD จะเป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลี ถึงแม้จะมีศักยภาพในการป้องกันและยิงขีปนาวุธของฝ่ายเกาหลีเหนือตกลงได้ก็ตาม,ทั้งนี้ ระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD คือ ระบบยิงสกัดขีปนาวุธในพิกัดตำแหน่งสูง ขณะที่ขีปนาวุธโจมตีกำลังเข้าสู่วิถีเดินทางระยะสุดท้ายก่อนตกสู่เป้าหมาย โดยมากใช้ยิงสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยปานกลาง โดยระบบป้องกันขีปนาวุธ THADDมีพิสัยยิงไกลได้ถึง 200 กม.และสามารถทำลายขีปนาวุธที่มุ่งโจมตีได้ในพิกัดที่มีความสูงถึง 150 กม.จากพื้นดิน
สหรัฐฯ-เกาหลีใต้ บรรลุข้อตกลงนำระบบป้องกันขีปนาวุธ THADD มาติดตั้งในเกาหลีใต้แล้ว แม้จะถูกคัดค้านจากจีน หวังรับประกันความปลอดภัย สร้างความอุ่นใจให้แก่ชาวโสมขาว ขณะที่เกาหลีเหนือเดินหน้าทดลองยิงขีปนาวุธไม่หยุด
null
ระบบป้องกันขีปนาวุธ THADD,สหรัฐฯ,เกาหลีใต้,ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ,THADD,เกาหลีเหนือ,ทดลองขีปนาวุธ,ขีปนาวุธพิสัยกลาง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/658706
นักวิชาการออกซ์ฟอร์ดชวนคิด ทำไมผู้หญิงในพม่าหนุน กฎหมายคุ้มครองศาสนา
นักวิชาการออกฟอร์ดที่ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับพม่า ชวนทำความเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงที่ถูกจำกัดบทบาทอย่างในวัฒนธรรมพม่าถึงมีความใกล้ชิดกับศาสนาพุทธรวมถึงคิดว่าควรจะต้องปกป้อง14 ก.ย. 2558 ประเทศพม่ามีข้อถกเถียงในเรื่อง กฎหมายคุ้มครองศาสนา ที่เพิ่งมีการลงนามประกาศใช้โดยประธานาธิบดีเต็งเส่ง เมื่อไม่นานมานี้ กฎหมายคุ้มครองศาสนาดังกล่าวเป็นกฎหมายที่ถูกมองจากนานาชาติว่าเป็นการต่อต้านศาสนาอื่นที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธรวมถึงกีดกันสตรี แต่ในบทความของเว็บไซต์อีสต์เอเชียฟอรัมก็เปิดเผยในอีกมุมมองหนึ่งให้เห็นว่ามีผู้หญิงในพม่าจำนวนหนึ่งที่เห็นด้วยกับกฎหมายคุ้มครองศาสนาเช่นกันกฎหมายคุ้มครองศาสนาของพม่าเป็นกฎหมายที่ได้รับการสนับสนุนผลักดันจากกลุ่มชาตินิยมต่อต้านศาสนาอิสลามที่เรียกตัวเองว่า MaBaTha และขบวนการ 969 ในขณะที่ถูกต่อต้านจากกลุ่มประชาสังคมโดยเฉพาะจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มสิทธิสตรีที่โต้แย้งว่ากฎหมายดังกล่าวขัดต่อหลักการสากลและเป็นการส่งเสริมให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนาบทความที่เขียนโดยกลุ่มนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดระบุว่าพรรคการเมืองและรัฐบาลพม่าสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้เพราะต้องการเอาใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพม่าที่เป็นชาวพุทธ แต่ไม่เพียงประชากรที่เป็นผู้ชายเท่านั้นที่สนับสนุนกฎหมายนี้ ผู้หญิงส่วนหนึ่งในพม่าก็สนับสนุนกฎหมายนี้ด้วยถึงแม้จะถูกมองว่าเป็นกฎหมายที่แย่สำหรับผู้หญิงแม้จะมีชุดคำอธิบายว่าผู้หญิงที่ให้การสนับสนุนกฎหมายนี้ไม่มีความเข้าใจ อ่อนต่อโลกเกินไป หรือถูกหลอกใช้ ถูกล่อลวงจากผู้นำพระสงฆ์หรือผู้นำทางการเมืองที่กระหายอำนาจโดยต้องการใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่กลุ่มนักวิชาการออกซ์ฟอร์ดระบุว่าแนวคิดเช่นนี้มีปัญหาเนื่องจากเป็นการมองผู้หญิงพม่าอย่างดูแคลนเกินไป ทั้งที่ผู้หญิงในพม่ามีบทบาทสำคัญในกิจกรรมการประท้วงสำคัญๆ หลายครั้งจากการสัมภาษณ์ผู้หญิงในรัฐยะไข่เปิดเผยให้เห็นว่าที่พวกเธอสนับสนุนกฎหมายคุ้มครองศาสนาของพม่าเนื่องจากพวกเธอหวาดกลัวภัยจากการถูกทำร้ายหรือถูกข่มขืนโดยชายชาวมุสลิมโดยยังไม่แน่ชัดว่าความหวาดกลัวของพวกเธอจะมีเหตุผลหรือไม่ แต่กลุ่มองค์กรและตัวแทนบางองค์กรก็แสดงความเข้าอกเข้าใจต่อความหวาดกลัวนี้ เช่นพระวีระตุ๊ ผู้นำกลุ่มศาสนาพุทธแบบสุดโต่งในพม่าประกาศว่าเขาไม่เพียงต้องการปกป้องพุทธศาสนาแต่ต้องการปกป้องหญิงชาวพุทธด้วยบทความในอีสต์เอเชียฟอรัมระบุว่ามีเรื่องทางวัฒนธรรมที่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของสตรีกับศาสนาพุทธในพม่า ถึงแม้ว่าในแง่ความเชื่อทางศาสนาพุทธในพม่าจะยังมองผู้หญิงว่าด้อยกว่า รวมถึงในแง่การเมืองสงฆ์ก็ไม่เปิดรับผู้หญิง และแม่ชีในพม่าก็มีสถานะไม่เทียบเท่าพระสงฆ์ อย่างไรก็ตาม สถานะของผู้หญิงในพม่าภายนอกวัดก็ถูกกำหนดบทบาทหน้าที่อยู่แค่กับการแต่งงานและครอบครัวทำให้ผู้หญิงมีความกลัว ความกังวล หรือไม่มีความสุข แต่การได้เข้าไปมีบทบาทในวัดถือเป็นการเปิดพื้นที่ชีวิตของผู้หญิงในพม่า การได้เป็นแม่ชีอย่างน้อยก็ทำให้พวกเธอสามารถแสวงหาในเชิงจิตวิญญาณหรือจริยธรรมได้ ด้วยบริบทเช่นนี้เองทำให้ผู้หญิงในพม่าสนับสนุนกฎหมายคุ้มครองศาสนา เพื่อแสดงอัตลักษณ์ทางศาสนาของตนเองหรือคิดไปว่าเป็น การทำบุญอย่างไรก็ตาม กลุ่มนักวิชาการออกซ์ฟอร์ดระบุว่าบทวิเคราะห์ของพวกเขาชิ้นนี้ไม่ได้ต้องการโต้แย้งหรือต่อต้านข้อถกเถียงของกลุ่มประชาสังคมที่ว่ากฎหมายคุ้มครองศาสนาในพม่าจะนำมาซึ่งการกีดกันผู้หญิงและคนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ เป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากล รวมถึงอาจจะสร้างความขัดแย้งระหว่างศาสนา กลุ่มนักวิชาการออกซ์ฟอร์ดระบุว่าข้อถกเถียงทั้งหมดนี้เป็นความจริงแต่ข้อถกเถียงเหล่านี้ก็ไม่ทำให้ผู้หญิงส่วนหนึ่งในพม่าเลิกสนับสนุนกฎหมายนี้ ทำให้พวกเขาต้องศึกษาอย่างใกล้ชิดว่าสถานการณ์ทางศาสนาหรือวัฒนธรรมแบบใดที่ทำให้เกิดการส่งเสริมเช่นนี้ เพื่อให้กลุ่มภาคประชาสังคมสามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความคับแค้นของผู้หญิงในพม่ารวมถึงส่งเสริมความปรารถนาของพวกเธอได้อย่างจริงใจและตรงไปตรงมา ซึ่งจะส่งผลให้รณรงค์ต่อต้านกฎหมายกีดกันและสร้างความขัดแย้งให้ได้ผลมากขึ้นด้วยWhy are women supporting Myanmars religious protection laws ? Matthew J Walton Melyn McKay and Ma Khin Mar Mar Kyi University of Oxford East Asia Forum 09-09-2015
นักวิชาการออกฟอร์ดที่ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับพม่า ชวนทำความเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงที่ถูกจำกัดบทบาทอย่างในวัฒนธรรมพม่าถึงมีความใกล้ชิดกับศาสนาพุทธรวมถึงคิดว่าควรจะต้องปกป้อง 14 ก.ย.
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม
กฎหมายคุ้มครองศาสนา,การกีดกันทางศาสนา,การกีดกันทางเพศ,พม่า,พุทธศาสนา,สิทธิสตรี
https://prachatai.com/journal/2015/09/61404
กระบะขนยางแตกพลิกคว่ำ ผลไม้หล่นเกลื่อนถนน โชคดีไร้เจ็บ
เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันนี้ (27 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุกู้ภัยบูรพา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกแตงโมพลิกคว่ำบริเวณถนนพิษณุโลก – หล่มสัก หมู่ 1 บ้านไชยนาม ต.ชัยนาม อ.วังทอง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังทอง และเจ้าหน้าที่ อบต.ชัยนาม พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บร 3566 พิษณุโลก พลิกตะแคงข้างอยู่ริมถนน มีแตงโมและแคนตาลูปที่บรรทุกมาหล่นแตกเกลื่อนถนน,เจ้าหน้าที่ อบต.ชัยนาม และชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต้องช่วยกันเก็บแตงโมและผลไม้ที่หล่นกระจัดกระจาย เพื่อป้องกันไม่ให้รถที่สัญจรไปมาเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านบางรายที่มาช่วยเก็บผลไม้ เจ้าของก็อนุญาตให้นำไปรับประทานได้,จากการสอบถาม นายอนุชา แก้วภาพ อายุ 42 ปี คนขับรถเล่าให้ฟังว่า ตนและนางสายทอง คำสุข ภรรยา ได้ไปรับแตงโมและแคนตาลูปจากตลาดไทเจริญ ต.ดอนทอง อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อไปขายที่ จ.เลย โดยได้บรรทุกแตงโมและแคนตาลูปมาเต็มคันรถหนัก 1.2 ตัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถเกิดยางระเบิดที่ล้อหลังด้านซ้าย ประกอบกับบรรทุกน้ำหนักเยอะ ทำให้รถเสียการทรงตัวพลิกคว่ำ 2 ตลบและตะแคงข้าง ผลไม้ที่บรรทุกมาได้เทกระจาดเต็มพื้นถนน แต่ตนและภรรยาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด,เบื้องต้น จ.ส.ท.สมชาย พรหมศิริ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ชัยนาม ได้ประสานรถน้ำ อบต.ชัยนาม มาฉีดล้างทำความสะอาดพื้นผิวถนน เนื่องจากแตงโมที่ตกแตกเกลื่อนถนนอาจเกิดอันตรายแก่ผู้ที่สัญจรไปมา.
เกิดอุบัติเหตุพ่อค้าผลไม้ ควบกระบะ รับผลไม้มาจากตลาดผลไม้ ต.ดอนทอง อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อไปขายที่ จ.เลย เกิดยางแตก พลิกคว่ำ 2 ตลบ ผลไม้หล่นแตกเกลื่อนถนน ทั้ง แตงโม - แคนตาลูป โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ข่าว,ทั่วไทย
ยางแตก,รถคว่ำ,รถพลิกคว่ำ,รถผลไม้พลิกคว่ำ,เทกระจาดเต็มพื้นถนน,หล่นกระจัดกระจาย,บ้านไชยนาม,ชัยนาม,วังทอง,พิษณุโลก,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/674623
คนกำแพงเพชรได้เฮ ตะเคียน แม่ภัสรา มอบโชคจริงหลังให้เลข 35-53
ได้เฮกันถ้วนหน้า ตะเคียน แม่ภัสรา กำแพงเพชร ให้โชคจริงหลังให้เลข 35 53 ด้าน ชาวบ้านในพื้นที่ ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง เตรียมขุดแม่ขึ้นมาจากน้ำแน่นอนจากกรณี พบต้นตะเคียนทองความยาวประมาณ 25 เมตร กว้างประมาณ 1.50 เมตร โดยลำต้นตะเคียนส่วนโคนและส่วนกลางถูกดินคันตลิ่งทับอยู่ในที่นาในพื้นที่ ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร แต่ส่วนปลายต้นนั้นโผล่ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ในคลองน้ำ หลังชาวบ้านหลายคนฝันเห็นหญิงผมยาว ใส่ชุดโจงกระเบนขาว ตามมาเข้าฝัน ขอให้ช่วยนำขึ้นจากน้ำ โดยสลากฯ งวดที่ผ่านมามีชาวบ้านถูกเลขมีโชคกันมากมาย รวมถึงแม่ตะเคียนทองได้กลับมาเข้าฝันบอกเลขงวดต่อไปอีกเป็นงวด 2เมื่อวันที่ 16 ก.ค.563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลเลขท้าย 2 ตัว คือ 53 ล่าสุด ชาวกำแพงเพชร เฮ ทั้งจังหวัด ได้โชคจาก ต้นตะเคียน แม่ภัสรา ที่มาเข้าฝันหนุ่มกำแพงเพชร ฝากชาวบ้านบอกอยากจะขึ้นจากน้ำ และเขียนเลขใส่กระดาษคือเลข 35 53 ทำให้หลายคนที่ติดตามข่าวได้รับโชคกันถ้วนหน้าโดยก่อนหน้านี้ นายธวัชชัย วังชัย อายุ 68 ปี เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่หลายคนมีโชคในงวดที่ผ่านมา หากงวดนี้ใครถูกมีโชคอีก ก็ขอแรงศรัทธานำเงินมาทำบุญช่วยค่ารถแบ็กโฮ ขุดแม่ตะเคียนทองขึ้นมา และจะเอาไปไว้ที่ วัดไทรย้อย ในพื้นที่ให้คนร่วมบุญกันสร้างวัดต่อไปต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางพัชรี แก่นจำปา อายุ 54 ปี ม.10 ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพขร และชาวบ้านที่มาขอโชคลาภกับแม่ตะเคียนทองวันนี้ ก็พบว่าหลายคนก็มีโชคกันสำหรับงวดที่ผ่านมา และพากันเดินทางมากันอย่างมากมายเพื่อขอเลขงวดนี้ต่อ หากมีโชคอีกก็จะมาร่วมทำบุญสมทบเงินนำรถมาขุดแม่ตะเคียนทองขึ้นไปไว้ที่วัดต่อไปต่อมานายพิชญพงษ์ เขตรการณ์ อายุ 31 ปี ม.5 ต.วังบัว อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เล่าว่า หลังจากงวดที่ผ่านมานั้นตนเองได้มากราบไหว้ขอพรกับเจ้าแม่ตะเคียนทองและมีโชค เจ้าแม่ตะเคียนทอง ได้ไปเข้าฝันตนเองอีกครั้ง โดยได้เล่าความฝันว่า เจ้าแม่ตะเคียนทอง มีขื่อว่า แม่ภัสรา อายุ 825 ปี สวมใส่ชุดโจงกระเบนสีขาว เป็นผู้หญิงผมยาวสวย และบอกเลขกับตนเองอีกครั้งในงวดนี้ โดยเลขที่ แม่ภัสรา ให้นั้น ตนเองจะเขียนให้ดูแทนการพูดออกมา และหากถูกงวดนี้ก็จะนำเงินมาช่วยทำบุญ ขุดแม่ตะเคียนขึ้นมาบนฝั่งร่วมกับชาวบ้าน หลังจากนั้นได้ทำการเขียนเลขที่แม่ตะเคียนทองได้ไปบอกในความฝันลงในกระดาษให้ทุกคนได้ดู คือเลข 965 35 นั่นเอง.
ได้เฮกันถ้วนหน้า ตะเคียน แม่ภัสรา กำแพงเพชร ให้โชคจริงหลังให้เลข 35 53 ด้าน ชาวบ้านในพื้นที่ ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง เตรียมขุดแม่ขึ้นมาจากน้ำแน่นอน
ข่าว,ทั่วไทย
ถูกหวย,เลขเด็ด,แม่ภัสรา,ต้นตะเคียน,กำแพงเพชร,เจ้าแม่ตะเคียนทอง,หวย
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1890899
ไขทางรอด วูบตกรางรถไฟฟ้า เปิดภาพหาดูยาก ห้องปฐมพยาบาล BTS (คลิป)
จากเหตุระทึกขวัญล่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 15 ส.ค. 61 เกิดเหตุไม่คาดฝัน, ผู้โดยสารหญิงหน้ามืด เป็นลมพลัดตกไปในรางบีทีเอส ที่สถานีราชเทวี, ฝั่งมุ่งหน้าปลายทางสำโรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือไว้ได้อย่างปลอดภัย มีเพียงรอยฟกช้ำดำเขียวเล็กน้อยแม้เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่โชคร้ายจนต้องเสียชีวิต แต่ทำให้ผู้ใช้บริการเป็นกังวล,ต่างเกิดข้อสงสัย ,แนวทางป้องกันของบีทีเอสไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยมีหรือไม่ เบื้องลึกเพราะอะไรไม่สร้างประตูกั้นชานชาลาพร้อมๆ การสร้างสถานีรถไฟฟ้า และเหตุใดประตูกั้นชานชาลาไม่มีทุกสถานี ทั้งๆ ที่หลังสร้างประตูกั้นก็มีรายได้จากโฆษณาบนแผงกั้น,วันนี้,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,มีคำตอบชัดแจ้งทุกข้อคาใจ ,พร้อมลงพื้นที่สำรวจ ตรวจสอบระบบความปลอดภัย ตลอดเส้นทาง BTS สายสุขุมวิท จำนวน 22 สถานี โดยเริ่มนั่งสำรวจจากสถานีหมอชิต ปลายทางสถานีแบริ่ง,ย้อนรอย 5 อุบัติเหตุไม่คาดฝัน ผู้โดยสารตกราง BTS,ก่อนอื่น ขอย้อนรอยเหตุการณ์ระทึกตลอด 19 ปีที่รถไฟฟ้าบีทีเอสที่เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. พ.ศ. 2542 ,หากจำกันได้ดีในปี 53 เมื่อวันที่ 20 ม.ค. สาวแบงก์ พลัดตกรางรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีหมอชิต เดชะบุญรถวิ่งผ่านคร่อมร่าง แค่ศีรษะแตก รอดชีวิตหวุดหวิด ,ต่อมา ในปี 55 เกิดเหตุ 10 มกราคม, พี่ชาย จอห์น วิญญู ดาราดังวูบพลัดตก BTS ราชเทวี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หางคิ้วแตก ฟันหัก เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาล,อีก 2 ปีต่อมา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 ,ผู้ประกาศข่าวเที่ยง ทีวีดิจิตอล ช่อง 3 SD เป็นลมหมดสติตกลงในรางรถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานีช่วยเหลือได้ทัน,ส่วนในปี 58 นั้น เกิดเหตุถึง 2 ครั้ง, เมื่อ 25 มิถุนายน ,นักเรียนหญิงเป็นลมพลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้า BTS สถานีกรุงธนบุรี ขณะรถไฟฟ้ากำลังแล่นเข้าชานชาลา, ทำให้ตู้ขบวน 1 ตู้ คร่อมร่าง เจ้าหน้าที่ตัดระบบไฟฟ้าให้รถไฟฟ้าหยุดเดิน และช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย และในวันที่ 7 กันยายน 58 ,เกิดเหตุหญิงเป็นลมหมดสติ พลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวี ได้รับบาดเจ็บ,บีทีเอส แจงเหตุผล แผงกั้นประตูชานชาลา ทำไมมีไม่ครบทุกสถานี,การพลัดตกในรางรถไฟฟ้าของผู้โดยสารที่เป็นข่าวอยู่เนืองๆ ดังกล่าว ,บีทีเอสมีมาตรการป้องกันความปลอดภัยอย่างไร, ทีมข่าวฯ สอบถามจาก ,ดร.อาณัติ อาภาภิรม, ประธานกรรมการที่ปรึกษา บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ชี้แจงว่า ,โดยปกติบริษัทให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยผู้โดยสารมาตลอด และป้องกันการเกิดเหตุซ้ำรอยโดยสร้างประตูกั้นระหว่างสถานีและรางรถไฟฟ้า ซึ่งมีการติดตั้งครั้งแรกในปี 55 ที่สถานีสยาม,สำหรับประตูกั้นชานชาลา ,เป็นประตูแบบครึ่งความสูง, (Half Height Platform Screen Door) ,เป็นรั้วสูง 1.50 เมตร มีชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน ,(Fixed Drive Panel, FDP), อยู่ด้านข้างของบานประตูเลื่อนอัตโนมัติ, (ASD),ปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว ประกอบด้วยรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท คือ ,1.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 2.พญาไท 3.สยาม 4.ชิดลม 5.อโศก 6.พร้อมพงษ์ 7.อ่อนนุช, และรถไฟฟ้าสายสีลม เริ่มจากสยามกีฬาแห่งชาติ จนถึงบางหว้า ,มี 2 สถานีที่มีประตูกั้นชานชาลา ประกอบด้วย ศาลาแดง และช่องนนทรี,ทั้งนี้จากการนั่งสำรวจของทีมข่าวฯ ,พบว่ารถไฟฟ้าสายสุขุมวิทมี 15 สถานีที่ไม่มีที่ประตูกั้นชานชาลา คือ 1. หมอชิต 2.สะพานควาย 3.อารีย์ 4. สนามเป้า 5. ราชเทวี 6. เพลินจิต 7.นานา 8.ทองหล่อ 9.เอกมัย 10. พระโขนง 11. บางจาก 12.ปุณณวิถี 13.อุดมสุข 14.บางนา 15.แบริ่ง,อย่างไรก็ดี จากการสำรวจมาตรการความปลอดภัยของบีทีเอสในครั้งนี้ ทีมข่าวฯ ได้รับฟังข้อสงสัยจากผู้ใช้บริการที่ต้องการคำตอบในทิศทางเดียวกันว่า ,เหตุใด บีทีเอส ไม่สร้างประตูกั้นทุกสถานี ทั้งๆ ที่มีรายได้จากโฆษณาที่วิบๆ วับๆ ตามประตูกั้นต้องรอให้เกิดเหตุการณ์คนพลัดตกอีกหรือจึงจะมีการสร้าง?,ดร.อาณัติ อธิบายชี้ชัดว่า,การติดตั้งประตูกั้นระหว่างสถานีและรางรถไฟฟ้า ใช้งบประมาณสูงถึงสถานีละ 40-50 ล้านบาท สำหรับ 9 สถานีที่ติดตั้งแล้วนั้น เป็นงบประมาณของบีทีเอสทั้งหมด 600 ล้านบาท เผยเหตุไม่สร้างทุกสถานีเพราะในสัมปทานไม่มีการระบุไว้แต่แรก,สถานีที่ยังไม่มีประตูกั้น คงจะทยอยสร้างไปตามความจำเป็นและเหมาะสม,เหตุที่ไม่ได้สร้างประตูกั้นมาพร้อมการสร้างสถานีนั้น เนื่องจากไม่อยู่ในเงื่อนไขสัมปทาน,ใช้งบประมาณ BTS สร้างไป 600 ล้านบาท, ดร.อาณัติ อธิบาย,แนะทางรอด ก่อนวูบตกราง เปิดภาพห้องปฐมพยาบาล บีทีเอส ดูแลผู้โดยสาร,กรณีผู้โดยสารเคยวูบตกรางรถไฟฟ้า จากการดูกล้องวงจรปิดของสถานีที่เคยเกิดเหตุ ดร.อาณัติ เปิดเผยข้อมูล กับทีมข่าวฯ ,ส่วนใหญ่ที่ผู้โดยสารพลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้า สาเหตุจากเป็นลม, ,ซึ่งพฤติกรรมคนเป็นลมมีอาการที่เร็วมาก จะหมดสติไม่รู้เรื่องก่อนล้ม และเซไปไกลจนล้ำเส้นเหลืองบนชานชาลา รปภ.จึงช่วยไม่ทัน ,ซึ่งเส้นสีเหลืองบนชานชาลานั้น เป็นเส้นที่กำหนดขอบเขตความปลอดภัยบนชั้นชานชาลา กันผู้โดยสารที่ยืนรอรถไฟฟ้าบนชานชาลาไม่ให้ยืนหรือเดินก้าวล้ำเข้าไปในระยะห่างที่ไม่ปลอดภัย,สำหรับกรณีผู้โดยสาร หากรู้สึกมึนหรือเวียนหัว อย่าฝืนยืน หรือเดิน ให้นั่งลงกับพื้น และขอความช่วยเหลือจาก รปภ. หรือผู้โดยสารแถวนั้น, จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ รปภ. ,พาไปห้องปฐมพยาบาล (First Aid Room) มีบริการประจำทุกสถานี ซึ่งแต่ละปีมีการให้บริการบ่อยครั้ง เนื่องจากมีคนเป็นลมบนสถานีในชั้นชานชาลาเรื่อยๆ โดยเหตุผล,พราะเมื่อฝืนทนจนหมดสติ แล้วจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และจะล้มโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นอันตรายมาก,โดยมากคนจะเป็นลมในตอนเช้า สาเหตุน่าจะมาจากการตื่นเช้า บางคนยังไม่ได้กินข้าวมา ทำให้เป็นลมได้ง่าย, ดร.อาณัติ,อย่างไรก็ตามขณะลงพื้นที่ ทีมข่าวฯ รู้สึกเวียนหัว จึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่บนชานชาลา จากนั้นก็ได้รับการช่วยเหลือดูแล พาไปยังห้องปฐมพยาบาลประจำสถานีหนึ่ง ,ภายในห้องมีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และมีเตียงนอน 2 เตียง ซึ่งมีผู้โดยสารนอนพักฟื้นดูอาการจากการอ่อนเพลียเพราะท้องเสีย, โดยมีเจ้าหน้าที่ 1 คนคอยดูแล นำแอมโมเนียมาให้ทีมข่าวฯ ดม และให้ดื่มน้ำหวาน,จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ห้องปฐมพยาบาลเพื่อรอให้อาการดีขึ้น ได้ข้อมูลว่า ,การให้บริการห้องปฐมพยาบาลของสถานีนี้มีเกือบทุกวัน ส่วนมากผู้โดยสารจะเป็นลมเพราะนอนน้อย และปวดประจำเดือน ตก เตะบันไดเลื่อนได้รับบาดเจ็บบ้าง, นานๆ ครั้งจะมีผู้โดยสารอาการ ,เช่น ชักเกร็ง ตัวชา ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วไม่หายก็ส่งตัวไปรักษาต่อยัง รพ.,ทั้งนี้หลังใช้บริการ ผู้โดยสารต้องกรอกรายละเอียด ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ อาการป่วย เดินทางมาจากไหนเพื่อไปสถานีไหน และเวลาเข้า เวลาออกในการใช้ห้องปฐมพยาบาล ในแบบฟอร์มการใช้บริการห้องปฐมพยาบาล ทีมข่าวฯ สอบถามเจ้าหน้าที่ว่านำข้อมูลไปทำอะไร เจ้าหน้าที่ตอบสั้นว่า ,ผู้โดยสาร BTS วูบตกราง สิ่งแรกที่ รปภ. ทำเพื่อเซฟชีวิต,อย่างไรก็ดีตลอด 2 ชั่วโมงที่ทีมข่าวฯ นั่งรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท สำรวจมาตรการป้องกันความปลอดภัยของผู้โดยสารบนชั้นชานชาลาจำนวน 22 สถานีของสายสุขุมวิท จากการสังเกตพบว่า,บุคคลที่ทำงานหนักที่สุด คือ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) โดยเฉพาะสถานีที่ไม่มีประตูกั้น ซึ่งมีฝั่งละ 1 คนทุกสถานี, ต้องคอยระวังให้มากขึ้น,หน้าที่หลัก ,คือคอยดู และห้ามผู้โดยสารยืนล้ำเส้นเหลือง หากยืนล้ำเส้น ก็จะเป่านกหวีดเตือน, นอกจากนี้ยังคอยให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารในกรณีต่างๆ เช่น ,หากมีสิ่งของ หรือผู้โดยสารตกลงในราง สิ่งแรกที่ รปภ. ต้องรีบทำ คือ ทุบกระจก แล้วกดปุ่มหยุดรถไฟฉุกเฉิน (Emergency Train Stop) เพื่อหยุดรถไฟฟ้า ซึ่งทุกสถานีมีปุ่มหยุดรถไฟฉุกเฉิน ฝั่งละ 4 จุด,รปภ.สถานีหนึ่งกล่าวกับทีมข่าวฯ ,แม้สถานีที่มีประตูกั้นก็ต้องทำหน้าที่เดียวกับสถานีที่ไม่มีประตูกัน คือ ยืน 12 ชั่วโมง, คอยดูแลผู้โดยสาร และให้บริการผู้โดยสารพิเศษ เช่น คนพิการ อำนวยความสะดวกพาขึ้นรถไฟฟ้า, เมื่อรถไฟฟ้าให้สัญญาณดังเตือนจะปิดประตู ก็จะทำหน้าที่เป่านกหวีดเตือนผู้โดยสารให้หยุด เพื่อกันประตูกั้นหนีบผู้โดยสาร ซึ่งการเปิดปิดของประตูขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมรถไฟฟ้าในขบวนนั้นๆ,ต้องอบรมความรู้เบื้องต้นของระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส วิธีใช้อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยและการดับเพลิงภายในระบบ อบรมการหยุดรถไฟฟ้า, รปภ. สถานีหนึ่งกล่าว,สำหรับบางคนที่สงสัยว่า หากตกลงในรางรถไฟฟ้าจะเสียชีวิตจากกระแสไฟฟ้าหรือไม่นั้น ดร.อาณัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน,อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : ,เผยโฉมห้องน้ำในสถานีรถไฟฟ้า BTS ปวดหนักอยากถ่าย ไม่ต้องทนอั้นอีกต่อไป,สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่,
 ,[email protected],  หรือช่องทาง Facebook : ,ทีมข่าวเฉพาะกิจ
ผู้โดยสาร BTS วูบตกราง สิ่งแรกที่ รปภ. ทำเพื่อช่วยชีวิต พร้อม แนะทางรอด ก่อนวูบตกราง เผยภาพห้องปฐมพยาบาล บีทีเอส ดูแลผู้โดยสาร
สกู๊ปไทยรัฐ
อาณัติ อาภาภิรม,ตกรางรถไฟฟ้า,รปภ.รถไฟฟ้า,ตกรางบีทีเอส,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/scoop/1360581
ศาลเลื่อนพิพากษาคดีเสื้อแดงเชียงราย ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกรอบ
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2557 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดเชียงราย นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.513/2555 ระหว่างฝ่ายโจทก์ พนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย กับฝ่ายจำเลย นายอรรถกร กันทไชยและพวก รวม 5 คน ซึ่งเป็นแกนนำและดีเจสถานีวิทยุชุมชนของกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงราย ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จากกรณีเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553ศาลได้แจ้งกับฝ่ายจำเลยว่าทางสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ซึ่งศาลได้ส่งร่างคำพิพากษาคดีนี้ไปให้ตรวจนั้น ได้มีหนังสือแจ้งมาว่าขอให้มีการทบทวนรูปแบบของการเขียนร่างคำพิพากษาใหม่ โดยหนังสือตอบนี้ศาลเพิ่งได้รับกลับมา ทำให้ไม่สามารถอ่านคำพิพากษาในครั้งนี้ได้ทัน เพราะต้องนำสำนวนมาเรียงใหม่ ใช้เวลาราว 15 วัน ก่อนส่งร่างคำพิพากษากลับไปให้ศาลภาค 5 ตรวจใหม่อีกครั้ง ทำให้ต้องใช้เวลาอีกราว 1 เดือนจากนั้นทางฝ่ายจำเลยได้พยายามสอบถามว่ากรณีนี้หมายถึงว่าจะให้มีการเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาหรือไม่ ศาลได้ชี้แจงว่าทางสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ได้ขอให้เปลี่ยนรูปแบบการเขียน แต่ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับธงของร่างคำพิพากษาเดิม ซึ่งผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว ผู้ตรวจคำพิพากษาไม่ได้มาเปลี่ยนแปลงธงศาลและฝ่ายจำเลยจึงตกลงนัดวันฟังคำพิพากษาใหม่อีกครั้ง เป็นวันที่ 25 มีนาคม 2557 เวลา 9.00 น.ทั้งนี้ ในคดีนี้ได้มีการเลื่อนการอ่านคำพิพากษามาครั้งหนึ่งแล้ว จากเดิมวันที่ 11 ธ.ค.56 เนื่องจากในครั้งนั้น ศาลแจ้งว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญ จึงต้องส่งร่างคำพิพากษาให้สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ตรวจก่อน ก่อนที่จะมีการเลื่อนการอ่านคำพิพากษาในครั้งนี้เป็นรอบที่ 2คดีนี้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 พ.ค.53 ในขณะที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่ และกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงรายได้รวมตัวกันที่ถนนหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ก่อนจะพากันเดินไปยังศาลากลางจังหวัด เพื่อทำการยื่นหนังสือผ่านจังหวัด ขอให้รัฐบาลในขณะนั้นอย่าได้มีการใช้ความรุนแรงต่อคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์ จนเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.53 ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่แกนนำ 5 คน ได้แก่ นายอรรถกร กันทไชยนายธนิต บุญญนสินีเกษม นายวิทยา ตันติภูวนาท นางพิมพ์นารา หนองหารพิทักษ์ และนายทรงธรรม คิดอ่าน ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2557 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดเชียงราย นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.513/2555 ระหว่างฝ่ายโจทก์ พนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย กับฝ่ายจำเลย นายอรรถกร กันทไชยและพวก รวม 5 คน
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
คำพิพากษา,พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,เสือแดง,เสื้อแดงเชียงราย
https://prachatai.com/journal/2014/02/51763
ปิดฉาก พายเรือเพื่อเจ้าพระยา ปี 2 มั่นใจ 5 ปี ไทยขยะเป็นศูนย์
วันนี้ (11 ต.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ จากขยะที่เก็บได้ทั้งหมด 3215 กิโลกรัม จาก ตลอด 10 วัน ตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ ถึง จ.สมุทรปราการ ระยะทาง 535 กิโลเมตร ถูกนำมา ให้วัดจากแดง จ.สมุทรปราการ วัดต้นแบบของชุมชนในการคัดแยกขยะเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นขวดพลาสติก กระป๋องโลหะ และขวดแก้ว รักษาการเจ้าอาวาสวัดจากแดง ระบุว่า ขยะเหล่านี้เพียง 15 ขวด สามารถนำกลับมาทอจีวรพระได้ 1 ผืน หากมี 60 ขวด ก็จะทอได้ทั้งชุด การทิ้งขยะ จึงเท่ากับการทิ้งเงิน และทิ้งของมีค่า การทอดผ้าป่า คือ คติธรรมประชาชนให้เลิกทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลองผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ระบุว่า ขยะที่เก็บได้เป็นเพียงการช่วยให้มีขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาน้อยลงไป 3215 กิโลกรัม หากไม่เก็บขยะเหล่านี้จะไหลลงอ่าวไทยและทำให้สัตว์ทะเลตาย แต่ขยะในเจ้าพระยา ยังมีมากกว่านี้ และทิ้งลงมาใหม่ทุกวัน ดังนั้น เป้าหมายที่แท้จริง คือ ชวนคนให้เลิกทิ้งขยะผศ.ปริญญา ระบุด้วยว่า การแก้ปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือจาก ผู้มีส่วนผลิตขยะ เช่นนายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ระบุว่า แม้วัดจากแดงจะเป็นตัวอย่างของวัดที่มีส่วนร่วมเก็บขยะ คัดแยกขยะ แต่ก็เป็นจังหวัดปลายน้ำ ที่พบขยะ และคุณภาพน้ำอยู่ในระดับเสื่อมโทรมมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย จึงมีแนวทางจะขยายผลที่เป็นรูปธรรมของวัดจากแดง ไปยังวัดอื่นในชุมชน พร้อมเดินหน้ารณรงค์ให้ทุกวัด และโรงเรียน ซึ่งเป็นศูนย์รวมของคนในชุมชน หันมาเรียนรู้ และทำความเข้าใจการจัดการขยะ โดยเชื่อมั่นว่าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รับทราบนโยบายจากส่วนกลาง และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะเป็นแกนนำสำคัญที่จะรณรงค์ให้ช่วยกันแก้ปัญหานี้นายวิชาญ สุขสว่าง ผอ.กองพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมสุขภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวลล้อม ได้เน้นย้ำหลัก 3R คือการลดการใช้ นำกลับมาใช้ใหม่ และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ โดยรัฐบาลกำลังเดินหน้าประกาศลดการใช้และงดรับถุงพลาสติกอย่างเป็นรูปธรรมในวันที่ 1 ม.ค.2563 พร้อมระบุว่า ต้องการให้ประชาชนมองว่า การแยกประเภทขยะยังมีความสำคัญ และจะช่วยลดภาระให้กับเทศบาลและท้องถิ่นโดยระบุข้อมูลภาพรวมขยะทั่วประเทศว่า เวลานี้มีประมาณ 27 ล้านตัน/ปี มากที่สุด ร้อยละ 64 คือ ขยะรีไซเคิล รองลงมา คือ ขยะอินทรีย์ ร้อยละ 33 ขยะทั่วไป ร้อยละ 3 และขยะอันตราย ร้อยละ 3 หากถูกคัดแยกและนำมาแปรรูปอย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มมูลค่า และลดปัญหาได้ในระยะยาวผศ.ปริญญา ยังระบุด้วยว่า เป้าหมายใหญ่ของการรณรงค์พายเรือเก็บขยะ ไม่เพียงลดขยะในแม่น้ำลำคลอง แต่ต้องการให้ขยะเป็นศูนย์ผ่านการลดการใช้ เลิกทิ้ง ขยะ #TrashZeroThailandข้อมูลจาก กรมทรัพยากรชายฝั่งทะเล วิจัยเปรียบเทียบปริมาณขยะที่ไหลออกอ่าวไทยในทุกแม่น้ำได้แก่ บางปะกง ท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา เพชรบุรี บางตะบูน ปริมาณขยะเปรียบเทียบปี 2561 กับ 2562 พบว่าขยะมีปริมาณลดลงแล้วร้อยละ 30 โดยเชื่อว่าการรณรงค์ผ่านการพายเรือเก็บขยะปีที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขยะในแม่น้ำลดลง และเห็นผลลัพธ์ผศ.ปริญญา เชื่อว่าภายใน 5 ปี ที่คนไทยจะเลิกทิ้งขยะ และทำให้ขยะเป็นศูนย์ได้ พร้อมเสนอกลไกทางเศรษฐศาสตร์ที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ เช่น อาชีพใหม่ หรือ Start up เก็บขยะในแม่น้ำ เพื่อนำมาสู่รายได้และการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น โครงการพายเรือเก็บขยะ ทุกครั้งหลังการเก็บ และคัดแยกขยะก็จะนำมามอบให้ชุมชน ท้องถิ่น
อาสาพายเรือเพื่อเจ้าพระยา ประกาศไม่หยุดเก็บขยะ จนกว่าคนไทยจะเลิกทิ้ง มั่นใจ 5 ปีไทยขยะเป็นศูนย์ #TrashzeroThailand เสนอกลไกเศรษฐศาสตร์ให้คนเห็นค่าขยะ ส่วนขยะรีไซเคิลนำไป ทอดผ้าป่าขยะหัวเรือ ที่วัดจากแดง จ.สมุทรปราการ วัดต้นแบบคัดแยกขยะ
สิ่งแวดล้อม
โลกนี้ไม่มีขยะ,ใช้น้อยใช้ซ้ำทำใหม่,ขยะล้นโลก,ขยะพลาสติก
https://news.thaipbs.or.th/content/285107
บิ๊กตู่ บ่นกำจัด ผักตบชวา ยังต้องให้สั่ง วอนคนไทยต้องคิดใหม่
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ส.ค. ที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ กำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ว่า ขนาดปัญหาผักตบชวายังต้องสั่งการเอง ถ้าทุกคนเห็นผักตบแล้วเก็บกันคนละต้น ปัญหานี้คงหมดไปนานแล้ว ก่อนหน้านี้มี พ.ร.บ. เกี่ยวกับผักตบ ปี 2546 แต่ก็ยกเลิกไป จะเอาหรือไม่ถ้าใครปล่อยให้มีผักตบอยู่ในบ้านต้องถูกปรับต้นละ 100 บาท ทำไมต้องให้สั่งทุกเรื่อง เพราะท้ายที่สุดผักตบก็ไปไหลลงคลอง ทำให้น้ำไม่ระบาย แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร ใช้คนกี่คน ทหารไม่ต้องทำงานอื่นเลยหรือ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เองก็ทำงานไม่ไหว ปัญหาผักตบต้องถูกกำจัดอย่างมีคุณภาพ ยั่นยืน เพราะ 1 ต้น สามารถกระจายเป็น 100 ต้น ภายใน 30 วัน โดยการแพร่เกสร การแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดคือต้องเก็บมันขึ้นมาคนละต้น,ขณะที่ บนถนนก็ต้องประชาสัมพันธ์ให้คนไม่ทิ้งขยะ เราต้องช่วยกันคนละไม้ละมือ เรากำลังมีคนเข้ามาเที่ยว 30 ล้านคน เพื่อการท่องเที่ยวด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเห็นถุงอยู่ 2-3 ถุง และเฝ้าดูว่าจะมีใครเก็บหรือไม่ ปรากฏว่ามีแต่คนเดินผ่าน ส่วนฝรั่งก็ถ่ายรูป คนไทยภูมิใจที่สร้างขยะได้ ส่วนฝรั่งภูมิใจที่ถ่ายรูปขยะได้ ต่างคนต่างภูมิใจ คนไทยต้องคิดใหม่ อย่าคิดแต่ว่าในรถและบ้านตัวเองต้องสะอาด แต่ข้างนอกช่างมัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.
นายกฯ บ่น แค่ปัญหาผักตบยังต้องสั่งเอง วอนทุกคนช่วยกัน ขู่ หรือจะให้บังคับใช้กฎหมาย แขวะคนไทยภูมิใจสร้างขยะ ให้ฝรั่งถ่ายรูป วอนให้คิดใหม่
null
ผักตบชวา,ปัญหาผักตบชวา,พรบ.ผักตบชวา,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯและหัวหน้า คสช.,พิธีเปิดทางพิเศษสายศรีรัช,แก้ปัญหาผักตบชวา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/698044
ขั้นตอนการเลือกตั้ง และข้อห้าม: การเลือกตั้งทั่วไปปี 2554
หรือหลักฐาน ที่ราชการ หรือหน่วยงานของรัฐออกให้ มีรูปถ่ายและหมายเลขประจำตัวประชาชน ห้ามซื้อเสียง หรือจัดเตรียมซื้อเสียง / ห้ามรับเงินและประโยชน์อื่นใดเพื่อลงคะแนนเลือกตั้ง ห้ามหาเสียง และห้ามขายหรือจัดเลี้ยงสุรา ตั้งแต่ 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้งจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง ห้ามนายจ้างขัดขวางการไปใช้สิทธิของลูกจ้าง / ห้ามขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ ที่เลือกตั้ง ห้ามจัดยานพาหนะ (ยกเว้นหน่วยงานรัฐ) ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปเลือกตั้งโดยไม่ต้องเสียค่าโดยสาร ห้ามทำให้บัตรเลือกตั้งชำรุดอย่างจงใจ / ห้ามถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ตนเองได้ลงคะแนนแล้ว ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆ ห้ามเล่นการพนันขันต่อใดๆ เกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง ห้ามเปิดเผยหรือเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง (โพลล์) ในระหว่างเวลา 7 วันก่อนวันเลือกตั้งจนถึงเวลาปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง ตรวจสอบรายชื่อและลำดับที่ จากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ประกาศไว้หน้าหน่วยเลือกตั้ง หรือ จากหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ส่งไปยังเจ้าบ้าน หรือทางเว็บไซต์ www.khonthai.com ยื่นบัตรประชาชน และลงลายมือชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือขวา บนต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง พร้อมรับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต และบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เข้าคูหาลงคะแนน ทำเครื่องหมายกากบาท X ลงในช่องทำเครื่องหมาย บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต เลือกผู้สมัครได้เพียงคนเดียว บัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เลือกพรรคการเมืองได้เพียงพรรคเดียว หากไม่ต้องการเลือกใครหรือพรรคการเมืองใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาท X ในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนน พับบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 บัตรให้เรียบร้อย และใส่บัตรทีละบัตรลงในหีบบัตรเลือกตั้งแต่ละประเภทด้วยตนเอง สอบถามข้อมูลเพิ่มติมหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนเลือกตั้ง 1171 และเว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th
การเลือกตั้งทั่วไปปี 2554 กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ในวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2554 เวลา 8.00 - 15.00 น. บัตรประชาชน (บัตรที่หมดอายุก็ใช้ได้) บัตร
การเมือง
การเลือกตั้งทั่วไป 2554,ขั้นตอนการลงคะแนนเลือกตั้ง,ข้อห้ามกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
https://prachatai.com/journal/2011/06/35266
อ่วม จนท.ระดับสูงอินเดีย เรียงแถวติดโควิด ยอดติดเชื้อพุ่งครึ่งแสนต่อวัน
นายอมิต ชาห์ รัฐมนตรีมหาดไทยของอินเดีย หนึ่งในที่ปรึกษาคนสนิทของ นายนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนล่าสุด ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะที่มีรายงานว่ามุขมนตรีรัฐกรณาฏกะ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐมัธยประเทศ ต่างแอดมิทเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หลังตรวจพบเชื้อโควิด-19 เช่นกันโดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อยู่ที่ 52972 ซึ่งนับว่ายอดผู้ติดเชื้อในอินเดียเกินกว่า 50000 รายติดต่อกันมานาน 5 วันแล้ว ส่งผลให้ยอดรวมผู้ป่วยโควิด-19 ในอินเดียเวลานี้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1 ล้าน 8 แสนราย สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และบราซิล ส่วนยอดผู้เสียชีวิตของอินเดียในรอบวันที่ผ่านมาอยู่ที่ 771 ศพ ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 38135 ศพ ในจำนวนนี้มีรัฐมนตรีหญิงของรัฐอุตตรประเทศที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วยด้านรัฐมนตรีสาธารณสุขได้ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ว่า ทางการอินเดียได้อนุญาตให้สถาบันเซรั่มของอินเดีย บริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของโลก เริ่มนำวัคซีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า พีแอลซี บริษัทยาและชีวเภสัชภัณฑ์ของอังกฤษ-สวีเดน มาทดลองกับคนแล้ว และกำลังเร่งเดินหน้าตรวจคัดกรองประชาชนให้เพิ่มมากขึ้นด้วย.
รมต.มหาดไทยอินเดีย และผู้ว่าการรัฐอีก 2 แห่ง เรียงแถวเข้าโรงพยาบาล หลังติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 50000 ราย ติดต่อกันเป็นวันที่ 5
ข่าว,ต่างประเทศ
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,โควิดอินเดีย,ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19,ข่าวต่างประเทศ,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1902760
ขอเพิ่มอายุสัมปทาน 50 ปี
ให้ไปตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนและเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ในพื้นที่อีอีซี พร้อมให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปทำรายละเอียดของอีอีซี และจัดทำเป็นแผนแม่บทบรรจุไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12,ที่ประชุมมอบให้กระทรวงการคลังประเมินวงเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และภาระหนี้ที่จะเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณ จึงจะต้องจัดทำรายละเอียดประเมินมูลค่า โครงการและรูปแบบการระดมทุน สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง อาทิ กรุงเทพฯ- ระยอง, กรุงเทพฯ-นครราชสีมา พร้อมให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ทำข้อมูล ทั้งจำนวนและที่ตั้งของสถานี เพราะเป็นส่วนสำคัญในการทำรายละเอียดจัดซื้อจัดจ้างที่เอกชนจะนำไปศึกษาก่อนเปิดประมูล,นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ที่ประชุมฯได้หารือถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง วงเงินลงทุน 150,000 ล้านบาท โดย สนข.จะศึกษาการเชื่อมโยงรถไฟความเร็วสูงเส้นทางนี้ กับสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินอู่ตะเภา เพื่อสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และมีข้อเสนอจากเอกชน ถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง ที่ขอให้ขยายระยะเวลาสัมปทานจาก 30 ปี เป็น 50 ปี เพื่อ จูงใจให้เอกชนเข้ามาลงทุน เพราะต้องใช้วงเงินลงทุนที่สูงมาก และเอกชนได้เสนอให้ปรับปรุงเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง เพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาเชิงพาณิชย์ เช่น การกำหนดให้มีพื้นที่ที่เพียงพอ ที่จะพัฒนาบริเวณรอบสถานีต่างๆรวม 1,000 ไร่.
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และการจัดการอสังหาริมทรัพย์พื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูงว่า
null
โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก,อีอีซี,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,สัมปทาน,ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ
https://www.thairath.co.th/content/708679
ฐากร แจง สนช.ประมูลคลื่น 900-1800 MHz นำรายได้เข้ารัฐ 232730 ล้านบาท
วันนี้ (24 มิ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และคณะเข้าชี้แจงผลการปฏิบัติงาน กสทช.ประจำปี 2558 ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานในที่ประชุมนายฐากร ชี้แจงต่อที่ประชุม สนช.ถึงการจัดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อปลายปี2558 โดยผลประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ มีมูลค่ารวม 80778 ล้านบาท ส่วนการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ มีผู้ชนะ2ราย แต่หนึ่งในนั้นไม่ชำระค่าประมูล กสทช. จึงตัดสิทธิ์และเปิดประมูลใหม่อีกครั้งเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2559 ผู้ชนะการประมูลได้แก่บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ท เวอร์ค จำกัด รายได้จากการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ รวมทั้งสิ้น 151952 ล้านบาทนายฐากร ชี้แจงอีกว่า การจัดประมูลคลื่นทั้ง 2 ความถี่ นำเงินได้เข้ารัฐจำนวน 232730 ล้านบาท และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลทั้งทางตรงและทางอ้อม สำนักงาน กสทช.คาดว่าในปี 2559-2560 จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นจำนวนหลายแสนล้านบาทนายฐากร ยังชี้แจงถึงการคิดอัตราค่าบริการคลื่น 900 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ต้องถูกลง การจัดแพคเกจราคาถูกให้กับคนพิการ ผู้มีรายได้น้อย รวมถึงผลงานการลงทะเบียนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ มีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 72.3 ล้านเลขหมายนอกจากนี้ ยังชี้ถึงปัญหาโครงการทีวีดิจิทัล พบว่าพฤติกรรมของผู้ชมเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ยังนิยมรับช่อง 3579 และไทยพีบีเอสกว่าร้อยละ 74 ส่วนช่องทีวีดิจิทัลที่เกิดใหม่อีก 21 ช่องมีผู้รับชมร้อยละ 26 ขณะเดียวกัน กสทช.เร่งแจกคูปองทีวีดิจิทัลเพิ่มเติมให้เร็วที่สุด เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปดูทีวีในระบบดิจิทัลจากนั้น นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช.ลุกขึ้นสอบถามถึงสาเหตุผู้ชนะการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ในครั้งแรกไม่ชำระเงินค่าประมูล ส่วนทางด้าน ศ.ดร.นิสดารก์ เวชยานนท์ สมาชิก สนช.กล่าวว่า ต้องขอชื่นชมผลงานของ กสทช.ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ
เลขาธิการ กสทช.เข้าชี้แจงต่อที่ประชุม สนช. ยืนยันการจัดประมูลคลื่นความถี่ 900 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ นำเงินได้เข้ารัฐ 232730 ล้านบาท คาดว่าในปี 2559-2560 จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศหลายแสนล้านบาท
เศรษฐกิจ
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ญี่ปุ่น,ฐากร,ฐากร ตัณฑสิทธิ์,4จี,ประมูลคลื่น,ค่าโทร,กสทช.,สนช.
https://news.thaipbs.or.th/content/253453
สรุปตัวเลขยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยประจำปี 2559
เคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2559 พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2560 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโอกุระ กรุงเทพฯ,มร.ทานาดะ แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2559 มียอดขายอยู่ที่ 768,788 คัน มีอัตราการเติบโตลดลง 3.9% โดยตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มียอดขายลดลง 2.3% ตลาดรถยนต์นั่งมียอดขายลดลง 6.5% หากพิจารณาสถิติยอดขายตลาดรถยนต์จะพบว่าปีที่ผ่านมาถือเป็นอีกปีแห่งความยากลำบากของอุตสาหกรรมยานยนต์ ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยบวกทั้งจากการเบิกจ่ายเงินลงทุนจากภาครัฐรวมถึงการผลักดันและส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน หากแต่ยังมีผลกระทบจากกำลังซื้อบางส่วนที่เกิดขึ้นล่วงหน้าจากการเร่งกำลังซื้อก่อนการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา,สถิติการขายรถยนต์ ในปี 2559,ยอดขายปี 2559 พร้อมตัวเลขความเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับปี 2558,ปริมาณการขายรวม 768,788 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2558 -3.9%,รถยนต์นั่ง 279,827 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2558 -6.5%,รถเพื่อการพาณิชย์ 488,961 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2558 -2.3%,รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 394,127 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2558 -0.7%,รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 333,447 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2558 +1.7%,โตโยต้า เจ้าตลาดด้านยอดขายในประเทศไทย มีตัวเลขยอดขายรวม 245,087 คัน ลดลง 7.9% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 87,271 คัน ลดลง 17.2% ,รถเพื่อการพาณิชย์ 157,816 คัน ลดลง 1.7% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 148,494 คัน ลดลง 1.7.%,สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2559,ปริมาณการขายโตโยต้า 245,087 คัน ลดลง 7.9% ส่วนแบ่งตลาด 31.9%,รถยนต์นั่ง 87,271 คัน ลดลง 17.2.% ส่วนแบ่งตลาด 31.2%,รถเพื่อการพาณิชย์ 157,816 คัน ลดลง 1.7% ส่วนแบ่งตลาด 32.3%,รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 148,494 คัน ลดลง 1.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%,รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 120,444 คัน เพิ่มขึ้น 0.3% ส่วนแบ่งตลาด 36.1%,ด้านการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 318,658 คัน ลดลง 15% คิดเป็นมูลค่า 180,707 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 62,015 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 242,722 ล้านบาท,สำหรับความเป็นไปได้ของตลาดรถยนต์ในปีนี้ (2560) มีแนวโน้มที่ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยประจำปี 2560 จะมีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น จากการครบกำหนด 5 ปี โครงการรถยนต์คันแรก รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ และการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จากหลายค่ายรถยนต์ ดังนั้นคาดว่าจะมียอดขายรวมอยู่ในระดับ 800,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 4.1%,ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2560,ปริมาณการขายรวม 800,000 คัน เพิ่มขึ้น 4.1%,รถยนต์นั่ง 316,000 คัน เพิ่มขึ้น 12.9%,รถเพื่อการพาณิชย์ 484,000 คัน ลดลง 1.0%,รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 382,100 คัน ลดลง 3.1%,รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 324,000 คัน ลดลง 2.8 %,โตโยต้าตั้งเป้าหมายการขายสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 265,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 110,000 คัน เพิ่มขึ้น 26.0% รถเพื่อการพาณิชย์ 155,000 คัน ลดลง 1.8% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 147,000 คัน ลดลง 1.0%,ประมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2560,ปริมาณการขายรวม 265,000 คัน เพิ่มขึ้น 8.1% ส่วนแบ่งตลาด 33.1%,รถยนต์นั่ง 110,000 คัน เพิ่มขึ้น 26.0% ส่วนแบ่งตลาด 34.8%,รถเพื่อการพาณิชย์ 155,000 คัน ลดลง 1.8% ส่วนแบ่งตลาด 32.0%,รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 147,000 คัน ลดลง 1.0% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%,รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 122,000 คัน เพิ่มขึ้น 1.3% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%,สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้อยู่ที่กว่า 282,100 คัน คิดเป็นมูลค่า 156,785 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว 11% เนื่องมาจากผลกระทบจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่สำคัญ,มร.ทานาดะ ผู้บริหารระดับสูงของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 55 ของโตโยต้าที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราขอยืนยันในความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความสุขให้กับสังคมไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนอง ไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าอย่างเหนือความคาดหมาย รวมถึงการทำกิจกรรมทางสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ โครงการถนนสีขาวเมืองสีเขียว และที่สำคัญการสนับสนุนกิจกรรมที่สร้างความสุขให้กับคนไทย ด้วยการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมความสามารถของเยาวชนไทย ทั้งโครงการค่ายศิลปะสู่เยาวชน Art Camp และ Dream Car Arts Project  ทั้งนี้ โตโยต้า ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาขีดความสามารถทางด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด,มร.ทานาดะ กล่าวย้ำความเชื่อมั่นในประเทศไทย สำหรับ ประเทศไทย ยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนตลาดของภูมิภาคนี้ และเป็นศูนย์กลางทางการผลิตที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโตโยต้า ซึ่งเรามีความเชื่อมั่นและพร้อมที่จะลงทุนในประเทศไทย รวมถึงยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยี สู่ประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยเติบโตและพัฒนาขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งนี่คืออีกหนึ่งความสุขที่เรามุ่งที่จะขับเคลื่อนและพร้อมจะยืนเคียงข้างคู่กับคนไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป,ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนธันวาคม 2559,1.) ตลาดรถยนต์รวม ,ปริมาณการขาย 86,858 คัน ลดลง 14.4% , อันดับที่ 1 โตโยต้า 28,041 คัน ลดลง 1.8% ส่วนแบ่งตลาด 32.3% , อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,516 คัน ลดลง 22.4% ส่วนแบ่งตลาด 17.9% , อันดับที่ 3 ฮอนด้า 10,342 คัน ลดลง 17.5% ส่วนแบ่งตลาด 11.9%,2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ,ปริมาณการขาย 29,467 คัน ลดลง 15.4% , อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,210 คัน ลดลง 18.1% ส่วนแบ่งตลาด 31.3% , อันดับที่ 2 ฮอนด้า 6,741 คัน ลดลง 24.8% ส่วนแบ่งตลาด 22.9% , อันดับที่ 3 มาสด้า 2,902 คัน ลดลง 9.4% ส่วนแบ่งตลาด 9.8%,3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 46,536 คัน ลดลง 13.8%, อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,653 คัน เพิ่มขึ้น 6.5% ส่วนแบ่งตลาด 37.9% , อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,129 คัน ลดลง 24.7% ส่วนแบ่งตลาด 30.4% , อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 4,797 คัน ลดลง 43.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.3% , ,*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 6,905 คัน, โตโยต้า 3,168 คัน , มิตซูบิชิ 1,675 คัน , อีซูซุ 1,222 คัน , ฟอร์ด 713 คัน , เชฟโรเลต 127 คัน,4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ,ปริมาณการขาย 39,631 คัน เพิ่มขึ้น 6.5%, อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,485 คัน เพิ่มขึ้น 46.3% ส่วนแบ่งตลาด 36.5% , อันดับที่ 2 อีซูซุ 12,907 คัน ลดลง 23.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.6% , อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,006 คัน เพิ่มขึ้น 32.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.1%,5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ,ปริมาณการขาย 57,391 คัน ลดลง 13.9% , อันดับที่ 1 โตโยต้า 18,831 คัน เพิ่มขึ้น 8.7% ส่วนแบ่งตลาด 32.8% , อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,516 คัน ลดลง 22.4% ส่วนแบ่งตลาด 27.0% , อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,932 คัน เพิ่มขึ้น 0.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%,สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม-ธันวาคม 2559,1) ตลาดรถยนต์รวม ,ปริมาณการขาย 768,788 คัน ลดลง 3.9% , อันดับที่ 1 โตโยต้า 245,087 คัน ลดลง 7.9% ส่วนแบ่งตลาด 31.9% , อันดับที่ 2 อีซูซุ 143,170 คัน ลดลง 0.8% ส่วนแบ่งตลาด 18.6% , อันดับที่ 3 ฮอนด้า 107,342 คัน ลดลง 4.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.0%,2) ตลาดรถยนต์นั่ง ,ปริมาณการขาย 279,827 คัน ลดลง 6.5% , อันดับที่ 1 โตโยต้า 87,271 คัน ลดลง 17.2% ส่วนแบ่งตลาด 31.2% , อันดับที่ 2 ฮอนด้า 78,132 คัน เพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนแบ่งตลาด 27.9% , อันดับที่ 3 มาสด้า 27,375 คัน เพิ่มขึ้น 4.2% ส่วนแบ่งตลาด 9.8%,3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 394,127 คัน ลดลง 0.7%, อันดับที่ 1 โตโยต้า 148,494 คัน ลดลง 1.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.7% , อันดับที่ 2 อีซูซุ 128,864 คัน ลดลง 1.8% ส่วนแบ่งตลาด 32.7% , อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 39,176 คัน ลดลง 11.4% ส่วนแบ่งตลาด 9.9% , ,*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 60,680 คัน, โตโยต้า 28,050 คัน ,มิตซูบิชิ 15,592 คัน ,อีซูซุ 8,855 คัน ,ฟอร์ด 6,998 คัน ,เชฟโรเลต 1,185 คัน,4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ,ปริมาณการขาย 333,447 คัน เพิ่มขึ้น 1.7% , อันดับที่ 1 โตโยต้า 120,444 คัน เพิ่มขึ้น 0.3% ส่วนแบ่งตลาด 36.1% , อันดับที่ 2 อีซูซุ 120,009 คัน เพิ่มขึ้น 1.1% ส่วนแบ่งตลาด 36.0% , อันดับที่ 3 ฟอร์ด 30,828 คัน เพิ่มขึ้น 29.0% ส่วนแบ่งตลาด 9.2%,5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ,ปริมาณการขาย 488,961 คัน ลดลง 2.3% , อันดับที่ 1 โตโยต้า 157,816 คัน ลดลง 1.7% ส่วนแบ่งตลาด 32.3% , อันดับที่ 2 อีซูซุ 143,170 คัน ลดลง 0.8% ส่วนแบ่งตลาด 29.3% , อันดับที่ 3 ฟอร์ด 39,997 คัน เพิ่มขึ้น 23.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%,อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail  ,[email protected],Facebook  ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
รวมสถิติตัวเลขยอดขายรถยนต์ประจำปี 2559 พร้อมคาดการณ์ตลาดรวมในประเทศปี 2560 สรุปยอดขายรถยนต์ปี 2559 รวม 768,788 คัน ลดลง 3.9%
null
ยอดขายรถยนต์ปี 2559
https://www.thairath.co.th/content/850517
สงขลาปิดพรมแดน 3 ด่านวุ่น คนไทยไม่รู้ติดด่านมาเลย์เพียบ สถานทูตเร่งช่วย
จากคำสั่งของ นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่มีคำสั่งห้ามคนทุกสัญชาติเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ทางด่านพรมแดนถาวร ของจังหวัดสงขลา ประกอบด้วยด่านสะเดา ด่านบ้านประกอบ และด่านปาดังเบซาร์ โดยให้เดินทางมายังประเทศไทยทางอากาศเท่านั้น ยกเว้นรถบรรทุกสินค้า จะต้องควบคุมเข้มการตรวจอุณหภูมิร่างกาย ทำบันทึกประวัติก่อนผ่านเข้าด่านไทยล่าสุดเวลา 05.00 น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวไปสังเกตการณ์ดูที่หน้าด่านสะเดา พบว่ามี นายชวกิจจ์ สุวรรณ์คีรี นายอำเภอสะเดา นำฝ่ายปกครองรวมทั้งสมาชิก อส. จำนวน 40 นาย พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ตม.6 นำเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจำนวน 100 นาย พร้อมทหารจากหน่วยเฉพาะกิจ ร5 ตำรวจจาก สภ.สะเดา เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสะเดา มาประจำพื้นที่หน้าด่านสะเดา ซึ่งคาดว่าจะมีคนไทยเดินทางเข้า พร้อมรับมือเหตุการณที่จะเกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าไม่มีคนไทยที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศมาเลเซีย เดินทางมาที่ด่านสะเดาขณะเดียวกันเวลา 06.00 น. นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.วีระวัฒน์ นิลวัตร รอง ผกก.ตม.จว.สงขลา ได้เดินทางสังเกตุการณ์ที่ด่านบูกิตกายูอิตัมประเทศมาเลเซีย ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ให้รถบัสทุกคนที่นำคนไทยมาส่งที่ด่านบูกิตกายูอิตัมเลี้ยวกลับ โดยบอกให้คนไทยเดินทางมายังประเทศไทยทางอากาศเท่านั้น พร้อมมีรถแท็กซี่บริการที่ด่านมาเลย์ส่วนเหตุการณ์ทั่วไปที่ด่านสะเดา ด่านปาดังเบซาร์ และด่านบ้านประกอบ ยังคงปกติ ขณะเดียวกันเพจ Thai Volunteer in Malaysia อาสาสมัครไทยในมาเลเซีย ประกาศขอให้คนไทยทุกคตนที่ติดอยู่ที่ด่านต่างๆ รวมตัวกันไว้เพื่อง่ายต่อการรับความช่วยเหลือ และให้ติดต่อมายังเพจ เพื่อแจ้งจำนวนคน และให้ติดตามเพจ Royal Thai Embassy Kuala Lumper อย่างต่อเนื่องผู้สื่อข่าวได้รับการแจ้งข่าวมาจากคนที่ติดอยู่ที่ด่านในมาเลเซียกว่า 100 คน เมื่อตอนเช้า พร้อมต่อว่าทำไมประเทศไทยไม่ประกาศให้ทราบล่วงหน้าว่าจะกำหนดปิดด่าน ประกาศออกมาเย็นวันที่ 22 มี.ค.นำมาปฏิบัติทันที ทำให้ทุกคนสับสน บางคนมีเด็กมาด้วยกำลังเดินทางเมื่อช่วงหัวค่ำของเมื่อคืน มาถึงด่านมาเลเซียก็ห้ามผ่าน ส่วนจะเดินทางมาด้วยเครื่องบินราคาก็แพง ต้องไปลงที่กรุงเทพฯ กลับเข้ามาเลเซียจะได้หรือไม่ จะโดนกักตัวไหม กำหนดเปิดด่านวันที่เท่าไร โดยคนไทยที่ติดอยู่ที่มาเลเซียล้วนแต่มีคำถามมากมาย.
ปิดด่านพรมแดน 3 ด่านในจังหวัดสงขลาวันแรกวุ่น คนไทยในมาเลเซียไม่รู้ยังเดินทางกลับติดค้างที่ด่านมาเลเซียอื้อ สถานทูตให้รวมตัวกันที่ด่าน พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือ
ข่าว,ทั่วไทย
ปิดด่านพรมแดน,สงขลา,อ.สะเดา,ชายแดนไทย-มาเลเซีย,ด่านสะเดา,คนไทยตกค้าง,จารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1801896
เยอรมนีลุ้นหนัก อัตราแพร่เชื้อเพิ่มอีก หลังนายกฯ สั่งคลายล็อกวงกว้าง
สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ค. 2563 ว่า ข้อมูลจากสถาบัน โรแบร์ท ค็อค (RKI) หน่วยงานควบคุมโรคในเยอรมนี ระบุว่า ตัวเลขอัตราการแพร่เชื้อ (infection rate) ของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่า ผู้ติดเชื้อ 1 คนจะสามารถแพร่เชื้อไปให้คนอื่นๆ ได้กี่คน เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 1.1 แล้วRKI ประกาศสถิติดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยกล่าวว่าพวกเขายังไม่สามารถตัดสินได้ว่าอัตราการติดเชื้อใหม่จะลดลงหรือจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องสังเกตการณ์อย่างระมัดระวังในช่วงไม่กี่วันข้างหน้าความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เป็นวงกว้างทั่วประเทศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากหารือกับผู้นำทั้ง 16 รัฐ โดยร้านค้าทุกแห่งสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ ขณะที่นักเรียนจะกลับเข้าโรงเรียนอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนลีกฟุตบอล บุนเดสลีกา จะกลับมาเตะอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้อย่างไรก็ตาม มีประชาชนออกมาประท้วงการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเมื่อวันเสาร์ โดยบบางส่วนเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการให้เร็วกว่านี้อนึ่ง เยอรมนีเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก โดยยอดสะสมล่าสุดที่ RKI เปิดเผยในวันอาทิตย์อยู่ที่ 169218 ราย เสียชีวิต 7395 ศพ ซึ่งพวกเขาได้รับเสียงชื่นชมในเรื่องการรับมือโรคระบาด ทั้งการตรวจโรคเป็นวงกว้าง และใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่มีประสิทธิภาพ คงสถิติผู้เสียชีวิตในต่ำกว่าชาติอื่นๆ ในยุโรปมากอย่างไรก็ตาม นางแมร์เคิล ผ่อนคลายการล็อกดาวน์โดยพ่วงมาตรการ หยุดฉุกเฉิน (emergency brake) ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่มีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ กลับมาบังคับใช้มาตรการอีกครั้ง หากอัตราผู้ติดเชื้อสูงกว่า 50 รายต่อประชากร 100000 คนซึ่งการระบาดที่โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ในรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลิน และรัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์ ทำให้อัตราผู้ติดเชื้อเกิดข้อจำกัดดังกล่าวแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องเริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง เช่นเดียวกับที่เขตหนึ่งในรัฐทือริงเงิน ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 80 รายต่อประชากร 100000 คน เพราะการระบาดที่ศูนย์ดูแลคนชราแห่งหนึ่ง
อัตราการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ในเยอรมนี เพิ่มสูงขึ้นอีก ไม่กี่วันหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ข่าว,ต่างประเทศ
โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,โควิด เยอรมนี,อัตราแพร่เชื้อ,คลายล็อกดาวน์
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1840939
KARA ส่อวงแตก คนวงในปูด 3 สมาชิกหลักปัดต่อสัญญาค่าย
หลังจากข่าวลือของการยุบวงเกิร์ลกรุ๊ประดับตำนานของเกาหลี คารา (KARA) แพร่กระจายไปทั่วโลกโซเชียลวานนี้ หลังจากที่การเจรจาเรื่องต่อสัญญาที่เหลือของ 3 สมาชิกหลัก ได้แก่ พัก คยูริ ฮัน ซึงฮยอน และ คู ฮาร่า ไม่มีความคืบหน้า และสัญญาที่เหลือจะสิ้นสุดลงในสิ้นเดือน ม.ค.2559 นี้นั้น,ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2559 StarNews สื่อเกาหลีใต้ รายงานอ้างแหล่งข่าววงในที่ทราบเรื่องราวของวงคารา ระบุว่า เป็นความจริงที่ คยูริ ซึงฮยอน และฮาร่า ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ DSP Media และยังเหลือเวลาเล็กน้อยสำหรับสัญญาที่ยังเหลืออยู่ และดูเหมือนว่าพวกเธอได้มองหาเอเยนซี่รายใหม่กันแล้ว โดยข้อมูลจาก DSP Media 3 สมาชิกดั้งเดิมของวงคารา จะหมดสัญญาอย่างเป็นทางการสิ้นเดือน ม.ค.2559 นี้ ส่วน ฮอ ยองจี น้องเล็กของวงที่เพิ่งเข้ามาร่วมวงนั้น ยังเหลือสัญญาอีกนานเลยทีเดียว,แหล่งข่าววงในระบุอีกว่า เชื่อว่าสมาชิกทั้ง 3 จะผันตัวเองไปเป็นดารานักแสดง เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในวงการบันเทิง ส่วน คู ฮาร่า เธอกำลังหารือกับทางผู้จัดการส่วนตัวและแฟนคลับที่ใกล้ชิด ในการแถลงการณ์หลังจากนี้,นอกจากนี้ ฮอ ยองจี สมาชิกของคารา ได้ลบแอคเคาท์ KARA ออกจากการติดตามของเธอแล้วตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งเปลี่ยนชื่อบัญชีใช้งานใหม่จากเดิม @kara_youngji_hur มาเป็น @young_g_hur แล้ว,ทั้งนี้ วงคารา (KARA) เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงมากอีกวงหนึ่งของเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่น โดยเดบิวต์วงมาพร้อมๆ กันกับเกิร์ลส เจนเนอเรชั่น ภายใต้สังกัด DSP Media ในนามของวง Fin.K.L. รุ่นที่ 2 โดยมีสมาชิกภายในวงตอนแรก 4 คน ได้แก่ พัก คยูริ, ฮัน ซึงฮยอน, คิม ซองฮี และ นิโคล ชอง ในเวลาต่อมา คิม ซองฮี ได้ประกาศลาออกจากวง ทำให้มีการคัดสมาชิกใหม่มา 2 คน คือ คู ฮาร่า และ คัง จียอง ปัจจุบัน KARA มีสมาชิก 3 คน ได้แก่ พัก คยูริ, ฮัน ซึงฮยอน, คู ฮาร่า หลังจากที่ นิโคล ชอง และ คัง จียอง ประกาศถอนตัวจากวงในเดือนมกราคม ปี 2014 โดยได้มีการหาสมาชิกใหม่มาเติม คือ ฮอ ยองจี ที่ได้จากการคัดเลือกในโครงการเบบี้คารา.,ที่มา : ,allkpop
แหล่งข่าววงใน ระบุ คยูริ ซึงฮยอน และฮาร่า 3 สมาชิกหลักวงคารา (KARA) ปัดต่อสัญญากับค่าย DSP คาดหาสังกัดใหม่ผันตัวเป็นนักแสดง ด้านน้องเล็ก ยองจี ลบไอจีของวงออก พร้อมเปลี่ยนชื่ออินสตาแกรมตัวเองใหม่
null
คารา,คาราวงแตก,คารายุบวง,KARA,KARA Disband,พัก คยูริ,ฮัน ซึงฮยอน,คู ฮาร่า,ฮอ ยองจี,เกิร์ลกรุ๊ป,ไอดอลเกาหลี,เพลงเกาหลี,บันเทิงเอเซีย,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/558637
คปก.พร้อมพิจารณาข้อเสนอคณะนิติราษฎร์
นายสมชาย หอมละออ ในฐานะคณะกรรมการปฎิรูปกฎหมาย หรือ คปก. กล่าวสนับสนุนแนวทางของคณะนิติราษฎร์ ที่นำเสนอลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยระบุว่าอำนาจรัฐประหารมีที่มาโดยไม่ชอบธรรมและส่วนตัวมีหลักการเบื้องต้นในการคัดค้านรัฐประหารอยู่แล้ว ส่วนที่กังวลว่าจะเป็นการนิรโทษกรรม หรือลบล้างมลทินให้กับบุคคลกลุ่มใดนั้น เชื่อว่าทางกลุ่มนิติราษฎร์มีเจตนาเสนอเรื่องนี้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบอบประชาธิปไตย และขั้นตอนการดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับกฏหมายจะต้องมีการเสนอผ่านรัฐสภาอยู่แล้วส่วนที่คณะนิติราษฎร์เสนอให้ คปก.พิจารณานั้นต้องรอให้นายคณิต ณ นคร ในฐานะประธาน คปก.นำเข้าหารือในที่ประชุม ซึ่งคปก.เปิดกว้างในการรับข้อเสนอของทุกฝ่ายมาพิจารณาอยู่แล้วขณะที่นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่าวิปรัฐบาลคงไม่มีหน้าที่นำข้อเสนอคณะนิติราษฎร์มาพิจารณา แต่อาจจะเสนอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาสร้างความปรองดองพิจารณา เช่น คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. รวมถึง คณะกรรมการองค์กรอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ.ที่มีนายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน พร้อมยืนยันว่ากลุ่มคณะนิติราษฎร์ไม่ได้ทำงานให้พรรคเพื่อไทย หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งการเสนอกฎหมายขึ้นมาอาจจะมีคนบางกลุ่มได้ประโยชน์หรือคนส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์มากกว่าส่วนการประชุมวุฒิสภาที่มีวาระกระทู้ถามด่วนเรื่องพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 621 ทวิ ของนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอทราบแนวทางรัฐบาลว่าจะดำเนินการกับพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร
สมชาย คณะกรรมการปฎิรูปกฎหมายยืนยันว่าพร้อมเปิดกว้างรับข้อเสนอจากทุกฝ่ายมาพิจารณา และ สนับสนุนแนวทางการคัดค้านรัฐประหารของคณะนิติราษฎร์
การเมือง
คปก.,คอป.,ทักษิณ,นิติราษฎร,ประชาธิปไตย,รัฐประหาร
https://news.thaipbs.or.th/content/35838
รัชกาลที่ 10 อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิประดิษฐาน ณ พระวิมาน
วันนี้ (29 ต.ค.2560) เวลา 10.43 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจําพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปที่สวดพระพุทธมนต์ ก่อนถวายเพลพระทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลาจากนั้นออกจากพระที่นั่ง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา จบ ถวายอนุโมทนา (บนธรรมาสน์) พระสงฆ์ 4 รูป รับอนุโมทนา ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงทอดผ้าไตร ถวายพระเทศน์และพระสงฆ์ที่รับอนุโมทนา รวม 5 รูป สดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง พระสงฆ์ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์เป็นเที่ยวๆ จบครบ 89 รูป โดยเที่ยวแรก 12 รูป สดับปกรณ์ แล้วถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เที่ยวต่อไปเที่ยวละ 11 รูป จํานวน 7 เที่ยว ขึ้นสดับปกรณ์แล้วลงจากพระที่นั่งเวลา 14.05 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 5 ใช้กำลังพล 550 คน ระยะทาง 63 เมตร เจ้าพนักงานเทียบพระที่นั่งราเชนทรยานที่พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ตั้งขบวนพระบรมราชอิสริยยศอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ตามพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐานที่พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเรียบร้อยแล้ว เสด็จพระราชดําเนินกลับ
วันนี้ (29 ต.ค.2560) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในการพระราชพิธีเลี้ยงพระและอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
สังคม
พระบรมอัฐิ,พระวิมาน,พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท,พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท,พระโกศพระบรมอัฐิ,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/267290
มาร์กกระอัก หลังประกาศปรับ News Feed ผลปรากฏหุ้นร่วงกราว
เมื่อไม่นานมานี้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานกรรมการบริหารของเฟซบุ๊ก สังคมออนไลน์ใหญ่สุดในโลก แจ้งผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า เฟซบุ๊ก มีแผนปรับเปลี่ยน News Feed ครั้งใหญ่,การปรับเปลี่ยนนิวส์ฟีดครั้งนี้ อาจจะถือได้ว่าเป็นครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานของผู้ใช้เฟซบุ๊กครั้งสำคัญ เพราะโพสต์จากบริษัท ผู้ประกอบการธุรกิจ, แบรนด์ (brands) และสื่อต่างๆ จะถูกทำให้ผู้บริโภคหรือคนใช้งานทั่วไปเห็นน้อยลง ซึ่งจะมีผลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า,หากเป็นอย่างที่กล่าวมาข้างต้น เรียกได้ว่าเหตุการณ์นี้คงเปรียบเสมือนคลื่นยักษ์สาดเข้าสู่นักการตลาด แบรนด์ สำนักข่าว และเอเยนซี่ครั้งใหญ่ เนื่องจากการปรับอัลกอริทึมจะส่งผลให้ผู้บริโภค หรือผู้รับสารเห็นข้อมูลที่เป็นข่าวน้อยลง ยอดเพจวิวต่างๆ ก็จะตกลงอย่างเห็นได้ชัด,ในการตัดสินใจของซีอีโอ ,มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก, กระทบถึงความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นอย่างชัดเจน เพราะขณะนี้หุ้นของเฟซบุ๊กตกลงไปถึง 4.5 เปอร์เซ็นต์ (หลังปิดตลาดวอลล์สตรีทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา) จากมูลค่าบัญชีทรัพย์สินกว่า 77,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เหลือเพียง 74,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น เท่ากับว่าการตัดสินใจนี้ทำให้เขา,สูญเสียยอดเงินไปถึง 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว ,ปรากฏการณ์นี้ส่งผลให้คนวิพากษ์วิจารณ์กันไปในหลายแง่มุม บ้างก็ตั้งคำถามว่า นักการตลาดในยุคนี้พึ่งพาเฟซบุ๊กมากเกินไปหรือไม่ และใครจะเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงนี้มากที่สุด,ในทางที่ดี ไทยรัฐออนไลน์ ขอแนะนำให้นักการตลาดทุกคนใช้ระบบอัลกอรึทึมในตอนนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และในขณะเดียวกันก็ควรสร้างผลงานการตลาดที่โดดเด่นขึ้นมาบนแพลตฟอร์มของตัวเองเพื่อให้เกิดผลในระยะยาว เพราะหากมัวแต่พึ่งแพลตฟอร์มของผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา หากวันไหนเราไม่สามารถใช้แพลตฟอร์มนั้นได้อีกแล้ว อาจเกิดผลกระทบครั้งใหญ่ต่อธุรกิจก็เป็นได้
มีรายงานว่า หลังจากมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์กตัดสินใจปรับเปลี่ยนระบบอัลกอริทึมบนเฟซบุ๊กเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าหลายคนเกิดความไม่มั่นใจ ส่งผลให้หุ้นของเขาตกลงถึง
ข่าว,ไอที
ข่าวไอที,เฟซบุ๊ก,เฟซบุ๊ก อัลกอริทึ่ม,เฟซบุ๊ก หุ้นตก,มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก
https://www.thairath.co.th/news/tech/1178747
ประเมินคุณธรรม ความโปร่งใส 4 ปี สปสช.ได้คะแนน A ต่อเนื่อง
ปี 2562 ผลประเมิน สปสช.ด้านคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ 89.25 คะแนน ย้อนหลัง 4 ปี คงคะแนนระดับ A ต่อเนื่อง สะท้อน สปสช.องค์กรแห่งคุณธรรมและโปร่งใส15 ธ.ค. 2562 นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้จัดทำเครื่องมือ การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ที่เป็นการประเมินเชิงบวกเพื่อเป็นมาตรการป้องกันการทุจริต เป็นกลไกสร้างความตระหนักให้หน่วยงานภาครัฐมีการดำเนินงานอย่างโปร่งใสและมีคุณธรรม ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญของยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ยกระดับให้การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐให้เป็นมาตรการป้องกันการทุจริตเชิงรุกที่หน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศต้องดำเนินการทั้งนี้ สปสช.ได้ร่วมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ โดยในปี 2561 มีผลคะแนนการประเมินเป็นลำดับที่ 381 ในจำนวน 8299 องค์กรทั่วประเทศที่เข้าร่วมประเมิน และเป็นลำดับที่ 13 ในกลุ่มหน่วยงานสาธารณสุข โดย สปสช.ได้รับคะแนนรวมที่ 89.25 อยู่ในระดับ A ซึ่งเมื่อดูผลคะแนนตามตัวชี้วัด พบว่าในด้านการเปิดเผยข้อมูลและการป้องกันการทุจริต สปสช. ที่เป็นการวัดจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ได้รับคะแนนเต็ม 100 คะแนนนพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า เมื่อดูภาพรวมของการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐย้อนหลังในช่วง 4 ปี พบว่า สปสช.เป็นหน่วยงานที่มีผลคะแนนประเมินที่อยู่ในระดับ A มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 ได้รับคะแนน 84.56 คะแนน ปี 2560 มีคะแนน 92.77 คะแนน เป็นคะแนนสูงสุด สปสช. เคยได้รับ และปี 2561อยู่ที่ 88.33 คะแนน โดยผลการประเมินเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานของ สปสช. ในการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติซึ่งเป็นไปอย่างมีคุณธรรมและโปร่งใส มุ่งประโยชน์ของประชาชนในการเข้าถึงบริการสุขภาพเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมการบริหารราชการของประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีคุณธรรมและความโปร่งใสเช่นกัน ส่งผลให้การทุจริตในภาพรวมของประเทศลดน้อยลง
ปี 2562 ผลประเมิน สปสช.ด้านคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ 89.25 คะแนน ย้อนหลัง 4 ปี คงคะแนนระดับ A ต่อเนื่อง สะท้อน สปสช.องค์กรแห่งคุณธรรมและโปร่งใส15 ธ.ค.
การเมือง,สังคม,คุณภาพชีวิต
สปสช.,สุขภาพ,ป.ป.ช.,การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ,Integrity and Transparency Assessment,ITA
https://prachatai.com/journal/2019/12/85551
10 พรรคเล็กจะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐเลือกประยุทธ์เป็นนายกฯ
ที่นั่ง ระบุว่าจะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และไม่สนใจเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี ด้านสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ปฏิเสธไม่ได้เข้าร่วมกลุ่ม 10 พรรคเล็ก แต่พร้อมลงมติสนับสนุนทุกขั้วที่จัดตั้งรัฐบาลด้านสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ปฏิเสธไม่ได้เข้าร่วมกับแกนนำพรรคเล็กที่นำโดย มงคงกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ และขณะนี้พรรคประชาธิปไตยใหม่ มีการหารือกับพรรคไทรักธรรมเท่านั้นสุรทินกล่าวว่าแกนนำพรรคการเมืองขนาดใหญ่ต่างติดต่อเข้ามาเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนจุดยืนของพรรคประชาธิปไตยใหม่ คือจะเข้าร่วมรัฐบาลเพราะเป็นมติของพรรค ถ้าฝั่งไหนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็จะเข้าร่วมหมด โดยจะอยู่ในจุดที่ไม่ทำให้ประชาชนเสียผลประโยชน์ทั้งนี้เขายอมรับว่าผลการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปไตยใหม่ได้คะแนนผิดจากที่คาดการณ์ไปมาก เพราะการออกแบบระบบเลือกตั้ง แบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว รวมทั้งการประเมินสถานการณ์ อย่างไรก็ตามพรรคจะนำไปปรับปรุงแนวทาง และระหว่างนี้จะทำงานร่วมกับประชาชนอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันถ้าไม่ได้ร่วมรัฐบาลและต้องเป็นฝ่ายค้าน ก็จะกลับไปประชุมหารือเพื่อหามติพรรค รายงานว่า ชัชวาลย์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งพรรคได้ ส.ส. 3 ที่นั่ง ให้สัมภาษณ์ที่สำนักงาน กกต. ว่าถ้าใครดูแลและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เราก็ยืนข้างนั้นเมื่อถามว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งขาติ (คสช.) ใช่หรือไม่ ชัชวาลย์กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องไปร่วม แต่อะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติก็ต้องทำ ส่วนคำถามว่าจะลงมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ชัชวาลย์กล่าวว่า ถ้าเสนอมาตามระเบียบเราก็โอเค ไม่มีลูกเล่นอะไร อะไรดีก็ทำ อะไรไม่ดีก็ไม่ทำ ส่วนจะมีหรือไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี เขาไม่สน ไม่จำเป็น อะไรที่ทำให้ประเทศเดินหน้าได้ผมทำ ต่อคำถามที่ว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอยู่ยาก ชัชวาลย์กล่าวว่าก็คงเป็นอย่างนั้น พูดยากข้างหน้าเราไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น การเมืองยังลึกซึ้งมากกว่าที่จะไปวิจารณ์ในรายงานของ อ้างคำพูด พิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวว่า ยืนยันว่าแกนนำพรรคเล็กจำนวน 10 พรรค ได้แก่ พรรคไทรักธรรม พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคพลเมืองไทย พรรคประชาธรรมไทย พรรคประชานิยม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคพลังไทยรักไทย พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคประชาภิวัฒน์ และพรรคพลังชาติไทย เห็นร่วมกันว่าจะไปร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฐานะแคนนิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ ให้เป็นนายกฯ โดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี
พิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ระบุว่าแกนนำพรรคเล็กจำนวน 10 พรรคที่มี มงคลกิตติ์ พรรคไทยศรีวิไลย์ร่วมด้วยจะหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ด้านชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย ซึ่งได้ ส.ส. 3
การเมือง
เลือกตั้ง 62,พรรคเล็ก,ส.ส.บัญชีรายชื่อ,พรรคประชาธิปไตยใหม่,พรรคพลังท้องถิ่นไท,ชัชวาล คงอุดม,สุรทิน พิจารณ์
https://prachatai.com/journal/2019/05/82391
อินโดนีเซีย - เกาหลีเหนือ หารือการค้าระหว่างกัน
พล.ท.สุลิโล่ บัมบัง ยูโดโยโน่ ประธานาธิบดีอินโดนีเซียให้การต้อนรับนายคิม ยอง นัม ประธานสภาเกาหลีเหนือที่เดินทางเยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ และหารือทวิภาคีระหว่างกัน ซึ่งเป็นความพยายามของเกาหลีเหนือ ในการเพิ่มการค้าระหว่าง 2 ประเทศ และขอคำแนะนำอินโดนีเซียในการพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือที่ยังด้อยกว่าชาติอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ฝ่ายอินโดนีเซียหยิบยกเรื่องความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีขึ้นหารือ ท่ามกลางความกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจทดลองนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 3ด้านนายมาร์ตี้ นาตาเลกาว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซียใช้โอกาสระหว่างที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือเยือนอินโดนีเซีย ในการแสดงความกังวลเรื่องสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ พร้อมระบุว่าต่อไปนี้อินโดนีเซียจะไม่คัดค้านมติของสหประชาชาติที่จะมีต่อกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเกาหลีเหนือ หลังจากที่ผ่านมาอินโดนีเซียเคยคัดค้านมติลงโทษเกาหลีเหนือในเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่กลับเห็นว่าพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือไม่มีแนวโน้มดีขึ้น
ผู้นำอินโดนีเซียให้การต้อนรับประธานสภาเกาหลีเหนือที่เดินทางเยือนอินโดนีเซีย เพื่อหารือเรื่องการค้าระหว่าง 2 ประเทศ
ต่างประเทศ
การค้า,นิวเคลียร์,หารือ,อินโดนีเซีย,เกาหลีเหนือ
https://news.thaipbs.or.th/content/84972
บัวขาว จัดหนักจะแจ้ง ชนะคะแนน ไอ้หัวกระสุน ศึกฟีนิกซ์ ไฟท์ติ้ง
 ,การแข่งขันมวยไทยรายการ ฟีนิกซ์ ไฟท์ติ้ง แชมเปี้ยนชิพ ศึกมวยไทยที่ใหญ่ที่สุดแห่งตะวันออกกลาง ที่สังเวียน ซูค มิกาเอล คูฟาล สเตเดียม กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา คู่เอกประจำวันอยู่ที่คู่ของ เจ้าดำดอทคอม บัวขาว บัญชาเมฆ ซุปเปอร์สตาร์มวยไทยขวัญใจชาวสยาม พบกับ เจ้าหัวกระสุน อังเดร คูเลบิน ยอดกำปั้นชาวเบลารุส ดีกรี 5 แชมป์ IFMA ในพิกัด 70 กิโลกรัม,ไฟต์นี้แฟนชาวไทยจดจ่อรอนานหลายชั่วโมงหลังมีคู่ประกอบรายการมากถึง 11 คู่ทั้ง MMA และ มวยไทย กระทั่งประมาณตี 5 กว่าๆตามเวลาในประเทศไทยของเช้าวันที่ 11 ธ.ค. บัวขาว บัญชาเมฆ ก็ได้ฤกษ์ลงเวทีเตรียมฟาดปากกับยอดนักชกชาวเบลารุส,เปิดฉากมายกแรก บัวขาว มาถึงก็เดินเครื่องใส่ก่อนเลย จัดขวาสั่งตายไป 1 ทีทำเอากำปั้นเบลารุสออกอาการเซเล็กน้อย ก่อนที่ยกสอง บัวขาว จะเริ่มโชว์ของจริงจัดหนักจัดเต็มตลอดทั้งยกไม่ว่าจะเป็นการตีเข่า,ฟันศอก,ฟาดด้วยลำแข้ง ทำเอาเจ้าหัวกระสุนล้มไปจมกองพื้นหลายครั้ง,กระทั่งยกสามถือเป็นยกปิดบัญชี บัวขาว คุมเกมอยู่หมัดเน้นดักอาวุธของกำปั้นเบลารุส ก่อนใช้ความรวดเร็วซัดไปที่ซี่โครงกลับแบบจะแจ้ง ถึงแม้ว่าไอ้หัวกระสุนจะไม่น็อกใน 3 ยกแต่สุดท้ายหลังจากเสียงระฆังดังขึ้น เสียงโฆษกก็ประกาศให้ บัวขาว เป็นฝ่ายชนะคะแนน อังเดร คูเลบิน ไปแบบเอกฉันท์ ผงาดคว้าเข็มขัดไปครองพร้อมสร้างความชื่นมื่นแก่ชาวไทยที่มาเชียร์ติดขอบเวทีรวมถึงทางบ้านนอนหลับฝันดีกันไป,ขอบคุณภาพจาก Facebook บัวขาว : ,Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)
เจ้าดำดอทคอม บัวขาว บัญชาเมฆ เหนือกว่าเยอะออกอาวุธจะแจ้งตลอด 3 ยกเอาชนะคะแนน ไอ้หัวกระสุน อังเดร คูเลบิน ผงาดคว้าเข็มขัดศึกฟีนิกซ์ ไฟท์ติ้ง แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นสังเวียนที่ใหญ่ที่สุดแห่งตะวันออกกลาง
null
บัวขาว บัญชาเมฆ,ดำ ดอทคอม,ฟีนิกซ์ ไฟท์ติ้ง แชมเปี้ยนชิพ,มวย,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/807642
โพลล่าสุด ระบุ ฮิลลารี่ คลินตัน ชนะการเลือกตั้ง - โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ฟ้องสตรีอ้างถูกลวนลามทางเพศ
วันนี้ (23 ต.ค.2559) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า สตรีทุกคนที่ออกมากล่าวหาเขากุเรื่องขึ้นมา เพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้กับการหาเสียงของเขา ดังนั้นเขาจะฟ้องร้องดำเนินคดี กับสตรีที่ออกมากล่าวหาเขาทุกคน เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีสตรีอย่างน้อย 10 คน ออกมาอ้างว่า เคยถูกนายทรัมป์คุกคามลวนลามทางเพศ โดยที่พวกเธอไม่ได้ยินยอมพร้อมใจ แม้นายทรัมป์จะปฏิเสธและขู่ว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดี แต่เขาก็ยังไม่เคยทำจริงตามที่ขู่ไว้สักราย ล่าสุดนางสาวเจสซิกา เดรค ผู้อำนวยการและนักแสดงภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ ได้จัดแถลงข่าวกล่าวหาว่า เคยถูกนายทรัมป์แสดงพฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสมนางสาวเดรค อ้างว่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เคยพบกับนายทรัมป์ในสถานที่แข่งขันกอล์ฟแห่งหนึ่ง ซึ่งนายทรัมป์ชวนเธอไปที่ห้องพักของเขาและชวนไปรับประทานอาหารค่ำ แต่เธอก็ปฏิเสธทุกครั้ง จนในที่สุดนายทรัมป์เสนอให้เงินเธอและให้เธอใช้เครื่องบินส่วนตัวของเขา แต่เธอก็ปฏิเสธไปอีกสำหรับความเคลื่อนไหวของนางฮิลลารี่ คลินตัน ล่าสุดได้กล่าวถึงนายทรัมป์ว่า เป็นอันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 8 เดือนพฤศจิกายนผลการสำรวจความนิยม หรือ โพลล่าสุด จากสำนักข่าวรอยเตอร์และอิปโซส ระบุว่า หากการเลือกตั้งจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ นางฮิลลารี่จะได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง หรืออิเลคโตรัลคอลเล็จ ซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละรัฐทั้ง 50 รัฐ จำนวน 326 เสียง ซึ่งเกินเกณฑ์ขั้นต่ำ 270 เสียง สำหรับผู้ที่จะชนะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป ส่วนด้านนายทรัมป์นั้นได้เพียง 212 คะแนน
โพลล่าสุด การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาออกมาว่า นางฮิลลารี่ คลินตัน จากพรรคเดโมแครต จะได้รับการเทคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง หรือ อิเลคโตรั่ลคอลเล็จ จนชนะการเลือกตั้ง ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน คะแนนนิยมลดลงอย่างต่อเนื่อง
ต่างประเทศ
ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ฮิลลารี่ คลินตัน,นายโดนัลด์ ทรัมป์,ชนะการเลือกตั้ง,อิเลคโตรั่ลคอลเล็จ,ประธานาธิบดี
https://news.thaipbs.or.th/content/256955
ใจ อึ๊งภากรณ์: วิเคราะห์อำนาจอำมาตย์
ซึ่งแปลว่าเราต้องมาศึกษาเรื่อง รัฐรัฐ คือองค์กรปกครองประเทศในยุคสมัยนี้ ที่สำคัญคือ มันมากกว่าแค่ รัฐบาล และ รัฐสภา อย่างที่เลนิน หรือนักมาร์กซิสต์อื่นๆ เคยอธิบาย มันประกอบไปด้วย ทหาร (ชั้นสูง) ตำรวจ (ชั้นสูง) ศาล คุก และข้าราชการ(ชั้นสูง) เราอาจรวมองค์มนตรีและประมุขแห่งรัฐเข้าไปด้วย และกลุ่มคนเหล่านี้มีอิทธิพลในการคุมสื่อ องค์กรศาสนา และระบบการศึกษาอีกด้วยนอกจากนี้ในหมู่คนที่เราอาจเรียกรวมๆ ว่าเป็น ชนชั้นปกครอง เรายังต้องรวมนักธุรกิจนายทุนรายใหญ่ๆ ทั้งๆ ที่นายทุนเอกชนไม่ใช่ส่วนหนึ่งของรัฐ แต่ที่สำคัญเขาใช้อำนาจเศรษฐกิจการเงินของเขาในการกำหนดทิศทางการทำงานของรัฐได้ รัฐจึงไม่เป็นกลาง และไม่ใช่ของประชาชน และอย่าลืมว่า เวลาเราพูดถึงนายทุนในไทย มันรวมนายพลที่สะสมทุนผ่านการคอร์รัปชั่น รวมถึงทรัพย์สินส่วนกษัตริย์ด้วย เพราะศักดินาเก่าแปรรูปไปเป็นนายทุนตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5รัฐ จึงถือได้ว่าเป็นเครือข่ายของคนชั้นสูงที่มีเส้นสายสัมพันธ์ ทั้งในด้านส่วนตัวมิตรสหายเครือญาติ และในด้านผลประโยชน์ร่วม ซึ่งทำให้เขาร่วมมือกันในการทำงาน ทั้งๆ ที่อาจมีการทะเลาะกันเถียงกันบ้าง นี่คือระบบอุปถัมภ์ ร่วมกันกิน และที่เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย เพราะอะไร?เราจะสังเกตเห็นว่า รัฐ มีทั้งส่วนที่อาจมาจากการเลือกตั้ง เช่น รัฐบาลและรัฐสภาในสังคมที่เป็นประชาธิปไตย และอีกส่วนซึ่งใหญ่กว่าที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเลย เป็นกลุ่มคนและสถาบันที่มีอำนาจนอกกรอบรัฐธรรมนูญและกติกาประชาธิปไตยแท้ อำนาจอำมาตย์จึงมีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นไทย สหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน สแกนดีเนเวีย หรืออินเดียประเด็นที่เราต้องตีให้แตกคือ เราจะกดทับอำนาจอำมาตย์ในระยะสั้น เพื่อไม่ให้ละเมิดประชาธิปไตยมากเกินไป แล้วในระยะยาวเราจะกำจัดมันให้หมดไปอย่างไรถ้าเปรียบไทยกับยุโรปตะวันตก จะเห็นว่าในยุโรป อำนาจประชาชนกดทับอำนาจอำมาตย์ไปได้บ้างในระยะสั้น จึงไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงประชาธิปไตยเท่ากับประเทศไทยข้อสรุปสำคัญจากการวิเคราะห์แบบนี้คือ การเลือกตั้งอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะลดอำนาจอำมาตย์ได้ ซึ่งเราเห็นในกรณีความไร้อำนาจของรัฐบาลพลังประชาชนเมื่อปีที่แล้ว และการแก้รัฐธรรมนูญไม่เพียงพอที่จะลดอำนาจอำมาตย์ด้วย เพราะอำนาจเขาอยู่นอกกรอบรัฐธรรมนูญเมื่อเราเข้าใจตรงนี้ ข้อเสนอให้กาช่องไม่เลือกใคร (No Vote) ของ อ.ชูพงษ์ ถี่ถ้วน ไม่มีน้ำหนักหรือเหตุผลเพียงพอ เพราะมีคำถามตามมาว่ ามันจะทำให้คนเสื้อแดงเข้มแข็งอย่างไร? มันให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากเกินไป และถ้ากาช่องไม่เลือกใครแล้วกลับบ้านหลังจากนั้นทำอะไรต่อ? อย่าลืมว่า อ.ชูพงษ์เคยอยู่กับ อ.ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร ซึ่งเป็นอดีตคอมมิวนิสต์ที่ไปจับมือกับทหาร และหน้าที่ของกลุ่มอาจารย์ประเสริฐในอดีตและปัจจุบัน คือการสร้างความสับสนในขบวนการประชาชนเพื่อแสดงความจงรักภักดีกับทหารและกษัตริย์ในที่สุดในระยะสั้น เราจะใช้อะไรเป็นเครื่องมือในการลดอำนาจอำมาตย์ที่อยู่นอกกรอบรัฐธรรมนูญหรือกรอบกติกาประชาธิปไตย? อำนาจที่สำคัญคืออำนาจมวลชนผู้รักประชาธิปไตย คนเสื้อแดงนั้นเอง มันหมายความว่าคนเสื้อแดงต้องเปลี่ยนจากผู้ที่เคยไปลงคะแนนเสียงแล้วกลับบ้าน ไปสู่คนที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ ถ้าจะให้สมบูรณ์มากขึ้น เราต้องทำอะไร?ต้องมีการสร้างพรรคเสื้อแดง จากกลุ่มคนเสื้อแดงเอง ซึ่งจะต่างจากพรรคที่นักการเมืองสร้างจากบนลงล่าง เราทุกคนต้องพัฒนาตนเองเป็นนักการเมืองและนักวิชาการของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย เราต้องเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกรัฐสภาในทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับคนจนและพลเมืองธรรมดา เช่น ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาการเลือกปฏิบัติหรือการเอารัดเอาเปรียบทั้งหลาย ซึ่งล้วนแต่ผูกพันกับประชาธิปไตยอย่าลืมว่าอำมาตย์ขโมยประชาธิปไตย เพราะเขาเสียประโยชน์ทางเศรษฐกิจ พรรคแดง ต้องเรียกร้องให้มีรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า ครบวงจร ผ่านการเก็บภาษีจากคนรวยและการกระจายรายได้พรรคแดงต้องเข้าไปช่วงชิงความคิดในขบวนการสหภาพแรงงาน เพราะขบวนการนี้มีอำนาจพิเศษคืออำนาจต่อรองที่มาจากการนัดหยุดงาน รัฐและอำมาตย์จะได้ผลกระทบถ้ามีการนัดหยุดงาน เราไม่ควรปล่อยให้พันธมาร ขยายการเมืองในสหภาพแรงงานฝ่ายเดียวพรรคแดงต้องเข้าไปจัดตั้งและพยายามให้ความคิดกับนักศึกษา ซึ่งเป็นหนุ่มสาวไฟแรงที่สนใจความคิด และในขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมอื่นๆ เช่นขบวนการสิทธิสตรี ขบวนการต้านโรงไฟฟ้า ขบวนการสิทธิคนรักเพศเดียวกัน ขบวนการคนพิการ หรือขบวนการคนชนเผ่า หรือชนกลุ่มน้อย อย่าปล่อยให้เอ็นจีโอเหลืองๆ มีอิทธิพลในขบวนการเหล่านี้ฝ่ายเดียวเราต้องไม่หลงเชื่อว่าเราจะแทรกเข้าไปในกลุ่มคนชั้นสูงเพื่อเอาเขามาเป็นพวกได้ เพราะผลประโยชน์ของอำมาตย์ตรงข้ามกับผลประโยชน์ประชาชน นั้นคือสาเหตุที่อำมาตย์เกลียดประชาธิปไตย เขาไม่ได้ หลงผิด เขาปกป้องผลประโยชน์เขาต่างหาก ดังนั้นต้องเน้นกลุ่มคนที่ไม่ใช่ผู้ใหญ่ รัฐ หรือนายทุนใหญ่ เพื่อให้ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน และเพื่อบังคับให้มีการลดอิทธิพลของอำมาตย์ในสังคมหลายคนอาจคิดว่ามันคงเป็นเรื่องใหญ่ ใช่เลย มันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่ได้แปลว่าเสื้อแดงในประเทศไทยทำไม่ได้ เพราะเราไม่ด้อยกว่าใครในประเทศอื่น การตั้งพรรคแดง การที่พรรคแดงสร้างหรือนำขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม เป็นเรื่องสำคัญ เรารอให้คนอื่นทำแทนไม่ได้ พรรคเพื่อไทยอ่อนแอมาก และไม่ว่า ส.ส.บางคนของเพื่อไทยจะดีแค่ไหน เขาจะไม่มีพลังหนุนช่วยเขา ถ้าเราไม่สร้างขบวนการเสื้อแดงให้เข้มแข็งและอิสระนอกรัฐสภาอำนาจอำมาตย์ที่เป็นอำนาจนอกกรอบรัฐธรรมนูญ อาศัยสองขาคือ (1) ความรุนแรง/การปราบปราม และ (2) การสร้างภาพความชอบธรรมเพื่อครองใจประชาชนส่วนแรกเขาได้เปรียบเรา แต่ถ้าเราผูกมิตรกับทหารระดับล่างที่เป็นลูกหลานประชาชน มันก็จะช่วยลดอำนาจตรงนี้ แต่ส่วนที่อำมาตย์อ่อนแอที่สุดคือในส่วนการสร้างความชอบธรรมเพื่อครองใจประชาชน ดังนั้นภารกิจหลักของเราชาวเสื้อแดง คือการโต้เถียงกับความคิดของอำมาตย์ในทุกเวที เราต้องกล้าเถียงว่า ทำไมต้องมีประชาธิปไตยแท้ ทำไมทุกตำแหน่งสาธารณะในสังคมต้องมาจากการเลือกตั้ง ทำไมไม่ควรมี สูง-ต่ำ พลเมืองทุกคนต้องเท่าเทียมกัน ทำไมรัฐบาลแย่ในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ทำไมต้องมีระบบยุติธรรม ไม่ใช่สองมาตรฐาน ทำไมคนจนเป็นผู้สร้างชาติ ไม่ใช่ภาระหรือผู้ที่ควรถูกขูดรีดเอารัดเอาเปรียบ ฯลฯ เป็นต้นเราสามารถและจำเป็นที่จะต้องชนะอำนาจอำมาตย์เพื่อสร้างประชาธิปไตยและให้ประชาชนเป็นใหญ่ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดจากแค่การเลือกตั้ง มันเป็นสงครามทางการเมืองที่สำคัญ และบังคับให้เราชาวเสื้อแดงแปรตัวเป็นมืออาชีพ
ทุกวันนี้คนเสื้อแดงกำลังรบกับอำนาจ นอกระบบ นอกรัฐธรรมนูญ หรือนอกกรอบกติกาประชาธิปไตย หรือที่เราเรียกกันว่า อำมาตย์ ดังนั้นเราต้องร่วมกันทำความเข้าใจว่า อำนาจอำมาตย์ มีองค์ประกอบอะไรบ้าง
การเมือง
ประชาธิปไตย,เสื้อแดง,ใจ อึ๊งภากรณ์
https://prachatai.com/journal/2009/06/24509
หวั่นพรรคขวาจัดฉวยโอกาสทำคะแนน-หลังรัฐบาลสวีเดนมีนโยบายรับผู้ลี้ภัย
เช่นเดียวกับกลุ่มขวาจัดอื่นในยุโรปคือฉวยโอกาสวิกฤตผู้ลี้ภัยเพิ่มคะแนนนิยมตัวเองจากแนวคิดคลั่งชาติและหวาดกลัวสังคมพหุนิยม26 พ.ย. 2558 - ในขณะที่ทางการสวีเดนมีนโยบายเปิดรับผู้ลี้ภัยจำนวนสูงสุด 190000 คนเข้าประเทศภายในปีนี้และประกาศตนว่าพวกเขาเป็น มหาอำนาจด้านมนุษยธรรม (humanitarian superpower) ของยุโรป แต่สำนักข่าวเดอะการ์เดียนก็ระบุว่านโยบายรับผู้อพยพจำนวนมากเช่นนี้อาจจะกลายเป็นเหตุให้พรรคการเมืองขวาจัดนำมาใช้โจมตีและเรียกความนิยมจากประชาชนได้ในสวีเดนมีพรรคขวาจัดที่มีพื้นเพมาจากขบวนกรเคลื่อนไหวนีโอนาซีชื่อพรรค สวีเดนเดโมแครต (SD) ซึ่งพรรคการเมืองกระแสหลักอื่นๆ ในสวีเดนต่างก็ไม่ชอบพวกเขาเพราะพรรคนี้มีนโยบายกีดกันผู้ลี้ภัยในแบบขวาจัด แต่พรรคนี้ก็ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับที่ 3 โดยมีผู้แทนอยู่ในสภา 49 ที่นั่งสิ่งที่ประมาทไม่ได้อีกเรื่องหนึ่งสำหรับพรรครัฐบาลสวีเดนคือการที่พรรคขวาจัดนี้มีแนวโน้มได้รับความนิยมสูงขึ้น โดยจากการสำรวจโพลล์ของบริษัทซีโฟ (Sifo) ระบุว่าพรรคสวีเดนเดโมแครตจะได้รับคะแนนโหวตมากขึ้นร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับคะแนนจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2557กลุ่มต่อต้านเผด็จการฟาสซิสต์เตือนว่าเหตุก่อการร้ายจากกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนาที่เกิดขึ้นรวมถึงวิกฤตผู้ลี้ภัยอาจจะทำให้กลุ่มขวาจัดหาความชอบธรรมให้ตัวเองได้มากขึ้นทั่วยุโรปไม่เพียงแต่ในสวีเดนเท่านั้นแต่ยังรวมถึงประเทศออสเตรีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ ซึ่งล้วนแต่มีพรรคการเมืองขวาจัดต่อต้านผู้ลี้ภัยในประเทศนั้นๆแดเนียล พูลห์ หัวหน้าบรรณาธิการเว็บไซต์ของวารสารเอ็กซ์โป (Expo) ซึ่งเป็นกลุ่มสื่อที่คอยจับตามองกิจกรรมแบบฟาสซิสต์ในสวีเดนให้สัมภาษณ์ต่อเดอะการเดียนว่าพวกเขาจะประมาทพวกชาตินิยมหัวรุนแรงเหล่านี้ไม่ได้เพราะมันเป็นแนวคิดที่กำลังเติบโตมากขึ้นไม่เพียงแค่ในยุโรป พูลห์กล่าวว่าพวกกลุ่มขวาจัดไม่เคยหายไปจากยุโรปคนกลุ่มนี้แค่ถูกตอบโต้อย่างหนักหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุโรปจบลง ในยุคสมัยนั้นกลุ่มขวาจัดจะอ้างว่าประชาธิปไตยทำลายสังคม แต่ในยุคสมัยนี้พวกเขาจะหันมาใช้วาทกรรมว่าพหุนิยมทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งทำลายชาติแทนในช่วงที่ยุโรปกำลังเกิดภาวะวิกฤตผู้ลี้ภัยสวีเดนเสนอตัวเพิ่มโควตาผู้ลี้ภัยจากปีที่แล้ว 100000 คน เป็น 190000 คนซึ่งมากกว่าหลายประเทศในยุโรปอีกทั้งยังเป็นประเทศแรกที่ให้สัญชาติถาวรแก่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย แต่พรรคสวีเดนเดโมแครตก็พยายามโต้แย้งว่าการให้ผู้อพยพเข้าเมืองจำนวนมากจะทำให้ไม่สามารถจัดการได้ ทำให้เกิดการขาดแคลนที่อยู่และการว่างงานสูงเมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลสวีเดนได้ออกมาตรการการตรวจสอบการข้ามพรมแดนเพิ่มเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ลี้ภัยเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบสแกนดิเนเวียได้ง่ายเกินไป โดยแม้ว่าผู้ลี้ภัยจะยังคงขอลี้ภัยในสวีเดนได้แต่ผู้ลี้ภัยที่ไม่มีเอกสารจะไม่อนุญาตให้เดินทางไปยังประเทศสแกนดิเนเวียประเทศอืน ในเรื่องนี้โฆษกด้านทะเบียนพลเรือนและผู้อพยพของพรรคสวีเดนเดโมแครตให้สัมภาษณ์ต่อเดอะการ์เดียนว่าทางการนอร์เวย์และฟินแลนด์น่าจะพอใจกับนโยบายนี้ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้ลี้ภัยเข้าไปในประเทศของพวกเขาทางด้านพรรคสวีเดนเดโมแครตยืนกรานว่าจะต้องรับผู้ลี้ภัยน้อยลง ถึงแม้ว่าพวกเขายืนยันว่าพวกเขาไม่ใช่แค่กลุ่มฝ่ายขวาหัวรุนแรงธรรมดาทั่วไปเพราะสามารถเข้าไปมีที่นั่งในสภาได้แต่เดอะการ์เดียนก็ระบุว่าพรรคสวีเดนเดโมแครตไม่เพียงต่อต้านผู้ลี้ภัยเท่านั้นแต่ยังต่อต้านพหุนิยมทางวัฒนธรรมและชูความเป็นชาติของสวีเดนด้วยข้ออ้างว่าวัฒนธรรมที่แตกต่างจะเป็นภัยตอความเป็นชาติทั้งนี้พรรคสวีเดนเดโมแครตก็ยังพยายามสื่อว่าพวกเขาไม่ใช่นีโอนาซีและมีความแตกต่างจากกลุ่มชาตินิยมหัวรุนแรงกลุ่มอื่นๆ อย่างกลุ่ม นอร์ดิสก์อุงดอม ที่เป็นกลุ่มฝ่ายขวาสสุดขั้วเคยโพสต์คลิปสมาชิกกลุ่มขว้างปาระเบิดเพลิงใส่ศูนย์ผู้ลี้ภัยมาก่อน นอกจากนี้ยังพยายามปฏิเสธผู้นำยุวชนของพรรคโดยอ้างว่าเธอชาตินิยมเกินไปและพรรคพวกของเธอเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรง แต่ผู้นำกลุ่มยุวชนคนดังกล่าวก็กล่าวแก้ต่างข้อหาและบอกว่ามันเป็นเรื่องการเมืองภายในของพรรคที่พยายามล้างบางกันเองเท่านั้นเดอะการ์เดียนระบุอีกว่าพรรคสวีเดนเดโมแครตยังพยายามปราศรัยในเชิงปลุกระดมให้ต่อต้านมุสลิมเพิ่มมากขึ้นด้วยและอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระแสการใช้ความรุนแรงต่อผู้อพยพที่เพิ่มมากขึ้นทั่วสวีเดน ทั้งเหตุเผาศูนย์ผู้อพยพหลายสิบครั้งและเหตุสังหารคนต่างเชื้อชาติในโรงเรียนโครแนน และท่าทีของโฆษกด้านทะเบียนพลเรือนและผู้ลี้ภัยของพรรคก็อ้างว่าพวกเขาต้องเปิดเผยรายละเอียดให้ชุมชนรู้ว่ามีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ในย่านใดโดยไม่ใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยของกลุ่มผู้ลี้ภัยเลยฮัดจ์ อาห์เหม็ด อิหม่ามของมัสยิดนิกายซุนนีในชุมชนโทรลฮัตตันที่เกิดเหตุสังหารคนต่างเชื้อชาติกล่าวว่าในย่านชุมชนผู้อพยพที่วกเขาอาศัยอยู่มีชาวสวีเดนเข้ามานานๆ ครั้ง และเขากลัวว่าจะเกิดเหตุโจมตีทางเชื้อชาติในชุมชนเกิดขึ้นอีกโดยฝีมือของคนไร้สังกัดที่ถูกล้างสมองแบบเดียวกับที่นาซีเคยล้างสมองให้คนเชื่อชาวอารยันเป็นเชื้อชาติที่ดีที่สุดในโลก และอาห์เหม็ดก็ระบุว่าพรรคสีเดนเดโมแครตก็กำลังกระทำสิ่งเดียวกับที่นาซีเคยกระทำไว้
ขณะที่ทางการสวีเดนประกาศจะเป็น มหาอำนาจด้านมนุษยธรรม ด้วยการรับผู้ลี้ภัยเกืบสองเท่าของปีที่แล้ว แต่ก็มีความกังวลว่าพวกเขาจะตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มขวาจัดในสวีเดน
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน
กลุ่มขวาจัด,นีโอนาซี,ผู้ลี้ภัย,ผู้อพยพ,ยุโรป,วิกฤตผู้ลี้ภัยยุโรป,สวีเดน
https://prachatai.com/journal/2015/11/62649
ใบเตย ลูกทุ่งนุ่งสั้น โชว์บิกินี
ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน หรือ ใบเตย อาร์สยาม หนูนี่แหละ ใบเตย ฉายา ลูกทุ่งนุ่งสั้น เธอเป็นสาวซ่าส์ ที่วงการมายาต้องการตัว ขยันสร้างความแปลกใหม่แซ่บๆซ่าส์ๆ รับคำชม ผสมโดนด่า เธอก็ยอม เพราะวงการลูกทุ่งที่ร้อนฉ่า ไม่ต่างจาก สงครามนางงาม หรือ สงครามนางฟ้า ใครไม่เด่น เสียงไม่ดี ถูกกดหัวจมหายไปหลายรายแล้ว,ใครจะลือกันไป ใบเตย มีแฟนแล้วขาลง รู้ไว้และเข้าใจตรงกันเลยว่า ใบเตย เลือกงานลงบ้าง แต่คัดสรรงานคุณภาพ เอาเน้นๆเค้นๆโดนๆหัวใจ ไม่ใช่แบบตะก่อน โหมร้องเพลงแบบ 30 วัน แต่ได้สตางค์แบบเหมาๆ วันนี้ ใบเตย ขอเลือกงาน ถ้าไม่แซ่บถ้าไม่ซ่าส์ อย่ามาเรียกหนูว่า ใบเตย อาร์สยาม,งานชิ้น ล่าสุด แต่ไม่ใช่ ท้ายสุด ใบเตย มาแน่ สายเซ็กซี่เปิดประตูรับเธอหน่อย เร้วว เธอลุกมาสลัดผ้าถ่ายแบบ เป็นนางแบบเต็มขั้น ให้นิตยสารแนวซู่ซ่าส์ ถูกใจหนุ่มๆ FHM บิกินี่ตัวจิ๋วปิดเรือนกาย ใบเตย หมายมั่นว่า งานชิ้นนี้จะ เซ็กซี่ขยี้หัวใจ ดีเจแมน พัฒนพล คงไม่ว่าอะไร แมน แบบแมนๆ แบ่งๆแฟนให้ชม ใบเตย เองก็ใช่ย่อย เธอมันประเภทรักต้องเปิด ไปถ่ายแบบเซ็กซี่ที่ ทะเลเสม็ด ใบเตย เช็กเรตติ้งโพสต์ภาพเธอถ่ายแบบลงไอจี ลองหยั่งเชิง แฟนคลับว่า จะ รัก และ รับ ได้แค่ไหน เธอเช็กตลาดด้วยตัวเอง ใบเตย คลุกวงใน ติดตามกระแส ดีและร้ายด้วยตัวเอง,แถม แรงดีไม่มีตก แซ่บเว่อร์เหนือใคร ต้องยกให้ ใบเตย เธอลั่นวาจาไว้เลยว่า ท้องเมื่อไหร่ แต่งเมื่อนั้น มองเรื่องมีลูกเป็นเรื่องชิลๆ ธรรมชาติสร้างสรรค์ ที่เกิดได้ทุกเมื่อ ใบเตย ยกตัวอย่างซะเห็นภาพ สมมติบอกว่าจะแต่งอีกสองปี แต่พรุ่งนี้เกิดท้องขึ้นมาก็ได้ มันคือโลกของความจริง พูดเรื่องจริง จนคิดว่าท้องจริง เธอบอกเลยว่า เอาจริงๆก็อยากท้องนะคะ แต่ไม่ได้ท้อง ลือหึ่ง หลังมีคนเห็น ใบเตยผลุบเข้าออกโรงพยาบาล แผนกสูตินารีเวชบ่อยๆ อู้ย เธอก็ไม่ปฏิเสธ รับเลยว่า ถ้าเห็นที่แผนกสูตินารีเวช คือเรื่องจริงเพราะระยะหลังเข้าโรงพยาบาลบ่อย เนื่องจากถุงลมหรือลูกโป่งงอกออกมาที่ปอดด้านซ้าย และห้องที่พักเราอยู่ชั้นเดียวกับวอร์ดแม่และเด็ก เธอผ่านร้อน ผ่านหนาว ข่าวคาวข่าว ฉาว จนเจนเวที ข่าวแค่นี้จิ๊บๆ,เธอโดนเพจแอนตี้จ้องทำลาย จนเพจนี้มลายหายไปเอง ดีเจ แมน แฟน ใบเตย คนมองเป็น แบดบอยสุดซ่าส์ แต่สำหรับเขา ใบเตย มองว่าแมนก็แค่ผู้ชายบ้าเบาะ หลงมอเตอร์ไซค์ ติดเบาะ ที่ชอบปาร์ตี้ ใครว่า แมนมาเกาะใบเตย เถียงแทน หนูยังบอกพี่แมนว่าใครเป็นแฟนหนูอ่ะโชคร้าย เราเจออะไรแย่ เค้าก็ต้องเจอด้วย เห็นใจ พี่แมนมาก ไหงเป็นงี้ไปได้ ใบเตย พูดจริงจากใจ เธอไม่ใช่ นางมารร้าย แต่ชอบมากช่วงที่ แมน รอผ่าตัดตาสายตาสั้นมาก แมน ตาพร่า มัวๆไปไหนไม่ได้ ใบเตย ชอบ อยากจะหยุดเวลา แมนตามัว ไว้ตลอดกาล แมน กลายเป็น แมวนอนนิ่ง ไม่ต้อง วิ่งตาม,ใบเตย ก็ตอบแทน ความดีของแฟนแสนเชื่อง ด้วยนาฬิกาโรเล็กซ์ ราคาหลายแสน ใน วันเกิด,หมอดูคนดัง ทำนายไว้ ใบเตย มีเกณฑ์เลิก แมน ตอนนี้จะเลิกได้ไง ว่างปุ๊บจัดทริปกระชับรัก จุ๊บปาก โพสต์ภาพหวานโชว์ แถม ใบเตย เองก็มโนถึงงานวิวาห์ อยากให้มีซะพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ยิ่ง แมน ใกล้จะบวช เธอมโนเลยว่า งานวิวาห์เขาและเธอใกล้เข้ามาแล้วนะ แค่ไม่คาดหวัง ซ่าแค่ไหน ใบเตยก็แค่ผู้หญิงไทยหัวใจกล้า ที่ถวิลหางานแต่ง,ใบเตยไม่ได้โง่ ไม่ได้แค่ขายเซ็กซี่ เธอฉลาด และกตัญญูเลี้ยงครอบครัวมาตั้ง แต่เด็ก วันนี้ ไม่แปลก หาก ใบเตย จะเลือกเป้า เลือกงาน เธอขอสุข สงบ ทำงานน้อยลง แต่สตางค์เยอะเท่าเดิม ใบเตย เธอมาไกล มาสอยดาว ในวงการไปได้หลายกระบุงโกยแล้ว รู้ยัง?,ภาพ FHM
ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน หรือ ใบเตย อาร์สยาม หนูนี่แหละ ใบเตย ฉายา ลูกทุ่งนุ่งสั้น เธอเป็นสาวซ่าส์ ที่วงการมายาต้องการตัว ขยันสร้างความแปลกใหม่แซ่บๆซ่าส์ๆ รับคำชม ผสมโดนด่า เธอก็ยอม เพราะวงการลูกทุ่งที่ร้อนฉ่า ไม่ต่างจาก
null
มาลัยไทยรัฐ,ข่าวบันเทิง,ใบเตย อาร์สยาม,นิตยสารภาพ FHM,ใบเตย สุธีวัน,ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน,สุธีวัน ทวีสิน,เพจแอนตี้ใบเตย,ดีเจแมน
https://www.thairath.co.th/content/482693
โลกาภิวัตน์ 18/02/59
ค่ำคืนวันวาเลนไทน์ที่แล้วมา ย่านธุรกิจของฮ่องกง ได้สว่างไสวไปด้วยแสงสีไฟดอกกุหลาบโดยการใช้หลอดไฟแอลอีดีมาประดับให้เป็นดอกกุหลาบสีขาว จำนวน 25,000 ดวง การตกแต่งแบบนี้ได้มีผู้คิดทำขึ้นที่เกาหลีมาก่อน.,โลกมองจากอวกาศนอกโลก,ดาวเทียมหิมาวาริ 8 ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ของญี่ปุ่น รุ่นที่ 3 ถ่ายภาพบริเวณภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกบนโลก ด้วยกล้องถ่ายรังสีอินฟราเรด ช่วยให้มองเห็นพื้นเพของโลกแปลกไปอีกแบบหนึ่ง.,การค้นพบใหม่ในจักรวาล,ภาพแสดงถึงภายในยานอวกาศโซยูซ ของรัสเซีย เปิดการแสดงที่พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอิตาลี ที่มิลาน ช่วงเดียวกับที่วงการดาราศาสตร์กำลังเกิดข่าวใหญ่ว่าจับพบหลักฐานของคลื่นแรงโน้มถ่วงพัดกระเพื่อมแพร่กระจายในจักรวาล ซึ่งไอน์สไตน์เคยทำนายไว้เมื่อ 100 ปีก่อนมาแล้ว การค้นพบนี้ได้ทำให้วงการดาราศาสตร์ของโลกแตกตื่นเหมือนโดนจี้ด้วยไฟฟ้า บางคนเทียบว่าเหมือนกับคราวกาลิเลโอ คิดประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ขึ้น ส่องมองเห็นดาวพระเคราะห์ดวงต่างๆ เป็นครั้งแรก.,จอดบนดาวหาง,ภาพเมื่อครั้งยานอวกาศ โรเซตตาของสำนักอวกาศยุโรป ปล่อยยานลูกฟิเล บนดาวหาง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2547 หลังจากนั้นไม่นาน การติดต่อได้ขาดหายไป เหมือนกับว่ามันจำศีลไป และเพิ่งจะส่อท่าว่าจะกลับมาทำงานได้อีก เมื่อต้นๆ ปีนี้ หลังจากเงียบหายไปนานถึง 15 เดือน แต่ก็ปรากฏว่าคราวนี้เงียบหายไปจริงๆ จนเชื่อว่าคราวนี้มันคงจะเงียบไปตลอดกาลแล้ว.
ค่ำคืนวันวาเลนไทน์ที่แล้วมา ย่านธุรกิจของฮ่องกง ได้สว่างไสวไปด้วยแสงสีไฟดอกกุหลาบโดยการใช้หลอดไฟแอลอีดีมาประดับให้เป็นดอกกุหลาบสีขาว จำนวน 25,000 ดวง การตกแต่งแบบนี้ได้มีผู้คิดทำขึ้นที่เกาหลีมาก่อน.
ข่าว,ไอที
โลกาภิวัตน์,ดาวหาง,ยานอวกาศ,ยุโรป,ดาวเทียม,วันวาเลนไทน์,ญี่ปุ่น,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/news/tech/578677
ลุงวิศวกรขึ้นศาลชลบุรีสอบพยานคดียิงโจ๋ดับ ทนายคาดคดีใกล้สิ้นสุดต้นปี61
จากเหตุการณ์ยิงกันบริเวณตลาดอ่างศิลา ถนนสายอ่างศิลา-สุขุมวิท ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เนื่องจากขุ่นเคืองที่จอดรถขวางกัน โดยกลุ่มวัยรุ่นนั่งในรถตู้ได้กรูไปที่รถเก๋งยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน ฌต 5079 กรุงเทพมหานคร มี นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกร นั่งอยู่ในรถกับครอบครัว หลังจากนั้นได้มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด กระสุนถูก นายนวพล ผึ่งผาย หรือ ปอนด์ อายุ 17 ปี หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น เสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ,ล่าสุด ในวันนี้ที่ศาลจังหวัดชลบุรี เวลา 08.30 น. นายสหภาพ พงษ์ธรรมเจริญ อายุ 45 ปี พ่อของนายนวพล ผึ่งผาย หรือ ปอนด์ อายุ 17 ปี ที่ได้เดินทางมาร่วมฟังสอบพยาน เผยว่า มาถึงตอนนี้เริ่มจะดีขึ้น ไม่คิดอะไรมาก หลังจากเวลาผ่านไปหลายเดือน โดยเบื้องยังไม่มีการพูดคุยกับทางคู่กรณีในเรื่องของการเยียวยา ทั้งหมดปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย,ในส่วนของ นายวันชัย แสงสุวรรณ ทนายความของฝ่ายน้องปอนด์ ที่เสียชีวิต เผยว่า คดีนี้เป็นการนัดตรวจสอบพยานเพื่อหาหลักฐาน และจากนี้ไปฝ่ายจำเลย คือ นายสุเทพ ต้องมาเองทุกครั้ง เพราะศาลประทับฟ้องแล้ว และคาดว่าใกล้สิ้นสุดของคดีนี้แล้ว ที่จะรู้ผลว่าจะออกมาอย่างไรในต้นปี 2561 ส่วนคดีจะพลิกหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานของทั้งสองฝ่าย,ต่อมา ในเวลา 09.00 น. นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกร ที่ตกเป็นผู้ต้องหาเจตนาฆ่า ได้เดินทางมาพร้อมกับภรรยา ที่ยังอยู่ในอาการเครียด พร้อมเผยว่า มาตามที่ศาลจังหวัดชลบุรีนัด มาเพื่อตรวจสอบพยานทั้งโจทย์และจำเลย ไม่ได้หนักใจอะไร ปล่อยให้เป็นขั้นตอนของศาล และให้เป็นหน้าที่ของทนาย ยังไม่ขอพูดอะไรมาก.
ลุงวิศวกร ที่ตกเป็นผู้ต้องหาเจตนาฆ่าวัยรุ่น มาขึ้นศาลชลบุรี เพื่อสืบพยาน โดยยังมีอาการเครียด ก่อนระบุไม่หนักใจปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนศาล ด้านทนายโจทก์คาดคดีน่าจะใกล้สิ้นสุดต้นปี 61
ข่าว,อาชญากรรม
ลุงวิศวกร,ลุงวิศวะ,ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ลุงวิศวกรยิงเด็กม.4,อ่างศิลา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1124717
พยัคฆ์ไพรจับ โรงเลื่อย-ไม้เถื่อน ปลอมเอกสาร ส่งออกต่างชาติ
หลังตามแกะรอยมานานกว่า 1 ปี พบใช้วิธีปลอมแปลงเอกสารทางราชการสวมรอยไม้หวงห้ามส่งขาย คาดเป็นขบวนการใหญ่มีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวช่วยปลอมเอกสารค้าไม้ ขณะที่ผู้ต้องหาปากแข็งให้การปฏิเสธ เร่งสอบขยายผลขุดรากถอนโคน,ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรบุกจับขบวนการค้าไม้ข้ามชาติใช้วิธีปลอมแปลงเอกสาร เปิดเผยเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ พร้อมชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร สนธิกำลัง ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมนายชัยยุทธ์ จำปากอ หรือเสี่ยยุทธ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/66 ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี บริเวณโรงเลื่อยจักรอ่างทอง เลขที่ 44/3 หมู่ 1 ต.ตลาดกรวด อ.เมืองอ่างทอง พร้อมของกลางไม้สัก จำนวน 42 ท่อน ปริมาตร 15.91 ลบ.ม.,สืบเนื่องจากช่วงเดือน ส.ค.2560 เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) นำโดยนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ร่วมกับกรมศุลกากรตรวจยึดไม้ประดู่แปรรูปลอตใหญ่ที่พยายามลักลอบนำออกไปต่างประเทศ บริเวณท่าเรือคลองเตยโดยการสำแดงเท็จ และปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ จากการขยายผลพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องคือนายชัยยุทธ์ หรือเสี่ยยุทธ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม มีอาชีพเป็นพ่อค้าไม้ส่งขายตามโรงเลื่อยต่างๆทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่สอบสวนขยายผล กระทั่งพบว่าเสี่ยยุทธ์นำไม้สักมาเสนอขายให้โรงเลื่อยจักรอ่างทอง ปลอมแปลงเอกสาร (สป.15) ระบุว่าตัดไม้และนำเคลื่อนที่มาจาก จ.เลย จำนวน 2 ฉบับ เมื่อตรวจสอบพบเป็นเอกสารที่มีการปลอมแปลง,พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวต่อว่า ขบวนการของผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายใหญ่ ปลอมแปลงเอกสารทางราชการ กระทำการในลักษณะนี้มานานโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และน่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเอกสารดังกล่าวทำออกมาใกล้เคียงเหมือนกับเอกสารที่ทางราชการออกให้ โดยดึงข้อมูลของทางราชการออกมาได้ มีข้อแตกต่างเพียงบางจุด เช่น การใช้ตรายางที่สร้างปลอมขึ้นมาเท่านั้น สอบสวนนายชัยยุทธ์ ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นเอกสารปลอม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีไม้ที่หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และปลอมแปลงเอกสารของทางราชการมีและใช้เอกสารปลอม,นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า ชุดพยัคฆ์ไพรติดตามขบวนการนี้มานานแล้ว กลุ่มนี้ใช้วิธีปลอมแปลงเอกสารทางราชการนำไม้ส่งออกไปต่างประเทศ ทั้งนี้จะตรวจสอบขยายผลว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง และไม้มาจากไหนเพราะเป็นไม้ที่ไม่ถูกต้อง ส่วนไม้สักของกลางจะเคลื่อนย้ายไปเก็บรักษาหน่วยป่าไม้ จ.สระบุรี รวมถึงจะเร่งขยายผลติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป
ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรผนึกกำลัง ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองบุกจับกุม เสี่ยยุทธ์ เครือข่ายขบวนการค้าไม้ข้ามชาติรายใหญ่คาโรงเลื่อย จ.อ่างทอง ตรวจยึดไม้สัก 42 ท่อน ปริมาตร 15.91 ลบ.ม.
ข่าว,ทั่วไทย
ขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ,ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร,โรงเลื่อย,ไม้เถื่อน,ข่าวหน้า1
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1438415
สาวกกรี๊ดหนักมาก เมื่อไลฟ์สไตล์แบรนด์ชื่อดัง ‘MUJI’ เปิด MUJI Hotel
ใครที่เป็นแฟนคลับเครื่องนอนอุ่นๆ หมอนนุ่มๆ และข้าวของเครื่องใช้ที่แฝงไปด้วยความเรียบง่ายของมูจิ (MUJI) คงถูกใจกับข่าวนี้เป็นแน่แท้ เมื่อไลฟ์สไตล์แบรนด์ดังหันมาจับธุรกิจโรงแรมเหมือนแบรนด์อื่น โดยจะเปิดตัวที่พักแห่งแรกภายใต้แบรนด์มูจิในญี่ปุ่น และยึดพื้นที่ย่านกินซ่า (Ginza) เป็นทำเลที่ตั้ง แน่นอนว่าการตกแต่งภายในย่อมมาในสไตล์มินิมัล เน้นแสงธรรมชาติและความโปร่งโล่ง ใช้สีเฉดธรรมชาติคุมโทน เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไม้สอยก็ย่อมต้องเป็นผลิตภัณฑ์จากมูจิ ไล่ตั้งแต่หมอนหนานุ่มไส้ขนเป็ด ผ้าปูที่นอนโปร่งสบายจากใยฝ้ายแท้ เครื่องประทินผิวออร์แกนิกไร้สารพิษ รวมไปถึงขนมกินเล่นที่เราคาดว่าคงเป็นยี่ห้อมูจิอีกเช่นกัน จากแผนพัฒนาที่วางไว้ MUJI Hotel สาขาแรกในญี่ปุ่น จะตั้งอยู่บริเวณ Ginza 3-chome ภายใต้การดูแลของ 2 บริษัท คือ Mitsui Fudosan และ Yomiuri Shimbun อาคารสร้างใหม่ขนาดสูง 10 ชั้น แวดล้อมด้วยร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ชั้น 1-6 จะเป็นช็อปค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขายสินค้าทุกประเภทตั้งแต่เสื้อผ้าแฟชั่นไปจนถึงเครื่องอุปโภคบริโภคทุกชนิด ส่วนชั้น 7-10 จะเปิดให้บริการในส่วนของโรงแรม โดยคาดว่าจะเปิดบ้านต้อนรับแขกได้ในฤดูใบไม้ผลิ หรือช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 แต่ถ้าสาวกมูจิทนรอไม่ไหว เรามีข่าวที่ดีกว่า เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า MUJI Hotel แห่งแรกในโลกจะเปิดให้บริการแล้วที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน (ฟังดูปลอม แต่เป็นของ MUJI จริงๆ) โดยเปิดให้บริการทั้งหมด 79 ห้องพัก แน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเป็นสินค้าแบรนด์มูจิ ต้องคอยดูต่อไปว่า โรงแรมภายใต้แบรนด์มูจิจะออกมาเป็นเช่นไร แต่ที่แน่ๆ ทั้งสองแห่งคือสวรรค์ที่สาวกมูจิต้องการเช็กอินอ้างอิง:MUJI คือ ไลฟ์สไตล์แบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงจากกลุ่มผู้บริโภค แถวบน ทั่วโลก มีช็อปเปิดขายตามเมืองใหญ่ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา จำหน่ายสินค้ารวมกันกว่า 5000 ชนิด ตั้งแต่สมุด ดินสอ จาน ชาม เครื่องครัว เสื้อผ้า อาหาร โซฟา ผ้าปูที่นอน จักรยาน รถยนต์ ฯลฯ ไปจนกระทั่ง บ้าน ทั้งหลัง
MUJI Hotel แห่งแรกในญี่ปุ่นจะเปิดให้บริการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 โดยมีทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านกินซ่าคาดว่าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไม้สอยทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ MUJI รวมไปถึงขนมกินเล่นภายในห้องด้วย
null
null
https://thestandard.co/lifestyle-travel-muji-hotel/
องค์กรมุสลิมในไทยค้านส่งชาวอุยเกอร์ไปจีนโดยไม่สมัครใจ
วันนี้ (10 ก.ค.2558) มูลนิธิศักยภาพชุมชนและสภาเครือข่ายด้านมนุษยธรรม 17 องค์กรมุสลิม สำนักจุฬาราชมนตรี ร่วมกับที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอทช์ประจำประเทศไทย และประธานฝ่ายกฎหมายมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ จัดแถลงข่าวเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลในเรื่องนี้ ที่ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมน ไรท์วอทช์ ประจำประเทศไทย ระบุว่ายังไม่ทราบชะตากรรมชาวอุยเกอร์ 109 คนที่ถูกส่งกลับจีน พวกเขาหนีการถูกลิดรอนสิทธิมนุษยชนเข้ามาในไทย การส่งพวกเขากลับโดยไม่สมัครใจจึงถือว่ารัฐบาลไทยทำผิดกฎหมายจารีตประเพณีและกฎหมายลายลักษณ์อักษรนายอารี อาลีฟ ตัวแทนสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 17 องค์กรมุสลิม สำนักจุฬาราชมนตรี ระบุว่าขอชมเชยรัฐบาลไทยที่มีมนุษยธรรมส่งตัวชาวอุยเกอร์ ผู้หญิงและเด็ก 172 คนไปตุรกี และเรียกร้องให้รัฐบาลไทยรับผิดชอบต่อการส่งตัวชาวอุยเกอร์กลับจีน นายอารีฟระบุว่าทางเครือข่ายมุสลิมรู้สึกเสียใจที่ผู้ประท้วงตุรกีทำลายสถานกงสุลไทยในนครอิสตันบูล และขอคัดค้านการกระทำนี้ขอให้มีการดำเนินการติดตามว่ารัฐบาลจีนได้ดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนต่อผู้แสวงหาที่พักพิงชาวอุยเกอร์มากน้อยเพียงใด อันเนื่องมาจากข้อกังวลในการละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้นในประเทศจีนต่อกรณีอุยเกอร์ในซินเจียงอย่างมาก และจะต้องมีการรับประกันจากทางรัฐบาลไทย และมีความร่วมมือระหว่างกันกับองค์กรกลางในการทำงานด้านนี้เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีการส่งชาวอุยเกอร์ที่เหลืออยู่อีก 60 กว่าคน ไปสู่รัฐบาลจีนเพื่อเป็นการให้ความคุ้มครองดูแลตามหลักมนุษยยธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ข้อเรียกร้องของเครือข่ายเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติร่วมกัน ซึ่งเป็นการเรียกร้องเพื่อการดำรงไว้เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีต่อโลกมุสลิมด้วย เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ ทางรัฐบาลจึงควรชี้แจงไปยังกลุ่มประเทศมุสลิม และองค์กรที่มีบทบาทสำคัญของโลกมุสลิม เช่น องค์กรสันนิบาตโลก องค์กรความร่วมมือโลกอิสลาม (OIC) ตัวแทนสภาเครือข่าย 17 องค์กรมุสลิมระบุขณะที่ตัวแทนจากมูลนิธิศักยภาพชุมชนและมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ ระบุว่าการส่งตัวชาวอุยเกอร์กลุ่มนี้กลับจีนเป็นการละเมิดหลักศาสนาอิสลาม เพราะเป็นช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นช่วงเวลาประเสริฐสุดของพี่น้องมุสลิม ที่ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลเจรจาการซื้อเรือดำน้ำจากจีน และการลงทุนสร้างรางรถไฟความเร็วสูงในไทยด้วยความโปร่งใส โดยไม่ใช้ชีวิตชาวอุยเกอร์แลกเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ย้ำว่ารัฐบาลไทยดำเนินการส่งชาวอุยเกอร์ 109 คน ไปจีน ตามขั้นตอนของกฎหมาย หลังผ่านการตรวจสอบข้อมูลและพิสูจน์สัญชาติ พร้อมย้ำไทยไม่ใช่ประเทศคู่ขัดแย้ง และไม่สามารถแบกรับภาระคนกลุ่มนี้ได้ จากนี้เป็นเรื่องที่คู่ขัดแย้งจะต้องหาทางออกร่วมกันด้านปฏิกิริยาจากนานาชาติ มีแถลงการณ์ตำหนิการดำเนินของไทยครั้งนี้จากหลายส่วนรวมถึงกระทรวงการต่างประเทศตุรกีและสหรัฐอเมริกา โดยนายอนุศิษฐ์ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ชี้แจงว่าวันที่ 29 มิถุนายน ไทยได้ส่งชาวอุยเกอร์ 172 คนไปยังตุรกี หลังตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำผิดกฎหมาย โดยคนกลุ่มนี้ประสงค์จะเดินทางไปตุรกี ขณะที่ตุรกีก็พร้อมรับ แต่ชาวอุยเกอร์ 109 คน ที่ส่งตัวไปจีนเมื่อวานนี้ จากการตรวจสอบพบหลักฐานการกระทำผิด จึงต้องส่งตัวเพื่อไปเข้ากระบวนการยุติธรรม โดยจีนยืนยันจะดูแลความปลอดภัยและยึดหลักมนุษยธรรม ซึ่งส่วนตัวจะเดินทางไปเยี่ยมชาวอุยเกอร์กลุ่มนี้อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้าขณะที่ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าขณะนี้ตุรกีสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้วไม่มีคนไทยร้องขออพยพกลับ แต่เพื่อความสบายใจและลดแรงกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแลความปลอดภัยจึงให้สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครอิสตันบูล และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ปิดชั่วคราว
ตัวแทนองค์กรสิทธิมนุษยชนและองค์กรมุสลิมออกมาเคลื่อนไหวตำหนิการตัดสินใจส่งชาวอุยเกอร์ไปจีน 109 คน ของรัฐบาลไทยว่าผิดหลักกฎหมายและหลักศาสนาอิสลาม
การเมือง
ข่าว19.00,ข่าวการเมือง,ชาวอุยเกอร์,ตุรกี,บุกสถานกงสุลไทยในตุรกี,พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,มุสลิมอุยกูร์,มุสลิมอุยเกอร์,สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา,สภาความมั่นคงแห่งชาติ,สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 17 องค์กรมุสลิ,สำนักจุฬาราชมนตรี,ส่งอุยเกอร์กลับจีน,อนุศิษฐ์ คุณากร,อุยกูร์,อุยเกอร์,ฮิวแมนไรท์วอทช์ประเทศไทย,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/3441
แพท ณปภา โผล่คอมเมนต์เฟซบุ๊ก เบนซ์ เรซซิ่ง หลังมีดราม่าแฉแชตไลน์
หลังจากที่ แพท ณปภา ตันตระกูล เคยให้สัมภาษณ์ว่ามูฟออนเป็นวงกลม และรอใครคนหนึ่งทักมาในวันสิ้นปี แต่ก็ไม่ทักทายมา ซึ่งน่าจะหมายถึง เบนซ์ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง อดีตสามีแต่หลังจากนั้น เบนซ์ เรซซิ่ง โพสต์เฟซบุ๊กแฉแชตไลน์ที่เคยคุยกับอดีตภรรยาในวันสิ้นปี โดยเป็นฝ่ายที่ทักไปก่อน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักซึ่งหลังจากที่ แพท ณปภา ได้ทราบถึงเรื่องดังกล่าว ก็ได้โพสต์ถึงเรื่องนี้ผ่านทางไอจีส่วนตัวทำนองว่าขอบคุณที่วันนั้นแพทตัดสินใจจบทุกอย่าง แพทเลือกถูกแล้วจริงๆ พร้อมทั้งขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจมาตลอด แต่วันนี้ทุกอย่างจบลงแล้วนอกจากนี้ แพท ณปภา ยังได้เข้าไปคอมเมนต์ตอบกลับชาวเน็ตที่แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กของ เบนซ์ เรซซิ่ง ด้วย ซึ่งมีทั้งด้านบวกและด้านลบและมีหลายคอมเมนต์ที่โดนใจ แพท ณปภา ทั้งข้อความ ผู้หญิงอะเนาะ เขาอยากให้ทักไปคุย ไปถามไถ่ ไม่ใช่แค่ HNY อันนี้ใครๆ ก็ทำได้ และ แพท ตอบกลับว่า กราบ รวมไปถึงข้อความว่า เห็นแก่ตัวไปเนอะ ผู้ชายนะ ครอบครัวก็ไม่ดูแล ยังประจานเขาอีก งงซึ่ง แพท ตอบกลับว่า อันนี้โดน นอกจากนี้ยังมีคอมเมนต์ที่ว่า แพท ณปภา และเจ้าตัวตอบกลับว่า เยี่ยมเลยคับ ฯลฯ.
แพท ณปภา เข้าไปคอมเมนต์ตอบกลับชาวเน็ตที่แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กของเบนซ์ เรซซิ่ง อดีตสามี ซึ่งมีข้อความหลายอันที่ทำให้แพทถึงกับบอกว่าโดนใจ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
แพท ณปภา,เบนซ์ เรซซิ่ง,แพท เบนซ์ เรซซิ่ง,แพท เบนซ์ เรซซิ่ง ดราม่า,ดาราเกาเหลา,ข่าวบันเทิง,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1810658
เมื่อยุคทองของเหล่าเกมเมอร์ไทย กำลังเริ่มต้นขึ้น
สารภาพว่าผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่มักจะเอาจริงเอาจังกับการเล่นเกม มากกว่าการเรียนซึ่งเป็นหน้าที่หลักของช่วงอายุนั้น,ถึงแม้จะไปไม่ไกลเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นบางคน ที่เอาดีในสายนี้ได้ แต่สิ่งที่ยังหลงเหลือให้มาใช้ในการทำมาหากินทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการเล่นเกมนี่แหละครับ,ที่เล่ามาซะยืดยาวก็ไม่ใช่อะไร แต่อยากจะบอกและสื่อไปถึงบรรดาผู้ปกครองยุคใหม่ว่า เดี๋ยวนี้การเล่นเกม มันยึดเป็นอาชีพได้แล้วนะครับ แถมรายได้ดีซะด้วย แม้จะยังไม่แพร่หลายมากนักก็ตาม,ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ในเอเชียนเกมส์ที่ผ่านมานั้นไง อีสปอร์ต ถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในกีฬาที่ชิงเหรียญ แม้จะยังเป็นแค่กีฬาสาธิต แต่ในอนาคตก็ดูสดใสไม่น้อย,ใครจะเชื่อละครับว่า เด็กบางคนที่เคยโดนหาว่าเป็นเด็กติดเกม ไร้สาระไปวัน ๆ ตอนนี้เขาคือตัวแทนของชาติ มีธงไตรรงค์ติดหน้าอก แถมถ้ามีเหรียญติดมือ ก็ยังมีเงินอัดฉีดหลายแสนบามติดกระเป๋าอีกด้วย,นี่ยังไม่นับรวมบรรดาเกมเมอร์มืออาชีพ ที่มีสังกัด มีเงินเดือนประจำ รายได้พอ ๆ พนักงานในตำแหน่งผู้จัดการ ของบริษัทเอกชนทั่วไปเลยทีเดียว,ยิ่งในทุกวันนี้ ทุกภาคส่วนเริ่มเห็นคุณค่า และอยากที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนา วงการอีสปอร์ตไทย ให้ก้าวทันโลก และเทียบเท่ากับชาติหัวแถวของเอเชีย ในอนาคตอันใกล้,ใครจะเชื่อละครับว่า แม้แต่ทีมสโมสรฟุตบอลชั้นนำของเมืองไทยอย่าง บางกอกกล๊าส หรือ บุรีรัมย์ ก็มีทีมและนักกีฬาอีสปอร์ตของตัวเองด้วยเหมือนกัน ,ดังนั้นคงไม่ผิดนัก ที่จะใช้คำว่า ยุคทอง ของอีสปอร์ตไทย กำลังเริ่มขึ้นแล้ว เพราะตอนนี้ทรัพยากรบุคคลถือว่าพร้อมมาก เหลือแค่รอการขัดเกลาที่ดีเท่านั้น ,ไม่แน่ว่าในเอเชียนเกมส์ 2022 ที่หางโจว หรือโอลิมปิกเกมส์ในอนาคตอันใกล้ อีสปอร์ต อาจจะเป็นหนึ่งในกีฬาความหวัง ของทัพนักกีฬาไทยก็เป็นได้.,LEMON JUICE
จำเนียรกาลกลับไปเมื่อราว 10 กว่าปีก่อน เด็กไทยส่วนมากที่ชอบเล่นเกม มักจะถูกผู้ใหญ่เตือนด้วยความเป็นห่วงว่า วัน ๆ เล่นแต่เกม โตไปจะทำอะไรกิน
null
สังคมกีฬา,อีสปอร์ต
https://www.thairath.co.th/sport/esport/1369811
เตือน ไข้เลือดออก อันตรายทั้ง 4 สายพันธุ์ ยังไม่มียารักษา-แนะทำลายแหล่งยุงวางไข่
พญ.วิรงค์รอง เจียรกุล อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่า ไข้เลือดออกในประเทศไทยมี 4 สายพันธุ์ ขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละปี สายพันธุ์ไหนระบาด แต่ถ้าพูดถึงความรุนแรง ทั้ง 4 สายพันธุ์ มีความรุนแรงไม่ต่างกัน มีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนได้ทั้งนั้นเราไม่มีปัญหาในการวินิจฉัยโรคไข้เลือดออก ลักษณะอาการจะบ่งบอกได้ชัดเจน ถ้าเราได้รายละเอียดอาการของผู้ป่วยเพียงพอ ปัจจุบันเรารู้ผลได้ในเวลาไม่นานเพราะตรวจทางน้ำเหลือง สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรกแต่ถ้าคนทั่วไปจะดูอาการเองอาจจะเป็นเรื่องยากต้องพบแพทย์ วิธีสังเกตอาการง่ายๆ ผู้ป่วยมักมีไข้สูงเฉียบพลัน เป็นไข้ลอย คือกินยาแล้ว แต่ไข้ไม่ลดลง ปวดหัวรุนแรง ปวดกระบอกตา คลื่นใส้อาเจียน อุจจาระเป็นสีดำ ลักษณะบางรายอาจคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่ไม่มีน้ำมูก ส่วนจุดจ้ำเลือดตามผิวหนังมักพบในระยะ 3 ถึง 4 วันผ่านไปแล้วพญ.วิรงค์รองกล่าวต่อว่า ธรรมชาติของไข้เลือดออกจะรุนแรงหรือไม่ยังบอกไม่ได้ ไม่ได้เกี่ยวกับสายพันธุ์ ซึ่งเรามีเพียงสัญญาณเตือนอย่างที่บอกไป เรายังไม่มียารักษาโรคเฉพาะทาง ทำได้เพียงรักษาประคองตามอาการสมัยก่อนโรคนี้มักพบในเด็ก แต่ปัจจุบันเราพบว่า ผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกซ้ำเป็นครั้งที่ 2 หรือกลุ่มที่เคยเป็นในวัยเด็กแล้วมาติดเชื้ออีกสายพันธุ์หนึ่งตอนโต ลักษณะนี้จะมีอาการรุนแรงกว่าเดิมมาก หากมีอาการช็อค ก็จะช็อครุนแรง และอวัยวะล้มเหลวตามมา คนไข้ที่มีอาการหนักลักษณะนี้เราพบไม่บ่อยกลุ่มเสี่ยงที่เราเก็บข้อมูลไว้คือกลุ่มผู้ป่วยที่มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป มีอายุระหว่าง 10 ถึง 20 ปี กลุ่มนี้เสี่ยงมาก มีโอกาสป่วยไข้เลือดออกระดับรุนแรง แต่เรายังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าทำไมจึงไปเกิดกับคนที่มีน้ำหนักมาก เพียงแต่เราเก็บข้อมูลและพบจากกลุ่มนี้มากด้าน รศ.สุพัตรา ทองรุ่งเกียรติ อาจารย์ภาควิชากีฏวิทยาการแพทย์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ยุงลายมีไข่ที่พิเศษ มันไข่บนผิวน้ำ พอน้ำลดลงไข่มันไม่ได้ลงตามน้ำไปด้วย มันเกาะอยู่ที่ผิวภาชนะ เคยได้ยินมั้ยมีอยู่ช่วงหนึ่งเราได้ยินว่า เทน้ำทิ้งแล้วต้องขัดด้วยเพราะไข่มันติด เวลาเทน้ำทิ้งไข่มันไม่ได้ไปด้วยผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่แห้งไข่ก็ยังไม่ตายหรือ รศ.สุพัตรากล่าวว่า ใช่ เช่น กระดาษแผ่นนี้ตอนแรกเราทำให้มันชื้นนะ ยุงจะไข่บนที่ชื้น เวลาเราจะทำวิจัยและจะเก็บไข่ไว้ เราก็ปล่อยให้มันแห้ง เพื่อเก็บรักษาไข่ ไข่ยุงลายอยู่ในสภาพแห้งแบบนี้ได้เป็นปี พอได้รับน้ำก็จะออกมาเป็นตัว แต่เราเห็นไข่มากๆ แบบนี้ ยิ่งเก็บนาน โอกาสจะฟักตัวก็ต่ำลงเรื่อยๆ ถ้าแห้งสัก 1 สัปดาห์ ไข่อาจฟักตัวได้ทั้งหมด แต่นานไปโอกาสจะน้อย ถ้าอยู่ 1 ปี ก็ไม่ฟักตัวทั้งหมดรศ.สุพัตรากล่าวด้วยว่า ยุงเหมือนเดิมไม่ได้วิวัฒนาการอะไร แต่พอเมืองเจริญขึ้น มีการใช้ภาชนะมากขึ้นกลายเป็นเพิ่มแหล่งวางไข่ เมืองยิ่งขยายไข้เลือดออกยิ่งเยอะนะ เพราะไข้เลือดออกเป็นโรคของคนเมือง แหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายต้องมีภาชนะรองรับ
หลังจากการเสียชีวิตของพระเอกหนุ่ม ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ด้วยอาการแทรกซ้อนจากโรคไข้เลือดออก ไทยพีบีเอสออนไลน์จึงนำข้อมูลเกี่ยวกับโรคไข้เลือดมานำเสนออีกครั้ง เพื่อเป็นความรู้ในการเฝ้าระวังต่อไป
สังคม
ThaiPBSnews,ไข้เลือดออก,ปอทฤษฎี,ยุง
https://news.thaipbs.or.th/content/7411
เพื่อไทย ย้ำจุดยืนร่าง รธน.ต้อง ปชต. ค้านองค์กรมีอำนาจเหนือ ปชช.
1 พ.ย. เผยเป็นเรื่องส่วนตัว,เมื่อวันที่ 23 ต.ค.58 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวานิช อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ.ว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันหลักการประชาธิปไตยที่ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการ แสดงออกทางความคิด พร้อมย้ำว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้องค์กรใดองค์กรหนึ่งมามีอำนาจเหนือประชาชน ส่วนการทำงานของ กรธ.ต้องให้เวลาทำงานอีกสักระยะ ส่วนรัฐบาลการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราวปี 2557 มาตรา 35 เกี่ยวกับการทำประชามตินั้น พรรคเพื่อไทยต้องหารือเพื่อกำหนดแนวให้เป็นทิศทางเดียวกันก่อน,ส่วนกรณีรัฐบาลฟ้องแพ่งเรียกเก็บค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวมีประโยชน์ต่อประชาชน สำหรับกรณี ที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวไม่ผิด ก็ต้องขอบคุณ แต่ที่บอกว่าผู้บังคับบัญชาละเลยการตรวจสอบ ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง และรวบรวมเอกสารเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหา,ส่วนกรณีที่คนเสื้อแดงนัดสวมเสื้อสีแดง เพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ปิดกั้น หากสมาชิกพรรคจะร่วมสวมเสื้อสีแดงในวันดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
เพื่อไทย ย้ำจุดยืน ปชต.-ปชช.ต้องมีส่วนร่วม ยันไม่เห็นด้วยให้องค์กรใดองค์หนึ่งอยู่เหนืออำนาจประชาชน ชี้ต้องให้เวลา กรธ.ทำงาน ย้ำจำนำข้าวมีประโยชน์กับชาวนา พร้อมไม่ปิดกั้นสมาชิกพรรคสวมเสื้อแดงให้กำลังใจ ปู
null
ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช,นายกฯปู,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,จุดยืนพรรคเพื่อไทย,เพื่อไทยย้ำจุดยืน ปชต.,การร่างรัฐธรรมนูญ,พท.ยืนยันหลักการประชาธิปไตย,อำนาจประชาชนใน ปชต.,โครงการรับจำนำข้าว,รบ.เรียกเก็บเงิน ยิ่งลักษณ์ จำนำข้าว,เสื้อแดง,นัดสวมเสื้อแดง 1 พ.ย.,นปช.,พรรคเพื่อไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/534340
ชาวบ้านกาฬสินธุ์ ย้ายของหนีน้ำขึ้นที่สูง เฝ้าระวังฝนตกอีกรอบ (คลิป)
วันที่ 3 สิงหาคม 2560 จากการติดตามสถานการณ์น้ำตามลำน้ำสายหลัก ในหลายพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังพบว่า ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทางเขื่อนลำปาว ยังทำการระบายน้ำออกวันละ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 1,676 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 86 ของความจุอ่าง ซึ่งผลจากการที่เขื่อนลำปาว ยังเพิ่มการระบายน้ำออกตามลำน้ำสายหลัก ส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือน วัด โรงเรียน ครอบคลุม 5 อำเภอ ที่อยู่ติดกับลำน้ำปาว ลำน้ำพาน และลำน้ำชี ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ติดลำน้ำต้องอพยพขนย้ายสิ่งของขึ้นมาอยู่บนที่สูง,นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลจาการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว ได้ส่งผลกระทบ 5 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ยางตลาด กมลาไสย ฆ้องชัย และอำเภอร่องคำ ภาพรวมตอนนี้ทุกหมู่บ้านที่ใกล้ๆ จุดเสี่ยงสำคัญ คือ อยู่ใกล้ลำน้ำปาวกับลำน้ำพาน ซึ่งได้รับผลจากการระบายน้ำจากเขื่อนลำปาวโดยตรง ได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง และมีการอพยพเข้าอยู่ที่พักพิงชั่วคราวหลายแห่งแล้ว นายอำเภอ สั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน เข้าเวรยาม ตลอด 24 ชม. เพื่อเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนทันที,นายประสงค์ ฤทธิ์เรือง ชาวบ้านที่สีดา หมู่ 9 ต.ลำพาน อ.เมือง บอกว่าหลังจากที่เขื่อนมีการเพิ่มการระบายน้ำอีกทั้งยังมีฝนตกลงมาอีกระลอก ส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร ชาวบ้านต่างพากันขนย้ายข้าวของสัตว์เลี้ยง ขึ้นมาอยู่บนที่สูงเพื่อความปลอดภัย โดยขณะนี้ชาวบ้านต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา เนื่องจากยังมีคำเตือนว่าวันที่ 4-6 ส.ค.นี้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ชาวบ้านจึงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอดทั้งวัน.
ชาวบ้าน 5 อำเภอ จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว เร่งย้ายของหนีน้ำขึ้นที่สูง อพยพไปศูนย์พักพิง พร้อมเฝ้าระวังฝนตกอีกรอบ 4-6 ส.ค.นี้
ข่าว,ทั่วไทย
กาฬสินธุ์,ระดับน้ำ,เขื่อนลำปาว,อพยพ,น้ำท่วม
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1025479
ครม.ไฟเขียวยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยว 21 ประเทศ
วันที่ 6 พ.ย.61 นายพุทธิพงษ์ ปุณณะกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ยกเลิกการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม ประเภทนักท่องเที่ยวชนิดใช้ได้ครั้งเดียว เป็นการชั่วคราว ปี 2561 ที่ปรับแก้กฎกระทรวงเดิม ฉบับที่ 30 ปี 2559 ซึ่งออกตามความใน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ปี 2522สาระสำคัญ คือ ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราของคนคนต่างประเทศ ที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อการท่องเที่ยว ในเวลาไม่เกิน 15 วัน ซึ่งยื่นขอรับการตรวจลงตราที่ช่องทางอนุญาตของด้านตรวจคนเข้าเมือง หรือวีซ่าออนอัลลิเวิล (Visa On Arrival) จากเดิมที่มีอัตราค่าธรรมเนียมจัดเก็บ 2000 บาท และค่าธรรมเนียมนี้งดเว้นสำหรับนักท่องเที่ยว 21 ประเทศ ได้แก่ อันดอร์รา บัลแกเรีย ภูฏาน จีน ไซปรัส เอธิโอเปีย ฟิจิ อินเดีย คาซัคสถาน ลัตเวีย ลิทัวเนีย มัลดีฟส์ มอลตา มอริเชียส ปาปัวนิวกินี โรมาเนีย ซานมารีโน ซาอุดิอาระเบีย ยูเครน อุซเบกิสสถาน และไต้หวันนอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และสิทธิประโยชน์การตรวจลงตรา ประเภทคนอยู่ชั่วคราว เป็นกรณีพิเศษ หรือสมาร์ทวีซ่า (Smart Visa) ตามข้อเสนอของสำนักคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยเพิ่มการออกสมาร์ทวีซ่าให้อีก 3 สาขาอาชีพ คือ บริการด้านการระงับข้อพิพาททางเลือก การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน รวมถึงเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ถือสมาร์ทวีซ่าสามารถใช้ช่องทางพิเศษ หรือฟาสต์แทร็ก (Fast Track) ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่ง รวมถึงปรับปรุงคุณสมบัติผู้ขอสมาร์ทวีซ่า คือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง กลุ่มนักลงทุน กลุ่มกิจการร่วมลงทุน กลุ่มผู้บริหารระดับสูง และกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ (Start Up)
คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบงดจัดเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรานักท่องเที่ยว 21 ประเทศ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่
เศรษฐกิจ
นักท่องเที่ยว,วีซ่า,ท่องเที่ยว,ยกเว้นค่าธรรมเนียม,ยกเว้นเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/275533
เจมส์ ธีรดนย์ หรือมิน โฮมสเตย์ กับแฟชั่นสไตล์ Unisex ใส่ของผู้หญิงง่ายกว่า
เจมส์ฮอร์โมน เจมส์โฮมสเตย์ หรือเจมส์อะไรก็ได้ สำหรับหนุ่มหน้าตาน่าเอ็นดู เจมี่เจมส์ หรือ ,เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ, ที่เจมส์กลายเป็นหนุ่มฮอตและขึ้นแท่นพระเอกหนังประกบ นักร้องขวัญใจโอตะ เฌอปราง อารีย์กุล ในภาพยนตร์โฮมสเตย์,งานนี้ขอเบรกงานแสดงความเครียดและเรื่องหนักหัวของหนุ่มเจมส์ไว้ก่อน เพราะเราได้พูดคุยกับเค้า หลังเค้ามาเยือน ไทยรัฐออนไลน์ ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, จึงขอพูดคุยไลฟ์สไตล์ ของเจมส์กับแฟชั่นของเค้าที่ดูไม่ธรรมดา และจะเห็นว่าเยอะๆ กว่าหนุ่มๆ ทั่วไปซักหน่อย โดยเค้าเราให้เราฟังว่า  ,แฟชั่นของเจมส์? เป็นอย่างไร เพราะเป็นผู้ชายที่แต่งตัวเยอะๆ,ผมแต่งไปเรื่อย รู้สึกว่าอะไรสวยก็เอามาใส่ ชอบเอาของที่คนเค้าไม่ค่อยใส่มาใส่ หยิบของผู้หญิงมาใส่ ผมเป็นคนใส่ไซส์ผู้หญิงอยู่แล้ว รู้สึกว่ามันเป็น Unisex (หมายถึง แฟชั่นที่ใส่ได้ทั้งชาย-หญิง จึงเป็นเทรนด์นิยมในปัจจุบันและดูทีท่าจะกลายเป็นเทรนด์อมตะไปด้วย) ผมหาเสื้อผ้าไม่ง่ายเลย ผมเอว 28 มันไม่มีอ่ะ ต้องซื้อของผู้หญิงใส่ แต่เอว 28 นี่เอวผู้ชายสมัยก่อนนะ (หัวเราะ) แต่สมัยนี้ต้องเอาเสื้อผ้าผู้หญิงมาใส่ มิกซ์กันดูครับ ,เบื่อที่คนถามมั้ย?เรื่องการแต่งตัว ,ไม่เบื่อๆ นะ ตอบได้ แต่ก็มีคนเข้าใจผิดไปเยอะเลยไง ว่าแต่งตัวเยอะๆ เนี่ยเป็นตุ๊ดหรือเปล่าหรืออะไร ก็งงฮะ แค่เรารู้สึกว่ามันเป็นรสนิยมของเราอ่ะ การมีรสนิยมมันไม่แปลกนะฮะ แต่ก็แล้วแต่คนมอง ,จำเป็นต้องแบรนด์เนมมั้ย? ,ไม่จำเป็นนะ ซื้อแบรนด์มั้ยซื้อบ้างครับ เราให้เกียรติดีไซเนอร์ที่เค้าทำ คือเราจะไปซื้อ ที่เค้าทำคล้ายแบรนด์ แต่มันไม่เชิงก๊อปอ่ะ เราก็เลือกซื้อแบรนด์ไปเลยดีกว่า เพราะเราให้เกียรติเค้า ก็ไม่ได้แบรนด์ทั้งตัวนะ หยิบเอามามิกซ์สนุกกว่าร้อยสองร้อยก็มี ตุ้มหูที่ใส่ก็ร้อยเดียวฮะ (ยิ้ม),แหล่งซื้อ ย่านไหน ที่โปรดปราน?,อู้หูว อินเทอร์เน็ตครับ ง่ายสุดครับ แต่ถ้าถามร้านส่วนมาก ก็ไม่พ้นสยาม แต่ผมไม่ค่อยได้ไป แต่ถ้าไปทีนึง ซื้อเยอะๆ เลย แต่เดี๋ยวนี้จะเน้นสั่งทางอินเทอร์เน็ตมันง่ายเนอะ โอนเร็ว,วิธีการดูแลตัวเองสไตล์เจมี่เจมส์?,หน้าใสเหรอ ไม่ฮะ ผมกลับมา (ยิ้ม) เมื่อวานเพิ่งไปกดสิวมา ปกติผมเข้าคลินิกอาทิตย์ละวันสองอาทิตย์วันอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้ทำงานหนักและไม่ค่อยมีเวลาก็พยายามหาเวลาไป บำรุงเองจะเป็นพวกครีมและเซรั่ม ผมชอบเข้าสปา มันดีมาก ทำให้เราผ่อนคลายจากงาน ปวดเมื่อยตัวจากการซ้อมเต้น พอเข้าสปาทุกอย่างมันดีหมด นี่คือการดูแลของผม ,นอกจากสปาแล้วยังมี ไปทะเล 3-4 วันไปล้างสมองตัวเอง หัวมันคิดแต่เรื่องงานครับ ก็อยากเอาไปทิ้ง มันต้องมีช่วงพักบ้าง ปล่อยวางสักแป๊บนึง ปีใหม่ต้องหาที่พักผ่อนสมองน่อยนึงครับ,หนุ่มๆสาวๆที่ชื่นชอบแฟชั่นสไตล์ Unisex ที่ ,Looksi, เค้ามีสินค้าแฟชั่นหลากหลายแนวให้เลือกชม เลือกช้อปเพียบ แถมโปรพิเศษที่คุณไม่ควรพลาด คลิกเลย,ภาพ: ,jamyjamess
เพราะเป็นหนุ่มร่างเล็กสำหรับเจมี่เจมส์ หรือ เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ ที่มาเล่าเรื่องการแต่งตัวให้เราฟังว่าสไตล์ของเค้าเป็นสไตล์ที่หยิบของผู้หญิงใส่ง่ายกว่า งานนี้ไปดูกันกับสไตล์ Unisex
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ,วิธีดูแลตัวเอง ของเจมส์,เจมส์ ฮอร์โมน,เจมส์แฟชั่น,ผู้ชาย
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/1418063
รุก ธีระเกียรติ ทิ้งศธ.ลงพื้นที่พบครู 1 เดือน
แนะฟังปัญหาคนระดับล่างเห็นโจทย์ปฏิรูปชัด สานต่อแผน สปท.-สนช.,ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศมา 2 ปีกว่า เปลี่ยน รมว.ศึกษาธิการ 3 คน ที่ผ่านมาก็ใช้เวลานานในการคลำหาโจทย์ปฏิรูปการศึกษา ทั้งแต่ละคนก็จะกำหนดนโยบายการศึกษาตามความสนใจของตนเอง และนำนโยบายนั้นมาลองผิดลองถูก ดังนั้น เวลาที่เหลือของรัฐบาลอีก 1 ปี จึงทำให้ประชาชนไม่ค่อยมั่นใจในอนาคตของการปฏิรูปการศึกษาว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ อย่างไรก็ตาม 2 ปีที่ผ่านมา ผลงานที่โดดเด่นคือ การใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาและการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันในระบบการศึกษา,อาจารย์คณะครุศาสตร์กล่าวต่อว่า ตนอยากเสนอ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ คนปัจจุบันว่า อยากให้มองการศึกษาในมุมกว้าง เปิดใจรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน ทั้งนี้ การเดินหน้าแก้ปัญหาโรงเรียนไอซียู 10,000 กว่าโรงนั้น แสดงให้เห็นว่า นพ.ธีระเกียรติ ได้รับฟังปัญหาจากโรงเรียนในพื้นที่แล้ว แต่อยากเสนอให้ฟังมากกว่านี้ โดยอย่าอยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการ 1 เดือน โดยใช้เวลา 1 เดือนนี้ เดินสายรับฟังปัญหาจากครู นักเรียน ผู้ บริหาร ผู้ปกครอง ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะทำให้เห็นโจทย์ของการปฏิรูปการศึกษาและปัญหาของประเทศอย่างแท้จริง จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดตั้งแต่ระดับล่าง หากพบว่าปัญหาของคนระดับล่างตรงกับโจทย์ที่ผู้บริหารระดับบนเสนอมา ก็แสดงว่าเรามาถูกทาง การปฏิรูปการศึกษาก็จะเกิดผลเร็ว เพราะตรงกับสิ่งที่ระดับพื้นที่ต้องการ การทำงานจะเกิดการประสานงานร่วมกันเพื่อผลักดันงานให้เห็นผลเร็วขึ้น,เวลา 1 ปีที่เหลืออยู่ อยากให้ รมว.ศึกษาธิการ เร่งสานต่อข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทั้งเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ, ร่าง พ.ร.บ.ครูและบุคลากรทางการศึกษา และร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 10 ฉบับ รวมทั้งปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เอื้อต่อการปฏิรูปการศึกษาและระบบการศึกษา อย่างไรก็ตามในส่วนของร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาตินั้น ควรจัดเวทีประชาพิจารณ์เพิ่ม เพื่อให้ประชาชนรับรู้และมีส่วนร่วมกับกฎหมายฉบับนี้ให้มากขึ้น ศ.ดร.สมพงษ์กล่าว.
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศมา 2 ปีกว่า เปลี่ยน รมว.ศึกษาธิการ 3 คน
null
สมพงษ์ จิตระดับ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ปฏิรูปการศึกษา,ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์,โรงเรียนไอซียู
https://www.thairath.co.th/content/827453
รายงานพิเศษ : ความจริงอีกด้านของแนวรบพรรคมอญ
เมื่อเวลา 19.15 น. วันที่ 24 ก.ย ที่บริเวณตรงข้ามชายแดนไทย-พม่าด้านช่องหุบผาก บ้านทุ่งตาแก้ว หมู่ 10 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก โดยปะทะกันอย่างหนักทั้งปืนอาก้า เครื่องยิงระเบิด เอ็ม-79 จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากฝั่งไทยเพียง 2 กิโลเมตร รายงานข่าวด้านความมั่นคงระดับสูงชายแดนไทย-พม่า รายงานว่า การสู้รบเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มพม่ามุสลิม(ABMU) กับชนกลุ่มน้อยพรรค HRP ภายหลังการสู้รบที่ต่อเนื่องประมาณ 2 ชั่วโมง ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุชื่อ ด.ญ.มอ อายุ 13 ปี บุตรสาวของพันเอกปันยุ ส่วนพันเอกปันยุ อายุ 50 ปี หัวหน้าพรรค HRP ถูกยิงด้วยปืนอาร์ก้าที่ไหล่ซ้าย เท้าซ้าย บริเวณหลังคอทะลุแก้มขวา เจ้าหน้านำส่งโรงพยาบาลทับสะแก และส่งมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ นางยาง อายุ 45 ปี ภรรยาได้รับบาดเจ็บมารักษาตัวในโรงพยาบาลเขตไทย เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.อ.ปันยุ อายุ 50 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะ ขณะนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ และล่าสุดได้นำเข้าห้องผ่าตัดเนื่องจากถูกยิงในจุดสำคัญหลายแห่ง โดยมีทหารจากกองกำลังสุรสีห์ รักษาความปลอดภัยให้ตลอดเวลาจนกว่าจะออกจากโรงพยาบาล เหตุการณ์การปะทะระหว่างชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ในพม่าบริเวณแนวชายแดนไทย-พม่าที่ปรากฏเป็นข่าวเล็กๆในเวบไซต์ของหนังสือพิมพ์มติชนเมื่อวันที่ 25-26 ก.ย. ที่ผ่านมา ดูจะเป็นเหตุการณ์ปกติที่เสียงปืนดังขึ้นบ่อยครั้งเมื่อการเมืองในพม่ายังอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร บ่อยครั้งเช่นกันรายงานเหตุการณ์มาจากหน่วยความมั่นคงของไทย แต่ไม่มีแม้แต่เสียงของกลุ่มผู้อยู่ในเหตุการณ์ แม้แต่พล.ต.ปันยุที่หนีเข้ามารักษาตัวในประเทศไทย ข้อมูลอีกชุดที่พยายามส่งผ่านถึงผู้นำของประเทศไทยลงวันที่ 22 ก.ย.47 คือเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. โดยกลุ่มกะเหรี่ยง NDA (กองทัพประชาธิปไตยแห่งชาติ)นำโดย พ.ต.อ่องตุ่ย พร้อมด้วยกำลัง 30 นาย แต่งเครื่องแบบทหารไทย อ้อมเข้าเขตไทยพื้นที่ทหารไทยหน่วยหนึ่งรักษาการอยู่ เข้าโจมตีฐานที่ตั้งมั่นพรรคมอญ HRP ซึ่งมีพล.ต.ปันยุ หัวหน้าพรรคประจำการอยู่พร้อมครอบครัว ที่บริเวณบ้านห้วยผาก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มกะเหรี่ยง NDA ได้ใช้อาวุธหนักคือปืนค.(ปืนใหญ่)ยิงถล่มจำนวน 7 นัด แล้วนำกำลังพล 30 นายเข้ายึดฐานที่มั่นพรรคหลังจากปะทะกันนาน 30 นาที พร้อมกับเผาจนหมด โดยเบื้องต้นทราบว่าคนของพรรคมอญ HRP เสียชีวิต 2 คนและลูกสาวพล.ต.ปันยุอายุ 15 ปี ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บ คนอื่นๆยังไม่ทราบชะตากรรม ก่อนถูกโจมตี พล.ต.ปันยุเคยให้ข้อมูลว่า กลางเดือนส.ค. 47 มีกลุ่มกะเหรี่ยง KNU เป็นคนของนายพลโอลิเวอร์ จากกองพันที่ 11 นำยาบ้าเข้ามาตามช่องทางอ.ทับสะแกในระดับพันเม็ดโดยติดต่อกับพ.ต.อ่องตุ่ยและคนไทยหนึ่งคน และมีการทดลองยาบ้าโดยมีเจ้าหน้าที่ของไทยบางนายร่วมอยู่ด้วย ต่อมาพล.ต.ปันยุให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่าระหว่างปลายเดือนก.ย. ต่อ ต.ค. 47 จะมียาบ้าเข้ามาประมาณ 1 ล้านเม็ดและวัวเถื่อน 80 ตัว เมื่อให้ข้อมูลแล้วพล.ต.ปันยุได้สั่งลูกน้องให้สกัดจับ โดยถ้าไม่ยอมจะจับตายและนำของกลางมอบให้รัฐบาลไทย ซึ่งในขบวนการค้ายาบ้าครั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ระดับกลางของไทยที่ประจำการในพื้นที่มีส่วนรู้เห็นและร่วมมือด้วย โดยอำนวยความสะดวกพร้อมกับสนับสนุนกลุ่มกะเหรี่ยง NDA ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ประจำการอยู่ ประมาณต้นเดือนก.ย. 47 กลุ่มกะเหรี่ยง NDA จัดหาอาวุธหนักจำนวนมากเพื่อปกป้องกองกำลัง จนกระทั่งวันที่ 18 ก.ย. เจ้าหน้าที่ไทยที่ประจำการในพื้นที่ได้เปิดทางให้นำปืนค. กระสุนและเสบียงออกไปแล้วเจ้าหน้าที่ไทยได้นำกำลังปิดช่องทางห้วยผาก พร้อมกับออกคำสั่งให้จับกุมลูกน้องพล.ต.ปันยุได้ทันทีถ้าพบ และห้ามติดต่อผู้ใดที่เกี่ยวข้องหรือสนับสนุน HRP ที่ผ่านมาคำชี้แจงของพล.ต.ปันยุไม่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเป็นผู้ที่ทำผิดในสายตาของรัฐบาลไทยมาโดยตลอด พร้อมกับมีคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ระดับกลางและระดับสูงบางคนให้จับพล.ต.ปันยุไม่ว่าเป็นหรือตาย ในข้อหาที่ลูกน้องพล.ต.ปันยุยิงทหารไทยซึ่ง HRP ระบุว่าถูกยิงก่อน และกรณีจับคนไทยที่ทำไม้ในเขตพม่าเนื่องจากไม่จ่ายเงินค่าคุ้มกันครบตามที่ตกลงกับHRP รวมทั้งกรณีที่เครื่องบินป่าไม้ไทยถูกยิง 5 นัดเนื่องจากเครื่องบินดังกล่าวยิงคนของ HRP ระหว่างเล่นตะกร้ออยู่ จึงยิงโต้ตอบเพราะคิดว่าเป็นของพม่า -------------------------------------------------------------------- เป็นชนชาติเก่าแก่ชาติแรกที่ตั้งรกรากอยู่ในพม่ากว่า 2 พันปี เคยสถาปนาอาณาจักรมอญ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามอญถูกพม่ารุกรานผลัดกันแพ้ชนะ จนกระทั่งปี 2301 พม่าตีอาณาจักรมอญได้สำเร็จและตั้งแต่นั้นมาจนปัจจุบันชาวมอญยังไม่สามารถกู้ชาติคืนได้ เสียงปืนได้เงียบเสียงลงจากเขต 12 หมู่บ้านมอญปิดฉากวิถีทางแห่งการสู้รบด้วยอาวุธปืนมากว่า 50 ปี พรรคมอญใหม่(NMSP)ซึ่งเป็นตัวแทนทางการเมืองของมอญที่ต่อสู้กับรัฐบาลพม่ามายาวนานที่สุดได้เจรจาหยุดยิง ทหารมอญบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยจึงแยกตัวออกมาตั้งกองกำลังติดอาวุธสู้รบอยู่นอกเขตพรรคมอญใหม่ โดยเฉพาะใกล้ชายฝั่งทะเลในฝั่งตะวันออกของทวาย และในป่าตะนาวศรีติดชายแดน แผ่นดินมอญจึงไม่ได้สงบลงจริง และชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐมอญซึ่งอยู่นอกเขต 12 หมู่บ้านยังได้รับความเดือดร้อนจากการบุกรุกของทหารพม่า การเกณฑ์แรงงาน ปล้น ฆ่า ข่มขืน รวมทั้งพยายามทำลายชาติมอญด้วยการห้ามการเรียนการสอนภาษามอญยังดำเนินต่อไป พรรคมอญใหม่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเมือง และดำเนินการด้านเศรษฐกิจตามเงื่อนไขการเจรจา ก่อตั้งขึ้นพล.ต.ปันยุ หนึ่งในนักรบมอญที่ไม่เห็นด้วยกับการเจรจาหยุดยิงในครั้งนั้น พร้อมด้วยกองกำลังประมาณ 100 กว่าคน แยกตัวและยังจับปืนสู้รบต่อไป ท้ายที่สุดถูกไล่ตีถอยร่นไปอยู่ตะเข็บชายแดนไทย-พม่า ตรงข้าม อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กองกำลังกะเหรี่ยง NDAซึ่งบุกโจมตีตั้งแต่ 18 ก.ย. ได้เผาบ้านที่เป็นค่ายของพล.ต.ปันยุจนหมด กองกำลัง HRP ที่รอดตายหนีกระจายกันไปคนละทาง ขณะที่ พล.ต.ปันยุถูกยิงที่คอทะลุแก้มกระเซอะกระเซิงหนีอยู่หลายวันจนแผลเริ่มเน่า และมีคนช่วยนำส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โดยภรรยาหนีมารักษาตัวที่โรงพยาบาลทับสะแกก่อนหน้านี้ ส่วนลูกทั้ง 5 คน อายุระหว่าง 6-15 ปี ถูกฆ่าตายทั้งหมด ข้อห่วงใยที่เกิดขึ้นจากนี้คือ หลังจากรักษาตัวจนหายแล้ว พล.ต.ปันยุและภรรยาจะถูกส่งกลับด้วยวิธีการใด หากถูกนำส่งที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ด่านเจดีย์สามองค์ การคาดการณ์จากนี้เป็นที่แน่นอนว่า ตัวพล.ต.ปันยุและภรรยาย่อมถูกส่งถึงมือของผู้นำพม่า ซึ่งนั่นหมายถึงการจบสิ้นของชนกลุ่มน้อยที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพอีกหนึ่งกลุ่ม
พม่าปะทะเดือดชายแดนไทย ลูกสาวหน.พรรคเอชอาร์พีดับ เมื่อเวลา 19.15 น. วันที่ 24 ก.ย ที่บริเวณตรงข้ามชายแดนไทย-พม่าด้านช่องหุบผาก บ้านทุ่งตาแก้ว หมู่ 10 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2004/10/597
ชัชชาติ ขอโทษ นศ.ธรรมศาสตร์ ปมทีมงาน ส.ส.เพื่อไทยขู่ทำร้าย
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (6 มี.ค.2562) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ไปพบกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต บริเวณประตูเชียงราก 1 ถนนเชียงราก-บางขันธ์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อขอโทษกรณีที่มีทีมงานของผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ ขู่ทำร้ายนักศึกษาที่โพสต์ข้อความในสื่อออนไลน์ว่าได้รับผลกระทบจากงานบวชเสียงดัง โดยมีนักศึกษาจำนวนมากออกมาต้อนรับนายชัชชาติ ได้กล่าวขอโทษนักศึกษาทุกคนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า รู้สึกตกใจกับเรื่องดังกล่าวและถือเป็นบทเรียนสำคัญของพรรค แม้จะไม่เกี่ยวกับพรรคโดยตรง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ซึ่งต้องติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องเพราะไม่อยากให้เกิดผลกระทบ ขณะนี้ได้ให้ทีมงานที่ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส.ยุติการทำงานแล้ว และหลังจากนี้จะต้องระมัดระวังและเพิ่มความเข้มข้นในการคัดเลือกผู้ที่จะมาร่วมเป็นทีมงานของผู้สมัคร ส.ส.ด้วย นอกจากนี้นายชัชชาติยังได้แสดงความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษาทุกคนด้านตัวแทนนักศึกษาได้สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นรอบๆ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ว่า บริเวณถนนเชียงรากที่อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยเกิดปัญหาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการจราจราติดขัด การส่งเสียงดัง เด็กแว้นปิดถนนแข่งรถ และยังมีปัญหาอาชญากรรมค่อนข้างมาก ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของนักศึกษา ขณะเดียวกันการบังคับใช้กฎหมายก็ขาดประสิทธิภาพ จึงอยากให้เข้ามาช่วยดูแล เพราะมหาวิทยาลัยและชุมชนโดยรอบจะต้องพึงพากันและกันขณะที่เฟซบุ๊กสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้โพสต์ข้อความกรณีเด็กแว้นข่มขู่นักศึกษา ว่า ทางสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการติดต่อไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้เสียหายและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว จึงอยากให้นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบส่งข้อมูลหลักฐานมาทาง Google form โดยทางสภานักศึกษาจะทำการรวบรวมข้อมูลและส่งต่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปอ่าน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ลงพื้นที่ขอโทษนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พร้อมระบุไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้กรณีทีมงานของผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ขู่ทำร้ายนักศึกษาปมงานบวชเสียงดัง
สังคม
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์,ธรรมศาสตร์,งานบวช,เสียงดัง,ขู่ทำร้าย,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/278221
เซเรนา ซดกาแฟเรียกพลัง ก่อนพลิกชนะคู่แข่ง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 7 ม.ค. ว่า เซเรนา วิลเลียมส์ นักเทนนิสมือ 1 ของโลก ทนหิวกาแฟไม่ไหว จนต้องสั่งเอสเปรสโซระหว่างเกมการแข่งขันเทนนิสฮอพแมน คัพ 2015 ในนัดที่เอาชนะ ฟลาเวีย เพนเนตตา จากอิตาลี ไปอย่างสนุก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา,เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 18 รายการ ได้เผยหลังจบเกมว่า ฉันเป็นนักดื่มกาแฟตัวยงเลยก็ว่าได้ และฉันไม่ได้ดื่มในช่วงเช้าก่อนการแข่งขัน มันทำให้รู้ว่าตอนนั้นร่างกายกำลังต้องการกาแฟเป็นอย่างมาก,ฉันบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ฉันต้องการเอสเปรสโซสักแก้วถ้าเป็นไปได้ แต่การสั่งกาแฟสักแก้วเป็นเรื่องที่ผิดกฎการแข่งขันเหรอ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ฉันแค่ต้องการกาแฟเพื่อให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว เพราะการเดินทางด้วยเครื่องบิน ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา เซเรนา กล่าว,รายงานข่าวระบุว่า เซเรนาได้รับอนุญาตให้ดื่มกาแฟระหว่างพักเซตแรก จนกระทั่งพลิกกลับมาเอาชนะเพนเนตตา ไปได้ 2-1 เซต 0-6, 6-3, 6-0 และช่วยให้ทีมสหรัฐฯ เอาชนะ ทีมอิตาลี ไปด้วยคะแนนรวม 3-0 คู่ ในศึกเทนนิสฮอพแมน คัพ 2015 ที่เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย
กาแฟช่วยชีวิต! เซเรนา วิลเลียมส์ นักเทนนิสชาวอเมริกัน ใช้พลังกาแฟ พลิกเอาชนะ ฟลาเวีย เพนเนตตา จากอิตาลี ในการแข่งขันฮอพแมน คัพ 2015
null
เซเรนากินกาแฟ,เซเรนา วิลเลียมส์,กาแฟ,ฟลาเวีย เพนเนตตา,เทนนิสฮอพแมน คัพ,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/473312
ฮือฮา แฟนบอลใจกล้า จับมือเดิมพันมนุษย์เมีย ใครชนะลูบปากได้เมียเพิ่ม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 7 มี.ค. ว่า เกมการแข่งขันฟุตบอลดาร์บีแมตช์ใน ดาร์ เอสซาลัม ประเทศแทนซาเนีย คู่ระหว่าง ยัง แอฟริกันส์ พบกับ ซิมบา ไม่มีไฮไลต์ใดสุดฮาไปกว่าการที่แฟนบอลสายฮาร์ดคอร์ข้างสนามของทั้งสองทีมไม่ลงรอย ความคิดเห็นแตกแยก ต้องจับมือเอาเมียของตัวเองมาเดิมพัน,ทั้งสองรายเดิมพันกันว่าหากทีมที่แทงเป็นฝ่ายชนะ ผู้แพ้จะต้องเสียเมียตัวเองให้กับผู้ชนะ โดยผลปรากฏว่า ซิมบา เป็นฝ่ายบุกไปเอาชนะ ยัง แอฟริกันส์ ถึงถิ่น 2-1 ทำให้แฟนบอลที่เดิมพัน ยังแอฟริกันส์ ไม่แฮปปี้เป็นอย่างมากเพราะจะต้องเสียมนุษย์เมียอันเป็นที่รักให้กับผู้ชนะเดิมพัน,ทั้งคู่เซ็นสัญญาลายลักษณ์อักษรเพื่อยืนยันถึงการเดิมพันนี้ อย่างไรก็ตามยังถือเป็นเรื่องโชคดีของฝั่งผู้เดิมพันทีมแอฟริกันส์ เนื่องจากว่าอีกฝ่ายยินยอมที่จะยอมเจรจาใหม่ภายหลังให้จ่ายเป็นตัวเม็ดเงินแทนภรรยาของเขา,สำหรับเรื่องนี้ทางผู้อำนวยการของทีมซิมบาชี้ให้เห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่มีการเดิมพันแบบนี้เกิดขึ้นของกลุ่มแฟนบอลสายฮาร์ดคอร์ และอาจเป็นเรื่องดีที่ใครอยากจะหย่าแฟน ก็ใช้วิธีเอาแฟนมาเดิมพันแบบเคสนี้ซะเลย
ความคิดเห็นไม่ตรงกัน การพนันจึงเกิดขึ้น สำหรับแฟนบอลชาวแทนซาเนียสองรายนี้ ที่ไม่รู้ว่าเบื่อหรืออยากเลิกเมียตัวเองแต่อย่างใด จับมือเอาเมียตัวเองมาลงเดิมพันใครชนะเอาเมียผู้แพ้กลับบ้าน
null
แทนซาเนีย,ยัง แอฟริกันส์,ซิมบา,ดาร์ เอสซาลัม,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/876456
เพนนี่ เดอะเฟซ โต้เป็นมือที่สามทำ ดีเจพุฒิ เลิกแฟน
แจ้งเกิดมาจากรายการ เดอะเฟซ ไทยแลนด์ สำหรับ เพนนี่ กริยาณี ดาโสม ซะจนมีข่าวว่าเสน่ห์เข้าตาจนกลายเป็นมือที่สามทำให้ ดีเจพุฒิ พุฒิชัย เกษตรสิน เลิกแฟน ล่าสุดแม้ฝ่ายชายจะออกมาปฏิเสธแล้ว แต่บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ไปเจอสาวเพนนี่ ก็เลยต้องไปถามซะหน่อยว่าอะไรยังไง,กับดีเจพุฒิไม่มีอะไรค่ะ ที่เห็นพี่เขาไปดูตอนเดินแบบในรายการเดอะเฟซ เพนนี่ไม่รู้ด้วยว่าเขาจะไป ไม่เชิงรู้จักกัน แต่เคยเดินสวนกันเพราะเคยไปตึกเดียวกัน แต่ไม่เคยคุยไม่ได้รู้จักกันเลย แต่เพนนี่ชอบดูละครของเขาติดตามผลงานเขาตลอดนะ มีหนุ่มๆ ในวงการมาจีบหรือยัง ไม่มีค่ะ (หัวเราะ) ไม่มีใครจีบ,จบเดอะเฟซ ไทยแลนด์ไปนานจะได้เห็นงานละครหรือยัง เห็นว่าได้รับการวางตัวซีรีส์ กอสซิป เกิร์ล เราเองก็อยากจะเล่นนะ หวังว่าจะได้เล่นค่ะเพราะเพนนี่เองก็ชอบซีรีส์เรื่องนี้ ตั้งแต่ที่อเมริกา ,เพนนี่จะเป็นผู้หญิงหน้าค่อนข้างนิ่งทางกันตนามีบอกมั้ยว่าเข้ามาอยู่ในวงการต้องปรับ ไม่มีค่ะ เขาก็บอกให้เป็นตัวของตัวเอง หน้านิ่งไม่ได้หมายความว่าเพนนี่หยิ่งนะคะ (ยิ้ม) มีคนเข้ามาคุยเพนนี่ก็คุยด้วย เป็นคนที่แมนๆ นิ่งๆ
แจ้งเกิดมาจากรายการ เดอะเฟซ ไทยแลนด์ สำหรับ เพนนี่ กริยาณี ดาโสม ซะจนมีข่าวว่าเสน่ห์เข้าตาจนกลายเป็นมือที่สามทำให้ ดีเจพุฒิ พุฒิชัย เกษตรสิน เลิกแฟน
null
เพนนี่ เดอะเฟซ,เพนนี่ เดอะเฟซ ไทยแลนด์,เพนนี่ The Face,เพนนี่ The Face Thailand,เพนนี่ กิ๊ก ดีเจพุฒ,เพนนี่ กริยาณี ดาโสม,พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน,เพนนี่ มือที่สาม ดีเจพุฒิ,เพนนี่เหวี่ยง,เพนนี่หน้าเหวี่ยง,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,เพนนี่ ดีเจพุฒิ
https://www.thairath.co.th/content/491204
บินไทย แจง สุนัขผู้โดยสารหลุดจากกรง ถูกจนท.สนามบินอินชอนใช้ปืนยิงตาย
จากกรณีที่มีผู้โดยสารเดินทางในเที่ยวบินที่ทีจี 657 เส้นทาง โซล-กรุงเทพฯ วันที่ 19 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา แล้วเกิดเหตุสุนัขหลุดจากกรงในลานจอดเครื่องบิน และถูกเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานอินชอน สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ยิงตายนั้น ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า จากกรณีมีผู้โดยสาร 2 ท่าน ได้เดินทางในเที่ยวบินที่ ทีจี 657 เส้นทาง โซล-กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา พร้อมกระเป๋าสัมภาระ และกรงสุนัข ซึ่งบรรจุสุนัขขนาดเล็ก จำนวน 3 ตัว โดยแยกบรรจุสุนัขกรงละ 1 ตัว,การบินไทยขอเรียนให้ทราบเบื้องต้นว่า การนำสัตว์เลี้ยงใส่กรงมาเช็กอินเพื่อโหลดไว้ใต้ท้องเครื่องบินนั้น การบินไทยมีมาตรฐานในการดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดีทุกขั้นตอน กรงที่ใส่สัตว์เลี้ยงจะถูกลำเลียงจากจุดรับมอบผ่านช่องทางพิเศษ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากเจ้าหน้าที่เฉพาะ ก่อนนำไปใหลดไว้ที่ใต้ท้องเครื่องบิน เพื่อให้มั่นใจว่า สัตว์เลี้ยงที่อยู่ในกรงจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งนี้ เมื่อผู้โดยสารมาเช็กอิน เจ้าหน้าที่เช็กอินของสายการบิน เอเชียน่า แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านผู้โดยสารของการบินไทยที่ท่าอากาศยานอินชอน สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ได้ทำการตรวจสอบสภาพของสุนัขและกรงสุนัขทั้งหมดว่า อยู่ในสภาพสมบูรณ์และปิดล็อกอย่างเรียบร้อย จึงเริ่มทำการเช็กอินและบันทึกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่การบินไทยที่สนามบินอินชอน เป็นผู้ควบคุมอีกครั้งหนึ่ง ,จากนั้น จึงแจ้งให้ผู้โดยสารนำกรงสุนัขทั้ง 3 กรง ไปส่งมอบให้กับพนักงานที่เคาน์เตอร์พิเศษ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระของท่าอากาศยานอินชอน เป็นผู้ตรวจสอบสุนัขและสภาพกรงสุนัข ก่อนทำการติดสติกเกอร์ปลอดภัยที่บริเวณรอยต่อของกรงและบริเวณที่ล็อกกรง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของสายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ส ที่เคาน์เตอร์พิเศษจะทำการติดเทปปลอดภัยบริเวณรอบกรงสุนัข เพื่อให้มั่นใจว่า กรงสุนัขจะไม่สามารถถูกเปิดจากภายนอกได้ จากนั้นจึงทำการลำเลียงกรงสุนัขผ่านช่องทางพิเศษ ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ของ Korean Airport Service ของสายการบินโคเรียน แอร์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการลานจอดของการบินไทยที่สนามบินอินชอน โดยเจ้าหน้าที่ของ Korean Airport Service ได้ทำการตรวจรับกรงสุนัขและตรวจสอบสภาพสุนัขอีกครั้ง ก่อนลำเลียงกรงสุนัขทั้งสามไปยังเครื่องบิน ซึ่งแต่ละขั้นตอนเจ้าหน้าที่จะต้องลงนามตรวจรับทุกครั้ง,,อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เจ้าหน้าที่นำกรงสุนัขดังกล่าว วางที่พื้นบริเวณลานจอดข้างเครื่องบินเพื่อรอนำกรงสุนัขขึ้นวางบนพื้นที่ที่ใช้สำหรับขนส่งสิ่งมีชีวิต (BULK) ซึ่งอยู่บริเวณท้ายเครื่องบิน ปรากฏว่า สุนัขตัวหนึ่งได้หลุดออกไปจากกรงและวิ่งหนีเข้าไปในลานจอด เจ้าหน้าที่ลานจอดของ Korean Airport Service ได้พยายามจับสุนัขดังกล่าว แต่ไม่สามารถจับได้ จึงได้แจ้งไปยังศูนย์ประสานงานของท่าอากาศยานอินชอน ในขณะที่การบินไทยได้แจ้งให้ผู้โดยสารรับทราบเหตุดังกล่าวด้วยทันที,การตามจับสุนัขที่หลุดออกจากกรงนั้น ท่าอากาศยานอินชอนได้ดำเนินการตามมาตรการของสนามบินถึง 3 ขั้นตอน เพื่อจับสุนัขตัวดังกล่าว เริ่มจากการพยายามจับสุนัขด้วยตาข่าย การพยายามยิงด้วยปืนลม แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานอินชอน ได้ตัดสินใจใช้กระสุนจริง เนื่องจากสุนัขตัวดังกล่าวได้วิ่งเข้าไปในเขตพื้นที่ทางวิ่ง (Runway) ซึ่งเป็นช่วงที่มีเครื่องบินขึ้นลงเป็นจำนวนมาก และอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของอากาศยานและผู้โดยสาร,หลังจากนั้น การบินไทยได้แจ้งไปยังเจ้าของสุนัข ซึ่งพำนักอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อเจ้าของสุนัขมาถึงท่าอากาศยานอินชอน เจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานฯ ได้ชี้แจงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความจำเป็นที่ต้องใช้กระสุนจริง พร้อมขอโทษเจ้าของสุนัขดังกล่าวด้วย,อย่างไรก็ตาม การบินไทย ได้ช่วยเจ้าของสุนัขร้องเรียนไปยังท่าอากาศยานอินชอนว่า เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ หรือไม่ ซึ่งท่าอากาศยานอินชอน ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้การบินไทยพร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามมาตรฐานสากลที่สายการบินต่างๆ ยึดเป็นแนวทางปฏิบัติ,อนึ่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เที่ยวบินที่ ทีจี 657 ในวันเกิดเหตุต้องออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนดตามตารางการบินปกติ เป็นเวลาประมาณ 30 นาที
การบินไทย แจงยิบ กรณีผู้โดยสาร ทีจี 657 ขนส่งสุนัขผ่านท่าอากาศยานอินชอน เกาหลีใต้ ยัน ทำตามมาตรฐานสากลทุกขั้นตอน พร้อมให้ความช่วยเหลือเจ้าของ ที่สุนัขหลุดจากกรงจนถูกจนท.สนามบินตัดสินใจยิงจนตายเต็มที่
null
การบินไทย,สุนัขหลุดจากกรง,ใช้ปืนยิงตาย,สนามบินอินชอน,เกาหลีใต้
https://www.thairath.co.th/content/819401
คสช. เผย 4 วัน ปีใหม่ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ แล้ว เกือบ 3 พันคัน
เมื่อวันที่ 2 ม.ค.59 พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ภาพรวมการสัญจรในขณะนี้ยังคล่องตัว แม้ประชาชนบางส่วนจะเริ่มทยอยเดินทางกลับ จึงขอผู้ขับขี่ควบคุมความเร็วรถและเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ มีประชาชนเข้าเยี่ยมชมคับคั่ง โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ยังคงเข้าช่วยบริหารจัดการให้เหมาะสมและปลอดภัย ส่วนในพื้นที่ชายแดนมีประชาชนเดินทางผ่านด่านตรวจต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและตรวจเข้มสิ่งผิดกฎหมาย สำหรับการตั้งจุดบริการประชาชนตามหน้าค่ายทหารและเส้นทางคมนาคมของกองทัพบกมีประชาชนเข้าใช้บริการต่อเนื่องถึง 21,094 คน ส่วนใหญ่สอบถามเส้นทาง แวะพักรถพักคน รับบริการตรวจซ่อมรถ เข้าห้องน้ำและรับการปฐมพยาบาล เป็นต้น และมีผู้เข้าเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแหล่งท่องเที่ยวและเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของหน่วยทหารจำนวน 18,730 ราย,พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ด้วยมาตรการ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ นั้น คสช.โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ตำรวจ ฝ่ายปกครองยังคงร่วมกันปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง ซึ่งสถิติในวันที่ 1 ม.ค.60 ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้,รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 16,092 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถจักรยานยนต์ไว้ 891 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 9,111 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 12,664 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 4,622 คน ยึดรถยนต์ 506 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 4,712 คน,พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ตลอด 4 วัน ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.59 – วันที่ 1 ม.ค.60 เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการ ดื่มไม่ขับไว้แล้ว 2,981 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 2,027 คัน และรถยนต์ 954 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 35,053 คน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 22,884 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล 12,169 คน ทั้งนี้รถที่ยึดได้ถูกนำไปเก็บรักษาในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ เช่น สถานีตำรวจท้องที่ ด่านตรวจทางหลวง สำนักงานขนส่ง และหน่วยทหาร โดยหลังจากช่วงเทศกาลเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับรถคืนได้ตามที่เจ้าหน้าที่นัดหมาย อย่างไรก็ตา มเจ้าหน้าที่ทุกส่วนยังคงทุ่มเทปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการสัญจร ดูแลความปลอดภัยสาธารณะ ป้องปรามการกระทำที่ผิดกฎหมายในทุกพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาภาพรวมก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
คสช. เผยภาพรวมการสัญจรช่วงปีใหม่ยังคล่องตัว ขอผู้ขับขี่ควบคุมความเร็ว-เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนขับรถ ระบุ ปชช.ยังแน่นแหล่งท่องเที่ยว พร้อมสั่งเข้มชายแดนสิ่งผิด ก.ม. เผย 4 วันปีใหม่ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ แล้ว 2,981 คัน
null
7 วันอันตราย,ปีใหม่,ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ,คสช.,จราจร
https://www.thairath.co.th/content/826358
อีกแสนหม่อง ณ ชายขอบสังคม
และยังได้ชัยชนะในการแข่งขันบางประเภทเมื่อกลับมาสู่เมืองไทยมีปัญหาที่เด็กชายคนนี้ต้องเผชิญรออยู่เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกเป็นจำนวนมากการไร้สัญชาติเป็นปัญหาสำคัญประการหนึ่งที่เกิดขึ้นโลกปัจจุบัน อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานที่อยู่ของผู้คนไม่ว่าจะเป็นไปด้วยความเต็มใจหรือไม่ และเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั่วโลกจำนวนไม่น้อยเคลื่อนย้ายถิ่นที่อยู่ด้วยความหวังว่าจะไปมีชีวิตที่ดีกว่าในประเทศอื่นเนื่องจากในบ้านเกิดของตนมีความยุ่งยากทางด้านเศรษฐกิจ หรือไม่สามารถทำมาหากินเพื่อเลี้ยงปากท้องของตนและครอบครัวได้ จำนวนไม่น้อยก็เป็นการอพยพเพื่อหลบหนีภัยความตายจากการต่อสู้หรือสงครามภายในประเทศแม้อาจไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยก็ยังมีความหวังมากกว่าการทนทุกข์อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนเด็กชายหม่องเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงนี้ และเป็นปัญหาสำคัญไม่น้อยที่กำลังฝังตัวอยู่ในสังคมหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการอพยพย้ายถิ่นฐานดำเนินไปในรูปแบบที่เป็นการอพยพแบบไม่อาจหวนกลับสู่บ้านเกิด เมื่อเวลาเนิ่นนานไปบรรดาลูกหลานของผู้อพยพในลักษณะเช่นนี้จะถือกำเนิดขึ้นมาในอีกประเทศหนึ่ง เติบโต ดำรงชีวิต คุ้นเคยและรู้จักแต่เฉพาะดินแดนใหม่เท่านั้น ไม่รู้จักถิ่นฐานบ้านเกิดของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตนความยากลำบากที่แต่ละรัฐต้องขบคิดก็คือ เป็นไปได้ยากหรือแทบเป็นไม่ได้เลยในการผลักดันคนกลุ่มนี้ให้ออกไปจากดินแดนของตน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของการเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรือการไม่มีสัญชาติไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม ลองจินตนาการถึงเด็กชายหม่อง ผู้ซึ่งพูดภาษาไทยได้คล่องแคล่ว เรียนในโรงเรียนไทย ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมไทยนี่คือโลกแห่งเดียวที่หล่อเลี้ยงเขาขึ้นแล้วจะไล่ให้กลับไปอยู่ประเทศพม่าที่เขาไม่รู้จักแม้แต่น้อยเลยกระนั้นหรือรัฐเป็นจำนวนมากก็เผชิญกับปัญหาในลักษณะที่กล่าวมา และก็ตระหนักถึงข้อเท็จจริงว่าไม่อาจขับไล่ไสส่งมนุษย์เหล่านี้ออกไปจากดินแดนของตนเหมือนหมูเหมือนหมา เพราะอย่างไรก็ไม่มีที่ไปให้คนกลุ่มนี้มากนักหลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรปจึงหันมาจัดการกับความยุ่งยากนี้ ด้วยการยอมรับให้บุคคลที่เป็นผู้อพยพหรือลูกหลานของผู้อพยพสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ซึ่งนำไปสู่การสร้างอาชญากรรมแบบใต้ดินให้เกิดขึ้นติดตามมาทั้งนี้ ด้วยการยอมรับการให้สัญชาติด้วยหลักการใหม่ จากแต่เดิมที่การให้สัญชาติของรัฐแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะยึดอยู่กับหลักดินแดนและหลักสืบสายโลหิตเป็นสำคัญ โดยหลักดินแดนจะให้สัญชาติกับบุคคลที่ถือกำเนิดขึ้นภายในรัฐแห่งใดแห่งหนึ่ง และบุคคลผู้เป็นบิดามารดาอาศัยอยู่อย่างถูกกฎหมายส่วนหลักสืบสายโลหิตจะเป็นการให้สัญชาติกับบุคคลตามสัญชาติของผู้ที่เป็นบิดามารดา เช่น หากบิดาหรือมารดาเป็นสัญชาติไทย เด็กที่เกิดขึ้นมาจากบิดาหรือมารดาที่ถือสัญชาติไทยก็จะได้รับสัญชาติไทยตามหลักสืบสายโลหิตซึ่งหากพิจารณาตามหลักการได้สัญชาติทั้งหลักดินแดนและหลักสืบสายโลหิตจะพบว่าบุคคลผู้อพยพผู้เข้าสู่ดินแดนของรัฐอื่นอย่างผิดกฎหมายหรือการหลบหนีภัยสงครามจะไม่สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นได้ แม้ในความเป็นจริงจะมีชีวิตแทบทั้งหมดอยู่ภายในสังคมแห่งนั้นรวมทั้งลูกหลานของผู้อพยพก็ตกอยู่ในสถานะที่ไม่แตกต่างกันมีการพัฒนาหลักการให้สัญชาติในแนวทางใหม่ ด้วยการให้แก่บุคคลที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมนั้นๆ มาเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ได้ยาวนานพอจะแสดงให้เห็นว่าสังคมแห่งนี้เป็นถิ่นฐานของเขาในการดำรงชีวิต และได้แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวให้เข้ากับสังคมผ่านกระบวนการบางอย่าง เช่น ในบางประเทศกำหนดให้ต้องเรียนในโรงเรียนเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือสามารถใช้ภาษาของประเทศนั้นได้หลักการนี้ถูกเรียกว่าการให้สัญชาติโดยหลักพำนักอาศัย (jus domicile) อันเป็นหลักการที่ช่วยทำให้สามารถรับเอาบุคคลจำนวนมากซึ่งเป็นผู้อพยพแบบไม่หวนกลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นได้มากกว่าการปล่อยให้เขาต้องเคว้งคว้างไป จะทำงานแบบสุจริตก็ทำไม่ได้ จะเดินทางไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ ระบบสวัสดิการทางสังคมก็ไม่มีรองรับสุดท้ายก็จบลงด้วยการประกอบอาชญากรรมในลักษณะต่างๆ ค้ายาเสพติด อาวุธสงครามเถื่อนแน่นอนว่าการให้สัญชาติแก่บุคคลในลักษณะเช่นนี้ย่อมมีความแตกต่างจากการได้สัญชาติโดยหลักสืบสายโลหิตและโดยหลักดินแดน เนื่องจากอาจถูกพิจารณาได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับผู้ที่ได้สัญชาติอยู่ในลักษณะที่เบาบาง จึงอาจทำให้มีข้อสงสัยถึงความปลอดภัยหรือความมั่นคงต่อรัฐที่ให้สัญชาติได้ซึ่งการให้สัญชาติด้วยหลักพำนักอาศัยก็ได้คำนึงถึงด้วยเช่นกัน การให้สิทธิกับบุคคลที่ถือสัญชาติในลักษณะนี้จะไม่ได้อยู่ในลักษณะเดียวกันกับบุคคลอื่นที่ถือสัญชาติ แต่มีข้อจำกัดบางประการเอาไว้โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิทางการเมือง เช่น สิทธิในการลงคะแนนเลือกผู้แทนหรือการลงรับสมัครเป็นผู้แทนในการเมืองระดับชาติแต่โดยที่ยังคงรับรองสิทธิในด้านอื่นๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองจากรัฐในชีวิตและร่างกาย สิทธิในสวัสดิการที่รัฐจัดไว้ให้กับประชาชนกลุ่มต่างๆ สิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองแห่งรัฐการให้สัญชาติด้วยหลักพำนักอาศัยจึงเป็นการยอมรับถึงความเป็นจริง ว่ามีกลุ่มคนซึ่งอพยพมาอยู่ในดินแดนของรัฐแม้ว่าจะเป็นการเดินทางเข้ามาแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมายแต่ก็ยากจะผลักดันให้พ้นไปจากสังคมของตน ยกเว้นจะปิดหูปิดตาไม่สนใจต่อความโหดร้ายว่าเมื่อไล่ไปแล้วเขาอาจตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในรูปแบบต่างๆในขณะเดียวกันก็ตระหนักว่าอาจต้องจำกัดสิทธิบางประการทางด้านการเมืองกับคนกลุ่มนี้ จนกว่าจะเกิดความมั่นใจหรือมีช่วงระยะเวลาที่แสดงให้เห็นได้มากขึ้นถึงความมั่นคงในการดำรงอยู่ในสังคมนั้นระบบกฎหมายของไทยในเรื่องการให้สัญชาติยังคงยึดหลักการให้สัญชาติด้วยหลักดินแดนและหลักสืบสายโลหิตเป็นสำคัญ ทำให้คนอีกจำนวนมากที่อยู่ในฐานะเฉกเช่นเด็กชายหม่องจึงยังต้องตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากอีกต่อไปในฐานะที่ตกเป็นเป้าสายตาของสังคม ในอนาคตเขาอาจได้รับการแปลงสัญชาติให้เป็นคนไทยได้อย่างไรก็ตาม จะยังคงมีเด็กชายหม่องอีกนับหมื่นนับแสนอยู่ในสังคมไทย คนเหล่านี้อาจไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถในด้านต่างๆ ไม่เป็นที่รู้จัก ไม่ได้เจอนายกรัฐมนตรี ต้องตกอยู่ในสถานะของการไร้สัญชาติและเผชิญกับความยากลำบากในชีวิตอีกต่อไป
แม้เด็กชายหม่อง ทองดี จะสามารถเดินทางไปแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับที่ประเทศญี่ปุ่นได้ด้วยความช่วยเหลือของหลายฝ่าย
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สังคม
การให้สัญชาติ,คนไร้สัญชาติ,ด.ช.หม่อง ทองดี,ผู้อพยพ,สัญชาติไทย
https://prachatai.com/journal/2009/09/26019
ชาวบ้านอ.บ่อไร่ จ.ตราด อพยพออกจากพื้นที่ หลังน้ำท่วมสูง
เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานในจ.ตราดต้องช่วยชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 บ้านคลองขุด ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ ขนย้ายทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่ หลังฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้ ทำให้น้ำป่าจากเขาไม้ซี้ เข้าท่วมบ้านเรือนนับร้อยหลัง เช่นเดียวกับต.ห้วยแร้ง อ.เมืองตราด ที่ถูกน้ำท่วมสูงเนื่องจากอยู่ในที่ลุ่มริมคลอง ทั้งนี้จังหวัดได้สำรวจและเร่งให้ความช่วยเหลือแล้วที่หมู่ 6 ต.พริ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ยังเดือดร้อนจากน้ำท่วมขัง หลังจากเมื่อวานนี้ถูกน้ำป่าเข้าท่วม ขณะที่อีก 5 ตำบล ซึ่งถูกน้ำป่าท่วมเช่นกันระดับน้ำเข้าสู่ภาวะปกติขณะที่การสำรวจความเสียหายจากพายุฝนเมื่อคืนนี้ในเขตอ.คลองท่อม จ.กระบี่ พบว่า มีบ้านเรือนเสียหาย 14 หลัง ส่วนจ.พังงา ได้สรุปความเสียหายจากน้ำป่าเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมาพบว่า พื้นที่ 4 อำเภอ มีประชาชนเดือดร้อนเกือบ 10000 คน สถานศึกษาได้รับผลกระทบ 8 แห่ง และวัด 6 แห่ง
ประชาชนหลายพื้นที่ยังได้รับผลกระทบจากพายุฝนในระยะนี้ โดยเฉพาะที่จ.ตราด ชาวบ้านอ.บ่อไร่ ต้องอพยพออกจากพื้นที่หลังถูกน้ำท่วมสูง
ภูมิภาค
จ.ตราด,น้ำท่วม,พายุฝน,อ.บ่อไร่,อพยพ
https://news.thaipbs.or.th/content/184627
อธิบดีคุก สั่งล่า 5 ผู้ต้องขังแหกเรือนจำ ขู่ใครเอี่ยวด้วยจับหมด
อธิบดีราชทัณฑ์ สั่งการเร่งล่า 5 ผู้ต้องขังเรือนจำสว่างแดนดิน หลบหนีออกจากคุก พร้อมส่งรองอธิบดีคุกลงพื้นที่ประสานกับตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามจับกุมทั้งหมด ทั้งนี้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี ให้การสนับสนุน ให้ที่พัก จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกันเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 1 พ.ค.63 พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เหตุผู้ต้องขัง 5 รายคดียาเสพติดหลบหนีจากเรือนจำสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร คือ 1. นายสุริยนัต สุพรรณ์ประเสริฐ อายุ 33 ปี 2. นายวัฒนชัย พันภักดี อายุ 40 ปี 3. นายภานุพงษ์ โคตรชมภู อายุ 23 ปี 4. นายพัฒพงษ์ เกษ์ค าใส อายุ 32 ปี และ5. นายอนนท์ หลักคา อายุ 42 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังรายใหม่ ในคดี พ.ร.บ.ยาเสพติด อยู่ระหว่างฝากขัง โดยเรือนจำ ได้จัดทำห้องกักโรค ซึ่งเป็นห้องปรับปรุงขึ้นเฉพาะกิจ ใช้ในการแยกผู้ต้องขังเข้าใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำ เป็นเวลา 14 วัน โดยจะครบกำหนดกักโรคในวันที่ 2 พ.ค. ต่อมาผู้ต้องขังได้ทำลายห้องดังกล่าว เจาะฝ้าเพดานและปีนกำแพงหลบหนีออกไปได้สำเร็จขณะนี้ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงพื้นที่ พร้อมประสานขอกำลังจาก ตำรวจ สภ.สว่างแดนดิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องขังที่หลบหนีทั้งหมด ทั้งนี้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี หรือให้การสนับสนุนในการหลบหนี และผู้ที่ให้การสนับสนุนในการหลบหนี หรือให้ที่พักอาศัยจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่น กันจึงขอความร่วมมือจากญาติและบุคคลใกล้ชิดเกลี้ยกล่อมขอให้เข้ามอบตัว และหากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ เรือนจำอำเภอสว่างแดนดิน หมายเลขโทรศัพท์ 095-223-9535 ได้ตลอด 24 ชม. พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าว.
อธิบดีราชทัณฑ์ สั่งการเร่งล่า 5 ผู้ต้องขังเรือนจำสว่างแดนดิน หลบหนีออกจากคุก พร้อมส่งรองอธิบดีคุกลงพื้นที่ประสานกับตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามจับกุมทั้งหมดทั้งนี้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ข่าว,ทั่วไทย
แหกคุก,หนีคุก,หนีเรือนจำ,5นักโทษ,ปีนกำแพงเรือนจำ,เรือนจำสว่างดินแดน,อธิบดีกรมราชทัณฑ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1834919
ฟัง รพ.ปลวกแดงยัน รักษาสาวถูกชนตามหลักการแพทย์ ไม่เก็บเงินสักบาท
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.60 นายแพทย์ ทศนเทพ ยิ้มแย้ม ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลปลวกแดง จังหวัดระยอง พร้อมนางสาววัชรา ตุ้มวิจิตร หัวหน้าห้องฉุกเฉินเข้าร่วมชี้แจงหลังชาวโซเชียลแห่แชร์ภาพและข้อความของ ,ญาติผู้บาดเจ็บจากการถูกรถชน, ว่า ไม่ได้รับการดูแลรักษาจากหมอและพยาบาล พร้อมนำคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดภายในห้องฉุกเฉินมาให้ผู้สื่อข่าวดูอีกด้วย,อย่างไรก็ตาม ภายในคลิปคนไข้ได้เข้ามารักษาตั้งแต่เริ่มต้นที่ห้องฉุกเฉินได้ทำการซักประวัติและทำการรักษาเบื้องต้น ซึ่งตลอดเวลาในห้องฉุกเฉินนานประมาณ 1 ชั่วโมง จะมีนางพยาบาลเข้าทำแผล และอยู่กับคนไข้ตลอดเวลาในการรักษา และก็มีคู่กรณีของคนไข้ก็เฝ้าอยู่ด้านนอก หลังจากที่ทำแผลให้คนไข้เสร็จแล้วจึงนำคนไข้ ซึ่งนอนอยู่บนเตียงออกมารอญาติด้านนอก ต่อมาได้มีพี่ชายของคนไข้มาเห็นน้องสาวนอนอยู่บนเตียง,นางสาววัชรา กล่าวว่า ญาติคนไข้ที่เอาไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก อาจจะเข้าใจผิดคิดว่า โรงพยาบาลปล่อยให้คนไข้นอนรอ ไม่ยอมรักษา ซึ่งคนไข้รายนี้ทางโรงพยาบาลปลวกแดง ได้ตรวจร่างกายแล้วไม่พบว่ามีอาการสาหัส แค่ศีรษะแตก ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ได้เย็บแผลให้แล้ว และก็ได้ทำแผลที่ถลอกตามร่างกายให้ จึงได้นำไปนอนรอญาติด้านนอกห้องฉุกเฉิน,นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลปลวกแดง ก็ไม่ได้คิดค่ารักษาแม้แต่บาทเดียว คนไข้รายนี้ได้ทำประกันสังคมไว้ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และคนไข้รายนี้จึงไปรักษาตัวต่อที่ตามสิทธิ์,ส่วนที่มีการโพสต์ว่า ทำแผลแล้วให้ยามากินเท่านั้น ขอยืนยันว่าทางโรงพยาบาลปลวกแดง ได้ตรวจรักษาคนไข้แล้ว และไม่มีอาการรุนแรงสาหัสแต่อย่างใด ที่อาการหนัก คือ หัวแตก ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ทำแผลและเย็บให้แล้ว,ประการต่อมา ที่บอกว่าปล่อยให้คนไข้นอนไม่สนใจนั้น ความจริงตั้งแต่คนไข้เข้าโรงพยาบาลมา ทางพยาบาลได้ซักประวัติและรักษาคนไข้อยู่นานเป็นชั่วโมง เมื่อรักษาเสร็จแล้วจึงได้พาไปนอนรอญาติพากลับบ้าน ส่วนการที่จะส่งต่อคนไข้ไปโรงพยาบาลอื่นๆ นั้นต้องเป็นคนไข้หนักเท่านั้นส่วนคนไข้รายนี้อาการไม่หนัก,ทางห้องฉุกเฉินจะมีกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพและเสียง ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 7 วัน ถ้าคนไข้หรือญาติติดใจสงสัยอะไรหรือคิดว่านางพยาบาลห้องฉุกเฉินคนไหนพูดจาหรือแสดงอาการไม่ดีต่อคนไข้ ก็มาขอดูได้ ก่อนที่จะนำไปโพสต์ให้ทางโรงพยาบาลเสียหาย,นายแพทย์ทศนเทพ กล่าวว่า คนไข้บางคนก็อาจจะไม่พอใจเพราะวันๆ มีคนไข้มากแต่ทางโรงพยาบาลปลวกแดงเป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง รับคนไข้ได้แค่ 30 เตียง แต่ความเป็นจริงในปัจจุบันมีคนไข้เข้ารับรักษามากเป็นเท่าตัว จึงอาจจะให้บริการประชาชนได้ไม่เต็มที่ และญาติบางคนถึงกับด่าหมอด่าพยาบาลรุนแรง แต่ทางเราก็ไม่ได้ถือสา,บางทีคนไข้หรือญาติเข้ามาพบเห็นหมอ หรือนางพยาบาล กำลังใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ก็คิดว่าเรากำลังเล่นแต่โทรศัพท์มือถือ ซึ่งความจริงทางเรากำลังส่งประวัติคนไข้ว่าเป็นอะไร ทำการรักษาอะไรไปบ้าง ก่อนที่จะนำคนไข้ส่งต่ออีกโรงพยาบาลหนึ่ง
ฟังความอีกด้าน! รพ.ปลวกแดงยืนยัน รักษาสาวถูกรถชนตามหลักการแพทย์ ระบุไม่เก็บเงินสักบาท ระบุญาติมาดูกล้องวงจรปิดได้
ข่าว,ทั่วไทย
โรงพยาบาลปลวกแดง,รถชนให้กลับบ้าน,สาวถูกรถชน,อ.ปลวกแดง,ระยอง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1087409
ศรีวราห์ ลงจี้ ภ.9 ดูเหตุความไม่สงบ เชื่อไม่เกี่ยวกับวันลงประชามติ
ของกลุ่มเบอซาตู,เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ส.ค. 59 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามผลการปฏิบัติงานดูแลความสงบเรียบร้อยก่อนการออกเสียงประชามติ ในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 9 ทั้ง 4 จังหวัด ทั้ง สงขลา สตูล พัทลุง ตรัง โดยมี นายเอกรัฐ หลีเส็น รอง ผวจ.สงขลา พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.9 พร้อมข้าราชการตำรวจภูธรภาค 9 ให้การต้อนรับ และแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงก่อนการออกเสียงประชามติตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม- 1 สิงหาคม ในพื้นที่ทั้ง 4 จังหวัดภาคใต้ โดยสรุปผลการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 สามารถจับกุมคดีอาวุธปืนได้ 83 คดี ผู้ต้องหา 88 คน ยึดอาวุธปืน 83 กระบอก อาวุธสงคราม 5 กระบอก ทั้งคาร์บิน และเอ็ม16 กระสุนปืน 782 นัด คดีการพนัน 74 คดี ผู้ต้องหา 185 คน คดียาเสพติด 615 ราย ผู้ต้องหา 717 คน,พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ในภาพรวมพื้นที่ บช.ภ.9 ก่อนการออกเสียงประชามติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบความผิดปกติในพื้นที่แต่อย่างใด เพียงบัตรหายในพื้นที่ จ.พัทลุง และสตูล ซึ่งได้ดำเนินคดีไปแล้ว และได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยความเหมาะสมเป็นกลาง นอกจากนี้ ยังได้ติดตามผลสรุปการจับกุมของกองบังคับการตำรวจน้ำสงขลา ที่จับกุมเรือกระทำผิดกฎหมาย เป็นเรือประมงเวียดนาม 5 ลำ จมกลางทะเล 2 ลำ อยู่ระหว่างจับกุม 1 ลำ และเรือลักลอบขนน้ำมันเถื่อนอีก 3 ลำ,ส่วนการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอำเภอชายแดนของจังหวัดสงขลา ที่เกิดขึ้นในระยะนี้นั้นในเชิงลึกไม่เกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ แต่เป็นการแสดงออกสัญลักษณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ เนื่องจากเดือนสิงหาคม เป็นเดือนของการสูญหาย ของ หะยีสุหลง โต๊ะมีนา แกนนำขบวนการร่วมเพื่อเอกราชปัตตานี หรือ เบอร์ซาตู ซึ่งตรงกับวันที่ 13 สิงหาคม 2492 หากดูข้อมูลย้อนหลังเมื่อปีก่อนพบว่า มีการก่อเหตุรุนแรงในช่วงเดือนสิงหาต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์แล้ว ไม่น่าจะมีผลกระทบกับการออกเสียงประชามติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมแผนดูแลความสงบเรียบร้อยไว้พร้อมแล้ว.
ศรีวราห์ ลงพื้นที่ บช.ภ.9 ติดตามผลดูแลก่อนการออกเสียงประชามติ พบมีเพียง 2จังหวัดเกิดปัญหาบัตรหาย พัทลุง-สตูล สั่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนเหตุก่อความไม่สงบไม่เกี่ยวกับการลงประชามติ เชื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในวันสำคัญ
null
ลงประชามติ,ลงประชามติ2559,ประชามติ2559,ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ,ประชามติร่าง รธน.,ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,รองผบ.ตร.,บช.ภ.9,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/680808
คลอปป์ ชี้ โปรแกรมหฤโหด ทำ อังกฤษ ไร้แชมป์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 26 ธ.ค. ว่า เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ออกโรงแสดงความคิดเห็นว่า สาเหตุที่ทีมชาติอังกฤษ และสโมสรจากพรีเมียร์ลีก ไม่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ เป็นเพราะว่าโปรแกรมภายในประเทศ มีความหนาแน่นมากเกินไป,กุนซือผู้พาทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์อย่างมากมาย ตัดสินใจค้นหาความท้าทายใหม่ๆ ในอาชีพโค้ช ด้วยการเข้ามารับเผือกร้อนคุมทัพหงส์แดงกลับมาสู่เป้าหมายอีกครั้ง และกำลังเตรียมตัวพาทีมทำศึกในนัดบ็อกซิงเดย์ ด้วยการพบกับจ่าฝูง เลสเตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์นี้,ล่าสุด กุนซือจอมห้าววัย 48 ปี เชื่อว่าสาเหตุที่ทีมจากแดนผู้ดีไปไม่ถึงดวงดาวในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะนักเตะกรำศึกหนักมากเกินไป ทำให้เกิดอาการล้าในช่วงที่ต้องตะลุยการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์,คุณก็รู้ว่าโปรแกรมมันเยอะเกินไป เพราะไม่มีการหยุดพัก และการแข่งขันก็ค่อนข้างเยอะ ผมคิดว่าทุกคนก็รู้ว่า นี่ไม่มีวิธีในการประสบความสำเร็จหรอก,ทุกคนคิดว่า รอย ฮอดจ์สัน จะสามารถพาลูกทีมเหล่านี้คว้าแชมป์ได้ เพราะพวกเขาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพสูง แต่เมื่อไม่มีการพักเบรกในรอบปี ทั้งที่ลีกต่างๆ กลับมีกันทั้งนั้น มันอาจจะทำให้คุณประสบความสำเร็จบ้างก็ได้ แต่บอกตามตรงเลยว่ามันยากมาก,ทั้งนี้ ทีมชาติอังกฤษ ไม่สามารผ่านเข้าถึงรอบตัดเชือกในรายการใดๆ ได้เลย ในรอบเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา รวมถึงล่าสุด ตกรอบแรกศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ที่ประเทศบราซิล
กุนซือทีมหงส์แดง เชื่อว่าสาเหตุที่ทีมชาติอังกฤษ และสโมสรจากลีกผู้ดี ไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับนานชาติ เป็นเพราะว่ามีโปรแกรมการแข่งขันภายในประเทศที่มากจนเกินไป
null
ลิเวอร์พูล,เยอร์เกน คลอปป์,พรีเมียร์ลีก,โปรแกรมชุก,ทีมชาติอังกฤษ,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,รอย ฮอดจ์สัน,ยูโร 2016,ฟุตบอลโลก
https://www.thairath.co.th/content/554354
บริหารท่าเรือร้าง 20 แห่ง ชงข้อมูล นายก ไฟเขียวปลดล็อกเอกชน
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบบริหารการจัดการท่าเรือในประเทศไทย ว่า เพื่อแก้ปัญหาที่รัฐบาลต้องลงทุนก่อสร้างท่าเทียบเรือต่างๆทั่วประเทศ แต่ปรากฏไม่มีการบริหารจัดการปล่อยทิ้งเป็นท่าเรือร้างจำนวนมากกว่า 20 แห่ง จึงมอบหมายให้กรมเจ้าท่า (จท.) และกรมธนารักษ์ไปหาข้อสรุป โดยปรับวิธีการคัดเลือกเอกชนที่จะเข้ามาบริหารท่าเรือจากเดิมให้เสนอผลตอบแทนให้รัฐสูงสุด เปลี่ยนเป็นเสนอจัดเก็บค่าบริการต่ำสุดให้เป็นผู้ชนะเข้ามาบริหารท่าเรือ ก่อนที่เสนอขออนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 16 ก.ค.นี้,นายออมสินกล่าวว่า ตามระเบียบเดิม จท.ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างท่าเทียบเรือ แต่เมื่อก่อสร้างเสร็จจะต้องดำเนินการขึ้นทะเบียนและส่งมอบให้กรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่เข้ามาเป็นผู้จัดหาผู้บริหารท่าเรือพาณิชย์ กำหนดให้เอกชนต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าเช่า โดยคิดจาก 50% ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย แต่เอกชนจะต้องรับผิดชอบในการซ่อมบำรุงท่าเรือ ส่วนสิทธิ์ในการบริหารท่าเรือมีระยะเวลา 3-5 ปีเท่านั้น ซึ่งไม่จูงใจให้มีเอกชนเข้ามาบริหารท่าเรือ ส่วนใหญ่บริหารงาน ขาดทุนและไม่มีเอกชนสนใจ,ระเบียบปฏิบัติที่ผ่านมา การคัดเลือกเอกชนเข้ามาบริหารท่าเทียบเรือมีการกำหนดให้เอกชนต้องจ่ายผลตอบแทนล่วงหน้า และมีการเรียกเก็บค่า ธรรมเนียมต่างๆ ทำให้เมื่อมีการเปิดประมูลก็ต้องยกเลิกไป เพราะไม่มีเอกชนสนใจ ส่งผลให้ท่าเทียบเรือหลายแห่งไม่ได้เปิดให้บริการ แต่การหารือครั้งนี้ จะเปลี่ยนแนวคิด ให้พิจารณาเอกชนที่เสนอจัดเก็บค่าบริการต่ำสุดเข้ามาบริหาร ท่าเรือ นายออมสินกล่าว,นายออมสินกล่าวว่า การที่รัฐบาลต้องลงทุนก่อสร้างท่าเทียบเรือ แต่ไม่สามารถเปิดให้บริการหรือสร้างรายได้ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า จึงต้องคิดและหาวิธีการที่จะให้แต่ละท่าเรือมีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก จึงได้เสนอ แนวทางออกว่า หลังก่อสร้างท่าเรือเสร็จแล้ว จะต้องจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อมด้วย จากนั้น จะให้ จท.เป็นผู้จัดหาผู้บริหารท่าเรือ โดยเปิดให้เอกชนเข้าแข่งขันกันเสนอราคา รายใดเสนอค่าบริการ ในราคาต่ำสุดชนะประมูล โดยจะกำหนดรายได้ส่วนหนึ่งให้ จท.เพื่อนำเงินเข้ากองทุนที่จะนำมาใช้ในการปรับปรุงและซ่อมบำรุงท่าเรือ รวมทั้งพัฒนาบุคลากร ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยหากเหลือ จึงจะส่งเงินเข้าแผ่นดิน,รมช.คมนาคมกล่าวว่า ที่ผ่านมาท่าเรือหลายแห่งรัฐบาลต้องใช้เงินลงทุน มีทั้งท่าเรือโดยสาร ท่าเรือเพื่อการขนส่งและท่าเรือเฟอร์รี่ แต่ละแห่งใช้ เงินลงทุนแห่งละ 100-200 ล้านบาท บางแห่ง 500 หรือมากกว่า 1 พันล้านบาท เช่น ท่าเรือคลองใหญ่ จ.ตราด ใช้เงินลงทุนก่อสร้าง 1,295 ล้านบาท หรือ ท่าเรือขนาดใหญ่หลายแห่ง ท่าเรือศาลาลอย จ.พระนครศรีอยุธยา ท่าเรือคลองใหญ่ จ.ตราด ท่าเรือประจวบคีรีขันธ์ ท่าเรือภูเก็ตและท่าเรือสงขลา และมีท่าเรือขนาดเล็กอีกประมาณ 10-20 แห่ง บางแห่งให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ,นายภูมินทร์ หะรินสุต ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นข้อเสนอที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน เป็นข้อเสนอที่เอกชนเสนอมาโดยตลอด เพราะแนวทางนี้จะจูงใจให้เกิดการแข่งขัน และการคิดค่าตอบแทนการบริหารท่าเรือราคาถูก ทำให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการ ขนส่ง ณ ท่าเรือมีอัตราที่ถูกลง ก่อให้เกิดการแข่งขัน ได้ และช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งโลจิสติกส์ของประเทศในภาพรวมด้วย.
คมนาคมเตรียมชง บิ๊กตู่ ชี้ขาดปลด ล็อกเงื่อนไขบริหารท่าเทียบเรือร้าง 20 แห่งทั่วประเทศกลางเดือนหน้า เปิดทางเอกชนเสนอเก็บค่าบริการต่ำสุดรับสัมปทานบริหาร
null
ข่าวเศรษฐกิจ,ออมสิน ชีวะพฤกษ์,บริหารท่าเรือร้าง,ท่าเทียบเรือร้าง,เสนอเอกชน,ก่อสร้างท่าเทียบเรือ,บริหารท่าเทียบเรือ,ภูมินทร์ หะรินสุต,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/647954
ตร.เร่งสอบคดียิงถล่มย่านประตูน้ำ รอผล นทท.อินเดียตาย จากปืนกระบอกใด
จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุใช้อาวุธปืนไล่ยิงกัน จนเป็นเหตุให้มีชาวต่างชาติถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4 คน บริเวณลานจอดรถหลังห้างสรรพสินค้าวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ลงมือก่อเหตุนั้นเป็นกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นกับกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่น ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับบุคคลที่ก่อเหตุ 14 คน เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว 5 คน ควบคุมตัวได้อีก 4 คนอยู่ระหว่างหลบหนี 5 คน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ความคืบหน้ากรณีติดตามจับกุมตัววัยรุ่น ใช้อาวุธปืนไล่ยิงคู่อริย่านประตูน้ำรายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ต.ค.2561 ที่ สน.พญาไท พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท พ.ต.ท.วิทยากร สุวรรณเรืองศรี สว.(สอบสวน) สน.พญาไท ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนสน.พญาไท และฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท เข้าประชุมติดตามคลี่คลายคดีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงกราดใส่กลุ่มคู่อริย่านประตูน้ำ โดยใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง,พ.ต.อ.นครินทร์ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีทั้งส่วนของการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ออกหมายจับไปและในส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองฝ่ายแล้วรวม 14 คน โดยจับกุมไปแล้ว 9 คนและยังหลบหนีอีก 5 คน ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาที่จับกุมได้ล่าสุด 2 คน คือ 1.นายขวัญ หรือยา กระต่ายทอง อายุ 35 ปี ที่คุมตัวมาสอบปากคำตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ เบื้องต้นยังให้การภาคเสธอยู่โดยอ้างว่าตนเองอยู่ในที่เกิดเหตุจริงแต่ขณะเกิดเหตุนั้นไม่ได้อยู่ร่วมด้วย 2.นายศรรามหรือโจ ภูพลผัน อายุ 25 ปี ถูกจับกุมได้ในจังหวัดชุมพร พร้อมหลักฐานคือเสื้อผ้าที่ใส่ในวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาทั้งสองคนอยู่ในกลุ่มของนายพรเทพ หรือเพชร พุ่มพวง ฝั่งประตูน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังคุมตัวมาจากจังหวัดชุมพรเพื่อทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง,ส่วนดำเนินการได้สั่งการให้ชุดคลี่คลายคดีลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดที่สามารถจับไว้ได้เพิ่มเติม หากพยานหลักฐานมีเพิ่มมากพอก็จะขออนุมัติศาลออกหมายจับอีก 13 คน เบื้องต้นมีข้อมูลเป็นใบหน้าผู้ต้องสงสัยอยู่แล้ว พร้อมฝากไปถึงผู้ร่วมกระทำความผิดให้เข้ามอบตัวหากไม่ได้ร่วมก่อเหตุ ขอให้มาต่อสู้ในชั้นศาลเนื่องจากเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานชัดเจนในการเอาผิดทั้งหมด อย่างไรก็ตาม จะต้องรอผลผ่าชันสูตรของผู้เสียชีวิตชาวอินเดียอีกครั้งว่ามาจากกระสุนปืนกระบอกใด ขณะที่ผลการตรวจหาอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุขณะนี้พบเพียง 2 กระบอก คือ อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 2 กระบอก ส่วนอาวุธปืนกลนั้นยังไม่พบแต่อย่างใด,รายงานข่าวระบุว่าสำหรับหมายจับที่ออกมาแล้วรวม 14 หมายจับประกอบด้วยนายศรราม หรือโจ ภูพลผัน อายุ 25 ปี นายขวัญ หรือยา กระต่ายทอง อายุ 35 ปี นายสมชาย หรือปัง แซ่ปัง อายุ 35 ปี นายภิรมย์เวศน์ หรือหนึ่ง อภินรชาติ อายุ 32 ปี นายธัชกร หรือบู พรภักดี อายุ 47 ปี นายปรีชา หรือตั้ม ศักดิ์อุดมไพศาล อายุ 28 ปี นายประมุข หรือเบิร์ด จันท์เสนานนท์ อายุ 34 ปี ส่วนนายทักษิณ สุขเอียด และนายพรเทพ หรือเพชร พุ่มพวง อายุ 23 ปี (อายัดตัวรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ) และผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนีอยู่ประกอบด้วยนายบำเพ็ญ หรือม๊อก พุ่มพวง อายุ 44 ปี นายเกษม หรือนก รุณไพรัชน์ อายุ 38 ปี นายหนุ่ย กระต่ายทอง อายุ 32 ปี นายขวัญ หรือโจ้ ทองดี อายุ 36 ปี นายวิธิรงค์ แซ่เฮง.
ตำรวจพญาไท เร่งสอบสวนคดียิงถล่มกันย่านประตูน้ำ ขณะที่ ออกหมายจับแล้ว 14 ราย ยังเหลือหลบหนีอีก 5 คน ขณะที่รอผลชันสูตรว่า นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เสียชีวิตจากกระสุนของปืนกระบอกใด
ข่าว,อาชญากรรม
ยิงถล่มคู่อริ,ย่านประตูน้ำ,สน.พญาไท,นักท่องเที่ยวอินเดียวถูกยิง,ยิงถล่มกลางกรุง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1395061
ช้างแสนรู้ สวนนงนุช พัทยา ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กับนักท่องเที่ยว
วันที่ 13 เม.ย. 59 เมื่อเวลา 12.00 น. ที่สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้จัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ ดอกไม้บานที่สวนนุชพัทยา ประจำปี 2559 โดยในพิธีการได้รับเกียรติจาก นางพัทธนันท์ ขันติสุขพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป สวนนงนุชพัทยา นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา น.ส.สุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานพัทยา ร่วมเปิดงานอย่างเป็นทางการ,สำหรับเทศกาลดอกไม้บานที่สวนนงนุชพัทยา จัดขึ้นเป็นกิจกรรมประจำปีเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันปีใหม่ของคนไทยให้สืบสอดไปยังลูกหลาน โดยเปิดพื้นที่จัดกิจกรรมการแสดงดนตรีและอื่นๆ เพื่อให้ครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกันในวันหยุดสงกรานต์ ซึ่งปีนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนนำบุตรหลานและญาติพี่น้องเข้าร่วมที่สวนนงนุชพัทยากันเป็นจำนวนมากด้วย,ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นพิธีการกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการแล้ว เป็นการเปิดป้ายงาน เทศกาลดอกไม้บานที่สวนนงนุชพัทยา ก่อนคณะประธานจะร่วมกันสรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเป็นไฮไลต์ของกิจกรรม โดยสวนนงนุชพัทยาได้นำช้างแสนรู้จำนวน 9 เชือก มาร่วมสรงน้ำพระ ก่อนเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่ร่วมงานได้ร่วมสนุกเล่นน้ำสงกรานต์กับช้างคลายร้อน สร้างบรรยากาศที่สนุกสนานรับวันสงกรานต์ประจำปีนี้เป็นอย่างมาก
ช้างแสนรู้ ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กับนักท่องเที่ยวคลายร้อน ที่สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้จัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ ดอกไม้บาน
null
สงกรานต์,สงกรานต์ 2559,วันสงกรานต์,เทศกาลสงกรานต์,สงกรานต์ 59,งานสงกรานต์ 59,นางสงกรานต์ 59,ช้างแสนรู้,สวนนงนุช,พัทยา,ชลบุรี,นักท่องเที่ยว,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/605496
รวบแก๊ง หนูหลับ แกล้งทำเป็นพลเมืองดี ลักทรัพย์คนนอนในรถ
รับก่อคดีมานานกว่า10ปี,กองปราบฯสนธิกำลังตำรวจนครบาล รวบ แก๊งหนูหลับ ทำทีเป็นพลเมืองดีเคาะกระจกขณะเจ้าของรถจอดนอนริมถนนเตือนให้ระวังมิจฉาชีพหากเหยื่อไม่ตื่นจะฉวยโอกาสฉกทรัพย์สิน ยึดของกลางได้อื้อ รับก่อเหตุคืนละ 2 ครั้ง ทำมาแล้วกว่า 10 ปี เน้นถนนสายหลัก เผยหัวหน้าแก๊งแสบมีหมายจับติดตัวลักทรัพย์รวม 5 หมาย แถมแผลงฤทธิ์ขับรถแหกวงล้อมต้องใช้ปืนยิงยางรถยนต์ล็อกตัวไว้ได้,ตำรวจรวบแก๊งคนร้ายตระเวนลักทรัพย์เหยื่อที่จอดรถนอนริมถนน เผยขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 13 มิ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.อ.พัฒนะ บูรณะกลัศ ผกก.2 บก.ทล.พร้อมด้วยตำรวจ สน.อุดมสุข และ สน.มักกะสัน แถลงจับกุม แก๊งหนูหลับ ประกอบด้วย 1. นายพัฒนา อินทกาน์ อายุ 49 ปี หัวหน้าแก๊ง 2.นายสมชาติ พรหมเมฆ อายุ 51 ปี ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ หรือรับของโจร 3.น.ส.อุมาพร จอมเกาะ อายุ 35 ปี 4.นายวิรัตน์ โพธิ์อินทร์ อายุ 49 ปี 5.นายสิทธา ฮะเฮ็ง อายุ 33 ปี ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เวลากลางคืนโดยทำลายสิ่งกีดกั้นเพื่อคุ้มครองทรัพย์ และ 6.นายอุทัย แซ่อึ๊ง อายุ 29 ปี ข้อหาครอบครองยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 41 เครื่อง ไอแพด 9 เครื่อง นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน แหวนเงิน 2 วง พระเครื่องประมาณ 30 องค์ สร้อยคอทองคำและข้อมือทองคำ กระเป๋าสะพายเครื่องมือที่ใช้งัดแงะ อาทิ ท่อนเหล็ก คีม ไขควง ประแจ ไฟฉาย ไม้ไผ่ ฯลฯ,พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดได้ร่วมกันตระเวนลักทรัพย์จากผู้เสียหายที่ขับรถยนต์จอดนอนพักผ่อนตามริมถนนเส้นทางสายต่างๆ ในช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงเช้ามืดของทุกวัน โดยผู้ต้องหาจะขับรถยนต์ส่วนตัว หรือเช่ารถแท็กซี่ แสร้งทำทีขับเข้าไปจอดใกล้ๆ หากพบว่าเจ้าของรถหลับสนิท จะลงมือก่อเหตุทันทีโดยแบ่งหน้าที่กันทำทั้งคอยดูต้นทางใช้อุปกรณ์งัดรถรื้อค้นหาของมีค่า เมื่อได้ทรัพย์สินมาจะนำไปขายตามแหล่งรับซื้อที่ตลาดสินค้ามือสองย่าน จ.ปทุมธานี ในราคาถูกกว่าท้องตลาดก่อนนำเงินมาแบ่งกัน ที่ผ่านมามีผู้เสียหายถูกลงมือก่อเหตุในหลายเส้นทาง ได้แก่ ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนรัชดาภิเษก ถนนพระราม 9 ถนนมอเตอร์เวย์ และถนนกาญจนาภิเษก เป็นต้น,ต่อมาชุดสืบสวน กก.1 และ กก.ปพ.บก.ป.ได้รับแจ้งจึงวางแผนร่วมกับตำรวจนครบาล สืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหาโดยพบว่าก่อเหตุกันมานาน เมื่อได้พยานหลักฐานต่างๆ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหากระทั่งชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้ออกตระเวนก่อเหตุอีกครั้งที่บริเวณถนนเชื่อมต่อระหว่าง อ.ศรีมหาโพธิ กับ อ.เมืองปราจีนบุรี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ในบ้านพักใน อ.ศรีมหาโพธิ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป.พร้อมกำลังจึงวางแผนติดตามเข้าจับกุมที่บ้านพัก แต่ทันทีที่นายพัฒนาพบเห็นเจ้าหน้าที่ได้ขับรถแหกวงล้อมชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงใช้ปืนยิงสกัดที่ยางรถยนต์ ก่อนเข้าชาร์จจับกุมไว้ได้ ส่วนผู้ต้องหารายอื่น พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1.บก.ป.ร่วมกับตำรวจ สน.อุดมสุข และ สน.มักกะสัน ติดตามจับกุมและยึดของกลางไว้ได้,สอบสวนนายพัฒนาให้การว่า จะเลือกเหยื่อที่เดินทางมาคนเดียว ขับรถมาจอดริมถนน หรือจุดพักรถต่างๆ แล้วปรับเบาะนอนหลับ จะทำทีเข้าไปเคาะกระจกเรียก หากผู้เสียหายตื่นจะแสร้งเป็นพล– เมืองดีเตือนให้ระมัดระวังคนร้าย หรือถามว่าต้องการให้ช่วยเหลืออะไรหรือไม่ แต่ถ้าเหยื่อหลับสนิท จะให้เพื่อนร่วมแก๊งลงมือก่อเหตุทันที ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที หากเหยื่อเปิดกระจกไว้เล็กน้อยจะสอดไม้เข้าไปงัดหน้าต่างรถ หนึ่งคืนจะก่อเหตุ 2 ราย ทำมาแล้วนับสิบปี และไม่เคยทำร้ายเหยื่อ ทั้งนี้อยากฝากถึงเจ้าของรถว่าหากง่วงนอน หรือขับรถเดินทางต่อไปไม่ไหว แนะนำให้ไปจอดรถนอนในปั๊มน้ำมันจะปลอดภัยกว่ามีรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่านายพัฒนามีหมายจับติดตัวอีก 4 หมายจับ ล้วนแต่เป็นคดีลักทรัพย์ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 3 ราย ที่อยู่ระหว่างหลบหนี เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป,มีรายงานว่า กลุ่มคนร้ายแก๊งนี้ได้ออกตระเวนลักทรัพย์ตามรถยนต์ที่เจ้าของรถจอดนอนหลับตามริมถนนมานานจนสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ตำรวจจึงตั้งฉายาให้ว่าเป็น แก๊งหนูหลับ โดยหนูมีความหมายแทนตัวผู้เสียหาย
กองปราบฯสนธิกำลังตำรวจนครบาล รวบ แก๊งหนูหลับ ทำทีเป็นพลเมืองดีเคาะกระจกขณะเจ้าของรถจอดนอนริมถนนเตือนให้ระวังมิจฉาชีพหากเหยื่อไม่ตื่นจะฉวยโอกาสฉกทรัพย์สิน ยึดของกลางได้อื้อ รับก่อเหตุคืนละ 2 ครั้ง ทำมาแล้วกว่า 10 ปี
null
ข่าวหน้า1,แก๊งหนูหลับ,ลักทรัพย์,สน.อุดมสุข,สน.มักกะสัน,พัฒนา อินทกาน์,สมชาติ พรหมเมฆ,ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน,อุมาพร จอมเกาะ,วิรัตน์ โพธิ์อินทร์,สิทธา ฮะเฮ็ง,อุทัย แซ่อึ๊ง,ตระเวนลักทรัพย์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/638359
สปสช.ก็เพิ่งรู้ จะถูกตัดงบบัตรทอง 2400 ล้าน อนุทิน บอกไม่ยอมแน่นอน (คลิป)
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ เปิดเผยผ่านรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ ไทยรัฐทีวีช่อง 32 ว่า วันนี้ตนได้เข้ายื่นหนังสือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข รวมถึงเป็นประธานกรรมการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ที่เรียกกันว่า บัตรทอง ซึ่งท่านอนุทินก็ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการตัดงบประมาณ 2400 ล้านบาทในกองทุนออกไปอย่างไรก็ตาม จากการคุยกันทางท่านอนุทิน และพลเอกประยุทธ์ ยืนยันว่าจะไม่มีการตัดงบประมาณจากกองทุนบัตรทองเด็ดขาด ในส่วนตัวมองว่าหากมีการตบงบประมาณไปจะกระทบกับ การเหมาจ่ายรายหัว3600 บาท ซึ่งหากถูกตัดไปโรงพยาบาลก็จะได้เงินน้อย และกระทบการให้บริการประชาชนแน่นอนส่วนที่ว่า เงิน 2400 ล้านบาทจะต้องไปจ่ายเงินเดือนให้ข้าราชการที่จะบรรจุใหม่นั้น ก็ให้พิจารณาจ่ายตามรูปแบบ หรือวิธีของข้าราชการตามปกติ โดยไม่ควรแตะงบส่วนของบัตรทองงบ 2400 ล้านบาทของบัตรทองที่ถูกตัดออกไป ตอนนี้ไม่ทราบว่า ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายที่ตัดงบส่วนนี้ออกไป ยังไม่มีคำตอบ โดยการหารือกันได้ข้อสรุป คน 3 กลุ่มที่จะต้องไม่ได้รับผลกระทบ รวมถึงสิทธิ์ที่ควรจะได้ คือ 1. กลุ่มคนสังกัดบัตรทอง 2. กลุ่มข้าราชการบรรจุใหม่ 3. กลุ่มรพ.ที่ทำหน้าที่ให้บริการทางการแพทย์ด้านทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช. เปิดเผยว่า ทั้งคณะกรรมการ สปสช. และสำนักงานสปสช.เองไม่ได้เป็นคนเสนอให้ตัดงบ 2400 ล้านบาท และไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนเราก็ยังยืนยันว่า อย่าตัดงบประมาณออกไปเลย และขอให้คงไว้เหมือนเดิม เพราะไม่อย่างนั้นจะกระทบการบริการของประชาชน
สปสช.ก็เพิ่งรู้จะว่าถูกตัดงบบัตรทอง 2400 ล้าน อนุทิน บอกไม่ยอมให้มีการตัดงบแน่นอน ขณะที่โฆษกสปสช.เผย ทางนี้ก็ไม่รู้มาก่อนเช่นกัน วอนอย่าตัดงบหวั่นกระทบการให้บริการประชาชน
ข่าว,สังคม
งบบัตรทอง,สปสช.,งบบัตรทองไม่ได้ถูกตัด,อนุทิน ชาญวีรกูล,ถามตรงๆ กับจอมขวัญ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1829589
MOU การจ้างแรงงานข้ามชาติ เหตุใดไม่ประสบความสำเร็จ ?
บันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน (Memorandum of Understanding on Employment Corporation) ระหว่างประเทศไทยกับเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว กัมพูชา และ พม่า เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2545-2546 เพื่อแก้ไขปัญหาการจัดการแรงงานข้ามชาติของไทยที่เรื้อรังมานาน คือการมีแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย และทำงานผิดกฎหมายอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก MOU มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระบบการนำเข้าแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้นายจ้างขออนุญาตนำเข้าแรงงานตามความจำเป็น เมื่อได้รับอนุญาตก็ติดต่อให้บริษัทจัดหางานในประเทศต้นทาง จัดหาแรงงานและดำเนินการทางเอกสารให้ครบถ้วน กระทั่งนำพาแรงงานมาทำงานในสถานประกอบการที่ปลายทาง ในข้อตกลงนี้มุ่งหวังจะสร้างความร่วมมือในการคุ้มครองสิทธิแรงงาน การส่งกลับเมื่อครบสัญญาจ้าง และการป้องกันปราบปรามการข้ามแดน การค้าแรงงาน และการจ้างแรงงานโดยผิดกฎหมาย ด้วยทว่าถึงปัจจุบันนี้การดำเนินการตาม MOU ประสบความสำเร็จน้อยมาก ดังเห็นได้จากจำนวนนำเข้าแรงงานที่ทำได้ไม่ถึงร้อยละ 10 จากยอดที่นายจ้างแจ้งความประสงค์ การพิสูจน์สัญชาติเพื่อปรับเปลี่ยนสถานะแรงงานผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมายทำได้ล่าช้า การคุ้มครองสิทธิและอื่นๆก็ยังติดขัดไม่เกิดผล สิ่งสำคัญที่ฟ้องถึงสถานการณ์ปัญหาที่ยังไม่ดีขึ้นก็คือ การที่รัฐบาลยังต้องใช้นโยบายผ่อนผันให้แรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมายมาขึ้นทะเบียนทำงานชั่วคราว ปีแล้วปีเล่า ซึ่งเท่ากับยอมรับว่า การจัดระบบแรงงานให้เข้าสู่การควบคุมตามกฎหมายยังไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ที่ผ่านมา มีการศึกษาจำนวนหนึ่ง มุ่งเข้าใจปัญหาอุปสรรคของการดำเนินการตาม MOU ที่พบว่า สาเหตุเกิดจากกฎระเบียบการจ้างงานตาม MOU มีความยุ่งยากและหลายขั้นตอน ทำให้การจ้างงานใช้เวลายาวนาน และค่าใช้จ่ายสูงเกินไป ประกอบกับเหตุผลอื่นๆเช่น การขาดประสบการณ์ของบริษัทจัดหางานในประเทศเพื่อนบ้าน ความไม่พร้อมของหน่วยงานราชการในการสนับสนุน การไม่รู้ไม่เข้าใจกฎระเบียบของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งบริษัทจัดหางาน นายจ้าง คนงาน และเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยต่างๆผู้เขียนเห็นว่า หากมีการศึกษาปัญหาอุปสรรคของการดำเนินการตาม MOU ด้วยแนวคิดและวิธีการแตกต่างออกไป จะช่วยให้เราเข้าใจเรื่องนี้ในมิติอื่นๆมากขึ้น ในการวิจัยที่กำลังดำเนินการอยู่ ผู้เขียนได้สร้างกรอบคิดที่เรียกว่า โดยสรุปก็คือ การมองความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่าง รัฐ ทุน และแรงงาน(ข้ามชาติ) ในบริบทของระบบทุนนิยมโลกาภิวัตน์ ในการวิจัยผู้เขียนวิเคราะห์ความสัมพันธ์ในระดับจุลภาค ผ่านการพิจารณาว่า MOU ก็คือแนวทางการกำกับควบคุม (regulation) ของรัฐภายใต้ระเบียบทางเศรษฐกิจของโลกปัจจุบัน ผู้เขียนได้ให้ความสำคัญกับมิติทางสังคมวัฒนธรรม ตามแนวทางสังคมวิทยา และได้เลือกที่จะไปศึกษาที่ประเทศต้นทาง คือในประเทศลาว พิจารณาความสัมพันธ์ในการจ้างงาน โดยศึกษาวิเคราะห์ชาวบ้าน บริษัทจัดหางาน เจ้าหน้าที่รัฐ เชื่อมโยงมาถึง เจ้าหน้าที่รัฐ นายหน้า นายจ้าง และแรงงานลาวในโรงงานในประเทศไทยในที่นี้ขอนำเสนอส่วนหนึ่งของข้อค้นพบจากการวิจัย เพื่อให้ข้อมูลและข้อเสนอสำหรับกระตุ้นให้มีการถกเถียงกันต่อไปประการแรก ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ สังคมวัฒนธรรม และเศรษฐกิจการเมืองของรัฐ มีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของการดำเนินการตาม MOU สำหรับประเทศลาว ในขณะที่ MOU เรียกร้องให้รัฐทำหน้าที่บริการ (Service State) ให้การเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามประเทศเป็นไปโดยสะดวก แต่ลาวเป็นประเทศสังคมนิยม ที่การควบคุมโดยรัฐยังเป็นลักษณะสำคัญ (Control State) สถาบันและกลไกรัฐยังขาดประสิทธิภาพและปรับตัวได้จำกัดในการให้บริการประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐส่วนหนึ่งยังเคยชินกับวัฒนธรรมควบคุม ทำให้การอำนวยความสะดวกให้กับการจ้างงานเป็นไปอย่างยากลำบาก เช่น การขออนุญาตจัดตั้งบริษัทจัดหางานในลาวเป็นไปอย่างไม่เปิดกว้าง และไม่ค่อยมีการแข่งขัน การขอมีบัตรประชาชน (ประชาชนลาวส่วนใหญ่ไม่มีบัตรประชาชน) การขอหนังสือเดินทางต่างประเทศ หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง ใช้เวลานานและใช้ค่าใช้จ่ายสูงสำหรับในประเทศไทย จากประวัติศาสตร์ ก็มีข้อจำกัดในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ ที่ด้านหนึ่งก็ขึ้นกับปัจจัยภายนอกจากทุนนิยมโลก อีกด้านหนึ่งก็ขึ้นกับปัญหาการเมืองภายใน การกำหนดนโยบายจึงไม่ค่อยเป็นตามเหตุผลทางเศรษฐกิจ มรดกของความผิดปกติของโครงสร้างเศรษฐกิจไทยคือ การที่อุตสาหกรรมไทยจำนวนมากยังเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่ำ ใช้แรงงานเข้มข้น และพึ่งพาแรงงานระดับล่างอย่างมาก จนก่อให้เกิดกลุ่มกดดันที่ส่งผลให้แรงงานข้ามชาติเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกประการต่อมา ผู้เกี่ยวข้องมีความหลากหลาย และต่างใช้กลยุทธ์หาผลประโยชน์ มากกว่าจะยึดถือกติกา กล่าวคือ ในขณะที่รัฐร่วมกันกำหนด MOU โดยคาดหวังให้เป็นกรอบกติกาที่ดีที่จะบังคับให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตาม แต่การวิจัยพบว่า กติกานี้เสมือนการวางกฎลงไปบนสนามที่มีผู้เล่นหลายหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มต่างก็เชื่อในกติกาของตน และก็พร้อมที่จะเอาตามกติกาของรัฐในเมื่อคาดว่าตนจะได้ประโยชน์เท่านั้นดังเช่น แรงงานลาว มีคนประสงค์จะมาทำงานอย่างถูกกฎหมายตาม MOU จำนวนหนึ่ง แต่มีอีกมากเลือกมาทำงานแบบผิดกฎหมาย บางกลุ่มเห็นดีกับการทำงานตาม MOU บางกลุ่มจะไม่เลือกวิธีนี้อีก แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละคน บริษัทจัดหางานในลาว มีวิธีการทำงานต่างกัน ผันแปรไปตามเครือข่ายความสัมพันธ์ที่มีกับเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานรัฐในบางแขวงได้ผันตัวเองมาทำหน้าที่ผู้ส่งออกแรงงาน บางแขวงไม่สนับสนุนการส่งออกแรงงานนายจ้างไทยมีหลายประเภท นายจ้างจำนวนหนึ่งพร้อมจะปฏิบัติตาม MOU และการจ้างงานตาม MOU ให้ประโยชน์แกพวกเขา ในบางโอกาสนายจ้างใช้วิธีการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งมีกลวิธีหลายแบบ และยังมีกลวิธีในการเปลี่ยนแรงงานผิดกฎหมาย ให้เป็นแรงงานกึ่งถูกกฎหมาย หรือถูกกฎหมาย ในต้นทุนที่ต่ำกว่า ภายใต้นโยบายการจัดการแรงงานของรัฐที่ไม่แน่นอน ความต้องการแรงงานข้ามชาติของไทยยังดึงดูดให้เกิดนายหน้านำเข้าแรงงานตาม MOU มีทั้งที่ดำเนินการอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ นายหน้านำเข้าจำนวนหนึ่งข้ามไปทำธุรกิจร่วมกับบริษัทจัดหางานและหน่วยงานรัฐในลาว บางกรณีหมิ่นเหม่ต่อการหลอกลวง สำหรับหน่วยงานรัฐ ก็มีทัศนะต่างกัน เช่น ระหว่างฝ่ายการเมืองกับข้าราชการประจำ หรือเจ้าหน้าที่ต่างกรม/กระทรวง เจ้าหน้าที่บางส่วนกลายเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการผิดกฎหมายผลประโยชน์มหาศาลเสียเองที่กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นว่า อุปสรรคการดำเนินการตาม MOU ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ตัวความยุ่งยากของกฎระเบียบหรือความไม่พร้อมของผู้เกี่ยวข้อง แต่มีปัญหาใหญ่กว่านั้นอีกมากอยู่เบื้องหลัง ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับข้อจำกัดของบริบททางสังคม และความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นการทำข้อตกลงระหว่างประเทศ แม้จะมีเจตนาดี แต่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจให้มาก โดยแนวคิดที่เท่าทันกับปัญหาด้วยสุดท้ายนี้ เราอาจมองไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งเป็นความร่วมมือระดับภูมิภาคที่ซับซ้อน และมีสมาชิกที่ภูมิหลังแตกต่างกันอย่างมาก กรณีตัวอย่างข้อตกลงเรื่องแรงงานนี้ คงช่วยให้บทเรียนว่า ความร่วมมืออาเซียนอาจไม่ราบรื่นอย่างที่หวังไว้ แต่คงมีปัญหาท้าทายอีกมากที่รอเราอยู่.
บันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน (Memorandum of Understanding on Employment Corporation) ระหว่างประเทศไทยกับเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว กัมพูชา และ พม่า เกิดขึ้นในปี พ.ศ.
การเมือง,ต่างประเทศ,แรงงาน
MOU,สิทธิแรงงาน,อาเซียน,เศรษฐศาสตร์การเมือง,แรงงานข้ามชาติ
https://prachatai.com/journal/2012/07/41778
เพศทางเลือกในญี่ปุ่น
อ้างว่ารัฐบาลกำลังละเมิดสิทธิของพลเมืองที่ไม่ยอมให้พวกเขาแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย,เช่นเดียวกับ มร.ทาคาชูอิโตะ ยูซูอิ เกษตรกรวัย 45 ปี ซึ่งอยู่กับคนรักและลูกเลี้ยง ที่ จ.โอกายามา ภาคตะวันตกของประเทศ ที่ออกมาเผยต่อสังคมว่าตัวเองเป็น บุคคลข้ามเพศ เมื่อ 5 ปีก่อน ก็ต่อสู้คดีในชั้นศาลมานาน 3 ปีแล้วแพ้ เพราะ ก.ม.ญี่ปุ่นระบุ บุคคลที่ต้องการจะเปลี่ยนเพศใหม่ในเอกสารราชการต้องทำหมันและแปลงเพศ เพื่อให้มีองค์ประกอบของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ตามเพศใหม่ที่ระบุ,แม้ว่าศาลสูงไม่รับคำร้องของ มร.ยูซูอิที่ว่า การกำหนดให้ระบุสถานภาพทางเพศขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะเขาไม่ต้องการผ่าตัด จึงขอให้ศาลรับรองเพศใหม่ของเขา แต่ศาลก็เห็นว่ากระทบต่อเสรีภาพกับ คนข้ามเพศ,คือ ภายใต้กฎหมายพิเศษ 2003 ว่าด้วยสถานภาพทางเพศของตัวบุคคลกับสภาพทางเพศที่ผิดปกติ บุคคลข้ามเพศจะต้องถูกวินิจฉัยก่อนว่าประสบความยุ่งยากอันสัมพันธ์ขัดแย้งกันระหว่างอัตลักษณ์ตัวตนกับเพศที่ระบุไว้,นายยูโกะ ฮิกาชิ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพศและสุขภาพทางเพศ ประจำมหาวิทยาลัยจังหวัดโอซากา เสริมว่า การหาคลินิกสักแห่งที่จะวินิจฉัยตามข้อกฎหมายกับภาวะที่ผิดปกติทางเพศไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะนอกกรุงโตเกียว กระบวนการขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบุเพศในญี่ปุ่นใช้เวลานาน ราคาแพงและมีการก้าวก่ายชีวิตส่วนตัว เป็นเรื่องที่ผิดสำหรับรัฐบาลที่จะบอกว่าคุณต้องทำอย่างไรกับร่างกายของคุณ นี่เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน สิทธิทางเพศ สุขภาพด้านภาวะสืบพันธุ์ ซึ่งมันขัดแย้งไปทุกอย่าง,ด้าน สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ก็ประณาม ก.ม.ญี่ปุ่นว่า การกำหนดให้ผู้อื่นไปทำหมันเพื่อเปลี่ยนสภาพเพศได้อย่างถูกต้องนั้นเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และในหลายๆประเทศก็ยอมรับเพศสภาพบนพื้นฐานการระบุด้วยตัวเองมากกว่าผ่านใบรับรองแพทย์มากขึ้น ต่างกับ ก.ม.ญี่ปุ่นต้องให้วินิจฉัยว่า จิตไม่ปกติเพราะเป็นคนข้ามเพศ ซึ่ง องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เองก็ยกเลิกระบุว่าเป็นคนจิตป่วยไปแล้วเมื่อปีกลาย โดยให้ไปอยู่ในหมวดหมู่เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศแทน,ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ
วิถีทางเพศในญี่ปุ่น ที่ไม่ใช่มีเพียง เพศหญิง หรือ เพศชาย แต่ต้องการให้เพิ่ม ข้ามเพศ เริ่มมีการเคลื่อนไหวถี่ขึ้น อย่างเมื่อเดือนกุมภาฯ มีคู่เกย์ 13 คู่ยื่นฟ้องศาลอย่างน้อยๆ 4 เมือง
null
เพศทางเลือกในญี่ปุ่น,เพศทางเลือก,ญี่ปุ่น,ข้ามเพศ,ขัดกฎหมาย,หน้าต่างโลก,ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1552760