title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
|---|---|---|---|---|---|
หงส์แดง หวังสะกดคำว่าชนะ เปิดรังดวล ไก่เดือยทอง | ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2016-17 คืนนี้ (เสาร์ 11 ก.พ.) มีเกมดวลแข้งรวมทั้งสิ้น 7 คู่ โดยคู่เอก บิ๊กแมตช์จะเป็นสงครามสัตว์ปีก ระหว่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 5 เปิดสังเวียนแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมรองจ่าฝูง เริ่มเตะเวลา 00.30 น. ถ่ายทอดสดให้ชมทางทรูบีอิน สปอร์ต 1 (676),หงส์แดง ลิเวอร์พูล ฟอร์มยังเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ล่าสุดเพิ่งบุกไปโดน ไอ้เสือ ฮัลล์ ซิตี้ ถล่มพ่ายยับ 0-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ลิเวอร์พูลยังคว้าชัยชนะในเกมลีกไม่ได้เลยนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2017 และตอนนี้พวกเขาถูกจ่าฝูงเชลซีทิ้งห่างไปไกลถึง 13 คะแนนแล้ว ทำให้โอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของหงส์แดงริบหรี่ลงทุกที,สำหรับเกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือเฮฟวีเมทัลชาวเยอรมันของลิเวอร์พูล ยังคงมีปัญหาในแนวรับ เมื่อต้องส่งซิมง มิโญเลต์ ลงมาเฝ้าเสา หลังจากนายทวารชาวเบลเยียม ทำพลาดรับบอลหลุดมือจนเสียประตูแรกในเกมล่าสุดที่บุกแพ้ฮัลล์ 0-2 ส่วนคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟน่าจะเป็นเดยัน ลอฟเรน จับคู่กับ โจเอล มาติป หรืออาจเป็นลูคัสกับมาติปก็ได้ขยับมาที่แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร ชาน และอดัม ลัลลานา จะเป็นสามประสานคอยปั้นเกม ขณะที่ฟิลิปเป คูตินโญ, โรแบร์โต ฟีร์มิโน และซาดิโอ มาเน เป็นสามประสานแดนหน้า,ส่วนทางฝั่ง ไก่เดือยทอง สเปอร์ส เพิ่งจะแพ้ในลีกไปเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้ และยังเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกเพียง 16 ลูก เท่านั้น เกมนี้ เมาริซิโอ โปเชตติโน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ของสเปอร์ส จะยังปราศจากแยน แฟร์ทองเกน ปราการหลังตัวแกร่งที่บาดเจ็บ แต่ยังมีโทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ และอีริก ดายเออร์ ยืนคํ้าแนวรับ ส่วนแดนกลางมีวิคเตอร์ วานยามา กับมุสซา เดมเบเล เป็นมิดฟิลด์คู่กลางแนวรุกมี คริสเตียน อีริกเซน, เดเล อัลลี และซอน เฮือง-มิน เป็นตัวปั้นเกม คอยสนับสนุนหน้าเป้า แฮร์รีเคน ยิงประตู,แนวโน้มเกมนี้ ทั้งสองทีมน่าจะชิงเหลี่ยมกันในแดนกลางเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าลิเวอร์พูลน่าจะคืนฟอร์มเก่ง ก่อนเฉือนชนะสเปอร์ส ไปได้แบบหวุดหวิด,ทางด้าน ผีแดง แมนฯยู ทีมอันดับ 6 จะเปิดรังโอลด์แทรฟเฟิร์ด รับมือ แตนอาละวาด วัตฟอร์ด (เริ่มเตะ 22.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรูบีอิน สปอร์ต 1) เกมนี้โจเซ มูรินโญ กุนซือแมนฯยู จะจัดทัพใหญ่ลงบู๊ แนวรุกมีปอล ป็อกบา, เฮนริก มคิตาร์ยาน, ฮวน มาตา และมาร์คัส แรชฟอร์ดช่วยกันปั้นเกมรุก คอยป้อนบอลให้ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยอดหัวหอกชาวสวีดิช ล่าตาข่าย ขณะที่วัตฟอร์ด จะส่งทรอย ดีนีย์ และเอ็มบาย เนียง เป็นตัวความหวังในแดนหน้า,ส่วนคู่แรก ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ทีมอันดับ 4 จะเปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดียม ต้อนรับ ไอ้เสือ ฮัลล์ ซิตี้ ทีมในโซนท้ายตาราง เริ่มแข่ง 19.30 น. ถ่ายทอดสดให้ชมทางทรูบีอิน สปอร์ต 1 เกมนี้ปืนใหญ่ต้องคว้าสามคะแนนเต็มให้ได้ หากยังหวังลุ้นแชมป์ โดยจะส่งเมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเชซ และโอลิวิเยร์ ชิรูด์ เป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก สำหรับโปรแกรมคู่อื่นๆมีดังนี้ มิดเดิลสโบรช์-เอฟเวอร์ตัน, สโต๊ก-คริสตัล พาเลซ, ซันเดอร์แลนด์-เซาแธมป์ตัน, เวสต์แฮม-เวสต์บรอมวิช เริ่มแข่ง 22.00 น. พร้อมกัน | หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นในเกมลีก นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2017 หวังเรียกฟอร์มเก่งกลับคืน ในเกมที่พวกเขา จะเปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เสาร์นี้ | null | ลิเวอร์พูล,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,พรีเมียร์ลีก,ข่าวกีฬา,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/856298 |
ภาพน่ารัก พี่เป่าเปา อุ้ม น้องเป่าเป้ย์ หลังรอเจอหน้ามานาน | เมื่อเช้า บี้ ธรรศภาคย์ เพิ่งประกาศข่าวดีของครอบครัวไป ที่ภรรยาสุดที่รัก กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ได้คลอดลูกสาวคนที่สองเป็นที่เรียบร้อยแล้วและล่าสุด ก็ทำเอาหลายคนถึงกับเอ็นดูมากๆ เมื่อ เป่าเปาพี่สาวสุดแสบได้เจอหน้าน้องสาว เป่าเป้ย์ เป็นครั้งแรก และอุ้มน้องถ่ายรูปด้วยกัน หลังจากที่เฝ้ารอเวลาที่จะได้เจอหน้าน้องมานานหลายเดือน และในที่สุดก็ได้เจอกันซะทีงานนี้บอกได้เลยว่า พ่อบี้แม่กุ๊บกิ๊บถึงกับเป็นปลื้ม ที่เห็นพี่สาวรักและเอ็นดูน้องน้อยมากขนาดนี้ โดยสาวกุ๊บกิ๊บได้โพสต์รูปน่ารักๆ ของสองพี่น้องที่ได้เจอกันครั้งแรก พร้อมกับแคปชั่นว่าsibling เพิ่งเจอกันไม่ถึงชั่วโมงทำหน้าแบบนั้นแล้วเหรอลูก หนูต้องทนให้ได้นะลูก เป่าเป้ย์ เดี๋ยวหนูก็ชินกับพี่เปาจอมแสบเสียงดังนะคะ#พี่ตื่นเต้นมากที่ได้เจอน้อง #นางรักมาก #นางบอกน้องหน้าเหมือนหนูเลย#ggbbpp | กุ๊บกิ๊บ หัวใจพองโต อวดภาพพี่สาวน้องสาวได้เจอกันครั้งแรก งานนี้เป่าเปาสุดตื่นเต้นที่ได้เจอน้องแล้ว | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์,กุ๊บกิ๊บ คลอดลูก,กุ๊บกิ๊บ บี้ ลูก,น้องเป่าเป้ย์,น้องเป่าเปา,ดาราคลอดลูก,ลูกดารา,อินสตาแกรมดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1839563 |
ตร.กาญจน์ จับเสี่ยติดยา ค้นบ้านเจอปืนอีก 18 กระบอกยึดไปตรวจสอบ | เวลา 12.00 น.ของวันที่ 22 ก.ย.61 พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตร รอง ผบก.ภ.จว.ฯได้เดินทางที่ สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เพื่อร่วมตรวจสอบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ร่วมกับ พ.ต.อ.เติมรัศม์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.ท่าเรือฯ ,หลังได้รับรายงานว่า นายศิรชัย เซี่ยงฉี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196-198 ถนนเทศบาลพระแท่นฯ อ.ท่ามะกา ต.กาญจนบุรี มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาโดยตลอด จึงได้สั่งการให้ กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าเรือฯ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ฯ เดินทางไปที่ผับแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เนื่องจากสืบทราบว่า นายศิรชัย กับเพื่อนๆ ได้ไปนั่งดื่มกินหาความสำราญกันอยู่ที่ผับแห่งนั้น ,เจ้าหน้าที่เชิญตัวนายศิรชัย หลานชายเจ้าของโรงงานยาสูบไปสอบสวนปากคำที่ สภ.ท่าเรือ เบื้องต้น นายศิรชัย หรือเสี่ยปิง ได้ให้การยอมรับสารภาพว่า ติดยาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ โตโยต้า คัมรี่ สีขาว ทะเบียน กฉ 1555 กาญจนบุรี พบยาไอซ์ 0.762 กรัม อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อคิมเบอร์ ขนาด.45 จำนวน 1 กระบอกซุกซ่อนอยู่ภายในรถพร้อมกระสุนปืน 7 นัด จึงทำการควบคุมตัว ,ต่อมาตำรวจได้ประสานไปยัง พล.ต.วสุ เจียมสุข ผบ.กกล.รส.มทบ.17 เพื่อขอกำลังทหารมาร่วมทำการตรวจค้น โดย พ.อ.มนตรี ธนวรรณโอภาส เสนาธิการ กกล.รส.มทบ.17 ร่วมตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืนสั้น 12 กระบอก อาวุธปืนยาว 6 กระบอก ใน มี อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอกด้วย รวมอาวุธปืนทั้งสิ้น 18 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนปืนนานาชนิดรวมจำนวน 999 นัด ,หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายศิรชัยไปสอบสวนปากคำ เพื่อขยายผลถึงแหล่งที่มาของอาวุธปืนที่อยู่ในความครอบครอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นนายศิรชัย ให้การว่า ตนมีนิสัยรักอาวุธปืน ชอบสะสมอาวุธปืน อาวุธปืนที่พบส่วนหนึ่งซื้อมา อีกส่วนหนึ่งมีคนมาจำนำ บางกระบอกเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียน. | ชุดสืบสวน ตร.ภูธรกาญจนบุรี จับเสี่ยติดยาหลานเจ้าของโรงงานยาสูบ ค้นบ้านเจอคลังอาวุธปืน 18 กระบอก และเครื่องกระสุนอีก 999 นัด นำไปตรวจสอบหาที่มาของอาวุธ | ข่าว,อาชญากรรม | ศิรชัย เซี่ยงฉี,สภ.ท่าเรือ,กาญจนบุรี,อาวุธปืน,ติดยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1381880 |
นักเคลื่อนไหวชาวไต้หวันเดินทางมุ่งหน้าสู่เกาะเตียวหยู | นักเคลื่อนไหวชาวไต้หวันออกเดินทางจากท่าเรือเกาะไต้หวันเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น มุ่งหน้าสู่เกาะเตียวหยู หรือเกาะเซ็นกากุ ที่เป็นเกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน และญี่ปุ่นต่างอ้างกรรมสิทธิ์ โดยมีรายงานว่ายามฝั่งของไต้หวัน ทำการตรวจค้นเรือของนักเคลื่อนไหว ก่อนปล่อยให้เดินทางต่อไป ซึ่งกลุ่มชาวไต้หวันที่ออกเรือได้ร้องตะโกนถ้อยคำขับไล่ญี่ปุ่นให้ออกจากเกาะขณะที่มีรายงานว่าในช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. ตามเวลาประเทศไทย เรือของกลุ่มนักเคลื่อนไหวไต้หวันได้ถูกสกัดโดยเรือยามฝั่งของญี่ปุ่นที่ดูแลน่านน้ำรอบเกาะพิพาท และสั่งให้หันหัวเรือกลับสู่ไต้หวันแล้วความตึงเครียดเกี่ยวกับเกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออกเริ่มคุกรุ่นขึ้นหลังทางการญี่ปุ่นประกาศซื้อเกาะจากเอกชนที่อ้างเป็นเจ้าของเกาะ สร้างความไม่พอใจแก่จีน และไต้หวันที่ต่างก็อ้างกรรมสิทธิ และเกิดการประท้วงจนกลายเป็นกระแสชาตินิยมต่อต้านญี่ปุ่น | นักเคลื่อนไหวชาวไต้หวันออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เกาะเตียวหยู หรือเซ็นกากุ ซึ่งเป็นเกาะพิพาทที่ทั้งจีน ไต้หวัน และญี่ปุ่นอ้างกรรมสิทธิ์ | ต่างประเทศ | กรรมสิทธิ์,จีน,ญี่ปุ่น,ทะเลจีนตะวันออก,พิพาท,เกาะ,เซ็นกากุ,เตียวหยู,ไต้หวัน | https://news.thaipbs.or.th/content/141989 |
สะพานรถไฟในชิลีถล่ม รถไฟบรรทุกสารเคมีตกน้ำ หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม | วันนี้ (20 ส.ค.2559) สะพานรถไฟในเมืองปิตรูฟเกง (Pitrufquen) ทางภาคใต้ของชิลีพังถล่มโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าที่กำลังแล่นข้ามตกลงไปในแม่น้ำโตลเทน (Tolten) เจ้าหน้าที่การรถไฟท้องถิ่นเปิดเผยว่า รถไฟสินค้าขบวนนี้บรรทุกสารคลอเรต(Chlorate) สารโซเดียมไฮดรอกไซด์และน้ำมัน และมีตู้สินค้าตกลงไปในแม่น้ำ 6 ตู้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสร้างความวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม แม้หน่วยดับเพลิงจะยืนยันว่าสารเคมีและน้ำมันในตู้สินค้าจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ทางการท้องถิ่นได้ดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้สารเคมีในตู้สินค้ารั่วไหลลงสู่แม่น้ำ และเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการนำน้ำในแม่น้ำมาบริโภค ขณะที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้สะพานรถไฟพังถล่ม | เกิดเหตุสะพานรถไฟพังถล่มในประเทศชิลี ส่งผลให้ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าที่กำลังแล่นข้ามตกลงไปในแม่น้ำ | ต่างประเทศ | ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ชิลี,สะพานรถไฟ,สารเคมี,สิ่งแวดล้อม,แม่น้ำโตลเทน,สะพานถล่ม | https://news.thaipbs.or.th/content/255038 |
ศาลฎีกาเลื่อนอ่านคำพิพากษา คดีที่ดินแพะใต้ จ.ลำพูน รอการเจรจาไกล่เกลี่ยก่อน | 29 ธ.ค. 2558 ที่ศาลจังหวัดลำพูน ได้มีการนัดรับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ในคดีที่บริษัทอินทนนท์การเกษตร โดยนพรัตน์ แซ่เตี๋ยว และยุทธนา แซ่เตี๋ยว เป็นโจทก์ฟ้องคดีชาวบ้านแพะใต้จำนวน 10 คน ประกอบด้วย 1.สุแก้ว ฟุงฟู 2.พิภพ หารุคำจา 3.สองเมือง โปยาพันธ์ 4.วัลลภ ยาวิระ 5.วัลลภ ไววา 6.คำ ซางเลง 7.บัวไร ซางเลง ส่วนอีก 3 รายเสียชีวิตไปแล้ว โดยมีการฟ้องในข้อหาร่วมกันบุกรุกยึดถือครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของของผู้อื่น ซึ่งมีการฟ้องร้องดำเนินคดีครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2540ในศาลชั้นต้น ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2549 โดยพิพากษาว่า พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้ลงโทษจำเลยทั้ง 10 จึงพิพากษายกฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาและศาลอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 กับจำเลยที่ 9 และที่ 10 มีความผิดตามมาตรา 356(3) ประกอบมาตรา 362 จำคุกคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญาต่อมาจำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 กับจำเลยที่ 9 และที่ 10 ฎีกา ศาลจังหวัดลำพูนนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 29 ธ.ค. 2558ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้มีคำสั่งให้เลื่อนการคำพิพากษาออกไปก่อน จนกว่าจะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ตามการเสนอของฝ่ายจำเลย ทั้งนี้เนื่องจากศาลเห็นว่าฝ่ายโจทก์ไม่ได้มีความเห็นคัดค้าน จึงให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปก่อนในกรณีของชาวบ้านกลุ่มปัญหาที่ดิน จ.ลำพูน ปัญหาที่ดินบ้านแพะใต้ อ.เวียงหนองล่อง นับเป็นหมู่บ้านแรกๆ ที่ริเริ่มเข้าปฏิรูปที่ดินโดยชุมชนด้วยแนวคิดที่ว่าที่ดินแปลงเหล่านั้น เป็นที่ดินสาธารณะ และชาวบ้านสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันในการ ทำการเพาะปลูกได้ แต่ทว่าเมื่อลงมือปฏิรูปที่ดินกลับมีนายทุนมาแสดงความเป็นเจ้าของ กรณีที่เกิดขึ้นชุมชนบ้านแพะใต้จึงร่วมกันตรวจสอบการถือครองที่ดินเหล่านั้น ของนายทุนและพบว่า กระบวนการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินเหล่านั้นมิชอบด้วยกฎหมายกล่าวคือ ตั้งแต่ปี 2533 กลุ่มนายทุนจาก จ.เชียงใหม่ ได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวตามโครงการเร่งรัดออกโฉนดที่ดิน โดยการเดินสำรวจ ทั้งนี้บริษัทอินทนนท์การเกษตรซื้อที่ดิน สค.1 และนส.3 จากชาวบ้านบางส่วนประมาณไม่กี่สิบไร่ แต่ฉวยโอกาสนำไปออกโฉนดที่ดินครอบคลุมพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของบ้านแพะใต้ ทั้งหมดกว่า 600 ไร่ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีส่วนรู้เห็นการซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าวหลังจากนั้น บริษัทนำพื้นที่ทั้งหมดไปจัดสรรเป็นรีสอร์ท สวนเกษตรขนาดใหญ่เพื่อแบ่งแปลงขาย และยังมีการมอบที่ดินที่กว้านซื้อนี้ให้ก่อตั้งศูนย์ราชการคือ อ.เวียงหนองล่องเพื่อกระตุ้นการซื้อที่ดินในแปลงจัดสรรของบริษัท นอกจากนี้บริษัทอินทนนท์การเกษตรยังนำโฉนดที่ดินเข้าจำนองกับบริษัทเงินทุน หลักทรัพย์ และธนาคารกรุงไทยมูลค่าอย่างน้อย 40 ล้านบาท จนเมื่อเศรษฐกิจอยู่ในสภาวะวิกฤต ที่ดินดังกล่าวก็ถูกปล่อยทิ้งรกร้างว่างเปล่าดังนั้นปี 2540 ชาวบ้านแพะใต้จำนวน 99 ครอบครัวจึงเข้าไปปฏิรูปที่ดินในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะในพื้นที่บริษัทปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า ไม่ทำประโยชน์ เนื่องจากที่ดินไม่เพียงพอ หลายครอบครัวยากจน และไม่มีที่ดินทำกิน และจากการเข้าทำการปฏิรูปที่ดินครั้งนั้นจึงนำไปสู่การค้นพบกระบวนการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย1.) เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2554 คณะรัฐมนตรีประชุมเห็นชอบให้มีการดำเนินงานโครงการนำร่องแก้ไขปัญหาที่ดินของเกษตรกรรายย่อยไทยเข้มแข็ง ภายใต้นโยบายกองทุนธนาคารที่ดิน และต่อมาคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2554 ได้พิจารณากรณีโครงการนำร่องธนาคารที่ดินภาคเหนือ 5 หมู่บ้าน ให้ดำเนินโครงการดังกล่าวในกรอบวงเงิน 167 ล้านบาท โดยดำเนินการในพื้นที่ 5 หมู่บ้าน ได้แก่1.1) บ้านไร่ดง หมู่ที่ 3 ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน1.2) บ้านแม่อาว หมู่ที่ 3 ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน1.3) บ้านแพะใต้ หมู่ที่ 7 ตำบลหนองล่อง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน1.4) บ้านท่ากอม่วง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองปลาสวาย อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน1.5) บ้านโป่ง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่แฝก อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ต่อมา ปี พ.ศ. 2554 ได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินขึ้น ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่มที่ 128 ตอนที่ 33 ก ลงวันที่ 3 พ.ค 2554ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 เป็นต้นมาจะเห็นได้ชัดว่ามีการพยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด มีคำสั่งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่สาธารณะประโยชน์และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง ที่ 3/2556 เรื่องการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปัญหาที่สาธารณะประโยชน์ทับซ้อนที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของราษฎร และการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยมิชอบของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม 9 คณะ ในส่วนจังหวัดลำพูนอยู่ในคณะทำงานลำดับที่ 1.5 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนเป็นประธาน ได้มีการประชุมและมีการเจรจาตกลงซื้อที่ดินกับกลุ่มเอกชนผู้ถือครองเอกสาร สิทธิ์ ในพื้นที่บ้านไร่ดง หมู่ที่ 3 ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จำหวัดลำพูน (ปัจจุบันแยกหมู่บ้านเป็นบ้านใหม่ป่าฝาง หมู่ที่ 15 ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน) ใช้งบประมาณในการจัดซื้อที่ดิน น.ส.3 ก. จำนวน 10 แปลงราคา 3800000 บาท คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 8 มี.ค 2554 รับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่สาธารณประโยชน์ ที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้างและเหมืองแร่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายถาวร เสนเนียม) เป็นประธานในคณะอนุกรรมการ ได้เสนอให้มีการจัดซื้อที่ดิน เพื่อดำเนินการเป็นพื้นที่นำร่องในรูปแบบของธนาคารที่ดิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการ โดยให้การสนับสนุนงบประมาณ เป็นเงินจำนวน 167960000 บาท ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2554 อนุมัติงบประมาณรายจ่าย งบกลางรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ โครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรรายย่อยไทยเข้มแข็งภายใต้ นโยบายกองทุนธนาคารที่ดินแต่เนื่องจากในขณะนั้นสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินยังไม่มีการแต่งตั้ง คณะกรรมการบริหารสถาบันฯ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ต่อมาเมื่อ วันที่ 21 พ.ค. 2556 คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษารับทราบและเห็นชอบในหลักการการแก้ไข้ปัญหาของ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม กรณีการดำเนินการโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เร่งดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย โดยประสานรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณในการดำเนินการกับสำนักงบประมาณแล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปจนถึงรัฐบาลปัจจุบันโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดตั้งธนาคารที่ดิน จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสถาบัน และบรรจุพนักงานเพื่อดำเนินงานเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2558 โดยมี สถิตย์พงษ์ สุดชูเกียรติ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.)เมื่อวันที่ 26-27 พ.ย. 2558 ทางสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน นำโดย สถิตย์พงษ์ สุดชูเกียรติ ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.) พร้อมกับที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เดินทางเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง สำรวจสภาพพื้นที่ และลักษณะทั่วไปของชุมชนตามโครงการนำร่องธนาคารที่ดินพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน ในการลงพื้นที่ครั้งนี้สถิตย์พงษ์ ได้รับทราบปัญหาที่ดินและอีกปัญหาสำคัญคือเรื่องคดีความ โดยสถิตย์พงษ์ ได้ชี้แจงต่อชาวบ้านที่มาร่วมฟังเรื่องแนวทางการดำเนินการโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน จะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6-8 เดือนหากได้รับการอนุมัติให้ใช้งบประมาณจาก ครม.และเรื่องคดีความทางสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน พร้อมให้ความร่วม มือในการแถลงต่อศาล ให้ทราบถึงแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน ทั้งนี้ขอความเมตตาต่อศาลในการเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปก่อน | ภาพจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ Prachathamสำนักข่าวประชาธรรม 29 ธ.ค. 2558 ที่ศาลจังหวัดลำพูน ได้มีการนัดรับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ในคดีที่บริษัทอินทนนท์การเกษตร โดยนพรัตน์ แซ่เตี๋ยว และยุทธนา แซ่เตี๋ยว | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม,สังคม | ที่ดินลำพูน,ปัญหาที่ดินที่ทำกิน,ศาลฎีกา,แพะใต้ | https://prachatai.com/journal/2015/12/63223 |
ลอบวางระเบิด รถจยย.ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จ.ปัตตานี | ในที่เกิดเหตุพบซากชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ที่ซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 4 กิโลกรัมไว้ใต้เบาะ แล้วนำจอดทิ้งไว้บริเวณถนนสาย 42 ปัตตานี - นราธิวาส บ้านเจาะกือแย อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ก่อนจุดชนวน หวังทำร้ายทหารชุดเฉพาะกิจปัตตานี 26 สังกัดหน่วยนาวิกโยธิน จำนวน 8 นาย ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครู เมื่อช่วงเช้า (12 มี.ค.) ที่ผ่านมา ทำให้พลทหาร ธีระพงศ์ อัสโร และพลทหาร มะยากี ยูโซ๊ะ บาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จยุพราชสายบุรีการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพบว่า เป็นของด.ต.สถาพร คงพุด ตร.สภ.สายบุรี ที่ถูกประกบยิงเสียชีวิตพร้อมลูกชาย เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมาขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุลอบเผาอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลระแว้งริมถนนสายยะรัง-มายอ บ้านจาแบปะ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทำให้เอกสารสำคัญทางราชการได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวนที่ตั้งสำนักงานแห่งนี้ เคยเป็นฐานทหารย่อย ร้อย ร.1333 แต่ถูกย้ายออกหลังทหารเกณฑ์ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาว และถ่ายคลิบออกเผยแพร่ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน | เกิดเหตุลอบวางระเบิดในรถจักรยานยนต์ทำให้ทหารชุดคุ้มครองครู อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บสาหัส 2 นาย ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า รถที่ใช้ซุกซ่อนระเบิดเป็นของตำรวจที่ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา | ภูมิภาค | จ.ปัตตานี,ชุดคุ้มครองครู,รถจักรยานยนต์,ลอบวางระเบิด | https://news.thaipbs.or.th/content/71993 |
แห่โพสต์ไม่รับรธน. แผนเด็ดของ17เพื่อไทย ยั่วฝ่ายตรงข้ามตีความ | โฆษก กรธ.จวกจัดฉากเรียกร้องความสนใจ เล็งหารือชง กกต.จัดการ อมร เตือนคนแชร์ต่อเสี่ยงผิด ก.ม.ถึงติดคุก วิษณุ โยน 5 เสือตัดสิน ชี้ช่องคนทั่วไปร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดได้ สมเจตน์ ซัดพฤติการณ์ชี้นำ-ปลุกปั่นผิด ก.ม. ด้าน เสรี มองต่างมุม อาศัยช่อง ม.7 ก.ม.ประชามติโน้มน้าว ไม่ครบองค์ประกอบปลุกระดม ขณะที่ สมชัย บอก เบื้องต้นยังไม่ผิด รอพิสูจน์โยงถึงพรรค กลิน เดวีส์ จับเข่าคุย หน.ปชป.ห่วงประชาชน-สื่อถูกปิดกั้น อภิสิทธิ์ จี้เปิดพื้นที่ให้แสดงออก จตุพร เสี้ยม บิ๊กป้อม ขวางศูนย์ปราบโกงทำ บิ๊กตู่ หน้าแตก,ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตือนนักการเมืองให้ระมัดระวังการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในระหว่างการรณรงค์ให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ล่าสุดแกนนำพรรคเพื่อไทยจำนวน 17 คน ได้ออกมาโพสต์ความเห็นไม่รับร่างรัฐธรรมนูญผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอย่างพร้อมเพรียงกัน,เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า บรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยรวมทั้งหมด 17 คน ได้ออกมายืนยันการใช้สิทธิส่วนบุคคลในการแสดงความเห็นไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยพร้อมใจกันโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของแต่ละคน เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค ระบุว่า รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ลดทอนอำนาจประชาชน ขาดหลักประกันสิทธิเสรีภาพที่เพียงพอ และแก้ไขได้ยากมาก จึงไม่สร้างความเชื่อมั่น ไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศได้ จึงไม่อาจรับให้เป็นกฎหมายสำคัญสูงสุดของประเทศได้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ระบุว่า จะได้เดินตามทางที่ท่านวางอนาคตประเทศไปอีก 20 ปีนั้น รับไม่ได้ นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการไม่ให้ประชาชนเลือก ส.ว.โดยตรง การไม่ให้ประชาชนกาบัตรได้สองใบ ส่วนนายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา ระบุว่า ทั้งที่มาและเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่ฉบับประชาชน นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองประธานสภาฯ ระบุว่า รับรัฐธรรมนูญที่ไม่ให้เกียรติประชาชน ไม่ยอมรับนับถือและศรัทธาในประชาชน ผิดหลักการประชาธิปไตยสากลไม่ได้,ขณะที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรอง นายกฯ ระบุว่า ภายใต้กติกาแบบนี้ ไม่เห็นอนาคตประเทศไทย รับไม่ได้จริงๆ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา ระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 40 เป็นฉบับที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา จึงเสียดายที่รัฐธรรมนูญฉบับที่จะลงประชามตินี้ ลดทอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนหลายประการ นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ระบุว่า รัฐธรรมนูญที่ดูถูกการตัดสินใจของประชาชน ตั้งองค์กรมาควบคุมตัวแทนที่ประชาชนเลือก ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ ทางด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีต รมต.สำนักนายกฯ ระบุว่า กระบวนการได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นแนวทางประชาธิปไตย จึงไม่ควรได้รับการยอมรับ สำหรับนายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม ระบุว่า รัฐธรรมนูญร่างขึ้นโดยขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ลิดรอนสิทธิและอำนาจของประชาชน หลายประการยังขาดความ ชัดเจน จึงน่าจะเกิดปัญหาหากมีการประกาศใช้,ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.วิทย์ฯ ระบุว่า รับไม่ได้ เพราะลูกหลานจะเดือดร้อนไปอีกยาวนาน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ให้ ส.ว.สรรหามีอำนาจในระยะเปลี่ยนผ่าน 5 ปีอย่าง ล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ส่งผลให้โครงสร้างทางการเมือง การปกครองไม่เป็นประชาธิปไตยที่อำนาจอธิปไตยไม่ได้เป็นของชาวไทยอย่างแท้จริง ส่วนนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ ระบุว่า เป็นร่างรัฐธรรมนูญที่เบียดบังอำนาจและสิทธิประโยชน์ของประชาชน แต่เชิดชูอำนาจเผด็จการ ปกป้องและปิดกั้นการตรวจสอบ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.ไอซีที ระบุว่า ตลอดชีวิตไม่เคยเห็นเผด็จการเขียนรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้น เมื่อรักประชาธิปไตย จึงไม่อาจรับรัฐธรรมนูญเผด็จการได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. ระบุว่า อ่านมาตรา 279 แล้วไม่แน่ใจว่าเป็นรัฐธรรมนูญหรือเป็นกฎหมายนิรโทษกรรมให้ คสช.กันแน่ สำหรับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ ระบุว่า ไม่อาจรับร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็น ประชาธิปไตยฉบับนี้ให้ไปสร้างปัญหากับบ้านเมือง และคุณภาพชีวิตคนรุ่นหลัง นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่า ผมไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ,นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กประกาศจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญว่า มีข้อสังเกต 2 ประการ คือ 1.การเผยแพร่ความ เห็นของนักการเมืองเหล่านี้มีลักษณะจัดฉากเพื่อการประชาสัมพันธ์เรียกร้องความสนใจ 2.เนื้อหาที่แสดงออกเป็นเรื่องเดิมๆ ที่เคยเผยแพร่มาแล้ว ไม่มี ของใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการติเรือทั้งโกลน เหมารวม ว่าร่างรัฐธรรมนูญไม่ถูกต้องด้วยความเห็นทางการเมืองส่วนตัว บางความเห็นไม่ได้ติติงในเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญส่วนใดที่ชัดเจน และการแสดงความเห็นของบางคนอาจผิดไปจากข้อเท็จจริง กรธ.คงจะหารือเพื่อพิจารณาส่งเรื่องให้ กกต.พิจารณาต่อไป,นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ. กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุชัดเจนว่าผู้โพสต์นั้นมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นการแสดงความเห็นส่วนตัว แต่อยากฝากเตือนผู้ที่แชร์ข้อความดังกล่าวต่อไปให้ระวัง หากมีการเติมแต่งข้อความหรือแสดงความเห็นต่อเนื่องและบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงอาจมีความผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ประชามติได้ มีโทษหนักจำคุกถึง 10 ปี ปรับ 2 แสนบาท,ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวเรื่องเดียวกันว่า ให้ กกต.เป็นคนตอบดีกว่า ตนวินิจฉัยเดี๋ยวจะไม่ดีและไม่ควร อีกทั้งยังไม่ทราบว่าเขาทำอะไรคงตอบอะไรไม่ถูก และเรื่องนี้ใครก็ยื่นให้ กกต.พิจารณาได้ แต่ถ้าเขาเห็นอาจหยิบยกขึ้นมาเองได้ เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยระบุเป็นความเห็นส่วนตัว นายวิษณุตอบว่า ก็ ไม่รู้ทั้งหมดอยู่ที่มาตรา 61 ใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ใครทำต้องรับผิดชอบ เขารู้แล้วว่าอาจจะเกิดผลอะไร แต่จะลองทำคิดอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่มีช่องว่างถ้าผิดก็ผิด ไม่ผิดก็ไม่ผิด เริ่มต้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่าง กกต.ต้องพิจารณาก่อน แต่ใน พ.ร.บ.ประชามติ ไม่ได้บอกว่า กกต.เป็นเจ้าทุกข์ ดังนั้น คนอื่นไปยื่นร้องทุกข์ได้เหมือนกับความผิดธรรมดาทั่วไป,พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่าการ กระทำของแกนนำพรรคเพื่อไทย 17 คน สุ่มเสี่ยงเข้าข่ายผิดมาตรา 61 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ทั้งการ ชี้นำ ปลุกระดม ไม่ใช่แสดงเจตนาแสดงความคิดเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจ กระทำพร้อมๆกันในเวลาเดียว แม้จะใช้วิธีให้ต่างคนต่างทำ แต่พฤติการณ์ร่วมมือกันชัดเจน มองได้ว่าเข้าองค์ประกอบการกระทำของคณะบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จูงใจให้คนออกไปใช้สิทธิออกเสียงทางใดทางหนึ่ง มีโทษรุนแรงกว่ากระทำในฐานะส่วนบุคคล ศาลอาจตัดสินมีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่น ถึง 2 แสนบาท รวมถึงถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี,นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า ถือว่าไม่มีความผิด เป็นการอาศัยช่องมาตรา 7 ของกฎหมายประชามติมาแสดงความเห็นส่วนตัว ให้เกิดกระแสโน้มน้าวใจคนอ่าน แต่ไม่ใช่การชี้นำหรือปลุกระดม เพราะไม่มีการระบุว่าอย่ารับร่างรัฐธรรมนูญ และไม่เข้าข่ายการปลุกระดมของคณะบุคคล 5 คนขึ้นไป เพราะต่างคนต่างแสดงความคิดเห็น แม้จะแสดงความเห็นพร้อมกัน แต่ไม่ใช่การไปชุมนุมอยู่ในสถานที่เดียวกัน เพื่อปลุกระดม และยังไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 61 การเสนอความคิดเห็นส่วนตัวก็ชัดเจนดี เป็นเหตุผลของแต่ละคนที่เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองทั้งนั้น การจะบอก ว่าไม่สุจริตคงไม่ได้ แต่ละคนมีความเชื่อเช่นนั้น,นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยได้เปลี่ยนรูปประจำตัวในเฟซบุ๊กที่มีข้อความไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ว่าได้ทราบในเบื้องต้นแล้ว ถ้าเป็นการกระทำโดยตัวบุคคลก็ถือว่าไม่ผิดเป็นสิทธิสามารถทำได้ในการแสดงความคิดเห็น แต่ถ้าทำในนามพรรคการเมือง เช่น มีสัญลักษณ์ของพรรคหรือสามารถพิสูจน์ได้ว่าดำเนินการโดยพรรค ก็เป็นหน้าที่นายทะเบียนพรรคการเมืองต้องพิจารณาว่าจะเข้าข่ายผิดประกาศหรือคำสั่งของ คสช.ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมหรือไม่ ส่วนข้อสงสัยว่าการที่คณะบุคคลดังกล่าวได้โพสต์ในเวลาใกล้เคียงกันจะถือเป็นการดำเนินการโดยพรรคหรือไม่ ข้อมูลในเบื้องต้นยังไม่ชัดเจนต้องรอให้มีการพิจารณาก่อน ถ้าถามความเห็นส่วนตัวก็มองว่าไม่ผิดอะไร แต่ยืนยันไม่ได้ว่าถ้าผ่านกระบวนการพิจารณาแล้วจะเป็นอย่างไร สิ่งที่ตนระบุว่าได้อาจจะกลายเป็นไม่ได้ก็ได้ ซึ่งได้มีคนมาถามตนว่าถ้าใส่เสื้อโหวตโนแล้วไปแจกใบปลิวตามสถานที่ต่างๆที่แสดงเจตจำนงว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจะทำได้หรือไม่ ตนตอบไปว่าการใส่เสื้อไม่ผิด การแจกใบปลิวก็ไม่ผิดถ้าไม่มีข้อความที่ขัดกฎหมาย แต่ถ้าไปแจกแล้วเกิดปะทะกันทำให้เกิดความวุ่นวายก็จะผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ ม.61 (1) ดังนั้นจะทำอะไรก็อย่าไปทำในสิ่งที่มันสุ่มเสี่ยง เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ผิดกฎหมาย,นายสมชัยยังกล่าวถึงการเข้าร่วมสังเกตการณ์การออกเสียงประชามติขององค์กรทั้งในและต่างประเทศว่า ถ้าในประเทศทุกคนสามารถที่จะร่วมสังเกตการณ์ได้ แต่ต้องระวังว่าอย่าไปสร้างปัญหาก่อความวุ่นวายขัดขวางเจ้าหน้าที่ หรือไปข่มขู่ผู้ออกมาใช้สิทธิ ส่วนองค์กรต่างประเทศ กกต.มีมติว่าจะไม่เชิญองค์กรใด ถ้าองค์กรใดสนใจเข้าร่วม กกต.พร้อมจะดูแลตามอัตภาพ ขณะนี้มีสมาชิกในภูมิภาคเอเชียประมาณ 10 ประเทศ สนใจเข้าร่วม แต่เมื่อองค์กรเหล่านี้เข้ามาก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายประเทศไทย ยืนยันไม่ขัดนโยบายรัฐบาลที่ไม่ต้องการเชิญองค์กรมาสังเกตการณ์ เพราะไม่ได้เชิญ แต่มาในฐานะเพื่อน เนื่องจากเมื่อต่างประเทศมีการเลือกตั้ง กกต.ไทยก็ได้ไปเจริญสัมพันธไมตรี,เมื่อเวลา 09.00 น.นายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยและคณะเดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่อาคารควง อภัยวงศ์พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ในประเทศไทย นานกว่า 1 ชั่วโมง,จากนั้นนายกลิน ที. เดวีส์ ให้สัมภาษณ์ว่า มาพบหารือนายอภิสิทธิ์เกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย มีความเชื่อมั่นในการปฏิรูปประเทศและกระบวนการการกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่กำลังเดินหน้าอยู่ พร้อมได้ขอบคุณนายอภิสิทธิ์ที่แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์กราดยิงที่เมืองออร์ลันโด รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ศพ ได้บอกนายอภิสิทธิ์ว่า มิตรประเทศของไทยติดตามการเมืองไทยอย่างใกล้ชิด ดูพัฒนาการและขั้นตอนต่างๆที่ทำมาแล้ว มีแนวโน้มที่ดีว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 60 ตามโรดแม็ป ทุกประเทศอยากเห็นไทยเดินไปข้างหน้า ซึ่งเป็นความตั้งใจของ คสช.อยู่แล้ว และหวังว่าจะเกิดสิ่งที่ดีมากๆ ต่อประเทศไทย ตนและนายอภิสิทธิ์คุยถึงความสำคัญในการเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้คนไทยทุกระดับ ได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ก่อนจะถึงวันออกเสียงประชามติ การให้ประชาชนและสื่อมวลชนแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีภาพ เป็นจุดยืนของสหรัฐฯอยู่แล้ว ทุกฝ่ายต้องการเห็นประเทศไทยประสบความสำเร็จ และเจริญรุ่งเรือง เป็นเรื่องสำคัญที่คนไทยต้องพูดคุยกันได้เกี่ยวกับอนาคตของประเทศ รวมทั้งอนาคตของรัฐธรรมนูญ,ด้านนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารืออย่างกว้างขวาง ทั้งสถานการณ์ในสหรัฐฯและไทย รวมถึงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ได้ส่งกำลังใจให้ชาวอเมริกันกรณีเหตุสลดกราดยิงในสถานบันเทิงที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา และพูดคุยถึงท่าทีของพรรคต่อเรื่องการเมืองและการทำประชามติ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญในการที่จะให้ไทยเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง การทำประชามติต้องเอื้อต่อการให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อนำไปสู่การยอมรับกติกา หากไม่ผ่านต้องมีกระบวนการและกติกาที่ดี เพื่อเดินหน้าโดยหลีกเลี่ยงไม่ทำให้เป็นเรื่องความขัดแย้ง แต่ส่งเสริมให้สังคมไทยพิจารณาเนื้อหาสาระร่างรัฐธรรมนูญมากกว่า ตนกับทูตสหรัฐฯเห็นตรงกันว่า ต้องมีพื้นที่การมีส่วนร่วมของประชาชน ทูตสหรัฐฯเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องภายในของไทย แต่พูดในมุมหลักการประชาธิปไตย ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงปัญหาความละเอียดอ่อนและความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย โดย กกต.ต้องเป็นหลักออกมาขจัดความไม่แน่นอนและความกลัวเกี่ยวกับการแสดงออก ที่เกิดจากผู้มีอำนาจ ทำให้สับสนว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ กกต.ควรเสนอความเห็นไปยัง คสช.และรัฐบาล เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรบุคคลของรัฐ ถ้าใช้ไปในทางที่เอื้อต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะไม่เกิดการยอมรับ ขณะนี้กระบวนการชี้แจงเนื้อหาถูกมองว่าเป็นการชี้นำ,นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ภาครัฐต้องยึดคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ที่ระบุว่าตั้งศูนย์ตรวจสอบการออกเสียงประชามติได้ แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าเอามาอ้างเพื่อประโยชน์ด้านอื่น เช่น บังหน้าการเคลื่อนไหวทางการเมืองอื่นก็ไม่ควรให้ทำ การตรวจสอบมีได้ แต่อะไรที่ผิดกฎหมายหรือเงื่อนไขในปัจจุบันไม่สามารถทำได้ อย่าไปสับสนว่า ตั้งศูนย์หรือตรวจสอบการทุจริตไม่ได้ ให้ดูว่าเพื่อทำอะไร เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ไม่ให้ตั้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะยิ่งสับสนอยากให้พูดให้ชัดว่าสิ่งที่ทำไม่ได้คือ การกระทำผิดกฎหมาย มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกจำกัดอยู่ ถ้าอนุญาตให้กลุ่มหนึ่งทำได้ต้องอนุญาตทุกกลุ่ม แต่อะไรที่เกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริต ความเที่ยงตรงของการทำประชามติต้องทำได้,ส่วนการปลดป้ายไวนิลศูนย์ปราบโกงประชามติที่ จ.ลำปาง นั้น ไม่อยากให้ฝ่ายรัฐตกเป็นเหยื่อของการยั่วยุ ให้เกิดภาพบางอย่างที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งมากขึ้น,นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่ได้ห่วงวันลงประชามติ แต่ห่วงหลังวันที่ 7 ส.ค. ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ จะไม่เกิดการยอมรับ ไม่เกิดประโยชน์อะไร ผมเป็นคนแรกๆ ที่เรียกร้องให้ทำประชามติ แต่ถ้าจะทำแบบนี้มันไม่บรรลุวัตถุประสงค์ หากไม่ได้รับการยอมรับก็คลี่คลายสถานการณ์บ้านเมืองไม่ได้ เพราะประเด็นรัฐธรรมนูญจะกลายเป็นความขัดแย้งในอนาคตอีก ยังไม่สายเกินไปที่จะปรับท่าทีทั้งหมดเพื่อให้การลงประชามติได้รับการยอมรับ ขอเสนอแนวทางการทำประชามติให้ได้รับการยอมรับว่า คสช. รัฐบาล และ กกต.ควรพูดให้ชัดว่า การรณรงค์ทำได้ แต่อย่าขัดกับรูปแบบที่ถูกห้าม เช่น 1.ห้ามเวทีปราศรัย แต่การแสดงความเห็นทำได้เต็มที่ อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือก่อความวุ่นวาย และควรส่งเสริมให้สื่อจัดเวทีให้ถกเถียงในเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญ 2.ทบทวนบทบาทเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด ควรหรือไม่ที่จะเอาทรัพยากรของรัฐ หรือบุคลากรของรัฐไปสนับสนุนให้คนเพียงกลุ่มเดียวชี้แจงได้ เพราะถูกตั้งคำถามเรื่องความเที่ยงธรรมของการทำประชามติ,เมื่อเวลา 06.00 น. นายศักดิ์ สมบุญโต ผวจ. กาญจนบุรี และ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผบ.พล.ร.9 ร่วมกันสั่งการให้นายยงยุทธ สุโนภักดิ์ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี จนท.อส.ร้อย.อส.จ.กจ.ที่ 1 จนท.ฉก.อส.เมือง ที่ 2 ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลง พื้นที่ตรวจสอบบ้านเลขที่ 424 หมู่ 9 บ.หนองสามพราน ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี พูดคุยกับ นายวันชัย ก้อนแก้ว เจ้าของบ้าน ขอความร่วมมือให้ลบโพสต์ในเฟซบุ๊ก เป็นภาพสถานที่จัดตั้งศูนย์ ปราบโกง ที่บ้านของ พล.ท.มะ โพธิ์งาม อดีต ส.ส. กาญจนบุรี พรรคพลังประชาชน ที่ ต.หนองบัว อ.เมือง กาญจนบุรี และหยุดเผยแผ่ข้อมูลการเปิดศูนย์ปราบโกง ทั้งนี้ นายยงยุทธกล่าวว่า นายวันชัยได้ลบโพสต์ดังกล่าว และได้ทราบว่าจะมีการเปิดศูนย์ปราบโกงที่บ้านหลังดังกล่าวในวันที่ 19 มิ.ย. ในการ ประชุมเตรียมกิจกรรมมีนายสมหวัง อัสราษี แกนนำ นปช.เข้าร่วมด้วย เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านของพล.ท.มะ ที่บ้านเลขที่ 53/10 หมู่ 2 ต.หนองบัว อ.เมือง กาญจนบุรี แต่ พล.ท.มะ โพธิ์งาม ไม่อยู่บ้าน จึง โทรศัพท์ขออนุญาตเข้าไปภายในบ้านปลดป้าย,วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกลผ่านทางยูทูบถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ประกาศห้ามตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติว่า แสดงให้เห็นถึงการอนุญาตให้ตั้งศูนย์ได้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์แท้จริง ไม่มีความหมายอะไรเลย เมื่อฝ่ายอำนาจไม่ได้พูดอยู่กับร่องกับรอย ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์หน้าแตกยับ สะท้อนถึงการมีอำนาจแท้จริง ตนรับทราบมาถึงคำสั่งของใครบางคนที่ไม่ต้องการให้เปิดศูนย์ปราบโกงในวันที่ 19 มิ.ย. ถึงขั้นสั่งว่าจังหวัดใดเปิดศูนย์ปราบโกงได้ ผู้ว่าฯ ฝ่ายปกครอง และหน่วยทหารในพื้นที่ต้องรับผิดชอบ ขอบอก พล.อ.ประวิตรว่า เปิดใจกว้างๆหน่อย ถ้าศูนย์ปราบโกงเป็นการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนแล้ว ประเทศไทยน่าจะเป็นปัญหากันแล้ว ถ้าจะจับข้อหาชุมนุมเกิน 5 คน ต้องไปจับเวทีแจงร่างรัฐธรรมนูญของ กกต. ที่จัดในค่ายทหาร จ.นครศรีธรรมราช เกิน 5 คนชัดเจน การเปิดศูนย์ไม่ใช่การชุมนุม แต่เป็นการมาร่วมกันจับโกง แล้วเชิญชวนคนออกมาใช้สิทธิ์,นายจตุพรกล่าวว่า ส่วนที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ระบุว่านำเงินจากไหนมากมายมาตั้งศูนย์นั้น พวกตนใช้เงินเล็กน้อยที่พอจะมาตั้งศูนย์ได้ ศูนย์ต่างจังหวัดใช้บ้านตัวเองเป็นที่ตั้ง ทำให้เกิดความรู้สึกกับการมีส่วนร่วมของประชาชน เรื่องเงินไม่เป็นอุปสรรค ถ้าหัวใจไม่สู้แล้ว มีเงินย่อมไม่มีความหมายอะไร ศูนย์ปราบโกงไม่ได้ใช้เงินเหมือนการอบรมใช้ครู ก. ข. ค. ให้ลงพื้นที่ไปชี้แจงส่วนดีร่างรัฐธรรมนูญที่แสดงถึงความไม่ยุติธรรม เอาเปรียบกัน ส่วนประชาชนมีเพียงร้านค้าเล็กๆ เช่น กรณีเจ๊เพ็ญ นางธิมลวรรณ จินากูล เจ้าของร้านศรีชุมชิว ขึ้นป้ายศูนย์ปราบโกงด้วยเงินตัวเอง 220 บาท ทหาร ตำรวจยังไปดึงลงมา แล้วบอกว่าชนะ ไม่รู้ว่าชนะอะไรกัน,อีกด้าน เมื่อเวลา 08.30 น. ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติ โดย รด.จิตอาสา เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กกต.และกองทัพบกในการประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ นายประวิช กล่าวว่า การเผยแพร่การออกเสียงประชามติของรด.จิตอาสาจะเน้นให้ความรู้ ไม่มีการชี้นำ ให้เป็นวิจารณญาณของผู้มีสิทธิ์ออกเสียง การรณรงค์จะเน้นเพียงขอให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ให้มาก,จากนั้นนายประวิชให้สัมภาษณ์ว่า ไม่อยากให้นำโครงการดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับศูนย์ปราบโกงประชามติของกลุ่ม นปช. ศูนย์ดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เมื่อถามว่าการใช้กลไกลของกองทัพเข้ามาช่วย ถูกมองว่าสวนทางกับแนวทางประชาธิปไตยหรือไม่ นายประวิชกล่าวว่า ไม่อยากให้มองอย่างนั้น เพราะจากการจัดประชุมที่ จ.นครศรีธรรมราช ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้หลาก หลายเพียงพอ การเปลี่ยนสถานที่จากค่ายกาวิละมาเป็นศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ เพื่อความเหมาะสมเนื่องจากมีประชาชนสนใจและแสดงเจตจำนงค์จะเข้าร่วมจำนวนมาก ไม่ใช่จัดในค่ายทหารแล้วไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เห็นได้จากการจัดที่ จ.นครศรีธรรมราช ก็แสดงความคิดเห็นได้โดยไม่มีปัญหา,ด้าน พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า การลงประชามติเป็นไปตามโรดแม็ปของ คสช. กองทัพบกถือเป็นหน่วยงานกำลังหลักในการชี้แจงแนวนโยบาย โดยใช้กลไกของกองทัพ ได้แสดงความห่วงใยว่า มีกลุ่มบุคคลที่เห็นต่างมุ่งทำลายความน่าเชื่อถือของการออกเสียงประชามติ จึงขอให้ทุกหน่วยช่วยกันสนับสนุนและดูแล และดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ยึดหลักกฎหมาย เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนตื่นตัวและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้,ช่วงเย็น ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลงผลการประชุม กกต.ว่า กกต.พัฒนาแอพพลิเคชั่นตัวที่สี่ที่จะใช้ในการออกเสียงประชามติ โดยใช้ชื่อว่า แรบบิทรีพอร์ต (Rabbit Report) เพื่อใช้ในการรายงานผลการออกเสียงประชามติ คาดว่าการรายงานผลดังกล่าวจะสามารถแสดงผลได้หลังการปิดหีบลงคะแนนภายใน 1-1.30 ชั่วโมง หรือประมาณ 17.30 น. และข้อมูลดังกล่าวจะส่งมายังสำนักงาน กกต.ส่วนกลางเพื่อประมวลผลและแสดงคะแนนแบบ เรียลไทม์ ดังนั้น คาดว่าเวลาประมาณ 19.00 น. จะทราบผลการออกเสียงประชามติว่ารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอย่างไม่เป็นทางการได้ 95 เปอร์เซ็นต์ การรายงานผลจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ 1.ระดับประเทศ 2.ระดับภาคทั้ง 4 ภาค และ 3.ระดับจังหวัด ซึ่งจะได้ทราบว่าคะแนนรับหรือไม่รับรวมทั้งคำถามพ่วงในแต่ละระดับเป็นอย่างไรบ้าง,นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า การเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นร่างรัฐธรรมนูญผ่านโซเชียลมีเดีย ช่วงใกล้วันทำประชามติ กกต.ยังไม่ประสานอะไรมาเป็นพิเศษ แต่เราได้จับตาเฝ้าระวังอยู่ตลอด ตรวจสอบว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติหรือไม่ แต่จาก รายงานเบื้องต้นขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีการเคลื่อนไหวเข้าข่ายกระทำความผิด หากมีการกระทำผิดกฎหมาย ไปกระทบต่อบุคคลอื่น ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยกระทรวงมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง,ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่ประกาศจะจัดมินิคอนเสิร์ตหน้าสำนักงาน กกต. วันเดียวกัน บรรยากาศการรักษาความปลอดภัยที่สำนักงาน กกต.เป็นไปอย่างเข้มข้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 2 จำนวน 150 นาย เข้าประจำการดูแลความเรียบร้อยภายในศูนย์ราชการ อาคารบี ที่ตั้งของสำนักงาน กกต.โดยกระจายกำลังดูแลทุกประตูเข้า-ออก ทั้งสี่ด้านของอาคาร รวมทั้งคัดกรองบุคคลที่จะเข้า-ออก ตั้งแต่ทางเข้าศูนย์ราชการฯ โดย พ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ รองผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 กำชับมาตรการดูแลความเรียบร้อยต้องปฏิบัติด้วยความสุภาพเรียบร้อย เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนที่มาใช้บริการภายในศูนย์ราชการด้วย,กระทั่งช่วงบ่าย แนวร่วมกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ทยอยเดินทางมาที่สำนักงาน กกต. ตามนัดหมาย แต่ก่อนที่กิจกรรมมินิคอนเสิร์ต พลเมืองตีเข่า ของ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ จะเริ่มขึ้นพบว่ามีมวลชน เครือข่ายคนไทยหัวใจเกินร้อย นำโดยนายอรรถพล อนุโณรส พร้อมมวลชน ส่วนใหญ่เป็นแนวร่วมกปปส.กว่า 50 คน ทยอยเดินทางมารวมตัวกันเพื่อต่อต้านการจัดกิจกรรมดังกล่าว ต่อมาสถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พบนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ปรากฏตัวภายในศูนย์ราชการอาคารบี จึง เชิญตัวเข้าไปในห้องสื่อมวลชนประจำ กกต.ป้องกันเหตุปะทะ ขณะเดียวกัน กลุ่มมวลชนกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจเกินร้อยได้รวมตัว ปฏิบัติการตามล่าหานายสิรวิชญ์ สร้างความแตกตื่นให้ข้าราชการ และประชาชน เมื่อไม่มีใครโต้ตอบ จึงรวมตัวกันยื่นหนังสือ มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ กกต. มีนายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการ กกต. เป็นตัวเเทนรับ,ต่อมาเวลาไล่เลี่ยกัน บริเวณเสาธง ตรงข้าม ศูนย์ราชการอาคารบี น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ นายกรกช แสงเย็นพันธุ์ และนายวรวุฒิ บุตรมาศ แกนนำ กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ พยายามนำมวลชนทำกิจกรรมตามที่นัดหมาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอม หลังจากยื้อกันไปมา สุดท้ายนายพันธ์ศักดิ์ ถูกควบคุมตัวขึ้นรถตู้ไปที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้การชุมนุมยุติ แต่กลุ่มมวลชนสนับสนุนพลเมืองโต้กลับยังไม่ยอมเลิกรา แจกจ่ายเนื้อเพลง อย่างนี้ต้องตีเข่า (โหวตไม่เอาแล้วตีตก) ให้แนวร่วมร้อง กันหนึ่งจบ ส่วนนายสิรวิชญ์ ที่ติดอยู่ในห้องสื่อมวลชนประจำ กกต.อย่างทุลักทุเล ออกมาไม่ได้เพราะมีแนวร่วมกลุ่มคนไทยหัวใจเกินร้อยนั่งเฝ้าอยู่ที่ประตู เจ้าหน้าที่จึงพาออกทางประตูฝั่งอื่นเพื่อให้จบปัญหา แยกย้ายกันโดยไม่เกิดการปะทะ,เวลา 18.00 น. ตำรวจได้คุมตัวนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ อายุ 48 ปี พ่อน้องเฌอ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 53 หนึ่งในแกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ มาที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อถามข้อมูลการมาจัดกิจกรรมที่สำนักงาน กกต. แล้วปล่อยตัวกลับไป โดยนายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า มาเต้นประกอบจังหวะเพลง อย่างนี้ต้องตีเข่า (โหวตไม่เอา แล้วตีตก) ตนเป็นผู้แต่ง เพื่อให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.จะได้เข้าใจเนื้อหาเพลง,พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้อนุญาตให้เข้าไปทำกิจกรรมด้านใน ให้เพียงแค่ชุมนุมด้านนอกเท่านั้น ระหว่างนั้นมีกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นต่างทางการเมืองอีกกลุ่ม มามอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ กกต. จึงต้องกันกลุ่มพลเมืองโต้กลับนำตัวจ่านิวไปไว้ใน กกต.และเชิญนายพันธ์ศักดิ์มาที่โรงพัก เพื่อไม่ให้กระทบกระทั่ง และแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่าผิด พ.ร.บ.การชุมนุม 2558 ให้ยุติการชุมนุม ก่อนทั้ง 2 ฝ่ายแยกย้ายกันกลับ,นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 16 มิ.ย.จะเดินทางไปแจ้งความหมิ่นประมาทที่ สน.ทุ่งสองห้อง สืบเนื่องจากกรณีที่มีการชุมนุมหน้าศูนย์ราชการของกลุ่มพลเมืองโต้กลับมีคลิปวีดิโอของช่อง TV24 โดยนายวรวุฒิ บุตรมาตร แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ที่มาร่วมชุมนุมได้กล่าวพาดพิงและหมิ่นประมาทตน ดังนั้นจะใช้สิทธิในฐานะประชาชนเพื่อฟ้องหมิ่นประมาท อย่าหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก ทราบว่าบุคคลดังกล่าวเรียนด้านกฎหมายมาควรจะรู้ด้วยว่าสิทธิเสรีภาพที่แสดงออกมาต้องมีขอบเขต ตนพูดเสมอว่าจะพูดว่าจะรับหรือไม่รับทำได้ แต่ไม่ควรละเมิดสิทธิคนอื่น กรณีนี้เป็นการใช้คำพูดหยาบคายพาดพิงบุคคลอื่นถือเป็นคดีหมิ่นประมาทที่ต้องฟ้องร้อง เพื่อให้เป็นตัวอย่างเพื่อให้ไม่เกิดการกระทำในลักษณะนี้อีก ยืนยันว่าการใช้เสรีภาพในการแสดงความเห็นทุกคนสามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุผลและเป็นสุภาพชน,เมื่อเวลา 13.15 น. ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดงานเสวนาวิชาการ เนื่องในวันสถาปนาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวข้อเรื่อง สามทศวรรษการทูตไทยบนเวทีพหุภาคี ผลสำเร็จ อุปสรรคและความท้าทาย โดยมีนายเตช บุนนาค อดีต รมว.ต่างประเทศ นาย กษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ และนายนรชิต สิงหเสนี อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมเสวนา โดยนายกษิตกล่าวว่า การทูตพหุภาคีต้องดำเนินควบคู่ไปกับทวิภาคีในทิศทางเดียวกัน ต้องได้รับการประสานงานจากหน่วยงานราชการและที่เกี่ยวข้อง โดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นฝ่ายประสานงานหลัก แต่สิ่งที่ตนห่วงคือประเทศไทยกำลังหดหัวกลับเข้าเปลือกหอย มีความเป็นชาตินิยม แต่ขาดความเป็นสากล ไม่อยากให้ผู้นำไทยและสังคมไทยมีจิตใจคับแคบ แต่ต้องสร้างจิตใจสู่ความเป็นสากล ถ้าเราเสียสละบางเรื่องเราจะเป็นผู้เล่นในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อดีตเลขาธิการกลุ่มศึกษาเพื่อความเป็นไท ได้ถามถึงการทูตของไทยจะดำรงอยู่ได้อย่างไรในเวทีโลก หากรัฐยังออกกฎหมายและลิดรอนสิทธิมนุษยชน นายกษิตตอบว่า กระบวนการประชาธิปไตยมีขึ้นและลงเป็นเรื่องของคนไทย ตอนนี้ไทยเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ส่วนที่ระบุว่าลิดรอนสิทธิมนุษยชนนั้น ส่วนใหญ่พูดจากันในขอบเขต มีตัวกวนเมืองบางคนเท่านั้น ขณะที่มุมมองเรื่องการปิดประเทศเป็นเรื่องทัศนคติ ไทยยังเป็นมิตรกับทุกประเทศ หากมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาเราก็ควรต้องรับฟังไว้,ขณะที่นายนรชิตกล่าวว่า ในอนาคตการทูตพหุภาคีและองค์การระหว่างประเทศจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นส่งผลกระทบต่อไทย เช่น เรื่องสิทธิมนุษยชน การทำประมงผิดกฎหมาย ไทยเข้าไปมีบทบาทในเวทีต่างๆ มีอุปสรรคอยู่มาก โดยเฉพาะปัญหาภายในประเทศ ปัญหาผู้อพยพ ทางแก้คือนโยบายของรัฐบาลแม้จะเปลี่ยนรัฐบาลต้องต่อเนื่องและชัดเจน ส่วนมุมมองของต่างประเทศในเรื่องประชามติของไทยบอกได้เลยว่าทุกประเทศรู้ดีว่า เป็นเรื่องของเราเอง เขาไม่สนใจวิธีการของเรา เพียงแต่ขอให้เรากลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยก็พอ,เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เข้ายื่นคำร้องขอฝากขังผัดห้า 8 ผู้ต้องหาในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ต่ออีก 12 วัน ก่อนหน้านี้ศาลทหารฯได้อนุญาตให้ทั้ง 8 คน ได้รับการประกันตัว ยกเว้น น.ส.ณัฏฐิกา วรธัยวิชญ์ และนายหฤษฏ์ มหาทน ที่มีฐานความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพิ่มอีก 1 ข้อหา โดยพนักงานสอบสวนฯได้ยื่นคำร้องขอฝากขังทั้ง 2 คน ในคดีมีความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยในคราวเดียวกันต่อเป็นผัดที่สี่,ขณะที่นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ทนายความจะยื่นคำร้องขอประกันตัว น.ส.ณัฏฐิกา และนายหฤษฏ์ โดยเพิ่มหลักทรัพย์เป็นเงินสดอีกคนละ 5 แสนบาท จากเดิมเคยยื่นไปคนละ 5 แสนบาท รวมเป็นคนละ 1 ล้านบาท ขณะที่ศาลทหารได้ขอฝากขัง แต่ตนได้ยื่นคัดค้านการฝากขังไป ยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้งสองจะไม่หลบหนี ไม่ได้สร้างความวุ่นวาย,ต่อมาเวลา 13.30 น. ภายหลังศาลทหารกรุงเทพได้พิจารณาคำร้องขอประกันตัวไต่สวนคำร้องขอฝากขัง น.ส.ณัฏฐิกา และนายหฤษฏ์ และคำแถลงของผู้ต้องหาที่ขอความเมตตาจากศาลแล้ว นายวิญญัติเปิดเผยว่า ศาลทหารกรุงเทพได้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว มีเหตุผลว่าขณะยื่นคำร้องพนักงานสอบสวนไม่อยู่ ติดต่อไม่ได้ แต่พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาไว้ ตามคำร้องขอฝากขังฉบับลงวันที่ 15/6/59 ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราวแล้วผู้ต้องหาหลบหนีจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหาย จึงไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนแปลงดุลพินิจเดิม ให้ยกคำร้อง,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 มิ.ย. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ที่ 28/2559 เรื่องให้จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 15 ปี โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ กำหนดให้รัฐต้องจัดให้บุคคลได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายนั้น รัฐบาลที่ผ่านมามีนโยบายจัดการศึกษา โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 15 ปี ตามมติ ครม.วันที่ 13 ม.ค.52 โดยขออนุมัติเป็นรายปี หัวหน้า คสช.เห็นว่า สอดคล้องนโยบายการศึกษาของ คสช.และการปฏิรูปการศึกษาของรัฐบาล จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 ให้รัฐจัดสรรงบประมาณผ่านสถานศึกษา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี เริ่มตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา (อนุบาล) จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.3) หรือเทียบเท่า รวมถึงการศึกษาพิเศษที่มีความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่ง การศึกษาสงเคราะห์แก่เด็กที่ตกอยู่ในภาวะยากลำบากด้วย,ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า คำสั่ง คสช.เรื่องเรียนฟรี 15 ปี ไม่ทับซ้อนกับร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ตัวแทน กรธ.ชี้แจงระหว่างพิจารณาแล้วว่าไม่ขัด ก่อนหน้านี้มีการถกเถียงกับคำว่าเรียนฟรีนั้น ฟรีค่าอะไรบ้าง ทุกอย่างต้องวัดดวงที่นโยบายแต่ละรัฐบาล คสช.เป็นห่วงส่วนนี้ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้เรียนฟรีไม่ถึง 15 ปี จึงโวยวายกัน แต่ข้อเท็จจริงเรื่องเรียนฟรีไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ ทั้งนี้ เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว เพื่อเป็นหลักประกันว่านโยบายเรียนฟรี 15 ปีจะมีต่อไป ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่,นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษก กรธ. กล่าวถึงกรณีหัวหน้า คสช.ออกประกาศเรียนฟรี 15 ปี ว่า ถือว่าไม่ขัดกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หากผ่านประชามติประประกาศใช้ ก็ยึดมาตรา 54 วรรคหนึ่งประกอบมาตรา 258 (1) คือเรียนฟรี 14 ปี ตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ ก่อนเข้าอนุบาลจนถึง ม.3 แต่ไม่ปิดกั้นให้รัฐบาลใหม่ที่เข้ามา มีเงินออกนโยบายให้เรียนฟรีไปจนถึงชั้น ม. 6 ได้ โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ สาเหตุที่ คสช.ออกประกาศช่วงนี้ ไม่น่าใช่เพื่อจูงใจสร้างคะแนนนิยมให้คนมาออกเสียงประชามติแต่อย่างใด,ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 09.30 น.ศาล ฎีกาฯนัดไต่สวนพยานโจทก์ครั้งแรก ในคดีหมายเลขดำ อม. 25/2558 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวก รวม 28 ราย ในความผิดว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐหรือฮั้วประมูล พร้อมทั้งขอให้สั่งปรับ จำเลยทั้งหมด เป็นเงิน 35,274,611,007 บาท และ ขอให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมให้กับกระทรวงพาณิชย์ 2.6 หมื่นล้านบาท รวมดอกเบี้ย กรณีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยนายบุญทรง และจำเลยอื่นๆ เดินทางมาศาล ขณะที่อัยการโจทก์นำพยานเข้าไต่สวน 4 ปาก แต่ไต่สวนพยานเสร็จเพียง 2 ปาก ประกอบด้วย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายสกล หาญสุทธิวารินทร์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ศาลนัดไต่สวนอีกครั้งวันที่ 29 มิ.ย. เวลา 09.30 น. | เพื่อไทย ชักธงรบตีปี๊บคว่ำร่าง รธน. 17 แกนนำ-อดีต รมต.ดาหน้าโพสต์เฟซบุ๊กไม่รับร่าง รธน. ภูมิธรรม ถล่มยับไม่เป็น ปชต.ลดอำนาจ ปชช. วัฒนา ซัดแหลกเชิดชูเผด็จการ ปิดกั้นการตรวจสอบ ปลอดประสพ เหน็บรับไม่ได้ลูกหลานจะเดือดร้อน | null | ข่าวหน้า1,ข่าวการเมือง,พรรคเพื่อไทย,แสดงความเห็น,ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ,โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก,วิษณุ เครืองาม,กกต.ตัดสิน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/639863 |
วัดธรรมกายยินดีให้แพทยสภาตรวจ พระธัมมชโย | วันนี้ (3 มิ.ย.2559) นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เปิดเผยกรณีที่ แพทยสภาจะส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาดูอาการอาพาธของพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย ว่าคณะศิษยานุศิษย์มีความยินดีที่จะให้แพทยสภาเข้ามาตรวจอาการ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้นำเรียนให้พระธัมมชโยทราบเนื่องจากทางแพทยสภายังไม่ได้ส่งเอกสาร หรือจดหมายอย่างเป็นทางการแจ้งต่อวัดพระธรรมกาย คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะส่วนกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เสนอให้แพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ เข้ารับการรักษาอาการอาพาธของพระธัมมชโย โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ ตั้งข้อสังเกตว่า มีความตรงไปตรงมาหรือไม่ ล่าสุดพบชื่อบุคคลที่อ้างตัวว่าทำงานอยู่โรงพยาบาลตำรวจ โพสต์ข้อความไม่เหมาะสมต่อพระธัมมชโยผ่านเฟซบุ๊กขณะที่วันนี้เวลาประมาณ 14.00 น.ศิษยานุศิษย์จะเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง หลังพบพระพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เปิดเผยผ่านสื่อมวลชน โดยยอมรับว่าตัวเอง เป็นผู้ส่งกลุ่มคนเข้ามาสังเกตการณ์ภายในวัด ซึ่งทางวัดยืนยันหากมีการกระผิดกฎหมายในวัดพระธรรมกาย เป็นกลุ่มมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์แน่นอนส่วนการรักษาความปลอดภัย หลังจากได้นำลวดหนามออกจากกำแพงบริเวณอาคาร 100 ปี เจ้าหน้าที่ได้นำแผ่นสังกะสีมาติดตั้งแทน เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด แต่ยังคงมีเจ้าหน้าตรวจคัดกรองคนเข้าออกตามปกติ | วัดพระธรรมกายยินดีให้แพทยสภาส่งทีมแพทย์เข้าไปตรวจอาการอาพาธพระเทพญาณมหามุณี หรือพระธัมมชโย | อาชญากรรม | วัดพระธรรมกาย,พระพุทธอิสระ,วัดอ้อน้อย,แพทยสภา,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ข่าวไทยพีบีเอส,พระธัมมชโย,ธรรมกาย | https://news.thaipbs.or.th/content/252828 |
จัด 4 เที่ยวบินช่วย 690 คนไทยในอียิปต์กลับบ้าน | วันนี้ (16 มิ.ย.2563) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทรโอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์คนไทยที่อยู่ในประเทศอียิปต์อย่างใกล้ชิด และยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ปัจจุบันมีคนไทยอยู่ในอียิปต์ 4137 คนที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดเที่ยวบินเพื่อรับคนไทยในอียิปต์กลับประเทศไทยแล้ว 2 เที่ยวบิน วันที่ 8 พ.ค. และ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมารวม 410 คน ขณะที่มีคนไทยในอียิปต์ ลงทะเบียนแสดงความประสงค์จะเดินกลับไทยอีก 690 คน จากคนไทย 4000กว่าคน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยที่อียิปต์กำลังสำรวจคนไทยที่แสดงความประสงค์กลับประเทศไทยเพิ่มเติมนางนฤมล กล่าวว่า ส่วนการจัดกิจกรรมเพื่อให้นักศึกษา และคนไทยในอียิปต์ได้ปรึกษากับแพทย์มีการจัดระบบ Video Conference เพื่อพุดคุย ปรึกษาข้อมูลของโรค COVID-19 แนวทางการดูแลตัวเองและเข้ารักษาในเบื้องตันแล้วโดยจะมีการจัดตั้งกลุ่มไลน์ระหว่างนักศึกษาและคนไทยในอียิปต์กับแพทย์ เพื่อให้คำปรึกษาได้อย่างรวดเร็วอ่าน | โฆษกรัฐบาล ระบุ นายกรัฐมนตรี ติดตามนักศึกษา และคนไทยในอียิปต์อย่างใกล้ชิด หลังพบบางส่วนป่วย COVID-19 ประสานทีมแพทย์และสถานทูตเข้าดูแลแล้ว โดยเตรียม 4 เที่ยวบินรับ 690 คนไทยและนักศึกษาเดินทางกลับ ช่วงก.ค.นี้ จากที่ลงทะเบียนกว่า 4000 คน | สังคม | COVID-19,นายกรัฐมนตรี,คนไทยอียิปต์,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 | https://news.thaipbs.or.th/content/293648 |
ไวยาวัจกร เครียดหนี้ท่วม ผูกคอคาห้องน้ำวัด เผยนิสัยดี แต่ติดเล่นหวย | หนุ่มใหญ่วัย 47 ปี ไวยาวัจกรวัดที่สมุทรสงคราม ถูกพบเป็นศพผูกคอในห้องน้ำหญิงของวัด หลังขับรถเก๋งมาจอดแล้วหายไป 2 วัน พร้อมจดหมาย เป็นหนี้ร่วม 3 แสน อาเผยเป็นคนนิสัยดี แต่ชอบเล่นหวย ซื้อครั้งละหลายพันเวลา 08.30 น. วันที่ 8 ม.ค. ร.ต.อ.หญิง ชุติมา บรรจงปรุ รอง สว.(สอบสวน) ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสรรพราเชนทร์ ว่ามีคนผูกคอตายในห้องน้ำหญิง วัดดาวโด่ง หมู่ 4 ต.คลองเขิน อ.เมืองสมุทรสงคราม รีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นพ.ชัชชัย เลิกพิทยา แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ร่วมพลิกศพในห้องน้ำหญิงห้องที่ 5 พบร่างของ นายมานพ อนันตะเพี้ยน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 9 ต.ท่าคา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เป็นไวยาวัจกรของวัดดาวโด่ง สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวลายพรางทับเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนขายาว โดยใช้ถังน้ำสีขาวเหยียบขึ้นไปใช้ผ้าขาวม้าลายสก็อตผูกกับช่องระบายลมผูกคอตัวเอง เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเจ้าหน้าที่ยังพบจดหมายลาตายซุกไว้ในกระเป๋าเสื้อ มีกระดาษ 1 แผ่น เขียน 2 หน้า มีข้อความว่า ขอโทษพี่ๆ น้องๆ ที่ให้ผมยืมเงิน แต่ผมหมุนไม่ทัน ผมเป็นหนี้เกือบ 300000 บาท ลูกเมียไม่รู้เรื่องเลย ผมขอโทษหลวงพ่อด้วย ผมต้องขอโทษลูกหนี้ทุกคนนะครับที่ผมต้องทำแบบนี้เพราะผมเป็นหนี้เยอะ ลูกเมียไม่รู้เรื่องเลย ผมทำคนเดียว และให้หลวงพ่อจัดการงานให้ด้วย จากมานพทั้งนี้ ก่อนผูกคอตายมีคนเห็นนายมานพขับรถเก๋งนิสสันมาร์ช สีตองอ่อน มาจอดทิ้งไว้ในศาลาอเนกประสงค์ใกล้ห้องน้ำ แล้วหายไป 2 วัน ญาติออกตามหาเนื่องจากติดต่อไม่ได้ ปิดโทรศัพท์ จนรุ่งเช้าวันนี้พระลูกวัดจะมาเอาสายยางไปรดน้ำต้นไม้เจอศพถึงกับผงะ และแจ้งให้พระครูไพศาลสมุทรกิจ เจ้าอาวาสวัดดาวโด่ง ทราบนายสมพิศ อนันตะเพี้ยน อายุ 72 ปี เป็นอาของนายมานพ ผู้ตาย กล่าวว่า นายมานพเป็นคนนิสัยดี ชาวบ้านรัก ไม่ดื่มเหล้า แต่ชอบเล่นการพนันหวยใต้ดิน แทงทีเยอะๆ หลายพันบาท และซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลครั้งละเป็น 10 ใบ ขณะที่ญาติพี่น้องมาดูศพพากันร้องไห้กันระงม ส่วนท่านพระครูไพศาลสมุทรกิจ เจ้าอาวาสวัดดาวโด่ง ได้แต่นั่งมองดูลูกศิษย์แบบปลงอนิจจัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งไปยังสถาบันนิติเวชฯ เพื่อผ่าพิสูจน์อีกครั้ง. | หนุ่มใหญ่วัย 47 ปี ไวยาวัจกรวัดที่สมุทรสงคราม ถูกพบเป็นศพผูกคอในห้องน้ำหญิงของวัด หลังขับรถเก๋งมาจอดแล้วหายไป2วัน พร้อมจดหมายเป็นหนี้ร่วม3แสนอาเผยเป็นคนนิสัยดี แต่ชอบเล่นหวย ซื้อครั้งละ | ข่าว,ทั่วไทย | ผูกคอตายในวัด,ไวยาวัจกรผูกคอตาย,ติดหนี้ผูกคอตาย,วัดดาวโด่ง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1742735 |
กบฏซีเรียบุกยึดฐานปืนใหญ่ ใช้ยิงสนับสนุนศึกชิงเมืองอเลปโป้ได้แล้ว | โรงเรียนตำรวจข่าน อัล อาซาล ตั้งอยู่ใกล้เมืองอเลปโป้ สมรภูมิยุทธศาสตร์ทั้งของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏ โดยจากการยิงต่อสู้มานาน 8 วันจนทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายสูญเสียกำลังไปมากกว่า 200 คน ล่าสุดฝ่ายกบฏบุกเข้ายึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้ได้ ทั้งนี้รัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซ๊าด ใช้โรงเรียนตำรวจแห่งนี้เป็นฐานปืนใหญ่สำหรับการยิงสนับสนุนขณะเดียวกันมีการเผยแพร่วิดีโอพร้อมกับอ้างว่า กองกำลังฝ่ายกบฏยิงเฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายรัฐบาลตกไปอีกลำ โดยเหตุการณ์เกิดใกล้ฐานบินและใกล้เมืองอเลปโป้ สหประชาชาติประเมินความขัดแย้งในซีเรีย ซึ่งดำเนินมาครบ 2 ปีในเดือนนี้ มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 70000 คน โดยสถานการณ์ระยะหลัง ฝ่ายกบฏกลับขึ้นมาเป็นฝ่ายรุกและสามารถบุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ประธานาธิบดีบาชาร์ตกเป็นฝ่ายสูญเสียกลไกอำนาจปกครองอย่างต่อเนื่อง | ฝ่ายกบฏในซีเรียสามารถรุกคืบควบคุมพื้นที่และกลไกแห่งอำนาจปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซ๊าดได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบุกยึดโรงเรียนตำรวจที่ถูกใช้เป็นฐานปืนใหญ่เพื่อยิงสนับสนุนในการต่อสู้ชิงเมืองอเลปโป้ | ต่างประเทศ | ซีเรีย,ฐานปืนใหญ่,อเลปโป้ | https://news.thaipbs.or.th/content/151191 |
กังหันเละตุ้มเป๊ะ บุกโดน ตุรกี ขยี้ 3-0 ส่อแห้วตั๋วยูโร | ศึกฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือกกลุ่มเอประจำวันที่ 6 กันยายนเป็นการแข่งขันในคู่ระหว่าง ไก่งวง ตุรกี เปิดสนาม คอนยา บูยุคเซเฮียร์ สตาดี พบกับ กังหันสีส้ม เนเธอร์แลนด์ซึ่งเกมนี้ถือเป็นการชิงที่ 3 ของกลุ่มคว้าตั๋วเพลย์ออฟคัดยูโรเลยก็ว่าได้โดยก่อนเกมเนเธอร์แลนด์ที่อยู่อันดับ 3 มีคะแนนนำหน้า ตุรกี อันดับ 4 อยู่ 1 คะแนน,เริ่มเกมขึ้นมาเจ้าถิ่นมาดีมากและได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 8 เท่านั้นจากลูกแทงของ อาร์ดา ตูราน จอมทัพตัวเก่งบอลหลุดมาถึง โอกูซาน ออซยาคุป ชิพข้ามตัว ยาสเปอร์ ซิลเลสเซน นายด่านทีมเยือนเข้าไปอย่างเหนือชั้น,หลังโดนประตูขึ้นนำทีมเยือนพยายามทวงประตูตีเสมอแต่ทว่านาทีที่ 26 กลับกลายเป็นเจ้าถิ่นมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากจังหวะจับบอลพลาดของ ดาลีย์ บลินด์ ก่อนโดน อาร์ดา ตูราน ฉกบอลไปยิงเข้าไปง่ายๆก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,เข้าสู่ครึ่งหลังทีมเยือนไม่มีอะไรจะเสียเดินหน้าบุกแหลกนาทีที่ 55 เมมฟิส เดปาย ได้สับไกจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลไปเข้าซอง วอลคาน บาบาคัน นายด่านเจ้าถิ่นรับไม่มีพลาด,ทีมเยือนพยายามบุกแต่ก็ยังทำประตูตีไข่แตกไม่ได้จนกระทั่งเกมผ่านไปถึง 4 นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นมาได้ประตูตอกฝาโลง 3-0 จากจังหวะที่ คาเนอร์ เอร์คิน ลุยมาทางฝั่งขวาก่อนเปิดให้กับ บูรัค ยิลมาซ ยิงเข้าไปง่ายๆเลย,จบเกมการแข่งขัน ตุรกี เปิดบ้านต้อนเอาชนะ เนเธอร์แลนด์ ขาดลอย 3-0 เก็บ 3 แต้มสำคัญแซงหน้า เนเธอร์แลนด์ ขึ้นอันดับ 3 ซึ่งเป็นตั๋วลุ้นเพลย์ออฟโดยมีแต้มนำหน้า 2 คะแนนและเหลืออีกแค่ 2 นัดเท่านั้น,สรุปผลคู่อื่นๆมีดังนี้,กลุ่ม เอ : ลัตเวีย แพ้ สาธารณรัฐ เช็ก 1-2,กลุ่ม บี : เวลส์ เสมอ อิสราเอล 0-0,กลุ่ม เอช : นอร์เวย์ ชนะ โครเอเชีย 2-0,กลุ่ม เอช : มอลตา เสมอ อาเซอร์ไบจาน 2-2 | กังหันสีส้ม เนเธอร์แลนด์ ยังกู่ไม่กลับบู่ต่อเนื่องล่าสุดบุกไปพ่ายต่อ ไก่งวง ตุรกี ถึง 3-0 ส่อแววพลาดตั๋วยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส | null | ยูโร 2016,ยูโร 2016 รอบคัดเลือก,เนเธอร์แลนด์,ตุรกี,ข่าวกีฬา,ผลบอล,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/523407 |
ตร.สมุทรปราการ จับผู้ต้องหาชิงทรัพย์นำเงินไปเล่นเกม | พล.ต.ต.ธัชชัย หงส์ทอง ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนภูธรเมืองสมุทรปราการ จับนายพรเทพ ทัศนวิรุฬห์ อายุ 22 ปี พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน 15 เครื่อง เครื่องแทบเล็ต 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน หลังนายพรเทพตระเวนชิงทรัพย์สินเหล่านี้ ในเขตอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนหญิงอายุระหว่าง 14-18 ปี ว่า ถูกคนร้ายเป็นชาย ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาพูดคุยขณะใช้โทรศัพท์ ทำทีสอบถามเส้นทาง พร้อมออกอุบายขอยืมโทรศัพท์ เมื่อสบโอกาส ก็จะชิงโทรศัพท์ ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงเร่งรัดให้ตำรวจประมวลข้อมูลในเชิงสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา โดยนายพรเทพสารภาพว่า เลือกชิงโทรศัพท์เฉพาะเยาวชนที่เป็นหญิง ซึ่งกำลังพูดคุยโทรศัพท์ตามริมถนน โดยทำทีสอบถามเส้นทาง พร้อมขอยืมโทรศัพท์ เมื่อสบโอกาสก็ชิงโทรศัพท์และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีทันที จากนั้นจึงนำโทรศัพท์ไปขาย ส่วนที่ทำเพราะไม่มีงานทำ ประกอบกับ ติดการเล่นเกมตามร้านอินเตอร์เน็ท และ ทำมาแล้วถึง 26 ครั้ง เบื้องต้น นายพรเทพถูกตำรวจดำเนินคดีในข้อหา วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือ การพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือ รับของโจร ซึ่งหากหญิงสาวรายใด เคยถูกก่อเหตุในลักษณะนี้ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ งานสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ | ตำรวจจังหวัดสมุทรปราการ จับผู้ต้องหาตระเวนชิงทรัพย์เยาวชน โดยผู้ต้องหาจะทำทีไปสอบถามเส้นทาง พร้อมขอยืมโทรศัพท์ ก่อนชิงโทรศัพท์แล้วหลบหนีไป ทำมาแล้วกว่า 20 ครั้ง ส่วนสาเหตุมาจากติดเกม | อาชญากรรม | null | https://news.thaipbs.or.th/content/117863 |
แอน สแตนด์บายรอ เอ พร้อมแต่ง | เจอ แอน เลยเคลียร์ว่า เรื่องแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องมีสีสันของแอนแล้ว ตอนนี้ชีวิตระหว่างวันแอนมีความสุขก็โอเคแล้ว(ยิ้ม) คือแอนกับคุณเอเราเป็นคนตัวติดกัน เราอยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนกันปรึกษาหารือกัน กินข้าวเราก็กินด้วยกัน ก็เลยไม่มีรูปกับคนอื่น เลยดูเหมือนเค้าหลงรักแอนมาก (หัวเราะ) คนแซวว่าแฟนรักมากลงรูปทุกวัน ไม่ใช่หรอก แกไม่มีอะไรจะลง (ยิ้ม) ตัวจริงเค้าไม่หวานแต่เป็นคนจริงจัง ตรงไปตรงมา ขวานผ่าซาก ถ้าเราร้องไห้กลับเข้าบ้านมา เค้าจะไม่ปลอบแต่จะถามว่าคุณไปเจออะไรมา คุณทำผิดรึเปล่า ฉะนั้นเราต้องมีหัวใจแข็งแรงมากในการที่จะอยู่กับเค้า (หัวเราะ) สุดท้ายแอนก็เกิดการเรียนรู้ว่าคนที่อยู่ใกล้ตัวต้องเป็นคนที่จริงที่สุด ,คุยเรื่องแต่งกันบ้างมั้ย? ก็มีคุย แต่ระบุไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ ขอรออีกนิดนึง แอนไม่อยากพูดเรื่อยเปื่อย อีกนานไหมก็ยังไม่รู้ คือตอนนี้แอนอาจจะยุ่งกับละครมากๆ ไม่มีเวลาไปจัดงานแต่ง อาจจะปุ๊บปั๊บปึ้งไปเข้าโบสถ์เลยรึเปล่าอันนี้แอนก็ไม่รู้ แปลว่าแอนไม่ซีเรียสถ้าไม่แต่ง? แอนไม่ได้ปฏิเสธประเพณีนิยมอะไร อย่างพี่แจน-จิตติมา พี่สาวพี่โจ-จิรายุส พี่เจ-เจตริน ยังแต่งตอน 40 กว่าจะ 50 เลย แอนอาจจะไปอย่างนั้นก็ได้ สำหรับแอนสแตนด์บายอยู่แล้ว ถ้าคุณเอพร้อม แอนก็ลุยเลย (หัวเราะ) ไม่อยากมีลูกแล้วเหรอ? ตัดใจแล้ว ไม่คาดหวังไม่มีก็ไม่เป็นไร. | เคยบอกปฏิเสธไม่พร้อมแต่งไปครั้งนึง หลังจากนั้นหนุ่ม เอ-ทินพันธ์ ก็ไม่เคยเอ่ยกับ แอน ทองประสม อีกเลย จนนึกว่าคู่นี้เลิกคิดไปละ จนมาระยะหลังเห็น เอ ลงภาพคู่หวานแหววโชว์ใน IG บ่อย เอ๊ะ รึว่าจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ | null | แอน ทองประสม,เอ ทินพันธ์,สแตนด์บาย,แต่งงาน,ลงภาพคู่,IG,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/508506 |
เปิดกำหนดการผู้แทนโอไอซีเยือนชายแดนใต้ | เลขาธิการโอไอซีเดินทางเยือนไทย 7-12 พฤษภานี้ ชมกิจกรรมของรัฐ พบปะชาวบ้าน เยี่ยมเหยื่อและคนเจ็บจากความไม่สงบเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2555 รายงานข่าวแจ้งว่า คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของผู้แทนโอไอซี หรือ องค์การการประชุมชาติอิสลาม (Organization of Islamic Cooperation : OIC) นำโดย Sayed Kassem El Masry Sayed Kassem El Masry ที่ปรึกษาและผู้แทนพิเศษของนายเอกเมเลดดิน อิซาโนกลูเลขาธิการโอไอซี ที่จะเดินทางเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 7-12 พฤษภาคม 2555 นี้โดยมีกำหนดเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 8 - 10 พฤษภาคม 2555 โดย วันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 20.00 น. จุฬาราชมนตรีและเทศบาลนครหาดใหญ่ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ จากนั้นเข้าที่พักโรงแรมโนโวเทลเซ็นทารา หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาจากนั้นวันที่ 9 พฤษภาคม 2555 ออกเดินทางไปยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) พบหารือกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. และประชุมรับฟังการบรรยายสรุปและการซักถาม ณ ห้องประชุมใหญ่ ศอ.บต. ช่วงบ่ายเดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิด และเยี่ยมชมศูนย์มัรกัส อำเภอเมือง จังหวัดยะลาจากนั้นไปเยี่ยมชมศูนย์อำนวยความเป็นธรรมภาคประชาชนระดับตำบลตาลีอายร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และเยี่ยมชมโครงการส่งเสริมอาชีพสตรีที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และเข้าพักที่ โรงแรมซีเอส ปัตตานีวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 ออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ไปยังค่ายสิริธร อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โดยมีพล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.กอ.รมน ภาค 4) ให้การต้อนรับจากนั้นออกเดินทางไปยังอำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เยี่ยมชมโครงการรอตันบาตู (หมู่บ้านแม่หม้าย) เยี่ยมชมโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 10 จากนั้นออกเดินทางไปยังค่ายเสนาณรงค์อำเภอหาดใหญ่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเดินทางต่อไปยังที่ร้านซามี คิทเซ่น เพื่อรับประทานอาหารเที่ยง โดยแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารหลังจากนั้น เยี่ยมชมสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เพื่อรับฟังบรรยายสรุป พบปะเยาวชนภาคที่เข้าค่ายฤดูร้อนและเยี่ยมชมมัสยิดกลางจังหวัดสงขลา จากนั้นไปเยี่ยมชมมัสยิดบ้านเหนือ ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เข้าพักที่โรงแรมบีพี สมิหลาบีช รีสอร์ต อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ | เลขาธิการโอไอซีเดินทางเยือนไทย 7-12 พฤษภานี้ ชมกิจกรรมของรัฐ พบปะชาวบ้าน เยี่ยมเหยื่อและคนเจ็บจากความไม่สงบ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2555 รายงานข่าวแจ้งว่า คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของผู้แทนโอไอซี หรือ | สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง | OIC,ชายแดนใต้,อิสลาม | https://prachatai.com/journal/2012/05/40385 |
พระบรมราโชวาท พระราโชวาท พระโอวาท ใช้ให้ถูกต้องอย่างไร | สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ที่รัก ระยะหลังมานี้ ข้อเขียนภาษาไทยคุณครูลิลลี่ เราจะมาเจอกันทุกสองสัปดาห์ ทำให้บางครั้งเรื่องราวที่อยากนำมาพูด นำมาเล่า และหยิบเอามานำเสนอ ก็อาจจะไม่ตรงเวลาแบบพอดิบพอดีเหมือนเมื่อก่อนที่ผ่านมา แต่จำได้ว่า ไทยรัฐออนไลน์ ครั้งที่แล้วตรงกับ 5 พฤษภาคม เราก็ได้พูดกันไปถึงวันฉัตรมงคล เรียกว่าโชคดีค่ะ พอดิบพอดี ตรงวันพอดีเชียวค่ะ,มาถึงไทยรัฐออนไลน์ครั้งนี้คุณครูลิลลี่ต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้เกือบ 10 วันเชียวค่ะ เพื่อที่จะนำมาเล่ากันในวันนี้ นั่นคือ เรื่องราวของวันวิสาขบูชา จริง ๆ แล้วเรื่องที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังก็ไม่ได้เกี่ยวกับวันวิสาขบูชาตรง ๆ หรอกนะคะ แต่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น หลังจากที่โลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่ และส่งต่อ เอกสารที่เรียกว่า ,พระโอวาทเนื่องในวันวิสาขบูชา, จากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จริง ๆ เกี่ยวกับพระนามของสมเด็จพระสังฆราช คุณครูลิลลี่เคยเขียนไว้ครั้งหนึ่งแล้วในไทยรัฐออนไลน์ (อ่าน ,ศัพท์น่ารู้จากการแต่งตั้งพระสังฆราชองค์ที่ 20,) ยังจำกันได้ไหมคะว่าเราต้องอ่านออกเสียงว่าอย่างไร บางคนบอกว่าจำได้ บางคนบอกคุ้น ๆ บางคนบอกว่าจำไม่ได้ ไม่เป็นไรค่ะ,ย้ำให้อีกครั้ง จำกันให้ดีอีกสักทีนะคะ คำอ่านออกเสียงพระนามของสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ต้องอ่านออกเสียงว่า ,สม-เด็ด-พระ-อะ-ริ-ยะ-วง-สา-คะ-ตะ-ยาน สม-เด็ด-พระ-สัง-คะ-ราด-สะ-กน-ละ-มะ-หา-สัง-คะ-ปะ-ริ-นา-ยก ,ค่ะ,ทีนี้มาถึงเรื่องที่มีคนถามคุณครูลิลลี่เข้ามา นั่นคือคำว่า พระโอวาท มีคนสงสัยว่า เราจะแบ่งการใช้ราชาศัพท์ หรือระดับของคำนี้อย่างไร เมื่อใดจะเป็นพระบรมราโชวาท เมื่อใดจะใช้พระราโชวาท และตอนไหนถึงจะเป็น พระโอวาท เฉย ๆ มาดูกันแบบเห็นชัด ๆ กันเลยนะคะ,ถ้าเป็น ,คำสอน, จะใช้คำว่า ,พระบรมราโชวาท, สำหรับพระราชา ค่ะ,ทีนี้ถ้าเป็นการ, ให้โอวาท, ล่ะคะ ก็มีอีกค่ะ, มีพระบรมราโชวาท, หรือ ,พระราชทานพระบรมราโชวาท, อันนี้จะเป็นระดับของพระมหากษัตริย์นะคะ ส่วน ,มีพระราโชวาท, หรือ ,พระราชทานพระราโชวาท, จะเป็นของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ค่ะ,ถ้าเป็น ,มีพระโอวาท, หรือ, พระราชทานพระโอวาท, รวมไปถึง ,ประทานพระโอวาท, (ตามแบบโบราณ) อันนี้เป็นของพระบรมวงศ์ชั้นสมเด็จเจ้าฟ้า นอกจากนั้นถ้าเป็น มีโอวาท หรือ ประทานโอวาท ก็จะเป็นของพระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้า ค่ะ,ซึ่งในกรณีของสมเด็จพระสังฆราช จัดอยู่ในลำดับชั้นที่เทียบเท่ากับ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ, พระองค์เจ้า(ชั้นเอก) ซึ่งเป็นพระราชโอรส พระราชธิดา ในพระเจ้าอยู่หัวทุกรัชกาล จึงใช้คำว่า พระโอวาท ค่ะ ทั้งหมดที่คุณครูเล่ามา อธิบายมา อาจจะดูเยอะแยะชวนสับสน แต่ค่อย ๆ ศึกษาทำความเข้าใจไปก็จะไม่ยากเกินความสามารถของเราคนไทยแน่นอนค่ะ,และไหน ๆ ก็พูดถึงพระโอวาทของสมเด็จพระสังฆราชแล้ว คุณครูลิลลี่ก็ขอคัดลอกข้อความบางส่วนมาเป็นแง่คิดสำหรับคุณ ๆ ผู้อ่านนะคะ ข้อความตอนนั้นก็คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงฟื้นฟูประเพณีวิสาขบูชาไว้ด้วยดีแล้วบนแผ่นดินไทย สมควรที่ชาวไทยจะได้สืบสานพระพุทธศาสนา น้อมนำคุณค่าของวันสำคัญนี้มาสู่ตน ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และโลกนี้ให้ไพบูลย์ยิ่งขึ้นไป ถ้าท่านทั้งหลายอยู่ในพระสัทธรรมของสมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อใด ความผาสุกสิริสวัสดิ์ทุกประการย่อมบังเกิดขึ้นเมื่อนั้น คำว่า ,สัทธรรม, หลาย ๆ คนไม่คุ้นหูคุ้นตาสักเท่าใด เพราะอาจจะเผลอคิดว่าสะกดผิดจากคำว่า สัจธรรม เสียด้วยซ้ำ,จริง ๆ แล้วคำว่า สัทธรรม อ่านว่า สัด-ทำ นะคะ ไม่ใช่ สัด-ทะ-ทำ ย้ำนะคะ อ่านว่า สัด-ทำ เป็นคำนามแปลว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า เรียกว่า พระสัทธรรม หมายถึง ธรรมของสัตบุรุษหรือคนดี นั่นเอง,รู้ดังนี้ อ่านถึงตรงนี้แล้วก็หวังว่าทุกท่านจะได้แง่คิดดี ๆ จากไทยรัฐออนไลน์ในครั้งนี้ไปไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีค่ะ,instagram : ,kru_lilly,facebook : ,ครูลิลลี่ | สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ที่รัก ระยะหลังมานี้ ข้อเขียนภาษาไทยคุณครูลิลลี่ เราจะมาเจอกันทุกสองสัปดาห์ ทำให้บางครั้งเรื่องราวที่อยากนำมาพูด นำมาเล่าและหยิบเอามานำเสนอ ก็อาจจะไม่ตรงเวลาแบบพอดิบพอดีเหมือนเมื่อก่อนที่ผ่านมา | คนดังนั่งเขียน,ข่าว | คนดังนั่งเขียน,ครูลิลลี่,พระบรมราโชวาท,พระราโชวาท,พระโอวาท | https://www.thairath.co.th/news/944950 |
เจ้าสัวจีนซื้อบริษัทผู้จัดงานลูกโลกทองคำ | งานแจกรางวัลลูกโลกทองคำ เวทีประกวด Miss America งานแจกรางวัลทางดนตรีทั้ง American Music Awards Country Music Awards และ Billboard Music Awards ตลอดจนโชว์ยอดฮิตทั้ง So You Think You Can Dance และการถ่ายทอดงานฉลองวันขึ้นปีใหม่ที่ไทม์สแควร์ เหล่านี้คือรายการโทรทัศน์ยอดนิยมของชาวอเมริกัน ที่ผลิตโดย Dick Clark productions บริษัทผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ระดับโลก วันนี้กิจการทั้งหมดของ Dick Clark productions ตกอยู่ในการครอบครองของ หวังเจียนหลิน นักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดของแดนมังกร ที่ทุ่มเงินซื้อกิจการไปถึง 1000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยระบุว่าเป็นก้าวแรกในการรุกวงการโทรทัศน์ เช่นเดียวกับการขยายการลงทุนในวงการสวนสนุก วงการภาพยนตร์ และวงการกีฬาในอนาคตหวังเจียนหลิน ผู้ก่อตั้ง Wanda Group บริษัทผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีน ถูกจับตาเรื่องการทุ่มเงินมหาศาลเพื่อลงทุนในธุรกิจบันเทิง โดยต้นปีที่ผ่านได้ทุ่มเงินกว่า 3000 ล้านดอลลาร์ซื้อกิจกการของ Legendary Entertainment บริษัทผู้ผลิตหนังชื่อดังของฮอลลีวูด และเตรียมส่งหนังฮอลลีวูดที่เกี่ยวกับการสู้รบบนกำแพงเมืองจีนออกฉายเป็นเรื่องแรก ส่วนเดือนกรกฎาคมก็ใช้เงิน 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อกิจการของ AMC Theaters เครือข่ายโรงภาพยนตร์อันดับ 2 ของสหรัฐฯ เมื่อรวมกับโรงหนังในยุโรปและเอเซียแล้ว หวังเจียนหลินได้กลายเจ้าของโรงหนังร้อยละ 13 ของทั่วโลก และยังตั้งเป้าว่าจะครองที่นั่งในโรงหนังทั่วโลกให้ได้ร้อยละ 20 ในอนาคตคาดการณ์ว่า หวังเจียนหลิน คงจะเข้ามาซื้อกิจการ 1 ใน 6 ค่ายหนังยักษ์ใหญ่ของฮอลลีวูดในอนาคตอันใกล้นี้ การกว้านซื้อกิจการบันเทิงในสหรัฐฯ อย่างไม่หยุดยั้ง สร้างความกังวลให้กับสมาชิกของสภาคองเกรส ที่ยื่นคำร้องให้กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ตรวจสอบว่า หวังเจียนหลิน มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะเป็นการเข้ามาใช้สื่อของสหรัฐฯ เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลจีนหวังเจียนหลิน ยืนยันว่าการรุกตลาดบันเทิงในสหรัฐฯ เป็นไปเพื่อโอกาสทางธุรกิจ โดยไม่มีประเด็นเรื่องการเมืองมาแอบแฝง และกล่าวว่าเขาคือนักลงทุนที่ยืนมือเข้ามาช่วยเหลือบริษัทบันเทิงที่กำลังประสบปัญหาในสหรัฐฯ ให้สามารถฟื้นตัวจากโอกาสในการเข้าไปทำธุรกิจในเมืองจีนได้มากขึ้น และย้ำว่าจะไม่ก้าวก่ายการทำงานของ Dick Clark productions โดยจะให้ทีมงานชุดเดิมทำงานต่อไปเหตุผลที่ หวังเจียนหลิน หันมาลงทุนในต่างประเทศ มาจากความกังวลของเขาที่มีต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในเมืองจีน ที่คาดว่าฟองสบู่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใกล้แตก ทั้งค่าเงินหยวนก็ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐีชาวจีนหันไปลงทุนยังต่างประเทศกันมากมาย โดยมีสหรัฐฯ เป็นเป้าหมายหลัก ความซบเซายังส่งสัญญาณมาถึงวงการภาพยนตร์ เมื่อการฉายหนังในจีนตลอดปีนี้ มีรายได้เพียง 5600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับตัวเลข 8900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า นำไปสู่การผ่อนปรนของรัฐบาลจีนที่อนุญาตให้หนังฮอลลีวูดมาฉายเรียกคนดูในปีนี้ถึง 38 เรื่อง มากกว่าโควต้าที่กำหนดไว้เพียง 34 เรื่องเหมือนปีก่อนๆนักวิเคราะห์มองว่ามูลค่าในการซื้อขายกิจการของ Dick Clark productions น่าจะไม่เกิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การที่ หวังเจียนหลิน ทุ่มเงินซื้อถึง 1000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นมูลค่าที่สูงจนน่าตกใจ แต่คงไม่แปลกสำหรับเจ้าสัวที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองจีนผู้นี้ | หวังเจียนหลิน นักธุรกิจจีนที่ร่ำรวยที่สุดได้ทุ่มเงินซื้อกิจการของ Dick Clark productions บริษัทผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ของสหรัฐฯ เพื่อขยายอาณาจักรธุรกิจบันเทิงของจีนให้ครอบคลุมไปทั่วโลกในอนาคต | ศิลปะ-บันเทิง | ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,เจ้าสัวจีน,จีน,ลูกโลกทองคำ | https://news.thaipbs.or.th/content/257422 |
ชาวบ้านวอนรัฐแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบเหมืองแร่ทองคำ จ.พิจิตร | ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี จ.พิจิตร แสดงใบคูปองที่ได้รับแจกจากเกษตรจังหวัด เพื่อนำไปใช้แลกผักสวนออแกนนิกส์ ตามจุดที่ให้บริการสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งในแต่ละเดือนชาวบ้านจะได้รับคูปองราคา 160 บาทและราคา 200 บาทต่อคนโครงการคูปองแลกผัก เกิดขึ้นหลังจากมีทีมแพทย์และสาธารณสุขจังหวัดแนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภคพืชผักสวนครัวตั้งแต่ต้น 2558 หลังพบว่ามีสารโลหะหนักปนเปื้อน แต่ชาวบ้านจำนวนหนึ่งเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุดสำหรับนโยบายการสำรวจแร่ทองคำเพื่อพิจารณาออกใบอาชญาบัตรใน 12 จังหวัดนั้น นายอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมมอบหมายให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ศึกษาผลได้ผลเสียให้รอบคอบอีกครั้ง เพื่อนำไปสู่การพิจารณาว่าจะให้สัมปทานหรือไม่วันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.2558) กลุ่มชาวบ้านจะรวมตัวไปยื่นหนังสือและรายชื่อ 20000 ชื่อที่คัดค้านนโยบายเหมืองแร่ทองคำ 12 จังหวัดต่อนายกรัฐมนตรี ขณะที่ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งขอให้รัฐบาลช่วยเหลือแผนการอพยพชาวบ้านรอบเหมืองออกนอกพื้นที่ เพราะเห็นว่าภาครัฐไม่ได้มีความจริงจังในการแก้ไขปัญหาสุขภาพของชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ศึกษาผลได้ผลเสียให้รอบคอบก่อนจะพิจารณาว่าจะเดินหน้านโยบายเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ 12 จังหวัดหรือไม่ ขณะที่ชาวบ้านเรียกร้องให้แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมปนเปื้อนสารโลหะหนัก แทนการแจกคูปองเพื่อนำไปแลกพืชผักสวนครัว | สิ่งแวดล้อม | กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่,คูปอง,นโยบายเหมืองแร่ทองคำ,ปัญหาสิ่งแวดล้อม,พิจิตร,พืชผักสวนครัว,สารโลหะหนัก,เหมืองแร่ทองคำ | https://news.thaipbs.or.th/content/5342 |
รวบเจ้ามือหวยใต้ดิน เครือข่าย โกเขียว เงินหมุนงวดละ 10 ล. | เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 ก.ย. 58 นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว จ.ชุมพร นายกิตติพงค์ โสมณะ ปลัดอำเภอปะทิว ฝ่ายความมั่นคง พร้อมกำลัง อส. ควบคุมตัวผู้ต้องหาขายหวยใต้ดิน จำนวน 8 คน ประกอบด้วย นางบรรจง คงคุลี, นางจิตรา ยศแก้ว, นางธิดารัตน์ วิเศษศักดิ์, นางจินดา พันธคาร, นายปริเวศ คงคุลี, นางกัญญา แก้วยอด, นางเบญจา ศิริเมร์ และนายปริญญากร สุวรรศาสตร์ พร้อมของกลางสมุดบันทึกหมายเลขหวยใต้ดิน 13 เล่ม สมุดจดบัญชียอดเงิน และอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้เกี่ยวกับการขายหวยใต้ดินอีกหลายรายการ และสมุดบันทึกรายชื่อ อ้างการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานทั้งในจังหวัดและส่วนกลางอีกเกือบ 10 หน่วยงาน,นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว กล่าวว่า เนื่องจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอปะทิว ได้รับหนังสือร้องเรียนจากศูนย์ดำรงธรรม จ.ชุมพร ผ่านตู้ ปณ. 111 สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ร้านบรรจงมินิมาร์ท ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ลักลอบขายหวยใต้ดินมานานแล้ว จึงได้สั่งการให้ ปลัดอำเภอปะทิว ฝ่ายความมั่นคง นำกำลัง อส. ไปรอซุ่มจับกุมในวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทั่งมีคนเดินโพยขายหวยใต้ดินทยอยนำสมุดบันทึกเลขหวยใต้ดินและเงินสดบางส่วนมาส่งให้กับ นางบรรจง เจ้าของมินิมาร์ท เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น และพบของกลางทั้งหมดภายในมินิมาร์ทดังกล่าว จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ (หวยใต้ดิน) รับกินรับใช้ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย,จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดขายหวยใต้ดินส่งให้กับนายทุนที่เป็นเจ้ามือหวยใต้ดินรายใหญ่ของ จ.ชุมพร ชื่อ โกเขียว ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งจังหวัด แต่ละงวดจะมียอดส่งให้กับโกเขียว งวดละ 200,000 - 300,000 บาท ซึ่งใน จ.ชุมพร มีเครือข่ายขายหวยใต้ดินให้กับโกเขียว มากกว่า 100 ราย ซึ่งแต่ละงวดจะมีรายได้จากการขายหวยใต้ดินมากกว่า 10 ล้านบาท. | นอภ.ปะทิว สนธิกำลังฝ่ายความมั่นคงชุมพร รวบ 8 เจ้ามือหวยใต้ดินเครือข่าย โกเขียว รายใหญ่ของจังหวัด พบโพยรายชื่อคนแทง เงินหมุนเวียนงวดละกว่า 10 ล้านบาท พร้อมบันทึกอ้างจ่ายส่วยเกือบ 10 หน่วยงาน | ข่าว,ทั่วไทย | หวย,หวยใต้ดิน,โกเขียว,โพยหวย,ธนนท์ พรรพีภาส,จ่ายส่วย,เครือข่ายหวย,เครือข่ายโกเขียว,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/525764 |
เดือดร้อนหนัก เปิดประตูคลองสารภี ทำน้ำเสีย กุ้ง-ปลาตายเพียบ | คาดช่วงค่ำเป็นต้นไป สัตว์น้ำในกระชังจะตายอีกเป็นจำนวนมาก,เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ในเขตอำเภอบ้านสร้าง โทรศัพท์มาร้องเรียนว่า ทางราชการได้เปิดประตูน้ำที่คลองสารภี ตำบลบางเดชะ อำเภอเมืองปราจีนบุรี ทำให้น้ำในคลองไหลลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี ส่งผลให้สัตว์น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี ตั้งแต่ปากคลองสารภี ทางด้านตำบลบางพลวง อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ไปจนถึงตำบลบ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง น้ำเน่าเสีย มีกลิ่นเน่าเหม็น สัตว์น้ำทุกประเภท แม้กระทั่งปลาลิ้นหมาที่อยู่น้ำลึก ยังลอยหัวอยู่เหนือผิวน้ำ และส่งผลให้ผู้ประกอบการเลี้ยงปลาทับทิมในกระชังกว่า 20 ราย ได้รับความเสียหาย,ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่า เขตชลประทานบางพลวงทางด้านคลองสารภี ที่เป็นคันชลประทาน และประตูระบายน้ำทุกจุด มีการเปิดระบายน้ำจากท้องนาไหลลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรีทั้งหมด ซึ่งน้ำที่เปิดลงสู่แม่น้ำนั้น มีกลิ่นเน่าเหม็น จนทำให้แม่น้ำปราจีนบุรีมีสีน้ำตาล ไม่สามารถใช้ในการบริโภคได้ ปัญหาน้ำเน่าเสีย ทำให้ปลาทับทิมตายเป็นจำนวนมาก จากการสังเกตผู้ประกอบการเลี้ยงปลาในกระชัง พบว่า มีการติดต่อรถยนต์ให้มาทำการจับปลาในกระชังเป็นการด่วน เนื่องจากปลาในกระชังเริ่มตาย และปลาที่ทำการจับเพื่อไปส่งขายยังผู้รับซื้อมีขนาดเล็ก ยังไม่ถึงกำหนดการจับ แต่มาได้รับผลกระทบจากน้ำเน่า ทำให้ผู้เลี้ยงปลาในกระชังต้องรีบจับปลาขายแยกประเภท เป็น 2 ประเภท คือ ปลาที่ตาย กับปลาที่ไม่ได้ขนาด โดยส่งขายปลาไม่ได้ขนาด กิโลกรัมละ 2 บาท จากที่ปลาครบกำหนดจะสามารถขายได้กิโลละ 70 บาท,นายประสิทธิ์ จันทร์แสง อายุ 51 ปี ชาว ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ลงทุนเลี้ยงปลาครั้งนี้ ประมาณ 2 หมื่นกว่าตัว โดยเริ่มเลี้ยงตั้งแต่เดือนกันยายน จะถึงกำหนดจับในช่วงเดือนธันวาคม ต้องได้รับผลกระทบจากน้ำเน่า จนทำให้ปลาในกระชังตาย ซึ่งตนเองได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากเพื่อนที่เลี้ยงปลากระชังทางด้านต้นน้ำว่า น้ำเน่ามาจากคลองสารภีได้ไหลลงมาสู่แม่น้ำ ทำให้ปลาในกระชังต้นแม่น้ำตายเป็นจำนวนมาก เมื่อตนสังเกตปลาในกระชังที่เลี้ยงไว้ เริ่มได้รับผลกระทบตั้งแต่วันนี้ จึงต้องระดมพรรคพวกมาทำการจับส่งขายปลาเป็นการด่วน ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท ส่วนสาเหตุน้ำเน่าเหม็นในครั้งนี้ เกิดจากการปล่อยน้ำจากโรงงานอุตสาหกรรมลงสู่พื้นนา พร้อมกับการเปิดประตูระบายน้ำ ทำให้ผู้ประกอบการเลี้ยงปลาในกระชังได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 20 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท,ขณะนี้ น้ำเสียได้ไหลผ่านพื้นที่ตำบลบ้านสร้าง เข้าสู่พื้นที่ตำบลบางกระเบา บางเตย และ บางยาง คาดว่าในช่วงค่ำเป็นต้นไป กุ้งปลาในแม่น้ำ และในกระชังจะตายอีกเป็นจำนวนมาก หากไม่มีการแก้ไขภายใน 1 ถึง 2 สัปดาห์ น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี ตั้งแต่พื้นที่ ต.บางพลวง ถึง ต.บางแตน เน่าเสียตลอดลำน้ำ สัตว์น้ำในแม่น้ำจะตาย และสูญพันธุ์อีกเป็นจำนวนมาก | ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ทางการเปิดประตูน้ำคลองสารภี ทำให้น้ำคลองไหลลงแม่น้ำปราจีน ส่งผลให้น้ำเน่าเสียมีกลิ่นเหม็น สัตว์น้ำทุกประเภทได้รับความเสียหาย ผู้เลี้ยงปลาในกระชังเสียหายกว่า 20 ราย มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท | null | น้ำเน่า,น้ำเสีย,ปลาตาย,ประตูน้ำคลองสารภี,เปิดประตูคลอง ทำปลาตาย,กลิ่นเหม็น,กุ้งตาย,สัตว์น้ำตาย,กระชังปลา,กระชังปลาเสียหาย,แม่น้ำปราจีนบุรี,ปล่อยน้ำเสีย,ผู้เลี้ยงปลาในกระชัง,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,ภูมิภาค,ปราจีนบุรี,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/540050 |
โจรใต้ยิงชาวบ้านตาย 1 เจ็บ 1 จนท.คาดอาจมีการก่อเหตุป่วนช่วงเดือนนี้ | ภาพประกอบจากแฟ้มข่าวเมื่อเวลา 03.20 น.วันนี้ (14 มี.ค. 63) พ.ต.อ.ธีรพจน์ ยินดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร บันนังสตา จังหวัดยะลา ได้รับรายงานว่า มีเหตุ คนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายไอดี กูเต๊ะ อายุ 26 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จว.ปัตตานี (เสียชีวิต) และนายซูลกอรนัย บือแน อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จว.ยะลา ซึ่งเป็นเพื่อนผู้ตายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิด ที่บริเวณถนนบ้านดาแลแป หมู่ที่ 6 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จว.ยะลานอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านทราบชื่อคือ นายรอกิ เจ๊ะนิ อายุ 24 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 6 ต.เขื่อนบางลาง ได้รับบาดเจ็บจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ถูกลวดซึ่งคนร้ายขึงไว้บนถนนสายดังกล่าว ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอบันนังสตา ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นเรื่องการสร้างสถานการณ์หรือส่วนตัวด้าน หน่วยข่าวกรองศูนย์ปฏิบัติการพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รายงานว่า นายอับดุลเลาะ ตาเปาะโตะ หัวหน้าหน่วย อาร์ เค เค ระดับคอมมานโด ควบคุมดูแลพื้นที่ เขต อ.บันนังสตา จ.ยะลา นายสมาน อภิบาลแบ สังกัด หน่วยรบพิเศษ กองกำลังติดอาวุธอิสลาม ปัตตานี่ บี อาร์ เอ็น Angkatan Bersenjata Rivolusi Islam Patani หรือ ABRIP ระดับหัวหน้าหน่วย เขต อ.บันนังสตา จ.ยะลา นายรุสลัน มะสาวา สังกัดหน่วย Pemuda Kapi ระดับหัวหน้าเขต อ.บันนังสตา จ.ยะลา นายสุกรียา เดมะ ภูมิลำเนา ต.ปล่องหอย อ.พะพ้อ จ.ปัตตานี หัวหน้าชุดปฏิบัติการ หน่วย อาร์เคเค ระดับตำบล เขต อ.พะพ้อ จ.ปัตตานี โดยแกนนำสมาชิกปฏิบัติการขบวนการ บี อาร์ เอ็น และพวกรวม 10 คน ร่วมประชุมที่บริเวณบ้านพักของนาย รุสลัน มะสาวา ที่บ้าน เลขที่268 ม.1 ต/อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 8 มีค.63 ที่ผ่านมา วัตถุประสงค์เพื่อกำหนดเป้าหมายโจมตีเจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร ในและนอกเขต จชต. เน้น อ.หาดใหญ่ อ.เบตง อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ เทศบาลนครยะลา ห้วงเวลาการก่อตั้งครบรอบ 60 ปี ขบวนการ บี อาร์ เอ็น ในเดือนมีนาคมนี้โดยกล่าวอ้างว่าเป็นการตอบโต้มาตรการ กดดันเชิงรุกของ กองทัพภาคที่ 4 ที่เข้าตรวจค้นและวิสามัญฯ พรรคพวกไปหลายคน ซึ่งพยายามไม่ให้เป็นข่าวเผยแพร่ในสื่อต่างๆ และแก้แค้น ให้นาย มูฮัมมะ มุสตาวา สะนิ อายุ 43 ปี เป็นชาว ต.กะรูบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี และสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติการ เขต อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ถูกเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการเชิงรุกตรวจคันจับกุมตัว เมื่อ 5 มี.ค. 63 ที่ผ่านมาด้วย. | คนร้ายยิงชาวบ้านที่ อ.บันนังสตา ตาย 1 บาดเจ็บ 1 และชาวบ้าน ขี่ จยย.ถูกดักขึงลวดกลางถนนเจ็บอีก 1 เร่งสอบสวนไม่ฟันสร้างสถานการณ์หรือไม่ ในขณะที่หน่วยความมั่นคงแจ้งเตือนจะมีการก่อเหตุในเดือนนี้ | ข่าว,อาชญากรรม | คนร้ายยิงชาวบ้าน,ยิงชาวบ้าน,โจรใต้,อ.บันนังสตา,ยะลา,กลุ่มก่อความไม่สงบ,ยิงชาวบ้านตาย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1794954 |
อย่าเพิ่งเข้าใจผิด พ่อรอง พูดแล้ว ที่มาจริงๆเรื่องขายบ้านรักษา แม่ทุม | หลายคนยกย่องให้เป็นคู่รักตัวอย่าง สำหรับ พ่อรอง เค้ามูลคดี กับ แม่ทุม ปทุมวดี เค้ามูลคดี ที่ตอนนี้ตัวแม่ทุมเองต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่ความรักของทั้งคู่ก็ยังเหมือนเดิม พ่อรอง คอยดูแลภรรยารักเสมอ,ล่าสุด มีข่าวออกมาว่า พ่อรอง เค้ามูลคดี ตัดใจขายบ้านหลังเก่าที่อยู่มากว่า 40 ปี ย่านลาดพร้าว 71 เพื่อนำเงินก้อน ไปรักษาแม่ทุม แล้วย้ายไปอยู่บ้านหลังเล็กแทน ส่วนลูกๆ ก็ต้องประหยัดเพื่อจะได้นำเงินไปรักษาแม่ ซึ่งเรื่องนี้ ทางบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้พูดคุยกับ พ่อรองว่าเป็นไปตามที่ข่าวออกหรือไม่,เรื่องขายบ้านเป็นยังไงค่ะพ่อรอง?, ขายบ้านอันนั้นมันเป็นความผิดพลาด เวลามันไม่มี แล้วเค้าก็ถามว่า ตกลงบ้านอยู่ที่ลาดพร้าว 71 จะขายเหรอ เราก็บอกว่า ขายแล้ว เอาเงินเก็บไว้รักษาคุณทุมดีกว่า ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เงินที่จะเอาไปรักษาคุณทุมนะ เงินที่จะรักษาคุณทุมมันมีอยู่แล้ว รักษาได้อีกนาน,คือเราก็ไม่ได้ร่ำรวยหรอกแต่ยุ้ยเค้าก็เก็บเงินไว้แล้วก้อนหนึ่ง ทางพ่อก็เก็บไว้แล้ว และที่สำคัญ ลูกชายเป็นข้าราชการ มันก็เบิกได้อยู่แล้ว ซึ่งมันแทบจะไม่ได้ใช้มากมาย เดือนหนึ่งก็ประมาณสักแสนกว่าบาท มันก็จ่ายได้อยู่แล้ว,แต่เผอิญบ้านหลังนี้เราอยู่มานาน 40 กว่าปี แล้วเราก็ไม่ได้ดูแล แล้วเราลืมนึกไปว่าบ้านอยู่ติดคลอง ห่างกันแค่ศอกเดียว ไม่ได้ดูแล ปลวกมันกินไง น้ำเซาะ วันที่งัดออกมา ปลวกกินเกือบทั้งหลังเลย และที่สำคัญ กทม. เค้ามาทำทางให้รถมอเตอร์ไซค์วิ่งหลังบ้านกับอีกฝั่งเป็นที่คนเดิน เค้าเอาเสาเข็มมาลงเป็นร้อยต้น บ้านเราก็ทรุดลงตามเสาเรื่อยๆ,ตามช่างมาดู ช่างตีราคาบอกว่าต้องทุบ ถ้าสร้างใหม่ก็ประมาณสิบกว่าล้าน โอ้โห สิบกว่าล้านที่ฉันมี ฉันจะเอาไว้ดูแลเมียรัก ตกลงก็เลยเอาเงินจำนวนนี้ เอามาทำบ้านเหรอ ไม่เอาดีกว่า เพราะไหนๆ ยุ้ยเค้าก็ซื้อบ้านที่วัชรพลแล้ว ไปอยู่กับยุ้ยดีกว่า,พ่อคนเดียว สบาย ต่อห้องใหม่เบ้อเร่อเบ้อร่าไว้อยู่กับยายทุม สบาย ก็ขายบ้านหลังนี้ ก็ได้เงินเยอะพอสมควร ก็มาเก็บกองกลางรักษายายทุม ไว้รักษาตัวเองยามเจ็บไข้ได้ป่วยดีกว่า เรื่องอะไรจะเอาเงินแทนที่จะได้มา ดันเอาเงินที่มีออกไปสร้างบ้านใหม่ ซึ่งมันไม่มีประโยชน์ แล้วอีกอย่างแถวนั้นเป็นแหล่งรถติดด้วย,จากข่าวที่ออกมา คนเลยมองว่า เสียค่ารักษาคุณแม่ทุมเยอะมากไป จนไม่มีเงินเหลือ?, โอ๊ย เงินที่มีอยู่รักษายายทุมได้อีกนาน ,แม่ทุมมีค่ารักษาพยาบาลปีละเยอะไหม?, เดือนตกประมาณแสนกว่าบาท แล้วก็มีส่วนที่เราต้องจ่ายเพิ่มหลังลูกเบิกอีกประมาณ 4-5 หมื่น ซึ่งมันไม่ได้มากอะไร แล้วตัวเองก็มีงานอยู่เยอะแยะ ลูกเราก็มีงานเยอะ แล้วเงินก้อนยายทุมเค้าก็มีไว้ใช้จ่ายค่ารักษาได้อีกเยอะ. | รอง เค้ามูลคดี พูดแล้ว หลังมีข่าวเรื่องต้องขายบ้านเพื่อเอาเงินไปรักษาแม่ทุม ซึ่งสาเหตุแท้จริงนั้นคือ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | รอง เค้ามูลคดี,พ่อรอง แม่ทุม,แม่ทุม ปทุมวดี,พ่อรองขายบ้าน,แม่ทุมป่วย,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1083815 |
ตร.ฉะเชิงเทรา ไล่ล่าระทึกยิงยางรถรวบหนุ่มช่างสักค้ายานรก | เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 7 ม.ค. 58 พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.สีห์ศักดิ์ สร้อยศรี ผกก.สส.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา พ.ต.ต.วฤทธิ์ ถาวโรฤทธิ์ สวป.สภ.บางปะกง พร้อมกำลัง เข้าตรวจสอบหลังจากทราบว่า ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าจับกุม นายฉัตรธิชัย คงศักดิ์ อายุ 21 ปี อาชีพช่างสัก อยู่หมู่ 1 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งพาภรรยาและลูกน้อยวัย 3 ขวบมาด้วย ขณะตำรวจล่อซื้อยาบ้ากับนายฉัตรธิชัย จำนวน 50 เม็ด โดยนัดบริเวณจุดกลับรถ หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง บนถนนสิริโสธร ขาเข้าบางปะกง ม.8 ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา,เมื่อถึงเวลานัดหมายนายฉัตรธิชัย ได้ขับรถกระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ถว 9703 กทม. มาจอดข้างทาง โดยชุดของ ร.ต.ท.สุริยา พันแสง รองหัวหน้าชุด ได้ใช้รถปิดหน้าและหลังของรถเป้าหมาย ระหว่างที่ร.ต.ท.สุริยา ลงไปจากรถเพื่อนำกำลังจะเข้าจับกุม แต่นายฉัตรธิชัย ได้ไหวตัวทันขับรถชนรถที่จอดขวางด้านหน้าและถอยหลังชนรถกระบะ เซฟโรเล็ต โคราโด สีบอร์น ทะเบียน ผฉ 7142 ชลบุรี ของตำรวจที่จอดขวางอย่างเต็มแรงจนพังเสียหายเพื่อเปิดทางหนี ทำให้ ร.ต.ท.สุริยา เกือบถูกรถถอยทับ โชคดีที่กระโดดหลบได้ทัน ก่อนที่จะตัดสินใจยิงยางหน้ารถฝั่งคนขับ ทำให้รถกระบะที่นายฉัตรธิชัยกำลังขับถอยหลังเกิดเสียหลักถอยขึ้นเกาะกลางถนนจนไม่สามารถไปต่อได้,ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางยาบ้า 52 เม็ด ซึ่งอยู่ภายในตัวของนายฉัตรธิชัย ก่อนจะทำการค้นภายในรถพบยาบ้าด้านข้างประตูฝั่งคนขับอีก 70 เม็ด จากนั้นได้นำตัว นายฉัตรธิชัย ไปค้นต่อที่ภายในหมู่บ้านญาดาเพลส หมู่ 4 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยพบกับพ่อ-แม่ของนายฉัตรธิชัย หลังตำรวจเข้าขอตรวจค้น ห้องนอนของนายฉัตรธิชัย ได้พบของกลางเป็นอุปกรณ์การเสพยาบ้า ยาไอซ์ และยังเจอยาบ้าอีก 4 เม็ด รวมของกลางที่ได้ทั้งหมด 122 เม็ด ตำรวจจึงนำของกลางทั้งหมดไปยัง สภ.บางปะกงเพื่อจับกุมดำเนินคดี,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า หลังสายลับสั่งซื้อยาบ้าจากนายฉัตรธิชัย จำนวน 50 เม็ด ตั้งแต่ช่วงบ่าย แต่นายฉัตรธิชัย พยายามเปลี่ยนจุดนัดพบตลอดเวลา โดยสุดท้ายจึงมาเจอกันบริเวณดังกล่าว จึงสามารถจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลาง ซึ่งโดยปกตินายฉัตรธิชัย มีอาชีพเป็นช่างสักให้กับวัยรุ่นในพื้นที่. | ตร.ชุดปฏิบัติการปรามปราบยาเสพติด จ.ฉะเชิงเทรา ล่อซื้อยาบ้าจากหนุ่มช่างสัก วัย 21 ปี บนถนนสิริโสธร แต่เกิดไหวตัวพยายามหลบหนีถอยชนรถตำรวจ แต่ถูกยิงยางรถจนเสียหลักขึ้นเกาะกลาง | ข่าว,ทั่วไทย | ค้ายาบ้า,ตำรวจจับยา,ยาบ้า,พ่อแม่ลูกค้ายา,จ.ฉะเชิงเทรา,สภ.บางประกง | https://www.thairath.co.th/news/local/473428 |
ยกร่างกฎหมายปลดล็อก กัญชา - กระท่อม ฉบับประชาชน | นักวิชาการ นักกฎหมาย แพทย์ เภสัชกรรม และผู้ป่วยโรคมะเร็ง ประชุมหารือ เพื่อพิจารณายกร่างกฎหมายปลดล็อกกัญชา-กระท่อมฉบับภาคประชาชน ที่มีเครือข่ายร่วมสนับสนุนมากกว่า 15 องค์กร ทั้งนี้กฎหมายฉบับภาคประชาชนนี้ จะแตกต่างจากร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฉบับนายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิป สนช.และ สนช. 44 คน แก้ไข เนื่องจากว่าฉบับนี้เสนอให้ปลดล็อกให้กัญชา-กระท่อม ออกจากยาเสพติดทุกชนิด เพื่อให้เอื้อต่อการนำสารสกัดน้ำมันกัญชา มาทำการศึกษาวิจัยรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง แต่ย้ำว่าจะไม่เปิดช่องโหว่ให้เกิดการค้าเชิงพาณิชย์อย่างแน่นอนขณะที่ สนช.จะเปิดเวทีรับฟังความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ในวันที่ 30 ต.ค.นี้ แม้ว่าผลโหวตบนเว็บไซต์วุฒิสภา ที่เปิดให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการปล็ดล็อกกัญชา ตั้งแต่วันที่ 1 - 15 ต.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนร่วมแสดงความเห็นกว่า 16400 คน เห็นด้วยกับการปลดล็อกกฎหมาย ถึง 16200 หรือ ร้อยละ 99แม้ประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นด้วย แต่เครือข่ายภาคประชาชนก็ยังมีความกังวลใจว่า ไทยจะไม่สามารถปลดล็อกกฎหมายได้ภายในสิ้นปีนี้ จึงเตรียมที่จะยกร่างกฎหมายฉบับภาคประชาชนเสนอต่อ สนช.อีกครั้ง เพื่อเป็นทางเลือกให้สามารถนำกัญชามาวิจัยได้ก่อน | นักวิชาการ นักกฎหมาย แพทย์ เภสัชกรรม และผู้ป่วยโรคมะเร็ง เตรียมยกร่างกฎหมายปลดล็อกกัญชา-กระท่อม ฉบับภาคประชาชน เสนอ ต่อ สนช.เพื่อให้เป็นอิสระออกจากเสพติดประเภทให้โทษทุกชนิดให้ทันภายในสิ้นปีนี้ (61) | สังคม | กัญชา,เสรีกัญชา,โรคมะเร็ง,กระท่อม,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/275251 |
โค้ชเอก ยืดอกรับทีมยังไม่นิ่งพอเกมบุกพ่ายแบงค็อกฯ | วันที่ 11 มิ.ย. 60 ความเคลื่อนไหวของทีม โต๊ะเล็กไฮเวย์ กรมทางหลวง ที่บุกไปพ่ายให้กับ อัศวินเมืองหลวง แบงค็อก บีทีเอส เอฟซี ถึงสนานกีฬาภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี ไปแบบสุดมันส์ 4-5 ส่งผลให้ยังคงมี 13 คะแนนจากการลงสนาม 11 นัด อยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางคะแนนเวลานี้,หลังจบเกมการแข่งขัน โค้ชเอก วิศาล ไหมวิจิตร หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม โต๊ะเล็กไฮเวย์ กรมทางหลวง กล่าวว่า เกมในวันนี้ผมค่อนข้างประทับใจนักเตะทุกๆ คน เรารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นรองเจ้าถิ่น แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราก็ได้วางแผนมาบุกสู้ทำให้รูปเกมออกมาค่อนข้างสนุกจนแฟนๆ ได้เห็นประตูเกิดขึ้นในสนามถึง 9 ประตูด้วยกัน,ส่วนจุดที่เรายังต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขนั่นคือความนิ่งในเกม ซึ่งบางช่วงเราก็กดดันเขาได้ดี แต่บางทีเราก็แกว่งไปดื้อๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลายคนในทีมยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ รวมถึงชั่วโมงบินอีกสักระยะ ซึ่งผมหวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้ทีมของผมจะยกระดับทีมขึ้นมาสู้กับทีมชั้นนำของประเทศได้อย่างไม่เป็นรอง,สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของทีม โต๊ะเล็กไฮเวย์ กรมทางหลวง จะเปิดสนามกีฬา เทศบาลตำบลปลายบาง ต้อนรับการมาเยือนของ สุราษฎร์ธานี ในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายนนี้ เวลา 18.00 น. | วิศาล ไหมวิจิตร กุนซือคนเก่งของ กรมทางหลวง เปิดเผยว่าลูกทีมของเขายังขาดความนิ่ง รวมถึงประสบการณ์ แต่ก็ถือว่าเล่นได้ค่อนข้างน่าพอใจแล้วในเกมบุกพ่าย แบงค็อก บีทีเอส เอฟซี 4-5 | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ฟุตซอล,ฟุตซอลลีก,เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017,วิศาล ไหมวิจิตร,กรมทางหลวง | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/969728 |
ป.ป.ช.ยังไม่ฟันธงรายชื่อขรก.ทุจริตรอบ2 มีระดับบิ๊กเอี่ยว | เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช. เตรียมส่งรายชื่อข้าราชการทุจริตรอบสอง ให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ว่าจะมีการดำเนินการหลังจากการประชุม ศอตช.อีกครั้ง ซึ่ง ป.ป.ช.จะไปตรวจสอบเพื่อแจ้งรายชื่อข้าราชการทุจริตเพิ่มเติมรอบสอง แต่ยังระบุไม่ได้ว่าจะมีจำนวนเท่าใด ต้องรอไปตรวจสอบข้อมูลก่อน พร้อมกับเสนอความเห็นต่อที่ประชุม ป.ป.ช.ด้วย,ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้าราชการทุจริตรอบสองจะมีข้าราชการระดับสูง เช่น ปลัดกระทรวง ผู้ว่าฯ อธิบดี ร่วมอยู่ด้วยหรือไม่ นายสรรเสริญ ตอบว่า ยังสรุปไม่ได้ว่า รายชื่อรอบสองจะมีข้าราชการระดับสูงร่วมด้วยหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบก่อน เพียงแต่ตำแหน่งระดับปลัดกระทรวง ผู้ว่าฯ อธิบดี อยู่ในอำนาจที่ ป.ป.ช.จะตรวจสอบได้อยู่แล้ว,ทั้งนี้ รายชื่อที่ ป.ป.ช. จะส่งให้ ศอตช.รอบสองจะยึดหลักเกณฑ์เดิม คือ เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนรายชื่อรอบแรกที่ เดิมระบุว่า มีอยู่ 5-10 รายนั้น จากการประมวลล่าสุด พบมีรายชื่อเพิ่มขึ้นมาจำนวนมาก ทำให้รายชื่อข้าราชการทุจริตรอบแรก ที่จะส่งให้ ศอตช. จะมีประมาณ 20-30 คน ส่วนใหญ่เป็นระดับท้องถิ่น และข้าราชการประจำระดับซีเล็กๆ อีกเล็กน้อย. | ป.ป.ช.รอเค้นข้อมูลส่งชื่อ ขรก.โกงให้ ศอตช.รอบ 2 ยังไม่ฟันธงมีรายชื่อข้าราชการระดับสูงติดร่างแหหรือไม่ ขอรอตรวจสอบข้อมูลก่อน ส่วนรอบแรกมีระดับเล็กๆ กว่า 30 คน… | null | ข้าราชการทุจริต,รายชื่อขรก.ทุจริต,ระดับอธิบดี,ป.ป.ช.,ปปช.,รายชื่อข้าราชการทุจริต,สรรเสริญ พลเจียก,ศอตช.,ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริต,ฟันข้าราชการทุจริต,ข่าวการเมือง,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/492849 |
ยึดคืนรุกป่าสงวนฯ เกาะลันตาน้อย นายทุน-นักการเมืองปลูกปาล์มกว่าหมื่นไร่ | วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า เจ้าหน้าที่พัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 29 เกาะลันตา หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล เกาะลันตาน้อย กองทัพเรือ และ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำนักบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าชายเลน ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าควนบากันเกาะ หมู่ 1 บ้านหลังสอด ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ จำนวน 500 ไร่ หลังตรวจสอบพบว่า มีการปลูกปาล์มน้ำมัน และพื้นที่บางส่วนถูกเจ้าหน้าที่เข้าตัดโค่น แต่มีการปลูกใหม่ จึงนำบันทึกไปแจ้งความ เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดสำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้ เป็นวันที่ 2 ได้กระจายกำลังเป็น 6 ชุด เข้าตรวจยึดพื้นที่ในอำเภอต่างๆ ที่ติดแนวชายฝั่ง พบพื้นที่ถูกบุกรุกแล้วกว่า 10000 ไร่ จำนวน 120 แปลง ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง วางเป้าหมายยึดคืนเบื้องต้น จำนวน 30 แปลง เนื้อที่ประมาณ 2500 ไร่ ส่วนใหญ่ เป็นของนายทุน และนักการเมืองท้องถิ่น | เจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าชายเลนในเขตป่าสงวนแห่งชาติเกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ซึ่งพบว่า มีการบุกรุกกว่า 1 หมื่นไร่ | สิ่งแวดล้อม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,บุกรุกป่าชายเลน,เกาะลันตา | https://news.thaipbs.or.th/content/253559 |
นักวิจัย CFR เผยรอยร้าวเศรษฐกิจไทยหลังรัฐประหารปี 2557 | ที่สารเคลือบคุ้มกันเศรษฐกิจไทยเริ่มเกิดรอยร้าวจนทำให้เศรษฐกิจไทยทรุดหนัก29 มี.ค. 2558 โจชัวร์ คูร์แลนท์ซิกค์ นักวิจัยอาวุโสจากองค์กรคณะมนตรีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (CFR) เขียนบทความเกี่ยวกับความตกต่ำของเศรษฐกิจประเทศไทยหลังการรัฐประหาร 2557โดยบทความระบุว่าถึงแม้ไทยจะเกิดวิกฤติทางการเมืองและภัยธรรมชาติในตลอดช่วง 15 ปีก่อนหน้านี้แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังคงประคับประคองตัวมาได้ซึ่งคูร์แลนท์ซิกค์เปรียบเทียบว่าราวกับมีสาร เทฟลอน คอยเคลื่อบไม่ให้เศรษฐกิจไทยเสื่อมลง แต่ดูเหมือนว่าหลังรัฐประหารปี 2557 สารเคลือบ เทฟลอน ที่คอยคุ้มกันเศรษฐกิจไทยมาตลอดก็ยังไม่สามารถป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีวิกฤติปัญหามากมายเช่น วิกฤติอุทกภัยในช่วงฤดูมรสุมปี 2554 ที่ทำให้อุตสาหกรรมทางตอนบนของกรุงเทพฯ เสียหายจำนวนมาก ในปี 2553 ก็เคยมีเหตุการณ์ทหารปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยมใจกลางย่านธุรกิจ แต่หลังจากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวก็ยังคงเดินทางเข้าประเทศไทย และอัตราการเติบโตของจีดีพีก็ยังคงเพิ่มขึ้น หลายคนมองว่าหลังรับประหารปี 2557 เศรษฐกิจไทยก็จะกลับมาฟื้นตัวได้เหมือนเดิมเช่นที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ แต่ในบทความในเว็บไซต์ควอทซ์ระบุว่า ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทยจะสามารถทนทานต่อความวุ่นวายทางการเมืองและเรียกนักท่องเที่ยวและนักลงทุนกลับมาได้นั้นเป็นช่วงเวลาที่จบสิ้นลงแล้วคูร์แลนท์ซิกค์ระบุว่าความวุ่นวายทางการเมืองของไทยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาเบี่ยงเบนความสนใจของนักการเมืองจากการดำเนินนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐานหรือระบบการศึกษาทำให้ไม่มีการพัฒนาเพื่อตอบรับกับเศรษฐกิจที่ประชาชนมีรายได้ระดับกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชั้นเรียนเรื่องภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีสารสนเทศประเทศไทยล้าหลังกว่าคู่แข่งอื่นๆ ในภูมิภาคอย่างมากเมื่อไม่นานมานี้บทความในหนังสือพิมพ์ ทูเดย์ ของสิงคโปร์ระบุว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 55 จากทั้งหมด 60 อันดับในดัชนีความสามารถด้านภาษาอังกฤษซึ่งจัดว่าต่ำที่สุดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงแม้ว่าประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศอื่นๆ จะมีทรัพยากรน้อยกว่าในการส่งเสริมด้านภาษาก็ตาม คูร์แลนท์ซิกค์ระบุอีกว่าภาษาอังกฤษจะมีความจำเป็นต่อการดึงดูดนักลงทุนในภูมิภาคและมีความสำคัญต่อแรงงานในหลายสายงานที่ต้องการมองหาโอกาสช่วงที่มีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนคูร์แลนท์ซิกค์ระบุว่าในขณะที่ประเทศไทยมีความดึงดูดนักลงทุนในแง่ทรัพยากรแต่ความวุ่นวายทางการเมืองก็ทำให้นักลงทุนถอยหนีไปในขณะที่ประเทศอย่างฟิลิปปินส์ พม่า เวียดนาม และอินโดนีเซีย มีการส่งเสริมนโยบายดึงดูดนักลงทุนมากกว่าคูร์แลนท์ซิกค์วิเคราะห์อีกว่าหลังจากเกิดรัฐประหารปี 2557 แล้วดูเหมือนทางการญึ่ปุ่นก็ยังคงให้การสนับสนุนไทยแต่เป็นไปเพราะต้องการขจัดอิทธิพลจากจีนเท่านั้น เช่นกรณีให้กู้ยืมสร้างทางรถไฟ แต่ภาคส่งนเอกชนของญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในไทยเกิดความไม่มั่นใจและเริ่มหันไปลงทุนในประเทศอื่นของภูมิภาคนี้ขณะที่นักลงทุนประเทศอื่นๆ ก็เริ่มระมัดระวังในการทำโครงการใหม่ๆ ในไทยเมื่อไม่นานนี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กวิเคราะห์ว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลดลงราวครึ่งหนึ่งของประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย นับตั้งแต่ปี 2553 ทางด้านธนาคารโลกประเมินว่าในปี 2558 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจะอยู่ในระดับต่ำสุด และเมื่อไม่นานมานี้แม้แต่ธนาคารกลางของไทยเองก็ประเมินว่าอัตราการเติบโตจะลดลงในปี 2558 Quartz Joshua Kurlantzick 25-03-2015 | นักวิจัยอาวุโสจากองค์กรความสัมพันธ์ระหว่างประเทศวิเคราะห์ว่าแม้ประเทศไทยจะเกิดวิกฤติในหลายด้านมาตลอด 15 ปีที่ผ่านมาแต่ก็ยังผยุงเศรษฐกิจอยู่ได้เว้นแต่หลังการรัฐประหารปี 2557 | การเมือง,ต่างประเทศ,เศรษฐกิจ | null | https://prachatai.com/journal/2015/03/58629 |
ไอโอซี เตรียมเลือกเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 | คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี จัดพิธีการประกาศผลการคัดเลือกเมืองเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 ที่เมืองเดอร์บาน ประเทศแอฟริกาใต้ โดยมี 3 เมืองที่เสนอตัวได้แก่ เมืองเปียงชาง ประเทศเกาหลีใต้ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี และเมืองแอนนองซี่ ประเทศฝรั่งเศส โดยเมืองเปียงชางได้ประธานาธิบดีลี เมียง บัค มาเป็นหัวหน้าทีม รวมทั้งคิม ยู นา ยอดนักสเกตน้ำแข็งขณะที่เมืองมิวนิคได้คาทาริน่า วิทท์ อดีตยอดนักสเกตน้ำแข็ง รวมทั้งฟร้านซ์ เบ๊คเค่นบาวเออร์ อดีตกัปตันทีมฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีชุดแชมป์โลกปี 1974 มาร่วมเสนอตัวเป็นครั้งสุดท้าย ส่วนเมืองแอนนองซี่จะมีฟรังซัวร์ ฟิลลอง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสเดินทางมาเป็นหัวหน้าทีมสำหรับการคาดการณ์ของสื่อมวลชนคาดว่าเมืองเปียงชางของเกาหลีใต้เป็นตัวเต็งที่จะได้รับเลือก และหากได้รับเลือกจะเป็นเมืองที่ 3 ของเอเชียที่ได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว ขณะที่การประกาศผลการเลือกเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 จะมีขึ้นในเวลาประมาณ 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย | คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี เตรียมประกาศเมืองเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 ในคืนนี้ | กีฬา | เจ้าภาพ,โอลิมปิกฤดูหนาว,ไอโอซี | https://news.thaipbs.or.th/content/21396 |
เกษตรกรเพชรบูรณ์ ทำปุ๋ยมูลไส้เดือนขายรายได้งาม | เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 พ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวสวนในพื้นที่หมู่ 8 บ้านปากตก ต.ยางงาม อ.หนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ นำมูลไส้เดือนมาสร้างมูลค่า ทั้งจำหน่ายเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ทางการเกษตรกรของตนเอง เกษตรกรชวนกันตั้งเป็นกลุ่มสตรีบ้านปากตก มีสมาชิก จำนวน 10 คน พากันลองผิดลองถูก จนสามารถผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือนได้สำเร็จ ,ซึ่งในปัจจุบัน ปุ๋ยมูลไส้เดือนเริ่มได้รับความสนใจและมีผลตอบรับค่อนข้างดีจากผู้นำไปใช้ แต่ทางกลุ่มฯ ยังคงขาดองค์ความรู้และงบประมาณในการขยายฐานการผลิต จึงมองหาแนวทางขอสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทั่งล่าสุด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอหนองไผ่ ลงพื้นที่ดูโครงการ เพื่อเตรียมสนับสนุนให้กลุ่มปุ๋ยมูลไส้เดือน สามารถเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อขยายกลุ่มรองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นข้าราชการเกษียณอายุ เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีกำลังซื้อ และรักในการดูแลสุขภาพ ต่างหันมาเลือกซื้อสินค้าที่ปลอดสารเคมีกันมากขึ้น,จากการตรวจสอบ ณ จุดผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือนของกลุ่มสตรีบ้านปากตก โดย มีนางอารียา พ่อค้า อายุ 46 ปี ประธานกลุ่มฯ บอกว่า จุดเริ่มต้น ที่คิดทำปุ๋ยมูลไส้เดือน เนื่องจากสภาพพื้นที่ดินในไร่-สวนส่วนใหญ่เป็นหินลูกรัง ปลูกอะไรก็ไม่งาม กระทั่งได้มีผู้นำเอาปุ๋ยมูลไส้เดือนมาให้ทดลองใช้รองก้นหลุม ปรากฏว่าดิน หินลูกรังที่แห้งแข็ง จนไม่สามารถอุ้มน้ำได้ กลับมีความอุดมสมบูรณ์ดีขึ้น พืชพักที่ปลูกไว้ก็งดงามและให้ผลผลิตดีขึ้น,จึงมองเห็นทาง ตัดสินใจริเริ่มทำใช้เอง และได้แบ่งปันให้กับเพื่อนบ้านทดลองใช้ในแปลงปลูกผักและสวนผลไม้ควบคู่กันด้วย ปรากฏว่าเมื่อนำผักและผลไม้ที่ใช้ปุ๋ยมูลไส้เดือนไปขาย ต่างได้รับการตอบรับจากท้องตลาด ว่ามีความสด กรอบ และมีรสชาติอร่อยกว่าผักและผลไม้ที่ใช้ปุ๋ยเคมีทั่วไป นางอารียา พ่อค้า ยังเผยอีกว่า เมื่อเห็นว่าปุ๋ยมูลไส้เดือนนั้นได้ผลดี จึงติดต่อหาซื้อพันธุ์ไส้เดือน โดยเลือกไส้เดือนพันธุ์ แอฟริกัน AF ซึ่งเป็นไส้เดือนที่ตัวใหญ่ ย่อยสลายวัตถุอินทรีย์ได้แทบทุกชนิดและขับถ่ายออกมาเป็นปุ๋ยอย่างดี จากนั้นนำมาเพาะเลี้ยง ทำบ่ออนุบาลไส้เดือนที่บ้าน เริ่มต้นแค่ 3 กะละมัง,จนปัจจุบันขยายเพิ่มกว่า 80 กะละมังแล้ว โดยที่สมาชิกในกลุ่ม จะต้องร่วมกันสนับสนุนมูลสัตว์ (ขี้วัว) ของแต่ละคนพร้อมกะละมัง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันดูแล รักษาอุณหภูมิบ่อเลี้ยงให้เหมาะสม เพื่อให้ไส้เดือนย่อยสลายมูลสัตว์และขยายพันธุ์ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งใน 1 กะละมังที่ใช้เลี้ยง จะปล่อยพันธุ์ไส้เดือนประมาณ 200 ตัว ใช้ระยะเวลาย่อยสลาย ประมาณ 1 เดือนครึ่ง ถึง 2 เดือน จากนั้นจะแยกตัวไส้เดือนออกจากกะละมังเพื่อขยายพันธุ์ต่อไป โดย 1 กะละมังที่เคยปล่อยไส้เดือน 200 ตัว เมื่อครบกำหนดไส้เดือนจะขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นกว่า 500-600 ตัว สามารถนำไปแยกใส่กะละมังเพิ่มต่อไปได้เรื่อยๆ,สำหรับมูลสัตว์ ที่ผ่านการย่อยสลายแล้วนั้น จะนำไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นจะนำมาร่อนผ่านตะแกรงเพื่อคัดเอาแต่มูลไส้เดือนล้วนๆ ขั้นตอนสุดท้ายจะแพ็กใส่ถุง บรรจุถุงละ 1 กิโลกรัม เปิดจำหน่ายเพียงถุงละ 20 บาท หรือหากจะซื้อเป็นพันธุ์ไส้เดือน ก็สามารถแบ่งขายให้ได้ ในราคากะละมัง 200 บาท ปล่อยไส้เดือนให้ประมาณ 150 ตัว เบื้องต้น ปุ๋ยมูลไส้เดือนมีขายในจำนวนจำกัด หากผู้ใดสนใจ สามารถสั่งซื้อได้โดยตรงที่กลุ่มฯ โทร. 086-2463695,ทางด้าน นางสาวเรณู แสงคำพันธ์ นักวิชาการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า เบื้องต้นได้เข้ามาสำรวจ พร้อมเตรียมให้การสนับสนุนในด้านแหล่งเงินทุน เพื่อให้ทางกลุ่มฯ มีกำลังในการขยายธุรกิจ ปุ๋ยมูลไส้เดือน อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังจะสนับสนุนช่องทางการตลาด เตรียมผลักดันให้เป็นสินค้าโอทอป ของดีอำเภอหนองไผ่ เพื่อให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย | เกษตรกรชาวสวน จังหวัดเพชรบูรณ์ นำมูลไส้เดือนมาสร้างมูลค่า ทั้งจำหน่ายเป็นอาชีพเสริมและสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ทางการเกษตรของตนเอง | ข่าว,ทั่วไทย | อาชีพเสริม,สร้างรายได้เกษตรกร,ไส้เดือนดิน,เพชรบูรณ์,ปุ๋ยมูลไส้เดือน | https://www.thairath.co.th/news/local/north/954152 |
เนวิน ยืนยัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ลงแข่งบอลทุกรายการในปี 2559 | แผ่นดิน,วันที่ 16 ต.ค. 59 นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ยืนยัน ในปี 2559 สโมสรฯ จะไม่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการในประเทศแน่นอน หลังการประกาศยุติการแข่งขันประจำปี 2559 ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ,ในแถลงการณ์ดังกล่าว นายเนวิน ระบุว่า ผมได้รับฟังความคิดเห็นจากแฟนฟุตบอล และผู้คนในวงการฟุตบอลจำนวนมากมายหลายคน ภายหลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศยุติการแข่งขันประจำปี 2559 ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม เป็นต้นไป,ผมขอเรียนว่า ผมรับฟังทุกความคิดเห็นด้วยความไม่สบายใจที่สุด และขอแสดงความคิดเห็นในฐานะประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียงสั้นๆ ว่า ในสถานการณ์ที่ประเทศไทย และประชาชนชาวไทยทั้งแผ่นดินกำลังโศกเศร้ากับการสูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ต่อประชาชนทั้งแผ่นดินในขณะนี้ ผมในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณมาตลอดชีวิต ผม นักกีฬา และเจ้าหน้าที่ของสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกคน มีความรู้สึกเสียใจเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน และเห็นว่า สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ควรจะเข้าแข่งขันฟุตบอลในสภาวะที่แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และคนไทยทุกคนกำลังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ จึงขอไม่ลงทำการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการที่ยังคงมีอยู่ในปี 2559 ทั้งหมด,ผมได้เรียกประชุมทีมแล้ว นักกีฬาทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ควรเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลในสภาวะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไทยกำลังเสียใจ และขอความร่วมมือมายังแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกท่าน ได้โปรดหยุดแสดงความคิดเห็นใดๆ ที่จะเป็นการเพิ่มเติมความขัดแย้งในหมู่คนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟุตบอล หรือเรื่องใดๆ ก็ตามในห้วงเวลานี้ที่ประชาชนชาวไทยทุกคนกำลังแสดงออกถึงความรู้รักสามัคคี และเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม,โอกาสนี้ ผมใคร่ขอเชิญชวนแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ร่วมกันทำความดี และร่วมถวายอาลัย และถวายสักการะ ณ พระบรมมหาราชวัง ร่วมกับคนไทยทั้งแผ่นดิน หรือสถานที่ที่ทางราชการจัดไว้ เพื่อแสดงถึงความเป็นพสกนิกรผู้จงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร และสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดไป | เนวิน ชิดชอบ ประกาศชัดเจน สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะไม่ลงแข่งฟุตบอลทุกรายการในปี 2559 ทั้งหมด เพราะประชาชนชาวไทยทั้งแผ่นดิน กำลังโศกเศร้ากับการสูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ต่อประชาชนทั้ง | null | เนวิน ชิดชอบ,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,ไม่ลงแข่งบอลทุกรายการ,ปี 2559,สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ | https://www.thairath.co.th/content/755811 |
เฟซบุ๊กกำลังจะกลายเป็น ‘สื่อ’ ที่มีฐานผู้ชม 2,000 ล้านคน? | วันนี้ (28 มิ.ย.) เฟซบุ๊กมียอดผู้ใช้งานครบ 2000 ล้านคนแล้ว หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรโลกกำลังใช้ชีวิตอยู่บนเฟซบุ๊ก จำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตรารายได้ไตรมาสที่ 1 ปี 2017 เติบโตขึ้น 76 เปอร์เซ็นต์ มีกำไรสุทธิทะลุ 3000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยรายได้ 85 เปอร์เซ็นต์มาจาก โฆษณา ผ่านโทรศัพท์มือถือ นอกจาก ตัวเลข ยอดผู้ใช้และโฆษณา สิ่งที่น่าจับตากว่าคือ การขยับลงมาเล่นเป็น ผู้ผลิต และ ผู้เผยแพร่ คอนเทนต์ เฟซบุ๊กลงทุนสร้างเนื้อหาเองและจับมือกับ Fox Sports ในการเป็นช่องทางถ่ายทอดสด UEFA Champion League ในอเมริกาและสเปน ทำให้เฟซบุ๊กขยับสถานะสู่การเป็น สื่อ มากขึ้น แต่ความเป็นสื่อของเฟซบุ๊กมีข้อได้เปรียบมากกว่าสื่อทั่วไป เพราะเฟซบุ๊กเป็นแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ชมกลุ่มใหญ่ถึง 2000 ล้านคนรุกตลาดสตรีมมิง-แบ่งรายได้ให้ผู้ผลิต เฟซบุ๊กประกาศชัดตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมว่าจะบุกตลาดสตรีมมิง และจะผลิตคอนเทนต์ของตัวเอง เพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่มีคอนเทนต์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟ (ซึ่งเป็นตลาดเดียวกับ Netflix Amazon Prime Video ฯลฯ) โดยเน้นเนื้อหาบันเทิง กีฬา วัยรุ่น เกม ตลก เรียลลิตี้ และพยายามหลีกเลี่ยงเนื้อหาเชิงการเมือง ข่าวสาร และโป๊เปลือย เนื้อหาที่เฟซบุ๊กจะผลิต (โดยจ้างบริษัทที่เชี่ยวชาญ) แบ่งเป็น 2 แบบ 1. ภาพยนตร์สั้น (3-10 นาที/ตอน) ลงทุนตอนละ 5000-20000 เหรียญ (ประมาณ 1.75 – 7 แสนบาท) เฟซบุ๊กจ้างผลิต ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และผู้ผลิตสามารถนำคอนเทนต์ไปฉายที่อื่นได้หลังจากผ่านไป 2-3 สัปดาห์ 2. ภาพยนตร์หรือโชว์ระดับไฮเอนด์ (30 นาที/ตอน) ให้งบในการผลิตสูงถึงตอนละ 3 ล้านเหรียญ (ประมาณ 105 ล้านบาท) ใกล้เคียงกับงบผลิตซีรีส์ House of Cards ของ Netflix ที่ลงทุนตอนละ 4.5 ล้านเหรียญ (ประมาณ 157 ล้านบาท) ถามว่า ในฐานะบริษัทที่รับจ้างผลิตคอนเทนต์ให้เฟซบุ๊กจะได้อะไร? นิก กรูดิน รองประธานฝ่ายหุ้นส่วนสื่อของเฟซบุ๊กตอบว่า พวกเราจะให้ทุนโดยตรงสำหรับโชว์เหล่านี้ก่อน แต่จากนั้นเราจะให้ผู้สร้างทั้งหลายได้แบ่งปันรายได้กับเราแบบเดียวกับแอดเบรก (Ad Breaks)* นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังรับประกันผู้ผลิตคอนเทนต์ อาทิ BuzzFeed ATTN และ Refinery29 ว่าจะแบ่งรายได้โฆษณาที่ 5000-20000 เหรียญต่อตอนเฟซบุ๊กถ่ายทอดสด UEFA Champion League ดีลล่าสุด (28 มิ.ย.) เฟซบุ๊กจับมือ Fox Sports ในการถ่ายทอดสด UEFA Champion League ฤดูกาลหน้า หรือช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ดีลนี้จะถ่ายทอดสดทั้งหมด 3 รอบ คือ รอบแบ่งกลุ่มวันละ 2 แมตช์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย 4 แมตช์ และรอบ 8 ทีมสุดท้าย 4 แมตช์ และจำกัดการถ่ายทอดสดเฉพาะแค่ 2 ประเทศคือ อเมริกาและสเปน โดยผู้ชมในอเมริกาสามารถดูผ่านเพจ และผู้ชมในสเปนดูผ่าน ผู้คนใช้เวลาบนมือถือและโซเชียลมีเดียมากขึ้นเรื่อยๆ การขยายไปแพลตฟอร์มนี้เป็นเรื่องธรรมดา เดวิด นาธานสัน หัวหน้าฝ่ายดำเนินธุรกิจ Fox Sports กล่าว สถิติบนเฟซบุ๊กในรอบชิงฯ ระหว่างเรอัล มาดริดและยูเวนตุส เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ที่มีคน interaction บนเฟซบุ๊กมากถึง 98 ล้านคน ยืนยันคำพูดของเดวิดได้เป็นอย่างดี นอกจากดีลถ่ายทอดสด UEFA Champion League ครั้งนี้ เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กก็เพิ่งจับมือกับ Univision ในการถ่ายทอดสด Liga MX ฟุตบอลลีกสูงสุดของเม็กซิโก จำนวน 46 แมตช์ และดีลถ่ายทอดสด Major League Soccer ฟุตบอลลีกอเมริกาในอีกหนึ่งเดือนให้หลังสื่อ คำถามและความจริง (ที่ยังมองไม่เห็น) กลับมาดูที่จำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊ก 2000 ล้านคน และสัดส่วนรายได้ 85 เปอร์เซ็นต์ที่มาจากโฆษณา บวกกับการพลิกบทบาทจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมาสู่การเป็น สื่อ ทำให้เกิดคำถามชวนคิดว่า การต่อสู้ในสมรภูมิคอนเทนต์ ระหว่างยักษ์ใหญ่คือ แพลตฟอร์มกับแพลตฟอร์ม (เช่น Facebook Google Netflix Amazon ฯลฯ) ใครจะเป็นผู้ชนะ? และสื่อตอนนี้ที่กำลังถูกแพลตฟอร์มเหล่านั้นเบียดแย่งสถานะที่มีอยู่เดิม ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธแพลตฟอร์มเหล่านั้นไม่ได้ เพราะต้องอาศัยเป็นช่องทางในการเผยแพร่และจ่ายเงินบูสต์โพสต์ ไปพร้อมๆ กับเผชิญหน้ากับปัญหาส่วนตัว ซึ่งก็คือการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดท่ามกลางภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไป แม้ว่าบรรดาเจ้าของแพลตฟอร์มจะให้สัญญาว่าจะแบ่งรายได้จากโฆษณาเมื่อคอนเทนต์ของเรามีจำนวนผู้ชมมากพอ แต่ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ในสงครามครั้งนี้ จะมีพื้นที่เหลือให้ สื่อ ได้เป็นผู้ชนะหรือไม่?Cover Photo: Justin TALLIS/AFPอ้างอิง: | เฟซบุ๊กมียอดผู้ใช้งานครบ 2000 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรโลกรายได้ 85 เปอร์เซ็นต์ของเฟซบุ๊กมาจาก โฆษณา ผ่านโทรศัพท์มือถือเฟซบุ๊กมีสถานะกลายเป็น สื่อ มากขึ้น เมื่อตัดสินใจเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ของตัวเองเฟซบุ๊กรุกตลาดสตรีมมิง ซึ่งเป็นตลาดเดียวกับ Netflix Amazon Prime Video และจับมือกับ Fox Sports ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA Champion League | null | null | https://thestandard.co/news-business-facebook-will-be-mass-media-with-2-billion-users-announced/ |
หนุ่มตูนิเซีย ต้องสงสัยขับรถพุ่งชนคนที่เบอร์ลิน โดนตร.อิตาลียิงตายแล้ว | เมื่อ 23 ธ.ค.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อ้างแถลงการณ์จากกระทรวงมหาดไทยของอิตาลีว่า ตำรวจอิตาลีในเมืองมิลาน ได้ยิงสังหารนายอานิส อัมรี หนุ่มชาวตูนิเซีย ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุขับรถบรรทุกพุ่งชนผู้คนในกรุงเบอร์ลิน หลังจาก นายเอนิส อัมรี ได้เปิดฉากยิงใส่ตำรวจก่อน ขณะที่ได้ถูกตำรวจเรียกให้เขาหยุดรถและขอดูบัตรประชาชน ที่บริเวณเขตเซสโต ซาน จิโอวานนี ของเมืองมิลาน เมื่อเช้ามืด เวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 23 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ,ข่าวแจ้งว่า หลังจากนายอัมรีเป็นฝ่ายสาดกระสุนยิงใส่ตำรวจนายหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้เขาถูกตำรวจยิงเสียชีวิตแล้ว และจากการตรวจสอบลายนิ้วมือของผู้ตาย ปรากฏว่า ตรงกับลายนิ้วมือของนายเอนิส อัมรี ชายหนุ่มชาวตูนิเซียวัย 24 ปี ที่ทางการเยอรมนีกำลังตามไล่ล่าและตั้งรางวัลเงินค่าหัวนำจับถึง 100,000 ยูโร หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุขับรถชนคนที่ตลาดคริสต์มาส ในกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 ศพ บาดเจ็บ 49 ราย,ตามรายงานของสำนักข่าวอันซา ในอิตาลี ระบุว่า นายเอนิส อัมรี ได้เดินทางโดยรถไฟจากฝรั่งเศส ไปยังเมืองตูริน จากนั้นก็ต่อรถไฟอีกขบวนไปลงที่เมืองมิลาน ทางภาคเหนือของอิตาลี ก่อนจะพบจุดจบถูกตำรวจยิงเสียชีวิตในที่สุด,,เยอรมนี พลิกแผ่นดิน ล่า หนุ่มตูนิเซีย อาจเป็นคนขับรถบรรทุกชนคนสุดสยอง | จุดจบ หนุ่มตูนิเซีย ตกเป็นผู้ต้องสงสัยขับรถบรรทุกพุ่งชนที่กรุงเบอร์ลิน โดนตำรวจอิตาลีในเมืองมิลาน ยิงดับ หลังเปิดฉากยิงใส่ตำรวจก่อนขณะขอดูบัตรประชาชน | null | อานิส อัมรี,เยอรมนี ตามล่า,ตำรวจอิตาลี ยิงหนุ่มตูนีเซียตาย,มิลาน,หนุ่มตูนิเซีย | https://www.thairath.co.th/content/819937 |
จี้ผู้บริหารพิจารณาพฤติกรรมอาจารย์ล็อคคอนิสิตจุฬาฯ กลางพิธีถวายสัตย์ | กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็น3 ส.ค. 2560 จากกรณีที่ เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานสภานิสิตจุฬาฯ ได้โพสต์ข้อความและภาพผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้เป็นวันถวายสัตย์ปฏิญญาณตนของนิสิตใหม่ประจำปี2560 แทนที่จะเกิดความปีติ แต่กลับจัดงานอย่างผิดพลาด ตอนแรกสุดบอกว่าจะให้พื้นที่สำหรับคนยืนเคารพ รองอธิการบดีสัญญากับตนก่อนงานว่า ถ้าฝนตกจะให้เด็กโค้งคำนับแล้วจบ เพราะเด็กจะเปียก จะเป็นไข้ได้ แต่เป็นว่าให้หมอบกราบถวายบังคมเหมือนเดิมสภานิสิตและอบจ นั้นไม่มีร่มให้ เปียกโชกผมทนไม่ได้ ผมกับเพื่อนหลายคน ซึ่งมีหลายเหตุผลด้วยกันจึงเดินออกมานอกจากนี้ ยังมีอาจารย์มาทำร้ายร่างกาย ล็อคคอ กระชากดึงเพื่อนผม ด่าอย่างไม่น่าเชื่อว่าเป็นอาจารย์เนติวิทย์ ระบุล่าสุด ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวด้วยว่า จากประเด็นเรื่องที่เกิดขึ้กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ระบุอีกว่า ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิกาครู อาจารย์ ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำร้ายร่างกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นสำหรับ เนติวิทย์ ยังโพสต์ข้อความด้วยว่า แม้ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้เป็นประธานฯ ก็รู้สึกปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้ต่อพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเห็นว่าสยามประเทศจะเจริญงอกงามได้นั้น จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ทันสมัย ไม่แพ้กับชาติตะวันตก ทรงเห็นว่าของเก่าบางอย่างนั้นที่ทำมา บัดนี้สมควรเลิกได้แล้ว มนุษย์ไม่สมควรจะกดขี่กันและกัน กริยาท่าทางนั้นสำคัญ ควรจะให้ไม่เกิดการดูเหลื่อมล้ำขึ้น เหมือนลักษณะสังคมทาสดั้งเดิม ดังทรงพระมหากรุณาธิคุณในการยกเลิกทาสและธรรมเนียมแบบทาสแม้ต่อหน้าพระพักตร์ พระองค์ก็ต้องการให้พวกเราแสดงความเคารพอย่างเป็นมนุษย์เสมอภาค ทรงประกาศพระบรมราชโองการยกเลิกธรรมเนียมหมอบคลานถวายบังคม ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งนับว่าเป็นกฎหมาย และยังไม่มีผู้ใดหาญกล้าพอทีจะยกเลิกพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นนี้เนติวิทย์ กล่าวด้วยว่าด้วยความสำนึกในฐานะพลเมืองรุ่นใหม่ ในฐานะนิสิตในมหาวิทยาลัยตามพระนาม และประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่อาจปฏิเสธถึงวิสัยทัศน์อันยาวไกลของพระองค์นี้ได้เลย ได้พิจารณาไตร่ตรองดีแล้วและเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรน้อมทำตามอย่างยิ่ง กระนั้นก็ตาม ตนก็เกิดความสับสน เหตุใดมหาวิทยาลัยที่ตั้งตามพระนามและเป็นสังคมปัญญาชนถึงสร้างธรรมเนียมขึ้นมาใหม่ให้กลับไปกราบไหว้ถวายบังคม ซึ่งธรรมเนียมการถวายบังคมนี้ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ของเก่า แต่เป็นของใหม่ที่มีมาเมื่อยี่สิบปีก่อน โดยก่อนหน้านี้มีการฟื้นฟูมาบ้างในสมัยรัฐบาลทหาร แต่นั่นก็ทำไปเพราะมีเป้าหมายทางการเมืองมิใช่หรือ โดยพวกเขาไม่อ่านตามพระราชประสงค์ พวกเขาอาจจะไม่รู้ว่า เมื่อพระองค์เจ้าหญิงผ่อง พระธิดาของพระองค์ไม่ยอมทำตามพระราชประสงค์ พระองค์ถึงขนาดดึงตนขึ้นมาเลย และไม่รู้เพราะไม่มีเวลาศึกษาเพียงพอว่า นี่เป็นพระบรมราชโองการ และเป็นกฏหมายเนติวิทย์ กล่าวอีกว่า มหาวิทยาลัยในพระนามและแหล่งความรู้ไม่มองในมิติอื่นๆ เลยนอกจากทำตามคำสั่งของคนซึ่งอาจจะไม่ทราบถึงพระราชประสงค์เมื่อ 20 ปีก่อน และยังบีบบังคับให้คนที่ต้องการแสดงความภักดีต้องมีสีผมในลักษณะเดียวกัน ยึดข้อมือกำไรต่างๆ ทั้งที่นี่คือการถวายความคำนับต่อพระผู้ทรงสร้างความทันสมัยและต้องการให้มนุษย์เท่ากัน กลับพยายามสร้างความศักดิ์สิทธิ์ อันไม่ใช่ลักษณะของสังคมแห่งปัญญาเลย ในฐานะประธานสภานิสิตที่ได้รับเกียรติให้มางานนี้ ตนจึงต้องแสดงความกล้าหาญทางจริยธรรมอีกครั้งหนึ่ง ทำในสิ่งที่เป็นพระราชปณิธานต่อหน้าพระองค์ แม้คนอื่นๆ จะลืมเลือนความสำคัญของสิ่งที่พระองค์ทำนี้ไปแล้วและเดินออกไป | กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ออกแถลงการณ์ จี้อธิการบดีและกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาพฤติกรรม อาจารย์ล็อคคอนิสิต จุฬาฯ กลางพิธีถวายสัตย์ 3 ส.ค. | สิทธิมนุษยชน,การศึกษา | กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท,ถวายสัตย์ปฏิญญาณตน,เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล | https://prachatai.com/journal/2017/08/72648 |
ข่าวดี ผู้ป่วยโควิด-19 คนเดียวของทิเบต หายแล้ว | วันนี้ (13 ก.พ.2563) รายงานว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 คนเดียวในทิเบตวัย 34 ปี ชาวเมืองสุยโจว มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัส เดินทางด้วยรถไฟจากนครอู่ฮั่นของหูเป่ยมายังนครลาซา เมืองเอกของทิเบต เมื่อวันที่ 22 24 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังรับการรักษานาน 18 วัน ก็มีอาการดีขึ้นและได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วชายคนดังกล่าวเริ่มมีอาการไอและเป็นไข้ในคืนวันที่ 25 ม.ค. จากนั้นเดินทางไปยังสถาบันการแพทย์ที่กำหนด และได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อในวันที่ 29 มค. กลายเป็นผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันผลรายแรกและรายเดียวของทิเบตด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่ 3 ของทิเบต กล่าวว่า หลังจากรับการรักษา อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยกลับสู่ระดับปกติเป็นเวลา 14 วันแล้ว และการตรวจสอบกรดนิวคลีอิก 2 ครั้ง มีผลทดสอบเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นลบทั้งนี้ ทิเบตไม่พบผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อ หรือผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นานติดต่อกัน 13 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.ด้านบุคคลที่ติดต่อใกล้ชิดกับอดีตผู้ติดเชื้อ จำนวน 32 คน ได้รับการปล่อยตัวจากการกักโรคสังเกตอาการตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว | ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 คนเดียวในทิเบต มีอาการดีขึ้นและได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว หลังรับการรักษานาน 18 วัน | ต่างประเทศ | ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,ไวรัสโคโรนา,อู่ฮั่น,ปอดอักเสบ,ThaiPBS,WUHAN,COVID-19 | https://news.thaipbs.or.th/content/288900 |
นักศึกษากว่า 600 คนเข้าร่วมการอบรมหนูน้อยเจ้าเวหา | บรรยากาศที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ค่อนข้างคึกคัก โดยบรรดานักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศ กว่า 600 คน เดินทางมาเข้าร่วมการอบรม การประดิษฐ์เครื่องบินบังคับวิทยุแบบ ปีกหมุน ชนิด 4 ใบพัด ที่สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสจัดขึ้นในโครงการหนูน้อยเจ้าเวหาทั้งนี้ เพื่อเป็นส่งเสริมเพิ่มพูนความรู้ให้กับเยาวชนไทยบรรดานักศึกษาที่เดินทางมาอบรม ต่างก็ให้ความสนใจกับโครงการดีแบบนี้ โดยเฉพาะนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กลุ่มนี้ที่เดินทางไกลกว่า 1000 กิโลเมตร เปิดใจว่า เครื่องบินบังคับน่าจะมีส่วนช่วยงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่ประสบปัญหาทั้งอุทุกภัย และความไม่สงบสำหรับการอบรมครั้งนี้เป็นการให้ความรู้เรื่องการสร้างประกอบเครื่องบินบังคับให้กับนักศึกษาสถาบันต่างๆ และเมื่อประกอบกันเป็นแล้ว สมาคมกีฬาเครื่องบินบังคับ และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ก็จะจัดให้นักศึกษาได้นำสิ่งประดิษฐ์ของตัวเองลงแข่งขัน ในปีนี้จะประเดิมโชว์ความสามารถสนามแรกในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ในปีนี้การแข่งขันปีกหมุนจำลองบังคับวิทยุ จะแข่งขันกัน 5 สนาม ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่าสุดมีทีมสนใจแข่งขันกว่า 100 ทีม สำหรับเครื่องบินบังคับวิทยุที่อบรม และแข่งขันนี้ ปัจจุบัน สามารถนำไปต่อยอดพัฒนานำไปใช้ประโยชน์เรื่องของการถ่ายภาพมุมสูงสำรวจทรัพยกรธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังสามารถมีส่วนช่วยการถ่ายทำสารคดีที่ไทยพีบีเอสกำลังถ่ายทำอยู่ด้วย | นักศึกษาทั่วทุกสารทิศกว่า 600 คน ให้ความสนใจเข้าร่วมการอบรมเครื่องบินบังคับ ปีกหมุน 1 ในโครงการหนูเจ้าเวหาที่ไทยพีบีเอส จะประเดิมถ่ายทอดสดในเดือนกุมภาพันธ์นี้ | กีฬา | ถ่ายทอดสด,นักศึกษา,หนูน้อยเจ้าเวหา,อบรม,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/140743 |
ศึกเกียรติเพชร ทับทิมทอง-ยอดภานุ-ราชเดช ได้เปรียบ เวทีลุมพินี | เวทีลุมพินี วันอังคารที่ 9 เม.ย. (วันนี้) เป็นรายการมวย ศึกเกียรติเพชร จัดโดยโปรโมเตอร์ เสี่ยชุ้น พีรพงศ์ ธีระเดชพงศ์ คู่มวยคู่คี่ เก็บค่าดู 440-880-2,000 บาท ททบ.5-ถ่ายทอดสดเวลา 20.30-22.00 น. ชัย ศิษย์ อ.บี้ ขอวิจารณ์ไปตามฝีมือดังนี้,ช่างทอง เอ็มยุเด็น มวยจังหวะเตะต่อยหมัด แทงเข่าปล้ำตีคล่องกว่า จะชนะ เสาร์ เพชรเกษม 100 ป.,เพชรใจแสน ส.รื่นรมย์ มวยแข็งแกร่งเตะแทงเข่าปล้ำตีเหนียวแน่นกว่า จะชนะ สิงหาเล็ก ส.โชคมีชัย 107 ป.,ต้มยำกุ้ง ปกรณ์พรสุรินทร์ มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึด ตลอด จะชนะ ประมวลชัย (ดาวพระศุกร์) บูมเด็กเซียน 106 ป.,ราชเดช ทีเอ็นมวยไทย มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดกว่า จะชนะ เพชรนำโชค อ๊อดตึกแดง 107 ป.,ยอดภานุ (ศิษย์ดาบไหม) บูมเด็กเซียน (ชนะทีเคโอ คนชล พุ่มพันธ์ม่วง ยก 3 ที่ ลพน.) มวยแข็งแกร่งเตะต่อย หมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอด จะชนะ ไก่ชน ศรีพนมยิม (ชนะทีเคโอ ก้องหนองยาง ส.บุญเยี่ยม ยก 3 ที่ ลพน.) มวยจังหวะเตะต่อยหมัด แทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงชนิดสนุก 113 ป.,อิทธิพล สิงห์มาวิน (ชนะคะแนน กล้าผจญ ลูกบ้านใหญ่ ที่ ลพน.) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรง แต่เสียดสียืดเยื้อเป็นรอง จะแพ้ ทับทิมทอง สจ.เล็กเมืองนนท์ (ชนะคะแนน ศักดิ์เล็ก เกียรติเพชรเดชะ ที่ ลพน.) มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตี รุนแรงมีฮึดตลอดกว่าท้ายๆชนิดสนุก 106 ป.,วิว เพชรโกศล (แพ้คะแนน ก้องศึก ศิษย์สารวัตรเสือ ที่ ลพน.) มวยจังหวะฝีมือเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตี รุนแรงฉลาดชกอยู่ประจำสภาพร่างกายดีกว่า จะชนะ ศักดิ์นรินทร์น้อย อ.อ้วนสุวรรณ (ชนะคะแนน เพชรภูซาง กีล่าสปอร์ต ที่ทีวีสี 7) มวยสูงยาวจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดแต่หยุดหายไปนานร่วมปีสภาพร่างกายเป็นรองชนิดสนุกพลิกไปมาอีกครั้ง 130 ป.,ลำน้ำมูล ส.โชคมีชัย มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่ปะทะ ยืดเยื้อเป็นรอง จะแพ้ ฟ้าเพชร หมูปิ้งอร่อยจุงเบย (กัมพูชา) 108 ป.,ภูมิใจไทย ปกรณ์พรสุรินทร์ จะชนะ วุฒิกร ป.เพชรศิริ 100 ป.,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ | เวทีลุมพินี วันอังคารที่ 9 เม.ย. (วันนี้) เป็นรายการมวย ศึกเกียรติเพชร จัดโดยโปรโมเตอร์ เสี่ยชุ้น พีรพงศ์ ธีระเดชพงศ์ คู่มวยคู่คี่ เก็บค่าดู 440-880-2,000 บาท ททบ.5-ถ่ายทอดสด | null | เวทีลุมพินี,ศึกเกียรติเพชร,พีรพงศ์ ธีระเดชพงศ์,ชี้มวยเด็ด,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ | https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1540115 |
กสทช. สั่งปิด PEACE TV 30 วัน (อีกแล้ว) อ้างเนื้อหาสร้างความแตกแยก | กสทช. มีมติให้พักใช้ใบอนุญาตช่องPEA9 พ.ค.2561 รายงานข่าวระบุว่าฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจาการออกอากาศรายการดังกล่าวทั้งหทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมาในเวทีเสวนา ปลดคำสั่ง 0.4 เดินหน้าเสรีภาพประชาชน ซึ่งจัดขึ้น เนื่องใน วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยพูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความและหัวหน้าฝ่ายข้อมูล ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวไว้ด้วยว่ามีประกาศคำสั่งหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการที่ คสช. ออกมาควบคุมสื่อ สื่อเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบ หลังรัฐประหารก็มีการห้ามสื่อออกอากาศ จากสถิติของ ILaw ในช่วง 4 ปี คสช. โดย กสทช. ควบคุมสื่อโดยการลงโทษ 52 ครั้ง สื่อที่ถูกลงโทษมากที่สุดคือ วอยซ์ทีวี รองลงมาคือ พีซทีวี โดยทั้งหมดมี 34 ครั้ง ที่ลงโทษเกี่ยวกับการฝ่าฝืนประกาศของ คสช. ซึ่งมีฉบับหลักๆ คือ 97/2557 103/2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 41/2559 แม้ว่าประกาศที่ 97/2557 จะควบคุมสื่อไม่ให้เผยแพร่เนื้อหาที่กระทบหรือวิพากษ์วิจารณ์ คสช. โดยไม่สุจริต และเป็นประกาศฉบับหลักที่ใช้ควบคุมสื่อ แต่คำสั่งที่ 41/2559 เป็นการยื่นดาบให้ กสทช. อีกชั้นหนึ่ง ถ้า กสทช.เห็นว่าเนื้อหารายการไหนเข้าข่ายฝ่าฝืน ฉบับที่ 97/2557 และ 103/2557 ถือว่าผิดมาตรา 37 ของ กสทช. ทันทีซึ่งหาก ให้อำนาจของ กสทช. อย่างเดียวจะมีศาลปกครองช่วยดูว่าชอบด้วยกฎหมายแล้วหรือไม่ ถ้าเราจำได้ คำสั่งที่ 41/2559 ออกมาตอนที่พีซทีวีมีการฟ้อง และศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว การออกคำสั่งฉบับนี้มาทำให้ตัดอำนาจศาลปกครองออกไปในการตรวจสอบสื่อขึ้นมาทันที | กสทช. มีมติให้พักใช้ใบอนุญาตช่องPEACE TV เป็นเวลา 30 วัน ระบุมีเนื้อหารายการอันเป็นการส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | Peace News,กสทช.,ฐากร ตัณฑสิทธิ์,พีซทีวี,สื่อมวลชน,เสรีภาพสื่อ | https://prachatai.com/journal/2018/05/76817 |
เปิดปฐมทัศน์โลก แคทยาและเจ้าฟ้าแห่งสยาม มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ | มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ ครั้งที่ 19 กรุงเทพฯ, กลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง ด้วย 13 ชุดการแสดงที่พิเศษยิ่งกว่าทุกปี ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วันที่ 11 ก.ย.-19 ต.ค. 2560,เปิดม่านด้วยการแสดงบัลเลต์สุดยิ่งใหญ่ 4 เรื่อง 4 อรรถรส เพื่อฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัสเซียและไทย นำขบวนโดยโรแมนติกบัลเลต์เรื่องดังบันทึกประวัติศาสตร์สยามประเทศ ,แคทยาและเจ้าฟ้าแห่งสยาม Katya & The Prince of Siam, ของคณะเยกาเตรินเบิร์ก โอเปรา แอนด์ บัลเลต์ เธียเตอร์ หนึ่งในคณะโอเปราและบัลเลต์เก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย ตั้งใจสร้างสรรค์โปรดักชั่นใหม่มาเปิดการแสดงครั้งแรกเป็นรอบปฐมทัศน์โลกในมหกรรมครั้งนี้,ตามมาด้วยเทพนิยายคลาสสิกสุดอมตะ, ซินเดอเรลลา Cinderella, สร้างสรรค์ใหม่เป็นบัลเลต์เต็มรูปแบบโดย, วลาดีมีร์ วาสิลีฟ, นักเต้นหลักของคณะบอลชอยเธียเตอร์ นอกจากจะสร้างความประทับใจด้วยลีลาพลิ้วไหวของนักแสดง เครื่องแต่งกายแสนงดงาม เวทีการแสดงยังยิ่งใหญ่ตระการตา ออกแบบโดย, เวียเชสลาฟ โอคูเนฟ, นักออกแบบมือรางวัลจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ศิลปินเกียรติยศของรัสเซีย,แฟนๆบัลเลต์ไม่น่าพลาดกับผลงานการแสดงบรรเจิดของคณะบัชกีร์ สเตท โอเปรา แอนด์ บัลเลต์ เธียเตอร์ เรื่อง ,สปาร์ตาคัส Spartacus, ออกแบบท่าเต้นโดย ,ไซมอน วีร์ซาลาดเซ, นักออกแบบรางวัลเลนิน ศิลปินมหาชนแห่งสหภาพ โซเวียต ,สปาร์ตาคัส, สร้างจากนวนิยายมหาวีรบุรุษแห่งทาสที่ลุกขึ้นต่อต้านอำนาจการปกครองของอาณาจักรโรมัน จุดเด่นอยู่ที่ดนตรีประกอบไพเราะเร้าใจโดย, อารัม คาชาทูเรียน,ลา คอร์แซร์ Le Corsaire, เป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของ, ยูริ กริโกโรวิช, ผู้เป็นตำนานออกแบบท่าเต้นและกำกับเวทีแห่งคณะบัชกีร์ สเตท โอเปรา แอนด์ บัลเลต์ เธียเตอร์ พร้อมจะสะกดสายตาผู้ชมในมหกรรมครั้งนี้ โดยเนื้อเรื่องเป็นการผจญภัยของ, คอนราด, หัวหน้าโจรสลัด และ, เมโดรา, สาวคนรักชาวกรีก ท่ามกลางโศกนาฏกรรมความรักสุดสะพรึง,ไม่หมดเพียงเท่านี้ ในเดือนตุลาคมยังมีการแสดงที่จะมาสร้างความสุขให้ได้ฟินกับละครบรอดเวย์เรื่องฮิตในตำนาน ,West Side Story, ดูกี่รอบก็ไม่เคยเบื่อ เสริมทัพด้วยบัลเลต์ร่วมสมัย ,Beauty and the Beast, โดย มาลองแดน บัลเลต์ เบียร์ริตซ์ คณะบัลเลต์ระดับท็อปของฝรั่งเศส สนุกกว่าทุกเวอร์ชั่นเพราะเป็นการตีความเทพนิยายคลาสสิกในมุมมองใหม่ไม่ซ้ำใคร เปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันนี้ ที่เคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือคลิกดูข้อมูลที่ ,www.bangkokfestivals.com, | ตอกย้ำความเป็นเมืองสุนทรียรสแห่งความบันเทิงและศิลปวัฒนธรรมระดับพรีเมียม มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ ครั้งที่ 19 กรุงเทพฯ กลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง ด้วย 13 ชุดการแสดงที่พิเศษยิ่งกว่าทุกปี ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรม | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ 2017,ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย,บัลเลต์,แคทยาและเจ้าฟ้าแห่งสยาม,Katya & The Prince of Siam,ศิลปะ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/hisoceleb/1011904 |
อนุทิน ย้ำนายกฯ ต้องเลือกโดย ส.ส.เกินครึ่ง เพื่อความมั่นคง-มีเสถียรภาพ | อนุทิน ย้ำ ภูมิใจไทย ไม่มีคู่ขัดแย้ง พร้อมเป็นตัวกลางประสานแต่ละพรรค ทำงานเพื่อประเทศ ยันนายกฯต้องโหวตโดยเสียง ส.ส.เกินครึ่งเมิน บิ๊กตู่ ออนทัวร์งบรัฐหาเสียง ลั่นโค้งสุดท้ายเร่งลงพื้นที่ กำชับลูกพรรคไม่ทำผิด ก.ม.ลั่น ภท.อยากเห็นนายกฯที่มีความมั่นคง-เสถียรภาพ ,เมื่อวันที่ 16 มี.ค.62 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวในประเด็นการเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ว่า นายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งสำคัญกับชาติบ้านเมือง ต้องมาจากการเลือกโดย ส.ส.เท่านั้น ไม่ใช่ว่า มี ส.ส.นิดเดียวแล้วไปหวังพึ่ง ส.ว.แบบนั้น ถึงเป็นนายกฯก็บริหารบ้านเมืองลำบาก เพราะต้องแก้ไขปัญหาการเมืองที่ละขยัก,นายอนุทิน กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีคู่ขัดแย้ง เราอยากทำงานให้บ้านเมือง เราพร้อมเป็นตัวกลางประสานแต่ละพรรค แต่ละขั้ว และหวังได้ทำหน้าที่ตรงนั้น,เมื่อถามถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ใช้งบรัฐหาเสียง นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่ก้าวก่ายเรื่องของคนอื่น ขอทำงานให้ดีที่สุด เหลือ 6 วันสุดท้าย ต้องลงพื้นที่เท่านั้น และต้องคอยระวังไม่ให้คนของพรรคทำเรื่องผิดกฎหมาย มาถึงตอนนี้เราทำเต็มที่ ผลจะเป็นอย่างไรขึ้นกับประชาชนตัดสินใจ,ส่วนเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ที่เอ่ยถึงเรื่องความมีเสถียรภาพ พรรคภูมิใจไทยอยากเห็นนายกรัฐมนตรี ที่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย เท่ากับต้องมีเสียงสนับสนุนใน ส.ส.เกินกึ่งหนึ่ง เพื่อที่จะทำให้นายกฯท่านนั้นนำพารัฐนาวาไปสู่ความเจริญก้าวหน้า เสียง ส.ส.มันไม่ใช่แค่กึ่งหนึ่ง แต่มันจะต้องมั่นคง การทำงานจะได้สะดวก นายอนุทิน กล่าว,ส่วนกรณีที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลชุดหน้าอาจจะอยู่ได้ไม่ครบเทอม นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการวิเคราะห์จากสถานการณ์ เนื่องจากมีกฎเกณฑ์มากมาย มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลายฝ่ายอาจจะต้องปรับตัวในการทำงาน จนคิดว่ารัฐบาลมีอายุปีครึ่ง 2 ปีก็เก่งแล้ว พรรคภูมิใจไทยจึงได้เสนอนโยบายที่ทำได้ทันที เข้าไปแล้วต้องทำเลย เราจะเสียเวลามาศึกษานโยบายนานๆ ไม่ได้. | อนุทิน ย้ำ ภูมิใจไทย ไม่มีคู่ขัดแย้ง พร้อมเป็นตัวกลางประสานแต่ละพรรค ทำงานเพื่อประเทศ ยันนายกฯต้องโหวตโดยเสียง ส.ส.เกินครึ่งเมิน บิ๊กตู่ ออนทัวร์งบรัฐหาเสียง ลั่นโค้งสุดท้ายเร่งลงพท. | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,หาเสียง,ภูมิใจไทย,อนุทิน ชาญวีรกูล,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1521150 |
7 พิกัดแหล่งแฮงเอาต์ย่านสาทร เดินทางง่าย ไม่ไกลจาก The Line Sathorn [Advertorial] | นอกจากภาพลักษณ์ศูนย์กลางย่านธุรกิจของประเทศซึ่งอัดแน่นไปด้วยตึกสูงระฟ้า ตั้งชะลูดอยู่หนาตา หากพิเคราะห์กันดีๆ เราจะเห็นว่าจริงๆ แล้ว สาทร เป็นย่านหนึ่งในกรุงเทพมหานครที่น่าอยู่ ตามตรอกซอกซอยเงียบสงบ มีร้านอาหารดีๆ หลากระดับตั้งแต่หน้าตาบ้านๆ ไปจนถึงเก๋มีสไตล์จนคว้าดาวมาครอง แกลเลอรีเท่ซึ่งเต็มไปด้วยงานโดดเด่น บาร์เก๋สำหรับแฮงเอาต์ยามค่ำคืนกับเพื่อนฝูง พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กถึงขนาดกลางมีให้เห็นเกลื่อน นั่นยังไม่รวมสวนสีเขียวขนาดใหญ่ แหล่งเรียนรู้ทั้งของภาครัฐและเอกชน สาทรจึงเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และไลฟ์สไตล์สำหรับทุกคน นี่คือ 7 พิกัดย่านสาทร ที่ช่วยตอกย้ำให้เห็นว่า สาทร ไม่ใช่เพียงย่านธุรกิจ แต่เป็นอีกหนึ่งย่านไลฟ์สไตล์เก๋ในเมืองกรุง ที่เหมาะแก่การอาศัยของคนทุกวัยพิกัด 1: Le Du – Fine Diningร้านอาหารแบบ Fine Dining แนวโมเดิร์นไทยของ เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เชฟมากฝีมือที่ผ่านการฝึกปรือฝีมือจาก CIA (The Culinary Institute of America) เมืองนิวยอร์ก และร้านอาหารมีชื่อหลายร้าน คำว่า Le Du หมายถึง ฤดู สะท้อนคอนเซปต์อาหารที่เน้นนำส่วนผสมท้องถิ่นตามฤดูกาลมาใช้ประโยชน์สูงสุด ทว่าทั้งหมดอยู่บนรสชาติพื้นฐานแบบไทยดั้งเดิมที่คุ้นเคยกันดี แต่ใช้กรรมวิธีการปรุงและการถ่ายทอดแบบสมัยใหม่ อาหารของเชฟต้นเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ น่าตื่นตาตลอดเวลา การันตีคุณภาพได้จากการเข้าไปเป็นหนึ่ง Asias 50 Best Restaurants ถึง 2 ปีซ้อน จนกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักชิมทั้งในและต่างประเทศAddress: 399/3 สีลมซอย 7 สีลม บางรัก กรุงเทพฯ Open: ทุกวัน 19.00-22.00 น.Contact: โทร. 09 2919 9969 www.ledubkk.comพิกัด 2: Bangkok CityCity Galleryแกลเลอรีสุดเท่ในย่านสาทร ที่แม้แต่คนสนใจศิลปะน้อยนิดก็สามารถสนุกได้ไม่ยาก เพราะมักมีงานสนุกๆ แปลกตาจัดแสดงให้ชมอยู่เสมอ พวกเขาเชื่อว่าศิลปะร่วมสมัยมีบทบาทต่อสังคมในฐานะเครื่องมือที่ช่วยร่างแผนที่อนาคต ขยายขอบเขตความเข้าใจต่อตัวเองและโลกให้กว้างขึ้น นอกจากงานศิลปะสนุกๆ บางครั้งยังทำหน้าที่เป็นเวทีสนทนาแลกเปลี่ยนความคิด เชื่อมโยงผู้คนหลากสาขาเข้าด้วยกัน หากคุณริเริ่มสนใจงานอาร์ต แวะมาที่นี่ รับรองไม่ผิดหวังAddress: 13/3 สาทรซอย 1 ถนนสาธรใต้ ทุ่งมหาเมฆOpen: ทุกวันพุธ-อาทิตย์ 13.00-19.00 น.Contact: โทร. 08 3087 2725 และwww.facebook.com/BkkMuseumพิกัด 3: Luka Café @Casa Pagadaคาเฟ่น่านั่งในซอยวัดแขก กับบรรยากาศฮิปๆ ราวกับนั่งอยู่ตามคาเฟ่แถบยุโรป ตกแต่งร้านสไตล์ Western European เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม ปูนเปลือยขัดมัน โชว์เหล็กและโครงสร้าง Luka สาขานี้ทำร่วมกับร้านเฟอร์นิเจอร์ Casa Pagada ให้ลูกค้าสามารถเลือกชมเฟอร์นิเจอร์กับมานั่งชิลล์หาอะไรกินได้ในที่เดียว หรือจะหามุมสงบๆ ปลีกวิเวก อ่านหนังสือเล่มโปรด ทำงานที่รักก็ไม่ว่ากัน เมนูยอดนิยม Breakfast Burrito แป้งตอร์ติญาที่มีไส้กัวคาโมเลข้างใน ห่อไข่คนและไส้กรอก เสิร์ฟพร้อมซัลซามะเขือเทศ ดื่มพร้อมกาแฟดริป ดีมากAddress: 64/3 ถนนปั้น ซอยวัดแขก สีลม บางรัก กรุงเทพฯOpen: ทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 เสาร์-อาทิตย์ 9.00-19.00 น.Contact: โทร. 0 2637 8558 และ www.lukabangkok.comพิกัด 4: Democrazy Theatre Studioโรงละครไซส์เล็กแต่อุดมการณ์ยิ่งใหญ่ ที่ผุดขึ้นเพื่อพิสูจน์ความเชื่อของตนเองที่ว่า การแสดงละครสามารถเล่นที่ไหนก็ได้ พวกเขาต้องการเข้าถึงผู้ชมอย่างใกล้ชิด และถ่ายทอดอารมณ์สู่ผู้ชมโดยตรง ส่งต่อความสนุกอย่างที่โรงละครใหญ่มิอาจทำได้ งานแสดงส่วนใหญ่มักเป็นแนวงานทดลอง หรืองานที่ไม่อยู่ในกระแส แต่เชื่อเถอะว่า เดโมเครซี เธียเตอร์ พาคุณหลุดไปอีกโลก สนุกกับโลกละครเวที จนลืมจอโทรทัศน์ไปเลยAddress: 1036 ถนนพระราม 4 ทุ่งมหาเมฆ สาทร กรุงเทพฯOpen: เปิดทำการตามรอบแสดง เช็กได้ผ่านเว็บไซต์หลักหรือหน้าแฟนเพจContact: โทร. 08 7998 4454 และ www.facebook.com/democrazystudioพิกัด 5: Revolucion Cocktail Barบาร์ชื่อดังจากประเทศจีนที่สร้างสีสันให้สาทรซอย 10 มานานเกือบ 2 ปี พัฒนาจากโรงเรียนสอนบาร์เทนเดอร์มีชื่อจนมีแบรนด์บาร์เป็นของตัวเอง จับจองถึง 3 หัวเมืองใหญ่ในจีน ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยงไฮ้ กวางเจา เซี่ยเหมิน และที่กรุงเทพฯ เป็นสาขานอกประเทศแห่งแรก นอกจากบรรยากาศตกแต่งกึ่งดิบๆ แบบคิวบา ที่ผสมกลิ่นอายแบบเรโทรนิดหน่อย ผสานกับแสงสีจนหลายคนหลงใหล เครื่องดื่มที่นี่นับว่าเป็นเอกอุ ไม่ยิ่งหย่อนกว่าบาร์ใด โดยเฉพาะเมนูค็อกเทลนานาชนิดที่ปรุงขึ้นจากน้ำเมาชนิดต่างๆ กว่า 500 ขวดทั่วโลกAddress: 50 สาทรซอย 10 สีลม บางรัก กรุงเทพฯOpen: ทุกวัน 18.00-2.00 น.Contact: โทร. 0 2235 4823 และ www.facebook.com/RevolucionCocktailBangkokพิกัด 6: Thailand Creative & Design Center (TCDC)แหล่งเรียนรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ ครบเครื่องทั้งหนังสือหายาก อุปกรณ์สารสนเทศ สื่อเสียง สื่อกระดาษ งานนิทรรศการ งานเสวนา ฯลฯ ยิ่งย้ายทำเลมาจัดตั้งที่อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก ยิ่งมีพื้นที่มากขึ้น กลายเป็นแหล่งแฮงเอาต์เกี่ยวกับงานสร้างสรรค์ทุกชนิดในประเทศ นั่นรวมไปถึงงานเทศกาลศิลปะสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Bangkok Art Biennale ที่กำลังมาถึง หรือ Bangkok Design Week ที่จัดขึ้นครั้งแรกในปีนี้Address: อาคารไปรษณีย์กลาง เลขที่ 1160 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรักOpen: ทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ เวลา 10.30-21.00 น.Contact: โทร. 0 2105 7400 และ www.tcdc.or.thพิกัด 7: สวนลุมพินี ปอดที่ใหญ่ที่สุดของคนกรุงเทพฯสวนสาธารณะใจกลางเมือง ที่ทำหน้าที่เป็นปอดให้คนกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 พื้นที่ขนาด 360 ไร่ ไม่ได้มีเพียงสวนสีเขียวและลานลู่วิ่ง แต่ยังมีแหล่งสันทนาการอื่นๆ บรรจุอยู่ด้วย เช่น ห้องสมุดประชาชนสวนลุมฯ ศูนย์สร้างโอกาสเด็กสวนลุมฯ ลานตะวันยิ้ม ที่สร้างสรรค์มาเพื่อคนพิการโดยเฉพาะ และสโมสรพลเมืองอาวุโสแห่งเมืองกรุงเทพฯ สถานที่พบปะสังสรรค์ ออกกำลัง ฝึกอาชีพสำหรับคนสูงวัยAddress: แยกศาลาแดง ถนนพระรามที่ 4 ถนนราชดำริ กรุงเทพฯOpen: ทุกวัน เวลา 4.30-21.00 น.นอกจากสถานที่ 7 แห่งที่กล่าวมาข้างต้น ในย่านสาทรยังมีสถานที่ดีๆ อื่นๆ อีกเพียบ ยิ่งอิงจากโครงการ The Line Sathorn แล้วยิ่งน่าอยู่ใหญ่ โรงเรียนระดับประเทศอยู่ใกล้บ้าน คาเฟ่ ร้านอาหารเก๋มีให้เลือกกินไม่หวาดไม่ไหว การคมนาคมขนส่งสะดวก อยู่ใกล้ BTS เพียง 0 เมตร ไม่ว่าจะไปโรงเรียนหรือไปทำงานก็สะดวกสบาย สุดสัปดาห์ก็มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ไว้วิ่งเล่น มีคาเฟ่เก๋ไว้หย่อนใจ มีบาร์ไว้แฮงเอาต์ ครบทุกรสนิยม ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตTHE STANDARD ได้ข่าวมาว่า ตอนนี้ The Line Sathorn ขึ้นป้าย Sold Out แล้ว แต่หากสนใจจริงๆ Plus Property ยังมียูนิตให้คุณเลือก ลองติดต่อไปที่ Plus Property โทร. 0 2688 7555 หรือ www.plus.co.th | 7 พิกัดย่านสาทร ที่ช่วยตอกย้ำให้เห็นว่า สาทร ไม่ใช่เพียงย่านธุรกิจ แต่เป็นอีกหนึ่งย่านไลฟ์สไตล์เก๋ในเมืองกรุง ที่เหมาะแก่การอาศัยของคนทุกวัย เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ใจกลางสาทร อยู่ใกล้โรงเรียนระดับประเทศ ล้อมรอบด้วยคาเฟ่ ร้านอาหารเก๋มากมาย การคมนาคมขนส่งสะดวกอยู่ใกล้ BTS เพียง 0 เมตรเท่านั้น | null | null | https://thestandard.co/7-hangout-source-within-walking-distance-of-the-line-sathorn/ |
ครูวอนช่วย ลูกศิษย์เรียนดีแต่ยากจน หาเงินช่วยพ่อแม่ ดูแลน้องพิการ | หวั่นเป็นอุปสรรคต่อการเรียน ,วันที่ 1 ส.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานเดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 34 หมู่ 6 ตำบลราชสถิตย์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง พบกับ นายพัทยา เทพทอง อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ปวช. 1 วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง อาศัยอยู่กับพ่อ คือ นายประยูร เทพทอง อายุ 44 ปี และแม่ คือ นางสมบัติ อินถาวร อายุ 48 ปี พร้อมด้วย น้องชาย คือ เด็กชายปัญญารัตน์ เทพทอง อายุ 11 ปี ที่พิการทางสมอง,บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ หลังคาสังกะสีผุพัง ไร้เงินซ่อมแซม พ่อแม่ของนายพัทยา มีอาชีพเผาถ่านขาย รับจ้างทั่วไป เก็บผักตามข้างทางขายเป็นอาชีพเสริม มีรายได้เพียงเดือนละ 4,000-5,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายภายในบ้าน,นางณัฐภัทร์ เพชรงาม ครูวิทยาลัยเทคนิค ซึ่งเป็นครูที่ปรึกษา กล่าวว่า นายพัทยา เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ช่วยเหลืองาน แบ่งเบาภาระพ่อแม่ แต่ด้วยรายได้ของพ่อและแม่ที่มีน้อย หวั่นว่าจะเป็นอุปสรรคในการใช้จ่ายเรียนหนังสือ แถมยังมีน้องที่พิการอีก 1 คนในครอบครัว จึงอยากให้ผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือเพื่ออนาคตที่จะได้ทำมาหาเลี้ยงพ่อแม่และน้องในยามชรา,ด้าน นายสุทธิพงษ์ เสตางกูร อาจารย์วิทยาลัยเทคนิค กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางครูที่ปรึกษาได้มีความตั้งใจเข้ามาช่วยเหลือดูแลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องความเป็นอยู่ พร้อมขอวอนผู้ที่มีจิตเมตตา สามารถช่วยเหลือครอบครัวนายพัทยา โดยสามารถติดต่อสอบถาม นางสมบัติ อินถาวร 096-2623745 หรือโอนเงินผ่านบัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์สาขาอ่างทอง ชื่อบัญชี นายประยูร เทพทอง หมายเลขบัญชี 030-8-60378-2 | หนุ่มวัย 16 จ.อ่างทอง เรียนดีแต่ยากจน อาศัยอยู่กับพ่อแม่ อาชีพรับจ้างทั่วไป เผาถ่าน เก็บผักข้างทาง รายได้ไม่พอใช้จ่ายในบ้าน อีกทั้งมีน้องชายวัย 11 ขวบ ป่วยพิการทางสมองต้องดูแล ครูที่ปรึกษาวอนผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือ | null | ธารใจไทยรัฐ,เด็กเรียนดี ยากจน,เด็กดี,เลี้ยงพ่อแม่พิการ,วอนช่วยเหลือ,ยากจน,ลำบาก,อ่างทอง,วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง,เผาถ่าน,เก็บผักขาย,ดูแลน้องพิการ,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/678573 |
ชาวสวนยางกระบี่ รวมกลุ่มเครือญาติ เพาะเห็ดฟางขาย เสริมรายได้ | ราคากิโลกรัมละ 42 บาท ,เมื่อวันที่ 28 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ รวมกลุ่มในเครือญาติ รวม 8 ครอบครัว เพาะเห็ดฟางจากทะลายปาล์มเสริมรายได้จากการกรีดยางพารา แม้ราคายางพาราจะตกต่ำ ก็ไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ซึ่งเห็ดฟางที่เพาะขายนั้น จะมีพ่อค้าแม่ค้าจากตลาดในจังหวัดกระบี่ มารับซื้อผลผลิตถึงบ้าน ในราคากิโลกรัมละ 42 บาท แทบไม่ต้องหาตลาดเอง และยังลดต้นทุนการขนส่ง สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 500-800 บาท ต่อวันต่อครอบครัว ,นางสาวกานดา รักษาสังข์ อายุ 35 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.เขาคราม อ.เมือง เกษตรกรชาวสวนยาง หนึ่งในผู้เพาะเห็ดฟาง เปิดเผยว่า ตนได้เริ่มทำเห็ดฟางจากทะลายปาล์มครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน โดยได้รับคำแนะนำจากแม่ค้าในตลาดในพื้นที่ ให้ทดลองเพาะเห็ดฟางจากทะลายปาล์มเป็นรายได้เสริม เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง โดยใช้เวลาว่างเว้นจากการกรีดยางพารา ประกอบกับราคายาง ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำต่อเนื่อง รายได้ไม่เพียงพอใช้จ่ายภายในครอบครัว จึงตัดสินใจเริ่มทดลองเพาะเห็ดฟางดู พบขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก ดูแลง่าย,ต่อมาพบว่า การเพาะเห็ดฟางส่งขายมีรายได้ดี จึงชักชวนพี่น้องในเครือญาติรวม 8 ครอบครัว หันมาทดลองเพาะเห็ดดูบ้าง โดยใช้พื้นที่ในสวนยางพาราที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทำเป็นแปลงในการเพาะเห็ด แต่ละวันหลังจากเก็บเห็ดจากแปลง ทุกคนจะมานั่งรวมกันเพื่อทำการคัดแยกเห็ด ทำให้เกิดการพูดคุยหยอกล้อ กลายเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีกิจกรรมร่วมกัน เกิดความรักความสามัคคีระหว่างเครือญาติ,ทั้งนี้ การเพาะเห็นฟาง มีเงินลงทุนครั้งแรกประมาณ 5,000 บาท โดยแบ่งเป็น ทะลายปาล์ม 1 คันรถ 6 ล้อ หรือประมาณ 7 ตัน นำมาล้างและจัดเรียงเป็นกอง ความกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร จะได้จำนวน 25-30 กอง จากนั้นนำเชื้อเห็ดไปโรยและปิดด้วยผ้ายางทึบแสง ทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เห็ดจะเริ่มงอก และเริ่มเก็บได้ไปประมาณ 1 เดือน เฉลี่ยจะได้กำไรหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 1.5 หมื่นบาทต่อ 1 เดือน ซึ่งขณะนี้ ตลาดยังมีความต้องการอีกมาก เบื้องต้นพร้อมเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ โดยไม่หวงความรู้ แก่ผู้ที่สนใจที่ต้องการมีรายได้เสริมจากงานประจำอีกด้วย. | ชาวสวนยางใน อ.เมืองกระบี่ ใช้เวลาว่างจากการกรีดยางพารา ชักชวนกันในเครือญาติรวม 8 ครอบครัว หันมาเพาะเห็ดฟางส่งขาย ช่วยสร้างรายได้เสริมจากช่วงราคายางตกต่ำ เผย ขั้นตอนการปลูกไม่ยุ่งยาก ดูแลง่าย พ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อผลผลิตถึงบ้าน | null | เพาะเห็ดฟาง,เกษตรกรสวนยาง,กระบี่,ราคายางตกต่ำ,ข่าวเกษตร | https://www.thairath.co.th/content/796022 |
น้องเม-อารียา พอใจผลงานปีนี้คว้า 5 แชมป์หวังเทิร์นโปรปลายปี | เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟดาวรุ่งขวัญใจชาวไทย ที่ไปร่วมงานแถลงข่าวการแข่งขันกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ให้สัมภาษณ์กับ ไทยพีบีเอส ถึงผลงานในรอบปีที่ผ่านมาที่ได้สิทธิ์ไปแข่งขันทัวร์ในสหรัฐอเมริกา และ สามารถเก็บแชมป์ได้ถึง 5 รายการ พร้อมกับได้เข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์แรกของปี อย่าง คราฟนาบิสโก้ ที่รัฐแคลิฟลอเนีย โดย เอรียา บอกว่า สาเหตุที่ทำให้ปีนี้ผลงานดีเนื่องจากการได้ร่วมแข่งขันในสหรัฐฯเป็นฤดูกาลที่ 3 ถึงทำให้จับจังหวะการเล่นได้ดีกว่าปีที่ผ่านมานอกจากนี้ น้องเม-เอรียา จุฑานุกาล ยังได้บอกว่า กำลังตัดสินใจร่วมกับพี่สาว คือ โมรียา ว่า อาจจะเทิร์นโปรในช่วงปลายปีนี้ เพื่อที่จะได้ลงแข่งขันกอล์ฟอาชีพอย่างเป็นทางการในปีหน้า ในรายการแอลพีจีเอไทยแลนด์สำหรับการแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอ ไทยแลนด์ จะมีการแข่งขันกันระหว่างวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์ 2556 โดยมีเงินรางวัลรวมให้ชิงชัยกันทั้งสิ้น 1500000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 46 ล้านบาท โดยจะมีกอล์ฟที่มีอันดับเงินรางวัลสูงสุด 60 คนแรกของปีนี้มาเข้าร่วมแข่งขันประกอบกับนักอล์ฟรับเชิญอีก 10 คน | เอรียา จุฑานุกาล พอใจผลงานในรอบปีที่ผ่านมาที่สามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 5 รายการ พร้อมกับตั้งเป้าจะเทิร์นโปรในช่วงปลายนี้ | กีฬา | กอล์ฟ,คว้าแชมป์,เทิร์นโปร,เอรียา จุฑานุกาล | https://news.thaipbs.or.th/content/116002 |
แอปเปิล เร่งแจก Face Shield สัปดาห์ละ 1 ล้านชิ้น | ท่ามกลางโควิด-19 ที่ยังระบาดหนัก หลายคนจึงพยายามหาวิธีช่วยหยุดยั้งเจ้าไวรัสร้าย เหมือนอย่างวิธีแบบแอปเปิล ที่ล่าสุด กำลังเร่งผลิตและแจกจ่ายหน้ากากพลาสติกใส หรือหมวกคลุมหน้าป้องกันละอองฝอยน้ำลาย แบบ Face Shield สัปดาห์ละ 1 ล้านชิ้นไปทั่วโลกทิม คุก ซีอีโอ แอปเปิล ทวีตข้อความและคลิปวิดีโอความยาว 2.18 นาที เล่า 2 เรื่องหลักๆ ที่แอปเปิลกำลังพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19เรื่องแรก คือความคืบหน้าการจัดหาหน้ากากอนามัยได้ 20 ล้านชิ้น เพื่อบริจาคช่วยเหลือคนทั่วโลก และเรื่องที่สอง คือ การออกแบบหน้ากากพลาสติกใส หรือหมวกคลุมหน้า ป้องกันละอองฝอยน้ำลาย แบบ Face Shield เพื่อแจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์ หมอ และพยาบาล ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่แถวหน้า ต่อสู้กับความเสี่ยงหมวกคลุมหน้า แบบ Face Shield ของแอปเปิลนี้ ออกแบบโดยทีมดีไซน์และผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล โดยได้รับความร่วมมือจากซัพพลายเออร์อย่างเต็มที่ เน้นสะดวกในการใช้งาน และผลิตได้จำนวนมาก จัดส่งสะดวกด้วยการแยกชิ้นบรรจุกล่อง 100 ชิ้น และใช้เวลาประกอบเองไม่ถึง 2 นาทีส่วนสถานที่ผลิต คือ โรงงานที่สหรัฐอเมริกา และจีน จะผลิตจัดส่งสัปดาห์นี้ 1 ล้านชิ้น และสัปดาห์หน้า 1 ล้านชิ้น และจะผลิตให้ได้ต่อไปสัปดาห์ละ 1 ล้านชิ้น ส่งไปยังหน่วยงานทางการแพทย์ หรือสถานที่ที่มีความต้องการใช้งานในตอนท้าย ทิม คุก ยังบอกกับทุกคนที่ดูคลิปในทวีตของเขาว่า ทุกคนสามารถหยุดการระบาดโควิด-19 ได้ด้วย การเชื่อฟังผู้เชี่ยวชาญ อยู่บ้าน เว้นระยะห่างระหว่างกัน | แอปเปิล กำลังผลิตและแจกจ่ายหน้ากากพลาสติกใส หรือหมวกคลุมหน้าป้องกันละอองฝอยน้ำลาย แบบ Face Shield สัปดาห์ละ 1 ล้านชิ้น สู้โควิด-19 | ข่าว,ไอที | แอปเปิล,ทิม คุก,หน้ากากคลุมหน้า,หน้ากากพลาาสติกใส,Face Shield,โควิด-19,หมวกคลุมหน้า | https://www.thairath.co.th/news/tech/1813779 |
นายกรัฐมนตรี ประกาศไทยมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ | พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี ว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ รัฐบาลขอประกาศให้ประชาชนอยู่ในราชอาณาจักร และต่างประเทศทั่วโลกทราบทั่วกันว่าบัดนี้ ประเทศไทยมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่แล้ว ตามคำกราบบังคมทูลขึ้นทรงราชย์ ของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่ประธานรัฐสภา ณ พระพี่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยมีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นายกรัฐมนตรี และประธานศาลฎีกา ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีประวัติศาสตร์นี้ และทรงพระกรุณารับคำกราบบังคมทูลอัญเชิญดังที่ต่อมา ได้มีประกาศสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อแจ้งประชาชนแล้วนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ และโบราณราชประเพณีทุกประการ และสนอง พระราชดำริสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ที่พระราชทานไว้แต่แรกว่า ในระหว่างที่พระองค์เองและประชาชนกำลังทุกข์โศกอย่างใหญ่หลวง การสวรรคตของพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ยังไม่ควรดำเนินการเรื่องการสืบราชสมบัติในขณะนั้น แต่ควรรอการบำเพ็ญพระราชกุศล และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปถวายบังคมไประยะหนึ่ง และบัดนี้ถึงเวลาที่เหมาะสม การพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร คือครบ 50 วันมีประชาชน เข้าถวายบังคมพระบรมศพนับล้านคนแล้วจึงขอพระราชทานพระราชานุญาตตามขั้นตอนของกฎหมาย และอนึ่งเพื่อให้เป็นไปตามโบราณราชประเพณี โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย และสอดคล้องกับคตินิยมในนานาประเทศที่ว่าราชอาณาจักรย่อมไม่ว่างเว้นขาดตอน การมีพระมหากษัตริย์ ดั้งนั้นการเริ่มรัชกาลใหม่ จึงเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เป็นต้นไปณ บัดนี้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงสถิตย์ ในฐานะองค์พระรัชทายาท ตั้งแต่พุทธศักราช 2515 นับเป็นเวลาถึง 44 ปีจึงทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญทุกประการส่วนการจะดำเนินการต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามโบราณราชขัตติยประเพณีที่เรียกว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษก นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับพระราชวินิจฉัย ซึ่งมีพระราชดำริแล้วว่าควรดำเนินการเมื่อเสร็จสิ้นการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศแล้วพี่น้องประชาชนทั้งหลายด้วยศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนหรือแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็นสมเด็จพระบรมชนกนาถได้ทรงวางไว้แล้วตลอดเวลา 70 ปี จะเป็นรากฐานอันแข็งแกร่ง เมื่อประกอบเข้ากับความศรัทธาเชื่อมั่นและสัตยาธิษฐานที่มหาชนชาวสยามทุกรูปทุกนามพร้อมใจกันเปล่งวาจามาตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559และมากล่าวย้ำพร้อมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อเช้าวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ว่า จะทำดีเพื่อพ่อ จะจดจำคำของพ่อ จะขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป จะสืบสานพระบรมราชปณิธาน คิดดี พูดดี ทำดี ซื่อสัตย์สุจริต รู้รักสามัคคี และจะอยู่อย่างพอเพียง รัฐบาลเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นดุจปราการอันมั่นคง บนพื้นฐานอันแข็งแกร่ง ประการสำคัญคือ ด้วยพระบรมเดชานุภาพของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ทุกอย่างจะดำเนินไปได้ด้วยดีท่ามกลางความเพียรอันบริสุทธิ์ของเราทั้งหลายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ทรงเป็นพระรัชทายาทที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนา และมีโอกาสโดยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานในที่ต่างๆ มากว่า 44 ปี บัดนี้ทรงเป็นพระประมุข เป็นศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติ สืบสนองพระองค์สมเด็จพระบรมชนกนาถทรงเจริญรอยพระยุคลบาทของสมเด็จพระบรมราชบุพการีทั้งสองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้ทรงกระทำบำเพ็ญมาแล้วอย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ดังนั้น แม้เราต่างก็รู้ว่าการพลัดพรากจากสิ่งที่รักและเคารพย่อมเป็นทุกข์ แม้การสูญเสีย ความวิปโยค จะเป็นวิกฤตที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่เราทั้งหลายควรใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาส แปลงความทุกข์โศกให้เป็นพลังของแผ่นดิน พลังที่แม้จะไม่มีพระผู้เป็นพลังของแผ่นดินทางพระรูปกายอยู่คุ้มเกล้าคุ้มกระหม่อม แต่พลังของแผ่นดินยังจะมีอยู่ต่อไปด้วยพลังแห่งความศรัทธาเชื่อมั่น ในพระบรมราชปณิธานและศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ พระบรมราชปิโยรสเป็นผู้นำแทนพระองค์พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งหลายขอให้เราทุกคนจงร่วมกันตั้งจิตอธิษฐาน ขอพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระปิยมหากษัตริย์นักพัฒนา เป็นอาทิ ได้โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ให้ทรงพระเจริญ สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าปกกระหม่อมอาณาประชาราษฎรชาวไทย และประเทศไทย ให้สามารถพัฒนาจนประสบความสำเร็จ บังเกิดความเจริญรุ่งเรือง มีสันติสุขและความสามัคคีปรองดอง สมดังพระราชปณิธานปรารถนา ภายใต้การปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตราบกาลนานเทอญ | ระบุการเริ่มรัชกาลใหม่ ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 ชี้ทรงงานตามศาสตร์พระราชามา 44 ปี | สังคม | ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช | https://news.thaipbs.or.th/content/258327 |
ยึดยาเต็มห้อง เจอในร.ร.กวดวิชา ติวเตอร์รับจ้างบรรจุ | สสจ.อุบลฯพาตร.ตรวจในตึกแถวที่เปิดเป็นร.ร.กวดวิชา เจอติวเตอร์3คนกำลังช่วยกันบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และยาลดความอ้วนส่งให้ลูกค้า อ้างหารายได้เสริมยามว่าง ไม่รู้เรื่องอย่างอื่น ชี้ผิดกม.อยู่แล้ว แต่ถ้าของกลางเป็นยา จะมีโทษอาญาด้วย ,เมื่อเวลา17.30น.วันที่6มี.ค.58 พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ แสงจันทร์ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบจ.อุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 76 ซ.ชยางกูร3 ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากสำนักงานสาธารณสุขว่า บ้านเลขที่ดังกล่าวเป็นแหล่งผลิตยา และจำหน่ายสินค้าประเภท อาหารเสริม และยาลดความอ้วน,พบเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 4 คูหา โดย 3 คูหา เปิดเป็นโรงเรียนสอนพิเศษ ส่วนอีก 1 ห้องเปิดไว้สำหรับเป็นเก็บผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริม ยาลดความอ้วน จากการเข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบนายปริญญา คำแสน อายุ 25 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.ค้อวัง อ.ค้อวัง จ.ยโสธร น.ส.รวีภัทร์ บุญรักษ์ อายุ 49 ปี ชาวบ้าน ม.1 ถ.ฉโลกรัฐ ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี และนายกฤษณ โงนมณี อายุ 29 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ กำลังนั่งบรรจุยาชนิดแคปซูล สีต่างๆใส่ในกระปุกสีขาว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว และแจ้งให้หยุดดำเนินการทันที,จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้คัดแยกยาแคปซูลสีต่างๆ กว่า100 ถุง ขวดพลาสติกสีขาวขนาดต่างๆจำนวนมากที่รอการบรรจุตัวยาแคปซูล และยังมีขวดพลาสติกที่บรรจุเสร็จสมบูรณ์แล้วอยู่ในกล่องพัสดุเตรียมส่งให้ลูกค้าอีกหลายรายการ,สอบสวนนายกฤษณ ให้การว่า ยาทั้งหมดเป็นของนายทุนที่อยู่กรุงเทพฯ ตนไม่ทราบว่าเป็นยาอะไร โดยตนและเพื่อนมีอาชีพเป็นติวเตอร์สอนพิเศษ ระหว่างที่ไม่มีนักเรียนมาเรียน พวกตนก็จะมารับจ้างบรรจุแคปซูลสีต่างๆ ลงขวดเป็นรายได้เสริม ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นยาอะไร ผลิตหรือได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ ในการทำแต่ละครั้งจะมีนายทุนสั่งออเดอร์มาทางไลน์ พวกตนก็จะเป็นผู้จัดเตรียม และบรรจุส่งให้ทางไปรษณีย์เท่านั้น รายละเอียดอย่างอื่นไม่ทราบ,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดแคปซูลยาทั้งหมดมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะนำตัวอย่างยาไปตรวจสอบว่าเป็นยาอันตราย หรือได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาหรือไม่ ส่วนเรื่องการดำเนินคดียังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายปริญญา นายกฤษณ และน.ส.รวีภัทร์ แต่อย่างใด,ด้าน ภญ.กาญจนา มหาพล ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า เบื้องต้นมีผู้ร้องเรียนว่ามีการบรรจุผลิตภัณฑ์จำพวกอาหารเสริม ลดความอ้วน แต่ยังไม่ทราบว่า ทั้งหมดนี้มีตัวยาอะไรบ้าง แต่ที่ชัดเจนคือ การบรรจุผลิตภัณฑ์ในสถานที่ไม่ได้รับอนุญาตถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว อีกทั้ง ยังมีหลักฐานบ่งชี้ว่า เป็นการผลิตเพื่อจำหน่าย ส่วนโทษที่พบตอนนี้ต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นอาหารเสริม หรือยา เพราะถ้าเป็นอาหารเสริม จะมีโทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท แต่ถ้าเป็นยาก็จะมีโทษทางอาญาด้วย และจะต้องดูด้วยว่า เกี่ยวข้องกับ พรบ.ใดบ้าง. | สสจ.อุบลฯพาตร.ตรวจในตึกแถวที่เปิดเป็นร.ร.กวดวิชาเจอติวเตอร์3คนกำลังช่วยกันบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และยาลดความอ้วนส่งให้ลูกค้าอ้างหารายได้เสริมยามว่าง ไม่รู้เรื่องอย่างอื่น ชี้ผิดกม.อยู่แล้วแต่ถ้าของกลางเป็นยา จะมีโทษอาญาด้วย | ข่าว,ทั่วไทย | ยึดยา,ยาเถื่อน,ยาลดความอ้วน,อาหารเสริม,สสจ.,สาธารณสุข,อุบลราชธานี,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวภูมิภาค,ข่าวสังคม | https://www.thairath.co.th/news/local/485378 |
พื้นอาคารย่านลาดพร้าว ทรุดตัว กั้น 2 คูหาเป็นเขตอันตราย | วันที่ 9 มีนาคม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วันทองหลาง รับแจ้งเหตุพื้นอาคารเกิดทรุดตัว ภายในบริษัท แปซิฟิคคมนาคมและโทรศัพท์ จำกัด เลขที่ 1632 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้นปลูกติดกันหลายคูหา ตั้งอยู่ริมถนนลาดพร้าวขาเข้า ใกล้กับซอยลาดพร้าว 54/1 ฝั่งตรงข้ามกับ สน.โชคชัย พบพื้นปูนชั้นล่างมีรอยแตกแยกออก ส่วนชั้นที่สองพื้นกระเบื้องและผนังกำแพงห้องน้ำมีรอยแตกร้าว และสั่นตลอดเวลา จึงได้ประสานไปทางสำนักงานเขตวังทองหลางให้มาทำการตรวจสอบ,หลังจากการตรวจสอบ พบว่าอาคารดังกล่าวมีรอยแตกร้าวอยู่หลายแห่ง เกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่ผู้อยู่อาศัย จึงได้ทำการปิดอาคารเป็นเขตอันตราย รวม 2 คูหา พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาเข้าทำการตรวจสอบ,จากการสอบถามทราบว่า เมื่อช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา ห้องเลขที่ 1636 ซึ่งมี นาย ประสาทชัย อังคเศรณีกุล เป็นเจ้าของอาคาร ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2561 ได้เริ่มมีการปรับปรุงโดยการทุบพื้นและตอกเสาเข็นคอนกรีต จนกระทั่งช่วงเช้าของวันนี้ จึงได้เกิดเหตุการณ์ขึ้น ทางสำนักงานเขตจึงได้สั่งปิดอาคาร โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.คุ้มครองอาคาร พ.ศ. 2522 และ พ.ศ. 2535 ให้ระงับการตอกเสาเข็นคอนกรีตในส่วนที่ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธินเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง. | เกิดเหตุพื้นอาคาร บริษัทเกี่ยวกับการสื่อสาร ย่านลาดพร้าว ทรุดตัว มีรอยแตกร้าว เจ้าหน้าที่ปิด 2 คูหา กั้นเป็นเขตอันตราย สั่งโยธาเข้าตรวจสอบ | ข่าว,ทั่วไทย | อาคารทรุดตัว,ลาดพร้าว,เขตอันตราย,โยธา,บริษัทสื่อสาร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1223848 |
ย้อนอดีต ปี 2550 แชมป์คิงส์คัพล่าสุดของ ช้างศึก | ประตูโทนเพียงลูกเดียวของ เจ้าตั้ม ณรงค์ชัย วชิรบาล เพียงพอที่จะทำให้ ขุนพลช้างศึก ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยป้องกันแชมป์ถ้วยพระราชทานคิงส์คัพได้สำเร็จ และเป็นสมัยที่ 12 จาก 38 ครั้งที่จัดการแข่งขัน แล้วใครจะรู้ล่ะว่า นั่นคือแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพครั้งสุดท้าย ของทีมชาติไทย ที่ต้องว่างเว้นจนต้องร้องเพลงรอมานานถึง 9 ปีเต็ม,ย้อนกลับไปดูความสำเร็จครั้งแรกของทีมชาติไทยในฟุตบอลถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 12 เมื่อปี พ.ศ. 2522 ในยุคของพลตำรวจโท ต่อศักดิ์ ยมนาค เป็นนายกฯ ซึ่งทีมชาติไทยสามารถเถลิงบัลลังก์คิงส์คัพ เป็นสมัยแรกได้สำเร็จ (ไม่นับปี พ.ศ. 2519 ครั้งที่ 9 ที่ครองแชมป์ร่วมกับทีมชาติมาเลเซีย) จากการชนะเกาหลีใต้ 1-0,จากนั้นอีก 4 ครั้งถัดมา ทีมชาติไทย ก็สามารถคว้าถ้วยใบนี้มาครองได้สำเร็จ โดยเริ่มจากในปี พ.ศ. 2523 ครั้งที่ 13 ที่ครองแชมป์ร่วมกับเกาหลีใต้ หลังเสมอกันในนัดชิงชนะเลิศ 0-0 ปีต่อมา พ.ศ. 2524 ครั้งที่ 14 ทีมชาติไทย เอาชนะ เกาหลีเหนือ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 ,ถัดมาในปี พ.ศ. 2525 ครั้งที่ 15 ทีมชาติไทย เอาชนะ เกาหลีใต้ จากการดวลลูกจุดโทษ 4-3 (พ.ศ. 2526 ไม่มีการจัดการแข่งขัน) และปี พ.ศ. 2527 ครั้งที่ 16 ทีมชาติไทย ถลุง อินโดนีเซีย 3-0 (พ.ศ. 2528 ไม่มีการจัดการแข่งขัน) ถึงตอนนั้นขุนพลช้างศึกสามารถคว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้ 6 สมัย,เว้นว่างไป 4 ปีเต็ม (นับรวม พ.ศ. 2528 ที่ไม่มีการจัดการแข่งขัน) ทีมชาติไทยก็กลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งในปี พ.ศ. 2532 เมื่อเอาชนะ รอเตอร์วอลโกกราด ในช่วงต่อเวลา 2-1 อีก 1 ปีถัดมา พ.ศ. 2533 ขุนพลช้างศึกก็สามารถบดเอาชนะ รอเตอร์ วอลโกกราด ได้อีกครั้ง 3-1 จากการดวลจุดโทษ,คล้อยหลัง 2 ปี พ.ศ. 2535 ทีมชาติไทย สามารถเอาชนะ เบอร์ลิน 2-0 ถัดมา ทีมชาติไทย ชุดบี ถล่มเอาชนะ เวสท์ฟาลีอา 4-0 ในปี พ.ศ. 2537 ครั้งที่ 25 ของการแข่งขัน 5 ปีต่อมา ขุนพลช้างศึก กลับมาครองแชมป์ได้อีกครั้งในปี พ.ศ. 2543 จากการไล่ยำ ฟินแลนด์ 5-1 ครั้งที่ 31 และอีก 5 ปีให้หลัง ขุนพลช้างศึกกลับมาคว้าแชมป์ได้ 2 ปีติดต่อกัน โดยเริ่มจากปี พ.ศ. 2549 ครั้งที่ 37 ที่สอนบอลเวียดนาม ไป 3-1 และครั้งที่ 38 ปี พ.ศ. 2550 ไทย เชือด อิรัก 1-0 ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ,เมื่อนับถึงจำนวนที่ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทานคิงส์คัพได้ 12 สมัย จาก 38 ครั้งที่จัดการแข่งขัน และสถิติดังกล่าวได้หยุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 หากนับจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นเวลาถึง 9 ปีเต็ม ที่ ขุนพลช้างศึก ร้างความสำเร็จจากถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ,อย่างที่รู้กันดีว่า กระแสฟุตบอลไทยก่อนหน้านี้อยู่ในขั้นเสื่อมศรัทธาอย่างหนักมาเป็นเวลาหลายปี ไม่ว่าจะด้วยปัญหาอะไรก็ตามแต่ จนกระทั่งช่วงต้นปี 2013 แสงสว่างปลายอุโมงค์ของทีมฟุตบอลไทยได้เห็นแสงรำไรเป็นครั้งแรก ก่อนจะค่อยๆ แผ่ขยายจนกลายเป็นความหวังในที่สุด,ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผู้ที่นำแสงสว่างที่ว่านั้นมาถึงทีมชาติไทย หลังถูกแต่งตั้งขึ้นมาเป็นเฮดโค้ชของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ สร้างทีมจากดาวรุ่งเป็นหลัก ผสมผสานกับทีมเวิร์ก จนทำให้ทีมชาติได้กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง โดยกลับมาเริ่มต้นคว้าแชมป์ซีเกมส์ ก่อนไปคว้าอันดับ 4 เอเชียนส์เกม ซึ่งปลุกกระแสติดลมบนจนแฟนบอลล้นความจุของสนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่ทีมชาติไทยสามารถไปคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ,ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 4 ทศวรรษ ซึ่งจัดการแข่งขันเป็นครั้งที่ 44 โดยทีมชาติไทยหมายมั่นปั้นมือที่จะกลับมาคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้ง หลังคว้าแชมป์ครั้งสุดท้ายปี พ.ศ. 2550,สำหรับทีมชาติไทย หากดูจากผลงานที่ผ่านมาของช้างศึกไทยชุดนี้ ถือว่าเป็นทีมชาติไทยที่มีศักยภาพสมบูรณ์มากที่สุดชุดหนึ่ง หลังทีมชุดนี้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันมาเป็นเวลาหลายปี ส่งผลให้มีจุดเด่นในเรื่องของทีมเวิร์ค ซึ่งผลงานล่าสุดนั่นก็คือการทะลุเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 3,โดยแกนหลักของทีมชุดนี้ นำโดย เจ้าตอง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูจอมหนึบ, เจ้าอุ้ม ธีราทร บุณมาทัน กองหลังค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของนักเตะไทย, เมสซีเจ ชนาธิป สรงกระสินธิ์ กองกลางตัวจี๊ด, เจ้าก้อง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ปีกซ้ายคนสำคัญ และ เจ้ามุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวความหวังของทีมชาติไทยชุดนี้,ผู้รักษาประตู : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ชนินทร์ แซ่เอียะ, สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, ทริสตอง สมชาย โด, พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, ธีราทร บุญมาทัน, สุพรรณ ทองสงค์, อดิศร พรหมรักษ์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, มิก้า ชูนวลศรี, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, สารัช อยู่เย็น, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, มงคล ทศไกร, ประกิต ดีพร้อม, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ศราวุฒิ มาสุข, บดินทร์ ผาลา, ธนา ชะนะบุตร, สรรวัชญ์ เดชมิตร, ธีรศิลป์ แดงดา, อดิศักดิ์ ไกรษร,สำหรับทีมชาติจอร์แดน เกือบที่จะได้เข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2014 ที่ประเทศบราซิล เมื่อสามารถคว้าตั๋วไปเพลย์ออฟกับ ทีมชาติอุรุกวัย ตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้ แต่ต้องพ่ายแพ้ไปอย่างขาดลอยถึง 0-5 ทั้งนี้ ขุนพลของทีมส่วนใหญ่จะค้าแข้งอยู่ในตะวันออกกลางเกือบทั้งหมด โดยมีตัวชูโรง อับดุลลาห์ ดาอิบ พร้อมด้วย คาเล็ด อัล ดาร์ดูร์,รายชื่อนักเตะ 26 คนของทีมจอร์แดน ดังนี้,อาเหม็ด อับเดล-ซัตตา, โมตาซ ยาซีน, อับดุลลาห์ อัล ซูบี, ซาอิด จาเบอร์, ทาเรก คัตทาบ, อิบราฮิม อัล ซาวาห์เรห์, โมฮันนาด ไคราลลาห์, โอมาร์ อัล มานาสราห์, เออห์ซาน ฮัดดาด, เฟราส เชลบาเยห์, โมฮัมเหม็ด อัสซี, บาฮา อับเดลราห์มาน, อิบราฮิม ซาเมียร์, ฟาดี อาวัด, มูซาบ ลาห์ฮัม, ยูเซฟ ราวาชเดห์, ยาซาน ทาลจี, ยาซีน บาคีท, อาหมัด ไอซาวี, อาหมัด ฮิชาม, มาห์มูด อัล มาร์ดี, อับดุลลาห์ ดาอิบ, ฮัมเซห์ อัล ดาร์ดูร์, บาฮา ไฟซาล, คาเล็ด อัล ดาร์ดูร์,ทางด้านทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทีมที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ เป็นครั้งแรก ซึ่งในตอนนี้ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย ศึกฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับทีมชาติไทยนั่นเอง,รายชื่อนักเตะของทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดังนี้,วาลิด อัมเบร (เอมิเรตส์ คลับ), ฟาวาซ อวานา, ซาอิฟ คอลฟานคอลฟาน มูบาร็อก, ซุลฏอน อัล ชัมซี, อะหมัด อัล อัตตาส, มุฮัมมัด ยูซิฟ, ฮัสซัน ฮัมซะห์, มาเนอี มุฮัมมัด, ฮัสซัน อิบรอฮีม, อะหมัด อาลี, อะหมัด บัรมาน, สะอี๊ด อัล เมนฮาลี, อะหมัด ชัมบิเอห์, มุบาร็อก สะอี๊ด, มะซูด สุไลมาน, มะห์มูด คอมิส, คอลิด ญาลาล, ญัสซิม ยะกู๊บ, ซาเลม ซอเลห์, ฮัมดาน อัล กอมาลี, ซาเลม ซุลฎอน, ซุลฎอน อัล กอเฟรี, มุฮัมมัด อัล อักบารี, คอลิด บาวาซิร, อับดุลลอฮ์ กอซิม,ขณะที่ทีมชาติซีเรีย ผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย 2018 ในฐานะรองแชมป์ที่ผลงานดีที่สุด และได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ เป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์,รายชื่อนักเตะของทีมชาติซีเรีย ดังนี้,มูซ็อบ บัลฮูส, อิบรอฮีม อัลมา, มะห์มูด อัล ยูซุฟ, อะหมัด อัล ซอลิห์, อะลา อัล ชะบลี, มุอายัด อะญาน, อุมัร มิดานี, ญีฮัด อัล บาอูร, อับดุลรอซัค อัล ฮุสเซน, บุรฮาน ซอฮ์ยูนี, ซาฮิร มิดานี, มะห์มูด อัล มะวาส, อุซามะห์ อุมารี, คอลิด อัล มุบายิด, ฟาฮัด ยูซุฟ, อะหมัด อัชการ, ซาอิร คุรุมา,คอลิด อัล ซอลิห์, ยูซุฟ คอลฟา, อับดุลฟัตตะห์ อัล อะฆอ, ซานฮาริบ มัลกี, อะหมัด อัล ดูนี, นาซูฮ์ อัล นัคดาลี,9 ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่ามันเป็นเวลาเนิ่นนานเกินไปแล้ว ที่ทีมชาติไทยไม่ได้คว้าถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ แต่ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งโอกาสอันดีที่มีสิทธิ์จะไปถึงฝันเสียที เนื่องจากขุมกำลังชุดนี้อยู่ในช่วงสุกงอมพอดี เป็นหนึ่งในชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมชาติไทย เรียกได้ว่ามีให้ใช้สอยได้มากมายทุกตำแหน่ง,ทว่าไม่อาจมองข้ามอีก 3 ทีมที่เหลือ ซึ่งถือเป็นทีมชั้นนำของเอเชียทั้งสิ้น เมื่อจบศึกครั้งนี้เราอาจร้องเพลงรอเป็นปีที่ 10 พอดิบพอดี หรืออาจเป็นการกลับมาคว้าแชมป์ถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ในรอบกว่า 10 ปี ได้อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับฉลองทีมชาติไทยครบ 100 ปี ได้อย่างสมบูรณ์ก็เป็นได้ โปรดติดตามด้วยใจระทึก,ทำเนียบแชมป์คิงส์คัพ,ปีที่จัด ครั้งที่ แชมป์ รองแชมป์ อันดับที่ 3,2511 1 อินโดนีเซีย พม่า ไทย,2512 2 เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เวียดนาม,2513 3 เกาหลีใต้ ไทย มาเลเซีย,2514 4 เกาหลีใต้ ไทย เวียดนาม ,2515 5 มาเลเซีย ไทย เกาหลีใต้-สิงคโปร์,2516 6 เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไทย, ,2517 7 เกาหลีใต้ ไทย มาเลเซีย,2518 8 เกาหลีใต้ พม่า ไทย,2519 9 ไทย (เอ) มาเลเซีย เกาหลีใต้,2520 10 เกาหลีใต้ มาเลเซีย อินเดีย,2521 11 เกาหลีใต้ ไทย (เอ) มาเลเซีย-สิงคโปร์,2522 12 ไทย (เอ) เกาหลีใต้ ไทย (บี)-สิงคโปร์,2523 13 ไทย (เอ) เกาหลีใต้ ไทย (บี)-จีน,2524 14 ไทย (เอ) เกาหลีเหนือ โปแลนด์,2525 15 ไทย (เอ) เกาหลีใต้ ไทย (บี), ,2527 16 ไทย (เอ) อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย,2529 17 เกาหลีใต้ เดนมาร์ก จีน,2530 18 เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ไทย (เอ), ,2531 19 เดนมาร์ก ออสเตรีย ไทย (เอ),2532 20 ไทย (เอ) รัสเซีย เกาหลีใต้,2533 21 ไทย รัสเซีย เกาหลีใต้,2534 22 จีน รัสเซีย ไทย (เอ),2535 23 ไทย เยอรมัน ไทย (บี),2536 24 จีน ไทย (เอ) เกาหลีใต้,2537 25 ไทย (บี) เยอรมัน รัสเซีย,2538 26 โรทัวร์ ญี่ปุ่น ไทย (เอ),2539 27 โรมาเนีย เดนมาร์ก ไทย,2540 28 สวีเดน ไทย ญี่ปุ่น ,2541 29 เกาหลีใต้ อียิปต์ เดนมาร์ก, ,2542 30 บราซิล (ยู-20) เกาหลีเหนือ ไทย,2543 31 ไทย ฟินแลนด์ บราซิล,2544 32 สวีเดน จีน ไทย,2545 33 เกาหลีเหนือ ไทย กาตาร์,2546 34 สวีเดน เกาหลีเหนือ ไทย,2547 35 สโลวาเกีย ไทย ฮังการี,2548 36 ลัตเวีย เกาหลีเหนือ ไทย,2549 37 ไทย เวียดนาม คาซัคสถาน,2550 38 ไทย อิรัก เกาหลีเหนือ-อุซเบกิสถาน,2552 39 เดนมาร์ก ไทย เกาหลีเหนือ, ,2553 40 เดนมาร์ก โปแลนด์ ไทย,2555 41 เกาหลีใต้ เดนมาร์ก นอร์เวย์,2556 42 สวีเดน ฟินแลนด์ ไทย-เกาหลีเหนือ,2558 43 เกาหลีใต้ (ยู-22) ไทย อุซเบกิสถาน | ประตูโทนเพียงลูกเดียวของ ณรงค์ชัย วชิรบาล เพียงพอที่จะทำให้ ขุนพลช้างศึก ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ป้องกันแชมป์ถ้วยพระราชทานคิงส์คัพได้สำเร็จ และเป็นสมัยที่ 12 จาก 38 ครั้งที่จัดการแข่งขัน ใครจะรู้ล่ะว่านั่นคือแชมป์ครั้งสุดท้าย | null | ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน,คิงส์คัพ 2016,ครั้งที่ 44,ซิโก้,เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง,สุเชาว์ นุ่มนุ่ม,สุธี สุขสมกิจ,ดัสกร ทองเหลา,ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์,พิพัฒน์ ต้นกันยา,กิตติศักดิ์ ระวังป่า,กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์,ธีราทร บุณมาทัน,ชนาธิป สรงกระสินธิ์,เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์,สารัช อยู่เย็น,ธีรศิลป์ แดงดา,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/629891 |
จุรินทร์ เผย ปชป.จ่อส่งความเห็น กรธ.ร่าง รธน. ปลายสัปดาห์ | เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 58 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำความเห็นเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญพรรคจะส่งให้ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้ตนรวบรวมความเห็นของสมาชิกพรรค และยกร่างข้อเสนอเพื่อให้หัวหน้าพรรคได้พิจารณาลงนามเป็นความเห็นของพรรค ส่งให้กับประธานกรธ.ซึ่งเป็นความเห็นอย่างไม่เป็นทางการ เพราะประชุมพรรคไม่ได้ ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถส่งความเห็นได้ในปลายสัปดาห์นี้,นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ความเห็นที่พรรคจะส่งให้กับ กรธ.คงจะเป็นความเห็นในหลักการกว้างๆ เนื่องจาก กรธ.ยังไม่ลงรายละเอียดชัดเจนว่า มีทิศทางในประเด็นใดบ้าง อาทิ รัฐธรรมนูญควรมีหลักประกันในเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนไม่น้อยกว่ารัฐธรรมนูญปี 50 รัฐธรรมนูญควรยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตยแบบเสรีที่ประชาชนควรมีส่วนร่วม มีระบบการตรวจสอบถ่วงดุลที่มีดุลยภาพและมีประสิทธิภาพ และควรมีมาตรการในเรื่องของการจัดการกับการซื้อเสียงและการทุจริตคอร์รัปชันที่มีรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เป็นต้น,นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะข้อเสนอเกี่ยวกับระบบเลือกตั้งที่ทาง กรธ.ได้วางกรอบไว้แล้วนั้น ก็ยังไม่มีความชัดเจน แต่คิดว่าระบบเลือกตั้งที่ออกมานั้น ไม่ควรให้ความสำคัญกับตัวบุคคลแต่เพียงอย่างเดียว ควรให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองควบคู่ไปด้วย คือในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ประชาชนควรมีโอกาสได้สะท้อนการตัดสินใจในการเลือกลงคะแนนที่ให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้งที่สังกัดด้วย ไม่ใช่เลือกบุคคลอย่างเดียว | ปชป. เตรียมส่งความเห็นให้ กรธ.ร่าง รธน. ปลายสัปดาห์ จุรินทร์ เผยยึดตรวจสอบ-ถ่วงดุล-ปราบโกง แนะ อย่าเน้นบุคคลสำคัญกว่าพรรค | null | จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์,ส่งความเห็นร่าง รธน.,ความเห็นสมาชิก,ปชป. ต่อร่าง รธน.,ทิศทาง รธน.,การร่าง รธน.สูตรรัฐธรรมนูญ,ระบบเลือกตั้งใน รธน. ฉบับใหม่,สูตรเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง | https://www.thairath.co.th/content/535208 |
ใครสนใจเชิญ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี เปิดคัดเยาวชนฝีเท้าดี | วันที่ 29 ม.ค. 61 ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 5 สมัย เตรียมเปิดโอกาสให้เยาวชนฝีเท้าดี เข้าร่วมคัดตัวเข้าสู่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสู่การเป็นนักเตะอาชีพในอนาคต โดยเปิดคัดทั้งหมด 3 รุ่น ในวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ 2561 ที่สนามช้าง เทรนนิ่ง กราวด์ จังหวัดบุรีรัมย์,สำหรับการแบ่งรุ่นอายุและวันคัดเลือก มีดังนี้,วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 11 ปี เกิดปี พ.ศ. 2550-51 (ค.ศ.2007-08), ,วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 13 ปี เกิดปี พ.ศ. 2548-49 (ค.ศ.2005-06), ,วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 14 ปี เกิดปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ.2004),เปิดลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 07.30-10.00 น. และจะเริ่มทดสอบฝีเท้าตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ส่วนของผู้ที่ติดสอบ O-Net สามารถมาคัดตัวได้ในวันที่ 17-18 มีนาคม, ,ทั้งนี้ นักเตะเยาวชนที่ต้องการจะร่วมคัดเลือกจะต้องเตรียมเอกสารดังนี้,1. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 รูป,2. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ร่วมคัดเลือก เซ็นชื่อและสำเนาถูกต้อง พร้อมเขียนเบอร์ติดต่อให้เรียบร้อย, ,รับใบสมัครและกรอกข้อมูลในวันคัดเลือก หรือเพื่อความรวดเร็ว สามารถดาวน์โหลดใบสมัคร ปริ้นต์ และกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย เพื่อนำมายื่นในวันคัดเลือกได้จากลิงก์นี้ ,https://1drv.ms/b/sAivJicm01Ox1hRtW_VwmRuMa0wkM, หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 096-737-7561 (ครูหนิง), 095-602-2601 (ครูหนุ่ม) | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี เปิดคัดตัวแข้งเยาวชน 3 รุ่น 2-4 ก.พ.นี้ ที่สนามช้าง เทรนนิ่ง กราวด์ บุรีรัมย์ | กีฬา,ฟุตบอลไทย | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี,ปราสาทสายฟ้า,เปิดคัดเยาวชน,สนามช้าง เทรนนิ่ง กราวด์ | https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1189905 |
มงคลกิตติ์ จวก พท.-อนค.ดูถูก ปชช.จะไม่ให้พรรคเล็กได้ ส.ส.เลย | เมื่อวันที่ 2 เม.ย.62 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และแกนนำ 12 พรรคเล็ก 13 ที่นั่ง กล่าวถึงกรณีที่ที่พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ ออกมาทักท้วงว่า กกต. คิดคะแนนเสียงต่อจำนวน ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อผิดพลาด ว่า ตนขอชี้แจงและขอความเป็นธรรมให้กับ พรรคเล็กในลำดับที่ 17-81 คณะกรรมการการเลือกตั้ง และคณะกรรมการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. มีพรรคการเมืองลงเลือกตั้งทั้งหมด 81 พรรคการเมือง มีพรรคที่ได้คะแนนตั้งแต่ 183-8,433,060 คะแนน จำนวน 77 พรรคการเมือง คะแนนรวมบัตรดี 35,532,610 คะแนน คะแนนรวมพรรคอันดับ 1-16 รวม 34,472,910 คะแนน คะแนนรวมพรรคอันดับ 17-77 รวม 1,059,700 คะแนน (ถ้าหารเฉลี่ย ส.ส.พึงมี จะได้จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่น้อยกว่า 14.91 ที่นั่ง) การคิดคำนวณตาม พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ตาม มาตรา 128(7) นั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว ดังนั้น พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคอื่นๆ เองนั้นอย่าเห็นแก่ตัว อย่าพูดข้อมูลด้านเดียวทำให้เกิดความแตกแยก ทำให้ประชาชนสับสน ปลุกระดมมาให้คนไม่ชอบ กกต. ถอดถอน กกต. ทำลายความน่าเชื่อถือในการจัดการเลือกตั้ง,ที่ถูกต้องคือพรรคที่ได้คะแนนลำดับ 17-77 เขาก็มีประชาชนเลือกมาถึง 1,059,700 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนบริสุทธิ์มิได้ผ่านการซื้อเสียงมา 100% นี่คือเสียงสวรรค์ อย่าดูถูกคะแนนเสียงของประชาชน ถ้าเทียบกับค่าเฉลี่ยของ ส.ส.บัญชีรายชื่อพึงได้ก็ถึง 14.91 ที่นั่ง อีกทั้งถ้าไปตรวจสอบคะแนน ส.ส.เขตที่ชนะการเลือกตั้ง พรรคใหญ่แต่ละพรรคได้คะแนนมาไม่มาก ยกตัวอย่าง เช่น,ผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.เขต จ.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พรรคอนาคตใหม่ 35,412 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 2 นายนพพล เหลืองทองนารา พรรคเพื่อไทย 32,956 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 3 นายอนุชา น้อยวงศ์ พรรคพลังประชารัฐ 24,063 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 4 นายนิยม ช่างพินิจ พรรคเพื่อไทย 40,252 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 5 อันดับ 1 นายมานัส อ่อนอ้าย พรรคพลังประชารัฐ 28,952 คะแนน สังเกตกันไหมว่าคะแนนไม่มากเลยในแต่ละเขตทั่วประเทศ ดังนั้น จากส่วนการคำนวณตาม พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ตาม มาตรา 128(7) พรรคสุดท้ายที่จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คือ พรรคไทยรักธรรม ได้ 33,748 คะแนน ซึ่งเป็นลำดับที่ 27 ซึ่งก็ได้คะแนนมากกว่า ส.ส.เขต จังหวัดพิษณุโลก และอีกหลายจังหวัด จากพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคอนาคตใหม่ เสียอีก นายมงคลกิตติ์กล่าว,นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า เพราะฉะนั้นหากพูดอะไร ข้อมูลต้องครบ คณะกรรมการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 เขาคำนึงถึงคะแนนประชาชนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน บางทีพรรคเล็กๆ นโยบาย อุดมการณ์ น่าจะดีกว่าพรรคใหญ่ๆ บางพรรค ที่ต้องฟังเสียงนายทุนที่ออกเงินใช้จ่ายในการเลือกตั้ง เพื่ออาจจะถอนทุนคืนจากงบประมาณแผ่นดินก็ได้ ตั้งใจมายกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ตั้งใจมาแก้ไขกฎหมายอาญา ม.112 ตั้งใจมาแก้ไขคดีให้อดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีทุจริตไปถึง 2 ราย ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยให้ ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองแตกแยก ไม่สงบสุข ประชาชนต้องการรัฐบาลแบบนั้นหรือ,อีกทั้งพรรคที่อ้างว่า สามารถรวบรวมเสียงข้างมากจนสามารถตั้งรัฐบาลได้นั้น ก็ยังไม่สามารถสร้างเสถียรภาพในการเป็นรัฐบาลได้ ดังนั้น จึงมีความพยายามเที่ยวไล่กดดันพรรคการเมืองอื่น เพื่อให้ร่วมกับฝั่งตัวเอง ดังนั้นจึงขอร้องให้ทุกพรรค รอให้ถึงวันที่ 9 พ.ค. เสียก่อน เพราะขณะนี้ กกต. ก็ยังพิจารณาเรื่องร้องเรียนอยู่ ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวน ส.ส. เปลี่ยนไปได้ นายมงคลกิตติ์กล่าว. | มงคลกิตติ์ จวก เพื่อไทย-อนาคตใหม่ เห็นแก่ตัว ดูถูกเสียงประชาชนกว่า 1 ล้านเสียง จะไม่ให้พรรคเล็กได้ ส.ส.เลย แนะ รอวันที่ 9 พ.ค. ก่อน เพราะ กกต. ยังพิจารณาเรื่องร้องเรียนจำนวน ส.ส.ยังเปลี่ยน | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,ไทยศรีวิไลย์,ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์,คะแนนพรรคเล็ก,กกต.,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1535346 |
หนุ่มโสดบุรีรัมย์ ถูกรางวัลที่1ได้เงิน6ล้าน เผยจะทำบ้านให้พ่อทำบุญให้แม่ | เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 มี.ค.63 ร.ต.อ.อนุสรณ์ ศรีพรหม พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญ สภ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ได้รับแจ้งว่า นายอำไพ บุญเย็น อายุ 38 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 18 ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 875938 งวดวันที่ 1 มีนาคม 2563 จำนวน 1ใบ เป็นเงิน 6 ล้านบาท โดยมาขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานนายอำไพ บุญเย็น เผยว่า ด้วยความดีใจ ก่อนหน้านี้ตนได้ไปทำบุญให้ย่าที่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ โดยไปกับพ่อและหลวงอาที่บวชเป็นพระในหมู่บ้าน ระหว่างทางหลวงอาเล่าให้ฟังว่า ได้ยินคนคุยกันเรื่องชาวบ้านทำพิธีดูเลขในน้ำมนต์ ให้ไปหาซื้อเลข 938 ที่ตรงกับเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ของตนที่เพิ่งซื้อได้ 1 ปี คือ ฮอนด้า เวฟ125 ทะเบียน กรฉ 938 น่านเมื่อวาน (29 ก.พ.) ช่วงเย็นได้พาพ่อไปหาหมอในตลาด อ.ละหานทราย เห็นแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลหน้าวัดโพธิ์ไทรทอง จึงหาซื้อเลขดังกล่าวมา 1 ใบวันนี้ตอนเย็นเดินมาบ้านพี่ชาย เห็นกระดาษที่พี่เขียนเลขรางวัลที่ 1 และรางวัลอื่นๆ ที่ดูจากทีวีถ่ายทอดสด จึงเอาลอตเตอรี่มาตรวจ แต่ไม่ถูกเลขท้าย ก็รู้สึกเสียดาย แต่ลองตรวจเลขที่ละตัวอีกครั้ง ปรากฏว่าตรงกับรางวัลที่ 1 ตนดีใจมาก รีบบอกพ่อและพี่ๆ ที่บ้านอยู่ใกล้กัน และรีบไปโรงพักลงบันทึกประจำวันทันทีด้าน นายเสริฐ บุญเย็น อายุ 51 ปี เป็นพี่ชายคนโตของนายอำไพ เล่าว่า นายอำไพเป็นน้องชายคนเล็กในพี่น้อง 8 คน แม่ตายไป 30 กว่าปีแล้ว นายอำไพเป็นโสด เลี้ยงดูพ่อ นายอำไพมีอาชีพทำนา แต่ปีนี้ไม่มีน้ำ ก็ยังคิดกันว่าจะทำอย่างไรดี วันนี้น้องถูกรางวัลที่ 1 ครอบครัวดีใจมาก ที่บุญนี้มาถึงคนจนจะได้มีอยู่มีกิน โดยน้องชายบอกว่าจะทำบุญให้แม่ เพราะตลอด 30 ปีที่แม่เสียยังไม่เคยทำบุญใหญ่ให้ เพราะไม่พร้อมเรื่องค่าใช้จ่าย และจะสร้างบ้านให้พ่ออยู่ ตอนนี้บ้านยังเป็นพื้นดินไม่ได้ปูอะไร เงินก้อนนี้เยอะมากสำหรับครอบครัวพวกเรา จะใช้อย่างรู้คุณค่า หลังจากทำบุญและสร้างบ้านแล้วแต่น้องชายจะเก็บใช้อย่างไร พวกตนยินดีกับน้องด้วยส่วน นายทองใส บุญเย็น อายุ 80 ปี ผู้เป็นพ่อ ที่อยู่กับนายอำไพ เผยว่าดีใจมาก ลูกบอกว่าจะสร้างบ้านให้ใหม่. | หนุ่มโสดบุรีรัมย์ ที่ อ.ละหานทราย โชคดีถูกหวยรางวัลที่ 1 หลังไปซื้อสลากเลขท้าย 38 ตรงกับรถ จยย.ที่ขี่มา 1 ใบ เผยจะทำบุญใหญ่ให้แม่ผู้ล่วงลับ และเตรียมไปทำบ้านใหม่เพื่ออยู่กับพ่ออายุ 80 ปี | ข่าว,ทั่วไทย | ถูกหวย,ถูกรางวัลที่ 1,หนุ่มบุรีรัมย์,อ.ละหานทราย,ถูกหวย 6 ล้าน,บุรีรัมย์,อำไพ บุญเย็น,หวย | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1784376 |
สิระ-มงคลกิตติ์ หวิดวางมวย กลางสภาฯ | วันนี้ (21 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารรัฐสภา ชั้น 1 ระหว่างที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์พิเศษสื่อมวลชน ได้เห็นนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พลังประชารัฐ เดินเข้ามาพอดี จึงได้ปรี่เข้าไปหานายสิระ และจับแขนข้างขวาของนายสิระซึ่งนายสิระได้ขอให้ผู้ที่อยู่บริเวณดังกล่าว ช่วยบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะสะบัดมือออกทันทีและพูดว่า อย่ามาจับผม จับตัวผมไม่ได้ คุณเป็นนักเลงก่อนที่นายมงคลกิตติ์ จะเดินตามนายสิระ แต่นายสิระได้พยายามเดินเลี่ยงหนี และขอให้ตำรวจสภามานำตัวนายมงคลกิตติ์ออกไป และระบุว่าขณะที่นายมงคลกิตติ์ สวนกลับว่าทำให้นายสิระตอบกลับว่านายสิระ เรียกร้องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ช่วยสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย เพราะเดินไปทางไหนถูกนายมงคลกิตติ์เข้ามาก่อกวน รังควาน คุกคาม ในระหว่างเข้ามาทำหน้าที่ในสภาฯด้านนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า แทนที่นายสิระจะมีสำนึกขอโทษ ในฐานะลูกผู้ชาย และตนไม่ได้ทำอะไร เพียงต้องการสอบถามว่า สิ่งที่นายสิระพูดคิดก่อนหรือไม่ ที่ต่อว่า และด่าผู้อื่นลับหลังหลายครั้ง ซึ่งตนไม่ชอบ ยืนยันไม่เคยด่าว่านายสิระ และไม่เคยเริ่มก่อนนายมงคลกิตติ์ กล่าวผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ชุลมุนจนหวิดวางมวยกันกลางสภา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ นายสิระ เจนจาคะ ได้ขึ้นมาพบ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรายงานถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาทีนายสิระเปิดเผยว่า ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร จึงขอให้นายชวนดูแลความปลอดภัย ส.ส.ที่ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ให้มีใครมาคุกคาม หรือมาท้าตีท้าต่อย ซึ่งเมื่อวานนี้และวันนี้ ตนถูกคุกคามจากการทำหน้าที่ ส.ส.ทั้งนี้นายสิระ ได้โชว์ข้อความที่นายนายมงคลกิตติ์ โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่ามาแสดงให้เห็นว่า นายมงคลกิตติ์ มีพฤติกรรมเช่นใด ซึ่งเมื่อกราบเรียนนายชวนแล้วว่า ไม่ควรมีเรื่องดังนี้เกิดขึ้นในสภาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่นายสิระออกมาให้สัมภาษณ์นั้น ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ได้มานำตัวนายมงคลกิตติ์ ที่รออยู่หน้าห้องเข้าพบนายชวน ออกไป เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับนายสิระจากนั้นนายมงคลกิตติ์ ใช้เวลาพบนายชวนประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ว่า มาพบนายชวน เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายชวนทราบอยู่แล้ว และเข้าใจว่าสิ่งที่นายสิระทำกับตน แรงมากทั้งนี้นายชวนได้ขอว่า ในสภาฯ อย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น และอยากให้นายสิระมาขอโทษ ซึ่งตนได้รับปากเพราะเป็นลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น เมื่อตนรับปากว่าจะไม่เกิดเรื่องใดๆ ในสภาฯและในฐานะลูกผู้ชาย หากมาขอโทษเรื่องก็จบ ตนไม่ใช่พวกลอบกัดใคร เพราะไม่ใช่หมา แต่ทั้งนี้หากยังไม่ขอโทษ ตนก็จะมอบหมายให้ทนายความไป ฟ้องร้องดำเนินคดีที่ศาลอาญา ฐานหมิ่นประมาท ในวันที่ 24 ส.ค.นี้พร้อมยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ เพื่อกลบข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ ตามที่มีสื่อบางสื่อเสนอ พร้อมยอมรับว่า เมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) บันดาลโทสะ ที่โพสต์ด่า แต่บังเอิญนี้ไปโดนข้อความที่โพสต์จึงถูกลบไปไม่ได้มีเจตนาลบข้อความนายมงคลกิตติ์กล่าวต่อว่า ตนได้รับปากนายชวนแล้วว่า จะจบเรื่องหากเจอกันในสภาฯก็จะไม่ไปถามไปพูดไปคุย ซึ่งถือว่าถูกต้องแล้ว เพราะเป็นสภา แต่ไม่รับปากว่าเจอข้างนอกจะเป็นอย่างไรและจะไม่มีปัญหาเรื่องการทำงานร่วมกัน เพราะมี ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลหลายคน แต่ตนขอเดินคนละทางกับนายสิระ ทางใครทางมัน และไม่กังวงกรณีที่ถูกแจ้งความเพราะไม่ได้มีโทษหนัก เพราะเป็นการบันดาลโทสะ แต่กรณีของนายสิระถือว่าหมิ่นประมาทตนถึง 2 ครั้งขณะที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้บอกทั้ง 2 คนว่า แบบนี้ ภาพพจน์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเสีย ต้องแยกระหว่างคนหมู่ใหญ่กับ คนสองคน ออกจากกัน อย่าเหมาว่าทุกคนในสภา จะมีสภาพแบบนี้โดยนายสิระ ยืนยันว่า จะส่งเรื่องให้กรรมการจริยธรรม พอดีกับสัปดาห์ที่แล้ว กำลังประชุมกรรมการจริยธรรม เพื่อมอบให้ นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ไปร่างระเบียบวิธีปฏิบัติ ก็จะเป็นหนึ่งในเรื่องที่ รวมเอาไว้เพื่อเสนอคณะกรรมการจริยธรรมต่อไปนายชวนกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องความรุนแรง ขอร้องว่าอย่าให้เกิดขึ้น การขัดแย้งเรื่องวาจาไม่เป็นไร ค่อยว่ากันแต่เรื่องความรุนแรงอย่าให้เกิดขึ้นเมื่อถามว่า หากมีการต่อยหรือตีกันในสภาฯจริงๆ จะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง นายชวน กล่าวย้ำว่า บอกแล้วว่ายังไงก็อย่าให้เกิดขึ้น ผมคิดว่าดีที่สุดคือเอาคำพูดของแต่ละฝ่าย มารวบรวม เรียบเรียงว่าเริ่มต้นอย่างไร ใครเป็นผู้ก่อเรื่องขึ้นมาก่อน และเรื่องตามมาอย่างไร ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะเอาให้ฟันร่วงหมดเลย เขาก็ยืนยันว่าเขาจะไม่ทำ | สิระ-มงคลกิตติ์ ดอดพบ ชวน หลังหวิดวางมวยกลางสภา ชวน ขออย่าให้เกิดความวุ่นวาย หวั่นภาพลักษณ์สภาฯ เสียหาย ด้าน มงคลกิตติ์ รับปาก จะจบแค่ในสภาฯ ส่วนนอกสภาทางใครทางมัน | การเมือง | สิระ เจนจาคะ,มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ | https://news.thaipbs.or.th/content/295697 |
ให้ส่งอาหารถูกวิธี จัดติวทีมดีลิเวอรี | รถธงฟ้า พณ.ลุยขายของถูกคลัง ยันรัฐบาลมี 1.5 แสนล้าน สู้ไวรัสโควิด-19 ชี้ช่องถ้าเลวร้ายออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินกู้เงินได้ ก.พาณิชย์ เตรียมส่งรถธงฟ้า 200 คัน นำสินค้าอุปโภค บริโภคจำเป็นตระเวนจำหน่ายให้ประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ดีเดย์วันที่ 24 มี.ค.นี้ และอาจเพิ่มไปยังจังหวัดอื่นถ้ามีมาตรการป้องกันเข้มข้น พร้อมตั้งชุดเฉพาะกิจดูแลราคาอาหารและปราบพวกกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งระดับจังหวัดและประเทศ ป้องกันพวกเอาเปรียบประชาชน วราวุธ สั่งปิดอุทยานทั่วประเทศ คนผวาเงินสดยอดโอนไอแบงกิ้งพุ่ง วันละ 10 ล้านรายการ กปน.ลดค่าน้ำร้อยละ 3 ให้ผู้ใช้ทุกประเภท 3 เดือน ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค. ปชป.ตีวง สอบ มัลลิกา เอี่ยวตุนแมสก์ ผู้ว่าฯ กทม.ออกอีก 7 มาตรการ ยันข้อมูลผู้เดินทาง บขส. 3 วันเพิ่ม เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ร้อยละ 90 เป็นต่างด้าวเพราะด่านจะปิด ขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือกรมขนส่งยกเลิกสอบใบขับขี่ใหม่ ศาลเลื่อนพิจารณาคดีทั่วประเทศ ไทยสมายล์ประกาศหยุดบินเส้นทางระหว่างประเทศแล้วกรณีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยยังสร้างผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนประชาชนทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่พบผู้ติดเชื้อจากสนามมวย สถานบริการ และที่ชุมชนต่างๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กรุงเทพมหานครต้องออกมาตรการปิดที่ชุมนุมชน ทั้งห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา ตลาด รวมไปถึงร้านอาหารตามตรอกซอกซอย ห้ามนั่งกินที่ร้าน อนุญาตให้ซื้อกลับไปกินที่บ้านเท่านั้น นอกจากนั้นยังเตือนคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กทม.ที่กักตัวอยู่ในบ้าน ส่วนความช่วยเหลือด้านชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากภาครัฐยังมีมาตรการช่วยเหลือออกมาอย่างต่อเนื่องอัศวิน ไลฟ์สดขอบคุณชาว กทม.ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 มี.ค. เวลา 12.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.แถลงข่าวผ่านการไลฟ์สดเฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯอัศวิน ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ตามที่ กทม.คาดการณ์ไว้คือ สาเหตุที่ กทม.มีคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงหลายแห่ง ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุนคนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ออกไปในที่ที่มีคนหนาแน่น อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวทำให้หลายคนอยากเดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯ เห็นได้จากเหตุการณ์ที่หมอชิตเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) ทั้งนี้ เมื่อดูตัวเลขจำนวนผู้เดินทางจาก บขส. 3 วันที่ผ่านมา มีผู้เดินทางออกนอกกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นจากปกติเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ในจำนวนนี้ร้อยละ 90 เป็นประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องรีบเดินทางเนื่องจากมีการปิดด่านวันนี้ (23 มี.ค.) จึงขอขอบคุณพี่น้องชาวกรุงเทพฯ เพราะแม้ว่าตนจะไม่มีอำนาจสั่งไม่ให้ท่านเดินทางออกนอกกรุงเทพฯ แต่ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีออก 7 มาตรการกำชับให้ปฏิบัติพล.ต.อ.อัศวินกล่าวอีกว่า เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ต้องขอความร่วมมือจากทุกๆคนอีกหลายอย่าง วันนี้ (23 มี.ค.) ออกมาตรการอีก 7 ข้อดังนี้ 1.ขอความร่วมมือทุกท่านไม่เดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯ 2.ขอความร่วมมืออยู่แต่ในที่พักอาศัย และหมั่นทำความสะอาดร่างกาย ที่พัก จุดเสี่ยง หรือจุดสัมผัสร่วมต่างๆ 3.ขอความร่วมมือหน่วยงานของรัฐและเอกชนทุกแห่ง จัดทำมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด รวมถึงให้เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตรอย่างเคร่งครัดโดยทันที 4.ขอความร่วมมือผู้เดินทางไปสนามมวย สถานบันเทิง หรือสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อ พร้อมผู้ใกล้ชิดที่สัมผัสผู้ติดเชื้อพักสังเกตอาการในที่พักตามคำแนะนำกระทรวงสาธารณสุข หากมีอาการให้รีบไปหาหมอทันที 5.ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการเลี่ยงเดินทางไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมากและแออัด และให้เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร 6.ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานงดจัดกิจกรรมที่รวมตัวคนจำนวนมาก และ 7.ขอความร่วมมือหน่วยงานที่ให้บริการขนส่งมวลชนทุกแห่งลดความแออัดของผู้โดยสารเตือนไวรัสมรณะร้ายกว่าอาวุธผมขอความร่วมมือจากทุกๆท่าน ดำเนินการตามมาตรการต่างๆของ กทม.อย่างเคร่งครัด ผมเข้าใจดีว่าอาจทำให้บางท่านได้รับผลกระทบ เดือดร้อนจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป แต่ขอให้ทุกๆท่านมั่นใจว่า กทม.และรัฐบาลจะหาทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร็วที่สุด พี่น้องชาวกรุงเทพฯครับ หลายสิ่งหลายอย่างผมได้ออกคำสั่งและมาตรการอย่างเร่งด่วน อาจทำให้ท่านไม่ทันตั้งตัว แต่ผมขอบอกกับท่านว่า เรากำลังสู้กับศัตรูที่ร้ายแรงยิ่งกว่าอาวุธและกองกำลัง ศัตรูที่มีแต่ทวีคูณจำนวนเชื้อโรคในทุกๆวัน ศัตรูที่ไม่มีวันที่จะเมตตาแม้เราจะไม่มีทางต่อสู้ ศัตรูที่ได้เปรียบจากการที่เราไม่ปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันของเรา ทางเดียวที่เราจะชนะศัตรูนี้ได้คือ การที่เราทุกคนช่วยกันทำสิ่งง่ายๆด้วยการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ และไม่ไปอยู่ในที่ผู้คนแออัด ขอให้มั่นใจใน กทม.จะทำทุกวิถีทางที่จะป้องกันท่านจากเชื้อโรค และพวกเราทุกคนจะฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน ผู้ว่าฯ กทม.ระบุตีวงสอบ มัลลิกา เอี่ยวตุนแมสก์ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องการกักตุนและส่งออกหน้ากากอนามัย มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคเป็นประธาน ที่ประชุมมองว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องจะมีแค่คนเดียวคือ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ หรือ น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ คณะที่ปรึกษาของ รมว.พาณิชย์ ที่ถูกพาดพิงถึง ใช้เวลาถกเถียงร่วม 2 ชม. ก่อนเห็นพ้องว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับนางมัลลิกาเพียงคนเดียว เนื่องจากมีการฟ้องร้องดำเนินคดีตรงตามคำสั่ง มอบหมายกรรมการแต่ละคนไปสืบเสาะหาข้อมูลกรณีเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ พาดพิงเป็นหลัก รวมทั้งหาข้อมูลและข้อเท็จจริง คำกล่าวหาและพยานหลักฐานอื่นๆนำมาประชุมวันที่ 24 มี.ค.อีกครั้งตุ๋นขายหน้ากากอนามัยที่ สน.โชคชัย บ่ายวันที่ 23 มี.ค. ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสีศรี ทนายความพาผู้เสียหาย 2 ราย แจ้งความ พ.ต.ท.มารุต แก้วประเสริฐ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.โชคชัย ดำเนินคดีบริษัทแห่งหนึ่งข้อหาฉ้อโกง หลังถูกหลอกขายหน้ากากอนามัยแบบ 3 ชั้น นำเข้าจากประเทศเวียดนาม 35000 ชิ้น มูลค่าเกือบ 400000 บาท ผู้เสียหายติดต่อผู้ต้องหาผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ทำสัญญาซื้อขายกันที่บริษัทย่านโชคชัย 4 ในราคาชิ้นละ 11.35 บาท จำนวน 35000 ชิ้น มูลค่าเกือบ 400000 บาท โอนเงินเต็มจำนวน นัดส่งมอบในวันที่ 13 มี.ค. แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงไม่ยอมส่งหน้ากากให้หลายครั้ง อ้างว่าอยู่ระหว่างการฆ่าเชื้อ จนตัดสินใจขอเงินคืนแต่ไม่ได้จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีพาณิชย์จัดรถธงฟ้า 200 คันที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ เผยภายหลังประชุมร่วมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เพื่อพิจารณามาตรการและแนวทางการดูแลประชาชนด้านสินค้าอุปโภคบริโภคช่วงมาตรการเข้มข้น เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ว่า ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.63 กรมการค้าภายในจะจัดส่งรถโมบายธงฟ้าประมาณ 200 คัน นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัด ออกไปจำหน่ายให้ประชาชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่พักอยู่ที่บ้าน รวมถึงให้พิจารณาจัดรถโมบายธงฟ้าในต่างจังหวัดที่อาจจะมีมาตรการเข้มข้นขึ้นด้วย มีสินค้า เช่น ข้าวสารบรรจุถุง ไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง และเจลล้างมือ เป็นต้น จะตระเวนไปยังจุดสำคัญๆที่เป็นแหล่งชุมชนและหมู่บ้านระยะต่อไป จะพิจารณาเพิ่มรายการสินค้าให้มากขึ้น รวมทั้งให้กรมการค้าภายในประเมินสถานการณ์รายวัน หากมีความต้องการเพิ่มขึ้นจะเพิ่มจำนวนรถโมบายต่อไปตั้งชุดปราบกักตุน-ขึ้นราคาอาหารรมว.พาณิชย์กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค 2 คณะ คือ คณะกรรมการระดับประเทศ และระดับจังหวัด เพื่อดูแลสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภค ป้องกันการกักตุน ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาขาย และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย ป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคถูกซ้ำเติมในสถานการณ์ขณะนี้ และต้องได้รับความเป็นธรรมในการบริโภคสินค้า คณะกรรมการเฉพาะกิจระดับประเทศมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ส่วนระดับจังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน กรรมการมาจาก กอ.รมน. ตำรวจ อุตสาหกรรมจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพาณิชย์จังหวัดหนุนโชห่วยส่งดีลิเวอรีนายจุรินทร์กล่าวด้วยว่า ส่วนการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าสู่ห้างค้าปลีกค้าส่ง ซุปเปอร์มาร์เกตนั้น จะเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืดหยุ่นกฎระเบียบด้านการขนส่งให้สามารถลำเลียงสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าไปยังสถานที่จำหน่ายปลีกได้เร็วขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล เร่งส่งเสริมการจัดส่งสินค้าถึงบ้านแบบดีลิเวอรี ปัจจุบันห้างและร้านสะดวกซื้อ เช่น แม็คโคร เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี และเซเว่น-อีเลฟเว่น จัดส่งอยู่แล้ว การจัดส่งของผู้ให้บริการอาหาร เช่น แกร็บฟู้ด ไลน์แมนฟู้ดแพนด้า เก็ท และลาลามูฟ จะสนับสนุนให้ดำเนินการต่อไป และยังมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าช่วยดูแลร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) ให้เพิ่มศักยภาพการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน รองรับมาตรการที่เข้มข้นขึ้นในระดับจังหวัด วันที่ 25 มี.ค. จะนัดประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน กระทรวงพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ร่วมกับผู้แทนภาคเอกชน ติดตามสถานการณ์การผลิต การกระจายสินค้าทั้งในประเทศและส่งออก กำหนดแนวทางดำเนินการร่วมกันระยะต่อไปก.เกษตรฯ ตั้งศูนย์รับมือโควิด-19นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์และรับทราบมาตรการการเฝ้าระวัง ป้องกัน และการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ร่วมกับปลัดกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานในสังกัด ผ่านทางระบบเว็บคอนเฟอเรนซ์ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีปลัดกระทรวงเกษตรฯเป็นประธาน เพื่อรวบรวมข้อมูล ประสาน ออกมาตรการการเฝ้าระวังป้องกัน และการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ พร้อมย้ำขอให้ทุกหน่วยงานยังทำงานปกติ โดยเฉพาะงานบริการประชาชน เช่น โครงการจ้างงานกรมชลประทาน การติดตามสถานการณ์แต่ละพื้นที่และรายงานผล การเพิ่มช่องทางออนไลน์นำสินค้าเกษตรไปขายในเว็บไซต์ต่างๆ การเฝ้าระวังเรื่องโรคระบาดสัตว์ ให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเตรียมข้อมูลด้านการเกษตรให้พร้อมตลอดห่วงโซ่ Supply chain เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบ และชี้แจงให้ประชาชนทราบเพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก และการกักตุนอาหารให้ผู้ตรวจราชการของกระทรวงติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รายงานผลให้ปลัดทราบ เพื่อประเมินและสั่งการได้ทันการณ์วราวุธ สั่งปิดเที่ยวป่าอุทยานนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เผยว่า หลังหารือผู้บริหารในกระทรวง เป็นห่วงกรณีประชาชนที่เดินทางจาก กทม.กลับภูมิลำเนา เพื่อเป็นการป้องกันการรวมตัวกันอย่างที่เกิดปัญหาในบางพื้นที่ เห็นว่าควรปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศภายใน 48 ชม. หรืออีก 2 วันข้างหน้า ให้โอกาสเจ้าหน้าที่ พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่จองที่พักของอุทยานฯไว้ล่วงหน้าเตรียมตัว อีกทั้งยังถือโอกาสซ่อมแซมปรับปรุงอุทยานแห่งชาติโดยจะปิดจนกว่าจะดีขึ้นรัฐบาลมี 1.5 แสนล้านสู้โควิดผู้สื่อข่าวจากกระทรวงการคลังว่า สำหรับงบประมาณใช้เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบและแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลจะนำเงินจากงบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็น เป็นอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วงเงินไม่เกิน 100000 ล้านบาท ถ้าเงินดังกล่าวยังไม่เพียงพอ กระทรวงการคลังยังมีวงเงินสำรองจ่ายตามพระราช-บัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณ 2563 เป็นอำนาจนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง สามารถสั่งจ่ายสูงสุด 50000 ล้านบาท อีกแนวทางคือ การออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินฉุกเฉิน เหมือนในอดีตเพื่อดำเนินโครงการต่างๆ เช่น โครงการไทยเข้มแข็ง หรือโครงการบริหารจัดการน้ำของประเทศ เป็นต้น หากเทียบกับวิกฤติในครั้งนี้แล้วถือว่าหนักกว่าทุกครั้ง และถือเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินจำเป็นไม่พอออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินกู้เงินได้อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ของประเทศ ถือว่าเข้าเงื่อนไขออก พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉินแล้วตอนนี้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะใช้วิธีนี้หรือไม่ ส่วนขนาดของวงเงินกู้ขึ้นอยู่กับขนาดปัญหา หากโรคระบาดกระทบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศ 10% เท่ากับรายได้ประเทศหายไปราว 1 ล้านล้านบาท นอกจากนี้รัฐบาลมีภาระชดเชยเยียวยาคนที่ได้รับผลกระทบเป็นระยะ เพื่อให้คนเหล่านี้สามารถอยู่รอดได้ รวมถึงปลอดภัยจากโรคระบาด ดังนั้นจำเป็นต้องมีกระสุนหรือเม็ดเงินในมือเพียงพอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นเรื่องรอง จะออกหลังจากโรคระบาดสามารถควบคุมได้แล้วคนเลี่ยงเงินสดยอดออนไลน์พุ่งนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารในห้างและนอกห้างยังเปิดให้บริการตามปกติ ไม่มีปัญหาเรื่องการเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็ม ทุกตู้ยังเติมเงินอยู่สม่ำเสมอ เรื่องดังกล่าวเรียนผู้ว่าฯ กทม.ไปแล้ว ตอนนี้ตัวเลขการใช้เงินสดลดลงเพราะมีไอแบงกิ้งและพร้อมเพย์ ทำให้การธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีเพิ่มขึ้นถึง 10 ล้านรายการต่อวัน เนื่องจากคนหลีกเลี่ยงที่จะจับเงินสดเพื่อป้องกันโควิด-19ลดค่าน้ำ–ผ่อนจ่าย–คืนเงินประกันนายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.)กล่าวว่า กปน.กำหนดมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน 1.ลดค่าน้ำประปาร้อยละ 3 ให้กับผู้ใช้น้ำทุกประเภท 3 เดือนตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค. 2.ขยายระยะเวลาการชำระค่าน้ำประปาแก่ผู้ใช้น้ำที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจโรงแรม และกิจการที่ให้เช่าพักอาศัยโดยไม่คิดดอกเบี้ย และสามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน 6 เดือนใน พ.ค.-มิ.ย. โดยติดต่อที่สำนักงานประปาสาขาในพื้นที่ 3.คืนเงินประกันการใช้น้ำให้กับผู้ใช้น้ำประเภทที่ 1 ที่พักอาศัย ตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นไป ตามวิธีที่ กปน.กำหนด ทั้งนี้ ผู้วางเงินประกันการใช้น้ำตรวจสอบสิทธิและดำเนินการได้โดย 1.แจ้งผ่านช่องทางออนไลน์คือแอปพลิเคชัน MWAonMobile หรือ www.mwa.co.th เพื่อขอรับเงินคืน 2.ติดต่อได้ที่สำนักงาน กปน.ทั้ง 18 สาขาร้านอาหารปรับตัวจัดส่งถึงบ้านอีกด้านหนึ่งที่ปากซอยวิภาวดี 16 หรือซอยโชคชัยร่วมมิตร ร้านอาหารชื่อดังในซอยต่างปรับตัวตามนโยบาย กทม.ขอให้จำหน่ายเฉพาะอาหารแบบรอรับกลับบ้าน ทุกร้านปิดพื้นที่ด้านใน เปิดเฉพาะด้านหน้า แต่ยังคงมีลูกค้าขาประจำมาต่อคิวรอซื้ออาหารกลับบ้าน แต่ถือว่าบางตา เจ้าของกิจการบางร้านวางตะกร้าใส่เงินไว้ให้ลูกค้าเพื่อไม่ให้สัมผัสกัน ขณะที่บางร้านมีพนักงานรับส่งมานั่งรอรับส่งอาหารตามคำสั่งลูกค้าออนไลน์ สอบถามเจ้าของร้านเพิ่มพูน ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ-หมูตุ๋นชื่อดัง เผยว่า ตั้งแต่การระบาดโรคโควิด-19 ลูกค้าลดลงกว่าครึ่ง ลูกค้าประจำบางรายไม่กล้าออกจากบ้านมาซื้อหรือรับประทานที่ร้าน ทันทีที่มีประกาศห้ามนั่งทาน ต้องปรับรูปแบบการขายยุบจาก 2 ร้านเหลือร้านเดียว นอกจากนี้ยังเตรียมรับสั่งซื้อทางโทรศัพท์ จัดบริการส่งให้ถึงบ้านเพื่อไม่ให้กระทบต่อรายได้ในช่วงนี้ติวดีลิเวอรีส่งอาหารปลอดภัยพญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในการเสวนาการสั่งอาหารอย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ว่า วันที่ 26 มี.ค.นี้ เตรียมเชิญผู้ประกอบการส่งธุรกิจอาหารเจ้าหลักๆมาหารือ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ผู้บริโภค หลังมีการเผยแพร่ภาพ พนักงานส่งอาหารเอามือล้วงก้นก่อนรับ-ส่งอาหาร เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยของผู้บริโภค พร้อมเน้นย้ำขั้นตอนส่งต่ออาหารถึงมือผู้บริโภคต้องอบรม ผู้ส่งอาหารต้องไม่ส่งต่ออาหารแบบมือต่อมือ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เปิดให้ผู้สั่งหยิบอาหารด้วยตัวเอง ถ่ายภาชนะใส่อาหารใหม่พร้อมอุ่นอาหาร และล้างมือ ส่วนกรณีคนส่งอาหารรอคิวหน้าร้านแน่น ขอให้บริษัทอบรมร้านอาหารต้องจัดระเบียบให้มีระยะห่างระหว่างรอคิว ส่วนการปรุงอาหารขอแนะนำคนปรุงให้ใช้ช้อนกลางชิมอาหาร เลือกการปรุงอาหาร ไม่นำอาหารที่มีส่วนผสมกะทิ หรือสุกๆดิบๆ เพราะต้องใช้เวลาส่งนานอาจเสี่ยงอันตราย ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรีบกักตุนอาหาร เราสามารถเข้าถึงอาหารที่ปรุงสุกใหม่สดได้ แต่การรับส่งอาหารจากพนักงานส่งอาหารต้องพยายามใช้เวลาให้สั้นที่สุดกรมขนส่งงดสอบใบขับขี่นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เผยว่า ขณะนี้ตนลงนามประกาศ งดการสอบเพื่อออกใบอนุญาตขับขี่ใหม่แล้ว เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกาศกรมการขนส่งทางบกดังกล่าวจะเผยแพร่วันนี้ (23 มี.ค.) และมีผลตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.ถึง 12 เม.ย. ครอบคลุมการสอบใบอนุญาตใหม่ของสำนักงานขนส่ง 5 พื้นที่ส่วนกลางของกรุงเทพมหานคร และขนส่งจังหวัดปริมณฑล 5 จังหวัดคือ นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ส่วนงานต่อใบอนุญาตสำหรับผู้ถือใบอนุญาตเดิม ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกเตรียมระบบออนไลน์ไว้แล้ว ในส่วนประเด็นที่ต้องอบรม ผู้ถือใบอนุญาตเพิ่มเติมจะมีระบบ E-LEARNING เข้ามาอำนวยความสะดวก และสามารถแจ้งต่อทะเบียน ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จสามารถแวะเข้ามาถ่ายรูปที่สำนักงานขนส่งและรับใบอนุญาตขับขี่ที่ต่อได้ทันที ดังนั้นการต่อใบอนุญาตขับขี่เดิมจึงไม่มีผลกระทบต้องหยุดให้บริการธ.ก.ส.แจ้งปิด 11 สาขาใน กทม.นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยว่า ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 2) เมื่อวันที่ 21 มี.ค.63 เนื่องมาจากสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ธ.ก.ส. ขอปิดการให้บริการสาขาในห้างสรรพสินค้าและบางสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯชั่วคราว 11 สาขา ได้แก่ สาขาสยามสแควร์วัน บิ๊กซีดาวคะนอง เดอะสตรีท ดิโอลด์สยามพลาซ่า เดอะมอลล์รามคำแหง แฮปปี้แลนด์ เดอะโคสท์บางนา สถานีขนส่งสายใต้ สถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีพระราม 9 ขนส่งหมอชิต และตลาดยิ่งเจริญ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 12 เม.ย. หรือจนกว่ามีประกาศเปลี่ยนแปลง ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile เครื่องบริการธุรกรรมอัตโนมัติ (เอทีเอ็ม) เครื่องปรับสมุดบัญชี เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นตู้บุญเติม ตู้เติมสบาย และไปรษณีย์ไทยได้ตามปกติ หรือใช้บริการได้ที่สาขาอื่นในพื้นที่ใกล้เคียงออมสิน ปิดสาขาในห้าง 15 แห่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีกรุงเทพมหานครและ 5 จังหวัดปริมณฑลประกาศเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวระหว่างวันที่ 22 มี.ค.- 12 เม.ย. เพื่อลดการระบาดไวรัสโควิด-19 ดังนั้นธนาคารออมสินขอแจ้งปิดการให้บริการสาขาในศูนย์ การค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 15 แห่ง ได้แก่ สุพรีมคอมเพล็กซ์ เซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ เดอะมอลล์บางกะปิ อิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ไอคอนสยาม เซ็นทรัลพลาซาปิ่นเกล้า เดอะมอลล์ท่าพระ เซ็นทรัลพลาซาแจ้งวัฒนะ เซ็นทรัลพลาซารัตนาธิเบศร์ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน เซ็นทรัลเวสต์เกต และอินเด็กซ์บางใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.- 12 เม.ย. ลูกค้าสามารถใช้บริการของธนาคารออมสินสาขาใกล้เคียง หรือใช้บริการผ่านดิจิทัล แบงกิ้ง (Digital Banking) อาทิ MyMo My Card MyMo Pay GSB PAY Digital Salak หรือ PromptPay เป็นต้น และเครื่องเอทีเอ็มธอส.เปิดบริการ 18 สาขาในห้างผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แจ้งปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าพื้นที่กรุงเทพฯ และ 5 จังหวัดปริมณฑล ประกอบด้วย สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานีชั่วคราว รวม 37 สาขา ล่าสุด กรุงเทพมหานครประกาศเรื่องสั่งปิดสถานที่ชั่วคราวฉบับที่ 3 ระบุว่า การปิดห้างสรรพสินค้าไม่รวมพื้นที่ตั้งธนาคาร ดังนั้น ธอส.ขอแจ้งเปิดให้บริการสาขาพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 18 สาขา มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.ประกอบด้วย 1.สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 2.สาขาบิ๊กซี รังสิตคลอง 6 3.สาขาเพียวเพลส ราชพฤกษ์ 4.สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน 5.สาขาเมกา บางนา 6.สาขาสุขสวัสดิ์ 7.สาขาเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา 8.สาขาแฟชั่น ไอส์แลนด์ 9.สาขาเพลินนารี่ มอลล์ 10.สาขาเทสโก้ โลตัส พระราม 4 11.สาขาเจริญนคร 12.สาขาบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ 13.สาขาศรีนครินทร์ 14.สาขาเพียวเพลส รามคำแหง 110 15.สาขาหัวหมาก ทาวน์ เซ็นเตอร์ 16.สาขาเดอะมอลล์ บางแค 17.สาขาเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 และ 18.สาขาบิ๊กซี บางปะกอกไทยสมายล์หยุดบินระหว่างประเทศผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายการบินไทยสมายล์ประกาศหยุดบินเส้นทางระหว่างประเทศทุกเส้นทางชั่วคราว มีผลตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง สำหรับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ สายการบินอำนวยความสะดวกดังนี้ การขอคืนเงินเต็มจำนวนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ผู้โดยสารทำรายการได้ด้วยตนเอง ระบุการขอคืนเงินตามเงื่อนไขบัตรโดยสารผ่าน https://member.thaismileair.com/customerservice/refund สำหรับผู้โดยสารที่เปลี่ยนแปลงการเดินทาง และ/หรือเปลี่ยนแปลงเส้นทางบินทำได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม เป็นไปตามเงื่อนไขบริษัทฯ ผู้โดยสารสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ บริการลูกค้าไทยสมายล์ (Smile Service Center) 13 แห่งทั่วประเทศในเวลาทำการ อีเมล [email protected] หรือ Call Center โทร. 1181 หรือ 0-2118-8888 ตลอด 24 ชม.ศาลเลื่อนคดีทั่วประเทศเลี่ยงไวรัสสายวันที่ 23 มี.ค. นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เผยว่า นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เรียกประชุมคณะกรรมการ บริหารศาล เรื่องมาตรการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก.บ.ศ.มีมติเห็นชอบให้ออกประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่องการบริหารจัดการคดีภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังนี้ เรื่องการเลื่อนวันนัดคดี 1.ให้ศาลชั้นต้นทุกศาลเลื่อนนัดพิจารณาคดีทุกคดีที่นัดไว้ระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-31 พ.ค.63 กำหนดวันนัดใหม่ในเวลาที่เหมาะสม ยกเว้นคดีดังต่อไปนี้ คดีอาญา เช่น นัดสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ นัดตรวจพยานหลักฐานคดีที่จำเลยต้องขัง เป็นต้น คดีแพ่ง เช่น คดีร้องขอจัดการมรดก คดีร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเป็นผู้สาบสูญ คดีร้องขอเป็นผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ หรือขออนุญาตทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์ เป็นต้น และคดีอื่นที่เจ้าของสำนวนและองค์คณะพิจารณาเห็นว่า ดำเนินกระบวนการพิจารณาได้โดยไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัย ให้คำนึงถึงจำนวนคดี จำนวนคู่ความในห้องพิจารณา และจำนวนบุคคลที่จะต้องมารวมกันที่ศาลพระสังฆราชมีพระบัญชาตั้งโรงทานผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โพสต์ข้อความว่า ด้วยเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างกว้างขวาง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย การประกอบอาชีพ การดำเนินชีวิตประจำวัน และฐานะทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดความยากลำบากในหมู่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย หรือตกอยู่ในภาวะที่ต้องปรับรูปแบบการดำรงชีวิตกะทันหัน ทรงพระดำริว่าวัดเป็นศูนย์กลางชุมชนคู่กับสังคมไทยมานับแต่โบราณ สมควรให้วัดที่มีศักยภาพเพียงพอจะอนุเคราะห์ประชาชนผู้ประสบความยากลำบาก มีพระบัญชาโปรดให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (มส.) ประสานกับวัดทั่วราชอาณาจักรที่มีศักยภาพจัดตั้งโรงทานช่วยเหลือผู้ประสบความยากลำบาก ทั้งนี้ มิใช่การบังคับ ให้ประสานภารกิจร่วมกับหน่วยงาน บุคลากรทางการแพทย์ และการสาธารณสุขแต่ละพื้นที่ ปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงทาน และการแจกจ่ายให้เป็นไปตามหลักสุขอนามัย ไม่จัดพิธีการ พิธีกรรม กิจกรรม หรือการบริหารจัดการใดที่ต้องให้บุคคลจำนวนมากมารวมตัวกัน | คลัง ยันรัฐบาลมี 1.5 แสนล้าน สู้ไวรัสโควิด-19 ชี้ช่องถ้าเลวร้ายออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินกู้เงินได้ ก.พาณิชย์ เตรียมส่งรถธงฟ้า 200 คัน นำสินค้าอุปโภค บริโภคจำเป็นตระเวนจำหน่ายให้ประชาชนในกรุงเทพฯ | ข่าว,ทั่วไทย | ข่าวหน้า1,โควิด-19,ผลกระทบ COVID–19,ผลกระทบโควิด-19,อัศวิน ขวัญเมือง,ดีลิเวอรี,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1802318 |
ตูมตาม ยังเฮิร์ต ขาดการติดต่อ เมย์ 4ด. เผยไม่เข็ดรักแต่ขอเว้นวรรคพักมีแฟน | ล่าสุด ตูมตาม เจอ อุบัติเหตุหัวชนต้นไม้ในกองถ่ายละครเรื่อง เรือนร้อยรัก เลยถามว่า มีสาวๆคอยเป็น ห่วงบ้างมั้ย? ไม่มีเลย ตั้งแต่ โสดมาผมก็ทำงานอย่างเดียว ยิ่งโสดยิ่งฮอตรึเปล่า? ยังไม่ค่อย ได้เจอใครมาก ถามว่ามีคุยมั้ยก็มีคุยประปรายทั่วไป หรือเข็ดความรักรึเปล่า? ไม่เข็ดครับ เปิดใจนะ แต่ไม่มีใครเข้ามา รู้สึกว่าก็ค่อยๆดูกันไป กับเมย์ยังได้คุยกันมั้ย? ไม่ได้คุยเลย (ยิ้ม) ก็เหมือนหายไปจากสารบบเลย มันก็ค่อยๆ หายไปครับ,สเปกสาวยังเหมือนเดิมมั้ย? ไม่ได้มีสเปกครับ ถ้าเจอคนที่ใช่มันก็คือใช่ ถามว่าเลือกมากขึ้นมั้ยก็ไม่ได้เลือก แต่จะใช้เวลาศึกษากันให้มากขึ้นถ้าจะคบใคร คนมองว่าเรายังเฮิร์ตอยู่? ก็ยังมีบ้างครับ แต่เราเป็นคนบอกเลิกไม่ใช่เหรอ? ลองเลิกดูซิครับ จะได้รู้ว่ามันเจ็บทั้งสองฝ่าย ช่วงนี้เราเลยโหมงานหนักเพื่อลืมรักเก่ารึเปล่า? ก็ทำงานหนัก อยู่แล้ว แต่ช่วงนี้ก็ดีเพราะมันก็ยังมีช่วงที่เรารู้สึกแปลกๆ แต่หลังๆ ก็โอเค มีปัญหาอย่างนี้จะปรึกษาใคร? ส่วนใหญ่จะฟังธรรมะ ช่วงหลังๆ ผมดูรายการ New Heart New World แฝงเกี่ยวกับธรรมะ ใจเปลี่ยนโลกเปลี่ยน มันก็ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นจริงมากขึ้น ไปไหนมาไหนเพื่อนๆมีแนะนำสาวๆให้มั้ย? เค้าก็ถามเหงามั้ย ผมก็บอกว่าเหงาแต่ก็อยู่ได้ ตอนนี้ก็ห่างกันมา 3-4 เดือนแล้ว ระยะเวลาไม่นานแต่ก็เหมือนนานมาก เราเว้นวรรคกับการมีแฟนนานมั้ย? อยู่ที่ผมเองเลย เคยมีบางครั้งที่ผมเลิกกับใครแล้ว ก็คิดว่าอีก 2-3 ปีค่อยมีรักใหม่ ครั้งนี้ผมก็รู้สึกว่าแล้วแต่ที่จะมีเข้ามา แต่ผมรู้สึกว่ายังไม่อยากจะจริงจังตอนนี้ ขออยู่อย่างนี้ไปก่อน แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้น ถ้ามีใครเข้ามาก็คุยรู้จักกันได้ แล้วธุรกิจที่จะทำด้วยกันล่ะ? ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำแล้ว มันไม่ได้ติดต่อกันเลย. | เลิกรากับนางร้าย สาว เมย์–สิรินทร์ ก่อเกียรติ ไปไม่นาน หัวใจ ของพระเอกฮอต ตูมตาม–ยุทธนา เปื้องกลาง ก็ยังดูเฮิร์ตหนัก แถมยังมีข่าวเม้าท์ว่าทั้งคู่ไม่คุยกันแล้ว | null | ตูมตาม,ยุทธนา เปื้องกลาง,เมย์,สิรินทร์ ก่อเกียรติ,พระเอก,เฮิร์ตหนัก,ความรัก,แฟน,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/539758 |
สิทธิและการต่อรองในการใช้พื้นที่บนท้องถนน | เห็นว๊อยซ์ทีวีเชิญชวนให้ร่วมออกความเห็นเรื่องจักรยานควรอยู่บนท้องถนนหรือไม่แล้วทำให้นึกถึงบทความ Op Ed ของ Daniel Duane Is It OK to Kill Cyclists? ใน New York Times เมื่อสองปีที่ผ่านมา การที่คำถามที่คล้ายคลึงกันนี้ถูกตั้งขึ้นมาจากนักปั่นในซีกโลกอเมริกา ที่วัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนเอื้อต่อการปั่นจักรยานอย่างยิ่ง ทำให้เปลี่ยนความคิดไปในทันทีว่า ปัญหาอุบัติเหตุและความตายของนักปั่นจักรยานเป็นเรื่องของ โลกที่สาม ที่ ด้อยพัฒนา และไม่มีทั้งวัฒนธรรมการใช้ถนนที่มีความรับผิดชอบ หรือไม่มีทั้งเลนสำหรับรถจักรยาน เฉพาะในปี 2012 มีนักปั่นเสียชีวิตบนท้องถนนในสหรัฐฯจำนวน 726 คน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเมือง ตัวเลขนี้ไม่ใช่น้อยเลย เมื่อพิจารณาว่าเมืองใหญ่ของสหรัฐฯมีเลนจักรยานกันแทบทุกเมืองในสหรัฐฯดีเบตระหว่างจักรยาน vs. รถยนต์ ในเรื่องว่าท้องถนนควรถูกจัดการและแบ่งสรรอย่างไรดำเนินมาเป็นเวลาหลายทศวรรษและยังคงเป็นประเด็นเผ็ดร้อนจวบจนปัจจุบัน นักปั่นจำนวนไม่น้อยรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มต่อต้านพวกขับรถยนต์แบบไม่รับผิดชอบ อาทิ บางคนรณรงค์ด้วยตนเองด้วยการติดกล้องกับจักรยานเพื่อบันทึกภาพการขับรถที่ไร้ความรับผิดชอบของรถยนต์เพื่อนำมาประจาน เหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าการต่อสู้เพื่อพิทักษ์สิทธิของนักปั่นในสหรัฐยังคงเป็นวาระร่วมสมัย และปัญหาความตายของนักปั่นไม่ได้สิ้นสุดลงแม้จะมีเลนจักรยานเป็นของตนเองแม้ว่าประเด็นว่าด้วยวัฒนธรรมและการปลูกฝังวัฒนธรรมการขับขี่ยานพาหนะอย่างรับผิดชอบจะมีความสำคัญ และเป็นส่ิงที่ถกเถียงกัน แต่นักปั่นอเมริกันส่วนใหญ่เห็นว่า วัฒนธรรมการขับขี่รถยนต์จะดีขึ้นได้ มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสิทธิในการใช้ท้องถนนและความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างรถยนต์และจักรยานเสียก่อน ทั้งนี้ สำนึกที่ว่าถนนมีไว้เพื่อรถยนต์เท่านั้น ได้ทำให้ยานพาหนะประเภทอื่นต้องตกอยู่ในสถานะที่ต่ำกว่าและไร้อำนาจในการใช้พื้นที่ถนนไปโดยปริยาย สภาวะเช่นนี้มิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่กฎหมายที่ออกมาในยุคต้นเมื่อเริ่มมีการใช้รถยนต์ ภายใต้การผลักดันของอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้ทำให้รถยนต์เข้ามามีอภิสิทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆในการครอบครองพื้นที่ถนน (กฎหมายบังคับการให้ข้ามถนนตามที่กำหนดเพื่อความสะดวกของรถยนต์ --Anti-jaywalking law เป็นตัวอย่างที่ดีอันหนึ่งของการสถาปนาความต้องการของรถยนต์เหนือผู้ใช้ถนนอื่นๆ) นักปั่นเชื่อว่าจะปรับเปลี่ยนทัศนะคติที่ผูกขาดการใช้ถนนของรถยนต์ได้ ต้องกระทำผ่านการต่อสู้ให้มีกฎหมายที่ขยายอำนาจการคุ้มครองการใช้จักรยานบนท้องถนนให้เพิ่มมากขึ้น สำหรับประเทศที่รถยนต์เป็นวัฒนธรรมใหญ่ของท้องถนนเช่นสหรัฐอเมริกา การต่อสู้ในเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หลายทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขาก็สามารถผลักดันให้มีเลนจักรยาน และกฎหมายเกี่ยวกับจักรยานจนสำเร็จในแง่นี้ การคุ้มครองความปลอดภัยของนักปั่นจักรยานกับสิทธิและการสร้างอำนาจการต่อรองในการใช้พื้นที่ถนนจึงเป็นเรื่องเดียวกัน ในสหรัฐฯเรื่องนี้ทำได้ด้วยการรณรงค์เคลื่อนไหวอย่างแข็งขันของกลุ่มนักปั่น ซึ่งได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่มและองค์กรต่างๆมากมาย นอกเหนือจากเลนจักรยานและกฎหมายเกี่ยวกับจักรยานแล้ว แต่ละรัฐได้ออกกฎหมายเฉพาะที่เพิ่มอำนาจคุ้มครองรถจักรยานบนท้องถนนที่เข้มงวดขึ้นไปอีก แตกต่างกันไป ในรัฐโอเรกอน มีการบังคับใช้ข้อบัญญัติคุ้มครองผู้ใช้ถนนที่เปราะบาง (Vulnerable Roadway User Statute) ซึ่งลงโทษอย่างหนักต่อผู้ที่ขับขี่รถยนต์อย่างประมาทและขาดความระมัดระวังจนเป็นเหตุให้ผู้ใช้ถนนที่เปราะบางกว่า ไม่ว่าจะเป็นจักรยานหรือคนเดินเท้า ต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในรัฐวิสคอนซินมีการออกกฎหมายลงโทษผู้ขับขี่รถยนต์ที่เปิดประตูรถอย่างไม่ระมัดระวังจนเป็นเหตุให้รถจักรยานต้องบาดเจ็บ และในแคลิฟอร์เนีย กฎหมายใหม่เพิ่งออกมาบังคับให้รถยนต์ต้องรักษาระยะห่างจากรถจักรยานไม่น้อยกว่าสามฟุต หรือชะลอความเร็วลงเมื่อขับรถตามหลังรถจักรยาน เป็นต้น กฎหมายเหล่านี้เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ไม่เพียงคุ้มครองความปลอดภัยให้กับนักปั่นจักรยานทั้งหลาย หากแต่มีผลบังคับให้วัฒนธรรมการขับขี่รถยนต์ต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยปริยาย หรือพูดง่ายๆก็คือ ช่วยให้คนขับรถมองจักรยานในสถานะของผู้ใช้ถนนที่เท่ากันมากขึ้นแน่นอนที่ว่า บริบทของการจัดการเมืองและวัฒนธรรมบนท้องถนนในสหรัฐฯย่อมเทียบไม่ได้กับเมืองไทย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ การเติบโตของความเป็นเมืองจักรยานในหลายมลรัฐไม่ได้เป็นเรื่องของการมีผังเมืองที่ดี มีวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม มีทุน มีวัฒนธรรมการขับขี่ยวดยานที่รับผิดชอบที่จู่ๆก็เกิดขึ้นมา หรือเป็นไปเองตามธรรมชาติของประเทศที่เจริญแล้วอย่างมีมักเชื่อกัน หากส่วนหนึ่งเป็นผลพวงของกระบวนการต่อรองและต่อสู้อันยาวนานของกลุ่มคนกลายกลุ่ม รวมทั้งนักปั่นจักรยาน เพื่อให้เมืองและท้องถนนตอบสนองต่อผู้คนอย่างเท่าเทียมกัน และการจะทำเช่นนั้นได้ จำเป็นต้องมีการรวมกลุ่มและเรียกร้องสิทธิของตนเองอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการสร้างกฎหมายใหม่ๆที่คุ้มครองสิทธิของตนที่เข้มแข็งขึ้น | เห็นว๊อยซ์ทีวีเชิญชวนให้ร่วมออกความเห็นเรื่องจักรยานควรอยู่บนท้องถนนหรือไม่แล้วทำให้นึกถึงบทความ Op Ed ของ Daniel Duane Is It OK to Kill Cyclists? ใน New York Times เมื่อสองปีที่ผ่านมา | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน | จักรยาน,ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี,อุบัติเหตุบนท้องถนน | https://prachatai.com/journal/2015/05/59110 |
อรรณพ ย้ำเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯภายใต้กฎหมายไทย | นายอรรณพ สิงโตทอง รองประธานสโมสรชลบุรีเป็นตัวแทนของสโมสรสมาชิกที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเลือกตั้งที่กำหนดโดยฟีฟ่า และได้เดินทางไปที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยพร้อมกับนำหนังสือร้องขอให้เปิดประชุมใหญ่พิเศษเพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ มอบไว้ให้กับสมาคมซึ่งได้มอบหมายให้ตัวแทนออกมารับหนังสือใจความสำคัญสืบเนื่องจากจากนายกสมาคมฟุตบอลฯคนปัจจุบัน หมดวาระการบริหารงานตามข้อบังคับแล้ว และนายวรวีร์ มะกูดี ยังมีภารกิจในการดำเนินงานกิจการฟุตบอลทั้งไทย และต่างประเทศ หากปล่อยให้การเลือกตั้งยังคงยืดเยื้อออกไป ไม่มีกำหนดอาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย จึงได้รวบรวมสโมสรสมาชิกจำนวน 108 สโมสร ร้องขอให้เปิดการประชุมใหญ่พิเศษนายอรรณพ เปิดเผยว่า ได้ทำทุกอย่างตามกฎหมายของไทยที่ต้องการเสียงจากสโมสรสมาชิก 1 ใน 3 หรือประมาณ 60 สโมสร แต่ตนส่งรายชื่อมา 108 สโมสร ถ้าตามข้อบังคับต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 21 วันนับจากวันยื่นหนังสือ ซึ่งต้องไม่เกินวันที่ 23 กรกฎาคมทั้งนี้ นายอรรณพ ยังคงยืนยันต้องใช้กฎหมายไทย และหากการเคลื่อนไหวหนนี้ สมาคมฟุตบอลฯยังคงเพิกเฉย จะเคลื่อนไหวโดยเดินหน้ายื่นเรื่องให้การกีฬาแห่งประเทศไทยเข้ามาจัดการเลือกตั้ง พร้อมมั่นใจหากได้ตัวนายกสมาคมตามหลัก 184 เสียง ฟีฟ่าน่าจะมีความเข้าใจ แม้ก่อนหน้านี้จะมีคำขู่ แต่เชื่อว่าผลกระทบอาจจะไม่รุนแรงอย่างที่คิด | อรรณพ สิงโตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี ประกาศพร้อมจัดการเลือกตั้งตามกฎหมายของไทย หลังจากรวบรวมรายชื่อสโมสรสมาชิกเกิน 1 ใน 3 ยื่นหนังสือแก่สมาคมฟุตบอลฯตามข้อบังคับเพื่อจัดการเลือกตั้ง | กีฬา | กฎหมาย,ชลบุรี,ธรรมนูญ,นายกสมาคมฟุตบอลฯ,ฟีฟ่า,ฟุตบอล,อรรณพ,อรรณพ สิงโตทอง,เลือกตั้ง | https://news.thaipbs.or.th/content/181490 |
พ่อค้าที่ทุ่งใหญ่ เครียดผูกคอหวังลาโลก ปั๊มยื้อไม่ได้ตายขณะไปโรงพยาบาล | เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. ร.ต.อ.ศุภวิทย์ ไชยประพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีคนคิดจะผูกคอตายภายในหมู่บ้าน สวป. เลขที่ 16/23 หมู่ 11 ต.ท่ายาง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.ชำนาญ เพชรเกื้อ สายตรวจรถยนต์ มูลนิธิกู้ภัยช้างเผือก และมูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง ,ที่เกิดเหตุเป็นบ้านห้องแถวชั้นเดียวติดกันหลายห้อง เพื่อนบ้านช่วยกันแก้มัดเชือกไนล่อนที่ นายอมร รัตนบุรี หรือ แม็กซ์ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน อาชีพค้าขายเครื่องแกง ใช้ผูกคอตัวเองกับเหล็กดัดภายในห้องครัวหลังบ้าน นำร่างที่กำลังหายใจรวยรินวางลงกับพื้นปูน ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยช้างเผือก และมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งจะช่วยกันปั๊มหัวใจ ใช้เวลานานร่วมครึ่งชั่วโมง จากนั้นช่วยกันนำขึ้นรถกู้ภัยส่ง รพ.ทุ่งใหญ่ ,แพทย์รับตัวเข้าห้องฉุกเฉินช่วยกันปั๊มหัวใจอยู่ราว 6 นาที พบว่าสัญญาณชีพจรเริ่มดีขึ้น พร้อมทั้งฉีดยากระตุ้นหัวใจจนเห็นว่าอาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับ จึงได้ส่งตัวไปรักษาต่อยัง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช แต่ระหว่างทางที่นำส่งเข้าเขตพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ นายอมร เกิดมีอาการหัวใจหยุดเต้น พยาบาลที่นำส่งช่วยกันปั๊มหัวใจอีกรอบ ใช้เวลาอยู่พักใหญ่แต่ชีพจรไม่กลับคืน และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ญาติจึงนำศพกลับมายัง รพ.ทุ่งใหญ่ เพื่อรอเวลานานถึง 2 ชั่วโมง ให้แพทย์วินิจฉัยว่าเสียชีวิตลงอย่างสบ,นางดารุณี จันสีนาก หรือ จุ๋ม อายุ 40 ปี ภรรยา กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาสามีขับรถยนต์ถอยหลังไปชนกับรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ บริเวณตลาดนัดเปิดท้ายขวัญนรา ต.ท่ายาง จึงลงไปดูว่ามีความเสียหายมากน้อยเพียงใด เมื่อลงไปพบว่ารถจักรยานยนต์ที่ถูกชนไม่ได้รับความเสียหาย และตามหาเจ้าของรถไม่พบจึงได้ขับรถกลับบ้าน หลังเกิดเหตุคู่กรณีคันที่ถูกชนได้ไปโวยวายกับเจ้าของตลาดเพื่อให้ตามหาคนที่ชนมารับผิดชอบค่าเสียหาย ,นายอมร จึงแสดงตนเพื่อรับผิดชอบ ด้วยการให้ประกันภัยรถยนต์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย และอยู่ระหว่างที่ทางประกันภัยกำลังทำเรื่องเบิกเงินเพื่อเข้าบัญชีให้กับคู่กรณี แต่ทางฝ่ายคู่กรณีไม่ยอม จะขอเรียกเงินสดจากทางนายอมร จนทำให้ นายอมร เกิดความเครียดตั้งแต่นั้นมา ไม่ยอมพูดจากับคนในบ้าน ได้แต่เก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว กระทั่งสบโอกาสไม่มีใครอยู่ ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองกับเหล็กดัดภายในห้องครัว จนมีภรรยามาพบ แล้วแจ้งเพื่อนบ้านเข้าช่วยเหลือช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่สุดท้ายยื้อชีวิตไว้ไม่อยู่ เสียชีวิตลงระหว่างนำส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ในเวลาต่อมา. | สุดยื้อพ่อค้าขายเครื่องแกง เครียดปมถอยเก๋งชน จยย.ที่ตลาด คู่กรณีไม่รอประกันอยากได้เงินสด ซึมเศร้าอยู่หลายวัน สุดท้ายมาผูกคอตาย แต่มีคนมาเห็นช่วยปั๊มฟื้น ก่อนนำส่ง รพ.แต่ก็เสียชีวิตระหว่างทาง | ข่าว,ทั่วไทย | พ่อค้าเครื่องแกง,สภ.ทุ่งใหญ่,นครศรีธรรมราช,ผูกคอตาย,ปั๊มหัวใจ ยื้อชีวิต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1441113 |
ปลอมไลน์ รองต่อ สาวแฟนคลับอ้างเอาไว้ขู่ผัว ให้ร่วมหลับนอนด้วย | เมื่อวันที่ 4 ส.ค.61 ที่ กก.ปพ.บก.ป. (คอมมานโด โชคชัย 4) พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.วชิรา ยาวไทยสงค์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมบุคคลที่ได้ปลอมแอปพลิเคชันไลน์ แอบอ้างใช้ชื่อว่า Torsak Commanbo และใช้รูปของ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นโปรไฟล์ เกรงว่าจะใช้ไปในทางผิดกฎหมาย,พ.ต.ท.วชิรา ยาวไทยสงค์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. กล่าวว่า หลังทราบว่ามีเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่าบุคคลที่สร้างไลน์ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปลอมขึ้นมาคือ น.ส.ยุวดี หรือยุ้ย โกศล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.9 ต.จานใหญ่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นได้สืบสวนหาตัวจนพบว่า น.ส.ยุวดี ได้มาอาศัยอยู่ที่หอพักรายวัน บ้านจันทราเพลส เลขที่ 600/8 ถ.รถไฟตะวันตก ซ.14 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ,พ.ต.ท.วชิรา กล่าวต่อว่า หลังได้พบ น.ส.ยุวดี เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาสอบถามที่ กก.ปพ.บก.ป. เบื้องต้น น.ส.ยุวดี รับสารภาพว่า เป็นคนสร้างแอปพลิเคชันไลน์ปลอมของ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ขึ้นมาจริง โดยใช้ชื่อว่า Torsak Commanbo และใช้รูปของ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นโปรไฟล์ เพื่อหลอกให้นายอนันต์ ศรีรุ่งเรือง อายุ 39 ปี ชาว จ.สมุทรสงคราม แฟนหนุ่ม ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายอะไหล่เชียงกง อยู่ที่ จ.นครปฐม โดยอ้างกับแฟนว่า พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นเจ้านายของตน ขอให้นายอนันต์อย่าทิ้งตนและให้เดินทางมาหลับนอนกับตนบ่อยๆ อีกทั้งยังหลอกแฟนหนุ่มว่าขณะนี้ตั้งท้องได้ 6 เดือนแล้ว หากไม่เชื่อฟังจะฟ้อง พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ เล่นงานทันที,น.ส.ยุวดี กล่าวต่อว่า ที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพียงเพราะไม่อยากให้แฟนหนุ่มทิ้งตนไปไหน ไม่ได้มีเจตนาแอบอ้างให้ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนได้ลบไลน์ปลอมดังกล่าวทิ้งไปตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ส่วนตัวมีความรักและศรัทธาในตัว พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ มานานแล้ว ติดตามผลงานการทำงานของท่านผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว และทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มาตลอด ตนได้สำนึกผิดในการกระทำในครั้งนี้ จึงอยากจะกราบขอขมาและกราบขอโทษ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย,ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้ น.ส.ยุวดีโทรศัพท์ติดต่อขอขมา พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ โดย น.ส.ยุวดี ได้กล่าวขอโทษผ่านทางโทรศัพท์พร้อมกับกล่าวสำนึกผิดที่ได้กระทำลงไป ซึ่ง พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้มีเมตตาและให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับว่าคราวหน้าอย่าประพฤติตัวแบบนี้อีก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.ยุวดีไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองนครปฐม ก่อนสืบสวนสอบสวนว่า น.ส.ยุวดีได้นำไลน์ปลอมไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินผู้อื่นหรือไปสร้างความเสื่อมเสียให้กับ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ หรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำดังกล่าวก็จะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป,ด้าน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบก.ป. กล่าวว่า หลังจากทราบว่ามีการปลอมแปลงไลน์ส่วนตัว จึงได้ให้ฝ่ายสืบสวนติดตามหาตัว กระทั่งจับกุมเอาไว้ได้ดังกล่าว ได้พูดคุยกับ น.ส.ยุวดี ทางโทรศัพท์แล้ว พบว่าเป็นแฟนเพจของตน และต้องการแอบอ้างไลน์เพื่อใช้ข่มขู่ฝ่ายชายเท่านั้น ไม่ได้นำไปใช้เพื่อหาผลประโยชน์ใดๆ ตนไม่ได้ติดใจเอาความ จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนไม่ให้กระทำแบบนี้อีกไม่ว่ากับใครก็ตาม และไม่ได้ดำเนินคดีเพียงแต่ทำบันทึกและตรวจสอบประวัติไว้แค่นั้นก่อนปล่อยตัวไป. | คอมมานโดกองปราบ รวบสาวแสบปลอมไลน์ ต่อศักดิ์ รองผู้การกองปราบ ขู่แฟนหนุ่มให้มาหาบ่อยๆ ร่วมหลับนอน สารภาพรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้านมือปราบสายธรรมะให้อภัยไม่เอาเรื่อง เตือนอย่าทำอีก | ข่าว,อาชญากรรม | ปลอมไลน์,รองต่อ,ต่อศักดิ์ สุขวิมล,ขู่ผัว,ร่วมหลับนอน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1348169 |
เส้าหลินขอไทยช่วยสร้าง 7พระประธาน ออกแบบ-ปลุกเสก | เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่วัดไตรมิตรวิทยาราม มีพิธีแถลงข่าวการจัดสร้างพระประธานแห่งวัดเส้าหลินเหนือ เมืองเทียนจิน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีพระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ และซื่อหย่งซิ่น เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ในฐานะรองประธานสมาคมพุทธศาสนาแห่งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมเจ้าอาวาสวัดจากสาธารณรัฐประชาชนจีนอีก 12 แห่งร่วมแถลงข่าว โดยพระพรหมมังคลาจารย์ กล่าวว่า ซื่อหย่งซิ่น เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ได้มาขอให้เป็นประธานในการจัดสร้างพระประธานแห่งวัดเส้าหลินเหนือ เมืองเทียนจิน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่บนภูเขาปั้วซัวหือภูเขาผานซาน สร้างสมัยราชวงศ์หงวน อายุประมาณ 1,500 ปี,โดยให้จัดสร้างพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 7 องค์ ได้แก่ พระศากยมุนีพุทธเจ้า พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธเจ้า ทั้ง 3 องค์เป็นพระประธานขนาดใหญ่ มีความสูง 4.50 เมตร หน้าตักกว้าง 3.50 เมตร และอีก 4 องค์ ประกอบด้วยพระอานนท์ พระกัสสปะ ตั๊กม้อ และเทพผู้พิทักษ์ หรือจีน่าหลอหวาง ความสูงประมาณ 2 เมตร ทั้ง 7 องค์ ทำจากเนื้อนวโลหะทั้งหมด ซึ่ง ซื่อหย่งซิ่น เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินได้ขอให้ทำพิธีในประเทศไทยทั้งหมด ตั้งแต่การออกแบบ การสร้าง การหล่อพระพุทธรูปและการปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เพื่อนำไปประดิษฐานเป็นการถาวรยังวัดเส้าหลินเหนือ เมืองเทียนจิน ในช่วงกลางปี 2558,พระพรหมมังคลาจารย์ กล่าวต่อว่า การจัดสร้างพระพุทธรูปทั้ง 7 องค์ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พระสงฆ์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาให้พระสงฆ์จากประเทศไทยจัดสร้างและทำพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาทั้งหมด เพราะมีความเชื่อมั่นแม้จะนับถือพระพุทธศาสนาต่างนิกายกันก็ตาม ที่สำคัญพระพุทธรูปทั้ง 7 องค์ ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเถรวาทหรือมหายานก็ตาม โดยในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ จะมีพิธีเททองหล่อพระประธานวัดเส้าหลินเหนือ ที่วัดวชิรธรรมาราม อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศและรักษาการเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เป็นประธาน จากนั้นจะมีพิธีปลุกเสกครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อให้เป็นประวัติศาสตร์ของทั้ง 2 ประเทศ,ด้านซื่อหย่งซิ่น เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน กล่าวว่า วัดเส้าหลินเหนือเป็นวัดเก่าแก่ ถูกเผาทำลายมาตั้งแต่ครั้งสงครามที่มีกองกำลังจาก 8 ประเทศบุกสาธารณรัฐประชาชนจีนรวมทั้งถูกทำลายสมัยปฏิวัติวัฒนธรรม การบูรณะวัดเส้าหลินเหนือเริ่มมาตั้งแต่ปี 2552 โดยจะทำให้มีรูปแบบเหมือนกับสมัยราชวงศ์ซ่งหรือทำให้เหมือนวัดเส้าหลินแบบดั้งเดิมในยุคก่อตั้ง โดยวางแผนบูรณะไว้ 49 แผน ขณะนี้อยู่ระหว่างแผนขั้นที่ 3 การขอให้พระพรหมมังคลาจารย์เป็นประธานจัดสร้างครั้งนี้ เนื่องจากเชื่อมั่นและเป็นมิตรสหายกันมานาน แม้ว่าพุทธศาสนาระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนจะต่างกัน แต่เราเชื่อในพุทธศาสนาเหมือนกัน การจัดสร้างพระพุทธรูปทั้ง 7 องค์ จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพุทธศาสนาของ 2 ประเทศแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น | ฮือฮาวัดเส้าหลินขอให้พระสงฆ์ไทยจัดสร้างพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 7 องค์ พระศากยมุนีพุทธเจ้า-พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า-พระอมิตาภพุทธเจ้า-พระอานนท์-พระกัสสปะ-ตั๊กม้อ-เทพผู้พิทักษ์ | null | วัดเส้าหลิน,สร้างพระพุทธรูป,พระศากยมุนีพุทธเจ้า,พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า,พระอมิตาภพุทธเจ้า,พระอานนท์,พระกัสสปะ,ตั๊กม้อ,เทพผู้พิทักษ์,พระพรหมมังคลาจารย์,เจ้าคุณธงชัย,วัดไตรมิตร,ข่าวการศึกษา,ศาสนาพุทธ | https://www.thairath.co.th/content/469475 |
ส.บอล-ฝ่ายพัฒนาฟุตซอลจัดงานแถลงข่าว เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2018 | วันที่ 18 เม.ย.61 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ ฝ่ายพัฒนาฟุตซอล จัดงานแถลงข่าว ก่อนการแข่งขัน เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก ฤดูกาล 2018,การแถลงข่าวครั้งนี้มี คุณ สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, คุณ ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกฝ่ายสื่อสารองค์กร, คุณ อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลไทย, คุณ ฐิติพงศ์ เขียวไพศาล หัวหน้าฝ่ายงานการตลาด และงานขาย กลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท เอไอเอส จำกัด (มหาชน) และ คุณ ณฐนนท์ ดนัยพิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายออกอากาศ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด สถานี โทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ร่วมแถลงข่าว,ซึ่ง คุณ สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มอบเงินสนับสนุนให้ทุกสโมสร จำนวน 400,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 งวด ซึ่งวันนี้เป็นงวดแรกจำนวน 200,000 บาท และจะมีการมอบเงินสนับสนุนอีก 200,000 บาทในช่วงเลกสอง,โดยคุณ สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายของการกีฬาแห่งประเทศไทยมองว่าฟุตซอลเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่มีความสำคัญและเป็น 1 ใน13 กีฬาอาชีพ รวมทั้งการกีฬาให้การสนับสนุนในเรื่องของงบประมาณและเงินรางวัลในการแข่งขันมาโดยตลอด ซึ่งเงินรางวัลก็เพิ่มขึ้นทุกปี และยังคงให้การสนับสนุนในการเป็นเจ้าภาพรายการใหญ่ๆ หรือส่งไปแข่งขันต่างประเทศ ซึ่งแนวทางในการพัฒนากีฬาฟุตซอลจำเป็นต้องพัฒนาให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมทั้งวางรากฐานไปถึงระดับเยาวชน ขยายและเปิดโอกาสให้กับเยาวชนมากยิ่งขึ้น,ด้าน คุณ ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกฝ่ายสื่อสารองค์กร กล่าวว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีนโยบายในการยกระดับมาตรฐานวงการกีฬาฟุตบอล, ฟุตซอล รวมถึงฟุตบอลชายหาด เพื่อให้พัฒนาขึ้นเทียบเท่ามาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของแฟนกีฬา ทั้งชาวไทยและระดับนานาชาติ ในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านการพัฒนาบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนกีฬาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกสอน, ผู้ตัดสิน และนักกีฬา ให้ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง,นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ มีความยินดีที่ภาคเอกชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนกีฬาฟุตซอล อันจะช่วยส่งเสริม ประชาสัมพันธ์กีฬาฟุตซอลและผลงานอันน่าภาคภูมิใจของทีมฟุตซอล ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนและเยาวชนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่าน และหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมสร้างความสำเร็จให้แก่ ฟุตซอล ไทยลีกในปีนี้ ขอบคุณครับ,ขณะที่ บิ๊กป๋อม อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลไทย กล่าวว่า สำหรับการจัดแข่งขันฟุตซอลไทยลีกฤดูกาล 2018 นี้ ก็ยังคงเน้นย้ำที่จะต้องยกระดับพัฒนาวงการฟุตซอลขึ้นไป โดยจะมีเรื่องของสนามแข่งขันที่จะบังคับใช้ ซึ่งขนาดโดยรวมจะต้องไม่ต่ำกว่า 750 ตารางเมตร รวมถึงการตั้งคณะกรรมการคลับไลเซนซิ่งเพื่อดำเนินการให้ทุกทีมได้มีใบอนุญาตตามเป้าหมายที่เราวางไว้คือในปี 2020 รวมถึงการนำแผนพัฒนาฟุตซอลไทยโซลูชั่น 5.0 มาใช้พัฒนาให้ความรู้กับทุกสโมสร ซึ่งจะมีทำเวิร์กช็อป 2 ช่วงด้วยกันช่วงแรกคือช่วงเดือน พฤษภาคมนี้ และช่วงที่ 2 เดือนสิงหาคมหรือช่วงปิดเลกแรกนั่นเอง อีกทั้งจะยังเห็นได้ว่าก่อนเปิดฤดูกาลในปีนี้หลายทีมได้มีการเตรียมตัวที่ดีขึ้นมีการเรียกซ้อมตั้งแต่ต้นปี และยังมีรายการ ปรีซีซั่นคัพ เข้ามาเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมก่อนเปิดฤดูกาล ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นของสโมสรฟุตซอลลีกสูงสุดของเมืองไทย,สำหรับการแข่งขันเอไอเอส ฟุตซอลไทยลีกฤดูกาล 2018 มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้ง หมด 14 ทีม ดังนี้ ทีม แคท เอฟซี, กรมทางหลวง, การท่าเรือ เอเอสเอ็ม (รองแชมป์เก่า), บางกอก ซิตี้, พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี (แชมป์เก่า), มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, ราชนาวี, ศรีปทุม จีเอสบี ไทย-เทค, ศรีสะเกษ, สมุทรสาคร, สุราษฎร์ธานี, ห้องเย็นท่าข้าม และแบ็งค็อก บีทีเอส เอฟซี,สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดเปิดสนาม ในวันที่ 21 เมษายน 2561 คู่แรก เป็นการพบกันของ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรีเอฟซี แชมป์เก่า เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เวลา 14.00 น. ที่สนาม กีฬาอเนกประสงค์ สถาบันการพลศึกษา จังหวัดชลบุรี ถ่ายทอดสดทาง ช่องไทยรัฐทีวี และแอปพลิเคชัน AIS PLAY และกล่อง AIS PLAY BOX,คู่ที่ 2 แบงค็อก บีทีเอส เอฟซี พบกับ ราชนาวี เวลา 16.00 น. ที่สนาม 72 พรรณษา มีนบุรี ถ่ายทอดสดทาง แอปพลิเคชัน AIS PLAY และกล่อง AIS PLAY BOX,คู่ที่ 3 สุราษฎร์ธานี พบกับ ศรีสะเกษ ในเวลา 18.00 น. ที่สนาม ช้างตาปีอารีน่า ถ่ายทอดสดทางแอปพลิเคชัน AIS PLAY และกล่อง AIS PLAY BOX,สำหรับการแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน 2561 มีทั้งหมด 4 คู่,เวลา 16.00 น. สมุทรสาคร พบกับ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนาม โรงเรียนสมุทรสาครวุฒิชัย และห้องเย็นท่าข้าม พบกับ กรมทางหลวง สนาม ห้องเย็นท่าข้ามสนามชัย ถ่ายทอดสดทาง แอปพลิเคชัน AIS PLAY และกล่อง AIS PLAY BOX,เวลา 18.00 น. การท่าเรือ เอเอสเอ็ม พบกับ บางกอกซิตี้ ที่สนาม โกดัง สเตเดี้ยม และ แคท เอฟซี พบกับ ศรีปทุม จีเอสบี ไทย-เทค ที่สนาม มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ สะพานใหม่ ถ่ายทอดสดทาง แอปพลิเคชัน AIS PLAY และกล่อง AIS PLAY BOX | สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ-ฝ่ายพัฒนาฟุตซอลจัดงานแถลงข่าวก่อนเปิดศึก เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2018 ที่จะประเดิมสนามนัดแรก 21 เม.ย.นี้ | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก,เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2018,สกล วรรณพงษ์,ฟุตซอล,อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1258876 |
ไต้ฝุ่น จ่ามี เคลื่อนตัวเข้าใกล้ญี่ปุ่น -ยกเลิกเกือบ 1000 เที่ยวบิน | วันนี้ (30 ก.ย.61) พายุไต้ฝุ่นจ่ามีเคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจัดว่ามีความรุนแรงระดับ 2 จากทั้งหมด 5 ระดับ กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ญี่ปุ่น ส่งผลให้ลมกระโชกแรงและคลื่นสูงในอ่าวเมืองคาโงชิมะ เกาะคิวชู ทำให้เรือทั้งหมดจอดเทียบท่าส่วนสนามบินคันไซปิดทำการชั่วคราวตั้งแต่เวลา 11.00 น.วันนี้ (30 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นจนถึงเวลา 06.00 น.พรุ่งนี้ (1 ต.ค.) และยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 1000 เที่ยว ขณะที่รถไฟความเร็วสูงทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น รวมทั้งเกียวโต โอซากา และโกเบ ต้องระงับการให้บริการด้านสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 38 คนและต้องอพยพยประชาชนประมาณ 349000 คน ขณะที่ประชาชนกว่า 300000 หลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ส่วนสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นพยากรณ์ว่า พายุไต้ฝุ่นจ่ามีทำให้เกิดลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก อาจส่งผลให้ดินถล่มและน้ำท่วม รวมทั้งฟ้าฝ่าและทอร์นาโดทั่วประเทศ พร้อมทั้งเตือนให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักเพื่อความปลอดภัยนอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียวขอให้คนไทยและนักท่องเที่ยวไทยตรวจสอบตารางการเดินรถไฟและตารางการบิน รวมทั้งเผื่อเวลาในการเดินทาง หากต้องการสอบถามหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว หมายเลข + 81 (0) 90 4435 7812 และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา หมายเลข +81 (0) 90 7488 5672 และ (0) 90 1895 0987) | พายุไต้ฝุ่นจ่ามีเคลื่อนตัวเข้าใกล้ญี่ปุ่น ส่งผลให้ลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก ขณะที่สนามบินคันไซต้องปิดทำการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ (30 ก.ย.) จนถึงวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) และยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 1000 เที่ยว | ต่างประเทศ | พายุ,ไต้ฝุ่น,จ่ามี,ญี่ปุ่น,คันไซ,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/274827 |
พิสิษฐ์ ยัน สื่อต้องมีใบประกอบวิชาชีพ เปรียบเปรยไม่ต่างจากนวดแผนโบราณ | เมื่อวันที่ 26 เม.ย. พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เปิดเผยว่า เนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาคือเรื่องโทษ กรณีหากนักข่าวไม่มีใบอนุญาต ตามเวลาที่กำหนดจะมีความผิด จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท รวมถึงองค์กรสื่อที่รับนักข่าวที่ไม่มีใบอนุญาตมาทำงานก็จะมีความผิดจำคุกและปรับเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ยังเป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้นักข่าวที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตและถูกไล่ออกจากที่หนึ่งไปทำงานกับอีกที่หนึ่ง,เรื่องโทษที่เพิ่มขึ้นมานี้เจตนารมณ์ไม่ต้องการลงโทษใคร แต่มองเรื่องการบังคับว่า คุณต้องไปขอรับใบอนุญาต เรามานั่งคิดกันว่าหากคนที่ไม่ยอมขึ้นทะเบียนขอใบอนุญาตจะทำอย่างไร เราก็ไปเทียบเคียงกับกฎหมายที่มีอยู่ ขนาดนวดแผนโบราณไม่มีใบอนุญาตยังมีโทษจำคุกสองปีเบากว่าคุณอีก สื่อเวลาไปทำอะไรเสียหายทีผลกระทบวงกว้างกว่าเยอะ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าว,พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องใบอนุญาตสื่อนั้น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะมีความชัดเจน แต่จะมีประเด็นตรงสื่อออนไลน์ ซึ่งเราขีดวงจำกัดว่าผู้ประกอบวิชาชีพสื่อออนไลน์นั้น ต้องมีเจตนา ทำต่อเนื่อง และมีรายได้ทั้งทางตรงทางอ้อมหรือไม่ ตรงนี้ทางสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติจะเป็นคนกำหนดรายละเอียด เราแค่วางกรอบคร่าวๆ. | พิสิษฐ์ ยัน สื่อต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ไม่ต่างจากนวดแผนโบราณ ถ้าใครไม่มีก็ต้องจำคุก เผยร่างก.ม.คุมสื่อ หากต้นสังกัด บริษัท รับนักข่าวไม่มีใบอนุญาตมาทำงาน ต้องถูกจำคุกด้วย | ข่าว,การเมือง | พ.ร.บ.ควบคุมสื่อ,ก.ม.คุมสื่อ,สปท.,ใบประกอบวิชาชีพสื่อ,พิสิษฐ์ เปาอินทร์ | https://www.thairath.co.th/news/politic/923782 |
ต่อยอดความสะดวกสบายของชีวิตคนเมือง ด้วยระบบ e-Payment ของการไฟฟ้านครหลวง (MEA) [Advertorial] | เทคโนโลยีทำให้การดำเนินชีวิตของผู้คนง่ายขึ้น ไม่เพียงแต่เป็นการลดต้นทุนที่อยู่เดิมให้ลดลงหรือหมดไปเท่านั้น ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงบริการที่ดีได้อย่างแพร่หลายรวดเร็วอีกด้วย แบรนด์ต่างๆ จึงพัฒนาระบบงานด้านไอทีให้เติบโตสอดรับกับการขยายตัวของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและสังคมเมืองที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ไม่เพียงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความมั่นคงของผู้ใช้ไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ แต่ยังใส่ใจคุณภาพด้านการบริการด้วยโซลูชันที่สอดรับกับเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านระบบการชำระเงินออนไลน์หรือ e-Payment เพิ่มเติมด้วย THE STANDARD ขอพาผู้อ่านรู้จักกับอีกความตั้งใจในการสร้างสิ่งใหม่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยผ่านบทความนี้ชุมชนเมืองขยายตัว เทคโนโลยีคือตัวช่วยสำคัญในวันที่เวลาน้อยลงไปทุกทีการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสังคมเมือง (Urbanization) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศทั่วโลก เกิดการย้ายถิ่นฐานของแรงงานไปสู่พื้นที่ที่มีศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐาน ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตมากกว่า จะเห็นได้จากโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์บริเวณชานเมืองที่ขยายตัวอย่างมาก ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองยังปรับเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งที่น่าตกใจ สะท้อนความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่อยากใช้ชีวิตสะดวกสบายในเมืองมากกว่าจุดที่อยู่ห่างไกลออกไปจากข้อมูลของ World Resources Report รายงานว่า พื้นที่เมืองจะขยายตัวจากปี 2000 ไปอีกสามเท่าตัวภายในปี 2030 หรืออีกเพียง 11 ปีนับจากนี้ หรือเท่ากับเติบโตอีก 30% และชนชั้นกลางจะกลายเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศในสัดส่วน 55% ของประชากรทั้งหมด เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีประชากรรวมกันหลายสิบล้านคน ทำให้เกิดการบริโภคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่นี้สูงมากกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศเทคโนโลยีกลายเป็นตัวเร่งที่มีบทบาทอย่างสูงสุดต่อพฤติกรรมคนเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ทุกคนได้รับข้อมูล ช่องทางในการติดต่อสื่อสาร รวมทั้งประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคทุกวันนี้กลายเป็นคนใจร้อน เนื่องจากคุ้นเคยกับการตอบสนองอย่างทันท่วงที (Instant Response) จากสมาร์ทโฟนที่ใช้กันอยู่ เมื่อต้องการซื้อสินค้าหรือใช้บริการใดๆ ก็แทบจะต้องการสิ่งที่อยากได้ในทันที ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ยิ่งมีเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น ยิ่งทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าตัวเองมีเวลาน้อยลงไปทุกทีนี่คือการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ หรือเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นกับโลกทั้งใบ จึงเกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ขึ้นเพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่แสวงหาความสะดวกสบาย รวดเร็ว ไว้ใจได้ ธุรกิจที่เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องนับจากยุค 3G มาจนถึง 5G นี้คือการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Paymentจากข้อมูลของ Merchant Savvy พบว่า แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ของบริษัทไอทีระดับโลกเป็นพื้นที่สำคัญที่มีผู้ใช้งานประจำจำนวนมาก เกิดธุรกรรมอยู่ทุกเสี้ยววินาที และทำให้การใช้บริการ e-Payment เติบโตขึ้นจนเป็นวิถีใหม่ (New Normal) ในหลายประเทศไปแล้ว ที่ชัดเจนคือประเทศจีน ซึ่งมีผู้ใช้งานประจำของ WeChat และ Alipay กว่า 1 พันล้านคน เช่นเดียวกับเครือข่ายของผู้ใช้สมาร์ทโฟน Samsung ที่มีผู้ใช้งาน Samsung Pay ราว 1 พันล้านคนการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เป็นช่องทางที่เติบโตแบบก้าวกระโดดและชัดเจนกว่าการชำระเงินประเภทอื่น โดยคาดว่าภายในปี 2022 การชำระค่าสินค้าและบริการด้วยเงินสดจะลดต่ำลงกว่า 20% การจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 25% การใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตจะเติบโตเล็กน้อยในช่วง 30% และการชำระเงินผ่านมือถือจะเติบโตใกล้เคียงสัดส่วน 30% ของการชำระเงินทั้งหมดธนาคารแห่งประเทศไทยผลักดันเรื่อง e-Payment มาอย่างต่อเนื่องและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยบริการพร้อมเพย์ที่ทำให้การโอนเงิน ชำระเงิน เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดเท่าที่เคยทำมา จากนั้นจึงมีการชำระเงินด้วย Standard QR Payment รวมทั้งบริการอื่นๆ ที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์เร่งปรับตัว ยกระดับการบริการสำหรับลูกค้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนต้นทุนที่สำคัญของคนเมืองในยุค 4.0 นี้ หนีไม่พ้นต้นทุนด้านเวลา การทำงานที่หามรุ่งหามค่ำประกอบกับการจราจรที่แสนจะติดขัด ทำให้เวลาแต่ละวินาทีมีค่ามาก และบางกิจกรรมที่คุ้นเคยอย่างการชำระบิลค่าสาธารณูปโภคพื้นฐานกลับกลายเป็นต้นทุนที่มีผลต่อการใช้ชีวิตและการตัดสินใจเดินทางอย่างหลีกเลี่ยงมิได้แทบทุกองค์กรทั้งหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน จึงให้ความสำคัญกับระบบ e-Payment ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อการบริการที่รวดเร็วและเกิดภาระด้านการเงินกับผู้ใช้งานที่ต่ำที่สุดหรือไม่มีเลยเช่นเดียวกับระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ของ MEAชีวิตสะดวกขึ้น ด้วยบริการจ่ายค่าไฟผ่าน e-Payment ของ MEA ในฐานะองค์กรด้านพลังงานที่ดำเนินการเรื่องความมั่นคงทางพลังงานและมุ่งมั่นในการตอบสนองต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ได้ยกระดับการพัฒนาคุณภาพงานบริการเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีของสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) โดยการพัฒนาระบบการชำระเงินในรูปแบบ e-Payment ขึ้นมาเดิมนั้นช่องทางการชำระค่าไฟฟ้าของ MEA จะสามารถชำระได้ที่ทำการการไฟฟ้านครหลวงเขตต่างๆ ที่กระจายไปตามแต่ละพื้นที่ เลือกชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ของธนาคารพาณิชย์ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยหรือเลือกชำระเงินกับตัวแทนให้บริการอย่างเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างสะดวกและครอบคลุมพอสมควรแล้วแต่โจทย์ที่สำคัญคือ ผู้ใช้ไฟฟ้ายังต้องเดินทางไปยังสถานที่รับชำระ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหนก็ตามที ทำให้ผู้ที่ติดธุระไม่สามารถชำระเงินได้ตามกำหนด เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลาและการเดินทาง MEA จึงให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและพัฒนาช่องทางการรับชำระค่าไฟฟ้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Payment เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ผ่านทางระบบ นอกจากนี้ยังสามารถชำระค่าไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking ของธนาคารต่างๆ ที่ผูกร่วมกับระบบ QR Code Cross Bank หรืออาจจะเลือกชำระค่าไฟฟ้าผ่านการหักบัญชีธนาคาร หรือบัญชีบัตรเครดิตโดยอัตโนมัติได้ อีกไฮไลต์สำคัญจากทาง MEA คือ MEA Smart Life Application ที่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และAndroid ทำให้การใช้ชีวิตง่ายยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกชำระค่าไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งครอบคลุมการให้บริการที่หลากหลายทั้งการตรวจสอบยอดค่าไฟค้างชำระ การชำระค่าไฟฟ้าออนไลน์ การสมัครรับแจ้งค่าใช้ไฟฟ้าทางอีเมล การจัดการเครื่องวัดของผู้ใช้แต่ละบัญชี และการตรวจสอบค่าไฟฟ้าย้อนหลัง ที่สามารถเรียกดูได้ถึง 6 เดือน รวมทั้งตรวจสอบค่าไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วแจ้งไฟฟ้าขัดข้อง พร้อมเข้าถึงบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าของ MEA ได้ทุกที่ ทุกเวลาลืมการต่อคิวยาวเหยียดเพื่อรอชำระค่าไฟฟ้าที่ร้านสะดวกซื้อหรือที่ทำการการไฟฟ้าแบบที่เป็นมาได้เลย และใช้เวลาที่มีอยู่ใช้คุ้มค่าและสนุกกับทุกจังหวะของชีวิต โดยที่ MEA จะยังคงอยู่เบื้องหลังบริการไฟฟ้าที่เป็นเหมือนจักรกลขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไปและความสะดวกสบายคือตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตที่ดีของโลกยุคนี้พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า | เมกะเทรนด์สำคัญของโลกตอนนี้คือการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสังคมเมือง (Urbanization) ที่ทำให้เวลาเป็นของมีค่ามากกว่าเดิมสำหรับผู้บริโภคการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ไฟฟ้าด้วย MEA Smart Life Application และระบบชำระเงินแบบ e-Payment เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการในยุคสังคมไร้เงินสด | null | null | https://thestandard.co/mea-smart-life-application-e-payment/ |
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์จับมือ พธม.ลั่นยกระดับชุมนุม | แรงงานร่วมกู้ชาติ สาวิทย์ แก้วหวาน ระบุนำองค์กรแรงงาน สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ รวมทั้ง 44 องค์กรในสังกัด ประท้วงรัฐบาลร่วมพันธมิตรฯ ปกป้องอธิปไตย18 ก.พ. 54 - ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสาวิทย์ แก้วหวาน แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะเลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส.ได้อ่านแถลงการณ์ในนามสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) รวมทั้ง 44 องค์กร ในสังกัด บนเวทีรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ว่า ขอประกาศเจตนารมณ์ที่จะร่วมต่อสู้กับเคียงบ่าเคียงไหล่ กับพลังมวลชนพันธมิตรฯ เพื่อทวงคืนอธิปไตยไทยกลับคืนมา ซึ่งถือเป็นสิทธิและหน้าที่สิทธิอันชอบธรรมของพลเมืองตาม รธน. สรส.ไม่ได้หนีไปไหน แต่หลังจากรอดูท่าทีของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเขตแดน นอกจากจะล้มเหลว แต่รัฐบาลยังยืดหยัดที่ปกป้องเอ็มโอยู 43 ซึ่งเป็นต้นเหตุที่จะทำให้ไทยเสียต้องทรัพยากร ทั้งบนบนดินและทางทะเลแน่นอนการต่อสู้ตลอดกว่า 30 ปีของ สรส.ขอรับประกันว่า สหภาพแรงงานฯ มีเกียรติและศักดิ์ศรี อำนาจรัฐและอำนาจเงิน ซื้อเราไม่ได้เด็ดขาด และขอใช้โอกาสบนเวทีแห่งนี้ประกาศยืนอยู่ข้างมวลชนอย่างแน่นอน นายสาวิทย์ กล่าว พร้อมอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1 สรุปใจความได้ว่า เรื่องกระบวนการใช้สิทธิของ พธม.ต่อประเด็นที่แหลมคม เพื่อปกป้องอธิปไตย ถือเป็นการใช้สิทธิตามพลเมืองไทย ที่บัญญัติไว้ใน รธน.50 แต่รัฐบาลซึ่งหน้าที่โดยตรงในการปกป้องอธิปไตย ไม่ได้ดำเนินการตามที่ควรจะเป็น แต่กลับบิดเบือนข้อเรียกร้องของ พธม.และใช้สื่อรัฐใส่ร้ายอย่างต่อเนื่อง และยังมีความพยายามสลายการชุมนุม ความล้มเหลวของการบริหารราชแผ่นดิน ในด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ และทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้งการเสียอธิปไตยให้กัมพูชา เพราะมีบุคคลในรัฐบาล นักการเมือง และข้าราชการระดับสูงบางฝ่าย มีประโยชน์อยู่เบื้องหลังนายสาวิทย์ กล่าวย้ำว่า ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องนำ 3 ข้อเรียกร้องของ พธม.ไปดำเนินการ และไม่มีสิทธิสลายการชุมนุม หรือดำเนินการออกหมายเรียกหรือหมายจับแกนนำ โดย สรส.รวมทั้ง 44 องค์กรในสังกัดสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจ ยืดหยัดที่จะยืนเคียงข้างการต่อสู้กับมวลชนพันธมิตรฯ โดยนับตั้งแต่วันนี้ จะได้ยกระดับการต่อสู้ให้เข้มข้นขึ้นเป็นลำดับที่มาข่าว: | แรงงานร่วมกู้ชาติ สาวิทย์ แก้วหวาน ระบุนำองค์กรแรงงาน สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ รวมทั้ง 44 องค์กรในสังกัด ประท้วงรัฐบาลร่วมพันธมิตรฯ ปกป้องอธิปไตย 18 ก.พ. 54 - ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ | การเมือง,แรงงาน | การชุมนุมเดือนกุมภาพันธ์ 2554,พธม.,พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย,สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์,สรส.,สาวิทย์ แก้วหวาน | https://prachatai.com/journal/2011/02/33190 |
(เพิ่มเติม) ตัดสินคดี sms อากง ผิดคดีหมิ่น+พ.ร.บ.คอมพ์ จำคุก 20 ปี | ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญา รัชดา วันนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่นายนายอำพล (สงวนนามกุล) อายุ 61 ปี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า อากง ซึ่งถูกฟ้องว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยข้อกล่าวหาว่าส่งเอสเอ็มเอสที่มีข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปยัง โทรศัพท์ของเลขานุการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีศาลพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดจริงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตรา 14 อนุ 2 และ 3 ลงโทษจำคุก 20 ปีทั้งนี้ ศาลใช้วิธีอ่านคำพิพากษาผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอรเรนซ์ เนื่องไม่สามารถนำตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาได้เพราะน้ำท่วมเรือนจำ หลังฟังคำพิาพากษา ภรรยา ลูกและหลานๆ ของนายอำพลพากันร่ำไห้ ขณะที่มีประชาชนผู้สนใจคดีดังกล่าวร่วมฟังคำพิพากษาราว 30 คนสำหรับรายละเอียดการพิพากษา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้พิพากษา ชนาธิป เหมือนพะวงศ์ ขึ้นบังลังค์เวลา 10.25 น. ที่ห้องเวรชี้ ชั้นล่างของศาลอาญาศาลพิพากษาว่า ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่โจทก์ได้จาก DTAC และ TRUE นั้นเป็นหลักฐานที่ผู้ให้บริการมีหน้าที่ต้องจัดเก็บโดยระบบคอมพิวเตอร์ตาม ที่กฎหมายกำหนด หากผู้ให้บริการจัดเก็บไม่ถูกต้องลูกค้าย่อมไม่เชื่อถือ อาจเสียประโยชน์ทางธุรกิจได้ ดังนั้นจึงถือว่าหลักฐานข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ที่ได้รับถือเป็นเอกสารที่ น่าเชื่อถือสำหรับประเด็นสำคัญในคดีที่จำเลยตั้งประเด็นว่า หมายเลขอีมี่ หรือรหัสประจำเครื่องโทรศัพท์อาจถูกปลอมแปลงได้นั้น จำเลยไม่สามารถหาตัวผู้เชี่ยวชาญมายืนยันได้ ส่วนประเด็นที่ว่า เอกสารในสำนวนฟ้องที่หมายเลขอีมี่หลักที่ 15 ไม่ตรงกับหมายเลขอีมี่ในเครื่องโทรศัพท์ คือในเอกสารบางจุดแสดงว่าเป็นเลข 0 บางจุดแสดงว่าเป็นเลข 2000 ขณะที่ในเครื่องโทรศัพท์จริงๆ เป็นเลข 6 ศาลวิเคราะห์ว่า หมายเลขอีมี่ 14 หลักแรกเท่านั้นที่มีความสำคัญ ตามที่พ.ต.อ.ศิริพงษ์ ติมุลา จากกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เบิกความและได้พิสูจน์ด้วยการใช้เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบเลขอีมี่แสดงให้เห็น ในศาลแล้วว่า เมื่อพิมพ์รหัส 14 หลักแรกตามด้วยรหัสสุดท้ายหมายเลข 6 จะปรากฏข้อมูลว่าเป็นเครื่องโทรศัพท์ยี่ห้อโมโตโรล่า ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับโทรศัพท์ของกลาง แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเลข 0-5 และ 7-9 ทั้งที่ควรปรากฏว่าเป็นเครื่องรุ่นอื่น แต่จากการทดสอบในเว็บดังกล่าวกลับไม่ปรากฏว่าเป็นรุ่นใดเลย จึงยิ่งชี้ให้เห็นชัดว่าหมายเลข 14 หลักแรกเท่านั้นที่ใช้ในการระบุตัว ตามที่โจทก์กล่าวอ้างนอกจากนี้ เนื่องจากหมายเลขอีมี่ในคดีนี้ตรงกับหมายเลขอีมี่ของโทรศัพท์ยี่ห้อ โมโตโรล่าที่นายอำพลใช้ และรับว่าใช้อยู่ผู้เดียว จึงยากที่จะมีผู้อื่นนำไปใช้ได้ และพบว่ามีการใช้โทรศัพท์เครื่องนี้กับซิมการ์ด 2 เลขหมาย ซึ่งจากหลักฐานชี้ชัดว่า ซิมการ์ดทั้งสองหมายเลขถูกใช้ในเวลาที่ใกล้เคียงกัน แต่ไม่เคยถูกใช้งานในเวลาที่ซ้ำกัน จึงเชื่อได้ว่าผู้กระทำความผิดได้นำซิมการ์ดมาสลับใช้อย่างที่เจ้าหน้าที่ ตำรวจตั้งสมมติฐานไว้ นอกจากนี้ข้อมูลการจราจรยังระบุว่าข้อความถูกส่งโดยเสาสัญญาณจากย่านที่ จำเลยพักอาศัยอยู่ด้วย การที่จำเลยอ้างว่า โทรศัพท์มือถือของจำเลยเสียจึงนำไปซ่อมที่ร้านในห้างอิมพีเรียลสำโรง ศาลเห็นว่าจำเลยให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน กล่าวคือ จำเลยแจ้งในชั้นจับกุมว่าโทรศัพท์มือถือเคยเสียและนำไปซ่อมเมื่อเดือน พฤษภาคม 2553 แต่แจ้งในศาลว่านำไปซ่อมเมื่อเดือนเมษายน 2553 อีกทั้งยังจำร้านที่นำโทรศัพท์ไปซ่อมไม่ได้ ทั้งที่การนำไปซ่อมต้องไปที่ร้านถึง 2 ครั้งคือตอนนำไปซ่อม และไปรับคืน จึงถือว่าข้อมูลส่วนนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือศาลเห็นว่า ข้ออ้างของจำเลยที่กล่าวอ้างว่า ส่งSMS ไม่เป็น และไม่รู้จักเบอร์โทรศัพท์ของนายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข เลขานุาการส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ นั้น มีแต่จำเลยเท่านั้นที่รู้เห็น เป็นการง่ายที่จะกล่าวอ้างแม้โจทก์จะไม่สามารถนำสืบพยานให้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าจำเลยเป็นผู้ที่ ส่งข้อความตามฟ้องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องดังกล่าว ไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของนายสมเกียรติ แต่ก็เพราะเป็นการยากที่โจทก์จะสามารถนำสืบได้ด้วยประจักษ์พยาน เนื่องจากจำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าวย่อมจะต้องปกปิดการกระทำของ ตนมิให้บุคคลอื่นได้ล่วงรู้ จึงจำเป็นต้องอาศัยเหตุผลประจักษ์พยานแวดล้อมที่โจทก์นำสืบเพื่อชี้วัดให้ เห็นเจตนาที่อยู่ภายในศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นเวลา 10.43 น. รวมระยะเวลา 18 นาที พิพากษาให้จำเลยมีความผิดในการส่งข้อความสั้นตามฟ้อง โดยข้อความดังกล่าวมีลักษณะดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย และเป็นการใส่ความหมิ่นประมาททำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่และสมเด็จพระบรม ราชินีนาถ ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อันเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นอกจากนี้การส่งเอสเอ็มเอสจะต้องส่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์ก่อนประมวลผลไปถึง โทรศัพท์เคลื่อนที่ปลายทาง ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง ประกอบข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไปว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงเปี่ยมไปด้วยพระ เมตตา ทรงห่วงใยประชาชนทุกหมู่เหล่า ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อปวงชนชาวไทย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรจำเลยจึงมีความผิดตาม มาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2551 มาตรา 14 (2) และ (3) การกระทำของจำเลยมีหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นโทษหนักสุด ให้จำคุกกระทงละ 5 ปี ความผิด 4 กระทง รวมโทษจำคุกทั้งหมด 20 ปีผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ซึ่งนั่งอยู่กับนายอำพลที่เรือนจำในห้องฟังคำพิพากษาได้กล่าว ผ่านระบบคอนเฟอร์เรนซ์ถามว่าคำพิพากษาว่าอย่างไร เพราะตลอดการฟังคำพิพากษาได้ยินเสียงไม่ชัด เจ้าหน้าที่ศาลจึงแจ้งอย่างสั้นๆ ไปว่า ลุงติดคุก 20 ปีผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ภายหลังฟังคำตัดสิน ครอบครัวนายอำพล ซึ่งประกอบด้วยภรรยา บุตรสาว 3 คน หลานสาว 4 คน อายุตั้งแต่ 4-11 ปี ได้เดินทางไปเยี่ยมนายอำพลที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และได้สอบถามเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ความว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่มีอำนาจควบคุมผู้ต้องขังที่โทษสูงกว่า 15 ปี ดังนั้นจึงต้องมีการส่งตัวผู้ต้องขังไปยังเรือนจำคลองเปรม ซึ่งเป็นที่คุมขังนักโทษเด็ดขาด ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยม ยกเว้นญาติและทนายความ และมีความเป็นไปได้ว่าจะย้ายภายในวันศุกร์ที่ 25 พ.ย.นี้ คดี ลุง sms พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 สำนักงานอัยการสูงสุดอำพล (สงวนนามสกุล)มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(2) (3) คดีหมายเลขดำที่ อ. 311/2554จำเลย ถูกกล่าวหาว่าใช้โทรศัพท์มือถือ หมายเลข 081-349-3615 ส่งข้อความอันอาจเป็นการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ และหมิ่นประมาทใส่ความให้ร้ายสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทั้งหมด 4 ครั้งไปยังโทรศัพท์มือถือหมายเลขโทรศัพท์ 081-425-5599 ของนายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข ขณะดำรงตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนพฤษภาคม 25533 สิงหาคม 2553 จำเลย วัย 61 ปี ถูกจับกุมในข้อหากระทำความผิดตามมาตรา 14 (2) (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา และคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข (คปค.) ฉบับที่ 41 โดยข้อความดังกล่าวมีลักษณะหยาบคาย เข้าข่ายจาบจ้วง ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถจำเลยให้การปฏิเสธ ตั้งแต่ชั้นจับกุม โดยกล่าวว่าไม่รู้จักวิธีการส่ง SMS และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ส่งนั้นก็ไม่ใช่ของตน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าผู้ส่งข้อความหักซิมการ์ดทิ้งไปแล้ว จึงสืบเบาะแสจากหมายเลขประจำเครื่อง (IMEI)จำเลยเคยประกอบ อาชีพขับรถส่งของ ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรแล้วเนื่องจากอายุมากและพูดไม่ถนัดหลังการ ผ่าตัดมะเร็งใต้ลิ้นตั้งแต่ปี 2550 ทุกวันนี้อาศัยอยู่กับภรรยาในห้องเช่าราคาเดือนละ 1200 บาท ย่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ และอยู่ได้ด้วยเงินที่ได้รับจากลูกๆ อีกเล็กน้อย แต่ละวันมีหน้าที่ต้องเลี้ยงหลาน 3-4 คนหลังถูกจับกุมเมื่อ วันที่ 3 ส.ค.53 เขาถูกคุมตัวในเรือนจำนวน 63 วัน และได้ประกันตัวเมื่อวันที่ 4 ต.ค.53 หลังจากนั้น ในวันที่ 18 ม.ค. 54 อัยการมีคำสั่งฟ้องคดี จำเลยจึงต้องถูกควบคุมตัวอีกครั้ง ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า ข้อเท็จจริงตามข้อหาการกระทำความผิดตามฟ้องกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนและ ความมั่นคงของประเทศอย่างร้ายแรง คดีอยู่ในชั้นพิจารณา หากผลการพิจารณาสืบพยานมีหลักฐานมั่นคงจำเลยอาจหลบหนี ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข ผู้กล่าวหาในคดีนี้ ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี แจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมความผิดทางเทคโนโลยี หลังจากได้รับ SMS จากเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 0813493615 ที่ส่งมายังเครื่องของตนในวันที่ 9 11 12 22 พ.ค. 2553 รวมจำนวน 4 ข้อความนายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข เป็นเลขานุการส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 54 มติคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่าย การเมืองหลังการแจ้งข้อกล่าวหา กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยียื่นขอคำสั่งศาล ให้ออกหมายจับศาลอาญา รัชดา ที่ 1659 /2553 ลงวันที่ 29 ก.ค.53 ข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตาม ป.อาญา มาตรา 112 มีโทษจำคุก 3-15 ปี3 สิงหาคม 2553 เวลา 7.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ 15 นาย นำโดย พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.1 บก.ป. และ พ.ต.ท.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน สว.กก.1 บก.ป. พร้อมด้วยสื่อมวลชน เข้าจับกุม นายอำพล ตั้งนพกุล ที่บ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 1 ต.คลองสวน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ระหว่างซอยวัดด่านสำโรง 17/1 และซอยวัดด่านสำโรง 19 หมู่ที่ 4 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโมโตโรล่า 2 เครื่อง และยี่ห้อเทเลวิซ อีก 1 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าจำเลยปฏิเสธข้อหา ตั้งแต่ชั้นจับกุม โดยกล่าวว่าไม่รู้จักวิธีการส่งข้อความสั้นบนโทรศัพท์มือถือ ไม่เคยส่งเอสเอ็มเอสเลย เพราะส่งไม่เป็น มีโทรศัพท์ไว้สำหรับโทรออกอย่างเดียว และเขากล่าวด้วยว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ส่ง SMS นั้นไม่ใช่เบอร์ของเขา และโทรศัพท์เครื่องที่จำเลยใช้งานอยู่นั้นเคยเป็นของลูกเขย ซึ่งให้เขาเอามาใช้อีกทีหนึ่งพล.ต.ท.ไถง กล่าวผ่านหนังสือพิมพ์มติชนว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งข้อความตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่า โทรศัพท์ทั้งหมดเป็นของตนจริง แต่ได้เลิกใช้ไปนานแล้ว ทั้งนี้ผู้ต้องหาไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จึงไม่เชื่อว่าจะทราบเบอร์โทรศัพท์มือถือของบุคคลสำคัญของประเทศและส่ง ข้อความที่ไม่เหมาะสมได้ จึงเชื่อว่าจะมีผู้สนับสนุนหรืออยู่เบื้องหลัง และยังเชื่อว่าจำเลยเป็นฮาร์ดคอร์กลุ่มคนเสื้อแดง จ.สมุทรปราการ ที่ กอ.รมน. ขึ้นบัญชีดำไว้ด้วยจำเลยถูกจับกุมโดยไม่ได้รับการประกันตัวเป็นเวลา 63 วัน จากนั้นในวันที่ 29 ก.ย.53 ทนายความยื่นประกันตัวครั้งที่สอง โดยใช้ที่ดินของญาติเป็นหลักทรัพย์ และเมื่อวันที่ 4 ต.ค.53 ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ประกันตัว โดยให้เหตุผลว่า หลักประกันน่าเชื่อถือได้ว่าจำเลยจะไม่หลบหนี18 ม.ค. 54 อัยการมีคำสั่งฟ้องนายอำพลเป็นจำเลยในคดีที่มีการส่งข้อความหมิ่นเบื้องสูง ไปยังนายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญ มีความผิดตามมาตรา 14 (2)(3) ตามพ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวตเตอร์ฯ และมาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญาหลังมีคำสั่งฟ้อง ทนายความยื่นขอประกันตัวอีกครั้งโดยใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ คำร้องของทนายความส่วนหนึ่งระบุว่า ผู้ร้องไม่มีพฤติการณ์ในการหลบหนีใดๆ เลย เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเพียงชายสูงอายุธรรมดาอาศัยอยู่กับภรรยา ลูกสะใภ้ และหลาน 3 คนในห้องเช่าในจังหวัดสมุทรปราการ ผู้ร้องไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ เพราะอายุมากแล้ว ผู้ร้องยังชีพด้วยเงินที่บุตรของผู้ร้องส่งให้เดือนละประมาณ 3000 บาท และใช้สิทธิการรักษาตามหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นอกจากนี้ผู้ร้องยังเป็นโรคมะเร็งช่องปากซึ่งต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางที่ โรงพยาบาลราชวิถีอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 ก่อนถูกจับกุมหากผู้ร้องมีหน้าที่รับส่งหลานๆไปยังโรงเรียน หากออกไปทำธุระนอกบ้านผู้ร้องก็ต้องกลับมาอาศัยที่บ้านเสมอ และในขณะจับกุมผู้ร้องซึ่งมีอายุ 60 ปี ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 15 นายพร้อมกับสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง ผู้ร้องและบุคคลในครอบครัวผู้ร้องยังมีอาการตระหนกตกใจ และผู้ร้องก็ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนีหรือขัดขืนการจับกุมใดๆ ทั้งนี้เมื่อผู้ร้องได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนผู้ร้องก็มา รายงานตัวต่อศาลอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพนักงานอัยการนัดหมายมาฟ้องคดีผู้ร้องก็รีบเตรียมเอกสารและหาหลัก ประกันโดยเร็วให้ทันนัดหมายของพนักงานอัยการเพื่อไม่ให้เนิ่นช้าออกไป ด้วยเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้ร้องไม่เคยมี พฤติการณ์ใดๆและไม่มีความสามารถซึ่งจะทำให้ศาลอาญาเกรงว่าผู้ร้องจะหลบหนี ได้คำร้องของทนายความยังอ้างว่า การควบคุมตัวผู้ร้องระหว่างการพิจารณาจะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในชีวิตและ ร่างกายโดยตรงของผู้ร้องและไม่เป็นประโยชน์ใดๆต่อการพิจารณาคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ร้องมีปัญหาทางสุขภาพ มีโรคร้ายประจำตัว และผู้ร้องซึ่งยังไม่ได้ถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดจึงมีสิทธิใน การได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 39 วรรคสอง วรรคสาม มาตรา 40(7)ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาต ให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยให้เหตุผลว่า พิเคราะห์ความหนักเบาของข้อหา ตลอดจนพฤติการณ์แห่งคดีเป็นการกระทำต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินีและองค์รัชทายาท นับเป็นเรื่องร้ายแรงและกระทบความรู้สึกของปวงชนชาวไทย หากให้จำเลยปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จึงยกคำร้อง จำเลยถูกควบคุมตัวจนปัจจุบัน ระหว่างช่วงเวลาที่ถูกจับกุม ทนายความยื่นเรื่องขอประกันตัวอีกหลายครั้ง แต่ศาลไม่อนุญาต6 ตุลาคม 2554 หลังการสืบพยานทุกปากเสร็จเรียบร้อย ทนายความยื่นขอประกันตัวอีกครั้ง ด้วยหลักทรัพย์เป็นที่ดินของญาติจำเลย ที่ศาลอาญารัชดา แต่ศาลไม่ให้ประกันเนื่องจาก ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมระหว่างการพิจารณาคดี ศาลได้นัดหมายให้ทำการสืบพยานโจทก์ และสืบพยานจำเลย ดังนี้23 กันยายน 2554 (สืบพยานโจทก์ ศาลอาญา ห้อง 801) | (แฟ้มภาพ: วันสืบพยานสุดท้าย 30 ก.ย.54) ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญา รัชดา วันนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่นายนายอำพล (สงวนนามกุล) อายุ 61 ปี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า อากง | สิทธิมนุษยชน,ไอซีที | กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,มาตรา 112,ศาลอาญา,อากง | https://prachatai.com/journal/2011/11/37991 |
แกะรอยเส้นทางค้ากามจากไทยถึงเยอรมนี เร่ิมที่ร้านนวด-บางรายเต็มใจ | เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี ตำรวจเยอรมันกว่า 1,500 นาย บุกทลายแหล่งค้ากามและขบวนการชาวไทยใน 12 รัฐ จากทั้งหมด 16 รัฐทั่วประเทศ โดยถือเป็นการปฏิบัติการกวาด ,ล้างครั้งใหญ่ใช้กำลังพลมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เยอรมนี โดยมีหญิงชาวไทยวัย 59 ปี กับสามีชาวเยอรมันเป็นหัวหน้าคุมทั้งหมด มีตัวเลขเงินหมุนเวียนสูงกว่า 1 ล้านยูโร หรือ 38 ล้านบาทนั้น,ความคืบหน้าเรื่องนี้ หลังเปิดปฏิบัติการกวาดล้างแล้ว ล่าสุด ทางการเยอรมนี กำลังอยู่ระหว่างขยายผลเครือข่าย และเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง,ผู้สื่อข่าวรายงานโดยอ้างสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า สืบสวนของทางการเยอรมนี ซึ่งนำไปสู่ปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่นี้ เร่ิมจากเจ้าหน้าที่แกะรอยเบาะแสมาตั้งแต่เดือน ก.พ.2560 ซึ่งเริ่มจากพบความผิดปกติเรื่องการจ่ายเงินประกันสังคม ทำให้พบว่า เป็นแกนนำขบวนการค้าประเวณี ลักลอบพาหญิงไทยและสาวประเภทสองชาวไทยเข้าประเทศผ่านการขอวีซ่าท่องเที่ยวเชงเกน หรือ วีซ่าปลอม,ทั้งนี้ ขบวนการจะเดินทางไปที่เมืองซีเกน เมืองทางตะวันตกของเยอรมนีเป็นจุดแรก โดยหญิงไทยวัย 59 ปี ที่ถูกจับกุมดังกล่าว จะเป็นผู้ออกค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้ก่อน,จากนั้น หลังเหยื่อเดินทางถึงเยอรมนีจะถูกส่งไปตามสถานบริการที่เปิดเป็นร้านนวดต่างๆ ทั่วประเทศ ถูกบังคับให้ทำงานฟรี เจ้าของสถานบริการจะริบเงินรายได้ทั้งหมด 100% เพื่อชดใช้ค่าใช้จ่ายเข้าเยอรมนี มูลค่าสูง 16,000-36,000 ยูโร หรือเกือบ 620,000 บาท ถึง 1.39 ล้านบาท,อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระบุว่า จากผู้ถูกบังคับค้าประเวณีชาวไทย 32 คน มีบางรายทราบว่าจะต้องมาขายตัวในเยอรมนี แต่ไม่รู้เรื่องจะถูกยึดเงินค่าบริการและเงื่อนไขบางประการ,สำนักข่าวต่างประเทศยังอ้างว่า การค้าประเวณีในเยอรมนีเป็นเรื่องถูกกฎหมายตั้งแต่ พ.ศ. 2545 และมีผู้ทำงานประเภทนี้ หลายแสนคน แต่ใน พ.ศ.2560 รัฐบาลเยอรมนี เริ่มเข้มงวดกฎหมายเพื่อป้องกันการลักลอบค้ามนุษย์ โดยผู้ประกอบอาชีพโสเภณีในเมืองต่างๆ จะต้องรายงานตัวลงทะเบียนกับหน่วยราชการท้องถิ่น,ด้าน พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ตำรวจ ปคม. กล่าวว่า การเดินทางไปเยอรมนีจะขอวีซ่าไปไม่กี่อย่าง ทำงาน หรือท่องเที่ยว กรณีทำงานจะต้องมีข้อมูลต่างๆ ระบุชัดเจน,สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น ความผิดเกิดนอกประเทศ อยู่นอกเหนืออำนาจของตำรวจ ปคม. ขณะที่ในประเทศความผิดลักษณะนี้ ต้องมีผู้เสียหาย ตำรวจกล่าวโทษเองไม่ได้ ทำตามกฎหมาย,เบื้องต้นกรณีที่เกิดขึ้นคาดว่า รูปแบบน่าจะไปแบบนักท่องเที่ยว การเข้าประเทศเยอรมนีเข้มงวดเป็นเทคนิคการสืบสวนของแต่ละประเทศจนนำไปสู่การจับกุม แต่อย่าเพิ่งตีตราว่า เป็นการค้ามนุษย์ เป็นการค้าประเวณี แต่อย่าเพิ่งโยงค้ามนุษย์มาถึงไทย. | จากกรณี ข่าวใหญ่ในเวทีโลกตำรวจเยอรมันกว่า 1,500 นาย บุกทลายแหล่งค้ากามและขบวนการชาวไทย มาลองดูเส้นทางของขบวนการจากไทยไปเยอรมนี พร้อมกับข้อมูลบางอย่างที่น่าตกใจ | ข่าว,ต่างประเทศ | ค้ากาม,ซ่องหญิงไทย,ค้าประเวณี,เยอรมนี,เส้นทางค้ากาม | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1259607 |
อดีตพระเอก ทูน เล่าชีวิต ดาราสาวเสนอตัวให้เยอะ-หนีตายจากมาเฟีย (คลิป) | ทูน หิรัญทรัพย์ แจงหายหน้าไปจากวงการหลายปี เพราะกลัวอิทธิพลมาเฟียที่เคยยิงผู้จัดการตนเองจนเสียชีวิต เผยเพราะตาบอดจนเกือบทำให้คิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่โชคดีลูกโทรหาเลยคิดได้ บอกช่วงที่ตาบอดไม่มีใครจ้างงาน เพราะกลัวจะไปเป็นภาระ บอกทุกวันนี้หันมาทำประโยชน์เพื่อสังคมและเยาวชน ตามพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ ๙,พระเอกรุ่นเก๋า ทูน หิรัญทรัพย์ มาเปิดใจเล่าแบบหมดเปลือกในรายการ ยิ่งศักดิ์ยิ่งแซ่บ ที่มีอาจารย์ยิ่งศักดิ์ ทำหน้าที่พิธีกรดำเนินรายการ ถึงเรื่องราวที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ว่าครั้งนึงพระเอกชื่อดังคนนี้เคยคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย และที่ต้องหายไปจากวงการบันเทิง เพราะกลัวเจอมาเฟียฆ่า ,คนจำนวนมากไม่ทราบว่าตาข้างนึงบอด?,ที่บอกว่าไม่ดี เพราะว่ามันเป็นแบบฉับพลัน ต้อหินแบบฉับพลัน เป็นข้างขวา ที่ไม่เห็น มันจะเห็นแสงนิดๆ เหมือนจะมีม่านดำปิดอีกทีแล้วก็แสงนิดๆ เหตุผลก็เป็นเพราะว่าเส้นประสาทตาไม่ทำงาน มันชำรุดไปหมด,มันเกิดขึ้นได้ยังไง?,มันมีต่อมที่ในร่างกายเราผลิตอินซูลิน ควบคุมอินซูลิน น้ำตาลในเลือด เบาหวานขึ้นตาจนตาบอด,ทำไมไม่ดูแลรักษาสุขภาพ?,ต่อมตัวนี้มันต้องคอนโทรลให้บาลานซ์กัน แต่ปรากฏว่ามันไม่ทำงาน มันผิดปกติ ก็เลยกลายเป็นว่าน้ำตาลกระฉูดขึ้น (หัวเราะ) ก็เลยขึ้นมาที่ตา,บอดแบบเฉียบพลัน ไม่มีสัญญาณเตือน?,ไม่ครับ มันมีๆ แล้วมันก็ค่อยๆ มืดไปในระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน คือรู้ว่าเป็นไมเกรน ปวดเบ้าตา แต่นั่นคือความดันขึ้นตา แต่จริงๆ คือความดันเบาหวานขึ้นตา ไม่ได้ปวดไมเกรน,แล้วรู้ตัวว่าเป็นเบาหวานนานแค่ไหน?,นานแล้ว แต่ไม่ระวัง (หัวเราะ) ไม่ทานยา เพราะไม่รู้ว่าเป็นเลยไม่ได้ทาน เป็นคนไม่เคยดูแลตัวเอง ขาดวินัย,พอรู้ว่าจะตาบอด ความรู้สึกตอนนั้นเป็นอย่างไร?,ในช่วงนั้นเราเป็นหัวหน้าครอบครัว ก็เลยคิดว่าทำยังไงให้ครอบครัว ให้เด็กๆ เรียนให้จบ พอหมอบอกก็รู้สึกว่าเครียดนะ กลัว ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าตาบอดสังคมการทำงาน เขาอาจจะไม่ยอมรับ และตอนนั้นงานมันหดด้วยตามวัย แต่ว่ายิ่งมาหดใหญ่เพราะผู้สร้างเขาบอกว่า สงสัยตาบอดให้เขาเล่นไม่ได้แล้วแหละ เขาไม่ได้บอกว่าเลิกครับ เพียงแต่ว่าไม่จ้างเท่านั้นเอง (หัวเราะ),เครียดถึงกับจะฆ่าตัวตาย?,มันเกิดจากความกลัว เราก็เครียดๆ ไม่รู้จะทำยังไง ก็สิ้นสุดชีวิตตรงนี้ดีกว่า เพราะถ้าไม่มีเรา ก็ไม่มีปัญหา คงมีคนดูแลลูกๆ ต่อ คิดเลยเถิดเพราะความกลัว ไปค้นคว้าหาวิธีด้วย ,ถ้าสมมติเราจะต้องจบชีวิตตัวเอง ทำยังไงให้ไม่เจ็บมากที่สุด ก็เลยไปศึกษาว่าการกระโดดตึกออกซิเจนมันจะหมดก่อน เราก็จะหมดสติก่อนถึงพื้น เราจะไม่รู้สึกอะไร คิดมากนะ ศึกษาเยอะ (หัวเราะ) ที่ทำให้คิดสั้น คือไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเราไม่มีประโยชน์แล้ว เราก็ไปซะดีกว่า,แล้ววันที่ขับรถไปตึกที่จะกระโดดลงมาตาย ทำไมถึงเปลี่ยนใจ?,ลูกโทรมา แล้วก็ถามว่าป๊าอยู่ไหน เราก็นึกถึงภาพตอนที่เขายังเด็กๆ แล้วก็เขาเล่นกัน ซนกัน เราอยากจะให้เขาเรียนจบ แต่เราก็คงจะทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าเราพิการ เราไม่มีงานทำ จะไปทำงานบริษัทเขาจะจ้างเหรอ คนพิการนะ ก็คิดมากครับ,แต่สุดท้ายก็สู้เพราะน่าจะเป็นประวัติของเรา คุณพ่อคุณแม่หย่ากัน วันที่เรารับปริญญาที่ออสเตรเลีย ไม่มีใครมา ก็เลยปฏิญาณตนว่าเราต้องไปรับปริญญาลูก อยากมีวันนั้นทำไมเราไม่อยู่ต่อเพื่อลูก วันที่เขารับปริญญา (น้ำตาคลอ) เราดีใจว่าเราทำให้เขาสำเร็จแล้ว,ดีใจไหมที่ไม่ได้คิดสั้น ?,นอกเหนือจากดีใจแล้ว ตอนนี้เราก็ทุ่มบอกทุกคนครับว่า ชีวิตทำยังไงให้มันมีคุณค่า ไม่ใช่คุณค่าให้ตัวเอง เป็นคุณค่าให้กับคนอื่น,ข้างซ้ายที่บอกว่าดี ก็เริ่มมีอาการเสี่ยง ?,ใช่ครับ มันจะเป็นต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก ที่เลวร้ายที่สุดคือ แบบฉับพลันเป็นต้อหิน ธรรมดามันจะเป็น 2 ข้างครับ แต่เราโชคดีมันเป็นข้างเดียว อีกข้างน้ำตามันยังขับออก ข้างซ้ายต้องเซฟเอาไว้ รักษาไปตลอดชีวิตเลย รักษาตรงนี้เพื่อจะได้ไม่บอดหมด,ไปหาหมอตรวจเป็นประจำหรือเปล่า?,ก็ดีใจอยู่อย่างว่าคนเราถ้าทำดี เราไม่ต้องหวังผล แล้ววันนึงจะมีคนดีมาช่วยเรา เราไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาช่วยเรา แต่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาช่วยเรา ให้เราเป็นคนไข้ในอุปถัมภ์,การมีตาข้างเดียวเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตไหม?,ไม่มีนะครับ เรารู้ความจริง เรายอมรับว่าเราพิการข้างนึงนะ สิ่งที่ตามมาก็คือปรับตัวเองเข้ากับสภาวะแวดล้อมสังคม บางคนก็จะคิดว่าพิการข้างนึง หรือว่าอวัยวะเสียไปมันจะเป็นปมด้อย,มีโอกาสที่จะบอดสนิททั้ง 2 ข้างไหม?,เป็นไปได้ถ้าเราไม่มีวินัย คุณหมอบอกตลอด อยากบอดอีกข้างเหรอ ทำไมไม่หยอดตาตรงเวลา ก็เลยกลายเป็นว่าทุกเดือนสองเดือนเอาเลือดไปตรวจ,ไม่กลัวอันตรายเหรอ ขับรถด้วยตัวเองแบบนี้?,ถ้าแดดออก สว่างๆ กลางวันแบบนี้ดี คือยังงี้ครับ ถ้าเราคิดว่าตัวเองไม่มีประโยชน์ พิการ มันก็ทำอะไรมากไม่ค่อยได้ เหมือนขีดเส้นไว้ว่าได้แค่นี้นะ แต่ถ้าสมมติเราไม่ยอมแพ้กับชะตาชีวิต ไม่ยอมแพ้กับปัญหาที่มีนะครับ ผมคิดว่าเราดำเนินไปเรื่อยๆ จนถึงจุดนึง เราเดินไปถึงจุดนึงมันก็เป็นอุทาหรณ์เป็นกำลังใจให้กับผู้อื่นว่า แม้กระทั่งขาดอะไรไป ก็ไปเอาอย่างอื่นมาเสริมได้,หายไปจากวงการ 7-8 ปี ไปเจอมาเฟียมาจริงหรือไม่?,จริงๆ เราอยู่วงการหนังแค่ 6 ปี เล่น 270-280 เรื่อง คือไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เสร็จแล้วเค้าก็เรียกว่า คิวฮอตครับ ก็มีผู้จัดการคนนึงอายุมากแล้ว แกเคลียร์คิวให้ จัดสรรให้ บริหารให้ ปรากฏว่ามีวันนึงแกก็มีปัญหาส่วนตัวของแก แกก็โดนทำร้าย โดนยิงตายหน้าบ้าน ถ้าตามข่าวก็คือว่าขอคิวเรายากอะไรแบบนี้,จับได้หรือตายฟรีไปเงียบๆ ?,มันทั้งสองอย่างครับ ก็คือเขาก็รับโทษไปแล้ว ถ้าถามว่ามีอะไรชดเชยให้กับผู้จัดการไหม มนุษย์คนหนึ่งที่ทำงาน ก็ไม่มีอะไร และที่หายไปจากวงการเพราะรู้สึกว่าเดี๋ยวจะถึงคิวเรา ก็คือไม่รู้นะชีวิตมันต้องเจออะไรแบบนี้,แค่คิวไม่ลงตัวถึงกับฆ่ากันตายเลยหรอ ?,จริงๆ แล้วมันก็มีทุกวงการครับ ทุกธุรกิจ มันก็จะมีคนดีคนไม่ดี ว่ากันไป แต่ว่าบางทีที่เขาไม่ดีไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้อยากจะไม่ดีนะ เขาอาจจะมีคนรอบๆ ข้างเขา พูดอย่างงั้นพูดอย่างงี้ก็ได้,ต้องพอรู้ว่าใครที่เสียผลประโยชน์ตอนนั้น ?,ก็มีหลายคนนะครับ ผู้สร้างสมัยก่อนมันมี 7 สายด้วยกัน เหนือ อีสาน อะไรต่างๆ เวลาเขาขอคิวเราแล้วเขาขอไม่ได้ เขาก็เลยอาจจะมีทะเลาะ ถ้าหนังปิดกล้องไม่ได้,ยังมีโอกาสเจอหน้าคนที่มีความขัดแย้งในยุคผู้จัดการคนนั้นอยู่ไหม ?,พอเราออกจากวงการ เราก็คิดว่าเราไม่เจอใครในสมัยที่ทำงานอยู่ เราก็จะเจอแบบนักแสดงอย่างเดียว รุ่นพี่ๆ ส่วนใหญ่ในวงการเขาจะไม่คุยเรื่องนี้กัน ก็เลยกลายเป็นว่าเราก็คุยไม่ได้เหมือนกัน,การที่ตัดสินใจออกจากวงการตอนนั้นคือการกระทำที่ถูกต้องแล้ว ?,จริงๆ แล้วมีผู้ใหญ่โทรมาให้คำปรึกษาว่า อย่าอยู่เลย เพราะว่ามันก็อันตรายนะ แล้วเราก็เพิ่งมีลูกด้วย ลูกยังเด็กอยู่ ก็เลยมีเหตุผล มีน้ำหนัก,รับงานน้อยหน่อยก็ได้เหรอ ?,สมัยก่อนเวลาเราไปต่างจังหวัด ชาวบ้านจะมุงดูถ่ายทำหนัง เราก็ไม่รู้ว่ามันจะเปรี้ยงปร้างมาตอนไหน (หัวเราะ) เป็นสิ่งที่ผมกลัวว่าไม่เห็นหน้าลูกตอนรับปริญญา แต่ไม่เคยเจอถึงขั้นโทรมาขู่นะ,แต่ตอนนี้กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง ?,จริงๆ แล้วครั้งแรก ที่เข้าวงการบันเทิงก็ด้วยการรำของ อาเปี๊ยก ที่นำเราเข้ามาสู่วงการภาพยนตร์ พอเลิกไปไม่กี่ปี รินดาก็กลับมาชวนใหม่บอกว่ามาเล่นละครให้หน่อย จะเป็นผู้จัดช่อง 3 จำได้ เรื่องกุหลาบไร้หนาม ก็เลยกลับมาเล่น ก็ต้องขอบคุณรินดานะครับเป็นเพื่อนที่ดี หางานมาให้เราทำตลอด,ทราบมาว่าแยกทางกับภรรยา ?,ครับ เราเป็นคนเหมือนกับว่า ถ้าเราพูดออกไปก็จะเหมือนฟังความข้างเดียว อย่างนั้นเราไม่พูดซะเลยดีกว่า ก็เอาเป็นว่าอยู่กันแล้วอยู่กันลำบาก ลูกก็อึดอัด คือแยกทางกัน ตอนแรกอยู่ห่างๆ กัน อยู่คนละบ้าน แล้วสุดท้ายก็แยกทางกันดีกว่า,เป็นเพราะไม่ค่อยมีเวลาหรือเปล่าในช่วงที่เล่นหนังเยอะ ?,ไม่มีเวลาคือถูกต้อง ทำแต่งานก็ถูกต้อง แล้วบังเอิญเรามาอยู่แนวหน้าของวงการ เล่นหนังกับใคร ใครเป็นนางเอกก็จะมีข่าว ถึงทุกวันนี้ไม่มีข่าว,ซื้อกินหรือเปล่า ?,ไม่ใช่ (หัวเราะ) คือมันยากตรงนี้ครับ เราเป็นคนโรแมนติก เขาเรียกว่า One night stand ใช่ไหมครับ คืนเดียวเสร็จ ความรักแบบนั้นไม่เอา ไม่มี นั่นไม่ใช่ความรัก เราโรแมนติก เราอยากใช้เวลาศึกษากัน,โรแมนติกขนาดไหน ?,ชีวิตของเราจะอยู่ในเมือง มีแต่ตึก ที่ชอบที่สุดคือมีโอกาสพาใครไปทานข้าวริมแม่น้ำเจ้าพระยา โปร่งๆ อะไรแบบนี้ คือ โรแมนติกนิดนึง,ยังคิดที่จะมีความรักใหม่อีกครั้งนึงไหม ?,เป็นคนที่รักลูกมาก แล้วก็พูดอยู่เสมอ ทุกคนก็บอกว่าปิดประตูเลยนะ ไม่ยอมให้ใครเข้ามา ไม่ใช่ครับ เพียงแต่ว่าใครเข้ามาจะเข้าลำบาก เพราะว่าลูกเรามาก่อนตลอด ลูกไม่ห้าม ลูกยุ,แล้วทำไมไม่หาอีกสักคนมาเป็นเพื่อนดูแล ?,พอมาคิดเอาตอนอายุ 50 กว่าๆ นะครับว่า เราต้องทำอะไรเพื่อคนอื่นละ ก็เลยมาทำเรื่องของสังคม,ทุกคนยังจำกันได้ว่าเป็นพระเอกเจ้าชู้ เล่นหนังกับใครก็จิ้นคนนั้น ?,ยอมรับอยู่อย่างนึง เพราะมีนางเอกคนนึงบอกว่า พี่อ่ะชอบดีกับผู้หญิง ให้เกียรติผู้หญิง เป็นสุภาพบุรุษ แล้วก็เป็นพี่ที่ให้ความรู้กับน้องๆ ตลอด ผู้หญิงเขาก็เลยจะหลงพี่ เพราะพี่จะไปทำให้ผู้หญิงหลง บอกแล้วจะทำยังไงล่ะ นั่นมันคือธรรมชาติเรา แม่ก็สอนมาว่าผู้หญิงไม่ใช่ของเล่นนะ จะมาเล่นๆ ทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ได้,พูดถึง ต่าย เพ็ญพักตร์ ได้ข่าวว่าแฟนของ ต่าย ต้องมาเฝ้าเลยเพราะไม่ไว้ใจพี่ทูน? ,คือเป็นอย่างนี้ครับ เราทำงานกับบี๋มา เรารู้จักกัน เขาเด็กอังกฤษ เราเด็กออสเตรเลีย มีต่ายเป็นแฟน แฟนเขาไปไหนเขาก็ต้องไปตาม แล้วเรารู้จักกับต่าย ต้องเดินเข้าไปจูบฟอดๆ ทำได้ไงไม่ใช่หนังฝรั่ง ก็เลยบอกว่าต้องให้เกียรติเขา และฟิล์มสมัยก่อนแพง เดินเข้าไปเลย ทักทายนิดนึง แล้วก็จูบกันแบบว่าเป็นแฟนตั้งแต่สมัยไหนมาเลย พอจะเข้าไปจูบเห็นหน้าปั๊บ จูบไม่ลง จูบไม่ได้เพราะเขาเป็นแฟนของเพื่อน ก็ไปหอมที่หน้าผาก (หัวเราะ),ชอบกอดนางเอกตลอดเลย ชอบกอดใครมากที่สุด?,ก็เล่นมากที่สุดก็กับคุณเปิ้ลนะครับ ก็เลยกอดมากหน่อย แต่เปิ้ลเขาก็ระวังตัวนะครับ,ได้ข่าวว่ากับ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ก็เคยกอด?,นางเอกทุกคนนะครับ ในบทเขาให้กอด บางทีเพื่อความสมจริงสมจัง แต่ไม่มีอะไร,ตอนนั้นดังๆ หล่อแบบฝรั่ง ต้องมีผู้หญิงเยอะแน่ๆ มีมาเสนอฟรีมีไหม?,มีมาเสนอครับ แต่เราไม่สนอง ไม่ตอบสนอง เพื่อนบอกว่าโง่หรือฉลาดก็ไม่รู้,ทำไมถึงคิดว่าไม่อยากตอบสนองสิ่งเหล่านั้น?,ไม่อยากเปลืองตัว และถ้าลูกรู้ ครอบครัวรู้มันไม่ดี ถ้าข่าวออกไป ทำเป็นภาพพจน์ดี พระเอกคือต้องเป็นคนดี ต้องนำคนไปในทางที่ดี คนนี้ตัวอย่างไม่ดี เดี๋ยวเขาจะว่าเรา ก็เลยเป็นห่วงตรงนี้มาก กลัว,ตอนนี้ไปช่วยเหลืองานต่างๆ ของสังคมอะไรบ้าง?,พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.๙) มีพระราชดำรัสว่า ถ้าทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง แล้วทำหน้าที่ของตัวเองทุกอย่างจะดี เราต้องส่งคนดีไปบริหารประเทศ พระองค์ท่านตรัส แล้วครูก็มีหน้าที่ไม่ใช่สอนคน แต่มีหน้าที่สร้างคน คือพวกนี่สิ่งที่เราได้รับรู้มาตั้งแต่เด็กถึงปัจจุบันนี้ ก็คือพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน มันก็ฝังอยู่ตลอด แต่ว่ามันไม่มีโอกาสได้ทำ รัฐบาลนี่เขาปฏิรูปประเทศ โครงสร้างใหญ่ แต่ของเราไปทำแบบนั้นไม่ได้ เราเป็นคนนิดเดียวเอง เป็นมด เมื่อประเทศชาติกำลังปรับตรงนี้ เราก็ทำในส่วนที่เราทำได้ ก็คือกับเยาวชน ก็ต้องฝากอนาคตของประเทศไว้ที่เขา | ทูน หิรัญทรัพย์ แจงหายหน้าไปจากวงการหลายปีเพราะกลัวอิทธิพลมาเฟียที่เคยยิงผู้จัดการตนเองจนเสียชีวิต | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ทูน หิรัญทรัพย์,ทูน ตาบอด,ทูน หิรัญทรัพย์ ตาบอด,นักแสดงรุ่นใหญ่,ดารารุ่นใหญ่,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1010172 |
โปแตสเซียมกับผักใบเขียวเข้ม | และมีอายุอยู่ได้ยืนยาว,อาหารการกินนับเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพ การทานอาหารแบบ 2:1:1 ซึ่งเป็นสูตรที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก และร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ กับความต้องการในแต่ละวัน,โดยแบ่งจานอาหารออกเป็น 4 ส่วนเท่ากัน สองส่วนแรกเป็นผักสด หรือผักสุกมากกว่า 2 ชนิด ส่วนที่สามเป็นข้าว-แป้ง ยิ่งเลือกทานข้าวหรือแป้งที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้องหรือขนมปังโฮลวีต ส่วนสุดท้ายเป็นโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ หรือไม่ติดมันไม่ติดหนัง เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่วเมล็ดแห้ง ไข่ ถั่วเหลือง เต้าหู้ อาหารทะเล,ทว่าสิ่งที่มีประโยชน์ หากน้อยเกินไปก็ไม่ดี มากเกินไปก็ไม่ดีอย่าง ผักใบเขียวเข้มที่เรารู้ว่ามีทั้งแร่ธาตุ ใยอาหาร วิตามินที่มีประโยชน์ ซึ่งน้อยคนจะรู้,ผักใบเขียวเข้ม มีโปแตสเซียมปริมาณสูง คนปกติทานเข้าไปมากคงไม่เป็นไร แต่ผู้ป่วยโรคไต จะเป็นอันตรายได้,เพราะถ้าไตเสื่อมจะกรองเอาโปแตสเซียมออกจากร่างกายได้น้อยลง ทำให้มีปริมาณโปแตสเซียมสูงเกินไป ผลที่ตามมาคือเหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย ใจสั่น คลื่นไส้ เป็นตะคริว ชีพจรเต้นช้าลง หรือหัวใจอาจหยุดเต้นได้,แต่ผู้ที่เป็นโรคไตก็ยังต้องการโปแตสเซียมในปริมาณเหมาะสม เพื่อช่วยลดอาการบวมน้ำ ปรับสมดุลของน้ำในร่างกายให้เป็นปกติ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว,วันนี้ สถาบันอาหาร มีข้อมูลตัวอย่างผักใบเขียวเข้มสดๆ 5 ชนิด จำนวน 5 ตัวอย่าง ตลาดในเขตกรุงเทพฯ นำมาวิเคราะห์ปริมาณโปแตสเซียม นำมาฝากผู้ป่วยโรคไต หรือผู้ที่ต้องดูแลเรื่องอาหารการกินของผู้ป่วยโรคไต นอกจากต้องลดเค็มควรลดผักใบเขียวเข้ม แล้วหันมาเลือกทานผักสีเขียวอ่อน สีขาวแทน เช่น บวบ ฟัก ผักกาดขาว แตงกวา ถั่วงอก มะเขือยาว,ส่วนผู้ที่ร่างกายปกติ สารอาหารที่ว่ามีประโยชน์ถ้าได้รับพอดีๆ ก็จะให้คุณ แต่ถ้ามากเกินไปก็จะให้โทษได้เช่นกัน.,ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย | การมีสุขภาพดีคือการสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ ทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว พักผ่อนเพียงพอ และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เพียงแค่นี้ก็มีร่างกายที่แข็งแรง | null | ผักใบเขียวเข้ม,โปแตสเซียม,ผัก,สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย,มันมากับอาหาร,อาหาร | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/1501800 |
นำมือถือเข้าไป 5 เครื่อง พบสัญญาณ 13 ชีวิต อยู่โถงพัทยาบีช | ติดในถ้ำหลวง ใกล้ครบ100ชั่วโมง เฝ้ารออย่างไม่ย่อท้อ เผยเด็กๆ นำขนม เครื่องดื่ม ลูกฟุตบอลเข้าไปด้วยเพื่อฝึกทักษะ และฉลองวันเกิด พบสัญญาณมือถือที่โถงพัทยาบีช,เวลา 11.30 น.วันที่ 27 มิ.ย 61 ที่บรรยากาศบริเวณหน้าถ้ำหลวง ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย บรรดาผู้ปกครองและญาตินักเรียนต่างปักหลังมาเฝ้าลูกหลาน ซึ่งผ่านมาเป็นเวลากว่า 93 ชั่วโมง แต่ทุกคนไม่มีใครไม่ย่อท้อด้วยความหวังจะได้พบลูกๆ ของตน ตามที่ทางราชการและเจ้าหน้าที่ ได้ให้ความมั่นใจว่าเด็กทุกคนจะปลอดภัย,นางศุภลักษ์ สมเพียงใจ อายุ 37 ปี มารดาน้องไนท์ ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่าวันเกิดเหตุ วันที่ 23 มิ.ย. เด็กทั้งหมดได้มีการเตรียมไฟฉาย ขนมเครื่องดื่ม และลูกฟุตบอลติดเข้าไปในถ้ำด้วย เพื่อทำการฝึกทักษะภายในถ้ำ รวมทั้งเป็นการพักผ่อนภายหลังการฝึกและเลี้ยงฉลองเล็กๆ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดให้กับ นายพีรภัทร สมเพียงใจ หรือ น้องไนท์ ซึ่งเกิดวันที่ 23 มิ.ย. อายุ 16 ปี และด.ช.พิพัฒน์ โพธิ์ น้องนิก เกิดวันที่ 24 มิ.ย. อายุครบ 15 ปี ,ส่วนการติดต่อได้มีการพยายามติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือที่คาดว่ากลุ่มเด็กและโค้ชนำติดตัวเข้าไปในถ้ำนั้น ทราบว่ามีการนำเข้าไป 5 เครื่อง ขณะที่บางส่วนทิ้งไว้ปากถ้ำ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเบอร์โทรทุกเบอร์ของเด็กที่นำเข้าไปในถ้ำตรวจสอบการใช้สัญญาณ เป็นที่มั่นใจว่า เด็กจะอยู่โถงพัทยาบีช ซึ่งมีพื้นที่ราบและบางแห่งสูง น้ำท่วมไม่ถึง จึงมั่นใจว่าเด็กจะปลอดภัย | พ่อแม่ทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิต ติดในถ้ำหลวง ใกล้ครบ100ชั่วโมง เฝ้ารออย่างไม่ย่อท้อ เผยเด็กๆนำขนม เครื่องดื่ม ลูกฟุตบอลเข้าไปด้วยเพื่อฝึกทักษะ และฉลองวันเกิด พบสัญญาณมือถือโถงพัทยาบีช | ข่าว,ทั่วไทย | ถ้ำหลวง,13ชีวิต,ช่วยเด็กติดถ้ำ,เด็กติดถ้ำ,หมูป่าอะคาเดมี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1319264 |
ตามรอยพ่อ ริวัลดินโญ ลูกชาย ริวัลโด ซบลีกผีดิบถึงปี 2020 | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 ก.พ. ว่า ริวัลดินโญ ลูกชายของ ริวัลโด ตำนานดาวยิงทีมชาติบราซิล เซ็นสัญญาเปิดตัวกับ ดินาโม บูคาเรสต์ ทีมดังจากลีกโรมาเนียอย่างเป็นทางการจนกระทั่งถึงปี 2020,เจ้าหนูวัย 21 ปีถูกปล่อยตัวจากนาซิอองนาล ทีมในบ้านเกิดย้ายมาเล่นให้กับ ดินาโม บูคาเรสต์ ทีมดังจากโรมาเนีย 3 ปีโดยเจ้าตัวหวังจะเดินตามรอยคุณพ่อที่เป็นถึงตำนานแข้งทีมชาติบราซิลให้ได้,สำหรับ ริวัลดินโญ เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งกับ โมจิ มิริม ทีมดิวิชันสองบราซิล โดยลงเล่นไป 47 นัดยิงได้ 11 ประตู อีกทั้งยังเคยเล่นร่วมกับ ริวัลโด พ่อของเขาในปี 15 แถมยังยิงประตูได้พร้อมกันด้วย,ริวัลดินโญ โยกไปเล่นในยุโรปครั้งแรกกับ เบาวิสตา ทีมจากโปรตุเกสในฤดูกาล 2015/16 แต่ทำผลงานจนแจ้งเกิดไม่ได้ ก่อนจะระเห็นกลับบ้านเกิดตะลอนทัวร์เล่นให้กับ พิราไซซาบา, ไพซานดู และ อินเตอร์นาซิอองนาล,โดยล่าสุดถือเป็นโอกาสอันดีของเจ้าตัวในอาชีพการค้าแข้งอีกครั้งเมื่อย้ายมาเล่นให้กับ ดินาโม บูคาเรสต์ แบบไร้ค่าตัว ที่ปัจจุบันอยู่อันดับที่ 5 ของตารางโดยมีแต้มตามหลัง เอฟเซี วิโตรุล จ่าฝูงอยู่ 13 แต้ม พร้อมกับรับหมายเลข 9 ไปสวมใส่ล่าตาข่ายอีกด้วย | ตามรอยเท้าลูกหนังคุณพ่อ สำหรับ ริวัลดินโญ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ริวัลโด ตำนานแข้งทีมชาติบราซิล ที่ล่าสุดเซ็นสัญญากับ ดินาโม บูคาเรสต์ ทีมดังจากลีกโรมาเนียเรียบร้อย | null | ทีมชาติบราซิล,ริวัลโด,ริวัลดินโญ,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/854641 |
คนห้องกรง: เครื่องแบบนักโทษ | ชุดนักโทษ จริงๆ แล้วไม่ได้มีแต่ชุดสีน้ำตาลลูกวัวที่เราเห็นทั่วไปตามหน้าสื่อนะ นั่นเป็นชุดที่นักโทษจะใส่เฉพาะตอน ออกศาล เท่านั้น อยากรู้ว่าชุดนักโทษมีกี่แบบ และต้องใส่แบบไหนในสถานการณ์อะไรบ้าง แอดมินขอชวนอ่านข้อเขียนเรื่องชุดนักโทษจากอดีตคนใน ที่จะทำให้เห็นชีวิตในเรือนจำมากขึ้นการใส่ชุดผู้ต้องขังในเรือนจำของประเทศไทย เดิมที จะใส่ชุดอะไรก็ได้ ไม่มีการบังคับ แต่มีการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับใหม่ เมื่อประมาณต้นปี พ.ศ. 2556 วันธรรมดา จะบังคับให้ผู้ต้องขังที่คดีถึงที่สุดแล้ว ต้องใส่เสื้อสีฟ้า (อะไรก็ได้) และกางเกงสีกรมท่า (อะไรก็ได้) ส่วนผู้ต้องขังที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี ต้องใส่เสื้อสีน้ำตาล (อะไรก็ได้) และกางเกงสีน้ำตาลเข้ม (อะไรก็ได้) ทั้งนี้ ไม่มีการบังคับรูปแบบเสื้อ โดนเน้นบังคับเฉพาะสีของเครื่องแต่งกายเท่านั้น เพื่อสะดวกในการจำแนกประเภทผู้ต้องขัง ส่วนในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ผู้ต้องขังสามารถจะใส่ชุดอะไรก็ได้ ไม่มีการบังคับเรื่องสีเสื้อที่ใช้บังคับให้ใช้ภายในเรือนจำ ยังมีอีกหลายกรณี อย่างเช่น เมื่อมีการเยี่ยมญาติ (ญาติมาเยี่ยม) ผู้ต้องขัง จะต้องเปลี่ยนชุดที่ตัวเองใส่ จากสีฟ้า (เด็ดขาด) สีน้ำตาล (ระหว่าง) มาเป็น สีเหลือง เสื้อสีเหลืองจึงมีความหมายเดียวหมายถึงการออกไปเยี่ยมญาติการพบทนายความ พบเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานข้างนอก พบเจ้าหน้าที่สถานทูต พบเจ้่าหน้าที่สอบสวน ออกทำกิจกรรมเช่นเรียนหนังสือ ฝึกวิชาชีพ อบรมความรู้ต่างๆ หรือออกสถานพยาบาล บังคับให้ใส่เสื้อสีฟ้าเท่านั้นผู้ต้องขังที่ทำหน้าที่คอยให้บริการ งานต่างๆ ภายในเรือนจำเช่น เดินส่งจดหมาย ส่งหนังสือระหว่างแดน ประจำจุดเยี่ยมญาติ จะบังคับให้ใส่เสื้อ สีขาว ไม่จำกัดแขนสั้น หรือแขนยาว และกางเกงขาสั้น สีน้ำเงินเข้มผู้ต้องขังที่ทำงานกองนอก ที่คอยให้บริการ ภายนอกเรือนจำ เช่นจุดเยี่ยมญาติ บริเวณพื้นที่โดยรอบเรือนจำ เก็บกวาดขยะ งานช่างต่างๆ ที่ไม่ได้ออกไปภายนอกบริเวณเรือนจำ จะบังคับให้ใส่เสื้อแขนยาว สีน้ำเงิน และกางเกงขาสั้น สีน้ำเงินเข้มส่วนผู้ต้องขังที่ต้องออกไปทำงานสาธารณะ เช่น ลอกท่อน้ำ ตามสถานที่ต่างๆ ผู้ต้องขังกลุ่มนี้จะเรียกว่า ทำงานสาธา (เรียกเต็มๆ ว่าทำงานสาธารณะ) กลุ่มนี้จะต้องออกไปนอกบริเวณเรือนจำ ชุดที่ใส่จะเป็นเสื้อแขนยาว สีน้ำเงินเข้ม ด้านหลังจะมีสกรีนคำว่า งานสาธารณะ บางแห่งอาจระบุชื่อเรือนจำตามท้ายด้วย ส่วนกางเกง เป็นกางเกงขาสั้น สีน้ำเงินเข้มกรณีผู้ต้องขังที่ต้องเดินทางออกนอกเรือนจำ เพื่อไปยังศาล ผู้ต้องขังทุกคนจะต้องใส่ชุดสีน้ำตาล (หรือที่เรียกกันว่าสีลูกวัว) ซึ่งผู้ต้องขัง ที่คดียังไม่ถึงที่สุด ก็จะใส่ชุดสีนี้อยู่แล้วในวันธรรมดา ชุดสีน้ำตาลนี้ จะเรียกกันง่ายๆ ว่า ชุดออกศาล ชุดออกศาลนี้ ทางเรือนจำจะมีไว้ให้บริการ แต่จะไม่สะอาด เพราะจะซักทีเดียวในวันหยุด เสื้อจะเป็นลักษณะเสื้อคอกลม ไม่มีกระเป๋าเสื้อ ส่วนกางเกง จะเป็นสีน้ำตาลเข้มกว่าสีเสื้อ ลักษณะคล้ายกางเกงเล แต่่ขาสั้นกว่า คือมีกระเป๋าข้างแนบน่อง แล้วมีสายผ้า 2 เส้น สำหรับอ้อมมาผูกทางด้านหน้า (ต่อ 4a)ซึ่งในเรือนจำ ชุดออกศาล เราจะพบเห็นได้อยู่ 3 ประเภทด้วยกัน อันได้แก่(1) ชุดหลวง คือชุดที่ทางเรือนจำจัดเตรียมไว้ให้ เป็นชุดสาธารณะ ลักษณะจะเป็นผ้าหนาๆ และสกปรก เพราะผ่านการใช้งานจากผู้ต้องขังมากหน้าหลายตา โดยอาจมีการซักทำความสะอาดแค่เพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ชุดประเภทนี้ มีความจำเป็นจะต้องมี เพราะเมื่อมีกฎบังคับให้ผู้ต้องขังต้องสวมใส่ชุดเหล่านี้ ตามสีกำหนดไว้ สำหรับผู้ต้องขังรายใหม่ จึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องสวมใส่ชุดเหล่านี้ แต่เมื่ออยู่ไประยะเวลาหนึ่ง อันเนื่องจากเหตุผลทางด้านคดี ที่จะทำให้ต้องอยู่ในเรือนจำนานออกไป การเลือกหาซื้อชุดประเภทที่ 2 จึงเกิดตามมา อันได้แก่(2) ชุดซื้อ ชุดซื้อนี้ ทางเรือนจำ มีจำหน่ายอยู่ 2 แบบ ได้แก่ ชุดออกศาล ที่เป็นสีลูกวัว และ ชุดผู้ต้องขังเด็ดขาด ที่เป็นโทนสีฟ้า ชุดประเภทนี้ จะทำด้วยผ้าลักษณะที่ดีกว่า ที่แตกต่างคือกางเกง จะไม่เป็นรูปแบบ กางเกงเล ที่จะต้องใช้สายผ้าผูกมัด แต่จะเป็นกางเกงขาสั้น มีซิป มียางยืด ที่เรียกกันว่า กางเกงจับหมู ชุดออกศาล (สีลูกวัว) ประเภทนี้ เหมาะสำหรับผู้ต้องขังที่แน่ใจแล้วว่า จะต้องต่อสู้คดีอีกระยะหนึ่ง (คดียังไม่ถึงที่สุด) และประเมินแล้วว่าจะต้องใช้ชุดออกศาลต่ออีกหลายครั้ง ก็จะเลือกซื้อชุดประเภทนี้ มาเก็บไว้ ด้วยเหตุผลหลักๆ เลยก็คือสะอาด ไม่ต้องใช้ปะปนกับใคร ส่วนผู้ต้องขังที่คดีถึงที่สุดแล้ว ก็จะเลือกซื้อชุด สีฟ้า มาใช้เหมือนกัน อันเนื่องด้วยเหตุผลเดียวกัน(3) ชุดสั่งตัด ใครจะใช้ชุดประเภทนี้ได้ จะต้องเป็น ขาใหญ่ จริงๆ คือเป็นผู้ต้องขังค่อนข้างมีฐานะ เป็นคนมีชื่อเสียง เป็นคดีใหญ่ หรือออกศาลบ่อย ในกรณีคดียังไม่ถึงที่สุด (ชุดสีลูกวัว) ส่วนคดีถึงที่สุดแล้ว (ชุดสีฟ้า) ส่วนใหญ่จะไม่เน้นชุดสั่งตัด ผู้ต้องขังประเภทนี้จะเลือกใช้ ชุดซื้อ แทน การหาชุดสั่งตัดมาใช้นั้น ทำได้โดยการให้คนข้างนอก เช่น เพื่อน ญาติพี่น้อง ไปสั่งตัดมาให้เรียบร้อย จากนั้น ฝากเข้ามาให้ผู้ต้องขังในเรือนจำ (กรณีที่เรือนจำนั้นๆ อนุญาตให้นำเข้าเสื้อผ้าจากภายนอกได้) หรือยอมจ่าย ค่าใช้จ่ายในการนำเข้า (ภาษาคุกเรียก หิ้วของ) ให้กับผู้คุมที่ดูแลอยู่ในแดนนั้นๆ นำเข้ามา ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อครั้ง อยู่ที่ 300-1000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภท และจำนวนของที่นำเข้าในแต่ละครั้งเรื่องรองเท้า ผู้ต้องขังภายในเรือนจำ จะใส่รองเท้าอะไรก็ได้ รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบ หรือไม่ใส่รองเท้า ไม่มีกฎข้อห้าม แต่กรณีถ้ามีการออกศาล เดิมทีจะอนุญาตให้ใส่รองเท้า(แตะ) ถุงเท้าไปด้วยได้ แต่หลังเกิดเหตุการณ์ผู้ต้องขังปารองเท้าใส่ผู้พิพากษา ทางเรือนจำจึงออกกฎใหม่ ไม่อนุญาตให้ผู้ต้องขังใส่รองเท้าออกศาล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ต้องขังกลุ่มที่มีฐานะ มีความรู้ ส่วนผู้ต้องขังที่เป็นชาวบ้านธรรมดา จะไม่เดือดร้อน การแก้ไขปัญหาเรื่องการไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าไปศาลของผู้ต้องขังก็คือ การยอมใส่ถุงเท้า แทนรองเท้า หรือแอบซ่อนรองเท้าไปกับถุงอาหารที่อนุญาตให้นำติดตัวไป หรือบางราย ถ้ามีชื่อเสียง มีอิทธิพล ผู้คุมก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ปล่อยให้ใส่ไปศาลได้ สังเกตได้ว่า ถ้าเห็นผู้ต้องขังที่ศาลคนไหนใส่รองเท้า นั่นสันนิษฐานได้ว่า อาจเป็นผู้ต้องขังที่มีชื่อเสียง หรือมีอิทธิพลได้เลยอุปกรณ์ที่ห้ามอีกอย่างในการออกศาลก็คือ สนับเข่าที่เอาไว้สำหรับเกี่ยวสายโซ่ตรวนบริเวณเข่าทั้งสองข้าง เป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับการใส่โซ่ตรวน ที่เฉพาะผู้ต้องขังขาใหญ่ มีฐานะ มีอิทธิพลเท่านั้น ที่จะมีไว้ใช้ อุปกรณ์นี้ ทำให้ไม่ต้องใช้มือถือเชือกที่ผูกตรวนเอาไว้ ทำให้สามารถเดินได้อย่างสะดวก ที่ห้ามเพราะส่วนประกอบของสนับจะทำด้วยเหล็ก เป็นเงี่ยงเอาไว้คล้องโซ่ ซึ่งสามารถดึงออก แล้วนำมาใช้เป็นอาวุธทำร้ายกันได้ทั้งนี้การใส่โซ่ตรวนออกศาล จะบังคับเฉพาะผู้ต้องขังที่อายุไม่เกิน 60 ปี แต่ถ้าอายุเกิน 60 ปี ถ้าต้องการจะไม่ใส่โซ่ตรวน ก็จะต้องทำหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน จึงจะได้รับอนุญาต ซึ่งจะถูกพันธนาการด้วยกำไลข้อมือแทนติดตามข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ | ชุดนักโทษ จริงๆ แล้วไม่ได้มีแต่ชุดสีน้ำตาลลูกวัวที่เราเห็นทั่วไปตามหน้าสื่อนะ นั่นเป็นชุดที่นักโทษจะใส่เฉพาะตอน ออกศาล เท่านั้น อยากรู้ว่าชุดนักโทษมีกี่แบบ และต้องใส่แบบไหนในสถานการณ์อะไรบ้าง | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน | คนห้องกรง,เครื่องแบบนักโทษ | https://prachatai.com/journal/2014/04/52559 |
จนท.สนธิกำลัง ทลายบ่อนกุ้งปลา รวบนักพนันนับสิบ | เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 14 ก.พ.58 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายทินกร มุสิกวัฒน์ ปลัดจังหวัดพังงา พล.ต.ต.ชลิต แก้วยะรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พ.ต.อ.ธรัฐชา ถมปัด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา สั่งการให้ชุดจับกุมนำโดย นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า นายกมณฑะ สมสุวรรณ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายอิสรินทร์ ส่งละอ่อง ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรม พ.ต.อ.กฤตภาส เดชอินทรศร ผกก.สภ.ตะกั่วป่า นายเชิดชาย ปัทมยุตานนท์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 บางมรวน และ อส.กองร้อย อส.ตะกั่วป่าที่ 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านบางมรวน กว่า 20 นาย บุกเข้าจับกุมบ่อนการพนันกุ้ง ปลา ที่สวนยางพารา ซอยหินสามก้อน บ้านบางกรักใน ม.9 ต.โคกคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ,โดยสามารถคุมตัวผู้ต้องหาได้รวม 15 คน เป็นเจ้ามือรับกิน 1 ราย พร้อมของกลาง เงินสด 12,636 บาท ชิปไม้แทนเงินสด 6 อัน ชิปกระดาษ 5 แผ่น และอุปกรณ์การเล่นพนันหลายรายการ,สืบเนื่องจากมีชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า และสถานีตำรวจตะกั่วป่า ว่าในพื้นที่ซอยหินสามก้อน บ้านบางกรักใน ม.9 ต.โคกเคียน มีการลักลอบเล่นการพนันบ่อนกุ้งปลากันจริง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการวางแผนเพื่อเข้าจับกุม ขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปซุ่มดูอยู่ใกล้ๆ ได้มีนักพนันส่งเสียงดีใจเมื่อรู้ว่าตัวเองทายผลพนันถูก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมพื้นที่ ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม ทำให้นักพนันแตกตื่น วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ก่อนเจ้าหน้าที่สามารถคุมตัวนักพนันไว้ได้ 15 คน จากนั้นคุมตัวทั้งหมดไปที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า เพื่อสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ลักลอบเล่นการพนันประเภท โปปั่น (กุ้งปลา)โดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นจึงนำตัวทั้งหมด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า ดำเนินคดีต่อไป,ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ในหลายพื้นที่ของจังหวัดพังงา มีประชาชนร้องเรียนเรื่องการลักลอบเล่นการพนันไปที่ศูนย์ดำรงธรรม ไม่ว่าจะเป็นบ่อนการพนันกุ้งปลา และการลักลอบเล่นการพนันทั้งหวยหุ้นเลข 2 ตัว วันละ 4 รอบ มีเงินหมุนเวียนวันละไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท และยังมีโต๊ะพนันทายผลฟุตบอล โดยมีเจ้าหน้าที่บางหน่วยเข้าไปมีส่วนรู้เห็น ต่อจากนี้จะได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ไปตรวจสอบว่า มีการลักลอบเล่นการพนันหรือไม่ พร้อมกำชับไม่ให้ทุกท้องที่มีการเล่นการพนันโดยเด็ดขาด ถ้าประชาชนทราบว่า มีการลักลอบเล่นการพนัน ก็ให้แจ้งเบาะแสมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อตรวจสอบและจับกุมดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ ที่ปล่อยปละละเลย ให้มีการเล่นการพนันในท้องที่ตามนโยบายของรัฐบาลในการควบคุมการเล่นการพนันต่อไป. | ผวจ.พังงา สั่งชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองตะกั่วป่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกบ่อนการพนันกุ้งปลา รวบนักพนัน 15 คน พร้อมอุปกรณ์การเล่น เงินสดนับหมื่นบาท คุมตัวทั้งหมดส่ง พงส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย | ข่าว,ทั่วไทย | ทลายบ่อน,การพนัน,พนันกุ้งปลา,โปปั่น,พังงา,นักพนัน,ของกลาง,ตะกั่วป่า,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/481203 |
ธีรพันธ์ เงาจีนานันต์ ผู้กำกับหนังผู้ลี้ภัยเล่าชีวิต ไกลบ้าน ของ วัฒน์ วรรลยางกูร | รวมถึงจุดเปลี่ยนทางความคิดที่ทำให้เขาก้าวข้ามจากความคิดทางการเมืองแบบมีอคติวัฒน์ วรรลยางกูร คือ เจ้าของนวนิยาย มนต์รักทรานซิสเตอร์ อันโด่งดัง ที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อเดียวกันจนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง กระทั่งถูกนำไปฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ และได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าชิงรางวัลออสการ์ปี 2544ปัจจุบัน เขาต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองในต่างแดน จากการไม่สยบยอมให้แก่อำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกหมายเรียกตัวเขาไปเพื่อ ปรับทัศนคติ หลังการทำรัฐประหารยึดอำนาจในปี 2557และไม่ใช่แค่เพียงคดีหนีการปรับทัศนคติ ก่อนหน้านั้น เขาเคยถูกกล่าวหาว่า อาจกระทำการเข้าข่ายละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการเป็นผู้จัดงาน 40 ปี 14 ตุลา ที่มีการแสดงละคร เจ้าสาวหมาป่า ซึ่งนักแสดงจากละครเรื่องนั้นก็โดนดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันผมตั้งใจไว้แล้วว่า มึงรัฐประหารเมื่อไหร่ กูก็โดดหนีเมื่อนั้น ผมจะไม่อยู่ให้เขาจับเข้าคุก ผมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ 6 ตุลา 2519 แล้ว ตอนนั้นผมก็ตั้งใจว่ามึงรัฐประหารเมื่อไหร่ กูเข้าป่าเมื่อนั้นคำพูดข้างต้นของ วัฒน์ ถูกบันทึกไว้ในหนังสารคดี ไกลบ้าน โดย ธีรพันธ์ เงาจีนานันต์ ซึ่งได้รางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมในงานเทศกาลภาพยนตร์สั้นครั้งที่ 23 เมื่อเร็วๆ นี้ธีรพันธ์ คือ นักทำหนังและนักดูหนัง มนต์รักทรานซิสเตอร์ คือ หนึ่งในหนังที่เขารักมากที่สุด แต่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า มันสร้างมาจากนวนิยายที่แต่งโดยวัฒน์ วรรลยางกูร และไม่เคยสังเกตว่า วสุ วรรลยางกูร เพื่อนของเขา คือ บุตรชายของวัฒน์มันเหมือนเป็นความผูกพันอ้อมๆ หนังเรื่องหนึ่งที่เรารักและผูกพัน เจ้าของเรื่องเขามีชะตากรรมที่ทำให้เราสะเทือนใจ เราเลยสนใจชีวิตเขา สนใจเส้นทางความเป็นไปของเขา ธีรพันธ์ เล่าจุดเริ่มต้นในการทำหนังสารคดีของธีรพันธ์ นอกเหนือจากความผูกพันเป็นพิเศษกับวัฒน์แล้ว เขายังเล่าว่า เมื่อโตขึ้นเรื่อยๆ แม้ไม่ได้ตามทุกความเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เขาก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อัดอั้นในใจ และอยากเล่ามันออกมา เรื่องผู้ลี้ภัยก็คือหนึ่งในนั้นเราจึงชวนเขาคุยต่อถึงช่วงเวลาระหว่างการทำหนัง การได้เจอกับวัฒน์ จนถึงเรื่องที่ทำให้เขาตาสว่างทางการเมืองเท่าที่ได้คุยตอนไปเจอ ผมรู้สึกว่าถ้าประเทศเป็นแบบนี้ชีวิตเขาคงไม่มีทางเลือกอื่น เพราะเขาชัดเจนว่าเขาไม่พูดไม่ได้ ไม่แสดงออกในสิ่งที่เขาคิดไม่ได้ เขายอมจำนนต่อการถูกกดขี่ไม่ได้ แต่เขาก็ต้องแลกกับชีวิตและเสรีภาพของเขา ซึ่งก็เข้าใจได้อีกมุมหนึ่งก็ถามตัวเองว่า ถ้าเป็นเราเองเรากล้าเท่านี้รึเปล่า เราคิดเหมือนเขา เรารู้สึกเหมือนเขา แต่เราอาจไม่กล้าแลกทุกอย่างที่เรามีเพื่อยืนหยัดในสิ่งที่เราคิด มันสะท้อนกลับมาหาตัวเอง เราสู้แค่ไหนเพื่อให้สังคมมันเปลี่ยนแปลงอย่างที่เราอยากให้มันเป็นจริงๆสังคมเราคือถ้าพูดสิ่งนี้แล้วจะอันตราย คนก็จะไม่พูด คนจะไม่ถูกฝึกให้คิดหรือตั้งคำถามกับมัน คนที่ต้องเจอชะตากรรมสุดทางแบบนี้ เขามักพูดอะไรที่ทำให้เราได้ฟังและคิด ชะตากรรมของเขาก็เป็นภาพสะท้อนให้เห็นความไม่ชอบธรรมของสังคมเขาก็คงโกรธสังคมที่มันเป็นแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่เขาเด็กๆ และในฐานะที่เขาก็เป็นนักเขียน แต่นักเขียนกลายเป็นภัยต่อประเทศ มันคงเป็นเรื่องที่เขาหงุดหงิดว่ากี่ปีแล้วนะ มันก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ แต่สุดท้ายเขาก็ยอมรับ เลือกว่าถ้าสังคมเป็นแบบนี้เขาก็ไม่อยากอยู่ สิ่งที่สำคัญของเขาเราคิดว่าคือความรู้สึกเสรี ถ้ามันไม่มีก็อย่าอยู่เลยดีกว่า อันนี้ที่เรารู้สึกจากที่คุยกันพาร์ทที่คุยกับลูก มันมีความเศร้า จริงๆ ครอบครัวของคนเรามันไม่ควรเป็นแบบนี้เลย แค่เพราะเรื่องการเมือง แต่เหมือนครอบครัวก็เข้าใจว่ามันต้องเกิดขึ้นหลักๆ เราอยากพูดเรื่องบ้านกับครอบครัวเป็นแกน แต่ระหว่างทางอาจมีความตื่นเต้น พอไปเจอจริงๆ เขาเป็นคนน่าสนใจมาก ชีวิตเขาค่อนข้างฉูดฉาด ความเห็นเขาค่อนข้างฉูดฉาดตอนเห็นบ้านเขาที่กาญจนบุรีเรารู้สึกเศร้า เพราะเรารู้สึกว่าบ้านนี้สวยมากเลย เแต่ตอนนี้ร้างจริงๆ เพราะไม่มีใครอยู่ ลูกๆ ก็แยกย้ายไปทำงานผมก็ถามลูกชายเขาว่าคิดจะทำยังไงกับบ้านหลังนี้ เขาบอกว่าก็คงเก็บไว้แหละ เผื่อสักวันจะได้อยู่ด้วยกัน ก็เป็นคำตอบที่เราค่อนข้างสะเทือนใจ ความหวังที่ผู้ลี้ภัยจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติที่บ้านมันเป็นฝันที่ดูไกลจากสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้เหลือเกิน เราก็นึกภาพไม่ออกว่าถ้าจะเป็นแบบนั้นได้ สังคมมันต้องอยู่ตรงจุดไหนกันบ้านนี้มันสวย ผมก็เชื่อว่าต่อให้คุณวัฒน์เขาไปอยู่ไหน เขาก็จะไม่รู้สึกกับที่ไหนเท่ากับบ้านที่กาญฯ เพราะมันเป็นบ้านที่เขารักมากๆ เป็นบ้านที่เขาทำด้วยตัวเองจริงๆ ไม่มีเลย เขาไม่ได้ใช้ชีวิตอะไรที่ซับซ้อน ก็มีแค่หนังสือกับงานเขียนของเขาเป็นหลัก หนังสือบางส่วนก็เอาติดตัวไปด้วย หนังสือที่เขามีทั้งหมดก็น่าจะทยอยถึงมือเขาหมดแล้ว บ้านที่นั่นก็ไม่เหลืออะไรแล้ว เป็นบ้านร้างๆ เลยในความหมายของคำว่า บ้าน ผมเชื่อว่าคนทุกคนก็รักที่ที่เราอยู่หมดแหละ แต่ที่ที่เราอยู่เรารู้สึกสบายใจกับมันได้มากแค่ไหน มันจะเป็นบ้านจริงๆ ก็ต่อเมื่อเรารู้สึกปลอดภัย รู้สึกสะดวกใจ รู้สึกรัก รู้สึกว่าการอยู่ที่นี่มันมีความหมาย ทั้งพ่อและลูกก็น่าจะเห็นความหมายของสิ่งนี้คล้ายๆ กัน มันเลยออกมาเป็นทางนั้น ซึ่งเราก็รู้สึกอยากให้เป็นไปทางนั้นผมเชื่อว่าทุกคนก็อยากอยู่ที่นี่แหละ แต่ที่นี่อยากให้ทุกคนอยู่รึเปล่า อยู่แบบไหน เขาอยากเรียกที่นี่ว่าบ้าน แต่ที่นี่ทำตัวเป็นบ้านให้เขารึเปล่ามันมีความกังวลเหมือนกัน เราไม่รู้ว่าประเทศนี้มันอนุญาตให้เราทำอะไรได้บ้าง แต่ในจุดหนึ่งที่คิด แม้กระทั่งตอนตัดหนัง คือเราควรจะเก็บคำพูดของเขาไว้ขนาดนี้ไหม ควรจะเอาไว้หรือเอาออกดี ควรกลัวมันแค่ไหน แต่ท้ายสุดเรารู้สึกถ้าเราไม่เล่า หรือเล่าให้มันนุ่มนวลกว่านี้ เป็นมิตร ใจเย็นกว่านี้ มันก็คงคาใจเราเอง เราคงไม่มีความรู้สึกมีความสุขกับมัน ไม่รู้สึกได้พูดในสิ่งที่อยากพูด หนังที่ออกมาคืออยากทำยังไงทำไปเลย มีทนายบางคนได้ดูเขาก็เห็นว่าไม่เป็นอะไรเรารู้สึกความเสี่ยงบางเลเวลเราอาจพร้อมเผชิญหน้า บางเลเวลอาจต้องเตรียมตัวมากขึ้น บางเลเวลอาจจะเป็นเรื่องใหญ่จริงต้องเตรียมตัว แต่เราก็ไม่อยากเซ็นเซอร์ตัวเอง ถ้าเราไปถ่ายเขา เขาเป็นแบบนี้ เราก็อยากจะเล่าเขาที่เป็นแบบนี้แหละเราอยากให้คนได้คิดกับตัวเองมากขึ้น อยากให้เขาสำรวจตัวเองในมุมที่เขาอาจไม่มีโอกาสได้เห็น ในความขัดแย้งทางการเมือง เราทอนความเป็นคนทิ้งไป เรามักจะเห็นขั้วตรงข้ามไม่เป็นคน เรารู้สึกว่าสิ่งนี้น่ากลัว เราอยากเล่าว่าเขามีความกลัว มีบ้าน มีลูก ชีวิตเขาไม่ได้ก่ออาชญากรรมทางกายภาพใดๆ เลย แล้วเขาต้องมีชะตากรรมแบบนี้เหรอ เราไม่อยากชี้นำว่าอะไรถูกผิด แค่ให้เห็นชีวิตคนทีไ่ด้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ แล้วคุณโอเคไหมอย่างในแวดวงหนัง เราเข้าใจได้ว่าเขาอาจไม่ชอบภาษาหนังแบบนี้เท่าไหร่ เพราะมันเล่าง่ายๆ ไม่ได้พิเศษอะไร แต่เราตั้งใจอยากทำให้มันดูง่ายที่สุด อยากให้เรื่องมันเข้าถึงคนได้กว้าง ซึ่งคนทั่วไปที่อาจไม่ใช่นักดูหนังเขาก็ค่อนข้างเข้าใจ เราก็รู้สึกว่ามันประสบความสำเร็จสำหรับเราในมุมหนึ่ง แต่ในวงคนดูกว้างๆ จริงๆ ถ้ามันได้เผยแพร่เขาจะมีความเห็นยังไงกับมันบ้างก็อยากรู้เหมือนกันอยากเล่าอีก อยากทำเป็นหนังยาว แต่ตอนนี้ไอเดียยังฟุ้งอยู่ ยังไม่ได้รีเสิร์ช ถ้าเล่าก็อาจจะเล่าเรื่องของวงไฟเย็น และอยากถ่ายคุณวัฒน์ที่ฝรั่งเศสเพิ่มด้วย อยากบันทึกเขาที่ไปอยู่จุดนั้น อยู่นั่นต้องเจออะไร รับมือกับอะไร และเราเองก็ต้องตกตะกอนทางไอเดียเรามีความอิน ความโกรธของเรา อาจจะไม่ใช่คนที่ติดตามเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกครั้ง แต่เราคิดว่าเราเป็นคนเล่าเรื่อง เราอยากแปลงสิ่งที่เราสนใจออกมาผ่านการเล่าเรื่องก่อนหน้านั้นเราเป็นสลิ่มแต่ก็ไม่ได้เป็นสลิ่มที่ไปด่าใคร ตอนเราเรียนจบ ปี 55-56 เราทำงานกับคนหลากหลายมากขึ้น ทำงานกับศิลปะ เห็นทัศนคติที่เราไม่เคยคิดแบบนั้นเลย แล้วก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น ทำไมมุมมองการเมืองเขาถึงตรงข้ามกับเราอย่างสุดขีด ก็ได้แลกเปลี่ยนกัน คุยกัน เราหาอ่านประวัติศาสตร์เพิ่ม ศึกษาการเมืองประเทศเราเพิ่ม ก็ได้เห็นโลกที่มันเปลี่ยนไปตอนที่ตาสว่างมันเปลี่ยนระบบความคิดหมดทุกอย่างเลย พอเราเปลี่ยนความคิดปุ๊บ เราเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชนทันที แต่ตอนเป็นสลิ่มเราไม่เข้าใจเลย ตอนเด็กเราอยู่กับหนัง เรารู้สึกการเซ็นเซอร์หนังมันไม่โอเค แต่เราหาเหตุผลไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่โอเคยังไง นำไปสู่อะไร เราว่าสิ่งที่ต้องชมสลิ่มคือเขาสร้างวิธีคิด เขาทำให้คนมองตรงข้ามกับสิ่งที่เรามองเห็นได้หมดเลย ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาจะมีมุมที่ตรงข้ามได้หมดผมยังจำได้ว่าตอนเจอคนคิดไม่เหมือนเรา เรายังคิดว่าคนนี้มันอันตรายว่ะ ย้อนกลับไปคิดก็ยังเขินตัวเองตอนที่เป็นสลิ่มว่าเราคิดแบบนั้นได้ไง เช่น ถ้าเขาไม่แฮปปี้กับประเทศไทย เขาก็ไปอยู่ที่อื่นดิ หรือเกลียดนักการเมือง พวกนี้ชั่วมาก เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว พอตอนนี้เรารู้สึกว่าทำไมเราถึงเชื่อโดยที่มีข้อมูลแค่นั้นเองอีกอย่างที่คนอาจยังไม่เปลี่ยน คือคนรุ่นเราเองอาจมีภาวะขึ้นหลังเสือ ลงไม่ได้ มีเพื่อนคนหนึ่งของเราเป็นสลิ่ม ก็มีเพื่อนอีกคนไปถามเขาว่า โอเคกับตู่ไหม เขาก็บอกไม่ แต่ต้องเกลียดไอ้ทอน (ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ) ต่อไป เหมือนต่อให้อันนี้ไม่โอเค แต่มันดีกว่าอีกอัน ไอ้ทอน ไอ้บูด (ปิยบุตร แสงกนกกุล) ยังต้องเป็นตัวร้ายอยู่ หรือเพื่อนอีกคนเป็นคนใต้ ไปถามเขาว่าครั้งนี้จะเลือกประชาธิปัตย์อีกไหม เขาก็บอกว่าไม่ พอถามว่าแล้วจะเลือกใคร เขาก็ยังไม่รู้เหมือนกัน มันเหมือนทางนี้ก็ไม่ใช่แล้ว แต่จะให้กลับไปอีกฝั่งหนึ่งก็เป็นความกระอักกระอ่วนเราอาจจะยอมรับได้ว่าสิ่งที่เราเคยเชื่อมามันไม่โอเค มันไม่ใช่ทางที่ทำให้สังคมน่าอยู่และดีขึ้น มันเหมือนที่ผ่านมามึงเคยโง่นะ มึงยังรู้น้อย วันนี้มึงรู้เยอะกว่าเดิม และมึงยังต้องรู้อีกเยอะนะ ดังนั้นก็จงโอบรับกับสิ่งใหม่ๆ ซะเถอะตอนเป็นสลิ่มเรารู้สึกว่าเราเข้าใจหมดเลย สังคมมันเหี้ยเพราะคนแบบนี้ไง แต่พอเราเลิกเป็นสลิ่ม ทุกอย่างมันซับซ้อนไปหมดเลย เราพูดไม่ได้ว่าถ้าอยากแก้ปัญหามันต้องแก้ที่อะไรก่อน แต่ตอนเป็นสลิ่มทุกอย่างมันง่าย ทุกอย่างมันขาวจัด ดำจัดคิดว่าอาจจะเป็นการรับรู้ เขาเลือกที่จะรับรู้เรื่องราวต่างๆ แบบไหน อย่างตอนนี้เราตระหนักกับตัวเองเยอะว่าสิ่งที่เรารับรู้ มันใช่เปล่าวะ จริงไหมวะ เมคเซ้นส์เปล่าวะ ข้อถกเถียงมันสมเหตุสมผลไหมวะพื้นฐานเลยเราจะฟังเยอะกว่าพูด เพราะในความซับซ้อนนั้น เราเข้าใจแค่ในมุมเรา เราก็เลยจะชอบอ่านคอมเมนต์ต่างๆ ดูว่าเขาคิดยังไง ยกเว้นไปเข้าผิดเพจก็อาจเซ็งหน่อย (หัวเราะ) ถ้าเราไม่พอใจ ก็อาจจะโมโห แต่ไม่ได้คาดหวังว่าโลกมันจะต้องเป็นไปแบบที่เราคิดข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในปี 2561 พบว่า มีผู้ลี้ภัยการเมืองอย่างน้อย 86 คนที่ออกนอกประเทศด้วยเหตุที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร อาจมีตั้งแต่คนที่มีรายชื่อถูกเรียกรายงานตัว มีหมายเรียกเกี่ยวกับคดี 112 หรือคนที่มีคดีความตั้งแต่สมัยการชุมนุมของ นปช. เพราะเป็นความขัดแย้งที่เกี่ยวเนื่องกันมา รวมถึงคนที่ไม่ได้ไปรายงานตัวแต่ถูกควบคุมตัว 7 วันภายใต้กฎอัยการศึก คนเหล่านี้หลังออกค่ายทหารมักรู้สึกว่าชีวิตไม่ปลอดภัยอีกต่อไปและเลือกเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนใหญ่กระจายกันอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน บางคนที่มีสถานะทางสังคมสูงหรือมีความพร้อมมากกว่าก็อาจไปไกลถึงยุโรปและสหรัฐอเมริกาหลังปี 2557 ยังพบด้วยว่า มีผู้ลี้ภัยสูญหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างน้อย 8 รายแม้จะอยู่ในประเทศอื่น คือ 1.กรณีของ อิทธิพล สุขแป้น หรือดีเจซุนโฮ 2.วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ 3.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน นักปฏิวัติและนักจัดรายการวิทยุใต้ดิน 4.ชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือสหายภูชนะ 5.ไกรเดช ลือเลิศ หรือสหายกาสะลอง 6.ชูชีพ ชีวสุทธิ์ (ลุงสนามหลวง) 7.สยาม ธีรวุฒิ และ 8.กฤษณะ ทัพไทยเดือนกรกฎาคม 2559 อิทธิพล สุขแป้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดีเจเบียร์ หรือ ดีเจซุนโฮ นักเคลื่อนไหว นักจัดรายการวิทยุที่ลี้ภัยอยู่ประเทศลาวหายตัวไป โดยทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า จากการตรวจสอบข่าวสารความเคลื่อนไหวกรณีของอิทธิพล สุขแป้นนั้น ทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายตำรวจรับทราบเบื้องต้นว่า ฝ่ายทหารมณฑลทหารบกที่ 36 (มทบ.36) จ.เพชรบูรณ์ ไม่ได้ควบคุมตัวเขาไว้แต่อย่างใดเดือนกรกฎาคม 2560 วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือที่รู้จักกันในชื่อ โกตี๋ หรือ สหายหมาน้อย นักเคลื่อนไหว นักจัดรายการวิทยุ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอาญามาตรา 112 ที่ลี้ภัยอยู่ในลาวหายตัวไป โดยจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ระบุว่า ได้รับคำยืนยันจากคนที่ใกล้ชิดกับโกตี๋ว่า เขาถูกกลุ่มชายชุดดำประมาณ 10 คน คลุมหน้าด้วยหมวกไหมพรม พร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าจับตัวไปเมื่อเวลา 9.45 น.วันที่ 29 ก.ค.2560 จากนั้น โกตี๋ ก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลยและไม่ได้รับการยืนยันจากใครว่าเขามีชะตากรรมอย่างไร แต่ชื่อของเขายังปรากฏอยู่ในหน้าสื่อไทยอีกสักระยะ ผ่านการให้ข่าวของฝ่ายความมั่นคงว่าตัวเขาหรือเครือข่ายของตัวเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองหรืออาวุธต่างๆเดือนธันวาคม 2561 สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นักปฏิวัติและนักจัดรายการวิทยุใต้ดินหายตัวไปพร้อมกับผู้ลี้ภัยอีก 2 คน คือชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือสหายภูชนะ และไกรเดช ลือเลิศ หรือสหายกาสะลองต่อมาชัชชาญ บุปผาวัลย์ และไกรเดช ลือเลิศ ถูกพบศพในแม่น้ำโขงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่สุรชัยยังคงสูญหาย โดยปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือป้าน้อย ภรรยาของสุรชัย กล่าวว่า เชื่อว่าสุรชัยเสียชีวิตแล้วและคาดว่าศพถูกทำลายสำหรับ สุรชัย เขาเป็นนักปฏิวัติที่มีประวัติการเคลื่อนไหวทางการเมืองยาวนานตั้งแต่เข้าป่าไปเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2519 ก่อนจะออกจากป่ามาเป็น ทูตสันติภาพ ทำหน้าที่เจรจาระหว่างทางการไทยกับพคท. และถูกจับกุมตัว สุรชัยถูกคุมขังถึง 16 ปีก่อนจะถูกปล่อยตัวในพ.ศ. 2539 และต้องมาติดคุกอีกครั้งระหว่าง 22 ก.พ.2554 – 4 ต.ค.2556 ในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์จากการปราศัยเดือนพฤษภาคม 2562 ชูชีพ นักจัดรายการวิทยุใต้ดินที่เป็นที่รู้จักในชื่อ ลุงสนามหลวง หายตัวไปพร้อมกับผู้ลี้ภัยอีก 2 คน คือ สยาม ธีรวุฒิ และกฤษณะ ทัพไทย โดยวันที่ 9 พ.ค.2562 มีข่าวว่าชูชีพ สยาม และกฤษณะถูกจับกุมตัวในเวียดนามและส่งตัวกลับไทย แต่ทางการเวียดนามปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลดังกล่าว จนถึงปัจจุบันความพยายามของครอบครัวของสยามที่จะตามหาทั้ง 3 คนก็ยังไม่เป็นผลชูชีพ เป็นผู้ที่มีประวัติการต่อสู้ทางการเมืองยาวนาน เป็นที่รู้จักในหมู่ สหายเก่า ในหมู่ประชาชนที่ตื่นตัวต่อต้านรัฐประหาร คมช. ปี 2549 และเป็นศัตรู (ทางความคิด) ลำดับต้นๆ ของฝ่ายความมั่นคงไทย ในเดือนสิงหาคม 2551 ศาลอาญาออกหมายจับชูชีพในความผิดตามมาตรา 112 จากการปราศรัย คาดว่าเขาเดินทางออกนอกประเทศนับตั้งแต่นั้น ชูชีพประกาศยุติการจัดรายการในเดือนมกราคม 2562 หลังการหายตัวไปของสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ และผู้ลี้ภัยอีกสองคนที่เคยจัดรายการในยูทูบขณะที่ สยาม เป็นนักเคลื่อนไหวและนักจัดรายการวิทยุใต้ติน เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ในระหว่างเป็นนักศึกษา เขาทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มประกายไฟ และกลุ่มประกายไฟการละคร ต่อมาได้ร่วมแสดงในละครเวทีเจ้าสาวหมาป่า ซึ่งทำให้สยามและผู้เกี่ยวข้องกับการจัดทำละครอย่างภรณ์ทิพย์ มั่นคง และปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ถูกแจ้งความดำเนินคดีตามมาตรา 112 แต่คดียังอยู่ในชั้นตำรวจ จนต่อมาเมื่อมีการรื้อฟื้นคดี 112 หลังการรัฐประหาร 2557 สยามจึงเดินทางออกจากประเทศนอกจากนี้ยังมีหลายคนที่หายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้เลย เช่น เสงี่ยม สำราญรัตน์ หนึ่งในกลุ่มแกนนำ นปช. หรือ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ขณะที่ จักรภพ เพ็ญแข ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวการหายตัว แต่ภายหลังปรากฏการโพสต์เฟสบุ๊ค รำลึก 43 ปี 6 ตุลาฯ 2519 เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา | สนทนากับ ธีรพันธ์ เงาจีนานันต์ ผู้กำกับสารคดี ไกลบ้าน ที่ตามชีวิต วัฒน์ วรรลยางกูร ถึงจุดเริ่มต้นไอเดีย และความรู้สึกเมื่อได้สัมผัสกับชีวิตของผู้ลี้ภัยการเมือง | การเมือง,สังคม,วัฒนธรรม,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,ความมั่นคง | วัฒน์ วรรลยางกูร,มนต์รักทรานซิสเตอร์,ธีรพันธ์ เงาจีนานันต์,ไกลบ้าน,ภาพยนตร์,สารคดี,ผู้ลี้ภัย | https://prachatai.com/journal/2020/01/85978 |
เรือธงเอสยูวี มีดีที่ความเฟี้ยว MAZDA CX-9 2017 | Mazda CX-9 2017 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์แนวเอสยูวีรุ่นสูงสุด เปิดตัวออกสู่ตลาดออฟโรดหรูด้วยเจเนอเรชั่นที่ 2 หลังจาก CX-9 รุ่นแรกถูกเปิดตัวออกสู่ตลาดโลกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2006 สำหรับในรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับตัวถังที่สวยและสปอร์ตขึ้น โดยที่มีความยาวของระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 2.2 นิ้ว ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสาร โดยเฉพาะพื้นที่เหนือศีรษะ เบาะนั่งออกแบบได้ดีขึ้น ภายในห้องโดยสารให้ความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวม 7 ที่นั่ง ,Mazda CX-5 โฉมล่าสุดประจำปี 2017 นับเป็นรถเอสยูวีหรูรุ่นสูงสุดของแบรนด์ Mazda ถูกเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปี 2016 รูปลักษณ์ใหม่ที่ยังคงคล้ายคลึงกับ Mazda CX-5 แต่มีการขยับขยายสัดส่วนพร้อมเพิ่มเติมระดับของความหรูหราสง่างามเพื่อให้สมกับการเป็นรถรุ่นเรือธงของแบรนด์ Zoom Zoom เติมเต็มประสบการณ์ของการขับขี่ที่ยังคงสนุกสนานเอาไว้เหมือนเดิม,Mazda CX-9 รุ่นล่าสุดถอดแบบมาจาก Mazda CX-5 โดยเชื่อมโยงรูปลักษณ์กับรถต้นแบบอย่าง Koeru Concept ผสานแนวคิดเดิมซึ่งกลายเป็นจิตวิญญาณของการออกแบบรถยนต์ Mazda นั่นก็คือแนวคิด KODO Design ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์แอลอีดีที่ถูกรีดให้เพรียวบาง ทรงของกระจังหน้าแบบ 5 เหลี่ยมมีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้นสำหรับการยกระดับของความหรูแบบเต็มพิกัด สปอยเลอร์หน้ามีความเป็นรถยุโรปมากกว่าเดิม แนวด้านข้างของตัวถังที่โค้งมนกลมกลืนผสมกับเส้นข้างตัวรถที่ไหลลื่น ไฟท้ายแอลอีดีบางเฉียบ,ฝาท้ายสไตล์เดิมคล้าย CX-5 แต่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นพร้อมกลไกการเปิด-ปิดของฝาท้ายแบบไฟฟ้า ช่วยอำนวยความสะดวกขณะขนของได้ดี Mazda CX-9 2017 ออกแบบเสาหน้าให้มีองศาของความลาดเอียงคล้ายรุ่นเดิม ส่วนเสาท้ายสอดประสานกับแนวหลังคาได้อย่างลงตัวแต่ยังคล้ายกับ CX-5 เทคนิคใหม่ของการออกแบบซุ้มล้อเพื่อทำให้ซุ้มล้อมีขนาดพอดีไม่ใหญ่โตมากเกินไป,Mazda CX-9 โฉมใหม่มีการกรุกรอบโครเมียมบริเวณขอบกระจกทุกบาน ชายล่างของบานประตูเดินคิ้วโครเมียมสีเงิน การออกแบบกรอบกระจกประตูหลังใหม่ที่ทำออกมาได้ดีดูเพรียวบางและหรูหราขึ้น ตัวถังภายนอกเหนี่ยวนำเสนอความสปอร์ตตามแบบฉบับ Design Language ของ Mazda ความยาวตัวถัง 5,065 มิลลิเมตร สั้นกว่าเดิมถึง 30 มิลลิเมตร ล้อแมกซ์ที่มีให้เลือก 2 ระดับความหรู เริ่มด้วยล้อขนาด 18 ในรุ่นมาตรฐานกับขนาด 20 นิ้วในรุ่นสูงสุด,เครื่องยนต์ SkyActiv-G แบบเบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ขนาด 2.5 ลิตร ปริมาตรความจุ 2,500 ซีซี. ระบบอัดอากาศใช้เทอร์โบแบบ Dynamic Pressure Turbo ปรับบูสต์ที่ 1.2 บาร์ เค้นกำลังออกมาได้มากถึง 254 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 31.6 กิโลกรัม-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังยังคงยึดติดกับ SkyActiv-Drive ใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดแมนนวลและฟังก์ชั่น Auto Start-Stop,ระบบรองรับ ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน โช้คอัพ สปริงและกันโคลงแบบใหม่ ,น้ำหนักโดยรวมของตัวรถ CX-9 2017 นั้นถูกลดลงให้เบาขึ้นเกือบ 100 กิโลกรัมในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะเบาขึ้นถึง 130 กิโลกรัม ทีมวิศวกรใช้ความพยายามจนลดน้ำหนักส่วนเกินของ New CX-9 ลงไปอีก 12% ส่งผลไปถึงอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ดีขึ้น,ภายในห้องโดยสารตกแต่งคล้ายกับเอสยูวีระดับบนของยุโรป วัสดุชั้นดีราคาแพงถูกนำมาประดับประดาแทนที่พลาสติกเกรดกลางๆ ในรุ่นที่ผ่านมา แผงแดชบอร์ดผลิตจากโฟมหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ ลายไม้สีเข้มคล้าย BMW ระบบ infotainment หน้าจอสั่งงานด้วยระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อกับโปรแกรม Mazda Connect เครื่องเสียงในระบบให้ความบันเทิงเริงรมย์จัดของแพงมาให้ เครื่องเสียงเกรดสูงพร้อมลำโพงคุณภาพคับหูจาก Bose มากถึง 12 ตัว หนังแท้ Nappa สีน้ำตาลแดงตัดกับลายไม้แท้ผลิตในประเทศญี่ปุ่น,Mazda เล็งตลาดออฟโรดระดับบนที่มีคู่แข่งอย่าง Mercedes Benz -Volvo - Audi และ BMW โดยใช้กลยุทธ์ราคาที่ถูกกว่ามานำเสนอ ผู้บริหารของแบรนด์ Zoom Zoom ตั้งยอดจำหน่ายเอาไว้ถึง 50,000 คันต่อปี โดยเริ่มทำตลาดในอเมริกาเหนือเป็นแห่งแรก หลังจากนั้นจะทยอยขายทั้งในเอเชีย ยุโรปและโอเชียเนียต่อไป.,อาคม รวมสุวรรณ ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/ | เรือธงเอสยูวี Mazda CX-9 2017 หล่อล่ำนำหน้าด้วย Skyactiv Technology เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตรเทอร์โบ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมกลไกขับสี่ AWD ลุ้นตัวโก่งเข้าไทยในปีนี้ (เถอะนะ) | null | Mazda CX-9 2017,มาสด้า,รถมาสด้า,zoom zoom | https://www.thairath.co.th/content/829593 |
นิธิ เอียวศรีวงศ์:ยุบสภา-ทางเลือกที่ต้องเลือก | กรอ.ประชุมกันแล้วหาเหตุผลที่จะไม่ควรยุบสภาออกมาได้ว่า เพราะยังไม่มีความขัดแย้งระหว่างสภาและฝ่ายบริหาร จึงไม่มีเหตุจะยุบสภาได้แต่ใครบอกเล่าว่า เงื่อนไขให้ยุบสภามีได้เพียงอย่างเดียว ยุบเพื่อทำให้ฝ่ายบริหารมีเสียงเพิ่มขึ้นในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เพราะอยู่ในช่วงที่ฝ่ายบริหารกำลังได้รับความนิยม เขาก็ทำกันเป็นปกติในทุกประเทศที่ปกครองด้วยระบบรัฐสภา ยุบเพราะจะเสนอกฎหมายใหม่ที่ต้องการเสียงสนับสนุนแข็งจริง ทั้งๆ ที่เสียงฝ่ายบริหารยังเกินครึ่งในสภาก็ทำกันอยู่เสมอ ยุบเพราะรัฐบาลถูกโจมตีมาก เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ ก็เป็นการแก้ปัญหาทางการเมืองซึ่งที่ไหนๆ เขาก็ทำกันเพราะการยุบสภาเป็นกลไกทางการเมืองที่สำคัญ เอาไว้แก้ปัญหาทางการเมืองเฉพาะหน้า ที่ไหนๆ รวมทั้งเมืองไทยจึงให้อำนาจเด็ดขาดไว้ที่นายกรัฐมนตรี เพราะถึงอย่างไรก็เป็นอำนาจที่จำกัด กล่าวคือยุบแล้วก็ต้องกลับไปหาประชาชนใหม่ จึงไม่มีใครเขาทำประชามติเพื่อยุบสภา หากชอบที่จะปกครองกันด้วยประชาธิปไตยทางตรงอย่างนั้น ทำประชามติกันด้วยเรื่องแผนพลังงานไม่ดีกว่าหรืออีกบางฝ่ายออกมาคัดค้านการยุบสภาว่า ถึงยุบไปก็แก้ปัญหาไม่ได้ แต่ไม่ชัดว่าปัญหาที่ว่านั้นคืออะไร แต่ดังที่กล่าวแล้วว่าการยุบสภาเป็นกลไกการเมืองสำหรับแก้ปัญหาการเมือง ไม่ได้แก้ปัญหาได้ทั่วไป การที่มีคนจำนวนมากออกมายึดถนน และยังมีผู้สนับสนุนไปทั่วประเทศจนกระทั่งกลไกรัฐทำงานไม่ได้ คือปัญหาการเมืองเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ก่อนอื่นอย่างไรก็ตาม หากนิยามปัญหาที่ว่าแก้ไม่ได้ว่าคือสิ่งที่การชุมนุมเรียกร้อง ได้แก่ความไม่เท่าเทียม สองมาตรฐาน และความไม่สมานฉันท์ ถ้าอย่างนั้น ยิ่งไม่ยุบสภาก็ยิ่งแก้ไม่ได้ เพราะเวลาปีกว่าภายใต้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ยิ่งตอกย้ำความไม่เท่าเทียม สองมาตรฐาน และความแตกร้าวมากขึ้นไปอีก แม้ขณะนี้ก็กำลังคิดกันถึงการชดเชยช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผล กระทบจากการชุมนุม โดยไม่ได้แยกระหว่างผู้ประกอบการขนาดใหญ่และเล็ก มันจะเป็นตลกร้ายสักเพียงใด ที่วันหนึ่งเราจะต้องควักกระเป๋าไปอุดหนุนธนาคารกรุงเทพ บริษัทซีพี และ ฯลฯ ในขณะที่ชาวนาและกรรมกรต้องแบกรับความเสี่ยงในความผันผวนทางเศรษฐกิจไปตามลำพังส่วนปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำนั้น นายกฯพูดเองว่าเริ่มคลี่คลายลงแล้ว เพราะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในเอเชียเริ่มฟื้นตัว ผลกระทบของความตกต่ำทางเศรษฐกิจโลกที่กระทบถึงไทยนั้น มาจากการที่เศรษฐกิจไทยผูกอยู่กับเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นแฟ้น แต่หนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่ได้ทำให้ความผูกพันนั้นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่จะบรรเทาผล กระทบแต่อย่างไร เช่นสร้างฐานการผลิตบางส่วนของไทยให้เข้าถึงตลาดโลกส่วนที่ได้รับผลกระทบ น้อย หรือเพิ่มผลิตภาพเพื่อแข่งขันได้ดีขึ้น เป็นต้น ประเทศไทยเคยอ่อนแอทางเศรษฐกิจอย่างไร ก็ยังอ่อนแออยู่เหมือนเดิมยิ่งประหลาดมากขึ้นที่กลุ่มคนซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทน ของ ภาคประชาชน ยกปัญหาเรื้อรังขึ้นมาว่า ปัญหาเหล่านี้ควรถูกนำมาถกกันในการตัดสินใจว่าจะยุบสภาหรือไม่ปัญหาเหล่านี้สรุปรวมแล้วก็คือการจัดสรรแบ่งปัน ทรัพยากรนั้นเอง และนี่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของสังคมไทยจริง แต่จะแก้ปัญหานี้ได้ไม่ใช่หวังพึ่งรัฐบาลใดๆ ทั้งสิ้น (ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือรัฐประหาร) รัฐบาลอภิสิทธิ์เองเพิ่งปล่อยให้ กฟผ.ลงนามในสัญญากับบริษัทจีนและพม่า เพื่อสร้างเขื่อนฮัตจี ทำลายวิถีชีวิตของผู้คนอีกหลายพันในลุ่มน้ำสาละวินตอนกลาง (หากนับรวมถึงประชาชนในพม่าด้วยก็หลายหมื่น) แต่ถึงแม้เป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ก็คงปล่อยให้ กฟผ.ลงนามเหมือนกันนี่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง เรามีการเมืองที่ชนชั้นนำครอบงำ ดังนั้นจึงจัดสรรแบ่งปันทรัพยากรโดยดึงเอามาบำเรอชนชั้นนำ และปล่อยปละละเลยประชาชนระดับล่างที่ได้เคยใช้ทรัพยากรนั้นมาอีกวิถีทาง หนึ่งไปตามยถากรรมแต่เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไรได้ นอกจากเปิดพื้นที่ให้ประชาชนระดับล่างได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ นักวิชาการและเอ็นจีโอที่เสนอเรื่องนี้ก็เคยเข้าไปร่วมเคลื่อนไหวกับประชาชน เช่นให้ข้อมูลที่ทำให้เห็นผลกระทบกว้างไกลกว่าความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของ ประชาชนในท้องถิ่น ช่วยเปิดพื้นที่สื่อให้เสียงคัดค้านการแย่งชิงทรัพยากรเช่นนี้ดังไปถึงคน ชั้นกลางในเมือง และเคยแม้แต่ร่วมเดินขบวนหรือสนับสนุนการประท้วงของชาวบ้านมาแล้วทั้งหมดนี้คือ กระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเครื่องมืออันเดียวที่จะทำให้การจัดสรรแบ่งปันทรัพยากรในประเทศของ เรามีความเป็นธรรมมากขึ้น และคงจะมีโอกาสพัฒนาต่อไปจนพ้นจากท้องถนนไปสู่พื้นที่อื่นๆ มากขึ้น (รวมถึงสภาผู้แทนราษฎรด้วย) ท่านเหล่านั้นฝันไปหรืออย่างไร จึงคิดว่าปัญหาเรื้อรังระดับโครงสร้างเช่นนี้ อาจแก้ได้ด้วยการเจรจาทุบโต๊ะเปรี้ยงเดียว แล้วทุกอย่างเข้าที่หมดนอกจากนี้ มันแก้ปัญหาวิกฤตทางการเมืองเฉพาะหน้าได้อย่างไรควรเตือนไว้ด้วยว่า วิกฤตทางการเมืองที่เราเผชิญอยู่เวลานี้หนักหนาสาหัสมาก เพราะรัฐบาลไม่เหลือทางเลือกอะไรอีกแล้ว นอกจากสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง ซึ่งจะทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายอย่างขนานใหญ่กว่าที่ประเทศไทยเคยเผชิญมา (แม้ใน 6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ) ซ้ำถึงสลายได้ เรื่องก็ไม่ยุติ เพราะจะเกิดการต่อต้านรัฐในรูปแบบต่างๆ ไปทั่วประเทศ รวมทั้งการก่อวินาศกรรมด้วยชนชั้นนำอาจเลือกที่จะไม่เก็บอภิสิทธิ์เอาไว้ โดยยึดอำนาจด้วยกองทัพไปเสียเลย แต่นั่นยิ่งจะนองเลือดมากขึ้น และประเทศไทยจะโงหัวไม่ขึ้นไปอีกหลายปีทั้งหมดนี้ แลกกับการยุบสภาทันที อย่างไหนจะเป็นทางออกจากวิกฤตเฉพาะหน้าได้สงบสันติกว่ากันแม้กระนั้นก็ยังมีบางคนคัดค้านว่า ถึงยอมยุบสภา หลังการเลือกตั้ง หากได้รัฐบาลที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ชอบ ก็อาจออกมาประท้วงปิดถนนอีก จึงไม่ใช่ทางที่จะแก้ปัญหาได้จริงข้อคัดค้านนี้มีความเป็นไปได้ แต่ต้องเข้าใจการประท้วงให้ดีหัวใจสำคัญของการประท้วงไม่ได้อยู่ที่ยึดถนนหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าได้รับการสนับสนุนจากผู้คนในสังคมกว้างขวางเพียงไร หากได้รับกว้างขวางหนักแน่น กฎหมายอะไรๆ ก็ไม่อาจเอาไว้อยู่ (เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของกฎไม่ได้อยู่ที่กลไกรัฐเท่ากับความเห็นชอบของ ประชาชน) ไม่ว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง สถานการณ์ฉุกเฉิน หรือแม้แต่กฎอัยการศึก ฉะนั้น หากอีกฝ่ายหนึ่งมีข้อเรียกร้องที่สังคมโดยรวมเห็นด้วย รัฐบาลใหม่ก็ต้องทำตาม เช่น ขอให้ยุบสภา ก็ต้องยุบสภา แต่หากขอให้ขอพระราชทานนายกฯ สังคมโดยรวมอาจไม่เอาด้วย ถึงตอนนั้นรัฐย่อมสามารถใช้กลไกของรัฐรักษากฎหมายได้ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องเตือนสติให้ผู้จัดตั้งรัฐบาล ต้องคำนึงถึงการยอมรับของสังคมมากขึ้น ไม่ใช่นำเอาคนอันเป็นที่รังเกียจของคนชั้นกลางในกรุงเทพฯ มาเป็นนายกฯ หรือคิดว่าตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร จึงยอมเอายี้มาเต็ม ครม. เพราะจากนี้ไป การกระทำเช่นนั้นจะเป็นผลให้รัฐบาลนั้นไม่สามารถบริหารงานได้เลยในระบบการเมืองที่การประท้วงไม่มีพื้นที่อื่นซึ่ง ได้ผลมากไปกว่าท้องถนน จะให้สังคมเข้ามากำกับรัฐได้อย่างไร สิ่งที่น่าคิดก็คือเราจะสร้างพื้นที่ให้สังคมมีพลังในการควบคุมรัฐนอกท้อง ถนนได้อย่างไรต่างหาก แต่การที่สังคมสามารถกำกับควบคุมรัฐได้มากขึ้นนั้น เป็นความก้าวหน้าของสังคมไทยไม่ใช่หรือบางคนอาจตั้งคำถามเชิงค้านว่า ถ้าอย่างนั้น เรามิต้องปกครองกันด้วย ม็อบ หรอกหรือ ใช่เลยที่เราต้องตกอยู่ในภาวะอย่างนั้น จนกว่าเราจะสามารถสร้างพื้นที่นอกถนนให้แก่สังคมได้ดังกล่าวข้างต้น พูดอย่างที่ผมเคยได้พูดมาหลายครั้งแล้วว่า เราต้องปรับระบบการเมืองของเราให้รองรับความเปลี่ยนแปลงของสังคมให้ได้ นั่นคือมีคนจำนวนมากที่จำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการเมืองระดับชาติ ถ้าเราไม่มีพื้นที่ให้เขาในระบบ เขาก็ต้องใช้พื้นที่นอกระบบ ฉะนั้น หากไม่ปรับระบบการเมืองให้ทัน ก็บอกได้เลยว่า เราจะเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมืองจนกลายเป็นจลาจลเช่นนี้ต่อไปอีกนานทำไมการยุบสภาซึ่งเป็นการกระทำง่ายๆ และเป็นกลไกปกติทางการเมืองเช่นนี้ จึงทำได้ยากเย็นหนักหนาแก่นายกฯ อภิสิทธิ์โดยสรุปแล้ว อภิสิทธิ์เป็นทางออกเพียงอันเดียวของเครือข่ายอำนาจที่สลับซับซ้อนของสังคม ไทย หากไม่นับการรัฐประหารอย่างออกหน้า อันนับวันก็เป็นเครื่องมือที่ไม่คุ้มทุนมากขึ้น เพราะก่อให้เกิดการสึกหรอของสถาบันแห่งอำนาจมากเกินไป (เช่น กองทัพ ตุลาการ ฯลฯ) แต่หนึ่งปีกว่าผ่านไป ก็ยังไม่มีทางเลือกอื่นให้ออกมากไปกว่าอภิสิทธิ์ ฉะนั้น การยุบสภาจึงหมายถึงการทิ้งไพ่จนเกือบหมดหน้าตัก เหลือไพ่ที่ใช้การไม่ดีอีกสองใบเท่านั้นคือ1) สลายการชุมนุมอย่างเด็ดขาดรุนแรง แต่ก็รู้อยู่แล้วว่า จะทำให้ปัญหายิ่งขยายตัวและจัดการยากขึ้น2) รัฐประหาร พร้อมทั้งให้อำนาจที่ไม่มีการตรวจสอบไว้ในมือของฝ่ายชนชั้นนำเต็มที่ ระบบอำนาจนิยมนี้จะสามารถสยบการต่อต้านอย่างรุนแรงได้ ก็โดยวิธีเดียวคือ เป็นผู้นำการปฏิรูปประเทศในทุกด้าน ซึ่งจะมีผลลิดรอนผลประโยชน์และอำนาจของกลุ่มชนชั้นนำเอง แม้อาจมีนักอุดมคติในฝ่ายชนชั้นนำที่คิดจะทำเช่นนี้ ก็ยังมีปัญหาว่าจะรักษาเอกภาพของชนชั้นนำไว้ได้อย่างไร มิฉะนั้นแล้ว นักอุดมคตินั้นก็จะถูกชนชั้นนำอีกกลุ่มหนึ่ง หรือหลายกลุ่มร่วมมือกันโค่นล้มลงจนได้ยุบสภาจึงเป็นทางออกเดียวที่เป็นไปได้มากที่สุด ทั้งแก่ชนชั้นนำเองและแก่สังคมไทยโดยรวม | กรอ.ประชุมกันแล้วหาเหตุผลที่จะไม่ควรยุบสภาออกมาได้ว่า เพราะยังไม่มีความขัดแย้งระหว่างสภาและฝ่ายบริหาร จึงไม่มีเหตุจะยุบสภาได้ แต่ใครบอกเล่าว่า เงื่อนไขให้ยุบสภามีได้เพียงอย่างเดียว | การเมือง,ความมั่นคง | คนเสื้อแดง,นิธิ เอียวศรีวงศ์,ยุบสภา | https://prachatai.com/journal/2010/05/29350 |
สมหมาย ลั่น ลุยภาษีที่ดิน คาดสรุปสัปดาห์นี้ บ้าน 1 ล้าน จ่าย 250 บ.ต่อปี | หรือไม่เกิน 4 ล้าน เสียไม่เกิน 1.5 พันบาทต่อปี,เมื่อวันที่ 16 มี.ค. นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปภาษี เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับสมบูรณ์ เพื่อส่งต่อให้ภาคสังคม และภาควิชาการ ไปพิจารณาการเก็บภาษีใน 4 อัตรา ว่าอัตราที่เหมาะสมควรจะเป็นอย่างไร คือ อัตราภาษีสำหรับที่ดินเพื่อการเกษตร, อัตราภาษีสำหรับที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย, อัตราภาษีสำหรับที่ดินที่ใช้เชิงพาณิชย์ และอัตราภาษีที่ดินที่รกร้างว่างเปล่า,ทั้งนี้ ยืนยันว่าหากยังอยู่ในตำแหน่ง รมว.คลัง จะต้องมีการผลักดันให้ภาษีที่ดินเกิดขึ้นให้ได้ เนื่องจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งคงจะไม่ยอมดำเนินการ เพราะจะกระทบกับคะแนนเสียง ส่วนกรณีที่มีการออกมาคัดค้านภาษีที่ดิน สะท้อนให้เห็นว่าคนในสังคมสนใจแต่เรื่องส่วนตัว เป็นห่วงเฉพาะภาษีที่อยู่อาศัย ไม่ได้มองว่ารัฐบาลมีการจัดเก็บภาษีที่ใช้เชิงพาณิชย์ ที่รกร้างว่างเปล่า ซึ่งจัดเก็บในอัตราที่สูงเพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่มีที่ดินมากๆ นำออกมาใช้เพิ่มกระบวนการผลิต เป็นการลดความเหลื่อมล้ำ,สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินจะสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นเพิ่มขึ้นจากปีละ 2 หมื่นล้านบาท เป็นปีละ 2 แสนล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนนี้ไม่ได้เข้ารัฐบาลกลาง ดังนั้น หากไม่เดินหน้าเก็บภาษีที่ดิน ในระยะต่อไปจะส่งผลให้รัฐบาลมีความเสี่ยงด้านการคลัง ซึ่งที่ผ่านมา มีการทำงบประมาณแบบขาดดุลมานาน รัฐบาลก่อนหน้ามีการใช้งบประมาณแบบล้างผลาญกันมาก ในระยะต่อไปรัฐบาลจำเป็นต้องมีรายได้เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ ต้องมีการกู้เพิ่ม ทำงบขาดดุลต่อเนื่อง ดังนั้น ไม่ควรชะล่าใจกับเพดานหนี้สาธารณะ แม้ว่าวันนี้จะยังต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังก็ตาม,พร้อมระบุหลักการในการจัดเก็บภาษีที่ดินสำหรับที่อยู่อาศัย โดยผู้มีรายได้น้อยต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด มีการเพิ่มอัตราลดหย่อนจากเดิมอัตราจัดเก็บที่ 0.1% ของราคาประเมิน โดยเก็บล้านละ 1 พันบาท ให้ยกเว้นเป็น 1-2 ล้านบาทแรก เสียภาษี 25% ของอัตรา 0.1% จากราคาประเมิน หรือล้านละ 250 บาท บ้าน 2 ล้าน เสีย 500 บาทต่อปี โดยบ้านราคา 3-4 ล้านบาท เสียภาษี 50% ของอัตรา 0.1% จากราคาประเมิน หรือล้านละ 500 บาท ดังนั้น ถ้าบ้านไม่เกิน 4 ล้านบาท จะเสียภาษีไม่เกิน 1,500 บาทต่อปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่เป็นภาระมาก. | สมหมาย ลั่นหากยังอยู่ตำแหน่งขุนคลัง ต้องดันภาษีที่ดินให้เกิดใน รบ.ชุดนี้ เร่งถกให้ได้ข้อสรุปสัปดาห์นี้ ซัดคนค้านเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ แจงต้องนำเงินมาพัฒนาประเทศ คาดบ้าน 1-2 ล้านของราคาประเมิน จะเสียล้านละ 250 บาท | null | ภาษีที่ดิน,คลัง,อัตราภาษีที่ดิน,บ้านราคา1ล้าน,เสียภาษี,คนรายได้น้อย,สรุปภาษีที่ดิน,กรรมการปฏิรูปภาษี,สมหมาย ภาษี,ขุนคลัง,รัฐบาลประยุทธ์,เดินหน้าเก็บภาษีที่ดิน,สิ่งปลูกสร้าง,ชะลอภาษีที่ดิน,อัตราเก็บภาษีที่ดิน,รายได้เข้ารัฐ,ที่ดินเพื่อการเกษตร,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐอออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/487225 |
สู่ขอแล้ว กอล์ฟ คุยแต่ง ขวัญ กับ แม่แอ๊ว เผยเรื่องสินสอดที่นี่ | เปรยถ้าแต่งได้ อยากแต่งพรุ่งนี้เลย แต่ขอเวลาสร้างรากฐานให้มั่นคงก่อน ส่วนสินสอดผู้ใหญ่ให้คุยกันเอง ดีใจที่ขวัญพาไปพบญาติที่เพชรบุรี ส่วนเรื่องบ้านของขวัญ ตนอยากให้แฟนสาวเป็นคนชี้แจงรายละเอียดเอง,มีประเด็นให้ได้พูดคุยเยอะเชียว สำหรับหนุ่ม กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล ที่หวานใจ ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ ออกมาเปิดเผยกับนักข่าวว่า หนุ่มกอล์ฟได้ไปพูดเรื่องสู่ขอกับคุณแม่ตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไหนจะประเด็นชุดแมงมุมที่ฟิตจนรัดเป้าทำให้ชาวเน็ตส่องกันยกใหญ่,เมื่อได้เจอหนุ่มกอล์ฟที่งานแถลงข่าวโครงการประกวด GSB สุดยอด SMEs Startup ตัวจริง @ลาน Eden 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ต้องอัพเดตข่าวคราวกับหนุ่มกอล์ฟซะหน่อย ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเผยว่า ,ชุดแมงมุมโดนจับตามองมาก? อยากให้จับตามองตอนร้องเพลงมากกว่า อย่างที่ผมเคยบอกในรายการ The Mask Singer จริงๆ คนอาจจะจำภาพลักษณ์กอล์ฟหรือดูข่าวและลืมนึกถึงความสามารถตอนที่กอล์ฟร้องเพลงไป แต่จริงๆ มันไม่ได้เบี้ยวนะ (หัวเราะ) มันอาจจะเป็นช่วงย่นของผ้าหรือเปล่า,จริงๆ ชุดแมงมุมรัดมากไหม? รัดครับ มันแน่นเลยล่ะครับ ตอนร้องเพลงก็ตื่นเต้น มันไม่มีจังหวะที่จะมาเก็บอะไรแบบนี้ ซึ่งมันก็เซฟยาก เพราะกอล์ฟไม่ได้ซื้อกระจับไว้ด้วย (หัวเราะ),แต่กอล์ฟว่ามันน่าจะเป็นลายผ้าย่นๆ ตอนที่ยืนมากกว่า มันเลยดูเอียงๆ แต่คนก็ไปซูมกันได้นะครับ คือเวลาที่ใส่ชุดแบบนั้น มันก็ต้องมีจังหวะที่ต้องเซฟ แต่ท่าเล่นบนเวทีกอล์ฟก็เยอะด้วย มันเลยมีออกมาทักทายบ้าง ซึ่งกอล์ฟว่ามันก็คงเป็นลายผ้านั่นแหละ,ถูกคนโฟกัสเยอะเขินไหม? ไม่เขินครับ แต่น่าจะกดดันตอนกอล์ฟร้องเพลงมากกว่า แต่ก็มีถูกคนเข้ามาแซวบ้าง พวกพี่ช่างแต่งหน้า เขาก็จะถามว่าแกใช่หรือเปล่า กอล์ฟก็ตอบไปว่าไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) ,แล้วที่เราไปคอมเมนต์แซวขวัญที่แต่งตัวเซ็กซี่ ว่าเดี๋ยวปล่อยใยแมงมุมใส่เลย? คือน้องเวลาฟิตเนส เขาชอบใส่อะไรแบบสั้นๆ โชว์ กอล์ฟเลยบอกว่าเดี๋ยวแมงมุมโชว์บ้างนะ,ขวัญหวงเราบ้างไหม? ไม่ได้หวงอะไรขนาดนั้นครับ ให้คนได้ดูบ้าง แต่กอล์ฟว่ามันเป็นรอยย่นของเสื้อมากกว่า แต่อย่าลืมไปดูเพลงที่กอล์ฟร้องนะ และกระแสจากการออกรายการดีมาก มีคนติดต่องานอีเวนต์ที่ให้ไปร้องเพลงเพิ่มขึ้นด้วยครับ เพราะคนอาจจะไม่เคยเห็นเราร้องแนวแบบนี้ ยังยึดติดกับเพลงเบาซ์อยู่,แม่แอ๊วไฟเขียวเรื่องแต่งงาน? คือจริงๆ แล้ว มีการคุยกันแต่ว่าไม่ได้จริงจัง และก็ยังไม่ได้เข้าไปขอแบบจริงจัง แต่มีการพูดคุยแค่เกริ่นๆ กันไว้กับผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ใหญ่ก็มีการถามไถ่บ้างในเรื่องนี้,ตัวกอล์ฟเอง ก็อยากวางรากฐานทุกอย่างให้พร้อมก่อน ให้โอเคก่อน เพราะว่าตัวน้องก็ทำงานมาตั้งแต่เด็ก เราเห็นว่าน้องทำงานมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เขาอยู่ในวงการมานานแล้ว ตัวกอล์ฟก็ทำงาน แต่อาจจะไม่ได้เก่งเท่าน้อง แต่กอล์ฟรู้สึกว่าการที่เราจะแต่งงานกัน เราอยากจะวางรากฐานให้ดีทั้งคู่ เพื่อจะได้ดูแลซึ่งกันและกันได้,เราอยากดูแลน้องให้ดีที่สุด ส่วนจะเป็นปีนี้หรือเปล่า น่าจะเป็นเวลาที่เราสองคนรู้สึกว่าพร้อมแล้วก็คงเป็นเมื่อนั้นแหละครับ,แม่ไฟเขียวแล้ว รู้สึกโล่งขึ้นไหม? ก็ดีใจครับ และก็ต้องขอบคุณคุณแม่ด้วยที่ให้โอกาสกอล์ฟ หนังเรื่อง Real แม่ก็เป็นคนหามาให้นะครับ แม่เป็นคนติดต่อมาให้ คือตอนแรกกอล์ฟก็ตกใจเหมือนกัน แล้วก็ลองไปคุยดู,สรุปก็ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ กอล์ฟก็ดีใจและขอบคุณคุณแม่ที่ให้โอกาสกอล์ฟ ตอนนี้มันเป็นการกลับมาคบกันอีกรอบหนึ่ง และเราไม่ได้คบกันแบบเด็กๆ แล้ว ก็จะพยายามเต็มที่ในการทำอะไรก็ตามที่ดูแลน้องได้ ทั้งในเรื่องของจิตใจและเรื่องอื่นๆ ด้วย,เมื่อไหร่ถึงจะพร้อมแต่ง? อย่างที่คุณแม่บอกว่าเรื่องของสินสอด เป็นการที่ต้องให้เราคุยกันเอง 2 คน และตัวกอล์ฟกับขวัญเองเราไม่อยากจะให้คนมานั่งตีมูลค่าความรักของเราเป็นเงิน กอล์ฟไม่ได้บอกว่า การที่เรารักคนคนหนึ่งแล้วต้องมาตีมูลค่าเป็นเงิน มันเทียบกันไม่ได้ กอล์ฟเลยอยากจะให้ตัวเองพร้อมก่อน,ในจุดที่เราสามารถดูแลขวัญได้ และดูแลครอบครัวของน้องได้ด้วย ถามว่าวางแผนอีกกี่ปี ถ้าถามใจกอล์ฟนะ ให้กอล์ฟแต่งวันพรุ่งนี้ ถ้าแต่งได้ก็คงแต่งแล้วล่ะ แต่มันขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่าง,ตอนนี้ถ้ามีงานอะไรเข้ามา กอล์ฟพยายามรับ ถ้ามันเป็นงานที่เข้ากับเรา ทั้งตัวกอล์ฟและขวัญ เราทำงานกันอย่างเต็มที่ ระวังทุกอย่างเพื่ออนาคตของเราทั้งคู่ ถ้ามีธุรกิจอะไรเราก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน,เรือนหอมีมองไว้ไหม? คือเรื่องนี้เรายังไม่ได้คุยกันจริงจัง แต่เวลาที่เราเปิดหนังสือดูว่าเราอยากได้บ้านแบบนี้จังเลย เดี๋ยวรอมีตังค์ก่อนนะ แล้วเดี๋ยวค่อยไปซื้อ (หัวเราะ) เพราะกอล์ฟเพิ่งซื้อคอนโดไปเอง,รู้สึกยังไงที่ความจริงใจของกอล์ฟเห็นผลกับแม่แอ๊ว? กอล์ฟรู้สึกว่าถ้าเราคิดดีทำดีสิ่งที่ดีจะตอบกลับมาที่เราเอง เราไม่เคยไปคิดอะไร หรือไปคิดในเรื่องของผลประโยชน์ในการคบกันเลย กอล์ฟไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นทั้งสิ้น ตั้งแต่ที่กอล์ฟอายุ 18 กอล์ฟเคยรักเขายังไงตอนนี้ก็ยังรักเขาแบบนั้นจนถึงทุกวันนี้,คิดว่าจะมีวันนี้ไหม วันที่แม่แอ๊วจะยกลูกสาวให้? ไม่เคยคิดถึงขนาดนี้เลย ณ วันที่มีข่าวตั้งแต่ตอนแรก ตอบก็คิดแค่ว่าไม่เป็นไรหรอก เราแค่ทำดีไปเรื่อยๆ ตอบก็คิดแค่ว่า การที่เราทำดี เราก็น่าจะได้สิ่งที่ดีตอบแทนไม่ว่าจะทางใดก็ตาม,ขวัญบอกพาไปหาญาติที่เพชรบุรี? ก็ดีใจ แต่จริงหรือเปล่าอ่ะที่เขาไม่เคยพาใครไปเลย (ยิ้ม) ดีใจนะที่มีโอกาสได้ไปเจอญาติๆ ของน้องที่จังหวัดเพชรบุรี มีได้นั่งคุยกัน,ญาติๆ ก็มีเกริ่นๆ ถามเรื่องนี้ ว่าจะเอายังไงล่ะเราสองคน ก็อย่างที่ก็บอกนะครับ ก็พยายามทำให้เต็มที่ที่สุด ถามว่ากดดันไหมก็นิดนึงแหละ แต่เชื่อว่าแฟนๆ ทุกคนที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้เรา รักและเอ็นดูเรา ชื่นชมในความรักของเรา ที่เรารักเขาและเราจริงใจ,ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ ที่อยากให้เราแต่งงานกันจริงๆ เราก็อยากแต่งงานกันนะ แต่เราขอเวลาก่อน ถามว่าปีหน้ามีลุ้นไหม เนี๊ยกดดันอย่างเดียวเลย (หัวเราะ),เรื่องบ้านของขวัญที่เสียหายจากผู้รับเหมาทำไม่ดี? เรื่องบ้านของน้องก็ในเรื่องของรายละเอียดอยากจะให้น้องเป็นคนออกมาแจกแจงมากกว่า แต่ในส่วนของกอล์ฟ เท่าที่กอล์ฟเห็น เพราะว่ากอล์ฟไม่ได้เข้าไปยุ่งตั้งแต่แรก และก็ไม่อยากจะข้ามเส้นจนเกินไป เพราะว่าน้องเขาเริ่มทำขึ้นมากับคุณแม่,พอตอนหลังๆ ได้เข้าไปช่วยดูบ้าง ก็รู้สึกว่าการที่น้องบอกว่า ตรงนี้ให้ทำหน่อยนะ ไม่ได้หมายความว่า ทำแล้วทิ้งไว้จนเกิดความเสียหายขึ้นมา แต่หมายถึงว่าให้ทำจนเสร็จเรียบร้อยและตัวช่างก็น่าจะรู้ว่าคำว่าให้ทำตรงนี้ ก็ควรจะทำให้ดี ไม่ใช่ทำให้รั่ว,กอล์ฟรู้สึกว่าสมัยนี้อะไรที่เป็นอาชีพของเรา เราต้องมีศักดิ์ศรีเพราะเรารับเงินเขามาแล้ว เราต้องทำให้เต็มที่ ยิ่งตอนนี้มีข่าวว่าดาราหรือศิลปินจ้างผู้รับเหมามาทำบ้านแล้วเปลี่ยนบ่อยๆ มันก็ไม่ดี กอล์ฟคิดว่าอย่าทำให้อาชีพนี้มันต้องเสียหายเพราะคนไม่กี่คนที่ไม่ตั้งใจทำ เพราะรู้สึกว่าทำอะไรเราก็ต้องทำเต็มที่ เพราะมันคืออาชีพของเรา,ถามว่าโกรธแทนน้องไหม ก็รู้สึกด้วยเหมือนกัน รู้สึกไม่ดีแทนด้วย สงสารน้อง แต่ช่วงนี้กองถ่ายหนังหนักมาก เเละน้องเป็นผู้หญิงต้องอยู่กับแม่เพื่อช่วยดูเรื่องบ้าน กอล์ฟรู้สึกว่าคนที่เข้ามาทำงานตรงนี้ควรจะทำให้ดี. | กอล์ฟ พิชญะ แจงเรื่องคนจับผิดเป้าชุดแมงมุม อาจจะเป็นที่ลายผ้า บอกตนเซฟอย่างดี แต่อาจจะมีผิดพลาดในช่วงที่แสดงบนเวทีได้ ไม่ซีเรียสคนจ้องเป้า ส่วนเรื่องขอ ขวัญ อุษามณี กับแม่แอ๊ว รับมีการพูดคุยกับแม่แล้ว แต่ยังไม่ใช่แบบทางการ | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล,ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์,กอล์ฟ ขวัญ แต่งงาน,กอล์ฟ หน้ากากแมงมุม,กอล์ฟ เป้าเบี้ยว | https://www.thairath.co.th/entertain/news/944237 |
รอเสียบแทน | จึงต้องมีการสรรหา ,กกต.ชุดใหม่, 7 คน (เพิ่มจากเดิมอีก 2 คน) เพื่อเสียบแทน 5 เสือ กกต.ชุดที่โดนเซ็ตซีโร่ ให้เสร็จภายใน 90 วัน,ล่าสุด ,คณะกรรมการสรรหากกต., ชุดใหม่ซึ่งมี นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. และ นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นรองประธาน รวมกับกรรมการสรรหาจากศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้ตรวจการแผ่นดินอีก 3 คน ได้ประชุมเห็นชอบจะเปิดรับสมัคร กกต.ชุดใหม่ ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน รวมทั้งสิ้น 23 วัน,แม่ลูกจันทร์ ขอเชิญพระคุณท่านที่สนใจจะสมัครเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ ให้เตรียมเข้าร่วมมหกรรมลากตั้งแห่งชาติให้พร้อมหน้าพร้อมตา,โดยคณะกรรมการสรรหา 6 คน ซึ่งมีประธานศาลฎีกาเป็นประธานจะมีหน้าที่คัดเฟ้นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อแต่งตั้งเป็น กกต.ชุดใหม่ 5 คน,และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะเลือกผู้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีผู้พิพากษา หรืออธิบดีอัยการ ให้เป็น กกต.ในโควตาที่เหลืออีก 2 คน,ถ้ากระสุนไม่ขัดลำกล้องวันที่ 12 ธันวาคมนี้ จะได้เห็นโฉมหน้า 7 เสือ กกต.ชุดใหม่ ที่จะแผ่พังพานคุมการเลือกตั้งแทน 5 เสือ กกต.ชุดเดิม,แม่ลูกจันทร์ ชี้ว่า พ.ร.บ.กกต.ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครเป็น กกต.ทั้ง 7 คน ไว้สูงกว่าเดิมหลายประเด็น เช่น,1, ต้องเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดี หรือเทียบเท่าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี,2, เป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี,3, เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางกฎหมายและมีผลงานประจักษ์ชัดไม่น้อยกว่า 20 ปี,4, เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลังการบัญชี ซึ่งเคยมีตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทมหาชน ไม่น้อยกว่า 10 ปี,5, เป็นผู้ที่ทำงานในภาคประชาสังคมมีผลงานโดดเด่นไม่น้อยกว่า 20 ปี,แค่นี้ยังไม่พอยังเพิ่มเงื่อนไขพิเศษอีก 6 ประการ เช่น,1, ต้องไม่เป็นข้าราชการ หรือหน่วยงานของรัฐในปัจจุบัน,2, ต้องไม่เคยเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือกรรมการองค์กรอิสระใดๆ,3, ต้องไม่เคยเป็นสมาชิกพรรค การเมือง หรือเคยดำรงตำแหน่งการเมืองภายในเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี,4, ต้องไม่เคยมีตำแหน่งเป็นกรรมการ หรือที่ปรึกษาหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจใดๆ,5, ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี และต้องมีสุขภาพร่างกายแข็งโป๊ก ไม่มีโรคเรื้อรัง,6, ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน,แม่ลูกจันทร์ กระชุ่นผู้สนใจจะสมัครรับลากตั้งเป็น กกต.ชุดใหม่ให้ตรวจสอบคุณสมบัติตัวเอง ย้อนหลังอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม,เพราะคุณสมบัติและข้อห้ามที่กำหนดไว้มันเยอะจริงๆ,ถ้ารู้ว่าตัวเองคุณสมบัติไม่ครบอย่าสมัครลากตั้งให้ป่วยการ,แม้ได้รับลากตั้งเป็น กกต.แล้ว ถ้ามีผู้ตรวจพบว่าขาดคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ท่านต้องพ้นตำแหน่งทันที,เงินเดือน กกต.ต้องคืนหลวงทุกบาททุกสตางค์,โอ๊ยยยุ่งตายชักเชียวนะโยม.,แม่ลูกจันทร์ | เมื่อคณะกรรมการ กกต. 5 คน โดนเทกระจาดทิ้งกลางทางอย่างไร้ความปรานี จึงต้องมีการสรรหา กกต.ชุดใหม่ 7 คน (เพิ่มจากเดิมอีก 2 คน) เพื่อเสียบแทน 5 เสือ กกต.ชุดที่โดนเซ็ตซีโร่ ให้เสร็จภายใน 90 วัน | เลือกตั้ง | กกต.,เซ็ตซีโร่,เลือกตั้ง,สำนักข่าวหัวเขียว,แม่ลูกจันทร์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1092780 |
รัฐบาล-คสช.เดินหน้าต่อตามโรดแมป ยันจัดเลือกตั้งปี 60 | วานนี้ ( 17 ต.ค.2559) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกฝ่ายอย่าตำหนิผู้ที่ใช้คำศัพท์ไม่ถูกต้องแต่ย้ำเตือนให้ระมัดระวังการลดทอนพระบรมเดชานุภาพ ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ นายวิษณุ เชื่อว่า จะมีการหารือเตรียมการพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ที่ต้องการเดินทางมาถวายสักการะส่วนการสร้างพระเมรุมาศยังต้องรอพระราชวินิจฉัย จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพราะเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดมาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า รัฐบาล และ คสช.ยังคงเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ตามโรดแมปที่วางไว้ และกล่าวย้ำให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวลโดยเฉพาะการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2560 อย่างแน่นอนส่วนร่างรัฐธรรมนูญ ขณะนี้อยู่หว่างการเขียนลงสมุดไทย คาดว่า จะเสร็จในช่วงต้นเดือน พ.ย. และจะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายได้ตามกรอบเวลา ซึ่งรัฐบาลมีเวลาถึงวันที่ 9 พ.ย.นี้ด้านนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า การประชุมพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้มีสิ่งที่ต้องคิดกันเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ คือการปรับแก้คำปรารภ จึงเตรียมหารือกับศาลรัฐธรรมนูญ ว่าฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายแก้ไข ระหว่าง ครม. กับ กรธ.ส่วนผู้ลงในพระปรมาภิไธย คือผู้สำเร็จราชการนั้น นายมีชัย ยืนยันว่า สามารถทำได้ หากเป็นผู้สำเร็จราชการ แต่คำปรารภจำเป็นต้องปรับแก้โดยไม่ขึ้นต้นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างที่เคยเขียนไป | รัฐบาล และ คสช. ยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ยังคงยึดโรดแมปที่วางไว้ โดยเฉพาะการจัดการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ในปี 2560 | การเมือง | รัฐบาล,คสช.,โรดแมป,เลือกตั้ง,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พระราชพิธีพระบรมศพ | https://news.thaipbs.or.th/content/256782 |
17 เครือข่ายประชาสังคม ร้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ | พร้อมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายนิเซ๊ะ นิฮะ ซึ่งถูกควบคุมตัวต่อเนื่องโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน และให้มีหนังสือยอมรับผิดต่อความผิดพลาดในการทำงานของเจ้าหน้าที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ และให้รัฐชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้ถูกควบคุมตัวโดยมิชอบตามสมควรแก่กรณี 000000 แถลงการณ์ กรณี/เรื่อง ขอให้ยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2554 ได้มีใบแจ้งข่าวจากศูนย์ทนายความมุสลิม แจ้งว่าศาลจังหวัดปัตตานีเรียกเจ้าหน้าที่ไต่สวนการควบคุมตัวไม่ชอบ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กรณีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าจับกุมนายนิเซ๊ะ นิฮะ ที่บ้านเลขที่ 32/5 หมู่ที่3 ตำบลตะลุโบะ อำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี ในวันที่ 16 กันยายน 2554 เวลาประมาณ 05.00 นาฬิกา โดยไม่ได้แสดงหมายแต่อย่างใด และควบคุมตัวไปยังค่ายทหารบริเวณโรงไฟฟ้าปัตตานี ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 นาฬิกา วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวต่อไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และทำการซักถามโดยมิได้แจ้งว่าการควบคุมตัวและการซักถามดังกล่าว เป็นไปโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายใด ระหว่างการซักถามเจ้าหน้าที่สอบถามถึงประวัติส่วนตัว โดยมิได้มีการซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2554 เจ้าหน้าที่ศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ค่ายอิงคยุทธบริหารฯ แจ้งกับนายนิเซ๊ะ นิฮะ ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะพ้อ อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ยื่นคำร้องขอออกหมายควบคุมตัวตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยมิได้แจ้งว่าเหตุที่ขอออกหมายควบคุมตัวดังกล่าวเป็นไปด้วยความจำเป็นใด และในวันที่ 25 กันยายน 2554 เจ้าหน้าที่ศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์นำผลการซักถามให้ผู้ถูกควบคุมตัวลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าว โดยในเอกสารดังกล่าวผู้ถูกควบคุมตัวให้การปฏิเสธและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น ต่อมาพนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการควบคุมตัวในวันที่ 26 กันยายน 2554 และย้ายสถานที่ควบคุมตัวไปที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา จึงเป็นการดำเนินการที่ซ้ำซ้อนและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ภายหลังจากที่ผู้ร้องคัดค้านได้ยื่นคำร้องแล้วนั้น ศาลมีคำสั่งนัดไต่สวนผู้ร้องและผู้ร้องคัดค้านและนายนิเซ๊ะ นิฮะ ผู้ถูกควบคุมตัว ในวันพุธที่ 5 ตุลาคม 2554 เวลา 09.30 นาฬิกา ทั้งนี้นายนิเซ๊ะ นิฮะ นั้นปัจจุบันเป็นปัญญาชนที่มีบทบาทในงานพัฒนาชุมชนตามวิถีชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น อดีตเป็นนักกิจกรรมนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงสมัยที่มีการชุมนุมของประชาชนและนักศึกษาขับไล่ พลเอกสุจินดา คราประยูร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือเหตุการณ์ที่เป็นที่รู้จักกันว่า เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี2535 ร่วมกับพรรคสานแสงทองซึ่งเป็นพรรคการเมืองนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง จากนั้นก็ได้มีบทบาทเกี่ยวข้องกับงานพัฒนาสังคมและชุมชนมาโดยตลอด อาทิเช่นงานค่ายอาสาพัฒนาชนบท หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬได้มีโอกาสร่วมเคลื่อนไหวกับสมัชชาคนจน กระทั่งได้รับเลือกเป็นประธาน PNYS (กลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มหาวิทยาลัยรามคำแหง) เมื่อปี 2537 และต่อมาได้มีส่วนร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม ร่วมกับองค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคมอย่างต่อเนื่อง จนจบการศึกษาในปี พ.ศ. 2540 คณะรัฐศาสตร์ สาขาการปกครอง ด้วยตระหนักถึงมาตรฐานแห่งหลักนิติรัฐที่มีเจตนารมณ์จะคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และจะผดุงซึ่งความยุติธรรมในสังคม ถ้าพิจารณาถึงประโยชน์ของพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต่อการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งที่ชายแดนใต้ โดยยึดหลักเจตนารมณ์แห่งหลักนิติรัฐข้างต้นแล้ว คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่มีเหตุผลแห่งตรรกะใด ที่จะยอมรับได้ว่าไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐอ้างอำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในขณะควบคุมตัวประชาชนที่ถูกสงสัย และตามอำนาจของกฎหมายฉบับนี้ ประชาชนไม่มีสิทธิจะทำการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่อ้างว่าได้ปฏิบัติตามหน้าที่ อาทิเช่น กรณีมีการซ้อมทรมานผู้ถูกสงสัยขณะควบคุมตัว โดยเฉพาะที่เป็นข่าวครึกโครม นั่นคือ กรณีอิหม่ามยะผา กาเซ็ง และกรณีนักศึกษาราชภัฎยะลา เพื่อไม่ให้เป็นแค่น้ำผึ้งเพียงหยดเดียว ที่เป็นเหตุให้ต้องเกิดการแสดงออกทางการเมืองของภาคประชาชน ที่ยกระดับมากกว่านี้ และทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศต้องเสียชื่อเสียงต่ออานารยะประเทศที่เคารพในหลักการสิทธิมนุษยชนสากลนั้น เครือข่ายประชาสังคมคัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐ ดังต่อไปนี้ หลังจากแถลงการณ์ฉบับนี้ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ ขอให้รัฐปล่อยตัวนายนิเซ๊ะ นิฮะ ทันที เพื่อเป็นบรรทัดฐาน และให้มีหนังสือยอมรับผิดต่อความผิดพลาดในการทำงานของเจ้าหน้าที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ให้รัฐชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้ถูกควบคุมตัวโดยมิชอบตามสมควรแก่กรณี ขอเสนอต่อรัฐบาลให้ยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ภายใน 30 วัน ถ้ายังตระหนักถึงความมั่นคงในสิทธิเสรีภาพของประชาชน องค์กรภาคี เครือข่ายประชาสังคมคัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สนน.จชต.) มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม(MAC) ศูนย์ประสานงานองค์กรนักศึกษาและเยาวชนชายแดนใต้(BOMAS) สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) องค์การบริหาร องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี องค์การบริหารนักศึกษาภาคปกติมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา สภานักศึกษา องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เครือข่ายส่งเสริมสิทธิและเข้าถึงความยุติธรรม (HAP) มูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ (YAKIS) ศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมเพื่อประชาธิปไตย (CCPD) ศูนย์วัฒนธรรมอิสลามเพื่อการพัฒนา (PUKIS) สมาคมเยาวชนเพื่อการพัฒนา (YDA) สมาคมสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสันติภาพ (DEEPPEACE) สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย(สนมท.) เครือข่ายผู้ช่วยทนายความมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม(SPAN) เครือข่ายบัณฑิตอาสาจังหวัดชายแดนภาคใต้(INSOUTH) กลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้มหาวิทยาลัยรามคำแหง(PNYS) | (3 ต.ค.54) 17 เครือข่ายประชาสังคมด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชนในภาคใต้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใน 30 วัน | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง | นิเซ๊ะ นิฮะ,พ.ร.ก.ฉุกเฉิน,สามจังหวัดชายแดนใต้ | https://prachatai.com/journal/2011/10/37208 |
ศักดิ์ศรี เกียรติหมู่9 หลักเหลี่ยมดีจะชนะ ปานเพชร ไฟต์เตอร์มวยไทย | ศักดิ์ศรีฉลาดกว่าจะชนะปานเพชรท้ายๆ โจโจ้-ทับทิมทอง-เพชรเอก-ต้องลุ้น,เวทีลุมพินี วันศุกร์ที่ 30 ส.ค. (วันนี้)เป็นรายการมวย ศึกทรูโฟร์ยูมวยมันส์+ศึกเกียรติเพชร จัดโดยโปรโมเตอร์ เสี่ยตังค์ ปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ร่วมกับ เสี่ยชุ้น พีรพงศ์ ธีระเดชพงศ์ คู่มวยคู่คี่ เก็บค่าดู 400–800–2,000 บาท ทรูโฟร์ยูถ่ายทอดสด เวลา 18.05-20.00 น. ชัย ศิษย์อ.บี้ขอวิจารณ์ไปตามฝีมือดังนี้,หนองหานเล็ก เอ็มทีเอ็มอคาเดมี่ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงกว่า จะชนะ จอมยุทธ ส.บริสุทธิ์ 106 ป.,แก้วมังกร เกียรติภัทรพรรณ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฟอร์มสดมีฮึดตลอด จะชนะ เกินร้อย ส.พวงทอง มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดแต่แรงปลายเป็นรองชนิดสนุกอีกครั้ง (ฟอร์มหลัง แก้วมังกร ชนะคะแนน เกินร้อย ที่ ลพน.) 119ป.,เทพมังกร เกียรติภัทรพรรณ (ชนะทีเคโอ อาราเบี้ยน ส.สปาร์คยิม ยก 3 ที่ ลพน.) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่า จะชนะ พยัคฆ์โด่ง เกียรติฉัตรชัย (แพ้คะแนน ไอคิว เอราวัณที่ ลพน.) มวยจังหวะฝีมือเตะต่อยหมัดแทงเข่าแม่นยำรุนแรงฉลาดแต่เสียดสียืดเยื้อเป็นรองท้ายๆ 114ป.,ศักดิ์ศรี เกียรติหมู่ 9 (ชนะคะแนน ไก่ป่า 13 เหรียญทาวเวอร์ ที่ ลพน.) มวยจังหวะฝีมือเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดหลักเหลี่ยมดีกว่า จะชนะ ปานเพชร ไฟต์เตอร์มวยไทย (ชนะคะแนน แขวง ก้องธรณีมวยไทย ที่ ลพน.) มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดแต่จังหวะหลักเหลี่ยมเป็นรอง 121 ต่อ 122 ป.,แสนไกร ส.สละชีพ มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่แข็งแกร่งเป็นรอง จะแพ้ เพชรเอก (ฟ้ามีชัย) เกียรติจำรูญ ชนิดสนุกอีกครั้ง 105 ป.,เพชร พรัญชัย มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่เสียดสีเป็นรอง จะแพ้ มเหศวร ศิษย์หนุ่มน้อย 110 ป.,ทับทิมทอง สจ.เล็กเมืองนนท์ (ชนะคะแนน หงส์ขาว เอราวัณ ที่ ลพน.) มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฉลาดฟอร์มสด จะชนะ ยุทธพร น.นริสสร (ชนะทีเคโอ กัมปนาท ภ.หลักบุญ ยกแรก ที่ ลพน.)มวยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกแม่นยำรุนแรงฉลาดชนิดสนุกพลิกไปมาอีกครั้ง 104 ป.,เปรี้ยวพรัญชัย(ชนะคะแนน คมกริช อ.ขวัญทอง ที่สงขลา) มวยจังหวะฝีมือเตะต่อยหมัดแทงเข่าแม่นยำรุนแรงฉลาดแต่เข่าในเป็นรอง จะแพ้ โจโจ้ แป๊ะมีนบุรี (ชนะคะแนน สกัดเพชร ทีเด็ด 99 ที่ ลพน.) มวยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกปล้ำตีรุนแรงฟอร์มสดมีฮึดตลอดกว่าท้ายๆ 115 ป.,อินทรีย์แดง เกียรติกำนันจะแพ้ เค ลูกมะขามหวาน 130 ป.,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ | เวทีลุมพินีวันนี้ เป็นรายการมวย ศึกทรูโฟร์ยูมวยมันส์+ศึกเกียรติเพชร จัดโดยโปรโมเตอร์ เสี่ยตังค์ ปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ร่วมกับ เสี่ยชุ้น พีรพงศ์ ธีระเดชพงศ์ | null | วิเคราะห์มวย,คู่มวยเด็ด,ประกบคู่มวย,ศึกเกียรติเพชร,ศึกทรูโฟร์ยูมวยมันส์,ชี้มวยเด็ด,ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ | https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/1648558 |
ใครเกิดใครดับ? ตามส่องซูมๆ แฟชั่นพรมแดงสุดอลังการ | งานนี้มีหรือที่เหล่าซุปตาร์คนดังจะมาอวดโฉมกันแบบธรรมดา ถ้าเป็นแบบนั้นเราคงผิดหวังกันแย่ งานนี้นางๆ เลยจัดเต็ม งัดไม้เด็ดทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม ออกมาประชันความงาม สะกดทุกสายตายามย่างกราย โชว์ออร่า เรียบหรูดูแพง สวยปังสุดๆ บางคนก็เรียกเสียงฮือฮาด้วยการอวดอึ๋มโชว์สัดส่วนสุดเซ็กซี่และเร่าร้อน เสียงชัตเตอร์และรัวแฟลตจากช่างภาพกระหึ่มทีเดียว งั้นตามไปส่องแฟชั่้นพรมแดงกันดีกว่าว่า งานนี้ใครจะเกิดใครจะดับกันบ้างงงง,เดินพรมแดงเกือบทุกงาน ถ้างานไหนมีหนุ่ม ณเดชน์ แต่ไม่มีสาวญาญ่าก็ดูแปลกตาไป เพราะคู่นี้ส่วนมากจะไปเป็นแพ็กคู่จ้า ขึ้นรับรางวัลแบบแพ็กคู่เกือบทุกเวที ,ชุดเดรสเกาะอกสีขาวดูสะอาดตาของสาว นุ่น วรนุช พร้อมด้วยกระเป๋าถือใบเล็กสีขาว ตัดกับพรมสีแดง ซึ่งดูโดดเด่นมาก ,สวยแบบเรียบๆ แต่ดูหรูกับ แต้ว ณฐพร,แม้จะเดินทางมาร่วมงานเลตไปหน่อย เพราะลงไปช่วยคนที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุระหว่างทาง แต่สาว จักจั่น อคัมย์สิริ ก็ยังสามารถมางานได้ทันเวลา พร้อมกับชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำตัวสวย พร้อมปากแดงดูโดดเด่น ,สาวมะนาว ศรศิลป์ กับเดรสเกาะอกตัวสวย ,นางเอกคนสวย มิว นิษฐา กับชุดเดรสสีดำเรียบร้อย แต่หรูไม่เบา,กรีน อัษฎาพร มาพร้อมกับความฟรุ้งฟริ้ง นึกว่าเจ้าหญิงเอลซ่ามาเอง ,บอยๆ คุยกัน ตัดผมสั้นเรียกเสียงฮือฮามากๆ สำหรับสาว สายป่าน อภิญญา ที่ดูหล่อเหลาเอาการ เอ้ย ดูน่ารักสุดๆ เปลี่ยนลุคไปมาก แบบนี้ดูเก๋ไปอีกแบบเนอะ,ทีมบีก็มา สาวบี น้ำทิพย์ แห่งเดอะเฟซไทยแลนด์ ชุดดูเบาไปนิด แต่สตรองมากๆ ,ขุ่นแม่ลูกเกด เมทินี ก็มานะจ๊ะพี่จ๋า,ทับทิม อัญรินทร์ กับชุดกระโปรงสีดำฟูฟ่องยาวลากพื้น,มิว ลักษณ์นารา กับชุดสีดำยาวลากพื้น,กำลังอินเลิฟสุดๆ สำหรับสาว จ๊ะ อาร์สยาม งานนี้อายุไม่เป็นอุปสรรค ขอแค่ใจตรงกันก็พอ ,ม่านฟ้า อรปภัตร มากับชุดเดรสสีขาว แต่แอบอวดอึ๋มและขาขาวๆ ,น้ำเพชร สุณัณณิการ์ ชุดนี้ดูสวยและแพงเหมาะกับเธอมากๆ,ควงกันมาร่วมงานพร้อมกันสามสาวพี่น้องแห่งบ้านอิมราพร เนย วรัฐฐา แจม ชรัฐฐา และพิกเล็ท ชาราฎา นึกว่าแฝดสาม เพราะดูคล้ายกันทั้งพี่ทั้งน้องเลยจ้า,ไม่เจอหน้านาน แต่สาวซาบิน่า ไมซิงเกอร์ จากเดอะเฟซไทยแลนด์ซีซั่น 1 ก็ยังสวยเหมือนเดิม,สาว พลอยชมพู กับชุดเดรสเกาะอกสีเขียวเข้ม ดูแปลกตาทีเดียว เพราะส่วนมากจะเห็นเธอมาในมุมใสๆ,ลองเปลี่ยนลุคจนดูแปลกตาไปทีเดียว สำหรับสาว แอปเปิ้ล ลาภิสรา หรือ แอปเปิ้ล เดอะสตาร์ 7 ที่ครั้งนี้ขอแอบเซ็กซี่เล็กๆ ด้วยชุดเดรสคว้านบน และคว้านด้านข้าง เผยให้เห็นขาเรียวขาว ,เป็นสาวเต็มตัว สำหรับ มายด์ วิรพร ขอสวยแบบจัดเต็มกับเดรสเกาะอกสีขาว ดูสวยใสตามวัย,เชอรีน ณัฐจารี หรือ เชอรีน เดอะสตาร์ 9 กับชุดเดรสเกาะอกสีดำ พร้อมหน้าผมแบบจัดเต็ม ดูสวยไปอีกแบบ,สาวคนนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ สำหรับ กระต่าย แม็กซิม มาพร้อมกับความอึ๋มและแซ่บ เรียกเสียงรัวชัตเตอร์จากช่างภาพได้ดังกระหึ่มมาก,ดูเบาไปนิดนึง สำหรับสาว เปิ้ล ไอริณ หรือเธอเริ่มจะแขวนเต้าแล้วกับพรมแดงในครั้งนี้?? | เป็นปกติของทุกปีที่จะมีการจัดงานประกาศรางวัลในแต่ละสื่อขึ้น ซึ่งแต่ละงานนั้นก่อนที่จะขึ้นรับรางวัล ก็จะมีการเดินพรมแดงโชว์สไตล์การแต่งตัวของดาราคนดังที่มาร่วมงาน และเปรียบเสมือนเป็นรันเวย์ไว้ประชันความสวยหล่อกัน | null | คอลัมน์บันเทิงออนไลน์,คอลัมน์บันเทิง,ส่องสไตล์ซุปตาร์,แฟชั่นดารา,ดาราพรมแดง | https://www.thairath.co.th/content/870091 |
ปธ.นาโปลี ไม่ไว้หน้า ด่ากราด อิกวาอิน คนทรยศ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 28 ก.ค. ว่า ออเรลิโอ เด ลอเรนติส ประธานสโมสรชื่อดังของนาโปลี อัด กอนซาโล อิกวาอิน แข้งทรยศหลังตัดสินใจย้ายซบคู่แข่งแย่งแชมป์อย่าง ม้าลาย ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวสถิติลีก,ดาวซัลโวกัลโชเซเรียอา ฤดูกาลที่ผ่านมาตัดสินใจย้ายจากนาโปลี ไปเล่นให้กับ ม้าลาย ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวมโหฬารถึง 90 ล้านยูโรเมื่อคืนนี้พร้อมกับเซ็นสัญญาระยะยาว 5 ปี,ซึ่งการย้ายทีมข้ามฟากของอิกวาอินครั้งนี้ทำให้แฟนบอลนาโปลีโศกเศร้าเสียใจ รวมไปถึงประธานสโมสรนาโปลีที่ออกมาชี้ชัดว่าแข้งรายนี้คือคนทรยศต่อสโมสรของเขา,หลายคนบอกว่า คำว่าทรยศมันดูแรงเกินไป แต่ผมคิดตรงข้าม ปธ.นาโปลี กล่าวผ่าน Corrierre dello sport,มันเป็นการทรยศในตัวเลือกของเขาเพราะมันแสดงให้เห็นถึงการเนรคุณ ใช่มันมีเงื่อนไขทางการ ดังนั้นมันไม่ใช่ว่ามันไม่ถูกแต่ธรรมชาติแล้วมันคือความไร้ยางอายของฟุตบอลซึ่งหมายถึงไม่มีความเคารพต่อกัน,เราเข้าใจว่าเราจะต้องเสี่ยงกับการหากองหน้าคนใหม่แต่เราไม่คิดว่าความเสี่ยงจะเป็นเรื่องซีเรียสอะไรหรอก หรือว่าเขาจะต้องลบความทรงจำ 3 ปีกับนาโปลีไปได้ง่ายๆ | ออเรลิโอ เด ลอเรนติส ประธานสโมสรนาโปลี ตราหน้า กอนซาโล อิกวาอิน อดีตดาวยิงของทีม หลังทรยศพวกเขาด้วยการตัดสินใจย้ายซบคู่แข่งร่วมลีกอย่าง ม้าลาย ยูเวนตุส | null | กัลโชเซเรียอา,นาโปลี,กอนซาโล อิกวาอิน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/674906 |
นักวิจารณ์มอง ปัทมาวตี เป็นภาพยนตร์อินเดียที่ทลาย เพดานที่มองไม่เห็น ชาวเควียร์ | ที่แสดงออกต่างกันสองตัวละครและระบุว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำลาย เพดานที่มองไม่เห็น ในเรื่องการแสดงออกของผู้มีความหลากหลายทางเพศในภาพยนตร์อินเดีย แต่กระนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังคงมีปัญหาในเรื่องการนำเสนอภาพสร้างความชอบธรรม ให้ผู้หญิงยังต้องเผชิญกับความรุนแรงอังกูร์ ปาทัก นักเขียนของสื่อฮัฟฟิงตันวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง ปัทมาวตี จากผลงานกำกับของ สันชัย ลีลา บันสาลี ในมุมมองเพศวิถี ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของอะลาอุดดิน คิลจี แสดงโดยรันวีร์ สิงห์ ทรราชผู้ที่มีพฤติกรรมโหดเหี้ยม เลือดเย็น ไม่คำนึงถึงใจผู้อื่น ใช้ทุกวิธีเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจ แสดงความหลงตัวเองเมื่อมองตัวเองในกระจกที่มีหญิงมารายล้อมภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงจากบทกวีเรื่องแต่งในเชิงเปรียบเทียบประวัติศาสตร์ผสมการตีความของผู้กำกับ โดยแสดงให้เห็นภาพของคิลจีผู้ที่พยายามพิชิตดินแดนเพื่อให้ได้ราชินีหญิงที่ชื่อปัทมาวตีมาครอบครอง และการครอบครองสตรีของเขาก็เป็นเพียงแค่ ของรางวัล การพิชิตอย่างหนึ่งเท่านั้นแต่ก็พยายามแสร้งกลบเกลื่อนมันด้วยความรักแบบโรแมนติกจนแทบจะกลายเป็นการหลอกตัวเอง ขณะเดียวกันก็เก็บกดความรักสองเพศของตัวเองเอาไว้ปาทักเขียนเกี่ยวกับตัวละครอีกตัวหนึ่งคือมาลิค คาฟูร์ ผู้มีความเป็นชายในแบบที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยตรงกันข้ามกับคิลจี โดยที่ผู้กำกับทำให้ความเป็นชายเชิงทำลายล้างของคิลจีถูกกลบด้วยความอ่อนโยนของคาฟูร์ ขณะเดียวกันนักวิจารณ์ก็ชื่นชมการนำเสนอเกี่ยวกับตัวละครที่ไม่ใช่รักต่างเพศในแบบที่มีความหลากหลายแตกต่างจากภาพยนตร์กระแสหลักของอินเดียที่มักจะเป็นการนำเสนอคนรักเพศเดียวกันเป็นแค่ตัวตลกที่ถูกนำมาล้อเลียน แต่เรื่องปัทมาวตีนำเสนอภาพของคนรักสองเพศได้ในแบบที่เป็นส่วนหนึ่งธรรมดาสามัญในชีวิตประจำวัน และเป็นตัวละครหลักที่มีบทพูดเด่นอย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เคยทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักจากชาวฮินดูฝ่ายขวาจากที่พวกเขามองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อิงประวัติศาสตร์ที่สุลต่านมุสลิมโจมตีดินแดนของฮินดู กล่าวหาว่าเป็นภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นภาพความใฝ่ฝันของสุลต่านอิสลามในการครอบครองราชินีฮินดูและข้อหาอื่นๆ แต่ผู้กำกับปฏิเสธว่า ไม่ได้มีเนื้อหาดังกล่าวในภาพยนตร์เลยนอกเหนือจากกลุ่มฮินดูแล้วมีข้อวิจารณ์อีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับประเพณีการจุดไฟเผาตัวเองเพื่อฆ่าตัวตายเชิงเกียรติยศเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกบังคับให้ต้องแต่งงานกับสุลต่านแบบที่เรียกว่า เจาฮาร์ ซึ่ง ดิวยา อารยา ผู้สื่อข่าวบีบีซีสายประเด็นสตรี ระบุว่าปัญหาที่แท้จริงของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการนำเสนอภาพการจุดไฟเผาตัวเองของผู้หญิงเพื่อรักษาเกียรติยศในแบบที่ดูสวยงามเกินจริง เป็นการส่งเสริมชื่นชมสภาพที่ผู้หญิงเผชิญความรุนแรงจนไม่มีทางออก ด้วยการอ้างความชอบธรรมเรื่องเกียรติยศศักดิ์ศรีของผู้ชายที่อยู่เหนือผู้หญิง ซึ่งนักวิจารณ์ปาทักก็เขียนวิจารณ์ไว้ในทำนองเดียวกันPadmaavat Review: Ranveer Singhs Queer Act Shatters The Glass Ceiling In Indian Film Writing Ankur Pathak Huffington Post 24-01-2018Padmaavat: India clashes as controversial film opens BBC 25-01-2018 | ปัทมาวตี เป็นภาพยนตร์ที่มีกระแสประท้วงอย่างหนักก่อนหน้านี้ ถูกพูดถึงในอีกมุมมองหนึ่งผ่านการวิจารณ์ภาพยนตร์ของอังกูร์ ปาทัก นักเขียนของสื่อฮัฟฟิงตันโพสต์ โดยมองตัวละคร เควียร์ | ต่างประเทศ,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม | Toxic Masculinity,ปัทมาวตี,ภาพยนตร์,ศาสนา,อังกูร์ ปาทัก,อินเดีย,อิสลาม,ฮินดู,เควียร์,เพศวิถี | https://prachatai.com/journal/2018/01/75206 |
ปะทะชายแดน ทหารพรานกุดหัว 2 ศพ แก๊งขนยานรก | เหิมเกริมใช้ปืนยิงใส่ เลยโดนตอบโต้ถูกเป่าดับคาที่ 1 ศพ ได้เฮโรอีนหนัก 3.4 กก. และฝิ่นดิบ 2.4 กก. อีกรายทหารปะทะ 5 คนร้ายรับจ้างขนยาในพื้นที่ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เสียชีวิต 1 ศพ ยึดปืนอาก้าและกระสุนฝังดินได้เพียบ,เหตุการณ์ทหารพรานจับตายแก๊งยานรก 2 ราย รายแรกเปิดเผยตอนดึกวันที่ 11 พ.ย. พ.ต.อ.ชลเทพ ใหม่ไชย ผกก.สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายขนยาเสพติดบริเวณเส้นทางชายแดนบ้านปะสี หมู่ 1 ต.มะลิกา ไปตรวจสอบร่วมกับ พ.ต.ท.สนิท มาลา รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.แม่อาย และ ร.ต.ท.ธีระวัฒน์ มณีวงค์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.แม่อาย พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปีนอนจมกองเลือดในพงหญ้า มีแผลถูกยิงที่สะโพก ข้างศพพบปืนไรเฟิลตกอยู่ เป้สีเขียวคล้ายแบบทหารและห่อพลาสติกสีเหลืองตกกระจาย ภายในพบเฮโรอีน 26 ขวด น้ำหนักรวม 3.4 กก. และฝิ่นดิบ 1 ห่อ น้ำหนัก 2.4 กก.,สืบเนื่องจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 (แม่อาย) รับรายงานว่า กลุ่มคนร้ายเตรียมลักลอบขนยาเสพติดจากชายแดนเพื่อนบ้านเข้าพื้นที่ อ.แม่อาย เพื่อลำเลียงไปพื้นที่ชั้นใน ร.ต.เทพฤทธิ์ สมัครเขตวิทย์ ผบ.ร้อยทหารพราน ที่ 3301 นำกำลังออกลาดตระเวนสกัดกั้นตามเส้นทางลัดเลาะเชิงเขาใกล้ชายแดนถนนยุทธศาสตร์ดอยลาง-บ้านท่าตอน ห่างจากตัวอำเภอแม่อายประมาณ 11 กิโลเมตร พบกลุ่มคนร้าย 5 คนเดินข้ามชายแดนเข้ามาและเกิดยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่จนถูกวิสามัญฆาตกรรม 1 ศพ,ด้าน ร.ต.เทพฤทธิ์ สมัครเขตวิทย์ หัวหน้าชุดวิสามัญฯเปิดเผยว่า หลังได้รับคำสั่งให้ออกลาดตระเวนสกัดยาเสพติดตามพื้นที่ชายแดนก็ได้นำเจ้าหน้าที่เน้นตรวจตราเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นจุดข้ามแดนอยู่หลายวัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ลดละยังคงร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในคืนเทศกาลลอยกระทง เนื่องจากคนร้ายคิดว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ จึงฉวยจังหวะนำของกลางข้ามชายแดน กระทั่งพบเจ้าหน้าที่และมีการส่งสัญญาณให้หยุด คนร้ายไม่ยอมกลับใช้ปืนยิงใส่ชุดปฏิบัติการเลยถูกเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้กันประมาณ 3 นาที หลังสิ้นเสียงปืนพบคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 ศพ ส่วนอีก 4 คนหนีกลับข้ามชายแดนไปได้,อีกราย พล.ท.สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.) รับรายงานจากทหารพราน ทพ.ที่ 3502 ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาขณะตั้งจุดสกัดยาเสพติดบริเวณบ้านห้วยหญ้าไซ ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พบคนร้าย 5 คนขี่รถ จยย.ผ่านมา คนร้ายไม่ยอมให้ตรวจค้นและใช้ปืนยิงเจ้าหน้าที่ และเกิดการยิงตอบโต้ก่อนไล่จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คนยึดรถ จยย. ได้ 3 คัน ส่วนที่เหลือหลบหนีไปได้,ต่อมาช่วงเช้ามืดเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่พบคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 ศพ อยู่ห่างจากจุดปะทะเล็กน้อย ข้างศพมีปืนยาว .22 จำนวน 1 กระบอก นอกจากนี้ยังพบหลุมฝังอาวุธและเครื่องกระสุน 3 หลุม ประกอบด้วย ปืนอาก้า 1 กระบอก ซองกระสุน 2 ซอง ระเบิดขว้าง 4 ลูก และกระสุนขนาดต่างๆ 438 นัด ตรวจสอบพบว่าคนร้ายเป็นแก๊งรับจ้างขนยานรกขี่รถ จยย.มารับยาเสพติด แต่เจอทหารตั้งจุดสกัดและเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด | ทหารพรานวิสามัญฯแก๊งยานรก 2 ราย รายแรกคนร้ายฉวยโอกาสคืนวันลอยกระทงลักลอบลำเลียงยาเสพติดข้ามชายแดนใกล้ถนนยุทธศาสตร์ดอยลาง-บ้านท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เจอทหารชุดลาดตระเวนขอตรวจค้น | ข่าว,อาชญากรรม | ปะทะ,ปะทะชายแดน,แก๊งขนยา,ทหารพราน,เชียงใหม่,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/crime/1702965 |
สรภัญญะยาตรา สืบสานพระราชศรัทธา บทมนตราเพื่อแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ ๖๐ พรรษา | ๒ เมษายน ๒๕๕๘,วันคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับปีนี้ เป็นปีพิเศษ เนื่องด้วยเป็นปีที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา,รัฐบาล หน่วยราชการ ภาคเอกชน ประชาชน ทุกหมู่เหล่า พร้อมใจร่วมกันจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล,วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ซึ่งเป็น วัดในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งเป็นวัดที่มีความผูกพันกับพระราชวงศ์ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาพระอารามนี้ขึ้นโดยองค์อุปถัมภ์พระองค์แรก คือ สมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา หรือ เจ้าจอมมารดาเปี่ยม ซึ่งทรงเป็นพระชนนี ในสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระชนนีในสมเด็จ พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และทรงเป็นพระอัยยิกาเจ้า หรือสมเด็จย่า ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ ๘ และพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช,อีกทั้งวัดปทุมวนารามฯ ยังเป็นที่ประดิษฐานพระราชสรีรังคารของสมเด็จพระบรมราชชนก, พระทนต์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เส้นพระเกศาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้า กัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์,เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯมาประทับที่วังสระปทุมเป็นการถาวร ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทำนุบำรุงวัดปทุมวนารามฯ ร.ร.วัดปทุมวนารามและชุมชนโดยรอบ,สำหรับวัดปทุมวนารามฯนั้น ทรงอุปถัมภ์ในทุกด้าน ทั้งการศึกษา ความเป็นอยู่ของพระเณร โดยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์สร้างเสนาสนะสงฆ์ ให้พระสงฆ์มีที่อยู่อันเป็นสัปปายะ,มีความสะดวกสบายภายในบริเวณวัด โดยมีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลการก่อสร้างด้วยความผูกพันที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างวัดปทุมวนารามฯ กับเจ้านายในอดีตจนถึงปัจจุบัน และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ องค์อุปถัมภ์ปัจจุบัน ในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ทางวัดโดยเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน พระธรรมธัชมุนี พร้อมคณะสงฆ์ จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ๓ โครงการสำคัญได้แก่,๑.การสร้างวัดปทุมรังษีวัฒนาราม เพื่อเฉลิมพระเกียรติ จัดสร้างที่ เมืองเฮสติงส์ ประเทศนิวซีแลนด์ โดยจะอัญเชิญตราสัญลักษณ์ ๖๐ พรรษา ติดไว้ที่หน้าบันของพระอุโบสถ ซึ่งจะมีการวางศิลาฤกษ์ประมาณเดือน พ.ย.๒๕๕๘ และคาดว่าจะสร้างให้แล้วเสร็จปี พ.ศ.๒๕๖๐ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พุทธศาสนาในต่างแดน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของ พุทธศาสนิกชน ในนิวซีแลนด์ ทั้งชาวไทย ชาวลาว ชาวศรีลังกา รวมทั้งผู้สนใจอื่นๆด้วย ขณะเดียวกัน ที่วัดปทุมวนารามฯ กรุงเทพฯ จะจัดให้มีการ ทอดผ้าป่าทุกวันที่ ๒ ของ ทุกเดือน เพื่อให้ญาติ โยมผู้มีจิตศรัทธามีส่วนร่วมในการจัดสร้างวัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ,๒.โครงการเจริญ พระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา สวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ ถวายเป็นพระราชกุศล ทุกวันที่ ๒ ของทุกเดือน ตลอดปี ๒๕๕๘ ณ พระวิหารหลวง วัดปทุมวนารามฯ พร้อมยาตรา หรือนำการสวดมนต์ทำนองสรภัญญะ บทพระพุทธคุณ, บทพระธรรมคุณ, บทพระสังฆคุณ, บทมาตาปิตุคุณ, บทอาจาริยคุณ และบทชยสิทธิคาถา เข้าสู่สถานศึกษา ๖๑ แห่ง รวมถึงเรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี ด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการสานต่อพระราชปณิธานของสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ ที่ทรงต้องการให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้หลักธรรมในพุทธศาสนา และการสวดมนต์นั้น จิตของผู้สวดจะสงบ ทำให้เกิดปัญญา โดยมีศิลปินชื่อดัง อาทิ ปานธนพร แวกประยูร และกลุ่มศิลปินอลาร์มไนน์ เป็นต้น เข้ามาร่วมเป็นกลุ่มจิตอาสานำการสวด และเพื่อให้เยาวชนได้เห็นตัวอย่างการทำความดีของศิลปินและนำไปเป็นต้นแบบในการทำดีต่อไป,กิจกรรมนี้ใช้ชื่อว่า สรภัญญะยาตรา สืบสานพระราชศรัทธา บทมนตราเพื่อแผ่นดิน ซึ่งนอกจากจะมีการสวดมนต์เพื่อกล่อมเกลาจิตใจแล้ว เยาวชนยังจะได้เรียนรู้ถึง พระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ ที่มีต่อพสกนิกรไทยอีกด้วย ทั้งจะมีการประกวด ครอบครัวสรภัญญะ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อันเป็นการเชื่อมโยง บ้าน วัด โรงเรียน หรือ บวร เข้าด้วยกัน,๓.โครงการบทเพลงเฉลิมพระเกียรติ นารีรัตนา ซึ่งเนื้อเพลงจะสะท้อนพระจริยวัตรของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ด้านความเพียร แม้จะเจออุปสรรค หากเรามีอิทธิบาท ๔ คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จ โดยจะมีการเผยแพร่ ผ่านทางเว็บไซต์ยูทูบ ,www.youtube.com, ใส่คำว่า นารีรัตนา ตั้งแต่วันที่ ๒ ม.ค.นี้เป็นต้นไป และจะ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุตามคลื่นต่างๆต่อไป,กิจกรรมที่จัดขึ้น ทั้งการสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะยาตราเข้าสู่สถานศึกษาต่างๆ รวมไปถึงบทเพลงเฉลิมพระเกียรตินั้น จัดทำขึ้นโดย กลุ่มศิลปินและจิตอาสาในโครงการปทุมมามหาสิกขาลัย วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร หรือ กลุ่มจิตอาสาบัวลอย และการสนับสนุนอย่างเป็นทางการของ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยมี พระเทพญาณวิศิษฎ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการ วัดปทุมวนารามฯ เป็นประธานกรรมการดำเนินงานโครงการปทุมมามหาสิกขาลัย โดย กลุ่มศิลปินจิตอาสา อาทิ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และ นายเจษฎา สุขทรามร โปรดิวเซอร์ชื่อดัง และศิลปินอื่นๆอีกจำนวนมาก ได้ร่วมแรงร่วมใจกันขับร้องและบันทึก รวมไปถึงการถ่ายทำมิวสิกวีดิโอบทสวดมนต์ทำนองสรภัญญะเพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในสถานศึกษา ในรูปแบบซีดีเพลงชุด รัตนตรัยบูชา และกิจกรรมจิตอาสาอื่นๆที่ทางโครงการปทุมมามหาสิกขาลัยจัดทำขึ้น,เนื่องในวโรกาสมหามงคล ปีแห่งการเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ทีมข่าวศาสนา ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสวดมนต์ทำนองสรภัญญะ เพื่อช่วยกัน สืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ องค์ขัตติยนารี ที่ทรงมุ่งมั่นให้เยาวชนและคนไทยได้มีพุทธศาสนา เป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรไทย.,ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน | วันคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับปีนี้ เป็นปีพิเศษ เนื่องด้วยเป็นปีที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา | null | สรภัญญะยาตรา,เฉลิมพระเกียรติ,ทีมข่าวศาสนา,วันคล้ายพระราชสมภพ,ชิงถ้วยพระราชทาน,วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร | https://www.thairath.co.th/content/472290 |
สลด พลายหางด้วน ช้างหนุ่มป่วยไม่ทราบสาเหตุ ล้มในป่าเขาใหญ่ | เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีช้างป่วยอาการหนักไม่ทราบสาเหตุอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณบ้านสันกำแพง ม.12 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ นางอรุณ แก้วสามัคคี ผู้ใหญ่บ้านสันกำแพง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 60 ได้รับแจ้งจากทหารที่มาประจำอยู่ที่วัดสวนป่าบุญฤทธิ์ ว่า มีช้างตัวหนึ่งเดินกะเผลก คล้ายกับได้รับบาดเจ็บเดินผ่านวัดไป จึงนำทีมประกอบด้วย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครหมู่บ้าน ออกติดตามจนมาพบว่าช้างตัวดังกล่าวที่ชาวบ้านรู้จักกันดี และตั้งชื่อให้ว่า ไอ้ขอด หรือไอ้หางด้วน เป็นช้างพลายอายุประมาณ 7 ปี นอนขวางอยู่ในร่องทางน้ำธรรมชาติในป่าใกล้หมู่บ้าน พบว่าขาหลังขวามีบาดแผลไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร จึงช่วยกันใส่ยารักษาปฐมพยาบาลเบื้องต้น และจัดเวรยามดูแลความปลอดภัย พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อนำทีมสัตวแพทย์เข้าทำการรักษา,ต่อมาช่วงบ่ายของวันนี้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสอบถามถึงอาการป่วยของช้าง นางอรุณ ก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าพลายหางด้วน ล้ม(เสียชีวิต)แล้ว สร้างความเสียใจให้กับ นางอรุณ และชาวบ้านเป็นอย่างมาก จากนั้นเดินทางไปดูห่างจากบ้านของ นางอรุณ ไปประมาณ 2 กม. พบว่ามีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และทีมสัตวแพทย์ทำงานอยู่ และกันผู้ไม่เกี่ยวข้องให้ออกนอกบริเวณและไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ,ทั้งนี้ หลังจากชาวบ้านรู้ข่าวว่าพลายหางด้วน ล้มลงก็พากันมาดูด้วยความสลดใจ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำรถแบ็กโฮมาขุดหลุมเพื่อฝังร่างพลายหางด้วนอย่างรีบเร่ง สร้างความสงสัยให้ชาวบ้านมาก โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และทีมสัตวแพทย์ตอบข้อสงสัย เป็นระเบียบที่ต้องฝังซากภายใน 12 ชม. ซึ่งก่อนที่จะทำการฝังได้เก็บตัวอย่างเลือดและชิ้นเนื้อเพื่อส่งให้ตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้ช้างล้มในครั้งนี้แล้ว. | ชาวบ้านวังน้ำเขียว เศร้า พลายหางด้วน ช้างป่าหนุ่มอายุ 7 ปีที่ออกมาหากินจนคนคุ้นเคย มีบาดแผลขาหลังขวา ป่วยไม่ทราบสาเหตุ 3 วันก่อน ล้มลงเสียชีวิตแล้วในป่าเขาใหญ่ จนท.รุดเก็บเลือด-ชิ้นเนื้อตรวจ ก่อนฝังกลบ | ข่าว,ทั่วไทย | ช้างล้ม,ช้างตาย,พลายหางด้วน,เขาใหญ่,นครราชสีมา | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/907972 |
วอนช่วย นร.3 พี่น้อง ใช้เงินจากพี่ชายวัย16 ส่งให้เรียนหนังสือ | วันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้ไปที่โรงเรียนบ้านสันติสุข ตำบลนาขุนไกร อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ภายหลังทราบข่าวว่ามี 3 พี่น้องที่เรียนอยู่โรงเรียนนี้ อาศัยอยู่กันตามลำพังโดยอาศัยเงินจากพี่ชายคนโตคือนายตะวัน แก้วบุรี อายุ 16 ปี ที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นคนเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้น้องๆ 3 คน โดยโอนผ่านบัญชีของคุณครูโรงเรียนบ้านสันติสุข ส่วนพ่อแม่ซึ่งไปทำงานกรุงเทพฯก็ส่งเงินมาบ้าง แต่หลักๆ แล้ว พี่ชายอายุ 16 ปี จะเป็นคนส่งเงินมาให้กับน้องๆ ,จากการพูดคุยสอบถาม ทราบว่าพี่น้องทั้ง 3 คน ได้แก่ เด็กชายรามพิรุณ แก้วบุรี หรือ โบ๊ต อายุ 14 ปี เด็กชายธีระพงษ์ แก้วบุรี หรือ น้องป่าน อายุ 10 ขวบ และน้องคนสุดท้อง เด็กหญิงจันทร์ฉาย แก้วบุรี หรือ น้องจ้า อายุ 8 ขวบ ซึ่งทุกวันนี้น้องโบ๊ต พี่ชายคนรอง ทำหน้าที่ดูแลน้องในทุกๆ เรื่อง รวมทั้งอยากให้น้องได้เรียนสูงๆ ซึ่งเรื่องอาหาร โชคดีที่ทุกวันนี้ครูและทางโรงเรียนคอยดูแลให้กับข้าวกลับมากินที่บ้าน,นอกจากนี้ ภายหลังจากที่สำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 2 ทราบเรื่องให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ ทั้งค่าเทอมและอาหารกลางวัน เพื่อเป็นแรงส่งให้กับเด็กทั้ง 3 คนได้มีอนาคต สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือสามารถสมทบทุนการศึกษา ได้ที่บัญชี ด.ช.ธีรพงษ์ แก้วบุรี เลขที่บัญชี 618-0-34956-8 ธนาคารกรุงไทย สาขาศรีสำโรง | สามพี่น้องอยู่ที่ศรีสำโรง สุโขทัย ต้องดูแลเองโดยได้เงินจากพี่ชายคนโต อายุ 16 ปี ทำงานอยู่ กทม.ส่งมาให้ ยังดีที่ครูหากับข้าวให้กลับไปกินที่บ้าน พร้อมวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือเด็กๆ จะได้มีอนาคต | ข่าว,ทั่วไทย | สามพี่น้อง,นักเรียน3พี่น้อง,ธารใจไทยรัฐ,วอนช่วยนักเรียน,โรงเรียนบ้านสันติสุข,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1304742 |
คุณคือฝุ่นอวกาศ | คาร์ล เซแกน (Carl Sagan) เคยบอกว่ามนุษย์เราแท้จริงคือ ละอองดาว หรือ Stardust ฟังดูฝันๆ สวยๆ เหมือนปรัชญาหลอมรวมเราเข้ากับจักรวาลใช่ไหมครับแต่แท้จริงแล้ว ต้องบอกคุณว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องปรัชญาฝันเพ้อเท่านั้นแต่มันคือเรื่องจริงต้องบอกคุณก่อนว่า ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายแหล่บนโลกใบนี้ สิ่งที่ถือเป็น Building Blocks (คือคล้ายๆ กับตัวต่อเลโก้ที่ตัวเล็กที่สุด แล้วเอามาต่อๆ กันจนกระทั่งกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความซับซ้อนที่สุด) คือธาตุต่างๆ ที่มีอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่ธาตุนักวิทยาศาสตร์เรียกชื่อ Building Blocks พวกนี้ว่า ชน็อปส์ (CHNOPS) ซึ่งก็คือชื่อย่อของธาตุหกธาตุ ได้แก่ Carbon Hydrogen Nitrogen Oxygen Phosphorus และ Sulfur ซึ่งทั้งหกธาตุนี้แหละคือพื้นฐานของชีวิตแต่รู้ไหมครับ ว่าธาตุเหล่านี้ก็คือพื้นฐานของจักรวาลด้วย พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้ามองลึกลงไปถึงระดับอะตอม ร่างกายของมนุษย์เราน่ะมีความเหมือนกันกับดวงดาวต่างๆ โดยเฉลี่ยในกาแล็กซีถึง 97%โหย รู้ได้ยังไงกันนี่วิธีการก็คือ นักดาราศาสตร์ใช้การ วัดค่าดาว โดยนำข้อมูลจาก Sloan Digital Sky Survey (SDSS) กับ Apache Point Observatory Galactic Evolution Experiment (APOGEE) มาวิเคราะห์อีกทีหนึ่ง ซึ่งเจ้าเครื่องมือเหล่านี้จะทำหน้าที่ เก็บแสง จากอวกาศ ด้วยวิธีที่เรียกว่า Spectroscopy โดยหลักการก็คือ ธาตุแต่ละชนิดจะมีการเปล่งแสงให้ความยาวคลื่นที่แตกต่างกันออกมา ดังนั้นเมื่อวัดความสว่างและความยาวคลื่นของแสง เราก็จะรู้ได้ว่าดาวแต่ละดวงมีองค์ประกอบทางเคมีอย่างไร โดยข้อมูลนี้เป็นการวิเคราะห์ทั้ง ฝุ่น และดาวในกาแล็กซีของเรามากกว่า 150000 ดวงผลลัพธ์ที่ออกมายืนยันคำพูดของคาร์ล เซแกน ว่าเราต่างคือผลผลิตของ ฝุ่น จากอวกาศจริงๆนักฟิสิกส์อวกาศอธิบายว่า หลังเกิดบิ๊กแบงได้ 3 วินาที จักรวาลเย็นตัวลง (เล็กน้อย) จนกระทั่งทำให้อนุภาคที่จิ๋วยิ่งกว่าจิ๋วรวมตัวกันเกิดเป็นอะตอม ไฮโดรเจนอะตอมเกิดขึ้นก่อน เพราะมันคืออะตอมที่มีรูปแบบเรียบง่ายที่สุด คือนิวเคลียสมีหนึ่งโปรตอนเท่านั้น ไฮโดรเจนจึงมาเป็นอันดับหนึ่งในตารางธาตุแล้วหลังจากผ่านไปราวๆ 300 ล้านปี (ซึ่งถือว่าไม่นานนะครับ) ไฮโดรเจนอะตอมก็เริ่มรวมตัวกันอีกโดยมีแรงโน้มถ่วงเข้ามาเกี่ยวข้อง เกิดกระบวนการนิวเคลียร์ฟิวชันขึ้น ทำให้เกิดฮีเลียมขึ้นมา (กระบวนการเกิดน้ันซับซ้อนนะครับ ไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่เขียนสองสามคำนี้หรอก) แล้วหลังจากนั้นก็เกิดลิเทียมขึ้น ตามด้วยธาตุอื่นๆ อีก (โดยที่ต้องเน้นย้ำนะครับ ว่าตารางธาตุไม่ได้จัดเรียงธาตุตามลำดับเวลาที่มันเกิดขึ้นหรอกนะครับ แต่เรียงตามอะไร ไปเปิดหนังสือเรียนสมัยมัธยมดูได้นะครับ) จนกระทั่งถึงธาตุเหล็กที่มีโปรตอน 26 ตัวปรากฏว่าธาตุเหล็กเป็นธาตุสุดท้ายแล้วที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยวิธีนิวเคลียร์ฟิวชัน เพราะว่าการจะสร้างธาตุใหม่ๆ ขึ้นมา กระบวนการฟิวชันต้องใช้พลังงานมากกว่าที่มันสร้างขึ้นมาได้ แต่เมื่ออะตอมใหญ่ขึ้น พลังงานที่มันสร้างและปล่อยออกมาก็จะน้อยลงเรื่อยๆ (ทำให้เกิดสเปกตรัมของแสง) จนกระทั่งมาถึงธาตุเหล็ก ซึ่งถ้าจะเกิดธาตุอื่นที่พ้นจากธาตุเหล็กไป ก็ต้องใช้พลังงานมากกว่าแค่พลังงานจากแรงโน้มถ่วงทีนี้เมื่อมีเหล็กมากเข้า กระบวนการฟิวชันก็หยุดลง (อันนี้เล่าแบบย่นย่อยู่ยี่มากๆ เลยนะครับ-ออกตัวไว้ก่อน) แล้วก็เลยเกิดกระบวนการพองๆ ยุบๆ ของดาว (จริงๆ มีกระบวนการซับซ้อนที่เกี่ยวพันไปถึงแรงโน้มถ่วงด้วย แต่ถ้าจะนึกภาพ ลองนึกภาพเวลาทอดไข่เจียวแล้วไข่พองๆ ยุบๆ ดูก็ได้นะครับ) ซึ่งเกิดจากการต่อสู้กันระหว่างมวลกับแรงโน้มถ่วง จนกระทั่งในที่สุดก็เกิดเป็นดาวขึ้นมาแต่ดาวก็ต้องมีอายุขัยของมันใช่ไหมครับ พออยู่ไปสักพัก (พักที่ว่านี่ ใหญ่โตยาวนานกว่าที่เราคุ้นเคยมากนัก เพราะเป็นสเกลเวลาระดับจักรวาลน่ะนะครับ) ดาวพวกนี้ก็ระเบิดออกมาเป็นสิ่งที่เรียกว่า ซูเปอร์โนวา ซึ่งซูเปอร์โนวานี่แหละให้กำเนิด ฝุ่นดาว (จะเรียกว่า Stardust หรือ Cosmic Dust ก็ได้) แล้วฝุ่นดาวพวกนี้ที่อาจจะไปหมุนวนรวมตัวกันกับฝุ่นดาวอื่น กระทั่งเกิดมาเป็นดาวดวงใหม่ก็ได้อีกเช่นเดียวกันมีคนคำนวณว่าในร่างกายของเราแต่ละคนนั้น มีฝุ่นอวกาศพวกนี้อยู่ถึงราว 2.8 คูณสิบยกกำลังยี่สิบเจ็ด คือเอา 2.8 ไปคูณเลข 1 ที่มีเลขศูนย์เขียนต่อไปอีก 27 ตัว ซึ่งถ้ามองในแง่จำนวนของอะตอมแล้วละก็ พบว่าร่างกายของเรามี ฝุ่นอวกาศ อยู่มากถึง 40% เลยทีเดียว ยิ่งถ้าเรามาวัด มวล ของอะตอมพวกนี้ดูแล้ว เราจะพบว่าร่างกายของเรามี ฝุ่นดาว อยู่มากถึง 93% เลยทีเดียว โดย สัดส่วน ของฝุ่นอวกาศที่เป็นอะตอมของธาตุต่างๆ ก็เป็นสัดส่วนแบบเดียวกับดวงดาวด้วยเหมือนกันหลายคนอาจคิดว่าในอวกาศนั้นปลอดโปร่งผ่องใส ไร้เมฆหมอกบังตา แต่ที่จริงแล้วเจ้าฝุ่นอวกาศพวกนี้ทำให้นักดาราศาสตร์ในสมัยโบราณรำคาญใจไม่น้อย เพราะนักวิทยาศาสตร์สมัยก่อนจะศึกษาโดยใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องดู พอมีฝุ่นมัวๆ มาบดบังวัตถุที่ต้องการสังเกตก็จะมองไม่เห็น จนกระทั่งเกิดเทคโนโลยีใหม่ ทำให้วงการดาราศาสตร์สำรวจท้องฟ้าโดยคลื่นแสงอินฟราเรดนี่แหละครับ คนถึงได้หันมาศึกษาเจ้า ฝุ่นอวกาศ พวกนี้ เพราะว่ามันคือสิ่งสำคัญ (สำคัญในระดับที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Vital Components กันเลยทีเดียว) ในกระบวนการทางฟิสิกส์ดาราศาสตร์ คือมันเป็น Building Blocks ของการเกิดดาว ทั้งดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ด้วยการศึกษาฝุ่นอวกาศ ทำให้ต้องนำวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ มารวมกัน ตั้งแต่ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ (เช่น ทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้า เทอร์โมไดนามิกส์ ฯลฯ) เคมี (เช่นปฏิกิริยาเคมีบนพื้นผิวของฝุ่น) คณิตศาสตร์ รวมไปถึงการศึกษาอุกกาบาตที่เรียกว่า Meteoriticsฝุ่นอวกาศไม่เหมือนฝุ่นบนโลกนะครับ เพราะว่ามันอาจมีขนาดเล็กจิ๋วมากๆ คือมีมวล 10 ยกกำลังลบสิบหก จนกระทั่งถึง 10 ยกกำลังลบสี่ และแบ่งออกเป็นหลายประเภท ตามตำแหน่งที่มันอยู่ เช่น Intergalactic Dust หรือฝุ่นที่อยู่ระหว่างกาแล็กซี Interstellar Dust ฝุ่นที่อยู่ระหว่างดาวฤกษ์ Interplanetary Dust ฝุ่นที่อยู่ระหว่างดาวเคราะห์ Circumplanetary Dust ฝุ่นที่วนๆ อยู่รอบดาวเคราะห์ เป็นต้นนอกจากการใช้กล้องอินฟราเรดส่องดูฝุ่นอวกาศแล้ว ยังมีวิธีศึกษาอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เราจับต้องฝุ่นอวกาศได้ด้วยมือของตัวเองเลย คือการศึกษาจากอุกกาบาตที่ตกลงมานี่เองครับที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะอุกกาบาตเกิดจากการรวมตัวกันของฝุ่นอวกาศนี่แหละ และเป็นฝุ่นอวกาศที่มีมาตั้งแต่ก่อนโลกจะถือกำเนิดด้วย นักวิทยาศาสตร์เรียกว่าเป็น Presolar Grains หรือเป็นเม็ดฝุ่นที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะเกิดดวงอาทิตย์ขึ้นมา แต่ที่เก่าแก่ยิ่งไปกว่าอุกกาบาตอีกก็คือดาวหาง นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ดาวหางเป็นวัตถุที่เก่าแก่ที่สุดที่ผ่านเข้ามาในระบบสุริยะของเรา การศึกษาดาวหางหรือฝุ่นอวกาศที่เกิดจากดาวหางจึงทำให้ได้อะไรๆ มากมาย แต่ว่าดาวหางไม่เหมือนอุกกาบาต มันไม่ได้ตกลงมาบนโลกบ่อยๆ ดังนั้นจึงเคยมีโครงการอวกาศที่เรียกว่า Stardust ส่งยานอวกาศไปเก็บฝุ่นอวกาศที่เป็นชิ้นส่วนดาวหางและฝุ่นที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศเอามาศึกษา จึงค้นพบความหลากหลายและซับซ้อนของอนุภาคต่างๆ ที่อยู่ในจักรวาลการศึกษาฝุ่นอวกาศเหล่านี้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่อยู่ ไกลตัว เรามากๆ แถมยังเล็กจิ๋วจนแทบมองไม่เห็นอย่างฝุ่นอวกาศ โดยเนื้อแท้จึงเกี่ยวข้องกับตัวเราอย่างใกล้ชิดใกล้ขนาดไหนน่ะหรือ ก็ใกล้ขนาดที่ฝุ่นอวกาศเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในเนื้อตัว ร่างกาย และชีวิตของเราน่ะสิครับคำพูดของ คาร์ล เซแกน ที่เคยบอกว่ามนุษย์เราคือ ละอองดาว จึงไม่ใช่แค่คำพูดแบบบทกวีฝันๆ สวยๆ เท่านั้นแต่มันคือความจริงที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง | ถ้ามองลึกลงไปถึงระดับอะตอม ร่างกายของมนุษย์เราน่ะ มีความเหมือนกันกับดวงดาวต่างๆ โดยเฉลี่ยในกาแล็กซีถึง 97%มีคนคำนวณว่า ในร่างกายของเราแต่ละคนนั้นมีฝุ่นอวกาศอยู่ถึงราว 2.8 คูณสิบยกกำลังยี่สิบเจ็ด คือเอา 2.8 ไปคูณเลข 1 ที่มีเลขศูนย์เขียนต่อไปอีก 27 ตัวการศึกษาฝุ่นอวกาศทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่อยู่ ไกลตัว เรามากๆ แถมยังเล็กจิ๋วจนแทบมองไม่เห็นอย่างฝุ่นอวกาศ โดยเนื้อแท้จึงเกี่ยวข้องกับตัวเราอย่างใกล้ชิด | null | null | https://thestandard.co/tomorrow-stardust/ |
กต.ผิดหวังอียูออกใบเหลืองประมงไทย | นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่สหภาพยุโรป (EU) ออกใบเหลืองให้ประเทศไทยตามกฎระเบียบว่าด้วยการกระทำประมงผิดกฎหมายไม่รายงานและไร้การควบคุม (IUU) ว่าการประกาศเตือนครั้งนี้ยังไม่มีผลต่อการส่งออกสินค้าประมงของไทยไป EU แต่ไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจออกประกาศเตือนดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ EU พิจารณาการดำเนินการของไทยในเชิงเทคนิคตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานที่มีความโปร่งใสและเที่ยงตรงสอดคล้องกับสถานการณ์ที่แท้จริงโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวว่าไทยจะสานขอความร่วมมือกับ EU เพื่อให้ไทยออกจากกลุ่มที่ถูกประกาศเตือน รวมทั้งสามารถแก้ไขและป้องกันการทำประมงแบบ IUU ต่อไปในอนาคตอย่างยั่งยืนขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่าเตรียมเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาตั้งคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจแก้ปัญหาประมงไทยโดยตรง หลังรับทราบรายงานกรณี EU ออกใบเหลืองให้ไทย เนื่องจากไทยได้ส่งรายงานแผนปฏิบัติการแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่พอใจกับผลการดำเนินการโดยเฉพาะประเด็นบทลงโทษทางกฎหมายของไทยด้านนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย มองว่ากรณีที่ EU ให้ใบเหลืองไทยนั้นยังไม่กระทบอุตสาหกรรมประมง เพราะเป็นเพียงการเตือน แต่ไม่ได้ถูกคว่ำบาตร หรือมีมาตรการกีดกันทางการค้า อย่างไรก็ตาม นายพจน์ ยอมรับว่าอาจมีผลด้านจิตวิทยาในการสั่งซื้อสินค้าจากไทย | รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมตั้งคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจแก้ปัญหาประมงไทย หลังสหภาพยุโรป (EU) ออกใบเหลืองให้ประเทศไทยตามกฎระเบียบว่าด้วยการกระทำประมงผิดกฎหมายไม่ รายงานและไร้การควบคุม (IUU) ขณะที่กระทรวงต่างประเทศได้ออกมาแสดงท่าทีผิดหวังต่อการให้ใบเหลืองดังกล่าว แต่ยืนยันว่ายังไม่กระทบการส่งออกสินค้าประมงของไทยไปอียู | เศรษฐกิจ | กระทรวงการต่างประเทศ,ข่าววันใหม่,ข่าวเศรษฐกิจ,ประมง,ประมงไทย,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,สหภาพยุโรป,อียู,เสข วรรณเมธี,ใบเหลืองประมง | https://news.thaipbs.or.th/content/526 |
เสนอแก้ กม. พระธรรมนูญศาลทหาร ถ้าทหารทำผิดต้องขึ้นศาลยุติธรรม | พรรคประชาชาติ เสนอแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหาร แก้ไขให้ถ้าทหารทำผิดต้องขึ้นศาลพลเรือน เหมือนข้าราชการและบุคคลทั่วไปมติชนออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2563 ว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) เปิดเผยว่า พรรค ปช.โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อและคณะ ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พระธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่) พ.ศ. ว่า ร่าง พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหาร ฉบับนี้ มีหลักการและเหตุผลเพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.2489 ซึ่งก่อนที่จะมีการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมนี้ กฎหมายพระธรรมนูญศาลทหารได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาแล้วจำนวน 10 ครั้ง โดยเมื่อพิจารณาจากเนื้อหาสาระแล้วเห็นว่า กฎหมายพระธรรมนูญศาลทหารเป็นกฎหมายสบัญญัติ (Adjective law) หรือกฎหมายวิธีสบัญญัติ (Procedural law) ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติถึงกระบวนการ หรือวิธีการเพื่อนำเอาสาระของกฎหมายสารบัญญัติ (Substantive law) อันเป็นกฎหมายที่กำหนดสิทธิหน้าที่ ตลอดจนกำหนดความรับผิดเกี่ยวกับกฎหมายทหาร หรือกฎหมายอื่นในทางอาญามาบังคับใช้แก่ผู้กระทำความผิดที่อยู่ในเขตอำนาจของศาลทหารการเสนอร่างได้มีการกำหนดให้แก้ไขเพิ่มเติม โดยเพิ่มความเกี่ยวกับประเภทของคดีที่บุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารเป็นผู้กระทำผิด กับบุคคลที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลทหารเป็นผู้เสียหาย เพื่อมิให้คดีดังกล่าวอยู่ในเขตอำนาจของศาลทหาร รวมถึงได้แก้ไขเพิ่มเติมโดยเพิ่มความในบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับการโอนคดีดังกล่าว จากศาลทหารไปยังศาลพลเรือน กรณีที่การพิจารณาคดียังไม่แล้วเสร็จ แต่หากการพิจารณาเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างนัดฟังคำพิพากษา หรืออุทธรณ์หรือฎีกาก็ให้คดีอยู่ในอำนาจของศาลทหารดังเดิม พ.ต.อ.ทวี กล่าวตามหลักนิติธรรม ความมุ่งหมายบุคคลทุกคนต้องได้รับการบังคับใช้กฏหมายอย่างเสมอภาค ซึ่งในคดีที่ทหารกระทำผิดร่วมกับพลเรือนจะดำเนินคดีที่ศาลพลเรือนหรือศาลยุติธรรม แต่ถ้าทหารกระทำผิดตามลำพังไม่มีพลเรือนร่วมกระทำผิดความผิดด้วยจะดำเนินคดีในศาลทหาร จะแก้ไขในส่วนนี้ให้ขึ้นศาลพลเรือน เหมือนข้าราชการและบุคคลทั่วไป เช่น ข้าราชการตำรวจ หรือข้าราชการอื่น ๆ แม้แต่บุคคลในกระบวนการยุติธรรม อาทิ อัยการ หรือแม้แต่ตุลาการ ถ้ากระทำผิดต้องถูกดำเนินคดี พิจารณาพิพากษาโดยศาลยุติธรรม หรือศาลพลเรือน ดังนั้นจึงเสนอแก้กฏหมายให้ทหารที่กระทำผิดกับประชาชนหรือบุคคลใดขึ้นศาลยุติธรรม เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายที่เป็นพลเมือง รวมทั้งที่เป็นโจทก์ฟ้องคดีด้วยตนเอง ทั้งที่เป็นความผิดอันยอมความได้ และความผิดอาญาแผ่นดินซึ่งเป็นความผิดอันยอมความมิได้เป็นสำคัญ พ.ต.อ.ทวี กล่าว | พรรคประชาชาติ เสนอแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหาร แก้ไขให้ถ้าทหารทำผิดต้องขึ้นศาลพลเรือน เหมือนข้าราชการและบุคคลทั่วไปมติชนออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2563 ว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง | การเมือง | พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหาร,ศาลทหาร,ทวี สอดส่อง,พรรคประชาชาติ,กระบวนการยุติธรรม | https://prachatai.com/journal/2020/07/88643 |
ช้างศึก ชนะคะแนน ไวไฟ สุดมัน ศึกยอดมวยไทยรัฐ สัปดาห์ 41 | การแข่งขันศึกยอดมวยไทยรัฐ สัปดาห์ที่ 41 ประจำวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน 2559 จากเวทีมวยไทยรัฐ มนตรีสตูดิโอ ลาดพร้าว 101 ซึ่งคู่เอกของรายการในสัปดาห์นี้ เป็นการโคจรมาพบกันระหว่างมุมแดง ช้างศึก เกียรติทรงฤทธิ์ พบกับ ไวไฟ ช.ห้าพยัคฆ์ มุมน้ำเงิน ในพิกัด 132 ปอนด์,เริ่มยกแรก ไวไฟ ในมุมน้ำเงินเป็นฝ่ายเดินชวนทะเลาะก่อน ขณะที่ ช้างศึก ที่ดูเชิงในตอนแรก อยู่เฉยไม่ไหวจึงต้องออกหมัดสวนกลับไปบ้าง ถัดมาในยกที่ 2 ช้างศึก เป็นฝ่ายเดินหน้าถีบยอดหน้า ไวไฟ 3 ครั้งเน้นๆ แต่มุมน้ำเงินยังหาจังหวะเตะตัดล่างเป็นระยะ,จากนั้นในยกที่ 3 เกมเริ่มปะทุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อทั้งกอดคอตีเข่าสู้กันในระยะประชิด เรียกเสียงเฮจากแฟนมวยได้อย่างต่อเนื่อง เข้าสู่ยกที่ 4 เกมยังคงดุเดือดเช่นเดิม แต่เป็น ช้างศึก ไล่ถีบเข้าใส่เพื่อเป็นการเปิดทางสลับกับแทงเข่า โดยที่ ไวไฟ ทำได้แค่ป้องกันตัวเท่านั้น,ยกสุดท้าย ไวไฟ ไม่มีอะไรจะเสียเดินหน้าเข้าหา ช้างศึก อย่างต่อเนื่อง แต่จังหวะออกอาวุธยังไม่จะแจ้งพอ,ทำให้ครบ 5 ยก กรรมการรวมคะแนนก่อนชูมือให้ ช้างศึก เกียรติทรงฤทธิ์ มุมแดง เป็นฝ่ายชนะคะแนน ไวไฟ ช.ห้าพยัคฆ์ ไปในที่สุด,ผลการแข่งขันในคู่อื่น,ตองเอ ก.กัมปนาท ชนะคะแนน ช้างเผือกเล็ก เกียรติทรงฤทธิ์ (120 ปอนด์),เก้าเด้ง ซูจีบะหมี่เกี๊ยว ชนะคะแนน คนองศึกเล็ก ก.กัมปนาท (104 ปอนด์),เมืองชลเล็ก ภ.สวนทอง ชนะคะแนน เพชรกังวาล เพชรมณีรัตน์ (110 ปอนด์) | ช้างศึก เกียรติทรงฤทธิ์ อาศัยจังหวะและการออกอาวุธที่ดีกว่าเอาชนะคะแนน ไวไฟ ช.ห้าพยัคฆ์ ไปอย่างสนุก ในการชกคู่เอก ศึกยอดมวยไทยรัฐ สัปดาห์ที่ 41 | null | ศึกยอดมวยไทยรัฐ,มวยไทยรัฐ,สัปดาห์ที่ 41,คู่เอก,ช้างศึก เกียรติทรงฤทธิ์,ไวไฟ ช.ห้าพยัคฆ์,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/641583 |
เมื่อเด็กผู้หญิงไม่จำเป็นต้อง สีชมพู โครงการต้านแบ่งแยกเพศจากปกหนังสือเด็กในอังกฤษ | รวมถึงเป็นบ่อเกิดการข่มเหงรังแกในเด็ก8 มี.ค. 2557 สำนักข่าวเดอะการ์เดียนรายงานว่า โครงการรณรงค์เล็ทบุ๊คบีบุ๊ค (Let Books Be Books) ในอังกฤษซึ่งต้องการหยุดการแบ่งแยกเพศในการตีพิมพ์หนังสือเด็ก ประสบผลสำเร็จโดยทันทีหลังจากประกาศเริ่มโครงการในวันเสาร์ที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันสตรีสากล โดยผู้จัดพิมพ์ประกาศว่าพวกเขาจะหยุดแปะป้ายชื่อหนังสือเด็กว่า สำหรับเด็กผู้หญิง หรือ สำหรับเด็กผู้ชายโครงการเล็ทบุ๊คบีบุ๊คเป็นโครงการหนึ่งของกลุ่มสมาคมผู้ปกครองซึ่งก่อนหน้านี้เคยเจรจากับร้านค้าต่างๆ เช่น ทอยอาร์อัส บูทส์และเทสโก้ เพื่อให้ขายของเล่นที่ไม่มีการแบ่งแยกทางเพศ โดยในโครงการเล็ทบุ๊คบีบุ๊คระบุในเว็บไซต์ว่าพวกเขาต้องการให้นำการแบ่งแยกว่าเป็นหนังสือของเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงออกเพื่อให้เด็กสามารถเลือกได้เองว่าพวกเขาสนใจเรื่องราวหรือหนังสือที่มีกิจกรรมแบบใดหนังสือเหล่านี้ส่งสารที่มีข้อจำกัดต่อเด็กมากในแง่ที่ว่าสิ่งใดเหมาะสมกับเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย เป็นข้อความที่ระบุในเว็บไซต์โครงการ พวกเขายกตัวอย่างหนังสือปกสีน้ำเงินที่ระบุว่าสำหรับเด็กผู้ชายซึ่งมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับแอ็คชั่น การผจญภัย หุ่นยนต์ อวกาศ รถบรรทุก โจรสลัด ขณะที่หนังสือปกสีชมพูซึ่งระบุว่าสำหรับเด็กผู้หญิงมีลักษณะเป็นประกาย มีนางฟ้า เจ้าหญิง ดอกไม้ และผีเสื้อแต่เด็กจริงๆ มีความหลากหลายและความน่าสนใจมากกว่านั้น เว็บไซต์โครงการระบุเว็บไซต์โครงการระบุอีกว่าสาเหตุที่เรื่องนี้สำคัญเนื่องจากเด็กจะรับสารจากหนังสือ จากของเล่น จากการโฆษณา และจากผู้ใหญ่ของพวกเขาอย่างจริงจัง แต่ก็คิดว่าเราไม่ควรจำกัดเด็กด้วยเพศสภาพของเขา การที่เด็กผู้หญิงจะชอบหุ่นยนต์หรือเด็กผู้ชายจะอยากวาดรูปดอกไม้ไม่ถือเป็นเรื่องผิด การจำกัดเช่นนี้ทำให้เด็กหันเหออกจากสิ่งที่ชอบจริงๆ อีกทั้งยังกลายเป็นข้ออ้างในการข่มเหงรังแกกัน (bullying)ทริเชีย เลาเธอร์ สมาชิกโครงการกล่าวว่าขณะที่ผู้คนพูดถึงหนังสือด้วยใจที่เปิดกว้างทำให้กลายเป็นเรื่องการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ สำหรับพวกเขา แต่หนังสือเด็กเหล่านี้เป็นไปในทางตรงกันข้ามโครงการเล็ทบุ๊คบีบุ๊คเรียกร้องให้หยุดการแปะป้ายหนังสือว่าเป็นสำหรับเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายไม่ว่าจะในชื่อหรือบรรจุภัณฑ์ มีผู้ลงนามสนับสนุนข้อเรียกร้องเกือบ 2000 คนในวันเดียวแอนน์ ไฟน์ อดีตนักเขียนหนังสือเด็กผู้ได้รับรางวัลกล่าวว่าการตั้งสมมติฐานผิดๆ ว่าเด็กในแต่ละเพศต้องการอะไรเป็นการจำกัดการมองโลกและความเป็นไปได้ของเด็กไม่ว่าจะเพศใดก็ตาม ไฟน์บอกว่าการต่อสู้เรื่องนี้น่าจะได้รับชัยชนะมาตั้งแต่หลายสิบปีที่แล้ว แต่ทุกวันนี้ยังมีผู้ใหญ่ที่สติดีบางคนยังคิดว่าสีชมพูสำหรับเด็กผู้หญิงและสีน้ำเงินสำหรับเด็กผู้ชายมีเด็กผู้หญิงอยู่หลายประเภทที่มีความสนใจทุกรูปแบบ มีเด็กผู้ชายอยู่หลายประเภทที่มีความสนใจทุกรูปแบบด้วย แค่ลองเจอกับเด็กไม่กี่คนก็รู้เรื่องนี้ได้ แต่แนวความคิดแบบโง่เขลาก็ยังคงเกิดขึ้นหลายครั้งจนกลายเป็นการควบคุมทางสังคมแบบเป็นไปตามแนวคิดนั้นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กของพวกเราเจ็บปวด แอนน์ ไฟน์กล่าวจากการณรงค์ดังกล่าวทำให้สำนักพิมพ์อัสบอร์นประกาศว่าพวกเขาได้วางแผนหยุดพิมพ์หนังสือที่มีการแปะป้ายแบ่งเพศมาสักพักหนึ่งแล้ว และทางสำนักพิมพ์ก็รับฟังความคิดเห็นเรื่องเพศสภาพอย่างจริงจังอีกทั้งในอนาคตจะไม่มีแผนการผลิตหนังสือที่มีการแปะป้ายว่า สำหรับเด็กผู้หญิง หรือ สำหรับเด็กผู้ชาย อีกเลาเธอร์ จากโครงการเล็ทบุ๊คบีบุ๊คบอกว่าเธอรู้สึกยินดีกับการตัดสินใจของอัสบอร์นซึ่งถือเป็นการให้เด็กได้สามารถเลือกด้วยตนเองแต่ทางสำนักพิมพ์หนังสือเด็กอีกแห่งหนึ่งคือบัสเตอร์บุ๊คกลับมีความคิดเห็นตรงกันข้าม โดยไมเคิล โอมารา กล่าวว่าเรื่องนี้คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ เนื่องจากหนังสือภาพระบายสีของพวกเขาขายดีขึ้น 3 เท่าเมื่อมีการแบ่งเป็นของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง รวมถึงคนที่ต้องการซื้อผ่านออนไลน์ก็มักจะระบุเพศของเด็กที่ต้องการจะให้เวลาค้นหาเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้สำนักพิมพ์ระบุเพศชายหรือหญิงลงในไปชื่อด้วยอย่างไรก็ตาม โอมาราบอกว่าเขาเข้าใจสิ่งที่ผู้รณรงค์ต้องการและทางสำนักพิมพ์เองก็ไม่อยากให้เกิดการดูถูกเหยียดหยามกันโดยใช้การแบ่งแยกทางเพศ และจะพยายามระมัดระวังเรื่องที่มีความอ่อนไหว รวมถึงใช้การแบ่งเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายเพียงเท่าที่จำเป็นเดิมทีกลุ่มผู้รณรงค์ตั้งเป้าไปที่สำนักพิมพ์เพียงอย่างเดียว แต่พวกเขากำลังวางแผนรณรงค์เรื่องการทำตลาดเด็กของกลุ่มผู้ค้าหนังสือและร้านหนังสือด้วยมันเป็นเรื่องที่ดีงามที่จะเห็นความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และได้รับรู้ว่าความจริงแล้วเด็กๆ ต่างชอบหนังสือเรื่องราวสำหรับเด็กๆ โดยไม่จำเป็นต้องแบ่งแยก เลาเธอร์กล่าว | กลุ่มผู้ปกครองในอังกฤษจัดโครงการรณรงค์เล็ทบุ๊คบีบุ๊ค เรียกร้องสำนักพิมพ์หนังสือเด็กเลิกใช้ชื่อหรือลักษณะปกแบ่งแยก เด็กผู้ชาย และ เด็กผู้หญิง หวั่นปิดกั้นความคิดและความชื่นชอบของเด็ก | ต่างประเทศ,วัฒนธรรม | วรรณกรรมเด็ก,วันสตรีสากล,สหราชอาณาจักร,หนังสือเด็ก,อังกฤษ,เพศสภาพ,เพศสภาวะ | https://prachatai.com/journal/2014/03/52182 |
Tried & Tested: iPhone 8 และ 8 Plus ใช่โทรศัพท์ที่คุณกำลังมองหาอยู่ไหม | หลายคนบอกว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus น่าเบื่อ ก็ดีไซน์เดิมๆ ไม่เร้าใจเท่า iPhone X ไม่เถียงครับ และเป็นจริงอย่างยิ่งถ้าโทรศัพท์ที่คุณใช้คือ iPhone 7 แต่ถ้าคุณใช้โทรศัพท์รุ่นที่เก่ากว่านั้นล่ะ เช่น… iPhone 5s 6 หรือ 6s เราขอบอกว่า iPhone 8 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับคนที่มีงบเอื้อมไม่ถึง iPhone X เพราะอะไร? ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า เราจะไม่รีวิวแบบละเอียดยิบประเภท แกะกล่อง หรือ เลาะตะเข็บ นะครับ เพราะคนพูดกันเยอะแล้ว เสิร์จ อากู๋ ดูเอาก็ได้ดังนั้น นี่คือรีวิวจากประสบการณ์ใช้จริงแบบบ้านๆ และเท่าที่ใช้ (หลังจากทดลองใช้ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มาเกือบสามเดือน) แต่น่าจะช่วยให้หลายคนที่ยังลังเลตัดสินใจได้ว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะเป็นโทรศัพท์ที่คู่ควรกับคุณหรือไม่แบตฯ…อึดสั้นๆ คือชาร์จทีเดียวถือออกไปทำงานอยู่ได้ทั้งวัน (ในกรณีที่ไม่เล่นเกมและดูคลิปแบบหักโหมนะครับ ถ้าจะเล่นเกมจริงๆ แนะนำให้เอาสายชาร์จไม่ก็พาวเวอร์แบงก์ติดตัวไปด้วย) ไม่เหมือนกับรุ่น 6 หรือ 6s Plus ที่เราเคยใช้มา ที่แค่ใช้ไปสักพักแบตฯ ก็ร่วง ให้ต้องพกเพาเวอร์แบงก์ติดตัวไปไหนต่อไหนตลอด จนตอนนั้นเราเคยคิดว่า แม่คุณ โทรศัพท์ก็ตั้งแพง ทำไมเขาไม่คิดจะทำแบตฯ ให้มันอึดๆ นะ แต่รุ่น 8 และ 8 Plus ไม่มีปัญหาอะไรแบบนั้นครับ นี่ขนาดว่าเราค่อนข้างติดมือถือในระดับหนึ่ง ออกไปเตร็ดเตร่แต่เช้าจรดหัวค่ำ กลับบ้านค่อยชาร์จก็ยังได้ความจุ…แนะนำ 256 GBมาว่ากันที่ความจุกันก่อน มีให้เลือก 2 ความจุ คือ 64 GB และ 256 GB ส่วนตัวใช้แบบ 256 GB แนะนำว่าถ้าสู้ไหว ให้ใช้ความจุเยอะสุดไปเลยจะได้ไม่ต้องมามัวกังวลว่าเมโมรีจะเต็ม โดยเฉพาะคนชอบถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ โหลดแอปฯ โหลดหนัง ที่นับวันจะดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าขนาดไฟล์ก็ใหญ่ขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่ถ้าสู้ไม่ไหวก็ไม่เป็นไร เพราะ 64 GB ก็พอใช้แล้ว (อาจจะเต็มเร็วหน่อยไม่ว่ากัน) เพราะเดี๋ยวนี้มีตัวช่วยในการสำรองข้อมูลเยอะ เช่น Google Photos สำหรับเก็บรูปแบบไม่จำกัด เป็นต้นเครื่องลื่นปรื๊ด แต่…iPhone 8 และ 8 Plus ใช้ชิปประมวลผล A11 Bionic ซึ่งเร็วกว่าชิป A10 Fusion บน iPhone 7 ถึง 2 เท่า หลังจากลองใช้เล่นเกม แต่งรูป ตัดต่อวิดีโอ ท่องเว็บ สำหรับตัว iPhone 8 พบว่ายังไม่มีอาการกระตุกหรือช้าให้เห็น ต้องบอกว่าลื่นปรื๊ด แต่ก็พบปัญหาบ้าง หลังจากใช้ไปสองเดือน มีอาการแอปฯ เด้ง แอปฯ ค้าง ต้องปิดแล้วเปิดใหม่ ถามว่าขัดใจไหม ก็นิดหน่อย แต่ก็พอให้อภัยเพราะเป็นอาการที่นานๆ เกิดขึ้นที แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็คงต้องพาไปหาหมอที่ศูนย์สักหน่อย ส่วนตัว 8 Plus เครื่องที่ใช้เท่าที่ผ่านมาเรายังไม่พบปัญหาอะไรแบบนี้ กันน้ำแค่ไหน ถามใจดูความดีงามคือรุ่นนี้ (ยังคง) กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะหกใส่ iPhone หรือกลัวว่า iPhone จะโดนฝนแต่อย่างใด ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าใครจะเอา iPhone ไปถ่ายภาพใต้น้ำอาจจะต้องคิดสักนิด เพราะ Apple ไม่ได้รับประกันความเสียหายที่เกิดจากของเหลว แต่ก็ใช่ว่า iPhone จะบอบบางจนลงน้ำไม่ได้ เพราะหลายคนก็เอาไปถ่ายใต้น้ำก็เยอะ บางคนเอาเข้าไปเล่นระหว่างอาบน้ำก็มี ส่วนผู้เขียนได้ลองเอาไปโดนน้ำบ้าง เช่นมีอยู่ครั้งหนึ่งน้ำหกใส่เอ่อล้นเต็มจอ หลังจากเหวอไปพักหนึ่งก็ตั้งสติรีบเช็ดให้แห้งแล้วเปิดหน้าจอ พบว่า iPhone ยังทำงานได้ตามปกติ (เฮ้อ…โล่งใจ) ถามว่ากล้าเอาไปลงน้ำไหม บอกเลยว่าขอคิดดูก่อน เพราะถ้าเจ๊งขึ้นมา Apple ไม่รับประกันนี่สิครับ (มันก็จะเสียวๆ หน่อยนะ)กล้อง…ถ่ายรูปหรือวิดีโอก็ดีงามโดยรวมถ้าชอบถ่ายรูปและวิดีโอ ด้วยคุณสมบัติข้างต้น iPhone 8 และ 8 Plus ไม่ทำให้ผิดหวังและถ่ายสนุกแน่นอน ส่วนจะสวยหรือไม่ขึ้นอยู่กับฝีมือ มุมมอง และนิยามต่อความสวยของใครของมันครับ (เรื่องนี้ริวจะไม่ยุ่ง…)ฟีเจอร์อื่นๆ ที่เป็น น้ำจิ้มการเพิ่มลูกเล่นอย่าง Fast Charge หรือการชาร์จแบบไร้สาย รองรับมาตรฐาน Qi ได้ คนที่ชอบอะไรแปลกใหม่น่าจะสนุก แต่ส่วนตัวไม่ได้ว้าวมาก ตั้งแต่ใช้มาสามเดือนก็ยังไม่ได้ลองใช้ฟีเจอร์เหล่านี้เลย ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรถามว่าจำเป็นต้องชาร์จแบบไร้สายหรือไม่ ก็ไม่ แต่ถ้าได้ใช้ แม้จะไม่ใช่ของใหม่ (เพราะเจ้าอื่นเขาก็มีกัน) ก็นับว่าดู เกร๋ ดีไปอีกสเตปเอาล่ะ หมดเรื่องรีวิว iPhone 8 และ 8 Plus แบบบ้านๆ กันไปแล้ว สุดท้ายใครที่มีคำถามว่า ควรเปลี่ยนมาใช้ iPhone 8 หรือ 8 Plus ดีไหม ถ้ามีเงินทองเหลือเฟือซื้อ iPhone X ก็ข้ามรุ่นไปเลยจะดีกว่า แต่ถ้าเบี้ยไม่พอ หันมาใช้ iPhone 8 หรือ 8 Plus ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายและอาจพูดได้ว่าดีงามทีเดียว แบตฯ อึด เครื่องแรง กล้องดี สู้น้ำสู้ฝน ที่สำคัญคือเป็น iPhone นะเธอ (แม้ว่าจะดีไซน์แบบเดิมๆ ก็เถอะ)ลองถามตัวเองดูครับว่า คุณสมบัติข้างต้นตอบโจทย์สมาร์ทโฟนที่คุณต้องการแล้วหรือยัง?Photo: Courtesy of Apple | ถ้ามีเงินทองเหลือเฟือซื้อ iPhone X ข้ามรุ่นไปเลยจะดีกว่า แต่ถ้าเบี้ยไม่พอ หันมาใช้ iPhone 8 หรือ 8 Plus ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย และอาจพูดได้ว่าดีงามทีเดียว เพราะแบตฯ อึด เครื่องแรง กล้องดี สู้น้ำสู้ฝน มาดูกันดีกว่าว่าคุณสมบัติข้างต้นตอบโจทย์สมาร์ทโฟนที่คุณต้องการแล้วหรือยัง | null | null | https://thestandard.co/gadget-tried-tested-iphone-8-and-8-plus/ |
กทม.ยันไม่เปิดประตูระบายน้ำย่านฝั่งธนฯ เป็น 1 เมตร | ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหา กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์น้ำ โดยระบุว่า การเปิดประตูระบายน้ำตามข้อเรียกร้องของผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดนนทบุรีทำให้ระดับน้ำในคลองต่างๆ ทางตอนบนของฝั่งธนบุรีทรงตัว และสูงขึ้นเล็กน้อย นั่นอาจทำให้น้ำที่ท่วมพื้นที่ฝั่งธนบุรีต้องยาวนานออกไป เนื่องจากยังมีมวลน้ำด้านเหนือและน้ำที่อยู่ตอนล่างของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า จะเปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ใน 3 คลองย่อย ได้แก่ คลองขุนศรีบุรีรักษ์ คลองควาย และคลองซอย เป็นลักษณะขั้นบันได จาก 50 เซนติเมตร เป็น 75 เซนติเมตร ขณะที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา เปิดกว้างที่ 50 เซนติเมตรเท่านั้น หลังจากประเมินผลภายใน 24 ชั่วโมง แล้วพบว่า ระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองควาย ระดับน้ำนอกประตูลดลง 3 เซนติเมตร และระดับน้ำในประตูสูงขึ้น 1 เซนติเมตร และยืนยันว่า กรุงเทพมหานครไม่เคยสัญญาว่าจะเปิดประตูระบายน้ำที่ 1 เมตร ตามข้อเรียกร้องของผู้ประสบภัยจังหวัดนนทบุรี แต่จะยึดตามข้อตกลงที่ทำไว้กับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ที่ให้อำนาจกรุงเทพมหานครพิจารณาเปิดหรือหรี่ประตูระบายน้ำตามความเหมาะสมขณะที่ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดนนทบุรียังไม่ได้กำหนดท่าทีการเคลื่อน โดยระบุว่า จะรอดูสถานการณ์น้ำในพื้นที่ว่าจะลดลงมากน้อยหรือไม่ และจะกำหนดท่าทีร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ | ผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันไม่สามารถเปิดประตูระบายน้ำใน 3 คลองย่อยของพื้นที่ฝั่งธนบุรีเป็น 1 เมตรตามข้อเรียกร้องของชาวนนทบุรีได้ เนื่องจากประเมินแล้วพบว่าระดับน้ำในประตูระบายน้ำเพิ่มสูงขึ้น | สังคม | กทม.,คลองขุนศรีบุรีรักษ์,คลองควาย,คลองซอย,คลองทวีวัฒนา,คลองมหาสวัสดิ์,นนทบุรี,ประตูระบายน้ำ | https://news.thaipbs.or.th/content/48299 |
ศรสุวีร์ รับเป็นเพียงนายหน้า ไม่มีหน้ากากอนามัยหลายล้านชิ้น | วันนี้ ( 9 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี หรือ บอย เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เพื่อเข้าให้ข้อมูลแสดงความบริสุทธิ์ใจ ภายหลังถูกพาดพิงว่าโพสต์ข้อความกักตุนและจำหน่ายหน้ากากอนามัยจำนวนหลายล้านชิ้น ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวนายศรสุวีร์ ยืนยันว่า ภาพที่โพสต์สินค้าหน้ากากอนามัยลงเฟซบุ๊ก ดำเนินการทำหน้าที่เป็นเพียงนายหน้าเท่านั้นได้ติดต่อรับซื้อมาจากโรงงานอีกทอดหนึ่ง ส่วนตัวไม่ได้มีสินค้าตามที่กล่าวอ้างในสื่อสังคมอนไลน์แต่อย่างใด เป็นเพียงสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าเพื่อกระตุ้นยอดขายเท่านั้น โดยยอมรับว่าเหตุที่ทำต้องการหารายได้เหมือนคนทั่วไป ส่วนการโพสต์ข้อความจำหน่ายหน้ากากอนามัย อ้างว่าได้โพสต์ก่อนที่มีการขาดแคลนส่วนประเด็นที่มีความรู้จักกับ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายศรสุวีร์ ยืนยันว่า ไม่เคยมีความสนิทสนมกับ ร.อ.ธรรมนัส แต่เคยเจอในร้านอาหารแห่งหนึ่งและได้เข้าไปทำความรู้จัก ขอถ่ายรูปพร้อมกับแนะนำตัว เพียงเท่านั้น ยอมรับว่า มีการพูดคุยเรื่องสถานการณ์COVID-19 รวมทั้งเรื่องหน้ากากอนามัย แต่ ร.อ.ธรรมมนัส ไม่ได้ติดต่อให้จัดหาหรือสั่งจำหน่ายหน้ากากอนามัยพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่มีการสืบสวนสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีกับนายศรสุวีร์ เนื่องจากการเข้าพบของนายศรสุวีร์ ต้องการมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน ส่วนทางแนวสืบสวนของตำรวจ ยังไม่มีการแจ้งข้อหายังอยู่ระหว่างการสืบสวน และตรวจสอบสถานที่ เช่น โรงงานผลิตหน้ากากที่นายศรสุวีร์ โพสต์ลงเฟซบุ๊ก และสถานที่อื่นๆ ที่ถูกออกหมายค้นทั้งหมด 6 จุด ยืนยันหากพบเข้าข่ายดำเนินการผิดกฎหมาย จะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย | ศรสุวีร์ เข้าพบตำรวจแสดงความบริสุทธิ์ใจ รับเป็นเพียงนายหน้าไม่มีหน้ากากอนามัยจำนวนมากตามที่อ้างในเฟซบุ๊ก ยืนยันไม่มีความสนิทสนม ร.อ.ธรรมนัส | ภูมิภาค | COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,หน้ากากอนามัย | https://news.thaipbs.or.th/content/289665 |
สมศักดิ์ โวกระแส พปชร.พุ่ง เย้ย หญิงหน่อย ได้เข้าสภา เพราะ ส.ส.เขตหด | เมื่อวันที่ 12 มี.ค.62 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงภาพรวมการหาเสียงและกระแสของพรรคในพื้นที่ภาคเหนือว่า ในช่วงแรกเราคิดว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นรองอยู่ แต่ขณะนี้ตนคิดว่ากระแสของเราขยับขึ้นมาเป็นต่อเล็กน้อย จากการลงพื้นที่อยู่เสมอพบว่า กระแสตอบรับจากประชาชนดีมาก เชื่อว่าเราสู้ได้ทุกพรรค โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างที่เป็นส่วนสำคัญ จะทำให้พรรคได้ ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ และจะทำให้พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพราะ ส.ส.เขตจะลดลง,พวกเราเป็นห่วง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ที่มีชื่ออยู่ในปาร์ตี้ลิสต์อันดับที่ 2 จะไม่ได้เป็นส.ส. เนื่องจากจำนวน ส.ส.ที่พึงจะได้ของพรรคเพื่อไทยเต็ม กับ ส.ส.เขตไปหมดแล้ว กระแสที่ดีวันดีคืนของพรรคพลังประชารัฐจะทำให้ ส.ส.เขตของพรรคเพื่อไทยลดลง ทำให้มี ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้น เราห่วงว่า คุณหญิงสุดารัตน์ จะไม่ได้เข้าสภา เดี๋ยวจะเหมือนขาดอะไรไปแบบไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นนโยบายเก่าๆ ที่เหมือนไปเอาของบรรพบุรุษมาใช้ ไม่มีอะไรใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม ผิดกับของเราที่ใหม่ สด และทำได้จริง นายสมศักดิ์ กล่าว,นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐมีความนิยมสูงขึ้นนั้น เนื่องจากนโยบายที่ใหม่ ถูกใจประชาชน และทำได้จริง โดยเฉพาะนโยบายด้านการเกษตรและฐานล่าง ที่ทีมงานมีประสบการณ์ช่วยกันทำออกมาได้ดี ประชาชนชอบใจมาก ที่ผ่านมาประเทศเราพัฒนาส่วนบนไปมากแล้ว วันนี้ถึงเวลาที่ต้องพัฒนาส่วนล่างบ้าง สภาพเศรษฐกิจล่าสุดของประเทศถือว่าดีขึ้น ในช่วงแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เข้ามา เป็นช่วงที่ประเทศวุ่นวาย ต้องสร้างความสงบเรียบร้อยก่อน แต่หลังเลือกตั้ง ตั้ง ครม.ได้ เราจะเอา พล.อ.ประยุทธ์ คสช.และมาตรา 44 กลับไป แต่จะเอา ลุงตู่ กลับมา เอาความแข็งแกร่งของท่านมาดูแลเรื่องความมั่นคง ส่วนการบริหารด้านอื่นๆ จะเป็นนักการเมืองมืออาชีพที่ช่วยกัน. | สมศักดิ์ เผยกระแส พลังประชารัฐ ภาคเหนือสู้ได้ทุกพรรค เชื่อได้ ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ โวความนิยมพุ่งกระฉูด แขวะ เพื่อไทย ขุดของเก่าหาเสียง ฟุ้งนโยบาย พปชร.สด-ใหม่-ทำได้จริง | เลือกตั้ง | เลือกตั้ง62,หาเสียง,พลังประชารัฐ,สมศักดิ์ เทพสุทิน,เลือกตั้ง | https://www.thairath.co.th/news/politic/1517261 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.