title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
|---|---|---|---|---|---|
เมืองไทย 2017 | แค่การบริหารจัดการในพระราชพิธีบกพร่อง ทำให้ประชาชนไม่พอใจออกมาขับไล่พ่อเมือง แทนที่จะเปลี่ยนความอาลัยเป็นพลัง,เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส,การเมืองที่สงบไปพักใหญ่ ไม่ทันสิ้นความโศกเศร้าอาลัย ดาหน้า สร้างเงื่อนไขไล่ล่าล้างบางเช็กบิล กระหายที่จะสร้างความขัดแย้งให้เป็นนิรันดร์ ทันทีที่ครบการขอยื่นอุทธรณ์คดีรับจำนำข้าวของ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้งฝ่ายอัยการที่ไม่มีการอุทธรณ์คดี,ปิดคดีมหากาพย์รับจำนำข้าว,แรงกดดันไล่ล่า อดีตนายกฯหญิง พยายามที่จะต้อนให้เข้ามุมอับ ถอนพาสปอร์ต ยึดทรัพย์ ขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน คนในตระกูลชินวัตร จ่อถูกล้างบาง แม้แต่คนที่จะขึ้นมา เป็นหัวของพรรคเพื่อไทย ก็ไม่วายโดนหางเลข ไม่ได้ผุดได้เกิด ลามไปจนถึง คนที่อยู่แดนไกล พยายามจะยัดเยียดข้อหาร้ายแรง รื้อคดี การปล่อยกู้กรุงไทย โครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว แปลงสัญญาสัมปทานโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต ออกตัวโดย เข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุดคนใหม่ ว่าสามารถรื้อคดีได้ เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น,ตั้งใจจะขุดรากถอนโคน,กระทั่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เองก็ไม่รอดสันดอน การขุดคุ้ยทุจริตในวงราชการ โดยเฉพาะคนที่อยู่ใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ พี่น้องร่วมสาบาน กลายเป็นบ่อน้ำมันถล่มรัฐบาล คสช. ไม่ยั้ง,กระเทือนซาง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. ที่มีอำนาจพิเศษ ม.44 อยู่ในมือ กลับกลายเป็นเผือกร้อน จี้จุดอ่อนไปที่ เศรษฐกิจประเทศ เอื้อนายทุนประเทศ รัฐบาลหน้ามืดยกระดับเงินออมเป็นเงินคงคลัง ตกที่นั่งลำบาก ถังแตก คิดจะมาขูดเลือดเอากับผู้ประกันสังคม จากที่เคยจ่ายเงินสมทบ 750 บาท เป็น 1,000 บาท จะริบเงินจากบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวอีกต่างหาก,แตะสกัดทุกวิถีทาง,น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อน การพูดความจริงครึ่งเดียวหรือไม่มีความจริงเลย เป็นวิชามาร ที่กลุ่มการเมืองและนักการเมืองมืออาชีพถนัด,นายกฯลุงตู่พอใจสถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัว ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 86.7 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2 เดือนติด การส่งออกขยายตัวที่ร้อยละ 12.22 ต่อเนื่องกันมา 7 เดือน ยอดการส่งออกข้าวอยู่ที่ 8.97 ล้านตัน,โดนตีเรื่องจะเอาทรัพยากรประเทศไปประเคนนายทุนสลบเหมือด,สมมติเลือกตั้งมาแล้วเพื่อไทยได้เสียงข้างมาก เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ถูกตีรวน ตีตรวนอีกตามระเบียบ สร้างสถานการณ์เรียกร้องให้ทหารปฏิวัติ เป็นวงจรอุบาทว์ไม่รู้จบ ไทยแลนด์ 4.0 ก็แค่การมโนไปในอากาศ.,หมัดเหล็ก,[email protected] | หลังเสร็จสิ้นงานพระราชพิธี มีข้อบ่งชี้ว่า เมืองไทยก็เป็นเช่นนี้เอง แค่คนไม่กี่คน ทำให้คนไทยรู้สึกโกรธแค้น แตกแยก ขัดแย้ง แค่การแสดงความคิดเห็นของสื่อต่างประเทศ ทำให้สังคมไทยเดือด | null | การเมืองไทย,เมืองไทย 2017,ความขัดแย้งทางการเมือง,หมัดเหล็ก,คาบลูกคาบดอก | https://www.thairath.co.th/news/politic/1112675 |
ศุภชัย หนุน กรธ.อัพคุณสมบัติ กกต.ใหม่ ลั่นพร้อมทำตาม ก.ม. | เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเท็ล แอนด์ ทาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการกำหนดคุณสมบัติของ กกต.ตามกฎหมายใหม่ ว่า คงเป็นไปตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เห็นว่าสิ่งไหนเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ทางเราพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ ซึ่งการมีความเข้มงวดมากขึ้นในคุณสมบัติของ กกต. ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในอนาคต ถือว่าเป็นข้อดีข้อหนึ่ง ที่จะมีการตรวจสอบในส่วนของ กกต. ตนคิดว่าทาง กรธ. คงจะหาคนที่มีคุณสมบัติที่มีความเป็นกลางทางการเมือง มีความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ และมีความกล้าหาญ บุคคลเหล่านี้ก็จะต้องมีคุณวุฒิ และวัยวุฒิที่เหมาะสม โดยอาจจะมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ คงเป็นเจตนาที่ดีของ กรธ. แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อ กกต.ในชุดปัจจุบันหรือไม่นั้น ต้องดูว่าทางคณะกรรมการสรรหามีการวินิจฉัยอย่างไร ส่วนข้อเสนอที่ออกมาว่าจะเซตซีโร่การทำงานของ กกต.นั้น ตนเห็นว่าเรามีหน้าที่อะไรก็ทำไปตามหน้าที่ ไม่สับสน เราเป็นผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหมายออกมายังไงเราต้องทำตาม,นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ตนไม่ไปก้าวก่ายดุลพินิจของ กรธ.ว่าจะทำอย่างไร เป็นดุลพินิจของ กรธ. ส่วนที่มี กกต.บางคนแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ อาจจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ความคิดเห็นของที่ประชุม กกต. ซึ่งทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็น แต่หากเป็นมติของ กกต.จะให้โฆษกไปแถลง แต่ในที่ประชุมไม่มีมติในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม กรธ.กับ กกต.ไม่มีปัญหา หรือข้อขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น โดยจะต้องดูว่าผู้ที่มีหน้าที่ร่าง พ.ร.ป.คือ กรธ. ส่วน กกต.หรือหน่วยงานองค์กรอิสระอื่นๆ นั้น เป็นส่วนหนึ่งที่จะเสนอความคิดเห็นโดยร่างเสนอเข้าไป เราไม่สามมารถไปบังคับได้ เพียงแค่เราเสนอข้อดี ข้อเสียจากประสบการณ์ทำงาน,ทั้งนี้อาจจะมีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมไปยัง กรธ.หากเห็นว่า เนื้อหาสาระของ พ.ร.ป.กกต.ส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่มีอุปสรรคไม่ราบรื่น แต่ขณะนี้ยังไม่มีการหารือระหว่าง กกต.ทั้ง 5 คนต่อกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กกต.จะประชุมกันอีกครั้งในวันอังคารที่ 22 พ.ย.นี้. | ศุภชัย ไร้ปัญหากับปมคุณสมบัติ เชื่อ กรธ.มีเจตนาดี พร้อมทำตามกฎหมาย ยันความเห็น กกต.บางคน ไม่ใช่มติ | null | กกต.,กำหนดคุณสมบัติ,ศุภชัย สมเจริญ,ร่างรัฐธรรมนูญ,องค์กรอิสระ,คุณสมบัติ กก.กกต.,กรธ. | https://www.thairath.co.th/content/784817 |
ศรชล.ภาค 2 ลงพื้นที่อ่าวบ้านดอน ปิดประกาศรื้อขนำรุกพื้นที่ภายใน 15 วัน | เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 63 พลเรือโทสำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทหารเรือภาค 2 ผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 ( ผอ.ศรชล.ภาค2 )ในฐานะผู้อำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอนใน จ.สุราษฎร์ธานี ได้นำประกาศคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ของกรมเจ้าท่า และคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่สร้างลงในที่จับสัตว์น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ของกรมประมง ติดลงที่บริเวณผนังของขนำในพื้นที่ ต.คลองฉนาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการรื้อถอนขนำที่ไม่พบตัวบุคคลมาแสดงความเป็นเจ้าของพลเรือโทสำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะ ผู้อำนวยการศรชล. ภาค 2 เปิดเผยว่า ภารกิจของ ศรชล.และคณะทำงานในวันนี้ (21 ก.ค. 63) คือการลงพื้นที่ปิดหมายคำสั่งทางคดี กับขนำในพื้นที่ อ.เมืองและอ.พุนพิน กว่า 176 คดี เพื่อดำเนินการเร่งรัดให้รื้อถอนขนำที่ไม่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ดังกล่าว ภายใน 15 วัน หากผู้ประกอบการไม่ทำการรื้อถอน ศรชล.จะสนธิกำลังร่วมกับทหารเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงรื้อขนำ พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย ปปง. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมคิดค่าใช้จ่ายกับเจ้าของขนำผิดกฎหมายด้าน นายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธ์กุล ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า สิ่งก่อสร้างที่สร้างในพื้นที่จับสัตว์น้ำจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมประมง หากไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความผิดสำหรับขนำสีแดงหลังใหญ่ ขนำหลังสีขาว และขนำหลังสีม่วง ที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งหมายคำสั่งทางปกครองไปทางไปรษณีย์ครบทั้ง 3 หลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ศรชล. และคณะทำงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ยังอ่าวบ้านดอนอย่างต่อเนื่อง เพื่อปฏิบัติภารกิจปิดหมายคำสั่งทางคดี กับขนำผิดกฎหมาย ก่อนเข้าสู่แผนการดำเนินการระยะที่ 2 ในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ โดยจะดำเนินการกับขนำที่ปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนประมาณ 80 หลังก่อน และจะดำเนินการรื้อถอนทุกขนำที่ผิดกฎหมาย ไม่เว้นขนำที่ถูกสร้างและต่อเติมจนกลายสภาพเป็นฟาร์มสเตย์ในพื้นที่อนุญาต. | ผอ.ศรชล.ภาค 2 ลงพื้นที่อ่าวบ้านดอน ปิดประกาศของกรมเจ้าท่า คำสั่งรื้อถอนขนำเฝ้าหอยแครง รุกอ่าวบ้านดอนภายใน 15 วัน ไม่เว้นแม้แต่ขนำฟาร์มสเตย์ หากไม่รื้อทหารจะรื้อพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย ป.ป.ง. | ข่าว,ทั่วไทย | หอยแครง,รื้อขนำ,อ่าวบ้านดอน,ศรชล.ภาค 2,ประกาศกรมเจ้าท่า,อ.กาญจนดิษฐ์,สุราษฎร์ธานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1894627 |
มารยาทสากล | สร้างความประทับใจแก่ผู้คนทั้งโลก โดยเฉพาะชาติเจ้าภาพเจ้าของพื้นที่จัดการแข่งขัน,ฟุตบอลโลก 2018 ในรัสเซีย เหล่ากองเชียร์ ซามูไร บลู แสดงมารยาทการชมกีฬาให้ผู้คนเห็นกันอีกอย่างสม่ำเสมอ หลังจบเกมการแข่งขันกีฬาทุกนัด ไม่ว่าทีมชาติญี่ปุ่นจะแพ้หรือชนะคู่แข่ง บรรดากองเชียร์ญี่ปุ่นจะใช้ถุงพลาสติกใบใหญ่ถือเดินเรียงหน้ากระดานเก็บขยะขวดน้ำหรือภาชนะใส่อาหารที่ถูกทิ้งขว้างอยู่ตามอัฒจันทร์อย่างเรียบร้อยสะอาดสะอ้านเหมือนก่อนพื้นที่จะถูกใช้งาน,ผู้คนพบเห็นพฤติกรรมมารยาทงดงามของกองเชียร์กีฬาญี่ปุ่นพากันแสดงความคิดเห็นผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างคึกคัก ระบุ พฤติกรรมการเชียร์กีฬาคือภาพสะท้อนวัฒนธรรมของผู้คนจากชาตินั้นๆ,นักวิชาการจากชาติตะวันตก ซึ่งคลุกคลีอยู่กับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมานาน ระบุการแสดงออกถึงความสุภาพและการรักษาความสะอาดอย่างยอดเยี่ยมของชาวญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกประหลาดใจ เพราะชาวญี่ปุ่นทำแบบนี้กันจนเป็นสิ่งปกติ ชาวญี่ปุ่นได้รับการอบรมปลูกฝังสิ่งดีๆแบบนี้กันมาอย่างยาวนานตั้งแต่เด็ก,นักเรียนญี่ปุ่นทุกคนต้องผ่านการอบรมและฝึกทำความสะอาดชั้นเรียนทุกๆวัน วันละอย่างน้อย 20 นาที หรือที่เรียกกันว่า โอ-โซจิ--O-soji,พฤติกรรมน่าชื่นชมของเหล่ากองเชียร์ฟุตบอลจากญี่ปุ่นไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรกในรัสเซีย ก่อนหน้านี้ ฟุตบอลโลก 2014 ในบราซิล เหล่ากองเชียร์ฟุตบอลจากญี่ปุ่นก็พากันร่วมทำความสะอาดพื้นที่เชียร์กีฬาหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันระหว่างญี่ปุ่นกับไอวอรีโคสต์ ซึ่งญี่ปุ่นพ่ายแพ้ 1 ต่อ 2 ประตู,ใช่มีเพียงกองเชียร์กีฬาจากญี่ปุ่นที่แสดงพฤติกรรมและมารยาทดีงามตามสถานที่สาธารณะให้ผู้คนชาวโลกได้พบเห็นและชื่นชม ชาติสถานะไม่สูงส่งมากนักบนเวทีโลกอย่าง เซเนกัล กองเชียร์จากชาติเล็กๆ ทวีปแอฟริกาก็ยังร่วมแสดงพฤติกรรมเช่นเดียวกับเหล่ากองเชียร์ฟุตบอลจากญี่ปุ่นด้วยอย่างน่าชื่นชม,ผิดกับผู้คนกองเชียร์กีฬาในอีกหลายประเทศ ยังแสดงพฤติกรรมสะท้อนวัฒนธรรมของชาติตัวเองให้ชาวโลกได้รู้ได้เห็นอย่างน่าหดหู่ใจ,อานุภาพ เงินกระแชง | อีกครั้งที่กองเชียร์ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น ซามูไร บลู ได้รับการชื่นชมจากผู้คนพบเห็นเหล่ากองเชียร์ช่วยกันเก็บเศษขยะบนอัฒจันทร์ หลังร่วมชมการแข่งขันกีฬาเสร็จสิ้นลงทุกครั้ง | null | กองเชียร์ฟุตบอล,ซามูไร บลู,ฟุตบอลโลก 2018,หน้าต่างโลก,อานุภาพ เงินกระแชง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1317974 |
วิษณุ โต้ข่าวคลาดเคลื่อน ยันรัฐไม่รีดเก็บภาษีน้ำเกษตรกรรายย่อย | เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 60 ที่โรงแรมเดอะเบิร์คลีย์ ประตูน้ำ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ที่เตรียมเก็บภาษีน้ำกับกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มอุตสาหกรรม ว่า รัฐบาลไม่ได้ต้องการเก็บค่าน้ำหรือภาษีน้ำจากเกษตรกรรายย่อย ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำยังอยู่ในชั้นของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขณะที่ พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ นายพีรศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้พูดแล้วว่าไม่เก็บภาษีน้ำจากเกษตรกรรายย่อย ทั้งนี้ เตรียมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างเป็นทางการ ,นายวิษณุ กล่าวต่อว่า การเรียกเก็บภาษีดังกล่าวจะมีการแบ่งเกณฑ์ แต่เนื่องจากมีการออกมาให้สัมภาษณ์ที่ไปพูดเหมารวมทั้งหมด จึงทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งไม่ถึงขั้นต้องไปเรียกเก็บเงินจากชาวนา โดยจะเป็นการให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ใช้น้ำเป็นจำนวนมาก จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ขณะเดียวกัน ใครที่เป็นผู้ทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ก็ต้องจ่ายค่าดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ไม่เคยต้องรับผิดชอบเลย ส่วนการรับผิดชอบนี้อาจเป็นในรูปของการจัดเก็บภาษี หรือการเรียกเก็บค่าทรัพยากรน้ำ ซึ่งจะต้องมีการกำหนดสัดส่วนการเรียกเก็บ เหมือนกับการเก็บภาษีอัตราก้าวหน้า | วิษณุ แจงรัฐไม่เรียกเก็บภาษีน้ำจากเกษตรกรรายย่อย ชี้เก็บเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ เผยฝ่ายเกี่ยวข้องเตรียมชี้แจงทำความเข้าใจ ปชช.อย่างเป็นทางการแล้ว | ข่าว,การเมือง | วิษณุ เครืองาม,พ.ร.บ. ทรัพยากรน้ำ,เก็บภาษีน้ำ,ภาษีน้ำ,น้ำ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1087254 |
สาวน้อย 15 มาอยู่โอเกะ รับค้ากามทั้งชั่วคราว-ค้างคืน โดนหักค่าน้ำ | เวลา 09.00 น. วันที่ 26 เม.ย. ร.ต.อ.จารึก สวัสดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปลายพระยา จ.กระบี่ คุมตัวหญิงวัย 48 ปี ชาว ต.ปลายพระยา มาสอบสวนที่ สภ.ปลายพระยา หลังถูกชุดป้องกันและปราบปราม สภ.ปลายพระยา โดยการนำของ พ.ต.ท.เสกสรร คมสาคร รอง ผกก.ป. นำกำลังออกตรวจป้องกันเหตุอาชญากรรม กระทั่งไปถึงร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ถนนอ่าวลึก-พระแสง ต.ปลายพระยา เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา พบที่ร้านดังกล่าวมีหญิงสาว 2-3 คน แสดงท่าทีมีพิรุธ จนท.จึงขอเข้าตรวจสอบ พบ 1 ในนั้นเป็นเด็กสาวอายุ 15 ปี คือ น.ส.เอ (นามสมมติ) เป็นชาว จ.พังงา จึงนำตัว น.ส.เอ มาสอบสวนที่ สภ.ปลายพระยา,จากการสอบสวน น.ส.เอ ในเบื้องต้นทราบว่า มารับจ้างเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านดังกล่าว และมีการให้บริการทางเพศกับลูกค้าที่มาใช้บริการ ซึ่งหากไปขายบริการชั่วคราว เจ้าของร้านจะรับส่วนแบ่งเป็นเงิน 300 บาท หากไปรับบริการแบบค้างคืน เจ้าของร้านจะรับส่วนแบ่ง 500 บาท ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเพิ่งมาทำงานที่ร้านเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ แต่เจ้าของร้านยังปฏิเสธ ไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน,อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหา ตั้งสถานบริการประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น, เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่ออนาจารซึ่งชายและหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, เป็นธุระจัดหาซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นค้าประเวณี, ใช้หรือยินยอมให้เด็กเข้าไปในสถานบริการที่ห้ามมิให้เด็กเข้า, พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจารและค้ามนุษย์ ยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน หลายรายการ อาทิ ผ้าปูที่นอน หมอน ถุงยางอนามัย และนำตัว น.ส.เอ ไปพักฟื้นที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กระบี่ เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจต่อไป,ด้าน พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.ปลายพระยา กล่าวว่า จากการไปตรวจที่ร้านคาราโอเกะฯ พบหญิงสาวอายุ 15 ปีคนดังกล่าว นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าร้าน แสดงท่าทีมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกมาสอบถามทราบว่า เป็นพนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ และพักอาศัยอยู่ที่ร้าน จากนั้นได้เรียกเจ้าของร้านมาสอบถาม รับว่า ตนเองรับ น.ส.เอมาทำงานเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะสงสาร โดยให้ค่าจ้างรายวัน วันละ 100-200 บาท แต่จากพยานหลักฐานที่มีทำให้เชื่อว่าน่าจะมีการค้าบริการทางเพศ จึงคุมตัวเจ้าของร้านไว้ดำเนินคดี. | พบสาวน้อย 15 ปี ถูกนำตัวมาที่ร้านคาราโอเกะ ใน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เจ้าตัวยอมรับ ขายบริการกับแขก ทั้งแบบชั่วคราวและค้างคืน โดยที่เจ้าของร้านจะหัก ค่าน้ำ ครั้งละ 300-500 บาท | ข่าว,ทั่วไทย | โอเกะค้ากาม,สาว15ค้ากาม,คาราโอเกะค้ากาม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1553738 |
สถานการณ์ไฟป่า 17 จังหวัดภาคเหนือดีขึ้น จำคุกมือเผาป่า 4 ปี ไม่รออาญา | เจ้าหน้าที่ระดมกำลังจับคนเผาป่าได้ 42 ราย ล่าสุดศาล สั่งจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับอีกเกือบครึ่งล้านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ไฟป่าใน 17 จังหวัดภาคเหนือดีขึ้นมากทุกจังหวัดต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการตรวจสอบพบจุดความร้อน (Hot Spot) รวม 210675 จุด อยู่ในเขตป่าไม้ 129736 จุด หรือ 61% แบ่งเป็นป่าธรรมชาติ 115742 จุด หรือ 55% และพื้นที่ทำการเกษตรในป่า 13994 จุด หรือ 6%ส่วนที่เหลือ 80939 จุด หรือ 39% เกิดในพื้นที่นอกเขตป่าจากข้อมูลล่าสุด มีการตรวจสอบพบจุดความร้อน (Hot Spot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเหลือเพียงจังหวัดละ 0-38 จุด โดยมี 8 จังหวัด ไม่พบจุดความร้อนในพื้นที่ป่า ได้แก่ พะเยา ลำปาง ลำพูน พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และอุทัยธานีขณะที่ปฏิบัติการดับไฟป่านั้น อยู่ในเกณฑ์ที่มีประสิทธิภาพดีมาก สามารถดับไฟป่าได้ถึง 79% หรือ 113 จุด จาก 161 จุด โดยการปฏิบัติการในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งชุดดับไฟ 3042 นาย ชุดเฝ้าระวังลาดตระเวน 4254 นาย รวม 7296 นาย ร่วมกับชุดไฟป่าหมู่บ้าน 1725 หมู่บ้าน และเครือข่ายไฟป่า 1090 หมู่บ้าน พร้อมอุปกรณ์ปฏิบัติการดับไฟป่า ในเขตป่าอนุรักษ์ จำนวน 7341 ครั้ง รวมเนื้อที่ 169635 ไร่ และป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 3095 ครั้งรวมเนื้อที่ 62690 ไร่ส่วนการจัดการกับผู้กระทำความผิดเผาป่า มีการดำเนินคดีเพิ่มอีก 2 คดี ได้ผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 ราย รวมคดีสะสมตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม – 21 เมษายน 2563 ทั้งสิ้น 1047 คดี ผู้ต้องหา 42 ราย โดยล่าสุดศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้พิพากษาจำคุก นายเหล่าหวู่ เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา รวมทั้งให้จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 439668 บาทสำหรับการฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่า ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดเตรียมกล้าไม้ไว้จำนวน 66 ล้านกล้า โดยจะเริ่มลงพื้นที่ทำการปลูกป่าภายในเดือนพฤษภาคม 2563 นี้ต่อไป. | สถานการณ์ไฟป่า 17 จังหวัดภาคเหนือดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้ง พะเยา ลำปาง ลำพูน พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ไม่พบจุดความร้อนในพื้นที่ป่า | ข่าว,ทั่วไทย | ไฟป่า,เผาป่า,จำคุกคนเผาป่า,17 จังหวัดภาคเหนือ,ดับไฟป่า,ไฟป่าภาคเหนือ,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1828853 |
จับได้อีก 1 แก๊งปล้น 3 ล้านมุกดาหาร รวบได้คาบ้านพักที่ยโสธร | จากเหตุการณ์นายไพศาล อุคำ อายุ 44 ปี ชาวบ้าน ต.กกแดง อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ขับรถยนต์อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีดำ ทะเบียน กง 6537 มุกดาหาร แล้วถูกชายฉกรรจ์ 4 คน แต่ชุดลายพรางคล้ายทหาร จอดรถเก๋งซีวิคจอดขวางถนน ลงมาใช้ปืนตบที่บ้องหูนายไพศาล ก่อนมัดมือไพล่หลัง ปล้นเอาเงินจำนวน 3 ล้านบาท ที่ผู้เสียหายอ้างว่าได้มาจากการเล่นพนัน,ทั้งนี้ เหตุปล้นทรัพย์และทำร้ายเจ้าทรัพย์อย่างอุกอาจครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา บนถนนหน้าวัดป่าคำบง บ้านคำบง หมู่ 4 ต.โชคชัย อ.นิคมคำสร้อย ห่างชายแดน สปป.ลาวเพียงไม่ถึง 30 กม. มีภาพจากกล้องหน้ารถบันทึกเหตุการณ์และใบหน้ารูปพรรณสัณฐานของคนร้ายไว้ได้ เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายอาจหนีข้ามชายแดนไปแล้ว,ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ต.ค.2559 พ.อ.ทักษพล ศิริรักษ์ ผบ.กกล.รส.จว.มุกดาหาร เปิดเผยว่า คนร้ายที่ปรากฏตามภาพ แต่งกายชุดทหารขับรถเก๋งมากัน 4 คน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจับกุมได้แล้ว 2 คน ในพื้นที่ จ.ราชบุรี เบื้องต้นทราบว่า เป็นทหารช่างสังกัดหน่วยทหารใน จ.ราชบุรี ยศจ่า 1 นาย และนายสิบ 1 นาย ขณะนี้ฝ่ายเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยการควบคุมตัวผู้ต้องหาในครั้งนี้เป็นการประสานงานของตำรวจมุกดาหาร ผ่านมาทาง กกล.รส.มุกดาหาร เพื่อช่วยประสานไปยังต้นสังกัด และตรวจสอบก่อนควบคุมตัวไว้ ให้ทางตำรวจภูธร จว.มุกดาหาร มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ,ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 12 ต.ค.59 ตำรวจตามรวบตัวผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 ได้ที่ จ.อำนาจเจริญ โดย พ.ต.อ.ทัชชกร ภูมิมหาสาร ผกก.สภ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ได้รับการประสานจาก สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อลงพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.10 บ.นาเวิน ต.โพนเมืองน้อย อ.หัวตะพาน พบนายสมหมาย โพธ์ิงาม อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันปล้นเงิน 3 ล้านบาท ที่ได้จากการพนัน พร้อมจับกุมตัวนายสมหมาย ก่อนนำตัวไปตรวจค้นรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซุกซ่อนไว้ในบ้าน แล้วพาไปค้นบริเวณสระน้ำหลังบ้านที่ผู้ต้องหาสารภาพว่า นำเงินมาซุกซ่อนไว้ในท่อ PVC ฝังอยู่ข้างสระน้ำ จากการตรวจค้นพบเงินสด จำนวน 2 แสนบาทเศษ,ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 13 ต.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจภูธรจังหวัดยโยธร สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้อีก 1 ราย ทราบชื่อคือนายอรุณ นำเพ็ญ อายุ 32 ปี ได้คาบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ดงเจริญ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ในข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืนติดตัว ตามหมายจับของศาลมุกดาหาร ที่ 194/2559 ลงวันที่ 10 ต.ค.2559 ขณะนี้ อยู่ระหว่างนำตัวส่งมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองมุกดาหาร,จับแล้ว 2 ทหารช่างราชบุรี แต่งชุดพรางปิดถนนปล้น 3 ล้าน ที่มุกดาหาร,บุกบ้านเมียที่อำนาจเจริญ เจอเก๋งก่อเหตุ จับเพิ่มอีก1 แก๊งปล้นเงิน 3 ล., | ความคืบหน้าคดีชาย 4 คนแต่งชุดทหารปล้นเงิน 3 ล้านบาทที่มุกดาหาร ล่าสุด ตำรวจติดตตามจับกุมอีก 1 คนที่เหลือได้แล้ว ที่ จ.ยโสธร กำลังควบคุมตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีที่มุกดาหาร | null | ปล้น 3 ล้าน,ตำรวจมุกดาหาร,ปล้นเงินพนัน3ล้าน,อรุณ นำเพ็ญ,ต.ดงเจริญ,อ.คำเขื่อนแก้ว,ยโสธร,มุกดาหาร | https://www.thairath.co.th/content/752206 |
สาวขี่ จยย.หาสัญญาณโทรศัพท์ แชตไลน์กับเพื่อน น้อยใจผูกคอตายคาสวนยาง | เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 59 พ.ต.ท.นิยม ดำละเอียด สว.สอบสวน สภ.สะเดา จ.สงขลา รับแจ้งจาก นายสาคร หมื่นแสนล้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา ว่าได้มีคนพบศพหญิงสาวชาวสวนยางพารา ผูกคอตายเสียชีวิตภายในสวนยางพารา เหตุเกิดที่บ้านไร่ออก หมู่ 2 ต.สำนักขาม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ,จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นสวนยางพาราห่างถนนกาญจนวนิช เข้าไปทางบ้านไร่ออก ประมาณ 8 กิโลเมตร พบศพหญิงสาวมีเชือกผูกที่คอ แขวนกับกิ่งต้นยางพาราห่างจากพื้น 2 เมตร ยืนพิงต้นยางพารา ผู้ตายสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์สีฟ้า ข้างศพพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟเอส 100 สีเทา-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วกว่า 6 ชั่วโมง,สอบถามญาติผู้เสียชีวิต ทราบว่าผู้ตายชื่อ น.ส.สุมาลี สีชมภู อายุ 31 ปี โดยผู้ตายขึ้นมาเล่นโทรศัพท์กับกลุ่มเพื่อนทางแอพพลิเคชั่นไลน์ที่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากที่บ้านพักไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ โดยจะต้องขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาสัญญาณบนเขา ห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กิโลเมตร จนกระทั่งมีคนมาพบศพผูกคอตายกับกิ่งไม้เมื่อตอนเช้า คาดว่าผู้ตายอาจจะน้อยใจเพื่อนสาวที่เล่นไลน์ด้วยกัน จึงแก้ปัญหาด้วยการผูกคอตาย ส่วนทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต มอบศพให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยดำเนินการส่งโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป | สาวสงขลาวัย 32 ขี่ จยย.ออกจากบ้านวิ่งหาสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อแชตไลน์กับเพื่อน อยู่ดีๆ เกิดน้อยใจกัน ตัดสินใจผูกคอตายคาสวนยางพารา | null | น้อยใจเพื่อนผูกคอตาย,ผูกคอตายในสวนยาง,แชตไลน์,เล่นไลน์,LINE,วิ่งหาสัญญาณโทรศัพท์,สะเดา,สงขลา,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/699039 |
นาคิน พูดถึงการร่วมงานกับ โค้ชหระ ในทัพช้างศึกยู-19 | วันที่ 13 มี.ค. นาคิน วิเศษชาติ แบ็กขวาทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี กล่าวถึงความเชื่อมั่นของทีมที่มีต่อ อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอน,ทัพช้างศึก U19 เก็บตัวที่ ศูนย์พัฒนาศักยภาพนักกีฬา ภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอล ดูไบ คัพ U19 ณ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 19-28 มีนาคม 2561,การซ้อมเราก็เริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้แล้ว แต่ก็ต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเรามีพัฒนาการเรื่องความฟิต ตอนแรกร่างกายปรับตัวไม่ได้เลย ช่วงที่ผ่านมา ก็เริ่มปรับได้แล้วครับ การติดทีมชาติมันเปลี่ยนชีวิตไปเลยก็ว่าได้ จากตอนที่ไร้สังกัด จนตอนนี้ก็ได้มาอยู่กับสโมสรใหญ่อย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด บี และก็ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย ตลอดช่วงที่ผ่านมาก็พยายามพัฒนาให้ได้อย่างต่อเนื่อง กับทีมชาติผมก็จะพยายามทำเต็มที่ ทำให้ดีที่สุดและไปให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เรายังต้องปรับอีกมากมายทั้งเกมรุกและเกมรับ แต่ผมเชื่อว่าหากเราทำได้ตามโค้ช มันก็จะต้องออกมาดีแน่นอน,ผมเชื่อมั่นในตัวโค้ชอิสสระนะครับ เพราะผมเคยร่วมงานกับโค้ชมา ตอนที่ผมไปคัดตัวกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดโค้ก คัพ ปีที่ผ่านมา แม้มันจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่มันก็ดีมาก แม้สุดท้ายเราจะไม่ได้ร่วมงานกันก็ตาม นาคิน กล่าว,สำหรับทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จะเก็บตัวที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพนักกีฬาฟุตบอล ภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ไปจนถึงวันที่ 19 มีนาคม 2561 ก่อนเดินทางไปที่ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่อไป | นาคิน วิเศษชาติ ฟูลแบ็กทีมชาติไทยชุดยู-19 กล่าวถึงความเชื่อมั่นของทีม ต่อตัวโค้ชอิสสระ ศรีทะโร | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | นาคิน วิเศษชาติ,ช้างศึกยู-19,โค้ชหระ,อิสสระ ศรีทะโร | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1226667 |
5 องค์กรวิชาชีพสื่อ ถกปรองดอง ย้ำจุดยืนค้าน พ.ร.บ.คุมสื่อฯ | เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 60 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง พร้อมคณะอนุกรรมการฯ ได้เชิญภาคประชาสังคมเข้าให้ข้อคิดเห็นเสนอเเนวทางสร้างความปรองดอง 10 ประเด็นต่อเนื่อง โดยวันนี้เป็นคิวขององค์กรวิชาชีพสื่อ ประกอบด้วย สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์ นำโดย นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ นายกสมาคมฯ และนายมงคล บางประภา อุปนายกฯ,ด้านสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ นำโดย นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาฯ และนายชาย ปถะคามินทร์ เลขาธิการฯ ด้านสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย นำโดย นายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมฯ นายพีระวัฒน์ โชติธรรมโม เลขาธิการฯ ด้านสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ ประธานสภาฯ และนายโกศล สงเนียม เลขาธิการฯ และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ นำโดย นายวิชัย สอนเรือง กรรมการสมาคมฯ ซึ่งบรรยากาศในช่วงเช้าเป็นไปอย่างเรียบร้อย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงบ่ายจะมีภาคประชาสังคม ด้านองค์กรด้านสาธารณสุขเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในลำดับต่อไป,จากนั้นในช่วงบ่าย นายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ให้สัมภาษณ์ว่า สื่อมีบทบาทที่จะสะท้อนความเห็นของส่วนต่างๆ ในสังคม เพื่อนำไปสู่การสร้างความปรองดอง สำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสื่อโดยตรงนั้นคือ การตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไรให้สื่อไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง และสร้างความแตกแยก ซึ่งทางองค์กรวิชาชีพสื่อย้ำมาตลอดว่าสื่อไม่ได้เป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยก ด้วยตัวสื่อเองหรือเพื่อผลประโยชน์ทางด้านการเมือง หากพูดถึงวิธีป้องกันนั้นก็จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายที่จริงจัง มีความเข้มแข็งในการบังคับใช้กฎระเบียบของสังคมประชาธิปไตย ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อนั้นได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนมาตลอดกับ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อ จะนำไปสู่การสร้างกลไกสภาวิชาชีพสื่อแห่งชาติ ที่จะเป็นการเปิดช่องว่างให้อำนาจทางการเมืองแทรกแซงได้ และจะสามารถใช้สื่อเป็นเครื่องมือได้ง่าย ซึ่งทั้ง 5 องค์กรได้มีความเห็นชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.ดังกล่าว,เมื่อถามต่อถึงกรณีการสั่งพักใช้ใบอนุญาต วอยซ์ทีวี 7 วัน นายเทพชัย กล่าวว่า การสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 7 วัน เป็นการแสดงให้เห็นว่า สังคมไทยยังไม่อยู่ในภาวะปกติ และยังมีอำนาจที่พร้อมจะถูกใช้เพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการนำเสนอของสื่อมวลชน ทั้งที่รัฐบาลพยายามสร้างความปรองดอง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า สังคมกำลังจะก้าวไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยจริงหรือไม่,ด้านนายชวรงค์ กล่าวว่า พวกเราพยายามที่จะชี้ให้อนุกรรมการเห็นถึงความแตกต่าง และความสำคัญของสื่อกระแสหลักว่ายังมีความจำเป็น เพราะทุกวันนี้มีข่าวที่ยังเป็นข่าวหลอกในโซเชียลมีเดียเยอะ และทุกวันนี้คนที่ทำหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงของข่าวก็คือสื่อกระแสหลัก จึงพยายามที่จะบอกว่า ไม่ควรทำอะไรที่เป็นการจำกัดการทำหน้าที่ของสื่อกระแสหลัก ยิ่งจะออกกฎหมายในการคุมสื่อกระแสหลัก ก็เป็นเรื่องที่อนุกรรมการควรทบทวน,ส่วน นายมงคล กล่าวว่า สื่อกระแสหลักต้องรักษาจุดยืนในการเป็นแบบอย่างการนำเสนอข่าวสาร ไม่อย่างนั้นสังคมจะมองไม่เห็นถึงความแตกต่างของการทำหน้าที่และคุณค่าของสื่อสารมวลชน ทั้งนี้ องค์กรสื่อฯ มีความต้องการที่จะให้สังคมไม่กลับไปสู่ความขัดแย้งและรุนแรงอีก ทั้งนี้ หวังว่าทุกฝ่ายจะดำเนินการเพื่อนำไปสู่การสร้างความปรองดอง | 5 องค์กรวิชาชีพสื่อ ร่วมถกเวทีปรองดอง แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยร่าง พ.ร.บ.ควบคุมสื่อฯ พร้อมไม่เห็นด้วยปมสั่งปิดวอยซ์จอดำ | ข่าว,การเมือง | สื่อมวลชน,พ.ร.บ.คุมสื่อฯ,ปรองดอง,ละเมิดสิทธิฯ,องค์กรวิชาชีพสื่อ | https://www.thairath.co.th/news/politic/898175 |
ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ ฟันธงทีเด็ดศึกยอดมวยไทยรัฐ 13 ก.พ. |
,ศึกยอดมวยไทยรัฐ สัปดาห์ที่ 24 ประจำวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559 ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ จากคอลัมน์ชี้มวยเด็ด หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ รับหน้าที่ฟันธงมวยคู่เด็ดคู่ดังเหมือนเดิม,เพชรพะงัน ส.สุขสม มวยแข็งแกร่งเตะต่อย หมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่กระดูกเป็นรอง จะแพ้ ฟ้าลั่น (แตกหัก) ป.เพชร ไข่แก้ว 107 ป.,เด่นชุมพร ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่ปะทะยืดเยื้อแรงปลายเป็นรอง จะแพ้ ยอดวิชิต เข้มมวยไทย มวยทรหดเตะต่อยหมัด แทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่าท้ายๆชนิดสนุก อีกครั้ง 112 ป.,เพชรสีนิล คงชูช่วย มวยจังหวะเตะต่อย หมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอด จะชนะ จรวดศึก ก.กัมปนาท มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตี รุนแรงฟอร์มสดชนิดต้องลุ้น 120 ป.,ขุนศึก (กรเอกบางไทร) ภ.สวนทอง มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่รูปร่างช่วงชกเป็นรอง จะแพ้ช้างศึก (เขมรน้อย) เกียรติทรงฤทธิ์ มวยสูงยาวเตะต่อย หมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่าท้ายๆ 130 ต่อ 128 ป.,ธีระเดช ศิษย์พลโทสุพจน์ มวยจังหวะ เตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงกว่า จะชนะ ราชประชา ศิษย์เพชรมณี 112 ป.,แสงศักดา สิงห์ทุ่งไก่ จะแพ้ เผด็จศึก สก.สุไหงยิมส์ 108 ป.,สำหรับศึกยอดมวยไทยรัฐ ประจำวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดให้กับชมกันตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น. เหมือนเดิม | ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ วิเคราะห์วิจารณ์และฟันธง ศึกยอดมวยไทยรัฐ สัปดาห์ที่ 24 ประจำวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ คู่ไหนเด็ดคู่ไหนโดน มาดูกันได้เลย… | null | ศึกยอดมวยไทยรัฐ,ไทยรัฐทีวี,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้,ชี้มวยเด็ด,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/576511 |
บิ๊กตู่ ขอ ปชช.อย่างหลงเชื่อกลุ่มบิดเบือน สร้างความรุนแรง | เมื่อวันที่ 23 พ.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการเฝ้าระวังสถานการณ์ช่วงเดือนรอมฎอน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ที่ผ่านมามีการก่อเหตุน้อยลง และต้องให้มีน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย ซึ่งทุกคนต้องให้ความร่วมมือทุกมิติ รวมถึงกรณีที่กลุ่มก่อความไม่สงบโปรยใบปลิวสร้างความเข้าใจผิดนั้น ขออย่าให้ประชาชนให้ความสนใจ เราต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจว่า การใช้ความรุนแรงเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมันไม่มีประโยชน์ วันนี้มีความสงบสุขแล้วจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ โดยทุกภาคส่วนต้องช่วยกันชี้แจงไม่ให้เยาวชนไปหลงเชื่อความบิดเบือน ตนได้พูดคุยกับผู้นำประเทศอิสลาม ก็ยืนยันกันว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี และให้ถือว่าประเทศนั้นเป็นบ้านของเขา จึงควรสนับสนุนทุกรัฐบาลในประเทศที่อาศัยอยู่,ฉะนั้นการบิดเบือนโดยการแพร่ใบปลิวหรือทางเฟซบุ๊ก ก็ขอให้อย่าไปฟัง ทั้งโลกพยายามสงบสุขให้ได้ แต่เราจะมาขัดแย้งให้ได้ แล้วมันจะดีขึ้นหรือไม่ และความขัดแย้งมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้มากนัก โดยมีประชาชนที่บาดเจ็บสูญเสีย คนสมัยโบราณคิดขึ้นมาว่าหากจะเปลี่ยนแปลงต้องเสียสละ แล้วคนที่คิดจะเปลี่ยนแปลงเสียสละหรือยอมตายกันบ้างหรือไม่ ผมเห็นประชาชนบาดเจ็บสูญเสียมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงปัญหาผักตบชวา ว่า ได้เร่งรัดแก้ไขให้ได้ภายในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนนี้ ซึ่งต้องเข้าใจว่าการบูรณาการมีหลายอย่าง คือ ทำทั้งแผนงาน โครงการ งบประมาณ เช่นผักตบชวา หน่วยงานไหนเกี่ยวข้องบ้าง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การปกครองท้องถิ่น งบประมาณมีเท่าไร แล้วแผนเป็นอย่างไร ก็ต้องทำงานร่วมกันในส่วนที่ตัวเองเกี่ยวข้อง ทำอย่างนี้จะแก้ไขได้หมด ไม่มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำสำเร็จเพราะคนมีจำกัด ที่สำเร็จได้เพราะทหารไปช่วยทั้งนั้น แล้วกำลังคิดเรื่องการใช้สารที่มีความปลอดภัยเพื่อทำให้มันตายไปตั้งแต่ต้น โดยไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม | นายกฯ วอน ปชช.อย่าหลงเชื่อกลุ่มบิดเบือนโปรยใบปลิว-ปั่นในเฟซบุ๊ก ย้ำสร้างความรุนแรงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เผยบูรณาการเร่งกำจัดผักตบ บอกสำเร็จไม่เกิน มิ.ย.นี้ | ข่าว,การเมือง | นายกฯ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ความรุนแรง,ความขัดแย้ง,บิดเบือน | https://www.thairath.co.th/news/politic/950303 |
ขวัญ-ลาลีวรรณ นักขายน้ำใจงาม ปันกำไรเป็นทุนการศึกษาแก่ลูกชาวบ้านผู้ผลิตสินค้า | ลาลีวรรณ โกมลสุทธิ์, ยอมออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนมาสร้างธุรกิจของตัวเอง โดยสร้างมูลค่าเพิ่มงานหัตถกรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น และเป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่ โดยทุ่มทำงานด้วยความตั้งใจที่จะสร้างโอกาสของตัวเองไปพร้อมๆ กับสร้าง รายได้ให้กับชุมชนในต่างจังหวัด,ขวัญ-ลาลีวรรณ, สาวทำงานรุ่นใหม่ไฟแรง เล่าชีวิตของเธอตั้งแต่เริ่มต้นว่า เป็นลูกสาวคนเดียวของชาลี-ปิยะวรรณ โกมลสุทธิ์ จบแค่ชั้นมัธยม 1 จาก ร.ร.เซนฟรังซีสเซเวียร์ ก็ไปเรียนต่อที่ Cambridge High School เมือง Cambridge ประเทศ New Zealand เพื่อต้องการได้ภาษา จากนั้นจึงกลับมาเรียนต่อปริญญาตรีที่ International Studies มหาวิทยาลัยมหิดล อินเตอร์เนชั่นแนล จบมาจึงอยากที่จะทำงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงไปทำงานที่สถานทูตเกาหลี ในตำแหน่ง Researcher หาข้อมูลในเรื่องต่างๆ ให้กับทางสถานทูตเกาหลี ทำอยู่เพียง 1 ปี รู้สึกว่า ไม่ใช่ แต่อยากทำงานด้านธุรกิจมากกว่า เลยออกไปเรียนต่อปริญญาโท ด้าน International Business & Development Studies ที่ Birkbeck College University of London ประเทศอังกฤษ กลับมาจึงได้มาทำงานที่พีพี กรุ๊ป ในตำแหน่ง Assistant Communication Manager สนุกไปกับการทำพีอาร์มาร์เก็ตติ้ง สินค้าแบรนด์ไฮเอนด์ต่างๆ อยู่ 3 ปี อยากเพิ่มประสบการณ์ให้ตัวเองจึงออกมาอยู่ที่ บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำงานตำแหน่ง Communications Manager อยู่ 2 ปี จึงตัดสินใจลาออกเมื่อตอนต้นปีนี้ เพื่อลงมือทำธุรกิจของตัวเอง ขายสินค้างานฝีมือในแบรนด์ BEACHDAZe Bag อย่างจริงจังหลังจากที่ได้ทดลองทำขายใน IG: ,@beachdazebag, ขณะทำงานอยู่ที่โอกิลวี่มาเป็นปี,ธุรกิจเริ่มมาจากแม่และขวัญชอบเดินเที่ยวงานโอท็อป ที่อิมแพค ซึ่งใกล้บ้าน ขวัญไปเดินแล้วชอบเลยสั่งให้เขาทำ พอเอามาถือเพื่อนๆที่ทำงานก็ชอบ อยากได้เลยต้องสั่งทำเพิ่ม แล้วก็ยุให้ทำขาย ขวัญเลยลองทำขาย ก็ได้การตอบรับที่ดีมาก พอเริ่มทำจริงจัง ขวัญจึงต้องลงพื้นที่ไปดูเขาทำอย่างจริงจังที่จังหวัดพะเยา ซึ่งพี่ๆที่ทำเป็นแม่บ้านในชุนชน มารวมตัวกันทำงาน ถักสานกระเป๋าเป็นรายได้หลัก พอได้ลงพื้นที่ทำให้ขวัญอยากทำอย่างจริงจังเป็นเรื่องเป็นราว แล้วตั้งเป้าว่า กำไรส่วนหนึ่งจะนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับลูกๆสมาชิกที่ทำงานด้วยกัน ขวัญเล่าถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจอย่างออกรส,เมื่อตั้งใจเอาจริง คุณหนูสู้งานคนนี้ เลยลุยอย่างเต็มตัว เธอเล่าว่า พอเอาจริงแน่นอนแล้ว ขวัญจึงลาออกจากโอกิลวี่ เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แล้วไปหาความรู้ในเรื่องการทำเว็บไซต์ ออนไลน์ เพื่อจะขายสินค้าอย่างจริงจัง ซึ่งตอนนี้ มี IG:,@ beachdazebag, แล้วยังมีเว็บไซต์ ,www.beachdazebag.com, , เฟซบุ๊ก ,beachdazebag, และ Line : beachdaze หรือโทร.08-6569-6196,เวลาทำงานขวัญมักจะตั้งเป้าเพื่อเดินไปให้ถึงจุดหมาย จากนั้นก็จะหาข้อมูลทำให้รู้มากที่สุดมาประกอบการทำงาน จะไม่สุ่มเสี่ยงออกมาทำโดยไม่รู้เด็ดขาด ที่ขวัญมั่นใจในธุรกิจเพราะมองว่าคนไทยนั้นมีฝีมือจริงๆ อย่างกระเป๋าที่เขาถักเป็นงานละเอียดมาก เพียงแต่เราต้องออกแบบให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งมีชาวต่างชาติสนใจกันเยอะมาก ทั้งจากอียิปต์, ไอซ์แลนด์, ฮ่องกง, สิงคโปร์ ยิ่งได้รู้ story ของสินค้า เป็นฝีมือของแม่บ้าน รายได้บางส่วนเป็นทุนการศึกษาเด็ก เขายิ่งรู้สึกดีมาก ตอนนี้นอก จากจะให้กลุ่มแม่บ้านที่พะเยาทำแล้ว ยังมีที่ชัยนาทและอ่างทองด้วย การที่ขวัญ โทร.ไปสั่งของแล้วได้ยินเสียงพวกพี่ๆดีใจ แค่นี้ขวัญก็รู้สึกมีความสุขในการทำงานแล้วค่ะ,นี่คือความสุขในการทำงานของสาวไฟแรงคนนี้. | มองเห็นคุณค่างานฝีมือของคนไทย ทำให้สาวรุ่นใหม่อย่าง ลาลีวรรณ โกมลสุทธิ์ ยอมออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนมาสร้างธุรกิจของตัวเอง | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ลาลีวรรณ โกมลสุทธิ์,รายได้,ทุนการศึกษา,เจนเนอเรชั่น X,BEACHDAZe Bag | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/1401729 |
จับพ่อพาลูกชายวัย 7 ขวบเร่ขอทาน | วันนี้ (14 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย ร.ต.อ.กฤศติเดช เชื้อรามัน สว.ป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองชลบุรี เข้าตรวจสอบหลังจากชาวบ้านร้องเรียนว่ามีพ่อนำเด็กชายอายุ 7 ขวบมานั่งขอทานที่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ บริเวณ ซ.หลังเพชรสยาม ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรีจากการลงตรวจสอบพบเด็กชาย อายุ 7 ขวบ มานั่งขอทานโดยมีกระป๋องพลาสติกสีแดงตั้งอยู่เพื่อให้คนสงสาร โดยพบว่านายสมศักดิ์ บัวสุข อายุ 39 ปี พ่อของเด็กชาย คอยเฝ้าดูอยู่ห่างไปประมาณ 500 เมตรจากการสอบสวน นายสมศักดิ์ รับสารภาพอ้างว่าถูกเมียทิ้งมานาน 1 เดือน ไม่มีงานทำ และไม่มีเงินซื้อข้าว พยายามจะค่ารถเดินทางกลับ ซึ่งเดิมได้นั่งขอทานเอง แต่ไม่มีใครให้เงิน จึงตัดสินใจเอาลูกชายมานั่งขอทาน ตั้ง แต่เช้ามืดจนถึงประมาณ 21.00 น.และยังตระเวนไปตามชุมชน ตลาดหน้าศาลเมืองชลบุรี มีรายได้วันละหลายร้อยบาท ส่วนเวลากลางคืนจะอาศัยนอนศาลาวัดเนินสุทธาวาสผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ พม.และตำรวจพยา ยามเกลี้ยกล่อม เพื่อต้องการช่วยเหลือ แต่เด็กชายเอ ไม่ยอมพูด กลัวจะถูกตี จนร้องไห้เสียงดัง ตำรวจต้องอุ้มขึ้นรถไปที่ สภ.ชลบุรีทั้งนี้ ตำรวจนำตัวนายสมศักดิ์ ไปดำเนินคดีข้อหาค้ามมนุษย์ ส่วนเด็กชายทางพม.ชลบุรี จะประเมินว่ามีความพร้อมในการรับตัวกลับไปเลี้ยงดูได้หรือไม่หากเลี้ยงดูได้ก็จะส่งไปบ้านเด็กชาย ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี | ชาวบ้านแจ้ง พม.ชลบุรี -ตำรวจ จับพ่อพาลูกชายวัย 7 ขวบนั่งขอทานที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งซอยหลังเพชรสยาม ต.บ้านสวน สารภาพทำมาแล้ว 1 เดือน อ้างเมียทิ้งไม่มีงานทำ ขอทานเองไม่มีคนให้เงิน | สังคม | ขอทาน,ชลบุรี,ค้ามนุษย์,พม.ชลบุรี | https://news.thaipbs.or.th/content/292425 |
เฟย์ ซึมเผา สิงห์-พ่อหลั่งน้ำตาอาลัย ผมไม่สามารถเผาสิ่งที่ผมสร้างขึ้นมาได้ | ในช่วงเช้าของวันฌาปนกิจ ของวันที่ 4 ส.ค. เวลา 10.30 น. ได้มีการทำพิธีการทางศาสนาศพซึ่งจัดทำกันภายในครอบครัว จากนั้นเวลา 13.30 น. ได้มีการเคลื่อนศพของนาย สิงห์ มุสิกพงศ์ หรือ สิงห์ สควีซ แอนนิมอล จากศาลา 31 วัดธาตุทอง เพื่อไปทำพิธีฌาปนกิจที่เมรุ การเคลื่อนศพได้มีญาติและเพื่อนสนิทมาร่วมแห่ศพรอบเมรุ 3 รอบ โดยการเคลื่อนศพมี วิน ศิริวงศ์ และปลาทู ดิฐวัฒน์ ถือรูปของสิงห์เดินนำ พิตต้า ณ พัทลุง และเพื่อนสนิทร่วมเดินด้วย โดยถือรูปและของรักของสิงห์เดินในขบวนศพด้วย ก่อนที่จะพาร่างอันไร้วิญญาณขึ้นสู่เมรุ ซึ่งหน้าเมรุนั้นทางเพื่อนสนิทได้จัดแต่งรูปภาพ ดอกไม้ตั้งอยู่ตรงทางขึ้นเมรุ ส่วนหมวกใบโปรดสีน้ำตาลของสิงห์ได้จัดวางไว้บนโลงศพ และในโลงนั้นทางญาติได้ใส่แว่นตากันแดด รวมถึงเสื้อแจ็กเกตสีเขียวตัวโปรดลงไปด้วย,จากนั้น เฟย์ พรปวีณ์ นีระสิงห์ พร้อมด้วยฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ พี่สาว ได้เดินทางมาถึง ในวันนี้เฟย์มาด้วยสีหน้าที่ดูสดใสกว่าวันแรก แต่แววตายังดูเศร้าอยู่ โดยระหว่างนั่งรอพิธีการ ทั้งเฟย์และฟางได้นั่งอ่านหนังสืออาลัยของสิงห์ที่แจกในงานศพให้กับแขก โดยเฟย์ ก็ได้เขียนคำไว้อาลัยให้กับสิงห์ลงในหนังสือเล่มนี้ด้วย ใจความว่า,สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ระยะเวลาว่าเราได้อยู่ด้วยกันนานแค่ไหน แต่คือช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เราสองคนได้ทำทุกๆ วันของเราเป็นวันที่มีความสุขที่สุด ขอบคุณมากนะคะ ที่ทำให้เฟย์รู้สึกว่าได้เป็นผู้หญิงที่โชคดีขนาดนี้ ,ไม่ต้องห่วงเฟย์นะคะพี่สิงห์ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่ากังวลนะ เฟย์จะดูแลตัวเองอย่างดี เรารู้ดีว่า ความรู้สึกของเราสำคัญที่สุด แค่เฟย์รู้ว่าพี่สิงห์รักเฟย์ และพี่สิงห์รู้ว่าเฟย์รักพี่สิงห์มากแค่ไหนก็พอแล้วค่ะ ,:) รอเฟย์นะ,Love u always baby,FayeSingha,จากนั้นเวลา 17.00 น. ได้มีพิธีการกล่าวคำอาลัยโดยพ่อของสิงห์ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ โดยมีใจความเปิดประโยคว่า,ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะทำหน้าที่ได้ครบถ้วนมั้ย แต่ครั้นจะไม่ทำอะไรเลย ก็คงขาดหน้าที่ความเป็นพ่อที่ดีไปในงานศพลูก,โดยเนื้อความที่พ่อพูดถึงนั้น พ่อได้พูดถึงเรื่องราวของสิงห์ มุสิกพงศ์ ตั้งแต่เล็กจนโต ถึงความเป็นคนสนุกสนาน ชัดเจนในแนวความคิดทั้งเรื่องเรียน และการใช้ชีวิต แต่กลายเป็นคนเงียบขรึมเมื่อโตขึ้นและไปเรียนอังกฤษ,เมื่อเริ่มโตขึ้นสิงห์ก็มาคุยกับพ่อเรื่องอยากสัก พ่อก็ปฏิเสธ บอกผิวก็สวยอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องไปทำให้เลอะ สักง่ายแต่ลบแสนยาก เถียงกันเป็นชั่วโมง สุดท้ายขอเลื่อนการคุยไปก่อนไม่มีใครยอมใคร อีก 2-3 วันกลับมาอีก คราวนี้มาด้วยเหตุผลพิสดาร แล้วมาอีก 7 วัน มาข้อเสนอเดิม แต่เพิ่มมาเจาะหูด้วย ผมก็ไม่รู้จะทัดทานยังไง ก็บอกไปเมื่อพิจารณาหลายรอบว่าจะทำ พ่อก็ไม่ขัดข้อง ตามใจ แต่พ่อจะทำด้วย พ่อจะสักจะเจาะหูด้วย สิงห์บอกถ้าพ่อทำ อย่างนั้น สิงห์ก็อายคนแย่ ผมบอกสิงห์ก็เป็นนักดนตรีดังพ่อก็ทำได้เหมือนกัน พ่อจะทำเหมือนสิงห์ สุดท้ายอคตินี้ก็หายไป,ความรักดนตรีเขามีมาแต่เด็ก เขาชอบดนตรีร็อก แต่เขาชอบฟังแบบเชยๆ เฉิ่มๆ เขาจะมีวิทยุแบกติดตัวไปด้วย ออกไปทานข้างนอกก็จะแบกไปด้วย พี่ๆ น้องๆ เขาไปไหนมาไหนด้วยอายคนกันมากต้องมาฟ้องพ่อกับแม่ แต่สิงห์เขาไม่สนใจ แบกวิทยุที่บ่าออกไปกินข้าวข้างนอกต่อ เมื่อสิงห์มีวงดนตรีเป็นสควีซ แอนนิมอล เขาก็ลืมการเรียนที่ดร็อปไว้ มาทำเพลงที่เมืองไทย เขาก็หลุดโลกไปเลย,เมื่อสิงห์มีชีวิตอยู่ได้เพียง 31 ปี ทำให้เกิดปรากฏการณ์ขึ้น ณ ตอนนี้ คือนักการเมือง ผู้นำทางการเมืองหลายพรรคหลายฝ่ายได้เข้ามาพบปะด้วยน้ำใจไมตรี ทุกคนคิดว่าสิงห์คือหลานชายที่เขารักเพราะเคยไปเล่นคอนเสิร์ตที่สนามม้านางเลิ้งมาแล้ว คู่คดีขัดแย้งกันเมื่อมาร่วมงานสิงห์ นี่ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของการเริ่มต้นสมานฉันท์ เขายังได้ใช้ชีวิตของตัวเองเยียวยาสังคมไทย ผมรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าสิงห์จากไปเมื่ออายุยังน้อย อินทรีย์ยังไม่แก่กล้าเพียงพอ แต่ที่เห็น ก็มีศิลปินใหญ่ๆ มาร่วม มายืนตากฝนฟังพระสวดอย่างแน่วแน่ ทำให้ผมมองเห็นว่าสิงห์ควรจะได้เป็นนักดนตรีที่ดี มีบทบาทต่อศิลปินต่อไป เสร็จงานนี้ผมและครอบครัวจะตั้งมูลนิธิสิงห์ มุสิกพงศ์ เพื่อช่วยเหลือและเป็นสวัสดิการให้แก่นักดนตรี เท่าที่กำลังจะทำได้,สุดท้ายนี้ ผมไม่สามารถเผาสิ่งที่ผมสร้าง (ร้องไห้) ผมขอให้ทุกท่านทั้งหลายหามุมสงบเพื่อ(ร้องไห้จบการกล่าว),และหลังจากนั้นเป็นการวางดอกไม้เพลิง โดยทางงานได้เปิดเพลง เอ็มวี และคลิปของ สิงห์ สควีซ แอนนิมอล คลอตามไปด้วย,ขณะที่ ฟาง ได้เปิดใจว่า ขอบคุณทุกกำลังใจ ดีใจที่พี่สิงห์มีคนรักมากขนาดนี้ สภาพจิตใจของเฟย์ น้องก็เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้ก็งดรับงานหลายๆอย่าง รอให้น้องแข็งแรงกว่านี้ก่อน ทุกวันนี้ต้องคอยอยู่ใกล้ๆ เค้าไม่ห่าง ตอนนอนก็ให้เค้านอนกอด ตื่นก็ตื่นพร้อมเค้า ถามว่าน้องยังร้องไห้มั้ย ก็ยังร้อง เพราะเรื่องนี้มันต้องใช้เวลา สักวันหนึ่งมันก็คงจะผ่านไปได้ ถามว่าเฟย์เคยได้เล่าปัญหาว่ามีปัญหากับสิงห์มั้ย ที่เห็นก็รักกันดี ตลอด 4 ปีกว่า ความรักของเค้าก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ เฟย์เป็นคนสดใสร่าเริง พี่สิงห์ก็เป็นพี่ชายที่น่ารักมาก เข้ากับครอบครัวได้ดี,เฟย์มีบ่นหรือน้อยใจตัวเอง ว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ไหม? มีบ้างอยู่แล้ว มันก็มีส่วนที่โทษตัวเอง ครอบครัว เพื่อนๆ รวมถึงคนรอบข้างก็คอยให้กำลังใจ เพราะเรื่องแบบนี้ใครๆ ก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นแล้วก็ต้องช่วยกันให้ผ่านจุดนี้ไปได้ ตัวเฟย์เองก็ได้พูดคุยกับคุณแม่สิงห์ตลอด เฟย์ได้ทำอะไรให้สิงห์ไหม? ก็ได้ไปทำบุญมาแล้ว ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลให้พี่สิงห์ พยายามเอาธรรมะเข้าช่วย ถ้าน้องคิดมากก็ให้สวดมนต์ แผ่เมตตา หลังจากนี้เฟย์ก็ยังไม่ได้วางแผนชีวิตอะไร คงให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ ครอบครัวก็คงดีใจ ส่วนต่อไปก็เป็นเรื่องของอนาคต คงต้องใช้เวลา พิธีหลังจากนี้ พรุ่งนี้ก็มีการเก็บอัฐิ ส่วนลอยอังคารที่ไหนก็ยังไม่ได้คุยรายละเอียด,เฟย์เครียดกับกระแสต่างๆ ที่โจมตีไหม? ถ้าเห็นก็เครียด พยายามไม่ให้อ่านไม่ให้เล่นอะไรเยอะ เป็นช่วงที่เปราะบาง อารมณ์น้องก็ค่อนข้างอ่อนแอ ถ้าเห็นอะไรที่กระทบจิตใจ ทางบ้านเองก็กังวล เราก็พูดให้เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความผิดใคร พี่สิงห์เค้าตัดสินใจ เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเค้า,อยากบอกอะไรคนที่ต่อว่าครอบครัวเรา? อยากบอกว่ามันเป็นความสูญเสียที่เจ็บปวดสำหรับทุกคน อยากให้ทุกคนไม่พาดพิงคนที่จากไปแล้ว และให้กำลังใจคนที่ยังอยู่ ทั้งครอบครัวพี่สิงห์ ครอบครัวของฟางและตัวเฟย์ด้วย อยากให้ทุกคนดูแลคนที่ตัวเองรักให้ดี เพราะชีวิตมันไม่แน่ไม่นอนอะไรก็เกิดขึ้นได้ ทำทุกวันให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย ขอบคุณพี่สิงห์มากที่ดูแลเฟย์มาตลอด ทุกครั้งที่เค้าอยู่กับพี่สิงห์ เหมือนโลกสดใส พี่สิงห์เป็นคนที่น่ารักมาก และเป็นพี่ชายที่อบอุ่น อยากบอกพี่สิงห์ว่าไม่ต้องห่วงอะไร หลับให้สบาย อยากให้พี่สิงห์ไปเจอสิ่งที่ดีๆ,สำหรับงานในวันนี้มีเพื่อนพี่น้องและศิลปินในวงการบันเทิงมาร่วมงานอย่างมากมาย อาทิ แอน อลิชา และภูริ หิรัญพฤกษ์, ขันเงิน เนื้อนวล, โต้ง เซาท์ไซด์, วงเกทสึโนว่า, อุ๋ย บุดด้าเบลส, แอริน ยุกตะทัต, เปอร์ สุวิกรม, จอนนี่ อันวา, แคล แคลอรีน, เป้ อารักษ์, ปาล์ม อินสติ๊นท์, แก้ว จริญญา, พีช พชร, ญารินดา บุนนาค, พลอย เฌอมาลย์, เอมมี่ มรกต, พลอย หอวัง, บอย ตรัย, วงมายด์, เดอะเยอร์ส, โป้ง โมเดิร์นด็อก, ก้อ ณฐพล ศรีจอมขวัญ, ว่าน ธนกฤต เป็นต้น. | หลังจากจากไปเมื่อค่ำคืนวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา วันนี้ 4 ส.ค. เป็นวันฌาปนกิจศพของ สิงห์ มุสิกพงศ์ หรือ สิงห์ สควีซ แอนนิมอล ณ วัดธาตุทอง โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกจากครอบครัวเพื่อนพ้องที่มาส่ง สิงห์ มากมายด้วยความรัก | null | สิงห์ สควีซ แอนนิมอล,ประชาธิป มุสิกพงศ์,เฟย์ พรปวีณ์ นีระสิงห์สิงห์,แฟนสาวเฟย์ พรปวีณ์,พรปวีณ์ นีระสิงห์สิงห์,เฟย์ เฟย์ฟางแก้ว,เฟย์ FFK,เฟย์แฟนสิงห์,เฟย์สิงห์,สิงห์ฆ่าตัวตาย,สิงห์กระโดดตึกตาย,เฟย์รับศพสิงห์,รับศพ,วัดธาตุทอง,แฟนสาวของสิงห์,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,เผาสิงห์,งานศพสิงห์,พ่อสิงห์,วีระ มุสิกพงศ์,วีระกานต์ มุกสิกพงศ์ | https://www.thairath.co.th/content/516143 |
ย้อนเหตุการณ์ พิจารณาคดี แก้ไขรธน. ก่อนศาลมีคำวินิจฉัย บ่ายวันนี้ | โดยองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาช่วงเช้าตั้งแต่ 9.30 น.ประชุมเพื่อเขียนคำวินิจฉัยส่วนตน และในเวลา 14.00 น. จึงจะอ่านคำวินิจฉัยคดี สำหรับที่มา ที่ไปของคดีนี้ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับ 5 คำร้อง ที่ผู้ร้อง จาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ส.ว.กลุ่มหนึ่ง และจากภาคประชาชน รวมถึงนักวิชาการ ที่ยื่นเรื่องให้วินิจฉัยโดยมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 นั้น องค์คณะตุลาการเห็นว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 68 ให้อำนาจรับ 5 คำร้อง ที่ผู้ร้องยื่นเรื่องให้วินิจฉัย โดยอ้างอิงถึงมาตรา 68 ว่าด้วยการพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง หรือการได้มาซึ่งอำนาจการปกครอง โดยวิธีการที่ไม่เป็นไปตามวิถีแห่งรัฐธรรมนูญ ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง และยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งเลิกการกระทำได้ ช่วงนั้นแม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคดี โดยที่อัยการสูงสุดไม่ได้ส่งคดีมา ได้หรือไม่ แต่ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ คือ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ได้ยืนยันด้วยตัวเองว่า ทำได้ และเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้เวลาต่อมา อัยการสูงสุดแถลงว่า คำร้องไม่เข้าข่ายตามผู้ร้องกล่าวหา และการแก้รัฐธรรมนูญเป็นอำนาจโดยชอบของรัฐสภา อัยการจึงไม่ส่งต่อคดีให้ศาลรัฐธรรมนูญการไต่สวน และแถลงคดีด้วยวาจา มีขึ้นวันที่ 5 - 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวางกรอบพิจารณาไว้ 4 ประเด็น คือ ขอบเขตอำนาจในการรับคำร้อง ตามมาตรา 68 ของศาลรัฐธรรมนูญ การพิจารณาว่ากระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ ด้วยการเสนอแก้มาตรา 291 เพื่อเปลี่ยนหลักเกณฑ์ และวิธีการให้จัดตั้งส.ส.ร. เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีลักษณะหรือการกระทำ ล้มล้างการปกครองหรือไม่ การพิจารณาเจตนาในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการ ที่เกี่ยวข้องว่า มีแนวทางล้มล้างการปกครองหรือไม่ และสุดท้าย คือ การพิจารณาในการกระทำที่เกิดขึ้นว่า เชื่อมโยงไปถึงความผิดยุบพรรคการเมืองหรือไม่ ไม่เพียงกรอบ 4 ประเด็นนี้เท่านั้น แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังหารือประเด็นที่ถูกตั้งข้อสังเกต ถึงการมีส่วนได้ส่วนเสียกับคดีด้วย นั่นทำให้ 1 ในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คือ นายจรัญ ภักดีธนากุล ถอนตัวจากการพิจารณาคดีนี้ขณะที่กระบวนการไต่สวน เริ่มที่ฝ่ายผู้ร้องก่อน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ศาลเรียกพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายวันธงชัย ชำนาญกิจ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ นายสุรพล นิติไกรพจน์ นายวรินทร์ เทียมจรัส และนายบวร ยสินทร เข้าแถลงคดีด้วยวาจา โดย 2 ใน 7 คน คือนายสุรพล และนายเดชอุดม เข้าเบิกความในฐานะพยานที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายฝ่ายผู้ร้อง เน้นย้ำถึงการที่รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติ ให้แก้รัฐธรรมนูญด้วยการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และชี้ให้เห็นว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองที่ไม่ใช่วิถีตามรัฐธรรมนูญ พร้อมอ้างอิงถึงบุคคลแวดล้อม ทั้งในรัฐบาล และรัฐสภา โดยเฉพาะประธานรัฐสภา ที่มีพยานหลักฐานชี้ว่าไม่เป็นกลางทางการเมือง และมีความใกล้ชิดกับบุคคล หรือพรรคการเมืองบางพรรค โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง และผู้ต้องคดีหมิ่นสถาบัน โดยเชื่อว่าเป็นขบวนการที่มีเจตนาเดียวกัน ขณะที่วันที่ 6 เป็นคิวของฝ่ายผู้ถูกร้อง คือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ หรือผู้แทน นายวัฒนา เซ่งไพเราะ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุลนายโภคิน พลกุลนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ นายอุดมเดช รัตนเสถียร นายสามารถ แก้วมีชัย นายชุมพล ศิลปอาชา และนายภราดร ปริศนานันทกุล โดยบุคคลทั้งหมดเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ เว้นเพียงนายโภคิน ที่เป็นมือกฎหมายของพรรคเพื่อไทย และนายวรวัจน์ ซึ่งเป็นผู้แทนจากคณะรัฐมนตรีโดยการชี้แจง และตอบข้อซักค้าน พยายามเน้นย้ำถึงอำนาจโดยชอบของรัฐสภาต่อการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ และตามกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ ที่รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสไว้ให้คณะรัฐมนตรี ส.ส. ส.ว.และประชาชนเสนอแก้รัฐธรรมนูญได้ แม้มีคำยืนยันไม่แตะต้องหมวดพระมหากษัตริย์ แต่ยอมรับว่า อาจพิจารณาปรับบทบาทหน้าที่ขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และ ชี้แจงว่า การทำประชามติจะเกิดขึ้น หลังมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หลังแถลงด้วยวาจา แถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษร และส่งเป็นเอกสารต่อศาลแล้ว ขั้นตอนฟังคำวินิจฉัยวันนี้ (13 ก.ค.55) จะเริ่มด้วยการประชุมขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเขียนคำวินิจฉัยส่วนตน จะมีการพิจารณาวาระปกติในคดีอื่น อีก 3 คดี ก่อนจะมีการพิจารณา 5 คำร้อง ซึ่งระหว่างนี้ องค์คณะตุลาการจะนำคำร้องของแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ขอให้ชะลอการวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อนเข้าหารือด้วย และการอ่านคำวินิจฉัยกลางจะเริ่มในเวลา 14.00 น. โดยคาดว่า จะใช้เวลาอ่านไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ขึ้นอยู่กับข้อมูลของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ละคนด้วย | ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในคดีกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ตามคำร้องที่ผู้ร้องยื่นอ้างอิงรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ว่าด้วยการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ หรือไม่ ในเวลา 14.00 น.ของวันนี้ (13ก.ค.55) | การเมือง | คำวินิจฉัย,ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ,ผู้ถูกร้อง,ผู้ร้อง,ศาลรธน.,เหตุการณ์,แก้ไขรธน. | https://news.thaipbs.or.th/content/97771 |
แก้ม ฉะ น้ำตาลรับงานเองไม่ผ่านกอง ลั่นรู้หลายอย่างแต่พูดเยอะไม่ได้ | กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโซเชียลเน็ตเวิร์กเวลานี้ไปแล้วหลังจากนักแสดงสาววิก 7 สีดีกรีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2008 ,แก้ม กวินตรา โพธิจักร, โพสต์ข้อความแรงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Gavintra Photijak ว่า ,ตายแล้ววววววงดธาตุหวานเพราะน้ำตาลปลอมมากกกกกกก, จนหลายคนมองว่าแก้มโพสต์ข้อความเหน็บนางงามรุ่นน้องอย่างมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ,น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์, ที่กำลังเจอข่าวฉาวมีปัญหากับทางกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ในเวลานี้รึเปล่า, บันเทิงไทยรัฐออนไลน์, จึงสอบถามแก้มถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น งานนี้เจ้าตัวจะว่ายังไงบ้างต้องไปฟัง,ถามถึงข้อความในเฟซบุ๊ก ตายแล้ววววววงดธาตุหวานเพราะน้ำตาลปลอมมากกกกกกก ทำไมเราถึงโพสต์?, ,ก็ไม่มีอะไร หนูเป็นคนโพสต์หรือพูดจาอะไรประมาณนี้อยู่แล้ว (คนมองว่าพาดพิงน้ำตาล?) ก็ตามที่โพสต์น่ะค่ะ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น คือบางทีเราเห็นในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่เห็นกันค่ะ ,ที่โพสต์มาจากสาเหตุจากข่าวที่ออกมารึเปล่า อย่างเช่นเรื่องข่าวน้ำตาลรับงานโดยไม่ผ่านกองประกวด?, ,ก็ด้วย ก็อาจจะมีส่วนนั้นส่วนนึง อย่างเวที MUT เนี่ยคือไม่ใช่แค่กองประกวด หรือไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสเด็ก เราอยู่ด้วยกันมา เราจะรู้ว่าคนที่ได้ตำแหน่งมาจะรู้ว่าเราอยู่ด้วยกันแบบครอบครัว มีอะไรก็เตือนกัน พูดกันตรงๆ ว่ากล่าวตักเตือนกันเหมือนพี่น้อง เหมือนแม่ปกครองลูกน่ะ ลูกคนไหนไม่เชื่อฟังก็ต้องพูดต้องว่ากล่าวกัน แต่บางคนเขาอาจจะไม่ฟัง หรือบางคนอาจมีคนอยู่ข้างๆ คอยบลัฟคอยพูดโน่นนี่นั่นอยู่แล้ว ก็ต้องตามนั้นเพราะว่าเราก็ต้องให้สิทธิ์เขาน่ะเนอะ แต่ว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรหรอก มันแค่ผิดเวลาไปหน่อยเท่านั้นเอง (คือเรารับรู้ว่าเขามีปัญหากับทางกองประกวดเลยโพสต์?) แก้มรับรู้มาส่วนนึงแหละ เป็นไปไม่ได้หรอกที่อยู่ๆ แก้มจะมาโพสต์ลอยๆ ถ้าแก้มไม่มีข้อมูล แก้มก็คงไม่ทำอะไร แก้มเป็นคนที่ถ้ารู้อะไรก็โพสต์ของแก้มเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าเรื่องไหนที่ไม่ใช่ความจริง แก้มจะไม่กล้าออกมาพูด,แล้วข่าวที่ออกมาทำนองว่าน้ำตาลไม่ค่อยเห็นความสำคัญของกองประกวด เหมือนไม่แคร์ เลยทำให้เราโพสต์แบบนั้นด้วยรึเปล่า?,ตรงนี้ด้วยส่วนนึง ถ้าพูดกันตรงๆ หนูว่ามันอยู่ที่จิตใต้สำนึกน่ะเนอะ เพราะของแบบนี้มันบอกกล่าวกันไม่ได้ ถ้าคุณกล้าที่จะเหยียบหัวคนที่จูงมือคุณมา หรือคนที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้เพื่อจะไปบันไดอีกขั้นนึง เพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จยิ่งกว่า แล้วถ้าคุณทำอย่างนี้ได้ คิดว่าถ้าไปอยู่ที่อื่น คุณจะไม่ทำแบบนี้เหรอ ถ้ามันเกิดจากกองเรา เราก็อยากให้คนที่อยู่ในกองเราโอเครึเปล่า แต่ถ้าคุณรอเวลาสักหน่อย รอให้หมดสัญญาก่อนไหม เพราะอันนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องรับงาน มันเกี่ยวพันกับสัญญา ทางกองตอนแรกก็ไม่อยากจะอะไรหรอก แต่ถ้าไม่ทำอะไรก็กลายเป็นว่ากองก็ผิด ถ้าทำอะไรลงไปก็กลายเป็นว่าผู้ใหญ่แกล้งเด็ก ถ้าอยากรู้ความจริง มาเอากับหนูได้ ถ้าไม่รู้จริงๆ หนูคงไม่พูดนะ หนูก็รู้มาทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่รู้แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้วหนูมาพูด ไม่ใช่หลับหูหลับตารัก,บางกระแสก็วิจารณ์ว่าสัญญาของกองประกวดไม่เป็นธรรม?,เหรอคะ ถ้าจะพูดว่าสัญญาไม่เป็นธรรม ในวันที่ตกลงเซ็นสัญญา ทำไมคุณไม่มีปัญหาตั้งแต่วันนั้น คุณจะมามีปัญหาอะไรในวันนี้ มันเหมือนเป็นบุญคุณน่ะ มันเหมือนเขาผลักดันเรา แล้วอีกอย่างนึงถ้าจะมองเรื่องผลประโยชน์ คุณก็ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ ทุกวันนี้คุณก็มีงานทำ ทำไมไม่รอเวลาให้หมดสัญญาก่อน ถ้าคุณมองว่ากองประกวดไม่โอเคกับคุณ ทำไมคุณไม่เข้ามาคุยล่ะว่าไม่โอเคนะ แล้วคุณจะมารับงานเองตัดโน่นนี่นั่น แบบนี้มันก็เสียรึเปล่า เพราะกองก็ดูแลคุณดีไม่ใช่เหรอ,มีกระแสว่ากองประกวดไม่ค่อยรับงานให้น้อง น้องต้องหางานเอง?,มันไม่มีทางเป็นไปได้ ตัวน้องเองพอรับงานเองได้ น้องเขาคงคิดว่ารับงานเองได้ก็ไม่ต้องจ่ายกองรึเปล่า คือเรื่องงานตรงนี้หนูไม่รู้นะ แต่หนูแค่ตอบในส่วนของหนูได้ค่ะ แค่ออกความเห็น แค่คิดว่ามันเป็นแบบนี้นะ เราไปรู้ในส่วนที่เป็นความจริง ข้อมูลจริง เราก็แค่โพสต์ตามที่เรารับรู้ข้อมูลมา คนที่รับได้ก็รับไป คนที่รับไม่ได้แล้วจะให้แก้มทำยังไง ในเมื่อแก้มทำให้ทุกคนรักแก้มหมดไม่ได้ ก็แล้วแต่เขาค่ะ ต้องพิจารณากันเอง แก้มเป็นคนที่ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูกอยู่แล้ว,คนมองว่าเราสร้างกระแสเกาะน้ำตาลรึเปล่า?,ก็ยอมรับว่าน้องมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น แต่ถ้าแก้มจะเกาะกระแสจริงๆ จำเป็นไหมที่จะต้องเป็นน้อง เอาตรงๆ คือถ้าจะทำจริงๆ ทำนานละค่ะ แต่คงไม่ใช่กับน้อง,คนมองภาพเราแรงกว่าเดิมอีก รู้สึกยังไงบ้าง?,ใช่ค่ะ เพราะลุคหนูมันดูแรงอยู่แล้ว หนูพูดอะไรไปก็ดูแรงนึกออกป่ะ อย่างที่หนูพูดมาตลอด หนูห้ามความคิดใครไม่ได้ แล้วแต่ว่าใครจะมองยังไง เพราะคนรักน้ำตาลหนูก็เข้าใจ แต่รักในทางที่ผิดน่ะก็ควรจะตบๆ ให้มันเข้าที่เข้าทางไหม ไม่ใช่อยู่ๆ นึกอยากจะรักก็รักไม่ลืมหูลืมตา ทำผิดก็ว่าดี มันก็ไม่ใช่ อย่างหนูยังรับได้เลยนะว่าเวลาหนูทำอะไรผิด ถ้ามีคนบอกว่าหนูทำผิด หนูก็พร้อมที่จะขอโทษมันก็แค่นั้นเองค่ะ,กระแสวิจารณ์แก้มค่อนข้างแรงมาก?,หนูว่ามันเป็นธรรมดาของคนที่รักที่จะออกมาปกป้องเนอะ หนูก็ทำใจมาแล้วส่วนนึง แต่ว่าจริงๆ แล้วทุกคนควรจะเปิดใจนิดนึงได้ไหมว่ารักน่ะรักได้ แต่ทำไมไม่มองว่าผิดก็ว่าไปตามผิด แค่ว่ากล่าวตักเตือนกัน น้องยังเด็ก ถ้าน้องคิดว่าตัวเองผิดหรือไม่ผิดอะไรควรจะมาพูดกัน แต่น้องเล่นหนี อ้างโน่นอ้างนี่มันก็ไม่ใช่ไง,แต่คนก็ให้กำลังใจเราเยอะเหมือนกัน?,หนูเป็นคนเข้าใจโลก คนรักก็มี คนเกลียดก็มี แต่ว่าคนเกลียดอาจจะเยอะหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่จะให้หนูไปนั่งแคร์คนเกลียด หนูก็ทำไม่ได้ หนูก็แคร์คนที่รักหนูรึเปล่า,เสียเซลฟ์ไหมที่คนก็เหน็บเราเยอะมาก?,จริงๆ ไม่ได้เสียเซลฟ์อะไรเลย แต่มาเสียเซลฟ์ตรงที่คนที่รักเราออกมาไฟต์แทน แล้วก็โต้ตอบกันไปมา เราก็เป็นห่วงคนของเรามากกว่า ไม่อยากให้ไปโน่นนี่นั่น อย่างที่บอกว่าแก้มแคร์คนที่รักแก้มค่ะ (อยากบอกอะไรกับคนที่รักเราไหม?) ก็ขอบคุณที่อยู่ข้างกันน่ะ มันไม่รู้จะพูดอะไร ทุกคนก็รู้อยู่แล้วแก้มเป็นคนยังไง แก้มไม่มานั่งดราม่าค่ะ,แสดงว่าเราไม่ซีเรียสกับกระแสที่เกิดขึ้นใช่ไหม?,ไม่ซีเรียสค่ะ ไม่รู้จะซีเรียสอะไร ถือว่าแก้มทำดีที่สุดแล้วค่ะ แล้วแต่ใครจะมองค่ะ,ก่อนจะโพสต์ประโยคนั้น เคยคิดไหมว่ากระแสจะตีกลับมาแรงขนาดนี้?,ไม่ เอาตรงๆ ตอนโพสต์ไม่ได้คิดถึงเรื่องน้ำตาลหรือเรื่องอะไรเลยด้วย คือคุยกัน อารมณ์เม้าท์มอยกันมากกว่า ประมาณว่าเออ มีเหตุการณ์แบบนี้ๆ นะ แล้วเวลานางงามมาอยู่รวมกันจะพูดถึงเรื่องอะไรก็ต้องพูดถึงเรื่องนางงาม ก็เม้าท์กันว่าอ๋อ เป็นแบบนี้เหรอ พอเรารู้ว่าอะไรที่แบบเฮ้ย ไม่ใช่ แต่มันเป็นสิ่งที่รับรู้มา หนูอะเชียร์น้ำตาลนะ ตอนที่น้องไปประกวดหนูก็ยังเชียร์ ไปดูโพสต์เก่าๆ ได้เลย หนูก็ออกตัว แต่พอมารู้ทีหลังว่าเขาทำแบบนี้ เหยียบคนอื่นแบบนี้ หนูจะอยู่เฉยๆ เหรอ ตอนเชียร์หนูก็เชียร์ ตอนที่คุณไม่ดี จะให้หนูเงียบก็ทำไม่ได้อะ,แล้วที่เราโพสต์แบบนั้นไม่กลัวมีปัญหากับน้ำตาลเหรอ?,หนูไม่ได้มองว่าจะมีปัญหา ถ้าคุณคิดว่าคุณผิดจริง คุณเป็นเด็กก็เข้ามาคุยกับผู้ใหญ่เขาสิ โอเคคุณอาจจะไม่ชอบหนูก็ได้ หนูไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในชีวิตเขาอยู่แล้ว แต่ผู้ใหญ่ที่เขาเอ็นดู เขาให้ใจคุณเท่าไร เขาให้อะไรคุณเท่าไร แต่คุณมาทำกับเขาแบบนี้ ซึ่งหนูก็รับไม่ได้ หนูเป็นคนสำนึกในบุญคุณของคนนะ จะให้หนูมานั่งมองหน้าแล้วสงสารผู้ใหญ่หนูก็ทำไม่ได้ รักหนูก็รักเลยค่ะ,เท่าที่ฟังมา แสดงว่าผู้ใหญ่ในกองประกวดตอนนี้ไม่โอเคกับน้ำตาลแล้ว?,คือหนูพูดอะไรเยอะไม่ได้ค่ะ หนูรู้ว่ามันเป็นยังไง แต่หนูไม่สามารถพูดถึงแบบนั้นได้ เพราะเขาก็ผู้ใหญ่ เอาเป็นว่าถ้าไม่มีมูลหนูไม่พูดหรอก,ผู้ใหญ่มีเตือนเราไหมหลังจากโพสต์ไป เพราะกระแสที่กลับมาค่อนข้างแรง?,ก็แรงค่ะ แต่หนูไม่ได้พาดพิงถึงช่องหรือถึงใคร อย่างที่หนูเคยโดนข่าวมาทุกๆ ครั้งหนูโอเคนะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด หนูเป็นคนที่จริงก็ว่าไปตามจริง ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิดแค่นั้นเอง (แสดงว่าผู้ใหญ่ไม่ได้เรียกไปเตือนใช่ไหม?) เตือนอะไรล่ะ หนูทำอะไรผิด อย่างที่บอกว่าหนูห้ามความคิดใครไม่ได้ แล้วแต่ค่ะ,มีอะไรอยากบอกน้ำตาลไหม?,ก็เข้าไปคุยกับกองให้รู้เรื่องก็แค่นั้นเอง ไม่ใช่บ่ายเบี่ยงว่าติดงาน งานยุ่ง งานเยอะ มันก็ไม่ใช่ (แต่เราไม่ได้รู้สึกเกลียดน้องใช่ไหม?) หนูไม่ได้เกลียด หนูไม่เคยเกลียดน้อง แต่ที่ออกมาโพสต์แค่รู้สึกว่าเวลาที่เขาออกมาตอบอะไรมันดูแบบ หืมใช่เหรอ แค่นั้นเอง ก็เข้ามาคุยสิ ไม่ใช่ทำอย่างนี้แล้วไปพูดกับคนอื่นว่าไม่มีอะไร ทั้งที่มันมีค่ะ. | แก้ม กวินตรา แจงโพสต์ข้อความงดหวานเพราะน้ำตาลปลอมมาก หลังทราบข่าว น้ำตาล ชลิตา มีปัญหากับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แต่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลั่นรู้ว่าทุกอย่างเป็นยังไงแต่พูดอะไรเยอะไม่ได้ ไม่เสียเซลฟ์คนวิจารณ์แรง | null | แก้ม กวินตรา โพธิจักร,น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์,แก้ม น้ำตาล,แก้ม โพสต์เฟซบุ๊ก น้ำตาลปลอมมาก,แก้ม น้ำตาล เกาเหลา | https://www.thairath.co.th/content/877706 |
สตรีบัลแกเรียออกมาอ้างเป็นแม่ ด.ญ.มาเรีย | เด็กหญิงมาเรียอายุประมาณ 4-6 ขวบ ถูกพบอยู่ในชุมชนชาวยิปซีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งตำรวจกรีซก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่าเธออาจถูกลักพาตัวมาขายโดยเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติ ทางการกรีซนำเด็กหญิงมาเรียมาไว้กับมูลนิธิเพื่อเด็กและประสานไปยังตำรวจสากล เพื่อตามหาครอบครัวที่แท้จริง ซึ่งก็ปรากฏว่ามีผู้ให้ข้อมูลเป็นเบาะแสเข้ามาอย่างล้นหลามจากทั่วโลก ทั้งนี้ กรีซยังได้แจ้งข้อกล่าวหากับ 2 สามีภรรยาชาวยิปซีที่เด็กหญิงมาเรียอยู่ด้วยว่า ลักพาตัวและทำเอกสารปลอม2 สามีภรรยาชาวยิปซีในกรีซปฏิเสธว่า ไม่ได้ลักพาแต่รับไว้จากการให้ ทั้งนี้ 2 สามีภรรยาอายุ 39 ปีและ 40 ปีตามลำดับอ้างว่า แม่ผู้ให้กำเนิดไม่มีปัญญาเลี้ยง เขาทั้งสองจึงรับเด็กหญิงมาเรียมาเป็นลูกอีกคนตั้งแต่เธอเกิดได้เพียงไม่กี่วัน ล่าสุดกรณีนี้มีความคืบหน้ามาจากประเทศบัลแกเรีย ซึ่งสตรีชาวบัลแกเรียผู้หนึ่งออกมาอ้างกับพนักงานสอบสวนว่าเธอเป็นแม่ที่แท้จริงของเด็กหญิงมาเรียรัฐมนตรีมหาดไทยของบัลแกเรียยืนยันการกล่าวอ้างดังกล่าว และขณะเดียวกันลูกชายวัย 15 ปีของสตรีผู้กล่าวอ้างก็บอกด้วยว่า แม่เศร้าใจมากและร้องไห้โฮ เมื่อเห็นภาพเด็กหญิงมาเรียจากทางโทรทัศน์ สตรีชาวบัลแกเรียผู้กล่าวอ้างระบุถึงความจำเป็นที่ต้องทิ้งลูกว่า เพราะไม่มีจะกิน เธอจึงจำใจมอบเด็กหญิงมาเรียให้ไว้กับครอบครัวชาวยิปซีในกรีซ ที่เธอเข้าไปทำงานให้ ซึ่งผู้กล่าวอ้างชาวบัลแกเรียยืนยันด้วยว่าไม่ได้ขายลูก แต่เป็นการให้โดยไม่มีค่าตอบแทนเป็นเงิน โดยวันนี้จะมีการพิสูจน์ดีเอ็นเอระหว่างผู้กล่าวอ้างชาวบัลแกเรียกับเด็กหญิงมาเรีย ทั้งนี้ ยิปซีเป็นกลุ่มคนพเนจรเชื้อสายอินเดีย | สตรีชาวบัลกาเรียออกมาอ้างว่าเป็นแม่ของเด็กหญิงมาเรีย ที่พบในชุมชนชาวยิปซีในกรีซ ซึ่งกรณีนี้กำลังเป็นที่สนใจของทั่วโลกว่า จะโยงใยกับเครือข่ายขโมยเด็กไปขายหรือไม่ | ต่างประเทศ | ด.ญ.มาเรีย,บัลแกเรีย,สตรี,แม่ | https://news.thaipbs.or.th/content/203464 |
กพร. ผนึกแพทย์แผนไทย ยกระดับพนักงานนวดเสริมการท่องเที่ยว | ,เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นายกรีฑา สพโชค อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดมีความต้องการแรงงานในสาขานี้สูงตามไปด้วย โดยเฉพาะในสาขาพนักงานนวดไทยเป็นที่ต้องการอย่างมากของสถานประกอบกิจการโรงแรมและรีสอร์ตในการให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งที่ผ่านมากรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในการผลิตพนักงานนวดไทยให้มีทักษะฝีมือก่อนป้อนสู่ตลาดแรงงาน,นายกรีฑา กล่าวต่อว่า ล่าสุด กพร. ได้ร่วมกับสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย โดยวัตถุประสงค์ของความร่วมมือในครั้งนี้ คือ 1. พัฒนาทักษะฝีมือแรงงานด้านการนวดไทยให้มีมาตรฐานการประกอบอาชีพที่มั่นคงและปลอดภัย 2. ส่งเสริมผู้ให้บริการมีฝีมืออย่างมืออาชีพเพื่อรองรับการเติบโตของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และทั่วโลก 3. เพื่อสร้างโอกาสให้พนักงานนวดไทยได้รับการพัฒนาทักษะฝีมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 4. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด และที่สำคัญ 5. พัฒนากำลังแรงงานรองรับนโยบาย New Engine of Growth ของรัฐบาล ที่ต้องการพัฒนา 10 อุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นหนึ่งในนั้น สำหรับแนวทางความร่วมมือ มีดังนี้ แนวทางที่หนึ่ง ร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติเพื่อยกระดับมาตรฐานฝีมือให้กับแรงงานภาคบริการ แนวทางที่สอง ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรด้านการแพทย์แผนไทย สปา และความงาม เพื่อใช้เป็นหลักสูตรกลางในการพัฒนาฝีมือแรงงาน แนวทางที่สาม บูรณาการความร่วมมือในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น วิทยากร ครูฝึก สถานที่ฝึกอบรม วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึก เป็นต้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เข้ารับการฝึก,ความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานตามแนวทางประชารัฐในครั้งนี้ ได้สร้างประโยชน์มากมายหลายด้าน เช่น ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการให้ขยายตัวมากขึ้น โรงแรมและรีสอร์ตมีพนักงานนวดไทยที่มีทักษะไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว และตัวพนักงานนวดไทยก็จะมีรายได้ในการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวด้วย นายกรีฑากล่าว. | กรมพัฒนาฝีมือแรงงานร่วมกับสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย พัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ด้านการนวดไทย ให้มีมาตรฐานในการประกอบอาชีพ และรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC | null | นวดไทย,ตลาดแรงงาน,กรีฑา สพโชค,อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน,ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว,สมาคมแพทย์แผนไทย,การนวดแผนไทย,แพทย์แผนไทย | https://www.thairath.co.th/content/716330 |
เล็งนำนักโทษทดลองทำประมง นำร่องสมุทรสาคร แก้แรงงานทาส | เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวถึงผลการหารือกับนายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ถึงการนำนักโทษมาทำงานบนเรือประมง เพื่อแก้ปัญหาการหลอกลวงคนหางานไปเป็นแรงงานทาสบนเรือประมง ตามแนวคิดของ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นชอบแนวคิดดังกล่าวร่วมกันว่าจะสามารถสร้างอาชีพให้นักโทษ และช่วยทดแทนการขาดแคลนแรงงานประมง โดยตนได้เสนอแนวทางในการนำนักโทษมาทำงานประมง 3 ข้อ คือ ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ ต้องมีการเตรียมความพร้อม มีการชี้แจงรูปแบบการทำงานในเรือประมงให้ชัดเจน และได้รับการคุ้มครอง ได้รับค่าจ้าง และต้องไม่เกิดแรงงานบังคับ,นายสุเมธ กล่าวถึงการคัดเลือกนักโทษ ว่า อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เสนอให้นำนักโทษที่ใกล้พ้นโทษ อายุระหว่าง 18-25 ปี มาทำงานประมง โดยจะนำร่องใน จ.สมุทรสาคร เป็นจังหวัดแรก ได้มอบหมายให้จัดหางานจังหวัดไปหารือกับเรือนจำในจังหวัดสมุทรสาคร ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อกำหนดแนวทางร่วมกัน ทั้งระยะเวลาที่จะใช้ทดลองการทำงานและการเริ่มดำเนินการส่วนจำนวนนักโทษที่จะร่วมโครงการนั้นจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนักโทษเป็นหลัก ถ้าใครต้องการออกมาแล้วมีงานทำ ก็มีงานรองรับให้ทันที. | เตรียมนำนักโทษทดลองทำงานบนเรือประมง นำร่องใน จ.สมุทรสาคร แก้ปัญหาบังคับใช้แรงงานทาส ยึดตามความสมัครใจ และต้องได้รับการคุ้มครอง-ค่าจ้าง | null | นักโทษ,ทำงาน,เรือประมง,นำร่อง,สมุทรสาคร,สร้างอาชีพ,สมัครใจ,ค่าตอบแทน,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/content/465877 |
ใช้ ไม้จิกเผาหลวงพ่อคูณ 29ม.ค.62 นำอัฐิลอยอังคารแม่น้ำโขง | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 พ.ค.2561 ที่ห้องประชุมมิตรภาพ อาคารเรียนรวม ชั้น 3 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) พระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธมมธโช) หรือเจ้าคุณธงชัย ในฐานะประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 นำพุทธศาสนิกชนและผู้ที่ให้การเคารพเลื่อมใสศรัทธาในพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา กว่า 1,000 คน ร่วมในการประกอบพิธีสวดพระพุทธมนต์ โดยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 12 รูป และพระสงฆ์ 88 รูป สวดมาติกาในพิธีบำเพ็ญบุญกุศลทักษิณานุประทาน แด่หลวงพ่อคูณ เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปี แห่งการละสังขาร,จากนั้นพระธรรมดิลก เจ้าคณะภาค 9 แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ ร่วมถวายภัตตาหารเพล ทอดผ้าไตรบังสุกุล ถวายปัจจัยไทยธรรมโดยผู้ที่เข้าร่วมในพิธีได้ร่วมกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนบุญ แด่หลวงพ่อคูณ หลังเสร็จพิธีคณะทั้งหมดได้เข้ากราบสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ที่ห้องเก็บสรีระสังขาร ชั้น 7 อาคารเรียนรวม ที่คณะกรรมการจัดงานได้อนุญาตให้ประชาชนได้เข้ากราบสรีระสังขารหลวงพ่อคูณได้ จนถึงเวลา 16.00 น. วันนี้,รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า พิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่หลวงพ่อคูณนั้น ได้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 29 ม.ค.2562 โดยช่วงก่อนถึงวันพระราชทานเพลิงศพ ได้กำหนดจัดให้มีพิธีบำเพ็ญกุศล ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มข.เป็นเวลา 7 วัน คือระหว่างวันที่ 22-28 ม.ค.2562 ทั้งนี้ ในการเตรียมการในงานพระราชพิธีดังกล่าว ทั้งในส่วนของการจัดสร้างเมรุชั่วคราวในรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก ที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง อีกทั้งมีการปรับพื้นที่และเริ่มดำเนินการตอกเสาเข็ม ทำฐานของเมรุชั่วคราวตามขั้นตอนทั้งหมด,เราเริ่มลงมือก่อสร้าง ตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทุกขั้นตอนทำกันอย่างเต็มที่ เมื่อแล้วเสร็จจะเคลื่อนไปประกอบภายในพุทธมณฑลอีสาน สำหรับการก่อสร้างถนนทางเข้า เป็นโครงการของกรมทางหลวงชนบท มีกำหนดการก่อสร้าง 2 ปี ซี่งในเดือน ม.ค.2562 ถนนจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์แต่สามารถใช้ในการสัญจรได้ และขณะนี้อยู่ในระหว่างการสร้างสะพานความยาว 140 เมตร ที่จะข้ามน้ำไปยังสถานที่สร้างเมรุชั่วคราว,รศ.นพ.ชาญชัย กล่าวอีกว่า การดำเนินงานในขั้นตอนต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างเมรุชั่วคราวนั้น งบประมาณส่วนหนึ่งมาจากการเงินบริจาค โดยเมื่อครั้งงานศพหลวงพ่อคูณ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมามียอดเงินคงเหลือประมาณ 51 ล้านบาท โดยที่พินัยกรรมของหลวงพ่อคูณ นั้นได้ระบุไว้ว่าในการจัดงานของหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่การบำเพ็ญกุศล ช่วงละสังขาร การเป็นครูใหญ่ การพระราชทานเพลิงศพ จนถึงเสร็จสิ้นการลอยอังคาร ทั้งหมดได้ระบุไว้ในพินัยกรรมชัดเจนว่า ให้นำเงินที่บริจาคไว้มาใช้จ่าย โดยเราตรวจสอบยอดเงินพบว่ามีเงินอยู่ที่ 400,000 บาท ในพินัยกรรมระบุว่าให้คณะแพทย์สำรองไปก่อน ซึ่งเมื่อทำบุญเสร็จแล้วมีคนบริจาคเพิ่มขึ้นมาที่ 57 ล้านบาท ในช่วงนั้นเรามีค่าใช้จ่ายรวม 9 ล้านบาท ทำให้เงินคงเหลือขณะนั้นประมาณ 47 ล้านบาท,สำหรับเงินทั้งหมดได้ฝากในบัญชีมีการตั้งคณะกรรมการดูแลบัญชี ในชื่อกองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ มข. ซึ่งได้มีคนมาบริจาคอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการฯได้เช็กยอดเมื่อเดือน มี.ค. คงเหลือ 51 ล้านบาท ระหว่างนี้เราจะใช้เงินก้อนนี้ ดำเนินการไปก่อนจนสิ้นสุดการลอยอังคาร ซึ่งมีความเชื่อว่าศิษยานุศิษย์และประชาชนโดยทั่วไปจะร่วมทำบุญอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในเรื่องของงบประมาณจะไม่มีปัญหาใดๆ,รศ.นพ.ชาญชัย กล่าวอีกว่า ในขั้นตอนของการพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณ ในเมรุชั่วคราว ทำขึ้นด้วยรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกได้มีการวางแผนอย่างดี โดยเฉพาะกับอัฐิของหลวงพ่อคูณ ที่ฝ่ายรับผิดชอบคือคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะศิลปกรรมศาสตร์ ได้ประสานการทำงานร่วมกันกับคณะแพทย์ศาสตร์ ในการทำเป็นกล่องโลหะ มีตะแกรงด้านบน โดยทุกคนลงความเห็นกันว่าจะใช้ไม้จิกที่เป็นไม้มีความร้อนสูง ใช้ในงานพิธีดังกล่าว เมื่อเผาเสร็จ อัฐิ จะตกลงในกล่อง เราจะปิดกล่องทันที จากนั้นจะเดินทางไปลอยอังคารลงสู่แม่น้ำโขงในจุดที่ลึกที่สุดที่ จ.หนองคาย และพื้นที่ที่ใช้ในการพระราชทานเพลิงศพจะมีการสร้างอนุสรณ์สถานครอบไว้ เพื่อเก็บเครื่องอัฐบริขารไว้เป็นที่ระลึก,ในวันพระราชทานเพลิงศพ ทั้งหมดจะเป็นอนุสรณ์ของหลวงพ่อคูณ ที่จะสร้างครอบไว้ อีกทั้งจะมีการนำมีโลงแก้ว อ่างดอง เตียงครูใหญ่ อุปกรณ์ผ่าตัดครูใหญ่ รูปปั้นหลวงพ่อที่ได้รับมอบจากวัดบ้านไร่ ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ที่อนุสรณ์สถานแห่งนี้ สำหรับเป็นสถานที่ที่รำลึกถึงหลวงพ่อคูณตลอดไป | คณบดีแพทยศาสตร์ มข.เจ้าภาพ เผยใช้ไม้จิกเป็นเชื้อเพลิงเผาสรีระหลวงพ่อคูณ กำหนดในวันที่ 29 ม.ค.2562 มั่นใจอัฐิไม่เล็ดลอด หลังเสร็จพิธีนำไปลอยอังคารแม่น้ำโขงทันที | ข่าว,ทั่วไทย | หลวงพ่อคูณ,เผาหลวงพ่อคูณ,พระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณ,วัดบ้านไร่,พินัยกรรมหลวงพ่อคูณ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1283111 |
สัตว์หลุดออกจากสวนสัตว์ในจอร์เจียเหตุจากน้ำท่วมหนัก | วันนี้ (15 มิ.ย.2558) เจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ในกรุงทบิลิซี เมืองหลวงของสาธารณรัฐจอร์เจียต้องใช้ปืนยาสลบยิงเข้าใส่ฮิปโปโปเตมัสที่หลุดออกจากสวนสัตว์หลังเกิดน้ำท่วมหนัก โดยเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์สามารถติดตามไล่ต้อนจนฮิปโปจนมุมเพื่อนำตัวกลับไปที่สวนสัตว์ แต่ยังคงมีสัตว์อีกหลายชนิด รวมทั้งสัตว์ที่เป็นอันตรายหลุดออกมาอยู่ในเมือง สวนสัตว์กรุงทบิลิซี เปิดเผยว่า สวนสัตว์มีสัตว์อยู่ทั้งหมด 600 ตัว รวมทั้งปลาและนก ในจำนวนนี้หายไปถึงครึ่งหนึ่งหลังเกิดน้ำท่วม โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกลับมาได้บางส่วน ขณะที่บางตัวก็ถูกฆ่าตายขณะที่่สัตว์ที่หลุดออกจากสวนสัตว์มีทั้งเสือ สิงโต หมีและหมาป่ารวมอยู่ด้วย นายไอรัคลี การิบาชีฟลี (Irakli Garibashvili) นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐจอร์เจียต้องขอให้ชาวเมืองอยู่แต่ภายในบ้านเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งยืนยันว่าขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ของสวนสวนสัตว์ได้ดำเนินความพยายามทุกวิถีทางเพื่อจับสัตว์กลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด เหตุการณ์สัตว์หลุดออกจากสวนสัตว์ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังมีฝนหนัก ทำให้แม่น้ำเวเร่ (Vere) ซึ่งปกติเป็นเพียงแม่น้ำสายเล็กที่ไหลผ่านกลางเมือง เข้าท่วมบ้านเรือนและถนนในกรุงทบิลิซีอย่างฉับพลัน สร้างความเสียหายอย่างหนักจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ 2 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่และชาวเมืองเริ่มเก็บกวาดซากความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมฉับพลันแล้ว | เหตุน้ำท่วมฉับพลันจากฝนตกหนักที่กรุงทบิลิซี เมืองหลวงของสาธารณรัฐจอร์เจีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและประชาชน และยังทำให้สัตว์นานาชนิดรวมทั้งสัตว์ที่เป็นอันตราย อย่าง เสือ สิงโต หมีและหมาป่าหลุดออกจากสวนสัตว์กว่าครึ่ง ขณะที่นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐจอร์เจียต้องขอให้ชาวเมืองอยู่แต่ภายในบ้านเพื่อความปลอดภัย | ต่างประเทศ | จอร์เจีย,น้ำท่วม,สวนสัตว์,สัตว์หลุดจากสวนสัตว์ | https://news.thaipbs.or.th/content/2725 |
ก.ล.ต.ตามหาไอ้โม่งตัวการทุบหุ้น | นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเชียพลัส เปิดเผยว่า หุ้นไทยที่ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยระหว่างวันลงลึกกว่า 50 จุด มีแรงขายออกมาจากนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน แต่เริ่มลดน้อยลง หลังวันก่อนที่ดัชนีปรับตัวลงแรงระหว่างวันกว่าร้อยจุด จากกรณีข่าวลือในประเทศ,โดยนายประกิตกล่าวว่า เหตุการณ์ที่ดัชนีปรับตัวลงแรงเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี 2549 ที่มีการประกาศนำมาตรการ Capital Control สกัดเงินทุนไหลเข้ามาใช้ที่ดัชนีร่วงลงถึง 142 จุด คิดเป็น 19% และครั้งที่สองเมื่อ 14-15 ต.ค.2552 ดัชนีร่วง 75 จุด ราว 10% ซึ่งเหตุครั้งหลังนี้ มีข่าวลือที่ใกล้เคียงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นนักลงทุนบางส่วนมองเป็นจังหวะดีที่จะกลับเข้ามาซื้อบ้างแล้ว เนื่องจากหากดูค่า PE (อัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น) เฉลี่ยของตลาดที่ลดลงเหลือ 14 เท่า ถือว่าราคาหุ้นไทยไม่แพงมากแล้ว,นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบข่าวลือที่มีผลกระทบต่อดัชนีหุ้นอย่างเต็มที่แล้ว ขอแนะนำนักลงทุนที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้ จะต้องแยกแยะข้อมูลการลงทุนอย่างถี่ถ้วน ช่วงนี้ใครที่มีหุ้นพื้นฐานดี และตั้งใจจะถือในระยะ 6 เดือน-1 ปี ยังสามารถถือต่อไปได้ แต่หากไม่มีหุ้นและกำลังจะลงทุนช่วงนี้ ควรพิจารณาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี,นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การที่ดัชนีลดลงมาก เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาเกิดจากหลายปัจจัย โดยตลาดวันที่ 16 ธ.ค. ดัชนีก็ยังปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศหลายแห่ง โดยกลุ่มที่ลดลงมากคือกลุ่มพลังงานเหมือนกันทั่วโลก ส่วนเรื่องที่มีข้อสงสัยว่า ช่วงที่ดัชนีปรับตัวลงแรงเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. มีการกระทำที่เป็นความผิดทางกฎหมายหรือไม่นั้น ในชั้นนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมและติดตามข้อมูล หากพบว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิดจะดำเนินการตามกฎหมาย,นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า หุ้นตกจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก ทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรปก็ลดลงเช่นกัน ขณะที่ปัจจัยภายในไม่ได้มีปัญหาใดๆ แต่ยอมรับว่ามีขบวนการปล่อยข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงเข้ามากดดันเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย ก็เคยตกแบบนี้ แต่ปีนี้หุ้นมาตกช่วงปลายปี ทำให้ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คิดว่าตกแล้วเว้นระยะสักช่วงหนึ่งก็ต้องขึ้น ขณะนี้ทาง ก.ล.ต.กำลังตรวจสอบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ระมัดระวังและประชาสัมพันธ์ให้ดี เชื่อว่ามีไอ้โม่งพอได้จังหวะก็ทำและกวาดหุ้นกันไป แต่ยังไม่รู้ว่ากลุ่มใหญ่หรือไม่,ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตลาดหุ้นที่ปรับลดลงแรงเกิดขึ้นทั่วโลกและถือเป็นกลไกตลาด เพราะเป็นช่วงท้ายปีที่บรรดากองทุนต่างๆ ปิดความเสี่ยงการซื้อขายหุ้น ทำให้ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เมื่อมีการเทขายในจำนวนที่ไม่มากนัก แต่ราคาหุ้นก็ปรับลดลงเยอะ เช่นเดียวกับค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงในลักษณะเดียวกัน เพราะตลาดในช่วงปลายปีจะเบาบาง มีผู้ซื้อขายน้อย. | ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 16 ธ.ค.ว่า ดัชนีหุ้นไทยยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยลงไปต่ำสุดที่ระดับ 1,422.63 จุด ลดลง 55.86 จุด | null | ไอ้โม่ง,ตัวการ,ทุบหุ้น,ประกิต สิริวัฒนเกตุ,หุ้นไทย,ก.ล.ต.,วรพล โสคติยานุรักษ์,ประสาร ไตรรัตน์วรกุล,ตลาดหุ้น | https://www.thairath.co.th/content/469503 |
ลำใย ไหทองคำ กับเรื่องเล่าอีโรติกในวัฒนธรรมอิสาน | ทำให้ผมประหวัดถึงเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับหมอลำและวัฒนธรรมการพูดถึงเพศสัมพันธ์ของคนอิสาน. . .สมัยเด็ก ๆ บรรดาผู้ใหญ่รวมทั้งพ่อผมเอง มักจะเล่านิทานที่หมิ่นเหม่ศีลธรรมให้ฟังเสมอ . . . .เช่น นิทานก้อม (เรื่องสั้นขำๆ) เกี่ยวกับลูกเขยหลอกกินตับแม่ยายที่กระท่อมกลางทุ่งนา พี่เขยหลอกกินตับน้องเมีย หรือพระแอบไปขึ้นสาว แต่ถูกหลอกให้ไปเจอพระอีกรูปหนึ่งแทน เรื่องพวกนี้จบลงด้วยเสียงหัวเราะ แต่ไม่ค่อยมีใครคิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง มันถูกเล่าเพื่อความสนุกของเด็ก ๆ และมักจะพูดถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างตรงไปตรงมาเสมอ เห็นเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันเมื่อมีงานบุญออกพรรษาหรืองานบุญเดือนสี่ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ไม่มีเงินจ้างหมอลำหมู่ (คณะหมอลำ) ก็มักจะจ้างหมอลำคู่ โดยมีหมอลำสองคนถูกจ้างมาลำบนเวทีเดียวกันในลักษณะประชันขันแข่งความสามารถทางลำหรือด้นกลอสด เวทีแสดงหมอลำก็มักจะตั้งอยู่ภายในวัด (เพราะเป็นงานบุญประเพณี) หมอลำคู่จะเริ่มเปิดเวทีด้วยกลอนไหว้ครู ไหว้พระรัตนตรัย นิทานชาดกหรือพุทธประวัติ พรรณนาอานิสงส์การทำบุญ ในช่วงหัวค่ำตั้งแต่ 20.00-21.00 น. หรือดึกกว่านั้นหน่อย ช่วงเวลาดังกล่าวจึงไม่มีอะไรให้บรรดาพวกคนหนุมคนแก่คึกคักมีแต่ชักชวนให้ศรัทธาในศาสนาและการบุญแต่เมื่อถึงช่วงดึกอาจจะ 22.00 น.เป็นต้นไป แนวการลำก็จะเปลี่ยนเป็นเรื่องสองแง่สองง่าม การเกี้ยวกันระหว่างหนุ่ม (แก่) กับสาวหมอลำ การต่อสู้กันด้วยกลอนลำ (เรียกว่า แก้กลอนลำ -ถ้าไม่เข้าใจให้ลองนึกถึงการแก้ทางมวยของมวยไทย) จะสร้างความคึกคักในยามดึกดื่นเที่ยงคนไปจนเกือบสว่าง (แล้วแต่ความสามารถของหมอลำว่าจะดึงผู้ชมไว้ได้จนถึงสว่างหรือไม่) เรื่องส่วนใหญ่ที่ลำสลับกันไปมาระหว่างคู่ชายหญิงก็มีหลากหลาย แต่เรื่องที่เรียกความสนใจได้ดีที่สุดก็คือเรื่องเซ็กส์ เกือบทั้งสิ้นเป็นเรื่องใต้สะดือแตงสังหารสาว เล่าเรื่องราวของหญิงสาว ที่ทุกเช้าจะไปรดน้ำผักสวนครัวที่ปลูกไว้ในสวนท้ายหมู่บ้าน วันเกิดเหตุ ขณะตักน้ำรดแปลงปลูกแตง หญิงสาวแลเห็นผลแตงกวารูปร่างคล้ายอวัยวะเพศชาย เธอเกิดอยากรู้ว่าการมีอะไรกับไอ้นั่นจะเป็นยังไง ด้วยความมันจนลืมตัว ผลแตงเกิดหักและติดอยู่ข้างใน เอาออกไม่ได้ จนกระทั่งได้เวลาพระฉันเพลพ่อจึงออกตามหาเพราะด้วยความเป็นห่วงว่าลูกสาวของตนจะเกิดเหตุร้าย กลอนลำจบด้วยประโยคคำพูดของพ่อที่สาบส่งลูกสาวให้ไปตายซะ เพราะนางโง่แทั แข้วมึงมีบ่แพ้ เอาหีหยั่ม หน่วยบักแตง (ฟันก็มี แต่ดันเอาหอยเคี้ยวผลแตงซะงั้น) แน่นอน ทั้งหมดเป็นเรื่องอารมณ์ขัน ที่ทุกคนฟังแล้วก็หัวเราะสนุกสนานกันไปในงานบุญออกพรรษาของชาวอิสาน (และล้านนา) จะมีการเทศน์ออกพรรษาโดยนิมนต์ภิกษุสามเณรจากวัดต่าง ๆ ในเขตตำบลใกล้เคียงกันมาเทศน์ในวัดประจำหมู่บ้านของแต่ละหมู่บ้าน ตอนนั้นผมอายุ 11 ขวบ บวชเป็นสามเณรที่บ้านของตนเอง จำได้ว่า ปีนั้นชาวบ้านเห็นพ้องต้องกันว่าควรเทศน์ นิทานเสียวสวาด ซึ่งผมจำไม่ได้ว่าเนื้อหาทั้งหมดของนิทานเรื่องนี้สั่งสอนอะไรบ้างเกี่ยวกับพุทธศาสนา แต่การเลือกเรื่องนี้มาเทศน์ในงานออกพรรษาของหมู่บ้านคงจะเป็นเพราะเป็นเรื่องที่สนุกสนาน (แต่ละปี หมู่บ้านจะเลือกนิทานหรือวรรณกรรมที่แตกต่างกันไป)นิทานแบ่งเป็นผูกใบลาน ประมาณ 10-20 แผ่นต่อผูก แต่ละผูกจะต้องแบ่งย่อยเป็น 3-4 แผ่น (แผ่นละ 2 หน้า) แล้วแต่ว่าจะนิมนต์พระเณรมาเทศน์กี่มากน้อย จำได้ว่าคราวนั้นผมหนังสือเทศน์ที่มีเรื่องราวอีโรติกอยู่ด้วย จำไม่ได้ว่าเรื่องนี้ผู้ประพันธ์ต้องการให้ตัวละครคือเสียวสวาด (ผู้ฉลาดเฉลียว) ถกปริศนาธรรมกับฝ่ายตรงข้ามในเรื่องใด แต่ในตอนที่ผมได้รับมาเทศน์ให้โยมอุบาสกอุบาสิกาฟังนั้น เป็นตอนที่เสียวสวาดเล่านิทานเรื่องพระธุดงค์กับหญิงสาวเรื่องมีอยู่ว่า หญิงสาวชาวบ้านไปขุดหน่อไม้ในชายป่าปลายห่างจากหมู่บ้านออกไป เมื่อเห็นหน่อไม้ นางก็มโนถึงอวัยวะเพศผู้ชายจนเกิดอารมณ์เพศ (เช่นเดียวกับ แตงสังหารสาว) หน่อไม้อ่อน ๆ หักติดอยู่ข้างใน ไม่สามารถนำออกได้ด้วยตนเอง จนกระทั่งพระธุดงค์บังเอิญผ่านมาพบเข้า นางจึงขอร้องให้พระช่วยดึงหน่อไม้ออกจากช่องคลอดของตน โดยบอกว่าจะตอบแทนบุญคุณโดยยอมมีเพศสัมพันธ์กับพระ พระตกลง เมื่อพระนำหน่อไม้ออกจากช่องคลอดแล้วหญิงสาวจึงขอตัวกลับบ้านไปล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดเสียก่อน. . .พระรออยู่ที่ชายป่า และเริ่มมโนถึงการมีอะไรกับหญิงสาว แต่รู้สึกว่าหญิงสาวล่าช้าเหลือเกิน พระธุดงค์รู้สึกกำหนัดพลุ่งพล่านจนทนรอไม่ไหวแล้ว เห็นที่ต้นไม้มีรูพอที่จะสอดอวัยวะเพศเข้าไปได้ จึงสอดอวัยวะเพศเข้ารูนั้น บังเอิญ มันเป็นรูตุ๊กแก ฝ่ายเจ้าตุ๊กแกเห็นอวัยวะเพศผุดเข้าผุดออก นึกว่างูจะเข้ามาทำร้ายตน จึงกัดอวัยวะเพศของพระธุดงค์นั้นทันทีเมื่อหญิงสาวมาถึง เห็นพระธุดงค์ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ที่อวัยวะเพศมีตุ๊กแกติดอยู่ มันไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ พระจึงขอให้หญิงสาวช่วยเอาตุ๊กแกออก หญิงสาวจึงหาวิธีทำให้ตุ๊กแกยอมปล่อยอวัยวะเพศของพระรูปนั้นทุกอย่างก็จบลงแบบเจ๊ากันไป หญิงสาวบอกว่านางไม่ต้องเสียตัวให้แก่พระเพื่อตอบแทนบุญคุณเพราะบุญคุณได้ถูกทดแทนเรียบร้อยแล้วต้ังแต่ช่วยพระรอดจากปากตุ๊กแกเรื่องราวที่เหลือ. . . ผมก็จำไม่ได้แล้วผมเคยลืมเรื่องราวที่ตนเองเคยเทศน์บนธรรมาสน์ที่มีฆราวาสญาติโยมผู้ถือศีลนั่งรายล้อมประนมมือรับฟังไปนานแล้ว จนกระทั่งเริ่มมีข้อวิพากษ์ท่าเต้นของลำใย และนามของค่าย ไหทองคำ จากหัวหน้า คสช.และระเบียบรัตน์ รวมทั้งผู้มีการศึกษา ที่รู้จักแต่วัฒนธรรมไทย (ภาคกลาง) ของตนเอง และพยายามตัดสินดีเลวของผู้อื่นอย่างมีอคติ ได้ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวอันอยู่ในวัฒนธรรมที่ตนเคยสัมผัสมาก่อน เมื่อนานมาแล้วในวันนี้ คนไทยจำนวนหนึ่งกำลังใช้จริยธรรม (ที่ไม่ได้ที่รากฐานทางจริยธรรมอะไรนัก) ไปกดทับความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยอ้างศีลธรรมอันดีงามเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ การรักนวลสงวนตัว วัฒนธรรมอันดีงามไทย ผมคิดว่า สิ่งที่คนเหล่านี้ขาดก่อนลงมือตัดสินจริยธรรมและความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นคือ การเรียนรู้วัฒนธรรมอื่นๆ การตระหนักรู้ถึงความไม่รู้ของตนเอง การตรวจสอบมาตรฐานทางจริยธรรมที่ตนเองยึดถือ และการรู้จักเคารพในวัฒนธรรมที่ต่างออกไป พวกเขาควรจะตรวจสอบตนเองว่ามีอคติทางจริยธรรมเจือปนอยู่ในคำตัดสินทางจริยธรรมหรือไม่ มากน้อยเพียงใด | ข้อวิพากษ์ที่ถาโถมไปยังเด็กสาววัย 19 ปี ลำใย ไหทองคำ (คนที่ต่อสู้ทำงานอย่างสุจริตมาตั้งแต่วัยประถม) | สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม,สังคม | ความเป็นลาว,ชาญณรงค์ บุญหนุน,นิทานก้อม,นิทานเสียวสวาด,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,ภาคอีสาน,ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช,ลำใย ไหทองคำ,วัฒนธรรมอีสาน,เรื่องเล่าอีโรติก | https://prachatai.com/journal/2017/06/71949 |
งูใหญ่ ช็อก ยิงทิ้งยิงขว้างโดน ซัสซูโอโล สวนโป้งสลบปุ๋ย 2-1 | การแข่งขันฟุตบอลกัลโชเซเรียอา อิตาลี ฤดูกาล 2017/18 ประจำวันที่ 12 พ.ค. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง อินเตอร์ มิลาน เปิดบ้านจูเซปเป เมียสซา พบกับ ซัสซูโอโล,เปิดฉากเกมขึ้นมาอินเตอร์ มิลาน ลุยแหลกแต่กลายเป็น ซัสซูโอโล มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 25 จากลูกฟรีคิก โปลิตาโน หลอกยิงเรียดเข้าไปเลย,เจ้าบ้านลุยแหลกได้ลุ้นหลายครั้งจากทั้ง อิคาร์ดี, คันเดรว่า แต่ไม่ผ่านมือ คอสซิยี โดยเฉพาะนาทีที่ 42 ที่ โบรโซวิช วางบอลยาวให้ อิคาร์ดี ยิงเข้าไปแล้ว แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าอย่างน่าเสียดาย,ว่ากันต่อครึ่งหลังอินเตอร์ลุยหนักและน่าจะได้ประตูตีเสมอสุดๆนาทีที่ 70 เปริซิช ยิงติดบล็อกมาเข้าทาง อิคาร์ดี ยิงโล่งๆแต่ติดเซฟ คอนซิยี เหลือเชื่อ,พอไม่ได้ประตูอีกสองนาทีต่อมา ทีมเยือนสวนกลับนำห่าง 2-0 ทันที เบร์ราดี หลุดไมาก่อนปั่นไซด์โค้งเข้าประตูอย่างสวยงาม,อินเตอร์ ลุยแหลกจนตีไข่แตก 1-2 นาทีที่ 80 จากราฟินญา แต่สุดท้ายก็ไล่ไม่ทันแล้ว,จบเกมการแข่งขัน อินเตอร์ มิลาน แพ้คาบ้านต่อ ซัสซูโอโล 1-2 ส่อแววชวดท็อปโฟร์,ส่วนผลอีกคู่,เบเนเวนโต ชนะ เจนัว 1-0 | งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ยิงไงก็ไม่เข้ามาโดนทีเด็ดของ ซัสซูโอโล สวนสองรอบยิงเข้าทั้งสองรอบก่อนพ่ายไปแบบเจ็บแสบ 1-2 | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | กัลโชเซเรียอา,อินเตอร์ มิลาน,ซัสซูโอโล,ผลบอล | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1280004 |
นายกฯ เวียดนามสั่งจัดการ 3 บล็อกต้านรัฐบาล | โดยระบุว่าจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก รวมถึงสั่งห้ามไม่ให้ข้าราชการเข้าไปอ่านบล็อกเหล่านี้ด้วยแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า นี่เป็นแผนชั่วร้ายของกองกำลังฝ่ายศัตรู และว่าบล็อกเหล่านี้ใส่ร้ายผู้นำประเทศ ปั้นน้ำเป็นตัวและบิดเบือนข้อมูล ป่วนพรรคและรัฐ และก่อให้เกิดความสงสัยและความไม่ไว้วางใจในสังคมทั้งนี้ 3 บล็อกดังกล่าว มีบล็อก Dan Lam Bao (ประชาชนทำสื่อ) และ Quan Lam Bao(ข้าราชการประจำทำสื่อ) รวมอยู่ด้วย บล็อกทั้งสองแห่งบอกว่าจะเผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยผู้ดูแลบล็อก Dan Lam Bao ระบุว่า เขาและเพื่อนๆ พร้อมจะถูกปราบปรามและคุมขัง มากกว่าจะใช้ชีวิตแบบหมาทึ่มๆ ที่ไม่กล้าเห่า และรับใช้ผู้ที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดเวียดนามนั้นไม่อนุญาตให้มีสื่อเอกชน หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เป็นกิจการของรัฐ ผู้สื่อข่าวซึ่งทำงานให้สำนักข่าวต่างประเทศได้รับอนุญาตให้อาศัยในประเทศ แต่หากจะเดินทางไปรายงานข่าวนอกเมืองหลวงต้องขออนุญาตก่อน ทั้งนี้ หากหัวข้อเรื่องดูเป็นเรื่องอ่อนไหวหรือเป็นอันตรายกับประเทศ ก็มักถูกปฏิเสธอยู่เสมอองค์การผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (RSF) ระบุว่า ปัจจุบัน มีผู้สื่อข่าวอย่างน้อย 5 คนและพลเมืองเน็ต 19 คนถูกจับกุมตัวในเวียดนาม ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศที่มีการคุมขังบล็อกเกอร์และผู้เห็นต่างในโลกไซเบอร์ มากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและอิหร่าน รวมถึงติดอยู่ใน 1 ใน 12 ประเทศที่องค์การผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนจัดให้เป็น ศัตรูอินเทอร์เน็ต ด้วยVietnam prime minister targets anti-government blogsAnother journalist arrested held incommunicado for past month | เวียดนามออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์รัฐบาล ระบุว่า เหงียน เติ๋น สุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและจัดการกับผู้อยู่เบื้องหลังบล็อกภาษาเวียดนาม 3 แห่งที่เขียนโจมตีรัฐบาล | ต่างประเทศ,ไอซีที | การเซ็นเซอร์,เวียดนาม | https://prachatai.com/journal/2012/09/42643 |
หนุ่มแอฟริกาตายเปลือยในอพาร์ตเมนต์ที่ป่าตอง คาดซดยาล้างห้องน้ำปลิดชีพ | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ก.ค. พ.ต.ต.ปฐพี ศรีชาย สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากคนดูแลอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อแห่งหนึ่ง ถ.นาใน ต.ป่าตองว่า มีชาวต่างชาติเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงนำกำลังชุดสืบสวนและสายตรวจ-มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตรุดไปตรวจสอบ ,ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าหมายเลข 1 ชั้น 1 ประตูห้องพักถูกเปิดออก เนื่องจากคนดูแลได้มาเคาะห้อง แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงใช้กุญแจสำรองเปิดเข้าไป ตรวจสอบเบื้องต้น จนพบศพชายชาวต่างชาติ ทราบชื่อคือ นาย Carroll Wesley Bryan อายุ 38 ปี สัญชาติแอฟริกาใต้ นอนเปลือยกายอยู่ภายในห้องน้ำ โดยที่พื้นพบขวดเปล่าน้ำยาล้างห้องน้ำและสุขภัณฑ์หล่นเกลื่อนกลาด บริเวณก้นมีอุจจาระราดติดอยู่ตามร่างกายเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลจากการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5-6 ชม. ,ตรวจสอบบริเวณภายในห้อง พบเสื้อผ้ากระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ทั้งที่ตู้เสื้อผ้า ที่พื้นห้อง แต่ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ บริเวณกระจกที่โต๊ะเครื่องแป้งตรงข้ามกับเตียงนอนมีตัวหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ แต่ลายมืออ่านค่อนข้างยาก รายละเอียดโดยรวมคาดว่าเป็นการเขียนอำลาใครบางคน และจะขอรักตลอดไป จึงนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.ป่าตอง เบื้องต้นแพทย์ยังไม่วินิจฉัยหรือลงความเห็นว่าผู้ตายเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องส่งศพผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง ,สอบถามคนดูแลอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ทราบเพียงว่า ผู้ตายเข้าพักอาศัยที่ห้องดังกล่าวเมื่อหลายเดือนก่อน เหมือนกับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วๆ ไป ซึ่งไม่เคยสังเกตว่าเคยพาผู้หญิงหรือแฟนสาวมาที่ห้องหรือไม่ กระทั่งมาพบกลายเป็นศพดังกล่าว, เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า ผู้ตายอาจผิดหวังความรักหรือไม่สมหวังบางสิ่งบางอย่างในชีวิต จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ด้วยการซดน้ำยาล้างห้องน้ำ และเสียชีวิตในที่สุด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานไปยังสถานทูตแอฟริกาใต้เพื่อประสานญาติมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา และจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง. | หนุ่มแอฟริกาใต้ตายเปลือยในห้องน้ำกลางเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต ข้างกายมีขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ ที่กระจกมีตัวหนังสือคล้ายเขียนสั่งลา ตร.เร่งสอบ | null | ตายเปลือย,หนุ่มแอฟริกา,ซดยาล้างห้องน้ำ,ฆ่าตัวตาย,นักท่องเที่ยว,ต่างชาติ,สั่งลา,อพาร์ตเมนต์เมืองป่าตอง,ป่าตอง,ภูเก็ต,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/666142 |
ที่ดินอีอีซีราคาพุ่งไร่ละ 13 ล้าน เกินกำลังซื้อคนในพื้นที่ | จากกรณีราคาที่ดินในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ระยอง จ.ชลบุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา ปรับเพิ่มขึ้นสูงหลายเท่าตัว โดยเฉพาะตามชุมชนและตามแนวโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานนั้นวันที่ 3 ธ.ค.2561 นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับเพิ่มขึ้น สวนทางกับรายได้คนในพื้นที่ปรับขึ้นไม่ทัน ส่วนใหญ่ต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3000000 บาทอย่างไรก็ตาม ยังไม่พบสัญญาณฟองสบู่ เนื่องจากราคาที่เพิ่มสูงขึ้นเกิดจากการตั้งราคาเองของผู้ขาย ไม่ได้เกิดจากการซื้อขายเปลี่ยนมือ นายวิชัยเชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลายในปีหน้า หลังการบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กดดันให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ขายที่ดินว่างเปล่าขณะที่นายพิชัย พิชเยนทรโยธิน ผู้บริหารโครงการอีสเทอร์น สตาร์ ในฐานะบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ กล่าวว่า ที่ดินทำเลติดถนนสุขุมวิท รัศมีรอบอู่ตะเภา ราคาซื้อขายเฉลี่ยไร่ละ 10000000 บาท แต่เมื่อนักลงทุนขอซื้อกลับไม่ขายและขยับราคาขึ้นเป็น 12000000-13000000 บาท จากเมื่อ 5 ปีก่อนที่ไร่ละ 3000000-4000000 บาท ตลอดจนราคาที่ดินตามถนนสายรอง ตรอก ซอย และไร่มันสำปะหลัง จากเดิมราคาเฉลี่ยไร่ละ 1000000 บาท เป็น 3000000-4000000 บาทสำหรับความคืบหน้าการออกกฎหมายผังเมืองในพื้นที่อีอีซีนั้น นายอนวัช สุวรรณเดช รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า พื้นที่ตามนโยบายอีอีซี มีทั้งสิ้น 8300000 ไร่ ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้ 6000000 ไร่ ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวในการจัดทำผังเมืองรวม ขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์การใช้ประโยชน์พื้นที่ ก่อนเปิดรับฟังความเห็นในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2561 ถึงกุมภาพันธ์ 2562 คาดว่าจะร่างผังเมืองรวมอีอีซี ภายในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษ และคณะรัฐมนตรี บังคับใช้ในต้นปีหน้า | ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบปัญหาราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นเร็วในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก 3 จังหวัด เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพราะเกินกำลังซื้อคนในพื้นที่ คาดสถานการณ์คลี่คลายหลังบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง | เศรษฐกิจ | อีอีซี,เขตเศรษฐกิจพิเศษ,ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์,อสังหาริมทรัพย์,ราคาที่ดิน,ราคาที่ดินอีอีซี,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/276092 |
สภามะกันโหวตท่วมท้นร่าง ก.ม.ช่วยอุยกูร์ | ในการประชุมของสภาผู้แทนสหรัฐฯ เมื่อ 27 พ.ค. ได้มีการลงมติด้วยเสียงอย่างท่วมท้น 413 ต่อ 1 เสียง เรียกร้องให้คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐของจีนที่เป็นฝ่ายต้องรับผิดชอบในกรณีที่บังคับกดขี่ข่มเหงชาวอุยกูร์ หรือชาวมุสลิมที่อยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียง ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน หลังผ่านมติเห็นชอบท่วมท้นเช่นกันจากวุฒิสภา จึงยื่นส่งร่างกฎหมายนี้ให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องตัดสินใจว่าจะโต้แย้งหรือลงนามเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย แม้วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันคาดว่าทรัมป์จะลงนาม แต่ทางทำเนียบขาวยังไม่ระบุชี้ชัดท่ามกลางความสัมพันธ์สองประเทศที่เริ่มตึงเครียดมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ทั้งนี้ นายมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน เผยว่า สภาคองเกรสส่งข้อความชัดเจนว่า รัฐบาลจีนจะได้รับการละเว้นโทษไม่ได้ ซึ่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประเมินว่ามีชาวมุสลิมที่ถูกกักตัวอยู่ในค่ายกว่าล้านคน ขณะที่จีนปฏิเสธเรื่องการดูแลชาวมุสลิมไม่ดี โดยบอกว่าเป็นค่ายพักร้อน อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายนี้ยังเรียกร้องให้บริษัทสหรัฐฯ หรือบุคคลใดที่ประกอบธุรกิจในเขตปกครองตนเองซินเจียงเพิ่มมาตรการที่ต้องสร้างความมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของตนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้แรงงานทาส. | ในการประชุมของสภาผู้แทนสหรัฐฯ เมื่อ 27 พ.ค. ได้มีการลงมติด้วยเสียงอย่างท่วมท้น 413 ต่อ 1 เสียง เรียกร้องให้คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐของจีนที่เป็นฝ่ายต้องรับผิดชอบในกรณีที่บังคับกดขี่ชาวอุยกูร | ข่าว,ต่างประเทศ | ชาวอุยกูร์,กฎหมายช่วยชาวอุยกูร์,สภาผู้แทนสหรัฐฯ,คว่ำบาตรจีน,ชาวมุสลิม,เขตปกครองตนเองซินเจียง,ข่าววันนี้ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1856131 |
ชมคสช.ปลดล็อก ค้ามนุษย์ได้ผล ฝันรัฐบาลใหม่พาไทยขยับขึ้น เทียร์ 1 | วันนี้ (25 พ.ค.2560 )นายพิทยา จินาวัฒน์ อดีตธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กล่าวในเวทีสัมมนาเครือข่ายสิทธิมนุษยชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ว่า ภาพรวมการแก้ไขปัญหาการคัามนุษย์ในไทยดีขึ้น เพราะมีการทำงานร่วมกันในหลายหน่วยงาน ประกอบกับองค์กรต่างๆ ได้จัดตั้งส่วนงานต่อต้านการค้ามนุษย์ขึ้น เพื่อดูแลปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะแผนกต่างๆ ทั้งสำนักงานอัยการ หรือตำรวจ และหน่วยงานอื่นๆจึงทำให้การแก้ไขปัญหามีความคืบหน้ามากขึ้นรวมถึงการออกกฎหมายและปรับแก้กฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านกาค้ามนุษย์จึงทำให้มีเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละหน่วยงาน นายพิทยา กล่าวปัจจุบันการแก้ปัญหาถือว่าดีขึ้นตามลำดับ หลังจากไทยถูกลดระดับการต่อต้านการค้ามนุษย์จากเทียร์ 2 เป็น เทียร์ 3ในปี 2557 และใน ปี 2559 ถูกยกระดับจากเทียร์ 3 กลับมาเป็น เทียร์ 2 จากนี้ไปข้อท้าทายของรัฐบาลหน้าคือการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและควรตั้งเป้าขยับสู่เทียร์ 1 แต่ปัญหาส่วนหนึ่งที่ยังคงเป็นแรงต้านในการแก้ไขปัญหา ก็คือ กลุ่มที่เสียประโยชน์ เจ้าหน้าที่ที่ยังไม่กระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหา และค่านิยมที่ไม่เหมาะสมของผู้ที่ได้รับผลกระทบด้าน พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม 1 รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ต้องขอพูดโดยตรงว่า รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ได้มีประ สิทธิภาพกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะปัญหาบางอย่างต้องแก้ด้วยความเด็ดขาด โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์บนเรือประมง ซึ่งเกี่ยวพันกับหลายส่วนนอกจากนี้ ดีเอสไอ มีการเฝ้าระวังและติดตามเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์โดยเฉพาะการค้าประเวณี ในกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นตัวการเช่น เปิดกิจการที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์โดยตรง และการเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ โดยมีโทษทั้งทางอาญาและวินัย ซึ่งจะพยายามให้ถึงตัวการ โดยจะกันผู้เกี่ยวข้องในระดับล่างไว้เป็นพยาน เพื่อดำเนินคดีให้ถึงต้นตอ เนื่องจากก่อนหน้านี้จะอยู่ที่ระดับล่างเช่น กรณีของการค้ามนุษย์บนเรือประมง ในอดีตคดีจะสาวถึงแค่ไต้ก๋งเท่านั้น แต่จากนี้จะสาวไปถึงเจ้าของเรือ เมื่อมีการดำเนินคดีถึงเจ้าของเรือ จะช่วยให้การป้องกันและความร่วมมือจากเจ้าของกิจการต่างดีขึ้น พ.ต.ท.คมวิชช์ กล่าวนายพงษ์ศักดิ์ ชูชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหาย จากการค้ามนุษย์ จ.ปทุมธานี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า หลังจากช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ จะมีการดูแลผู้ที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์อย่างดี มีบ้านพักดูแลในแต่ละภูมิ ภาค และเหมาะสมทั้งลักษณะของรายบุคคล และครอบครัว รวมถึงดูแลอย่างเหมาะสมทั้งในศาสนา ซึ่งทำงานร่วมมกับหน่วยงานอื่นๆที่ทำหน้าที่ป่องกันและปราบปรามนางภิรมย์ ศรีประเสริฐ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า รัฐ บาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์มาโดยตลอด ซึ่งจากรายงานความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย ประจำปี 2559 สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการดำเนินการต่อต้านการค้ามนุษย์ของหน่วยงานต่างๆ ครอบคลุมหน่วยงานต่างๆ ทั้งด้านนโยบาย ด้านการดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย ด้านการคุ้มครอง ด้านการป้องกัน ด้านความร่วมมือแต่จากการเฝ้าสังเกตและติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้านการค้ามนุษย์และแรง งานต่างด้าว ซึ่งยังพบว่า ประเทศไทยยังคงมีปัญหาการค้ามนุษย์อยู่กว้างขวาง ทั้งการคงสถานะประเทศต้นทาง ปลายทาง และทางผ่านการค้ามนุษย์ โดยมีทั้งคนไทย คนต่างด้าว ทั้งเพศชาย หญิง และเด็กตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งจำเป็นต้องประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการขจัด และคลี่คลายปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานต่าง ด้าว เพื่อให้ก้าวหน้ามากขึ้น จนนำไปสู่การปรับระดับการต่อต้านการค้ามนุษย์ไทยให้ดีขึ้น | หน่วยงานภาครัฐชี้ การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ยุค คสช.เห็นผล บูรณาการการทำงานดีขึ้น หวังรัฐบาลใหม่ สานต่อการทำงาน ตั้งเป้าพาไทยขยับสู่เทียร์ 1 ด้านดีเอสไอ ชี้เจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนยังคงเป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ | สังคม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ค้ามนุษย์,เรือประมง,ดีเอสไอ,กรมคุ้มครองสอทธิเสรีภาพ,พิทยา จินาวัฒน์,คมวิชช์ พัฒนรัฐ,ภิรมย์ ศรีประเสริฐ | https://news.thaipbs.or.th/content/262821 |
เมสซี-เคอร์รี คว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม อีเอสพีวาย | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 16 ก.ค. ว่า ลิโอเนล เมสซี ยอดศูนย์หน้าอาร์เจนไตน์ของ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา แชมป์ลาลีกา สเปน ผงาดคว้ารางวัลนักกีฬานานาชาติยอดเยี่ยมประจำปี 2015 จาก อีเอสพีวาย,เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ณ ไมโครซอฟต์ เธียเตอร์ มหานครลอส แองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา อีเอสพีเอ็น สื่อกีฬาชื่อดังของโลกก็ได้มีการจัดงานประกาศรางวัลศักยภาพด้านกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี หรือ อีเอสพีวาย ซึ่งเป็นรางวัลที่จะมอบให้แก่บุคลากรวงการกีฬา ชาย-หญิง ของแต่ละสาขา ตลอดจนทีมกีฬาที่ประสบความสำเร็จในแต่ละปี,ในสาขานักกีฬานานาชาติยอดเยี่ยมประจำปี 2015 ผลปรากฏว่าเป็นเมสซี ที่เอาชนะเจ้าของรางวัลในปีก่อนอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด คว้าถ้วยของปีนี้ไปครอง จากผลงานในการพาทีมชาติอาร์เจนตินาเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014 และโคปา อเมริกา 2015 อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการพาต้นสังกัด บาร์เซโลนา คว้าทริปเปิลแชมป์เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ประกอบด้วยแชมป์ ลาลีกา, โคปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก,ขณะที่ สตีเฟน เคอร์รี ยอดนักยัดห่วงทีม โกลเดน สเตทวอร์ริเออร์ส ผู้พาทีมคว้าแชมป์บาสเกตบอลเอ็นบีเอ เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี และสมัยที่ 4 ของแฟรนไชส์ ก็ผงาดคว้า 2 รางวัลไปครองประกอบด้วย สาขานักกีฬายอดเยี่ยม และนักกีฬายอดเยี่ยมประจำการแข่งขันเอ็นบีเอ,ส่วนรางวัลนักกีฬาหญิงยอดเยี่ยมตกเป็นของ รอนดา เราซีย์ แชมป์โลกหญิง รุ่นแบนตัมเวตของ อัลติเมต ไฟต์ติง แชมเปียนชิพ (ยูเอสซี) ที่นอกจากรางวัลนี้แล้ว เธอก็ยังสามารถเอาชนะ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ กำปั้นหนุ่มไร้พ่ายชาวอเมริกา คว้ารางวัลในสาขานักสู้ยอดเยี่ยมประจำปี 2015 มาครองได้สำเร็จอีกด้วย.,ผลการประกาศรางวัลในสาขาต่างๆ ของ อีเอสพีวาย,นักกีฬาชายยอดเยี่ยม : สตีเฟน เคอร์รี (บาสเกตบอล / โกลเดน สเตทวอร์ริเออร์ส),นักกีฬาหญิงยอดเยี่ยม : รอนดา เราซีย์ (มวย / เอ็มเอ็มเอ),นักกีฬาฟอร์มยอดเยี่ยม : เลบรอน เจมส์ (บาสเก็ตบอล / คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส),นักกีฬาแจ้งเกิด : โมเน เดวิส (เบสบอล / ลิเติล ลีก),นักกีฬาทุบสถิติยอดเยี่ยม : เพย์ตัน แมนนิง (อเมริกันฟุตบอล / สถิติขว้างทำทัชดาวน์ 509 ครั้ง),สุดยอดแมตช์พลิกล็อกดีเด่น : โอเล มิส ชนะ อลาบามา (อเมริกันฟุตบอลระดับมหาวิทยาลัย),แมตช์ยอดเยี่ยม : นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ พบ ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส์ (อเมริกันฟุตบอล / ซุปเปอร์ โบว์ล ครั้งที่ 50),ทีมยอดเยี่ยม : ฟุตบอลหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกา,โค้ชยอดเยี่ยม : สตีฟ เคอร์ (บาสเกตบอล / โกลเดนสเตท วอร์ริเออร์ส),นักกีฬาคัมแบ็กแห่งปี : ร็อบ กรอนคอฟสกี (อเมริกันฟุตบอล / นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์),นักกีฬาต่างชาติดีเด่น : ลิโอเนล เมสซี (ฟุตบอล / อาร์เจนตินา และ บาร์เซโลนา),นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลยอดเยี่ยม (เอ็นเอฟแอล) : แอรอน ร็อดเจอร์ส (กรีนเบย์ แพ็กเกอร์ส),นักกีฬาเบสบอลยอดเยี่ยม (เอ็มแอลบี) : ไมค์ เทราต์ (แอลเอ แองเจิลส์),นักกีฬาฮ็อกกี้น้ำแข็งยอดเยี่ยม (เอ็นเอชแอล) : โจนาธาน โทว์ส (ชิคาโก แบล็กฮอว์กส์),นักกีฬาบาสเกตบอลยอดเยี่ยม (เอ็นบีเอ) : สตีเฟน เคอร์รี (โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส),นักกีฬาบาสเกตบอลหญิงยอดเยี่ยม (ดับเบิลยูเอ็นบีเอ) : สกายลาร์ ดิกกินส์ (ทุลซา ช็อค),นักขับยอดเยี่ยม : เควิน ฮาร์วิค (นาสคาร์),นักสู้ยอดเยี่ยม : รอนดา เราซีย์ (เอ็มเอ็มเอ),นักกอล์ฟชายยอดเยี่ยม : จอร์แดน สปีธ (สหรัฐฯ),นักกอล์ฟหญิงยอดเยี่ยม : ลิเดีย โค (นิวซีแลนด์),นักเทนนิสชายยอดเยี่ยม : โนวัค ยอโควิช (เซอร์เบีย),นักเทนนิสหญิงยอดเยี่ยม : เซเรนา วิลเลียมส์ (สหรัฐฯ) | ลิโอเนล เมสซี ยอดศูนย์หน้าของ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา ผงาดคว้ารางวัลนักกีฬานานาชาติยอดเยี่ยมประจำปี 2015 จาก อีเอสพีวาย ขณะที่ สตีเฟน เคอร์รี ยัดห่วงชื่อดัง ได้ 2 รางวัล… | null | ลิโอเนล เมสซี,สตีเฟน เคอร์รี,อีเอสพีวาย,ปี 2015,อาร์เจนตินา,เจ้าบุญทุ่ม,บาร์เซโลนา,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/512110 |
DSI คาดนายทุนออกโฉนดทับที่ดินสาธารณะ | ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ถูกฟ้องร้องขับไล่ดำเนินคดี โดยชาวบ้านแย้งว่านายทุนซื้อที่ดิน นส.3 จากชาวบ้านบริเวณ โคกผักแว่น จำนวน 14 ไร่ แต่กลับมาออกโฉนด 32 ไร่ ที่ โคกบ่อบา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดีเอสไอ ตรวจสอบว่าทำไมนายทุนจึงสามารถออกโฉนดทับพื้นที่สาธารณะได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น,ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 ก.พ. พ.ต.ท.บรรยวัสดิ์ ไตรสุทธิวงษ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ (DSI) หัวหน้าชุดปฏิบัติการสืบสวนคดีพิเศษ พ.อ.สุทธพิชญพงษ์ สุธิราวุธ รอง เสธ. มทบ. 24 นายวัชริน ศุตลาวดี นาย อำเภอเมืองอุดรธานี เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดอุดรธานี เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีชาวบ้านพรสวรรค์ หมู่ 14 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ร้องเรียนถูกนายทุนออกโฉนดทับที่ดินสาธารณประโยชน์ โคกบ่อบา นำมาจัดสรรขาย และมีการฟ้องบุกรุก และขับไล่ชาวบ้านที่อยู่ในที่ดินดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก่อนเดินทางไปดูพื้นที่จริง,หลังลงตรวจสอบพื้นที่จริง พ.ต.ท.บรรยวัสดิ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ทราบว่า ทั้ง 2 ฝั่งจะมีข้อเท็จจริงไม่เหมือนกัน ชาวบ้านเป็นข้อเท็จจริงที่เขาอยู่กันมา ส่วนเจ้าพนักงานที่ดินถือตามเอกสาร เพราะฉะนั้น ปัญหามันมีอยู่ว่า ที่ที่ชาวบ้านอยู่จริงกับที่ตามเอกสารมันเป็นแปลงเดียวกันหรือไม่ จากนี้ไปจะได้ขอข้อมูลทั้งในส่วนชาวบ้านและเจ้าพนักงานที่ดินที่รับผิดชอบ ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนส่งไปดีเอสไอ ผู้บังคับบัญชาอยู่ระหว่างการตั้งคณะทำงาน แล้วจะมีคำสั่งตามมา ตนจะได้นำเรียนปัญหาและอุปสรรคต่างๆข้อมูลทั้งหมดให้ผู้บังคับบัญชา และประสานกับที่ดินจังหวัดเพื่อหาทางแก้ไขให้ลุล่วงไปด้วยดี,จากการฟังข้อเท็จจริง ที่ดินที่นายทุนไปซื้อขายกับชาวบ้านน่าจะอยู่อีกแปลงหนึ่ึง ส่วนที่ที่ชาวบ้านอยู่เดิมน่าจะเป็นที่สาธารณะอยู่แล้ว อาจจะมีความคลาดเคลื่อนในจุดไหน ต้องย้อนกลับดูข้อมูลเดิม ส่วนการออกโฉนดให้นายทุนนั้น จะต้องหาข้อมูลเพื่อหาข้อยุติให้ได้ว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง ที่ชาวบ้านอยู่รับรู้มากับเอกสารที่เจ้าพนักงานที่ดินถือว่ามันมีความผิดพลาดตรงไหน แม้จะ 30-40 ปี ก็สามารถค้นย้อนกลับไปได้ และมีลูกหลานชาวบ้านที่อยู่เดิมก็ยังมีชีวิตอยู่ พ.ต.ท.บรรยวัสดิ์กล่าว,ทางด้าน นางมิตร ดวงเพชรแสง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 332/7 หมู่ 14 บ้านพรสวรรค์ ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ชาวบ้านที่ถูกฟ้องคดีบุกรุกเมื่อปี 2557 เปิดเผยความรู้สึกว่า รู้สึกเสียใจ เพราะตนอยู่มาตั้งแต่เกิด รู้ว่าเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ เคยไปขอออกโฉนดแต่ออกไม่ได้เกือบ 50 ปีแล้ว จู่ๆก็มีโฉนดออกมาทับที่บ้านเรา ถูกฟ้องร่วมกับลูกชายคดีอาญา 6 คดี และแพ่ง 11 คดี รวมเป็น 17 คดี เดือดร้อนทั้งเงินประกันตัวคดีละ 9 หมื่นบาท ไม่มีปัญญาจะประกันตัวเอง ต้องนำที่ดินและบ้านของลูกสาวไปจำนอง รู้สึกเป็นกังวลเพราะหลายคดีกลัวติดคุก คดีอาญายกฟ้อง 4 คดี ล่าสุดศาลสั่งให้รื้อบ้านทุกหลังออกจากพื้นที่ ภายใน 30 วัน ตอนนี้ไม่มีที่จะอยู่,ตอนนี้เดือดร้อนเงินประกันตัว ก็มีสำนักยุติธรรมมาช่วยประกันตัว และย้ายหนี้จากนายทุนนอกระบบมาไว้ในระบบ ส่วนค่าอุทธรณ์คดียุติธรรมจังหวัดได้ออกเงินช่วยถึงที่สุดต้องถูกยึดบ้านและย้ายออก ก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน เพราะอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดจนแก่ หลังจากดีเอสไอมาลงพื้นที่ก็รู้สึกขอบคุณมากๆ เพราะไม่มีหน่วยงานใดที่ช่วยชาวบ้านได้ ถ้าดีเอสไอไม่ช่วยก็คือตาย หากไม่มีคนช่วยหรือไม่ได้รับความยุติธรรมจะผูกคอตาย นางมิตรกล่าว. | กรณีชาวบ้านพรสวรรค์ หมู่ 14 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี รวมตัวกันกว่า 200 คน ยื่นฟ้องต่อกรมสอบสวนสืบสวนคดีพิเศษ กรณีนายทุนออกโฉนดทับซ้อนที่สาธารณประโยชน์ โคกบ่อบา 32 ไร่ | null | ชาวบ้านพรสวรรค์,DSI,นายทุนออกโฉนดทับซ้อน,ที่สาธารณประโยชน์,โคกบ่อบา,ฟ้องร้องขับไล่,โคกผักแว่น,ออกโฉนดทับพื้นที่สาธารณะ,อุดรธานี,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/572517 |
3 กระทรวง จับมือลุยแผนผลิตข้าว-การตลาดครบวงจร | เมื่อวันที่ 4 เม.ย.59 ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ประชุมคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อมอบนโยบายการดำเนินงานตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร,โดย พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการจัดทำแผนการตลาดข้าวแบบครบวงจร โดยทั้ง 3 กระทรวง ได้บูรณาการความร่วมมือกัน เนื่องจากที่ผ่านมาเรามีปัญหาเรื่องข้าวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลผลิตที่ออกมามากเกินไป หรือปัญหาข้าวขาดคุณภาพ ทั้งนี้ ผวจ.จะเป็นผู้บริหารจัดการในพื้นที่ ส่วน กระทรวงเกษตรฯ จะเข้าไปกำหนดพื้นที่ปลูกให้เหมาะสม และหาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ ให้เพาะปลูก ,นางอภิรดี กล่าวต่อว่า แผนงานครั้งนี้ จะเอาตลาดเป็นตัวตั้ง โดยอนาคตข้าวที่จะขายดี คือข้าวสี และข้าวอินทรีย์ เราจึงมีการวางแผนการผลิตข้าวเหล่านี้ และจะดำเนินการพัฒนาและแปรรูป ทำข้าวให้เป็นอาหารเสริม และอื่นๆ เพื่อสร้างมูลค่าของข้าวให้เพิ่มขึ้น,พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการในพื้นที่โดย ผวจ.จะเป็นประธาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ,เมื่อถามว่าหากใช้ตลาดเป็นตัวตั้ง จะเฉลี่ยการปลูกข้าวในแต่ละพื้นที่อย่างไร รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เราจะดูพื้นที่เป็นหลักว่าพื้นที่ใดควรปลูกอะไร แต่ถ้าพื้นที่ใดไม่เหมาะสม ก็จะมีทางเลือกอื่นให้เช่น อาจจะปลูกพืชชนิดอื่น แต่นาปีจะสามารถทำได้หมด จะมีการปรับในการปลูกข้าวครั้งที่สอง โดยที่เราจะเข้าไปจัดการ | มท.-กษ.-พณ. จับมือลุยข้าวครบวงจร ใช้การตลาดนำการผลิต ดูพื้นที่เป็นหลัก ตั้งกก.ให้ ผวจ.เป็น ปธ. | null | ข้าว,ข้าวครบวงจร,การตลาด,ปัญหาข้าว,ผลผลิต,3 กระทรวง,บูรณาการความร่วมมือ,ก.เกษตรฯ,ก.มหาดไทย,ก.พาณิชย์,ขายข้าว,สีข้าว,ข้าวอินทรีย์,แปรรูปข้าว,การปลูกข้าว,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/601136 |
นายกฯ กำชับ จนท.ระวัง ค้นหาผู้สูญหาย เรือล่มเกาะสมุย พบเพิ่ม 1 เหลือ 2 | รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ รับรายงาน ค้นหาผู้สูญหายเหตุเรือล่มเกาะสมุย เผยพบอีก 1 ราย เหลือ 2 กำชับ จนท.ระมัดระวังในการค้นหา หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ป้องกันความสูญเสียให้มากที่สุดวันที่ 6 ส.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับรายงานเจ้าหน้าที่ ระดมกำลังช่วยค้นหาผู้สูญหาย 3 ราย จากเหตุเรือเฟอร์รี่ล่มกลางทะเล ใกล้เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยล่าสุด ได้ค้นพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นผู้หญิง ดังนั้น จึงเหลืออีก 2 ราย ที่ยังต้องค้นหาอยู่น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับการค้นหาดังกล่าวเป็นการค้นหาอย่างต่อเนื่อง เป็นวันที่ 6 มีอุปสรรคในการทำงาน คือ คลื่นลมแรง กระแสน้ำเชี่ยวและขุ่น สำหรับแผนการค้นหาในวันที่ 6 ส.ค.นั้น ทีมนักประดาน้ำ ได้ลงดำน้ำเพื่อหาผู้สูญหายบริเวณเรือ และจัดทีมค้นหาผู้สูญหายตามเกาะใกล้เคียง ขณะที่ทางจังหวัด ได้มีการวางแผนการจัดการขยะที่จมน้ำเพื่อเอาขึ้นมาจากทะเล หลังพบว่ามีรถขยะอยู่บนเรือดังกล่าวด้วยน.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับเจ้าหน้าที่ ให้ใช้ความระมัดระวังในปฏิบัติการค้นหา หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้จากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมยังขอบคุณให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการระดมสรรพกำลังช่วยกันอย่างเข้มแข็งนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกำชับกรมเจ้าท่า ตรวจสอบระบบแจ้งเตือน การห้ามออกจากฝั่งของเรือให้มีประสิทธิภาพสม่ำเสมอ อีกทั้งยังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกับเจ้าของเรือที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามนำเรือออกจากฝั่ง เพราะถือเป็นการกระทำโดยการประมาท เสี่ยงต่อการทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งกระทบต่อเชื่อมั่นในมาตรฐานการเดินเรือของไทยด้วย | รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ รับรายงาน ค้นหาผู้สูญหายเหตุเรือล่มเกาะสมุย เผยพบอีก 1 ราย เหลือ 2 กำชับ จนท.ระมัดระวังในการค้นหา หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ป้องกันความสูญเสียให้มากที่สุด | ข่าว,การเมือง | เรือล่มเกาะสมุย,ค้นหาผู้สูญหายเรือล่ม,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,สุราษฎร์ธานี,ไตรศุลี ไตรสรณกุล,กรมเจ้าท่า,เรือเฟอร์รี่ล่ม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1904924 |
เอิ๊ก พรหมพร กรี๊ดเมื่อเห็นสภาพถาดใส่ร้องเท้าที่สนามบิน ร้องไม่อยากตาย | อดีตพิธีกรชื่อดัง เอิ๊ก พรหมพร สุดจะทนเมื่อได้เห็นถาดวางรองเท้าในสนามบิน งานนี้เลยต้องขอจัดหนักชุดใหญ่ไฟกะพริบผ่านทางอินสตาแกรมของตัวเอง โดยสาวเอิ๊กโพสต์รูปถาดใส่รองเท้าที่สกปรกมากๆ และข้อความว่าทายสิคะ นี่คืออะไร ถาดใส่รองเท้าเข้าเครื่อง X-Ray ที่สนามบิน แม่เจ้า น่ากลัวมากๆ พี่ตกใจไม่กล้าจับ กลัวเชื้อโรคจะเข้าสิงสู่ร่างกายก่อนจะได้เดินทางไปไหนแน่ๆ ขอเจ้าหน้าที่ถอดรองเท้าโดยไม่ใส่ถาดได้มั้ยคะ. รองเท้าหนูยังสะอาดกว่าถาดหลายพันเท่านัก. ขอจับรองเท้าไม่จับถาดดูชีวิตจะอยู่รอดมากกว่าแค่หนูต้องต่อสู้กับ PM2.5 กับเชื้อโรคต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศมากมายก็แทบจะเอาชีวิตให้รอดยากอยู่แล้ว. อย่าให้หนูต้องมาเสี่ยงชีวิตน้อยๆ กับการจับถาดอันสุดเแสนที่น่าจะหนาแน่นไปด้วยพยาธินานาพันธุ์ และแบคทีเรียสะสมทุกเจนเนอเรชั่นที่เกาะรวมกันอยู่ที่ถาดนี้เลยนะคะ.หนูยังไม่อยากตายค่าา เพชร10กะรัตของหนูใส่ไปสองสามครั้งเอง #เช็ดบ้างล้างบ้างก็ดีนะคะ #ช่วยกันดูแลคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยกันเอง #ให้ไม่ป่วย #ให้ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตกับเรื่องที่ไม่ควรเสี่ยง #สงสารเด็กที่จะเติบโตต่อไปอย่างไม่ติดเชื้อค่ะ #สนามบิน(สะสมเชื้อโรค)นานาชาติ #สะอาดได้กว่านี้อีกมากค่าา #คุณหญิงแม่สอนว่าใช้ชีวิตอย่าประมาท #หนูกลัวจริงๆหลังจากที่สาวเอิ๊กโพสต์รูปและแสดงความคิดเห็นไป ก็มีแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้กันอย่างมากมาย โดยหลายคนเห็นด้วยกับสิ่งที่สาวเอิ๊กโพสต์ไปเป็นจำนวนมาก. | เอิ๊ก พรหมพร โพสต์แฉแหลก สภาพอุปกรณ์ที่ใช้ในสนามบินสุวรรณภูมิ บอกเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคนานาพันธุ์ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เอิ๊ก พรหมพร,เอิ๊ก พรหมพร แฉ,อดีตพิธีกร,ข่าวบันเทิง,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1752910 |
เปิดเบื้องหลังนางแบบไทย จิงจิง-วริศรา ยู ที่กำลังมาแรงในวงการแฟชั่นโซล | จิงจิง-วริศรา ยู (Jingjing Yu) นางแบบไทยที่กำลังไปได้สวย และดูเหมือนว่าจะฮอตสุดๆ กับการทำงานที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ทีมงาน THE STANDARD มีโอกาสได้สัมภาษณ์จิงจิงหลังจากใช้ชีวิตเป็นนางแบบที่โซลมาเกือบปี เพื่อสอบถามวัฒนธรรมการทำงาน และความกดดันในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องราวการทำงานที่เปลี่ยนไป การใช้ชีวิต เริ่มตั้งแต่เริ่มงานที่ไทยจนถึงจุดเปลี่ยนที่ได้ไปโด่งดังที่กรุงโซล เกาหลีใต้Photo:jingjingyu36ทำไมถึงได้มาเป็นนางแบบ และทำไมถึงตัดสินใจไปเป็นนางแบบที่โซล? ตอนแรกจิงจิงเป็นแดนเซอร์ตั้งแต่อายุ 12-13 ได้ แล้วเริ่มทำงานโฆษณาเกี่ยวกับการเต้น และพออายุ 15 พอดีก็มีคุณครูท่านหนึ่งแนะนำให้ลองไปประกวด Thai Supermodel Contest ปี 2012 จนได้ที่ 1 กับรางวัลเสริม 2 รางวัล จากนั้นก็เริ่มทำงานนางแบบเลย จิงจิงได้ไปอยู่กับพี่เอ เจ้าของเอเจนซีชื่อ Kiss Model เพราะพี่เอบอกไว้ตั้งแต่ตอนประกวดแล้วว่า ถึงไม่ชนะก็ไม่เป็นไรมาอยู่กับเขาได้ เราก็เลยตัดสินใจที่จะอยู่กับ Kiss Model มาตั้งแต่ตอนนั้น พออายุได้ประมาณ 19 ปีก็อยากลองมาทำงานต่างประเทศดูบ้าง ซึ่งจริงๆ ถ้าสามารถย้อนอ่านหรือดูสัมภาษณ์ต่างๆ ตอนอายุ 15 จิงจิงก็จะตอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าอยากไปทำงานต่างประเทศ เพราะนี่คือความฝัน อีกอย่างรู้สึกว่าเกาหลีจะทำให้เราไปไกลมาก และคิดว่าวงการแฟชั่นที่โซลน่าจะชอบลุคเรามากกว่า เราเองก็เป็นคนที่ชอบเที่ยวเกาหลี ชอบดูซีรีส์เกาหลีมากอยู่แล้ว พอไปบ่อยๆ เข้าก็ได้รู้จักกับนางแบบที่นั่น แล้วเริ่มคิดอยากลองไปทำงานที่นั่นดู จนสุดท้ายก็ได้พี่ที่สนิทคนหนึ่งนี่แหละที่คอยช่วยประสาน ช่วยติดต่อ จนได้เข้าสังกัด ESteemPhoto:jingjingyu36ในการทำงานร่วมกับทีมงานแฟชั่นที่โซล เขามีระบบการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง? ส่วนใหญ่แล้วที่ ESteem จะเป็นนางแบบเกาหลีหมดเลยนะ มีแค่จิงจิงกับพี่คนไทยที่เป็นนางแบบต่างชาติสองคนแรกของเขา เรื่องงานพอเขาเห็นว่าเราเคยทำงานมาแล้วก็ไม่ต้องสอนอะไรเพิ่ม แต่ที่ต้องปรับตัวก็เพราะที่นี่ทำงานซีเรียสมาก เขาทำงานแข่งกับเวลา สมมุตินัดเรา 9 โมงเช้า เขาจะบอกเลยว่าเวลานี้ต้องแต่งหน้าเสร็จ เวลานี้งานต้องเสร็จ ทุกอย่างต้องเป๊ะๆๆ อีกอย่างคือแคสติ้งที่นี่กดดันมากๆ เพราะการแข่งขันมันสูงมาก แคสต์งานหนึ่งนางแบบ 40-50 กว่าคน ถ้ารวมนายแบบผู้ชายด้วยก็เป็นร้อยคนเลย ช่วงที่มาใหม่ๆ ปีที่แล้ว จิงจิงเครียดมากเลยนะว่าจะมีงานเข้ามาไหม แต่พอได้ไปเดินโซลแฟชั่นวีก งานก็เข้ามาเรื่อยๆ ดีใจมาก ถึงตอนนี้ถ่ายนิตยสารครบทุกเล่มแล้ว ได้ถ่ายโฆษณา 8seconds กับ Nonagon สองแบรนด์ใหญ่ของเกาหลีด้วยนะPhoto: Jingjing Yuมีปัญหาเรื่องการแข่งขันอะไรบ้างไหมในวงการแฟชั่นโมเดลที่โซล? เท่าที่เจอในวงการก็ไม่มีนะคะ ตอนที่เราเจอนางแบบรุ่นพี่ เขาก็มาเล่นมาคุยกันปกติ เพราะทุกคนรู้ว่าการทำงานก็คือการทำงาน หรืออย่างผู้จัดการเขาซีเรียสว่าอยากให้เราอยู่ที่นี่นานๆ อยากให้พูดภาษาเกาหลีให้ได้ เพราะมองเห็นว่าเราจะไปทำอะไรได้หลายอย่าง อย่างเขารู้ว่าจิงจิงชอบเต้น เขาก็หางานที่เกี่ยวกับการเต้นมาให้ด้วย ซึ่งเราก็แฮปปี้มากเลยPhoto:jingjingyu36Seoul Fashion Week ที่เพิ่งผ่านไปได้เดินโชว์อะไรบ้าง และประทับใจอะไรในการทำงานปีนี้ ปีนี้ได้เดินของ Fleamadonna Supercomma B Abell JWL PushBUTTON Low Classic Kye Noke และ Ych แต่ก็จะมี 5 แบรนด์ที่เขาเลือกเราเลยโดยที่ไม่ต้องไปแคสติ้งซึ่งเราก็รู้สึกดีมาก เขาคงเห็นว่าเรามีชื่อเสียงขึ้นและคนรู้จักเราเยอะขึ้นเลยไม่ต้องแคสต์เราซ้ำอีกรอบ และของแบรนด์ Low Classic เราก็ได้เป็นแบบถ่าย lookbook ส่วนที่ประทับใจที่สุดเลยก็เห็นจะเป็นแบรนด์ Abell เพราะเขาเลือกให้เราเดินมา 2 ซีซันติด โดยให้เราเป็นคนเดินเปิดและปิดโชว์ด้วยค่ะPhoto: Jingjing Yuการทำงานที่โซลทำให้เราเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง และหวังจะไปต่อในวงการนางแบบที่นั่นอย่างไร เรารู้สึกว่าตัวเองมีแอตติจูดการแสดงออกทางอารมณ์ และการโพสเราเก่งขึ้นดีขึ้นเรื่อยๆ อันนี้รู้สึกจริงๆ มันอาจจะเป็นเพราะเราได้ทำงานกับคนเก่งๆ ได้ใช้ทักษะทุกวันเราเลยรู้ว่าควรจะโพสอย่างไร และรู้ว่าคนที่เราทำงานด้วยอยากได้อะไร มันเหมือนเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเองโดยที่เราไม่รู้ตัว และถ้าถามว่าอยากทำงานที่นี่ต่อไหม ก็อยากนะ ตอนนี้ทางโมเดลลิ่ง ESteem ก็ถามว่าอยากมาเรียนต่อที่นี่ไหม จะได้ทั้งภาษาและได้ทั้งงานที่โซลด้วย เราเลยอยู่ในช่วงที่กำลังตัดสินใจถามครอบครัวและเอเจนซีทางนี้อยู่ ว่าจะจัดการอย่างไรดี แต่ตัวเราจริงๆ แล้วก็อยากอยู่และทำงานที่โซลเหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของนางแบบไทย ที่เดินตามฝันของตัวเองได้ ด้วยความตั้งใจและความพยายาม เราคิดว่านางแบบที่ชื่อ จิงจิง ยู คนนี้จะต้องไปได้ไกลกว่ากรุงโซลอย่างแน่นอน ทีม THE STANDARD ขอเอาใจช่วยทุกก้าวของความสำเร็จ | เปิดเบื้องหลังนางแบบไทย จิงจิง-วริศรา ยู (Jingjing Yu) ที่กำลังมาแรงในกรุงโซล ทั้งงานเดินแบบ ถ่ายปกนิตยสาร รวมทั้งงานโฆษณาที่แทบจะพูดได้ว่าตอนนี้กำลังเป็นนางแบบคิวทองเลยก็ว่าได้การทำงาน ความเป็นอยู่ในกรุงโซลที่ต้องเผชิญว่าแตกต่างจากเมืองไทยอย่างไร และสิ่งที่หวังในอนาคตต่อไปกับอาชีพนางแบบของเธอ | null | null | https://thestandard.co/jingjing-yu/ |
วิจารณ์ศาล | อนุสนธิคนเก็บขยะนำแผ่นซีดีเก่าออกมาวางขายแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม แล้วถูกพนักงานอัยการนำคดีขึ้นสู่ศาลจนมีคำพิพากษาปรับเป็นเงินหลักแสน โดยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จ่ายเงินค่าปรับแทนซึ่งก็ไม่รู้ว่าใช้เงินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือเงินส่วนตัว (ถ้าใช้จาก สนง.ตำรวจฯก็ไม่รู้ว่าเบิกจากงบประมาณหมวดไหน และหากใช้จากเงินส่วนตัวก็เข้าใจว่าคงรวยมาก)อย่างไรก็ตามคงมิใช่ประเด็นว่าใช้เงินจากที่ไหน ประเด็นก็คือความพิกลพิการของการบังคับใช้กฎหมายกับเจตนารมณ์ของ พรบ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่มุ่งจัดการกับผู้ประกอบกิจการเป็นหลัก ซึ่งงานนี้ผู้ที่ถูกด่ามากที่สุดคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนพนักงานอัยการก็โดนหางเลขบ้างประปรายพอเป็นกระสาย แต่ไม่มีกล้าใครวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาลในทางสาธารณะเลยการไม่มีคำวิจารณ์ศาลออกทางสาธารณะเลยนั้นมิได้หมายความว่าไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์เลย แต่ในวงการสนทนาตามสภากาแฟและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการนักกฎหมายด้วยกันแล้วมีกันพูดจากันอย่างมากมายและกว้างขวาง แต่ไม่ปรากฏต่อสาธารณะเพราะเหตุด้วยความเกรงกลัวว่าจะเข้าข่ายหมิ่นศาลหรือละเมิดอำนาจศาลนั่นเองอันที่จริงแล้วการวิพากษ์วิจารณ์ศาลในอดีตนั้นมีมาอย่างกว้างขวาง ดังจะเห็นจากกรณีที่ยกตัวอย่างในตอนต้นของบทความที่มีที่มาจากหนังสือมูลบทบรรพกิจซึ่งเป็นตำราเรียนของกุลบุตรกุลธิดาในอดีต หรือแม้กระทั่งในห้องเรียนวิชากฎหมายเองก็มีการเล่านิทานให้เห็นถึงการวิพากษ์วิจารณ์ศาลในอดีต ซึ่งก็คือเรื่องที่คนไทยกับกับคนจีนพิพาทกันแล้วมีคดีขึ้นสู่ศาลโดยเรื่องมีว่าคนไทยที่ปลูกบ้านใกล้กับคนจีนเกิดความอิจฉาว่าคนจีนนั้นรวยกว่าตนจึงเอาก้อนอิฐไปปาบ้านคนจีน คนจีนจึงไปแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนแล้วก็ส่งเรื่องให้ขุนประเคนคดีพนักงานอัยการฟ้องศาล ซึ่งมีหลวงสันทัดกรณีเป็นผู้พิพากษาหลวงสันทัดกรณีสืบพยานฟังข้อเท็จจริงแล้วพิพากษาว่าไทยปาเรือนเจ๊กไม่ถูกลูกเด็กท่านว่าไม่เป็นไรให้ยกฟ้องด้วยความแค้นเคืองคนจีนก็เอาก้อนอิฐไปปาบ้านคนไทยบ้าง คนไทยก็ไปแจ้งความ และขุนประเคนคดีพนักงานอัยการก็นำคดีไปฟ้องศาลซึ่งมีหลวงสันทัดกรณีเป็นผู้พิพากษาอีก หลวงสันทัดกรณีสืบพยานฟังข้อเท็จจริงแล้วพิพากษาว่าเจ๊กปาเรือนไทยแม้ไม่ถูกใครแต่ผีเรือนตกใจให้ไหมสามตำลึงซึ่งก็เป็นนิทานที่เล่าต่อๆ กันมาในชั้นเรียนวิชากฎหมายที่แสดงให้เห็นถึงความไม่มีมาตรฐานในการพิพากษาในอดีตจากความยุ่งเหยิงและไม่มีมาตรฐานในการพิจารณาคดีในอดีตจึงเป็นเหตุให้เซอร์ จอห์น บาวริง ผู้แทนรัฐบาลอังกฤษไม่ยอมรับอำนาจกฎหมายและศาลไทยจนต้องเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต และเป็นล่าสุดในคืนวันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2553 ที่ผ่านมารายการ ของทีวีไทยยิ่งตอกย้ำให้เห็นจุดบกพร่องของกระบวนการยุติธรรมไทยในกรณีของนายวิหาร เต็งมิ่ง หนุ่มชาวชัยนาทที่มาเป็นเขยเมืองโคราชที่ถูกคำพิพากษาฎีกาให้จำคุกถึง 18 ปี ในความผิดที่ตนองไม่ได้กระทำเพราะเหตุแห่งความบกพร่องของกระบวนการยุติธรรมไทยนายวิหาร เต็งมิ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 24 มิถุนยาน 2540 ด้วยข้อหาพรากผู้เยาว์ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเจ้าหน้าที่และญาติของเด็กสมรู้ร่วมคิดกันสร้างเหตุเพื่อเรียกรับเงินจากแม้แต่เมื่อนายวิหารเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็มีแต่ผู้ที่ทั้งแนะนำและบังคับข่มขู่ให้เขารับสารภาพ โดยเขาได้ต่อสู้ในชั้นศาลว่าเขาถูกบังคับให้รับสารภาพแต่ก็ไม่เป็นผลซึ่งแสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของกระบวนการยุติธรรมไทยตั้งเริ่มต้นธารของกระบวนการยุติธรรมจนถึงปลายธารของกระบวนการยุติธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องติดคุกติดตารางเราต้องยอมรับความจริงกันได้แล้วว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยเรามีปัญหาที่จะต้องได้รับการแก้ไข และหนึ่งของกระบวนการแก้ไขปัญหานั้นก็คือการยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ในทุกกระบวนการขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม | คดีที่มีความคือไก่หมูเจ้าสุภา เอาไก่เอาเอาหมูมาเจ้าสุภาก็ว่าดี ที่แพ้แก้ชนะไม่ถือพระประเวณี ขี้ฉ้อก็ได้ดีไล่ด่าตีมีอาญา มูลบทบรรพกิจ | การเมือง | ชำนาญ จันทร์เรือง,กระบวนการยุติธรรม,การวิจารณ์ศาล,ศาล,หมิ่นศาล | https://prachatai.com/journal/2010/09/31007 |
ตร.นครศรีฯเตรียมขอหมายจับเพิ่มอีกกว่า 20 คน พัวพันเครือข่ายยาบ้าเรือนจำ | ตำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนเครือข่ายค้ายาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชขยายผลตรวจสอบการถ่ายโอนเงิน ซึ่งระบุว่า เป็นเงินทีได้จากการค้ายาเสพติดของนายณัฐพล ระย้า อดีตพนักงานราชทัณฑ์ เรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ถูกตำรวจนำหมายศาลบุกจับ พร้อมพวกอีก 8 คน แต่หลบหนีไปได้ 2 คน และ ถูกยึดทรัพย์สิน เช่น บ้าน รถยนต์ และ เงินสด มูลค่ารวมเกือบ 100 ล้านบาท เมื่อวานนี้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า หลังการตรวจค้นเรือนจำ เมื่อวันที่ 22 และ 23 เมษายน มีการย้ายเงินไปซื้ออสังหาริมทรัพย์หลายรายการ แต่ยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์เพราะเกรงถูกตามยึด ส่วนใหญ่พบว่าล้วนเป็นคนใกล้ชิดที่เชื่อมโยงกันทุกกลุ่มในขบวนการพ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนเครือข่ายค้ายาเสพติดในเรือนจำนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากหลักฐานที่พบตำรวจเตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่ม อีกกว่า 20 คน ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมได้แล้วทั้ง 6 คนจะถูกตั้งข้อหาสนับสนุนช่วยเหลือให้มีการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด ซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษเดียวกับ นายณัฐพล ผู้จำหน่ายยาเสพติด | ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่ายค้ายาเสพติดในเรือนจำนครศรีธรรมราชอีกกว่า 20 คน หลังนำกำลังบุกจับและยึดทรัพย์อดีตเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และ พวก 8 คน เมื่อวานนี้ ( 23 ส.ค.) | ภูมิภาค | คุก,ยาเสพติด,ราชทัณฑ์,หมายจับ,เครือข่าย,เรือนจำ | https://news.thaipbs.or.th/content/107116 |
ถ้ำหลวง ปรากฏการณ์ปราบเซียนงานข่าวไทย | ถ้ำหลวงเป็นปรากฏการณ์ข่าวที่คล้ายกับ Reality TV ซึ่งที่มีองค์ประกอบข่าวครบ น่าติดตาม มีการรายงานเป็นระยะๆ ด้วย Breaking News ซึ่งมีเนื้อหาเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติผสมผสานกับตัวแสดงที่เหมาะที่ควรแก่การเล่าเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ทีมฟุตบอล เด็กและเยาวชนคุณภาพ รวมถึงความลุ้นระทึกที่ต้องติดตามในเนื้อข่าวเพื่อเอาใจช่วยผู้ประสบภัยทั้ง 13 คน ภายใต้การทำงานของทีมช่วยเหลือตัวท็อปที่รวมเอามือหนึ่งของโลกเข้ามาไว้ด้วยกัน ทำให้ปรากฏการณ์ถ้ำหลวงที่ควรเป็นข่าวท้องถิ่นในประเทศ เขยิบขึ้นกลายเป็นข่าวระดับโลก ซึ่งทุกสำนักข่าวให้ค่าแก่การรายงานแบบตามติดทุกระยะจากปรากฏการณ์นี้ ทำให้เราสามารถแบ่งชั้นของข้อมูลข่าวสารที่ประดังประเดเข้ามาในการรับรู้ของผู้รับสารออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ 1) ข้อมูลจากสำนักข่าวมืออาชีพ ที่ส่งคนลงพื้นที่ หาข่าวจริงจัง นำเสนอในทุกสื่อทั้งสื่อดั้งเดิมแบบทีวีและหนังสือพิมพ์ และสื่อใหม่ในโลกออนไลน์ 2) ข้อมูลจาก Online influencer ซึ่งได้แก่พวกเพจต่างๆ ทั้งที่เป็นเพจทั่วไปและเพจที่ตั้งตัวเป็นสำนักข่าว โดยกลุ่มนี้จะไม่ลงพื้นที่หาข่าวเอง แต่จะรวบรวมและเช็กข่าวเพื่อเผยแพร่ข่าวอีกต่อหนึ่ง เช่น เพจ MThai หรือ เพจอีเจี๊ยบ เลียบด่วน เป็นต้น 3) ข้อมูลจากคนทั่วไปพวก User generated content (UGC) ซึ่งทั้งสามกลุ่มนี้ต่างมีบทบาทในการให้ข้อมูลและความคิดเห็นกับเหตุการณ์นี้ โดยจะพบว่าด้วยความล้นหลามของข้อมูล ประกอบกับการทำงานแข่งกับเวลา ทำให้สำนักข่าวหลายๆ แห่งมีความผิดพลาดจนกลายเป็นต้นตอของ Fake news และถูกปรามาสและลดทอนความน่าเชื่อถือในโลกออนไลน์ปรากฏการณ์ข่าวถ้ำหลวงจึงสะท้อนให้เห็นว่า คนที่เร็วที่สุดและเข้าถึงข้อมูลในพื้นที่มากที่สุด อาจจะไม่ใช่ผู้ชนะในเกมนี้ เนื่องจากในโลกโซเชียลนั้น ถึงคุณจะผลิตข่าวได้เร็วกว่าคนอื่น แต่ข่าวคุณไม่เข้าถึง (Reach) ผู้ชมคนอ่าน คนเขาก็ไม่เห็นข่าวของคุณอยู่ดี เนื่องจากในสื่อสังคมออนไลน์การส่งข่าวสารไม่ได้เป็นเส้นตรงตามเวลาการออกอากาศ (Linear program) แต่มันส่งข่าวเป็นใยแมงมุม ซึ่งจะมีศูนย์รวม (Hub) ที่ทำหน้าที่กระจายข้อมูลอยู่ ดังนั้นเกมนี้จึงไม่อยู่ที่ความเร็ว แต่อยู่ที่ว่าข่าวของคุณจะไปอยู่ในวงโคจรของ Hub ที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารนั้นๆ หรือไม่ ซึ่งเมื่อมีข้อมูลล้นหลามแต่เต็มไปด้วย ข่าวปลอม (Fake news) เหมือนในสถานการณ์นี้ ก็ทำให้เป็นโอกาสของสำนักข่าวที่มีการตรวจเช็กข้อมูลอย่างถี่ถ้วนได้เกิดในปรากฏการณ์นี้ อย่างเช่นกรณีของสำนักข่าว MThai ที่ใช้การเช็กข่าวและทวิตเตอร์ก่อร่างสร้างตัวเป็น Hub ของข่าวถ้ำหลวงได้ในชั่วข้ามคืนตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน (ตามกราฟ)นอกจากนี้ จากการสืบค้นของ Thoth zocial ที่ชี้ให้เห็นว่าในการทำข่าวร้อนที่เป็น Breaking news เช่นนี้ Twitter คือผู้ชนะในฐานะแพลตฟอร์มที่กระจายข่าวได้เร็วและกว้างที่สุด แต่ในทางกลับกัน ปรากฏการณ์นี้ก็บอกเราเช่นกันว่า ผู้ชมคนอ่านก็ยังต้องการงานข่าวมืออาชีพมาเล่าเรื่องเชิงลึก แบบเก็บรายละเอียดที่ครบจบกระบวนความ ซึ่งสื่อโทรทัศน์สามารถทำงานนี้ได้โดยไม่ต้องไปแข่งกับข่าวในทวิตเตอร์หรือกลุ่มคนทั่วไปที่เป็น UGC ในการเล่าเรื่องแบบเป็นช่วงๆ อัปเดตสถานการณ์ตลอดเวลา ดังจะเห็นได้จากการเล่าเรื่องของรายการทอล์กในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนำมาใส่ซับและโพสต์โดยเพจ ญี่ปุ่นเบาเบา จนกลายเป็นเพจเฟซบุ๊กยอดนิยมอันดับ 2 หลังจากการพบตัว 13 คนแล้ว ซึ่งสื่อญี่ปุ่นที่เพจนี้เอามาแชร์ได้วิเคราะห์สถานการณ์ถ้ำหลวงกันครึ่งค่อนชั่วโมง ด้วยรายละเอียดที่ถี่ยิบ แบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมบทวิเคราะห์ถึงทางเลือกในการนำทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำ ด้วยกรณีศึกษาของภัยพิบัติในอดีตและความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องถ้ำ ซึ่งนอกจากจะให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่ทำให้สังคมสับสนแล้ว ยังสร้างการเรียนรู้ให้กับผู้ชมไปในตัวอีกด้วยข่าวถ้ำหลวง คือความท้าทายสำนักข่าวของไทย ทั้งในแง่จุดยืนและความเป็นมืออาชีพ เพราะหากไม่ตั้งสติให้ดีพอ แล้วลงไปหาข่าวดราม่าตามชาวเน็ตก็อาจต้องพ่ายแพ้ให้กับพวก UGC ที่เร็วและแรงกว่า แต่ครั้นจะหันไปทำข่าวร้อนแข่งกันที่ความเร็วก็อาจสร้าง Fake news เสียเครดิตตัวเองเข้าไปอีก แถมเมื่อทำแล้วยังเข้าถึงคนไม่เท่าพวก Hub ทั้งหลายที่มีฐานผู้ชมคนอ่านกระจุกตัวอยู่มากกว่า ข่าวที่ทำมาก็คงจะหายสาบสูญไปในกระแสสื่อสังคมออนไลน์แบบไม่มีใครเคยได้เห็น ซ้ำยังจะถูกเปรียบเทียบมาตรฐานการทำงานกับสำนักข่าวระดับโลกที่ลงมารุมทำข่าวกันที่เชียงรายด้วยทักษะและทุนที่เหนือกว่าอีก ดังนั้นถ้ำหลวงจึงไม่ใช่แค่บทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของผู้ประสบภัยทั้ง 13 คนเท่านั้น แต่มันคือเครื่องพิสูจน์ความมืออาชีพของงานข่าวในประเทศว่าจะนำเสนอข่าวนี้อย่างไรให้ต่างจากไทยมุงทั่วๆ ไปภาพประกอบ: Pantitra H. / Tanya S. | ปรากฏการณ์ถ้ำหลวงคือข่าวท้องถิ่นในประเทศ ที่กลายไปเป็นข่าวระดับโลกที่ทุกสำนักข่าวทั่วโลกให้ความสนใจ ด้วยลักษณะข่าวที่คล้ายกับ Reality TV มีความลุ้นระทึก และรวมทีมงานมือหนึ่งของโลกมาไว้ในที่เดียวกันปรากฏการณ์ข่าวถ้ำหลวงสะท้อนให้เห็นว่า คนที่เร็วที่สุดและเข้าถึงข้อมูลในพื้นที่มากที่สุด อาจจะไม่ใช่ผู้ชนะในเกมนี้ข่าวถ้ำหลวง คือความท้าทายสำนักข่าวของไทย ทั้งในแง่จุดยืนและความเป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของสื่อไทย | null | null | https://thestandard.co/tham-luang-cave-rescue-report-show-potential-press/ |
ศาลเลื่อนฟังพิพากษาคดีฉีกบัตรประชามติ เป็น 26 ก.ย.นี้ | 18 ก.ย. 2560 วานนี้ (17 ก.ย.60) รายงานว่าจำเลยคดีฉีกบัตรประชามติได้รับหมายศาลจังหวัดพระโขนง แจ้งเลื่อนวันนัดฟังคำพิพากษาจากเดิมวันที่ 19 ก.ย.60 เป็น 9 โมงเช้าของวันที่ 26 ก.ย.60 แทน แต่ในหมายไม่ได้ระบุสาเหตุที่เลื่อนนัดเอาไว้ทั้งนี้คดีดังกล่าวนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ส.ค.59 ปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ จำเลยที่ 1 ได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากเห็นว่าการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นโดยไม่เป็นธรรม จึงได้ทำการฉีกบัตรลงคะแนนเสียงประชามติ พร้อมกับตะโกนว่า เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ ภายในหน่วยลงคะแนนเสียงในสำนักงานเขตบางนา ทำให้เขาถูกจับกุมดำเนินคดี ใน 4 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาทำลายบัตรออกเสียง และก่อความวุ่นวายในหน่วยลงคะแแนน ตามพ.ร.บ.ประชามติ ข้อหาทำลายเอกสารราชการ และข้อหาทำให้ทรัพย์สินสาธารณะเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา ขณะที่ จิรวัฒน์ เอกอัครนุวัฒน์ จำเลยที่ 2 และ ทรงธรรมแก้ว พันธุ์พฤกษ์ จำเลยที่3 ซึ่งได้ติดตามถ่ายวีดีโอขณะที่ปิยรัฐทำการฉีกบัตร ก็ได้ถูกกล่าวหาดำเนินคดีในข้อหาก่อความวุ่นวายในหน่วยลงคะแนนด้วย | ภาพ โตโต้ ปิยรัฐ ฉีกบัตรลงประชามติ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.59 18 ก.ย. | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | จิรวัฒน์ เอกอัครนุวัฒน์,ฉีกบัตร,ทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์,ประชามติ,ปิยรัฐ จงเทพ,ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน,โนโหวต | https://prachatai.com/journal/2017/09/73284 |
ก.ท่องเที่ยวฯ เตรียมหารือ กทม.กำหนดแนวทางจัดระเบียบร้านอาหารริมทาง | วันนี้ (18 ก.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตัวแทนผู้ค้าแผงลอยจาก 50 เขต ได้เข้าพบหารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) กรณีการจัดการพื้นที่ค้าขายบนทางเท้า โดยผู้ค้าได้เรียกร้องให้ยกเลิกจุดผ่อนผัน และหาแนวทางการช่วยเหลือผู้ค้าให้ค้าขายอย่างถูกกฎหมาย โดยกลุ่มตัวแทนผู้ค้าให้ข้อมูลว่าการจัดระเบียบทางเท้า และจัดหาพื้นที่ค้าให้ใหม่ ไม่สามารถค้าขายได้เหมือนเดิม ขณะที่บางจุดแม้เป็นพื้นที่จัดระเบียบไปแล้ว แต่พบว่ายังสามารถขายได้ จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีการเรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่เทศกิจในพื้นที่หรือไม่นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีการจัดระเบียบพื้นที่ค้าขายบนทางเท้าที่พบว่าบางจุดยังสามารถค้าขายได้ว่า กทม.จะต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนทุกคนในพื้นที่ กทม. ซึ่งอยากให้ผู้ค้าเห็นใจ กทม.ว่าในแง่ข้อบังคับของกฎหมายไม่สามารถกระทำได้ ส่วนกรณีการยกเว้นและจัดให้มีพื้นที่สตรีทฟู้ดในย่านถนนข้าวสารและเยาวราช ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับสิทธิพิเศษ เป็นโครงการทดลอง ซึ่ง กทม.ก็ต้องจัดระเบียบไปตามกฎหมายต่อไปด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.รับฟังข้อเสนอแนะของกลุ่มผู้ค้า โดยจะนำข้อคิดเห็นและรายละเอียดทั้งหมดไปพิจารณาและประชุมอีกครั้ง เบื้องต้น ได้ออกคำสั่งให้สำนักงานเขต ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยมีหลายฝ่ายเข้าร่วม เช่น กลุ่มผู้ค้า ผู้ใช้ทางเท้า ผู้อำนวยเขต สน.พื้นที่ กระทรวงพาณิชย์ และสื่อมวลชน โดยระหว่างตั้งคณะกรรมการจะไม่อนุญาตให้มีการค้าขายบนทางเท้าที่จัดระเบียบไปแล้วด้านนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากกรณีที่เว็บไซต์แห่งหนึ่งเผยแพร่ข้อมูลว่า โดยอ้างบทความของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เกี่ยวกับผลกระทบจากการจัดระเบียบอาหารริมทางในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่าอาจจะส่งผลต่อวัฒนธรรมอาหารริมทาง ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของกรุงเทพฯ รัฐบาลและกระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เห็นว่าการจัดระเบียบทางเท้าและแผงลอยเป็นสิ่งจำเป็น โดยหลังจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีมาตรการในระยะเร่งด่วน ในการหารือกับ กทม. เพื่อกำหนดแนวทางในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถึงแนวนโยบายของการจัดระเบียบทั้งนี้ รวมถึงจะหารือแนวทางการจัดกิจกรรมสตรีทฟู้ด อย่างบูรณาการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ชัดเจน เพราะเป็นวัฒนธรรมการทานอาหารของไทย ซึ่งเป็นเสน่ห์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเป็นการกระจายรายได้ให้คนไทยที่เป็นรายย่อยและเป็นเจ้าของกิจการ เบื้องต้น มีพื้นที่ทดลองดำเนินการ 2 แห่ง คือถนนเยาวราช และถนนข้าวสาร ซึ่งวันนี้จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการที่ถนนข้าวสาร หลังจากวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมที่ถนนเยาวราช | ก.ท่องเที่ยวฯ เตรียมหารือ กทม.กำหนดแนวทางการจัดระเบียบร้านอาหารริมทาง หรือพื้นที่สตรีทฟู้ด เพื่อให้คงวัฒนธรรมอาหารริมทาง ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของกรุงเทพฯ ไว้ ขณะที่ กทม.ยืนยันว่าไม่สามารถอนุญาตให้ผู้ค้ากลับมาค้าขายยังจุดเดิมที่เคยมีการจัดระเบียบไปแล้ว | เศรษฐกิจ | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,กทม.,ผู้ค้า,จัดระเบียบ,สตรีทฟู้ด,ถนนข้าวสาร,ร้านอาหารริมทาง,เยาวราช,ก.ท่องเที่ยวฯ,อาหารริมทาง | https://news.thaipbs.or.th/content/264473 |
พรรคแตก หรือ หัวใหม่? ผ่าปมร้อน ปู เผ่น พท.ระส่ำ ใครจะถือธงผู้นำ | ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ส่งผลให้ศาลฎีกาฯ ต้องออกหมายจับ และมีข่าวลือต่างๆ นานา ว่าหลบหนีด้วยเส้นทางธรรมชาติ หรือมีเครื่องบินมารับ หรือแม้กระทั่งพี่ชายที่แสนดีอย่าง ,ทักษิณ ชินวัตร, มารับถึงสิงคโปร์,เรื่องไหนจริง หรือ เรื่องไหนเท็จ ก็ยากที่จะตอบ,อย่างไรก็ดี เมื่อควันเริ่มจาง คนที่อยู่ก็คงต้องหันมองตัวเองว่าจะ ,เอาไงต่อ, โดยเฉพาะสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพราะถึงแม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่ใช่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ก็เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของคนในพรรคและมวลชน ด้วยเหตุนี้ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงสอบถามไปยังนักวิเคราะห์การเมืองอย่าง อ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง และ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.),อ.สุขุม กล่าวว่า หากจะให้วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองตอนนี้ ก็ยังวิเคราะห์ได้ยาก เนื่องจากยังไม่เห็นตัวคุณยิ่งลักษณ์ปรากฏตัว ดังนั้นเราจึงไม่ทราบจุดยืนของเขาว่าจะเอาอย่างไรต่อ,กรณีคุณยิ่งลักษณ์หลบหนี มีผลดี หรือ เสียต่อรัฐบาลอย่างไร อ.สุขุม กล่าวว่า, ผลเสีย คือ คำถามที่เกิดขึ้นว่า รู้กันหรือไม่ เพราะก่อนหน้านั้นคุณยิ่งลักษณ์ต้องอยู่ในสายตารัฐบาลทุกวินาที แต่เมื่อมีการหลบหนีไปได้ เป็นเรื่องการสมยอมกันหรือไม่ หากคุณยิ่งลักษณ์เงียบไปหลายๆ วัน ก็จะมีคำถามขึ้นมาอีกว่า ไปไหน หรือ รัฐบาลทำอะไรหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม ทราบว่าทางครอบครัวเองก็ไม่ได้มีการโพสต์ในเรื่องนี้ ซึ่งอาจจะมองว่านี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนเกม จากเกมที่ตัวเองเป็นฝ่ายรับตลอด เป็นเรื่องนี้ที่ให้รัฐบาลเป็นผู้ตอบว่า คุณยิ่งลักษณ์หายไปได้อย่างไร ซึ่งถึงแม้รัฐบาลจะตอบแล้ว แต่คำตอบง่ายๆ แบบนั้นมันไม่ได้,ขณะที่, พล.ท.นันทเดช, มองว่า ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า ,น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีจริงหรือไม่ ไปต่างประเทศจริงหรือไม่ สถานการณ์แบบนี้เป็นภาวะที่ลำบากของรัฐบาล เพราะประชาชนเองก็ต้องการคำตอบ ว่าไปได้อย่างไร มีใครช่วยหรือเปล่า ซึ่งนี่คือข้อเสียที่รัฐบาลจะต้องเผชิญ ส่วนข้อดี ตรงที่ว่า รัฐบาลไม่ต้องเผชิญหน้ากับม็อบมากขึ้น หากคุณยิ่งลักษณ์ถูกพิพากษาว่าผิดจริง, พล.ท.นันทเดช กล่าว ,นอกจากนี้ พล.ท.นันทเดช ยังวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้ว่า เชื่อว่าในช่วง 3 เดือนนี้เหตุการณ์ทางการเมืองจะไม่มีอะไรรุนแรง เนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้พระราชพิธีของในหลวง ร.9 ส่วนเรื่องปรองดอง รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะไม่นำเรื่องเก่ามาพูด ซึ่งเรื่องนี้คาดว่าจะไม่มีปัญหา เพราะเขาจะพูดแต่เรื่องใหม่ว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ร่วมกันได้ เพราะกรณีคุณยิ่งลักษณ์นั้นเป็นคดีทางกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องกลั่นแกล้งกันได้,ถามว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไร อ.สุขุม กล่าวว่า ถ้าเขาออกไปแล้ว ยังสนับสนุนพรรคอยู่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนในพรรคก็ยังอยู่รวมกันได้ แต่ถ้าทิ้งพรรคไปเลย ก็อาจจะแตกกันเป็นกลุ่มๆ และอาจจะเหลือน้อยลงไปกว่าเดิม เพราะคนที่อยู่ด้วยกันมา,ถามว่า เพื่อไทยควรทำอะไร ณ ตอนนี้ อ.สุขุม กล่าว่า ,ตอนนี้เขาก็คงกำลังงง และทำอะไรไม่ถูก เพราะความเป็นเพื่อไทย ยังขายได้ แต่หากไม่มีคุณยิ่งลักษณ์ ก็จะขาดผู้นำ ก่อนที่จะถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา คุณยิ่งลักษณ์ ยังเป็นวีรสตรี ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ พอถึงวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา หากคุณยิ่งลักษณ์มาถูกจับขัง คะแนนของคุณยิ่งลักษณ์ก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีก แต่ถึงตอนนี้ ก็กลายเป็นนักการเมืองธรรมดา แม้จะมีเสียงเชียร์ว่า ก็หนีไปเถอะ เพราะถูกรังแก แต่มันจะไม่จับใจ ถ้าหากคุณยิ่งลักษณ์เข้ามาสู้,ใครที่เหมาะสมที่จะมาเป็นผู้นำของพรรคเพื่อไทยตอนนี้ อ.สุขุม ตอบว่า อยู่ที่จุดยืนของพรรคเพื่อไทย ว่าลงเลือกตั้งคราวหน้าจะลงเพื่ออะไร จะต่อสู้เพื่อเผด็จการอย่างที่เขาเคยทำมา หัวหน้าพรรคก็ต้องเป็นคนแบบหนึ่ง แต่ถ้ามาต่อสู้เพื่อมีโอกาสเป็นรัฐบาล ก็น่าจะได้ผู้นำอีกแบบหนึ่ง, ,ด้าน พล.ท.นันทเดช กล่าวว่า | ต้องยอมรับว่า วันศุกร์ (25 สิงหาคม 2560) คือจุดพลิกของประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก เบี้ยวนัด ไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง | สกู๊ปไทยรัฐ | ยิ่งลักษณ์หนี,ปูหนีศาล,หัวหน้าพรรค,เพื่อไทย,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/scoop/1051660 |
ระทึก โรงเลื่อยเก่า 100 ปี ถล่มปิดทางเข้าออก เจ้าของติดอยู่ในบ้านทั้งคืน | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.ค. 62 ร.ต.ท.สำราญ เพชรเกษม รอง สวป.สน.สำเหร่ รับแจ้งเหตุอาคารโรงเลื่อยเก่าถล่มภายใน บจก.โรงเลื่อยจักร์ ซิมฮะเส็ง เลขที่ 7 ถนนเจริญนคร ซอย 35 แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตคลองสาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู,ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นอาคารโรงเลื่อยโบราณอายุนับร้อยปี มีลักษณะเป็นเรือนไม้สูง 2 ชั้น หลังคาสังกะสี ปลูกอยู่คู่กัน 2 หลัง โดยหลังด้านหน้าซึ่งปัจจุบันใช้เป็นเรือนเก็บหนังสือและของเก่าพังถล่มลงมา ส่งผลให้ปิดทางเข้าออกเรือนด้านหลังซึ่งเป็นที่พักอาศัยมีผู้ติดอยู่ภายในบ้าน 2 ราย ทราบชื่อคือ นายสัมพันธ์ สมิติสัณฑ์กุล อายุ 64 ปี ทายาทเจ้าของโรงเลื่อย และ น.ส.พรรษชล สมิติบัณฑิตกุล อายุ 31 ปี ลูกสาว เจ้าหน้าที่ต้องยกเศษไม้และสิ่งกีดขวางออก ใช้เวลา 20 นาที จึงสามารถพาทั้งคู่ออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด,จากการสอบสวน น.ส.พรรษชล กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา เดินทางกลับมาจากทำงานตามปกติ ซึ่งขณะนั้นเกิดฝนตกลงมา เมื่อมาถึงบ้าน จู่ๆ ตัวบ้านซึ่งเคยเป็นโรงเลื่อยที่ชั้นล่างก็ค่อยๆ เอียง และหลังคาถล่มลงมาปิดทางเข้าออกบ้าน ส่งผลให้ไฟฟ้าดับ ประกอบกับใกล้มืดแล้ว จึงไม่ได้โทรเรียกใครมาช่วยเหลือ ต้องรอจนถึงเช้า,กระทั่งมีชาวบ้านมาพบและประสานให้เจ้าหน้าที่มาช่วยกันพาออกมาจากบ้านได้อย่างปลอดภัย ซึ่งในเบื้องต้นทางสำนักงานเขตคลองสานได้กั้นพื้นที่ให้เป็นเขตอันตราย ห้ามบุคคลใดเข้าไป ก่อนจะประเมินความเสียหายและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. | เกิดเหตุฝนตกหนัก ทำโรงเลื่อยเก่าโบราณ 100 ปี พังถล่มจนปิดทางเข้าออก ทำให้เจ้าของติดอยู่ด้านในบ้านทั้งคืน เจ้าหน้าที่ต้องเอาสิ่งกีดขวางออก จึงสามารถพาทั้งคู่ออกมาได้อย่างปลอดภัย | ข่าว,ทั่วไทย | โรงเลื่อย,ถล่ม,ฝนตกหนัก,ติดอยู่ในบ้าน,โรงเลื่อยโบราณ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1605960 |
นิกกี้ ณฉัตร ยอมรับถังแตกประกาศขายที่ดินราคาถูก วอนขอคนช่วยซื้อ | เรียกว่าเป็นยูทูบเบอร์ที่มาแรงเลยก็ว่าได้ สำหรับ นิกกี้ ณฉัตร ด้วยความตลกแบบธรรมชาติเลยทำให้มีแฟนๆ ติดตามกันอย่างมากมาย แต่ล่าสุดก็ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเครียดหนักต้องประกาศขายที่ดิน เพราะรายได้ไม่พอใช้ เรียกว่าทำทุกอย่างเพื่อเงินกันเลยทีเดียว โดยเจ้าตัวได้โพสต์คลิปพาชมที่ดินส่วนตัว ถึงหาดใหญ่ ผ่านยูทูบช่องNickynachatโดย นิกกี้ เล่าว่า ที่ดินตรงนี้เป็นที่ที่ตัวเองซื้อไว้เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เนื่องจากคุณแม่อยากมีที่ดินสักผืน เลยหุ้นกับป้าและเพื่อนของป้าแบ่งคนละ 2 ห้อง เลยเอาเงินก้อนแรกของชีวิตที่ทำงานเก็บเงินได้ให้แม่มาซื้อที่ดิน โดนที่ไม่เคยเห็นที่ดินมาก่อนมาวันนี้อยากขายเพราะตอนนี้รายจ่ายเยอะ ไม่มีเงิน พร้อมยอมรับว่า ตัวเองเป็นคนที่รายได้ต่ำแต่รสนิยมสูง เป็นคนที่ชอบเว่อร์ ชอบของแพง ชอบรถ บ้าผู้หญิง ชอบเที่ยว จีบผู้หญิงก็ชอบเลี้ยง ตอนนี้รายได้ลดลง นาฬิกาเรือนแพงๆ ก็ขายไปแล้ว ไว้มีเงินค่อยซื้อใหม่ ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะมันเป็นของนอกกายอีกอย่างที่อยากขายที่ที่หาดใหญ่ตรงนี้ เพื่ออยากไปซื้อที่ดินแถวนครนายก สุพรรณบุรี แบ่งกับ โกบอย คนละ 5-10 ไร่ เพื่อไปใช้ชีวิตแบบพอเพียงในยามแก่ และมีความฝันว่าอยากทำสวนสัตว์เล็กๆ เลี้ยงสิงโตซึ่ง นิกกี้ ได้ตั้งราคาที่ดินไว้ ถ้าซื้อ 40 ตารางวา ขาย 2 ล้าน แต่ถ้าเอาทั้งหมด 80 ตารางวา ขาย 4 ล้าน นิกกี้ ถึงกับนั่งพนมมือวอนให้แฟนคลับหรือคนที่สนใจมาช่วยซื้อที่ดินที่หาดใหญ่กันเลยทีเดียว.ชมคลิป | นิกกี้ ณฉัตร ยอมรับช่วงนี้ถังแตก รายจ่ายเยอะ เป็นคนรสนิยมสูงแต่รายได้ต่ำ เลยทำให้เงินไม่พอใช้ ประกาศขายที่ดินที่เคยซื้อไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้วที่หาดใหญ่ วอนคนที่สนใจช่วยซื้อ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | นิกกี้ ณฉัตร,นิกกี้,นิกกี้ โกบอย,นิกกี้ ขายที่ดิน,ข่าวบันเทิง,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1887145 |
กรมทางหลวง ปิดจุดกลับรถถนนสายหลัก อำนวยความสะดวกช่วงปีใหม่ | วันที่ 29 ธ.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมทางหลวง ได้ดำเนินการปิดจุดกลับรถบนทางหลวงสายหลัก เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559,โดยมีเส้นทางที่ปิด ดังนี้,1. ปิดจุดกลับรถ ถนนพหลโยธิน ทล.1, (กม. 85+540, กม. 87+250, กม. 89+600, กม. 79+900, กม. 92+450 รวมจำนวน 5 จุด) และเปิด กม. 74+200 เพื่อใช้สำหรับเปิดเลนพิเศษ,2. ปิดจุดกลับรถ ถนนมิตรภาพ ทล.2, ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 58 - 4 ม.ค. 59 ปิดทั้งหมด ยกเว้นจุดกลับรถ กม.15+500 ด่านตำรวจทางหลวงทับกวาง โดยสามารถกลับรถได้ที่ 1. ใต้สะพานต่างระดับมิตรภาพ 2. สะพานต่างระดับตลิ่งชัน 3. สะพานต่างระดับแก่งคอย 4. ด่านตำรวจทางหลวงทับกวาง 5. สะพานกลับรถทับกวางกลับไปโคราช 6. สะพานกลับรถปูนนก (โรง2) กลับไปสระบุรี 7. สะพานโรงปูนทีพีไอ และ 8. ใต้สะพานต่างระดับมวกเหล็ก,3. ปิดจุดกลับรถ ถนนสายเอเชีย ทล.32, ปิดทั้งหมด 11 จุด จากจุดยูเทิร์นที่มีทั้งหมด 22 จุด,4. ปิดจุดกลับรถ ถนนพระราม 2, (กม.43, กม.51, กม.55, กม.58 รวมจำนวน 4 จุด). | กรมทางหลวง ดำเนินการปิดจุดกลับรถ ถนนพหลโยธิน ทล.1 รวม 5 จุด ถนนมิตรภาพ ทล.2 ปิดทั้งหมด เว้น ด่านตำรวจทางหลวงทับกวาง ด้าน สายเอเชีย ทล.32 ปิดทั้งหมด 11 จุด ขณะที่ ถนนพระราม 2 รวม 4 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกช่วงปีใหม่ 59 | null | จุดกลับรถทางหลวงสายหลัก,ถนนพหลโยธิน,ถนนมิตรภาพ,ถนนสายเอเชีย ทล.32,ถนนพระราม 2,เทศกาลปีใหม่,อำนวยความสะดวก,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,กทม.,ไทยรัฐออนไลน์,กรมทางหลวง,ปิดจุดกลับรถ,กรมทางหลวงปิดจุดกลับรถ,ยูเทิร์น,เส้นทางจราจร,การจราจร | https://www.thairath.co.th/content/555782 |
ไม่ได้มาเล่นๆ สมคิด ปลุกความเชื่อมั่น ดึงเอกชนเกาหลีลงทุนในไทย | วันที่ 24 มี.ค. 59 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ Thailand Moving Forward to Sustainable Growth จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 21-24 มี.ค. 59 ว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการปฏิรูปประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ จึงต้องการความช่วยเหลือจากเกาหลีในการพัฒนาประเทศ,สำหรับสิ่งที่ไทยต้องการปฏิรูปขณะนี้ คือ การยกระดับเกษตรกร และชาวชนบทให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร พัฒนาสินค้าชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อทำให้เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็งขึ้น หลังจากที่ในช่วงที่ผ่านมา ไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านการส่งออก และภาคอุตสาหกรรมมากกว่า,ขณะเดียวกัน ไทยจะไม่ทิ้งภาคอุตสาหกรรมและภาคส่งออก แต่จะพัฒนาอุตสาหกรรมเก่าให้มีความทันสมัย และเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตมากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ จะพัฒนาให้ไปสู่สินค้าที่มีการดีไซน์ อุตสาหกรรมยานยนต์ จะพัฒนาไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ จะพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม อุตสาหกรรมอาหาร จะพัฒนาให้มีการแปรรูปสินค้า เพิ่มมูลค่า เพื่อให้เป็นอาหารแห่งอนาคต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยเทคโนโลยีทั้งสิ้น,ประเทศไทยแม้ไม่ใช่ประเทศร่ำรวย แต่มีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศมากถึง 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังมีเงินงบประมาณที่จะลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อพัฒนาประเทศ และทำให้เป็นศูนย์กลางของอาเซียนอย่างแท้จริง โดยกำลังจะพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้มีศักยภาพมากขึ้น มีการเชื่อมโยงการขนส่งด้วยรถไฟฟ้า พัฒนาสนามบิน ซึ่งจะทำให้การคมนาคมขนส่งจากไทยไปอาเซียนสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งคนเกาหลีมีเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยไทยก่อสร้าง โดยเฉพาะการสร้างทางรถไฟฟ้าที่ต้องผ่านภูเขา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ในปีนี้ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะอยู่ที่ 3-3.5% จากปี 58 ที่ขยายตัวเพียง 2.8% เท่านั้น,ด้าน นายควาน จุน โอ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โดอาร์ม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทตนทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด เช่น พลังงานลม พลังงานจากขยะ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และก่อสร้างถนน ซึ่งที่ผ่านมา เคยเข้ามารับงานในไทยแล้ว ขณะนี้มีแผนจะเข้ามาลงทุนด้านพลังงานสะอาดอีก แต่กำลังมองหาพันธมิตรคนไทยอยู่ ถ้ามีพันธมิตรเมื่อไร บริษัทก็พร้อมเข้ามาลงทุนทันที,ขณะที่ นายซอง ฮุน ปาร์ค เจ้าของบริษัท ไชน์ คอสเมติก กล่าวว่า บริษัทผลิตเครื่องสำอางในเกาหลีใต้ และมีการลงทุนกับจีนอยู่แล้ว ตอนนี้กำลังมองหาการลงทุนเพิ่มในอาเซียน ซึ่งในตอนแรกตั้งใจจะไปเวียดนาม แต่พอมาฟังนายสมคิดพูดวันนี้ ทำให้สนใจประเทศไทยมากขึ้น และน่าจะมาลงทุนในไทยเร็วๆ นี้. | สมคิด ย้ำ มาเกาหลีครั้งนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เผย มาเพื่อทำให้เกาหลีเชื่อมั่น ต้องการเข้ามาลงทุนในไทย ด้าน เอกชนเกาหลีมั่นใจมากขึ้น หลัง ลังเลจะไปเวียดนาม | null | สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,สมคิด เยือนเกาหลี,ปฏิรูปประเทศ,สร้างความเข้มแข็ง,สร้างความเชื่อมั่นเกาหลี,ยกระดับเกษตรกร,ส่งเสริมท่องเที่ยวไทย,พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก,ส่งออกไทย,ศูนย์กลางอาเซียน,ลงทุนในไทย,เอกชนเกาหลี,พัฒนาอุตสาหกรรมไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวเศรษฐกิจ | https://www.thairath.co.th/content/595549 |
รอยเตอร์ ชี้ไทยไม่ให้ข้อมูลการระบายข้าว | สำนักข่าวรอยเตอร์ออกบทวิเคราะห์ระบุว่าในการประชุมคณะกรรมการการเกษตรขององค์การการค้าโลก หรือ WTO ที่นครเจนีวา สัปดาห์นี้ สหรัฐฯได้สอบถามให้ไทยแจกแจงว่าสต็อกข้าวที่รัฐบาลไทยรับจำนำไว้ จะถูกนำไปส่งออก หรือจะใช้ภายในประเทศรอยเตอร์ระบุว่า สหรัฐฯ ได้ทักท้วงรัฐบาลไทยเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว รวมทั้งข้อมูลการส่งออกข้าว ในเว็บไซต์ของรัฐบาลที่ไม่มีการปรับปรุงข้อมูลให้ต่อเนื่องและทันสมัยแม้ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก จนกว่าไทยจะตอบคำถามอย่างเป็นทางการ ทางแคนาดา สหรัฐฯ และออสเตรเลีย กำลังกดดันเรียกร้องให้ไทยตอบข้อสงสัยเหล่านี้โดยเร็ว ขณะที่สหภาพยุโรปแถลงเช่นกันว่ามีความกังวลต่อเรื่องนี้ด้วย และไทยจำเป็นที่จะต้องชี้แจงให้กระจ่างว่าได้ระบายสต็อกข้าวของตนอย่างไรบทวิเคราะห์รอยเตอร์ยังระบุว่ารัฐบาลไทย กำลังเตรียมเทข้าว 500000 ตันออกขายในตลาดโลกด้วยราคาขาดทุน เพื่อลดจำนวนข้าวในโกดังที่กำลังเสื่อมคุณภาพลงไปเรื่อยๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาระทางการเงินการคลังของประเทศก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าการระบายข้าวเป็นไปตามกรอบยุทธศาสตร์ระบายข้าวที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติเห็นชอบ โดยยืนยันถึงความโปร่งใสในทุกขั้นตอน | สำนักข่าวรอยเตอร์ออกบทวิเคราะห์ระบุว่าสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย รวมทั้งสหภาพยุโรปกำลังกดดันไทยในที่ประชุมองค์การการค้าโลกให้ชี้แจงแนวทางการระบายสต็อกข้าวที่มีปริมาณมหาศาลสืบเนื่องจากโครงการรับจำนำข้าว | ต่างประเทศ | ข้อมูลการ,ข้าว,รอยเตอร์,สหภาพยุโรป,สหรัฐฯ,องค์การการค้าโลก,ออสเตรเลีย,แคนาดา,ไทย | https://news.thaipbs.or.th/content/157981 |
เศร้า ศาสตราจารย์คนดัง วัย 104 ขอลาโลกที่คลินิกฆ่าตัวตายในสวิส | เมื่อ 1 พ.ค. 61 สื่อต่างประเทศรายงานข่าวเศร้า ศาสตราจารย์ เดวิด กู้ดออลล์ ชาวออสเตรเลียเชื้อสายอังกฤษ วัย 104 ปี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่แก่ที่สุดที่ยังสามารถทำงานได้ในประเทศออสเตรเลีย ตัดสินใจเตรียมลาโลก ปิดฉากชีวิตที่คลินิกสำหรับคนอยากฆ่าตัวตาย เพื่อรับการการุณยฆาตในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเรื่องถูกกฎหมาย หลังจากมีผู้คนช่วยกันบริจาคเงินเพื่อให้ ศ.กู้ดออลล์ แล้วมากกว่า 18,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 5.92 แสนบาท ในการเดินทางไปจบชีวิตที่สวิตเซอร์แลนด์,ข่าวแจ้งว่า ศ.กู้ดออลล์ ซึ่งย้ายมาอยู่ในรัฐเวสต์เทิร์น ออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่อายุ 34 ปี กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจที่มีอายุอยู่มาจนถึงปูนนี้ และไม่อยากจะกลายเป็นคนไข้ป่วยหนักจนตายไปในที่สุด แต่มีความต้องการที่จะจบชีวิตตนเองขณะที่ยังมีคุณภาพชีวิตที่ดี,ผมไม่มีความสุข ผมต้องการตาย มันไม่ใช่เรื่องน่าเสียใจ แต่จะเป็นเรื่องน่าเสียใจต่างหากถ้ามีใครสักคนมาขัดขวาง ศ.กู้ดออลล์ กล่าวถึงความรู้สึกที่อยากจะลาโลก พร้อมบอกว่า ถ้าใครคนหนึ่งเลือกจะฆ่าตัวตาย มันก็เป็นเรื่องที่ยุติธรรมเพียงพอแล้ว ตนไม่คิดว่าใครควรห้ามปราม,ด้านกลุ่มระดมทุนหาเงินช่วยสนับสนุน ศ.กู้ดออลล์ ในชื่อกลุ่ม เอ็กซิต อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า ศ.กู้ดออลล์ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มมานานเกือบ 20 ปีแล้ว และเตรียมจะเดินทางโดยเครื่องบินชั้นบิสซิเนส คลาส จากเมืองเพิร์ธไปยังสวิตเซอร์แลนด์ วันพุธที่ 2 พ.ค.นี้ โดยหนึ่งในทีมพยาบาลของกลุ่ม จะเดินทางไปเป็นเพื่อน ศ.กู้ดออลล์ ไปยังคลินิก Life Circle ในเมืองบาเซล ของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อจบชีวิตตนเอง,ทั้งนี้ ศ.กู้ดออลล์ เกิดที่ย่านเอ็ดมอนตัน ในกรุงลอนดอน เมื่อปี 1914 ได้รับปริญญาเอกในปี 1941 จากมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ในกรุงลอนดอน ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการราชวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และแพทยศาสตร์ ก่อนจะย้ายมาอยู่ในออสเตรเลียเมื่อปี 1948 ขณะอายุ 34 ปี และมีตำแหน่งอยู่ในมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น จากนั้นยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยในอิตาลี รวมถึงการได้รับตำแหน่งทางวิชาการมากมายทั้งในสหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ก่อนจะเกษียณอายุในปี 1979 ทว่าหลังเกษียณ ศ.กู้ดออลล์ก็ยังคงทำงานโดยตลอด. | ศาสตราจารย์คนดัง วัย 104 ปี ในออสเตรเลีย ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปตัดสินใจเลือกจบชีวิตที่คลินิกฆ่าตัวตายเพื่อรับการ การุณยฆาตในสวิตเซอร์แลนด์ เผยรู้สึกเสียใจที่อยู่มาจนถึงปูนนี้ | ข่าว,ต่างประเทศ | คลินิกการุณยฆาต,เดวิด กู้ดออลล์,สวิตเซอร์แลนด์,คลินิกฆ่าตัวตาย,การุณยฆาต | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1270259 |
ยูโร 1972 : ทัพอินทรีเหล็กผงาดแชมป์ครั้งแรก | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 4 หรือ ยูโร 1972 จัดขึ้นที่ประเทศเบลเยียม เป็นครั้งแรก โดยจัดระหว่างวันที่ 14-18 มิถุนายน ยังมี 4 ทีมร่วมแข่งในรอบสุดท้ายเหมือนเดิม และในครั้งนี้ ทัพอินทรีเหล็ก เยอรมันตะวันตก ที่เพิ่งผ่านเข้ามาถึงรอบนี้เป็นครั้งแรก สามารถคว้าแชมป์สมัยแรกไปครองได้เช่นกัน…,เจ้าภาพ เบลเยียม ใช้ 4 สนามในการแข่งขันครั้งนี้ คือ เฮย์เซล สเตเดียม กับ สต๊าด เอมิล แฟร์เซ กรุงบรัสเซลส์, สเคลสซิน สเตเดียมเมืองลีแอช และ โบซูอิล สเตเดียม เมืองอันท์เวิร์ป,สำหรับ 4 ทีม ที่ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้าย ได้แก่ ทีมเบลเยียม เจ้าภาพ, สหภาพโซเวียต, ฮังการี และ เยอรมันตะวันตก โดยระบบการแข่งขัน เป็นเกมรอบรองชนะเลิศ 2 คู่ หาทีมชนะไปชิงแชมป์ เหมือน 3 ครั้งที่ผ่านมา,ในเกมตัดเชือกคู่แรก ทัพอินทรีเหล็ก เยอรมันตะวันตก ได้หวดกับ ทีมเบลเยียม เจ้าภาพ ซึ่งเกมค่อนข้างสูสี และเป็นเยอรมันตะวันตก ที่เฉือนเอาชนะไปหวุดหวิด 2-1,ส่วนผลอีกคู่ สหภาพโซเวียต เฉือนเอาชนะ ฮังการี 1-0 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ เป็นสมัยที่ 3,มาถึงเกมชิงอันดับ 3 เบลเยียม เฉือนเอาชนะ ฮังการี ไปแบบหวุดหวิด 2-1,นัดชิงชนะเลิศ ทัพอินทรีเหล็ก เยอรมันตะวันตก เจอกับ สหภาพโซเวียต ซึ่งก่อนแข่ง เกจิลูกหนังมองว่าน่าจะเป็นเกมที่สูสีมากที่สุดเกมหนึ่ง แต่พอเอาเข้าจริง เยอรมันตะวันตก กลับต้อนเอาชนะไปขาดลอย 3-0 คว้าแชมป์สมัยแรกไปครองแบบไร้ข้อกังขา | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 4 หรือ ยูโร 1972 จัดขึ้นที่ประเทศเบลเยียม เป็นครั้งแรก โดยจัดระหว่างวันที่ 14-18 มิถุนายน ยังมี 4 ทีมร่วมแข่งในรอบสุดท้ายเหมือนเดิม และในครั้งนี้ ทัพอินทรีเหล็ก เยอรมันตะวันตก ที่เพิ่ง… | null | ฟุตบอลยูโร,ยูโร 1972,ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป,ทีมเยอรมันตะวันตก,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/628611 |
ดอกไม้วาเลนไทน์ สู้ รักผ่านออนไลน์ ไม่ได้ กุหลาบแดง-ขาว 30-50 บาท-ราคาไม่สูงเท่าปีก่อน | วันนี้ (13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ตลาดบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ระบุว่า ราคาสินค้าส่วนใหญ่จากการสำรวจพบว่า ยังทรงตัวอยู่ในระดับปกติตั้งแต่ช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่พบว่ามีสินค้าบางชนิดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ ราคาหมูเนื้อแดง ยังคงอยู่ที่กิโลกรัมละ 130-150 บาทส่วนราคาผักสดหลายชนิดยังทรงตัวอยู่ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนส่งผลให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง แต่เชื่อว่าเมื่อสภาพอากาศกลับสู่ภาวะปกติคาดว่าราคาจะปรับตัวลดลงส่วนราคาดอกไม้ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ดอกกุหลาบปรับราคาสูงขึ้นประมาณ 3 เท่าตัว แต่ถือว่าไม่สูงไปกว่าปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้กุหลาบแดงและขาวราคาเฉลี่ยอยู่ที่ดอกละ 30-50 บาท ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ซื้อดอกไม้ลดลง เนื่องจากกระแสความนิยมในการมอบดอกไม้ที่ลดลง โดยเปลี่ยนไปใช้โซเชียลมีเดียแทน รวมถึงมีการซื้อสินค้าออนไลน์มอบให้กันมากขึ้นโฆษกกระทรวงพาณิชย์กล่าวต่อว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีข้าวหายไปจากสต็อกของรัฐบาล จำนวน 3.9 แสนตันนั้น ไม่เกี่ยวกับคดี โครงการรับจำนำข้าวเนื่องจากเป็นข้าวเมื่อปี 2557 ที่กระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งความหายเอาไว้จริง แต่คนละส่วนกับการตรวจบัญชีจำนำข้าวปี 2558 เบื้องต้น ข้อมูลที่ออกมานั้นอาจเกิดจากความคลาดเคลื่อนของการทำบัญชี ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทำการทบทวนตัวเลขอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า | กระทรวงพาณิชย์ลงตรวจราคาสินค้าหลังตรุษจีน ราคายังทรงตัว ขณะที่ราคาดอกไม้ในช่วงวาเลนไทน์ยังปรับราคาไม่สูงมาก เนื่องจากประชาชนนิยมมอบดอกไม้ลดลง | เศรษฐกิจ | ThaiPBSnews,วาเลนไทน์,ดอกกุหลาบ,กระทรวงพาณิชย์,ตรวจตลาด | https://news.thaipbs.or.th/content/250150 |
แก้สำนวนคดีดัง | แต่ที่เป็นข่าวจับกุมนายตำรวจกองปราบปรามมีส่วนเรียกรับเงินจากผู้ต้องหา เป็นการออกมาแถลงด้วยตัวเองของ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เกี่ยวกับการดำเนินคดีตำรวจที่มีส่วนเรียกรับผลประโยชน์,ชี้แจงว่า ในชั้นสอบสวนพบความผิดของตำรวจกองปราบฯยศรอง สว. เรียกรับเงินจากผู้เสียหาย,และเป็น คดีเมจิกสกิน ซึ่งเป็นคดีดังเป็นที่สนใจ เพื่อแลกกับการช่วยเหลือในเรื่องสำนวนสอบสวน,หรือที่เข้าใจง่ายๆในวงการวิ่งเต้นคดีว่า ค้าสำนวน,ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการตำรวจหลายๆคดี ผู้ต้องหาหาทางวิ่งเต้นเข้าหาพนักงานสอบสวนเพื่อช่วยเหลือคดี ทำสำนวนคดีอ่อนลง เอาผิดผู้ต้องหาหรือผู้บงการไม่ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับ จิตสำนึก ของพนักงานสอบสวน,แต่เรื่องนี้แดงขึ้นมาจากที่มีผู้เสียหายรายหนึ่งติดต่อมาที่พนักงานสอบสวนทางแอปพลิเคชันไลน์ และทางโทรศัพท์ ขอให้ช่วยเหลือเร่งรัดดำเนินการสอบสวนคดีเมจิกสกิน,พนักงานสอบสวนบอกว่า ถ้าอยากให้คดีเดินหน้ารวดเร็วมากขึ้น ผู้ต้องหามีค่าใช้จ่าย,คือจ่ายค่าทำสำนวน,จนมีการโอนเงินเข้าบัญชีให้กัน เป็นพยานหลักฐานมัดตัวนายตำรวจกองปราบปรามรายนี้,พล.ต.ต.ไมตรีย้ำว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่า จะไม่มีการปกป้องเด็ดขาด ที่ผ่านมาหน่วยงานกองปราบปรามพยายามทำหน้าที่รับใช้ประชาชนอย่างเต็มความสามารถที่สุด,เมื่อคนในองค์กรประพฤติตนเสื่อมเสียเช่นนี้ ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ย่อมไม่ได้,ขณะนี้ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัย เข้าข่ายความผิดมาตรา 157 และผิดวินัยร้ายแรง มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน,มีการดำเนินคดีอาญาด้วย,แม้นายตำรวจที่เรียกรับเงินไม่ได้เป็นการช่วยเหลือผู้ต้องหาแต่เป็นผู้เสียหายมาติดต่อประสงค์ขอให้การเพิ่มเติม และอ้างอิงไปถึงคดีเก่า จำเป็นต้องแก้ไขคำให้การในสำนวนเยอะ,จึงเสนอค่าใช้จ่ายเป็นผลประโยชน์ในการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกกับพนักงานสอบสวน แต่เมื่อตำรวจรับเงิน ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย,เป็นความชัดเจนของผู้นำหน่วยที่ไม่ปกป้อง คุ้มครองตำรวจที่ทำความผิด,ย่อมเจ็บเพื่อรักษาหน่วยหลัก.,เพลิงพยัคฆ์,[email protected], | เป็นข่าวไม่ค่อยดีที่มีพนักงานสอบสวนตำรวจกองปราบปรามเรียกรับเงินค่าทำสำนวนคดีเครื่องสำอางไม่ได้คุณภาพ เมจิกสกิน ซึ่งในคดีนี้มีผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก | null | เมจิกสกิน,เครื่องสำอาง,ปลอม อย.,เลขที่1 วิภาวดีฯ,เพลิงพยัคฆ์ | https://www.thairath.co.th/news/local/1375201 |
ตรวจฉี่พระ เจอปัสสาวะม่วงเพียบ พาไปสึก ยังอ้อนขออยู่รับกฐิน | เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 พ.ย.58 พ.ต.อ.ชลิต วิริยะไกรศรีกุล ผกก.สภ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พร้อมด้วย ร.ต.โฉนด เมืองตัน หัวหน้าชุดมวลชนสัมพันธ์ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 4 ส่วนแยก 1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองเข้าตรวจปัสสาวะพระสงฆ์ที่วัดแห่งหนึ่งในเขต อ.พรานกระต่าย เนื่องจากที่ผ่านมาเคยตรวจพบว่ามีพระภิกษุหลายรูปเสพยาบ้า และมีการว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว แต่ทราบว่ายังคงลักลอบเสพยาบ้ากันอยู่,จากการตรวจปัสสาวะ พบว่ามีพระสงฆ์ปัสสาวะเป็นสีม่วง 6 รูป ซึ่งทั้ง 6 รูป รับว่าเสพยาบ้า โดยมีคนนำมาขายให้ถึงวัดเม็ดละ 200 บาท เห็นว่าออกพรรษาแล้วใกล้จะสึก ไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่จะมาตรวจอีก จึงเสพกัน พร้อมขอร้องเจ้าหน้าที่ อย่าเพิ่งจับสึก ขอให้ได้อยู่รับกฐินก่อน,อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นภายในกุฏิ พบว่าพระ 2-3 รูปมีถุงปัสสาวะเก็บไว้ด้วย สอบถามได้ความว่า เป็นปัสสาวะของคนอื่น เก็บไว้เผื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจ จะได้ใช้ถุงปัสสาวะของคนที่ไม่เสพยาบ้าให้ไปตรวจ ก็จะไม่พบสีม่วง และรอดจากการถูกจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำพระทั้ง 6 รูปไปสึก และส่งให้ศูนย์บำบัดยาเสพติดนำตัวไปบำบัด โดยไม่รอให้รับกฐินก่อนตามที่พระขอร้อง. | ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง จ.กำแพงเพชร ตรวจปัสสาวะพระใน อ.พรานกระต่าย พบมีสีม่วง 6 รูป บางรูปถึงกับขอฉี่คนอื่นซุกไว้เผื่อให้ตรวจ รับมีคนมาขายถึงวัดเม็ดละ 200 บาท อ้อนเพิ่งออกพรรษา ขออยู่รับกฐินก่อน อย่าเพิ่งจับสึก | ข่าว,ทั่วไทย | ตรวจฉี่พระ,พระฉี่ม่วง,จับพระ,พระ6รูป,จับสึกพระ,ปัสสาวะสีม่วง,พรานกระต่าย,กำแพงเพชร,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/537611 |
แห่จองวัตถุมงคล หลวงพ่อเอียด หลังมรณภาพแน่นวัดไผ่ล้อม | เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในวัดไผ่ล้อม ต.สะพานไทย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีคณะลูกศิษย์ เซียนพระ และประชาชนทั่วไป แห่เดินทางมาจองวัตถุมงคลของ หลวงพ่อเอียด เช่น แหวน กำไล เหรียญพระ รูปภาพ ของหลวงพ่อ เป็นจำนวนมากจนแน่นวัด หลังจาก พระสุนทรธรรมานุวัตร หรือ หลวงพ่อเอียด เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ซึ่งเป็นพระเกจิชื่อดังที่ประชาชนในจังหวัดและทั่วประเทศให้ความเคารพนับถือ มรณภาพลงที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ด้วยอาการสงบ เมื่อคืนวันที่ 29 ม.ค เวลา 21.49 น. หลังจากหลวงพ่อเอียดมีอาการอาพาธเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ โดยได้เดินทางเข้ารับการรักษาตัวมาตั้งแต่คืนวันที่ 26 ธ.ค. 57 ที่ผ่านมา กระทั่งอาการเริ่มทรุดลง และต้องอยู่ในห้อง icu ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. จนมีอาการทรุดหนัก กระทั่งมรณภาพอย่างสงบเมื่อคืนวันที่ 29 ม.ค.นั้น,จากการสอบถาม พระมหาเป็นหนึ่ง สุนทรเมธี ป.ธ.9 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดบรมวงศ์อิศรวราราม (ลูกศิษย์หลวงพ่อ) ทราบว่า วันนี้ทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่ทำพิธีรับพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) เวลา 07.30 น. จะเคลื่อนย้ายสังขารหลวงพ่อเอียด ออกจากโรงพยาบาลพระมงกุฎกล้า เดินทางกลับถึงวัดไผ่ล้อม เวลา 09.00 น.,ส่วนในเวลา 13.00 น. พระสงฆ์ สามเถร และประชาชน ร่วมถวายน้ำสรงศพ เวลา 17.00 น. พระเทพรัตนากร เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางมาเป็นประธานในพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากนั้นเวลา 19.00 น.ของทุกคืน จะมีพิธีสวดพระอภิธรรม เป็นเวลา 100 วัน และจากนั้นทางวัดไผ่ล้อมจะเก็บสังขารของหลวงพ่อเอียดไว้ เพื่อให้ประชาชนและลูกศิษย์ได้กราบไหว้ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจต่อไป. | ฮือฮาบรรดาลูกศิษย์ เซียนพระ ปชช. แห่ไปวัดไผ่ล้อม เพื่อเช่าวัตถุมงคล หลวงพ่อเอียด หลังมรณภาพ จนแน่นวัด ส่วนพิธีการจะนำศพออกจาก รพ.พระมงกุฎฯ ถึงวัดในวันพรุ่งนี้ | ข่าว,ทั่วไทย | หลวงพ่อเอียด,วัตถุมงคล,พระสุนทรธรรมานุวัตร,เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม,วัดไผ่ล้อม,มรณภาพ,เกิจิชื่อดังอยุธยา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม | https://www.thairath.co.th/news/local/478091 |
ขุดโบสถ์ไม่เหมาะสม พระผู้ใหญ่คาดโทษ ให้ฝังลูกนิมิตกลับลงหลุมตามเดิม | จากกรณีที่ผู้นำชุมชนและชาวบ้าน สงสัยในพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน ต.โรงช้าง อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ดำเนินการขุดเจาะพื้นภายในโบสถ์โบราณอายุกว่า 100 ปี โดยอ้างว่าขุดหาลูกนิมิตเก่าจะเอาไปให้ปิดทอง และจะปูพื้นกระเบื้องในโบสถ์ จึงพากันไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน นั้น,ต่อมาเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 58 ที่วัดแจ้ง ต.พิตเพียน อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มี นายอำนาจ กองบุบผา อายุ 63 ปี ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงวัดเวฬุวัน ต.โรงช้าง อ.มหาราช เข้าพบ พระครูอรุณวราสัย เจ้าคณะอำเภอมหาราช เพื่อยื่นหนังสือให้สั่งยุติการเป็นผู้ปกครองดูแลวัดเวฬุวันของ พระครูประสิทธิธรรมานุโยค เจ้าอาวาสฯ ซึ่งมีพฤติกรรมส่อเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ในหลายๆ เรื่อง รวมทั้งขอตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของวัด ขอให้ทางคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน และขอให้เจ้าอาวาสยุติการเป็นผู้ปกครองดูแลวัดเวฬุวัน จนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ,พระครูอรุณวราสัย เจ้าคณะอำเภอมหาราช กล่าวว่า จากกรณีที่มีชาวบ้านได้แจ้งความเอาไว้ ในเรื่องมีการลักลอบขุดเจาะโบสถ์เก่า อายุกว่า 100 ปี ของวัดเวฬุวัน ที่เป็นข่าวไปแล้วในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยทางพระครูประสิทธิธรรมานุโยค เจ้าอาวาสฯ ระบุว่า การขุดเจาะเพื่อเตรียมปรับพื้นปูกระเบื้องของวัดและค้นหาลูกนิมิต เพื่อจะนำขึ้นมาให้ประชาชนได้ปิดทองกราบไหว้บูชากันนั้น ในเรื่องนี้ทางรองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะสงฆ์ ได้ทำการสอบสวน แล้วพบว่าเป็นการละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ ถือว่าไม่เหมาะสม จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนไว้เป็นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมทั้งให้นำลูกนิมิตไปฝังกลบไว้อย่างเดิม,ส่วนกรณีที่ชาวบ้านได้เข้ามาร้องเรียนถึงพฤติกรรม ที่ไม่เหมาะสม และการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จะต้องนำเสนอต่อเจ้าคณะจังหวัดเพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป และต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งเจ้าอาวาสและชาวบ้าน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านซึ่งเป็นคนเฒ่าคนแก่ เชื่อว่าบริเวณโดยรอบและภายในโบสถ์เก่าของวัดเวฬุวันนั้น การขุดค้นจะต้องมีการพบโบราณวัตถุ หรือพระเครื่องของเก่าที่ฝังเอาไว้อยางแน่นอน นอกจากนี้ ชาวบ้านที่มาจัดงานศพภายในวัด ยังร้องเรียนด้วยว่า การจัดงานศพแต่ละครั้ง ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับวัดตกคืนละหลายพันบาท รวมถึงมีพฤติกรรมอย่างอื่น ที่ชาวบ้านเห็นว่าไม่เหมาะสมด้วย. | ชาวบ้านข้างวัดที่ อ.มหาราช อยุธยา เข้าพบเจ้าคณะอำเภอจี้ดำเนินการกับเจ้าอาวาสวัดที่ขุดพื้นโบสถ์เก่า แล้วอ้างจะปูกระเบื้องใหม่ กับให้ปิดทองลูกนิมิตเก่า ชี้แค่ จริยาไม่เหมาะสม พระผู้ใหญ่สั่งคาดโทษ และฝังลูกนิมิตกลับลงหลุมเดิม. | ข่าว,ทั่วไทย | ขุดโบสถ์,พระครูประสิทธิธรรมานุโยค,วัดเวฬุวัน,หาลูกนิมิต,ลูกนิมิตเก่า,ฝังลูกนิมิต,มหาราช,อยุธยา,พระนครศรีอยุธยา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/494942 |
ส.อ.ท. จับมือ ไทยพาณิชย์ หวัง SME กระตุ้น ศก. ยัน เมอร์ส ไม่กระทบ | เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 58 นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดพิธีเปิดงาน SCB-FIT Factory Outlet ครั้งที่ 11 มหกรรมสุดยอดสินค้าคุณภาพ ราคาโรงงาน ในราคาสุดพิเศษ โดยจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมโอกาสธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ SME จากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ผลิตสินค้าด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังถือได้ว่า เป็นการช่วยเหลือผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าราคาไม่แพง ซึ่งภายในงานมีการรวมบูธสินค้ากว่า 200 บูธ ,นายญนน์ โภคทรัพย์ เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นรายได้ และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจ SME ได้กว่า 18 ล้านบาท และถือว่าการจัดงานก็ได้กระแสตอบรับดีขึ้นทุกๆ ปี,ทางด้าน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี กล่าวว่า ในปัจจุบันธุรกิจ SME เป็นกลไกที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ สิ่งที่เป็นปัญหา คือ การขาดแหล่งเงินทุน และการแข่งขันที่สูง จำเป็นต้องมีช่องทางการตลาดที่เหมาะสม เพื่อทดแทนการส่งออก ในสภาวการณ์ส่งออกที่ติดลบ พร้อมกับสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ดังนั้น จึงเล็งเห็นแล้วว่า การจัดงานนี้ เป็นการส่งเสริมสนับสนุน และช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความเดือดร้อนในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน,ส่วนกรณีไวรัสเมอร์สนั้น นายสุพันธุ์ มองว่า ยังไม่มีผลกระทบกับเศรษฐกิจ หรือการท่องเที่ยว เพราะยังจำกัดในวงแคบๆ อยู่ คนที่เกี่ยวข้องกับคนไข้ก็ยังไม่เกิดปัญหาอะไร ถ้าภายในอาทิตย์หน้าไม่มีการขยายวงต่อไปอีก ก็ถือว่าเราเป็นประเทศที่ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ | ประธาน ส.อ.ท. หวัง SME กระตุ้นเศรษฐกิจ แทนการส่งออกของประเทศ มองว่า ไวรัสเมอร์ส ยังไม่ส่งผลกระทบ ด้านกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.ไทยพาณิชย์ คาด การจัดงานครั้งนี้ กระตุ้นอัดฉีดเม็ดเงินเข้า SME ได้กว่า 18 ล้านบาท | null | สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย,ส.อ.ท.,ธนาคารไทยพาณิชย์,สุพันธุ์ มงคลสุธี,ญนน์ โภคทรัพย์,SME,เศรษฐกิจ,เศรษฐกิจในประเทศไทย,ธุรกิจ SME,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/506724 |
บรรยง เสนอโละโควตาข้าราชการพ้นรัฐวิสาหกิจ | วันนี้ (25ก.ย.2562) ในงานเสนา มารยาท หรือ จรรยาบรรณ กรณีเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจ กับ การเมือง ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ภัทร ในฐานะอดีตกรรมการบอร์ดบริษัทการบินไทย เปิดเผยเหตุการณ์ถูกใบสั่งให้ลาออกจากตำแหน่ง เพราะมีแรงกดดันทางการเมือง ทั้งที่การทำงานของบอร์ดฯ ยุคนั้น ช่วยพลิกสถานะการเงินของบริษัท จากขาดทุนเป็นกำไรกว่า 7 พันล้านบาทพร้อมระบุว่า นักการเมืองควรมีมารยาทต่อประชาชน ไม่แทรกแซงการทำงานของรัฐวิสาหกิจ เพราะกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และภาระภาษีของประชาชน หลังคาดการณ์ว่า บริษัทการบินไทย อาจเสนอขอเพิ่มทุนไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการจัดซื้อเครื่องบินใหม่ 38 ลำ และเชื่อว่านักการเมืองพึงพอใจในความอ่อนแอของรัฐวิสาหกิจ เพราะสามารถแสวงหาผลประโยชน์ได้ง่ายกว่าพร้อมเสนอให้ ข้าราชการประจำ ห้ามดำรงตำแหน่งประธาน หรือ กรรมการ ในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เพราะเป็นช่องว่างให้นักการเมืองแทรกแซงการทำงานได้สอดคล้องกับ น.ส.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจับสถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ ตั้งข้อสังเกตว่า บอร์ดรัฐวิสาหกิจไทย แตกต่างจากบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างประเทศมาก ซึ่งบางประเทศใช้บริษัทเอกชน รวบรวมคุณสมบัติ ผู้บริหาร บริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลก ที่มีทักษะงานตรงกับความต้องการขององค์กร เพื่อทาบทามเข้ารับตำแหน่ง เพื่อช่วยให้องค์กร ทันสมัยสามารถแข่งขันกับบริษัททั่วโลกได้ขณะที่รัฐวิสาหกิจไทย กลับกำหนดโควตาจำนวนกรรมการตามหน่วยงานราชการ ทั้งที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับงานในองค์กร ซ้ำยังได้รับค่าตอบแทนสูงเกินจริง ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิดวัฒนธรรมต่างตอบแทน ระหว่างนักการเมืองที่แต่งตั้งเข้ามากับบอร์ดฯ จึงเสนอให้บอร์ดรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยประวัติการทำงานและทรัพย์สิน เพื่อความโปร่งใสขณะที่นายประภาส คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ยอมรับว่า แม้พระราชบัญญัติ พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ ฉบับใหม่ ไม่สามารถขัดขวางนักการเมือง ส่งคนของตัวเองมาทำงานในบอร์ดรัฐวิสาหกิจได้ 100% แต่กฎหมายฉบับนี้ จะช่วยคัดกรองคุณภาพบอร์ดฯ ซึ่งขณะนี้ สคร.อยู่ระหว่างพิจารณาคุณสมบัติบอร์ดฯ ใหม่ ที่ข้าราชการตามโควต้าเกษียณอายุราชการ เช่น การเคหะฯ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ส่วนบอร์ดรัฐวิสาหกิจอื่นยังสามารถทำงานได้ตามปกติ | ทีดีอาร์ไอ เรียกร้องบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยประวัติการทำงาน และทรัพย์สิน เพื่อความโปร่งใส ขณะที่อดีตบอร์ดบริษัทการบินไทย เสนอห้ามข้าราชการประจำเป็นประธานและกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ชี้เป็นช่องโหว่ถูกกนักการเมืองแทรกแซง | เศรษฐกิจ | องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน,บอร์ดรัฐวิสาหกิจ,จรรยาบรรณ | https://news.thaipbs.or.th/content/284564 |
สาทิตย์ เล่นงานโรงไฟฟ้าถ่านหินตรัง ดึง กฟผ. ชี้แจงกรรมาธิการพลังงานฯ | สาทิตย์ ดึงกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมฯ ลงพื้นที่ตรัง จัดสัมมนาเมกะโปรเจ็กต์ ชาวบ้านรุมถล่มโรงไฟฟ้าถ่านหินยับ สาทิตย์ รับปากดึง กฟผ. แจงกรรมาธิการพลังงาน สภาผู้แทนฯเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 กันยายน 2555 ที่ศาลาประชาคมอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง คณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดสัมมนาสัญจร โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีนายนริศ ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ เป็นประธาน มีนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มูลนิธินโยบายสุขภาวะ โครงการจิตสำนึกนิเวศวิทยา (สจน.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ นักการเมืองท้องถิ่น นักศึกษา ชาวบ้านอำเภอกันตัง และอำเภอต่างๆ ในจังหวัดตรัง ร่วมประมาณ 150 คน โดยไม่มีตัวแทนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเข้าร่วมสัมมนาในการสัมมนาครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมได้พูดถึงภาพรวมของแผนพัฒนาภาคใต้ กระบวนการขั้นตอนในการอนุมัติโครงการขนาดใหญ่ แผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2010 ) ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 และโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดตรัง โดยผู้เข้าร่วมสัมมนายืนยันว่า ไม่ต้องการให้มีโรงไฟฟ้าถ่านหินในจังหวัดตรัง พร้อมกับแสดงท่าทีไม่พอใจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ้างว่าไม่จริงใจและเจตนาปกปิดข้อมูลนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดตรัง เพื่อร่วมกันเรียนรู้ข้อมูล ข้อเท็จจริงร่วมกัน แต่ปรากฏว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ไม่ได้มาในเวที ทั้งที่สมควรมาให้ข้อมูลด้วยกันทุกฝ่ายนายสาทิตย์ กล่าวต่อที่สัมมนาว่า กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดตรัง ตนพร้อมเป็นคนกลางประสานให้มีเวทีเรียนรู้แบบนี้อีก และตนจะเสนอเข้าคณะกรรมาธิการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อต้องการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยร่วมชี้แจง ไม่ใช่ปกปิดข้อมูลกับชาวบ้าน โดยจะเชิญชาวบ้าน และนักวิชาการร่วมให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร ในโอกาสข้างหน้านายชวการ โชคดำลีลา หัวหน้าศูนย์พลังงานไฟฟ้าจังหวัดตรัง จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ไม่เข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้ เนื่องจากเป็นงานของกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่เรื่องพลังงาน จึงไม่เกี่ยวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | สาทิตย์ ดึงกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมฯ ลงพื้นที่ตรัง จัดสัมมนาเมกะโปรเจ็กต์ ชาวบ้านรุมถล่มโรงไฟฟ้าถ่านหินยับ สาทิตย์ รับปากดึง กฟผ. แจงกรรมาธิการพลังงาน สภาผู้แทนฯ เมื่อเวลา 10.00 น. | คุณภาพชีวิต | ตรัง,นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย,โรงไฟฟ้าถ่านหิน | https://prachatai.com/journal/2012/09/42432 |
พุนพินระดับน้ำสูงขึ้น คนอพยพอาศัยริมถนน-รพ.ท่าโรงช้าง ขนย้ายเวชภัณฑ์ | เมื่อวันที่ 14 ม.ค. มีรายงานสถานการณ์น้ำใน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่รับมวลน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำตาปี ก่อนระบายสู่อ่าวไทย พบว่าได้ขยายวงกว้างมากขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น หมู่ 3, หมู่ 4 และหมู่ 5 ใน ต.ท่าสะท้อน, หมู่ 2 ต.กรูด และ หมู่ 7 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน โดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20 เซนติเมตร ชาวบ้านกว่า 500 คนยังอพยพอยู่นอกพื้นที่,ขณะที่พื้นที่ หมู่ 7 ต.ท่าข้าม หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเข้าขั้นวิกฤติ ชาวบ้านที่เลี้ยงวัวต้องเร่งนำโฟมประกอบกับโครงเหล็กสร้างแพ เตรียมขนย้ายวัวที่อยู่ในคอกบนโคกดินสูงเหนือน้ำ อพยพขึ้นแพ เนื่องจากเกรงว่าหากล่าช้าจะไม่สามารถขนย้ายวัวออกนอกพื้นที่ได้ อย่างไรก็ตาม หลายหน่วยงานเร่งเข้าให้การช่วยเหลือแจกจ่ายน้ำดื่ม และอาหารให้ผู้ประสบภัยที่อพยพมาอยู่ตามศูนย์อพยพและริมถนนสายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า ซึ่งยังคงขาดแคลนหลายอย่างในการดำรงชีพ โดยเฉพาะห้องน้ำ ไฟฟ้า มุ้งกางเป็นต้น,นายวัลลภ เมฆสง่า อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/2 หมู่ 2 ต.กรูด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ประสบอุทกภัย ระดับน้ำท่วมบ้านสูงกว่า 3 เมตร กล่าวว่า พื้นที่หมู่ 2 ต.กรูด มีน้ำท่วมตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา และท่วมอีกในเดือนธ.ค.อีกครั้งก่อนที่มวลน้ำจะเข้ามาท่วมในรอบนี้สูงกว่า 3 เมตร ซึ่งคนในครอบครัวต้องอพยพไปอยู่ศูนย์อพยพด้านนอก ส่วนตนเองอาศัยอยู่ที่ชั้นสองของบ้านเพื่อเฝ้าทรัพย์สิน โดยระดับน้ำครั้งนี้เกือบเทียบเท่าปี 54 หากไม่มีเรือดันน้ำที่ทางกองทัพเรือนำมาติดตั้ง ชาวบ้านต้องได้รับความเดือดร้อนกว่านี้เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการสังเกตในเวลาน้ำทะเลปกติ และมีการเปิดเครื่องป้องน้ำและดันน้ำ น้ำจะไหลออกจากพื้นที่เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด,ด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี สั่งโรงพักในพื้นที่น้ำท่วม โดยเฉพาะเขตพื้นที่ อ.พุนพิน ให้จัดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน รักษาความปลอดภัย ในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนที่อพยพมาอยู่ตามศูนย์และริมถนนสายต่างๆ ที่มีน้ำท่วมขังมากที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำเติมผู้ประสบภัยน้ำท่วม,มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 15.00 น.ที่โรงพยาบาลท่าโรงช้าง หมู่ที่ 4 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่คลังเวชภัณฑ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เร่งช่วยกันลำเลียงเวชภัณฑ์ นำไปเก็บรักษาไว้ยังที่สูง เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่,นางวรัญญา กุลประจวบ หัวหน้างานเภสัชกรรม โรงพยาบาลท่าโรงช้าง กล่าวว่า เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำตาปีมีระดับน้ำที่เพิ่งขึ้นสูง อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จนเข้าท่วมภายใน ซอยหัวไทร 2 ซึ่งอยู่ข้างโรงพยาบาล มีระดับที่สูงขึ้น 60-70 ซม. และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางโรงพยาบาล จึงได้ประสานไปเจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัยท่าโรงช้าง และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เร่งขนย้ายเวชภัณฑ์ ที่เก็บไว้ภายในห้องคลังเวชภัณฑ์ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปเก็บไว้ที่สูง เพื่อไม่เป็นการเสี่ยงต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หากมวลน้ำเอ่อเข้าท่วมโรงพยาบาล และในส่วนของผู้ป่วยทางโรงพยาบาลได้เตรียมแผนขนย้ายไว้เรียบร้อยแล้ว หากยังมีระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นและจะต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. | น้ำท่วมใน อ.พุนพิน ขวายวงกว้าง ระดับน้ำสูงขึ้น โดยเฉพาะ ต.ท่าข้าม วิกฤติ ชาวบ้านเร่งขนวัวขึ้นแพ อพยพหนีน้ำไปอยู่ตามศูนย์-ริมถนน ยังขาดแคลนของดำรงชีพ ขณะ รพ.ท่าโรงช้าง ขนย้ายเวชภัณฑ์ หวั่นน้ำเอ่อท่วมเข้ารพ | null | น้ำท่วม,น้ำท่วมพุนพิน,ระดับน้ำพุนพิน,น้ำท่วมราษฎร์,รพ.ท่าโรงช้าง | https://www.thairath.co.th/content/835811 |
Lifestyle by หลิ่มหลี ตอน ร้านหนังสือ กาแฟ ที่นัดพบ ที่เสวนา | หลิ่มหลีหนักใจมาก เพราะบอกออยากได้ คอลัมน์อะไรที่มันหลิ่มๆ Chic Chic ในขณะที่หลิ่มหลีอยู่ระหว่างแปลงโฉมฝึกตัวเองเป็นชาวลิเบอรัล หวังจะเข้าหาผู้ชายลิเบอรัล หลิ่มหลีก็เลยรู้สึกว่า อยากเขียนอะไรที่ตัวเองรักดีกว่า เลยมาเจรจาต่อรองกับบอกอ ว่า หลิ่มหลีอยากเขียนเรื่อง เคป๊อบ อิอิ อร๊าย เขิลล์ หลิ่มหลีถนัด อิอิ บอกอ อึ้ง มันลิเบอรัลตรงไหน ไอ่เคป๊อปเนี่ย แย่จัง จากที่อยากเป็น ลิเบอรัล กลับกลายมาเป็น ลิเบอแร่ด หนักกว่าเดิม ฮ่าๆๆๆ อ่ะ ก็ได้ ไหน ไหน ก็ ไหน ไหน แล้ว หลิ่มหลีรับปากแล้ว ก็ต้องทำตามสัญญา จะเขียนเรื่อง ชิค ชิค ให้ แต่ก็ต้องเป็นชิค ชิคที่ออกไปทางลิเบอแร่ด เอ้ย ไม่ใช่ ลิเบอรัลหน่อยนะคะ ต้องมีคนสงสัยว่า ชิค ชิคแบบ ลิเบอรัลเป็นยังไง คิกๆๆๆๆ ก็ แบบ บ้านๆ ติดดิน ติดดินหน่อยหง่ะค่ะ หลิ่มหลีก็ไม่ใช่พวกจะมาเขียนไลฟ์สไตล์แบบ ดื่มชาอังกฤษที่เกษรพลาซ่า ก่อนเข้าร้านดิออร์ หรือ ว่า อยู่มิวเซี่ยมที่ฮ่องกง ก่อนไปช๊อปที่ ถนนนาธาน หรือเดินเล่นทำสวยที่อูบุด เกาะบาหลี ก่อนไปขอพรพระเป็นเจ้าที่วัดทานาล๊อต หลิ่มหลีทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ หลิ่มหลีก็ต้องประหยัดนะคะ เงินทุกบาททุกสตางค์ต้องเก็บไว้รีแพร์ เอ้ย ไม่ใช่ ไว้ยามแก่เฒ่า โอย จะหลุดความจริงกันมากไปไหมเนี่ย แม่หลิ่มหลี เอ่อ หลิ่มหลีจะพยายาม ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัด เพราะ ชิค ชิค แบบ ลิเบอรัล ก็เป็นอะไรที่หลิ่มหลีก็ต้องเรียนรู้ไปกับประสบการณ์ในแต่ละครั้งว่ายังไง ให้กำลังใจกันหน่อยนะคะ ^ ^ หลิ่มหลีอยากเล่าให้ฟังว่าสถานที่ประจำที่ไว้ให้หลิ่มหลีได้สีหนุ่มๆลิเบอรัลก็คงเป็นที่ ร้านหนังสือร้านหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว ช่วงเดือนมิถุนายน มีร้านหนังสือร้านหนึ่งเปิดให้บริการแถวถนนตะนาว สี่แยกคอกวัว ชื่อร้านก็องดิด (Candide Book and Cafe) เป็นร้านหนังสือที่ขายกาแฟ ชา และ เครื่องดื่มแอลกฮอลล์ด้วย หึหึ หลิ่มหลีจำได้ว่าครั้งแรกของเรา เอ้ย ไม่ใช่ ครั้งแรกที่ไปร้าน เพื่อไปซื้อหนังสือของ บุญชิต ฟักมี ชื่อ ข้อความต่างเด้า เอ ไม่ใช่สิ แต่ก็ประมาณนี้แหละค่ะ ต่างด้าว ต่างเด้า หลิ่มหลีไม่มั่นใจ จำได้อีกอย่างว่า ร้านนี้สลิ่มม๊ากกกกกกก เจ้าของร้านใช้ไอโฟนคิดเงิน (ซุบซิบ ไม่ใช้เครื่องคิดเลข ใช้ไอโฟน) ประทับใจ สลิ่มอย่างหลิ่มหลีม๊ากกกกกกกกกกกกกก รูปภาพโดย บุญชิต ฟักมี รูปภาพโดย เจษฎา หรรษา แต่ก่อนแต่ไร หลิ่มหลีอ่านหนังสือพวกโรแมนติก ใสกิ๊ก หวานแหวว หรือไม่ก็เจ้าชายเจ้าหญิง ตบจูบ นางฟ้าซาตาน ชี๊คอาหรับกับสาวไทยหน้าหวาน สมองของหลิ่มหลีไม่เคยหนักหัว และไม่เคยเสพงานวรรณกรรมมาก่อนเลย ร้านนี้ ให้สมองกับหลิ่มหลี พร้อมกับให้การอ่านของหลิ่มหลีได้พัฒนาไปเรื่อยๆ หลิ่มหลีมีความรู้สึกว่า การเขียนของตัวเอง น่าจะมาจากการได้อ่านอะไรที่งดงาม ตัวอักษรสวย อย่างหนังสือของอาจารย์ต้น อนุสรณ์ ติ หรือ พี่ขวัญยืน หรือ ภาณุ ตรัยเวช พร้อมๆไปกับวรรณกรรมระดับรางวัลโนเบลหลายๆเรื่อง ก็หาได้จากที่นี่ เช่น หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว สมัญญากุหลาบ My Name is Red อะไรประมาณนั้น วรรณกรรมเยาวชนก็เยอะ โต๊ะโตะจัง โอ้ย คิดถึงตัวเองตอนเด็ก ((ซุบซิบ ๆๆ อยากบอกว่า หลิ่มหลีแก่ไปเยอะ เพราะหยักสมองขยายแล้วมันทำให้หน้าผากย่น เฮ้อ ความฉลาดมันสวนทางกับความงามนะฮ้าฟฟ)) ครูสอนภาษาอังกฤษท่านหนึ่งเคยบอกหลิ่มหลีว่า การเขียนภาษาอังกฤษให้ดี คุณต้องอ่านให้มากด้วย หลิ่มหลีว่า ภาษาไทยก็เหมือนกัน ผัวะะะะ ใครบอกแกว่า แกเขียนดี นังคนหลงตัวเอง กระซิกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หลิ่มหลีก็ชอบหลงตัวเอง แหม๋ แหม๋ ทีนักการเมืองเยอะแยะ ยังหลงตัวเองว่า รูปหล่อ ใครๆก็ต้องรักได้เลย หลิ่มหลีหลงตัวเองบ้าง นิดๆหน่อยๆ ไม่ได้หรอจ๊ะ อือออ ที่ร้านมักจะมีงานเสวนาดีดีอยู่เรื่อยๆ บางทีก็มีแจ๊สให้ฟัง หลิ่มหลีชอบมาก หลิ่มหลีได้เพื่อนจากที่นี่ไปเยอะมาก บางวันนั่งเฉยๆ ก็ได้เจอนักเขียนเซเลป ระดับ ปราบดา หยุ่น พี่หนึ่ง วรพจน์ นักเขียนกับบอกอระดับซีไรต์ หรือ บอกอนิตยสารใหญ่ๆ ก็มากันบ่อย พบปะสังสรรค์เสมือนหนึ่งที่นัดพบกัน ในฐานะที่หลิ่มหลีเรียนมาทางบริหารธุรกิจ (ขอคุยหน่อย) หลิ่มหลีอยากบอกว่าประเทศที่มีความแข็งแกร่งใน small business มากๆ คือ ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของกิจการของตนเองมากกว่าที่จะไปเป็นลูกน้องในองค์กรใหญ่ๆ ประเทศนั้นค่อนข้างจะมีเศรษฐกิจในมุมมหภาคที่ดี (ไม่รู้ทฤษฎีนี้เปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน หลิ่มหลีก็ไปอยู่กับเคป๊อบเยอะไปหน่อย แฮะ แฮะ) เราต้องอุดหนุนร้านเล็กๆเพื่อเสถียรภาพของประเทศ อร๊ายยยยยย พยายามไปให้ถึงโน่นจนได้ ฮ่าๆๆๆ อีกอย่าง อันนี้สำคัญ เวลามานั่งร้านนี้ จะรู้สึก chic chic แบบลิเบอรัล เพราะร้านตกแต่งสวย น่ารัก ทำให้ หลิ่มหลีแบบว่า ดูเก๋ๆ เท่ๆ แถมเริ่มมีสมองกับเขาแล้วด้วยน้า หลิ่มหลีก็คิดในใจว่า ร้านนี้แหละ ที่จะสร้างให้ฉันเป็นลิเบอรัลที่แท้จริงได้ คิกๆๆๆ เจอกันได้นะคะ | เปิดโต๊ะบันเทิงและวัฒนธรรมแล้ว นอกจากจะเรียกร้องให้เขียนเรื่องบันเทิงๆ ที่เว็บทึมๆ แต่แรว๊งแห่งนี้ไม่ค่อยจะมีแล้ว ยังจะเรียกร้องให้มาเขียนเรื่องไลฟ์สไตล์ให้กับประชาเทยอีก หลิ่มหลีอยากบอกว่า | วัฒนธรรม | lifestyle,ก็องดิด,ประชาไทบันเทิง,หลิ่มหลี | https://prachatai.com/journal/2011/06/35450 |
พปชร.ถก กก.บห.เคาะรายชื่อ รมต.โควตาพรรค ส่ง นายกฯ 21 ก.ค.นี้ | ไพบูลย์ ย้ำ 21 ก.ค. กก.บห.พลังประชารัฐ ถกเคาะรายชื่อ รมต.โควตาพรรค ส่ง นายกฯ พร้อมเปิดตัว ยงยุทธ สมาชิกพรรคใหม่ โว เลือกตั้งครั้งหน้า ได้ ส.ส.บวก-ลบ 200 เสียงวันที่ 19 ก.ค. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า วันที่ 21 ก.ค. พรรคพลังประชารัฐ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ในเวลา 15.00 น. โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธาน ทั้งนี้ นอกเหนือจากการพิจารณาเรื่องทั่วไปแล้ว ยังมีการพิจารณาเรื่องของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/2 เพื่อมีมติให้หัวหน้าพรรคดำเนินการต่อไป ในการส่งรายชื่อให้นายกฯ พิจารณา ทั้งนี้ เป็นตามข้อบังคับพรรค ที่การเสนอรายชื่อรัฐมนตรีต้องเป็นมติกรรมการบริหารพรรค เช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ สำหรับรายชื่อรัฐมนตรี หลังหัวหน้าพรรคนำเสนอนายกฯ แล้ว จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายกฯ พิจารณา ส่วนจะเปิดเผยรายชื่อหรือไม่ หลังที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติ ขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมนายไพบูลย์ กล่าวว่า จากนั้นเวลา 16.00 น. จะเป็นการประชุม ส.ส.ที่ว่าด้วยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธและวันพฤหัสบดี และการประชุมรัฐสภาในวันศุกร์ รวมถึงเรื่องที่ ส.ส.ต้องการหารือคณะกรรมการบริหารพรรค นอกจากนี้ จะมีการเปิดตัวพล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชานิยม เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลัง กกต. ประกาศพรรคประชานิยมสิ้นสภาพ โดย พล.ต.อ.ยงยุทธ ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้ว และ พล.ต.อ.ยงยุทธ ได้ทำหนังสือเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคใหม่ขนาดใหญ่ แต่มั่นใจกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และการนำพรรคของ พล.อ.ประวิตร จะทำให้พลังประชารัฐมีเอกภาพและแข็งแกร่ง เลือกตั้งครั้งต่อไป จะเป็นพรรคอันดับ 1 ได้ ส.ส.บวก-ลบ 200 เสียง ส่วนการเตรียมความพร้อมในเลือกตั้ง ขณะนี้ได้แบ่งทีม 10 หัวหน้าภาค ที่มาจาก ส.ส.แต่ละภาค มีหัวหน้าภาค รองหัวหน้าภาค และเลขาภาค ดูแลประชาชนและการเลือกตั้งต่างๆ ในเขตพื้นที่ โดยมีกรรมการบริหารพรรคกำกับดูแล ส่วนการเลือกตั้งทัองถิ่นที่แต่ละพรรคเริ่มขยับเตรียมความพร้อมบ้างแล้วนั้น ในส่วนของพรรคเห็นว่า ยังมีเวลา และขอรอความชัดเจนจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ แต่แน่นอนพรรคต้องเฟ้นหาตัวผู้สมัคร รวมถึงตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. | ไพบูลย์ ย้ำ 21 ก.ค. กก.บห.พลังประชารัฐ ถกเคาะรายชื่อ รมต.โควตาพรรค ส่ง นายกฯ พร้อมเปิดตัว ยงยุทธ สมาชิกพรรคใหม่ โว เลือกตั้งครั้งหน้า ได้ ส.ส.บวก-ลบ 200 เสียง | ข่าว,การเมือง | พลังประชารัฐ,ไพบูลย์ นิติตะวัน,ประชุมกก.บห.พรรคพปชร.,เคาะชื่อรมต.ส่งนายกฯ,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,ครม.ประยุทธ์ 2/2,พปชร.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1892659 |
ยังไม่เลิก มือดีป่วนโซเชียล ปลอมเว็บไทยรัฐกุข่าว สเตฟาน ตาย | ทำโซเชียลป่วนอีกรอบ มือดีปลอมเว็บไทยรัฐกุข่าว อดีตพระเอกหนุ่ม สเตฟาน ฐสิษฐ์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนที่สหรัฐฯ เจ้าตัวยัน ยังไม่ตาย เผยพฤติกรรมเว็บไซต์ดังกล่าวหลอกคลิกคนดูหวังได้ยอดโฆษณา,เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 59 มีรายงานว่าบนสังคมออนไลน์ มีมือดีปลอมเว็บไซต์ไทยรัฐ และทำการเผยแพร่ข่าว ,จำกันได้ไหม พระเอกในตำนาน สเตฟาน สิ้นแล้ว รถชนดับ ค่ายข่าวระดับโลก CNN รายงานจากสหรัฐอเมริกา มีรถพ่วง, โดยเนื้อข่าวอ้างว่า มีรถบรรทุกน้ำมันเสียหลักพุ่งเข้าชนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งสวนมา พุ่งเข้าชนด้วยความเร็วประมาน 130 กม./ต่อ ชม. ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ที่สวนมาคอขาดแขนหักเสียชีวิตทันที่ในที่เกิดเหตุ ผู้ขับรถบบรทุกได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ในเวลาต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิต เป็นชาวไทยและเป็นนักแสดงชื่อดังในวงการบันเทิงอีกแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปยังสถานทูตเพื่อติดต่อญาติและนำศพไปทำตามพิธีกรรมต่อไป,จากการตรวจสอบภาพข่าวดังกล่าวพบว่าเป็นภาพที่ถูกเผยแพร่ใน,อินเทอร์เน็ต,เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นรายงานเกี่ยวกับสถิติอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงปี 2548 ไม่ใช่อุบัติเหตุของพระเอกหนุ่มแต่อย่างใด,ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา สเตฟาน ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ ได้อัพเดทผ่านอินสตาแกรม @stephan99 ว่า ฉันยังไม่ตาย ไม่ต้องกังวล ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วง,
,
,ทั้งนี้ พฤติกรรมเว็บไซต์ดังกล่าวได้เลียนแบบหน้าเว็บข่าวไทยรัฐ และมักหยิบคนดังมาอ้างว่าประสบอุบัติเหตุต่างๆ เมื่อคลิกเข้าไปจะพบว่ามีการนำสัญลักษณ์กากบาทให้ปิด เพื่อทำการอ่านข่าวอย่างสะดวก แต่กลับกลายเป็นการพาเข้าสู่เว็บไซต์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งผู้จัดทำเว็บจะได้ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาส่วนดังกล่าว,สำหรับเว็บไซต์ข่าวไทยรัฐออนไลน์ที่ถูกต้องคือ ,www.thairath.co.th, | ทำโซเชียลป่วนอีกรอบ! มือดีปลอมเว็บไทยรัฐกุข่าว อดีตพระเอกหนุ่ม สเตฟาน ฐสิษฐ์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
| null | อย่าหลงเชื่อ,เว็บ,ไทยรัฐ,ปลอม,กุข่าว,พระเอกหนุ่ม,สเตฟาน,ตาย,อุบัติเหตุ,สหรัฐอเมริกา,สายตรวจโซเชียล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath,สเตฟาน ยังไม่ตาย | https://www.thairath.co.th/content/570167 |
โพลพบ คนกรุง ข้องใจรัฐแถลงผลสอบซื้อเครื่องตรวจบึ้ม | กรุงเทพฯ- 11 มิ.ย.48สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ได้ทำการสำรวจความคิดของประชาชนที่สนใจการเมืองในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 1083 คน ในหัวข้อ ประชาชนคิดอย่างไรกับการเมืองไทยวันนี้ โดยพบว่าประเด็นทางการเมืองที่ประชาชนสนใจและเฝ้าติดตาม อันดับแรกคือ กรณีคอรัปชั่นสินบนเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX 9000 ของสนามบินสุวรรณภูมิ รองลงมาคือกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และความขัดแย้งกันภายในพรรครัฐบาล ส่วนการแถลงข่าวผลสรุป CTX 9000 โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมานั้น พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ถึง 62.35% ไม่พอใจ มีเพียง 37.65% ที่พอใจผลการแถลงดังกล่าว นอกจากนี้มีประชาชนถึง 66.38% เห็นว่าเนื้อหาไม่น่าเชื่อถือ ในขณะที่ 65.71% เห็นว่าหลักฐานที่อ้างอิงเชื่อถือไม่ได้ และอีก 56.86% ที่เห็นว่าเนื้อหาที่แถลงไม่ตรงกับที่อยากรู้ ส่วนสภาพการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้น ประชาชนผู้ตอบแบบสอบถามถึง 74.62% เห็นว่าควรจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะมีกรณีคอรัปชั่นที่ต้องตรวจสอบให้โปร่งใส โดยเฉพาะการอภิปราย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม แต่อีก 25.38% เห็นว่ายังไม่ควรมีการอภิปรายเนื่องจากรัฐบาลเพิ่งทำงานได้ไม่นาน และควรร่วมมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อน ในขณะที่ความเห็นเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น ประชาชน 54.21% เห็นว่า ยังไม่ควรปรับเนื่องจากต้องการให้เวลาการทำงานแก่รัฐบาลอีกสักพัก แต่อีก 42.59% เห็นว่าควรให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีเฉพาะในส่วนของตำแหน่ง รมว.คมนาคม | กรุงเทพฯ- 11 มิ.ย.48 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ได้ทำการสำรวจความคิดของประชาชนที่สนใจการเมืองในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 1083 คน ในหัวข้อ ประชาชนคิดอย่างไรกับการเมืองไทยวันนี้ | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/06/4391 |
แค่เป็นห่วง หนุ่มโพสต์คลิปเตือนใจนักปั่น ขี่บนถนนใหญ่ | สมาชิกเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Wissanu Naraya ได้โพสต์วิดีโอไวรัลจากกล้องหน้ารถเพื่อเตือนใจให้กับชาวนักปั่น ความยาวประมาณ 1.29 น. เป็นเหตุการณ์ชายเจ้าของเฟซบุ๊ก กำลังขับรถตามหลังกลุ่มนักปั่นจักรยานกลุ่มหนึ่ง โดยระหว่างนั้น ชายคนนี้ก็ได้กล่าวถึงกลุ่มนักปั่น ระบุว่า ไม่ได้คัดค้านการปั่นจักรยาน ผมเป็นห่วงชีวิตของพวกเรา เป็นห่วงลูกเมียและคนข้างหลัง การปั่นจักรยานออกกำลังกาย ไม่น่าจะมาปั่นในเส้นหลัก ที่มีรถสิบล้อ รถใหญ่วิ่งด้วยความเร็ว ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ความผิดทั้งหมดก็มาตกอยู่ผู้ขับรถใหญ่ สังคมไม่ให้โอกาสผู้ขับรถใหญ่ สังคมจะมองว่ารถใหญ่ผิดตลอด รถเล็กไม่ผิด การกระทำบางครั้งไม่ถูกต้อง ผมเป็นห่วงสถานภาพครอบครัวคุณในอนาคต พวกผมรายได้น้อยอยู่บนท้องถนน ขับรถชนเฉี่ยวขึ้นมา คงจะไม่มีปัญญาทำศพให้ใครเป็นล้านๆ ไม่อยากทำศพด้วย ไม่อยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้น น่าจะหาสถานที่ที่ขี่ปลอดภัยมากกว่านี้ หลังจากที่คลิปวิดีโอนี้ได้เผยแพร่ออกได้ ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากแห่แชร์คลิปวิดีโอดังกล่าวกว่า 1 หมื่นครั้ง และเข้าชมแล้วกว่า 8 แสนครั้ง พร้อมความเห็นด้วยกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้,ห่วงครับ ห่วง,Wissnu Naraya,9 ตุลาคม 2015,ล่าสุด,สายตรวจโซเชียล, ไทยรัฐออนไลน์ ได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการจราจร รองโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ถึงคลิปวิดีโอนักปั่นจักรยานดังกล่าว ได้ให้ความเห็นว่า จริงๆแล้ว ปัญหามีอยู่ว่า ในส่วนจักรยานไม่มีกฎหมายบังคับไว้ชัดเจน โดยทั่วไทยช่องกลางมันเป็นช่องด่วนที่ใช้ความเร็วสูง ถามว่าผิดไหม ต้องดูตาม พรบ.จราจราทางบก พ.ศ.2522 มาตรา139 ที่ระบุให้ กรณีเจ้าพนักงานสามารถออกประกาศข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการจราจรเรื่องความปลอดภัยได้ ซึ่งกรณีนี้ต้องดูว่า กรมทางหลวง มีออกข้อบังคับไว้หรือไม่ว่า ห้ามจักรยานปั่นช่องทางด่วนตรงกลาง ซึ่งถ้าเป็นในพื้นที่ กทม. ก็จะออกข้อบังคับควบคุมไว้อยู่แล้ว,นอกจากนี้ พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ได้ให้ข้อแนะนำเรื่องความปลอดภัยสำหรับนักปั่นจักรยานว่า ควรปั่นในพื้นที่มีแสงสว่างเพียงพอ และจักรยานเป็นรถที่มีความเร็วช้า ไม่ควรวิ่งช่องกลาง เพราะอันตรายมาก เพื่อความปลอดภัยแนะนำว่าควรวิ่งอยู่ข้างนอกเลย ในช่องทางคู่ขนานหรือไบค์เลน,แท็กที่เกี่ยวข้อง,เฟซบุ๊ก,คลิปวิดีโอ,คลิปไวรัล,คลิปวิดีโอไวรัล,นักปั่น,จักรยาน,นักปั่นจักรยาน,ความปลอดภัย,อุบัติเหตุ,เป็นห่วง,ข่าว,ข่าวด่วน,ข่าวไทยรัฐ,โซเชียล,สายตรวจโซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,thairath,ข่าวแนะนำ,Most Viewed | สมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอไวรัล เตือนใจนักปั่นจักรยาน ให้ระมัดระวังความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนน ซึ่งอาจเกิดอุบัตเหตุได้ | null | เฟซบุ๊ก,คลิปวิดีโอ,คลิปไวรัล,คลิปวิดีโอไวรัล,นักปั่น,จักรยาน,นักปั่นจักรยาน,ความปลอดภัย,อุบัติเหตุ,เป็นห่วง,ข่าว,ข่าวด่วน,ข่าวไทยรัฐ,โซเชียล,สายตรวจโซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,thairath | https://www.thairath.co.th/content/531689 |
ยิ่งลักษณ์ ชี้เป็นไปตามคาด หลัง สนช. มีมติถอดถอน | วันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ย่ิงลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติถอดถอน 190 : 18 เสียง ว่า ,เรียนพี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน เป็นไปตามความคาดหมาย ที่ สนช.ได้มีมติ ถอดถอนดิฉันออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี และอัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องดิฉัน ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ดิฉันขอแถลง ดังนี้,ดิฉันขอยืนยันและมั่นใจในความบริสุทธิ์ของดิฉัน และขอขอบคุณเสียงส่วนน้อย ที่ยังคงยึดมั่นในหลักการและความเที่ยงธรรม ซึ่งในกระบวนการต่างๆ ได้ลิดรอนและตัดสิทธิขั้นพื้นฐานของดิฉัน ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่พึงได้รับ,ดิฉันขอยืนยันว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ดี ไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด สำหรับตัวเลขความเสียหายที่พยายามจะยัดเยียดให้ดิฉันนั้น ก็เป็นเพราะความมีอคติต่อตัวดิฉัน และนำชาวนามาเป็นเครื่องมือในการทำลายล้างทางการเมือง,ดังที่ดิฉันได้เคยกล่าวถึงความเป็นประชาธิปไตยในประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2556 ณ เมืองอูลัน บาตอ ประเทศมองโกเลีย ว่า ดิฉันนั้นต้องการเห็นความปรองดองเกิดขึ้นในประเทศไทย และประชาธิปไตยของไทย พัฒนาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยหลักนิติธรรม และกระบวนการทางกฎหมายที่แข็งแรง มีขั้นตอนที่ชัดเจน โปร่งใส และเมื่อนั้นทุกคนจะสามารถมั่นใจได้ว่า เขาจะได้รับการดูแลที่ยุติธรรม,ดิฉันยังคงยืนยัน ในคำพูดดังกล่าว แม้ว่าวันนี้ประชาธิปไตยไทยได้ตายไปแล้ว พร้อมกับหลักนิติธรรม แต่ขบวนการทำลายล้างยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังที่ดิฉันได้ประสบอยู่ขณะนี้,อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียใจ และเป็นเรื่องที่ไม่อยากจะเชื่อว่า มีเหตุการณ์บังเอิญต่างๆ มากมาย ตามที่ดิฉันได้แถลงปิดสำนวนไปเมื่อวานนี้ และเป็นการบังเอิญที่ไม่ใช่ความบังเอิญ อีกครั้งหนึ่ง คือ ก่อนเวลาที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะเริ่มลงมติถอดถอนเพียง 1 ชั่วโมง อัยการสูงสุดก็ได้แถลงสั่งฟ้องดิฉัน ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก่อให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ทั้งๆ ที่หัวหน้าคณะผู้แทนอัยการสูงสุด ยืนยันว่า ยังต้องพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ของคดีต่อไป องค์กรอัยการ ซึ่งเป็นองค์กรที่สร้างความน่าเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรมมายาวนาน กลับต้องถูกตั้งข้อสงสัยในประเด็นนี้ค่ะ,ทั้งนี้ การปฏิบัติหน้าที่ของดิฉัน ในฐานะนายกรัฐมนตรี ตลอดระยะเวลา 2 ปี 9 เดือน 2 วันนั้น ดิฉันตั้งใจทำงานด้วยความทุ่มเทที่จะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม อย่างไม่เลือกปฏิบัติ และดิฉันภูมิใจที่ช่วงหนึ่งในชีวิต ได้ทำให้พี่น้องชาวนาและคนยากจน ได้ลืมตาอ้าปาก และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น,แม้ในวันนี้ ดิฉันไม่มีตำแหน่งอะไรเหลืออยู่แล้ว ยังคงเหลือแต่คดีความ ที่ถูกยัดเยียดไว้ให้ ที่ต้องไปสู้คดีในชั้นศาลต่อไป,คำว่า ความปรองดอง จะเกิดขึ้นได้ ต้องไม่ใช่การไล่ล่าคนใดคนหนึ่ง แต่หมายถึงความเป็นกลาง ที่ต้องอำนวยความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย เมื่อความเป็นธรรมเกิด ความยุติธรรมก็จะตามมา การยอมรับ ความสงบ ความสามัคคีก็จะมีขึ้นในสังคมไทย เพราะเราเป็นคนไทยเหมือนกัน แทนที่เราจะหันหน้าเข้าหากัน แล้วร่วมกันทำให้ประเทศของเราเข้มแข็ง แต่กลับสร้างความจงเกลียดจงชังให้แก่กัน ไล่ล่าเพื่อให้ไม่มีที่ยืน สุดท้ายคนที่เสียหายก็คือประเทศของเรา,ดิฉันรันทดใจ ไม่ใช่เพราะดิฉันถูกกลั่นแกล้ง และประสบชะตากรรมที่ไม่เป็นธรรม แต่ดิฉันเสียใจแทนชาวนา และประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่ต้องสูญเสียโอกาส ต้องกลับไปอยู่ในวังวนของความยากจน มีหนี้สิน ถูกเอารัดเอาเปรียบ และสูญเสียความเป็นประชาธิปไตยขั้นพื้นฐาน ตลอดจนกฎหมายถูกบิดเบือน,สุดท้ายนี้ ดิฉันก็หวังว่าผู้ที่เป็นฝ่ายอำนวยความยุติธรรมของประเทศ จะไม่ปล่อยให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ไม่รักษากติกาประชาธิปไตย และไม่รักษาหลักนิติรัฐ นิติธรรม มาชี้นำใดใดอีก ดังที่มีนักวิชาการกล่าวว่า ไม่มียิ่งลักษณ์ คนไทยยังอยู่กันได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ถ้าไม่มีความยุติธรรมหลงเหลืออยู่ ในระบบการปกครองของไทยแล้ว คงไม่มีใครอยู่ได้,อย่างไรก็ตาม ดิฉันขอยืนยันว่า ดิฉันจะต่อสู้จนถึงที่สุด เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของดิฉันไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร และที่สำคัญ คือ ดิฉันจะขอยืนหยัด อยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนคนไทย เราต้องร่วมกันนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ประเทศ ทำให้ระบอบประชาธิปไตยของเรากลับคืนมา และสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างแท้จริง | ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลั่นต่อสู้ถึงที่สุด ชี้เป็นไปตามคาดหมาย หลัง สนช. มีมติถอดถอน มั่นใจบริสุทธิ์ จำนำข้าวไม่สร้างความเสียหาย
| null | ย่ิงลักษณ์ ชินวัตร,สนช.,ถอดถอน,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์,ศาลฎีกา | https://www.thairath.co.th/content/476645 |
พล.อ.ประยุทธ์เปิดเลนจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ | ก็มีผู้ทวิตภาพเลนจักรยานถูกรถบัสมาจอดรอรับนักท่องเที่ยว29 ธ.ค. 2557 - เมื่อเวลา 07.00 น. วันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค. รายงานว่า ที่ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ตามนโยบายรัฐบาลในการจัดทำช่องทางจักรยานและส่งเสริมการใช้จักรยาน เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ลดปัญหาการจราจร ปัญหามลพิษและสภาพแวดล้อมในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ที่ส่งผลกระทบต่อความสวยงามของโบราณสถานที่สำคัญของชาติทำให้เสื่อมโทรมก่อนเวลาอันควร รวมทั้งสนับสนุนการท่องเที่ยวและการออกกำลังกาย เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2558 ให้กับประชาชนโดย พล.อ.ประยุทธ์ ยังร่วมปั่นจักรยานในเส้นทาง โครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร จัดโดยกรุงเทพมหานคร โดยมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะรัฐมนตรี พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกระทรวง กรมและกรุงเทพมหานคร ผู้แทนผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บริหารภาครัฐ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคีเครือข่ายและสื่อมวลชนเข้าร่วมงานทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวรายงานถึงการจัดโครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานฯ สรุปว่า กทม.ได้เริ่มดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้จักรยานมาตั้งแต่ปี 2551 โดยจัดทำโครงการจักรยานชมกรุงรัตนโกสินทร์และเส้นทางจักรยาน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ด้วยจักรยาน จากนั้นได้มีการขยายเส้นทางจักรยานไปยังฝั่งธนบุรี รวมถึงเส้นทางอื่น ๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบัน กทม. มีเส้นทางจักรยานรวม 31 เส้นทาง ระยะทาง 232 กิโลเมตร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานแทนการใช้รถยนต์เพื่อการสัญจร ลดปัญหามลพิษบนถนน ทั้งในปี 2557 กทม.ได้ดำเนินการปรับปรุงเส้นทางจักรยานที่มีอยู่บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้มีเส้นทางจักรยานที่ปลอดภัย กทม.จึงได้เร่งพัฒนาเส้นทางจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในปี 2558 โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1. ดำเนินการปรับปรุงเส้นทางจักรยานจำนวน 12 เส้นทาง ระยะทางรวม 8 กิโลเมตร ได้แก่ 1) ถนนมหาไชย 2) ถนนตะนาว 3) ถนนกัลยาณไมตรี 4) ถนนสนามไชย 5) ถนนท้ายวัง 6) ถนนมหาราช 7) ถนนหน้าพระลาน 8) ถนนหน้าพระธาตุ 9. ถนนราชินี 10) ถนนพระอาทิตย์ 11) ถนนพระสุเมรุ 12 ถนนบวรนิเวศ ระยะที่ 2. จะดำเนินการปรับปรุงเพิ่มอีก 5 เส้นทาง ในปี2558 ระยะทางรวม 10 กิโลเมตร ได้แก่ ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนอรุณอัมรินทร์ ถนนพระสุเมรุ (ต่อขยาย) ถนนสนามไชย (ต่อขยาย) และถนนราชดำเนินสำหรับการดำเนินการปรับปรุงเส้นทางจักรยานดังกล่าวเป็นการปรับปรุงด้านกายภาพ อาทิ ปรับผิวจราจรให้มีความเรียบ ปรับระดับรางรับน้ำและฝ่าท่องระบายน้ำ ปรับช่องทางเดินถนให้มีความเหมาะสม ปรับช่องทางจักรยานให้มีความชัดเจน เปลี่ยนตะแกรงฝาบ่อพักเป็นแนวขวาง รวมทั้งตีเส้นจราจรช่องทางจักรยานเป็นเส้นคู่และทาสีพื้นผิวช่องจักรยานเป็นสีเขียว ติดตั้งสัญลักษณ์ทางจักรยานและอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย เป็นต้นโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามของรัฐบาลรู้สึกยินดีที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานในพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่ง กทม. ได้มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในปี 2558 และถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ในการใช้จักรยานให้ปลอดภัยและมีความสุข ทั้งนี้จากการที่ กทม. ได้ดำเนินการพัฒนาเส้นทางจักรยานมาอย่างต่อเนื่องนั้น ก็จะมีการดำเนินการทุกอย่างให้เกิดผลเป็นรูปธรรมให้มากยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันการใช้จักรยานได้รับความนิยมจากประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ฉะนั้นรัฐบาลพร้อมสนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้จักรยานอย่างปลอดภัยในการเดินทางในชีวิตประจำวัน และเพื่อการออกกำลังกายให้มากขึ้นขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในหลายประเทศที่พัฒนาแล้วได้มีแบบอย่างที่ดีในการใช้จักรยานอย่างปลอดภัย ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์และปรับใช้กับประเทศไทยได้ เพราะการใช้จักรยานนอกจากจะประหยัดยังสามารถลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ลดมลภาวะทางอากาศ ทางเสียง และเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งทำให้บ้านเมืองน่าอยู่ ทั้งนี้รัฐบาลมีแนวคิดสนับสนุนส่งเสริมการใช้จักรยานอย่างยั่งยืนโดยการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้จักรยานอย่างแท้จริง รวมทั้งจัดทำที่จอดรถจักรยาน และการจัดทำเส้นทางจักรยานที่ปลอดภัยเพื่อการคมนาคมและการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ต้องขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนในการเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ตลอดจนระมัดระวังผู้ที่ขี่จักรยาน รวมทั้งช่วยกันสร้างจิตสำนึกการเคารพกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎจราจรเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งจะสามารถส่งเสริมให้คนหันมาใช้จักรยานในชีวิตประจำวันกันได้มากขึ้นในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร ตลอดจนภาคีเครือข่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชน ที่ได้ร่วมกันจัดโครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานฯ และร่วมกันแสดพลังรณรงค์สนับสนุนส่งเสริมการใช้จักรยานในวันนี้ พร้อมขอให้มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน และการใช้จักรยานอย่างปลอดภัยให้ประชาชนได้รับทราบจากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการที่จัดแสดงไว้ ณ บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ พร้อมร่วมปั่นจักรยานในเส้นทาง โครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร รวม 12 เส้นทางดังกล่าว รวมทั้งได้ทำพิธีปล่อยขบวนแรลลี่จักรยาน โครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ก่อนเดินทางกลับอย่างไรก็ตาม ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ทำพิธีเปิดใช้ทางในช่วงเช้าได้ไม่นานผู้ใช้ทวิตเตอร์บัญชี @StickboyBangkok ได้โพสต์รูปเลนจักรยาน กลายเป็นที่จอดรถบัสสำหรับทัศนาจรThe new cycle lane around Rattanakosin opened this morning and by 10am — Stickboy Bangkok (@StickboyBangkok) | นายกรัฐมนตรี-ผู้ว่า กทม. ร่วมปั่นจักรยานเป็นระยะทาง 8 กม. เพื่อเปิดเลนจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ตามนโยบายส่งเสริมการใช้จักรยาน อย่างไรก็ตามหลัง พล.อ.ประยุทธ์ มาเปิดได้ไม่นาน | คุณภาพชีวิต,วัฒนธรรม,สังคม,กีฬา | กรุงเทพมหานคร,จักรยาน,ชีวิตดีดี,ทางจักรยาน,ท้องถิ่น,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,สุขภาวะ,สุขุมพันธุ์ บริพัตร,ฮิปสเตอร์,เกาะรัตนโกสินทร์ | https://prachatai.com/journal/2014/12/57173 |
เคน-อัลลี ควงเบิ้ล ไก่เดือยทอง บุกถล่ม แตนอาละวาด 4-1 | การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016-17 ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 ม.ค. คู่ที่น่าสนใจ แตนอาละวาด วัตฟอร์ด อันดับ 12 ของตาราง เปิดสนามวิคาเรจ โรด รับการมาเยืือนของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ อันดับ 5 ของตาราง,เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 27 สเปอร์ส ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ คีแรน ทริปเพียร์ ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนจ่ายทะลุเข้าเขตโทษให้ แฮร์รี เคน ยิงยัดเสาแรกเข้าไปตุงตาข่าย,จากนั้นนาทีที่ 33 สเปอร์ส หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ คีแรน ทริปเพียร์ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ และเป็น แฮร์รี เคน สอดมาแหย่ขายิงเข้าประตูไป,เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 41 สเปอร์ส นำห่าง 3-0 แฮร์รี เคน พาบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษ ยูเนส กาบูล สกัดบอลไม่ดีมาเข้าทาง เดเล อัลลี ยิงเข้าไปไม่เหลือซาก ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 46 สเปอร์ส นำห่างเป็น 4-0 แฮร์รี เคน เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ บอลเลยมาถึง เดเล อัลลี เก็บบอลได้ก่อนยิงสวนตัว โกเมส นายด่านของวัตฟอร์ด เข้าไปอย่างเลือดเย็น,เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+2 วัตฟอร์ด ได้ประตูตีไข่แตกเป็น 1-4 จาก ยูเนส กาบูล แต่ก็ไล่ไม่ทัน จบเกม ทอตแนม ฮอตสเปอร์ บุกมาชนะ วัตฟอร์ด 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 39 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ชั่วคราว | แฮร์รี เคน กับ เดเล อัลลี ทำคนละ 2 ประตู ช่วยให้ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ บุกมาชนะ แตนอาละวาดวัตฟอร์ด ไป 4-1 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ | null | พรีเมียร์ลีก,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,วัตฟอร์ด,ข่าวกีฬา,ผลบอล | https://www.thairath.co.th/content/826102 |
โลกเริ่มจะอยู่ยากขึ้นทุกวัน | ที่ต้องการให้ อังกฤษแยกตัวจากอียู ย้อนไปเมื่อ 4–5 ปีที่มีการลงมติแยกตัวจาก สหภาพยุโรป ของชาวอังกฤษ ปลุกกระแสอนุรักษนิยม คนรุ่นเก่าของอังกฤษเกรงว่า จะต้องเสียเปรียบเอารายได้ส่วนหนึ่งไปช่วยผู้อพยพ ต้องไปช่วยประเทศที่มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจต้องยอมแก้ไขสนธิสัญญาบางอย่างให้กับประเทศอาณานิคม เลยเกิดกระแสต้องการแยกตัวออกมา ในขณะที่คนรุ่นใหม่ต้องการให้อยู่ในอียูต่อไปเพราะไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของอังกฤษและกระแสโลกาภิวัตน์ในอนาคต วันนี้คนอังกฤษเริ่มที่จะดวงตาเห็นธรรม เลยไม่อยากจะแยกตัวจากสหภาพยุโรปเสียแล้ว,ประเทศไทย ที่ใกล้จะเห็นแสงสว่าง มีการจัดการเลือกตั้ง ในปีนี้แน่นอน เริ่มจะเนื้อหอมขึ้นมาบ้างแล้ว มีข่าวว่า ทาง สหรัฐฯและ เกาหลีเหนือ ที่จะกำหนดมีการพูดคุยเจรจาสันติภาพรอบใหม่ สนใจที่จะใช้ กรุงเทพมหานคร ของประเทศไทย เป็นสถานที่ในการพบปะเจรจาระหว่างสองผู้นำ นักข่าวเอาเรื่องนี้ไปถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ได้คำตอบว่าเราไม่ขัดข้อง แต่ตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อมา ทัศนวิสัย ของประเทศไทยเวลานี้เริ่มจะดีขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่คนไทยต้องปรับเปลี่ยน ทัศนคติ มองโลกในแง่ดีให้มากขึ้น,สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้พยายามทำและทำแล้วได้ผลก็คือเรื่องของ การปลดล็อกมาตรการตอบโต้จากประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ปลดล็อกการบิน ล่าสุด พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ ได้เข้าพบกับ คาร์เมน เวลลา กรรมาธิการยุโรปด้านสิ่งแวดล้อม กิจการทางทะเล และประมง ที่ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ประกาศ ปลดใบเหลืองประมง ไอยูยูของไทย เป็นประเทศเดียวที่ได้รับการพิจารณาในครั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยได้แก้ไขและพยายามปฏิบัติตามหลักประมงสากลตามหลักเกณฑ์มาตรฐานเป็นที่เรียบร้อย,ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน,ต่อจากนี้ไปในภาวะ สงครามเศรษฐกิจโลก เราต้องตั้งตนอยู่ในความระมัดระวังไม่ประมาท อย่างที่รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พูดเอาไว้ถึงความเสี่ยงจากผลกระทบสงครามเศรษฐกิจของประเทศไทยมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันคือ ความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก ที่อยู่นอกเหนือความควบคุม โดยเฉพาะบทบาทประธานาธิบดีสหรัฐฯของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศนโยบาย อเมริกา เฟิสต์ ต่อไปนี้อะไรก็เกิดได้ทั้งนั้น,ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีผลกระทบทั้งด้านการส่งออก ตลาดหุ้นตลาดทุน ความมั่นคงทางเศรษฐกิจหายไปทันที ความอึมครึมทางเศรษฐกิจ และสุดท้ายบวกกับ ความอึมครึมทางการเมือง ก่อนและหลังการเลือกตั้ง สำหรับประเทศไทยอาจจะต้องเจอถึงสองเด้ง,ในวิกฤติยังมีโอกาสที่ประเทศไทยจะประคับประคองให้ผ่านมรสุมไปได้ เนื่องจากประเทศไทยมีการวางแผนในการพัฒนาเศรษฐกิจก้าวไปสู่อีกยุค มีการลงทุนโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่มากมาย เป็นของใหม่ที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ เหลือเพียงแค่ช่วยกันสร้างสรรค์ให้การเลือกตั้งผ่านไปได้อย่างราบรื่น ให้การเมืองนิ่งเท่านั้น.,หมัดเหล็ก,[email protected], | ผลสำรวจครั้งล่าสุดของ ยูกอฟ สำนักโพลอังกฤษ พบว่า หากมีการลงประชามติวันนี้อีกครั้ง ชาวอังกฤษ จำนวนมากถึงร้อยละ 46 จะลงมติให้ อังกฤษรวมตัวกับอียูต่อไป มีแค่ร้อยละ 35 | null | เลือกตั้ง62,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,ฉัตรชัย สาริกัลยะ,คาบลูกคาบดอก,หมัดเหล็ก | https://www.thairath.co.th/news/politic/1467249 |
อภิรัชต์ ย้ำ ทบ. ปรับลดงบแล้ว เปรย คนไม่เข้าใจทำอย่างไรก็ไม่เข้าใจ | วันที่ 8 ก.ค. 2563 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์กรณีการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ต้องการให้กระทรวงกลาโหม ปรับลดงบประมาณโดยเฉพาะการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ว่า กองทัพบกปรับลดไปแล้ว บางอย่างเป็นงบประมาณผูกพัน แต่บางครั้งคนไม่เข้าใจทำอย่างไรก็ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะคนอยู่ฝ่ายตรงข้าม และตนก็ไม่เข้าไปยุ่งกับฝ่ายการเมือง แต่กองทัพบกก็มีหน้าที่เข้าไปชี้แจงต่อประเด็นปัญหาข้อที่ยังขัดข้อง ส่วนคนที่อยู่ฝ่ายค้านก็ต้องค้านทุกเรื่องฝ่ายค้าน ค้านทุกเรื่อง เรื่องที่รัฐบาลทำถูกก็ค้านก็เป็นธรรมดา ดูได้จากการลงคะแนนในรัฐสภา ก็เป็นหน้าที่ของนักการเมืองที่ต้องมาคานอำนาจในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ถูกต้องตามที่เรามีฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน แต่อย่ามีฝ่ายแค้น | พล.อ.อภิรัชต์ ย้ำ กองทัพบกปรับลดงบประมาณแล้ว แต่บางอย่างเป็นงบผูกพัน ลั่น พร้อมแจงทุกประเด็น เปรย คนไม่เข้าใจทำอย่างไรก็ไม่เข้าใจ เหน็บฝ่ายค้าน ค้านทุกเรื่อง | ข่าว,การเมือง | อภิรัชต์ คงสมพงษ์,บิ๊กแดง,งบกองทัพ,งบกลาโหม,ซื้อยุทโธปกรณ์,ฝ่ายค้าน,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1885068 |
ย้ายกลับ ชัยวัฒน์ นั่ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 | ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามคำสั่งย้ายกลับ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร นั่ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 หลังพ้นข้อหาคดี พอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ รายงานว่าเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมานายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 จำนวน 9 คน โดยการโยกย้ายครั้งนี้มีคำสั่งให้นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปัตตานี (ทสจ.) สำนักงานปลัด ทส. ย้ายกลับไปดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (สบอ.) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2562 นายจตุพร ได้มีคำสั่งย้าย นายชัยวัฒน์ ผอ.สบอ.9 (อุบลราชธานี) ไปเป็นทสจ.ปัตตานี ทำให้การโอนย้ายในครั้งนี้ถือเป็นการย้ายกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมของนายชัยวัฒน์ หลังจากอัยการสั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ กับพวกรวม 4 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดฐานอื่นๆ กรณีการอุ้มฆ่านายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก–บางกลอยขณะที่ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ก่อนหน้านี้ว่า การสั่งย้ายด่วนนายชัยวัฒน์ ไม่เกี่ยวกับกระบวนการสอบสวนคดีของนายบิลลี่ โดยเรื่องนี้เป็นคำร้องขอมาจากกรมอุทยานฯ ซึ่งการที่กระทรวงฯ จะมีคำสั่งย้ายต้องได้ความยินยอมก่อน เพราะถือเป็นอำนาจของปลัด ทส. ส่วนการที่อัยการไม่ส่งฟ้องก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ไม่มีผลต่อการย้ายนายชัยวัฒน์ ไปเป็น ทสจ.ปัตตานีว่าจะต้องย้ายกลับคืนไปที่ สบอ.9 (อุบลราชธานี) เหมือนเดิม เพราะเป็นการย้ายไปในระดับ 9 ในตำแหน่งที่ว่างลง ไม่ใช่ย้ายไปช่วยราชการ | ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามคำสั่งย้ายกลับ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร นั่ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 หลังพ้นข้อหาคดี พอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นายชัยวัฒน์ | การเมือง,สังคม,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต | ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร,พอละจี รักจงเจริญ,บิลลี่ | https://prachatai.com/journal/2020/02/86166 |
แจวเหนื่อยสู้เท้าราน้ำ | กับคำถามร้อนๆประเด็นที่ประดังเข้าใส่ นักข่าวรุมสัมภาษณ์ นายกฯลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยิงสารพัดปมตอบยาก,ระเบิดป่วนเมืองเหตุมาจากนายกฯคุมความมั่นคงเบ็ดเสร็จทั้งทหาร ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือไม่ โยงการเมืองที่พรรคพลังประชารัฐหาเสียง เลือกความสงบจบที่ลุงตู่ หรือเปล่า,วิตกกังวลอย่างไรกับการที่ฝ่ายค้านจ่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีนายกฯ และ ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ลัดคิวก่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563,แรงกระแทกถาโถมประดังประเด ตั้งแต่รัฐบาลยังไม่ทันตั้งลำ,ตามรูปการณ์มันก็ไม่แปลก โฟกัสในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ขณะร่วมงานที่โรงเรียนนายร้อย จปร. นายกฯได้ย้อนถามสื่อมวลชนว่ามีความสุขหรือไม่หากประเทศมีความขัดแย้ง,ขอให้ทุกคนรักประเทศให้มาก ต้องให้คนรุ่นหลังได้ซึมซับสิ่งดีๆ,ผมไม่อยากเป็นตัวอย่างให้กับใครในการเข้ามาอยู่จุดนี้ และเชื่อว่าทุกคนก็ทราบเหตุผลที่เข้ามาและเมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ขออย่าเอาเรื่องต่างๆเชื่อมโยงกับที่ผ่านมา จะไม่สามารถเดินหน้าเรื่องใดได้,ฉากหน้าขึงขัง แต่หยั่งอารมณ์ลึกๆ บิ๊กตู่ น่าจะ ใจแป้ว,และนั่นก็ไม่ต้องพูดถึงธรรมชาติพวกอ่อนไหวง่าย ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ เจอบรรยากาศแบบนี้ขวัญหนีดีฝ่อกันหมด,สุดท้ายประชาชนคนไทยนั่นแหละได้รับผลสะเทือนมากสุด,เพราะเรื่องความมั่นใจในบรรยากาศการลงทุนของประเทศกว่าจะฉุดกลับมาได้ มันไม่ใช่ง่ายๆ แค่ 1-2 วัน ตามสถานการณ์ล่าสุดที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ยังยืนยันภายหลังนายชินจิ นาคาโนะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ เข้าพบที่ทำเนียบฯ ย้ำนักลงทุนญี่ปุ่นเชื่อมั่นประเทศไทย ภายหลังการเมืองชัดเจน และรัฐบาลไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลักเช่นไทยแลนด์ 4.0,แม้จะเป็นรัฐบาลผสม แต่ทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน,กระนั้นก็ยังไม่วายเจอกับคำถาม ฝ่ายค้านวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เหมาะสมที่จะเป็นประธาน ครม. เศรษฐกิจ ซึ่งนายสมคิดก็ต้องเคลียร์นิ่มๆอีกว่า เป็นความคิดของเขา แต่ประเทศไทยจะเดินหน้าได้ทุกอย่างอยู่ในทิศทางที่ชัดเจนและมีพลัง ไม่มีสิ่งใดจะเดินหน้าได้ ถ้าหากนายกฯไม่สนับสนุน,ฝ่ายแจวก็ออกแรงเหนื่อยเต็มที่ แต่พวกมือไม่พายก็เอาเท้าราน้ำตลอด,เอาเป็นว่า เหตุตูมตามป่วนเมือง เบื้องต้นประเมินตามฉาก ไปป์บอมบ์ ซุกอยู่ตามพุ่มไม้ วางในจุดห่างไกลผู้คน ไม่ได้มุ่งทำลายล้างชีวิตผู้คนในลักษณะก่อการร้ายรุนแรง,ชัดเจนว่า เป้าหมายแค่แกล้งปั่นป่วนให้วุ่นวาย,และถึงแม้จะจับตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางวัตถุสร้างสถานการณ์หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นคนมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มันก็มองได้ในมุมแค่สร้างฉากสมจริงสมจัง เบนความสนใจให้เป็นเรื่องของกลุ่มก่อความไม่สงบขึ้นมาก่อการให้ดูน่าสะพรึง,ซึ่งเอาเข้าจริงผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน มีโทษมากสุดก็แค่ป่วนสถานการณ์,ระเบิดการเมือง ถ้าไม่ตื่นตูมจนเกินเหตุ เข้าทางไอ้ชั่วที่คนทั่วบ้านทั่วเมืองเรียกชื่อ ไอ้ระยำ โดยไม่รู้ว่าฝั่งตรงข้ามต้องการดิสเครดิตรัฐบาล หรือฝั่งเดียวกันที่หมั่นไส้ บิ๊กตู่ เหมาทหาร ตำรวจหมด เลยอดเกาะขบวนอำนาจและผลประโยชน์,มันก็เหมือน ประทัดวันลอยกระทง บึมบำกันตามเทศกาล,โดยจังหวะสถานการณ์เปลี่ยนถ่ายอำนาจ จากรัฐบาล คสช.ที่ผู้นำถือดาบมาตรา 44 มาเป็นนายกฯจากการเลือกตั้ง แถมยังมีการยกเครื่องด้านความมั่นคงครั้งใหญ่ โดย บิ๊กตู่ คุมเกมแทน บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ทั้งกลาโหม ตำรวจ ดีเอสไอ,ระเบิดตูมตามเดี๋ยวก็ซาไป แต่แนวโน้มที่ส่อจะลากเกมเล่นกันไม่เลิกก็คือปมล่อแหลม เรื่องนายกฯและ ครม.ถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จับอาการ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะจุดเริ่มจากนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ดูเอาจริงเอาจังกับประเด็นนี้อย่างมาก,แสดงตนปกป้องบรรทัดฐานการปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณี,ตรงกันข้ามกับพฤติการณ์หมิ่นเหม่สถาบัน สังคมข้องใจการกระทำที่มิบังควรหลายๆกรณี,แต่จับทางฝั่งรัฐบาล ท่าทีแบบที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯพูดตัดบท สักวันหนึ่งจะรู้ว่าทำไมไม่ควรพูด ขณะที่ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์สำทับชัดๆ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญในการดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย ที่สำคัญที่สุดเป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการ ซึ่งพระองค์ท่านรับสั่งมาให้ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ตรงกับรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าทำเพื่อประชาชนทั้งเพื่อประเทศ,คิดว่าเรื่องนี้ควรจบดีกว่า อย่าให้บานปลาย,ใครหวังดี ใครประสงค์ร้าย จับไต๋กันตื้นๆเลย.,ทีมข่าวการเมือง | เปิดวันทำการต้นสัปดาห์มาก็เจอแบบรัวๆเลย กับคำถามร้อนๆประเด็นที่ประดังเข้าใส่ นักข่าวรุมสัมภาษณ์ นายกฯลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยิงสารพัดปมตอบยาก | ข่าว,การเมือง | เท้าราน้ำ,ประเด็นร้อน,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ระเบิดป่วนกรุง,ถวายสัตย์ไม่ครบ,ทีมข่าวการเมือง,วิเคราะห์การเมือง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1631133 |
เลือกหุ้นที่ยัง laggard | หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด AOT ปิด 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท, PTT ปิด 466 บาท ลบ 2 บาท, BANPU ปิด 20.50 บาท ลบ 0.30 บาท, SCB ปิด 150 บาท บวก 2 บาท และ KBANK ปิด 241 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง,บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุมีแรงซื้อขายกระจุกตัวในหุ้นตัวใหญ่รายตัว นำโดย AOT-PTT-BANPU-KBANK-BAY ทำให้มองว่าเม็ดเงินที่กระจุกตัวในหุ้นไม่กี่ตัวอาจทำให้ดัชนีผันผวนและพร้อมจะถูกเทขายทำกำไรออกมาได้ทุกเมื่อ,ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาไม่ฟื้นตัวร้อนแรง ช่วยผ่อนคลายแรงกดดันต่อการปรับขึ้นอัตรานโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ขยับบวกต่อเนื่อง,ระยะสั้นประเมินว่า หุ้นไทยมีโอกาสพักฐาน จากแรงขายทำกำไรในหุ้นที่มีการซื้อขายกระจุกตัว ทำให้มีการปรับขึ้นและลงแรง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายต่อเนื่อง ส่วนนักลงทุนสถาบันที่ซื้อมาตลอด ก็มีโอกาสที่จะขายทำกำไรออกมาได้เช่นกัน,แนะกลยุทธ์ให้เก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง มีวินัย โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ชัดเจน ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 1,785-1,770 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,815 จุด,ขณะที่ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกเดินหน้าทำนิวไฮไม่หยุด โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นไม่หยุดเลยตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนอังกฤษก็ทำ New High ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮั่งเส็งของฮ่องกง ทำ New High ในรอบกว่า 10 ปี ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 27 ปี,ขณะที่ตลาดหุ้นไทยรวมทั้งกลุ่ม TIP อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ทำ All Time High ไปแล้ว สภาพตลาดแบบนี้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังสูง เพราะอาจมีแรงขายหุ้นที่มีราคาแพง ที่มีพี/อีฯสูง และ upside จำกัดออกมา,ดังนั้น หุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำจึงเหมาะกับภาวะตลาดกระทิงแบบนี้ นั่นก็คือหุ้นที่ราคายัง laggard เมื่อเทียบกับ SET Index เอเซียพลัสจึงคัดหุ้นที่ยัง laggard มา 17 หุ้นให้พิจารณาศึกษาข้อมูล,ดังนี้ PTTEP-RATCH-EGCO-BANPU-LH-BH-BCH-PSH-BKI-GLOW-SCC-SCB-STEC-CK-TPIPL-CPFและBA,อินเด็กซ์ 51 | ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 8 ม.ค. 61 ปิดที่ 1,792.81 จุด ลดลง 2.64 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 78,350.59 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,331.76 ล้านบาท | null | ดัชนีหุ้นไทย,ซื้อหุ้น,หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด,กลยุทธ์ลงทุน,เงาหุ้น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/stocks-gold/1172283 |
รัสเซียฉลองวันชนะสงครามโลก จัดพาเหรดแสดงแสนยานุภาพกองทัพ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 9 พ.ค. กองทัพของประเทศรัสเซีย จัดงานเดินขบวนพาเหรดแสดงแสนยานุภาพกองทัพของพวกเขาที่จัตุรัสแดง ในกรุงมอสโก เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวันครบรอบ 72 ปีแห่งชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์กว่า 100 ชนิด,ตามรายงานของสำนักข่าว สปุทนิค ของรัสเซีย ในงานพาเหรดกองทัพรัสเซียได้เผยโฉมระบบต่อต้านอากาศยานรุ่นใหม่ สำหรับปฏิบัติภารกิจในสภาพอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ซึ่งรวมถึงมิสไซล์ที่ติดภาพหมาป่าขั่วโลกเอาไว้ด้วย โดยรัสเซียกำลังเพิ่มกิจกรรมทางทหารในขั้วโลกเหนือ เพื่อแข่งขันควบคุมทรัพยากรในภูมิภาคนี้กับสหรัฐฯ, แคนาดา และนอร์เวย์,นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงขีปนาวุธข้ามทวีป ยาร์ส อาร์เอส-24 ด้วย แต่ไม่มีการนำเครื่องบินบินผ่านตามกำหนดการ เนื่องจากมีเมฆมาก,ทั้งนี้ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้กล่าวสุนทรพจน์เรื่องในวันแห่งชัยชนะว่า สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สอนรัสเซียให้ระแวดระวังและเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีใดๆ แต่เขายังเรียกร้องให้นานาชาติรวมเป็นหนึ่งเดียวในการต่อสู้กับการก่อการร้ายด้วย กองทัพของเราสามารถตอบโต้การโจมตีได้ทุกรูปแบบ แต่การต่อสู้กับการก่อการร้าย, ลัทธินาซี และกลุ่มหัวรุนแรง อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีความสามัคคีของประชาคมนานาชาติ และเรากำลังเสริมความเข้มแข็งในเรื่องนั้น,อนึ่ง รัสเซียเป็นประเทศที่ให้งบประมาณกองทัพมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และจีน โดยในปี 2016 พวกเขาใช้จ่ายงบประมาณไปกับกองทัพถึง 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2.4 ล้านล้านบาท) | กองทัพรัสเซียจะพาเหรดแสดงแสนยานุภาพกองทัพเนื่องในวันครบรอบการชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์กว่า 100 ชนิด ขณะที่ประธานาธิบดีปูตินเรียกร้องให้โลกร่วมมือกันสู้กับการก่อการร้าย | ข่าว,ต่างประเทศ | รัสเซีย,วันแห่งชัยชนะ,สงครามโลกครั้งที่ 2,แสดงแสนยานุภาพ,วลาดิเมียร์ ปูติน | https://www.thairath.co.th/news/foreign/936527 |
ความเป็นสมัยใหม่ในความคิดทางสังคมของพุทธศาสนา (3) | ในประวัติศาสตร์ความขัดแย้งทางการเมืองเกือบสิบปีมานี้ มีการอ้างความคิดของท่านพุทธทาสในทางการเมืองมากเป็นพิเศษ แต่ส่วนมากเป็นการยกมาอ้างเฉพาะข้อความที่ท่านวิพากษ์จุดอ่อนประชาธิปไตย ไม่ได้อ้างความคิดหลักที่ท่านเสนอ เช่นที่ท่านเสนอแนวคิด ธรรมิกสังคมนิยม คนที่อ้างพุทธทาสไม่ได้อ้างเพื่อสนับสนุนแนวคิดเชิงอุดมคตินี้พูดตรงๆ คืออ้างบางคำพูดของท่านพุทธทาสเพื่อปฏิเสธ เสรีประชาธิปไตย หรือเพื่อสนับสนุน ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ไม่ใช่อ้างเพราะยอมรับหรือสนับสนุนแนวคิดธรรมิกสังคมนิยมของท่าน เหมือนที่อ้างจอห์น ล็อกว่า ประชาชนมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะโค่นล้มรัฐบาลทรราชได้ แต่กลับข้ามความคิดหลักของล็อกไปว่า ข้ออ้างนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลนั้นทำลายสิทธิตามธรรมชาติของประชาชนเท่านั้น จะใช้อ้างเพื่อล้มล้างเจตนารมณ์หรือสิทธิของคนส่วนใหญ่ไม่ได้ผมคิดว่า วิธีทำความเข้าใจความคิดทางสังคมของท่านพุทธทาสอย่างตรงไปตรงมาคือ เราควรมองว่าท่านพุทธทาสเป็น นักคิด คนหนึ่ง การเสนอความคิดของท่านก็เสนอแบบนักคิด ไม่ใช่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มุ่งเรียกร้อง ขับเคลื่อน กดดันให้สังคมยอมรับความคิดของตัวเอง แต่เสนอความคิดสู่สาธารณะเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน ถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์ แปลว่าความคิดนั้นอาจผิดได้ ถูกล้มได้ ไม่ใช่สัจธรรมสำเร็จรูปสำหรับให้ใครต่อใครนำไปอ้างอย่างเผด็จการทางความคิด โดยอาศัยสถานะความเป็นพระนักปราชญ์หรืออะไรก็ตามเป็นฐานอ้างอิงที่คนต้องเคารพเชื่อฟัง เมื่อเคารพเชื่อฟังแล้วก็ไม่กล้าตั้งคำถาม หรือโต้แย้ง คนตั้งคำถามโต้แย้งกลายเป็น คนบาป ไป ซึ่งนั่นคงไม่ใช่เจตนารมณ์ของท่านพุทธทาสเป็นแน่เมื่อมองท่านพุทธทาสเป็นนักคิด เราก็เข้าใจได้ว่าเป็นธรรมดาของนักคิดที่จะเสนอความคิดแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ หรือปฏิเสธความเชื่อบางอย่างที่คนส่วนใหญ่ยอมรับกันอยู่ ไม่ว่าความคิดทางศาสนาหรือการเมือง ดังในหนังสือ ธรรมะกับการเมือง ท่านแสดงจุดยืนของตนเองในการตีความคำสอนของพุทธศาสนาเพื่อเสนอแนวคิดทางสังคมการเมืองว่า ต้องมีอิสรภาพทางสติปัญญาสูงสุด ใน 4 ความหมาย ใจความสำคัญคือ1. อิสรภาพในการรวบรวมข้อมูลความรู้จากแนวคิดทฤษฎีต่างๆ บรรดามี แม้กระทั่งข้อเท็จจริงตามธรรมชาติ2. อิสรภาพในการวินิจฉัย เมื่อรวบรวมข้อมูลมาอย่างรอบด้านมากที่สุดแล้วก็สามารถวินิจฉัยได้เที่ยงตรงโดยไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของแนวคิด ทฤษฎีใดๆ3. อิสรภาพในการเลือก เมื่อวินิจฉัยข้อดี ข้อด้อยของแนวคิด ทฤษฎีใดๆ ทุกแง่ทุกมุมแล้ว ต้องมีอิสระในการเลือกอย่างเป็นตัวของตัวเองว่า จะรับเอาแง่มุมไหนที่เห็นว่าดีที่สุด กระทั่งมีอิสระเลือกสร้างแนวคิดทฤษฎีของตนเองขึ้นมาใหม่ และ4. อิสรภาพในการปฏิบัติ เมื่อเลือกสิ่งที่วินิจฉัยว่าดีที่สุดแล้ว ก็มีอิสรภาพในการปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุดท่านพุทธทาสเห็นว่าอิสรภาพทั้งสี่ด้านนี้ คืออิสรภาพทางสติปัญญาที่สอดคล้องกับหลักกาลามสูตร เพราะหลักกาลามสูตรคือหลักการที่พุทธศาสนายืนยันให้เราแต่ละคนมีอิสรภาพทางสติปัญญาสูงสุด โดยหลักการนี้ เมื่อท่านพุทธทาสเสนอความคิดทางการเมือง ท่านจึงเสนอด้วยวิธีวิพากษ์จุดอ่อนของความคิดทางการเมืองในกระแสที่ต่อสู้กันอยู่ในบริบทเวลานั้น (ช่วง 6 ตุลา) และวิพากษ์ความคิดทางศาสนาเพื่อหาสิ่งที่ท่านคิดว่าเป็นสาระที่แท้ของคำสอนทางศาสนาด้วยความคิดทางสังคมของท่านพุทธทาสอาจแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนที่เป็นข้อถกเถียงหรือข้อโต้แย้งต่างๆ (arguments) และส่วนที่เป็นความคิดหลัก (general idea) หรือข้อเสนอใหม่ของท่าน ส่วนที่เป็นข้อถกเถียงหรือข้อโต้แย้งต่างๆ ของท่านพุทธทาสนั้น ที่สำคัญคือท่านวิพากษ์จุดอ่อนของประชาธิปไตยและสังคมนิยม หลักๆ คือท่านมองว่าเสรีประชาธิปไตยตอบสนองความเห็นแก่ตัวของปัจเจกบุคคลมากเกินไป ขณะที่สังคมนิยมนั้นดีกว่าเพราะมีกฎควบคุม จำกัดความเห็นแก่ตัวของปัจเจกบุคคลและให้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า แต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่การยอมรับวิธีรุนแรงในการปฏิวัติโค่นล้มชนชั้นนายทุนแต่จะอย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาข้อโต้แย้งต่างๆ ของท่านพุทธทาสที่วิพากษ์จุดอ่อนของเสรีประชาธิปไตยและสังคมนิยมบนจุดยืน ศีลธรรม นั้น อาจมีจุดอ่อน หรือ ขัดแย้งในตัวเอง อยู่ไม่น้อย และเมื่อนำข้อวิพากษ์เสรีประชาธิปไตยและสังคมนิยมของท่านมาใช้เสมือนเป็น สัจธรรมสูตรสำเร็จ ในการต่อสู้ทางการเมือง หรือกระทั่งการสนับสนุนความเห็นทางวิชาการก็มีจุดอ่อน หรือข้อบกพร่องทางตรรกะ (fallacy) ให้เราวิพากษ์วิจารณ์ได้อยู่มาก และควรวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อปฏิเสธค่านิยมการอ้างความคิดท่านพุทธทาสในเชิงครอบงำทางความคิดแต่ที่ผมสนใจคือความคิดหลัก ธรรมิกสังคมนิยม หรือสังคมนิยมที่มีศีลธรรมนั้นมีนัยสำคัญต่อความ (ไม่) เป็นสมัยใหม่ในความคิดทางสังคมของพุทธศาสนา ที่ตีความโดยท่านพุทธทาสอย่างไร เมื่อท่านพุทธทาสมองว่า ศีลธรรม มีความหมายกว้าง กินความครอบคลุมทั้งกฎธรรมชาติ ศีลธรรมตามคำสอนของศาสนาต่างๆ รวมทั้งความคิดเรื่องเสรีภาพ ความเสมอภาคด้วย การยืนยันว่าเจตนารมณ์ตามกฎธรรมชาติและตามคำสอนของศาสนาต่างๆ ล้วนสะท้อนความเป็น สังคมนิยม นั้น บ่งถึงประวัติศาสตร์พัฒนาการความคิดทางสังคมของพุทธศาสนาไทยที่มีนัยสำคัญอย่างไรเผยแพร่ครั้งแรกในโลกวันนี้วันสุข (26 ก.ค.-1 ส.ค.2557) | ในประวัติศาสตร์ความขัดแย้งทางการเมืองเกือบสิบปีมานี้ มีการอ้างความคิดของท่านพุทธทาสในทางการเมืองมากเป็นพิเศษ แต่ส่วนมากเป็นการยกมาอ้างเฉพาะข้อความที่ท่านวิพากษ์จุดอ่อนประชาธิปไตย | การเมือง,วัฒนธรรม | ธรรมิกสังคมนิยม,พุทธทาส,ศาสนาพุทธ,สวนโมกข์,สุรพศ ทวีศักดิ์ | https://prachatai.com/journal/2014/07/54796 |
ไทยติดเชื้อ COVID 70 คน หาย-กลับบ้านแล้ว 35 คน | วันนี้ (12 มี.ค.2563) ไทยพีบีเอสออนไลน์ รวบรวมข้อมูลผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในประเทศไทย ประมวลจากข้อมูลจากการแถลงประจำวันของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และรายงานสถานการณ์ ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กทม.แถลงข่าววันที่ 13 ม.ค.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 1หญิงชาวจีนอายุ 61 ปีคัดกรองจากสุวรรณภูมิ ไป Isolate ที่สถาบันบำราศนราดูร (Case 1)แถลงข่าววันที่ 17 ม.ค.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 2หญิงชาวจีน อายุ 74 ปี คัดกรองจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไป Isolate ที่สถาบันบำราศนราดูร (Case 2)แถลงข่าววันที่ 22 ม.ค.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 3หญิงไทย อายุ 73 ปี ไปเที่ยวอู่ฮั่นวอร์คอิน รพ.นครปฐม isolate รพ.นครปฐม (Case 3)# ผู้ติดเชื้อรายที่ 4ชายชาวจีน อายุ 68 ปีคัดกรองจากสุวรรณภูมิ Isolate สถาบันบำราศนราดูร (Case 4)แถลงข่าววันที่ 24 ม.ค.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 5หญิงชาวจีน อายุ 33 ปี มาจากอู่ฮั่นวอล์คอิน รพ.เอกชนใน กทม. Isolate รพ.ราชวิถี แถลงข่าววันที่ 26 ม.ค.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 6-8 (รวม 3คน)เป็นชาวจีนทั้งหมด ชาวจีน อายุ 66 ปี รับจากโรงแรม ส่งต่อบำราศนราดูร (รายงานระบุเป็น Case 5) ชาวจีน อายุ 57 ปี วอล์คอิน รพ.เอกชน Isolate สถาบันบำราศนราดูร (Case 7) หญิงชาวจีน อายุ 73 ปี วอล์คอิน รพ.เอกชน Isolate รพ.เอกชน (หัวหิน) (Case 8)แถลงข่าววันที่ 28 ม.ค.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 9-14 (รวม 6 คน)เป็นชาวจีนทั้งหมด ชาวจีน อายุ 63 ปี วอล์คอิน บำราศฯ Isolate สถาบันบำราศนราดูร (Case 9) ชาวจีน อายุ 28 ปี วอล์คอิน บำราศฯ Isolate สถาบันบำราศนราดูร (Case 10) ชาวจีน อายุ 33 ปี ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (Case 11) ชาวจีน อายุ 61 ปี ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (Case 12) ชาวจีน อายุ 6 ปี ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (Case 13) ชาวจีน อายุ 32 ปี วอล์คอิน รพ.เอกชน Isolate รพ.เอกชน (Case 14).แถลงข่าววันที่ 31 ม.ค.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 15-19ชายชาวจีน 4 ราย จากอู่ฮั่นชายไทย 1 ราย อาชีพขับแท็กซี่ ชาวจีน อายุ 56 ปี วอล์คอิน รพ.เอกชน Isolate รพ.เอกชน (Case 15) ชายไทย อายุ 50 ปี วอล์คอิน รพ.นพรัตน์ ส่งต่อ สถาบันบำราศนราดูร (Case 16 คนขับแท็กซี่) ชาวจีน อายุ 28 ปี วอล์คอิน รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ isolate รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ (Case 17) ชาวจีน อายุ 30 ปี วอล์คอิน รพ.เอกชน Isolate รพ.เอกชน (Case 18) 28 ม.ค.ชาวจีน อายุ 33 ปี วอล์คอิน รพ.ตำรวจ Isolate รพ.ตำรวจ (Case 19)แถลงข่าววันที่ 4 ก.พ. (รวม 6 คน)# ผู้ติดเชื้อรายที่ 20-25คู่สามีภรรยาชาวไทย กลับจากญี่ปุ่นผู้ขับขี่รถรับจ้างชาวไทย 2 รายชาวจีน 2 ราย ชาวไทย อายุ 43 ปี วอล์คอิน รพ.เอกชน Isolate รพ.ราชวิถี (Case 20) ชาวไทย อายุ 49 ปี วอล์คอิน บำราศฯ Isolate บำราศฯ (Case 21)(คู่สามีภรรยากลับจากญี่ปุ่น) ชาวจีน อายุ 33 วอล์คอิน รพ.ศิริราช Isolate รพ.ศิริราช (Case 22) ชาวไทย อายุ 45 ปี (รถรับจ้าง) วอล์คอิน รพ.หัวหิน Isolate รพ.หัวหิน (Case 23) สัมพันธ์กับเคส 8 นักท่องเที่ยวหญิงจีน ชาวจีน อายุ 31 ปี วอล์คอิน รพ.กระบี่ Isolate รพ.กระบี่ (Case 24) ชาวจีน อายุ 70 ปี วอล์คอิน รพ.เอกชน Isolate สถาบันบำราศนราดูร (Case 25).แถลงข่าววันที่ 8 ก.พ.(รวม 7 คน)# ผู้ติดเชื้อรายที่ 26-33 ชาวจีน 5 ราย ชาวไทย 3 ราย หนึ่งในนั้นกลับจากอู่ฮั่น ชาวจีน อายุ 35 ปี วอล์คอิน รพ.เอกชน Isolate รพ.วชิระภูเก็ต (Case 26) ชาวไทย อายุ 35 ปี วอล์คอิน รพ.เอกชน Isolate สถาบันบำราศนราดูร (Case 27)*** ข้อมูลตรงกับพนักงานขายที่เสียชีวิตรายแรกของไทย*** ชาวจีน อายุ 56 ปี วอล์คอิน รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน Isolate รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน(Case 28) ชาวจีน อายุ 32 ปี ติดตามเสี่ยงสูง Isolate สถาบันบำราศนราดูร (Case 29) ชาวจีน อายุ 62 ปี ติดตามเสี่ยงสูง Isolate รพ.ทรวงอก (Case 30) ชาวไทย อายุ 3 ปี ติดตามเสี่ยงสูง Isolate บำราศนราดูร (Case 31) ชาวไทย อายุ 25 ปี คัดกรองที่อู่ตะเภา Isolate ที่ รพ.ชลบุรี (Case 32) ชาวจีน อายุ 54 ปี ติดตามเสี่ยงสูง Isolate บำราศนราดูร (Case 33).แถลงข่าววันที่ 15 ก.พ.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 34บุคลากรทางการแพทย์หญิง อายุ 35 ปี (ดูแลผู้ป่วยรายที่ 27 พนักงานขายที่เสียชีวิต)แถลงข่าววันที่ 17 ก.พ.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 35หญิงชาวจีน อายุ 68 ปี เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยรายที่ 22 เป็นผู้ป่วยรายที่ 4 ในครอบครัวเดียวกันแถลงข่าววันที่ 25 ก.พ.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 36หญิงไทย อายุ 31 แม่บ้าน (คนในครอบครัวกลับจากประเทศจีน) รักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี# ผู้ติดเชื้อรายที่ 37ชายไทย อายุ 29 คนขับรถบริการนักท่องเที่ยว รักษาที่ สถาบันบำราศนราดูรแถลงข่าววันที่ 26 ก.พ.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 38ชายไทย อายุ 65 ปี วอล์คอิน รพ.เอกชน (บีแคร์) ส่งต่อ รพ.ทรวงอก# ผู้ติดเชื้อรายที่ 39หญิงไทย อายุ 62 ปี สถาบันบำราศนราดูร(คู่สามีภรรยา เดินทางกลับจากฮอกไกโด)# ผู้ติดเชื้อรายที่ 40เด็กชายอายุ 8 ขวบ หลานของรายที่ 38-39 สถาบันบำราศนราดูรแถลงข่าววันที่ 28 ก.พ.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 41ชายไทย อายุ 25 เป็นไกด์กลับจากเกาหลีใต้ รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร.แถลงข่าววันที่ 29 ก.พ.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 42ชายไทยอายุ 21 ปี พนักงานขาย สัมผัสใกล้ชิดชาวต่างชาติ วอล์คอิน รพ.เอกชน รักษาต่อ รพ.นพรัตนราชธานี.แถลงข่าววันที่ 2 มี.ค.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 43หญิงไทยอายุ 22 ปี อาชีพดูแลนักท่องเที่ยว เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (กับผู้ป่วยรายที่ 37 คนขับรถบริการนักท่องเที่ยว)แถลงข่าววันที่ 5 มี.ค.# ผู้ติดเชื้อรายที่ 44ชายชาวอิตาลี อายุ 29 ปี เดินทางมาจากอิตาลี รักษาที่โรงพยาบาลชลบุรี# ผู้ติดเชื้อรายที่ 45ชายชาวไทย อายุ 42 ปี กลับจากอิตาลี รักษาที่โรงพยาบาลเอกชนใน จ.ชลบุรี# ผู้ติดเชื้อรายที่ 46ชายชาวจีน อายุ 22 ปี เดินทางมาจากอิหร่าน (มาต่อเครื่อง) รักษาที่ สถาบันบำราศนราดูร# ผู้ติดเชื้อรายที่ 47ชายชาวไทย อายุ 20 ปี กลับจากอิหร่าน รักษาที่โรงพยาบาลใน จ.นครศรีธรรมราช.แถลงข่าววันที่ 6 มีนาคม# ผู้ติดเชื้อรายที่ 48ชายชาวอังกฤษ อายุ 43 ปี ที่ปรึกษาบริษัท มาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ (28 ก.พ.) เปลี่ยนเครื่องที่ ฮ่องกง 29 ก.พ. เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน (3 มีนาคม) ส่งต่อสถาบันทรวงอกแถลงข่าววันที่ 7 มีนาคม (2 ราย)#ผู้ติดเชื้อรายที่ 49ชายไทย อายุ 40 ปี พนักงานบริษัท (เดินทางไปทำงานที่อิตาลี) เริ่มป่วย 5 มีนาคม รักษาที่ รพ.ราชวิถี ผู้สัมผัสใกล้ชิดในครอบครัว 4 คน ไม่พบเชื้อ#ผู้ติดเชื้อรายที่ 50 =ชายไทย อายุ 40 พนักงานบริษัท (เดินทางไปทำงานที่อิตาลี) ตรวจที่สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ส่งต่อ รพ.นพรัตนราชธานี ไม่มีผู้สัมผัสใกล้ชิด *กลุ่มคนไทยที่ไปอิตาลี 6 คน คือ รายที่ 45 49 และ 50 อีก 3 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ ยังอยู่ในระบบเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรคแถลงข่าววันที่ 10 มีนาคม (3 ราย)#ผู้ติดเชื้อรายที่ 51หญิงไทย อายุ 41 ปี เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 45 (ชายไทย กลับจากทำงานที่อิตาลี) รักษาตัวที่ รพ.ราชวิถี#ผู้ติดเชื้อรายที่ 52 และ 53 (สามีภรรยา)หญิงไทยอายุ 46 ปี เดินทางกลับจากอิตาลี ชายไทยอายุ 47 ปี (สามี) ไม่ได้ไปต่างประเทศ รักษาตัวที่ รพ.ในจังหวัดนครปฐม .แถลงข่าววันที่ 11 มีนาคม #ผู้ติดเชื้อรายที่ 54ชายไทย อายุ 21 ปี ต.ม.สนามบินสุวรรณภูมิ เริ่มป่วยวันที้่ 8 มี.ค. รักษาที่โรงพยาบาลกลาง #ผู้ติดเชื้อรายที่ 55ชายไทย อายุ 40 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจค้น สนามบินสุวรรณภูมิ รักษาที่โรงพยาบาล #ผู้ติดเชื้อรายที่ 56ชายไทย อายุ 25 ปี อาชีพวิศวกร ปอดอักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงส่งตรวจหาเชื้อยืนยันการป่วย ปัจจุบันรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร มีประวัติเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ #ผู้ติดเชื้อรายที่ 57หญิงไทย อายุ 27 ปี เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ รักษาตัวที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี #ผู้ติดเชื้อรายที่ 58ชายไทย 40 ปี เดินทางกลับจากญี่ปุ่น ประสบอุบัติเหตุ ล้ม กระดูกข้อมือแตกที่ญี่ปุ่น และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกทม. ผลตรวจพบเชื้อ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรักษา#ผู้ติดเชื้อรายที่ 59ชายสิงคโปร์ 36 ปี เจ้าของร้านอาหารใน กทม. ปัจจุบันรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูรรวมมีผู้ป่วยสะสม 59 ราย ยังอยู่ในโรงพยาบาล 24 ราย กลับบ้านแล้ว 34 ราย เสียชีวิต 1 รายล่าสุด วันนี้ (12 มี.ค.2563) กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มีคนไทยติดเชื้อเพิ่มอีก 11 คน รวมเป็น 70 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาล 34 คน หายแล้ว 35 คน เสียชีวิต 1 คน | เปิดข้อมูล 59 คนไทย ติดเชื้อ COVID-19 ล่าสุด วันนี้กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มีคนไทยติดเชื้อเพิ่มอีก 11 คน รวมเป็น 70 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาล 34 คน หายแล้ว 35 คน เสียชีวิต 1 คน | สังคม | COVID-19,COVID19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ | https://news.thaipbs.or.th/content/289751 |
เชฟโรเลต แจงเปลี่ยนสถานที่ให้คนงานรายงานตัว จาก ค่ายทหาร เป็น สนามกอล์ฟ | ย้ำการเปลี่ยนแปลงเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานที่เดินทางมารายงานตัวและทางบริษัทฯ6 มี.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ประชาไท ได้รับแจ้งจากเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ส่งหนังสือชี้แจงกรณีเรียกคนงานเข้ารายงานตัวเพื่อกลับเข้าทำงานโดยระบุว่าเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ประชาไท รายงานว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก นฤพนธ์ มีเหมือน ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ (ครส.) กล่าวหาว่าบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด ไม่จ่ายค่าจ้าง ไม่ให้ทำงาน และไม่มอบหมายงานแก่ลูกจ้าง จำนวน 66 คน แม้ว่าลูกจ้างจะยินยอมตามข้อเรียกร้องของบริษัทแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งเนื่องจากเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ที่ได้ร่วมยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัท ตลอดจนการเข้าร่วมการชุมนุม ถือเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้าง ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 โดยผู้ร้องได้ขอให้นายจ้างรับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน และจ่ายค่าเสียหายรวมถึงสวัสดิการต่างๆ จนถึงวันรับกลับเข้าทำงานพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี และจ่ายโบนัสปี 2559 และปี 2560กระทั่งเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมามีคำสั่งที่ 27 – 92/2561 สั่งให้ผู้แทนบริษัท เจนเนอรัลมอเตอร์ส ประเทศไทยจำกัด รับลูกจ้าง จำนวน 66 คน กลับเข้าทำงานและจ่ายค่าเสียหายเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้ายนับแต่วันที่ 8 พ.ย. 2560 จนถึงวันรับกลับเข้าทำงาน โดยให้บริษัทปฏิบัติตามคำสั่งภายใน 10 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง | เชฟโรเลต แจงเปลี่ยนสถานที่ให้คนงานรายงานตัว จาก ค่ายทหาร เป็น สนามกอล์ฟ ยันเพื่อต้อนรับพนักงานที่กลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง | การเมือง,แรงงาน,เศรษฐกิจ | ค่ายทหาร,สนามกอล์ฟ,สหภาพแรงงาน,เจนเนอรัลมอเตอร์ส,เชฟโรเลต | https://prachatai.com/journal/2018/03/75741 |
ผัวเมียหนีตายระทึก มากันดีๆ ไฟไหม้รถตู้วอดกลางถ.รังสิต-นครนายก | เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 ส.ค. ร.ต.อ.สริพงษ์ อภิวัน รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ตู้ บริเวณ ถนนรังสิต-นครนายก ขาออก หน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น คลองสี่ ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองบึงยี่โถ 2 คัน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และสมาชิกเหยี่ยวเวหาเขต จ.ปทุมธานี,ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณช่องทางซ้ายสุด พบรถตู้ส่วนบุคคล ยี่ห้อโฟล์ค สีดำ ทะเบียน อร-3336 กรุงเทพมหานคร เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นทั้งคันอย่างรุนแรง เปลวเพลิงและกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เจ้าหน้าที่ต้องเร่งฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงโดยเร็ว ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้การจราจรถนนรังสิต-นครนายกขาออก ปริมาณรถติดสะสมยาวกว่า 3 กม.,จากการสอบถาม นายทวี ขุนหมื่น อายุ 37 ปี ชาว จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ตนเองกับภรรยาขับรถออกจากบ้านพักย่านคลองสาม เพื่อเดินทางไปที่ จ.สระบุรี แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุรถเบรกไม่อยู่ แถมยังได้กลิ่นควันไฟเหมือนไฟไหม้ จึงจอดรถริมทางลงมาดู พบว่าเกิดไฟไหม้บริเวณห้องเครื่อง ก่อนจะลุกโหมอย่างรุนแรง จึงรีบหนีออกห่างจากตัวรถ ขณะเดียวกันชาวบ้านรีบเอาถังดับเพลิงมาช่วยกันฉีดแต่ไม่สามารถดับได้ ก่อนที่จะลุกไหม้รถทั้งคัน,ทางด้าน ร.ต.อ.สริพงษ์ อภิวัน รองสารวัตรสอบสวน สภ. ธัญบุรี เปิดเผยว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ยกรถออกนอกเส้นทางดังกล่าว พร้อมประสาน ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเขต 1 มาตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุไฟไหม้รถตู้ครั้งนี้ รวมทั้งเร่งแก้ไขระบายรถที่ติดสะสมอยู่โดยด่วน. | เกิดเหตุไฟไหม้รถบนถนนที่ปทุมธานีอีกแล้ว คราวนี้เป็นรถตู้ ผัวขับเมียนั่งข้าง ออกจากคลองสามจะไปสระบุรี วิ่งมาดีๆ เกิดเบรกไม่อยู่ พอลงไปดูปรากฏว่าไฟไหม้ในห้องเครื่อง กว่าจะดับได้ก็ไหม้เกือบหมดคัน ทำรถติดยาว 3 กม. | null | ไฟไหม้รถ,รถไฟไหม้,ไฟไหม้รถตู้,ผัวเมียหนีตาย,ไหม้รถวอด,รถตู้โฟล์ค,ถนนรังสิต-นครนายก,ธัญบุรี,ปทุมธานี | https://www.thairath.co.th/content/704579 |
อพท.เร่งพัฒนามาตรฐานท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเอเชีย | วานนี้ (1 มิ.ย. 61) พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) สมาคมการค้าการท่องเที่ยวเครือข่ายเชิงนิเวศ หรือ The Trade Association of Asia Ecotourism Network (AEN) พัฒนากิจกรรมและให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในประเทศไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ ทักษะ องค์ความรู้ ขบวนการการทำงาน ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยสร้างเป็นเกณฑ์มาตรฐานเพื่อนำไปใช้พัฒนามาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้แก่ผู้ประกอบการในภูมิภาคเอเชีย,ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้จะก่อให้เกิดคู่มือมาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงนิเวศฉบับแรกของเอเชีย และเป็นมาตรฐานที่ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ต้นเป็นครั้งแรก รวมถึงจะมีการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หรือ อีโคทัวร์ ในประเทศไทยร่วมกัน,ทั้งนี้ อพท.ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านพัฒนาสินค้าและบริการ หรือซัพพลาย จึงต้องมีการเตรียมพร้อมทั้ง สินค้า และบริการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อให้ผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นสมาชิกของ AEN ได้นำไปทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ต่อไป เนื่องจากนักท่องเที่ยวเชิงนิเวศเป็นนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพ ที่ภาครัฐ และภาคเอกชนควรให้ความสำคัญ,นายมาซารุ ทาคายามะ ประธาน AEN กล่าวว่า ทางสมาคมได้รับมอบหมายจากสมาชิกในทวีปเอเชีย ขอให้เร่งดำเนินการพัฒนามาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งทางสมาคมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การได้ร่วมมือกับ อพท. หน่วยงานที่มีองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับสากล จะช่วยให้การพัฒนามาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้ด้วยดี,สมาคมการค้าการท่องเที่ยวเครือข่ายเชิงนิเวศ หรือ The Trade Association of Asia Ecotourism Network (AEN) เป็นการรวมกลุ่มของผู้เชี่ยวชาญและผู้เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศทั้งจากภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย ตัวแทนนำเที่ยว ผู้ประกอบการ NGO สถาบันการศึกษา และนักวิชาการ ปัจจุบันมีสมาชิกจาก 18 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจในเอเชียเข้าร่วม ได้แก่ ประเทศไทย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ศรีลังกา ลาว เกาหลีใต้ บังกลาเทศ ปากีสถาน ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ มองโกเลีย อินโดนีเซีย ภูฏาน อินเดีย เนปาล ฮ่องกง ไทเป และพม่าล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา AEN ได้จดทะเบียนจัดตั้งสมาคมในประเทศไทยกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์จึงมีสถานะถูกต้องทางกฎหมายครบถ้วน | อพท.ร่วมมือ AEN พัฒนามาตรฐานฉบับผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศฉบับแรกของทวีปเอเชีย | ข่าว,ทั่วไทย | อพท.,ท่องเที่ยว,การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ,AEN,เอเชีย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1297611 |
ปภ.แนะยึดหลักปฏิบัติ หมอบ ป้อง เกาะ หากเผชิญเหตุแผ่นดินไหว | วันนี้ (25 ส.ค.2559) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ได้ประสานจังหวัดในภาคเหนือ ให้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเหตุแผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมถึงเตรียมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกล พร้อมรับมือเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยได้ได้บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมปรับปรุงแผนปฏิบัติการป้องกัน และแก้ปัญหาแผ่นดินไหวให้เป็นปัจจุบัน สำรวจสภาพความเสี่ยงภัยของแต่ละพื้นที่ เพื่อวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม พร้อมพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัย และขอให้ประชาชนติดตามรับฟังข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ไม่ตื่นตระหนก หรือหลงเชื่อข่าวลือ หากเกิดแผ่นดินไหวให้ยึดการปฏิบัติตามหลัก หมอบ ป้อง เกาะ โดยหมอบใต้โต๊ะหรือหลบ ในจุดที่มีโครงสร้างแข็งแรง พ้นจากแนวที่สิ่งของหล่นทับ รอให้แผ่นดินไหวสงบก่อน จึงค่อยออกจากอาคาร สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 | กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสั่งเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ รับมือสถานการณ์แผ่นดินไหว พร้อมแนะประชาชนอย่าตื่นตระหนกหรือหลงเชื่อข่าวลือ หากเกิดแผ่นดินไหวให้ยึดการปฏิบัติตามหลัก หมอบ ป้อง เกาะ | ภัยพิบัติ | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,เมียนมา,แผ่นดินไหว,ปภ.,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย | https://news.thaipbs.or.th/content/255194 |
เก็บเท่าไรก็ได้ ชะตากรรมคนคอนโด ค่าน้ำประปา ถูก-แพง อยู่ในมือนิติฯ | ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ไขคำตอบมาแล้วว่ามีจากปัจจัยอะไร (คลิกอ่าน ,ไขข้อสงสัย คอนโด จ่ายค่าน้ำแพงเท่าตัว ห้องชุด ตจว.อ่วมหนักกว่า, ) ,แต่เมื่อถามว่า ภาครัฐบาล หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมองเรื่องนี้อย่างไร คิดจะนำพาไปวางกฎเกณฑ์อะไรหรือไม่ รายงานพิเศษชิ้นนี้จะเป็นคำตอบ,ว่ากันตามหลักแล้ว กฎหมายที่ใช้สำหรับการดูแลอาคารชุด หรือ คอนโดมิเนียม นั้น หลักๆ จะอยู่ใน พ.ร.บ.อาคารชุด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลักคือ ก.มหาดไทย กรมที่ดิน ในส่วนของเรื่องน้ำประปาเอง ก็ยังอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย เช่นกัน ,เชื่อกันว่า คำถามแรกที่คนอยากรู้ ทำไมประปาถึงไม่ติดมิเตอร์เหมือนไฟฟ้า และทำไมค่าน้ำของการประปาในต่างจังหวัดแพงกว่าในกรุงเทพฯ,กปภ.ชี้ต้นทุนการจัดการเรื่องน้ำ ตจว.สูงกว่า น้ำดิบมีน้อยกว่า ส่งผลด้านราคา ,ทีมข่าวฯ สอบถามเรื่องนี้ไปยัง ,รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.), อธิบายถึงสาเหตุที่ค่าน้ำประปาแพงกว่าในกรุงเทพนั้น เพราะค่าต้นทุนในการวางท่อน้ำสูงกว่าใน กทม.มาก,เพื่อให้เห็นภาพ รศ.ดร.เสรี อธิบายว่า ตัวอย่างใน กทม. ในรอบ 1 กิโลเมตร จะมีผู้ใช้น้ำหนาแน่นกว่าในพื้นที่ต่างจังหวัด ค่าน้ำที่เก็บได้จึงได้มากกว่า ในรอบ 1 กิโลเมตรในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่งผลให้ต้นทุนในการลงทุน ในการวางท่อในต่างจังหวัดนั้นสูงกว่า และอีก 1 ปัจจัยคือ ในบางพื้นที่มีน้ำดิบไม่มาก เช่น ใน จ.ภูเก็ต ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำประปาแพงกว่า,เมื่อทีมข่าวถามว่า เพราะอะไร ทำไมเราทำอย่างการไฟฟ้าไม่ได้ ที่ติดมิเตอร์ให้กับลูกบ้านในคอนโดมิเนียม แทนที่จะติดแค่หัวจ่ายน้ำหน้าคอนโด ผู้ว่าฯ กปภ. ได้ตอบเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย,เป็นเรื่องของนิติบุคคล ไม่เกี่ยวกับกฎหมาย จะสูงหรือต่ำ ลูกบ้านต้องร่วมกันคุย ,คำถามต่อมา คือ เราสามารถควบคุมราคาค่าน้ำประปาคอนโดได้หรือไม่ ทีมข่าวได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง กรมที่ดิน ซึ่ง เป็นผู้เสนอกฎหมาย พ.ร.บ.อาคารชุด พูดง่ายๆ คือ ดูแลการทำงานของนิติบุคคลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเมื่อทีมข่าวฯ ติดต่อไปยัง นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมที่ดิน แต่ทราบว่าติดประชุมไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ จึงสอบถามไปที่ ,นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม รองอธิบดีกรมที่ดิน ที่ดูแลงาน ผอ.สำนักส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, แต่,นายชัยชาญ แนะนำว่าให้สอบถามกับ นายสุภกิณห์ แวงชิน ผอ.สำนักส่งเสริมธุรกิจฯ เมื่อทีมข่าวโทรสอบถาม ปรากฏว่า นายสุภกิณฑ์ ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ และยอมรับว่ายังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้,ทีมข่าวฯ จึงได้พูดคุยกับ นายชูศักดิ์ ศรีอนุชิต อดีต ผอ.สำนักส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เพิ่งพ้นตำแหน่งไม่กี่วัน ซึ่งนายชูศักดิ์ บอกว่า, เรื่องนี้ ผอ.ท่านใหม่อาจจะยังไม่ทราบหรือมีข้อมูล เพราะเพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อวานนี้เอง (19 พ.ย.) ถามว่า เรื่องเรตอัตราค่าน้ำคอนโด นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย เป็นเรื่องมติร่วมของคอนโด ว่าจะเก็บเท่าไร เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายตามมาตรา 18 (พ.ร.บ.อาคารชุด) จะสูงจะต่ำอย่างไร เดี๋ยวก็จะมีการพูดคุยกัน ซึ่งตรงนี้เหมือนกับให้อำนาจนิติบุคคลบริหารจัดการ,เมื่อถามว่า ในตัวบทกฎหมายมันไม่มีเกณฑ์มาตรฐานเลยว่าควรจะเรียกเก็บค่าน้ำประปา เท่าไร นายชูศักดิ์ ให้ความเห็นว่า ,เรื่องนี้ไม่รู้จะหามาตรฐานอย่างไร เช่น ถ้าจ้าง รปภ. อาจจะจ้างในราคา 18,000 บาท แต่ถ้าเป็น รปภ.ดีๆ เขาอาจจะจ้าง 30,000 บาท/เดือน ก็ได้ เรื่องแบบนี้ถือเป็นการบริการงานภายใน ขณะที่ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ก็มีเรื่องที่ต้องใช้จ่ายอยู่แล้ว,ส่วนตัวมองว่า อย่าไปซีเรียสเรื่องนี้เลย บางทีมีแค่ลูกบ้านเพียงรายเดียวมาโวยวาย ซึ่งผมก็เจอ ถึงขนาดกับว่าให้ คอนโด ทำน้ำดื่มขายเลย บอกน้ำดื่มที่ซื้อมาแพง แล้วเขาก็มาด่าสำนักผมทุกวัน มีแปลกๆ ก็เคยเจอ ถามว่าแพงมั้ย ก็แพงด้วยกันทุกคน บางที่ก็ถูก ก็จ่ายถูกกันทุกคน เรื่องนี้ถ้าไม่บริหารจัดการให้ดีก็อยู่ไม่ได้หรอก ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องที่มีปัญหาจริงๆ ไม่น่าจะใช่เรื่องคอนโด อาจจะเป็นเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ อพาร์ตเมนต์มากกว่า,ค่าน้ำอาคารชุดในฐานะที่เคยทำมา ไม่ค่อยน่าห่วง เพราะหากมันไม่ถูกต้องก็จะต้องมีการจัดการประชุม,งั้นถามตรงๆ ว่า ควรมีการควบคุมอัตราค่าน้ำประปาคอนโดไหม, นายชูศักดิ์ อุทาน ,โอ๊ยอย่าไปยุ่งกับเขาเลย ผมว่าวันดีคืนดี น้ำประปาอาจจะสูงขึ้น แพงขึ้น เหมือนกับคุณไปคุมค่า รปภ. น้ำไฟ คุณห้ามใช้เกินเท่านั้นเท่านี้นะ เรื่องประปาคอนโด มันแตกต่าง ขึ้นอยู่กับ ความพึงพอใจ ที่คนในคอนโดและนิติบุคคลจะดูแลกันเอง ,สคบ.ยอมรับ ไม่มีกฎหมาย คุมค่าน้ำคอนโด นิติฯ จะเรียกเท่าไรก็ได้,ดูแล้วหน่วยงานที่น่าจะเกี่ยวข้องมากที่สุด งานนี้น่าจะหนีไม่พ้น สำนักงานคณะกรรมการคุมครองเพื่อผู้บริโภค, นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการ และในฐานะ โฆษก สคบ., ยอมรับว่า ,ที่ผ่านมามีประชาชนร้องเรียนเรื่องนี้ ค่าน้ำประปาคอนโดแพงเข้ามาบ้าง ถามว่ามีข้อกำหนดหรือไม่ว่าจะต้องจ่ายเรตราคาเท่าไหร่หรือไม่นั้น คำตอบคือ ไม่มี จะเรียกเก็บเท่าไรนั้นให้เป็นไปตามข้อกำหนดของคอนโดแต่ละแห่ง,โฆษก สคบ. อธิบายว่า ,เรื่องค่าน้ำคอนโดนั้น เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของนิติบุคคลของห้องชุดแต่ละที่ เขาจะกำหนดเท่าไร ไม่มีกฎหมายกำหนดดูแล สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะคอนโดเองมีกฎหมายเฉพาะควบคุมดูแลอยู่ มีการบริหารงานของนิติบุคคลเป็นการเฉพาะ แม้ที่ผ่านมา จะมีคนร้องเรียนเข้ามาบ้าง แต่เราก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรให้ได้ สาเหตุเพราะเขาดำเนินตามระเบียบ พ.ร.บ.อาคารชุด ไม่ได้ดำเนินการเพื่อธุรกิจ,ส่วนค่าไฟนั้น ไม่มีปัญหาแน่ เพราะมิเตอร์ค่าไฟแยกที่การไฟฟ้าเรียกเก็บโดยตรง ส่วนค่าน้ำที่เรียกเก็บแบบนี้นั้น เพราะที่ประชุมใหญ่ของลูกบ้านได้เห็นพ้องต้องกันแล้วว่าสามารถเรียกเก็บได้ ส่วนต่างส่วนเกิน ทางนิติฯ เขาก็จะเอาไปใช้บริหารจัดการ ที่สำคัญคือ มันไม่ได้เอาไปใช้เพื่อธุรกิจ รองเลขาธิการ สคบ. กล่าว,นอกจากนี้ ทีมข่าวฯ ได้ถามเรื่องนี้ไปยัง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งภายใต้กระทรวงมหาดไทย และมีพื้นที่ที่มีคอนโดมิเนียมมากที่สุด นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดยไม่เกี่ยวข้องกับ กทม. ถามว่ามีร้องเรียนมาบ้างไหม ก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง หากมีการร้องเรียนมาเราเองก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่เกี่ยวข้อง , ในที่สุดแล้ว ก็ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐหน่วยงานใดควบคุมดูแลเรื่อง ค่าน้ำประปา ของ ชาวคอนโดมิเนียม คงต้องปล่อยไปตามยถากรรม หากเจอนิติบุคคลที่บริหารงานดี คุมค่าใช้จ่ายให้ลูกบ้านอย่างดี ทำให้ลูกบ้านมีอยู่ดี มีความสุข จ่ายสมเหตุสมผลก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าเจอนิติฯ มหาโหด เรียกเก็บแพงๆ ก็ตัวใครตัวมัน หรือ จะรวมตัวกันต่อสู้ก็ได้,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน , | ถือเป็นเรื่องที่ชาวคอนโด อยากรู้มาโดยตลอด ว่าเพราะเหตุใด ราคาค่าน้ำประปา ของชาวคอนโดมิเนียม หรือ ห้องชุด จึงมีราคาสูงกว่าของการประปา | สกู๊ปไทยรัฐ | ค่าน้ำประปา,คอนโด,ห้องชุด,แพง,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/scoop/1426191 |
สิทธิ์ของคนพูดไทยไม่ชัด? | ยุคที่เราเชื่อว่าการพูดคุยกันด้วยเหตุผลจะนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้งหรือเกิดความเข้าใจที่มากขึ้น ผมคิดว่าปัญหาที่ดูเล็กน้อยแต่สร้างภาระและกับดักใหญ่หลวงนั่นคือ อคติทางวัฒนธรรม/ชาติพันธุ์บ่อยครั้งที่เดียวที่อคติดังกล่าวทำงานอย่างเข้มข้นในสังคมไทย สามจังหวัดภาคใต้มีปัญหากับคำว่าแขกและความเป็นแขกที่คนนอกยัดเยียดให้จนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่ปัญหาเรื่องอคติทางวัฒนธรรม/ชาติพันธุ์ก็ปรากฏในในภูมิภาคอื่นๆ ด้วยเช่นกัน อย่างน้อยที่สุด ภาพลักษณ์ตามลักษณ์ของความบ้านนอก เชย เปิ่น และล้าหลัง ก็ยังคงปรากฏอยู่ดุจดั่งภาพประทับอันถาวร แต่แน่นอน เรื่องพวกนี้มิได้เกิดขึ้นในลักษณะคู่ตรงข้าม ระหว่างศูนย์กลางอำนาจรัฐกับภูมิภาค เท่านั้น หากผู้คนในภูมิภาคเองต่างก็มีปัญหาด้านอคติทางวัฒนธรรม/ชาติพันธุ์อยู่ภายในตลอดเวลา บางครั้ง ก็รับเอาอุดมการณ์ของรัฐมาสิงสู่ตัวเองเพื่อเล่นงานกลุ่มคนที่ตนเองมีอคติด้วยแน่นอน ผมกำลังหมายถึงปัญหาของการคัดค้านเขื่อนแม่แจ่มและขุนวางที่จ.เชียงใหม่ที่ผ่านมา เวทีรับฟังความคิดเห็นถูกจัดขึ้นตามชื่อ ทว่า ปัญหาเรื่องคติทางชาติพันธุ์พลันบังเกิดขึ้นระหว่างคนสนับสนุนเขื่อนและฝ่ายคัดค้าน เท่าที่ผมติดตามข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีการร้องไล่ให้แกนนำที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอญอให้กลับไปพูดภาษาไทยให้ชัดแล้วค่อยมาค้านเขื่อนบ้าง บ้างก็ว่าถูกเอ็นจีโอเสี้ยมสอน บ้างไม่เชื่อว่ากลุ่มชาติพันธุ์นี้จะสามารถเขียนป้ายผ้าเองได้ (ภาษาไทย) นอกจากนี้ผมยังได้ยินมากับหูตัวเองในร้านอาหารแห่งหนึ่งว่ารวมความแล้วก็คือ อคติทางชาติพันธุ์ได้ถูกดึงเข้ามาเป็นความชอบธรรมทางการเมืองเพื่อลิดรอนสิทธิ์ของผู้อื่น และจะมีสิทธิด้านไหนเล่าจะเด่นชัดเท่ากับ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะด้วยภาษาพูด ภาษาเขียน ภาษากาย นี่คือ สิทธิเบื้องต้นของการยืนยันในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่ทัดเทียมกันเท่าที่ผมผูกชีวิตกับภาคเหนือมาตั้งแต่เรียนปริญญาตรี มีเรื่องเล่าอยู่สองเรื่องที่ผมจดจำไว้อย่างแม่นยำ และสองเรื่องนี้สะท้อนทัศนะในการมองตัวเองบางด้านของคนเมืองได้เป็นอย่างดี เรื่องแรก คนเฒ่าคนแก่และกลุ่มบุคคลวัยกลางคนขึ้นไปมักเล่าถึงบรรยากาศการ ถูกปรับตังค์ ในโรงเรียนกรณีที่ใช้ภาษาท้องถิ่น (อู้กำเมือง) เนื่องจากการสร้างความเป็นไทยจากศูนย์กลางนั้นแผ่ขยายอำนาจเข้ามาถึงขั้นบงการการใช้ภาษา ปัญหาในเรื่องนี้เป็นปมที่ซ่อนภายในของการรณรงค์เรื่องการอนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนาในปัจจุบัน โดยมีธงนำคือ ภาษา ปมดังกล่าวนี้สะท้อนถึงความเจ็บปวดที่วัฒนธรรมตนเองถูกกดเอาไว้ ดังนั้น การ อู้ไทยปะแล๊ด หรือ พูดภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆ ของคนเมืองจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่เสียหายในปัจจุบัน อย่างมากก็เป็นเรื่องขำขันกันเองในชีวิตประจำวัน อย่างแรงก็คือการถูกเหยียดให้อายในเวทีทางการ (ซึ่งไม่แน่ใจว่า ในปัจจุบันการเหยียดมีมากน้อยแค่ไหน สำหรับกลุ่มชนส่วนใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ - ในทางกลับกันการพูดไทยในสำเนียงถิ่นก็เริ่มกลายเป็นต้นทุนวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ดังที่จะเห็นได้จากบรรดาค่ายเพลงลูกทุ่งที่ต้องมีนักร้องกลิ่นอายภาษาสำเนียงถิ่นมากมาย)เรื่องที่สอง ผมตะลึงกับคำว่า แมง ในภาษาคำเมือง แมงในความหมายนี้ก็คือ แมลงที่เป็นสัตว์ตัวเล็กๆ นั่นแหละ แต่คนเมืองมักใช้คำว่า แมง นำหน้ายามเรียกคนกลุ่มอื่นๆ ที่มีนัยความสัมพันธ์เชิงอำนาจต่ำกว่าด้วย อาทิ แมงแข่ (เรียกกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ อาข่า และคนจีน) แมงยาง (ปกาเกอญอ) แมงแม้ว-แมงดอย (ม้ง) ในเรื่องสั้นของนักเขียนอย่าง ส.ธรรมยศ ยังปรากฏคำว่า แมงแดง (หมายถึงผู้หญิงขายบริการ) คำพวกนี้ดูผิวเผิน ช่างคล้ายกับการ อู้เล่นบ่าดายบ่ดีกึ้ดนัก (พูดเล่นๆเฉยๆ ไม่ต้องคิดมากหรอก) แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่ามันมีส่วนสะท้อนอคติทางชาติพันธุ์ออกมาอย่างลึกซึ้ง ปมปัญหาเช่นนี้ มิได้อยู่ในระดับสามัญสำนึกที่สามารถกำหนดและควบคุมได้ หากอคติทางชาติพันธุ์ล้วนเป็นปมในจิตใต้สำนึก คล้ายกับปุ่มที่มองไม่เห็น และมันสามารถถูกกดให้ออกมาได้ทุกเมื่อ แมง ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีในความหมายของความต่ำต้อย ความเป็นอื่น ก็จะมีในลักษณะของความสกปรก ล้าหลัง และต่ำต้อยกว่าตนเองพลันที่ผมได้ยินคำผรุสวาทของฝ่ายสนับสนุนเขื่อน ผมอดคิดไม่ได้ทันทีว่าเรื่องเขื่อนนี้ไม่สามารถจัดเวทีเพื่อรับฟังความเห็นหรือถกเถียงกันได้ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียวเสียแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปัญหาและข้อเสนอการจัดการน้ำที่หลากหลายและยั่งยืน เนื่องจากปัญหาอคติทางชาติพันธุ์เข้ามาสวมทับและลดสิทธิกลุ่มคนที่เรียกร้องให้เกิดการทบทวนนโยบาย มองในแง่นี้ ภาษาไทยที่ไม่ชัดของกลุ่มผู้คัดค้านชาวชาติพันธุ์จึงเป็นประหนึ่งเสียงรบกวนของผู้สนับสนุน แต่ในทางกลับกัน กลุ่มผู้สนับสนุนซึ่งส่วนหนึ่งนิยามตัวเองว่าเป็น คนเมือง ก็เท่ากับกลืนเลือดและความเจ็บปวดทางวัฒนธรรมของตัวเองและบ้วนทิ้งใส่คนอื่น อันที่จริง เราควรกล่าวเสียด้วยซ้ำว่า พวกเขาเหล่านั้นยังคงวิ่งวนอยู่ภายใต้ อาณานิคมภายใน ที่รัฐสยามในอดีตเป็นผู้บ่มเพาะขึ้น ครั้นในปัจจุบัน ความเป็นคนเมืองที่ฉวยใช้อคติทางชาติพันธุ์มาโจมตีผู้เห็นต่างจากตัวเอง จึงมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับความเป็นไทยที่กดทับวัฒนธรรมท้องถิ่นและภูมิภาคในช่วงเวลาที่ผ่านมาเวทีที่รับฟังความคิดเห็นจึงมีลักษณะดราม่าน้ำเน่าในสังคมประชาธิปไตย คือแสร้งเปิดพื้นที่ทางการเมือง ทว่า แฝงด้วยการกีดกันสิทธิ แม้กระทั่งสิทธิที่จะพูดและแสดงความเห็นในสำเนียงที่แตกต่าง สำหรับผม การควบคุมคำพูดและความคิดให้เหมือนกัน รวมไปถึงการควบคุมสำเนียงให้ถูกต้องมาตราฐาน นั่นคือ ลักษณะของอำนาจเผด็จการอันเบ็ดเสร็จที่ไม่ควรพึงมีในสังคมของเราไม่ต้องแปลกใจว่า เหตุใด กรณีของเขื่อนแม่แจ่ม ขุนวาง และนโยบายการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลชุดนี้ จึงแทบไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลในแง่มุมต่างๆอย่างรอบด้าน ไม่มีการพูดคุยกับความเห็นที่แตกต่าง หรือใส่ใจกับสิทธิและเสียงของผู้คัดค้าน | ปัญหาอย่างหนึ่งที่ ดูเหมือนเล็กน้อย หากแทรกซึมในทุกอณูในความรู้สึกนึกคิด ปัญหาเล็กๆน้อยๆ ที่ว่านี้ส่งผลต่อสิ่งที่เรียกว่าการเจรจาด้วยเหตุผลตามความเชื่อในยุคแสงสว่างทางปัญญาว่า | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม,สิ่งแวดล้อม | คติทางชาติพันธุ์,ชนเผ่า,ชาติพันธุ์,ชาวไทยภูเขา,ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ,เขื่อนแม่แจ่ม,เชียงใหม่ | https://prachatai.com/journal/2013/11/49551 |
1-30พ.ย. ชมพระเมรุมาศ รัชกาลที่ 9 | ตั้งทีมประสานงานรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวก กรมสรรพาวุธทหารบกนำกำลังพลเข้าติดตั้งรางรับฐานรองพระบรมโกศและอุปกรณ์ยึดฐานรองพระบรมโกศ บนราชรถปืนใหญ่,ที่กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อเช้าวันที่ 10 ส.ค. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งที่ 2/2560 ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ฝ่าย ดังนี้ 1.คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 2.คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ และพระยานมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ 3.คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดแสดงมหรสพ ระหว่างการจัดนิทรรศการ งานพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพ มีนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธาน 4.คณะอนุกรรมการฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการ แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธาน และ 5.คณะอนุกรรมการบริหารจัดการในคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ มีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน,รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ที่ประชุมกำหนดจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ วันที่ 1-30 พ.ย. 2560 รวม 30 วัน มีการจัดแสดงมหรสพบนเวทีร่วมด้วยเพื่อให้บรรยากาศเหมือนงานพระราชพิธี โดยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการเช่นเดียวกับการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เข้ากราบพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวัง สำหรับชาวต่างชาติเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยให้ตั้งชื่อนิทรรศการที่เข้าใจง่าย ลึกซึ้ง พร้อมเน้นย้ำแนวทางใช้งบประมาณการจัดนิทรรศการอย่างประหยัด เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการฯครั้งต่อไป เพื่อสรุปและเสนองบประมาณ ในวันที่ 13 ก.ย.นี้ ก่อนรายงานต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป,ผมให้แนวทางเวลาเข้าชม รอบแรกเวลา 07.00 รอบสุดท้ายเวลา 23.00 น. โดยอาจจะพิจารณารอบละ 500 คน มั่นใจว่าจะมีผู้เข้าชมมากกว่า 3 ล้านคน เพราะทุกคนจะมุ่งมาเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการ เมื่อจัดนิทรรศการเสร็จ ทุกคนจะซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.9 เกิดความรักและสามัคคี เป็นนิทรรศการจัดโดยประชาชนเพื่อประชาชน น้อมถวายพระองค์ท่าน โดยเดือน ก.ย.นี้ จะเห็นแผนงานที่เรียบร้อย พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าว,นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเข้าชมบริเวณอาคารพระเมรุมาศเป็นหลัก ที่สำคัญยังเปิดให้ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้พิการได้มีโอกาสเข้าชมพระ เมรุมาศเช่นเดียวกับคนทั่วไป ซึ่งจะใช้ศาลาลูกขุน จำลองพระเมรุมาศ อาคารประกอบ และสัตว์หิมพานต์ให้ผู้พิการทางสายตาจับต้องได้ อีกทั้งยังมีอักษรเบรลล์ในจุดที่พิเศษ และสำคัญ ตลอดจนการจัดรถวีลแชร์รองรับ ทั้งนี้ จะใช้ระบบเทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดเป็นหลักเพื่อลดเวลาการอธิบายของผู้นำชม และประชาชนยังเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น,นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า การจัดนิทรรศการ แบ่งออกเป็นนิทรรศการพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ 9 กำหนดพื้นที่จัดแสดงภายในอาคารพระที่นั่งทรงธรรมทั้งหมด โดยจะผนวกเนื้อหานิทรรศการตั้งแต่ด้านหน้าพระเมรุมาศที่มีการประดับมณฑลพิธี ด้วยแปลงนาข้าว กังหันน้ำชัยพัฒนา ขณะที่อีกส่วนหนึ่ง เป็นนิทรรศการการก่อสร้างพระเมรุมาศทุกขั้นตอน กำหนดจัดในอาคารอื่นๆ ได้แก่ ศาลาลูกขุน 1 จำนวน 2 หลัง อาคารศาลาลูกขุน 2 อีก 2 หลัง พร้อมคำบรรยาย ช่วงจัดนิทรรศการจะจัดแสดงมหรสพในช่วงหัวค่ำ โดยใช้เวทีใหญ่ของการจัดแสดงมหรสพสมโภชในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ อาทิ โขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรม และให้มีการแสดงที่หลากหลาย รวมถึงมีการแสดงของเยาวชนจากโรงเรียนต่างๆ,อีกด้านหนึ่งที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่ง ชาติ พ.อ.พงศ์พัฒน์ เจริญพิบูลย์ รอง ผอ.กองโรงงานช่างแสง ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก นำกำลังพลเข้าติดตั้งรางรับฐานรองพระบรมโกศ และอุปกรณ์ยึดฐานรองพระบรมโกศ บนราชรถปืนใหญ่ หมายเลข 21863 จัดสร้างโดยกรมสรรพาวุธทหารบก เพื่อใช้ในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 3 ในการอัญเชิญพระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากพระมหาพิชัยราชรถ หมายเลข 9780 เวียนอุตราวัฎ (เวียนซ้าย) รอบพระเมรุมาศ ก่อนขึ้นสู่พระจิตกาธาน สำหรับรางรับฐานรองพระบรมโกศถูกติดตั้งบนเหล็กเนื้อเหนียวขนาด 3 นิ้ว สูง 1 นิ้ว 1 หุน มีระยะความห่างของราง 49.5 ซม. ติดบนฐานบัวขาสิงห์ที่อยู่ด้านบนสุดของราชรถ ทั้งนี้ ราชรถปืนใหญ่ หมายเลข 21863 อยู่ระหว่างการลงรักปิดทองที่บริเวณล้อด้านหน้า รอการประดับตกแต่งส่วนสลักลายไม้ โดยช่างจากสำนักช่างสิบหมู่ คาดแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. และหลังการติดตั้งรางและอุปกรณ์ยึดแล้วเสร็จ กรมสรรพาวุธทหารบกจะร่วมกับสำนักช่างสิบหมู่ทดสอบการเลื่อนถาดรองพระบรมโกศจากเกรินบันไดนาค และสะพานเกรินลงสู่ราชรถปืนใหญ่ เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องต่อไป,วันเดียวกัน นายประดับ โพธิกาญจนวัตร โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยถึงรายชื่อวัดไทยในต่างประเทศทั่วโลก ที่ถูกเสนอว่ามีความเหมาะสมจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อให้ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศทั่วโลกแสดงออกถึงความ จงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จำนวน 20 วัด ดังนี้,1.วัดพุทธาราม เมืองวาลแวกซ์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ 2.วัดศรีนครินทรวราราม เมืองโซลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 3.วัดพุทธวิหาร กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี 4.วัดเพื่อพระนิพพาน เมืองคิวลิช สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี 5.วัดไทยนอร์เวย์ เมืองฟรอกเนอร์ ประเทศนอร์เวย์ 6.วัดไทยเดนมาร์ก กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก 7.วัดไทยลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา 8.วัดพุทธาวาส รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา 9.วัดนวมินทรราชูทิศ รัฐแมสซาชูเสตต์ สหรัฐอเมริกา 10.วัดพุทธปทีป กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร,11.วัดพุทธาราม เมืองลีดส์ สหราชอาณาจักร 12.วัดพุทธสามัคคี นครไครส์ทเชิร์ท ประเทศนิวซีแลนด์ 13.วัดไทยนครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย 14.วัดไทยพุทธาราม นครบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย 15.วัดปากน้ำญี่ปุ่น เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น 16.วัดเหมอัศวาราม เมืองลั่วหยาง สาธารณรัฐประชาชนจีน 17.วัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย 18.วัดไทยลุมพินี เมืองลุมพินี สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล 19.วัดอานันทเมตยาราม ประเทศสิงคโปร์ และ 20.วัดพุทธไทยเชตะวัน กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้รายงานชื่อวัดดังกล่าวให้สำนักนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว | รัฐบาลเปิดให้ประชาชนเข้าชม พระเมรุมาศ พร้อมจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระ เพลิงพระบรมศพในหลวง ร.9 ระหว่างวันที่ 1-30 พ.ย. ธนะศักดิ์ มั่นใจมีผู้ชมมากกว่า 3 ล้าน | ข่าว,ทั่วไทย | พระเมรุมาศ,ในหลวงรัชกาลที่ 9,ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1034572 |
ไทเกอร์ คัมแบ็ก+ คนชนคน สัปดาห์ 4 | ในที่สุด พญาเสือ ในวัย 42 ปี ก็กลับมาครองแชมป์ เดอะทัวร์ แชมเปียนชิป ซึ่งเป็นรายการเพลย์ออฟส่งท้ายฤดูกาลสำหรับปีนี้ได้สำเร็จด้วยสกอร์ -11,เฉือนเอาชนะอันดับ 2 บิลลี่ ฮอร์เชลล์ ที่ได้ -9 ไป 2 สโตรก คว้าเงินรางวัลไปกว่า 1.6 ล้านเหรียญ และคะแนนสะสมเฟดเอ็กซ์คัพก็ยังได้เป็นที่ 2 รองจาก จัสติน โรส จึงหยิบโบนัสไปอีก 3 ล้านเหรียญเหนาะๆ เป็นของแถม,กลับคืนสู่วงจรของชัยชนะได้อีกครั้ง และเป็นครั้งที่ 80 ของเขา ซึ่งหากชนะได้อีก 2 ครั้งจะเท่ากับ แซม สนีด ที่ทำไว้ 82 ครั้งทันที,ไม่มีใครคาดคิดว่า พญาเสือ ซึ่งไปผ่าตัดหลายครั้ง และเคยถูกจับในข้อหา เมาแล้วขับ ซึ่งเขายอมรับว่าเมาจริง แต่เป็นการเมายาแก้ปวด--จะสามารถกลับมาได้,ด้วยความทุ่มเทและมานะพยายามอย่างไม่ย่อท้อต่อชะตาชีวิต ในที่สุดเขาก็ทำได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงชื่นชมของแฟนกอล์ฟทั่วโลก โดยเฉพาะเหยียบแสนคนที่แห่เข้าไปเชียร์เขาในสนามที่แอตแลนตาในวันสุดท้าย,จากที่เคยร่วงไปถึงอันดับ 1,199 ของโลก ไทเกอร์กลับมาอยู่ที่อันดับ 13 ของโลกเรียบร้อยแล้ว หลังชัยชนะที่เดอะทัวร์แชมเปียนชิป,สัปดาห์นี้ไทเกอร์จะร่วมทีมสหรัฐฯไปแข่งกอล์ฟประเพณีชิงถ้วย ไรเดอร์คัพ กับ ทีมยุโรป ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ที่ปารีส อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ,กลับมาที่กีฬา คนชนคน อเมริกันฟุตบอลกันดีกว่าเป็นอันว่าสัปดาห์นี้จะเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 แล้วนะครับ,หลังจากสัปดาห์ที่ 3 ทีมเต็งๆ อย่าง นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์, มินเนโซตา ไวกิงส์, แจ็กสันวิลล์ จากัวร์ส และ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ต่างแพ้คู่ต่อสู้แบบล็อกถล่มไปตามๆกัน,ยังดีที่ แอลเอ แรมส์ ซึ่งเป็นเต็ง 1 ชั่วขณะยังสามารถเอาชนะได้ ปราบ แอลเอ ชาร์จเจอร์ส ไป 35-23 รักษาฟอร์มเต็ง 1 ได้ต่อไป และ อินทรีมรกต ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ก็กลับมาชนะ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส 20-16 กลับเข้าสู่วงจรทีมเต็งต้นๆอีกครั้ง,ณ บัดนาวเหลือทีมไม่แพ้ใครอยู่แค่ 3 ทีมเท่านั้นเองครับ ได้แก่ โลมามหาภัย ไมอามี ดอลฟินส์ (3-0), ทีมหัวหน้าเผ่า แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ (3-0) และ เจ้าแกะเขาเหล็ก แอลเอ แรมส์ (3-0)--เหลือเชื่อว่าแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น ส่วนใหญ่แพ้ไปซะเกือบหมดแล้ว,สำหรับสัปดาห์นี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 จะมีคู่มันๆลงชนกันเช่นเคย เฉพาะคู่ถ่ายสด เริ่มจากเช้าวันศุกร์ แอลเอ แรมส์ (3-0) เปิดบ้านรับ มินเนโซตา ไวกิงส์ (1-1-1) ถือเป็นคู่ห้ามพลาด,เสียดาย จ่าแฉ่ง ติดภาระต้องส่งต้นฉบับล่วงหน้า ไม่สามารถรอผลคู่นี้ได้ โปรดอย่าลืมชำเลืองดูผลจากภาคข่าวด้วยนะครับ,ส่วนคู่อื่นๆ เราจะได้ดู นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ เจอ ไมอามี ดอลฟินส์ เที่ยงคืนวันอาทิตย์ และ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ไปเยือน เทนเนสซี ไททันส์ เที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ 30 ก.ย. อีกคู่นึง,สำหรับคู่ตี 3 คู่แรก เราจะได้ดูคู่ ซีแอตเติล ซีฮอว์กส์ กับ อริโซนา คาร์ดินัลส์ และคู่ที่ 2 แอลเอ ชาร์จเจอร์ส เจอกับ ซานฟรานซิสโก,ถัดไปคู่ 7 โมงเช้าเศษวันจันทร์ที่ 1 ต.ค. บัลติมอร์ เรฟเวนส์ จะพบกับ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส และส่งท้ายด้วยคู่ 7 โมงเศษเช้าวันอังคารที่ 2 ต.ค. ระหว่าง แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ กับ เดนเวอร์ บรองโกส์,ทั้งหมดรวม 7 คู่สัปดาห์นี้ ถ่ายทอดสดโดยทรูวิชั่นส์ เจ้าเดิม ใครชอบคู่ไหนก็เชิญ ดูคู่นั้นสำหรับ จ่าแฉ่ง เป็นแฟนเดนเวอร์ บรองโกส์ ถึงจะเล่นดี ไม่ดีอย่างไรก็คงต้องเอาใจช่วยเป็นของธรรมดาๆอย่าว่ากันเลยครับ.,จ่าแฉ่ง | เฮฮาสัปดาห์นี้ขอเริ่มด้วยการแสดงความยินดีและต้อนรับการกลับมาเป็นแชมป์อีกครั้งของไทเกอร์ วูดส์ หลังจากที่ชีวิตผันผวนตกตํ่าเรี่ยดินอยู่ถึง 5 ปีเต็มๆ | null | กีฬาเฮฮา กับจ่าแฉ่ง,จ่าแฉ่ง,ไทเกอร์ วูดส์,เดอะทัวร์ แชมเปียนชิป,อเมริกันฟุตบอล | https://www.thairath.co.th/sport/others/1386352 |
ตร.หัวหมากจับผู้ต้องหาตระเวนทุบกระจกรถยนต์ | ตำรวจนครบาลหัวหมากยึดของกลางเป็นแหวนเพชร ต่างหูเพชร สร้อยข้อมือทองคำล้อมเพชรและทรัพย์สินมีค่าอีกหลายรายการ มูลค่ากว่า 800000 บาท ได้จากนายสุจินดา พันปาน ผู้ต้องหาที่ตระเวนทุบกระจกรถยนต์ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 1 เมษายน ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกทุบกระจกรถยนต์ ขโมยกระเป๋าหลุย วิคตองที่บรรจุเครื่องเพชรหลายรายการไป บริเวณสโมสรสระว่ายน้ำ ย่านพระราม 9 โดยพบว่าคนร้ายมีรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเคยก่อเหตุตระเวนทุบกระจกรถยนต์มาแล้วหลายครั้ง ตำรวจจึงได้วางแผนจับได้ที่บ้านในเขตสวนหลวงผู้ต้องหารับสารภาพกับตำรวจว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว แต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่เกิน 5 วินาที ภายใน 1 เดือนจะทำประมาณ 5-6 ครั้ง และจะนำทรัพย์สินที่ขโมยได้ไปตั้งขาย ในย่านคลองถมขณะที่ พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลหัวหมากได้ฝากไปยังประชาชนที่อาจถูกผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน สามารถติดต่อขอดูของกลาง และรับคืนทรัพย์สินได้ที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมากในเวลาราชการ | ตำรวจนครบาลหัวหมากจับผู้ต้องหาตระเวนทุบกระจกรถยนต์ พร้อมยึดของกลางได้กว่า 800000 บาท | อาชญากรรม | จับ,ตำรวจ,ทุบกระจก,ผู้ต้องหา,รถยนต์,หัวหมาก | https://news.thaipbs.or.th/content/76931 |
เกาหลีเหนือจับชาวมะกันรายที่ 4 อ้างมีพฤติกรรมเป็นปรปักษ์ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือยืนยันการจับกุมตัวพลเมืองชาวอเมริกันรายที่ 4 โดยเป็นชายเชื้อสายเกาหลีชื่อ คิม ฮัค-ซอง ผู้ทำงานที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเปียงยาง (PUST) ตกเป็นผู้ต้องสงสัยฐานมีพฤติกรรมเป็นปรปักษ์,ตามรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ระบุว่า นายคิม ถูกควบคุมตัวในวันที่ 6 พ.ค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังสืบสวนรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของเขาอยู่ โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดนอกเหนือจากนี้,ข่าวการจับกุมตัว นายคิม ฮัค-ซอง ทำให้จำนวนชาวอเมริกันที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเกาหลีเหนือตอนนี้เพิ่มเป็น 4 คนแล้ว รวมถึงนาย คิม ซัง-ดึ๊ก ซึ่งสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัย PUST เช่นเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ นายหนึ่ง เผยว่า รัฐบาลได้รับรายงานว่ามีพลเมืองสหรัฐฯ ถูกจับกุมตัวไว้ในเกาหลีเหนือ และพวกเขาได้ประสานกับสถานทูตสวีเดนในกรุงเปียงยาง ซึ่งคอยดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในเกาหลีเหนือแล้ว,ทั้งนี้ เกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ กำลังตกอยู่ในสภาวะตึงเครียด หลังรัฐบาลเปียงยางเพิ่มการทดสอบขีปนาวุธ และมีแนวโน้มจะทดลองนิวเคลียร์ครั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ ซึ่งสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินและกองเรือรบไปยังคาบสมุทรเกาหลี และประกาศว่าจะขัดขวางไม่ให้เกาหลีเหนือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ | รัฐบาลเกาหลีเหนือจับกุมตัวพลเมืองสหรัฐฯ รายที่ 4 โดยอ้างว่าเขามีพฤติกรรมเป็นปรปักษ์ ท่ามกลางความตึงเครียดกับสหรัฐฯ และในคาบสมุทรเกาหลีที่ยังคงคุกรุ่น | ข่าว,ต่างประเทศ | เกาหลีเหนือ,จับพลเมืองอเมริกัน,สหรัฐ,มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเปียงยาง,นิวเคลียร์ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/934400 |
บอส ร้องลิเกอ้อนแม่ยก อวสาน จันทร์กระจ่างที่กลางทุ่ง | ครวญลูกคอขอคะแนนรักไม่ทันไร บอส-ชนกันต์ พูนศิริวงศ์ เจ้าของบท ทอง พระเอกลิเกน้องใหม่ในละครเรื่อง จันทร์กระจ่างที่กลางทุ่ง ก็มีอันต้องลาจอช่อง 7 แล้วในเย็นวันนี้ หนุ่ม บอส เลยถือโอกาสกล่าวกับแม่ยกน้องยกทั้งหลาย ตอนนี้มีแฟนคลับเป็นแม่ๆที่ชื่นชอบลิเกเพิ่มขึ้นหลายคนเลยครับ คือด้วยความที่ผมเป็นนักแสดง แถมเป็นเด็กรุ่นใหม่ พอต้องมาร้องรำลิเก เวลาไปเจอแม่ๆหรือแฟนละครตามที่ต่างๆ เขาก็จะบอกว่าเป็นกำลังใจให้นะลูก แค่นี้ก็เก่งมากแล้วอะไรแบบนี้ครับ ต้องขอบคุณแฟนๆ ทุกคนมากจริงๆที่ติดตามชม และให้กำลังใจผมมาตั้งแต่ต้นเรื่องจนมาถึงวันนี้ก็เป็นตอนจบแล้วครับ ใครที่ชื่นชอบลิเก ก็ยังมีฉากที่ผมต้องแสดงลิเกให้ดูอีกแน่นอน ตอนถ่ายทำยิ่งรู้ว่าฉากลิเกฉากไหนที่ใกล้จะจบ ผมก็ยิ่งตั้งใจแสดง และร้องลิเกให้เต็มที่ที่สุด ส่วนเรื่องราวของพระนางอย่างทอง กับเดือนเด่น (ชิงชิง-คริษฐา) จะลงเอยยังไง ความรักของพระเอกลิเกบ้านนา กับคุณหนูฐานะร่ำรวยจะสมหวังหรือไม่ ต้องติดตามนะครับ.>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ << | ครวญลูกคอขอคะแนนรักไม่ทันไร บอส-ชนกันต์ พูนศิริวงศ์ เจ้าของบท ทอง พระเอกลิเกน้องใหม่ในละครเรื่อง จันทร์กระจ่างที่กลางทุ่ง ก็มีอันต้องลาจอช่อง 7 แล้วในเย็นวันนี้ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | จันทร์กระจ่างที่กลางทุ่ง,นิยาย,นิยายไทยรัฐ,บอส ชนกันต์,ชนกันต์ พูนศิริวงศ์,ลิเก,ละคร | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1742123 |
โมโตจีพี 2019 จัดเต็มครบ 19 สนาม บุรีรัมย์ แข่ง 4-6 ต.ค.นี้ | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 23 ม.ค. ว่า เว็บไซต์ MotoGP.com เปิดเผยปฏิทินการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ประจำปี 2019 ออกมาแล้ว โดยจะมีการดวลกันทั้งสิ้น 19 สนาม ซึ่งในปีนี้ไม่มีสนามใหม่เพิ่มเข้ามาแต่อย่างใด,สำหรับทั้ง 19 สนามของศึกโมโตจีพี 2019 มีดังนี้,1.สนามโลเซล อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคม ,2.สนามเทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด ประเทศอาร์เจนตินา ระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม ,3.สนามเซอร์กิต ออฟ เดอะ อเมริกาส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน,4.สนามเซอร์กิโต เดอ เฆเรซ ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 3-5 พฤษภาคม ,5.สนามเลอ มังส์ ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 17-19 พฤษภาคม,6.สนามออโตโกรโม เดล มูเกลโล ประเทศอิตาลีระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายน,7.สนามบาร์เซโลนา คาตาลุนยา ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 14-16 มิถุนายน,8.สนามทีที เซอร์กิต อัสเซน ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน,9.สนามซัคเซนริง ประเทศเยอรมัน ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม,10.สนามออโตโมโตโดรม เบอร์โน ประเทศเช็ก ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม,11.สนามเรด บูลล์ ริง สปีลเบิร์ก ประเทศออสเตรีย ระหว่างวันที่ 9-11 สิงหาคม,12.สนามซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม,13.สนามมิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเซลลีประเทศซานมารีโน ระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน,14.สนามมอเตอร์แลนด์ อรากอน ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 20-22 กันยายน,15.สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม,16.สนามทวิน ริง โมเตกี ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม,17.สนามฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม,18.สนามเซปัง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน,19.สนามเซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน | ศึกโมโตจีพี 2019 กางโผปฏิทินแข่งครบ 19 สนาม สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ จัดสนามที่ 15 ระหว่างวันที่ 4-6 ต.ค.นี้ | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | โมโตจีพี 2019,โมโตจีพี,รถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก,สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต | https://www.thairath.co.th/sport/others/1477693 |
สศก.ยัน อเมริกาตัด GSP ไม่กระทบสินค้าเกษตรส่งออกหลัก | วันที่ 29 ต.ค. นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ สศก. วิเคราะห์และติดตามผลกระทบต่อสินค้าเกษตรและอาหาร จากกรณีสหรัฐอเมริกาแจ้งระงับสิทธิพิเศษทางภาษีสินค้า (GSP) จากประเทศไทย โดย สศก. ยืนยันว่า สินค้าเกษตรและอาหารหลักของไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา จะไม่ได้ผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวมากนัก และได้มีการ teleconference กับอัครราชทูตฝ่ายการเกษตรไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และผู้แทนถาวรไทยประจำ FAO กรุงโรม พร้อมกับได้เชิญผู้แทนกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา และ FAO เข้าพบภายในสัปดาห์หน้า,นายระพีภัทร์ กล่าวว่า ในการตัดสิทธิ GSP ชั่วคราวของสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ ยังคงเป็นการตัดสิทธิของสินค้าเพียงบางรายการ โดยจะเห็นว่าจากการประกาศตัดสิทธิ GSP คราวนี้ 573 รายการ เป็นสินค้าเกษตร (ภายใต้พิกัดศุลกากรตอนที่ 01-24) จำนวน 157 รายการ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้า ผักแปรรูป ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ชาเขียว ขิงป่น หูฉลาม เส้นพาสต้า ผลไม้แปรรูป สำหรับกลุ่มประมงแปรรูปอื่นที่อาจจะถูกตัดสิทธิ GSP ครั้งนี้ มิใช่กลุ่มพิกัดสินค้าประมงหลักที่ไทยส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา (ไม่ใช่สินค้ากุ้ง และปลาทูน่ากระป๋อง ซึ่งยังมีการนำเข้าอย่างต่อเนื่องและเป็นจำนวนมาก) จึงแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของตลาดสหรัฐอเมริกาที่มีต่อการดำเนินงานด้าน IUU ที่ประเทศไทยได้แสดงบทบาทนำในเรื่องการจัดการด้านประมงและต่อต้าน IUU ทั้งในประเทศและระดับโลก,ตลอดจนได้รับการยกย่องจากเวทีสหประชาชาติ ให้เป็น Presidential case ในการแก้ไขปัญหา IUU เผยแพร่แนวปฏิบัติให้แก่ประเทศอื่นๆ ตามที่ รมว.เกษตรฯ ได้มอบหมายให้นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมและนำเสนอแนวทางดำเนินงานเรื่องความร่วมมือต่อต้านประมงผิดกฎหมายระหว่างอาเซียนและแปซิฟิก ครั้งที่ 1 ในช่วงการประชุม UN Summit ณ นครนิวยอร์ก โดยได้ผลักดันให้จัดทำนโยบายประมงอาเซียน (ASEAN General Fisheries Policy) และการจัดตั้งเครือข่ายอาเซียนในการต่อต้านการประมงผิดกฎหมาย (ASEAN Network for combating IUU fishing) ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 35 ในประเทศไทยด้วย,อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดจากการตัดสิทธิ GSP บางรายการอาจมีผลทำให้สินค้าเกษตรข้างต้นของไทยอาจจะได้รับผลกระทบด้านราคาขายที่สูงขึ้น เช่น สินค้าผลไม้แปรรูป (ซึ่งมีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐอเมริกาในปี 2561 ประมาณ 45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะโดนเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นจาก 0% เป็น 4-14%) และเส้นพาสต้า (ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐอเมริกาในปี 2561 ประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่จะโดนเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นจาก 0% เป็น 6.4%),อนึ่ง สหรัฐอเมริกาได้ออกประกาศคืนสิทธิ GSP ให้ไทยบางรายการในคราวนี้เช่นกัน ซึ่งมีสินค้าเกษตรสำคัญ ได้แก่ 1) ดอกกล้วยไม้ซึ่งเป็นสินค้ามูลค่าสูงที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตและเพาะพันธุ์กล้วยไม้ใหม่เข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาได้มากขึ้น และ 2) โกโก้ซึ่งเป็นสินค้าเศรษฐกิจใหม่ที่กระทรวงเกษตรฯ มีแผนผลักดันให้เป็นสินค้าสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเนื่องจากมีความต้องการของตลาดสูง และประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกและสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม จึงนับเป็นโอกาสที่ดีในการขยายการผลิตสินค้าดังกล่าว ซึ่งกระทรวงเกษตรจะได้ส่งเสริมพันธุ์โกโก้ที่มีคุณภาพและขยายพื้นที่เพาะปลูกตามหลักตลาดนำการเกษตรของ รมว.กษ. เพื่อเร่งปรับวิกฤติให้เป็นโอกาส,ทั้งนี้ หลักสิทธิ GSP ถือเป็น การให้ฝ่ายเดียว ของประเทศที่พัฒนาแล้วต่อประเทศกำลังพัฒนา, ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด และเนื่องจากการยกระดับการพัฒนาของไทย จึงมีการทบทวนการให้สิทธิฯ ทั้งการทบทวนแบบรายสินค้า (พิจารณาจากส่วนแบ่งการตลาด) และรายประเทศ (พิจารณาจากระดับการเปิดตลาดให้แก่สหรัฐอเมริกา การปฏิบัติด้านแรงงาน การปฏิบัติด้านทรัพย์สินทางปัญญา ฯลฯ) ดังนั้น เกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าเกษตรและอาหารของไทย จึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สร้างความสามารถในการแข่งขัน พัฒนาคุณภาพและความปลอดภัย ให้เป็นที่เชื่อถือของตลาดต่างประเทศ จึงจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับสินค้าเกษตรและอาหารไทยในตลาดโลกอย่างมั่นคง และยั่งยืน อีกทั้งตนได้ขอให้แต่ละส่วนราชการของกระทรวงเกษตรฯ ใช้กลไกที่มีอยู่ เช่น อัคราชทูตฝ่ายการเกษตรไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และผู้แทนถาวรไทยประจำ FAO ณ กรุงโรม ติดตามและประชุมหารือกับฝ่ายสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด พร้อมได้เชิญผู้แทนกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ประจำประเทศไทย เข้าหารือกับรักษาราชการเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในรายละเอียดภายในสัปดาห์หน้า เพื่อนำไปสู่ความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์. | สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผย อเมริกาตัด GSP ไม่กระทบสินค้าเกษตรส่งออกหลัก เชิญ USDA และ FAO ร่วมหารืออย่างสร้างสรรค์ เร่งปรับวิกฤติเป็นโอกาส ใช้หลักการตลาดนำการเกษตร | ข่าว,การเมือง | ระงับGSP,สหรัฐฯตัดGSPไทย,สินค้าเกษตรส่งออกหลัก,สศก.,สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร,เฉลิมชัย ศรีอ่อน,USDA,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1692370 |
พม. ยก โปรเม นักกอล์ฟขวัญใจคนไทย เป็นเยาวชนดีเด่นสาขากีฬา ปี 60 | เมื่อวันที่ 11 ก.ย.60 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า พม.โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กำหนดจัดงานวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2560 วันที่ 20 ก.ย.60 ที่ห้องรอยัล จูบิลี บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.บัณฑิตย์ มลายอริศูนย์ ผู้แทนพระองค์เป็นประธานเปิดงานพร้อมมอบโล่และเกียรติบัตรแก่เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ประจำปี 2560 รวมทั้งสิ้น 110 คน อาทิ,- ประเภทบุคคลสาขาสื่อสารมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล,- ประเภทเด็กและเยาวชนสาขาสื่อมวลชนฯ น.ส.ศิริภัสสร อุบลรัตน์ หรือ น้องเฟย์ พิธีกรรายการ หม้อข้าวหม้อแกง,- ประเภทยอดเยาวชนสาขากีฬาและนันทนาการ น.ส.เอรียา จุฑานุกาล หรือ โปรเม นักกอล์ฟขวัญใจชาวไทย,- ประเภทเด็กและเยาวชนสาขากีฬาและนันทนาการ น.ส.ณีรนุช แตงเลี้ยง นักกีฬาคาราเต้โด น.ส.ศศิธร เทียบเพีย นักกีฬาฟันดาบสากล นายธีรพัฒน์ ชมชื่น นักกีฬายกน้ำหนัก เป็นต้น,พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรม พม. พาน้องดูหนัง ซึ่งเป็นความร่วมมือตามแนวทาง ประชารัฐ โดยนำเด็กด้อยโอกาส และเด็กพิการที่อยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์สังกัด พม. จำนวน 200 คน เข้าชมภาพยนตร์เรื่อง ก้านกล้วย 2 ในวันที่ 21 ก.ย.60 ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน,ด้าน นายจารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม หรือโดม เดอะสตาร์ ซึ่งได้รับคัดเลือกรับรางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ สาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม ปี 2558 ให้สัมภาษณ์ว่า รางวัลที่ได้รับเป็นเครื่องเตือนใจเสมอถึงการกระทำใดๆ ต้องมีสติ คิดก่อนทำให้มากขึ้น และยิ่งเราทำงานวงการบันเทิงถือเป็นสื่ออย่างหนึ่งที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะปัจจุบันการเข้าถึงสื่อต่างๆ ง่ายสะดวกมากขึ้นซึ่งมีทั้งสื่อที่นำเสนอสิ่งดีและในเชิงลบ เราจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องนำเสนอสิ่งดีๆ เป็นแบบอย่างให้กับเยาวชน | พม.จัดงานวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2560 ยก โปรเม นักกอล์ฟขวัญใจชาวไทยเป็นเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ สาขากีฬาและนันทนาการ พร้อมจัดกิจกรรม พม. พาน้องดูหนัง ให้เด็กด้อยโอกาสดูหนังก้านกล้วย 2 | ข่าว,ทั่วไทย | โปรเม,เอรียา จุฑานุกาล,นักกอล์ฟ,เยาวชนดีเด่น,พม.,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/1066844 |
ข่าวดี เตรียม ปลดล็อก กิจกรรมการเมือง ธ.ค.นี้เริ่มหาเสียงได้ | วันนี้ (8 พ.ย.2561) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงปฏิทินการเมืองเพื่อการเตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้งว่า จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.2561 ซึ่งพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะเริ่มมีผลบังคับใช้ และหลังพ้นเวลา 90 วันที่ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้ง ก็จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน หรือ ภายในวันที่ 9 พ.ค.2562ทั้งนี้ภายในเดือนธ.ค.2561 คาดว่าจะออกประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่ง กกต.จะยกร่างฯ เสนอให้คณะรัฐมนตรี โดยเมื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้ว จะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันที จากนั้น กกต.จะออกประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง และกำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งภายใน 5 วัน ซึ่งจะสอดคล้องกับการปลดล็อกทางการเมืองของ คสช.นายวิษณุ ระบุว้า หากการเลือกตั้งมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.2562 ตามกรอบเวลาที่รัฐบาลตั้งไว้ ก็จะส่งผลให้ กกต.ต้องดำเนินการตรวจนับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ การให้ใบเหลือง-ใบแดง การเลือกตั้งซ่อมในช่วงเดือน มี.ค.2562 และต้องประกาศผลเลือกตั้งภายในวันที่ 24 เม.ย.2562 หรือภายใน 60 วันนับจากเลือกตั้ง จากนั้นในช่วงเดือน พ.ค.2562 คาดว่าจะมีการเปิดประชุมรัฐสภาภายในวันที่ 8 พ.ค. หรือ ภายใน 15 วัน นับแต่ประกาศผลเลือกตั้งทั้ง ส.ส.และส.ว.ชุดใหม่ซึ่งก่อนหน้านั้น1 วัน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.จะสิ้นสุดลง ซึ่งเมื่อเปิดประชุมรัฐสภาแล้วจะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภานายวิษณุยังคาดว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะแถลงนโยบายได้ในช่วงเดือนมิ.ย. 2562 หรือภายใน 15 วันนับแต่ปฏิญาณตน โดยคาดว่า จะมีขึ้นก่อนการประชุมอาเซียนซัมมิท ในช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย.2562 | คาดเดือนธ.ค.นี้ คสช.เตรียมปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม เพื่อเตรียมเลือกตั้งได้ วิษณุ ชี้แจงปฏิทินการเลือกตั้งล่าสุด คาดการณ์ว่าจะได้รัฐบาลใหม่ภายในเดือน พ.ค.2562 | การเมือง | พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,นายวิษณุ เครืองาม,เลือกตั้ง,คสช.,24 ก.พ.62,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/275582 |
โสมชบาจ๊ะจ๋า 01/10/61 | สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเปิด ลานกีฬาพัฒน์ 2 ที่พื้นที่ใต้ทางด่วนศรีรัช แยกอุรุพงษ์ วันที่ 1 ต.ค. เวลา 09.00 น. ,ฉลองครบ 8 ปีโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ อเล็กซ์ พิเชล บิ๊กบอส สยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ และผู้บริหาร อาทิ แอนเดรอัส แม็กนุส มร.ม.ล.วรรณมาศ ทองแถม จัดงานอลังการ ด้วยการแสดง โขน ตระการตา และจุด lighting ceremony โดยทีม lady in red สื่อความรุ่งโรจน์ของเครือโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป,ยามนี้ อาจารย์โนริเอะ ชินวาณิชย์ แห่งโรงเรียนดนตรีโนริเอะ กำลังอยู่ในอาการมึน เพราะไหนจะช่วยจัดตารางเรียนร้องเพลงให้ ธีรนัยย์ ณ หนองคาย และยังมีตารางสอนแน่นมาก ใครที่ยังไม่ได้คิวเรียนอย่าเพิ่งน้อยใจ,ใครทราบก็ใจเสียใจสลายไปด้วย กับ ไพรัก ภูโสภา ที่หลังเกษียณจากแอร์ฯ(ขอโทษ สจ๊วต) แล้วไปลากเดรสยาว ติดขนตาปลอม ให้อาหารไก่อาหารปลาอยู่มหาสารคาม เมื่อได้ยินข่าวว่าลูกชายที่เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ ริชาร์ด เสียชีวิตเดียวดาย ในบ้านย่านรามอินทรา ด้วยวัยเพิ่งจะสามสิบ,ได้รับการตอบรับดี ธาพิดา นรพัลลภ จึงจัดงาน I AM THAI ขยายเปิดโซน THAITHAI สาขาใหม่ ที่ห้างเซน พร้อมเชิญไทยดีไซเนอร์ 15 แบรนด์ดัง จัดแฟชั่นโชว์อลังการ ให้อัปเดตเทรนด์ ออทั่ม/วินเทอร์ 2018 ที่โซน THAITHAI ห้างเซน 5 ต.ค. เวลา 18.30 น. ,กำลังเรียนหลักสูตร Next Real รุ่น 6 พิมรา จิวะวิศิษฏ์นนท์ แว้บไปญี่ปุ่น ไปคัดมุก ฮานาดามะ เกรดพรีเมียม เตรียมให้สาวกมุกไปเลือกไว้ใช้ ช่วงงานเลี้ยงเกษียณ เลี้ยงฉลองตำแหน่ง และเทศกาลงานแต่งปลายปี,หลังจัดทำแอปฯ ระดมทุนกับองค์กรมูลนิธิต่างๆ สร้างโอกาสให้เด็กๆหลายโครงการจนสำเร็จ แสงระวี จงศิริกุล ก็แอบหวังว่า อานิสงส์จะดลบันดาลให้บ้านที่คุณสามี พงษ์ภัทร ชูตระกูล ปลุกปั้นมา 4–5 ปี สำเร็จลุล่วง จนครอบครัวได้ย้ายเข้าอยู่เสียที-- 4-5 ปีนี่ ไม่อยากนับ ตอนทำแบบ ที่ปาไปเท่าอายุลูกสาว น้องปิ๊ปป้า 13 ปีด้วย,พอๆกับ พุทธิพล โกศลกุล ที่บรรจงปั้นออกแบบตามมโน ตั้งแต่ชวนภรรยา อาภาวัลย์ ที่เป็นอินทีเรียดีไซเนอร์ทั้งคู่ ย้ายกลับจากซานฟรานฯเมื่อ 8 ปีก่อน จนลูกชาย น้องพุทธิ อายุ 7 ขวบ บ้านก็ยังไม่เสร็จ จน น้องอาจ-พุทธิ บอกว่า พ่อกำลังสร้างบ้านให้นกอยู่.,โสมชบา | ได้รับการตอบรับดี ธาพิดา นรพัลลภ จึงจัดงาน I AM THAI ขยายเปิดโซน THAITHAI สาขาใหม่ ที่ห้างเซน พร้อมเชิญไทยดีไซเนอร์ 15 แบรนด์ดัง จัดแฟชั่นโชว์อลังการ ให้อัปเดตเทรนด์ ออทั่ม/วินเทอร์ 2018 | null | โสมชบาจ๊ะจ๋า,โสมชบา,ไพรัก ภูโสภา,ธาพิดา นรพัลลภ,พิมรา จิวะวิศิษฏ์นนท์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1387165 |
ปิดถนน 40 เส้นทาง ซ้อมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก | พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ในวันนี้ (28 เม.ย.) จะมีการปิดการจราจร เพื่อซักซ้อมการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยและการจราจรในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะเปิดการจราจรได้ตามปกติในเวลาประมาณ 21.30 น.โดยจะทำการปิดการจราจรและปิดถนน จำนวน 40 สาย ได้แก่สำหรับแนวทางการปิดการจราจร จะปิดเมื่อขบวนซักซ้อมผ่าน สำหรับเส้นทางใดที่ขบวนซักซ้อมยังไม่ผ่าน หรือเส้นทางใดที่ขบวนซักซ้อมผ่านไปแล้ว และไม่เป็นการกระทบต่อขบวนซักซ้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณาเปิดการจราจรเป็นช่วงๆ ไป เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรให้กับประชาชนและให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนประชาชนที่เดินทางระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี แนะนำให้ใช้เส้นทาง ดังนี้ทั้งนี้ ประชาชนควรเตรียมความพร้อมวางแผนการเดินทาง โดยสามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม ได้ที่สายด่วน 1197 ตลอด 24 ชั่วโมง | กองบัญชาการตำรวจนครบาล แจ้งปิดการจราจร 40 เส้นทางในวันที่ 28 เม.ย.นี้ เพื่อซักซ้อมการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยและการจราจรในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตั้งแต่เวลา 16.00 - 21.30 น. | สังคม | ปิดถนน,ปิดการจราจร,พระราชพิธีบรมราชาภิเษก,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/279604 |
รีวิวสายโหด จับไอโฟน 6 เอส? พิสูจน์ความแข็ง ยอมงอไม่ยอมหัก | แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีข่าวยืนยันการเปิดตัวและสเปกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ของค่ายดังอย่าง ,ไอโฟน, แต่ดูเหมือนว่ากระแสข่าวลือ ข่าวลวง และข่าวหลุด จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องแถมยังทวีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงใกล้ถึงวันเปิดตัว ซึ่งหลายสำนักข่าวพากันคาดการณ์ว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนกันยายนนี้,ล่าสุด มีคลิปวิดีโอจากช่องยูทูบที่ชื่อ ,Unbox Therapy, ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งอ้างคลิปดังกล่าวเป็นการทดสอบความแข็งแรงของไอโฟน ซึ่งชิ้นส่วนสีทองที่ดูเหมือนด้านหลังของไอโฟนนั้น เจ้าตัวอ้างว่าเป็นด้านหลังของเครื่องไอโฟน 6เอส (ว่าที่) สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของแอปเปิล,โดยการทดสอบนี้เขาได้ใช้เครื่องมือชนิดหนึ่งเพื่อทดสอบความทนทานต่อแรงกดของชิ้นส่วนด้านหลังของไอโฟน เพื่อเปรียบเทียบความแข็งแกร่งระหว่าง ไอโฟน 6 และไอโฟน 6เอส ด้วยการวางชิ้นส่วนเข้าไปในอุปกรณ์ทดสอบและค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักให้มากขึ้น เพื่อพิสูจน์ค่าน้ำหนักที่จะทำให้ชิ้นส่วนดังกล่าวเกิดอาการหักงอ,อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบจะเห็นว่า ชิ้นส่วนที่ถูกอ้างว่าเป็นไอโฟน 6เอส นั้น จะมีความสามารถในการรับแรงกดทับได้มากกว่า โดยคลิปดังกล่าวให้ข้อมูลว่าไอโฟนรุ่นใหม่จะใช้อะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงเป็นส่วนประกอบ ทำให้ตัวเครื่องสามารถรองรับแรงกดทับได้ดีกว่าไอโฟน 6 นั่นเอง,ไม่ว่าชิ้นส่วนในการทดสอบนี้จะเป็นด้านหลังของไอโฟนรุ่นใหม่หรือไม่ แต่คลิปดังกล่าวก็มีผู้สนใจเข้าชมไปแล้วกว่า 2.4 ล้านครั้งด้วยกัน,ชมคลิปพิสูจน์ความทนทานของไอโฟน 6เอส ,ที่นี่.,ที่มา : ,Unbox Therapy | ชมรีวิวสายโหดจากต่างประเทศ ทดสอบไอโฟน (iPhone) ด้วยการจับฝาหลังที่อ้างว่าเป็นไอโฟน 6เอส เข้าเครื่องพิสูจน์ความอึด! ประชันกับไอโฟน 6… | ข่าว,ไอที | ทดสอบ ไอโฟน,ไอโฟน งอ,ไอโฟน 6เอส,iphone,ไอโฟน,Unbox Therapy,ยูทูบ Unbox Therapy,youtube Unbox Therapy,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์,ข่าวไอที | https://www.thairath.co.th/news/tech/521248 |
เด้ง 3 ด.ต.เอี่ยวจับตำรวจเรียกค่าไถ่ 5 แสนบาท | วันนี้ (12 พ.ค.2562) กรณี ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ งาน ป. สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี พร้อมพวกอีก 5 คน ถูกตำรวจสืบสวนภาค 9 ไม่ต่ำกว่า 10 นาย จับตัวไปกักขังในเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเรียกค่าไถ่ 500000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีข้อหาครอบครองอาวุธปืน เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ พร้อมครอบครัว เข้าแจ้งความดำเนินคดี เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมาขณะที่ พล.ต.ต.สมชายรักเสนาะ ผบก.สส.ตำรวจภูธรภาค 9 แต่งตั้งให้ พ.ต.อ.เฉลิมชัย บุญศิริ ผกก.กลุ่มงานสืบสวนสอบสวน ภาค 9 เป็นประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทั้งทางวินัยร้ายแรงและอาญาพร้อมลงนามในคำสั่งย้ายตำรวจที่ถูกกล่าวหา3 นาย คือ ด.ต.ธีระยุทธ สุวรรณรัตน์ ด.ต.สิรภพ หมื่นหนู และ ด.ต.พิรชัย หวั้นเส้ง มาช่วยราชการที่สำนักตำรวจภูธรภาค 9 และตรวจสอบรายชื่อตำรวจเพิ่มเติม เนื่องจากคาดว่ายังมีตำรวจอีกหลายนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้าน พ.ต.อ.กิตติชัยสังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเบื้องต้นตั้งข้อกล่าวตำรวจทั้ง 3 นาย และพลเรือนอีก 1 คน คือ น.ส.เกศรินทร์ บุญมาทน ฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่ | คดีตำรวจสืบสวนภาค 9 จับตำรวจไปเรียกค่าไถ่ 500000 บาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีอาวุธปืน ล่าสุด ต้นสังกัดสั่งย้าย 3 ตำรวจที่ถูกกล่าวหา พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง | อาชญากรรม | จับตำรวจเรียกค่าไถ่,อุ้มตำรวจ,หาดใหญ่,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/279973 |
อีเจี๊ยบ ดึงสติคนใจเย็นๆ หลังโซเชียลแห่ติด #เสือดำ ห่วงละเมิดอำนาจศาล | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากวันนี้ (19 มี.ค.62) ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้นัดอ่านคำพิพากษาตัดสินคดีลักลอบล่าเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่มี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คนเป็นจำเลย,โดยศาลได้พิพากษา จำคุกนายเปรมชัย พร้อมพวก 3 ข้อหา ร่วมกันพกพาอาวุธปืน คุก 6 เดือน, สนับสนุนผู้อื่นให้ล่า คุก 8 เดือน, ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือไก่ฟ้าหลังเทา 2 เดือน รวม 16 เดือน ส่วนข้อหาเก็บของป่า และข้อหาร่วมกันมีซากเสือดำ ตัดสินยกฟ้องนั้น,จากการตรวจสอบกระแสในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ พบว่า ชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก ส่งผลให้แฮชแท็ก #เสือดำ กลับมาติดเทรนด์ยอดนิยมอีกครั้ง พร้อมกับระบุว่าจะขอติดตามคดีนี้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด และขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคน,ขณะที่แฟนเพจ อีเจี๊ยบ เลียบด่วน โพสต์ข้อความว่า นี่เป็นแค่ ศาลชั้นต้น ถึงตัดสินว่าผิด ทางจำเลยก็คงประกันตัวมาสู้ต่อในชั้นอุทธรณ์แน่นอน ไม่ได้นอนคุกวันนี้ เดี๋ยวนี้หรอก หรือ ถึงตัดสินว่าไม่ผิด ก็ทางอัยการก็ยังมีสิทธิ์อุทธรณ์สู้ต่อไปอีก ยังไม่จบ มีเยอะแยะที่ชั้นต้นรอด แต่มาตายตรงอุทธรณ์ ฎีกาใจเย็นๆ และยังมีคดีอื่นๆ ของเปรมชัยอีก ยังไม่จบ,เดี๋ยวสายๆ ข่าวคงออกว่าจะออกหน้าไหน เราควรเคารพคำตัดสิน ไม่ว่าจะพอใจ หรือ ไม่พอใจ ระวังเรื่องไปคอมเมนต์ตามเพจต่างๆ ด้วย อย่าให้เป็นการดูหมิ่นศาล ด่าศาล แม้เป็นแค่คอมเมนต์ในเน็ต มันก็ผิดกฎหมาย หวังว่า คำสาปแช่งของคนไทยทั้งประเทศคงส่งผลคราวนี้นะ รัก,ศาลสั่งจำคุก เปรมชัย 16 เดือน ยกฟ้องคดีเก็บของป่า-ล่า เสือดำ | โซเชียลจับตาต่อเนื่อง ติดแฮชแท็ก #เสือดำ พุ่งติดเทรนด์ฮิตอีกครั้ง หลังศาลพิพากษาจำคุก เปรมชัย คดีเสือดำทุ่งใหญ่ฯ ด้าน อีเจี๊ยบ เลียบด่วน ดึงสติบอกขอให้ทุกคนใจเย็นๆ เตือนอย่าละเมิดอำนาจศาล. | ข่าว,สังคม | เสือดำ,เสือดำทุ่งใหญ่,เปรมชัย กรรณสูต,ข่าวโซเชียล,หัวหน้าวิเชียร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1523110 |
โค้ชเอาก์สบวร์กพลาดคุมทีมเพราะยาสีฟัน | ไฮโค แฮร์ริช โค้ชของทีม เอาก์สบวร์ก ในศึก บุนเดสลีกา ของเยอรมนี ประกาศงดคุมทีมลงเตะนัดที่ต้นสังกัดจะเปิดบ้านพบกับ โวล์ฟสบวร์ก คืนวันเสาร์นี้ ซึ่งเป็นเกมนัดแรกของตัวเองหลังตอบรับงานคุมทีมเมื่อเดือนมีนาคม และเป็นเกมนัดแรกที่ฟุตบอลลีกของเยอรมนีจะกลับมาแข่งอีกครั้ง หลังหยุดพักชั่วคราวเพราะการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19แฮร์ริช ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวก่อนเกมว่า ตนแอบออกจากโรงแรมที่พัก เพื่อไปหาซื้อยาสีฟันและครีมทาผิว และเนื่องจากเป็นการละเมิดกฎการกักตัว ทำให้เขาตัดสินใจไม่ขอคุมทีมลงฝึกซ้อมในวันศุกร์นี้ รวมถึงจะไม่ลงคุมทีมแข่งในเกมวันเสาร์ เพื่อแสดงความรับผิดชอบทั้งนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันออกมาตรการณ์หลายอย่าง เพื่อให้ฟุตบอลบุนเดสลีกา กลับมาแข่งกันได้ต่อในช่วงการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 เช่นการให้นักเตะและทีมงานของทีมที่จะลงแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้ ต้องเก็บตัวอยู่ในโรงแรมเป็นเวลา 7 วัน รวมถึงกฎการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมเกมไม่ให้เกิน 322 คนต่อ 1 นัด ที่ส่งผลให้ เฮนเนส์ ที่ 9 สัตว์สัญลักษณ์ของทีม เอฟซี โคโลญจน์ หมดสิทธิ์โชว์ตัวก่อนเกม ครั้งแรกในรอบ 12 ปี เช่นเดียวกับ โยอัคคิม เลิฟ โค้ชทีมชาติหมดสิทธิ์เข้าไปดูฟอร์มนักเตะในสนาม เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม | แฮร์ริช โค้ชทีมเอาก์สบวร์ก ไม่ขอคุมทีมลงเตะเกมนัด รีสตาร์ท ในศึกฟุตบอล บุนเดสลีกา เหตุแสดงความรับผิดชอบที่ละเมิดกฎกักตัว | กีฬา | แฮร์ริช,ฟุตบอล,บุนเดสลีกา | https://news.thaipbs.or.th/content/292483 |
ประชาชนเตรียมเฝ้ารับเสด็จฯ ในหลวง-พระราชินี | น.ส.มณฑา พิทักษ์แทน ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เดินทางด้วยรถไฟจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มายังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันอังคารที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เพื่อเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ซึ่งจะเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทุ่งมะขามหย่อง ในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) โดยก่อนหน้านี้เคยเข้าเฝ้าฯ ที่ศาลาดุสิตดาลัย สวนจิตรลดา เมื่อปี 2547 และรู้สึกดีใจที่จะได้เฝ้ารับเสด็จฯอีกครั้งด้าน น.ส.มธุริดา มูลกัน ชาวจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก และอยากมีส่วนร่วมจากการเฝ้ารับเสด็จฯ จึงได้ตัดสินใจลางาน 1 วัน เพื่อมารอเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะเสด็จพระราชดำเนินทุ่งมะขามหย่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ใช้เวลาว่างหลังเลิกงานในช่วงเช้า ศึกษาเส้นทาง เพื่อเตรียมมาเฝ้ารับเสด็จตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ขณะที่ในช่วงค่ำวานนี้ (23 พ.ค.) ประชาชนกว่า 300 คน ตั้งใจฝึกซ้อมการแสดงชุด ทุ่งมะขามหย่อง ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เล่าเรื่องราวทุ่งมะขามหย่อง และวิถีชีวิตของชาวพระนครศรีอยุธยาที่ผูกพันกับสายน้ำมาตั้งแต่บรรพบุรุษ อาทิ การแสดงริ้วขบวนเฉลิมพระเกียรติ กิ่งไม้กิ่งทอง การขับเพลงเรือ ประกอบการแสดงโดยเรือชาวบ้าน กว่า 300 ลำ การฉายพระราชกรณียกิจ ประวัติทุ่งมะขามหย่อง สายน้ำแห่งอุทกภัย การแสดงบนผิวน้ำ และการแสดงของช้าง 11 เชือก ของวังช้างอยุธยาแลเพนียด ที่ผ่านการลงสีเผือก ให้สวยงามคล้ายกับช้างที่ได้รับพระราชทานตำแหน่งเจ้าพระยาช้างเผือก จากกษัตริย์ ในอดีต นอกจากนี้ ยังมีศิลปิน นักประพันธ์ ร่วมแสดงบนเวที อย่าง จิระนันท์ พิตรปรีชา กับการขับเสภาเล่าประวัติทุ่งมะขามหย่อง และธนิสร์ ศรีกลิ่นดี อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด มาบรรเลงโดยขลุ่ย ซึ่งนักแสดงทุกคนต่างก็รู้สึกภาคภูมิใจ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้มีโอกาสถวายการแสดงหน้าพระทีนั่งทั้งนี้ ตามกำหนดการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลศิริราช ในวันพรุ่งนี้ (25พ.ค.) เวลา 16.30 น. โดยจะเสด็จพระราชดำเนินไปถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์พระสุริโยทัย จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงชุดต่างๆ ณ พลับพลาที่ประทับกลางน้ำ และทรงติดตามโครงการพระราชดำริที่พระราชทานแก่ประชาชนในพื้นที่ เมื่อปี 2538 และทรงตรวจสอบบริเวณอ่างเก็บน้ำแก้มลิง ว่ามีผลกระทบต่อประชาชนหรือไม่ | ประชาชนจากในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและทั่วทุกภาค เตรียมเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ซึ่งจะเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทุ่งมะขามหย่อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา | ภูมิภาค | null | https://news.thaipbs.or.th/content/86870 |
ป.ป.ช.ยังไม่ชี้มูลถอดถอน ส.ส.และ ส.ว. ปมที่มา ส.ว. | นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวยืนยันว่าในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.วันนี้ (12 ธ.ค.) ว่า จะไม่มีการชี้มูลความผิดของผู้ถูกร้องในคำร้องที่ขอให้ถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ร่วมกันลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นเรื่องที่มาของ ส.ว.โดยการประชุมในวันนี้ (12 ธ.ค.) จะเป็นเพียงการไต่สวนข้อเท็จจริงนำหลักฐานต่างๆ รวมทั้งคำ พิพากษาและสำนวนคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาประกอบการพิจารณาของ ป.ป.ช.เท่านั้น โดยจะเชิญผู้ร้องและผู้ถูกร้องเข้าชี้แจงตามขั้นตอน ทั้งนี้คาดว่ากระบวนการไต่สวนจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะมีความชัดเจนส่วนจะมีการชี้มูลความผิดก่อนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งเป็นกำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งหรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ แต่ ป.ป.ช.จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยจะยึดตามหลักนิติธรรม | การประชุม ป.ป.ช. วันนี้ (12 ธ.ค.) จะนำสำนวนคำร้องยื่นถอดถอน 312 ส.ส.และ ส.ว. กรณีร่วมกันเสนอชื่อแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มา ส.ว.เข้าหารือ พร้อมทั้งเชิญเจ้าหน้าที่มาให้ถ้อยคำประกอบ โดยคาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือนในการไต่ส่วนก่อนที่จะชี้มูลความผิดออกมา | การเมือง | ถอดถอน ส.ส.,ที่มา ส.ว.,ป.ป.ช.,แก้รัฐธรรมนูญ | https://news.thaipbs.or.th/content/211404 |
ไม่อยากโดนรื้อกระเป๋าต้องอ่าน 8 เรื่องรู้ไว้ก็ดีก่อนขึ้นเครื่องบิน | ช่วงนี้โปรตั๋วเครื่องบินกระหน่ำเซลส์มาก หลายคนมือลั่นพลั้งกดโปรไปแบบไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว พอฝ่าด่านโปรตั๋วถูกแล้ว ก็เตรียมแพ็กกระเป๋า แต่เอ๊ะ? สิ่งของต้องห้ามที่ไม่ให้ขึ้นเครื่องและโหลดสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องมีอะไรบ้างล่ะ นี่อาจเป็นงานใหญ่ระดับชาติ ยิ่งกว่ากดจองตั๋วอีกนะพวกเธอออออ,1.บรรจุของเหลวขึ้นเครื่องได้เท่าไร ของเหลวทั้งหมดที่กล่าวมานี้ มีทั้งยาสีฟัน ครีมอาบน้ำ โลชั่น, ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และควรแพ็กในถุงซิปล็อก เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจได้ชัดเจนค่ะ,2.แล้วกรรไกรตัดเล็บ เข็มด้ายเย็บผ้า สำหรับใช้ในทริปล่ะ, หากมีความจำเป็นต้องใช้ระหว่างไปทริป ควรแพ็กใส่กระเป๋าเล็กแยกให้ชัดเจน ใส่ลงในกระเป๋าสัมภาระอีกที เพราะของมีคมไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ค่ะ และสำหรับนักเดินทางแบบแอดเวนเจอร์ ควรเช็กดูว่าพกของมีคมติดตัวไปหรือไม่ เพราะอาจเผลอคล้องมีด Multitools ติดกระเป๋าเป้ไปได้,3.ยาประจำตัวให้ติดกายตลอด, สำหรับยาชนิดเม็ดแคปซูลสามารถพกขึ้นเครื่องได้ค่ะ หากเป็นยาน้ำหรือยาชนิดพ่นสเปรย์ อาจมีกรณียกเว้นเป็นพิเศษ ในเรื่องโรคประจำตัวที่ต้องพกยาชนิดนี้ตลอด และควรพกใบรับรองแพทย์ไว้ตอนไปทริปต่างประเทศค่ะ เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเวลาที่เรามีความจำเป็นต้องซื้อยาเพิ่ม เภสัชกรจะเรียกดูซะเป็นส่วนใหญ่ กันไว้ก่อนดีกว่า,4.เผลอพกน้ำหอมกลิ่นโปรดขวดใหญ่ หรือสเปรย์สำหรับเสริมความงามมาด้วย, ห้ามเกิน 0.5 กก./ลิตร ต่อชิ้น และน้ำหนักรวมทุกชิ้นไม่เกิน 2.0 กก./ลิตร หรือถ้ากลัวเสียดายน้ำหอมที่ซื้อมาแพง สนามบินเริ่มมีบริการ เครื่องบริการฝากส่งไปรษณีย์อัตโนมัติ จากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มาติดตั้งนำร่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ,5.อุปกรณ์กีฬาสุดโปรด, เช่น ชุดถุงกอล์ฟ จักรยานเสือภูเขาหรือเสือหมอบ สำหรับไปแข่งขันหรือไปแข่งไตรกีฬา ทางแต่ละสายการบินก็มีบริการขนส่งด้วยเช่นกัน สาวกสายสปอร์ตเบาใจได้เลย ที่สำคัญควรแพ็กให้มิดชิดและกันกระแทกได้ในระดับนึง,6.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ,โดยเฉพาะ Power Bank ที่เกิน 30,000-32,000 mAh ห้ามขึ้นเครื่องและโหลดลงสัมภาระ แต่เราสามารถพกตามจำนวนที่ไม่เกินจากนี้ได้ รวมถึงแล็ปท็อป อุปกรณ์การถ่ายภาพ เฉพาะตอนขึ้นเครื่องเท่านั้น ส่วนขาตั้งกล้องสามารถโหลดลงใต้ท้องเครื่องได้ค่ะ,7.รถเข็นเด็กเล็ก, หากรถเข็นเด็กสามารถพับเก็บได้ มีขนาดไม่เกินสัมภาระพกพา (56 ซม. x 23 ซม. x 36 ซม.) และต้องสามารถเก็บไว้อย่างปลอดภัยในที่มิดชิดก็สามารถเอาขึ้นเครื่องได้เช่นกัน,8.หญิงตั้งครรภ์ ,เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจมากๆ สำหรับว่าที่คุณแม่คนใหม่ เพราะการเดินทางไกลแต่ละทริปค่อนข้างเสี่ยงต่อเด็กในครรภ์ ทั้งสภาพอากาศ และขณะอยู่บนเครื่อง ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เป็นสตรีมีครรภ์ หากมีความจำเป็นในการเดินทาง ควรแสดงใบรับรองแพทย์ยืนยัน ในกรณีที่อายุครรภ์อยู่ในระหว่าง 28-37 สัปดาห์ หรือขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละสายการบิน หากอายุครรภ์เกินกว่านั้น ทางสายการบินจะปฏิเสธการให้บริการ สำหรับสตรีที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 28 สัปดาห์ สามารถขึ้นเครื่องได้ตามปกติ (ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบินด้วยเช่นกัน),ที่มา – Lisa Guru,www.lisaguru.com, ,www.facebook.com/lisaguru, | โดยปกติเวลาเดินทางเราจะมีกระเป๋าเดินทางสำหรับโหลดและกระเป๋าสัมภาระขนาดเล็กไม่เกิน 7 กิโลกรัม แต่ชิ้นไหนห้ามขึ้น-เอาขึ้นได้ล่ะ? ไปคลายข้อสงสัยกัน | ไลฟ์สไตล์,ท่องเที่ยว | Lisa Guru,กระเป๋าเดินทาง,ขึ้นเครื่องบิน,กระเป๋าสัมภาระ,แพ็กกระเป๋า,อื่นๆ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/abroad/981855 |
ปิยบุตร ขอ ปชช.จับตาการทำงาน ศาลรธน. 32 ส.ส.จะหยุดทำหน้าที่หรือไม่ | วันที่ 26 มิ.ย. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องกรณี ตรวจสอบ ส.ส. 41 คน ถือครองหุ้นสื่อ โดยตีตก ส.ส. 9 คน เนื่องจากพบว่า เอกสารประกอบกิจการการค้าจดทะเบียน เป็นประเภทอุปกรณ์เครื่องเขียน แบบเรียนแบบพิมพ์ ส่วนอีก 32 คน ที่รับคำร้องแต่ไม่ยุติการปฏิบัติหน้าที่ มีเหตุให้ไต่สวนหาข้อเท็จจริงต่อไป,นายปิยบุตร กล่าวว่า มติของศาลฯ ถึงกรณี ส.ส. 32 คน แตกต่างจากคดีถือครองหุ้นสื่อของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่า ส.ส. 32 คน ที่ไม่ได้ถูกตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงในชั้นของ กกต. มีเอกสารประกอบคำร้องเท่านั้น จึงทำให้ยังไม่มีความชัดเจนที่จะสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ แต่ได้รับคำร้อง โดยอ้างว่า คดีหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีกระบวนการตั้งคณะกรรมการไต่สวนในชั้น กกต.ก่อนจะรับคำร้อง ซึ่งมีเหตุเพียงพอให้ศาล รธน.มีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่,นายปิยบุตร ระบุว่า จากแนวทางพิจารณาของศาลครั้งนี้ถือว่า เป็นบรรทัดฐานใหม่ ในการตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส. ซึ่งมีขั้นตอนการปฏิบัติที่แตกต่างกัน ส่วนตัวคิดว่าในครั้งต่อไป หากมีผู้ร้องอาจต้องแนบเอกสาร งบการเงิน หรือ แบบ สสช.1 ให้ศาล รธน.พิจารณาด้วย และหากเทียบเคียงกับการตัดสินของศาลฎีกาที่ตัดสิทธิ์ ส.ส. 2 คน จะเห็นได้ว่า มีแนวทางการทำงานแตกต่างกับศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวจึงคิดว่าแนวทางการตัดสินในกระบวนการยุติธรรม ทำไมจะมีความแตกต่างกัน,ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามการทำงานในเรื่องของกรอบระยะเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะใช้กรอบเวลา และบรรทัดฐาน หลังจากนี้เหมือนกรณีของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ ที่จะยุติการปฏิบัติหน้าที่ 32 ส.ส.,สำหรับคดีของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะครงกำหนด ในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ต้องรอการพิจารณาจากศาลรัฐธรรมนูญ จะสามารถเบิกพยานบุคคลได้หรือไม่ นายปิยบุตร ยืนยันว่า ทีมกฎหมายมีความพร้อมสู้คดีอย่างเต็มที่ ตามกรอบเวลาที่ศาลกำหนด | ปิยบุตรขอ ปชช.จับตาการทำงานศาล รธน. หลังจากนี้จะมีการยุติปฏิบัติหน้าที่ 32 ส.ส. หรือไม่ เบื้องต้น กระบวนการไต่สวนแตกต่างจากกรณีหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,32ส.ส.ถือหุ้นสื่อ,ปิยบุตร แสงกนกกุล,ศาลรธน.,ประชาชนจับตา,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,อนาคตใหม่,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1600805 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.