title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
|---|---|---|---|---|---|
ไขรหัส ไวรัสโรตา ต้นเหตุท้องร่วงเฉียบพลัน | จริงๆแล้ว ไวรัสโรตา หรือ โรตาไวรัส เป็นไวรัสที่มีการระบาดตามฤดูกาลอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมา มันเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงเฉียบพลันในเด็กโดยเฉพาะเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มากกว่าผู้ใหญ่ พอมาเกิดในผู้ใหญ่ เลยทำให้ตกอกตกใจกันนิดหน่อย,นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกว่า โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันในประเทศไทย เป็นโรคที่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างสม่ำเสมอ มักระบาดในช่วงหน้าหนาว โดยมีไวรัส 2 ตัว ที่ต้องเฝ้าระวัง คือ ไวรัสโนโร (Norovirus, NoV) ประกอบด้วย 5 จีโนกรุ๊ป (Genogroup) คือ GI-GV โดยจีโนกรุ๊ปที่มักก่อโรคในมนุษย์ คือ GI และ GII โดยเฉพาะจีโนกรุ๊ป GII พบว่ามีอัตราการก่อโรคในคนสูงที่สุด ส่วนไวรัสโรตา (Rotavirus) มี 7 สายพันธุ์ ได้แก่ A, B, C, D, E, F และ G ซึ่งไวรัสโรตากรุ๊ป A เป็นไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน อาการมักรุนแรงในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กอายุตํ่ากว่า 5 ปี,คุณหมอสุขุม บอกว่า อาการที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโรตา และโนโรไวรัสคือ คลื่นไส้รุนแรง ปวดท้องและท้องร่วง โดยเฉพาะการอาเจียน ถือว่าเป็นอาการเด่น ส่วนอาการร่วมอย่างอื่นที่พบ เช่น ปวดศีรษะ ไข้หนาวสั่น และปวดกล้ามเนื้อ เชื้อนี้ใช้เวลาฟักตัวประมาณ 12-48 ชม.,ในส่วนของไวรัสโนโรยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ในการป้องกัน แต่ไวรัสโรตามีวัคซีนป้องกันแล้ว 2 ชนิด การติดเชื้อไวรัสโรตา อายุฟักตัวประมาณ 1-2 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดท้อง อาเจียน และถ่ายเป็นน้ำ มักหายได้เองภายใน 3-8 วัน และด้วยเหตุที่เชื้อนี้มีหลายสายพันธุ์ จึงสามารถเกิดโรคได้หลายครั้ง เรียกว่าเป็นแล้วก็จะเป็นซ้ำได้,ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระบุว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงทั้งปี สูงถึง 985,544 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 4 ราย ในจำนวนนี้ 226,909 ราย เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ และ 3 ใน 4 รายที่เสียชีวิตเป็นเด็กเล็กทั้งหมด ข้อน่าสังเกตคือ อุจจาระร่วงจากไวรัสที่เป็นในเด็กส่วนใหญ่ เป็นเชื้อไวรัสโรตา แต่ก็มีแนวโน้มเริ่มพบในผู้ใหญ่มากขึ้นในปัจจุบัน,ด้าน นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า กรณีโรคท้องร่วงจากเชื้อไวรัสโรตา ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกว่า เดิมเชื้อไวรัสโรตามักพบในเด็กอายุ 3 เดือนถึงอายุ 5 ขวบ แต่แนวโน้มในปัจจุบันเริ่มพบในผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งก็จะต้องมีการติดตามและเฝ้าระวังโรคกันต่อ รวมถึงหาข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวในผู้ใหญ่มากขึ้น,อย่างไรก็ตาม คุณหมออัษฎางค์ บอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโรตา คือ การกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ อาหารร้อน หลักการป้องกันโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารที่ใช้กันมา คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ยังคงใช้ได้อยู่ เพราะส่วนใหญ่แล้วเชื้อเหล่านี้จะติดจากอาหารและน้ำ ไม่ควรรับประทานอาหารสุกๆดิบๆ หรืออาหารที่มีแมลงวันตอม หากจะเก็บอาหารที่ค้างมื้อควรเก็บไว้ในตู้เย็น และก่อนรับประทานต้องอุ่นให้ร้อนทุกครั้ง,ช่วงนี้คงต้องขอความร่วมมือจากพ่อแม่ผู้ปกครองให้แนะนำเด็กๆให้หัดล้างมือบ่อยๆ และการไปโรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็กต้องใช้อุปกรณ์ที่แยกจากกัน ไม่ปะปนกัน ตรงนี้จะเป็นการสร้างสุขนิสัยให้ดีตั้งแต่เด็กๆได้ และป้องกันภาวะท้องร่วงจากเชื้อไวรัสนี้ได้ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคบอก,ปัจจุบันมีวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรตาแล้ว โดยเริ่มผลิตครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อ 10 ปีก่อน แม้มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรค แต่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น ได้แก่ การเกิดโรคลำไส้กลืนกัน จึงมีการระงับการใช้ไป และได้มีการพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่งวัคซีนรุ่นใหม่นี้เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคและมีความปลอดภัยสูง โรคนี้ไม่มียารักษา การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการแบบประคับประคอง เช่น ถ้ามีไข้ ก็ให้ยาลดไข้ และเช็ดตัวเพื่อลดไข้เป็นระยะ ให้สารน้ำโดยการรับประทานหรือการให้เข้าทางเส้นเลือด เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขภาวะขาดน้ำ ให้ยารักษาตามอาการ เช่น ถ้าผู้ป่วยมีคลื่นไส้หรืออาเจียนให้พิจารณาให้ยาลดอาการคลื่นไส้อาเจียน รับประทานอาหารอ่อน รสไม่จัด สำคัญที่สุดคือ พักผ่อนให้เพียงพอ,สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโรตาไวรัสทั่วโลก พบว่า โรคนี้พบได้ทั่วโลก แม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้ว หรือประเทศที่มีความรู้ด้านสาธารณสุข และสุขอนามัยดี เช่น ประเทศในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกาก็ยังคงพบการติดเชื้อไวรัสโรตา เฉพาะในอเมริกาพบผู้ป่วยโรคนี้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนต่อปี โดยทุกๆปีจะมีเด็กเสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วงที่เกิดจากโรตาไวรัส เฉลี่ยราว 100 คน. | ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการแพทย์ แต่บังเอิญคนป่วยเป็นดาราดัง เลยสร้างปรากฏการณ์ตื่นตัวในโลกโซเชียลแบบรวดเร็ว สำหรับ โรตาไวรัส | ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์ | สมาร์ทไลฟ์,ไวรัสโรตา,ท้องร่วงเฉียบพลัน,ท้องร่วง,กรมควบคุมโรค,สุขภาพกาย/ใจ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1175660 |
วินวัดกู้ ซอกแซกเลี่ยงจราจรแน่น ล้มร่างมุดพ่วง 18 ล้อ ถูกขยี้ลาก 15 ม. | เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 59 ร.ต.ท.ธนวัฒน์ ชีวิตโสภณ รอง สว.สส.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต บนถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ จึงเดินทางไปสอบสวนพร้อมด้วยแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 70-7332 ระยอง จอดอยู่ช่องทางซ้าย บริเวณใต้ท้องรถพบศพ นายชอบ บุญมาเกิด อายุ 64 ปี ชาว ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร อาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง วินคอนโดมิเนียมเอื้ออาทร 2 ซอยวัดกู้ นอนจมกองเลือด สภาพถูกทับกะโหลกศีรษะแตก ลำตัวฉีกขาด ห่างไปประมาณ 15 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กกธ 928 นนทบุรี ล้มตะแคงอยู่ขอบทางด้านซ้าย ส่วน น.ส.กีรตี อินทะโฉม อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้โดยสารจักรยานยนต์รับจ้างได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย,จากการสอบปากคำ นายโสพล ทองขาวขำ อายุ 56 ปี ชาว ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี คนขับรถพ่วง ให้การว่า ขับบรรทุกน้ำดื่มจากบริษัทย่าน จ.ปทุมธานี มาเต็มคัน เตรียมไปส่งยังคลังสินค้าย่าน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ขณะขับมาตามถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าไปทางแยกหลักสี่ ในช่องทางซ้ายสุด ถึงบริเวณจุดเกิดเหตุการจราจรหนาแน่น รถเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ จู่ๆ มีชาวบ้านตะโกนบอกให้หยุดรถจึงรีบจอดรถลงไปดู พบว่า นายชอบ เสียชีวิตใต้ท้องรถแล้ว โดยไม่ทราบว่าเกิดการเฉี่ยวชนกันตอนไหน กระทั่งรถลากศพมากว่า 15 เมตร,ด้าน น.ส.กีรตี ผู้โดยสารซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ ให้การว่า ซ้อนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายมาจากวินคอนโดมิเนียมดังกล่าว ให้ไปส่งอาคารซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ระหว่างที่การจราจรหนาแน่น ผู้ตายพยายามลัดเลาะขอบทางด้านซ้าย แต่เกิดเสียหลักพลิกคว่ำทำให้คนขับรถจักรยานยนต์ล้มไปทางด้านขวาร่างมุดเข้าไปใต้ท้องรถ ส่วนตนเองล้มมาทางด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง. | วินมอเตอร์ไซค์วัย 64 ปี รับผู้โดยสารจากซอยวัดกู้ ปากเกร็ด ระหว่างทางจราจรหนาแน่น พยายามพาซอกแซก แต่เกิดเสียหลักล้ม ร่างมุดใต้ท้วงรถพ่วง 18 ล้อ ก่อนถูกลากไกลกว่า 15 ม. ร่างแหลก สาวคนซ้อนเจ็บเล็กน้อย ช็อก เจอเหตุต่อหน้าต่อตา | null | มุดใต้ท้องรถพ่วง,รถพ่วงเหยียบตาย,รถชนตาย,เสียหลักพลิกคว่ำ,นนทบุรี,ปากเกร็ด,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/654369 |
9 จ.ภาคใต้ตอนบน เร่งบูรณาการแหล่งท่องเที่ยว ปราบผู้มีอิทธิพล | เมื่อวันที่ 4 ส.ค.58 ที่โรงแรมวังใต้ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี นายศุภวัช ศักดา รองผวจ.สุราษฎร์ธานี เป็นประธานในการประชุมเชิงปฏิบัติการ การป้องกัน และปราบปรามผู้มีอิทธิพล ที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว ซึ่งจัดโดยสำนักมาตรฐานและกำกับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีผู้ประกอบการท่องเที่ยว ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจภูธรในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ตอนบนเข้าร่วม,นายศุภวัช กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 10 ต่อปี เฉพาะในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร พัทลุง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง และตรัง ในปี 2557 มีนักท่องเที่ยวรวมกันกว่า 22 ล้านคน ทำรายได้กว่า 30,000 ล้านบาท ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และมีการแข่งขันกันสูง และปัจจุบันพบว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือกลุ่มมิจฉาชีพแสวงหาผลประโยชน์ เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติในแหล่งท่องเที่ยว โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง และมีการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวของคนไทย รวมถึงผลกระทบต่อภาพลักษณ์อีกด้วย,นายศุภวัช กล่าวด้วยว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการ ที่มีผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วม จะทำให้สามารถจัดการภาพรวมของการป้องกัน รวมถึงการติดตามสถานการณ์การประกอบธุรกิจของผู้มีอิทธิพล เพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ และจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว ซึ่งจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางการท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศ. | รองพ่อเมืองสุราษฎร์ฯ เร่งปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามผู้มีอิทธิพล ที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภาคใต้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน เพื่อให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน | ข่าว,ทั่วไทย | ท่องเที่ยวสุราษฎร์ฯ,ศุภวัช ศักดา,รองผวจ.สุราษฎร์ธานี,การปราบปรามผู้มีอิทธิพล,การท่องเที่ยว,ผู้มีอิทธิพล,ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย,อันดามัน,ธุรกิจการท่องเที่ยว,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคมทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/news/local/516080 |
สร้างรูปแบบการเปลี่ยนแปลง ขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม | Credit : WSU,ปัจจุบันมีขยะนับล้านล้านชิ้นทั้งขนาดใหญ่ เล็ก หรือชิ้นเล็กจิ๋ว กำลังเคลื่อนที่ไปรอบๆ มหาสมุทรโลก และอนุภาคเล็กจิ๋วจากขยะก็กำลังแทรกซึมเข้าไปอยู่ในดินตะกอนและแหล่งน้ำจืด อนุภาคเหล่านี้ก็คือเศษพลาสติกที่มาจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยเสื้อผ้าสังเคราะห์ เครื่องสำอาง บรรจุภัณฑ์ และกระบวนการอุตสาหกรรม ขยะเหล่านี้เมื่อลงสู่มหาสมุทรก็จะเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่มีโอกาสกินอาหารปนเปื้อนมลพิษเข้าไป,เราต่างรู้ว่าการกำจัดขยะพลาสติกเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลายาวนาน ถือเป็นโจทย์สำคัญให้นักวิทยาศาสตร์มากมายพยายามคิดหาวิธีจัดการอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ก่อผลกระทบซ้ำเติมสิ่งแวดล้อม ล่าสุด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐวอชิงตัน ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า ได้ใช้วิธีทางฟิสิกส์สร้างแบบจำลองไมโครไฟเบอร์ (microfibers) ที่เป็นเส้นใยสังเคราะห์ขนาดเล็กประกอบด้วยโพลีเมอร์ 2 ชนิดคือ โพลีเอสเตอร์ (polyester) และโพลีอามายด์ (polyamide) เพื่อศึกษาว่าเส้นใยไมโครไฟเบอร์ผ่านเข้าไปแพร่กระจายในสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร โดยเฉพาะเส้นใยสังเคราะห์จากเสื้อผ้า เพราะทุกครั้งที่เราเดินหรือเสียดสีเสื้อผ้า นั่นคือเส้นใยไมโครไฟเบอร์ได้หลุดออกมา เมื่อซักเสื้อผ้าเส้นใยเหล่านี้ก็จะไหลไปตามท่อจนถึงโรงบำบัดน้ำเสีย ผ่านระบบกรองน้ำและสารที่ถูกกรองจะถูกทิ้งลงในตะกอนสิ่งปฏิกูล จากนั้นก็จะนำมาใช้กับการเกษตร เช่น ใส่ปุ๋ยหรือทิ้งในหลุมฝังกลบ,นักวิจัยเผยว่า การเคลื่อนไหวของเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความหนาแน่นน้อย จะมีความสลับซับซ้อนและเคลื่อนที่เร็วกว่าสารที่ละลายในน้ำจึงต้องปรับแต่งแบบจำลองให้ใช้งานได้กับการสังเกตการณ์การเคลื่อนไหวของเส้นใยไมโคร–พลาสติก (microplastic) โดยเริ่มทดสอบในห้องปฏิบัติการโดยตรงก่อนจะนำไปตรวจวัดในสถานที่บำบัดน้ำเสียจริง ซึ่งเชื่อว่าวิธีการใหม่นี้จะสามารถวัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้แม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิม. | ปัจจุบันมีขยะนับล้านล้านชิ้นทั้งขนาดใหญ่ เล็ก หรือชิ้นเล็กจิ๋ว กำลังเคลื่อนที่ไปรอบๆ มหาสมุทรโลก และอนุภาคเล็กจิ๋วจากขยะก็กำลังแทรกซึมเข้าไปอยู่ในดินตะกอนและแหล่งน้ำจืด | ข่าว,ทั่วไทย | ขยะพลาสติก,เศษพลาสติก,เสื้อผ้า,มลพิษ,ทันโลก,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/local/1435100 |
ทัตตชีโวได้ประกันตัวคดีบุกรุกป่า เวิลด์พีช วัลเล่ย์ | วันนี้(25มี.ค.2560) พระเผด็จ ทัตตชีโว อดีตรองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พร้อมพระสงฆ์อีก 8 รูป และกรรมการมูลนิธิตะวันธรรม มูลนิธิวัดพระธรรมกาย และมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง รวม 10 คนเดินทางมาที่ศาลจังหวัดสีคิ้ว จ.นครราชสีมา เพื่อให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส.ขออำนาจศาลฝากขัง ในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าในการก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมเวิลด์พีช วัลเล่ย์ เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาโดยศาลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการพิจารณาสำนวนว่ามีใครคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ ซึ่งไม่มีผู้คัดค้าน ทนายความจึงได้ยื่นประกันตัว โดยใช้เงินสดคนละ 1 แสนบาท และนัดฝากขังรอบ 2 วันที่ 5 เม.ย.นี้ สำหรับคดีนี้ยังมี พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกออกหมายจับ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัว ขณะที่พระสงฆ์ ที่ถูกออกหมายเรียกทั้งหมดได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยพระบางรูป อ้างว่ายังไม่เคยเข้าไปในพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ แม้แต่ครั้งเดียว | ตำรวจ บก.ปทส. นำตัวพระทัตตชีโว อดีตรองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พร้อมพระสงฆ์ 8 รูป และฆราวาสฝากขังที่ศาลจังหวัดสีคิ้ว ในจังหวัดนครราชสีมา ในคดีบุกรุกป่าเพื่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีชวัลเล่ย์เขาใหญ่ เบื้องต้นศาลอนุญาตให้ประกันตัวด้วยเงินสดคนละ 1 แสนบาท | อาชญากรรม | ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,วัดพระธรรมกาย,ThaiPBSnews,ทัตตชีโว,สถานปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์,นครราชสีมา,บุกรุกป่า | https://news.thaipbs.or.th/content/261141 |
โหด ยิงนายหน้าขายที่ อดีตส.อบต. ดับอนาถ ตร.จับได้ทันควัน | เวลา 11.30 น. วันที่ 3 ธ.ค. 57 พ.ต.ท.พนม นวลละออง พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยเกาะกลาง จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุคนถูกยิงบริเวณแยกบ้านควน หมู่ 8 ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ หลังรับแจ้งเร่งเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.คุณากร พริ้งสกุล สารวัตรหัวหน้า สภ.ย่อยเกาะกลาง ตำรวจชุดสืบสวนและแพทย์เวรโรงพยาบาลคลองท่อม ร่วมตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุเป็นย่านชุมชน บนถนนหน้าบ้านเลขที่ 9 ม.8 ต.เกาะกลาง เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายอาทิตย์ ควนใต้ อายุ 55 ปี บ้านอยู่เกาะลันตา จ.กระบี่ สภาพศพสวมเสื้อกล้ามสีขาว ท่องล่างนุ่งผ้าขนหนูสีขาว ถูกปืนยิงเข้าที่ชายโครงซ้าย 2 นัด กระสุนฝังใน สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า คนร้ายขับรถยนต์โตโยต้า โซลูน่า สีบรอนซ์ ทะเบียน กจ 1804 สงขลา หลังเกิดเหตุขับมุ่งหน้าไปทาง อ.คลองท่อม,เจ้าหน้าที่เร่งประสานวิทยุสกัดทางตำรวจ สภ.คลองท่อม จนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ที่ ม.1 ต.ห้วยน้ำขาว พร้อมปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ทราบชื่อ นายเทพา แสงจันทร์อ่อน อายุ 33 ปี บ้านอยู่ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เบื้องต้นยังไม่ยอมให้การใดๆ,จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเดินออกมาที่หน้าบ้าน จากนั้นมีคนร้ายขับรถยนต์มาที่เกิดเหตุ แล้วคนขับชักปืนยิงใส่ผู้ตาย 2 นัด ก่อนหลบหนี และถูกจับกุมได้ดังกล่าว ตรวจสอบประวัติผู้ตาย อดีตเป็น ส.อบต. หมู่ 8 ต.เกาะกลาง มีอาชีพเป็นนายหน้าขายที่ดินใน อ.เกาะลันตา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า สาเหตุการสังหารน่าจะมาจากเรื่องขัดแย้งการซื้อขายที่ดิน ที่อาจจะไปขัดกับนายทุน หรือกลุ่มนายหน้าด้วยกัน จึงได้มีการจ้างมือปืนมาสังหารดังกล่าว แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม | คนร้ายยิงนายหน้าขายที่ดิน อดีต ส.อบต. ตายคาที่ ตำรวจเร่งไล่จับตัวได้ทันควัน แต่ยังปิดปากเงียบ | null | ลอบยิง,ยิงอดีต ส.อบต.,คนร้ายยิง,นายหน้าขายที่ดิน,อดีต ส.อบต.ตาย,ตายคาที่,สภ.ย่อยเกาะกลาง,จ.กระบี่,ต.เกาะกลาง,อ.เกาะลันตา,สภ.คลองท่อม,ถูกปืนยิง,ภูมิภาค,ทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/467068 |
บิ๊กต๊อก รับ ไม่รู้เรื่องปรับ ครม. สั่งดูปมตีกันหาดราไวย์ | กรณีมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการปรับ ครม. เนื่องจากรัฐบาล และคสช. ประเมินสถานการณ์พบ 4 กระทรวงหลัก มีปัญหาในการบริหารงาน ไม่เป็นที่ประทับใจของประชาชน ซึ่งหนึ่งในนั้น มีกระทรวงยุติธรรม รวมอยู่ด้วย,เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ขอยืนยัน เรื่องนี้ตนไม่ทราบ และไม่เห็นมีสัญญาณอะไร ทราบจากข่าวที่มีการเผยแพร่ตามสื่อเท่านั้น ไม่ได้สอบถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่แปลกใจ จึงไม่ต้องถาม เพราะเรื่องการปรับ ครม. เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี,ส่วนที่มีกระแสข่าวคาดการณ์ ว่า รมว.ยุติธรรม จะถูกปรับย้ายไปดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ แทนนั้น ตนไม่ขอตอบ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของหัวหน้ารัฐบาล เราอย่าไปก้าวก่าย เมื่อนายกฯ ตั้งเราขึ้นมา ก็ต้องทำงาน ถ้าไม่ตั้งและให้เราออก เราก็ต้องออก เพราะท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล ตนพูดหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือว่า ประวัติศาสตร์เขียนไว้ว่า รัฐบาลประยุทธ์ หรือ รัฐบาลอะไร ดังนั้น ก็ต้องให้เสรีแก่ผู้นำในการที่จะกำหนดให้ใครเป็นผู้บริหารประเทศ ถ้าไปกดดันก็คิดว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ยอมรับว่า เรื่องการปรับ ครม. ครั้งนี้ไม่รู้จริงๆ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว,พล.อ.ไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกรณีการตีกันของกลุ่มนายทุนที่ดิน และกลุ่มชาวเล ที่หาดราไวย์ ภูเก็ต ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก็ได้สั่งให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เข้าไปดูแล้วเหมือนกัน ส่วนตนสั่งให้ดีเอสไอเข้าไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับ เรื่องบุกรุก สิทธิความเป็นธรรมหรือไม่ ยังไม่มั่นใจทะเลาะกันประเด็นอะไร จะพิจารณาตามเหตุผลจริงๆ คืออะไร แล้วจะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ได้หรือไม่อย่างไร | พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม รับ ไม่ทราบ ปรับ ครม. เผย ควรให้เสรีแก่ผู้นำในการกำหนดใครบริหารประเทศ เผย เหตุตีกันที่หาดราไวย์ ภูเก็ต สั่งดีเอสไอ เข้าไปดูความเป็นธรรมแล้ว ยังไม่แน่ชัดขัดแย้งกันเรื่องอะไร | null | บิ๊กต๊อก,ปรับครม.,ไม่ทราบ,ไพบูลย์ คุ้มฉายา,รมว.ยุติธรรม,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,รมว.ศึกษาธิการ,เสรีแก่ผู้นำ,หาดราไวย์,ภูเก็ต,ตีกัน,นายทุน,ชาวเล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/569526 |
สองยักษ์ผนึกกำลัง | เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ กับ วอลมาร์ต สองยักษ์ใหญ่วงการไอทีและค้าปลีกของสหรัฐฯ ได้ประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจภายใต้ข้อตกลง 5 ปี ทางวอลมาร์ตจะใช้เทคโนโลยีคลาวด์ของไมโครซอฟท์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานรวมไปถึงอัลกอริทึมสำหรับการจัดซื้อและการแบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน,นับเป็นการผนึกกำลังเพื่อแข่งขันกับ อเมซอน เจ้าตลาดคลาวด์คอมพิวติ้ง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของระบบประมวลผลรูปแบบใหม่ๆ โดยอิงกับความต้องการของผู้ใช้บริการ ทางผู้ให้บริการจะแบ่งปันทรัพยากรไปยังผู้ที่ต้องการใช้บริการนั้นๆ รวมไปถึงธุรกิจค้าปลีกออนไลน์และออฟไลน์แบบทันสมัยไร้แคชเชียร์ ที่อเมซอนพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาจ่ายเงินให้เสียเวลา โดยระบบหลังบ้านจะเรียกเก็บเงินผ่านบัตรเครดิตของลูกค้าเอง,ทาง ,www.wsj.com, รายงานการสัมภาษณ์ของนายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอของไมโครซอฟท์ ระบุว่า การผนึกกำลังดังกล่าวเพื่อแข่งขันกับ อเมซอน เป็นเรื่องสำคัญ โดยทางไมโครซอฟท์และวอลมาร์ตจะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากทั้งสององค์กรที่มีความกว้างและความลึก รวมทั้งการลงทุนเพื่อสามารถแข่งขันกับคู่แข่ง,ขณะที่วอลมาร์ตวางแผนนำแมทชีน-เลิร์นนิ่ง, ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ และบริการอื่นๆของไมโครซอฟท์มาช่วยพนักงาน เช่น การเลือกผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายบนชั้นวาง การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของตู้แข็งรวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ขณะที่ผู้ค้าปลีกกำลังลดต้นทุนการผลิต ลงทุนเพื่อเพิ่มยอดขายออนไลน์ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำการวิเคราะห์การทำงานซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของอเมซอน,นายเอ็ด แอนเดอร์สัน นักวิเคราะห์จากการ์เนอร์ กล่าวว่า ผู้ค้าปลีกหลายรายมีความลังเลที่จะใช้เทคโนโลยีคลาวด์ของอเมซอน เพราะบริการนี้สร้างรายได้หลักให้อเมซอน ขณะที่ Azure (อาซัวร์) ของไมโครซอฟท์ ที่มีส่วนแบ่งตลาดคลาวด์เป็นอันดับสองรองจากอเมซอน เว็บเซอร์วิสได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีคลาวด์ที่สามารถทำงานได้สำหรับหลายๆราย,ขณะที่วอลมาร์ตเองแม้พัฒนาระบบคลาวด์ของตนเอง แต่ก็ได้เริ่มใช้อาซัวร์มาหลังจากเข้าซื้อกิจการ Jet.com เมื่อสองปีที่ผ่านมา แต่นายมาร์ก ลอร์ หัวหน้าแผนกพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ยูเอสเอและผู้ก่อตั้ง Jet.com ของ Walmart กล่าวว่า มีความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและกำลังมองหาพันธมิตรเพื่อช่วยเหลือ,ความร่วมมือกับไมโครซอฟท์จะหาแนวทางใหม่ๆมาใช้ เช่น การใช้ข้อมูลของลูกค้าและผลิตภัณฑ์ โดยวิศวกรของไมโครซอฟท์จะฝังตัวอยู่ในออฟฟิศของวอลมาร์ตเพื่อช่วยเหลือรวมถึงการแลกเปลี่ยนแผนการทำงานบนระบบใหม่เพื่อแชร์ข้อมูลการขายและผลิตภัณฑ์กับผู้ผลิตผ่านระบบที่เรียกว่า Retail Link,ขณะที่ร้านค้าปลีกแบบไม่มีแคชเชียร์คอยเก็บเงินก็เป็นอีกธุรกิจที่วอลมาร์ตกำลังพัฒนาอีกทางหนึ่ง เรียกว่าตามบี้อเมซอนไปทุกช่องทางเลยเดียว.,หนุ่มดิจิทัล,[email protected], | เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ กับ วอลมาร์ต สองยักษ์ใหญ่วงการไอทีและค้าปลีกของสหรัฐฯ ได้ประกาศเป็นพันธมิตร | ข่าว,ไอที | ไมโครซอฟท์,วอลมาร์ต,อเมซอน,จักรวาลไอที,หนุ่มดิจิทัล,ข่าวไอที | https://www.thairath.co.th/news/tech/1338934 |
ตาลีบัน-ไอเอส แท็กทีม ? | แม้สหรัฐฯและพันธมิตรจะถอนทหารหน่วยรบเกือบทั้งหมดออกมาจากอัฟกาฯแล้วในปี 2557 แต่สถานการณ์กลับแย่ลง เพราะกองกำลัง ,ตาลีบัน, ที่เคยปกครองอัฟกาฯช่วงหนึ่ง ยิ่งฟื้นตัวกล้าแข็งขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมี,กองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส), ซึ่งแตกพ่ายจากสงครามในอิรักและซีเรีย กระโจนเข้าร่วมสมรภูมิเลือดด้วย,รายงานของ บีบีซี ระบุว่า ขณะนี้ตาลีบันควบคุม หรือคุกคามดินแดนอัฟกาฯอยู่ถึง 70% มากกว่าปี 2557 ที่สหรัฐฯและพันธมิตรถอนทหาร แต่รัฐบาลอัฟกาฯโต้ว่า ตนยังควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ได้ แต่การโจมตีของตาลีบันอย่างถี่ยิบในหลายภูมิภาคในพักหลังๆ โดยเฉพาะในกรุงคาบูล เป็นข้อบ่งชี้ว่าอาจไม่เป็นอย่างนั้น,ไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตาลีบันโจมตีกรุงคาบูลครั้งใหญ่แล้ว 2 ครั้งซ้อน โดยเมื่อ 20 ม.ค. โจมตีโรงแรมหรู อินเตอร์คอนติเนนตัล นานถึง 12 ชม. มีผู้เสียชีวิต 22 คน รวมทั้งชาวต่างชาติ 14 คน ต่อมาอีก 7 วัน ก็โจมตีด้วยรถพยาบาลติดระเบิดกลางฝูงชนในเขตปลอดภัยสูง กรีนโซน มีผู้เสียชีวิตถึง 103 คน บาดเจ็บ 235 คน และเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ตาลีบันก็โจมตีรถบัสนักเรียนเตรียมทหาร มีผู้เสียชีวิต 15 คน,ซ้ำร้ายเมื่อ 5 วันที่ผ่านมา กลุ่มไอเอสก็ผสมโรง โจมตีโรงเรียนเตรียมทหาร มาร์แชล ฟาฮิม ในกรุงคาบูล ทำให้ทหาร 11 นาย และคนร้าย 4 คนเสียชีวิต การโจมตีเหล่านี้ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ประกาศกร้าวว่าจะไม่เจรจากับตาลีบันตามยุทธศาสตร์เดิม และจะบดขยี้ไอเอสหนักหน่วงยิ่งขึ้น,การโจมตีอุกอาจชนิดสะท้านฟ้าสะเทือนดิน 3 ครั้งหลัง ทำให้ชาวอัฟกันโกรธแค้นหวาดผวา และเกิดคำถามเรื่อง ประสิทธิภาพ ของหน่วยข่าวกรองและกองกำลังความมั่นคงของอัฟกาฯ ซึ่งมีสหรัฐฯช่วยเหลืออยู่อย่างเข้มข้นว่า ล้มเหลว หรือไม่? ทั้งที่กรุงคาบูลมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งในโลก,แต่นายโมฮัมหมัด มาซูม สตาเนคไซ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอัฟกาฯ แก้ตัวว่า ผู้ก่อการร้ายปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ๆตลอดเวลา จึงยากจะป้องกันได้ 100% ที่จริงรัฐบาลสามารถทลายแผนโจมตีได้ก่อนหลายครั้งแล้ว แต่บางครั้งก็ยากควบคุมเพราะกรุงคาบูลมีเส้นทางเข้าเมืองมากมายกว่า 100 เส้นทาง,ผู้เชี่ยวชาญตะวันตกเผยว่า กลุ่มหัวรุนแรง รวมทั้งตาลีบันและไอเอส ปรับตัวเอาชนะมาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ๆอยู่เสมอ ดังเช่นมาตรการที่ถูกนำมาใช้หลังเหตุโจมตีด้วยระเบิดพลีชีพในรถบรรทุกในกรุงคาบูลเมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตกว่า 150 คน บาดเจ็บกว่า 400 คน เป็นการโจมตีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในคาบูล นับตั้งแต่สหรัฐฯและพันธมิตรบุกยึดอัฟกาฯ ในปี 2544 หลังเหตุวินาศกรรมช็อกโลก 9/11 ในสหรัฐฯ,มาตรการเหล่านี้ รวมทั้งการติดตั้งแท่งแบริเออร์สกัดรถบรรทุกนับร้อยแห่ง การตั้งด่านตรวจและติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นตาสับปะรดทั่วใจกลางเมือง ย่านที่ทำการรัฐบาลและที่ตั้งสถานทูตต่างชาติ โดยรถบรรทุกและรถยนต์ที่จะเข้าสู่กรุงคาบูลผ่านถนนสายหลักๆ จะถูกตรวจค้นสุดเข้มงวดจากทั้งเจ้าหน้าที่ สุนัขดมกลิ่น และเครื่องสแกนเนอร์ล้ำสมัย เพื่อป้องกันการลอบขนระเบิด จรวด หรือเข็มขัดติดระเบิดพลีชีพ,การตรวจเช็กสุดเข้มทำให้เสียเวลามาก รถบรรทุกติดยาวเหยียดหลายร้อยคัน บางครั้งต้องรอหลายชั่วโมงกว่าจะผ่านเข้าเมืองได้ หลายคันที่ไม่มีเอกสารถูกต้องถูกไล่กลับ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เพียงพอ พวกผู้ก่อการร้ายยังสามารถเล็ดลอดเข้าไปโจมตีจนได้,พวกหัวรุนแรง เช่น กลุ่มตาลีบันและไอเอส ยังใช้วิธีเกณฑ์สมาชิกใหม่ที่อยู่ในกรุงคาบูลอยู่แล้ว รวมทั้งนักศึกษา คนขายของ ไปจนถึงศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยและคนสาขาอาชีพอื่นๆ ที่มีอุดมการณ์เดียวกันให้ช่วยสนับสนุนการโจมตี แนวร่วมเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนผู้ที่ หลบซ่อนอยู่ในที่แจ้ง ยากที่จะระบุตัวได้ ถึงแม้สหรัฐฯจะส่งบุคลากรเข้าไปช่วยฝึกอบรมยุทธวิถีรับมือมานานหลายปี แต่ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี,ที่สำคัญ การจะเลือกเป้าหมายโจมตีผู้ก่อ การร้ายในกรุงคาบูล รวมทั้งการโจมตีทางอากาศก็ทำไม่ได้ เพราะพวกนี้แฝงฝังกระจายตัวอยู่ในเมืองใหญ่ ไม่ได้อยู่รวมกันเป็นกลุ่มเหมือนในพื้นที่อื่นๆ,ตาลีบันมีแนวทางชัดเจนคือ โค่นล้มรัฐบาลและขับไล่กองกำลังต่างชาติออกไปให้หมด ขณะที่ไอเอสเร่งแผ่ขยายฐานที่มั่นและอิทธิพลเข้าไปในอัฟกาฯ หลังแตกพ่ายจากสงครามในอิรักและซีเรีย การโจมตีครั้งใหญ่ๆในกรุงคาบูลจึงเป็นการ ประกาศ ศักดา ว่า พวกตนเข้มแข็งมีพิษสงร้ายกาจ ขณะที่เผชิญแรงกดดันจากการถูกโจมตีอย่างหนักในพื้นที่อื่นๆ,การโจมตีกรุงคาบูลซึ่งเปรียบเสมือน กล่องดวงใจ ของประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำให้ผู้คนแตกตื่นขวัญผวา ไม่มั่นใจในความปลอดภัย และโกรธแค้นรัฐบาลที่ไม่สามารถปกป้องประชาชนได้ กรุงคาบูลจึงกลายเป็น แม่เหล็ก ดึงดูดให้ทั้งตาลีบันและไอเอสเข้าไปทำสงครามเลือดเต็มรูปแบบ,แม้การโจมตี 3 ครั้งล่าสุด ดูเหมือนว่าตาลีบันและไอเอสจะแยกกันลงมือ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ว่าจะร่วมมือกันถ้ามีผลประโยชน์ร่วม สถานการณ์จะยิ่งยุ่งยาก และไม่แปลกถ้าจะเห็นการโจมตีครั้งใหม่ เพียงแต่ว่าจะรับมือได้หรือไม่ขนาดไหนเท่านั้น,บวร โทศรีแก้ว | สงครามในต่างแดนที่สหรัฐอเมริกา พี่ใหญ่หมายเลข 1 ของโลกเข้าไปแทรกแซงยาวนานที่สุดในยุคใหม่คือ ศึก อัฟกานิสถาน ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 16 ปีแล้ว และยังไม่มีท่าทีจบลงง่ายๆ | null | ตาลีบัน,กลุ่มไอเอส,บวร โทศรีแก้ว,7 วันรอบโลก,ก่อการร้าย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1194453 |
จีนฉาวอีก ฉุนเครื่องดีเลย์เปิดประตูขอลง (ชมคลิป) | พฤติกรรมของผู้โดยสารชาวจีนได้สร้างความอื้อฉาวอีกครั้งเมื่อ วันที่ 11 ม.ค. โดยสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงาน ตำรวจสนามบินเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ได้ทำการควบคุมตัวนักเดินทางชาวจีน 25 คน หลังมีผู้สร้างความวุ่นวายอันน่าตกตะลึง เดินไปเปิดประตูฉุกเฉินของเครื่องบิน ขณะที่เครื่องกำลังเตรียมทะยานออกจากสนามบิน จนกัปตันต้องนำเครื่องวกกลับเข้าเกตอย่างเร่งด่วน,รายงานของซินหัวได้เปิดเผยว่า สาเหตุเบื้องต้นคาดว่านักเดินทางบนเที่ยวสายการบินไชน่า อีสเทิร์น ที่มีเส้นทางจากเมืองคุนหมิงไปยังกรุงปักกิ่ง ไม่พอใจที่เกิดความล่าช้าเนื่องจากพายุหิมะ จึงเรียกร้องขอลงจากเครื่องอ้างปัญหาด้านสุขภาพ และเดินไปเปิดประตูฉุกเฉิน 3 ประตู ระหว่างที่เครื่องกำลังจอดบนรันเวย์รอเตรียมขึ้นบิน ขณะที่ผู้โดยสารรายอื่นระบุว่า กำหนดการออกของเครื่องได้ล่าช้าไปกว่า 5 ชั่วโมง แต่พอได้ขึ้นเครื่องก็ล่าช้าเพิ่มไปอีก เนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่ละลายน้ำแข็งบนตัวเครื่อง,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เผยว่าต้นเหตุครั้งนี้เป็นชายระบุชื่อแค่นายโจว ถูกควบคุมตัวพร้อมกับนายหลี ไกด์ทัวร์ ไปฝากขังเป็นเวลา 15 วันแล้ว ในข้อหาเปิดประตูโดยไม่ได้รับอนุญาตและยุยงผู้โดยสารด้วยข้อมูลผิดๆ. | ตำรวจสนามบินเมืองคุนหมิงควบคุมตัวนักเดินทางชาวจีน 25 คน หลังสร้างความวุ่นวายเปิดประตูฉุกเฉินของเครื่องบิน ขณะที่เครื่องกำลังเตรียมทะยานออกจากสนามบิน จนกัปตันต้องนำเครื่องวกกลับเข้าเกตอย่างเร่งด่วน | null | ผู้โดยสาร,จีน,อื้อฉาว,ซินหัว,สนามบิน,เมืองคุนหมิง,มณฑลยูนนาน,สร้างความวุ่นวาย,ประตูฉุกเฉิน,สายการบิน,ไชน่า อีสเทิร์น,กรุงปักกิ่ง,เครื่องบินดีเลย์,พายุหิมะ,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/474182 |
ดาวคะนอง หนังตัวแทนประเทศไทยชิงออสการ์ปีล่าสุดถูกห้ามฉาย | วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ Warehouse 30 ถนนเจริญกรุง ทหารสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดกิจกรรมฉายภาพยนตร์เรื่องดาวคะนอง (By the Time It Gets Dark) ผลงานกำกับของ อโนชา สุวิชากรพงศ์ ตัวแทนประเทศไทยเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมปี 2560 พร้อมห้ามกิจกรรมพูดคุยหลังหนังฉายจบกับสองนักวิจารณ์และนักเขียนด้านหนัง ชญานิน เตียงพิทยากร และ รัชฏ์ภูมิ บุญบัญชาโชคทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในวันเดียวกัน ภาพยนตร์ดาวคะนองได้ถูกจัดฉายอีกสองสถานที่ คือ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในงานรำลึก 6 ตุลา (แม้ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมฉาย) และอีกที่คือหอภาพยนตร์ในงาน ลืมเสียเถิดอย่าคิดถึง ซึ่งจัดงานในลักษณะเดียวกัน โดยมีรายการสนทนา 6 ตุลาในหนัง: ความทรงจำที่อยากให้ลืม กับวิทยากร สมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ และอโนชา สุวิชากรพงศ์ ก่อนฉายภาพยนตร์ดาวคะนองธิดา ผลิตผลการพิมพ์ ผู้ก่อตั้ง Documentary Club และเป็นผู้จัดงานฉายภาพยนตร์ที่ Warehouse 30 ในวันนี้ ได้โพสต์สเตตัสขึ้นเฟสบุ๊กเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยข้อความระบุว่ากิจกรรมของเราวันนี้ที่จะฉายหนังเรื่อง ดาวคะนอง ในฐานะตัวแทนไทยส่งชิงรางวัลออสการ์และเราจะวิเคราะห์ภาพยนตร์เรื่องนี้กันในด้านศิลปะภาพยนตร์ ถูกเจ้าหน้าที่สั่งงดฉายค่ะต้องขออภัยท่านผู้ชมทุกท่าน และวิทยากรมากๆ เลยค่ะ T Tด้านผู้จัดการโรงภาพยนตร์ Documentary Club ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้งดจัดกิจกรรมทั้งการฉายหนังและพูดคุยหลังฉายโดยใช้เหตุผลว่า ได้รับความเห็นจากเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายว่าเนื้อหาของหนังมีความสุ่มเสี่ยง และไม่แฮปปี้ที่จะให้ฉาย*มีรายงานเพิ่มเติมจากผู้กำกับว่าหนังเรื่องนี้ถูกขอความร่วมมือให้งดฉายทั้งเดือน | ดาวคะนอง ภาพยนตร์ตัวแทนประเทศไทยเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมปี 2560 ถูกเจ้าหน้าที่ห้ามฉายที่ Warehouse 30 รวมทั้งงดกิจกรรมพูดคุยถึงหนังหลังจากนั้น ระบุมีเนื้อหาสุ่มเสี่ยง | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม,ความมั่นคง,สังคม | Documentary Club,Warehouse 30,ดาวคะนอง,ธิดา ผลิตผลการพิมพ์,อโนชา สุวิชากรพงศ์ | https://prachatai.com/journal/2017/10/73573 |
กพช.เคาะแผนเพิ่มพลังงานทดแทน | แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2558-2579 และแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติปี 2558-2579 โดยในส่วนของแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน จากปัจจุบัน 11.9% เพิ่มขึ้นเป็น 30% ของปริมาณความต้องการพลังงานรวมของประเทศ ในปี 2579 หรืออีก 21 ปีข้างหน้า,โดยได้เสนอปรับเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งสิ้น 19,635 เมกะวัตต์ รวมทั้งจะมีการส่งเสริมการผลิตและการใช้ไบโอดีเซลจาก 7.2 ล้านลิตรต่อวัน เป็น 14 ล้านลิตร และเอทานอลจาก 9 ล้านลิตรต่อวันเป็น 11.3 ล้านลิตร โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการและรายงานความคืบหน้าการดำเนินต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ทุก 3 เดือน,สำหรับแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2558-2579 มีเป้าหมายที่สำคัญเช่น การทยอยปรับลดประเภทน้ำมันเบนซินในระยะยาวที่ควรมีเหลือไม่เกิน 3 ประเภท และใช้แผนเป็นกรอบสำหรับการดำเนินนโยบายส่งเสริมน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษเช่น เชื้อเพลิงชีวภาพและเอ็นจีวีสำหรับรถสาธารณะ โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ รวมถึงความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการพัฒนาด้านพลังงานของประเทศ,ส่วนแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติปี 2558-2579 เน้นหลักการ การบริหารจัดการด้านการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ให้มีการ แข่งขันและการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต โดยการศึกษาเบื้องต้น คาดว่า การนำเข้าแอลเอ็นจีจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 2.6-3 ล้านตันต่อปี เพิ่มเป็น 24 ล้านตันในช่วงปลายแผน ซึ่งจะต้องเพิ่มจำนวนผู้จัดหาและจำหน่าย การเปิดให้บุคคลที่สามสามารถใช้ หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแอลเอ็นจี และกำกับดูแลการจัดหาแอลเอ็นจีในระยะสั้นและระยะยาว โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชพ.) และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ร่วมกันศึกษาและจัดทำแนวทางการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันให้มีผู้ประกอบการแอลเอ็นจีมากกว่าปัจจุบันที่มีเพียง ปตท. เพียงรายเดียว. | นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกปี 2558-2579 | null | คุรุจิต นาครทรรพ,ปลัดกระทรวงพลังงาน,คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ,กพช.,พลังงานทดแทน,ก๊าซธรรมชาติ,ข่าว,ทีมข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/526054 |
ชวนตื่นเช้า ชม ดาวเคียงเดือน ส่งท้ายเดือนมกราคม มองด้วยตาเปล่าเห็น | สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่าน,เฟซบุ๊ก,แฟนเพจของสถาบัน ชวนตื่นเช้าชมปรากฏการณ์ ดาวเคียงเดือน ส่งท้ายเดือนมกราคม วันที่ 31 มกราคม 2562 ดาวพฤหัสบดีเคียงดวงจันทร์เสี้ยว และ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ดาวศุกร์เคียงดวงจันทร์เสี้ยว ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.45 น. เป็นต้นไปจนถึงรุ่งเช้า ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ โดยสังเกตได้ด้วยตาเปล่าทุกพื้นที่ทั่วประเทศ,นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สดร. เผยว่า วันที่ 31 มกราคม 2562 จะเกิดปรากฏการณ์ ดาวเคียงเดือน ดาวพฤหัสบดีจะปรากฏบนท้องฟ้าเคียงข้างดวงจันทร์ แรม 10 ค่ำ ห่างกันประมาณ 2.6 องศา,หลังจากนั้น วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ดวงจันทร์ แรม 11 ค่ำ จะเคลื่อนลงมาปรากฏอยู่ใกล้ดาวศุกร์ ห่างกันประมาณ 2.7 องศา (การวัดระยะเชิงมุมท้องฟ้า ใช้มือเหยียดสุดแขนขึ้นบนฟ้า ระยะ 2 องศา จะห่างกันประมาณ 1 นิ้วโป้ง) ดาวเคียงเดือนทั้งสองครั้ง สังเกตได้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.45 น. เป็นต้นไปจนถึงรุ่งเช้า,นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว หากท้องฟ้าใสไร้เมฆหมอก เรายังสามารถสังเกตเห็น ปรากฏการณ์แสงโลก (Earth Shine) ที่สวยงาม ซึ่งเกิดจากแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบผิวโลก สะท้อนไปยังดวงจันทร์ ทำให้ผู้สังเกตบนโลกพบว่า ส่วนมืดของดวงจันทร์นั้นไม่ได้มืดสนิท,ซึ่งปรากฏการณ์ทั้งหมด สามารถดูได้ด้วยตาเปล่า ไม่จำเป็นต้องมองผ่านกล้องโทรทรรศน์. | สดร. ชวนตื่นเช้า ชมปรากฏการณ์ ดาวเคียงเดือน ส่งท้ายเดือนมกราคม ในวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. โดยสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่ต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ | ข่าว,สังคม | ดาวเคียงเดือน,สดร.,มองเห็นด้วยตาเปล่า,แสงโลก,สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1482718 |
เมินคำขู่ ทรัมป์ มติสมัชชาใหญ่ยูเอ็น ค้านรับรองเยรูซาเล็ม | วันนี้ (22 ธ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสัมชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ซึ่งประกอบด้วยชาติสมาชิก 193 ประเทศ ออกเสียงสนับสนุนมติเรียกร้องให้สหรัฐฯ เพิกถอนการรับรองสถานะนครเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของอิสรเอล โดยเนื้อหาของมติดังกล่าวระบุว่า การตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับสถานะของนครเยรูซาเล็มไม่มีผลบังคับใช้และเป็นโมฆะ ทั้งนี้ มีชาติสมาชิกสมัชชาใหญ่สหประชาชาติออกเสียงเห็นชอบมติดังกล่าว 128 ประเทศ งดออกเสียง 35 ประเทศ และไม่เห็นชอบ 9 ประเทศการลงมติมีขึ้นหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่จะตัดความช่วยเหลือด้านการเงินกับชาติที่ออกเสียงสนับสนุนมติสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ที่ให้เพิกถอนการรับรองสถานะนครเยรูซาเล็ม ขณะที่มีรายงานว่า 9 ประเทศที่ออกเสียงไม่เห็นชอบมติดังกล่าว ได้แก่ อิสราเอล กัวเตมาลา ฮอนดูรัส สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ ไมโครนีเซีย นาอูรู ปาเลา และโตโก ส่วน 35 ชาติที่งดออกเสียง เช่น แคนาดา เม็กซิโกขณะที่เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศไม่ยอมรับมติดังกล่าว พร้อมย้ำว่าเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล | สมาชิกสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติกว่า 100 ประเทศ ออกเสียงเห็นชอบมติเรียกร้องให้สหรัฐฯ เพิกถอนการรับรองสถานะของนครเยรูซาเล็ม ไม่สนใจคำขู่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศจะตัดเงินช่วยเหลือ | ต่างประเทศ | ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,เยรูซาเล็ม,สหรัฐฯ,โดนัลด์ ทรัมป์,ยูเอ็น | https://news.thaipbs.or.th/content/268742 |
เก็บเห็ดเจอฝน หลบไม่ทัน ฟ้าผ่าหญิงชาวระยอง ดับสลด 2 ศพ | เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 พ.ค. ร.ต.อ.ไมตรี พากุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.มาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง ได้รับแจ้งจากกู้ภัยปู่ทิม อิสริโก จุดมาบตาพุด แจ้งว่าพบผู้เสียชีวิตสาเหตุถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตเป็นหญิง 2 ราย ที่บริเวณริมถนนสายมาบยา 3191 เป็นป่าทึบ หลังโรงงานเอ็นวายเค ต.มาบตาพุด,ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตนอนเสียชีวิตอยู่ในป่าทึบข้างคลอง 2 ราย เป็นหญิง ทราบชื่อ นางเพียรทอง ศรีษะเกษ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/19 ถนนห้วยโป่ง-หนองบอน ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง สภาพศพมีรอยไหม้ที่คอ มีรอยเขียวช้ำตามลำตัว และนางไพบูลย์ งามหล้า อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/40 ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง มีบาดแผลเขียวช้ำตามตัว นอนตายอยู่ใกล้กัน,นากจากนี้ยังพบหญิงสาว 2 คน ทราบว่าลูกสาวผู้ตายนั่งร้องไห้อยู่ข้างศพ ชื่อ นางสาวพรวิไล ศรีษะเกษ อายุ 20 ปี และนางสาวกนกพร ศรีษะเกษ อายุ 15 ปี ส่วนที่ต้นกระถินณรงค์ พบมีรอยไหม้ที่ยอดและเปลือกฉีกจากแรงฟ้าผ่าลงมา ในป่ายังพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขพม 667 ระยอง ของผู้ตายจอดอยู่ มีเห็ดวางอยู่ตระกร้าหน้ารถ 1 ถุง ,จากการสอบถาม นางวิไลวรรณ์ ศรีกุลวงศ์ อายุ 55 ปี เพื่อนผู้ตายอยู่ในอาการตกใจเล่าให้ฟังว่า วันนี้เวลาประมาณ 07.00 น.เศษ ตนพร้อมด้วยผู้ตายทั้งสอง และนางนิ่มนวล วงษ์ชาเลื่อน อายุ 45 ปี รวม 4 คน ได้ชวนกันมาเก็บเห็ดป่า เห็ดยูคาลิปตัสที่จะออกตอนหลังฝนตกตามบริเวณโคนต้นไม้ ขณะที่ตนและนางนิ่มนวล วงษ์ชาเลื่อน ได้เดินมาด้านบน หลังจากเก็บเห็ดเสร็จได้ยินเสียงฟ้าร้องดัง ฝนเริ่มลงเม็ด ทันใดนั้นฟ้าผ่าลงมาดังเปรี้ยงโดนร่างนางเพียรทอง ศรีษะเกษ และนางไพบูลย์ งามหล้า กระเด็นไปคนละทาง ทำให้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ,ทางด้าน ร.ต.อ.ไมตรี พากุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.มาบตาพุด กล่าวว่า สาเหตุมาจากฝนตกและฟ้าผ่าลงมาที่ยอดต้นกระถินณรงค์มีรอยไหม้ลงมาที่ตัวของนางเพียรทอง ศรีษะเกษ ซึ่งสวมสร้อยสแตนเลส 3 กษัตริย์ห้วยพระหลวงพ่อโสธร 1 องค์ที่คอ น่าจะเป็นสื่อล่อฟ้า และยังพบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้วย แรงกระแทกยังไปถูก นางไพบูลย์ งามหล้า ที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้เสียชีวิตไปด้วย เบื้องต้นได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยอง ต่อไป. | หญิงชาวระยอง ชวนกันไปเก็บเห็ดในป่ายูคาลิปตัส ปรากฏว่าฝนตก ฟ้าร้อง ก่อนที่ฟ้าจะผ่าลงมาที่ยอดต้นกระถินณรงค์ สายฟ้าฟาดร่างกระเด็น เสียชีวิตทั้งคู่ | ข่าว,ทั่วไทย | ฟ้าผ่า,เก็บเห็ด,เก็บเห็ดโดนฟ้าผ่าตาย,ฟ้าผ่าตาย2,ระยอง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/east/1274419 |
ครม.ตั้งขรก.ระดับสูงกระทรวงเกษตรฯ-แรงงาน สัญชัย เกตุวรชัย นั่งอธิบดีกรมชลประทาน | วันนี้ (30 ส.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแต่งตั้ง ให้นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เป็น รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายสรนิต ศีลธรรม เป็นปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ขณะที่ ครม.เห็นชอบตามที่กระะทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอแต่งตั้ง นายสมชาย ชาญณรงค์กุล เป็น อธิบดีส่งเสริมการเกษตร นายสมปอง อินทร์ทอง เป็น เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.)นายอภัย สุทธิสังข์ เป็น อธิบดีกรมปศุสัตว์ นางบริสุทธิ เปรมประพันธ์ เป็น อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ เป็น อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นางสุดารัตน์ วัชรคุปต์ เหล่าวิชยา เป็น อธิบดีกรมหม่อนไหม นายสัญชัย เกตุวรชัย เป็น อธิบดีกรมชลประทานมติ ครม.ยังเห็นชอบแต่งตั้งตามที่กระทรวงแรงงานเสนอให้ นายสุเมธ มโสถ เป็น อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เป็น เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายธีรพล ขุนเมือง เป็นอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และนายสิงหเดช ชูอำนาจ เป็น อธิบดีกรมการจัดหางานนอกจากที่ พล.ต.สรรเสริญระบุว่า นายกรัฐมนตรีกำชับเรื่องมาตรการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานต่างๆเพื่อความโปร่งใส ป้องกันการฮั้วะประมูล โดยเสนอแนวทางเพื่อให้กระทรวงแต่ละกระทรวงพิจารณาจากแนวทางที่หน่วยงานของกองทัพเคยดำเนินการมาแล้ว และเพื้อให้การออกกฎหมายลูกสอดรับกับกฎหมายหารจัดซื้อจัดจ้างที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช. คือ 1.ตั้งคณะกรรมการที่กำหนดความต้องการในการจัดซื้อหาอุปกรณ์ 2.ตั้งคณะกรรมการที่กำหนดคุณสมบัติมาตรฐานของอุปกรณื หรือยุทธโธปกรณ์ที่จะจัดซื้อ หลังจากนั้นทำทีโออาร์ เพื่อป้องกันข้อครหา ว่าเอื้อประโยชน์แกใคร และเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป | ครม.ไฟเขียวตั้งข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเกษตรฯ แรงงาน ขณะที่นายกรัฐมนตรีเสนอแนวคิดให้แต่ละกระทรวงตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ดำเนินการก่อนจัดซื้อจัดจ้างเพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต | การเมือง | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,การเมือง,แต่งตั้งข้าราชการ,กระทรวงเกษตรและสหกรณ์,กระทรวงแรงงาน,แต่งตั้งอธิบดีกรมชลประทาน | https://news.thaipbs.or.th/content/255329 |
มูรินโญ จวก 2 แข้งผีแดง แจ้งเล่นไม่ไหวก่อนเกมอัดหงส์ขาว | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 6 พ.ย. ว่า โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงจวก ลุค ชอว์ และ คริส สมอลลิง 2 กองหลังของทีม ที่แจ้งกับเขาว่าไม่พร้อมลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่บุกไปชนะหงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ 3-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา,สมอลลิง ที่มีอาการเจ็บที่เท้ามาตั้งแต่เกมแพ้เชลซี 0-4 และ ชอว์ ที่ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมยูโรปาลีกที่แพ้ เฟเนร์บาห์เช เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นั้น ทั้งคู่ได้แจ้งกับ มูรินโญ ก่อนที่เกมกับสวอนซีจะเริ่มว่าพวกเขาไม่พร้อมลงเล่นในเกมนี้ ซึ่งสุดท้ายผลการแข่งขันคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะไปได้ 3-1 ซึ่ง มูรินโญ ก็ได้ออกมาวิจารณ์ทัศนคติของทั้งคู่,สมอลลิ่งไม่รู้สึกว่าตัวเองจะสามารถเล่นได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยอาการบาดเจ็บของเขา ส่วน ลุค ชอว์ บอกผมในตอนเช้าว่าไม่อยู่ในสภาพที่จะลงเล่น เราเลยต้องสร้างแผงหลังขึ้นมาใหม่ ผมหมายความว่าเรามีนักเตะหลายคนที่มีปัญหา แต่เราก็มีนักเตะในสนามที่มีปัญหาเหมือนกัน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผมหมายถึง ซึ่งในกีฬาทุกชนิดและกีฬาประเภทอื่นๆที่ผมรู้จัก พวกเขาเล่นในระดับสูงสุด แล้วคุณเล่นมาครั้งแล้วถึงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมมีเพื่อนที่เป็นนักเทนนิที่ยิ่งใหญ่ และเขาจำได้ว่ากี่ครั้งที่เขาลงเล่นทั้งที่เจ็บ มากกว่าลงเล่นโดยไม่มีอาการบาดเจ็บ และนั่นคือสิ่งที่ผมหมายถึง มูรินโญ กล่าว | โชเซ มูรินโญ กุนซือทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงจวก ลุค ชอว์และ คริส สมอลลิง 2 กองหลังของทีท ที่แจ้งกับเขาว่าไม่พร้อมลงเล่นในเกมกับ สวอนซีวิตี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา | null | พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,สวอนซี ซิตี้,โชเซ มูรินโญ,ผลบอล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/775757 |
เชส ยืนกรานไม่มีเคยมีความคิดย้ายออกจากถ้ำสิงห์ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 23 ก.ย. ว่า เชส ฟาเบรกัส กองกลางทีมชาติสเปน ของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ทีมมหาเศรษฐีของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อดรนทนไม่ไหวออกมาเฉ่งยับสับเละว่า ตัวเขาไม่มีความคิดที่จะย้ายออกจากทีมเลยในตอนนี้,ดาวเตะวัย 29 ปี มีเครื่องหมายคำถามมากมาย และอาจจะต้องย้ายออกจากยอดทีมแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริจด์ หลังการเข้ามาของ อันโตนิโอ คอนเต กุนซือชาวอิตาเลียน,อดีตดาวเตะอาร์เซนอล และ บาร์เซโลนา แทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลยในลีก แต่ก็ได้รับโอกาสแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยในศึก อีเอฟแอล คัพ อังกฤษ ในเกมที่เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ 4-2,ผมไม่เคยมีความคิดที่จะย้ายออกจากทีมเลย ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้จริงๆ เชส กล่าวผ่าน กาเดนา โกเป สถานีวิทยุชื่อดังของประเทศสเปน,บอกตรงๆ ผมเริ่มเบื่อกับข่าวลือนี้แล้วนะ และผมขอยืนยันว่าผมมีความต้องการที่จะอยู่กับทีมต่อไป แม้จะมีโอกาสลงเล่นไม่มากนักก็ตาม,อย่างที่ผมบอกไปว่าผมเบื่อกับข่าวลือเต็มทน ข่าวชอบโยงผมไปยังสโมสรอื่น ผมมีความสุขกับที่นี่ มันอาจจะรู้สึกแย่บ้างที่ไม่ได้ลงเล่น แต่ผมจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด,สำหรับทีมของ เชส ฟาเบรกัส มีโปรแกรมลงสนามในพรีเมียร์ลีก ที่จะออกไปเยือน ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ในวันเสาร์ที่ 24 กันยายน นี้ เวลา 23.30 น. | ไม่รู้จริงอย่ามามั่ว! เชส ฟาเบรกัส มิดฟิลด์เลือดสแปนิช ของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ออกโรงฉุนกึกกับข่าวลือถึงอนาคตกับทีม ยันตนไม่เคยมีความคิดย้ายออกจากทีมแน่นอนในตอนนี้ | null | เชส ฟาเบรกัส,เชส ย้ายทีม,สิงโตน้ำเงินคราม,เชลซี,สแตมฟอร์ด บริจด์,พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,กาเดนา โกเป | https://www.thairath.co.th/content/731628 |
ร้านสะดวกซื้อ-ซูเปอร์มาร์เก็ต ให้ความร่วมมือเปิด-ปิดตามเวลา | วันนี้ (2 เม.ย.2563) เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทีมข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่สำรวจตามร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต ย่านถนนวิภาวดีรังสิต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายหลังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพิ่มเติม ฉบับที่ 5 เพื่อจำกัดการรวมตัวหรือการชุมนุมของประชาชนในสถานที่ต่างๆ และไม่ให้การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ขยายเป็นวงกว้างทีมข่าวพบว่าร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตได้ปฏิบัติตาม พร้อมให้ความร่วมมมือตามประกาศของกรุงเทพมหานคร โดยได้ปิดร้านตั้งแต่เวลาประมาณ 24.00 น. ซึ่งเป็นไปตามค่ำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว รวมไปถึงร้านอาหารและเครื่องดื่มในคูหา และร้านที่เป็นรถเข็นและแผงลอยบริเวณริมถนน ก็ปิดให้บริการเช่นกัน เนื่องจากตามคำสั่งจะอนุญาตให้เปิดขายได้ตั้งแต่เวลา 05.00 - 24.00 น.ทั้ง 2 ลักษณะจะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 -30 เม.ย.2563โดยอาศัยตามมาตรา 35 (1) ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อปี 2558 และข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสวนสาธารณะทุกแห่งทั้งของรัฐและเอกชน ก็มีคำสั่งให้ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว หากมีผู้ฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามอาจมีความผิด ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องรางวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับช่วงเวลาเดียวกันบรรยากาศบนท้องถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้ามุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร พบว่ามีรถแล่นจำนวนไม่มาก ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี | คืนแรกหลัง กทม.มีคำสั่งปิดร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต ตั้งแต่เวลา 24.00 - 05.00 น. พบว่าร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตให้ความร่วมมือปิดร้านตามคำสั่งเป็นอย่างดี เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด COVID-19 | สังคม | คำสั่ง กทม.,ปิดร้านสะดวกซื้อ,ซูเปอร์มาเก็ต,COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,ถนนวิภาวดีรังสิต | https://news.thaipbs.or.th/content/290541 |
ไล่ถล่มกลางถนน ฆ่าโหดสายตำรวจ | โดนกลางหลังล้มคว่ำ ตามมากดซ้ำ-อีก 5 นัด,หนุ่มสายตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ชะตาขาด พาเพื่อนไปเที่ยวสถานบันเทิง ขากลับเจอคู่อริ 5-6 คนดักปาแก้วใส่ พยายามวิ่งหนีแต่ไม่รอด ถูกยิงกระสุนเจาะกลางหลัง 1 นัด เสียหลักล้มกลางถนน คนร้ายใจเย็นเดินตามมาจ่อยิงซ้ำกลางหลังอีก 4 นัด และ หัวอีก 1 นัด ดับอนาถคาที่เกิดเหตุ ก่อนหลบหนีลอยนวล ส่วนเพื่อนวิ่งหนีเข้าไปแอบในอู่ซ่อมรถรอดตายหวุดหวิด ตำรวจพุ่งปมคู่อริเก่าตามล้างแค้น และช่วยงานตำรวจแจ้งเบาะแสจุดชนวนความไม่พอใจกลุ่มคนร้าย,หนุ่มสายตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ถูกคนร้ายไล่ยิงดับอนาถคาถนน เปิดเผยเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 12 ก.ค. ร.ต.อ.ชัยหาญ พิมพ์จันทร์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าร้านส้มตำเมืองย่า ก๋วยเตี๋ยวปลาเจ้าสัว ถนนศรีโสธรตัดใหม่ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธโสธร และหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา,ที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนนพบศพนายนิรุจน์ สารนารถ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 7 ต.วังตะเคียน อ.เมืองฉะเชิงเทรา ผู้ช่วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ใส่เสื้อเชิ้ตลายสกอตสีเขียว-ดำ นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ มีบาดแผลถูกยิงที่หลังเรียงเป็นเส้นตรง 5 นัด และที่ขมับขวา 1 นัด รวม 6 นัด นอกจากนี้พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 11 มม. ตกอยู่ 6 ปลอก เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน ห่างไปเล็กน้อยพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดราก้อนอายส์ สีน้ำเงิน ทะเบียน ตฬ 3215 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่ ต่อมา นายเกษม วิเศษสุวรรณ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/57 หมู่ 6 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อนของผู้ตาย เดินออกมาจากอู่ ส.เจริญยนต์ อยู่ข้างที่เกิดเหตุเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยมีอาการตื่นตกใจ,สอบสวนนายเกษมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยผู้ตายและเพื่อนสาว รวม 3 คน ขับรถกระบะมาเที่ยวสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ระหว่างที่เดินออกมาจากร้าน มีกลุ่มคนร้ายเป็นชายประมาณ 5-6 คน ปาแก้วใส่ เมื่อผู้ตายหันไปดูพบกลุ่มคนร้าย พยายามวิ่งหนีแต่กลุ่มคนร้ายวิ่งไล่ตามและชักปืนยิงใส่ผู้ตาย 1 นัด กระสุนถูกกลางหลังจนเสียหลักล้มลงกลางถนน จากนั้นคนร้ายเดินเข้าไปหาอย่างใจเย็นและจ่อยิงซ้ำที่หลังอีก 4 นัด และที่ขมับขวา 1 นัด ก่อนจะหลบหนีไป ส่วนตนวิ่งหนีเข้าไปแอบในอู่ซ่อมรถยนต์รอดตายอย่างหวุดหวิด เมื่อเห็นตำรวจรีบออกมาขอความช่วยเหลือ,ร.ต.อ.ชัยหาญเปิดเผยว่า เบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายอาจจะเป็นคู่อริเก่ามีความแค้นกับผู้ตาย มาดักรอบริเวณที่เกิดเหตุและใช้ปืนขนาด 11 มม. ยิงผู้ตายจนเสียชีวิต หรือผู้ตายช่วยเหลืองานตำรวจมาหลายปีอาจชี้เบาะแสจับกุมจนสร้างความไม่พอใจให้กับคนร้าย ตำรวจจะสอบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป,ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. นายจีรศักดิ์ ไชยใจสถ อายุ 36 ปี อาชีพเลี้ยงปลา อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 12 ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ผู้ต้องสงสัย เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ณรงค์เดช ทัพพะจายะ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ญาติยื่นหลักทรัพย์ 4 แสนบาท เพื่อขอประกันตัว ตำรวจอยู่ระหว่างการพิจารณา | หนุ่มสายตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ชะตาขาด พาเพื่อนไปเที่ยวสถานบันเทิง ขากลับเจอคู่อริ 5-6 คนดักปาแก้วใส่ พยายามวิ่งหนีแต่ไม่รอด ถูกยิงกระสุนเจาะกลางหลัง 1 นัด | null | ข่าวหน้า1,ฉะเชิงเทรา,ผู้ต้องสงสัย,จีระศักดิ์ ไชยโอสถ,มอบตัว,ปฏิเสธ,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์,ประกันตัว,นิรุจน์ สารนารถ,ผู้ช่วยตำรวจชุดสืบสวน,สภ.เมืองฉะเชิงเทรา,เกษม วิเศษสุวรรณ,ไทยรัฐ,thairath | https://www.thairath.co.th/content/662466 |
ภารกิจเยี่ยมพ่อแม่นักศึกษา: ปรากฏการณ์กลัว 24 มิถุนาฯ การวางเงื่อนไข และความอึดอัด | มิถุนายน นี้ เพราะเกรงว่าอาจจะเข้าร่วมกิจกรรมครบรอบ 85 ปี อภิวัฒน์สยาม 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งกลัวว่าจะเป็นการชุมนุมทางการเมือง แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ากรุงเทพฯจริงๆในช่วงนี้ ก็ขอห้ามไม่ให้ไปที่อนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าปรากฏการณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าไปเยี่ยมพ่อแม่ผู้ปกครองนิสิตนักศึกษาพร้อมกันในหลายๆพื้นที่ เช่น นครสวรรค์ พัทลุง และอีกในหลายจังหวัดเกือบจะทั่วประเทศในครั้งนี้ ดูผิดแปลกไปมาก แม้ที่ผ่านมามีการเข้าเยี่ยมหรือบุกค้นบ้านของผู้นำนักศึกษาที่เคลื่อนไหวหรือสนใจประเด็นทางการเมือง เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ หรือเรียกง่ายๆว่า ปรับทัศนคติผ่านพ่อแม่ จนเกือบจะกลายเป็นเหตุการณ์ปกติที่เห็นได้ทั่วไปไปแล้วหลังจากการรัฐประหารเมื่อปี 2557แต่ปรากฏการณ์ในครั้งนี้กลับต่างไป เพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือห้ามเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมครบรอบ 85 ปี อภิวัฒน์สยาม 24 มิถุนายน 2475 และที่สำคัญคือในจำนวนทั้งหมดของนักศึกษาที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าไปเยี่ยมพ่อแม่ผู้ปกครองดังกล่าวนั้น บางคนเพียงเพราะแค่กดติดตามเพจอีเว้นท์เข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้น บางคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเคลื่อนไหวอะไรเลย (เจ้าหน้าที่กล่าวอ้างว่าเพราะกดติดตามเพจอีเว้นท์เข้าร่วมกิจกรรม นายเลยให้มาเยี่ยมและปรามไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรม)เมื่อผมลองทบทวนเพื่อจะอธิบาย ความกลัว จากปรากฏการณ์นี้ กลับพบว่ามีความเชื่อมโยงกันถึงการพยายามสร้างเงื่อนไขในทางจิตวิทยาแบบ การวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทำ (Operant Conditioning) ซึ่งมีความหมายในเบื้องต้นคือ พฤติกรรมที่เกิดขึ้นได้รับอิทธิพลจากผลที่เกิดตามมา ตัวอย่างคือ สุนัขเรียนรู้ที่จะยกขาหน้า ถ้ามันได้รับผลที่ตามมาอย่างแน่นอน เช่น ได้รับอาหารทุกครั้งที่มันยกขาหน้า ทำนองเดียวกันกับแมวน้ำที่สามารถเรียนรู้ที่จะทำให้ลูกบอลอยู่บนจมูกของมัน ถ้าผลที่ตามมาของพฤติกรรมนี้คือปลาทูคำโตแสนอร่อยสกินเนอร์ (B.F.Skinner) นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน เชื่อว่าเราจะเข้าใจและควบคุมพฤติกรรมมนุษย์ได้ดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่า เรารู้เงื่อนไขของการเสริมแรงเพียงใด และบุคคลจะแสดงพฤติกรรมเช่นใดขึ้นอยู่กับว่าเขาได้รับผลเช่นไรในอดีต ดังนั้น ถ้าเรารู้เงื่อนไขของการเสริมแรงของบุคคลเหล่านั้นได้ก็จะสามารถจูงใจได้โดยพฤติกรรมแบบลงมือกระทำ (Operant Behavior) เป็นพฤติกรรมโดยส่วนใหญ่ของมนุษย์ และกระทำต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อจุดมุ่งหมายบางอย่างโดยตั้งใจและมีเจตนาจะกระทำนั้นเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า การวางเงื่อนไขเพื่อเป็นเครื่องมือ (Instrumental Conditional)ผมนั่งคิดทบทวนตัวเองอยู่พักใหญ่ๆ น้ำตาแทบจะไหลออกมาด้วยความอึดอัด วัยของพวกเราตอนนี้ (ผมตอนนี้แค่ 21 ปี) ควรได้เรียนรู้ ปลดปล่อยความคิดออกมา และน่าจะได้สร้างสรรค์อะไรออกมามากกว่านี้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง …ไม่เลย…ไม่ได้เป็นอย่างภาพฝันย้อนนึกไปถึงเมื่อครั้งหนึ่งผมเคยถูกรังแกจาก อำนาจเถื่อน ของการเมืองท้องถิ่น จนตัดสินใจย้ายโรงเรียน เลยพอจะเข้าใจสภาวะการอึดอัด หวาดระแวง สับสน และเต็มไปด้วยคำถาม ที่ถามหรือพูดกับใครไม่ได้ เพราะตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเหล่านั้น กลัวคำถาม หรือ กลัวคำตอบ กันแน่ แต่ก็ต้องขอบคุณเขานะเพราะได้สร้าง จุดตัดสินใจ ให้ผมได้เป็นอย่างดี โชคดีหน่อยที่ผมบังเอิญได้หยิบมันมาเป็นพลัง แต่ก็ไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่ง อำนาจเถื่อน จะสามารถครองเมืองได้กว้างขวาง เฉกเช่นตอนนี้ที่ผ่านมานักศึกษาอย่างพวกเราได้แต่ชวนเพื่อนๆพูดคุยโต้เถียงเรื่องแบบนี้กันมาโดยตลอด ทั้งวงเปิดและวงปิด ไม่ใช่เพื่อโน้มน้าวใจให้เชื่อตามผมอย่างสิ้นเชิง แต่เพื่อทบทวน และตอกย้ำ ถึงความเป็นมนุษย์ที่ทำกับเพื่อนมนุษย์ได้ลงคอ เราไม่เชื่อเรื่องความเป็นกลางที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของคนอื่นนั่นหรอก เราเชื่อ ความยุติธรรม ต่างหาก ไม่ต้องมาปรับ ทัศนคติ ให้เสียเวลาหรอกผมอยากเขียนจดหมายสักฉบับถึงตัวผมเองในอนาคตว่า…23 มิถุนายน 2560มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นลธวัช มะชัย นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ / สมาชิกกลุ่มลานยิ้ม (LANYIM creative group) | ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา (22-23 มิถุนายน) ตำรวจสันติบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายสั่งให้มาเยี่ยม และขอร้องไม่ให้บุตรหลานของท่านเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในช่วงวันที่ 24 | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,การศึกษา | การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475,คสช.,นลธวัช มะชัย,หมุดคณะราษฎร | https://prachatai.com/journal/2017/06/72106 |
ช็อก ว่าที่เจ้าบ่าวเมืองคอน ผูกคอดับก่อนวันวิวาห์ เหตุเครียดปัญหาชีวิต | วันที่ 28 ธ.ค.58 พ.ต.ต.หญิง ศรีสมเกียรติ แท่นทอง พงส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนผูกคอตายที่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ในเมือง จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และ จนท.มูลนิธิประชาร่วมใจ รุดไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุ เป็นบ้าน 2 ชั้น บริเวณชั้นล่าง พบศพผู้ตายชื่อนายจิรวิทย์ มุสิกะวงส์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านดังกล่าว ใช้สายเข็มขัดหนังสีดำ ผูกคอตายกับกลอนประตูหน้าบ้าน สภาพศพเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1-2 ชั่วโมง,จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายจิรวิทย์ มีอาชีพเป็นพนักงานของธนาคารธนชาต สาขานครศรีธรรมราช ฝ่ายบริการทั่วไป และมีกำหนดจะเข้าพิธีแต่งงานกับแฟนสาวในวันที่ 7 ม.ค.2559 ที่โรงแรมแกรนด์ปาร์ค อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีการแจกการ์ดแต่งงานให้กับญาติๆ และเพื่อนร่วมงานไปจำนวนมากแล้ว,ต่อมา ก่อนถึงงานวันแต่งงาน ปรากฏว่านายจิรวิทย์ เกิดมีปัญหาชีวิต ทำให้นายจิรวิทย์เกิดความเครียดอย่างหนักหาทางออกไม่ได้ ทำให้คิดสั้นผูกคอตายลาโลก ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้ว จึงได้มอบศพให้กับญาตินำไปจัดการตามประเพณีต่อไป. | สลด! ว่าที่เจ้าบ่าวเมืองคอน วัย 34 เครียดจัด มีปัญหาชีวิต หาทางออกไม่ได้ ตัดสินใจใช้เข็มขัดผูกคอตายลาโลก ก่อนถึงวันแต่งงาน 7 ม.ค.59 หลังชันสูตรพลิกศพแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้กับญาตินำไปจัดการตามประเพณีต่อไป | null | ผูกคอตาย,ผูกคอเสียชีวิต,ว่าที่เจ้าบ่าวผูกคอตาย,เครียด,ปัญหาชีวิต,คิดสั้น,พนักงานธนาคารผูกคอตาย,เมืองคอน,นครศรีธรรมราช,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/555484 |
ลิงโคลนนิ่ง ก้าวแรกสู่มนุษย์โคลนนิ่ง? | ทีมนักวิทยาศาสตร์จากนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน นำโดย Zhen Liu แห่งห้องปฏิบัติการประสาทวิทยาศาสตร์ (State Key Laboratory of Neuroscience) และห้องปฏิบัติการประสาทชีววิทยาไพรเมต (Key Laboratory of Primate Neurobiology) สภาบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (Chinese Academy of Science) ได้ประกาศความสำเร็จในการโคลนนิ่งลิงแสม (Macaque Monkey) ด้วยวิธีการถ่ายฝากนิวเคลียสเป็นครั้งแรกของโลก งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ลงในวารสาร Cell เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมานับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์ที่จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของมนุษย์อย่างใหญ่หลวงในอนาคตสารพัดวิธีว่าด้วยการโคลนนิ่งโคลนนิ่ง (Cloning) คือการสร้างสิ่งมีชีวิตหน่วยใหม่ขึ้นมาโดยที่มีพันธุกรรมเหมือนกับตัวต้นแบบทุกประการ กลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่มีพันธุกรรมเหมือนกันนี้เรียกว่า โคลน (Clone)การสร้างโคลนเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในสิ่งมีชีวิตที่สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ (ไม่เกิดการปฏิสนธิระหว่างอสุจิกับไข่) ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย เชื้อรา พืช รวมถึงสัตว์บางกลุ่มส่วนการโคลนนิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้การควบคุมดูแลโดยนักวิทยาศาสตร์ภายในห้องปฏิบัติการ เป็นความพยายามสร้างโคลนขึ้นมาเพื่อการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะในแง่การวิจัยที่ต้องมีการควบคุมตัวแปรด้านพันธุกรรมให้เหมือนกัน หรือการสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตามต้องการจำนวนมากในเวลาอันสั้นการโคลนนิ่งสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนน้อยทำได้ไม่ยาก แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเฉพาะสัตว์กลุ่มไพรเมตอันได้แก่ กอริลลา ชิมแปนซี รวมถึงมนุษย์นั้นระดับความยากถือว่าเป็นหนังคนละม้วนเลยทีเดียววิธีการดั้งเดิมที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการโคลนนิ่งสัตว์คือการจับดึงแยกเซลล์ตัวอ่อนในระยะเอ็มบริโอ (Embryo) ออกจากกัน ซึ่งเป็นวิธีที่เลียนแบบการเกิดฝาแฝดแท้ในธรรมชาติ วิธีนี้สามารถโคลนซาลาแมนเดอร์ได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1902 ก่อนหน้าที่ฟรานซิส คริก (Francis Crick) และเจมส์ วัตสัน (James Watson) จะค้นพบโครงสร้างดีเอ็นเอถึง 50 ปีทว่าสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์อยากเห็นคือการโคลนนิ่งโดยตั้งต้นจากเซลล์สัตว์ที่โตเต็มที่แล้ว ต่อมาเมื่อนักวิทยาศาสตร์มั่นใจว่าสิ่งที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตคือดีเอ็นเอ และดีเอ็นเอถูกเก็บอยู่ภายในนิวเคลียสของเซลล์ นักวิทยาศาสตร์จึงเกิดเป็นไอเดียว่า ถ้านำนิวเคลียสจากเซลล์ที่ไม่ใช่เซลล์สืบพันธุ์ไปถ่ายโอนให้กับเซลล์ไข่ที่นำนิวเคลียสเดิมออกไป แล้วใช้กระบวนการเหนี่ยวนำให้เกิดเป็นเอ็มบริโอขึ้นมาได้ สัตว์ตัวใหม่ที่เกิดขึ้นก็คือโคลนของสัตว์ที่บริจาคนิวเคลียสให้นั่นเองเทคนิคนี้เรียกว่าการถ่ายโอนนิวเคลียสจากเซลล์ร่างกาย หรือ Somatic cell nuclear transfer (SCNT) ซึ่งเพิ่งนำมาใช้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อ 22 ปีที่แล้ว ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันโรสลิน (Roslin Institute) มหาวิทยาลัยเอดินบะระ สหราชอาณาจักร ที่สามารถสร้างเอ็มบริโอแกะจากนิวเคลียสเซลล์เต้านม จากนั้นนำไปให้แม่แกะอุ้มบุญอีกตัวหนึ่งตั้งท้องจนให้กำเนิดลูกแกะตัวเมียที่คลอดออกมาลูกแกะตัวนี้อาจเป็นลูกแกะที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดตัวหนึ่งของโลก มันคือเจ้าแกะดอลลี่ (Dolly) นั่นเองความพยายามจากแกะดอลลี่สู่งลิงจงจงและฮัวฮัวนับตั้งแต่ความสำเร็จในการโคลนนิ่งแกะดอลลี่ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างใช้วิธีถ่ายฝากนิวเคลียสในการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไปแล้วกว่า 23 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวัว หมู กระต่าย สุนัข แมว และหนูแต่ในสัตว์กลุ่มไพรเมตที่มีความใกล้ชิดทางวิวัฒนาการกับมนุษย์มากที่สุดนั้นกลับไม่เห็นผล แม้จะมีความพยายามมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 แล้วก็ตามนักวิทยาศาสตร์คร่ำเคร่งทำวิจัยจนพบว่า สาเหตุของความยากที่เกิดขึ้นอาจมาจากยีนที่มีการทำงานเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นผลมาจากอายุขัย การสื่อสารกับเซลล์ข้างเคียง หรือแม้แต่วิถีการดำรงชีวิต ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ทำให้สายดีเอ็นเอเปลี่ยนสภาพไปโดยมีสารเมทิล (methyl) และโปรตีนฮิสโตน (histone) จะเข้ามาจับเกาะจนทำให้ยีนทำงานได้น้อยลงล่าสุด ทีมนักวิทยาศาสตร์จากจีนทีมนี้นอกจากจะใช้วิธีถ่ายฝากนิวเคลียสจากเซลล์ทารกลิงเข้าสู่เซลล์ไข่ คล้ายๆ กับการสร้างแกะดอลลี่แล้ว ยังต้องเพิ่มขั้นตอนในการย้อนอายุเซลล์ หรือรีโปรแกรม (reprogram) ให้เซลล์กลับไปมีสภาพเหมือนตอนยังเป็นเด็กอีกครั้ง โดยหลังจากนำนิวเคลียสเข้าสู่เซลล์ไข่ ทีมนักวิจัยก็เติมสาร KDM4D และ Trichostatin A ลงไป เพื่อยับยั้งเมทิลและโปรตีนฮิสโตนไม่ให้มาจับเกาะกับดีเอ็นเอ ก่อนที่จะนำเอ็มบริโอนั้นไปฝากไว้ที่แม่ลิงอุ้มบุญจากเอ็มบริโอ 109 ตัว มีเพียง 1 ใน 3 ที่เจริญได้ดีจนนำไปฝากให้แม่ลิงอุ้มบุญตั้งครรภ์ได้ 21 ตัว ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ 8 ตัวที่สามารถตั้งท้องได้สำเร็จ 2 ตัวแรกที่ลืมตาออกมาดูโลกก่อนใครเพื่อนชื่อ จงจง (Zhong Zhong) อายุ 8 สัปดาห์ และฮัวฮัว (Hua Hua) อายุ 6 สัปดาห์ตามลำดับ จนถึงตอนนี้ลูกลิงน้อยทั้งคู่ยังมีสุขภาพดีและทีมนักวิทยาศาสตร์กำลังตั้งตาคอยลูกลิงโคลนนิ่งอีก 6 ตัวที่กำลังจะคลอดออกมาในอีกไม่ช้าโคลนนิ่งทำให้โลกไม่หยุดนิ่งจุดประสงค์ที่จงจงและฮัวฮัวถือกำเนิดขึ้นมาไม่ใช่การเป็นบันไดขั้นแรกสู่การโคลนนิ่งมนุษย์ เพราะวิธีนี้มีประสิทธิภาพต่ำ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงสูง แต่ลิงโคลนนิ่งนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ลิงเป็นสัตว์ทดลองต้นแบบ (animal model) ในการจำลองสภาพการเกิดโรคในมนุษย์แม้หนูทดลองจะเป็นสัตว์ที่ตัวเล็ก เลี้ยงดูง่าย และมีค่าใช้จ่ายน้อยเมื่อเทียบกับการเลี้ยงลิง แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่หนูไม่สามารถแสดงอาการของโรคบางโรคได้เหมือนอย่างในมนุษย์ โดยเฉพาะโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน ซึ่งเป็นโรคที่ระบบประสาทเสื่อมถอยลงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมากการใช้สัตว์ทดลองเป็นลิงที่มีพันธุกรรมเหมือนกันทุกตัวจะทำให้นักวิทยาศาสตร์ควบคุมตัวแปรด้านนี้ได้ ผลการทดลองที่ออกมาก็จะคลาดเคลื่อนน้อยลง นำไปสู่การใช้สัตว์ทดลองที่น้อยลงตามไปด้วย รวมถึงอาจใช้ร่วมกับการตัดต่อพันธุกรรมเพื่อทำให้เกิดอาการผิดปกติบางอย่างแล้วสร้างโคลนขึ้นมาเพื่อศึกษาวิจัยในเรื่องนั้นๆโดยเฉพาะข้อถกเถียงทางจริยธรรมการใช้สัตว์ทดลองเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา นอกจากค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูที่สูงมาก ไพรเมตเป็นสัตว์ที่ใกล้เคียงมนุษย์ ดังนั้นการเลี้ยงพวกมันในห้องปฏิบัติการคราวละหลายๆ ตัวเพื่อใช้เป็นสัตว์ตัวอย่างในการทดลอง อาจทำให้ผู้คนภายนอกแวดวงวิทยาศาสตร์เคลือบแคลงสงสัยและต่อต้านประเทศชั้นนำหลายประเทศจึงต้องควบคุมเรื่องนี้อย่างเข้มงวด สหภาพยุโรปประกาศในปี ค.ศ. 2006 ว่า อนุญาตให้ใช้ลิงเป็นสัตว์ทดลองเฉพาะกับงานวิจัยที่มีหลักฐานรองรับชัดเจนแล้วว่าไม่มีวิธีอื่นใดในการตอบคำถามงานวิจัยนั้น ในปี ค.ศ. 2013 ประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศยุติการสนับสนุนงานวิจัยในลิงชิมแปนซีจาก 360 โครงการเหลือเพียง 50 โครงการสวนทางกับจีน ศูนย์วิจัยไพรเมตนานาชาติ (International Primate Research Center) ที่รัฐบาลจีนวางแผนสร้างขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้และกำลังจะประกาศสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ ความสำเร็จนี้อาจทำให้รัฐบาลจีนเป็นผู้ส่งออกลิงโคลนนิ่งรายแรกไปยังห้องปฏิบัติการ รวมถึงบริษัทยาต่างๆ ทั่วโลกอีกมุมหนึ่ง การลืมตาตื่นขึ้นของจงจงและฮัวฮัวอาจทำให้เผ่าพันธุ์ของมันต้องแบกรับชะตากรรมอันหนักอึ้งเอาไว้โดยไม่รู้ตัวทั้งเผ่าพันธุ์ของมันเองและของมนุษยชาติอ้างอิง: | ทีมนักวิทยาศาสตร์จีนประกาศความสำเร็จในการโคลนนิ่งลิงแสม ด้วยวิธีการถ่ายฝากนิวเคลียสเป็นครั้งแรกของโลก นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์การโคลนนิ่งสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนน้อยทำได้ไม่ยาก แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเฉพาะสัตว์กลุ่มไพรเมตอันได้แก่ กอริลลา ชิมแปนซี รวมถึงมนุษย์นั้นระดับความยากถือว่าเป็นหนังคนละม้วนเลยทีเดียวตั้งแต่ปี 2002 นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างใช้วิธีถ่ายฝากนิวเคลียสในการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไปแล้วกว่า 23 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวัว หมู กระต่าย สุนัข แมว และหนู แต่ในสัตว์กลุ่มไพรเมตที่มีความใกล้ชิดทางวิวัฒนาการกับมนุษย์มากที่สุดนั้นกลับไม่เห็นผล | null | null | https://thestandard.co/cloned-monkeys-to-clone-humans/ |
น้องพร มวยสาวม.ปลายมุ่งชนะ ซ้อมท่า พรหมสี่หน้า โชว์ไหว้ครู | ความคืบหน้าของคู่มวยหญิงใน ศึกทุ่งยั้งทัพ ศึกนี้เพื่อแม่ ที่เวทีเดชานุเคราะห์ จ.เชียงใหม่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ส.ค.2558 ที่สร้างความฮือฮาระหว่าง ปุยฝ้าย ช.เหล็กสยาม หรือ น.ส.ฐิติรัตน์ บุตรพรหม วัย 19 ปีดาว มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ที่มี กับ นักเรียนสาวหน้าหวาน เพชรงามตา เพชรต้นผึ้ง หรือ น.ส.นิภาพร ปัญญาดี วัย 18 ปี ชั้น ม.6 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ที่จะชกกัน 3 ยกในเชิงมวยไทย ต่างฝ่ายตกซ้อมหนักจะจบลงที่การน็อกเอ้าท์เท่านั้น ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 ก.ค.2558 ที่โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพชรงามตา เพชรต้นผึ้ง หรือ น้องพร น.ส.นิภาพร ปัญญาดี นักชกนักเรียนสาว ม.ปลาย กลายเป็นขวัญใจนักเรียนในโรงเรียนและคุณครู ต่างพากันมาขอถ่ายภาพร่วมกับนักเรียน น้องพร และแสดงความยินดี ที่ตอนนี้มีข่าวน้องพรและโรงเรียนแม่ริมวิทยาคมดังไปทั่วประเทศในขณะนี้ โดยทางเพื่อนๆ นั้น ได้ประกาศจะพากันไปเชียร์น้องพร ถึงเวทีในวันชกเลยทีเดียว รวมทั้งคุณคุณของโรงเรียนก็มาให้กำลังใจน้องพร อย่างเต็มที่,ด้าน น้องพร นักชกขวัญใจนักเรียน ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้รู้สึกภาคภูมิใจและดีใจที่เพื่อน ๆ และคุณครู ต่างมาให้กำลังใจ และร่วมแสดงความยินดี รวมทั้งประชาชนทั่วไปต่างให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ตนดีใจและภูมิใจ ตื่นเต้นด้วย ทุกวันตนได้ไปทำการฝึกซ้อมที่ค่าย เพชรต้นผึ้ง อ.แม่ริม เชียงใหม่ ทุกวัน เรื่องการเรียน ตนก็ไม่ให้เสีย ก็ในช่วงเลิกเรียนก็จะทำการบ้านก่อน ซ้อม ให้แล้วเสร็จ ตอนนี้การฟิตซ้อมก็ไปแล้ว 70-80% และกำลังต่อด้วยการฝึกไหว้ครู พรหมสี่หน้า เพื่ออนุรักษ์รักษาความเป็นมวยไทยที่ยิ่งใหญ่และงดงามไว้ ตนซ้อมหนักทำให้ดีวันดีขึ้นทุกด้านไม่ว่ากำลังและแทรกติกใหม่ๆที่จะเอาชนะ คู่ต่อสู้ให้ได้,ด้านปุยฝ้าย ช.เหล็กสยาม ดาวมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อทางโทรศัพท์ทราบว่ายังคงอยู่กรุงเทพอยู่ โดยทางพี่เลี้ยงได้ส่งภาพที่ไปออกในรายการทีวีดังมาให้ โดยบอกว่า ปุยฝ้ายซ้อมที่กรุงเทพ ในช่วงเย็น และจะเดินทางกลับเชียงใหม่ในเร็ววันนี้ แต่ขอยืนยันว่าช่วงเย็นซ้อมหนัก,เกี่ยวกับการฟิตซ้อมของ ร่างกายหากไม่ฟิตเพียงพอจะเป็นเช่นไร เรื่องนี้ นายแพทย์สรไน อ่อนหวาน นายแพทย์เกี่ยวกับสรีระร่างกายโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้เตือนนักชกทั้ง 2 ว่า เรื่องการฟิตซ้อมในส่วนของการกีฬา โดยเฉพาะมวยไทยนั้น ถือว่าการฟิตซ้อมต้องเอาจริงจัง เพราะเป็นกีฬาประเภทต้องมีการถูกกระแทกที่รุนแรง การฟิตซ้อมต้องใช้เวลามาก เพื่อให้ร่างกายทนต่อสภาพการถูกกระแทก หากฟิตซ้อมน้อย หรือ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งไม่พอ หลังจากการชกแล้วจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดกล้ามเนื้ออย่างมาก บางครั้งอาจจะมีอาการของไหล่หลุดด้วย ก็ฝากเตือนมายังน้องนักมวยสาวทั้งคู่ให้ฟิตซ้อมให้มากๆ หน่อย เพราะกีฬามวยไทยนั้น ใช้กำลังเยอะทุกส่วนให้แข็งแรง. | เพื่อนนักเรียน คุณครู ของโรงเรียนรุมเอาใจช่วย นักชกนักเรียนสาวที่ยังซ้อมหนักทุกวัน โดยล่าสุดเตรียมท่าไหว้ครู พรหมสี่หน้า ไว้โชว์บนเวทีด้วย ฝ่ายนักชกดาวมหาวิทยาลัย ยังอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้านพีเลี้ยงยันยังซ้อมหนักเหมือนเดิม | ข่าว,ทั่วไทย | เพชรงามตา เพชรต้นผึ้ง,ปุยฝ้าย ช.เหล็กสยาม,มวยหญิง,ศึกทุ่งยั้งทัพ,ศึกนี้เพื่อแม่,ฐิติรัตน์ บุตรพรหม,นิภาพร ปัญญาดี,นักชกสาว ม.ปลาย,โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม,น้องพร,ปุยฝ้าย,ท่าไหว้ครู,พรหมสี่หน้า,ซ้่อมมวย,ข่าวทั่วไทย,เชียงใหม่,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/514808 |
พรรคพลังประชารัฐเชิง เลือกนายกรัฐมนตรีก่อน แบ่งเค้กภายหลัง | ปชป.ยืนยันเอาพณ.-กษ. 7พรรคสู้เสนอชิงนายกฯ บิ๊กแดงย่องเงียบพบตู่,อุตตม ลุยต่อส่งเทียบเชิญ ชทพ.ยันเจรจาตั้งรัฐบาล ไม่มีปัญหา ลั่น บิ๊กตู่ มีอำนาจสแกนตัว รมต.หลังโหวตนายกฯ โบ้ยความคิด ณัฏฐพล คนเดียวขู่ยุบสภา สนธิรัตน์ ยันพรรคมีเอกภาพ งัดเกมวัดใจพรรคร่วมเลือกนายกฯ ก่อนค่อยมาแบ่งเค้กกัน ปชป.ยืนกรานยึดข้อตกลงเดิม แฉ งูเห่า ดอดเปิดดีลขอ 3 เก้าอี้ ปลุกซากขั้วที่สามขึ้นมาเขย่า นิพนธ์ เหน็บเจ้าภาพที่ดีต้องอดทน ขอชัดๆใครมีอำนาจตัดสินใจแน่ นิวเด็ม โชว์ห้าวหมดเวลาเกรงใจ พปชร. เสี่ยหนู ย้ำชัดไม่ร่วม รบ.เสียงข้างน้อย ภูมิธรรม เย้ยผลประโยชน์ไม่ลงตัวทำวุ่นไม่จบ 7 พรรคขั้ว ปชต.ถกเสนอชื่อชิงนายกฯ เพื่อไทยพลิกเกมส่งคนในลงเอง พรรณิการ์ เมินเด็ก พปชร.ไลฟ์ยั่ว บิ๊กแดง มุดทำเนียบคุย บิ๊กตู่,การเจรจาจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของขั้วพรรคพลังประชารัฐส่อเค้าสะดุด หลังพรรคประชาธิปัตย์แสดงความไม่พอใจ กรณีพรรคพลังประชารัฐออกอาการยึกยัก ขอเกลี่ยกระทรวงกันใหม่ ถึงขั้นแกนนำบางคนระบุว่าถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ อาจเดินหน้าเลือกนายกรัฐมนตรีไปก่อน แล้วประกาศยุบสภาภายหลัง,อุตตม ลุยส่งเทียบเชิญพรรคอื่น,เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 พ.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคฯ ร่วมแถลงถึงความชัดเจนในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล นายอุตตมกล่าวว่า กำลังพูดคุยหารือกับพรรคการเมืองอื่นร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีหลักการใหญ่คือ ให้ความสำคัญกับนโยบาย ต้องเจรจาตกลงร่วมกัน เหมือนที่ไปเชิญพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ทั้งสองพรรคเห็นชอบในหลักการเบื้องต้นของเรา จากนั้นจึงไปตกลงในรายละเอียดจัดสรรแบ่งกระทรวง หลังจากนี้เราจะไปเชิญพรรค การเมืองอื่นอย่างเป็นทางการ รับข้อเสนอมาหารือภายในพรรค ยืนยันว่าเรายังเดินหน้ารวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลต่อไป โดยยึดประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก มากกว่าการต่อรองทางการเมือง เชื่อว่าจะเสร็จตามกรอบที่กำหนดเพราะการเจรจาไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น,ลั่น บิ๊กตู่ มีอำนาจหลังโหวตนายกฯ,เมื่อถามว่า ที่ยังไม่สามารถสรุปได้เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะพิจารณารายชื่อรัฐมนตรีด้วยตัวเอง นายอุตตมตอบว่า ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนตำแหน่งในรัฐบาลใหม่พรรคจะเป็นผู้ดำเนินการ วันนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองพูดคุยกัน แต่เมื่อเลือกนายกฯ แล้ว นายกฯมีอำนาจทางกฎหมายที่จะพิจารณาจัดตั้งรัฐมนตรี เชื่อว่าจะไม่ทำให้พรรคร่วมไม่สบายใจ เพราะคนเป็นนายกฯ มีหน้าที่จัดตั้งรัฐบาล เมื่อถามว่าพรรคร่วมอาจกังวลใจว่า หากโหวตนายกฯไปแล้วจะไม่ได้ตำแหน่งตามที่เคยคุยกัน นายอุตตมตอบว่า เป็นเพียงกระแสข่าว ขอย้ำว่าเรากำลังพูดคุยอยู่และจะทำให้ดีที่สุด ใช้เวลาสักระยะ เวลานี้ยังไม่รู้ว่าจะเลือกนายกฯได้เมื่อใด ยังมีเวลาเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล,โบ้ยความคิด ณัฏฐพล คนเดียว,เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐมีแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย รอให้โหวตนายกฯผ่านไปก่อนแล้วไปยุบสภาภายหลัง นายอุตตมตอบว่า เรายังไม่บอกถึงขั้นนั้น แต่จะทำอย่างเต็มที่ เชื่อว่าทุกอย่างจะเดินหน้าไปด้วยดี เรื่องนี้อาจเป็นมุมมองผ่านการวิเคราะห์ของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค แต่ไม่ได้หมายความว่าพรรคจะเดินตามนั้น เมื่อถามว่ากรณีที่พรรคร่วมคาใจว่าสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี อยู่ที่พรรคหรือตัว พล.อ.ประยุทธ์ นายอุตตมตอบว่า ที่ผ่านมานายกฯ ไม่เคยมายุ่งกับเรื่องนี้เลย อย่าเอาท่านมายุ่งเรื่องนี้เลย ส่วนการประชุมสภาฯโหวตเลือกนายกฯ เป็นอย่างไร เดี๋ยวไปดูว่าผลเป็นอย่างไร นายกฯ มีหน้าที่ความรับผิดชอบตามกฎหมายอย่างไร ที่จะทำให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องเอาตามนั้น,สนธิรัตน์ ยัน พปชร.มีเอกภาพ,นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์นำประเด็นที่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาพูดคุยกับเรา ได้รับข้อเสนอของพรรคร่วมว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องความเป็นเอกภาพ การที่พรรคมีบุคลากรหลากหลายและมีสมาชิกค่อนข้างมาก เป็นธรรมดาที่มีการพูดคุยกัน ขอให้สบายใจในความเป็นเอกภาพ การตัดสินใจทั้งหมดจะเป็นในระบบพรรค โดยมีกรรมการบริหารพรรค มีหัวหน้าพรรค นำเจรจา เราจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วตามที่ประชาชนคาดหวัง การพูดคุยขณะนี้มีทั้งข่าวจริงและไม่จริงออกมา เพราะการเจรจามีทั้งผู้ได้และเสียประโยชน์ อาจมีข่าวออกมาในรูปแบบต่างๆ เรื่องการจัดสรรกระทรวงต่างๆ เป็นเพียงแนวทางการหารือ พูดคุยเรื่องนโยบายของแต่ละพรรค ยังมีเวลาดำเนินการ,รื้อดีล บิ๊กป้อม ให้ อุตตม คุย,ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า การที่นายอุตตม หัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคแถลงกับสื่อโดยยืนยันว่าข้อเสนอโควตารัฐมนตรีแต่ละพรรคต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรค และต้องเป็นหลังโหวตเลือกนายกฯคนใหม่แล้ว โดยนายกฯจะมาพิจารณาผู้ที่เหมาะสมอีกที เนื่องจากการดีลกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยยังไม่ลงตัว รวมถึงกลุ่มก๊วนภายในพลังประชารัฐเองที่รู้สึกไม่พอใจ เพราะมองว่ายกเก้าอี้ดีๆให้หมด โดยเฉพาะ รมว.พาณิชย์ รมว.คมนาคม และ รมว.เกษตรฯ ที่มีข่าวทั้ง 2 พรรคได้ไปดีลผ่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ล่าสุดจึงมีการมาคุยกันของผู้ใหญ่นอกพรรค โดยยกสิทธิการตัดสินใจให้กับนายอุตตมและกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น ขณะที่ พล.อ.ประวิตรจะยอมถอยออกไป จึงต้องมาหารือจัดสรรกระทรวงกันใหม่,ย้อนเกล็ดต่อรองเช็กเสียงวันโหวต,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐจะเดินเกมวัดใจพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่โหวตนายกฯจำนวนเท่าไหร่ เพราะเป็นการโหวตเปิดเผย ทำให้เห็นตัวเลขที่ชัดเจนว่าโหวตให้กี่เสียงถือเป็นเกมต่อรองและขอคืนบางกระทรวงเกรดเอ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลับมาอยู่ในการดูแลของพลังประชารัฐ ส่วนหลังได้นายกฯแล้วหากตั้ง ครม.ไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังคงเป็นนายกฯต่อไปมีอำนาจเต็ม และกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องตั้ง ครม.แล้วเสร็จเมื่อไหร่,ชทพ.ยิ้มกริ่มได้คุม ทส.สมหวัง,ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนาหลังมีข่าวไม่พอใจที่แกนนำพลังประชารัฐไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเรื่องโควตา ทั้งประกาศตัวเป็นพรรคแรกๆร่วมตั้งรัฐบาล บวกกับกระแสข่าวอาจมีสลับเอาเก้าอี้ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้แทน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตมและนายสนธิรัตน์ ได้เจรจาคุยกับแกนนำชาติไทยพัฒนาด้วยตัวเอง ยืนยันว่าจะได้ตามที่เสนอมา คือ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ และ รมช.เกษตรฯ จึงจะมีการเทียบเชิญชาติไทยพัฒนาอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 พ.ค. ส่วนพรรคชาติพัฒนา และพรรครวมพลังประชาชาติไทย กำลังประสานเทียบเชิญ,ปชป.ยืนกรานยึดข้อตกลงเดิม,ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ช่วงเช้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และนายชวน หลีกภัย ว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึง ส.ส.บางส่วน ยังคงเข้าพรรคตามปกติ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.อีกครั้งเมื่อไหร่ หลังต้องเลื่อนไปไม่มีกำหนด เพราะพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถเคลียร์ปัญหาภายในของตัวเองได้ เนื่องจากต้องการกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คืน ให้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และกลุ่มสามมิตร จนไม่สามารถพูดคุยกันตามดีลเดิมได้ การเจรจา เมื่อช่วงคืนวันที่ 28 พ.ค. ตัวแทนพลังประชารัฐได้ประสานมาที่ตัวแทนประชาธิปัตย์ เพื่อขอแลกกระทรวงอุตสาหกรรม กับกระทรวงเกษตรฯ และขอแลกอีกกระทรวงกับกระทรวงพาณิชย์ โดยรับปากว่าจะจัดการปัญหาภายในพรรคโดยเร็ว แต่ทางประชาธิปัตย์ปฏิเสธข้อเสนอ และขอยึดข้อตกลงเดิมตามที่รับปากไว้แต่ต้น,เสียงต้านหนุน บิ๊กตู่ เพิ่มมากขึ้น,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทางพลังประชารัฐได้ประสานมาอีกครั้งว่าขอให้โหวตเลือกนายกฯก่อน แล้วค่อยมาจัดสรรตำแหน่งทีหลัง ประกอบกับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ที่ระบุว่าจะขอตรวจสอบรายชื่อรัฐมนตรีของแต่ละพรรคก่อน ทำให้ ส.ส.และกรรมการพรรคที่เคยสนับสนุนให้ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐไม่พอใจ ถือเป็นการก้าวก่ายพรรคอื่น และเป็นการไม่ให้เกียรติกัน หากไปร่วมก็จะถูกกดหัวเป็นได้เพียงไม้ประดับ อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่พลังประชารัฐจะบิดพลิ้วผิดคำพูด ดึงกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์กลับไป ทำให้พรรคไม่สามารถผลักดันนโยบายประกันรายได้สินค้าเกษตร เพื่อแก้ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวได้ จึงไม่มีประโยชน์ที่พรรคจะเข้าร่วมรัฐบาล เพราะขับเคลื่อนนโยบายที่หาเสียงไว้ไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการส่งสัญญาณขู่จะยุบสภาฯหลังตั้งนายกฯแล้วด้วย ยิ่งทำให้เสียงที่เห็นว่าไม่ควรร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐเริ่มมีมากขึ้น จากเดิมที่มีเพียงกลุ่มนายอภิสิทธิ์เพียงไม่กี่สิบเสียงเท่านั้น,ปลุกซากขั้วที่สามขึ้นมาเขย่า,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่ยังมีกลุ่ม ส.ส.ราว 20 คน ทำท่าจะเป็นงูเห่าประสานเจรจาไปยังแกนนำพลังประชารัฐขอดีลเดิมว่า ถ้ามีงูเห่าย้ายไปโหวตสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ 20-25 คน แกนนำกลุ่มจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยรวม 3 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่สนับสนุนการเมืองขั้วที่สาม ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์และ คสช.สืบทอดอำนาจ เริ่มเคลื่อนไหวประสานเป็นการภายในกับแกนนำพรรคต่างๆให้มาร่วมจับมือจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่อยู่ใต้เงาคสช. เพราะหากพลังประชารัฐลุยเดินหน้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะกระทบกับที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เคยประกาศไว้ว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยมองว่าปัจจัยและเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไปแล้ว มีการนำตัวเลข ส.ส.หากรวมได้ 376 เสียง เกินครึ่งของสมาชิกรัฐสภา ก็โหวตเลือกนายกฯเสียงข้างมากได้เลย มีการคำนวณโดยไม่นำตัวเลข ส.ส.พรรคพลังประชารัฐมารวม มีเสียง ส.ส.รวม 362 คน ขาดอีก 14 คน เริ่มมีการเจรจากับแกนนำบางกลุ่มในพปชร. ขอเสียงสนับสนุนอีก 20-25 คน ก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่สามได้ โดยให้พลังประชารัฐเป็นฝ่ายค้านแทน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากัน,นิพนธ์ เหน็บต้องให้เกียรติกัน,นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากพรรคพลังประชารัฐเกิดปัญหาภายในเคลียร์กันไม่ลงตัว พรรคได้เสนอแนวทางในการทำงานร่วมกัน คือแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ต้องนำนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ รวมถึงการประกันรายได้พืชผลทางการเกษตร ต้องเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายรัฐบาล หากพรรคแกนนำรับเงื่อนไขนี้ได้ค่อยมาคุยกันในรายละเอียดเรื่องการจัดสรรตำแหน่ง ดังนั้น คนที่เป็นแกนหลักต้องพิจารณาทำอย่างไรให้ได้สมบูรณ์ทั้งหมด ไม่ใช่ได้แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คนเป็นแกนหลักต้องมีความอดทนประสานเจรจา ต้องรู้ว่าจุดไหนทำให้เดินหน้าต่อไปได้ ที่สำคัญคือต้องให้เกียรติกัน พูดจากันด้วยเหตุผล,เจ้าภาพที่ดีต้องมีความอดทน,นายนิพนธ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายอุตตมระบุว่าขอให้เลือกนายกฯก่อน แล้วค่อยมาคุยเรื่องจัดสรรตำแหน่งนั้น เป็นดุลพินิจที่พลังประชารัฐต้องตัดสินใจ หากต้องการเดินแบบนี้ก็เป็นสิทธิ เพราะมีเสียง ส.ว. 250 คน สนับสนุนอยู่แล้ว ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะตัดสินใจอย่างไรต้องหารือกันอีก ขณะนี้ยังไม่กำหนดว่าจะประชุมเมื่อไหร่ ที่ผ่านมาการจัดตั้งรัฐบาลจะดีลทุกอย่างให้จบก่อนแล้วค่อยเลือกนายกฯ ทำให้การตัดสินใจเป็นไปพร้อมกันทีเดียว ผมคิดว่าเจ้าของบ้านต้องมีความอดทนในการเชิญแขก แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องภายในที่พรรคพลังประชารัฐต้องไปจัดการ ขณะนี้ยังเจรจากันต่อได้ ภายใต้การเคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกัน เพราะมีหลายหลักที่จะนำมาใช้ในการจัดรัฐบาลร่วมกันเพื่อให้เกิดความพอดี คุยด้วยเหตุด้วยผล,ขอชัดๆใครมีอำนาจตัดสินใจ,เมื่อถามว่า หากไม่ได้กระทรวงเกษตรฯจะผลักดันนโยบายของพรรคได้หรือไม่ นายนิพนธ์ตอบว่า ต้องพิจารณาถึงกลไก และเครื่องมือที่จะใช้ ต้องพูดคุยกัน สิ่งที่ควรชัดเจนก่อนคือในพรรคพลังประชารัฐ ใครคือบุคคลที่มีอำนาจในการเจรจา เรื่องนี้ต้องนิ่งและเป็นเอกภาพก่อน เพราะพรรคที่จะไปร่วมก็ไม่ทราบว่าพูดจากับใคร,นิพิฏฐ์ ซัดไบโพล่าการเมือง,ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า อ่านข่าวนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ในทำนองว่ามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ท่านล้ำเส้นเยอะไปหน่อย ปกติเขาไม่วิจารณ์กิจการภายในข้ามพรรค แต่หมู่นี้ทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และนายจาตุรนต์ วิจารณ์ประชาธิปัตย์เสียจนมันปาก แต่วิจารณ์ไปพลางก็อ้อนวอนไปพลางให้มาเป็นรัฐบาล โดยยกให้เป็นนายกรัฐมนตรีไปด้วย คิดว่าทั้งคุณหญิงสุดารัตน์และนายจาตุรนต์ น่าจะป่วยเป็นโรคไบโพล่าการเมืองไปแล้ว แพ้-ชนะ ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ประชาธิปไตยมันต้องมีหลักธรรมาภิบาลด้วย ต้องรักษาและปฏิบัติตามกฎหมาย ชนะแต่ละเมิดกฎหมายไม่ใช่พรรคแห่งประชาธิปไตยหรอก,นิวเด็ม ห้าวหมดเวลาเกรงใจ,ขณะที่นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ นัท โนเบิ้ล อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มนิวเด็ม โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า วันก่อนนึกว่าถึงเวลาบอกลาการเมืองไทยไปพักใหญ่ แต่เนื่องจากไม่ได้ข้อสรุปอะไรและมีคนจากพรรคพลังประชารัฐพูดถึงการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย หากบริหารประเทศไม่ได้ก็ขู่จะยุบสภา ผมอยากบอกว่า คุณพี่ครับ อายุเท่าไหร่แล้ว? หมาเลียตูดไม่ถึงแล้วมั้ย? หาเพื่อนเล่นด้วยไม่ได้เกิน 250 โวยวายขู่ยุบสภาเลยเหรอ? ผมสงสารแทนประเทศเราที่เสียเวลา เสียโอกาสที่จะพัฒนา เพราะพวกไร้ความสามารถแต่เสือกอยากบริหารประเทศ สภาฯไม่ใช่โรงละครฉันใด ประชาธิปไตยก็ไม่ใช่ตัวประกันของท่านฉันนั้น อยากเตือนพรรคพลังประชารัฐว่าประชาชนทุกคนมีขีดจำกัด หากวันไหนพวกเขาอดทนต่อไปไม่ได้แล้ว #หมดเวลาเกรงใจพลังประชารัฐ,เสี่ยหนู ชัดไม่ร่วม รบ.ข้างน้อย,นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความติดขัดในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล ว่า เรื่องนี้พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต้องจัดการให้ได้ สำหรับพรรคภูมิใจไทยกับพลังประชารัฐไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะมีการเจรจายื่นข้อเสนอต่างๆกันไปแล้ว แต่ท่าทีพรรคประชาธิปัตย์หากไม่เข้าร่วมรัฐบาล พรรคเราก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้ เนื่องจากติดเงื่อนไข 4 ข้อที่เคยประกาศไว้ หากเป็นรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ หรือเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไปร่วมไม่ได้แน่นอน ชัดเจนตามนั้น เมื่อถามว่า มีโอกาสพลิกจับมือเป็นขั้วที่ 3 หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ยังเร็วไปที่จะพูด ยังไม่คิดถึงจุดนั้น,แกนนำ ชทพ.รอรับเทียบเชิญ,นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐนำโดยนายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ประสานมาที่นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา จะเดินทางมาส่งเทียบเชิญพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 30 พ.ค. เวลา 10.00 น. ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา เรายินดีที่จะพูดคุยด้วย โดยเฉพาะในเรื่องนโยบาย โดยมี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค นายธีระ วงศ์สมุทร ประธานคณะกรรมการดำเนินกิจกรรมพรรค ร่วมหารือ,ภูมิธรรม เย้ยต่อรองกันวุ่นไม่จบ,นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า วันนี้เราได้เห็นลีลาการเมืองของพรรคฝ่ายสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ มีพลังประชารัฐเป็นแกนนำพยายามจะจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัว ดูเหมือนว่าหนทางการเจรจาร่วมมือกันดูจะริบหรี่ลงเรื่อยๆ หากจัดตั้งได้จะเป็นรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพ เนื่องจากเสียงอยู่ในสภาพปริ่มน้ำ ที่เลวร้ายกว่านั้นมีข่าวว่าหากการร่วมจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ อาจจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแล้วจะยุบสภา สภาพดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าการต่อรองทางการเมือง นับวันจะเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบสิ้นลงง่ายๆ,ยังไม่สายมาร่วมขบวนฝ่าย ปชต.,นายภูมิธรรมระบุอีกว่า ผลการเลือกตั้งล่าสุดที่เชียงใหม่ ฝั่งประชาธิปไตยได้คะแนนท่วมท้น เป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการหลุดพ้นจากการบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์และคณะ แต่ผลการคำนวณคะแนนสัดส่วน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ชี้ชัดว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎกติกาพิสดาร ยังอยากเรียกร้องให้ทุกพรรคที่เคยได้รับผลกระทบ มาร่วมผนึกกำลังกันเพื่อต่อรองผลประโยชน์ให้กับประชาชน ถึงวันนี้ยังไม่สายต้องช่วยกันหาทางออกให้ประเทศ จนถึงวันนี้หากพรรคใดจะเปลี่ยนใจก็ยังไม่สายเกินไป ประชาชนรอพิสูจน์คำสัญญาที่ทุกพรรคเคยประกาศไว้ อย่าให้ประชาชนผิดหวัง,เพื่อไทยยังไม่สรุปชงชื่อนายกฯ,นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย ขณะนี้แกนนำพรรคอยู่ระหว่างหารือกับ 7 พรรคฝ่ายประชาธิปไตย โดยจะนำสถานการณ์ทางการเมืองซึ่งเปลี่ยนแปลงทุกวัน มาประกอบการพิจารณาอย่างรอบด้าน,ต่อรองไม่ลงตัวดันพาลยุบสภาฯ,นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความไม่ลงตัวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลของขั้วพลังประชารัฐ ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย ตกลงผลประโยชน์กันไม่ลงตัวก็พาลจะยุบสภาฯ ประชาชนตัดสินใจได้ว่าใครคือตัวปัญหา ประชุมสภาฯไม่กี่ครั้งประชาชนเห็นชัดถึงคุณภาพนักการเมือง พรรคการเมือง วันนี้เทคโนโลยีทำให้นักการเมืองกลืนน้ำลายตัวเองยากขึ้น พูดอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ประชาชนสืบค้นมายืนยันหักล้างได้หมด มองว่าการเจรจาตั้งรัฐบาลรอบนี้ไม่ง่าย ตราบที่ยังเป็นการเมืองระบบโควตา ยึดผลประโยชน์ส่วนตัวต่อรอง ฝ่ายสืบทอดอำนาจต้องเรียนรู้กันเอง ฝ่ายการเมืองที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจก็จะได้เรียนรู้ว่าการสนับสนุนทหารสืบทอดอำนาจ ในยุคที่ประชาชนตื่นรู้ไม่ง่ายเช่นกัน เมื่อเดินเข้าไปร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สภาพอาจไม่ต่างจากพลทหาร ที่คอยรับคำสั่งผู้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด,หยัน ปชป.เอาให้ชัดอย่าลีลานาน,ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เห็นลีลาการต่อรองเก้าอี้ของพรรคต่างๆ โดยเฉพาะพรรคเก่าแก่ เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะอ้างว่าต้องทำเพื่อชาติเลยต้องยอมร่วมรัฐบาลนี่คือการตระบัดสัตย์ เพราะตอนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดในนามหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ความเห็นส่วนตัว ย่อมมีผลผูกพันพรรค หากเบี้ยวสัญญาก็เท่ากับการตระบัดสัตย์ ที่จริงหากอยากร่วมรัฐบาลน่าจะบอกตรงๆ ทุกฝ่ายจะได้รีบเดินหน้าทำงาน ไม่ต้องมาลีลาเยอะ เพราะชาวบ้านมองออกว่าเป็นแค่ลีลาต่อรองผลประโยชน์ของพวกเขี้ยวลากดิน,ขั้ว 7 พรรคถกแคนดิเดตชิงนายกฯ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมแกนนำ 7 พรรคการเมืองที่ร่วมลงสัตยาบันต่อต้านการสืบทอดอำนาจ คสช. เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการหารือประเด็นการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เสนอว่า ทั้ง 7 พรรคควรเสนอชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมรัฐสภา แต่คุณหญิงสุดารัตน์ปฏิเสธ แล้วเสนอว่าควรเป็นนายธนาธร ตามที่นายธนาธรได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนายธนาธรไม่ได้ปฏิเสธ เบื้องต้นที่ประชุมเห็นพ้องกันว่าควรเสนอชื่อนายธนาธร แต่มีการตั้งข้อสังเกตในข้อกฎหมายว่ากรณีนายธนาธรถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จะกระทบกับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ จึงมอบให้ 2 พรรคใหญ่ คือเพื่อไทย และอนาคตใหม่ ไปหารือกันแล้วแจ้งกลับมายัง 7 พรรคแนวร่วมที่พร้อมจะปฏิบัติตามมติ,พท. พลิกเกมเสนอชื่อคนในลง,ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยได้หารือ และเห็นร่วมกันว่าแคนดิเดตนายกฯที่ทั้ง 7 พรรคจะเสนอควรมาจากเพื่อไทย เพราะถือเป็นพรรคที่มี ส.ส.มากที่สุด ไม่ว่าแพ้หรือชนะเราต้องแสดงจุดยืนเรื่องหลักเกณฑ์ในระบอบประชาธิปไตย ส่วนชื่อของนายธนาธรนั้นมีการถกเถียงกันถึงข้อสงสัยในข้อกฎหมาย จึงจำเป็นต้องตัดสินใจไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง โดยแคนดิเดตพรรคเพื่อไทยเหลืออยู่ 2 คน คือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายชัยเกษม นิติสิริ หากนายชัชชาติไม่รับ ก็เป็นชื่อนายชัยเกษม ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์เจ้าตัวปฏิเสธทั้งในที่ประชุมและต่อสาธารณะแล้ว ขณะนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยยังคงติดตามสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ก่อนตัดสินใจว่าจะเสนอชื่อใครจะรับฟังความคิดเห็นที่ประชุม ส.ส.ก่อนไปหารือร่วมกับ 7 พรรคอีกครั้ง,อ๋อย ชี้ตั้ง รบ.อย่างทุลักทุเล,ที่ศาลทหาร นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า มองว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ทุลักทุเล เห็นได้จากการเลือกประธานสภาฯ มีงูเห่าเกิดขึ้นแล้วแต่ไม่ปรากฏตัว แต่การเลือกนายกฯต้องเปิดเผยตัว มีการต่อรองผลประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงหลักการใดๆ ถือว่าไม่มีความชอบธรรม หน้าตารัฐบาลจะเป็นพวกเอาเปรียบไม่รักษาคำพูด พวกบิดเบือนไม่รักษาสัญญา อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในฐานะลำบาก เพราะเคยประกาศจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพวกสืบทอดอำนาจ จะเอาใจผู้สนับสนุนพรรคอย่างไร บางส่วนย้ายไปสนับสนุนพลังประชารัฐ หากเข้าร่วมก็เสียผู้สนับสนุนตัวเองอีกส่วนหนึ่งไป จึงไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรดี ตามองค์ประกอบแล้วรัฐบาลนี้ไม่น่าจะอยู่ได้นาน หากจะอยู่ได้นานก็อาจต้องใช้อำนาจและวิธีการต่างๆ,พรรณิการ์ เมินเด็ก พปชร.ไลฟ์ยั่ว,อีกเรื่อง น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.ปรีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กพาดพิงด้วยถ้อยคำหยาบคาย ว่า ยังไม่ได้ดูไลฟ์ดังกล่าว ช่วงนี้งานเยอะไม่มีเวลามานั่งดู เชื่อว่าไม่มีทางที่สังคมจะได้อะไรจากเรื่องนี้ เราเป็นผู้แทนราษฎรกินภาษีประชาชนเดือนละเป็นแสน ควรไปโฟกัสอะไรที่เป็นประโยชน์ดีกว่า เอาเวลาไปคิดทำอะไรที่มันสร้างสรรค์ พรรคอนาคตใหม่ต้องการทำการเมืองที่สร้างสรรค์อยู่แล้ว เรื่องแบบนี้คงปล่อยผ่าน เรามีทีมมอนิเตอร์สื่ออยู่ ถ้ามีเรื่องอะไรที่เป็นประเด็นจะแจ้งมา แต่ถ้าไม่รายงานมาแสดงว่าคงวิเคราะห์แล้วไม่มีความสำคัญอะไรเลย,ปารีณา แถสบถเป็นศัพท์ท้องถิ่น,ด้าน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่ได้ระบุถึงใคร แต่คำว่า อีช่อ แถวบ้านหมายถึงคนที่ไม่รักษากฎระเบียบ เหมือนคำที่เรียกกันเล่นๆ เป็นคำเปรียบเปรยเรียกกันมานานแล้ว ที่มีการพูดพาดพิงไปถึงพรรคสีส้ม เพราะ ส.ส.พรรคนั้นไม่เคารพกฎระเบียบในการประชุมสภา รู้สึกว่า น.ส.พรรณิการ์ไม่เคารพระเบียบการประชุม แต่ยืนยันว่าไม่ได้หมายถึง น.ส.พรรณิการ์ แต่ถ้าเขาจะกินปูนร้อนท้อง ก็ถือว่าช่วยไม่ได้เมื่อถามว่าถูกกระแสโซเชียลโจมตีหนัก มีการติดแฮชแท็กว่าค้าอาวุธ จนติดเทรนด์อันดับหนึ่งในทวิตเตอร์ น.ส.ปารีณาตอบว่า ดิฉันเป็นเหยื่อโซเชียลมีเดีย คิดว่าจะแจ้งความเอาผิดผู้ที่โจมตี เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวจะนำไปสู่การกระทบกระทั่งในที่ประชุมสภา อาจถึงขั้นใช้ความรุนแรงหรือไม่ น.ส.ปารีณาตอบว่า ดิฉันก็ไม่สู้ วิ่งหนีอย่างเดียว,จิตภัสร์ ไม่สนฉายา ตั๊นพันเจ็ด,ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เข้ารับหนังสือรับรองจาก กกต. เพื่อนำไปรายงานตัวกับสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร น.ส.จิตภัสร์กล่าวว่า ดีใจและขอบคุณประชาชนที่มอบคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามถึงประเด็นที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์อยู่ขณะนี้ มีการติดแฮชแท็ก #ตั๊นพันเจ็ด ในทวิตเตอร์ น.ส.จิตภัสร์ตอบว่า ไม่ได้ติดตาม มีประชุมทุกวันเพราะเป็นรองเลขาธิการพรรค ตั้งใจว่าจะทำงานให้ดี,เดียร์ ขายทิ้งหุ้นสื่อหมดแล้ว,น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังรับหนังสือรับรองจาก กกต. ว่า รู้สึกดีใจ ตั้งใจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่มีคนในครอบครัวยังถือหุ้นสื่ออยู่ น.ส.วทันยาตอบว่า ไม่กังวลและคิดว่าไม่เป็นปัญหา ก่อนจะเข้ามาสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ศึกษาข้อกฎหมายครบถ้วน ปฏิบัติตามทุกขั้นตอน ทั้งในส่วนของตัวเองกับสามี และครอบครัว ก่อนหน้าเคยมีหุ้นสื่อแต่ทยอยขายหุ้นทุกบริษัท ไปตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.2561 มีเอกสารการขายหุ้นยืนยันชัดเจน ส่วนการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล ผู้ใหญ่ของพรรคอยู่ระหว่างเจรจากับพรรคที่จะเชิญมาร่วม เราอยากทำให้เสร็จสิ้นก่อนจะมีการเลือกนายกฯ,ศรีนวล ขอหยุดตีกันเร่งช่วย ปชช.,ขณะที่ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคอนาคตใหม่ กล่าวภายหลังรับหนังสือรับรองจาก กกต. ว่า ดีใจที่ชาวเชียงใหม่ให้ความไว้วางใจเลือกเข้ามาอย่างท่วมท้น จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ภารกิจแรกที่อยากทำคือการช่วยเหลือประชาชน เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านบอกเศรษฐกิจไม่ดี ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ขายไม่ได้ ขาดทุน ตกทุกข์ได้ยาก มีหนี้สิน จะนำความเดือดร้อนของประชาชน ประสานงานกับผู้บริหาร เพื่อผลักดันงบประมาณไปช่วยแก้ไขปัญหา อยากฝากทุกคนที่ได้รับเลือกตั้งทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อยากให้ระดับผู้นำเป็นน้ำหนึ่งใจ เดียวกัน ไม่ทะเลาะกัน หันหน้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน,ปลาย มิ.ย.ได้ใช้ห้องสภาฯใหม่,เมื่อเวลา 12.00 น. ที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พาคณะสื่อมวลชนตรวจความคืบหน้างานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย ในส่วนของห้องประชุมจันทรา ที่จะใช้เป็นห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว นายสรศักดิ์กล่าวว่า ห้องประชุมจันทราเป็นห้องสำหรับใช้ประชุม ส.ว.รองรับได้ 350 คน แต่เบื้องต้นจะใช้เป็นห้องประชุม ส.ส.ด้วย จะเปิดใช้งานได้ในปลายเดือน มิ.ย.นี้ ช่วงแรกอาจยังไม่สมบูรณ์ อาทิ ระบบไมโครโฟน ระบบการลงคะแนน อาจใช้เจ้าหน้าที่นับคะแนน ส่วนห้องประชุมสุริยันที่เป็นห้องประชุม ส.ส. ความจุ 750 คน จะเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ต.ค. ส่วนการเช่าหอประชุมใหญ่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นที่ประชุมสภาฯชั่วคราวจะเช่าเดือนต่อเดือน ในวันที่ 22 มิ.ย.หากห้องประชุมจันทราเสร็จทันจะยกเลิกการต่อสัญญาเช่ากับทีโอที,เตรียมสังเวียนทีโอทีเลือกนายกฯ,นายสรศักดิ์กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมสถานที่ประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกฯเบื้องต้นจะใช้ห้องประชุมทีโอทีเป็นสถานที่ประชุม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มจำนวนเก้าอี้ในห้องประชุมอีก 88 ตัว จากเดิมที่มี 660 ตัว เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนสมาชิกรัฐสภา 750 คน รวมถึงแก้ไขระบบไมโครโฟนที่อาจมีไม่เพียงพอ เพราะการลงมติเลือกนายกฯสมาชิกต้องขานชื่อทีละคน ส่วนวันประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกฯจะเป็นวันใดนั้นยังตอบไม่ได้ต้องรอความชัดเจนจากฝ่ายเลขาธิการคณะรัฐมนตรี,บิ๊กแดง มุดทำเนียบคุย บิ๊กตู่,วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติตั้งแต่เวลา 09.00 น. แม้ไม่มีวาระงานใดๆท่ามกลางกระแสการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่อเค้าลางว่าจะเกิดความยุ่งยาก เมื่อมีข่าวแบ่งโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีกับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงตัว แต่ก่อนที่นายกฯจะเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้เดินทางมารอพบนายกฯบนตึกไทยคู่ฟ้าอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นมีการพูดคุยกันประมาณ 10 นาที ก่อนที่ พล.อ.อภิรัชต์กลับออกทางด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ต่อมาเวลา 10.00 น.ที่ตึกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วม,นายกฯขออย่าโยงเอี่ยวตั้ง รบ.,ต่อมา พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ให้รอความชัดเจน ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายและธรรมเนียมปฏิบัติ หวังเพียงให้บ้านเมืองเดินต่อไปข้างหน้า มองเรื่องผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก ไม่อยากให้โยงนายกฯไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองของพรรค ให้สอบถามกับพรรคการเมืองจะเหมาะสมกว่า วันนี้นายกฯยังทำงานตามปกติ และฝากแนะนำให้อ่านหนังสือ แอนิมอล ฟาร์ม (Animal Farm) ฉบับภาษาไทย ที่ให้ข้อคิดการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอนิมอล ฟาร์ม หรือ การเมืองเรื่องของสัตว์ เป็นนวนิยายเสียดสีทางการเมือง มีเนื้อหาทำให้ผู้อ่านได้ฉุกคิดหันมามองตนเองและสิ่งรอบตัว เพื่อหาทางอยู่รวมกันได้อย่างผาสุกในสังคม,วิษณุ แจงขั้นตอนเรียกโหวต,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งประธานและรองประธานสภาฯแล้วหรือไม่ แต่ตามขั้นตอนแล้วจะลงมาที่นายกฯซึ่งเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร การจะโหวตเลือกนายกฯต้องแจ้งสมาชิกรัฐสภาล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน และสามารถนัดประชุมในวันเสาร์-อาทิตย์ได้ แต่เป็นห่วงว่าสัปดาห์นี้มีวันหยุดยาว สมาชิกอาจอยู่ต่างจังหวัดเดินทางมาไม่ทัน ส่งผลต่อการแพ้ชนะโหวตได้ ดูจากการประชุมสภาฯเห็นแล้วว่า เมื่อเปิดประชุมสภาฯจะใช้เวลาปุบปับ 2-3 ชั่วโมงเสร็จทันทีคงเป็นเรื่องยาก แต่ตามกรอบเวลาเดิมคาดว่าจะได้นายกฯภายในเดือน พ.ค. อาจต้องขยับออกไป แต่ไม่นาน,กองพิธีการทำเนียบเตรียมพร้อม,ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันที่ 30 พ.ค. เวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุม 235 ตึกสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กองพิธีการ ทำเนียบรัฐบาล มีการเรียกประชุมการเตรียมความพร้อมรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ของกองพิธีการ จะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 30 คน ทั้งนี้ มีรายงานจากคนในรัฐบาล ระบุว่ารัฐบาลมีเวลานับจากนี้อีก 15 วัน ที่จะสะสางงาน ก่อนส่งมอบให้รัฐบาลใหม่ | อุตตม ลุยต่อส่งเทียบเชิญ ชทพ.ยันเจรจาตั้งรัฐบาล ไม่มีปัญหา ลั่น บิ๊กตู่ มีอำนาจสแกนตัว รมต.หลังโหวตนายกฯ โบ้ยความคิด ณัฏฐพล คนเดียวขู่ยุบสภา สนธิรัตน์ ยันพรรคมีเอกภาพ | ข่าว,การเมือง | พรรคพลังประชารัฐ,เลือกนายกรัฐมนตรี,พรรคประชาธิปัตย์,แบ่งเค้ก,การจัดตั้งรัฐบาล,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/politic/1579743 |
คนสับสนข้อมูลโควิด ไม่เชื่อคำพูดบิ๊กตู่ ชงโละทีมโฆษกรัฐบาล ปรับครม. | ประชาชนสับสนข้อมูลช่วงแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซัดคำพูด บิ๊กตู่ ไร้น้ำหนัก เพราะขาดข้อมูลที่ดี ไม่ตอบโจทย์ แนะโละทีมโฆษกรัฐบาล เพราะกระทบภาพลักษณ์นายกฯ ทำคนไม่ไว้วางใจ และควรปรับครม.เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ทำไมคนไม่รับสิ่งนายกฯ พูด กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1306 ตัวอย่าง โดยเมื่อสอบถามถึงสาเหตุว่า ทำไมคนไม่รับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูด พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.9 ระบุ ขาดข้อมูลที่ดี ไม่ตอบโจทย์ประชาชน รองลงมาคือ ร้อยละ 50.6 ระบุ ไม่ถามประชาชนก่อน ร้อยละ 34.7 ระบุ ทีมงานข้อมูล ทีมโฆษกรัฐบาลขัดแย้งกันภายใน และร้อยละ 5.2 อื่น ๆ เช่น พูดเยอะหลายเรื่องสับสน ฟังไม่ชัด พูดเร็วรัวไป และเป็นเพราะสื่อมวลชน เป็นต้นที่น่าเป็นห่วง คือ ผลกระทบจาก ทีมงานข้อมูล ทีมโฆษกรัฐบาลต่อภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.5 ระบุ กระทบภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีค่อนข้างมาก ถึงมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 39.5 ระบุกระทบค่อนข้างน้อย ถึงไม่กระทบเลยที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.8 ระบุ ควรเปลี่ยนทีมงานข้อมูล ทีมโฆษกรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 23.2 ระบุควรทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึง ความรู้สึกและความเห็นต่อนายกรัฐมนตรี พบว่า เกือบ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 31.8 สงสารนายกรัฐมนตรี เห็นว่าเหนื่อยแต่ควรทำงานต่อไป ในขณะที่ร้อยละ 55.3 เห็นว่าควรปรับคณะรัฐมนตรี และ ร้อยละ 12.9 ระบุอื่น ๆผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า จากการเกาะติดกับความเห็นของประชาชนมาตลอด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่สับสนกับข้อมูลที่ซ้ำเติมความตื่นตระหนกในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ดังนั้น เพื่อดึงความเชื่อมั่นและวางใจต่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาลควรลดบทบาทของทีมงานโฆษกรัฐบาลลงในช่วงวิกฤติศรัทธาเวลานี้ เพราะทีมงานโฆษกรัฐบาลไม่ใช่กลุ่มคนที่ประชาชนเชื่อถือ แต่ควรนำคณะบุคคลที่น่าเชื่อถือของประชาชนออกมาพูดในแต่ละเรื่องที่เชี่ยวชาญ พูดแล้วประชาชนวางใจ ทั้งในเรื่อง โควิด-19 ปัญหาภัยแล้ง และปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่ควรเยอะ แต่ทำเฉพาะเรื่องสำคัญๆ. | ประชาชนสับสนข้อมูลช่วงแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซัดคำพูด บิ๊กตู่ ไร้น้ำหนัก เพราะขาดข้อมูลที่ดี ไม่ตอบโจทย์ แนะโละทีมโฆษกรัฐบาล เพราะกระทบภาพลักษณ์นายกฯ ทำคนไม่ไว้วางใจ และควรปรับครม. | ข่าว,การเมือง | โควิด-19,ภาพลักษณ์นายก,ทีมโฆษกรัฐบาล,ซูเปอร์โพล,ไวรัสโคโรน่า,ประยุทธ์,ปรับครม.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1794811 |
ยกเลิกรับสมัคร นักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง | วานนี้ (1 ก.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เผยแพร่ข้อความโดยระบุว่าทั้งนี้ ได้มีการเผยแพร่ภาพบันทึกข้อความสำนักงานกำลังพล ถึงผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เรื่อง ตำรวจอนุมัติแนวทางการสรรหาและผลิตกำลังพลในส่วนของนักเรียนนายร้อยตำรวจและนักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของตำรวจประจำปีการศึกษา 2562 โดยมีเนื้อหาระบุว่าตามหนังสือโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ขออนุมัติการดำเนินการรับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก (ชาย) ผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือเทียบเท่า เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป จำนวน 280 อัตรา เข้าศึกษาต่อโรงเรียนเตรียมทหาร เพื่อจะเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร ตามระเบียบกองทัพไทยว่าด้วยโรงเรียนเตรียมทหาร พ.ศ.2560 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 โดยใช้แนวทางการรับสมัครและสอบคัดเลือกฯ ตามแนวทางที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหาร และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปพร้อมทั้งขอยกเลิกการจัดสรรอัตราในการรับสมัครและสอบคัดเลือกข้าราชการตำรวจและบุคคลภายนอก (หญิง) เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจและบุคคลภายนอกเข้าเป็น นักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 280 อัตรา ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เคยอนุมัติไว้ โดยไม่มีกำหนดสำหรับนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงมีการเปิดรับสมัครคัดเลือกครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2552 ซึ่งนับเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 66 โดยมีหลักสูตรการเรียนเป็นเวลา 4 ปี ที่ต้องผ่านการฝึกระเบียบวินัยแบบทหาร หลักสูตรความเป็นผู้นำ วิชากฎหมาย รวมทั้งวิชาการตำรวจ ขณะที่ปัจจุบันมีนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงแล้วจำนวน 10 รุ่นภาพ : เฟซบุ๊ก พนักงานสอบสวนหญิง | สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อนุมัติยกเลิกการจัดสรรอัตราในการรับสมัครและสอบคัดเลือกข้าราชการตำรวจและบุคคลภายนอกหญิง เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปีการศึกษา 2562 | สังคม | นักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,โรงเรียนนายร้อยตำรวจ | https://news.thaipbs.or.th/content/274361 |
รถบรรทุก 6 ล้อ ประสานงา รถกระบะ ดับ 3 เจ็บ 4 ที่เมืองกาญจน์ | เวลา 18.30 น. วันที่ 30 พ.ค.59 ร.ต.อ.มณีภัทร์ เพ็งเกร็ด รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนประสานงากัน บนถนน 323 กม.88-89 สายกาญจนบุรี-ไทรโยค เยื้องศูนย์เพาะพันธุ์บริษัทเจียไต๋ จำกัด หมู่ที่ 5 ต.วังด้ง อ เมืองกาญจนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รวม 2 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานแพทย์เวรและหน่วยกู้ขีพ รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ ร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์,จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 82-4846 กาญจนบุรี จอดพลิกคว่ำตะแคงข้างอยู่บนถนน ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฌฬ 9417 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่กลางถนนในสภาพพังยับทั้งคัน,ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตที่นั่งโดยสารมากับรถยนต์กระบะ จำนวน 2 ราย เป็นผู้ชาย 1 คน นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ท้ายรถกระบะ ส่วนอีก 1 คน เป็นผู้หญิงนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นถนน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพของ รพ. ร่วมกับมูลนิธิฯ ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย ออกจากรถ และรีบนำส่ง รพ. อย่างเร่งด่วน,จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ รถบรรทุก 6 ล้อ คันดังกล่าวได้วิ่งจาก อ.ไทรโยค มุ่งหน้าเข้าเมืองกาญจนบุรี ส่วนรถยนต์กระบะวิ่งจากตัวเมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าจะไปทาง อ.ไทรโยค เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เกิดพุ่งชนประสานงากันอย่างจัง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รวม 2 ราย และไปเสียชีวิตเป็นหญิงเพิ่มอีก 1 ราย ระหว่างทางนำส่ง รพ. ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิตรอการตรวจสอบจากพนักงานสอบสวนอีกครั้ง | เกิดเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ชนประสานงารถกระบะอย่างจัง ตาย 3 เจ็บ 4 บนถนนสาย 323 กม.88-89 กาญจนบุรี-ไทรโยค เมืองกาญจน์ ตร.เร่งสอบหาสาเหตุ | null | รถบรรทุก6ล้อ,ประสานงา,รถกระบะ,ดับ3,เจ็บ4,กาญจนบุรี,เสียชีวิต,มณีภัทร์ เพ็งเกร็ด,รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลาดหญ้า,กาญจนบุรี-ไทรโยค,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/628640 |
สาวหล่อ เครียดปัญหารุมเร้า จุดพีคทะเลาะกับแฟน ปิดห้องรมควันลาโลก | เวลา 17.00 น. วันที่ 22 ต.ค.62 ร.ต.ท.จิรัสสิทธ์ เพ็ชรทองมา รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีคนรมควันตนเองเสียชีวิตภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องพักรายวัน ซอยศรีเพชรการเคหะ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย อาสาสมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ เข้าตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุภายในห้อง 202 พบศพ นางสาวชญาพัฒน์ บุญดี อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นสาวทอม สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณข้างเตียง ใกล้กันพบผงขี้เถ้าถ่านกองอยู่ในกระบะบะอะลูมิเนียมฟอยล์ 2 กระบะ ตรวจสอบตามขอบประตูหน้าต่างพบมีการใช้ผ้าอุดกันควันรั่วออกด้านนอกภายในห้องเบื้องต้นไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ในห้องยังพบสมุดอยู่ 1 เล่ม ซึ่งภายในหน้ากระดาษมีข้อความเขียนด้วยลายมือใจความว่า,นาคิดว่านาไม่ไหวกับทุกสิ่งแล้วถึงทำแบบนี้ นาไม่สามารถไปต่อได้อีกขอโทษด้วยนะที่ปีหน้าไม่สามารถพาไปเขาคิชฌกูฏได้ เรารักต่ายนะ รู้สึกดีทุกครั้งที่เธอบ่น เธอหวังดี และฝากบอกพ่อกับแม่ด้วยว่ารักเสมอ ขอโทษด้วยที่ทำแบบนี้ ให้เธออโหสิกรรมให้นาด้วย พาไปงานเจดีย์สมใจแล้วนะขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านมารักนะต่ายฉันรักเธอ แต่ฉันไม่รู้จะสู้ต่อไปได้ยังไง,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 ต.ค.ผู้ตายได้เข้ามาขอเปิดห้องพักเพียงลำพัง กระทั่งช่วงบ่ายของวันซึ่งครบเวลาที่ต้องเช็กเอาต์ออก พนักงานดูแลอพาร์ตเมนต์จึงได้โทรศัพท์เข้าไปแจ้งผู้ตายแต่ไม่มีคนรับสายจึงได้ให้แม่บ้านเข้าไปเคาะประตูเรียก แต่ก็ไม่มีคนเปิดจึงได้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้ามาร่วมตรวจสอบเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบร่างผู้ตายนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างเตียงจึงได้รีบโทรแจ้งตำรวจทราบ,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามไปยังเพื่อนผู้ตายทราบว่า มีปัญหาชีวิตหลายอย่าง แม่ที่ป่วยหนัก มีปัญหาด้านการเงิน และล่าสุดผู้ตายได้ทะเลาะกับแฟนสาวด้วย ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของการคิดสั้นในครั้งนี้อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อญาติผู้ตายมาสอบสวนและส่งศพไปชันสูตรที่นิติเวชเพื่อหาสาเหตุการฆ่าตัวตายที่แท้จริงต่อไป. | สาวหล่อเจอปัญหาชีวิตถาโถมเข้ามาทั้งทะเลาะกับแฟนสาว แม่ป่วยหนัก ปัญหาด้านการเงิน ตัดสินใจหยุดปัญหาเปิดห้องพักรายวัน ขังตัวเองอยู่ในห้องก่อนรมควันดับตัวเอง ได้ลาโลกสมใจ | ข่าว,ทั่วไทย | รมควัน,ฆ่ารมควัน,ปิดห้องรมควัน,สาวหล่อ,ทะเลาะกับแฟน,ปัญหารุมเร้า,สมุทรปราการ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1688128 |
สมช.ปัด ทักษิณ ร่วมคณะพูดคุยสันติภาพ | พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ได้นำรายชื่อผู้ร่วมคณะ และหลักการ การพูดคุยเข้าชี้แจงต่อ ครม. เพื่อรับทราบ ก่อนที่จะเดินทางไป ที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซียในวันที่ 28 มีนาคม โดยจะหารือเป็นการภายในอีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้พล.ท.ภราดรยืนยันถึงความพร้อมในการพูดคุย กับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต และกลุ่มพูโลบางส่วน พร้อมปฏิเสธข่าวที่แกนนำบางกลุ่มจะไม่มาร่วมพูดคุยด้วย และไม่กังวลต่อการเคลื่อนไหวในลักษณะที่คัดค้านการพูดคุย รวมถึงการขึ้นแผ่นป้ายรัฐปัตตานีในพื้นที่ภาคใต้ เพราะถือเป็นการแสดงออกของผู้เห็นต่างเท่านั้นพล.ท.ภราดรปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น เพราะไม่ทราบเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปประสานการพูดคุยล่วงหน้า ในมาเลเซียส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ผู้บริหาร และตัวแทนโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จังหวัดยะลาปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล เข้ายื่นหนังสือผ่าน พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแสดงเจตนารมณ์สนับสนุนแนวทางเจรจาแบบสันติ เพื่อสร้างสันติภาพในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ตัวแทนรัฐบาลไทย และกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น จะเจรจากันในวันที่ 28 มีนาคม 2556 ที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาก่อความไม่สงบนายขดดะรี บินเซ็น ประธานสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นด้วยกับแนวทางนี้ เพราะเชื่อว่าการพูดคุยแบบสันติจะยุติปัญหาได้ และทำให้คนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความสงบสุขแบบยั่งยืน รวมทั้งเศรษฐกิจในพื้นที่จะดีขึ้นขณะที่นายโซรยา จามจุรี คณะกรรมการสภาประชาสังคมชายแดนภาคใต้ และนายศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ภักดี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ มองว่านอกจากตัวแทนเจรจาฝ่ายไทยที่เป็นเจ้าหน้าที่ และนักวิชาการแล้ว ส่วนสำคัญคือภาคประชาสังคมที่ควรแสดงบทบาทเป็นคนกลางคอยหนุนเสริม เมื่อการพูดคุยเกิดล่มกลางคัน และจะต้องทำหน้าที่สื่อสารเจตนารมณ์ของคู่ขัดแย้งไปสู่ประชาชน เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน โดยสิ่งที่ควรหยิบยกขึ้นมาพูดในรอบนี้ คือ การลดความรุนแรงในพื้นที่ของทั้งฝ่ายรัฐ และกลุ่มขบวนการ เพราะอาจจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งกระบวนการสร้างสันติภาพได้ | สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช.นำกรอบการพูดคุย เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าชี้แจงให้ครม.รับทราบแล้ว ขณะที่เลขา สมช.ปฏิเสธให้ความเห็นกรณีข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางประสานการพูดคุยล่วงหน้าให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ในมาเลเซียแล้ว | การเมือง | ทักษิณ,ภาคใต้,มาเลเซีย,สมช.,สันติภาพ | https://news.thaipbs.or.th/content/157352 |
วัชระ ค้านบังคับจ่ายค่าบำรุงพรรค 100 ยุคคสช. ลั่นวันพระไม่มีหนเดียว | เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 60 นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองของสนช.ว่า เป็นธรรมชาติของมนุษย์เมื่อ สนช.และกรธ.มาจากการแต่งตั้งของทหาร 100% ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จะให้คนเหล่านี้มาเห็นใจคนยากคนจน กรรมกร ชาวนาชาวไร่ได้อย่างไร เขาจึงมีความรู้สึกว่าการเขียนกฎหมายบังคับประชาชนให้เสียเงินค่าสมาชิกพรรคการเมืองปีละ 100 บาท นั้นเป็นเรื่องเล็ก,ทั้งนี้ ตนเป็นผู้แทนของคนจน ก็ต้องคัดค้านและรักษาสิทธิทางการเมืองในการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของคนจน ที่ผ่านมานับแต่มีประเทศไทยไม่เคยมีการบังคับ เพิ่งจะมาบังคับในยุคคสช. ที่ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทย แต่ถ้ามีสภาผู้แทนราษฎรในอนาคต ตนจะเสนอแก้กฎหมายนี้ ให้สิทธิคนจนเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ โดยไม่ต้องเสียเงินต่อไป,ยุคนี้เขามีอำนาจก็เชิญใช้อำนาจตามอัธยาศัย แต่วันพระไม่ได้มีหนเดียวมิใช่หรือ ส่วนมาตรการข้อห้ามในการกระทำความผิดในเรื่องต่างๆ ที่มีเข้มงวดนานัปการและมีโทษปรับและจำคุกต่างๆ นั้น กรุณาใส่มาให้เต็มที่ เพื่อในอนาคตจะเสนอกฎหมายในฐานความผิดเดียวกันทุกประการให้ใช้บังคับกับข้าราชการประจำและผู้ร่างกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ให้ใช้บังคับเฉพาะกับนักการเมืองเท่านั้น,สวน สุเทพ ถามชาวสวนยางหรือยัง หนุนให้จ่าย 365 บาทต่อปี,นายวัชระ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปท.) ท่านบอกเลิกเล่นการเมืองแล้ว แต่พูดเรื่องการเมืองทุกวัน เป็นชีวิตจิตใจของท่าน แต่การบอกว่าประชาชนเสียเงินค่าสมาชิกพรรคปีละ 100 บาทนั้นน้อยไปควรเสียสละเงินวันละบาทหรือปีละ 365 บาทด้วยซ้ำ ท่านเคยเป็นอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เคยพูดกับสมาชิกพรรคไว้ว่า ใครมีแรงออกแรง ใครมีเงินออกเงินแล้ว มาวันนี้ทำไมต้องมาบังคับให้ประชาชนต้องจ่ายเงินค่าสมาชิกพรรค ถ้า สนช.เชื่อนายสุเทพก็ให้แปรญัตติจาก 100 บาท เป็น 365 บาทต่อปี จึงควรคิดให้ดี,ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเคยมีคนที่เชื่อ นายสุเทพ แล้วผิดหวังเพราะกลายเป็นมีรัฐบาลทหารมา 3 ปีแล้ว ตนขอคัดค้านเรื่องเงินบำรุงพรรค ไม่ควรเอาเงินมาตั้งเป็นกำแพงขวางกั้นการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของประชาชน เพราะเงิน 100 บาท ที่บังคับจ่ายนี้ชาวสวนยางต้องขายขี้ยางถึง 3 กก. ถ้าต้องจ่ายเงินค่าสมาชิกพรรคการเมืองถึงปีละ 365 บาท ชาวสวนยางต้องขายขี้ยางถึง 11 กก.กว่าจะได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง 1 ปี นายสุเทพไม่คิดจะถามชาวสวนยางพาราก่อนหรืออย่างไร จึงขอเสนอให้คงสิทธิประชาชนของแบบเดิมดีกว่าคือ เป็นสิทธิทางการเมืองที่ไม่ต้องมีเงินมาเป็นตัวกำหนด สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดได้โดยเสรี | วัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลั่นวันพระไม่ได้มีหนเดียว จ่อแก้ปมบังคับจ่ายค่าบำรุงพรรค สวน เทพเทือก ถามชาวสวนยางหรือยัง หนุนให้จ่าย 365 บาทต่อปี | เลือกตั้ง | วัชระ เพชรทอง,พรรคประชาธิปัตย์,สุเทพ เทือกสุบรรณ,ค่าสมาชิกพรรคการเมือง,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/920177 |
ประยุทธ์ ขอโทษกรณี กรือเซะ ทบทวนย้ายฐานทหารรือเสาะ ลั่นต้องฟังเสียงประชาชน | พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งทบทวนย้ายฐานทหารออกจาก อ.รือเสาะ ลั่นต้องฟังเสียงประชาชน ขอโทษกรณี กรือเซะ ชี้ เรื่องต่าง ๆ ผ่านกระบวนการยุติธรรมแล้วมีการเยียวยาและต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก ระบุหากคิดอะไรไม่ออกให้นึกถึงเพลงชาติกับเพลงสรรเสริญพระบารมี23 มี.ค. 54 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดโอกาสให้ประธานชมรม ทำดี มีอาชีพ ประธานสภาสันติสุขตำบล และเยาวชนจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เข้าร่วมโครงการ ทำดี มีอาชีพ เข้าพบที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า โครงการ ทำดี มีอาชีพ เป็นโครงการพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเยาวชน ซึ่งจะเป็นพลังให้ประเทศชาติเจริญเติบโตได้ และยังเป็นการลดความเสี่ยง ที่เยาวชนจะถูกชักจูงให้กระทำความผิด นอกจากนี้ ยังทำให้เยาวชนได้ประสบการณ์โดยไม่รู้ตัว จากการได้พบกับสังคมใหม่ ๆ ที่มีความแตกต่างไปจากเดิม และจะได้เห็นว่าการอยู่ร่วมกันในความแตกต่างด้วยสันติ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึง 6 ยุทธศาสตร์ที่ใช้แก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบด้วย 1. การพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ให้มีอาชีพ รายได้และการศึกษาที่ดีขึ้น 2. การลดปัญหาจากภัยแทรกซ้อน ซึ่งนำไปสู่ความรุนแรงในพื้นที่ ทั้งจากปัญหายาเสพติด การค้าของเถื่อน อิทธิพล 3. การดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม การดูแลด้านสิทธิมนุษยชน ถ้าเจ้าหน้าที่ทหารทำความผิด จะต้องถูกลงโทษ 4. การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 5. การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ ที่เราต้องมีประวัติศาสตร์เดียวกัน อดีตเป็นสิ่งที่เราจะนำมาภาคภูมิใจ เป็นตัวอย่างที่ดี และอะไรไม่ดีก็ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก และ 6. การให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ที่มัสยิดกรือเซะ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เป็นเรื่องที่ผมไม่สบายใจ แต่จำเป็นต้องพูด ผมต้องขอโทษแทน แม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว อาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจ ความประมาท การไม่ดูแล ไม่เอาใจใส่ ผมไม่อยากรื้อฟื้น แต่มันถูกเอามาอ้างทุกวัน ผมจึงอยากบอกว่า เรื่องต่าง ๆ ผ่านกระบวนการยุติธรรมแล้ว มีการเยียวยา และเราก็ต้องไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทั้งประชาชนและรัฐ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ไม่ได้มีแต่ทหารที่มีหน้าที่แก้ไข แต่รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกันแก้ไข และทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ โดยทหารเป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อน 6 ยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาล โดยใช้การเมืองนำการทหาร และใช้มาตรา 21 ให้ผู้ที่หลงผิดเข้ามอบตัว ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า จำนวนการก่อเหตุรุนแรงลดลง และประมาณครึ่งหนึ่งของคดีทั้งหมด ไม่ใช่เหตุรุนแรง แต่เกี่ยวกับยาเสพติด และการค้าของผิดกฎหมายบ้านเมืองเราต้องช่วยกันดูแลแก้ไขปัญหา เราต้องลดปัญหาภายในของเราให้เหลือน้อยที่สุด ถ้าทุกคนเอาปัญหาของตัวเองมาพูด ก็ไม่มีโอกาสพูดถึงปัญหาของส่วนรวม ประเทศชาติบ้านเมืองจะต้องมาก่อน ถ้าคิดกันเช่นนี้ เราจะทำอะไรได้มากขึ้น และพร้อมจะช่วยเหลือบ้านเมือง แก้ไขปัญหาส่วนรวม เวลาคิดอะไรไม่ออก ขอให้นึกถึงเพลงชาติกับเพลงสรรเสริญพระบารมี แล้วเราจะรู้ว่า เราควรทำอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าววันเดียวกันนี้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับสื่อมวลชนถึงกรณีมีประชาชนในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ไม่เห็นด้วยที่ทหารจะย้ายฐานออกจากพื้นที่ว่า กำลังให้แม่ทัพภาคที่ 4 ทบทวน โดยมอบนโยบายว่าต้องมองระยะยาวว่า จะทำอย่างไรให้สามารถดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัยได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันต้องให้ประชาชนมีความมั่นใจและพอใจเราไม่สามารถให้กำลังของกองทัพภาคที่ 1 ลงไปอยู่ตลอดไป จึงต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับกองพลทหารราบที่ 15 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่โดยตรง เพื่อให้เป็นเอกภาพ แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความพอใจของประชาชนด้วย พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า สำหรับแผนการปฏิบัติที่ใช้ดูแลแต่ละพื้นที่นั้น ไม่ได้ใช้แผนเดียวทำงาน หากพื้นที่ใดมีความรุนแรง มีปัญหาหนัก ก็ต้องใช้แผนยุทธวิธีดูแล และใช้กำลังส่วนใหญ่ดูแลป้องกัน แต่ถ้าพื้นที่ใดสงบแล้วก็ใช้การพัฒนาเข้าไป มติชนออนไลน์ | พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งทบทวนย้ายฐานทหารออกจาก อ.รือเสาะ ลั่นต้องฟังเสียงประชาชน ขอโทษกรณี กรือเซะ ชี้ เรื่องต่าง ๆ ผ่านกระบวนการยุติธรรมแล้วมีการเยียวยาและต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก | การเมือง,คุณภาพชีวิต | กรือเซะ,จังหวัดชายแดนภาคใต้,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,รือเสาะ | https://prachatai.com/journal/2011/03/33693 |
ตัวแทนไทยยานยนตร์ รุดมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวคนงานที่เสียชีวิตตึกถล่ม | เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 22 ธ.ค.59 นายดำรงเกียรติ์ โมงขุนทด ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคล ตัวแทนกรรมการ บริษัทไทยยานยนตร์ เซลส์แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ได้เดินทางมายัง เลขที่ 85/1 บ้านสุขวัฒนา ม.16 ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของนายไพร คะนุนรัมย์ อายุ 38 ปี หนุ่มคนงานเหยื่อเคราะห์ร้ายที่ถูกตึกถล่มทับเสียชีวิตที่ซอยสุขุมวิท 87 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเงินสดจำนวน 500,000 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในฐานะที่บริษัทไทยยานยนตร์เป็นเจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย,ขณะนี้ ทางตัวแทนบริษัทก็ได้เดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วทั้ง 3 ราย รายละจำนวน 500,000 บาท ส่วนอีก 1 รายกำลังอยู่ระหว่างติดต่อประสานกับญาติ ส่วนศพของนายไพร คะนุนรัมย์ หนุ่มคนงานเคราะห์ร้ายที่ถูกตึกถล่มทับเสียชีวิต ทางญาติได้ทำพิธีฌาปนกิจแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของครอบครัว,นายดำรงเกียรติ์ โมงขุนทด ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคล ตัวแทนกรรมการ บริษัทไทยยานยนตร์ เซลส์แอนด์ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า ที่ทางบริษัทได้ส่งตัวแทนมามอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึกถล่มในครั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุ แต่ไม่ใช่บริษัทที่ทำการรื้อถอนอาคาร พร้อมทั้งขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ,ด้าน นางชัน พิลาดรัมย์ อายุ 39 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากทางบริษัทไทยยานยนตร์ได้มามอบเงินช่วยเหลือครอบครัว ก็พอใจในระดับหนึ่ง แม้จะไม่สามารถทดแทนกับชีวิตของสามีที่สูญเสียไปจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนทางบริษัทที่รับรื้อถอนอาคารก็ได้ประสานจะมามอบเงินช่วยเหลืออีก 400,000 บาท แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นมา ขณะที่ทางประกันสังคมจังหวัดก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาชี้แจงถึงขั้นตอนการทำเรื่องขอรับสิทธิประโยชน์ค่าจัดการศพ เพื่อให้ญาติไปทำเรื่องตามขั้นตอนแล้ว ซึ่งก็ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือไม่ทอดทิ้งครอบครัวแรงงานที่ฐานะยากจน ส่วนตัวหลังเสร็จจากงานศพสามีก็จะหางานทำอย่างอื่นที่ไม่เสี่ยงอันตรายแต่จะไม่กลับไปทำงานก่อสร้างเพราะยังขวัญผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,ผู้บริหารบ.รื้อถอนตึกถล่มย่านสุขุมวิท ให้ปากคำตร. รับชดใช้ผู้เสียหาย,ตายหมดแล้ว คนงานติดใต้ซากตึกถล่ม รวม 4 ศพ เผยปูนยุ่ยรื้อยาก,ศพคนงานเหยื่อตึกถล่ม ถึงบุรีรัมย์ พ่อ-แม่ร่ำไห้ เมียเล่านาทีระทึก, | ตัวแทน บ.ไทยยานยนตร์ เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุอาคารย่านสุขุมวิทถล่ม มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวหนุ่มบุรีรัมย์ คนงานที่เสียชีวิตจากเหตุตึกถล่มทับเสียชีวิต 500,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนครอบครัวผู้สูญเสีย ขณะที่ครอบครัวเผาศพ | null | ตึกถล่ม,อาคารถล่มทับคนงาน,ไทยยานยนตร์,ไพร คะนุนรัมย์,บุรีรัมย์ | https://www.thairath.co.th/content/819209 |
วิษณุ ตอบ ประวิตร เรื่องอำนาจ หน.คสช. ตาม ม.44 จะว่าเรา Retro ก็แล้วแต่ | ก็แล้วแต่ - พร้อมตอบสื่อ รธน.ไม่ห้าม หัวหน้า คสช. นั่งนายกฯ แต่ได้เป็นหรือไม่อยู่ที่ สนช.24 ก.ค. 2557 - ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ที่ปรึกษา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ร่วมแถลงชี้แจงเนื้อหาของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ทั้งนี้การแถลงดังกล่าวมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยด้วยโดยภายหลังการแถลงข่าวซึ่งกินเวลาประมาณ 50 นาที มีการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม โดยนายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น โดยขอถามนายพรเพชร และนายวิษณุ 2 มาตรา คือ มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เปรียบเทียบกับ มาตรา 17 ในธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2502 สมัยจอมพลสฤษฎดิ์ ธนะรัชต์ และมาตรา 48 เรื่องบทนิรโทษกรรม คสช.โดยมาตรา 44 นายประวิตรถามว่า ที่ระบุว่ากรณีหัวหน้า คสช. เห็นว่ามีความจำเป็น ให้หัวหน้า คสช. โดยความเห็นชอบของ คสช. มีอำนาจสั่งการระงับยับยัง หรือกระทำการใดๆ ได้ ไม่ว่าการกระทำนั้น จะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ และให้ถือว่า คำสั่งหรือการกระทำ รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่ง หรือการกระทำหรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญนี้ และเป็นที่สุดนายประวิตรถามต่อไปว่า ตรงนี้นี่สามารถตีความได้ไหมครับว่า อำนาจของหัวหน้าคณะ คสช. ก็คือสูงสุด และอาจจะมีความคล้ายคลึงกับยุคสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ปกครองผ่านมาตรา 17 อันนี้คือความเป็นห่วงเป็นใย แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นเนี่ย จะถือได้ไหมครับว่า ในความเป็นจริงแล้วอำนาจของหัวหน้า คสช. ในช่วงที่ยังมีการใช้ รัฐธรรมนูญชั่วคราวเนี่ย ก็ยังอยู่เหนือ ครม. และตัวนายกรัฐมนตรีส่วนคำถามที่สองที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 48 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว นายประวิตรถามว่า ขอถามไปที่ มาตรา 48 ที่พูดถึงว่า การกระทำใดๆ ที่โยงกับ การยึดอำนาจในวันที่ 22 พ.ค. ที่ผู้ปฏิบัติทุกท่าน หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมาย ให้ผู้กระทำนั้นพ้นจากความผิดและความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง จากนั้นประวิตรถามว่า คำถามนี้อาจจะโยงเกี่ยวกับเรื่องการปรองดอง เพราะในขณะเดียวกัน ก็คงชัดว่า คสช. ไม่ต้องรับผิดชอบ ทางกฎหมายใดๆ กับการกระทำ ในการยึดอำนาจวันที่ 22 พ.ค. แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีประชาชน หรือคนจำนวนหนึ่งที่ ออกมาก่อการกระทำบางอย่าง โดยนายประวิตรยกตัวอย่าง กรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง หรือนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ที่ถูก คสช. ดำเนินคดีอย่างไรก็ตามไม่ทันที่จะถามจบ สัญญาณถ่ายทอดสดโทรทัศน์ตัดเข้าสู่รายการปกติ อย่างไรก็ตามช่วงถาม-ตอบ ยังคงดำเนินอยู่ โดยที่ก่อนหน้าการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า จะไม่มีการถ่ายทอดสดช่วงถาม-ตอบ โดยหลังการตั้งคำถาม ทั้งนายพรเพชร และนายวิษณุได้ตอบคำถาม 2 ข้อดังกล่าวโดยในประเด็นมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว นายพรเพชรตอบว่า ยอมรับว่า คสช. มีอำนาจเหนือกฎหมาย การใช้อำนาจนี้คงไม่ไปไกลเหมือนจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ไปยุ่งเกี่ยวในคดีอาญาปกติ และไปยิงเป้า นายพรเพชรตอบด้วยว่า ที่ผ่านมาตอนที่ยังไม่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ คสช.เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ทำได้มากกว่ามาตรา 44 แต่ก็ยังไม่ทำผมมั่นใจว่า มาตรา 44 จะช่วยสร้างสรรค์ดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยส่วนนายวิษณุตอบคำถามนี้ว่าเรื่องการใช้อำนาจพิเศษนั้น เชื่อมโยงกับการมี คสช. ถ้า คสช. ไม่อยู่ อำนาจพิเศษก็ไม่มีความจำเป็น นายวิษณุกล่าวด้วยว่า มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจะช่วย ทำหน้าที่บางอย่าง ที่คณะรัฐมนตรีทำได้ลำบาก นอกจากนี้เพื่อป้องกันหากมีการปฏิวัติซ้อน ใครจะหาว่าเรา Retro (ย้อนยุค) ก็แล้วแต่ ไม่อย่างนั้นจะหาอำนาจใดมาจัดการกับปัญหารุนแรงมิได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตคือเกิดการปฏิวัติซ้อนนายวิษณุยอมรับว่าต้นแบบของมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาจากมาตรา 17 ของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2502 โดยต้นแบบมาจากรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส โดยมีที่มาจากรัฐธรรมนูญฝรั่งเศสด้วย แล้วมันกลายมาเป็นมาตรา 17 แล้วมาเป็นมาตรา 44 อย่างไรก็ตามนายวิษณุยืนยันว่าการใช้มาตรา 44 จะเป็นไปอย่างจำกัด คงไม่ใช่เป็นการใช้อำนาจแบบประจำวัน และคงไม่ใช่นึกจะใช้ก็ใช้ นายวิษณุกล่าวด้วยว่า 2 เดือนที่ผ่านมา คสช. มีอำนาจมากกว่ามาตรา 44 เสียอีก แต่ก็ไม่ใช้ นอกจากนี้กรณีที่มีเหตุฆ่าข่มขืน มีเสียงเรียกร้องมายัง คสช. แต่ คสช. ก็ยืนยันว่าจะดำเนินคดีอาญาตามปกตินายวิษณุยอมรับว่า การใช้อำนาจตามมาตรา 44 เปรียบได้มี ประกาศิต แต่ก็เหมือนเป็น ดาบสองคม คงต้องไปดูว่าจะใช้มาตรานี้ในทางสร้างสรรค์ หรือทำลาย มันเหมือนดาบสองคม และ คสช. ยังอยู่ภายใต้การจับตาจากทุกฝ่ายส่วนคำถามที่สองของนายประวิตรซึ่งเกี่ยวข้องกับมาตรา 48 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ซึ่งมีเนื้อหานิรโทษกรรม คสช. ขณะที่อีกฝ่ายที่ออกมาต่อต้าน คสช. ยังถูกดำเนินคดีนั้น นายวิษณุตอบคำถามนี้ว่า มันเป็น Tradition (ธรรมเนียม) ที่เป็นมาตั้งแต่ยึดอำนาจ พ.ศ. 2475 ถ้าไม่เขียนไว้ก็จะมีการจองเวรจองล้าง นายวิษณุยังตอบเรื่องที่ฝ่ายต่อต้าน คสช. ถูกดำเนินคดีด้วยว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมิได้ห้ามมิให้มีกาเยียวยาผู้อื่นหรือฝ่ายอื่นแต่อย่างใดส่วนคำถามจากผู้สื่อข่าวอื่นๆ นั้น มีผู้ถามว่า ทำไมในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวไม่ระบุให้มีการทำประชามติรัฐธรรมนูญฉบับถาวร นายวิษณุ เป็นผู้ตอบ ระบุว่า ได้พิจารณากันแล้ว และถามผู้มีประสบการณ์ในการทำรัฐธรรมนูญ 2550 แล้วว่าการทำประชามติอาจจะมีขั้นตอนที่ยืดยาวนานหลายเดือนและต้องออกกฎหมายว่าด้วยการทำประชามติก็จะทำให้การเลือกตั้งเนิ่นนานออกไปอีก เลยไม่บังคับไว้ ส่วนอนาคตจะทำประชามติหรือไม่ก็ต้องดูความเหมาะสมต่อ เพราะหากจำเป็นเชื่อว่า ครม. และ คสช. จะดำเนินการได้ จึงคิดแค่นี้ในขณะนี้ก่อนเมื่อถามว่าหัวหน้า คสช.สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คำถามนี้อาจารย์คนไหนก็ตอบไม่ได้นอกจากหัวหน้าของอาจารย์ จากนั้นนายวิษณุก็ขอให้ พล.อ.ไพบูลย์ ตอบคำถาม โดยพล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า การที่มีแนวทางที่หัวหน้า คสช.ได้มอบหมายมาเป็นเรื่องที่ดี คาดว่าเดือนสิงหาคมนี้ สนช.คงเกิดขึ้นจากนั้นมีผู้ถามย้ำว่าตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว หัวหน้า คสช. สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ ทำให้ พล.อ.ไพบูลย์ต้องหันไปถามนายวิษณุว่า ตามรัฐธรรมนูญเป็นได้ไหมครับ ทำให้นายวิษณุตอบด้วยการพยักแล้วพูดโดยปิดไมโครโฟนว่า ได้ จากนั้น พล.อ.ไพบูลย์ก็ตอบซ้ำว่า ได้ทั้งนี้หลัง พล.อ.ไพบูลย์กล่าวจบ นายวิษณุก็กล่าวด้วยว่า รัฐธรรมนูญเขาให้เป็นได้ครับ แต่ได้เป็นไหมเป็นเรื่องของ สนช. | ที่ปรึกษา คสช. ตอบคำถาม ประวิตร โรจนพฤกษ์ เรื่อง ม.44 พรเพชร ยัน คสช.ไม่ไปไกลเหมือนสฤษดิ์ ตอนไม่มี รธน. ทำได้มากกว่า ม.44 แต่ก็ไม่ทำ วิษณุ ม.44 คสช. ใช้ทำเรื่องลำบากแทน ครม. จะหาว่า Retro | การเมือง | คสช.,นิรโทษกรรม,ประวิตร โรจนพฤกษ์,พรเพชร วิชิตชลชัย,มัลติมีเดีย,มาตรา 44 รัฐธรรมนูญ 2557,รัฐธรรมนูญ,รัฐธรรมนูญ 2557,รัฐธรรมนูญชั่วคราว,รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557,รัฐประหาร,วิษณุ เครืองาม,หัวหน้า คสช.,อำนาจพิเศษ | https://prachatai.com/journal/2014/07/54721 |
แฮมิลตันโล่ง กริดเกิร์ลไม่ถือสาคดีฉีดแชมเปญ | ในการแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก สนามที่ 3 ของฤดูกาล 2015 รายการ ไชนีส กรังด์ปรีซ์ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม เซียงไฮ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต นครเซียงไฮ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา แฮมิลตัน สามารถคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสวยงานและยังเป็นแชมป์เรซที่ 2 ตลอด 3 รายการแรกของฤดูกาลนี้ทว่าในระหว่างขึ้นรับรางวัลบนโพเดียม นักซิ่งหนุ่มวัย 30 ปี ก็ได้ทำให้ตัวเองโดนวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบไปหลังแสดงความดีใจจนเลยเถิดด้วยการฉีดแชมเปญใส่กริดเกิร์ลส์ผู้ทำหน้าที่เชิญรางวัล,แต่ล่าสุด หลิว ซีหยิง กริดเกิร์ลสาววัย 22 ปีที่จบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัย เซียงไฮ อินสติติว ออฟ วิชวล อาร์ต และทำงานประจำให้กับบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ ก็ได้ออกมาปฏิเสธที่จะเอาเรื่องกับนักซิ่งหนุ่ม โดยกล่าวว่า มันเป็นแค่ช่วงเวลา 1-2 วินาทีเท่านั้น และฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้,ฉันคิดว่าสื่อต่างประเทศอ่อนไหวกับประเด็นนี้ มากกว่าสื่อในประเทศ หน้าที่ของฉันคือขึ้นไปยืนบนโพเดียมตามที่นายจ้างสั่ง เรื่องมีแค่นั้น,ขณะเดียวกันตัวของ แฮมิลตัน เองก็ได้ออกมาแก้ต่างให้กับตัวเองโดยยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้มองว่าเป็นการเหยียดเพศ โดยบอกว่า ในที่สุดแล้วมันก็เป็นช่วงสุดสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมและโดยทั่วไปแล้วที่ผมทำมันก็มาจากความรู้สึกตื่นเต้น,นี้คือการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน สุดยอดการแข่งขันของวงการมอเตอร์สปอร์ตและผมก็ต้องการแค่เพียงคว้าแชมป์ให้กับทีม คุณจะเห็นได้ว่ามันแค่การเล่นสนุกเท่านั้น ผมไม่เคยตั้งใจที่จะดูหมิ่นหรือพยายามที่จะทำให้เกิดปัญหากับใครทั้งนั้น. | หลิว ซีหยิง กริดเกิร์ลสาวจีน ออกมาปฏิเสธกรณีที่ถูก ลูอิส แฮมิลตัน นักซิ่งทีมเมอร์เซเดส เอเอ็มจี ฉีดแชมเปญใส่หน้าขณะฉลองแชมป์ ไชนีส กรังด์ ปรีซ์ โดยไม่คิดว่าเป็นการดูหมิ่นเพศหญิงตามที่สื่ออ้าง…
| null | ฟอร์มูลาวัน,ลูอิส แฮมิลตัน,ไชนีส กรังด์ ปรีซ์,หลิว ซีหยิง,กริดเกิร์ล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ฟอร์มูล่าวัน | https://www.thairath.co.th/content/493407 |
เผยสถิติสุดอึ้ง ชบาแก้ว เจอจีน 8 ทีมอชก. เปิดเส้นทางโกงตายหยิบเหรียญ | วันที่ 22 ส.ค. ภายหลังจากที่ทัพชบาแก้ว ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย โกงความตายผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเอเชียนเกมส์ โดยที่ทำแต้มไม่ได้เลยสักแต้ม,อย่างไรก็ตามพวกเขาผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในฐานะอันดับสามที่ดีที่สุดของ 3 กลุ่ม และได้คู่ต่อสู้ในรอบน็อกเอาต์นั่นก็คือ จีน คู่แข่งตัวฉกาจที่ถือเป็นงานยากของพวกเธอ,สถิติการพบกันของ ไทย กับ จีน ต้องบอกว่าไทยโดนข่มแบบไม่มีอากาศหายใจ จากสถิติที่ฟีฟ่ารับรองเจอกันมา 11 ครั้ง ไทยแพ้ไปถึง 10 ครั้งและเสมออีก 1 ครั้ง,โดย ไทย เพิ่งเจอกับ จีน มาในศึกชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศจอร์แดนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาทั้งในรอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงชิงอันดับสามปรากฎว่า ชบาแก้ว แพ้รวด 0-4 และ 1-3 ตามลำดับ,ขณะเดียวกัน หากชบาแก้ว พลิกล็อกโค่นจีนได้ในรอบนี้ ก็จะทำให้พวกเธอผ่านเข้าไปในรอบรองชนะเลิศมีลุ้นเหรียญรางวัลโดยจะพบกับ ,ไต้หวัน หรือ เวียดนาม, และหากชนะในรอบรองชนะเลิศอีกก็จะการันตีเหรียญเงินอย่างน้อย แต่หากแพ้ก็มีนัดชิงอันดับสามแก้ตัวเพื่อคว้าเหรียญทองแดง | หลังจากได้คู่แข่งในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเอเชียนเกมส์ของทัพชบาแก้ว ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ล่าสุดมีการเปิดเผยสถิติ และเส้นทางหยิบเหรียญของพวกเธอ | กีฬา,เอเชียนเกมส์ | ชบาแก้ว,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18,เอเชียนเกมส์ 2018 | https://www.thairath.co.th/sport/asiangame/1360218 |
ได้เวลามินโญเลต์? | จากฤดูกาล 1984-85 ที่ตามเชียร์มา จนถึงฤดูกาล 2016-17 จุดอ่อนที่บอร์ดบริหารและผู้จัดการทีม ที่มีอำนาจเซ็นสัญญาผู้รักษาประตู มาเสริมทีมนั้น ไม่เคยได้ตัวเกรดเอเลยสักคนเดียว เพราะที่ได้มาเป็นแค่เกรดบีบวก เกรดบี และ เกรดบีลบ ซึ่งนักเตะพวกนี้จะเล่นดีเป็นบางเกมเท่านั้น ไม่ได้เล่นดีเป็นส่วนใหญ่เหมือนพวกเกรดเอ,จนถึงตอนนี้ โลริส คาริอุส นายทวารชาวเยอรมัน ที่ เยอร์เกน คลอปป์ เป็นคนเลือกซื้อมาเอง กำลังทำผลงานได้ทรงกับทรุด อาการไม่ดีนัก แม้ว่าคลอปป์จะยังไว้ใจและเชื่อมั่นว่า เด็กหนุ่มรายนี้จะพัฒนาฝีมือขึ้นได้ แต่ที่แฟนบอลอยากเห็นและต้องการคือ ชัยชนะของทีม,จาก 2 นัดที่ผ่านมา คาริอุสเสียไปแล้ว 6 ประตู ช่วยทีมได้แต้มเดียว จนเริ่มสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอล ที่อยากเห็นทีมชนะ และไม่อยากให้นักเตะรายใดรายหนึ่งเป็นจุดอ่อนของทีม,แม้ตอนนี้หวยจะมาออกที่คาริอุส เพราะผลงานในสนามมันฟ้อง คงถึงคราวที่คลอปป์จะต้องรีบตัดสินใจแล้วว่า จะดันทุรังใช้งานคาริอุสต่อไป หรือยอมส่ง ซิมง มินโญเลต์ นายทวารทีมชาติเบลเยียม กลับมาเป็นตัวจริงเหมือนเดิม,งานนี้คงต้องวัดใจคลอปป์แล้วว่า ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดกลางสัปดาห์ ที่จะบุกไปเยือนถิ่นริเวอร์ไซด์ สเตเดียม ของทีมสิงห์แดง มิดเดิลสโบรช์ วันพุธที่ 14 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ใครจะลงได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริง,ถ้าเป็นคาริอุส คงต้องลุ้นเสียวกันทั้งเกมอีกครั้ง เพราะพลพรรคหงส์แดง ไม่เคยชนะที่ ริเวอร์ไซด์ สเตเดียม ในเกมลีก มานานถึง 14 ปี แล้วนั่นเอง,JUPITER | จุดอ่อนของทีมลิเวอร์พูล เท่าที่ตามดูมานานกว่า 30 ปี นอกจากกองหลังแล้ว ก็มีตำแหน่งผู้รักษาประตู นี่แหละ ที่ไม่เคยคว้าจอมหนึบฝีมือดีมาเฝ้าเสาได้เลยสักคน | null | หงส์แดง,ลิเวอร์พูล,fan meeting,สุดยอดพรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/content/809037 |
รวบโชเฟอร์หื่น หนี15ปีคดีอนาจารสาว คิดว่าพ่อแม่เหยื่อไม่เอาเรื่อง | เมื่อวันที่ 28 พ.ค.62 ที่บก.ปคม. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.1 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม นายสุคะโชติ คุณศิลป์ อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 1081/2548 ลงวันที่ 16 พ.ค. 2548 ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุเกินกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร จับได้ที่สุขถาวรอพาร์ตเมนต์ ซอยทุ่งเศรษฐี แยก 21 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.,พ.ต.อ.มารุต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2547 ขณะที่นายสุคะโชติ ขี่วินจักรยานยนต์รับจ้าง และช่วยพี่สาวขายก๋วยเตี๋ยว อยู่ที่ย่านลำลูกกา ได้ก่อเหตุลวง น.ส.หน่อย (นามสมมติ) ขณะเกิดเหตุอายุ 16 ปี ด้วยการพาหนีออกจากบ้าน ไปเพื่อกระทำอนาจาร เมื่อผู้ปกครองของผู้เสียหายทราบเรื่อง ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี กระทั่งศาลออกหมายจับไว้ ส่วนนายสุคะโชติ หลังรู้ว่าพ่อแม่เด็กเอาเรื่อง ได้รีบหนีออกจากพื้นที่ไปนานเกือบ 15 ปี ต่อมาชุดจับกุมทราบว่า ปัจจุบันผู้ต้องหาได้ไปทำงานเป็นพนักงานขับรถโดยสารประจำทาง สาย 38 จึงนำกำลังเข้าจับกุมไว้ได้ในที่สุด ก่อนคดีจะหมดอายุความในวันที่ 4 ก.ค.ที่จะถึงนี้ เหลืออีกประมาณ 1 เดือนกว่า คดีจะหมดอายุความแล้ว,สอบสวน นายสุคะโชติ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวส่ง สภ.คูคต ดำเนินคดีต่อไป. | ตำรวจปคม.ตามรวบโชเฟอร์รถเมล์สาย 38 หนีคดีลวงอนาจารสาว 16 เผยอีกแค่ 1 เดือน คดีจะหมดอายุความแล้ว แต่สุดท้ายไม่รอด | ข่าว,อาชญากรรม | โชเฟอร์หื่น,อนาจารสาว,หนีคดี,อนาจาร,ปคม.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1578376 |
น้ำท่วมกบินทร์ ปราจีนฯ ทำให้ร.ร.บางแห่งประกาศหยุดเรียนแล้ว | ฝนที่ตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ในพื้นที่อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะบริเวณถนนสาย กบินทร์บุรี-ปักธงชัย และสายกบินทร์บุรี-สระแก้ว มีน้ำท่วมขังผิวจราจร ระดับน้ำสูง 30 ถึง 50 เซนติเมตร นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมในชุมชนตลาดเก่า เขตเทศบาลตำบลกบินทร์ สูงกว่า 150 เซนติเมตร ทำให้โรงเรียนบางแห่งประกาศหยุดเรียนไม่มีกำหนด ล่าสุดจังหวัดนำเรือท้องแบนสำรวจความเดือดร้อน และช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วส่วนสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจ.อ่างทอง ทรงตัวและเริ่มลดระดับลง หลังเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทลดการระบายน้ำ แต่ยังคงมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะต.โผงเผง อ.ป่าโมก และต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทองซึ่งทหารกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์ เร่งซ่อมแซมตลิ่ง บริเวณต.โผงเผง อ.ป่าโมก ที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนทรุดเป็นแนวยาว จึงนำไม้มาตอกสร้างแนวตลิ่งและนำกระสอบทรายมาเป็นคันยาวประมาณ 60 เมตร เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน | จ.อ่างทองเร่งซ่อมแซมตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ถูกกัดเซาะ เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนเพิ่ม ขณะที่โรงเรียนบางแห่งในอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ประกาศหยุดเรียนชั่วคราว หลังน้ำท่วมฉับพลัน | ภูมิภาค | กบินทร์บุรี,น้ำท่วม,ปราจีนบุรี | https://news.thaipbs.or.th/content/112307 |
ไฟไหม้หอพักหญิง ม.เกษมบัณฑิต นศ.โดดตึกหนีตาย เจ็บ 8 ราย | เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 3 ก.ค.63 เกิดเหตุเพลิงไหม้ หอพักนักศึกษาหญิง มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สถานีดับเพลิงบางชัน หัวหมาก นำรถน้ำดับเพลิง และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าระงับเพลิงได้ไม่ลุกลาม ที่เกิดเหตุเป็นหอพักนักศึกษาหญิง อาคารซี ความสูง 12 ชั้น พบกลุ่มควันและแสงเพลิงจากห้องพักชั้น 3 โดยบริเวณชั้นล่างพบนักศึกษาหญิงจำนวนมากอยู่ในอาการตื่นตกใจขณะเดียวกันมีนักศึกษาบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาล โดยรถเจ้าหน้าที่รถกู้ภัย และรถอาสาพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทยอยกลับออกมาจากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า หลังเข้าไปช่วยระงับเหตุเพลิงไหม้หอพักนักศึกษาหญิงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประจำมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าไปภายในจุดเกิดเหตุ แต่ยอมรับว่า มีเหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักหญิง ต้นเพลิงอยู่ ชั้น 3 อาคาร C ที่สูง 12 ชั้น อยู่ด้านหลังของมหาวิทยาลัยฯ โดยทางเจ้าหน้าที่ยืนยัน มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประจำมหาวิทยาลัย เข้าควบคุมเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบโดยในช่วงที่เกิดเหตุ มีนักศึกษาจำนวนมากพักอาศัยอยู่ในอาคาร ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวทุกคนเกิดอาการตกใจ ซึ่งหลายคนกระโดดลงมาจากตัวอาคารได้รับบาดเจ็บ จำนวน 8 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว. | ไฟไหม้หอพักนักศึกษาหญิง มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า กลางดึก นศ.ตกใจหนีตายอลหม่าน บางคนกระโดดลงมาจากตัวอาคาร พบบาดเจ็บ 8 ราย ถูกนำส่ง รพ.ใกล้เคียง | ข่าว,ทั่วไทย | ไฟไหม้เกษมบัณฑิต,ไฟไหม้หอพักนักศึกษา,มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต,ม.เกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า,ข่าวไฟไหม้,ข่าววันนี้,ไฟไหม้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1881564 |
เตือนสตินักซิ่ง ทาถนนสีแดง โค้งอันตราย สายตาก-แม่สอด | วันที่ 14 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถนนสายตาก-แม่สอด หรือ ถนนเอเชียไฮเวย์ที่ 12 ซึ่งมีจุดอันตรายหลายจุด ตั้งแต่ ดอยรวก ที่ได้ฉายาโค้งร้อยศพ ขณะนี้กำลังขยายช่องการจราจรให้กว้างขึ้นเป็น 4 เลน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2560 โดยเชื่อว่าจะสามารถช่วยลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้,นอกจากนี้ ยังมีโค้งอันตราย ที่เรียกว่า โค้งวัดห้วยเตย อยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 13 ก่อนถึงอำเภอแม่สอด ซึ่งมักเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกแหกโค้งเป็นประจำ เดือนละหลายครั้ง โดยบริเวณดังกล่าว แม้จะมีป้ายเตือนจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่สามารถลดอุบัติเหตุได้ อย่างไรก็ตาม พื้นที่นี้เป็นเขตรับผิดชอบของแขวงการทางตากที่ 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามแก้ปัญหาลดอุบัติเหตุ ด้วยการหันมาใช้วิธีทาสีถนนให้เป็นสีแดง ตลอดทั้งโค้งยาวกว่า 200 เมตร ,ด้าน นายสนิท ทองมา ผู้อำนวยการแขวงการทางตากที่ 2 เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า การทาสีแดงบนพื้นผิวถนน จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังขึ้น รวมทั้งสีแดงที่ทาไว้เป็นสีลูกแก้ว กลางคืนจะมีแสงให้ดูเด่นชัด ที่ผ่านมาติดป้ายเตือนจำนวนมากก็ไร้ผล กำแพงปูนตลอดแนวก็ถูกชนจนซ่อมแทบไม่ทัน จึงหาวิธีการนี้เพื่อให้คนขับชะลอรถ เพราะเห็นเป็นสีแดงเหมือนเตือนใจไปในตัว ซึ่งหากได้ผลดี จะทำในจุดอันตรายทุกแห่ง โดยจุดนี้ถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยก็ว่าได้. | ทาถนนสีแดง บริเวณโค้งวัดห้วยเตย จุดอันตราย สายตาก-แม่สอด ยาว 200 เมตร เพื่อเตือนสตินักซิ่ง โดยสีที่ใช้เป็นสีลูกแก้ว จะช่วยเพิ่มการมองเห็นในเวลากลางคืน | ข่าว,ทั่วไทย | ถนนสีแดง,ตาก-แม่สอด,โค้งอันตราย,โค้งวัดห้วยเตย,ดอยรวก,อุบัติเหตุ,อันตราย,ป้ายเตือน,ลดการเสียชีวิต,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/539395 |
เตือน หลอกขาย เมทิลแอลกอฮอล์ เป็นส่วนผสมเจลล้างมือมีโทษ | วันนี้ (23 มี.ค.2563) ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในขณะนี้ ทำให้มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์เจลเป็นจำนวนมาก จนส่งผลให้ความต้องการใช้วัตถุดิบแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการขายแอลกอฮอล์บางรายนำ เมทิลแอลกอฮอล์ หรือ เมทานอล มาหลอกขายว่าเป็น เอทิลแอลกอฮอล์อย.จึงขอเตือนผู้ผลิตแอลกอฮอล์เจลระวังตกเป็นเหยื่อและเลือกซื้อวัตถุดิบแอลกอฮอล์ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากสารทั้ง 2 ชนิดนี้มีคุณสมบัติหลายอย่างคล้ายกัน เช่น เป็นของเหลวใส ไม่มีสี กลิ่นคล้ายกัน ละลายในน้ำหรือไขมันได้ดี ระเหยง่ายและไวไฟเหมือนกัน ซึ่งผู้ซื้อไม่สามารถจำแนกได้ด้วยตนเอง โดยแนะนำให้ซื้อจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ มีหลักแหล่งแน่นอน พร้อมระบุชนิดของแอลกอฮอล์ที่ต้องการซื้อให้ชัดเจนขณะนี้กฎหมายอนุญาตให้ใช้เอทิลแอลกอฮอล์ (เอทานอล) ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (ไอโซโพรพานอล) หรือ เอ็น-โพรพิลแอลกอฮอล์ (เอ็น–โพรพานอล) เท่านั้น พร้อมขอเอกสารระบุรายละเอียดของแอลกอฮอล์นั้น เช่น ใบรับรองผลวิเคราะห์ หรือเอกสารข้อมูลความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เพื่อความมั่นใจในชนิดและคุณภาพของของแอลกอฮอล์ และที่สำคัญควรอ่านฉลากของวัตถุดิบแอลกอฮอล์ที่ซื้อให้ถี่ถ้วนก่อนนำมาใช้ทั้งนี้ อย.ไม่อนุญาตให้ใช้เมทิลแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง หากตรวจพบจะถูกดำเนินคดีฐานผลิต นำเข้า หรือรับจ้างผลิตเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้ขาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับภญ.สุภัทรา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบการเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ว่า มีผู้ผลิตบางรายนำแป้งเปียกผสมสี มาบรรจุขวดและติดฉลากว่าเป็นเจลแอลกอฮอล์ กรณีนี้จัดเป็นเป็นเครื่องสำอางปลอม ผู้ผลิต นำเข้า หรือรับจ้างผลิตจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสำหรับผู้ขายมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับพร้อมทั้งเตือนผู้ประกอบการอย่าซ้ำเติมสถานการณ์ COVID-19 ด้วยการนำสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีอันตรายมาขายให้กับผู้บริโภค หากตรวจพบ อย.จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนผู้บริโภค ขอให้ตรวจสอบเลขจดแจ้งของผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ก่อนซื้อทุกครั้ง และหากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย ร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือทาง Oryor Smart Application | อย.เตือนผู้ประกอบการห้ามหลอกขาย เมทิลแอลกอฮอล์ เป็นส่วนผสมเจลล้างมือ ชี้เป็นอันตรายกับผู้บริโภค หากตรวจจะพบดำเนินคดีตามกฎหมาย | สังคม | อย.,แอลกอฮอล์เจล,เจลล้างมือ,เมทิลแอลกอฮอล์,เอทิลแอลกอฮอล์,COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ | https://news.thaipbs.or.th/content/290143 |
ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก เกริกเกียรติ 20 ปี ชดใช้ BBC 589 ล้าน | ศาลอาญา รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดียื่นฟ้องนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 3 คน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการสินทรัพย์กระทำผิดต่อหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 353 354 และกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยทั้ง 3 คนร่วมกับนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี ยักยอกทรัพย์ มูลค่า 1228896438 บาท จากการลงนามทำสัญญาแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ธนบัตรระหว่างบีบีซี กับบริษัท ดิเวลลอปเมนท์ ไฟแนนซ์ แอนด์ อินเวสเมนท์ จำกัด เมื่อปี 2538ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายเกริกเกียรติ กับพวก 3 คน เป็นเวลา 20 ปี โดยเห็นว่าคำเบิกความของพยานโจทก์ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เป็นผู้บริหารระดับสูงฝ่ายต่างประเทศ เบิกความได้สอดคล้องกัน มีหลักฐานยืนยันว่าจำเลยร่วมกันยักยอกทรัพย์บีบีซีจริง พร้อมกันนี้ ศาลอุทธรณ์ยังให้จำเลยร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่บีบีซี รวม 589 ล้านบาท | ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก เกริกเกียรติ อดีตกรรมการ ผจก.ใหญ่ บีบีซี เป็นเวลา 20 ปี และให้ชดใช้เงินคืนแก่ บีบีซี 589 ล้านบาท | สังคม | BBC,จำคุก,ชดใช้,ศาลอุทธรณ์,เกริกเกียรติ | https://news.thaipbs.or.th/content/51402 |
ตร.ปกครองบุรีรัมย์ รวบ 12 ชายหญิง ก๊งเหล้าฉลองสงกรานต์คารีสอร์ตกักตัว | เมื่อวันที่ 14 เม.ย.63 ร.ต.อ.นิติพัฒน์ กิตติจรัลชัย รองสารวัตร (สอบสวน) นำตัวผู้ถูกกล่าวหาในความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำนวน 12 คน เป็นชาย 10 หญิง 2 คน ในจำนวนทั้งหมดมีชายอายุ 24 เป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ตร่วมอยู่ด้วย มาสอบสวน หลังจากฝ่ายปกครอง อ.กระสัง พร้อมตำรวจ สภ.กระสัง เข้าจับกุมขณะกำลังมั่วสุมกันดื่มสุรา และเสพยาที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.สองชั้น อ.กระสัง เมื่อเวลา 21.00 น. (13 เม.ย.) ที่ผ่านมาการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้หวังดี ว่ามีกลุ่มคนกว่า 10 คน กำลังรวมตัวกันดื่มสุราและเสพยาภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยหลังการจับกุมตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะกลุ่มคนทั้งหมด พบมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่า 100 จำนวน 3 คน ตรวจพบสารเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) 1 ราย คือ นายธีรพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี เป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ต ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้มั่วสุมกันดื่มสุราจริงน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปีหนึ่งในผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนกลับมาจากกรุงเทพฯ โดยได้ลงทะเบียนผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัด ไว้ที่ อสม.ในหมู่บ้านของตัวเองแล้ว แต่ไม่อยากให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนที่จะต้องโดนกักตัวไปด้วย จึงขอมากักตัวเองด้วยการเปิดห้องพักรีสอร์ตแห่งนี้เพียงคนเดียว ซึ่งได้พักมาเป็นวันที่ 4 แล้ววันเกิดเหตุซึ่งเป็นวันสงกรานต์ ตนเองรู้สึกเหงา เพราะไม่ได้เล่นสงกรานต์เหมือนทุกปี จึงออกมานั่งเล่นระเบียงหน้าห้อง บังเอิญเห็นคนรู้จักกันข้างห้อง จึงนั่งคุยกัน จากนั้นได้มีผู้ที่พักห้องอื่น ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เห็นตนนั่งคุยกัน เลยทักทายในตอนกลางวันพอช่วงเย็นเกิดรู้สึกก็เหงาอีก แต่ละห้องจึงโผล่หน้าออกมามองกัน โดยมีลูกชายเจ้าของรีสอร์ตมาทักทายด้วย ก่อนจะนัดแนะกันมาพูดคุยกัน บางคนมีเบียร์หรือเหล้าที่ติดมา เอามารวมกันแล้วนั่งดื่มกันเพื่อคลายเหงา ไม่ได้หวังจะสร้างความก่อกวนคนอื่นแต่อย่างใดเมื่อตำรวจสอบถามว่า การรวมตัวกันดังกล่าวของคนที่กลับมาจากกลุ่มเสี่ยง ไม่คิดจะกลัวการติดโรคโควิด-19 หรือไม่ ได้รับคำตอบว่า ถ้ามีคนติด ก็คงติดด้วยกันทั้งหมดตำรวจตั้งข้อกล่าวหา ผิดพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.) 2558 (ฉบับที่ 1) ข้อ 5 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 4/2563 คือห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ที่ห้ามข้อหา ร่วมกันชุมนุมมั่วสุมกันในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักรฯ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ. | ฝ่ายปกครอง ตร. สภ.กระสัง รวบหนุ่ม-สาว 12 คน ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มั่วสุมดื่มสุรากันในรีสอร์ตรับสารภาพ ไม่รู้จักกันแต่มาจากต่างจังหวัด เข้ากักตัว 14 วันพร้อมกัน แต่เหงาจึงนัดแนะกันมาร่วมวง | ข่าว,อาชญากรรม | โควิด-19,ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,มั่วสุมดื่มสุรา,บุรีรัมย์,สภ.กระสัง,กักตัว 14 วัน,มั่วสุมในรีสอร์ต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1820313 |
ผัวไม่อยากให้เมียไปเรียนต่อ ล็อกบ้านจุดไฟเผาหวังตายคู่ โชคดีกู้ภัยช่วยทัน | จากกรณี เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) ร.ต.อ.ทินกร โชติชัยพิบูล รอง.สว (สอบสวน) สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่าที่มีเหตุไฟไหม้บ้านเลขที่ 152/2 หมู่ 10 ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง ล่าสุดพบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกอยู่ในสวน ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเสียหาย มีเครื่องใช้ในห้องโถง ห้องครัว และห้องเก็บของถูกเพลิงไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด พบในบ้านเหลือเพียงแต่สุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล ที่เจ้าของเลี้ยงไว้จำนวนหลายตัวเฝ้าเห่าอยู่,ขณะที่ เจ้าของบ้านคือ นายยอดชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี และนางพิมพ์ใจ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี สองสามีภรรยาเจ้าบ้านเลขที่ดังกล่าวนั้น ทราบว่าหลังจากเกิดเหตุ นายยอดชาย ถูกไฟลวกตามร่างกาย ได้ถูกนำส่งเข้ารักษาตัวที่ รพ.แม่ออน อ.แม่ออน บาดเจ็บจากไฟลวกประมาณ 15-20 % ทางตำรวจได้อายัดตัวไว้ดำเนินคดี ในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นและทำให้เกิดเพลิงไหม้ จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น,ส่วนสาเหตุไฟไหม้นั้น ร.ต.อ.ทินกร ร้อยเวรเจ้าของคดี เผยว่า นางพิมพ์ใจ มีอาชีพเป็นทนายความ และสามีไม่ได้ประกอบอาชีพ อายุห่างกันมากพอสมควร โดยทั้งคู่ได้แต่งงานอยู่กินด้วยกันมาร่วม 20 ปี ช่วงแรกก็ไม่มีปัญหาอะไร ฝ่ายชายมีหน้าที่ขับรถให้ภรรยา ก่อนหน้านั้นประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงบอกกับสามีว่าจะขอไปเรียนต่อเนติบัณฑิตยสภา ที่กรุงเทพฯ,แต่ทางฝ่ายสามีไม่ยอมให้ไป คล้ายกับหึงหวง โดยภรรยาได้ขู่สามีว่า ,หากไม่ยอมให้ไป จะขอหย่า, และทางฝ่ายสามีได้ย้อนว่า ,ถ้าหย่าก็ต้องตายอย่างเดียว, จากนั้นก็ทะเลาะกันเรื่อยมา จนวันเกิดเหตุได้มีปากเสียงกันอีก ทางฝ่ายภรรยาได้ไปเก็บเสื้อผ้าในห้องเพื่อจะไปอาศัยอยู่กับพี่ชาย แล้วก็ได้กลิ่นควันไฟไหม้เข้ามาในห้องอย่างรุนแรง จึงตะโกนออกมาทางหน้าต่างขอความช่วยเหลือ โดยมีเจ้าหน้าที่พาภรรยาออกจากกองเพลิงได้หวุดหวิด เบื้องต้นภรรยายืนยันกับร้อยเวรว่า ,จะขอเอาเรื่องสามีต่างวัยรายนี้ให้ถึงที่สุด,ทางด้าน นายประกายเพชร เฉียบแหลม หัวหน้าชุดปฏิบัติการดับเพลิงชุดที่ 1 เทศบาลตำบลร้องวัวแดง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า หลังจากได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว จึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิงเข้าไปที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ ภายในบ้านมีกลุ่มควันจำนวนมาก และมีเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลืออยู่ภายในบ้าน และกุญแจบ้านถูกล็อกจากด้านใน จึงช่วยกันงัดหน้าต่าง ช่วยเหลือผู้หญิงเจ้าของบ้านออกมาได้ก่อน ไม่ได้รับบาดเจ็บ,ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกชุดก็ได้งัดประตูด้านหน้า เข้าไปช่วยเหลือผู้ชายที่เป็นสามี ถูกไฟคลอกอยู่ในบ้าน ออกมาจากกองเพลิง โดยมีบาดแผลถูกไฟไหม้ตั้งแต่ด้านหลังขึ้นไป และได้รับบาดเจ็บ จึงรีบนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่ออน จากนั้นประเมินแล้วรถดับเพลิงคันเดียวเอาไม่อยู่ จึงได้ระดมขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากเทศบาลข้างเคียงมาช่วยฉีดน้ำดับเพลิงอีก 2 คัน ก่อนที่เพลิงจะสงบ. | ผัวแก่หึงโหด ไม่อยากให้เมียสาวไปเรียนเนติบัณฑิตยสภาที่ กทม. ก่อเหตุล็อกบ้านแล้วจุดไฟเผาวอดหวังให้ตายคู่ แต่โชคดีกู้ภัยช่วยไว้ได้ทัน เมียสาวยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด | ข่าว,สังคม | หึงโหด,จุดไฟเผาบ้าน,เผาบ้าน,ทนายความ,เชียงใหม่,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1624905 |
จิราพร ลิ้มปานนท์ : เอฟทีเอไทย-สหรัฐ ความหวังเล็กๆ ว่ารัฐบาลจะฉลาดพอ | รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยเภสัชศาสตร์สังคม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๔-๘ เมษายนนี้ รัฐบาลไทยจะเป็นเจ้าภาพเปิดโต๊ะเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ กับสหรัฐรอบ ๓ ที่พัทยา ไม่ว่ารัฐบาลจะทุ่มโฆษณาประชาสัมพันธ์สักกี่สิบล้านในการโน้มน้าวให้คนไทยเชื่อว่าการทำเอฟทีเอจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเพียงใดก็ตาม แต่ข่าวคราวของผลกระทบจากเอฟทีเอไทย-จีน ตลอดระยะเวลาปีเศษ และเอฟทีเอ ไทย-ออสเตรเลียที่เพิ่งเริ่มแค่ไตรมาสเดียวก็ทำให้หลายฝ่ายไม่เชื่อมั่นถึง ความดีที่สุด ของเอฟทีเอกับประเทศอื่นๆ ที่ทยอยตามมา ภาพการล้มหายตายจากของเกษตรกรในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ อาจไม่กระตุกต่อมผวาได้เท่ากับตัวเลขการขาดดุลการค้าที่พุ่งพรวดพราดแบบรั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ แต่นั่นคงไม่เท่าที่เรากำลังจะได้พบใน เอฟทีเอ ไทย-สหรัฐ ที่มีอะไรต่อมิอะไรให้ขนหัวลุกได้มากกว่าที่คิด FTA Watch ขออาสาพาไปพูดคุยกับหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยเภสัชศาสตร์สังคม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในสมาชิกกลุ่มศึกษาปัญหายา (กศย.) เพื่อทบทวนบทเรียนที่ผิดพลาดเมื่อ ๑๓ ปีที่แล้วกับ ตามแรงกดดันของสหรัฐ บอกเล่าประสบการณ์อันเจ็บปวดของการแลกเปลี่ยนระหว่างการค้าและชีวิต พร้อมกับฝากข้อห่วงใยถึงคนสำคัญมากๆ (ที่คุณก็รู้ว่าใคร) ให้มีความฉลาดมากพอที่จะตระหนักถึงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของประเทศ คำแนะนำก่อนอ่าน - กินเมื่อไรก็ได้ ไม่ต้องเขย่าขวด เนื้อหาอาจจะขมสักนิด แต่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสุขภาพ กลุ่มศึกษาปัญหายาเริ่มต้น โดยมี อาจารย์สำลี (ภญ.สำลี ใจดี) เป็นหัวหน้ากลุ่มตั้งแต่เมื่อปี ๒๕๑๘ ในปีนั้น อาจารย์และนิสิตในคณะเภสัชฯ ได้รวมตัวกันทำวิจัยในชนบท แล้วเราก็พบปัญหายา โดยเฉพาะเรื่องยาชุด หลังจากทำวิจัยเสร็จ เราก็ได้ทำข้อเสนอเชิงนโยบายต่อสำนักงานอาหารและยา (อย.) และรัฐบาลในการแก้ปัญหา จากนั้นกลุ่มของเรายังคงทำงานต่อเนื่องในเรื่องของการให้การศึกษา เช่น เรื่องของยาที่ไม่เหมาะสม การใช้ยาที่เหมาะสม มาตรการในการรู้เท่าทันการโฆษณา ไม่หลงไปใช้ยาที่ผิดตามคำชักชวนของการโฆษณา แต่ระหว่างที่อบรมให้ความรู้กับชาวบ้านนั้น เราพบว่าการดูแลของหน่วยงานของรัฐ นโยบายของรัฐบาล ประกอบกับปัจจัยภายนอก และบริษัทยาเองนั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้การอบรมของเราไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของชาวบ้านได้ ในขณะที่เราให้การอบรมไป บริษัทก็โฆษณาโหมหนักมากขึ้น ประกอบกับปัจจัยเรื่องของการค้าอะไรก็ตามมา จนกระทั่งเห็นชัดขึ้นในนอกจากจะเป็นปัจจัยของบริษัทยาในประเทศแล้ว ก็มีความพยายามของบริษัทยาในต่างประเทศด้วย ในช่วงนั้นเองกลุ่มศึกษาปัญหายาได้ศึกษาผลกระทบของการแก้ไข พรบ.สิทธิบัตร พบว่าจะทำให้ยาราคาแพง จะทำให้เราต้องสูญเสียเงินที่เราต้องนำยาเข้าเป็นจำนวนมหาศาล เราก็ได้ทำข้อเสนอแนะกับรัฐบาล และพยายามให้ข้อมูลการศึกษากับรัฐบาล ทำให้การเจรจาการค้าตอนนั้นใช้เวลาพอควร ขณะเดียวกันสหรัฐก็ใช้การกีดกันทางการค้าด้วยมาตรา ๓๐๑ กดดันตลอดเวลา เช่น ตอนแรกๆไทยไม่ยอม เราอ้างว่ามีข้อมูลชัดเจนว่าจะเกิดผลกระทบกับสุขภาพของคนไทย รัฐบาลสหรัฐก็ใช้วิธีบีบโดยลดสิทธิพิเศษทางภาษีทีละรายการ เพราะฉะนั้นในระยะหลังๆ กลยุทธ์นี้ทำให้อุตสาหกรรมในไทยทะเลาะกันเอง โดยอุตสาหกรรมสิ่งทอ อัญมณี และดอกไม้ประดิษฐ์ที่ส่งออกไปตลาดสหรัฐเป็นสำคัญ ก็เห็นว่า ตัวเองโดนมาตรา ๓๐๑ จึงเคลื่อนไหวล็อบบี้กับรัฐบาลในขณะนั้น ทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการทางการบริหารของกระทรวงสาธารณสุข ที่เรียกว่าระบบการติดตามความปลอดภัย ที่เนื้อหาไม่ได้ต่างจาก ที่สหรัฐต้องการในขณะนี้ คือให้มีการผูกขาดยา เพียงแต่มีระยะเวลาคราวละ ๒ ปี แล้วในที่สุดก็ยกเลิกไปในสมัยที่ นพ.วิชัย โชควิวัฒน เป็นเลขาธิการ อย. พอใจในระดับหนึ่ง ไม่พอใจทั้งหมด คือไม่ใช้ มาตรา ๓๐๑ เพิ่ม ขณะเดียวกันก็กดดันให้มีการแก้ไข พรบ.สิทธิบัตร ตอนนั้นรัฐบาลคุณอานันท์ ปันยารชุนก็ออกมาบอกว่า เขาจะเอาเงินที่ได้จากการส่งออกนั้น มาตั้งกองทุนเพื่ออุดหนุนรายจ่ายเรื่องยา ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เขาประเมินแค่ตัวเลข เราบอกว่ามันไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นการผูกขาดในระยะยาว รวมถึงการเสียโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมยาภายในประเทศด้วย เขามองแต่ว่า ผลกระทบก็เป็นไปตามที่เราวิจัยไว้ก่อนหน้า คือ ผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค ยาราคาแพงขึ้นอย่างมากเพราะยาถูกผูกขาด โดยเฉพาะโรคติดเชื้อที่ต้องการยาใหม่ เช่น เอดส์ รวมทั้งกลุ่มโรคเรื้อรังที่ต้องการยาต่อเนื่อง เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ราคายาสูงมาก ขณะที่อุตสาหกรรมยาในประเทศก็ไม่สามารถผลิตยาเหล่านี้มาทำตลาดได้เพราะติดสิทธิบัตร ช่วงแรกเมื่อแก้ไขกฎหมายใหม่ๆ อุตสาหกรรมยาเหล่านี้ยังกินบุญเก่าอยู่ แต่จากนั้นประมาณ ๔-๕ ปีก็ล้มหายตายจากกันไป ประเทศอื่นเช่น อินเดียไม่ได้ทำเช่นที่สหรัฐบังคับ อินเดียสามารถใช้ช่วงเวลาดังกล่าวที่เราทำล้ำหน้าไป ๘-๙ ปี พร้อมทั้ง WTO ได้ขยายเวลาการเตรียมการเพื่อแก้ไขออกไปอีก ๕ ปี จึงทำให้ขณะนี้อินเดียมีการพัฒนาอุตสาหกรรมยามาอยู่ในระดับแนวหน้าได้ หากเราไปดูประวัติศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมยาในทุกประเทศ รวมทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วจะเริ่มต้นจากอุตสาหกรรมขั้นปลาย นั่นคือ การที่เอาตัวยามาพัฒนาสูตรตำรับ ใช้เงินวิจัยไม่สูงนัก เมื่อทำสูตรตำรับได้ดีก็จะเป็นที่เชื่อถือ จากในประเทศก็ขยายเป็นประเทศข้างเคียง พอขยายตลาดมากขึ้นก็เข้าตลาดหุ้นระดมทุนมาพัฒนาวิจัยและค้นคว้ายาตัวใหม่ รวมถึงวัตถุดิบยา เมื่อถึงขั้นนั้นประเทศนั้นก็จะมีการเปลี่ยนปรับกฎหมายสิทธิบัตรเพื่อให้สอดคล้อง จากกฎหมายสิทธิบัตรที่คุ้มครองกรรมวิธีการผลิต ก็เป็นการคุ้มครองตัวยา เมื่ออุตสาหกรรมยาในประเทศเริ่มคิดตัวยาใหม่ได้ แต่ของไทยไม่ใช่อย่างนั้น กฎหมายสิทธิบัตรเราแก้ เนื่องจากระบบการค้าเปิด หรือที่เรียกว่าโลกาภิวัตน์ที่รัฐบาลไทยถูกแรงกดดันทางการค้าให้แก้กฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมที่ตัวเองยังไม่แข็งแรงพอ เพราะฉะนั้นเมื่ออุตสาหกรรมยังไม่แข็งแรงพอ แต่กฎหมายนั้นแข็งมากในประเด็นการคุ้มครองผลิตภัณฑ์ยา ทำให้อุตสาหกรรมในประเทศซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขั้นปลายไม่สามารถพัฒนาสูตรตำรับยาได้ เพราะติดสิทธิบัตรอย่างน้อย ๒๐ ปี ทั้งที่จริงแล้วหากเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมขั้นปลายพัฒนาสูตรตำรับยาและออกขายได้ จะทำให้ยาใหม่เหล่านั้นถูกลงมากเป็นสิบกว่าเท่า นอกจากนี้ในเชิงกระบวนการ การที่เราแก้กฎหมายเพราะโดนฝรั่งสั่งให้เราแก้ เราก็ไม่ได้มีการเตรียมการที่ดีพอ การพิจารณาให้สิทธิบัตรก็ไม่ได้พิจารณาโดยผู้ตรวจสอบอย่างรอบคอบเหมือนในสหรัฐ ยกตัวอย่างกรณี ที่ได้สิทธิบัตรในบ้านเรา และได้มีกรณีฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญากลาง เพื่อเพิกถอนสิทธิบัตร โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ในที่สุดบริษัท Bristol-Myer Squibb ต้องขอยอมความถอนสิทธิบัตรโดยสมัครใจ การที่สหรัฐจะผลักดันมาตรการต่างๆ ผ่าน WTO ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับยาและสาธารณสุข เพราะปัญหามันเห็นชัดกับประเทศที่ต้องแก้ไขกฎหมายตามที่สหรัฐเรียกร้องเกิดผลกระทบในเรื่องการเข้าถึงยาทั้งนั้น ดังนั้นในกรณีของอินเดียมีข้อผูกมัดตาม TRIPs ว่าต้องแก้กฎหมาย อินเดียก็ไม่แก้โดยให้เหตุผลว่า มันเป็นเรื่องของชีวิต ฝ่ายบริหารก็เสนอกฎหมายไป แต่ฝ่ายนิติบัญญัติไม่ผ่านให้ จนทำให้ WTO ต้องยอมขยายเวลาการแก้ไขกฎหมายสำหรับประเทศกำลังพัฒนาอย่างอินเดียไปอีก ๕ ปี และจัดให้มีระบบ mail box ขึ้น นอกจากนั้นในข้อตกลง TRIPs ยังมีมาตราการแก้ไขปัญหาเมื่อมีปัญหาจากการผูกขาด เช่น มาตรการบังคับใช้สิทธิและการนำเข้าซ้อน เพราะฉะนั้น เราจึงเห็นชัดว่า เวลาที่สหรัฐอเมริกาจะไปทำเอฟทีเอกับประเทศใดก็ตาม เรื่องแรกที่สำคัญที่สุดและเป็นเรื่องที่เขาเก่งมากก็คือ เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา และเป็นเรื่องที่เขาผลักดันผ่าน WTO ไม่ได้ก็คือเรื่องยา ก็ชัดเจนว่าเพราะผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมยาของเขามหาศาล อุตสาหกรรมยาในประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลาย ถ้าเราไปศึกษาข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์ จะพบว่า หนึ่ง เป็นอุตสาหกรรมที่ทำกำไรสูงสุด ๑๐-๒๐ อันดับแรกของสินค้ามาโดยตลอด แล้วการตั้งราคาจะสูง เพราะผูกขาดอยู่เจ้าเดียวเป็นเวลาตามอายุสิทธิบัตร สอง อุตสาหกรรมนี้มักอ้างเสมอว่าต้องตั้งราคายาสูง เพื่อหาเงินไปวิจัยและพัฒนาเพื่อหายาช่วยชีวิต เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเหมือนข้ออ้างที่ยอมรับกลายๆ แล้วยังอ้างตัวเลขที่สูงถึง ๘๐๐ กว่าล้านดอลลาร์ต่อหนึ่งตัวยา ซึ่งจริงๆ แล้วมีการศึกษาโดยเฉพาะในหนังสือ The Truth about the Drug Companies โดย Marcia Angell ที่อาจารย์และทีมกำลังแปลให้กับมูลนิธิหมอชาวบ้าน ชี้ว่าข้ออ้างนี้ไม่เป็นความจริง อุตสาหกรรมยาใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนาน้อยมาก อันที่จริงแล้วแทบไม่ได้วิจัยหรือพัฒนาเลย งบประมาณเพื่อการวิจัยและพัฒนาถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายด้านการจัดการการตลาด และการโฆษณา และยิ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับผลกำไร การตั้งราคายาก็เกินความจริงไปมาก เพื่อทำกำไรสูงสุด ซึ่งหนังสือเล่มนี้พูดชัดมากถึงยาแต่ละตัว บอกว่า ๘๐๐ ล้านเหรียญดอลล่าร์ ต่อยา 1 ตัว เขาไปมองตรงเฉพาะในตัว Chemical ใหม่ แต่จริงๆ ถามว่า โดยเฉลี่ยๆ แล้ว นั้นมันไม่ถึง ๑๐๐ ล้านด้วยซ้ำของยาใหม่ที่ออกมาที่ติดสิทธิบัตร ที่ออกมาสำหรับชาวบ้านใช้ ที่เหลือเป็นการบวกค่าเสียโอกาส มีความพยายามที่จะทำให้เกิดความชอบธรรมว่าในเมื่อเขาคิดค้นเยอะ ลงทุนเยอะ ก็ต้องให้การคุ้มครองเขายาวพอที่จะได้มีเงินไปวิจัย ไม่งั้นเดี๋ยวไม่มียาใช้ในโลกนี้นะ คุณจะลำบากนะ ตื่นขึ้นมาคุณป่วยแล้วไม่มียาใช้ ความพยายามตรงนี้ พยายามเอาข้อมูล ที่มันทำให้เหมือนเป็นจริงอย่างนี้ ฉลาดและทำได้เยอะ อาจารย์ได้ศึกษาการขอจดสิทธิบัตรเฉพาะคำขอที่เกี่ยวข้องกับยา ตั้งแต่ปี ๓๕-๔๕ ดูว่าใครเป็นเจ้าของคำขอ พบว่า ๙๘ เปอร์เซ็นต์เป็นคนต่างชาติ เมื่อดูที่ระยะเวลาของการออกสิทธิบัตร จริงอย่างเขาว่าคือ ใช้เวลานานประมาณ ๗-๙ ปี คำถามก็คือว่า เวลาที่นานเป็นเวลาจากอะไร พอไปดูในรายละเอียดพบว่า ในกระบวนการจดสิทธิบัตรจะเริ่มจากการยื่นคำขอจดสิทธิบัตร จากนั้นเจ้าหน้าที่จะประกาศโฆษณาเพื่อให้ใครจะท้วงก็มาท้วง ขั้นตอนที่สามจึงเป็นการพิจารณาโดยผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนจากการประกาศโฆษณาจนถึงการพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญ กฎหมายไทยให้เวลา ๕ ปี คือการพิจารณาจะพิจารณาไม่ได้จนกว่าเจ้าของคำขอจะมายื่นว่า พร้อมให้คุณพิจารณาแล้ว ถ้าเจ้าของคำขอไม่มายื่นคำร้อง กรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ไม่ทำอะไร และในกฎหมายมาตรา ๒๙ ระบุว่า ถ้าไม่มายื่นคำขอให้ตรวจสอบภายในห้าปี คำขอจะตกไป ฉะนั้นเมื่อใกล้ๆห้าปี เจ้าของก็จะมายื่นคำขอให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาตรวจสอบ ยาไม่เหมือนสินค้าอื่นๆ ถ้าเขารีบยื่นก็จะเป็นภาระของเขาในการที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าข้อมูลไม่สมบูรณ์ หรืออาจปฏิเสธคำขอถ้าไม่ส่งข้อมูลมาเพิ่มเติม ฉะนั้นถ้ารีบก็เสี่ยงที่จะไม่ได้รับสิทธิบัตร ถึงไม่รีบทำ บริษัทยาอื่นๆ ก็ไม่กล้าออกตลาดตัวยาอย่างเดียวกันอยู่แล้ว เพราะสินค้ายาไม่เหมือนสินค้าอื่น การจะออกตลาดต้องไปขึ้นทะเบียนตำรับยา ซึ่งต้องพิสูจน์ว่า เมื่อกินเข้าไปแล้วร่างกายจะได้รับยาเท่ากับยาต้นตำรับ เพราะฉะนั้นต้องมีการวิจัย ต้องมีการลงทุน ในขณะที่สินค้าอื่นไม่ต้อง ทำปุ๊บออกตลาดได้เลย ดังนั้น หากอุตสาหกรรมจะลงทุน เขาต้องแน่ใจว่าทำวิจัยแล้วต้องออกตลาดได้ เพราะฉะนั้นช่วงเวลาเหล่านี้ที่ไม่แน่ใจว่าเจ้าของคำขอจะได้รับสิทธิบัตรหรือไม่ได้รับสิทธิบัตรไม่มีใครกล้าลงทุน ถึงแม้เผลอหรือไม่รู้ไปลงทุนก็จะได้รับโนติสจากเจ้าของคำขอว่า ถ้าคุณจะออกสู่ตลาด ฉันกำลังอยู่ระหว่างการขอสิทธิบัตร ฉะนั้น ยิ่งช่วงนี้ยาวเท่าไร ตัวเองก็จะได้เปรียบเท่านั้น ดังนั้น การที่สหรัฐมาอ้างว่า กระบวนการจดสิทธิบัตรของไทยล่าช้า เอาผลสุดท้ายของข้อมูลมาอ้างโดยไม่วิเคราะห์ว่าทำไมถึงช้า ทั้งที่จริงเกิดจากผู้ขอสิทธิบัตรเอง ไม่ได้ช้าจากขั้นตอนพิจารณา ซึ่งจากการศึกษาพบว่า การพิจารณาใช้เวลาประมาณ ๒ ปี เท่ากับระดับสากล เรื่องการผูกขาดข้อมูลทางการค้า หรือ Data Exclusivity นั้นเกิดจากข้อตกลง TRIPs ใน WTO ข้อ ๓๙.๓ ในกรณีที่หน่วยงานรัฐต้องการให้บริษัทยื่นข้อมูลที่เป็นความลับของเขาจากกระบวนการขึ้นทะเบียนตำรับยาหรือสารเคมีเกษตร รัฐต้องปกป้องข้อมูลความลับไม่ให้เอาความลับนั้นไปใช้ในทางที่ไม่เป็นธรรมในการทางค้า (unfair commercial use) เพราะฉะนั้นรัฐบาลไทยจึงต้องมาออก พรบ.ความลับทางการค้า ในมาตรา ๑๕ จึงแปลออกมาจากภาษาอังกฤษเลย ทีนี้การแปลความว่า รัฐ หรือ อย.ไม่ให้คนอื่นเอาข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่เป็นธรรม แปลความกันอย่างไร หลายประเทศแปลความไม่เหมือนกัน นั่นก็คือ ประเทศกำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาก็แปลความอย่างหนึ่ง สหรัฐก็แปลอีกอย่าง สหรัฐแปลว่า ถ้าบริษัทไปขึ้นทะเบียนตำรับแล้ว อย.จะต้องไม่ให้คนอื่นขึ้นทะเบียนยาในเวลาที่คุ้มครองเช่น ๕ ปี ซึ่งในที่นี้ก็คือ Data Exclusivity โดยอ้างว่า การที่ อย.ให้บริษัทยาที่สองไปขึ้นทะเบียนเหมือนกับเป็นการอ้างข้อมูลความปลอดภัยทางอ้อม พูดง่ายๆก็คือ หาว่าเอาข้อมูลของเขาไปใช้อย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ประเทศอื่นๆ เช่น อาร์เจนติน่า หรือในประเทศไทยเอง ตีความว่า การที่ยาออกสู่ตลาดได้ต้องมีการทดลองทางคลินิก ซึ่งข้อมูลตรงนี้บางส่วนที่ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ คือข้อมูลที่เป็นความลับทางการค้าที่ต้องแสดงเมื่อมาขอขึ้นทะเบียนตำรับยา แต่เมื่อออกสู่ตลาดก็จะต้องมีการเก็บข้อมูลหลังออกตลาดถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพ รัฐบาลในประเทศต่างๆ ถือว่า ไม่ได้ไปใช้ข้อมูลของคุณ แต่ใช้ข้อมูลเมื่อยาออกสู่ตลาดแล้วที่พิสูจน์ว่ายาใช้ได้มีความปลอดภัย แล้วก็รับขึ้นทะเบียนคนอื่นได้ เพราะใช้มานานพอควร บริษัทอื่นจะมายื่นจดทะเบียนก็รับ ไม่ได้ปิดกั้นอะไร แต่จะดูแลความลับให้เป็น Data Protection โดย อย. ไม่เกี่ยวกับการผูกขาดตลาด แต่ในทางกลับกัน อย. ต้องส่งเสริมให้เข้าถึงยา จากการตีความแบบนี้ทำให้อาร์เจนติน่าถูกสหรัฐฟ้อง เรื่องก็ถึงอนุญาโตตุลาการของ WTO ผลสรุปออกมาว่า เนื่องจากความไม่ชัดเจนของของ ๓๙.๓ ไม่ได้ขยายความว่า unfair commercial use หมายถึงแค่ไหน เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลอาร์เจนติน่าตีความเช่นนี้ไม่ผิด ใช่เกิน TRIPs อีกแล้ว เนื้อหาของเอฟทีเอที่สหรัฐต้องการจะมีลักษณะที่เป็น TRIPs+ มีเนื้อหาอื่นๆมากไปกว่าข้อตกลง TRIPs ใน WTO มาตราการบังคับใช้สิทธิ และการนำเข้าซ้อน ถ้าเรามีกฎหมายที่ไปผูกขาดข้อมูลในทางการค้า หรือ Data Exclusivity เช่นที่ว่า เราจะไม่สามารถใช้มาตรการบรรเทาปัญหาทั้ง การนำเข้าซ้อน การบังคับใช้สิทธิ ได้เลย ก็ไม่ได้เลย เพราะเนื้อหาในส่วนนี้ไม่ได้อยู่ในกฎหมายสิทธิบัตร แต่อยู่ในกฎหมายความลับทางการค้า ต้องไปขออนุญาตเจ้าของอย่างเดียว ถ้าเขาฟ้องก็มีความผิด ซึ่งความผิดในกฎหมายความลับทางการค้านั้นโทษแรงมาก เพราะว่าในกฎหมายจะเขียนว่า ถ้าเรายอมให้คนอื่นขึ้นทะเบียนตำรับยา ก็เท่ากับใช้ข้อมูลของเขา โทษความผิดนี้เป็นโทษอาญา เพราะฉะนั้นจะต้องผูกขาดข้อมูล ห้ามใครมาขึ้นทะเบียนซ้ำเป็นเวลา ๕ ปี พูดง่ายๆคือ ต้องปล่อยให้เขาขายคนเดียว ๕ ปี ห้ามใครมาแข่ง ทำได้แค่นี้เอง คือต้องรอความเมตตา อาจารย์เชื่อว่าในการเจรจาเราโดนแน่ๆ เพราะว่ามาตรการนี้ สหรัฐคำนึงถึงแล้ว และล้วนแต่ไปปรากฏในข้อตกลงเอฟทีเอที่สหรัฐทำกับสิงคโปร์ ชิลี และอีกหลายประเทศก่อนหน้า สิงคโปร์โดนมาแล้ว เพราะฉะนั้นประเทศไทย อาจารย์เชื่อแน่ว่าถ้าผู้เจรจาไม่เข้าใจ แล้วไม่ประเมินถึงผลกระทบอย่างนี้ อาจารย์เชื่อว่าเราโดนแน่ เมื่อต้นสัปดาห์ กลุ่มผู้ติดเชื้อได้เข้าหารือกับรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา คุณวิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ทางรองอธิบดีก็ยืนยันว่าจะเจรจาแยกต่างหากไม่แลกกับเรื่องอื่นๆ และจะไม่ให้เกินทริปส์ นี่ไง เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก แทนที่เราจะใช้จุดยืนที่อ้างข้อตกลงพหุพาคีใน WTO ในการยืนยันไม่ยอมตามสหรัฐ เพราะประเทศเราได้เดินตามกติกาของโลกแล้ว ไม่น่าที่จะไปยอมในประเด็นที่สหรัฐเรียกร้องเพิ่มเติมมา ถ้าสหรัฐอยากได้ก็ให้ไปคุยกันใน WTO ซึ่งจะประชุมในเร็วๆ นี้อยู่แล้ว ก็ใช้เวทีนั้นในการเจรจา สิ่งที่อาจารย์ยืนยันตลอดมาก็คือ ประเด็นทรัพย์สินทางปัญญาโดยเฉพาะเรื่องยา ควรเอาออกจากการเจรจาเอฟทีเอ เพราะเราทำตามกติกาสากลแล้ว เราเคารพข้อตกลงระหว่างประเทศแล้ว ใช่ พวกนี้มาได้เลยโดยอัตโนมัติไม่ต้องเจรจาเอฟทีเอกับไทยเลย อันตรายมาก จุดยืนของอาจารย์ตลอดมาคือ ต้องเอาเรื่องยาออกจากการเจรจา และเสนอเพิ่มว่า ไม่ควรมีสิทธิบัตรในเรื่องของยาจำเป็นหรือยาช่วยชีวิต (Life Saving Drug) มันเป็นยาที่ช่วยชีวิตคนเป็นความจำเป็น ฉะนั้นต้องไม่ควรผูกขาดตลาด ต้องพยายามที่จะขยายหรือส่งเสริมเทคโนโลยีให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี ได้อ่านข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ประเทศบราซิลน่ารักมากๆ บราซิลเป็นประเทศที่พยายามมีนโยบายที่ชัดเจนในการเข้าถึงยา โดยเฉพาะการเข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์ ล่าสุดออกนโยบายว่า ยาต้านใหม่ ๒-๓ ตัวสำหรับผู้ติดเชื้อ อาทิ เอฟฟ่าไวเรน อินดินาเวีย รัฐบาลบราซิลจะใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิในการผลิตยาเอง แม้ว่ายาเหล่านี้จะติดสิทธิบัตรก็ตาม และรัฐบาลก็ได้ติดต่อโดยตรงกับบริษัทเจ้าของสิทธิบัตรยาเหล่านี้ให้มาทำข้อตกลงถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตให้กับอุตสาหกรรมยาในบราซิลผลิตได้ ก็นี่แหล่ะ ความฉลาดของบราซิล ซึ่งหลายเรื่องฉลาดมาก เขาใช้มาตรการนี้เพื่อต่อรองให้ราคายาถูกลง นอกจากนั้นยังพยายามพัฒนาอุตสาหกรรมยาในประเทศ เพราะยากลุ่มพวกนี้จะทำยาก แม้แต่ในประเทศไทย องค์กรเภสัชกรรมก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการวิจัยผลิตยาเอฟฟ่าไวเรน แต่บราซิลมาทางลัดเลย แทนที่จะไปวิจัยอะไรมากมาย บังคับให้เจ้าของสิทธิถ่ายทอดเทคโนโลยีเลย เรื่องแบบนี้รัฐบาลไทยไม่ทำ ทั้งที่ในประเทศไทยขณะนี้กำลังขาดแคลนยาเอฟฟ่าไวเรน เครือข่ายผู้ติดเชื้อเจรจากับกองเอดส์ กระทรวงสาธารณสุขหลายครั้ง แต่จนป่านนี้เรายังไม่ใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิหรือนำเข้าซ้อน ก็อาจจะเกรงกลัว กลัวอะไรก็ไม่ทราบ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เพราะว่า ผู้แทนการค้าสหรัฐคนใหม่ก็มาจากอุตสาหกรรมยา เป็นผลประโยชน์ของอเมริกาที่เขาประกาศชัดเจน แล้วก็มีการแลกเปลี่ยน (trade off) ในการเจรจามาก ยังหวังเล็กๆว่า เขาจะฉลาดตามที่เขาเคยบอกว่าเขาฉลาด | ยังมีความหวังเล็กๆ ว่ารัฐบาลทักษิณคงฉลาดพอ ที่จะไม่เอาชีวิตคนไทยทั้งหมดไปอยู่กับการร้องขอจากสหรัฐเพื่อให้มีชีวิตอยู่ เพราะถ้าเราให้ตามที่เขาเรียกร้องในเอฟทีเอ เราไม่สามารถทำอะไรอื่นได้เลย | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/04/3448 |
ทัวร์ต่างชาติ VS การศึกษา ดราม่าฝรั่งตกปลากระเบนราหูที่แม่กลอง | มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า Benchawan Thiansungnoen ได้โพสต์ภาพการตกปลากระเบนราหูของชาวต่างชาติ รวมทั้งปลาอื่นๆ อีกหลายชนิด โดยเปิดเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Palm Tree Lagoon Fishery ให้บริการตกปลาและถ่ายรูปกับปลาขนาดใหญ่แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ ประกาศของทาง จ.สมุทรสาคร ห้ามทำการประมงในพื้นที่ ซึ่งได้มีเอกสารหลุดออกมาว่า มีการขออนุญาตทำประมงเพื่อการศึกษาอย่างถูกกฎหมายแล้ว,ผู้สื่อข่าว จึงได้ติดต่อไปยัง Palm Tree Lagoon Fishery โดย,คุณเบญจวรรณ เถียรสูงเนิน เจ้าของ Palm Tree Lagoon Fishery, กล่าวว่า, ตนทำธุรกิจฟิชชิ่งพาร์คอยู่ที่จ.ราชบุรี คล้ายกับบึงสำราญ โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจับปลาในบ่อและถ่ายรูปตามปกติ ขณะที่ เรื่องการตกปลากระเบนราหูในแม่น้ำแม่กลองตามภาพที่เห็นนั้น ชาวต่างชาติกลุ่มนั้นจ้างบริษัทตนให้ไปรับไปส่งที่แม่กลอง แต่ไม่ทราบว่าเขาไปตกปลาตรวจพันธุ์ปลาหรือเป็นการจัดทริปตกปลา และไม่ทราบว่าถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายด้วยเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพียงแต่ทางชาวต่างชาติส่งภาพมาให้ จึงโพสต์ลงเฟซบุ๊กเท่านั้น, เจ้าของ Palm Tree Lagoon Fishery ระบุ,ด้าน ,รศ.สพญ.นันทริกา ชันซื่อ ผอ.ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ, กล่าวว่า ประกาศห้ามทำประมงในพื้นที่ จ.สมุทรสาครนั้น เป็นกฎหมายที่ช่วยกันเดินเรื่องกับผู้ว่าฯ สมุทรสงครามเมื่อหลายปีก่อน โดยให้อนุรักษ์ไว้ไม่ให้มีการตกปลากระเบนราหู ยกเว้นการตกในทางวิชาการ ซึ่งเป็นประกาศของทางจังหวัด แต่จากประกาศของจังหวัดได้อนุญาตให้จับได้เพื่อการศึกษาวิจัยอยู่แล้ว ถามว่าเป็นธุรกิจหรือเปล่าสำหรับศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำไม่ได้เป็นธุรกิจ แต่ทางบริษัทเป็นธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเหลือในการให้ตัวอย่างมาวิจัยเท่านั้น,แต่หากทำในเชิงการค้า ตกไปขาย แบบนี้ทำไม่ได้ แต่อันนี้ตกแล้วปล่อย เหมือนกับทั่วๆ ไปที่เป็นการตกปลาแล้วปล่อยไป ต่างชาติก็ทำกันแบบนี้แบบสปอร์ตฟิชชิ่ง ซึ่งหากทำในเขต จ.สมุทรสงคราม ต้องขออนุญาตก่อน,ผอ.ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ กล่าว,ทั้งนี้ รศ.สพญ.นันทริกา กล่าวต่อว่า เอกสารขออนุญาตขอทำการประมงเพื่อประโยชน์ทางวิชาการที่มีการเผยแพร่บนโลกโซเชียลนั้น เป็นงานวิจัยที่เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว คาดว่าอาจจะมีคนใช้เป็นข้ออ้างจากการที่ให้ตัวอย่างแก่ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ จึงทำให้เป็นเหตุผลในการไปจับปลามากกว่า, ผอ.ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ อธิบาย,หลายคนห่วงในเรื่องความอันตรายจากการตกปลากระเบน ผอ.ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ ระบุว่า การใช้เบ็ดเป็นวิธีเดียวที่หาปลามาได้อย่างนุ่มนวลที่สุด แต่กระเบนไม่ได้สูญพันธุ์จากการตกปลา แต่จะสูญพันธุ์จากน้ำเสียมากกว่า และที่ตายไป 60 ตัวก็มาจากน้ำเสีย แต่โดยปกติที่ตกเพื่อวิจัยนั้น เบ็ดที่ใช้จะต้องเป็นเบ็ดพิเศษและจะฉีดยาและทำแผลให้ด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำจะไม่ทำอันตรายต่อสัตว์อย่างแน่นอน,ขณะที่ ,นายสิรภพ พูนเพชร ผอ.กลุ่มนิติการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, กล่าวว่า ปลากระเบนราหู จัดเป็นสัตว์น้ำจืด ขนาดใหญ่ที่พบในแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำเจ้าพระยา ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย และมีประกาศจากท่านผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม ตามอำนาจตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 ห้ามผู้ใดจับหรือทำการประมงตามประกาศจังหวัดสมุทรสงคราม และปลากระเบนราหู ยังได้รับการเสนอให้เป็นสัตว์คุ้มครอง และเป็นสัตว์คุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของกฤษฎีกา,แม่กลองเป็นแหล่งสัตว์น้ำขนาดใหญ่และแปลก จึงเกิดเป็นประกาศฉบับนี้ขึ้นมา เพื่ออนุรักษ์ไว้ไม่ให้มีการตกปลา ซึ่งจากประกาศดังกล่าวนั้นยังรวมไปถึงการห้ามใช้เบ็ดหรือข่ายทำการประมงในพื้นที่ด้วย หากใครจับหรือทำการประมงจะมีความผิดตามประกาศของจังหวัดสมุทรสงครามทันที ส่วนกรณีดังกล่าวเข้าข่ายทำการประมงหรือไม่ เมื่อมีการใช้เบ็ดก็ถือว่าเป็นการทำประมงเช่นกัน, ผอ.กลุ่มนิติการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุ.,ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก ,Benchawan Thiansungnoen | ชาวต่างชาติจัดทริปตกปลากระเบนราหูในแม่น้ำแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ทั้งที่เป็นสัตว์คุ้มครอง มีประกาศห้ามทำประมงในพื้นที่ ไฉนจึงตกปลาได้ | ข่าว | ปลากระเบนราหู,ปลากระเบนราหูน้ำแม่กลอง,ตกปลากระเบน,ชาวต่างชาติ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/985688 |
ไอซ์ รอ แม็กซ์ ขอแต่งงาน ไม่กดดันคนคาดหวังวิวาห์อลังการ | ไอซ์-อภิษฎา เครือคงคา, ดูมีออร่าเจ้าสาวจับหลังมีข่าวว่า ,ไฮโซแม็กซ์-ชญานินท์, เตรียมเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน เจอ, ไอซ์, มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์แป้งพัฟ LeoR V Collagen Powder ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เลยถามว่า,เห็นว่าจะมีเซอร์ไพรส์วันที่ 3 มี.ค.?,ไม่รู้เหมือนกัน พูดเล่นๆ มันใกล้เกินไป เป็นไปไม่ได้หรอก,บางกระแสก็ว่าสิ้นปีนี้จะปฏิบัติการแล้ว?,จะมาจัดการอะไร ไม่รู้ (พูดเขิน) ยังไม่เห็นจะมีวี่แวว,เราก็รอมาตั้งแต่ปีที่แล้ว?,ก็บอกเค้าไปแล้วว่าถ้าจะทำอะไรก็เช็กคิวให้ดีๆ ล้อเล่นค่ะ ไม่ได้รีบขนาดนั้นแต่ก็โอเคอยู่ จะมาขออะไร,ก็ต้องเคลียร์คิวกันดีๆ,เพื่อนๆว่ายังไง?,เพื่อนๆก็อยากให้แต่งแล้ว ส่วนไอซ์จริงๆแต่งตอนนี้ก็ได้นะ แต่พอมานั่งนึกถึงภาพงานแต่งงานแล้วมันเวียนหัว เหนื่อย รู้สึกว่าถ้าแต่งก็ดีแต่ยังไม่แต่งก็ได้,งานแต่งงานเพื่อนคนอื่นอลังการหมดเลยจะกดดันเรามั้ย?,ไม่กดดันหรอก ไอซ์รู้ตัวว่ายังไงจัดงานก็ต้องตามใจไอซ์ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ ยังไงก็คงต้องเอาที่ไอซ์มีความสุขที่สุด,มีพูดคุยกันบ้างรึยัง?,ยังเลย จริงๆไม่ได้อยากแต่งงานที่เมืองไทยเลย ความฝันของไอซ์ตอนเด็กๆคืออยากไปแต่งงานที่เมืองนอก มีเพื่อนๆมีแขกสัก 50 คน จัดงานกันเล็กๆแต่เต็มที่ แต่เราก็เข้าใจเพราะมีงานของเพื่อนจัดกันเป็นงานเล็กๆ เชิญแขก 100-200 คน แต่เค้ารู้จักคนเป็นพันคน คนที่ไม่ได้เชิญก็จะน้อยใจอีก เราก็เลยรู้สึกว่าเดี๋ยวแต่งไปแล้วจะมาโดนเกลียดทีหลัง เห็นมั้ยขนาดยังไม่ได้แต่งยังคิดเยอะขนาดนี้,มีชุดเจ้าสาวในฝันรึยัง?,ยังไม่มี คิดว่าถึงเวลานั้นมันก็คงมีอะไรใหม่ๆเข้ามา ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเยอะหรือน้อย พูดเหมือนเค้ามาขอแล้วเลยเนอะ (หัวเราะ),งานแน่นช่วงนี้ดูแลกันยังไง?,มีอาทิตย์นึงไม่ได้ทานข้าวด้วยกันเลย ไม่ได้เจอกันเลยเราก็ขอโทษเค้า โชคดีที่เค้าเข้าใจ บางทีมันเหนื่อยจนเสียงพูดแทบจะไม่มี เราก็อยากพัก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเค้าน่าจะน้อยใจ. | ช่วงนี้สาวเซ็กซี่ ไอซ์-อภิษฎา เครือคงคา ดูมีออร่าเจ้าสาวจับหลังมีข่าวว่า ไฮโซแม็กซ์-ชญานินท์ เตรียมเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน เจอ ไอซ์ มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์แป้งพัฟ LeoR V Collagen Powder ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ไอซ์ อภิษฎา,อภิษฎา เครือคงคา,ไอซ์ ไฮโซแม็กซ์,ไอซ์ อภิษฎา แต่งงาน,ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1190210 |
ก้าวไกล ชี้แจงไม่ร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติแก้ไข รธน. | วันนี้ (18 ส.ค.63) ส.ส.พรรคก้าวไกล แจ้งประธานวิปฝ่ายค้าน ขอถอนชื่อออกจากการร่วมเสนอญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 ตามมติของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ก่อนยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพียง 5 นาที มีคำชี้แจงจาก นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลรองหัวหน้าพรรคว่า มีจุดเห็นต่างเกิดขึ้นหลังพบว่า ในญัตติกำหนดไม่ให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หมวด 1 เรื่องบททั่วไป และหมวด 2 เรื่องสถาบันฯนายณัฐวุฒิ กล่าวว่าจริง ๆ แล้วเรื่องนี้มีคำถามว่าในลักษณะว่า ถ้าจะมีการแก้ไข เกรงว่า ส.ส.ร.จะนำข้อความแก้ไขเลยเถิดออกไปตามกรอบที่เราไม่อาจกำหนดได้ ขอเรียนว่าในหมวดพระมหากษัตริย์ ในรัฐธรรมนูญ ม.255 ที่ระบุว่า รูปแบบการแก้่ไขรัฐธรรมนูญจะไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ และแก้ไขเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐได้ ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ถูกล็อกไว้แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเขียนเพิ่มเติมว่าจะยกเว้นการแก้ไขในหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกลเขียนญัตติเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 ของพรรคเสร็จแล้วโดยเนื้อหาสาระ คือการขอแก้ไขเพิ่มเติม ม.269 - 272 คือ การยกเลิก ส.ว.ตามบทเฉพาะกาลเท่านั้นเบื้องต้นมี ส.ส.ร่วมลงชื่อเสนอญัตติเป็น ส.ส.พรรคก้าวไกลทุกคน และมี ส.ส.พรรคอื่นร่วมลงชื่อด้วย แต่ยังไม่ครบตามเงื่อนไขการเสนอญัตติขอแก้รัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ร่วมลงชื่อ 1 ใน 5 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของรัฐสภาหรือสมาชิกรัฐสภาคือไม่น้อยกว่า 98 คนและคาดว่า จะรวบรวมรายชื่อยื่นญัตติได้ภายในสัปดาห์หน้า | วานนี้ (17 ส.ค.63) พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญไปแล้ว แต่ไม่มีชื่อพรรคก้าวไกล ซึ่งวันนี้ (18 ส.ค.) มีคำชี้แจงออกมาชัดเจนแล้วว่า ญัตติที่ยื่นนำโดยเพื่อไทยระบุไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งพรรคก้าวไกลเห็นต่าง | การเมือง | ก้าวไกล,รัฐธรรมนูญ | https://news.thaipbs.or.th/content/295600 |
ศาลเลื่อนนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก คดีผอ.กอล์ฟ ชิงทองลพบุรี 3 ศพไป 23 มิ.ย. | ห้องพิจารณา 714 ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. ศาลนัดสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพคดีดำ อ.409/63 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อดีตผอ.ร.ร.ชั้นประถมโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี เป็นจำเลย คดีจี้ชิงทรัพย์ห้างทองออโรร่า ลพบุรี นัดนี้อัยการโจทก์แถลงว่า เนื่องจาก พยานโจทก์ปากสำคัญที่จะต้องเบิกความในวันนี้ คือ พ.ต.อ.นพสิน พูนสวัสดิ์ รองผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ขอเลื่อนการเข้าเบิกความ เนื่องจากติดภารกิจคดีอื่น ที่จ.มุกดาหาร ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ไม่สามารถมาเบิกความในวันนี้ได้โดยศาลได้สอบถามจำเลย และทนายความจำเลย ไม่คัดค้าน ศาลจึงให้เลื่อนนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก ออกไปเป็นวันที่ 23 มิ.ย. นี้ ส่วนพยานโจทก์ปากอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เสียหายและญาติผู้เสียหาย เป็นวันที่ 24 30 มิ.ย. 2 ก.ค. และ 23 ก.ค.2563 ศาลได้กำชับโจทก์ในนัดหน้าให้นำพยานมาพร้อมสืบ หรือตัดพยานตามที่เห็นสมควรร้อยเอกสุรกิต ทองทิพย์ บิดาของ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ เปิดเผยว่า วันนี้เจอกับคู่กรณีเป็นวันแรก ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมาขอเจรจาแต่อย่างใด เบื้องต้น คู่กรณีได้มอบเงินเยียวยาแล้ว 2 แสนบาท แต่มองว่า ยังไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป จึงได้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพิ่ม เพราะจำนวนเงิน 3 ล้านที่เรียกไป จะนำมาเลี้ยงดูบุตรชายของน.ส.ธิดารัตน์ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ส่วนหลังเกิดเหตุ ทางครอบครัวก็เริ่มทำใจได้บ้างแล้ว แต่ยังอยากให้จำเลยได้ถูกลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด. | ศาลอาญา เลื่อนนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก คดี ผอ.กอล์ฟ บุกจี้ชิงทองลพบุรี และยิง 3 ศพ ไปเป็นวันที่ 23 มิ.ย.63 เนื่องจากตำรวจที่เป็นพยานโจทก์ปากสำคัญติดราชการต่างจังหวัด ขอเลื่อนเบิกความ | ข่าว,อาชญากรรม | ชิงทองลพบุรี,จี้ชิงทอง,ยิง 3 ศพ,ผอ.กอล์ฟ,ผอ.กอล์ฟฆ่า 3 ศพชิงทอง,เลื่อนนัดสืบพยาน,ประสิทธิชัย เขาแก้ว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1870076 |
คนไทยใจดีอุดหนุน ลุงวาดภาพ 5 บาท หลัง 2 โจรฉกเงินลุงจนหมดไม่เหลือ | จากกรณีคุณลุงสมศักดิ์ เจริญชัยชนะ อายุ 65 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี ถูก 2 โจรแสบฉกเงินที่ลุงเขียนภาพขายใบละ 5 บาท เป็นจำนวนเงิน 5 พันบาท ซึ่งเก็บนานกว่า 2 เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้แล้ว,ล่าสุด ช่วงค่ำของวันที่ 2 มี.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าร้านสะดวกซื้อบริเวณแถวโต้รุ่ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีประชาชนแวะเวียนมาช่วยอุดหนุนซื้อภาพเขียน พร้อมทั้งได้พูดคุยกับ ลุงวาดภาพ 5 บาท เป็นจำนวนมาก,ลุงสมศักดิ์ กล่าวว่า ,ขอบคุณมากๆ ครับ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอบคุณสื่อ ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยอุดหนุน ผมมีกำลังใจการวาดรูป ผมมีเสมอ และผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ครับ,ลูกค้าที่มาอุดหนุนลุงสมศักดิ์ เปิดเผยว่า วันนี้เพื่อนๆ จากกรุงเทพฯ ได้ฝากเงินมาซื้อภาพลุง ถึง 40 รูป และด้วยความที่ลุงอายุเยอะแล้ว ลุงก็ไม่ได้มานั่งขอทาน แต่ลุงใช้สิ่งที่ลุงมีด้วยการวาดรูป ภาพที่ลุงขายก็ไม่ได้แพงมาก เราก็เลยรู้สึกว่าเราสามารถช่วยเหลือลุงได้ คุณลุงมีความพยายามหาเงินเลี้ยงตัวเอง ก็เลยคิดว่าสนับสนุนแกก็น่ารักดี,ข่าวที่เกี่ยวข้อง ,ลุงวาดภาพขาย ใบละ 5 บ.วอนขโมยคืนเงินกว่า 4 พันบาท หลังเก็บนาน 2 เดือน,รวบ 2 โจรแสบ ฉกเงินลุงวาดภาพขาย 5 บ. ยอมรับสารภาพ ถลุงเงินหมดแล้ว | ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ เปิดใจ ลุงวาดภาพ 5 บาท หลัง 2 โจนแสบฉกเงิน 5 พัน บอก ผมไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ และมีกำลังใจวาดรูป ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ | ข่าว,สังคม | ลุงวาดภาพขายใบละ 5 บ.,ลุงวาดภาพขาย,ลุงวาดภาพเมืองกาญจน์,ข่าวโซเชียล,กาญจนบุรี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1509603 |
ดีเจดาด้า เผยสาเหตุหย่าเงียบ จบชีวิตคู่ 9 ปีกับสามีนักบิน | หลังจากที่ถูก มดดำ คชาภา เพื่อนซี้ประกาศกลางรายการแฉ ว่าดีเจดาด้า วรินดา เพื่อนสนิท เลิกสามีและไม่บอกตน ทำเอาหลายคนช็อกไม่น้อยกับเรื่องดังกล่าว งานนี้เมื่อได้เจอดีเจดาด้า เลยขอสอบถามเรื่องราวที่ต้องหย่าเงียบๆ กับสามีนักบิน ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า,สาเหตุการเลิกราคืออะไร?, ,จริงๆ แล้วก่อนที่มดดำจะบอก แยกกันอยู่มาสักพักแล้ว แต่ตัดสินใจที่จะเซ็นใบหย่ากันเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาค่ะ เป็นการคุยกันด้วยดี มันเป็นปัญหาที่ค้างคามาหลายปี ที่เราค่อยๆ แก้กันมาแต่มันแก้ไม่ตกซะที,เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วทะเลาะ ไม่แฮปปี้ เราเลยมาคุยกันว่า เราทดลองห่างกันดีกว่ามั้ย ทดลองแยกกันอยู่ พอทดลองแล้วบรรยากาศมันดีขึ้น เราไม่ได้ทะเลาะกัน รวมถึงการดูแลลูก ทุกอย่างลงตัวมากขึ้น ก็ถึงเวลาที่เซ็นใบหย่าเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา,กี่ปีคะที่อยู่ด้วยกันมา?, ,ทั้งหมดประมาณ 9 ปี คือช่วงที่ตัดสินใจเซ็นใบหย่าเราคุยกันดีนะคะ แม้ความสัมพันธ์ของสามีภรรยามันจะจบไป แต่ในเรื่องของการเป็นพ่อแม่ของลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ตอนนี้เราโฟกัสที่การเป็นพ่อแม่ของลูก,ทุกวันนี้ลงตัวมาก ถ้าวันไหนด้ามีงาน ก็จะฝากลูกไว้ที่เค้า ถ้าเค้ามีบินลูกก็จะอยู่กับเรา แต่หลักๆ ด้าดูแลลูกเป็นหลัก ศุกร์-อาทิตย์ ก็ไปอยู่บ้านกับคุณพ่อเค้า ตกลงกันด้วยดี หน้าที่ของพ่อแม่ไม่มีวันจบ เรายังพูดคุยติดต่อกันเรื่องลูก,คิดหนักมั้ย เพราะมีลูกด้วย?, ,ก่อนที่จะตัดสินใจก็คิดสักพักนึงแล้ว เนื่องจากว่าปัญหาหลักๆ ก็เป็นเรื่องของเวลาด้วย ด้ามีงานเยอะ และเค้าก็มีภารกิจที่ต้องทำเยอะ เหมือนเวลาเราไม่ตรงกัน หลายอย่างไม่ตรงกัน,คนเราพออายุมากขึ้น ทัศนคติหรือความคิดมันไปคนละทางแล้ว เมื่อจุดหมายปลายทางมันมองไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นพอลดความสัมพันธ์เหลือความเป็นพ่อเป็นแม่ของลูก น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด,เฮิร์ตบ้างมั้ย?, ,มันต้องมีอยู่แล้ว (หัวเราะ) เห็นหัวเราะแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วมันก็มีจุดที่เราเสียใจ ไม่มีใครที่ไม่อยากให้ครอบครัวไม่ประสบความสำเร็จ ใครๆ ก็อยากจะอยู่กันจนแก่ ในเมื่อทำไม่ได้ เราก็ต้องทำใจกับมัน,แรกๆ ก็เฮิร์ต แต่พอแยกกันอยู่ เลิกกันแล้ว บรรยากาศการคุยของเราดีขึ้นค่ะ พอมาเจอหน้ากันมันไม่ทะเลาะ แต่มาคุยกันเรื่องลูกนะ วันเกิดที่ผ่านมาของเค้าเราก็ยังไปกินข้าวกัน เป็นการเลิกกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน,ครอบครัวฝ่ายชายไม่ชอบที่ดาด้าไม่มีเวลาเพราะลุยงานหนัก?, ,มันเป็นเรื่องที่ปรับตัวกันอยู่แล้ว ถามว่าไม่ชอบเลยมั้ย มันคงไม่ใช่ค่ะ เชื่อว่าทุกครอบครัวมีปัญหาแต่อยู่ที่การปรับตัวดีกว่า ว่าสามารถปรับกันได้รึเปล่า,แต่ก็ยอมรับว่าเราทำงานเยอะ ด้วยความที่เค้าก็ไปบิน ทำให้เวลาของครอบครัวเราไม่เหมือนคนอื่น เวลาว่างเราอาจจะน้อยกว่าคนอื่น อันนี้เป็นปัญหาหลักๆ มากกว่า,ช่วงที่ใช้ชีวิตครอบครัว ทะเลาะกันเยอะมากๆ?, ,มันไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องใหญ่ แต่เป็นการทะเลาะของเรื่องเวลา หลักๆ เป็นเรื่องของเวลาเลย พอวันนึงมันหนักขึ้น เราแก้ปัญหากันมาตลอด แต่ว่ามันไม่ได้จริงๆ ด้วยเวลามันไม่ลงตัว เรื่องปัญหาอื่นๆ เล็กๆ น้อยๆ ทัศนคติ ก็เลยทำให้ทะเลาะกัน,ฝ่ายชายเคยขอให้ดาด้าอยู่ดูแลลูกหน่อย?, ,คือเค้ารู้ว่าทำไม่ได้ (หัวเราะ) เรายอมรับว่าเราเป็นคนบ้างานค่ะ ชอบทำงาน เรามีความสุขกับการทำงาน ตัวเค้าก็รับได้นะคะกับการทำงานของเรา แต่ในเรื่องของเวลาว่างมันหาเวลาว่างลำบาก มันก็พูดยากเหมือนกันเรื่องของการปรับตัว เราก็พยายามปรับมาหลายปีแล้ว,ตอนนี้ถือว่าสบายใจแล้ว?, ,ใช่ ณ ตอนนี้บรรยากาศของการเป็นพ่อและแม่มันดีขึ้น เค้าไม่ได้คาดหวังอะไรจากเรา เราก็ไม่ได้คาดหวังจากเค้า เพราะเราอยู่ในฐานะพ่อและแม่ของลูกเท่านั้น เพราะฉะนั้นบรรยากาศมันเลยดีขึ้นค่ะ,บอกกับน้องว่ายังไงบ้าง?, ,ยังไม่ได้พร้อมที่จะบอกเค้านะคะเพระว่าเค้ายังเล็กอยู่ เพราะว่ายัง 4 ขวบ แต่เค้าจะเริ่มชินเอง ถ้าเค้าโตแล้วเค้าถามด้าก็จะบอก แต่ถ้าถามว่าทุกวันนี้เรายังมีโอกาสได้ไปเจอพร้อมหน้าพร้อมตาแม่ลูกมั้ย ยังมีนะคะ ก็คือเจอกันพ่อแม่ลูก,ถ้ามีเวลาก็ไปกินข้าวด้วยกันทั้ง 2 ครอบครัว เพื่อให้ลูกรู้สึกไม่ขาด นี่คือการคุยกันก่อนเซ็นใบหย่าว่าถึงแม้เราจะเลิกกัน แต่ลูกต้องไม่ขาด ลูกต้องเจอทั้งแม่และพ่อ อย่างโอกาสสำคัญเรายังต้องนัดเจอกันอยู่,น้องมีถามมั้ย?, ,โชคดีหน่อยที่ผ่านมาคุณพ่อเค้าไปบิน หลักๆ เค้าจะอยู่กับด้า เค้าเลยไม่รู้สึกแปลกที่ขาดใครไป หรือบางครั้งด้าไปทำงานต่างจังหวัด เค้าก็ไปอยู่กับทางบ้านของคุณพ่อเค้าก็ไม่รู้สึกว่าขาด เพราะบางทีเราก็ยังไปด้วยกันอยู่ พาลูกไปทำกิจกรรมเราก็ไปด้วยกัน,เชื่อว่าถึงวันนั้นน้องน่าจะเข้าใจ?, ,ใช่ ถ้า 6-7 ขวบที่เค้ารู้เรื่องถ้าเค้าถามเรื่องคุณพ่อคุณแม่ยังไงถ้าเค้าพร้อม เราพร้อมก็คงจะบอกเค้า,ไม่ได้บอกใครเลย แม้แต่มดดำ เพราะอะไร?, ,ตอนนั้นไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร เราแยกกันอยู่ ยังไม่ได้ตัดสินใจเซ็นใบหย่า ก็ยังไม่พร้อมที่จะบอกใคร ก็ยังทำงานตามปกติ เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รู้มาก เพราะเราเป็นคนสนุกสนานมาถึงก็เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใสเค้าก็ไม่รู้ว่าจริงๆ เรามีปัญหาครอบครัว,แต่พอวันนึงเรารู้สึกว่าพร้อมแล้ว เป็นการตัดสินใจแล้วเมื่อกันยายนที่ผ่านมา ก็เลยตัดสินใจที่จะบอกคนอื่น แต่มดดำเค้ารู้ทีหลังเท่านั้นเอง เพราะมดดำรู้โลกรู้ ก็ตั้งใจทำตัวปกติ ก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือว่าบอกใคร แต่ถ้าใครถาม เราค่อยบอก วันนั้นมดดำไม่ถาม เราทำงานเสร็จก็รีบ ไม่มีเวลาคุยเรื่องราวส่วนตัวกัน. | ดีเจดาด้า วรินดา เผยสาเหตุต้องจบชีวิตคู่กับสามีนักบิน หลังจากที่อยู่ด้วยกันมา 9 ปี มีลูก 1 คน เพราะเหตุผลเรื่องเวลา | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ดีเจดาด้า เลิกสามี,ดีเจดาด้า วรินดา,ดาด้า รวินดา,ดาด้า เลิกสามี,ดาราเตียงหัก,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1442028 |
50 ปีผ่านไป รถเมล์ สิงคโปร์ เปลี่ยนไปจนต้องตะลึง | เว็บไซต์ ,Bigbus.Worldpress, ได้เผยแพร่ข้อมูลรถโดยสารประจำทางของ สิงคโปร์ เมื่อ 50 ปีก่อน โดยบรรยายให้เห็นว่าสภาพระบบรถโดยสารประจำทางเมื่อราวๆ ปี พ.ศ.2508 ได้ใช้รถเมล์ร้อน พื้นสูง และองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่ยังไม่พัฒนา ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพการให้บริการ, เวลาการรับ-ส่ง, การดูแลรักษาคุณภาพรถ, ข้อมูลสายรถเมล์ ฯลฯ ปัญหาจึงตกมาอยู่ที่ผู้โดยสาร ซึ่งต้องอาศัยการถามข้อมูลสายรถเมล์จากคนที่รอรถด้วยกันเอง หรือหนักขนาดที่ว่า ต้องเตรียมร่มไปกางบนรถในวันฝนตก เพราะโอกาสเจอหลังคารั่ว หรือหน้าต่างชำรุดนั้นมีสูงมาก,ผ่านไป 50 ปี จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ระบบรถเมล์สิงคโปร์ได้เปลี่ยนโฉมไปมาก ปัจจุบันรถเมล์และรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ ถูกบริหารโดยบริษัท SMRT และข้อด้อยทั้งหลายที่เคยถูกร้องเรียนในอดีต 50 ปี แทบไม่มีให้พบเห็นอีกเลย บางป้ายที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น ก็จะมีระบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะ คอยบอกว่าสายต่างๆ จะมาภายในกี่นาที อีกทั้งบนตัวรถโดยสารส่วนใหญ่ ยังใช้ระบบเสียงบอกป้ายรถเมล์ถัดไปชนิดเดียวกับที่อยู่บนรถไฟฟ้าอีกด้วย | ก่อนครบรอบ 50 ปีสาธารณรัฐสิงค์โปร์ในวันที่ 9 ส.ค. นี้ มาย้อนดูพัฒนาการของระบบขนส่งที่สำคัญอย่าง รถเมล์ เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบันว่า จากวันนั้น จนถึงวันนี้ ต่างกันอย่างไร? | null | รถเมล์,รถโดยสาร,สิงคโปร์,SMRT,ระบบขนส่งมวลชน,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/484923 |
ผลสำรวจกรุงเทพโพลระบุคนส่วนใหญ่ 55.7% ไม่สนใจลงทะเบียน 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย | กรุงเทพโพลสำรวจความเห็น 1139 คน ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ร้อยละ 55.7 ไม่สนใจที่จะลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย10 ธ.ค. 2562 กรุงเทพโพลโดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง ความเห็นของประชาชนต่อมาตรการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1139 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 55.9 ทราบเกี่ยวกับมาตรการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทยที่จะเปิดอีกรอบในวันที่ 11-12 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ขณะที่ร้อยละ 44.1 ไม่ทราบเมื่อถามว่าสนใจที่จะลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทยหรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 55.7 ไม่สนใจ ขณะที่ร้อยละ 44.3 สนใจ สำหรับสิ่งที่อยากได้ในราคา 100 บาท หากเข้าร่วมมาตรการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทยพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.4 อยากใช้กับร้านอาหาร รองลงมาร้อยละ 40.9 อยากใช้กับโรงแรมที่พัก และร้อยละ 20.2 อยากใช้กับ บัตรโดยสารเครื่องบิน ส่วนเรื่องที่ท่านกังวลหากต้องลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทยพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 55.0 กลัวลงทะเบียนไม่ทัน รองลงมาร้อยละ 48.4 กลัวลงทะเบียนซับซ้อนยุ่งยาก และร้อยละ 33.3 กลัวระบบล่มเข้าได้ยากสุดท้ายเมื่อถามว่าอยากให้มีการเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมลงทะเบียน และขยายเวลาในการใช้สิทธิ์มาตรการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทยหรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 62.6 อยากให้มี ขณะที่ร้อยละ 27.4 ไม่อยากให้มี ที่เหลือร้อยละ 10.0 ไม่แน่ใจ | กรุงเทพโพลสำรวจความเห็น 1139 คน ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ร้อยละ 55.7 ไม่สนใจที่จะลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย10 ธ.ค. 2562 กรุงเทพโพลโดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ | การเมือง,เศรษฐกิจ,สังคม,คุณภาพชีวิต | กรุงเทพโพล,โพล,100 เดียวเที่ยวทั่วไทย,ท่องเที่ยว | https://prachatai.com/journal/2019/12/85476 |
การทำจิตให้ผ่องใสบริสุทธิ์ | วันนี้เป็น วันมาฆบูชา วันสำคัญยิ่งอีกวันหนึ่งของพระพุทธศาสนา เป็นวันที่ พระอรหันต์ 1,250 รูป ที่ได้รับการอุปสมบทจาก พระพุทธเจ้า โดยตรง ด้วยการบวชแบบ เอหิภิกขุ อุปสัมปทา มาชุมนุมอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายกัน ในวันเพ็ญเดือน 3 ณ วัดเวฬุราวันมหาวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์แคว้นมคธในวันนี้พระองค์ได้ทรงประกาศ โอวาทปาติโมกข์ แก่พระอรหันต์ 1,250 รูปนี้,การบวชแบบ เอหิภิกขุอุปสัมปทา ผู้บวชไม่ได้ปลงผมด้วยมีดโกน แต่เป็นการบวช โดย พระพุทธองค์ ทรงตรัสว่า เธอจงมาเป็นภิกษุเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว ท่านจงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบเถิด คำตรัสขึ้นต้นด้วยคำว่า เอหิภิกขุ จึงเรียกการอุปสมบทแบบนี้ว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา ตอนหลังได้ทรงเปลี่ยนวิธีการบวชเป็น ไตรสรณคมน์อุปสัมปทา ให้น้อมรับเอา พระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เข้ามาไว้ในตน,คาถาโอวาทปาติโมกข์ ที่ พระพุทธเจ้า ทรงประกาศต่อ พระอรหันต์ 1,250 รูปนี้ ถือเป็นหลักคำสอนที่เป็น หัวใจของพระพุทธศาสนา ประกอบด้วย พระพุทธพจน์ 3 คาถา มีใจความดังนี้,พระพุทธพจน์คาถาแรก คือ พระนิพพาน เป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของบรรพชิตและพุทธบริษัท อันมีลักษณะแตกต่างจากศาสนาอื่น ความอดทนอดกลั้น การมุ่งให้ถึงพระนิพพานของผู้ออกบวช ไม่พึงทำให้ผู้อื่นลำบากด้วยการเบียดเบียนทำให้เกิดความทุกข์กาย หรือทุกข์ใจ พึงเป็นผู้มีจิตใจสงบจากอกุศลวิตกทั้งหลาย เช่น โลภ โกรธ หลง เป็นต้น,พระพุทธพจน์คาถาที่สอง เป็นหัวใจให้พุทธบริษัทเข้าถึงจุดมุ่งหมายของพุทธศาสนาโดยย่อ คือ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญแต่ความดี ทำกุศลให้ถึง พร้อมการทำจิตให้ผ่องใสบริสุทธิ์เป็นอิสระจากกิเลสทั้งปวง,พระพุทธพจน์คาถาที่สาม เป็นหลักการปฏิบัติของพระสงฆ์ผู้ทำหน้าที่เผยแผ่พุทธศาสนา 6 ประการ คือ การไม่กล่าวร้ายใคร, การไม่ทำร้ายใคร, การมีความสำรวมในปาติโมกข์ทั้งหลาย, การเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร, การรู้จักที่นั่งนอนอันสงัด และ การบำเพ็ญเพียรในอธิจิต (การพัฒนาจิตใจด้วยสมถะและวิปัสสนาเสมอ),โอวาทปาติโมกข์ แม้จะเป็นคาถาขั้นสูงสุดของ พระพุทธศาสนา แต่ พุทธศาสนิกชนก็สามารถนำไปปฏิบัติได้ เพื่อประโยชน์สุขของผู้ปฏิบัติ เช่น พระคาถาว่าด้วย การไม่ทำชั่วทั้งปวง การทำแต่กุศลความดี การทำจิตใจให้สดใสบริสุทธิ์ห่างไกลจากอกุศลจิต เช่น ความโลภ โกรธ หลง ดังที่ได้เห็นจากการเมืองไทยที่กำลังหาเสียงในเวลานี้ ปราชญ์โบราณจึงกล่าวว่า ความดีของคนสิ้นสุดลงเมื่อเล่นการเมือง ความชั่วแรกที่นักการเมืองมักทำทุกคนก็คือ การพูดโกหก หนึ่งในข้อห้ามของ ศีล 5 และตามมาด้วยอีกข้อห้ามคือ การลักทรัพย์ (ทุจริตคอร์รัปชัน) ของประเทศและประชาชน,การทำดี ทำกุศล ไม่ทำบาป ไม่ทำชั่ว ผมเชื่อว่าชาวพุทธทุกคนทำได้ แล้วแต่ใครจะมากน้อยตามศรัทธา แต่การทำจิตใจให้สดใสบริสุทธิ์ปราศจากโลภโกรธหลง เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะ จิตใจคนห่อหุ้มด้วย โลภะ โทสะ โมหะ เป็นอาจิณ จึงเป็นจิตที่ไม่สงบ เหมือนทะเลที่มีคลื่นลมอยู่เสมอ หาเวลาสงบได้ยาก มักตกเป็นเหยื่อของอารมณ์ เมื่อชอบสิ่งใดแล้วก็มักลำเอียงไปในสิ่งนั้น,โลภะ โทสะ โมหะ นอจากจะ ทำให้จิตใจไม่สงบ ไม่ตั้งมั่นแล้ว ยังไป บังปัญญา ทำให้ไม่เกิดปัญญาความรู้อีกด้วย,การทำจิตใจให้สงบ ในทาง พุทธศาสนา จึงกำหนดให้แสดง กรรมฐาน หรือ อุปกรณ์การฝึกอบรมจิต เพื่อเหนี่ยวนำจิตให้เกิดสมาธิ 2 สองอย่าง คือ สมถกรรมฐาน ซึ่งเป็น อุบาย เพื่อทำใจให้เป็นสมถะ สงบจาก โลภะ โทสะ โมหะ และ วิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเป็น ปัญญา ที่ทำให้จิต เกิดความรู้แจ้งเห็นจริง เมื่อรู้แจ้งเห็นจริง จิตใจก็ผ่องใสบริสุทธิ์ ปลอดจาก โลภะ โทสะ โมหะ ทั้งปวง สุขสันต์วันมาฆบูชา ครับ.,ลม เปลี่ยนทิศ | วันนี้เป็น วันมาฆบูชา วันสำคัญยิ่งอีกวันหนึ่งของพระพุทธศาสนา เป็นวันที่ พระอรหันต์ 1,250 รูป ที่ได้รับการอุปสมบทจาก พระพุทธเจ้าโดยตรง ด้วยการบวชแบบ เอหิภิกขุ อุปสัมปทา | null | มาฆบูชา,พระพุทธเจ้า,อุปสมบท,หมายเหตุประเทศไทย,ลม เปลี่ยนทิศ | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1498861 |
2017 ปีที่ผู้หญิงในวงการฮอลลีวูดสร้างจุดยืนที่ยิ่งใหญ่ และไม่ใช่ของเล่นของใครอีกต่อไป | งาน Womens Marchโดนคางคกกินไปเหรอ คือหนึ่งในคอมเมนต์ที่เขียนถึงภาพของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ขณะที่เธอไปแสดงที่งาน Capital FMs Jingle Bell Ball เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเทย์เลอร์เลือกใส่กางเกงขาสั้นที่เผยต้นขา ภาพการแสดงนี้กลายเป็นประเด็นฮอตฮิตในหลายเพจบันเทิง แต่สำหรับเราแล้ว มันคือการสะท้อนปัญหาของสังคมในปี 2017 ภาพลักษณ์ของผู้หญิงในวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์ยังคงถูกมองว่าต้องเพอร์เฟกต์ และคนเราวิจารณ์ได้ เพราะนี่คือ โลกบันเทิง แต่สิ่งนี้ควรเบาลง เพราะในปีที่ผ่านมา หลายประเทศกำลังก้าวหน้าและหยิบประเด็นของการที่นักแสดง นักร้อง หรือดีไซเนอร์เพศแม่ ที่ต่างสร้างจุดยืน ออกมาต่อสู้ และเปิดโปงปัญหาเพื่อหวังว่าการเป็นผู้หญิงในปี 2017 และปีต่อๆ ไปจะมีคุณค่าและความเท่าเทียม THE STANDARD จึงขอรวบรวมเหตุการณ์สำคัญของวงการที่ทำให้เห็นว่าปีนี้คือปีของผู้หญิงอย่างแท้จริงเริ่มต้นปี 2017 หลายคนทั่วโลกยังตกอยู่ในภวังค์ของการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา ด้วยประวัติการพูดจาและข้อหาการล่วงละเมิดทางเพศของทรัพม์ต่อผู้หญิงเอง บทบาทของ ผู้หญิง ในช่วงการบริหารบ้านเมืองในสหรัฐอเมริกาก็ดูน่าเป็นห่วง และเมื่อวันที่ 21 มกราคม คนราว 3-5 ล้านคนทั่วโลกต่างออกมาเดินขบวนชุมนุมภายใต้ชื่อ Womens March เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ ทั้งด้านความเท่าเทียมทางสังคมของผู้หญิง ระบบรักษาพยาบาล กฎหมายสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ การดูแลผู้ลี้ภัยจากต่างแดน และปัญหาการเหยียดสีผิว ฯลฯ การเดินขบวนในครั้งนั้นถูกจารึกให้เป็นการประท้วงในสหรัฐอเมริกาที่มีคนมาเดินมากสุดในหนึ่งวัน และเราได้เห็นเหล่าเซเลบอย่าง เชอร์ เอ็มมา วัตสัน มาดอนน่า และเจสสิก้า เชสแทน ออกมาเดินขบวนแบบไร้บอดี้การ์ดเหมือนกับคนสามัญชนทั่วไปเลดี้ กาก้า ที่งาน Super Bowl Half Time Show 2017อเดล ที่งาน Grammy Awards 2017ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ เลดี้ กาก้า ก็ได้รับเลือกให้เปิดโชว์ช่วงพักครึ่งของการแข่งขัน Super Bowl 2017 ในปีที่ปัญหาบ้านเมืองในสหรัฐอเมริกากำลังร้อนแรง และเธอก็เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนตัวยงของฮิลลารี คลินตัน ด้วยการปีนขึ้นไปยืนประท้วงบนรถสิบล้อหน้าตึก Trump Towers ในวันที่ทรัมป์ชนะ แต่สำหรับการแสดงในครั้งนี้ กาก้าเลือกที่จะไม่ใช้ความก้าวร้าวและโจมตีใครทั้งสิ้น แต่เธอใช้เวทีในการพยายามนำพาทุกเชื้อชาติ ทุกสีผิว และทุกเพศมาเป็นหนึ่งเดียว ตั้งแต่เปิดโชว์กับการร้องเพลง God Bless America ของคอนนี ฟรานซิส จนถึงร้องเพลง Born This Way ที่เธอเป็นนักร้องคนแรกในประวัติศาสตร์ของเวทีนี้ที่ได้ร้องคำว่า Transgender พร้อมทั้งสร้างเรตติ้งแบบถล่มทลาย เซเลนา โกเมซ ก็เป็นอีกหนึ่งนักร้องสาวที่ขับเคลื่อนวงการปี 2017 ในหลายภาคส่วน เริ่มจากการที่เธอได้ออกมาเล่าเรื่องอย่างกล้าหาญผ่านอินสตาแกรมตัวเอง (เธอเป็นบุคคลที่มีฟอลโลเวอร์มากสุดในโลก) เรื่องราวที่เพื่อนสนิทของเธออย่างนักแสดงสาว ฟรานเซีย เรซา ยอมปลูกถ่ายไตให้ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังเซเลนาตรวจพบโรค SLE มา 2 ปี ส่วนผลงานเพลงของเซเลนาในปีนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยม เพราะถึงแม้เธอจะไม่ได้ปล่อยอัลบั้มเต็ม แต่ก็มี 4 ซิงเกิลอย่าง It Aint Me Bad Liar Wolves และ Fetish ที่โชว์ชั้นเชิงในการเป็นศิลปินที่มีซาวด์เพลงแตกต่าง มีมิติ และพยายามสร้างนิยามใหม่ให้วงการเพลงป๊อป โดยเฉพาะกับเพลง Bad Liar ที่หลายสำนักได้ยกย่องให้เป็นหนึ่งในบทเพลงที่ดีสุดแห่งปี เช่น ในลิสต์ของ Billboard และนิตยสาร Rolling Stone ซึ่งเธอก็ได้รับรางวัลใหญ่ Woman of the Year ในงาน Billboard Women in Music 2017 อีกด้วย มากไปกว่านั้น ในปีนี้เซเลนายังรับหน้าที่เป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ของซีรีส์ชื่อดัง 13 Reasons Why ของค่าย Netflix ที่ประสบความสำเร็จสุดๆ และเพิ่งถ่ายซีซันที่ 2 เสร็จ ส่วนผลงานการแสดงของเซเลนาเองก็ต้องรอหนังเรื่อง A Rainy Day in New York ของผู้กำกับ วู้ดดี้ อัลเลน ปีหน้า ฟรานเซีย เรซา กับเซเลนา โกเมซเทย์เลอร์ สวิฟต์พูดถึงเซเลนาก็ต้องหันไปชื่นชมความสำเร็จของอีกหนึ่งเพื่อนสนิทของเธออย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ปีนี้ผลงานเพลงอัลบั้ม Reputation ก็ถือได้ว่ายกระดับวงการเพลงทั้งยอดวิวและยอดขาย เริ่มจากการปล่อยมิวสิกวิดีโอ Look What You Made Me Do ที่โชว์การทำมาร์เกตติ้งอย่างเหนือชั้นและสร้างสถิติยอดวิวสูงสุดใน 24 ชั่วโมงแรกถึง 43.2 ล้านวิว ส่วนอัลบั้ม Reputation ก็ทำยอดขายไป 2 ล้านแผ่นทั่วโลกในสัปดาห์แรกที่วางขาย โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา แค่ 4 วันแรกที่อัลบั้มถูกปล่อยก็กลายเป็นอัลบั้มขายดีสุดประจำปี ส่วนอีกหนึ่งประเด็นที่ได้ทำให้สาวเทย์เลอร์อยู่ในสปอตไลต์ก็คือการชนะคดีการล่วงละเมิดทางเพศต่อเดวิด มุลเลอร์ ดีเจคลื่นวิทยุ KYGO-FM หลังในปี 2013 เทย์เลอร์โดนเดวิดจับบั้นท้าย ซึ่งสำหรับการชนะคดีนี้ เทย์เลอร์ก็เรียกเงินค่าเสียหายแค่ 1 เหรียญสหรัฐ และให้เหตุผลว่าเธอไม่ได้มาฟ้องเพื่ออยากได้เงิน แต่ทำเพื่อศักดิ์ศรีและความถูกต้องแน่นอนว่าเรื่องราวการล่วงละเมิดทางเพศได้กลายเป็นประเด็นที่ยิ่งใหญ่สุดของวงการฮอลลีวูดในปีนี้ และยังคงเป็นที่ติดตามทุกชั่วโมง โดยชนวนเกิดขึ้นจากบทความเปิดโปงหนึ่งในโปรดิวเซอร์มือทองของฮอลลีวูดอย่างฮาร์วีย์ ไวน์สตีน จาก The New York Times เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยกล่าวหาฮาร์วีย์ว่าล่วงละเมิดผู้หญิงมากมายในวงการทั้งแอชลีย์ จัดด์ ที่เคยโดนฮาร์วีย์เรียกเข้าไปคุยงานที่โรงแรม The Peninsula Beverly Hills เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนเธอกำลังถ่ายทำหนังเรื่อง Kiss the Girls (1997) ส่วนกวินเน็ธ พัลโทรว์ ก็ออกมายอมรับว่าฮาร์วีย์เรียกให้เธอไปหาที่โรงแรมขณะที่กำลังถ่ายหนังเรื่อง Emma (1996) ตอนเธออายุ 22 ซึ่งเธอก็ปฏิเสธเช่นกัน แต่กวินเน็ธก็ยังคงร่วมงานกับค่ายหนัง Miramax ของฮาร์วีย์อยู่บ่อยครั้ง แถมยังคว้ารางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากหนังเรื่อง Shakespeare in Love (1998) ซึ่งภาพที่หลายคนยังคงจดจำได้คือเธอยืนเคียงข้างกับฮาร์วีย์ ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของหนังในงานวันนั้นจากเหตุการณ์การล่วงละเมิดทางเพศของฮาร์วีย์ก็เหมือนระเบิดนิวเคลียร์ลง เพราะเป็นการแฉความลับของฮอลลีวูดที่มีมานาน คนทุกเพศทุกวัยเริ่มกล้าที่จะออกมาพูดประสบการณ์ตัวเอง และทำให้เห็นว่านี่เป็นมากกว่าแค่ปัญหาของอุตสาหกรรมบันเทิง แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก นักแสดงสาว อลิสซา มิลาโน ก็ได้ขยายการสนทนาเหตุการณ์นี้กับการทวีตข้อความให้คนติดแฮชแทก #MeToo หากเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งผลลัพธ์คือวันต่อมามีมากกว่า 30000 คนที่ทวีตด้วยแฮชแท็กเดียวกัน พิธีกรอย่างเอลเลน ดีเจเนอเรส ก็เป็นอีกคนที่มีส่วนร่วมด้วย แต่หากใครสงสัยว่าชื่อ #MeToo มาจากไหน ต้นตอก็เกิดจากองค์กรไม่หวังผลกำไรของทารานา เบิร์ก ที่ก่อตั้งในปี 2006 ในการช่วยเหลือผู้หญิงที่เคยผ่านการล่วงละเมิดทางเพศหันมาที่ตัวเนื้องานของอุตสาหกรรมฮอลลีวูด เราก็ได้เห็นว่าในปี 2017 บทบาทของผู้หญิงก้าวหน้าขึ้นมาก และไม่ได้เป็นแค่ตัวรองอีกต่อไป เริ่มจากความสำเร็จของหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง (2017) ของผู้กำกับสาว แพตตี้ เจนกินส์ ที่ทำเงินในบ็อกซ์ออฟฟิศสูงถึง 800 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก และด้านคำวิจารณ์ยังติด Top 10 หนังยอดเยี่ยมแห่งปีของ American Film Institute อีกด้วย ซึ่งเป็นการลบคำครหาว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีตัวละครเป็นผู้หญิงไม่สามารถทำเงินได้ แถมสำหรับหนังภาคต่อ Wonder Woman 2 แพตตี้ก็จะได้รับค่าจ้างสูงถึง 7-9 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้เธอเป็นผู้กำกับหญิงที่ได้เงินค่าตอบแทนสูงสุดตลอดกาล ต่างจากภาคแรกที่เธอได้ค่าจ้างแค่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งก็ถือว่าน้อยมากหากเทียบกับค่าตัวผู้กำกับชายในฮอลลีวูดสำหรับการกำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่ ผู้กำกับ แพตตี้ เจนกินส์ (ขวา) ขณะถ่ายทำหนัง Wonder Womanผู้กำกับ เกรตา เกอร์วิก (ขวา) ขณะถ่ายทำหนัง Lady Birdส่วนหนังเรื่อง ของผู้กำกับสาว เกรตา เกอร์วิก กลายเป็นหนังที่ได้คะแนนนิยมจากการรีวิวบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงสุดตลอดกาล และกลายเป็นหนังของผู้กำกับหญิงฟอร์มเล็กที่ทำยอดเงินได้สูงสุดต่อโรงในประวัติศาสตร์หลังฉายอย่างจำกัดโรงที่ลอสแอนเจลิสและนิวยอร์ก แถมหนัง เวอร์ชัน Live Adaption ของดิสนีย์ ที่นำแสดงโดย เอ็มมา วัตสัน ก็เป็นหนังทำเงินสูงสุดในปีนี้ด้วยยอดสูงถึง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งก็เป็นภาพยนตร์ที่ใช้ตัวละครผู้หญิงดำเนินเรื่องเป็นหลักเข้าสู่ปี 2018 เราเชื่อว่าบทบาทของผู้หญิงในวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์จะยังคงเข้มข้น จุดยืนที่สร้างยิ่งมั่นคงและทำให้เห็นว่านี่ไม่ใช่เทรนด์ที่จะเลือนหายไปในอีกไม่กี่เดือน แต่เป็นการเปลี่ยนสังคมอย่างจริงจัง ทั้งยังสร้างอนาคตสำหรับผู้หญิงรุ่นต่อไปให้มีความเท่าเทียม ไม่ว่าจะในอุตสาหกรรมใดๆหลายคนอาจคิดว่าอย่าได้แคร์ เพราะนี่เป็นเพียงวัฒนธรรมของอุตสาหกรรมบันเทิงฝั่งตะวันตก ซึ่งไม่ได้ส่งผลอะไรต่อสังคมไทย แต่เรากลับมองว่าสิ่งนี้สำคัญมาก นักวิชาการจะเถียงกันถึงขั้นไหน เทคโนโลยีจะก้าวไกลอย่างไร แต่วงการบันเทิงฮอลลีวูดก็ยังคงเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีพลังมากสุดในโลก ซึ่งไม่ผิดเลยถ้าผู้หญิงในบ้านเราอยากทาปากเหมือนไคลี เจนเนอร์ แต่งตัวเหมือนจีจี้ ฮาดิด หรือถ่ายเซลฟี่องศาเดียวกับคิม คาร์ดาเชียน เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกเธออยากสะท้อนออกมาผ่านความภูมิใจในความเป็นหญิง ไม่ว่าจะเกิด เติบโต และมีชีวิตที่ใด ก็เป็นความภูมิใจที่ไม่ได้เกิดจากการบังคับว่าผู้หญิงควรเป็นอย่างไร นาทีนี้ 2017 คือปีของผู้หญิงโดยแท้ลีนา เวธ ผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ชนะรางวัล Emmy Awards ในสาขาเขียนบทซีรีส์ตคอเมดี้นักแสดงจากซีรีส์ Big Little Lies ที่งาน Emmy Awards อ้างอิง: | เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2017 ผู้คนราว 3-5 ล้านคนทั่วโลกต่างออกมาเดินขบวนชุมนุมภายใต้ชื่อ Womens March เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ และเราได้เห็นเหล่าดาราอย่าง เชอร์ เอ็มมา วัตสัน และมาดอนน่า ออกมาเดินด้วยเซเลนา โกเมซ ก็เป็นอีกหนึ่งนักร้องสาวที่ขับเคลื่อนวงการในหลายภาคส่วน เริ่มจากการออกมาเล่าเรื่องราวที่เพื่อนสนิทของเธออย่างนักแสดงสาว ฟรานเซีย เรซา ได้ยอมปลูกถ่ายไตให้ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เรื่องราวการล่วงละเมิดทางเพศก็ได้กลายเป็นประเด็นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฮอลลีวูดในปีนี้ โดยชนวนเกิดขึ้นจากบทความเปิดโปงหนึ่งในโปรดิวเซอร์มือทองของฮอลลีวูดอย่าง ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน และทำให้เกิดกระแส #MeToo ต่อมาเพราะความสำเร็จของหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง Wonder Woman ของผู้กำกับสาว แพตตี้ เจนกินส์ สำหรับหนังภาคต่อ Wonder Woman 2 เธอจะได้รับค่าแรงสูงถึง 7-9 ล้านเหรียญ ซึ่งจะทำให้เธอเป็นผู้กำกับหญิงที่ได้เงินค่าตอบแทนสูงสุดตลอดกาล | null | null | https://thestandard.co/hollywood-actress-2017/ |
ประกาศ ฉ.4 อากาศแปรปรวน เหนือฝนตกก่อนหนาว-ใต้ฝนมาก คลื่นลมแรง | ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 06 พฤศจิกายน 2559, , ,ในช่วงวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2559 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรงเกิดขึ้น หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส โดยจะเริ่มมีผลกระทบบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย,สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง สำหรับชาวเรือขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย,อนึ่ง ในช่วงวันที่ 6-7 พฤศจิกายน 2559 พายุดีเปรสชันบริเวณด้านตะวันตกของประเทศเวียดนามตอนล่าง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะเข้าปกคลุมประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นและจะมีกำลังอ่อนลง ซึ่งส่งผลให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างจะมีฝนเกิดขึ้นได้ในระยะนี้, ,ประกาศ ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 05.00 น.,กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 11.00 น. | กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 4 ความแปรปรวนของอากาศปะเทศไทยตอนบน มีฝนตกก่อนที่อุณหภูมิลดวูบ 3-5 องศาฯ ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักคลื่นลมแรงในระยะนี้ ให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ | null | อุตุ,กรมอุตุนิยมวิทยา,ประกาศอุตุ,อากาศแปรปรวน,หนาว,อากาศหนาว,สภาพอากาศ,พยากรณ์อากาศ | https://www.thairath.co.th/content/775026 |
กพท.จ่อประกาศคืนนี้ งดเครื่องบินทั่วโลกเข้าประเทศไทย 3 วัน | วันนี้ (3 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ว่า จากปัญหาความวุ่นวายที่สนามบินสุวรรณภูมิที่ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วไม่ยอมถูกกักตัว 14 วัน ตามประกาศของ กพท. และตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายดังนั้นทาง กพท. จะประกาศห้ามเครื่องบินจากทุกประเทศและผู้โดยสารเข้าประเทศไทย จำนวน 3 วัน โดยมีผลตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันทาง กพท. ได้มีการประสานงาน ยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานงานไปยังแต่ละประเทศว่าประเทศไทยจะมีการออกประกาศดังกล่าว ห้ามไม่ให้สายการบินนำผู้โดยสารและเครื่องบินเข้าประเทศไทยขณะเดียวกันทาง กพท.จะรวบรวมว่า ในช่วงนี้มีสายการบินอะไรบ้างที่แจ้งว่าจะทำการบินเข้าประเทศไทย กี่เที่ยวบิน มีผู้โดยสารจำนวนเท่าไหร่เพื่อรวบรวม ข้อมูล อย่างไรก็ตามทาง กพท. จะออกประกาศภายคืนนี้ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะเดียวกันจากปัญหาที่เกิดขึ้นที่สนามบินที่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยไม่ยอมกักตัวตามคำแจ้งของเจ้าหน้าที่นั้น ในทางปฏิบัติขณะนี้ ทางฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจ จะมีการไปเชิญตัวผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยในวันนี้ กลับมากักตัวตามที่สถานที่ราชการกำหนด ซึ่งจะเป็นที่สัตหีบและกำแพงแสน รวมถึงโรงแรมต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการกับรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอ่าน | กพท.จ่อออกประกาศห้ามทุกสายการบินต่างประเทศ นำผู้โดยสารเข้าประเทศไทย ตั้งแต่คืนนี้ จำนวน 3 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 หลังจากผู้โดยสารก่อความวุ่นวาย และไม่ยอมกักตัวตามที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน | เศรษฐกิจ | COVID-19,กพท.,COVID19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 | https://news.thaipbs.or.th/content/290656 |
วิลาศ ปูด สัญญาขยายสร้างสภา ครั้งที่ 3 ผิดข้อเท็จจริง ส่งมอบพื้นที่ไปแล้ว | วันที่ 3 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติ มิชอบ สภาฯ แถลงข่าว เรื่อง ค่าโง่การก่อสร้างสภา ใครต้องรับผิดชอบ ว่า การต่อขยายสัญญาในการก่อสร้างสภา ถึง 4 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 1864 วัน มากกว่าสัญญาจริง ที่ทำไว้กว่าเท่าตัว ตนจึงจำเป็นต้องออกมากล่าวหา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เหตุที่ไม่กล่าวหาบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เพราะเป็นบริษัทเอกชน ตั้งมาเพื่อค้ากำไรเป็นปกติของพ่อค้า แต่คนที่รับผิดชอบ มีหน้าที่ติดตามทักท้วง ตรวจสอบ การทุจริต หรือข้อพิรุธ ตลอดจนการก่อสร้างว่า ถูกแบบแปลนหรือไม่ เป็นหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภา และเลขาฯ ทั้งนี้ในการขอขยายสัญญาครั้งที่ 1 เลขาธิการสภา คนปัจจุบันร่วมเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ขยายสัญญาได้ 387 วัน อ้างว่า มีอุปสรรคเกิดจากสิ่งก่อสร้างและการขนย้ายดิน ขยายสัญญาครั้งที่ 2 อีก 421 วัน อ้างว่าอุปสรรคจากการขนย้ายดิน ซึ่งตนพอรับได้นายวิลาศ กล่าวต่อว่า แต่กลับมีการขอขยายสัญญาครั้งที่ 3 อีก 674 วัน โดยอ้างว่าส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ทั้งที่ข้อเท็จจริงทางสภา ได้ส่งมอบพื้นที่โรงเรียนโยธินบูรณะ และพื้นที่ใกล้เคียงไปหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 59 แต่ในการเซ็นขยายเวลาในสัญญาครั้งที่ 3 ในวันที่ 16 ม.ค. 61 ซึ่งได้ส่งมอบที่ดินทั้งหมดไปแล้วเป็นเวลาเกือบปีครึ่ง แต่กลับมีบันทึกแก้ไขเพิ่มเติมแนบท้าย การขอขยายสัญญาก่อสร้างครั้งที่ 3 ตั้งแต่วันที่ ก.พ.61 ถึง 15 ธ.ค. 62 อ้างอุปสรรคการส่งมอบที่ดิน ตนสงสัยว่าเป็นการทำสัญญาเท็จใช่หรือไม่ เพราะเหตุผลที่อ้างขยายสัญญาครั้งที่ 3 ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทั้งที่ควรจะต้องมีการปรับบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ก่อสร้างล่าช้า ไม่เป็นไปตามสัญญา วันละ 12.2 ล้านบาทเศษ และเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 63 บริษัทผู้รับจ้างได้ฟ้องสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวน 1596 ล้านบาท โดยสภาฯรับหมายศาลวันที่ 22 เม.ย. 63 และต้องทำคำให้การเสนอต่อการภายในวันที่ 20 มิ.ย. 63นายวิลาศ กล่าวต่อว่า แต่จากข้อมูลสัญญาการก่อสร้างในข้อที่ 1 ระบุว่า ในกรณีที่มีการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ผู้รับจ้างไม่อาจเรียกค่าเสียหายใดๆ จากผู้ว่าจ้างได้ หรือหากผู้ว่าจ้างไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญา และผู้รับจ้างไม่อาจเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากผู้ว่าจ้างได้เช่นกัน และในข้อที่ 24.1 วรรค4 ของสัญญาการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ยังระบุว่า ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย หรือเหตุใดๆ อันเนื่องมาจากความผิดหรือความบกพร่องของฝ่ายผู้ว่าจ้าง ทำให้ผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จตามเงื่อนไขและกำหนดระยะเวลาการทำการตามสัญญานี้ได้ ผู้รับจ้างจะต้องแจ้งเหตุหรือพฤติการณ์ดังกล่าวพร้อมหลักฐานเป็นหนังสือให้ผู้ว่าจ้างทราบ เพื่อขอขยายเวลาทำงานออกไปภายใน 15 วัน นับจากวันที่เหตุหรือพฤติการณ์นั้นสิ้นสุดลง ทั้งนี้ผู้รับจ้างต้องแสดงให้เห็นด้วยว่าผู้รับจ้างได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยง หรือลดผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่มีผลต่อการแล้วเสร็จของงานทั้งหมด หรือบางส่วน เพื่อให้งานดังกล่าวแล้วเสร็จล่าช้าน้อยที่สุด ถ้าผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตาม ในวรรคก่อน ให้ถือว่าผู้รับจ้างไว้สละสิทธิ์เรียกร้องในการที่จะขอขยายระยะเวลาทำงานออกไป โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เว้นแต่กรณีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของฝ่ายผู้ว่าจ้าง ซึ่งมีหลักฐานชัดแจ้ง หรือผู้ว่าจ้างทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่ต้นผมเห็นว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากผู้ว่าจ้างได้ นอกจากนี้ ยังพบการก่อสร้างที่ผิดไปจากแบบแปลนไปถึง 8 กรณี เช่น การปูพื้นไม้ตะเคียนทอง ซึ่งไม้ที่ปูจะเป็นไม้ดังกล่าวหรือไม่ ซ้ำยังปูพื้นไม้ห่างกันเป็นเซนติเมตร ชนิดงูสามารถเลื้อยผ่านได้ จึงขอให้ข้าราชการรัฐสภา ร่วมกันส่งข้อมูลรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม และขอให้ผู้ใหญ่ในสภา ที่ชอบข่มขู่ข้าราชการว่าให้ระวังเรื่องการส่งข้อมูลให้คนนอก ว่าตนจะติดตามตรวจสอบในเรื่องนี้ต่อไป นายวิลาศ กล่าว. | วิลาศ ปูด สัญญาขยายสร้างสภาฯ ครั้งที่ 3 ผิดข้อเท็จจริง เหตุส่งมอบพื้นที่หมดแล้ว แต่กลับทำสัญญาขยายสัญญาภายหลัง ทั้งที่ต้องปรับวันละ 12.2 ล้าน ชี้ บ.รับเหมาเรียกค่าเสียหายจากสภาฯไม่ได้ | ข่าว,การเมือง | โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,ไวรัสโคโรนา,วิลาศ จันทร์พิทักษ์,ประชาธิปัตย์,ก่อสร้างรัฐสภา,ขยายสัญญาก่อสร้าง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1836026 |
วิกฤติภัยแล้ง เกษตรกร ร้องไม่มีน้ำให้สัตว์กิน หลังชาวนาสูบน้ำทำนาปรัง | วันที่ 12 มี.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายใจเพชร ขวาลำธาร ปลัดอำเภอชนบท จ.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีมีชาวบ้านหนองเบ็ญ หมู่ 9 ต.โนนพะยอม อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ร้องเรียนกรณีมีชาวนาในพื้นที่ที่ฝ่าฝืนประกาศจากทางจังหวัด ทำนาปรังกว่า 7 ไร่ ในหมู่บ้าน โดยสูบน้ำจากหนองเบ็ญ ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะของหมู่บ้านเนื้อที่ 14 ไร่ ไปใส่นาปรังของตัวเองเพียงคนเดียว,กระทั่งล่าสุด ขณะนี้น้ำในหนองเบ็ญไม่มีเหลือสำหรับชาวบ้านคนอื่น ที่ต้องการใช้น้ำในการเลี้ยงสัตว์ในช่วงหน้าแล้งนี้ จนชาวบ้านกว่า 1,200 หลังคาเรือนต้องเปิดน้ำใส่โอ่งเอาไว้สำหรับให้สัตว์เลี้ยงกิน อย่างน้อยครัวเรือนละ 5 ใบ สำหรับโอ่งที่ต้องทำการกักเก็บน้ำเอาไว้ และหลังจากนี้ไม่กี่วันคาดว่าจะไม่พอสำหรับการอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน,นายใจเพชร กล่าวว่า เบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าหนองน้ำสาธารณะแห่งนี้เริ่มแห้งขอด ซึ่งได้มีการเรียกให้เจ้าของนาปรัง เข้าเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่ได้รับการปฏิเสธ ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะส่งหนังสืออย่างเป็นทางการอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันในภาพรวมทั้งหมด โดยหนองน้ำสาธารณะหนองเบ็ญ ตำบลโนนพะยอม อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่กว่า 14 ไร่ เป็นหนองน้ำที่ขุดลอก จากงบประมาณท้องถิ่น,สำหรับ เลี้ยงสัตว์ในหมู่บ้านและการเกษตร แต่ในช่วงฤดูแล้ง ห้ามไม่ให้ดึงน้ำไปทำการเกษตร เนื่องจากพื้นที่ตำบลโนนพะยอม เป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน และยังต้องใช้เป็นหนองน้ำสำรองในการผลิตประปาหมู่บ้านเพื่ออุปโภคบริโภค กว่า 1,200 ครัวเรือน ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำชี ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุน ของหนองน้ำสาธารณะในชุมชน ก็เริ่มแห้งขอดเช่นกัน ทำให้ขณะนี้ก็ไม่สามารถผันน้ำจากที่อื่นมาเติมใส่ได้ และขอความร่วมมือชาวบ้านและเกษตรกรให้งดการทำนาปรังอย่างเด็ดขาด และปลูกพืชใช้น้ำน้อยเท่านั้น เพื่อให้ทุกครัวเรือนสามารถผ่านวิกฤติภัยแล้งเข้าสู่ฤดูฝนในอีก 3 เดือนนี้. | เกษตรกรขอนแก่น ร้องไม่มีน้ำเลี้ยงสัตว์ในช่วงหน้าแล้ง หลังมีชาวนาสูบน้ำทำนาปรัง ขณะที่ปลัดอำเภอขอความร่วมมือให้งดการทำนาปรังเด็ดขาด โดยปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยเท่านั้น | ข่าว,ทั่วไทย | ภัยแล้ง,หน้าแล้ง,เกษตรกร,เลี้ยงสัตว์,ขอนแก่น,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1517176 |
หยุดซ้ำเติม เปิดปมสาวด่าคนดูละคร บุพเพสันนิวาส แท้จริงเป็นเด็กพิเศษ | เป็นประเด็นที่โต้เถียงกันสนั่นโซเชียล หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง อัดคลิปโพสต์ด่าคนที่ดูละครเรื่อง ,บุพเพสันนิวาส, ว่าเป็นคนที่ไม่ทำมาหากิน ไม่มีงานจะทำ อีกทั้งยังด่าไปถึงพระเอกนางเอก ทำเอาชาวเน็ตที่เข้ามาชมต่างวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก,จากนั้น ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ,Watanyoo Madchoochot, โพสต์ชี้แจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้หญิงคนดังกล่าว ระบุข้อความว่า วอนสังคมเลิกแชร์คลิปเขาและทำคลิปล้อเลียนเถอะครับ ผมขอชี้แจงรายละเอียดให้เข้าใจ ดังนี้,1. ต้องขอโทษแทนเขาจริงๆ เพราะเขาเป็นคนที่มีความต้องการพิเศษ เป็นศิษย์คนหนึ่งที่ผมรู้จักมาตั้งแต่ปี 2557 และรับรู้ได้ว่าพื้นฐานทางด้านอารมณ์และจิตใจเป็นอย่างไร,2. เลิกแชร์เลิกทำคลิปล้อเลียนเขาเถอะ เราควรช่วยเหลือกันไม่ควรซ้ำเติม อย่าพยายามใช้ช่องทางสื่อมาทำร้ายกัน การจะทำอะไรควรใช้สติในการทำ ให้รู้ข้อมูลที่แท้จริงก่อน ไม่ใช่เห็นแต่สนุกและสร้างกระแสอย่างเดียว,3. ขอย้ำนะครับ ว่าเขาเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ไม่ใช่คนบ้า เพราะคนบ้าไม่สามารถเรียนร่วมกับคนอื่นได้ ไม่สามารถทำกิจกรรมทางสังคมร่วมกับคนอื่นได้ แต่การควบคุมอารมณ์เขาไม่สามารถทำได้เหมือนคนปกติทั่วไป ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ หากใครได้ใกล้ชิดจะรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร,4. ผมและทีมอาจารย์ได้เข้าไปที่บ้านเขาแล้ว และได้พูดคุยเป็นที่เรียบร้อย สภาพจิตใจตอนนี้แย่มาก เขาฝากขอโทษสำหรับวาจาและการกระทำที่แสดงออกไป,5. จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุด และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก,6. ฝากถึงสื่อและเพจต่างๆ ที่เอาคลิปและเรื่องราวของเขาไปลง ลบเถอะครับ อย่ายิ้มบนความทุกข์ของคนอื่นเลย,7. ถ้าอยากทราบว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไรจริงหรือไม่ ให้มาหาผมได้เลยครับ ผมทำงานในพื้นที่มา 8 ปีแล้ว เรามาช่วยกันสร้างสรรค์ประเทศไทยปลายด้ามขวานด้วยกันดีกว่า อย่ามัวทำร้ายกันเลย มาช่วยกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยทั้งภายนอกและภายในจิตใจกันดีกว่า.,(ภาพและข้อมูล จากเฟซบุ๊ก ,Watanyoo Madchoochot,) | วอนหยุดซ้ำเติม! หนุ่มเผยเหตุสาวโพสต์คลิปด่าคนดูละคร บุพเพสันนิวาส แท้จริงเป็นคนที่มีความต้องการพิเศษ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้เหมือนคนทั่วไป พร้อมฝากขอโทษสำหรับสิ่งที่ทำออกไป | ข่าว,สังคม | สาวด่าละคร,บุพเพสันนิวาส,คลิปล้อเลียน,สาวด่าคนดู,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1236626 |
โปเช็ตติโน คำราม ไก่ยังไม่ยอมลุ้นแชมป์ลีก ชม เคน ซ้อมหนักจนได้ดี | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 5 มี.ค. ว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตเสปอร์ส ยืนยันว่าทีมของเขายังหวังลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก แม้มีแต้มตามหลัง เชลซี จ่าฝูงถึง 7 แต้มแถมแข่งมากกว่า 1 นัด,สเปอร์ส เก็บชัยในลีก 8 เกมติดต่อกันหลังเปิดสนามไวท์ฮาร์ทเลนเฉือนเอาชนะ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน แบบหืดจับ 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันนี้,โดยหลังเกม โปเช็ตติโน ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องสำคัญที่สุดคือการโชว์ความเชื่อมั่นในสนามและวันนี้ผมคิดว่าเราแสดงให้เห็นถึงสิ่งนั้น มากกว่าการพูดและยิ่งไปกว่าการพูดนอกสนาม มันจะดีกว่าหากทีมทีมโชว์ให้เห็นถึงฟอร์มของพวกเขาเพราะผมคิดว่าความเชื่อมั่นคือคำตอบแห่งความง่ายดาย,เราต้องอยู่ที่นั่น (ลุ้นแชมป์) แน่นอนมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา แต่มันขึ้นอยู่กับเราที่จะพร้อมถ้าพวกเขาพลาด,นอกจากนี้ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ยังพูดถึง แฮร์รี เคน ศิษย์รักที่สวมบทฮีโร่กดสองประตูในเกมนัดนี้ว่า ผมคิดว่าเขาสดมากเพราะเขาซ้อมอย่างหนัก เขาซ้อมสองครั้งหนักมาก และเขาคือมืออาชีพมาก,ถ้าคุณนอน คุณกิน คุณลืมซ้อม บางทีคุณก็อาจอ้วน เหมือนผมนี่แหละ คุณจะวิ่งไม่ได้ ผมคิดว่ามันเกี่ยวกับความสม่ำเสมอและการฝึกซ้อม เขาโฟกัสถึงการซ้อมมากในตอนนี้และดูแลตัวเองและคุณก็เห็นแล้วว่าเขาเป็นยังไง | เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส คำรามทีมของเขายังไม่ยกธงขาวลุ้นแชมป์ลีก พร้อมกับชม แฮร์รี เคน ดาวยิงตัวเก่งของทีมที่ซ้อมหนักจนโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมออกมา | null | พรีเมียร์ลีก,ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส,แฮร์รี เคน,ข่าวกีฬา,เมาริซิโอ โปเช็ตติโน | https://www.thairath.co.th/content/875355 |
จับสมาชิกกลุ่ม โบโบ้ ตั้งกลุ่มไลน์ ดูคลิป-นัดสวิงกิ้งหมา | นายปิยฉัตร สูริกัน สารวัตรกรมปศุสัตว์ ด่านกักกันสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ และ นางสาวนรินทร์รัช นันทวัน ณ อยุทยา เจ้าหน้าที่มูลนิธิ WATCHDOG THAILAND นำคลิปและหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินคดีข้อหาทารุณกรรมสัตว์ กับกลุ่มโบโบ้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรสนิยมชอบมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยง หลังชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนว่า กลุ่มโบโบ้ ที่มีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ ได้ตั้งกลุ่มย่อยตามจังหวัดต่างๆ เพื่อเปิดรับสมาชิกใหม่และนัดหมายทำกิจกรรมร่วมกัน,โดยที่เชียงใหม่ พบผู้ใช้เฟซบุ๊ก บอม หลบมุม เป็นหัวหน้าสาย ตั้งกลุ่มไลน์เปิดรับสมาชิก ซึ่งผู้ที่ต้องการเข้าไลน์กลุ่ม ต้องจ่ายค่าสมาชิกคนละ 200 บาท เพื่อเข้าไปดูคลิป ที่สมาชิกมีเพศสัมพันธ์กับสุนัข และแต่ละเดือนจะเปิดโอกาสให้สมาชิกมาร่วมสวิ้งกิ้งกับสุนัข โดยเสียค่าใช้จ่าย หากสมาชิกรายใดสนใจก็สามารถเลือกสุนัขได้ โดยกลุ่มโบโบ้มีสุนัขให้เลือกประมาณ 10 ตัว,ซึ่วต่อมา สืบทราบว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว เปิดร้านขายสุราอยู่ในพื้นที่อำเภอสันกำแพง และมีการนัดสมาชิกให้ไปมีเพศสัมพันธ์กับสุนัข ที่ร้านเป็นประจำ โดยที่ผ่านมามีสุนัขถูกทารุณกรรมมากกว่า 15 ตัว ซึ่งกลุ่มโบโบ้ จะทำทีเป็นคนใจดีรับสุนัขจรจัดมาเลี้ยง เมื่อโตพอก็จะเปิดให้สมาชิกมีเพศสัมพันธ์ด้วย,ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม ชายซึ่งคาดว่าเป็นบุคคลในคลิป เนื่องจากมีรอยสักเหมือนกันได้แล้ว ที่ร้านหลบมุม พร้อมคลิปหลักฐานการกระทำชำเราน้องหมา นำส่งตัวให้ สภ.สารภี ดำเนินการต่อไป เบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่า น้องหมาในคลิปตายแล้ว เนื่องจากถูกวางยาเบื่อ.,(ภาพจากเฟซบุ๊กเพจ ,WATCHDOG THAILAND,) | ตามรวบ บอม หลบมุม แก๊งโบโบ้ ตั้งกลุ่มไลน์เปิดรับสมัครสมาชิก เพื่อดูคลิป และนัดสวิงกิ้งกับสุนัข พบทำทีใจดีเลี้ยงหมาจรจัด พอโตมาก็จะเปิดให้สมาชิกมีเพศสัมพันธ์ด้วย | ข่าว,สังคม | มีเพศสัมพันธ์กับหมา,สวิงกิ้งกับหมา,เชียงใหม่,กรุ๊บไลน์,โบโบ้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1406645 |
การเมืองฉุดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ต่ำสุดในรอบ 22 เดือน | ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ระดับ 76.6 และเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 22 เดือน เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทย และเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน ส่งผลให้การจับจ่ายของประชาชนชลอตัวศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯประเมินสถานการณ์การเมืองออกเป็น 2 กรณี กรณีแรกหากการชุมนุมยืดเยื้อ และอยู่ภายใต้ความสงบเรียบร้อย ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ประมาณ 10000-20000 ล้านบาท แต่หากสุ่มเสี่ยงเกิดความรุนแรง ความเสี่ยงหายทางเศรษฐกิจจจะอยู่ที่ประมาณ 30000-60000 ล้านบาทขณะที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังประเมินว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ จะอาจจะขยายตัวไม่ถึงร้อยละ 3 เนื่องจากมีปัจจัยกดดัน จากปัญหาการเมือง ซึ่งกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ และ 3 เดือนแรกของปีหน้า พร้อมแสดงความกังวลว่าเหตุการณ์การเมืองอาจส่งผลให้ไทยถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ | สถานการณ์ทางการเมืองที่มีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ลดต่ำลงในรอบ 22 เดือน | เศรษฐกิจ | การเมือง,ชุมนุม,ดัชนีเชื่อมั่น,ผู้บริโภค,เศรษฐกิจ | https://news.thaipbs.or.th/content/210101 |
แก๊งลัก จยย.ป่วน งานแข่งเรือนครพนม หาย 6 คันรวด ตั้งนำจับ 1.5 หมื่น | คาดเชื่อมโยงแก๊งโจรกรรมข้ามชาติ เตือนชาวบ้านระมัดระวัง,เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2558 นายเพิ่มทรัพย์ สุขวิพัฒน์ อายุ 50 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมด้วย นายสุรพันธ์ แสงตาสุ่ย อายุ 47 ปี ช่าว ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม และชาวบ้านผู้เสียหายกรณีรถจักรยานยนต์หาย รวมกันถึง 6 คันรวด พร้อมเอกสารหลักฐานการแจ้งความและเอกสารการครอบครองรถ ร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองนครพนม เพื่อร้องเรียนผ่านสื่อ วิงวอนไปยังตำรวจและหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งรัดการติดตามรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม และเป็นการประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน ช่วยตรวจสอบ รวมถึงแจ้งเบาะแส หลังจากลูกชายพากันขี่รถจักรยานยนต์ ไปจอดไว้บริเวณลานจอดรถ ข้างหอเฉลิมพระเกียรติพระราชวงศ์จักรี ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เพื่อไปชมการแสดงดนตรีหมอลำ ในงานประเพณีแข่งเรือยาวของเทศบาลตำบลหนองญาติ เมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งถูกโจรกรรมหายไป รวมกันถึง 6 คันรวด ส่วนใหญ่เป็นรถสภาพใหม่ ซื้อมาใช้งานได้ประมาณไม่เกิน 1 ปี บางคันเพิ่งซื้อได้ 3 เดือน,โดย นายสุรพันธ์ กล่าวว่า ลูกชายกับเพื่อนในหมู่บ้านประมาณ 10–20 คน จอดรถในลานจอดรถใกล้กับงาน เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง กลับมายังรถจักรยานยนต์ที่จอดในจุดเดียวกันหายไปถึง 6 คัน มูลค่าร่วม 2 แสนบาท แบบไร้ร่องรอย มีผู้เสียหายในหมู่บ้าน รวม 4 คัน และตำบลใกล้เคียงอีก 2 คัน เชื่อว่าจะเป็นการทำเป็นขบวนการ อาศัยช่วงจังหวะงานบุญประเพณี ภายหลังไปแจ้งตำรวจติดตามแต่ยังไม่พบเบาะแส จึงฝากไปยังตำรวจ ให้เร่งรัดติดตามคนร้ายให้ด้วย เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมาก ซื้อมาจากน้ำพักน้ำแรง ส่วนใหญ่มีแต่สภาพใหม่ บางคันไม่ถึงปี ซื้อมาได้ 3 เดือน เพิ่งได้ป้ายทะเบียน ต้องผ่อนกุญแจไว้ดูต่างหน้า ฝากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองหาทางติดตามจับกุม ปราบปรามแก๊งโจรกรรม สร้างความเดือดร้อนชาวบ้าน ยอมรับว่าเกิดเรื่องแบบนี้ไปไหนมาไหน รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเลย หากปล่อยไว้แบบนี้ชาวบ้านเดือดร้อนหนักแน่,ด้าน พ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนม กล่าวว่า สำหรับปัญหาชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากปัญหารถจักรยานยนต์หาย หลังไปเที่ยวงานประเพณีแข่งเรือของเทศบาลตำบลหนองญาติ เวลากลางคืน หลังรับแจ้งเหตุ ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ รวมถึงเก็บหลักฐานในพื้นที่ พบว่าไม่มีกล้องวงจรปิด เชื่อว่าขบวนการโจรกรรมมีการวางแผนเป็นอย่างดี น่าจะเป็นมืออาชีพ ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งสืบสวนติดตามจับกุม ,เบื้องต้นมุ่งประเด็น เชื่อมโยงแก๊งโจรกรรมข้ามชาติ ที่อาจจะโจรกรรมส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้ประสานทุกหน่วยงานตามแนวชายแดนสกัดกั้นตรวจสอบต่อเนื่อง ที่ผ่านมาในพื้นที่เคยมีปัญหาบ้างแต่ไม่มาก และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการวางมาตรการป้องกันปราบปรามต่อเนื่อง แต่อาจจะมีการฉวยโอกาส ในช่วงงานบุญประเพณี ที่มีการดูแลลำบาก เพราะมีรถมาจอดจำนวนมาก,อย่างไรก็ตาม ฝากถึงประชาชนในช่วงนี้ใกล้งานเทศกาลออกพรรษาไหลเรือไฟ ที่อาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพ แก๊งโจรกรรม ฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุ จะต้องช่วยกันสอดส่องดูแล หาทางป้องกันรถยนต์ รวมถึงรถจักรยานยนต์ด้วย เนื่องจากบางจุดทางตำรวจอาจไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง และฝากเตือนให้พี่น้องประชาชน จอดในจุดที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด | แก๊งลัก จยย.อาละวาด ฉวยโอกาสงานประเพณีแข่งเรือเทศบาลตำบลหนองญาติ คืนเดียวหาย 6 คันรวด ร้องตำรวจเร่งติดตาม เผยเดือดร้อนหนัก ด้าน นายก อบต.กุรุคุ ควักเงินส่วนตัว ตั้งรางวัลนำจับ 1.5 หมื่น ผกก.สภ.เมืองนครพนม สั่งล่าตัว | ข่าว,ทั่วไทย | แก๊งลักรถ,แก๊งขโมยจักรยานยนต์,ลักรถจักรยานยนต์,ประเพณีแข่งเรือ,รถหาย 6 คัน,เทศาบาลหนองญาติ,แก๊งโจรกรรม,กลุ่มมิจฉาชีพ,นายก อบต.กุรุคุ,อบต.กุรุคุ,สภ.เมืองนครพนม,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,นครพนม,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/533335 |
วีระ ธีรภัทร กับปัจฉิมกถา ถอดรหัสประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยา-สถาปนากรุงธนบุรี | เป็นเวลา 51 ปี หรือ 5 ทศวรรษแล้ว ที่มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ได้ถือกำเนิดขึ้นในวงวิชาการของประเทศไทย หากนับตั้งแต่ปี 2509 ซึ่งขณะนั้นยังมีสถานะเป็นเพียงโครงการ ก่อนที่ในต้น พ.ศ. 2521 จะได้จดทะเบียนก่อตั้งฐานะเป็นมูลนิธิตามกฎหมาย ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการผลิตและส่งเสริมให้มีตำราภาษาไทยที่มีคุณภาพ จากวันนั้นจวบวันนี้ ภารกิจสำคัญนั้นยังคงทำอย่างต่อเนื่องและจะยาวนานตลอดไป ปีนี้ พุทธศักราช 2560 มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ จับมือทำงานร่วมกับมูลนิธิโตโยต้า ประเทศไทย จัดสัมมนาวิชาการประจำปีในหัวข้อ 250 ปี เสียกรุงศรีอยุธยา-สถาปนากรุงธนบุรี 2310-2560 ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร กรุงเทพฯ มีการจัดเวทีเสวนาที่เกี่ยวข้องในอีกหลายหัวข้อย่อย ส่วนผู้ร่วมเสวนาเป็นนักวิชาการและบุคคลจากหลายแวดวง โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคอุษาคเนย์ หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำโดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะเลขานุการมูลนิธิ การจัดงานเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา มีไฮไลต์สำคัญหนึ่งที่น่าสนใจ ในช่วงท้ายสุดของการจัดเสวนาครั้งนี้ได้เชิญ วีระ ธีระภัทรานนท์ หรือวีระ ธีรภัทร นักจัดรายการวิทยุ นักเขียน คอลัมนิสต์ และพิธีกรที่มีลีลาและการพูดในการจัดรายการที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากล่าวปัจฉิมกถาในงานนี้ด้วย เปิดฉาก 30 นาทีแห่งปัจฉิมกถาจาก วีระ ธีรภัทร บรรทัดต่อจากนี้ไปคือ 30 นาทีที่น่าสนใจจากการเก็บความและเรียบเรียง ปัจฉิมกถาดังกล่าวเพื่อชวนสังคมขบคิดในห้วงเวลาที่บรรจบครบรอบ 250 ปีแห่งการเสียกรุงศรีอยุธยาและเริ่มต้นสถาปนากรุงธนบุรี หากแต่ปัจจุบันเราอยู่ในยุคสมัยที่เรียกว่ากรุงรัตนโกสินทร์ และกำลังคาดหวังว่าจะเป็นไทยแลนด์ 4.0 วีระ ธีรภัทร เป็นใคร หลายคนอาจแค่เคยได้ยินชื่อ หรือได้ยินเรื่องเล่าตามๆ กันมาว่าเป็นนักจัดรายวิทยุที่ฝีปากจัดจ้าน มีลูกล่อลูกชน กับต้นสายที่มักโทรเข้ามาร่วมพูดคุยในรายการ นอกจากจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเศรษฐกิจ เพราะเป็นอดีตนักข่าวเศรษฐกิจระดับบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์ค่ายสีบานเย็น แต่ก็ยังสนใจปัญหาบ้านเมืองอื่นๆ แม้กระทั่งเรื่องประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยว จบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์จากรั้วแม่โดม เรียกว่าคร่ำหวอดในแวดวงสื่อและติดตามเหตุบ้านการเมืองของประเทศนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใครพ.ศ. 2310-2325 ช่วงเวลาที่น่าสนใจของอยุธยา ผมอ่านหนังสือที่มูลนิธิที่ได้แปลเป็นภาษาไทย จากหนังสือที่ชื่อว่า Thailand: A Short History ของ เดวิด เค. วัยอาจ (David K. Wyatt) ที่ชื่อว่า ประวัติศาสตร์ไทยฉบับสังเขป ในหน้า 176 มีข้อความที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นบทสรุป กล่าวคือในปี 2324 ความคิดส่วนใหญ่ในกลุ่มคนชั้นนำได้เริ่มปรากฏออกมาว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีจะต้องถูกปลดจากบัลลังก์เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม ผมหยิบคำพูดในหน้า 176 มา ณ ที่นี้เพื่อจะบอกว่า ช่วงสมัยที่เรากำลังพูด ถ้าเรามองเฉพาะการเสียกรุงศรีอยุธยาในปี 2310 แล้วมองการเปลี่ยนแปลงในช่วงก่อนหน้าหลังอาจจะต่อภาพได้ไม่ชัด ผมว่าบทสรุปการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี ถ้ามีฉันทามติมาตั้งแต่ปี 2324 ตามบทสรุปที่เป็นข้อสังเกตของ เดวิด เค. วัยอาจ ซึ่งหนังสือเล่มนี้น่าอ่านมาก เชื่อมโยงได้น่าสนใจ และผมคิดว่ายังไม่เห็นตำราของนักประวัติศาสตร์ไทยที่เขียนเรื่องเกี่ยวกับอยุธยาทั้งผืนได้อย่างสนุกสนาน ต่อร้อยลำดับเรื่อง และวิเคราะห์ได้สนุกขนาดนี้ สิ่งที่ผมอยากจะตั้งเป็นข้อสังเกตถือว่าเป็นการสรุปรายการ เพราะท่านก็ฟังมา 4-5 หัวข้อ รวมทั้งการถกวงใหญ่เมื่อเช้านี้ ผมอยากให้มองแบบนี้ ผมถือว่าช่วงเวลาที่เราพูดกันอยู่นี้ ในความคิดเห็นของผม เวลาติดตามเรื่องของอยุธยา ผมคิดว่าช่วงเวลาประมาณ 24-25 ปี เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ คำถามคือช่วงเวลาไหน คำตอบก็คือตั้งแต่ พ.ศ. 2301 มาจบที่ พ.ศ. 2325 และถามว่าช่วงนี้เป็นช่วงเหตุการณ์อะไรนั้นจะได้อธิบายต่อ เริ่มต้นด้วยเหตุการณ์เสด็จสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ตามด้วย 2 รัชกาลคือ สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร และสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ แล้วต่อด้วยช่วงของ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี 24 ปีนี้มีช่วงคั่นที่น่าสนใจที่เป็นเหมือนช่วงคั่นที่จะมีการเล่นโอเปรา ทำไมถึงบอกว่าน่าสนใจ อาจจะตั้งข้อสังเกตอย่างนี้ ในช่วง 24 ปีนี้ ถ้าเราดูจะเห็นว่าในช่วงสำคัญก็คือปี 2310 คือ 10 ปีแรก เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 คำอธิบายที่ว่าเสียกรุงศรีอยุธยาเพราะอะไร เพราะเกิดความแตกแยกภายในหมู่ผู้นำไทย หรือพม่าแข็งแรงก็สุดแท้แต่ แต่ถึงกระนั้นก็น่าประหลาดสำหรับคนไทยที่ติดในขวดเวลาของประวัติศาสตร์นิยาย ยังมีการมาถามว่าใครเปิดประตูให้พม่าเข้ามา ผมว่ามันน่าตลกมาก ไม่ต้องเปิดครับประตู เพราะว่าเข้าออกได้หลายทาง ถึงวันนี้ยังมีการถามหาว่าใครเป็นไส้ศึก ผมมองว่าขณะนั้นทุกคนคงไม่คิดว่าใครเป็นไส้ศึก แต่ทุกคนต้องหาทางเอาตัวรอดเป็นสำคัญ รอดแบบไหน อย่างไร ทุกคนก็มีชะตากรรมต่างกัน ด้วยเหตุนี้ หลังจากเสียกรุงแล้วทำไมถึงมีการตั้งก๊กกันถึง 4-5 ก๊ก เพราะทุกคนต้องคิดล่วงหน้าว่าจะเอาอย่างนั้น แต่ละคนต้องมีคำตอบว่าจะทำแบบไหน ใครอยู่ในพื้นที่ที่พม่าไม่ได้เข้าไปอยู่ก็จะมีความยืดหยุ่นหน่อย จุดพลิกผันประวัติศาสตร์เสียกรุงศรีอยุธยา-สถาปนากรุงธนบุรี การสิ้นรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เป็นจุดพลิกผันของประวัติศาสตร์ต่อเนื่องของประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี และต่อเนื่องประวัติศาสตร์ช่วงต้นของรัตนโกสินทร์ ทำไมผมพูดอย่างนั้น คำตอบก็คือว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ที่สำคัญ 3 บุคคลคือ พระองค์แรก สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) และกรมพระราชวังบวรฯ เมื่อไปดูว่าแต่ละพระองค์มีพระชนมายุประมาณเท่าไร ในช่วงเวลานั้น รัชกาลที่ 1 พระชนมายุ 22 พรรษา ตอนที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระบรมโกศเสด็จสวรรคต เท่ากับตอนเสียกรุงครั้งที่ 2 พระองค์ท่านจะมีพระชนมายุ 31 พรรษา สมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งมีพระชนมายุมากกว่าประมาณ 1-2 พรรษา ถ้าผมจำไม่ผิดก็จะประมาณ 33-34 พรรษา ส่วนกรมพระราชวังบวรฯ เกิดปี 2286 มีพระชนมายุ 15 พรรษาตอนที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จสวรรคต ท่านพระชนมายุ 24 ปี ตอนเสียกรุงครั้งที่ 2 เราจะเห็นว่ากลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการยึดกรุงธนบุรี ยึดอยุธยามาจากจันทบุรี เป็นคนที่เกิดในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ซึ่งอาจจะยังไม่ได้รับราชการสูง เพราะอายุประมาณ 15 ปี สำหรับกรมพระราชวังบวรฯ ก็อาจเป็นแค่มหาดเล็ก รัชกาลที่ 1 พระชนมายุ 22 พรรษา ก็คงรับราชการไปสักระยะหนึ่ง พระเจ้ากรุงธนบุรีก็คงรับราชการไปสักระยะหนึ่งเช่นเดียวกัน ส่วนชนชั้นนำในอยุธยาในช่วงแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ต่อเนื่องมาสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ และต่อเนื่องมาสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร หรืออาจจะย้อนไปถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระด้วย มีเป็นกลุ่มๆ กลุ่มนี้ทั้งหมด ถ้าไม่ตายก็ต้องถูกกวาดต้อนไปพม่า อันนี้เป็นการตัดตอน ตัดสไลด์ข้างบน ผมคิดว่าไม่เช่นนั้นบรรดากลุ่มต่างๆ ข้างล่างนี้ขึ้นมาไม่ได้ ราชวงศ์บ้านพลูหลวง มีอายุประมาณ 80 ปี แต่มีเพียง 2 รัชกาลเท่านั้นที่ยืนยาว มีรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ถ้าผมบวกลบเลขไม่ผิด ประมาณ 24 ปี รัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ 25 ปี นับรวมสองรัชกาลนี้ก็ประมาณ 50 ปี ตอนที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จสวรรคต พระองค์มีพระชนมายุ 73 พรรษา แสดงว่าพระองค์ท่านรอขึ้นครองราชย์นานพอสมควร เพราะหากพระองค์ท่านเสด็จสวรรคตอายุ 73 ปี พระองค์ท่านก็ต้องลบพระชนมายุไปอีก 25 พรรษา ก็ประมาณ 48 พรรษาตอนท่านขึ้นเสด็จครองราชย์รัชสมัยต่อเนื่องของราชวงศ์บ้านพลูหลวงที่น่าสนใจ ผมคิดว่าช่วงเปลี่ยนผ่านสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระมาเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ในแง่ของการมองประวัติศาสตร์อยุธยาในแง่ของการเปลี่ยนผ่าน เมื่อสมเด็จพระเพทราชาครองราชย์ อังกฤษเกิดการปฏิวัติรุ่งโรจน์ ปี 1688 อันนี้คือการเปลี่ยนแปลงที่กษัตริย์จะเก็บภาษีต้องมาผ่านกฎหมายในรัฐสภาอังกฤษ เป็นครั้งแรกที่รัฐสภาอังกฤษขึ้นมาเคียงข้างกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในอังกฤษ ในสมัยรัชกาลที่ 1 เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส โลกข้างนอกเป็นอย่างนี้ แต่อยุธยา ธนบุรี และต้นรัตนโกสินทร์เป็นรัฐแบบโบราณ หรือเป็นรัฐราชสมบัติ ผ่านเหตุการณ์มา 250 ปี วันนี้นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงข้างบน ข้างนอก ผมอยากให้ท่านดู มันมีการปฏิวัติรุ่งโรจน์ในอังกฤษ ปฏิวัติอเมริกา ปฏิวัติฝรั่งเศส นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโลก และตรงนั้นทำให้เกิดรัฐล่าอาณานิคมใน 100 ปีถัดมา หากดูการเปลี่ยนผ่านของจักรวรรดิโรมันที่ใช้เวลาประมาณ 40 ปี เปลี่ยนผ่านจากระบบสาธารณรัฐเป็นระบอบเอกาธิปไตย หรือระบอบจักรพรรดิ ประมาณ 40-50 ปี หลังจากแก๊ง 3 นายพลซึ่งจบชีวิตไม่ดีทั้งหมด เนื่องจากแย่งชิงอำนาจกันจึงได้เกิดช่องว่างขึ้น ทำให้มีอีกพวกหนึ่งขึ้นมาเปลี่ยนระบบ ผมคิดว่ามันมีอะไรบางอย่างในประวัติศาสตร์ที่คล้ายๆ กับเมื่อ 250 ปีที่แล้วกับปัจจุบัน นั่นคือเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน เมื่อการล่มสลายของอยุธยาตัดตอนคนกลุ่มหนึ่งออกไป แล้วทำให้คนกลุ่มหนึ่งสามารถขึ้นมาได้ ด้วยเพราะอาจจะมีความสามารถทางการทหารเพิ่มเติม ผมคิดว่ารัชสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเป็นรัชสมัยที่ทหารเหนื่อยยากมาก เพราะ 4 ปีแรกไม่ต้องทำอะไร ต้องทุ่มเวลาไปกับการจัดการกลุ่มที่เหลือให้หมดก่อน ส่วนอีก 12 ปีที่เหลือก็ต้องเสด็จไปหลายที่ ไปเชียงใหม่ ไปเวียงจันทน์ เขมร ต้องไปกวาดต้อนเอาคนมา และสงครามคือการวางแผนทางเศรษฐกิจ เป็นการลงทุนของสมัยก่อน กรุงอยุธยาที่ล่มไปก็กลับมาเป็นกรุงธนบุรีที่ใหญ่โตขึ้น แต่พอถึงจุดหนึ่งก็คิดว่าระบบแบบนี้ไม่น่าจะไปได้ มันน่าจะเป็นระบบที่ต้องเป็นสถาบันมากกว่า และต้องลงตัวมากกว่า ผมนั่งอ่านประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีไม่ได้ทำอะไรที่เป็นเรื่องของการวางแผนสำหรับสืบทอด หรือพูดอีกอย่างก็คือสมเด็จพระเจ้าธนบุรีไม่ได้ให้ทางออกของยุคสมัย เพราะหลังจากสิ้นอยุธยาแล้ว ท่านรวบรวมผู้คน เปิดพื้นที่แล้ว จัดระบบแล้ว แต่ไม่ได้วางระบบการสืบทอดอำนาจ อาจจะเป็นเพราะว่าไม่มีเวลา หรืออาจเพราะว่าคนที่เป็นญาติโตไม่พอหรือโตไม่ทัน เพราะท่านเสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมายุประมาณ 46-48 พรรษา อีกส่วนหนึ่งผมคิดว่ากลุ่มคนที่สนับสนุนท่านตั้งหลักได้ และมีเวลาพอที่จะตั้งรับ เกาะกลุ่ม เกิดเป็นเน็ตเวิร์ก ซึ่งเป็นลักษณะของสังคมไทยในเชิงของการต่อสู้เรื่องอำนาจ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสร็จศึกสุดท้ายปี 2322 ก็เท่ากับว่าท่านมีเวลาวางแผนเพียง 2 ปีว่าจะทำอะไรต่อ แต่ก็มีกลุ่มคนคิดไว้ก่อนแล้วว่าต้องมีการจัดระบบใหม่ให้เรียบร้อย บทสรุปจากการมองประวัติศาสตร์สู่ปัจจุบัน คำถามคือว่าเมื่อเราย้อนดูประวัติศาสตร์ 250 ปีตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาและสถาปนากรุงธนบุรี เราน่าจะสรุปหรือใช้ประสบการณ์จากประวัติศาสตร์มามองปัจจุบัน และผมไม่ได้สรุปอะไรเป็นอะไรใหญ่โต เพียงแต่อยากจะตั้งเป็นข้อสังเกตว่าเวลามีการเปลี่ยนผ่านในสังคม สิ่งสำคัญในสังคมไทยจะมีอยู่ 2 ประเด็น ซึ่งผมคิดว่าอาจจะสรุปเป็นข้อคิด อันที่หนึ่ง ด้วยลักษณะของการไม่ยอมแชร์อำนาจ การต่อสู้เพื่อชิงอำนาจมักจะจบลงด้วยความรุนแรงและการนองเลือด ผสมกับอะไรบางอย่างที่ไม่ชัดเจนตลอด อีกอันหนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นสาระสำคัญของการเปลี่ยนผ่าน หัวใจของการเปลี่ยนผ่านอยู่ที่ความจงรักภักดี อันนี้เป็นหัวใจสำคัญ ถ้าสร้างตรงนี้ได้ก็ประสบความสำเร็จ ผมใช้เวลาพอดี 30 นาที ขอบคุณครับ | ไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้ฟัง วีระ ธีรภัทร ขึ้นกล่าวบนเวที ส่วนใหญ่แล้วจะได้ฟังจากรายการวิทยุที่เขาเป็นผู้จัดรายการ ซึ่งช่วงที่พีกมากที่สุดในชีวิตเขา ว่ากันว่ารายการในช่วงบ่ายยามนั้นทุบเรตติ้งคลื่นวิทยุอื่นทั้งหมดนอกจากความสนใจเรื่องเศรษฐกิจ เขายังสนใจด้านประวัติศาสตร์ และนี่คือการถอดบทเรียน ถอดรหัสประวัติศาสตร์จากการศึกษาของเขาสู่ห้วงเวลาปัจจุบัน ผ่านเหตุการณ์ 250 ปี เสียกรุงศรีอยุธยา-สถาปนากรุงธนบุรีแม้ว่าจะเป็นปัจฉิมกถาซึ่งเป็นการกล่าวแต่เพียงในงานนี้ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็น ปฐมบทให้ทุกคนได้ขบคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามยุคสมัยเพื่อย้อนมองกลับมาที่ปัจจุบัน | null | null | https://thestandard.co/weera-theerapat-speech/ |
ไม่รอด ตร.บราซิลรวบ หัวหงอก เจ้าพ่อโคเคน เปลี่ยนหน้าหนีจับกุม 30 ปี | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศบราซิล สามารถจับกุม นายลูอิซ การ์ลอส ดา รอกคา เจ้าของฉายา ไวท์ เฮด หรือ หัวหงอก ผู้ที่เชื่อกันว่าเป็นหัวหน้าอาณาจักรโคเคนขนาดใหญ่ในแถบอเมริกาใต้ ได้แล้ว ภายใต้ปฏิบัติการที่ชื่อว่า สเปคตรัม หลังจากเขาใช้การศัลยกรรมพลาสติกเพื่อหลบหนีการจับกุมมาได้เกือบ 30 ปี,ตามการเปิดเผยของตำรวจบราซิล นายรอกคา เป็นอาชญากรผู้มีชีวิตอยู่อย่างสุขุมรอบคอบและอยู่ในเงามืด ภายใต้ชื่อปลอมว่า บิคตอร์ ลูอิซ เด โมราเอส เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้การเปรียบเทียบภาพเก่าๆ ของเขา เพื่อยืนยันว่า นายโมราเอส เป็นคนเดียวกันกับนายรอกคา โดยคาดว่าจากความผิดของเขา รอกคาจะถูกตัดสินลงโทษจำคุกมากกว่า 50 ปี,ขณะที่องค์กรของเขาเป็นที่รู้จักในเรื่องการใช้อาวุธ รถหุ้มเกราะ และอาวุธหนักในการก่อความรุนแรง องค์กรนี้ผลิตโคเคนในประเทศโบลิเวีย เปรู และโคลอมเบีย ก่อนจะส่งต่อไปยังประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งโดยรวมแล้วตำรวจประเมินว่า องค์กรของรอกคาผลิตโคเคนได้ประมาณถึง 5 ตันต่อเดือน,ทั้งนี้ ปฏิบัติการสเปคตรัม ยังสามารถยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งในรูปแบบของฟาร์ม อสังหาริมทรัพย์อื่นๆ รถยนต์หรู และเครื่องบินด้วย | ตำรวจบราซิลจับกุมราชายาเสพติด เจ้าของฉายา หัวหงอก ได้แล้ว หลังจากใช้การศัลยกรรมหลบหนีการจับกุมมานานกว่า 30 ปี | ข่าว,ต่างประเทศ | ลูอิซ การ์ลอส ดา รอกคา,ราชายาเสพติด,หัวหงอก,โคเคน,จับกุม | https://www.thairath.co.th/news/foreign/990728 |
80 ปีไทยไม่เคยมีประชาธิปไตย | วันนี้ผมขอพาท่านผู้อ่านไปฟังข้อคิดเห็นของ คุณอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯที่มาจากการปฏิวัติประธานร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุดเป็นประชาธิปไตยที่สุด แต่ตอนหลังก็ถูกปฏิวัติฉีกทิ้งร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา และกำลังเกิดความแตกแยกระลอกใหม่,เป็นบทสัมภาษณ์ คุณอานันท์ ปันยารชุน ในหนังสือ Optimise ของ ธนาคารเกียรตินาคิน ฉบับมกราคม 2018 ผมขอนำบางส่วนมาเล่าสู่กันฟังเพื่อร่วมกันหาทางออก,คุณอานันท์ ได้พูดถึง นายกรัฐมนตรีอังกฤษ วินสตัน เชอร์ชิล เคยพูดไว้ว่า ระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่ระบอบที่ดีที่สุด แต่เป็นระบอบการปกครองที่เลวน้อยที่สุด และกล่าวว่า ประชาธิปไตยมีอยู่ด้วยกัน 7 เสา การเลือกตั้งเป็นเพียงเสาเดียว อีก 6 เสา เป็นเรื่องของ ขันติธรรมทางการเมืองการปกครองโดยหลักนิติธรรม เสรีภาพในการแสดงออก ความรับผิดชอบต่อประชาชน ความโปร่งใสการกระจายอำนาจ และ ภาคประชาสังคม แต่ละสังคมก็มีเส้นทางวิวัฒนาการในเรื่องเหล่านี้ของตัวเอง,คุณอานันท์ บอกว่า การสร้างประชาธิปไตยต้องมี The art of the possible ศิลปะแห่งความเป็นไปได้ รวมอยู่ด้วย ทุกประเทศต้องมีระยะเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย ปัญหาคือ 80 ปีของเราไม่ค่อยมีการเปลี่ยนผ่าน 80 ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยเป็นประชาธิปไตยเลย เขามีหลักการคือ เราออกความเห็นได้ แต่ต้องมีข้อจำกัด การพูดการเขียนแบบ hate speech หรือเสรีภาพแบบอเมริกา ขอประทานโทษนะ สังคมจะล่มจมในที่สุด เพราะมีเสรีภาพมากเกินไป ไม่มีขอบเขต ไม่มีความรับผิดชอบ,ผมคิดว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่ทนต่อความเห็นที่แตกต่างกัน เป็นสังคมที่ไม่ค่อยอยากฟังความเห็นที่แตกต่าง และก็ ไม่พร้อมที่จะคุยกันในเรื่องความแตกต่างทางความเห็น ทุกสิ่งอย่างจะเป็นขาวเป็นดำ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นเรื่องผิดเรื่องถูก มีฉันกับเขา มันไม่ทำให้เกิดบรรยากาศของการพูดคุยแบบติดต่อ คุยแบบต่อเนื่อง คุยให้เป็น dialogue เรียกได้ว่า เรามีแต่ conversation เรามีแต่ debate มีแต่การเถียงกัน เพื่อเอาชนะ,ผมไม่แน่ใจคำว่า dialogue มีในภาษาไทยหรือเปล่า คือ dialogue อาจจะมีข้อยุติหรือไม่ต้องมีข้อยุติก็ได้ มันเป็น on-going process เป็นกระบวนการต่อเนื่อง มันไม่ได้มีขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา แต่มันมีขึ้นมาเพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจ ก่อให้เกิดความรู้ที่ดีขึ้น ถามว่า เราสนใจความจริงแค่ไหน เราสนใจตรรกะมากน้อยแค่ไหน เราสนใจความรู้สึกของคนอื่นมากน้อยแค่ไหน ถ้าเผื่อสุดท้าย ทุกอย่างมันยังหยุดอยู่ที่ l, me and myself มันก็ลำบาก หลักพุทธศาสนาดีที่สุด สุ จิ ปุ ลิ สุตะ คือ ให้ฟังก่อน แต่สังคมเรามีแต่คนพูด คนฟังไม่ค่อยมี คนฟังที่รู้เรื่องก็ไม่ค่อยมี,คุณอานันท์ บอกว่า เวลาเจอคนคิดต่าง เขาอยากจะคุยด้วย ไม่ได้เพื่อโน้มน้าว แต่อยากรู้ว่าเขาเห็นต่างเพราะเหตุผลอะไร ใช้ตรรกะอะไร บางครั้งบางคราว ข้อเท็จจริงอาจจะตรงกัน แต่ข้อสรุปไปคนละเรื่อง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเคยอยู่ กระทรวงการต่างประเทศ ต้องเจรจาค่อนข้างมาก ก่อนเจรจาเราต้องพยายามรู้จุดยืนของแต่ละฝ่าย ต้องรู้ว่าทำไมเขาต้องมีจุดยืนตรงนั้น จุดอ่อนจุดแข็งอยู่ที่ไหน,เป็นประสบการณ์ 45 ปีจาก คุณอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯที่มาจากการปฏิวัติ อดีตประธานร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตยที่สุด ผมหวังทุกฝ่ายจะช่วยกันสร้าง dialogue ขึ้นมาพูดคุยกัน แทนที่จะสร้างวาทกรรมที่เป็น hate speech ใส่กัน เพื่อให้สังคมไทยก้าวพ้นจากความขัดแย้งเสียที.,ลม เปลี่ยนทิศ | ก่อนเลือกตั้ง คนไทยแตกแยกถึงขั้นรบราฆ่าฟันกันบนท้องถนน หลังเลือกตั้งด้วยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็ยังแตกแยกหนัก ไม่รู้จะลงเอยอย่างไร | null | เลือกตั้ง,เลือกตั้ง62,ประชาธิปไตย,อานันท์ ปันยารชุน,รัฐธรรมนูญ,หมายเหตุประเทศไทย,ลม เปลี่ยนทิศ | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1540015 |
ไทยป่วย COVID-19 เพิ่ม 3 คน กลับจากอิตาลี-ผู้สัมผัสใกล้ชิด | วันนี้ (10 มี.ค.2563) กระทรวงสาธารณสุขแถลงความคืบหน้าการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนดีขึ้น แต่การแพร่กระจายไปอยู่ที่ยุโรป โดยอิตาลีพบผู้ติดเชื้อขึ้นมาเป็นอันดับ 2 พร้อมขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศที่แพร่ระบาดในยุโรป หากจำเป็นขอให้ตรวจสอบข้อมูลเมืองต่าง ๆ และระมัดระวังอย่างเต็มที่ส่วนไทยพบผู้ป่วย COVID-19 เพิ่ม 3 คน เป็นหญิงไทยอายุ 41 ปี ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ แต่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยชายไทย คนที่ 45 ขณะที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี และอีก 2 คน เป็นหญิงไทยอายุ 46 ปี เดินทางกลับจากอิตาลี และสามีอายุ 47 ปี ผู้อยู่ใกล้ชิดติดเชื้อด้วย รวมป่วยสะสม 53 คน เสียชีวิต 1 คน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 19 คน หายแล้ว 33 คนขณะที่ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแรงงานไทยนอกระบบในเกาหลีใต้ โดยเข้ากักตัวเฝ้าระวังโรคที่อาคารรับรองสัตหีบ 188 คน เป็นชาย 88 คน หญิง 100 คน โดยมาจากแทกู และคย็องซังเหนือ 8 คน มีกลุ่มที่ต้องดูแลพิเศษ 20 คน เป็นหญิงตั้งครรภ์ 5 คน และเด็กเล็ก 4 คน มีโรคประจำตัว 11 คน ผลคัดกรองยังไม่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) ทั้งหมดไม่มีไข้ | สธ.ยืนยันไทยพบผู้ป่วย COVID-19 เพิ่ม 3 คน เป็นหญิงไทยอายุ 41 ปี สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยคนที่ 45 และอีก 2 คน เป็นหญิงที่เดินทางกลับจากอิตาลี และสามีที่อยู่ใกล้ชิดติดเชื้อด้วย ยอดป่วยสะสม 53 คน หายแล้ว 33 คน เสียชีวิต 1 คน | สังคม | COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,COVID19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,ไวรัสโคโรนา | https://news.thaipbs.or.th/content/289691 |
ละครเวที ไต้ฝุ่น ภาพ ตัดแปะ ของประวัติศาสตร์ไทย | มุลวิไล (คาเงะ) ร่วมแสดงโดยนักศึกษาสาขาการละคอนและสมาชิกจากกลุ่ม B Floor โดยจัดแสดงครั้งแรกที่ หอประชุมศรีบูรพา ธรรมศาสตร์ และ สถาบันปรีดี พนมยงค์ เมื่อวันที่ 12-14 ตุลาคม 2556รูปแบบของละครเวทีเรื่องนี้เป็นงาน Physical Theatre ที่เน้นการใช้ร่างกายเพื่อสื่อสารอารมณ์ความรู้สึกมายังผู้ชม ฉายภาพให้เห็นประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 จนถึงการปะทะกันระหว่างขบวนการภาคประชาชนกับชนชั้นนำ ตามมาด้วยกระบวนการการตัดแปะความจริงให้กลายเป็นเรื่องสับสน ขบขัน และไร้ค่า การค้นหาความจริงกลายเป็นเรื่องต้องห้าม ห้ามถาม ห้ามสงสัย และสุดท้ายได้แสดงให้เห็นการปลุกจิตสำนึกแห่งความเป็นมนุษย์ขึ้นมาอีกครั้ง จิตสำนึกในการแสวงหาคำตอบอันนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอำนาจมืดก็ตามการนำเสนอละครเรื่องนี้เสมือนกับการนำภาพจำของประวัติศาสตร์ไทยมาแสดงให้เห็นบนเวที แม้การนำเสนอจะเป็นไปในลักษณะของ Physical Theatre แต่ เนื้อหาที่พูดถึงนั้นกลับลึกซึ้งและเต็มไปด้วยภาพความทรงจำที่แม้แต่บทพูดโต้ตอบ ก็ไม่อาจจะนำเสนอความลึกซึ้งได้เท่าภาพ และการเคลื่อนไหวที่ได้รับการออกแบบมาอย่างละเอียดอ่อนและมีพลังเช่นนี้หลังการแสดงรอบแรกที่ม. ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในช่วงเสวนา มีนักศึกษาคนหนึ่งถามคำถามกับวิทยากรว่าคำถามนี้เป็นเรื่องจริงของสังคมไทย ที่ละครไต้ฝุ่นก็ได้หยิบยกแสดงให้เห็น คนรุ่นใหม่มีความเข้าใจประวัติศาสตร์ไทยหลัง 2475 เป็นคำสำคัญ หรือคีย์เวิร์ด และตัวเลขที่สลับสับสน ในฐานะนักเรียนที่เคยถูกป้อนข้อมูลในวิชาสังคมศึกษาระดับมัธยม ชุดคำสำคัญที่ได้รับการเน้นย้ำให้จดจำคือ- 2475 ร. 7 ทรงเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย- 14 ตุลา กับ 6 ตุลา เหมือนๆกันคือ นักศึกษาออกมาประท้วง เรียกร้องประชาธิปไตย ถูกทหารปราบปราม ตอนสุดท้ายได้รับพระมาหากรุณาธิคุณจากในหลวง ทรงทำให้บ้านเมืองกลับมาสงบร่มเย็น- พฤษภาทมิฬมีการประท้วง แต่ไม่สำคัญเท่าเหตุการณ์เดือนตุลา จำรายละเอียดไม่ได้ซึ่งละครไต้ฝุ่นได้นำเสนอประเด็นเรื่องการจดจำประวัติศาสตร์ออกมาได้อย่างน่าสนใจ ในการที่ให้นักแสดงแต่ละคนเล่าประวัติศาสตร์ โดยสิ่งที่เล่าออกมาถูกตัดต่อ และเหมือนกับกาถูก Fast Forward เทป ตัดขาดบางช่วงออกไป ถูกทำให้เป็นเสียงยืดยาน ไร้แก่นสาร สุดท้ายความเข้าใจทางประวัติศาสตร์จึงผสมปนเป และกลายเป็นชุดความเข้าใจ ( หรือความไม่เข้าใจ) ที่บิดเบี้ยวและขาดตอน จึงไม่น่าแปลกที่คนรุ่นใหม่จะไม่สามารถแยกแยะได้ถึงความแตกต่างของ 14 ตุลา และ 6 ตุลา เพราะตำราเรียนสังคมมัธยมศึกษาไม่เคยเชื่อมโยงเหตุกาณ์อย่างเป็นเตุผล แต่เลือกใช้การอธิบายเป็นหัวข้อหลักๆ และเน้นคำสำคัญให้เด็กท่องจำ เพื่อไปกากบาทในห้องสอบละครเรื่องนี้ก็ได้นำเสนอพฤติกรรมการท่องจำและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเด็กไทยในห้องเรียนออกมาผ่าน Movement ที่เหมือนกับเครื่องจักรในโรงงานที่ถูกป้อนข้อมูลสำเร็จรูปชุดหนึ่งเข้าไป ผลิตซ้ำไปเรื่อยๆ เดินตามกันไปๆ ใครที่ริคิดออกมาจากสายพาน ก็จะถูกต้อนและใช้กำลังความรุนแรงดึงกลับเข้าไปสู่สายพานเดิม ภาพที่เห็นทำให้นึกถึง ชาร์ลี แชปลิน ที่ถูกกลืนกินไปในกลไกโรงงาน ในเรื่อง Modern Times ที่วิพากษ์ระบบทุนนิยมที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ลงไป การเรียนการสอนประวัติศาสตร์ไทยก็เช่นกัน การป้อนข้อมูลเพียงชุดเดียวให้เด็กจดจำและห้ามตั้งคำถาม ได้ลดทนความเป็นมนุษย์ จากภาพแรกที่เปิดตัวละคร นักแสดงต่างเริงร่า เคลื่อนไหวอย่างอิสระ ภายหลังกลับกลายเป็นเหมือนหุ่นยนต์ มีเพียงหน้ายิ้มกว้างอย่างไร้อารมณ์ความรู้สึก ที่ถูกฝังชิพจนไม่อาจเดินต่อเองได้หากไร้สายพานนำทาง การถูกจำกัดเสรีภาพทางความคิดได้ถูกแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนในบทบาทของเจ้าหนูจำไม ที่ถูกสั่งให้ห้ามคิด ห้ามถาม มิฉะนั้นจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงถึงแม้ภาพจำประวัติศาสตร์ไทยจะถูกตัดแปะ แต่สิ่งหนึ่งที่ละครเรื่องนี้ได้เน้นย้ำทุกครั้งหลังที่เกิดความขัดแย้ง นั่นก็คือทีมทำความสะอาดที่ออกมาเก็บกวาดรอยหลักฐานให้หมดไป ซึ่งละครเรื่องนี้เลือกใช้ Action นี้ได้อย่างลงตัว แทนที่จะให้ทีม Stage Manger สวมชุดดำออกมาเคลียร์ฉากในความมืด ละครเรื่องนี้ได้เลือกให้ทีมทำความสะอาดมาเคลียร์ฉากอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งนอกจากจะเป็นการตอกย้ำความเป็นไปของประวัติศาสตร์ไทยที่พยายามจะลบเลือนความจริงที่เกิดขึ้น ดังที่เราได้เห็นล่าสุดหลังเหตุการณ์พฤษภา 53 ที่มีทีมทำความสะอาดมาร่วมแรงร่วมใจกันลบเลือนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทีมทำความสะอาดในละครเรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นถึง วิธีการเล่าประวัติศาสตร์ ของชนชั้นนำไทย ที่พร้อมจะลบเลือน รอยต่อ หรือ รอยด่าง ที่ไม่ต้องการให้คนรุ่นหลังได้รับรู้สิ่งที่ทำให้ละครเรื่องนี้แตกต่างและน่าจดจำ คงจะเป็น Message ที่ไม่ได้นำเสนอเพื่อเชิดชูสรรเสริญวีรชน 14 ตุลา และให้คนดูซาบซึ้งกับความเสียสละของผู้คนเหล่านั้น แต่กลับเป็นการยิงคำถามมากมายให้ผู้ชมได้คิด และเห็นภาพของการปะทะกันระหว่างอำนาจของสามัญชนกับชนชั้นนำ รายชื่อบุคคลที่เสียชีวิตที่ถูกพูดถึงในละครล้วนแต่เป็นคนธรรมดา ที่ไม่ได้รับการพูดถึงในบทเรียนประวัติศาสตร์ อนุสาวรีย์เก้าอี้ที่ประกอบกันอยู่หน้าเวทีในตอนท้าย ไม่ได้ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจหรือซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อย แต่หากกลับทำให้รู้สึกสลดใจและเจ็บปวดกับความพ่ายแพ้ของประชาชนต่ออำนาจของชนชั้นนำ เก้าอี้นักเรียนที่แขวนอยู่บนคานเหล็กประกอบร่างเป็นอนุสาวรีย์ชวนให้นึกถึงภาพประชาชนและนักศึกษาที่ถูกแขวนคอ และภาพของเก้าอี้แต่ละตัวที่ถูกนำมาฟาดตีบนร่างของประชาชนรอยด่างที่ถูกชำระล้าง รอยต่อที่ถูก Fast Forward และ เซนเซอร์ คืออะไรกันหรือ? ทำไมถึงพูดไม่ได้? หรือ 14 ตุลาคือจุดเริ่มต้นของการถูกจำกัดเสรีภาพในการคิด การตั้งคำถาม และสอนให้เราจดจำเพียงภาพตัดแปะทางประวัติศาสตร์ที่สวยงามและน่าภาคภูมิใจละครเรื่องไต้ฝุ่น ในฐานะละครการเมือง จึงถือเป็นละครเรื่องหนึ่งที่ลึกซึ้งและชวนให้คนดูตั้งคำถาม ละครเรื่องนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทุกคนเข้าถึงและเข้าใจได้ในระดับเดียวกันตั้งแต่ต้น จึงไม่แปลกหากคนดูจะเข้าใจสัญลักษณ์ที่ใช้ในละครเรื่องนี้แตกต่างกันออกไป แต่ภาพหนึ่งที่ชัดเจนคือภาพของการจดจำการบอกเล่าประวัติศาสตร์ไทยอย่างไม่ปะติดปะต่อ นำเสนอผ่านงาน Performance ที่น่าประทับใจทั้งในแง่เนื้อหาและงาน Productionระหว่างการเสวนา พิธีกรได้ตั้งคำถามกับละครเรื่องนี้ว่าละครเพียง 1 เรื่อง คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงสังคมทั้งหมดได้ แต่ละครเพียง 1 เรื่อง สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนสังคมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เราไม่อาจสรุปเป็นตัวเลขได้ว่าละครเรื่องนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้กี่เปอร์เซนต์ หรือ เปลี่ยนแปลงคนดูได้กี่คน เพราะสังคมไม่ใช่สมการตัวเลข | เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี 14 ตุลา คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการละคอน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ร่วมกับกลุ่มละคร B Floor จัดแสดงละครเวทีส่งเสริมประชาธิปไตย เรื่องไต้ฝุ่น กำกับการแสดงโดย คุณ ธีระวัฒน์ | การเมือง,วัฒนธรรม | 40 ปี 14 ตุลาคม 2516,B-floor,ธีระวัฒน์ มุลวิไล,ประวัติศาสตร์ไทย,รับขวัญ ธรรมบุษดี,ละครเวที,วิจารณ์,ศิลปะ,ไต้ฝุ่น | https://prachatai.com/journal/2013/10/49267 |
คิวบาฝังอัฐิ ฟิเดล คาสโตร พรุ่งนี้ | วันนี้ (4 ธ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนยานยนต์พร้อมเฮลิคอปเตอร์นำอัฐิ หรือเถ้ากระดูกของนายฟิเดล คาสโตร มายังเมืองซานติอาโก เดอ คิวบา โดยมีประชาชนจำนวนมากยืนให้การต้อนรับ ทั้งนี้ วันพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) ตามเวลาในไทย จะมีการประกอบพิธีฝังอัฐิของนายฟิเดล ที่สุสานในเมืองซานติอาโก เดอ คิวบาซานติอาโก เดอ คิวบา เป็นเมืองทางภาคตะวันออกของเกาะคิวบา ห่างจากกรุงฮาวาน่า 900 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายฟิเดล นำพลพรรคเปิดฉากสงครามกองโจร ด้วยการบุกโจมตีค่ายทหารของรัฐบาลเผด็จการฝ่ายขวาที่มีสหรัฐฯ หนุนหลัง เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2496ก่อนหน้านี้ รัฐบาลคิวบาจัดแห่อัฐิของนายฟิเดลย้อนไปตามเส้นทางปฏิวัติเป็นเวลา 3 วัน ระยะทาง 1000 กิโลเมตร และเตรียมฝังอัฐิของนายฟิเดล ใกล้กับหลุมฝังศพของนายโฮเซ่ มาร์ตี วีรบุรุษผู้กอบกู้เอกราชของคิวบา | คิวบาเตรียมประกอบพิธีฝังอัฐินายฟิเดล คาสโตร ใกล้หลุมฝังศพของนายโฮเซ่ มาร์ตี วีรบุรุษผู้กอบกู้เอกราชของคิวบา ในวันพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) | ต่างประเทศ | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ซานติอาโก เดอ คิวบา,คิวบา,ฟิเดล คาสโตร | https://news.thaipbs.or.th/content/258386 |
ชวนชมโดรนแปรอักษรถวายราชสดุดีจักรีวงศ์ 6 พ.ค.นี้ | วันนี้ (4 พ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ และผู้สนับสนุนภาคเอกชน เตรียมจัดแสดงโดรนแปรอักษรถวายราชสดุดีจักรีวงศ์ เพื่อถวายความจงรักภักดีแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ในวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคมนี้ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณท้องสนามหลวงสำหรับโดรนแปรอักษรที่ใช้ในการแสดงครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่สามารถพัฒนาโดรนดังกล่าวได้สำเร็จเป็นรายแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในโอกาสมหามงคลนี้สู่สายตาคนไทยและนานาชาติทั้งนี้ การแสดงโดรนแปรอักษรถวายราชสดุดีจักรีวงศ์ ได้จัดเตรียมโดรน จำนวน 333 ลำ บินที่ความสูงไม่เกิน 80 เมตร ประกอบด้วยการแสดง 2 ชุด ต่อเนื่องกัน โดยเป็นการแปรอักษรรวมทั้งสิ้น 10 ภาพ ระยะเวลาประมาณ 30 นาที สำหรับบทเพลงซิมโฟนีที่ใช้ประกอบการแสดง ได้มีการประพันธ์ขึ้น เพื่อใช้ในโอกาสนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นผลงานการประพันธ์และควบคุมการบันทึกเสียงโดย พ.อ.ประทีป สุพรรณโรจน์ และบรรเลงโดยวงไทยซิมโฟนี ดูแลโดยมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุขสำหรับการแสดง 2 ชุด ได้แก่ 1. การแสดงชุด เทิดไท้องค์ราชัน ประกอบบทเพลงในชื่อ เพลงบรมราชาภิเษก แสดงถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรทั่วทุกหมู่เหล่า ซึ่งต่างร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของราชวงศ์ จักรี และเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พร้อมถวายพระพรเนื่องในวาระมหามงคลของแผ่นดิน ซึ่งการแสดงในชุดนี้ใช้โดรนจำนวน 167 ลำ แสดงเป็นระยะเวลาประมาณ 8 นาที โดยจะบินออกมา 7 รูปภาพ คือแผนที่ประเทศไทย ธงชาติไทย อักษรคำว่า ราชวงศ์จักรี เลข ๑๐ ไทย พระปรมาภิไธยย่อ วปร. พระบรมสาทิสลักษณ์ รัชกาลที่ 10 และอักษรคำว่า ทรงพระเจริญบทเพลง เพลงพระบรมราชาภิเษก ที่ใช้ประกอบการแสดงในชุดนี้ ประพันธ์ขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นพระราชพิธีประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่ยังคงสืบทอดมายาวนานจนถึงทุกวันนี้ บทเพลงนี้แสดงออกถึงการเทิดทูนพระปรีชาญาณของพระมหากษัตริย์ในจักรีวงศ์ ที่ได้ทรงสร้างราชอาณาจักรไทยให้มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น ความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ และมีความสงบสุขสามัคคีของประชาชนทุกหมู่เหล่า ตั้งแต่เริ่มต้นกรุงรัตนโกสินทร์จนมาถึงปัจจุบันอันเป็นรัชสมัยของรัชกาลที่ 10 ที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ2. การแสดงชุด สัญลักษณ์แห่งชาติ ประกอบบทเพลงในชื่อ เพลงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงถึงสัญลักษณ์ประจำชาติไทย ที่สื่อถึงประวัติศาสตร์ของชาติและประเพณีที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งการแสดงในชุดนี้ใช้โดรนจำนวน 68 ลำ แสดงเป็นระยะเวลาประมาณ 7 นาที โดยจะบินออกมา 3 รูปภาพ คือธงชาติไทย ต่อด้วยรูปช้าง และดอกราชพฤกษ์บทเพลงที่ใช้ประกอบการแสดงในชุดนี้ มีชื่อว่า เพลงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งผู้ประพันธ์ได้รับแรงบันดาลใจจากบทเพลงสวดแห่งสรวงสวรรค์ ที่ผู้ศรัทธาต่างขับร้องเพื่อแสดงออกถึงการแซ่ซ้อง สรรเสริญถึงพระผู้สถิตในสรวงสวรรค์ที่ได้ทรงเสด็จมายังโลกมนุษย์เพื่อปราบทุกข์เข็ญ และนำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขให้กับราษฎรของพระองค์ | สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ และผู้สนับสนุนภาคเอกชน เตรียมจัดแสดงโดรนบินแปรอักษรเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคมนี้ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณท้องสนามหลวง | สังคม | โดรน,แปรอักษร,พระราชพิธีบรมราชาภิเษก,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/279768 |
ชี้เหตุดินยุบที่เชียงราย ผลจากแผ่นดินไหวกระทบน้ำใต้ธรณี | เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 21 ม.ค.58 นายศรัณย์ แก้วเมืองมูล นักธรณีวิทยาปฏิบัติการ สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 (ลำปาง) พร้อมชุดสำรวจได้ลงพื้นที่ที่นาบ้านดงมะเฟือง หมู่ 9 ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว จ.เชียงราย เข้าทำการตรวจสอบบริเวณหลุมที่เกิดจากดินยุบตัว ขนาดรัศมีวงกว้าง 4 เมตร ลึก 4 เมตร ภายหลังจากวันที่ 15 ม.ค.2558 เวลา 02.00 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.7 ซึ่งชาวบ้านสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ และต่อมาวันที่ 18 ม.ค.58 ชาวบ้านไปพบดินยุบตัวดังกล่าว ก่อนแจ้งนายเสวศ สมบูรณ์ นายกอบต.จอมหมอกแก้ว ไปตรวจสอบและประกาศเป็นเขตภัยอันตรายห้ามชาวบ้านเข้าใกล้บริเวณ จากนั้นจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรณีเข้าตรวจสอบ,นายศรัญย์ กล่าวว่า บริเวณที่เกิดดินยุบตัวกว้างขนาดใหญ่นี้อยู่ในพื้นที่รอยแยกย่อยแม่ลาวที่แยกตัวออกมาจากรอยแยกใหญ่แม่ลาว ที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2557 ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีน้ำอยู่ใต้ผิวดิน ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2558 เวลา 02.00 น. เกิดอาฟเตอร์ช็อคขนาด 2.7 แผ่นดินไหวทำให้น้ำใต้ดินได้รับแรงกระทบ จนดินที่อยู่เหนือผิวน้ำเกิดทรุดตัวถล่มลง กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ ซึ่งลักษณะเช่นนี้อาจเกิดขึ้นซ้ำได้อีกในพื้นที่ที่มีรอยแยกย่อยพาดผ่าน แต่ไม่สามารถพยากรณ์ได้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ และจะเกิดบริเวณใด สำหรับหลุมที่เกิดขึ้นดังกล่าวสามารถทำการกลบได้ โดยถมหินก้อนใหญ่ลงก้นหลุมก่อนเอาหินก้อนเล็กขนาดลูกตะกร้อใส่ในชั้นถัดมา ตามด้วยทรายและนำดินกลบพื้นบนสุดเพื่อป้องกันการยุบตัว,ด้าน นายเสวศ กล่าวว่า ทาง อบต.สมบูรณ์ นายก อบต.จอมหมอกแก้ว จะยังไม่กลบดินในหลุมที่เกิดขึ้น แต่จะประสานไปยังนายทุนเจ้าของที่นาเพื่อกันพื้นที่ไว้ ให้เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรณีได้ทำการศึกษาต่อไปว่า เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน จะมีน้ำใต้ดินเพิ่มขึ้น จะทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างไรขึ้นอีกหรือไม่ และจะได้เรียกประชุมชาวบ้านชี้แจงข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ดินยุบตัวต่อไป. | นักธรณีวิทยาปฏิบัติการฯ ลงสำรวจหลุมยุบตัวขนาดกว้าง 4 เมตร ลึก 4 เมตร ใน อ.แม่ลาว จ.เชียงราย หลังชาวบ้านผวา ยืนยัน เกิดจากแผ่นดินไหวกระทบน้ำใต้ดิน จนดินที่อยู่เหนือผิวน้ำเกิดทรุดตัว | ข่าว,ทั่วไทย | แผ่นดินไหว,นักธรณี,แม่ลาว,หลุมยุบตัว,จอมหมอกแก้ว,เชียงราย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/476271 |
สมาชิกวง อ.ส.วันศุกร์ถ่ายทอดความประทับใจที่มีต่อองค์ คีตราชัน | โดยนำเครื่องดนตรีส่วนพระองค์ที่ได้พระราชทานให้สมาชิกวง อ.ส.วันศุกร์ ที่ไม่เคยจัดแสดงที่ใดมาก่อน มาจัดแสดงที่ควอเทียร์แกลลอรี่ ชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์,ในพิธีเปิดงาน ได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.ภาธร ศรีกรานนท์ หนึ่งในสมาชิกวง อ.ส.วันศุกร์ ร่วมถ่ายทอดความประทับใจในการ ถวายงานอย่างใกล้ชิด พร้อมเล่นดนตรีบทเพลงพระราชนิพนธ์ต่างๆร่วมกับวงแจ๊ส มินเนี่ยมด้วย รศ.ดร.ภาธร กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และพระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมไปถึงเพื่อเผยแพร่บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งพระองค์ทรงตรวจทานแก้ไขปรับปรุงด้วยพระองค์เอง เพื่อให้เยาวชน นักศึกษา นักดนตรี ประชาชนผู้ที่สนใจ ซึ่งทุกคนเป็นเสมือนการรับไม้ผลัด การรับต่อคบเพลิง ช่วยกันสืบทอดรักษาเพลงพระราชนิพนธ์ที่พระราชทานให้เป็นเอกลักษณ์และสมบัติของชาติสืบไป,รศ.ดร.ภาธร กล่าวด้วยว่า บทเพลงพระราชนิพนธ์จริงๆ มี 49 เพลง แต่ที่เราได้ยินว่ามี 48 เพลง เพราะเพลง ราชวัลลภ ทรงพระราช นิพนธ์ ครั้งแรกและพระ ราชทานแก่กรมทหารราบนั้น ทางกรมทหารราบ แต่งคำร้องภาษา ไทยถวาย มีห้องเพลงยาวกว่าเดิม จึงมาขอพระราชทานทำนองเพิ่ม พระองค์ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ แก้ไขให้เข้ากับคำร้อง จึงกลายเป็น มาร์ชราชวัลลภ และมีรับสั่งว่า ให้แยกออกจากกัน เพราะเป็นคนละเพลงเดียวกัน ส่วนเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกคือแสงเทียน ทรงพระราชนิพนธ์ตั้งแต่ทรงเป็นพระอนุชา เป็นบทเพลงบลูที่มีความซับซ้อนมาก คนเล่นสมัยก่อนอาจจะไม่เคยชิน จึงทรงยังไม่พระราชทานออกมา ทรงนำเพลงที่ฟังง่าย อย่าง ยามเย็น, สายฝน ออกมาก่อน เวลาที่ทรงพระราชนิพนธ์เพลงต่างๆ จะทรงนึกถึงผู้ที่ทรงให้ และผู้ฟังตลอด แต่ละบทเพลงจะทรงแก้ไขปรับจนสมบูรณ์ที่สุด แต่ละบทเพลงจึงมีคุณค่า มีหัวใจพระองค์ท่านอยู่ในนั้น,ในช่วงตอนต้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้ดนตรีเป็นเครื่องสื่อสารกับประชาชน แต่ในช่วงหลังๆ ทรงใช้ดนตรีเป็นเครื่องผ่อนคลาย ทำให้หลายคนคิดว่า พระองค์ทรงเลิกเล่นดนตรี สมัยก่อนจะทรงเล่นดนตรี วันศุกร์และวันอาทิตย์ ในช่วงเย็น แต่ระยะหลังพระราชภารกิจมีมากขึ้น จะทรงเล่นค่ำขึ้น เที่ยงคืนก็มี ช่วงเวลาที่ประทับที่หัวหิน จะทรงเล่นดนตรีทุกวันเสาร์ ตนเคยได้ยินอาๆสมาชิกในวง อ.ส.เล่าบรรยากาศในการเล่นดนตรีในอดีต ก็รู้สึกเสียดาย อยากอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆบ้าง เคยได้กราบทูลพระองค์ท่านว่า ตนเกิดช้าไป 10 ปี พระองค์ทรงมีรับสั่งว่า ไม่หรอก เกิดมาถูกเวลาแล้ว ความสุขที่มีร่วมกัน ให้เขียน ให้จดจำไว้ เล่าให้ลูกหลานฟัง ซึ่งตนเต็มใจอย่างยิ่งที่จะรับหน้าที่เผยแพร่ความรู้สึกความสุขในขณะนั้น รวมทั้งสิ่งที่พระองค์ทรงสอน ในการให้รู้จักหน้าที่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เป็นใครก็ตาม ทำหน้าที่เหมือนเราเล่นดนตรี ซึ่งการเล่นเราต้องฟังคนอื่นด้วย ทุกคนมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน ไม่มีใครสำคัญกว่าใคร,สำหรับงาน คีตรัตนบรมราชานุสรณ์ ธ สถิตกลางใจราษฎร์นิรันดร์ ได้นำเครื่องดนตรีพระราชทาน มาแสดงมี 7 เครื่องด้วยกัน ได้แก่ Piano Upright Steinway, King Alto Saxophone, Tenor Saxophone, Yamaha Trumpet, Jazzophone Trumpet, Stainer Baritone saxophone และ Selmer Mark VI Alto Saxophone นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำ CD เพลงพระราชนิพนธ์ ในดวงใจนิรันดร์ เสียงเพลงจากลมหายใจของพ่อ บันทึกเสียงเมื่อ 50 ปีที่แล้ว โดยวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงอัลโตแซกโซโฟน โดยมี ศ.พิเศษแมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ขับร้อง จำกัดคนละ 1 แผ่น ตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันนี้ถึง 11 ธ.ค. และในวันที่ 5 ธ.ค. จะมีกิจกรรมพิเศษชมการแสดงวาดภาพจากเม็ดทราย โดย ดร.สมพงษ์ ลีระศิริ ประกอบการแสดงดนตรีจากดุริยางคศาสตร์ ม.ศิลปากร. | มูลนิธิคีตรัตน์ ร่วมกับศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และดิ เอ็มควอเทียร์ จัดงาน คีตรัตนบรมราชานุสรณ์ ธ สถิตกลางใจราษฎร์นิรันดร์ นิทรรศการเพื่อรำลึกในพระอัจฉริยภาพทางดนตรีในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | มูลนิธิคีตรัตน์,นิทรรศการ,พระอัจฉริยภาพทางดนตรี,ในหลวงรัชกาลที่ 9,วง อ.ส.วันศุกร์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/799102 |
กาซิยาส ล็อกเป้า เล็งโยกค้าแข้งเมเจอร์ลีก | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 27 ม.ค. ว่า อิเกร์ กาซิยาส ผู้รักษาประตูระดับตำนานของทีมเรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่ในศึกลา ลีกา สเปน เผยถึงแผนการในอนาคตว่าอาจย้ายไปค้าแข้งในเมเจอร์ลีก ซ็อกเกอร์ ของสหรัฐอเมริกา หลังเห็นถึงพัฒนาการและความท้าทายใหม่ๆ ที่บรรดานักเตะชื่อดังได้เข้าไปสัมผัสในช่วงปลายของชีวิตการเป็นนักเตะอาชีพ,กาซิยาส ในวัย 33 ปี มีสัญญาอยู่กับทีมดังแห่งเมืองหลวงแห่งแดนกระทิงดุไปจนถึงปี 2017 แต่มีกระแสข่าวอย่างต่อเนื่องว่าเรอัล มาดริด จะดึงตัวดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติสเปนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาแทนที่ในอนาคต ทำให้เขาต้องมองหาโอกาสในการย้ายออกไปสัมผัสกับความท้ายทายใหม่ๆ โดยเล็งเป้าหมายไปที่เมเจอร์ลีก ซ็อกเกอร์ ของสหรัฐอเมริกา ,ผมไม่ปฏิเสธหรอกว่า ผมอยากที่จะลงเล่นในสหรัฐอเมริกาในสักวัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่ในตอนนี้ ผมทิ้งทีมไปไหนไม่ได้ แต่ในอนาคตผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีที่ไหนในยุโรปที่น่าสนใจ และมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเหมือนในเมเจอร์ลีก ซ็อกเกอร์บ้าง ซึ่งผมอยากจะสัมผัสกับประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป จากที่ผมเคยได้รับกับเรอัล มาดริด กาซิยาส เผย,ทั้งนี้ กาซิยาส อยู่กับทีมราชันชุดขาวมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ในวัย 17 ปี เมื่อปี 1999 และลงเล่นให้กับทีมมากกว่า 700 นัด ซึ่งสัญญาฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงหลังจบฤดูกาล 2016-17 | อิเกร์ กาซิยาส ไม่กั๊ก! ประกาศเดินหน้าหาความท้าทายใหม่ในศึกเมเจอร์ ลีก ซ็อกเกอร์ ของสหรัฐอเมริกาในอนาคต พร้อมหยอดคำหวานเป็นลีกที่มีการพัฒนาสูงกว่าในยุโรป | null | อิเกร์ กาซิยาส,ลาลีกา,เรอัล มาดริด,ดาบิด เด เคอา,ทีมชาติสเปน,ข่าวกีฬา,เมเจอร์ลีก ซ็อกเกอร์ | https://www.thairath.co.th/content/477373 |
คำต่อคำ รพ.พระราม 2 รักษาดีที่สุด-คนไข้ปฏิเสธเอง | จากกรณี น.ส.ช่อลัดดา หญิงถูกสามีสาดน้ำกรด เสียชีวิตในรถแท็กซี่หลังญาติอ้างว่าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ปฏิเสธการรักษา จนทำให้ น.ส.ช่อลัดดา เสียชีวิตระหว่างทางไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นล่าสุด วันนี้ (12 พ.ย.2561) พญ.วัลลภา ไชยมโนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม 2 ได้ออกคำแถลงพร้อมด้วย นพ.พีระ คณานุวัฒน์ ทีมแพทย์โรงพยาบาลมีการปฏิเสธรักษาคนไข้หรือไม่ ?นพ.พีระ คณานุวัฒน์ ระบุว่า เราให้การรักษาเบื้องต้นไปแล้ว ไม่ได้ปฏิเสธการรักษาเบื้องต้น สำหรับขั้นตอนของการแอดมิต ต้องเรียนให้ทราบว่าเมื่อแอดมิตจะเกิดค่าใช้จ่าย ส่วนค่าใช้จ่ายตรงนี้จะเป็นใครจ่ายก็ต้องเป็นไปตามสิทธิที่คนไข้มี ถ้าคนไข้บัตรทอง คนไข้ไม่ต้องเสียเงินตัวเองสักบาท ถ้าคนไข้เป้นสิทธิประกันสังคม คนไข้ก็ไม่ต้องเสียเงินจ่ายตามสิทธิที่มีอยู่วันนั้นเราก็มีการเช็กสิทธิ พอเช็กสิทธิออกมาแล้วพบว่าเป็นสิทธิที่บางมด ถ้าประเมินว่าไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต เร่งด่วน ให้การรักษาตามปกติได้มีการกรอกเวชระเบียนไหม ?เจ้าหน้าที่เป็นคนกรอกแล้วพิมพ์เข้าเครื่อง เพราะคนไข้กรอกเองไม่ได้ ส่วนการปฏิเสธการรักษา คนไข้เซ็นชื่อเองไม่ได้ ก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ 2 คน เซ็นชื่อร่วมกัน แต่ส่วนของพยาบาลเขาบันทึกว่าค่าใช้จ่ายในวันนั้นเท่าไหร่ ?ควรจะมีนะครับ แต่เราไม่ได้เก็บสักบาทมีหลักฐานยืนยันว่าผู้ป่วยปฏิเสธไหม ?ทางโรงพยาบาลได้ถ่ายสำเนาเวชระเบียนทั้งหมดไว้ และในเช้าวันนี้มี 3 หน่วยงานราชการ ผู้อำนวยการกรมประกอบโรคศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมในเขตพื้นที่ และสำนักงานกองกฎหมายของกรมสนับสนุนบริการทางการแพทย์ เพื่อมาขอสำเนารายชื่อแพทย์เวร รายชื่อแพทย์ประจำ รายชื่อพยาบาล รายชื่อผู้ช่วยพยาบาล สำเนาเวชระเบียนขอครบหมดเลยครับ เพราะฉะนั้น หลักฐานนี้ทั้งหมดเขาก็รับกันไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้น ผมเลยไม่มั่นใจว่าจะสามารถเปิดเผยอะไรได้แค่ไหน เพราะเอกสารราชการ เข้าไปอยู่ในเอกสารสอบสวนราชการแล้วกรณีที่คนไข้ปฏิเสธการรักษาต้องมีการเซ็นชื่อไหม ?ปกติเซ็นชื่อหมดทกุคน ถ้าเป็นคนไข้ OPD แต่คนไข้คนนี้เซ็นไม่ได้ เพราะว่ามือเขาร้อนและสะบัดอยู่ตลอดเวลา ต้องบอกว่าเจ้าหน้าที่ของผมก็คงจะใจดีเกินไปก็เลยอลุ่มอล่วยไม่หาทางที่จะให้มีการบันทึกหลักฐานอะไรสักอย่างไว้ เช่นปั๊มลายนิ้วมือ แต่เขาก็ไม่ได้ทำ ตรงนี้ต้องบอกว่า ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันว่าเขาปฏิเสธการรักษา แต่ด้วยคำพูดและรายงาน รวมทั้งการติดต่อรถพยาบาลมันช่วยยืนยันว่าคนไข้ประสงค์ที่จะไปรักษาที่โรงพยาบาลบางมดต่อ เพราะว่าสิทธิอยู่ที่นั่น อย่างไรก็ไม่เกิดค่าใช้จ่าย สบายใจกว่าว่าอย่างนั้นเถอะมีภาพวงจรปิดที่เป็นหลักฐานได้ไหม ?มีครับ ได้มอบให้ 3 หน่วยงานไปแล้ว เป็นภาพตั้งแต่ทางเข้าที่เดินขึ้นมา เห็นหน้าคนไข้ชัดมาก เพราะกล้องเราก็คุณภาพใช้ได้ เห็นคนไข้วิ่งขึ้นมาโดยมีลูกวิ่งตามหลังมาด้วย พอออกมากล้องก็เห็นชัดว่าวิ่งออกไปทางประตูทำบัตรเวชระเบียน ตอนนั้น ถ้าให้เดา ประตูห้องฉุกเฉินอาจจะปิดล็อก เพราะฉะนั้น คนไข้ผ่านไปแล้ว สัญญาณก็ไม่ได้เปิดให้ หรือ อาจจะมองเข้าไปแล้วไม่มีคน แต่คนอยู่ทางขวา เจ้าหน้าที่ของเรานั่งอยู่ตรงโต๊ะเวชระเบียนเพราะเวลาที่จะต้องทำแผลคนไข้ เปิดเสื้อคนไข้จะต้องปิด ประตูนั้นปิด ทำให้คนไข้วิ่งเลย เพราะประตูห้องฉุกเฉินด้านหลังติดกับบันได เขาก็ลงบันไดไปเจอเวรเปลเข้า เวรเปลจึงได้ถามและรีบพาขึ้นมาใหม่ คนไข้ก็เดินตามหรือวิ่งตามขึ้นมาไม่ได้ใช้รถเข็นอะไรเลยครับทีมแพทย์ได้ถามคนไข้ไหมว่าโดนอะไรมา ?ส่วนตัวผมวินิจฉัยไม่ได้ครับ เพราะคำว่าแผล สกินเบิร์น เราเห็นเป็นรอยแดง บอกไม่ได้ว่าโดนน้ำกรด โดนเปลวไฟ โดนน้ำร้อน แยกไม่ได้ครับห้องฉุกเฉินมีกล้องวงจรปิดไหม ?เข้าใจว่าห้องฉุกเฉินติดกล้องไม่ได้ เพราะต้องมีการเปิดเสื้อผ้าผู้ป่วยในการทำแผล เพราะฉะนั้น จึงเป็นบริเวณที่ต้องสงวนไว้ว่าติดกล้องไม่ได้ มีเฉพาะกล้องที่ส่องบริเวณทางเดินไม่มีกล้องวงจรปิดแล้วมีหลักฐานอะไร ?การปฏิเสธนั้นไม่ได้เกิดขึ้นบนเตียง แต่เป็นการพูดคุยระหว่างคนไข้กับเจ้าหน้าที่พยาบาล ซึ่งอย่างที่บอกว่า ถ้าคนไข้ไม่ได้ปฏิเสธเรารับเข้ามาก็เป็นผลประโยชน์ของโรงพยาบาลทำไมรถโรงพยาบาลไม่ไปส่งคนไข้ ?รถโรงพยาบาลก็มีจอดอยู่ เจ้าหน้าที่ก็มีชื่ออยู่ครบถ้วน แต่วันนั้นต้องเดาใจคนไข้ว่า เห็นการติดต่อของเรากับโรงพยาบาลปลายทาง แต่ละช่วง สุดท้ายเขาเจ็บ ปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเขาก็เลยจะขอไปเอง เพราะเห็นคุยนานเด็กก็บอกว่าโดนที่ขาเป็นรอยแดงๆ นิดหน่อย เมื่อแม่ตัดสินใจจะไปให้ได้ บุรุษพยาบาลคนนั้นเลยบอกลูกสาวว่า สิทธิของหนูเป็นบัตรทองพระราม 2 นะ เพราะฉะนั้นต่อไป ถ้ามีปัญหาอยู่หรือมีแผลก็กลับมารักษาที่พระราม 2 ได้ แต่แม่ประกันสังคมหมดเพราะฉะนั้นเป็นความใจดีของเจ้าหน้าที่ของผมเอง ไม่ได้เกี่ยวกับหมอ คนอื่นก็ไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ เมื่อมีข่าวออกมาเขาก็มาบอกผมว่าเขาเป็นคนให้ไปเอง ผมก็มองว่าเป็นความกรุณาของเขาครับกรณีนี้นำไปสู่การเสียชีวิตได้อย่างไร ?มีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากแผลปวดแสบปวดร้อนไหม ?เหตุที่จะเสียชีวิตจากแผลความร้อนลวก จะต้องเป็นระยะ 2 ต้องมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง หรือผิวหนังลอก เปิดออก หรือหนังกำพร้าลอก ถ้าเป็นในกรณีนี้จะเสียชีวิตจากการขาดน้ำ และต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเสียชีวิต เพราะฉะนั้น วิธีแก้ คือ การให้น้ำให้ทัน ให้น้ำเกลือ 5-6 ลิตร แต่คนไข้คนนี้ไม่ได้มีอาการขนาดนั้น เพราะว่าผิวหนังแค่เป็นรอยแดงไม่มีการเสียน้ำถ้าผิวหนังไหม้ในระยะ 3 จะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้ไหม ?ได้ครับ หากเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว มีสาเหตุจากการเสียน้ำ เสียเกลือแร่ ถ้าบริเวณกว้างพอ และการติดเชื้อที่อาจจะตามมา ซึ่งเชื้อเข้ากระแสเลือดแน่ๆ แต่กรณีติดเชื้อจะนานประมาณ 3-4 วัน เพราะต้องรอให้มีการเพาะเชื้อก่อนกรณีนี้ที่แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เสียชีวิต คิดว่าเกิดจากสาเหตุใด ?ลักษณะของแผล หรือ รอยแดงนั้น ไม่เป็นเหตุให้เสียชีวิตถ้าผลชันสูตรออกมาเป็นระยะ 3 ?เราประเมินไม่มีพลาดอยู่แล้ว เพราะกว่าจะถึงระยะ 3 ต้องผ่านระยะ 2 ก่อน ถ้าระยะ 2 ต้องมีลักษณะหนังลอก หนังต้องพุพองมีการดำเนินการทางกฎหมายกลับไหม ?ถือว่าเราอยู่กลางพายุ อยู่กลางฝนพระราม 2 ก็ต้องโดนฝนพระราม 2 ไปด้วย เพราะฉะนั้น โดยส่วนตัวไม่ฟ้องร้องครับขณะที่ เผยแพร่แถลงการณ์ โดยระบุว่า จากเหตุการณ์ โรงพยาบาลพระราม 2 รับคนไข้หญิงไทยอายุ 38 ปี ซึ่งเข้ามาในโรงพยาบาลในลักษณะเดินกึ่งวิ่งมาจากด้านล่างของโรงพยาบาลบริเวณทางลาดขึ้นไปที่ห้องฉุกเฉินบริเวณชั้น 2 เวลาเกือบ 06.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากคนไข้ไม่เคยมาที่โรงพยาบาลพระราม 2 จึงวิ่งผ่านห้องฉุกเฉินด้านหน้าไปบริเวณ OPD และลงไปที่ชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล จนพบพนักงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยของโรงพยาบาลซึ่งอยู่บริเวณชั้นใต้ดิน จึงได้สอบถามคนไข้และพาคนไข้เดินขึ้นมาที่ห้องฉุกเฉินบริเวณประตูหลังซึ่งอยู่หน้าลิฟต์ขณะที่คนไข้เข้าไปที่ห้องฉุกเฉินก็ได้ร้องบอกเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินว่าช่วยด้วย ปวดแสบปวดร้อน พยาบาลห้องฉุกเฉินจึงได้รีบเข้าปฐมพยาบาลคนไข้พร้อมสอบถามอาการ ทราบว่าคนไข้ถูกสามีสาดน้ำร้อนเข้าหน้าในขณะที่นอน พยาบาลจึงได้ทำการปฐมพยาบาลพร้อมวัดสัญญาณชีพ ผลความดันปกิ ชีพจรปกติ การหายใจปกติ ออกซิเจนในเลือดปกติจากนั้นได้โทรรายงานแพทย์ที่ปรึกษาทางศัลยกรรม นพ.พีระ คณานุวัฒน์ พร้อมแจ้งอาการและสัญญาณชีพให้ทราบ นพ.พีระ คณานุวัฒน์ สั่งให้ทำแผลคนไข้และรับไว้เป็นผู้ป่วยในเพื่อให้ยาระงับปวดและสังเกตอาการ แต่คนไข้ได้แจ้งปฏิเสธการรักษาเป็นผู้ป่วยในพร้อมทั้งบอกความต้องการที่จะไปรักษาตามสิทธิประกันสังคมของตน ซึ่งอยู่ที่โรงพยาบาลบางมด และประสงค์ขอเดินทางไปเอง ทางโรงพยาบาลพระราม 2 ได้โทรไปแจ้งที่โรงพยาบาลบางมดแต่ไม่สามารถติดต่อผู้ตรวจการณ์ของโรงพยาบาลบางมดได้ในขณะนั้น จึงขอสายคุยกับพยาบาลห้องฉุกเฉิน และแจ้งว่าจะมีคนไข้คนดังกล่าวไปที่โรงพยาบาล จากนั้นโรงพยาบาลพระราม 2 ได้นำส่งคนไข้ขึ้นรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลบางมดตามความประสงค์ในเวลาประมาณ 06.00 น.อ่าน | ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม 2 แถลงยืนยัน ทำหน้าที่ดูแลหญิงถูกสาดน้ำกรดอย่างดีที่สุดตามมาตรฐานโรงพยาบาลในการดูแลคนไข้ ปฐมพยาบาลพร้อมรับไว้เป็นผู้ป่วยใน แต่คนไข้ปฏิเสธ แล้วตัดสินใจเดินทางไปโรงพยาบาลอื่นด้วยตนเอง เพราะต้องการใช้สิทธิประกันสังคม | สังคม | น้ำกรด,สาดน้ำกรด,โรงพยาบาลพระราม 2,โรงพยาบาลบางมด,เสียชีวิต,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/275651 |
น่ายินดี ญี่ปุ่นยอมให้เครื่องบินไทยเข้าประเทศได้แล้ว | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า เมื่อเวลา 16.45 น. วานนี้ (31 มี.ค.) ทางกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่นได้แจ้งมายังกรมการบินพลเรือนไทย ว่า ทางญี่ปุ่นจะมีการทบทวนมาตรการยกเลิกเที่ยวบินไม่ประจำ ในเส้นทางบินญี่ปุ่น,เนื่องจากญี่ปุ่นเห็นความตั้งใจของรัฐบาลไทย และ กระทรวงคมนาคม ในการแก้ไขปัญหาตามข้อทักท้วงของ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอซึ่งจะทำให้สายการบินในไทย ที่มีปัญหาไม่สามารถขนผู้โดยสารไปยังญี่ปุ่นได้ ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา จะสามารถให้บริการขนส่งผู้โดยสารได้เช่นเดิม ตามที่ขอไปตามตารางบินฤดูร้อน,สำหรับการแก้ไขปัญหาเป็นไปในแนวทางที่ดีนั้น เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และรับทราบปัญหา และสายวันนี้ (1 เม.ย.) ตนเองจะมีการประชุมร่วมกับ คณะกรรมการชุดที่มี นายวรเดช หาญประเสริฐ เป็นประธาน เพื่อสรุปรายละเอียดทั้งหมด ก่อนเสนอกลับไปยัง ไอเคโอ ถึงแนวทางแก้ไขปัญหามาตรฐาน บพ.อย่างเร่งด่วน นอกจากนั้นจะมีการแถลงข่าวในวันนี้ (1 เม.ย.),ผู้สื่อข่าวรายงานเบื้องต้นโดยคาดว่า สายการบินของไทย ที่ทำการบินไม่ประจำ จะสามารถกลับมาให้บริการทางการบินขนผู้โดยสารไปยังญี่ปุ่นได้ภายใน 1-2 วันนี้แน่นอน ตามตารางการบินจะเป็นช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค. 58 ส่วนตารางบินถัดไปหลังจากเดือน พ.ค.นั้น ทางกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่นจะแจ้งอีกครั้ง. | กรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น แจ้งข่าวดีอนุมัติให้เครื่องบินของประเทศไทยสามารถบินเข้าประเทศได้ตามที่ขอตารางบินฤดูร้อน หลังทบทวนมาตรการยกเลิกเที่ยวบินไม่ประจำ ในเส้นทางบินญี่ปุ่นเร็ววันนี้ | null | กรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น,ข่าวเศรษฐกิจ,กระทรวงคมนาคม,ไอเคโอ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,กรมการบินพลเรือน,สายการบินไทย,เครื่องบินไทย,ห้ามเข้าประเทศ,ประจิน จั่นตอง,ญี่ปุ่น,นักท่องเที่ยว,การท่องเที่ยว,ยกเลิกเที่ยวบิน,เครื่องบิน | https://www.thairath.co.th/content/490339 |
รมว.ยธ. ชง ครม.ขยายเรือนจำ ปรับกฎหมาย แก้ปัญหานักโทษล้นคุก | เมื่อวันที่ 30 ม.ค.63 ที่ห้องประชุมชั้นใหญ่ 12 สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวเกี่ยวกับการป้องกันไวรัสโคโรน่าในเรือนจำว่า วันนี้ได้เรียก ผบ.เรือนจำทั้งหมดมาเข้าค่ายอบรมกันในหลายๆ เรื่อง การบริหารจัดการดูผู้ต้องขังซึ่งแออัดอยู่แล้ว คนเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นหวัดจะติดกันหมด ทำอย่างไรจะแยกผู้ต้องขังที่ป่วยออกมาหรือด้านอื่นๆ การเยี่ยม การดูแลของแพทย์ ให้ ผบ.เรือนจำที่ผลประกอบการดีแนะนำ ผบ.เรือนจำที่ผลประกอบการไม่ดี เพราะในเรือนจำจะมีการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ หัตถกรรม ใช้แรงงานผู้ต้องขังอาสาสมัครเพื่อเลี้ยงตัวเองได้ สิ่งที่ตนรับไม่ได้คือผู้ต้องขังเสียชีวิตในห้องขัง โดยไม่มีผู้ใหญ่หรือ ผบ.เรือนจำ เข้าไปดูแล ต้องเอามาอบรมนายสมศักดิ์ กล่าวถึงการขยายเรือนจำว่า ในสัปดาห์หน้าเรื่องเรือนจำที่จะเสริมขึ้นมาจะถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะนี้เราขาดที่นอนประมาณ 150000 คน เราก็จะทำเรือนนอนเพิ่มเกือบ 100000 ตารางเมตร นอนได้ 80000 คน ก็ยังเกิน จะปรับให้สมดุล และต้องดูกระบวนการปล่อยนักโทษ ปล่อยไปโดยไม่มีเหตุผลไม่ได้ ที่เราจัดกลุ่มนักโทษไป กลุ่มใหญ่ตนเรียกว่าเป็นกลุ่มขุนแผน คือ ทั่วไป กลุ่มเดรัจฉานอย่างปล้นทองที่ลพบุรี ไอซ์หีบเหล็ก สมคิด พุ่มพวง ต้องทำกรอบให้เขาอยู่ในกรอบที่จะต้องรับโทษหนัก หนักแค่ไหนขึ้นอยู่กับกฎหมาย กลุ่มเทวดาตกสวรรค์มาติดคุก ไม่ควรอยู่นาน ปล่อยไปเร็วๆ ต้องดูว่ากฎเกณฑ์ที่จะดำเนินการตรงนี้ให้เป็นมาตรฐานที่ใช้กับทุกคนได้ ส่วนกำไลอีเอ็มนั้นมีคนอยู่ 10 ประเภทที่จะใช้ ต้องร่างระเบียบ กฎกระทรวงมารองรับตรงนี้ เอาคนที่โทษน้อย ไม่สมควรอยู่นานก็ใช้เมื่อถามถึงการแก้ปัญหานักโทษล้นคุก ที่ส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติด สามารถเสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อลดโทษผู้เสพยาแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประธานศาลฎีกามองว่ากฎหมายที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ต่อประชาชน ควรปรับปรุง ลด เอาออกไป ตนก็มองว่าเรื่องยาเสพติด กฎหมายมีขั้นต่ำขั้นสูง ถ้าเราแก้กฎหมายเอาขั้นต่ำออกไป ให้ศาลใช้ดุลยพินิจตรงนี้ การจองจำอาจจะน้อยลง ให้ใช้คลินิกจิตสังคมมากขึ้นก็เป็นได้ กฎหมาย พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ขณะนี้ส่งเข้า ครม.แล้วเมื่อถามถึงความคืบหน้าคดีฆ่าบิลลี่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทราบจากข่าวทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เห็นแย้ง ทำเหตุผลเพิ่มเติมให้อัยการสูงสุดรับได้ เป็นฝีมือของดีเอสไอว่าดีแค่ไหนอย่างไร การประสานงานเป็นอย่างไร หน้าที่ของราชการประจำต้องทำให้เรียบร้อย ไม่ได้กำชับอะไร ให้ทำตรงไปตรงมา เป็นเรื่องระเบียบของทางราชการ. | รมว.ยุติธรรม เผยอบรม ผบ.เรือนจำ ด้านการบริหาร-ป้องกันไวรัสโคโรน่า ชงขยายเรือนจำเพิ่ม-ปรับปรุงกฎหมาย แก้ปัญหานักโทษล้นคุก | ข่าว,การเมือง | สมศักดิ์ เทพสุทิน,รมว.ยธ.,เรือนจำ,คุก,นักโทษ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1759945 |
ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ | กุลิศ สมบัติศิริ ,การแต่งตั้งโยกย้าย ระดับปลัดกระทรวง เที่ยวนี้โฟกัสไปที่ชื่อของ ปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ โยกมาจาก อธิบดีกรมศุลกากร ในสังกัด กระทรวงการคลัง หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าเป็นการย้ายข้ามห้วยก็ไม่ผิดนัก กุลิศ สมบัติศิริ ในตำแหน่ง ปลัดกระทรวงพลังงาน นอกจากจะเป็นการสร้างเซอร์ไพรส์แล้วยังเป็นการท้าทายอย่างมาก,เมื่อเร็วๆนี้ ข่าวที่เกี่ยวข้องกับ อธิบดีกุลิศ คือการสั่งการให้เข้มงวดกับ การเก็บภาษีขาเข้าและขาออกบริเวณท่าอากาศยาน เพราะมีการลักลอบนำสินค้าที่มีมูลค่าเกินกว่ากำหนดเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการกล้าท้าทายพอสมควร เพราะฉะนั้นบทบาทการทำงานของ อธิบดีกุลิศ จึงไม่ธรรมดามาโดยตลอด,ปัญหาที่สังคมตั้งคำถามก็คือว่าแล้ว อธิบดีกุลิศ มีความรู้ความสามารถที่จะทำงานใน กระทรวงพลังงาน แค่ไหน จาก กรมศุลกากร มาเป็น ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นคนละเรื่องกันเลย แต่ถ้าดูจากภารกิจที่ได้รับมอบหมายในช่วงที่ปฏิบัติราชการเคยเป็น อดีตบอร์ด กฟผ. ปัจจุบันเป็น บอร์ดของ ปตท.สผ. อีกตำแหน่ง งานในกรมศุลกากร โดยเฉพาะเรื่อง การเก็บภาษีขาเข้าและขาออกของปิโตรเลียม ยิ่งมีความชำนาญเป็นพิเศษ,จึงไม่ใช่เรื่องของความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านแต่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการมากกว่า,จะว่าไปแล้ว การข้ามห้วยจากกระทรวงการคลัง มารับตำแหน่งใน กระทรวงพลังงาน ครั้งนี้ ได้รับความเห็นชอบจาก ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เป็นที่เรียบร้อยโดยเฉพาะการทำงานร่วมกันระหว่าง กระทรวงพลังงาน กับ กระทรวงการคลัง ให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งน่าจะเลือกคนได้ตรงกับงานมากที่สุด,งานใหญ่ที่จะพิสูจน์ความสามารถของ อธิบดีกุลิศ ก็คือการประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติ บงกช และ เอราวัณ ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ เพราะจะเป็นจุดชี้วัดความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ,ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของ วีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ จะมีการเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ายื่นซองทางเทคนิค โดยต้องมีการระบุถึงผลประโยชน์ที่รัฐจะได้รับ ข้อเสนอให้หน่วยงานรัฐเข้าถือหุ้น ตามหลักเกณฑ์ที่ กระทรวงการคลัง กรมการพลังงานทหาร ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการด้านปิโตรเลียม นักเศรษฐศาสตร์ ร่วมกันกำหนดเอาไว้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้,อย่างว่าเป็นธรรมดาของ เอ็นจีโอ ที่คัดค้านเรื่องของสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมอยู่แล้ว รับน้อง โดยการโจมตี ปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ ทุกเม็ด โดยคนเดิมๆ วิธีการเดิมๆ,ภารกิจที่ยิ่งใหญ่กับตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงานคงเป็นการท้าทายการทำงานของ อธิบดีกุลิศ มากกว่าตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากรหลายเท่า เพราะเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญกับการให้คุณให้โทษบนผลประโยชน์มหาศาลและเป็นที่ต้องการของหลายฝ่าย,กำลังใจถือว่าสำคัญที่สุดกับภารกิจที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้.,หมัดเหล็ก,[email protected] | การแต่งตั้งโยกย้าย ระดับปลัดกระทรวง เที่ยวนี้โฟกัสไปที่ชื่อของ ปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ โยกมาจาก อธิบดีกรมศุลกากร ในสังกัดกระทรวงการคลัง หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าเป็นการย้ายข้ามห้วยก็ไม่ผิดนัก | null | คาบลูกคาบดอก,หมัดเหล็ก,กุลิศ สมบัติศิริ,ปลัดกระทรวงพลังงาน,แหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ-บงกช | https://www.thairath.co.th/news/politic/1356453 |
กระสุนปืนใหญ่ตกกลางหมู่บ้านใน จ.นครสวรรค์ | ตำรวจภูธรหนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์ ตรวจสอบรอยกระสุนบนรถยนต์ของนางกิตติ์ชญาห์ ต่วมชะเอม อายุ 38 ปี หลังได้รับความเสียหายจากสะเก็ดลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 105 มิลลิเมตร ที่ทหารในจังหวัดนครสวรรค์ซ้อมยิง และพลาดไปตกขณะขับรถผ่านมาพอดี เมื่อช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมานางกิตติ์ชญาห์ กล่าวว่า ขณะขับรถบนถนนสายเขาทอง-นครสวรรค์ ได้เกิดเสียงดังขึ้น และกระจกรถแตก เมื่อตรวจสอบพบว่ามีรอยสะเก็ดลูกกระสุน กระเด็นเข้ากระจกด้านหลังคนขับ แล้วแฉลบทะลุกระจกข้าง แต่โชคดีที่ไม่ได้รับอันตราย ขณะเดียวกัน ยังมีกระสุนตกห่างจากจุดแรกประมาณ 300 เมตร อีก 1 ลูก ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อยหลังเกิดเหตุ สารวัตรทหารเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ พร้อมบอกกับชาวบ้านว่า ช่วงนี้เป็นช่วงฝึกซ้อม เพื่อวัดระยะของปืนใหญ่ แต่เนื่องจากเป็นกระสุนเก่า ทำให้ระยะยิงผิดไป และพร้อมรับผิดชอบความเสียหายทุกอย่าง ส่วนชาวบ้านคาดว่ากระสุนที่ตกน่าจะเป็นการทดสอบยิงกระสุนปืนใหญ่ของกองคลังแสง กรมสรรพาวุธทหารบก อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ | ทหารในจังหวัดนครสวรรค์ทดสอบยิงลูกกระสุนปืนขนาด 105 มิลลิเมตร แต่กลับไปตกกลางหมู่บ้าน ทำให้รถยนต์ และบ้านได้รับเสียหาย | ภูมิภาค | กระสุนปืนใหญ่,ซ้อมยิง,ทหาร,นครสวรรค์,รถยนต์ | https://news.thaipbs.or.th/content/154725 |
ปชช. 55.54% พอใจผลงาน คสช.7 เดือน | วันที่ 23 ธ.ค. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต หรือ ดุสิตโพล ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชน จำนวน 1,788 คน ระหว่างวันที่ 20 - 23 ธันวาคม 2557 ถึงผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนของ คสช. ที่เข้ามาบริหารประเทศ พบว่าการบริหารประเทศในภาพรวม เห็นว่า คสช. ทำงานมุ่งมั่นจริงจัง โดยเฉพาะการปราบทุจริตคอร์รัปชัน และเห็นว่า ทั้ง คสช.และรัฐบาลสามารถทำงานควบคู่กันไปได้ด้วยดี ทั้งยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับต่างประเทศ ส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชน ที่มีต่อ คสช. ในการบริหารประเทศครบ 7 เดือน,อันดับ 1 ค่อนข้างพึงพอใจ 55.54% เพราะทำงานอย่างต่อเนื่องให้ความสำคัญกับปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ส่งเสริมการค้าการลงทุน อันดับ 2 พึงพอใจมาก 34.90% เพราะตั้งใจทำงาน มีผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรม เช่น ลดราคาน้ำมัน ขึ้นเงินเดือน ขรก. ปราบทุจริตคอร์รัปชัน อันดับ 3 ไม่ค่อยพึงพอใจ 7.05% เพราะยังคงมีความขัดแย้งในสังคม ยังแก้ไขปัญหาสำคัญๆ ไม่ได้ เช่น ราคายางตกต่ำ ไฟใต้ อันดับ 4 ไม่พึงพอใจเลย 2.51% เพราะเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพถูกควบคุม ยังมีกฎอัยการศึก,ความเห็นสำหรับจุดเด่นของ คสช. ที่บริหารประเทศครบ 7 เดือน อันดับ 1 หัวหน้าคสช. ทำงานด้วยตนเองรู้และเข้าใจปัญหา อันดับ 2 มีการชี้แจงถึงผลการดำเนินงานให้ประชาชนได้ทราบอย่างต่อเนื่อง อันดับ 3 เน้นแก้ปัญหาของประชาชนเป็นหลักต้องการคืนความสุขให้กับประชาชน,ความเห็นส่วนที่เห็นว่า เป็นปัญหา-อุปสรรค ในการดำเนินการของ คสช. อันดับ 1 สภาวะเศรษฐกิจโลกยังถดถอยเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ดีขึ้น อันดับ 2 ปัญหาชายแดนภาคใต้ ยังไม่สงบมีเหตุเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรุนแรงมาก อันดับ 3 มีข่าวลือการสร้างกระแสใส่ร้ายโจมตีเรื่องที่ไม่เป็นจริง,สิ่งที่อยากฝากบอก คสช. เกี่ยวกับการบริหารประเทศ มีดังนี้ อันดับ 1 เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน แก้ปัญหาค่าครองชีพลดราคาสินค้า อันดับ 2 ทำงานด้วยความยุติธรรม ใช้กฎหมายจัดการกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจังและเด็ดขาด อันดับ 3 อยากให้บริหารประเทศต่อไป ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ อดทน. | ดุสิตโพล เผย ปชช. 55.54% พอใจผลงาน คสช. 7 เดือน - ให้ความสำคัญกับปัญหาค่าครองชีพ ส่งเสริมการลงทุน | null | ดุสิตโพล,คสช.,ปราบทุจริต,ค่าครองชีพ,รัฐบาล,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/470759 |
เปิดสถิติเกมเหย้า 10 นัดหลังสุด แมนฯยู ก่อนทำศึกผ่าเมือง แมนฯซิตี้ | วันที่ 23 เม.ย. 62 ความเคลื่อนไหวของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มีโปรแกรมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก ดาร์บี้แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ ในค่ำคืนวันพุธนี้ 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย,เป็นที่เข้าใจกันว่า ยอดทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ รั้งอยู่ในอันดับที่ 6 ของตารางด้วยการมี 64 คะแนนจากการลงสนาม 34 นัด ขณะที่ทีมร่วมเมืองสีฟ้า อยู่อันดับ 2 ของตารางสะสมไปแล้วถึง 86 คะแนนจากการลงสนาม 34 นัด,สถิติเกมเหย้า 10 นัดหลัง,06/12/2018 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , อาร์เซนอล,08/12/2018 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , ฟูแลม,26/12/2018 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์,30/12/2018 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , บอร์นมัธ,19/01/2019 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฤ อัลเบียน,30/01/2019 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , เบิร์นลีย์,24/02/2019 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , ลิเวอร์พูล,02/03/2019 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , เซาแธมป์ตัน,30/03/2019 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , วัตฟอร์ด,13/04/2019 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , เวสต์แฮม ยูไนเต็ด | เปิดสถิติเกมเหย้า 10 นัดหลังสุดในลีกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแดนผู้ดี ก่อนเกมเปิดบ้านรับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ วันพุธนี้ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1551180 |
นิพิฏฐ์ ยุใช้โมเดล คึกฤทธิ์ สู้เผด็จการ ปกป้องศักดิ์ศรีสื่อ | เมื่อวันที่ 2 พ.ค.60 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ยิงเป้าสื่อ ผมฟังการอภิปรายของสมาชิก สปท.หลายท่าน เกี่ยวกับการเสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมสื่อฯ อภิปรายดุเดือดถึงขนาดจะจับสื่อไปยิงเป้า ชกอยู่ฝ่ายเดียวสนุกเขาแล้ว การใช้สภาออกมาถล่มสื่อฝ่ายเดียวไม่เป็นธรรม ถึงเวลาทดสอบความเข้มแข็งขององค์กรสื่อว่า พอจะปกป้องศักดิ์ศรีตัวเองหรือไม่ ผมเลยนึกถึง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกฯ ต่อสู้กับอำนาจของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ใช้หนังสือพิมพ์สยามรัฐเป็นอาวุธพาดหัวข่าวแปลกๆ เช่น ข้าราชการทุกคนที่ลาบวช ต้องโกนหัวไม่มีทางช่วย พระอาทิตย์ที่หัวหินขึ้นผิดทางกับศรีราชา หรือนกกระจอกยกพวกตีกัน สันนิษฐานสาเหตุว่าเรื่องผัวเมีย ปรากฏรัฐบาลไม่มีอะไรจะเซนเซอร์ข่าว จนจอม พล ป.ถูกยึดอำนาจ หากสื่อไม่สู้ก็ยอมให้เขาจับไปยิงเป้าทีละคนๆ จนหมดก็ไม่ว่ากัน,นอกจากนี้ นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า คนที่บอกจะยิงเป้าสื่อคงหวังเอาใจ ให้นายกฯและหัวหน้า คสช.ถูกใจ เป็นคำพูดโน้มเอียงไปในลักษณะเผด็จการใช้ความรุนแรง ทำกลางสภาคนได้ยินทั้งประเทศ ทำให้คนซึมซับความคิดเผด็จการ เวลาบ้านเมืองเข้าสู่ประชาธิปไตยจะเดินยาก แต่ถ้าวันนี้ไม่ร่วมกันต่อสู้ จะถูกเล่นงานฝ่ายเดียว เขาคิดว่าสื่อวันนี้ไม่เข้มแข็ง | นิพิฏฐ์ โพสต์ จวก สปท.ไม่เป็นธรรม ใช้เวทีสภาไล่ชกสื่อฝ่ายเดียว ยุส่งบอกสื่อใช้โมเดล คึกฤทธิ์ สู้ปกป้องศักดิ์ศรีสื่อ
| ข่าว,การเมือง | นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ,พ.ร.บ.สื่อฯ,ก.ม.ควบคุมสื่อฯ,สปท.,ปชป. | https://www.thairath.co.th/news/politic/928908 |
ภรรยาแจ้งความ สามี ต้องสงสัยเกี่ยวข้องลูก 2 คนถูกจับกรอกยาพิษ | เจ้าหน้าที่นำศพเด็กหญิงอายุ 7 ปี ส่งชันสูตร และ นำเด็กชายอายุ 5 ปี ส่งรักษาที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี หลังตำรวจเข้าตรวจสอบภายในบ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง พบเด็กทั้ง 2 คนมีอาการคล้ายถูกกรอกยาพิษ พร้อมทั้งพบขวดน้ำอัดลม 3 ขวด ซองยาไม่ทราบชนิด และ จดหมายมีเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายขณะที่มารดาของเด็กได้เข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง โดยไม่เชื่อว่า ลูกทั้ง 2 คนฆ่าตัวตายและขอให้ตำรวจติดตามสามีไปสอบสวน เพราะเชื่อว่า อาจอยู่เบื้องหลังและเหตุการณ์มีเงื่อนงำมารดาของเด็กทั้ง 2 คนยังให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีเรื่องทะเลาะกับสามีบ่อยครั้ง จึงพาลูกทั้งสอง 2 คนกลับบ้านที่ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน ต่อมาสามีได้ไปรับลูกทั้ง 2 คน กลับบ้านที่ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จากนั้นจึงพบว่า ลูกสาวคนโตเสียชีวิต และ ลูกชายคนเล็กอาการสาหัส | เด็ก 2 พี่น้องในอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี มีอาการคล้ายถูกกรอกยาพิษ ทำให้เสียชีวิต 1 คน และ อาการสาหัส 1 คน ขณะที่มารดาไม่เชื่อว่า ลูกทั้ง 2 คนฆ่าตัวตาย และ เข้าแจ้งความกับตำรวจให้นำสามีไปสอบสวน | ภูมิภาค | 2 พี่น้อง,ฆ่าตัวตาย,ท่ายาง,ยาพิษ,เพชรบุรี | https://news.thaipbs.or.th/content/137240 |
วิพากษ์บทความ เทรนด์ใหม่ 2012 หญิง+หญิง ฉิ่งครองเมือง ไทยรัฐออนไลน์ หรือศรี (ควร) ทนได้? | เมื่อได้อ่านบทความ(ซึ่งต่อไปจะเรียกสั้นๆว่า ฉิ่งครองเมือง) ของไทยรัฐออนไลน์ ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือเหนื่อยใจค่ะ แต่เมื่อตั้งสติและได้อ่านความคิดเห็นของหลายๆคนที่มีต่อบทความดังกล่าวในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความคิดของชาว ฉิ่ง ที่เขาว่าตอนนี้ ครองเมือง และ ชุกชุม อย่างยิ่ง ในแฟนเพจของโครงการจัดตั้งมูลนิธิอัญจารี และของนักกิจกรรมเรื่องความหลากหลายทางเพศที่ทำงานขับเคลื่อนสังคมมาโดยตลอด ดูท่าว่าเรื่องนี้จะซับซ้อนและควรตีแผ่มากกว่าแค่เหนื่อยใจแล้วจบกันไป ดิฉันจึงขอท้วงติงเนื้อหาและการทำงานในฐานะสื่อมวลชนของไทยรัฐออนไลน์ที่ได้ประกาศอย่างห้าวหาญว่าบทความ เป็น ของบทความที่มาจากบทสัมภาษณ์นักร้องนักแสดงหญิงรักหญิงสามคน (ซี-มัฑณาวี คีแนน ติ๊นา ศุภนาฏ จิตตลีลา และ จิ๊บ-ปกฉัตร เทียมชัย) กับดี้ปอนด์ (ผมยาว ตาโต แก้มป่องสาวสุดเซ็กซี่) ดิฉันเห็นความพยายามที่จะนำเสนอข้อมูลหรือพูดออกมาจากปากของ คนใน ที่เป็นหญิงรักหญิงเอง เป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าชื่นชมที่สื่อกระแสหลักหยิบยกประเด็นเหล่านี้มานำเสนอ ทว่าคำตอบที่ได้รับหรือถูกนำเสนอนั้นคืออะไร? เมื่ออ่านจนจบดิฉันพบว่า เป็นการผลิตซ้ำความเชื่อและความเข้าใจที่ผิดพลาด-เบี่ยงเบน-และบิดเบี้ยว ต่อเรื่องราวของหญิงรักหญิงในหลากหลายประเด็น อาทิ(1) ผู้หญิงกลายเป็นทอม ดี้ เลสฯ เพราะเบื่อผู้ชาย(2) ทอมเอาใจเก่ง แต่หึงโหด(3) หญิงรักหญิงเป็นแฟชั่นหรือเทรนด์ใหม่ของปี 2012 รวมทั้งเริ่มจะ ชุกชุม จน ครองเมือง(4) เสนอนิยามความหมายของคำว่าเลสเบี้ยน (Lesbians) ประหลาดแท้ โดยเสนอว่าคำๆนี้มาจากคำว่าอัญจารี (อัญญ-จารี)(5) เป็นหญิงรักหญิง แค่รักกันก็พอแล้ว ไม่ต้องแต่งงาน ไม่ต้องได้รับการยอมรับจากสังคมเพราะความรักสำคัญที่สุดหรือแม้แต่ (6) เซ็กซ์ของ หญิง-หญิง เด็ด กว่าหญิง-ชายการใช้บทสัมภาษณ์ดารานักแสดงเพียงไม่กี่คน ไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าหญิงรักหญิงทุกคนเป็นอย่างนั้น และน่าตั้งคำถามต่อการใช้ภาษาที่ตั้งใจให้มีสีสันน่าสนใจ เป็นการตีตราคนกลุ่มนี้หรือไม่? ผู้หญิงที่มีความหลากหลายทางเพศ (เลสเบี้ยน ทอม-ดี้ ทรานส์แมนหรือผู้ชายข้ามเพศ และไบเซ็กชวล) ไม่ได้เป็นแบบนั้นโดยมีสาเหตุมาจากผู้ชาย การที่ผู้ชายดีหรือเลวก็ไม่ได้มีส่วนทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งมีความหลากหลายทางเพศ สำหรับบางคน เธอรู้สึกชัดเจนถึงอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไปซึ่งมีรักต่างเพศ (heterosexual) มาตั้งแต่เริ่มจำความได้ จึงกล่าวได้ว่าสำหรับคนกลุ่มนี้เธอเป็นเช่นนั้นมาแต่กำเนิด สำหรับบางคนเรียนรู้หล่อหลอมและเลือกวิถีทางเพศ (sexual orientation) ของตัวเองเมื่อเติบโต สำหรับบางคนอาจเคยคบหากับผู้ชายหรือแม้กระทั่งแต่งงานอยู่กินกัน แต่สุดท้ายเธอก็เลือกและสบายใจที่จะอยู่กับเพศอื่นมากกว่า หากเข้าใจประเด็นเพศของมนุษย์ให้ลึกซึ้งจะพบว่าเพศมีมิติที่ซับซ้อนและเลื่อนไหลเปลี่ยนแปลง เริ่มตั้งแต่ เพศทางร่างกายโดยกำเนิด (sex) การมีสรีระร่างกาย มีอวัยวะเพศเป็นหญิงเป็นชาย เพศภาวะหรืออัตลักษณ์ทางเพศ (gender identity) การหล่อหลอมสร้างตัวตนทางเพศของตัวเอง และเพศวิถีหรือรสนิยมทางเพศ (sexuality orientation) การมีเพศสัมพันธ์หรือความสัมพันธ์กับเพศอื่นๆการที่น้องซีและน้องติ๊นาจะเห็นว่า ทอมชอบเอาใจ เข้าใจความเป็นผู้หญิง หรือ เข้าใจหัวอกผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หรือน้องปอนด์จะชื่นชมทอมโดยเปรียบเทียบกับผู้ชาย มันก็ไม่ผิดแปลกอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่อันที่จริงแล้วมันไม่สามารถเทียบเคียงกันตื้นๆแบบนั้นได้ ผู้ชายที่อ่อนโยนเอาอกเอาใจก็มี ทอมที่แย่ๆก็มีเช่นกัน ผู้สัมภาษณ์น่าจะตระหนักถึงเรื่องนี้และไม่เหมารวมว่าดี้หรือหญิงรักหญิงทุกคนจะคิดอย่างน้องปอนด์ และน่าสังเกตว่าวิธีคิด หญิงเป็นทอมดี้เพราะชายเลว น่าจะมีที่มาจากวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ ซึ่งทำงานอยู่เบื้องหลังความคิดนั้นอย่างซับซ้อนแนบเนียนจนกระทั่งคนที่ถูกมันกระทำอาจจะไม่รู้ตัว น่าเห็นใจค่ะ เพราะเหตุที่มีความสุขกับผู้ชายไม่ได้จึงต้องเบี่ยงเบนหันมารักกันเอง ไม่ก็ถูกทำให้มีภาพของผู้หญิงที่เกลียดผู้ชายไปเลย ไม่สามารถเป็น หญิงแท้ ไม่สามารถแต่งงานมีลูกมีครอบครัวที่อบอุ่นได้ในทางตรงข้ามเรื่องทอมหึงโหด ทอมขี้หวง ทอมใช้ความรุนแรง นี่ก็เช่นเดียวกัน เราจะเห็นการผลิตซ้ำๆในเรื่องนี้ตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตสื่อที่ไม่พยายามทำความเข้าใจกับข้อเท็จจริง ไม่ค่อยระมัดระวังและไม่รับผิดชอบกับผลในเชิงทัศนอคติที่จะเกิดขึ้นต่อคนกลุ่มหนึ่งในสังคม ตามความเป็นจริงแล้วใครๆก็ใช้ความรุนแรง ใครๆก็หึงได้ค่ะยิ่งเรื่องเพศสัมพันธ์ระหว่างหญิงกับหญิงด้วยแล้ว ยิ่งถูกใส่สีให้ดูวาบหวิว ถึงขนาดยกว่า เด็ด กว่าการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย เรื่องนี้น่าจะเป็นความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนตัว ถูกกล่าวไว้ในบทความเพื่อให้ดูหวือหวาน่าสนใจเท่านั้น การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องของความพึงพอใจค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเรื่องรสนิยมเฉพาะบุคคล ไม่เกี่ยวว่าเพศไหนเก่งหรือเด็ดกว่ากัน กรุณา (อีกครั้ง) อย่าเหมารวม (เดี๋ยวหนุ่มๆเสียใจแย่) ที่หนักแท้คือการนำเสนอว่าอัตลักษณ์และเพศวิถีของหญิงรักหญิงเป็นเพียงแฟชั่น หรือเทรนด์หนึ่งของปี 2012 เท่านั้น เอาอย่างนั้นดีไหม?จริงอยู่ ดิฉันไม่เถียงว่ามีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเลือกที่จะมีวิถีทางเพศแบบรักเพศเดียวกันในลักษณะของเทรนด์หรือแฟชั่นชั่วประเดี๋ยวประด๋าว แต่ผู้เสนอข่าวควรตระหนักว่านั่นไม่ใช่สำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่สำหรับคนที่ถูกกระทำความรุนแรง คนที่ถูกละเมิด หรือคนที่พยายามอย่างยิ่งที่จะดำรงตัวตนและอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองไว้ในสังคมที่ยังไม่ตระหนักถึงการมีอยู่ของพวกเธออย่างแท้จริง การนำเสนอของไทยรัฐออนไลน์ส่งผลกระทบกับผู้หญิงหลากหลายทางเพศอีกมากมายในสังคมนี้ เพราะสุดท้ายคุณจะทำให้พวกเธอต้องยอมรับโครงสร้างกดทับอันซับซ้อนและไม่ยุติธรรมเหล่านั้นอย่างที่เคยเป็นมาในอดีตข้อผิดพลาดในการเสนอความหมายของคำว่าเลสเบี้ยน (lesbian) คำว่าเลสเบี้ยนจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่มีคำภาษาไทยที่เป็นคำแปลของคำนี้ ที่ใกล้เคียงที่สุดคือ หญิงรักหญิง แต่หญิงรักหญิงก็ไม่ได้ครอบคลุมความหมายของเลสเบี้ยนทั้งหมด เนื่องจากมีเลสเบี้ยนที่ไม่ได้นิยามตัวเองว่าเป็น ผู้หญิง นั่นเอง เลสเบี้ยนมาจากคำว่า เลสบอส ชื่อเกาะแห่งหนึ่งในกรีกอันเป็นที่ซึ่ง แซพโฟ กวีหญิงและนักปราชญ์ชาวกรีกเขียนบทกวีสรรเสริญความรักระหว่างผู้หญิงด้วยกัน ผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะเลสบอสถูกเรียกว่า เลสเบียน และภายหลังถูกใช้เป็นคำเรียกผู้หญิงที่รักผู้หญิง ส่วนคำว่า อัญจารี นั้นเป็นชื่อของนักกิจกรรมกลุ่มหนึ่ง ปัจจุบันคือโครงการจัดตั้งมูลนิธิอัญจารี ซึ่งทำงานในประเด็นหญิงรักหญิงและสิทธิทางเพศในสังคมไทย เป็นคำผสมที่เกิดจากการนำคำว่า อัญญ ที่หมายถึงความแตกต่าง กับ จารี ที่หมายถึงความประพฤติ เมื่อรวมกันจึงหมายถึงผู้มีวิถีชีวิตแตกต่างจากจารีตของสังคม ดังนั้นคำนี้จึงไม่ใช่คำที่แปลความหมายของคำว่าเลสเบี้ยนโดยตรงแต่อย่างใด ส่วนคำว่า ทอม มาจาก tomboy ซึ่งหมายถึงคนที่ชอบแต่งตัวแบบผู้ชาย แต่ในต่างประเทศก็ไม่ได้หมายความว่าต้องรักดี้อย่างที่เข้าใจกันในสังคมไทย และคำว่า ดี้ มาจาก lady ก็เป็นคำที่สร้างขึ้นและเข้าใจกันเฉพาะในสังคมไทยเท่านั้นเองค่ะอาการโฮโมโฟเบียคืออาการเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกันที่ปรากฏออกมาตามสื่อต่างๆ รวมถึงอคติทางเพศ อาจพบได้จากการนำเสนอภาพของคนหลากหลายทางเพศ ไม่ว่าจะเป็น เกย์ กะเทย ทอม ดี้ หญิงรักหญิง ที่มีอารมณ์รุนแรง รักแรง เกลียดแรง มักตกเป็นเหยื่อหรือบางครั้งก็เป็นผู้สร้างความรุนแรงเอง มักมีจุดจบในชีวิตที่น่าเศร้า หรือมีวิถีชีวิตที่แปลกประหลาดหลุดโลก บ่อยครั้งปรากฏชัดที่การพาดหัวข่าว การใช้คำเรียก ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนอคติของผู้เขียนนั่นเองแม้ว่าส่วนหนึ่งอาจจะไม่ได้เกิดจากการมีอคติหรืออาการเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกัน แต่เกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศและขาดองค์ความรู้เรื่องเพศวิถีของสื่อมวลชนไทย ซึ่งเรื่องนี้อาจจะจำเป็นต้องให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการสื่อสารเรื่องความหลากหลายทางเพศ ในเบื้องต้น ปี 2554 สมาคมฟ้าสีรุ้งได้จัดทำหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ พิมพ์แจกจ่ายเป็นจำนวนถึง 14000 เล่ม ซึ่งมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำเสนอข่าวเรื่องเพศหรือความหลากหลายทางเพศแบบปราศจากอคติและมีความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้น ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามไปทางสมาคมฯได้ค่ะต่อไปเป็นคำถาม เราควรรู้สึกอย่างไรกับ ฉิ่งครองเมือง ของไทยรัฐออนไลน์และข่าวสารทำนองนี้?เท่าที่สำรวจเบื้องต้น พบการแสดงความคิดเห็นท้ายข่าวที่มีท่าทีหลากหลายดังนี้ ที่เขาเปิดพื้นที่ให้ชาวสีรุ้งได้มีตัวตนในสื่อกระแสหลัก (แบบที่ไม่รันทดหรือตลกโปกฮา)ที่เขายังเข้าใจเราผิดๆในหลายๆเรื่อง เพราะยังไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรดีกับบทความนี้ที่มาหาว่าเรา ชุกชุม สร้างภาพตอกย้ำเกี่ยวกับตัวตนของเรา เขาจะนำเสนออย่างไรก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเรา ขอแค่เป็นคนดีของสังคมก็พอ? สื่อเขาก็มีสิทธิคิด มีการแสดงความคิดเห็นของตัวเอง หรือเราไม่ควรตั้งความหวังกับสื่อบางรูปแบบ ที่มีเป้าหมายเพียงเพื่อสร้างกระแส? การตั้งความหวังของผู้อ่านอาจเป็นส่วนหนึ่ง แต่คำถามที่สำคัญกว่านั้นคือสื่อแบบไทยรัฐออนไลน์มีจุดยืนอย่างไร? ต้องการให้เนื้อหาสาระที่นำเสนอมีคุณภาพเชื่อถือได้มากน้อยเพียงไหน?ฉันทลักษณ์ รักษาอยู่ จากกลุ่มสะพาน แสดงความคิดเห็นในเฟสบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าสุมน อุ่นสาธิต จากกัลยาสโมสร กล่าวว่าแอดมินเฟสบุ๊กอัญจารี จิน กฤติธีรพัฒน์ โชติฐานิตสกุล ตัวแทนทรานส์แมน (ชายข้ามเพศ-ไม่ใช่ทอม) จากอัญจารีให้ความเห็นว่า บอกแล้วตั้งแต่ต้นว่า เหนื่อยใจ ค่ะอยากฝากคำถามถึงหลายคนหลายส่วน อยากถามชุมชนหญิงรักหญิงทั้งหลายว่าคุณสบายใจ พอใจ ที่จะถูกเอ่ยถึงในลักษณะนี้แล้วหรือ? อยากถามนักกิจกรรมความหลากหลายทางเพศว่าเอาอย่างไรกันดีคะ ควรหาทิศทางในการทำงานร่วมกับสื่อมวลชนอย่างไร ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่เขาอย่างไร ต้องทำงานกับสื่อมวลชนอย่างหนักและเป็นระบบมากขึ้นอีกหรือไม่ เท่าที่พยายามทำกันอยู่อาจจะหนักหน่วงไม่พอ หรือควรจะสร้างสื่อของตัวเอง ผลิตเนื้อหาเอง? อยากถามสื่ออย่างไทยรัฐออนไลน์ วัตถุประสงค์ในการทำหน้าที่สื่อมวลชนคืออะไรคะ? น่าจะมีความระมัดระวังในการนำเสนอเนื้อหาที่มีผลกระทบต่อคนจำนวนมากในสังคมหรือไม่อย่างไร? หากต้องการสนับสนุนหรือนำเสนอประเด็นความหลากหลายทางเพศลองศึกษาดูก่อนดีไหม?โดยสรุปคำตอบที่นำเสนอใน แม้จะดูทันสมัย แท้จริงก็คือเหล้าเก่าในขวดใหม่ เป็นคำตอบเดิม อคติเดิม การตีตราเดิม การตอกย้ำเดิมที่ถูกผลิตซ้ำและตอกย้ำอย่างนั้นมาหลายสิบปี คราวนี้ถูกทำให้น่าเชื่อผ่านถ้อยคำสัมภาษณ์ของดารานักแสดงกลุ่มหนึ่งที่มีทีท่าว่าจะเป็น คนใน ด้วยกันเอง จริงอยู่ ความคิดเห็น รูปแบบการใช้ชีวิต หรือทัศนคติต่อเรื่องต่างๆของคนเราแตกต่างกันได้ แต่การนำเสนอแบบเทกระจาด เหมายกแพง และยืนยันว่าเป็น คำตอบ ในลักษณะเช่นนี้ออกจะฉาบฉวยเกินไปและสร้างความเข้าใจผิดกับสังคมวงกว้างหรือไม่? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราปล่อยให้เนื้อหาที่บิดเบือนถูกนำเสนอออกไปสู่สังคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ตอบได้ไม่ยากค่ะ มันก็จะเป็นอย่างที่เคยเป็นมาโดยตลอดหลายสิบปี ดังนั้นการนำเสนอข่าวอย่างเบี่ยงเบนจึงควรได้รับการรักษาอย่างจริงจังและเร่งด่วนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง.อ่านบทความ เทรนด์ใหม่ 2012 หญิง+หญิง ฉิ่งครองเมือง ได้ที่ | เมื่อได้อ่านบทความ เทรนด์ใหม่ 2012 หญิง+หญิง ฉิ่งครองเมือง (ซึ่งต่อไปจะเรียกสั้นๆว่า ฉิ่งครองเมือง) ของไทยรัฐออนไลน์ ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือเหนื่อยใจค่ะ | สิทธิมนุษยชน | ความหลากหลายทางเพศ,ปรากฏการณ์ทอมดี้ครองเมือง,หญิงรักหญิง,อธิฌลา,เพศวิถี,เลสเบี้ยน | https://prachatai.com/journal/2012/09/42759 |
3 ค่ายมือถือ ออกมาตรการช่วยลูกค้า ประสบเหตุแผ่นดินไหวในเนปาล | เมื่อวันที่ 26 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 3 โอเปอเรเตอร์ค่ายมือถือ เอไอเอส ทรูมูฟ เอช และ ดีแทค เปิดบริการพิเศษ เพื่อช่วยคนไทย ที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวในเนปาล ให้ได้รับความสะดวกด้านการสื่อสาร,โดย เอไอเอส ขอส่งกำลังใจให้เหตุการณ์ภัยพิบัติที่ประเทศเนปาลผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พร้อมกันนี้ ให้ลูกค้า ทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน ที่เดินทางอยู่ในประเทศเนปาลขณะนี้ (ที่เปิดบริการข้ามแดนอัตโนมัติ หรือ IR) ให้ได้รับความสะดวกด้านการสื่อสาร สามารถโทรกลับประเทศไทยและรับสายได้ฟรี ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 26 – วันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2558 และรับส่วนลดค่าโทรกลับประเทศไทยและรับสายในอัตรา 50% ตั้งแต่วันอังคารที่ 28 เมษายน ถึงวันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2558 (ตามเวลาประเทศเนปาล),ทรูมูฟ เอช ไม่คิดค่าบริการโทรออก รับสาย ส่งข้อความ และรับข้อความ ดาต้าสำหรับการใช้งานโรมมิ่งในประเทศเนปาล ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน 2558 ,พร้อม ร่วมแสดงความเสียใจจากจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเนปาล ขอให้ท่านที่ยังคงอยู่ในประเทศเนปาลเข้ารายงานตัวกับสถานทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อสถานฑูตได้ดูแลอย่างเต็มที่,สถานที่ตั้งสถานฑูต167/4 Ward No.3, Maharajgunj Bansbari Road, P.O.Box 3333, Kathmandu, Nepal โทรศัพท์ +9779801069233 +9779841242094 แฟกซ์ +9774371408, +9774371409 ,อีเมล์ ,[email protected],ขณะที่ ดีแทค แจ้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่อยู่ในเนปาล สามารถโทรกลับไทย พร้อมรับ-ส่ง SMS MMS และ บริการ roaming ฟรี | 3 โอเปอเรเตอร์ค่ายมือถือ เอไอเอส ทรูมูฟ เอช และ ดีแทค อำนวยความสะดวกด้านการสื่อสาร สำหรับลูกค้า ที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวในเนปาล | null | เนปาล,แผ่นดินไหว,แผ่นดินไหวเนปาล,ช่วยเหลือ,คนไทย,โอเปอเรเตอร์ค่ายมือถือ,เอไอเอส,ทรูมูฟ เอช,ดีแทค,บริการพิเศษ,การสื่อสาร,โทร,ส่งข้อความ,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/495367 |
ชาวบ้าน 8 จังหวัดริมโขง เตรียมเดินสายค้านเขื่อนไซยะบุรี ก่อนตัดสินโครงการ 19 เม.ย.นี้ | หวังค้านโครงการก่อน MRC เปิดประชุม วานนี้ (17 เม.ย.54) นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ ชาวบ้านประมาณ 100 คนจาก 8 จังหวัดภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงจะเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนไซยะบุรี แขวงไซยะบุรี สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เนื่องจากชาวบ้านเชื่อว่า หากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจะเกิดผลกระทบใหญ่หลวงกับวิถีการดำรงชีวิตของชุมชนและระบบนิเวศน์ของแม่น้ำโขง สืบเนื่องจาก ในวันที่ 19 เม.ย.นี้ สำนักงานคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หรือ เอ็มอาร์ซี (Mekong River Commission: MRC) จะจัดการประชุมวาระพิเศษของคณะกรรมการร่วม (Joint Committee Special Session) 4ประเทศ (กัมพูชา ลาว ไทย และเวียดนาม) ที่สำนักงานในนครหลวงเวียงจันทน์เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการดังกล่าว นายนิวัฒน์กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันที่ 18 ตั้งแต่เวลา 9.00 น.ชาวบ้านทั้งหมดจะร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์กันที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) โดยมีนายประสาร มฤคพิทักษ์ และนางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา นางสุนี ไชยรส ว่าที่กรรมการปฏิรูปกฎหมาย รวมทั้งนักวิชาการ มาร่วมให้กำลังใจ และในเวลา 10.00 น.จะมีการยื่นหนังสือต่อ ดร.ศรีประภา เพชรมีสี ผู้แทนไทยในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนอาเซียน จากนั้นเวลา 12.00 น.ชาวบ้านทั้งหมดจะเดินทางไปยังสถานทูตลาวประจำประเทศไทยเพื่อยื่นจดหมายถึงรัฐบาลลาว ส่วนช่วงบ่ายจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายสุรจิต ชิรเวช ส.ว.สมุทรสงคราม และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นกรรมาธิการพิจารณากรณีการสร้างเขื่อนไซยะบุรี นายนิวัฒน์กล่าวว่า ขณะนี้กระแสการต่อต้านการสร้างเขื่อนไซยะบุรีกำลังรุนแรงขึ้นทุกวัน โดยสื่อมวลชนของเวียดนามในหลายสำนักได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การสร้างเขื่อนครั้งนี้ เนื่องจากเวียดนามเป็นประเทศท้ายน้ำซึ่งจะได้รับผลกระทบ และล่าสุดเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา นายจิม เว็บบ์ ประธานอนุกรรมาธิการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ของสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการชะลอสร้างเขื่อนนี้ เพราะอาจส่งผลกระทบกับประชาชน 60 ล้านคนที่พึ่งพาแม่น้ำโขง นายนิวัฒน์กล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทยนั้น ชาวบ้านริมแม่น้ำโขงต่างรู้สึกกังวลมาก เพราะหากมีการสร้างเขื่อนไซยะบุรีจริง จะทำให้ปลานับร้อยสายพันธุ์ต้องหายไป โดยเฉพาะปลาบึกซึ่งว่ายจากตอนใต้ของลาวไปวางไข่บริเวณเชียงของทุกปี ย่อมไม่สามารถว่ายผ่านเขื่อนไปได้อีก แต่ขณะนี้รัฐบาลไทยยังไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมาชัดเจน ทั้งๆ ที่มีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนครั้งนี้ ดังนั้นพวกเราจึงต้องเดินทางมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำหน้าที่ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา โดยมีผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง นายนิวัฒน์ กล่าว ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 3-8 เม.ย.ที่ผ่านมา เครือข่ายภาคประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อปรึกษาหารือและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดดังกล่าวที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสร้างเขื่อนไซยะบุรีใน สปป.ลาว และสิ้นสุดที่จังหวัดอุบลราชธานีในวันที่ 8 เม.ย.54 โดยได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีไทยแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการสร้างเขื่อนดังกล่าว และให้ยกเลิกแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนไซยะบุรี รวมทั้งให้เลื่อนการตัดสินใจการให้ความเห็นชอบต่อการสร้างเขื่อนดังกล่าวของตัวแทนแต่ละประเทศที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 เม.ย.นี้ออกไป เพื่อให้มีการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบด้านและเปิดเผยข้อมูลต่อประชาชนที่เกี่ยวข้องอย่างทั่วถึง ที่มา: มติชนออนไลน์ และ เว็บไซต์องค์กรแม่น้ำเพื่อชีวิต แถลงการณ์ เครือข่ายภาคประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง เรื่อง คัดค้านการสร้างเขื่อนไซยะบุรี ตามที่เครือข่ายภาคประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงอันประกอบด้วยจังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้ง 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง จำนวน 5 ครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2554 ที่ อ.เชียงคาน จ.เลย และสิ้นสุดที่จังหวัดอุบลราชธานีในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554 เพื่อปรึกษาหารือและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดดังกล่าวที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสร้างเขื่อนไซยะบุรีใน สปป.ลาว เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้รับรู้เลยในขณะที่โครงการก่อสร้างเขื่อนนี้มีการดำเนินงานไปอย่างเร่งรีบ และคาดว่าจะมีการประชุมแสดงความเห็นชอบอนุมัติโครงการดังกล่าวในวันที่ 19 เมษายน นี้ เขื่อนไซยะบุรีกั้นแม่น้ำโขงที่แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว เหนือขึ้นไปจาก อ.เชียงคาน จ.เลย เพียงประมาณ 200 กิโลเมตร ตัวเขื่อนมีความยาว 810 เมตร มูลค่าการลงทุนกว่า 100000 ล้านบาท ที่ผ่านมา 4 เขื่อนจีนที่กั้นแม่น้ำโขงแม้จะอยู่ไกลกว่าเขื่อนไซยะบุรี แต่ได้สร้างผลกระทบต่อคนลุ่มน้ำโขงตอนล่างอย่างชัดเจน ถ้าสร้างเขื่อนไซยะบุรีสำเร็จจะเกิดผลกระทบกับพี่น้องชาวลาว กัมพูชา เวียดนาม และที่สำคัญคือประเทศไทยทั้ง 8 จังหวัดดังกล่าวรวมถึงคนริมฝั่งแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง ผลกระทบสำคัญที่จะเกิดขึ้นคือ การปิดกั้นเส้นทางอพยพของปลาโดยเฉพาะปลาบึก การทำลายระบบนิเวศทั้งระบบของแม่น้ำโขง การสูญเสียพื้นที่เกษตรกรรมริมฝั่งโขง ผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ฯลฯ อันเป็นการทำลายวิถีชีวิตของคนริมฝั่งโขงโดยตรง สาเหตุสำคัญที่รัฐบาลไทยจะต้องรับผิดชอบต่อการทำลายแม่น้ำโขงครั้งนี้ก็เพราะว่าเป็นการสนับสนุนบริษัท ช.การช่างของไทยไปสร้างเขื่อนนี้ ทุนที่สนับสนุนการสร้างเขื่อนก็คือ 4 ธนาคารของไทย และคนที่รับซื้อไฟฟ้าก็คือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งจะรับซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนนี้ถึงร้อยละ 95 จากการประชุมกับเครือข่ายดังกล่าวได้มีมติเห็นพ้องต้องกันที่จะแสดงเจตนารมณ์ว่า พวกเราไม่ต้องการเขื่อนไซยะบุรีและเขื่อนใดๆในแม่น้ำโขง และพร้อมที่จะต่อสู้จนถึงที่สุด มติของเครือข่ายฯ ได้มีข้อสรุปที่จะให้การดำเนินงานร่วมกัน คือ ประการแรก จะมีการล่ารายชื่อประชาชนที่ไม่เห็นด้วยเพื่อยื่นเสนอต่อนายกรัฐมนตรีของไทย และผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งรัฐบาลของประเทศเขมร ลาว และเวียดนาม ในวันที่ 18 เมษายน นี้ ประการที่สอง รณรงค์ติดป้ายแสดงจุดยืนของประชาชน 90 ตำบลลุ่มน้ำโขง ว่าไม่เอาเขื่อนไซยะบุรีและพรรคการเมืองที่สนับสนุนการสร้างเขื่อนไซยะบุรี ประการที่สาม จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนการปกป้องแม่น้ำโขงของเครือข่ายดังกล่าว ประการที่สี่ การจัดทำข้อมูลท้องถิ่นเกี่ยวกับระบบนิเวศและวัฒนธรรมของชุมชนทั้งหมดตลอดล้ำน้ำโขง รวมทั้งข้อมูลความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เพื่อเตรียมฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้องกับการสร้างเขื่อนต่อศาลปกครอง ดังนั้น เครือข่ายภาคประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง จึงขอเรียกร้อง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาลและผู้กำกับดูแลรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการสร้างเขื่อนดังกล่าว ดังนี้ ให้แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการสร้างเขื่อนดังกล่าว เพื่อปกป้องประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศ ให้ยกเลิกแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนไซยะบุรี ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังได้ช่วยร่วมปกป้องทรัพยากรลุ่มแม่น้ำโขง และวัฒนธรรมของประชาชนในลุ่มแม่น้ำโขง ให้สามารถดำรงต่อไปได้อย่างยั่งยืน ให้เลื่อนการตัดสินใจการให้ความเห็นชอบต่อการสร้างเขื่อนดังกล่าวของตัวแทนแต่ละประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 19 เมษายน 2554 นี้ออกไป เพื่อให้มีการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบด้านและชัดเจน พร้อมกับการเปิดเผยข้อมูลต่อประชาชนที่เกี่ยวข้องอย่างทั่วถึง เราคาดหวังว่ารัฐบาลไทย จะไม่คำนึงถึงผลประโยชน์เชิงธุรกิจของคนส่วนน้อย แต่ทำลายวิถีชีวิตของคนลุ่มน้ำโขงนับล้านคนให้ซ้ำหนักลงไปอีก เราคาดหวังว่า ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่สามารถบริหารประเทศด้วยความเที่ยงธรรม และรับฟังความเห็นของภาคประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเป็นสำคัญมากกว่าผลประโยชน์ของคนไม่กี่คน เครือข่ายภาคประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ณ จังหวัดอุบลราชธานี 8 เมษายน 2554 หยุดทำร้ายแม่น้ำโขง หยุดกั้นเส้นทางปลาบึก หยุดทำลายบั้งไฟพญานาค หยุดสร้างเขื่อนไซยะบุรี | ชี้โครงการเขื่อนส่งผลกระทบใหญ่หลวงกับวิถีการดำรงชีวิตชุมชนและระบบนิเวศน์แม่น้ำโขง เตรียมเดินสายยื่นหนังสือ กก.สิทธิฯ อาเซียน-สถานทูตลาว-อภิสิทธิ์-ส.ว. | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม | กลุ่มรักษ์เชียงของ,คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง,สปป.ลาว,เขื่อนบนแม่น้ำโขง,เขื่อนไซยะบุรี,เครือข่ายภาคประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง,เอ็มอาร์ซี | https://prachatai.com/journal/2011/04/34089 |
สั่งตั้งคณะกรรมการสอบ รพ.วินิจฉัยผลตรวจเชื้อ HIV ผิดพลาด เมื่อ 17 ปีก่อน | วันนี้ (5 มิ.ย.2560) น.ส.สุทธิดา แสงสุมาตร์ พร้อมลูกสาวและทนายความ เดินทางมาร่วมหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ยืนยันผลตรวจหาเชื้อเอชไอวีอย่างละเอียดว่า น.ส.สุทธิดา ไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวีศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร สั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตรียมพิจารณาแนวทางเยียวยาผู้เสียหายตามสมควร และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงจากโรงพยาบาลดังกล่าว ภายใน 30 วัน พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานมากขึ้นขณะที่ ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่าต้องไปตรวจสอบมาตรฐานการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้่อเอชไอวีเมื่อ 17 ปีที่ผ่านมาว่าเกิดผิดพลาดอย่างไรน.ส.สุทธิดา กล่าวว่าพอใจกับผลการหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ และหวังว่ากรณีนี้ จะทำให้บุคลาการทางการแพทย์วินิจฉัยผู้ป่วยรอบคอบมากขึ้นรู้สึกดีใจ เราเก็บกดมาตลอดชีวิต วันนี้มันหลุดเลย ทำให้คนอื่นเขารู้ว่าเราไม่ได้เป็น ไม่ได้เป็นจริงๆนะ เขาต้องเชื่อแล้ว ถ้าไม่เชื่อก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร น.ส.สุทธิดา กล่าวสภากาชาดไทย ติดต่อให้ น.ส.สุทธิดา เป็นตัวแทนรณรงค์ลดการตีตราผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด ที่วินิจฉัยผลตรวจหาเชื้อเอชไอวีผิดพลาดเมื่อ 17 ปีก่อน ด้านสภากาชาดไทยติดต่อ น.ส.สุทธิดา แสงสุมาตร์ เป็นตัวแทนรณรงค์ลดการตีตราผู้ติดเชื้อเอชไอวี | สังคม | ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,เชื้อเอชไอวี,ศูนย์วิจัยโรคเอดส์,สภากาชาดไทย,น.ส.สุทธิดา แสงสุมาตร์,โรงพยาบาล,จังหวัดร้อยเอ็ด,ผิดพลาด | https://news.thaipbs.or.th/content/263139 |
รวบอดีตแม่ค้าขายของก๊อบแบรนด์เนม หันส่งไอซ์ในตลาดโรงเกลือ | เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 59 พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว สืบทราบว่าในตลาดโรงเกลือ มีชาวกัมพูชาลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาส่งขายให้นักท่องเที่ยวในตลาด จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก. (สส.) สภ.คลองลึก ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา และ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จ.สระแก้ว นำกำลังร่วมกันออกทำการสืบสวนพร้อมทั้งได้รับความร่วมมือจากอดีตผู้เสพยาเสพติดแล้วถูกจับกุม รับสารภาพว่าได้ซื้อยาเสพติดมาจาก น.ส.นินจา ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาในตลาดโรงเกลือ,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันสืบเสาะจนกระทั่งทราบว่า น.ส.นินจา หรือนินจา บุญเถื่อน เป็นชาวกัมพูชา อายุ 28 ปี อดีตเป็นแม่ค้าลักลอบจำหน่ายเสื้อผ้าละเมิดลิขสิทธิ์ อยู่ในตลาดโรงเกลือ และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมบ่อยครั้ง ทำให้เลิกขายเสื้อผ้าละเมิดลิขสิทธิ์ และได้หันเหชีวิตลักลอบนำยาเสพติดจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาหลอกขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่เคยเรียกตรวจค้นหลายครั้ง แต่ไม่พบของกลางจึงไม่สามารถจับกุมได้,ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้จับกุม น.ส.นินจา พร้อมกับยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 0.58 กรัม ถึงกับปล่อยโฮร้องไห้เสียงดังออกมาทันที โดยไม่อายสายตาของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร่ำแต่พูดว่าขายเสื้อผ้าละเมิดลิขสิทธิ์ก็ถูกจับ หนีมาขายไอซ์ยังมาถูกจับอีก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำมาตรวจปัสสาวะพบในปัสสาวะมีสารเสพติด จึงนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. | ผิดซ้ำซาก! เจ้าหน้าที่ ตร.-ทหาร จ.สระแก้ว ร่วมกันจับสาวเขมร อดีตแม่ค้าขายเสื้อผ้าละเมิดลิขสิทธิ์ในตลาดโรงเกลือ หันเหชีวิตมาขายยาไอซ์ อ้างถูกจับขายของก๊อบแบรนด์เนมบ่อยจนต้องเปลี่ยนอาชีพ | null | ขายของก๊อบแบรนด์เนม,แม่ค้าเขมร,ของก๊อบแบรนด์เนม,แม่ค้าเขมรขายยาไอซ์,ส่งยาไอซ์,ขายยาไอซ์,ตลาดโรงเกลือ,สระแก้ว,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/685671 |
ศักดิ์ชัย เผยภาพรวมศึกว่ายน้ำมาราธอนฯ ประเดิมที่ระยอง ก.ค.นี้ | วันที่ 16 มิ.ย.61 ตามที่สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยมีแผนที่จะพัฒนานักว่ายน้ำและสร้างนักว่ายน้ำรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทนนักว่ายน้ำรุ่นเก่า โดยเฉพาะประเภทโอเพ่นวอเตอร์ หรือว่ายน้ำมาราธอน ที่มีการแข่งขันในระดับนานาชาติหลายรายการและยังมีแข่งในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งทางสมาคมว่ายน้ำไทยได้แต่งตั้งให้ นายศักดิ์ชัย สุริยวงศ์ ทำหน้าที่ประธานฝ่ายว่ายน้ำมาราธอนเพื่อเน้นการสร้างนักว่ายน้ำรุ่นใหม่ที่สนใจว่ายในระยะไกล,นายศักดิ์ชัย เปิดเผยว่า ในปัจจุบันนี้การแข่งขันว่ายน้ำมาราธอนได้กระจายออกเป็นวงกว้างและมีการแข่งขันชิงแชมป์อย่างเป็นทางการแล้วทั้งใน ซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, โอลิมปิกเกมส์ หรือแม้กระทั่งเอเชียนบีชเกมส์ ขณะที่ไทยยังเคยรับเป็นเจ้าภาพชิงแชมป์เอเชียอีกด้วย จะเห็นได้ว่ามีการแข่งขันเวทีนานาชาติมากมายแต่นักกีฬาว่ายน้ำมาราธอนของไทยยังมีน้อยมาก หรือบางครั้งต้องเอานักกีฬาว่ายน้ำมาฝึกว่ายน้ำมาราธอนเพื่อการแข่งขันต่างๆ ทำให้ตนมีความต้องการที่จะสร้างนักกีฬาว่ายน้ำมาราธอนโดยเฉพาะ ทำให้เกิดการแข่งขันว่ายน้ำมาราธอนเก็บคะแนนสะสม โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่ริเริ่มทำโครงการและแนวทางการแข่งขันจะเลียนแบบจากต่างประเทศที่แบ่งเป็นซีรีส์ และจะมีการรับสมัครนักว่ายน้ำหน้าใหม่ที่อยากลองประสบการณ์ความท้าทายในการว่ายมาราธอน รวมไปถึงก็ไม่ปิดกั้นนักว่ายน้ำที่ว่ายสระปกติก็สามารถมาทดลองว่ายได้ ซึ่งปีนี้จะเป็นปีแรกที่ไทยจัดแข่งขันนี้,ประธานฝ่ายว่ายน้ำมาราธอน กล่าวอีกว่า การแข่งขันในปีแรกจะมีทั้งหมด 3 ซีรีส์ เพื่อเก็บคะแนน และคนที่ได้คะแนนรวมสูงสุดก็จะมีเงินรางวัล ส่วนถ้าผลตอบรับดีในปีหน้าอาจจะเพิ่ม 4-5 ซีรีส์ หรือถ้าเต็มที่เหมือนต่างประเทศก็ 8 ซีรีส์ ซึ่งก็ต้องพิจารณาตามความสำเร็จในขั้นต่อไป สนามแรกจะจัดที่ จ.ระยอง ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้,นักว่ายน้ำมาราธอนของไทยยังมีน้อยไม่เพียงพอต่อการคัดเลือกเพื่อใช้แข่งขันรายการต่างๆ ซึ่งการแข่งขันนี้จุดประสงค์หลักก็คือการหานักว่ายน้ำมาราธอนหน้าใหม่และหากนักว่ายน้ำคนอื่นๆ ที่ว่ายสระธรรมดาสนใจอยากลองว่ายมาราธอนก็ไม่ปิดกั้น นายศักดิ์ชัยกล่าว | ศักดิ์ชัย สุริยวงศ์ ประธานฝ่ายว่ายน้ำมาราธอนฯ ออกมาพูดถึงศึกว่ายน้ำมาราธอนสะสมแต้มครั้งแรกในประเทศไทย โดยจะประเดิมในเดือน ก.ค.นี้ ที่ จ.ระยอง | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | ศักดิ์ชัย สุริยวงศ์,กีฬาว่ายน้ำ,สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย | https://www.thairath.co.th/sport/others/1309582 |
พลังชีวิตบวกๆ จากเพื่อนรู้ใจ เชอรี่-ต้น | ไทยรัฐทีวี Thairath TV กับหนุ่มแน่นอกกล้ามน่ากัด ต้น กฤตย สุขวัฒก์ ผู้ประกาศข่าว Radio Thailand และผู้ประกาศข่าวภาษาอังกฤษ คลื่น MET 107,ยังคงความสัมพันธ์เป็นเพื่อนที่ดีต่อใจกันอยู่ ส่วนจะพัฒนาไปไกลแค่ไหนนั้น ชมรมคนชอบเผือกต้องตามติดกันเองเองนะคะ, มั่นใจว่าแฟนข่าวบันเทิงรสจัดจ้าน ต้องคุ้นหน้าเชอรี่ รัตนไพฑูรย์ ดีอยู่แล้ว เพราะเชอรี่ เป็นผู้ประกาศข่าวบันเทิงที่มาดมั่นฉะฉานเปรี้ยวปรี๊ด ตอนนี้รับหน้าที่ผู้ประกาศข่าวบันเทิงเช้า และบันเทิงช่วง 12.45 น. ทางไทยรัฐทีวี,เชอรี่ พูดอย่างคล่องแคล่วเลยว่า ,งานผู้ประกาศข่าวบันเทิง ยังเป็นงานที่รี่รักนะคะ ไม่ทิ้งไปแน่นอน ยังสนุกกับการทำงานอยู่ค่ะ ที่สำคัญดีใจมากๆ เพราะมีฟีดแบ็กที่ดีมาตลอด คนตามติดข่าวบันเทิงของเรามากขึ้นๆ ทุกวันเลยค่ะ,ถ้าถามถึงเพื่อนรู้ใจคนนี้ ต้นเป็นคนน่ารัก ที่นิสัยขัดกับหน้าตามาก (ลากเสียงยาวได้อีกๆ) ภายนอกดูหน้าดุโหดๆ แต่ชีวิตจริงเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและขี้อ้อนมาก เพราะต้นคอยดูแลคุณแม่ คุณยาย และคนรอบข้างมาตลอด มีความรับผิดชอบสูงมาก และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ อย่างเรื่องธุรกิจต่างๆ ที่เขาพยายามทำด้วยตัวเองตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย โดยที่ไม่พึ่งเงินทางบ้านเลย,ทั้งๆ ที่เขาไม่จำเป็นต้องมาลำบาก หรือทำงานอะไรเลยก็ได้ ต้นมักจะพูดตลอดว่า เขาขอรวยด้วยตัวเองไม่ขอรวยด้วยเงินพ่อแม่ เราจึงมองเขาเป็นต้นแบบในความขยัน และมุ่งมั่นมีเป้าหมายกับชีวิต ว่าสิ่งที่เราทำเพื่ออะไรและเพื่อใคร เราสองคนเหมือนกันตรงที่เราเป็นคนรักครอบครัว ไม่ใช้ชีวิตสวยหรูแต่คนข้างหลังลำบาก ถึงต้นจะเด็กกว่ารี่ 2 ปี แต่ในความที่เขารับผิดชอบทั้งโรงงานเจอร์กี้ Jerky เนื้อ, หมูอบแห้ง และธุรกิจกำไล MIDAT ต้นเลยเป็นที่ปรึกษาที่ดีเสมอสำหรับรี่ เวลาเราท้อหรือเหนื่อยจากงานค่ะ,มาถึงคิวคุยกับหนุ่มมาดเท่ร่างปึ้ก ต้น กฤตย สุขวัฒก์ หุ่นดีน่าซบความแซ่บทะลุร้อยแบบนี้ น่าจะไปเดินแบบ ถ่ายแบบบ้างนะ? (ยิ้มเขินนิดหน่อย) ก็มีคนชวนๆ บ้างครับ แต่หลักๆ ทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวภาษาอังกฤษที่คลื่นเมท 107 ผมถนัดพูดภาษาอังกฤษอยู่แล้วครับ ยังชอบงานนี้อยู่? ชอบครับ อยากจะทำไปเรื่อยๆ ดูก่อน,ธุรกิจเนื้ออบเจอร์กี้ ที่ต้นทำตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ก็ดีครับ ผมทำมานานแล้ว ร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ เราทุนไม่เยอะ ก็ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ ครับ ได้รู้จักกับเชอรี่มาสักพักแล้ว เป็นยังไงบ้าง? ,(ยิ้มละมุน) เขาเป็นคนตรงไปตรงมาดีครับ น่ารัก เป็นคนง่ายๆ ธรรมดาๆ ไม่เยอะ (ยิ้มละไม). | มีคนเคียงข้างคอยคิด คอยดูแลกันและกัน ชีวิตก็จะไม่ห่อเหี่ยวแห้งคาคาน เชอรี่ รัตนไพฑูรย์ ผู้ประกาศข่าวบันเทิง | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | เชอรี่ ต้น กฤตย,เชอรี่ ณัฐญาณี รัตนไพฑูรย์,ต้น กฤตย สุขวัฒก์,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1012190 |
ภูมิใจดีไหม แฉ ผีแดง เฉือน หงส์แดง เตะ 3 ทุ่มวันเสาร์น้อยสุดในลีก | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 21 ธ.ค. ว่า ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมที่ลงเตะพรีเมียร์ลีก วันเสาร์เวลาบ่ายสามประเทศอังกฤษหรือสามทุ่มตามเวลาประเทศไทยน้อยที่สุดในปี 2016 โดยพวกเขาลงเล่นเพียงแค่ 5 ครั้งเท่านั้น,ต้นเหตุที่ปิศาจแดงลงเล่นในวันเสาร์เวลา 15.00 น. น้อยนิดนั้นเป็นเพราะเรื่องการถ่ายทอดสดซึ่งปิศาจแดงเป็นทีมที่มีคอบอลรวมตัวกันอยู่ทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงการที่พวกเขาต้องทำการแข่งขัน ยูโรป้าลีก ในวันพฤหัสบดี ในปีนี้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทางพรีเมียร์ลีกจัดโปรแกรมให้พวกเขาเตะวันอาทิตย์เพื่อที่จะฟื้นฟูร่างกายได้ทัน,ส่วนอันดับสองเป็นของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ลงเล่นเวลานี้มากกว่าผีแดงเพียงแค่ 1 นัดซึ่งหงส์แดงก็อยู่ในกรณีคล้ายกับปิศาจแดงเนื่องจากมีฐานแฟนบอลมากรวมไปถึงต้องลงเตะยูโรป้าลีกเมื่อฤดูกาลก่อนทำให้พวกเขาต้องไปเตะในวันอาทิตย์อยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้หงส์แดงจึงได้โอกาสลงเล่นน้อยสุดในเวลานี้เป็นอันดับที่สอง,ขณะที่ทีมที่ลงเล่นในเวลา 3 ทุ่มวันเสาร์มากสุดคือ บอร์นมัธ กับ สโต๊ก ซิตี้ ทีมกลางตาราง ที่ลงเล่นตลอดปีบ่อยครั้งถึง 23 นัด ตามมาด้วย สวอนซี ซิตี้ และ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ลงเตะเท่ากัน 21 นัด,สรุปทีมที่ลงเล่นวันเสาร์เวลา 3 ทุ่มหรือ 4 ทุ่ม (ประเทศไทย) มากที่สุด,23 ครั้ง : บอร์นมัธ, สโต๊ก ซิตี้,21 ครั้ง : สวอนซี ซิตี้, เวสต์บรอมวิช อัลเบียน,20 ครั้ง : คริสตัล พาเลซ,19 ครั้ง : ซันเดอร์แลนด์, วัตฟอร์ต,16 ครั้ง : เซาแธมป์ตัน,14 ครั้ง : เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด,13 ครั้ง : เลสเตอร์ ซิตี้,12 ครั้ง : ฮัลล์ ซิตี้,11 ครั้ง : เบิร์นลีย์, เชลซี, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด,10 ครั้ง : แอสตัน วิลลา, มิดเดิลสโบรห์,9 ครั้ง : แมนเชสเตอร์ ซิตี้, นอริช ซิตี้, ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส,8 ครั้ง : อาร์เซนอล,6 ครั้ง : ลิเวอร์พูล,5 ครั้ง : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ไม่รู้จะเป็นสถิติที่น่าภูมิใจหรือไม่อย่างไร หลังมีการเปิดเผยว่า ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่แข่งวันเสาร์เวลาบ่ายสามท้องถิ่นน้อยสุดในลีกแค่ 5 ครั้งเฉือนเอาชนะ ลิเวอร์พูล คู่ปรับร่วมลีกเพียงแค่ครั้งเดียว | null | พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ลิเวอร์พูล,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/818409 |
ษิทรา แฉ พ.ต.ท. ไม่ธรรมดา เขาคือตัวบงการเรื่องหวย 30 ล้านตัวจริง (คลิป) | นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เปิดเผยผ่านรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ ว่า คาดว่าการแถลงข่าวในวันนี้ของผบ.ตร.เรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านว่าใครเป็นเจ้าของ ผลคดีสอบไปแล้วก็ชี้เป้าไปแล้ว,ทั้งนี้ ยังเหลือตอนที่ 2 คือภาคเจ้าหน้าที่รัฐมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มกาญจนบุรี และกลุ่มภาค 7 ซึ่งของกาญจนบุรี ชัดว่ามีการเปลี่ยนถ้อยคำ การเรียกผู้เกี่ยวข้องไปพบ ส่วนกลุ่มที่ 2 หากให้วิเคราะห์จะพบว่า ทางตำรวจกองปราบ กองบัญชาการสอบสวนกลางได้ส่งข้อมูลไปหมดแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับเพิ่มพยาน หรือพยานงอกขึ้นมา,มันชัดตรงที่เราเห็นเอกสารของเขา เปลี่ยนวันที่ เปลี่ยนแปลงถ้อยคำ ซึ่งที่ผมเคยอธิบายว่าถ้าพนักงานสอบสวนแก้วันที่ย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงถ้อยคำ ไม่ใช่พนักงานสอบสวนผิดคนเดียว คนที่ลงชื่อรับรองก็ผิดด้วย ทำไมพนักงานสอบสวนไปเปลี่ยนให้มันกลมกลืน ใครเป็นคนสั่ง มันก็ต้องโดนเป็นหาง ซึ่งตอนที่ 2 ของเรื่องนี้จะอยู่ตรงนี้ เอ๊ะ ภาค 7 จะเว้นไปได้อย่างไร เพราะภาค 7 ไปได้อย่างไร มีคนมาเพิ่ม เหมือนมีคนจงใจหาคนมาใส่ ตกแต่ง ต่อเติม,อย่างไรก็ตาม การสอบสวนเสร็จตั้งแต่ครั้งแรก หากเราอ่านกลายเป็นว่า 8 ธันวาคม 2560 รองผู้กำกับฯ ไปหาศาลเพื่อปรึกษา ผมบอกได้เลยว่าเป็นไปไม่ได้ที่ศาลจะให้คำปรึกษาพนักงานสอบสวน กับผมก็ไม่ให้คำปรึกษา เพราะยังอยู่ในชั้นพิจารณา นอกจากนี้ยังมีคนชื่อกุ้ง ก็มาพบกับรองผู้กำกับฯ ระหว่างที่รอศาล และเขาก็บอกว่าเห็น,ตรงนี้ผิดธรรมชาติ ไม่ค่อยมีหรอกครับ ที่รองผู้กำกับจะไปศาล เพราะเขาไปเหลือกระจิ๊ดเดียว ตำรวจสภ.เมืองกาญจน์ ไปศาลทุกวันเพราะต้องนำคนไปฝากขัง ถ้าน้องกุ้งรู้ทำไมไม่บอกตำรวจตั้งแต่ทีแรก,ทางด้าน ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ในคดี ,หวย 30 ล้าน, กล่าวว่า ตอนนั้นสำนวนอยู่ที่กาญจนบุรี ภาคก็ดึงสำนวนมาที่ภาค และมีการตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ เราจึงไปร้องกองปราบ ซึ่งตอนนั้นสำนวนยังไม่ได้โอนมาที่กองปราบ มันอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวกัน พอกองปราบรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จ ก็ส่งมายังภาค 7 โดยกองปราบส่งหลักฐานที่สำคัญ มีการนั่งฟังคลิป เจ้าหน้าที่กองปราบ และตำรวจภาค 7,ทั้งนี้ การเพิ่มเรื่องพยานต่างๆ ผมคาดว่าน่าจะมาอยู่ตอนภาค 7 ก็ต้องดูว่าตำรวจที่ภาค 7 เกี่ยวข้องไหม วันแถลงพอจำได้ว่า นายแผน เห็นลุงจรูญก้มเก็บหวยได้ ต่อมา นายแผน บอกว่าไม่ได้พูดแบบนี้ ล่าสุดตำรวจกองปราบได้สอบคนที่อ้างว่าขึ้นไปหาศาล และคนที่ถูกไปหาก็ถูกสอบแล้ว,นายษิทรา กล่าวอีกว่า เรื่องคดีของพล.ต.ต.นั้น ถ้าเป็นสมัยก่อนตัวใหญ่จะรอด แต่มาสมัยนี้คนที่จะโดนจริงๆ คือตัวใหญ่ ซึ่งเขาตอนนี้ก็อยู่ไม่เป็นสุข ไปหาคนโน้นคนนี้ให้ช่วย เชื่อว่าท่านฐิติราช ไม่เห็นกับพวกพ้อง และท่านจะดำเนินคดีกับคนนี้ให้ได้,ส่วนตำรวจอีก 2 คนคือ ร.ต.อ.กับ พ.ต.ท.นั้น ในส่วนร.ต.อ.ผมไม่ติดใจอะไรเลย เพราะตั้งแต่ต้นเขาก็ไม่ได้อยากทำ แต่เพราะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ พ.ต.ท.คนนี้เป็นคนบงการทุกอย่าง ไปคุยกับคนโน้น คนนี้ที ไปปรึกษาศาลอีก เป็นคนวางแผนเลย,คนที่เดินเกมใช้คำว่าแสบเลยเนี่ย คือ พ.ต.ท.คนนี้ แต่เขาต้องใช้บารมีของ พล.ต.ต. ซึ่งการแถลงข่าวกรอบน่าจะมุ่งไปที่ พล.ต.ต.ส่วน ร.ต.อ.กับ พ.ต.ท.นั้นน่าจะกันไว้เป็นพยาน | ษิทรา แฉ พ.ต.ท. ไม่ธรรมดา ชี้เขาคือตัวบงการเรื่องหวย 30 ล้านตัวจริง ขณะที่รองอธิบดีอัยการ ระบุรอผบ.ตร.แถลงข่าวเรื่องหวยต่อ คาดมีเจ้าหน้าที่รัฐ อาจโดนคดีเพิ่ม | ข่าว,สังคม | ถามตรงๆกับจอมขวัญ,หวย 30 ล้าน,ษิทรา เบี้ยบังเกิด,ปรีชา ใคร่ครวญ,จรูญ วิมูล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1223475 |
ทูตไทยที่โซลส่งจดหมายชี้แจงกรณี ไผ่ ดาวดิน รับรางวัลสิทธิมนุษยชนกวางจู | และผิดเงื่อนไขการประกันตัว ย้ำประเทศไทยให้คุณค่าต่อเสรีภาพแต่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตกฎหมาย เพื่อความสงบเรียบร้อยและความกลมเกลียวของสังคม9 พ.ค. 2560 มีรายงานว่า ศรัณย์ เจริญสุวรรณ อดีตอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตของสถานเอกอัครราชทูตไทย ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ตั้งแต่ต้นปี 2559 ได้ส่งจดหมายลงวันที่ 2 พฤษภาคม แสดงความกังวลที่มูลนิธิ 18 พฤษภารำลึกของเกาหลีใต้จะมอบรางวัลกวางจูเพื่อสิทธิมนุษยชนให้กับ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังระหว่างรอดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยรายละเอียดของจดหมายมีดังนี้เรียน คุณชามุงซ็อกผมได้ทราบว่ามูลนิธิ 18 พฤษภารำลึกตัดสินใจที่จะมอบรางวัลกวางจูเพื่อสิทธิมนุษยชนประจำปี 2017 ให้กับนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษาผมขอถือโอกาสนี้ชี้ให้เห็นว่า นายจตุภัทร์ได้กระทำผิดกฎหมายของราชอาณาจักรไทย ปัจจุบันเขาถูกควบคุมตัวในข้อหากระทำผิดมาตรา 112 (หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ) ในประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นายจตุภัทร์ได้รับการประกันตัวตั้งแต่ต้นในช่วงที่เขาถูกจับ อย่างไรก็ตามมีการยกเลิกการประกันตัวเนื่องจากเขากระทำผิดซ้ำ ซึ่งผิดเงื่อนไขการประกันตัว คดีของเขาได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรมภายใต้ศาลยุติธรรมผมขอเน้นว่าประเทศไทยสนับสนุนและให้คุณค่าอย่างยิ่งต่อเรื่องเสรีภาพการแสดงออก การสมาคมและการรวมตัว และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานของสังคมประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามสิทธิเหล่านี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบ และจำต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความกลมเกลียวของสังคมด้วยความจริงใจศรัณย์ เจริญสุวรรณเอกอัครราชทูตอนึ่ง มีรายงานว่า จตุภัทร์ ได้รับเชิญให้ไปรับรางวัลกวางจูเพื่อสิทธิมนุษยชน (Gwang Ju Prize for Human Rights) ประจำปี 2017 จากมูลนิธิ 18 พฤษภารำลึก (May 18 Memorial Foundation) สาธารณรัฐเกาหลี โดยเมื่อวันที่ 29 เมษายน ผอ.มูลนิธิ 18 พฤษภารำลึก ส่งจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซล ขอให้รัฐบาลไทยอนุญาตให้จตุภัทร์ได้รับการประกันตัวและให้เดินทางไปยังเกาหลีใต้เพื่อรับรางวัลนอกจากนี้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม มีการยื่นขอประกันตัวจตุภัทร์เป็นครั้งที่ 9 เพื่อให้สามารถเดินทางไปรับรางวัลกวางจูเพื่อสิทธิมนุษยชน แต่ศาลขอนแก่นไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยระบุว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง | เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซลส่งจดหมายถึงมูลนิธิ 18 พฤษภารำลึกของเกาหลีใต้ ที่จะมอบรางวัลให้ ไผ่ ดาวดิน โดยชี้แจงว่าไผ่ ดาวดิน ทำผิดกฎหมายไทยคือ ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ | การเมือง,ต่างประเทศ | กวางจู,ความสัมพันธ์ไทย-เกาหลี,รางวัลกวางจูเพื่อสิทธิมนุษยชน,เกาหลีใต้,โซล,ไผ่ ดาวดิน | https://prachatai.com/journal/2017/05/71385 |
ยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทย | กระทรวงอุตฯ ประกาศความสำเร็จโครงการ 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร (OPOAI) พร้อมเชิดชูสถานประกอบการดีเด่น ยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทย ก้าวไกลสู่สากล ,นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปโดยการพัฒนาวัตถุดิบและกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตผลการเกษตร พร้อมเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้เข้มแข็งสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ,โดยโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค ตามนโยบาย 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร หรือ OPOAI นับเป็นโครงการที่สนับสนุนนโยบายรัฐบาล ด้านการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEs อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร ทั้งในด้าน การบริหารจัดการโลจิสติกส์ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การปรับปรุงคุณภาพและพัฒนางาน การลดต้นทุนพลังงาน การยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์/ระบบมาตรฐานสากล และกลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาด โดยเน้นการดึงศักยภาพของวัตถุดิบท้องถิ่น ผสมผสานนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ สามารถลดต้นทุนการผลิตได้มากที่สุด,นางอรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า นับจากปี 2550 จนถึงปัจจุบัน โครงการ OPOAI มีผู้ประกอบการ SMEs อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร 11 ประเภท เข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้น 1,041 ราย โดยเฉพาะในปี 2557 มีผู้เข้าร่วมถึง 138 ราย ครอบคลุมในพื้นที่ 76 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็นสาขาข้าว พืชไร่ ผัก-ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งหวังยกระดับให้เป็น Product Champion อีกด้วย,จากองค์ความรู้ที่ได้รับ ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มยอดขายรวมเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 3,637 ล้านบาท เรียกว่าเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้โครงการ OPOAI จะสามารถพัฒนาผู้ประกอบการ ตลอดจนเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรให้สามารถแข่งขันพร้อมก้าวสู่ยุค AEC และตลาดโลกได้. | กระทรวงอุตฯ ประกาศความสำเร็จโครงการ OPOAI พร้อมเชิดชูสถานประกอบการดีเด่น ยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทย ก้าวไกลสู่สากล | null | ก.อุตสาหกรรม,กระทรวงอุตสาหกรรม,จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช,โครงการ,1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร,OPOAI,มาตรฐาน,วัตถุดิบ,สร้างมูลค่าเพิ่ม,โลจิสติกส์,นโยบายรัฐ,การเกษตร,ข่าว,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/499113 |
จนท.จับสุนัขจรจัดรุมกัดเด็ก 1 ขวบ | วันนี้ (6 พ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อ.ดอยสะเก็ด ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาล ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ใช้ลูกดอกยิงยาสลบ เพื่อจับสุนัขจรจัดที่รุมกัดเด็กอายุ 1 ขวบ จนได้รับบาดเจ็บ มีแผลตามร่างกาย จำนวน 117 แห่ง ที่บริเวณบ้านของตัวเองในหมู่บ้านป่าตึง ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่นายอาทิตย์ ยอดคำลือ ปศุสัตว์ อ.ดอยสะเก็ด เปิดเผยว่า วันนี้จะทำการจับสุนัขจรจัดในบริเวณนี้ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะสุนัข 3 ตัวที่รุมกับเด็กอายุ 1 ขวบ โดยการใช้กระดูกไก่สับผสมยานอนหลับ และใช้ลูกดอกยิงยาสลบ เพื่อทำการตรวจร่างกายเบื้องต้น โดยการเจาะเลือด ทำหมัน และให้วัคซีนรวม ก่อนส่งไปยังพื้นที่มูลนิธิดิอาร์ก เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ และเฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้า ขณะเดียวกัน พื้นที่บริเวณนี้ยังไม่เคยมีการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าสำหรับพื้นที่จุดนี้คาดว่ามีสุนัขจรจัดกว่า 50 ตัว และนอกจากบริเวณนี้แล้ว บริเวณใกล้เคียงยังเป็นพื้นที่โล่งกว้าง มีสุนัขจรจัดแพร่พันธุ์และกระจายตัวจำนวนมาก ซึ่งตัวเมีย 1 ตัว สามารถแพร่พันธุ์ได้เฉลี่ยปีละ 10 ตัว โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าจะใช้เวลาในการจับสุนัขจรจัดกว่า 1 เดือนทั้งนี้ ด.ญ.กัญญารัตน์ สุวรรณมณี ซึ่งถูกสุนัขรุมกัดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะเดินเล่นอยู่หน้าบ้านพักตามลำพัง เนื่องจากผู้ปกครองกำลังทำอาหาร ล่าสุด อาการปลอดภัยแล้ว แต่แพทย์และพยาบาลยังคงดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะยังหวาดกลัวและผวาบ่อยครั้ง ซึ่งตอนนี้ได้รับวัคซีนพิษสุนัขบ้าไปแล้ว 1 เข็ม | ปศุสัตว์ อ.ดอยสะเก็ด และเจ้าหน้าที่เทศบาล ต.เชิงดอย จ.เชียงใหม่ เข้าไปจับฝูงสุนัขจรจัดที่รุมกัดเด็กอายุ 1 ปี จนได้รับบาดเจ็บ เพื่อนำไปตรวจเบื้องต้น ก่อนนำไปพักพื้นที่มูลนิธิดิอาร์ก เพื่อเฝ้าดูอาการ 7-9 วัน ส่วนเด็กที่ถูกกัดยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล | ภูมิภาค | สุนัขจรจัด,สุนัขรุมกัดเด็ก,สุนัขกัดเด็ก,สุนัข,ปศุสัตว์,ดอยสะเก็ด,เชียงใหม่,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/275520 |
ชาวเวียดนามร่วมบริจาคโลหิตในช่วงวาเลนไทน์ | สถาบันโลหิตวิทยาและการเปลี่ยนถ่ายเลือดของเวียดนามใช้โอกาสในช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต และเชิญชวนประชาชนทั่วไปหรือคู่รักร่วมบริจาคโลหิตในวันนี้ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่ร่วมบริจาคโลหิตกันไม่ขาดสาย และมีการเปิดรับสมัครคู่รัก 500 คู่ มาร่วมบริจาคโลหิตภายในงาน โดยทางสถาบันคาดว่าน่าจะมีคนสนใจบริจาคเลือดในงานมากถึง 25000 คน และน่าจะได้เลือดสำรอง 6000 ยูนิตก่อนหน้านี้ พบว่าคลังโลหิตของสถาบันมีเลือดเหลืออยู่ไม่ถึง 400 ยูนิต แต่มีความจำเป็นต้องใช้ช่วยเหลือผู้ป่วย 600 คน เท่ากับว่าเลือดที่เหลืออยู่ในคลังพอใช้ไม่ถึง 1 วัน จึงร่วมมือกับทางการกรุงฮานอย จัดกิจกรรมขอรับบริจาคโลหิตขึ้น ซึ่งสถาบันโลหิตวิทยาและการเปลี่ยนถ่ายเลือดของเวียดนามเป็นผู้จัดหาเลือดสำรองแก่โรงพยาบาล 107 แห่งทางภาคเหนือของประเทศ | ชาวเวียดนามร่วมบริจาคโลหิต หลังสถาบันโลหิตวิทยาและการเปลี่ยนถ่ายเลือดประกาศว่าเหลือเลือดอยู่ในคลังพอใช้ไม่ถึง 1 วัน | ต่างประเทศ | บริจาคโลหิต,วาเลนไทน์,ฮานอย,เวียดนาม | https://news.thaipbs.or.th/content/65624 |
กระบี่ลุยจัดระเบียบที่พัก สั่งปิด โฮสเทล เถื่อนบนเกาะพีพีกว่า 30 แห่ง | เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังตรวจสอบสถานที่พัก โรงแรมโฮสเทล สถานบันเทิง และกิจการเรือนำเที่ยวบนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ อย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดระเบียบสถานบริการและที่พัก ให้เปิดบริการนักท่องเที่ยวถูกต้องตามกฎหมายเจ้าหน้าที่ชุดจัดระเบียบเกาะพีพี กล่าวว่า ตลอด 10 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สั่งปิดห้องพักและโฮสเทล กว่า 30 แห่ง หลังตรวจสอบพบนำอาคารพานิชย์ดัดแปลงเป็นโรงแรม และเปิดกิจการโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และสั่งปรับรายละ 12000 บาท ส่วนกรณีไม่แจ้งการเข้าพักบุคคลต่างชาติ ตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินคดีโดยเปรียบเทียบปรับ รายละ 40000 บาทขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบห้องพักและโฮสเทลบนเกาะพีพีเพิ่ม คาดจะทยอยสั่งปิดเพิ่ม หลังตรวจสอบพบว่าเกาะพีพีมีที่พัก โรงแรม และโฮลเทล บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 200-300 แห่ง และมีห้องพักไม่ต่ำกว่า 5000 ห้อง แต่ขอนุญาตประกอบกิจการถูกต้องตามกฏหมายประมาณ 47 แห่งเท่านั้น | ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เดินหน้าตรวจสอบที่พักและโฮสเทลเถื่อนบนเกาะพีพี จ.กระบี่ พบการดัดแปลงอาคารทำเป็นโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต กว่า 30 แห่ง | ภูมิภาค | โฮสเทลเถื่อน,เกาะพีพี,กระบี่,จัดระเบียบเกาะพีพี,ที่พักเกาะพีพี,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/272750 |
สลด ผัวหนุ่มเมียสาว ใช้เชือกเส้นเดียว ผูกคอ2ศพ แม่ไม่เชื่อ ฆ่าตัวตาย | เวลา 16.00 น. วันที่ 30 ม.ค.62 ร.ต.อ.ณฐนนท์ เพ็งสิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายที่บริเวณไร่มันสำปะหลังแห่งหนึ่ง ในเขตตำบลชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลลำปาง ชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยอัมรินทร์ลำปาง,ที่เกิดเหตุมี พ.ต.อ.หาญชัย รัตนกิจธรรม ผกก.สภ.แม่ทะ และตำรวจจาก 3 สภ.คือ ตำรวจสภ.แม่ทะ ตำรวจ สภ.เกาะคา และตำรวจ สภ.เขลางค์นคร เข้ามาตรวจที่เกิดเหตุเนื่องจากจุดที่พบศพเป็นรอยต่อของ 3 สภ.ที่บริเวณข้างลำห้วยป่าดำ พบศพนายจรัญฐาธีนากร วงผาบุตร อายุ 23 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี ใช้เชือกผูกคอตายกับต้นไม้ สภาพศพเงยหน้าไม่ใส่เสื้อ สวมกางเกงขายาวสีดำ และใกล้กันพบศพน.ส.ทิพวรรณ สิมโสม อายุ 23 ปี ภรรยาผู้ตาย สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพู สวมกางเกงขาสั้นสีส้ม ผูกคอตายด้วยเชือก และปลายเชือกเส้นเดียวกัน จึงกั้นพื้นที่ รอหน่วยพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบร่วมกับแพทย์ รพ.ลำปางอีกครั้ง,สอบสวน นางเพชรา วงผาบุตร อายุ 47 ปี ชาวอุบลราชธานี ซึ่งเป็นแม่ของผู้ตาย ทราบว่าทั้งครอบครัวมาทำไร่มันสำปะหลังใกล้กับจุดเกิดเหตุ เจอลูกชายลูกสะใภ้ครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนมีลางสังหรณ์พอหลับตาก็เห็นภาพรถของลูกพุ่งตกน้ำ กระทั่งเช้า จึงออกตามหาและพบรถกระบะของผู้ตายจอดอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ กุญแจเสียบคาไว้ที่พวงมาลัยรถ จึงให้ลูกอีกคนขับรถกลับ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้าย ต่อมาเห็นว่าทั้งคู่ไม่กลับมา จึงออกค้นหาที่จุดพบรถ จนพบศพดังกล่าว,ทั้งนี้ เชื่อว่าลูกชายและลูกสะใภ้ไม่น่าที่จะผูกคอตายเอง เนื่องจากไม่มีมูลเหตุใดๆที่ทั้งคู่จะฆ่าตัวตาย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด | พบศพสองผัวเมีย ยังหนุ่มสาว อายุ 23 ปีเท่ากันมาทำไร่มันฯ ที่ลำปาง ผูกคอตายอยู่ใกล้กัน 2 ศพ โดยใช้ปลายเชือกเส้นเดียว แม่บอกมีลางสังหรณ์ ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย ไม่มีเหตุจูงใจใดๆ | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่าตัวตาย,ผูกคอตาย,ผูกคอตาย2ศพ,ผัวเมียผูกคอตาย,ฆาตกรรมอำพราง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1483798 |
เชอร์วูด เผยทฤษฎี อัลลี คือแข้งเวิลด์คลาส มีสไตล์คล้าย แลมพาร์ด | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 2 ก.พ. ว่า ทิม เชอร์วูด อดีตกองกลางและผู้จัดการทีมของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส อ้างว่า เดเล อัลลี เพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่งของทีม มีสไตล์การเล่นถอดแบบ แฟรงค์ แลมพาร์ด พร้อมกับเชื่อว่าแข้งรายนี้จะประสบความสำเร็จกลายเป็นตำนานเหมือนกับแลมพาร์ดได้อีกด้วย,แฟรงค์ แลมพาร์ด เพิ่งประกาศแขวนเกือกไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาพร้อมกับปิดตำนานพื้นสนามหญ้านานกว่า 20 ปีโดยลงเล่นมากกว่า 1,000 นัดและยิงมากกว่า 300 ประตูตลอดอาชีพการค้าแข้ง,โดย ทิม เชอร์วูด ที่ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการกีฬาของสวินดอน ทาวน์ ทีมลีกล่างอังกฤษ เชื่อว่า เดเล อัลลี อดีตลูกศิษย์ของเขาจะก้าวเข้ามาเป็นตำนานของประเทศอังกฤษไม่ต่างจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ในอนาคตภายภาคหน้า,ผมมีทฤษฎีว่าทำไมเดเล อัลลี เป็นอย่างทุกวันนี้ เพราะเขาเผชิญกับอุปสรรคตลอด 5 ปีในอคาเดมี เขาไม่ได้เจอเรื่องง่าย เขาออกไปเล่นฟุตบอลกับผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุ 16 ขวบ,เรื่องแบบนี้มันผลักดันเขาให้ก้าวไปข้างหน้า เดเลคือตัวอย่างคนที่ยอดเยี่ยมที่ไปเล่นกับทีมผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุน้อยมากและที่สโมสรอย่างเอ็มเค ดอนส์ ก็ดีด้วย เขาพัฒนาจนกลายเป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาสก็เพราะเรื่องแบบนี้แหละ,เขามีโอกาสลั่นประตูได้เสมอทุกครั้งที่เขาลงเล่น เขาคล้ายกับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ผมอยากจะบอกว่าความคงเส้นคงวาของเขายังห่างไกลที่จะไปเทียบชั้นกับแลมพาร์ดแต่เขายังอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง | ทิม เชอร์วูด อดีตแข้งและกุนซือของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส เชื่อว่า เดเล อัลลี มีสไตล์การเล่นคล้ายคลึงกับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ตำนานแข้งของเชลซีที่เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดไปไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ | null | พรีเมียร์ลีก,ทิม เชอร์วูด,เดเล อัลลี,แฟรงค์ แลมพาร์ด,ข่าวกีฬา | https://www.thairath.co.th/content/850054 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.