title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ทิ้งศพทารกในถังขยะ หนุ่มไปเก็บขวด คลำเจอร่างยังนิ่ม มีสายรกติด | เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 28 พ.ย.58 ร.ต.ท.ธรรมวัฒน์ สุขีวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ว่า มีชาวบ้านพบศพเด็กทารกอยู่ในถังขยะ บริเวณกลางซอยห้วยพลู ระหว่าง ถนนพัฒนากาญจน์-ถนนไปรษณีย์ ต.ปากแพรก เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี และแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา ไปร่วมพลิกศพ,พบเด็กทารกเพศชาย วัยแรกคลอดสภาพเปลือย อยู่ในถุงพลาสติกผูกปาก ห่อด้วยผ้า ทิ้งอยู่ถังในขยะพลาสติกสีฟ้าขนาด 200 ลิตร เจ้าหน้าที่จึงนำร่างของเด็กทารกออกมา ให้แพทย์ตรวจศพ ไม่พบบาดแผลของการถูกทำร้าย สายรกลักษณะเพิ่งถูกตัด ยาวประมาณ 5-6 นิ้ว เบื้องต้น แพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ทารกเสียชีวิตเพราะเหตุใด จึงให้เจ้าหน้าที่นำไปเก็บไว้ที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา,จากการสอบถาม นายทองแดง แย้มเพ็ชร อายุ 48 ปี อาชีพเก็บของเก่าขาย เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังเก็บขวดพลาสติกที่ชาวบ้านนำมาทิ้งในถังขยะ เมื่อใช้มือล้วงลงไปในถังขยะ รู้สึกนิ่มๆ เหมือนมีอะไรในห่อผ้า จึงตะแคงถังขยะเพื่อจะดูให้ชัดๆ พบว่าเป็นทารกและเสียชีวิตแล้ว ด้วยความตกใจจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ,ส่วน พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า เบื้องต้น คาดว่าเด็กทารก คงถูกพ่อแม่ที่เป็นวัยรุ่นนำมาทิ้งหลังจากที่คลอดลูกได้ไม่นาน เพราะสภาพศพเพิ่งจะเสียชีวิต ซึ่งเชื่อว่าผู้ท่ีนำมาทิ้ง คงมีที่อยู่ไม่ห่างไกลจากจุดที่พบศพมากนัก เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ตลอดซอยทั้งสองฟาก คาดว่าอีกไม่นานคงจะรู้ว่า ใครเป็นคนนำศพเด็กมาทิ้ง,จะประสานไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ว่ามีใครมาฝากครรภ์ และเมื่อถึงกำหนดคลอดไม่ได้มาคลอดตามกำหนด เพราะสายรกของทารกยังอยู่ แสดงว่าเพิ่งจะคลอด หรือหากประชาชนท่านใดสงสัยว่าเด็กทารกที่ถูกนำมาทิ้งอาจจะเป็นบุตรของคนที่รู้จัก ก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อที่จะได้เร่งติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป พ.ต.อ.พิศุทธิ์ กล่าว. | หนุ่มใหญ่เก็บของเก่าขายที่เมืองกาญจน์ เจอเรื่องสยองเมื่อไปล้วงถังขยะในซอย แล้วพบศพเด็กทารกแรกเกิดเพศชาย ยังมีสายรกติด ถูกห่อผ้านำมาทิ้ง ตร.เตรียมดูกล้องวงจรปิด และถามไปที่ รพ.ว่ามีใครฝากท้องแล้วไม่มาคลอดบ้าง | null | ทิ้งศพเด็ก,ทิ้งถังขยะ,ศพทารก,ทารกแรกเกิด,เก็บขวดเจอศพ,พ่อแม่ใจร้าย,กาญจนบุรี,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ทำแท้ง,แท้งลูก,แท้งเด็ก,วัยรุ่นใจแตก,เด็กใจแตก,ทำแท้งเถื่อน,คลอดลูก,มีบุตร,เลี้ยงไม่ไหว,คลอดก่อนกำหนด,เด็กตาย,ศพเด็ก,พ่อแม่ใจยักษ์ | https://www.thairath.co.th/content/542694 |
งานเข้ามือปราบแม่ฮ่องสอน ตร.ภาค 5 ออกหมายเรียก ปลัดแม่สะเรียงให้ปากคำ (คลิป) | เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 60 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนสืบสวน ในคดีค้ากามเด็กแม่ฮ่องสอน มี พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 หัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดี พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบช.ภ.5 หัาหน้าพนักงานสืบสวน และ พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 และทีมนายตำรวจสอบสวนสืบสวนในคดี ร่วม 20 คนมาประชุมร่วมกัน โดยใช้เวลาการประชุมร่วม 2 ชั่วโมง, ,พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าวว่า ในการประชุมนายตำรวจครั้งนี้เป็นการสรุปและเร่งรัดการทำงานในเรื่องคดีค้ามนุษย์ที่แม่ฮ่องสอน ซึ่งเราได้ส่งเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายไปสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานข้อเท็จจริงมา 4-5 วันนี้ถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก ในประเด็นที่เด็กๆ ให้มาในเรื่อง อบต.ที่นนทบุรี มาดูงาน ก็ได้มีการชี้ตัวบุคคลต่างๆ ที่มีการซื้อบริการทางเพศ,ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการให้เด็กชี้ตัวเห็นว่าทางอดีตปลัดอำเภอแม่สะเรียง ได้ออกมาให้ข่าวในลักษณะว่าเป็นการบังคับเด็กให้ชี้ตัว พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะมีทั้งเอ็นจีโอ มีทั้งเจ้าหน้าที่คุมความประพฤติ กรมคุ้มครองสิทธิ์ มาร่วมด้วย ฉะนั้นการบังคับให้เด็กทำอะไรไม่มีแน่ ในส่วนของปลัดที่ออกมาให้ข่าวในเรื่องนี้ก็จะให้ทาง พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบช.ภ.5 ออกหมายเรียกมาสอบให้ปากคำทั้งหมด ไม่ต้องไปให้นอกสำนวน มาให้ในกรอบของกฎหมายดีกว่า และมีข้อเท็จจริงอะไรขอให้มาพบ คนที่พูดก็พูดไปแต่ขอให้ระวังด้วย คนไปทำเขาได้ข้อมูลมาอย่างนี้ แต่เขาไปรู้ได้อย่างไรว่าไม่มีใครเลย พูดอะไรให้ระวัง,เมื่อถามต่อว่า ทางฝ่าย อบต.บ้านใหม่ นนทบุรี เตรียมจะฟ้อง ทาง ผบช.ภ.5 ในเรื่องการให้ข่าว พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าวว่า จะฟ้องตนทำไม ตนไปพูดให้ข่าวกับใครถึงเรื่อง อบต. ตนเพิ่งมาพูดหลังจากสรุปเรื่องในวันนี้ แต่หากจะฟ้องก็ฟ้องมาได้ ตนไม่ได้พูออะไรผิด ก็ตนไม่กลัว ตนทำทุกอย่างอยู่ในกรอบกฎหมายหมด และกำชับทุกฝ่ายด้วย ทาง พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง เป็นถึงรอง ผบช.ภ.5 ไปทำเรื่องนี้ก็ยืนยันแล้วว่าการสอบสวนครั้งนี้ไม่ได้สอบลำพังคนเดียวแต่มีหลายฝ่ายร่วมสอบด้วย,ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะมีการนำเด็กทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่ตำรวจภูธรภาค 5 จะดำเนินการเมื่อใด พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าวว่า ในเรื่องเด็กนั้น ทางเด็กเองก็อยากกลับมาอยู่ตรงนี้ แต่กรมคุ้มครองสิทธิ์อาจจะมีเหตุผลของเขาก็ต้องคุยกัน เพราะเด็กเองก็เป็นคนพื้นที่ เขาคงไม่อยากไปอยู่กรุงเทพฯ แต่อาจจะมีเงื่อนไขไม่ควรไปอยู่แม่ฮ่องสอน แต่จะอยู่ที่เชียงใหม่ เรื่องนี้ต้องมีการหารือกัน ในส่วนกรณีของ ผู้ว่าราชการแม่ฮ่องสอนความจริงก็เริ่มจะปรากฏชัดเจน แต่ว่าเราจะต้องสอบให้ละเอียดถี่ถ้วนครบทุกประเด็น วันนี้ที่ได้หลักฐานมานี้ ทาง ผู้ว่าฯอาจจะสบายใจขึ้น,อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องตรวจเช็กในละเอียดกว่านี้ จะเอาคำพูดคนนั้นคนนี้มาก็ไม่ได้จะต้องตรวจเช็กการเดินทางอะไรต่างอีกมาประกอบให้สมบูรณ์ ที่มีข่าวว่าวันเกิดเรื่องวันที่ 22 ก.ย.59 ผู้ว่าฯอยู่ที่โรงแรมที่กรุงเทพฯ ก็จะต้องตรวจสอบให้ครบและมาพิจารณากันว่าไปตามหลักฐานที่พบว่าอยู่ที่ไหน ในเรื่องนี้ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ได้กำชับมาให้ทำความจริงให้ปรากฏ ถูกเป็นถูกผิดเป็นผิด หากคดีไปเกี่ยวกับใครก็ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน,สำหรับ เจ้าหน้าที่ อบต.ที่เกี่ยวข้องก็จะออกหมายเรียกไป หรือจะเดินทางไปทำการสอบสวนเลยก็แล้วแต่จะสะดวก โดยในวันที่ 15 พ.ค.นี้ทาง พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 หัวหน้าพนักงานสอบสวน จะเดินทางไปยัง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปถึงออกหมายเรียก อดีตปลัดอ.แม่สะเรียง ที่ให้ข่าวมาตลอดมาทำการสอบสวนด้วย วันนี้จึงเป็นการประชุมสรุปว่าสิ่งที่ไปทำมาได้อะไรบ้าง ขาดอะไรบ้าง ชัดเจนหรือยัง จะต้องไปทำอะไรเพิ่มเติมอย่างไร ผบช.ภ.5 กล่าวทิ้งท้าย. | ปลัดแม่สะเรียง เตรียมตัว ตร.ภาค 5 ออกหมายเรียกให้ปากคำ ระบุขอสอบในสำนวนดีกว่าไปให้ข่าวนอกสำนวน พร้อมเผยพบหลักฐานชิ้นใหม่ ผู้ว่าฯอาจจะสบายใจขึ้น ยืนยัน จนท.ต้องสอบให้ละเอียดถี่ถ้วนครบทุกประเด็น | ข่าว,ทั่วไทย | ค้ากามน้ำเพียงดิน,ค้ากามเด็ก,ค้ากามแม่ฮ่องสอน,ปลัดแม่สะเรียง,เชียงใหม่ | https://www.thairath.co.th/news/local/north/940168 |
ไอศกรีมโบราณ – ชุดนักบิน ยอดสั่งพุ่งรับ วันเด็กแห่งชาติ | วันนี้ (10 ม.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงงานไอศกรีม ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เร่งผลิตไอศกรีมโบราณแบบต่างๆ อาทิ ไอศกรีมขนมปังแซนวิช ไอศกรีมถ้วย ไอศกรีมโคน และไอศกรีมแท่งหลากหลายรสชาติ หลังมีลูกค้าเดินทางมาสั่งจอง เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมวันเด็ก ส่งผลให้แต่ละวันต้องผลิตไอศกรีมมากถึง 5000 อัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปกติถึงเกือบเท่าตัวนายมานพ วาสนดิลก เจ้าของโรงงาน กล่าวว่า ผลิตไอศกรีมโบราณมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ ส่วนตนเองเป็นรุ่นที่ 2 และกำลังส่งต่อในรุ่นลูกที่เป็นรุ่นที่ 3 รวมระยะเวลากว่า 60 ปี เพราะไอศกรีมโบราณยังเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ไม่เว้นแม้แต่วัยผู้ใหญ่ต่างก็ชอบทานไอศกรีมด้วยเช่นกันไม่ต่างจากผู้ผลิตชุดนักบินเด็กในจังหวัดพิษณุโลก ที่ต้องระดมสมาชิกในครอบครัวช่วยกันตัดเย็บ และบรรจุชุดนักบินจัดส่งให้ลูกค้า ที่สั่งซื้อผ่านเฟซบุ๊กและแอพพลิเคชันไลน์ babycaptainน.ส.จุฑามาศ ปูชารัตน์ เจ้าของสินค้า กล่าวว่าจุดเริ่มต้นของการทำชุดนักบินเด็ก เกิดจากความต้องการของลูกชายที่ต้องการสวมใส่ชุดนักบินเหมือนคุณพ่อ ซึ่งเป็นทหารอากาศกองบิน 46 จึงพยายามตัดเย็บให้เหมือนมากที่สุด แล้วให้ลูกสวมใส่ไปร่วมงานกิจกรรมต่างๆ และพบว่ามีผู้ที่ชื่นชอบและให้ความสนใจมาก จึงตัดสินใจผลิตขายชุดนักบินเด็กได้รับความนิยมมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แล้ว เพราะเด็กๆ ต้องการสวมใส่ชุดนักบินเด็ก ไปท่องเที่ยวกับครอบครัวในช่วงวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งปีนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกปี โดยทุกชุดจะมีของเล่นเป็นเครื่องบินใส่ลงไปให้ด้วย เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักบินต้องเป็นเด็กดีและตั้งใจเรียน | หลายธุรกิจเร่งผลิตสินค้าให้ทันความต้องการช่วงวันเด็กแห่งชาติ หลังมียอดสั่งซื้อจำนวนมาก | เศรษฐกิจ | วันเด็กแห่งชาติ,วันเด็ก2561,ไอศกรีมโบราณ,ชุดนักบิน,ชุดนักบินเด็ก,ยอดสั่งเพิ่ม,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/269222 |
บสย.ชงคลังขยายค้ำประกัน เครดิตบูโรแจงขอสินเชื่อไม่เกี่ยวบัตรสวัสดิการ | และสินเชื่อเพื่อการค้า ซึ่งขณะนี้ได้มีการเสนอเกณฑ์การค้ำประกันให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว คาดว่าคลังจะอนุมัติหลักการภายในเดือนต.ค.นี้ และจะเริ่มดำเนินโครงการได้ในเดือน ม.ค.ปีหน้า ซึ่งอาจจะมีการหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วม ตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ปีหน้าเตรียมขยายการค้ำประกันไปยังสหกรณ์การเกษตรและผู้ประกอบการรถตู้ที่ต้องการเปลี่ยนเป็นรถไมโครบัสด้วย,ส่วนผลดำเนินงานการค้ำประกันสินเชื่อ 9 เดือนของปี 2560 (1 ม.ค.-30 ก.ย.) มียอดอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ 54,027 ล้านบาท ลูกค้าใหม่ 67,597 ราย ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ เช่น โครงการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อย (Micro Entre-preneurs) ระยะที่ 2 ประสบความสำเร็จ 60,656 ราย วงเงินอนุมัติค้ำประกัน 5,547 ล้านบาท โครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีทวีทุน (PGS6) ปรับปรุงใหม่ช่วยเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อ 4,663 ราย วงเงินอนุมัติค้ำประกัน 27,700 ล้านบาท โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Transformation Loan ร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) 1,621 ราย วงเงินอนุมัติค้ำประกัน 9,786 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจะผลักดันยอดค้ำประกันสินเชื่อปีนี้ไม่ต่ำกว่า 86,000 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์เชิงรุก ปูพรมกิจกรรม รองรับการเติบโตของภาคธุรกิจ,ด้านนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์จนก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าจะมีการส่งข้อมูลผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนกว่า 11 ล้านรายให้กับเครดิตบูโร จนเป็นผลทำให้ไม่ได้รับการพิจารณาสินเชื่อนั้นไม่เป็นความจริงและขอประณามการกระทำที่บ่อนทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ. | นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ปี 61 บสย.ตั้งเป้าขยายการค้ำประกันสินเชื่อไปยังธุรกิจนอนแบงก์ประเภทสินเชื่อลีสซิ่ง สินเชื่อแฟ็กเตอริง | ข่าว,เศรษฐกิจ | บสย.,ค้ำประกันสินเชื่อ,สินเชื่อลีสซิ่ง,เกณฑ์การค้ำประกัน,เครดิตบูโร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1091102 |
เรื่องเล่าของเจ้าแก้ว ช้างป่าอินดี้แห่งป่าตะวันออก | เป็นเวลากว่า 45 วันที่ เจ้าแก้ว หรือพลายสีดอแก้ว ช้างป่าเพศผู้วัย 16 ปี ออกเดินทางท่องโลกกว้างจากพื้นที่เขาตะกรุบ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.สระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา และมาปรากฎตัวที่อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง จ.ระยอง และครั้งนี้เจ้าแก้วออกเที่ยวไปไกลถึงเทศบาลเมืองแกลง จ.ระยองแม้ว่า เจ้าแก้ว จะไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมากนัก เพราะเป็นช้างฉลาด ใจดีและรักอิสระ แต่เจ้าหน้าที่ยังจำเป็นต้องนำมันกลับคืนสู่ป่า บ้านของเจ้าแก้วที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรีข้อมูลความประทับใจของชุดเคลื่อนที่เร็ว ช้างป่า เขาอ่างฤาไน ได้บอกเล่าเรื่องราวระหว่างทางของเจ้าแก้ว ถูกถ่ายทอดโดย เดชา นิลวิเชียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ที่ส่งทีมเจ้าหน้าที่ 10 คน ร่วมเดินทางพร้อมกับ เจ้าแก้วระยะทางมากกว่า 100 กิโลเมตร ช้างอินดี้ ดูจะเป็นฉายาของ เจ้าแก้ว ช้างเพศผู้ไร้งา ตัวนี้ ด้วยเพราะความน่ารัก รักความเป็นอิสระ ใจดี ไม่ทำร้ายคน และมีความฉลาดกว่าช้างป่าตัวอื่นๆ เจ้าแก้ว จึงถูกกล่าวขานถึงความประทับใจ และมีแฟนคลับในโลกโซเชียล มากมายเดชา บอกว่า เจ้าแก้ว เป็นช้างที่ฉลาดและพิเศษกว่าช้างตัวอื่นๆ แทนที่เจ้าหน้าที่จะเรียนรู้ช้าง แต่เจ้าแก้ว กลับเรียนรู้เจ้าหน้าที่แต่ละคน และผูกมิตร ขี้อ้อน อย่างการเดินทางที่ต้องพักแวะพัก หากเจ้าหน้าที่ที่ผูกเปลสนามนอนห่างจากมันราว 20 เมตร ยังไม่ยอมตื่น เจ้าแก้ว จะใช้งวงมาปลุกเบา เพื่อขออาหาร หรือหากเจอบ่อน้ำ ที่อยากเล่น ก็จะขอลงไปเล่นน้ำคลายร้อนที่สำคัญ การเดินทางครั้งนี้ เจ้าแก้ว กลายเป็นผู้นำทาง หากพบว่าเจ้าหน้าที่ตามไม่ทัน มันจะย้อนกลับมาหา และพาเดินไปพร้อมๆกันขณะที่ จักจั่นอาสาสมัครหญิงจากกลุ่มอนุรักษ์ช่วยเหลือป่า ที่ร่วมเดินทางมากับเจ้าแก้ว ยังบอกถึงความประทับใจ โดยบอกว่าในระยะเวลาเกือบ 20 วัน ที่พวกร่วมทางมากับแก้ว ไม่มีวันไหนเลยที่แก้วจะละหายไปจากสายตาของพวกพี่ๆ ถึงแม้ว่าการเดินของแก้วจะไม่ได้เดินตามเส้นทางที่รถวิ่งได้ตลอดแต่จะเดินลัดเลาะไปตามสวนตามป่า พวกพี่ๆก็จะเดินเท้าติดตามแก้วตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน บางพื้นที่ที่เราไม่คุ้นเคย การเดินตามแก้วอย่างเดียวก็ทำให้พวกพี่กลายเป็นหมาหลงได้ แต่ความที่เราคิดว่าแก้วคงจะฟังเรารู้เรื่องบ้าง ( ถ้ายอมฟังนะ ) พวกพี่ๆก็จะบอกแก้วว่า พวกพี่หลงทาง หลงทิศแล้วนะแก้ว ช่วยพาไปออกตรงทางที่พวกเราตั้งใจจะไปกันทีแรกหน่อย พวกพี่ไปไม่ถูก พักเดียวเท่านั้น แก้วก็นำพวกเรามาโผล่ตรงเป้าหมายพอดีเธอ เล่าอีกว่า ในบางคืนที่เป็นคืนที่ฝนตก พวกพี่ๆที่เดินตามแก้วอาจจะเกิดทัศนวิสัยไม่ดี เดินตามแล้วเกือบจะเหยียบเอาแก้วที่นึกจะล้มตัวลงนอนตรงไหนก็นอน แบบไม่สนใจใครหรืออะไรทั้งนั้น ส่วนการกินของเจ้าแก้ว ผลไม้ที่โปรดปรานคือกล้วยน้ำว้า มะละกอสุก ไม่กินผัก และกินมะม่วงสุก ซึ่งนิสัยของเจ้าแก้ว คือจะกินแค่พออิ่มเท่านั้นด้วยที่ติดตามเจ้าแก้ว เธอจึงให้ฉายามันเพิ่มอีกว่าช้างเทพ เพราะเป็นช้างที่แสนพิเศษ และอยากให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช วางมาตรการดูแลเจ้าแก้ว ที่ไม่ชอบอยู่ป่าอย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่าอีกไม่นานเจ้าแก้ว ก็จะออกมาในเขตชุมชนอีก ซึ่งต้องยอมรับว่าอาจจะไม่เป็นที่รักของคนทุกคน และอาจเกิดอันตรายกับเจ้าแก้วได้สำหรับจิตอาสาการเดินทางครั้งนี้มีพี่ก๊อบ พี่แอ๊นแฟนพี่ก๊อบ เจ้คิด แฟนพี่รุณ แล้วก็มีพี่รุณที่ขับรถบรรทุกกล้วยให้แก้ว เหมือนเป็นรถส่วนตัวที่มีแต่ของกินของแก้วตามติดแก้วตลอด มีพี่ๆ อปพร. ชรบ.ของหมู่บ้านที่เป็นเจ้าของพื้นที่ที่แก้วจะต้องเดินผ่าน มาคอยอำนวยความสะดวก คอยดักรถ คอยดูความปลอดภัยให้ชาวบ้าน คอยส่งเสบียงให้ทั้งพี่เจ้าหน้าที่และของแก้วนับแต่วันที่ เจ้าแก้ว ออกเดินทางจากเขาตะกรุบ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน จ.สระแก้ว มาที่อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง จ.ระยอง และทีมอารักขา พาเจ้าแก้วเดินทางกลับบ้านผ่านพื้นที่แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เขาแก้ว อ.ท่าใหม่ และถึงเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อย่างปลอดภัยแล้ว รวมใช้เวลากว่าหนึ่งเดือนครึ่ง ซึ่งกลายเป็นสถิติใหม่ในรอบ 5 ปีของช้างป่าอินดี้ ตัวนี้ | เปิดเรื่องราวความประทับใจของ เจ้าแก้ว ช้างป่าอินดี้ ที่ออกเดินทางท่องโลกกว้าง บอกเล่าความน่ารักของคนกับช้างที่เรียนรู้ร่วมกันตลอด 45 วัน พากลับถึงบ้านเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อย่างปลอดภัย | สิ่งแวดล้อม | ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน,สระแก้ว,อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ,จันทบุรี,ช้างป่า,เจ้าแก้ว,เดชา นิลวิเชียร,ป่ารอยต่อภาคตะวันออก | https://news.thaipbs.or.th/content/261564 |
ททท.ขยายฐานนักท่องเที่ยว เปิดเส้นทางใหม่เรือสปีดโบ๊ต | แต่ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ต คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ริมน้ำส่วนใหญ่ไม่มีท่าจอดเรือ หรือท่าเทียบเรือ ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่สามารถจอดเรือเพื่อขึ้นไปท่องเที่ยวได้,ด้วยเหตุนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงจัดกิจกรรม Speed Boat Premium Route @ Ayutthaya by TAT ภายใต้โครงการ Premium Nostalgia More Legacy เพื่อเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว และขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ,โดยนำ นักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ นำร่องเปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ต เมื่อวันที่ 25-26 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา รวม 2 วัน 1 คืน มีนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพเข้าร่วมกิจกรรม 60 คน พร้อมเรือสปีดโบ๊ต 15 ลำ,กิจกรรมครั้งนี้เริ่มต้นจาก ท่าน้ำวัดแดงธรรมชาติ อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งมี พระปางนาคปรก องค์ใหญ่ ตั้งเด่นตระหง่านสวยงามอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ล่องเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา,แวะรับประทานอาหารที่ โรงสีสตูดิโอ (เกาะเกร็ด) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นโฮมสเตย์คาเฟ่ และร้านอาหารริมแม่น้ำสุดชิกแห่งใหม่ของเกาะเกร็ด ที่ดัดแปลงมาจากโรงข้าวอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี,อิ่มท้องแล้วล่องเรือต่อไปยัง วัดโบสถ์ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี สักการะ หลวงพ่อโสธร และ หลวงพ่อโต องค์ใหญ่ ก่อนจะล่องเรือต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ จุดจอดเรือรักษ์บางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ใกล้กับ พระราชวังบางปะอิน และ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร,นายไพรัตน์ เพชรยวน นายอำเภอบางปะอิน ไปคอยให้การต้อนรับ พร้อมนำคณะนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในอาคารรักษ์บางปะอินซึ่งเคยเป็นที่ว่าการอำเภอบางปะอินเก่ามาก่อน,จากนั้นออกเดินทางต่อโดยรถบัสปรับอากาศไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรเด็ด เนื้อเซอร์ลอยด์จากออสเตรเลีย และหมูดำคุโรบุตะที่ ร้านกรุงเก่าเตี๋ยวเรือ (วัดตูม) สี่แยกโรงพักอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา,ก่อนจะเดินทางไปไหว้พระที่ วัดพนัญเชิงวรวิหาร และ วิหารพระมงคลบพิตร หลังอิ่มบุญกันแล้วเข้าสู่ที่พักโรงแรมคลาสสิค คามิโอ พระนครศรีอยุธยา รับประทานอาหารเย็น พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตสุดเอกซ์คลูซีฟจากศิลปิน ชมพู–ฟรุตตี้,วันกลับนักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อของฝากที่ตลาดโก้งโค้ง และเยี่ยมชมความงดงามของ วัดไทย ที่สร้างแบบโบสถ์คริสต์ รูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิคที่ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร อ.บางปะอิน,จากนั้นมาขึ้นเรือที่ จุดจอดเรือรักษ์บางปะอิน เพื่อล่องเรือไปรับประทานกุ้งใหญ่แม่น้ำเผา ที่ร้านอาหารริมน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ,กิจกรรมในครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างมิรู้ลืมพร้อมเรียกร้องให้จัดอย่างกว้างขวาง,นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผอ.ภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ททท. ได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวภาคกลางทางรถยนต์ระดับพรีเมียมมาแล้ว เช่น ซุปเปอร์คาร์ และบิ๊กไบค์,ในครั้งนี้ ททท.จึงได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำ ในชื่อกิจกรรม Speed Boat Premium Route @ Ayutthaya by TAT เป็นการเดินทางท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ตครั้งแรก และเป็นทริปนำร่องการท่องเที่ยวทางน้ำระดับเอกซ์คลูซีฟ,ภาคกลางมีตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ในด้านตัวเลขการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อคนต่อครั้งยังต่ำอยู่ราว 1,800 บาทเท่านั้น ททท.จึงได้มุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีรายได้สูง หรือกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายได้หันมาท่องเที่ยวในเมืองไทยให้มากขึ้น,เมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยังไม่ได้สัมผัส โดยมีเป้าหมายเพื่อจะขยับตัวเลขการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้ได้ 2,000 บาทต่อคนต่อครั้ง ที่สำคัญยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น รวมถึงสร้างสมดุลให้กับผู้ประกอบการนำเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย นายอภิชัย กล่าว,นายอภิชัย เผยอีกว่า ททท.ยังวางแผนเพื่อต่อยอดการท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ มีความปลอดภัยสูง เพราะ แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ยังมีความสดใหม่,โดยเฉพาะ จ.ปทุมธานี มีทุ่งนาเขียวขจีน้ำใสสะอาด มองแล้วสบายตา รวมถึงวัฒนธรรมของชุมชนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา,ส่วน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นราชธานีเมืองเก่า เมืองมรดกโลก มีกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในพื้นที่มากมาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เป็นวิถีแห่งสายน้ำ โดยเฉพาะในภาคกลางกับ 7 ลุ่มน้ำที่มีความสำคัญของประเทศ,ขณะที่ นายวิทวัส สุวรรณสุทธิ หนึ่งในนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดเส้นทางท่องเที่ยว ทำให้การท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ตสามารถเกิดขึ้นได้จริง,อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ตอีกด้วย.,ทีมข่าวภูมิภาค รายงาน | ปัจจุบันการท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ตกำลังกลายเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพที่มีกำลังซื้อสูง และต้องการท่องเที่ยวแบบพรีเมียม | ข่าว,ทั่วไทย | การท่องเที่ยวทางน้ำ,ททท.,นักท่องเที่ยว,เรือสปีดโบ๊ต,ทีมข่าวภูมิภาค,Speed Boat Premium Route,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1581870 |
เลือกตั้งมาเลย์สุดคึกคัก ช็อก ชายชรา ตายสลด ขณะเข้าแถวรอหย่อนบัตร | เมื่อ 9 พ.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ชาวมาเลเซียหลายล้านคนหลั่งไหลออกมาใช้สิทธิเข้าคูหาเลือกตั้งกันอย่างคึกคัก ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันพุธที่ 9พ.ค. เพื่อตัดสินใจจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ ระหว่างนายนาจิบ ราซัค วัย 64 ปี ตัวแทนกลุ่มพรรคพันธมิตรร่วมรัฐบาล กับ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกฯ คนดังของมาเลเซีย วัย 92 ปี ท่ามกลางผลสำรวจคะแนนนิยมที่ออกมาสูสีคู่คี่กันมากที่สุด เป็นประวัติการณ์ในการเลือกตั้งของมาเลเซีย,ข่าวแจ้งว่า นายมหาเธร์ ซึ่งได้เป็นตัวแทนของกลุ่มพรรคพันธมิตรฝ่ายค้าน ปากาตัน ฮาราปัน ชิงชัยการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ ได้ออกมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่เมืองอลอร์ สตาร์เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับ นายนาจิบ ตัวแทนของกลุ่มพรรคพันธมิตรร่วมรัฐบาล แนวร่วมแห่งชาติ หรือบาริซาน เนชั่นแนล (บีเอ็น) ได้ออกมาใช้สิทธิเข้าคูหาเลือกตั้ง ที่เมืองปีกัน รัฐปาหัง แล้วเช่นกัน,ด้านเว็บไซต์ The Star ในมาเลเซีย รายงานเกิดเหตุสลดใน,วันเลือกตั้งทั่วไปในมาเลเซีย, เมื่อนายลอร์ วูน ชอร์ ชายสูงอายุ วัย 78 ปี ล้มหมดสติ แน่นิ่ง ระหว่างยืนเข้าคิวรอใช้สิทธิเลือกตั้งที่คูหาเลือกตั้งแห่งหนึ่งในเมืองปีตาลิง จายา เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 9.30 น. ของวันพุธที่ 9 พ.ค. ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา จนสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้แก่ผู้คนที่มาเลือกตั้งอย่างยิ่ง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินและรีบมาให้ความช่วยเหลือพร้อมกับทีมแพทย์ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตชายชราผู้นี้ไว้ได้,ด้านภรรยาและบุตรชายของนายลอร์ ซึ่งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งพร้อมกัน เล่าด้วยความโศกเศร้าว่า นายลอร์ ป่วยด้วยโรคหัวใจและปอด รวมทั้งเป็นโรคเบาหวานมานานแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเสียชีวิตในระหว่างเข้าคิวหย่อนบัตรเลือกตั้งในวันนี้ | ชาวมาเลย์หลายล้านออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกันอย่างคึกคัก ลุ้น นาจิบ ราซัค หรือ มหาเธร์ โมฮัมหมัด ฝ่ายไหนจะคว้าชัย ขณะที่เกิดเหตุสลด ชายชรา ล้มหมดสติ ก่อนเสียชีวิตระหว่างรอเลือกตั้ง | ข่าว,ต่างประเทศ | เลือกตั้ง มาเลเซีย,เลือกตั้งมาเลย์,นาจิบ ราซัค,มหาเธร์ โมฮัมหมัด,มาเลเซีย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1276832 |
สปีลเบิร์กร่วมคว้ารางวัลเกียรติยศ เมดัล ออฟ ฟรีดอม | (ภาพ: AP),นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมอบรางวัลเกียรติยศสูงสุดสำหรับพลเรือนอเมริกัน เมดัล ออฟ ฟรีดอม หรือเหรียญแห่งเสรีภาพ ประจำปี 2558 แก่บุคคลสำคัญในแวดวงต่างๆ 17 ราย เมื่อ 24 พ.ย.ซึ่งรวมถึง สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกันที่มีผลงานโด่งดังเรื่อง จูราสสิคพาร์ค และภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลออสการ์ ชินด์เลอร์ส ลิสต์ ในฐานะผู้สร้างสรรค์เรื่องราวที่มีอิทธิพลต่อสังคมอเมริกันหลายๆด้าน ขณะที่ผู้อยู่วงการบันเทิงที่ได้รับรางวัลนี้ด้วย ได้แก่ บาร์บารา สตรัยแซนด์ นักร้องหญิงและนักแสดงชื่อดัง, เอมิลิโอ และกลอเรีย เอสเตฟาน คู่สามีภรรยานักดนตรีและนักร้องเชื้อสายคิวบา,ส่วนผู้ได้รับรางวัลจากแวดวงอื่นๆ ได้แก่ นายวิลลี เมย์ และนายโยกิ แบร์รา นักกีฬาเบสบอล, นายมิโนรุ ยาสุอิ ชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งรณรงค์ต่อต้านกฎหมายควบคุมชาวญี่ปุ่นในสหรัฐฯ หลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2, นายบิลลี แฟรงค์ จูเนียร์ ผู้เรียกร้องสิทธิชนพื้นเมืองอเมริกัน, นางบาร์บารา ไมคัลสกี ส.ว.ของพรรคเดโมแครตในรัฐแมรีแลนด์ ผู้ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมด้านรายได้ระหว่างหญิงและชาย รวมถึงนางแคเธอรีน จี จอห์นสัน นักคณิตศาสตร์ขององค์กรอวกาศแห่งสหรัฐฯ (นาซา) ผู้ดูแลการคำนวณเส้นทางบินของยานอวกาศ. | บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมอบรางวัลเกียรติยศ เมดัล ออฟ ฟรีดอม เมดัล ออฟ ฟรีดอม หรือเหรียญแห่งเสรีภาพ ประจำปี 2558 แก่บุคคลสำคัญในแวดวงต่างๆจำนวน 17 คน รวมถึง สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง | null | บารัค โอบามา,ประธานาธิบดี,สหรัฐ,รางวัลเกียรติยศ,พลเรือนอเมริกัน,เมดัล ออฟ ฟรีดอม,เหรียญแห่งเสรีภาพ,บุคคลสำคัญ,สตีเวน สปีลเบิร์ก,ผู้กำกับภาพยนตร์,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/542007 |
เบิ้ล ปทุมราช รับเองใจๆ ผมคือนักร้องรุ่นลูกที่ ก๊อท จักรพันธ์ โพสต์ด่า (คลิป) | หลังจากที่นักร้องรุ่นใหญ่ ก๊อท จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ เคยโพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมของตัวเอง มารยาท พร้อมแคปชั่นว่า สะกดเป็นมั้ยไอ้นักร้องรุ่นลูก #ไม่ไหวจริงๆ งานนี้ชาวเน็ตก็พากันสงสัยว่านักร้องรุ่นลูกที่มีปัญหากับ ก๊อท เป็นใคร และมีชาวเน็ตต่างคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันมากมาย และมีชื่อของ เบิ้ล ปทุมราช ในนั้นด้วยล่าสุด นักร้องหนุ่มได้เดินทางมาโปรโมตหนังเรื่องใหม่ ฮักเถิดเทิง ที่ไทยรัฐ ก็ไม่พลาดที่จะสอบถามถึงเรื่องนี้ ซึ่งหนุ่มเบิ้ลก็ได้ตอบคำถามนี้แบบตรงๆ ว่ามีคอมเมนต์บอกว่า พี่ก๊อท ทะเลาะกับ เบิ้ล จริงมั้ย? เป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่โดยส่วนตัวกับพี่ก๊อท ผมเคารพเหมือนเป็นครู อาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดๆ หน่อยๆได้อ่านคอมเมนต์แล้วตกใจมั้ย? ไม่ครับ ถ้าผมเข้าไปยุ่งกับคอมเมนต์ที่รู้สึกว่าไม่ได้เป็นผม ผมก็จะไปเล่นกับเค้า แล้วมันจะกลายเป็นลามไปถึงตัวผมและพี่ก๊อท เพราะฉะนั้นเลยนิ่งๆ ไว้ดีกว่า ให้เราและพี่ก๊อทได้เจอหน้ากัน ได้คุยกันจะดีกว่า สบายใจกว่าได้เจอพี่ก๊อทหรือยัง? ได้เจอครับ ในรายการลูกทุ่งไอดอล เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย. | เบิ้ล ปทุมราช ยอมรับว่าใช่นักร้องรุ่นลูกที่ ก๊อท จักรพันธ์ โพสต์ด่า บอกมีเรื่องที่ทำให้เข้าใจผิด | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เบิ้ล ปทุมราช,ก๊อท จักรพันธ์,ก๊อท จักรพันธ์ ด่านักร้องรุ่นลูก,ก๊อท จักรพันธ์ ด่า เบิ้ล ปทุมราช,ข่าวดารา,นักร้อง | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1888141 |
อภิสิทธิ์ เสนอ 5 ข้อแผนปรองดอง ลั่นถ้าทุกฝ่ายยอมรับจะมีเลือกตั้ง 14 พ.ย. | และระดมทุกฝ่ายแก้รัฐธรรมนูญ-ความไม่เป็นธรรมทางการเมือง ลั่นถ้าทุกฝ่ายรับจะมีเลือกตั้งใหม่ 14 พ.ย. แต่ถ้านปช.ไม่รับ ไม่รับประกันจะมีเลือกตั้งเมื่อไร3 พ.ค.53 เวลาประมาณ 21.15 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ระบุว่า คืนนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมที่จะพูดถึงแนวทางของรัฐบาลที่จะคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ซึ่งมีหลายสาเหตุ เป็นการสะสมปัญหามาหลายปี บางเรื่องเป็นการเมืองโดยตรง บางเรื่องเป็นปัญหาเศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย และเรื่องอื่นๆ ที่สะสมมาทั้งหมดทำให้ความขัดแย้งเกิดความแตกแยกร้าวลึก คำตอบทางการเมืองที่อยากนำเสนอในวันนี้ และขอเชิญชวนทุกกลุ่มเข้ามาแก้ไข คือ การสร้างกระบวนการปรองดองขึ้นมา โดยกระบวนการนี้ฟังจากประชาชนทุกกลุ่มหนึ่ง ประเทศไทยโชคดีที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คอยหลอมรวมจิตใจคนไทยทั้งชาติ น่าเสียดายที่ในระยะหลังมีคนจำนวนหนึ่งทำให้สถาบันถูกดึงลงมาในความขัดแย้งทางการเมือง การที่จะทำให้สังคมไทยมีปกติสุข ทุกคนมีภาระหน้าที่ช่วยกันให้สถาบันไม่ถูกดึงลงมาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำงาน เพื่อที่จะเทิดทูน เชิดชูสถาบันกษัตริย์ ช่วยกันสร้างความเข้าในที่ถูกต้อง ดูแลมิให้มีสื่อใดจาบจ้วงหรือดึงสถาบันมาสู่ความขัดแย้งทางการเมืองสอง เป็นหัวใจของการปฏิรูปประเทศที่กำลังพูดถึงกัน ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอาจถูกมองว่ามาจากเรื่องการเมือง แต่รากฐานมาจากความไม่เป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจ ผู้ชุมนุมจำนวนมากก็รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับโอกาส ถูกรังแกจากผู้มีอำนาจ ในอดีตรัฐบาลแต่ละยุคแต่ละสมัยอาจมีนโยบายแก้ปัญหา แต่ไม่สามารถทำให้เกิดความเป็นธรรมทั้งโครงสร้างได้ ถึงเวลาที่จะมีระบบสวัสดิการที่ดีและสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกัน ประชาชนที่ทุกข์ร้อนเป็นพิเศษ คนไม่มีที่ทำกิน หนี้สินท่วมตัว ต้องได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบ โดยจะดึงเอาทุกภาคส่วนเข้ามาดำเนินการที่จะแก้ปัญหานี้ และจะมีมาตรการรูปธรรมอย่างเป็นระบบ และมีเป้าหมายที่ชัดเจน ประเมินผลได้ว่าจะยกระดับรายได้ให้ประชาชน และให้ทุกรัฐบาลต้องดำเนินการเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคมสาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคปัจจุบัน สังคมเราเป็นสังคมข้อมูลข่าวสาร จริงอยู่ที่จะต้องสนับสนุนและยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวาสร แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า อำนาจของสื่อที่นำเสนอข่าวสาร ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในทางการเมือง อาศัยช่องว่างทางกฎหมายดำเนินการทั้งการใช้อินเตอร์เน็ต สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม วิทยุชุมชน แม้กระทั่งสถานีโทรทัศน์ของรัฐเองก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสร้างความขัดแย้ง เกลียดชัง เรายังยืนยันว่าสื่อต้องมีสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องมีกลไกอิสระเข้ามากำกับอย่างแท้จริงว่า แม้จะมีอิสระแต่ต้องไม่เสนอข้อมูลข่าวสารที่มุ่งความเกลียดชัง และความรุนแรงต่อกัน ถ้าดูแลเรื่องการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ สังคมก็จะกลับมาปรองดองกันได้สี่ หลังจากมีการชุมนุมเคลื่อนไหวครั้งล่าสุด ได้เกิดหลายเหตุการณ์ที่มีความรุนแรง ความสูญเสีย ทำให้เกิดข้อกล่าวหาต่างๆ นานา อาจนำไปสู่ความแตกแยกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าเหตุการณ์ 10 เมษา หรือที่ถนนสีลม หรือที่ดอนเมือง ล้วนแล้วแต่กระทบกระเทือนจิตใจประชาน หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่รพ.จุฬาฯ ก็สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจให้ประชาชนจำนวนมาก ทุกเหตุการณ์ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ต้องมีคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และให้ความจริงกับสังคมห้า เกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง ความขัดแย้งทางการเมืองสี่ห้าปีนี้ทำให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับกติกา เช่น รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายบางฉบับ หรือการเพิกถอนสิทธิในวงการเมือง ถึงเวลาที่ต้องนำสิ่งเหล่านี้มาวางเพื่อให้มีกลไกระดมความเห็นทุกฝ่าย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ครอบคลุมตั้แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปจนถึงการชุมนุมในช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ต้องมีการให้ความเป็นธรรมกระบวนการนี้ไม่อาจบรรลุเป้าหมาย หากไม่ได้รับการร่วมมือจากทุกฝ่าย หากเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ทุกกลุ่มเข้าร่วม ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่มีการขัดขวาง เคลื่อนไหวรุนแรง มั่นใจว่าจะใช้เวลาไม่นานนัก ก็สามารถนำความปรองดอง ปกติสุขคืนสู่สังคม ถ้าเป็นเช่นนั้น รัฐบาลพร้อมจัดการเลือกตั้งใหม่ ให้ประชาชนตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง ถ้าบ้านเมืองสงบ การเลือกตั้งจัดให้มีขึ้นในในวันที่ 14 พ.ย.นี้ แต่ถ้าบ้านเมืองยังไม่สงบ กระบวนการดังกล่าวก็จะดำเนินไป แต่อาจล่าช้า และไม่อาจตอบได้ว่าการเลือกตั้งที่นำสู่การปรองดองจะเกิดขึ้นได้เมื่อไร และหากผู้ชุมนุมไม่รับข้อเสนอนี้ ก็จะยังพยายามทำต่อไป โดยไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไร อย่างไร ข้อเสนอเพื่อความปรองดองอาจไม่ถูกใจฝ่ายใดเลย เพราะไม่มีใครได้ทุกสิ่งที่ตนต้องการ แต่ต้องอาศัยความเสียสละ และยอมถอยคนละก้าว หวังว่าข้อเสนอนี้จะได้รับการตอบรับจากทุกฝ่าย และในวันพุธที่จะถึงนี้พวกเราจะได้มีความสุขในการเฉลิมฉลองวันฉัตรมงคล | มาร์คออกทีวีพูล เปิดแผนปรองดอง ชูสถาบันกษัตริย์-สร้างรัฐสวัสดิการ-เสรีภาพสื่อต้องมีกลไกอิสระควบคุม-ตั้งคณะกรรมการกลางพิสูจน์ข้อเท็จจริงความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งหมด | การเมือง | การชุมนุมเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2553,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | https://prachatai.com/journal/2010/05/29281 |
เสี่ยโรงน้ำดื่ม ยันเลข 73 มาแน่งวดนี้ หลังถูกรัวๆ 34 งวดแล้ว | การช่วยเพื่อนมนุษย์ และหากถูกงวดนี้ งวดหน้าให้แทง 39 ต่อ เพราะจะเป็นงวดสุดท้ายที่จะบอกเพราะองค์เทพจะจำศีลนาน 18 เดือนเมื่อเย็นวันที่ 30 มิ.ย.63 ก่อนวันหวยออก ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นายกฤษดา แซ่โกย เสี่ยหนุ่มเจ้าของโรงงานน้ำดื่มตรานาคราช และเป็นผู้มีพลังสัมผัสพิเศษ จนถูกลอตเตอรี่ 34 งวดซ้อน เพื่อขอคำยืนยันตัวเลข 2 ตัวล่างที่บอกไว้ล่วงหน้าว่าเลขท้าย 2 ตัวล่างจะเป็นเลข 73 อย่างแน่นอน ซึ่ง นายกฤษดา กำลังนั่งสมาธิตั้งจิตอธิษฐานหน้าแร่อัญมณีดูดทรัพย์ โดยยังคงนำแผ่นกระดาษที่วงกลมที่เลข 73 ออกมายืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเลขที่จะออกในวันที่ 1 ก.ค.นี้ยังคงมีเลข 73 แน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง แต่หากมีการเคลื่อนเวลาที่จับลูกกลมหมายเลขรางวัลออกไป เลขก็จะออกไปที่ 94 กับ 89 และในวันที่ตนจ้องเลข 73 มันเหมือนกับมีสัมผัสอะไรเกิดขึ้น กระแสจิตส่วนหนึ่งแว๊บขึ้นมาเห็นเป็นเลข 63 และตัวเลขข้างบนยังคงเห็นเป็นเลข 880 ซึ่งตนเพียงแค่เห็นผ่านๆแต่ยังมั่นใจในเลขที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์มอบให้ก็คือ 73 และหากออกตามนี้แล้ว จะขอบอกล่วงหน้าเลยเลขท้าย 2 ตัวที่จะออกในวันที่ 16 ก.ค. คือเลข 39 แน่นอนและเป็นงวดสุดท้ายที่ตนจะบอก จากนั้นองค์เทพสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะขอไปจำศิลนานร่วม 18 เดือนเสี่ยน้ำดื่มตรานาคราช กล่าวนายกฤษดา กล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้มีผู้คนติดต่อมาที่ตนขอเข้ามาชมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ตนได้ปฎิเสธโดยบอกว่าเป็นที่ตั้งโรงงานยังไม่เหมาะจะให้คนภายนอกเข้ามา แต่สิ่งที่ชาวบ้านต้องการก็คือตัวเลข ซึ่งตนก็บอกว่าจะผ่านให้ทางสื่อ และโชเชียลของตนให้ติดตามในนั้นได้ ตนต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นตนไม่ได้เป็นคนบอก แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้ทุกครั้ง ขอให้ยึดมั่นในความดีและมีศรัทธามั่นทำบุญสุนทานและมีความกตัญญูต่อบิดามารดา ให้มากสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะมอบให้เอง.อ่านตรวจหวย 1/7/63 | ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 กรกฎาคม 2563ชมถ่ายทอดสดการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2563มาแล้ว เลขเด็ดเงินปากนาคที่คำชะโนด คอหวยตะลึงเลขสวยจริงคอหวยราชบุรี คึกคักได้ เลขเด็ด ไปเสี่ยงโชค กว้านซื้อลอตเตอรี่หมดแล้วรวม 7 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 2020 ไหว้พระขอพร เสริมดวง เงินทองไหลมาเทมา | เสี่ยเจ้าของโรงงานน้ำดื่ม ผู้ที่ถูกหวยติดต่อกันถึง 34 งวด ยันงวดนี้ยังมี 73 พร้อมยืนยันมางวดนี้แน่ เผยเลขมาจากพลังบุญพญานาคและแร่หินแห่งโชคลาภ รสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในโรงงานและบ้านพัก ที่ต้อง | ข่าว,ทั่วไทย | หวยไทยรัฐ1-7-63,เลขเด็ด,เลขเด็ด1-7-63,เลขเด็ด 1 ก.ค. 63,เสี่ยโรงงานน้ำดื่ม,หวยงวดนี้,หวย | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1879932 |
3 เคล็ดลับสุขภาพดีสไตล์ กึ้ง เฉลิมชัย ขวัญใจเซเลบ | นักธุรกิจเซเลบริตี้หนุ่มชื่อดังงานก็จะยุ่งๆ หน่อย แต่ในวันธรรมดาหรือวันที่มีเวลาเล็กน้อย ,กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ, ไม่ลืมที่จะดูแลตัวเอง โดยเขาบอกกับ ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, ว่าอยากพยายามดูแลสุขภาพ เพราะนั่นคือสิ่งจำเป็นที่สุด ในการใช้ชีวิตของเขาเอง,โดยเมื่อเราได้เจอเขาในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์พี80 เครื่องดื่มสกัดเข้มข้นจากลำไยจากธรรมชาติ 100% วันนี้เซเลบหนุ่มคนดังมาในลุคสบายๆ และดูสดใสไม่น้อย ทั้งที่ทำงานหนักพอสมควร เราเลยได้พูดคุยและขอเคล็ดลับการมีสุขภาพดีแบบหนุ่มกึ้งมาฝากกันเผื่อว่าจะมีหนุ่มสาวคนไหน เอาไปทำกันบ้าง,ดูในแต่ละวัน บอกกับตัวเองว่าทำอะไรง่ายๆ เช่น การตื่นเช้ามาในแต่ละวัน วิดพื้นเท่านี้ ก่อนนอนวิดพื้นเท่านี้ คือต่อให้เราไม่ได้ไปออกกำลังกายในยิมเราก็มีการออกกำลังกายอยู่อย่างสม่ำเสมอทำให้เป็นกิจวัตรประจำวันไป เหมือนเราทานข้าวตอนเช้า ให้มันเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคย จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อยกับการกระทำนั้นๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ ,เวลานอนก็สำคัญ เพราะการทำงาน การดูแลตัวเองมันมาจากลูปที่เราได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ถ้าวันไหนที่ไม่สดชื่นเนี่ย จะรู้เลยว่าวันนั้นต้องการเติมพลัง ต้องการอะไรไปกระตุ้นสักอย่าง เพราะฉะนั้นการนอนหลับที่ดีช่วยเราได้ 6-8 ชั่วโมงนี่เต็มที่เลย,ทำสิ่งที่ทำทุกวัน คอยดูตัวเองรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน รู้ตัวเองว่าทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำสิ่งนั้น (หัวเราะ) เล่นกับหลาน หลานจะเยอะๆ หน่อย เราก็มีความสุขจากครอบครัวของเรา ที่เวลาเราทำงานหนักๆ มา มันคือการผ่อนคลาย ตอนนี้ก็ยุ่งเพราะทำหลายอย่างครับแต่ก็พยายามแบ่งเวลาให้ตัวเองให้มากที่สุด. | บอส กึ้ง เฉลิมชัย ทำงานหนักแต่ยังดูสดใสบลิ๊ง สงสัยมีตัวช่วยดี ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ได้เจอตัว จึงขอเคล็ดลับความสดใสมาฝากกันจ้า | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | กึ้ง เฉลิมชัย,ดูแลสุขภาพ,สุขภาพดี,ผู้ชาย | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1360055 |
Trendy Review : หุ่นดูดฝุ่น Hyasong VR-101 | Hyasong (ออกเสียงว่า ไฮ-ยา-ซอง) เป็นชื่อแบรนด์ที่บอกตรงๆ ว่าไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไหร่สำหรับคนไทย และขนาดบล็อกเกอร์สายรีวิวแบบผมเอง ก็ผ่านหูผ่านตาชื่อนี้กับผลิตภัณฑ์ไม่กี่อย่าง อาทิ โทรทัศน์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต เท่านั้นเอง พยายามหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็ไม่มีอะไรบอกว่าเป็นของประเทศอะไร นอกจากเป็น International Electronics Brand ที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกครับ โดยในประเทศไทย ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เป็นการร่วมมือกับ Tesco Lotus ครับผม ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ทาง PR เขาส่งของมาให้ผมลองชิ้นนึง มันคือ หุ่นดูดฝุ่น ที่แปะชื่อว่า Smart Robot Vacuum Cleaner ครับ ลองมองที่กล่องแล้ว เห็นว่าชื่อรุ่นคือ VR-101 ซึ่งสนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 6,490 บาท,ขอสารภาพบาปในฐานะชายโฉดเลยครับว่าเป็นคนที่ขี้เกียจทำความสะอาดห้องอย่างแรง คือห้องก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก เป็นห้องสตูดิโอบนบ้านแบบทาวน์โฮมขนาด 21 ตารางวา ซึ่งนั่นหมายความว่าพื้นที่ของห้องของผมก็จะอยู่ที่ราวๆ สามสิบกว่าตารางเมตรเท่านั้นแหละ แต่ด้วยความที่เป็นชายโฉด ก็เลยมีของโน่นนี่นั่น จุกจิก วางระเกะระกะไปหมด ทั้งกล่องใส่พวกอุปกรณ์เสริมต่างๆ กล่องเก็บพวกโทรศัพท์มือถือที่มี ไหนจะพวกชั้นวางหนังสือและโน้ตบุ๊กอีก แถมการทำงานประจำบวกกับการเป็นบล็อกเกอร์ก็ทำให้ไม่มีเวลาทำความสะอาดห้องตัวเองสักเท่าไหร่ (ข้ออ้างสุดๆ) เวลาจะทำความสะอาดแต่ละที ก็เลยต้องอาศัยอุปกรณ์ที่เรียกว่า หุ่นดูดฝุ่นครับ ซึ่งด้วยความงกของผม ผมก็ซื้อแบบโนเนมมาจากการสั่งออนไลน์ … แต่จากที่เคยลองใช้มาสองรุ่นที่บ้าน และได้ไปลองเล่นยี่ห้ออื่นๆ ที่เป็นแบบไฮเอนด์ ทั้งของ LG, Samsung หรือแม้แต่ iRobot เอง ก็ทำให้ผมกล้าพูดว่ามีประสบการณ์มากพอที่จะรีวิวเจ้านี่ได้อย่างเต็มปากล่ะ หุหุ,แกะกล่องมาดูก่อนว่า Hyasong VR-101 มีอะไรมาให้บ้าง, ,ก่อนอื่นเลย ลองแกะกล่องออกมาดูก่อนครับว่า Hyasong VR-101 มีอะไรมาให้ในกล่องบ้าง … ภายในกล่องมีการออกแบบที่เก็บไว้ค่อนข้างเป็นระเบียบดี สิ่งที่เราจะได้ภายในกล่องก็จะมี, ตัวเครื่องหุ่นดูดฝุ่น Hyasong VR-101 , แท่นชาร์จแบตเตอรี่พร้อมกับสายอะแด็ปเตอร์ , อะไหล่สำรองสำหรับแปรงปัดฝุ่น 2 ชิ้น (มีอีกสองชิ้นติดตั้งมาให้กับตัวหุ่นดูดฝุ่นอยู่แล้ว), อะไหล่สำรองกระดาษกรองฝุ่นสำหรับถังเก็บฝุ่น , แปรงทำความสะอาด , รีโมตคอนโทรล , คู่มือ (ภาษาไทย) และ ใบรับประกัน 1 ปี,ก็เรียกได้ว่าอุปกรณ์ที่แถมมาให้ก็ครบเครื่องดีครับ ไม่แตกต่างอะไรไปจากพวกหุ่นดูดฝุ่นที่ผมเคยลองใช้งานมาก่อนหน้านี้ … แต่แอบรู้สึกว่าอะไหล่สำรองสำหรับกระดาษกรองที่เอาไว้ใส่กับถังเก็บฝุ่นน่าจะให้มาสัก 2 ชุดก็ยังดี … แต่ให้มาชุดเดียวก็ไม่ได้ติดอะไรนะ และแบรนด์ Hyasong ก็ทำตลาดอย่างเป็นทางการในประเทศไทยด้วย เชื่อว่าไม่น่าจะหาซื้ออะไรมาเปลี่ยนใหม่ยากอะไร,ตัวหุ่นดูดฝุ่นนั้นใช้กำลังไฟต่ำครับ คือ ไม่ถึง 30 วัตต์ ถังเก็บฝุ่นสามารถเก็บฝุ่นได้ 0.6 ลิตร น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 2.9 กิโลกรัม มีขนาดสัดส่วนอยู่ที่ 330 มม. x 330 มม. x 90 มม. มีแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนมาให้ความจุ 2,200 mAh ตามสเปกแล้วบอกว่าใช้งานต่อเนื่องได้ 90-100 นาที และใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม,ผมลองเปรียบเทียบกับยี่ห้อโนเนมที่ผมซื้อไว้ประจำบ้าน ก็พบว่าดีไซน์ของ Hyasong นี่ดูดีกว่าของโนเนมที่ผมซื้อมาก่อนหน้านี้นะ โดยเฉพาะการออกแบบให้ถังเก็บฝุ่นเป็นแบบคล้ายๆ กล่องเล็กๆ วางไว้ด้านบนของตัวเครื่อง เพราะเวลาถอดออกมา ก็หมดห่วงเรื่องฝุ่นจะหกเลอะเทอะออกมาด้านนอก ผิดกับยี่ห้อโนเนมของผม ที่ถังเก็บฝุ่นเป็นแบบถอดจากด้านหลัง แถมไม่มีฝาปิดให้ดี เวลาถอดมาทีไร มักจะมีฝุ่นตกค้างอยู่ในตัวเครื่อง ทำความสะอาดลำบากทุกทีสิน่า,ด้านใต้ของตัวหุ่นดูดฝุ่น Hyasong VR-101 นี่ จะมีแปรงปัดฝุ่นอยู่ 3 ชุดครับ คือ แปรงแบบหมุนเป็นวงกลม 2 ชุดอยู่ด้านซ้ายและขวา ทำหน้าที่คอยปัดฝุ่นต่างๆ ให้เข้ามาสูงแปรงชุดที่สามที่เป็นตัวหลัก คือ แปรงที่จะปัดเอาฝุ่นเข้าไปในช่องดูดฝุ่นครับ,ส่วนที่จะสกปรกง่ายที่สุด (และไวที่สุด) ก็คือ แปรงชุดหลักนี่แหละ แต่การถอดออกมาทำความสะอาดนี่ไม่ยากเท่าไหร่นะครับ เปิดฝาปิดออก แล้วก็ปลดแปรงออกมาเช็ดทำความสะอาดได้เลย,เทียบกับหุ่นโนเนมที่ผมซื้อมาก่อนหน้านี้ละก็ Hyasong VR-101 ดูจะถอดทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเยอะครับ เพราะไม่มีอะไรให้ต้องถอดทำความสะอาดเยอะมากเท่า และในแง่ของการใช้งาน ผมว่าก็ไม่น่าจะให้ผลลัพธ์ที่ด้อยไปกว่ากันเลย,ลองใช้งานหุ่นดูดฝุ่น Hyasong VR-101, ,จากประสบการณ์ในการใช้งานหุ่นดูดฝุ่นมา 2 ยี่ห้อ 2 รุ่น แบบโนเนม (คือตอนซื้อผมเน้นราคาประหยัด) ก็ต้องบอกตรงๆ ว่า หุ่นดูดฝุ่นนี่เวิร์ก และใช้ได้จริงนะครับ สะดวกกว่าการใช้เครื่องดูดฝุ่นมาก เพราะไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนหัวที่ดูดฝุ่นเพื่อให้ปรับเข้ากับสภาพของพื้นผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่โล่งกว้าง หรือใต้ตู้ใต้เตียง … ความสูงของหุ่นดูดฝุ่นนี่มักจะไม่มาก … อย่าง Hyasong VR-101 นี่ก็สูงแค่ 9 เซ็นติเมตร สามารถลอดไปใต้เตียง ใต้ตู้ที่ยกพื้นสูงๆ หน่อยสบายๆ ครับ ฉะนั้นบริเวณที่ปกติเรามักจะทำความสะอาดไปไม่ถึงเนี่ย เจ้าหุ่นดูดฝุ่นก็เข้าไปทำความสะอาดได้สบายๆ,แม้ว่าหุ่นดูดฝุ่นจะมีกำลังไฟไม่มาก แค่ไม่ถึง 30 วัตต์ แต่ด้วยการประยุกต์ใช้พวกแปรงปัดต่างๆ เพื่อดูดฝุ่น และด้วยความที่มันถูกออกแบบให้ทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งใน Hyasong VR-101 นี่ก็สามารถตั้งเวลาให้ทำงานโดยอัตโนมัติได้ด้วย ทำให้เราสามารถใช้มันทำงานดูดฝุ่นได้บ่อยกว่าการแบกเครื่องดูดฝุ่นไปทำความสะอาดด้วยตนเอง ประกอบกับฟังก์ชั่นรูปแบบการเคลื่อนไหวเพื่อดูดฝุ่นมีหลากหลายแบบ หากเลือกให้เหมาะสมแล้ว ก็สามารถที่จะทำความสะอาดภายในห้องของคุณได้ค่อนข้างหมดจดอยู่ … และแน่นอนว่า ประหยัดไฟกว่าการใช้เครื่องดูดฝุ่นทั่วไปอีกด้วย,ในกรณีที่ต้องการเน้นทำความสะอาดเฉพาะจุด หรือเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่ต้องการ ก็เลือกใช้การควบคุมแบบ Manual ด้วยรีโมตคอนโทรลได้ ซึ่งบังคับหุ่นให้เริ่มทำงานหรือหยุดทำงาน หรือเดินหน้า ถอยหลัง หมุนซ้าย หมุนขวา ได้ตามใจชอบ … ข้อจำกัดเดียวของรีโมตที่ผมพบคือ เวลาสั่งงานเดินหน้าถอยหลัง มันต้องกดค้างอ่ะครับ จริงๆ ผมอยากบอกว่า ถ้าจะให้สะดวกต่อผู้ใช้งาน น่าจะออกแบบมาให้เมื่อกดเดินหน้าแล้ว มันจะเดินหน้าต่อเองโดยอัตโนมัติ จนกว่าเราจะเปลี่ยนมากดปุ่มถอยหลังมากกว่า (แล้วมันก็ควรจะถอยหลังอัตโนมัติไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะกดปุ่มเดินหน้าอีกที),โดยส่วนตัว ผมมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับหุ่นดูดฝุ่นราคาต่ำกว่าหมื่นที่โฆษณาว่า เมื่อแบตเตอรี่หมดสามารถกลับเข้าไปที่แท่นชาร์จแบตเตอรี่ได้โดยอัตโนมัติ … ทำไมน่ะเหรอ … ก็เพราะว่ายี่ห้อโนเนมที่ผมซื้อมา มันก็โม้แบบนั้น แต่จริงๆ แล้ว หลักการในการกลับแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติมันคือ การเดินชนมั่วจนกว่าจะกลับถึงแท่นชาร์จ ซึ่งเมื่อใช้งานเข้าจริงๆ มันไม่สะดวก และบ่อยครั้งผมก็มักจะพบไอ้หุ่นโนเนมนี่นอนตายกลางห้องเพราะแบตเตอรี่หมด และไปไม่ถึงแท่นชาร์จ … ซึ่งหากเป็นยี่ห้อแบรนด์มีชื่อ รุ่นไฮโซราคาหมื่นปลายๆ เนี่ย ฟังก์ชั่นเดียวกันนี้จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะตัวแท่นมันจะเหมือนกับมีสัญญาณบอกให้หุ่นดูดฝุ่นรู้ว่าแท่นชาร์จอยู่ตรงไหน ฉะนั้นพอแบตเตอรี่ใกล้หมด หุ่นก็จะวิ่งวืดๆ เข้าไปชาร์จแบตเตอรี่ได้เลย พอแบตเตอรี่เต็มก็ออกมาวิ่งดูดฝุ่นต่อไป,ตอนที่ผมเห็นคำโฆษณาคุณสมบัติวิ่งกลับแท่นชาร์จอัตโนมัติของ Hyasong VR-101 นี่ เมื่อพิจารณาจากราคา 6,490 บาท ที่ใกล้เคียงกับราคาหุ่นโนเนมที่ผมซื้อมา ผมก็เลยคิดว่าหลักการในการวิ่งกลับแท่นชาร์จของมันก็ไม่น่าจะแตกต่างอะไรจากหุ่นโนเนมที่ผมซื้อมามาก แต่พอใช้งานจริงผมพบว่า หลักการมันจะเหมือนกับหุ่นรุ่นไฮโซมากกว่าครับ เพราะผมลองปล่อยให้มันดูดฝุ่นในห้องไปเป็นชั่วโมงๆ แล้วค่อยกลับขึ้นมาดู ก็พบว่ามันกลับเข้าไปจอดในแท่นชาร์จเรียบร้อยดีแล้ว … ไอ้ตอนแรกผมก็นึกว่าฟลุก ผมเลยเอามันออกมาดูดฝุ่นต่อ แล้วทีนี้ลองกดปุ่มกลับแท่นชาร์จบนรีโมตดู ก็พบว่าตัวหุ่นมันสามารถวิ่งตรงกลับแท่นชาร์จไปได้เลย โดยใช้หลักการวิ่งไปสักพัก ก็หมุนรอบตัวเพื่อตรวจหาว่าแท่นชาร์จอยู่ตรงไหน หากหาไม่เจอก็ค่อยวิ่งไปต่ออีกซักพัก ค่อยหมุนตัวหาอีกที ไม่ใช่วิ่งชนสิ่งกีดขวางมั่วซั่วจนกว่าจะเจอแท่นชาร์จเหมือนยี่ห้อโนเนม … คือ ประทับใจมาก,อยากให้เห็นการทำงานของมันจริงๆ เลยถ่ายวิดีโอเอาไว้ครับ … เจ้านี่สามารถหลบหลีกพวกสิ่งกีดขวางได้ดีกว่าหุ่นโนเนมเยอะเลย คือ ไม่ชนแรงๆ แต่เมื่อเข้าไปใกล้ๆ ก็จะรู้ตัวว่ามีสิ่งกีดขวางแล้ว น่าจะเป็นเพราะมีการใส่เซ็นเซอร์ตรวจจับเอาไว้ให้ ฉะนั้น ประมาณ 90% เมื่อเจอสิ่งกีดขวาง มันจะเบี่ยงหลบไปก่อน ไม่ได้ชนไปแรงๆ เลยแบบหุ่นโนเนมของผม … แน่นอนว่ามีราวๆ 10% ที่มันจะชน แต่มันไม่ใช่ชนแรงๆ ครับ มันออกแนวชนดันๆ มากกว่า … ตามสเปกเขาบอกว่าขณะทำงาน มันก่อให้เกิดเสียงดังไม่ถึง 60 เดซิเบลครับ ซึ่งจากที่ผมลองใช้มาดูก็พบว่ามันไม่ได้เสียงดังสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับหุ่นดูดฝุ่นโนเนมที่ผมมีครับ … แน่นอน ในกรณีที่เจอพวกขอบพื้นต่างระดับหรือขอบบันได เจ้านี่ก็จะตรวจจับได้และหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ตกจากบันไดหรือที่สูงได้ด้วย,อย่างที่บอกครับว่าหุ่นดูดฝุ่นน่ะ มันใช้ได้ผลจริงจัง … ลองดูปริมาณฝุ่นนี่ก่อนได้ครับ นี่ขนาดผมดูดฝุ่นไปก่อนหน้านี้รอบนึงแล้วนะ และนี่คือแค่ใช้หุ่นดูดฝุ่น Hyasong VR-101 ดูดฝุ่นไปราวๆ 30 นาที ให้มันวนไปรอบๆ ห้องเรื่อยๆ … บางคนอาจจะรู้สึกว่าดูดได้ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ผมอยากชี้แจงในฐานะคนที่ใช้หุ่นดูดฝุ่นนี่ซักหน่อยครับ คือ มันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ดูดได้เยอะๆ ในคราวเดียว แต่มันถูกออกแบบมาให้ออกไปทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมโดยอัตโนมัติ โดยทำทุกวันมากกว่าครับ คือ ถ้าเราทำความสะอาดตามปกติเราใช้เครื่องดูดฝุ่นทั่วไป เราอาจจะทำความสะอาดสัปดาห์ละหน ก็จะมีฝุ่นหนาๆ หรือเศษโน่นนี่นั่นชิ้นใหญ่ๆ อยู่ แต่ในกรณีของหุ่นดูดฝุ่น เราจะต้องเก็บเศษชิ้นใหญ่ๆ ออกก่อน (ซึ่งทำไม่ยาก เพราะไม่เยอะ และเก็บง่าย) จากนั้นก็ให้หุ่นดูดฝุ่นเนี่ย ทำความสะอาดโดยอัตโนมัติทุกวัน โดยเราไม่ต้องไปเสียเวลานั่นเอง เราจะได้ไปทำอย่างอื่นต่อไง (เช่น ขณะที่ผมเขียนบล็อกอยู่นี่ ผมก็ให้ Hyasong VR-101 วิ่งดูดฝุ่นไปพลางๆ ด้วย),อย่างไรก็ดี มันก็มีข้อจำกัดให้เห็นอยู่บ้างครับ … ซึ่งผมพอจะสรุปเอาไว้เป็นข้อดีข้อจำกัดให้อ่านกันคร่าวๆ ได้ดังนี้,ข้อดี , ดูดฝุ่นได้ทุกซอกทุกมุม ระหว่างดูดฝุ่นเสียงไม่ดังมาก ไม่ชนสิ่งกีดขวางแรงๆ สามารถเคลื่อนที่หลบสิ่งกีดขวางได้ , ถังเก็บฝุ่นออกแบบมาดี เวลาแกะออกไม่ฝุ่นไม่หกเลอะเปรอะเปื้อนมาก , ระบบกลับแท่นชาร์จอัตโนมัติทำงานได้ดีจริงจัง , ระบบขับเคลื่อนสามารถเคลื่อนที่ไปตามแนวสิ่งกีดขวางเพื่อทำความสะอาดพื้นที่รอบๆ สิ่งกีดขวางได้ดี ,ข้อจำกัด , ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ค่อนข้างนาน คือ 3-4 ชั่วโมง , ตัวหุ่น Hyasong VR-101 ไม่ได้เดินหน้าอัตโนมัติ เวลาสั่งเคลื่อนที่ต้องกดปุ่มเดินหน้าหรือถอยหลังค้างไว้ ไม่สะดวกเท่าไหร่ , เวลาเจอสิ่งกีดขวาง หุ่น Hyasong VR-101 มีโอกาสชนแบบดันให้เคลื่อนที่ ฉะนั้น อย่าวางอะไรไว้ตรงขอบพื้นที่ต่างระดับ หรือขอบบันได อาจตกหล่นเสียหายได้ , ไม่มีคุณสมบัติ Virtual wall (กำแพงเสมือน) ที่จะกั้นไม่ให้หุ่น Hyasong VR-101 เข้าไปยังพื้นที่ที่ไม่อยากให้เข้าไปทำความสะอาด,คุณสมบัติตามที่ Hyasong เขาว่ามา … ทำได้ตามที่ว่าจริงไหม ,อยากรู้ว่า Hyasong VR-101 ตัวนี้ทำอะไรได้บ้าง จากคำโฆษณา … และจากการทดลองใช้งาน ผมขอถือว่านี่เป็น Checklist แล้วสรุปแบบนี้ , ควบคุมด้วยระบบการทํางานคอมพิวเตอร์ มีโหมดสั่งการเพื่อทําความสะอาดได้หลากหลายรูปแบบ … ทำได้จริง , มีโหมดการทํางานประสิทธิภาพสูงด้วยอุปกรณ์เก็บฝุ่น+แปรงดูดฝุ่น+แปรงสองทิศทาง … มีครบตามที่ว่าจริง , แสดงสถานะการทํางานด้วยหน้าจอไฟฟ้า LED และปุ่มแสดงความร้อน (Thermal button) … มีครบตามที่ว่าจริง , สามารถตั้งเวลาทํางานในแต่ละวันได้ … ตั้งเวลาได้จริง , มีระบบอัจฉริยะในการขับเคลื่อนควบคุมทิศทาง … ทำได้จริง หุ่นสามารถเคลื่อนตัวล้อไปตามขอบสิ่งกีดขวางได้ดีมาก , มีระบบป้องกันการกระแทก และระบบชาร์จไฟอัตโนมัติ … ทำได้จริงในทางปฏิบัติ , มีหน้าจอแสดงผลและการเตือนหลากหลายรูปแบบ … จอ LCD แจ้งเตือนต่างๆ ได้ดี,บทสรุปรีวิว Hyasong VR-101, ,ค่าตัว 6,490 บาท ผมว่าคุ้ม แนะนำครับ เพราะหุ่นดูดฝุ่นโนเนมตัวก่อนที่ผมใช้อยู่เดิมที่บ้านมันไม่ตอบโจทย์ผม 100% เนื่องจากผมต้องหมั่นมาเก็บมันเข้าไปแท่นชาร์จอยู่ประจำซึ่งไม่สะดวกเอามากๆ ตอนที่ซื้อมาเห็นว่ามีคุณสมบัติกลับแท่นชาร์จอัตโนมัติ ก็กะว่าจะตั้งเวลาทำความสะอาดทุกวัน แต่เอาเข้าจริงๆ ทำไม่ได้เพราะแนวทางในการกลับหาแท่นชาร์จมันไม่เวิร์ก,แต่ Hyasong VR-101 นี่มีคุณสมบัติที่ทำได้ไม่แพ้พวกหุ่นดูดฝุ่นรุ่นไฮโซราคาแพงๆ เลยครับ ลองเอามาใช้แล้ว สามารถใช้งานได้จริง ตอบโจทย์ความต้องการผมมาก คือ เน้นทำดูดฝุ่นทำความสะอาดทุกวัน ตั้งเวลาให้ทำงานตอนที่ออกไปทำงานนอกบ้าน และให้มันทำงานเรื่อยๆ แบตเตอรี่หมดก็กลับเข้าแท่นชาร์จอัตโนมัติเองไป เย็นกลับมาก็แค่เอาฝุ่นไปเททิ้ง.,คงเดช กี่สุขพันธ์,E-Mail: [email protected],Twitter: ,http://www.twitter.com/kafaak,Facebook: ,http://www.facebook.com/kafaakBlog,Google+: ,http://bit.ly/kafaakGPPage,Blog: ,http://www.kafaak.com | สัปดาห์นี้พบกับ Smart Robot Vacuum Cleaner หรือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Hyasong VR-101 ที่ตอบโจทย์คนไม่มีเวลา ปล่อยมันดูดฝุ่นทำความสะอาดทุกวัน ตั้งเวลาให้ทำงานตอนที่ออกไปทำงานนอกบ้าน และให้มันทำงานเรื่อยๆ และยังชาร์จไฟได้ด้วย | null | ไฮยาซอง,หุ่นดูดฝุ่น,Hyasong,Review,Vacuum Cleaner Robot,VR-101,หุ่นยนต์ดูดฝุ่น,ทำความสะอาดบ้าน,คงเดช กี่สุขพันธ์,Trendy review,ข่าวไอที,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/504360 |
ทำแท้งในส้วมรถทัวร์ คาดวัยรุ่นไม่พร้อมมีลูก หลังเข้าสุขานานผิดปกติ | เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ก.ค. 59 ร.ต.ท.นพพล เกียรติทวีมั่นคง รอง สว.สส.สน.โคกคราม รับแจ้งเหตุพบศพทารกในอู่รถทัวร์ชื่อดัง แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุอยู่ภายในลานจอดรถ พบรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-เชียงราย ทะเบียน 14-2429 กทม. จอดอยู่ ตรวจสอบใต้ท้องรถพบซากศพทารกไม่ทราบเพศ อายุครรภ์ประมาณ 4-5 เดือน ความยาวราว 15 ซม. ตรวจสอบภายห้องน้ำบนรถทัวร์คันดังกล่าวพบคราบเลือดบริเวณพื้นห้องน้ำ และกระดาษทิซชูเปื้อนเลื้อนเลือดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน,จากการสอบถามพนักงานดูแลรถทัวร์คันดังกล่าว เปิดเผยว่า รถคันนี้เดิมทีใช้รับส่งผู้โดยสารเส้นทางสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ แต่ภายหลังรถทัวร์เส้นทางสายน่าน-กรุงเทพฯ ไม่เพียงพอ จึงนำรถทัวร์คันดังกล่าวมาช่วยวิ่ง โดยก่อนพบศพรถออกจากท่ารถที่ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา แวะรับผู้โดยสารที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน จากนั้นจึงเดินทางต่อมายังสถานีขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในช่วงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค.,ทั้งนี้ ระหว่างที่รถจอดให้ผู้โดยสารลง มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งขึ้นมาจากจุดรับผู้โดยสาร อ.ท่าวังผา เข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำภายในรถทัวร์เป็นเวลานานผิดปกติ โดยมีเพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันคอยยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำ ก่อนจะรีบเดินรถลงจากรถไป กระทั่งเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ขณะที่นำรถกลับมายังอู่ พบว่าที่บริเวณพื้นในห้องน้ำในรถทัวร์มีคราบเลือดติดและทิชชูเปื้อนเลือด จึงเรียกช่างให้มาทำการตรวจสอบพร้อมกับระบายของเสียออก และต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบซากศพทารกตกลงมาบนพื้น จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ,เบื้องต้นคาดว่าศพทารกน่าจะเป็นของหญิงสาววัยรุ่นรายหนึ่งที่ไม่พร้อมตั้งครรภ์ออกซึ่งพยายามทำแท้ง กระทั่งเด็กเสียชีวิตและหลุดออกมา จึงทิ้งไว้ในห้องน้ำก่อนจะหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังลงพื้นที่ออกตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงสถานีขนส่งต้นทางและที่ อ.ท่าวังผา เพื่อหาตัวมาดำเนินคดี. | พนักงานดูแลรถทัวร์แทบช็อก! เจอคราบเลือดในส้วมบนรถ เรียกช่างระบายของเสีย ตะลึง เจอซากทารกอายุครรภ์ประมาณ 4-5 เดือน คาด หญิงวัยรุ่นที่ขึ้นรถจาก จ.น่าน หลังพบเข้าสุขาบนรถนานผิดปกติ | null | ทำแท้ง,ทำแท้งในรถทัวร์,ทำแท้งในส้วมรถทัวร์,ทำแท้งบนรถทัวร์,สน.โคกคราม,วัยรุ่นทำแท้ง,ไม่พร้อมตั้งครรภ์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวอาชญากรรม,กทม. | https://www.thairath.co.th/content/670872 |
ฟอร์ม ครม. ส่อเค้ามีปัญหา | คิดไม่ทันนักการเมืองที่รอบจัดกว่า จึงยกเก้าอี้รัฐมนตรี กระทรวงเกรดเอ ให้ไปเกือบหมด เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการ ท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น ทำให้ พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลเหลือเก้าอี้รัฐมนตรีเพียง 15 ตำแหน่ง น้อยกว่าครึ่งใน ครม.,แค่เริ่มต้นชีวิตการเมือง บิ๊ก คสช. ทั้งหลายก็เจอกลเม็ดเด็ดของนักการเมืองแล้ว,สองวันก่อน ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แกนนำจัดตั้งรัฐบาล เลยแจ้งรื้อโผโควตารัฐมนตรีกันใหม่ โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ผมขอแจ้งความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพูดคุยหารือ ตั้งทีมประสานงานเพื่อหารือกับพรรคร่วม เพื่อเร่งจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่เราได้ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งขณะนี้รอขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการก่อน,ส่วนกรณีที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจ คือ การวางตัวคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ผมขอเรียนชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปว่า ใครจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใดบ้าง แต่ยืนยันว่าจะพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้ตำแหน่งต่างๆ ลงตัวที่สุดและเสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อเร่งดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญต่างๆ,เป็นการ รื้อโผ ครม. ที่ บิ๊ก ป. ไปรับปากกับพรรคการเมืองต่างๆ ล่วงหน้า,ทันทีก็ทันใด คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า กระทรวงมีไว้ให้คนเข้าไปทำงาน ไม่ใช่มีไว้ให้มาเที่ยวแลกไปมา จบข่าว ต่อมา คุณอนุทิน ได้โพสต์เพิ่มเติมว่า คมนาคม สาธารณสุข ท่องเที่ยว เปลี่ยนไม่ได้,ทันใดเหมือนกัน คุณธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ก็โพสต์ลงเฟซบุ๊กตอบโต้ทันทีว่า,1.กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่มีไว้ให้เข้าไปหางานเพื่อบริษัท #ถูกต้องนะครับ 2.กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชน และที่สำคัญต้องไม่ใช่เก็บไว้ให้บริษัทเข้าไปหางาน #ถูกต้องนะครับ 3.กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชนแลกเปลี่ยนได้ถ้าจะเอาไปเพื่อประโยชน์บริษัทใด #ถูกต้องนะครับ 4.ไม่ยอมแลกเก็บไว้ทำงานให้ประชาชน หรือหางานให้บริษัท #คนเขาสงสัยกระทรวงนี้ของข้าใครอย่าแตะ 55 5.ไม่มีใครแลกอะไรกันไปมา มีแต่หาความเหมาะสมไม่ให้คนเขานินทาว่า เลือกกระทรวงให้บริษัท #ถูกต้องนะครับ,เล่นกันแรงทีเดียว ผมก็ลอกเฟซบุ๊กพรรคร่วมรัฐบาลมาให้อ่านเล่น ศึกชิงเก้าอี้รัฐมนตรีดุเดือดขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน,จะว่าไปแล้วการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีที่เป็นข่าว เก้าอี้รัฐมนตรีมีแค่ 35 ตำแหน่ง เมื่อ พรรคประชาธิปัตย์เอาไป 8 ตำแหน่ง 1 รองนายกฯ 3 รัฐมนตรีว่าการ 4 รัฐมนตรีช่วย พรรคภูมิใจไทยเอาไปอีก 8 ตำแหน่ง 1 รองนายกฯ 3 รัฐมนตรีว่าการ 4 รัฐมนตรีช่วย รวมสองพรรค 16 ตำแหน่ง พรรคพลังประชารัฐ แกนนำจัดตั้งรัฐบาล เหลือเก้าอี้รัฐมนตรีเพียง 15 ตำแหน่ง น้อยกว่าสองพรรคร่วมรัฐบาล แถมยังเป็น กระทรวงเกรดบี เกือบทั้งหมด คงบริหารประเทศลำบาก แกนนำรัฐบาลตัวจริง กลายเป็น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ที่คว้าพุงปลาไปกิน,ก็ต้องรอดูหลังการโปรดเกล้าฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว,ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กล้าทุบโต๊ะรื้อโผจัดสรรโควตารัฐมนตรีใหม่ เด็ดขาดเหมือนตอนประกาศปฏิวัติในที่ประชุมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีก็คงเป็นแค่พระประธานที่สั่งรัฐมนตรีต่างพรรคไม่ได้ อนาคตรัฐบาลผสม 19 พรรคก็คงจะอยู่ยาก.,ลม เปลี่ยนทิศ | การฟอร์ม ครม. บิ๊กตู่ 2 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยราบรื่น เมื่อ บิ๊ก ป. ที่ทำหน้าที่เป็น ผู้จัดการรัฐบาล อยู่เบื้องหลัง | null | เก้าอี้รัฐมนตรี,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,อุตตม สาวนายน,ผู้จัดการรัฐบาล,พรรคพลังประชารัฐ,หมายเหตุประเทศไทย,ลม เปลี่ยนทิศ | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1588385 |
มิว ไม่คิดเป็นคู่จิ้น ณเดชน์ แทน ญาญ่า กดดันเล่นหนังเรื่องแรกกับ GDH 559 | กระแสละคร ตามรักคืนใจ ทางช่อง 3 กับพระเอกฮอต ณเดชน์ คูกิมิยะ กำลังมาแรงมากในโลกออนไลน์ งานนี้แฟนๆ เลยยกให้ณเดชน์กลายเป็นคู่จิ้นกับนางเอกหน้าใส มิว นิษฐา จิรยั่งยืน ไปเรียบร้อย แต่ก็มีหลายคนที่เปรียบเทียบมิวกับนางเอกสาวใส ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ จนถูกมองว่ามิวจะกลายเป็นคู่จิ้นคนใหม่ของณเดชน์แทนญาญ่ารึเปล่า ได้เจอมิวมาร่วมงาน THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2016 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยถามถึงเรื่องนี้ พร้อมทั้งถามถึงข่าวว่ามิวเตรียมเล่นภาพยนตร์เรื่องแรกกับค่ายจีดีเอช 559 คู่กับพระเอก-นักเขียนบทหนุ่ม เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี อีกด้วย,ถามถึงฟีดแบ็กละคร ตามรักคืนใจ เป็นไงบ้าง? ฟีดแบ็กดีมากเลยค่ะ คนชอบดูกัน ติดตามแล้วบอกว่าไม่อยากให้จบค่ะ คนยกให้เป็นคู่จิ้นกับณเดชน์? ก็คงเล่นได้เข้าขากันดี หนูนาเป็นเด็กเล็กของนายสิงห์ นายสิงห์จะดูอบอุ่นค่ะ ถามว่ากลัวเขาแอนตี้ไหม จริงๆ แล้วแฟนคลับก็สนับสนุนผลงานของนักแสดงทุกคนค่ะ เขาไม่แอนตี้หรอกค่ะ ฉากที่เราบอกความจริงกับคุณพ่อ คนพูดถึงฉากนี้เยอะมาก? ก็เหมือนเป็นไฮไลต์ของเรื่อง เพราะตั้งแต่หนูนามาทำงานที่ไร่ก็เพราะอยากมาหาพ่อ คนก็รอว่าเมื่อไหร่เราจะบอกความจริงกับพ่อสักที พอถึงวันที่หนูนาได้บอกสักทีก็เหมือนเป็นครั้งแรกค่ะ คนชมว่าการแสดงเราดีมาก? ขอบคุณมากค่ะ ก็ได้พี่อู๋ช่วยเหมือนกัน และได้ป้าแจ๋วช่วยค่ะ กระแสดีแบบนี้จะมีเรื่องที่สองตามมาไหม? ถ้ามีเราก็ยินดีอยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ค่ะ ปีนี้คงยังไม่มีค่ะ ปีนี้มีละคร เพชรกลางไฟ และ รากนครา ค่ะ พอเรามาเล่นละครกับณเดชน์ มีคนเปรียบเทียบเรากับญาญ่า? จริงๆ มันคนละเรื่อง คนละบทบาท คนละคาแร็กเตอร์ค่ะ คนมองว่าจะมาเป็นคู่จิ้นแทนญาญ่ารึเปล่า? โอ้โห คงไม่ได้เป็นคู่จิ้นอะไร อาจเป็นแค่คู่จิ้นในจอค่ะ ไม่คิดแทนที่หรอกค่ะ กระแสดีแบบนี้แอบหวั่นแฟนคลับญาญ่าไหม? ไม่นะคะ แฟนคลับเขาน่ารักดีค่ะ ไม่กลัวแฟนคลับเรากับญาญ่าจะมีปัญหากัน? ไม่ค่ะ มันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกันค่ะ ดูละครสนุกสนานเพลินๆ ค่ะ ไม่ซีเรียสค่ะ ถามถึงละคร เพชรกลางไฟ และ รากนครา จะเริ่มถ่ายทำเมื่อไหร่? เรื่อง เพชรกลางไฟ เล่นคู่กับไม้ (วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ) ค่ะ ถ่ายทำน่าจะประมาณเดือน มี.ค.ค่ะ ส่วน รากนครา ก็ยังเป็นมิวอยู่นะคะ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราก็สแตนด์บายรอ แต่ยังไม่ได้เปิดกล้องเร็วๆ นี้ค่ะ แต่น่าจะเป็นปีนี้ค่ะ,เห็นว่าไปร่วมงานหนังกับเต๋อ ฉันทวิชช์ ของค่ายจีดีเอช 559? ใช่ค่ะ เป็นหนังเรื่องแรกประเดิมบริษัทใหม่เลย (ยิ้ม) พี่โต้ง (บรรจง ปิสัญธนะกูล) เป็นผู้กำกับค่ะ ก็ดีใจมากค่ะที่พี่โต้งเลือกค่ะ กดดันไหม? จริงๆ ก็กดดันเหมือนกันนะคะ เพราะเป็นหนังเรื่องแรกของมิวด้วยค่ะ บทบาทเป็นยังไง? ยังบอกไม่ได้ค่ะ แต่ว่าเป็นหนังรัก ทำไมถึงเลือกเล่น? โห ไม่ต้องคิดเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะเป็นของจีดีเอชด้วย พี่โต้งด้วยค่ะ มันน่าเล่นอยู่แล้วค่ะ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไม่เล่นค่ะ ไม่ต้องตัดสินใจนานเลยค่ะ เพราะอยากเล่นอยู่แล้ว เห็นว่าไปเวิร์คช็อปมาแล้ว? ใช่ค่ะ เริ่มไปเวิร์คช็อปมาแล้วค่ะ คาดหวังว่าจะดังเปรี้ยงตามรอยนางเอกคนอื่นไหม? ก็อยากจะให้หนังดังนะคะ คือมิวอ่านบทแล้วเป็นเรื่องที่ดีค่ะ บทดี หนังดีค่ะ หวังว่าคนดูจะชอบ ได้เห็นในปีนี้ไหม? ปลายๆ ปีน่าจะได้ดูนะคะ ค่าตัวประเดิมหนังเรื่องแรกเยอะไหม? ก็ตามมาตรฐานปกติค่ะ จะเป็นนางเอกร้อยล้านเลยไหม? ก็อยากให้เป็นอย่างนั้นนะ (หัวเราะ) ก็หวังว่าจะได้นะคะ ถ้าได้อย่างนั้นก็จะแฮปปี้มากๆ เลยค่ะ เตรียมพร้อมยังไงบ้าง? ตอนนี้ก็เวิร์คช็อปอย่างเดียวค่ะ ทำการบ้านอ่านบทค่ะ แต่ละครกับหนังก็ต่างกันพอสมควรค่ะ เดี๋ยวต้องรอถ่ายจริงก่อนแล้วจะรู้ว่ามันต่างกันยังไง ตอนนี้เท่าที่ทราบจะมีความต่างกันระหว่างหนังกับละคร หนังเรื่องนี้จะบวงสรวงเมื่อไหร่? เร็วๆ นี้ค่ะ เปิดกล้องเดือนหน้าค่ะ ถ่ายหนังแล้วจะไม่ชนกับละครเหรอ? ไม่ค่ะ บังเอิญจังหวะดีที่ละครเรายังไม่ได้เปิดด้วย แล้วเป็นช่วงที่หนังกำลังจะถ่าย มันเป็นจังหวะพอดีค่ะ ไม่ได้ซ้อนกันค่ะ. | มิว นิษฐา ดีใจกระแสละคร ตามรักคืนใจ ดีมาก ไม่คิดเป็นคู่จิ้นณเดชน์แทนญาญ่า อุรัสยา เชื่อแฟนคลับไม่แอนตี้ แย้มละคร เพชรกลางไฟ เตรียมถ่ายทำเดือน มี.ค. รับกดดันเล่นหนังเรื่องแรกกับค่ายจีดีเอช 559 คู่เต๋อ ฉันทวิชช์ | null | มิว นิษฐา จิรยั่งยืน,ณเดชน์ คูกิมิยะ,ณเดชน์ มิว,ละคร,ตามรักคืนใจ,ช่อง 3,คู่จิ้น,ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์,แฟนคลับ,แอนตี้,เพชรกลางไฟ,ไม้ วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ,รากนครา,ภาพยนตร์,จีดีเอช 559,GDH 559,เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี,โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล,ข่าว,ข่าวบันเทิง,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/566261 |
ส่องไอจี ดาราคนดังแห่โพสต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ น้อมอาลัย 100 วัน ในหลวง ร.9 | เครือไทยรัฐ เตรียมจัดทำหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ เนื่องในวาระ 100 วันแห่งความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ซึ่งตรงกับวันที่ 20 ม.ค. 2560 เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ของวงการหนังสือพิมพ์ที่จะมาในรูปแบบแสงสีเสียง และสื่อผสมทั้งฉบับ แนบไปพร้อมกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โดยต้องใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Thairath AR เพื่อใช้งานควบคู่กัน เพื่อชมภาพและวิดีโอต่างๆ,ล่าสุดเหล่าบรรดาคนดังบันเทิงทั่วฟ้าเมืองไทย ต่างพากันพร้อมใจร่วมโพสต์ภาพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ ลงอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมติดแฮชแท็ก #ฉันเกิดในรัชกาลที่9 เพื่อน้อมอาลัย ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทีมข่าวสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ จึงพาคุณผู้อ่านไปส่องดูอินสตาแกรมดารา ว่ามีใครบ้างที่โพสต์ถึงหนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษฉบับนี้,1.ชมพู่ อารยา เอ อาร์เก็ต โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว @chomismaterialgirl กล่าวถึงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,
,
,2.อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ โพสต์ไอจีเป็นภาพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,3.กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ โพสต์คลิปวิดีโอการใช้แอปฯ Thairath AR ร่วมกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,4. ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ โพสต์ไอจีกล่าวถึงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ ด้วยเช่นกัน,
,
,5.แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ ร่วมน้อมอาลัย ในหลวง ร.9 โพสต์ภาพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,6.ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพหน้าปกหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,7.ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ โพสต์ไอจีถึงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ เพื่อน้อมอาลัย ในหลวง ร.9,
,
,8.กบ สุวนันท์ คงยิ่ง โพสต์ภาพในอินสตาแกรม เป็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,9.เชน ธนา ลิมปยารยะ โพสต์ภาพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,10.ใหม่ ดาวิกาโฮร์เน่ โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,11.แจ๊ค แฟนฉัน โพสต์คลิปในไอจี เป็นการใช้แอปฯในสมาร์ทโฟน ร่วมกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,12.มิกค์ ทองระย้าโพสต์ภาพในอินสตาแกรม เป็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,13.โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไรโพสต์ไอจีกล่าวถึงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ ด้วยเช่นกัน,
,
,14.วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ โพสต์คลิปวิดีโอการใช้งานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ ในรูปแบบแสงสีเสียง และสื่อผสม,
,
,15.มดดำ-คชาภา ตันเจริญ ได้โพสต์คลิปไอจี กล่าวถึงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,16.แอฟ ทักษอร เตชะณรงค์คลิปวิดีโอการใช้งานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ ร่วมกับแอปฯ Thairath AR,
,
,17.มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำโพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,18.มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทองโพสต์ภาพในอินสตาแกรม เป็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,19.ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,
,
,-ข่าวที่เกี่ยวข้อง-,เตรียมพบกับ ไทยรัฐฉบับพิเศษ ในวาระ 100 วันแห่งความอาลัย (ชมคลิป),วิธีการรับชมหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ,ไทยรัฐฉบับพิเศษ พิเศษ อย่างไรบ้าง?,รอพบไทยรัฐฉบับพิเศษ น้อมอาลัย 100 วัน ร.9,เคยเห็นหรือไม่ วินาทีพิมพ์ นสพ.ไทยรัฐ ก่อนเป็นฉบับพิเศษ (ชมคลิป) | คนดังบันเทิงทั่วฟ้าเมืองไทย ต่างพากันพร้อมใจร่วมโพสต์ภาพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ ลงอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมติดแฮชแท็ก #ฉันเกิดในรัชกาลที่9 | null | หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐฉบับพิเศษ,100วันแห่งความอาลัย,ThairathAR,ร.9 | https://www.thairath.co.th/content/838634 |
ตร.คาดผู้ต้องหาคดีทุจริตสอบตร.หลบหนีอยู่ในกทม. | ตำรวจภูธรภาค 3 อยู่ระหว่างแกะรอยตามผู้ต้องหาคดีร่วมกันทุจริตสอบเข้ารับราชการตำรวจชั้นประทวนที่ยังคงหลบหนีอยู่ ซึ่งมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการทุจริตสอบเข้ารับราชการตำรวจชั้นประทวนเป็นหลักฐานสำคัญ โดยได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตามร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ขณะนี้ทราบแหล่งที่มาแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เชื่อว่าข้อมูลที่ได้เพิ่มเติม จะทำให้ขยายผลหาความเชื่อมโยงไปถึงผู้ร่วมขบวนการที่เหลือได้ นอกเหนือจากที่จับกุมมาแล้ว 17 คน ทั้งนี้อุปกรณ์ที่พบมีความเป็นไปได้ว่านายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร 1 ในผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่่เป็นผู้สั่งซื้อและนำมาแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมขบวนการ พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ระบุถึงการกระจายกำลังติดตามตัวผู้ต้องหาว่าผู้ต้องหาน่าจะหลบซ่อนอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จึงขอความร่วมมือประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส ซึ่งหากนำไปสู่การจับกุมได้ จะมีเงินรางวัลให้ 50000 บาท | ตำรวจภูธรภาค 3 คาดว่า นายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร หนึ่งในผู้ต้องหาคดีร่วมกันทุจริตสอบเข้ารับราชการตำรวจชั้นประทวนหลบหนีอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันได้เร่งแกะรอยถึงแหล่งที่มาของอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ เพื่อเชื่อมโยงไปยังผู้ร่วมขบวนการ | อาชญากรรม | กรุงเทพหมานคร,ชั้นประทวน,ตำรวจ,ทุจริต | https://news.thaipbs.or.th/content/95444 |
กล้าได้กล้าเสีย : 7 ฝ่ายค้านก่อนศึกซักฟอก | ปีใหม่นี้รัฐบาลประกาศให้มีวันหยุดเพิ่มเติมอีก 1 วัน คือ 30 ธ.ค.62 ทำให้มีวันหยุดยาวรวม 5 วันต่อเนื่องกัน,เก็บใจเอาไว้เฉลิมฉลองกันให้ครึกครื้นได้เลย,แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นสภาจะเปิดสมัยประชุมอีกครั้งหลังหยุดให้บรรดา ส.ส.-ส.ว.ได้พักการประชุมมาระยะหนึ่ง,การเปิดสมัยประชุมครั้งนี้นอกจากจะเป็นการเริ่มต้นพิจารณาวาระสำคัญหนึ่งคือจะมีการพิจารณาญัตติเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามระเบียบวาระที่บรรจุเอาไว้แล้ว,คงทำให้ฝ่ายสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญคึกคักขึ้นมาแน่ เพราะถือว่าเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่เป้าหมายที่วาดหวังเอาไว้,ทว่า ความเคลื่อนไหวอีกด้านหนึ่งที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมการและหมายมั่นอย่างหวังผลเพื่อเล่นงานฝ่ายรัฐบาล,นั่นคือการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ,เพื่อไทย ได้แสดงตัวตนชัดเจนที่จะเป็นหัวขบวนในฐานะพรรคการเมืองที่มีเสียงมากที่สุดในฐานะ ผู้นำฝ่ายค้าน จาก 7 พรรคการเมือง,ว่าไปแล้วบทบาททางการเมืองในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดูเหมือนว่าจะถูกพรรคอนาคตใหม่ชิงการนำมาตลอดในตลาดการเมือง,ครานี้จึงขอแสดงตนขอเป็น พระเอก บ้าง,เท่าที่ติดตามความเคลื่อนไหวมาได้มีการวางตัวรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายจะเปิดซักฟอกเบื้องต้นเอาไว้ 4 คนก่อน,ไล่ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีคมนาคม และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ,แต่ละคนล้วนอยู่ในข่ายที่เรียกแขกได้ทั้งนั้น,ยังไม่เห็นชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ที่อยู่ในอาการสงบไม่ค่อยเป็นข่าวในระยะหลังๆ,ทั้งๆที่มีประเด็นติดตัวอยู่ไม่น้อย,อาจจะยังเป็นค่ายกลลวงเบื้องต้นจนกว่าจะถึงเวลาเปิดศึกก็ได้,แน่นอนว่าการเปิดซักฟอกรัฐบาลนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติในฐานะผู้ตรวจสอบก็ต้องทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องเกินหน้าที่,เพียงแต่ว่าจะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและพุ่งชนเป้าหมายอย่างได้เนื้อได้หนังแค่ไหน,สิ่งที่ปรากฏในความเป็นจริงแล้วการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ผ่านมานั้นถูกสังคมมองว่ายังไม่เฉียบคมพอ,เพราะมุ่งความเป็น ฝ่ายแค้น มากกว่า ฝ่ายค้าน,นี่ก็เป็นบทเรียนที่ 7 พรรคฝ่ายค้านจะต้องปรับกระบวนความคิดและวิธีการทำงานการเมืองเพื่อให้ได้รับการยอมรับ,ยิ่งภาพที่เป็นจริงในพรรคเพื่อไทยนั้นยังมีปัญหาภายในมีความขัดแย้งกันเอง ทำให้ไม่มีเอกภาพและการยอมรับซึ่งกัน และกันในหมู่แกนนำ,อนาคตใหม่ ก็ต้องสู้กับตัวเองเนื่องจากมีปัญหาในหมู่แกนนำพรรค,ที่ว่าอย่างนี้ก็เพราะเกรงว่าศึกซักฟอกจะไม่สนุกเหมือนราคาคุย?,สายล่อฟ้า | ยังไม่เข้าฟอร์ม? เริ่มเดือนใหม่พฤศจิกายนถัดจากนี้อีก 1 เดือน ก็เข้าสู่ธันวาคมอันเป็นเดือนสุดท้ายของปี 62 เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ปีใหม่ 2563 | null | เปิดประชุมรัฐสภา,อภิปรายไม่ไว้วางใจ,รัฐบาล,ฝ่ายค้าน,กล้าได้กล้าเสีย,สายล่อฟ้า | https://www.thairath.co.th/news/politic/1693941 |
เฉลิมชัย ลั่นพร้อมเลิกสารเคมีเกษตร แต่เป็นอำนาจ คกก.วัตถุอันตราย | วันนี้ (2 ต.ค.2562) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันจุดยืน ต้องการให้ยกเลิกใช้สารเคมีเกษตรที่มีความเสี่ยงสูง แต่การพิจารณายกเลิกเป็นอำนาจของคณะกรรมการวัตถุอันตรายตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยกันมานานถึง 2 ปีแล้ว แต่ติดขัดตรงไหน คณะกรรมการวัตถุอันตรายจึงยังยกเลิกไม่ได้ซึ่งหากคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณายกเลิก ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ก็พร้อมยกเลิกทันทีนายเฉลิมชัยระบุด้วยว่า จุดยืนของเขาตรงกับ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร โดยมอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้ และพูดคุยกันตลอดเวลา แต่เมื่อยังไม่มีมติให้ยกเลิก กระทรวงเกษตรฯ ก็ต้องดำเนินการในกรอบที่ทำได้ ส่วนเรื่องของสารทดแทน ตอนนี้มีคณะทำงานที่ศึกษา ก็พบว่ายังไม่มีสารทดแทนใด เพราะยังเป็นสารเคมีที่มีค่าความเป็นพิษเช่นเดียวกัน จึงมองไปที่เรื่องสนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งต้องส่งเสริมไปถึงเกษตรแปลงใหญ่เฉลิมชัยลั่นไม่เคยพบพูดคุย บ.ยักษ์ใหญ่สารเคมีเกษตรฯส่วนกระแสข่าวว่า บริษัทผู้จำหน่ายสารเคมีเกษตรขนาดใหญ่เข้าพบสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันว่า ไม่เคยพบพูดคุยด้วย โดยระบุว่า ชีวิตนี้ไม่เคยกินน้ำแข็งเปล่าก้อนเดียวกับบริษัทยา ผมเส้นหนึ่งก็ยังไม่เคยเห็น ว่าใครเป็นบริษัทยาที่ไหน เพราะฉะนั้นข่าวที่ออกไป ไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์ใด ถ้าอยากทราบให้มาถามผมส่วนที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เสนอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดยกเลิกการใช้สารเคมีเกษตรเพื่อแก้ปัญหาที่ค้างคามานานนั้น นายเฉลิมชัย ระบุว่าเรื่องนี้ไม่ใช่มติพรรค ส่วนการพิจารณาออก พรก.เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะพิจารณามีรายงานว่า การให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนเกี่ยวกับสารเคมีเกษตรของนายเฉลิมชัยในวันนี้มีขึ้นหลังจาก นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ภาพในเฟซบ๊ก มีการเผยแพร่หนังสือราชการลงนามโดยน.ส.ดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการผลิต เกี่ยวกับการยกเลิกสารพาราควอต ไกลโฟเซต และ คลอร์ไพริฟอสโดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า กรมวิชาการเกษตร ได้ยกร่างหนังสือเรียนปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพื่อขอให้พิจารณาจัดวัตถุอันตราย พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ ๔ คือ ห้ามผลิต นําเข้า ส่งออก และจําหน่าย เมื่อวันที่ ๑๗ ก.ย. ๒๕๖๐และได้นำหนังสือดังกล่าว เรียนหารือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ ๑๘ ก.ย. ๒๕๖๒ ถึงแนวทางในการดําเนินการและได้รับข้อเสนอแนะว่า ควรดําเนินการตามมติ คณะกรรมการวัตถุอันตรายในการให้จํากัดการใช้วัตถุอันตรายพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส และได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรจัดทําและดําเนินการมาตรการจํากัดการใช้ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้จัดทํา และอยู่ระหว่างดําเนินการตามมาตรการจํากัดการใช้ดังกล่าวโดย นพ.ธีรวัฒน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งข้อสังเกตว่า จุดยืนของนายเฉลิมชัย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯสวนทางกับท่าทีของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะต้องยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดภายในปี 2562 หรือไม่มนัญญา ไม่หวั่นถูกขู่ปลดจากตำแหน่งขณะที่มีรายงานว่า บ่ายวันนี้ น.ส.มนัญญา ได้นัดผู้สื่อข่าวเพื่อออกตรวจสต็อกสารเคมีเป็นครั้งที่สอง พร้อมประกาศไม่หวั่นไหว หลังมีบริษัทสารเคมียักษ์ใหญ่ ขู่จะปลดออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลประกาศจะยกเลิกสารเคมีเกษตรที่มีความเสี่ยงสูง ที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์นับหมื่นล้าน โดยเตรียมประชุมร่วมกรรมการ 4 ฝ่ายตามมติคณะกรรมวัตถุอันตรายเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาสารเคมีเกษตรฯ เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการวัตถุอันตราย | เฉลิมชัย ยันไม่มีบริษัทจำหน่ายสารเคมีเกษตรเข้าพบ ชีวิตนี้ไม่เคยกินน้ำแข็งก้อนเดียวกับบริษัทค้าสารเคมีเกษตร พร้อมย้ำจุดยืน ต้องการให้ยกเลิกการใช้ แต่การพิจารณายกเลิก เป็นอำนาจของคณะกรรมการวัตถุอันตราย | สิ่งแวดล้อม | สารเคมีเกษตร,พาราควอต,คกก.วัตถุอันตราย | https://news.thaipbs.or.th/content/284786 |
เริ่มจับแล้ว เผาป่าหน้าแล้ง ต้นเหตุหมอกควันคลุมเมือง | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ก.พ. 58 นายชนะ แพ่งพิบูลย์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้แถลงข่าวประจำสัปดาห์ต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ถึงการแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าในหน้าแล้ง ที่เข้ามาปกคลุมเมืองเชียงใหม่ จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและการท่องเที่ยวของเชียงใหม่า ว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน โดยทำงานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งศูนย์วอร์รูมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พร้อมมีการเผยแพร่รณรงค์ประชาชนสัมพันธ์ ขอความร่วมมือจากประชาชนให้งดเผา และแบ่งเวลาในการชิงเผา,นายชนะ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง สามารถจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าไปแล้ว 1 ราย ในพื้นที่ อ.อมก๋อย และอยู่ในห้วง 60 วันห้ามเผา ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย. 58 ซึ่งปัญหาที่พบจากการดูจุดฮอตสปอตแผนที่พิกัดดาวเทียม พบว่า ไฟป่าเกิดจากพื้นที่ป่าสงวนฯ มากที่สุด เนื่องจากมีประชาชนเข้าไปอาศัยทำกินอยู่ก่อนที่จะประกาศเป็นเขตป่าสงวนฯ ทำให้มีการเผาไร่เผาป่ากันมาก และกำลังประสานไปยังกรมป่าไม้หาแนวทางแก้ไขอยู่ ประกอบกับขณะนี้มีลมฝ่ายใต้ได้พัดเอาหมอกควันไฟป่ามาจาก จ.ลำปาง และลำพูน เข้ามายัง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแอ่งกระทะ ทำให้มีหมอกควันไฟหนาขึ้น,วันนี้ ค่า AQI ของคุณภาพอากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังอยู่ที่ 68 ยังไม่เกินมาตรฐานที่ 100 และค่าปริมาณฝุ่นละอองขณาดเล็ก PM 10 อยู่ที่ 68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยังไม่เกินค่ามาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษที่ 120 ถือว่าคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม ได้ไปหารือกับศูนย์ฝนหลวงภาคเหนือ ซึ่งทางศูนย์ฯพร้อมจะขึ้นทำฝนหลวง หากความชื้นในอากาศมีเพียงพอ ขณะเดียวกันนั้น หากสถานการณ์วิกฤติ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของอากาศยานของสนามบินเชียงใหม่ ทางจังหวัดได้ประสานไปยังกองทัพอากาศ เพื่อขอสนับสนุนเครื่องบิน ซี 130 บรรทุกน้ำจำนวน 1 หมื่นลิตรต่อเที่ยว มาบินโปรยน้ำเพื่อให้ความชุ่มชื้นในอากาศ ผวจ. เชียงใหม่ กล่าว,ทางด้าน นายประหยัด อนันต์ประดิษฐ์ หน.กลุ่มงานสิ่งแวดล้อม สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าปี้นี้จะรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีปริมาณเชื้อเพลิงใบไม้สะสมอยู่ในป่าจำนวนมาก และปัญหาไฟป่าก็เกิดจาก 5 อำเภอเสี่ยงภัย ที่เกิดปัญหาซ้ำซากในพื้นที่ทางตอนใต้ ได้แก่ อ.ฮอด อมก๋อย จอมทอง แม่แจ่ม และเชียงดาว ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 1,000 หมู่บ้าน ที่ต้องเฝ้าระวังการลักลอบเผาป่า. | ชาวเมืองเชียงใหม่ เตรียมตัวรับปัญหาหมอกควันปกคุลมเมืองในหน้าแล้ง ที่มีสาเหตุมาจากการเผาป่า ผวจ.แถลง ทำทุกวิถีทาง ล่าสุด จับเผาป่าแล้ว 1 ราย ขณะที่ หน.ส่ิงแวดล้อม ระบุ ปีนี้ใบไม้แห้งในป่ามีมาก ปัญหาไฟป่าส่อเค้ารุนแรง
| ข่าว,ทั่วไทย | หมอกควัน,ปัญหาหมอกควัน,หมอกควันคลุมเมือง,เผาป่า,ไฟป่า,หมอกคลุมเมือง,เชียงใหม่,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/482041 |
กิเลนผยอง ไล่ล่าทำสถิติ รอรับ สวาทแคท ศึกไทยลีก 2017 | พร้อมลุ้นประตูที่ 100 ของ กัปตันมุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา ที่กดไปแล้ว 99 ตุงในลีกสูงสุด ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ขณะที่ ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง หวังบุกเก็บ 3 แต้มจาก การท่าเรือ ที่แพท สเตเดียม เพื่อไล่จี้ติดแข้งกิเลนทีมนำจ่าฝูง ส่วน กว่างโซ้งมหาภัย เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก จะกลับไปเปิดรังสิงห์สเตเดียม รับการมาเยือนของ ตะหานนํ้า ราชนาวี เช่นเดียวกับ บางกอกกล๊าส ที่จะทำศึกบิ๊กแมตช์ย่านรังสิตกับ แข้งเทพ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทรูสปอร์ต ถ่ายทอดสด ให้ดูกันถึงบ้านทุกคู่ เริ่ม 17.45 น. เป็นต้นไป,ศึกฟุตบอลไทยลีก 2017 ในวันเสาร์ที่ 11 มี.ค.นี้ จะเป็นเกมฟาดแข้ง นัดที่ 6 ของฤดูกาล ก่อนที่จะพักเบรกให้ทีมชาติไทยไปเตรียมทีมลุยแข้งฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โดยมีโปรแกรมเตะทั้งหมด 5 คู่ 5 สนาม ดังนี้,ที่สนามเอสซีจี สเตเดียม กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จ่าฝูงของตาราง จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ สวาทแคท นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในเวลา 20.00 น. ซึ่งทรูสปอร์ต 2 จะถ่ายทอดสด ให้ชม โดยเจ้าถิ่นเมืองทองฯที่ออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ ด้วยการคว้าชัยชนะ 5 นัดรวด และยังไม่เสีย ประตูให้ทีมใด เพิ่งทำสถิติคว้าชัยชนะในลีกสูงสุด ติดต่อกัน 14 นัดรวด เท่ากับฤดูกาลที่แล้ว หากเกมนี้สามารถเอาชนะทีมเยือนนครราชสีมาได้อีกก็จะเป็นสถิติใหม่ ชนะต่อเนื่อง 15 เกมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ทันที,โดยความพร้อมของ กิเลนผยอง ทางกุนซือใหญ่ โค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน ต้องรอเช็กสภาพความฟิตของนักเตะที่เพิ่งผ่านการกรำศึกนัดกลางสัปดาห์มา แต่คาดว่าตัวหลักอย่าง กัปตันมุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน น่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง โดยเฉพาะ ธีรศิลป์ที่ยิงประตูให้เมืองทองฯในไทยลีกไปแล้วถึง 99 ลูก นับตั้งแต่ขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดในปี 2009 จะลุ้นยิงประตูที่ 100 ในเกมนี้ให้ได้ ขณะที่สวาดแคท ทีมเยือนเพิ่งบุกไปโดนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถล่มพ่ายมาขาดลอย 0-4 เมื่อวันพุธ อาจมีการปรับแนวรับ บางตำแหน่งเพื่อมาเน้นตั้งรับแล้วโต้กลับ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การเก็บแต้มเดียวกลับออกไป,ส่วนบิ๊กแมตช์ที่สนามลีโอ สเตเดียม กระต่ายแก้ว บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 6 จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของรองแชมป์เก่า แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่รั้งอยู่อันดับ 7 ในเวลานี้ โดยบีจีเพิ่งบุกไปเสมอ สุพรรณบุรี เอฟซี 1-1 นัดนี้น่าจะยังคงไว้ใจแนวรุก ชุดเดิม ทั้งอาเรียล โรดิเกวซ, จักรพันธ์ พรใส,แดเนียล ตอตติ ฯลฯ ขณะที่ แข้งเทพ ฟอร์มยังไม่น่าไว้วางใจ แต่เชื่อว่ากุนซือมาโน โพลกิง น่าจะ ยังไม่ปรับอะไรมากนัก โดยดราแกน บอสโควิช จะเป็นตัวหลักในแดนหน้า รวมทั้งมาริโอ ยูรอฟสกี ก็น่าจะออกสตาร์ต 11 คนแรก ซึ่งคู่นี้ทรูสปอร์ตเอชดี 3 จะถ่ายทอดสดให้ชมในเวลา 19.00 น.,เวลาเดียวกัน ที่สนามแพท สเตเดียม สิงห์เจ้าท่า การท่าเรือ เอฟซี อันดับ 8 ของตาราง กลับมาเฝ้ารังรับศึกหนัก ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง ที่ต้องการคว้าชัยชนะเพื่อทำแต้มไล่จี้จ่าฝูง เอสซีจี เมืองทองฯ ซึ่งจะถ่ายทอดสดพร้อมกันทางทรูโฟร์ยู และทรูสปอร์ต เอชดี 2,ขณะที่อีก 2 คู่ เทพอินทรี อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 จะเปิดบ้านทำศึกกับทีมน้องใหม่ด้วยกัน อย่างไทยฮอนด้า ลาดกระบัง ในเวลา 17.45 น. ซึ่งจะถ่ายทอดสดทางทรูสปอร์ต 2 และที่สนามสิงห์ สเตเดียม จ.เชียงราย กว่างโซ้ง มหาภัย เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก จะเปิดบ้านรอรับแข้ง ตะหานน้ำ ราชนาวี ที่เพิ่งดับซ่ายัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้อุบล ยูเอ็มที 3-2 ในเกมกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคู่นี้ทรูสปอร์ต 6 จะถ่ายทอดสด 18.00 น. | ลุ้น กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำสถิติใหม่ ชนะติดต่อกัน 15 นัด สูงที่สุดในไทยลีก ในการเปิดบ้านสนามเอสซีจี สเตเดียม รับการมาเยือนของ สวาทแคท นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี คํ่าวันนี้ (11 มี.ค.) | ข่าว | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี,ไทยลีก 2017,ไทยลีก,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/news/880981 |
เตือนภัย แก๊งค้าเนื้ออ่อน ใช้สื่อโซเชียล หลอกตบทรัพย์ป๋าแก่ | เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ ว่า นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่ 1/2558 เพื่อกำหนดนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของกระทรวงต่างๆ และการเตรียมการรองรับในระดับจังหวัด,นายทวีศักดิ์ สิงห์ดง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดศรีสะเกษได้มีกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ นำเด็กและหญิงสาวออกเสนอค้าประเวณี โดยมีเป้าหมายที่ชายสูงวัยที่มีฐานะทางการเงินดี หรือข้าราชการระดับสูง จากนั้นจะแบล็กเมล์เรียกเอาเงินหรือทรัพย์สินกับผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์,พัฒนาสังคมฯ กล่าวอีกว่า ขบวนการนี้จะดำเนินการ โดยมีกลุ่มล่อซื้อมาโฆษณาประชาสัมพันธ์โดยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก หรือไลน์ มุ่งเน้นเหยื่อที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนถิ่นท้องถิ่น รวมทั้งข้าราชการทั่วไป ติดต่อมาทางเฟซบุ๊กบ้าง ทางไลน์บ้าง นัดไปกินข้าว แล้วพากันไปในที่ใดที่หนึ่งที่ลับตาคน ก่อนที่จะมีอีกพวกติดตามเข้าไปแบล็กเมล์หรือข่มขู่ เพื่อที่จะเรียกร้องเอาเงิน หากไม่ยอมก็จะดำเนินคดี หรือทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง,กรณีที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี หรือ 18 ปี ไม่ว่าเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ผู้กระทำจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งขบวนการนี้ได้ใช้ช่องว่างตรงนี้ดำเนินการกับเหยื่อมาแล้วหลายราย บางคนก็กลัวเสียชื่อเสียงตัวเอง ชื่อเสียงของสถาบันหรือหน่วยงาน ไม่อยากจะมีปัญหาในทางกฎหมาย หรือเกิดความอับอาย ก็เลยต้องยอมจ่ายเงินเพื่อปิดคดี อาจจะเป็นหลักแสน หรือหลายๆ แสนบาท นายทวีศักดิ์ กล่าว,ทั้งนี้ มีรายงานว่า สาเหตุที่เรื่องนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง เนื่องจากมีข้าราชการรายหนึ่ง เป็นระดับ ผอ.ซี 8 เพิ่งไปขอกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ แล้วนัดเด็กสาวไปนั่งกินอาหาร ก่อนจะพากันไปที่โรงแรม ระหว่างที่อยู่กันสองต่อสองในห้อง เด็กสาวได้ขอตัวเข้าไปโทรศัพท์ในห้องน้ำ อ้างว่าจะโทรบอกทางบ้านว่า วันนี้จะนอนค้างบ้านเพื่อน แต่เพียงครู่เดียว ก็มีผู้ชายมาเคาะประตูเรียกด้วยเสียงอันดัง สุดท้าย ผอ.คนดังกล่าวต้องยอมจ่ายเงินไปกว่า 3 หมื่นบาท | เตือนภัย! แก๊งค้ามนุษย์นำเด็กสาวเป็นเหยื่อล่อ ใช้ช่องทางโซเชียลหลอกป๋าแก่ ฐานะดี ให้ไปเจอก่อนจะไปจบที่โรงแรม จากนั้นจะมีชายฉกรรจ์บุกห้อง กล่าวหาหลอกเด็กมาทำมิดีมิร้าย สุดท้าย ต้องยอมจ่ายเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี | null | เตือนภัย,ตบทรัพย์,แก๊งค้ามนุษย์,หลอกตบทรัพย์,หลอกทางไลน์,ค้ามนุษย์,ข่าวภูมิภาค,ศรีสะเกษ,หลอกลวง,โซเชียลเน็ตเวิร์ก,แบล็กเมล์,ข้าราชการ | https://www.thairath.co.th/content/464688 |
8 มือโพสต์เข้าเรือนจำ บิ๊กต๊อก เชื่อ รรท.อธิบดีคุก เอาอยู่ | วันนี้ (4 พ.ค.59) ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณี 8 แอดมินเพจเฟซบุ๊กการเมือง ผู้ต้องหาคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมาตรา 116 ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า ตนไม่ได้สั่งการรักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์อะไรเป็นพิเศษ ตนพูดเสมอว่า คนอย่างอธิบดีต้องเข้าใจว่าควรจะดูแลหรืออำนวยความสะดวกผู้ที่เข้ามาอยู่กับเราอย่างไร ซึ่งในที่ประชุมตนได้สั่งไปเท่านี้ ซึ่งมันเป็นระบบของเขาอยู่แล้ว ยิ่งคดีนี้เป็นคดีที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนในเชิงสังคมจิตวิทยา ซึ่งเราก็เข้าใจอยู่ และคิดว่าอธิบดีก็คงจะดูแลเรียบร้อย,ทั้งนี้ การที่จะแยกกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวไปควบคุมตัวยังเรือนจำอื่นนั้น ก็ขึ้นอยู่กับอำนาจของศาล เพราะศาลจะเป็นผู้สั่ง ซึ่งเรื่องนี้มาถามกรมราชทัณฑ์ไม่ได้ เพราะกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานที่ทำตามคำสั่งศาล ไม่ใช่อำนาจของเราที่จะให้ไปอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ,พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงกรณีนักศึกษาสาวโพสต์เฟซบุ๊กอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นขณะถูกคุมตัวอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง เกี่ยวกับประเด็นการถูกค้นตัวในลักษณะถูกละเมิดสิทธิ ว่า เจ้าหน้าที่มีบทเรียนมาตลอดเวลา เขาเคยถูกฟ้องร้องเวลาที่ตรวจผู้ต้องขังกันสองคน เพราะฉะนั้นก็จำเป็นต้องมีพยานหลักฐาน จึงต้องตรวจกันต่อหน้าต่อตา แต่ไม่ใช่ต่อหน้าต่อตาในสังคมที่เปิด แต่ต้องเป็นในกลุ่มที่มีพยาน พอไปตรวจกันสองคนก็ถูกฟ้อง ซึ่งเขาเคยมีบทเรียนเขาจึงต้องปรับ แต่ขั้นตอนนี้ตนได้บอกอธิบดีไปแล้วว่าต้องชี้แจงกับสังคมให้เข้าใจ ,พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า เหมือนการปฏิบัติในเชิงของทฤษฎีว่าจะต้องทำอย่างนี้ แต่บางทีมันทำไม่ได้ เพราะว่ามันมีกฎหมาย มีการฟ้องร้องอย่างนี้ ซึ่งความจริงดีที่สุดคือไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องหากันสองคน มันจะได้ไม่มีบุคคลที่สามมองเห็น แต่มันเคยมีคดีการถูกฟ้องกลับ เขาก็เลยต้องมีพยานไปอยู่ด้วยว่าไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือไปจากหลักการ ส่วนกรณีที่จะต้องตรวจสอบไปถึงขนาดนั้น เพราะที่ผ่านมา ผู้ต้องหามีการซ่อนของเข้าไป เจ้าหน้าที่จึงต้องตรวจสอบอย่างนั้น และเมื่อเจอของเจ้าหน้าที่ก็ไม่ทราบว่าของพวกนี้เข้ามาได้อย่างไร พอเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็ทราบว่ามันเข้ามาอย่างนี้ ดังนั้น จึงต้องตรวจสอบอย่างนี้ จึงอยากให้ทราบว่าที่ไปที่มามันคืออะไร | รมว.ยุติธรรม ระบุ ไม่กำชับ รรท.อธิบดีคุก เป็นพิเศษ หลัง 8 มือโพสต์เฟซบุ๊กถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ชี้ เหตุ จนท.เรือนจำต้องตรวจค้นร่างกายละเอียด เพราะที่ผ่านมา มีการแอบนำสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำ | null | 8 มือโพสต์ป่วน,หมิ่นสถาบัน,ม.112,ม.116,รรท.อธิบดีคุก,เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร,อธิบดีกรมราชทัณฑ์,ทัณฑสถานหญิงกลาง,กลุ่มเคลื่อนไหวการเมือง,ไพบูลย์ คุ้มฉายา,บิ๊กต๊อก,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/615465 |
ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.นครปฐม ร้องเรียนถูกข่มขู่ คาดเกิดจากการตรวจสอบผู้บริหาร สกสค. | นายหิรัณ์เศรษฐ เหยี่ยวประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำ จ.นครปฐม ออกมาเปิดเผยว่าตรถูกข่มขู่จากชาย 2 คน ที่เข้ามาทำทีสอบถามหารถของนายหิรัณ์เศรษฐเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพชาย 2 คนดังกล่าวไว้ได้ นายหิรัณ์เศรษฐเชื่อว่าทั้ง 2 คนนี้ อาจต้องการข่มขู่สาเหตุน่าจะมาจากพาอดีตคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เข้าให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. กรณีผู้บริหาร สกสค.ขณะนั้นนำเงินกองทุนกว่า 2100 ล้านบาท ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรีกระทั่ง ป.ป.ช.ตรวจสอบพยานหลักฐานจนเชื่อได้ว่าอาจมีการทุจริต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ร่วมกับ ป.ป.ท. ป.ป.ช. และดีเอสไอ เร่งตรวจสอบการใช้เงินโครงการฯ คุ้มค่าหรือผิดประเภทหรือไม่ โดยจะมีนายวิชา มหาคุณ และนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช.ร่วมเป็นอนุกรรมการไต่สวน | ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำ จ.นครปฐม เปิดเผยว่าถูกข่มขู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เชื่อว่ามาจากการตรวจสอบข้อมูลผู้บริหาร สกสค.ในขณะนั้นนำเงินกว่า 2000 ล้านบาท ไปสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ | ภูมิภาค | ข่าวภูมิภาค,ทันข่าว16.00,ผอ.ป.ป.ช.นครปฐม,ผอ.ป.ป.ช.นครปฐมถูกข่มขู่,ศอตช.,สกสค.,หิรัณ์เศรษฐ เหยี่ยวประยูร | https://news.thaipbs.or.th/content/1451 |
ชาวบ้าน จ.กาญจนบุรี อุ้มหญิงชราวัย 76 ร้อง ตร. หลัง รพ.ผ่าตัดไส้ติ่งแต่กลับเป็นอัมพาต | จากกรณี โรงพยาบาลใน จ.กาญจนบุรี ผ่าตัดไส้ติ่ง นางประเทือง เฉิดฉันท์พิพัฒน์ อายุ 76 ปี แต่พบว่าหลังจากผ่าตัดกับป่วยเป็นอัมพาต โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา แม้ร้องเรียนไปยังโรงพยาบาลในภายหลัง แต่ไม่ได้รับคำชี้แจง ด้านเพื่อนบ้านพาเข้าแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่วันนี้ (14 มี.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน ต.หนองตากยา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี อุ้ม นางประเทือง เฉิดฉันท์พิพัฒน์ อายุ 76 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่ามะกา หลังเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งที่โรงพยาบาลมะการักษ์เมื่อ 5 ปีก่อน โดยนางประเทืองหมดสติหลังจากถูกวางยาสลบนานถึง 10 วัน แต่เมื่อฟื้นจากการผ่าตัดกลับป่วยเป็นอัมพาต เมื่อสอบถามไปยังแพทย์ผ่าตัดและทางโรงพยาบาลมะการักษ์ กลับไม่ได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจน ทางโรงพยาบาลฯ ทำบัตรคนพิการและมอบรถเข็นให้เท่านั้นด้าน ญาติของนางประเทือง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน แต่ในขณะนั้นไม่มีความรู้ที่จะดำเนินการแก้ไข เพื่อนบ้านใกล้เคียงเลยอาสาพานางประเทืองเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดกับทางโรงพยาบาล | ชาวบ้าน จ.กาญจนบุรี อุ้มหญิงชราวัย 76 เข้าร้องเรียนตำรวจ สภ.ท่ามะกา หลังผ่าตัดไส้ติ่งที่โรงพยาบาลมะการักษ์ แต่กลายเป็นอัมพาตเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยทางโรงพยาบาลไม่รับผิดชอบ | ภูมิภาค | ผ่าตัดเป็นอัมพาต,โรงพยาบาลมะการักษ์,ไส้ติ่ง,ประเทือง เฉิดฉันท์พิพัฒน์,กาญจนบุรี,ยาสลบ,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/250928 |
เครือข่ายฯจัดค่ายเยาวชนเลยจี้บริษัทเอกชน หยุดคุกคามนร.ม.4 กรณีเสนอข่าวเหมืองทอง | วานนี้ (14 ก.ย.2558) ที่อาคารมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) คณะผู้จัดค่ายเยาวชนฮักบ้านเกิดเจ้าของ กลุ่มอาสาสมัครโครงการพัฒนาคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) จัดแถลงข่าวชี้แจงกรณีผู้ประกอบการเหมืองแร่ในพื้นที่ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย ขู่ฟ้องทีมงาน และ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนศรีสงคราม อ.วังสะพุง จ.เลย ในฐานะนักข่าวพลเมืองและผู้เข้าร่วมค่ายเยาวชนฮักบ้านเกิด หลังรายงานข่าวปัญหาในพื้นที่โดยมีเนื้อหาบางช่วงระบุว่า ลำน้ำฮวย แหล่งน้ำสาธารณะใน ต.เขาหลวง ไม่สามารถนำมาอุปโภคบริโภค เพราะ ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2558 ตอน นักสืบลำน้ำฮวย แทัๆแน๊วเครือข่ายคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคมระบุว่า การที่มีการคุกคามและข่มขู่ ครอบครัวของนักเรียนชั้นม.4 ที่รายงานข่าวดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2558 มีชายอ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่เหมืองแร่ทองคำพร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านภูทับฟ้า เข้ามาพูดคุยกับนักเรียนชั้นม.4 ในลักษณะการข่มขู่ ส่งผลให้นักเรียนชั้นม.4 และครอบครัวเกิดความกังวล ต่อความปลอดภัย ขณะที่ น.ส.ศักดิ์สินี เอมะศิริ ผู้ประสานงานทีมข้อมูลและสื่อ ในฐานะผู้จัดงาน กล่าวถึงกระบวนการทำข่าวพลเมือง หนึ่งในกิจกรรมของค่ายเยาวชน ว่า เพื่อให้เยาวชนได้รู้เรียนรู้การสื่อสารพัฒนาศักยภาพในการเรียนรู้เพิ่มและเพื่อปกป้องสิทธิชุมชน โดยเนื้อหาที่มีการนำเสนอว่าน้ำใน ลำน้ำฮวยไม่สามารถนำมาอุปโภคบริโภคเพราะ เป็นการนำเสนอข้อมูลที่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงและพิสูจน์ได้ อันเป็นข้อมูลที่เยาวชนและคนในชุมชนทราบกันดีอยู่แล้ว เห็นได้จากการที่สาธารณะสุขได้ติดป้ายห้ามอุปโภคบริโภคน้ำในลำน้ำฮวยอยู่แล้วสำหรับการรายงานข่าวปัญหานี้เป็นการใช้เสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชน เยาวชนและทีมสื่อ ที่จะแสดงความคิดเห็นที่เป็นผลประโยชน์ของชุมชนเอง เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้าน การนำเสนอข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นการปกป้องผลประโยชน์ได้เสียของชาวบ้าน และเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ต่อประเด็นสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประโยชน์สาธารณะ หากบุคคลหรือกลุ่มบริษัทใดมองว่า อุตสาหกรรมเหมื่องแร่ในพื้นที่ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวติและสิ่งแวดล้อมก็ขอให้ออกมาชี้แจงการขู่ฟ้องเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรม ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นในระหว่างการจัดค่ายเยาวชนเครือข่ายคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม เป็นความรับผิดชอบของผู้จัดค่ายไม่เกี่ยวกับเยาวชน ครอบครัวเยาวชนที่ถูกพาดพิงเริ่มกังวลถึงความไม่ปลอดภัย น.ส.ศักดิ์สินีกล่าวสอดคล้องกับน.ส.ศิริพร ฉายเพ็ชร ผู้ประสานงานโครงการพัฒนาคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม ระบุว่า เชื่อว่าสิ่งที่เยาวชนทำ มีเจตนารมณ์ที่เป็นอิสระและสร้างสรรค์แต่เรื่องนี้กลับกระทบต่อสิทธิ์เสรีภาพของเยาวชนในพื้นที่ และค่ายเยาวชนเป็นค่ายที่สร้างสรรค์ในฐานะผู้จัดก็ต้องออกมาแสดงความจำนงและความรับผิดชอบ ส่วนกรณีนักข่าวพลเมือง ชั้น ม.4 ขณะนี้มีความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังคงมีกำลังใจที่ดี เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ และกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดได้เข้าไปให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องทางโครงการยังคงสนับสนุนกิจกรรมนี้ต่อไป เพราะเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้จริง และยังเชื่อมั่นว่าเราสร้างคนเพื่อไปสร้างสังคม น.ส.ศิริพร ระบุทางด้าน นายภูมิสิทธิ์ ศิระศุภฤกธิ์ชัย ผู้ประสานงานค่ายเยาวชนฯ และเครือข่ายคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม ระบุว่า การใช้คำพูดที่ข่มขู่ เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม เอาเปรียบชาวบ้านที่ไม่รู้กฎหมาย และให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์นอกจากนี้ทางคณะผู้จัดค่าย ยังยืนยันที่จะจัดกิจกรรมต่อเนื่องต่อไป ตามแผนการเรียนรู้ที่ได้ออกแบบไว้กับเยาวชน โดยมีเจตนารมณ์เพื่อพัฒนาศักยภาพของประชาชนในพื้นที่ด้านต่างๆ ให้เข้าใจรากเหง้า ภูมิปัญญา คุณค่าและรู้รักษาบ้านเกิดของตนเองทั้งนี้ทางเครือข่ายฯ ยังเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในสังคมได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้การใช้อำนาจ กฎหมาย มาข่มขู่ คุกคาม และปิดกันเสรีภาพการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน กับประชาชนในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม และเชื่อว่าค่ายเด็กและเยาวชนเป็นกระบวนการเรียนรู้บนพื้นฐานชุมชนที่สำคัญ และยิ่งเป็นพื้นที่ปัญหากระบวนการจัดการเรียนรู้ยิ่งมีความจำเป็นในการสร้างความรู้ความเข้าใจ ปลุกสำนึกรักบ้านเกิดและเพื่อหาแนวทางการจัดการความขัดแย้งด้วยความรัก ความรู้ ความเข้าใจอย่างสันติร่วมกัน | เครือข่ายเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม แจงกรณีเหมืองทองเมืองเลย ขู่ฟ้องนักเรียน ม.4 รายงานข่าวผลกระทบจากเหมืองแร่ทองคำ ขณะที่คณะผู้จัดค่ายเยาวชนฮักบ้านเจ้าของ ยืนยันเนื้อหาที่นำเสนออยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงไม่ได้มีการบิดเบือน เรียกร้องรัฐ นายทุนหยุด ข่มขู่คุกคามเยาวชนในพื้นที่ โดยให้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเพื่อปกป้องสิทธิชุมชนยันดำเนินกิจกรรมต่อไป | สิ่งแวดล้อม | ข่าวไทยพีบีเอส,ทุ่งคำ,นักข่าวพลเมือง,ฟ้องนักข่าวพลเมือง,ฟ้องนักข่าวพลเมืองเด็ก ม.4,วังสะพุง,วันเพ็ญ คุณนา,เครือข่ายเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม,เยาวชนฮักบ้านเกิดเจ้าของ,เลย,เหมืองทองคำวังสะพุง,เหมืองทองเขาหลวง,โครงการพัฒนาคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/5198 |
การบินไทยยกเว้นค่าธรรมเนียมเปลี่ยนเที่ยวบิน | วันนี้ (26 ก.พ.2563)นายนนท์ กลินทะ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ของไวรัสโควิด 19 (COVID-19) ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ คำนึงถึงผลกระทบที่ผู้โดยสารได้รับจึงอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารการบินไทย โดยขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสาร และ/หรือ เปลี่ยนเส้นทางบิน ดังนี้1. เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ สู่ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และสิงคโปร์- บัตรโดยสารการบินไทยที่เดินทางด้วยเที่ยวบินของการบินไทย และเที่ยวบินร่วมของไทยสมายล์ ในเส้นทาง ไป-กลับ จากกรุงเทพฯ สู่โตเกียว (นาริตะ/ฮาเนดะ) โอซากา ฟุกุโอกะ นาโกยา ซัปโปโร เซนได โซล ปูซาน ไทเป เกาสง และสิงคโปร์ ที่ออกบัตรโดยสาร ก่อน และ/หรือ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 และมีการเดินทางระหว่างวันที่ 18 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 25632. เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ สู่จีน และฮ่องกง- บัตรโดยสารการบินไทยที่เดินทางด้วยเที่ยวบินของการบินไทย ในเส้นทาง ไป-กลับ จากกรุงเทพฯ สู่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เซี่ยเหมิน คุนหมิง และเส้นทาง ไป-กลับ ด้วยเที่ยวบินร่วมของไทยสมายล์ จากกรุงเทพฯ สู่ฉงชิ่ง ฉางซา และเจิ้งโจว รวมทั้งเที่ยวบินรหัสร่วมของสายการบินเซินเจิ้น แอร์ไลน์ เส้นทาง กรุงเทพฯ-เซินเจิ้น และภูเก็ต-เซินเจิ้น และเที่ยวบินของการบินไทย และเที่ยวบินร่วมของไทยสมายล์ ในเส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง หรือภูเก็ต-ฮ่องกง ที่ออกบัตรโดยสาร ก่อนวันที่ 28 มกราคม 2563 และมีการเดินทางระหว่างวันที่ 24 มกราคม - 30 เมษายน 25633. เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ สู่อิตาลี- บัตรโดยสารการบินไทยที่เดินทางด้วยเที่ยวบินของการบินไทย ในเส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-โรม และ กรุงเทพฯ-มิลาน ที่ออกบัตรโดยสาร ก่อน และ/หรือ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 และมีการเดินทางระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2563ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนแปลงการเดินทาง และ/หรือ เปลี่ยนแปลงเส้นทางได้ภายในอายุบัตรโดยสาร หรือขยายเวลาการเดินทางได้ถึง 30 กันยายน 2563 โดยได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม โดยต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงก่อนวันเดินทางตามที่ระบุบนบัตรโดยสาร ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด ผู้โดยสารสามารถติดต่อทำการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสารได้ที่สำนักงานขายการบินไทย หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง | การบินไทย ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินเส้นทางจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และอิตาลี | เศรษฐกิจ | การบินไทย,COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 | https://news.thaipbs.or.th/content/289297 |
เด็ก 7 ขวบ ตกบ่อบำบัดน้ำเสีย จ.อยุธยา เสียชีวิต | เด็กหญิงอาทิติยา หรือ น้องมะนาว สิงห์บรม วัย 7 ขวบ หลานสาว จมน้ำเสียชีวิต ภายในบ่อบำบัดน้ำเสีย ในหมู่บ้านเอื้ออาทร โครงการบ้านสร้าง ตำบลบ้านสร้าง อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับเด็กชาย ก้องภพ หรือ น้องกัปตัน โคตรภูธร เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (14 มิ.ย.2556)นายมณี ทองนพ ผู้เป็นญาติ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่หลานสาวนอนหลับ น้องกัปตันได้มาเรียกหลานสาวซึ่งเป็นเพื่อนสนิทโรงเรียนเดียวกัน ไปขี่จักรยานเล่น จากนั้นหายไปทั้งคู่ ก่อนที่ นายบพิตร โครตภูธร บิดาของน้องกัปตัน จะไปพบรถจักรยานจอดอยู่บนขอบบ่อ จึงได้แจ้งหน้าที่กู้ภัยมาช่วยค้นหา ก่อนจะพบศพเด็กทั้ง 2 คนจมอยู่ในบ่อน้ำดังกล่าวส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า ขณะที่เด็กทั้ง 2 ขี่รถจักรยาน อาจมีคนใดคนหนึ่งพลัดตกลงไปในบ่อซึ่งลึกกว่า 3 เมตร อีกคนจึงพยายามลงไปช่วย แต่ขอบบ่อมีความลาดชัน จึงทำให้ทั้งคู่ขึ้นมาไม่ได้ | เกิดเหตุเด็กวัย 7 ขวบตกบ่อบำบัดน้ำเสีย ขณะออกไปขี่รถจักรยาน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สาเหตุคาดว่าเกิดจากคนหนึ่งพลัดตก อีกคนหนึ่งพยายามลงไปช่วย | ภูมิภาค | ขี่รถจักรยาน,ตกบ่อ,บำบัดน้ำเสีย,เด็ก | https://news.thaipbs.or.th/content/177049 |
เมียจุดธูป 8 ดอกบอกเจ้าที่ ขอให้เจอสามี โชว์รูม 8 ชั้นถล่ม | จากกรณีอาคารสูง 8 ชั้น ซอยสุขุมวิท 87 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ที่อยู่ระหว่างการรื้อถอนโดยส่วนอาคารตั้งแต่ชั้นบนสุดถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้ติดภายใน 4 ราย โดยพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ติดอยู่ในซากอาคาร และสูญหายอีก 2 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา (,โชว์รูม 8 ชั้นถล่ม ฝังคนงาน2ศพ,),ความคืบหน้า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. วันที่ 17 ธันวาคม เจ้าหน้าที่สำนักงานบรรเทาและป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ยังระดมกันเร่งค้นหาผู้สูญหาย ที่ติดอยู่ภายใต้ซากตัวอาคารดังกล่าวอีก 2 ราย อย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำรถเครนขนาดใหญ่ มายกเศษซากอาคารที่พังถล่มลงมา เพื่อเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าค้นหาผู้สูญหาย ทราบชื่อแล้ว คือ นายบุญแจ้ง เลิศละออง อายุ 46 ปี และ นายไพร คะนุนรัมย์ อายุ 38 ปี นอกจากนี้ ยังมีการนำสุนัขดมกลิ่น k9 จำนวน 3 ตัวมาช่วยค้นหา เบื้องต้นคาดว่า ทั้งสองคนน่าจะติดอยู่บริเวณลานจอดรถ ฝั่งปีกขวาของตัวอาคาร แต่เนื่องจาก อาคารที่พังลงมานั้น เป็นแผ่นปูนขนาดใหญ่ ทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก ก่อนเจ้าหน้าที่จะยุติการค้นหาในเวลา 03.00 น. เพื่อประเมินสถานการณ์ และวางแผนค้นหาอีกครั้ง,ขณะที่ นางน้อย เลศละออง อายุ 44 ปี ภรรยา นายบุญแจ้ง หนึ่งในผู้สูญหาย ได้จุดธูปจำนวน 8 ดอก มาไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ขอให้เจ้าหน้าที่เจอตัวสามีโดยเร็ว. | เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 2 ราย จากเหตุ โชว์รูม 8 ชั้นอยู่ระหว่างการรื้อถอนถล่ม ภายในซอยสุขุมวิท 87 ขณะที่เมียหนึ่งในผู้สูญหาย จุดธูป 8 ดอก บอกเจ้าที่เจ้าทาง ขอให้เจอสามี ด้าน จนท. ประเมินสถานการณ์เตรียมหาต่อวันนี้ | null | ตึกถล่ม,อาคารถล่ม,ตึกทรุด,สุขุมวิท 87,คนงาน | https://www.thairath.co.th/content/813777 |
ทางการอิรักอ้าง อัลกออิดะห์ พยายามล้มการประชุมสันนิบาตอาหรับ | การก่อเหตุรุนแรงในอิรักเมื่อวานนี้เกิดขึ้นหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงกรุงแบกแดด โดยรูปแบบของการโจมตีมีทั้งระเบิดด้วยรถยนต์หรือคาร์บอมบ์ ฝังระเบิดเป็นกับดักไว้ตามถนน รวมถึงลอบยิง ซึ่งเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง โดยเหตุรุนแรงในอิรักระลอกล่าสุดนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย55 คนและบาดเจ็บอย่างน้อย 225 คนทั่วประเทศโดยตามภาพนี้เป็นเหตุการณ์คาร์บอมบ์ใกล้กับร้านอาหารและโรงเรียนประถมทางด้านเหนือของกรุงแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บ 62 คน ซึ่งตำรวจบอกว่าผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นนักเรียนการโจมตีครั้งนี้นับเป็นระลอกล่าสุดนับตั้งแต่สหรัฐซึ่งเข้ามายึดครองอิรักนานกว่า 9 ปี ถอนทหารทั้งหมดออกไปเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอิรัก ชี้ว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ โดยมีเป้าหมายล้มแผนการประชุมของสันนิบาตอาหรับ่ รวมทั้งเป็นการแสดงพลังว่ายังคงมีศักยภาพในการก่อเหตุร้ายได้ทุกเมื่อ | รัฐบาลอิรัก อ้างว่า การโจมตีหลายระลอกทั่วประเทศเมื่อวานนี้เป็นฝีมือของเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ซึ่งพยายามแสดงให้เห็นว่ายังมีศักยภาพและล้มการประชุมของสันนิบาตอาหรับ | ต่างประเทศ | สันนิบาตอาหรับ,อัลกออิดะห์ล ก่อการร้าย,อิรัก,โจมตี | https://news.thaipbs.or.th/content/68227 |
ดิโอโก ฮีโร่ ซัดประตูชัย บุรีรัมย์ บุกอัด ชลบุรี 2-1 | วันที่ 19 ส.ค. การแข่งขันศึกฟุตบอลไทย พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015 นัดกลางสัปดาห์ ซึ่งมีการลงเตะพร้อมกันครบทั้ง 9 คู่ โดยในเกมคู่บิ๊กแมตช์ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี อันดับที่ 4 ของตาราง เปิดบ้านที่สนามชลบุรี สเตเดียม พบกับ ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูง ,เริ่มเกมในครึ่งแรก เป็นฝ่ายเจ้าถิ่นที่เปิดเกมบุกเพื่อเอาใจกองเชียร์ และมาได้ประตูออกนำไปอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 3 ของเกม เมื่อ เลอันโดร อัสซัมเซา เปิดฟรีคิกจากบริเวณข้างสนาม เข้ามาหน้าประตูให้กับ แอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส ขึ้นโหม่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม ขึ้นนำ 1-0,นาที 21 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีโอกาสได้ลุ้นบ้าง จากการส่องไกลของ ธีราทร บุญมาทัน แต่บอลยังไม่ผ่านมือ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายทวารจอมเก๋าของทีมเจ้าถิ่น,หลังจากนั้นฝนเริ่มตกลงมาอย่างหนักทำให้ทั้งสองทีมเล่นกันได้ยากขึ้นมากกว่าเดิม และเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มาตามตีเสมอสำเร็จ จากการดีดด้วยขวาอย่างสุดสวยของ โก ซึล กี เพลย์เมกเกอร์ชาวเกาหลีใต้ ทำให้เสมอกันที่ 1-1,จากนั้นในช่วงท้ายเกม เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น เมื่อสองผู้เล่นบราซิเลียนอย่าง แอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส ไปเล่นนอกเกมกับ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต จนเกือบจะมีเรื่อง แต่สุดท้ายผู้ตัดสินสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ทำให้หมดครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 1-1,ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังคงเปิดเกมรุกสู้กันอย่างสนุกท่ามกลางสายฝน และเป็นทีมเยือนที่เกือบได้ประตูจากการพุ่งเข้าชาร์จจ่อๆ ของ โก ซึล กี แต่บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย,กระทั่งนาที 68 กองเชียร์ บุรีรัมย์ มาได้เฮกันอย่างสุดเสียงอีกครั้ง เมื่อ ธีราทร บุญมาทัน เปิดลูกเตะมุมเข้าไปหน้าประตูให้กับ โก ซึล กี โหม่งเช็ดมาเข้าทาง ดิโอโก หลุยส์ ซานโต จิ้มเข้าไปให้กับทีมนักรบปราสาทสายฟ้าขึ้นนำเป็น 1-2,จากนั้นทั้งสองทีมยังคงดาหน้าแลกกันอย่างสนุก แต่ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านพ่ายให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปอย่างสนุก 1-2 ทำให้ทีมแชมป์เก่าเก็บเพิ่มอีก 3 คะแนนสำคัญ ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 1 มีอยู่ 47 คะแนน แซงหน้า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มีอยู่ 44 คะแนน แต่บุรีรัมย์แข่งมากกว่า 1 นัด ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี ยังมีอยู่ 39 แต้ม เช่นเดิม,ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้,ราชนาวี เสมอ บีอีซี เทโรศาสน 2-2,ศรีสะเกษ เอฟซี แพ้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-3,เชียงราย ยูไนเต็ด ชนะ สระบุรี เอฟซี 1-0,ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ชนะ โอสถสภา 3-2,สุพรรณบุรี เอฟซี ชนะ การท่าเรือ เอฟซี 2-1,ทีโอที เอสซี เสมอ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 0-0,อาร์มี่ ยูไนเต็ด เสมอ ชัยนาท ฮอร์นบิล 1-1 | ดิโอโก หลุยส์ ซานโต สวมบทฮีโร่ ทำประตูชัยในช่วงครึ่งหลัง ให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมายัดเยียดความปราชัยให้กับ ชลบุรี เอฟซี คาบ้าน 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในศึกไทย พรีเมียร์ลีก 2015 นัดกลางสัปดาห์ | null | ชลบุรี เอฟซี,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,ไทย พรีเมียร์ลีก,ฤดูกาล 2015,ผลบอล,แอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส,ดิโอโก หลุยส์ ซานโต,โก ซึล กี,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/519430 |
ของมันต้องมี กระเช้าภูกระดึงรีเทิร์น ปธ.อุตสาหกรรม จ.เลย จี้รัฐทำ EIA | และในโอกาสที่, บิ๊กตู่, หรือ, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ,จะเดินทางไปตรวจราชการ ปม กระเช้าภูกระดึง ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครา,ในประเด็นฮอตๆ นี้ ทีมข่าวฯ ได้พูดคุยกับ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย โดยกล่าวว่า เรื่องนี้เคยมีมติ ครม. ในการ ,รับทราบข้อเสนอ, ในการจัดสร้างกระเช้าภูกระดึงไปนานแล้ว แต่ติดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางจังหวัดเลย โดย อบจ.เลย จะต้องทำเอกสารเสนอกับสำนักงานนโยบายและแผนพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อเสนอกลับไปใหม่,ชั่งน้ำหนัก สิ่งแวดล้อมที่เสียไป กับ เศรษฐกิจที่ได้มา ,ผวจ.เลย เผยว่า ที่ผ่านมา ทาง จุฬาฯ ที่เคยรับศึกษาเรื่องนี้ไว้ ก็ต้องไปคุยกับผู้จ้าง คือ อบจ.เลย เพื่อรับฟังข้อท้วงติงที่ระบุว่ายังไม่ครอบคลุมหรือทันสมัย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องมีการคิดให้รอบด้าน เราเองก็ต้องเคารพการตัดสินใจของ สผ. ว่า ต้องศึกษาให้ครบก่อนจากนั้นค่อยมาชั่งน้ำหนักว่า ,สิ่งแวดล้อมที่เสียไป, กับเรื่อง เศรษฐกิจ ที่อาจจะได้เข้ามา อันไหนจะได้มากกว่ากัน แต่ก่อนอื่นต้องมีข้อมูลครบเสียก่อน,สำหรับประเด็นที่ สผ. ให้ศึกษาใหม่นั้น ทราบว่ามีหลายด้าน อาทิ พืช สัตว์ป่า สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงขยะ หากมีการขนขึ้นไปมากจะส่งผลกระทบอย่างไร ซึ่งเรื่องทั้งหมดก็ต้องศึกษาให้ดีก่อน,การที่มีการเสนอสร้างกระเช้ามาอย่างยาวนานนั้น แล้วไม่มีการสร้างเสียทีนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะหากข้อกฎหมาย หรือข้อสรุปต่างๆ ยังไม่มีคำตอบ หรือข้อเท็จจริงออกมา เราก็ต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน เราในฐานะข้าราชการก็ต้องฟังทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน เพราะเชื่อว่าทั้ง 2 ฝ่ายนั้นก็อยู่ข้างเดียวกัน คือ หวังดีกับประเทศชาติ เราจึงละเลยสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้,เมื่อถามว่ากลุ่มอนุรักษ์ระบุว่า มีกระเช้าแล้วมนตร์เสน่ห์ภูกระดึงจะหายไป ผวจ.เลย ตอบประเด็นนี้ว่า ,มันเป็นเรื่องที่ต้องรับฟัง,และเมื่อถามว่า หากมีกระเช้า ป้าย ครั้งหนึ่งในชีวิต ข้าฯคือผู้พิชิตภูกระดึง จะหมดความศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่ ท่านผู้ว่าฯ ไม่ได้ตอบคำถามนี้ แต่กลับหัวเราะเสียงดัง ยาวนาน แทนคำตอบ,สภาอุตฯ จ.เลย จ่อ เสนอนายกฯ ศึกษา EIA สร้างกระเช้าภูกระดึง,ด้าน ,นายวชิรวิชญ์ สกุลดีโชติวัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเลย, เปิดเผยปมก่อสร้างกระเช้าภูกระดึงก่อนจะให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีว่า ,โครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงนั้น ได้เสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ศึกษาเรื่อง EIA ให้ชัดเจนว่ามีผลกระทบหรือไม่มีผลกระทบในการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง โดยตอนนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ยังไม่ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้ ซึ่งเคยทำการศึกษามานานแล้ว ในครั้งนั้นกรมป่าไม้จ้าง ม.เกษตรฯ ทำ และมีมติรับรอง แต่ปรากฏว่ามติ ครม.เมื่อปี 58 ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ศึกษาใหม่ แต่ล่าสุด ยังไม่ได้ทำการศึกษา,ดังนั้นในโอกาสนี้ที่นายกฯ ลงพื้นที่ จ.เลย ทางสภาอุตสาหกรรมก็ยังยืนยันเหมือนเดิม และไม่ล้มเลิกความคิด โดยจะเรียกร้องให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ดำเนินการศึกษา EIA ผลกระทบในการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วผลการศึกษาจะเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ แต่หากไม่มีการศึกษาก็ไม่มีข้อมูลในการตัดสินใจ หรือตอบคำถามว่าดีหรือไม่ดี ยังเป็นเรื่องที่ยังพูดกันอยู่ทั้งสองฝั่ง,ประชาชนส่วนหนึ่งอยากให้มีกระเช้าขึ้นภูกระดึง ทั้งใน จ.เลย และจังหวัดอื่นๆ เพราะจะทำให้มีสิทธิความเท่าเทียมไม่ว่าจะเป็นคนชรา หรือคนทุพพลภาพก็สามารถขึ้นมาสัมผัสความเป็นธรรมชาติที่มีหนึ่งเดียวในโลกเลยก็ว่าได้ เป็นตำนานของที่นี่ว่า ครั้งหนึ่งเราคือผู้พิชิตภูกระดึง และผมเชื่อว่ามนตร์เสน่ห์ของภูกระดึงจะไม่หายไป เพราะมีการจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปชมธรรมชาติ ว่า ปีหนึ่งรับแค่ 20,000 คน และการสร้างกระเช้าก็เป็นทางเลือกหนึ่งให้ทุกคนเท่านั้น, ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเลย กล่าว,ลูกหาบยังอยู่ สภาอุตฯ แจง ให้สิทธิ์คนท้องถิ่นทำร้านขายของก่อน,นอกจากนี้ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเลย ยังมีความเชื่อมั่นว่าอาชีพเก่าแก่ที่ภูกระดึงอย่าง ลูกหาบ ก็ยังไม่หายไปไหน หากมีการก่อสร้างกระเช้าจริง,ส่วนจะจ้างน้อยลงหรือไม่นั้น ต้องอธิบายว่า นับวันลูกหาบกำลังจะหมดไป เนื่องจากเด็กรุ่นใหม่ไม่เข้ามาสืบสานอาชีพนี้ต่อจากพ่อแม่ บางครอบครัวมีความรู้มีการศึกษามากขึ้น ก็ไปหาทำงานในกรุงเทพฯ จึงทำให้คนที่ทำอาชีพลูกหาบลดน้อยลงเรื่อยๆ,ผมเคยคุยกับลูกหาบเขาก็เห็นด้วย และเขาก็เคยถามว่า จะมีงานทำต่อไปไหม เราก็บอกว่า ลูกหาบก็ยังมีงานทำ ลูกหาบไม่ตกงาน โดยอาจจะทำงานเป็นลูกหาบให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินขึ้นภูกระดึง หรือเปลี่ยนอาชีพไปเป็นคนขายตั๋ว เป็นคนขึ้นไปจัดการขยะ หรือบริกรบนภูกระดึงก็ได้ นอกจากนี้ร้านขายของบนภูกระดึง เราก็จะให้สิทธิ์กับคนท้องถิ่นก่อน ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเลย กล่าว,ย้อนที่มา ชงสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึง,สำหรับแนวคิดนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2525 หลังจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้เสนอกองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในสมัยนั้น พิจารณาระบบขนส่งขึ้น-ลง โดยใช้พาหนะสายเคเบิล อันเนื่องมาจากความยากลำบากในการเดินทางถึงยอดภูกระดึง ซึ่งต้องการเดินเท้าขึ้นไปตามความลาดชันเป็นระยะเวลานาน ทำให้นักท่องเที่ยวต้องวางแผนใช้เวลาสำหรับการเดินทางขึ้น-ลงถึง 2 วัน,จากนั้นได้มีการศึกษารูปแบบการก่อสร้าง รวมไปถึงผลกระทบต่างๆ มีการจัดทำประชาพิจารณ์ โดยเริ่มทำตั้งแต่ปี 2527 2542 และ 2557 แต่ละครั้งมีการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะเงียบหายไปหลายปี กระทั่ง นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย เข้ารับตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ปัดฝุ่นโครงการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงอีกครั้ง หลังจากเว้นว่างมาหลายปี, ,ต่อมา องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จึงได้รับงบจำนวน 20 ล้านบาท ก่อนว่าจ้างให้ศูนย์บริการทางการศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับบริษัท แกรนด์เทค จำกัด และบริษัท ไทยซิสเทมเอนไว แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ดำเนินการศึกษาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการและผลกระทบเรื่องต่างๆ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และความเหมาะสมในการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงร่วมกับกรมอุทยานฯ จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมขึ้นมาใหม่,กระทั่ง การศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว และส่งไปที่สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้พิจารณา และเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี ซึ่ง ครม.ได้รับทราบผลการศึกษาโครงการที่ อพท. เสนอมาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใดจนถึงปัจจุบัน,สำหรับใครที่สนใจอยากพิชิตยอดเขาภูกระดึง ผวจ.เลย ได้กระซิบมาว่า วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ทางภูกระดึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวท้าทายความสามารถ ส่วนจะมีการสร้างกระเช้าหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไป.,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน,,เปิดตำนานภูกระดึงขุนเขามหัศจรรย์ สู่แนวคิดกระเช้าลอยฟ้า,หมัดต่อหมัด กระเช้าลอยฟ้า ฆ่า เสน่ห์ภูกระดึง จริงหรือ?,มรดกท้องถิ่นสู่ความเจริญ เปิดแผนกระเช้าลอยฟ้า เหตุไฉนญี่ปุ่นสร้างได้? | กลับมาอีกครั้งสำหรับปมก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้น ภูกระดึง ที่กลายเป็นเรื่องอมตะนิรันดร์กาล มหากาพย์ที่คนถกเถียงกันทั้งสยามประเทศ ว่าจะสร้างหรือไม่ | สกู๊ปไทยรัฐ | ภูกระดึง,กระเช้าภูกระดึง,กระเช้าลอยฟ้าภูกระดึง,ลูกหาบ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/scoop/1376189 |
ซูจี เดินทางไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงที่เมืองทวาย | สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานความเคลื่อนไหวของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตยพม่า หรือ เอ็นแอลดี เดินทางไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองนอกนครย่างกุ้งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอประกาศตัวจะลงชิงชัยในการเลือกตั้งซ่อม 1 เมษายนที่จะถึงนี้ โดยเธอเดินทางไปยังเมืองทวาย เมืองท่านอกนครย่างกุ้ง เพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงสำนักข่าวเอเอฟพี และบีบีซี รายงานว่าประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจ และต้อนรับนางออง ซาน ซูจี โดยเธอกล่าวกับผู้ร่วมฟังการปราศรัยว่าหากพม่าดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ก็จะสร้างโอกาสมากมาย ซึ่งชาวพม่าล้วนแต่กระตือรือร้นที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ นอกจากนี้เธอยังกล่าวถึงเรื่องความปลอดภัยของประชาชน และการรักษากฎหมายอย่างเป็นธรรม ซึ่งทางพรรคหวังจะทำงานเพื่อความมั่นคงปลอดภัยเพื่อประชาชน และเรียกร้องให้ลงคะแนนให้พรรคเอ็นแอลดีเมืองทวายเป็นเมืองท่าที่กำลังจะมีการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก โดยไทยเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งสร้างความกังวลให้คนในพื้นที่ว่าจะทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่รัฐบาลพม่ารอมชอมด้วยการยกเลิกแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังถ่านหิน หลังถูกต่อต้านจากกลุ่มเอ็นจีโอในพื้นที่การเดินสายหาเสียงของนางซูจีก่อนการเลือกตั้งซ่อมนับเป็นบททดสอบอีกประการของรัฐบาลพม่า และได้รับการจับตาจากนานาประเทศ เพราะหากผ่านพ้นไปโดยไม่มีความวุ่นวายหรือเหตุรุนแรง จะเป็นสัญญาณอีกอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการปฏิรูปเพื่อประชาธิปไตยในพม่า ซึ่งเมื่อปี 2541 ขบวนรถปราศรัยของนางซูจี เคยถูกล้อม และรุมทำร้าย และทำให้เธอถูกกักบริเวณในบ้านพรรครอบที่ 2 กระทั่งได้รับการปล่อยตัวหลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2553 | นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของพม่าเดินทางออกนอกนครย่างกุ้งเพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงที่เมืองทวาย นับเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกนครย่างกุ้งเป็นครั้งแรก ตั้งแต่เธอประกาศชิงชัยในการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 เมษายนนี้ | ต่างประเทศ | ซูจี,ทวาย,ผู้สมัคร,หาเสียง | https://news.thaipbs.or.th/content/62560 |
บรีส์ ปา 7 ทัชดาวน์ นำ เซนต์ส ขยี้ ไจแอนท์ส 52-49 | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 2 พ.ย. ว่า การแข่งขันอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล สหรัฐอเมริกา ฤดูกาล 2015-16 เกมสัปดาห์ที่ 8 คู่ที่น่าสนใจ ณ สนาม ซูเปอร์โดม นักบุญ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส ทีมในกลุ่ม เอ็นเอฟซี ใต้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ยักษ์ใหญ่ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ทีมจากกลุ่มเอ็นเอฟซี ตะวันออก,เปิดเกมมาควอเตอร์สแรก ทั้งสองทีมก็เล่นได้สูสีเป็น ไจแอนท์ส ที่ทำแต้มขึ้นนำก่อน 7-0 อีไล แมนนิง ปา 2 หลา ให้ โอเดล เบคแคม จูเนียร์ ทะลุทำทัชดาวน์ ก่อนที่ เซนต์ส จะตีเสมอทันควัน ดรูว์ บรีส์ ปา 34 หลาให้ วิลลี สนีด เก็บทัชดาวน์ ไล่เป็น 7-7 ก่อนจะพลิกแซงนำเป็น 14-7 โดยเป็น บรีส์ คนเดิมที่ขว้าง 26 หลา ให้ บรานดิน คุกส์ ทำทัชดาวน์,ควอเตอร์ที่ 2 ทีมบุกของทั้งสองฝั่งยังคงร้อนแรง แมนนิง ปา 1 หลาให้ เบคแคม จูเนียร์ เก็บทัชดาวน์พา ไจแอนท์ส ตีเสมอเป็น 14-14 แต่ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส ไม่ยอมขยับทิ้งห่างเป็น 21-14 จากการทำทัชดาวน์ของ มาร์เกวซ โคลส์ตัน ที่รับลูกขว้างระยะ 53 จาก บรีส์ และก็เป็นควอเตอร์แบ็กรายนี้ที่ปา 2 หลา ให้ สนีด เป็นอีกทัชดาวน์ พาเจ้าบ้านนำเพิ่ม 28-14 ก่อนที่ฝั่งทีมเยือนจะเอาคืนจาก เชน เวอรีน ที่รับลูกระยะ 2 หลา แมนนิง ทะลุเข้าเอนด์โซน ช่วยทีมไล่มาเป็น 21-28,ควอเตอร์ต่อมาทัพ ยักษ์ใหญ่ ตีเสมอเป็น 28-28 ได้สำเร็จ โดยเป็น แมนนิง คนเดิมที่ปา 50 หลาให้ เบคแคม จูเนียร์ เก็บทัชดาวน์ แต่หลังจากนั้นก็เป็นฝั่งของเจ้าบ้านที่ระดมทำแต้ม โดยมี บรีส์ เป็นแกนนำ ปา 21 และ 20 หลา ให้ คุกส์ และ เบนจามิน วัตสัน ทำสองทัชดาวน์พา นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส นำห่าง 42-28,เข้าสู่ควอเตอร์สสุดท้าย นิวยอร์ก ไจแอนท์ส รัวเอาคืนชุดใหญ่ เริ่มจาก แมนนิง ที่ปาให้ ดเวย์น แฮร์ริส ทำสองทัชดาวน์จากระยะ 9 และ 20 หลา พาทีมตีเสมอ 42-42 ก่อนที่ สนีด จะรับลูกขว้างของ บรีส์ พลาด โดน ทรูเมน แม็คไบรด์ วิ่งสวนกลับ 63 หลาทำทัชดาวน์ช่วยทีมเยือนแซงนำ 49-42,แต่ฝั่งของ นักบุญ ยังไม่ถอย บรีส์ ปา 9 หลา ให้ ซี.เจ.สปิลเลอร์ ทะลุเข้าไปทำทัชดาวน์ช่วยทีมตีเสมอ 49-49 ก่อนจะได้คะแนนสำคัญจากการเตะฟิลด์โกล ไค ฟอร์บาธ ส่งผลให้จบการแข่งขัน นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส เปิดบ้านเอาชนะ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส 52-49,ในเกมนี้ทั้งสองทีมทำแต้มรวมกัน 101 คะแนน มากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในประวัติศาสตร์เอ็นเอฟแอล ขณะที่ บรีส์ ขว้างระยะรวม 511 หลา 7 ทัชดาวน์ ขึ้นแท่นเป็นควอเตอร์แบ็กคนที่ 8 ที่ขว้าง 7 ทัชดาวน์ในเกมเดียว,ผลคู่อื่นมีดังนี้,ดีทรอยต์ ไลออนส์ แพ้ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ 10-45,
แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ชนะ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ 23-20
,มินเนโซตา ไวกิงส์ ชนะ ชิคาโก แบร์ส 23-20
,แอริโซนา คาร์ดินัลส์ ชนะ คลีฟแลนด์ บราวน์ส 34-20
,ซาน ฟรานซิสโก โฟรตีนายเนอร์ส แพ้ เซนต์ หลุยส์ แรมส์ 6-27
,ซินซินเนติ เบงกอลส์ ชนะ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส 16-10
,ซาน ดิเอโก ชาร์จเจอร์ส แพ้ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ 26-29
,เทนเนสซี ไตตันส์ แพ้ ฮุสตัน เท็กแซนส์ 6-20
,นิว ยอร์ก เจ็ตส์ แพ้ โอ๊คแลนด์ เรดเดอร์ส 20-24
,ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส์ ชนะ ดัลลัส คาวบอยส์ 13-12
,กรีน เบย์ แพ็คเกอร์ส แพ้ เดนเวอร์ บรองโกส์ 10-29,(ทีมหลังเป็นเจ้าบ้าน),สรุปผลการแข่งขันบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ฤดูกาล 2015-16,แอตแลนตา ฮอว์กส์ ชนะ ชาล็อตต์ ฮอร์เนตส์ 94-92,
ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ชนะ บอสตัน เซลติกส์ 95-87,
ฮุสตัน ร็อกเกตส์ แพ้ ไมอามี ฮีต 89-109,
มิลวอกี บักส์ แพ้ โตรอนโต แร็ปเตอร์ส 89-109,
ออร์แลนโด แมจิก แพ้ ชิคาโก บูลล์ส 87-92,
เดนเวอร์ นักเกตส์ แพ้ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ 93-117,
ดัลลัส แมฟเวอริกส์ ชนะ ลอส แองเจลิส เลเกอร์ส 103-93,(ทีมหลังเป็นเจ้าบ้าน) | ดรูว์ บรีส์ โชว์ความสุดยอด ปา 7 ทัชดาวน์ในเกมเดียว ช่วย นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส เปิดบ้านเอาชนะ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส 52-49 ขณะที่แต้มรวมในเกมนี้ยังสูงถึง 101 คะแนน มากที่สุดเป็นที่ 3 ในประวัติศาสตร์เอ็นเอฟแอล | null | ดรูว์ บรีส์,เอ็นเอฟแอล,เอ็นบีเอ,บาสเกตบอล,อเมริกันฟุตบอล,สหรัฐอเมริกา,ฤดูกาล 2015-16,นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส,นิวยอร์ก ไจแอนท์ส,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/536497 |
3 ดาราสาวร้อง ปอท.ถูกคนปลอมเฟซบุ๊กมาคุกคามทางเพศ ขอซื้อขนลับ-ชวนเป็นเมีย | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่ บก.ปอท. น.ส.พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์ หรือ เกรซ นักแสดงช่อง 7 น.ส.ฐรินดา กรรณสูต หรือ มิ้งค์ ดารานักแสดงช่อง 7 และ น.ส.พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์ หรือตูน นักแสดงช่อง 3 นำเอกสารหลักฐานเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. และ ร.ต.ท.พงศ์ปิติ ตรีปิยะ รอง สว.กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายโรคจิตรายหนึ่งใช้เฟซบุ๊กและอินสตราแกรม (ไอจี) ติดต่อขอเป็นภรรยาลับ พร้อมขอซื้อ กางเกงใน ยกทรง และขนเพชร ที่ใช้แล้วในราคาสูง ก่อนข่มขู่ชักชวนให้ร่วมหลับนอนด้วยกัน สร้างความหวาดกลัวให้กับดาราสาว และเกรงว่าจะเกิดอันตรายไม่ได้รับความปลอดภัยน.ส.ฐรินดา หรือ มิ้งค์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ มีคนร้ายเป็นชายแอบอ้างใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊ก จงสวัสดิ์ เธียรประภาโสภณ ส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยยื่นข้อเสนอ 1.2 ล้าน ขอให้เป็นภรรยาลับๆ โดยให้ไปเจอกันที่โรงพยาบาลตรวจร่างกาย ถ้าผ่านจ่ายให้ก่อน 2 แสน โดยต้องมาหลับนอนด้วยกันเดือนละ 3 ครั้ง และขอให้เป็นความลับทุกอย่าง ตนจึงตอบไปว่าไม่รับงานแบบนี้ จากนั้นชายคนดังกล่าวจึงยื่นข้อเสนอมาว่า ให้ส่งชุดชั้นในมาก็ได้ พร้อมกับติดต่อขอซื้อขนเพชรในราคา 5 หมื่นบาท โดยชายโรคจิตดังกล่าวก็พยายามจะวิดีโอคอลล์มาตลอดเวลา แต่ตนไม่รับ พอตนไม่รับก็จะส่งภาพอนาจารของตัวเองมาให้ ตนเองก็ได้บล็อกไป โดยชายโรคจิตยังส่งข้อความมาบอกอีกว่า ถ้าบล็อกเขา เขาก็จะตามไปทุกช่องทาง เขามีบัญชีไอจีและเฟซบุ๊กรวมกว่า 50 บัญชี จะตามระรานไปตลอดด้าน น.ส.พิมพ์ปวีณ์ หรือ ตูน เผยว่า ส่วนตนถูกคนร้ายคนเดียวกันทักมาในข้อความไอจีส่วนตัว ว่าขอให้เป็นภรรยาลับ จะให้เงิน 1.5 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 เดือน พร้อมนัดตรวจโรคที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็ไม่ได้ตอบอะไร โดยข้อความที่ส่งมาจะคล้ายๆ กัน แต่แตกต่างที่จำนวนเงิน ซึ่งเราก็ระแวงว่าเค้าจะมาทำอะไรเรารึเปล่า ตนจึงนำรายชื่อและนามสกุลคนดังกล่าวไปเสิร์ชหาในเฟซบุ๊ก ก็พบว่ามีตัวตนจริงๆ เมื่อได้พูดคุยกับลูกสาวผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ก็รู้ว่าถูกแอบอ้างปลอมเฟซบุ๊กขึ้นมา โดยลูกสาวก็กล่าวว่า พ่อก็เกิดความเครียด ที่ถูกใช้ชื่อนำไปแอบอ้างจนได้รับความเสื่อมเสียขณะที่ น.ส.พัชร์สิตา หรือ เกรซ กล่าวว่า สำหรับตนก็ถูกคนร้ายคนเดียวกันกับ มิ้งค์ และตูน โดยใช้เฟซบุ๊กปลอมอันเดียวกันทักมา ติดต่อขอซื้อชุดชั้นใน กางเกงใน โดยเฉพาะขนเพชร โดยให้ส่งพัสดุมาตามที่อยู่ที่ส่งมาให้ ซึ่งระบุว่าจะให้ราคา 3.8 แสนบาทต่อเส้น จึงทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นรายเดียวกันกับ โบว์-แวนด้า สหวงษ์ ดาราสาวที่โดนคุกคามในลักษณะเดียวกันไปก่อนหน้านี้ คือติดต่อขอให้เป็นภรรยาลับต่อมาเวลา 11.10 น. ที่ บก.ปอท. นายจงสวัสดิ์ เธียรประภาโสภณ เจ้าของธุรกิจขายอาหารเสริม ผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายนำรูปและชื่อไปแอบอ้างสร้างเฟซบุ๊กปลอม เดินทางมาถึงรีบเข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. และ ร.ต.ท.พงศ์ปิติ ตรีปิยะ รอง สว.กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายเช่นเดียวกันนายจงสวัสดิ์ กล่าวว่า เรื่องการถูกปลอมเฟซบุ๊กนั้น เคยเกิดขึ้นมาครั้งนึงแล้วเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อคนอื่น แต่ใช้รูปโปรไฟล์เป็นหน้าเรา ซึ่งตอนนั้นมีเพื่อนทักมาว่าใช่เฟซบุ๊กของเราหรือไม่ เราก็ตอบว่าไม่ใช่ ต่อมาเมื่อตนเดือน พ.ค.นี้ ก็ได้มีคนรู้จักทักมาว่ามีชื่อของเรา ออกทีวี เกี่ยวกับคุณโบว์-แวนด้า ดาราสาวท่านหนึ่งให้ไปตรวจสอบดู ซึ่งเราไม่รู้จัก จึงให้ลูกสาวหาข้อมูลก็พบว่าถูกคนร้ายปลอมเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อกับรูปเราจากนั้นก็ให้ลูกสาวทักคุณโบว์-แวนด้า เนื่องจากเราอยากได้ข้อมูลความจริง แต่คุณโบว์ก็ไม่ได้ตอบกลับ ต่อมาไม่กี่วันก็ได้ข่าวว่า มีดาราถูกเฟซบุ๊กดังกล่าวเข้าไปคุกคาม นอกจากนี้ก็ยังพบว่ามีผู้หญิงที่ถูกคุกคามอีก 2-3 ราย ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่ผ่านมาตนไม่เคยทะเลาะกับใครรุนแรง ทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องครอบครัวก็ไม่มีปัญหา พร้อมฝากแจ้งข้อมูลถึงทุกคนที่รู้จักและไม่รู้จักผมว่า ถ้าถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวส่งข้อความไปหาใคร ให้รู้ว่าไม่ใช่ผม นายจงสวัสดิ์ กล่าวพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการคุกคามทางเพศโดยการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เดิมอาจจะมีการคุกคามโดยการตามเฝ้ามอง พอมาในยุคที่มีสื่อสังคมออนไลน์ การเข้าถึงตัวบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นไปโดยง่าย โดยผู้เสียหายทั้ง 3 คนได้เปิดสื่อสังคมออนไลน์เป็นสาธารณะ คนร้ายจึงใช้ช่องทางนี้ส่งข้อความลามกอนาจารและก็ก่อความรำคาญ คุกคามทางเพศ ซึ่งมีความผิดในข้อหาคุกคามทางเพศที่มีลักษณะส่อไปในทางล่วงเกินทางเพศ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ซึ่งกรณีนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับมาให้ดำเนินการให้เป็นตัวอย่างส่วนผู้เสียหายอีกรายคือ นายจงสวัสดิ์ ถูกนำชื่อและรูปภาพไปกระทำดังกล่าวเบื้องต้นจะได้สอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อตรวจสอบให้สิ้นสงสัย พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ว่ามีส่วนกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ โดยปกติคนร้ายจะไม่ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าต้องการทำให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งผู้แอบอ้างก็จะมีโทษตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า มีดาราสาว น.ส.สิริลภัส กองตระการ หรือหมิว นักแสดงช่อง 7 และ น.ส.สุธิตา เกตานนท์ หรืออุ้ย อดีตดาวร้ายชื่อดัง โดนคนร้ายลักษณะแบบนี้คุกคามอยู่เช่นเดียวกัน. | 3 ดาราสาวร้อง ปอท. โดนเสี่ยโรคจิตปลอมเฟซบุ๊กคุกคามทางเพศ ไดเรกขอซื้อขนลับ 3.8 แสนบาท กับเสนอ 1.2 ล้านบาท แลกเป็นเมียน้อย ด้านเสี่ยก็เข้าพบจนท. แจ้งโดนคนไม่หวังดีปลอมเฟซบุ๊กหวังดิสเครดิต | ข่าว,อาชญากรรม | คุกคามทางเพศ,ดาราสาว,ปลอมเฟซบุ๊ก,ปอท.,พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์,ชายโรคจิต,เสนอให้เป็นเมียน้อย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1844203 |
เผย คนไทย ฮิตค้าแรงงานเกาหลีใต้ เหตุค่าใช้จ่ายน้อย-รายได้งาม | เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 59 นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงแนวโน้มการว่างงานในประเทศสูงขึ้น จากผลการสำรวจของสำนักสถิติแห่งชาติ ต่อภาวะการว่างงานของประชากรในเดือน เม.ย.59 ระบุว่า คนไทยว่างงาน 396,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว 72,000 คน โดยเป็นระดับอุดมศึกษาว่างงานสูงสุด 166,000 คน ว่า นักศึกษาที่จบใหม่แต่ละปีมีจำนวนมาก ถ้าไม่เลือกงานก็จะมีงานทำ เพราะปัจจุบันคนมีทางเลือกในการทำงานมากขึ้น ส่วนหนึ่งหันไปขายของตามตลาดนัดหรือขายของออนไลน์ ทั้งนี้ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา กกจ.ได้จัดงานนัดพบตลาดแรงงานเชิงคุณภาพ ซึ่งมีประชาชนใช้บริการจัดหางาน 553,143 คน ได้บรรจุงาน 189,030 คน รวมทั้งร่วมมือกับบริษัทจัดหางานขนาดใหญ่ หางานให้นักศึกษาปริญญาตรี โดยรวบรวมงานว่างกว่า 39,984 ตำแหน่ง ได้พัฒนาระบบบริการจัดหางานและจัดทำแอพพลิเคชั่น Smart Job Center ให้หาข้อมูลตำแหน่งงานว่าง และสถานประกอบการหาผู้สมัครงาน คนหางานสามารถลงทะเบียนได้ ที่ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) ที่ขยายจาก 12 แห่ง เป็น 44 แห่ง มีผู้ใช้บริการกว่า 190,000 คน แผนระยะต่อไปมุ่งให้บริการจัดหางานทุกกลุ่มเป้าหมาย 290,000 คน และขยายศูนย์บริการจัดหางานให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในปี 2560,นายอารักษ์ กล่าวต่อว่า ได้สนับสนุนการจัดส่งคนไปทำงานต่างประเทศ ในช่วงเดือน ต.ค.2558-มี.ค.2559 มีจำนวน 50,030 คน ส่วนใหญ่จัดส่งโดยบริษัทจัดหางาน การจัดส่งโดยรัฐมี 4,836 คน ไปประเทศอิสราเอล 2,837 คน เกาหลีใต้ 1,732 คน ญี่ปุ่น 132 คน ไต้หวัน 116 คน สร้างรายได้ส่งเงินกลับประเทศ 42,318 ล้านบาท โดยอิสราเอลและเกาหลีใต้เป็นที่นิยมของแรงงานไทย เพราะค่าใช่จ่ายในการเดินทางไม่สูงมาก แต่รายได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาหลีใต้ที่ขณะนี้ได้รับความนิยมมาก ส่วนใหญ่ไปทำงานโรงงานและด้านการเกษตร รายได้เดือนละประมาณ 40,000 บาท ถ้าจัดส่งโดยเอกชน ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 180,000 บาท แต่การจัดส่งโดยรัฐมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3.4 หมื่นบาทเท่านั้น,คนไทยนิยมไปทำงานต่างประเทศมากขึ้น ส่วนใหญ่จากภาคอีสาน ที่จัดส่งไปโดยบริษัทจัดหางาน ส่วนหนึ่งลักลอบไปกันเอง โดยจะไปกับทัวร์แล้วไปโดดทัวร์แอบทำงาน รูปแบบในปัจจุบันได้เปลี่ยนไป ไม่ใช่การหลอกลวงไปทำงาน แต่เป็นการไปเสี่ยงโชคมากกว่า ทำให้การร้องทุกข์ลดลง ขณะนี้ไปเกาหลีใต้ฮิตที่สุด คนไทยเดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายประมาณ 28,000 คน แต่ถ้ารวมที่ลักลอบไปกันเองมีกว่า 50,000 คน ได้พยายามให้ความรู้ความเข้าใจถึงการทำงานในเกาหลีใต้ ต้องไปโดยระบบที่รัฐจัดส่ง ซึ่งทุกครั้งที่เปิดรับสมัครจะมีคนแห่กันมามาก 10,000-20,000 คน นายอารักษ์ กล่าว | กกจ. เร่งจับมือบริษัทใหญ่ หาตำแหน่งงาน ให้กลุ่มเป้าหมาย 2.9 แสนคน เผยคนฮิตไปเกาหลีใต้ เหตุค่าใช้จ่ายน้อย แต่รายได้งาม | null | แรงงานไทย,กกจ.,ค้าแรงงาน,เกาหลีใต้,คนว่างงาน,อารักษ์ พรหมณี,คนเลือกงาน,ตลาดแรงงาน,ทำงานต่างประเทศ,ก.แรงงาน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/615989 |
ตร.เตาปูนจับ 2 ผู้ต้องหา ซุกไอซ์-พกอาวุธปืนไม่มีใบอนุญาต | เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 เม.ย.59 พ.ต.อ.โกสิต กาญจนะโกมล ผกก.สน.เตาปูน พ.ต.ท.มนตรี โตสมจิตต์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.วริศพันธ์ เขมสิริเมธีกุล พ.ต.ท.สุรเดช ฉัตรไทย สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายปราบปราม สน.เตาปูน ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด รวม 2 คดี, คดีแรกจับกุม นายอนุสรณ์ เทอดพรรณ อายุ 37 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด และยาไอซ์ น้ำหนัก 13.23 กรัม จับกุมบริเวณซอยศรีบุญยืน ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงเขตบางซื่อ กทม. ขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามออกตรวจตราพื้นที่ พบนายอนุสรณ์ ขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า มีโอ สีเหลือง ทะเบียน ปษน 905 กรุงเทพมหานคร จึงขอตรวจค้น พบยาเสพติด ก่อนขยายผลตรวจห้องพักในซอยประชาราษฎร์ 2 พบอาวุธปืนและกระสุน นายอนุสรณ์ให้การรับสารภาพว่ามียาไว้จำหน่าย รับมาจาก นายเจและนายเต๋า (ไม่ทราบชื่อจริง) แจ้งข้อหา มียาไอซ์ ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,อีกคดี จับกุมนายราชภูมิ บัวเลิศ อายุ 30 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด และยาไอซ์ 0.58 กรัม จับกุมได้ขณะเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราพื้นที่ บริเวณซอยกรุงเทพฯ-นนทบุรี 27 แขวงเขตบางซื่อ กทม. แจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในที่สาธารณะ และ มียาไอซ์ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,พ.ต.อ.โกสิต เปิดเผยว่า ตามนโยบายโครงการชุมชนบ้านสีขาว ของ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ที่ให้ชุมชนปราศจากยาเสพติดและอาชญากรรม จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เตาปูน ลงพื้นที่ เพื่อตรวจตราความเรียบร้อยและรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน จึงเป็นผลการจับกุมดังกล่าว นอกจากนี้ในช่วงเดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมและยึดของกลาง อาวุธปืน จำนวน 5 กระบอก ซึ่งหลังจากนี้สั่งการให้ขยายผลจับกุมถึงแหล่งที่มาของยาเสพติดต่อไป. | ตำรวจนครบาลเตาปูน แถลงผลจับกุม 2 ผู้ต้องหา ซุกยาไอซ์-พกอาวุธปืน-เครื่องกระสุน เตรียมขยายผลหาแหล่งที่มา สานนโยบาย น.1ชุมชนบ้านสีขาว ปราศจากยาเสพติดและอาชญากรรม | null | สน.เตาปูน,จับยาไอซ์,พกปืนไม่มีใบอนุญาต,ตำรวจเตาปูน,คดีอาวุธปืน,ยาเสพติด,โครงการชุมชนบ้านสีขาว,นโยบาย น.1,โกสิต กาญจนะโกมล,ผกก.สน.เตาปูน,อาชญากรรม,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/611939 |
ผบก.ปส.เตรียมเรียก เบนซ์ เรซซิ่ง มาสอบปากคำเพิ่มเติม 16 ก.พ.นี้ | วันนี้ (14 ก.พ.2560) พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ จะเรียกนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เจ้าของรถยนต์หรูยี่ห้อลัมโบกินี รุ่นกาลาโด้ มูลค่า 20 ล้านบาท มาสอบปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากตำรวจพบว่าคำให้การและพยานหลักฐานที่พบยังขัดแย้งกับคำให้การของนายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพาพล.ต.ท.สมหมาย ยังระบุว่า เปิดโอกาสให้นายอัครกิตติ์นำพยานหลักฐานเกี่ยวกับการครอบครองรถมาให้พนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงการครอบครองรถว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ แต่ในทางสืบสวนของตำรวจยังยืนยันว่าเป็นการครอบครองอย่างไม่ถูกต้อง และอาจจะถูกดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในข้อหาสมคบหรือสนับสนุนผู้กระทำความผิดส่วนการสรุปสำนวนคดีนี้ หากสอบสวนนายอัครกิตติ์เสร็จสิ้นก็จะสามารถสรุปสำนวนคดีได้ภายในสัปดาห์นี้ และเชื่อว่าจะสามารถจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้อีกอย่างน้อย 1 คน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ส่วนการติดตามตัวนายอุสมาน สะแลแมง หนึ่งในผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนายไซซะนะ โดยขณะนี้ทางการข่าวพบว่านายอุสมานได้ทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าและหลบหนีอยู่ในประเทศลาว และยังพบว่ามีการสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดไปสู่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ประสานข้อมูลกับทางการลาวอยู่ตลอดเวลาส่วนกรณีที่ตำรวจสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 จับผู้ต้องหาค้ายาเสพติดและยึดของกลางยาบ้าได้กว่า 2.6 ล้านเม็ด ยาไอซ์กว่า 7 กิโลกรัม และยาเสพติดชนิดอื่นอีกจำนวนมาก ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า เป็นเครือข่ายของชาวม้งผาขาวที่ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวเรื่องการขนส่งยาเสพติดอยู่ตามแนวชายแดน | ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเผยเตรียมเรียกนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช เจ้าของรถยนต์หรูยี่ห้อลัมโบกินีมาสอบปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 16 ก.พ.นี้ เนื่องจากพบว่าคำให้การและพยานหลักฐานขัดแย้งกับคำให้การของนายณัฐพล นาคคำ | อาชญากรรม | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ยึดทรัพย์,ยาเสพติด,ไซซะนะ,ไซซะนะ แก้วพิมพา,ณัฐพล นาคคำ | https://news.thaipbs.or.th/content/260191 |
กักขัง 1 เดือน จักรยานยนต์ชนนักเรียน บนฟุตปาท ศาลไม่รอลงอาญา | หนุ่มเมสเซนเจอร์ ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นไปวิ่งบนทางเท้า เฉี่ยวชนนักเรียนหญิงบาดเจ็บไม่รอด ศาลพิพากษากักขัง 1 เดือนไม่รอลงอาญา ให้เหตุผล การกระทำของจำเลยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้ใช้ทางเท้า เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้เสียหาย ขาดจิตสำนึกต่อสังคมส่วนรวม ญาติยื่นเงิน 18,000 บาทประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ประเด็นไม่รอลงอาญา,ศาลลงทัณฑ์เมสเซนเจอร์ขี่รถ จยย.ชนนักเรียนบนทางเท้า เปิดเผยขึ้นที่ศาลแขวงพระนครเหนือ เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ม.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีพนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 2 (รัชดา) เป็นโจทก์ฟ้องนายภูวดล ศรีสำโรง อายุ 23 ปี พนักงานส่งเอกสาร ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ชนเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนบดินทรเดชา 3 บนทางเท้าจนได้รับบาดเจ็บเป็นจำเลย ความผิดฐานกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายและจิตใจ ความผิดฐานขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ความผิดฐานขับขี่รถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุสมควร และความผิดฐานขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นรวม 4 ข้อหา,โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 เวลากลางวัน จำเลยขี่รถ จยย.ทะเบียน 6 กฎ 6283 กรุงเทพมหานคร ไปตามถนนลาดพร้าวฝั่งขาออกมุ่งหน้าซอยลาดพร้าว 112 ด้วยความประมาท เมื่อไปถึงบริเวณป้ายรถประจำทางใกล้ปากซอยลาดพร้าว 69 แขวงสะพานสูง เขตวังทองหลาง ถนนเส้นนั้นเป็นทางเดินรถที่จัดแบ่งช่องเดินรถไว้ 2 ช่องทางและมีทางเท้าอยู่ด้วย จำเลยกลับขี่รถขึ้นบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุสมควรและขี่ด้วยความเร็วโดยไม่ให้สัญญาณเตือนคนเดินเท้าให้รู้ตัว อันเป็นการขี่รถโดยประมาทน่าหวาดเสียวที่อาจเกิดอันตรายต่อบุคคลและทรัพย์สิน และไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ขณะนั้นเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหายเดินอยู่บนทางเท้าบริเวณป้ายรถเมล์ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 69 ถูกเฉี่ยวชนอย่างแรงจนล้มลง ได้รับบาดเจ็บมีอาการปวดที่สะโพกและแผลถลอกที่บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เหตุเกิดแขวงสะพานสูง เขตวังทองหลาง กทม.,ต่อมาวันที่ 27 พ.ย.61 เวลา 18.00 น. พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย แจ้งข้อกล่าวหาให้จำเลยทราบและยึดรถ จยย.คันเกิดเหตุไว้เป็นของกลาง ขณะที่ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ภายหลังเกิดเหตุจำเลยกับผู้เสียหายตกลงชดใช้ค่าเสียหายแล้ว อัยการยังระบุด้วยว่า การขี่รถ จยย. ของจำเลยเป็นการรบกวนความสงบสุข ความปลอดภัยของคนเดินเท้า และการกระทำผิดดังกล่าวเป็นภัย อันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น เพื่อป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิด และเพื่อคุ้มครองสังคมและสุจริตชน ขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนัก ในชั้นศาลจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่คุมประพฤติทำรายงานการสืบเสาะและพินิจ แสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติ ภูมิหลัง อาชีพของจำเลย สภาพความผิดพฤติการณ์แห่งคดีและเหตุอันควรปรานี กรณีการเยียวยาผู้เสียหาย สรุปเป็นรายงานสืบเสาะและพินิจส่งศาลประกอบการพิพากษา,ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่นตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 160 วรรค 3 เป็นบทที่มีโทษหนักสุดให้จำคุก 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 เดือน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังเป็นเวลา 1 เดือน แต่การกระทำของจำเลยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และความเดือดร้อน ของผู้ใช้ทางเท้า เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้เสียหาย ขาดจิตสำนึกต่อสังคมส่วนรวม ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลย และให้ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด,ภายหลังญาตินายภูวดลยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 18,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราว เพื่อขออุทธรณ์ คำสั่งกักขังโดยไม่รอลงอาญา ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวตีหลักทรัพย์ 18,000 บาท | หนุ่มเมสเซนเจอร์ ขี่รถ จยย.ขึ้นไปวิ่งบนทางเท้า เฉี่ยวชนนักเรียนหญิงบาดเจ็บไม่รอด ศาลพิพากษากักขัง 1 เดือนไม่รอลงอาญา ให้เหตุผล การกระทำของจำเลยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อน | ข่าว,ทั่วไทย | จยย.ชนนักเรียน,ชนนักเรียนบนทางเท้า,ขี่รถบนทางเท้า,เมสเซนเจอร์,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1478103 |
สุวพันธ์ุ ยัน รบ.หนุนเดินเครื่องปฏิรูปตำรวจ | เมื่อวันที่ 22 ก.ค.59 นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ว่า มีการรายงานความคืบหน้าในแนวทางการปฏิรูปตำรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอบสวนและการให้บริการประชาชน โดยตำรวจได้ดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งภายในเดือน ต.ค.นี้ สถานีตำรวจ 514 แห่ง จะปรับปรุงระบบการให้บริการ และระบบการสอบสวนอย่างจริงจัง ซึ่งมีตั้งแต่ระยะสั้น กลาง และยาว โดยตนจะแจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วม 3 ฝ่าย ที่ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) (วิป 3 ฝ่าย) ในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบถึงความก้าวหน้า,นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อว่า การติดตามการดำเนินงานของรัฐบาลในเดือนที่ผ่านมา ถือว่ามีความก้าวหน้า โดยในส่วนของงบประมาณ ในส่วนงบประจำนั้นเป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนงบลงทุนและการก่อหนี้ผูกพันเป็นไปตามเป้า แต่การเบิกจ่ายยังช้าอยู่ จึงกำชับให้กระทรวงต่างๆ เร่งดำเนินการ ส่วนระบบการจัดทำงบประมาณใหม่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 ทุกอย่างเรียบร้อยดี สำนักงบประมาณได้รายงานให้ทราบว่าการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รัฐบาลได้รับข้อสังเกตต่างๆ ไว้แล้ว และตนทราบว่าในวันที่ 28 ก.ค.นี้ จะมีการประชุมร่วมกันระหว่าง กมธ.วิสามัญฯ กับส่วนราชการ และสำนักงบประมาณ เพื่อทำความเข้าใจเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 จะเห็นว่าการพิจารณางบประมาณปี 2560 เดินไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อให้การทำงานของ สนช.และรัฐบาลเป็นไปอย่างเข้าใจกัน รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดงบประมาณและแผนงานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม. | สุวพันธุ์ เผยรัฐหนุนเดินหน้าปฏิรูปตำรวจเต็มที่ เผย สถานีตำรวจ 514 แห่ง เตรียมปรับระบบให้บริการ เริ่มสตาร์ต ต.ค.นี้ พร้อมกำชับให้กระทรวงต่างๆ เร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณ | null | ปฏิรูปตำรวจ,ระบบสอบสวน,สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ,กขร.,ระบบให้บริการ,งบประมาณ ปี 60,เบิกจ่ายงบฯ ปี 60,พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 60,ตำรวจ,สถานีตำรวจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/670104 |
ชาญวิทย์ชี้ ที่ผ่านมา กม.นิรโทษกรรมส่วนใหญ่ นิรโทษให้ชนชั้นนำ | อดีตอธิการบดี มธ.ชี้ ประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย81ปี มี กม.นิรโทษกรรม22ฉบับ เฉลี่ยสามปีครึ่งมีกม.นิศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในงาน 108เหตุผลทำไมต้องนิรโทษกรรมนัประธานาธิบดีเต็งเส่ง กล่าวระหว่างการปราศรัยที่Chatham Houseในกรุงลอนดอน ให้สัญญาด้วยว่า จะไม่มีนักโทษการเมืองหรือผู้ที่ถูกคุมขังเนื่องจากมีความคิก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน เว็บไซต์ของประธานาธิดีพม่าระบุแน่นอนว่าเราอาจไม่เชื่อทั้แต่สำหรับสยามประเทศไทย ในพ.ศ.2556เรากลับต้องมาพูดเรื่อง 108เหตุผล ทำไมต้องนิรโทษกรรมนักการเมือง นับเป็นความน่าเศร้าอย่างยิ่ง เพราะแท้ที่จริงแล้ว เราไม่ควรจะมีเหตุผลใดๆ ที่จะมี นักโทษการเมือง ที่เกิดจากการคิด พูด อ่าน เขียน ที่มีความเห็นไม่ตรงกับอุในฐานะนักประวัติศาสตร์ ผมได้พบข้อมูลระหว่าง พ.ศ.2475จนกระทั่งถึงปัจจุบัน พ.ศ.2556เป็นเวลา81ปีว่า เรามีการออกกฎหมายนิสาระสำคัญของกฎหมายนิรโทษกรรมทั-ความผิดฐานเปลี่ยนแปลงการปกครอง1ฉบับ- ความผิดฐานก่อกบฎ6ฉบับ-ความผิดจากการก่อรัฐประหาร10ฉบับ-ความผิดจากการต่อต้-ความผิดจากการชุมนุมทางการเมือง3ฉบับ-ความผิดจากการกระทำอันเป็นคอมมิถ้านับกันตามเวลาแล้ว ในระยะเวลา81ปี เฉลี่ยแล้ว3ปีครึ่ง เรามีกฎหมายนิรโทษกรรม1ฉบับ เหตุที่มีมากเช่นนั้น เพราะเป็นการรวมการรัฐประหาร10ฉบับ และความผิดฐานกบฏ6ฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความขัดแย้*เหตุการณ์14ตุลาคม2516 : พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ซึ่งกระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกั*เหตุการณ์6ตุลาคม2519 :พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่*เหตุการณ์พฤษภาคม2535พ.ร.ก.นิรโทษกรรมแก่ผู้ที่กลายเป็นตลกร้ายทางการเมือง คือ กฎหมายที่มุ่งนิกฎหมายนิรโทษกรรมกลายเป็น ใบอนุญาตฆ่าประชาชน ผู้ซึ่งใช้สิทธิในทางการเมืหลังจากรัฐประหาร19กันยายน2549ตามมาด้วยความขัดแย้งทางการเมืนี่เป้นเหตุผลที่เรามารวมตัวกัขณะเดียวกัน การนิรโทษกรรมในปี2556ต้องไม่ใช่การนิรโทษกรรมเช่อย่าให้ประวัติศาสตร์สอนเราว่า เราไม่เคยเรียนรู้อะไรจากประวัขอขอบคุณธนาพล อิ๋วสกุล ที่ช่วยเหลือในการตระเตรียมข้ | อดีตอธิการบดี มธ.ชี้ ประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย81ปี มี กม.นิรโทษกรรม22ฉบับ เฉลี่ยสามปีครึ่งมีกม.นิรโทษกรรม1ฉบับ ซึ่งพบว่า72.7 %นิรโทษกรรมให้ชนชั้นนำ ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,การศึกษา | 14 ตุลาคม 2516,6 ตุลาคม 2519,ธนาพล อิ๋วสกุล,ประวัติศาสตร์,พ.ร.บ.นิรโทษกรรม,พฤษภาคม 2535,ศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เมษา-พฤษภา 2553 (ศปช.) | https://prachatai.com/journal/2013/07/47874 |
คลิปหน้าทอน ท่าเทียบเรือเกาะสมุย พายุปาบึก ทำคลื่นลมแรงขึ้นเรื่อยๆ | เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 4 ม.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.สุราษฎร์ธานี สถานการณ์สภาพอากาศมีฝนตกเล็กน้อย ท้องฟ้ามืดครึ้ม คลื่นริมชายทะเลสูง 1-2 เมตร ในทะเล 2-3 เมตร การจราจรทางอากาศ สนามบินนานาชาติสุราษฎร์ธานี ทำการบินขึ้นลงปกติ และการเดินเรือทุกชนิดหยุดออกจากฝั่งทุกอำเภอที่ติดชายทะเลอ่าวไทย และหยุดเดินเรือในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา 100%,ขณะที่ สถานการณ์บนเกาะสมุย เริ่มได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากมีรายงานว่า พายุโซนร้อน ปาบึก กำลังค่อยๆ เคลื่อนตัวหมุนเข้าหาฝั่งพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยล่าสุดพายุปาบึกขึ้นฝั่งแล้วที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช มุ่งหน้าไปยัง อ.ท่าศาลา ส่วนบรรยากาศที่ท่าเทียบเรือหน้าทอน ของเกาะสมุย ทะเลคลื่นลมแรงกับฝนตก,นางนงเยาว์ จิรันดร ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเกาะสมุย กล่าวว่า ตามชายหาดมีคลื่นทะเลสูงประมาณ 1-2 เมตร ได้ปักธงแดงไว้ทุกหาดห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาด ยังมีนักท่องเที่ยวเหลืออยู่บนเกาะประมาณ 20,000 คน โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ส่วนหนึ่งเพิ่งมาเที่ยวตอนปีใหม่ยังพักต่อ และปลอดภัยดี เนื่องจากยังไม่มีเที่ยวบินต่อเดินทางกลับ โดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวที่ยังพักอยู่ ซึ่งเป็นผลกระทบเพียงระยะสั้นๆ คาดว่าหลังวันที่ 6-7 ม.ค.61 สถานการณ์ท่องเที่ยวจะกลับมา. | สถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึก ที่ จ.สุราษฎร์ธานี สถานการณ์สภาพอากาศมีฝนตกเล็กน้อย ท้องฟ้ามืดครึ้ม คลื่นริมชายทะเลสูง 1-2 เมตร ในทะเล 2-3 เมตร เกาะสมุย คลื่นแรงปักธงแดงห้ามเล่นน้ำ | ข่าว,ทั่วไทย | เกาะสมุย,สุราษฎร์ธานี,พายุปาบึก,คลื่นแรง,ฝนตกหนัก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1461426 |
30 มิ.ย.นี้อย่าลืม ลงทะเบียน ต่างด้าว วันสุดท้ายบริการถึงเที่ยงคืน | รมว.แรงงาน ย้ำเหลือเวลาแรงงานต่างด้าวพิสูจน์สัญชาติ จัดทำทะเบียนประวัติและขออนุญาตทำงานเพียง 4 วัน จะไม่ขยายเวลา ไม่ผ่อนผันแน่นอน พ้นกำหนดจะอยู่และทำงานต่อไปอีกไม่ได้แล้ว หากไม่พร้อมดำเนินการขอให้แรงงานกลับประเทศ หากประสงค์จะทำงานให้เข้ามาตามระบบ MOU พร้อมยืนยัน วันที่ 30 มิ.ย. ศูนย์ OSS ให้บริการถึงเที่ยงคืน ขณะที่คงเหลือต้องพิสูจน์สัญชาติอีก 7,930 คน จัดทำทะเบียนประวัติและขออนุญาตทำงานอีก 28,056 คน,พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวเตือนนายจ้างและแรงงานต่างด้าวว่า ขณะนี้เหลือเวลาในการพิสูจน์สัญชาติ จัดทำทะเบียนประวัติและขออนุญาตทำงานอีกเพียง 4 วันเท่านั้น จึงขอให้นายจ้างรีบพาแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมาไปพิสูจน์สัญชาติ และจัดทำ/ปรับปรุงทะเบียนประวัติ ระยะที่ 2 ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ One Stop Service โดยวันสุดท้ายก่อนปิดศูนย์ในวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ศูนย์ OSS จะเปิดให้บริการถึงเวลา 24.00 น. ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามขออย่ารีรอจนถึงวันสุดท้าย เพราะอาจไม่ทันเวลา หากไม่พร้อมดำเนินการขอให้แรงงานต่างด้าวกลับประเทศก่อน แล้วกลับเข้ามาตามระบบ MOU หากประสงค์จะทำงานต่อในประเทศไทย และขอเน้นย้ำชัดเจนว่า รัฐบาลจะไม่มีการขยายเวลาและไม่ผ่อนผันใดๆ อย่างแน่นอน,จากการดำเนินการที่ผ่านมา มีแรงงานฯ ที่ต้องเข้าศูนย์ OSS ตามมติ ครม. 16 มกราคม 2561 จำนวน 1,320,035 คน โดยดำเนินการไปแล้วภายใน 31 มีนาคม 2561 จำนวน 961,946 คน และต่อมา มติ ครม. ได้มีการขยายเวลาให้เจ้าหน้าที่ในการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิถุนายน 2561 ซึ่งขณะนี้ (ณ วันที่ 23 เม.ย. - 25 มิถุนายน 2561) ดำเนินการแล้ว 1,160,702 คน คิดเป็น 97.64 % คงเหลืออีก 28,056 คน คิดเป็น 2.36 % ขณะที่ยอดคงเหลือแรงงานฯ ที่ต้องพิสูจน์สัญชาติอีกจำนวน 7,930 คน เป็นกัมพูชา 7,365 คน และลาว 565 คน,รมว.แรงงาน กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณทั้ง 3 ประเทศที่ให้ความร่วมมือในการพิสูจน์สัญชาติ และขอย้ำอีกครั้งว่า หากพ้นกำหนด 30 มิถุนายนนี้ แรงงานต่างด้าวยังไม่ดำเนินการใดๆ จะไม่สามารถอยู่และทำงานต่อไปได้ โดยจะตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง หากพบคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จะมีโทษปรับ 5,000 – 50,000 บาท และเมื่อชำระค่าปรับแล้ว คนต่างด้าวจะถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และห้ามขออนุญาตทำงานภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับโทษ,ขณะเดียวกันนายจ้างที่จ้างคนต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จะมีโทษปรับ 10,000-100,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม. | โค้งสุดท้าย! พิสูจน์สัญชาติ ทำทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าว 30 มิ.ย.2561 ศูนย์ OSS ให้บริการถึง 24.00 น. | ข่าว,ทั่วไทย | ต่างด้าว,แรงงานต่างด้าว,ลงทะเบียนต่างด้าว,นายจ้าง,กระทรวงแรงงาน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1318934 |
บิ๊กการบินพลเรือนมาเลย์ลาออก ผลสืบชี้หอควบคุมทำพลาดกรณี MH370 หาย | สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน,ว่า นายอาซารุดดิน อับดุล เราะมาน ประธานสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศมาเลเซีย ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากรายงานผลการสืบสวนด้านการปลอดภัยกรณีการหายสาบสูญของเครื่องบินโดยสาร เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 (MH370) ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เมื่อปี 2557 พบความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ควบคุมเส้นทางการบินเรื่องการปฏิบัติในสถานการณ์ฉุกเฉิน,รายงานฉบับนี้พบว่า ในวันเกิดเหตุเมื่อ 8 มี.ค. 2557 โบอิ้ง 777-200 อีอาร์ ลำนี้ขาดการติดต่อไปนานถึง 20 นาทีกว่าเจ้าหน้าที่ของหอควบคุมการบินจะมีการแจ้งเหตุฉุกเฉิน ก่อนที่เครื่องบินลำนี้จะหายสาบสูญไปพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน แม้หลักฐานจะชี้ว่า เอ็มเอช 370 จะเปลี่ยนเส้นทางจากมุ่งไปกรุงปักกิ่ง ลงไปมหาสมุทรอินเดียแทน แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังหาไม่พบ,ผลจากรายงานที่ออกมา ทำให้ในวันอังคาร (31 ก.ค.) นายเราะห์มานออกมาประกาศลาออกจากตำแหน่งด้วยความเสียใจ หลังจากที่เขาพิจารณาและใคร่ครวญอย่างหนักแล้ว,อนึ่ง รายงานความหนาว่า 400 หน้าฉบับนี้ยังระบุด้วยว่า มีหลักฐานว่ามีการแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายจากบุคคลที่ 3 หมายควมว่าเครื่องบินถูกบังคับให้บินออกนอกเส้นทาง แต่ยังไม่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้ทำเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สืบสวนไม่เชื่อว่าเครื่องบินถูกจงใจทำให้ตกโดยนักบินทั้ง 2 คน เนื่องจากไม่พบความน่าสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่หรือข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับประวัติของพวกเขา,นอกจากนี้ ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า เครื่องบินถูกควบคุมระยะไกล (remote control) และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่องเหตุขัดข้องทางเทคนิค แต่หลักฐานต่างๆ ระบุว่า เครื่องบินลำนี้ได้มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับบิน | ประธานสำนักงานการบินพลเรือนมาเลเซียลาออก หลังรายงานการสืบสวนชี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเส้นทางการบิน ตอบสนองต่อการหายไปของเที่ยวบิน เอ็มเอช 370 ช้าเกินไป | ข่าว,ต่างประเทศ | เอ็มเอช 370,มาเลเซีย แอร์ไลน์,หายสาบสูญ,หอควบคุมการบิน,ลาออก | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1345494 |
ถ.มิตรภาพ-พหลโยธิน ปริมาณรถเพิ่มขึ้น | วันนี้ (2 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจราจรบนถนนทางหลวง จ.นครสวรรค์ มีประชาชนสัญจรจำนวนมาก โดยเฉพาะทางหลวง หมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก ช่วงแยกเข้าสู่ทางเลี่ยงเมือง มีรถเต็มพื้นผิวการจราจร บางช่วงเคลื่อนตัวได้ช้า เช่นเดียวกับถนนเลี่ยงเมือง หมายเลข 122 ตำรวจต้องคอยอำนวยความสะดวกตามจุดกลับรถต่างๆ เพื่อระบายรถให้คล่องตัวขึ้นส่วนแยกเดชาติวงศ์ ปริมาณรถหนาแน่น แต่ยังไม่ติดขัด เจ้าหน้าที่เปิดช่องทางพิเศษ กลางสะพานเดชาติวงศ์ เพื่อช่วยระบายรถ และคาดว่าตลอดทั้งคืน จะยังคงมีรถสัญจรผ่านจำนวนมาก จึงจัดกำลังคอยอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมงถ.มิตรภาพ ทำความเร็วได้ 40 กม./ชม.ส่วนการจราจรบนถนนมิตรภาพ และพหลโยธิน ช่วง จ.สระบุรี เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พบว่าประชาชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มากขึ้นกว่าเมื่อเช้า โดยเฉพาะถนนมิตรภาพ ช่วงทางลงเนิน เขาทับกวาง อ.แก่งคอย แต่รถยังเคลื่อนตัวได้ ทำความเร็วได้ประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแต่หลังพ้นจุดดังกล่าว มีรถติดสะสมเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร โดยเฉพาะบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 ฝั่งขาเข้า ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุ มีรถเฉี่ยวชนเสียหาย และกีดขวางการจราจร 2 เลนด้านขวา ทำให้ตำรวจทางหลวง ต้องเร่งเคลื่อนย้ายรถทั้ง 2 คัน ออกจากผิวการจราจร โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนสามารถเปิดช่องทางเดินรถได้ตามปกติการจราจร ถ.สาย 24 เริ่มหนาแน่นตลอด 3 ชั่วโมงที่ทีมข่าวไทยพีบีเอส สำรวจการจราจรบนถนนสาย 24 สีคิ้ว-เดชอุดม ช่วง อ.ประโคนชัย จนถึง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ภาพมุมสูงจากอากาศยานไร้คนขับโดยทีมข่าวไทยพีบีเอส แสดงให้เห็นถึงปริมาณรถที่กำลังติดสะสมยาวประมาณ 5 กิโลเมตร โดยเฉพาะบริเวณแยกถนนหัก ต.ถนนหัก อ.นางรอง เจ้าหน้าที่ต้องใช้สัญญาณมือ และควบคุมสัญญาณไฟจราจร เพื่อระบายรถที่ติดสะสมบนถนนสายหลักให้ได้มากที่สุด ชาวจังหวัดศรีสะเกษคนหนึ่ง ระบุว่า ออกเดินทางมาตั้งแต่เวลา 08.00 น. พบว่าการจราจรติดสะสม มาตั้งแต่สี่แยกหัวช้าง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เรื่อยมาจนถึง อ.นางรอง ซึ่งทำให้การเดินทางล่าช้ากว่าเดิมไม่น้อยกว่า 4-5 ชั่วโมงสี่แยกเชื่อมภาคตะวันออก รถติดสะสมทั้งนี้ ห่างจากแยกถนนหักประมาณ 4 กิโลเมตร คือสี่แยกที่ถนนสาย 24 ตัดกับถนนสาย 348 ที่จะเชื่อมต่อไปยังภาคตะวันออก พบว่าการจราจรจะติดสะสมอีกจุด เพราะบริเวณนี้ เจ้าหน้าที่ต้องเขียนป้ายประชาสัมพันธ์เส้นทางทางเลี่ยง บริเวณทางเลี้ยว วัดป่าเรไรทอง สำหรับประชาชนที่จะเดินทางไปภาคตะวันออกเพื่อกระจายรถ และต้องการหลีกเลี่ยงเส้นทางสาย 24 ที่ตัดผ่านตัว อ.นางรอง เพราะการจราจรค่อนข้างติดสะสมเป็นระยะทางยาว | ประชาชนทยอยเดินทางกลับหลังสิ้นสุดเทศกาลปีใหม่อย่างต่อเนื่อง การจราจรถนนสายหลักช่วง จ.นครสวรรค์ รถหนาแน่น แต่ยังเคลื่อนตัวได้ดี แต่พอเข้าสู่เขต จ.สระบุรี ทั้งถนนมิตรภาพและถนนพหลโยธิน รถเพิ่มขึ้นจากเมื่อช่วงเช้าและบางจุดเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ติดขัดในบางช่วง | ภูมิภาค | ปีใหม่,ปีใหม่2563,ถนนมิตรภาพ,ถนนพหลโยธิน,นครสวรรค์,สระบุรี,สีคิ้ว,บุรีรัมย์ | https://news.thaipbs.or.th/content/287570 |
เที่ยว ‘น่าน’ ให้ถึง ‘น่าน’ ในเส้นทางวิถีชุมชน | ไม่ต้องรอให้ถึงฤดูหนาว ไม่ต้องรอให้หมอกพร่างพรม เพราะน่านไม่ได้มีเพียงความงามของธรรมชาติเป็นจุดขาย แต่น่านยังมีสีสันของวิถีชุมชน ซึ่งเป็นดั่งสะพานแห่งกาลเวลาพาข้ามสู่ภาพอดีตเมืองน่านให้กลับมาแจ่มชัดอีกครั้ง มากไปกว่าเส้นทางไหว้พระอิ่มบุญ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง กระซิบรักบรรลือโลก หรือ ปู่ม่านย่าม่าน แห่งวัดภูมินทร์ บ่อเกลือภูเขา วิถีไทลื้อ และดอยเสมอดาว ปลายทางที่แสนเนิบช้าอย่างน่าน ยังมีเรื่องราวของเส้นทางท่องเที่ยววิถีชุมชนเป็นอีกโจทย์ที่น่าสนใจ โดยเสน่ห์ของการท่องเที่ยววิถีชุมชนเมืองน่านอยู่ที่การหยิบยกอัตลักษณ์ของแต่ละถิ่นย่านมาเล่าใหม่ด้วยจังหวะลีลาที่ต่างกัน บ้างเป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ บ้างเป็นงานสืบสานวัฒนธรรมที่ใกล้สูญหาย บางกิจกรรมสร้างสรรค์โดยผู้เฒ่าวัยเกษียณ และมีอีกหลายกิจกรรมที่ทำให้คนแปลกหน้าอย่างเราๆ สามารถสัมผัสเมืองเล็กกลางหุบเขาได้อย่างลึกซึ้ง…กว่าที่เคยภาพจิตรกรรมฝาผนังกระซิบรักบรรลือโลก หรือปู่ม่านย่าม่าน แห่งวัดภูมินทร์ เปลี่ยนวัดเป็นศูนย์วัฒนธรรมมาน่านแล้วไม่ได้เที่ยววัด บอกเลยว่ามาไม่ถึง เพราะที่น่านโดยเฉพาะในเขตเมืองเก่านั้นมีวัดเล็กใหญ่ให้สักการะอยู่แทบทุกหัวถนน แต่โปรแกรมพิเศษในครั้งนี้ปักหมุดไปที่วัดพระเกิด วัดเล็กที่นอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่รวบรวม ตั๋วเมือง หรือ คัมภีร์ใบลานอักษรล้านนากว่า 20 หมวดหมู่ นับรวมได้กว่า 2000 ผูกแล้ว วัดพระเกิดยังเป็นต้นความเชื่อเรื่องการสืบชะตาแบบล้านนาที่เรียกว่า ตุงค่าคิง ซึ่งออกแบบโดย อ. คำรบ วัชราคม ปราชญ์ชาวบ้านผู้ล่วงลับ และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการรวมช่างพื้นบ้านเพื่อทำตุงค่าคิงตุงค่าคิงถูกออกแบบให้เป็นรูปหน้าคน และสวมใส่เสื้อผ้าเครื่องประดับสวยงาม ตุงค่าคิงเป็นหนึ่งในตุงมงคลของล้านนา ปกติแต่ละวัดจะออกแบบตุงแตกต่างกันไป ที่วัดพระเกิดมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ซึ่งประดิษฐานพระเจ้าค่าคิงที่แกะจากไม้ ยึดแบบมาจากพระเจ้าค่าคิงที่วัดพระธาตุแช่แห้ง พระเจ้าค่าคิงเป็นพระพุทธรูปที่สร้างตามความสูงของผู้สร้าง เมื่อตอนอาจารย์คำรบคิดจะทำตุงสืบชะตาของวัดพระเกิดให้สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ท่านก็เลยยึดแบบให้เหมือนพระเจ้าค่าคิงที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ ป้าติ๋ม-ดรุณี เทียมแสน ผู้นำทัวร์ประจำวัดพระเกิด วัย 69 ปี ชี้ให้เห็นความพิเศษของที่ตุงค่าคิง ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นรูปหน้าคน ทั้งยังสวมเสื้อผ้าเครื่องประดับสวยงาม โดยความยาวของตุงค่าคิงแต่ละผืนจะต่างกันไปตามความสูงของผู้ที่จะนำไปบูชา ซึ่งนั่นก็แปลว่า ต้องมีการสั่งจองทำตุงค่าคิงล่วงหน้าตามความสูงจริงของแต่ละคนเท่านั้นงานฝีมืออย่างแท้จริง ผู้เป็นเจ้าของต้องประกอบตุงด้วยตนเองก่อนถวายเป็นพุทธบูชาด้วยความที่ตุงค่าคิงใช้เพื่อสืบชะตาชีวิต เจ้าของตุง เจ้าของชีวิต จึงต้องเผื่อเวลามาแต่งแต้มตุงให้มีชีวิตด้วยตนเอง โดยทางวัดจะเตรียมงานตอกและตัดกระดาษเป็นรูปปาก ตา จมูก เครื่องประดับ และสัญลักษณ์ประจำราศีให้พร้อม รอให้เจ้าของตุงมาติดประกอบด้วยตัวเอง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาประดับไว้ในพระอุโบสถ ส่วนใครที่ต้องการเรียนรู้งานตอกกระดาษทำตุงก็สามารถแวะมาพูดคุยกับเหล่าผู้เฒ่าซึ่งเป็นช่างพื้นบ้านที่นั่งทำตุงอยู่ที่วัดได้ตลอดนอกจากวัดพระเกิดแล้ว วัดมหาโพธิ์ยังเป็นอีกจุดหมายเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนที่ต้องห้ามพลาด เพราะที่นี่คือสถานที่แห่งเดียวในจังหวัดที่ยังคงมีการอนุรักษ์งานแกะสลักพระไม้ ซึ่งเชื่อมโยงไปสู่เนื้อแท้ของพระประธานภายในโบสถ์วัดมหาโพธิ์ ที่แกะจากไม้มงคลราว 8 ชนิด และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ชาวชุมชนละแวกวัดมหาโพธิ์ในอดีตนิยมแกะสลักพระไม้ขนาดเล็กถวายเป็นพุทธบูชาที่วัด ผิดกับปัจจุบันที่ช่างแกะพระไม้นั้นหาได้ยากเต็มที และหนึ่งในนั้นก็คือ ท่านเจ้าอาวาสวัดมหาโพธิ์ที่เรียนรู้งานแกะพระไม้ด้วยตัวเอง พร้อมเปิดวัดเป็นศูนย์การเรียนรู้ขนาดเล็ก ชวนนักท่องเที่ยวและคนในชุมชนให้เข้ามาฝึกแกะสลักพระไม้ ที่รับประกันได้เลยว่า มีเพียงองค์เดียวในโลก ฝึกแกะสลักพระไม้ที่มีเพียงองค์เดียวในโลกงานแกะสลักพระไม้เชื่อมโยงไปสู่พระประธานภายในโบสถ์วัดมหาโพธิ์ที่แกะจากไม้มงคลราว 8 ชนิด สัมผัสล้านนาในงานสถาปัตย์เมืองน่านไม่ได้มีเพียงกลิ่นอายความเป็นล้านนาให้ได้ถวิลหา ที่นี่ยังมีประวัติศาสตร์ยุคโคโลเนียลแจ่มชัดอยู่ในตึกรังสีเกษม อดีตโรงเรียนแบบตะวันตกที่ก่อตั้งโดยคณะมิชชันนารี อาคารก่ออิฐถือปูนสีแดงเข้มขนาด 2 ชั้น และความสวยงามที่ผสมผสานระหว่างล้านนาและยุโรปคือเอกลักษณ์ที่อยู่คู่กับตึกรังสีเกษมมากว่า 100 ปี ส่วนปัจจุบันที่นี่คือพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่ยังคงรักษาโครงสร้างงานสถาปัตยกรรมเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะห้องครัวที่ยังคงมีเตาอบขนมแบบเก่าไว้ให้ได้เห็นอดีตโรงเรียนแบบตะวันตก ก่ออิฐถือปูนสีแดงเข้ม ผสมผสานระหว่างล้านนาและยุโรป นั่นไง ห้องครัวที่ยังคงมีเตาอบขนมแบบเก่าอีกไฮไลต์ของตึกรังสีเกษม ได้แก่ การเก็บเฟอร์นิเจอร์เก่าที่สั่งลงเรือมาจากยุโรป อย่างโต๊ะไม้ที่สามารถถอดสลักเปลี่ยนจากโต๊ะขนาดใหญ่ให้เป็นโต๊ะขนาดเล็กได้ นอกจากนี้ยังมีห้องจัดแสดงภาพเก่าเมืองน่านที่รวบรวมภาพขาวดำไว้ร่วม 2000 ภาพแต่ละภาพนอกจากจะสะท้อนภาพความเจริญของเมืองน่านที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายกับตะวันตกแล้ว ก็ยังมีภาพการแต่งกายของชนพื้นเมืองต่างๆ รวมทั้งกิจการปางไม้ขนาดใหญ่ที่ยากจะหาชมได้ในปัจจุบันอย่างที่บอกว่า ตึกรังสีเกษมไม่ต่างอะไรกับพิพิธภัณฑ์มีชีวิต นอกจากการนำชมตึกโดย คุณหิรัญ อุทธวงค์ ซึ่งรู้จักข้าวของทุกชิ้นที่ประกอบเข้ากันเป็นตึกรังสีเกษมแล้ว ที่นี่ยังชวนนักท่องเที่ยวนุ่งซิ่นแบบล้านนาเข้ามาจิบน้ำชายามบ่าย พร้อมกินขนมอบรำลึกความหลังในอาคารเก่า พร้อมกันนั้นยังได้จำลองห้องเรียนภาษาล้านนาให้ได้ฝึกอ่านภาษาล้านนาเบื้องต้น รวมทั้งเขียนชื่อตัวเองเป็นภาษาล้านนาลงบนย่ามทอ ไว้เป็นของฝากให้ระลึกถึงเมืองน่านไปอีกนาน เขียนชื่อตัวเองเป็นภาษาล้านนาลงบนย่ามทอไว้เป็นของฝากและสำหรับใครที่ยังอินต่อเนื่องกับงานสถาปัตยกรรมเมืองน่าน แนะนำให้ไปกันต่อที่ โฮงเจ้าฟองคำ เรือนแฝดสร้างจากไม้สักยกใต้ถุนสูงอายุอานามกว่าร้อยปีที่มีเกร็ดประวัติศาสตร์ของเจ้านายสมัยล้านนาบันทึกไว้ทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องทำงาน ห้องพระ รวมทั้งข้าวของทุกชิ้นของเจ้าของเดิมซึ่งก็คือ เจ้าศรีตุมมา หลานเจ้ามหาวงศ์ผู้ครองนครน่านองค์ที่ 11 ในราชวงศ์หลวงติ๋นมหาวงศ์ ปัจจุบันเรือนหลังนี้ได้ตกทอดสืบต่อมายังเจ้าฟองคำและลูกหลาน ที่ยังคงเก็บข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างไว้ครบถ้วน พร้อมทั้งยังได้เปิดใต้ถุนเรือนเป็นศูนย์เรียนรู้การทอผ้าลาย น้ำไหล ที่ได้ถักทอความพลิ้วไหวของสายน้ำน่านลงบนผืนผ้า ใต้ถุนเรือนถูกปรับเป็นศูนย์เรียนรู้การทอผ้าลายน้ำไหล ตามรอยแม่น้ำน่านสู่ความชิลที่หนองน้ำครกเมื่อเอ่ยถึงแม่น้ำน่านแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะย้อนรอยเส้นทางแม่น้ำน่านเก่าไปที่บ้านม่วงตึ๊ด ซึ่งชาวบ้านในชุมชนได้ร่วมใจกันเปลี่ยนความรกร้างของป่าไมยราพและหนองน้ำครก อันเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อว่า เป็นทางน้ำของแม่น้ำน่านสายเก่า ให้กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองน่านที่ครบถ้วนทั้งสวนเกษตร แปลงดอกไม้ แหล่งดูนก และจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ว้าวไม้แพ้บนยอดภูเลยสักนิดนอกจากวิวที่ว้าวแล้ว ความน่ารักของหนองน้ำครกอยู่ที่ระบบการจัดการที่เกิดจากความร่วมมือของชาวบ้านอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกดาวเรือง ทุ่งทานตะวันที่ชุมชนปลูกขายเพื่อนำเงินมาเป็นกองกลางในการดูแลพื้นที่ ผัก ผลไม้ และอาหารพื้นบ้านจากคนท้องถิ่นนำมาจัดจำหน่าย ไม่นับรวมแปลงผักขนาดใหญ่ที่คนในชุมชนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาดูแลทุ่งดอกดาวเรืองเคียงคู่ทุ่งดอกทานตะวัน อีกไฮไลต์ของหนองน้ำครกที่ห้ามพลาดคือ การเดินย่ำไปบนสะพานไม้ไผ่สาน ลัดเลาะไปยังเกาะแก่งริมหนองน้ำ ถ้าวันไหนโชคดีอาจได้เจอกับเจ้าถิ่นอย่างนกเป็ดน้ำ นกเป็ดแดง รวมทั้งอีโก้งที่เล่นซ่อนแอบอยู่ในกอหญ้ากลางหนอง และในวันที่ฝนตกก็อาจจะได้เจอแจ็กพ็อตเป็นหมอกขาวลอยเอื่อยๆ อยู่บนผิวน้ำ เรียกได้ว่า วินาทีนี้ไม่มีที่ไหนฮอตฮิตไปกว่าหนองน้ำครกอีกแล้วแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองน่านสะพานไม้ไผ่สานลัดเลาะไปยังเกาะแก่งริมหนองน้ำ | ชาวชุมชนวัดพระเกิดได้ร่วมกันคิดค้นตุงค่าคิง ซึ่งเป็นตุงที่จำลองแบบมาจากพระเจ้าค่าคิงแห่งวัดพระธาตุแช่แห้ง โดยเอกลักษณ์ของตุงค่าคิงคือ ตุงแต่ละผืนต้องมีความยาวเท่ากับความสูงจริงของเจ้าของตุงผ้าทอลายน้ำไหลที่มีลวดลายพลิ้วไหวดั่งสายน้ำ เป็นของดีประจำเมืองน่านที่ต้องห้ามพลาดที่จะซื้อติดไม้ติดมือกลับมาอยากฝึกสมาธิต้องมาลองกิจกรรมแกะสลักพระไม้แกะ ที่เชื่อมโยงไปถึงพระประธานวัดมหาโพธิ์ ซึ่งสร้างจากไม้มงคลไม่ต่ำกว่า 8 ชนิด | null | null | https://thestandard.co/travel-nan/ |
คนล้นคุก สังคมสวนทางเศรษฐกิจ | ขณะที่อัตราการว่างงานในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 1.1% มีจำนวนผู้ว่างงาน 410,000 คน สำหรับประเด็นด้านแรงงานที่ต้องเฝ้าระวังในระยะต่อไป คือ ความเสี่ยงจากสถานการณ์อุทกภัยที่จะส่งผลกระทบต่อรายได้เกษตรกร ซึ่งต้องเฝ้าระวังเตรียมมาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังปัญหาการว่างงานของผู้สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ซึ่งเมื่อรวมกับผู้จบการศึกษาใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานในไตรมาส 2 ปี 2561 จะมีประมาณ 320,000 คน อาจส่งผลให้มีผู้ที่ยังหางานทำไม่ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้น และน่าเป็นห่วงสำหรับผู้ที่จบการศึกษาด้านสังคมศาสตร์ และสาขาบริหารทั่วไป เนื่องจากไม่ตรงกับความต้องการของตลาด,ส่วนสถานการณ์ด้านหนี้สินครัวเรือนในไตรมาส 2 ปี 2561 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พิจารณาจากยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ที่ขยายตัว 8.0% ส่วนความสามารถในการชำระหนี้ แม้ว่าภาพรวมความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนยังไม่มีสัญญาณหนี้เสีย แต่พบว่ากลุ่มครัวเรือนเกษตรกรที่มีที่ดินทำกินของตนเองมีภาระในการชำระหนี้ต่อรายได้ต่อเดือนประมาณ 21% ส่วนเกษตรกรที่เช่าที่ดินมีภาระในการชำระหนี้ต่อรายได้ต่อเดือนประมาณ 26% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์สูง ดังนั้นจะต้องเฝ้าระวังเนื่องจากรายได้เกษตรกรในปี 2561 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นช้า เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นช้า โดยเฉพาะข้าวและยางพารา ประกอบกับการเกิดภาวะอุทกภัยในบางพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของครัวเรือนเกษตรกร,นายทศพร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ โดยมีผู้ต้องขังจำนวน 355,543 คน แต่เรือนจำรองรับได้ 200,000 คน ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นในคดียาเสพติด เรื่องนี้ต้องไปศึกษาวิจัยในเชิงลึกว่าการที่คดียาเสพติดเพิ่มมากขึ้นมาจากไหน คงไม่ใช่คนระดับล่างเพียงอย่างเดียวระดับอื่นก็เสพยาเพิ่มขึ้น รวมทั้งนิสิตนักศึกษาด้วย คิดว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องเน้นรณรงค์ป้องกันให้เห็นโทษและมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังให้มากขึ้น ส่วนความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจกับสังคมอาจจะไม่เหมือนอย่างที่เคยมีความเข้าใจกันว่าถ้าเศรษฐกิจดีปัญหาสังคมน่าจะน้อย ขณะนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น. | นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ปี 2561 พบว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้น 0.9% | ข่าว,เศรษฐกิจ | ทศพร ศิริสัมพันธ์,สศช.,การจ้างงาน,หนี้สินครัวเรือน,ผู้ต้องขังล้น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1366339 |
3โอเปอเรเตอร์เผยยอดใช้ 3G-4G พุ่งกระฉูดคืนส่งท้ายปีเก่า | บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยข้อมูลปริมาณการใช้งานดาต้า และบริการเสียงในช่วงคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีปริมาณการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเวลาปกติถึงร้อยละ 50 โดยเฉพาะช่วงเวลาใกล้เที่ยงคืน และหลังเที่ยงคืน โดยมีการส่งข้อความสั้น หรือ เอสเอ็มเอส ประมาณ 9 ล้านข้อความ และการส่งข้อความแบบมัลติมีเดีย หรือ เอ็มเอ็มเอส ประมาณ 2 แสน 3 หมื่นข้อความ,ขณะที่ ทรูมูฟ เปิดเผยว่า มียอดการใช้งาน 4จี และ 3จี ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 400 จากช่วงเดียวกัน ในปีที่ผ่านมา โดยช่วงเวลาที่ออนไลน์สูงสุด คือ 19 นาฬิกา ถึง 24 นาฬิกา ,นอกจากนี้ ลูกค้ายังให้ความสนใจหันมาส่งข้อความหากันผ่านเครือข่าย 4จี และ 3จี เป็นจำนวนมาก เพิ่มขึ้นจากที่ปีที่ผ่านมา 2-3 เท่า โดยโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือ เครือข่ายสังคมออนไลน์ยังคงเป็นช่องทางยอดนิยมอันดับหนึ่งในการส่งข้อความอวยพร ,ส่วนไลน์ (LINE) ยังคงครองแชมป์แอพพลิเคชั่นที่ใช้ส่งข้อความอวยพรปีใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงสุด รองลงมาคือเฟซบุ๊ก ส่วนการส่งข้อความสั้น หรือ เอสเอ็มเอส อวยพรกันช่วงปีใหม่กลับได้รับความนิยมลดลงอย่างมาก ส่วนดีแทค เปิดเผยว่า ปริมาณการใช้งานสูงขึ้น โดยเฉพาะการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก. | การส่งข้อความอวยพรปีใหม่ในคืนส่งท้ายปีเก่าผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ยังคงเป็นช่องทางยอดนิยมมากที่สุด โดย 3 ค่ายมือถือของไทย ระบุว่า ยอดการใช้งาน 3จี และ 4 จี เพิ่มสูงขึ้น แต่ไม่พบปัญหาโครงข่ายล่ม ขณะที่เอสเอ็มเอสยอดตกคนใช้น้อยลง | null | ปีใหม่,ส่งข้อความ,การใช้งาน,3G,4G,เครือข่ายมือถือ,ดาต้า,วอยซ์,เอไอเอส,ดีแทค,ทรูมูฟ,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/472292 |
ปกป้องคนทำงาน | ตรวจสอบการก่อสร้างคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งพื้นที่ สภ.กะรน ถูกวิจารณ์อย่างหนักท่าทีของ ส.ส. ที่พูดจาเสียงดัง แสดงความยิ่งใหญ่วางอำนาจเหนือนายตำรวจ อ้างว่าไม่พอใจที่ไม่มีตำรวจพื้นที่ลงมาดูแล ส.ส.,คนรับไม่ได้กับการกระทำของ ส.ส.,หากว่ากันไปตามระเบียบตำรวจไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลอารักขา ส.ส. ในการลงพื้นที่ เว้นแต่ ส.ส.เห็นว่าไม่ปลอดภัย ร้องขอตำรวจ ในพื้นที่มาดูแลได้ คลิปที่ปล่อยออกมาสร้างความอึดอัดและเกลียดชังของตำรวจยิ่งขึ้น พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนต่างมีหน้าที่ในการทำงานเพื่อประชาชนและสังคมที่แตกต่างกันออกไปและทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดกับบ้านเมืองอยู่แล้ว เชื่อว่าพี่น้องประชาชนและสังคมคงพิจารณาเข้าใจถึงเหตุการณ์,พล.ต.อ.จักรทิพย์ชื่นชมและให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่รอง ผกก.ป.สภ.กะรน ยึดถือตาม อุดมคติตำรวจ อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ใช้กิริยาวาจาที่สุภาพ ถือได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดี,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มากำกับดูแลตำรวจ บอกว่า ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมแบบนี้ การทำงานของตำรวจต้องเห็นใจเขา เพราะงานเขาเยอะ ไม่ได้มีกติกาว่า ส.ส.ไปต้องมีคนดูแล ส.ส. อีกทั้งให้ไปดูข้อกฎหมายก่อนไปจับกุมใคร จะไปชี้ว่าใครผิดเลยไม่ได้ ต้องมีกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย มอบให้พรรคพลังประชารัฐจัดการอย่างตรงไปตรงมา นายกฯและ ผบ.ตร.แสดงความเป็น นาย เห็นอกเห็นใจ,เข้าใจตำรวจที่ทำงาน,คงไม่ใช่เหตุการณ์สุดท้ายที่ตำรวจต้องเจอในการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลนักการเมืองที่คิดว่ายิ่งใหญ่เหนือเจ้าหน้าที่รัฐ เพิ่งมีข่าวผู้ใหญ่บางกระทรวงปล่อยข่าวล้วงลูก งบลับ ปล่อยทีมงานล็อบบี้ของบประมาณ อาศัยสร้างข่าวมาข่มขู่ ทำลายข้าราชการประจำ ลืมว่าสิ่งที่ปล่อยมามั่วๆ เป็นภาพลบต่อการบริหารงานของรัฐบาล,ตำรวจเป็น หนังหน้าไฟ นักการเมืองผู้ที่คิดว่าใหญ่เหนือข้าราชการ หากตำรวจไม่เข้มแข็ง ไม่อดทนต่อความเจ็บใจ จะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งถ้าคนที่เป็น นาย ไม่แสดงความปกป้องศักดิ์ศรีของหน่วย จะมีตำรวจหน้าไหน ทุ่มเทเสี่ยงชีวิตทำงานให้ เป็นปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ที่โดดลงมาคุมตำรวจเอง,จะทำอย่างไรให้ตำรวจอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี และภาคภูมิใจที่ได้เป็นตำรวจที่ดีของประชาชน ไม่ใช่เบี้ยล่างของนักการเมืองข้าราชการส่วนใหญ่ ต้องการผู้นำที่อยู่ในหัวใจคน ไม่ใช่ผู้นำที่นั่งอยู่บนหัวคน,ไม่คิดปกป้องคุ้มครองคนทำงาน.,เพลิงพยัคฆ์,[email protected], | เป็นประเด็นดังในโซเชียล ส่วนหนึ่งของคลิปวิวาทระหว่าง นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กับ พ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ รอง ผกก.ป.สภ.กะรน จ.ภูเก็ต ขณะที่ลงพื้นที่ไปปฏิบัติการ | null | สิระ เจนจาคะ,ส.ส.พลังประชารัฐ,ประเทือง ผลมานะ,ปะทะคารม,ภูเก็ต,เลขที่1 วิภาวดีฯ,เพลิงพยัคฆ์ | https://www.thairath.co.th/news/local/1645403 |
เสนอทหารเข้าร่วมแก้ปัญหารุกที่แก้มลิง | เพิกถอน น.ส.3 ก. และการรังวัดเตรียมออกโฉนดกว่า 700 ไร่ ในพื้นที่ดังกล่าวจนผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งระงับให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน ตามที่ทีมข่าวเฉพาะกิจภูมิภาค ไทยรัฐ เกาะติดมาอย่างต่อเนื่องนั้น,เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า นายสวัสดิ์ พิบูลย์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มปกป้องบ้านพ่อ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายของเมื่อวานที่ผ่านมา นายวีระวัฒน์ จันทรักษ์ นายกเทศบาลตำบลบางลึก นายปรีชา สมบัตินา รองนายกฯ นายยศพลธ์ พรมทัศ ประธานสภาฯ นายสันติ หอมลออ กำนันตำบลบางลึก นายสุทัศน์ สิทธิพล สมาชิกสภาเกษตรชุมพร ผู้นำชุมชน พร้อมแกนนำกลุ่มปกป้องบ้านพ่อรวมเกือบ 20 คน ร่วมประชุมหารือกรณีปัญหาดังกล่าว โดยในที่ประชุมได้มีการนำหลักฐาน น.ส.3 ก. และโฉนดที่ดินของชาวบ้านบางส่วนกว่า 20 ราย ที่อยู่รอบๆพื้นที่ชุ่มน้ำแก้มลิงหนองใหญ่ ซึ่งการออกเอกสารสิทธิดังกล่าวระบุไว้ชัดเจนว่า เขตแดนจดหนองบึงพื้นที่แก้มลิงหนองใหญ่ แต่เหตุใดหนองบึงในแก้มลิงหนองใหญ่ที่ระบุไว้เป็นแนวเขตจึงกลายเป็นที่ดิน น.ส.3 ก. ของบริษัทนายทุนเพียงเจ้าเดียว รวม 27 แปลง กว่า 700 ไร่ ทั้งที่เป็นป่าชุ่มน้ำสมบูรณ์มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี มีพรรณไม้น้ำนานาชนิดโดยเฉพาะต้นจิกและต้นไทรน้ำขึ้นอยู่หนาแน่นอายุเฉลี่ย 30-100 ปี,นายสวัสดิ์เปิดเผยต่อว่า จากการขอภาพถ่ายแผนที่ทางทหารก็ระบุว่า เป็นหนองบึงป่าชุ่มน้ำโดยสภาพมานานแล้ว ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ ซึ่งหลักฐานทั้งหมดจะนำไปแสดงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ที่จะมีการลงสำรวจพื้นที่จริง และในที่ประชุมได้เสนอให้ขอทหารชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการและตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญเป็นที่เชื่อถือและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนทั่วไป เพราะถ้าหากให้ทางที่ดินจังหวัดชุมพรดำเนินการฝ่ายเดียวเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะขณะนี้กำลังอยู่ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมและประชาชนอย่างมากจากกรณีดังกล่าว,หากพื้นที่กว่า 700 ไร่ โครงการแก้มลิง หนองใหญ่ ตามแนวพระราชดำริฯ ซึ่งที่กักเก็บน้ำแก้มลิงฝั่งซ้ายที่อยู่ในพื้นที่ 27 แปลง กว่า 700 ไร่นั้นหากถูกนายทุนยึดไปได้จะทำให้กลายเป็นแก้มลิงพิการไปหนึ่งข้างทันที ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากตัวเมืองชุมพรจะเกิดขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน นายสวัสดิ์กล่าว,ด้านนายสุพร เสวตจันฤกษ์ ทนายความที่ปรึกษากลุ่มฯ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนพร้อมหลักฐานความไม่ชอบมาพากลของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงในกรมที่ดินและในจังหวัดชุมพร ในการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. และการรังวัดเตรียมออกโฉนดที่ดินให้แก่บริษัทนายทุนทั้ง 27 แปลงกว่า 700 ไร่ ในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ โดยส่งเป็นไปรษณีย์ตอบรับถึง ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน กองเลขาธิการ กปร. และสำนักงานคณะ กรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เพื่อให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว. | หลังจากกลุ่มปกป้องบ้านพ่อ ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ร้องเรียนผู้เกี่ยวข้องและติดป้ายคัตเอาต์ขอทวงคืนพื้นที่ชุ่มน้ำแก้มลิงหนองใหญ่ โครงการตามแนวพระราชดำริฯ ในหลวง ร.9 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ขอให้ตรวจสอบ | ข่าว,ทั่วไทย | แก้มลิง,รุกล้ำแก้มลิง,นายทุนบุกรุกที่,แก้มลิงหนองใหญ่,ชุมพร | https://www.thairath.co.th/news/local/south/896750 |
ทอฟฟี่ คอนเฟิร์มจับ โอเบียโด ต่อสัญญาใหม่ 3 ปีครึ่ง | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 12 ก.พ. ว่า ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน สโมสรแกร่งจากลีกผู้ดีประกาศต่อสัญญากับทาง ไบรอัน โอเบียโด แบ็กซ้ายชาวคอสตาริกาออกไปถึงปี 2021 เป็นที่เรียบร้อย,ดาวเตะวัย 25 ปี เพิ่งกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งในฤดูกาลนี้ หลังขาหักเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จนกระทั่งล่าสุดก็กลายเป็นแข้งตัวหลักของทีมอีก 1 คนภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือชาวสเปน,เมื่อผมเผชิญกับประสบการณ์ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และลำบากที่สุดในอาชีพการค้าแข้ง ทุกคนคอยหนุนหลังผม ผู้จัดการทีม สตาฟฟ์โค้ชและแฟนบอลคอยช่วยเหลือผมให้ผ่านพ้นกับปัญหานี้มาได้และทำให้ผมกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม กับตัวเองและฐานะการเป็นนักเตะ,ผมรู้สึกว่าผมอยู่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของผม ตอนนี้ผมมีประสบการณ์มากขึ้น เมื่อผมมาเล่นที่นี่ตอนแรก ผมยังอายุ 22 ปีและตอนนี้ผมอายุ 25 และจะ 26 ในสัปดาห์หน้าแล้ว ผมมีความเชื่อมั่นกว่าเดิม และผมมีความทะเยอทะยานที่จะคว้าแชมป์กับเอฟเวอร์ตัน,เรามีเป้าหมายชัดเจนในทีม เราต้องการคว้าแชมป์บอลถ้วยและเราต้องการสร้างทีมของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวไปสู่ท็อปทีมของพรีเมียร์ลีก | ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน คอนเฟิร์มจับ ไบรอัน โอเบียโด ฟูลแบ็กชาวคอสตาริกา ต่อสัญญาไปอีก 3 ปีครึ่งเป็นที่เรียบร้อย | null | พรีเมียร์ลีก,เอฟเวอร์ตัน,ไบรอัน โอเบียโด,ทอฟฟี่สีน้ำเงิน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/576721 |
รมช.เกษตรฯเร่งจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือน้ำท่วม 2 จว.อีสาน | ความเสียหายทางการเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวและพันธุ์พืช เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ทางจังหวัดยโสธร และสุรินทร์ นำเสนอต่อนายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างติดตามความคืบหน้า การจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากการสำรวจพบว่า ทั้ง 2 จังหวัดมีนาข้าวได้รับความเสียหายกว่า 450000 ไร่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติเงินชดเชย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ เตรียมแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พืช รวมทั้งการฝึกอาชีพระยะสั้นให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วยสำหรับเงินที่ใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม แยกเป็น 2 ส่วน คือ งบส่วนกลาง และงบจังหวัด ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ กำชับให้แต่ละจังหวัดพิจารณาความสำคัญของแต่ละโครงการ เพื่อป้องกันการเบิกจ่ายงบประมาณซ้ำซ้อนส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปทุมธานีคลี่คลายลงแล้ว วันนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัด จัดปล่อยแถวคาราวานรถบรรทุกสิบล้อ จำนวน 20 คัน ออกเก็บขยะในพื้นที่ 7 อำเภอ หลังพบว่ามีปริมาณขยะถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณถนนจำนวนมาก กีดขวางการจราจร และเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค คาดว่าจะสามารถกำจัดขยะและทำความสะอาดพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งหมดภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ภาคใต้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนประชาชน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 9 - 12 ธันวาคมนี้ เนื่องจากความกดอากาศสูงกำลังแรง จากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรง ส่วนชาวเรือ เดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง | ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกเตือนประชาชนเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลันระหว่างวันที่ 9 - 12 ธันวาคมนี้ ส่วนสถานการณ์น้ำที่ท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งคลี่คลายแล้ว หลายจังหวัดเริ่มเข้าสู่การฟื้นฟู ล่าสุด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ติดตามความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดสุรินทร์ และยโสธร โดยเน้นช่วยเหลือเกษตรกรที่นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหาย | ภูมิภาค | งบประมาณ,น้ำท่วม,ยโสธร,สุรินทร์ | https://news.thaipbs.or.th/content/51935 |
เปิดตัว โปเกมอนกสิกรไทย กรุงศรี จับมือ วิชัย ลุยฟินเทค | ภาพจาก :, เว็บไซต์ ธนาคารกสิกรไทย,นางสาวศุภนีวรรณ จูตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดบัตรเดบิตในประเทศไทย ใน 2-3 ปีนับจากนี้ จะยังเติบโตต่อเนื่อง เห็นได้จากจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการธุรกรรมทางการเงินที่สาขาไม่ได้ปรับตัวลดลง โดยการชำระเงินผ่านบัตรเดบิตใช้ผ่านเครื่องอีดีซีที่เป็นตลาดเดียวกับบัตรเครดิต ล่าสุดปริมาณธุรกรรมการเงินที่ชำระผ่านบัตรเดบิตในแต่ละปีมีการเติบโตอย่างมาก ยอดใช้จ่ายตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเติบโต 30% และยอดซื้อสินค้าผ่านออนไลน์เติบโต 50% ล่าสุดธนาคารฯได้ออกบัตรเดบิตโปเกมอนกสิกรไทย (K-Pokémon Debit Card) ถือว่าเป็นการ์ตูนคาแรกเตอร์ที่ได้รับความนิยมและเป็นไฮไลต์ของบัตรเดบิตปีนี้ โดยตั้งเป้าใน 1 ปี จะออกบัตรเดบิตโปเกมอนรวม 200,000 บัตร,นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯได้เข้าลงทุนเป็นครั้งแรกกับฟินโนมีนา ฟินเทค สตาร์ตอัพสัญชาติไทย ร่วมกับ เบญจจินดา และกองทุน 500 TukTuks ด้วยมูลค่าการลงทุน 112 ล้านบาท เพราะเห็นถึงความเติบโตและความแข็งแกร่งของทีมฟินโนมีนา โดยฟินโนมีนาได้เข้าร่วมในโครงการ Krungsri RISE Batch 1 และเป็นฟินเทคสตาร์ตอัพไทยที่มีพัฒนาการ และขยายฐานลูกค้าได้อย่างก้าวกระโดด,นายวิชัย เบญจรงคกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัทเบญจจินดาให้ความสนใจเลือกการลงทุนในฟินโนมีนาในรอบ Series A ครั้งนี้ เนื่องจากเป็นบริษัทฟินเทคที่ตอบโจทย์หลักในการลงทุน อาทิ มีโอกาสการเติบโตในตลาดทางการเงิน มีการนำเทคโนโลยีเพื่อให้บริการลูกค้าที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ทางการเงินของคนรุ่นใหม่. | นางสาวศุภนีวรรณ จูตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดบัตรเดบิตในประเทศไทย ใน 2-3 ปีนับจากนี้ จะยังเติบโตต่อเนื่อง | ข่าว,เศรษฐกิจ | ศุภนีวรรณ จูตระกูล,ธนาคารกสิกรไทย,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา,บัตรเดบิต,สตาร์ตอัพ | https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1074095 |
ทีดีอาร์ไอแนะ รมว.ทำหนังสือถึงกฤษฎีกาให้เปิดฟังความเห็นแก้ชุดร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล | กม.ทั้งที่ยังไม่นิ่ง สร้างภาระกฤษฎีกา เสนอให้ตัวแทนคนเห็นต่างเข้าให้ความเห็น29 ม.ค. 2558 ในเวทีเสวนา NBTC Public Forum 1/2558: ทรัพยากรคลื่นความถี่และทิศทางการสื่อสารภายใต้ร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล ณ อาคารหอประชุมชั้น 1 สำนักงาน กสทช. มีการพูดถึงชุดร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล 10 ฉบับที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. และกำลังจะเข้า สนช.สุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) และสมาชิก สนช. ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมร่างกฎหมายชุดเศรษฐกิจดิจิทัล นำเสนอแนวคิดและสาระสำคัญของชุดร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า การร่างกฎหมายถ้าไม่ทำแบบท็อปดาวน์ (จากบนลงล่าง) และทำแบบเงียบๆ คงไม่สามารถออกมาได้ โดยยกตัวอย่างว่ามีบทเรียนจากร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งร่างมาแล้ว 17-18 ปียังไม่ออกเป็นกฎหมายอย่างไรก็ตาม สุรางคณา ระบุด้วยว่า กระบวนการร่างกฎหมายยังมีอีกมาก และการที่ ครม.เห็นชอบแล้ว ไม่ได้แปลว่าเห็นชอบทั้งฉบับ แต่เป็นการเห็นชอบให้มีกฎหมาย พร้อมย้ำว่า หลังผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งจะตกผลึกระดับหนึ่งแล้วจะมีการรับฟังความเห็นตลอดทางนอกจากนี้ สุรางคณา กล่าวถึงกรณีมีการวิจารณ์ร่างกฎหมายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างมากด้วยว่า เชื่อว่าคนเซ้นสิทีฟกับคำว่า ความมั่นคง กลัวว่าจะคุกคามความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงความเห็น ซึ่งขอชี้แจงว่า ความมั่นคงนี้มุ่งคุ้มครองการรักษาความลับข้อมูล ความถูกต้องครบถ้วน (Intrigity) และสภาพพร้อมใช้งานของระบบเท่านั้นสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) แสดงความเห็นว่า ปัญหาใหญ่ของชุดกฎหมายนี้อยู่ที่วิธีคิดในการทำร่างกฎหมายนี้ หากจะทำเศรษฐกิจดิจิทัล แต่ไม่มาพร้อม open government เปิดให้มีปรึกษาหารือ จะเกิดปัญหาความไว้วางใจ โดยจากประสบการณ์ที่มีส่วนร่างกฎหมายทั้งในสภาเลือกตั้งและแต่งตั้ง รัฐบาลมักพยายามอธิบายว่าเส้นทางยังอีกไกล แต่ที่เคยทำมา เวลากฤษฎีกาพิจารณากฎหมายจะทำตามนโยบายรัฐบาล เพราะเป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล หากมีข้อสังเกตในชั้น ครม. กฤษฎีกาจะนำไปพิจารณาด้วยเขากล่าวต่อว่า แต่ชุดกฎหมายนี้ผ่านโดยไม่ได้ความเห็นจากหน่วยงานรัฐเลย และโดยธรรมชาติ กฤษฎีกาไม่ใช่เวทีเปิด สิ่งที่กฤษฎีกาจะทำต่อไปไม่ใช่เวทีรับฟังสาธารณะ ใครจะได้โอกาสไปชี้แจงบ้างไม่อาจทราบได้ เพราะฉะนั้น คนจะไม่มั่นใจในกระบวนการว่า กฤษฎีกาจะแก้กฎหมายในเรื่องใหญ่อย่างนโยบายสมเกียรติชี้ว่า จากการทำวิจัยเกี่ยวกับกฤษฎีกา กฤษฎีกามักบ่นปัญหาหนึ่งว่า หากรัฐบาลไม่มีทิศทางที่ชัด เช่น ยังมีข้อคิดที่ยังไม่ตกผลึก กฤษฎีกาจะแก้อย่างไร เพราะมีหน้าที่แก้ตามสิ่งที่รัฐบาลอยากจะเห็น เพราะฉะนั้น การส่งร่างกฎหมายให้กฤษฎีกาเป็นการสร้างภาระให้กฤษฎีกาเยอะมากทั้งนี้ สมเกียรติ กล่าวถึงข้อเสนอต่อ สพธอ. และรัฐบาล ว่า ถ้าจะให้ร่างนี้เกิดปัญหาน้อยและกฎหมายออกมาใช้ได้จริง จะต้อง หนึ่ง รัฐมนตรีต้องทำหนังสือถึงกฤษฎีกาว่าพร้อมให้รับฟังความเห็นจากหน่วยงานอื่น ไม่เฉพาะตัวแทนรัฐบาล โดยอาจมอบหมายให้คนที่เห็นต่างกันมากๆ ส่งผู้แทนเข้าไปช่วยติดตาม นำเสนอความเห็นในชั้นกฤษฎีกา สอง เมื่อกฎหมายไปถึงสภาแล้ว สนช. ควรมีแนวว่าพร้อมจะรับเอาร่างคู่ขนานของภาคประชาสังคมไปประกอบการพิจารณาประกบร่างของรัฐบาล และให้โควต้ารัฐบาลในการพิจารณาชั้น กมธ.แก่คนที่เห็นต่างกับรัฐบาล รวมถึง สนช.เองรับจะเสนอชื่อคนเห็นต่างเข้าไปอยู่ในชั้นกมธ.ด้วย จะแก้ไขข้อผิดพลาดในกระบวนการก่อนหน้าให้เสียหายน้อยลง | กรณี ครม.ผ่านชุดร่างกม.เศรษฐกิจดิจิทัล ผอ.สพธอ.แจงจำเป็นต้องร่างกฎหมายแบบท็อปดาวน์-ทำเงียบๆ เพื่อให้ผ่านออกมาก่อน ชี้กระบวนการร่างยังอีกไกล พร้อมรับฟังความเห็น ด้านประธานทีดีอาร์ไอชี้ ผ่าน | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ไอซีที,เศรษฐกิจ | กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม,ความมั่นคงไซเบอร์,สพธอ.,สุรางคณา วายุภาพ | https://prachatai.com/journal/2015/01/57669 |
ทุนญี่ปุ่นขู่ย้ายหนีไทยซบเวียดนาม | นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยระหว่างการเสวนาเรื่อง ความตกลงCPTPPประโยชน์ ผลกระทบและประสบการณ์จากประเทศภาคี จัดโดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า หอการค้าญี่ปุ่นได้สอบถามถึงการที่ไทย จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าทางเศรษฐกิจสำหรับภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) อย่างต่อเนื่อง และแจ้งว่าต้องการให้ไทยเข้าร่วม เพราะจะเป็นข้อได้เปรียบที่ไทยจะดึงดูดนักลงทุนญี่ปุ่นและทั่วโลกให้เข้ามาลงทุนในไทยได้ แต่หากไทยไม่เข้าซีพีทีพีพี อาจทำให้ญี่ปุ่นย้ายการลงทุนจากไทยไปเวียดนาม ที่เป็นสมาชิกซีพีทีพีพีแล้วหอการค้าญี่ปุ่นได้แจ้งว่า จะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มเพราะมีหลายอย่างน่าสนใจ ซึ่งซีพีทีพีพีก็เป็นจุดบวก ที่ไทยควรเข้าเจรจา เพราะจะทำให้ทั่วโลกรวมทั้งญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทย แต่หากไทยไม่เข้าร่วม มีโอกาสที่การลงทุนจากญี่ปุ่นจะย้ายไปเวียดนามแทนอย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาคเอกชนต้องการความชัดเจนจากรัฐบาลถึงจุดยืนของการเข้าร่วมซีพีทีพีพี เพราะขณะนี้เป็นการเตะไปเตะมาจะเอาหรือไม่เอายังไม่ชัดเจน มองว่าการจะสมัครเข้าร่วมหรือไม่ ควรตัดสินใจให้เร็ว ส่วนกรณีที่ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาการเข้าร่วมซีพีทีพีพี สภาผู้แทนราษฎรจะขอรัฐสภายืดเวลาพิจารณาออกไปอีก 60 วัน ทำให้ไทยอาจสมัครเข้าร่วมเจรจาซีพีทีพีพีไม่ทันการประชุมของรัฐมนตรีซีพีทีพีพีในเดือน ส.ค.นี้ และต้องรอสมัครใหม่ปี 64 นั้น มองว่า ถ้าปีนี้ไทยสมัครไม่ทัน และไปสมัครปีหน้า ก็อาจทำให้การเจรจายากขึ้น เพราะไทยไม่ใช่ผู้ก่อตั้ง จากเดิมเจรจา 7 ประเทศสมาชิกที่ให้สัตยาบันความตกลงแล้ว จากทั้งหมด 11 ประเทศ แต่ปีหน้าอาจเจรจาเพิ่มอีก 4 ประเทศ ที่กำลังจะลงสัตยาบัน ซึ่งยืนยันว่ากระบวนการเจรจาซีพีทีพีพีใช้เวลา 4 ปี ไม่ใช่สมัครแล้วเข้าได้เลย ดังนั้น จึงมีเวลาในการเจรจาและปรับตัว แต่หากเข้าไปเจรจาแล้ว และสุดท้ายเห็นว่าไทยเสียเปรียบหรือปรับตัวไม่ได้ ก็สามารถถอนตัวได้ ดังนั้น การสมัครเข้าร่วม เพื่อให้เจรจาก่อน จะทำให้ไทยรู้ข้อได้เปรียบ เสียเปรียบด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ กกร.กำลังตั้งทีมศึกษาผลดี-ผลเสีย เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น และคาดว่าจะเสร็จภายในปีนี้ก่อนจะเสนอเป็นอีกหนึ่งโมเดลให้กับทุกภาคส่วน ซึ่งจะไม่มีความซ้ำซ้อนกับทุกผลการศึกษาที่ออกมาก่อนหน้านี้เพราะจะเป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบันส่วนนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการฯได้มีมติจะเสนอสภาฯยืดเวลาพิจารณาออกไป 60 วัน ส่วนปีนี้จะสมัครเจรจาซีพีทีพีพีทันหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเห็นสภาฯที่จะเสนอรัฐบาล โดยประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งที่ต้องหารือ ได้เสนอแนวทางช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ โดยจะมีการตั้งกองทุนขึ้นมาดูแลซึ่งจะหารือกับกระทรวงการคลังต่อไป. | นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยระหว่างการเสวนาเรื่อง ความตกลงCPTPPประโยชน์ ผลกระทบและประสบการณ์จากประเทศภาคี | ข่าว,เศรษฐกิจ | CPTPP,ญี่ปุ่น,เวียดนาม,ลงทุนในไทย,อุตสาหกรรม,การค้า,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/business/1881475 |
เพชรเขาวัง ฟอร์มเดือดไล่ขยี้กุหลาบขาว มวยคู่เอกลุมพินี | วันที่ 8 ก.พ. ศึกทรูโฟร์ยูมวยมันส์วันศุกร์+เกียรติเพชร ที่สนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา คู่เอก เพชรเขาวัง สจ.เล็กเมืองนนท์ (มุมแดง) ดวลเดือดกับ กุหลาบขาว ศ.กุลวงศ์ (มุมน้ำเงิน),ผลปรากฏว่า เพชรเขาวัง สจ.เล็กเมืองนนท์ ระดมเตะเจาะยางจน กุหลาบขาว ศ.กุลวงศ์ ทำท่าจะยางแตกตั้งแต่ยกแรก หลังจากนั้น กุหลาบขาวที่เป็นรอง พยายามเดินหน้าไล่เบียด หวังเรียกคะแนนคืน แต่ทำอะไรได้ไม่ชัดเจน ครบ 5 ยก เพชรเขาวังชนะคะแนนไปขาดลอย,ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้,เพชรยืนยง เยาวราชมุกดาหาร ชนะน็อก ฤทธิเดช ส.จ.โต้งปราจีน,บรรลังค์เงิน อ.ยุทธชัย ชนะน้อก กระบุรี บ้านไร่กางเขนดง,วัฒนา เอ็มทีเอ็มอะคาเดมี่ ชนะคะแนน พันมงคล อภิชาติมวยไทยยิม,วีระพลเล็ก เอ็กซินดิคอนยิม ชนะคะแนน ปานเพชร ไฟต์เตอร์มวยไทย,เพชรนินจา พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม ชนะน็อก สมจิตรเล็ก ภ.เจริญแพทย์,โรเบิร์ต ศ.ธนบวร ชนะคะแนน เพชรมาลัย เพชรเจิรญวิทย์,ชาลาวัน ส.ธนาเพชร ชนะน็อก สรรชัย ส.จ.เล็กเมืองนนท์,เพชรแสนแสบ อ๊อตตึกแดง ชนะน็อก นำพลศักดิ์รังสิต | เพชรเขาวัง สจ.เล็กเมืองนนท์ โชว์ฟอร์มดุดันเอาชนะ กุหลาบขาว ศ.กุลวงศ์ คู่เอก ศึกทรูโฟร์ยูมวยมันส์วันศุกร์+เกียรติเพชร ศุกร์ที่ 8 ก.พ.62 ณ สนามมวยเวทีลุมพินี | กีฬา,มวย/MMA | เพชรเขาวัง สจ.เล็กเมืองนนท์,กุหลาบขาว ศ.กุลวงศ์,มวยลุมพินี | https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1491841 |
ตร.น่านรอหลักฐานออกหมายเรียกครูลงโทษ นร.เกินกว่าเหตุ | สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 มีหนังสือสั่งย้ายครูโรงเรียนวรนคร อ.ปัว จ.น่าน ไปปฏิบัติราชการที่เขตการศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 2 เป็นการชั่วคราว พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง หลังผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 จำนวน 4 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรปัว เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2560 โดยกล่าวหาทำโทษเกินกว่าเหตุ จับศีรษะเด็กโขกกับกระดาน ใช้ไม้ตีหลังและใช้เล็บหยิกข่วนแขน เนื่องจากนักเรียนไม่ส่งการบ้าน อีกทั้งที่ผ่านมาก็เคยลงโทษเด็กรุนแรงจนถูกทำทัณฑ์บนมาแล้วพ.ต.อ.อัครวัฒน์ พุ่มไพศาลชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปัว เปิดเผยว่า ตำรวจรอผลตรวจบาดแผลจากแพทย์ ก่อนจะออกหมายเรียกครูผู้ถูกกล่าวหา เบื้องต้นทราบว่าเด็กมีบาดแผลที่ริมฝีปาก แขนและหลัง ขณะที่การสอบสวนต้องมีทีมสหวิชาชีพร่วมด้วยเพราะมีเด็กเป็นผู้เสียหายส่วนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 จ.บุรีรัมย์ ตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดวินัยร้ายแรงครูที่ถูกกล่าวหา ว่ามีพฤติกรรมลงโทษเด็กและส่งคลิปโป๊เปลือย ข้อความลามกอนาจารและขอมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนหญิง ซึ่งหากพบหลักฐานชัดเจนว่ากระทำผิดตามที่ถูกร้องเรียนจะมีโทษถึงขั้นไล่ออกหรือเลิกจ้างซึ่งความคืบหน้ากรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ นำหลักฐานข้อความ บทสนทนาผ่านแอพพลิเคชันไลน์ โดยอ้างว่าครูผู้สอนวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา ส่งให้กับบุตรสาว ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีเนื้อหาลามกอนาจารและส่งคลิปโป๊ ขอมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งยังลงโทษด้วยการตีเด็กหลายครั้ง ล่าสุดนางปติมา กาญจนากาศ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 หรือ สพม.32 เปิดเผยว่า หลังจากสอบปากคำนักเรียนที่ถูกกระทำ พยานแวดล้อมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพบว่าเรื่องนี้มีมูล สพม.32 จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาครูคนนี้ 2 ข้อหา คือ ทำโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุและมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศลูกศิษย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้ โดยหากพบหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะมีโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออกหรือเลิกจ้าง เนื่องจากเป็นพนักงานราชการ การพิจารณาลงโทษจะขึ้นอยู่กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ เบื้องต้นได้สั่งย้ายครูคนนี้มาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ จนกว่าผลการสอบจะแล้วเสร็จ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย | ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกครูใน จ.น่าน ที่ถูกแจ้งความว่าลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ ขณะที่ต้นสังกัดสั่งย้ายและตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ส่วน สพม.32 ก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดวินัยร้ายแรงกับครูที่ถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศลูกศิษย์ใน จ.บุรีรัมย์ | อาชญากรรม | น่าน,ลงโทษเกินกว่าเหตุ,ออกหมายเรียก,สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2,สพม.32,บุรีรัมย์,คุกคามทางเพศ,สอบวินัย,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/268064 |
ผู้ว่าการใหม่ | (สกล วรรณพงษ์ - พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา),แม้ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ กกท.คนใหม่ อันเนื่องจากคนเก่าซึ่งก็คือคนปัจจุบัน สกล วรรณพงษ์ จะเกษียณอายุในวันที่ 30 มิ.ย. โดยมอบหมายให้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งจะเรียกประชุมกรรมการนัดแรกภายในสัปดาห์นี้,และประธานคณะกรรมการสรรหาฯ พล.อ.วิชญ์ ท่านก็ได้แสดงความเห็นว่าเวลาที่เหลือราว 3 เดือน แม้จะน้อยแต่ก็จะทันได้ตัวผู้ว่าการ กกท.คนใหม่มาทำงาน ในเดือน ก.ค. ซึ่งคาดว่าจะประกาศรับสมัครได้ภายในเดือนนี้,คนระดับ พล.อ.วิชญ์ ที่ตรงไปตรงมาและเด็ดขาด บอกอย่างนี้ก็คงจะพอเบาใจกันได้ว่างานของ กกท.จะไม่สะดุด,นั่นก็เป็นรูปแบบและกระบวนการตามระเบียบปฏิบัติของการสรรหา,แต่กรณีผู้ว่าการ กกท. ในปีนี้ ในขณะนี้ไม่ได้ มีเรื่องของกระบวนการปกติแต่เพียงอย่างเดียว,อย่างที่ทราบกันดี ด้วยมีช่องทางที่สื่อออกมาถึงการเรียกหาการใช้ ม.44 เพื่อต่ออายุให้คนเก่า บิ๊กเสือ สกล วรรณพงษ์ นั่งทำงานไปอีกระยะหนึ่ง,ช่องทางนี้ไม่ได้ระบุถึง ม.44 โดยตรง แต่ท้ายที่สุดหากจะทำก็ต้องใช้ ม.44 เท่านั้น ด้วยเป็นอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของยุคสมัยนี้ สมัยที่ไม่มีประชาธิปไตยอันเป็นปกติ,มีสัญญาณออกมาตั้งแต่ต้นเดือน เริ่มต้นจาก รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองประธานบอร์ดการกีฬาฯ ที่บอกถึงแนวคิดนี้ เล่นเอาคนกีฬาอึ้งไปทั่ว โดยยกเหตุการสานต่อจัดโมโตจีพี และจะเสนอ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานบอร์ดฯ ผู้มีอำนาจเต็ม มาสำทับอีกครั้งในที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกเมื่อสัปดาห์ก่อน,โดย พล.อ.ประวิตร ที่สวมหมวกเป็นประธานโอลิมปิกอีกใบ กล่าวออกมาตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆ ระบุ ผู้ว่าการสกล ได้อยู่อีกนานจนถึงเดือน มิ.ย. และมีโอกาสอยู่ต่อด้วย,นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ที่ดูผู้ว่าการสกล จะกระตือรือร้นมาตลอด ทั้งๆที่ ไม่แน่ใจว่าเป็นงานเป็นภาระหน้าที่ของ กกท.มาเมื่อไหร่ ก่อนยกให้เป็นเครดิตของประธานบอร์ด กกท.อย่างบิ๊กป้อม เป็นผู้ตัดสินใจ,คงไม่ต้องบอกว่า ดูแล้วทางจะสะดวกแค่ไหน,อย่างไรก็ตาม คงต้องมาชั่งน้ำหนักถึงการใช้ ม.44 คำสั่งอันศักดิ์สิทธิ์อันไม่ปกติ ที่ยุคประชาธิปไตยไม่มีทางทำได้ มันมีความจำเป็น ชอบด้วยเหตุ ด้วยผล ระบบกับตัวบุคคล ถ้าไม่ทำวงการกีฬาจะล่มสลายหรือไง ใช้กันง่ายๆอย่างนั้นหรือ,ด้วยยิ่งใช้ ม.44 กับเรื่องหยุมหยิมมากเท่าไหร่ นั่นยิ่งแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการของรัฐบาลชุดนี้มากเท่านั้น,หลัง 30 มิ.ย. คงไม่มี ผู้ว่าเสือ ให้เรียกขาน แต่เราอาจจะมี ผู้ว่า ม.44 เข้ามาแทน,คนกีฬาดีใจกันไหม,เบี้ยหงาย | แม้ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ กกท.คนใหม่ อันเนื่องจากคนเก่าซึ่งก็คือคนปัจจุบัน สกล วรรณพงษ์ จะเกษียณอายุในวันที่ 30 มิ.ย. โดยมอบหมายให้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา | null | เรียงหน้าชน,เบี้ยหงาย,ผู้ว่าการ กกท.คนใหม่,สกล วรรณพงษ์,วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา,อื่นๆ | https://www.thairath.co.th/sport/others/1231916 |
บรรษัทพลังงานแห่งชาติ: เมื่อรัฐจะทวงคืนความเป็นเจ้าของพลังงาน | บรรษัทพลังงานแห่งชาติ ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อเสนอเพื่อการจัดการพลังงานปิโตเลียมที่มีในประเทศไทย ปฏิกิริยาที่มีต่อข้อเสนอดังกล่าวอาจแยกให้เห็นอย่างง่ายๆ ได้เป็น 2 กลุ่มกล่าวคือ กลุ่มผู้สนับสนุนให้มีการจัดตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติ โดยมีเหตุผลสนับสนุนหลักคือ ผลประโยชน์แห่งชาติ ผลประโยชน์แห่งรัฐ หรือผลประโยชน์สาธารณะที่รัฐในฐานะตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศ ควรเป็นผู้มีอำนาจกำกับทรัพยากรทางพลังงานนั้น และแจกจ่ายความมั่งคั่งจากทรัพยากรพลังงานไปสู่ประชาชน หากจะกล่าวในทางทฤษฎี เหตุผลของกลุ่มผู้สนับสนุนบรรษัทพลังงานแห่งชาติวางอยู่บนแนวคิด ชาตินิยมทางพลังงาน (Energy nationalization)ที่ไม่ไว้วางใจกลุ่มทุน หรือกลุ่มชนชั้นนำทางเศรษฐกิจที่มีฐานทรัพยากรทางอำนาจอย่างกว้างขวาง ซึ่งมีกลุ่มทุนเข้ามาครอบครองทรัพยากรทางพลังงานแล้ว มีแนวโน้มที่จะแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าแบ่งปันผลประโยชน์ทางพลังงานไปสู่สาธารณะสำหรับความเห็นอีกกลุ่มเป็นความเห็นต่อต้าน หรือไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติ โดยพื้นฐานความคิดของผู้ต่อต้านบรรษัทพลังงานแห่งชาติ มาจากเหตุผลด้านการบริหารจัดการ ที่หวาดกลัวความไม่โปร่งใส่ การทุจริต การเอื้อผลประโยชน์ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ หากรัฐจะมีอำนาจเต็มในการควบคุมและกำกับบรรษัทพลังงานแห่งชาติ เหตุผลที่สำคัญอีกประการสำหรับการต่อต้านบรรษัทพลังงานแห่งชาติคือ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การฟื้นฟูองค์กรทางธุรกิจซึ่งมีอำนาจหน้าที่บริหารจัดการผลประโยชน์ที่ถูกคาดการณ์ว่ามีเป็นจำนวนมากโดยให้รัฐเป็นผู้บริหารจัดการ อาจหมุนวงล้อประวัติศาสตร์เศรษฐกิจในช่วงทศวรรษที่ 2500 ให้หวนกลับคืนมาสู่สังคมไทย โดยในช่วงเวลาดังกล่าวรัฐมักจัดตั้งรัฐวิสาหกิจขึ้นมาเป็นหน่วยงานที่ทำการผลิตในตลาด อย่างไรก็ตามรัฐวิสาหกิจที่บริหารโดยหน่วยงานรัฐในช่วงดังกล่าวแม้ผูกขาดแต่กลับขาดทุน ส่งผลให้สูญเสียงบประมาณของภาครัฐไปเป็นจำนวนมาก การเปรียบเทียบภาพของรัฐวิสาหกิจในช่วงทศวรรษที่ 2500 กับภาพของบรรษัทพลังงานแห่งชาติในทศวรรษที่ 2560 ดูจะเป็นเรื่องผิดฝาผิดตัว ด้วยเงื่อนไขเสรีนิยมทางเศรษฐกิจได้ผลักดันให้การบริหารจัดการองค์กรทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะอยู่ในกำกับของรัฐหรือเอกชน เดินทางมาไกลจากบริบทในห่วงเวลาทศวรรษที่ 2500 มากแล้ว อย่างไรก็ดีแนวคิดพื้นฐานที่แสดงออกถึงการต่อต้านบรรษัทพลังงานแห่งชาติ กลับมีความน่าสนใจตรงที่ความเห็นคัดค้านบรรษัทพลังงานแห่งชาติ ล้วนสะท้อนให้เห็นความไม่ไว้วางใจในรัฐ และเจ้าหน้าที่รัฐ ในการบริหารจัดการหน่วยงานทางธุรกิจข้อถกเถียง 2 กลุ่มข้างต้นจึงขับเน้นให้เห็นความคิด 2 กระแสที่กำลังปะทะกันในการบริหารจัดการพลังงานของสังคมไทย หากจะพิจารณาปรากฏการณ์บรรษัทพลังงานแห่งชาติจากมุมมองทฤษฎีการเมืองพลังงาน (Energy politics) อาจทำความเข้าใจได้อย่างรวบรัดผ่านแนวคิดที่เรียกว่า การทำให้พลังงานหวนกลับมาเป็นของรัฐ (Energy re-nationalization) David Hall นักวิชาการด้านพลังงานจากมหาวิทยาลัย Greenwich ได้อธิบายว่า การทำให้พลังงานหวนกลับมาเป็นของรัฐ คือ กระบวนการที่ทำให้รัฐสามารถเข้าไปมีบทบาท มีอำนาจควบคุม ดูแล กิจการด้านพลังงานได้อีกครั้ง ภายหลังการแปรรูปกิจการพลังงานไปแล้ว นอกจากนี้นักวิชาการคนดังกล่าวยังได้ทำการสำรวจสถานการณ์ที่รัฐทวงคืนความเป็นเจ้าของในการกำกับ และบริหารจัดการพลังงานของประเทศผ่านงานวิจัยที่ชื่อว่า Energy liberalization privatization and public ownership (2013) โดยชี้ให้เห็นว่า การทำให้พลังงานหวนกลับมาเป็นของรัฐ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นและกระจายตัวไปทั่วทุกมุมโลก หากแต่สถานการณ์ดังกล่าววางอยู่บนเงื่อนไขและเหตุปัจจัยที่ต่างกันออกไป ทั้งในแง่ที่เป็นปฏิกิริยาโต้กลับของรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ต่อบรรษัทพลังงานข้ามชาติ รวมไปถึงการตอบโต้ต่อความล้มเหลวจากการป้องกันผลกระทบในการผลิตพลังงานหากจะทำความเข้าใจการทำให้พลังงานหวนกลับมาเป็นของรัฐ อาจต้องเริ่มทำความเข้าใจจากการทำให้พลังงานกลายเป็นของรัฐ (Energy nationalization) เสียก่อน กล่าวคือ การทำให้พลังงานกลายเป็นของรัฐอาจเกิดขึ้นได้ใน 2 รูปแบบ ในรูปแบบแรก รัฐเป็นผู้สร้างความเป็นเจ้าของเสียเอง รูปแบบนี้เริ่มขึ้นในราวทศวรรษที่ 1920 โดยกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส สเปนและอิตาลี เริ่มจัดตั้งบริษัทน้ำมันแห่งชาติขึ้น (Compagnie Francaise des Petroles Campsa และ AGIP) เพื่อดำเนินการทางธุรกิจด้านพลังงานในนามของรัฐ อย่างไรก็ดียังมีคำอธิบายในแนวทางอื่นๆ เช่น คำอธิบายบางกระแสมองว่าการทำให้พลังงานกลายเป็นของรัฐนั้นเริ่มต้นที่การเกิดขึ้นของสหภาพโซเวียต ซึ่งเข้าไปบริหารจัดการแหล่งน้ำมันในประเทศสืบต่อจากยุคสมัยของพระเจ้าซาร์ สำหรับรูปแบบที่สอง รัฐเข้าไปยึดครองความเป็นเจ้าของ รูปแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศเม็กซิโกราวทศวรรษที่ 1930 เมื่อรัฐบาลของเม็กซิโกในขณะนั้นทำการยึดคืนอุตสาหกรรมน้ำมันในประเทศจากบรรษัทข้ามชาติ และตามติดมาด้วยประเทศโบลิเวียที่ยึดแหล่งน้ำมันในท้องถิ่นคืนจากบริษัท Exxon (Robert Mabro 2007)การทำให้พลังงานกลายเป็นของรัฐได้ขยายตัวและกลายเป็นรูปแบบที่รัฐต่างๆ นิยมใช้กันในการบริหารจัดการพลังงานภายในประเทศ โดยเฉพาะการจัดตั้งบริษัทพลังงานแห่งชาติที่ขยายตัวไปในประเทศที่มีทรัพยากรทางพลังงานอย่างมั่งคั่ง โดยบริษัทพลังงานแห่งชาติมักดำรงอยู่ได้อย่างยาวนานในประเทศผู้ส่งออกพลังงาน อาทิ กลุ่มประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา รวมถึงบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในทางกลับกันประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรทางพลังงานมักละทิ้งบริษัทพลังงานแห่งชาติผ่านการขายความเป็นเจ้าของบริษัทพลังงานแห่งชาติไปให้แก่เอกชน ทั้งในรูปแบบการขายหุ้นของบริษัทพลังงานแห่งชาติในตลาดหลักทรัพย์ การประมูลซื้อหุ้นของบริษัทพลังงานแห่งชาติ รวมถึงการขายบริษัทพลังงานโดยตรงกับผู้ซื้อ (รายละเอียดในเรื่องนี้มีความน่าสนใจและจำเป็นต้องใช้การอธิบายในรายละเอียดจึงขอละไว้ไม่กล่าวถึงในที่นี้)การแปรรูปพลังงาน (Energy privatization) ได้กลายเป็นคลื่นถาโถมแนวคิดการทำให้พลังงานกลายเป็นของรัฐ และสามารถเอาชนะแนวคิดการทำให้พลังงานกลายเป็นของรัฐได้ในราวทศวรรษที่ 1990 ที่กระแสการแปรรูปรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานเติบโตและถูกนำไปใช้ทั่วทุกมุมโลก ทั้งโดยการบังคับขององค์การการเงินระหว่างประเทศ หรือโดยความเต็มใจของรัฐบาลในแต่ละประเทศก็ตาม ในราวทศวรรษที่ 2010 การแปรรูปพลังงานในหลายประเทศถูกต่อต้านอย่างหนักทั้งจาก สหภาพแรงงาน ผู้บริโภคพลังงาน นักเคลื่อนไหวนักสิ่งแวดล้อม นักการเมืองฝ่ายค้าน ประชาชนในท้องถิ่นที่ครอบครองแหล่งพลังงาน ฯลฯ ในบางประเทศตัวแสดงที่เป็นรัฐเองก็ได้แสดงบทบาทต่อต้านการแปรรูปพลังงาน เช่น ศาลในประเทศฝรั่งเศส และอินโดนีเซีย ทหาร ในกลุ่มประเทศแอฟริกา ตัวแสดงดังกล่าวได้ผนึกกำลังเพื่อสร้างพันธมิตรในการต่อต้าน และยับยั้งการแปรรูปพลังงาน จากปรากฏการณ์ดังกล่าวจึงนำมาสู่การเกิดขึ้นของ การทำให้พลังงานหวนกลับมาเป็นของรัฐในช่วงต้นของทศวรรษที่ 2010 โดยเฉพาะประเทศในแทบลาตินอเมริกา ทั้งในอาเจนตินา บราซิล โบลิเวีย โดมินิกัน เวเนซุเอลา รวมไปถึงรัสเซีย อียิปต์ ฟินแลนด์ ลิธัวเนีย และญี่ปุ่น (David Hall 2013) ประเทศเหล่านี้ล้วนได้แปรรูปบริษัทพลังงานแห่งชาติในประเทศของตนไปเรียบร้อยแล้ว กล่าวคือนัยหนึ่งคือ บริษัทพลังงานแหล่งชาติในประเทศดังกล่าวล้วนมีเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแบ่งปันอำนาจเพื่อการบริหารจัดการ แต่รัฐบาลในประเทศดังกล่าวได้พยายามนำบริษัทพลังงานแห่งชาติกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุม บังคับ และบริหารของรัฐบาลอีกครั้ง โดยรัฐบาลในประเทศข้างต้นใช้ 3 เครื่องมือหลักเพื่อการทำให้พลังงานหวนกลับมาเป็นของรัฐ กล่าวคือ การใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจ ผ่านการนำเงินงบประมาณเข้าไปซื้อหุ้นคืนจากเอกชนผู้ถือหุ้น เครื่องมือชนิดนี้ถูกใช้ในประเทศแถบลาตินอเมริกา รัสเซีย และฟินแลนด์ การใช้เครื่องมือทางนโยบายเข้าไปแทรกแซง เครื่องมือในรูปแบบนี้รัฐบาลจะออกนโยบาย หรือแผนงาน หรือมาตรการที่เปิดช่องทางให้รัฐเข้าไปมีอำนาจในการกำกับดูแล ตรวจสอบ และสั่งการบริษัทพลังงานที่ดำเนินการโดยเอกชนได้มากขึ้น ตัวอย่างของประเทศที่ใช้เครื่องมือนี้คือ ประเทศญี่ปุ่นภายหลังเหตุการณ์ระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ-ไดอิจิ และเครื่องมือด้านการบริหารองค์การ โดยรัฐบาลพยายามจัดโครงสร้างองค์กรด้านพลังงานขึ้นมาใหม่ ผ่านการยุบรวมหน่วยงานของรัฐให้เข้าไปอยู่กับองค์กรด้านพลังงานที่ถูกแปรรูปไปแล้ว เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองในบริษัทพลังงานให้แก่รัฐมากขึ้น เครื่องมือในรูปแบบนี้ถูกใช้โดย ประเทศลิธัวเนีย และโบลิเวียสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ารูปแบบที่รัฐบาลทั้งหลายใช้เพื่อสร้างการทำให้พลังงานหวนกลับมาเป็นของรัฐนั้นก็คือ เมื่อรัฐจะเรียกคืนความเป็นเจ้าของเหนือการบริหารจัดการพลังงาน รัฐจะมีหรือให้คำอธิบายที่สะท้อนถึงตรรกะและเหตุผลที่ชอบธรรมอย่างไร จากประเทศตัวอย่างข้างต้นอาจจะสรุปอย่างคร่าวๆ ได้ว่า การทำให้พลังงานหวนกลับมาเป็นของรัฐ เกิดขึ้นจากเหตุผลประการแรกคือ รัฐบาลต้องการควบคุมการเข้าถึงพลังงาน ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความยุติธรรมทางพลังงาน ทั้งราคา เชื้อเพลิงที่จะใช้เพื่อการผลิตพลังงาน และผลประโยชน์จากแหล่งพลังงาน ประการที่สอง รัฐบาลต้องการเข้าไปควบคุมผลกระทบภายนอกที่เกิดจากกระบวนการผลิตพลังงาน ซึ่งมักหาผู้รับผิดชอบได้ยาก หรืออาจหาผู้รับผิดชอบได้ แต่ความรับผิดชอบก็เกินกำลังของเอกชน- David Hall. Energy liberalization privatization and public ownership. London: Public Services International Research Unit 2013.- Robert Mabro. Oil Nationalism the oil industry and energy security concerns in Area: International Economy and Trade 114/ 2007 2007. | บรรษัทพลังงานแห่งชาติ ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อเสนอเพื่อการจัดการพลังงานปิโตเลียมที่มีในประเทศไทย ปฏิกิริยาที่มีต่อข้อเสนอดังกล่าวอาจแยกให้เห็นอย่างง่ายๆ ได้เป็น 2 กลุ่มกล่าวคือ | เศรษฐกิจ,สิ่งแวดล้อม | การแปรรูปพลังงาน,ชุมพล อุ่นพัฒนาศิลป์,บรรษัทพลังงานแห่งชาติ,พลังงาน | https://prachatai.com/journal/2017/03/70835 |
3สาวทมิฬ หลบซบแก๊งว้า หนีคดีโหดหั่นศพ ประสานพม่าไล่ล่า | ไร้ร่องรอย รอง ผบช.ภ.4 เผยชนวนเหตุมาจากผู้ตายแจ้งเบาะแสยานรกจนตำรวจจับผัว 1 ในผู้ต้องหาสาว เลยแค้นลงมือฆ่าโหด ยันไม่เกี่ยวแก๊งยาข้ามชาติสั่งตัดตอน ขณะที่พนักงานสอบสวนนำผู้ต้องหาหนุ่มคนขับรถพาเหยื่อไปสังหารฝากขังศาลผัดแรก,กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ได้รับความสนใจทั้งประเทศ กรณีตำรวจจับนายวศิน นามพรหม อายุ 22 ปี และ น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรหมคุณ อายุ 21 ปี แก๊งฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา หรือแอ๋ม กลิ่นจุ้ย อายุ 22 ปี สาวคาราโอเกะในเมืองขอนแก่นยัดใส่ถังพลาสติกฝังดินที่บ้านโนนสง่า หมู่ 9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ขณะที่ น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 22 ปี หัวโจกทีมสังหาร น.ส.กวิตา หรือเอิญ ราชดา อายุ 22 ปี และ น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี เผ่นหนีข้ามแดนไปกบดานฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา อยู่ระหว่างประสานงานเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ส่วนปมฆ่าอำมหิตคาดว่าผู้ตายเป็นสายแจ้งจับเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงสามีของ น.ส.ปรียานุช และอาจเป็นใบสั่งแก๊งยานรกฆ่าตัดตอน,ความคืบหน้าการไล่ล่าแก๊งสาวทมิฬฆ่าหั่นศพสาวคาราโอเกะ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ ผกก.ตม.เชียงราย พร้อมคณะเดินทางข้ามด่านพรมแดนไปที่ ตม.ท่าขี้เหล็ก ฝั่งประเทศเมียนมาเพื่อขอข้อมูลความเคลื่อนไหวของ น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 22 ปี หัวโจกทีมสังหาร น.ส.กวิตา หรือเอิญ ราชดา อายุ 22 ปี และ น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี หลังตรวจสอบพบมีการทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว 7 วันข้ามไป จ.ท่าขี้เหล็ก เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนศาลออกหมายจับในวันที่ 27 พ.ค. และใบอนุญาตบัตรข้ามแดนสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. หากเจ้าหน้าที่พม่าจับกุมได้อาจแจ้งข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด จากนั้นจะส่งตัวมาดำเนินคดีในฝั่งไทย,ขณะเดียวกัน ตำรวจ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ประสานเจ้าหน้าที่เมียนมาในการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพบว่าเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เบ็น อดีตพนักงานของร้านโอโซนแอนด์คาราโอเกะ จ.ท่าขี้เหล็ก ฝั่งเมียนมาและอยู่ใน จ.อุบลราชธานี ได้โทรศัพท์ไปหานายเก๋ คนไทยที่ไปเช่าร้านโอโซนคาราโอเกะต่อจากกลุ่มมูเซอ เพื่อขอกลับมาทำงาน พร้อมมีเพื่อนสาวอีก 3 คนที่ขอตามมาทำงานอยู่ด้วย จากนั้นวันที่ 25 พ.ค. น.ส.ปรียานุช น.ส.กวิตา และ น.ส.อภิวันท์ ผู้ต้องหานั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯไปลงที่สนามบิน จ.เชียงราย แล้วนั่งรถแท็กซี่ต่อไปยังชายแดน อ.แม่สาย นายเก๋เจ้าของร้านโอโซนคาราโอเกะสั่งให้นายหนึ่ง ลูกน้องขับรถปิกอัพฟอร์ด 4 ประตู สีขาว ทะเบียน กพ 2258 เชียงราย มารับข้ามสะพานด่านพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ไปทำงานที่ร้านโอโซนคาราโอเกะ,ต่อมาวันที่ 27 พ.ค. ทั้งสามออกไปกับแขกกลุ่มว้าที่มาเที่ยวบริการแล้วหายตัวไป กระทั่งตำรวจสืบสวนภาค 4 ประสานงานมายังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย และ สภ.แม่สาย ช่วยประสานติดต่อเจ้าหน้าที่ทางการพม่าในการติดตามจับกุม ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้ามแดนไปติดต่อเจ้าหน้าที่ของพม่าบุกตรวจค้นแหล่งหลบซ่อนตัว แต่ไม่พบร่องรอย พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่พม่าเรียกนายเก๋ เจ้าของร้านคาราโอเกะมาสอบสวน ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาทั้งสามคนร่วมกันก่อเหตุฆ่าหั่นศพ และกดดันให้นายเก๋ แจ้งเบาะแสติดตามผู้ต้องหาทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว,สายวันเดียวกัน พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภาค 4 เรียกประชุมชุดสืบสวนติดตามคดีดังกล่าวที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น มี พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก. สส.3 และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ร่วมหารือ พล.ต.ต.เจริญวิทย์ เปิดเผยหลังประชุมว่า คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.แอ๋ม ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง และศาลออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 4 คน ประกอบด้วยนายวศิน นาม–พรหม น.ส.กวิตา หรือเอิญ ราชดา น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย และ น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรหมคุณ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์ หรือรับของโจร,รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ตำรวจติดตามจับกุมนายวศิน เรียบร้อยแล้วที่ สปป.ลาว นำตัวมาสอบสวนรับสารภาพว่าทำหน้าที่ขับรถยนต์ฮอนด้าซีอาร์วี ที่น.ส.เปรี้ยว เช่ามาจากบริษัทรถเช่าในเมืองขอนแก่น ไปรับน.ส.แอ๋ม ในรถมี น.ส.เอิญ นั่งคู่ที่เบาะหน้า ส่วนเบาะหลัง น.ส.แอ๋ม คนตายนั่งกลาง น.ส.เปรี้ยว ประกบด้านซ้าย มี น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต นั่งประกบด้านขวา มีการทำร้าย น.ส.แอ๋มจนสิ้นใจในรถแล้วเอาศพไปหั่นที่รีสอร์ตบ้านหัวถนน หมู่ 5 ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น จากนั้น น.ส.เปรี้ยว ลงมือใช้เลื่อยหั่นศพในห้องน้ำแล้วช่วยกันยกใส่ถุงดำยัดใส่ถังดำไปฝังในพื้นที่บ้านโนนสง่า หมู่ 9 ต.คำม่วง เขาสวนกวาง ส่วน น.ส.จิดารัตน์ มอบตัวกับตำรวจเรียบร้อยแล้ว ให้การปฏิเสธไม่ได้มีส่วนรู้เห็นและลงมือฆ่าน.ส.แอ๋ม,พล.ต.ต.เจริญวิทย์กล่าวอีกว่า สำหรับ น.ส.เปรี้ยว และ น.ส.เอิญตรวจสอบพบว่าเดินทางไปทำงานในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ออกนอกประเทศที่ชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทั้งทราบอีกว่า น.ส.แจ้ที่นายวศินให้การซัดทอดว่านั่งในรถคืนไปรับ น.ส.แอ๋มขึ้นรถก็เดินทางออกนอกประเทศพร้อมผู้ต้องหาทั้งสองคน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ น.ส.อภิวันท์ ในข้อหาเดียวกัน และได้ประสานงานกับทางการเมียนมาพบว่าทำงานอยู่ในร้านคาราโอเกะจริง แต่หลังมีการเสนอข่าวออกไปทั้งหมดหายตัวไป ทั้งนี้การสืบสวนติดตามจับกุมยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่เปิดเผยเชิงลึกไม่ได้เพราะจะกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ,ส่วนกรณีมีข่าวว่าการตายของ น.ส.แอ๋มครั้งนี้มีขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ สั่งอุ้มฆ่าหรือฆ่าตัดตอนนั้น การสืบสวนยังไม่มีข้อมูลในจุดนี้ แต่ทราบว่าเมื่อเดือนตุลาคม 2559 น.ส.แอ๋ม แจ้งตำรวจจับกุมสามีของ น.ส.เปรี้ยว ในคดียาเสพติด เจ้าหน้าที่ ปส.และตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น สามารถจับกุมสามี น.ส.เปรี้ยวพร้อมผู้ต้องหารายอื่นๆได้หลายคน จุดนี้เป็นปมความแค้นส่วนตัวที่ น.ส.เปรี้ยวตัดสินใจลงมือฆ่า น.ส.แอ๋ม ส่วนการลงมือฆ่าและมีบุคคลใดร่วมขบวนการอีกนั้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวน รอง ผบช.ภ.4 กล่าว,ด้าน พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. กล่าวว่า สั่งการให้หัวหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงรายรับผิดชอบด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย-เมียนมา จุดที่หนึ่งที่เชื่อมมายังท่าขี้เหล็ก ประสานกับทางฝ่าย ตม.ของเมียนมา กับเจ้าหน้าที่ของเมียนมาตั้งแต่สองสามวันที่ผ่านมา มีการพูดคุยและร่วมค้นหา ขณะนี้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยแต่ยังไม่แน่ใจว่าใช่ผู้ต้องหาหรือเปล่า กำลังตรวจสอบกันอยู่ โดยได้รับความร่วมมือจากทางการเมียนมาเป็นอย่างดี,ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราษฎร์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เขาสวนกวาง คุมตัวนายวศิน 1 ในผู้ต้องหาไปฝากขังศาลผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน โดยพ.ต.ท.ศุภฤกษ์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว แต่ญาติสามารถนำหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัวในชั้นศาลถึงเวลา 17.00 น. หากเลยกำหนดผู้ต้องหาจะถูกควบคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางขอนแกนทันที ส่วน น.ส.จิดารัตน์ ยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางขอนแก่น หลังจากพนักงานสอบสวนส่งฝากขังผัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา และยื่นขอประกันตัวไม่ทัน ขณะที่ น.ส.อภิวันท์ ที่หนีออกนอกประเทศล่าสุดศาลออกหมายจับแล้วในข้อหาเดียวกัน,นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ใช้ทุกช่องทางในการติดตามตัว น.ส.ปรียานุช และเพื่อนกลับมาสอบข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดหรือไม่ ป.ป.ส.ไทยประสานกับ ป.ป.ส.เมียนมาและใช้เครือข่ายโครงการแม่โขงปลอดภัย ทหารใช้ช่องทางหน่วยประสานไทย-พม่า (ทีบีซี) ตำรวจ สภ.แม่สาย ประสานกับตำรวจฝั่งท่าขี้เหล็ก หลังจากรับรายงานว่าผู้ต้องหาหลบหนีในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์ผู้ต้องหาโพสต์เฟซบุ๊กไปเที่ยวกาสิโนต่างประเทศ ใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยใช้ของแบรนด์เนม และโพสต์รูปเงินจำนวนมาก ถือว่ามีพฤติกรรมอันน่าสงสัย หลังจากนี้ถ้ายังจับกุมผู้ต้องหาไม่ได้ก็เป็นได้สูงว่าน่าจะหนีเข้าไปอยู่ในเขตพื้นที่ปกครองพิเศษที่ทางการพม่าไม่สามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบได้ มีความเป็นไปได้ว่า น.ส.ปรียานุช อาจเป็นผู้เก็บเงินจากการค้ายาเสพติดให้ กับพ่อค้ายาชาวพม่า ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร หลังจากนี้ ป.ป.ส.จะตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ น.ส.ปรียานุช และญาติที่เกี่ยวข้อง,ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 11.45 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพี่สาว น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพระบุว่าโทษประหารไม่มีจริง ให้น้องสาวกลับมารับโทษว่า โทษประหารชีวิตมีอยู่ในกฎหมาย แต่เรารับปากที่ประชุมกรรมการสิทธิมนุษยชนที่กรุงเจนีวา ขอร้องให้เรายกเลิกโทษดังกล่าวว่ายังยกเลิกไม่ได้ ในความผิดใหม่จะไม่กำหนดโทษประหารชีวิต และจะทยอยเปลี่ยนจากโทษที่บังคับให้ประหารชีวิตอย่างเดียวให้มีทางเลือกจำคุกตลอดชีวิตหรือ 20 ปีได้ และ 8-9 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีการบังคับใช้โทษประหารชีวิตจริง เนื่องจากมีการถวายฎีกาและต้องรอพระราชวินิจฉัย อีกทั้งตามมาตรฐานสหประชาชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชนโลกถือว่าในประเทศที่มีโทษประหารชีวิต แต่ไม่บังคับประหารใครจริงในระยะ 10 ปี ให้ถือว่าไม่มีโทษประหารชีวิต เมื่อถามว่าการไม่ปฏิบัติจริงทำให้ผู้กระทำผิดไม่ยำเกรงกฎหมาย นายวิษณุตอบว่า กระแสโลกมี 2 กระแส คือทำเสียเลยผู้กระทำผิดจะได้ยำเกรง อีกกระแสคือโทษประหารชีวิตรุนแรงขัดต่อหลักมนุษยธรรม ถ้าลงโทษผิดตัวจะแก้ไขไม่ได้ | ตม.เชียงรายบุกถิ่นพม่าล่า 3 สาวแก๊งฆ่าหั่นศพสาวร้านคาราโอเกะ หลังพบบัตรข้ามแดนขออยู่ในราชอาณาจักรหมดอายุ 31 พ.ค. พร้อมสอบเจ้าของร้านคาราโอเกะท่าขี้เหล็กที่ให้ผู้ต้องหาทำงานด้วย ก่อนถูกลูกค้ากลุ่มว้าหิ้วออกจากร้านหายตัว | null | ฆ่าหั่นศพ,ฆ่าสาวคาราโอเกะ,แก๊งว้า,หลับหนี,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/content/960123 |
สนามช้างฯ-จีทีเอ จับมือยาว ประกาศจัด ซูเปอร์ จีที ไทยแลนด์ ปีหน้า | เผยความร่วมมือเดินหน้าพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ประกาศเดินหน้าจัด ซูเปอร์ จีที ไทยแลนด์ เริ่มต้นปีหน้า,วันที่ 9 ต.ค. 59 ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ร่วมกับ มร.มาซากิ บันโดะ ประธานบริษัท จีทีเอ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันรายการ ซูเปอร์ จีที แถลงข่าวรายละเอียดการแข่งขัน บุรีรัมย์ ซูเปอร์ จีที เรซ โดยมีใจความหลักอยู่ที่เรื่องสัญญาความร่วมมือในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และการจับมือกันเพื่อพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตในเมืองไทย,นายเนวิน เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณฝ่ายจัดการแข่งขันซูเปอร์จีที ที่ให้การไว้ใจสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ให้จัดการแข่งขันเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน พวกเราดีใจ เพราะรายการนี้เรายกให้เป็นรายการรถยนต์รายการที่ยิ่งใหญ่ และเป็นรายการที่สำคัญของสนามเรา ปีนี้ถือเป็นปีที่สนุกมากอีกปี เพราะทุกอย่างมีการพัฒนายกระดับให้น่าตื่นเต้น และยิ่งใหญ่ขึ้น เราจะเห็นว่ารถที่ใช้ในการแข่งขันทั้ง จีที 500 และจีที 300 มีสมรรถนะดีขึ้นเยอะ ซึ่งดูได้จากเวลาในรอบการฝึกซ้อม และการควอลิฟาย ซึ่งก็ทำลายเวลาของ 2 ปีที่ผ่านมา,ส่วน 2 ทีมของไทยที่ได้สิทธิไวด์การ์ด ในรุ่นจีที 300 ก็ถือว่าเราทำได้ดี หากรวมรถทั้งหมดแล้วเอามาเรียงกัน จะเห็นว่าทีมแข่งของไทยมีเวลาที่ดีขึ้น สามารถสู้กับรถของทางญี่ปุ่นได้อย่างใกล้เคียง แต่เราก็ต้องมีเรื่องที่จะต้องปรับอีกเยอะ เพราะรถญี่ปุ่นก็ดีขึ้นเยอะเรื่อยๆ,เป้าหมายในปีต่อๆ ไป นโยบายของเรายังยึดถือแบบเดิม คือยกให้รายการแข่งขันซูเปอร์ จีที เป็นรายการรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของสนามช้าง อินเตอร์ เนชั่นแนลเซอร์กิต ปี 2017 และ 2018 รายการนี้จะต้องยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก และสนุกตื่นเต้นขึ้นไปอีก ชั่วโมงนี้หากไม่นับรวมรถฟอร์มูลาร์ วัน ผมว่าไม่มีเรซไหนน่าสนใจไปกว่า ซูเปอร์จีที อีกแล้ว โดยในปีต่อๆ ไปนอกจากการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตแล้ว เรายังพัฒนาเมืองควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ทั้งชาวต่างชาติ และสื่อมวลชนมีความสะดวกสบายมากที่สุดระหว่างการแข่งขัน และเพื่อปูทางในการดึงโมโตจีพี มาแข่งขัน ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในอนาคต นายเนวิน กล่าว,ด้าน มร.มาซากิ บันโดะ กล่าวว่า สนามช้างฯ เป็นตัวเลือกสำคัญของ ซูเปอร์ จีที มาตลอด ย้อนหลังไปเมื่อปี 2014 ตั้งแต่มีสนามเกิดขึ้นที่นี่ ทำให้เราทีความมั่นใจกับการเดินทางมาแข่งขันในเมืองไทย เพื่อจัดการแข่งขัน ซูเปอร์จีที ส่วนตัวอยากบอกคนไทยว่า คุณเนวิน มีความตั้งใจจริงในการตั้งเป้าหมายให้มอเตอร์สปอร์ตพัฒนาต่อไปในระยะยาว ต้องขอขอบคุณที่สร้างสนามแห่งนี้ ซึ่งช่วยยกระดับมอเตอร์สปอร์ตไทย และการจัดซูเปอร์ จีที ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เรามีฐานแฟนชาวไทย เพิ่มมากขึ้น ภาพรวมทั้งหมดของสนาม ตัวเมืองบุรีรัมย์ และสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้การจัดการแข่งขันลุล่วงไปด้วยดี ส่วนรถทีมไทยเสียเปรียบทีมจากญี่ปุ่น เพราะเพิ่งมาถึง ทำให้ต้องปรับตัวมากกว่า ขณะที่เวลาในการซ้อมค่อนข้างจำกัด,ทั้งนี้ อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคือ ความร่วมมือของ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และ จีทีเอ ซึ่งล่าสุดที่มีการหารือเกี่ยวกับการก่อตั้งการแข่งขันรายการใหม่อย่าง ซูเปอร์ จีที ไทยแลนด์ ขึ้นในปีหน้า,โดย มร.บันโดะ กล่าวว่า เรามีความสนใจที่จะร่วมมือกับ สนามช้างฯ ในการยกระดับการแข่งขันในเมืองไทย ซึ่งได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดการแข่งขัน ซูเปอร์ จีที ไทยแลนด์ ขึ้นมา ซึ่งจะช่วยยกระดับทีมแข่งและนักขับไทยให้สามารถต่อสู้กับทีมแข่งทั่วโลกได้ โดยเฉพาะในการแข่งขัน ซูเปอร์จีที นั่นเอง,ขณะเดียวกัน นายเนวิน กล่างทิ้งท้ายว่า ผมขอประกาศตรงนี้เลยว่า เราจะเดินหน้าเต็มที่เพื่อให้มีการแข่งขันรายการ ซูเปอร์ จีที ไทยแลนด์ เกิดขึ้นภายในปี 2017 เพื่อพัฒนาทีมแข่งไทย, นักแข่งไทย และแสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวของมอเตอร์สปอร์ต | สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ แถลงข่าวร่วมกับ จีทีเอ ฝ่ายจัดการแข่งขัน ซูเปอร์ จีที โยงยาวตามสัญญาถึงปี 2018 พร้อมยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง | null | บุรีรัมย์ ซุปเปอร์จีที,บุรีรัมย์ ซุปเปอร์จีที เรซ,บุรีรัมย์ ซุปเปอร์ จีที เรซ 2016,บิ๊กเน,เนวิน ชิดชอบ,มร.มาซากิ บันโดะ,สนามช้าง | https://www.thairath.co.th/content/748452 |
รองพ่อเมืองภูเก็ต ยัน รพ.วชิระฯ แยกห้องตรวจ โควิด-19 ชัดเจน | รอง ผวจ.ภูเก็ต เผยกรณีหมอแจ้งความ ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่แยกตรวจผู้ต้องสงสัยโควิด -19 กับผู้ป่วยทั่วไปไม่เป็นความจริง มีการแยกตรวจชัดเจน และอยู่ระหว่างการสร้างห้องแยกเพิ่มอีก 7 ห้อง เตรียมแถลงรายละเอียดบ่ายนี้สืบเนื่องจากกรณีมีแพทย์หญิงคนหนึ่งได้เข้าพบ ร.ต.อ.อุดม เพ็ชรรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ นพ.เฉลิมพงศ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และ พ.ญ.ศุภลักษณ์ ละอองเพชร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายการแพทย์ โดยกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติ หรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตเป็นเหตุให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสาธารณชน เหตุเกิดปลายเดือนมกราคม 2563 ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 1 มีนาคม 2563 (อ่านเป็นเรื่อง หมอแจ้งความผอ.วชิระภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19)จากการสอบถาม นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับประเด็นดังที่มีหมอภูเก็ตแจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต บอกว่า ทราบเรื่องแล้ว โดยได้รับรายงานจากผู้อำนวยฯ ซึ่งในส่วนของภูเก็ต นับจากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว จังหวัดภูเก็ต โดย นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินจังหวัดภูเก็ต (Emergency Operation Center: EOC) โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ขึ้นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2563 เพื่อติดตามสถานการณ์และการดำเนินการตรวจคัดกรอง เฝ้าระวังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของโรคดังกล่าวตั้งแต่ระดับโลก ระดับประเทศและระดับจังหวัดในส่วนของโรงพยาบาลได้มีการจัดศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อทำการตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการต้องสงสัยและมาตรวจรักษาโดยเฉพาะ มีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจเช็กอาการเบื้องต้น และสอบถามประวัติผู้ป่วยเบื้องต้น แยกออกมาจากตัวอาคารของผู้ที่มาตรวจปกติ เพื่อจะได้ไม่ไปปะปนกันในตัวอาคารที่ตรวจผู้ป่วยปกติ หากพบต้องสงสัยว่าเข้าข่าย จะมีการนำตัวไปที่ห้องพักชั่วคราว หรือห้องความดันลบหรือห้องเน็กกะทีฟเพรชเชอร์ เพื่อทำการเก็บตัวอย่างเลือดไปตรวจสอบ จากนั้น นำตัวขึ้นรถปิดมิดชิดไปยังห้องพักพิเศษต่างหาก เพื่อรอผลการวิเคราะห์ ซึ่งตนก็ได้ไปติดตามอยู่ตลอด และล่าสุดเพิ่งเข้าไปเมื่อเย็นวานนี้ (2 มี.ค.63)นายพิเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่า จากที่มีการกล่าวหาว่า ไม่มีการแยกตรวจระหว่างผู้ป่วยต้องสงสัยกับผู้ป่วยปกตินั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตนได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง และในส่วนของห้องสำหรับให้ผู้ป่วยต้องสงสัยเพื่อรอดูอาการนั้นก็มีการจัดห้องไว้โดยเฉพาะ ซึ่งจังหวัดภูเก็ต โดยผู้ว่าราชการจังหวัด พยายามจัดหางบประมาณเพื่อทำการปรับปรุงห้องเดี่ยวเพื่อให้เป็นห้องแยกโรคโดยเฉพาะ อยู่ระหว่างดำเนินการและยังไม่แล้วเสร็จ จำนวน 7 ห้อง นอกจากห้องที่มีอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางโรงพยาบาลได้มีการดำเนินการอย่างเต็มที่ และแก้ปัญหากันมาโดยตลอดขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกโรงพยาบาลในส่วนของรัฐดำเนินการเช่นเดียวกัน คือ การแยกตรวจผู้ป่วยต้องสงสัยกับผู้ป่วยปกติ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลป่าตองหรือโรงพยาบาลถลาง เพราะการจะนำผู้เข้าข่ายต้องสงสัยไปไว้เฉพาะโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง อาจจะเป็นการยาก และหากชัดเจนเกินไปก็จะกลายเป็นที่รังเกียจของประชาชนทั่วไปได้ จึงพยายามแยกผู้ป่วยต้องสงสัยกับผู้ป่วยทั่วไปไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้อำนวยการฯ ได้ ชี้แจงประเด็นดังกล่าวให้ผู้เกี่ยวข้องทราบแล้ว และรายงานให้ผู้ว่าฯ ทราบตลอด ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการตามขั้นตอนมาโดยตลอดรอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวขณะที่ พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจได้สอบปากคำผู้แจ้งเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อจะให้ดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมายผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (3 มีนาคม 2563) ทางจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จะมีการแถลงข่าว ประเด็น หมอภูเก็ต แจ้งความ ผอ. และ รองผอ.รพ.วชิระภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ป้องกันโควิด-19 ณ ห้องประชุมฉัตรฟ้า ชั้น 6 อาคารบ้านคุณพุ่ม รพ.วชิระภูเก็ต | รองผวจ.ภูเก็ต เผยกรณีหมอแจ้งความผอ.รพ.วชิระภูเก็ตละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่แยกตรวจผู้ต้องสงสัยโควิด -19 กับผู้ป่วยทั่วไปไม่เป็นความจริง มีการแยกตรวจชัดเจน และอยู่ระหว่างการสร้างห้องแยกเพิ่ม | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า 2019,แจ้งความผอ.รพ.วชิระภูเก็ต,พิเชษฐ์ ปาณะพงศ์,เฉลิมพงศ์ สุคนธผล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1785460 |
เร่งสอบ ดาบตำรวจ ปล่อยเยี่ยมผู้ต้องหายามวิกาล ก่อนหลบหนี | กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะที่ ด.ต.ฉลาด แน่นอุดร ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ปฏิบัติหน้าที่สิบเวร และเปิดประตูห้องขังให้นายสุรศักดิ์ คันทะมาตร์ และนายสุรชัย ภูมิภาค ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ออกมาพบแฟนสาวเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะหลบหนีไปแม้ ด.ต.ฉลาด จะยืนยันว่า ไม่มีเจตนาช่วยเหลือผู้ต้องหาให้หลบหนี แต่ถือเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบ เนื่องจากญาติจะสามารถเข้าไปภายในห้องนี้ได้เฉพาะเวลาที่กำหนด โดยต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และหลังจากเวลา 17.00 น. ญาติ หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่สามารถเข้าไปภายในห้องขังได้พ.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง กล่าวว่า การเข้าเยี่ยมในยามวิกาล ซึ่งเป็นช่วงผิดปกติวิสัยที่ญาติผู้ต้องขังจะเข้าเยี่ยม รวมถึงมีการเตรียมรถยนต์เพื่อใช้หลบหนี ทำให้ตั้งข้อสังเกตว่า ด.ต.ฉลาด อาจมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว ประกอบกับ ด.ต.ฉลาด เคยปฏิบัติงานในชุดปราบปรามยาเสพติด อาจทำให้รู้จักกันและอาศัยความคุ้นเคย ขอเข้าพบผู้ต้องหาในยามวิกาล ส่วนจงใจปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนหาข้อเท็จจริงทั้งนี้ นายสุรชัย และนายสุรศักดิ์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดร้อยเอ็ดในเช้าวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัว และแจ้งข้อหาทั้ง 2 คนเพิ่ม ฐานหลบหนีไประหว่างคุมขัง ส่วน น.ส.เสาวลักษณ์ เสมอใจ และ น.ส.ไอรดา พลเยี่ยม ถูกแจ้งข้อหา ช่วยเหลือให้ผู้อื่นหลบหนีจากการคุมขัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี ขณะที่ ด.ต.ฉลาด ถูกตั้งข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 และถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน | ผู้บังคับบัญชา ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีดาบตำรวจ สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ปล่อยแฟนผู้ต้องหาคดียาเสพติดเข้าเยี่ยมยามวิกาลจนหลบหนี เบื้องต้นถูกตั้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และให้ออกจากราชการไว้ก่อน | อาชญากรรม | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,สภ.โพนทอง,ปล่อยผู้ต้องหาหนี | https://news.thaipbs.or.th/content/262714 |
ชมพระเมรุมาศนับแสนต่อวัน เสนอนายกฯขยายระยะเวลา | ประชาชนทุกหมู่เหล่าเดินทางมาชมความสง่างามของพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวงอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งวันที่ 20 พ.ย. พร้อมเข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยหลังจากประชาชนผ่านจุดคัดกรองเข้าไปคอยในเต็นท์แล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ปล่อยให้เข้ารั้วพระเมรุมาศ ต่างพากันนำกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือมาเก็บภาพแปลงนา กังหันน้ำชัยพัฒนา และพระเมรุมาศที่ตั้งอยู่กลางสนามหลวงอย่างสง่างาม หลายรายพากันก้มลงกราบที่พื้นด้วยความเคารพและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อคนไทยอย่างหาที่สุดมิได้ ก่อนที่จะเดินเข้าชมนิทรรศการต่างๆ ภายในอาคารประกอบรอบพระเมรุมาศ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะประกาศห้ามนำไม้เซลฟี่และห้ามไลฟ์สด แต่มีประชาชนบางส่วนฝ่าฝืนจนเจ้าหน้าที่ต้องเดินเข้าไปขอร้องให้หยุดการกระทำเพราะผิดระเบียบข้อบังคับในการเข้าชม หลังจากเข้าชมพระเมรุมาศทุกคนจะได้รับแจกโปสต์การ์ดภาพพระเมรุมาศในเวลาค่ำคืนเป็นที่ระลึกอีกด้วย,พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมติดตามและประเมินผลการดำเนินงานนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และลงพื้นที่ติดตามการเข้าชมพระเมรุมาศและอาคารประกอบต่างๆว่า การดำเนินงานจัดระบบการเข้าชมพระเมรุมาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนทุกคนให้ความร่วมมือ ร่วมใจในการเข้าชมอย่างเป็นระเบียบ มีความพึงพอใจในการรับชมพระเมรุมาศ โดยยอดรวมผู้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 2-19 พ.ย.2560 มีจำนวนพุ่งถึง 1,352,502 คน ในช่วง 3 วันที่ผ่านมามียอดผู้เข้าชมวันละไม่ต่ำกว่าแสนคน ซึ่งคณะทำงานยินดีต้อนรับ โดยเน้นการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวก,รองนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่พบว่าในแต่ละวันมีนักเรียนมารอเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้จัดเตรียมอาหารไว้บริการ ก่อนเปิดให้เข้าชมเวลา 07.00 น. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมต้อนรับผู้เข้าชมตั้งแต่เวลา 06.00 น. เพื่อเปิดให้ประชาชนเข้ามาพักคอยที่จุดคัดกรองเร็วขึ้น ขณะเดียวกัน ได้ขอให้ช่วยดูแลผู้ที่เดินทางเข้าชมนิทรรศการคนเดียว เพื่อช่วยให้บริการทั้งวีลแชร์ หรือบริการถ่ายภาพ ขณะนี้เป็นช่วงที่มีพายุฝนตกอย่างต่อเนื่องจึงขอให้ผู้จะเข้าชมพระเมรุมาศเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งร่มและเสื้อกันฝน ส่วนประชาชนที่มาเป็นหมู่คณะ ขอให้แจ้งล่วงหน้ามาที่สายด่วนวัฒนธรรม โทร. 1765 เพื่อประสานงานกำหนดจุดนัดพบเพื่อเข้าชมพระเมรุมาศเป็นกลุ่ม ทั้งหมดจะต้องผ่านจุดคัดกรองก่อน แล้วเข้าคิวตามเวลา โดยจะไม่แซงคิวประชาชนที่มาต่อคิว,การจัดนิทรรศการพระเมรุมาศ มีประชาชนสนใจมากขึ้น นับว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษาที่มียอดเข้าชมมากถึง 2.2 แสนคน ผู้พิการ 2.4 หมื่นคนที่ได้มาศึกษาหาความรู้ ให้มีความรักชาติ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ที่น่าพอใจคือมีผู้เข้าชมมากขึ้นเรื่อยๆวันละมากกว่า 1 แสนคน เมื่อเทียบกับสถิติการเข้าชมสถานที่สำคัญในต่างประเทศ ได้ส่งหนังสือเพื่อขยายวันจัดนิทรรศการออกไปเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้ว พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าว | การดำเนินงานจัดระบบการเข้าชมพระเมรุมาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนทุกคนให้ความร่วมมือ ร่วมใจในการเข้าชมอย่างเป็นระเบียบ มีความพึงพอใจในการรับชมพระเมรุมาศ | ข่าว,ทั่วไทย | พระเมรุมาศ,ในหลวง ร.9,สนามหลวง,นิทรรศการ,โปสต์การ์ด,ข่าวรัชกาลที่9 | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1131895 |
ยธ.โชว์ผลงานยึดทรัพย์ 5 เครือข่ายยาเสพติด พบเงินหมุนเวียนกว่า 5 พัน ล. | เมื่อวันที่ 10 เม.ย.63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงาน ปปง. แถลงผลงานบูรณาการยึดทรัพย์สิน ในการตัดเส้นทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด พร้อมโชว์ผลยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดกว่า 70 ล้านบาท ยอดเงินหมุนเวียนในเครือข่ายกว่า 5000 ล้านบาทโดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ก.พ.63 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มาประชุมเกี่ยวกับเรื่องของการปราบปรามการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ที่กระทรวงยุติธรรม และได้มอบนโยบายในหลายแนวทาง โดยเน้นเรื่องของการยึดทรัพย์สิน เพื่อสกัดกั้นหรือตัดวงจรการค้าของเครือข่ายยาเสพติดนายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนในนามของผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งมีอำนาจในการตั้งคณะกรรมการคณะทำงานต่างๆ จึงได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด เหมือนเป็นอนุกรรมการ มี นายนิยม เติมศรีสุขเลขาธิการ ป.ป.ส.เป็นประธานศูนย์ และได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนทางการเงิน เพื่อการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ที่มี นายอุทัย สินมา รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานคณะทำงานสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดนายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังวันที่ 7 ก.พ.ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบาย ทำให้งานที่มีเปลี่ยนเป็นมุ่งเน้นการขยายผลการทำธุรกรรมทางการเงิน หากจับได้หนึ่งคดีอาจจะไม่สามารถสืบสาวราวเรื่องไปยังการทำธุรกรรมการเงินได้ และในขณะนี้ลองถึงว่าหนึ่งคดีจะให้ผู้ที่เชี่ยวชาญในการสืบสาวคดีต่างๆ หาเส้นทางทางการเงินของบัญชี เช่น กรณีเครือข่ายยาเสพติดรายหนึ่ง ที่สามารถตรวจสอบบัญชีได้เป็นพันๆ บัญชี มีเงินโอนผ่านบัญชีได้กว่า 5000 ล้าบาท ในปี 2561 แต่ไม่ได้หมายความว่าเงินยังอยู่ในบัญชี เพราะเป็นลักษณะน้ำไหล เราจะสกัดกั้นหรือเอาน้ำที่ไหลผ่านตรงนั้นมาเป็นของหลวงเสียให้หมด เราจะทำได้อย่างไรนี่จึงเป็นคำถามที่คณะทำงานด้วยกัน และสังคมทั่วไปถามตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไรนายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จึงจำเป็นต้องมีการแก้ระเบียบกฎหมายต่างๆ อีกมากมาย เพื่อดำเนินการตรงนี้ แต่ระหว่างที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องของกฎเกณฑ์หรือวิธีการรูปแบบใหม่ แต่เราจะทำไปให้ได้ อาจจะต้องใช้คอนเน็กชั่นส่วนตัวของผู้ที่ร่วมแรงร่วมใจทำงาน และไปสกัดกั้นในเรื่องของการสื่อโอนย้ายอายัดทรัพย์สินต่างๆ แล้วลูกหลานของคนไทยจะต้องพิกลพิการไปไม่รู้กี่คนจากการเสพยาเสพติด เราจึงต้องบูรณาการร่วมกัน จึงเห็นว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จะเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่จะมีการเพิ่มเข้าไป เพราะดีเอสไอสามารถสืบสวนหาข้อเท็จจริงก่อนที่คดีจะเกิดขึ้นได้นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เครือข่ายที่มีการยึดทรัพย์ คือ 1.เครือข่าย นายอดิศักดิ์ พื้นที่ กทม.-นนทบุรี อายัด 2.09 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน 2.เครือข่าย นายสุทธิชัย จ.เชียงราย-ตาก พบการหมุนเวียน 425 บัญชี วงเงิน 3300 ล้านบาท 3.นายอรรถพล จ.สงขลา พบเงินหมุนเวียน 285 บัญชี มูลค่ากว่า 1700 ล้านบาท 4.เครือข่าย นายสมเกียรติ ปัจจุบันถูกจับขังที่ท่าขี้เหล็ก อายัดได้ 45 ล้านบาท และ 5.เครือข่ายจางซื่อ คนจีน ที่ จ.เพชรบุรี จับแล้วยึดได้กว่า 130 ล้านบาท และจะอายัดเพิ่ม 14 ล้านบาทขณะที่ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายค้ายาเสพติด มีแหล่งผลิตอยู่นอกประเทศไทย เป็นที่ทราบทั่วกัน ซึ่งในประเทศไทย ยังไม่มีแหล่งผลิตยาเสพติด โดยการนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นระบบ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีการนำเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ส่งต่อกันเป็นทอดๆ โดยใช้บัญชีการเงินเป็นตัวกลางในการใช้จ่ายในเครือข่าย โดยส่วนใหญ่แล้ว การนำเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเรื่องของความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งจะต้องใช้ พ.ร.บ.มาตรการการฟอกเงิน 2542 เพื่อตัดและทำลายวงจรนี้ ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ปฏิบัติตามคำสั่งที่ 6/2563 ในการเข้าจับกุมครั้งนี้ มี 3 เครือข่าย 27 เป้าหมายบุคคล 15 จุด ปฏิบัติการ คือ จ.เชียงราย 12 จุด จ.เชียงใหม่ 1 จุด จ.ตาก 1 จุด และ จ.สระบุรี 1 จุด สามารถยึดทรัพย์สินได้จำนวน 23 ล้านบาท อายัดบัญชีที่ใช้ในการฟอกเงิน 715 บัญชี พบการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัญชีว่า 5000 ล้านบาทด้าน นายเทพสุ บวรโชติดารา ผู้อำนวยการกองข่าวกรองทางการเงิน สำนักงาน ป.ป.ง. กล่าวว่าข้อมูลที่ ป.ป.ง.ตรวจพบในการรับโอนเงินผ่านช่องทางทาง EDM ATM E-Banking มากกว่า 100 รายการใน 1 เดือน มีการถอนเงินออกผ่านช่องทางทาง ATM ในพื้นที่จังหวัดใช้แดนทางภาคเหนือพื้นที่เสี่ยงซึ่งมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษส่วน นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ตามที่มีข้อเน้นย้ำของนายกรัฐมนตรี และดำริจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้แนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกัน 3 แนวทาง คือ การบูรณาการร่วมกันในการปฏิบัติ เครื่องมือหรือกฎหมาย และกลไกต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติการครั้งนี้มีการร่วมกันหลายมีงาน แต่ละหน่วยงานมีประเด็นและข้อจำกัด ฉะนั้นการนำกฎหมายของแต่ละหน่วยงานมาร่วมกันในการดำเนินการเพื่อปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดและฟอกเงินเป็นสิ่งสำคัญ | รมว.ยุติธรรม ตั้งโต๊ะแถลงโชว์ผลงานยึดทรัพย์ 5 เครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ กว่า 70 ล้านบาท ชี้ยังพบเงินหมุนเวียนกว่า 5000 ล้านบาท | ข่าว,ทั่วไทย | สมศักดิ์ เทพสุทิน,รมว.ยุติธรรม,ยาเสพติด,ยึดทรัพย์,เครือข่ายยาเสพติด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1817746 |
ผวาหลุมยุบ จ.พิษณุโลก นักธรณีวิทยา คาดน้ำใต้ดินแห้ง | กรณีชาวบ้านแจ้งให้เจ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบหลุมยุบขนาดใหญ่ บริเวณ บ้านมุง หมู่ 2 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก วันนี้ (18 มิ.ย.2563) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ดร.น้ำฝน คำพิลัง นักธรณีวิทยาชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต1 (ลำปาง) ที่เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุหลุมยุบ ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสจ.) เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานข้าตรวจสอบหลุมยุบนักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี ระบุว่า หลุมยุบขนาดกว้าง 7.60 เมตร ยาว 7.70 เมตร ความลึก 2.6-3 เมตร เกิดบริเวณไร่ข้าวโพด ห่างจากถ้ำเดือนถ้ำดาวประมาณ 200 เมตร ซึ่งโชคดีที่หลุมยุบไม่เกิดในพื้นที่ชุมชน จึงไม่อันตรายมาก แต่ก็ถือว่ามีความน่ากลัว โดยทางกรมทรัพยากรธรณีจะลงสำรวจทางธรณีฟิสิกส์ว่ามีรอบๆ มีรอยแยกรอยแตกเพิ่มเติมหรือไม่ ถ้าเจอรอยแยกอาจจะเสี่ยงที่หลุมจะขยายความกว้าง และอาจเกิดในจุดอื่นๆได้ โดยจะเตือนชาวบ้านให้ช่วยเฝ้าระวัง สังเกตสิ่งผิดปกติภาพ:กรมทรัพยากรธรณีดร.น้ำฝน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในพื้นที่ใกล้เคียง เคยเกิดหลุมยุบลักษณะเดียวกันมาแล้ว 2-3 ครั้งในปีเคยเจอปี 2558 และหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 เพราะสภาพพื้นที่ซึ่งเป็นชั้นตะกอนทรายปนดินเหนียวที่รองรับด้วยหินปูนในระดับตื้นทั้งนี้กรมทรัพยากรธรณี และทสจ.พิษณุโลก ได้แนะนำให้เทศบาลต.บ้านมุงและประชาชน เฝ้าระวังและสังเกตการขยายตัวของหลุมยุบอย่างต่อเนื่อง หากไม่พบการเปลี่ยนแปลง ให้ทำการฝังกลบตามหลักวิศวกรรม โดยเริ่มจากการถมก้อนหินที่มีขนาดใหญ่เท่าที่จะหาได้ในพื้นที่ลงไปก่อน แล้วถมดินลูกรังอัดตามลงไปจนเต็มหลุม พร้อมกดทับให้แน่น ในขณะที่ถมดินให้ฉีดน้ำทุกระยะ และหากพบว่าหลุมยุบมีการขยายตัว และมีรอยแตกหรือสิ่งผิดปกติในบริเวณใกล้เคียงให้แจ้งทันทีภาพ:กรมทรัพยากรธรณี | กรมทรัพยากรธรณี ทสจ.พิษณุโลก สำรวจหลุมยุบขนาดใหญ่กว่า 7 เมตรกลางไร่ข้าวโพด ยังต้องระวังรอบพื้นที่ว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มหรือไม่ คาดสภาพธรณีเป็นหินปูนเมื่อระดับน้ำใต้ดินแห้งแล้ง ประกอบกับมีฝนตกลงมาดินที่อุ้มน้ำด้านบนไม่ไหวจึงทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ | สิ่งแวดล้อม | หลุมยุบ,พิษณุโลก,น้ำใต้ดิน,กรมทรัพยากรธรณี | https://news.thaipbs.or.th/content/293735 |
คนงานเฒ่าชะตาขาด ตกรถพ่วง บล็อกซีเมนต์ร่วงตามมาทับ ไส้ทะลักกลางถนน | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ต.ค. 59 พ.ต.ท.สมัย มงคลชู สว.(สอบสวน) สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งมีเหตุคนงานตกจากรถพ่วง ลงมาท้องแตก ไส้ทะลักออกหน้าท้อง ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่หน้าร้านโฮมมาร์ท เลขที่ 69 บ้านเกล็ดลิ่น หมู่ 4 ต.หนองแวง อ.เมืองร้อยเอ็ด ถนนสาย จ.ร้อยเอ็ด ไป จ.กาฬสินธุ์ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยอโสกร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่พยาบาล รพ.จังหาร ไปที่เกิดเหตุ,พบผู้บาดเจ็บรายนี้ คือ นายทองดี นิลพันธ์ อายุ 64 ปี ชาวบ้านโนนสว่าง หมู 3 ต.เหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด คนงานร้านร้อยเอ็ดวัสดุ ถูกนำส่ง รพ.ร้อยเอ็ด แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา,จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายทองดี พร้อมเพื่อนคนงาน นั่งอยู่ในกระบะไม่มีขอบของรถพ่วง 22 ล้อ ทะเบียน 82–1295 ร้อยเอ็ด วิ่งกลับจากส่งคอนกรีตบล็อกบาร์เรลให้ลูกค้าก่อสร้างที่ จ.กาฬสินธุ์ มุ่งหน้ากลับเข้า จ.ร้อยเอ็ด แต่ขณะถึงหน้าร้านโฮมมาร์ท บ้านเกล็ดลิ่น หมู่ 4 ต.หนองแวง อ.เมืองร้อยเอ็ด มีรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ คันหนึ่ง วิ่งแซงด้านซ้ายมืแล้วเลี้ยวตัดหน้ารถพ่วงอย่างกระชั้นชิด ทำให้ นายมานิต ภูเงิน อายุ 53 ปี คนขับรถพ่วง 22 ล้อ ต้องเลี้ยวหลบ,จังหวะนั้นกระบะรถพ่วงได้ส่ายอย่างรุนแรง สลัดร่าง นายทองดี ซึ่งนั่งอยู่กับเพื่อนคนงานอีก 2 คน บนแผ่นคอนกรีตบล็อกบาร์เรล ที่กระบะไม่มีขอบ ตกลงไปนอนกลางถนนหน้าร้านโฮมมาร์ท ขณะเดียวกัน คอนกกรีตบล็อกบาร์เรล รูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัส ยาวด้านละ 1.5 เมตร น้ำหนักก้อนละกว่า 40 กก. จำนวนหลายก้อน ได้หล่นตามไปทับหน้าท้องของ นายทองดี จนท้องแตกลำไส้ทะลักออกมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วไปเสียชีวิตที่ รพ.ร้อยเอ็ด ดังกล่าว,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา นายมานิต ภูเงิน คนขับรถพ่วง ว่า ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | คนงานร้านวัสดุก่อสร้างที่ร้อยเอ็ด นั่งท้ายรถพ่วงไปส่งของที่กาฬสินธุ์ ขากลับมีรถปิกอัพวิ่งแซงซ้ายแล้วปาดหน้า คนขับหักหลบ สลัดร่างลุงวัย 64ปีร่วงกลางถนน เคราะห์ร้ายถูกบล็อกซีเมนต์ที่บรรทุกมาร่วงตามลงมาทับไส้ทะลัก ไปตายที่ รพ. | null | ตกรถพ่วง,คนงานตกรถพ่วง,ไส้ทะลัก,บล็อกซีเมนต์ทับ,อิฐบล็อกทับคนงาน,ร้อยเอ็ด | https://www.thairath.co.th/content/751437 |
โจรแสบงัดร้านลาบยโส ฉกเครื่องปรุง-ถ้วยชาม สูญกว่า 2 พัน เผ่นลอยนวล | ,เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 มิ.ย.62 ร.ต.อ.สุพัตร ชนะกิจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในร้านลาบเยื้องวิทยาลัยเทคนิคยโสธร อ.เมือง จ.ยโสธร จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองยโสธร,ที่เกิดเหตุชื่อร้านป๋าต๋ง ลาบยโสธร ที่มี น.ส.มะลิ มีศิริ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 8 ต.ค้อเหนือ อ.เมือง จ.ยโสธร เป็นเจ้าของร้าน ยืนหน้าตาตื่น รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบพบถังน้ำแข็งมีร่องรอยถูกงัดจนพัง สิ่งของภายในถังหายไป ประกอบด้วย เนื้อวัว 2 กิโลกรัม, เนื้อหมู 1 กิโลกรัม, เนื้อไก่ 1 กิโลกรัม, ผักชนิดต่างๆ และเครื่องในหมู 1 กิโลกรัม ใกล้กันบริเวณหน้าครัวทำอาหารพบ หม้อ 1 ใบ, ถ้วยและจาน 10 ใบ, แก้ว 10 ใบ, ถังน้ำดื่ม 1 ถัง, พริกผง, ข้าวคั่ว, น้ำปลา, ผงชูรส และเครื่องปรุงต่างๆ หายไปจากชั้นวาง รวมมูลค่ากว่า 2,000 บาท ,จากการสอบถาม น.ส.มะลิ กล่าวว่า วานนี้ (12 มิ.ย.) ตนปิดร้านประมาณ 16.30 น. และเก็บเนื้อสัตว์และผักต่างๆ เก็บไว้ภายในถังน้ำแข็ง จากนั้นกลับไปบ้านพัก กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาจะเข้ามาเปิดร้านจนพบว่าถังน้ำแข็งถูกงัด และตรวจสอบภายในมีเนื้อสัตว์และผักต่างๆ หายไปจากในถังน้ำแข็ง จากนั้นไปตรวจสอบบริเวณทำอาหาร พบเครื่องปรุงต่างๆ หายไปจำนวนมาก ซึ่งครั้งแรกตนไม่กล้าแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากกลัวสามีดุด่า กระทั่งมาบอกความจริงกับสามีตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ,ฉันเหนื่อยใจมาก เพราะเนื่องจากช่วงนี้ขายอาหารไม่ค่อยดี แต่กลับมีโจรมาขโมยเนื้อและอุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ หายไป ซึ่งคาดว่าโจรคงนำสิ่งที่ขโมยไปปรุงลาบรสเด็ดกินจนอิ่มสำราญ น.ส.มะลิ กล่าว,ด้าน ร.ต.อ.สุพัตร กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองยโสธร เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | โจรแสบ งัดร้านลาบยโส ขโมยเครื่องครัว พร้อมเครื่องปรุง เกือบเกลี้ยงร้าน เจ้าของร้านพ้อเหนื่อยใจ ของขายไม่ดี แถมถูกโจรขโมยของอีก คาดนำไปปรุงลาบกินจนอิ่มสำราญ | ข่าว,ทั่วไทย | ขโมยของ,งัดร้านลาบ,ร้านลาบยโส,โจรงัดร้านลาบ,โจรขโมยของ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1591311 |
คณะสงฆ์สกลนคร เดินหน้าสกัดโควิด-19 งดกิจกรรมคนเยอะ สวมหน้ากากอนามัยในวัด | คณะสงฆ์สกลนคร ออกประกาศมาตรการควบคุมและป้องกันโควิด-19 สำหรับพระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนที่มากราบนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุม พร้อมเลื่อนกิจกรรมที่มีคนหมู่มาก เตรียมเจลล้างมือตั้งทุกจุกภายในวัด ใส่หน้ากากอนามัยสวดมนต์ เว้นระยะห่างนั่งสมาธิ 2 เมตร ตั้งเป้าตัดเย็บหน้ากากผ้า 10000 ชิ้น แจกประชาชนเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เขตเทศบาลนครสกลนคร พระครูศรีสกลวรานุกิจ (ดร.สุริยา) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ประกาศให้โรคติดต่อโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย อีกทั้งมหาเถรสมาคมมีมติที่ 137/2563 เรื่อง มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับพระภิกษุสามเณร ดังนั้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค พระเทพสิทธิโสภณ เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร จึงได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 ขอให้คณะสงฆ์จังหวัดสกลนครดำเนินการดังนี้1.หลีกเลี่ยงการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 จนกว่าจะพ้นช่วงการแพร่ระบาดของโรค2.กรณีมีเหตุผลหรือความจำเป็นอย่างยิ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางไปหรือแวะผ่านประเทศ หรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคได้ ให้เฝ้าระวังต่อเนื่องจนครบ 14 วัน เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว3.งดหรือเลื่อนกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่มีคนหมู่มาก เช่น งานปฏิบัติธรรม งานปริวาสกรรม งานวัด งานผูกพันธสีมา งานประจำปี กิจกรรมบรรพชาสามเณรฤดูร้อน เป็นตันหากวัดไม่สามารถงดหรือเลื่อนได้เว้นแต่มีความจำเป็น ให้แจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนระดับอำเภอให้แจ้งนายอำเภอ และให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ขอให้พระภิกษุ สามเณร ปฏิบัติตามมาตรการและข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัดสำหรับบรรยากาศการเข้าวัดทำบุญที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พบว่าประชาชนเข้าวัดกันบางตา ทางวัดปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยพระสงฆ์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ภายในวัดใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือเป็นประจำเพื่อป้องกันโรค ทางวัดได้จัดเตรียมเจลล้างมือไว้เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและพระสงฆ์ได้ใช้ทุกจุดในส่วนของการสวดมนต์ทำวัตรเย็น พุทธศาสนิกชนต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า พร้อมเว้นระยะห่างที่นั่งสวดมนต์ 2 เมตร นอกจากนี้ทางชมรมคนรักพระธาตุเชิงชุม ร่วมกับพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธา กำลังดำเนินการตัดเย็บหน้ากากผ้า เพื่อมอบให้กับประชาชนที่มาทำบุญที่วัด ตั้งเป้า 10000 ชิ้น ในส่วนของพระสงฆ์ได้มอบหน้ากากอนามัยที่ตัดเย็บจากผ้าจีวร เสริมชั้นกรอง 3 ชั้น เพื่อป้องกันโรค โดยจะดำเนินการไปจนกว่าสถานการณ์โรคจะคลี่คลายลง. | คณะสงฆ์สกลนครออกกฎเหล็กควบคุมและป้องกันโควิด-19 สำหรับพระเณรและชาวพุทธ สวมหน้ากากอนามัยสวดมนต์ เลื่อนกิจกรรมคนหมู่มาก เว้นระยะห่างนั่งสมาธิ ทำหน้ากากผ้าหมื่นชิ้นแจกชาวบ้าน | ข่าว,ทั่วไทย | โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสอู่ฮั่น,หน้ากากอนามัย,วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร,สกลนคร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1797008 |
รักนานมากๆ 13 ปี ตั้งแต่เรียน ม.ต้น ลูกตาล-ตั้ม เพื่อนซี้ โตโน่ | ดาราเซ็กซี่มีแววรุ่งแรงอยู่ ลูกตาล ทิพย์รัตน์ อมาตยกุล,แฟนเพลงของโตโน่ ต้องคุ้นหน้ากันแล้ว ตั้ม ภาณุพงศ์ มือกลองจากวงโตโน่แอนด์เดอะดัสต์ ไปทัวร์คอนเสิร์ตทั้งในและต่างประเทศต้องมีตั้มติดไปด้วยตลอด จะขาดมือกลองอีกคนสำคัญของวงไม่ได้นะ ก่อนหน้านี้ตั้มเคยมีดราม่าแรง โพสต์ไอจีด่าแหกนักร้องดัง ก้อง ห้วยไร่ กรณีเบี้ยวงานทัวร์ยุโรป จบดราม่าไปแล้ว ตอนนี้ตั้มยังอยู่ในช่วงทะนุถนอมรักอุ่นๆ กับ ลูกตาล ทิพย์รัตน์ อมาตยกุล อดีตมิสทีนไทยแลนด์ Miss Teen Thailand ได้ที่ 3 ปี 2008 แฟนทีวีน่าจะคุ้นหน้ากันอยู่ ลูกตาลเคยไปอวดฝีมือการแสดงมาแล้ว ในละครสถานีบานฉ่ำ ,สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายรณพีร์ เจมส์ มาร์ ,นารีริษยา ทางช่อง 3 และละครเรื่องพี่เลี้ยง ช่อง 8 ฯลฯ,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยๆ เรื่องหัวใจรักมั่นคงยาวนานกับตั้ม ภาณุพงศ์ รักกันนานมากๆ ถึงมากที่สุด รักกันดีมากี่ปีแล้ว? น่าจะ 13 ปีแล้วครับ รู้จักกันตั้งแต่เรียนมัธยมต้นแล้วครับ ตอนนั้นผมอยู่ ม.3 เค้าอยู่ ม.2 รักนานรักทนจริง? ครับผม (ยิ้มแรงๆ),ตั้มต้องไปตะลอนทัวร์คอนเสิร์ตบ่อยๆ กับโตโน่ น่าจะไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกันกับแฟน จะทำยังไงให้ลูกตาล แฟนเราเชื่อใจวางใจได้? ครับ ก็ทำทุกอย่างที่ทำให้เขาเชื่อใจได้ ถ้าผมทำอะไรให้ได้ ผมก็จะทำ เพื่อรักษาความรักนั้นไว้ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เรารักกันได้นานครับ (ยิ้มอ่อน). | ตีเก่งตีแรง ตีได้เร้าใจเว่อร์ๆ มือกลองหน้าหล่อ ตั้ม ภาณุพงศ์ เดชจรัสศรี มือกลองจากวง โตโน่แอนด์เดอะดัสต์ ตอนนี้ยังอินเลิฟแรงๆ ดีอยู่กับ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ตั้ม ภาณุพงศ์ เดชจรัสศรี,ลูกตาล ทิพย์รัตน์ อมาตยกุล,ตั้ม ลูกตาล แฟน,ตั้ม มือกลองโตโน่แอนด์เดอะดัสต์,ลูกตาล คุณชายรณพีร์ เจมส์ มาร์,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1396769 |
พลังท้องถิ่นไท เปิดตัว 30 ผู้สมัคร ส.ส. มั่นใจได้ที่นั่งในกทม.แน่ | วันที่ 4 ม.ค. นายชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท เปิดเผยว่า สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร พรรคได้เปิดแนวคิดกระจายอำนาจกรุงเทพมหานครให้ 2,000 ชุมชนในกรุงเทพฯ มีอำนาจในการบริหารชุมชนด้วยตนเอง โดยจะมอบให้ชุมชนละ 1 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้ดีขึ้นในหลายด้าน อาทิ การแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในชุมชน การติดตั้งกล้องวงจรปิด การเรียนภาษาต่างประเทศ ตลอดจนการสร้างอาชีพในชุมชนด้วยเช่นกัน,การกระจายอำนาจในเขตกรุงเทพมหานครตามนโยบายของพรรคพลังท้องถิ่นไทนั้น จะทำให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมานั้นไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร และหลังจากนี้จะสามารถเปลี่ยนคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และนี่ถือเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่พรรคการเมืองจะมองเห็นว่าปัญหาของกรุงเทพมหานครแท้จริงก็สาเหตุมาจากปัญหาการพัฒนาแบบกระจุกตัว ซึ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในด้านคุณภาพชีวิตภายในชุมชน,ด้านนายชื่นชอบ คงอุดม โฆษกพรรค กล่าวเสริมว่า นโยบายของพรรคพลังท้องถิ่นไท ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาหาบเร่-แพงลอย สู่อาชีพที่มั่นคง และการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาอันดับต้นของกรุงเทพฯ รวมถึงปัญหาการศึกษาที่ไม่สามารถปรับตัวตามกระแส,การเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกมาเป็นสำคัญ พร้อมย้ำว่าพรรคได้รวบรวมผู้สมัครจากหลาก หลายวงการหลากหลายอาชีพที่มาพร้อมกับประสบการณ์ และคร่ำหวอดในวงการด้านการเมือง อีกทั้งพรรคยังเปิดโอกาสให้กับกลุ่มคนนักการเมืองรุ่นใหม่ได้นำความรู้และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานของพรรคอีกด้วย และความตั้งใจของคนทั้งสองรุ่นในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดแนวทางการเมืองรูปแบบใหม่ที่เน้นให้ประชาชนเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาประเทศ,ด้าน นายประสบโชค ธรรมรักษา ว่าที่ผู้สมัคร เขตบางเขน นักการเมืองรุ่นใหม่ของพรรค กล่าวว่า ในฐานะที่ผมเป็นคนรุ่นใหม่ ก่อนอื่นผมต้องเข้าไปรับฟังปัญหา และข้อคิดเห็นจากแต่ละชุมชนในทุกช่องทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางโซเชียลมีเดียของพรรค ซึ่งทำให้เราสามารถเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น เราต้องเริ่มต้นจากการรับฟังก่อนถึงจะรู้สาเหตุของปัญหาที่แท้จริงเพื่อนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และทุกขั้นตอนการทำงาน ประชาชนต้องสามารถตรวจสอบได้ ประชาชนต้องมีอำนาจมากกว่ารัฐครับ | ชัชวาลย์ คงอุดม นำ พลังท้องถิ่นไท เปิดตัว 30 ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ มั่นใจ ได้ที่นั่งในกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน มุ่งเน้น แก้หาบเร่แผงลอย ยาเสพติด | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,ชัชวาลย์ คงอุดม,พลังท้องถิ่นไทย,เปิดตัว 30ส.ส.กทม.,มั่นใจได้ที่นั่งส.ส.กทม.แน่,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1461616 |
บทเรียนจากโรงพยาบาลกะพ้อ จังหวัดปัตตานี | โรงพยาบาลกะพ้อ จังหวัดปัตตานี เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 10 เตียง ตั้งอยู่ตอนล่างของจังหวัดปัตตานีติดกับจังหวัดยะลาและนราธิวาส ดูแลประชากร 3 ตำบล 27 หมู่บ้าน ประชากรจำนวน 15000 คน เกือบทั้งหมดนับถือศาสนาอิสลาม เป็นอำเภอขนาดเล็กที่ผู้คนมีวิถีชีวิตที่พึ่งพาอำเภอสายบุรีที่อยู่ห่างออกไปเพียง 15 กิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนยาง มีสถานีอนามัยในพื้นที่จำนวน 6 แห่ง ณ.เดือนกุมภาพันธ์ 2548 โรงพยาบาลกะพ้อมีบุคลากรทั้งสิ้น 60 คน เป็นแพทย์ 2 คน ทันตแพทย์ 1 คน เภสัชกร 2 คน และพยาบาล 28 คน นพ.เดชา แซ่หลี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกะพ้อ ได้นำเสนอบทเรียนที่เป็นประสบการณ์ตรงหลายกรณีที่น่าสนใจของโรงพยาบาลกะพ้อต่อกรณีความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ การออกไปชันสูตรศพ กรณีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ โดยตำรวจยืนยันว่าต้องการให้หมอต้องออกไปชันสูตรศพ ซึ่งเมื่อถึงที่เกิดเหตุ คุณหมอเดชาซึ่งไปชันสูตรศพเองพบว่า ไม่มีใครตามเข้าไปเลย มีศพ 1 ศพที่เลือดแห้งแล้ว ก็เลยเรียกให้ทหาร ตำรวจมาช่วย ณ.เวลานั้นได้เริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอภัย รุ่งขึ้นปรากฏว่าเกิดเหตุระเบิดใกล้ที่ชันสูตรศพนั้นมาก เชื่อว่าเกิดจากการวางระเบิดเอาไว้ใกล้ๆ เพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปชันสูตรศพ อีกเหตุการณ์คือ กรณีที่ตำรวจให้ไปชันสูตรศพอีก โดยแจ้งว่าเป็นกรณีพิเศษ มีปัญหาแน่หากแพทย์ไม่ออกไปเพราะเป็นกรณีที่ชาวบ้านข้องใจ เมื่อออกไปดู ที่ถนนคนแน่นมาก ไม่สามารถเอารถเข้าไปได้ จนต้องเดินเข้าไป พอไปถึงตำรวจไม่สามารถกันชาวบ้านได้ ชาวบ้านตีโอบล้อมเข้ามา ในขณะนั้นรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยมาก จึงขอให้ทางตำรวจเคลื่อนย้ายศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาล ในความเป็นจริงแล้ว แม้ว่าทางกระทรวงจะมีคำแนะนำว่า หากไม่ปลอดภัยไม่ต้องไปชันสูตรศพ แต่ในสถานการณ์จริงก็ยากที่จะปฏิเสธได้ ดังนั้นการเตรียมความพร้อม ไหวพริบและการประสานงานกับทางตำรวจจึงมีความสำคัญมากเพื่อลดโอกาสของความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด ในเรื่องของการวางระเบิดในโรงพยาบาล ตอนเช้ามืดของวันหนึ่ง ได้มีวัยรุ่นเข้ามาในโรงพยาบาล เข้ามาทางประตู ยามได้เห็น วัยรุ่นวิ่งออกไป จากนั้นมียามบอกว่ามีถุงวางไว้ที่ป้อมยามวางไว้นาน 2 ชั่วโมงแล้ว นพ.เดชาในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลและยามจึงเดินเข้าไปดู ยามบอกว่าในถุงมีสายไฟ ดูแปลก ผิดปกติ จึงตามตำรวจมาดู ตำรวจนึกง่ายๆว่าน่าจะเป็นการขู่ จึงเขี่ยๆดู พบว่าเป็นของจริง และได้ไปหายางรถมาล้อมกันไว้ หน่วยกู้ระเบิดจึงนำออกไปและทำลาย สรุปว่าเป็นการข่มขู่ทำให้เข้าใจว่าเป็นระเบิดแต่จากบทเรียนในครั้งนั้น ทั้งฝ่ายโรงพยาบาลและตำรวจต่างก็ประมาทมากที่เข้าไปเขี่ยๆดู เพราะหากเป็นระเบิดจริงแล้วอาจระเบิดตูมขึ้นมาก็ได้ ซึ่งจะเกิดความสูญเสียอย่างมาก ดังนั้นเมื่อพบวัตถุต้องสงสัย ควรยึดหลักปลอดภัยไว้ก่อน ให้ผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการเก็บกู้ กรณีการข่มขู่ทางโทรศัพท์ โดยในคืนวันศุกร์วันหนึ่ง ได้มีโทรศัพท์ขู่มาว่าคืนนี้ หมอกับพยาบาลตายแน่ ทางโรงพยาบาลจึงได้ติดต่อกับทหารตำรวจเจ้าหน้าที่เพื่อขอกำลังคุ้มกัน และเรียกระดมเจ้าหน้าที่ทุกคนในบ้านพักมานอนรวมกันที่บนตึก มีทหารตำรวจคุ้มกันเป็นจุด ๆ แต่ก็ไม่เกิดเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ต่อมาคืนวันเสาร์ ก็มีการโทรขู่อีกว่าจะทำจริง หมอกับยามตายแน่ ต่อมาการขู่ครั้งที่สามนั้นตำรวจเป็นคนรับสายเอง แต่ไม่มีใครพูด และมีข่าวปล่อยลือออกมาว่า กลุ่มโจรจะมีการบุกยึดโรงพักด้วย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคนจึงถูกระดมมานอนรวมกันบนโรงพยาบาล พยายามเลือกหาห้องที่ปลอดภัยมีหน้าต่างน้อยที่สุดเพื่อให้ปลอดภัยจากระสุนมากที่สุด แต่ก็แทบไม่มีห้องเช่นว่านั้น ได้มีการติดต่อตำรวจ ทหาร ให้มาช่วยดูแล เขาเองก็ส่งกำลังมาได้ไม่กี่คน เพราะกำลังที่จะดูแลโรงพักและอำเภอก็ยังไม่พอ ต้องเกลี่ยกำลังคนกัน และตำรวจเองก็กลัวว่าจะเป็นการขู่ลวงที่โรงพยาบาลเพื่อให้กำลังที่โรงพักมีน้อยจะได้โจมตีโรงพักได้ง่ายขึ้น ในวันนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ก็ทำให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง นอกจากนี้ในวันนั้น แพทย์พยาบาลก็ยังได้บอกกล่าวสถานการณ์ให้ผู้ป่วยและญาติทราบ คนไข้คนใดที่พอไหวก็ให้กลับบ้านได้ ที่หนักยังควรต้องนอนโรงพยาบาลก็ส่งต่อไปนอนโรงพยาบาลสายบุรี เพื่อความปลอดภัยต่อมาทางโรงพยาบาลได้ติดต่อกับองค์การโทรศัพท์ เรื่องขอหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถแสดงหมายเลขโทรเข้าได้ (โชว์เบอร์) เพื่อให้ทราบหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามามาข่มขู่ แต่องค์การโทรศัพท์จัดหาให้ไม่ได้ จึงได้นำหมายเลขโทรศัพท์ของโรงพยาบาลมาต่อกับโทรศัพท์มือถือทำให้โชว์เบอร์ได้ จากนั้นก็มีโทรศัพท์ขู่เข้ามาอีก เป็นหมายเลขตู้สาธารณะของโรงพยาบาลบ้าง มือถือบ้างก็แจ้งทางตำรวจให้ไปจัดการได้ตรงเป้ามากขึ้น หลังจากนั้นก็มีการคุยทบทวนกับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลว่า ที่ผ่านมามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นที่ โรงพยาบาลบ้าง หรือมีเหตุการณ์ใดที่ทำให้คนในพื้นที่ไม่พอใจหรือไม่ ซึ่งทุกคนก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร ความสัมพันธ์กับชุมชนยังดีมาก เมื่อได้มีการพูดคุยกันไป ก็พบว่ามีเหตุการณ์หนึ่งแปลกๆกล่าวคือ มีคนไข้วัยรุ่นคนหนึ่งกินยาเข้าไปเป็นจำนวนมาก เพื่อนๆ ซึ่งเป็นวัยรุ่นอีก 4-5 คน ตามมาส่งผู้ป่วย ระหว่างให้การดูแลที่ห้องฉุกเฉิน หมอก็ได้บอกให้เพื่อนนั้นออกไปรอข้างนอก ซึ่งเขาก็ทำตาม แต่ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเหมือนเดินสำรวจโรงพยาบาล ไปที่ยามบ้าง ดูบอร์ดบุคลากรบ้าง เป็นต้น การข่มขู่เจ้าหน้าที่ ได้มีการเขียนชื่อยามเพื่อเป็นการข่มขู่ที่หน้าตู้ไปรษณีย์ ว่าตายแน่ ยามคนนั้นจึงได้ตัดสินใจลาออก เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ต้องหาคนมาเป็นยามแทนซึ่งหายากมาก ครั้นจะไปขอกำลังจาก อส. หรือตำรวจทหาร ซึ่งทางเขาก็หนักมากกันอยู่แล้ว ไม่สามารถช่วยเหลือได้ จึงได้ระงับการลาออกของยาม และได้ให้เขาไปพักผ่อนก่อน 1-2 สัปดาห์ และให้มาประจำยามบนตึกแทนป้อมยาม หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบไป อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของโจรก่อการร้ายสูงมาก กลุ่มโจรได้บุกยึดโรงพักและที่ว่าการอำเภอมาแล้วในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อประกาศศักดาว่า สามารถยึดศูนย์กลางอำนาจรัฐในอำเภอได้ แต่อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลกะพ้อมีจุดแข็งที่สำคัญยิ่งอย่างน้อย 3 ประการที่ทำให้สถานการณ์ความไม่สงบนั้นมีผลกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไม่มากเท่ากับความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ ที่ผ่านมาโรงพยาบาลมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับชุมชน แม้เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก แต่ก็ได้รับความศรัทธาจากชุมชน ทำให้ไม่มีเงื่อนไขสำหรับฝ่ายตรงข้ามในการโจมตีการทำงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลกะพ้อส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ทำให้แม้จะมีความหวั่นไหว แต่ก็มีการขอย้ายออกก็ไม่มากนัก และอยู่ในวิสัยที่พูดคุยขอร้องให้ร่วมแรงทำงานกันต่อไปได้ ผู้นำองค์กรทั้งในระดับโรงพยาบาลคือตัวผู้อำนวยการโรงพยาบาล และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด มีความเข้าใจในบทบาทในฐานะผู้นำในสภาวะวิกฤต ที่ต้องนิ่ง ไม่คิดสละเรือเอาตัวรอด มีความเสียสละ ปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจ ทำให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนในองค์กรให้สามารถประคับประคองกันเองในช่วงสถานการณ์วิกฤตไปได้ | โรงพยาบาลกะพ้อ จังหวัดปัตตานี เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 10 เตียง ตั้งอยู่ตอนล่างของจังหวัดปัตตานีติดกับจังหวัดยะลาและนราธิวาส ดูแลประชากร 3 ตำบล 27 หมู่บ้าน ประชากรจำนวน 15000 คน | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/02/2914 |
ไมค์ ฟิตหนัก เตรียมรับมือนักชกปลาดิบ ไทยรัฐทีวียิงสด 20 ธ.ค.นี้ | ไมค์ เรือไวกิ้ง ฟิตซ้อมอย่างหนักพร้อมรับมือ เรียวเฮอิ ทาคาฮาชิ ผู้ท้าชิงอันดับ 1 ชาวญี่ปุ่น หวังคว้าชัยป้องกันแชมป์รุ่นจูเนียร์เฟเธอร์เวท IBF แพนแปซิฟิก สร้างความประทับใจให้แฟนมวยทั่วประเทศให้ได้ ในการชกนำรายการศึกกำปั้นสะท้านโลก IBF พุธ 20 ธ.ค. เพราะเป็นไฟต์ชี้อนาคตเพื่อขยับอันดับก่อนก้าวขึ้นเขย่าบัลลังก์โลก ไทยรัฐทีวีช่อง 32 ถ่ายทอดสดเริ่มเวลา 16.00 น.,ความเคลื่อนไหว ศึกกำปั้นสะท้านโลก IBF ซึ่งคู่นำรายการเป็นคิวของ ไมค์ เรือไวกิ้ง ป้องกันแชมป์รุ่นจูเนียร์เฟเธอร์เวท IBF แพนแปซิฟิก ครั้งที่ 5 กับเรียว เฮอิ ทาคาฮาชิ ผู้ท้าชิงรองแชมป์อันดับ 1 ชาวญี่ปุ่นในวันพุธ 20 ธ.ค.นี้ ที่สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร ไทยรัฐทีวีช่อง 32 ถ่ายทอดสดเวลา 16.00-18.00 น.,ล่าสุด ดร.จิมมี่ เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น เผยว่า เจ้าสัวไวกิ้ง นายปิยะ โรจนเพียรสถิต ประธานบริษัทปุ๋ยไข่มุกตราเรือไวกิ้ง ตั้งเป้าสร้างแชมป์โลกของสถาบัน IBF คนต่อไปต่อจากอำนาจ เกษตรพัฒนา อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท เพราะปัจจุบันมีไมค์ เรือไวกิ้ง ติดอยู่ในอันดับ 7 ของโลกรุ่นจูเนียร์เฟเธอร์เวทและกำลังขึ้นป้องกันแชมป์กับทาคาฮาชิ ซึ่งถือเป็นนักชกอันตรายระดับแนวหน้าของญี่ปุ่น โดยได้รับการสนับสนุนจาก พล.ต.ดร.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว และ บิ๊กชาย นายสมชาย พูลสวัสดิ์,โปรโมเตอร์เกียรติกรีรินทร์ระบุว่า การชกป้องกันกับ ทาคาฮาชิ ผู้ท้าชิงอันดับ 1 ชาวญี่ปุ่นครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการย่างก้าวสู่เป้าหมายที่วางเอาไว้ และส่งผลให้ มร.ดารีล พีเพิล ประธานสหพันธ์มวยนานาชาติชาวอเมริกันที่ติดตามผลงานมาตลอดจะช่วยสนับสนุนไมค์ให้มีโอกาสขึ้นเขย่าบัลลังก์โลก,ผมได้กำชับ มร.ไรอัน แมนตัน เทรนเนอร์ชาวอังกฤษ ติวเข้มและเพิ่มเติมแท็กติกให้มีความหลากหลาย แก้ไข ปรับปรุงจุดบกพร่องเพื่อพัฒนาฝีมือและเน้นความแข็งแกร่ง ความหนักหน่วงให้มากขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันไมค์ก็ปักหลักฟิตซ้อมมาอย่างหนักมั่นใจเอาชนะนักมวยญี่ปุ่นรักษาเข็มขัดเส้นนี้ให้แฟนมวยทั่วประเทศที่ได้ติดตามชม หลังผ่านไฟต์นี้ก็ตั้งเป้าหมายให้ไมค์ก้าวขึ้นชิงแชมป์โลกกับเรียวซึเกะ อิวาสะ แชมป์โลก IBF ชาวญี่ปุ่นในปีหน้า | ไมค์ เรือไวกิ้ง ฟิตซ้อมอย่างหนักพร้อมรับมือ เรียวเฮอิ ทาคาฮาชิ หวังคว้าชัยป้องกันแชมป์รุ่นจูเนียร์เฟเธอร์เวท IBF แพนแปซิฟิก วันพุธที่ 20 ธ.ค.นี้ ไทยรัฐทีวีช่อง 32 ถ่ายทอดสด | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ศึกกำปั้นสะท้านโลก IBF,ไมค์ เรือไวกิ้ง,IBF แพนแปซิฟิก,เฮอิ ทาคาฮาชิ,เอกรัฐ ไชยโชติช่วง | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1124517 |
ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปอศ. ถูกหลอกเล่น แชร์ออนไลน์ | วันนี้ (8 ธ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้เสียหายจากการเล่นแชร์ออนไลน์เกือบ 100 คน เข้าร้องเรียนกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวดับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมนำข้อมูลหลักฐานความเชื่อมโยงของขบวนการร่วมกันฉ้อโกงหลอกให้เล่นแชร์ออนไลน์ โดยมี 4 ท้าวแชร์ มีผู้เสียหายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมกว่า 1000 คนพ.ต.ท.วีรยุทธ เรืองเทพ รองผู้กำกับการสอบสวน ปอศ. กล่าวว่า คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการสอบปากคำ โดยจะแบ่งผู้เสียหายเป็น 4 กลุ่มตามชื่อท้าวแชร์ ก่อนจะพิจารณาคดีผู้เสียหายคนหนึ่ง บอกว่า การเข้าร้องเรียนและมอบหลักฐานต่อ ปอศ.ในครั้งนี้ เป็นความหวังที่จะช่วยเร่งรัดคดีและตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่ามีผู้ร่วมขบวนการมากกว่านี้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเคยไปแจ้งความตามท้องที่ที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีความคืบหน้า | ผู้เสียหายเกือบ 100 คน เข้าร้องเรียนตำรวจ บก.ปอศ. ระบุถูกโกงเงินแชร์ออนไลน์ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท | อาชญากรรม | แชร์ออนไลน์,กองปราบปราบ,ปอศ.,ตำรวจ,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/268374 |
เอฟทีเอ ว็อทช์ เสนอเเก้กรอบเจรจาการค้าเสรี ไทย-อียู | กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน หรือ เอฟทีเอ ว็อทช์ แสดงความกังวล ร่างกรอบเจรจา เอฟทีเอไทยกับสหภาพยุโรป หลังพบว่า เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประชาชนในภาพรวม จะเขียนเเบบกว้างๆ ส่วนภาคธุรกิจกลับเขียนอย่างรัดกุมโดยเฉพาะประเด็นทรัพย์สินทางปัญญาข้อ 5.11.1 ร่างกรอบเจรจาระบุว่า ระดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เช่นเดียวกับ ระดับการคุ้มครองตามความตกลงขององค์กรการค้าโลก หรือความตกลงใดๆที่ไทยเป็นภาคีเเต่เอกสารที่สำนักงานอ.ย. เสนอต่อคณะกรรมาธิการของรัฐสภากลับระบุว่า ผลกระทบสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม คือการผูกขาดข้อมูลทางยา ซึ่งสวนทางกันอย่างชัดเจน ที่ประชุมจึงเห็นว่าหากไทยจะเจรจาการค้าเสรีกับยุโรป ผูกมัดด้วยบทบัญญัติการขยายอายุการคุ้มครองสิทธิบัตร เเละการผูกขาดขึ้นทะเบียนยา จะทำให้ยามีราคาเเพงจึงเสนอให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศนำร่างฯนี้ ไปพิจารณาเเก้ไขก่อนที่จะส่งเข้าสภา | กลุ่มเอฟทีเอ ว็อทช์ เสนอ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งเเก้ไขร่างกรอบเจรจาการค้าเสรี ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป หลังพบว่าเนื้อหาในร่างฯ มีเนื้อหาเอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ มากกว่าคุณภาพชีวิตของประชาชน | เศรษฐกิจ | ทรัพย์สินทางปัญญา,ประชาชน,ยุโรป,อย,เอฟทีเอ ว็อทช์,แก้ไข,ไทย | https://news.thaipbs.or.th/content/141246 |
กรมส่งเสริมการเกษตร มั่นใจปีนี้แปลงใหญ่ทะลุเป้า | เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2561 นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของเกษตรแปลงใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่า โครงการเกษตรแปลงใหญ่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2559 พบว่าเกษตรกรตอบรับเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขในปี 2559 มีจำนวนแปลงใหญ่เข้าร่วมโครงการ 597 แปลง ในพื้นที่ 1,403,438.41 ไร่ รวมเกษตรกรจำนวน 95,169 ราย เพิ่มขึ้นในปี 2560 มีจำนวนแปลงใหญ่ใหม่อีก 1,934 แปลง พื้นที่ 1,965,875 ไร่ เกษตรกรรายใหม่ 153,789 ราย,ขณะที่ในปี 2561 ตามเป้าหมายดำเนินงานตั้งเป้าเพิ่มจำนวนแปลงใหญ่อีก 1,838 แปลง ซึ่งข้อมูลล่าสุดในเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนแปลงใหญ่เพิ่มขึ้นแล้ว 1,636 แปลง พื้นที่รวมกว่า 1.85 ล้านไร่ รวมจำนวนเกษตรกรรายใหม่ 74,483 ราย กรมฯ จึงมั่นใจว่าการดำเนินงานในปีนี้จะมีแปลงใหญ่เพิ่มขึ้นเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ จึงนับเป็นความสำเร็จของนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ที่รัฐบาลผลักดัน เพราะนอกจากจำนวนเกษตรกรรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังพบว่าผลสำเร็จของโครงการเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ ทั้งในด้านการลดต้นทุน และการเพิ่มผลผลิต ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น,วัตถุประสงค์หลักของเกษตรแปลงใหญ่ ต้องการสนับสนุนให้เกษตรกรมีการบริหารจัดการร่วมกัน นำไปสู่การลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต เพราะหากเกษตรการบริหารจัดการดีภายใต้การสนับสนุนและบูรณาการจากรัฐบาล รวมทั้งแรงหนุนจากภาคเอกชนที่เข้ามาส่งเสริมด้านการตลาด การวิจัย พัฒนา นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการเกษตร ก็จะทำให้การบริหารต้นทุนและรายได้ของเกษตรกรมีเสถียรภาพมากขึ้น เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร เพิ่มโอกาสทางการแข่งขันในอนาคต นายสมชาย กล่าว,นายสมชาย กล่าวด้วยว่า จากการรวมกลุ่มกันของเกษตรกร ริเริ่มขึ้นเป็นเกษตรแปลงใหญ่ที่ผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ตลอดการดำเนินโครงการมาพบว่าการลดต้นทุนและเพิ่มรายได้เกิดขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างดีเยี่ยม อาทิ เกษตรแปลงใหญ่ข้าว ที่มีจำนวน 1,685 แปลง ข้อมูลการเข้าร่วมแปลงใหญ่ระหว่างปี 2559 – 2560 พบว่าสามารถลดต้นทุนสะสมไปได้ถึง 449.51 ล้านบาท ผลผลิตเพิ่มขึ้น 1,579.10 ล้านบาท เช่นเดียวกับแปลงใหญ่พืชไร่ ประเภทมันสำปะหลัง ลดต้นทุนสะสม 121.57 ล้านบาท ผลผลิตเพิ่ม 302.29 ล้านบาท เป็นต้น. | กรมส่งเสริมการเกษตร ย้ำ แปลงใหญ่ หลังขับเคลื่อนระยะ 2 ปี พบผลสำเร็จลดต้นทุน เพิ่มรายได้ เผยล่าสุดแปลงใหญ่รายใหม่ร่วมเพิ่ม 1,636 แปลง มั่นใจปี 2561 ทะลุเป้า 1.8 พันแปลง | ข่าว,เศรษฐกิจ | เกษตรแปลงใหญ่,กรมส่งเสริมการเกษตร,เกษตรกรรายใหม่,แปลงใหญ่ข้าว,แปลงใหญ่พืชไร่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1277357 |
หวานทะลุไอจี หลุยส์ สก๊อตต์ ลงรูปจับมือกันขณะนั่งบนเครื่องบิน | แม่ช่อมะไฟ มาแล้วจ้าา,แม่ช่อมะไฟ พร้อมอัปเดต ข่าวบันเทิง ณ บัดนาว,บทเรียนราคาแพงที่แลกด้วย ชีวิต หลังจากหลงผิดเสพยาจนถูกจับเกือบปี จนศาลยกฟ้องค้ายา เป็นเพียงแค่ผู้เสพ เอมี่ อาเมเรีย เพิ่งได้อิสระเปิดใจทั้งน้ำตา เข็ดแล้ว พร้อมขอโทษ สังคม ให้สัญญาจะกลับตัวกลับใจเป็น คนดี---ส่วนใครที่ยัง หลงผิด จะกลับตัวกลับใจตอนนี้ก็ยังทันก่อนที่จะไม่มีโอกาส หุหุ.,โค้งสุดท้ายสำหรับสายช็อป ชิม ชิล ตลาดนัดดารา ที่ลานบาซาร์ โฮเต็ล สวนลุมไน้ท์บาซาร์ รัชดา ดารานักแสดงตบเท้าออกบูธขายสินค้ามากมาย อาทิ ใหม่ เจริญปุระ, ปอ ภคพร, โบวี่ อัฐมา, ฟิล์ม รัฐภูมิ, ยุ้ย ปัทมวรรณ, ดีเจอิคคิว ฯลฯ มี อ้อย จิระวดี เป็นแม่งานจัดถึง 2 ก.ย.นี้.,ได้ชื่อว่าเป็นรายการขวัญใจชาวโซเชียล สำหรับ อึ้ง ทึ่ง เสียว ทางช่อง 8 เรื่องไหนที่ว่าอึ้ง เรื่องไหนที่ว่าเสียว กุ้ง–สุธิราช วงศ์เทวัญ พร้อมลุยไปค้นหามาฝากคุณผู้ชม ล่าสุดเปลี่ยนวันออกอากาศเป็นวันอาทิตย์ เวลา 13.35 น. อ้าววววบรรดาแม่ยกช่วยเพิ่มเรตติ้งให้ เฮีย กันหน่อยจ้า.,เล่นเกมจนเฮง หนุ่มลายสัก แทค ภรัณยู ว่างเป็นต้องคว้าเกมมาเล่น บางคืนเล่นจนดึกดื่นไม่หลับ ไม่นอน เดี๋ยวนี้มีคนจ้าง นาง ไปเป็นกูรูเรื่องเกมแถมได้สตุ้งสตางค์ใช้จ่ายค่าเน็ต แถม PubG กำลังเร่งๆ เป็นพรีเซนเตอร์ ถึงขั้นบอกคนสนิทห้าม บ่น ได้แล้วนะเล่นเกมไม่มีประโยชน์เรียกว่าคุยโวได้อีกหลายวัน ชิมิๆ.,เอี๊ยดเอี๊ยดด หวานทะลุไอจี ,หลุยส์ สก๊อตต์, ลงรูปจับมือกันขณะนั่งบนเครื่องบิน พร้อมแคปชัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งดีทั้งร้ายก็จะอยู่เคียงข้างตลอด #อยากให้รู้ พร้อมแท็กถึงแฟนสาว ,นุ่น รมิดา, งานนี้เรียกว่าขบวนรถอ้อยคว่ำทั้งคันยังแพ้ความหวานของหนุ่มหลุยส์ระวัง เบาหวาน ถามหานะจ๊ะ อุ๊บ,แม่ช่อมะไฟ | ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งดีทั้งร้ายก็จะอยู่เคียงข้างตลอด #อยากให้รู้ พร้อมแท็กถึงแฟนสาว นุ่น รมิดา | null | หลุยส์ สก๊อตต์,นุ่น รมิดา,หลุยส์ นุ่น,สี่แยกบันเทิง,แม่ช่อมะไฟ | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1366549 |
อนุมัติหลักการโรงเรียนนิติบุคคล | หรือโรงเรียนในกำกับของรัฐ โดยจะมีความอิสระใน 4 ด้าน ได้แก่ การ บริหารจัดการทั่วไป การบริหารงานบุคคล การบริหารการเงิน และการบริหารวิชาการ ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นในหลายเวทีส่วนใหญ่เห็นด้วย และอยากทำให้เป็นจริง ซึ่งคณะกรรมการอิสระฯได้พิจารณารูปแบบเบื้องต้นเห็นว่าต้องมีความหลากหลายและมีหลักเกณฑ์สำหรับโรงเรียนที่มีความพร้อมที่จะมุ่ง ไปสู่ความเป็นเลิศ และโรงเรียนที่มีปัญหาจำเป็นต้องใช้ความเป็นอิสระเข้าไปช่วย,ประธานคณะกรรมการอิสระฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ต้องทำความเข้าใจว่าการเป็นโรงเรียนนิติบุคคลต้องมีเรื่องการกำกับดูแล การส่งเสริมและสนับสนุนโรงเรียน ไม่ใช่ปล่อยให้โรงเรียนหลุดออกจากระบบไปเลย และไม่ใช่เรื่องของการเปลี่ยนจากโรงเรียนรัฐเป็นโรงเรียนเอกชน ไม่ใช่เรื่องการปลดคน หรือปรับบุคลากร ของรัฐออกจากระบบราชการ แต่เป็นการปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่เพื่อแก้ปัญหาเรื่องของคุณภาพการศึกษา ความเหลื่อมล้ำ และประสิทธิภาพของระบบ ทั้งนี้ จะมีการยกร่าง พ.ร.บ.โรงเรียนนิติบุคคลหรือโรงเรียนในกำกับเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อเป็นกฎหมายกลางให้ปฏิบัติ โดยโรงเรียนไม่ต้องมี พ.ร.บ.เป็นของตนเอง,คาดว่าจะมีโรงเรียนที่มีความพร้อมได้ประมาณ 3,000-4,000 แห่ง และถ้ารวมกับโรงเรียนที่มีปัญหาจำเป็นต้องใช้ความอิสระมาแก้ไข คิดว่ารวมกันแล้วไม่ถึง 10,000 โรง ส่วนที่เกรงว่าถ้าโรงเรียนเป็นนิติบุคคลแล้วจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการเรียนสูงขึ้นนั้น ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้และผู้ปกครองก็พร้อมที่จะจ่าย เพราะทุกวันนี้โรงเรียนก็ทำกันอยู่เพียงแต่หลบๆซ่อนๆ ซึ่งจะต้องมาทำให้ถูกต้องและเปิดเผย นพ.จรัสกล่าว. | นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอิสระฯว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการให้โรงเรียนมีเสรีภาพในการบริหารจัดการในรูปแบบโรงเรียนนิติบุคคล | ข่าว,สังคม | ปฏิรูปการศึกษา,โรงเรียนนิติบุคคล,จรัส สุวรรณเวลา,โรงเรียนในกำกับของรัฐ,พ.ร.บ.โรงเรียนนิติบุคคล,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/society/1061214 |
ธุรกิจ แหกโค้ง แต่กัดฟันคว้าเบสต์เอเชีย ปั่นทางไกลไต้หวัน | เจ้าป๋อม ธุรกิจ บุญรัตนธนากร โชคไม่ดีปั่นแหกโค้ง แต่ยังใจสู้ลุกขึ้นสปรินต์เข้าเส้นคว้ารางวัลเบสต์เอเชียประจำวันมาครอง ส่วนแชมป์ประจำวันตกเป็นของ แอดวิน เอลลา นักปั่นจากโคลอมเบีย ในการแข่งขันจักรยานทางไกล เอเชียทัวร์ ทัวร์ เดอ ไต้หวัน 2017,การแข่งขันจักรยานทางไกล เอเชียทัวร์ ทัวร์ เดอ ไต้หวัน 2017 ระหว่างวันที่ 26-30 มี.ค. โดยไทยส่งนักปั่นทีมชาติไทย ร่วมแข่งขันก่อนจะลงชิงชัยศึกสองล้อทางไกล ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2017 ระหว่างวันที่ 1-6 เม.ย. เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งนักปั่นไทยประกอบด้วย ธุรกิจ บุญรัตนธนากร ที่เพิ่งคว้าตำแหน่งยอดนักบู๊ จากการแข่งขัน ทัวร์ ลังกาวี ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์, พีระพล ชาวเชียงขวาง, ยุทธนา มะโน, ปฐมภพ พลอาจทัน, วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้จัดการทีม, เอนก ศาสตร์ทรัพย์ และ รัฐพงศ์ เรือนเมา นักกายภาพประจำทีม,ศึกครั้งนี้หนุ่มไทยต้องประฝีเท้ากับนักปั่นมืออาชีพถึง 20 ทีม และเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันสเตจที่ 1 ใช้เส้นทางรอบเมืองไต้หวัน ระยะทาง 83.2 กม. รอบละ 10.4 กม. (8 รอบ) โดยแข่งเป็นรอบ แต่แค่วันแรกของการแข่งขัน สภาพอากาศก็ไม่เป็นใจ มีสายฝนตกลงมาตลอดเกม และหาได้เป็นอุปสรรคกับนักปั่น เพราะตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน จนถึงรอบสุดท้ายต่างเร่งทำความเร็วกันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร โดยมีนักปั่นจากโคลอมเบีย ดีกรีแชมป์โลกพอยต์เรซ แอดวิน เอลลา หนีออกจากกลุ่มมาได้และก็ไม่ห่างนัก เพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น ในขณะที่กลุ่มใหญ่พยายามจะไล่ผู้นำแต่ทำได้ยาก เนื่องจากต้องเจอกับทางโค้งเยอะและต้องชะลอความเร็วกันทุกโค้ง จนเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขันสองนักปั่นไทย เจ้าป๋อม ธุรกิจ และ เจ้าบาส ภุชงค์ ขึ้นมาอยู่กลุ่มใหญ่และจังหวะที่เข้าโค้งก็มีนักปั่นหลุดโค้งล้มระเนระนาด รวมถึงสองนักปั่นไทยก็ล้มลงไปด้วยแต่ เจ้าป๋อม ธุรกิจ รีบลุกขึ้นคว้าสองล้อคู่ใจขึ้นมาปั่นต่อพร้อมสปรินต์เข้ากลุ่มใหญ่ และคว้ารางวัลเบสต์เอเชียประจำวันมาครอง ด้วยเวลา 1.39.08 ชม. ส่วนแชมป์ประจำวันตกเป็นของแอดวิน เอลลา ทำเวลาเท่ากัน,สำหรับการแข่งขันสเตจที่ 2 จะใช้เส้นทางออกสตาร์ตจากไทเปซิตี้ ไปเข้าเส้นชัยที่อ่าวไป๋ซาน ระยะทาง 114.67 กม. เป็นสเตจทางราบ มีภูเขาเพียงสองจุด | ธุรกิจ บุญรัตนธนากร โชคไม่ดีปั่นแหกโค้ง แต่ยังใจสู้ลุกขึ้นสปรินต์เข้าเส้นคว้ารางวัลเบสต์เอเชียประจำวันมาครอง ในการแข่งขันจักรยานทางไกล เอเชียทัวร์ ทัวร์ เดอ ไต้หวัน 2017 | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | จักรยานทางไกล,ทัวร์ เดอ ไต้หวัน 2017,ธุรกิจ บุญรัตนธนากร,สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย,นักปั่นทีมชาติไทย | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/896786 |
บุกจับอบรมไกด์เถื่อนย่านเหม่งจ๋าย จัดสัมมนาขายตรง | วันที่ 23 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยวและกรมการท่องเที่ยว รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร บุกเข้าตรวจค้นในห้องสัมมนาบอลรูมเอ โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านเหม่งจ๋าย ขณะที่ผู้ประกอบการกำลังอบรมวิธีการขายตรงและการทำหน้าที่ผู้นำเที่ยว หรือไกด์ ให้กับผู้เข้าอบรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงคนไทยที่ถือบัตรประชาชน จากชายขอบภาคเหนือของประเทศไทย,สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีธุรกิจอบรมไกด์เถื่อนและสัมมนาการขายตรงเข้ามาอบรมในพื้นที่กรุงเทพมหานครจำนวนมาก โดยในเบื้องต้นพบว่ามีผู้นำเที่ยวจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีบัตรผู้นำเที่ยวอย่างถูกต้องเข้ามารับการอบรมในครั้งนี้ด้วย,ตัวแทนเจ้าหน้าที่สัมมนาบอกว่า การอบรมครั้งนี้มุ่งหวังเพียงให้ผู้นำเที่ยว ซึ่งมีทั้งมีบัตรและไม่มีบัตร ได้รู้จักวิธีการขายตรงสินค้าให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้มีรายได้เสริม แต่ไม่ได้สอนให้มีการเป็นผู้นำเที่ยวเถื่อน,จากนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จึงได้คัดแยกผู้ร่วมสัมมนาออกเป็นกลุ่ม เพื่อตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศ ว่ามาในรูปแบบใด ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ ที่มีบัตรประชาชนก็จะถูกกันมาอีกส่วนหนึ่ง เพื่อตรวจสอบเลข 13 หลัก เนื่องจากส่วนใหญ่ยังพูดภาษาไทยไม่ชัด,พลตำรวจตรีสุรเชษฐ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษบอกว่า ได้รับรายงานการอบรมสัมมนาขายตรง ในลักษณะธุรกิจผู้นำเที่ยวเถื่อนมาระยะหนึ่งแล้ว จึงเฝ้าติดตามพฤติการณ์ และนำกำลังเข้าบุกจับในครั้งนี้ โดยยืนยันว่าวิธีการดังกล่าวเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว รวมถึงบังคับขายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งอาจสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ที่สำคัญสินค้าที่มีการจำหน่ายเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งต้องตรวจสอบดูด้วยว่า นำเข้ามาอย่างถูกต้องหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นหมอนยางพารา ไมโครโฟน ครีมบำรุงผิว หรือแม้แต่ครีมกันแดด,ทั้งนี้ จะได้คัดแยกผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นกลุ่ม เพื่อตรวจสอบหลักฐานการเข้ามาในประเทศไทย หากพบว่ารายใดอยู่เกิน หรือโอเวอร์สเตย์ ก็จะดำเนินคดี ส่วนหากใครเดินทางมาในฐานะนักท่องเที่ยว แต่กลับมานั่งอบรมสัมมนา ก็ถือว่าเป็นความผิด ส่วนกลุ่มที่ไม่มีพาสปอร์ต ก็จะถูกดำเนินคดี ฐานะหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย | ตำรวจ 191 สนธิกำลังตำรวจท่องเที่ยว และกรมการท่องเที่ยว บุกจับแก๊งอบรมไกด์เถื่อน สัมมนาวิธีขายตรง ที่โรงแรมย่านเหม่งจ๋าย พบผู้อบรมส่วนใหญ่เป็นคนจีน กว่า 100 คน ชี้กระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยว | ข่าว,ทั่วไทย | ไกด์เถื่อน,ขายตรง,เหม่งจ๋าย,ภาพลักษณ์การท่องเที่ยว,ธุรกิจนำเที่ยว | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/920657 |
บุกพังรั้วบ้าน โตโต้ ปักใจการเมืองข่มขู่ | มาในบ้านอีกหลายเส้น เผยรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วเพิ่งออกมาจากคุก เตรียมส่งทนายแจ้งความดำเนินคดี มั่นใจเป็นการข่มขู่เรื่องการเมืองต้องเพิ่มความระวังตัวแกนนำม็อบนักศึกษาโวยมือมืดบุกพังรั้วบ้าน พุ่งปมข่มขู่เรื่องการเมือง เปิดเผยเมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ แกนนำผู้ชุมนุมร่วมกับม็อบนักศึกษา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โตโต้ ปิยรัฐ-Piyarat Chongthep เหตุการณ์คนร้ายบุกพังบ้าน มีเนื้อหาว่า เช้ามืดวันนี้ทางบ้านแจ้งข่าวบ้านพักที่ จ.กาฬสินธุ์ ถูกคนร้ายชายบุกรุกและทุบทำลายข้าวของ โดยใช้รูปปั้นสิงโตเฝ้าประตู สีทอง ขนาด 1 ฟุต ปาใส่ประตูรั้วจนเสียหาย มีการปายางรถจักรยานยนต์ที่ไม่ใช้แล้วเข้ามาจำนวนหลายเส้น ตัวบ้านนอกจากรั้วไม่มีอะไรเสียหาย บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักของผมเองจะใช้ชั่วครั้งชั่วคราว ตั้งอยู่กลางเมืองกาฬสินธุ์ บนถนนโสมพะมิตร สืบทราบด้วยตนเองทราบชื่อ สกุล และประวัติคนร้ายแล้วเป็นบุคคลที่เพิ่งออกจากคุกมาในคืนเดียวกัน ขั้นตอนต่อไปจะได้มอบหมายให้ทนายความเดินทางไป สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อทำการแจ้งความร้องทุกข์ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากเรื่องอะไร ไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัว เรื่องการเมืองท้องถิ่น การเมืองระดับชาติ หรือจากการเคลื่อนไหวในขณะนี้ผมต้องการความชัดเจนและดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุดต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านหลังดังกล่าว เลขที่ 35 ถนนโสมพะมิตร ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ พบประตูรั้วบริเวณหน้าบ้านทำจากไม้ระแนงพังเสียหาย นอกจากนี้ พบปูนปั้นสิงโตอยู่ในสภาพแตกหัก กองอยู่จำนวนหนึ่ง สอบถามนายตี๋ จงเทพ อายุ 57 ปี บิดานายโตโต้ เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้เป็นของโตโต้ โดยปกติแล้วจะไม่มีใครอยู่ ตนจะมาตรวจดูบ้านในช่วงเช้าและเย็น จากนั้นจะกลับไปพักที่บ้านอีกหลัง ช่วงเช้าที่ผ่านมาเดินทางมาตรวจสอบบ้านตามปกติพบว่าประตูรั้วหน้าบ้านถูกคนร้ายใช้รูปปั้นสิงโตโยนใส่จนพัง ตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านไม่สูญหาย คาดว่าคนร้ายจะมีความโกรธแค้นและต้องการที่จะมาก่อกวนพังทำลายข้าวของ เมื่อสอบถามผู้ที่อยู่ใกล้เคียงรวมถึงร้านซ่อมรถ จยย.เปิดร้านจนถึงเวลา 01.00 น. ไม่พบว่ามีใครเข้ามาทำลายข้าวของ คาดว่าคนร้ายจะเข้ามาประมาณ 03.00-04.00 น. เบื้องต้นพอจะทราบผู้ก่อเหตุแล้วแต่ต้องรอข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติมขณะที่นายปิยรัตน์ จงเทพ หรือโตโต้ เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวปกติไม่มีใครอยู่เพิ่งจะมาปรับปรุงเพื่อใช้เป็นที่ทำการสำหรับรับรองแขกของคณะก้าวหน้าที่เดินทางมาพูดคุยหารือกันเรื่องการเมือง และอยู่ห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพียง 700 เมตร หากดูจากความเสียหายเชื่อว่าเป็นการจงใจข่มขู่ เป็นไปได้ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง เพราะถูกโยงว่าเป็นแกนนำวางยุทธศาสตร์ให้การชุมนุมของนักศึกษา ทั้งที่จริงตนไปแค่ร่วมกิจกรรมเท่านั้น ล่าสุดมีการเปิดตัวกลุ่มอาชีวะฝ่ายขวาต่อต้านนักศึกษา ตนอยู่ในคนถูกหมายหัวไว้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ร่วมกับม็อบนักศึกษาฝ่ายซ้าย ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเป็น 1 ใน 4 ผู้ที่ถูกหมายหัวโดยผู้มีอำนาจ ช่วงนี้คงต้องระวังตัวมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 ส.ค. จะมอบหมายให้ทนายความรวบรวมเอกสารหลักฐานความเสียหายทั้งหมดเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ ตนจะยังไม่กลับเข้าไปในพื้นที่ชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย | โตโต้ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่ แกนนำม็อบนักศึกษา โวยถูกมือมืดบุกพังประตู บ้านในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยกรูปปั้นสิงโตเฝ้าประตูทุ่มใส่รั้วจนเสียหาย แถมปายางรถ จยย.ไม่ใช้แล้วเข้า | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,โตโต้,พังรั้วบ้าน,ข่มขู่,แกนนำม็อบนักศึกษา,ปิยรัฐ จงเทพ,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1901156 |
มะม่วงหอมทอง ดกทั้งปีหวานหอม | เป็นไม้ผลที่คนไทยนิยมปลูกและนิยมรับประทานกันอย่างกว้างขวาง ซึ่ง ,หอมทอง, เป็นเก่าแก่เกิดจากการกลายพันธุ์แบบถาวรด้วยการเพาะเมล็ดและเก็บผลขายนานกว่า 20 ปีแล้ว หลายคนได้ทดลองกินเนื้อสุกแล้วชื่นชอบซื้อหาไปกินประจำ ส่วนชื่อ, หอมทอง, คุณบุญลือ สุขเกษม ตั้งขึ้นตามความหอมของเนื้อสุกและสีของผลสุกเป็นสีเหลืองทองดังกล่าว มีลักษณะประจำพันธุ์คือ เนื้อสุกจะมีกลิ่นหอมแรง ผลโตเต็มที่ประมาณ 3 ผลต่อ 1 กิโลกรัม สีเปลือกผลสุกเป็นสีเหลืองทอง วัดความหวานของเนื้อสุกได้ประมาณ 22-23 องศาบริกซ์ มีดอกและติดผลดกทั้งปี เปลือกผลค่อนข้างหนา เมล็ดเล็ก ผลอ่อนเปรี้ยวจัด จึงเป็นปลูกกินสุกเพียงอย่างเดียว โดย คุณบุญลือ สุขเกษม มองเห็นว่า หอมทอง สามารถปลูกเก็บผลขายเชิงพาณิชย์ได้ จึงขยายพันธุ์ตอนกิ่งออกวางขาย ได้รับความนิยมปลูกอย่างแพร่หลายอยู่ในเวลานี้,หอมทอง, มีชื่อวิทยาศาสตร์และมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับต้นทั่วไปเกือบทุกอย่าง ต้นไม่สูงมากนักประมาณ 5–7 เมตรเท่านั้น เป็นพุ่มโปร่ง ระยะปลูกที่สวนบุญบันดาลประมาณ 3 คูณ 3 เมตร หรือประมาณ 3 คูณ 6 เมตร เพื่อตัดแต่งกิ่ง สามารถปลูกแบบธรรมชาติไม่ต้องดูแลมากนัก ชอบน้ำและแสงแดดจัด เมื่อเริ่มติดผลเป็นพวงโตเท่าปลายนิ้วหัวแม่มือผู้ใหญ่ ให้ห่อด้วยถุงพลาสติกใสป้องกันแมลงวันทอง ขยายพันธุ์ทั่วไปด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด,มีกิ่งตอนแท้ขาย แห่งเดียวคือติดต่อ ,คุณบุญลือ สุขเกษม, สวนบุญบันดาล 5/2 หมู่ 2 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โทร.08– 6618–1453 หรือที่งานเกษตรมหัศจรรย์ สกายฮอลล์ ชั้น 3 เซ็นทรัล ลาดพร้าว กทม. วันที่ 24-27 พ.ค.61 กับที่งานพฤกษาสยาม ชั้น 4 เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ กทม. ระหว่างวันที่ 25 พ.ค.-3 มิ.ย.61 โทร.08–4772–6443 คุณศศิธร สุขเกษม ราคาสอบถามกันเองครับ.,นายเกษตร | มะม่วง เป็นไม้ผลที่คนไทยนิยมปลูกและนิยมรับประทานกันอย่างกว้างขวาง ซึ่ง มะม่วงหอมทอง เป็นมะม่วงเก่าแก่เกิดจากการกลายพันธุ์แบบถาวรด้วยการเพาะเมล็ดและเก็บผลขายนานกว่า 20 ปีแล้ว | ข่าว,ทั่วไทย | มะม่วง,มะม่วงหอมทอง,ปลูกมะม่วง,นายเกษตร,เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/local/1283086 |
ชี้แจง ลำคันฉู น้ำไม่ล้นสปิลเวย์-ฝนตกต้นเหตุน้ำท่วม 500 ไร่ | วันนี้(26 ส.ค. 2561) นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 กรมชลประทาน กล่าวถึงกรณีเกิดน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ผลกระทบมาจากน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้นอ่างเก็บน้ำลำคันฉู โดยระบุว่าตั้งแต่วันที่ 20-21 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ส่งผลให้ในวันที่ 22-23 ส.ค.นี้ น้ำในลำคันฉู และลำน้ำสาขาปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่เป็นพื้นที่การเกษตรบริเวณบ้านทุ่งตาลาด ต.โคกเริงรมย์ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ประมาณ 500 ไร่ และท่วมพื้นที่อาศัยของราษฎร บ้านเพชรสำโรง ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ จำนวน 10 หลังคาเรือนสำหรับอ่างเก็บน้ำลำคันฉู มีปริมาณความจุ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีบน ได้การพร่องน้ำมาตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ในอัตราวันละ 140000 -200000 ลูกบาศก์เมตร จนวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำ 27 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 63.38%ภาพ : กรมชลประทานแต่เนื่องจากฝนที่ตกหนักในช่วงระหว่างวันที่ 20-21 ส.ค.ที่ผ่านมาทำให้น้ำไหลเข้าอ่างถึง 15.367 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ในวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำในอ่างฯ 41.39 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 97.18% ของความจุ ปัจจุบันน้ำยังไม่ล้นอาคารระบายน้ำล้น (Spillway)ของอ่างเก็บน้ำตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใดภาพ : กรมชลประทานในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีบน ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ทราบถึงสถานการณ์และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เสริมกระสอบทรายตามแนวตลิ่งที่ลุ่มต่ำรวมทั้งชะลอการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำลำคันฉู เพื่อให้ลำน้ำสาขาระบายน้ำได้มากที่สุด เมื่อปริมาณน้ำในลำน้ำสาขาและลำคันฉู มีปริมาณลดลง จะดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่โดยด่วนนอกจากนี้ ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ หากไม่มีฝนตกในพื้นที่คาดว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 3 วันนี้ภาพ : กรมชลประทาน | กรมชลประทาน ยืนยันเกิดน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ พื้นที่การเกษตรเสียหาย 500 ไร่และบ้านเรือนอีก 10 หลัง เกิดจากฝนตกหนักท้ายอ่างน้ำลำคันฉู ไม่ใช่ผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากอ่าง คาด 3 วันคลี่คลาย | ภูมิภาค | กรมชลประทาน,อ.บำเหน็จณรงค์,ชัยภูมิ,น้ำท่วม,อ่างเก็บน้ำลำคันฉู,เกษตร,สปิลเวย์,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/274220 |
ตัวแทนชาวชุมชนอัมพวา ยอมให้สร้างโรงแรมชูชัยบุรี ศรีอัมพวา | นายชูชัย ชัยฤทธิเลิศ เจ้าของโครงการก่อสร้างโรงแรมชูชัยบุรี ศรีอัมพวา และชาวบ้านในชุมชนอัมพวากว่า 100 คน พร้อมตัวแทนจากทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมพูดคุยที่ห้องประชุมสาธารสุขอำเภออัมพวา หลังก่อนหน้านี้ตัวแทนชาวชุมชนอัมพวา ที่คัดค้านโครงการก่อสร้างโรงแรมชูชัยบุรี ศรีอัมพวา โดยการประชุมวานนี้ (2 ต.ค.) เสียงส่วนใหญ่ ยินยอมให้มีการก่อสร้างโครงการต่อ แต่ขอให้ปรับปรุงรูปทรงของอาคารให้เข้ากับทัศนียภาพของอัมพวา เนื่องจากเห็นว่าการมีที่พักดี ช่วยส่งเสริมให้มีนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางมายังอัมพวามากขึ้น และเป็นการสร้างานให้กับชุมชนอัมพวาได้อีกทางหนึ่ง เป็นการดึงแรงงานคืนถิ่น ส่วนผู้ประกอบการร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก รวมทั้ง ร้านอาหาร ก็ยังมีรายได้จากนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาในจังหวัดสมุทรสงครามเพิ่มมากขึ้นด้านศาสตราจารย์เกียรติคุณตรึงใจ บูรณสมภพ ประธานกรรมาธิการศาสนา กล่าวว่า การจัดเวทีเสวนา ช่วยให้ชาวบ้านเข้าใจเหตุผลมากขึ้น ซึ่งภายหลังการทำความเข้าใจ ก็ทำให้ชาวบ้านให้การยอมรับ แต่ขอให้ปรับปรุงรูปทรงของอาคารให้เข้ากับทัศนียภาพของอัมพวาขณะที่นายชูชัย ชัยฤทธิเลิศ กล่าวยอมรับว่า รู้สึกดีใจที่ชาวอัมพวาให้ความไว้วางใจ โดยจะนำข้อเสนอแนะต่างๆ ไปปรับปรุงแก้ไขให้ตรงตามที่ชาวบ้านต้องการ | ตัวแทนชาวชุมชนอัมพวา ที่คัดค้านโครงการก่อสร้างโรงแรมชูชัยบุรี ศรีอัมพวา ยินยอมให้มีการก่อสร้างต่อไปได้ แต่ต้องปรับปรุงโครงสร้างและภูมิทัศน์ ให้เข้ากับวิถีอัมพวา | ภูมิภาค | null | https://news.thaipbs.or.th/content/115728 |
บิ๊กทีมจบเห่ ดอนนารุมมากระสันยืดสัญญากับมิลาน | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 16 พ.ย. ว่า จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา ผู้รักษาประตูอนาคตไกลทีมชาติอิตาลีของ ปิศาจแดงดำ เอซี มิลาน ทีมดังแห่งศึก กัลโช เซเรีย อา แสดงความต้องการต่อสัญญากับต้นสังกัดออกไปอีกครั้งในอนาคตอันใกล้ แม้จะตกเป็นเป้าหมายของหลายทีมยักษ์ใหญ่ในลีกยุโรปก็ตาม,นายด่านวัย 17 ปี เจ้าของส่วนสูง 196 เซนติเมตร ยังมุ่งมั่นเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเป็นผู้รักษาประตูอายุน้อยสุด ที่ประเดิมสนามในนามทีมชาติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในเกมกระชับมิตรกับทีมชาติฝรั่งเศส,ซึ่งจากความยอดเยี่ยมของจอมหนึบรายนี้ ส่งผลให้ เรอัล มาดริด, เชลซี และ ยูเวนตุส 3 ทีมยักษ์ใหญ่ของทวีปยุโรป แสดงความสนใจดึงตัวไปเฝ้าเสาให้กับทีม แต่อย่างไรก็ตาม กัลโชเมอร์คาโต สื่อชื่อดังของประเทศอิตาลี รายงานว่า ดอนนารุมมา มีความประสงค์ที่จะลงนามขยายสัญญากับทีมออกไปอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้,สำหรับ จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา เข้าร่วมขัดเกลาฝีไม้ลายมือกับยอดทีมแห่งถิ่น ซาน ซีโร เมื่อตอนอายุเพียง 14 ปี โดยสัญญาปัจจุบันของเขาจะหมดลงในช่วงหน้าร้อนปี 2018 นี้เท่านั้น. | งานนี้ทีมยักษ์ใหญ่จากลีกยุโรปอาจต้องเซ็งไปตามๆ กัน หลังจาก จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา นายด่านอนาคตไกลชาวอิตาเลียน หวังขยายสัญญากับ เอซี มิลาน ออกไปอีกครั้ง | null | จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา,ปิศาจแดงดำ,เอซี มิลาน,กัลโช เซเรียอา,ทีมชาติอิตาลี | https://www.thairath.co.th/content/784782 |
ตาส่อม บุคคลในภาพเฝ้าฯ รับเสด็จ เผย พร้อมทำดีถวายจนกว่าชีวิตจะหาไม่ | เวลา 15.00 น. วันที่ 14 ต.ค. 2559 ผู้สื่อข่าว จ.สกลนคร เดินทางไปที่บ้าน นายส่อม วงศ์สีดา อายุ 78 ปี เลขที่ 20 ม.10 ต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่งที่อยู่ในภาพประวัติศาสตร์ที่เคยเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ในอดีตกับครอบครัว ทราบว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ครอบครัวนายส่อม ได้เฝ้ารอดูแถลงการณ์สำนักพระราชวังด้วยใจจดจ่อ ในมือถือภาพประวัติศาสตร์ดังกล่าว พร้อมอธิษฐานจิตให้เป็นแถลงการณ์ที่ดี ให้พระองค์หายจากพระอาการประชวร โดย นายส่อม กล่าวว่า หลังจากทราบว่าพระองค์สวรรคต น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ลูกหลานต่างพากันพนมมือร้องไห้,ทั้งนี้ ภาพประวัติศาสตร์ดังกล่าวเป็นภาพที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ หาสถานที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ และศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อปี พ.ศ. 2522 ทรงเสด็จมาทรงงานที่ จ.สกลนคร ตนได้รอเฝ้าฯ รับเสด็จ ไม่คิดไม่ฝันว่าพระองค์จะเข้ามาตรัสถามสารทุกข์สุขดิบว่าชาวบ้านที่นี่เดือดร้อนอะไรบ้าง โดยพระองค์มีพระราชดำริให้ก่อตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น ซึ่งตนก็มีที่ดินอยู่ในบริเวณนั้น จึงน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ จำนวน 14 ไร่ และไม่เคยเสียดายที่ดิน กลับมีความภาคภูมิใจที่ชาวบ้านเช่นตนได้สนองงานพระองค์,นายส่อม กล่าวทิ้งท้ายว่า ภาพประวัติศาสตร์นี้เก็บไว้บนหัวนอน กราบเช้า กราบเย็น มีความรักและเทิดทูนพระองค์มาก มาวันนี้เมื่อรับรู้ว่าพระองค์สวรรคต ทำให้เกิดความเศร้าโศกเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ครอบครัวจะทำบุญและจะตั้งปณิธานในการทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่. | ตาส่อม ชาวสกลนคร บุคคลในภาพประวัติศาสตร์เคยเข้าเฝ้าฯ และสนองงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ดูแถลงการณ์ทั้งน้ำตา ตั้งปณิธานทำดีถวายจนกว่าชีวิตจะหาไม่ | null | ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ,สรงน้ำพระบรมศพ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระราชกรณียกิจ,สกลนคร | https://www.thairath.co.th/content/754017 |
ตรวจปลอกกระสุน ยิง 15 ศพ ป้อมลำพะยา พบมาจากปืน 24 กระบอก | ,วันที่ 8 พ.ย. พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาค 4 เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์คนร้ายยิงป้อมชุดคุ้มครอง ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จนทำให้มีชาวบ้านซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เสียชีวิตจำนวน 15 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย,กองทัพภาค 4 ได้สั่งการให้มีการบูรณาการกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มบุคคล ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ โดยขณะนี้จากหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้แล้วจำนวนหนึ่ง และได้มีการเปิดแผนปฏิบัติการเข้าติดตาม จับกุม กดดัน กลุ่มคนร้าย ในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เขานางจันทร์ ซึ่งมีเขตรอยต่อ จ.ยะลา และ จ.สงขลา และได้พบฐานปฏิบัติการร้างของกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วจำนวน 1 จุด โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้เข้าไปปิดล้อมกดดันบริเวณเทือกเขานางจันทร์แล้วจำนวน 4 เป้าหมาย,ส่วนกลุ่มที่สองคือ กลุ่มบุคคลเป้าหมายที่คอยให้การช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มคนร้าย ที่พาหลบหนี เป็นพื้นที่หมู่บ้านจำนวน 9 เป้าหมาย และเป้าหมายสุดท้ายคือการเข้าติดตามตัวบุคคลที่เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และมีบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว จำนวน 21 เป้าหมาย โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยได้ 1 ราย เป็นราษฎรพื้นที่ ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี แต่ยังให้การปฏิเสธในเรื่องการบุกยิงถล่มที่ลำพะยา อยู่ระหว่างการซักถามเพื่อขยายเครือข่ายก่อเหตุที่หน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี,โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการในการรักษาความปลอดภัย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ปรับแผนให้รัดกุมมากยิ่งขึ้นด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ทหารเข้าเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และชุมชนให้รัดกุมมากขึ้น ทั้งนี้ เพราะชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เป็นเพียงประชาชนจิตอาสาที่เสียสละและอุทิศตนเข้ามาช่วยกันดูแลความปลอดภัยชุมชนของตนเอง ไม่ใช่เป็นกองกำลังติดอาวุธฝ่ายพลเรือนดังที่องค์กรแนวร่วมและกลุ่มเปอร์มาสนำมาบิดเบือนเพื่อสร้างความชอบธรรมในการก่อเหตุของกลุ่มขบวนการ BRN ดังที่ปรากฏให้เห็นในช่วงที่ผ่านมา,ผลการตรวจสอบปลอกกระสุนปืน เหตุถล่มป้อมชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา ผลตรวจปลอกกระสุนพบว่า คนร้ายใช้อาวุธปืนจำนวน 24 กระบอก ได้แก่ 1.) AK 102 จำนวน 4 กระบอก เคยก่อเหตุพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี 2.) ปลย.11 จำนวน 4 กระบอก ก่อเหตุ พื้นที่ อ.เมืองยะลา, อ.เมืองปัตตานี 3.) M 16 จำนวน 8 กระบอก ก่อเหตุ พื้นที่ อ.ยะหา, อ.เมืองยะลา อ.โคกโพธิ์ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.เทพา จ.สงขลา 4.) AK 47 จำนวน 4 กระบอก ก่อเหตุพื้นที่ อ.ยะหริ่ง อ.เมืองปัตตานี และ อ.เมืองยะลา 5.) ปพ.9 มม. 3 กระบอก ก่อเหตุพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี อ.เทพา จ.สงขลา และ อ.เมืองยะลา 6.) ลูกซอง 1 กระบอก 7.) ขนาด 40 1 กระบอก,ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผบก.ภ.จ.ยะลา ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธนพล เยาวพักตร์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.ยะลา นำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ออกติดตามหาเบาะแสพวกคนร้าย ซึ่งคาดว่าได้หลบหนีข้ามเขตเข้าไปในพื้นที่ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นเขตติดต่อ โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ตั้งต้นเดินเท้าจากพื้นที่บ้านทุ่งสะเดา หมู่ 5 ต.ลำพะยา พื้นที่เกิดเหตุ มุ่งหน้าไปข้ามเทือกเขาสันกาลาคีรีไปทางทิศเหนือซึ่งเป็นเขตรอยต่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งมีเบาะแสก่อนหน้านั้นว่าเป็นพื้นที่ซ่องสุมกำลังพลของคนร้ายกลุ่มนี้,ขณะเข้าไปในเขตบ้านโผงโผง (โผงโผง) หมู่ 4 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พบพื้นที่ป่าทึบบริเวณดังกล่าวมีไม้ยืนต้น ต้นเล็กๆ มีร่องรอยคล้ายถูกของมีคมตัดกิ่ง เมื่อสำรวจโดยรอบพบเต็นท์สีดำอยู่บริเวณใกล้เคียง ลักษณะอำพรางด้วยกิ่งไม้และต้นไม้รอบๆ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ความระมัดระวังเข้าตรวจสอบ พบรองเท้ายางสีดำ จำนวน 1 คู่ ผ้าขาวม้า 1 ผืน กล่องยากันยุง 1 กล่อง ขวดน้ำตาลทราย 1 ขวด ขวดน้ำดื่ม 1 ขวด และถ้วยแก้วที่ดัดแปลงมาจากขวดน้ำ จึงได้จัดเก็บพร้อมนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ให้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป. | ตำรวจ ทหาร เปิดปฏิบัติการไล่ล่า กดดันคนร้ายยิงถล่มป้อม ชรบ.ลำพะยา จ.ยะลา มีผู้เสียชีวิต 15 ศพ ล่าสุดพบหนีข้ามเทือกเขาสันกาลาคีรีเข้าเขตปัตตานี ส่วนผลตรวจปลอกกระสุน พบมาจากปืน 24 กระบอก | ข่าว,ทั่วไทย | ยิงป้อมชรบ.,ยิงป้อมหมู่บ้านยะลา,ยิง15ศพ,ใช้ปืน24กระบอก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1700126 |
แบงค์ เดอะเฟสฯ2 ชิมลางวิถี นายแบบ ปลื้ม โทนี่ แนะนำให้เป็นตัวเอง | เดอะเฟสเมน ไทยแลนด์ ซีซัน 2 เลยต้องถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง,แบงค์ เผยว่า,ตอนแรกพอรู้ติด 18 คนสุดท้าย ตื่นเต้นมาก พยายามไฟเตอร์เพื่อให้ทีมชนะ รู้สึกว่านอกจากเรามาสนุกได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อะไรใหม่ๆ ในชีวิต ผมมีความรู้สึกว่ามาถ่ายรายการเหมือนมาอยู่โรงเรียนอินเตอร์ เพื่อนๆทุกคนมาจากหลายประเทศมารวมกัน มีความคิด ความชอบที่แตกต่างกัน ทำให้เรารู้อะไรมากขึ้น,แง่การแข่งขันเพื่อนๆเหมือนเป็นคู่แข่งเรา ,ใช่ครับ แต่ผมอยากจะบอกตรงนี้ในรายการทุกคนทำเต็มที่ แข่งจริงจังมาก ฆ่าได้ฆ่าเลย พอถ่ายรายการเสร็จทุกคนเป็นเพื่อนกัน,เราอยู่ทีมโทนี่เค้าได้สอนหรือแนะนำเราอะไรบ้างมั้ย เพราะหัวหน้าทีมเป็นแนวติสต์ๆ ,ปกติผมก็จะเป็นคนติสต์ๆ อยู่แล้ว ดันอยู่ทีมพี่โทนี่ก็จูนกันติด พี่โทนี่จะเน้นเรื่องของคาแรกเตอร์ เป็นตัวเอง ไม่อยากให้เราเปลี่ยนอะไร เพราะเค้าเลือกเราจากความเป็นธรรมชาติ,ก่อนหน้าที่จะมาประกวดแบงค์ทำอะไรมาก่อน,ก่อนหน้านี้ผมจะทำพิธีกร นักรีวิวท่องเที่ยว เขียนเกี่ยวกับเพจท่องเที่ยว ไม่ได้มาสายนายแบบ ก่อนประกวดผมต้องลดน้ำหนัก ลดได้ 10โล ต้องลดอีก,เคยท้อบ้างมั้ย,เอาตรงๆ ผมเป็นคนเซนซิทีฟ เป็นคนท้อง่ายมาก ชอบนอยด์ตัวเอง แต่เพื่อน คนรอบข้าง มั่นใจมากกว่าตัวผมเอง ทุกครั้งที่ท้อ มองคนที่ให้กำลังใจเรา เราสู้เพื่อเค้า เห็นพ่อแม่ ทุกครั้งที่โทร.ไปแล้วบอกข่าวดี เค้ามีความสุข ทำให้เรารับสารความสุขนั้นไปด้วย. | ด้วยลุคเซอร์ๆ มีคาแรกเตอร์โดนใจสาวๆ สำหรับแบงค์-มณฑล เหมตาล หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ผันตัวจากพิธีกรรายการท่องเที่ยว เปิดประสบการณ์สัมผัสวิถี นายแบบ ในการแข่งขันรายการ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แบงค์ มณฑล เหมตาล,เดอะเฟสเมน ไทยแลนด์ ซีซัน 2,แบงค์ มณฑล,นายแบบ,เดอะเฟสเมนไทยแลนด์,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1403921 |
วีรกรรม แอนนา เมาแล้วขับ ไม่ได้มีแค่นี้ 7 ปีก่อนก่อคดีบางอย่าง? (คลิป) | ย้อนไปเมื่อเดือนมิถุนายน เมื่อปี 58 ชื่อของ แอนนา รีส กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งกับกรณี ซิ่งเบนซ์ชนตำรวจดับ,โดยช่องสิ้นเดือนมิถุนายน 58 อดีตดารา นางแบบ แอนนา แฮมบาวรีส หรือ แอนนา รีส ขับรถพุ่งชนรถตำรวจที่จอดนอนหลับพักผ่อนอยู่บริเวณไหล่ทางช่องซ้าย เป็นเหตุให้นายตำรวจยศร้อยตำรวจโทเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที หลังเกิดเหตุมีคลิปของ แอนนา ที่อาการตกใจและยืนร้องไห้ฟูมฟาย พร้อมกับตะโกนโวยวายว่า ไม่หลบหนี ยอมรับผิดทุกอย่าง หลายคนตั้งขอสังเกตว่าจากกิริยาอาการเธอเมาหรือเปล่า?,บ่ายของวันรุ่งขึ้น แอนนา จึงเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ และตรวจเลือดเพื่อดูปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะมีจักรยานยนต์ตัดหน้า,ผ่านมาไม่ทันถึง 2 ปีเต็ม แอนนา ก็ก่อวีรกรรมใหม่ เมาสุรา อาละวาดทำลายข้าวของในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านรัชดา จนข้าวของและโทรทัศน์ในร้านพังเสียหายไป 1 เครื่อง ก่อนจะขับรถเก๋ง บีเอ็มดับเบิลยู ชนรถยนต์ของคนอื่นได้รับความเสียหายอีก 1 คัน แล้วขับรถออกจากร้านไป (อ่านข่าว ,เปิดคลิปใหม่ แอนนา รีส เมารั่ว ด่า กูเกลียดตำรวจมาก (คลิป),จนถูกตำรวจสกัดจับเอาไว้ได้ และพบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมาย ซึ่งตลอดเวลา แอนนา รีส ก็อาละวาดด้วยความคลุ้มคลั่ง ด่ากราดทุกคนที่ขวางหน้า,อีก 2 วีรกรรมน่าจะเพียงพอ แต่ยังไม่หมด ย้อนไป 7 ปีที่แล้ว ชื่อของ แอนนา รีส ก็เคยเป็นข่าวขับรถไปชนคนแถว ม.บูรพา จ.ชลบุรี แล้วหนี ซึ่งครั้งนั้นเธอยืนยันว่าเมาแต่เป่าแล้วไม่เกินลิมิต โดยครั้งนั้นเธอเปิดเผยว่า ,วันนั้นไปวันเกิดเพื่อน มีพี่ๆ ผู้หญิงไปด้วย ก่อนหน้านั้นแอนนาเข้าไปส่งเพื่อนที่เป็นผู้หญิง 3 คนเสร็จก็ออกมา ก็เหลือเพื่อนผู้ชายคนนึงที่เรากำลังจะไปส่ง พอดีต้องผ่านหน้า ม.บูรพา ก็เกิดอุบัติเหตุเพราะตรงนั้นไฟแดงเสีย ถนนทำอยู่ แล้วมีขบวนนักศึกษารับน้อง เราก็มาเร็วพอประมาณ ก็เลยเบรกกะทันหันทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น,แล้วเรื่องคดีเป็นยังไง? ก็มีเป่าแอลกอฮอล์ค่ะ เป่าแล้วไม่เกิน เราดื่มมาจริงๆ แต่ไม่ได้เยอะ อาจจะเพลียยอมรับว่าวันนั้นเที่ยวถึงเช้า ประมาทด้วย ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ เด็กๆ ม.บูรพา โกรธเหมือนกัน เราไปดูในคอมเมนต์เขาก็คงโกรธ ก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันค่ะ,ชดใช้ค่าเสียหายอะไรมั้ย? มีเหมือนกันค่ะ เขามีคนเจ็บ คือแอนนาเบรกหลบกระบะข้างหน้าแล้วไปชนมอเตอร์ไซค์ แต่ไม่ได้เจ็บอะไรรุนแรงมาก ไม่ได้บ่ายเบี่ยง รับผิดชอบเต็มที่ ช่วยเขาไปแล้วเขาก็ยอมความ ไม่มีอะไรค่ะ (อ่านข่าว ,แอนนา ดื่มก่อนขับรถชนคน แต่ไม่เกินลิมิต ปัดทะเลาะแฟน,),สำหรับประวัติ แอนนา รีส เป็นนักแสดงที่ไม่ค่อยชื่อเสียงมากนัก โด่งดังสุดๆ ก็เห็นจะเป็นการถ่ายปฏิทินลีโอ ทำให้ภาพความเป็นสาวเซ็กซี่ ใจถึง นอกจากนี้ แอนนา ยังเคยเล่นหนังฟอร์มยักษ์ของค่ายสหมงคลฟิล์ม อย่าง ปืนใหญ่จอมสลัด ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นผลงานแจ้งเกิดเพราะเรื่องนี้เธอก้าวกระโดดมาเป็นนักแสดง แต่บุญมีแต่กรรมบัง หนังกลับไม่ประสบความสำเร็จ ,สุดท้าย แอนนา กลับมาโด่งดังจากการเป็นแฟนสาวของ เสนาหอย เกียรติศักดิ์ ก่อนจะต้องเลิกรากันจน แอนนา ออกมาปล่อยโฮแบบควบคุมสติไม่อยู่ต่อหน้าสื่อ ทำเอา เสนาหอย ถึงกับเหวอ ต้องออกมาขอโทษขอโพย. | แอนนา รีส ตกเป็นข่าวเมาแล้วขับ 2 คดีซ้อน ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปีเต็ม แต่ยังมีอีก! เพราะพลิกแฟ้มข่าวดูพบคดีเมาแล้วขับของ แอนนา อีก! | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | แอนนา รีส,แอนนา รีส เมาอาละวาด,แอนนา รีส เมาขับรถ,แอนนา รีส พังข้าวของในผับ,คลิป แอนนา รีส | https://www.thairath.co.th/entertain/news/948597 |
ธรรมนัส เตรียมเปิดชื่อนักการเมืองรุกพื้นที่ ส.ป.ก.หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ | วันนี้ (20 ก.พ.2563) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความพร้อมในการรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 - 27 ก.พ.นี้ ว่า พร้อมตอบทุกข้อซักถามไม่กังวลประเด็นใดเพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องเก่าที่เคยชี้แจงไปแล้ว ซึ่งในข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านที่จะอภิปรายว่าใช้นโยบายเอื้อพวกพ้องนั้น ขอย้ำว่าไม่เคยทำทุกอย่างทำตามกฎหมายส่วนพวกพ้องที่มีอยู่ก็รักทุกคนแต่ไม่เคยใช้กฎหมายเอื้อประโยชน์ให้กัน ส่วนความพร้อมการอภิปรายอื่น ๆ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว แต่ประเด็นที่ร่วมรับผิดชอบ คือ ด้านกฎหมาย หากฝ่ายค้านพูดเท็จจะดำเนินคดีทันที ที่ผ่านมามีนักการเมืองถูกดำเนินคดีแล้วหลายคน แต่มาขอให้ถอนฟ้องส่วนที่สื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมี ชื่อตัวเองถูกปรับจากออก ครม.ขอย้ำว่า การถูกปรับออก หรือ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงกลาโหม ซึ่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยฯ หากถูกปรับออกก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล เพราะทำงานเพื่อประชาชนตลอดมาขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงงานได้รับผิดชอบ และกำลังทำอยู่ขณะนี้คือ การตรวจสอบการใช้ที่ดินโดยมิชอบ ในฐานะ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดูแลสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวบรวมข้อมูลนักการเมืองระดับท้องถิ่น และระดับชาติ ที่ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. หรือ ใช้นอมินีถือครองที่ดินมีอยู่หลายคน ขณะนี้กำลังทำข้อมูลอย่างละเอียดรวมพื้นที่กว่า 100000 ไร่ มั่นใจว่าหลังอภิปรายจะเปิดเผยข้อมูลนี้ให้หมด | รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศจะเปิดรายชื่อนักการเมืองระดับชาติ-ท้องถิ่น ที่ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. รวมกว่า 1 แสนไร่ หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจจบลง | การเมือง | ร.อ.ธรรมนัส,ถือครองที่ดิน ส.ป.ก.,อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล,อภิปรายไม่ไว้วางใจ,ประชุมสภา,รัฐบาลประยุทธ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/289131 |
ชื่นชม หนุ่มวัย 18 ปี รปภ.สอบติดสัตวแพทย์ จุฬาฯ | จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ส่งต่อข่าวที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสอบคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากการตรวจสอบพบว่าเป็นนักเรียนซึ่งมีฐานะยากจน ใช้เวลาว่างช่วงปิดภาคเรียนทำงานระหว่างรอผลสอบนายณรงค์ศักดิ์ สันตินาวงศ์ อายุ 50 ปี น้าชายนายวีรพงศ์ แซ่หาญ อายุ 18 ปี ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่ เล่าวว่า นายวีรพงศ์ทำงานช่วงปิดเทอม โดยทำงานหาเงินช่วยแม่ตั้งแต่ยังเล็ก จึงดีใจมากที่หลานชายประสบความสำเร็จทางการศึกษา สามารถสอบติดคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขณะที่นายวีรพงศ์ เล่าว่า แม่แยกทางกับพ่อประมาณ 7 ปีก่อน แต่ฐานะทางบ้านไม่ดีนัก แม่ต้องทำงานรับจ้าง จึงมีความตั้งใจตั้งแต่เด็กที่จะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดเพื่อหาทุนการศึกษา แบ่งเบาภาระของแม่ โดยได้รับทุนของมูลนิธิโรงพยาบาลจุฬาภรณ์จนจบชั้นมัธยมปลาย ระหว่างรอผลการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย นายวีรพงศ์จึงสมัครเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย และทำงานนี้มาได้ 2 เดือน เพื่อนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางพร้อมกับแม่ ไปมอบตัวและทำสัญญารับทุนการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทุนจุฬาฯ-ชนบท จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายอาหารกลางวัน ค่าเทอม ค่าหอพัก ค่ารักษาพยาบาลแม้ว่าจะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาแล้ว นายวีรพงศ์ ยืนยันว่าจะพยายามหางานทำเพื่อหารายได้พิเศษ แบ่งเบาภาระครอบครัวต่อไป | สื่อสังคมออนไลน์ชื่นชม นายวีรพงศ์ แซ่หาญ อายุ 18 ปี ทำงาน รปภ. เก็บเงินเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปมอบตัวและทำสัญญารับทุนการศึกษา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | สังคม | รปภ.,สัตวแพทย์,จุฬาฯ,จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | https://news.thaipbs.or.th/content/280111 |
รัช หนุน ร็อดเจอร์ส คุมหงส์แดงต่อ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 29 ก.ย. ว่า เอียน รัช ตำนานกองหน้าของ หงส์แดงลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วอนเหล่าเดอะ ค็อป ให้เวลากับนายใหญ่ของทีมอย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในการพาทีมกลับสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้ง เมื่อนักเตะทุกคนกลับมาฟิตสมบูรณ์ ,สำหรับ ร็อดเจอร์ส กำลังอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนัก หลังพาทีมออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร อยู่อันดับ 8 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตาม รัช มองว่า ร็อดเจอร์สต้องการเวลาและรอให้นักเตะทุกคนฟิตสมบูรณ์เพื่อพาทีมกลับสู่ฟอร์มการเล่นที่ดีอีกครั้ง โดยยกตัวอย่างการที่ได้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่หายเจ็บกลับมาก็สามารถช่วยทีมได้เยอะ ล่าสุดเพิ่งยิง 2 ประตู ในเกมที่เอาชนะ แอสตัน วิลลา ไป 3-2,รัช กล่าวว่าเมื่อคุณได้ใครสักคนที่คุณต้องการกลับมา (สเตอร์ริดจ์) มันก็จะช่วยให้ผู้เล่นคนอื่นๆมีความมั่นใจมากขึ้น คุณต้องให้เขาฟิตสมบูรณ์และดึงความเชื่อมั่นกลับมาสู่ทีม สร้างโอกาสและทำประตู ส่วน ร็อดเจอร์ส เขาต้องการเวลาและรอให้นักเตะทุกคนกลับมาฟิตสมบูรณ์ ผู้จัดการทีมทุกคนล้วนอยู่ภายใต้ความกดดันอยู่แล้วเมื่อพวกเขาไม่ชนะเกมการแข่งขัน เมื่อคุณคุมสโมสรใหญ่และไม่ชนะเกม เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ซึ่งก็แค่ต้องรับมือให้ได้แล้วดูกันว่าเราจะสามารถทำอะไรได้บ้าง ถึงแม้ว่าเราต้องการจะให้มันดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ตาม แต่ตอนนี้เราตามหลังทีมจ่าฝูงแค่ 5 คะแนนเท่านั้น ผู้จัดการทีมทุกคนของสโมสรใหญ่ต่างก็อยู่ในสถานะเดียวกัน ไม่ใช่แค่เบรนแดน | เอียน รัช ตำนานดาวยิงของลิเวอร์พูล วอนแฟนบอลหงส์แดงให้เวลากัับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในการพาทีมกลับสู่ฟอร์มการเล่นที่ดีอีกครั้งเมื่อนักเตะทุกคนกลับมาฟิตสมบูรณ์ | null | พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,เอียน รัช,เบรนแดน ร็อดเจอร์ส,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/528565 |
มทภ.4 ลงติดตาม-มอบนโยบายการนำเข้า-ส่งออกสินค้าการเกษตรด่านสะเดา-โกลก | ของจังหวัดสงขลา และด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก,เมื่อวันที่ 6 ก.พ.62 พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.กฤษดา พงศ์สามารถ ผบ.กองพลทหารราบที่ 5 กองกำลังเทพสตรี ได้ลงพื้นที่สงขลา พร้อมประชุมด่วนกับหัวหน้าหน่วยงานพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนของจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นภอ.สะเดา นายชูศักดิ์ สบายแย้ม นภอ.นาทวี พ.ต.อ.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผกก.ตม.สงขลา พ.ต.อ.สวัสดิ์ ศรีแสนยง ผกก.สภ.สะเดา พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ แสงสง่า ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ นายภักดี ดุลยพิจารณ์ นายด่านปาดังเบซาร์ นายอาทิตย์ วิสุทธิสมาจารย์ นายด่านบ้านประกอบ นายศิริพงษ์ วุฒินันท์ นายด่านสะเดา และผกก.สภ.นาทวีและสภ.สะท้อน รวมทั้งข้าราชการระดับสูงตามแนวชายแดน ที่หน่วยเฉพาะกิจทหารราบที่ 5 ตำบลสำนักขาม อ.สะเดา สงขลา ซึ่งมีวาระเร่งด่วนเรื่องการแก้ปัญหา ตามแนวชายแดนที่มีปัญหาาเรื้อรัง เช่นการเข้าออกด่านสะเดา เรื่องสินค้าหนีภาษี และให้เจ้าหน้าที่ดูแลการนำเข้าสินค้าที่มีผลกระทบต่อสินค้าเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่ รวมทั้งการดูแลความเรียบร้อยในห้วงเทศกาลตรุษจีน ที่มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียออกมาเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก,จากนั้น พล.ท.พรศักดิ์ ได้ลงพื้นที่ ติดตามผลการปฏิบัติงาน ในเรื่องการนำเข้า-ส่งออกสินค้าและผลิตผลทางการเกษตรตามนโยบายของรัฐบาล และมอบนโยบายเพิ่มเติมในด้านมาตรการความเข้มงวด วัตถุและสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาภายในราชอาณาจักร โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมศุลกากรพิพัฒน์ ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส,โดย มทภ.4 ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้มงวดในมาตรการป้องกัน ตรวจสอบอย่างจริงจัง พร้อมสกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบนำสินค้าและผลิตผลทางการเกษตรจากนอกประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด รวมถึงวัตถุต้องสงสัย และสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบที่จะนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนเข้า-ออก ด่านทุกด่าน ให้ยึดถือเป็นนโยบายที่สำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่องให้ถูกต้องตามกระบวนการ เพื่อช่วยกันป้องกันและป้องปรามการเข้ามาซึ่งสิ่งผิดกฎหมายในราชอาณาจักร. | มทภ.4 ลงพื้นที่ติดตามผลการปฏิบัติงาน ในเรื่องการนำเข้า-ส่งออกสินค้าและผลิตผลทางการเกษตรตามนโยบายของรัฐบาล และมอบนโยบายมาตรการเข้มงวด พร้อมประชุมร่วมกับหัวหน้าหน่วยงานพื้นที่แนวตะเข็บชายแดน | ข่าว,ทั่วไทย | มทภ.4,พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์,การนำเข้า-ส่งออกสินค้า,ด่านสะเดา,ด่านสุไหงโก-ลก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1489745 |
เทย่า ว่าไง? หลัง มิก้า โพสต์ไอจีโบ้ยให้ถามเรื่องแต่งงาน (คลิป) | ทำเอาแฟนๆ ของคู่หวานอย่างนักแสดงสาว ,เทย่า โรเจอร์ส, และนักฟุตบอลหนุ่ม ,มิก้า ชูนวลศรี, อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งคู่ใกล้จะมีข่าวดีแล้วรึเปล่า หลังจากมิก้าได้โพสต์ภาพคู่กับเทย่าและเขียนข้อความว่า มีแต่คนถามผมว่าเมื่อไหร่ผมก็ตอบว่าไปถามเทย่าดีกว่าไหม เจอ เทย่า มาร่วมงาน TOPSHOP Grand Opening the Biggest Flagship Store in South East Asia ณ ร้าน TOPSHOP ชั้น 1 โซนบีคอน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยรีบถามเรื่องนี้ทันที,ล่าสุดมิก้าลงไอจีบอกให้ถามเราเรื่องแต่งงาน?,มิกน่าจะแกล้งหาเรื่องเทย่าค่ะ พอเขารู้จะมางานวันนี้ วันนี้ต้องเจอนักข่าวหลายคน เขาก็เลยน่าจะแซวเล่นแบบนี้แหละ เขาเป็นแบบนี้ ชอบหาเรื่องเทย่า เขารู้อยู่ว่าช่วงนี้เป็น wedding season มั้ง ทุกคนแต่งงานกัน เวลาไปงานแต่งงานเพื่อน ทุกคนก็จะใครต่อๆ คู่นี้เมื่อไหร่จะแต่ง,จริงๆ มีคุยกันแล้วรึยัง?,จริงๆ แล้วไม่มีคุย (หัวเราะ) นี่แหละหาเรื่องให้เทย่าชัดๆ คือเราก็วางแผนอนาคตของเราไปเรื่อยๆ แต่เราไม่เคยคุยว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ดี แต่งที่ไหนอะไรยังไง ยังไม่มีดีเทลตรงนั้น แค่โอเคเดี๋ยวเปิดร้านกาแฟกันมั้ย เดือนหน้าไปเที่ยวไหนกัน ในอนาคตอยากไปอยู่อเมริกามั้ย แต่เราไม่เคยคุยกันว่าจะแต่งงานกัน,มันยังติดขัดอะไร หรือยังไม่พร้อม?,ไม่ค่ะ เทย่าว่าเราก็แฮปปี้กันดี คือเทย่าไม่ได้เป็นคนที่อยากแต่งงานเป็นเจ้าสาว เพราะเทย่ามีความรู้สึกว่าถ้าเราแต่งงานกันไปแล้ว ชีวิตเราก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากเท่าไร มันก็คือการจัดปาร์ตี้ใหญ่ๆ เท่านั้นเอง,ไม่เคยคิดอยากใส่ชุดเจ้าสาว?,ก็คิดว่าวันไหนสักวันนึงก็คงเป็นเจ้าสาวแหละ แต่เราพูดตรงๆ ว่าถ่ายหนังสือเวดดิ้งมาหลายเล่มมาก เลยบอกเลยว่าเคยใส่มาหลายรอบแล้ว แต่ว่างานแต่งงานก็คงมีแหละ เพราะว่าอายุก็ถึงแล้วแหละ เราสองคนก็ผู้ใหญ่แล้ว และเพื่อนๆ ของเราในช่วงนี้แหละที่กำลังแต่งงานกัน เลยเหมือนเข้าหูบ่อยว่าเฮ้ยแต่งมั้ย ใครจะแต่งต่อ,เพื่อนๆ แต่งงานแล้วทำให้เราเปลี่ยนใจอยากแต่งงานเร็วขึ้นมั้ย?,ถ้าถามเทย่าตอนสมัยเด็ก เทย่าคิดจะแต่งงานตอนอายุ 25 (หัวเราะ) เขาบอกว่าดีใจมากที่ไม่ได้แต่งตอน 25 แต่ก็ยังไม่มีไทม์ไลน์ค่ะ ยังไม่มีตัวเลขว่าต้องแต่งก่อนอายุเท่านี้ เพราะชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนแต่งตอน 20 หรือ 25 ก็มี 30 35 หรือ 40 ก็มี มันก็แล้วแต่แหละ บางทีคนคบกันปีเดียวก็แต่ง บางคนคบกัน 7 ปีค่อยแต่ง บางคนคบกัน 10 ปีแล้วเลิก ตอนนี้เราคบกันมา 3 ปีแล้วก็แฮปปี้ดีทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอะไร,ถ้าฝ่ายชายบอกว่าแต่งเลยปีนี้เอาไหม?,เขาก็ต้องขอเทย่าก่อนปะ (หัวเราะ) ถ้าเขาขอก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่อยากจะบอกว่าจะพูดยังไง เพราะว่าเดี๋ยวไม่ลุ้น ผู้ชายควรจะมีการลุ้นนิดนึงเนอะว่าจะเซย์เยสมั้ยหรือจะโน หรือจะขอคิดก่อนรึเปล่า,เหมือนที่คบกันก็บอกเป็นนัยๆ รึเปล่าว่าเตรียมตัวนะ?,ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะใช่ เทย่าควรไปทำเล็บมั้ยอะ เดี๋ยวถ่ายรูปไม่สวย (หัวเราะ),ครอบครัวว่าไงบ้าง?,ครอบครัวก็ไม่กดดันค่ะ พ่อแม่เทย่าก็ไม่กดดัน เขาไม่รีบที่จะให้เทย่าแต่งหรือมีลูก ครอบครัวของเขาก็ไม่เร่ง ก็รู้จักกัน เราเจอกันหลายรอบแล้วค่ะ ก็แฮปปี้ดี แต่ก็ไม่มีการบอกว่าอยากมีหลาน เมื่อไหร่จะมีหลาน ไม่มีคนที่เรารักมากดดันเรา จะเป็นฝ่ายรอบๆ แหละว่าเมื่อไหร่จะแต่ง คบกันมานานแล้ว,พอโดนคนถามบ่อยๆ เราพอจะมีแพลนไหม?,ก็ไม่ค่อย เราก็คุยกัน มันเป็นการแซวเฉยๆ แหละ เราจะมาให้คนที่ไม่สนิทกับเรามาบังคับให้เรารู้สึกว่าเฮ้ย มันถึงเวลาแล้วรึเปล่า หรือเราจะแต่งเพราะคนอื่นเขาแต่งกันรึเปล่า เทย่าว่าเหตุผลแบบนั้นมันไม่ดีอะ เราควรจะแต่งเมื่อเราสองคนพร้อมที่สุด และเราอยากที่จะแต่ง แล้วเขาพร้อมที่จะขอเทย่าเมื่อไหร่ เทย่าพร้อมที่จะเซย์เยสก็ค่อยว่ากันค่ะ,เราอยากมีลูกไหม?,เทย่าก็คงมีลูกแหละ แต่ถ้าถามว่าในปีนี้เทย่าพร้อมที่จะมีลูกมั้ย เทย่ายังไม่พร้อม ยังมีอีกหลายอย่างที่อยากจะทำก่อนที่จะมีครอบครัวของตนเองค่ะ,ตอนนี้มีกิจกรรมหรือแพลนทำอะไรร่วมกันมั้ย?,เดี๋ยวจะเปิดร้านกาแฟค่ะ แล้วก็คงไปเที่ยว เทย่าจะพยายามไปเที่ยวประเทศใหม่ๆ ปีนึงอย่างน้อย 1-2 ที่ ปีนี้เราไปฮ่องกงกันมาแล้ว คงหาอีก 1 ประเทศที่จะไปเที่ยวกัน ส่วนร้านกาแฟเราทำด้วยกัน และก็มีเพื่อนอีก 2 คนที่จะทำด้วย,เหมือนเป็นการสร้างฐานะ?,ก็นี่แหละ เราก็วางแพลนอนาคตของเรา แต่เราก็ไม่ได้แบบโอเค แต่งงานกัน แล้วมาทำนี่ต่อ คือเราก็ทำไปเรื่อยๆ ของเราที่จะแฮปปี้ที่ทำด้วยกัน,หลังจากนี้กดดันมั้ยถ้าโดนถามเรื่องแต่งงาน?,ก็นี่แหละค่ะ วันนี้แหละค่ะ เห็นกล้อง 20 กล้องและพี่ๆ นี่แหละเอาไมค์มาถามว่าพร้อมยัง รู้สึกกดดันตอนนี้แหละ (หัวเราะ) มิก้าไม่น่าลงแคปชั่นเลย,ต้องแอบไปส่องชุดดูบ้างมั้ย?,คงต้องเริ่มคิดมั้ง เทย่าไม่เคยคิดก่อนหน้านี้เลยค่ะ. | ทำเอาแฟนๆ ของคู่หวาน เทย่า-มิก้า อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งคู่ใกล้จะมีข่าวดีแล้วรึเปล่า หลังจากมิก้าได้โพสต์ภาพคู่กับเทย่าและเขียนข้อความทำนองโบ้ยให้ถามเทย่าเรื่องแต่งงาน | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เทย่า โรเจอร์ส,เทย่า โรเจอร์,มิก้า ชูนวลศรี,เทย่า มิก้า,เทย่า มิก้า แต่งงาน,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1290367 |
เฝ้าโขลงช้างถูกรถ จนท.อุทยานฯ เขาใหญ่ชนบาดเจ็บ | ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งประจำอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มวกเหล็ก จ.สระบุรี ขับรถปิคอัพส่วนตัวชนโขลงช้าง 4 ตัว ขณะเดินข้ามถนนอย่างกระชั้นชิด เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (12 พ.ย.2560) บริเวณถนนบ้านกุดคล้า-ผ่านศึก บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทำให้สภาพด้านหน้ารถพังยับเยินเพราะช้างล้มทับ แต่คนขับและผู้ที่นั่งมาด้วยรวม 3 คนไม่ได้รับบาดเจ็บ นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่ ระบุว่า ตลอดทั้งคืนได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามโขลงช้าง ก่อนพบว่าในเวลา 05.00 น.ช้างได้ออกมาหากินตามปกติ แต่มีช้าง 1 ตัวที่พบว่ามีอาการเจ็บเล็กน้อยส่วนการตรวจสอบพบว่า จุดที่เกิดอุบัติเหตุเป็นทางโค้งและมืด ขณะเกิดเหตุโขลงช้างเดินข้ามถนนตัดหน้ารถอย่างกระชั้นชิด เบื้องต้นสั่งการให้เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนให้ผู้ที่ใช้เส้นทางในเขตอุทยานฯ เพิ่มความระมัดระวังเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ | เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ยังติดตามอาการช้างที่เดินตัดหน้ารถยนต์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ในระยะกระชั้นชิด จนทำให้ถูกรถชนบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างปรับปรุงการแจ้งเตือนจุดเกิดเหตุ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ | ภูมิภาค | อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่,รถชนช้าง,โขลงช้าง,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/267685 |
หนุ่มสุดกลั้น ปวดท้องหนักมาก วิ่งลงทุ่งนา ผงะเจอศพแช่น้ำ หายปวดทันที | เมื่อเวลา 08.25 น. วันที่ 7 ส.ค.63 ร.ต.อ.วรภัค ศุภสวัสดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุตำรวจ 191 ว่า มีชาวบ้านพบศพผู้เสียชีวิตบริเวณกลางทุ่งนา ริมถนนทางหลวงหมายเลข 9 ม.8 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์จากนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุอยู่กลางทุ่งนา ห่างจากถนนทางหลวงหมายเลข 9 ไปประมาณเกือบ 70 เมตร พบศพชายสภาพเปลือยกาย นอนคว่ำหน้าอยู่ในนาข้าวที่มีน้ำขังอยู่เล็กน้อย เมื่อตรวจสอบบริเวณโดยรอบห่างจากศพไปประมาณ 50 เมตร พบโสร่งตกอยู่ 1 ตัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานจากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่า เป็นชายรูปร่างท้วม สูงประมาณ 160 ซม. อายุประมาณ 50-55 ปี ไว้ผมรองทรง มีหนวดมีเครา ลักษณะคล้ายคนนับถือศาสนาอิสลาม ตามร่างกายไม่พบร่องรอยบาดแผลหรือการต่อสู้ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชม. ก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุอีกครั้งจากการสอบถาม นายชาตรี ลีพรม อายุ 20 ปี ชาว จ.สกลนคร คนที่พบศพคนแรก ให้การว่า ตอนพบศพตนขับรถแบ็กโฮทำถนนอยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งขณะนั้นตนปวดท้องหนัก จึงเดินลงไปตามคันนาเพื่อจะไปปลดทุกข์ เมื่อเดินไปถึงจุดดังกล่าว ก็เหลือบไปเห็นมีคนนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในท้องนา ตนถึงกับขาแข็งก้าวไม่ออก เพราะรู้ว่าต้องเป็นคนตายแน่ๆ เนื่องจากมีกลิ่นเหม็นเน่า เมื่อตั้งสติได้จึงรีบวิ่งออกมา แล้วมาบอกกับเพื่อนคนงาน จากนั้นจึงรีบโทรศัพท์แจ้งไปที่ 191 เพื่อประสานตำรวจท้องที่มาตรวจสอบดังกล่าว และจากการสอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าวยังไม่พบว่า มีผู้ใดสูญหาย และยังไม่มีใครเคยเห็นหน้าผู้ตายมาก่อนด้วย | หนุ่มขับแบ็กโฮ ปวดท้องถ่ายหนัก วิ่งลงกลางทุ่ง เหลือบเห็นศพ ผงะทันที-ขาแข็งก้าวไม่ออก ก่อนตั้งสติเผ่นแน่บ ลืมปลดทุกข์ รีบบอกเพื่อนโทรแจ้งตำรวจ | ข่าว,ทั่วไทย | พบศพ,ศพจมน้ำ,เจอศพคนตาย,เจอศพกลางทุ่งนา,หนุ่มเจอศพ,ปทุมธานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1905775 |
งงกันหมด ส่องคอมเมนต์แฟนบอลไทย หลัง ลีซอ หลุดโผช้างศึก | วันที่ 7 มิ.ย. ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทำการประกาศรายชื่อ 24 ขุนพล ทีมชาติไทย สำหรับเกมเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 8 ,ผลปรากฏว่าไม่มีชื่อ ธีรเทพ วิโนทัย ที่ถูก มิโลวาน ราเยวัช เรียกกลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้งในรอบ 3 ปี 2 เดือน ทำให้แฟนบอลออกมาแสดงความเห็นกันมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้,พลาดแล้วไม่เอาลีซอติด ผมปกติเอาใจช่วยโค้ชนะครับ แต่งวดนี้ผมว่าโค้ชเอากองหน้าน้อยไป ลีซอชั่วโมงนี้ เค้าต้องได้ลง ปกติผมไม่ชอบเค้า แต่ผลงานเค้าชั่วโมงนี้ดีจิง ถ้าผลการแข่งขังไม่เป็นตามคนไทยต้องการ โค้ชเตรียมตัวโดนมหาพายุเลยครับ,ลีชอ ไม่น่าหลุด เล่นดีกว่าสิโรจน์อีก แล้วมงคลติดได้ไงนะ แปลกๆ แต่ก็เห็นพีรดล ติดชุดใหญ่ได้ แสดงว่ามีดีเยอะ ถ้าเมืองทองไม่เอาส่งมาเชียงรายเลยครับ,เฮียไม่ติดไม่เป็นไรนะ ไว้รอบหน้าสู้ใหม่ เป็นกำลังใจเสมอ จุ๊บๆ,เสียดายมากครับ เชียร์อยู่,สู้สู้ครับพี่ สักวันจะเป็นวันของพี่,หลุดเฉย เล่นก็ดีกว่าเขา,ไม่ติดได้ไง เล่นดีมาก ยังไงก็สู้ๆ คับเฮีย,ทำดีแทบตายไม่มีใครเห็นค่า เฮ้ออ,เอางี้นะพี่ ฟอร์มนัดอุซเบฯ พี่เด่นสุดในกองหน้าทั้งหมดที่ลงไปละ พี่ได้พิสูจน์แล้ว คนไทยเห็นหมด,ไม่ติดไม่เปนไรนะพี่ เต็มที่แล้ว แต่จะรอคอยเฮียกลับมาเหมือนเดิม สู้ๆ นะพี่,ลีซอเล่นดีและยิงแรง ทำไม ทำไม ทำไมไม่ติด ที่ซื้อเสื้อตัวใหม่และสกรีนเบอร์ 14 ชื่อธีรเทพ เพราะคิดว่า 100% ติดแน่ ผลออกมาผิดหวังกับโค้ชที่ไม่เอาลีซอติด,ยังงงอยู่เลย เค้าประกาศผิดไหม,ผมไปอ่านคอมเมนต์มาหลายเพจ มีคนอยากให้พี่ซอติดหลายคนมาก รู้สึกดีใจแทนพี่เลยครับ ถึงแม้ไม่ติดแต่มีคนเรียกร้องถึงพี่ สุดยอด My Idol,เป็นวันที่ผมเศร้าที่สุดในชีวิตวันนึงเลยครับ,ถามว่าเศร้าไหม ก็เศร้าที่เห็นพี่ไม่ติด เสียดายและเสียใจ พี่ฝึกซ้อมแทบตาย แต่ไม่ติด สู้ๆ ต่อไปนะคะพี่ลีซอ แต่ถึงไม่ติดพี่ก็อยู่ในใจแฟนคลับคนรักพี่ลีซอเสมอ จะเชียร์และติดตามผลงานของพี่ลีซอตลอดไปนะ,ให้กำลังใจครับผม ผู้เล่นที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ กระหายที่จะลงเล่น ยังไงก็ยังมีโอกาสเสมอครับ เชียร์ลีซอตลอดครับ,เดินหน้าต่อครับพี่ วันนี้อาจจะยังไม่ใช่วันของเรา,ยอมรับว่าเสียใจและเสียน้ำตา เพราะตั้งตารอดูมาก มีความหวังว่าเฮียจะติด ไม่หลับไม่นอนรออ่านแต่ข่าว สุดท้ายหลุด แต่ก็ไม่เป็นไรนะคะ ยังไงก็ต้องสู้กันต่อไป เฮียคงเสียใจกว่าหนูมาก | ส่องคอมเมนต์ของแฟนบอลชาวไทย หลังจาก ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย ไม่มีชื่อติดทัพช้างศึกชุดทำศึกคัดบอลโลกกับ ยูเออี โดยส่วนใหญ่มองไปในทิศทางเดียวกันว่า ดาวยิงรายนี้ไม่ติดได้ยังไง | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ลีซอ,ธีรเทพ วิโนทัย,ช้างศึก,ทีมชาติไทย,ยูเออี | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/966427 |
ตร.สนธิกำลังทหาร จับขบวนการค้ายาบ้า-ยาไอซ์ | ตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงเขตอุบลราชธานี หรือ นรข. และทหารจากกองกำลังสุรนารี ตรวจยึด ยาบ้ากว่า 150000 เม็ด และยาไอซ์ 6 กิโลกรัม จากนายอาคม ไพจันทร์ และนายณัฐพงษ์ สิทธิรักษ์ ขณะลักลอบขนมาตามถนนสายหนองผือ-ชานุมาน ในตำบลเขมราฐ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี โดยผู้ต้องหารับสารภาพ ลักลอบนำย้าบ้าทั้งหมดเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำไปส่งให้กับนายทุนในอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้รับค่าจ้าง 400000 บาทด้านตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ตรวจยึดยาบ้ากว่า 46000 เม็ด และยาไอซ์ 260 กรัม ที่ซุกซ่อนมาในรถยนต์ พร้อมจับกุมนายสมศักดิ์ ศรีสัตยานุกูล และนายประมวล ประสงค์ทรัพย์ ขณะเดินทางไปรับยาบ้ามาจากจังหวัดอำนาจเจริญ ก่อนจะนำไปส่งให้กับลูกค้าที่จังหวัดนครราชสีมา | ตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ สนธิกำลัง นรข.และทหารจากกองกำลังสุรนารี จับกุมผู้ต้องหาขณะลักลอบขนยาบ้าประมาณ 200000 เม็ด และยาไอซ์จำนวนหนึ่ง เข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน | อาชญากรรม | ตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ,ทหารกองกำลังสุรนารี,ยาบ้า,ยาไอซ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/158429 |
เต้น ขอบคุณอัยการ ร่อนหนังสือจี้ DSI ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. | เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 60 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณองค์กรอัยการ ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ตามข้อผูกพันในคำพิพากษาศาลฎีกา โดยทำหนังสือแจ้ง ป.ป.ช.ให้ทราบคำพิพากษาเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และแจ้งดีเอสไอให้ส่งสำนวนฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกฯ กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล หลังจากนี้ ป.ป.ช.คงเล่นบทจ่าเฉยต่อไปไม่ได้ ต้องอธิบายต่อสังคมว่า หลักฐานเก่าที่ใช้ยกคำร้องคดีนี้คืออะไร และคำพิพากษาศาลฎีกาตลอดจนสิ่งที่ฝ่ายกฎหมายและญาติผู้เสียชีวิตระบุก่อนหน้านี้ถือเป็นหลักฐานใหม่หรือไม่ หากได้ทราบความชัดเจนจะพยายามอย่างที่สุดในการรวบรวมสิ่งที่เรียกว่าหลักฐานใหม่นำส่ง ป.ป.ช.ให้ได้
,นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ตนไม่มีเจตนากระทบกระทั่งหรือกดดัน ป.ป.ช. แต่ตนต้องการความยุติธรรม ซึ่งถ้าเอามาตรฐานการใช้ดุลพินิจการสั่งฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และคณะ คดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นเกณฑ์ เห็นว่าคดีปี 2553 ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากสั่งฟ้องตามกันไป แม้จะอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ไม่ได้ให้อำนาจใช้อาวุธสงครามกระทำต่อประชาชนมือเปล่าจนบาดเจ็บล้มตาย เหตุเกิดต่อเนื่องกันหลายวันกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งเพื่อป้องกันความสูญเสียแต่อย่างใด ทั้งนี้ตลอดเดือน ต.ค.นี้ เป็นห้วงเวลาสำคัญของคนไทยทั้งชาติ นปช.จะยุติการเคลื่อนไหวติดตามเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้บางฝ่ายใช้เป็นประเด็นการเมืองตอบโต้กันไปมา และให้เวลา ป.ป.ช.ในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อผ่านช่วงเวลาดังกล่าวและถึงสถานการณ์ที่เหมาะสมจะติดตามเรื่องนี้กับ ป.ป.ช.อีกครั้ง ภายใต้ข้อเรียกร้องเดียว คือ คนตายเป็นร้อย คดีต้องถึงศาล หากทุกอย่างตรงไปตรงมาตามกระบวนการ พวกตนก็จะเป็นเช่นประชาชนคนหนึ่งที่คอยติดตามการพิจารณาคดีตามสิทธิ์ที่ทำได้ต่อไป
| ณัฐวุฒิ ขอบคุณอัยการ จี้ดีเอสไอส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.เผย ต.ค. งดเคลื่อนไหว หวั่นบางฝ่ายหยิบใช้เป็นประเด็นการเมือง | ข่าว,การเมือง | ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ,นปช.,เสื้อแดง,สาลการชุมนุม ปี 53,ม็อบแดง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1083809 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.