title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
บิ๊กก๊อง เปิดตัวชิงนายกสมาคมฟุตบอลฯ
บิ๊กก๊อง นายวิรัช ชาญพานิชย์ อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการในการลงชิงชัยตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยเมื่อวานนี้ได้เดินทางไปยื่นใบสมัครเรียบร้อยแล้ว โดยให้เหตุผลว่าในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีการเสนอร่างข้อบังคับใหม่ที่ระบุให้ผู้ที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลต้องแจ้งความจำนงก่อน 60 วัน ซึ่งแม้ข้อบังคับนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีผลบังคับใช้เมื่อไร แต่ได้ยื่นความจำนงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาในภายหลังสำหรับนายวิรัชเคยลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยการเลือกตั้งครั้งแรกถูกยกเลิกก่อนกระบวนการเลือกตั้ง โดยนายวรวีร์ให้เหตุผลว่ามีเสียงของตัวแทนสโมสรซ้ำซ้อน ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีการจัดเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง และเป็นนายวรวีร์ที่เอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 123 เสียง ขณะที่นายวิรัชได้ไป 44 เสียง
บิ๊กก๊อง นายวิรัช ชาญพานิชย์ อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการในการลงชิงชัยตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
กีฬา
ชิง,นายกสมาคม,บิ๊กก๊อง,ฟุตบอล,วิรัช ชาญพานิชย์,เปิดตัว
https://news.thaipbs.or.th/content/159007
หลับในเรียกไม่ตื่น สายตรวจเห็นคาตา ขับเก๋งเสยพ่วง 18 ล้อ สาหัส
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 59 ขณะที่ ส.ต.ต.ณฐวีร ปาราชิตัง และ ส.ต.ต.กิตติพร ศรีหล้า ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทำหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ ออกตรวจพื้นที่บนถนนจรัญญานนท์ ใกล้ซอยสวัสดี มุ่งหน้าออกท่าสะอ้าน หมู่ 7 ต.บางวัว พบรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีฟ้า ทะเบียน 2กฎ 5503 กรุงเทพมหานคร ได้ขับส่ายไปมาจนเกือบตกข้างทาง,เมื่อเห็นดังนั้น สายตรวจทั้ง 2 นาย จึงพยายามขี่รถจักรยานยนต์ติดตามเพื่อเรียกให้จอด แต่พอขี่เข้าไปใกล้ รถเก๋งเกิดเสียหลักพุ่งชนท้ายตัวพ่วงรถ 18 ล้อ ทะเบียน 78-9150 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ข้างทาง จนรถพังเสียหาย และกระเด็นไปอยู่กลางถนน ตำรวจทั้งสองนายจึงรีบจอดรถขวางรถที่วิ่งตามมาทันที เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน จากนั้นรีบเข้าช่วยเหลือคนขับ ทราบต่อมาว่าชื่อ นายโสพร เจริญกิจจา อายุ 46 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ภายในรถ ก่อนที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลบางปะกงจะมารับตัวนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11,ต่อมา พ.ต.ต.บุญสฤษฎิ์ ช่วยชู สว. (สอบสวน) สภ.บางปะกง ได้ตรวจที่เกิดเหตุ ก่อนจะไปสอบสวน นายโสพร คนขับรถเก๋ง ให้การว่าขณะที่ขับรถมาได้เกิดอาการหลับใน โดยหลับๆ ตื่นๆ จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุก็วูบหลับไป และรถเสียหลักพุ่งชนท้ายตัวพ่วง 18 ล้อที่จอดอยู่ข้างทาง ตัวเองได้รับบาดเจ็บดังกล่าว,ด้าน ส.ต.ต.ณฐวีร เผยว่า หากรถเก๋งคันดังกล่าวจอดตั้งแต่ตอนที่ตำรวจไปเรียก ก็อาจจะไม่เกิดอุบัติเหตุ แต่ตอนที่เห็นนั้นคนขับน่าจะหลับไปแล้ว และน่าจะไปเหยียบคันเร่งด้วย รถเลยพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนชนเข้ากับท้ายพ่วง.
ตำรวจสายตรวจ สภ.บางปะกง ออกตรวจพื้นที่ เจอรถเก๋งทะเบียน กรุงเทพฯ วิ่งส่ายไปมา เพราะคนขับหลับใน พยายามจะเรียกให้จอดแต่ไม่ทัน วิ่งพุ่งชนท้ายพ่วง 18 ล้อที่จอดอยู่ไหล่ทางแบบต่อหน้าต่อตา บาดเจ็บสาหัส
null
หลับใน,คนขับหลับใน,หลับในชน 18 ล้อ,เรียกไม่ตื่น,โสพร เจริญกิจจา,สายตรวจ,สภ.บางปะกง,ฉะเชิงเทรา,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/588424
รัฐบาลเลิกแจกเงินเที่ยว ขอบคุณ ถ้าข่าวนี้เป็นจริง
อยู่ในหน้า 9 ครับ มีใจความว่า คลังล้มแจกเงินเที่ยวเมืองรอง จากนั้นก็รายงานให้ทราบว่า กระทรวงการคลังเปลี่ยนใจจะไม่แจกเงินหัวละ 1,500 บาท ให้แก่คนไทย 10 ล้านคน รวมกัน 15,000 ล้านบาท เพื่อเอาไปเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัดแล้ว,เหตุเพราะไปคุยกับสำนักงบประมาณแล้วเห็นว่าไม่สามารถใช้เงินงบประมาณจากงบกลาง และงบเงินสำรองจ่ายฉุกเฉินได้,ขณะเดียวกันจากการที่มีเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง หลังจากกระทรวงการคลังปล่อยข่าวนี้ออกมา ทำให้ท่านนายกรัฐมนตรีสั่งให้กระทรวงการคลังทบทวนมาตรการดังกล่าว โดยทางด้านท่องเที่ยวให้เหลือเพียงมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น,ทั้งนี้ ให้หันมาเพิ่มการแจกเงินคนจนแทน โดยให้เติมเงินเข้าในบัตรสวัสดิการ รวม 1.3 หมื่นล้านบาท เป็นค่าช่วยเหลือบุตร หรือซื้ออุปกรณ์การเรียนเพิ่มขึ้น ฯลฯ,แม้มติชนจะรายงานด้วยว่า ทั้งหมดข้างต้นนี้มาจาก แหล่งข่าว ไม่ใช่การแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ แต่ผมก็เชื่อในความสามารถของผู้สื่อข่าวว่าคงจะหาข่าวนี้มาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้,อ่านแล้วก็ต้องขอขอบคุณสำนักงบประมาณ ที่เป็นฝ่ายติงว่าเงินงบกลางกับสำรองฉุกเฉินเอามาใช้แจกเที่ยวไม่ได้นะ และต้องขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ สั่งให้มีการทบทวน,ผมเขียนไว้ตั้งแต่วันศุกร์แล้วว่า แม้แต่จะแจกให้แก่คนยากจน หรือเกษตรกรผมก็ยังไม่อยากให้แจกแต่ก็เอาเถอะถ้ายังจะแจกเพื่อหวังจะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่ท่านอ้างก็ยังพอจะแก้ตัวกับพี่น้องประชาชนคนเสียภาษีได้บ้าง,ว่าท่านเอาไปแจกคนจน คนมีรายได้น้อยเพื่อช่วยให้เขามีชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คนไทยส่วนใหญ่มีเมตตา มีกรุณา แม้จะโกรธแต่ถ้าเอาไปให้คนจน (จริงๆ) ก็พอรับได้,แต่ถ้าจะแจกให้เอาไปเที่ยวนี่ยอมรับไม่ได้เลย แถมเป็นการแจกแบบเหวี่ยงแหใครก็ได้ 10 ล้านคนแรกมาลงทะเบียนด่วนมาเอาเงินไปเที่ยวเลย แต่ต้องไปเที่ยวเมืองรองอื่นๆที่ไม่ใช่จังหวัดที่ท่านอยู่อาศัยนะ,นับว่าโชคดีที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นแก่เงิน ไม่เห็นแก่การแจกนอกจากไม่คิดจะมารับแจกแล้วยังแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างชัดแจ้ง,ลองไปอ่านความเห็นในโซเชียลต่างๆดูเถิด มีแต่ติติงรัฐบาล ติติงกระทรวงการคลัง--อาจจะมีเห็นด้วยสัก 1 หรือ 2 ราย แต่เกรี้ยวกราดเข้าใส่ถึง 8-9 ราย,แสดงว่าคนไทยยุคนี้มีความรู้ มีความคิด รู้ว่าอะไรถูก รู้ว่าอะไรชอบ,สำหรับคนที่เรียนเศรษฐศาสตร์มาบ้าง เพราะระยะหลังๆเขาก็มีสอนในระดับโรงเรียนมัธยม ก็คงจะรู้ว่าการใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาครัฐนั้นมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์,แต่รัฐบาลยุคก่อนๆจะใช้อย่างแนบเนียน กระตุ้นในสิ่งที่ควรกระตุ้น และระมัดระวังมากในเรื่องการแจกการแถมเพื่อไม่ให้มีผลกระทบทางจิตวิทยา อันจะบั่นทอนใจประชาชนที่ต้องเสียภาษีอากรให้แก่รัฐ,ยิ่งกระทรวงการคลังยิ่งจะต้องระวังมาก เพราะในทางหนึ่งก็มีกรมกองที่ถือคีมหรือแหนบในการถอนขนห่าน (เก็บภาษี) อยู่ด้วย ต้องใช้ความนุ่มนวลในการถอนขนห่านโดยไม่ให้ห่านร้อง,ทีนี้พอท่านถอนขนเขามาแล้วเอาขนมาใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย ต่อไปห่านก็จะร้องระงม จะทำให้ท่านถอนขนยากขึ้น,ผมถึงได้เสนอหลายครั้งหลายหนว่า ให้ไปกระตุ้นผ่านกระทรวงอื่น อย่างเรื่องแจกคนจนก็ไปผ่านกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เรื่องท่องเที่ยวถ้าจำเป็นก็แอบกระตุ้นผ่านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแบบเนียนๆ แล้วก็มีกรรมการพิเศษของรัฐบาลมาคอยแถลงข่าว,อย่าให้กระทรวงการคลังมาออกข่าวเองเด็ดขาด โดยเฉพาะ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ต่อไปควรจะสัมภาษณ์ให้น้อยที่สุดเกี่ยวกับเรื่องลดแลกแจกแถมทั้งหลาย,รักษาภาพและเกียรติยศของกระทรวงการคลังเอาไว้ให้เป็นที่ศรัทธาของประชาชนว่างั้นเถอะครับ เพื่อประชาชนเขาจะได้พร้อมใจและภูมิใจที่จะเสียภาษีให้แก่ท่านไปตราบนานเท่านาน.,ซูม
หนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันเสาร์ มีรายงานซุกอยู่ในข่าวเชิงเศรษฐกิจ เชิงการเมือง ที่ต่อมาจากหัวข่าวใหญ่อยู่ข่าวหนึ่งที่ผมอ่านแล้วต้องขออนุญาตนำมาขยายความเพิ่มเติมในวันนี้
null
แจกเงินเที่ยว เมืองรอง,ยกเลิกแจกเงินเที่ยว,กระทรวงการคลัง,มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ,สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง,เหะหะพาที,ซูม
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1555086
ช็อก เฟเดเรอร์ นำก่อน 2 เซตแพ้อันเดอร์สัน 4 ชม. ร่วง 8 คนวิมเบิลดัน
การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมที่ 3 ของปีรายการวิมเบิลดัน ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ วันที่ 11 ก.ค. เดินทางมาถึงรอบก่อนรองชนะเลิศประเภทชายเดี่ยว,แมตช์ไฮไลต์อยู่ที่คู่ของ โรเจอร์ เฟเดเรอร์ มือ 1 ของรายการและเป็นแชมป์เก่าชาวสวิตเซอร์แลนด์ พบกับ เควิน อันเดอร์สัน มือ 8 ของรายการจากแอฟริกาใต้,ผลปรากฎว่าสองเซตแรก เฟเดเรอร์ทำได้ดีกว่าเอาชนะไปก่อน 6-4 และ 7-6(5) แต่สามเซตที่เหลือ อันเดอร์สัน ฮึดกลับมาชนะเหลือเชื่อ 7-5, 6-4 และ 13-11 ทำให้ อันเดอร์สัน ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 17 นาทีเอาชนะ เฟเดเรอร์สุดมัน 3-2 เซต ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะระหว่าง มิลอส ราโอนิค จากแคนาดา หรือ จอห์น อิสเนอร์ จากสหรัฐฯต่อไป,ส่วนอีกคู่ที่น่าสนใจ โนวัค ยอโควิช อดีตมือ 1 ของโลกมือ 12 ของรายการชาวเซอร์เบีย พบกับ เคอิ นิชิโคริ มือ 24 ของรายการจากญี่ปุ่น ผลปรากฎว่า ยอโควิช ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 38 นาทีเอาชนะ นิชิโคริ 3-1 เซต 6-3, 3-6, 6-2 และ 6-2
โรเจอร์ เฟเดเรอร์ แชมป์เก่ามือ 1 ของรายการพลิกล็อกร่วงตกรอบ 8 คนสุดท้ายแกรนด์สแลมที่สามของปี หลังพ่ายมาราธอน 4 ชั่วโมงกับทาง เควิน อันเดอร์สัน หวดมือ 8 ของรายการจากแอฟริกาใต้ 2-3 เซต
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
โรเจอร์ เฟเดเรอร์,วิมเบิลดัน,เควิน อันเดอร์สัน,ผลเทนนิส
https://www.thairath.co.th/sport/others/1332593
ห่วง ลุงขายโจ๊ก สุขภาพไม่ดี หายตัวอีกรอบ คาดเครียดคนมาตามเยอะ
จากกรณี ดราม่าลุงขายโจ๊ก ภายในซอยหมอเหล็ง พักอาศัยอยู่เพิงเล็กๆ เพียงลำพัง กระทั่งมีการเปิดบัญชีรับบริจาคเงินให้ลุง ก่อนที่จะมีชาวเน็ตออกมาจับโป๊ะ ว่าแท้จริงแล้ว ลุงลำบากจริงหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ,อ่านข่าว,- เ,จอแล้ว ลุงขายโจ๊ก หลังหายตัวลึกลับ เล่าเหตุผลหายหน้า ขึ้นเก๋งใคร เงินทะลุล้าน,- ,สรุปดราม่ารันทด ลุงขายโจ๊ก ถูกจับโป๊ะ ขึ้นเก๋งดำ ล่าสุดหายเงียบ หวั่นโอละพ่อ,- ,แห่อุดหนุน คุณตาขายโจ๊ก อยู่ตัวคนเดียว อาศัยในห้องเช่าถูกไฟไหม้,นายสุนีย์ ห่อหุ้ม เพื่อนบ้าน ที่ให้การช่วยเหลือ นายปกครอง ไทยสมาน หรือ ลุงเคน ตั้งแต่มาอยู่เพิงพักแห่งนี้ โดยการพ่วงน้ำ พ่วงไฟ ให้ลุงไปใช้แบบฟรีๆ บอกว่า จริงๆ แล้วลุงเคน เป็นคนขี้เกรงใจมาก ไม่ค่อยขอความช่วยเหลืออะไรใครเท่าไร อยู่แบบนี้มานานหลายปีแล้ว ชีวิตเริ่มเปลี่ยนไป หลังมีข่าวการบริจาคเงินเข้ามา ปกติลุงจะออกบ้านตั้งแต่เช้ามืด ขึ้นรถเมล์โดยสาร ไปซื้อหมูที่คลองเตย มาทำโจ๊กขาย และจะกลับเข้ามาอีกทีประมาณบ่าย 2 ถึงบ่ายสามของทุกวัน,แต่หลังจากเกิดเรื่อง มีคนมาตามเยอะ ตอนนี้เพื่อนบ้าน ไม่มีใครรู้เลยว่า แกออกจากที่พักไปตั้งแต่ตอนกี่โมง ไปทำอะไรที่ไหน และกลับมาตอนไหน สิ่งที่เป็นกังวลมากที่สุด ก็คือ สุขภาพไม่ค่อยดี ตาก็มองไม่เห็น เดินก็ไม่ค่อยไหว จึงเป็นห่วงว่า แกจะไปอยู่ที่ไหน จะได้รับอันตรายหรือไม่ หากรอบนี้กลับมา ก็อยากให้ลุงชี้แจงให้ทุกคนจบข้อสงสัย พร้อมกันทีเดียว จะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติอีกครั้ง,ด้าน นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ รักษาการผู้อำนวยการเขตราชเทวี เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่มีข่าวว่าลุงหายตัวไป ต่อมาลุงได้เดินทางกลับมายังที่พัก ในเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ของวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่งลุงบอกว่า เดินทางไปตรวจรักษาตาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า,ล่าสุดวานนี้ (6 ส.ค.) สำนักงานเขต ก็ลงไปติดตามเพื่อจะช่วยเหลือลุงสองรอบ ก็คือ ช่วงประมาณ 2 ทุ่ม และเที่ยงคืน ปรากฏว่าครั้งนี้ ลุงได้หายตัวจากที่พักไปอีกแล้ว ซึ่งสิ่งที่ห่วงตอนนี้ คือ ลุงอาจเกิดภาวะเครียด เนื่องจากมีคนมาตามเยอะ จนไม่ยอมกลับที่พัก และหากลุงกลับมา ทางสำนักงานเขตฯ จะรับเป็นสื่อกลางในการตั้งโต๊ะแถลงข่าว ชี้แจงในประเด็นต่างๆ ที่คนตั้งข้อสงสัย ,ขณะที่ ตัวเลขในบัญชีเงินบริจาค ไม่ทราบแน่ชัดว่ามียอดอยู่ที่เท่าไร.
เพื่อนบ้านห่วง ลุงขายโจ๊ก ที่ซอยหมอเหล็ง หายตัวอีกรอบ คาดเครียดคนมาตามเยอะ ด้าน สำนักงานเขตราชเทวี รับเป็นตัวกลาง ชี้แจงทุกข้อสงสัย หากลุงกลับมาที่พัก
ข่าว,สังคม
ลุงขายโจ๊ก,ซอยหมอเหล็ง,ตาขายโจ๊ก,เงินบริจาค,หายตัว,เพิงพัก,สุขภาพไม่ดี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1633005
รากนครา: ดอกผลของนโยบายรัฐรวมศูนย์
(ผู้อ่าน) มึนงง เหมือนเดินอยู่ในเงามืด นักเขียนควรที่จะช่วย จุดเทียนสักเล่มให้ (ผู้อ่าน) มี แสงสว่าง ให้พวกเขาคลายอึดอัดเมื่อปี พ.ศ. 2540 นวนิยายเรื่อง รากนครา เขียนโดย ปิยะพร ศักดิ์เกษม ปรากฏในนิตยสาร สกุลไทย เป็นตอนๆ และรวมพิมพ์เป็นล่มเป็นครั้งแรกในปลายปีเดียวกัน ต่อมา นวนิยายเรื่องนี้ก็ได้รับรางวัลชมเชยจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ในการประกวดหนังสือดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2541ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ในปีนี้ ได้มีรายการโฆษณาทางโทรทัศน์ช่อง 7 ว่า รากนครา จะเป็นละครโทรทัศน์ในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ล่าสุดเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่านวนิยายเรื่องนี้ติด 1 ใน 6 เล่มสุดท้ายของนวนิยายไทยที่ส่งเข้าชิงรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2542 และจะมีการประกาศผลรางวัลซีไรต์ในเดือนสิงหาคมนี้จากข่าวที่ปรากฏ ดูเหมือนว่าสังคมไทยในช่วงล่าสุดกำลังยกระดับการแสวงหาประโยชน์จากการทำวรรณกรรมให้เป็นแบบพาณิชย์ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการตระเตรียมแสวงหาผลประโยชน์ก้อนใหญ่จากวรรณกรรมชิ้นหนึ่งทั้งจากผลการประกวดรางวัลระดับภูมิภาค การขายหนังสือ การแปรวรรณกรรมเป็นละครโทรทัศน์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ฯลฯด้วยความสำเร็จและชื่อเสียงของนวนิยายดังกล่าว และความโด่งดังที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างมากมายเมื่อมีการประกาศผลรางวัลซีไรต์ในเร็วๆนี้ ก็เห็นว่าถึงเวลาที่จะพิจารณานิยายเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียทีรากนครา เป็นนวนิยายเกี่ยวกับความรัก การชิงรักหักสวาท และการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างผู้นำของรัฐต่างๆในอดีต โดยใช้ความรักและความเสียสละของเจ้าหญิงคนหนึ่งเป็นแกนกลางของเรื่องรื่นฤทัย สัจจพันธุ์ ได้วิจารณ์ไว้ในนิตยสาร สกุลไทย ฉบับวันที่ 28 เมษายน 2541 ว่า เป็นนวนิยายแนวจินตนิยายโรแมนติกทั่วไป เธอเห็นเว่านวนิยายเรื่องนี้เป็นจินตนิยายโรแมนติกที่โดดเด่นอย่างน้อยที่สุด 2 ข้อ คือ นำเอาเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่างๆ เมื่อราว 100 กว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างล้านนา พม่า และอังกฤษ มาผสมผสานกับตัวละครในจินตนาการของผู้เขียนได้อย่างแนบเนียนจนเหมือนกับว่า นวนิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆเมื่อ 100 กว่าปีก่อน นำเสนอการเสียสละชีวิตรันทดของตัวละครนำฝ่ายหญิงได้อย่างเห็นภาพ สามารถสร้างความสะเทือนอารมณ์ให้แก่ผู้อ่านอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ตายเป็นเจ้าหญิงที่งดงามยิ่ง เฉลียวฉลาด นิสัยดี และตลอดชีวิต มีแต่เสียสละเพื่อคนอื่นและเพื่อบ้านเมืองเจ้านางแม้นเมืองมีความรักและพร้อมที่จะเสียสละทุกสิ่งเพื่อบ้านเกิด ซึ่งเป็นทัศนะตรงข้ามของทัศนะของเจ้าชายผู้เป็นสามี ผสานเข้ากับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ คิดว่าสามีไม่รักเธอ และยังถูกบีบคั้นด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่เขม็งเกลียวระหว่างพี่ชายและสามีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน เนื่องจากทัศนะตรงกันข้ามกัน นางเอกจึงยอมสละชีวิตของตนเองด้วยการปลอมตัวเป็นสามี เพื่อให้พี่ชายประหาร และด้วยหวังว่าความตายของตนเองจะทำให้สถานการณ์ทุกๆด้านดีขึ้น และทำให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยผู้ประพันธ์สามารถชี้ให้เห็นชีวิตรันทดของเจ้าหญิง 2 คนที่ถูกผู้ปกครองกำหนดชะตาชีวิตให้ต้องแต่งงานกับชายคนใดคนหนึ่งเพื่อรับใช้เป้าหมายและนโยบายทางการเมืองในขณะนั้น โดยไม่คำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึกของเจ้าตัวแม้แต่น้อยแต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประพันธ์มิได้พูดไว้เลย ก็คือ นั่นเป็นสังคมศักดินา ที่ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิง หรือเจ้าชาย นางสนมหรือทหารชั้นล่าง บ่าวไพร่ในเมืองหรือรอบนอก ไพร่หญิงหรือไพร่ชาย ทาสหญิงหรือทาสชาย ทุกคนล้วนมีฐานะคล้ายกัน คือไม่มีใครมีสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลในระบบสังคมดังกล่าวเจ้าชายหรือเจ้าหญิง มเหสีหรือนางสนม ขุนนางฝ่ายต่างๆเหนือกว่าไพร่ทาสตรงที่พวกเขาไม่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรับใช้ระบบการผลิตและการปกครอง พวกเขาสามารถออกคำสั่งกับไพร่ทาสในบังคับของพวกเขาได้ และโอกาสที่พวกเขามีมากกว่าไพร่ทาสหลายเท่าก็คือ การต่อรองกับผู้ที่อยู่เหนือกว่า ซึ่งอาจจะได้หรือไม่ได้ตามความหนักเบาของแต่ละสถานการณ์ หรือการปั้นแต่งเรื่องราวให้ดูมีน้ำหนัก ซึ่งแน่นอน อาจจะใช้ได้ผลเพียงครั้งเดียวหรือไม่ได้ผลเลย ฯลฯนี่คือนวนิยายเกี่ยวกับพฤติกรรมและการตัดสินใจของชนชั้นสูง ที่พอจะมีทางเลือกหลายทางให้แก่ชีวิต ไม่ใช่ของไพร่ทาสที่ทางเลือกนั้นมืดมน นอกจากการลุกขึ้นสู้หรือหลบหนีเข้าป่าดง และนี่น่าจะเป็นสีสันของนวนิยายเรื่องนี้ว่าชนชั้นสูงจะตัดสินใจอย่างไรในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ถึงอย่างไร สังคมศักดินาก็คือสังคมศักดินา ที่เปี่ยมด้วยโซ่ตรวนทางชนชั้นที่ร้อยรัดมวลสมาชิก ตลอดจนปัจจัยแวดล้อมของรัฐและสถานการณ์ระหว่างประเทศในยามนั้น ซึ่งอาจเป็นสายโซ่ใหญ่ที่หลายครั้งหลายคนมองไม่เห็นหรือทำเป็นมองไม่เห็นปัญหาแรก แก่นสารของนวนิยายเรื่องเป็นคนละเรื่องกับเจตนาของผู้ประพันธ์ ในการรจนานวนิยายเรื่อง คุณปิยะพร ศักดิ์เกษมกล่าวไว้ในคำนำว่า ที่ผ่านมา สังคมคิดถึงและยกย่องแต่ผู้นำ นักรบและนักปราชญ์ แต่น้อยนักที่สังคมจะคิดถึงคนที่เสียสละเพื่อปกป้องรักษาบ้านเมือง ที่ผ่านมา สังคมแทบไม่เคยคิดถึงรากของต้นไม้ ที่ซุกตัวอยู่ในดิน ไม่เคยคิดถึงหัวอกของสตรีที่เป็นเสมือนหมากเบี้ย สุดแต่ว่าผู้นำของบ้านเมืองจะกำหนดให้เธอและคนมีชีวิตอย่างไรผู้ประพันธ์เห็นว่า คนที่เสียสละเหล่านั้นคือ ราก ของบ้านเมือง บ้านเมืองอยู่ได้เพราะ ราก เป็นเจตนาที่ต้องการเน้นลักษณะบทบาทของสตรี แต่ไม่ว่าผู้ประพันธ์จะแสดงเจตนาอีกกี่หน้าและกี่ครั้ง แก่นสารของนวนิยายเรื่องก็ไม่ใช่บทบาทการเสียสละของเจ้านางแม้นเมืองหรือเจ้านางมิ่งหล้า พวกเธอหาใช่ ราก ของนคราไม่ แต่เป็นดอกผลของนโยบายการรวมศูนย์อำนาจของรัฐสยามในห้วง 100 กว่าปีที่ผ่านมาต่างหากนวนิยายเรื่องนี้กล่าวถึง 3 ทัศนะของเมืองต่างๆในล้านนาซึ่งเป็นประเทศราชของสยามในยุคนั้น ทัศนะแรก เป็นของเจ้าน้อยศุขวงศ์ - พระเอกของเรื่องซึ่งถูกเจ้าพ่อนำไปฝากฝังกับขุนนางสยามที่รับคำสั่งให้ขึ้นมารับราชการในล้านนา (หน้า 15) ต่อเมื่อในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสสิงคโปร์ เจ้าศุขวงศ์จึงถูกส่งไปเรียนหนังสือที่นั่น จากนั้น จึงกลับมารับราชการในเมืองหลวงจนเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ในที่สุด ก็ได้รับคำสั่งให้กลับคืนสู่เมืองเล็กๆเมืองหนึ่งในล้านนาอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนและอยู่ไม่ไกลจากเชียงใหม่ (หน้า 17) อันเป็นศูนย์กลางของประเทศราชล้านนาเจ้าศุขวงศ์กลับขึ้นมาทำงานในฐานะตัวแทนลับของสยาม โดยมีภารกิจสำคัญ 2 ประการ คือปกป้องมิให้อังกฤษเข้ามาแย่งชิงล้านนาไปจากสยาม และปรับเปลี่ยนความคิดและวิธีดำเนินชีวิตแบบเดิมของคนในท้องถิ่นให้สอดคล้องกับระบบการปกครองแบบใหม่คือระบบการรวมศูนย์อำนาจภายใต้การนำของสยามรัฐ (หน้า 30-31)การยอมเสียสละส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่ การเปิดสังคมเพื่อคบค้า การต่อรองอย่างรอบคอบและชาญฉลาด หากส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือการรวมตัวรวมกำลังกันให้เป็นปึกแผ่น กำหนดตำแหน่งและอาณาเขตให้แน่นอน รวมทั้งวางระเบียบกฎเกณฑ์ในเรื่องการค้า การปกครองและความสัมพันธ์ให้ชัดเจน นี่คือพระราชดำริที่มีต่อการแก้ปัญหาที่กำลังรุมเร้าอยู่รอบราชอาณาจักร และชายหนุ่มรู้ดีว่า นี่คือทางรอดทางเดียวของสังคมที่ด้วยเช่นกัน…ความใฝ่ฝันถึงการเป็นอิสระอย่างบรรพบุรุษรุ่นก่อนๆ แอบฝัน ควรจะยุติได้แล้วในเวลาและสถานการณ์เช่นนี้การรวมดินแดนเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับการเข้าพึ่งพระบารมีและพระปรีชาญาณของพระมหากษัตริย์แห่งสยามเท่านั้นที่จะช่วยได้ (หน้า 13)…เท่าที่หลานรู้ทางบางกอกต้องการจัดระเบียบให้รัดกุมเป็นอันหนึ่งอันเดียว…ป้องกันมิให้พวกฝรั่งใช้เป็นข้ออ้างรุกรานเอาได้ เจ้าอาคงเข้าใจดีว่าพวกฝรั่งรุกบ้านรุกเมืองเรามากเหลือเกินอย่างเมืองม่านตอนนี้ก็ใกล้เข้าตาจนแล้ว หลานเห็นว่าการทำตามแนวพระราชดำริจะเป็นทางรอดทางเดียว. (หน้า 36) อยู่ตรงข้ามกับทัศนะแรก เจ้าหน่อเมือง – เจ้าราชบุตรแห่งเมืองเชียงเงิน พี่ชายของเจ้านางแม้นเมืองผู้เป็นนางเอก เชียงเงินเป็นเมืองในจินตนาการของผู้ประพันธ์ เป็นเมืองเล็กๆที่มีอาณาเขตด้านหนึ่งติดกับพม่า ผู้คนอยู่ครึ่งๆกลางๆดูเหมือนจะกระด้างกระเดื่องไม่เต็มใจเป็นประเทศราชของสยามแม้ว่าสยามจะไม่เคยก้าวก่ายยุ่งเกี่ยวด้วยมากมาย พวกเขาอยากเป็นอิสระมากกว่าอยู่ในอาณัติของใคร (หน้า 38) เจ้าหน่อเมือง ฝังใจเรื่องการเป็นอิสระ รักดินแดนและขนบธรรมเนียมของตัวเหลือเกิน (หน้า 36)ส่วน อยู่ตรงกลาง ด้านหนึ่ง ชื่นชมคนที่รักดินแดนและขนบธรรมเนียมของตนเอง อีกด้านหนึ่ง ก็ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น (หน้า 19 36)แก่นสารของ รากนครา ก็คือการยกย่องทัศนะแรก ชิงชังทัศนะที่สอง ผู้ประพันธ์พยายามทำให้ทัศนะแรกเป็นสิ่งเดียวกันกับความดีงามทั้งปวง ด้วยการสร้างภาพให้ศุขวงศ์ – ตัวแทนของทัศนะแรกเป็นชายหนุ่มที่มีทั้งรูปงาม นิสัยดี เฉลียวฉลาด รู้เท่าทันฝรั่ง แต่งกายดีและทันสมัย และทำให้ทัศนะที่สองเป็นสิ่งเดียวกันกับความไม่น่ารักน่านิยมของทัศนะที่สอง ด้วยการสร้างเจ้าหน่อเมือง (ตัวแทนทัศนะที่สองและยังเป็นคนท้องถิ่นที่ไม่เคยไปต่างประเทศผิดกับตัวแทนทัศนะที่หนึ่งที่เป็นคนท้องถิ่นเช่นกันแต่เคยไปเรียนต่อในต่างประเทศมาแล้ว) ให้เป็นคนหยาบกร้าน พูดจาไม่สุภาพ หัวดื้อ มุทะลุ เย่อหยิ่งทะนงตน ดูถูกผู้อื่น ไม่ยอมเรียนรู้จากผู้อื่นและสังคมอื่น ปิดหูปิดตาตัวเอง มีทัศนะด้านลบต่อคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมองเห็นแต่ด้านลบของพวกฝรั่ง (หน้า 21 39 65) ช่างเป็นการสร้างภาพตัวละครที่ผสมผสานเข้ากับคุณงามความดีได้อย่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้ทัศนะแรกที่ว่านี้ก็คือ ล้านนาจักต้องเป็นส่วนหนึ่งของสยาม อำนาจการปกครองท้องถิ่นของเมืองต่างๆจะต้องหมดสิ้นไป อำนาจการปกครองบังคับบัญชาจักต้องขึ้นต่อสยาม ผู้ประพันธ์ย้ำหลายครั้งมากว่า นั่นคือหนทางเดียวที่จะช่วยให้ล้านนารอดพ้นจากเงื้อมมือของมหาอำนาจจากตะวันตก (หน้า 31)100 กว่าปีที่แล้ว เจ้าศุขวงศ์ในนวนิยายถูกส่งไปอยู่กับฝ่ายสยาม ไปเรียนหนังสือที่สิงคโปร์อันเป็นดินแดนเมืองขึ้นของอังกฤษ และกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯจนสยามมั่นใจในจุดยืนจึงส่งตัวกลับมาทำงานบนแผ่นดินแม่ แต่รับใช้นโยบายของสยามแทน100 กว่าปีที่แล้ว เรื่องจริงคือ สยามเดินแผนล้ำลึกด้วยการขอหมั้นหมายเจ้าดารารัศมี - เด็กหญิงวัย 11 ขวบซึ่งเป็นธิดาองค์สุดท้องของเจ้าหลวงของเชียงใหม่ซึ่งเป็นประเทศราช จากนั้น ก็สั่งให้ลงไปถวายตัวเป็นสนมเมื่อเด็กหญิงมีอายุ 13 ชันษา ทั้งๆที่ไม่เคยพบหน้ากัน และว่าที่สามีก็มีมเหสีและสนมนับร้อยคนอยู่แล้ว และที่มีข่าวว่าอังกฤษโดยเฉพาะสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียสนใจปรารถนาจะได้เจ้าดารารัศมีวัย 13 ชันษาไปเป็นธิดาบุญธรรมเพื่อหวังพัฒนาสายสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับล้านนา สยามจึงจำเป็นต้องตัดหน้าขอเจ้าดารารัศมีไปเป็นสนม ก็ไม่มีหลักฐานใดๆเลยจากฝ่ายอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะอังกฤษเป็นชาติที่มีการบันทึกและเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ ถ้าหากมีข่าวว่าอังกฤษสนใจคิดจะเข้ายึดครองล้านนา หรือใช้การขอลูกสาวไปเป็นธิดาบุญธรรมเพื่อรุกคืบทางการเมืองและการทหารในขั้นต่อไป หลักฐาน 2 อย่างย่อมมีให้เห็นบ้าง แต่ไม่พบหลักฐานใดเลยดังนั้น การขอลูกสาวของเจ้าเมืองประเทศราชไปเป็นสนมจึงเป็น สยุมพรทางการเมือง ที่ไม่แตกต่างจากกรณีพม่าในสมัยพระเจ้าบุเรงนองของพระนางสุพรรณกัลยา-ราชธิดาของสมเด็จพระมหาธรรมราชาไปเป็นสนม สตรีทั้งสองจากประเทศราชเหมือนกันจึงมีสถานภาพเหมือนกันในประเทศเจ้าอาณานิคม นั่นคือ ตัวประกันทางการเมือง100 กว่าปีที่แล้ว ในความเป็นจริง รัฐบาลสยามดำเนินนโยบายรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลางทีละขั้น เริ่มจากลิดรอนอำนาจของประเทศราชและท้องถิ่นทีละขั้น จากนั้น จึงยกเลิกฐานะของประเทศราช และผนวกดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่ง ต่อจากนั้นจึงดำเนินนโยบายการปกครองโดยสั่งทุกอย่างตรงจากส่วนกลาง โดยมีตัวแทนที่เป็นข้าราชการถูกส่งไปทำหน้าที่ปกครองดูแลท้องถิ่นเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2416 สยามลงนามในสัญญาเชียงใหม่ฉบับที่ 1 (Treaty of Chiengmai I) กับอังกฤษ เปิดทางให้สยามเข้าไปควบคุมดูแลการให้สัมปทานป่าไม้แก่พ่อค้าอังกฤษ เป็นการลดอำนาจเจ้าหลวงเชียงใหม่ในระยะแรกๆ พร้อมกันนั้น ก็จัดตั้งเชียงใหม่-ลำพูน-ลำปางให้เป็นหัวเมืองลาวเฉียง ส่งขุนนางทั้งหมด 72 คนเข้าไปปกครองหัวเมืองนี้โดยตรง นับเป็นการส่งคนเข้าไปบริหารงานโดยตรงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สยามเข้ายึดครองล้านนาเป็นประเทศราชในปี พ.ศ. 2317จากนั้น ก็อนุญาตให้ชาวจีนส่วนหนึ่งอพยพขึ้นไปเพื่อทำหน้าที่เป็นเจ้าภาษีนายอากรตามเมืองต่างๆ เป็นการหารายได้เข้ารัฐ และเป็นการเก็บภาษีแบบผลิตผล ไม่ได้เก็บเป็นเงินพ.ศ. 2426 สยามลงนามในสัญญาเชียงใหม่ฉบับที่ 2 กับอังกฤษ ลดอำนาจของเจ้านายในล้านนาและเพิ่มอำนาจของสยามในการให้สัมปทานป่าไม้แก่พ่อค้าอังกฤษ เพิ่มตำแหน่งบริหารต่างๆในเขตหัวเมืองพร้อมกับส่งข้าราชการจากเมืองหลวงขึ้นไปรับงานเหล่านั้น ลดอำนาจของการหารายได้ของเจ้านายในท้องถิ่น และค่อยๆเริ่มระบบเงินเดือนให้แก่เจ้านายท้องถิ่นพ.ศ. 2428 เปลี่ยนระบบการเก็บภาษีอากรจากพืชผลไปเป็นเงินสด เนื่องจากความจำเป็นด้านงบประมาณในส่วนกลางพ.ศ. 2432 เกิดกบฏพญาผาบหรือกบฏเชียงใหม่ที่ลุกขึ้นคัดค้านการเก็บภาษีอากรด้วยเงินสด เพราะชาวนาไม่มีรายได้มากพอ กบฏถูกปราบในปีต่อมาพ.ศ. 2435 สยามปฏิรูประบบการบริหารครั้งใหญ่ ก่อตั้งกระทรวงมหาดไทย และปรับปรุงระบบการส่งขุนนางจากสยามไปปกครองท้องถิ่นทุกหัวเมืองพ.ศ. 2440 เจ้าหลวงอินวิชยานนท์ – เจ้าหลวงเชียงใหม่ถึงแก่พิราลัยพ.ศ. 2442 ยกเลิกฐานะประเทศราชของล้านนา ผนวกดินแดนล้านนาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรพ.ศ. 2445 ปราบกบฏแพร่ที่ต่อต้านการรวมศูนย์อำนาจและการลิดรอนอำนาจท้องถิ่นพ.ศ. 2446 โศกนาฏกรรมระหว่างหมะเมียะกับเจ้าศุขเกษม ปัญหาเกิดจากเจ้านายเชียงใหม่แอบส่งลูกชายของเจ้าอุปราชคนหนึ่งคือเจ้าศุขเกษม (วัย 15 ขวบ) ไปเรียนต่อที่พม่าในปี 2441 และกลับมาในปี 2446 พร้อมกับสาวพม่าวัย 16 ปี โดยที่สยามไม่ทราบ สาวหมะเมียะจึงต้องถูกส่งตัวกลับเนื่องจากสยามไม่พอใจท่าทีดังกล่าวของผู้นำล้านนาและหวั่นเกรงความใกล้ชิดระหว่างล้านนากับพม่า เจ้าศุขเกษมอกหักเพราะรักถูกพลัดพราก ต้องจบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 33 ปี ส่วนหมะเมียะไปบวชชีจนกระทั่งเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2505พ.ศ. 2446 อำนาจการปกครองตนเองของสงฆ์ในล้านนาถูกลิดรอน สยามจัดระบบรวมศูนย์อำนาจการปกครองสงฆ์ด้วยการก่อตั้งมหาเถรสมาคม เริ่มคำสั่งการแต่งตั้งเจ้าอาวาสของวัดทุกระดับจากส่วนกลางพ.ศ. 2453-55 ห้ามการเรียนการสอนภาษาล้านนาในห้องเรียนทุกระดับรวมทั้งในวัดต่างๆนี่คือความเป็นจริง ความเป็นจริงที่ปัจจัยภายนอกได้เข้าไปทำลายอำนาจท้องถิ่นลงทีละขั้นๆแต่ในนวนิยาย ผู้ประพันธ์สมมุติให้หนุ่มล้านนาเดินทางไปเรียนต่อในต่างประเทศ และถูกส่งกลับบ้านเกิดในฐานะที่เป็นบุคลากรพื้นถิ่น เป็นหนุ่มรูปงามที่เฉลียวฉลาด มีกายเป็นล้านนา แต่ทัศนะและจิตใจกลับเป็นสยามอย่างสมบูรณ์100 กว่าปีที่ผ่านมานับแต่รัฐบาลสยามดำเนินนโยบายรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลางได้อย่างสัมฤทธิผล และนโยบายดังกล่าวได้ดำเนินต่อมาเป็นลำดับ ความสำเร็จของนโยบายดังกล่าวได้เกิดดอกออกผลอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นหนึ่ง การเผยแพร่วิธีศึกษาประวัติศาสตร์โดยสำนักพงศาวดาร คือ ศึกษาอดีตโดยดูเฉพาะบทบาทของชนชั้นนำของเมืองหลวง เน้นอิทธิปาฏิหาริย์ ไม่เสนอบทบาทของท้องถิ่น มองเห็นแต่ด้านของฝ่ายกระทำ ไม่เคยมองบทบาทของฝ่ายที่ถูกกระทำ และขาดการศึกษาค้นคว้าแบบสหวิทยาการหนังสือ พงศาวดารโยนก ของพระยาประชากิจกรจักร์ (แช่ม บุนนาค) ซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ถึง 7 ครั้งในระหว่าง พ.ศ. 2441 ถึง 2516 เป็นการเรียบเรียงเอกสารต่างๆที่เขียนเป็นภาษาล้านนามาเป็นงานภาษาไทย ไม่ใช่งานแปลเอกสารเล่มหนึ่งเล่มใด หลายสิบปีที่ผ่านมา การศึกษาค้นคว้าแทบทั้งหมดอ้างงานนี้ ไม่อ้างงานชั้นต้น เพราะยากจะหาใครสนใจอ่านภาษาที่ทางการหวงห้าม การที่สยามส่งขุนนางคนหนึ่งขึ้นไปศึกษางานในท้องถิ่นแล้วรวบรวมเขียนงานใหม่ขึ้นมาเผยแพร่โดยทางการในสถานการณ์ทางการเมืองแบบ 2 ฝ่ายเช่นนั้น และแนวคิดก็เป็นแบบสำนักพงศาวดาร ที่มีบทบาทอย่างมากต่อการศึกษาตลอดช่วง 1 ศตวรรษที่ผ่านมาสอง การเผยแพร่แนวคิด ล้านนาไทย ซึ่งหมายความว่าล้านนาที่เป็นไทยหรือเป็นส่วนหนึ่งของไทย ไม่ใช่คำว่า ล้านนา ทั้งๆที่ไม่มีเอกสารเก่าฉบับใดใช้คำว่า ล้านนาไทย หรือล้านนาพม่า หรือล้านนาลาว ก็คือการสร้างความคิดชี้นำ ไม่ใช่การเสนอข้อเท็จจริงสาม การเผยแพร่ทัศนะที่ว่าอังกฤษต้องการยึดครองล้านนา ทำให้สยามไม่มีทางเลือก เป็นการเสนอที่จนบัดนี้ก็ยังหาหลักฐานจากอังกฤษไม่พบ แต่พิจารณาจากบทบาทของอังกฤษและสยามช่วงก่อนหน้าและหลัง สยามขยายบทบาทเข้าไปในล้านนามากขึ้นเป็นลำดับ และมีทั้งเอกสารที่ระบุว่าสยามต้องการยึดครองล้านนา ขณะที่อังกฤษพอใจมากที่สยามยอมลงนามในสัญญาบาวริ่ง พ.ศ. 2398 เพราะได้รับประโยชน์อย่างมากจากสัญญาดังกล่าว นอกจากนี้ หลังจากที่อังกฤษชนะพม่าในสงครามครั้งแรก พ.ศ. 2368 และได้เข้ายึดครองพม่าตอนใต้ พ่อค้าอังกฤษเข้าไปทำธุรกิจไม้สักกับเจ้านายในล้านนาได้อย่างเต็มที่ อังกฤษวุ่นวายมากพอในการยึดครองลังกา อินเดียและพม่า ต้องการซื้อไม้สักเท่าใดจากล้านนาก็ซื้อได้ อีกทั้งหากอังกฤษเข้ายึดครองล้านนาก็อาจมีพรมแดนติดกับฝรั่งเศสที่เข้าไปในลาว อังกฤษสนับสนุนรัฐบาลสยามในการปราบกบฏเชียงใหม่และกบฏแพร่ ถ้าหากอังกฤษมีนโยบายอย่างอื่น อังกฤษย่อมไม่สนับสนุนอิทธิพลของสยามในล้านนาผิดกับสยามที่ดิ้นรนกับการสร้างภาพว่าเป็นรัฐเอกราช ทั้งๆที่เป็นรัฐกึ่งเมืองขึ้น พยายามสร้างรัฐรวมศูนย์อำนาจด้วยการปฏิรูประบบราชการในปี พ.ศ. 2435 การลดอำนาจของท้องถิ่น และการผนวกดินแดนประเทศราชอย่างมีขั้นตอน ในสถานการณ์ที่รอบบ้านตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก นี่คือกลยุทธ์ของรัฐกึ่งเมืองขึ้นที่ชาญฉลาดในการเอาตัวรอด ด้วยการแสวงหาโอกาสที่พอมีขยายอาณานิคมและขยายเขตแดนในวงล้อมของลัทธิล่าอาณานิคมระดับสากลท่ามกลางการป่าวร้องว่าตนเองตกอยู่ในอันตรายของลัทธิอาณานิคม สยามกลับดำเนินนโยบายล่าอาณานิคมและดูดกลืนล้านนาเสียเอง จึงไม่อาจยอมรับความจริงในการกระทำดังกล่าว การหาแพะจึงเป็นทางออกที่น่าจะดีที่สุดสี่ เอกสารวิชาการโดยเฉพาะวิทยานิพนธ์ปริญญาโทหลายชิ้นในช่วงปี พ.ศ. 2510-2528 ต่างประสานเสียงกันอ้างว่าสยามจำเป็นต้องเข้ายึดครองล้านนา โดยชี้ว่าเนื่องจากกษัตริย์ล้านนาไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งเรื่องการให้สัมปทานป่าไม้สักที่ซ้ำซ้อน ภัยคุกคามจากอังกฤษ การบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพของผู้นำท้องถิ่น ความอ่อนแอและล้าหลังของคนท้องถิ่น ฯลฯ เอกสารเหล่านี้เสนอมุมมองในทางทิศเดียวกันหมด ข้อมูลที่ใช้ล้วนเป็นข้อมูลของสยาม ไม่ได้ศึกษาข้อมูลของท้องถิ่น ไม่เคยเรียงลำดับข้อมูลเหตุการณ์ว่าสยามวางจังหวะก้าวในการรุกคืบอย่างไรเพื่อบรรลุการยึดครองและผนวกล้านนา สยามคัดเลือกผู้นำของประเทศราชอย่างไรจึงได้ผู้นำที่ด้อยความ สามารถ และสยามทำลายความเข้มแข็งและศักยภาพของท้องถิ่นอย่างไร ฯลฯห้า ภายใต้สังคมไทยที่มีระบบการปกครองแบบเผด็จการทหารเป็นเวลารวมกันหลายทศวรรษ ทั่วประเทศตกอยู่ในความหวาดกลัวต่อภัยของคอมมิวนิสต์ใกล้บ้าน ระบบการศึกษาแบบด้านเดียว ขาดการศึกษาค้นคว้าหาความจริง ขาดการวิพากษ์วิจารณ์ และเน้นหนักที่ลัทธิชาตินิยม-ส่วนกลางนิยม-ผู้นำนิยม ไม่สนใจท้องถิ่น และไม่สนใจเรียนรู้และสำนึกในภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นภายใต้บริบททางสังคมดังกล่าว เอกสารคำสอนและวิทยานิพนธ์ส่วนใหญ่จึงตอกย้ำอุดมการณ์เดิมๆของรัฐ โดยเฉพาะความจำเป็นในการรวมศูนย์อำนาจของรัฐ ความจำเป็นที่จะต้องเชื่อมั่นในนโยบายของสยามรัฐ และความจำเป็นที่จะต้องยุติสำนึกรักท้องถิ่นหรือความคิดแบบที่เรียกว่าการปกครองตนเองในระดับท้องถิ่น (Local self government)ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือดอกผลของการดำเนินนโยบายยึดครองประเทศราช ผนวกดินแดนให้เป็นผืนเดียว และรวมศูนย์อำนาจเข้าสู่ส่วนกลางตลอดช่วง 1 ศตวรรษที่ผ่านมาแก่นสารของนวนิยาย รากนครา จึงมิใช่เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ ราก ของนครา แต่เป็นดอกผลของการดำเนินนโยบายเหล่านั้น และนวนิยายเรื่องนี้ก็คือการตอกย้ำความเชื่อเดิมๆที่ดำเนินมานานแล้ว แต่ได้ช่วยเผยแพร่ความเชื่อนั้นให้แก่ผู้อ่านที่เป็นคนรุ่นใหม่ในสังคมที่ไม่เห็นความสำคัญของการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ประเด็นที่สอง แต่เนื่องจากสังคมปัจจุบันกำลังก้าวสู่ยุคแห่งการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2540 ท้องถิ่นกำลังได้รับการส่งเสริมให้ปกปักรักษาสิทธิเสรีภาพและศิลปวัฒนธรรม ขนบประเพณีของท้องถิ่นไว้ รากนครา จึงเป็นนวนิยายหลงยุคยุคสมัยที่ประชาธิปไตยท้องถิ่นกำลังเบ่งบาน ประชาชนได้รับการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการบริหารประเทศทุกๆระดับ โดยเฉพาะการเลือกตั้งและการตรวจสอบการบริหารของระบบราชการและนักการเมืองทุกระดับ นวนิยายแห่งยุคสมัยจึงต้องจุดประกายความคิดที่หลากหลาย กล้าทายท้า และแสวงหาการเปลี่ยนแปลงทำไม คนรูปงาม นิสัยดี มีการศึกษาสูง จะต้องส่งเสริมการรวมศูนย์อำนาจ หลงใหลดินแดนอื่น และดูถูกสติปัญญาและผู้คนของท้องถิ่นตนเองเช่นเจ้าศุขวงศ์ และทำไมจะต้องให้เจ้าหน่อเมืองที่มีหัวใจรักท้องถิ่น มีหน้าตาโหดหิน นิสัยหยาบกร้าน อารมณ์แปรปรวน และดื้อรั้น ฯลฯนวนิยายเรื่องนี้เขียนถึงยุคสมัยเมื่อ 1 ศตวรรษที่แล้ว แต่ไม่ได้เขียนขึ้นในยุคสงครามเย็นหรือยุคเผด็จการทหาร แต่ผู้ประพันธ์แต่งเรื่องนี้เมื่อปี พ.ศ. 2540 หลังจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬและท่ามกลางการปฏิรูปทางการเมืองในระหว่างปี พ.ศ. 2538-2540เมื่อปี พ.ศ. 2535 ชัยอนันต์ สมุทวณิช นักรัฐศาสตร์คนสำคัญของประเทศได้ตีพิมพ์หนังสือชื่อ 100 ปีแห่งการปฏิรูประบบราชการ: วิวัฒนาการของอำนาจรัฐและอำนาจการเมือง. หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาบางตอนที่ท้าทายแนวความคิดที่ครอบงำสังคมไทยมากว่า 1 ศตวรรษนั่นคือ นักวิชาการท่านนั้นเห็นว่ารัฐสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นสังคมพหุลักษณ์ มีชนชาติที่หลากหลาย มีชนชาติที่มิได้เรียกตนเองว่าไทย อาศัยอยู่ในภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ดังนั้น รัฐสยามในตอนนั้นจึงมีศักยภาพพอที่จะจัดตั้งเป็นสหพันธรัฐ (Federal state) หรือสมาพันธรัฐ (Confederal state) (หน้า 206) กล่าวอีกแง่หนึ่ง รัฐสยามในเวลานั้นไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐที่รวมศูนย์อำนาจ และทำลายอำนาจของผู้ปกครองท้องถิ่นตลอดจนศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นจนหมดสิ้นก็ได้แต่นั่นก็เป็น พ.ศ. 2535 ที่กระแสการเรียกร้องให้มีการกระจายอำนาจเพิ่งเริ่มต้น และในสังคมไทยที่มีคนจำนวนน้อยนิดสนใจการศึกษาค้นคว้าเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ชอบดื่มสุรานอกและซื้อสินค้านอก ช้อเสนอของชัยอนันต์จึงไม่มีใครสนใจนำไปอภิปรายต่อแต่ในห้วงเกือบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมานับแต่นั้น สังคมไทยได้ก้าวสู่ยุคแห่งการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นี่คือ บริบททางสังคมแบบใหม่ สังคมไทยเริ่มหันเหออกจากกรอบความคิดรัฐรวมศูนย์ และวัฒนธรรมชั้นสูงไปหาการใส่ใจภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน ศิลปินพื้นบ้าน ปักษ์ใต้บ้านเรา อีสานบ้านเฮา ของกิ๋นคนเมือง ป่าชุมชน สิทธิชุมชน ชุมชนเข้ม แข็ง แม่น้ำท่าจีนรำลึก พิษณุโลก 2020 ลำพูน 1400 ปี เชียงราย 738 ปี ความหลากหลายทางชีวภาพ สิทธิของชนกลุ่มน้อย มูลนิธิเด็ก นามสกุลของสตรี ฯลฯในทางการเมือง การรณรงค์ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกเทศมนตรีโดยตรง การเลื่อนฐานะเทศบาลเมืองเป็นเทศบาลนคร การพัฒนา อบต. การปรับปรุง อบจ. การจัดตั้งคณะกรรมการกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น พรบ. ปฏิรูปการศึกษาแห่งชาติ ตลอดจนการหันกลับไปตรวจสอบนโยบายรวมศูนย์อำนาจมากเกินไปในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ฯลฯนี่คือตัวอย่างของบริบททางสังคมแบบใหม่ในช่วงเกือบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมาในด้านการสื่อสารและวัฒนธรรม เพลงและรายการวิทยุที่ใช้ภาษาท้องถิ่นทั่วทุกภาคของประเทศ นวนิยายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การปกปักรักษาทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น การพิทักษ์สิ่งแวดล้อม การขี่จักรยาน การสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง การพูดถึงความรักของครอบครัวและการต่อสู้ของคนระดับล่าง กระทั่ง การหันไปเขียนเรื่องสายสัมพันธ์ระหว่างเมืองหลวงกับรัฐหรือหัวเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสุโขทัย อยุธยา นครวัด หลวงพระบาง ล้านนา หริภุญไชย โยนก เชียงตุง เชียงรุ่ง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นดอกผลของบริบททางสังคมแบบใหม่ในแง่นี้ การอุบัติขึ้นของ รากนครา จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่นวนิยายนี้แถลงจุดประสงค์ว่าสนใจบทบาทของสตรี เธอผู้เสียสละเพื่อส่วนรวม และเรียกร้องให้คนอ่านหันไปสนใจประวัติศาสตร์ของคนไทกลุ่มต่างๆทั้งในและนอกประเทศที่ได้ถูกละเลยมายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิลปวัฒนธรรมอันเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นหากเป็นคนที่อยู่ในขบวนนำของการต่อสู้เพื่อสร้างบริบททางสังคมแบบใหม่นี้ พวกเขาก็คือ คนที่เห็นว่าต้องกล้าลงมือทำเพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่ดีต่อสังคมส่วนรวม ส่วนจะมีคนเดินตามเพราะเห็นว่าเป็นแฟชั่นที่น่าติดตาม หรือเพราะเห็นว่าสินค้าเก่าๆในตลาดเริ่มขายไม่ได้แล้ว ต้องหาเรื่องราวใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ ก็ไม่เป็นไร จะช้าหรือเร็ว หรือจะเดินตามใครก็ไม่สำคัญ ขอให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องก็นับเป็นเรื่องที่ดีทั้งสิ้นรากนครา ให้ความสนใจต่อบทบาทของสตรีโดยเฉพาะสตรีท้องถิ่น ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญในสังคมยุคใหม่ ยิ่งกว่านั้น ยังเสนอภาพการสละชีวิตของเจ้านางแม้นเมืองได้อย่างยิ่งใหญ่ แต่ความตายของเธอก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้แก่บ้านเมืองเมืองเชียงเงินต้องสูญสิ้นเอกราช โดยที่คนอยู่หลังไม่รู้ว่าเอกราชมีความหมายอย่างไรเมืองของเจ้าศุขวงศ์และล้านนาสูญสิ้นความเป็นตัวของตัวเองอย่างสิ้นเชิง เพราะคิดว่าไปรวมกับคนอื่น เดินตามคนอื่น คือทางรอดทางเดียวแล้วทางรอดนั้นคืออะไรเล่า เจ้าศุขวงศ์ตอบได้ไหม ล้านนาวันนี้มีอะไรเหลือ นอกจากศิลปวัฒนธรรมเชิงพาณิชย์ การสวมชุดเจ้านายและเจ้านางเพื่อถ่ายที่ร้านถ่ายรูป หรือที่สนามบินและเก็บไว้เป็นที่ระลึก คุณค่าของแผ่นดินนี้ดูเหมือนจะมี 4 อย่างเมื่อล้านนาถูกแบ่งเป็นหน่วยการปกครองระดับจังหวัด ข้าราชการถูกส่งมาทำงาน 2-3 ปี แล้วก็ย้ายไปมาระหว่างจังหวัดหรือย้ายไปภาคอื่น ก็คือเป็นพื้นที่ให้ข้าราชการส่วนภูมิภาคได้มาทำงานชั่วคราวเพื่อไต่เต้าความก้าวหน้าในการรับราชการ และเป็นพื้นที่ให้ข้าราชการส่วนกลางได้มาเยี่ยมเยือนอย่างสม่ำเสมอ เป็นพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มาเห็นศิลปวัฒนธรรมที่ ดูเหมือน แตกต่างออกไปจากระดับชาติ และให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้มาสัมผัสบรรยากาศป่าเขา และอากาศหนาวเย็นช่วงสิ้นปีเป็นพื้นที่ธุรกิจ การศึกษา และการลงทุนด้านต่างๆสำหรับคนที่จะแสวงหาโอกาสใหม่ๆจากทั่วประเทศ ในเมื่อรัฐส่งเสริมการท่องเที่ยว ผู้คนก็มักคิดกันว่าย่อมสามารถทำธุรกิจอย่างอื่นๆได้ จนในที่สุดที่โฆษณาว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ผลก็คือล้านนาเป็นได้ทุกอย่าง ขอแต่ให้คนไทยที่แสวงหารายได้จะลงทุน จะมาทำอะไรก็ได้หมดและ เป็นพื้นที่พักผ่อน เป็นบ้านที่สอง เป็นบ้านพักหลังอำลาชีวิตราชการ ฯลฯลูกหลานของเจ้าศุขวงศ์ก็ต้องดิ้นรนหาอยู่หากินไปวันๆ สมาชิกสกุลเจ้านายท้องถิ่นส่วนหนึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ที่เหลือก็ทำงานในท้องถิ่น มีอยู่ไม่กี่คนที่เขายกย่องให้เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือสังคมไทยในทศวรรษที่ 2540 เป็นสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน อย่างน้อยที่สุดก็คือ มีความใส่ใจในเรื่องท้องถิ่น บทบาทของภาคประชาชน สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตมากขึ้น แต่น่าเสียดายที่ผู้ประพันธ์มิได้หยิบเอาประเด็นเก่าๆมาพิจารณาด้วยมุมมองใหม่ๆความดีบางข้อของ รากนครา ได้แก่บทเรียนจากชีวิตคู่ของพระเอก-นางเอก ที่เฉลียวฉลาดทั้งคู่ แต่กลับมีความสัมพันธ์กันเพียงกาย ไม่มีความสัมพันธ์ทางสติปัญญา การขาดการสื่อสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันตลอดมา ฝ่ายหญิงที่มุ่งมั่นเสียสละเพื่อบ้านเมือง ลงท้ายก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเมื่อรวมท้องถิ่นเข้ากับสยามแล้ว เชียงเงินกับล้านนาจะได้อะไรส่วนฝ่ายชายที่เชิดชูการนำของสยามเหลือเกิน และคิดว่าจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของชาติมหาอำนาจ ลงท้ายก็ไม่เข้าใจว่าสยามนั้นเป็นรัฐเอกราชหรือรัฐกึ่งเมืองขึ้น อธิบายไม่ได้ว่าเหตุใดสยามกับล้านนาต้องเสียเปรียบต่างชาติเรื่อยมาและอธิบายไม่ได้ว่าเหตุใดในการรวมเป็นแผ่นดินเดียวกันกับสยาม ล้านนาต้องสูญเสียแทบทุกอย่าง น่าเสียดายที่อุตส่าห์ไปเรียนถึงสิงคโปร์ – เมืองขึ้นของอังกฤษ เจ้าศุขวงศ์ไม่ได้เรียนรู้ว่าชาติตะวันตกนั้นวิธีการจัดการชาติด้อยพัฒนาหลากหลายวิธี เช่น ยึดเป็นเมืองขึ้นอย่างสมบูรณ์ หรือควบคุมและครอบงำนโยบายการเมืองและเศรษฐกิจด้วยสนธิสัญญา ปล่อยให้สถาบันการปกครองคงอยู่ ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่านั่นเป็นรัฐเอกราช ทั้งๆที่เป็นรัฐกึ่งเมืองขึ้น และสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นอาณานิคมหรือรัฐกึ่งเมืองขึ้น ชาติตะวันตกก็ควบคุมระบบการผลิตด้วยการแบ่งงานระดับสากล (International division of labor) กำหนดให้ชาติไหนปลูกข้าวเพื่อส่งออก ปลูกยางพารา ไม้สัก ดีบุก ชาติไหนทำโรงงานผลิตสิ่งทอ ชาติไหนผลิตอาหารทะเล ชาติไหนผลิตน้ำตาล ฯลฯเจ้าศุขวงศ์รับรู้เต็มอกว่าเจ้าหน่อเมืองและเมืองเชียงเงินคิดการใหญ่ ไม่ยอมขึ้นต่อสยามหรือพม่า เขารู้ว่าจะไม่ปล่อยให้เชียงเงินหลุดมือ และเขามีหน้าที่พิทักษ์ผลประโยชน์ของสยาม แต่เขากลับไม่คิดพูดจาหรือเตรียมการป้องกันใดๆแม้เจ้านางแม้นเมืองจะชาญฉลาด แต่เธอก็เป็นหญิงในสังคมศักดินาที่ไม่มีสิทธิพูดจากับสามีไดมากนัก แต่สำหรับเจ้าศุขวงศ์ ผู้มีการศึกษาสูง แต่วิธีคิดวิธีทำงานของเขานั้นนอกจากจะทำลายเชียงเงินและล้านนา ยังมีส่วนสำคัญในการหยิบยื่นความตายให้แก่เจ้านางแม้นเมืองด้วยในที่สุด รากนครา จึงเป็นนวนิยายที่ยอดเยี่ยมในด้านการสร้างอารมณ์สะเทือนใจ แต่ไม่มีอะไรใหม่ในด้านอื่นๆ นอกจากเสนอทัศนะเก่าๆ เช่น บรรยายความโหดเหี้ยมของผู้นำพม่า (คงจะเชื่อหนังสือ พม่าเสียเมือง ของ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เพียงเล่มเดียว) ยกย่องความเก่งของคนไทยว่ารู้เท่าทันต่างชาติจนฝรั่งต้องยอมรับ กลายเป็นลัทธิชาตินิยม และมองเห็นแต่ด้านดีของผู้นำจนกลายเป็นลัทธิบูชาบุคคลผู้เขียนอยากจะเชื่อว่า รากนครา จะได้รับรางวัล แม้ผู้เขียนยังไม่ได้อ่านนวนิยายเรื่องอื่น เพราะเรื่องนี้มีจุดเด่นหลายข้อ คือ ผู้ประพันธ์เรียกร้องให้คนไทยยกย่องคนที่เสียสละเพื่อบ้านเมือง เชิดชูผู้นำสยาม ยกย่องนโยบายการรวมศูนย์อำนาจ นำเอาความรักและท้องถิ่นมาอธิบายสนับสนุนนโยบายของประเทศชาติ และนำเสนอโศกนาฏกรรมได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งทั้งหมดน่าจะสอดคล้องกับความเห็นของกรรมการซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมที่แม้บริบททางสังคมจะเปลี่ยนแปลงหลายด้าน แต่พวกเขาน่าจะยังคงพอใจกับแนวคิดหลักๆในช่วง 1 ศตวรรษที่ผ่านมาแน่นอน สังคมไทยยุคปัจจุบันไม่ควรอ่านนวนิยายหลงยุคแบบนี้ หนังสือที่สังคมไทยควรอ่านควรจะเป็นงานที่มีจินตนาการกว้างไกล เปิดขอบฟ้าทางความรู้และความคิดให้คนอ่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอดีตหรือปัจจุบัน เพื่อให้คนอ่านมองเห็นอดีตด้วยมุมมองใหม่ๆ ตั้งคำถามกับแนวคิดเก่าๆซึ่งเป็นผลประโยชน์ของคนเพียงบางกลุ่ม และมองเห็นปัจจุบันและอนาคตอย่างคนที่มีสติปัญญาแตกฉานบทความชิ้นนี้เขียนขึ้นเมื่อวันที่28กรกฎาคม2543. แต่ต่อมาในปัจจุบัน ละครโทรทัศน์เรื่องรากนคราได้ถูกสร้างและนำมาเผยแพร่ใหม่ จึงได้มอบบทความชิ้นนี้ให้ประชาไทได้เผยแพร่ต่อสาธารณะเผื่อเป็นการเสนอหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับนวนิยายและละครโทรทัศน์เรื่องนี้ให้ครบถ้วน
หมายเหตุ: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของละครรากนครา (ผู้อ่าน) มึนงง เหมือนเดินอยู่ในเงามืด นักเขียนควรที่จะช่วย จุดเทียน สักเล่มให้ (ผู้อ่าน) มี แสงสว่าง ให้พวกเขาคลายอึดอัด รงค์ วงษ์สวรรค์
การเมือง,วัฒนธรรม,สังคม
pop-culture,ท้องถิ่น,ธเนศวร์ เจริญเมือง,ปิยะพร ศักดิ์เกษม,ภาคเหนือ,รัฐรวมศูนย์,รากนครา,ละคร,ละครโทรทัศน์,ล้านนา,วัฒนธรรมป็อบ
https://prachatai.com/journal/2017/09/73177
ป.ป.ช.เตรียมเรียก สุพจน์ มาชี้แจงเพิ่มเติม หลังพบเงินเข้าออกบัญชี 28 ล้าน
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เข้าตรวจสอบข้อมูลคดีการปล้นบ้านพักนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมกับตำรวจสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางในช่วงเช้าวันนี้ (2 ธ.ค.) หลังจากใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงนายวรวิทย์ สุขบุญ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุว่า การตรวจสอบในขณะนี้ยังไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดว่าทรัพย์สินจำนวนมากของนายสุพจน์ มีที่มาอย่างไรขณะที่ พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง เปิดเผยว่า ในส่วนของสำนวนคดีตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งติดตามผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ซึ่งคาดว่า จะสรุปสำนวนได้ภายในเดือนนี้ด้านนายปรีชา เลิศกมลมาศ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนความร่ำรวยผิดปกติ ของปลัดกระทรวงคมนาคม ยอมรับถึงหลักฐานที่ ป.ป.ช. พบเงินผ่านเข้า-ออกบัญชี ของนายสุพจน์เป็นจำนวนมากเป็นหลักสิบล้านบาท และ มียอดสูงถึง 28 ล้านบาท ที่ไม่ได้มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้กับ ป.ป.ช.ขณะเดียวกัน ป.ป.ช.ได้ประสานเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมเป็นคณะอนุกรรมการไต่สวนตรวจสอบเส้นทางเงินดังกล่าว ว่ามีแหล่งที่มาจากที่ใด ซึ่งในสัปดาห์หน้า ป.ป.ช.จะแจ้งให้นายสุพจน์ เข้าชี้แจงบัญชีทรัพย์สินอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้นายสุพจน์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินกับ ป.ป.ช.ไว้ประมาณ 50 ล้านบาท
กรรมการ ป.ป.ช.ยอมรับ พบเงินผ่านเข้าออกบัญชีของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นจำนวนเงินกว่า 28 ล้านบาทที่ไม่มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน โดยจะเรียกนายสุพจน์ มาชี้แจงข้อเท็จจริงที่มาของเงินดังกล่าวภายในสัปดาห์หน้านี้
อาชญากรรม
ป.ป.ช.,ปลัดกระทรวงคมนาคม,ปล้นบ้านปลัด,ร่ำรวยผิดปกติ,สุพจน์ ทรัพย์ล้อม
https://news.thaipbs.or.th/content/50419
ยิ่งลักษณ์ ชี้คณะกรรมการ ปยป.ต้องเป็นกลาง แนะดึงนักวิชาการ-บุคคลที่สังคมยอมรับเข้าร่วม
วันนี้ (20 ม.ค.2560) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับฟังการไต่สวนพยานจำเลย นัดที่ 9 คดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในโครงการรับจำนำข้าวเป็นเหตุให้รัฐเสียหายว่า ได้ใช้สิทธิ์ยื่นเพิกถอนคำสั่งทางปกครองของกระทรวงการคลังให้ชดใช้ความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวกว่า 35000 ล้านบาทแล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของศาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวว่า ยินดีให้การสนับสนุนคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป.แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลาง ตามหลักนิติธรรมทางสากล และต้องเป็นธรรมสำหรับทุกคน ทั้งนี้มองว่าโครงสร้างของ ป.ย.ป. ต้องประกอบด้วยผู้ที่มีความเป็นกลาง โดยเฉพาะนักวิชาการและผู้ที่สังคมให้การยอมรับเพื่อเข้ามาแลกเปลี่ยนให้ความรู้ และร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อให้ ป.ย.ป.เป็นที่ยอมรับ พร้อมยันว่าไม่ได้ปฏิเสธการสร้างความปรองดอง และเชื่อว่าทุกฝ่ายก็คงไม่ปฏิเสธเช่นกัน น.ส.ระบุว่า เร็วเกินไปที่จะกังวลว่าการสร้างความปรองดองจะกระทบกับโรดแมปการเลือกตั้งหรือไม่ แต่ต้องการให้รัฐบาลเปิดเผยจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการสร้างความปรองดองด้วยขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยได้หารือกันเบื้องต้นแล้วยืนยันไม่ปฏิเสธการสร้างความปรองดอง แต่ต้องการให้คำนึงว่าพรรคการเมืองไม่ใช่ความขัดแย้งเดียวที่เกิดขึ้นในประเทศ เพราะการสร้างความปรองดองจะสำเร็จได้ต้องมีหลายภาคส่วนด้วยกัน ทั้งพรรคการเมือง ส่วนราชการ และการอำนวยความยุติธรรม ขณะเดียวเชื่อว่าการให้พรรคการเมืองร่วมลงสัตยาบันเพียงอย่างเดียว ไม่น่าจะสามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ พร้อมเสนอแนะให้นำข้อมูลของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติหรือ คอป.มาพิจารณาด้วยทั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้แกนนำพรรค คือ นายโภคิน พลกุล นายชัยเกษม นิติสิริ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ศึกษาเรื่องการสร้างความปรองดอง
ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรีใช้สิทธิ์ยื่นเพิกถอนคำสั่งทางปกครองของกระทรวงการคลังให้ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว 35000 ล้านบาทแล้ว ยืนยันพร้อมสนับสนุนคณะกรรมการ ป.ย.ป.สร้างความปรองดอง แต่ต้องอยู่เป็นพื้นฐานความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย
การเมือง
ปรองดอง,ปยป,ยิ่งลักษณ์,เพื่อไทย,คสช.,ข่าวการเมือง
https://news.thaipbs.or.th/content/259654
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 107 ราย พบผู้ต้องขังและแพทย์ 2 รายติดเชื้อด้วย
สธ.แถลงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่ม 107 ราย พบผู้ต้องขังและแพทย์ 2 รายติดเชื้อด้วย รวมผู้ป่วยสะสม 934 ราย รักษาหาย 70 ราย เสียชีวิต 4 ราย อาการหนัก 4 ราย25 มี.ค. 2563 วันนี้นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ เชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19 ) ประจำวันที่ 25 มี.ค. 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 107 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 934 ราย ผู้ป่วยหายดีแล้วกลับบ้าน 70 ราย เสียชีวิต 4 ราย อาการหนัก 4 ราย รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 860 รายรักษาหายเพิ่ม 13 รายยืนยัน พบผู้ต้องขัง ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยโฆษกสธ. กล่าวต่อว่า ขณะผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย เป็นชาวต่างประเทศเดินทางมาไทย ทั้งนี้ พบแพทย์ 2 ราย ที่เป็นแพทย์พี่เลี้ยง 2 ราย ทำงานใช้ทุนอยู่ รพ.อยู่ปีที่ 2 และมีเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้ บุคลากรทางการแพทย์ไปช่วยทำการผ่าตัด 15 คน และยังมีแพทย์ อีก 10 คน รวมเป็น 25 คน จึงต้องมีการพักงาน และกลับไปดูแลที่บ้าน ขณะเดียวกัน ยังมีกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังอีก 67 ราย ที่ต้องทำการสอบสวนโรคว่าติดเชื้อมาจากที่ใดอย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ขอเน้นย้ำ มาตรการอยู่ห่างกัน 2 เมตร เราอยู่ข้างนอกบ้านปฏิบัติตัวอย่างไร อยู่ที่บ้านเราก็ปฏิบัติตัวเช่นนั้นอย่างเคร่งครัด ในช่วงนี้อ้างอิง:
สธ.แถลงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่ม 107 ราย พบผู้ต้องขังและแพทย์ 2 รายติดเชื้อด้วย รวมผู้ป่วยสะสม 934 ราย รักษาหาย 70 ราย เสียชีวิต 4 ราย อาการหนัก 4 ราย25 มี.ค. 2563 วันนี้ นพ.ทวีศิลป์
สังคม,คุณภาพชีวิต
ไวรัสโควิด-19,โควิด-19,กระทรวงสาธารณสุข,ผู้ต้องขัง
https://prachatai.com/journal/2020/03/86904
จัดคิวถกแก้ปมหลักสูตรไม่ผ่านเกณฑ์
ใน 40 สถาบันอุดมศึกษา จำนวน 182 หลักสูตร ที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานหลักสูตรจากผลการประเมินการประกันคุณภาพภายใน (IQA) ติดต่อกัน 2 ปี คือ ปีการศึกษา 2558 และ 2559 นั้น ขณะนี้ สกอ.กำลังตรวจสอบหลักสูตรและสภาพปัจจุบันของสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 40 แห่งอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่ สกอ.จะเชิญสถาบันอุดมศึกษามาหารือกันว่ายังดำเนินการหรือปรับปรุงหลักสูตรนั้นๆอย่างไรบ้างในช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งกลุ่มแรกที่จะเชิญมาคือสถาบันอุดมศึกษาที่กำลังปรับปรุงหลักสูตรและยังดำเนินการอยู่ เพื่อจะได้รู้ว่าสถาบันอุดมศึกษานั้นได้มีการดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว และมีการจัดการศึกษาเป็นไปตามมาตรฐาน จากนั้นจะหารือกับกลุ่มที่สองคือสถาบันอุดมศึกษาที่แจ้งว่าปิดหลักสูตรไปแล้ว หรืองดรับนักศึกษา เพื่อจะได้มีการยืนยันว่าปิดหลักสูตรหรืองดรับนักศึกษาไปแล้วจริงหรือไม่ หรือมีการดำเนินการอะไรบ้าง,หลังจากที่ สกอ.เปิดเผยรายชื่อสถาบันอุดมศึกษาและหลักสูตรที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ก็มีสถาบันอุดมศึกษาได้ขอดูข้อมูล รวมทั้งได้สั่งปิดหลักสูตรไปหลายหลักสูตร ดังนั้นเชื่อว่าหลักสูตรที่เคยแจ้งว่ากำลังปรับปรุงหลักสูตรและยังดำเนินการอยู่ ที่มี 53 หลักสูตรนั้น ถึงขณะนี้จำนวนหลักสูตรที่เปิดอยู่น่าจะลดลงพอสมควร เพราะผมได้พูดคุยกับผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาบางแห่ง ซึ่งบอกว่าการเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ทำให้กล้าตัดสินใจปิดหลักสูตรได้ทันที จากเดิมที่คิดว่าจะปิดหรือไม่ปิด ส่วนสถาบันอุดมศึกษาใดที่คิดว่าหลักสูตรที่ สกอ. ประกาศไปนั้นไม่เป็นไปตามความเป็นจริง สกอ.ก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อมูล ดร.สุภัทรกล่าว.
ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้เปิดเผยข้อมูลรายชื่อหลักสูตรของมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชน ทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก
ข่าว,สังคม
หลักสูตรไม่ผ่านเกณฑ์,หลักสูตรของมหาวิทยาลัยรัฐ,รับรองมาตรฐานหลักสูตร,IQA,สุภัทร จำปาทอง,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/society/1185150
เบอร์นี แซนเดอร์ส เสียใจ ยุติลงสมัครเป็นตัวแทนพรรค ชิงปธน.สหรัฐฯแล้ว
เมื่อ 9 เมษายน 63 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและรอยเตอร์รายงานว่า นายเบอร์นี แซนเดอร์ส นักการเมืองคนดังในสหรัฐฯ วัย 78 ปี ประกาศยุติการสมัครแข่งขันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 แล้ว เมื่อวันพุธที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา หลีกทางให้นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสมัยบารัค โอบามา เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 แข่งกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.ปีนี้นายแซนเดอร์ส เรียกการตัดสินใจถอนตัวจากการลงแข่งขันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ว่า เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากและเจ็บปวดผมปรารถนาจะบอกข่าวดีกับพวกคุณ แต่ผมคิดว่าพวกคุณรู้ความจริงอยู่แล้ว ว่าเรามีคณะตัวแทนตามหลังรองประธานาธิบดีไบเดน ถึงประมาณ 300 คะแนน ด้วยเหตุนี้ เส้นทางสู่ชัยชนะของเราจึงไม่มีทางเป็นไปได้ ดังนั้น ขณะที่เรากำลังประสบชัยชนะในการต่อสู้ทางอุดมคติ และขณะที่พวกเรากำลังได้รับเสียงสนับสนุนจากคนหนุ่มคนสาวและคนในวัยทำงานจำนวนมากทั่วทั้งประเทศ ผมได้สรุปลงความเห็นแล้วว่า การต่อสู้เพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไม่มีทางจะประสบความสำเร็จ ดังนั้น ผมจึงขอประกาศยุติการลงสมัครเป็นตัวแทนพรรครอยเตอร์ ชี้ว่า นายแซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ ซึ่งถือเป็นพวกหัวสังคมนิยมในพรรคเดโมแครตคนหนึ่ง เคยให้คำมั่นสัญญาแก่บรรดาผู้สนับสนุนว่า เขาจะเป็นผู้นำการปฏิวัติทางการเมืองระดับรากหญ้ามาสู่ทำเนียบขาว อย่างไรก็ตาม นายแซนเดอร์สก็ตระหนักดีว่าเส้นทางสู่ชัยชนะในการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น ไม่มีทางจะประสบความสำเร็จ หลังจากผลการเลือกตั้งไพรมารีที่ผ่านมา เขามีคะแนนตามหลังนายโจ ไบเดน วัย 77 ปี ถึงประมาณ 300 คะแนน ทำให้เขาต้องยอมรับความจริงและตัดสินใจประกาศยุติการลงสมัครแข่งขันด้วยความเสียใจ.
เบอร์นี แซนเดอร์ส ยอมรับความจริงอย่างเจ็บปวด ตัดสินใจประกาศยุติการลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงปธน.แล้ว หลีกทางให้โจ ไบเดน สู้ศึกเลือกตั้งแข่งกับทรัมป์ ปลายปีนี้
ข่าว,ต่างประเทศ
เบอร์นี แซนเดอร์ส,โจ ไบเดน,เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ,โดนัลด์ ทรัมป์
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1816168
ศาลสูงญี่ปุ่นเนรเทศเด็กไทยด้วย แม้แม่ยอมกลับประเทศตามเงื่อนไข
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ศาลสูงกรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ตัดสินยืนคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้เนรเทศนายวุฒินันท์ หรือ อ้วน ชาวไทยวัย 16 ปี กลับประเทศไทย แม้ว่าก่อนหน้านี้ในเดือน มิ.ย. ศาลชั้นต้นจะเคยกล่าวไว้ว่า นายวุฒินันท์อาจได้รับอนุญาตให้พำนักอาศัยในญี่ปุ่นต่อไปได้ หากมารดาหรือนางรนแสน พาภักดี หญิงชาวไทยที่ไปลักลอบอยู่ในญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมายกว่า 20 ปี และคลอดนายวุฒินันท์ที่ญี่ปุ่น ยอมเดินทางกลับไทย,ทั้งนี้ ศาลสูงกรุงโตเกียวใช้เวลาอ่านคำตัดสินไม่ถึง 10 วินาที โดยยืนยันให้เนรเทศนายวุฒินันท์กลับไทย สร้างความตื่นตะลึงให้คนที่อยู่ในชั้นศาล เพราะศาลสูงไม่ได้นำเรื่องที่มารดานายวุฒินันท์ยอมถูกเนรเทศ และกลับไทยไปแล้วเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ตามเงื่อนไขของศาลชั้นต้นมาคิดพิจารณา พร้อมระบุว่าถึงนายวุฒินันท์จะอ่านเขียนไทยไม่ออกเพราะเกิดที่ญี่ปุ่น แต่ก็พูดไทยได้และมีอายุมากพอที่จะปรับตัว,ขณะที่นายวุฒินันท์ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาระดับมัธยมในญี่ปุ่น กล่าวว่า รู้สึกเสียใจและเจ็บปวด และอยากอยู่ในญี่ปุ่นต่อไป ส่วนทนายระบุว่านายวุฒินันท์ยังไม่ตัดสินใจว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินดังกล่าวหรือไม่.
ศาลสูงกรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ตัดสินยืนคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้เนรเทศนายวุฒินันท์ หรือ อ้วน ชาวไทยวัย 16 ปี กลับประเทศไทย แม้ว่าแม่ของเขาจะยอมกลับประเทศตามเงื่อนไข
null
อ้วน วุฒินันท์,ญี่ปุ่น,เนรเทศ,รนแสน พาภักดี,ลักลอบอยู่อาศัย
https://www.thairath.co.th/content/803807
ขสมก.สั่งหยุดเดินรถเมล์สาย 39 ชั่วคราว
วินาทีที่ น.ส.พัชรนันท์ หรือ น้องแพร พวงสุวรรณ อายุ 16 ปีเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงการสูญเสียครั้งสำคัญของครอบครัว คือ การสูญเสียนางนันทิยา พวงสุวรรณ ผู้เปรียบเสมือนเสาหลักของบ้านเพราะนอกจากต้องรับผิดชอบน้องแพร ที่กำลังอยู่ในวัยเรียน นางนันทิยา ยังต้องดูแลสามีที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงน้องแพร บอกอีกว่า ก่อนที่แม่จะเสียชีวิตได้พูดคุยกันถึงอนาคตของน้องแพร ซึ่งแม่ได้กำชับให้น้องแพร เข้มแข็งให้ได้เหมือนแม่เพราะน้องแพรจะต้องเป็นคนดูแลพ่อที่ป่วยต่อไป น้องแพรบอกว่า ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคำพูดที่ย้ำให้เข้มแข็งอยู่เสมอในช่วงสุดท้ายก่อนที่แม่จะเสียชีวิต จะเป็นลางบอกเหตุของการสูญเสียครั้งนี้ส่วนนายสุรพงษ์ พวงสุวรรณ สามีของผู้เสียชีวิต บอกว่า ยังไม่ได้วางแผนชีวิตของตัวเอง และ ลูกสาวว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ได้ย้ำกับลูกสาวว่า ต้องสู้ไปด้วยกันส่วนเรื่องทางคดียังต้องรอการสอบสวนของตำรวจอีกครั้งสำหรับความคืบหน้าทางคดีพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับคนขับรถประจำทางคันดังกล่าวแล้วฐานขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตและบาดเจ็บ แต่ไม่ได้มีการควบคุมตัวเนื่องจากไม่ใช่เหตุที่เกิดซึ่งหน้า ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขณะที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.ได้สั่งให้มีการหยุดพักการเดินรถสาย 39 ไว้ชั่วคราว และ สั่งให้มีการสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยตั้งข้อสังเกตถึงข้ออ้างที่คนขับรถอ้างว่า รถเบรกแตกอาจสวนทางกับความเป็นจริงที่หลังเกิดเหตุสามารถขับรถไปที่สถานีตำรวจได้
ขสมก.สั่งพักการเดินรถโดยสารประจำทางเอกชนร่วมบริการสาย 39 ชั่วคราว หลังรถประจำทางสายนี้พุ่งชนผู้โดยสารที่รอรถอยู่ที่ป้ายรถประจำทาง บริเวณหน้าวัดไผ่ตัน ย่านสะพานควายเสียชีวิต ส่วนลูกสาวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ เปิดเผยนาทีชีวิตของผู้เป็นแม่ว่า แม่ถูกรถชนเพราะผลักตัวเองให้รอดจากการถูกพุ่งชน แต่แม่กลับหลบไม่ทัน และ ถูกรถลากจากจุดที่ถูกพุ่งชนจนเสียชีวิต
อาชญากรรม
ขสมก.,น.ส.พัชรนันท์ พวงสุวรรณ,รถเมล์สาย39,สั่งหยุดเดินรถชั่วคราว
https://news.thaipbs.or.th/content/14493
ทูตมะกัน พบ มาร์ค หารือ ศก.-การเมือง ยัน เคารพสถาบัน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. 58 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่ และคณะ เดินทางเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรค เพื่อแนะนำตัว โดยใช้เวลาพูดคุยเกือบ 1 ชั่วโมง จึงเดินทางกลับ โดยปฏิเสธการให้สัมภาษณ์,ขณะที่ นายเกียรติ เปิดเผยว่า มีการหารือเรื่องต่างๆ อาทิ เศรษฐกิจ สถานการณ์การเมือง สังคมของไทย โดยเฉพาะท่าทีเกี่ยวกับการเลือกตั้งในอนาคตทั้งของไทย และสหรัฐฯ ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเร็วๆ นี้ จึงหารือว่า ในฐานะที่ไทยเป็นมิตรประเทศที่สำคัญในภูมิภาคนี้ จะมีช่องทางใดที่จะกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันให้มากขึ้น ในแง่ความท้าทายในทุกๆ ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ อาทิ ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (TPP) ที่สหรัฐฯ เป็นผู้ก่อตั้ง ก็อยากได้ประเทศสมาชิกเพิ่ม โดยอยากให้ไทย ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และจะมีแนวทางพัฒนาไปอย่างไร,นอกจากนี้ ยังได้ทำความเข้าใจในเรื่องการแสดงความเห็นเกี่ยวกับมาตรา 112 ที่มีความอ่อนไหวสูงในสังคมไทย อธิบายตามความเป็นจริงว่า ในไทยยังมีคนบางกลุ่มที่มีความพยายามใช้ทุกวิถีทางในการดิสเครดิตสถาบันหลายครั้งหลายหน ดังนั้น กฎหมายนี้จึงมีความจำเป็นและเหมือนกับหลายๆ ประเทศที่มีกฎหมายปกป้องคุ้มครองผู้นำหรือประมุขของประเทศ ซึ่งในสหรัฐฯ ก็มีกฎหมายที่ดูแลป้องกันประธานาธิบดี เป็นลักษณะสากลที่ไม่ต่างกัน และถ้าในสถานการณ์ปกติไม่มีบางกลุ่มที่มีความพยายามสร้างความเสียหายให้กับสถาบัน ปัญหานี้ก็คงจะน้อยลง ซึ่งทูตสหรัฐฯ บอกว่า มีความเคารพในสถาบันฯ มากเช่นกัน และที่ปรากฏเป็นข่าวไปนั้นเป็นเพียงแค่บางช่วงบางตอนที่มีการตัดทอน แต่หากฟังที่พูดทั้งหมด จะรู้ได้ว่ามีการแสดงออกถึงความเคารพสถาบัน,รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ทูตสหรัฐฯ ยังได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การเมืองไทย ซึ่งได้อธิบายไปว่า เป็นช่วงสถานการณ์ไม่ปกติก็จริง แต่รัฐบาลก็พยายามเดินตามโรดแม็ปที่วางไว้ ซึ่งในอนาคตก็ต้องเฝ้าดูต่อไป ขณะนี้ยังไม่สามารถทำภารกิจของพรรคการเมืองได้ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคบ้าง ส่วนกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ ก็ดำเนินการไปตามลำดับ ให้รอดูร่างแรกในเดือน ม.ค. 59 ว่าจะมีหน้าตาอย่างไร,, นายเกียรติ ระบุ,ขณะที่กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุ ไม่อนุญาตให้มีการประชุมพรรคการเมือง ว่า ถือเป็นความลำบาก ทั้งกรณีการรับสมาชิกพรรค การประชุมกรรมการบริหารพรรคที่เป็นอุปสรรค ซึ่งเชื่อว่า หากปล่อยสถานการณ์ให้เป็นเช่นนี้ แล้วให้มีการเลือกตั้งเลย คงเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกพรรคการเมืองต้องมีเวลาเตรียมตัว หวังว่า คสช. จะเข้าใจ เพราะยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินกิจกรรมในฐานะพรรคการเมือง และยังรอคำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ที่มีอำนาจ,เมื่อถามว่า หากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ ปัญหาความไม่โปร่งใสในการบริหารงานของ กทม. และในพรรค จะกระทบต่อคะแนนนิยมของพรรคหรือไม่ นายเกียร ติกล่าวว่า เรื่องการบริหารงานไม่โปร่งใสของ กทม. เป็นหน้าที่ของผู้บริหาร กทม. ต้องชี้แจงสังคมเอง ซึ่งเห็นว่าก็มีการชี้แจงไประดับหนึ่งแล้ว ในส่วนของพรรคไม่สามารถดำนินการใด ๆ ที่เป็นทางการได้ แต่อยากถามว่าการที่ปล่อยให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมการได้บ้างเสียหายตรงไหน เพราะว่าที่สุดประชาชนยังพึ่งพาพรรคการเมืองเมื่อมีปัญหาในพื้นที่ แต่พรรคไม่สามารถตอบสนองได้ ก็ถือเป็นอุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่ง หวังว่า คสช. จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ไม่ยาก และทบทวนคำสั่งตามหนังสือร้องขอของพรรค เพื่อให้สามารถเปิดประชุมได้.
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนใหม่ เข้าพบ อภิสิทธิ์ หารือสถานการณ์เศรษฐกิจ-การเมือง ยัน เคารพสถาบัน ขณะ เกียรติ แจง ม.112 สำคัญในภาวะที่บ้านเมืองไม่ปกติ วอน คสช. เปิดให้ประชุมพรรคการเมือง
null
เกียรติ สิทธีอมร,ทูตสหรัฐคนใหม่,ทูตสหรัฐ,ประชาธิปัตย์,มาร์ค,หารือการเมือง,เศรษฐกิจ,ม.112,มาตรา 112,การเมืองไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง,กลิน ที เดวีส์,เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,คสช.
https://www.thairath.co.th/content/546826
ครม.ขึ้นภาษีสุรา ยาสูบ 2% เข้ากองทุนผู้สูงอายุ นำเงินช่วยคนชรายากจน
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ผู้สูงอายุ ฉบับที่… พ.ศ… โดยมีสาระสำคัญให้จัดเก็บภาษีสรรพสามิตที่เรียกว่าภาษีบาป อันเกี่ยวข้องกับสุรา และยาสูบ เพิ่มขึ้นอีก 2% จากอัตราที่จัดเก็บในปัจจุบัน เพื่อที่จะนำเงินดังกล่าวเข้ากองทุนผู้สูงอายุ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณปีละ 4,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินดังกล่าวไปจัดสรรให้กับผู้สูงอายุที่เป็นคนยากจน เพิ่มเติมจากเบี้ยยังชีพที่ได้รับในปัจจุบัน และจะต้องเป็นผู้สูงอายุได้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยในโครงการสวัสดิการแห่งรัฐด้วย,การที่มีมติในวันนี้ เนื่องจากประเทศไทยนั้นกำลังเข้าสู่งสังคมผู้สูงวัย และมีผู้สูงอายุจำนวนมาก และในส่วนนี้เป็นผู้ที่มีรายได้น้อย และจากการสำรวจผู้มีรายได้น้อยในปีที่แล้ว พบว่า มีผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนรายได้น้อยมีจำนวน 2.3 ล้านคน จากจำนวนผุ้สูงอายุที่มีรายได้น้อยทั้งหมด 3.5 ล้านคน คิดว่าปีนี้จะมีผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย เพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านคน ซึ่งผู้สูงอายุและมีรายได้น้อยเหล่านี้ มีรายได้ไม่เพียงพอ โดยปกติจะได้รับเบี้ยยังชีพจากรัฐบาล ในระดับขั้นบันได โดยคนที่มีอายุ 60-69 ปี ก็จะได้เงิน 600 บาทต่อเดือน และ 70-79 ได้เงิน 700 บาทต่อเดือน และอายุ 80-89 ปี ได้ 800 บาทต่อเดือน และอายุ 90 ปีขึ้นไปได้ 1,000 บาทต่อเดือน และกรณีเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เพียงพอในการยังชีพ หรือถูกทอดทิ้ง หรือขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ด้วยตัวเอง จะได้รับเงินสงเคราะห์การยังชีพเพิ่มเติมรายละ 300 บาท ตามกฎเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินของการสงเคราะห์เพื่อการยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งรวมแล้วได้ 900-1,300 บาทต่อเดือน ก็ยังไม่เพียงพอ, ,นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง จะจัดโครงการให้ผู้ที่มีเบี้ยยังชีพในปัจจุบันบางส่วน หรือผู้สูงอายุที่มีรายได้ดี สามารถบริจาคเบี้ยยังชีพให้กับกองทุนนี้โดยสมัครใจได้ด้วย คาดว่าส่วนนี้จะมีเงินอีก 4,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังคิดว่าจะมีมาตรการชักจูงใจ และเชิดชูผู้ที่เสียสละเงินดังกล่าว,ทั้งนี้ปัจจุบันมีการเก็บภาษีเพื่อไปใช้จ่ายเพื่อการเฉพาะ หรือภาษีบาป 3 ด้าน คือ 1. จัดเก็บให้กับกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวน 2% หรือประมาณปีละ 4,271 ล้านบาท 2. สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส 1.5% แต่ไม่เกิน 2,000 ล้านบาทต่อปี และ 3. เก็บให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 2% หรือประมาณ 4,271 ล้านบาทต่อปี โดยตั้งใจว่าจะมีเงินภาษีดังกล่าวประมาณ 7.5%.
ครม.เห็นชอบ ขึ้นภาษีบาป 2% คาดได้เงิน 4 พันล้าน นำเข้ากองทุนผู้สูงอายุ จัดสรรช่วยคนแก่ยากจน ได้เพิ่มเติมจากเบี้ยยังชีพ ขณะที่ คลัง จ่อจัดโครงการจูงใจคนชราฐานะดี สละสิทธิ์รับเงินเบี้ยยังชีพ
ข่าว,เศรษฐกิจ
ขึ้นภาษีบาป,กองทุนผู้สูงอายุ,คนแก่ยากจน,ขึ้นภาษีบาปช่วยคนแก่,เบี้ยคนแก่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1023794
จนท.เร่งกู้ โบกี้-ซ่อมรางรถไฟ จ.นครราชสีมา
เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เร่งกู้ขบวนรถไฟด่วนพิเศษขบวนที่ 22 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ หลังประสบอุบัติเหตุชนรถกระบะที่ทางตัดรถไฟหลังวัดหลักร้อยเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เมื่อคืนที่ผ่านมา (22 ม.ค.) ส่งผลให้คนขับรถกระบะเสียชีวิตและมีผู้โดยสารรถไฟได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 10 คนนายธวัฒน์ วัฒนะศรี สารวัตรงานรถจักรบางซื่อ 2 ที่ควบคุมการกู้ขบวนรถที่ตกรางกล่าวว่า ขณะนี้สามารถกู้โบกี้ขึ้นมาได้แล้ว 2 โบกี้ ยังเหลืออีก 1 โบกี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้รถปั้นจั่นยกโบกี้รถให้เข้ามาอยู่ในรางและซ่อมแซมรางที่พลิกและบิดตัว รวมทั้งหมุดไม้หมอนที่หลุดและขาดออกให้สามารถใช้งานได้ จากนั้นจะลากรถกลับไปยังสถานีรถไฟนครราชสีมา คาดว่าจะสามารถเปิดการเดินรถสายอีสานได้ไม่เกินเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 ม.ค.)โดยสาเหตุน่าเกิดจากเครื่องกั้นทางรถไฟบริเวณที่เกิดเหตุชำรุด ประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ถอดไปซ่อมเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาและทางการรถไฟได้นำป้ายมาปิดประกาศเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนแล้ว แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุขึ้น
เกิดอุบัติเหตุรถไฟด่วนพิเศษขบวนที่ 22 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ชนรถกระบะที่ทางตัดรถไฟหลังวัดหลักร้อยเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เมื่อคืนที่ผ่านมา (22 ม.ค.) ทำให้คนขับรถกระบะเสียชีวิต และมีผู้โดยสารรถไฟได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 10 คน จนรถไฟทุกขบวนที่จะเดินทางขึ้นสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นอัมพาต ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งกู้เพื่อเปิดใช้งานให้ทันในช่วง 10.00 น.วันนี้ (23 ม.ค.)
ภูมิภาค
ขบวน,ขบวนรถไฟ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,รถไฟด่วนพิเศษ,อุบัติเหตุ,เทศบาลนครราชสีมา,เสียชีวิต
https://news.thaipbs.or.th/content/141676
เดี๋ยวก็รู้ เนวิน ไม่เชื่อ มูรินโญ จะทำผีแดงพินาศเหมือนเชลซี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 22 ก.ย. ว่า แพท เนวิน อดีตปีกเชลซี และเอฟเวอร์ตัน ไม่เชื่อว่า โชเซ มูรินโญ จะทำ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พังพินาศเหมือนตอนคุมเชลซีเมื่อปีที่แล้ว,กุนซือวัย 53 ปี ถูกเชลซีปลดออกจากตำแหน่งกุนซือเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังทำผลงานได่อย่างล้มเหลว ไม่เหลือลายแชมป์เก่า เมื่อทำทีมพ่ายถึง 9 นัด ส่งเชลซีจมอยู่โซนตกชั้นอย่างเหลือเชื่อ,กระทั่งช่วงซัมเมอร์ ปิศาจแดง ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นกุนซือปลุกทีมกลับมาผงาดอีกครั้งแต่ทว่าในช่วง 4 เกมหลังดูเหมือนจะกลับกลายเป็นทรงเดิม เมื่อพ่ายสามเกมติดต่อกันแต่ยังดี ที่นัดล่าสุดเพิ่งจะปลดล็อกเอาชนะสมันน้อยในลีกคัพได้สำเร็จ,อย่างไรก็ตาม แพท เนวิน ก็ออกมากระโดดป้อง โชเซ มูรินโญ และมั่นใจว่ากุนซือรายนี้จะไม่ทำให้ผีแดงพังพินาศเหมือนตอนคุมเชลซีแน่นอน,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไปได้สวย เขาจะไม่ทำผีแดงล้มเหลวอย่างตอนคุมเชลซีเมื่อปีก่อนเป็นแน่ เนวิน กล่าว การที่ โชเซ มูรินโญ เข้ามาคุมทีมผีแดง และผลกระทบที่เขามี และแนวทางที่เขากำลังนำจุดแข็งของทีมหลอมรวมกัน ผมให้พวกเขามีโอกาสคว้าแชมป์เหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นิดหน่อยเลยนะ
แพท เนวิน อดีตแข้งชื่อดังเชื่อว่า โชเซ มูรินโญ จะไม่ทำ ผีแดง ​แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ล่มสลายเหมือนตอนที่ตัวเขาคุมเชลซีเมื่อฤดูกาลก่อน
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,โชเซ มูรินโญ,แพท เนวิน
https://www.thairath.co.th/content/731390
ชทพ. ชี้ผลประชามติ สะท้อนคนอยากเลือกตั้งมากกว่าเนื้อหา รธน.
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 59 นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ต้องยอมรับคำตัดสินของประชาชน นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยต้องเคารพ และยอมรับว่าเสียงของประชาชนคือเสียงสวรรค์ ผลการลงมติในครั้งนี้ ประชาชนตัดสินใจเลือกรับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับสาระในร่างรัฐธรรมนูญ เพราะยังไม่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญมาอ่าน และยังไม่ได้ศึกษาเสียด้วยซ้ำไป คือการตัดสินใจรับร่างด้วยความรู้สึกแท้ๆ อยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อยากจะไปสู่การเลือกตั้ง เชื่อว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วจะมีบรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตยขึ้น อยากเห็นประเทศก้าวเดินไปข้างหน้า ต่อไปนี้คือการเดินหน้าประเทศไทยภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ ไม่มีใครตอบได้ว่าการตัดสินใจของเจ้าของอำนาจในครั้งนี้ถูก หรือผิด วันนี้ถือว่าเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกันบนกติกาใหม่เพื่อปฏิรูปประเทศ และนำประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤติ,นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ผลการทำประชามติครั้งนี้ ทำให้รู้ว่าคนที่ใช้สิทธิไม่ได้อ่านเนื้อหารัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้รับการจัดส่งไปถึงมือ แต่ตัดสินใจตามความรู้สึกที่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง ต้องการให้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่เขาจะเอาไว้คอยปรึกษา ช่วยเหลือ เวลามีปัญหา,เมื่อถามว่า มีบางฝ่ายวิจารณ์ว่าจากผลประชามติดังกล่าว สะท้อนว่าประชาชนไว้วางใจทหารมากกว่านักการเมือง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน เพราะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่สะท้อนมานั้น คือ ชาวบ้านต้องการให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น เขาไม่ได้คิดถึงปัจจัยอื่น หรือชอบทหาร ไม่ชอบทหารแต่อย่างใด
ชทพ. น้อมรับผลประชามติ ชี้คนตัดสินใจจากความรู้สึก สะท้อนต้องการเลือกตั้ง โดยไม่อ่าน-ไม่ดูสาระ รธน. บอกวัดไม่ได้ คนไว้ใจทหารมากกว่านักการเมือง
null
ประชามติ,ผลประชามติ,ร่างรัฐธรรมนูญ,สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล,พรรคชาติไทยพัฒนา,ผลการลงมติ,ชทพ.,คำถามพ่วง,การเลือกตั้ง,ประชาธิปไตย,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/685056
ด้วยความเคารพต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณียุบพรรคอนาคตใหม่
พบว่ามีประเด็นปัญหาที่น่าสนใจและน่าตั้งคำถามอยู่หลายประการ ผมจึงขอตั้งข้อสังเกตทางวิชาการเกี่ยวกับคำวินิจฉัยดังกล่าว ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้1. ขั้นตอนก่อนการยื่นคำร้องของ กกต. ต่อศาลรัฐธรรมนูญ -> ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า แม้ในกรณีนี้ กกต. จะใช้อำนาจอย่างถูกต้องตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) แต่เป็นที่น่าตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน รวมถึงการสืบสวนและไต่สวน ซึ่งเป็นกระบวนการภายในของทาง กกต. นั้น เป็นธรรม หรือไม่ อย่างเช่น เรื่องการเพิ่มข้อหาที่จะใช้ดำเนินคดีต่อพรรคอนาคตใหม่ (เพิ่มมาตรา 62 และมาตรา 72 จากเดิมที่มีแค่มาตรา 66) นั้น ได้มีการเปิดโอกาสให้ทางพรรคอนาคตใหม่ได้เข้าถึงกระบวนการอันเป็นธรรมหรือไม่2. เหตุสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 72 ประกอบมาตรา 92 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 -> ด้วยความเคารพ ผมมีความเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยอาศัยเหตุตามมาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฯ โดยมีข้อโต้แย้งและข้อสังเกตดังนี้2.1 พรรคการเมืองกับสถานะความเป็น นิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน- นิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน หมายถึง นิติบุคคลที่ ถูกตั้งขึ้นตามกฎหมายมหาชน กล่าวคือ ต้องมีกฎหมายมหาชนเป็นฐานแห่งการให้กำเนิดนิติบุคคล ซึ่งจะเป็น นิติบุคคลเอกชน (ตั้งขึ้นเพื่อ ประโยชน์ของบุคคล + ยึดหลัก ไม่มีกฎหมายห้าม = ทำได้) หรือ นิติบุคคลมหาชน (ตั้งขึ้นเพื่อ ประโยชน์สาธารณะ + ยึดหลัก ไม่มีกฎหมายให้อำนาจ = ทำไม่ได้) ก็ได้ ซึ่งพรรคการเมืองเกิดขึ้นจาก เสรีภาพในการรวมกันจัดตั้งพรรคการเมือง ตามมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 แต่จะจัดตั้งพรรคการเมืองได้อย่างสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อ ได้ไปจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองกับนายทะเบียนพรรคการเมือง (เลขาธิการ กกต.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560- แม้จะอ้างว่า พรรคการเมือง = นิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน เนื่องจากเกิดจากรวมกลุ่มทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ + มีการจดจัดตั้งพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฯ (ซึ่งถือเป็นกฎหมายมหาชน) หากแต่เมื่อพิจารณาว่า การรวมกลุ่มจัดตั้งพรรคการเมืองเป็น เสรีภาพของเอกชน ที่ได้รับการคุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญ และการจดจัดตั้งพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฯ เป็นเพียง ขั้นตอนเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ทางทะเบียน เท่านั้น ไม่ใช่ฐานในการกำเนิดของพรรคการเมือง รวมถึงการที่พรรคการเมืองมีวัตถุประสงค์อย่าง เอกชน (ไม่ใช่เพื่อการจัดทำบริการสาธารณะ) ดังนั้น พรรคการเมืองจึงถือเป็น นิติบุคคลเอกชน ดังนั้น พรรคการเมืองจึงอยู่ภายใต้หลักการที่ว่า ไม่มีกฎหมายห้าม = ทำได้ เมื่อกฎหมายมิได้บัญญัติห้ามการกู้ยืมสำหรับพรรคการเมืองไว้โดยชัดเจน การที่พรรคการเมืองกู้เงินไปนั้น จึงไม่ใช่สิ่งที่กฎหมายห้ามอย่างชัดเจน2.2 การผิดมาตรา 66 ไม่ควรนำไปสู่การผิดมาตรา 72- ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การกู้ยืมเงินของผู้ถูกร้องมีเจตนาหลีกเลี่ยงมาตรา 66 เมื่อการรับบริจาคเงินนั้น ต้องห้ามตามมาตรา 66 จึงเป็นการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่น โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 72 อันเป็นเหตุให้สั่งยุบพรรคผู้ถูกร้องตามมาตรา 42 วรรคสอง ประกอบมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) กล่าวคือ ในกรณีนี้ศาลมองว่า พรรคอนาคตใหม่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ห้ามรับบริจาคเงินจากบุคคลคนเดียว เกิน 10 ล้านบาท ตามมาตรา 66 + มีพฤติการณ์ที่จะหลีกเลี่ยงมาตรา 66 ดังนั้นเงินบริจาคจึงเป็นเงินที่รู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้ามาตรา 72- อย่างไรก็ตาม เมื่อมาพิจารณาถึงเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา 72 จะเห็นได้ว่าถูกออกแบบมาเพื่อ การสกัดกั้นเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อย่างอื่นอันไม่ชอบด้วยกฎหมายที่พรรคการเมืองจะสามารถได้รับบริจาค ดังนั้น เงินที่ควรจะเข้าเงื่อนไขตรงนี้ ควรเป็นเงิน สกปรก เช่น เงินที่มาจากการฟอกเงิน เงินที่มาจากการฉ้อโกงประชาชน เงินที่มาจากการขโมย เป็นต้น ไม่ควรรวมไปถึงเงิน สะอาด ที่ได้มาโดยการประกอบธุรกิจโดยสุจริต- รวมไปถึงการที่ทั้งมาตรา 66 และมาตรา 72 ต่างมีสภาพบังคับเป็นของตนเอง (ผิดมาตรา 66 มีโทษตามมาตรา 124 // ผิดมาตรา 72 มีโทษตามมาตรา 126) ทำให้พิจารณาได้ว่า เจตนารมณ์ของ 2 มาตรานี้ ไม่ควรที่จะถูกใช้อย่าง เชื่อมโยงกัน- อีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ศาลวินิจฉัยว่า สัญญากู้เป็น นิติกรรมอำพราง การบริจาคเงินโดยบุคคลคนเดียว ก็พบประเด็นที่น่าตั้งข้อสังเกตหลายประการ เช่น การอาศัยหลัก ปกติทางการค้า ซึ่งถือเป็นหลักที่ถูกใช้ในเรื่องทาง กฎหมายแพ่ง มาเป็นการ ให้โทษ ในเรื่องที่มิใช่ทางแพ่ง- รวมถึงหากพิจารณาตามหลักการตามปกติ เมื่อเกิดนิติกรรมอำพราง นิติกรรมนั้นย่อมไม่มีผล ให้บังคับตามนิติกรรมแท้จริงที่ถูกอำพราง ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็จะเข้ามาตรา 66 เนื่องจากการบริจาคคือสิ่งที่ถูกอำพราง กรณีก็จะเข้ามาตรา 66 ไม่ควรที่จะเข้ามาตรา 72 ด้วย
เมื่อผมได้ฟังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
สิทธิกานต์ ธีระวัฒนชัย,ศาลรัฐธรรมนูญ,การยุบพรรคการเมือง,อนาคตใหม่
https://prachatai.com/journal/2020/02/86481
ผบ.ตร.ยอมรับยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในเขตพื้นที่ กทม.
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การดูแลสถานการณ์พื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และวันหยุดยาวยังต้องกำลังตำรวจอย่างเต็มที่ทั้งในสถานที่สำคัญ และสถานที่เชิงสัญลักษณ์ ซึ่งยังอยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ แม้ว่าด้านการข่าวยังไม่มีสัญญาณบอกเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น แต่เพื่อความไม่ประมาท จึงจำเป็นต้องดูแลกรุงเทพมหานครอย่างเข้มงวดส่วนสถานการณ์ยาเสพติดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่ามียาบ้าเตรียมทะลักเข้าไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านเม็ด ซึ่งทางทหารก็มีการตรึงกำลังตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด รวมถึง ตำรวจก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้ยาบ้าเหล่านี้เข้ามาในเขตพื้นที่ภาคกลางได้สำหรับความคืบหน้า ตำรวจกำลังเร่งติดตามนายเกียรติศักดิ์ ศรีษะสุวรรณ น้องชายของนายณัฐพงศ์ ที่ถูกตำรวจวิสามัญจนเสียชีวิต บริเวณย่านวัชรพลเมื่อวานนี้ ซึ่งจากข้อมูล นายเกียรติศักดิ เคยถูกจับเมือปี 2547 และอยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นศาลแต่กลับมาค้ายาบ้าอีก ส่วนเครือข่ายนี้ เป็นเครือข่ายในเขตพื้นที่มีนบุรี วัชรพล และเป็นเครือข่ายใหญ่พอสมควร
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับมียาบ้าเตรียมทะลักเข้าไทยในช่วงสงกรานต์นี้ โดยเตรียมกำลังสกัดกั้นเพื่อป้องกันเข้าพื้นที่ภาคกลาง พร้อมยอมรับยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
อาชญากรรม
กทม.,ผบ.ตร.,ยาบ้า,สงกรานต์
https://news.thaipbs.or.th/content/77965
เจอเลขเด็ด โผล่ในบาตรน้ำมนต์ ขณะ รอง ผบ.ตร.ร่วมพิธีบวงสรวงที่คำชะโนด
เมื่อเวลา 20.29 น.วันที่ 15 ธันวาคม 2560 ที่บริเวณจุดบวงสรวงชั่วคราวหน้าเกาะคำขะโนดบ้านโนนเมือง ดินแดนวังนาคินทร์ พญานาคราชปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีประทุมมา มีการจัดพิธีบวงสรวงใหญ่และการสวดมนต์โดยมี พระเทพนรินทร์ ชินรังษี วัดเทพนรินทราราม อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์และเป็นผู้นำพาญาติบุญที่มาร่วมจำนวนมากทำพิธีบวงสรวงและมี พลตำรวจเอก ดร.วีระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีฝ่านฆาราวาส และศิษยานุศิษย์ ได้เดินทางไปที่คำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อบวงสรวงและสวดมนต์ โดยมีการกระทำพิธีที่ด้านข้างลานพิธี,ในช่วงแรก พระอาจารย์เทพนรินทร์. ได้เดินทางมาถึงลานพิธีที่เตรียมเอาไว้ มีลูกศิษย์ได้มากราบไหว้เป็นจำนวนมาก จากนั้น พลตำรวจเอกวีระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยภรรยา ได้เดินทางมาและกราบพระเทพนรินทร์ ตากนั้นได้เดินทางเข้าไปในคำชะโนด เพื่อสวดมนต์ ประมาณ 45 นาที และได้ออกมา จากชะโนด เพื่อกระทำพิธีบวงสรวง พระอาจารย์เทพนรินทร์ นำรอง ผบ.ตร.พร้อมภรรยาจุดธูปบูชาปู่ศรีสุทโธ เสร็จแล้วได้เข้าร่วมพิธีบวงสรวงอยู่นานเกือบสองชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ,หลังจากนั้นก็มีการรำบวงสรวง หลังพิธีบวงสรวงเสร็จชาวบ้านที่มาร่วมสวดมนต์ได้แห่เข้ามาดูที่บาตรน้ำมนต์ มองเห็นเลข 963 ที่แปลกน้ำตาเทียนในบาตรน้ำมนต์ทั้งสองขันที่เหมือนกันทั้งสองบาตรน้ำมนต์คือเห็นเลข 3 ชัดเจนมาก เป็นที่ฮือฮาสำหรับคอหวยทั่วไป ซึ่งหลังจานั้นได้เข้าสู่พิธีการรำบวงสรวงพ่อปู่ศรีสุทโธ โดยมีนางรำบวงสรวง มาจากหลายๆแห่ง ได้แก่ คุณอุ้ม อารีสยาม ริต้า ดิษยโสธรศิลป์ และคณะนางรำที่มาร่วมรำบวงสรวงในครั้งนี้ อย่างตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากคืนที่ทำพิธีบวงสรวงนั้นใกล้วันหวยออก แต่เรื่องของการหยดของน้ำตาเทียนเป็นตัวเลขนั้นมันเป็นตามธรรมชาติ ไม่สนับสนุนให้เล่นการพนัน.
รอง ผบ.ตร.ร่วมพิธีบวงสรวงใหญ่ที่คำชะโนด มีเลขเด็ดโผล่ในบาตรน้ำมนต์ทั้งสองขันตรงกัน 9,6,3 เป็นที่ฮือหากับคอหวยที่มารอเลขเด็ดไปเสี่ยงโชค
ข่าว,ทั่วไทย
ปู่ศรีสุทโธ,คำชะโนด,หวย,เลขเด็ด,อุดรธานี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1154345
คลิปเก่า ผู้พิพากษาหญิง วีนการไฟฟ้าฯ บางเขน โฆษกศาลฯ ขอหยุดนำเสนอ
โผล่อีกคลิป ผู้พิพากษาสาววีนแตกฝ่ายการเงินการไฟฟ้านครหลวง เขตบางเขน เจ้าหน้าที่เผย เหตุเกิดเมื่อ 3 วันที่แล้ว โฆษกศาลยุติธรรม วอนสังคมหยุดนำเสนอ กระทบจิตใจผู้ป่วย,จากกรณีคลิปผู้พิพากษาหญิงรายหนึ่ง วีนแตกที่กรมการขนส่งทางบก ย่านหมอชิต เมื่อวันพุธ (20 ม.ค.) ที่ผ่านมา หลังผู้โพสต์อ้างว่าหญิงสาวรายนี้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่องโดนสวมทะเบียนรถ แต่จอดรถกีดขวางจึงโดนเจ้าหน้าที่ขนส่งออกใบสั่ง ทำให้เกิดความไม่พอใจ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก,ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปของ น.ส.ชิดชนก อีกครั้ง โดยอ้างว่าเหตุเกิดวันนี้ (22 ม.ค.) ที่การไฟฟ้านครหลวง เขตบางเขน ขณะกำลังโวยวายใส่เจ้าหน้าที่ พร้อมกล่าวลั่น ,ฉันไม่ผิด ฉันไม่แคร์, ก่อนขึ้นไปยืนกอดอกบนเก้าอี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ บางเขน รายหนึ่ง เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 3 วันที่แล้ว ไม่ใช่วันนี้ตามที่ถูกระบุในโซเชียล นั่นหมายความว่าขณะนี้ น.ส.ชิดชนก ไม่ได้ก่อเรื่องเพิ่มเติมหลังจากเกิดคลิปฉาวที่กรมการขนส่งทางบก,สอดคล้องกับข้อมูลจากนายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม ที่เปิดเผยกับทีมข่าวว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปเก่า เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ที่กรมการขนส่งทางบก เบื้องต้นเย็นวันนี้ เตรียมนำตัว น.ส.ชิดชนก ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมขอสังคมหยุดนำเสนอคลิปทำนองดังกล่าว เนื่องจากเจ้าตัวเป็นผู้ป่วย ซึ่งอาจทำให้จิตใจย่ำแย่ลง วอนขอให้สังคมเข้าใจ,โดยก่อนหน้านี้ (21 ม.ค.) โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม ได้ออกมายอมรับว่าสาวในคลิปวีนแตกที่กรมการขนส่งทางบก คือ นางสาวชิดชนก แผ่นสุวรรณ ผู้พิพากษาประจำสำนักงานศาลยุติธรรม ช่วยทำงานในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ มีประวัติป่วยทางจิต ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ และก่อนเกิดเหตุไม่ได้ทานยา อาการจึงกำเริบ ซึ่งล่าสุดได้มีการตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว,ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,- ,ผู้พิพากษาสาววีนแตก ป่วยทางจิต ไม่ได้กินยา เคยอาละวาดหลายครั้ง
โผล่อีกคลิป! ผู้พิพากษาสาววีนแตกฝ่ายการเงินการไฟฟ้านครหลวง เขตบางเขน เจ้าหน้าที่เผย
null
ผู้พิพากษา,ศาลยุติธรรม,ป่วยทางจิต,วีนแตก,การไฟฟ้านครหลวง,เขตบางเขน,สายตรวจโซเชียล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath
https://www.thairath.co.th/content/566621
มายาคติ HIV EP.3 ถอดสูตรการศึกษาไทย สร้างภาพกลัว ตรวจสุขภาพก่อนเรียน
เป็นแล้วตาย ไม่มียารักษา ร่างกายซูบผอม มีตุ่ม ผื่น คัน การพรรณนาถึงความน่ากลัวของผู้ติดเชื้อเอดส์ในวาระสุดท้ายที่วัดพระบาทน้ำพุเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนใจให้แก่นักเรียนที่อยู่ในห้องได้อย่างดิบดี เพื่อหวังในจุดประสงค์ที่จะยับยั้งไม่ให้เด็กรุ่นใหม่ตกเป็นเหยื่อของโรคเอชไอวีนี้ได้ แต่ทว่า การสั่งสอนให้เด็ก กลัว เพื่อไม่ให้กระทำนั้น มิอาจช่วยทำให้จำนวนวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวีลดน้อยลงไปได้เลย,จากงานวิจัยในหัวข้อ ,วิเคราะห์สถานการณ์และปัจจัยที่มีผลต่อการติดเชื้อเอชไอวีของกลุ่มเยาวชนในประเทศไทย, ของยูนิเซฟ พบว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเยาวชน ประมาณ 70% ของผู้ติดเชื้อ และการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ในประเทศไทย จำนวนสูงที่สุด อยู่ในกลุ่มอายุ 15-24 ปี บ่งชี้ว่าข้อมูลเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยยังเข้าไม่ถึงกลุ่มอายุนี้,สำหรับสกู๊ปซีรีส์มายาคติ HIV ในตอนที่ 3 นี้ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ขอเจาะไปในมิติด้านการศึกษาว่า ควรสอนเด็กอย่างไร ให้เรียนรู้ เข้าใจโรคเอชไอวีและเอดส์ มากกว่ามุ่งสอนให้กลัว และค้นหาคำตอบกับเรื่องการตรวจเลือดก่อนเข้าเรียน ละเมิดสิทธิเด็กหรือไม่ รวมถึงประเด็นการติดเชื้อเอชไอวี ไม่สามารถเรียนหมอได้อย่างที่ใครหลายคนสงสัยจริงหรือเปล่า ทีมข่าวอยากให้ผู้อ่านร่วมถกประเด็นเหล่านี้ไปด้วยกัน,PART 1 : สร้างภาพกลัว ถูกกีดกัน, น้องหมู (นามสมมติ) เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ผู้ติดเชื้อเอชไอวีบอกกับทีมข่าว,ตำราเรียน มุ่งสอนให้เด็กกลัว มากกว่า เรียนรู้และเข้าใจ,กระนั้นแล้ว ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ ,นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์, ถึงปัญหาของหลักสูตรการศึกษาไทยต่อเรื่องเอชไอวี ว่า การเขียนเนื้อหาหลักสูตรไม่ได้ศึกษาสาเหตุของปัญหาที่แท้จริงเรื่องการติดเชื้อเอชไอวี โดยมักจะใช้วิธีขู่ตั้งแต่เริ่มต้นว่า เป็นแล้วตาย เป็นเรื่องทุกข์ทรมานเจ็บป่วย ซึ่งเมื่อขู่ให้กลัว ประกอบกับเผยแพร่ภาพถ่ายที่วัดพระบาทน้ำพุ ว่าถ้าคุณติดเชื้อ จะมีสภาพแบบนี้ ด้วยวังวนของความเชื่อที่ว่า หากคนเกิดความกลัว คนก็จะไม่ทำ ซึ่งสมมติฐานแบบนี้ใช้ได้เฉพาะบางเรื่องเท่านั้น,ทั้งนี้ เนื้อหาในหลักสูตรไม่ได้เน้นให้คนเห็นถึงความเสี่ยงของตัวเอง ไม่ได้ช่วยทำให้เกิดการคิดวิเคราะห์ โดยบอกแค่ว่าติดต่อ 3 ทาง ได้แก่ เพศสัมพันธ์ เข็มฉีดยา แม่สู่ลูก ซึ่งตรงนี้เป็นข้อมูลที่หยาบมาก ไม่ได้ทำให้เด็กเกิดกระบวนการคิดวิเคราะห์ เพื่อให้มาสัมพันธ์กับตัวเองว่า ,เรามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากอะไร มากกว่าที่จะบอกว่าจะติดเชื้อได้อย่างไร,ขณะเดียวกัน ,นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว รองประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย, มองว่า การสอนให้เด็กกลัวนั้น ไม่ได้ทำให้อัตราผู้ติดเชื้อเอชไอวีลดลง เป็นการพยายามที่จะยุติปัญหาหนึ่ง แต่ไปสร้างอีกปัญหาหนึ่ง แต่อย่าลืมว่า เรื่องเพศสัมพันธ์มีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกช่วงวัย และการที่มีเพศสัมพันธ์เป็นระบบธรรมชาติของคน ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทั่วโลก เมื่อเด็กเกิดพลาดไปรับเชื้อมา สิ่งที่กลัวอยู่แล้วก็จะยิ่งกลัวหนัก เพราะพวกเขาเคยถูกบอกให้กลัว กลายเป็นกลัวตัวเอง ไม่ไปรักษาเพราะกลัวถูกด่า กลัวถูกคนอื่นรังเกียจ เพราะก็เคยด่าหรือรังเกียจคนอื่นมาก่อนเหมือนกัน,แนะ สอนเด็กวิเคราะห์ความเสี่ยงของตัวเอง ไม่ใช่ท่องจำ,ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการเรียนว่า จะต้องเริ่มต้นทำให้ผู้เรียนประเมินให้ได้ว่า ความเสี่ยงหรือโอกาสเสี่ยงของตัวเองที่จะติดเชื้อมาจากไหน และ ,ต้องเป็นการวิเคราะห์อย่างรอบด้านให้เห็นความเสี่ยงของตัวเองอย่างแท้จริง เช่น,โอกาสเสี่ยงของวัยรุ่นที่จะติดเชื้อ จะเกิดได้จากการมีแฟนซึ่งอาจนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม, จะรู้ได้อย่างไรว่าแฟนมีเชื้ออยู่หรือไม่, หากไม่รู้หมายความว่าไม่เสี่ยงหรือไม่ และจะประเมินหรือลดความเสี่ยงได้อย่างไร,ดังนั้น จึงต้องสอนให้เด็กคิดวิเคราะห์ความเสี่ยงให้ได้ และต้องคิดวิเคราะห์ถึงการแก้ปัญหาว่า ถ้ารู้หรือไม่รู้จะลดความเสี่ยงด้วยวิธีไหนและช่องทางใด แต่ว่าการเรียนการสอนในโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเอชไอวี ยังไม่มีกระบวนการที่คิดวิเคราะห์ลักษณะนี้ มีแต่การท่องจำสำเร็จรูปว่าติดได้จาก 3 ทางเท่านั้น,มายาคติสถานศึกษา ใช้ผลเลือดเป็นเงื่อนไข รับ-ไม่รับเข้าเรียน,ทางด้านรองประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีฯ ได้ยกตัวอย่างกรณีที่มีนักศึกษาพยาบาลเข้าร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ กรณีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ให้ออกจากภาควิชาที่เรียน หลังพบว่ามีผลตรวจเลือดเป็นเอชไอวี โดยทางมหาวิทยาลัยอ้างว่า หากนักศึกษาเข้าไปฝึกงานในโรงพยาบาลอาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคอื่นเพิ่ม และเป็นการปกป้องสิทธิผู้ป่วยคนอื่น หากปล่อยให้นักศึกษาที่มีเชื้อเอชไอวีไปสัมผัสกับผู้ป่วยแล้ว เกิดปัญหาขึ้นภายหลังจะเสียหายทั้งสถานพยาบาล และมหาวิทยาลัย,ขณะที่ มีกรณีโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งบังคับให้เด็กตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี ทั้งที่มีผลตรวจเลือดตั้งแต่แรกเกิดแล้วว่าไม่พบเชื้อที่ติดจากแม่สู่ลูก แต่ทางโรงเรียนไม่รับฟังให้ไปตรวจใหม่ โดยอ้างว่าใช้เป็นหลักฐานในการเข้าศึกษาต่อและใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียนร่วม ซึ่งมองว่ากรณีข้างต้นนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นมายาคติทั้งสิ้น กังวลว่าเมื่อเด็กทะเลาะกัน ต่อยตีมีเลือดออกแล้วจะทำให้เพื่อนติดเชื้อ หรือมีทัศนคติที่เชื่อว่า ผู้ติดเชื้อไม่ควรเรียนที่นี่เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์เสีย หรือเป็นผู้ตัดสินว่าผู้ติดเชื้อควรหรือไม่ควรเรียนอะไร,4 ข้อ เรียกร้อง แก้ปัญหาละเมิดสิทธิผู้ป่วยเอชไอวี,หลังจากที่ทางเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ได้เข้าหารือกับทางกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข โดยได้ร่างประกาศการแก้ไขปัญหาละเมิดสิทธิผู้ติดเชื้อเอชไอวี นายอภิวัฒน์ ระบุถึง 4 ข้อเรียกร้องนั้นว่า,1. ห้ามสถานศึกษาทุกแห่ง บังคับตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีเพื่อเข้ารับการศึกษา หากสถาบันใดฝ่าฝืนให้มีบทลงโทษทางวินัยที่ชัดเจนแก่ผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งต้องมีมาตรการชดเชยและเยียวยานักเรียน นักศึกษาที่ถูกละเมิดสิทธิ ,2. หากครูรู้หรือสงสัยว่าเด็กคนใดมีเชื้อเอชไอวี ต้องมีมาตรการรักษาความลับ,3. สร้างสภาพแวดล้อมในเรื่องเอดส์ใหม่ จากเดิมที่เคยรณรงค์วันเอดส์โรคในสถานศึกษา โดยนำภาพผู้ป่วยในวัดพระบาทน้ำพุมาติดบอร์ดโชว์ เปลี่ยนเป็นการรณรงค์เชิงบวก สามารถป้องกันได้ รักษาได้ อยู่ร่วมกันได้ ไม่มีใครติดเชื้อเอชไอวีจากการเรียนหรือทำงาน แม้ว่าจะติดเชื้อเอชไอวีก็สามารถมาเรียนหรือทำงานได้ มีครอบครัว มีลูกได้,4. โรงเรียนทุกโรงเรียนในระบบ สพฐ. ต้องมีการเรียนการสอนเรื่องเพศศึกษา ท้องไม่พร้อม และเรื่องเอดส์ในแง่มุมใหม่ ซึ่งทำอยู่แล้วแต่ที่สอนมาเชื่อว่าทำให้เด็กกลัวแล้วเด็กจะไม่ไปทำอย่างนั้นอีก แต่ลืมไปว่าความกลัวไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ต้องสอนให้เด็กเข้าใจและประเมินตัวเองให้ได้,ด้วยเหตุนี้ จึงมีแผนปฐมนิเทศครู ซึ่งกระทรวงศึกษาจัดอยู่เป็นประจำทุกปี และปีหนึ่งจัดหลายครั้ง แต่ไม่ได้มีประเด็นเหล่านี้เลย เมื่อเสนอแผนไป สพฐ. ได้รับเรื่องนี้แล้ว จึงมีการจัดเวทีให้คุณครูทั่วประเทศเข้ามาฟังเด็กที่มีเชื้อเอชไอวีพูดบนเวที เมื่อคุณครูกลับไปสอนก็จะเข้าใจในสิ่งที่เด็กพูด แต่ถามว่าพัฒนาดีขึ้นหรือไม่ คงตอบเร็วเกินไป เพราะเพิ่งเริ่มเมื่อปีที่ผ่านมา, รองประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีฯ กล่าว,PART 2 : ถอดหลักสูตรการศึกษาไทย ตรวจสุขภาพก่อนเรียน,การสอนให้เข้าใจ ไม่ใช่แค่ในตำรา แต่ต้องพึ่งพากระแสสังคม,ศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, กล่าวถึงเรื่องการปรับหลักสูตรการสอนเรื่องโรคเอชไอวีว่า ในตำรามีการเขียนว่าติดจากทางไหนได้บ้างไม่ได้สอนแค่ว่าโรคร้ายแรงอย่างไรเท่านั้น แต่ไม่สามารถจะห้ามความกลัวใครได้ โรงเรียนไม่ได้สอนให้เกิดความกลัว แต่สอนให้รู้จักการวางตัว รู้จักป้องกันตัว แต่การที่จะรู้จักป้องกันตัวหรือระวังตัว คือให้รู้จักความร้ายแรงของโรค,ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ควรจะปรับแก้หลักสูตรเพื่อให้เด็กได้มีการคิดวิเคราะห์มากขึ้นหรือไม่ ศ.นพ.กำจร กล่าวว่า ไม่ใช่แค่เอชไอวีที่เป็นโรคร้ายแรงเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายโรคที่ต้องสอน ซึ่งเอชไอวีต้องสร้างความเข้าใจให้ถูกต้อง และความเข้าใจกับความกลัวคนละเรื่องกัน เข้าใจมากก็ยิ่งกลัวมากก็ได้ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ ต้องระวังตัวเอง ถ้าระวังตัวได้ก็ไม่ต้องกังวล,ศ.นพ.กำจร ยอมรับว่า การสอนให้เด็กในโรงเรียนยอมรับและเข้าใจผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีนั้นไม่สามารถที่จะสอนในตำราได้ อาจจะเขียนได้ว่า ไม่ได้ติดต่อจากการสัมผัส นั่งทำงานร่วมกัน ซึ่งมีบอกไว้ในตำราอยู่แล้ว แต่ว่าการสร้างความตระหนักแบบนี้ให้คนรับรู้นั้นต้องใช้เวลา เพราะว่าไม่ได้รู้เรื่องโรคลึกซึ้งเหมือนกับแพทย์ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสบาย อีกทั้ง ,การเรียนรู้ไม่ใช่อยู่แต่ในตำราเท่านั้น ต้องอยู่ในกระแสสังคมด้วย สังคมต้องเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน ไม่ใช่แค่ในโรงเรียนเท่านั้น และคงต้องใช้ระยะเวลาเต็มที่ในการยอมรับและเข้าใจ,สพฐ. ย้ำชัด ห้ามสถานศึกษาขอตรวจหรือเรียกเอกสารผลเลือดเด็ก,นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศนั้น ,ห้ามให้มีการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีเด็ดขาด และห้ามเรียกขอเอกสารการตรวจเลือดจากเด็ก เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิของเด็ก โดยทาง สพฐ. ได้ทำหนังสือเวียนไปยังโรงเรียนทั่วประเทศเกี่ยวกับกรณีนี้แล้ว, นายการุณ ย้ำชัด,ขณะที่ ศ.นพ.กำจร ได้กล่าวเพิ่มเติมในประเด็นนี้ว่า ทางสถานศึกษาไม่ได้มีกฎระเบียบห้ามเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีเข้าเรียน แต่หากมีบางโรงเรียนขอให้เด็กหยุดเรียน ต้องดูบริบทว่าให้เด็กหยุดเรียนเพราะเหตุใด กลัวติดเพื่อนคนอื่นหรือกลัวว่าเด็กคนนั้นจะเป็นอันตรายจากการติดโรคอื่นเพิ่ม ก็ถือเป็นคนละกรณีกัน,การตรวจเลือด เงื่อนไขเข้าเรียนมหาลัย ทำได้จริงหรือ?,รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา, กล่าวว่า การที่มหาวิทยาลัยให้ตรวจสุขภาพนั้น เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของตัวนักศึกษาเอง จะได้มีการป้องกัน รักษาก่อนหากเป็นโรคอะไร ,ส่วนการตรวจเลือดเพื่อสมัครเข้าเรียนคณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่นั้น ไม่ได้มีการขอตรวจเลือด เพราะการตรวจเลือดต้องมีการขออนุญาตต่อผู้ที่ถูกตรวจ อีกทั้งยังมองว่า นักศึกษาทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่ากัน ขณะเดียวกันคนที่ติดเชื้อก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติดังเช่นนักศึกษาทั่วไปได้, จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่โรคคุมไม่ได้ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลก็ถือว่าเป็นอีกกรณีหนึ่ง,ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากไม่ยินยอมให้ตรวจสุขภาพและตรวจเลือด สถานศึกษาจะไม่รับเข้าเรียนนั้น ทำได้หรือไม่ รศ.นพ.สรนิต ตอบว่า ต้องดูที่กฎเกณฑ์หากไม่ทำตามกฎเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ทางสถานศึกษาก็มีสิทธิในการไม่รับเข้าเรียนได้ แต่ก็อาจจะต้องมานั่งคุยกันถึงเหตุผลว่าเหตุใดจึงไม่ยอมตรวจ ซึ่งต้องมาคุยกันเพราะเป็นประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย, รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ระบุ,เลือดบวกเรียนหมอไม่ได้ จริงหรือ?,รศ.นพ.สรนิต ให้คำตอบกับข้อสงสัยนี้ว่า ,เปิดวิดีโอ ยกสถานการณ์ ถกปัญหากลางห้องเรียน,นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่พิมพ์ของชาติ ผู้พร่ำสอนเด็กมากว่า 30 ปี นั่นคือ ,คุณครูอัธยา บุณยรัตเศรณี วัย 52 ปี ครูที่ปรึกษาและแนะแนว โรงเรียนขลุงรัชดาภิเษก, เล่าถึงการสอนเพศศึกษาและโรคเอชไอวี-เอดส์ ของโรงเรียนให้ฟังว่า เรื่องเพศศึกษามีการสอนทุกห้องเรียน โดยใช้แผนการสอนตั้งแต่ ม.1-6 ของมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ขึ้นอยู่กับว่า คุณครูจะเอาไปใช้ในคาบวิชาไหน หรือบางช่วงเวลามีวิทยากรจากโรงพยาบาล เทศบาล ชุมชน เข้ามาให้ความรู้,คุณครูอัธยา ยกตัวอย่างวิธีการสอนว่า จะมีคลิปวิดีโอสถานการณ์ให้เด็กดู เช่น ผู้ชายชวนผู้หญิงไปที่บ้านและต้องการมีเพศสัมพันธ์ ผู้หญิงจะมีทักษะการปฏิเสธอย่างไร และถ้าจะป้องกันตัวเองจากเชื้อเอชไอวี ควรจะใช้วิธีการอย่างไร หรือหากติดเชื้อและมีคนมาจีบควรทำอย่างไร โดยให้เด็กวิเคราะห์เป็นกลุ่มๆ ว่ามีแนวคิดแบบไหน ซึ่งจะทำให้เห็นถึงความเข้าใจของเด็กได้เป็นอย่างดี,ครูขอเสนอออกแผนการสอนเอชไอวีให้ชัดเจน,ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในฐานะที่เป็นคุณครูหัวสมัยใหม่ อยากฝากถึงคุณครูทั่วประเทศอย่างไรบ้าง คุณครูอัธยา นิ่งคิดไปชั่วครู่ก่อนให้คำตอบว่า ครูต้องเข้าใจว่าเด็กที่ไม่ได้ติดเชื้อมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลา กับกลุ่มที่ไม่ระวัง กลุ่มเหล่านี้ต่างหากที่ครูต้องปลูกฝังให้มีความเข้าใจว่า หากติดเชื้อจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ถ้าไม่ได้ติดเชื้อจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร รวมทั้งจะปฏิบัติตัวกับผู้ที่ติดเชื้ออย่างไร ด้วยความที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน เท่าเทียมกัน จะทำอย่างไรให้สามารถใช้ชีวิตด้วยกันได้อย่างมีความสุข,เพราะโรคเอชไอวีมีเด็กส่วนน้อยที่เป็น แต่เด็กกลุ่มเสี่ยงนั้นมีเยอะกว่า ฉะนั้น เด็กทุกกลุ่มควรเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเอชไอวี แนวการป้องกัน ปฏิบัติตน ควรสอนทุกคน บางคนไม่ติดเชื้อ แต่มีพฤติกรรมเสี่ยง ก็ควรให้เด็กเข้าใจและมีวิธีป้องกัน นี่คือสิ่งที่ครูควรสอน และอาจจะต้องมีการศึกษาบางกรณี เพื่อให้เด็กคิด วิเคราะห์ว่า สถานการณ์แบบนี้ พวกเขาจะทำอย่างไร ให้มีบทบาทสมมติ ถ้าเป็น ไม่เป็น และเสี่ยงจะทำอย่างไร และคิดว่าแผนการจัดการเรียนรู้ก็น่าจะมีออกมาให้ชัดขึ้น เป็นตัวอย่างให้ครูทั้งประเทศได้,ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ก็สามารถเรียนได้ อยู่ร่วมกับเพื่อนๆ ในรั้วโรงเรียน-มหาลัยได้,ถึงเวลาที่สถาบันการศึกษา และสังคมจะมองพวกเขาใหม่ได้หรือยัง?,สำหรับสกู๊ปซีรีส์มายาคติ HIV ตอนต่อไป ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญของผู้ป่วยเอชไอวีเช่นกัน เพราะพวกเขาจะต้องดิ้นรนหาเงินมาใช้จ่ายในแต่ละวัน แต่การหางานกลับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพวกเขา ด้วยเหตุผลอะไรนั้น โปรดติดตามต่อได้ในตอนสุดท้าย วันพรุ่งนี้,อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง,มายาคติ HIV EP.1 หวาดกลัว หนีห่าง สัมผัสใจสุดช้ำ โดนสังคมตราหน้า ชี้ด่าอันตราย,มายาคติ HIV EP.2 เจาะระบบรักษา ไฉนผู้ติดเชื้อโดนตีตรา ปฏิเสธผ่าตัด,ทีมข่าวเฉพาะกิจ
ควรสอนเด็กอย่างไร ให้เรียนรู้ เข้าใจโรคเอชไอวีและเอดส์ มากกว่ามุ่งสอนให้กลัว และค้นหาคำตอบกับเรื่องการตรวจเลือดก่อนเข้าเรียน ละเมิดสิทธิเด็กหรือไม่ รวมถึงประเด็นการติดเชื้อเอชไอวี ไม่สามารถเรียนหมอได้จริงหรือ
null
เอชไอวี,โรคเอดส์,เอชไอวี รักษาได้,เอดส์,AIDS,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,HIV,ตรวจเอชไอวี,ตรวจเลือดเอดส์,ละเมิดสิทธิมนุษยชน,บังคับตรวจเอดส์,ตรวจเอชไอวี สมัครเรียน,ตรวจสุขภาพเข้ามหาลัย,ตรวจเอดส์ก่อนเรียน,เพศศึกษา,เลือดบวก,โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์,สิทธิผู้ติดเชื้อ เอดส์,หลักสูตรการสอนโรคเอดส์,สิทธิผู้ติดเชื้อ เอชไอวี,กลัวเอดส์,สิทธิมนุษยชน,ข่าว,ข่าวเด็ก,ข่าวสังคม,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/676182
เสี่ยหนู ไม่ชัวร์ เหตุลอบยิงผู้ช่วย ส.ส.ภูมิใจไทย เอี่ยวปมการเมือง
 ,เมื่อวันที่ 17 ต.ค.62 ที่รัฐสภาเกียกกาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่ นายสุนทร เรืองแก้ว ผู้ช่วย นายฉลอง เทิดวีระพงษ์ ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ถูกคนร้ายบุกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามจนเสียชีวิต ว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อเช้านี้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองในพื้นที่หรือไม่นั้น จะต้องถาม นายฉลอง ก่อน แต่หวังว่าจะไม่ใช่,เมื่อถามว่า ส่วนเกี่ยวข้องกับก่อนหน้านี้ที่พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่และประกาศยึดภาคใต้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ขนาดนั้นหรอก การเมืองไม่ฆ่ากันตาย ผมยังไม่เคยเห็น ถ้าทำแบบนี้ก็แย่,เมื่อถามว่า ฟันธงว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่าไม่ และถ้าเล่นกันแบบนี้ เหตุก็ไม่จบ เวลานี้ยังไม่กล้าฟันธงว่าสาเหตุมาจากอะไร แต่คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่นอน,เมื่อถามว่า ขณะนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุการตายแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีข้อมูลแค่ทราบว่าลูกน้องของ ส.ส.ภูมิใจไทย ถูกยิงเสียชีวิต แต่ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่จะสอบถามรายละเอียดจากผู้บังคับการ จ.พัทลุง ต่อไป
อนุทิน รับไม่ได้เหตุยิงถล่ม ผู้ช่วย ส.ส.เขต 2 พัทลุง ภูมิใจไทย ดับคารถ ไม่ฟันธงเอี่ยวปมการเมือง เชื่อเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน ขอสอบถามรายละเอียดก่อน
ข่าว,การเมือง
อนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล,ภูมิใจไทย,ลอบยิง,ยิงผู้ช่วย ส.ส.ภูมิใจไทย,ผู้ชาย.ส.ส.ภท.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1684228
บิ๊กฉัตร สั่งตั้ง กก.สอบ อดีต ผอ.ศูนย์คนไร้ที่พึ่งสุราษฎร์ฯ-สันกำแพง
บิ๊กฉัตร เผย สั่งตั้ง กก.สอบโกงเงินคนจน ชี้ ผอ.สุราษฎร์ฯ-สันกำแพง แม้ลาออกยังสอบวินัยได้ ลั่นหากพบข้าราชการระดับสูงเอี่ยว สั่งย้ายออกจากพื้นที่ทันที,เมื่อวันที่ 8 มี.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ติดเชื้อเอดส์ว่า ได้สั่งให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานความคืบหน้า โดยส่งทีมเข้าไปตรวจสอบ 2 ทีม คือทีมของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ และทีมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ขณะนี้พบข้อมูลแล้ว 24 หน่วยงาน ไม่พบข้อมูล 11 หน่วยงาน อยู่ระหว่างรอผลสอบอีก 64 หน่วยงาน ในส่วนที่เราพบข้อมูลจะสั่งให้ย้ายออกจากพื้นที่ และส่วนศูนย์คนไร้ที่พึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ที่ ผอ.ศูนย์ฯ เกษียณอายุออกไปแล้ว ยังสามารถสั่งสอบทางวินัย รวมถึงศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ที่ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ลาออกไปแล้วเช่นกัน จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยด้วย,โดยกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว ได้สั่งการให้ รมว.พัฒนาสังคมฯ ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สอบสวนวันแรก และรายงานมายังตน รวมทั้งถ้าพบเป็นข้าราชการระดับสูงในพื้นที่เกี่ยวข้อง ตนได้สั่งการไปยัง รมว.พม.ด้วยว่า ให้สั่งย้ายออกจากพื้นที่ทันที
บิ๊กฉัตร เผย สั่งตั้ง กก.สอบโกงเงินคนจน ชี้ ผอ.สุราษฎร์ฯ-เชียงใหม่ แม้ลาออกยังสอบวินัยได้ ลั่นหากพบข้าราชการระดับสูงเอี่ยว สั่งย้ายออกจากพื้นที่ทันที
ข่าว,การเมือง
ฉัตรชัย สาริกัลยะ,เงินคนจน,เงินสงเคราะห์,ทุจริตเงินคนจน,พม.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1222897
ม.รามฯ รับ นศ.ใหม่ ปีการศึกษา 1/2559 ทั้งส่วนกลาง-ภูมิภาค
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 59 มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ระดับปริญญาตรี ภาค 1 ปีการศึกษา 2559 ทั้งส่วนกลาง (หัวหมาก) และส่วนภูมิภาค (23 จังหวัด) ระหว่างวันที่ 4-7 มิถุนายน และ 25 มิถุนายน-4 กรกฎาคม 2559 (ทุกวัน) โดยจำหน่ายใบสมัครแล้ว ตั้งแต่บัดนี้ที่ อาคาร สวป.ชั้น 1 และสาขาวิทยบริการฯ ส่วนภูมิภาคทุกแห่ง พร้อมเปิดรับสมัครทางอินเทอร์เน็ตที่ www.iregis.ru.ac.th ตั้งแต่บัดนี้-4 กรกฎาคม 2559 รวมทั้งเปิดรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าศึกษาในระบบ Pre-degree เพื่อสะสมหน่วยกิต ล่วงหน้า โดยสามารถนำหน่วยกิตมาเทียบโอนได้เมื่อจบ ม.6,ทั้งนี้ เปิดรับสมัครนักศึกษาส่วนกลาง (ม.ร.หัวหมาก) ใน 12 คณะ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ บริหารธุรกิจ มนุษยศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สื่อสารมวลชน วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทัศนมาตรศาสตร์,สำหรับ ส่วนภูมิภาค เปิดรับสมัครใน 4 คณะ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ คณะสื่อสารมวลชน สาขาวิชาสื่อสารมวลชน และคณะรัฐศาสตร์ แผนการบริหารรัฐกิจ ณ สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ 23 จังหวัดได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี อุทัยธานี นครศรีธรรมราช อำนาจเจริญ นครพนม นครราชสีมา ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุโขทัย ตรัง แพร่ ลพบุรี เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ หนองบัวลำภู กาญจนบุรี เชียงราย สุรินทร์ อุดรธานี เชียงใหม่ สงขลา และพังงา,นอกจากนี้ ยังมีคณะธุรกิจการบริการ เปิดรับนักศึกษาใหม่รุ่นแรก ณ สาขาวิทยบริการฯ จังหวัดสุโขทัย และพังงา และคณะสาธารณสุขศาสตร์ เปิดรับ นศ. ปริญญาตรี ณ ม.ร. ส่วนกลาง และสาขาวิทยบริการฯ จังหวัดสุโขทัย อุทัยธานี อำนาจเจริญ และนครพนม,อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายรับสมัคร อาคาร สวป.ชั้น 3 มหาวิทยาลัยรามคำแหง โทร. 0-2310-8614-24 หรือ www.ru.ac.th
ม.รามฯ เปิดรับสมัคร นศ. ระดับปริญญาตรีภาค 1/2559 ทั้งส่วนกลาง-ภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 4-7 มิ.ย. และ 25 มิ.ย.-4 ก.ค. 59 โดยจำหน่ายใบสมัครที่อาคาร สวป.ชั้น 1 รวมทั้งรับสมัครทางอินเทอร์เน็ต และนักเรียน ม.ปลายในระบบ Pre-degree…
null
มหาวิทยาลัยรามคำแหง,รับนศ.ใหม่,ม.ร.,รามรับนศ.ใหม่,นักศึกษาม.ราม,มร.,www.ru.ac.th,Pre-degree,นักศึกษาปริญญาตรี,ปริญญาตรี ม.ราม,รับสมัครนักศึกษาใหม่,นักศึกษาใหม่,เปิดรับนักศึกษาใหม่,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,ข่าวการศึกษา,การศึกษา,ไทบรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/622080
ยิ่งลักษณ์ ส่งตัวแทนส่งขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหา ป.ป.ช. ปมจ่ายเยียวผู้ได้รับผลกระทบการชุมนุม
เข้ารับทราบข้อกล่าวหากรณีดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2548-2553 โดย ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง แต่ได้ส่ง นายบุญเฉลียว ดุษฎี ในฐานะตัวแทนเข้าขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช.วิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการพิจารณาว่าจะให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ ว่า ขึ้นอยู่กับองค์คณะไต่สวน อีกทั้งเรื่องนี้คงต้องถามความชัดเจนจากนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เพราะรับผิดชอบสำนวนนี้ ทั้งนี้เห็นว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะพิจารณาโดยเร็ว ไม่ต้องการให้ยืดเยื้อโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้กำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาในส่วนของอดีตรัฐมนตรี 34 คน ให้ทยอยรับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่วันนี้ (9 มิ.ย.) ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2558สำหรับรายชื่ออดีตรัฐมนตรีที่ ป.ป.ช.นัดหมายให้รับทราบข้อกล่าวในวันนี้ (9 มิ.ย.) ได้แก่ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนลินี ทวีสิน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้าน สมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะอดีตประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าทางคดีของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทางการเมือง ในกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เข้าให้ข้อมูลต่อองค์คณะไต่สวนกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) กรณีถอดถอน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และพระสุเทพ ปภากโร หรือสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กรณีสั่งการสลายการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553สมชาย กล่าวภายหลังเข้าให้ข้อมูลกว่า 2 ชั่วโมง ว่า วันนี้ (9 มิ.ย.) ได้นำข้อมูลที่คณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ นิติเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาประกอบกัน มาให้กับองค์คณะไต่สวน ป.ป.ช. ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 มีกองกำลังติดอาวุธ หรือ ชายชุดดำ จำนวน 2-3 กลุ่ม และมีการใช้อาวุธสงคราม เช่น M79 M16 AKA ระเบิด M67 และระเบิด C4 นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลการชันสูตรศพ ภาพถ่ายในเหตุการณ์ คลิปวีดีโอจากสื่อมวลชน และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
เมื่อวันที่ 9 มิ.ยที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
การจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง,คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.),ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,สุเทพ เทือกสุบรรณ,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
https://prachatai.com/journal/2015/06/59700
ตั้ง 2 ข้อหา รอง ผกก.ยิงเจ้าของโรงสีเสียชีวิต
วันนี้ (5 ม.ค.2563) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีรอง ผกก.สภ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด ก่อเหตุยิงเจ้าของโรงสีข้าวเสียชีวิตวานนี้ ว่าเจ้าหน้าที่ร่วมกับแพทย์นิติเวชศาสตร์ได้ชันสูตรพลิกศพ และส่งศพให้ผ่าพิสูจน์เพื่อทราบเหตุและพฤติการณ์แห่งการตาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ทำการสอบสวนต่อไปรองโฆษก ตร. ระบุว่า ขณะนี้ตำรวจได้ตั้งข้อหา รอง ผกก.สภ.เมยวดี ในฐานฆ่าผู้อื่น ตามมาตรา 288 ระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันควร ขณะนี้ ต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ก่อเหตุ จะมีการตั้งกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการในทางวินัยและอาญากรณีดังกล่าวตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายต่อไป ไม่มีการให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำผิดอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วน ผู้บังคับการ ผู้กำกับ หัวหน้าหน้าหน่วยในทุกต้นสังกัดทุกพื้นที่ ให้มีการควบคุม ดูแลความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ เพื่อสอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจหากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความพฤตินอกรีต ไปเรียกรับเงินทอง เรียกรับผลประโยชน์อื่นใด หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ โดยให้ดำเนินการตรวจสอบกระทำด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่าได้กระทำผิดจริงให้ดำเนินทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาดอีกทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดีอ่าน
รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตำรวจตั้ง 2 ข้อหา ฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต รอง ผกก.สภ.เมยวดี ยิงเจ้าของโรงสีเสียชีวิต ด้านต้นสังกัดเตรียมตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการในทางวินัยและอาญา
อาชญากรรม
เสี่ยโรงสี,ร้อยเอ็ด,ยิงเสี่ยโรงสี,รอง ผกก.เมยวดี
https://news.thaipbs.or.th/content/287634
คณะตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจ พบผู้บกพร่องทำสำนวนคดี บอส
วันนี้ (10 ส.ค. 63) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555โดยวันนี้มีการประชุมครั้งสุดท้ายของคณะกรรมการฯ โดยมีการจัดเตรียมบอร์ดสรุปรายงานจำนวน 14 บอร์ด เพื่อเตรียมชี้แจงรายละเอียดของการสอบสวนทั้งหมด เสนอต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องพล.ต.อ.ศตวรรษ เปิดเผยว่า คณะกรรมการจะได้ข้อยุติไม่เกิน 2 วันนี้ ในการสรุปความเห็นประเด็นต่าง ๆ ที่เคยได้กำหนดแนวทางไว้ พร้อมยอมรับว่าเบื้องต้นพบมีผู้บกพร่องต้องรับผิดชอบในสำนวน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยให้รอผลสอบสวนอย่างเป็นทางการอีกครั้งทั้งนี้มีรายงานว่าที่ผ่านมาคณะกรรมการชุดนี้รอข้อมูลประกอบจาก พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้ลงความเห็นไม่แย้งอัยการ กรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ มาประกอบความเห็นส่วนรายละเอียดในประเด็นอื่น ๆ ที่ประชุมได้ข้อสรุปครบถ้วนแล้ว เช่น ประเด็นการใช้ความเร็วของรถยนต์ จากคำชี้แจงของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 และนายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น
ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมสรุปความเห็นเสนอ ผบ.ตร.พิจารณา กรณีไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา เบื้องต้นยอมรับพบผู้บกพร่องในการทำสำนวนแล้ว
อาชญากรรม
บอส อยู่วิทยา,ถกนัดสุดท้าย,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
https://news.thaipbs.or.th/content/295341
ทหารซูดานรัฐประหาร ล้มเผด็จการครองอำนาจ 30 ปี หลัง ปชช. ประท้วงทั่วประเทศ
รัฐบาลทหารขอเวลา 2 ปีเปลี่ยนผ่าน พักใช้รัฐธรรมนูญ ประกาศภาวะฉุกเฉิน ด้านผู้ประท้วงไม่ไว้ใจ จะลงถนนจนกว่าข้อเรียกร้องได้รับการตอบรับ11 เม.ย. 2562 รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงกลาโหมของซูดาน ประเทศในทวีปแอฟริกา ประกาศเมื่อวานนี้ (10 เม.ย. 2562) ว่าประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาเชียร์ อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของทหาร และประกาศรัฐประหารยึดอำนาจ ปิดฉากการปกครองภายใต้โอมาร์ที่กินเวลาถึง 30 ปีด้วยภาพการยึดอำนาจหลังประชาชนออกมาประท้วงใหญ่ยาวนานถึงสี่เดือนรัฐบาลทหารจะทำหน้าที่รัฐบาลในระยะเปลี่ยนผ่านเป็นเวลาสองปี รัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่ปัจจุบันจะถูกพักใช้ และจะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลาสามปี โดยสื่อของรัฐซูดานได้รายงานว่าเหล่านักโทษการเมืองที่ถูกจับขังคุก รวมถึงแกนนำผู้ประท้วงจะได้รับพิจารณาให้ปล่อยตัวการรัฐประหารเกิดขึ้นหลังการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศเป็นเวลาสี่เดือนจากสาเหตุที่สินค้าพื้นฐานมีราคาสูงขึ้น และเป็นการประท้วงที่แสดงเจตจำนงการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ทั้งนี้ โอมาร์ถูกฟ้องว่ามีความผิดฐานกระทำอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์บนศาลอาญาระหว่างประเทศเหล่าผู้ประท้วงบนท้องถนนในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดานที่มีจำนวนเรือนแสน ต่างร้องเพลงและเต้นรำฉลอง และชูป้ายที่มีสโลแกนการสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ การประท้วงนั้นแรกเริ่มเดิมทีจัดขึ้นโดยสมาคมวิชาชีพซูดาน กลุ่มดังกล่าวเป็นผู้นำแพทย์ นักกฎหมายและนักเรียน นักศึกษามาลงถนน ผู้ประท้วงเรียกร้องการมีรัฐบาลพลเรือนและให้ผู้ที่ถูกสังหารไประหว่างการประท้วงได้รับความยุติธรรม วอชิงตันโพสท์รายงานว่า ชาวซูดานในกรุงคาร์ทูมจำนวน 2 ล้านคนได้ร่วมประท้วงด้วยในสัปดาห์นี้ในส่วนการประท้วงนั้น เมื่อเดือนที่แล้ว โอมาร์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อตอบโต้การประท้วง ทำให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัฐมีอำนาจแทบไม่มีขีดจำกัดในการสลายการชุมนุมในกรุงคาร์ทูมและเมืองอื่นๆ แต่หลังจากการนั่งประท้วง (sit-in) ที่หน้ากระทรวงกลาโหมในวันที่ 6 เม.ย. พบว่ามีทหารโดยเฉพาะในชั้นประทวน เข้าร่วมกับผู้ชุมนุมขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็มีทหารระดับสูงหลายคนเริ่มเข้าร่วมการประท้วงด้วยเช่นกัน โดยระบุว่าจะไม่สลายการชุมนุมการแตกแยกกันภายในกองทัพตามมาด้วยการต่อสู้กันเองบนท้องถนน จบลงด้วยมีผู้เสียชีวิต 11 คน โดยมีหกคนเป็นคนของกองทัพ รายงานจากองค์การด้านสิทธิมนุษยชน รายงานว่าตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2561 มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่าสิบคนในช่วงไม่กี่วันสุดท้ายของชีวิตทางการเมืองในฐานะผู้นำซูดาน โอมาร์ถูกโดดเดี่ยวจากพรรครัฐบาลมากขึ้น โดยถูกปฏิเสธไม่ร่วมสนับสนุนต่อต้านการประท้วง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โอมาร์ผันงบจำนวนมากไปใช้กับงบประมาณกลาโหม ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทำให้ราคาสินค้าพื้นฐานขึ้น ในปี 2552 เขาถูกกล่าวหาโดยศาลอาญาระหว่างประเทศในข้อหาอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติห้ากระทง อาชญากรสงครามสองกระทง และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อีกสามกระทง จากการสั่งการการต่อสู้ในพื้นที่ซูดานตะวันตกเมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว วอชิงตันโพสท์คาดว่าโอมาร์จะถูกขังในบ้านที่ซูดาน หรือไม่ก็ลี้ภัยในประเทศที่จะไม่ส่งเขากลับประเทศในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนอย่างซาอุดิอาระเบียหรืออียิปต์ซูดานเคยมีการรัฐประหารมาแล้วหลายครั้งในอดีต โอมาร์เองก็เถลิงอำนาจจากการรัฐประหารเมื่อปี 2532 ราชิด อับดี นักวิเคราะห์ประจำภูมิภาคจากกลุ่มวิกฤติการณ์สากล (International Crisis Group) กล่าวกับวอชิงตันโพสท์ว่า นี่ถือเป็นรุ่งอรุณของซูดานก็ได้เลย มันแสดงให้เห็นว่าแม้เผด็จการที่ลงหลักปักฐานที่สุดก็มีความอ่อนแอ อนาคตนั้นไม่แน่นอน แต่ตอนนี้ก็มีโอกาสที่ดีกว่าในการสร้างการเปลี่ยนผ่านที่ชัดเจนและนับรวมทุกคนอย่างไรก็ดี หนทางในการเปลี่ยนผ่านอาจไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ประเทศในแอฟริกาที่เคยผ่านการประท้วงของมวลชนเพื่อขับไล่ผู้นำเผด็จการจนเป็นกระแสที่เรียกว่า อาหรับ สปริง เมื่อราวแปดปีที่แล้ว ที่จบด้วยสภาวะการเมืองที่ไม่มั่นคงกว่าเดิม แย่ไปกว่านั้นก็คือได้เผด็จการคนใหม่อย่างในอียิปต์ ผู้ประท้วงในซูดานจึงตัดสินใจจะลงถนนต่อไปจนกว่าจะเห็นว่าข้อเรียกร้องของพวกเขาได้รับการตอบรับ
กองทัพซูดานทำรัฐประหาร ยึดอำนาจเผด็จการโอมาร์ อัล-บาเชียร์ที่อยู่ในอำนาจมาแล้ว 30 ปี หลังมีการประท้วงทั่วประเทศต่อปัญหาสินค้าราคาแพง เรียกร้องการปฏิรูปการเมือง ตั้งรัฐบาลพลเรือนมาแล้วถึงสี่เดือน
การเมือง,ต่างประเทศ
ซูดาน,รัฐประหาร
https://prachatai.com/journal/2019/04/82021
ทีมแบดมินตันเยาวชนไทย คว้าแชมป์เอเชีย 3 รายการ
วันนี้ (8 ต.ค.2560) แบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี และ 17 ปี ที่ประเทศ เมียนมา เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ มีนักกีฬาไทยผ่านเข้ารอบถึง 5 ประเภท ซึ่งไฮไลท์อยู่ในการแข่งขันประเภทชายเดี่ยว และหญิงเดี่ยวรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีโดยชายเดี่ยว เจ้าวิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ โชว์ฟอร์มเหนือกว่าใช้เวลาแค่ 23 นาที เอาชนะ โอว จีดาร์ คู่แข่งจาก มาเลเซีย ขาดลอย 2 เกมรวด คะแนน 21 - 6 และ 21 - 8 คว้าเหรียญทองไปครองเช่นเดียวกับประเภทหญิงเดี่ยว น้องจิว ภัทรสุดา ไชยวรรณ มือ 1 ของรายการ ดีกรีนักแบดฯ ซีเกมส์ที่ มาเลเซีย เอาชนะ ริโกะ กุนจิ คู่แข่งจาก ญี่ปุ่น 2 เกมรวด คว้าเหรียญทองที่ 2 ให้ไทยได้สำเร็จอีกรุ่นในประเภทหญิงคู่อายุไม่เกิน 15 ปี ไทยการันตีเหรียญทองแน่นอน หลังนักกีฬาเข้าชิงกันเอง ผลปรากฏว่า พรพิชชา เชยกีวงศ์ กับ พรณิชา สุวัฒโนดม เอาชนะ กฤตพร เจียรธเนศ กับ ศศิกานต์ ปิยวัชรวิจิตร คู่มือ 1 ของรายการ ได้สำเร็จ 2 เกมรวด คะแนน 21 -11 และ 23 - 21ส่วนประเภทชายเดี่ยวไม่เกิน 15 ปี ภูริธัช อารีย์ พลาดท่าแพ้ ริกิ ทาเคอิ จาก ญี่ปุ่น 1 - 2 เกม เช่นเดียวกับ คู่ผสมรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี วิสา ศรีสุริยะ กับ พรณิชา สุวัฒโนดม แพ้คู่จาก อินโดนีเซีย 0 - 2 เกม สรุปผลการแข่งขันครั้งนี้ ไทย คว้ามา 3 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน กับ 1 เหรียญทองแดงหลังจากนี้ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ กับ ภัทรสุดา ไชยวรรณ มือ 1 เยาวชนโลก จะเดินทางไป อินโดนีเซีย เพื่อสมทบกับเพื่อนร่วมทีมลงแข่งรายการ เยาวชนชิงแชมป์โลก ซึ่งจะประเดิมแข่งประเภททีมผสมช่วงวันที่ 9-14 ต.ค.นี้ ซึ่งไทยเป็นทีมวางในกลุ่ม เอฟ 1 โดยมี เนเธอร์แลนด์ และฟิลิปปินส์ เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม
ทีมแบดมินตันเยาวชนไทยคว้าแชมป์ 3 รายการ ในการแข่งขันเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศเมียนมา
กีฬา
แชมป์เอเชีย,แบดมินตัน,เมียนมา,แบดมินตันเยาวชน,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/266756
ภูมิธรรม ชี้ พ.ร.บ.คอมฯ น่าห่วง ซัดรัฐไฟเขียวแทรกแซงละเมิดสิทธิ
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องความห่วงใยปลายปี 2559 ว่า ตามที่ สนช.ผ่านร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งขณะนี้กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ และมีผู้คัดค้านมากถึง 500,000 ราย เรียกร้องให้รัฐทบทวน โดยมีท่าทีที่จะขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับตนห็นว่า ในด้านความมั่นคง แม้จะมีความจำเป็นต้องปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อรับมือความเสี่ยงจากอาชญากรรมของโลกยุคใหม่ แต่ต้องพิจารณาให้รอบด้านถึงผลกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ ซึ่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ภายใต้บริบทของโลกยุคดิจิทัล กำลังเป็นสิ่งสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ การเปิดกลไกสื่อสารที่กว้างขวางเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับในกติกาสากล ที่โลกกำลังจับตามอง ดังนั้นสิ่งที่รัฐไทยพึงกระทำ คือ การสร้างสรรค์กฎกติกาที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาให้เชื่อมโยงกับระบบเครือข่ายเทคโนโลยีที่ทันสมัย,นายภูมิธรรม ระบุว่า ส่วนความห่วงใยของรัฐในการเฝ้าระวังการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ต้องพิจารณาหลายมิติ เพราะการออกกฎควบคุมและการแทรกแซงโดยความเห็นชอบของรัฐ อาจทำให้เกิดการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ถึงขั้นเลือกปฏิบัติ และนำไปสู่การสร้างความหวาดระแวงไม่มั่นใจ ที่สำคัญอาจเป็นเงื่อนไขใช้อำนาจในการคุกคามละเมิดสิทธิประชาชน รวมถึงสื่อสารมวลชน นำไปสู่การสร้างกำแพงปิดกั้นการแสดงออกโดยบริสุทธิ์ใจ และทำให้ไทยมีภาพลักษณ์ของการใช้อำนาจอย่างไม่เหมาะสม ไม่ได้รับการยอมรับจากรัฐประชาธิปไตย และอาจก่อปัญหาความขัดแย้งกับประชาชน ดังนั้น รัฐต้องแสดงว่ามีความเป็นธรรม ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ที่เคารพสิทธิ เสรีภาพของประชาชน ที่สำคัญ รัฐต้องยินยอมให้ผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายดังกล่าวสามารถฟ้องร้องกลับ ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ ต้องไม่มองมิติเรื่องความมั่นคงในทัศนะของผู้มีอำนาจเพียงฝ่ายเดียว.
ภูมิธรรม ชี้ พ.ร.บ.คอมฯ น่าเป็นห่วง ซัดรัฐไฟเขียวแทรกแซงคุกคามละเมิดสิทธิ เตือนระวังภาพลักษณ์การใช้อำนาจไม่เหมาะสม
null
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2559,พ.ร.บ.คอมฯ,ภูมิธรรม เวชยชัย,ละเมิดสิทธิ
https://www.thairath.co.th/content/820485
เร่งตรวจสอบ-ดำเนินคดีรีสอร์ทรุกเขตป่าสงวน จ.เชียงใหม่
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 200 นาย สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่บ้านพักตากอากาศและรีสอร์ต จำนวน 6 จุดใน ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ หรือที่เรียกว่าหุบเขาไฮโซ หลังชุดพยัคฆ์ไพรของกรมป่าไม้ ระบุว่าอาจรุกล้ำและตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยใช้เครื่องรับสัญญาณดาวเทียมระบบจีพีเอสความละเอียดสูงวัดพิกัดเพื่อนำไปเทียบกับภาพถ่ายทางอากาศจากการตรวจสอบเบื้องต้นของที่ดินทั้ง 6 แปลง มี 4 แปลงที่มีโฉนด ออกโดยสำนักงานที่ดินเชียงใหม่ ส่วนอีก 2 แปลงอยู่ในโครงการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีการบุกรุกเข้าไปในป่าหรือไม่ เพราะข้อมูลแผนที่ของหน่วยงานยังไม่ตรงกัน หลังจากนี้จะนำผลการวัดพิกัดและข้อมูลทั้งหมดไปตรวจสอบหารือสรุปอีกครั้งในสัปดาห์หน้าทั้งนี้ ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ระบุว่า จ.เชียงใหม่ มีพื้นที่ที่ถูกบุกรุกในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติกว่า 80 แห่ง ล่าสุดอธิบดีกรมป่าไม้ทำหนังสือแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้บุกรุกให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย.2559
ภายหลังที่อธิบดีกรมป่าไม้ลงพื้นที่ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร ซึ่งพบว่าพื้นที่บริเวณที่เรียกว่าหุบเขาไฮโซ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ อาจอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จากการตรวจสอบที่ดิน 6 แปลง พบว่ามีเอกสารโฉนด 4 แปลง ส่วนอีก 2 แปลงอยู่ในโครงการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้
ภูมิภาค
เชียงใหม่,หุบเขาไฮโซ,บ้านพักตากอากาศ,โฉนดที่ดิน,ชุดพยัคฆ์ไพร,กรมป่าไม้,เขตป่าสงวนแห่งชาติ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/253223
คนรัสเซียแห่โพสต์ต่อต้าน ปูติน หาเสียงเลือกตั้ง ปธน.
ผู้บริหารเว็บไชต์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ทำการปิดระบบเว็บไซต์ชั่วคราว โดยอ้างเหตุผลว่า ผู้โพสต์ข้อความเข้ามาต่อต้านเป็นพวกแฮกเกอร์ หลังจากนั้นจึงได้เปิดระบบขึ้นมาใหม่ แต่มีการจำกัดการใช้สำหรับบุคคลทั่วไปในทันทีที่มีการเปิดเว็บไชต์หาเสียงของนายวลาดิเมียร์ ปูติน เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ปรากฏว่าข้อความที่โพสต์เข้ามา อย่างน้อย 1 ใน 3 บอกให้นายปูตินลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมทั้งถอนตัวออกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งจะขึ้นในวันที่ 4 มี.ค.นี้นายปูติน อายุ 59 ปี ซึ่งเคยเป็นประธานาธิบดีมาแล้ว 2 สมัย 8 ปี ยังเป็นที่นิยมของชาวรัสเซีย จนเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งเขาประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย รวมทั้งเกิดความเชื่อว่ามีการโกงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ผ่านมาจนเกิดการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตเมื่อ 20 ปีก่อนนายปูตินกล่าวหาว่า แกนนำผู้ประท้วงและฝ่ายค้านรับงานต่างชาติมาทำลายเสถียรภาพของรัสเซีย พร้อมกันนี้ยังมีคำพูดแบบตลกร้ายว่า ริบบิ้นที่ผู้ประท้วงใช้ผูกเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านเขานั้นเหมือนกับถุงยางอนามัย
ปูติน เปิดเว็บไซต์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียที่กำลังจะมีขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ แต่ทันทีที่เปิด กลับมีข้อความหลั่งไหลเข้ามาต่อต้านจนต้องจำกัดการโพสต์
ต่างประเทศ
ประธานาธิบดี,รัสเซีย,วลาดิเมียร์ ปูติน,หาเสียงเลือกตั้ง
https://news.thaipbs.or.th/content/59274
ทรู-เสริมสุขได้ฤกษ์จัดทัพผู้บริหารใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งและปรับเปลี่ยนโครงสร้างขององค์กร โดยจัดตั้งคณะกรรมการบริหารดูแลการบริหารงานของบริษัท โดยมีนายศุภชัย เจียรวนนท์ เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร และแต่งตั้งนายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) รับผิดชอบงานด้านการพาณิชย์ และนายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) รับผิดชอบงานด้านปฏิบัติการ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. 2560  ,นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรูฯ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นไปตามที่ได้มีการวางแผนการสืบทอดตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะขณะนี้กลุ่มทรูมีความแข็งแกร่งทั้งด้านการเงิน สินค้าบริการ คุณภาพและความครอบคลุมของเครือข่าย และมีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเติบโตและก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งผมในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท จะยังคงร่วมกำหนดทิศทาง นโยบายและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทรูต่อไป ในขณะเดียวกันการดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้บริหารซีพีของผมในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนและเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจระหว่างกลุ่มทรูกับธุรกิจในเครือซีพีให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทรูในอนาคต,การปรับโครงสร้างและการสืบทอดตำแหน่งที่ประกาศในครั้งนี้ มีความสำคัญต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มทรู ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ทั้ง 2 ท่านนี้ต่างเป็นแม่ทัพที่แข็งแกร่ง มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานที่สำคัญของกลุ่มทรู ทั้งยังร่วมบริหารงานผ่านช่วงวิกฤติต่างๆ ขององค์กรมาโดยตลอด จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนและนำพากลุ่มทรูก้าวเป็นองค์กรที่สร้างผลกำไร และเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป,มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ประกาศเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหารระดับสูง โดยแต่งตั้ง นายเลสเตอร์ แทน ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทในกลุ่มเอฟแอนด์เอ็น เป็นกรรมการผู้จัดการ สานต่อภารกิจผู้นำการบริหารและดำเนินธุรกิจของเสริมสุข จากนายวิเวก ชาห์บรา ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่จนครบวาระ และจะเดินทางกลับไปปฏิบัติงานที่เอฟแอนด์เอ็น ประเทศสิงคโปร์.
ทรูดัน ศุภชัย ขึ้นแท่นประธานคณะกรรมการบริหารหลังไปนั่งตำแหน่งใหญ่เครือซีพี พร้อมตั้ง 2 แม่ทัพนั่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม ด้าน เสริมสุข เปลี่ยนตัวผู้บริหารระดับสูงตามวาระ
null
ทรู,เสริมสุข,เปลี่ยนผู้บริหาร,โครงสร้างองค์กร,ศุภชัย เจียรวนนท์
https://www.thairath.co.th/content/861080
จี้ สสวท.เพิ่มคะแนนสอบ PISA
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายให้กับที่ประชุมคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ชุดใหม่ ซึ่งมี ศ.ดร.ประสาท สืบค้า เป็นประธาน สสวท.คนใหม่ ว่า,ที่ประชุมหารือถึงการเพิ่มคะแนนโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ หรือ PISA ซึ่งได้มีการวิเคราะห์อย่างละเอียด โดยตั้งเป้าว่า อีก 3 ปีข้างหน้า คะแนน PISA จะต้องเพิ่มขึ้น 30 คะแนน จากผลคะแนนที่ผ่านมาคือ 420 คะแนนให้เป็น 450 คะแนน ขณะที่คะแนนเฉลี่ยขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (โออีซีดี) อยู่ที่ 500 คะแนน,ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนได้มีนโยบายในการแก้ไขการสอบ PISA ในหลายจุด จากเดิมไทยส่งเด็กชั้น ม.2 ซึ่งบางคนอายุ 14 ปีย่าง 15 ปีไปสอบ แต่หลังจากนี้เราจะยึดเกณฑ์อายุ 15 ปีเต็มเข้าสอบ นอกจากนี้ ยังแก้เรื่องการแปลข้อสอบให้เข้าใจง่ายและจากนี้ไปไทยจะได้เป็นสมาชิกร่วมของโออีซีดี จากเดิมที่เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ ซึ่งสามารถมีคะแนนเสียงในข้อเสนอต่างๆ ขณะเดียวกัน ยังหารือถึงการจัดตั้งศูนย์ระดับภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีมีโอ) ซึ่งเป็นการยกระดับการศึกษาด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ขึ้นสู่ระดับนานาชาติด้วย.
โดยตั้งเป้าว่า อีก 3 ปีข้างหน้า คะแนน PISA จะต้องเพิ่มขึ้น 30 คะแนน จากผลคะแนนที่ผ่านมาคือ 420 คะแนนให้เป็น 450 คะแนน
ข่าว,สังคม
PISA,ประเมินผล,นักเรียน,โออีซีดี,ประสาท สืบค้า,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/society/1419390
ลุงพลควงป้าแต๋น กราบพระเจ้าใหญ่ วัดดังบุรีรัมย์ แฟนคลับแห่รับแน่น
วันที่ 1 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนกว่า 1000 คนใน อ.พุทไธสง และใกล้เคียง แห่มาที่วัดหงษ์หรือวัดศีรษะแรด ม.10 ต.มะเฟื่อง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ เพื่ออยากมาให้กำลังใจ นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และป้าแต๋น หลังจากทราบข่าวทางเฟชบุ๊กของอาจารย์สุทัศน์ชัย กมลไธสง ร่างทรงชื่อดังใน อ.พุทไธสง ว่าลุงพลพร้อมป้าแต๋นและครอบครัว จะเดินทางมาขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดหงษ์หรือวัดศีรษะแรดที่ชาวบ้านเคารพนับถือบรรยากาศที่วัดศีรษะแรด ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา พบว่า มีคนทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลา 10.00 น. ลุงพลพร้อมครอบครัว มีลุงพล ป้าแต๋น และลูกชายอีก 2 คน ออกจากรีสอร์ตของหญิงลี ศรีจุมพล ที่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ แล้วเดินทางมาถึงวัดหงษ์ โดยมีพระเบิกฤกษ์ ฐานุตตโร เจ้าอาวาสวัดหงษ์ ทำพิธีให้ลุงพล ปิดทองพระเจ้าใหญ่ พระพุทธรูปประจำของวัดหงษ์พร้อมกับรดน้ำมนต์ให้กับครอบครัวลุงพล โดยมีชาวบ้านร่วมทำพิธีกันแน่นวัด จากนั้นชาวบ้านที่มา ไ้ด้ร่วมให้กำลังใจครอบครัวลุงพลพร้อมกับผูกข้อมือ มอบเงินให้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ให้รอดพ้นจากสิ่งร้ายๆ โดยเร็ว เพราะชาวบ้านเชื่อว่าลุงพล เป็นผู้บริสุทธิ์นางกัญญา โพธิขำ อายุ 53 ปี ชาว อ.พุทไธสง กล่าวว่า ที่ผ่านมาติดตามข่าวลุงพลมาทุกวัน และอยากเห็นตัวจริงว่าคำพูดเหมือนกับที่พูดในทีวีหรือไม่ พร้อมกับให้กำลังใจลุงพล ให้สู้กับความจริงขณะที่นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล กล่าวว่า วันนี้ได้มีโอกาสมาไหว้พระเจ้าใหญ่ ซึ่งชาวอีสานเคารพนับถือ เพื่อขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง และอยากจะส่งดวงวิญญาณของน้องชมพู่ไปสู่สุคติด้วยด้านพระเบิกฤกษ์ ฐานุตตโร เจ้าอาวาสวัดหงษ์กล่าวว่า วันนี้ลุงพลได้มาขอพรจากพระเจ้าใหญ่อย่างเดียว และทำพิธีตามพิธีตามปกติทั่วไป ที่เคยทำในวันสำคัญๆ โดยไม่มีการทำพิธีสาบานแต่อย่างใดผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ลุงพลและครอบครัวใช้เวลาในการทำพิธีประมาณ 1 ชั่วโมงก็เดินทางกลับจังหวัดมุกดาหาร ชาวบ้านส่วนหนึ่งยังเล็งไปที่ทะเบียนรถของลุงพล คือทะเบียน บล-3127 สกลนคร เพื่อไปเสี่ยงดวงอีกด้วยสำหรับวัดหงษ์หรือวัดศีรษะแรด เป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้านการสาบาน ใครต้องการเลิกเหล้า หรือเลิกทำสิ่งที่ไม่ดี ก็จะมาสาบานที่นี่ และหากใครผิดคำสาบาน มักจะมีอันเป็นไปแทบทุกราย จนคนที่ไม่มั่นใจว่าจะทำตามคำสาบานได้ จะไม่กล้ามาสาบานที่วัดนี้
ลุงพล ป้าแต๋น เดินทางมากราบพระเจ้าใหญ่วัดศีรษะแรด อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ บอกมาขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง และจะส่งดวงวิญญาณของน้องชมพู่ไปสู่สุคติ ชาวบ้านแห่รับแน่น ไม่ลืมเล็งทะเบียนรถ
ข่าว,ทั่วไทย
น้องชมพู่,น้องชมพู่ล่าสุด,ลุงพล,ไชย์พล วิภา,ลุงพลสาบาน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1901493
ปฏิเสธ 3 สิทธิบัตรกัญชา
และภาคประชาสังคมต้องการให้ยกเลิกการยื่นจดทันทีว่า ขณะนี้ ยืนยันว่ากรมได้ใช้มาตรา 30 พ.ร.บ.สิทธิบัตร ดำเนินการปฏิเสธการขอจดไปแล้ว 3 คำขอ หลังจากที่ได้ประกาศโฆษณาและให้ผู้ยื่นขอจดชี้แจงแล้ว เพราะพิจารณาแล้วพบว่าคำขอดังกล่าวเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่มีขั้นการประดิษฐ์ หรือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่มีความใหม่พอ แต่ผู้ยื่นจดยังสามารถชี้แจงใหม่ได้อีก รวมทั้งสามารถอุทธรณ์ และฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้หากไม่พอใจการพิจารณา,นอกจากนี้ ยังได้ละทิ้งไปแล้ว 3 คำขอ แบ่งเป็น 2 คำขอ ละทิ้งก่อนการประกาศโฆษณา และอีก 1 คำขอ ละทิ้งหลังประกาศโฆษณา ส่วนที่เหลืออีก 7 คำขอนั้น แบ่งเป็น 1 คำขอที่ยื่นจดสารสกัดจากกัญชา และก่อนหน้านี้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้ตนใช้อำนาจอธิบดีตามมาตรา 30 สั่งปฏิเสธคำขอ เพราะขัดกับมาตรา 9 (1) พ.ร.บ.สิทธิบัตรที่กำหนดว่า สารสกัดจากธรรมชาติไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ใช้,มาตรา 30 เพราะมีขั้นตอนตามกฎหมายที่ต้องดำเนินการหลายขั้นตอนก่อนจะมาถึงการปฏิเสธ และอีก 6 คำขอ ที่เป็นองค์ประกอบสารสกัดจากกัญชาเป็นส่วนผสม ซึ่งทั้ง 7 คำขอนี้ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับภาคประชาสังคม พิจารณาหาทางออกร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไร จะยกเลิกได้หรือไม่ โดยที่ไม่ขัดกับ พ.ร.บ.สิทธิบัตรของไทย และไม่ขัดกับความตกลงระหว่างประเทศ กรมไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือเพิกเฉยไม่ดำเนินการ เพราะทราบดีว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนมีความเป็นห่วงและกังวลมาก ซึ่งจะร่วมกับภาคประชาสังคมหาทางออกให้ดีที่สุด และเป็นประโยชน์กับประเทศมากที่สุด โดยต้องหารือในข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และยังติดขัดอยู่.
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยถึงคำขอจดสิทธิบัตรกัญชา 13 คำขอ ที่เป็นการยื่นขอจดสารสกัดจากกัญชาและองค์ประกอบที่มีสารสกัดกัญชาเป็นส่วนผสม
ข่าว,เศรษฐกิจ
ทศพล ทังสุบุตร,จดสิทธิบัตรกัญชา,มาตรา 30,สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์,กรมทรัพย์สินทางปัญญา
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1469081
ทหารพม่าสังหารโหดชาวบ้านพักแรมทำไร่นอกหมู่บ้าน
เมืองเกซี สภาพชาวบ้านที่ถูกสังหารเสียชีวิตทั้ง 3 ศพ หลังหายตัวไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ที่มาของภาพ: คนเครือไท/สำนักข่าว SHAN มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ชาวบ้านบ้านน้ำหม่อ ตำบลเก็งเหลิน เมืองเกซี รัฐฉานภาคกลาง ได้พบศพเพื่อนบ้าน 3 คน หลังพากันออกติดตามหาซึ่งได้หายตัวไปตั้งแต่กลางเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยสภาพศพที่พบเหลือแต่โครงกระดูก บริเวณข้อมือและขามีร่องรอยเชือกผูกติดอยู่ ทั้งนี้ เชื่อว่าทั้งสามถูกทหารพม่าสังหาร เนื่องจากจุดพบศพอยู่ห่างจากฐานชั่วคราวของทหารพม่าซึ่งเพิ่งถอนกำลังออกไปเพียง 50 เมตร ทั้งนี้ ชาวบ้านที่ถูกสังหารเสียชีวิตทั้ง 3 คน ประกอบด้วย 1. นายจายหลง อายุ 48 ปี บุตรนายจอง นางหลี 2. นายส่างทุน อายุ 49 ปี บุตรนายปิ่งหย่า นางจอง 3. นายหลงจอน อายุ 54 ปี ทั้งสามเป็นราษฎรตำบลเก็งเหลิน และตำบลบ้านวาบ เขตเมืองเกซี โดยได้หายตัวไปขณะไปนอนพักค้างแรมทำไร่นอกหมู่บ้าน ตั้งแต่กลางก.ค. ที่ผ่านมา ชาวบ้านเล่าว่า หลังทราบเพื่อนบ้านทั้ง 3 คนหายตัวไป ชาวบ้านก็ไม่กล้าออกติดตามค้นหา เพราะเกรงจะถูกทหารพม่าทำร้าย กระทั่งทราบว่าทหารพม่าซึ่งเป็นทหารสังกัดกองพันทหาราบที่ 513 ที่ไปตั้งฐานชั่วคราวอยู่บริเวณนั้นได้ถอนกำลังออกไป ชาวบ้านจึงพากันออกติดตามค้นหาและพบศพทั้งสามคนถูกมัดมือมัดเท้าและโยนทิ้งลงหน้าผาอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ตั้งฐานของทหารพม่ามากนัก ชาวบ้านเผยอีกว่า ในเขตพื้นที่เมืองเกซี มีทหารพม่า 3 กองพัน มีพฤติกรรมโหดร้ายกว่ากองพันอื่นๆ คือ ทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 513 286 และ 64 โดยมักก่อเหตุกรรโชกทรัพย์ ข่มขืน กดขี่ข่มเหงและสังหารชาวบ้าน รวมถึงบังคับย้ายหมู่บ้านเป็นประจำ ส่วนสาเหตุการสังหารชาวบ้านทั้ง 3 ราย เชื่อว่าอาจเกิดจากการสงสัยเป็นผู้ให้การสนับสนุนทหารกองกำลังไทใหญ่ SSA/SSPP ทั้งนี้ มีรายงานว่า นับตั้งแต่เกิดการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับทหารกองกำลังไทใหญ่ \เหนือ\ SSA/SSPP ในพื้นที่รัฐฉานภาคเหนือและภาคกลางซึ่งดำเนินมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ส่งผลให้ขณะนี้มีชาวบ้านถูกทหารพม่าละเมิดสิทธิ์ทั้งการบังคับเป็นลูกหาบ รีดทรัพย์ ข่มขืน จับทารุณสอบสวนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้มีหมู่บ้านถูกบังคับโยกย้ายหลายหมู่บ้าน ขณะที่มีชาวบ้านพากันอพยพหนีภัยสู้รบออกนอกพื้นที่แล้วกว่า 3 หมื่นคน - (ชมภาพได้ที่ www.khonkhurtai.org) \คนเครือไท\ เป็นศูนย์ข่าวภาคภาษาไทยเครือข่ายสำนักข่าวอิสระไทใหญ่ หรือ สำนักข่าวฉาน (SHAN – Shan Herald Agency for News) มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐฉาน สหภาพพม่า ตลอดจนตามแนวชายแดนไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรการเมือง / การทหารกลุ่มใด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ [email protected] หรือ ติดตามอ่านข่าวสารภาคภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org ภาคภาษาไทใหญ่ที่ www.mongloi.org และภาคภาษาไทยที่ www.khonkhurtai.org
ทหารพม่าสังหารโหด 3 ชาวบ้านพักค้างแรมทำไร่นอกหมู่บ้าน ในเขตเมืองเกซี รัฐฉานภาคกลาง เผยทหารพม่าชุดก่อเหตุอยู่สังกัดกองพันโหดก่อเหตุละเมิดสิทธิ์ชาวบ้านเป็นประจำ ฐานชั่วคราวของทหารพม่าในพื้นที่เก็งเหลิน
สิทธิมนุษยชน
การสังหารหมู่,พม่า,รัฐฉาน,ไทใหญ่
https://prachatai.com/journal/2011/08/36679
พายุโซนร้อน โซนามุ เคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซีย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เปิดเผยว่า กดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีอากาศหนาวเย็น และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ได้มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน แล้ว 7 จังหวัด คือ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เลย แพร่ และ ลำพูน กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพายุโซนร้อน โซนามุ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 7.3 องศาเหนือ ลองจิจูดที่ 110.1 องศาตะวันออก ความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กม. ต่อ ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้ ด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ทั้งนี้คาดว่า พายุนี้มีแนวโน้มอ่อนกำลังลง และเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียในช่วงวันที่ 7-8 มกราคมนี้ และผลกระทบจากพายุ ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีฝนเพิ่มมากขึ้น และฝนตกหนักบางแห่ง ช่วงวันที่ 7-9 มกราคมนี้ ขณะเดียวกันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร จึงขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง ระวังคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพายุโซนร้อน โซนามุ กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ของไทยในบางพื้นที่ ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนัก ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศเขตภัยพิบัติภัยหนาว 7 จังหวัด จากสภาพอากาศทางภาคเหนือ อีสาน ที่ยังหนาวเย็น
สังคม
null
https://news.thaipbs.or.th/content/137625
ยิงดับ ผช.ผญบ. ที่สงขลา ชิงรถกระบะหนี คาดฝีมือแนวร่วมในพื้นที่
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 13 พ.ย. ร.ต.อ.อรรถพล จันทร์สงค์ รอง สว. สอบสวน สภ.ห้วยปลิง ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย และชิงรถกระบะหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณหน้ามัสยิด บ้านต้นจำปาดะ หมู่ 12 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัญญวัฒน์ เพชรชุม ผกก.สภ.ห้วยปลิง นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุบริเวณใต้แคร่ข้างต้นมะม่วง พบศพนายยะโก๊ะ อามะ อายุ 50 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าตามลำตัว 3 นัด นอนจมกองเลือดเสียชีวิต ใกล้กันพบปลาสดเทกองบนพื้น 1 กอง และปลอกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 3 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน,จากการสอบสวนทราบว่า นายยะโก๊ะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าขายปลา ขณะเกิดเหตุได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า แค๊ป สีน้ำตาล ทะเบียน บต 644 ปัตตานี บรรทุกปลาใส่ลังโฟมมาขายตามปกติ บริเวณใกล้หน้ามัสยิดบ้านต้นจำปาดะ จากนั้นมีคนร้ายจำนวน 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่เข้ามาหาผู้ตายที่นั่งขายปลาอยู่ข้างรถ ก่อนที่คนร้าย 1 คน จะลงจากรถมาใช้อาวุธปืนพกยิงใส่ นายยะโก๊ะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 4-5 นัด ถูกนายยะโก๊ะเสียชีวิตคาที่ ,จากนั้นคนร้ายได้ชิงรถยนต์กระบะ 1 คัน ของผู้เสียหายขับหลบหนีมุ่งหน้าไปตามเส้นทางพื้นที่ หมู่ 10 ต.ท่าม่วง อ.เทพา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วิทยุประสานกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ออกสกัดติดตามจับกุมคนร้าย แต่ไร้วี่แวว ,ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วม ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อาจปล้นชิงรถนำไปประกอบคาร์บอมบ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป.
อุกอาจ! 4 คนร้าย ควบ จยย.ยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งนั่งขายปลาอยู่ใกล้มัสยิดบ้านต้นจำปาดะ ในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เสียชีวิต ก่อนชิงรถหลบหนี ตร.วิทยุสกัดยังไร้วี่แวว คาดฝีมือแนวร่วมในพื้นที่ ชิงรถไปทำคาร์บอมบ์
ข่าว,ทั่วไทย
ยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน,สะบ้าย้อย,สงขลา,เทพา,ขายปลา,ชิงรถ,แนวร่วม,คาร์บอมบ์,ประกอบระเบิด,สร้างสถานการณ์,ความไม่สงบ,จังหวัดชายแดนใต้
https://www.thairath.co.th/news/local/782052
หนุ่มใหญ่เมืองระยอง ดูมีพิรุธ ตร.ค้นตัวพบโพยหวยใต้ดิน เลขเด็ด อื้อ
หนุ่มใหญ่เมืองระยอง ยืนมีพิรุธหน้าร้านขายของชำ ตำรวจค้นตัวพบโพยหวยใต้ดิน เลขเด็ด อื้อเมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 1 มิ.ย.63 ร.ต.อ.อรรถกร โภคสุทธิ์ รองสวป.สภ.เมืองระยอง ออกตรวจเขตพื้นที่รับผิดชอบจนมาถึงหน้าร้านขายของชำแห่งหนึ่งในตำบลตะพง ได้พบชายคนหนึ่งยืนอยู่มือล้วงกระเป๋ากางเกงท่าทางมีพิรุธจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้น และทราบชื่อคือ นายมนัส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี พบกระดาษโพยหวย 1 ใบระบุตัว เลขเด็ด ดังนี้ 355358856776788745 และ 467 รวมเป็นเงิน 480 บาท โดยลงวันที่ 1 มิ.ย.63 อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวาทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจดู กล่าวหาว่าลักลอบเล่นการพนันสลากกินรวบ (หวยใต้ดิน) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต (ฝ่ายผู้เล่น) นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พ.ต.ท.ภูมิสิทธิ์ ยันตรพันธ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หนุ่มใหญ่เมืองระยอง ยืนมีพิรุธหน้าร้านขายของชำ ตำรวจค้นตัวพบโพยหวยใต้ดิน เลขเด็ด อื้อ
ข่าว,ทั่วไทย
หวยใต้ดิน,โพยหวย,โพยหวยใต้ดิน,ระยอง,ตำรวจจับ,หวย
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1858616
ขยายผลจับเครือข่ายค้ายาเสพติดภาคเหนือ อายัดทรัพย์กว่า 200 ล้าน (ชมคลิป)
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. 58 นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภาค 5 พ.ต.อ.จรัญฌิ เริงธรรม รอง ผบก.เชียงราย นายวิชัย ไชยมงคล ผอ. ป.ป.ส.ภาค 5 พ.อ.วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง เสธ.กกล.ผาเมือง นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 300/89 หมู่ 13 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จับกุมตัวนายรัฐวุฒิชัย หรือ นิคม พฤกษาพันธ์ทวี อายุ 47 ปี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อีกชุดเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 6 บ.ผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จับนายนิยุต พฤกษาพันธ์ทวี อายุ 69 ปี ทั้ง 2 คน ตามหมายจับศาลจังหวัดแพร่ ข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด,สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 58 สภ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้จับกุมพลทหารวิชัย รักษ์คีรีเขต ขณะขับรถตู้ติดป้ายทะเบียนกงจักรปลอม ขนยาบ้าจำนวน 1.6 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 150 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่สอบสวนขยายผลพบเป็นเครือข่ายใหญ่เชื่องโยงหลายจังหวัดจึงขอหมายศาล จ.แพร่ จับกุมเครือข่ายที่เชื่อมโยงไปถึง 30 เป้าหมาย,ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ บก.ภ.จ.เชียงราย พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภาค 5 นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขา ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงผลการสนธิกำลังหลายฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้นยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด ตามแผน รหัสลับอินทนน์ 1/2 จำนวน 6 อำเภอ มี อ.เมือง, แม่จัน, แม่สาย, เชียงของ, เชียงแสน และ อ.แม่ฟ้าหลวง จำนวน 25 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 18 คน โดยเฉพาะสามารถจับกุมตัวนายรัฐวุฒิชัย หรือ นิคม พฤกษาพันธ์ทวี ตัวการใหญ่ผู้ว่าจ้างเป็น 1 ใน 2 ระดับสั่งการนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน และเครือข่ายระดับปฏิบัติการรับจ้างขนส่งต่อกันเป็นทอด พร้อมกับอายัดทรัพย์สินโฉนดที่ดิน 16 แปลง อาวุธปืน 4 กระบอก เงินสด 412,00 บาท รถยนต์ 12 คัน รถจักรยานยนต์ 13 คัน ทองรูปพรรณ 4 เส้น หอพัก 40 ห้อง บ้านพัก 2 หลัง มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท,พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า ผลการสอบสวนขยายผลจากพลทหารวิชัย รักษ์คีรีเขต ทำให้สามารถเข้าจับกุมยึดทรัพย์ครั้งนี้จำนวน 18 ราย และกำลังติดตามจับกุมอีก 7 ราย ซึ่งเครือข่ายยาเสพติดขบวนการนี้ครอบคลุมทั่วประเทศ มีตัวการใหญ่เป็นเครือข่ายชาวเขาเผ่าม้ง ในประเทศเพื่อนบ้านเชื่อมโยงกับม้งภาคเหนือ และม้งภาคอีสาน ตลอดถึงม้งภาคใต้ ซึ่งนายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต ผอ. ป.ป.ส. ได้ขยายผลแลก เปลี่ยนข้อมูลและหมายจับผู้ต้องหาที่หลบหนีประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเมียนมาและลาว ช่วยกวาดล้างจับกุมส่งกลับไทยเพื่อดำเนินคดี,ขณะที่ นายเพิ่มพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้มียาเสพติดทะลักเข้าชายแดนถี่มากขึ้น เกิดจากทางการพม่าได้กดดันกวาดล้างปราบปรามอย่างหนัก ทำให้มีการระบายยาเสพติดเข้าชายแดนไทยค่อนข้างมาก ซึ่งเรามีมาตรการตั้งด่านตรวจ และประสานฝ่ายเมียนมา ประเทศลาวในการสกัดยาเสพติดและสารตั้งต้นผลิตยาเสติด ตามข้อตกลงการปราบปรามยาเสพติดลุ่มน้ำโขง 4 ประเทศ ว่ามีการจับกุมยาเสพติดในประเทศไหน หากมีผู้ต้องหาเกี่ยวข้ามประเทศ เราจะช่วยการขยายผลติดตามจับกุมส่งประเทศที่เกิดเหตุ ที่ผ่านมาทำให้สามารถร่วมกันปราบปรามเคสใหญ่ๆ จับตัวการใหญ่ได้ 2-3 เคส ในอนาคตจะขยายการปฏิบัติการไปถึง จ.เชียงใหม่ ส่วนขบวนการยาเสพติดที่จับได้วันนี้เป็นขบวนการใหญ่ของม้ง ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศเชื่อมไปถึงม้งฝั่งเมียนมา, ลาว, และจีน ในอนาคตเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงขบวนการนี้จะยิ่งใหญ่มากขึ้น
ผู้การฯ ภาค 5 ควง ป.ป.ส. ตั้งโต๊ะแถลงการปิดล้อม 25 เป้าหมายรวบ 18 ราย ขยายผลจากคดีพลทหารขนยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด ที่ถูกจับได้ที่จังหวัดแพร่ แต่หัวโจก 2 รายหนีซุกลาว เครือข่ายยาเสพติดม้ง อายัดทรัพย์กว่า 200 ล้านบาท
ข่าว,ทั่วไทย
จับยาบ้า,จับแก๊งยาเสพติด,ข่าว,อาชญากรรม,ไทยรัฐออนไลน์,แม่สาย,ผาเมือง,ยาเสพติด,อายัดทรัพย์,เผ่าม้ง
https://www.thairath.co.th/news/local/505069
ศูนย์วิจัยฯ เผยอัตราการสูบบุหรี่ในช่วงอายุ 15-18 ปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2
ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบเปิดเผยผลสำรวจอัตราการสูบบุหรี่ของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรไทยปี 2554 อยู่ที่ร้อยละ 21.36 แต่แนวโน้มการสูบบุหรี่ในเยาวชนมีอัตราเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงอายุ 15-18 ปี ที่ร้อยละ 9.2 และพบเยาวชนเริ่มสูบบุหรี่อายุต่ำสุดเพียง 6 ขวบ สาเหตุมาจากการเข้าถึงบุหรี่ได้ง่ายขณะที่ผลสำรวจพฤติกรรมการบริโภคยาสูบของเยาวชนอายุต่ำกว่า18 ปี ระดับมัธยมศึกษา ของคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต พบเยาวชนร้อยละ 56.1 ระบุว่า มีรุ่นพี่รุ่นน้องหรือเพื่อนในโรงเรียนนำบุหรี่มาแบ่งขายเป็นมวนๆ รวมทั้งหาซื้อบุหรี่ได้จากร้านขายของชำ บริเวณโรงเรียนและบ้าน รวมถึงห้างสรรพสินค้า ที่พบการแบ่งขายบุหรี่ชูรสและบุหรี่กานพลู โดยกลุ่มผู้ขายจะมีอายุต่ำกว่า 18 ปี เพื่อให้เป็นกลุ่มวัยเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมาย จึงควรผลักดันร่างกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการควรออกมาตรการที่เข้มงวดให้โรงเรียนกวดขันดูแลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง และขอความร่วมมือร้านค้ารอบๆสถานศึกษาเพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ของเยาวชนสำหรับร่างกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่นี้ได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นทุกภูมิภาคเสร็จแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปปรับปรุงร่างให้มีความสมบูรณ์ ประเด็นสำคัญอยู่ที่การห้ามขายบุหรี่ให้กับเด็กจากเดิมอายุต่ำกว่า 18ปี เพิ่มเป็นอายุ 20ปี ห้ามเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18ปี ขายบุหรี่ หากฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 0000บาท รวมถึงการห้ามวิธีการเข้าถึงบุหรี่ของเยาวชนเช่น การขายบุหรี่ทางอินเทอรเน็ต ห้ามแบ่งขายบุหรี่เป็นมวน ห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบในสถานศึกษาโดนคาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้ จะสามารถสรุปนำร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้
แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของเด็กและเยาวชนที่กลายเป็นนักสูบบุหรี่หน้าใหม่มีสาเหตุมาจากการเข้าถึงบุหรี่ได้ง่ายและไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ดังนั้นรัฐบาลควรผลักดันร่างกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อเสนอเป็นกฎหมายบังคับใช้
สังคม
15-18 ปี,ร้อยละ9.2,ศูนย์วิจัยฯ,สูบบุหรี,อายุ,เพิ่มขึ้น
https://news.thaipbs.or.th/content/120128
นักเตะเยาวชนไทยเอาชนะจีน 2-1 ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย
การแข่งขันมีขึ้นที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตเป็นเกมชิงแชมป์เอเชีย ในสาย บี คู่ที่ 2 ทีมชาติไทย พบกับ จีน เกมมาสนุกในช่วง 10 นาทีสุดท้าย นาที 82 เมื่อ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา วิ่งมายิงให้ทีมไทยขึ้นนำ 1-0 และทีมไทยยังเล่นกันได้ดี มาบวกสกอร์เพิ่มขึ้นนำ 2-0 จาก วรนารถ ทองเครือช่วงท้ายเกมนักเตะเยาวชนไทยเสียสมาธิ ทำให้จีนได้ประตูตีไข่แตกจาก เฟ่ง กาง ช่วงท้ายเกมนักเตะวัยรุ่นกำลังเลือดร้อนกรรมการต้องแจกใบแดงฝั่งละใบ โดยทีมไทย วรนารถ ทองเครือ โดนไล่ออก ขณะที่จีน หวัง ตง โดนไล่ออกจากสนามเช่นกัน จบเกมไทยชนะจีน 2-1 ประเดิม 3 แต้มแรกในชิงแชมป์เอเชียได้สำเร็จ นัดต่อไปจะแข่งขันในวันที่ 5 พฤศจิกายน พบกับ เกาหลีใต้ ที่นัดแรกเสมอกับอิรัก 0-0
นักเตะเยาวชน 19 ปีไทยสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ประเดิมในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียด้วยการเอาชนะจีน 2-1
กีฬา
นักเตะเยาวชนไทย,ฟุตบอล
https://news.thaipbs.or.th/content/123263
ระวัง แบงก์ 500 ปลอมระบาดที่สุราษฎร์ จ่ายซื้อของ เพื่อเอาเงินทอน
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 13 พ.ย. 58 พ.ต.ท.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ สวญ.สภ.โมถ่าย อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสวียด ประชุมติดตามความคืบหน้า หลังมีกลุ่มมิจฉาชีพนำธนบัตรปลอมมาใช้ในพื้นที่ อ.ไชยา อ.ท่าชนะ และล่าสุดพบในพื้นที่ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี,สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพ พบว่านำธนบัตรปลอมใบละ 500 บาท ไปซื้อของที่ร้านค้าผักในย่านชุมชน พื้นที่ ม.2 ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตรวจพบเป็นธนบัตรปลอมใบละ 500 บาท มีขนาดเล็กกว่าของจริงเล็กน้อย ไม่พบลายน้ำแต่อย่างใด ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีก็จะรู้ได้ทันที,พ.ต.ท.ประวิทย์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการสืบสวนในขณะนี้ ได้เข้ารวบรวมข้อมูลและตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามร้านค้าในชุมชน รวมถึงรอบๆ พื้นที่การระบาดของแบงก์ปลอม เบื้องต้นพบธนบัตรดังกล่าว มีหมายเลขหมวดเดียวกันทั้ง 3 พื้นที่ ซึ่งจากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่ากลุ่มมิจฉาชีพจะเลือกใช้ธนบัตรปลอม กรณีที่มียอดเงินจำนวนน้อย เพื่อสะดวกและง่ายต่อการทอนเงินในการซื้อสินค้าแต่ละครั้ง,ขณะนี้ได้จัดทำแผ่นสติกเกอร์ ประชาสัมพันธ์ นำไปปิดตามร้านค้าและแหล่งชุมชน เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ให้มีการตรวจเช็กและระมัดระวังธนบัตรปลอม โดยให้สังเกตลักษณะ รูปแบบของธนบัตรทุกครั้งที่มีการรับ จ่าย เนื่องจากจะมีความแตกต่างอย่างชัดเจน หรือหากพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพนำธนบัตรปลอมมาใช้ในพื้นที่อีก ให้รีบโทรแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าไปศึกษาวิธีสังเกตธนบัตรปลอมเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย พ.ต.ท.ประวิทย์ กล่าว.
แก๊งมิจฉาชีพตระเวนกระจาย ธนบัตรปลอม เป็นแบงก์ 500 บาท ใช้ซื้อของจากร้านใน 3 อำเภอของ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเอาเงินทอน ตำรวจชี้สังเกตง่าย เพราะมีขนาดเล็กกว่าของจริง ไม่มีลายน้ำ และเลขหมวดเดียวกันทั้ง 3 พื้นที่
null
แบงก์ปลอม,ธนบัตรปลอม,แบงก์500ปลอม,แบงก์ปลอมระบาด,แบงก์ 500 ปลอมระบาด,สุราษฎร์ธานีแบงก์ปลอมระบาด,สุราษฎร์ธานี,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/539247
ป๋าเปรม ปลุกจิตสำนึกร่วมต้านโกง ชี้ใครไม่ร่วมมือถือว่า ไม่รักชาติ
วันที่ 19 ธ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรหลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) รุ่นที่ 5 ภายหลังการมอบประกาศนียบัตร พล.อ.เปรม กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า บ้านเมืองมีปัญหาใหญ่ 2 อย่างคือ,1.ความยากจน 2.การฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งปัญหาความยากจนเป็นภาระของรัฐบาลที่ต้องดูแลราษฎรยากจนให้ยากจนน้อยลง ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่เร่งด่วนเหมือนปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่ยังมีอยู่มากในประเทศ ยังแก้ไขให้หายไปหรือน้อยลงไม่ค่อยประสบความสำเร็จ หรือประสบความสำเร็จน้อยมาก เพราะต่างคนต่างคิดว่า ไม่ใช่ธุระหรือหน้าที่ของตัวเอง ใครจะโกงก็เป็นเรื่องของคนนั้น บางคนบอกจะไปเพาะศัตรูทำไม อยู่เฉยๆ ดีแล้ว ถือเป็นความคิดที่แย่มาก ใครคิดเช่นนี้ถือว่า ไม่ร่วมมือกันพัฒนาชาติ หรืออาจจะพูดว่า ไม่รักชาติก็ได้,พล.อ.เปรม กล่าวว่า บางคนสอนให้ใช้คุณธรรม จริยธรรม หรือธรรมาภิบาลก็ใช้ได้ แต่ตนคิดว่า มันช้า อาจเรียกว่าช้าเกินไป ไม่ทันกับความเลวร้ายเรื่องฉ้อราษฎร์บังหลวง เราต้องทำตัวเองให้เป็นแบบอย่างที่ดี เงยหน้ากล้าพูดยืดอกว่า ผมไม่โกง ดิฉันไม่โกง ต้องกล้าหาญพอที่จะพูด และทำให้ดูว่า สิ่งที่พูดได้ทำจริง โดยสรุปคือ เราต้องกล้าหาญไม่ยกมือไหว้คนโกงชาติ ไม่ว่าจะเป็นใคร เป็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงสนิทกัน แต่ถ้าได้มาเพราะโกง ก็ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้ อยากให้ทุกคนไปสอนคนอื่นให้เกลียดคนโกง ทำอย่างไรก็ได้ ขอให้ทุกคนเกลียดคนโกง เพราะเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่มีในชาติบ้านเมือง,พล.อ.เปรม กล่าวว่า คิดว่า สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การแก้ปัญหาทุจริตต้องใช้ความรวดเร็ว และรุนแรง ต้องทำคดีให้เร็ว ลงโทษรุนแรง มิเช่นนั้นอันดับการทุจริตของประเทศจะอยู่แค่นี้ กฎหมายต้องทำด้วยความรวดเร็ว และรุนแรงให้คนกลัวว่า เป็นการกระทำที่จะต้องติดคุกนานๆ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่าคือ ความอับอายของชาติบ้านเมือง ถ้าประเทศได้รับความอับอาย จะปล่อยปละละเลยไม่ได้ เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องแก้ไขความอับอายของบ้านเมืองให้ได้ ถ้าไม่ช่วยกันทำเรื่องนี้ เราไม่รักชาติ ไม่ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ทำให้ชาติได้รับความอับอาย ตัวทุกคนอับอายไม่เป็นไร แต่ชาติได้รับความอับอาย เราต้องไม่ยอม ต้องทำให้ได้ว่า ชาติเราไม่โกง หรือโกงน้อย ให้ความโกงหายไปทีละน้อย และหายไปในที่สุด ด้วยความความพยายามและเสียสละของพวกเรา
ป๋าเปรม ปลุกจิตสำนึกร่วมต้านโกง ชี้ใครไม่ร่วมมือถือว่า ไม่รักชาติ ลั่นให้กล้าไม่ยกมือไหว้คนโกง แนะวิธีปราบทุจริต ต้องใช้กฎหมายลงโทษให้รวดเร็วและรุนแรง ต้องติดคุกนานๆ ย้ำต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินไม่ให้ประเทศอับอายเรื่องขี้โกง
null
ป.ป.ช.,เปรม ติณสูลานนท์,ทุจริต,ปราบโกง,ฉ้อราษฎร์บังหลวง,ราษฎร,ข่าวการเมือง,คอร์รัปชัน,โกงกิน,นักการเมือง,ต่อต้านคนโกง,ไม่ยกมือไหว้,โกงชาติ,ความเสียสละ,ความพยายาม,ไมรักชาติ
https://www.thairath.co.th/content/470004
พายุฤดูร้อนที่น่าน ซัดยอดพระธาตุยอยหงส์ อายุกว่า 800 ปี หักโค่น
ภาพ : กมลชนก กุลเทพรม,หลังเกิดพายุฤดูร้อน ในพื้นที่ จ.น่าน ส่งผลให้แรงลม ซัดยอดพระธาตุยอยหงส์ อายุกว่า 800 ปี หักโค่น หลังคาวัดพระธาตุยอยหงส์ ถูกลมพัดปลิวเสียหาย ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.น่าน วานนี้ (16 เม.ย.) เกิดพายุฤดูร้อนในพื้นที่ ทั่วทั้งจังหวัด ส่งผลให้ยอดพระธาตุยอยหงส์ บ้านพรหม หมู่ที่ 1 ต.หนองแดง อ.แม่จริม จ.น่าน ซึ่งเป็นพระธาตุอายุกว่า 800 ปี หักโค่น ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ แรงลมยังพัดหลังคาวัดปลิวหายอีกด้วย,นายจรินทร์ เก่งสงวนิทธิ์ นายอำเภอแม่จริม พร้อมด้วยนายสามารถ วงค์เรียบ นายกเทศบาลตำบลหนองแดง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าในส่วนยอดพระธาตุที่หักลงมานั้น ได้แจ้งประสานทางกรมศิลปากร และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบแล้ว,นายมนตรี พรมมี ผญบ.บ้านพรหม ได้กล่าวว่า เบื้องต้นชาวบ้านได้รื้อเก็บชิ้นส่วนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อจะหาแนวทางในการบูรณะซ่อมแซม หากผู้มีจิตศรัทธา ต้องการบริจาค สมทบทุนกับทางวัด สามารถร่วมทำบุญได้ที่ ธนาคารออมสิน สาขาแม่จริม บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก วัดพระธาตุยอยหงส์ เลขที่ 020196614133.
หลังเกิดพายุฤดูร้อน ในพื้นที่ จ.น่าน ส่งผลให้แรงลม ซัดยอดพระธาตุยอยหงส์ อายุกว่า 800 ปี หักโค่น หลังคาวัดพระธาตุยอยหงส์ ถูกลมพัดปลิวเสียหาย
ข่าว,ทั่วไทย
พายุฤดูร้อน,น่าน,ยอดพระธาตุ,หักโค่น,วัดพระธาตุยอยหงส์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1258157
ตบหนุ่มยู-20 ไทยสุดเจ๋ง ถล่มคาซัค 3-0 เซต ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2016
วันที่ 9 ก.ค. การแข่งขันวอลเลย์บอลชายรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2016 ที่สนาม เกาสง อารีนา ประเทศไต้หวัน นัดแรก กลุ่ม เอ ระหว่าง วอลเลย์บอลทีมชาติไทยไทย พบกับ คาซัคสถาน,เปิดฉากเซตแรกรูปเกมยังค่อนข้างสูสีก่อนจะมาเสมอกันที่ 6-6 หลังจากนั้นเกมก็เริ่มกลับมาสูสีไล่บี้กันมาที่ 19-15 เมื่อตบหนุ่มไทยอ่านจังหวะคู่แข่งได้ขาดก็เดินหน้าเก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำ แม้ คาซัคสถาน จะพยายามไล่ตามมาแต่ก็ไม่ทัน จบเซตแรก ไทย เอาชนะไปได้ก่อน 25-20,เข้าสู่เซตที่สอง นักกีฬาของทั้งสองทีมต่างผิดพลาดทั้งการเสิร์ฟติดเน็ตและตีเสียเอง แต่ยังเป็นตบหนุ่มไทยที่ขึ้นนำไป 8-3 ก่อนขยับมาที่ 16-8 หลังจากนั้นเกมเริ่มเป็นของไทยทำแต้มหนีไปเป็น 20-10 แม้ช่วงท้ายไทยจะออกอาการแผ่วเล็กน้อย แต่ก็เอาชนะไปได้อีก 25-15 ออกนำ 2-0 เซต,จากนั้นในเซตที่สาม ไทยเปิดหัวได้ดีอีกครั้งออกนำไป 8-3 หลังจากนั้นคาซัคสถานเกมเริ่มดีขึ้น ไล่บี้ทำแต้มเบียดขึ้นมาเป็น 11-9 เกมเริ่มเข้มข้นอย่างต่อเนื่องจนไทยต้องเร่งเครื่องก่อนทำแต้มฉีกออกไปอีกครั้งเป็น 20-13 และสุดท้ายจะปิดเซตไปได้อีกที่สกอร์ 25-15 ส่งผลให้ชนะไป 3-0 ด้วยสกอร์ 25-20, 26-15, 25-15 ประเดิมชัยในการแข่งขันรายการนี้ได้สำเร็จ,สำหรับโปรแกรมในนัดถัดไปของทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับเจ้าภาพ ไต้หวัน ในอาทิตย์ที่ 10 ก.ค.นี้ ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดเช่นเคย.
ตบหนุ่มไทย ยู-20 โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังไล่ถล่มเอาชนะ คาซัคสถาน ไปอย่างขาดลอย 3-0 เซต ประเดิมชัยนัดแรก ในศึก ชิงแชมป์เอเชีย 2016 ที่ประเทศไต้หวัน ได้ตามคาด
null
วอลเลย์บอลชาย,รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี,ชิงแชมป์เอเชีย 2016,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,วอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย,วอลเลย์บอลชายรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2016
https://www.thairath.co.th/content/659434
วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก สมาคมนักข่าวฯ ชูหลัก เสรีภาพบนความรับผิดชอบ
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ขอสื่อทุกประเภทตระหนักถึงคุณค่าของการได้มาซึ่งเสรีภาพที่ต้องยึดมั่นในหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพภายใต้หลักการ เสรีภาพบนความรับผิดชอบ3 พ.ค.2562 เนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์สนับสนุนหลักการที่ต้องการเห็นสื่อทุกประเภทตระหนักถึงคุณค่าของการได้มาซึ่งเสรีภาพที่ต้องยึดมั่นในหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ภายใต้หลักการ เสรีภาพบนความรับผิดชอบ ท่ามกลางความคาดหวังและการตรวจสอบอย่างเข้มแข็งจากภาคส่วนต่างๆ ในยุคสังคมออนไลน์นอกจากนี้สมาคมนักข่าวฯ ยังน้อมนำพระราชดำรัสของ ร.9 ที่ว่า สื่อควรสำนึกอยู่เสมอว่า เป็นงานสำคัญและมีเกียรติสูง เนื่องจากต้องมีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ในการร่วมกันสร้างสันติสุขให้แก่โลก การแพร่ข่าวโดยขาดความระมัดระวัง สามารถจะทำลายงานที่ผู้มีความปรารถนาดีทั้งหลายได้พยายามสร้างสรรค์ไว้ด้วยความยากลำบากได้โดยมีรายละเอียดดังนี้วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ตรงกับวันที่ 3พฤษภาคมของทุกปี ที่องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศ เพื่อให้สังคมทุกภาคส่วนตื่นตัว ตระหนักและให้ความสำคัญกับหลักการพื้นฐานของการมี เสรีภาพของสื่อมวลชน คือ เสรีภาพของประชาชน หากสื่อมวลชน ไร้ซึ่งเสรีภาพในการตรวจสอบ นำเสนอ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้านแล้ว ย่อมทำให้การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนอย่างรอบด้านก็จะถูกลิดรอนไปเช่นกันสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ยังคงสนับสนุนหลักการดังกล่าว ที่ต้องการเห็นสื่อทุกประเภทในทุกช่องทางการนำเสนอ ตระหนักถึงคุณค่าของการได้มาซึ่ง เสรีภาพ ที่ต้องยึดมั่นในหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ภายใต้หลักการ เสรีภาพบนความรับผิดชอบ ท่ามกลางความคาดหวังและการตรวจสอบอย่างเข้มแข็งจากภาคส่วนต่างๆในยุคสังคมออนไลน์ จึงต้องมีความพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบด้วยวิธีการต่างๆเพื่อเป็นการย้ำเตือนกับวิชาชีพสื่อมวลชน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ขอน้อมนำพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งพระองค์เสด็จฯทรงวางศิลาฤกษ์อาคารสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2512 ความว่า…ผู้มีหน้าที่สื่อข่าวก็ดี หรือมีหน้าที่ประสานความเข้าใจระหว่างคนหลายชาติหลายชั้นก็ดี ควรสำนึกอยู่เสมอว่า งานของเขาเป็นงานสำคัญและมีเกียรติสูง เพราะหมายถึงความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ในการร่วมกันสร้างสันติสุขให้แก่โลก การแพร่ข่าวโดยขาดความระมัดระวัง หรือแม้แต่คำพูดง่ายๆ เพียงนิดเดียว ก็สามารถจะทำลายงานที่ผู้มีความปรารถนาดีทั้งหลายได้พยายามสร้างสรรค์ไว้ด้วยความยากลำบาก เป็นเวลาแรมปีสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย3 พฤษภาคม 2562
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ขอสื่อทุกประเภทตระหนักถึงคุณค่าของการได้มาซึ่งเสรีภาพที่ต้องยึดมั่นในหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ภายใต้หลักการ
การเมือง
วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก, สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย,เสรีภาพบนความรับผิดชอบ
https://prachatai.com/journal/2019/05/82311
รถใหญ่เข้าซอยแคบ ลุงวัย62เดือด เรียกจอด ชักปืนยิงคนขับรถปูนสาหัส
      ,เหตุคนซอยเดียวกันทะเลาะถึงขั้นยิงกันบาดเจ็บครังนี้ พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ จันทร์ยืนยง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 11 ธ.ค.58 ว่า มีคนถูกยิง ในซอยบางใหญ่ซอย 5 หมู่ 6 ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จึงนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตรวจสอบพร้อมมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี,ที่เกิดเหตุ เป็นซอยค่อนข้างแคบ รถสวนทางได้ลำบาก มีบ้านเรือนหนาแน่น พบรถบรรทุกปูนสำเร็จ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาวทะเบียน 84-2662 สุราษฎร์ธานี จอดอยู่ ประตูด้านขวา มีรู กระสุน 1 รู ใกล้กัน พบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ถูกยิงอาการสาหัส ทราบชื่อคือนายสมเดช หนูแดง อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยกุศลศรัทธานำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีไปก่อนแล้ว,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนก่อเหตุในครั้งนี้คือนายวันชาติ เข็มทอง 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148/1 หมู่ 6 ต.มะขามเตี้ย เป็นคนในซอยเดียวกัน และเคยมีปัญหากับนายสมเดชผู้บาดเจ็บก่อนหน้านี้แล้ว ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุนายสมเดช ซึ่งมีอาชีพขับรถปูนผสมสำเร็จพร้อมใช้ ได้ขับรถนำเศษปูนที่เหลือไปเทบริเวณบ้าน ซึ่งอยู่ท้ายซอย โดยขณะขับรถเข้าไปภายในซอยซึ่งค่อนข้างแคบต้องคอยยกสายไฟ เบี่ยงโคมไฟส่องสว่างตามเสาไฟ และหลบรถต่างๆ เมื่อเทปูนเสร็จขับออกมาถึงหน้าบ้านนายวันชาติ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่กลางซอย ขณะนั้น นายวันชาติได้วิ่งออกมาโบกมือเรียกให้จอด ก่อนจะเกิดโต้เถียงกันเรื่องไฟส่องทางที่ถูกเบี่ยงออกไปเพื่อหลบรถ ไม่ส่องตรงที่เดิม ก่อนที่นายวันชาติจะใช้อาวุธปืนยิงนายสมเดช จนได้รับบาดเจ็บ แล้วหลบหนีไป.
ปัญหาจากการขับรถใหญ่เข้าซอยแคบ คนอยู่ซอยเดียวกันกลายเป็นคู่กรณี โชเฟอร์รถบรรทุกปูนถูกเรียกถามเรื่องเบี่ยงโคมไฟส่องสว่าง แล้วไม่ส่องตรงที่เดิม สุดท้ายทะเลาะกับลุงวัย62ปี ถูกลุงเลือดร้อนชักปืนยิง4นัด อาการสาหัส
null
ยิงคนขับรถปูน,เข้าซอยแคบ,คนร่วมซอย,ซอยเดียวกัน,สมเดช หนูแดง,ซอยบางใหญ่,สุราษฎร์ธานี,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ยิงกัน
https://www.thairath.co.th/content/548441
แรงปลาย ลิเวอร์พูล ฟอร์มแจ่มบุกเฉือน สวอนซี ซิตี้ 2-1 ขึ้นรองฝูง
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016-17 ประจำวันเสาร์ที่ 1 ต.ค. คู่น่าสนใจเป็นการเจอกันระหว่าง หงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ เปิดสนามลิเบอร์ตี้ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล,เปิดฉากครึ่งแรกได้แค่ 7 นาที เจ้าถิ่น ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากการทำประตูของ เลรอย เฟอร์,เมื่อโดนนำ ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ อยู่เฉยไม่ได้ ก่อนจะเปิดเกมบุกเข้าใส่ แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสนั้นเป็นประตูตีเสมอได้,เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 25 เจ้าถิ่นพลาดได้ประตูที่สอง เมื่อ บอร์คา บาสตอน ได้โอกาสโขกเน้นๆ แต่ดันขวิดหนาส่งบอลหลุดออกเสาใกล้ไปอย่างน่าเสียดาย,นาทีที่ 43 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกระยะหวังผล และเป็น กิลฟี่ ซิกูสัน วิ่งมาปั่นด้วยขวาแต่บอลเบาเข้ามือของนายทวารทีมเยือนรับไว้ได้สบาย,หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ จบครึ่งแรก หงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ เป็นฝ่ายออกนำ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ไปก่อน 1-0,กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ 2 นาที โรแบร์โต ฟีร์มีโน ดาวเตะแซมบ้า พาบอลเข้ามาก่อนสบโอกาสตะบันด้วยขวา บอลทำท่าจะเสียบโคนเสาทางซ้ายมืออยู่แล้ว แต่ดีที่นายด่านเจ้าถิ่นล้มตัวรับไว้ได้ทันท่วงที,ขยับมาถึงนาทีที่ 54 ทีมเยือน มาได้ประตูตีเสมอ เป็น 1-1 บอลเริ่มจากจังหวะที่ ทีมเยือน คูตินโญ ยิงไปติดกำแพง บอลกระดอนมาเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตักบอลเข้าไปในกรอบ ให้ โรแบร์โต ฟีร์มีโน โหม่งเสียบเสาสองเข้าประตูไปอย่างสวยงาม,เกมล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 67 นาธาเนียล ไคลน์ ได้โอกาสยิง แต่ยังดีที่นายด่านเจ้าถิ่นรับเอาไว้ได้ และจังหวะต่อมา ซาดิโอ มาเน สบโอกาสยิงด้วยซ้าย บอลไปติดบล็อกออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ,นาทีที่ 84 ทีมเยือนมาได้ลูกจุดโทษ และเป็น เจมส์ มิลเนอร์ รับหน้าที่สังหารก่อนตัดสินใจยิงเข้าไปกลางประตู สกอร์ขยับเป็น 2-1,ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 เจ้าถิ่นพลาดได้โอกาสตีเสมอ จากจังหวะที่ ไมค์ ฟาน เดอร์ ฮอร์น ได้ยิงแต่โดนไม่ดีบอลปลิ้นออกหลังไปอย่างน่าเขกกะโหลก,ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม หงส์แดง ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ หงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ ไปได้อย่างสุดมัน 2-1 เก็บสามคะแนนสำคัญแซงหน้า ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ขึ้นไปครองตำแหน่งรองจ่าฝูงเป็นการชั่วคราว ขณะที่เจ้าถิ่น ยังมีอยู่ 4 คะแนน จากการลงสนาม 7 นัด รั้งอันดับที่ 17 ต่อไปตามเดิม
หงส์แดง ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มเก่ง เมื่อพลิกกลับมาเอาชนะ หงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ ได้อย่างสนุก 2-1 ขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงชั่วคราว ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2016-2017
null
พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,หงส์ขาว,สวอนซี ซิตี้,หงส์แดง,ลิเวอร์พูล,ฟุตบอล,ผลบอล,ผลบอลสด
https://www.thairath.co.th/content/740501
ผลแอดมิชชั่น เตรียมอุดมที่1 คณะวารสาร มธ. คะแนนสูง91.89%
เผยนักเรียนต่างจังหวัดได้คะแนนสูงสุดของคณะชื่อดัง ทั้งปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย, สุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา, สาธิต ม.เชียงใหม่, อัสสัมชัญ สมุทรปราการ ตามลำดับ เด็กเก่งเผยเคล็ดลับตั้งใจเรียนในห้องเป็นหลัก พร้อมให้กำลังใจคนที่พลาดหวังให้มุ่งมั่นสู้ต่อไป,ที่สมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) วันที่ 5 มิ.ย. เวลา 11.00 น. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) แถลงข่าวการประกาศผลแอดมิชชั่นกลาง ประจำปีการศึกษา 2559 ว่า สอท.พร้อมจะประกาศผลแอดมิชชั่นกลาง ประจำปีการศึกษา 2559 ในวันที่ 5 มิ.ย. เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์ ,www.aupt.or.th, สำหรับปีนี้มีที่นั่งรองรับนักเรียนได้ รวม 156,216 ที่นั่ง จาก 88 สถาบัน มีนักเรียนสมัคร 105,046 คน มีนักเรียนผ่านการคัดเลือกและมีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์ในปีนี้จำนวน 85,834 คน แบ่งเป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่เป็นสมาชิก ทปอ. 68,542 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 14,103 คน สถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่สังกัดหน่วยงานอื่น 346 คน สถาบันอุดมศึกษาเอกชน 2,843 คน คณะ/สาขาที่มีอัตราการแข่งขันสูง 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการประถมศึกษา ม.สงขลานครินทร์ อัตราแข่งขัน 1 ต่อ 52 คน 2.คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ 1 ต่อ 46 คน 3.สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ ม.เทคโนโลยีสุรนารี 1 ต่อ 43 คน 4.คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย ม.ทักษิณ 1 ต่อ 40 คน 5.คณะทันตแพทยศาสตร์ สาขาวิชาทันตแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ 1 ต่อ 38 คน,สำหรับนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกแอดมิชชั่นกลาง ได้คะแนนสูงสุดของคณะ/วิชา 6 ราย ได้แก่ 1.นายชยานันต์ คำหอม ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ได้ 91.89 เปอร์เซ็นต์ สอบได้คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ม.ธรรมศาสตร์ 2.น.ส.ชนนิกานต์ แซ่ลี้ ร.ร.ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ได้ 89.32 เปอร์เซ็นต์ สอบได้คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3.น.ส.พิชยา โอภาสเสถียร ร.ร.สุรนารีวิทยา ได้ 87.35 เปอร์เซ็นต์ สอบได้คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ 4.นายณัฐชนน ลำจวน ร.ร.สาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ 85.83 เปอร์เซ็นต์ สอบได้คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ 5.น.ส.สุภิดา อึ้งอร่าม ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ได้ 85.63 เปอร์เซ็นต์ สอบได้คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ 6.นายภาสชัย แก้วสนธิ ร.ร.อัสสัมชัญสมุทรปราการ ได้ 84.67 เปอร์เซ็นต์ สอบได้คณะจิตวิทยา จุฬาฯ,ด้านนางระพีพรรณ คำหอม มารดา นายชยานันต์ คำหอม เปิดเผยว่า ขณะนี้นายชยานันต์ กำลังเรียนภาษาอยู่ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เนื่องจากได้รับทุนรัฐบาลไปศึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ประเทศรัสเซีย ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เรียนค่อนข้างหนัก จึงกลับมาสมัครแอดมิชชั่นในปีนี้ใหม่อีกครั้ง ยังไม่ทราบว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไร ครอบครัวก็พร้อมสนับสนุนไม่ว่านายชยานันต์จะเลือกเรียนด้านใด เพราะถือว่าเป็นความสุขของลูกและเป็นอาชีพในอนาคต หากจะกลับมาเรียนในประเทศไทย เราก็พร้อมชดใช้ทุนคืนให้กับรัฐบาลตามข้อกำหนดการรับทุน,ขณะที่นางวิภาดา แซ่ลี้ มารดา น.ส.ชนนิกานต์ แซ่ลี้ จาก ร.ร.ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย สอบได้คณะนิติศาสตร์ เลือกสอบภาษาญี่ปุ่น จุฬาฯ กล่าวว่า ทางครอบครัวรู้สึกยินดีและดีใจอย่างมาก เพราะ น.ส.ชนนิกานต์สนใจภาษาญี่ปุ่น ถือว่าขณะนี้ลูกได้ทำตามความฝันในก้าวแรกได้ และยังได้ผลลัพธ์ที่ดีสามารถทำคะแนนสอบคัดเลือกได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ ทางครอบครัวก็รู้สึกภาคภูมิใจมาก อย่างไรก็ตาม น.ส.ชนนิกานต์ยังอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อไปเรียนภาษาและหาประสบการณ์เพิ่มเติม ครอบครัวก็ให้การสนับสนุนให้ได้เรียนในสิ่งที่รัก,ส่วน น.ส.พิชยา โอภาสเสถียร จาก ร.ร.สุร-นารีวิทยา สอบได้คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ดีใจมาก เพราะเลือกเป็นอันดับที่ 1 ที่เลือกเรียนภาษาอังกฤษเพราะเป็นภาษาที่มีความสำคัญ และเป็นประโยชน์ทำให้เราได้มีโอกาสที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวได้กว้างขึ้น และเลือกเรียนที่ มธ. เพราะว่าที่นี่มีการเปิดสอนภาษาจีน ตั้งใจจะเลือกเรียนเป็นวิชาโทด้วย ส่วนเรื่องการกวดวิชานั้น ตนกวดวิชาเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น ส่วนวิชาอื่นๆก็จะใช้วิธีการตั้งใจเรียนในชั้นเรียนให้มาก และหมั่นทบทวนความรู้อยู่เสมอ ซึ่งเป้าหมายในอนาคตอยากเป็นครู อย่างไรก็ตาม สำหรับเพื่อนๆ ที่พลาดหวังขอให้มุ่งมั่นและสู้ต่อไป เพราะตนเชื่อว่าหากเรามีความพยายาม ไม่ว่าจะยากแค่ไหนเราต้องทำได้แน่นอน,นายณัฐชนน ลำจวน ร.ร.สาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สอบได้คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ดีใจมาก เพราะอยากเป็นนักการทูต และที่บ้านก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ตนตั้งใจเรียนในห้องเรียน อ่านทบทวนความรู้ และขยันทำแบบฝึกหัด เรียนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษไม่ค่อยชำนาญ อยากฝากให้น้องๆทุกคนตั้งใจเรียน เพื่อจะได้ประสบความสำเร็จและสอบติดมหาวิทยาลัยที่อยากเรียน,ด้าน น.ส.สุภิดา อึ้งอร่าม ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา สอบได้คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจมาก ที่ความมุ่งมั่นตั้งใจตลอดช่วง ม.ปลายสัมฤทธิผล อยากฝากถึงน้องๆทุกคน ที่กำลังเตรียมตัวแอดมิชชั่นให้ตั้งใจเรียนในทุกวิชาตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อที่จะสร้างพื้นฐานความเข้าใจ และหากเราตั้งใจเข้าใจในสิ่งที่เรียนแล้ว ก็จะไม่เป็นอุปสรรคในการสอบ,นายภาสชัย แก้วสนธิ จาก ร.ร.อัสสัมชัญสมุทรปราการ สอบได้คณะจิตวิทยา จุฬาฯ กล่าวว่า ดีใจและแปลกใจที่สอบได้ที่ 1 ของคณะ ที่เลือกเรียนคณะนี้เพราะเป็นคณะที่น่าสนใจ เป็นคณะที่เรียนเกี่ยวกับสถิติ การทำงานของสมอง กระบวนการคิดของมนุษย์ เป็นเรื่องที่น่าศึกษา เรื่องการเรียนนั้นตนจะเน้นการเรียนในห้องเรียน และอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ทบทวนข้อสอบเก่า ส่วนการเรียนพิเศษนั้นเป็นเรื่องปกติที่ต้องเรียน เพื่อได้ทักษะ หรือเทคนิคการทำโจทย์นอกเหนือจากห้องเรียน
ประกาศผลแอดมิชชั่นกลางปี การศึกษา 2559 เด็กเตรียมอุดมฯติดคณะวารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ มาอันดับหนึ่ง แต่เจ้าตัว อยู่ต่างประเทศ ตามด้วยนิติศาสตร์ จุฬาฯ
null
ประกาศผลแอดมิชชั่น,แอดมิชชั่นกลางปี,เตรียมอุดม,ชยานันต์ คำหอม,ชนนิกานต์ แซ่ลี้,พิชยา โอภาสเสถียร,ณัฐชนน ลำจวน,สุภิดา อึ้งอร่าม,ภาสชัย แก้วสนธิ,สถาบันอุดมศึกษา,สอท.,สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์,ทปอ.,ข่าว,ข่าวหน้า1,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,ไทยรัฐ,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,thairath
https://www.thairath.co.th/content/632708
เปิดงาน ราชธานีแห่งศิลปะ โชว์ภาพวาด พระนางมาเรีย มูลค่า 200 ล้าน
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 13 ก.ย.60 นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน ราชธานีแห่งศิลปะ ครั้งแรกในอีสานใต้ สนับสนุนงานศิลป์ถิ่นอีสาน หารายได้มอบมูลนิธิช่วยเหลือศิลปินท้องถิ่น ณ ลานอะควาเรียม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านงานศิลปะและไลฟ์สไตล์ โดยมีนายชนะศักดิ์ นิยะถิรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการแผนกการตลาดสาขา เขต 3 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และนายศักชัย อุทธิโท นายกสมาคมศิลปอีสาน ให้การต้อนรับ,ภายในงานเป็นการจัดแสดงนิทรรศการและผลงานศิลปะทั้งภาพจิตรกรรม และประติมากรรมที่ถูกออกแบบโดยศิลปินชาวอีสานมากมาย อาทิ อาจารย์ทวี รัชนีกร (ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์), คุณศักชัย อุทธิโท (ศิลปินยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน) และสุดยอดไฮไลต์ภาพที่โลกตามหา ภาพพระนางมาเรีย ราชินีองค์สุดท้ายของฝรั่งเศส ผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศส ฌ็อง-บาติสต์-ซีเมอง ชาร์แด็ง (Jean-Baptiste-Siméon Chardin) ผู้เชี่ยวชาญทางการเขียนภาพนิ่ง มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท,นอกจากนี้ยังมี ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่วาดโดยสีอะคริลิคใหญ่ที่สุดในโลก สูงกว่า 15 เมตร ขนาดสูงเท่าตึก 3 ชั้น วาดลงผืนผ้าใบขนาด 12x15 ม. ผลงานโดย อ.ทวี เกษางาม และศิลปินบ้านหัวหิน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ภาพสีน้ำมันรูปบึงบัวที่ยาวที่สุดในโลกกว่า 4 เมตร โดยคุณทวี เกษางาม จากบ้านศิลปินหัวหิน, ผลงานจากกลุ่มลายดิน กลุ่มศิลปินที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอุบลราชธานี โดยนำผลงานมาแสดงกว่า 300 ผลงาน พร้อมชมโชว์การแสดงวาดภาพประกอบบทเพลง โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ,สำหรับงาน ราชธานีแห่งศิลปะ ครั้งแรกในอีสานใต้ จะจัดไปจนถึงวันที่ 18 กันยายน 2560 ณ ลานอะควาเรียม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี.
อุบลราชธานี เปิดงาน ราชธานีแห่งศิลปะ โชว์ภาพสูงที่สุดในโลก และภาพวาด พระนางมาเรีย ราชินีองค์สุดท้ายของฝรั่งเศส มูลค่า 200 ล้านบาท
ข่าว,ทั่วไทย
ราชธานีแห่งศิลปะ,โชว์ภาพสูงที่สุดในโลก,พระนางมาเรีย,มูลค่า 200 ล้าน,อุบลราชธานี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1069202
วอน ผีน้อย จากเกาหลีกลับเข้าไทยอย่าปกปิดข้อมูล ให้ จนท.คัดกรองโควิด-19
วันที่ 3 มี.ค. 2563 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยในประเทศเกาหลีใต้ หรือที่เรียกว่า ผีน้อย ในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ว่า กระทรวงสาธารณสุข กำลังประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ1. กระทรวงการต่างประเทศ ในเรื่องจำนวนคน จากเมืองใดบ้าง ถ้ารู้ชื่อได้ทั้งหมดยิ่งดี2. กระทรวงคมนาคม เนื่องจากช่องทางที่เดินทางกลับมาง่ายที่สุดคือเครื่องบิน แต่ก็ยังไม่ละเลยหากมาทางเรือ3. กระทรวงแรงงาน แม้จะเป็นแรงงานผิดกฎหมาย แต่ในฐานะคนไทยก็ต้องดูแลอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งกระทรวงแรงงานต้องประสานอย่างใกล้ชิด4. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หากได้ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงาน ก็จะมาประสานได้ดียิ่งขึ้นในส่วนนี้ เพราะ ตม. จะเป็นผู้รับผิดชอบคนเข้าออกประเทศ5. ฝ่ายความมั่นคง หากจำเป็นจะต้องมีมาตรการต่างๆ เช่นเดียวกับคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่น ทหารก็ถือเป็นกำลังสำรองของประเทศในสภาวะฉุกเฉิน หลายหน่วยงานจึงต้องประสานและวางแผนร่วมกันนอกจากนี้ นายแพทย์โอภาส ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งการนโยบายให้คำนึงถึงความปลอดภัยของคนไทยในประเทศให้มากที่สุด ซึ่งมาตรการและหลักการคงใกล้เคียงกับกรณีอู่ฮั่น ผู้ที่มีอาการเสี่ยงสูงหรือเข้าข่ายก็ต้องไป รพ. แต่หากไม่เข้าข่ายก็ต้องมีมาตรการแต่อยู่ระหว่างหารือว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องจำนวนคน ต้องรอข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศก่อน ซึ่งถ้ารู้รายชื่อทุกคนจะมีประโยชน์ที่สุดที่กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการต่อไป ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานอย่างใกล้ชิดจากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงผีน้อยบางส่วนที่เดินทางเข้าไทยมาแล้ว อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลในส่วนนี้ ย้ำว่าอยู่ระหว่างการประสานอย่างใกล้ชิด แต่คนที่กลับเข้าไทยมาแล้วก็จะตามจากรายชื่อ ที่สำคัญคือข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำก่อนดำเนินมาตรการ อีกทั้งแรงงานเหล่านี้ก็เป็นคนไทย จะไม่ให้เข้าประเทศก็คจะพูดยาก แต่ทำอย่างไรให้เขาเข้ามาแล้วปลอดภัยต่อตัวเองและคนในชุมชุม เป็นโจทย์ที่กระทรวงสาธารณสุขต้องทำงานร่วมกันกับหลายหน่วยงาน รวมถึงดึง อสม. มาเป็นกำลังช่วยกันป้องกันโรคโควิด-19 ลงพื้นที่ติดตามข้อมูลตอนนี้ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย คนที่เป็นแรงงานผิดกฎหมายกลับจากเกาหลีใต้แล้วขอให้แจ้งที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 จะเป็นการช่วยกระทรวงสาธารณสุขกับประเทศของเราได้เยอะ ส่วนประชาชนที่ทราบข้อมูลว่ามีเพื่อนบ้านเป็นผีน้อยก็ขอให้แจ้งมาที่ 1422 เช่นกัน เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ไปติดตามดำเนินการ โดยเจ้าหน้าที่จะเก็บข้อมูลเป็นความลับ ซึ่งความร่วมมือของประชาชนในส่วนนี้สำคัญมาก แต่ขอว่าอย่าไปรังเกียจเพราะอาจทำให้เกิดผลสะท้อน คือการปกปิด ไม่ยอมบอก เชื่อว่าจะมีอันตรายมากกว่า ถึงเวลาที่เราจะร่วมมือกันอย่างจริงจังส่วนข้อกังวลของประชาชนเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยและไม่ได้รับการกักตัวนั้น กระทรวงสาธารณสุขขอชี้แจงดังนี้1. กลุ่มที่จำเป็นต้องแยกกักกันหรือสังเกตอาการ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ประกอบด้วย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสอบสวนโรค คือมีอาการและประวัติมาจากพื้นที่ระบาด ต้องแยกกักอย่างเข้มงวดในโรงพยาบาล และกลุ่มที่ไม่มีอาการแต่เสี่ยงที่จะรับเชื้อจากผู้ป่วยหรือผู้สงสัยว่าป่วย (กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง) ได้แก่ คนในครอบครัว เพื่อร่วมงาน เพื่อร่วมชั้นเรียน เพื่อนร่วมยานพาหนะ ต้องกักกันตนเองที่บ้าน (Self quarantine at home) อย่างเคร่งครัด 14 วัน งดเที่ยว งดเรียน งดทำงาน แยกของใช้ หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ เจ้าหน้าที่จะรับตัวไว้ดูแลตามระบบ2. กลุ่มไม่สัมผัสกับผู้ป่วย ไม่มีอาการ แต่มีความเสี่ยงเนื่องจากเดินทางจากพื้นที่ระบาด (ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ) ขอให้ลดกิจกรรมทางสังคม สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากที่พัก หมั่นล้างมือ อย่าไปในพื้นที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น ให้สังเกตอาการตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ พบแพทย์ทันทีพร้อมแจ้งประวัติเดินทาง3. ผู้ที่อยู่ในชุมชนเดียวกับผู้ป่วยและประชาชนทั่วไปขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไปในที่ชุมชน.
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอ ผีน้อย จากเกาหลีใต้ กลับเข้าไทยอย่าปกปิดข้อมูล แนะเพื่อนบ้านหากรู้ข้อมูลแจ้งสายด่วน 1422 ให้เจ้าหน้าที่ติดตามคัดกรองโควิด-19
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,COVID-19,ผีน้อย,ผีน้อยเกาหลี
https://www.thairath.co.th/news/politic/1785550
บล็อกเกอร์เวียดนามยื่นหนังสือยูเอ็น ประท้วง ม.258 ละเมิดเสรีภาพอินเทอร์เน็ต
ฉกฉวยเสรีภาพประชาธิปไตยเพื่อทำลายผลประโยชน์ของรัฐฯ ซึ่งใช้เป็นข้อหาจัดการบล็อกที่วิจารณ์รัฐบาลวันนี้ (31 ก.ค.) ที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ ตัวแทนเครือข่ายบล็อกเกอร์ชาวเวียดนาม 6 คน ซึ่งเดินทางมายังกรุงเทพฯ ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติ เพื่อยื่นแถลงการณ์แนบรายชื่อบล็อกเกอร์เวียดนามกว่า 100 คน ที่เข้าชื่อกันประท้วงที่รัฐบาลเวียดนามละเมิดต่อเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และเรียกร้องให้รัฐบาลเวียดนามยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 258 ความผิดฐาน ฉกฉวยสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยเพื่อทำลายผลประโยชน์ของรัฐและสิทธิหน้าที่อันชอบธรรมขององค์การพลเมืองซึ่งกฎหมาย มาตรา 258 เป็นกฎหมายที่รัฐบาลเวียดนามใช้จับกุมบล็อกเกอร์ที่เขียนบทความหรือรายงานข่าววิจารณ์รัฐบาลเวียดนามแถลงการณ์ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเวียดนามทบทวนสถานะด้านสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ และต้องให้หลักประกันแก่ประชาชนที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็น รวมถึงสิทธิมนุษยชนด้านอื่นๆ ด้วยโดยการยื่นหนังสือของเครือข่ายบล็อกเกอร์เวียดนามวันนี้ มีมาเรีย อิซาเบล ซาน การิโด (Maria Isabel Sanz Garido) เจ้าหน้าที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมารับแถลงการณ์และเรียกสอบถามข้อมูลนานกว่า 2 ชั่วโมงด้วยและก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เครือข่ายบล็อกเกอร์เวียดนามได้ยื่นหนังสือมีเนื้อหาใกล้เคียงกัน ต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำเวียดนามด้วย
เครือข่ายบล็อกเกอร์เวียดนามยื่นหนังสือพร้อมลงลายมือชื่อกว่า 100 คนที่สำนักงานสหประชาชาติในกรุงเทพฯ ประท้วงรัฐบาลเวียดนามที่ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และเรียกร้องให้เลิก ม.258 ความผิดฐาน
ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที
บล็อกเกอร์,บล็อกเกอร์เวียดนาม,มาตรา 258,อาเซียน,อินเทอร์เน็ต,เวียดนาม,เสรีภาพอินเทอร์เน็ต,เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
https://prachatai.com/journal/2013/07/47941
เรือด่วนเจ้าพระยา-เรือคลองแสนแสบ แจ้งหยุดเดินเรือชั่วคราว
วันนี้ (26 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด แจ้งว่า จะหยุดให้บริการเรือโดยสารทุกธงเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. - 30 เม.ย.2563 เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและเพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 ให้ยุติลงได้อย่างรวดเร็วขณะเดียวกันบริษัทครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ให้บริการเดินเรือคลองแสนแสบ ได้ประกาศหยุดเดินเรือชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ จึงจะเริ่มเดินเรือบริการผู้โดยสารอีกครั้งบริษัทครอบครัวขนส่งฯ ยังเปิดเผยว่า ระหว่างที่เกิดโรค COVID-19 มีผู้โดยสารใช้บริการวันละ20000 คนต่อวัน หรือผู้โดยสารหายไป 60-70% จากปกติมีผู้ใช้บริการ 40000 - 50000 คนต่อวัน ขณะที่รายได้อยูที่วันละ 200000 - 300000 บาทต่อวัน จากปกติอยู่ที่ 400000 - 500000 บาทต่อวัน
เรือด่วนเจ้าพระยา แจ้งหยุดให้บริการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.-30 เม.ย.นี้ เช่นเดียวกับผู้ให้บริการเดินเรือคลองแสนแสบ จะหยุดให้บริการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) จนกว่าสถานการณ์ COVID-19 จะคลี่คลาย
เศรษฐกิจ
เรือด่วนเจ้าพระยา,เรือคลองแสนแสบ,หยุดเดินเรือ,COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
https://news.thaipbs.or.th/content/290272
ชาราโปว่า สนเข้าวงการฮอลลีวูด
มาเรีย ชาราโปว่า นักเทนนิสสาวมือ 2 ของโลกจากรัสเซีย ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาสวยงาม จนได้รับฉายา นางฟ้ามาเรีย เปิดเผยว่า มีความใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กว่าอยากจะเป็นนักแสดง เพราะถือเป็นอาชีพที่ท้าทายมาก เธอยอมรับว่าที่ผ่านมานอกจากการเป็นนักกีฬาเทนนิสแล้ว เธอยังเคยเดินแบบ ถ่ายแบบ และเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้ามากมาย รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ลูกอมแบรนด์ตัวเองในชื่อ ชูก้าร์โปวา แต่ยังไม่มีใครติดต่อให้เธอไปเล่นภาพยนตร์ ทั้งที่เธอเองก็สนใจไม่น้อย โดยเฉพาะภาพยนตร์ฮอลลีวูด หากผู้สร้างรายใดสนใจอยากเชิญไปร่วมแสดงก็สามารถติดต่อเธอได้ทันที ซึ่งคงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตถ้าไปลองทำจริงๆอย่างไรก็ตาม นักหวดสาววัย 25 ปี ยังยืนยันว่าเป้าหมายหลักในชีวิตคือการเล่นกีฬาเทนนิสอยู่ดี สำหรับนักเทนนิสคนล่าสุดที่วางแร็กเกตชั่วคราว เพื่อไปเล่นภาพยนตร์ฮอลลีวูด คือ โนวัค ยอโควิช มือ 1 ของโลกจากเซอร์เบีย ในเรื่อง The Expendables 2 แม้จะเป็นแค่นักแสดงรับเชิญก็ตาม
มาเรีย ชาราโปว่า นักเทนนิสสาวสวยจากรัสเซียยอมรับว่าถ้ามีโอกาสก็อยากลองเล่นหนังฮอลลีวูดซักครั้งในชีวิต
กีฬา
ชาราโปว่า,ภาพยนตร์,หนัง,ฮอลลีวูด,เทนนิส
https://news.thaipbs.or.th/content/127246
ราเยวัช ภูมิใจแข้งไทยชนะปิดท้ายปี ยินดีกับดัสกร ชื่นชมธีรศิลป์
วันที่ 8 ต.ค. มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย มีความสุขที่ทีมสามารถส่งท้ายปี 2560 ด้วยการเอาชนะเกมอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า เดย์ สองแมตช์สุดท้ายของปี,ทัพช้างศึก เฉือนชนะเคนยา ทีมอันดับ 88 ของโลก ไป 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก ธีรศิลป์ แดงดา ในนาทีที่ 62 โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ก็เพิ่งบุกไปชนะเมียนมา 3-1,โดยมิโลวาน ราเยวัช กล่าวว่า ผมรู้สึกดีใจมาก แต่ก็เหนื่อยอยู่เหมือนกันครับ สองเกมสุดท้ายในปีนี้เราชนะได้ทั้งหมด เราควรจะภูมิใจกับผลงานของทีมชาติไทย ผมภูมิใจในตัวลูกทีมทุกคน และดีใจมากกับโอกาสที่ได้มาทำงานที่ประเทศไทย ขอบคุณแฟนบอลและสื่อมวลชนที่ช่วยกันให้เรามาถึงจุดนี้ จนสามารถเอาชนะได้ทั้งสองเกม ขอบคุณสมาคมฯ ช่วยเหลือและให้การสนับสนุนสตาฟฟ์โค้ชเป็นอย่างดี,วันนี้ถือเป็นวันสำคัญของดัสกร ทองเหลาที่ติดทีมชาติครบ 100 นัด ก็ขอแสดงความยินดี เกมนี้เราต้องเจอกับทีมคุณภาพจากทวีปแอฟริกา เกมนี้เป็นเกมทางการและเกมก็เร็วมาก พวกเขาทุ่มเท กดดัน และใช้จุดเด่นในลูกกลางอากาศ และ ความแข็งแกร่งของร่างกาย พวกเขาเล่นอย่างจริงจัง ผมยินดีกับชัยชนะ อีกอย่างก็คือเกมรับที่เราสามารถรักษาคลีน ชีตได้อีกครั้ง เกมล่าสุดเราเสียหนึ่งประตูผมก็พึงพอใจมากๆครับ,เคนยามีสภาพร่างกาย และความเร็วที่เหนือกว่า นักกีฬาประเภทอื่นๆของเคนยาก็ไปถึงระดับโลก เกมนี้ไม่ต่างจากเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกเพราะพวกเขาทำเต็มที่ในการเจอกับพวกเรา ผมต้องขอบคุณแฟนบอลที่ส่งเสียงเชียร์จนช่วยให้เราคว้าชัยชนะในเกมนี้ได้ ก่อนเกมผมบอกลูกทีมทุกคนว่าเกมกับเคนยาเป็นเกมสำคัญ เพราะเป็นเกมสุดท้ายของปี เราต้องทำให้ดีที่สุดและแสดงออกมาให้ดีที่สุด,ส่วนอาการบาดเจ็บของธีรศิลป์ แดงดาต้องเช็คอีกครั้ง หวังว่าธีรศิลป์ จะหายเจ็บทันเกมสำคัญในเกมกับบุรีรัมย์ ไม่ใช่แค่มุ้ย แต่รวมถึงทุกคน ผมไม่อยากให้ใครได้รับบาดเจ็บเลยในการเล่นทีมชาติ เพราะทุกคนต่างเป็นกำลังหลักของสโมสร ก่อนหน้านี้เรามีนักเตะบาดเจ็บหลายคนทำให้เราต้องเปลี่ยนตัวครบโควต้า,ขณะที่ ธีรศิลป์ แดงดา วันนี้ก็เล่นได้ดี และทำประตูได้อย่างสวยงาม การเปลี่ยนตัวหลายๆครั้งเราทำเพื่อรักษาผลการแข่งขัน และเราก็ทำได้สำเร็จ,ผมยอมรับว่าเราต้องเน้นผลการแข่งขัน การส่งนักเตะอย่างชาริล ชัปปุยส์ลงไปไม่นานเป็นเพราะเขายังใหม่ เราพยายามใช้คนที่คุ้นเคยกับระบบการเล่น เพราะเราต้องการชัยชนะ ซึ่งมันสำคัญต่อฟีฟ่า แรงกิ้ง เราเปลี่ยนตัวทุกครั้งเรมีเป้าหมาย โอกาสหน้า เราก็อาจจะลองนักเตะใหม่ให้มีโอกาสในนามทีมชาติมากขึ้น
มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชทีมชาติไทย ภูมิใจกับลูกทีมทุกคนที่เอาชนะสองนัดสุดท้ายส่งท้ายปี 2560 พร้อมกับยินดีกับ ดัสกร ทองเหลา ที่ติดทีมชาติครบ 100 นัดและยังกล่าวชม ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยิงประตูชัยในเกมวันนี้อีกด้วย
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
มิโลวาน ราเยวัช,ฟุตบอลชายทีมชาติไทย,ช้างศึก
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1093347
มัลลิกา อัด รบ. เปิดนำเข้าข้าวสาลีนอก ทำราคามันสำปะหลัง ข้าวโพด ตกต่ำ
วันที่ 12 ก.ย.2560 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากพรรคประชาธิปัตย์เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำต่อรัฐบาล คสช. โดยเฉพาะข้าวโพดและมันสำปะหลังซึ่งตกต่ำมานานกว่า 3 ปี โดยขอให้รัฐบาลชะลอการนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศ เพราะจะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวโพดในไทยให้ยิ่งตกต่ำลงนั้น ปรากฏว่า ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ส.ค.60 ที่ผ่านมา กลับมีการสั่งนำเข้าข้าวสาลีในส่วนของยูเครนสมาคม 6.6 หมื่นตัน วันที่ 11 ก.ย. 60 นำเข้าอีก 6.9 หมื่นตัน ในนามสมาคมอาหารสัตว์ และวันที่ 12 ก.ย.60 นำเข้าอีก 5.9 หมื่นตัน โดยบริษัทซีพี ซึ่งเป็นแค่บางส่วนของการนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศ ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. เปิดให้มีการนำเข้า มีการนำเข้าโดยไม่มีการจัดเก็บภาษีแต่อย่างใด ล้วนสะท้อนถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำของไทย,ที่สำคัญการนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศจำนวนมาก จะยิ่งกระทบต่อข้าวโพดและมันสำปะหลังที่จะออกสู่ตลาดในฤดูเก็บเกี่ยวใหม่ เพราะข้าวสาลีนี้ส่วนใหญ่จะนำไปผสมในอาหารเลี้ยงสัตว์สำเร็จรูป จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล คสช. โดยเฉพาะ รมว.คลัง และรมว.พาณิชย์ ให้ทบทวนในการจัดเก็บภาษีการนำเข้าข้าวสาลีที่เคยถูกระงับไปตั้งแต่ปี 2556 ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดำเนินการตามด้วยการตีหน้ามึน ไม่สั่งเก็บภาษีการนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศ มาตลอด 3 ปี ทั้งที่ประเทศในโซนอาเซียน อาทิ ฟิลิปปินส์ เก็บที่ 34% ไทยเอง รัฐบาลก่อนหน้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็เคยจัดเก็บภาษีนำเข้าข้าวสาลีที่ 23% ซึ่งนอกจากจะเป็นการหารายได้เข้ารัฐแล้ว ยังเป็นการสะท้อนความจริงใจในการแก้ไขปัญหาพืชผลเกษตรตกต่ำของรัฐบาล คสช.ว่า สักแต่พูดและแก้ไม่ถูกที่คัน หรือตั้งใจแก้ไขปัญหานี้เพื่อปากท้องชีวิตที่ดีกว่าของพี่น้องเกษตรกร มันสำปะหลัง ข้าวโพด โดยเฉพาะในภาคเหนือและอีสาน หรือไม่อย่างไร.
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์อัดยับ รบ.คสช.เปิดนำเข้าข้าวสาลีนอก เบียดราคามันสำปะหลัง ข้าวโพด ไทยตกต่ำ ทำเกษตรกรไทยลำบาก ชี้ เป็นการสะท้อนความจริงใจแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำหรือไม่
ข่าว,การเมือง
มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข,นำเข้าข้าวสาลี,มันสำปะหลัง ข้าวโพด,ตกต่ำ,ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1067599
สองตูบผู้ซื่อสัตย์ เฝ้าตาวัย 84 ลื่นตกน้ำ ญาติรู้ทันที ตามหาจนเจอศพ
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 พ.ค. 2561 ร.ต.อ.โสธร สุขแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.สรรคบุรี อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท รับแจ้งเหตุคนจมน้ำเสียชีวิต ในสระน้ำหลังบ้านเลขที่ 50 ม.4 ต.เที่ยงแท้ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท และแพทย์เวรโรงพยาบาลสรรคบุรี ไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ พบศพนายเทียน ปิ่นเงิน อายุ 84 ปี สภาพนอนคว่ำอยู่ในสระเลี้ยงปลาหลังบ้าน จากการชันสูตร คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ใกล้กับพบถังน้ำสีดำใบเล็ก วางอยู่ที่ริมสระ และพบร่องรอยลื่นไถล ทางญาติไม่ติดใจในสาเหตุการตาย จึงนำศพส่งมอบเพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป,จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ช่วงเที่ยงของวันนี้ ผู้ตายกำลังให้อาหารปลาอยู่ที่ริมสระน้ำ และคาดว่า จะลื่นจนพลัดตกลงไปในสระน้ำ เพราะมีรอยเท้าไถลอยู่ริมสระ ,ด้าน นางพยอม โชติงาม อายุ 50 ปี หลานสาวของผู้เสียชีวิต เผยว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ ตนได้เจอกับผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะแยกออกไปทำงาน และเมื่อช่วงหัวค่ำ ตนได้เดินมาที่บ้านของผู้ตาย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านของตน พบว่าบ้านมืดสนิท ตนได้ตะโกนเรียกหา แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้ตามสามีกับญาติคนอื่นๆออกตามหา และพบสุนัขของผู้ตาย ที่รักและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมากทั้ง 2 ตัว เดินวนเวียนอยู่ที่บริเวณสระน้ำไม่ยอมไปไหน จึงได้เดินดูที่รอบบริเวณสระน้ำ ก่อนจะพบร่างผู้เสียชีวิตดังกล่าว.
ญาติออกตามหาคุณตาวัย 84 หายตัวออกจากบ้าน จนเจอสุนัขที่เลี้ยงไว้ วนเวียนอยู่รอบสระน้ำไม่ยอมไปไหน กระทั่งพบศพคุณตาลอยอยู่ ญาติไม่ติดใจ เพราะเจอรอยลื่นที่ขอบสระ
ข่าว,ทั่วไทย
หมาเฝ้าศพ,ชัยนาท,ลื่นตกน้ำ,ลื่นตกสระ,ตาวัย 84 ปี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1274129
นายกฯ เสียใจเหตุป่วนยะลา แจงไม่พบกรรมาธิการ ป.ป.ช. เพราะติดประชุม ครม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 6 พ.ย. 2562 ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, กล่าวด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ถึงกรณีเกิดเหตุคนร้ายยิงและปล้นปืนเจ้าหน้าที่ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ.ยะลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ว่า ได้รับรายงานเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบดำเนินการ (อ่านข่าวก่อนหน้า ,โจรใต้ยิงถล่มจุดตรวจ ชรบ.เมืองยะลา กลางดึกดับ 14 เจ็บ 5,),พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกำชับ กอ.รมน.ภาค 4 เร่งให้การช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียอย่างเต็มกำลัง พร้อมสั่งการให้ระดมกำลังติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุดโดยเร็ว เนื่องจากเป็นการกระทำที่สะเทือนขวัญ มีประชาชนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก,พร้อมกันนี้ ,พล.อ.ประยุทธ์, ยังได้แสดงความห่วงใยถึงความปลอดภัยของประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จำเป็นต้องเข้าไปดูแลใกล้ชิดมากขึ้นและตั้งอยู่บนความไม่ประมาทเพื่อสร้างความสันติสุขในพื้นที่ ในขณะที่รัฐบาลโดย ศอ.บต. กำลังเร่งเดินหน้าพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เชื่อมกับภูมิภาค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ให้มีความเท่าเทียมกัน,ทางด้าน ,พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม, กล่าวประณามการกระทำที่รุนแรง ป่าเถื่อน และไร้ซึ่งมนุษยธรรมของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ใช้ระเบิดขว้างและอาวุธปืนยิงถล่มใส่ชาวบ้านพื้นที่บ้านทางลุม ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา เป็นเหตุให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่เสียชีวิต รวม 15 คน และได้รับบาดเจ็บ 4 คน โดยเหตุเกิด เมื่อเวลา 23.20 น. วันที่ 5 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา,จากนั้น นายกรัฐมนตรีร่วมประชาสัมพันธ์การจัดงานกาชาดประจำปี 2562 ภายใต้แนวคิด เย็นศิระเพราะพระบริบาล เกิดสายธารการให้ที่งดงาม ระหว่างวันที่ 15-24 พ.ย. นี้ พร้อมได้ร่วมโหวตเลือกกุลบุตร กุลธิดา งานกาชาด พร้อมกล่าวว่า คนเราต้องไม่ได้มีเพียงหน้าตาดีอย่างเดียว แต่ต้องมีทัศนคติ มีความคิดที่ดี ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะโหวตเลือกเบอร์ 13,ขณะที่ ,นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นำคณะผู้บริหาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรม ทำความดีด้วยหัวใจ ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก Everyday say no to plastic เป็นกิจกรรมหนึ่งในงานกาชาดที่จะช่วยกันลดใช้ถุงพลาสติก หันมาใช้ถุงผ้า โดยนายกรัฐมนตรีให้ นายวราวุธ กล่าวสร้างความเข้าใจว่า ประเทศไทยจะเลิกใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า ขณะที่ในช่วงประเพณีลอยกระทงก็ให้ใช้กระทง 1 ครอบครัว 1 กระทง เพื่อลดปริมาณขยะ,นอกจากนี้ ยังย้ำว่าการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ผ่านมาใช้วัสดุธรรมชาติและรีไซเคิล เพื่อแสดงให้เห็นถึงความุม่งมั่นในการลดใช้พลาสติก ก่อนที่จะร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์เสื้อกาชาดและสะพายกระเป๋าผ้าเตรียมร่วมงาน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนสภากาชาดไทย นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบรายงานผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business 2020) พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่จนทำให้ลำดับของไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องทำให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อขับเคลื่อนไปด้วยกัน,อย่างไรก็ตาม ,พล.อ.ประยุทธ์, ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่ง ,นายดิสทัต โหตระกิตย์, เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกมาย้ำเสริมว่า นายกรัฐมนตรีทำหนังสือแจ้งไปแล้วว่า วันนี้ติดประชุม ครม. จึงไปชี้แจงด้วยตัวเองไม่ได้.
นายกฯ เสียใจเหตุระเบิดและยิงถล่มยะลา ทำเจ็บตายจำนวนมาก สั่งเยียวยาเต็มที่ แจง ไม่เข้าพบกรรมาธิการ ป.ป.ช. เหตุติดประชุม ครม. ด้านโฆษกกลาโหม ประณามคนร้ายรุนแรงป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม
ข่าว,การเมือง
ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ประชุม ครม.,ประชุมสุดยอดอาเซียน,โจรใต้,ความไม่สงบ,ลอยกระทง,วันลอยกระทง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1698010
วธ.ผลิตหนังสือประมวลภาพงานพระบรมศพ 15 วัน-ทำจม.เหตุภาพวีดิโอทุก 7 วัน
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมสรุปความคืบหน้าและการบริการประชาชนในงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้จัดทำ หนังสือประมวลภาพเหตุการณ์งานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชุดที่ 1 ซึ่งเก็บรวบรวมภาพเหตุการณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ตั้งแต่วันที่ 13 - 28 ต.ค. ที่ผ่านมา ระยะเวลา 15 วัน รวม 3 เล่ม จำนวน 50 ชุด ได้แก่ เล่มที่ 1 กรุงเทพมหานคร เล่มที่ 2 ส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด และ เล่มที่ 3 นานาอารยประเทศ โดยในแต่ละเล่ม มีภาพประกอบประมาณ 800 ภาพ ซึ่ง วธ.จะจัดส่งหนังสือประมวลภาพเหตุการณ์งานพระบรมศพฯ ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และหอสมุดแห่งชาติทั้ง 11 แห่ง ทั่วประเทศ โดยประชาชนสามารถดาวน์โหลดภาพชุดดังกล่าวได้ที่เว็บไซต์ m-culture.go.th,นอกจากนี้ วธ.ยังได้มีการจัดทำจดหมายเหตุภาพวีดิโอเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นการประมวลภาพเหตุการณ์งานพระบรมศพฯ ทุก 7 วัน อีก 1 ชุด เพื่อเผยแพร่ภาพเคลื่อนไหวยังสถานีโทรทัศน์ ต่อเนื่องไปจนเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพื่อเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาติ โดยจะนำภาพวีดิโอมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวเดียวกัน ทั้งนี้ วธ. ได้นำภาพวีดิโอชุดแรกไปเผยแพร่ยังสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ และเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียแล้ว,ขณะเดียวกัน วธ.ยังประสานไปยังสถานทูตต่างๆ ทั่วโลก ให้มีการนำภาพเหตุการณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต และประชาชนร่วมแสดงความอาลัย มาจัดนิทรรศการภาพถ่ายในต่างประเทศ ซึ่งล้วนเป็นประเทศที่มีความเกี่ยวข้องและความผูกพันกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อาทิ ภูฏาน สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร จีน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น และยังจะใช้โอกาสนี้ เผยแพร่พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระเกียรติคุณ ของพระองค์ด้วย,พร้อมทั้งได้รวบรวมภาพวีดิโอจากประชาชน จำนวน 68 คลิป ตลอดจนรวบรวม บทเพลงที่ศิลปินสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ เพื่อแสดงความอาลัยแด่พระองค์ จำนวน 80 เพลง และยังมีการเก็บเสียงและภาพ การสัมภาษณ์ประชาชนที่เข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการบันทึกเหตุการณ์ครั้งสำคัญนี้ด้วย.
วธ.ผลิตหนังสือประมวลภาพงานพระบรมศพ 15 วัน 3 เล่ม 50 ชุด พร้อมทำจดหมายเหตุภาพวีดิโอเคลื่อนไหวทุก 7 วันจนเสร็จสิ้นงาน เผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาติ
null
ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,ประมวลภาพงานพระบรมศพ,งานพระบรมศพ,ภาพเหตุการณ์แสดงความอาลัย
https://www.thairath.co.th/content/770912
ใจเริงผิดไหมไม่ให้ลูกดูดนม กลัวเสียทรง นมยาน เรามีคำตอบ
แม่ผิดไปแล้ว ไม่ได้ยินคำพูดนี้จากปากใจเริงแน่นอน อุต๊ะ ขอโทษที่อินไปหน่อย เมื่อคืนดุเด็ดเผ็ดมันคลอดลูกแล้วก็ยังไม่ให้ลูกดูดนมอีก ก็ใจเริง กลัวนมหย่อนคล้อยเสียทรงน่ะสิ,วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญได้คำตอบมาให้รู้กัน ว่าปัจจัยแท้ๆ ที่เกิดขึ้นที่ทำให้นมยาน เสียทรงนั้น ไม่ใช่เพราะลูกดูดแต่อย่างใด แต่มันเกิดการปรับสภาพของทรงเต้านมตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์แล้วนั่นเอง และนอกจากนี้ เราจะสามารถมีวิธีใดบ้างที่ทำให้เต้านมกลับมาเต่งตึงกระชับกันได้อีกไหม ต้องไปอ่านค่ะ,ต้องบอกก่อนว่า แล้วการให้นมลูกไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้หน้าอกหย่อนยานแต่อย่างใด แต่สาเหตุที่แท้จริงคือ ขนาดของหน้าอกที่ขยายและบีบตัวของต่อมน้ำนมขณะตั้งครรภ์ต่างหากที่ส่งผลให้นมยาน (แต่ก็แอบฮาด้วยคุณแม่หลายท่าน บอกว่ายานในหน้าที่ ก็ยอมนะ),หรือวิธีการให้นมลูกก็เป็นปัจจัยที่สำคัญ มีทริคง่ายๆ คือ ควรให้ลูกดูดสองข้างเท่าๆกัน และไม่ควรคิดแทนลูกว่าลูกหิว ,เ,ช่นมื้อแรก- ให้ลูกดูดหน้าอกซ้าย 10 นาที สลับเป็นขวา 5-6 นาทีแล้วพอ หรือแล้วหลับอะไรก็ว่าไป,มื้อที่สอง- ให้ลูกดูดหน้าอกขวาก่อน เพราะยังมีเหลือจากมื้อแรก และถ้าลูก,หิวเขาจะมีแรงกระตุ้นให้น้ำนมข้างขวาออกพอๆ กับข้างซ้าย เมื่อหมดเต้าก็เปลี่ยนข้างมาเป็นข้างซ้าย ซึ่งเวลานั้นเขาอาจจะอิ่มแล้ว กินหมดหรือไม่หมดก็ได้,มื้อเย็น ก็อาจจะเริ่มหน้าอกด้านซ้ายอีกครั้งหนึ่ง,สาเหตุที่แท้จริงที่เต้าคล้อยไม่กระชับนั้น เกิดจาก,จริงๆ แล้วหน้าอกผู้หญิงเราเริ่มหย่อนคล้อยตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์แล้ว เพราะมันมีการขยายมาก และตึง พอหลังคลอดก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่จะหย่อนคล้อยกว่าปกตินั่นเอง,นมแม่ก็เป็นอีกประเด็นที่เริงพูดในละคร เรื่องข้อสงสัยว่าน้ำนมแม่ หรือนมผงกระป๋อง อันไหนมีคุณค่ามากกว่ากัน อันนี้ ยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ไปเลยว่านมแม่อย่างแน่นอน,น้ำนมแม่จากเต้าที่ดี และมีคุณค่ากับลูกมหาศาล มีสารอาหารครบถ้วน และเสริมภูมิต้านทานของลูก ลดอาการการเจ็บป่วย ทำให้ฉลาดแข็งแรง และคุณแม่น้ำหนักลงอีกด้วย,นอกจากสารอาหารประโยชน์ที่ลูกจะได้รับแล้ว คุณแม่ก็ยังทำให้ลูกไว้เนื้อเชื่อใจ ให้ความอบอุ่นแก่เขา โดยที่เขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี มีความสุข เขาจะจำในสิ่งที่เขาได้รับจากคนใกล้ชิด และถ้าหากเขาไม่ได้รับการดูแล หรือถูกทิ้งขว้าง โอกาสที่เขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย และไม่ไว้ใจใครในที่สุด ,เด็กทารก(0-1ปี)ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เวลาหิว หรือเปียก รู้สึกไม่สบายอะไรก็ตาม สิ่งที่เด็กทารกจะทำได้คือ การร้องไห้อุแว้ๆ หากแม่(หรือผู้ดูแลใกล้ชิด)ให้ความสนใจเข้าไปดูว่าเด็กต้องการอะไร,เช่น หิวนมก็ให้ดูดนม ปัสสาวะหรืออุจจาระก็เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ หากเป็นแบบนี้สม่ำเสมอ เด็กก็จะปลูกฝังความรู้สึกไว้ในใจว่า มีใครสักคนที่คอยดูแลและไม่ทอดทิ้งเขาเวลาที่เขาต้องการ ซึ่งจะปลูกฝังเกิดเป็นความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวแม่(หรือผู้ดูแลใกล้ชิด)ตามมาเมื่อเขาไว้ใจและเชื่อใจแม่(หรือผู้ดูแลใกล้ชิด)ซึ่งเป็นคนที่ใกล้ชิดเขาที่สุดได้ เขาก็จะมีแนวโน้มสามารถไว้วางใจและเชื่อมั่นในตนเองและคนรอบข้างอย่างเหมาะสมได้ เติบโตเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี,แต่หากเด็กที่ไม่มีคนดูแลอย่างสม่ำเสมอ หรือมีคนดูแลที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆ(ถ้าอารมณ์ดีก็เข้าไปดู ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็ตะโกนโวยวายใส่) เวลาร้องไห้ไม่เข้าไปดูว่าเป็นอะไร เด็กก็จะมีแนวโน้มโตขึ้นเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ไม่ไว้วางใจคนอื่นมีงานวิจัยที่บอกว่าปัญหาสุขภาพจิตในแม่(หรือผู้ดูแลใกล้ชิด)จะส่งผลกระทบกับสุขภาพจิตของเด็ก,และในส่วนวิธีการที่จะทำให้คุณแม่ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยกลับมามีหน้าอกเต่งตึงได้อีกครั้ง ด้วยการออกกำลังกายหน้าอกที่เน้นเล่นอกเป็นหลักก็สามารถช่วยได้อีกวิธีหนึ่ง เช่น,1.ท่าพุชอัพ (Push Up) วางท่าเหมือนแพลง วางมือเท่ากับหัวไหล่ หรือกว้างกว่าเล็กน้อย หลังไม่แอ่นงอศอกยุบตัวลง ให้รู้สึกตึงที่หน้าอก 10-12 ครั้ง 2-3 เซต,2.ท่าเบนช เพลส (Bench Press) นอนราบกับพื้น มีอุปกรณ์เช่นดัมเบลช่วยเหยียดแขนตรง งอศอกเล็กน้อยจากนั้นงอศอกพับลงมา ให้รู้สึกตึงที่หน้าอก และดึงมือกลับสู่ท่าเดิม 12-15 ครั้ง 2-3 เซต,3.ท่าดิป (Dip) วางมือบนเก้าอีกหรือปลายเตียง ตั้งตัวตรง เข่าตั้งฉากกับพื้น ขยับก้นห่างจากเก้าอี้หรือปลายเตียง จากนั้นหย่อนก้นลงพื้นให้ตรงมากที่สุดให้รู้สึกตึงที่หน้าอก ดันขึ้นกลับสู่ท่าเตรียมอีกครั้ง ทำ 10-12 ครั้ง 2-3 เซต เช่นกัน,เห็นไหม การให้นมลูก มีประโยชน์มากมายมหาศาล และแถมยังกลับมามีทรงสวยกระชับ ได้ไม่ยากอีกด้วย คุณแม่วัยรุ่นเลิกกังวลและกลับมาเอนจอยกับการให้นมลูกกันเถอะ.,ที่มาเนื้อหาบางส่วน:หมอมินบานเย็น, พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น,,เข็นเด็กขึ้นภูเขา
โอ๊ยอินเกิน โมโหหนักมากที่ ใจเริง เพลิงบุญ ไม่ให้นมลูก เพราะกลัวลูกดูดเต้าแล้วจะเสียทรง งานนี้ไทยรัฐออนไลน์ได้มีคำตอบมาได้รู้กันว่า การให้นมลูกจากเต้านั้น สามารถเสียทรงได้จริงหรือไม่ และการออกกำลังกายช่วยได้จริงไหม
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ให้นมลูก,นมยาน,เสียทรง,ออกกำลังกาย,ใจเริง 2017
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/momandkid/1076560
สลด ไฟไหม้บ้านอดีตผช.พยาบาลป่วยอัมพฤกษ์ ถูกคลอกเสียชีวิต
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 22 มิ.ย. 60 ร.ต.ท อำนาจ. อุสารัมย์ รอง สว.สส.สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดไฟไหม้บ้านเลขที่ 52/1 หมู่ 3 ต.ภาชี อ.ภาชี จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาล อบต. และสมาคมอยุธยารวมใจ 10 คัน ไปควบคุมเพลิง พบที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงที่ชั้นบน เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงอย่างเร่งด่วน เพราะทราบว่ามีเจ้าของบ้านยังติดอยู่ภายใน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ควบเพลิงไว้ได้ พบบ้านเสียหายบางส่วน จากนั้นเจ้าหน้าที่ทุบกระจกหน้าต่างเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในห้องนอน พบร่าง นางกานดา จุลอำพันธ์ อายุ 56 ปี เป็นอดีตผู้ช่วยพยาบาลเสียชีวิตแล้ว มีร่องรอยถูกไฟไหม้ตามร่างกาย,จากการสอบสวน นายนิรันดร์ จันทร์เจริญ อายุ 42 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้ตายอยู่กับน้องชายเป็นใบ้ เคยทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ระยะหลังป่วยเป็นอัมพฤกษ์เดินไม่สะดวก ช่วยเหลือตัวเองได้ไม่มากนัก จึงออกจากงานมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน ส่วนลูกๆ ไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ช่วงเกิดเหตุน้องชายไปรักษาบาดแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุที่โรงพยาบาล และก่อนเกิดเหตุมีญาติจะมานอนด้วย แต่ผู้ตายบอกว่าอยู่ได้,เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรแล้วเกิดเพลิงไหม้ ผู้ตายพยายามจะหนีออกมาแต่ไม่ทัน ทำให้สำลักควันถูกไฟไหม้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้ง.
ไฟไหม้บ้านหญิงวัย 56 ปี อดีตผู้ช่วยพยาบาล ป่วยอัมพฤกษ์อยู่คนเดียว หนีเอาชีวิตรอดไม่ทันถูกคลอกอย่างน่าอนาถ เพื่อนบ้านเผย ญาติจะมาอยู่เป็นเพื่อนแต่เจ้าตัวปฏิเสธ
ข่าว,อาชญากรรม
ไฟไหม้บ้าน,ไฟคลอก,ไฟคลอกตาย,อัมพฤกษ์,พระนครศรีอยุธยา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/980365
ป่าไม้นิรโทษกรรมผู้รุกป่าก่อนมิ.ย.57 คืนที่ดินให้รัฐ ไม่ถูกดำเนินคดี
คนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเฮ กรมป่าไม้ออกคำสั่งนิรโทษกรรมทั่วประเทศ เผยบุกรุกก่อนวันที่ 17 มิ.ย.57 หรือก่อนคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 คืนที่ดินให้รัฐ ไม่ต้องถูกดำเนินคดี ตั้งเป้า 100,000 ไร่ ในปี 2560 ขณะที่ชุดพยัคฆ์ไพร ลุยรีสอร์ตหรูสร้างบนภูเขา แถมติดตั้งสไลเดอร์ขนาดใหญ่ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี,เมื่อวันที่ 1 มี.ค. นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มีคำสั่งถึง ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 - 13 และ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขาทั่วประเทศ เรื่อง ให้ประชาชนคืนพื้นที่ให้รัฐเองโดยไม่ต้องดำเนินคดี ระบุว่า ตามท่ีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 5/2559 เรื่องมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ สั่ง ณ วันที่ 1 ก.พ.2559 กำหนดให้มีการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ (มาตรา 44) ซึ่งกำหนดตัวชี้วัดเป็นแบบบนลงล่าง (Top - Down) ให้กรมป่าไม้รับผิดชอบพื้นที่ป่าไม้ที่ทวงคืนได้ จำนวน 100,000 ไร่นั้น กรมป่าไม้พิจารณาแล้ว เพื่อให้ตัวชี้วัดพื้นที่ป่าที่ทวงคืนได้จำนวน 100,000 ไร่ เป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงทรัพยากรฯ กำหนด  จึงให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 - 13 และสาขาทุกสาขาทั่วประเทศ รวบรวมข้อมูลจากการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ให้ประชาชนคืนพื้นท่ีให้รัฐเอง โดยไม่ต้องดำเนินคดี โดยให้รายงานข้อมูลการคืนพื้นที่ทุกวันที่ 5 ของทุกเดือน,นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เพราะต้องการให้คนจนหรือผู้ยากไร้ ที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ก่อนวันที่ 17 มิ.ย.2557 หรือก่อนคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 นำพื้นที่ที่บุกรุกมาคืนให้กับรัฐหรือกรมป่าไม้ โดยกรมป่าไม้จะไม่จับกุมดำเนินคดี ขณะเดียวกันกรมป่าไม้จะลงไปเจรจากับผู้บุกรุกเพื่อขอคืนพื้นที่ป่าคู่ขนานกันไปด้วย ขณะนี้ ได้คืนมาแล้วประมาณ 7 พันไร่ จาก จ.เชียงราย จ.นครราชสีมา จ.ตาก เป็นต้น การเปิดโอกาสให้คืนพื้นที่บุกรุกถือว่าคนจนไม่มีเจตนา เพียงแต่ขาดพื้นที่ทำกิน ส่วนรายที่ไม่ยอมคืนพื้นที่ กรมป่าไม้จะเข้าไปจัดระเบียบ เช่น ต้องปลูกต้นไม้ตามที่กรมป่าไม้กำหนด หรือพื้นที่ที่บุกรุกจะต้องไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ส่วนกรณีของนายทุนที่บุกรุกก่อนวันที่ 17 มิ.ย.2557 ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการยกเว้น ขณะที่การบุกรุกหลังวันที่ 17 มิ.ย.2557 หรือหลังคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 ถือว่ามีความผิดหมด จะต้องถูกดำเนินคดีสถานเดียว การเปิดให้คืนพื้นที่โดยไม่ดำเนินคดี เชื่อว่าจะทำให้กรมป่าไม้ได้พื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกเกิน 100,000 ไร่ ในปี 2560,นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ชุดพยัคฆ์ไพรได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก กรณีที่มีรีสอร์ตหรูแห่งหนึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ติดทะเลและมีการก่อสร้างอาคารที่พักเรียงรายบนภูเขาเกือบทั้งลูก ที่สำคัญมีการติดตั้งเครื่องเล่นสไลด์เดอร์ หรือกระดานลื่นขนาดใหญ่ในรีสอร์ตลัดเลาะตั้งแต่บนยอดเขาลงมาจนถึงตีนเขา ว่าสามารถก่อสร้างได้อย่างไร และพื้นที่ก่อสร้างตั้งอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติ หรือป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 หรือไม่ ดังนั้นชุดพยัคฆ์ไพรจะลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ตดังกล่าว ว่าก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมาย หรือมีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ที่ดินมีเอกสารสิทธิหรือ น.ส.3 หรือไม่ ขณะเดียวกันจะทำหนังสือถึงกรมธนารักษ์ เพื่อสอบถามด้วยว่า พื้นที่ที่รีสอร์ตดังกล่าวตั้งอยู่ เป็นที่ราชพัสดุหรือไม่ และกรมธนารักษ์ให้รีสอร์ตดังกล่าวเช่าหรือไม่ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพรกล่าวต่อว่า แต่อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าพื้นที่ดังกล่าว คาดว่าจะเป็นป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่อาจจะมีการประกาศเป็นพื้นที่ทับซ้อนเป็นที่ราชพัสดุแล้วกรมธนารักษ์ให้เช่าหรือให้ทำประโยชน์ได้ แต่กรมป่าไม้จะขอเข้าไปตรวจสอบก่อน ถ้าพบว่าเป็นพื้นที่ป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ก็ต้องดำเนินคดีฐานบุกรุก หรือถ้าเป็นของกรมธนารักษ์ แต่ไม่ได้เช่า ก็มีความผิดเช่นกัน.
คนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเฮ กรมป่าไม้ออกคำสั่งนิรโทษกรรมทั่วประเทศ เผยบุกรุกก่อนวันที่ 17 มิ.ย.57 หรือก่อนคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 คืนที่ดินให้รัฐ ไม่ต้องถูกดำเนินคดี ตั้งเป้า 100,000 ไร่ในปี 2560 ขณะที่ชุดพยัคฆ์ไพร ลุยรีสอร์ตหรู
null
รุกป่าสงวน,คำสั่ง คสช.ที่ 66/2557,กรมป่าไม้,นิรโทษกรรมผู้รุกป่า,คืนพื้นที่รัฐ
https://www.thairath.co.th/content/871240
สลด ตร.อิเหนาพบซากตัวนิ่ม 650 ตัว ซุกในตู้แช่แข็ง-รวบผู้ต้องสงสัย 1 คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของประเทศอินโดนีเซียบุกตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในเขตจอมบัง บนเกาะชวา โดยสามารถยึดซากตัวนิ่มจำนวนมากถึง 650 ตัว ที่ถูกห่อด้วยพลาสติกและซุกซ่อนเอาไว้ในตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ 5 ตู้ พร้อมทั้งจับชายวัย 55 ปีคนหนึ่งเอาไว้ ในฐานะผู้ต้องสงสัยละเมิดกฎหมายคุ้มครองสัตว์ ซึ่งอาจทำให้เขาต้องติดคุกสูงสุด 5 ปี และปรับเงินอีก 100 ล้านรูเปียห์ (ราว 260,000 บาท),ปฏิบัติการของตำรวจเกิดขึ้นหลังจากพวกเขาได้รับแจ้งจากผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ว่าบ้านของผู้ต้องสงสัยมีจำนวนตู้แช่เย็นมากผิดปกติ อย่างไรก็ตาม นายราเดน ปราโบโว อาร์โก ยูโวโน โฆษกตำรวจจังหวัดอีสต์ชวา กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยยืนยันว่าตัวนิ่มที่เจ้าหน้าที่พบไม่ใช้ของเขา แต่เป็นคนเพื่อนคนหนึ่งที่นำมาฝากไว้เพราะว่าเขามีตู้แช่เย็นเยอะ,ทั้งนี้ ตัวนิ่มเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธ์ุซึ่งสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) จัดให้ตัวนิ่มสายพันธ์ุที่พบในอินโดนีเซีย เป็นสายพันธ์ุที่เสี่ยงสูญพันธ์ุที่สุด โดยหลายพื้นที่ในเอเชียมักล่าหรืนำตัวนิ่มมาทำเป็นยา, ปรุงเป็นอาหาร หรือใช้ประโยชน์จากหนังและเกล็ดของมัน
ตำรวจอินโดนีเซียบุกยึดซากตัวนิ่มจำนวนกว่า 650 ตัว ซึ่งถูกซุกซ่อนไว้ในตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ที่บ้านหลังหนึ่งบนเกาะชวา พร้อมทั้งจับกุมชายคนหนึ่งในฐานะผู้ต้องสงสัยเป็นเจ้าของตัวนิ่มเหล่านี้ด้วย
null
อินโดนีเซีย,บุกค้นบ้าน,เกาะชวา,ตัวนิ่ม,ซากตัวนิ่ม 650 ตัว,ซ่อนในตู้แช่แข็ง,จับผู้ต้องสงสัย,กฎหมายคุ้มครองสัตว์,สัตว์ใกล้สูญพันธ์ุ,เสี่ยงสูญพันธ์ุ,สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ,ไอยูซีเอ็น,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/703425
มุก-มิกค์ คู่จิ้นเคมีใหม่ มัสยา พาฟินรักโรแมนติก
พาแฟนๆฟินและอินไปกับความรักสุดโรแมนติกของคู่จิ้นคู่ใหม่ ,มุก-มิกค์ #MM, ในละครโรแมนติกดราม่าครบรสเรื่อง ,มัสยา, ค่ายพอดีคำ พาดื่มด่ำไปกับความละมุนละไมในความรักของ ,ร.ท.ลักษณ์ รัตนมหาศาล, หรือ ,พี่ลักษณ์, ทหารม้าหนุ่มเจ้าเสน่ห์รับบทโดยพระเอกฮอต ,มิกค์ ทองระย้า, ที่ไม่เคยรู้ใจตัวเองเลยว่าตัวเองรัก ,มัสยา, สาวน้อยจอมแก่นรับบท โดยนางเอกน้องใหม่หน้าหวาน ,มุก-มุกดา นรินทร์รักษ์,เมื่อ ,ท่านผู้หญิงรัตน์ รัตนมหาศาล, รู้ว่า ,ศัลย์, ลูกชายที่หนีการคลุมถุงชนไปรักกับหญิงสาวทางภาคใต้เสียชีวิตจึงมอบหมายให้ ,ร้อยโทลักษณ์ รัตนมหาศาล, นายทหารม้าลูกชายของ ,คุณหญิงอัครราชเสวี, ไปรับ ,มัสยา, หลานสาวกลับมา ทันทีที่ ,ลักษณ์, เดินทางไปพบ ,มัสยา ลักษณ์, เจอฤทธิ์เดช ,มัสยา, มากมาย แต่ ,ลักษณ์, ปราบพยศพา ,มัสยา, กลับมาได้สำเร็จ ,มัสยา, อยู่ที่ คฤหาสน์รัตนมหาศาลด้วยความเข้มงวดและต้องพบกับความอิจฉาริษยาของ ,คุณศจี, และลูกๆคือ ,พิณทิพย์, กับ ,พงศ์เทพ, แต่ในความโชคร้าย ,มัสยา, ก็ยังโชคดีได้พบกับ เริงใจ น้องสาวของ ,ลักษณ์, และ ,นพพร, เพื่อนบ้านให้ความเป็นมิตร ,ลักษณ์, กับ ,มัสยา, เป็นคู่กัดขาประจำ จากความขัดแย้งก็กลับกลายเป็นความรัก แต่ความรักของทั้งคู่มีอุปสรรคมากมายเพราะ ,ลักษณ์, มี ,เพ็ญโฉม, แฟนสาวอยู่แล้ว แต่ก็มีประกาศิตจากท่านผู้หญิงสั่งให้แต่งงานกับ ,นาถระพี, หญิงสูงศักดิ์ ส่วน ,มัสยา, ถูกจับให้หมั้นกับ ,นพพร มัสยา, และ ,ลักษณ์, ต้องตัดใจจากกัน,มีเพียง ,ท่านชายสดายุ มยุรฤทธิ์, ที่รู้ว่าสองคนนี้คิดอย่างไร จนในที่สุด ,ลักษณ์, กับ ,มัสยา, ก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหวตัดสินใจแอบคบกัน รักต้องห้ามจะลงเอยเช่นไร ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมือ อาทิ ,ดวงตา ตุงคะมณี, อานัส ฬาพานิช, พีรวัศ กุล-นันท์วัฒน์, ชนกันต์ พูลศิริวงศ์, ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ, พลอยไพลิน ตั้งประภาพร, บุศรินทร์ วงศ์ลีลนนท์, และ ,สุภาพร มะลิซ้อน, ติดตามชมละคร ,มัสยา, ทุกวันจันทร์-อังคาร ทางช่อง 7 HD และหาอ่านได้ใน นสพ.ไทยรัฐ ทุกวัน.
ช่อง 7 สี พาแฟนๆฟินและอินไปกับความรักสุดโรแมนติกของคู่จิ้นคู่ใหม่ มุก-มิกค์ #MM ในละครโรแมนติกดราม่าครบรสเรื่อง มัสยา ค่ายพอดีคำ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
มิกค์ ทองระย้า,มุก มุกดา นรินทร์รักษ์,มัสยา,ละครโรแมนติกดราม่า,ละคร
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1013050
เจาะอร่อยเตี๋ยวน้ำตก ก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก หน้าฟอรั่ม ชลบุรี
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมขอเอาใจคนรักเส้นกันหน่อย เชื่อว่าใครหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับชื่อ ก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก ชลบุรี เป็นแน่ เพราะเปิดมานานกว่า 20 ปีแล้ว,ถ้านึกถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ชลบุรี ละก็ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก คงต้องอยู่อันดับต้นๆ แน่นอนครับ ด้วยน้ำซุปที่หอมหวาน เข้มข้น มีความจัดจ้านอยู่ด้วย กินกับเส้นอะไรก็เข้ากัน ปรุงรสกลมกล่อมจนครองใจชาวชลบุรีมาเนิ่นนานเชียวครับ,ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก ชลบุรี ที่เปิดมานานกว่า 20 ปีแห่งนี้ เมื่อก่อนเคยตั้งอยู่ตรงโรงหนังเก่า ใกล้ๆ กับโรงเรียนปรีชานุศาสตร์ ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่หน้าทางเข้าห้าง ฟอรั่ม ชลบุรี,มีคุณป้าเจ้าของร้านเป็นเซเลบประจำร้านแถมยังสวยเช้งเหมือนเดิม เช่นเดียวกันกับรสชาติก๋วยเตี๋ยวเรือของป้า ที่ยังคงรสชาติเดิม เข้มข้นไม่เปลี่ยนแปลงมัดใจหนุ่มสาวเมืองชลมาจนถึงปัจจุบัน,ก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก มาย้อนกลับไปสมัยสิบกว่าปีที่แล้ว ป้าจะใช้ชามกระทะที่เป็นซิกเนเจอร์ประจำร้าน โดยป้าๆ จะรู้กันเองว่าชามไหนที่มียางรัด จะเป็นชามที่สั่งแบบพิเศษ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ รู้เอาตอนนั้นก็อาจจะเผลอหยิบเอายางออกไปกันบ้างละครับ ฮ่าๆ ชามกระทะในตำนาน,ย้อนวันวานกันเพลินไปหน่อยก็เริ่มหิวกันแล้ว เรามาเริ่มกันที่ชามแรกกันกับ มาม่าหมูน้ำตกพิเศษ ราคา 35 บาท เสิร์ฟร้อนๆ จากหม้อก๋วยเตี๋ยว กลิ่มหอมมาแต่ไกล เส้นลวกเหนียวนุ่ม น้ำตกเข้มข้นหวานกำลังดี เข้ากันกับมาม่าสุดๆ มีผักแกล้มฟรีด้วย ปรุงรสได้ตามใจชอบ (ทางร้านมีไซส์ก๋วยเตี๋ยวให้เลือก 3 ขนาดด้วยกัน คือ ธรรมดา พิเศษ และจัมโบ้) ,มาฟินกันต่อกับ หมี่ขาวหมูน้ำตกพิเศษ ราคา 35 บาท เส้นนุ่มลวกมาแบบกำลังดี หมูตุ๋นนุ่มละมุนลิ้นดีเหลือเกินเข้ากันกับซุปน้ำตกที่เข้มข้นสุดๆ กินกันจนเกลี้ยงไม่ต้องปรุงยังได้เลยครับ,ถ้าใครยังไม่อิ่มก็มาต่อกับ ลูกชิ้นลวกราดแจ่ว ราคา 30 บาท มากระแทกท้องเพิ่มหน่อย จุใจจุกท้องกันไปอีกหลายวัน ฮ่าๆ,ทุกครั้งที่ผมมากินตั้งแต่เด็กผมจะต้องสั่ง ปังชาเย็น ราคา 20 บาท ตบท้ายเสมอไม่งั้นผมจะรู้สึกเหมือนมาไม่ถึงร้านครับ ปังเย็นของที่นี่กินเพลิน หวานมันกลมกล่อม กินเกลี้ยงชามทุกครั้งที่มาเลย,แถมยังมีรสชาติให้เลือกหลากหลายอีกด้วย เช่น น้ำแดง ชาเขียว ชานม ชาเย็น กาแฟ และไมโล เป็นต้น สามารถนำมาผสมกันหรือเพิ่ม ท็อปปิ้ง ราคา 10 บาท ได้อีกด้วยครับ,เรียกได้ว่าเป็นร้านที่กินแล้วอยากกินอีกจริงๆ สำหรับ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก ชลบุรี รสชาติเมื่อก่อนเป็นอย่างไรปัจจุบันก็เป็นอย่างนั้น คิวรอไม่นานมาก บริการรวดเร็ว เสิร์ฟร้อนๆ คุ้มค่าทุกชาม อิ่มหนำฉ่ำใจเลยครับ,เพื่อนๆ สามารถติดตามหาร้านเด็ดชวนอิ่มเพิ่มเติมได้ที่ ,ชลบุรีกินอะไรดี, นะครับ,พิกัดร้าน :, ถนน ชัยชนะ ชลบุรี หน้าห้าง ฟอรั่ม ชลบุรี,เวลาเปิด - ปิด :, เปิดทุกวัน 09.00 - 18.00 น. ,#วงในบอกมา ,- ก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก เปิดมานานกว่า 20 ปี,- เคยอยู่ตรงโรงหนังเก่าตรงข้ามห้าง โอเชียน เซ็นเตอร์พอยท์ ก่อนจะย้ายมาที่หน้าทางเข้าห้างฟอรั่ม,- นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้วที่นี่ยังมีของหวานอย่างปังเย็น ราคาเริ่มต้นเพียง 20 บาท,- ช่วงเที่ยงถึงเย็น คนแน่นจนนั่งเก้าอี้ต่อแถวกันยาวเลยครับ ยิ่งช่วงเปิดเทอมมาช้าหมดอดแน่นอน คนแน่นเต็มร้านทุกวัน,ดูเพิ่มเติม : ,ก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก,บทความที่น่าสนใจ,LIFE STORY | จาก นักบิน สู่ ก๋วยเตี๋ยวเรือกัปตัน เพราะชีวิตต้องมีหลอดไฟสำรอง
ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก ชลบุรี ซุปเข้มข้นถึงใจ เปิดมานานกว่า 20 ปี มีดีที่น้ำตก ซุปเข้มข้นถึงใจ ก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก หน้าฟอรั่ม ชลบุรี ชามเดียวไม่เคยพอ
ไลฟ์สไตล์,อาหาร
ก๋วยเตี๋ยวเรือ,อาหารไทย,ร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อย,ร้านอร่อย ชลบุรี
https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/review/1390850
ประณามเหตุลอบวางระเบิด จ.ยะลา – เร่งติดตามผู้ก่อเหตุ
วันนี้ (14 ก.ย.2560)เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ที่ผ่านมา พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวถึงเหตุลอบวางระเบิดทหารในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา จนทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายคน โดยขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ โดย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้กำชับให้ดูแลสิทธิสวัสดิการต่างๆ อย่างเต็มที่นอกจากนี้ ประชาชนที่บาดเจ็บทั้ง 6 คนจากเหตุดังกล่าวขณะนี้ได้นำตัวส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา จำนวน 10 คน และยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลยะหา จ.ยะลา จำนวน 18 คนทั้งนี้ ผบ.ทบ.ได้ทราบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้าที่เกิดเหตุและได้กำชับใน 2 เรื่อง คือ ให้เร่งคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็วที่สุดและให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้เข้าถึงการรักษาทางการแพทย์โดยเร็วที่สุด หลังเหตุการณ์ได้สั่งให้ ฉก.ยะลา เข้าควบคุมสถานการณ์และเก็บพยานหลักฐาน ซึ่งเชื่อว่าผู้ที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมที่เคยเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.ยะลา โดยให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานรวบรวมข้อมูลเพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ด้าน พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุมีความตั้งใจในการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเพราะเหตุครั้งนี้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้ ทาง กอ.รมน.ภาค4 สน. ขอประณามผู้ก่อเหตุดังกล่าวที่ก่อความรุแรงในพื้นที่ โดย กอ.รมน.ภาค 4 สน.ยังคงยึดมั่นในแนวทางการการบังคับใช้กฎหมายอย่งเต็มที่พ.อ.ปราโมทย์ ระบุเพิ่มเติมว่า ตลอด 13 ปีที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุยังคงไม่ละความพยายามในการสร้างความรุนแรงและความเสียหายโดยไม่เลือกเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือประชาชนผู้บริสุทธ์รวมถึงผู้ก่อเหตุยังคงเคลื่อนไหวโฆษณาชวนเชื่อและสร้างความหวาดระแวงระหว่างศาสนามให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังเช่น การลอบเข้าไปทำลายกุโบร์ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาของชาวมุสลิม ซึ่งได้เร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุเช่นเดียวกันทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน.ยังคงยึดมั่นในการใช้บังคับใช้กฎหมายเพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้หรือครั้งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้แต่จะใช้มาตรการทางกฎหมายในการติดตามจับกุมเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุดนอกจากนี้ พล.ท. ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ยังคงเน้นการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนมีความเข้าใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มากขึ้นและหันมาให้ความร่วมมือมากขึ้น หากพบเบาะแสของผู้ก่อเหตุที่นำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วน 1341 ตลอด 24 ชม.
กอ.รมน.ภาค 4 สน.ประณามเหตุลอบวางระเบิด จ.ยะลา ชี้ฝีมือกลุ่มเดิมที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.ยะลา พร้อมเร่งติดตามผู้ก่อเหตุ
ภูมิภาค
ระเบิด,ยะลา,กอ.รมน.ภาค 4 สน.,ประณาม,ปราโมทย์,พรหมอินทร์,เฉลิมชัย,สิทธิสาท,ผบ.ทบ.,ผู้บัญชาการทหารบก,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/266079
พายุราอี อ่อนกำลังลงเคลื่อนปกคลุมภาคเหนือ-กลางตอนบน
จากอิทธิพลของราอีทำให้หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งวัน สภาพการจราจรถนนสายหลักถูกท่วมน้ำสูง ส่วนในภาคเหนือ บางพื้นที่มีน้ำท่วมขัง ขณะที่บางแห่งเร่งเก็บทรัพย์สินไปไว้บนที่สูง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ที่ จ.พะเยา เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา และตำรวจภูธรดอกคำใต้ นำอาหารและน้ำดื่มเข้าแจกจ่ายแก่ชาวตำบลบุญเกิด และชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ หลังน้ำจากลำน้ำร่องช้างเอ่อเข้าท่วม บางจุดน้ำท่วมสูงจนชาวบ้านไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านได้ล่าสุดน้ำท่วมได้ขยายวงกว้างครอบคลุมเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ และ อ.ดอกคำใต้ รวม 9 ตำบล 65 หมู่บ้าน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 5500 คน โรงเรียนไม่ต่ำกว่า 7 แห่ง ประกาศหยุดเรียนส่วนที่ จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.หนองไผ่ ร่วมกับ ทหารชุดบรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารม้าที่ 13 และ เทศบาลตำบลเฉลียงทอง เข้าช่วยชาวชุมชน 5 หมู่บ้าน ของ ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ ขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง หลังฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาวังเหวไหลลงลำคลองหัวโตกและเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 100 หลังจ.แพร่ เจ้าหน้าที่แจ้งให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หลังฝนที่ตกหนักใน จ.พะเยา ทำให้แม่น้ำยมช่วง อ.เมืองแพร่ เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 18 ก.ย.จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ทุก อ. จ.แพร่ส่วนที่ จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ฝากเตือนอันตรายเรื่องงู เพราะช่วงฝนตกทำให้งูชุกชุม ล่าสุดอาสาสมัครกู้ภัย สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ ช่วยกันจับงูหลามตัวใหญ่ที่อยู่ภายในท่อระบายน้ำ ของโรงเรียนฌฉลิมขวัญสตรี อ.เมืองพิษณุโลกส่วนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ราอีเคลื่อนผ่าน ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 22 จ.อุบลราชธานี ต้องนำแบริเออมาตั้งบอกจุดน้ำท่วมบนถนนสายวารินชำราบ-กันทรลักษณ์ หลังถูกน้ำท่วมสูงทำการใช้งานผิวจราจรได้เพียง 1 ช่องทาง พร้อมอำนวยความสะดวกจราจรและช่วยเหลือประชาชนที่เกิดรถเสียระหว่างแล่นลุยน้ำส่วนชาวบ้านชุมชนหนองหัวหมู เขตบาลเมืองศรีสะเกษ เตรียมเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นไว้ที่สูง หลังที่พักอาศัยถูกน้ำท่วมมานานกว่า 2 วัน และอาจได้รับผลกระทบจาก ราอี ซ้ำอีก ขณะที่เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้สำหรับผู้ประสบภัยหากเกิดน้ำท่วมฉับพลันที่ จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำปะคำ อ.ปะคำ ใช้รถแบคโฮขุดเปิดทางน้ำและทำลายสิ่งกีดขวาง หลังเกิดน้ำป่าท่วมบ้านเรือนประชาชน 2 หมู่บ้าน และท่วมนาข้าวเสียหายหลายร้อยไร่ที่ จ.อุดรธานี นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการ จ.สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 14 นำเครื่องสูบน้ำขนาดจำนวน 4 เครื่องติดตั้งตามจุดที่น้ำท่วมขังซ้ำซาก เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำของสถานีสูบน้ำใต้ดินเดิมทั้ง 13 จุดให้ระบายน้ำออกนอกเมืองให้เร็วที่สุดสำหรับพายุดีเปรสชั่นราอี (Rai) กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ได้เคลื่อนผ่าน จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง และคาดว่าจะเคลื่อนไปปกคลุมภาคกลางตอนบน และภาคเหนือ ตามลำดับต่อไป
ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา พายุดีเปรสชั่นราอี (Rai) ที่เคลื่อนผ่าน จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางแล้ว และคาดว่าจะเคลื่อนไปปกคลุมภาคกลางตอนบน และภาคเหนือ ในลำดับต่อไป
ภัยพิบัติ
พายุ,เหนือ,อีสาน,ราอี,อุบลราชธานี,อำนาจเจริญ,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/255749
โลกาภิวัตน์ 06/12/59
ตัวการทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น,นักวิทยาศาสตร์ที่ปฏิบัติภารกิจในโครงการ IceBridge ขององค์การนาซาถ่ายภาพร่องแยกขนาดใหญ่ของสันดอนน้ำแข็ง Larsen C-ลาร์เซน ซี ในคาบสมุทรแอนตาร์กติก สันดอนน้ำแข็งเป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งและภูเขาน้ำแข็ง ถ้าสันดอนน้ำแข็งทรุดพังลง น้ำแข็งที่อยู่ข้างหลังจะลอยเคลื่อนสู่ทะเล ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น.,อนุสาวรีย์ผู้พลีชีพเพื่อชาติ,ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2559 โชว์อนุสาวรีย์ อัล-ชาฮิด (ผู้พลีชีพเพื่อชาติ) ตั้งอยู่ในกรุงแบกแดด อิรักสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารอิรักที่เสียชีวิตในสงครามอิรักรบกับอิหร่าน ซึ่งยืดเยื้อยาวนานถึงแปดปี.,ขาดการติดต่อ,จรวด โซยูซ-ยู (Soyuz-U) ของรัสเซีย ซึ่งนำยานบรรทุกวัสดุอุปกรณ์ โปรเกรส เอ็มเอส 04 (Progress MS 04) ขึ้นไปส่งยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เตรียมทะยานขึ้นเมื่อ 29 พ.ย. 59 จากฐานยิงจรวด ไบโคนูร์ของรัสเซียในคาซัคสถาน วันต่อมา 30 พ.ย. รัสเซียแถลงว่าสื่อสารติดต่อกับมันไม่ได้เสียแล้ว.,จุดที่ยานสำรวจดาวอังคารร่อนลง,องค์การอวกาศยุโรป (อีซา) เผยแพร่ภาพจุดที่ยานสำรวจ ExoMars Schiaparelli-เอ๊กโซมาร์ส เชียร์พาเรลลี่ ร่อนลงบนดาวอังคารเมื่อ 25 ต.ค. 2559 หลังจากเดินทางไปถึงดาวเคราะห์สีแดงเมื่อ 19 ต.ค. สหภาพยุโรปได้อนุมัติงบประมาณพิเศษ 53,200 ล้านบาท เพื่อชุบชีวิตโครงการค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารให้ฟื้นคืนชีพเดินหน้าต่อไป.
นักวิทยาศาสตร์ที่ปฏิบัติภารกิจในโครงการ IceBridge ขององค์การนาซาถ่ายภาพร่องแยกขนาดใหญ่ของสันดอนน้ำแข็ง Larsen C-ลาร์เซน ซี ในคาบสมุทรแอนตาร์กติก สันดอนน้ำแข็งเป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็งและภูเขาน้ำแข็ง
ข่าว,ไอที
โลกาภิวัตน์,IceBridge,อนุสาวรีย์ผู้พลีชีพเพื่อชาติ,จรวด โซยูซ-ยู,สำรวจดาวอังคาร
https://www.thairath.co.th/news/tech/802481
ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษา 6 ตร.กาฬสินธุ์ฆ่าหนุ่ม 17 จับคดีลักจยย.-แขวนคออำพรางปี 2547
วันนี้ (26 มิ.ย.2558) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ตำรวจชุดจับกุมคือ ด.ต.อังคาร คำมูลนา ด.ต.สุดธินัน โนนทิง ด.ต.พรรณศิลป์ อุปนันท์ พ.ต.ท.สำเภา อินดี อดีต สวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.มนตรี ศรีบุญลือ อดีต ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และ พ.ต.ท.สุมิตร นันท์สถิต อดีตรอง ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งทั้ง 6 คนเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุการณ์ตายและเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังจากที่ตำรวจทั้ง 6 นายถูกยื่นฟ้องว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการฆาตรกรรมอำพรางนายเกียรติศักดิ์ ถิตย์บุญครอง อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมาคดีนี้โจทย์ยื่นฟ้องตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ทั้ง 6 นาย ภายหลังตรวจสอบพยานหลักฐานแล้ว พบว่ามีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของนายเกียรติศักดิ์ ซึ่งขณะนั้นถูกควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวน หลังจากนั้นตำรวจอ้างว่า ได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปแล้ว แต่ญาติไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งพบเป็นศพถูกแขวนคอเสียชีวิตอยู่ที่กระท่อมแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งญาติไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยตัวเอง แต่เชื่อว่าถูกตำรวจทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตแล้วนำศพมาอำพรางขณะนั้นญาติได้ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงาน จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2548 และมีการดำเนินคดีกับตำรวจทั้ง 6 นาย รวมทั้งผลการชันสูตรพลิกศพทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่านายเกียรติศักดิ์เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณจนเกิดบาดแผลหลายแห่ง ก่อนนำศพมาแขวนอำพรางคดีต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตดาบตำรวจทั้ง 3 นาย และพิพากษาจำคุก พ.ต.อ.มนตรี ศรีบุญลือ อดีต ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ 7 ปี พ.ต.ท.สุมิตร นันท์สถิต อดีตรองผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จำคุกตลอดชีวิต ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันตัวจำเลยทั้งหมด ขณะที่ศาลพิพากษายกฟ้อง พ.ต.ท.สำเภา อินดี อดีตสวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งถึงเวลานัด ปรากฎว่า ด.ต.อังคาร คำมูลนา อังคาร พร้อมกับพวกรวม 5 คน เดินทางมาตามนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ด.ต.พรรณศิลป์ อุปนันท์ จำเลยที่ 3 ไม่เดินทางมาศาลตามนัด โดยนายประกันให้เหตุผลว่า จำเลยย้ายมาทำงานที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และไม่สามารถติดต่อได้ ศาลจึงเลื่อนอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 23 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. พร้อมกำชับนายประกันให้ติดต่อจำเลยมาฟังคำพิพากษาในนัดหน้าให้ได้
ศาลอาญาเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีตำรวจกาฬสินธุ์ 6 นาย ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาคดีลักรถจักรยานยนต์ แล้วนำศพไปอำพรางว่าฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ เมื่อปี 2547 ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตตำรวจ 3 นาย และบางนายถูกจำคุกตลอดชีวิต
อาชญากรรม
ฆาตกรรม,ตำรวจกาฬสินธุ์,ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา,ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์,ศาลอาญา,อำพรางฆ่าตัวตาย
https://news.thaipbs.or.th/content/3045
นอภ.คลองลาน เตือน สุกรเลี้ยง ติดเชื้อแบคทีเรีย เข้มความสะอาด
วิกฤติหน้าร้อน นอภ.คลองลาน กระทบชาวบ้านเลี้ยงหมู เกิดโรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หากผู้บริโภครับประทาน อาจจะทำให้เสียชีวิต ทั้งนี้ได้ประสานไปยังฟาร์ม-โรงฆ่าสัตว์ ปฏิบัติตามหลักสุขาภิบาล ป้องกันการติดเชื้อสู่คน,เมื่อวันที่ 2 พ.ค.59 นายบุญธรรม ทองพิจิตร นายอำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า ในขณะที่สถานการณ์อากาศร้อนยังคงปกคลุมในหลายๆ พื้นที่อย่างต่อเนื่อง นอกจากจะได้รับผลกระทบต่อคนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงอย่างสุกรที่ชาวบ้านเลี้ยง ซึ่งอาจเกิดโรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สามารถสร้างแคปซูลและสลายเม็ดเลือดแดง มักก่อโรคในสุกรเลี้ยง และสามารถพบได้ในหมูป่า ม้า สุนัข แมว และนก เชื้อสามารถมีชีวิตอยู่ในน้ำเย็นที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ได้นาน 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้เชื้อจะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป และด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วไป,สำหรับคนที่บริโภค โรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส เกิดจากการบริโภคเนื้อสุกรอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ เป็นโรคที่อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ โดยอาการเบื้องต้นของผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตามตัวมีรอยจ้ำเลือด คอแข็ง อุจจาระร่วง หูอื้อ ทรงตัวไม่ได้ มีอาการหูตึง,ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนที่บริโภคเนื้อสุกร ต้องทำให้สุกก่อนทุกครั้ง และผู้ปฏิบัติงานในฟาร์มหรือโรงฆ่าสัตว์ ควรปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล สวมรองเท้าบู๊ต หรือ สวมถุงมือระหว่างปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากสุกรมาสู่คนได้ หากสงสัยให้สอบถามข้อมูลที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอนั้นๆ หรือสำนักงานปศุสัตว์ในแต่ละจังหวัด.
วิกฤติหน้าร้อน! นอภ.คลองลาน กระทบชาวบ้านเลี้ยงหมู เกิดโรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หากผู้บริโภครับประทาน อาจจะทำให้เสียชีวิต ทั้งนี้ได้ประสานไปยังฟาร์ม-โรงฆ่าสัตว์ ปฏิบัติตามหลักสุขาภิบาล
ข่าว,ทั่วไทย
สุกร,หมู,ผู้เลี้ยงสุกร,ฟาร์มเลี้ยงสุกร,เนื้อสุกร,เนื้อหมู,เชื้อแบคทีเรีย,หมูติดเชื้อ,บุญธรรม ทองพิจิตร,นอภ.คลองลาน,ปศุสัตว์ฯ,กำแพงเพชร,ข่าว,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/614368
กทม.และหลายภาคมีเมฆบางส่วน ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยฝน 60%กับคลื่นแรง
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 9 เม.ย.2561 พบว่า บริเวณประเทศไทยตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอุณหภูมิสูงขึ้น,สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีกหนึ่งวัน,บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.,ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ,ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ,ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
บริเวณประเทศไทยตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอุณหภูมิสูงขึ้น ไม่มีฝนฟ้าคะนอง แต่มีเมฆเป็นส่วนมาก ขณะที่ภาคใต้ ฝั่งอ่าวไทยมีมีฝนฟ้าคะนอง 60% และทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ข่าว,ทั่วไทย
กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,สภาพอากาศ,เมฆมาก,ฝนฟ้าคะนอง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1251427
ธเนศวร์ เจริญเมือง: แรงเงา – แรงซ้ำรอยเดิมๆ
แสดงว่าของเขาแรงจริงๆ วันนี้ มีคนใจดีไปหานิยายเล่มนั้นมาให้ผมแล้วครับ แต่อยู่ไกลกัน ยังไม่ได้ไปเอามาอ่านเลยแต่หลายวันมานี้ เท่าที่ฟังคนรอบๆ แล้วก็เปิดดูกูเกิ้ล อ่านเรื่องย่อ และวันนี้ มีตัวแทนมูลนิธิหญิงไทยก้าวไกล ออกมาวิจารณ์ละครทีวีเรื่องนี้ว่าเน้นความรุนแรง เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม ผมคิดว่ามีประเด็นอยู่ 4-5 เรื่องที่น่าสนใจ1. เรืองนี้นำนิยายมาทำหนังและละครทีวีแล้วถึง 4 ครั้ง ครั้งแรก ทำเป็นหนังปี 2529 ครั้งที่ 2 ทำเป็นละครทีวี ปี 2531 ครั้งที่ 3 ปี 2544 ก็ทำเป็นละครทีวี และครั้งล่าสุดคือขณะนี้ก็ทำเป็นละครทีวี การเอามาเล่นบ่อยๆสะท้อนได้หลายแง่ คือ คนจัดเห็นทางหาเงินทำกำไร เพราะคนดูชอบ ก็เลยจัดทำใหม่ แต่ก็จะเห็นว่าเมืองนอก ถ้าเรื่องไหนดี สมมุติ Les Miserables (ที่ยิ่งใหญ่มากและสิงคโปร์เคยนำมาแสดงแล้วหลายปีก่อน) เป็นละครเพลงบนเวที เหมือนละครทีวีเรื่องเรยา หรือปริศนาของเรา ก็คือชุดนั้นเล่นกันทุกคืน เล่นเป็นปีๆๆๆ นับสิบปีเลย เพราะคนดูทั่วโลกชอบมาก เป็นละครเพลงที่สุดยอดแห่งความบันเทิงและให้สาระแก่ผู้ชม แต่ของเราที่นำมาเล่นบ่อยๆ กลับเป็นความฟุ่มเฟือย เพราะเอาดาราดังยุคปัจจุบันไปเล่น ใช้เนื้อหาเก่าๆ เรื่องที่ว่านี้ก็คือเรื่องการตบตีกัน เพราะเรื่องผู้ชาย เกิดแรงแค้น ก็แก้แค้นกัน แถมด้วยบาปกรรมที่พ่อแม่ก่อไปส่งผลถึงลูก2. ที่จริง นิยายเป็นเรื่องแต่ง เรื่องที่แต่งก็ย่อมสะท้อนสังคมยุคนั้นๆ แต่ถ้าเอานิยายอายุ 20-30 ปีมาเล่น แถมยังเป็นนิยายออกไปทางน้ำเน่านี่ ต้องแสดงละครับว่า ในโลกที่เปลี่ยนไปมากมายนั้น ทำไม่กรอบความคิดที่ล้าหลังทำไมยังมีการนำมาแสดงซ้ำ ทำไมถึงไม่มีการปรับปรุงแก้ไข และท่ำคัญกว่ามากก็คือ ทำไมนิยายใหม่ๆ ทันสมัย และสะท้อนสังคมได้ดีนั้น ไม่มีหรืออย่างไร หรือว่าคนทำละคร ยังมีความคิดแบบเก่าๆ คิดว่าทำอย่างไรก็ทำเงินแน่นอน แล้วคิดบ้างไหมว่า ละครเหล่านี้ให้อะไรแก่สังคม3. เนื้อหาของนิยายเรื่องนี้แรง ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมจึงได้รับความนิยมมาก เพราะแรงได้ใจ และต่อสู้กัน เอาชนะคะคานกันเม็ดต่อเม็ด แต่โปรดสังเกตว่าละครเรื่องนี้ ผู้ชายเป็นข้าราชการระดับ ผอ. มีครอบครัวแล้ว แต่ไปรังแกข้าราชการสาวชั้นผู้น้อย ผู้อ่อนต่อโลก แทนที่เมียหลวงจะจัดการให้เหมาะสม กลับไปทำร้ายสาวน้อย จนกระทั่ง คู่แฝดของสาวน้อยตามมาล้างแค้น ผู้เขียนทำให้ครอบครัวคือลูกๆ เมียหลวงต้องเผชิญบาปกรรม ได้รับความเดือดร้อน คำถามมีว่า แล้วผู้ชายที่เป็นข้าราชการระดับสูง มีคนอยู่ใต้บังคับบัญชามากมาย ทำไมจึงไม่ทำตัวเป็นแบบอย่าง เหตุใด ไม่มีข้าราชการระดับล่างคนไหนคิดฟ้องร้องกล่าวโทษ กลายเป็นว่านิยายเรื่องนี้เน้นแรงแค้นของหญิงสาวคนหนึ่ง ให้ผู้หญิงหันไปต่อสู้กัน เชือดเฉือนกันต่อเนื่อง แน่นอนครับ นี่เป็นการเปิดโปงสังคมแบบหนึ่ง แต่การเปิดโปงสังคมเช่นนี้ ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุแต่ประการใด เพราะข้าราชการฝ่ายชายที่ก่อเรื่องกลับลอยนวล4. การที่พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบไม่เข้าใจลูก ไม่ยอมรับว่าคนเราแต่ละคนมีอุปนิสัย บุคลิกที่แตกต่างกัน แต่ละคนต่างมีดีของตนเอง แต่ละคนล้วนต้องการความรัก ความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจและกำลังใจ กลับเรียกร้องคนหนึ่งให้เหมือนอีกคนหนึ่ง พูดจาไม่ดีกับลูก ว่าให้ลูกเสียใจ มองไม่เห็นสองด้านของชีวิต บังคับให้ลูกต้องสูญเสียบุคลิกของตัวเองไป ทำให้ลูกๆขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ที่สำคัญ ทำให้ลูกท้อแท้หมดกำลังใจ จนนำไปสู่การคิดสั้น เป็นบทเรียนที่ดีมากๆ ต่อทุกๆคนที่เป็นพ่อแม่ และญาติ4. ทัศนะของผู้เขียนนิยายเรื่องแรงเงาในปี พศ. 2529 เก่าไป เอาหญิงมาทำร้ายหญิง ละเว้นไม่เอาผิดกับผู้ชายตัวการ นี่ก็คือ การที่ผู้เขียนตกเป็นทาสของสังคมชายเป็นใหญ่ ยิ่งการหันไปโยน บาปกรรมให้แก่ลูก ยิ่งเป็นการแก้ไขปัญหาผิดจุด ลูกๆไม่ควรได้รับผลอะไรแบบนี้5. คนไทยที่ดูแรงเงา ควรไปหาละครทีวี (ซีรีย์) เกาหลีใต้เรื่อง ที่เป็นสาวคณิการะดับสูง แล้วก็ถูกชนชั้นสูงทำร้าย ทำลาย จนคนรักต้องตายจากไป จากนั้น เธอจึงลุกขึ้นสู้ แต่ไม่ใช่ล้างแค้น แต่เป็นการสู้กับระบบศักดินา เปิดโปงความชั่วร้ายที่ขุนนางหลายคนได้กดขี่ข่มเหงเธอ6. ผมเห็นว่าคนไทยเวลานี้ พร้อมที่จะดูหนังดีๆ สังเกตจากหนังเกาหลีดีๆมาไทย คนนั่งเฝ้าจอมากมายทั่วประเทศทุกเสาร์อาทิตย์ค่ำ พล็อตเรื่องแรงเงาแรงเหมือนละครเกาหลี ด้วยเหตุดังกล่าวจึงมีคนพูดถึงติดตามเฝ้าชมละครเรื่องนี้ และหนังสือก็ขายดีมาก แต่เสียดายครับ เอานิยายมาแสดงใหม่ ก็ควรนำเนื้อเรื่องมาปรับปรุงให้ทันสมัย และเสนอปัญหาสังคมให้เข้มกว่านี้ได้ เพราะความผิดที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาการกดขี่ทางเพศ ปัญหาชายกดขี่หญิง จะต้องแก้ไขให้ตรงจุด ไม่ใช่ให้ผู้หญิงมาต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อผู้ชาย หรือเพื่อความสะใจ เพราะตราบใด ผู้หญิงไม่เข้มแข็ง กล้าเปิดเปิงการกดขี่ของชาย ชายก็จะทำความผิดอยู่ร่ำไป7. ที่มีคนออกมาบอกว่าการนำเสนอละครที่ไม่ดีจะเป็นแบบอย่างให้คนดู เป็นแบบอย่างแก่เยาวชน ผมก็ว่าทุกอย่าง ก็มีการจัดหมวดหมู่ อายุเท่าใดควรดูหนังละครประเภทใดอยู่แล้ว และที่สำคัญ ในสังคมประชาธิปไตย ละคร นิยาย และการแสดงทุกอย่างก็ต้องมีอภิปรายกัน ต้องมีเวทีถกเถียง และวิพากษ์วิจารณ์ให้กว้างขวาง วิทยุ ทีวีควรมีรายการวิพากษ์วิจารณ์ เปิดมุมมองต่างๆให้คนได้ฟัง และแลกเปลี่ยนความเห็นกันให้มากๆ ระบบการศึกษาต้องมีเวที มีวิชาที่ให้ครูอาจารย์และนักเรียนนักศึกษานำมาถกเถียงกันได้ เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ โลกของเรา ทุกอย่างมีด้านดีและ ด้านลบทั้งนั้นครับ ถ้าจะผิด ก็เพราะว่า ดูแล้ว แสดงแล้ว ออกอากาศแล้ว แต่กลับไม่มีความเห็นใดๆ ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์ อย่างนี้ไม่ได้ครับ บันเทิงและการวิจารณ์ต้องควบคู่กันตลอดในทุกๆสังคมครับ8. นิยาย-ละคร และงานประพันธ์ที่จะมีคนอ่านมาก มีคนติดตามมากๆ ล้วนต้องมีอะไรแรงๆทั้งนั้นเป็นธรรมดาครับ ถ้ามันไม่แรง ไม่แปลก ไม่เศร้าสุดๆ ไม่ชวนตื่นเต้น ขนหัวลุก หรือหวาดเสียว ฯลฯแล้วมันจะไปน่าสนใจได้อย่างไรเล่าสำหรับคนส่วนใหญ่ ใช่ไหมครับ ดูนิยายเกาหลีแต่ละเรื่อง เข้มข้นและแรงๆ ทั้งนั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้น ที่นิยายเกาหลียอดเยี่ยมคืออะไรเล่า ก็คือ เขามีแง่คิดดีๆ ให้กับสังคมต่างหาก เช่น 1. เกิดเป็นคนต้องมุ่งมั่น ต้องทำงานหนัก ต้องต่อสู้ ต้องไม่กลัวความยากลำบาก ไม่ยอมแพ้โชคชะตา แต่ละคร-นิยายเราส่วนใหญ่ไม่ใช่ มีแต่เรื่องของคนรวยๆ ทุกเรื่อง ไม่ทำมาหากินเลย แทบไม่มีเรื่องสู้ชีวิตเลย มีแต่แย่งแฟนกัน หรือแย่งมรดกกัน 2. ยกย่องสตรีให้กล้าต่อสู้ กล้าเผชิญปัญหา และมองเห็นระบบที่เอาเปรียบ ของเราเห็นมีแต่ เขียนบทให้พระเอกปล้ำนางเอก แล้วภายหลัง ก็แต่งงานกัน ก็ทำไมไม่เขียนบทให้นางเอกสู้ล่ะ ฟ้องพระเอก ให้ติดคุกเล่า 3. เน้นคุณค่าสำคัญๆ เช่น รักท้องถิ่น รักครอบครัว ความรักสายใยในระหว่างคนรัก ญาติ เพื่อน พ่อแม่ลูก ต่อต้านอำนาจเถื่อน เปิดโปงการเล่นพวก คอรัปชั่น เปิดโปงการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เคยดูหนังเกาหลี เรื่อง กิมจิ ไหมครับ เน้นทั้งท้องถิ่น สายใยครอบครัว การมุ่งมั่นทำสิ่งดีให้ออกมาดีที่สุด ฯลฯ หรือเรื่อง คนล่าทาส ที่เปิดเผยความรักที่ยิ่งใหญ่ รักที่มีแต่ให้ รักที่ยอมเสียสละ ความจริง ถ้าเรามีนิยายดีๆ ละครทีวีดีๆ เปิดโปงสังคมไทยได้ จ่ะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ในสังคมไทยมากมาย และเชื่อว่าคนไทยจะได้ประโยชน์มาก จากการอ่านนิยาย การดูละครทีวีที่มีสาระต่อสังคม สังคมของเรายังไม่เห็นความสำคัญของงานบันเทิงว่าเป็นการศึกษาที่ดีมากๆ มีประโยชน์มากต่อผู้ชม เราเห็นการบันเทิงเป็นเพียงธุรกิจหารายได้ และผู้สร้างหลายคนคิดแต่จะหากำไรจากคนดู แต่ไม่เคยคิดว่าจะให้อะไรที่มีคุณค่าแก่คนดู งานบันเทิงที่ดีคือการให้การศึกษาที่ดีมากๆ เราควรจะเป็นหนึ่งในอุษาคเนย์แห่งนี้ ให้บันเทิงและสาระแก่ผู้ชมในภูมิภาคนี้ ไม่ใช่ให้หนังจีนหนังเกาหลี-ญี่ปุ่นมาครองตลาดในภูมิภาคนี้ แต่ผมว่าทั้งคนสร้างละคร-นิยาย-หนังในบ้านเราต้องศึกษาเรื่องดีๆจากประเทศอื่นให้มากๆครับ และปรับปรุงงานให้มีคุณภาพกว่านี้ ไม่ใช่เห็นแก่เงินหรือรายได้อย่างเดียว แล้วก็อ้างเหตุผลแบบน้ำเน่าว่าคนไทยชอบแบบนั้น จึงต้องทำตามใจคนดู ผมว่าคนสร้างหนัง สร้างละคร และเขียนนิยายจะต้องคิดใหม่ จะต้องกล้านำสังคมครับ ไม่ใช่เดินตามสังคม หรือคิดแต่จะหาประโยชน์จากสังคม ด้วยการมอมเมาสังคมให้จมอยู่กับที่เดิม. ถ้านิยายน้ำเน่า 30 ปีมาแล้ว ยังแสดงโดยใช้เนื้อหาเดิมๆ ไม่มีการดัดแปลง ปรับปรุง ผมว่าลำบากครับ สังคมนี้.26 ตุลาคม 2555
เพราะมีคนบอกว่า ละครทีวีเรื่อง แรงเงา สนุกมาก ผมก็เลยไปหาซื้อนิยายเล่มละ 25 บาทมาอ่าน เพราะไม่มีเวลานั่งดูนานๆ (เหตุผลหนึ่งคือ เพราะโฆษณามากไป) แต่ก็หาซื้อไม่ได้ ไปร้านไหน ก็ขายหมดเกลี้ยง
วัฒนธรรม,สังคม
ซีรีย์เกาหลี,ธเนศวร์ เจริญเมือง,นันทนา วีรชน,ละคร,ละครหลังข่าว,เรยา,แรงเงา
https://prachatai.com/journal/2012/10/43357
ก้าวไกล อ้าง พบความผิดซ้ำ ปม กรุงศรีวิไล-จี้ กกต.สอบโพลชี้นำ
นายอำนาจ สถาวรฤทธิ์ผอ.การเลือกตั้งก้าวไกล อ้าง พบความผิดซ้ำ ปม กรุงศรีวิไล ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมพรรคพปชร. ชี้ กรณีมีโพลชี้นำ ก่อนการเลือกตั้ง 7 วัน มีความผิดเร่ง กกต.ตรวจสอบวันที่ 6 ส.ค. นายอำนาจ สถาวรฤทธิ์ ที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ได้เคยร้องเรียน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีที่นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ แสดงละครและมีการฉายรีรันทางช่อง 7 และกกต.ได้สั่งระงับการออกอากาศ และเราได้เจอหลักฐานเพิ่มเติมอีก คือ เมื่อครั้งการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 มีละครที่นายกรุงศรีวิไล แสดง ตั้งแต่การประกาศ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง ออกฉายเช่นเดียวกัน ดังนั้นในวันนี้ เราจึงได้ยื่นเรื่องร้องเรียนเพิ่มเติมไปยัง กกต.ว่า เป็นการกระทำผิดซ้ำ จึงขอให้กกต.พิจารณาดูว่า การกระทำครั้งล่าสุด มีเจตนาอะไรหรือไม่ และส่อไปในการทำผิดซ้ำหรือไม่ อีกเรื่องหนึ่ง คือ การจดชื่อประชาชน และเก็บบัตรเลือกตั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ตนได้ยื่นหลักฐานไปยัง ผอ.สำนักสนับสนุนการสืบสวนสอบสวน กกต.โดยตนได้มอบหลักฐานที่มีอยู่ในมือทั้งหมดไปให้แล้ว รวมถึงได้พูดคุยถึงบุคคลที่น่าสงสัยจะเป็นหัวคะแนน โดยตนได้ให้ชื่อและสถานที่กับทาง ผอ.ไปแล้วนายอำนาจ กล่าวอีกว่า มีประเด็นอีกเรื่องเกี่ยวกับการทำโพล ที่ทางสวนดุสิตโพล ได้เผยแพร่ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. เกี่ยวกับผลสํารวจ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นนโยบายที่ประชาชนชื่นชอบ อันดับ 1 พร้อมกับมีภาพเครื่องหมายพรรคพลังประชารัฐ ปรากฏอยู่ที่มุมบนด้านขวาของภาพ ซึ่งตามกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 73 ห้ามทำโพลเพื่อชี้นำ การเลือกตั้งภายใน 7 วัน ก่อนการลงคะแนนเสียง ถึงแม้โพลดังกล่าวจะไม่ได้เกี่ยวกับ จ.สมุทรปราการ โดยตรง แต่เหมือนเป็นการชี้นำ รวมถึงการที่ น.ส.พัชรินทร์ ซําศิริพงษ์ ส.ส.กทม ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้เผยแพร่และขอบคุณผลโพล ดังกล่าว ทางพรรคจึงได้ยื่นร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวนี้ด้วยว่า ผิดกฎหมายและเป็นการจูงใจในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหรือไม่จึงอยากให้ กกต.ใช้ดุลพินิจตัดสินปัญหาทั้งหมด ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 9 ส.ค. เพราะหากปล่อยไว้อาจจะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม และหากมีการร้องเรียนภายหลังการเลือกตั้งอาจจะเป็นการเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่หาเสียงพบว่าผู้สมัครของพรรคก้าวไกล ได้รับความนิยมและเสียงตอบรับดีมากๆ มั่นใจว่าเราจะสามารถชนะในเขตนี้ ซึ่งจากการที่คะแนนเสียงเรานำอยู่ในตอนนี้น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่คู่แข่งพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อจะพลิกกลับมาเอาชนะเราให้ได้ นายอำนาจ กล่าว
นายอำนาจ สถาวรฤทธิ์ ผอ.การเลือกตั้งก้าวไกล อ้าง พบความผิดซ้ำ ปม กรุงศรีวิไล ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมพรรคพปชร. ชี้ กรณีมีโพลชี้นำ ก่อนการเลือกตั้ง 7 วัน มีความผิดเร่ง กกต.ตรวจสอบ
ข่าว,การเมือง
เลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ,พรรคก้าวไกล,กรุงศรีวิไล สุทินเผือก,พลังประชารัฐ,โพลชี้นำ,อำนาจ สถาวรฤทธิ์,กกต.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1904780
ไทยฟินเทค จับมือ หัวเว่ย ลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ ผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำ
นายกอร์ดอน เจิ้ง รองประธานฝ่ายการควบคุมความเสี่ยง บริษัท ไทย ฟินเทค จำกัด และนายซอเล่อ ซุน รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายหัวเว่ยคลาวด์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาโครงการต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยของทั้งสองฝ่าย เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลและโลกอัจฉริยะในอนาคต ทั้ง AI-ปัญญาประดิษฐ์, Cloud, Big Data และ Internet of Things (IoT)-อินเทอร์เน็ต ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นแรงกระตุ้นให้องค์กรต่างๆ ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลมากยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องเปิดรับแพลตฟอร์มดิจิตอลที่เปิดกว้าง มีความคล่องตัว พร้อมด้วย AI ที่ล้ำสมัย,ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2560 ไทย ฟินเทค ได้พัฒนารูปแบบกลยุทธ์และระบบควบคุมความเสี่ยงด้านการเงิน กระทั่งร่วมมือกับ หัวเว่ย โดยกรอบความร่วมมือในครั้งนี้ ประกอบด้วย ความร่วมมือทางธุรกิจด้าน AI บนพื้นฐาน Cloud ของหัวเหว่ย รวมถึงการจดจำใบหน้า การเปรียบเทียบใบหน้า การตรวจจับ OCR (Optical Character Recognition) กระบวนแปลงไฟล์ภาพเอกสารให้เป็นไฟล์ข้อความโดยอัตโนมัติ บริการคอมพิวเตอร์ บริการจัดเก็บข้อมูล บริการเครือข่าย การพัฒนาเครื่องมือต่อต้านการทุจริต และระบบควบคุมความเสี่ยง ซึ่งไทย ฟินเทค และ หัวเว่ย จะร่วมมือวิจัยเพื่อพัฒนาระบบควบคุมความเสี่ยงของข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data เป็นการรองรับการพัฒนาและเติบโตของประเทศไทย.
ไทยฟินเทค จับมือ หัวเว่ย พัฒนาบิ๊กโปรเจ็กต์ ระบบควบคุมความเสี่ยง ผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำ รองรับยุคเศรษฐกิจดิจิทัล-โลกอัจฉริยะอนาคต
ข่าว,เศรษฐกิจ
เศรษฐกิจดิจิทัล,ไทยฟินเทค,หัวเว่ย,เทคโนโลยีจดจำใบหน้า,Cloud,Fin-tech
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1522756
เสวนา-ล่องแม่น้ำวิเคราะห์ชัยชนะพระเจ้าตากผ่านทีมงาน ดาบซามูไร ปืนไฟ ของป่า
แจกแจงตัวปัจจัยที่นำไปสู่ชัยชนะของพระเจ้าตากตั้งแต่ทหารลูกหม้อ เจ้าเขมร พ่อค้าวานิช ชาวบ้านดาบซามูไรปืนไฟและเครือข่ายพ่อค้าแร่-ของป่า3 พ.ค. 2562 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 เม.ย.) ที่ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อ 28 เม.ย. มีการจัดเสวนาและกิจกรรมลงพื้นที่ พระเจ้าตากและทีมฝ่าวงล้อม จัดโดยชมรมกรุงธนบุรีศึกษา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา หลักสูตรไทยศึกษา วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำนักพิมพ์ตายูอีบุ๊คส์กิจกรรมดังกล่าวเป็นหนึ่งในซีรีส์กิจกรรม ตามรอยพระเจ้าตาก ที่จัดมาแล้วรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่เจ็ด ครั้งนี้มีการพาผู้เข้าร่วมกิจกรรมล่องเรือในแม่น้ำป่าสักจากบริเวณโตโยต้าเมืองสีเขียวไปยังหมู่บ้านญี่ปุ่น และก่อนล่องเรือก็มีการเสวนาให้ความรู้โดยธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ ประธานชมรมกรุงธนบุรีศึกษา รัฐศาสตร์ ม.รังสิต ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ นักวิชาการอิสระ และกำพล จำปาพันธ์ นักวิชาการอิสระธำรงศักดิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาชัยชนะของพระเจ้าตากถูกอธิบายผ่านตัวพระเจ้าตากแค่คนเดียวทำให้คนที่อยู่รายรอบหายไป การอธิบายพระเจ้าตากผ่านทฤษฎีภาวะผู้นำจะทำให้เห็นเครือข่ายของพระเจ้าตากมากขึ้น เพราะไม่มีใครขึ้นไปเป็นผู้นำทางการเมืองได้ด้วยตัวคนเดียวประธานกลุ่มศึกษาเจ้าตากยังกล่าวถึงประเด็นอื่นที่ยังไม่มีการประมาณในการศึกษาเรื่องพระเจ้าตากว่า ช่วงนี้ในอดีตเป็นเดือนที่กรุงแตก ซึ่งเป็นฤดูที่ร้อนจัดมากๆ เราเคยถูกสอนให้ท่องมาว่าแม่น้ำดังกล่าวทำหน้าที่เหมือนป้อมปราการที่ล้อมรอบเกาะอยุธยา แต่ไม่เคยคิดว่าถ้าน้ำแล้งแล้วจะเป็นอย่างไร และน้ำเดียวกันนั้นก็เป็นน้ำที่ใช้ดื่มกินของคนหลักแสน ประเด็นอาหารการกินของคนที่หลบหนีกองทหารพม่าเข้าอยุธยาก็ยังไม่เคยมีการประมาณ ทั้งนี้ ฝ่ายพม่าเองอยากได้กำลังคน การดูหนังสงครามที่ฆ่ากันนั้นไม่ถูกต้อง จริงๆ ในโลกโบราณนั้นแค่ทำให้บาดเจ็บเล็กน้อยหรือทำให้กลัวตายก็ถือว่าแพ้แล้ว เพราะอีกฝ่ายต้องการได้คนเป็นๆ ไปมากกว่า และยังมีหลักฐานว่าคนอยุธยาไม่ได้หนีเข้าอยุธยาเท่านั้น แต่ก็มีที่หนีออกไปอยู่กับพม่ากำพลกล่าวว่า ไม่รู้จะเรียกทีมพระเจ้าตากภายใต้ความหมายเดียวกันกับ ทีม ในปัจจุบันได้หรือไม่ เพราะคนในสมัยอยุธยายังอยู่ใต้ลำดับขั้นบางอย่าง มีลักษณะที่เป็นสังกัดสูงมาก แต่ก็สามารถแบ่งประเภททีมของพระเจ้าตากได้เป็นห้ากลุ่มใหญ่ ดังนี้หนึ่ง พวกที่ตามมาจากเมืองตาก อยู่กับพระเจ้าตากก่อนจะมีการเสียกรุง เช่นหลวงพิชัยอาสา หรือพระยาพิชัยดาบหัก (ทองดี ฟันขาว) ที่อยู่กับพระเจ้าตากมาตั้งแต่สมัยอยู่ที่เมืองตาก คอยรับคำสั่งจากพระเจ้าตากให้คุมกำลังคนอีกต่อหนึ่ง หรือพระยาเชียงเงิน เจ้าเมืองที่อยู่วังเจ้าที่ติดตามมาตั้งแต่เมืองตาก ต่อมาได้เป็นพระยาสุโขทัยและเจ้าเมืองสุโขทัยหลังปราบก๊กพระเจ้าฝางสำเร็จ และหลวงพรหมเสนาที่ต่อมาเป็นเจ้าเมืองนครสวรรค์ในสมัยธนบุรีสอง พวกที่เพิ่งตามกันตอนที่มีเหตุการณ์เสียกรุง กลุ่มสำคัญในราชสำนักของพระเจ้าเอกทัศอย่างนักองค์รามหรืออีกชื่อคือนักองค์โนน รัชทายาทของกัมพูชาที่ลี้ภัยมาอยู่กับพระเจ้าเอกทัศแล้วติดตามออกมาอยู่จันทบุรีกับพระเจ้าตาก นักองค์รามมีความกว้างขวางในหัวเมืองฝั่งตะวันออกหรือฝั่งขวาของแม่น้ำบางปะกงที่สมัยนั้นยังเป็นชุมชนเขมร เพิ่งจะมาขึ้นกับสยามสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สถานะของนักองค์รามจึงได้รับความนับหน้าถือตามากอีกคนหนึ่งคือพระยาพิพิธ จันเหลียน พ่อค้าแต้จิ๋วในจันทบุรี ต่อมาเป็นผู้ก่อตั้งเยาวราชในสมัยรัตนโกสินทร์ พระยาพิพิธ จันเหลียนมีกิจการสำเภาเร่ที่ดัตช์เรียกว่า floating shop เป็นธุรกิจเดินเรือสำเภาพร้อมสินค้าไปจอดตามท่าต่างๆ ให้คนขึ้นมาเลือกซื้อหาสินค้า ซึ่งถือเป็นเป็นกิจการที่ทำให้จันเหลียนมั่งคั่งร่ำรวยเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของตะวันออก จนกระทั่งปี 2310 จันเหลียนมาบังเอิญติดในอยุธยา และต่อมาก็ติดตามไปจันทบุรีกับพระเจ้าตาก คิดว่าพระยาพิพิธ จันเหลียนมีความสำคัญที่สุดในการยึดภาคตะวันออกของพระเจ้าตากจนได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองจันทบุรี และฮาเบียน (หรือฮาเตียน) ในเวลาต่อมานอกจากกลุ่มข้างต้นแล้ว กำพลกล่าวว่ายังมีกลุ่มที่ติดตามไปจันทบุรี กลุ่มที่เสียชีวิตระหว่างทางอย่างขุนชนะ กลุ่มชาวบ้านที่เป็นคนให้ธนูและข้าวเม่าแก่พระเจ้าตาก และกลุ่มชาวโปรตุเกสที่เป็นทหารแม่นปืน เอกสารของบาทหลวงโปรตุเกสระบุว่ามีกองทหารฝรั่งโปรตุเกสเดินทางไปกับพระเจ้าตากด้วย ปกติแล้วทหารเหล่านี้คือองค์รักษ์ในวัง ทั้งนี้ยังพบว่าหลายศึกที่พระเจ้าตากออกรบหลังออกจากอยุธยานั้นมีการรบด้วยปืนกำพลยังกล่าวว่า นอกจากเรื่องของคนแล้วก็มีเรื่องของเทคโนโลยี หมายถึงปืนและดาบที่ไม่ใช่ดาบแบบไทย ในเอกสารแต่งตั้งเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชระบุว่าพระเจ้าตากให้ดาบซามูไรญี่ปุ่นกับเจ้าเมือง ที่พระราชวังเดิม เป็นที่ทราบว่าดาบซามูไรที่เป็นดาบที่ดีที่สุดสมัยนั้น โดยดาบของไทยจะเน้นความแข็งและความใหญ่ สิ่งที่จะตัดสินผลในการฟันดาบคือกระบวนท่าและกำลังของคนฟัน แต่ดาบซามูไรเน้นความรวดเร็ว ยิ่งตัวเล็กยิ่งได้เปรียบ จึงเป็นไปได้ที่ดาบของพระยาพิชัยและพระเจ้าตากใช้ดาบซามูไรศิริพจน์กล่าวว่า คิดว่าในกลุ่มก้อนพระเจ้าตากมีปืนเป็นของตัวเอง ในทางกฎหมายนั้นปืนถูกผูกอยู่กับตัวกษัตริย์ กษัตริย์อยุธยาจะคุมไม่ให้ประเทศราชมีปืนเยอะเกินไป แต่ในความเป็นจริงก็มีปืนเถื่อนกัน ทั้งนี้ ปัญหาของการใช้ปืนไฟสมัยก่อนคือการขาดการฝึก เพราะปืนนั้นไม่ใช่เหนี่ยวไกแล้วยิงได้เลย อยุธยาไม่มีทหารประจำการจึงไม่มีการฝึกยิงปืน เวลารับกับฝรั่งก็แพ้อยู่แล้ว แต่กลุ่มก้อนพระเจ้าตากที่เป็นพ่อค้าและต้องเดินทางไปไหนมาไหน ถ้าไม่มีปืนก็คงตาย และน่าจะมีวิธีฝึกปืนที่ต่างจากราชสำนักซึ่งอาจเหมาะกับยุคสงครามเช่นนั้นมากกว่าศิริพจน์กล่าวต่อไปว่า พ่อค้าในสมัยก่อนต้องมีกองกำลังเป็นของตัวเองด้วย ในส่วนกลุ่มก้อนพระเจ้าตากที่เป็นพ่อค้านั้นเป็นที่เชื่อว่าค้าเหล็ก ไม่เช่นนั้นจะได้พระยาพิชัยที่อยู่ในพื้นที่ที่เกี่ยวกับการค้าเหล็กมาได้อย่างไร และถ้าดูในรายละเอียดในคำให้การชาวกรุงเก่าจะรู้ว่าบริเวณคลองสวนพลู พื้นที่ที่พระเจ้าตากมีอำนาจในอยุธยาเป็นบริเวณที่มีการค้าเหล็กค่อนข้างมาก พ่อค้าจีนที่อพยพมาในช่วงที่ตรงกับพ่อของพระเจ้าตากก็มีความชำนาญในการขุดแร่โคบอลท์ แร่ที่ถูกใช้ทำสีน้ำเงินบนเครื่องถ้วยที่ขุดจากจีนแล้วไปขายที่เว้ นอกจากกลุ่มค้าเหล็กแล้ว กลุ่มก้อนพระเจ้าตากอีกกลุ่มคือพ่อค้าหาของป่าโดยเฉพาะแร่ การเป็นเจ้าเมืองตากมีนัยสำคัญในการเข้าถึงทรัพยากรที่เป็นของป่า ดังนั้นโครงข่ายค้าแร่ ของป่าน่าจะเป็นของพระเจ้าตากหมด
นักวิชาการประวัติศาสตร์ตั้งวงคุยแล้วพาล่องเรือตามรอย พระเจ้าตาก วิเคราะห์ชัยชนะผ่านทีมงานและปัจจัยเทคโนโลยี-เศรษฐกิจ ขยับโฟกัสออกจากตัวกษัตริย์
วัฒนธรรม,การศึกษา
กำพล จำปาพันธ์,ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ,ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์,พระเจ้าตากสินมหาราช,อยุธยา,ประวัติศาสตร์
https://prachatai.com/journal/2019/05/82315
รวบแล้ว พ่อเลี้ยง ข่มขืนลูกเลี้ยงออทิสติก ญาติกังวล โดนแค่โทษอนาจาร
จากกรณีที่ แม่ อายุ 47 ปี จูงมือลูกสาววัย 17 ปี ที่พิการป่วยเป็นโรคออทิสติก เข้าแจ้งความ พ.ต.ท.ชูเกียรติ แก้วอาจ พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังลูกสาวถูสามีวัย 67 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงข่มขืนเป็นครั้งที่สอง ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว,ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 พ.ย.61 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้จับกุมพ่อเลี้ยงหื่นคนดังกล่าวได้ที่บ้านโคกขุนทอง ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว ตามหมายจับของศาลจังหวัดสระแก้ว ในข้อหาอนาจาร ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.อรัญประเทศ,พ.ต.ท.ชูเกียรติ แก้วอาจ พนักงานสอบสวน เผยว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาอนาจารแก่พ่อเลี้ยงหื่น ในการขอออกหมายจับ แต่ถ้าผลการสอบสวนมีประเด็นอื่นอีก ก็จะตั้งข้อหาเพิ่มเติม,ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของของผู้เสียหาย พบแต่คุณยายวัย 77 ปี อยู่ที่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งเมื่อทราบว่าตำรวจสามารถจับกุมตัวพ่อเลี้ยงหื่นได้แล้ว เจ้าตัวถึงกับดีใจสุดขีด โดยบอกว่าทางบ้านพักเด็กที่สระแก้ว ได้มารับตัวหลานสาวไปดูแลที่บ้านพักเด็กแล้ว ตอนนี้ก็หมดห่วง เนื่องจากต้องคอยหวาดระแวง กลัวหลานสาวจะมีอันตราย ที่บ้านทุกคนต้องออกไปรับจ้างหาเงิน เช้ามาก็ต่างคนก็ต่างไปทำงานกันหมด จึงเหลือแต่ตนอยู่เฝ้าบ้านเพียงคนเดียว ยายของเหยื่อสาว กล่าว,อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบว่าตำรวจตั้งข้อหาแค่อนาจารไม่ใช้ข่มขืน ทางครอบครัวเหยื่อจึงมีความกังวลว่า จะเหมือนรอบก่อนที่พ่อเลี้ยงหื่นข่มขืนหลานสาว จนต้องตัดหมดลูกทิ้ง แต่พ่อเลี้ยงหื่นก็หลุดคดีมาได้ จึงหวั่นเกรงว่าจะหลุดข้อหาข่มขืนกระทำชำเราไปได้อีก
จับแล้ว! พ่อเลี้ยงหื่น ชำเราลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก ตำรวจบุกรวบคาบ้านพัก แต่ครอบครัวเหยื่อยังกังวล หลัง ตร.ตั้งข้อหาแค่อนาจาร เกรงว่าจะรอดตัวเหมือนครั้งก่อน หวนลงมือซ้ำอีก
ข่าว,ทั่วไทย
ข่มขืน,ข่มขืนลูกเลี้ยง,พ่อเลี้ยงหื่น,พ่อเลี้ยงข่มขืนลูกเลี้ยง,จับพ่อเลี้ยงหื่น,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1420398
ไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด ฟอลคอน แอบแก้สัญญาศาสนา กันฝรั่งเศสยึดสยาม
จากกระแสละคร ,บุพเพสันนิวาส, ที่มีการดำเนินเรื่องอ้างอิงประวัติศาสตร์ในช่วงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และมีการพูดถึงตัวละครที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์,ขณะที่ ละครบุพเพสันนิวาส สร้างบท ,เจ้าพระยาวิชเยนทร์ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน, เป็นตัวร้าย พระนารายณ์ หูเบาเชื่อฝรั่ง และขุนนางไทยล้วนแต่รักชาติเป็นคนดี แต่ในเอกสารทั้งหลายของฝรั่งเศส กลับมองฟอลคอน ว่าเจรจาอะไร ก็แอบเอาประโยชน์สยามเป็นที่ตั้ง ทั้งไม่จริงใจในแผนการเข้ามีอำนาจเหนือสยาม ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14,ส่วน เอกสารสำคัญฉบับหนึ่ง ที่บ่งบอกว่า ฟอลคอน แก้ไขร่างสนธิสัญญาการเผยแผ่ศาสนา โดยเติมข้อความป้องกันการเข้ารุกล้ำทางการเมืองของฝรั่งเศสอย่างชัดเจน โดยให้เน้นเผยแผ่ศาสนาจริงๆ ทั้งวางหมากเล่ห์กล ตอน มองซิเออร์ โชม็องต์ ราชทูตฝรั่งเศส ยังอยู่ก็แกล้งทำเป็นเข้าข้างเห็นดีเห็นงามกับทางฝรั่งเศส แต่รอให้ราชทูตฝรั่งเศสกลับไปก่อนจึงเอาร่างแก้ที่ตัวเองเติมข้อความป้องกันสยาม ออกมาให้เหล่ามิชชันนารีฝรั่งเศสเซ็น,จากนั้น ฟอลคอนก็เสนอตัวบทของสนธิสัญญา โดยอนุญาตให้เทศน์สอนคาทอลิกและถือได้ ฟอลคอนก็เติมว่า โดยมีเงี่อนไขว่า พวกมิชชันนารีต้องเพียงเทศน์สอนบทบัญญัติของพระเจ้าเท่านั้น จะเพิ่มข้อเปลี่ยนใหม่ที่ทำให้ประชาชนต่อต้านรัฐบาลและบทบัญญัติของประเทศ โดยอ้างเหตุใดๆ ไม่ได้ ในกรณีที่มิชชันนารีผู้หนึ่งผู้ใดประพฤติฝ่าฝืนข้อนี้ พระเจ้าแผ่นดินถือว่า เอกสิทธิ์ข้อนี้เป็นโมฆะ มิชชันนารีผู้นั้นต้องถูกเนรเทศกลับฝรั่งเศส จะกลับมากรุงสยามไม่ได้ มิฉะนั้นจะต้องโทษประหาร.,(ข้อมูล ,จิต ศรัทธา,)
เปิดหลักฐานสำคัญ! ฟอลคอน ตบตา ทูตฝรั่งเศส ร่วมมือกับ สมเด็จพระนารายณ์ แก้สนธิสัญญาทางศาสนาคริสต์ ป้องกันใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือยึดสยาม
ข่าว,สังคม
บุพเพสันนิวาส,เจ้าพระยาวิชเยนทร์,คอนสแตนติน ฟอลคอน,ฟอลคอน,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1242186
ป.ป.ช. แจง ลุยสอบที่ดิน ปารีณา 29 พ.ย.-จับพิรุธ พระเครื่อง-เหล็กไหล
วันที่ 18 พ.ย., นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.จะลงพื้นที่ จ.ราชบุรี ในวันที่ 29 พ.ย. เพื่อตรวจสอบรายการทรัพย์สินของ, น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ, ที่แจ้งรายการถือครองที่ดิน ภบท.5 ส.ป.ก. และที่ดินรายการต่างๆ ที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่า ในวันที่ 29 พ.ย. เจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบทรัพย์สินของ ป.ป.ช. จะลงพื้นที่ จ.ราชบุรี ไปตรวจสอบทรัพย์สินและทรัพย์สินอื่นๆ เช่น ปศุสัตว์ ฟาร์มวัว ฟาร์มไก่ รวมถึงที่ดิน ภบท.5 จะดูทั้งเอกสารและพื้นที่จริง เพื่อดูว่าสอดคล้องกับเอกสารที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.หรือไม่ ตลอดจนดูถึงการได้มาของทรัพย์สินด้วย ส่วนการได้มาของที่ดินต่างๆ นั้น จะได้โดยชอบหรือไม่นั้น ไม่ใช่หน้าที่ของป.ป.ช. แต่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เป็นผู้ออกเอกสารสิทธินั้นๆ หน้าที่ ป.ป.ช.มีเพียงแค่ตรวจสอบข้อมูลในการยื่นเข้ารับตำแหน่งเพื่อดูว่า มีการยื่นเท็จ ปกปิดอย่างไรหรือไม่ โดยเฉพาะการจงใจยื่นเท็จปกปิดหรือไม่นั้น เป็นข้อกฎหมายของ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน เพื่อนำไปเป็นฐานในการเปรียบเทียบอีกครั้งตอนพ้นจากตำแหน่งว่า มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติหรือร่ำรวยผิดปกติหรือไม่,นายวรวิทย์ กล่าวว่า ส่วนนักการเมืองคนอื่นๆ ที่ข่าวครอบครองที่ดินภบท.5 หรือ ส.ป.ก.นั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติต้องเก็บรวบรวมข้อมูลอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการครอบครองจำนวนมากๆ แล้วถูกพบเป็นประเด็นทางสังคม ป.ป.ช.ก็ต้องตรวจสอบ เป็นเรื่องปกติที่ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูล เพราะบางรายมีทรัพย์สินจำนวนมากๆ และมีเหตุอันสมควรที่ ป.ป.ช.ต้องลงไปตรวจสอบ วัตถุประสงค์หลักของ ป.ป.ช.ที่ไปตรวจสอบ คือ 1.ไว้เป็นฐาน ซึ่งคนที่ทุจริตส่วนใหญ่ เมื่อรู้ว่า ป.ป.ช.จะเก็บข้อมูลไว้เป็นฐาน จะยื่นแสดงทรัพย์สินในจำนวนที่สูงมากๆ เพื่อตอนพ้นตำแหน่งจะได้ระบุว่า ยังมีทรัพย์สินอยู่ตามจำนวนที่ยื่น ดังนั้น ป.ป.ช.จึงต้องตรวจที่มาของแต่ละสิ่งนั้น เผื่อมีเหตุอันสมควรที่นำไปสู่การตรวจสอบเชิงลึก ดังนั้นหากเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจก็เป็นเหตุผลที่ ป.ป.ช.ต้องลงไปตรวจสอบอยู่แล้ว,นายวรวิทย์ กล่าวว่า ขณะที่การตรวจสอบการครอบครองเหล็กไหลมูลค่า 1,000 ล้านบาท ของ,นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังไทยรักไทย,นั้น เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ไปตรวจสอบมาแล้วรอบหนึ่ง เรื่องความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน แต่จะลงไปตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากมีข้อสงสัยเรื่องการได้มา จึงต้องไปสอบถามพยานบุคคลเพิ่มเติม ส่วนการตรวจสอบพระเครื่องของ,นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์, ที่แจ้งมูลค่าพระเครื่องหลายรายการ ในมูลค่าสูงมากนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสรุปประเด็นเป็นข้อๆ เพื่อรายงานมาให้ตน ก่อนที่จะเสนอต่อที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณา มีระยะเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน ถือเป็นการตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูล แต่ถ้ามีประเด็นที่จะต้องติดตามต่อ หรือมีพยานหลักฐานที่ต้องซักถามเพิ่มเติมก็ต้องทำต่อเนื่อง ส่วน ป.ป.ช.จะต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น เซียนพระมาร่วมให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ เพื่อความน่าเชื่อถือนั้น ในบางกรณีต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในเรื่องที่เป็นประเด็นขึ้นมา ถ้าจำเป็นก็ต้องใช้ แต่บางกรณีถ้าเห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็น ก็ให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ตรวจสอบไปก่อน แต่กรณีนี้เบื้องต้นยังไม่มีการเรียกผู้เชี่ยวชาญมาให้ข้อมูล แต่จะต้องเรียกเซียนพระมาหรือไม่ ขอให้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อมูลก่อน,นายวรวิทย์อีกกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องการตรวจสอบราคาพระเครื่อง เหล็กไหลนั้น ทำได้ยาก เพราะไม่มีราคากลางเหมือนอัญมณี ทำให้การตรวจสอบเป็นไปยากลำบาก แต่ในกฎหมายระบุว่า หากมีเจตนาจงใจหรือยื่นเท็จ หรือปกปิกโดยมีเจตนาไม่แสดงที่มาของรายการทรัพย์สิน ไม่ให้รู้ที่มาทรัพย์สิน ถ้ารายการเหล่านั้นเข้าเงื่อนไขตามกฎหมายดังกล่าวของ ป.ป.ช. ก็ต้องถูกดำเนินการ แต่จะเข้าเงื่อนไขหรือไม่ ขอเวลาตรวจสอบก่อน โดยจะต้องดูว่า การแจ้งมูลค่าสูงกว่าความจริงนั้น มีเจตนาอย่างไร
ป.ป.ช. แจง ลุยสอบที่ดิน ปารีณา 29พ.ย.ดูความมีอยู่จริง ทั้งที่ดิน-ฟาร์มปศุสัตว์ พร้อมขยายผลสอบครอบครองที่ของนักการเมืองรายอื่น เล็ง จับพิรุธ ที่มา พระเครื่อง-เหล็กไหลของ มงคลกิตติ์-คฑาเทพ
ข่าว,การเมือง
ปารีณา,ที่ดินปารีณา,ปารีณา ไกรคุปต์,ป.ป.ช.,ฟาร์มปศุสัตว์,เหล็กไหล-พระเครื่อง,มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1706743
การบินไทยเลื่อนเที่ยวบินเพิร์ท-กรุงเทพฯ หลังสะพานเทียบเครื่องบินเฉี่ยวชนฝาครอบเครื่องยนต์
วันนี้ (26 ส.ค.2560) ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจงกรณีสะพานเทียบเครื่องบินเฉี่ยวชนฝาฝาครอบเครื่องยนต์ด้านซ้ายของเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ของเที่ยวบินทีจี 484 เส้นทางเพิร์ท-กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 09.15 น. (เวลาท้องถิ่น) ที่ท่าอากาศยานเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย หลังจากที่ประตูเครื่องบินปิดเรียบร้อยแล้ว และเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานเพิร์ทได้ควบคุมสะพานถอยออกจากการเทียบเครื่องบินจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าบริเวณฝาครอบเครื่องยนต์ (Engine Cowling) ด้านซ้ายมีรอยถูกกระแทกเป็นทางยาวประมาณ 2 ฟุต เป็นเหตุให้ไม่สามารถทำการบินได้ กัปตันจึงได้ปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานความปลอดภัยในการทำการบิน และผู้จัดการสนามบินของการบินไทยที่สนามบินเพิร์ทได้ดูแลผู้โดยสารตามขั้นตอนการปฏิบัติโดยนำผู้โดยสารบางส่วนเข้าพักที่โรงแรมเพื่อรอเที่ยวบินถัดไปและบางส่วนโอนย้ายให้เดินทางในสายการบินอื่นต่อไปทั้งนี้ เที่ยวบินทีจี 484 เส้นทางเพิร์ท-กรุงเทพฯ ดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสาร 235 คน นักบินและลูกเรือ 13 คน ซึ่งตามตารางบินปกติจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานเพิร์ทเวลา 09.20 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 15.20 น. (เวลาท้องถิ่น) โดยการบินไทยทำการบินเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ-เพิร์ท ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน
การบินไทยชี้แจงสะพานเทียบเครื่องบินเฉี่ยวชนฝาครอบเครื่องยนต์ของเครื่องบินเที่ยวบินทีจี 484 เส้นทางเพิร์ท-กรุงเทพฯ ที่ท่าอากาศยานเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย เป็นทางยาวประมาณ 2 ฟุต ทำให้ไม่สามารถทำการบินได้
เศรษฐกิจ
การบินไทย,เลื่อนเที่ยวบิน,เพิร์ท,สะพานเทียบเครื่องบิน,ฝาครอบเครื่องยนต์,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/265553
รอง.ผบ.ตร.จัดชุดติดตามจับกุม จารุพงศ์-จักรภพ ไม่มารายงานตัว คสช.
ระบุการตั้งองค์กรเสรีไทยเข้าข่ายผิดกฎหมายแต่ยังไม่ขอเผยรายละเอียด-ขณะนี้ยังไม่พบการเคลื่อนไหวภายในประเทศ และจะจัดชุดติดตามจับกุม จารุพงศ์-จักรภพ มาดำเนินคดีให้ได้26 มิ.ย. 2557 - รายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับทหารพระธรรมนูญ กรณีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประกาศจัดตั้งองค์กรเสรีไทยว่า ตำรวจ-ทหาร ได้ข้อสรุปร่วมกัน ว่าจะมีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของบุคคลทั้งสองไปอีกระยะพร้อมระบุว่า การกระทำลักษณะดังกล่าว เข้าข่ายความผิดข้อกฎหมายบางประการ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด จากนี้ จะกลับไปหารือถึงข้อกฎหมายในการดำเนินคดีอีกครั้ง เพื่อความรอบคอบ ไม่ให้เกิดประเด็นโต้แย้ง ทั้งจากประชาชนและชาวต่างชาติ ขณะนี้ ยังไม่พบการเคลื่อนไหวลักษณะดังกล่าวภายในประเทศ โดยยังมีเพียงสองคนนี้เท่านั้นที่มีการเคลื่อนไหวนอกจากการเคลื่อนไหวก่อตั้งองค์กรเสรีไทยแล้ว นายจารุพงศ์ และนายจักรภพ ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหา ไม่มารายงานตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งตำรวจได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมแล้ว เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เผยหลังหารือทหารพระธรรมนูญว่า ทหาร-ตำรวจจะเฝ้าติดตามพฤติกรรม จารุพงศ์-จักรภพ
การเมือง
คสช.,จักรภพ เพ็ญแข,จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ,ตำรวจ,สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย
https://prachatai.com/journal/2014/06/54262
เผยภาพสลด อุรังอุตังแม่-ลูกหนีไฟป่าอินโดนีเซีย ถูกชาวบ้านทำร้ายซ้ำ
เจ้าหน้าที่องค์กร International Animal Rescue (IAR) เปิดเผยว่าลิงแม่ลูกอยู่ในอาการซึมเศร้า ขาดอาหารอย่างหนักและกอดกันแน่นขณะที่พวกเขาพบมัน ลิงตัวแม่ผอมมากและมีบาดแผลตามผิวหนัง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.2558 แต่องค์กร IAR เพิ่งเปิดเผยเรื่องราวและเผยแพร่ภาพถ่ายอุรังอุตังแม่ลูกเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.)บีบีซีรายงานว่าลิงอุรังอุตังที่หนีจากไฟป่าในอินโดนีเซียมักจะหนีเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อหาน้ำและอาหาร ซึ่งสร้างหวาดกลัวและเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้าน เป็นเหตุให้เกิดการทำร้ายกันบ่อยๆ หน่วยช่วยชีวิตสัตว์บอกว่าพวกเขาสามารถช่วยชีวิตอุรังอุตังแม่ลูกคู่นี้ไว้ได้ทันเวลาพอดีและที่แม่อุรังอุตังยังมีนมเหลือพอจะให้ลูกน้อยของมัน เจ้าหน้าที่ยิงยาสลบทั้ง 2 ตัวเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดก่อนจะนำมันไปปล่อยในเขตป่าคุ้มครองพิเศษเพื่อสังเกตการณ์อาการอย่างใกล้ชิดองค์กร IAR ได้ออกปฏิบัติการช่วยเหลืออุรังอุตังที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าในอินโดนีเซียทั้งหมด 12 ครั้งในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงที่วิกฤตไฟป่าลุกลามหนักจนลิงอุรังอุตังจำนวนมากต้องหนีออกจากถิ่นอาศัยของมัน
สำนักข่าวบีบีซีรายงานเรื่องน่าสลดใจของลิงอุรังอุตังแม่ลูกคู่หนึ่งในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตกของอินโดนีเซีย พวกมันอยู่ในสภาพผอมโซหมดเรี่ยวแรงเมื่อเจ้าหน้าที่องค์กรช่วยชีวิตสัตว์ไปพบในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง รายงานข่าวระบุว่าลิงแม่ลูกคู่นี้หนีไฟป่าเข้ามาในหมู่บ้าน แต่ชาวบ้านหวาดกลัวจึงปาก้อนหินใส่พวกมันและพยายามจะล่ามมันไว้
ต่างประเทศ
AFP,IAR,International Animal Rescue,กาลิมันตัน,ชาวบ้านทำร้ายอุรังอุตัง,ช่วยชีวิตอุรังอุตัง,ภาพอุรังอุตัง,ลิงอุรังอุตัง,อินโดนีเซีย,อุรังอุตัง,แม่ลูก,ไฟป่า
https://news.thaipbs.or.th/content/5981
ผู้ตรวจการแผ่นดินรับสอบปม นายกฯ-ครม. ถวายสัตย์ฯไม่ครบ
วันนี้ (6 ส.ค. 2562 ) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติรับคำร้อง ที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขอให้พิจารณาและส่งเรื่องพร้อมความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลปกครองวินิจฉัย ว่า การที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 เป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้วและได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานฯ เร่งตรวจสอบ ทั้งประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงเพื่อเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา เบื้องต้นที่ประชุมยังไม่ได้มีแนวทางว่าเรื่องดังกล่าวจะต้องส่งศาลพิจารณาจะต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลปกครอง เพราะต้องรอการรวบรวมประเด็นข้อเท็จจริง ประเด็นข้อกฎหมายจากทางฝ่ายกฎหมายก่อน รวมทั้งอาจต้องพิจารณาว่าต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงด้วยหรือไม่ แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้ตรวจฯจะเร่งพิจารณาเนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญและสังคมให้ความสนใจวิปฝ่ายค้านยืนยันกระทู้ถามสดปมถวายสัตย์ฯ-ระเบิดวิปรัฐบาลขอฝ่ายค้านเลื่อนกระทู้ถามนายกฯ
ผู้ตรวจการแผ่นดินรับสอบ พล.อ.ประยุทธ์-ครม. ถวายสัตย์ฯไม่ครบ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
การเมือง
ผู้ตรวจการแผ่นดิน,ถวายสัตย์ปฏิญาณฯ,พล.อ.ประยุทธ์,ครม.,คณะรัฐมนตรี,ถวายสัตย์
https://news.thaipbs.or.th/content/282542
นักเตะเลสเตอร์ ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพ วิชัย ศรีวัฒนประภา
วันนี้ (4 พ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีสวดพระอภิธรรมศพนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ ในคืนที่ 2 ซึ่งเริ่มขึ้นในเวลา 19.00 น. ก่อนหน้านี้ บริเวณศาลากวีนิรมิต หรือศาลากลางน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมนายวิชัย เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่และดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อต้อนรับกลุ่มบุคคลสำคัญ 1 ในนั้นได้แก่ ผู้บริหาร สตาฟ และทัพนักเตะจากสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.ผู้บริหาร สตาฟ และทัพนักเตะจากสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เดินทางถึงบริเวณศาลากวีนิรมิต นำโดยจอน รัดกิ้น ผู้อำนวยการฟุตบอลสโมสร โคล้ด ปูแอล ผู้จัดการทีม เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้า แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตู แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลัง เวส มอร์แกน กัปตันทีมทั้งนี้ นักเตะ สตาฟและผู้บริหารทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ทั้งหมดได้ออกเดินทางหลังจบเกมการแข่งขันในศึกพรีเมียร์ลีก โดยเอาชนะคาร์ดิฟ ซิตี้ไปได้เมื่อคืนวานนี้ 1-0 ประตู และเดินทางมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมนายวิชัย ประธานสโมสรฯ ผู้พลิกฟื้นสโมสรสู่ความสำเร็จขณะที่ปากทางเข้าศาลากลางน้ำ เจ้าหน้าที่ยังได้จัดซุ้มประดับดอกไม้สีขาว มีอักษรย่อ VS และข้อความว่า The Possible man สื่อความหมายถึง นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ว่าไม่มีอะไรที่ชายคนนี้ทำไม่ได้ จุดดังกล่าวยังเป็นจุดให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมสมทบทุน เพื่ออาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช แทนการมอบพวงหรีดทั้งนี้ ผู้คนจากหลากหลายวงการเดินทางมาร่วมสวดพระอภิธรรมต่อเนื่อง โดยจะมีถึงวันที่ 9 พ.ย.ในเวลา 19.00 น. รวม 7 วัน ส่วนกำหนดการพระราชทานเพลิงทางครอบครัวศรีวัฒนประภาจะแจ้งให้ทราบภายหลัง
เลสเตอร์ ซิตี้ นำทัพเยือนไทย ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ที่วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร
กีฬา
เลสเตอร์,วิชัย,ศรีวัฒนประภา,สวดพระอภิธรรม,วัดเทพศิรินทราวาส,วาร์ดี้,แคสเปอร์,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,วิชัย ศรีวัฒนประภา,เฮลิคอปเตอร์ตก,ฮ.ตก,เลสเตอร์ ซิตี้,คิง เพาเวอร์
https://news.thaipbs.or.th/content/275487
เก๋งชนท้ายรถขนขยะกทม.รถตู้ตามอัดท้ายซ้ำ รามอินทรา ดับ 1 สาหัส 1
เมื่อเวลา 05.40 น. วันที่ 24 ก.ค. ร.ต.อ.พงศภัคพล อันท้าว รองสว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนท้ายกัน จำนวน 3 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย บริเวณถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพล และเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง,ที่เกิดเหตุ เป็นบริเวณทางกลับรถ ก่อนถึงปากซอยรามอินทรา 14 (ซอยมัยลาภ) ฝั่งมุ่งหน้ามีนบุรี พบรถเก็บขยะ บจก.อิทธิพรอิมปอร์ต สำนักงานเขตบางเขน ยี่ห้อฮีโน่ สีเขียว หมายเลขทะเบียน 61-7946 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ด้านท้ายรถพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 4 กอ 8949 กรุงเทพมหานคร สภาพรถพังยับเยินจากการตรวจสอบภายในรถพบผู้บาดเจ็บ 2 ราย ติดอยู่ภายในตัวรถ เจ้าหน้าที่ต้องรีบใช้เครื่องมือตัดถ่างเพื่อนำผู้บาดเจ็บออกจากตัวรถ ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อต่อมา คือ นายราชัน ณ พัทลุง อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่จัดการที่ดิน ระดับ 5 องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนางจีรสุดา ณ พัทลุง อายุ 44 ปี โดยระหว่างเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ นายราชัน เสียชีวิตคาชุดข้าราชการ ส่วนนางจีรสุดา ได้รับบาดเจ็บช่วงขาทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากถูกคอนโซลหน้ารถกดทับ นำตัวส่งรพ.เปาโลเกษตร นอกจากนี้ ด้านท้ายรถยนต์ยังพบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก 2954 นนทบุรี ชนท้ายรถยนต์คันดังกล่าวอยู่ โดยมีนายชัย เปรมสุขใจ อายุ 32 ปี เป็นผู้ขับขี่รถตู้,นายชัย กล่าวด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ว่า ตนมีอาชีพขับรถตู้ รับจ้างทั่วไป ก่อนเกิดเหตุเวลา 20.00 น. (23 ก.ค.) ตนได้ไปทำงานมาและไปแวะพักนอนบ้านเพื่อนที่ จ.สระบุรี ก่อนจะตื่นขึ้นมา เวลา 03.00 น. ขับรถกลับบ้านย่านรามอินทรา เพื่อรับลูกไปส่งที่โรงเรียน ระหว่างทางตนเกิดอาการวูบก่อนจะหลับไป และรู้สึกตัวอีกทีตอนรถชนแล้ว ซึ่งตนยอมรับผิดว่า เกิดอาการหลับในจนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว,ด้านนายเกษม ธงสันเทียะ อายุ 43 ปี คนขับรถเก็บขยะ เขตบางเขน กล่าวว่าหลังจากที่ตนนำขยะไปทิ้งแถวสายไหม และกำลังขับรถเพื่อกลับไปยังสำนักงานเขตบางเขน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนได้จอดรอเพื่อกลับรถก่อนจะได้ยินเสียงดังมาจากด้านท้ายรถ ซึ่งถือว่า โชคดีที่วันนี้ ทุกคนนั่งภายในรถจึงทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากับ นายชัย ในข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพนำส่งนิติเวช รพ.ภูมิพล เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป.
เก๋งชนท้ายรถขนขยะกทม.ขณะจอดรอกลับรถ โดนรถตู้อัดท้ายซ้ำ ผัวดับคาชุดข้าราชการ เมียสาหัสติดภายใน ย่านรามอินทรา คนขับรถตู้ยอมรับหลับใน ตร.ตั้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าว,ทั่วไทย
รามอินทรา,รถเก๋งชนท้ายรถขยะ,ชนรถขยะ,รถตู้ชนรถเก๋ง,หลับใน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1013952
แบะท่าขอผ่อน โฮปเวลล์ ค่าโง่หมื่นล้าน
รฟท.รับ-กระเป๋าแฟบ รอหารือ รมว.คมนาคม,รถไฟจนแต้ม โฮปเวลล์ หารือฝ่ายกฎหมายด่วน พร้อมหอบเอกสารรายละเอียด แจง อาคม เสียงอ่อย คำสั่งศาลถือว่าสิ้นสุดแล้ว หากจะต้องใช้หนี้คงต้องขอประนอมหนี้-ผ่อนชำระ เหตุรถไฟไม่มีเงิน ทุกวันนี้ยังต้องกู้มาใช้จ่าย ขณะที่ รมว.คมนาคม ยอมรับ คำพิพากษา แต่ต้องทำตามขั้นตอน ให้ รฟท.รายงานบอร์ดก่อนเสนอกระทรวงรับทราบ รวมถึงรายงาน ครม.ด้วย ด้าน สามารถ ราชพลสิทธิ์ โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อโฮปเวลล์พ่นพิษ แนะทำ 3 ข้อ หวั่นไทยต้องเสียค่าโง่ไม่รู้จบอีกหลายโครงการ ส่วน พท.จี้ สุเทพ ร่วมรับผิดชอบค่าโง่โฮปเวลล์,หลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องจ่ายเงินชดเชยค่าบอกเลิกสัญญาสัมปทานกับบริษัท ,โฮปเวลล์, (ประเทศไทย) จำกัด รวมเป็นเงิน 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และคืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท โดยต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 180 วันนับตั้งแต่คดีถึงที่สุด ถือเป็นการจบมหากาพย์การต่อสู้คดีระหว่างเอกชนกับหน่วยงานรัฐที่ยืดเยื้อมากว่า 15 ปีนั้น,ต่อมาเมื่อวันที่ 23 เม.ย. เวลา 11.30 น. นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รถไฟฯ จะหารือร่วมกับฝ่ายกฎหมายถึงแนวทางความเป็นมาและรายละเอียดในโครงการการขนส่งทางรถไฟยกระดับในเขตกรุงเทพมหานครหรือโครงการโฮปเวลล์ ของบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด และแนวทางที่จะต้องปฏิบัติต่อไปในอนาคต เพื่อให้ภาครัฐเกิดความเสียหายน้อยที่สุด เบื้องต้นถือได้ว่าคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่ตัดสินให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟท.ต้องจ่ายเงินชดเชยค่าบอกเลิกสัญญาประมาณ 12,000 ล้านบาทแก่โฮปเวลล์ ภายใน 180 วันนับตั้งแต่คดีถึงที่สุดนั้นเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ ขั้นตอนต่อไปก็ต้องมาดูว่า รฟท. จะต้องจ่ายเงินชดเชยแบบไหนอย่างไร ซึ่งต้องมีการประเมินอย่างละเอียดในข้อกฎหมาย รวมถึงหารือกับกระทรวงคมนาคมอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยจะเข้าหารือและรายงานต่อนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เช่นกัน,คำตัดสินของศาลถือว่าสิ้นสุดแล้ว ดังนั้นแนวทางต้องดูว่า การจ่ายชดเชยค่าบอกเลิกสัญญานั้น ต้องทำอย่างไรบ้างและจะนำเงินส่วนไหนมาจ่าย ซึ่งในส่วนนี้ทางภาครัฐ กระทรวงคมนาคม รถไฟฯ จะหารือร่วมกัน โดยทางรถไฟฯอาจต้องขอประนอมหนี้หรือผ่อนชำระ เพราะไม่มีเงินมากพอที่จะจ่าย ขนาดปัจจุบันเงินที่ใช้ยังต้องกู้เงินมาเลย นายวรวุฒิกล่าว,ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวที่กระทรวงคมนาคมถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า ได้สั่งการให้ รฟท.รายงานคำพิพากษาดังกล่าวต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.เพื่อรับทราบและพิจารณาแนวทางการดำเนินงานก่อนรายงานเสนอกระทรวงคมนาคมรับทราบ ดังนั้นต้องรอข้อมูลจาก รฟท.ก่อน อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ ตนจะรายงานเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบด้วย โดยจะเป็นการรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร สถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อคำพิพากษาออกมาจนถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป,อย่างไรก็ดี วันเดียวกัน นายสามารถ ราช–พลสิทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อโฮปเวลล์ พ่นพิษ ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จ่ายค่าเสียหายให้โฮปเวลล์เป็นเงิน 11,888.75 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โครงการนี้มีผลบังคับตามสัญญาตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.2534 มีอายุสัมปทาน 30 ปี นับแต่วันที่สัญญามีผลบังคับ การพิพากษาโดยศาลปกครองไม่ว่าจะเป็นศาลปกครองชั้นต้น หรือศาลปกครองสูงสุดก็ตาม เป็นการพิจารณาดูว่ากระบวนการทำงานของอนุญาโตตุลาการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เช่น อายุความของคดี เป็นต้น แต่ไม่ได้ดูเนื้อหารายละเอียดว่าฝ่ายใดปฏิบัติตามสัญญาหรือประพฤติผิดสัญญา ซึ่งเป็นหน้าที่ของอนุญาโตตุลาการ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ศาลปกครองตรวจสอบลึกถึงคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสัญญาที่ระบุว่ากรณีมีข้อพิพาทเกิดขึ้น ให้นำข้อพิพาทเสนอให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดนั้น ต้องใช้เวลาในการวินิจฉัยชี้ขาดนาน เนื่องจากต้องผ่านทั้งการวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการและการพิพากษาของศาลปกครอง,นายสามารถระบุว่า ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นประโยชน์ของคู่สัญญา ขอเสนอแนะให้ระบุในสัญญาไว้ว่า กรณีมีข้อพิพาทเกิดขึ้นให้นำข้อพิพาทไปฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งมีตุลาการที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์คดีทางปกครองทุกประเภท ทำให้การไต่สวนได้ข้อเท็จจริงที่แท้จริงว่าฝ่ายใดปฏิบัติตามสัญญา หรือประพฤติผิดสัญญา การทำเช่นนี้มีข้อดีดังนี้ 1.การพิพากษาคดีใดคดีหนึ่งสามารถกระทำให้แล้วเสร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่ต้องผ่านการวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ 2.ประหยัดดอกเบี้ย เนื่องจากคดีสิ้นสุดได้เร็วกว่า ทำให้ระยะเวลาที่ต้องชำระค่าดอกเบี้ยลดลง เป็นประโยชน์ต่อผู้แพ้คดี 3.เป็นการพิจารณาพิพากษาที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีการถ่วงดุลการใช้อำนาจทั้งภายในองค์คณะตุลาการ และระหว่างองค์คณะกับตุลาการผู้แถลงคดี ทำให้ได้คำพิพากษาที่มีความยุติธรรมอย่างแท้จริง คือมีการกำหนดให้มี ตุลาการเจ้าของสำนวน คนหนึ่ง ซึ่งแต่งตั้งจากตุลาการในองค์คณะ ทำหน้าที่แสวงหาและรวบรวมข้อเท็จจริง และมีตุลาการอีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ในองค์คณะ เรียกว่า ตุลาการผู้แถลงคดี ทำหน้าที่ตรวจสอบ และถ่วงดุลการทำหน้าที่ของตุลาการเจ้าของสำนวนและองค์คณะ เป็นผลให้องค์คณะต้องใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยคดี และใช้อำนาจในการตัดสินคดีอย่างรอบคอบและถูกต้องมากยิ่งขึ้น เพราะหากสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชนยังคงเป็นสัญญาอนุญาโตตุลาการเช่นนี้ ในอนาคตเราจะต้องเสียค่าโง่จากอีกหลายโครงการ,ด้านพรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ด้วยว่า หากพิจารณาจากเหตุที่ทำให้ต้องเสียค่าปรับแล้ว จะให้ทั้ง 2 หน่วยงานต้องรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว เป็นการเหมาะสมและถูกต้องหรือไม่ เพราะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต รมว.คมนาคม เป็นผู้สั่งการบอกเลิกสัญญาทำให้ประเทศไทยต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนมากมายมหาศาล หากนายสุเทพศึกษาสัญญาให้ถี่ถ้วนก่อน จะทราบว่าเป็นการสมควรหรือไม่ที่รัฐบาลสมัยนั้นจะบอกยกเลิกสัญญา นอกจากจะทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเงินแล้ว ยังต้องสูญเสียการพัฒนาประเทศ และเสียเวลาในการแก้ไขปัญหารถติดของ กทม.และปริมณฑลมาเป็นเวลากว่า 20 ปี,ต่อมาเมื่อเวลา 19.45 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยที่กระทรวงคมนาคม ภายหลังหารือร่วมกับฝ่ายกฎหมาย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อหาแนวทางใน การแก้ไขปัญหาโครงการโฮปเวลล์ว่า รถไฟมารายงานข้อมูลในเบื้องต้นว่า คำสั่งศาลปกครองสูงสุดมีอย่างไรบ้าง ซึ่งตนจะรายงาน ครม.ในเบื้องต้นก่อน แต่ได้สั่งการให้ฝ่ายบริหาร รฟท. บอร์ด รฟท. ไปหาแนวทางในเรื่องข้อเท็จจริง, คำพิพากษา และผลที่จะดำเนินการต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร โดย บอร์ดรถไฟจะประชุมหารือในรายละเอียดในวันศุกร์ที่ 26 เม.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม คำสั่งศาลถือว่าสิ้นสุดแล้ว และการดำเนินการในโครงการนี้ ต้องบอกว่ามีมาตั้งแต่ในอดีต ตั้งแต่ปี 2533 ไม่ได้เกิดในรัฐบาลชุดนี้ แต่เมื่อมีปัญหารัฐบาลนี้ก็ต้องหาแนวทางแก้ไข แนวทางการชำระหนี้จากการบอกเลิกสัญญานั้น บอร์ดรถไฟจะต้องไปดำเนินการในรายละเอียด ซึ่งรูปแบบการชำระหนี้มีหลายแบบ บอร์ดรถไฟต้องไปเจรจา ส่วนยอดหนี้เป็นวงเงินรวมเท่าไหร่นั้น รถไฟฯก็ต้องจ่ายตามคำสั่งศาล ซึ่งเบื้องต้นทางกระทรวงคมนาคมและรถไฟฯยังไม่มีการสรุปมูลหนี้ที่จะต้องจ่ายชัดเจนว่าจำนวนเท่าไหร่
รถไฟจนแต้ม โฮปเวลล์ หารือฝ่ายกฎหมายด่วน พร้อมหอบเอกสารรายละเอียด แจง อาคม เสียงอ่อย คำสั่งศาลถือว่าสิ้นสุดแล้ว หากจะต้องใช้หนี้คงต้องขอประนอมหนี้-ผ่อนชำระ
ข่าว,เศรษฐกิจ
โฮปเวลล์,วรวุฒิ มาลา,อาคม เติมพิทยาไพสิฐ,การจ่ายชดเชย,รถไฟไม่มีเงิน,ผ่อนชำระ,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1551560
มะเขือเทศพันธ์ุใหม่ ต้านโรคใบหงิกเหลือง
ผลมะเขือเทศพันธุ์ใหม่,โรคใบหงิกเหลืองในมะเขือเทศ เกิดจากเชื้อไวรัส มีแมลงหวี่ขาวเป็นพาหะ ไม่เพียงจะทำให้ใบหงิก ต้นยังแคระแกร็น ติดดอกแล้วจะร่วงหล่น ไม่ออกลูก วิธีแก้ปัญหาต้องฉีดพ่นสารเคมีควบคุมแมลงหวี่ หรือใช้วิธีเขตกรรม หนีไปปลูกในช่วงที่แมลงไม่ระบาดมาก แต่ข้อเสียผลผลิตที่ออกมาจะน้อย,ดร.อรวรรณ ชัชวาลการพาณิชย์ นักวิจัยหน่วยวิจัยเทคโนโลยีการเกษตร ห้องปฏิบัติการวิจัยด้านพืช ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน บอกว่า ช่วงอากาศร้อนแห้ง มะเขือเทศจะเป็นโรคใบหงิกเหลืองได้ง่าย เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวทีมวิจัยจึงติดต่อขอมะเขือเทศจากอเมริกาใต้ ซึ่งมียีนต้านทานโรค (Ty3a) มาใช้ปรับปรุงพันธุ์,เนื่องจากอเมริกาใต้มีการศึกษามะเขือเทศสายพันธุ์ป่ามียีนต้านทานโรคใบหงิกเหลือง และนักวิจัยได้เอายีนกลุ่มนี้มาปรับปรุงสายพันธุ์จนสามารถปลูกเพื่อการค้าได้ ปี 2555 ทีมวิจัยของเราจึงได้ติดต่อขอนำยีนดังกล่าวมาพัฒนาปรับปรุงพันธุ์มะเขือเทศในบ้านเรา ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี แต่มีเงื่อนไข หลังปรับปรุงพันธุ์เพื่อการค้าสำเร็จห้ามส่งไปจำหน่ายที่อเมริกาใต้,กระบวนการพัฒนาปรับ ปรุงพันธุ์ เริ่มแรกจะนำมะเขือเทศที่มียีน Ty3a มาผสมพันธุ์กับมะเขือเทศพันธุ์สแนคสลิม 502 ซึ่งมีไลโคปีนสูง รสชาติอร่อย รูปทรงสวย กระทั่งได้ลูกผสม F1 ออกมา จากนั้นใช้เทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาช่วยในเรื่องการกระจายยีน และเพื่อให้รู้ว่ามะเขือเทศเมล็ดไหนมียีนสมบูรณ์พันธุ์ ด้วยใช้เทคโนโลยี ดีเอ็นเอ มาร์คเกอร์ (DNA Marker) มาใช้ในการคัดเลือกต้นที่มียีน Ty3a,จนได้ต้นที่ดีที่สุด นำกลับไปผสมซ้ำ กับสายพันธุ์สแนคสลิม 502 อีก 3 รอบ และนำไปทดสอบปลูกในพื้นที่จังหวัดนครปฐม, ขอนแก่น และเชียงใหม่ กระทั่งได้ต้นพันธุ์ที่นิ่ง โดยใช้เวลาปรับปรุงพันธุ์ 3 ปี จึงได้มะเขือเทศเชอรี่พันธุ์ใหม่ รับประทานผลสด ต้านทานโรคใบหงิกเหลือง ให้ลูกดก ให้ความหวาน 8-11 บริกซ์ มะเขือเทศรับประทานผลสดลูกเล็ก ได้รับคัดเลือกรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น จากสภาวิจัยแห่งชาติ (วช.) ประจำปี 2560 ขณะนี้อยู่ระหว่างขอรับรองขึ้นทะเบียนพันธุ์ใหม่ จากนั้นจะส่งต่อให้เกษตรกรปลูกได้ทันที.
โรคใบหงิกเหลืองในมะเขือเทศ เกิดจากเชื้อไวรัส มีแมลงหวี่ขาวเป็นพาหะ ไม่เพียงจะทำให้ใบหงิก ต้นยังแคระแกร็น ติดดอกแล้วจะร่วงหล่น ไม่ออกลูก วิธีแก้ปัญหาต้องฉีดพ่นสารเคมีควบคุมแมลงหวี่
null
โรคใบหงิกเหลือง,มะเขือเทศ,อรวรรณ ชัชวาลการพาณิชย์,สายพันธุ์สแนคสลิม 502,มะเขือเทศเชอรี่พันธุ์ใหม่
https://www.thairath.co.th/content/859000
สุรพศ ทวีศักดิ์: ประเวศ วะสี กับการไม่พูดถึงเสรีภาพ
ในปาฐกถาล่าสุด นิเวศทางปัญญาของมหาชนยุทธศาสตร์ทางปัญญาพาชาติออกจากวิกฤต (ดู ) ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี พูดถึงปัญหาสังคมไทยว่าเกิดจาก การที่ประเทศเต็มไปด้วยโครงสร้างอำนาจ แต่ขาดโครงสร้างทางสมองหรือโครงสร้างทางปัญญาที่พอเพียง ถึงจะพัฒนาด้านอื่นๆ เท่าใด ก็จะออกจากวิกฤตไม่ได้ถ้าไม่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทางปัญญา ผมอยากแลกเปลี่ยนบางประเด็นประเด็นแรก คุณหมอประเวศกล่าวว่า สังคมไทยเป็นสังคมอำนาจมาอย่างน้อยตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา การคิดเชิงอำนาจทำให้ประเทศไทยไม่สามารถออกจากสภาวะวิกฤตได้ สอดคล้องกับ บันทึกการเดินทางของอ็องรี มูโอต์ ในสยาม กัมพูชา ลาวและอินโดจีนตอนกลางส่วนอื่นๆ ตอนหนึ่งว่าที่ว่า อ็องรี มูโอต์น่าจะบันทึกคลาดเคลื่อน แต่ก็มีที่เขาตั้งข้อสังเกตไว้เกี่ยวกับทุกข์ของชาวสยามที่ทำให้เกิดคำถามว่าเป็นจริงหรือไม่ เช่นว่า ต่อให้เราเลิกระบบไพร่ ทาส และเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตยตั้งแต่ปี 2475 แล้ว แบบที่คุณหมอประเวศพูดถึงก็ยังดำเนินต่อมาผ่านการบริหารอำนาจของชนชั้นนำด้วยวิธีรัฐประหารเกือบยี่สิบครั้งที่บังคับให้ประชาชนต้องสยบยอมคุณหมอประเวศขยายความว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่ภายใต้ ทั้งโครงสร้างอำนาจการเมือง ราชการ การศึกษา ธุรกิจ ศาสนา ทุกระบบที่อยู่ภายใต้โครงสร้างอำนาจแนวดิ่งเรียนรู้น้อยขาดปัญญาและทำให้เกิดวิกฤตที่แก้ไม่ได้ประเด็นที่สอง เราจะออกจากวิกฤตสังคมโครงสร้างอำนาจแนวดิ่งอย่างไร คุณหมอประเวศเสนอว่า ระบบปัญญาเพื่อการพัฒนาประเทศให้พ้นวิกฤต ประกอบด้วย 8 องค์ประกอบหรือมรรค 8 ดังต่อไปนี้1. เครือข่ายปัญญามหาชนพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการทั้งจังหวัด (ปัญญามหาชนสร้างสวรรค์บนดินทุกถิ่นจังหวัด)2. อุดมศึกษาคือหัวรถจักรทางปัญญาพาชาติออกจากวิกฤต3. ปฏิรูปการเรียนรู้เพื่อยกระดับศักยภาพคนไทยอย่างก้าวกระโดด4. ปัญญาสุดยอดของชาติ – ปัญญานโยบายสาธารณะ5. กลุ่มเซลล์สมองเต็มประเทศ – กลุ่มจัดการการเรียนรู้ขนาดเล็ก6. ภาคธุรกิจกับการพัฒนาระบบปัญญา7. ระบบข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารที่ดี8. กลุ่มคลังสมองทางปัญญา (Wisdom Think Tank) โดย สกสว.ในปาฐกถามีรายละเอียดมาก และมีบทสรุปที่สวยงามว่า แต่ผมพยายามอ่านเพื่อค้นหาว่ามีไหมที่คุณหมอประเวศพูดถึง ปรากฏว่าไม่มีเลย เนื้อหาของปาฐกถาพยายามเสนอแบบครอบคลุมประเด็นต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ – จิตใจ – สังคม – สิ่งแวดล้อม – วัฒนธรรม – สุขภาพ – การศึกษา – ประชาธิปไตยทำให้ผมนึกถึงคำถามของอาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลว่า ถ้าเราไม่พูดถึง เราจะเปลี่ยนสังคมอำนาจไปสู่ประชาธิปไตยได้อย่างไร อาจารย์สมศักดิ์วิจารณ์แรงๆ ว่า คือเราพูดกันถึงปัญหาของสังคมอำนาจ โครงสร้างอำนาจแนวดิ่ง ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม การมีส่วนร่วม ลดความเหลื่อมล้ำ องค์รวม ไม่แยกส่วน พหุวัฒนธรรม ฯลฯแต่ทุกคนก็รู้ๆ กันทั้งนั้นว่าสังคมเรา ของปัญหาระดับรากฐานของการเมืองไทยที่ทำให้เราไม่สามารถจะบรรลุความฝันต่างๆ เหล่านั้น ทว่าเราเลี่ยงที่จะอภิปรายปัญหาการไม่มีเสรีภาพในการพูด การแสดงออก หรือการอภิปรายสาธารณะในประเด็นสถาบันกษัตริย์อันเป็นปัญหารากฐานการเมืองไทยหากดูจากประวัติศาสตร์สังคมอารยะ อย่างที่คุณหมอประเวศต้องการให้เกิดมันเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีการต่อสู้เพื่อให้มีเสรีภาพในการพูดความจริง ดังนั้น ในยุคแสงสว่างทางปัญญา (the Enlightenment) จึงไม่ใช่เป็นเพียงยุคแห่งการทุ่มเทเพื่อค้นคว้าและสร้างความรู้ใหม่ๆ ของบรรดานักคิดต่างๆ เท่านั้น หากยังเป็นยุคของการยืนยันเสรีภาพและความเสมอภาคไปพร้อมๆ กันด้วยผมยอมรับว่าสิ่งที่คุณหมอประเวศเสนอล้วนเป็นสิ่งที่ดี และเกิดจากเจตนาดีต่อส่วนรวมทั้งนั้น แต่การไม่ยืนยัน เกี่ยวกับรากฐานของปัญหาการเมืองไทย ไม่เคยเสนอชัดเจนเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ กองทัพ ระบบยุติธรรมเพื่อให้สังคมไทยพ้นจากวิกฤตโครงสร้างอำนาจแนวดิ่งเลย นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่อาจเข้าใจได้เพราะถ้าคุณยืนยันการ คุณย่อมรู้ว่าโครงสร้างอำนาจแบบไหนที่เป็นเงื่อนไขของแยกข้างแยกขั้วอย่างไม่เป็นธรรม
ในปาฐกถาล่าสุด นิเวศทางปัญญาของมหาชนยุทธศาสตร์ทางปัญญาพาชาติออกจากวิกฤต (ดู https://waymagazine.org/prawes-wasi-speech/) ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี พูดถึงปัญหาสังคมไทยว่าเกิดจาก
การเมือง,วัฒนธรรม
สุรพศ ทวีศักดิ์,ประเวศ วะสี,เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น,สถาบันกษัตริย์
https://prachatai.com/journal/2019/08/83879
สถานทูตเร่งช่วย นศ.ไทย ถูกอียิปต์จับกุมหวั่นเอี่ยวไอเอส
เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2562 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy Cairo ระบุว่า ตามที่นักศึกษาไทยในอียิปต์ จำนวน 1 คนได้ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอียิปต์จับกุมตัวไป เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2562 เนื่องจากพบภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอสได้ ประกอบกับการปรากฏคลิปนักศึกษาไทยผู้นั้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้สนับสนุนการปฎิวัติอิสลาม ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งนั้นสถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนเกี่ยวกับการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้1. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น และทราบว่าขณะนี้นักศึกษาไทยดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานความมั่นคงอียิปต์ เพื่อตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส หรือไม่อย่างไร2. เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2562 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ เพื่อขอเข้าเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาไทยในโอกาสแรก อีกทั้งยังได้ประสานกับผู้แทนระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์อย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งรัดติดตามเรื่องดังกล่าว และได้ทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ได้ส่งเรื่องต่อไปยังหน่วยงานความมั่นคงด้วยแล้ว3. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากผู้แทนระดับสูงของสำนักงานผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลาม (แกรนด์อิหม่าม) และหน่วยงานความมั่นคงของอียิปต์ เพื่อติดตามเรื่องและขอเข้าพบนักศึกษาไทยอีกทางหนึ่งด้วยแล้ว4. เพื่อเป็นการป้องปรามเหตุไม่พึงประสงค์ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกประกาศเตือนชาวไทยในอียิปต์ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มีความสุ่มเสี่ยง รวมทั้งได้ประสานงานกับสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโรในพระบรมราชูปถัมภ์ และสหชมรมนักศึกษาไทย ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ข้อควรทราบเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ให้กับนักศึกษาไทยในการใช้ชีวิตในอียิปต์ด้วยความระมัดระวังด้วยแล้ว อาทิ การไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองภายในของอียิปต์ ตลอดจนการไม่ยุ่งเกี่ยวกับประเด็นที่มีความสุ่มเสี่ยงด้านความมั่นคง เป็นต้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ มีความห่วงใยในความปลอดภัยของนักศึกษาไทยเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี เนื่องจากการจับกุมดังกล่าวเป็นประเด็นด้านความมั่นคงที่ทางการอียิปต์ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงต้องเร่งหาทางให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาดังกล่าว โดยคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสวัสดิภาพของนักศึกษาไทยเป็นสำคัญ ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตฯ จะประสานเพื่อขอความช่วยเหลือผ่านช่องทางอื่นๆ ที่สามารถกระทำได้เพิ่มเติมต่อไป
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร เร่งให้การช่วยเหลือนักศึกษาไทยคนหนึ่งที่ถูกทางการอียิปต์จับกุมตัว หลังพบภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือที่อาจเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส พร้อมเตือนคนไทยในอียิปต์ไม่ควรยุ่งเกี่ยวการเมืองภายในและประเด็นที่สุ่มเสี่ยงด้านความมั่นคง
ต่างประเทศ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร,ไอเอส,จับนักศึกษาไทย,อียิปต์
https://news.thaipbs.or.th/content/284643
เงินเฟ้อมิ.ย.ติดลบ เดือนที่ 6 พณ. ปัดเงินฝืด ชี้จากราคาน้ำมันร่วง
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน มิ.ย.58 อยู่ที่ 106.64 ลดลง 1.07% เมื่อเทียบกับ มิ.ย.57 เป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 นับตั้งแต่เดือน ม.ค.58 เป็นต้นมา แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าพบว่าเพิ่มขึ้น 0.10% จาก พ.ค.58 ส่งผลให้ CPI ช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.58) ติดลบ 0.81% จากการลดลงของดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 1.82% ตามการลดลงของหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร 6.46%,ขณะที่หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า สูงขึ้น 0.70% หมวดเคหสถาน สูงขึ้น 1.07% หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้น 1.09% หมวดการบันเทิงการอ่าน การศึกษาและการศาสนา สูงขึ้น 0.67% และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 2.18%,ทั้งนี้ เงินเฟ้อที่ปรับลดลง 1.07% (YoY) ยังไม่เป็นสัญญาณสะท้อนภาวะเงินฝืด เป็นผลจากราคาพลังงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งนโยบายการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศลดลง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัวช้า ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อลดลง,ขณะที่ค่าใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคประเภท อาหารสด อาหารสำเร็จรูป ค่าทัศนาจร และค่ารักษาพยาบาล ยังคงมีทิศทางที่สูงขึ้น สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมกลุ่มราคาอาหารสดและพลังงาน) หรือ Core CPI เดือน มิ.ย.58 ที่มีอัตราการขยายตัวสูงขึ้น 0.94% โดยกระทรวงพาณิชย์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับมาขยายตัวในระดับปกติช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558,สำหรับดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มในเดือน มิ.ย.58 อยู่ที่ 113.94 เพิ่มขึ้น 0.51% จาก มิ.ย.57 และเพิ่มขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าที่ไม่ใช่หมวดอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ที่ 102.69 หดตัว 1.90% จาก มิ.ย.57 แต่เพิ่มขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า,จะบอกว่าเข้าสู่ภาวะเงินฝืดก็คง ไม่ใช่ เพราะที่ผ่านมาการที่ดัชนีติดลบเป็นผลมาจากราคาน้ำมันลดลง และทำให้สินค้าที่เกี่ยวข้องปรับลดราคาลงตาม ซึ่งไม่ใช่ว่าประชาชนไม่ซื้อสินค้า หรือเศรษฐกิจเข้าภาวะเงินฝืดแต่อย่างใด,อย่างไรก็ดี มองว่าแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 3 ปีนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ คาดว่าจะอยู่ที่ -0.3% ถึง -0.5% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อ จะเริ่มปรับเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาส 4 หรือเดือนก.ย. แต่ก็มีโอกาสที่เงินเฟ้อจะปรับตัวเป็นบวกได้เร็วกว่าเดือนก.ย. ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในตลาดโลกเป็นสำคัญ โดยยังคงเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 58 ไว้ตามเดิมที่ขยายตัว 0.6-1.3%,ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เงินเฟ้อที่ติดลบต่อเนื่อง 6 เดือน ยังไม่เข้าข่ายเงินฝืดในเชิงนโยบายจนต้องกังวล แต่เป็นสัญญาณเงินฝืดในเชิงเทคนิค เพราะกำลังซื้อยังมีอยู่ แต่แผ่วบาง เพราะเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนมิ.ย.เป็นบวกในระดับต่ำกว่า 1% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกยังไม่ฟื้นตัวพอ แต่ในครึ่งปีหลังจะติดลบน้อยลง โดยไตรมาส 3 ยังติดลบอยู่ เพราะมีปัญหาภัยแล้ง,ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งลดค่าครองชีพ ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบภัยแล้ง การเร่งผลักดันส่งออก การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ และการลดอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบาย เพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อน และส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ.
พณ. เผยเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ลดลง 1.07% ติดลบต่อเนื่องเดือนที่ 6 ยันไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เป็นผลจากราคาพลังงานลดลง ไม่ใช่คนไม่ซื้อสินค้า คาดจะกลับมาบวกในไตรมาส 4 ชี้ขึ้นกับราคาน้ำมันโลก ยังคงเป้าเงินเฟ้อปีนี้โต 0.6-1.3%…
null
เงินเฟ้อติดลบ,เงินเฟ้อ,เงินเฟ้อติดลบเดือนที่6,เงินฝืด,พาณิชย์,ราคาพลังงาน,เงินเฟ้อติดลบจากราคาพลังงาน,ราคาอาหาร,กำลังซื้อ,ชนีราคาผู้บริโภค,CPI,เงินเฟ้อเดือนมิ.ย.,สมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์,ภาวะเงินฝืด,กดดันเงินเฟ้อ,คาดเงินเฟ้อขยายตัว,เงินเฟ้อปี58,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/508739
เรียกร้องตรวจสอบกะเหรี่ยงสูญหาย
คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความในพระบรมราชูปภัมถ์ ลงพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อสอบถามพยานที่อยู่ในช่วงเหตุการณ์สู้รบบริเวณชายแดนไทย-พม่านายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ระบุว่า หลังนายลูเธอร์ ฮะตู และนายจอร์นนี่ ฮะตู พี่น้องฝาแฝดชาวกระเหรี่ยง อดีตผู้นำกองทัพพระเจ้า หรือ ก๊อดอาร์มี่ ทำหนังสือร้องเรียนให้สภาทนายความ ช่วยติดตามผู้สูญหาย ชาวชาวกระเหรี่ยงที่หนีภัยสู้รบ มาอยู่ในประเทศไทย และถูกทหารไทยควบคุมตัวหายไป 55 คน เมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมารวมทั้งตรวจสอบเรื่องกระเหรี่ยงก๊อดอาร์มี่ หรือกองทัพพระเจ้าที่บุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2543 ที่ผ่านมา ซึ่งถูกจับตาย 10 คน นายลูเธอร์ ฮะตู อดีตผู้นำกองทัพพระเจ้า บอกว่า ผู้ที่ถูกจับตาย 10 คน มีคนของกองทัพพระเจ้าหรือก็อดอาร์มี่เพียง2 คน ส่วนที่เหลือเป็นนักศึกษาพม่า
ญาติผู้สูญหายชาวกระเหรี่ยงในจังหวัดราชบุรี ร้องเรียนให้คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ติดตามผู้ที่สูญหายในช่วงที่มีการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-พม่า เมื่อปี 2543 ที่ผ่านมา
ภูมิภาค
กระเหี่รยง,ก๊อดอาร์มี่,ชายแดน,ราชบุรี,สูญหาย
https://news.thaipbs.or.th/content/208630
ทำความรู้จักรสสัมผัสที่แตกต่างกับ 4 ชนิดของ ‘ไวน์แดง’ เพื่อการจิบไวน์ให้อร่อยเหาะ
ไวน์แดงทุกขวดคงเหมือนกันหมดแหละมั้ง? ไวน์แดงขวดนั้นต่างกับขวดนี้ยังไง? แดงเข้มกับแดงอ่อนเหรอ? นี่ไวน์แดงจริงหรือเปล่า ทำไมไม่เห็นเข้มข้นเลย หลากความสงสัยในเรื่องรสชาติของ ไวน์แดง เกิดขึ้นมากมาย อันเนื่องมาจากชนิดที่หลากหลายของไวน์แดงบนโลกใบนี้ และเมื่อยิ่งคุณรู้ คุณก็จะยิ่งสนุกมากขึ้น เพราะนอกจากจะพบกับประเภทและชื่อเรียกที่ไม่คุ้นหูแล้ว เจ้าไวน์เหล่านี้ก็ต่างมาจากหลากแหล่งผลิต มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่ไม่เหมือนกัน และที่สำคัญ การจับคู่ไวน์แดงสักประเภทเข้ากับอาหารสักชนิด ก็ช่างเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทีเดียว เราพาไปสำรวจแหล่งผลิตไวน์ที่บทความ เก่าแล้วไง ใหม่แล้วไง? ทำความเข้าใจเรื่อง ไวน์โลกเก่า และ ไวน์โลกใหม่ที่ว่าด้วยเรื่องของกรรมวิธีการผลิตไวน์ในสถานที่ที่ต่างกัน และแหล่งปลูกองุ่นในบทความ อุ่นหรือเย็นเกี่ยวอะไรกับความอร่อย? ว่าด้วยเรื่องอากาศกับรสของไวน์ ที่พาคุณไปสำรวจภูมิอากาศที่ส่งผลต่อรสชาติของไวน์ ครั้งนี้ THE STANDARD เดินทางมาถึงกระบวนการของการทำความเข้าใจในรสชาติของไวน์แดงอย่างละเอียด เพื่อจะให้คุณได้รู้และเข้าใจ พร้อมเปิดทุกโสตประสาทของคุณให้ได้รู้ถึงความแตกต่าง โดยเราหยิบยกเอาไวน์แดงทั้ง 4 ชนิด มาให้คุณได้ทำความรู้จักกันลึกๆ โดยแบ่งเป็นตัวแทนจากระดับความเข้มข้นของวารีสีแดงหลากเฉด พร้อมแล้วไปกันเลยบางเบาไปกับ ปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) เริ่มต้นด้วยไวน์แดงประเภทปิโนต์ นัวร์ โดยไวน์ประเภทนี้จะใช้องุ่นสายพันธุ์คลาสสิกที่ใช้ชื่อเดียวกันแบบเพียวๆ ไม่เจือปนด้วยองุ่นสายพันธุ์อื่นเท่าไรนักในการผลิต คาแรกเตอร์ของไวน์คล้ายจะเป็นความเย้ายวน เซ็กซี่ และมีเสน่ห์ด้วยกลิ่นเบอร์รีหลากชนิด กุหลาบ กานพลู ชะเอม และเครื่องเทศต่างๆ มีสีแดงวาวสดใสและมีมวลน้ำหนักเบา โดยไวน์ปิโนต์ นัวร์ นั้นผลิตกันอย่างมากในประเทศแถบอากาศหนาวเย็นถึงปานกลาง เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี เป็นต้น คู่ขวัญของไวน์ปิโนต์ นัวร์ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องความเบาของมวล ดื่มง่ายๆ นั้น มักเข้ากับอาหารจานเนื้อประเภท เนื้อแกะ ไก่ย่าง แซลมอน หรือว่าจะเป็นชีสนมแพะที่มีกลิ่นและรสเข้มข้น หรืออาหารที่มีรสสัมผัสที่ค่อนข้างเป็นครีมนิดๆ ชีสหน่อยๆ จะครองคู่กันไปได้ดีเชียวชนิดที่ใกล้เคียงกัน – การ์เมย์ (Garmay) ให้รสชาติที่เบาบางกว่าปิโนต์ นัวร์ มีความเป็นน้ำผลไม้มากกว่าจะเป็นไวน์ ให้กลิ่นผลไม้ ดอกไม้ และด้วยปริมาณแทนนินที่ต่ำ ความเปรี้ยวที่สูง การ์เมย์จึงดื่มคู่กับอะไรก็อร่อย – คาเบอร์เนต ฟรังก์ (Cabernet Franc) เพิ่มความเข้มข้นจากปิโนต์ นัวร์มาสักนิดด้วยมวลที่หนากว่า มีความเปรี้ยวสูง ความขมที่ต่ำ เหมาะจะจับคู่กับอาหารจำพวกเนื้อย่าง หรือจานที่มีผักเป็นหลักจิบรสเลิศของซินแฟนเดล (Zinfandel) หากคุณเป็นคอแอลกอฮอล์ เราแนะให้ลิ้มรสไวน์ประเภทนี้เสียหน่อย เพราะซินแฟนเดลอบอวลไปด้วยรสชาติหวานข้นของผลไม้และมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูง มีความเข้มข้นของมวลในระดับปานกลางไม่ถึงสูง โดยมีสีออกโทนแดง เจือจางด้วยสีม่วงนิดๆ ด้วยไวน์ซินแฟนเดลนี้มักจะผลิตในเขตภูมิอากาศร้อนอย่างเช่นรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกา หรือว่าในตอนใต้ของประเทศอิตาลี ดังนั้นจึงล้วนแต่ให้รสชาติที่สว่าง สดใส คล้ายกับผลไม้พวกราสป์เบอร์รีและเครื่องเทศบางชนิด คู่เคียงของซินแฟนเดล ส่วนมากซอมเมอลิเยร์จะแนะให้จิบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่ปรุงรสด้วยถั่วหรือเครื่องเทศอย่างเช่น บาร์บีคิว และยังเข้ากันได้ดีกับอาหารอิตาเลียนทุกประเภทอีกด้วย (ก็ผลิตในอิตาลีด้วยนี่)ชนิดที่ใกล้เคียงกัน เกรอนาช (Grenache) ไวน์สีชมพูเจือแดงเข้มระเรื่อ เจ้าของปริมาณความขม มวลของไวน์และความเปรี้ยวในระดับปานกลาง ให้รสชาติคล้ายสตรอว์เบอร์รีและซิตรัส ทานคู่กับอาหารสเปนแล้วว่ากันว่าอร่อยเลิศเป็นที่สุดเข้มข้นขึ้นมาอีกนิดกับชีราซ (Shiraz) ไวน์แดงอีกชนิดที่รสชาติอยู่ในระดับเข้มข้นสูงก็คือชีราซ ซึ่งเป็นไวน์แดงที่รสชาติยอดเยี่ยม ผลิตกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ทั้งในออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา และหากเอาเฉดสีของไวน์มาเทียบดูแล้ว เจ้าชีราซนี้จะครองตำแหน่งสีไวน์แดงที่เข้มที่สุด ดำขลับโดยมีความคล้ายคลึงกับสีม่วงเข้ม คาแรกเตอร์รสชาติของไวน์ชนิดนี้ขึ้นชื่อว่าเข้มข้นมาก ลุ่มลึกด้วยรสชาติของช็อกโกแลตเข้มๆ กาแฟ ผลไม้รสชาติเข้มๆ ไปจนถึงพริกไทยดำ รสสัมผัสจะให้ความเผ็ดบางๆ เมื่อตอนปลายรส ไวน์ชีราซนั้นจะมีความขมระดับปานกลาง มีความเปรี้ยวที่สูง และมีมวลของไวน์ที่ค่อนข้างหนา เข้มข้น ดังนั้นมักจะแนะนำให้ทานคู่กับจานอาหารที่มีรสชาติหนักใกล้ๆ กัน เช่น เนื้อเสต๊ก หรืออาหารที่หนักครีมและชีส และไม่ควรทานคู่กับอาหารที่มีรสชาติเผ็ด เพราะจะสูญเสียความเผ็ดบางๆ ของรสชาติไวน์ไปสตรองให้ถึงใจกับคาเบอร์เน็ต ซาวิญง (Cabernet Sauvignon) ต่อกันด้วยไวน์แดงที่รสชาติอยู่ในระดับเข้มข้นสูง เข้มข้นแค่ไหนให้ลองดูที่สีของเจ้าไวน์ขวดนี้ ที่มวลของมันแทบจะเป็นสีดำสนิท แต่ยังมีประกายวาวของสีม่วงเฉดเข้มโดดเด่นออกมา คาแรกเตอร์รสชาติของไวน์คล้ายจะเป็นความเข้มแข็ง ดุดันมากหน่อย ด้วยรสชาติของเชอร์รี่ดำ พริก และมะกอก ทั้งยังเป็นไวน์ประเภทที่มีแทนนินหรือความขมสูงมาก อันเนื่องมาจากองุ่นพันธุ์ตามชื่อประเภทที่ส่วนใหญ่ปลูกในเขตอากาศอบอุ่นอย่างในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนใต้ของฝรั่งเศส ประเทศชิลี หรืออาร์เจนตินา เป็นต้น ด้วยสภาพอากาศจึงทำให้ได้องุ่นที่เปลือกหนาและมีความสุกไม่มากนักมาทำเป็นไวน์ คู่ขวัญของไวน์คาเบอร์เน็ต ซาวิญง นั้นจะต้องมาคู่กับจานเนื้อแดงต่างๆ ทั้งหมูหรือเนื้อก็ตาม หรือว่าจะจิบคู่กับชีสรสชาติเข้มๆ อย่างเชดดาร์ชีสก็จะให้รสชาติที่เหมาะสมกัน ดื่มด่ำกับรสชาติของไวน์แดงทั้ง 4 ชนิดยอดฮิตกันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณผู้อ่านต้องลองไปพิสูจน์และไปจำแนกดูเอาว่า ไวน์แดงขวดไหน มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ไม่ไกลบ้านเราก็มีไวน์อร่อยน่าลองอย่างไวน์ออสเตรเลียอยู่หลายชนิด ลองแหวกกฎ แล้วหยิบชีราซดีๆ สักขวด มาลองชิมคู่กับอาหารรสจัดของบ้านเราดูก็ได้ บางทีอาจจะเสริมรสกันให้อร่อยเหาะไปเลยก็ได้ ใครจะไปรู้ภาพประกอบ:อ้างอิง:
ปิโนต์ นัวร์ มีความโดดเด่นในเรื่องความเบาของมวล ดื่มง่ายๆ ควรต้องมาคู่กับจานเนื้อประเภท เนื้อแกะ ไก่ย่าง แซลมอน หรืออาหารที่มีรสสัมผัสค่อนข้างเป็นครีมนิดๆ ชีสหน่อยๆ จะครองคู่กันไปได้ดีเชียวชีราซ เป็นไวน์แดงที่รสชาติเข้ม ผลิตกันหลายแห่งทั่วโลก ทั้งในออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา และหากเอาเฉดสีของไวน์มาเทียบดูแล้ว เจ้าชีราซนี้จะครองตำแหน่งสีไวน์แดงที่เข้มที่สุด ดำขลับโดยมีความคล้ายคลึงกับสีม่วงเข้ม และมีคาแรกเตอร์ที่ขึ้นชื่อว่าเข้มข้น และลุ่มลึกด้วยรสชาติมากสตรองให้ถึงใจกับคาเบอร์เน็ต ซาวิญง เข้มข้นแค่ไหนให้ลองดูที่สีของไวน์ที่แทบจะเป็นสีดำสนิท แต่ยังมีประกายวาวของสีม่วงเฉดเข้มโดดเด่นออกมา คาแรกเตอร์รสชาติของไวน์คล้ายจะเป็นความเข้มแข็ง ดุดันมากหน่อย ด้วยรสชาติของเชอร์รี่ดำ พริก และมะกอก
null
null
https://thestandard.co/jacobscreek-redwine-taste/
บิ๊กป้อม ปัดต่อสาย เฉลิมชัย ทาบ ปชป.ร่วมตั้งรัฐบาล
ถก 7 ธ.ค.นี้,เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร ประสาน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่อชวนเป็นพันธมิตรทางการเมืองว่า ไม่จริงและไม่ได้เจอกับนายเฉลิมชัยเลย ไม่ได้พูดอะไรกันเลย,เมื่อถามว่า ถ้าไม่ใช่ นายเฉลิมชัย แล้วได้พูดคุยกับใครบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้พูดกับใครเลยในพรรคประชาธิปัตย์ พูดเรื่องอะไร ตนไม่ได้อยู่พรรคการเมือง และไม่ใช่มือประสาน ข่าวที่เกี่ยวกับ นายเฉลิมชัย ตนก็เพิ่งทราบ และการพูดคุยเป็นเรื่องของพรรคการเมือง พรรคเขาจะพูดกับใครก็ว่าไป ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง,เมื่อถามว่า หากมีคนขอให้ช่วยประสานในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ประสาน ตนจะเกี่ยวอะไร จะไปประสานกับใคร ตนไม่รู้จักใครเลย เมื่อถามว่า การปล่อยข่าวออกมาลักษณะนี้ มองว่าผู้ปล่อยมีความต้องการอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ เขาจะดิสเครดิตตนหรือไม่ ยืนยันตนไม่ได้พูด และไม่ได้เจอหน้า นายเฉลิมชัย เลย และที่ผ่านมาตนเคยเป็นรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ 3 ปี ก็รู้จักกัน นายเฉลิมชัยตนก็รู้จัก แต่วันนี้ไม่มีเบอร์โทรกันแล้ว,เมื่อถามว่า หลังเลือกตั้งจะเข้าไปช่วยประสานในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ต้องช่วย ตนจะไปเกี่ยวอะไรด้วย เพราะตนออกไปแล้ว ส่วนหลังเลือกตั้งจะเล่นการเมืองต่อหรือไม่นั้น ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกฯ และเขาจะมาขอให้ตนทำงานหรือไม่ หากมีก็ต้องดูว่าจะให้ตนช่วยอะไร เป็นสิ่งที่ตนทำได้หรือไม่ คงต้องรอให้เขามาเชิญก่อน,เมื่อถามย้ำว่า ถ้านายกรัฐมนตรีเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำงานการเมืองต่อหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ และต่อให้นายกฯ เป็นคนหน้าเดิมก็ไม่รู้ว่าเขาจะเชิญหรือไม่ ทั้งนี้ตนบอกไปตั้งนานแล้วว่าไม่อยากเล่นการเมือง,นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีหลายพรรคการเมือง ปฏิเสธเข้าร่วมหารือกับ คสช.และ กกต. วันที่ 7 ธ.ค.นี้ว่า พรรคการเมืองที่เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่หรือเล็ก ก็ถือเป็นพรรคการเมือง การที่บางพรรคไม่เข้าร่วมจะไม่ส่งผลอะไรกับการเลือกตั้ง วันนี้คนที่อยากเลือกตั้งก็ยังอยากเลือกตั้งอยู่ เมื่อจะมีการเลือกตั้งเขาจะไม่เลือกตั้งหรืออย่างไร ยืนยันว่า คสช.ไม่ได้มีคำตอบไว้ก่อนเหมือนที่หลายฝ่ายกังวล เรายังไม่คุยจะมีคำตอบได้อย่างไร ตนไม่อยากพูดอะไรมาก พรรคการเมืองไหนอยากมาก็มา ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา เพราะเราเชิญทั้งหมด คนไม่มาก็คงไม่รู้เรื่องว่าเขาพูดอะไรกัน และในวันดังกล่าวจะยังไม่รู้วันเลือกตั้งที่แน่นอน เพราะถือเป็นเรื่องของ กกต.ไปล้วงลูก กกต.ไม่ได้
บิ๊กป้อม ปัดประสาน เฉลิมชัย ทาบ ประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาล ยันไม่เกี่ยว ปัดเป็นมือประสาน ย้ำไม่เกี่ยวข้องการเมือง กั๊กเล่นการเมืองต่อหลังเลือกตั้ง ยักไหล่พรรคการเมืองเมินร่วมเวที
เลือกตั้ง
ประวิตร วงษ์สุวรรณ,ประชาธิปัตย์,ตั้งรัฐบาล,เฉลิมชัย ศรีอ่อน,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1436926
คนงานยางแอฟริกาใต้นัดหยุดงาน ต่อรองกับบริษัทยักษ์ใหญ่
และยกเลิกบริษัทเหมาค่าแรงเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของสหพันธ์แรงงานนานาชาติของคนงานในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ยาง พลังงาน เหมืองแร่ และคนงานทั่วไป (ICEM) รายงานว่าสมาชิกสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมยาง 6000 คนในแอฟริกาใต้นัดหยุดงานเป็นวันที่ 8 เพื่อต่อรองกับบริษัทยางยักษ์ใหญ่ของโลก ในขณะที่การเจรจายังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง สหภาพแรงงานและสมาคมนายจ้างอุตสาหกรรมยางมีข้อพิพาทแรงงานตั้งแต่กลางเดือน สิงหาคม อันเกี่ยวเนื่องกับการเจรจาต่อรองข้อตกลงสภาพการจ้างฉบับใหม่ ว่าด้วยค่าจ้าง ระยะเวลาการทำข้อตกลง ปัญหาการจ้างงานสัญญาระยะสั้น เหมาช่วง เหมาค่าแรง และสภาพการจ้างอื่นๆสมาชิกสหภาพแรงงานทำงานอยู่ในบริษัท Bridgestone/Firestone Continental Goodyear และ Apollo-Dunlop โดยก่อนหน้านี้ บริษัท Bridgestone และ Continental ประกาศปิดงานสมาชิกสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมยางก่อนการประกาศนัดหยุดงานของสหภาพแรงงานสมาคมนายจ้างต้องการทำข้อตกลงสามปี ในขณะที่สหภาพต้องการทำข้อตกลงปีเดียว ในเรื่องการขึ้นค่าจ้าง ทั้งสองฝ่าย มีข้อเสนอที่แตกต่างกันอย่างมาก สหภาพเสนอการขึ้น 11% ในปีแรก ในขณะที่ฝ่ายนายจ้างเสนอ 8.5% ยกเว้น Bridgestone ที่เสนอ 7% สมาคมนายจ้างเสนอการขึ้นค่าจ้างของปีที่สองและสามตามดัชนีราคาผู้บริโภคบวก 1% หรือ 5% โดยจะเลือกอัตราที่สูงกว่าในการปรับค่าจ้างสหภาพแรงงานเรียกร้องสิทธิการปรึกษาหารือกับสหภาพแรงงานก่อนที่บริษัทจะทำสัญญาการจ้างงานแบบชั่วคราวทุกประเภท และให้สมาคมนายจ้างยางยกเลิกการทำธุรกิจกับบริษัทนายหน้าค้าแรงงานใน อุตสาหกรรมยางทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้บรรจุคนงานชั่วคราวเป็นพนักงานประจำ หลังจากที่คนงานทำงานครบ 6 เดือน ประเด็นอื่นๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้ ได้แก่ เรื่องการที่สหภาพเรียกร้องให้มีการใช้วัตถุดิบในประเทศในการผลิต 70% ข้อ เรียกร้องเรื่องค่าจ้างอัตราพิเศษสำหรับงานที่ทำในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดของคนงาน และการจัดการศึกษาให้กับคนงานในวันทำงานโดยให้นับเป็นเวลางานข้อตกลงฉบับเดิมที่ทำระหว่างสหภาพแรงงานกับสมาคมนายจ้างยาง สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2553วันที่ 1 กันยายน สหภาพแรงงานประกาศการนัดหยุดงานต่อสมาคมนายจ้างผู้ค้าปลีกในกลุ่มยานยนต์ และสมาคมนายจ้างผู้ค้าปลีกในกลุ่มเชื้อเพลิง คนงาน 70000 คน/สมาชิกสหภาพแรงงานที่ทำงานในอู่รถยนต์ และร้านขายยางและอะไหล่ยานยนต์ ปั้มนำมัน ทั่วประเทศเข้าร่วมการนัดหยุดงานครั้งนี้นอกจากข้อเรียกร้องเรื่องชั่วโมงการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สหภาพแรงงานเรียกร้องการปรับค่าจ้าง 15% ให้กับคนงานทุกคนในอุตสาหกรรมอะไหล่ ร้านค้าปลีกยานยนต์ อู่ซ่อมรถ และปั้มนำมัน ซึ่งเป็นคนงานที่ได้รับค่าจ้างตำมาก สมาคมนายจ้างเสนอการปรับ 6.6% ให้กับคนงานในกลุ่มนี้ จนถึงวันนี้ Volkswagen ได้ปิดการผลิตชั่วคราวเนื่องจากขาดแคลนยางและอะไหล่รถยนต์การนัดหยุดงานครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากสมาชิกสหภาพแรงงานยานยนต์ 31000 คน นัดหยุดงานในเดือนสิงหาคม ทำให้โรงงานผลิตรถยนต์ต้องหยุดการผลิต 8 วัน (จนถึงวันที่ 19 สิงหาคม) สมาชิกสหภาพแรงงานที่นัดหยุดงานในเดือนสิงหาคม ทำงานในบริษัทผลิตรถยนต์ในแอฟริกาใต้ 7 บริษัท (ซึ่งนายจ้างทั้ง 7 บริษัทเป็นสมาชิกของสมาคมนายจ้างยานยนต์)
คนงานทำยาง 6000 คนในแอฟริกาใต้หยุดงานต่อรองกับบริษัท Bridgestone/Firestone Continental Goodyear และ Apollo-Dunlop ต้องการเจรจาต่อรองข้อตกลงสภาพการจ้างให้ดีขึ้น ปรึกษาสหภาพในการรับคนงานชั่วคราว
ต่างประเทศ,แรงงาน,เศรษฐกิจ
คนงานในอุตสาหกรรมยาง,แอฟริกาใต้
https://prachatai.com/journal/2010/09/31090
นายทุนเหิมหนัก โค่นไม้ใหญ่ป่าสงวน นอภ.บันนังสตา สั่งตรวจยึด-เฝ้าระวัง
จากกรณีที่ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา แจ้งว่า มีพื้นที่ป่าไม้ในเขตป่าสงวน ซึ่งอยู่ในความดูแลของนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนังสตา ที่บ้านตลาดนิคม ได้ถูกกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้บุกรุกเข้าไปตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนหลายสิบต้น บริเวณป่าต้นน้ำของนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ ม.6 บ้านตลาดนิคม ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าในช่วงหน้าฝนนี้อาจเกิดน้ำป่าไหลหลากได้ เนื่องจากป่าไม้ถูกทำลาย,การตรวจสอบในเบื้องต้น มีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกตัดโค่นล้มลงจำนวนหลายสิบต้น ทราบว่าต้นไม้ดังกล่าว เป็นไม้เนื้อแข็งประเภทไม้สะย้า ไม้หลุมพอ โดยมีร่องรอยของการใช้เลื่อยยนต์เข้าไปลักลอบตัดโค่นโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย แม้พื้นที่ป่าไม้บริเวณดังกล่าวนั้นจะเป็นพื้นที่อนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ตามระเบียบของกรมป่าไม้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาการบุกรุกโค่นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำบ้านตลาดนิคมฯ เคยมีกลุ่มผู้ตัดไม้ลักลอบเข้าตัดโค่นไม้ขนาดใหญ่ ทั้งการแปรรูปไม้แผ่น แล้วลักลอบนำออกจากพื้นที่ และการลักลอบโค่นถางป่าไม้จับจองเป็นอาณาเขต และทำการเกษตรปลูกยางพารา ปลูกไม้ผล ประเภทไม้ยืนต้นทดแทน ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ป่าต้นน้ำ จึงทำให้ในห้วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาความแห้งแล้งขึ้นในพื้นที่,นอกจากนี้การดูแลพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ ก็ไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้การดูแลอย่างจริงจัง อีกทั้งชาวบ้านเองก็หวาดกลัวกับอิทธิพลของกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ ที่ไม่ได้ยำเกรงต่อกฎหมาย จึงทำให้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำถูกบุกรุกอย่างหนัก,ต่อมานายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอบันนังสตา จ.ยะลา พร้อมด้วย นายพายัพ คชพลายุกต์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จ.ยะลา ร.ต.ท.อรุณ กุลกัลยา รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าวหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 นายสุนทร รอดเนียม ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ยล.4 กำลัง อ.ส.บันนังสตา ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เข้าประชุมหารือวางแผนเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุก โดยภายหลังการวางแผนดำเนินการ  หน่วยกำลังทั้งหมดนายอำเภอบันนังสตา จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำที่ถูกบุกรุกพบว่า พื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์อยู่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ ซึ่งอยู่ในความดูแลของนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนัสตา และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 บันนังสตา โดยพบว่ามีการแผ้วถางเพื่อจับจองเป็นพื้นที่ทำการเกษตร นอกจากนี้ยังพบต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนเกือบ 10 ต้น เช่น ไม้สะหยา ไม้เปลียง ไม้ตะเคียนทราย ได้ถูกโค่นด้วยเลื่อยยนต์ล้มระเนระนาด,นายอำเภอบันนังสตาจึงได้ประสานให้ ร.ต.ท.อรุณ กุลกัลยา รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 พร้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ยล.4 บันนังสตา ทำการตรวจสอบและทำการตรวจวัดปริมาณพื้นที่ที่ถูกบุกรุก พร้อมติดป้าย ทวงคืนผืนป่าให้พ่อ ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบดังกล่าวพบว่า มีพื้นที่ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ ตาม พ.ร.บ.การคุ้มครองป่าไม้ ได้ถูกบุกรุกจำนวน 3 แปลง ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบและยึดพื้นที่ป่าดังกล่าวคืน,นายธราวุธกล่าวว่า พื้นที่ป่าดังกล่าวได้ถูกบุกรุกจากผู้ลักลอบเข้าไปแผ้วถางและโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจยึดพื้นที่ป่าไม้ดังกล่าวคืนมา และได้สั่งการให้ตั้งชุดเจ้าหน้าที่ร่วมกับคนในชุมชน เป็นชุดเฝ้าระวังพื้นที่ป่าไม้ และจะเร่งดำเนินการปลูกป่าทดแทน เพื่อฟื้นฟูป่าให้กลับคืนสภาพโดยเร็ว นอกจากนี้ในส่วนของผู้กระทำความผิดนั้น ได้สั่งการให้ผู้ปกครองนิคมฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ดูแลรับผิดชอบ ได้ติดตามตัวผู้กระทำความผิด โดยให้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษทางกฎหมายต่อไป.
เหิมเกริม!! กลุ่มนายทุนรุกตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนังสตา ลอบโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่นับสิบต้น ชาวบ้านเกรงได้รับผลกระทบน้ำท่วม ด้านนายอำเภอเร่งเข้าตรวจสอบ พร้อมตั้งเจ้าหน้าที่ร่วมกับคนชุมชนเฝ้าระวังพื้นที่
null
ป่าสงวนบันนังสตา,บุกรุกป่า,ตัดไม้,ป่าต้นน้ำบ้านนิคม,ธราวุธ ช่วยเกิด
https://www.thairath.co.th/content/798877
กระแตอาร์สยาม แจ้งความหลังมือดี ปลอมไอจีขายกระเป๋า หลอกเงินแฟนคลับ
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.59 น.ส.นิภาพร บุญยะเลี้ยง หรือ กระแต อาร์สยาม นักร้องลูกทุ่งชื่อดังพร้อมผู้จัดการส่วนตัว เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.อลงกรณ์ ศิริสงคราม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย หลังมีบุคคลปลอมอินสตาแกรม หรือไอจี ใช้ชื่อ KT_Rsiam พร้อมลงเบอร์ติดต่อเพื่อประกาศรับงานแสดงต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงในการซื้อสินค้าที่โพสต์ลงในอินสตาแกรมอีกด้วย,กระแต กล่าวว่า ที่เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีมีบุคคลปลอมแปลงสร้างอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กปลอมโดยแอบอ้างเป็นตนเอง ซึ่งเมื่อต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ผู้จัดการของตนได้รับการว่าจ้างมาจากคนร้ายที่เป็นหญิง ให้ตัวเองรีวิวสินค้ากระเป๋าในราคา 50,000 บาท จากนั้นคนร้ายได้ส่งสลิปโอนเงินมาให้จำนวน 50,000 บาท จึงได้โพสต์ลงในไอจีส่วนตัว และให้ติดต่อกับผู้ขายโดยตรง ต่อมาได้มีแฟนคลับของตนได้ติดต่อขอซื้อสินค้ากระเป๋าแบรนด์เนมมือสองในราคา 10,000 บาท แต่เมื่อโอนเงินไปผู้เสียหายไม่ได้รับสินค้าจนไปแจ้งความไว้ที่ สน.ลาดพร้าว ซึ่งตนมายืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมาทราบภายหลังว่าตนก็ถูกหลอกลวงให้ว่าจ้างรีวิวกระเป๋าดังกล่าว หลังพบว่าสลิปโอนเงินดังกล่าว เป็นสลิปปลอมและไม่มีเงินเข้าบัญชีมาเช่นกัน,ตัวกระแตเองจะมีอินสตาแกรมและเพจเฟซบุ๊กบัญชีเดียว หากเป็นแฟนคลับจะทราบดี เพราะทราบว่าขณะนี้มีคนปลอมเฟซบุ๊กโดยพยายามใช้ชื่อและภาพเหมือนของตน และไม่ได้หลอกหนูคนเดียว มีทั้งเมย่า กิ๊ฟซี่ และใบเตย อาร์สยาม ก็เกือบโดนให้โพสต์ขายกระเป๋า จึงขอเตือนแฟนคลับให้ระวังถูกผู้ไม่หวังดีหลอกลวง โดยครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนกับตัวเองอย่างมาก,ด้าน น.ส.ปรีณา โชติศิริ อายุ 29 ปี พนักงานบริษัทเอกชนและเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้วันที่ 6 ส.ค. ได้เห็นสินค้ากระเป๋าในไอจีของที่น้องกระแตใช้ ซึ่งเราเป็นแฟนคลับอยู่ด้วย จึงได้ตัดสินใจสั่งซื้อกระเป๋ายี่ห้อ MCM มือสอง ในราคา 15,000 บาท และมีการต่อรองราคากันเหลือ 10,000 บาท โดยได้มีการคุยไลน์ผ่านทางผู้หญิงคนหนึ่ง โดยหญิงดังกล่าวได้ส่งบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง โดยระบุชื่อบัญชีว่า น.ส.ชารดา มาให้กับตนจากนั้นตนเองก็ได้โอนเงินเข้าไป และต่อมาก็ไม่สามารถติดต่อกับหญิงคนดังกล่าวได้อีกเลย จึงคิดว่าน่าจะถูกมิจฉาชีพหลอกอย่างแน่นอน พร้อมกับเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ลาดพร้าว เพื่อเป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ได้พูดคุยกับน้องกระแตว่าบุคคลดังกล่าวเป็นอันตราย ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกันแล้ว ตนเองก็พร้อมที่จะเป็นพยานให้ว่าน้องกระแตไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นอีกด้วย,ขณะที่ พ.ต.อ.สุพล กล่าวว่า เบื้องต้นทางผู้เสียหายได้ประสงค์ขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแสดงตัวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ภายหลังจากตรวจสอบข้อมูลก็พบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.พหลโยธิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย ก็ได้รับแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน พร้อมประสานข้อมูลให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กระแตอาร์สยาม แจ้งความสน.โชคชัย หลังมีมือดีปลอมอินสตาแกรม หลอกขายกระเป๋าแฟนคลับ แต่พอโอนเงินหาย กลับไม่ได้ของ ระบุมีอินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก บัญชีเดียวเท่านั้น
null
กระแต อาร์สยาม,หลอกขายกระเป๋า,จ้างรีวิวกระเป๋า,ปลอมอินสตาแกรม,สน.โชคชัย,กทม.
https://www.thairath.co.th/content/709693
TDRI: หาบเร่แผงลอย วิถีชีวิตที่รัฐมองข้าม
ช่วงหลายปีหลังนี้ ประเทศไทยได้รับการโหวตให้เป็นมหานครแห่ง street food หรือ เมืองหลวงแห่งร้านอาหารริมถนน เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศชื่นชอบ หลายคนกล่าวว่านี่คือเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯและประเทศไทยเลยทีเดียว ทว่าตั้งแต่ภาครัฐ (กรุงเทพมหานครและกองบัญชาการตำรวจนครบาล) มีนโยบายจัดระเบียบสังคมในหลาย ๆ เรื่อง หาบเร่แผงลอยริมถนนและทางเท้าก็ถูกจัดระเบียบไปด้วย และที่น่าเสียดายคือแทนที่จะเป็นการจัดระเบียบอย่างอะลุ่มอล่วย หาทางออกร่วมกัน ภาครัฐกลับเลือกใช้มาตรการที่ค่อนข้างเด็ดขาดคือการยกเลิกจุดผ่อนผันหลายร้อยจุดในระยะเวลาเพียง 2-3 ปีหาบเร่แผงลอยมีประโยชน์อย่างไร เรื่องนี้มีงานวิจัยโดยนักวิชาการของไทยและเทศ (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และองค์กร WEIGO) ทำไว้จำนวนหนึ่ง เช่นหาบเร่แผงลอยให้ความสะดวกสบายในการซื้อหาและด้วยราคาที่ย่อมเยา เพียงแค่ออกจากระบบขนส่งมวลชนอย่าง รถเมล์ รถไฟฟ้า ร้านหาบเร่แผงลอยก็มีพร้อมให้บริการในทุกที่ที่มีผู้คนสัญจรไปมา จากงานวิจัยพบว่ากลุ่มลูกค้าสำคัญคือ พนักงานออฟฟิศ เจ้าหน้าที่ของรัฐ นักเรียน รวมไปถึงแรงงานที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ โดยร้อยละ 60 ของประชากรที่มีรายได้ต่ำกว่า 9000 บาทต่อเดือนจะมีการซื้อของจากร้านหาบเร่แผงลอยทุกวัน ซึ่งหากร้านค้าหาบเร่แผงลอยหายไป คนกลุ่มดังกล่าวจะต้องซื้ออาหารในราคาที่แพงขึ้นและจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มถึงเดือนละ 357 บาท หรือมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำที่พวกเค้าได้รับในหนึ่งวัน นอกจากเรื่องของค่าครองชีพแล้ว หาบเร่แผงลอยยังมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะช่วยดึงดูดผู้คนให้สัญจรผ่านในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้บริเวณดังกล่าวไม่กลายเป็นพื้นที่เปลี่ยวและภาคธุรกิจใกล้เคียงได้รับประโยชน์ไปด้วย เช่น ในพื้นที่ปากคลองตลาด การมีอยู่ของร้านหาบเร่แผงลอยที่ขายดอกไม้เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนและจับจ่ายในช่วงเวลากลางคืน ดังจะเห็นได้จากการยกเลิกพื้นที่ขายดอกไม้บนทางเท้าเมื่อปี พ.ศ. 2559 ส่งผลกระทบต่อยอดขายของภาคธุรกิจในบริเวณดังกล่าวที่ลดจากเดิมมากถึงร้อยละ 70 นอกจากนั้นความคึกคักของทางเดินเท้ายังเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับชุมชน ตัวอย่างเช่นพื้นที่ซอยรางน้ำที่เป็นซอยลึกแต่มีการสัญจรไปมาของผู้คนตลอดเวลา ไม่เปลี่ยวร้างในด้านผลกระทบต่อชีวิตของแม่ค้าพ่อค้าหาบเร่แผงลอยนั้น งานวิจัยของธรรมศาสตร์ พบว่ามากกว่าร้อยละ 70 ของผู้ค้าเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี โดยส่วนหนึ่งเป็นผู้หญิงและจบการศึกษาในระดับประถมศึกษาเท่านั้น ทำให้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพอื่นน้อยมาก การยกเลิกจุดผ่อนผันที่ผ่านมาจึงทำให้ชีวิตคนเหล่านี้มีความลำบาก มีหนี้สินเพิ่มขึ้น มีความเครียด อาการทางจิต และมีหนึ่งรายที่ฆ่าตัวตาย (แต่ยังไม่แน่ว่าเป็นผลจากการถูกเลิกขายหรือไม่)ข้อพิจารณาอีกด้านที่ภาครัฐมองข้ามไป คือผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากจำนวนผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ถูกยกเลิกการผ่อนผันมีจำนวนมาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หายไปจึงน่าจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมเช่นกันและน่าจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการ แข็งบนอ่อนล่าง ของเศรษฐกิจไทยในระยะนี้ที่เศรษฐกิจรากหญ้ายังมีความอ่อนแอ ย้อนแย้งกับภาพความเข้มแข็งของกลุ่มที่อยู่ ข้างบน เช่น บริษัทส่งออกขนาดใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทหนึ่งที่ปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มรากหญ้าก็ระบุว่าสัดส่วนหนี้เสียในเขตกรุงเทพมหานครสูงกว่าในจังหวัดอื่น คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายยกเลิกจุดผ่อนผันหาบเร่แผงลอยนี้นั่นเองประเด็นสำคัญที่เห็นห่วงกันมาก คือผู้ค้าจะสามารถปฏิบัติตามระเบียบได้หรือไม่ อย่างที่ผู้ว่า กทม. ให้สัมภาษณ์ว่าแค่ 3 วันก็กลับมาวางเกะกะเหมือนเดิม เรื่องนี้เสนอว่าผู้ค้าต้องมีการรวมตัวเพื่อดูแลควบคุมกันเอง มีการลงโทษผู้ไม่ปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด แบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่ที่อาจเบื่อหน่ายในการมาไล่จับผู้กระทำผิด ช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของผู้ค้าหาบเร่และสร้างความเชื่อมั่นแก่สังคมโดยรวมดร.สมชัย จิตสุชน ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง และ นายชาคร เลิศนิทัศน์ ตำแหน่งนักวิจัย สถุาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)
ช่วงหลายปีหลังนี้ ประเทศไทยได้รับการโหวตให้เป็นมหานครแห่ง street food หรือ เมืองหลวงแห่งร้านอาหารริมถนน เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศชื่นชอบ
คุณภาพชีวิต,เศรษฐกิจ
TDRI,ชาคร เลิศนิทัศน์,สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย,สมชัย จิตสุชน,หาบเร่แผงลอย
https://prachatai.com/journal/2018/04/76616