title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
สมคิด ชี้ ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันประคองเศรษฐกิจ ปัดตอบปัญหาในพลังประชารัฐ
วันที่ 7 พ.ค. 2563 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินสายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพบปะมหาเศรษฐีทั้ง 20 ราย ในช่วงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนตัวเห็นว่าความร่วมมือยิ่งมีเท่าไรก็ยิ่งดี ช่วงนี้ทุกคนต้องมาช่วยกันเพราะเศรษฐกิจของโลกไม่ดีมากๆ โดยเฉพาะประเทศใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ถือว่าหนักมาก คิดว่าทุกคนต้องช่วยกันประคองกันไปให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้ในเรื่องของการจ้างงาน จะต้องทำให้ทุกคนมีงานทำ เมื่อทุกคนมาช่วยกันเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีไม่ว่าจะรวยหรือจน เพราะขณะนี้บ้านเมืองของเราต้องการความร่วมมือทั้งนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อกรณีที่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศอาจจะต้องชะลอตัวไปถึง 9 เดือนนั้น มีความเป็นห่วงหรือไม่ นายสมคิด ตอบว่า ส่วนตัวคิดว่าขณะนี้ต้องดูในรายละเอียดทั้งหมดถือเป็นการเตรียมการไว้โดยไม่ประมาท เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เมื่อถามถึงปัญหาในพรรคพลังประชารัฐจบแล้วหรือไม่ นายสมคิด ไม่ตอบคำถาม เพียงแต่อมยิ้ม.
สมคิด ชี้ บ้านเมืองต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันประคองเศรษฐกิจ มอง เตรียมการรับมือเป็นเรื่องดี ปัดตอบปัญหาในพรรคพลังประชารัฐ
ข่าว,การเมือง
โควิด-19,COVID-19,ไวรัสโคโรนา,สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ผลกระทบเศรษฐกิจจากโควิด
https://www.thairath.co.th/news/politic/1838478
หมอเตือนระวัง 5 แมงมุมพิษ ถูกกัดต้องรีบล้างแผล-ประคบเย็น
วันนี้ (20 ก.ค.2563) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีหญิงชาวกระบี่ถูกแมงมุมมีพิษไม่ทราบชนิดกัดที่ข้อมือซ้าย เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ข้อมือบวมแดง มีไข้หนาวสั่น จนเกิดอาการช็อกต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้หลายคนเกิดความวิตกกังวลว่า สัตว์มีพิษอย่างแมงมุมจะออกมามากในช่วงหน้าฝนหรือไม่และชนิดใดอันตรายถึงชีวิตนพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า แมงมุมมีพิษที่ประชาชนควรทราบมี 5 ชนิด คือ แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล แมงมุมแม่ม่ายหลังแดง แมงมุมมีพิษสีน้ำตาล แมงมุมสันโดษเมดิเตอร์เรเนียน และแมงมุมแม่ม่ายดำ วิธีสังเกตลักษณะเด่นของแมงมุมมีพิษ คือ บริเวณท้องจะป่องเป็นพิเศษ แตกต่างจากแมงมุมที่อยู่ตามบ้านเรือนทั่วไป ส่วนอาการหลังโดนแมงมุมพิษกัดมีหลายระดับความรุนแรง ทั้งอาการเฉพาะที่บริเวณผิวหนังที่ถูกกัด หรือมีอาการที่ระบบอื่น ๆ อาจรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวรีบล้างแผล-ประคบเย็นพญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการทางผิวหนังของผู้ถูกแมงมุมมีพิษกัดมีตั้งแต่อาการเฉพาะที่ซึ่งไม่รุนแรงไปจนถึงอาการรุนแรงที่ทำให้เกิดแผลเนื้อตาย กรณีเป็นอาการทางผิวหนังสามารถดูแลเบื้องต้นได้โดยรีบล้างทำความสะอาดบาดแผลและประคบเย็นบริเวณที่ถูกกัด หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้และไม่ควรประคบร้อนที่แผลเคสรุนแรงไตวาย-เลือดแข็งตัวในหลอดเลือดนอกจากอาการทางผิวหนังแล้ว พิษจากแมงมุมสามารถทำให้เกิดอาการทางระบบอื่น ๆ เช่น คลื่นไส้อาเจียน ไข้ หรือปวดศีรษะ ในบางคนอาจเกิดอาการที่รุนแรงมาก เช่น ไตวาย หรือภาวะเลือดแข็งตัวในหลอดเลือด โดยอาการดังกล่าวมักเกิดขึ้นหลังโดนกัดภายใน 1-2 วัน ผู้ที่ถูกแมงมุมพิษกัดควรรีบเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อประเมินอาการโดยแพทย์ หากสามารถนำแมงมุมที่กัดไปให้แพทย์ดูด้วยได้ให้นำไปด้วย กรณีมีอาการรุนแรงควรไปพบแพทย์โดยด่วนแนะวิธีป้องกันแมงมุมผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง แนะนำวิธีป้องกันแมงมุมกัด คือ ไม่จับตัวแมงมุม หรือสวมถุงมือเวลาทำงานที่มีโอกาสเจอแมงมุม เช่น ทำสวน ปลูกต้นไม้ ขนฟืน หมั่นทำความสะอาดปัดใยแมงมุม หรือดูดด้วยเครื่องดูดฝุ่นบริเวณที่แมงมุมชอบมาชักใย เช่น กรอบประตู กรอบหน้าต่าง มุมเพดาน ช่องลม หรือติดมุ้งลวดป้องกันไม่ให้แมงมุมเข้าบ้าน ควบคุมกำจัดแมลงในบ้าน ไม่เปิดไฟทิ้งไว้ตอนกลางคืน เพื่อลดจำนวนแมลงเล่นไฟ เป็นการควบคุมจำนวนแมลงที่เป็นเหยื่อของแมงมุม หมั่นตรวจตราตามตู้เสื้อผ้า ชั้นใต้หลังคา ห้องเก็บของ ลังเก็บของ หลังกรอบรูป ใต้เฟอร์นิเจอร์ ตรวจดูและเขย่ารองเท้าและเสื้อผ้า เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีแมงมุมหลบซ่อนอยู่ก่อนสวมใส่ ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงในบริเวณที่แมงมุมชอบอาศัย ใช้กาวดักแมลงสาบดักจับแมงมุมในบริเวณที่ชอบเดินผ่าน
สถาบันโรคผิวหนัง เตือนเคสแมงมุมกัดและมีอาการแผลบวมแดง ปวดมาก คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ ไข้สูง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ควรรีบพบแพทย์ประเมินอาการและรักษา ชี้เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
สังคม
แมงมุมกัด,ป้องกันแมงมุม,แมงมุม,แมงมุมพิษ
https://news.thaipbs.or.th/content/294742
จาตุรนต์ เย้ย รบ. ทำงานไร้ทิศทาง เชื่อปรับ ครม. ไม่ช่วยแก้ปัญหา
วันที่ 26 ก.ค. 58 นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงการปรับ ครม. ระบุว่า ข้อเสนอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ จะเป็นการโยนหินถามทาง หรือเกิดจากความคิดที่อยากให้เกิดขึ้นจริงๆ ก็ไม่ทราบ แต่ผลโพลปรากฏว่า มีเสียงสนับสนุนอยู่มาก สะท้อนว่าคนจำนวนมากเห็นว่า รัฐบาลทำงานไม่ได้อย่างคาดหวังเสียแล้ว จึงอยากให้ปรับ ครม.ใหม่ นอกจากนี้ อาจเกิดจากความรู้สึกว่า รัฐบาลนี้ประกอบด้วยบุคคลในวงที่จำกัด รัฐบาลแห่งชาติย่อมประกอบด้วยคนหลายฝ่ายมากกว่า คงแก้ปัญหาได้ดีกว่า แต่ถ้าอำนาจเบ็ดเสร็จยังอยู่ที่ คสช. การไปเชิญคนหลายฝ่ายมาร่วมรัฐบาล ย่อมไม่อาจเป็นไปได้ รัฐบาลแห่งชาติจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้แน่ แต่คนจำนวนไม่น้อยยังฝากความหวังไว้กับการปรับ ครม. เนื่องจาก เห็นว่ารัฐบาลแก้ปัญหาประเทศไม่ได้,นายจาตุรนต์ ระบุว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ ไม่ทำให้รัฐบาลแก้ปัญหาประเทศได้ รัฐบาลมีปัญหา 2 ด้าน คือปัญหาตัวบุคคล และปัญหาระบบส่วนใหญ่ของ ครม. ประกอบด้วยบุคคลไม่มีประสบการณ์บริหารประเทศ การทำงานของ ครม. ไร้ทิศทาง การจะไปหาผู้มีความรู้ ความสามารถ เป็นที่ยอมรับของสังคมมาร่วมงาน ย่อมทำได้ยาก เพราะเป็นระบบที่ขาดความชอบธรรม ทางออกของประเทศในวันนี้จึงไม่ใช่การปรับ ครม. แต่ต้องรีบคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน.
จาตุรนต์ ฉะรัฐบาล แก้ปัญหาประเทศไม่ได้ ซัด ครม.ทำงานไร้ทิศทาง เย้ยปรับ ครม.ไม่ช่วยแก้ปัญหา แนะทางออก รีบคืนอำนาจให้ประชาชน
null
จาตุรนต์ ฉายแสง,พรรคเพื่อไทย,ปรับ ครม.,ผลงานรัฐบาล,เฟวบุ๊ก,ครม.,ประสบการณ์,บริหารประเทศ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,คืนอำนาจ,ประชาชน,สืบทอดอำนาจ,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/514294
ตร.ชี้ ไฟไหม้แบงก์ไทยพาณิชย์ ไม่โยงคดี สจล.
วันที่ 8 ก.พ.58 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีเกิดเพลิงไหม้ชั้น 10 ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ว่าในเบื้องต้นได้รับแจ้งจาก พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. ว่า ขณะนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานยังไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากในบริเวณที่เกิดเหตุไฟไหม้และยังมีควันพิษหลงอยู่ ต้องรอให้ควันพิษเหล่านั้นหมดไป แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะเข้าไปดูและตรวจสอบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ว่าเกิดจากเหตุใด เบื้องต้นยังไม่มีความคืบหน้า,ส่วนกรณีสาเหตุไฟไหม้นั้น จะมีการเกี่ยวข้องในเรื่องของคดี สจล. หรือไม่นั้น ต้องรอผลการสอบสวนและการตรวจพิสูจน์สถานที่เกิดเหตุของกองพิสูจน์หลักฐานก่อนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และน่าจะเชื่อมโยงกันหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ จากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนต่อไป,ขณะที่ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ว่า ชั้นที่ไฟไหม้นั้นไม่ได้มีเอกสารสำคัญของคดีการยักยอกทรัพย์คดี สจล. ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบกับคดี และได้สั่งการให้ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้แล้ว เพื่อหาสาเหตุไฟไหม้ต่อไป,นอกจากนี้ ความคืบหน้าคดีระเบิด หน้าห้างสยามพารากอน และทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ทาง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศ รวมทั้งกองปราบปราม เร่งสืบสวนสอบสวนคนร้ายที่ออกหมายจับด้วยอีกทางหนึ่ง หากพบว่ามีเบาะแสอยู่จุดไหน นอกเหนือจากทางนครบาลที่เป็นเจ้าของคดี จากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ผบ.ตร. เผย สาเหตุเพลิงไหม้แบงก์ไทยพาณิชย์ สนง.ใหญ่ ต้องรอฝ่ายตำรวจพิสูจน์หลักฐานก่อน ด้าน โฆษก ตร. ชี้ ไม่โยงคดียักยอกทรัพย์ สจล. เนื่องจากไม่ได้มีเอกสารสำคัญอยู่ในที่เกิดเหตุ
ข่าว,ทั่วไทย
ไฟไหม้แบงก์ไทยพาณิชย์,ไฟไหม้,ไทยพาณิชย์,ยักยอกทรัพย์,สจล.,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว,วางเพลิง,ธนาคารไทยพาณิชย์,พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ
https://www.thairath.co.th/news/local/479875
ปฏิรูปตร.ยกแรก ตัดอำนาจผบ.ตร.ไปให้ภาค
1-9 ตชด.และนครบาล จัดงบเองโยกย้ายเอง ปปช.ปล่อยปูคดีน้ำ54,โรดแม็ปเลือกตั้งเริ่มเห็นเค้าลาง หลังราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต. พรเพชร เริ่มกระบวนการสรรหา กกต.ใหม่ทันที คาดไม่เกิน 12 ธ.ค. เห็นโฉม 7 เสือใหม่ ลุ้นต่อกฎหมายลูกที่เหลือ สมชัย แข็งใจอยากให้ชุดใหม่เข้ามาสานงานต่อเร็วๆ แกนนำ กปปส.อุบไต๋ข่าวแยกวงไปตั้งพรรคใหม่ วิทยา ยันยังไม่ได้คุยกัน อลงกรณ์ หวั่นทำ ปชป.วงแตกเหมือนกลุ่ม 10 มกรา แนะ สุเทพ-อภิสิทธิ์ ไปเคลียร์ใจกันก่อน ชี้ รบ.แห่งชาติเกิดยาก รธน.ไม่เอื้อ ยิ่งลักษณ์ รอดตัว ป.ป.ช.ไม่เอาผิดบริหารจัดการน้ำท่วมใหญ่ปี 54 คสช.ฮึ่มใส่ นปช.อย่าเพิ่งป่วน เต้น เมินขอเดินหน้าทวงหาความยุติธรรม ชุดปฏิรูปตำรวจเน้นกระจายอำนาจ ยุบทิ้ง ก.ต.ช. เหลือแค่ ก.ตร. ทำเนียบระทึกชาย-หญิงแฝงตัวประชิด บิ๊กตู่,ประเด็นการตั้งรัฐบาลแห่งชาติแม้ไม่มีเสียงตอบรับจากภาคส่วนต่างๆ แต่โรดแม็ปการจัดการเลือกตั้งเริ่มพอมองเห็นเค้าลาง หลัง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา,เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ก.ย. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงภายหลังร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ว่า ตามขั้นตอน กกต.ชุดปัจจุบันต้องพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 14 ก.ย.นี้ แต่ยังให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่มาทำหน้าที่ ส่วนการสรรหา กกต.ชุดใหม่ จำนวน 7 คน มีที่มาจาก 2 ทาง คือ 2 คน มาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเป็นผู้คัดเลือก อีก 5 คนมาจากคณะกรรมการสรรหา หลังจากนี้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะทำหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ให้คัดเลือกตัวแทนเข้ามาทำหน้าที่เป็นกรรมการสรรหาภายใน 20 วัน ซึ่งคณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ต้องสรรหาผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็น กกต.ให้เสร็จภายใน 90 วัน คือวันที่ 12 ธ.ค. จากนั้นส่งรายชื่อให้ประธานสนช. บรรจุวาระเข้าสู่ที่ประชุม สนช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบภายใน 45 วัน หากไม่เห็นชอบบุคคลใด ต้องกลับไปเริ่มต้นกระบวนการสรรหาใหม่เป็นรายบุคคล,นายพรเพชรกล่าวต่อว่า ระยะเวลานับตั้งแต่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ส่งร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต. ให้ สนช.พิจารณา จนถึงวันที่กฎหมายประกาศ บังคับใช้ รวมเวลาทั้งสิ้น 149 วัน นับจากวันที่ 18 เม.ย. 2560 ในส่วน สนช.สามารถพิจารณากฎหมายเสร็จภายใน 60 วัน ที่เหลือเป็นกระบวนการส่งเรื่องให้ กรธ. และองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องพิจารณาว่า เห็นด้วยกับร่างของ สนช.หรือไม่ และการตั้ง กมธ. ร่วม 3 ฝ่ายทบทวนร่างกฎหมาย และส่งมาให้ สนช.พิจารณาอีกครั้ง ก่อนส่งให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย กรอบเวลาจัดการเลือกตั้งต้องพิจารณาเงื่อนเวลาเหล่านี้ด้วย ยังไม่รู้ว่ากฎหมายลูกอีก 2 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะใช้เวลาอีกนานเท่าไร ส่วนจะกระทบกับโรดแม็ปเลือกตั้งที่วางไว้ปลายปี 2561 หรือไม่ คงตอบไม่ได้ เพราะมีเงื่อนไขที่อธิบายไปแล้วต้องไปคิดกันเอง,นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ตามที่ พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต. ประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า ในวันที่ 14 ก.ย. กกต.ชุดนี้ต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่ยังทำหน้าที่ต่อไปจนกระทั่งมี กกต.ชุดใหม่ ส่วนกระบวนการสรรหานั้น หากดำเนินการได้เสร็จใน 90 วัน เท่ากับจะได้รายชื่อคนที่ได้รับการสรรหาเป็น กกต.ใหม่ภายในวันที่ 12 ธ.ค. จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการของ สนช.ที่จะต้องตั้งกรรมาธิการฯขึ้นมาตรวจสอบประวัติ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 30-45 วัน จากนั้นบุคคลที่ได้รับการสรรหาจะต้องลาออกจากตำแหน่งเดิม โดยยื่นหลักฐานต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาภายใน 15 วัน ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ หากเป็นไปตามกรอบเวลานี้เท่ากับในกลางเดือน ก.พ.-มี.ค.จะได้ กกต.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ส่วนตัวอยากให้ กกต.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่โดยเร็ว เพื่อเตรียมการเลือกตั้งในอนาคต เพราะหากเข้ามาช้าอาจจะไม่ทันเตรียมงานได้,ที่โรงแรมคลาสสิคคามิโอ จ.พระนครศรีอยุธยา สำนักงานคณะกรรมการ กกต. จัดกิจกรรม กกต.พบสื่อมวลชน โดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปี 9 เดือน ที่ กกต.ชุดปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ ได้ทุ่มเทมุ่งมั่นมาตลอด และเราจะมุ่งมั่นต่อไปจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ ประเทศไทยมีหลายโจทย์ที่รอการแก้ไข โดยเฉพาะโจทย์ประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ยืนยันว่าข่าวที่ระบุว่า กกต.กำหนดวันเลือกตั้งในช่วงเดือน ส.ค.2561 ไม่เป็นความจริง เพียงแต่เจ้าหน้าที่กำหนดตารางการทำงาน เพราะวันเลือกตั้งจะกำหนดได้ต่อเมื่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ ตราบใดที่ พ.ร.บ.ฉบับสุดท้ายยังไม่เสร็จ กกต.จะกำหนดวันเลือกตั้งไม่ได้ แต่การเลือกตั้งเป็นงานใหญ่ต้องเตรียมการไว้ก่อน,วันเดียวกัน นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่ม กปปส. กล่าวถึงกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล คสช. เป็นลักษณะเดียวกับโปลิตบูโรว่า ขอนายจาตุรนต์อย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลน คนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ก็รักชาติบ้านเมืองเช่นเดียวกับนายจาตุรนต์ และพรรคเพื่อไทย แต่คนเหล่านี้คงไม่คิดเอาแบบอย่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่คิดและให้พรรคเพื่อไทยทำตาม จนวันนี้คนในเครือข่ายพรรคเพื่อไทยต้องทยอยเดินเข้าคุกตะราง ตนไม่ได้ชื่นชอบการรัฐประหาร แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราควรทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร หากในอนาคตคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่ตั้งขึ้นมา ทำหน้าที่ออกนอกลู่นอกทาง ตนและพี่น้องประชาชนในนามกลุ่ม กปปส.ที่ร่วมต่อสู้กันมา จะรวมตัวดำเนินการเอาคนเหล่านี้เข้าคุกเอง ขอให้ฝ่ายการเมืองทำงานตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ ดีกว่าสร้างวาทกรรม ขอให้มองผู้อื่นด้วยเจตนาดี การเมืองจะได้ลดความขัดแย้งลง,ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า มีความกังวลหากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่ม กปปส. จะตั้งพรรคการเมืองใหม่ อาจส่งผลกระทบต่อฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ นายถาวรตอบว่า กรณีนี้ไม่ขอแสดงความเห็นใดๆ,นายวิทยา แก้วภารดัย อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่ม กปปส. กล่าวว่า สิ่งที่นายอภิสิทธิ์แสดงความกังวล หากกลุ่ม กปปส.แยกออกไปจัดตั้งพรรคการเมืองจริงนั้น ทราบตามข่าวในสื่อ แต่เรื่องการตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือไม่นั้น ยังไม่มีการพูดคุยกันในบรรดาแกนนำกลุ่ม กปปส.แต่อย่างใด ส่วนจะชัดเจนหรือเป็นแนวคิดใครนั้น ไม่ทราบ ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน,ขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กระแสข่าวกปปส.จะแยกตั้งพรรคการเมือง เป็นเรื่องน่ากังวลจะส่งผลกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง เพราะมีฐานเสียงเดียวกัน อาจเหมือนกรณีกลุ่ม 10 มกรา ที่ทำให้พรรคอ่อนแอไประยะหนึ่ง แต่ยังเร็วเกินไปที่จะคิดถึงการตั้งพรรคใหม่ คาดว่าจะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ช่วงปลายปีนี้ ทั้งสองฝ่ายคงคุยกันเพื่อหาทางออก เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ ย่อมรู้ดีว่าการเกิดพรรคใหม่เหมือนตอน 10 มกรา ย่อมเกิดผลกระทบต่อประชาธิปัตย์โดยตรง ควรหาทางออกร่วมกันที่เป็นทางสายกลาง แต่ยังเชื่อว่าทั้งสองคนพิสูจน์มายาวนานว่ามีความรักในพรรคอย่างไม่มีข้อสงสัย,นายอลงกรณ์กล่าวต่อว่า ส่วนแนวคิดการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ คงเป็นไปไม่ได้ในการเมืองระบบรัฐสภา เพราะหมายความว่าทุกกลุ่มการเมืองรวมตัวเป็นรัฐบาล จะไม่มีฝ่ายค้านในสภา รัฐบาลแห่งชาติจะเกิดได้ภายใต้ระบบที่ไม่ใช่ระบบรัฐสภา เช่น รัฐบาลจากรัฐประหาร หรือรัฐบาลยามบ้านเมืองเกิดภาวะสงคราม ข้อเสนอนี้เป็นความตั้งใจดีหวังให้เกิดการปรองดอง แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นหลังเลือกตั้งในระบบรัฐสภา เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่ได้เปิดช่องให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติได้ โอกาสเป็นไปได้ที่สุดตอนนี้ คือการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ ไม่ใช่รัฐบาลแห่งชาติ คือการที่พรรคการเมืองที่มีแนวอุดมการณ์ทางเดียวกัน รวมตัวครองเสียงข้างมาก คงไว้ซึ่งประชาธิปไตยที่มีการถ่วงดุลตรวจสอบ ก็คงเพียงพอแล้วกับการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เมื่อกลับสู่ประชาธิปไตยปัญหาขัดแย้งจะลดน้อยลง เนื่องจากมีกติกาบ้านเมืองกำกับไว้ ใครเดินออกนอกรอยระบอบประชาธิปไตยก็ต้องถูกลงโทษไม่ว่าพรรค การเมืองใดก็ตาม,ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาต้านแนวคิดการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพราะอาจไปเข้าทางระบอบทักษิณ ว่า การที่นายวิรัตน์จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็เป็นสิทธิ แต่ไม่ควรมาเหน็บแนมหาประโยชน์ หรือใส่ร้ายบุคคลอื่นด้วยความเท็จระบอบทักษิณไม่มีอยู่จริง แต่บางพรรคกลับใช้วาทกรรมนี้เป็นเครื่องมือสร้างความเกลียดชัง หากมีคนถามว่าพรรคการเมืองที่บอยคอตการเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร แจกที่ดิน สปก.ให้เศรษฐี สร้างโรงพักหมื่นล้านได้แต่เสาและเล้าไก่ สลายการชุมนุมจนมีคนตาย 99 ศพ นักการเมืองพวกไหนที่เป่านกหวีดชัตดาวน์ประเทศ นอนขวางการเลือกตั้งจนมีการรัฐประหาร ถือเป็นระบอบอะไร ความจริงเราไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ไม่อยากทะเลาะด้วย หรือถูกดึงไปสู่ความขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์,ช่วงเย็นวันเดียวกันที่บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดห้องทำงานชั้น 25 ให้ลูกพรรคนำโดยนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย เข้าอวยพรในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 51 ปี โดยนายสรอรรถนำกล่าวอวยพรว่า เชื่อว่ามาถึงวันนี้ถ้าหัวหน้าพรรคจะประกาศเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ โชคช่วย เพราะมีครบทุกอย่าง รอเพียงวันเวลา หากเปรียบเป็นยาเมื่อก่อนอาจเป็นยาทั่วๆไป แต่วันนี้นายอนุทินคือยาสามัญประจำบ้านรักษาได้ทุกโรค มีแต่คนต้องการอยากได้ ด้านนายอนุทินกล่าวตอบว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นแน่นอน ขอให้ทุกคนเริ่มยืดเส้นยืดสาย ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าจะประกาศเลือกตั้งวันนี้ พรุ่งนี้ กลางปีหน้าหรือขยับไปอีกนิดหน่อยก็พร้อมแล้ว มั่นใจว่าภูมิใจไทยเป็นแบรนด์ที่ดี ถึงวันลงคะแนนขอให้ความมั่นใจว่าทุกคนจะไม่กลับบ้านมือเปล่าแน่ วันนี้ผมมีคำเดียว พร้อมสู้ และพรรคภูมิใจไทยสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น,ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงการติดตามตรวจสอบเส้นทางที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้หลบหนี ที่มีการระบุว่าออกไปทางพื้นที่กองกำลังบูรพาซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 ว่า เป็นไปตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ระบุไว้ ส่วนข้อสันนิษฐานว่าอาจมีการเปลี่ยนรถที่ใช้หลบหนี ทำให้ไม่มีภาพที่ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ในรถยนต์ต้องสงสัยตามภาพกล้องวงจรปิดที่นำมาเผยแพร่นั้น ขอให้เป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้บังคับบัญชาชี้แจงดีกว่า กองทัพภาคที่ 1 ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดทุกอย่างแล้ว โดยมีหน่วยข่าวรายงานข้อมูลเพื่อนำมาประเมินและประมวลภาพข่าว เพื่อดูถึงความเป็นไปได้ ไม่ใช่สรุปจากแค่หน่วยข่าวใดหน่วยข่าวหนึ่งที่รายงานมา แล้วสื่อมวลชนนำไปตีความ,พล.ท.อภิรัชต์กล่าวต่อว่า การรวบรวมข่าวสารจากตำรวจ หน่วยข่าวกรองทางทหาร (ขกท.) และหน่วยงานด้านความมั่นคงหลายหน่วย ต้องนำมาปฏิบัติการด้านการข่าวกรองก่อน ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน ขอให้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาทำงานเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ไม่ใช่รีบจับใครมาแล้วบอกคนนั้นคนนี้เหมือนเมื่อก่อนจะเห็นได้ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรอบคอบติดตามเหตุการณ์มากขึ้น ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเองจะถูกตำหนิว่าจับแพะหรือแกะอีก ขอให้ทุกคนใจเย็น เชื่อว่าไม่ช้าคงทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด เมื่อถามถึงกระแสข่าวมีทหารให้การช่วยเหลือหลบหนี พล.ท.อภิรัชต์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม,ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. แถลงถึงความคืบหน้าการไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีบริหารจัดการน้ำโดยมิชอบเมื่อปี 2554 ว่า ป.ป.ช.มีมติว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีความผิดกรณีละเลยการปฏิบัติหน้าที่บริหารจัดการน้ำปี 2554 ทำให้เกิดอุทกภัย และเกิดความเสียหายกว่า 3.5 แสนล้านบาท โดยเห็นว่าการดำเนินการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำตามขั้นตอนบริหารราชการแผ่นดินแล้ว เรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่สามารถคาดการณ์ได้ จึงไม่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พยานหลักฐานไม่เพียงพอถึงขั้นชี้มูลความผิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์บกพร่องต่อหน้าที่ หรือเกิดจากความบกพร่องของใคร เป็นเรื่องธรรมชาติ พายุมาหลายลูกมาก ป.ป.ช.ไม่คิดว่าต้องหาคนมารับผิดชอบเรื่องนี้ ที่ผ่านมาดูตามพยานหลักฐาน ข้อมูล ไม่คิดว่าบกพร่อง,อีกเรื่อง พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีแกนนำกลุ่ม นปช.เตรียมจัดแถลงข่าวทวงความยุติธรรมคดี 99 ศพ ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ในวันที่ 14 ก.ย. ว่า ต้องถามว่าถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง คสช.ต้องขอร้อง ขอความร่วมมือว่าอย่าเพิ่งทำ เรายังไม่อนุญาตให้ดำเนินการได้ในช่วงนี้ เพราะยังมีงานสำคัญของชาติรออยู่หลายประการ หากถึงเวลาสมควรแล้วสถานการณ์บ้านเมืองเรียบร้อย บรรยากาศเหมาะสม คสช.จะผ่อนปรนให้ หากกลุ่ม นปช.จัดแถลงข่าวจริง ทางเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร จะเข้าไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ถ้ากิจกรรมใดที่เกี่ยวข้องกับการเมืองขอให้พึงระมัดระวัง ไม่อยากให้คิดว่ามีความขัดแย้งแบ่งฝ่ายเกิดขึ้น หากยังยืนยันจะแถลงข่าวจริง ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม และต้องรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า เข้าใจข้อห่วงใยของ คสช. ขอชี้แจงว่าการแถลงข่าววันที่ 14 ก.ย. ไม่ใช่การเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เป็นการใช้สิทธิของประชาชนตามกฎหมาย หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาชี้แนวทางการดำเนินคดีจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 ซึ่ง ป.ป.ช.ยกคำร้องไปก่อนหน้านี้ เพื่ออธิบายแนวทางการทวงถามความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต ไม่มีการพาดพิงตัวบุคคล หรือปลุกปั่นยุยงให้เกิดความวุ่นวาย ถ้าเจ้าหน้าที่จะเข้าสังเกตการณ์ก็ไม่ขัดข้อง เราให้ความร่วมมือกับ คสช.มาตลอด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเบี้ยว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กลุ่มพันธมิตรฯ นัดประชุมและแถลงข่าวแนวทางต่อสู้ซึ่งก็ทำได้,ที่รัฐสภา นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักการกระจายอำนาจ 3 ด้าน ได้แก่ 1.การบริหารงานบุคคล 2.งบประมาณ 3.การบริหารงานภายในให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ไปบริหารกันเอง ตามที่นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร ประธานคณะอนุกรรมการด้านหน้าที่ อำนาจและภารกิจตำรวจ เสนอมา อาทิ เรื่องการบริหารงานบุคคล ให้อำนาจผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายในกองบัญชาการภาคของตัวเอง แต่ไม่สามารถโยกย้ายตำรวจข้ามภาคได้ เพื่อให้ตำรวจเติบโตในหน่วยงานที่สังกัด ยกเว้นตำรวจบางระดับที่ให้ย้ายข้ามภาคได้ ส่วนการบริหารงบประมาณต้องไปแก้ไข พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ ซึ่งทางอนุกรรมการฯ จะไปกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป,นายสมคิดกล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการรับฟังความเห็นการปฏิรูปตำรวจ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับกลุ่มสภาทนายความ สื่อมวลชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อดีต ผบ.ตร. และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. การสัมภาษณ์นายสุเทพเพราะเห็นว่าเป็นอดีตรองนายกฯ ที่กำกับดูแลตำรวจมา และยังเป็นแกนนำการชุมนุมที่เคยมีความขัดแย้งกับตำรวจ ส่วนโครงสร้าง สตช. มีการพูดคุยเบื้องต้นว่า มีแนวโน้มจะให้คงไว้เฉพาะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จะสลายคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เพื่อให้เหลือ ก.ตร.เพียงชุดเดียวเหมือนองค์กรอื่น มาปกครองกันเอง โดยที่ฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องน้อยที่สุด,วันเดียวกัน ที่โรงแรมดุสิตธานี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ การใช้มาตรฐานสากลเป็นเครื่องมือในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ระหว่างเป็นประธานเปิดสัมมนาเผยแพร่รายงานผลการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ว่า ถ้ากองทัพเดินด้วยท้อง อาชญากรรมก็เดินด้วยเงิน เราตัดวงจรตั้งแต่ตอนนี้ได้ เงินจ่ายไปไม่ถึงไม่ช้าก็ต้องหยุด แต่ถ้าไม่สกัดกั้นการก่อการร้ายจะระบาดไปทั่ว เราจึงออก พ.ร.บ.เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการอุดหนุนทาง การเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูง ถือเป็นกฎหมายฝาแฝดกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) การปราบปรามต้องอาศัยหน่วยงานด้านการข่าว คือ ปปง. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถ้าให้อำนาจ ปปง.ไปก็อาจไม่พอ แต่ถ้าให้มากแล้วไม่มีการควบคุม ปปง.อาจเป็นโจรเสียเอง ยุคนี้เราอยากให้การต่อต้านการฟอกเงินเป็นไทยแลนด์ 4.0 ที่น่าเชื่อถือ ระงับยับยั้งการกระทำความผิด คนที่บริสุทธิ์ไม่ต้องห่วง ปปง.ไม่เป็นอันตรายกับผู้สุจริต,ที่สำนักงาน กกต. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเข้าให้ถ้อยคำกับอนุกรรมการไต่สวน กกต. กรณียื่นคำร้องให้สอบรัฐมนตรีจำนวน 9 ราย ว่า เป็นการเข้าชี้แจงครั้งแรกหลังยื่นคำร้องไปเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ได้ยืนยันในคำร้องและให้ข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเอกสารเกี่ยวกับการที่ ป.ป.ช.สอบเรื่องเงินลงทุนในที่ดินเขาใหญ่ของนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เพื่อประกอบการพิจารณา ทั้งนี้อนุกรรมการไต่สวนยังได้สอบถามตนถึงการมายื่นคำร้องซึ่งก็ได้ชี้แจงว่า ตนเลือกเฉพาะการถือครองหุ้นที่เข้าลักษณะต้องห้ามดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานแล้วเท่านั้น ไม่ใช่เอาหุ้นทุกตัวที่รัฐมนตรีถือครองมาเป็นเกณฑ์การร้อง และเห็นว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 264 ไม่ยกเว้นให้ครม.ถือครองหุ้นได้ รวมทั้งการเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยก็ไม่เข้าลักษณะให้ยกเว้น แต่เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 9 รัฐมนตรีที่จะชี้แจง,ช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รับมอบเงินบริจาคกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคอีสาน ผ่านกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จากบริษัท ผู้ประกอบการจีนในประเทศไทย บริจาครวมเป็นเงิน 3.5 ล้านบาท รวมถึงเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้จำเป็น มูลค่ากว่า 3 แสนบาท โดยนายกฯได้กล่าวขอบคุณทั้งคนไทย คนจีน ที่ร่วมทำความดีเพื่อแผ่นดิน ดูแลผู้ที่เดือดร้อนกว่า รัฐบาลยังต้องดูแลประชาชนให้ก้าวสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น,ต่อมาเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกและหัวหน้า คสช. กำลังเดินขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า หลังร่วมออกกำลังประจำสัปดาห์เต้นเแอโรบิกกับข้าราชการ ร.ต.สมชาย อาจผึ่ง อ้างตัวเป็นอดีตนายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) และนางยุวรี ปิยะนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ยังแมนสปอร์ต จำกัด พร้อมพวกเป็นชาย 1 คน และหญิงอีก 1 คน รวม 4 คน แต่งกายด้วยชุดวอร์มแฝงตัวเข้ามาร่วมออกกำลังกาย และพยายามเดินเข้าประชิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ แต่ตำรวจทำเนียบฯพยายามกันไม่ให้เข้าถึงตัว ทำให้ชายดังกล่าวตะโกนเรียก นายกฯจึงหันมาถามว่า มีอะไร ถ้าจะถ่ายรูปก็เข้ามา ร.ต.สมชายจึงเดินเข้าไปพูดคุย พล.อ.ประยุทธ์จึงบอกให้ร้องเรียนมาตามขั้นตอน ก่อนชี้นิ้วให้ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯรับเรื่องไปดูแล,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ร.ต.สมชาย นางยุวรี และพวก เคยแต่งชุดวอร์มแฝงตัวบุกไปดักรอพบ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงบ้านพักภายใน ร.1 รอ. มาแล้ว เมื่อวันที่ 10 ก.ย. เพื่อร้องเรียนกรณีเข้าร่วมประมูลตัดเย็บเสื้อโปโลจำนวน 2 แสนตัว เพื่อแจกข้าราชการและเจ้าหน้าที่สังกัด กทม. แต่เกิดปัญหาไม่สามารถส่งมอบได้ เคยยื่นหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชน ที่สำนักงาน ก.พ. มาแล้ว แต่เรื่องไม่คืบหน้า แต่เจ้าหน้าที่ใน ร.1 รอ. ไม่อนุญาตให้เข้าพบ การบุกมาประชิดตัวรอบที่ 2 ถึงทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ ทำให้ทีม รปภ.นายกฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเนียบฯ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายรับเรื่องร้องเรียน ตกใจเดินกันวุ่นวายสอบถามถึงสาเหตุที่เข้ามาร้องเรียน ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยประจำทำเนียบรัฐบาล ระบุว่าเลขาธิการนายกฯไม่ได้ติดใจ แต่การออกกำลังกายประจำสัปดาห์จากนี้ต่อไป อนุญาตให้แค่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบเท่านั้น
โรดแม็ปเลือกตั้งเริ่มเห็นเค้าลาง หลังราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต. พรเพชร เริ่มกระบวนการสรรหา กกต.ใหม่ทันที คาดไม่เกิน 12 ธ.ค. เห็นโฉม 7 เสือใหม่
เลือกตั้ง
ข่าวหน้า 1,ปฏิรูปตำรวจ,โรดแม็ปเลือกตั้ง,เลือกตั้ง,รัฐบาลแห่งชาติ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1069327
หาดูยาก ควบม้าวิ่งบนถนนที่หัวหิน หนุ่มอารมณ์ดีขับปิดท้ายเพื่อความปลอดภัย (คลิป)
เมื่อวันที่ 24 มี.ค โลกออนไลน์ได้แห่แชร์คลิปวิดีโอจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Mixer Rider หลังเจ้าตัวหยิบกล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพขณะพบคนขี่ม้าบนถนนเพชรเกษม ช่วงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยาก โดยมีข้อความระบุว่า รถรุ่นนี้ ดาวน์เท่าไหร่ ผ่อนเท่าไหร่ครับ?? #เท่สุดๆ โดยผู้บันทึกคลิปยังได้ก็มีการกล่าวแซวคนควบม้าด้วยว่า นี้และครับตัวท็อป เปิดประทุนได้ 4 แรงม้าจริงๆ 4 ขาม้าล้วนๆ และเมื่อถึงทางแยกก็มีการพูดในทำนองขำๆ ว่า ทำไมพี่เขาไม่เปิดไฟเลี้ยวอ่ะ ซึ่งผู้โพสต์ก็ไม่ได้ขับรถจี้หรือขับประกบ แต่เลือกจะที่ขับตามห่างๆ พร้อมเปิดไฟกะพริบดูความปลอดภัยให้ด้วย,ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการนำม้าให้บริการนักท่องเที่ยวขี่ตามชายหาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากคลิปคาดว่าผู้บังคับม้ากำลังนำม้ากลับที่พักในช่วงเย็น และการที่ม้าวิ่งบนท้องถนนก็ไม่ได้ผิดกฏหมายแต่อย่างไร หากม้าไม่ได้ขับถ่ายลงบนถนน แต่ถ้าม้าถ่ายอุจจาระก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ.
ภาพแปลกตา! หนุ่มควบม้าวิ่งบนถนนที่หัวหินท่ามกลางรถยนต์จำนวนมาก คนถ่ายอารมณ์ดีขับปิดท้ายพร้อมเปิดไฟกะพริบเพื่อความปลอดภัย แซว รถรุ่นนี้ดาวน์เท่าไร ผ่อนเท่าไรครับ?
ข่าว
ภาพหาดูยาก,ควบม้าบนถนน,หัวหิน,ประจวบคีรีขันธ์
https://www.thairath.co.th/news/894880
มท.2 เผยวิกฤตโควิดลดอุบัติเหตุเสียชีวิตช่วงเทศกาลสงกรานต์
วันนี้ (22 เม.ย.2563)นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมสรุปผลดำเนินการและการรายงานข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย.2563 (ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 63) ว่า เนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ รัฐบาลได้มีการเลื่อนวันหยุดช่วงเทศกาลฯออกไปก่อน เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 แต่ทางศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ยังคงมีนโยบายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด ดำเนินการเก็บสถิติ ข้อมูลอุบัติเหตุเช่นเดิมซึ่งข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2563 ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย.2563 โดยรายงานข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพบว่าปี 2563 เป็นสงกรานต์ที่มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ทำให้คนที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลดลง อุบัติเหตุเกิดขึ้น 1307 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1260 ราย เสียชีวิต 167 เมื่อเทียบกับสงกรานต์ปี 2562 ซึ่งเกิดอุบัติเหตุ 3338 ครั้ง ลดลง 2031 ครั้ง (ร้อยละ 60.84) บาดเจ็บ 3442 ราย ลดลง 2182 คน (ร้อยละ 63.39) เสียชีวิต 386 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 219 ราย(ร้อยละ 56.74)โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ 63 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือ ชลบุรี 14 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ 63 ราย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ดื่มแล้วขับ รองลงมาขับรถเร็ว และไม่สวมหมวกนิรภัย ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.39นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องถนนและสภาพแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ถนนที่เป็นทางตรงระยะยาว ถนนที่มีทางร่วมทางแยก และจุดกลับรถที่มีลักษณะที่ไม่ปลอดภัย ดังนั้น ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถอดบทเรียนในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ เพื่อหาจุดอ่อนและกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาเพื่อลดความสูญเสียและความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนายนิพนธ์กล่าวว่า ถึงแม้ว่าตัวเลขอุบัติเหตุและจำนวนผู้เสียชีวิตจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ก็ยังเป็นสถิติที่สูงอยู่ เพราะนับจากวันที่ 1 ม.ค.63 มาถึงปัจจุบัน พบว่ามีการสถิติเสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้วกว่า 5000 รายและบาดเจ็บกว่ามากกว่า 310000 ราย โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากรถจักรยานยนต์ ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยและขับรถเร็ว ในส่วนนี้ก็ยังต้องคงมาตรการไว้เช่นเดิม จึงขอความร่วมมือไปยังด่านชุมชน จุดตรวจจุดสกัดต่างๆให้เข้มงวดเรื่องการสวมหมวกนิรภัยควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าฯเพื่อลดการสูญเสียบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด
รมช.มหาดไทย ระบุข้อมูลสถิติ ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย.2563 เป็นสงกรานต์ที่มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ทำให้คนที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลดลงจากปีก่อน
การเมือง
COVID-19,สงกรานต์,โควิด-19,นิพนธ์ บุญญามณี
https://news.thaipbs.or.th/content/291529
ผบช.ภ.5 แถลงจับยาบ้า 3.2 ล้านเม็ด ไอซ์ 4 กก. รวบ9ผู้ต้องหา จ.เชียงราย
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 ต.ค. 60 ที่ บก.ภ.จ.เชียงราย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 5 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.เชียงราย พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย แถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ 6 คดี ยาบ้า 3,263,200 เม็ด ยาไอซ์ 4 กก. เคตามีน 1 กก. รถยนต์ 6 คัน คดีแรก เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ตำรวจ สภ.แม่จัน จับกุม นายประสิทธิ์ เหมือนศรีเพ็ง อายุ 37 ปี ขณะขนยาบ้า 487,200 เม็ด ยาไอซ์ 4 กก. เคตามีน 1 กก. ใส่ท้ายรถเก๋งนิสสัน สีดำ ทะเบียน กธ 9577 เชียงราย วิ่งจากบ้านกิ่วพร้าว ต.จันว้าใต้ ผ่านตรวจท่าข้าวเปลือก ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จากนั้นขยายผลไปจับ นายนิรันดร์ เกิดมงคล อายุ 35 ปี ที่ด่านถ้ำปลา ต.โป่งงาม อ.แม่สาย ขณะนั่งแท็กซี่จะหลบหนีไปเมียนมา ควบคุมตัวไปค้นรถมาสด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน กท 334 ลำปาง ที่นายนิรันย์ขับไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถ รร.เชียงรายแกรนด์รูม ต.รอบเวียง อ.เมือง พบกระสอบปุ๋ยบรรจุยาบ้า 2,000,000 เม็ด,
,ส่วนวันที่ 10 ต.ค. สภ.แม่สาย ร่วมกับ ตชด.327 จับ นายสมพงษ์ เติมบุญ อายุ 28 ปี นายสุรชัย แฉกอง อายุ 27 ปี ซุกยาบ้าในช่องลับ 276,000 เม็ด ใต้บังโคลนรถเก๋งอีซูซุ สีเทา ทะเบียน 6กถ 4149 กรุงเทพฯ สภ.แม่สรวย จับ นายไตรภูมิ เชมือ อายุ 21 ปี ขณะขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กน 7981 เชียงราย ซุกยาบ้าไว้ในช่องเก็บของท้ายรถ จำนวน 200,000 เม็ด ผ่านด่านตรวจท่าก๊อ ถนนเชียงราย-เชียงใหม่,และวันที่ 9 ต.ค. สภ.แม่สรวย จับนายลอพี อายุ 35 ปี ชาวเมียนมา นายวัณณุวรรธ์ ขรากุล อายุ 28 ปี ของยาบ้า 18,000 เม็ด และ สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จับนายสมาน กันธะเภา อายุ 52 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 44,000 เม็ด ขณะที่ วันที่ 8 ต.ค. สภ.เมืองเชียงราย จับ นายกฤษฎกร แลวาฤทธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ สภ.แม่จัน ขณะขับรถกระบะโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บน 3765 เชียงราย นำยาบ้า 300,000 เม็ด ไปซุกในรถบรรทุก 10 ล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-8095 เชียงราย ที่จอดอยู่หลังปั๊ม ปตท.ริมถนนพหลโยธินสายเก่า.
ผบช.ภ.5 ควง พ่อเมือง เปิด บก.ภ.จ.เชียงราย แถลงจับยาเสพติดรายใหญ่ 6 คดีสำคัญในจังหวัด ได้ของกลาง ยาบ้า 3,263,200 เม็ด ยาไอซ์ 4 กก. พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 9 ราย

ข่าว,ทั่วไทย
จับยาบ้า 3.2ล้านเม็ด,ยาไอซ์ 4กก.,บก.ภ.จ.เชียงราย,ผบช.ภ.5,เชียงราย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1097145
มาเลเซียประกาศภาวะฉุกเฉินจากมลพิษทางอากาศที่สูงที่สุดในรอบ 16 ปี
รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของมาเลเซียแถลงว่า นายนาจิ๊บ ราชซัค นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ได้ลงนามประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองมัวร์( Muar) และเลอดัง (Ledang) เนื่องจากดัชนีมลภาวะในอากาศสูงถึง 750 สูงที่สุดในรอบ 16 ปี ส่งผลกระทบต่อหมู่บ้าน 750 แห่ง โรงเรียนหลายร้อยแห่งในจังหวัดยะโฮร์ทางภาคใต้ของมาเลเซีย ปิดเรียนต้ังแต่วันพฤหัสบดีที่ีผ่านมาส่วนสภาพอากาศในกรุงกัวลาลัมเปอร์แม้ยังไม่ถึงขึ้นเลวร้าย แต่กลุ่มควันได้บดบังทัศนวิสัยในเมือง และประชาชนต่างสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันควันพิษ ส่วนที่สิงคโปร์ สภาพอากาศเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ท้องฟ้าแจ่มใสไร้หมอกควัน โดยดัชนีมลภาวะในอากาศอยู่ที่ 101 ซึ่งเป็นระดับปกติที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หลังจากที่ดัชนีมลภาวะในอากาศเคยพุ่งสูงถึง 401 สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ส่วนอินโดนีเซียที่ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของมลพิษในครั้งนี้ ด้านรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของอินโดนีเซียระบุว่า ผลจากการสอบสวนต้นเหตุของมลพิษที่เกิดจากไฟป่า พบว่าบริษัทเอกชน 8 แห่งเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ในจำนวนนี้มีบริษัทเอกชนของอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้อินโดนีเซียยังพยายามหาทางบรรเทาปัญหามลพิษด้วยการทำฝนเทียม พร้อมกับเข้มงวดเรื่องการเอาผิดกับบริษัทหรือบุคคลที่เผาป่าโดยผิดกฏหมาย ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี และปรับ 5 ล้านรูเปียห์ หรือ ประมาณ 15 ล้านบาทปัญหามลพิษทางอากาศในครั้งนี้ กลายเป็นประเด็นวิวาทะระหว่างรัฐบาลสิงคโปร์ กับอินโดนีเซีย ที่ต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษว่าเป็นต้นเหตุของปัญหานี้ เพราะแม้ว่าไฟป่าจะเกิดในอินโดนีเซีย แต่บริษัทที่ไปลงทุนทำสวนปาล์มน้ำมัน และมักใช้วิธีการเผาป่าเพื่อเตรียมที่ดินสำหรับการปลูกต้นปาล์ม โดยบริษัทที่ใช้วิธีการนี้มีบริษัทจากสิงคโปร์รวมอยู่ด้วย
สภาพอากาศในประเทศสิงคโปร์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้ว โดยดัชนีมลภาวะในอากาศต่ำกว่าระดับอันตรายแล้ว แต่มาเลเซียกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนรัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในเมือง 2 แห่งทางภาคใต้ หลังดัชนีมลภาวะในอากาศสูงที่สุดในรอบ 16 ปี
ต่างประเทศ
มลพิษทางอากาศ,มาเลเซีย,สิงคโปร์,หมอกควัน,อินโดนีเซีย,เผาป่า
https://news.thaipbs.or.th/content/179203
ปธพ.6จัดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจ ดูแลรักษาปชช.ในพื้นที่ตจว.
โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ครั้งที่ 2, โดย คณะนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สำหรับผู้บริหารระดับสูงรุ่นที่ 6 (ปธพ.6) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา สถาบันพระปกเกล้า และกรมแพทย์ ทหารบก ได้จัดหน่วยแพทย์ดูแลประชาชนในพื้นที่จังหวัดลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ได้เข้าถึงการรักษาแบบเฉพาะทางและยั่งยืน ณ รพ.อานันทมหิดล จังหวัดลพบุรี เมื่อเร็วๆนี้,โครงการครั้งนี้ตั้งเป้าให้ การรักษาพยาบาลผู้ป่วยจำนวน 8,000 คน โดยเปิดคลินิกเฉพาะทาง 21 คลินิก อาทิ คลินิกศัลยกรรม คลินิกมะเร็งเต้านม คลินิกจักษุ คลินิกโรคหัวใจและหลอดเลือด คลินิกระบบประสาท คลินิกสอนกู้ชีพปั๊มหัวใจ (CPR) คลินิกทันตกรรม คลินิกหูคอจมูก คลินิกศูนย์รักษาความพิการเคลื่อนที่ คลินิกข้อเข่าและเวชศาสตร์ฟื้นฟู คลินิกแพทย์แผนไทยและฝังเข็ม เพื่อผู้สูงอายุ ผู้พิการ พระภิกษุ สงฆ์ ได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึง โดยกิจกรรมครั้งนี้ ได้นำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกว่า 400 คน จากคณะแพทยศาสตร์ 21 แห่ง, ราชวิทยาลัย, แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 15 แห่ง, แพทย์จากภาครัฐ แพทย์จากเหล่าทัพทั้ง 4 แห่ง ตลอดจนแพทย์จากภาคเอกชน ร่วมกันตรวจรักษาผู้ป่วยตั้งแต่เช้ายันค่ำ หากผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องก็จะส่งต่อให้โรงพยาบาลในพื้นที่ 3 แห่ง ได้แก่ รพ.อานันทมหิดล, รพ.พระนารายณ์มหาราช, รพ.มะเร็งลพบุรี ให้การดูแลรักษาประชาชน อย่างต่อเนื่องต่อไป,นอกจากให้การตรวจรักษาแล้ว คณะนักศึกษา ปธพ.6 ยังได้ร่วมบริจาคเงินจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ สมทบทุนในโครงการแพทย์อาสาและจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาล และองค์กรที่ดูแลผู้ป่วยในจังหวัดลพบุรีอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆที่ช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสทางสังคมได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์เฉพาะทางอย่างแท้จริง.
เสร็จสิ้นลงไปอย่างงดงาม สำหรับ การจัด โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ครั้งที่ 2
ไลฟ์สไตล์,ไลฟ์
หน่วยแพทย์อาสา,แพทย์อาสาเฉพาะทาง,รักษาพยาบาล,ผู้ป่วย,การตรวจรักษา
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1288614
หนุ่มรับเหมา เครียดงาน-ป่วยซึมเศร้า ก่อเหตุสลดดับตัวเองคารถ
ให้ยา สุดท้ายฆ่าตัวตายก่อนพบหมอรอบสอง,เมื่อวันที่ 24 ต.ค.62 พ.ต.ต อลงกรณ์ ภูขะมา สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งคนนอนเสียชีวิตภายในรถ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบุรีรัมย์ กู้ภัยสว่างจรรยาบุรีรัมย์ และกู้ชีพเทศบาลตำบลอิสาณ ที่เกิดเหตุ เป็นบริเวณข้างฝายน้ำล้นห้วยชุมเห็ด หลังเทศบาลอิสาณ เขตบ้านหนองไผ่น้อย ม.12 ต.อิสาณ พบชาวบ้านกำลังมุงดูรถกระบะอีซูซุ สีฟ้า ป้ายทะเบียน ปต 8846 บุรีรัมย์ ซึ่งจอดในสภาพสตาร์ตเครื่องยนต์และเปิดแอร์ทิ้งไว้ ตรวจสอบพบประตูรถล็อกไว้ บริเวณที่นั่งคนขับพบร่างคนนอนนิ่ง จึงประสานญาตินำกุญแจสำรองมาเปิดประตู ตรวจสอบภายในรถ พบมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงยีนส์ขายาว นอนเสียชีวิตคาเบาะรถฝั่งคนขับ,ทราบชื่อต่อมา นายศักดิ์ดา สามขา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 ม.5 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ภายในรถบริเวณเบาะนั่งข้างคนขับ พบมีเตาถ่านวางอยู่บริเวณที่พักเท้า มีร่องรอยของถ่านไฟที่ดับสนิทเหลือแต่ขี้เถ้า,จากการตรวจสอบของแพทย์ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกายแต่อย่างใด คาดเสียชีวิตมา 6-12 ชั่วโมง แต่เนื่องด้วยเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงแจ้งกับญาติผู้เสียชีวิต เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรให้ละเอียดอีกครั้งที่ รพ.บุรีรัมย์,นางนารี สามขา พี่สะใภ้ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้มี นายชัยวัฒน์ เขียมศิริรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านยาง ม.9 ต.อิสาณ ได้มาเรียกให้ไปดูที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่า นายศักดิ์ดา แฟนของน้องได้เสียชีวิต จอดอยู่ข้างทุ่งนาแบบผิดสังเกต ติดเครื่องรถเอาไว้ เรียกเท่าไรไม่ยอมตื่น จนกระทั่งพากันไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นน้องเขยจริง,ด้านนางสุภาพร ภรรยา เล่าว่า สามีตนเองมีอาชีพเป็นผู้รับเหมา ซึ่งก่อนหน้านี้มีอาการซึมเศร้า คาดเครียดจากเรื่องงานสะสม จึงไปหาหมอ โดยหมอแจ้งมาว่าอาจเป็นโรคซึมเศร้า ให้พักดูอาการ และยังไม่ได้ยามาทาน จะต้องไปตามหมอนัดอีกครั้ง แต่ก็มาตัดสินใจฆ่าตัวตายก่อนจะไปพบแพทย์ ส่วนสาเหตุภรรยาผู้ตายระบุ ยังไม่ฟันธงเกี่ยวกับสาเหตุการฆ่าตัวตาย นอกจากจะเครียดเรื่องงานแล้ว สามีของตนยังมีโรคประจำตัวคือโรคตับ ซึ่งจะต้องไปพบแพทย์เป็นประจำ แต่เนื่องด้วยต้องทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว จึงพักงานไม่ได้ต้องเดินทางขับรถไปต่างจังหวัดบ่อยครั้ง และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาสามีได้เดินทางไปดูงานก่อสร้าง ที่ จ.ขอนแก่น ก่อนกลับมาพบเป็นศพเสียชีวิตดังกล่าว.
เกิดเหตุผู้รับเหมาวัย 47 ปี ขับรถกระบะไปจอดข้างที่นาของตนเอง แล้วดับตัวเองภายในรถ ด้านภรรยาเผยสามีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ช่วงหลังมีอาการเครียดเรื่องงาน หมอระบุอาจจะซึมเศร้า รอนัดอีกครั้งถึงจะ
ข่าว,ทั่วไทย
ฆ่าตัวตาย,รมควัน,เครียดงาน,ซึมเศร้า,ดับคารถ,บุรีรัมย์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1689723
ความจริงกับความทรงจำสีจางๆ ในเรือนจำ
กิ่งก้านใบ ชะชะใบก้านกิ่ง กิ่งก้านใบ ชะชะใบก้านกิ่ง ฝนตกลงมาจริงๆ ฝนตกลงมาจริงๆ ชะชะกิ่งก้านใบ แว่วเสียงเพลง ผสมผสานไปด้วยเสียบปรบมือและเสียงกลองในจังหวะ 3 ช่า ดังกึกก้องภายในฝ่ายการศึกษา และนั่นเป็นสัญญานบอกถึงการเริ่มต้นของการอบรมโปรแกรมแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขังในเรือนจำอีกครั้งครั้งนี้มีผู้ต้องขังเข้าอบรมจำนวน 35 คนผมมองลอดหน้าต่างออกไปภายนอกห้องกิจกรรม คลื่นชีวิตผู้ต้องขังเกือบสองพันคนที่ถูกกระจุกให้อยู่ภายในแอ่งแห่งความจำยอม มองดูสับสนวุ่นวาย ไม่หยุดนิ่ง ราวกับยืนมองจากเวิ้งทะเลกว้างที่มีหมู่คลื่นเคลื่อนถะถั่งขึ้นลงมิรู้จบ อา- -ทะเลคนนั้นแสนจะกว้างไกล ลึกสุดคณา หากทว่าชีวิตพวกเขาเหล่านี้ กลับคล้ายกับหนูกำลังก้มหน้าก้มตาถีบจักรไปวันๆ ไปเรื่อยๆ อย่างนั้นโดยอัตโนมัติแต่กลับไม่รู้ว่าถีบไปทำไม ถีบไปเพื่ออะไร เมื่อไรจะได้หยุดซะทีท่ามกลางเสียงร้องบรรเลงดังสะท้อนก้องอยู่ภายในห้องกิจกรรม อาณาบริเวณของแดน 1 ถือได้ว่าเป็นแดนแห่งการศึกษาและพัฒนาจิตใจนั้นปรากฏภาพของนักโทษเด็ดขาด 4 คน กำลังยืนกระโดดโลดเต้นแสดงท่าทางประกอบเพลงที่เพื่อนๆ ร่วมกันร้องอย่างตั้งใจ คละเคล้าด้วยเสียงหัวเราะชอบใจสลับกันไปมาเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ เพื่อละลายพฤติกรรมซึ่งเน้นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ก่อนเข้ารับการอบรมเสริมสร้างความรู้ ทักษะชีวิต จากวิทยากรตามหลักสูตรที่วางไว้บางครั้งผมพบว่า ในเสียงหัวเราะ มีรอยยิ้ม ในรอยยิ้ม มีประกายความสุขเล็กๆ เกิดขึ้นท่ามกลางความขมขื่นข้างในหัวใจพวกเขาใช่ อย่างน้อยๆ ทำให้เราสัมผัสรับรู้ได้ว่า ชีวิตคนเรา ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะลำบากแค่ไหน ย่อมยังมีสิ่งที่สวยงามเกิดขึ้นได้เสมอ พวกเขาทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น เราจะไม่เห็นสิ่งใดในบางสิ่ง ถ้าเพียงหัวใจของเรามืดบอดใช่หรือไม่?คุณคิดว่าคุณจะทำให้เขาเป็นคนดีได้หรือขนาดพ่อแม่มันๆ ยังไม่ฟังเลย ผู้คุมคนหนึ่งเคยทักถามผม เมื่อตอนที่ผมเริ่มต้นทำงานในเรือนจำแห่งนี้ได้ไม่นานไอ้พวกนี้อย่าไปเสียเวลาพูดคุยหรือแก้ไข บำบัด ฟื้นฟู อะไรมันหรอก เสียเวลาเปล่า เชื่อพี่เถอะพี่ทำงานมานาน เห็นมานักต่อนัก ผมยิ้มเล็กๆที่มุมปากแทนคำตอบเข้าสู่ปีที่ห้าของการทำงานเป็นนักสังคมสงเคราะห์ในเรือนจำนั่นไงไอ้คนนั้นที่มันเคยเข้าอบรมโปรแกรมแก้ไขฟื้นฟู ผู้ค้ารายย่อยที่พี่ทำ มันกลับเข้ามาอีกแล้ว ผมว่านะการแก้ไขฟื้นฟูคนพวกนี้นะ ไม่ได้ผลหรอก ไม่รู้ว่าเราจะทำไปทำไม เจ้าพนักงานราชทัณฑ์รุ่นน้อง ชี้ให้ผมดู ผู้ต้องขังที่เดินเข้าคุกมาซึ่งเคยต้องโทษและพ้นโทษออกไปจากสถานที่แห่งนี้นั่นสิเราทำไปทำไม ผมเอ่ยออกไปเบาๆ อย่างเลื่อนลอยน.ช.โต้ง (นามสมมุติ) เด็กหนุ่มวัยรุ่น คนนั้นกำลังยืนรอทำการตรวจค้นร่างกาย ระหว่างนั้น ผมเดินเข้าไปเอ่ยถามเขาเป็นไงมาไงถึงได้กลับมาอีกล่ะเหมือนเดิมครับ ขอโทษหัวหน้าด้วย ที่ผมไม่สามารถทำอย่างที่รับปากไว้ได้อืมม์เห็นทีเข้ามาคราวนี้ท่าจะเรียนจนจบปริญญาตรีแล้วล่ะ ผมพยายามเปลี่ยนบรรยากาศในการสนทนาน.ช.โต้ง จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในเรือนจำโดยเรียนจากหลักสูตรของการศึกษานอกโรงเรียน โดยมีอาจารย์จาก กศน.เข้ามาสอนเหล่านักโทษในเรือนจำผมยังจำภาพเก่าๆ นั้นได้ดีว่าครั้งหนึ่งผมเคยนั่งสัมภาษณ์พูดคุยกับ น.ช.โต้ง เขาบอกเล่าให้ฟังว่า เขาไม่สามารถเรียนจนจบได้ ถ้าไม่ได้มาอยู่ในเรือนจำ เพราะชีวิตการเรียนข้างนอก ตัวเขาเองมักจะตามเพื่อนๆ ไปเสพยาบ้าหรือไม่ก็เที่ยวเตร่ ตามผับและสถานที่เที่ยวกลางคืน ผ่านพ้นไปเป็นวันๆ โดยไม่ค่อยได้สนใจที่จะศึกษาเล่าเรียนเท่าใด ในจำนวนผู้ต้องขังที่ผ่านการอบรมโปรแกรมแก้ไขฟื้นฟู เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยออกไป 35 คนโต้งคือ ผู้ต้องขังคนแรกที่กลับเข้ามาเพราะกระทำผิดซ้ำ ครอบครัวโต้ง มีแม่เป็นหัวหน้าครอบครัว เนื่องจากว่าพ่อได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่โต้งยังเด็ก และจากการเข้าสู่เรือนจำในครั้งแรก แม่คาดหวังให้เรือนจำเป็นสถานที่ดัดสันดานลูกชายคนเดียว แต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อเขาหวนกลับมากระทำผิดซ้ำ ผู้คนในชุมชนต่างสะใจที่เห็นตำรวจจับโต้งได้ บ้างยิ้มเยาะเย้ย บ้างถากถางด้วยคำพูด ท่ามกลางความโล่งใจของคนในสังคมซึ่งเขาและเธอก็คงคาดหวังเช่นเดียวกันกับมารดาของโต้งเด็กหนุ่มจ่อมจมอยู่กับความคิดที่หนักอึ้ง และดวงตาที่เหม่อลอย และนี่คืออาการของผู้ต้องขังส่วนใหญ่เมื่อต้องเข้าสู่เรือนจำในวันแรกๆในความหม่นมัว ในความหลากหลายอารมณ์ร่วมของคนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ฟังจากคำบอกเล่าของ น.ช.โต้งมีความจริงบางอย่างตกตะกอนนิ่งอยู่ข้างในอย่างเงียบงันผมเคยครุ่นคิดไปต่างๆ นานาจะมีคนสักกี่คนหนอที่จะมองเห็นและยอมรับว่า แท้จริงแล้ว น.ช.โต้ง หรือผู้ต้องขังคนอื่นๆ นั้นคือผลิตผลทางสังคมส่วนหนึ่งที่สังคมสร้างขึ้น ซึ่งเราต้องร่วมกันรับผิดชอบและช่วยกันไม่ให้เขากลับไปกระทำผิดซ้ำเมื่อพ้นโทษในเช้าวันหมอกเริ่มจางหาย แต่อากาศยังคงหนาวเย็น ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะเคลื่อนตัวไปอย่างเชื่องช้า ระหว่างที่นั่งทานข้าวอยู่ร้านสวัสดิการหน้าเรือนจำ ผมเผลอมองไปยังประตูคุก ภาพหนึ่งในความทรงจำสีซีดจางของผมได้ลอยเข้ามาให้คิดทบทวนถึงอีกครั้งใครคนหนึ่งร้องเรียกชื่อผม ขณะกำลังจะเดินเข้าไปทำงานข้างในเรือนจำ ผมหันไปมองยังที่มาของเสียง นั่นนายถนอม ซึ่งพ้นโทษในวันนี้ ยืนยิ้มอยู่ในศาลาแปดเหลี่ยมหน้าเรือนจำ พร้อมกระเป๋าสัมภาระใบเขื่องข้างกายอ้าวถนอม ดีใจด้วยนะได้กลับบ้านซะที แล้วยังไม่กลับเหรอ ไม่มีคนมารับหรือว่าไม่มีตังค์ค่ารถกลับล่ะ ผมเอ่ยถามไม่ใช่ครับ ผมแค่รอพบหัวหน้าอยู่ครับคำตอบทำให้ผมยืนทำท่าทางงงๆแล้วรอพบผมทำไมเหรอถนอมนิ่งเงียบชั่วขณะก่อนจะสบตาผมอีกครั้งคือผมแค่อยากจะขอบคุณหัวหน้า ที่ให้โอกาสผมเข้าร่วมโปรแกรมแก้ไขฟื้นฟูฯ กิจกรรมหนึ่งในนั้นมันทำให้ผมคิดได้ และจะจำมันไปจนวันตาย ผมจะไม่กลับมาติดคุกซ้ำอีกแล้วล่ะความทรงจำอาจจะสีจางๆไปแล้ว เพราะมันผ่านมานานมากในวันนั้น แต่คำพูดของถนอมยังสะท้อนก้องอยู่ในความคิดของผมชัดเจนตราบจนทุกวันนี้เรื่องราวในอดีต มักส่งผลมาเป็นเราในปัจจุบันเช่นกัน พวกเขาเหล่านี้ นักโทษหลายคน พวกเขาเข้าใจดีว่าตัวเองได้กระทำในสิ่งที่ผิด จนต้องพาตัวเองมาอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ แต่จะมีสักกี่คนเล่าที่จะสามารถเรียนรู้ข้อผิดพลาดในอดีต และสามารถเริ่มต้นใหม่ โดยไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีกทำไปทำไม ทำไปแล้วจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน บ่อยครั้ง ผมเคยถามตัวเองด้วยคำถามนี้ซ้ำไปซ้ำมาใช่ จวบจนวันนี้ ตัวผมเองยังไม่สามารถหาคำตอบในสิ่งที่สงสัยนั้นได้อย่างแท้จริง แต่ผมสามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้ นั่นคือการเชื่อว่าพวกเขาเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เชื่อในศักยภาพศักดิ์ศรีของชีวิตมนุษย์ หลังจากนั้น สิ่งที่จะตามมาก็คือการคิดหาวิธีที่จะปฏิบัติต่อพวกเขาเหล่านั้นว่ากันว่า สำนึกนั้นเป็นเรื่องของแต่ละคน อยู่ข้างใน การเปลี่ยนแปลงจึงต้องมาจากข้างใน ไม่มีใครไปบังคับได้ แต่เราช่วยกันสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่ดีได้ ถ้าหากเราโฟกัสเรื่องความคิด เน้นการแก้ที่ระบบการคิด ส่งเสริมการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของตนในอดีตมากกว่าการโฟกัสอยู่ที่การกระทำหรือพฤติกรรมที่เคยผิดพลาด ซึ่งไม่สามารถที่จะย้อนคืนวันกลับไปแก้ไขได้เรื่องราวในอดีต จึงมักส่งผลมาเป็นเราในปัจจุบันใช่ปัจจุบันผมจึงเลือกที่จะเรียนรู้พวกเขาเพื่อเข้าใจพวกเขา และนับวันมันทำให้ผมเห็นช่องว่างของปัญหาในหลายๆความคิดของเขาและเธอ ที่ยังรอการเติมเต็มเพื่อที่จะทำให้เขาแปรเปลี่ยนความคิดเหล่านั้นในเชิงบวก นำทางไปสู่อนาคต หรือชะตาชีวิตที่ดีกว่าเดิม แน่ละทำไมผมถึงไม่สามารถจะตอบคำถามเหล่านั้นได้
กิ่งก้านใบ ชะชะใบก้านกิ่ง กิ่งก้านใบ ชะชะใบก้านกิ่ง ฝนตกลงมาจริงๆ ฝนตกลงมาจริงๆ ชะชะกิ่งก้านใบ แว่วเสียงเพลง ผสมผสานไปด้วยเสียบปรบมือและเสียงกลองในจังหวะ 3 ช่า ดังกึกก้องภายในฝ่ายการศึกษา
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน
ธีรเชนทร์ เดชา,ผู้ต้องขัง,เรือนจำ
https://prachatai.com/journal/2010/01/27471
หามข้ามแดน คนงานพม่ารถคว่ำ ส่งรักษา รพ.ประจวบฯ ตาย 1 เจ็บ 22
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 มีนาคม 2561 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 1669 โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ได้รับผู้บาดเจ็บเป็นคนงานปาล์มน้ำมัน  ที่ประสบอุบัติจากฝั่งประเทศเมียนมา รถสิบล้อพลิกคว่ำบริเวณสะพานสาม บ้านมูด่อง จ.มะริด คนเจ็บทั้งหมดถูกนำผ่านชายแดนช่องสิงขร หมู่ 6 บ้านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มาที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยรอจุดเปลี่ยนถ่ายผู้บาดเจ็บที่โรงเรียนอุดมราชภักดี ถนนเพชรเกษม-หนองหิน ต.คลองวาฬ,จากนั้นเจ้าหน้าที่ของไทยระดมรถกู้ชีพโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กู้ชีพ อบต.ห้วยทราย และกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน หลายคันไปรับ เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วเร่งนำส่งห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งผู้บาดเจ็บหลายรายมีอาการ ขาหัก แขนหัก ศีรษะแตก ต่อมามีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส อาการหนักจำนวน 9 ราย สาหัส 7 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 6 ราย,เบื้องต้นทราบว่า รถสิบล้อของบริษัทพีทีปาล์มน้ำมัน ขนคนงานทั้งหมด 23 ราย จากบ้านสะพานสามไปยังบ้านสะพานหก อ.มูด่อง ซึ่งห่างจากชายแดนไทยประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะเดินทางรถสิบล้อยางระเบิดทำให้เสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง คนงานทีนั่งอยู่ท้ายรถบรรทุกล้มระเนระนาด คนเจ็บทั้งหมดถูกนำใส่รถหกล้อข้ามชายแดนเพื่อส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากหากไปยังโรงพยาบาลของประเทศเมียนมา ต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 6 ชั่วโมง อาจทำให้ผู้บาดเจ็บได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที จำเป็นต้องรักษายังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายยังอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง.
อุบัติเหตุรถขนคนงานสวนปาล์มใน อ.มะริด คว่ำบาดเจ็บร่วม 30 คน รพ.ในเมียนมาใกล้ที่สุดใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง ตัดสินใจนำคนเจ็บข้ามด่านสิงขร ส่ง รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ผลตาย 1 บาดเจ็บ 22
ข่าว,ทั่วไทย
คนงานพม่า,คนงานพม่ารถคว่ำ,ช่วยคนงานพม่า,รพ.ประจวบคีรีขันธ์,ด่านสิงขร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1234932
บทสุดท้าย วิชารัฐประหาร
(พงศาวดารประชาธิปไตย สำนักพิมพ์บรรณาคาร พ.ศ.2512),อาจารย์คึกฤทธิ์ออกตัว คุณอาร์ช บุชแมน นัก นสพ.อเมริกัน เขียน (เมื่อ พ.ศ.2507) ให้เป็นเรื่องขำขัน,ในโรงเรียนนายทหารแห่งนั้น มีนักเรียนทหารหลายชาติหลายภาษา ในชั่วโมงสอนวิชารัฐประหาร นักเรียนหลายคนพอมีประสบการณ์อยู่บ้าง อาจารย์เริ่มต้นด้วยคำถาม ต้องการรัฐประหารแบบไหน?,แบบไม่นองเลือด ลูกศิษย์คนที่ยกมือพูด เป็นทหารยศพันโท อาจารย์ดีใจ ดีมาก,การรัฐประหารที่ไม่นองเลือดนั้น เป็นรัฐประหารที่ดีที่สุด เกิดที่บ้านเมืองไหน ประชามติโลกมักยอมรับ หากมีการรบพุ่งฆ่าฟันกันก็จะมีข่าวเลือดสดๆ ฝาดๆ ใน นสพ. เสียชื่อไปถึงการรัฐประหารในประเทศต่างๆ,การรัฐประหารที่ไม่นองเลือดนั้น ต้องขึ้นต้นด้วยการมี คณะนายทหาร แต่นายทหารในคณะ ถ้าจะให้ดีกว่า ควรจะเป็นยศต่ำกว่าชั้นนายพล ทั้งนี้ เมื่อทำรัฐประหารแล้ว จะได้เลื่อนยศเป็นนายพลกันได้สะดวก,นักเรียนคนหนึ่งถาม ถ้ามีคณะนายทหารแล้ว จะเลือกใครเป็นหัวหน้า เลือกกันอย่างไร,ถ้ายศเท่ากัน ก็เห็นจะต้องตัดไพ่กันดู ใครได้แต้มสูงก็เป็นหัวหน้าไป ทางเลือกอื่นเห็นจะไม่มี อาจารย์ว่า,นักเรียนที่เป็นทหารเรือ มีเรื่องถาม การรัฐประหารส่วนใหญ่ เป็นงานของทหารบก ทหารเรืออยากเกี่ยวข้อง จะทำอย่างไรดี,ปัญหาอยู่ที่ที่ตั้งเมืองหลวง อาจารย์ว่า ถ้าเป็นเมืองท่า ทหารเรือก็มีช่องที่จะเอาเรือรบมาเทียบใกล้ๆ แล้วส่งคำขู่เข้าไป ถ้าหากไม่ตั้งทหารเรือ ทหารเรือก็จะยิงถล่มเมืองหลวงให้พินาศ,ด้วยเหตุนี้ การรัฐประหารที่ไม่นองเลือดที่ดี ควรมีคณะทหาร เฉลี่ยจากกองทัพต่างๆเท่าๆกัน แต่ที่สำคัญเป็นทหารหน่วยรถถัง และหน่วยพลร่ม,ในงานพิธีใหญ่ๆ เช่น งานชุมนุมสาบานธง ทหารสองหน่วยนี้มักจะต้องเข้าไปสำแดงแสนยานุภาพ แต่หากไม่ใช้โอกาสนั้น ก็ควรนำทหารเข้าเมืองหลวงในเวลาเช้ามืด,เวลาที่คนเมืองหลวงยังไม่ตื่น สิ่งแรกที่ทำคือล้อมบ้านประธานาธิบดี และยึดสถานีวิทยุ,จากนั้นก็ประกาศ ในนามของรัฐบาลเสรีประชาธิปไตย คณะทหารได้ยึดอำนาจไว้แล้ว,ตามด้วยข้อหาคนในรัฐบาลเก่าว่าขโมยเงินคงคลังไปใช้ ทั้งยังติดต่อลับๆกับชาติที่ตั้งใจบ่อนทำลายประเทศ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการให้มีคนชุมนุมตามถนน แสดงประชามติ,จะมีการเผาห้างร้านใหญ่สักห้างสองห้าง หรือจะเผาสถานทูตมหาอำนาจ เสียสักแห่งแล้วค่อยประกาศกฎอัยการศึก ห้ามประชาชนออกจากบ้านในเวลาหนึ่งทุ่ม,หลังการรัฐประหาร ก็มักมีทูตต่างประเทศ วิ่งเข้าหาเสนอความช่วยเหลือ,สอนแจ่มแจ้งถึงขั้นนี้แล้ว นักเรียนคนหนึ่ง ชื่อพันโทจู ไม่ระบุประเทศไหน ก็ยังมีเรื่องถาม,การเปิดบัญชีในธนาคารประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น เขาทำกันอย่างไร,เป็นอันว่า วิชารัฐประหาร เมื่อสอนถึงการเปิดบัญชีแบงก์สวิตฯก็ถือว่าจบหลักสูตร กลับไปใช้วิชาที่ร่ำเรียนมา ทำรัฐประหารในบ้านเมืองของตัวเองได้ตามถนัด,อาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ท่านย้ำ วิชารัฐประหาร เป็นเรื่องตลกขำขัน ไม่ใช่เรื่องจริง,ผมอ่านแล้วก็ได้ความคิด ไม่ว่าบ้านไหนเมืองไหน กระทั่งประเทศไทย แม้จะยังมีรัฐประหาร ก็จะต้องหยุดที่การมีประชาธิปไตย,โถจะบ่นอะไรกันนักหนา ต้นปีหน้าก็จะได้เลือกตั้งกัน (อีก) แล้ว.,กิเลน ประลองเชิง
หนังสือชื่อ พงศาวดารประชาธิปไตย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนไว้ 13 เรื่อง เป็นเรื่องประชาธิปไตยบ้านเมืองอื่นกว่าสิบเรื่อง เรื่องสุดท้าย เรื่องที่ 13 วิชารัฐประหาร
null
ชักธงรบ,กิเลน ประลองเชิง,ประชาธิปไตย,พงศาวดาร,วิชารัฐประหาร
https://www.thairath.co.th/news/politic/1208803
หนุ่มเตือนภัย อ้างหมอไม่เอกซเรย์ก่อนผ่าฟันคุด ไม่เย็บแผล ซ้ำเอาออกไม่หมด
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เตือนภัย ได้ใช้บริการฝ่าฟันคุดที่คลินิกแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร แต่ปรากฏว่า ไม่ได้ทำการเอกซเรย์ฟันก่อนผ่า และไม่มีการเย็บแผลหลังผ่า ได้จ่ายค่ารักษาไปเป็น จำนวน 8335 บาท จากนั้นกลับบ้านแต่เลือดไหลไม่หยุด จนต้องไปรักษาต่อที่คลินิกแห่งใหม่ ซึ่งหมอได้เอกซเรย์จนมาทราบว่าฟันคุดที่ไปผ่าออกมาไม่หมด ยังติดอยู่ข้างใน หมอคนใหม่ได้ทำการเอกซเรย์ เอาฟันที่เหลือออกมา พร้อมเย็บแผลให้ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพียง 1000 บาทเท่านั้นล่าสุด วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปยัง เจ้าของโพสต์ เพื่อขอทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รับการเปิดเผยว่า ได้เข้าทำการรักษาที่คลินิกดังกล่าวจากการแนะนำของเพื่อน เมื่อไปถึงพบภายในคลินิกมีสภาพเก่ามาก และมีหมอทำหน้าที่อยู่เพียงคนเดียว ตั้งแต่รับลูกค้า เตรียมอุปกรณ์ จนกระทั่งลงมือผ่าตัด โดยไม่มีผู้ช่วยแต่อย่างใดโดยก่อนที่จะลงมือผ่าตัดฟันคุด หมอได้แจ้งค่าใช้จ่ายว่าค่าผ่าฟันคุด 1 ซี่ 1200 บาท และค่ากรอกระดูก 2 จุด จุดละ 600 บาท หลังจากนั้นหมอก็ลงมือรักษาโดยใช้ผ้ามาปิดหน้าแล้วฉีดยาชาให้ ในระหว่างทำการผ่าตนรู้สึกเจ็บมาก เมื่อบอกหมอ หมอก็ฉีดยาชาให้ ซึ่งใช้เวลาผ่านานมาก และจำได้ว่าหมอฉีดยาชาให้ทั้งหมด 9 ครั้ง เมื่อผ่าเสร็จ หมอก็บอกว่า แผลผ่าตัดเรียบร้อยดี จึงไม่ต้องทำการเย็บแผลหลังจากนั้นหมอก็แจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงินรวม 8335 บาท ซึ่งคิดเพิ่มเติมจากที่แจ้งราคาตอนก่อนผ่า ทั้งค่าผ่า ค่ากรอกระดูก ค่าดูดหนอง ค่ายาชา และอื่นๆ ซึ่งตนถือเงินสดไปไม่พอ จึงได้ใช้วิธีโอนเงินผ่านแอปฯ ธนาคารให้ แล้วก็กลับมาบ้าน จนกระทั่งตื่นตอนเช้าพบว่ายังมีเลือดไหลออกมาจากแผล จึงได้ไปหาหมอฟันอีกคลินิกหนึ่ง ซึ่งหมอที่คลินิกแห่งใหม่ได้ทำการเอกซเรย์แล้ว พบว่าจุดที่ผ่ายังมีฟันคุดเหลืออยู่ จึงได้ทำการผ่าตัดและเย็บแผลให้เรียบร้อย โดยคิดค่ารักษาเพียง 1000 บาท เท่านั้นเจ้าของโพสต์กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกว่าไม่ได้รับการรักษาที่ดีพอ และค่าใช้จ่ายก็แพงเกินจากที่ตกลงกันในตอนแรก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการตรวจสอบคลินิกแห่งนี้ ว่ามีมาตรฐานเพียงพอหรือไม่.
หนุ่มโพสต์เตือนภัย อ้างหมอฟันผ่าฟันคุดให้โดยไม่เอกซเรย์ ไม่เย็บแผล เลือดไหลไม่หยุดจนต้องไปคลินิกอีกแห่ง เอกซเรย์แล้วพบว่ายังมีฟันคุดเหลืออยู่ วอนหน่วยงานตรวจสอบ
ข่าว,สังคม
หมอฟัน,ผ่าฟันคุด,ฟันคุด,มอนิเตอร์,ข่าวโซเชียล,เตือนภัย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1883843
นักธุรกิจส่งเมล็ดกาแฟ ส่งทนายร้องกองปราบ ถูกเสี่ยคนดังหลอกซื้อรถหรู
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม นายประพันธ์พงศ์ ธรรมชาติ อายุ 42 ปี ทนายความ ได้รับมอบอำนาจจาก นายหวัก โคลว ชาวออสเตรเลีย นักธุรกิจเมล็ดกาแฟนำเข้า และส่งออก เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.ธนวัฒน์ หลีพงษ์ สว.(สอบสวน) กก.6บก.ป. เพื่อดำเนินคดีกับ นาย,นฤนาท ควรสวัสดิ์, หรือ บอย อายุ 42 ปี ในฐานความผิดฉ้อโกง หลังถูกหลอกให้ซื้อรถยนต์หรู แต่ปรากฏว่าไม่สามารถจดทะเบียนได้,นายประพันธ์พงศ์ กล่าวว่า เมื่อปี 2559 นายหวัก โคลว ลูกความของตนได้รู้จักกับ นายนฤนาท นักธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์หรูผ่านทางเว็บไซต์ซื้อขายรถแห่งหนึ่ง และได้มีการติดต่อพูดคุยกัน กระทั่งนายนฤนาท ได้นำเสนอขายรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ รุ่นคาร์เรรา เทอร์โบ เอส ราคา 12 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทันทีที่นายหวัก โคลว เห็น ได้เกิดความชอบ ตกลงซื้อรถยนต์คันดังกล่าว โดยวางเงินมัดจำจำนวน 2.5 ล้านบาท ต่อมานายนฤนาท ได้คืนเงินมัดจำให้กับนายหวัก ก่อนที่จะให้นายหวักไปประมูลรถคันดังกล่าวที่กรมศุลกากร และประมูลได้มาในราคา 11.4 ล้านบาท ถือเป็นราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ทำให้นายหวัก โคลว เชื่อใจว่า นายนฤนาท มีรถยนต์ที่ถูกกฎหมายมาขายให้จริง,จากนั้น นายนฤนาท ได้เสนอขายรถยนต์หรูให้นายหวักอีก 8 คัน โดยอ้างว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดย นายหวัก ได้จ่ายเงินมัดจำไว้ 19.8 ล้านบาท ภายหลังได้ทวงถามเรื่องการจดทะเบียนรถยนต์ และเล่มทะเบียนกับนายนฤนาท แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา นายหวัก จึงตัดสินใจยกเลิกรถยนต์ที่ซื้อ ซึ่งนายนฤนาท ได้บอกว่าจะนำรถยนต์ทั้งหมดไปจดทะเบียนให้ พร้อมกับให้รถยนต์ปอร์เช่ 991 คาร์เรราสีฟ้า และเช็กเงินจำนวน 13 ล้านมาให้เป็นหลักประกัน พร้อมระบุว่ารถ ปอร์เช่ 991 คาร์เรราสีฟ้า เป็นรถที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย,ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปรามได้นำหมายค้นและยึดรถยนต์ปอร์เช่ 991 คาร์เรราสีฟ้า และรถยนต์ปอร์เช่ รุ่นคาร์เรรา 997 จีที 3 สีขาว ซึ่งเป็นรถที่ซื้อมาจากนายนฤนาท และอยู่ระหว่างรอจดทะเบียน ที่จอดไว้ใต้คอนโดย่านสุขุมวิท ไปตรวจสอบ โดยตำรวจกองปราบได้แจ้งว่ารถทั้งสองคันที่ตรวจยึด เป็นรถที่ไม่ถูกต้อง มีการปลอมแปลงเอกสาร และตัดต่อเลขตัวรถ ส่วนเช็คเงิน 13 ล้านบาท เมื่อนำไปขึ้นกับธนาคารกลับไม่สามารถสั่งจ่ายได้ ทำให้ทราบว่าถูกนายนฤนาท หลอก จึงตัดสินใจรวบรวมหลักฐานเพื่อเข้าแจ้งความ,ด้าน พ.ต.ต.ธนวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ ก่อนสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบเอกสารการโอนเงิน รวมทั้งทำหนังสือสอบถามรายละเอียดไปยังชุดจับกุมถึงรายละเอียดที่มาดังกล่าว ก่อนประมวลเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป,ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายนฤนาท มีส่วนพัวพันกับคดีไฟไหม้รถหรู เมื่อปี 2556 โดยครั้งนั้นเกิดเหตุเพลิงไหม้รถหรูระหว่างที่กำลังวิ่งอยู่บนถนนมิตรภาพขาออก มุ่งหน้าจังหวัดนครราชสีมา ที่ อ.ปากช่อง กม.30 +500 โดยเพลิงลุกไหม้รถยนต์หรูที่บรรทุกมาด้วยจำนวน 4 คัน จาก 6 คัน ได้แก่ รถลัมโบร์กินี ราคาร่วม 40 ล้านบาท, รถเฟอร์รารี่ ราคาประมาณ 30 ล้านบาท, เบนท์ลีย์ ราคาประมาณ 20 ล้านบาท และบีเอ็มดับเบิลยู กว่า 10 ล้านบาท,ทั้งนี้จากการขยายผลชุดสืบสวนได้พบว่า นายนฤนาท และพวก มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่มาของรถหรูทั้งหมดว่าได้มาไม่ถูกต้อง จึงถูกดีเอสไอ กล่าวหา ในฐานความผิดร่วมกันลักลอบนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระภาษี, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือโดยผ่านเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ซึ่งภายหลัง นายนฤนาท ได้ติดต่อเข้ามอบตัว ก่อนทางดีเอสไอปล่อยตัวไป และอยู่ระหว่างดำเนินคดี.
นักธุรกิจส่งเมล็ดกาแฟ ส่งทนาย นำหลักฐานร้องกองปราบ ถูกเสี่ยรถหรูคนดัง หลอกขายรถให้ อ้างเป็นรถถูกกฎหมาย สุดท้ายไม่สามารถจดทะเบียนได้ ซ้ำ ถูกตำรวจกองปราบ ยึดรถ 2 คันไปตรวจสอบ พบถูกตัดต่อเลขตัวรถ
ข่าว,อาชญากรรม
นฤนาท ควรสวัสดิ์,รถหรู,ถูกหลอกซื้อรถ,นักธุรกิจ,กองปราบ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/979970
ระทึกสุดๆ ด.ญ. 12 ขวบโดดตึก 4 ชั้น หนีไอ้หื่นจะข่มขืน (คลิป)
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน,ว่า เมื่อ 3 เม.ย. เกิดเหตุเด็กหญิงชาวอินเดียวัย 12 ปี ถูกชายหื่นลวงเข้าไปในอาคารสูง 4 ชั้นซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างในนครมุมไบ และพยายามประทุษร้ายทางร่างกาย แต่เธอวิ่งหนึขึ้นไปจนถึงดาดฟ้าแล้วกระโดดลงมาเพื่อหนีจากชายคนนี้ เคราะห์ดีที่เธอรอดชีวิตมาได้ จากความช่วยเหลือของช่างอู่ซ่อมรถ 3 คนที่กางผ้ารองเอาไว้ด้านล่าง,ช่างกลุ่มนี้บอกกับตำรวจว่า พวกเขากำลังทำหลังคารถ 3 ล้อจากผ้าผืนหนึ่ง ก่อนจะเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งกำลังถามเส้นทางกับเด็กหญิงคนนี้ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อไปยังอาคารที่เกิดเหตุ จากนั้นทั้ง 2 คนจึงเข้าไปในตึก,หลังจากนั้นไม่นาน รองเท้าข้างหนึ่งก็ร่วงลงมาจากอาคารหลังนี้กลางวงของกลุ่มช่าง ทำให้พวกเขาเงยหน้าขึ้นไปมอง และเห็นเด็กอยู่บนขอบกำแพงตึก และกังวลว่าเธอจะกระโดดลงมา พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือ และนำผ้าที่พวกเขากำลังใช้ทำหลังคามากางออก เพื่อรองรับเด็กซึ่งตัดสินใจกระโดดลงมาจริงๆ,อย่างไรก็ตาม แรงกระแทกที่รุนแรงทำให้ผ้าหลุดจากมือของช่าง จนแตกกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บ พวกเขาจึงนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลในทันที ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่า กระดูกสันหลังของเธอร้าว,ทั้งนี้ ตำรวจบอกกับสื่อว่า เด็กหญิงผู้บาดเจ็บให้การว่า เธอกระโดดลงจากอาคารเพื่อหลบหนีชายแปลกหน้าที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ โดยตำรวจกำลังตามจับชายคนนี้ในฐานะผู้ต้องสงสัยข้อหา ลักพาตัว, ทำร้ายร่างกาย หรือใช้กำลังก่ออาชญากรรมกับผู้หญิงโดยมีเป้าหมายเพื่อเปลื้องผ้า แต่ยังไม่พบตัวชายคนนี้
เด็กหญิงอินเดียวัย 12 ปี กระโดดจากอาคารสูง 4 ชั้น เพื่อหนีจากชายคนหนึ่ซึ่งพยายามข่มขืนเธอ และรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ จากความช่วยเหลือของผู้เห็นเหตุการณ์เบื้องล่าง
ข่าว,ต่างประเทศ
กระโดดตึก,ข่มขืน,อินเดีย,อู่ซ่อมรถ,คลิปวิดีโอ
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1250069
ไอซิสรับการโจมตีปารีสและบรัสเซลส์เป็นฝีมือของสมาชิก
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2560 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำเบลเยียม รายงานว่า กลุ่มรัฐอิสลามหรือ ไอซิส ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคมว่า สมาชิกของตนสองคนเป็นผู้รับผิดชอบการโจมตีที่ล้มเหลวกลางกรุงปารีสและที่สถานีรถไฟกลางกรุงบรัสเซลส์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและยังไม่มีการอ้างความรับผิดชอบ,กลุ่มไอซิสได้ตีพิมพ์นิตยสารรูมิยาห์ ซึ่งเป็นเอกสารสื่อสารประชาสัมพันธ์หลายภาษา โดยกลุ่มรัฐอิสลามได้ระบุว่า ผู้ก่อการร้ายที่ลงมือโจมตีทั้งสองครั้งเป็น นักรบคอลิฟะห์ ที่ได้ทำการโจมตีตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม,ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ชายวัย 31 ปีที่มีรายชื่อออยู่ในกลุ่มบุคคลหัวรุนแรงได้ขับรถยนต์บรรทุกถังแก๊สและอาวุธพุ่งชนรถยนต์ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจบนถนนชองป์เอลิเซ่ กลางกรุงปารีส ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เขาถูกวิสามัญในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบภายหลังว่า เขาได้เขียนจดหมายระบุว่า ต้องการเดินทางไปร่วมรบที่ประเทศซีเรีย แต่ต้องล้มเลิกแผนการเนื่องจากกลุ่มต่อต้านรัฐอิสลาม,วันรุ่งขึ้น ชายเชื้อสายโมรอกโกวัย 36 ปี ถูกทหารเบลเยียมวิสามัญหลังจากที่เขาระเบิดกระเป๋าที่สถานีรถไฟการ์ซองทราล กลางกรุงบรัสเซลส์ ผลการสอบสวนพบว่า เขาเป็นผู้ที่ฝักใฝ่ในกลุ่มรัฐอิสลาม,กลุ่มมุสลิมนิกายสุหนี่สุดโต่งที่ทำการสู้รบในพื้นที่ครอบครองตอนเหนือของซีเรียและอิรัก อีกทั้งยังเป็นผู้รับผิดชอบการโจมตีก่อการร้ายทั่วโลก ได้เรียกร้องให้ผู้ที่สวามิภักดิ์ทำการโจมตีในเดือนรอมฎอนแต่ละปี.
กลุ่มรัฐอิสลามหรือ ไอซิส ออกมาประกาศยอมรับว่า สมาชิกของกลุ่ม 2 คนเป็นผู้รับผิดชอบการโจมตีที่ล้มเหลวกลางกรุงปารีส และที่สถานีรถไฟกลางกรุงบรัสเซลส์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ข่าว,ต่างประเทศ
กรุงปารีส,กรุงบรัสเซลส์,ก่อการร้าย,ไอซิส,กลุ่มรัฐอิสลาม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1004044
สุเทพ ระบุรัฐลดสเป็คฮั้วราคาสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ
กรุงเทพฯ-27 มิ.ย.48นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า ขอให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลิกภูมิใจที่สามารถปรับลดวงเงินการจัดสร้างสนามบินสุวรรณภูมิลงได้เหลือ 36666 ล้านบาท จากเดิมที่รัฐบาลในสมัยพรรคประชาธิปัตย์ดูแลกระทรวงคมนาคม ได้วางงบประมาณการก่อสร้างไว้ถึง 54000 ล้านบาท โดยในสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนั้นได้มีหนังสือสั่งการไปถึงคณะกรรมการ บริหารบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด(บทม.) แล้วว่า ไม่เห็นด้วยกับงบประมาณจำนวน 54000 ล้านบาทดังกล่าว เนื่องจากเป็นราคาที่สูงเกินไปจากราคากลางเดิมที่ตั้งไว้ที่ 45000 ล้านบาท โดยได้ขอให้บอร์ด บทม.ไปแก้ไขและทำให้การประกวดราคามีความโปร่งใสมากที่สุด การที่รัฐบาลชุดนี้สามารถปรับลดวงเงินการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิลงได้เหลือ 36666 ล้านบาท ได้เพราะปรับลดคุณภาพของวัสดุและอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารสนามบินใน 3 รายการสำคัญ คือ โครงเหล็ก กระจก หลังคา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ จึงทำให้งบการก่อสร้างถูกลงไปได้ประมาณ 10000 ล้านบาท และหลังจากนั้นได้มีการเปิดประมูลใหม่โดยราคาที่ได้ออกมาคือ 36666 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยว่าเหตุใดจึงเท่ากับราคาที่กลุ่มกิจการร่วมค้าไอทีโอเสนอไว้พอดี มันพอดีกับที่ ITO เสนอราคาไว้ ถ้าเป็นการเล่นไฮโล ก็ต้องเรียกว่าเปิดถ้วยแทงกันเลย นายสุเทพ กล่าว นอกจากนี้นายสุเทพยังเห็นว่าเงินที่รัฐบาลต้องจ่ายค่าเครื่อง CTX ให้แก่ ITO ไปล่วงหน้าแล้วถึง 1500 ล้านบาทนั้นก็เป็นเงินจากภาษีของประชาชน ขณะที่ยังไม่ได้มีการส่งมอบสินค้า ซึ่งยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะมีโอกาสได้เห็นสินค้าหรือไม่
กรุงเทพฯ-27 มิ.ย.48 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า ขอให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2005/06/4636
ก.พาณิชย์เพิ่มโรงสีรับจำนำข้าว
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่าหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ผลผลิตข้าวจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 - 70 โดยพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลผลิตปลายเดือนนี้จะออกมาจำนวน 11 ล้านตัน ทางกระทรวงฯจึงขอให้โรงสีเปิดรับจำนำข้าวเพิ่ม จากปัจจุบันมีเพียง 123 โรง จากที่แสดงความจำนงค์ไว้ 441 โรง และในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ หากโรงสีที่แสดงความจำนงไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะให้โรงสีเดิม 123 แห่ง สามารถรับจำนำข้ามเขตได้จากที่ผ่านมาได้อนุญาตแล้ว 20 โรงทั่วประเทศ สำหรับผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้ปริมาณข้าวที่จะเข้าโครงการรับจำนำลดลงเหลือ 20 ล้านตัน จากเดิมที่ 25 ล้านตันข้าวเปลือกด้านนายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าว กล่าวว่าสาเหตุที่โรงสีบางแห่งไม่สามารถเปิดรับจำนำข้าวได้ เพราะหลายแห่งประสบปัญหาน้ำท่วม และปัญหานี้ยังส่งผลให้บางพื้นที่ไม่มีข้าวมาจำนำ โดยเฉพาะภาคกลางที่อยู่ในเขตชลประทาน ซึ่งคาดว่าพื้นที่เสียหายกว่า 10 ล้านไร่ ผลผลิตเสียหาย 8-9 ล้านตัน แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อข้าวเพื่อการบริโภคในประเทศ เว้นการส่งออก ที่จะเหลือ 8-9 ล้านตัน
กระทรวงพาณิชย์ขอให้โรงสีเปิดรับจำนำข้าวเพิ่มในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกมาช่วงปลายเดือน
เศรษฐกิจ
ข้าว,จำนำข้าว,น้ำท่วม,พาณิชย์,ส่งออก,โรงสี
https://news.thaipbs.or.th/content/45779
จับมือเผาบัญชีรายชื่อประชามติ ที่กระทุ่มแบน พบมีอาการคล้ายดาวน์ซินโดรม
เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 24 กรกฎาคม 2559 พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม รอง ผบช.ภ.7 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร ลงพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบนเพื่อดูที่เกิดเหตุบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติถูกเผาทำลาย เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา และบัญชีรายชื่อฯ หายไปจากป้ายประกาศหน้าหมู่บ้านฯ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา, โดยสถานที่แรกคือ ศาลาอเนกประสงค์บ้านตาสด หมู่ที่ 3 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน ซึ่งเป็นสถานที่ที่พบว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ หน่วยที่ 7 ต.ดอนไก่ดี ถูกเผาทำลาย แต่ในขณะนี้ได้มีการนำบัญชีรายชื่อฉบับใหม่มาติดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ประชาชนได้มาตรวจสอบสิทธิ และได้มีการจัดกำลังคนคอยเฝ้าตลอด ,จากนั้น รอง ผบช.ภ.7 ได้เดินทางไปที่ศาลาอเนกประสงค์ ทางเข้าหมู่บ้านพุทธชาด ม.5 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน เพื่อดูป้ายประกาศที่บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติหน่วยที่ 7 ต.ท่าไม้ ที่หายไป ซึ่งถือเป็นหน่วยที่ 2 ของอำเภอกระทุ่มแบน ที่รายชื่อหาย โดยได้มีการพูดคุยกับนายอรุณ มาพิทักษ์ กำนันตำบลท่าไม้ ซึ่งแจ้งว่าจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ อปพร. ของตำบลท่าไม้ มาตรวจดูให้ถี่มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีกในทุกๆ หน่วยของตำบล,ต่อมาได้เดินทางไปที่ สภ.กระทุ่มแบน โดยทาง พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม รองผบช.ภ.7 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร ได้ร่วมกับ นายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.วิเชียร ประทุมรัตน์ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน แถลงผลการจับกุม นายบอย (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ซึ่งมีอาการคล้ายผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม ชาว อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ผู้ก่อเหตุเผาบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ หน่วยที่ 7 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา, โดย นายบอย ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุลงมือจุดไฟเผาบัญชีรายชื่อฯ จริง ที่ทำไป เพราะเป็นอาการทางความคิดและพฤติกรรมส่วนตัว ที่ชอบจุดไฟเผากระดาษกิ่งไม้ หรือเศษหญ้าอยู่เป็นประจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้นำตัวส่งศาลเพื่อฝากขังในวันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2559 ส่วนการตัดสินจะเป็นเช่นไรนั้น ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล และหลักฐานทางการแพทย์ กับคำร้องขอของผู้ปกครองผู้ที่ก่อเหตุ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีลักษณะทางร่างกายและอาการทางความคิดที่ไม่เหมือนกับบุคคลธรรมดาทั่วไป แม้จะพูดจารู้เรื่องก็ตาม,ด้านนายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์เผาบัญชีรายชื่อและฉกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปนั้น ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จัดกำลังเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนขึ้นได้อีก ซึ่งจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จากหน่วยข่าวกรองที่เฝ้าระวังความรุนแรงในทุกพื้นที่ ก็เป็นที่เชื่อมั่นได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการกระทำและความคิดส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด.
รวบหนุ่มใหญ่ มือเผารายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ ที่กระทุ่มแบน พบมีอาการคล้ายป่วยดาวน์ซินโดรม ตร.แจ้งข้อหาก่อนนำฝากขัง ส่วนการตัดสินขึ้นอยู่กับศาล
null
ลงประชามติ,ลงประชามติ2559,เผาบัญชีรายชื่อ,ดาวน์ซินโดรม,ประชามติ2559,ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ,ประชามติร่าง รธน.,กระทุ่มแบน,ผู้ป่วย,หนุ่มใหญ่,ฝากขัง,สมุทรสาคร,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/671601
น่าชื่นชม ตร.โรงพักสีบัวทอง เลี้ยงไส้เดือนขาย ตามรอย ศก.พอเพียง
วันที่ 16 ก.พ. บริเวณที่ว่างเปล่าข้างบ้านพักข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสีบัวทอง ตำบลสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ถูกดัดแปลงให้เป็นโรงเพาะเลี้ยงไส้เดือน สร้างรายได้ให้กับข้าราชการตำรวจ สภ.สีบัวทอง หลังจากว่างจากการทำงาน โดยสร้างเป็นโรงเรือนคลุมทับด้วยสแลนกันแดด ส่วนด้านในได้นำรองซีเมนต์พร้อมกับมูลวัวที่เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเหล่าบรรดาไส้เดือนมาทำการเพาะเลี้ยงจนโตเต็มวัย พร้อมนำตัวไส้เดือนออกขาย,ส่วนมูลไส้เดือนนำไปบรรจุถุงเป็นปุ๋ยขาย เป็นการสร้างรายได้เสริมให้กับข้าราชการตำรวจ สภ.สีบัวทอง และยังนำรายได้ส่วนหนึ่งเป็นทุนอาหารกลางวันไว้ สำหรับเลี้ยงข้าราชการตำรวจในสถานี ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการครองชีพ โดยยึดหลักตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9,ร.ต.ท.ทรงพล พันธ์แก่น รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.สีบัวทอง กล่าวว่า พ.ต.ท.จตุพล ต้อยจัตุรัส สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรสีบัวทอง พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัด ได้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จึงได้คิดทำฟาร์มเพาะเลี้ยงไส้เดือนสีบัวทองขึ้น เพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับข้าราชการตำรวจ สภ.สีบัวทอง หลังจากว่างจากการทำงาน และส่วนหนึ่งนำมาเป็นทุนค่าอาหารกลางวันให้กับข้าราชการตำรวจ ทุกวันจันทร์–วันศุกร์ ถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการครองชีพ เนื่องจากไส้เดือนเป็นสัตว์ที่เพาะเลี้ยงง่ายโตเร็ว,วิธีการทำคือ นำมูลวัวมาแช่น้ำก่อนที่จะนำมาปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำไปใส่รองซีเมนต์ที่เตรียมไว้ในสัดส่วนไส้เดือน 1 กิโลกรัม ต่อ 1 รองซีเมนต์ ทำการเพาะเลี้ยงโดยมีมูลวัวเป็นแหล่งอาหารประมาณ 1 เดือน จะได้ผลผลิตไส้เดือนขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นถึง 1 เท่าตัว ซึ่งจะมีผู้ที่นิยมตกปลา เลี้ยงไก่ชน เลี้ยงกุ้ง จะมารับซื้อถึงที่ในราคากิโลกรัมละ 250–300 บาท ในส่วนของมูลไส้เดือนจะสามารถเก็บได้ทุกๆ 10 วัน,ร.ต.ท.ทรงพล กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นนำไปบรรจุถุงขายเป็นปุ๋ยอย่างดี ถุงละ 1 กิโลกรัม ในราคา 25 บาท ภายใต้ชื่อแบรนด์ที่คิดขึ้นมาอย่างง่ายๆ ชื่อ สอภอ.พอเพียง ฟาร์มไส้เดือนสีบัวทอง จำหน่ายพันธุ์ไส้เดือน มูลไส้เดือน เป็นรายได้เสริมตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงของข้าราชการตำรวจ สภ.สีบัวทอง ต่อไปหากผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ สถานีตำรวจภูธรสีบัวทอง 125 หมู่ที่ 2 ตำบลสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง หรือหมายเลขโทรศัพท์ 098-2721766 คุณต้น และ 083-0099850
ตำรวจโรงพักสีบัวทอง ตามรอยพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง เพาะเลี้ยงไส้เดือนพร้อมมูลไส้เดือนขายสร้างรายได้เสริม ภายใต้แบรนด์ สอภอ.พอเพียง รายได้ส่วนหนึ่งเป็นค่าอาหารกลางวันข้าราชการตำรวจ
ข่าว,ทั่วไทย
ตำรวจโรงพักสีบัวทอง,เศรษฐกิจพอเพียง,เพาะเลี้ยงไส้เดือน,สร้างรายได้,อ่างทอง
https://www.thairath.co.th/news/local/859977
ซวยซ้ำสอง เสี่ยรถคว่ำยาบ้ากระจาย พาชี้จุด เจออีก2.4หมื่นเม็ด
กรณีนายสมัคร รัตราช อายุ 46 ปี ชาวกาฬสินธุ์ ขับรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน บม 3592 กาฬสินธุ์ มากับ น.ส.ดรนี สันวิลาส อายุ 24 ปี ภรรยา แล้วเสียหลักพลิกคว่ำบริเวณข้างบ้านเลขที่ 117 หมู่ 10 บ้านชัยเจริญ ถนนวังสามหมอ-วาริชภูมิ ต.หนองกุงทับม้า อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ แต่พบห่อยาบ้าตกหล่น 8 พันเม็ด ยาไอซ์ 101.61 กรัม ครั้งแรกปากแข็งให้การปฏิเสธ ต่อมานายสมัครให้การรับสารภาพเป็นเจ้าของยาบ้า เหตุเกิดเวลา 05.20 น. วันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา,ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ก.ค. พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสง ผกก.สภ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี สั่งการให้ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ บุตรี รอง ผกก.(สอบสวน) ควบคุมตัวนายสมัคร ผู้ต้องหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่รถพลิกคว่ำและยาบ้าหล่นออกมานอกรถ,ปรากฏว่า ขณะชี้จุดประกอบคำรับสารภาพอยู่นั้น ได้มีชาวบ้านเดินเข้ามาแจ้งว่า พบถุงหูหิ้วสีฟ้าบรรจุสิ่งของ ซุกซ่อนอยู่ในพงหญ้ามีสิ่งของปิดทับไว้ ห่างจากจุดเกิดเหตุรถ ปิกอัพพลิกคว่ำประมาณ 50 เมตร จึงไปตรวจสอบพบยาบ้า 4 ห่อ 24,000 เม็ด รวมเป็นยาบ้า 32,000 เม็ด ซึ่งนายสมัคร ให้การรับสารภาพว่า เป็นยาบ้าที่ตนนำไปซุกซ่อนหลังเกิดอุบัติเหตุ โดยครั้งแรกเข้าใจว่าซ่อนหมดแล้ว แต่ความจริงมียาบ้าตกอยู่ข้างรถ 1 ห่อ จนเป็นเหตุให้ถูกตำรวจจับ,พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสง ผกก.สภ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายสมัคร ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง และรับกากน้ำตาลจากโรงงานไปขายให้เกษตรกร และเพิ่งอยู่กินเป็นสามีภรรยากับ น.ส.ดรนี ได้ไม่นาน ฝ่าย น.ส.ดรนี ก็เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำข้อหาจำหน่ายยาบ้า ก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถปิกอัพไปกับเมีย ไปซื้อยาบ้าบริเวณริมโขง จ.มุกดาหาร เพื่อนำมาขายให้ลูกค้าใน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ โดยจะขับรถกลับในเวลากลางคืนเพื่อให้มาถึงบ้านในช่วงเช้าพอดี แต่มีอาการวูบ ทำให้รถเสียหลักและพลิกคว่ำได้รับบาดเจ็บ,แต่นายสมัครยังมีสติ จึงนำรีบถุงยาบ้าไปซุกซ่อนไว้ในพงหญ้าห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ด้วยความรีบร้อนทำให้ไม่รู้ว่ายาบ้า 1 ห่อ และยาไอซ์ ตกอยู่ข้างรถ เมื่อกู้ภัยกับตำรวจมาถึงพบและถูกจับดำเนินคดี นายสมัครรับสารภาพ ส่วน น.ส.ดรนี ให้การปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้องกับยาบ้า อ้างว่านายสมัคร บอกว่าจะพาไปเที่ยว แค่นั้น ซึ่งตำรวจเชื่อว่านายสมัคร และภรรยา ลักลอบจำหน่ายยาบ้ามานานแล้ว เพราะมีเงินในบัญชีธนาคารหมุนเวียนจำนวนมากกว่าล้านบาท จึงไม่ปักใจเชื่อ
เสี่ยรับเหมา หวังรวยทางลัด แต่ความซวยมาเยือน รถคว่ำ ยาบ้ากระจาย 8 พันเม็ด ตำรวจคุมตัวไปชี้จุด เจอซ่อนไว้อีก 2.4 หมื่นเม็ด สารภาพ ตอนรถคว่ำรีบคลานเอาไปซ่อนไว้
ข่าว,ทั่วไทย
รถคว่ำเจอยาบ้า,ขนยาบ้ารถคว่ำ,ผัวเมียขนยาบ้า,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1618838
ข่าวมั่ว ยัน กินเบกกิ้งโซดา ไม่ช่วยรักษาไข้หวัดใหญ่ ห้ามทำตาม
จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์บทความเรื่อง เบกกิ้งโซดา ช่วยรักษาไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ เพียงแค่นำไปละลายน้ำเย็นและดื่มจนกว่าอาการจะหาย ซึ่งพบว่ามีการแชร์ต่อกันในวงกว้างนั้น,ล่าสุด (13 ก.ย.60) เพจเฟซบุ๊ก ,Drama-addict, ได้โพสต์ข้อความว่า ข่าวที่บอกว่ากินเบกกิ้งโซดาแล้วจะช่วยให้หายจากไข้หวัด ที่อ้างอิงจากหนังสือ Arm & Hammer Baking Soda Medical Uses ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1924 เป็นข่าวมั่วที่ทางบริษัทขายเบกกิ้งโซดาเขียนขึ้นเอง พร้อมกับแนะนำว่าอย่าทำตาม,เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และโฆษก อย. เปิดเผยว่า ข้อมูลที่บอกว่า เบกกิ้งโซดา หรือผงฟู ช่วยรักษาไข้หวัดใหญ่นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส สำหรับวิธีการรักษาคือ ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำเยอะๆ,ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์มาสนับสนุนว่า เบกกิ้งโซดาใช้ในการป้องกันหรือรักษาไข้หวัดใหญ่ได้ ส่วนเรื่องที่มีการอ้างว่าใช้แล้วได้ผลนั้น หากสามารถนำมาใช้ได้จริง คงมีการขึ้นทะเบียนและประเทศต่างๆ คงอนุมัตินำมาใช้เป็นยาแล้ว.,ภาพและข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก ,Drama-addict 
เช็กก่อนแชร์! เพจดัง-โฆษกอย. ยัน เบกกิ้งโซดาละลายน้ำแล้วดื่มรักษาไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เป็นข่าวมั่ว อันตราย ห้ามทำตาม ชี้ ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยมารองรับ
ข่าว,ทั่วไทย
เบกกิ้งโซดา,รักษาไข้หวัดใหญ่,ไข้หวัดใหญ่,ไข้หวัด,เบกกิ้งโซดาแก้หวัด,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/1069020
มาม่า มึนตึ้บยอดขายวูบรอบ 42 ปี
นายพิพัฒน์ พะเนียงเวทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเพรสซิเดนฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา มาม่า เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทยปี 2557 ที่มีมูลค่ากว่า 15,400 ล้านบาท เติบโต 1.4% ถือว่าต่ำสุดในรอบ 42 ปี ที่บริษัททำตลาดมา โดยปี 2556 เติบโต 7.5% บะหมี่ประเภทซองยอดขายโดยรวมทรงตัว ขณะที่ประเภทถ้วยเติบโตลดลง จาก 21.7% ในปี 2556 เหลือเติบโต เพียงแค่ 7.95% ในปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม มาม่ายังเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ทั้งแบบซองและแบบถ้วย ด้วยส่วนแบ่งตลาด 50.25% แม้ปีนี้ยอดขายรวมของบริษัทจะเติบโตต่ำสุดในรอบ 42 ปีที่ทำธุรกิจมา โดยทำรายได้รวมกว่า 10,186 ล้านบาท เติบโต 0.2% ก็ตาม โดยสาเหตุหลักมาจากยอดขายในประเทศติดลบ 1% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรยังตกต่ำ จึงฉุดให้กำลังซื้อ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรากหญ้าหรือระดับล่างมีลดลง,ในอดีตเศรษฐกิจไม่ดีมาม่าจะขายดี แต่ปีนี้เศรษฐกิจมันแย่จนถึงขนาดคนไม่มีเงินจะซื้อมาม่ากิน ทำให้ยอดขายร่วงทั้งแบบซองและแบบถ้วย โดยมาม่าซองไม่เติบโตเลย ขณะที่มาม่าคัพ ที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับกลางขึ้นไปเติบโตน้อยลง ทั้งที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เทรนด์การบริโภคมาม่าคัพมาแรงมาก และเติบโตในระดับสองหลัก ด้วยไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ชอบความสะดวกสบาย แต่เวลานี้คนซื้อบริโภคลดลงด้วย,ทั้งนี้ ปี 2558 บริษัทจะใช้กลยุทธ์ตอบสนองผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มมากขึ้น พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆต่อเนื่อง เพื่อรองรับผู้บริโภคที่มองหาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมมากขึ้น และมีเป้าหมายดันยอดรายได้รวมบริษัท ให้เติบโตเป็นเท่าตัว หรือแตะ 20,000 ล้านบาท ภายใน 10 ปีนับจากนี้.
นายพิพัฒน์ พะเนียงเวทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเพรสซิเดนฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา มาม่า เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทยปี 2557 ที่มีมูลค่ากว่า 15,400 ล้านบาท
null
มาม่า,ดัชนีมาม่า,ยอดขายมาม่า,บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์,พิพัฒน์ พะเนียงเวทย์,ไทยเพรสซิเดนฟู้ดส์
https://www.thairath.co.th/content/470659
กทม.คุมเข้มไข้หวัดนก-ความปลอดภัยช่วงตรุษจีน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมซื้อสัตว์ปีกไปทำพิธีไหว้เจ้าและบริโภคเป็นจำนวนมาก กรุงเทพมหานครจึงเพิ่มความเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในเชิงรุก โดยส่งเจ้าหน้าสำนักอนามัยเข้าตรวจสอบคุณภาพเป็ดและไก่ให้ถูกสุขลักษณะ และจากการสุ่มตรวจ ยังไม่พบการแพร่ระบาด ซึ่งก่อนหน้านี้ ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกได้ชื่นชมกรุงเทพมหานครที่ดูแลป้องกันโรคไข้หวัดนกได้ดี พร้อมทั้งกำชับให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงต่างๆ รอบกรุงเทพมหานครที่จะเกิดอัคคีภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ย่านคนไทยเชื้อสายจีนและย่านชุมชนที่บ้านเรือนมีลักษณะเป็นไม้เก่าและแออัดหนาแน่น ให้ระมัดระวังการจุดธูปเทียนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้เจ้า เผากระดาษเงินกระดาษทอง ควรต้องมีภาชนะที่ไม่ติดไฟและแข็งแรงรองรับ ส่วนการจุดประทัดต้องจุดในพื้นที่โล่งแจ้ง และขอให้ดูแลธูปเทียน กระดาษเงินกระดาษทอง ให้ดับสนิทก่อนเข้านอนหรือออกจากบ้านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังเป็นห่วงการรักษาความปลอดภัย ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ประสานข้อมูลข่าวสารกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลอย่างเต็มที่ ตามที่ได้มีการเตือนมาจากรัฐบาลและสหรัฐอเมริกา โดยสั่งเฝ้าระวังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวอาศัยอยู่จำนวนมาก อย่างพื้นที่เยาวราช สำเพ็ง เจริญกรุง ข้าวสาร และสีลม นอกจากนี้ กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของกล้องซีซีทีวีให้พร้อมใช้งานได้ทุกเมื่อกทม.คุมเข้มไข้หวัดนก-ความปลอดภัยช่วงตรุษจีนกรุงเทพมหานครเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดไข้หวัดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนการรักษาความปลอดภัย สั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจตราสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวอาศัยอยู่จำนวนมาก พร้อมประสานงานข่าวกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมซื้อสัตว์ปีกไปทำพิธีไหว้เจ้าและบริโภคเป็นจำนวนมาก กรุงเทพมหานครจึงเพิ่มความเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในเชิงรุก โดยส่งเจ้าหน้าสำนักอนามัยเข้าตรวจสอบคุณภาพเป็ดและไก่ให้ถูกสุขลักษณะ และจากการสุ่มตรวจ ยังไม่พบการแพร่ระบาด ซึ่งก่อนหน้านี้ ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกได้ชื่นชมกรุงเทพมหานครที่ดูแลป้องกันโรคไข้หวัดนกได้ดี พร้อมทั้งกำชับให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงต่างๆ รอบกรุงเทพมหานครที่จะเกิดอัคคีภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ย่านคนไทยเชื้อสายจีนและย่านชุมชนที่บ้านเรือนมีลักษณะเป็นไม้เก่าและแออัดหนาแน่น ให้ระมัดระวังการจุดธูปเทียนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้เจ้า เผากระดาษเงินกระดาษทอง ควรต้องมีภาชนะที่ไม่ติดไฟและแข็งแรงรองรับ ส่วนการจุดประทัดต้องจุดในพื้นที่โล่งแจ้ง และขอให้ดูแลธูปเทียน กระดาษเงินกระดาษทอง ให้ดับสนิทก่อนเข้านอนหรือออกจากบ้านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังเป็นห่วงการรักษาความปลอดภัย ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ประสานข้อมูลข่าวสารกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลอย่างเต็มที่ ตามที่ได้มีการเตือนมาจากรัฐบาลและสหรัฐอเมริกา โดยสั่งเฝ้าระวังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวอาศัยอยู่จำนวนมาก อย่างพื้นที่เยาวราช สำเพ็ง เจริญกรุง ข้าวสาร และสีลม นอกจากนี้ กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของกล้องซีซีทีวีให้พร้อมใช้งานได้ทุกเมื่อ
กรุงเทพมหานครเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดไข้หวัดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนการรักษาความปลอดภัย สั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจตราสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวอาศัยอยู่จำนวนมาก พร้อมประสานงานข่าวกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล
สังคม
กทม.,ตรุษจีน,ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร,ไข้หวัดนก
https://news.thaipbs.or.th/content/60989
กรมราชทัณฑ์ สร้างอาชีพให้นักโทษ ลดผู้ที่ทำผิดซ้ำ หลังพ้นโทษคืนสู่สังคม
สาเหตุหลักของผู้ต้องขังที่พ้นโทษหันไปทำผิดอีกเกิดจากคนในสังคม ไม่ยอมรับ ไม่ให้โอกาส ไม่มีงานทำ,นักโทษคิดว่า ตัวเองไร้ค่า ไม่มีที่ยืนในสังคม หันไปทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลายเป็นวังวนเดิม,รัฐต้องสูญเสียงบประมาณมหาศาลใช้ดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำที่เพิ่มขึ้นทุกวัน นำไปสู่ปัญหานักโทษล้นคุก ผู้คุมดูแลไม่ทั่วถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้ กรมราชทัณฑ์ ไปแก้ปัญหาเร่งด่วน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพิ่มคุณค่าพัฒนาอาชีพให้นักโทษ ก่อนคืนสู่สังคม ให้สอดคล้องความต้องการของตลาดแรงงานไทย และลดผู้ต้องขัง 1 ใน 4 ที่พ้นโทษจากเรือนจำในเวลา 3 ปี ไม่ให้กลับไปกระทำความผิดซ้ำอีก,พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มีประสบการณ์ ผ่านงานในกระบวนการยุติธรรมมาหลายหน่วยงาน มองภาพปัญหาออก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำให้ผู้ต้องขังกว่า 335,075 คน ได้รับการดูแลความเป็นอยู่ที่ดี มีการศึกษาและวิชาชีพ พ้นโทษออกไปเป็นคนดี เป็นที่ต้องการของสังคม,ผู้ต้องขังเฉลี่ยรับเข้าวันละ 216 คน ปล่อยออกวันละ 145 คน เป็นตัวเลขที่ต้องแก้ไข คนทำผิดที่ยังเพิ่มขึ้น และผู้ทำผิดซ้ำเฉลี่ยใน 1 ปี มีผู้ต้องขังที่ปล่อยตัวไปแล้วทำผิดซ้ำ 17.1 เปอร์เซ็นต์ จังหวัดที่กระทำผิดซ้ำมากที่สุดคือ บึงกาฬ สิงห์บุรี และอำนาจเจริญ ส่วนจังหวัดที่ทำผิดซ้ำน้อยที่สุด คือ ลำปาง พังงา และพิษณุโลก,พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ ศึกษาข้อมูลพื้นฐานนำมาใช้แก้ปัญหานักโทษในเรือนจำตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และ รมว.ยุติธรรม เริ่มต้นที่เพิ่มคุณค่าให้ผู้ต้องขังมีวิชาชีพ ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวออกไป เน้นวิชาที่เรียนตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานไทย ให้ออกมามีงานทำทันที ตามนโยบายรัฐบาล คิดแก้ปัญหาทั้งระบบ เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษออกมาประกอบอาชีพ จัดให้มีเรือนจำกลางวางฐานการศึกษาเป็นระบบ โดยให้ เรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นโมเดลเรือนจำศึกษา มุ่งเน้นให้ผู้ต้องขังได้รับการศึกษาที่ดี ลดการกระทำความผิดซ้ำ,เปิด ศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ ขึ้นในเรือนจำ 143 แห่งทั่วประเทศ หรือ Care เป็นตัวกลางในการจัดหางาน ช่วยเหลือคนที่พ้นโทษมีปัญหากลับมาปรึกษาให้มีงานทำ นำความรู้ที่ได้รับการศึกษาออกไปประกอบอาชีพโดยสุจริตหาเลี้ยงตนเองได้ ช่วยเหลือคนพ้นโทษให้มีงานทำ ที่ผ่านมาผู้ต้องขังประสบปัญหาไปติดต่อทำงาน ไม่มีใครกล้ารับ และการอยู่ในเรือนจำนานๆการติดต่อประสานงานเป็นเรื่องที่ยาก,กรมราชทัณฑ์ เริ่มที่จัดทำฐานข้อมูลผู้ต้องขังที่จะพ้นโทษไม่เกิน 1 ปี หรือเหลือโทษ ได้รับการอภัยโทษ นับโทษแล้วไม่เกิน 1 ปี ว่าผู้ต้องขังมีคุณสมบัติ วิชาชีพที่ถนัด มีความต้องการทำงานประเภทไหน,จับมือร่วมกับ สำนักงานอาชีวศึกษา และการยางแห่งประเทศไทย จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานพัฒนาอาชีพผู้ต้องขัง จัดให้มีการศึกษาระบบวิชาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบเปิดให้ผู้ต้องขังได้ศึกษาวิชาชีพระดับ ปวช. ปวส. หลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นและระบบทวิภาคี และทำบันทึกร่วมมือกับ นิติวิทยา-ศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดเก็บประวัติ ลายพิมพ์นิ้วมือ และดีเอ็นเอ ประโยชน์ติดตามคดีที่ผู้ต้องขังพ้นโทษกลับมาทำผิด และป้องปรามไม่ให้ทำความผิด ประสานตำรวจและฝ่ายปกครองเยี่ยมผู้ที่พ้นโทษ ไม่ให้ทำผิดอีก เป็นการ หายใจรดต้นคอ,ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับกระทรวงแรงงานโดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. จัดหาอาชีพ จัดหางานไว้รองรับนักโทษที่ได้รับการฝึกวิชาชีพ และตั้งศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงาน ฝึกอาชีพในเรือนจำ ประสานเครือข่ายหน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการสำรวจตำแหน่งว่างความต้องการของตลาดแรงงาน ให้ผู้ต้องขังมีโอกาสเลือกงานที่อยากทำ ผู้ประกอบการได้คนงานตามที่ต้องการ ผ่านศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำของเรือนจำ เป็นตัวกลางคอยติดต่อทั้งหมด ทำให้ผู้ต้องขังคลายกังวล เมื่อออกไปแล้วผู้ต้องขังมีงานทำ ลดโอกาสทำผิด แต่สังคมต้องเปิดใจยอมรับผู้ต้องขังที่กลับใจ ให้โอกาสกลับตัวกลับใจ กลับคืนสู่สังคม,นโยบายหลักที่กรมราชทัณฑ์สมัย พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ ทำต่อเนื่องและเห็นผลคือ นโยบาย 3 ส. ของ พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ คือ ส.สะอาด ส.สุจริต ส.เสมอภาค จัดระบบการบริหารเรือนจำใหม่ไม่ให้มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ยกเลิกอาหารฝากขายของผู้คุมและครอบครัวในเรือนจำ เนื่องจากเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน,ห้ามผู้คุมซ้อมทรมานหรือกระทำการที่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ถึงขั้นไล่ออก ปลดออกและให้ออกไปแล้ว 32 ราย ในรอบ 4 เดือน เป็นความจริงจังของราชทัณฑ์ในการดูแลผู้ต้องขัง สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดี สวัสดิการรักษาพยาบาลผู้ต้องขัง เปิดโรงพยาบาล จับมือ รพ.ตำรวจ นำแพทย์ ระบบการรักษามาปรับใช้ เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับการดูแลที่ดีเมื่อเจ็บป่วย และพร้อมกลับคืนสู่สังคม,พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวกับ ทีมข่าวอาชญากรรม ว่า นโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพิ่มโอกาสให้นักโทษเข้าถึงการศึกษาและวิชาชีพ มีคุณค่าเมื่อพ้นโทษออกไปได้มีงานทำ มีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีก กรมราชทัณฑ์คิดทำ 2 ด้านคือ ขยายทางเป็นคนดีให้กว้างขึ้นมา สร้างอาชีพ สนับสนุนการศึกษา และบีบทางเดินกลับไปทำผิดให้แคบที่สุด คนที่ออกไปมีงานมีเงินพอเลี้ยง,ตัวเองอยู่ได้ สังคมเปิดรับไม่ใช่ออกไปแล้วไม่มี ใครรับ ปิดประตูใส่หน้า ปัญหาเรื่องนี้แก้ไม่ได้ เพราะนักโทษเกินกว่า 3 แสนคนที่เข้ามาอยู่ในเรือนจำ เพราะความยากจน ด้อยโอกาส ขาดการศึกษา ไม่มีงานทำ ทำให้คนทำผิดไม่มีเงิน ความที่ไม่มีเส้นสายวิ่งเต้น ไม่มีความรู้ต่อสู้คดีเลยถูกดำเนินคดี กรมราชทัณฑ์ ได้ให้ผู้ต้องขังได้รับการศึกษา ฝึกอาชีพ สร้างคุณค่าให้ผู้ต้องขัง หาความร่วมมือหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ช่วยกันสร้างอาชีพ เมื่อผู้ต้องขังมีความรู้แล้วออกไปมีงานทำ เป็นการแก้ปัญหาทั้งระบบ ไม่ให้ผู้ต้องขังไปหางานเอง มีศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ หรือ Care ในเรือนจำ 143 แห่งทั่วประเทศ เป็นตัวกลางช่วยเหลือคนพ้นโทษให้มีงานทำ นำความรู้ที่ได้รับจากเรือนจำไปใช้ประกอบอาชีพสุจริตหาเลี้ยงตนเองได้ สังคมพร้อมรับกลับสู่สังคม เป็นกระบวนการแก้ปัญหานักโทษไม่ให้กลับมาทำผิดซ้ำได้ สังคมคิดว่าเป็นการก้าวผิดพลาดให้โอกาสกลับมาเป็นคนดี ผู้ที่พ้นโทษอยู่ร่วมกับสังคมได้ เป็นการคืนคนดี ทำให้นักโทษกลับมาเป็นคนที่มีคุณค่าอีกครั้ง,ถือเป็นมิติใหม่กรมราชทัณฑ์ ซึ่ง พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เข้ามาใช้ความ เข้าใจและเข้าถึง กลุ่มนักโทษในเรือนจำ พัฒนาความรู้ สร้างงานอาชีพให้ผู้ต้องขัง เตรียมพร้อมในวันที่พ้นโทษออกมาไม่คิดกลับไปทำผิดซ้ำ,เพื่อลดจำนวนนักโทษ ที่ย้อนกลับไปทำผิด สนองนโยบายรัฐบาล.,ทีมข่าวอาชญากรรม
ปัญหาผู้ต้องขังพ้นโทษออกมาทำความผิดซ้ำ เป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมานาน เป็นโจทย์ที่รัฐบาลทุกยุคสมัยพยายามจะแก้ไข แต่ยังทำไม่สำเร็จ
ข่าว,อาชญากรรม
กรมราชทัณฑ์,ทีมข่าวอาชญากรรม,แกะรอยรอบสัปดาห์,สร้างอาชีพให้นักโทษ,นักโทษ
https://www.thairath.co.th/news/crime/1230867
บิ๊กตู่ สั่งกวาดล้างแป๊ะเจี๊ยะ ขับเคลื่อนปฏิรูปคัด 30 เรื่องโดนใจทำทันที
หาแนวทางให้เด็กเลิกเรียนกวดวิชา ให้คนแจ้งความได้ทุกท้องที่ จัดให้มีทนายบนโรงพักไว้ช่วยเหลือประชาชน ปลูกต้นไม้มีค่าในบ้านตัดได้ไม่ผิดกฎหมาย,นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการให้ตนเองในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นคณะกรรมการชุดใหม่ที่นายกฯลงนามแต่งตั้งเมื่อวันที่ 17 เม.ย.เพื่อให้นำแผนการปฏิรูปประเทศไปสู่การปฏิบัติให้ได้ ไปเร่งดำเนินโครงการที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนและสามารถทำได้ทันที (Quick Win) ประมาณ 30 เรื่อง,นายกฯสั่งการว่าการดำเนินโครงการควิกวิน อย่าไปคิดเอาเอง ให้ดูและเลือกเรื่องที่ประชาชนอยากได้และมีความสนใจ เช่น เรื่องการศึกษา ให้แก้ ปัญหาการจ่ายแป๊ะเจี๊ยะเพื่อเข้าโรงเรียนให้หมด ไปจากประเทศไทย หรือทำอย่างไรให้เด็กไม่ต้องเข้าเรียนกวดวิชา หรือเรื่องการปฏิรูปตำรวจ อย่าไป มองเรื่องการโยกย้ายหรือการให้สวัสดิการ แต่ให้ดูว่าจะให้ประชาชนแจ้งความทุกท้องที่ได้อย่างไร และให้มีทนายในสถานีตำรวจเพื่อช่วยเหลือประชาชน รวมไปถึงการใช้เลขหมายด่วน 191 เพียงเบอร์เดียว และการจัดทำเว็บไซต์หางาน ที่แตกต่างจากเว็บไซต์ปกติ เพราะจะมีข้อมูลระบุชัดเลยว่าเรียนจบสาขาใด เมื่อทำงานจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ เพื่อให้ประชาชนจะได้วางแผนล่วงหน้าได้ และยังรวมถึงการให้ปลูกต้นไม้มีค่าในบ้าน และตัดได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งผมจะพยายามทำให้ได้เดือนละ 6-10 เรื่อง และเพิ่มเรื่องใหม่ เข้ามาอีกเรื่อยๆ นายกอบศักดิ์กล่าว,รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะเรียกประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปในสัปดาห์หน้าทันที ซึ่งการที่นายกฯเซ็นคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา เพราะห่วงว่าการปฏิรูปจะ ล่าช้าและไม่เกิดผลแท้จริง เนื่องจากมีเรื่องต้องปฏิรูปนับพันเรื่อง โดยคณะกรรมการชุดนี้มีขนาดเล็กแค่ 15 คน จะมีหน้าที่ติดตามและทวงถามเรื่องที่ต้องเร่งปฏิรูปแทนนายกรัฐมนตรี จะแตกต่างจากคณะกรรมการปฏิรูปที่ผ่านมาที่เป็นคณะใหญ่,ขณะเดียวกัน นายกฯยังสั่งการให้เร่งปรับแก้ กฎหมายหรือตรากฎหมายใหม่เพื่ออำนวยความสะดวก แก่ประชาชน ประมาณ 80 ฉบับ และให้เร่งโครงการสำคัญตามแผนการปฏิรูปประเทศ เรียกว่าเป็นเรือธง หรือ Flagship ประมาณ 110 เรื่อง ซึ่งจะต่างจาก โครงการควิกวินตรงที่โครงการที่เป็นเรือธงอาจเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน หรือเป็นเรื่องของการ ปฏิรูปเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเลย เช่น ที่นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ต้อง การปฏิรูปกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาใหม่ หรือเรื่องการบริหารจัดการน้ำของประเทศ,ขณะที่การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาตินั้นที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าของร่างยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้าน โดยจากนี้จะจัดทำออกมาเป็นแผนแม่บทในเรื่องต่างๆ เพื่อให้ทุกหน่วยงานนำโครงการภายใต้แผนแม่บทไปปฏิบัติตาม ซึ่งหน่วยงานใดไม่ปฏิบัติตามจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ตามมาตรา 157 เพื่อป้องกันไม่ให้ เกิดปัญหาเหมือนในอดีต เช่น กรณีที่บางโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐอย่างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า เมื่อจัดทำมาเสร็จสิ้นในรัฐบาลหนึ่งแล้ว แต่รัฐบาลต่อไปไม่ได้สานต่อโครงการหรือยกเลิกโครงการไป ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่องและไม่เกิดการพัฒนาประเทศในระยะยาว, ,นายกรัฐมนตรีได้ขอให้การทำงานต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยเฉพาะโครงการที่มาจากความต้องการของประชาชนจริงๆ ทางคณะกรรมการขับเคลื่อนต้องไปเร่งทำให้ชัดเจนว่ามีโครงการอะไรบ้าง ซึ่งงานในด้านปฏิรูปจะถูกทำออกมาเป็นแผนปฏิบัติการ เช่นเดียวกับแผนยุทธศาสตร์ชาติจะต้องทำออกมาเป็นแผนแม่บท และตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ จากนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. จะไปทำรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในวันที่ 9 พ.ค.2561 จากนั้นจึงเสนอเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันที่ 8 มิ.ย. 2561 ก่อนจะประกาศใช้ตามกฎหมายในเดือน ก.ค.2561.
ประยุทธ์ สั่ง กอบศักดิ์ ขับเคลื่อนปฏิรูปสู่การปฏิบัติแบบเห็นผลเป็นรูปธรรม เลือก 30 เรื่องที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนมาทำก่อน เริ่มจากการแก้ปัญหาแป๊ะเจี๊ยะให้หมดประเทศ
ข่าว,เศรษฐกิจ
แป๊ะเจี๊ยะ,ยุทธศาสตร์ชาติ,ทุจริต,คอรัปชั่น,ปราบทุจริต
https://www.thairath.co.th/news/business/1260921
ศิริพร เห็นกับตาก่อนออกมาแบบโง่ๆ พร้อมยกสมบัติให้สามี-ลูก 10 ล้าน (คลิป)
หลังจากที่มีกระแสข่าวว่านักร้องดัง นาง ศิริพร อำไพพงษ์ มีปัญหากับลูกบุญธรรมที่เลี้ยงมา 10 ปี กับปมแย่งสามี โดยนักร้องชื่อดังได้เดินทางไปร่วมทอดผ้าป่า ที่วัดป่าสว่างธรรม ต.ดอนกลอย อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี ได้เปิดเผยเรื่องนี้ในรายการข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ว่า,โดยบอกว่าตนเองเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าไม่เห็นกับตา อดทนจนถึงที่สุด จึงตัดสินใจออกจากบ้านมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ยกทั้งบ้าน รถเบนซ์ รถตู้ เงินสด รวมกว่า 10 ล้านบาท ให้กับสามี และไม่โกรธลูกบุญธรรมด้วย บอกว่าเป็นชะตาฟ้าลิขิต พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่าออกมาโพสต์ด่าทำไม ไหนบอกว่ารักแม่ นับถือแม่ แบบนี้เรียกว่าด่าแม่,ศิริพรเผยต่อว่า ตัดสินใจออกจากบ้านมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่มีคนรู้ว่าออกมาด้วยสาเหตุอะไร และตนเองก็ไม่อยากจะพูดถึงเหมือนกัน ตอนที่ออกมาก็ออกมาอย่างโง่ๆ เดินออกมาจากบ้านหลังนั้น เรื่องมันเกิดขึ้นมานาน ไม่อยากจะพูดถึง,ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่าไปมีความสัมพันธ์กับคุณเล็ก บอกว่าจริงๆ แล้วทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ไม่ได้เป็นคู่รักกันแต่อย่างใด คุณเล็กมีลูกมีสามีไม่อยากพูดถึง แต่ก็ไม่สามารถไปกั้นความคิดของคนอื่นได้ และไม่โทษใคร แฟนก็ไม่โทษ น้องก็ไม่โทษ โทษดวงชะตาของตัวเองมากกว่า ทำไมถึงต้องเป็นอย่างนี้ ขนาดทำบุญแบบนี้ยังเป็นอย่างนี้เลย.
พี่นาง ศิริพร เปิดใจว่าถ้าไม่เห็นกับตาไม่เชื่อ พร้อมเผยออกจากบ้านมาโง่ๆ กว่า 1 ปี ไม่โกรธลูก-ผัว แต่โทษชะตาชีวิตตัวเอง
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
นาง ศิริพร อำไพพงษ์,นักร้องหมอลำ,ศิริพร ลูกบุญธรรม,ศิริพร ลูกบุญธรรมแย่งสามี,นักร้อง
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1594328
การบินไทยชี้แจง ไทยสมายล์ ยังพร้อมให้บริการ
วันนี้ (19 ส.ค.63) นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวเรื่องการยุบ บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการบินไทยนั้น ขณะนี้บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลล้มละลายกลาง ตามที่บริษัทฯ ได้ขอยื่นคำร้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และศาลล้มละลายกลางได้นัดไต่สวนครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา และจะมีการไต่สวนเพิ่มเติมในวันที่ 20 และ 25 ส.ค.นี้ ซึ่งเมื่อกระบวนการไต่สวนแล้วเสร็จ ศาลจึงจะมีการพิจารณาว่า บริษัท การบินไทยฯ ควรเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูหรือไม่ รวมทั้งศาลจะแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนซึ่งจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปหลังจากนั้น คณะผู้ทำแผนจะดำเนินการจัดทำแผนซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 3 - 5 เดือนอย่างไรก็ตาม ไทยสมายล์ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการบินไทย และเป็นสายการบินแบบ Full Service ยังคงให้บริการในเส้นทางภายในประเทศและภูมิภาคเหมือนเดิม แม้ว่าไทยสมายล์จะมีผลประกอบการขาดทุน แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา ไทยสมายล์ก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นตามลำดับ กล่าวคือ ขาดทุนน้อยลง และยังได้รับ 2 รางวัลจากการจัดอันดับโดยเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ (Tripadvisor Travellers Choice Airline Awards) ประจำปี 2563 ได้แก่ รางวัลแรกเป็น สายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชีย (Best Regional Airline - Asia) เป็นครั้งที่ 3 และรางวัลที่ 2 เป็น สายการบินยอดเยี่ยมอันดับ 1 ของประเทศไทย (Best Airline Thailand) ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 อีกทั้งการบินไทยและไทยสมายล์ยังเป็น 2 สายการบินแรกของประเทศไทยที่ได้รับมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety & Health Administration: SHA) เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยให้แก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทางทั้งนี้ บริษัทฯ ขอให้ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร เจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น รวมทั้งสาธารณชนเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะจัดทำแผนการกำกับดูแลบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ให้สามารถดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำกำไรได้ต่อไป
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยืนยัน ไทยสมายล์ยังเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท การบินไทยฯ ซึ่งมีความพร้อมในการให้บริการทั้งภายในประเทศและภูมิภาค
เศรษฐกิจ
การบินไทย,ไทยสมายล์,ล้มละลาย
https://news.thaipbs.or.th/content/295627
ช่วยล้านคนพ้นเส้นความยากจน
เข้าฝึกอบรมเพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้ถือบัตร 4 ล้านคน ที่แสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการนั้น พบว่ากลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี เมื่อได้รับการฝึกอบรมหรือพัฒนาอาชีพแล้วมีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวน 1 ล้านคน จากที่ฝึกอบรมทั้งหมด 2 ล้านคน ขณะที่กลุ่มคนที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีนั้น มีรายได้เกินกว่า 100,000 บาทต่อปี จำนวน 100,000 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก โดย กระทรวงการคลังจะนำเรื่องนี้เสนอให้ ครม.พิจารณาเพื่อต่ออายุโครงการอีก 6 เดือน,หลังจากที่สิ้นสุดโครงการแรกเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ปีที่แล้วมีผู้ถือบัตรเข้าร่วมโครงการ 4 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นคนยากจน และมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน หรือมีรายได้ 30,000 บาทต่อปี ถึง 2 ล้านคน และเมื่อผ่านการฝึกอบรมไปแล้ว คนกลุ่มนี้มีรายได้มากขึ้น และพ้นเส้นความยากจนถึง 1 ล้านคน คิดเป็น 50% ทำให้ผมคิดว่าควรทำโครงการนี้ต่อไปอีก 1 รอบ โดยมีเวลาอบรม 5 เดือน เริ่ม ก.พ.-มิ.ย. คาดว่าจะใช้งบ 18,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 3,000 ล้านบาท,นอกจากนี้ จะเสนอให้ ครม.อนุมัติให้กระทรวงการคลังดำเนินโครงการสละสิทธิ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาทต่อเดือน เพื่อนำไปมอบให้ผู้ถือบัตรที่จนและชรา ซึ่งปัจจุบันมี 4 ล้านคน โดยแต่ละปีรัฐได้ตั้งงบจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั่วประเทศ 70,000 ล้านบาท หรือ 9-11 ล้านคน โดยโครงการนี้กระทรวงการคลังจะร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทยเพื่อให้ประชาชนสามารถแสดงความจำนงสละสิทธิ์ได้สะดวกและง่ายขึ้น โดยโครงการจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ.เป็นต้นไป ซึ่งในช่วง ก.พ.-มี.ค. หากผู้สูงอายุที่สละสิทธิ์การรับเบี้ยยังชีพจะได้รับเหรียญพระคลังรุ่นที่ 3.
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการสำรวจโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือบัตร 11.4 ล้านคน
ข่าว,เศรษฐกิจ
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์,บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ,รายได้ต่ำ,เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ,งบจ่ายเบี้ย
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1469103
นท ขอโทษ ออม-ลูกหนัง เหตุถูกโยงมือที่ 3 เลิก พีช
ก่อนหน้านี้ทำเอาแฟนๆ ตกใจไม่น้อย ที่อยู่ดีๆ ความรักของคู่เลิฟเด็กแนว พีช พชร จิราธิวัฒน์ และ นท พนายางกูร จบลง หลังดูใจมานานกว่า 3 ปี ซึ่งฝั่งสาวนทเองดูจะเสียใจไม่น้อย เพราะเมื่อสื่อถามถึงเรื่องนี้ เจ้าตัวก็ร้องไห้กลางวงสัมภาษณ์ ฝั่งหนุ่มพีชเองก็ถูกโยงเป็นข่าวกับสาวๆ ทั้งนางเอกหน้าแบ๊ว ออม สุชาร์ มานะยิ่ง และลูกหนัง ศีตลา วงศ์กระจ่าง ทายาทของคู่เลิฟวงการบันเทิง ตั้ว ศรัณยู และ เปิ้ล หัทยา วงศ์กระจ่าง ซึ่งทั้งคู่เลยไม่พ้นถูกมองว่าเป็นมือที่ 3 ที่ทำให้ความรักของ นท-พีช ต้องจบลง นักข่าวเลยถามนททุกประเด็น หลังมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวโรงภาพยนตร์ระบบ MX4D ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์,ถามถึงสภาพจิตใจเราตอนนี้เป็นไงบ้าง? นทโอเค จริงๆ โอเคตั้งนานแล้ว แต่วันนั้นตกใจเฉยๆ ไม่เคยต้องมาพูดเรื่องส่วนตัวกับทุกคน เลยทำตัวไม่ถูกเฉยๆ ค่ะ แฟนๆ ก็ให้กำลังใจเยอะเลย? ก็ดีใจที่ทุกคนให้กำลังใจ แฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์ว่าเราดูผอมลงไป ยังทำใจไม่ได้รึเปล่า? อ๋อ เปล่า ช่วงนี้จริงๆ กินเยอะมาก แต่เริ่มออกกำลังกายด้วยค่ะ แต่ผอมก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอคะ (ยิ้ม) ไม่เกี่ยวกับว่าตรอมใจ? ไม่เกี่ยวค่ะ เราแฮปปี้ค่ะ เราโอเค หลังจากนั้นเราได้คุยกับเขาบ้างไหม? ยังค่ะ ยังไม่ได้คุยกันค่ะ มีคนโยงว่าเป็นมือที่ 3 ทั้งออม สุชาร์ และน้องลูกหนังเลย? นทว่าเรื่องนี้เราไม่ต้องพาดพิงถึงคนอื่นดีกว่า นทไม่อยากพูดว่าเรื่องเป็นยังไง หรือมีใครเกี่ยวข้อง นทรู้สึกว่ามันเป็นอดีตไปแล้ว ทุกคนควรจะเดินหน้าต่อไป นทอยากให้หลายๆ คนที่มองมาที่เราโดยไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักน่ะ เราโฟกัสที่งานดีกว่า พัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี เรื่องงานตัวเอง เรื่องเรียนดีกว่า ตอนนี้ 2 สาวก็โดนคนเข้าไปคอมเมนต์แรงๆ ว่าเป็นสาเหตุให้เรากับพีชเลิกกัน? ก็ต้องขอโทษเขาด้วยที่ทำให้โดนเอฟเฟกต์นี้ แต่กับพี่ออมไม่มีค่ะ พี่ออมเป็นพี่สาวที่น่ารักมากๆ ส่วนน้องหนังไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เห็นว่าน้องน่ารักมากๆ เหมือนกันค่ะ คนมองว่าที่เราเลิกกันเพราะมีมือที่ 3? อันนี้นทขอไม่พูดแล้วกัน เพราะว่ายังไงก็เป็นอดีตไปแล้วค่ะ ไม่ต้องพูดถึงหรอก,หลายคนก็โดนเอี่ยวไปด้วย เรารู้สึกยังไงบ้าง? ก็รู้สึกแย่แหละ คือไม่อยากให้ใครมาซวยเพราะเรื่องเราค่ะ นทเชื่อว่ามันเป็นเรื่องคนสองคน ก็ให้เป็นเรื่องคนสองคนดีกว่า ระหว่างที่คบกันไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึก เอ๊ะ อะไรใช่ไหม? ขอไม่พูดถึงดีกว่า พูดถึงเรื่องอื่นดีไหม หลายคนที่ยังสงสัยเรื่องมือที่ 3 มีอะไรอยากบอกไหม? ก็ขอไม่พูดถึงเลยดีกว่า ให้มันเป็นเรื่องของอดีตไป เราเดินหน้าต่อไป อยู่กับปัจจุบันดีกว่าค่ะ ไม่ต้องพูดถึงมันแล้ว ปล่อยให้มันผ่านไปค่ะ พอเราพูดว่าห่างกันแล้ว พีชก็ขึ้นรูปในไอจี เราได้เห็นบ้างไหม? ไม่ได้เห็นเหมือนกัน ไม่รู้ (หัวเราะ) จะมีการกลับมาพูดคุยกันไหม? จริงๆ ก็พร้อมคุย แต่ว่ามันก็ต้องอยู่ในเวลาที่ถูกต้อง นทเชื่อว่าวันนึงต้องคุยกันได้แน่นอน สบายมากอยู่แล้วค่ะ ตอนนี้ทิ้งระยะกันไปก่อน? อาจจะดีกว่าสำหรับเราทั้งสองคนค่ะ วันนึงก็กลับมาเป็นเพื่อนกันได้? แน่นอน นทพร้อมเป็นเพื่อนเสมอค่ะ 3 ปีที่ผ่านมามันมีเรื่องราวดีๆ เยอะมาก เวลา 3 ปีมันก็นานนะคะ เป็นเพื่อนได้แน่นอนค่ะ ไ่ม่มีปัญหา ตั้งแต่วันแรกที่เราห่างจนถึงตอนนี้กี่เดือนแล้ว? เดือนนิดๆ มั้ง,มีกระแสว่าที่เราเลิกกับพีชเพราะว่าเพื่อนของพีชมีอิทธิพล และเพื่อนเขามีแฟนเป็นนางแบบ? เราก็เป็นนางแบบนะ (ยิ้ม) จริงๆ สูงแต่เก็บขาไว้ที่บ้าน คิดเห็นยังไงกับกระแสนี้? ไม่มีความคิดเห็นอะไรค่ะ เพราะว่าเรามั่นใจว่าเราก็ไม่แพ้ค่ะ (หัวเราะ) ไม่ใช่เรื่องนี้ค่ะ เรากับเพื่อนเขาเข้ากันได้ดี? ได้ดีค่ะ เป็นคนเข้าได้กับทุกคนอยู่แล้ว เพื่อนๆ เขาก็น่ารักมาก ทุกคนไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ แต่ก็มีกระแสอีกว่าพ่อแม่พีชไม่ค่อยปลื้มเรา? อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะว่าเวลาที่เจอคุณพ่อคุณแม่เขาก็น่ารักมากๆ ค่ะ กระแสออกมาค่อนข้างเยอะมาก? ไม่หรอก นทว่าเป็นเรื่องปกติธรรมชาติของมนุษย์ ที่เวลามีเรื่องอะไรก็จะพยายามหาคำตอบ ซึ่งนทคิดว่าเรื่องนี้มันเกิดจากคนสองคน เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องไปหาคำตอบให้มันหรอก คิดซะว่าเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว นทเองก็มีแฟนคลับเด็กๆ เยอะ นทไม่อยากให้น้องๆ มองว่า เฮ้ย พี่นทโฟกัสแต่ความรัก ไม่อยากเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับน้อง เรารู้สึกว่าคนในวัยเดียวกันหรือเด็กกว่า ยังไม่ควรเอาความรักมาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา เราควรจะเอาเรื่องงาน การเรียน เรื่องอื่นๆ ดีกว่าค่ะ ตอนนี้โฟกัสแต่เรื่องงานอย่างเดียว? ใช่ ตอนนี้แฮปปี้มากกับงานค่ะ มีหนุ่มมาจีบบ้างไหม? ไม่มีค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ก็ไม่ได้อะไรมาก นทคิดว่าถ้าเวลามันใช่เดี๋ยวก็มาเองค่ะ ความรักครั้งต่อไปจะทำให้เราโตขึ้น? แน่นอน นทเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันมีเหตุผลที่ดีของมันเสมอ มันจะทำให้เราโตขึ้นค่ะ เข็ดความรักไหม? ไม่หรอก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุผลที่ดีเสมอ,โสดแล้วงานเยอะขึ้นไหม ดูสดใสขึ้น? ก็อาจจะเป็นเพราะยังงั้น (หัวเราะ) เหมือนเราตั้งใจทำงาน อยากเก็บเงินมากขึ้น อยากดูแลคุณพ่อคุณแม่ให้ได้ค่ะ ตอนนี้มีวงดนตรีอินดี้ อิเล็กทรอนิกส์ป็อป ทำกับรุ่นพี่ที่คณะ ชื่อวง X0809 เดี๋ยวอีพีจะออกประมาณปลายปี และทำกับแอปเปิ้ลมิวสิกด้วย ก็ทำเองค่ะ ไม่เกี่ยวกับค่ายค่ะ ตอนนี้นทออกมาเป็นฟรีแลนซ์ค่ะ ทำไมถึงตัดสินใจเป็นฟรีแลนซ์? เพราะว่ามันถึงจุดนึงที่เรารู้สึกว่าเราโตแล้ว เรารู้แล้วว่าเราอยากเดินไปทางไหนค่ะ ซึ่งทางค่ายก็น่ารักมาก ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ น่ารักมากค่ะ พอมีอิสระมากขึ้น แนวเพลงเปลี่ยนไปไหม? ก็เปลี่ยนไปค่ะ อาจจะเข้าใจยากหน่อย (หัวเราะ) แต่นทเชื่อว่าพอทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวคนจะเริ่มเข้าใจเองค่ะ มีภาพให้เห็นชัดเจนขึ้น เหมือนเป็นตัวเองมากขึ้น? ใช่ค่ะ ถ้าเพลงที่ทำเองจะเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย แต่ว่ายังร้องเพลงไทยอยู่ค่ะ มีซิงเกิลแรกรึยัง? มีแล้วค่ะ จริงๆ เพิ่งปล่อยไปสักพัก แต่ว่าอีพีจะปล่อยปลายปีนี้ ซึ่งอีพีน่าจะทำให้ทุกคนเข้าใจได้มากกว่าว่าเราทำอะไรค่ะ.
นทเผยสภาพจิตใจโอเค หลังเลิก พีช พชร ย้ำยังเป็นเพื่อนกับอีกฝ่ายได้ ปัดพ่อแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม โต้ผอมลงเพราะตรอมใจ ขอโทษ ออม สุชาร์ และลูกหนัง ศีตลา เหตุถูกโยงข่าวเป็นมือที่ 3 เลิกพีช แฮปปี้ชีวิตโสดไร้คนจีบ ขอโฟกัสงาน-พัฒนาตัวเอง
null
นท พนายางกูร,พีช พชร จิราธิวัฒน์,นท พีช,นท เดอะสตาร์,ความรัก,เลิก,มือที่ 3,ออม สุชาร์ มานะยิ่ง,ลูกหนัง ศีตลา วงศ์กระจ่าง,ข่าว,ข่าวบันเทิง,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/645579
เยาวชนไทยจากยุโรป 5 ประเทศ ร่วมตามรอยพระยุคลบาท
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. เวลา 18.00 น. คณะกรรมการโครงการยุวชนไทยในต่างแดนตามรอยพระยุคลบาท ครั้งที่ 6 ที่เป็นโครงการของชาวไทยในต่างประเทศที่มาเยือนประเทศไทยอีกคณะหนึ่งในปีนี้ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้จัดงานเปิดโครงการฯ ที่โรงแรมพินนาเคิล กรุงเทพฯ เริ่มเปิดงานโดยนักเรียนไทยโชว์การเล่นไวโอลินในบทเพลงพระราชนิพนธ์ และการแสดงชุดฟ้อนอวยพร สร้างความประทับใจแก่เยาวชนจากยุโรปและผู้ปกครอง,จากนั้น ผศ.วัลลีพันธุ์ สถิตยุทธการ อดีตผู้อำนวยการสถาบันการท่องเที่ยวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประธานในพิธี ได้กล่าวเปิดโครงการอย่างเป็นทางการ และนางวิภาวี ชัยยงค์ อดีตรอง ผอ.ร.ร.สาธิต มศว.ปทุมวัน ตัวแทนคณะกรรมการกล่าวอาเศียรวาท เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อจากนั้น นางรัตนวดี เหมนิ อดีตรอง ผอ.ร.ร.สาธิต มศว ธิ วินเธอร์ ภริยาเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย กล่าวต้อนรับคณะเยาวชนและนำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชา เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ,นางวนิดา สมิทธิวิวรรธน์ ประธานชมรมเด่นใจ และสมาคมรักษ์ไทย ประเทศเดนมาร์ก เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการว่า เพื่อนำเยาวชนไทยในยุโรปและผู้ปกครองกลับมาร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เรียนรู้และรับทราบถึงพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากโครงการพระราชดำริต่างๆ ที่จัดให้เยาวชนได้เยี่ยมชมและทัศนศึกษา รวมทั้งเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีไทยกับครูอาสา และทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนกับนักเรียนในประเทศไทย เพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นสายเลือดไทยและความภาคภูมิใจ จะได้นำกลับไปเผยแพร่และสร้างความเข้าใจอันดีต่อชาวต่างประเทศ ซึ่งปีนี้มีเยาวชนอายุระหว่าง 10-18 ปี จาก 5 ประเทศในยุโรป ได้แก่ เดนมาร์ก, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ เข้าร่วมโครงการรวม 27 คน,สำหรับกิจกรรมโครงการฯ ครั้งนี้ เยาวชนและผู้ปกครอง จะร่วมบันทึกเทปถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2559, เยี่ยมชมโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา, ชมโครงการศึกษาพัฒนาภูพาน จ.สกลนคร และเดินป่าตามรอยพ่อ, ชมพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง และศูนย์ปิดทองหลังพระ จ.อุดรธานี พร้อมทัศนศึกษาสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีไทยและวัฒนธรรมไทย กับนักเรียนโรงเรียนกบินทร์วิทยา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการเปิดโครงการฯ แล้ว ได้มีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะเยาวชนและผู้ปกครองที่ห้องอาหาร โรงแรมพินนาเคิล โดยมีศิลปินจากค่ายอาร์สยาม เครือ บมจ.อาร์เอสฯ มาร่วมสร้างความบันเทิงคับคั่ง อาทิ นุช วิลาวัลย์, ลูกน้ำ อาร์สยาม, พี ทองพูน, ศานต์ มุกดา, เชอรี่ จีออล, หมิง หมิง, สัมฤทธิ์ นิยม และ โกซิ่ง บางนา เป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในงาน และดีใจที่ได้พบศิลปินตัวจริง ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันคึกคัก.
เยาวชนไทยจากยุโรป 5 ประเทศ ร่วมโครงการยุวชนไทยในต่างแดนตามรอยพระยุคลบาท มาเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในหลวง-ราชินี พร้อมทัศนศึกษาโครงการพระราชดำริ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีไทยและวัฒนธรรมกับนักเรียนไทย
null
โครงการยุวชนไทยในต่างแดนตามรอยพระยุคลบาท,เยาวชนไทยจากยุโรป,วัลลีพันธุ์ สถิตยุทธการ,วิภาวี ชัยยงค์,รัตนวดี เหมนิ,วนิดา สมิทธิวิวรรธน์,สมาคมรักษ์ไทย ประเทศเดนมาร์ก,เดนมาร์ก,อังกฤษ,ฝรั่งเศส,นอร์เวย์,สวิตเซอร์แลนด์,เยาวชนไทยในต่างแดน,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/668556
ฝุ่นPM2.5: หยุดเรียน ควันไฟป่าลามกระทบ ม.เชียงใหม่ หยุดเรียน 14-15 มี.ค.นี้
วันนี้ (13 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกประกาศลงวันที่ 13 มี.ค.นี้เรื่องงดการเรียนการสอนและมาตรการสืบเนื่องจากสถานการณ์หมอกควันโดยระบุว่าสืบเนื่องจากสถานการณ์ หมอกควันที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตระหนักถึงสุขภาพของนักศึกษาและบุคลากร อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 และ 38 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. 2551 จึงกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องดังนี้เชียงราย ฝุ่นพิษสูง 3 เท่าขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ เมื่อเวลา 18.00 น. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยฝุ่นPM2.5 ตรวจพบค่าระหว่าง 59-169 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐานดังนี้ส่วนฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 87-215 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐาน ดังนี้ก๊าซโอโซน (O3) ตรวจพบค่าระหว่าง 65 - 96 ส่วนในพันล้านส่วน (ppb) เกินมาตรฐานที่บริเวณ เกินมาตรฐานที่บริเวณต.ในเวียง อ.เมือง น่าน ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ น่าน ต.พระบาท อ.เมือง ลำปาง ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ลำปาง ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ลำปาง ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลำปาง ต.บ้านกลาง อ.เมือง ลำพูน ต.เวียง อ.เมือง เชียงราย ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่ ต.นาจักร อ.เมือง แพร่อ่าน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกาศปิดเรียน 2 วัน เริ่ม 14-15 มี.ค.นี้ หลังได้รับผลกระทบจากมลพิษจากหมอกควันไฟป่า ซึ่งล่าสุดเวลา 18.00 น.กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นPM 2.5 ที่เชียงใหม่เกินมาตรฐาน 2 เท่า
สิ่งแวดล้อม
ฝุ่นPM2.5,มลพิษ,สุขภาพ,มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ฝุ่นคลุมเมือง
https://news.thaipbs.or.th/content/278386
เตือนเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สไร้มาตรฐานเสี่ยงตาย แค่ธ.ค.เจอหมดสติ 5 คน
วันนี้ (28ธ.ค.2560) นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงเดือนธ.ค.นี้มีรายงานพบผู้เป็นลมหมดสติในห้อง น้ำขณะใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สจำนวน 5 รายในจ.เชียงใหม่ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สที่ไม่ได้มาตรฐานและห้องน้ำไม่มีระบบระบายอากาศที่ดีจากเหตุการณ์ดังกล่าว ประชาชนที่ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สต้องคำนึงถึงความปลอดภัยโดยเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นฯ ที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมหรือ มอก. ต้องเปิดพัดลมระบายอากาศทุกครั้งที่อาบน้ำ กรณีที่ไม่มีพัดลมระบายอากาศ หรือพัดลมระบายอากาศไม่ทำงาน หรือไม่มีช่องระบายอากาศ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส แต่หากจำเป็นต้องใช้ให้เปิดประตูไว้ในขณะอาบน้ำเพื่อให้ระบายอากาศได้กรณีอาบน้ำติดต่อกันหลายคน ให้เปิดพัดลมระบายอากาศและเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ อย่างน้อย10-15 นาที เพื่อให้อากาศถ่าย เทก่อนที่คนถัดไปจะอาบน้ำต่อหากมีคนอาบน้ำนานผิดปกติให้รีบช่วยเหลือโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินหายใจควรมีผู้คอยดูแลช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดขณะอาบน้ำนพ.ดนัย กล่าวว่า ทั้งนี้ให้สังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับแก๊สระหว่างใช้ห้องน้ำ เช่น วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด และหายใจลำบาก ควรรีบออกจากห้องน้ำหรือให้การช่วยเหลือทันที หรือหากได้กลิ่นแก๊สผิดปกติ ควรรีบเปิดประตู ปิดเครื่องทำน้ำอุ่น ออกจากห้องน้ำและแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หากพบผู้ป่วยที่หมดสติในห้องน้ำที่ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ควรรีบให้การช่วยเหลือ โดยนำผู้ป่วยไปยังพื้นที่โล่งที่มีอากาศถ่าย เทได้สะดวก นอนราบ หากผู้ป่วยหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น ให้ทำการช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และรีบนำส่งหรือแจ้งสถานบริการสาธารณสุขใกล้ที่สุดหรือติดต่อสายด่วนช่วยชีวิต 1669
กรมอนามัย เตือนพบความเสี่ยงติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สที่ได้มาตรฐาน-ห้องน้ำระบายอากาศไม่ดี แค่เดือน ธ.ค.นี้พบมีคนหมดสติ5 คนในห้องน้ำ แนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
สังคม
กรมอนามัย,เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส,น้ำอุ่น,หนาว,สุขภาพ,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/268909
โควิด-19 ป่วนช้างขาดอาหาร เร่งส่งเสริมเกษตรกรปลูกหญ้า
นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า วิกฤติโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวขาดหาย ประกอบกับปีนี้วิกฤติภัยแล้งกินเวลานาน ส่งผลให้ปางช้างหลายแห่งขาดแคลนพืชอาหาร ทำให้ปางช้างในจังหวัดต่างๆ ขอความช่วยเหลือมายังกรมปศุสัตว์ ช่วยจัดหาพืชอาหารสัตว์บรรเทาความเดือดร้อน น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ มีนโยบายให้สำนักพัฒนาอาหารสัตว์เร่งจัดพืชอาหารส่งไปยังปางช้างอยุธยาในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย อย่างเร่งด่วนการช่วยเหลือในระยะแรก ทางศูนย์วิจัยพัฒนาอาหารสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่ปางช้างแต่ละจังหวัด ได้จัดส่งหญ้าแพงโกล่าอัดฟ่อน 200 ฟ่อน หนัก 4 ตัน พร้อมอาหารเสริมป้องกันไม่ให้ช้างมีปัญหาสุขภาพ ส่วนระยะที่ 2 ปางช้างจะนำเงินจากมูลนิธิที่ผู้ใจบุญสนับสนุน นำมาซื้อหญ้าแพงโกล่าจากแปลงเกษตรกร เพราะแต่ละสัปดาห์ใช้หญ้าเลี้ยงช้างจำนวนมาก คาดว่าช่วยให้กลุ่มเกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายหญ้าให้กับปางช้างไม่ต่ำกว่าเดือนละ 8000-10000 บาทด้าน นายอิทธิพล เผ่าไพศาล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอาหารสัตว์ บอกว่า ช้างแต่ละตัวมีความต้องการอาหารวันละ 100-200 กก. ดังนั้น การแก้ปัญหาระยะยาว ส่วนหนึ่งปางช้างจะต้องปรับพื้นที่ปลูกพืชอาหารสัตว์ โดยให้กรมปศุสัตว์เป็นพี่เลี้ยงแนะนำการปลูกขณะนี้อยู่ระหว่างการเลือกว่าจะปลูกหญ้าชนิดไหน ระหว่างหญ้าเนเปียร์ที่เหมาะสำหรับใช้เลี้ยงพืชอาหารสด กับหญ้าแพงโกล่าที่เหมาะสมต่อการทำแห้งอัดฟ่อนขนย้ายสะดวก ซึ่งเดิมจะจำหน่ายให้ฟาร์มม้าแข่งเป็นหลัก ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับตลาดเดิม ช่วยเพิ่มตลาดใหม่ให้เกษตรกรกลุ่มผู้ปลูกหญ้าแพงโกล่า กรมปศุสัตว์จึงจัดโครงการส่งเสริมปลูกพืชอาหารสัตว์ เกษตรกรสนใจสอบถามได้ที่ 0-2501-1147.
วิกฤติโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวขาดหาย ประกอบกับปีนี้วิกฤติภัยแล้งกินเวลานาน ส่งผลให้ปางช้างหลายแห่งขาดแคลนพืชอาหาร
ข่าว,ทั่วไทย
ปางช้าง,กรมปศุสัตว์,ปางช้างอยุธยา,อยุธยา,อาหารสัตว์,ปลูกหญ้า,ข่าววันนี้,เกษตร
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1841569
เหตุทะเลาะ หนุ่มช่างสี หมัดหนัก เสยปลายคางเพื่อนช่างนาฬิกาดับอนาถ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. พ.ต.ท.ณัฐกานต์ วรรณพันธ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.โนนสูง ได้รับแจ้งจากศูนย์กู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี มีผู้บาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย ศีรษะน็อกพื้นไม่ได้สติ เข้ารักษาตั้งแต่เวลา 23.30 น. วันที่ 27 ธ.ค. และเสียชีวิตเวลา 05.30 น. วันที่ 28 ธ.ค. จึงรุดไปตรวจสอบสวน พบศพ นายวิรงค์ศักดิ์ ดิษยวรรธนะ อายุ 39 ปี ชาวบ้านเลื่อมพิลึก ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ศีรษะถูกกระทบอย่างรุนแรง มีเลือดคั่งในสมอง,สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นช่างซ่อมนาฬิกา มีแผงซ่อมอยู่ที่ตลาดเทศบาล 2 เขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนายพิพัฒน์ หรือ ปุ้ย เพราะไม่พอใจที่นายพิพัฒน์ชี้หน้า จึงชกต่อยกัน ผู้ตายถูกนายพิพัฒน์ชกปลายคางจนล้มลง ศีรษะกระแทกพื้น สลบไม่ได้สติ ญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 9 ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี 
,จากนั้นเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.พัฒนศักดิ์ อาณัติอักษร สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังจับกุม นายพิพัฒน์ หรือ ปุ้ย อินทร์ประเสริฐ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 9 บ้านเลื่อมพิลึก ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ควบคุมตัวไปโรงพัก,สอบสวน นายพิพัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นช่างสี และรู้จักกับผู้ตายเพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน ก่อนเกิดเหตุ หลังเลิกงานตนนั่งดื่มเหล้าที่บ้านเพื่อน ต่อมา ผู้ตายเดินมาตามภรรยา ซึ่งเมานอนหลับอยู่บ้านเพื่อนของตน ส่วนตนมีจิตอาสาไปยืนโบกรถที่ขับเข้า-ออกภายในซอย แต่ผู้ตายกล่าวหาว่าตนชี้หน้าด่า ทำให้มีการโต้เถียงกัน ผู้ตายเดินมาตบหน้าตน 1 ครั้ง ด้วยความโมโหประกอบกับความเมา ตนจึงชกสวนออกไป 2 หมัด ถูกบริเวณใบหน้าและปลายคาง ทำให้ผู้ตายล้มลงศีรษะน็อกพื้นซีเมนต์ไม่ได้สติ ชาวบ้านจึงนำส่งโรงพยาบาล ตนไม่ได้สนใจผู้ตาย คิดว่าสลบหมดสติธรรมดา ตนได้นั่งดื่มเหล้าต่อ พอตื่นเช้าก็ไปทำงาน และมาทราบว่าเสียชีวิต จึงกลับมาบ้าน และถูกตำรวจจับกุมทันที และแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยไม่ได้เจตนา ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป.
หมัดหนัก!! หนุ่มช่างสีถูกเพื่อนช่างซ่อมนาฬิกาตบหน้า ก่อนจะสวนหมัดออกไป 2 หมัด ถูกปลายคาง และใบหน้า ล้มคว่ำหัวฟาดพื้นไม่ได้สติ เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ข่าว,ทั่วไทย
หนุ่มช่างสีหมัดหนัก,ช่างซ่อมนาฬิกา,ต่อยปลายคาง,ต่อยตาย,อุดรฯ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1164875
เยอรมนี-กักตัว อดีตพระ วัดสัมพันธวงศ์
บิ๊กป้อมบอกอีก3วันรู้ชัด เผยกฎเกณฑ์ลี้ภัยมีเพียบ,บิ๊กป้อม เผยอดีตพระพรหมเมธีไม่ขอพบบิ๊กแป๊ะ บอกชัดอีก3วันรู้เรื่อง จะได้ตัวอดีตพระผู้ต้องหาเงินทอนวัดกลับมาดำเนินคดีเมืองไทยหรือไม่ เชื่อวางแผนไว้ก่อน เพราะเยอรมนีมีกฎหมายให้ลี้ภัย ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ นำหลักฐานการกระทำความผิดของอดีตพระพรหมเมธีเข้าประสานสถานทูตเยอรมนี ขอให้สำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเมืองเบียร์ พิจารณาส่งตัวกลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนคดีเงินทอนวัดจ่อขอศาลออกหมายจับ 2 ผัวเมียเจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ หลังแจงเงิน 3 ล้านจากวัดสามพระยาไม่ได้ อดีตเจ้าคุณปิงยังไม่พ้นวิบากหลังสึก ตำรวจ ปคม.ตรวจสอบอายุฆราวาสที่ร่วมตุ๋ยกะเล่นงานหากเข้าข่ายค้ามนุษย์,ภายหลัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. นำคณะบินด่วน ข้ามทวีปไปนครแฟรงก์เฟิร์ต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หลังรับแจ้งว่า นายจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรืออดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม 1 ในผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด หลบหนีออกประเทศทางชายแดนลาว บินข้ามประเทศไปขอลี้ภัยอยู่ที่นั่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางการเยอรมนี โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจกองปราบฯเปิดฉากจับอดีตพระเถระผู้ใหญ่ 7 รูป จาก 3 วัดใหญ่คือ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดสามพระยา และวัดสัมพันธวงศาราม ที่เกี่ยวข้องคดีทุจริตเงินทอนวัด รวมทั้งฆราวาสอีก 4 คน นำตัวฝากขังระหว่างสอบสวน ศาลไม่ให้ประกันตัว ในรายที่เป็นพระ ทั้งหมดถูกจับสึกและคุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกัน ตำรวจกองปราบฯยังเข้าจับกุมนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อดีตพุทธะอิสระ ที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ในความผิดฐานปลอมพระปรมาภิไธย และอั้งยี่ซ่องโจรระหว่างการชุมนุมทางการเมืองปี 57 ด้วย และถูกจับสึก หลังศาลไม่ให้ประกันตัวชั่วคราวตามที่เสนอข่าวไปนั้น,มีรายงานเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ในส่วนของการติดตามตัวนายจำนงค์ หรืออดีตพระพรหมเมธี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย นำโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่เดินทางไปประเทศเยอรมนียังไม่มีโอกาสได้พบอดีตพระพรหมเมธีที่ถูกกักตัวไว้ในการควบคุมของทางการเยอรมนี ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ได้รับรายงานมีการจับกุมอดีตพระพรหมเมธี ที่สนามบินนครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ได้ให้ ผบช.สตม. ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศประสานทางการเยอรมนี เพื่อขอรับตัวมาดำเนินคดีในไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน รายละเอียดยังเปิดเผยไม่ได้ในชั้นนี้ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน,มีรายงานว่า หลังตำรวจรู้ว่าอดีตพระพรหมเมธีถูกกักตัวที่สนามบินนครแฟรงก์เฟิร์ต พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. ได้ประสานเรื่องหมายแดงของอดีตพระพรหมเมธี ขอให้ทางการเยอรมนีควบคุมตัวไว้ และอดีตพระพรหมเมธีได้เตรียมเอกสารยื่นขอเป็นผู้ลี้ภัยกับสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งรับผิดชอบในส่วนของผู้ขอลี้ภัยในประเทศเยอรมนี โดยมีกงสุลใหญ่ประเทศไทยประจำนครแฟรงก์เฟิร์ต เป็นตัวแทนทางการไทย เข้าพบกระทรวงยุติธรรมของประเทศเยอรมนี เพื่อประสานงานกับสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ล่าสุดมีแนวโน้มจะนำเรื่องขอลี้ภัยของอดีตพระพรหมเมธีเข้าสู่การพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนของประเทศเยอรมนี ก่อนพิจารณาตามคำขอของทางการไทย จะทำให้ขั้นตอนประสานรับตัวอดีตพระพรหมเมธีต้องขยายเวลาไปอีกระยะหนึ่ง โดยตำรวจไทยได้เตรียมเอกสารชี้แจงให้เข้าใจในเรื่องการดำเนินคดีอดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาสำคัญในคดี เงินทอนวัด ไม่ได้เข้าข่ายเป็นผู้ขอลี้ภัยทางการเมือง,ส่วนเวลาเดินทางกลับของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีการกำหนดตั๋วเดินทางกลับไทยไว้ในวันที่ 6 มิ.ย. กลับถึงประเทศไทยเวลา 12.00 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 923 และวันที่ 7 มิ.ย. สายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 911 กลับถึงไทยเวลา 06.00 น. เป็นการจองตั๋วแบบออนไลน์ ไม่ได้กำหนดวัน เวลากลับที่ชัดเจน,ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ของลี้ภัยตามกฎของสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กระทรวงมหาดไทยเยอรมนี หรือ BAMF (จากข้อมูลในเว็บไซต์ทางการ www.bamf.de) มี 4 ข้อคือ 1.การขอลี้ภัยทางการเมือง 2.การขอลี้ภัยในประเทศฐานะผู้ลี้ภัย 3.การขอรับความคุ้มครองเพียงบางส่วน และ 4.การขอคุ้มครองเพื่อไม่ให้ถูกส่งไปยังประเทศต้นทาง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ขอความคุ้มครองฐานถูกละเมิดเสรีภาพทางศาสนา ความเชื่อทางการเมือง ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่มีความร้ายแรง และประเภทต่อมาการขอลี้ภัยด้วยเหตุผลถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดี ถูกปฏิบัติไม่เป็นธรรมด้วยเหตุผลการเมือง ศาสนา เชื้อชาติ อันละเมิดพื้นฐานความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง,ทั้งนี้ หลังจากการยื่นขอลี้ภัย สำนักงานจะเป็นผู้ตัดสินให้อนุญาตลี้ภัยหรือไม่ จากการพิจารณาหลักฐานทางเอกสาร เรียงความเหตุผลการขอลี้ภัย และการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ หากคำขอถูกปฏิเสธ ผู้ลี้ภัยสามารถใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ได้ตามอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย พ.ศ.2494 ด้วยการส่งคำร้องต่อศาล ศาลอาจใช้ระยะเวลาในการพิจารณาเป็นระยะเวลานานระดับหนึ่ง แต่ถ้าสุดท้ายศาลไม่อนุมัติก็เท่ากับว่า ผู้ลี้ภัยจะต้องเดินทางออกจากเยอรมนี หากไม่ปฏิบัติตามแล้ว เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถใช้อำนาจทางกฎหมายบังคับออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขด้วยว่า หากผู้ขอลี้ภัยไม่สามารถกลับประเทศต้นทางได้ด้วยกรณีใดๆ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองเยอรมนีจะมีอำนาจในการสั่งระงับการส่งตัวกลับประเทศ หรือมอบใบอนุญาตพำนักในเยอรมนีแก่ผู้ลี้ภัย,ส่วนการดำเนินการติดตามตัวอดีตพระพรหม–เมธีที่ประเทศไทย ช่วงสายวันเดียวกัน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผบก.สส.บช.สตม. เข้าพบตำรวจเยอรมนี และเจ้าหน้าที่สถานทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย เพื่อนำสำนวนหลักฐานการดำเนินคดีอดีตพระพรหมเมธีกับพวก ให้กระทรวงยุติธรรมของประเทศเยอรมนีประสานกับสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นำเรื่องเข้าพิจารณาในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อขอรับตัวมาดำเนินคดีในไทยโดยเร็วที่สุด ขณะนี้ ฝ่ายตำรวจ และกงสุลใหญ่ประเทศไทยประจำนครแฟรงก์เฟิร์ต ต้องกลับมาเริ่มต้นขั้นตอนชี้แจงเรื่องข้อหาดำเนินคดีอดีตพระพรหมเมธี เพื่อขอรับตัวกลับมาดำเนินคดี รวมทั้งประสานสายการบินกาตาร์แอร์ไลน์ เพื่อสืบสวนหาผู้ที่ประสานการเดินทางให้อดีตพระ พรหมเมธี ในการเดินทางมาที่ประเทศเยอรมนีด้วย,มีรายงานด้วยว่า ในส่วนของสำนวนการสอบสวนคดีเงินทอนวัดนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก เหลือเพียงการตรวจสอบเอกสารที่ยึดมาได้จากการตรวจค้นวัดต่างๆ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ประสานงานกับ ป.ป.ง. ให้อายัดบัญชีธนาคารทุกบัญชีที่เป็นบัญชีส่วนตัวของผู้ต้องหาทั้งหมด แต่ไม่ได้อายัดบัญชีของวัด เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด ในส่วนของวัดสามพระยาวรวิหาร พนักงานสอบสวนเตรียมที่จะขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาอย่างน้อย 2 คน ที่เกี่ยวกับการทุจริตเงินทอนวัด หลังพบว่า 2 สามีภรรยาเจ้าของร้านสังฆภัณฑ์แห่งหนึ่งมีเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับวัดสามพระยา และไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปได้ เป็นเงินจำนวนมากถึง 3 ล้านบาท,ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ เดินทางไปประเทศเยอรมนี เพื่อควบคุมตัวนายจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรือพระพรหมเมธี กลับมาดำเนินคดี รวมทั้งการแก้ปัญหาวิกฤติของพระสงฆ์ในประเทศไทย ว่า พระพุทธศาสนาของไทย คำสอนของพระพุทธเจ้าบิดเบือนไม่ได้อยู่แล้ว เป็นคำสอนที่พิสูจน์ได้มา 2,500 กว่าปีแล้ว มีความเป็นจริง เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะผิดหรือถูกนั้นอยู่ที่คน รวมทั้งพุทธศาสนิกชนและพระสงฆ์ ทั้ง 2 ฝ่ายต้องยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน กติกาที่เกี่ยวข้องซึ่งพระสงฆ์ก็มี พ.ร.บ.สงฆ์ และกฎหมายทั่วไปที่ต้องยึดถือทั้ง 2 แบบ ถือเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จะทำถูกหรือทำผิดเป็นเรื่องการกระทำผิดของบุคคลของพระ และผู้ที่นับถือศาสนาต้องแยกแยะออกจากกัน,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลทำแบบนี้ เพราะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามามาก รวมไปถึงปัญหา เงินทอนวัด ต้องพิสูจน์กันทางคดีความและกฎหมาย เจ้าหน้าที่ให้สิทธิกับทุกคน ไม่ใช่หนีออกไปต่างประเทศ ไม่ยอมรับกฎหมายมันไม่ได้ แล้วจะมาบอกว่ารัฐบาลทำลายพระพุทธศาสนา ยิ่งไม่ใช่ เราต้องช่วยกันทำให้เกิดการยอมรับจากทุกหมู่และทุกฝ่ายในการนับถือพระสงฆ์ และพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา วันนี้ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนต้องมีข้อมูลประสานการทำงานร่วมกัน และหารือว่าจะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน,การที่ผมออกมาขอโทษในการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุมพระสงฆ์ ไม่ใช่ขอโทษว่าเพราะเป็นใคร แต่ขอโทษเพราะบุคคลนั้นแต่งสงฆ์ การดำเนินการต่างๆ จำเป็นต้องเหมาะสมต่อผู้ที่แต่งสงฆ์ ต้องเคารพผ้าเหลืองและเคารพพระสงฆ์ที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องดูแลให้ถูกต้อง วันนี้ก็มีการลงโทษกันแล้ว อยากจะขอร้องสื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้อย่าไปตีข่าวครึกโครมจนกระทั่งกลายเป็นว่าเรากำลังรังแกพระสงฆ์ เหมือนกับเป็นคดีการเมือง แล้วเราจะไม่ได้คนที่หนีไปกลับมาสักทีไปลี้ภัยบ้าง อะไรบ้าง เป็นปัญหาที่มันไม่ง่ายนักที่จะเอาคนกลับมาลงโทษ เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนยอมรับกติกา กฎหมายของประเทศซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของศาสนา เป็นเรื่องของคน เป็นเรื่องของพระที่ทำถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ต้องพิสูจน์กันมา ผมไม่อยากให้ทุกอย่างเป็นคดีการเมืองไปเสียทั้งหมด เสร็จแล้วก็เป็นเรื่องยากทั้งเรื่องการหารือส่งตัวกลายเป็นปัญหาทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์กล่าว,ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ รวมถึงกระแสข่าวอดีตพระพรหมเมธี ได้ยื่นคำร้องขอลี้ภัยในประเทศเยอรมนีว่า อดีตพระพรหมเมธียังไม่ได้ลี้ภัย เจ้าหน้าที่ขอเวลาตรวจสอบก่อน ความจริงการทำเรื่องขอส่งตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมา เยอรมนีมีขั้นตอนดำเนินการ 2 เดือน แต่เราขอให้ รีบดำเนินการภายใน 3 วัน ทางเยอรมนีรับว่าจะไปดำเนินการ ขณะเดียวกันอดีตพระพรหมเมธี ไม่ยอมพบกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ด้วย,เมื่อถามว่า ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถนำตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมาได้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อ้าว ปั๊ดโธ่ ก็ตอบไปแล้ว ขอเวลา 3 วัน จะได้ผล อย่างไร ก็ว่ากันอีกที เมื่อถามว่า ถ้าอดีตพระพรหมเมธีไม่อยากพบ ผบ.ตร. จะสามารถนำคนอื่นไปแทนได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่ต้องอดีตพระพรหมเมธีเขาไม่เอาอยู่แล้ว เขาไม่พบคนไทย ทางเยอรมนีก็ดำเนินการตามกฎหมาย ที่ผิดกฎหมายในส่วนของไทยเราได้ยื่นเรื่องไปแล้ว เพื่อให้มีน้ำหนักมากพอที่เยอรมนีจะให้ความร่วมมือกับไทย เราก็แลกเปลี่ยนกับเยอรมนีมาตลอด เป็นมิตรที่ดีต่อกัน เมื่อถามว่า เชื่อว่าเยอรมนีจะเข้าใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ผมก็ไม่ใช่เยอรมนีด้วย เมื่อถามว่ามีคนไทยให้การสนับสนุนอดีตพระพรหมเมธีอยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มันก็ต้องมี เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ และเขาก็วางแผนไว้แล้ว เพราะเยอรมนีมีกฎหมายให้ลี้ภัยได้ ก็ต้องไปประเทศนั้น,ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวตอบคำถามที่ว่า ไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับเยอรมนีหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า มี แต่ตอนนี้กำลังดูหลายๆ ด้านอยู่ แม้ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้เข้าไปดูอย่างเป็นทางการกับเรื่องนี้ แต่กำลังตรวจสอบดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง ส่วนจะขอตัวกลับมาดำเนินคดีในช่องใดได้บ้างนั้น จะให้กรมการกงสุลเป็นผู้ตอบประเด็นนี้ เพราะเป็นหน่วยงานที่รู้เกี่ยวกับคดีต่างๆ และอาจจะถามไปถึงเรื่องค้างคาได้ด้วย เมื่อถามว่า การที่เรายกเลิกหนังสือเดินทางเล่มสีน้ำเงินก่อนแล้ว อดีตพระพรหม–เมธีจะยังขอลี้ภัยได้หรือไม่ นายดอนกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปตรวจสอบว่ามีการยกเลิกก่อนหรือหลัง เมื่อถามอีกว่า ตำรวจพยายามจะให้กระทรวงการต่างประเทศใช้ช่องทางทางการทูตในการนำตัวกลับ หรือการเข้าไปพบตัวอดีตพระพรหมเมธี นายดอนกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติในการขอเข้าพบหรือเข้าเยี่ยมผู้ที่ถูกกักตัว ส่วนการนำตัวกลับมาจะราบรื่นหรือไม่ ต้องรอฟังจากตำรวจ,พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช.กล่าวถึงการดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนหลังอดีตพระพรหมเมธี อาศัยเป็นช่องทางหลบหนีออกนอกประเทศว่า ต้องยอมรับว่าบางครั้งการดำเนินการดังกล่าวหน่วยที่ดูแลตามแนวชายแดนไม่ได้รับการแจ้งเตือนมาก่อน และทันทีที่มีการปฏิบัติการผู้ที่เป็นเป้าหมายอาจจะรู้ตัวอยู่แล้ว และก็หลบหนีไป ต้องยอมรับว่า หน่วยข่าวไม่สามารถปิดชายแดนตลอดแนว หรือแม้แต่หน่วยงานตามปกติ เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หากไม่รู้กระบวนการในการดำเนินงานอาจจะมีช่องว่าง,วันเดียวกัน พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม.กล่าวถึงกรณีอดีตพระวิสุทธิศาสนวิเทศ หรือเจ้าคุณปิง อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯลาสิกขา เพราะตำรวจพบพฤติกรรมเสพสังวาสกับฆราวาสชาย ว่า ในส่วนของ บช.ก.ทุก บก.ที่เกี่ยวข้อง หากพบสื่อลามกจะมี บก.ปอท.เป็นหน่วยหลักที่เข้ามาดูแล ส่วนกรณีจะเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่ จะต้องไปตรวจสอบอายุของบุคคลที่ไปเสพสังวาส เบื้องต้น พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้สั่งการให้ทุก บก.ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ เพื่อดำเนินการต่อไป,ส่วนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เผยว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เตรียมนำตัวนายสุวิทย์ บุญประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ซ่องโจรและปลอมพระปรมาภิไธย ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์อีกรอบ เนื่องจากอุจจาระยังเป็นสีดำ ให้แพทย์วินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง หรือเกิดจากมีแผลในกระเพาะอาหาร ส่วนอาการอื่นๆโดยรวมตอนนี้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เช่นเดียวกับอดีตพระผู้ใหญ่อีก 7 รูปในคดีเงินทอนวัด เริ่มปรับตัวได้ยังไม่มีอาการป่วยที่น่าเป็นห่วง
บิ๊กป้อม เผยอดีตพระพรหมเมธีไม่ขอพบบิ๊กแป๊ะ บอกชัดอีก3วันรู้เรื่อง จะได้ตัวอดีตพระผู้ต้องหาเงินทอนวัดกลับมาดำเนินคดีเมืองไทยหรือไม่ เชื่อวางแผนไว้ก่อน
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,พระพรหมเมธี,เงินทอนวัด,ลี้ภัย,เยอรมนี
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1300469
ยุคนี้ดีกว่ายุค บุพเพสันนิวาส ตั้งเยอะ
ตอนนี้ละคร บุพเพสันนิวาส กำลังดังกระฉ่อน ผมก็ขอร่วมชื่นชมในความสามารถของผู้เกี่ยวข้องด้วยแต่ขณะเดียวกันก็มีกระแสโหยหาอดีต ผมจึงขออนุญาตมองต่างมุมสักเล็กน้อยปกติเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับไทยๆ มักจะถูกมองเป็นสิ่งเชยๆ ยกเว้นเวลาเราไปต่างประเทศ เขาให้แสดงความเป็นไทย เราก็อาจงัดเอามุกรำไทยพร้อมใส่ชุดไทยมาแสดงความเป็นไทยเป็นครั้งคราว อันที่จริงเสื้อผ้าแบบไทยๆ กลายเป็นความแปลกแยกในสังคมไทยยุคใหม่ไปแล้ว คนที่จะมีโอกาสแต่งได้บ่อยมักเป็นพวกกระฎุมพีที่พอมีเงิน มีเวลาที่จะทำอวดตัวเช่นนี้ ส่วนประชาชนที่ปากกัดตีนถีบง่วนอยู่กับการทำงานหาเลี้ยงชีพคงไม่มีเวลามาโหยหาอดีตมากนักหลายคนมองว่าในอดีตไทยรุ่งเรืองมาก แต่ความเป็นจริงผ่านมาสามร้อยกว่าปี ประเทศไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากมายนัก เพียงแต่เราอาจไม่ทันสังเกต ในเบื้องต้น ผมจึงขอยกตัวอย่างบางข้อดังนี้:1. เดี๋ยวนี้เรามีประเทศไทยให้หวงแหนแล้ว มีอาณาเขตแน่นอน แต่ในสมัยนั้น เป็นแค่นครรัฐ เช่น กรุงศรีอยุธยา กรุงอังวะ นครเชียงใหม่ นครเวียงจันทน์ เป็นต้น2. สมัยนั้น ยังค่อนข้าง เถื่อน เจ้าครองนครไหนรบชนะก็กวาดต้อนผู้คน ปล้นชิงเมืองที่อ่อนแอกว่าอยู่เนืองๆ3. สมัยนั้นการรบพุ่ง ฆ่าฟันเพื่อช่วงชิงอำนาจในแต่ละนครรัฐเป็นไปอย่างน่าละอายและปรากฏอยู่บ่อยๆ ในสมัยประชาธิปไตยยังดีกว่านี้ (แต่ตอนนี้อาจไม่เป็นประชาธิปไตยชั่วคราว) และในสมัยประชาธิปไตยอาจมีฆ่ากันบ้าง แต่ไม่โหดร้ายเท่าสมัยก่อน4. ประชาชนถูกเกณฑ์แรงงานปีละ 3-6 เดือนไปรบ ไปสร้างปราสาทราชวัง วัดวาอารามเพื่อเป็นการเสริมบารมีผู้มีอำนาจ5. สมัยนั้นเหยียดเชื้อชาติกันมาก สมัยนี้ก็ยังมีอยู่บ้าง แต่เบาบางลงไปมากแล้ว หรืออย่างน้อยก็ไม่แสดงออกอย่างโจ๋งครึ่ม6. สมัยนั้นไม่มีคำว่าสิทธิมนุษยชน พวก ขี้ข้า ถูกเหยียดหยามลงเป็นดั่งไม่ใช่คน ทางออกของบ่าวไพร่คือต้อง เลีย สถานเดียว จึงมักมีคำว่า นายว่าขี้ข้าพลอย ขุนพลอยพยัก แต่คนสมัยนี้ (นางเอกตามท้องเรื่อง) ยังเรียกผู้ที่ต่ำต้อยแต่อาวุโสกว่าว่า พี่7. การใช้ความรุนแรงในกรณีต่างๆ โดยเฉพาะต่อผู้ที่ต่ำต้อยกว่า ปรากฏอยู่ทั่วไป เช่นการ ตบ เป็นต้น แสดงถึงความล้าหลังทางวัฒนธรรมอย่างชัดแจ้ง8. สตรีในสมัยนั้นถูกกดขี่ทางเพศเป็นอย่างยิ่ง กลายเป็นพลเมืองชั้นสอง เป็นยุคที่ชายเท่านั้นที่มีสิทธิ์มีเสียง โดยเฉพาะชายที่เป็นไทแก่ตัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งชายที่เป็นพวกศักดินา แต่ในสมัยใหม่นี้ ประชาชนทุกคนมีความเท่าเทียมกัน (แต่แน่นอน คนรวยจัดๆ ยังเป็นอภิสิทธิ์ชนอยู่มาก)9. สภาพแวดล้อมดีขึ้น บางคนอาจบอกว่าสมัยนั้นไม่มีมลพิษ แต่อายุขัยของผู้คนสมัยนั้นเฉลี่ยอาจตายตอนอายุ 40-50 ปีเพราะโรคภัย ความอดอยากและสงคราม สมัยนี้ที่ว่าแย่ๆ นั้น อายุขัยคนไทยก็เกือบ 80 ปีเข้าไปแล้ว
ตอนนี้ละคร บุพเพสันนิวาส กำลังดังกระฉ่อน ผมก็ขอร่วมชื่นชมในความสามารถของผู้เกี่ยวข้องด้วยแต่ขณะเดียวกันก็มีกระแสโหยหาอดีต ผมจึงขออนุญาตมองต่างมุมสักเล็กน้อย ปกติเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับไทยๆ
การเมือง,วัฒนธรรม
บุพเพสันนิวาส,ละครโทรทัศน์,โสภณ พรโชคชัย
https://prachatai.com/journal/2018/03/76050
ลูกหมาน้อย โดนไฟป่าคลอกอาการดีขึ้น สัตวแพทย์ยังขอดูอาการ 1-2 วัน
เมื่อ 08.00 น.วันที่ 23 มีนาคม นายสัตวแพทย์ ชานนท์ พิพิทธภัณฑ์ สัตวแพทย์เจ้าของคลินิกบ้านรักษ์สัตว์เขาใหญ่ ริมถนนสายบ้านไร่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ให้การรักษาหมาน้อย ลูกสุนัขที่ จนท.ชุดเหยี่ยวไฟป่า ของหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่านครราชสีมา เข้าให้การช่วยเหลือด้วยการวิ่งฝ่าเปลวไฟเข้าไปพาออกมาก่อนที่จะถูกไฟป่าคลอกในบริเวณป่าบ้านท่ามะปราง ใกล้เคียงบ่อรวบรวมขยะของเทศบาล ต.หมูสี และใกล้เคียงแนวเขตอุทยานฯเขาใหญ่ เป็นลูกสุนัข 2 ตัว 1 ใน 2 ตัวถูกไฟคลอกไหม้ขนและผิวหนัง หลังใช้น้ำล้างแล้วนำส่งคลินิกรักษาสัตว์ ส่วนอีกตัวมีผู้ใจบุญขอไปดูแล ทั้ง 2 ตัวมีขนปุกปุย น่ารัก หูตูบ,นายสัตวแพทย์ ชานนท์ พิพิทธภัณฑ์ สัตวแพทย์ กล่าวว่า น้องหมาตัวนี้เป็นเพศผู้ อายุประมาณ 1 เดือนครึ่งถึง 2 เดือน มีสภาพผิวหนังบางส่วน ถูกไฟไหม้ผุพอง ประมาณ 20% ของร่างกาย หนังที่ฝ่าเท้าหลุดเห็นหนังชั้นใน ใต้ท้องมีแผล หมอให้ยาฆ่าเชื้อ ลดปวด ฆ่าเชื้อ น้ำเกลือ ทายาให้บางส่วนป้องกันการติดเชื้อ แต่ยังต้องดูอาการอีก 1-2 วัน เพราะจะต้องดูแผลที่อยู่ใต้ขนมองไม่เห็นเด่นชัด และอวัยวะภายในจะได้รับควันไฟไปมากน้อยขนาดไหน เหมือนคนที่อยู่ในกองเพลิง ถึงร่างกายไม่ได้ถูกไฟลวก ไฟคลอก แต่ควันไฟที่เป็นควันพิษอยู่เต็มปอดก็เป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงต้องใช้เวลาอีก 1-2 วันจึงจะให้คำตอบได้ว่าปลอดภัยหรือไม่ แต่จะดูแลให้ดีที่สุด.
อาการล่าสุดของลูกหมาตัวน้อยที่ถูกช่วยจากป่าหญ้าริมถนนสายบ้านไร่ อ.ปากช่อง ที่ถูกไฟป่าเผา ทำให้ผิวหนังไหม้ 20% มีแผลหลายแห่ง อาการเริ่มดีขึ้น สัตวแพทย์รอดูอาการก่อน 1-2 วัน ห่วงแผลติดเชื้อ
ข่าว,ทั่วไทย
ไฟป่า,อ.ปากช่อง,นครราชสีมา,ช่วยลูกหมา,ลูกหมาบาดเจ็บ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1526718
มหากาพย์โกงพันล้าน สจล. EP.1 ไขรหัสล่า บอส หัวโจกลักทรัพย์-ฟอกเงิน
ใครวางแผน ใครได้เงิน ใครร่วมรับผลประโยชน์ วันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะร่วมไขปมที่ค้างคาใจ,ปฐมบทแห่งความฉ้อฉล คนคุมเงินเป็นเสียเอง,คดีนี้เริ่มต้น เมื่อมีเจ้าหน้าที่ของ สจล. ไปถอนเงินจำนวนหนึ่งด้วยแคชเชียร์เช็ก แต่ปรากฏว่าบัญชีที่ควรจะมีเงินเก็บหลักสิบล้าน กลับติดสปริงเด้ง จนทำให้ รศ.ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการอธิการบดี สจล. ส่งทนายความเข้าแจ้งความกับกองปราบเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง โดยในเบื้องต้น พบว่ามีการทุจริตเงินกว่า 80 ล้านบาท จากนั้นได้ตรวจสอบย้อนหลังกลับไปพบว่าเงินได้เริ่มหายตั้งแต่ปี 2555 รวมทั้งสิ้นกว่าพันล้าน,หลังแจ้งความ ตำรวจตามควบคุมตัว 2 ผู้เกี่ยวข้อง คือ 1. น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 56 ปี ผอ.ส่วนการคลัง สจล. และ นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 40 ปี ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.334 ม.264 ม.265 และ ม.268 ประกอบ ม.83,ความแตก ต้นเหตุ ถูกลักทรัพย์ ,เบื้องต้น เงิน 80 ล้านแรก ที่พบว่าหายไป สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ต.ค.57 น.ส.อำพร ได้เสนอต่อคณะกรรมการของสถาบันว่าเงินกองกลางที่ฝากไว้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา สจล.นั้น ได้รับดอกเบี้ยน้อย จึงทำเรื่องขออนุมัติ ถอนเงินไปซื้อแคชเชียร์เช็คนำเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ ที่มีนายทรงกลด เป็นผู้จัดการสาขา เป็นเงิน 50 ล้านบาท วันถัดมามีการถอนเงินจากบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง 30 ล้านบาท ซื้อแคชเชียร์เช็ค นำเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ จนกระทั่งทราบว่าเงินทั้งหมดถูกถอน โดยนายทรงกลด ทำบัญชีปลอมขึ้นใช้พิมพ์ดีดไฟฟ้าพิมพ์ตัวเลข ตกแต่งบัญชี รวมทั้งเอากาวมาแปะประกบหน้าบัญชีที่มีการถอนเงินออกไป ทำให้ดูเหมือนว่ายอดเงินยังคงอยู่ตามปกติ,เปิดวิธีเบิกจ่ายเงิน ว่าเหตุใดเงินพันล้านล่องหน,ส่วนเรื่องการเบิกจ่ายเงิน นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล. อธิบายว่า เข้ามารับตำแหน่งอธิการบดี สจล. เดือน ส.ค.55 ไม่ได้มีสิ่งผิดสังเกตในเรื่องการเบิกจ่ายเงิน เมื่อมีการเปลี่ยนตำแหน่งอธิการบดี ทุกครั้งต้องมีการเปลี่ยนลายเซ็นผู้เบิกจ่ายมาเป็นอธิการบดีคนใหม่,การเบิกจ่ายในแต่ละครั้งต้องมีผู้เซ็นอนุมัติ 3 คน ได้แก่ อธิการบดี รองอธิการบดี และหัวหน้าฝ่ายการเงิน ส่วนการซอยบัญชีไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะหลังจากที่ สจล.ออกนอกระบบ มหาวิทยาลัยต้องบริหารจัดการบัญชีเพื่อให้เกิดรายได้และประโยชน์สูงสุดต่อสถาบัน ดังนั้น หากธนาคารใดให้ดอกเบี้ยสูง ก็จะมีการโยกเงินไปฝากธนาคารดังกล่าว ตามปกติมีการเปลี่ยนธนาคารทุกๆ 3 เดือน 6 เดือน, นายถวิลกล่าว,สำหรับ นายถวิล นั้น ดำรงตำแหน่งอธิการบดี สจล. เมื่อเดือน ส.ค.55 และถูกสภาสถาบันฯ ให้ออกจากตำแหน่งเมื่อเดือน พ.ย.56 เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขเกรดให้กับบุตรชายตนเอง,ขยายผล โยงผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม 5 คน เร่งตามรอยเส้นเงิน,หลังการจับกุม 2 ผู้ต้องหาสำคัญ ก็มีการขยายผล พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. ระบุว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีอีกอย่างน้อย 4 คน ที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินออกจากบัญชีธนาคาร 4 แห่ง โดย 1 ใน 4 เป็นบัญชีชื่อ นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ ขณะที่มีการตรวจสอบ ก็มีการประสานงานกับ สมาคมธนาคารไทยอายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับขอให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด,ต่อมา พบ นายพูลศักดิ์ เป็นเจ้าของบัญชีปลายทางรับโอนเงิน 80 ล้านบาท และมีลายเซ็นหลังแคชเชียร์เช็คที่นำไปขึ้นเงิน เมื่อไล่ย้อนตรวจสอบบัญชีที่เปิดไว้กับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2555 พบว่าถอนเงินออก 29 ครั้ง ในรูปแบบฝากประจำ 994 ล้านบาท ต่อมาทยอยถอนตั้งแต่ 1 หมื่นบาท-100 ล้านบาท ที่สำคัญคือ มี นายทรงกลด ดำรงตำแหน่งผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ ในขณะนั้นด้วย ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังคงให้การภาคเสธ,หนุ่มแบงก์เปิดปาก อ้างทำตามคำสั่งลูกค้า,นายทรงกลด หนุ่มผู้จัดการแบงก์ กล่าวระหว่างเจ้าหน้าที่ขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรีผัดฟ้องฝากขังเป็นครั้งแรก อ้างว่าไม่เคยถอนเงินสดออกไปจากบัญชี มีเพียงทำเรื่องถอนโดยโอนเข้าบัญชีธนาคารบุคคลอื่น มีที่มาที่ไปตามความประสงค์ของลูกค้า ส่วนการซื้อแคชเชียร์เช็คเพื่อนำเงินไปเข้าบัญชีธนาคารสาขาที่ตนเป็นผู้จัดการ เป็นความต้องการของ น.ส.อำพร ,เปิด 3 ชื่อ เส้นทางเงิน ผอ.คลัง สจล.,เส้นทางการเงิน ที่ น.ส.อำพร ให้ นายทรงกลด นำแคชเชียร์เช็คเข้าบัญชี 3 บัญชี คือ 1. นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ อายุ 26 ปี 2. นายจิรวัฒน์ สหพรอุดมการณ์ อายุ 31 ปี และ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด อายุ 32 ปี โดยนายจิรวัฒน์เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนนายพูลศักดิ์ขณะนี้หลบหนีอยู่ จ.กาญจนบุรี คาดว่ากำลังเตรียมหาทางหลบหนี ส่วนนายกิตติศักดิ์อยู่ระหว่างตรวจสอบ,นักศึกษา ป.โทโร่แจง พบมีเงินเข้า 85 ล้าน หอบ 24 ล้านซื้อคฤหาสน์หรู,หลังเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียก วันที่ 25 ธ.ค. นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ อายุ 26 ปี นศ.ปริญญาโท มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เข้าพบเจ้าหน้าที่ อ้างว่าช่วงต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา มีเพื่อนที่รู้จักกันขอให้ช่วยเปิดบัญชีธนาคารในชื่อตน 1 บัญชี ได้เปิดบัญชีเอาไว้ ต่อมามีเงินโอนเข้ามา 85 ล้านบาท ตอนนั้นไม่ติดใจสงสัย คิดว่าเพื่อนต้องการโอนเงินมาฝาก โดยเพื่อนคนดังกล่าวได้ขอให้ตนโอนเงินไปเข้ายังบัญชีธนาคารอื่นๆ อีก 3 ครั้ง จนเหลือเงินในบัญชีอยู่ 24 ล้านบาท โดยไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงิน แค่ทำตามที่เพื่อนขอร้อง,ส่วนเงิน 24 ล้านที่ใช้เงินสดซื้อคฤหาสน์หรู ที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบ นายพูลศักดิ์ อ้างว่า เงินทั้งหมดได้หยิบยืมมาจากเพื่อนชื่อ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด น่าจะร่วมกันลักทรัพย์เงินของสถาบันแห่งนี้มานานแล้ว โดยน่าจะเริ่มมาตั้งแต่เมื่อปี 55 ก่อนที่จะตรวจพบว่ามีเงินหายไป 80 ล้านบาท จนขยายไปถึง 1,663 ล้านบาท,ตร.มั่นใจ ทำกันเป็นขบวนการ,ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเชื่อมโยงกัน สนิทกันมาก ถ้าไม่สนิทกันคงไม่โอนเงิน 80 ล้านบาทมาให้แน่ เงินในบัญชีของนายพูลศักดิ์ ตอนนี้มีเงินอยู่ประมาณ 5-6 แสนบาท ส่วนการไปตรวจค้นห้องทำงานของ น.ส.อำพร ใน สจล. พบบัญชีเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 20 บัญชี แต่เป็นชื่อของกองทุน เกี่ยวกับการเล่นหุ้นที่ซื้อไว้ประมาณ 5.8 ล้านบาท เมื่อปี 47 แต่จะมีส่วนอยู่ในยอดเงินที่หายไป 1,000 กว่าล้านบาท ด้วยหรือไม่ ต้องเข้าใจว่า น.ส.อำพรทำงานมา 30 กว่าปี มีตำแหน่งเป็น ผอ.ส่วนการคลังมานาน น.ส.อำพร น่าจะมีการเตรียมตัวอย่างดี เพราะไม่มีหลักทรัพย์อะไร ทั้งบ้าน และรถ รวมทั้งโฉนดที่ดิน เป็นชื่อของลูกหลาน ส่วน น.ส.อำพรไม่มีอะไรเลย พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. หัวหน้าชุดสืบสวน กล่าว,ส่วนผลการค้นบ้านเลขที่ 562 ซอยจ่าโสต แขวงและเขตบางนา ของ น.ส.อำพร โดยมีนายผดุงศักดิ์ อ่อนละเอียด อายุ 48 ปี หลานชาย น.ส.อำพร เป็นผู้ดูแล และนำตรวจค้น พบเอกสารสำคัญหลายรายการ สมุดบัญชีเงินฝากนับสิบเล่ม โฉนดที่ดินจำนวนมาก ทองรูปพรรณจำนวนหนึ่ง เป็นของนายผดุงศักดิ์ กรมธรรม์ประกันชีวิตของ น.ส.อำพร หลายฉบับ ตลอดจนใบรับรองการเป็นผู้จัดการมรดก,หลานอดีต ผอ.คลัง สจล. เชื่อ อาถูกหลอก,ขณะที่คำให้การของหลานชาย น.ส.อำพร ระบุว่า น.ส.อำพร กับนายทรงกลด สนิทกันมา 2 ปีแล้ว จากการพูดคุยกับ น.ส.อำพร เล่าว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อ้างว่าถูกนายทรงกลดหลอกให้เซ็นเอกสารมาโดยตลอด ส่วนนายพูลศักดิ์ เจ้าของบัญชีธนาคาร ไม่รู้จักกัน จึงเชื่อว่า น.ส.อำพร ถูกหลอกใช้,ส่วนเอกสารในห้องทำงานของ น.ส.อำพร สามารถอายัดเอกสารทางราชการ สมุดบัญชีส่วนตัว บัญชีกองทุนส่วนตัวกว่า 20 บัญชี เครื่องคอมพิวเตอร์ ไปที่ บก.ป. เพื่อตรวจสอบเอกสารเส้นทางการเงินว่า มีการโอนเงินไปให้บุคคลใดบ้าง,นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน, เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะในแง่ของระบบการตรวจสอบและควบคุม กำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐ ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ มอบให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินไปเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้รายงานความคืบหน้าโดยเร็ว,ออกหมายจับเพิ่มอีก 4,ต่อมา ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน ซึ่งศาลได้อนุมัติ ประกอบด้วย นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด นายจิรวัฒน์ สหพรอุดมการณ์ และนายสมบัติ โสประดิษฐ์ เจ้าของบัญชีธนาคารที่มีการถ่ายโอนเงินดังกล่าว โดยทั้งหมดมีพฤติกรรมโยกย้ายถ่ายเทเงิน เข้าลักษณะการฟอกเงิน ทั้งนี้ นายกิตติศักดิ์ มีอาชีพเปิดโมเดลลิ่ง รับจัดหานายแบบหรือนางแบบ นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของ,บริษัท มัทธุจัด จำกัด, และ ,บริษัทเคพีพี โปรดักชั่น จำกัด, ขณะที่นายจิรวัฒน์ และนายพูลศักดิ์ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร แต่กลับพบว่านายพูลศักดิ์มีคอนโดหรู ชื่อว่าคอนโดเดอะคีย์ย่านแจ้งวัฒนะ และโอนเงินเข้าบัญชี นายสมบัติ โสประดิษฐ์ 6 ล้านบาท ส่วนของนายกิตติศักดิ์ พบว่ามีบ้านราคา 35 ล้าน ย่านราชพฤกษ์,ถูกกดดันหนัก จิรวัฒน์ มอบตัวสู้คดี, 

,ช่วงเวลา 04.00 น. วันที่ 27 ธ.ค.57 นายจิรวัฒน์ สหพรอุดมการณ์ เดินทางเข้ามอบตัว โดยยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมกับปฏิเสธ ไม่รู้จักกับนายพูลศักดิ์,จากแนวทางการสืบสวนทราบว่ามีคนกลางที่เชื่อมให้ผู้ร่วมขบวนการแต่ละคนมารู้จักกันและร่วมวางแผนกันมาเป็นอย่างดี ทุกคนรู้ถึงที่มาของเงินและรู้วิธีการโอนถ่ายเงิน จากกรณีดังกล่าวพบว่าเมื่อได้เงินก้อนใหญ่มาแล้ว จะแตกเงินออกไปยังที่ต่างๆ ทั้งซื้อบ้าน ซื้อทรัพย์สินเป็นลักษณะของการฟอกเงิน โดยเชื่อว่ายังมีบัญชีที่รับถ่ายโอนเงินและเกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินที่ยังอยู่ในระบบไม่ได้ถูกถ่ายโอนไปบัญชีใดอีกกว่าพันล้านบาท พ.ต.อ.ณษ กล่าว,ออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ยึดเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า ,30 ธ.ค.57 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน รวมถึงเดินทางเข้าตรวจค้น ที่ บ.มัทธุจัด จก. หมู่บ้านธนาภิรมย์ เลขที่ 87/10 หมู่ 6 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบริษัทของนายกิตติศักดิ์ เปิดเป็นบริษัทรับจัดไฟแนนซ์ โดยพบ เอกสารต่างๆ มาเชื่อมโยงกับผู้ต้องหารายอื่น เบื้องต้นยึดเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า 2 เครื่อง ตู้เซฟ 1 ตู้ เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย 6 เล่ม เอกสารครอบครองอสังหาริมทรัพย์ บ้านหรู และคอนโดของนายกิตติศักดิ์ 6 ชุด,นอกจากนี้ ยังพบเอกสารการซื้อบ้านหรูราคากว่า 36 ล้านบาท ระบุชื่อนายกิตติศักดิ์เป็นผู้ซื้อ รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน โดยมีรายงานว่า เครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า ที่ยึดได้นั้น อาจเป็นเครื่องพิมพ์ดีดที่ใช้ในการปลอมแปลงตัวเลขหน้าบัญชี อยู่ระหว่างตรวจสอบ,ส่วนบ้านที่ในหมู่บ้านลัดดารมย์ ถนนแจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ ราคา 22 ล้านบาท และห้องพักในเดอะคีย์ คอนโดมิเนียม ราคา 2 ล้านกว่าบาท ที่นายพูลศักดิ์ ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวซื้อไว้นั้น พบว่าได้มาจำนองกับ บ.มัทธุจัด จก. ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นวิธีการฟอกเงินที่กลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ใช้ ส่วนนายกิตติศักดิ์ มีรายงานข่าวว่าได้หลบหนีไปอยู่ฮ่องกง ทราบว่าได้ใช้แคชเชียร์เช็คซื้อรถสปอร์ตหรูลัมโบร์กินี ราคาเกือบ 20 ล้านบาท ก่อนขายต่อในราคาขาดทุน ซึ่งส่อว่าเป็นการฟอกเงินเพื่อให้ได้เงินมาอย่างถูกระบบ,สจล.แถลงการณ์ ฉบับ 3 แจงเงินหาย 1,475 ล้าน,ขณะที่ สจล.ออกแถลงการณ์ เรื่องข่าวความผิดปกติทางการเงินของ สจล. ฉบับที่ 3 โดยก่อนหน้านี้มีการชี้แจงมาแล้ว 2 ฉบับ โดยในฉบับที่ 3 นี้ มีเนื้อหาใจความตอนหนึ่งว่า สจล. ได้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบบัญชีเงินฝากของสถาบัน มี ศ.ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดี เป็นประธานคณะกรรมการ ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารของสถาบัน พบมีบัญชีเงินฝาก 4 บัญชีที่มีความผิดปกติ ประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซี สุวินทวงศ์ 3 บัญชี และบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์ 1 บัญชี,คณะทำงานตรวจสอบบัญชีที่มีความผิดปกติย้อนหลังถึงเดือน มิ.ย.55 พบมีการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีสถาบัน ทำให้สถาบันเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 55 ถึง 2 ธ.ค. 57 ความเสียหายทั้งหมดไม่รวม ดอกเบี้ย ประมาณ 1,475 ล้านบาท ทั้งนี้ ยอดเงินทั้งหมดเป็นเงินสำรองคลังของสถาบัน ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานตามแผนงานประจำปี อาทิ เงินเดือน ค่าตอบแทน ค่าจ้าง การจัดซื้อครุภัณฑ์ และวัสดุประเภทต่างๆ แต่อย่างใด โดยเกิดขึ้นในชุดผู้บริหาร 3 ชุด ดังนี้ ชุดที่ 1 ตั้งแต่ 13 ก.ค.51 ถึง 12 ก.ค.55 (รศ.ดร.กิตติ ตีรเศรษฐ เป็นอธิการบดี) ชุดที่ 2 ตั้งแต่ 20 ก.ค.55-27 พ.ย.56 (ศ.ดร.ถวิล พึ่งมา เป็นอธิการบดี) ชุดที่ 3 ตั้งแต่ 28 พ.ย. 56 ถึงปัจจุบัน (ศ.ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดี) ซึ่งการเบิก-ถอนเงิน จากบัญชีเงินฝากต่างๆ ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ เพื่อนำไปฝากในบัญชีที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่านั้น มีการปฏิบัติสืบเนื่องมาทุกคณะผู้บริหาร,ซึ่งจากแถลงการณ์ดังกล่าว อาจจะทำให้เราได้เห็นสาเหตุที่ว่า ทำไม…เงินหายเป็นพันล้านจึงไม่มีใครรู้,ตะลึง 2 ดาราดัง ถูกโยงคดี สจล.,เมื่อมีการเจาะลึกลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องพบข้อมูลที่น่าตกใจ เมื่อเรื่องนี้มีดาราชื่อดังเกี่ยวโยงถึง 2 คน โดยรายแรกคือ พิงกี้ สาวิกา ไชยเดช นางเอกสาวชื่อดัง โดยพบว่า นางเอกสาวคนดังมีหุ้นอยู่ในบริษัทของ นายกิตติศักดิ์ หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งต่อมา พิงกี้ ได้ออกมาแถลงข่าวพร้อมเจ้าหน้าที่ว่าหุ้นที่ถืออยู่เป็นหุ้นลม และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่พระเอกชื่อดังที่เกี่ยวข้องและส่อจะต้องฟาดเคราะห์ด้วยเงินก้อนใหญ่ คือ นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือ บอย เพราะได้ซื้อรถลัมโบร์กินีสีเขียวต่อจากนายกิตติศักดิ์ หนึ่งในผู้ต้องหา ราคา 13.5 ล้านบาท จากเดิมที่ซื้อมาในราคาเดิมกว่า 20 ล้าน ซึ่งต่อมา ทาง พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. ได้แถลงข่าวอายัดทรัพย์สินหลายรายการ รวมถึงรถของพระเอกดัง บอย-ปกรณ์ ด้วย ซึ่งในวันที่ 21 ม.ค. เจ้าตัวจะต้องนำรถหรูคันดังกล่าว มามอบให้กับ ปปง. ส่วนจะโดนยึดรถหรือไม่ พระเอกดังคงต้องลุ้นด้วยใจระทึก,ตามรวบ 2 แม่ลูก ตระกูล โสประดิษฐ์,ตำรวจเดินหน้าขยายผล เครือข่ายลักทรัพย์ สจล. ได้ผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่ง วันที่ 6 ม.ค. ตำรวจได้ตามจับกุม 2 แม่ลูกตระกูล โสประดิษฐ์ คือ นางสมบัติ โสประดิษฐ์ และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ โดยผู้ต้องหาให้การอ้างว่า รู้จักกับนายกิตติศักดิ์ ตั้งแต่สมัยเรียน ส่วนเงินที่โอนจากนายกิตติศักดิ์ เป็นเงิน 40 ล้านบาท เปิดบัญชีไว้เพื่อรับโอนเงินพนันฟุตบอล ,อดีต อธิการบดี สจล. รับสนิท 2 ผู้ต้องหาสำคัญ ยัน ตอนดำรงตำแหน่งไม่พบความผิดปกติ,นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล., พร้อมด้วย ,นายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อดีตผู้ช่วยอธิการบดีฯ, ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่กองปราบ เพื่อชี้แจงยืนยันเซ็นเบิกจ่ายเงินไปตามที่เสนอ ยอมรับสนิทกับ ผอ.คลังผู้ต้องหาเพราะต้องทำงานร่วมกัน ส่วน นายทรงกลด ผจก.แบงก์ ก็รู้จักดีเพราะไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร แต่ไม่ได้สนิทสนมเป็นการส่วนตัว แต่ผู้ต้องหาคนอื่นไม่เคยรู้จักมาก่อน ขณะที่ตำรวจพอใจผลการสอบสวนมีประโยชน์กับรูปคดีมาก แต่ต้องเอาไปสอบสวนต่อยอด ยันมีหมายจับเพิ่มแน่,ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเปรียบเทียบลายเซ็นกับเอกสารที่ตำรวจตรวจยึดไว้หรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ยังไม่มีการเซ็นเปรียบเทียบ และเอกสารต่างๆ ตนยังไม่เห็นว่ามีอะไรบ้าง ส่วนจะเคยเซ็นชื่อไปในเอกสารเกี่ยวกับการเงินมากแค่ไหนตนไม่แน่ใจ เพราะยังไม่เห็นรายละเอียด แต่ช่วงที่ดำรงตำแหน่งจำได้ว่ามีเอกสารหลายประเภทที่ต้องเซ็นชื่อลงนามทุกวัน ส่วนเอกสารที่เกี่ยวกับเงินคงคลังจำไม่ได้ว่าเซ็นไปมากเท่าไหร่ คงต้องให้ผู้บริหารชุดปัจจุบันทำรายการต่างๆ ออกมาให้ แต่เงินที่นำไปฝากแต่ละครั้ง จำได้ว่ามีจำนวนเยอะเป็นสิบล้านเพื่อเอาดอกเบี้ยที่สูงกว่า การเบิกถอนเงินเพื่อนำไปเข้าบัญชีธนาคารแห่งใหม่ที่ได้ดอกเบี้ยสูงกว่า ผู้ที่มีอำนาจพิจารณาจะต้องร่วมรับทราบและให้ความเห็นชอบด้วย,สำหรับเงินที่สูญหายไปตนก็รู้สึกเสียดาย แต่ยืนยันว่าช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งตรวจสอบตามเอกสารแล้ว แต่ไม่พบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นจึงลงนามไป ต้องขอเรียนให้เข้าใจว่า เงินคงคลังเป็นเงินที่จะเบิกจ่ายเมื่อมีกรณีฉุกเฉิน หรือเพื่อนำมาใช้ทำประโยชน์ให้กับสถาบันฯ ส่วนเงินที่จะเบิกออกมาไม่ได้จำกัดวงเงินแล้วแต่เงื่อนไข,จับ โอ๊ต ภาดา หนุ่มคนสนิท กิตติศักดิ์ เปิดสัมพันธ์ ทรงกลด,กระทั่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว ,นายภาดา บัวขาว, หรือ ,โอ๊ต พราด้า, คนสนิทของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุด ซึ่งเบื้องต้นพบว่า นายภาดา ยอมรับว่าเป็นหนุ่มคนสนิทกับ นายกิตติศักดิ์ และพบว่าเคยทำธุรกรรมทางการเงินร่วมกัน,จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ ยังพบว่า นายกิตติศักดิ์ ยังเป็นหนุ่มคนสนิทกับ นายทรงกลด ผู้จัดการแบงก์ ที่รับหน้าที่โอนเงินด้วย ซึ่งจากสัมพันธ์ตรงนี้ นายกิตติศักดิ์ อาจจะใช้ให้นายทรงกลด ซึ่งมีความสนิทชิดเชื้อกับ น.ส.อำพร อดีต ผอ.คลัง มาร่วมก่อเหตุ เมื่อได้เงินแล้วก็นำกินใช้สุดหรูกับ โอ๊ต พราด้า และยังยักย้ายถ่ายเทเงินไปยัง บริษัททั้ง 7 แห่งของนายกิตติศักดิ์ ด้วย ,เปิดปากคนสนิท ไขรหัสล่า บอส,ขณะที่ นายภาดา ให้การอ้างว่า เคยได้ยินนายกิตติศักดิ์พูดถึง บอส ทุกเทศกาล จะนำของขวัญล้ำค่าไปมอบให้เสมอ ขณะที่ทางตำรวจพอได้เค้าแล้วว่า บอส คนนี้คือใครเพียงแต่หลักฐานยังสาวไปไม่ถึง ล่าสุด ทางตำรวจได้เชิญผู้เกี่ยวข้องอีกหลายสิบปากมาให้ปากคำเพิ่มเติม รวมถึงญาติผู้ต้องหาหลายคน ,กระทั่ง วันที่ 19 ม.ค. เงินที่หายกว่า 1.4 พันล้านของ สจล. ก็ไม่ได้จบที่ตัวเลขดังกล่าว เนื่องจาก น.ส.วรวรรณ สุวรรณกูฎ ผู้อำนวยการส่วนนิติการ สจล. ได้เดินทางเข้ากองปราบ พร้อมนำหลักฐานมามอบให้เจ้าหน้าที่ หลังตรวจพบว่า ได้มีเงินหายไปจากบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา สจล. เพิ่มอีกประมาณ 100 ล้านบาท    ,ทั้งหมดนี้ คือจิ๊กซอว์ หรือตัวละครสำคัญในคดี ลักทรัพย์เงิน สจล. โดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว วางแผนทำกันเป็นขบวนการลักเงิน ของ สจล. ออกมาผลาญอย่างเมามันตั้งแต่ปี 2555 แถมยังเล่นแร่แปรธาตุ หวังฟอกเงินให้กลายมาเป็นเงินบริสุทธิ์ของตัวเอง ทั้งนี้ หากตำรวจสามารถจับกุมนายกิตติศักดิ์ คีย์แมนคนสำคัญนี้ได้ เชื่อว่าจะสามารถสาวไปถึง บอส ว่าใช่คนใน สจล. หรือ ผู้มีอำนาจคนใด,อ่านเพิ่ม,มหากาพย์โกงพันล้าน สจล. EP.2 แฉกลเม็ดฟอกเงิน ตามอายัดให้เหี้ยน,มหากาพย์โกงพันล้าน สจล. EP.3 เปิดโปงเล่ห์ปรมาจารย์ยักยอก แนะเคล็ดลับสกัดฟอกเงิน,มหากาพย์โกงพันล้าน สจล. EP.4 เจาะข้อกฎหมาย ยักยอกเงินมหาลัยโทษกว่า 100 ปี
เรียกว่าอื้อฉาวข้ามปีเลยทีเดียว สำหรับมหากาพย์คดีลักทรัพย์-ฟอกเงิน ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ที่มีเงินกว่าพันล้านบาท และทางตำรวจกำลังเร่งสืบเสาะเส้นทางเงิน ว่ามีการยักย้ายถ่ายเทไปที่ใครเอี่ยว
ข่าว,ทั่วไทย
lจล.,โกงเงิน,ลักทรัพย์,ยักยอกทรัพย์,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง,อำพร น้อยสัมฤทธ์,กิตติศักดิ์ มัทธุจัด,ทรงกลด ศรีประสงค์,โอ๊ต พราด้า,ถวิล พึ่งมา,อัคราเดช พิมลศรี,พูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์,โมไนย ไกรฤกษ์,ภาดา บัวขาว
https://www.thairath.co.th/news/local/476369
พาณิชย์ตั้งเป้าไทยเป็นผู้นำการค้าข้าวในภูมิภาคอาเซียน
ในงานประชุมข้าวนานาชาติ ครั้งที่ 6 หรือ ไทยแลนด์ ไรซ์ คอนเวนชั่น 2013 ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะช่วยให้ไทยเจรจาขายข้าวได้ในวงกว้างและสร้างความมั่นใจให้กับประเทศคู่ค้า โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาข้าว เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลาง การค้าข้าวของอาเซียน และมั่นใจว่าปีนี้ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้มูลค่าสูงสุดในโลกรองศาสตราจารย์ สมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโสสถาบันคลังสมองของชาติ กล่าวว่า ไทยจะสามารถเป็นศูนย์กลางค้าข้าวได้ ต้องใช้กลไกตลาดที่มีประสิทธิภาพ แต่ปัจจุบันรัฐใช้วิธีการบิดเบือนกลไกตลาดจากนโยบายรับจำนำ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงกว่าประเทศอื่น จึงยากที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางการซื้อขายข้าวได้นายโอฬาร ไชยประวัติ ประธานคณะผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า รัฐบาลจะใช้ 4 ยุทธศาสตร์หลักเพื่อให้ไทยเป็นผู้นำด้านคุณภาพข้าวและผลิตภัณฑ์ คือผลักดันการส่งออกข้าวทั้งมูลค่าและปริมาณ ส่งเสริมการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี พัฒนาและส่งเสริมคุณภาพมาตรฐานข้าวที่มาจากท้องถิ่น และพัฒนาตลาดพิเศษ และร่วมมือในระดับภูมิภาค
กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไทยเป็นผู้นำการค้าข้าวในภูมิภาคอาเซียน พร้อมผลักดันการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมาย ขณะที่นักวิชาการบางรายมองว่าโอกาสการเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวของไทยทำได้ยาก เพราะมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าประเทศอื่น
เศรษฐกิจ
กระทรวงพาณิชย์,การค้า,ข้าว,ประชุม,ผู้นำ,ภูมิภาค,อาเซียน
https://news.thaipbs.or.th/content/172248
โพลชี้ ปชช.ให้คะแนนนิยม ยิ่งลักษณ์ เพิ่ม 4.3% อภิสิทธิ์ 1.1% (ชมคลิป)
วันที่ 13 ธ.ค. กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ  เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง คะแนนนิยมพรรคการเมืองไทย หลังหลังผ่าน 6 เดือน คสช. โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,206 คน พบว่า คะแนนนิยมนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย อยู่ที่ร้อยละ 26.6 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อเดือนกันยายน 2557 ร้อยละ 4.3 (จากเดิมร้อยละ 22.3) ขณะที่นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนิยมอยู่ที่ ร้อยละ 25.1 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนร้อยละ 1.1 (จากเดิมร้อยละ 24.0)  ,เมื่อถามความเห็นว่า หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้งจะเลือกพรรคการเมืองใด ร้อยละ 27.4 บอกว่าจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ (ไม่เปลี่ยนแปลงจากผลสำรวจครั้งก่อน) รองลงมาร้อยละ 26.9 บอกว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4) และร้อยละ 2.0 บอกว่าจะเลือกพรรคชาติไทยพัฒนา (ลดลงร้อยละ 0.8) ขณะที่ร้อยละ 35.7 ยังไม่ตัดสินใจ,สำหรับความเห็นต่อข้อคำถามที่ว่า อยากให้มีการทำประชามติในการรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.2 บอกว่าอยากให้มี ขณะที่ร้อยละ 12.4 บอกว่าไม่อยากให้มี และร้อยละ 16.4 ไม่แน่ใจ สุดท้ายเมื่อถามว่า ระยะเวลาใดเหมาะสมกับการเลือกตั้งของประเทศไทย ส่วนใหญ่ร้อยละ 54.4 เห็นว่าควรรอจนกว่าการปฏิรูปจะแล้วเสร็จในทุกด้าน รองลงมาร้อยละ 26.3 เห็นว่าควรอยู่ในช่วงปลายปี 2558 และร้อยละ 7.0 เห็นว่าควรอยู่ในช่วงต้นปี 2559
กรุงเทพโพลล์ชี้ ปชช. ให้คะแนนนิยม ยิ่งลักษณ์ เพิ่ม 4.3% อภิสิทธิ์ 1.1% และ 71.2% อยากให้ทำประชามติร่าง รธน.
null
กรุงเทพโพลล์,มหาวิทยาลัยกรุงเทพ,คสช.,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/468850
เอมมี่ แต่ง21พ.ย. ไอซ์ พร้อมควงแม็กซ์เปิดตัวแฟน
ทำตัวเป็นแม่สื่อแนะนำไฮโซโปรไฟล์เลิศให้แก๊งเพื่อนสาว พอถึงตัวเองบ้าง อีก 2 ปี ก็จะเลขสามแล้ว ไอซ์–อภิษฎา เครือคงคา เลยถูกจับตาพิเศษว่าจะได้หนุ่มหล่อพ่อรวยขนาดไหน อ๊ะๆๆการันตีว่าผู้ชายของไอซ์ก็แซ่บไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่ช่วงนี้ขอโลว์ โพรไฟล์นิดนึง ต้องหลีกทางให้รุ่นพี่ เอมมี่ มรกตเจ้าสาวคนต่อไปของเดอะแก๊ง เพราะเคาะฤกษ์มาแล้ว 21 พ.ย.นี้ ที่ รร.เพนนินซูล่า,เกริ่นๆให้น้ำลายไหลเล่นก่อนก็ได้ ชายหนุ่มคนล่าสุดของ ไอซ์ มีชื่อว่า แม็กซ์–ชญานินท์ สุขขะสันติกูล เป็นซีอีโอสายการบินหรูอันดับต้นๆของอาหรับ เอทิฮัด ประจำประเทศไทย อายุ 30 ปี จบปริญญาโทด้านบริหารการบินจากอังกฤษ ชีวิตวัยเด็กอยู่ต่างประเทศตลอด เพราะย้ายตามคุณพ่อ ผู้บริหารการบินไทยไปประจำหลายประเทศ แม็กซ์เพิ่งกลับมาปักหลักเมืองไทยไม่นาน ก็ปิ๊งรักกับไอซ์ ระหว่างเรียนสถาบันพระปกเกล้า ด้านรุ่นพี่ เอมมี่– มรกต กิตติสาระ ก็สมใจใช่ย่อย ได้ผู้บริหารเอเจนซี่โฆษณาใหญ่ ไฮโซเจมส์–จิรยุทธ แสงทวีป เป็นเจ้าบ่าว พร้อมวิวาห์ 21 พ.ย.นี้ หลังคบกันกว่า 9 ปี เอมมี่บอกว่าคู่เราเหมือนพริกกับเกลือ เผ็ดซ่าจี๊ดจ๊าดพอดีๆ,เพื่อนรักใครเราก็รักด้วย แถมแก๊งนี้ยังชอบแซวออกสื่อให้ฮือฮาเล่น ล่าสุด เป็นเรื่องเลยคร้า เพราะ ชมพู่-อารยา แซวว่า แม็กซ์ คือแฟนไอซ์? เจอตัวแม่เฉลยขนาดนี้ แล้วคนถูกแซวจะยอมรับมั้ย? ทุกคนส่งมาให้ดูว่า ชมพู่สร้างงานให้ไอซ์อีกล่ะ แต่ก็ขำๆมากกว่า เห็นไอจีมีทริปไปต่างประเทศ ขี่คอแม็กซ์ด้วย? เป็นเฟสติวัลเมืองนอกสนุกมาก แล้วคนอื่นขี่คอกันตลอดเลย เราก็อยากมีโมเม้นท์นั้นบ้าง คุยกันมากี่ปีแล้ว? จะ 2 ปีแล้ว มีคนมาพูดอะไรเรื่องเค้ามั้ย มันก็ต้องมีบ้าง แต่เอาแฟร์ๆนะ ยุคนี้ไม่ใช่แค่ผู้หญิงต้องกลัวผู้ชาย แต่ผู้ชายก็กลัวผู้หญิงป่ะ เรียกแฟนได้ยัง? ไม่ได้หวงว่าใช้คำว่าแฟนไม่ได้นะ แต่อะไรที่เรายัง ไม่ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจต้องดูกันไปอีก ยังขอเวลาก่อน แต่ใครจะเรียกแฟนไอซ์ก็เรียกได้เลย เค้าต้องเข้าใจว่านิสัยเราเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เราเจ้าชู้นะ แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ ก็ขออยู่อย่างนี้ไปก่อน ได้ข่าวว่าอีก 2 ปี พร้อมแต่ง? ไม่อยากกำหนดว่าอีกกี่ปีแต่ง ไอซ์ เอาความสุขตัวเองเป็นหลักดีกว่าเนอะ.
ทำตัวเป็นแม่สื่อแนะนำไฮโซโปรไฟล์เลิศให้แก๊งเพื่อนสาว พอถึงตัวเองบ้าง อีก 2 ปี ก็จะเลขสามแล้ว ไอซ์–อภิษฎา เครือคงคา เลยถูกจับตาพิเศษว่าจะได้หนุ่มหล่อพ่อรวยขนาดไหน อ๊ะๆๆการันตีว่าผู้ชายของไอซ์ก็แซ่บไม่แพ้ชาติใดในโลก!!
null
ไอซ์ อภิษฎา,อภิษฎา เครือคงคา,แม็กซ์ ชญานินท์,ชญานินท์ สุขขะสันติกูล,เอมมี่ มรกต,มรกต กิตติสาระ,ชมพู่ อารยา,เอมี่แต่งงาน,ดาราแต่งงาน,ย้อนดูดารา
https://www.thairath.co.th/content/532568
อัล อาห์ลี เฮทดเจ็บ เฉือน อัล ฮิลาล 3-2 ลิ่วชิง ชปล.
อัล อาห์ลี ยอดทีมจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  ได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บครึ่งหลัง เปิดบ้านเอาชนะ อัล ฮิลาล จากซาอุดิอาระเบีย ไปหวุดหวิด 3-2 ในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง รวมผล 2 นัด อัล อาห์ลี ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 4-3 ,การแข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2015 รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ในสายตะวันตก เมื่อคืนวันอังคารที่ 20 ต.ค.  อัล อาห์ลี  แชมป์อาราเบียน กัลฟ์ลีก 2013–14 จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดสนาม อัล ราชิด สเตเดียม รับการมาเยือนของ อัล ฮิลาล รองแชมป์ ซาอุดิ โปรเฟสชันแนลลีก 2013–14 โดยนัดแรกเสมอกันมา 1-1 ที่บ้านของ อัล ฮิลาล,เปิดฉากครึ่งแรกนาทีที่ 13 อัล อาห์ลี ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อาห์เหม็ด คาห์ลิล เปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปที่เสาสองให้ ลิมา กองหน้าชาวบราซิล ชาร์จจ่อๆเข้าไปตุงตาข่าย,จากนั้น นาทีที่ 20 อัล อาห์ลี น่าได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่  อาเหม็ด คาห์ลิล พาบอลเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนซัดด้วยขวาเต็มข้อ แต่ อับดุลลาห์ อัล ซูไดรี นายด่านทีมเยือน ใช่เข่าเซฟออกไปได้อย่างสุดยอด,ช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 45 อัล อาห์ลี หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ อิสมาเอล อัล ฮามาดี เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ เอเวอร์ตัน ริเบโร กระดกบอลข้ามตัว อัล ซูไดรี  เข้าไปอย่างเหนือชั้น ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง กลายเป็นหนังคนละม้วน นาทีที่ 51 อัล ฮิลาล ไล่มาเป็น 1-2 จากตังหวะที่ ซาอุด คาห์ริรี ผ่านบอลให้  เอลตัน อัลเมย์ดา ยิงเข้าไป  ก่อนที่ นาทีที่ 64 อัล ฮิลาล จะตีเสมอเป็น 2-2 จากผลงานของ คาร์ลอส เอดูอาร์โด,เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์นี้ แต่ในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+4 แฟนเจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อ  อัล อาห์ลี ได้ฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวาเปิดเข้ามาในเขตโทษ อัล ซูไดรี ออกมาชกบอลไม่ขาด บอลมาเข้าทาง คยอง วอน ควอน ซัดเต็มข้อเข้าไปอย่างสวยงาม,จบเกม อัล อาห์ลี เอาชนะ อัล ฮิลาล ไป 3-2 รวมผล 2 นัด อัล อาห์ลี ชนะ 4-3 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปรอเจอกับผู้ชนะของโซนตะวันออก ระหว่าง  กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ยอดทีมจากจีน กับ กัมบะ โอซากา ทีมแกร่งจากญี่ปุ่นต่อไป
อัล อาห์ลี ทีมจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บครึ่งหลัง เอาชนะ อัล ฮิลาล จากซาอุดิอาระเบีย ไป 3-2 ในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง รวมผล 2 นัด อัล อาห์ลี เข้ารอบชิงด้วยสกอร์รวม 4-3
null
เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก,อัล ฮิลาล,อัล อาห์ลี,ผลบอล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/533749
รอบโลกแรงงานตุลาคม 2554
ด้านสายการบินแควนตัสและแอร์ฟรานซ์กำลังมีปัญหาระหว่างผู้บริหารและสหภาพแรงงานทำให้ต้องมีการประกาศหยุดบิน สหภาพแรงงานโปรตุเกสประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล 2 ต.ค. 54 - สหภาพแรงงาน CGTP ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส จัดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในเมืองปอร์โต โดยมีผู้เข้าร่วมประท้วงราว 130000 คน ขณะที่แกนนำสหภาพแรงงานใหญ่สุดของโปรตุเกสประกาศด้วยว่า จะจัดการชุมนุมประท้วงใหญ่อีกครั้งในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 20-27 ตุลาคมนี้ โดยการประท้วงครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคสังคมประชาธิปไตยสายกลาง-ขวา ขึ้นภาษีก๊าซและไฟฟ้าอีกร้อยละ 23 จากเดิมที่ร้อยละ 6 โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลโปรตุเกสต้องขึ้นภาษีดังกล่าวตามเงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ในการรับการช่วยกู้ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษี เพื่อแก้ปัญหาเงินงบประมาณขาดดุลด้วย สมาชิกสหภาพแรงงานอังกฤษหลายหมื่นคน รวมตัวประท้วงแผนการรัดเข็มขัดของภาครัฐ 3 ต.ค. 54 - สมาชิกสหภาพแรงงานกลุ่มต่างๆ ในอังกฤษ รวมแล้วกว่า 35000 คน ร่วมกันชุมนุมประท้วงแผนการรัดเข็มขัดของภาครัฐ ระหว่างการเปิดประชุมประจำปีพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเดวิด แคเมอรอน ที่เมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อวานนี้ โดยสหภาพแรงงานทียูซี ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่จัดการชุมนุมหนนี้ ระบุว่าการประท้วงมีขึ้นเพราะพวกเขาต้องการแสดงพลังคัดค้านนโยบายแย่ ๆ ของรัฐที่กำลังจะนำพาประเทศไปสู่ความล้มจม ด้านนายมาร์ก เซอร์วอตกา หัวหน้าสหภาพแรงงาน PCS ประกาศว่าพวกเขาจะเปิดฉากการผละงานประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศเพื่อตอกย้ำจุดยืนนี้อีกครั้งในวันที่ 30 เดือนหน้า ขณะที่นายวิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวต่อที่ประชุมพรรคอนุรักษ์นิยม โดยแก้ตัวว่ารัฐบาลชุดนี้จำเป็นต้องปรับลดงบประมาณเพื่อรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลชุดก่อน ทั้งนี้ ทางการอังกฤษ ตั้งเป้าจะบริหารงบประมาณให้กลับสู่ภาวะสมดุลให้ได้ภายในปี 2558 นี้ ครม.กรีซไฟเขียวแผนปลดข้าราชการ มุ่งลดขาดดุลงบประมาณตามข้อตกลง IMF/EU 3 ต.ค. 54 - คณะรัฐมนตรีกรีซอนุมัติมาตรการปลดพนักงานในภาครัฐรอบแรก โดยมีเป้าหมายที่จะลดยอดขาดดุลงบประมาณและแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะโดยเร็ว หลังจากกระทรวงการคลังกรีซระบุว่า กรีซอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณปี 2554-2555 ตามที่ได้ตกลงไว้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) แถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งมีนายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู เป็นประธานนั้น มีมติว่า ภายในสิ้นปี 2554 นี้ ข้าราชการ 30000 คนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อแรงงานสำรอง จะได้รับเงินเดือนเพียง 60% ของอัตราเงินเดือนในปัจจุบันเป็นเวลา 12 เดือน ก่อนที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะลดตำแหน่งพนักงานที่เป็นภาระต่องบประมาณของประเทศ และเพื่อให้รัฐบาลสามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณตามที่ได้ตกลงไว้กับไอเอ็มเอฟและอียู นายอีเลียส มอสเซียลอส โฆษกรัฐบาลกรีซ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า \การลดจำนวนข้าราชการอาจจะส่งผลกระทบทางสังคมบ้าง แต่รัฐบาลจำเป็นต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลตามที่ตกลงไว้กับไอเอ็มเอฟและอียู พร้อมกับย้ำว่า มาตรการปลดข้าราชการรอบแรกในครั้งนี้จะช่วยให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณได้ถึง 300 ล้านยูโร (401.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การตัดสินใจครั้งล่าสุดของคณะรัฐมนตรีกรีซได้สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนที่มารวมตัวประท้วงบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา ขณะที่สหภาพแรงงานหลายแห่งวางแผนประท้วงผละงานทั่วประเทศในวันที่ 5 ต.ค.นี้ โดยระบุว่ามาตรการปลดข้าราชการรอบแรกจะนำไปสู่การปลดข้าราชการออกจากงานอีกเป็นจำนวนมากในวันข้างหน้า กระทรวงการคลังกรีซยอมรับว่า กรีซอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณ 2554-2555 ตามที่ได้ตกลงไว้กับไอเอ็มเอฟและอียู โดยคาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกรีซอาจมีอยู่ถึง 8.5% ของจีดีพีในปี 2554 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 7.6% ของจีดีพี และคาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณปี 2555 จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.8% ของจีดีพี แต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 6.5% ของจีดีพี และสวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ว่ารัฐบาลจะมียอดเกินดุลงบประมาณ 1.5% ของจีดีพี เผยอินเดียใช้แรงงานเด็กสูงสุด 4 ต.ค. 54 - กระทรวงแรงงานสหรัฐเสนอรายงานว่าด้วยการใช้แรงงานเด็กทั่วโลกพบว่าอินเดีย บังกลาเทศ และฟิลิปปินส์ เป็นผู้นำของโลกในการผลิตสินค้าจากแรงงานเด็ก โดยมีสินค้าประมาณ 130 ชนิดมาจากการใช้แรงงานเด็กใน 71 ประเทศในทวีปแอฟริกา เอเชีย และลาตินอเมริกา รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐจัดทำขึ้นในวาระครบรอบ 10 ปีว่าด้วยรูปแบบที่เลวร้ายของการใช้แรงงานเด็ก โดยเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเด็กที่ทำงานในสภาพที่เสี่ยงอันตราย ทั้งนี้ รายงานซึ่งอาศัยข้อมูลจากองค์การแรงงานสากลประเมินว่าปัจจุบันมีเด็กกว่า 215 ล้านคน เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานเด็ก และมีบางประเทศไม่ได้กำหนดอายุขั้นต่ำของเด็กในการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอันตรายจากการทำงานสูง อินเดียเป็นประเทศที่ใช้แรงงานเด็กมากที่สุด โดยใช้เด็กผลิตสินค้าไม่น้อยกว่า 20 ชนิด เช่น อิฐก่อสร้าง ดอกไม้ไฟ รองเท้า กำไล ไม้ขีดไฟ ข้าว และสิ่งทอ เป็นต้น ส่วนที่บังกลาเทศมีการใช้เด็กผลิตสินค้า 14 ประเภท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม ขณะที่ฟิลิปปินส์ใช้แรงงานเด็กผลิตสินค้าเกษตร เช่น ทำงานในไร่กล้วย สวนมะพร้าว ไร่ข้าวโพด และเครื่องประดับ เป็นต้น การใช้แรงงานเด็กยังมีอยู่เป็นจำนวนมากในลาตินอเมริกา แต่มีสัญญาณว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะที่บราซิล ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายต่อสู้กับความยากจน ส่วนที่แอฟริกามีรายงานว่าใช้เด็กทำงานในเหมืองแร่ที่คองโก โดยเฉพาะเหมืองผลิตแร่ที่ใช้ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ และแร่ใช้ในการทำเหล็กกล้าทังสเตน แรงงานมะกันร่วมม็อบนิวยอร์ก \ยึดวอลสตรีท\ 6 ต.ค. 54 - ผู้ชุมนุมหลายพันคนรวมตัวประท้วงกลุ่มธุรกิจการเงินในย่านวอลสตรีท เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจในวันพุธ พร้อมแรงสนับสนุนจากสหภาพแรงงานทั่วสหรัฐ ขบวนการ \ยึดวอลสตรีท\ มีผู้ชุมนุมราว 5
สหภาพแรงงานในกรีซ อังกฤษ และโปรตุเกสประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล ซึ่งนำไปสู่การตัดสวัสดิการต่างๆ รวมถึงทำให้คนตกงานเพิ่มขึ้น
คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,แรงงาน,เศรษฐกิจ,สังคม
รอบโลกแรงงาน
https://prachatai.com/journal/2011/11/37721
ร่วมเชียร์เกาะติด น้องน้ำตาล ขึ้นเวทีมิสยูนิเวิร์สรอบพรีลิมฯ (ชมคลิป)
ใกล้เข้ามาทุกทีกับการประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2016 ซึ่งถือเป็นการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สหรือนางงามจักรวาลที่คนไทยคุ้นเคยครั้งที่ 65 โดยปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์ รอบตัดสินจะมีขึ้นในวันที่ 30 ม.ค. ช่วงเช้า 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ปีนี้ตัวแทนประเทศไทยชื่อ น้องน้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2016 สาวงามจากจังหวัดสมุทรปราการ ,(ชมคลิปการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 รอบพรีลิมฯ),และเย็นวันนี้ (26 ม.ค.60) ก็มีการประกวดรอบพลีริมมิเนรี (Preliminary) หรือรอบอุ่นเครื่อง ที่จัดขึ้นที่ เดอะ มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีน่า เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยน้องน้ำตาล ตัวแทนสาวไทยรั้งตำแหน่งตัวเก็งและติดโพลหลายสำนักที่จะซิวมงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2016 ,เปิดรอบพลีริมมิเนรีสาวๆ ผู้เข้าประกวดทั้ง 86 คน เปิดตัวด้วยชุดเปิดตัวสีสันสดใสพร้อมแนะนำตัวโดยน้องน้ำตาลได้รับเสียงเชียร์จากกองเชียร์ที่ยกทัพไปร่วมเชียร์เกาะขอบเวทีกว่า 100 คน น้ำตาล ชลิตา มาในชุดชมพู มั่นใจ แนะนำตัวเรียกเชียร์จากกองเชียร์ไทยได้กระหึ่ม,หลังจากนั้นมีการเปิดตัวมิสยูนิเวิร์สปี 2015 เปียร์ วูซบัท สาวงามจากประเทศเจ้าภาพมาร่วมเป็นพิธีกรและเปิดตัวสาวงามผู้เข้าแข่งทั้ง 86 คน โดยสาวงามแต่ละคนเดินโชว์โฉมในชุดว่ายน้ำด้วยลีลามาดมั่นโดยเฉพาะบรรดาตัวเก็งอย่าง โคลอมเบีย โดมินิกันฯ บราซิล อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวเนซุเอลา,โดย น้ำตาล ออกมาในชุดทูพีซสีเหลือง พร้อมใบหน้าไทยคม ผมไดร์ตรง สวยสะพรึง สเต็ปการเดินต้องบอกว่าอร่อยเหาะ แซ่บกลมกล่อมแบบพอดิบพอดี งานนี้บอกเลยว่ามีลุ้นหนักมาก,จากนั้นเป็นการเดินโชว์ของสาวๆ ทั้ง 86 ประเทศ ในชุดราตรีที่แต่ละประเทศเตรียมมา สำหรับ น้องน้ำตาล นั้นเป็นที่จับตากันว่าเธอจะมาในชุดของแบรนด์ใด สุดท้าย น้ำตาล มาในชุดราตรีจากแบรนด์ไทย surface และผมเกล้ามวยเล็กๆ ด้วยท่วงท่าสง่างามมั่นใจแต่ไม่ทิ้งรอยยิ้มหวานๆ ของสาวไทย จนเสียงเชียร์ชาวไทยที่นั้นกระหึ่มจนน่าขนลุก ย้ำชัดๆ ถึงความสวยและฐานแฟนคลับที่แน่นหนา,จบค่ำคืนการประกวดรอบพรีลิมมิเนรีไปอย่างสวยงาม พร้อมเพิ่มความมั่นใจให้กองเชียร์นางงามชาวไทยว่าน้ำตาล มีโอกาสสูงปรี๊ดในรอบ 12 คนสุดท้าย แต่จะคว้าถึงมงกุฎนางงามจักรวาลได้หรือไม่ คงต้องฝากคนไทยส่งแรงเชียร์และร่วมโหวตกันเหนียวอย่างเต็มพลัง สู้,หลังจบรอบพลีริมมิเนรี ก็มีการประกวดโชว์รอบชุดประจำชาติ ซึ่ง น้องน้ำตาล ออกมาในชุดประจำไทยชื่อ jewel of thailand ที่มีแรงบันดาลใจในการออกแบบจากฉลองพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีความวิจิตรงดงาม และสื่อถึงวัฒนธรรมการแต่งกายชุดไทยและศิลปหัตถกรรมไทยได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่ง น้ำตาล ชลิตา ก็พรีเซ็นต์ชุดออกมาได้อย่างดีเยี่ยมและสวยงาม เรียกเสียงปรบมืออย่างประทับใจจากผู้ชมทั้งฮอลล์.
เกาะติดร่วมเชียร์ น้องน้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ ขึ้นเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์สรอบพรีลิมฯ ลุ้นมงกุฎมิสยูนิเวิร์สคนที่ 3 ของไทย
null
น้ำตาล ชลิตา,น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์,มิสยูนิเวิร์ส2016,Miss Universe2016,น้ำตาลรอบพลีริม
https://www.thairath.co.th/content/844542
อองรี หนุนหลัง ป็อกบา เชื่อต้องใช้เวลาถึงกลับมาโหด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 25 ต.ค. ว่า เธียร์รี อองรี ตำนานดาวยิงของ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล หนุนหลังร่วมน้องร่วมชาติอย่าง พอล ป็อกบา กลับมาอยู่ในฟอร์มยอดเยี่ยมอีกครั้งให้กับ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ป็อกบา ย้ายจาก ยูเวนตุส มาด้วยค่าตัวสถิติโลก 89 ล้านปอนด์ แต่ยังทำผลงานไม่คุ้มกับค่าตัวที่ผีแดงเสียไป ก่อนจะถูกหลายฝ่ายต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อเนื่อง,กระทั่งล่าสุด เธียร์รี อองรี รุ่นพี่ทีมชาติฝรั่งเศสของ ป็อกบา ก็ออกโรงกระโดดป้องโดยชี้ว่า แข้งรายนี้ ต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักพักและเชื่อว่าฟอร์มโดดเด่นจะต้องมาอย่างแน่นอน,ผมคิดว่า (โชเซ) มูรินโญ ยังมองหา 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดและระบบที่ดีที่สุดอยู่นะ อองรี กล่าว และเมื่อพูดถึง พอล ป็อกบา เราก็กำลังพูดเกี่ยวกับคุณภาพของนักเตะรายนี้ เมื่อผมย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ผมไม่ได้เล่นดีตั้งแต่แรกหรอก นักเตะจำนวนมากก็ไม่ได้เล่นดีตั้งแต่เริ่มหรอก แต่ตอนนี้สื่อแฟนไม่ให้เวลาให้กับพอลปรับตัวเลย,ป็อกบาต้องปรับตัว เราทุกคนรู้ถึงคุณภาพและฝีเท้าของเขา ผมคิดว่าเขาจะทำได้ นั่นคือความคิดเห็นส่วนตัว,จากนั้นมันขึ้นอยู่กับ มูรินโญ เขาควรรู้ว่าตำแหน่งที่ใช่หรือไม่ใช่ของเขาอยู่ตรงไหน มันไม่ใช่เรืื่องง่าย เขา (มูรินโญ) ก็เพิ่งเข้ามาเหมือนกันและเขาก็พยายามเรียนรู้เกี่ยวกับนักเตะอยู่
เธียร์รี อองรี ตำนานแข้งทีมชาติฝรั่งเศส และ อาร์เซนอล หนุนหลัง พอล ป็อกบา รุ่นน้องร่วมชาติ ชี้ต้องใช้เวลาปรับตัวถึงจะกลับมาโหดอีกครั้งในพรีเมียร์ลีก
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,เธียร์รี อองรี,พอล ป็อกบา,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/764347
รัฐบาลสั่งให้ ก.เกษตรฯ บูรณาการหน่วยงานแก้ปัญหาน้ำท่วม
วันนี้ (1 ต.ค.2559) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในขณะนี้ ซึ่งมีหลายจังหวัดที่น้ำท่วมขังในย่านชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจว่า รัฐบาลประสงค์จะให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความรวดเร็ว จึงได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่และให้ท้องถิ่นเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลรัฐบาลจำเป็นต้องผันน้ำหรือระบายน้ำเข้าไปในบางพื้นที่ โดยสร้างคันกั้นน้ำ บังคับไม่ให้น้ำไหลอย่างสะเปะสะปะ ซึ่งหน่วยงานชลประทานและหน่วยงานอื่นๆ ของ กษ.ที่อยู่ในจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะผันน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมอย่างไรและจะผันน้ำไปไว้ที่ใด เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกและที่อยู่อาศัยของประชาชน หรือมีผลกระทบน้อยที่สุด โดย อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะเป็นผู้สำรวจและให้ข้อมูลแก่หน่วยงานของ กษ. เพื่อประกอบการตัดสินใจ ส่วนพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวในเดือน ต.ค. หลังจากการเก็บเกี่ยวแล้ว ก็จะผันน้ำเข้าไปเก็บไว้ใช้ในฤดูกาลหน้าพล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้จะดำเนินการทันที โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยเฉพาะภัยธรรมชาติ จะต้องวางแผนและทำงานอย่างเป็นระบบ ต้องกำหนดให้มีหน่วยงานหลัก และบูรณาการส่วนที่เกี่ยวข้องลงไปจัดการกับปัญหาในพื้นที่ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำเหมือนที่ผ่านมา เมื่อมีการตกลงกันแล้วว่าจะผันน้ำเข้าพื้นที่ใด ขอให้จังหวัดจัดตั้งทีมออกไปชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจนว่าผู้ที่ต้องเสียสละที่ดินของตนให้เป็นพื้นที่รับน้ำนั้น จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากทางราชการอย่างไร เพื่อให้เกิดความร่วมมือที่ดีในการแก้ไขปัญหา หากจังหวัดติดขัดในเรื่องการประสานงานกับส่วนราชการในพื้นที่ ให้รีบแจ้งไปยัง มท. เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาในระดับกระทรวงโดยด่วน ในระยะต่อไป กษ.จะเร่งสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการเกษตรแปลงใหญ่ และหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทนข้าว หรือเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจที่ค้าขายได้ดีกว่า เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากภัยธรรมชาติ รวมทั้งเกษตรกรจะประหยัดต้นทุน ได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการ และมีตลาดรองรับผลผลิตอีกด้วย
รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม มอบ ก.เกษตรฯ บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ผันน้ำออกจากเขตวิกฤติ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน พร้อมตั้งทีมลงพื้นที่ชี้แจงแนวทางเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ชัดเจน
ภัยพิบัติ
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,น้ำท่วม,ก.เกษตรฯ,อุทกภัย
https://news.thaipbs.or.th/content/256261
เสริมบทบาท ปอเนาะ ซับน้ำตาผู้สูญเสีย
ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สถาบันปอเนาะ หรือโรงเรียนปอเนาะ คือสถาบันสอนศาสนาอิสลามที่อยู่คู่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาช้านาน รองรับเยาวชนมุสลิมเข้ามาอบรมบ่มเพาะตามวิถีอิสลามก่อนจะออกไปใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีคุณภาพ แม้ช่วงเวลาหนึ่งสถาบันปอเนาะจะถูกเพ่งเล็งจากภาครัฐและบุคคลภายนอกว่าเป็นแหล่งซ่องสุมของกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กระนั้น ปอเนาะก็ยังดำเนินบทบาทความเป็นศูนย์กลางของชุมชนไม่เปลี่ยนแปลง เรื่องความไม่เข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของปอเนาะ กลายเป็นเรื่องเรื้อรังยากเกินเยียวยา หลายครั้งที่เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่รัฐส่งสายตาแฝงความสงสัยเข้ามาสู่ใจกลางของปอเนาะ นับเป็นสิ่งทำร้ายความรู้สึกของชุมชนและโต๊ะครูอยู่เสมอ เมื่อปอเนาะกลายเป็นภาพในมุมมืด บทบาทที่สำคัญอยู่นอกเหนือความเข้าใจของคนภายนอก จึงถึงเวลาที่ปอเนาะออกมาแสดงบทบาทให้สังคมประจักษ์ ที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาล่าสุดโดยคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบคือ คณะทำงานประสานชุมชนเพื่อสนับสนุนภารกิจประธาน กยต. จึงเป็นโครงการแรกและโครงการเดียวในขณะนี้ ที่ใช้ปอเนาะเป็นศูนย์กลางฟื้นฟูจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรง การประชุมครั้งแรกที่โรงแรมซีเอสปัตตานี เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา จึงคลาคล่ำไปด้วย นักวิชาการท้องถิ่น องค์กรพัฒนาท้องถิ่น เจ้าของปอเนาะต่างๆ โต๊ะครู อุสตาซ และผู้นำชุมชนมากมาย ประเด็นหลักของการประชุมคือ ซักซ้อมความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของปอเนาะต่อโครงการนี้ให้กับเจ้าของปอเนาะและโต๊ะครู ประธานคณะทำงานกล่าวว่า จากนี้ไปปอเนาะจะต้องกลายเป็นม้าเร็วที่ออกเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ และผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ปอเนาะต้องขับศักยภาพความเป็นศูนย์กลางชุมชนของตนเองให้เด่นออกมา แบ่งหน้าที่ แบ่งเขตความรับผิดชอบ ในระยะเวลาของโครงการ 10 เดือนจะต้องได้รับผลสำเร็จตามเป้าหมาย อาสาสมัครจะเริ่มทำงานตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป รู้อยู่แล้วว่าในพื้นที่ของเขานั้นว่ามีคนที่ต้องดูแลเยียวยาอยู่บ้านไหน ชื่ออะไร รายชื่อบางส่วนให้ไปแล้ว โดยมีกลุมผู้ที่ต้องเยียวยา 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ทางภาครัฐทำการเยียวยาไปแล้ว แต่ทางปอเนาะต้องเข้าไปดูว่าเขายังขาดเหลือสิ่งใด จิตใจถูกฟื้นฟูได้รับผลสำเร็จหรือยัง เชื่อว่าความเป็นชุมชนเดียวกัน ย่อมจะเข้าใจสภาพจิตใจของกันและกันมากกว่าภาครัฐ และกลุ่มที่สองคือกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบรายเก่าที่ตกสำรวจ ซึ่งเชื่อว่ายังคงตกหล่นอยู่ในพื้นที่ กลุ่มนี้เราต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือ โดยด่วน และกลุ่มสุดท้ายซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของคณะทำงานจากนี้ไปคือ กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบรายใหม่ จากนี้ไป มีความสูญเสียหรือผลกระทบเกิดขึ้นที่ไหน เราต้องเป็นม้าเร็วที่ต้องไปถึงเป็นคนแรก และปฎิบัติการณ์การเยียวยาอย่างเร่งด่วน นายแพทย์พลเดชกล่าว ประธานคณะทำงานกล่าวต่อไปว่า จากนี้ไปปอเนาะต่างๆต้องแบ่งความรับผิดชอบ ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายปฎิบัติ ชุดหนึ่งประสานงานด้านนโยบายกับทางส่วนกลาง อีกชุดหนึ่งจะเป็นฝ่ายปฎิบัติ ออกไปเยี่ยมบ้านผู้ได้รับผลกระทบเดือนละไม่ต่ำกว่า 1 ครั้ง เมื่อมีครั้งที่หนึ่งก็ต้องมีครั้งที่ 2 และ 3 ต่อเนื่องกัน คาดว่าตลอดโครงการนี้ จะมีคนที่ได้รับการเยี่ยมบ้าน และทำการเยียวยาไม่ตำกว่า 1000 คน คน การเข้าไปเยี่ยมคือการเข้าไปพูดคุย สอบถามสารทุกข์สุกดิบ ปลอบขวัญและให้กำลังใจ สร้างความรู้สึกเป็นเพื่อนกับเพื่อนหรือพี่กับน้องเกิดเป็นความรู้สึกผูกพัน ซึ่งความผูกพันเอื้ออาทรเหล่านี้คือ ทุนสังคม คล้ายกับเรากำลังจะฟื้นทุนทางสังคมขึ้นมาอีกครั้ง จากเหตุการณ์ความไม่สงบ ทำให้ทุนทางสังคมอยู่บนรากฐานของความไม่ไว้วางใจ บางส่วนก็ถูกทำลายไป ที่ผ่านมาเหตุการณ์มันทำให้ความเชื่อถือระหว่างใจห่างกัน เริ่มระแวง ผู้ได้รับการเยียวยาจะถูกชักชวนมาร่วมทำกิจกรรมกลุ่ม พูดคุยกันกับผู้ได้รับการเยียวยาเหมือนกัน จากนี้ไปคนเหล่านี้จะกลายเป็นอีกแรงหนึ่งที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบรายใหม่ๆ กลายเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในที่สุด นายแพทย์พลเดชกล่าว ส่วนเรื่องที่อาจจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบนั้น นายแพทย์พลเดชกล่าวว่า คงอันนี้ห้ามไม่ได้เลยแต่เราต้องมีกติกา แสดงจุดยืนอันเป็นกลาง คุณจะสู้คุณก็สู้ไป เรื่องความมั่นคงจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เรามีหลักปฏิบัติ 5 ข้อ ที่ต้องยึดมั่น จะอยู่ด้านหลังบัตรประจำตัวอาสาสมัครทุกคน เช่น การดำรงความเป็นกลางไม่สนับสนุนความรุนแรง มุ่งมั่นช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและสนับสนุนการเยียวยาจากทุกหน่วยงาน ยึดมั่นการทำงานเพื่อเพื่อนมนุษย์โดยไม่หวังผลตอบแทน และจะขออยู่เบื้องหลัง ไม่มุ่งตรวจสอบหรือช่วงชิงผลงานจากผู้อื่น แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเรามีจุดยืนอย่างไร การนำปอเนาะมาเป็นหลักในโครงการดังกล่าว เหมือนเป็นการฟื้นฟูความสามัคคีขึ้นในชุมชนอีกครั้ง การช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในชุมชน เมื่อมีชุมชนเข้มแข็งอยู่รอบปอเนาะปอเนาะก็จะเข็งแรงไปด้วยกัน เท่ากับเป็นการฟื้นคืนศักดิ์ศรีปอเนาะขึ้นมาอีกครั้ง มันคือการเยียวยาทั้งเชิงปัจเจกและสังคม ที่ผ่านมาภาครัฐมองเชิงปัจเจกอย่างเดียว ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่หากมองในเชิงสังคม ศักยภาพของปัจเจกจะออกมาเอง สร้างความเข้มแข้งให้เกิดขึ้นกับจิตใจผู้สูญเสีย การนำคนในปอเนาะมาเป็นเสาหลักของการทำงาน เพราะคนเหล่านี้คือผู้ที่ตกผลึกทางความคิด ทั้งปอเนาะดั้งเดิมและปอเนาะยุคใหม่ มีความน่าเชื่อถือกับผู้คนในชุมชนทั้งสิ้น ชุมชนเขารู้ว่า ปอเนาะสำคัญต่อเขาอย่างไร ก็เราควรปล่อยให้เขาเยียวยาแก้ปัญหากันเอง หนึ่งในคณะทำงานจากส่วนกลางบอกกับเรา พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ต่อไปใครจะมาดูถูกปอเนาะต้องคิดหน้าคิดหลัง เพราะปอเนาะจะร่วมเป็นเครือข่าย จาก 300 กว่าปอเนาะในพื้นที่ 3 จังหวัด ขณะนี้มาร่วมกับคณะทำงานแล้ว 70 ปอเนาะ และเมื่อโครงการดำเนินไปจะมีเข้ามาเพิ่มอีกอย่างแน่นอน เครือข่ายปอเนาะมันจะมีความหมายกันหลายอย่าง 1.เป็นเครือข่ายของสถาบันสังคมที่เรียกว่าปอเนาะ 2. เป็นเครือข่ายระหว่างผู้บริหาร 3. เครือข่ายระหว่างครูอุสตาส 4. ระหว่างอาสาสมัครกับอาสาสมัคร เข้าก็เป็นเพื่อนกัน เครือข่ายพวกนี้จะมีความเข็งแรงมาก ต่อไปเวลาเรามีโครงการพัฒนาเราก็สามารถพัฒนาโดยใช้คนกลุ่มนี้ได้เลย หัวหน้าฝ่ายวิชาการโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม อำเภอปานาเระ จังหวัดปัตตานี หนึ่งในตัวแทนปอเนาะที่เข้าร่วมโครงการเปิดใจว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากโครงการหนึ่ง มีหลักยึดคือการช่วยผู้ที่ประสบกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ถึงแม้ว่างบประมาณจะน้อย แต่ความร่วมแรงร่วมใจจากปอเนาะและชุมชนสำคัญกว่า ซึ่งไม่ว่าประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด ทางปอเนาะก็ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว ตามหลักศาสนาอิสลามก็สอนให้ช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้และลำบากกว่าอยู่แล้ว และยิ่งมีโครงการดีๆที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนถือว่าดีมาก นายสายุตีเปิดใจ นายสายุตี ยังบอกอีกว่าการมีโครงการนี้ เหมือนเป็นการเสริมบทบาทของโรงเรียนปอเนาะให้กลายเป็นสวัสดิการสังคม ซึ่งในอดีตโรงเรียนปอเนาะก็เคยมีบทบาทเช่นนี้อีกแล้วเพราะมีความพร้อมหลายอย่าง เช่น ความเป็นศูนย์กลางชุมชน ซึ่งจากนี้ไปก็จะฟื้นคืนบทบาทหน้าที่นั้นขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้จะทำให้ดีที่สุด เพื่อความสันติสุขจะได้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งนี้ ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่า ความฝันของอาจารย์จะเป็นจริงขึ้นมาในสักวันหนึ่ง
ณรรธราวุธ เมืองสุขสมศักดิ์ หุ่นงามศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สถาบันปอเนาะ หรือโรงเรียนปอเนาะ คือสถาบันสอนศาสนาอิสลามที่อยู่คู่พื้นที่ 3
การเมือง
null
https://prachatai.com/journal/2006/01/7056
ฆ่าหั่นศพแม่แช่ในตู้เย็น ลูกชายโหด เรียนวิศวะปี 2
ป่วยจิต-คลั่ง ลั่นขมับตาย,สยองกลางกรุง นักศึกษาหนุ่มปี 2 มหาวิทยาลัยดังป่วยซึมเศร้าใช้มีดแทงแม่ร่างพรุน ก่อนหั่นศพเป็นท่อนๆยัดตู้เย็นใน บ้านย่านท่าข้าม เพื่อนผู้ตายสงสัยติดต่อไม่ได้ ขับรถมาหาที่บ้านพร้อมลูกน้อง เห็นลูกชายอยู่ในบ้าน ถามแม่ไปไหนบอกไม่รู้ แต่พฤติกรรมน่าสงสัยเพราะรถผู้ตายยังจอดอยู่ ประกอบกับรู้มาก่อนลูกชายผู้ตายป่วย ส่วนลูกน้องที่มาด้วยเดินไปเปิดตู้เย็นถึงกับร้องเสียงหลง พบชิ้นส่วนศพแม่ถูกยัดอยู่ข้างใน จังหวะเดียวกันต้องตกใจซ้ำสองเมื่อลูกคนตายชักปืนจ่อขมับยิงตัวตายไปอีกคน ทั้งคู่ ต้องวิ่งขึ้นไปหลบบนชั้นสองตั้งสติ ก่อนโทร.แจ้งตำรวจ,เหตุลูกชายป่วยซึมเศร้า ฆ่าแม่หั่นศพสยองยัดตู้เย็นก่อนยิงตัวตายตาม เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 พ.ย. ร.ต.อ.นพดล หันภาพ รอง สว. (สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งมีเหตุฆ่าหั่นศพ ยัดตู้เย็น ภายในบ้านเลขที่ 17 ซอยท่าข้าม 28 แยก 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์ ผกก.สน.ท่าข้าม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง,ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ตรวจสอบในตู้เย็นขนาดใหญ่ ความจุ 7.9 คิว ยี่ห้อชาร์ป ตั้งอยู่ชั้นล่างตรงหัวบันไดทางขึ้นชั้น 2 พบภาพสยองเป็นชิ้นส่วนร่างมนุษย์ถูกฆ่าหั่นศพแยกเป็นชิ้นๆ มีทั้งนำมาแช่ทั้งอวัยวะโดยไม่มีวัสดุห่อหุ้ม บางชิ้นถูกบรรจุใส่ถุงพลาสติกขนาดต่างๆถูกแช่ไว้ในช่องฟรีซชั้น 2 ของตู้เย็นใบดังกล่าว จากการรวบรวมชิ้นส่วนที่ถูกหั่นและพบอยู่ในตู้เย็น มีทั้งหมด 5 ส่วน ประกอบด้วย 1.ศีรษะตั้งแต่ช่วงคอขึ้นไป 2.แขนตั้งแต่ช่วงไหล่ข้างขวา 3.แขนตั้งแต่ช่วงไหล่ข้างซ้าย 4.บริเวณบั้นเอวลงไปจนถึงขาทั้ง 2 ข้าง และ 5.ร่างกายส่วนลำตัวเต็มไปด้วยบาดแผลถูกของมีคมทิ่มแทงทั้งด้านหน้าและด้านหลังนับ 10 แห่ง โดยก้อนเนื้อทรวงอกด้านขวาหายไป นอกจากนี้ ภายในชักโครกห้องน้ำชั้นล่าง ยังพบอวัยวะเครื่องในมนุษย์อีกหลายชิ้น เจ้าหน้าที่มอบให้อาสมัครมูลนิธิฯรวบรวมชิ้นส่วนร่างกายและอวัยวะที่พบในชักโครก ออกมาตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดต่อไป,สำหรับร่างผู้ตายที่ถูกฆ่าโหดก่อนถูกหั่นสยองทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ อายุ 42 ปีเจ้าของบ้าน ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับไฟแนนซ์รถยนต์ ส่วนผู้ต้องสงสัยก่อเหตุฆ่า น.ส.ยุรีย์ เชื่อว่าเป็นลูกชายผู้ตายคือ นายศิระ สมเดช อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวะคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ได้พยายามใช้ปืน .38 ยิงตัวตายตามด้วยการจ่อยิงที่ขมับขวากระสุนทะลุขมับซ้าย บาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.นครธน ไปก่อนหน้า แพทย์พยายามยื้อชีวิต แต่สุดท้ายเสียชีวิตในเวลาต่อมา,จากการสอบสวน น.ส.วรนุช วงษ์ชัย อายุ 35 ปี เพื่อนร่วมงานของ น.ส.ยุรีย์ ผู้พบศพให้การด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นตกใจกับเหตุการณ์สยองที่พบว่า ตนและผู้ตายร่วมกันทำธุรกิจเกี่ยวกับไฟแนนซ์รถยนต์เมื่อคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น. ได้โทรศัพท์หาผู้ตายหลายครั้งเพื่อจะคุยกันเรื่องธุรกิจ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งวันนี้ช่วงบ่ายได้มาหาผู้ตายที่บ้านพร้อมนายบุญชัย ฐิติณรงค์ อายุ 42 ปี ลูกน้อง เห็นรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน 3 กจ 1116 กรุงเทพมหานคร ของ น.ส.ยุรีย์จอดอยู่ เมื่อเข้าไปในบ้านพบนายศิระบุตรชายผู้ตายยังสวมเครื่องแบบนักศึกษา ได้สอบถามหามารดาเจ้าตัวอ้างว่าไม่เห็น,น.ส.วรนุชให้การต่อด้วยน้ำเสียงที่ตกใจไม่หายต่อว่า ขณะพูดคุยกับนายศิระ ซึ่งรู้ประวัติว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และมักมีปากเสียงกับแม่ตัวเองเป็นประจำ สังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ประกอบกับกระเป๋าและทรัพย์สินที่ผู้ตายใช้ยังวางอยู่ในบ้านเชื่อว่าน่าจะมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น ได้ตะโกนเรียกผู้ตายแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ขณะเดียวกัน นายบุญชัย ลูกน้องที่มาด้วยเดินไปเปิดตู้เย็นถึงกับตกใจร้องสุดเสียงเมื่อพบชิ้นส่วนมนุษย์ยัดอยู่ และต้องตกใจซ้ำสองในจังหวะไล่เลี่ยกัน เมื่อนายศิระที่ยืนอยู่ใกล้ๆหยิบปืนมาจากไหนไม่ทราบจ่อยิงที่ขมับขวาตัวเอง 1 นัดจนหงายหลังล้มลง ตนและลูกน้องต้องรีบวิ่งขึ้นไปหลบบนชั้น 2 พอตั้งสติได้ รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบทันที,ขณะที่ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 กล่าวว่า บ้านหลังนี้มีผู้ตายกับบุตรชายอยู่กันแค่ 2 คน มานาน 3 ปี เนื่องจาก น.ส.ยุรีย์กับสามีแยกทางกัน สอบถามญาติๆ ที่เดินทางมาดูศพทราบว่า บุตรชายป่วยเป็นโรคซึมเศร้าต้องรักษาอาการกับแพทย์มาได้ประมาณ 2 ปี ประกอบกับในบ้านที่เกิดเหตุพบยารักษาโรคซึมเศร้า พร้อมชุดอุปกรณ์มีดทำครัวทำความสะอาดเก็บไว้ในห้องครัวเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าหลังก่อเหตุลูกชายผู้ตายได้ทำความสะอาดจุดเกิดเหตุไปแล้วบางส่วน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะนำชุดมีดทำครัวรวมทั้งชิ้นส่วนศพส่งกองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์เพื่อตรวจสอบต่อไป
สยองกลางกรุง นักศึกษาหนุ่มปี 2 มหาวิทยาลัยดังป่วยซึมเศร้าใช้มีดแทงแม่ร่างพรุน ก่อนหั่นศพเป็นท่อนๆยัดตู้เย็นใน บ้านย่านท่าข้าม เพื่อนผู้ตายสงสัยติดต่อไม่ได้ ขับรถมาหาที่บ้านพร้อมลูกน้อง
ข่าว,อาชญากรรม
ข่าวหน้า1,ฆ่าแม่ยัดตู้เย็น,ฆ่าหั่นศพ,หั่นศพแม่,ลูกฆ่าแม่,ซึมเศร้า,ป่วยซึมเศร้า
https://www.thairath.co.th/news/crime/1711910
กระทรวงต่างประเทศ ตอบ กสม. หลังประสานกัมพูชา กรณีอุ้มหายวันเฉลิมยังไม่มีอะไรคืบหน้า
ลงวันที่ 8 มิ.ย. 2563 ขอความร่วมมือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและทำความจริงให้ปรากฏ กรณีวันเฉลิม หรือตาร์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมการเมืองชาวไทย หายไปจากหน้าอาคารที่พักในกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา นั้นต่อมาปลัดกระทรวงการต่างประเทศ(ก.ต.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 26 มิ.ย. 2563 แจ้งกลับมายัง สำนักงาน กสม. ดังต่อไปนี้1. ทันทีที่ได้รับทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า นายวันเฉลิม ถูกลักพาตัวในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2563 เวลาประมาณ 18.00 น. ในวันรุ่งขึ้น(5 มิ.ย. 2563) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาเพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามตัววันเฉลิม2. เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2563 สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ (พี่สาวของวันเฉลิม) และตัวแทนของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (Thai Lawyer for Human Rights : TLHR) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามและให้ความช่วยเหลือวันเฉลิม รวมทั้งได้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวันเฉลิมเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ตามนัยข้อ 1. ให้สิตานันท์ และผู้แทน TLHR ทราบ3. เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือวันเฉลิม โดยได้แจ้งการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ตามข้อ 1. และข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้ 3.1) รัฐมนตรีฯ ไม่เคยได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าวันเฉลิมเป็นบุคคลที่อาจเป็นภัยต่อประเทศในด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ 3.2) รัฐมนตรีฯ ได้ตอบคำถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นบทบาทของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (Office of the United Nation High Commissioner for Refugees: UNHCR) ว่า วันเฉลิมไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยตามนิยามของ UNHCR ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการตรวจสอบแล้วพบว่า สภาพความเป็นอยู่และปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ของวันเฉลิมไม่ได้เข้าข่ายการเป็นผู้ลี้ภัยของ UNHCR โดยเชื่อว่า UNHCRรับทราบและติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี UNHCR ต้องรอการชี้แจงและข้อมูลจากทางการกัมพูชาเช่นเดียวกัน4. เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2563 เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้เข้าพบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา (รัฐมนตรีช่วยว่าการคนที่อาวุโสที่สุด) ซึ่งได้มอบหนังสือให้แก่เอกอัครราชทูตฯ โดยมีสาระสำคัญว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายวันเฉลิมมีประวัติการเดินทางเข้า - ออกกัมพูชาหลายครั้งระหว่างปี 2557 – 2558 ครั้งล่าสุดเดินทางเข้ามากัมพูชาเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2558 และได้รับการต่ออายุการตรวจลงตราถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2560 ทั้งนี้ ทางการกัมพูชายังไม่สามารถยืนยันเหตุการณ์นี้ได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง5. เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2563 กระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือตอบกลับหนังสือร้องเรียนของสิตานันท์ แจ้งผลการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศตามข้อ 46. เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2563 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้นำส่งข้อมูลทะเบียนรถยนต์ที่สันนิษฐานว่าเป็นรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ตามข้อมูลในหนังสือของนางสาวสิตานันท์ ให้แก่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป7. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้ติดตามความคืบหน้าของการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางการกัมพูชาเป็นระยะๆ จนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่า ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใดขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีการหายตัวไปของวันเฉลิม กสม. ยังคงติดตามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวต่อไปอย่างใกล้ชิด และหวังว่าจะได้รับทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อประสานการคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชนให้แก่วันเฉลิมและครอบครัวต่อไป วัส กล่าว
2 ก.ค. 2563 ประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยบชนแห่งชาติ รายงานว่า วัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่ กสม. ได้มอบหมายให้สำนักงาน กสม. มีหนังสือ ด่วนที่สุด
การเมือง,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต
กระทรวงการต่างประเทศ,คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.),วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์
https://prachatai.com/journal/2020/07/88421
ฝุ่น PM 2.5 : นักวิชาการแนะ ดูดฝุ่นลงแม่น้ำ ย้ำปลอดภัย 100%
วันนี้ (31 ม.ค.2562) รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า เวลา 14.00 น.ของวันนี้ ตัวเองจะร่วมหารือกับกรุงเทพมหานคร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาทางแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมเสนอ 4 แนวทางแก้ปัญหาระยะสั้น ได้แก่ส่วนการใช้โดรนขนาดเล็กที่บรรทุกน้ำขึ้นไปฉีดพ่นฝุ่นละออง อาจช่วยลดฝุ่นละอองได้ไม่มากนัก โดยโรงเรียนการบินกรุงเทพ เสนอให้ใช้เครื่องบิน 47 ลำฟรี บินเป็นแถวครั้งละ 20 ลำ บรรจุน้ำได้เที่ยวละ 140 ลิตร สเปรย์เป็นละอองน้ำผ่านใต้ปีกเครื่องบิน ด้วยหลักการของ แอโรไดนามิค ปั่นให้เป็นละอองน้ำขนาดเล็ก และจับฝุ่น PM 2.5 ลงมาด้านล่างได้รศ.วีรชัย ขอให้ประชาชนร่วมแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย ทั้งการลดกิจกรรมที่เพิ่ม PM 2.5 การเผากลางแจ้ง และรัฐบาลควรจัดหาหน้ากากแจกจ่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ การใช้มาตรการวันหยุดช่วยชาติ เหมือนช่วงปีใหม่และสงกรานต์ พร้อมมองว่ามาตรการหยุดการเรียนการสอนเป็นแนวทางที่ดี เพราะอากาศนิ่งขึ้นเรื่อย ๆ สภาพอากาศปิด และฝุ่น PM 2.5 จะมีปริมาณสูงในช่วงเช้า ซึ่งสถานการณ์จะคลี่คลายในเดือนมีนาคม
อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสนอ 4 แนวทางลดฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะการดูดฝุ่นลงแม่น้ำ ย้ำปลอดภัย 100%
สิ่งแวดล้อม
ฝุ่นละออง,ฝุ่น PM 2.5,ฝุ่น,ฝุ่นละอองขนาดเล็ก,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ฝุ่นคลุมเมือง,กรมควบคุมมลพิษ
https://news.thaipbs.or.th/content/277391
#Dek62 วุ่น TCAS รอบ 3 ไม่ประกาศคะแนนต่ำสุด-นับแต้มคนละกฎ
วานนี้ (9 พ.ค.2562) นายมนัส อ่อนสังข์ (ลาเต้) บรรณาธิการข่าวการศึกษา เว็บไซต์ DEK-D.com ได้ทวีตข้อความ ระบุว่า ต้องการให้แต่ละมหาลัย เปิดเผยคะแนนต่ำสุดของ TCAS รอบ 3 ที่เพิ่งประกาศผลไป เนื่องจากพบกรณีผิดปกติกรณีแรก คะแนนสูงมาก แต่หลุดหมด ในส่วนนี้เป็นไปได้ เนื่องจากคณะนั้นอาจมีคนเลือกจำนวนมาก แต่มีข้อสงสัย คือ คะแนนน้องคนนี้สูงกว่า คะแนนต่ำสุดรอบของ TCAS รอบ 3/1 ของปีก่อน ซึ่งรอบ 3/1 เป็นรอบคะแนนคนกั๊กที่ ซึ่งสูงมาก แต่ก็ยังหลุดส่วนกรณีที่สอง น้องก็หลุดหมด แต่ไปคุยกับเพื่อนที่ได้คะแนนน้อยกว่าและเลือกคณะเดียวกัน แต่เพื่อนติด จึงบอกให้น้องเช็กให้ดี กรอกครบ กดครบ คะแนนผ่านเกณฑ์ใช่ไหม สรุปผ่านหมด แต่สงสัยว่า เพื่อนน้องเลือกไว้อันดับ 1 และน้องเลือกไว้อันดับ 4 ตามกฏ คะแนนสูงกว่าจะมีสิทธิ์กว่า แต่เหตุใดน้องคนดังกล่าวจึงไม่ติดทั้งนี้ ตามกฏเลือกคณะแบบจัดอันดับ หลักสากลจะดูที่คะแนนมาก่อนครับ ทั้ง กสพท. และแอดมิชชั่น จะยึดตามกฏนี้แต่กฎนี้ก็สามารถมีเงื่อนไขเพิ่มได้ หากคณะนั้นจะขอพิจารณาตามอันดับก่อน แต่จะต้องมีการแจ้งประกาศให้ทราบ โดยในกรณีนี้นายมนัส ได้ตรวจสอบจากระเบียบการฉบับทางการในไฟล์ซึ่งไม่มีการแจ้งเงื่อนไขเพิ่มเติมแต่อย่างใดนอกจากนี้ ยังมีนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่สอบ TCAS รอบ 3 ได้ร้องเรียนกับบรรณาธิการข่าวการศึกษา เว็บไซต์ DEK-D.com ผ่านทางทวิตเตอร์ เกี่ยวกับกรณีตรวจสอบไม่พบรายชื่อบนเว็บไซต์ของ ทปอ.หลังมีการประกาศผลการคัดเลือก แต่เมื่อตรวจสอบกับทางมหาวิทยาลัย กลับได้รับการยืนยันว่า มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์เช็ก ผล TCAS รอบ 3 บน 3 เว็บไซต์มหาวิทยาลัยล่าสุด วันนี้ (10 พ.ค.2562) สมาคมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ประกาศผลการคัดเลือก TCAS รอบ 3 ของ 3 มหาวิทยาลัยเกิดความผิดพลาดในการส่งข้อมูล ทำให้ไม่มีรายชื่อเข้าสู่กระบวนการประกาศผล โดยผู้สมัครรอบ 3 ที่เลือกสมัครสาขาวิชาต่างๆ ของ 3 มหาวิทยาลัย ได้แก่ให้ดูประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย เนื่องจากเกิดความผิดพลาดในการส่งข้อมูลผู้ผ่านการคัดเลือกของสาขาวิชานี้เข้าระบบ ทำให้ไม่มีรายชื่อเข้าสู่ระบบการประมวลผลขั้นสุดท้ายทั้งนี้ ให้ผู้มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ตามรายชื่อที่มหาวิทยาลัย ประกาศ ตัดสินใจเลือก หากต้องการเข้าศึกษาให้เข้าสอบสัมภาษณ์ตามวัน เวลา และสถานที่ ที่กำหนด มหาวิทยาลัยจะส่งรายชื่อผู้ยืนยันสิทธิ์เข้าเรียนมาตัดสิทธิ์การสัมครรอบ 4 ภายในวันที่ 15 พ.ค.2562 และผู้ยืนยันสิทธิ์กลุ่มนี้ต้องเข้าระบบ TCAS 62 ในรอบ 5 เพื่อยืนยันสิทธิ์ในระบบ ระหว่างวันที่ 17-18 มิ.ย.2562
นายมนัส อ่อนสังข์ (ลาเต้) บรรณาธิการข่าวการศึกษา เว็บไซต์ DEK-D.com ทวีตข้อความสะท้อน #dek62 เผชิญปัญหา พร้อมแนะเปิดคะแนนต่ำสุด TCAS รอบ 3 เนื่องจากพบกรณีผิดปกติ หลังนักเรียนหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าแต่ละมหาวิทยาลัยมีการใช้เกณฑ์คัดเลือกแตกต่างกัน
สังคม
TCAS,Dek62,TCAS3,ทีแคส,ประกาศผล,สอบติด,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/279928
เหมืองแร่เมืองเลย ขอฟ้องเด็ก ม.4 หลังรายงานข่าวผลกระทบในพื้นที่ผ่าน TPBS
บริษัท ทุ่งคำ หรือเหมืองแร่เมืองเลยฟ้องเด็ก ม.4 หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังรายงานผลกระทบจากการทำเหมือง อ้างเด็กรายงานไม่เป็นความจริง สถานพินิจฯ ส่งหนังสือเชิญเด็กให้ถ้อยคำ 21 ธ.ค. นี้13 ธ.ค. 2558 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีหนังสือจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเลย ส่งถึงน.ส.เอ (ขอสงวนชื่อ-สกุล เนื่องจากเป็นเยาวชน)และบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง เรื่องขอเชิญ น.ส.เอ และบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง มาให้ถ้อยคำต่อพนักงานคุมประพฤติ โดยได้ส่งหนังสือแนบมาด้วยคือ หนังสือของอนุญาตฟ้องเด็กและเยาวขนคดีอาญา ลงวันที่ 27 พ.ย. 2558ทั้งนี้ หนังสือจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเลย ระบุว่า ด้วยทนายความและที่ปรึกษากฎหมายผู้ได้รับมอบอำนาจ ได้มีหนังสือขออนุญาตฟ้องเด็กหรือเยาวชน คดีอาญา ในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ด้วยเอกสาร และโทรทัศน์ ซึ่งตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีวิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 99 วางหลักว่า ห้ามมิให้ผู้เสียหายฟ้องคดีอาญาซึ่งมีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทำความผิดต่อศาลเยาวชนและครอบครัว เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการสถานพินิจที่เด็กหรือเยาวชนอยู่ในเขตอำนาจ นั้นสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเลยจึงขอเชิญน.ส.เอ (ขอสงวนชื่อ-สกุล เนื่องจากเป็นเยาวชน) และบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง มาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์ในคดี ในวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม 2558 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ฝ่ายคดี สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเลย เพื่อจักดำเนินการสืบสวน และสอบสวนข้อกล่าวหานั้นว่ามีมูลสมควรอนุญาตให้ผู้เสียหายฟ้องหรือไม่ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ในหนังสือของอนุญาตฟ้องเด็กและเยาวชนคดีอาญา ลงวันที่ 27 พ.ย. 2558 นั้นระบุว่า ด้วยเมื่อวันที่ 28-30 สิงหาคม 2558 น.ส.เอ (ขอสงวนชื่อ-สกุล เนื่องจากเป็นเยาวชน) อายุ 15 ปี ในฐานะนักข่าวพลเมืองสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้ให้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ หรือนักข่าวภาคสนามประจำสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวขณะออกค่ายเยาวชนฮักบ้านเจ้าของ ตอน นักสืบลำน้ำฮวยแท้ๆ แน๊ว ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 28-30 สิงหาคม 2558 ที่วัดโนนสว่าง ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ในลักษณะเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด (โจทก์) ว่า ลำน้ำฮวยได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทองคำโดยลำน้ำฮวยมีสารปนเปื้อน ทำให้ใช้ดื่ม ใช้กินไม่ได้ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 เทปบันทึกคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวของน.ส.เอ (ขอสงวนชื่อ-สกุล เนื่องจากเป็นเยาวชน) ได้ถูกทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นำเสนอออกอากาศทางโทรทัศน์ทั่วประเทศ และเผยแพร่ทางยูทูป ทางอินเทอร์เน็ต ด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งให้สัมภาษณ์ดังกล่าวของน.ส.เอ (ขอสงวนชื่อ-สกุล เนื่องจากเป็นเยาวชน) ถือเป็นการใส่ความร้ายต่อบริษัท ทุ่งคำ จำกัด (โจกท์) เนื่องจากข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ เพราะความจริงเหมืองแร่ดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่มีสารปนเปื้อน และลำน้ำฮวยไม่ได้ไหลผ่านเหมืองแร่จากกรณีข้างต้น บัดนี้ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ได้ดำเนินการฟ้องเกี่ยวข้องเป็นคดีอาญาในข้อหา หรือฐานความผิด หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ต่อศาลอาญา ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.3756/2558 ปรากฎตามสิ่งที่แนบมาด้วย (2) และพฤติการณ์แห่งคดีบริษัท ทุ่งคำ จำกัด เห็นว่า น.ส.เอ (ขอสงวนชื่อ-สกุล เนื่องจากเป็นเยาวชน) มีเจตนากระทำความผิดหรือเข้าข่ายเป็นผู้กระทำผิดอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาดังนั้น บริษัท ทุ่งคำ จำกัด จึงมีความจำเป็นและชอบธรรมที่จะฟ้องใช้สิทธิทางศาล เพื่อปกป้อง รักษา ชื่อเสียงเกียรติคุณ และธุรกิจของตนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ด้วยการดำเนินคดีอาญากับนางสาววันเพ็ญ คุณนา ในฐานความผิด หมิ่นประมาทฯ
บริษัท ทุ่งคำ หรือเหมืองแร่เมืองเลยฟ้องเด็ก ม.4 หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังรายงานผลกระทบจากการทำเหมือง อ้างเด็กรายงานไม่เป็นความจริง สถานพินิจฯ ส่งหนังสือเชิญเด็กให้ถ้อยคำ 21 ธ.ค. นี้ 13 ธ.ค. 2558
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม,สังคม
ทรัพยากร,นักข่าวพลเมืองTPBS,วังสะพุง,สถานพินิจ,เยาวชนฮักบ้านเจ้าของ,เลย,เหมืองแร่,เหมืองแร่เมืองเลย
https://prachatai.com/journal/2015/12/62928
จับชาวมาเลย์ลอบขนใบกระท่อมสดเข้าไทย
เมื่อเวลา 18.30 น วันที่ 31 ต.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ต.โกศล ปิ่นเพชร หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ร้อย.ตชด.445 พร้อม ร.ต.จเร โรจนศรินญา ผู้บังคับหมวดป้องกันชายแดนที่3 นำกำลัง ตชด. ทหาร ตั้งด่านตรวจบริเวณท้ายด่านศุลกากรเบตง บ.กาแป๊ะฮูลู ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา หลังจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนใบพืชกระท่อมสดจากประเทศ มาเลเซียเข้ามาประเทศไทย ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโปรตอน สีขาว หมายเลขทะเบียน WTK 3947 ขับผ่านมา ตรงตามที่สายลับแจ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบใบพืชกระท่อมสดจำนวน 182 มัด น้ำหนักรวม 12.3 กิโลกรัม ใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีดำซุกซ่อนในกระเป๋าเสื้อผ้าสีดำ/น้ำเงิน อยู่ภายในกระโปรงหลังรถ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนาย PHADPHONG A/L PIN อายุ 30 ปี สัญชาติมาเลเซีย นาง EARAIM A/L CHA RAT อายุ 28 ปี สัญชาติมาเลเซีย แฟนสาว มาสอบที่กองร้อย ตชด.445,จากการสอบสวนนาย PHADPHONG A/L PIN ให้การรับสารภาพว่า ตนและแฟนสาวขนใบกระท่อมเป็นครั้งแรก โดยได้รับการว่าจ้างจากเพื่อนชาวมาเลเซียในราคา 2,600 บาท ให้ขนใบกระท่อมมาส่งที่บริเวณสะพานข้างวิทยาลัยการอาชีพเบตง ถนนมหามงคล ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา แล้วจะมีชาวไทยมารับใบกระท่อมแต่ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร ส่วนสาเหตุที่มารับจ้างขนใบกระท่อมเพราะตนมีอาชีพกรีดยางในประเทศมาเลเซีย แต่ช่วงนี้ไม่สามารถกรีดยางได้เพราะฝนตกบ่อยครั้ง ประกอบกับราคายางตกต่ำ ทำให้รายได้ไม่พอใช้ ตนกับแฟนจึงต้องมารับจ้างขนใบกระท่อม เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยซึ่งยาเสพติดให้โทษ ประเภท5 (ใบพืชกระท่อมสด) มียาเสพติดให้โทษประเภท5 (ใบพืชกระท่อมสด) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งนำตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เบตง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
เบตง ตชด.445 พร้อมทหารชุดป้องกันชายแดนที่3 ตั้งด่านจับชายชาวมาเลเซีย พร้อมแฟนสาว ลักลอบขนใบพืชกระท่อมสดเข้าไทย
null
เบตง,ตชด.445,ทหาร,ชาวมาเลเซีย,ลักลอบ,ใบกระท่อมสด,กระท่อม,ไทย,ยะลา
https://www.thairath.co.th/content/460543
สปสช.แจงวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกขาด
นพ.รัฐพล เตรียมวิชานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติ (สปสช.) กล่าวรายงานความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนเอชพีวี ป้องกัน มะเร็งปากมดลูกในนักเรียนหญิงชั้น ป.5 ในที่ประชุมคณะกรรมการ สปสช. ซึ่งมี ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน,ว่าไทยต้องการ วัคซีน 884,103 โดส วัคซีนเข็มแรกได้จัดหาแล้ว 449,121 โดส และกระจายฉีดให้กับนักเรียนหญิง 269,121 โดสยังเหลือในสต๊อก 180,000 โดส ส่วนวัคซีนเข็ม 2 ซึ่งมีแผนจัดซื้อ 449,121 โดส ซึ่งเปิดซองประมูลแล้วแต่ยังไม่มีบริษัทใดเข้าร่วม เพราะติดปัญหาว่า สปสช.ไม่มีระบบการจัดซื้อวัคซีนข้ามปี ดังนั้นจึงมี 2 ทางเลือกให้บอร์ด สปสช. พิจารณา คือ 1. กระจายวัคซีนที่เหลือให้กับนักเรียนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว เพื่อให้ฉีดครบ 2 เข็ม ตามเกณฑ์ และ 2.กระจายวัคซีนที่เหลือให้นักเรียน ที่ยังไม่เคยฉีดเพื่อให้มีนักเรียนได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ครบทุกราย ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ทำหนังสือเข้ามายืนยันว่า ขณะนี้วัคซีนเอชพีวีขาดจริงๆ จึงเสนอ ให้กระจายวัคซีนที่เหลือให้กับเด็กหญิงที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เพราะมีข้อมูลผลการศึกษาในคอสตาริกาและอินเดียพบว่าเมื่อได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วประสิทธิภาพจะป้องกันโรคได้ 4-7 ปี,ศ.นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าสปสช.ต้องวางระบบการจัดซื้อวัคซีนข้ามปี และต้องทำทุกวัคซีน ส่วนการกระจายวัคซีนที่เหลือ ต้องให้ผู้เกี่ยวข้องไปพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งและนำมาเสนอในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ โดยอิงคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกด้วย.
วัคซีนเข็ม 2 ซึ่งมีแผนจัดซื้อ 449,121 โดส ซึ่งเปิดซองประมูลแล้วแต่ยังไม่มีบริษัทใดเข้าร่วม เพราะติดปัญหาว่า สปสช.ไม่มีระบบการจัดซื้อวัคซีนข้ามปี
ข่าว,สังคม
วัคซีน,มะเร็งปากมดลูก,วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกขาด,สปสช.,จัดซื้อ,สุขภาพ
https://www.thairath.co.th/news/society/1414005
ชี้มาตรา 44 ต่อลมหายใจฟรีทีวี 22 ช่อง
วันนี้ (20ธ.ค.2559) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. ออกคำสั่ง ฉบับที่ 76/2559 เรื่องมาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 มีคำสั่งใน 3 ประเด็น ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบกิจการฟรีทีวี 22 ช่องที่ออกอากาศภาคพื้นดินระบบดิจิทัล และเกี่ยวกับการยืดเวลาคืนคลื่นความถี่สถานีวิทยุในสังกัดของกองทัพและหน่วยงานราชการ จำนวน 537 สถานี สำหรับประเด็นแรก การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการฟรีทีวี จำนวน 22 ช่อง มีด้วยกัน 2 ประเด็นตามที่ผู้ประกอบการเคยเสนอไป ได้แก่ การจ่ายเงินค่าชนะประมูลใบอนุญาต ในงวดที่ 4 ซี่งจะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2560 ผู้ประกอบการสามารถจ่ายได้หลังจากเดือนพฤษภาคม แต่ต้องเสียดอกเบี้ยตามอัตราMLR ของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ มีคำสั่งให้ สำนักงาน กสทช. ช่วยจ่ายค่าเช่าเสาโครงข่ายสัญญาณดาวเทียม ซึ่งผู้ประกอบการฟรีทีวี 22 ช่อง ออกอากาศอยู่ในปัจจุบัน ให้กับผู้ประกอบการโครงข่ายดาวเทียม (บริษัทไทยคม) เพื่อให้เป็นไปตามกฏมัสแครี่ย์ โดยกฏนี้ กสทช.กำหนดไว้ว่า ผู้ประกอบการที่ชนะประมูลทีวีดิจิทัลต้องออกอากาศให้ครบทุกช่องทางที่ออกอากาศได้ เพื่อให้ประชาชนรับชมได้ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน เนื่องจากทั้ง 22 ช่อง เป็นกลุ่มฟรีทีวี จึงต้องออกอากาศในโครงข่ายดาวเทียมและทางเคเบิ้ลทีวีด้วยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ระบุว่าผลจากคำสั่งตามมาตรา 44 นี้ กสทช.จะช่วยจ่ายค่าเช่าโครงข่ายดาวเทียมแทนผู้ประกอบการ เป็นเวลา 3 ปี รวมมูลค่า 2500 ล้านบาท ซึ่งจะรวมถึงการจ่ายให้ช่องทีวี ประเภทกลุ่มสาธารณะอีก 4 ช่อง ได้แก่ ช่อง 5 ช่องNBTอสมท. และช่องไทยพีบีเอสด้วย โดยจะต้องเสนอเข้ากองทุนพัฒนากิจการกระจายเสียง (กทปส.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งตามมาตรา 44 ในส่วนของข้อ 7 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ประกอบการฟรีทีวีดิจิทัล แต่เป็นคำสั่งระงับการคืนคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นสถานีวิทยุ และส่งผลทำให้สถานีวิทยุที่อยู่ในสังกัดของหน่วยงานรัฐ ได้แก่ กรมประชาสัมพันธ์ อสมท. และสถานีวิทยุในกองทัพรวม 537 สถานี ได้สิทธิ์ขยายระยะเวลาเป็นเจ้าของสัมปทานต่อไปอีก 5 ปี นับจากนี้ จากกำหนดเดิม ทั้งหมดจะต้องส่งคืนคลื่นให้ กสทช.ภายในเดือนเมษายน 2560 เพื่อนำไปจัดสรรและประมูลให้ใบอนุญาต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นที่ผู้ประกอบการฟรีทีวีดิจิทัล เคยเสนอขอหัวหน้าคสช.ให้ใช้มาตรา 44 นั้น มีอีกหลายประเด็น แต่วันนี้ ไม่ได้พิจารณาหรือมีคำสั่ง ได้แก่ การขอขยายระยะเวลาถือครอบอายุใบอนุญาตทีวีดิจิทัล จากเดิม 15 ปี เป็น 20 ปี ขอลดค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิทัลซึ่ง 22 ช่อง เช่าอยู่กับเจ้าของโครงข่าย 3 รายหลัก ไทยพีบีเอส ช่อง5 อสมท.เพื่อให้แต่ละสถานีออกอากาศได้ และกรณีหากผู้ประกอบการรายใดต้องการทิ้งใบอนุญาตประมูล ก็ไม่ต้องจ่ายค่างวดที่เหลืออยู่ งวด 45 และ 6 จากทั้งหมดที่ต้องจ่าย 6 งวดนายเขมทัตต์ พลเดช นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจกว่าร้อยละ 50 เนื่องจากมี 2 ประเด็นตามที่ขอไป และ คสช.ช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้น ส่วนประเด็นอื่นๆ จะยังต้องเจรจากับทาง กสทช. ต่อไป ส่วนผู้ประกอบการจะทะยอยค่าประมูลงวดที่4 หลังพ้นเดือนพฤษภาคม 2560 ไปแล้วหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ประกอบการแต่ละช่อง รวมถึง สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี ซึ่งนายเขมทัตต์ เป็นผู้บริหารด้วยนั้น ก็จะนำเสนอเข้าคณะกรรมการ (บอร์ด) บริหารอีกครั้ง เพื่อขอทราบแนวทางและความชัดเจนด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ หนึ่งในกรรมการ กสทช.ตั้งข้อสังเกตว่า คำสั่งตามมาตรา 44 กรณีช่วยผู้ประกอบการฟรีทีวีดิจิทัลนั้น ส่วนตัวเห็นด้วยสำหรับประเด็นขยายเวลาจ่ายเงินค่าชนะประมูล แต่กรณีที่ กสทช.จะจ่ายเงินค่าเช่าโครงข่ายแทนผู้ประกอบการฟรีทีวี จำนวน 2500 ล้านบาทนั้น เป็นวงเงินที่สูงเกินความเป็นจริง และวันพรุ่งนี้ จะทำบันทึกในฐานะกรรมการสอบถาม สำนักงาน กสทช. ให้ชี้แจง เพราะแม้ว่า จะเห็นด้วยว่า ควรจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการค่าเช่าโครงข่ายดาวเทียมตามกฎมัสแครี่ แต่ก็ไม่ควรจ่ายถึง 2500 ล้านบาท เพราะวงเงินนี้ บริษัทไทยคมจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์เพียงผู้เดียว และหากเป็นไปด้วยก็ควรนำเงินแบ่งไปช่วยจ่ายค่าเช่าเสาโครงข่ายที่ต้องออกอากาศในระบบดิจิทัล ภาคพื้นที่ ที่ทั้ง 22 ช่อง เช่า ไทยพีบีเอส ช่อง 5 และ อสมท. ด้วย อาจเป็นการช่วยเหลือได้อีกช่องแทน ซึ่งเรื่องนี้ บอร์ด กทปส. อาจต้องพิจารณาให้รอบคอบ เธอ บอกว่า ประเด็นที่รับไม่ได้มากที่สุด คือ การที่คลื่นของหน่วยงานรัฐ ยังได้สิทธิขยายเวลาเป็นเจ้าของคลื่น ภายในระบบสัมปทานต่อไปอีก 5 ปี แทนที่จะคืนกลับมาให้ กสทช. นำไปจัดสรร เรื่องนี้ไม่ทราบเจตนาที่เกิดขึ้นว่าคำสั่งตาม ม. 44 เหตุใดจึงมีเรื่องที่เกี่ยวกับการคืนคลื่นรัฐมาเกี่ยวข้องด้วยทั้งๆ ที่ควรจะเป็นคำสั่งที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประกอบการฟรีทีวีเท่านั้นการที่หน่วยงานรัฐ และกองทัพยังได้สิทธิเป็นเจ้าของคลื่นสถานีวิทยุต่อไป โดยไม่ส่งคืนตามแผนแม่บท กสทช. ทำให้เกิดการแข่งขันไม่เสรีเป็นธรรม เป็นการแช่เวลาให้ระบบสัมปทาน เพราะผู้ประกอบการสถานีวิทยุรายใหม่ที่สนใจจะยังไม่ได้ใบอนุญาต และกลุ่มผู้ประกอบการที่ทดลองออกอากาศในขณะนี้ ก็ยังไม่ได้ใบอนุญาตตัวจริง แต่กองทัพและหน่วยงานรัฐ กลับได้สิทธิ์ถือครองคลื่นต่อไป ซึ่งจะอ้างเรื่องความมั่นคงก็ไม่น่าจะฟังขึ้น เนื่องจาก จำนวนคลื่นวิทยุทั้ง 537 สถานีนั้น ในจำนวนนี้ มีมากกว่าร้อยละ50 เป็นคลื่นที่เกี่ยวกับความบันเทิงและเปิดเพลง
ม.44 ให้สิทธิ์ 22 ช่องฟรีทีวี จ่ายค่าประมูลช้าได้ แต่เสียดอกเบี้ย สั่ง กสทช.จ่ายค่าเช่าออกอากาศบนดาวเทียมแทนผู้ประกอบการ 2500 ล้านบาท สุภิญญา กังขา คำสั่งแฝงให้สิทธิ์ กองทัพ-หน่วยรัฐ ยึดคลื่นวิทยุ 537 คลื่น ต่อยาวอีก 5 ปี จัดสรรใหม่ เม.ย.60
เศรษฐกิจ
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,กสทช.,น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์,มาตรา44,คณะรักษาความสงบแห่งชาติ,คสช.
https://news.thaipbs.or.th/content/258900
นครชัย เสริมทัพรับสงกรานต์ ค่าโดยสารเท่าเดิม เพิ่มเติมความปลอดภัย
นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเผยว่า นครชัยแอร์ ได้ดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย ป้องกัน และลดอุบัติทางถนนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในข่วงเทศกาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ เตรียมความพร้อมภายใต้มาตรการหลักที่สำคัญ อาทิ จัดทำแผนการเสริมรถเพื่อรองรับความต้องการของประชาชน ภายใต้การเตรียมความพร้อมในทุกในทุกๆ ด้าน ทั้งตัวรถ พนักงานขับรถ พนักงานต้อนรับบนรถ และพนักงานทุกภาคส่วน การันตีรถทุกเที่ยวค่าโดยสารเท่าเดิม เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจเช็กสภาพรถจากเดิม โดยจัดจัดทีมงานช่างประจำสาขาคอยเฝ้าระวัง และตรวจสอบสมรรถนะรถโดยสารอย่างละเอียด เพิ่มความถี่ในการตรวจมากขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการเดินรถที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับรถทุกคันที่อยู่บนท้องถนน แจ้งข่าวและความเคลื่อนไหวของสภาพการจราจรทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางสำรอง ที่บริษัทฯจัดเตรียมไว้ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงพนักงานขับรถ พนักงานต้อนรับ และพนักงานที่ให้บริการลูกค้าทุกหน้าที่อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมผ่านการอบรมความรู้การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การช่วยเหลือลูกค้าในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อส่งผู้โดยสารทุกท่านถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย เพราะนอกจากการเตรียมความพร้อมของรถ ความพร้อมของพนักงานก็ถือเป็นส่วนสำคัญ,นอกจากนี้ นครชัยแอร์ ร่วมมือกับภาครัฐ เตรียมความพร้อมก่อนปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรการ สแกนรถโดยสาร ต้อนรับเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบก เข้ามาตรวจสอบรถโดยสารของนครชัยแอร์จากต้นทาง ณ สถานีเดินรถนครชัยแอร์ กรุงเทพฯ ตามรายการตรวจสอบที่กรมการขนส่งทางบก จัดทำขึ้น (Checklist) เช่น ตรวจสอบการติดตั้งระบบ GPS Tracking การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยต้องมีครบทุกที่นั่ง และสามารถใช้งานได้ จำนวนที่นั่งไม่เกินตามที่กำหนด ตำแหน่งการติดตั้งที่นั่งต้องไม่กีดขวางประตูฉุกเฉิน สภาพยางและล้อต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นต้น ด้านพนักงานขับรถ มีการตรวจใบอนุญาตขับรถ ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ซึ่งจะต้องมีค่าเป็น 0 ก่อนและหลังการให้บริการ และไร้สารเสพติด,นางเครือวัลย์ กล่าวต่อไปว่า เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนเดินทาง ณ สถานีเดินรถนครชัยแอร์ กรุงเทพฯ ภายในมีห้องรับรองแยกเป็นสัดส่วน ด้วยพื้นที่กว้างขวางสะดวกสบายลดความแออัดให้เป็นส่วนตัว รองรับกลุ่มลูกค้าผู้ใช้รถวีลแชร์ เพิ่มความสะดวกสบาย พร้อมบริการระหว่างรอรถโดยสาร เช่น Free Wi-Fi, จอรับชมฟรีทีวี, ตู้ ATM, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายของฝาก, ห้องรับรองผู้โดยสารติดตั้งเครื่องปรับอากาศ, บริการส่งพัสดุด่วน 2 ชั่วโมง และจัดบริการรถตู้รับ-ส่ง จากสถานีเดินรถนครชัยแอร์ กรุงเทพฯ (ถ.กำแพงเพชร 2) ไปยัง สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต (BTS) ฟรี และคิวรถ Taxi อีกทั้ง บริษัทได้จัดให้มีร้านค้าต่างๆ มาร่วมกิจกรรมส่งผู้โดยสารกลับบ้าน และจำหน่ายสินค้าพรีเมี่ยมราคาย่อมเยาว์ เพื่อคืนกำไรและแทนคำขอบคุณให้แก่ลูกค้าทุกท่าน.
นครชัยแอร์ เข้มงวด! เสริมทัพความปลอดภัย ดึงภาครัฐร่วมตรวจสอบมาตรฐาน การันตีคนขับปลอดแอลกอฮอล์ ไร้สารเสพติด มั่นใจตลอดสงกรานต์ รับประกันรถเสริมทุกคัน รักษาไว้ซึ่งมาตรฐานในราคาค่าโดยสารปกติ
ข่าว,เศรษฐกิจ
นครชัยแอร์,สงกรานต์,สงกรานต์2560,กลับบ้านสงกรานต์,รถทัวร์นครชัยแอร์
https://www.thairath.co.th/news/business/913170
ลูกแชร์ บ้านคุณเอ็กซ์ ให้ปากคำ ตร.ตะกั่วป่า หลังแชร์ล่มเสียหายกว่า2ล้าน
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 18 พ.ย.62 ผู้เสียหายจากการเล่นแชร์ออนไลน์ชาวพังงา จำนวนกว่า 40 ราย เข้าให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.สราวุธ สูงสง่า สารวัตรเวร พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า จ.พังงา กรณีเล่นแชร์ออนไลน์ กระทั่งแชร์ล่มทำให้สูญเสียเงินจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนแก่ลูกแชร์ต่างๆ โดยเบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้เสียหายส่วนใหญ่พบว่า มีการชักชวนผ่านเฟซบุ๊ก ของผู้ใช้นางแฝง เอ็กซ์ เอ้งฉ้วน หรือ บ้านแชร์คุณเอ็กซ์ หรือชื่อจริงว่า นางดวงพร เอ้งฉ้วน และนายชนานนท์ เอ้งฉ้วน สามีภรรยา ชาวตะกั่วป่า จ.พังงา,ในการเล่นแชร์ดังกล่าว ท้าวแชร์จะกำหนดยอดเงินแต่ละวง โดยกำหนดให้มือแรกจะสูงกว่ามือหลังๆ ท้าวแชร์จะได้เงินมือแรกโดยไม่ต้องจ่ายเงิน ผู้เสียหายส่วนใหญ่เล่นแชร์ดังกล่าวของ บ้านแชร์คุณเอ็กซ์ หลายวงเมื่อหักลบยอดเงินท้าวแชร์ ยังคงค้างเงินผู้เสียหายจำนวนทั้งหมดจากจำนวนกว่า 40 ราย ในเบื้องต้นร่วม 2 ล้านบาท เบื้องต้นท้าวแชร์อ้างว่า ลูกแชร์หลายรายไม่จ่ายตามที่ตกลงไว้ทำให้ไม่มีเงินหมุนทันที่จะเล่นแชร์ต่อ ทางผู้เสียหาย จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทางเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย,ล่าสุดผู้เสียหาย ได้ติดต่อ นายสรรเพชร ทิพมนเทียร ทนายความ พร้อมทีมทนายความ เข้ามอบอำนาจแต่งตั้ง ทนายความ เพื่อให้ทาง ทนาย เข้ายื่นฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดตะกั่วป่าโดยตรง โดยผู้เสียหายทั้งหมดต้องการความรวดเร็วในการฟ้องร้องทางคดี เนื่องจากขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนด้านการเงิน บางรายใช้เงินที่ทำงานมาตลอดชีวิตลงทุนกับการเล่นแชร์ดังกล่าว หลายรายหลงเชื่อใจเพราะเห็นว่าเป็นคนตะกั่วป่า มีตัวตนชัดเจน นอกจากนี้พบว่า มีผู้ที่เข้าร่วมวงแชร์ ของ บ้านคุณเอ็กซ์ นอกจากในพื้นที่จังหวัดพังงา แล้ว ยังพบว่ามีจากต่างจังหวัดทั่วประเทศ โดยผู้เสียหายหลายรายที่อาศัยและทำงานที่ กรุงเทพฯ เบื้องต้นเข้าแจ้งความต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว,นางอารีรัตน์ ฝ่ายอุประ อายุ 41 ปี ผู้เสียหายแชร์บ้านคุณเอ็กซ์ กล่าวว่า ท้าวแชร์ได้ล่มแชร์เมื่อวันที่ 23 ,ต.ค.62 นี้ ทำให้เกิดความเสียหายในกลุ่มลูกแชร์ อีกทั้งแจ้งต่อลูกแชร์ว่า ไม่ให้เงินคืนแก่ผู้ที่เข้าแจ้งความ ซึ่งทางลูกแชร์มองว่า ถึงจะแจ้งหรือไม่ ทางท้าวแชร์ไม่สามารถคืนเงินหรือออกมารับผิดชอบ,ด้าน นางฟารีด้า ดาราภัย อายุ 38 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองสูญเงินจำนวน 32,000 บาท จากมีการเล่นแชร์บ้านคุณเอ็กซ์ โดยมีการโฆษณาชวนเชื่อ ให้ดอกเบี้ยสูงได้เงินชัวร์ อีกทั้งลูกๆของท้าวแชร์รายนี้เรียนสถานที่เดียวกันกับลูกของตนเอง ทำให้เชื่อมั่นว่าไม่ถูกโกงเงิน โดยได้ดอกเบี้ยเกือบเท่าตัวของเงินต้น โดยไม่ได้กำหนดเงินเปีย ทำให้ดอกเบี้ยยิ่งสูงกว่าปกติมาก,ส่วน นายสรรเพชร ทิพมนเทียร ทนายความ กล่าวว่า คดีดังกล่าว ทางผู้เสียหายได้มอบอำนาจให้ทีมทนายความเข้าดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดตะกั่วป่า เพื่อความรวดเร็วทางคดี และลดภาระของพนักงานสอบสวน ส่วนข้อกล่าวหาที่ต้องแจ้งดำเนินคดี เบื้องต้นทางพยานหลักฐาน ต้องแจ้งในฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ส่วนข้อหาอื่นที่คาดว่าเป็นการกระทำผิดร่วมด้วย ในเรื่องของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พรบ.แชร์ ซึ่งต้องพิจารณาหลักฐานที่ได้มาก่อนว่าควรดำเนินการเรื่องใดบ้าง.
ลูกแชร์บ้านคุณเอ็กซ์แห่ให้ปากคำตำรวจตะกั่วป่า พร้อมตั้งทนายยื่นฟ้องศาลจังหวัดตะกั่วป่า หลังแชร์ล่มท้าวไปไม่ไหว ทำให้ลูกแชร์เสียหายกว่า 40 ราย แถมไม่มารับผิดชอบ หรือ คืนเงินกว่า 2 ล้านบาทด้วย
ข่าว,อาชญากรรม
บ้านแชร์คุณเอ็กซ์,แชร์ล่ม,ลูกแชร์,สภ.ตะกั่วป่า,พังงา,หลอกลงทุน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1706598
ลูกเกด อุบ มาช่า ถอนตัวเมนเทอร์
มีกระแสเม้าท์ว่า มาช่า ขอถอนตัวเพราะเกาเหลากับเมนเทอร์สายตรอง ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม เจอ ลูกเกด งาน Numero Thailand Seminar on Best Brand Products 2016-2017 ที่ร้านอาหาร Heaven Bangkok ชั้น 18 เซ็นทรัลเวิลด์,เผยถึงเรื่องที่คนสงสัยว่ามาช่าหายไปไหน?, จะบอกว่าต้องรอดู (ยิ้ม),หลายคนมองว่ามาช่าเทแล้ว?, อันนี้ก็ไม่รู้ ไม่รู้พี่ช่าจะตอบอะไร,มีข่าวว่ามาช่าถอนตัวจริงมั้ย?, อันนี้ก็บอกอะไรไม่ได้เพราะเดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์ ตอนนี้มีกระแสมากมายสปอยล์เยอะมากแต่ขอบอกเลยว่าปีนี้มีคนมาเยี่ยมมาร่วมรายการเป็นดาราชื่อดังเยอะมาก,มีกระแสว่าลูกเกดกับมาช่าจะตบกันกลางรายการ?, จะบอกว่าดุเดือดมั้ยก็ดุเดือด ซีซั่นที่แล้วดุเดือดไหมก็ดุเดือดเพราะจะมีทะเลาะกัน ปีนี้เนี่ยก็ไม่น้อยค่ะ สนุกเหมือนกัน,คนมองว่าเป็นการสร้างกระแสให้ราย การดังขึ้น?, ใครสร้าง เกดสร้างเหรอ แฟนคลับของรายการเค้าเก่งมากเลย เค้าดูทุกจุดทุกเม็ดทุกหยด สังเกตทุกอย่าง,คนจับผิดว่าวันเกิดของบี-น้ำทิพย์ไม่มีมาช่ามาร่วมด้วย?, จริงๆก็จะไม่มีเกดเพราะวันนั้นเราถ่ายเสร็จแล้วและจะต้องรีบไปสนามบิน ก็กำลังจะก้าวขึ้นรถอยู่แล้วก็โดนคว้ามา ตอนนั้นกำลังจะกลับบ้านที่ภูเก็ต,มีข่าวว่าเต้ ปิยะรัฐ จะขู่ฟ้องคน ที่สปอยล์รายการ เราอึดอัดมั้ย เพราะบางทีอยากจะเล่าแต่เล่าไม่ได้?, คันมากเลยอ่ะ (ยิ้ม) เป็นเพราะที่ผ่านมาเคยมีบุคคลที่เคยลงสปอยล์ มันก็น่าเสียดายเพราะว่าคนรอดู ถ้าคุณสปอยล์มันก็ไม่สนุก เกดเลยคิดว่าคุณเต้ก็ไม่อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เลยอาจต้องใช้เรื่องกฎหมายเข้ามาด้วย.
ปัดแตกคอกลางเดอะเฟซ ยอมรับดุเดือดจริงซีซั่น 3 ยังไม่ทันได้ออกอากาศแต่แฟนคลับรายการดัง เดอะเฟซ ไทยแลนด์ ก็จ้องจับตาทุกเม็ดฮือฮาตั้งแต่เปิดตัวได้เมนเทอร์คนใหม่มาช่า วัฒนพานิช มาร่วม แต่ยิ่งแซ่บกว่าเดิมเมื่อ
null
เดอะเฟซ ไทยแลนด์,The Face Thailand,มาช่า วัฒนพานิช,ลูกเกด เมทินี,บี น้ำทิพย์
https://www.thairath.co.th/content/800001
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติไทย การสะสมชัยชนะ 4 หลักไมล์ บนเส้นทาง 16 ปี
คุณกำลังคิดผิดนั่นเพราะทางเดินตลอดระยะเวลา16ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่17ในปี2562นั้น ฤแห่งความหวังและความฝันในการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติล้วนเต็มไปด้วยความท้าทายบนความสลับซับซ้อน ดังนั้น ทุกๆ จังหวะก้าวจึงมีการวางแผนที่รัดกุมในวันที่ความสำเร็จของประเทศไทยเบ่งบาน นานาชาติทั่วทั้งโลกต่างให้การยอมรับและยกย่องให้เป็นแบบอย่างการดำเนินงานพูดคุยกับ นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา หนึ่งในบุคคลที่อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์การก่อกำเนิดระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งในบทบาทของอดีตบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขฟากฝั่งผู้ให้บริการ และคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ฟากฝั่งผู้ซื้อบริการเราขอเชิญชวนทุกท่านติดตามสาระสำคัญจากบทสัมภาษณ์ เพื่อร่วมกันทำความเข้าใจระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไปพร้อมๆ กันหลักประกันสุขภาพเป็นสิทธิของคนไทยทุกคน ตามวิสัยทัศน์ของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติคือจะทำให้ทุกคนในแผ่นดินไทยได้รับความคุ้มครองในหลักประกันสุขภาพอย่างถ้วนหน้า ด้วยความมั่นใจว่าจะมีระบบที่เกื้อกูลและสนับสนุนให้มีสุขภาพดี และถ้าเกิดล้มป่วยลงด้วยโรคใดๆ ก็ตาม ก็จะมีระบบบริการที่รองรับดังนั้น พันธกิจที่ดำเนินการจึงเน้นไปที่การบริหารจัดการกองทุน และจัดบริการให้ครอบคลุมโรคภัยไข้เจ็บของทุกกลุ่มวัย และคนทุกกลุ่มวัย ทุกเศรษฐานะเข้าถึงได้โดยระบบบริการต้องมีคุณภาพที่เข้มข้น มีวิชาการรองรับ ภายใต้กรอบและขอบเขตการให้บริการตามความจำเป็นไม่ใช่เพียงเพื่อความสะดวกสบายหรือความสวยงามเมื่อพูดถึงความจำเป็น ระบบหลักประกันสุขภาพจึงถูกออกแบบให้ประกอบด้วยเรื่องของการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การรักษาพยาบาล ตลอดจนการพัฒนาระบบบริการระยะเวลา16ปี นับตั้งแต่ประเทศไทยมี พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545มาจนถึงทุกวันนี้ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ดำเนินงานมาแล้ว4ยุทธศาสตร์ใน4ช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งทั้งหมดสอดคล้องกับสถานการณ์ พันธกิจ และบริบท ณ ขณะนั้นการดำเนินงานยุทธศาสตร์ที่1ของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในช่วง พ.ศ.2546-2550เรียกได้ว่าเป็นยุคตั้งต้นจึงมีจุดเน้นไปที่ความครอบคลุมประชาชนในกลุ่มเป้าหมายอาทิ การสร้างความรับรู้ต่อประชาชนให้ทราบว่าเขามีสิทธิแล้ว วิธีการขึ้นทะเบียนทำอย่างไร การทำความเข้าใจกับระบบบริการทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน การจัดระบบการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคทั้งหมด ดำเนินการผ่านกลไกกระบวนการการมีส่วนร่วมภายใต้หลักการสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา ทั้งจากตัวแทนฟากฝั่งประชาชน ตัวแทนผู้ให้บริการ และตัวแทนกองทุนซึ่งหมายถึงภาครัฐ โดยขณะนั้นได้มุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงพื้นที่ในเชิงปริมาณเพื่อให้เกิดความครอบคลุมก่อนในช่วงที่เราตั้งต้น แน่นอนว่ามีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก จึงต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ การสื่อสาร การปรับความต้องการระหว่างกันให้ตรงกัน โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่าย งบประมาณ การติดตามดูแลต่างๆ นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวสำหรับยุทธศาสตร์ที่2ช่วง พ.ศ.2551-2554เป็นการดำเนินงานจากการถอดบทเรียนปัญหาสำคัญในช่วง4ปีแรก ซึ่งก็คือความไม่เพียงพอของงบประมาณ นั่นเป็นเพราะในยุคแรกเริ่มสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ได้รับการจัดสรรเงินเหมาจ่ายรายหัวมาเพียงพันกว่าบาทเท่านั้นฉะนั้น จุดเน้นในยุทธศาสตร์นี้คือการบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ขอบเขตที่กว้างขวางและสลับซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งสรรปันส่วนงบประมาณเพื่อใช้ในชุดสิทธิประโยชน์ และภารกิจต่างๆ รวมไปถึงตามหน่วยบริการขนาดต่างๆ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยทั้งหมดก็ยังอยู่ในกรอบของกระบวนการการมีส่วนร่วมเช่นเดียวกันความงดงามที่เกิดขึ้นคือทุกฝ่ายสามารถพูดคุยกันและตกลงกันได้บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งก็คือข้อมูลวิชาการ เช่น ผู้ที่บอกว่าทรัพยากรเพียงพอก็ต้องอธิบายให้ได้ว่าอะไรที่เรียกว่าเพียงพอ ส่วนผู้ที่บอกว่าไม่พอก็ต้องชี้แจงให้ได้ว่ามันไม่พออย่างไรเมื่อข้อมูลชี้ว่าไม่พอ ฝ่ายหนึ่งก็จะเติมเงินเข้าไปให้ และเมื่อข้อมูลชี้ว่าเพียงพอแล้ว ฝ่ายหนึ่งก็จะกลับไปปรับระบบบริหารให้มีประสิทธิภาพขึ้น นั่นนำไปสู่การเติมเงินให้หน่วยบริการ และการปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุนของหน่วยบริการเอง ทั้งหมดนี้คือการโน้มเข้าหากัน ภายใต้การรับฟังซึ่งกันและกันนพ.ณรงค์ศักดิ์ อธิบายจะเห็นได้ว่า ยุทธศาสตร์ที่2เป็นเรื่องการบริหารจัดการเพื่อให้ ยุทธศาสตร์ที่1สามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในส่วนของการขับเคลื่อนงานในช่วง4ปี ถัดมา คือพ.ศ.2555-2559ซึ่งอยู่ในยุทธศาสตร์ที่3นั้น เรียกได้ว่าเกิดวิกฤตในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นผลพวงจากการกระทบกระทั่งระหว่างหน่วยบริการกับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จากการขาดความใกล้ชิดในการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันขณะนั้นเกิดเป็นคำถามขึ้นมาว่าหลักประกันสุขภาพไทยจะมีความยั่งยืนหรือไม่ดังนั้นจุดเน้นการในการดำเนินยุทธศาสตร์ที่3ก็คือความยั่งยืนของระบบเพื่อตอบโจทย์ผลกระทบจากช่วงที่1-2แค่การมีส่วนร่วมอาจไม่เพียงพอ แต่ต้องทำให้ทุกภาคส่วนเกิดความรู้สึกร่วมกันว่าตัวเองเป็นเจ้าของระบบด้วย และต้องทำให้การบริหารกองทุนกับเรื่องการจัดบริการ การพัฒนาบริการ รวมถึงผู้ใช้บริการ สามารถเชื่อมประสานได้อย่างกลมเกลียว และมีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับตัวมาตรฐานจะสร้างให้เกิดความกลมเกลียวเป็นเนื้อเดียวกัน มีความชัดเจนของกรอบที่จะพูดคุยกัน ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้เราเดินผ่านวิกฤตนั้นไปได้นพ.ณรงค์ศักดิ์ ระบุนอกจากเรื่องความยั่งยืนของระบบแล้ว สถานการณ์ด้านสุขภาพในช่วงนี้มีหลายประเด็นที่สำคัญ ทั้งสังคมผู้สูงอายุ คนสูงวัยที่ขาดผู้ดูแล โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs)ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับวิถีชีวิตและพฤติกรรมจากสถานการณ์สุขภาพทำให้ต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางอาทิ ผู้สูงอายุ ผู้มีปัญหาสถานะบุคคล พระภิกษุสงฆ์ ผู้ที่ไม่พร้อมทางเศรษฐานะ ฯลฯ และถ้าหากรอให้คนกลุ่มนี้เจ็บป่วยแล้วจึงมาโรงพยาบาลก็อาจไม่ทันกาล จึงมีการมองกันว่าจะเป็นต้องเน้นการสร้างระบบบริการปฐมภูมิหรือPrimary careและพัฒนาไปเป็นแพทย์ประจำครอบครัวและกลุ่มบริการสุขภาพปฐมภูมิ(Primary care Cluster)ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าทั้งการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค การพัฒนาสุขภาพของผู้คนในชุมชน รวมถึงการให้บริการที่จำเป็น และสามารถส่งต่อให้หน่วยบริการลำดับต่อไปได้ หากเกินศักยภาพที่ด่านหน้าจะรับไหวสำหรับปัจจุบัน การดำเนินการของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอยู่ในยุทธศาสตร์ที่4ช่วงปี พ.ศ.2560-2564เป็นการยกระดับยุทธศาสตร์ที่1-3ภายใต้หลักการSAFEได้แก่1. Sustainability (ยั่งยืน)คือประเทศ รัฐบาล และครัวเรือน สามารถลงทุนในระยะยาวได้2. Adequacy (เพียงพอ)คือทรัพยากร เงิน กำลังคน ต้องเพียงพอ และให้ทุกคนเข้าถึงบริการสุขภาพและป้องกันการล้มละลายจากค่าใช้จ่ายสุขภาพ3.Fairness (เป็นธรรม)คือความเท่าเทียมทั้งการรับภาระค่าใช้จ่าย และการรับบริการตามหลักการดี-ป่วย รวย-จน ช่วยกันมุ่งเน้นลดความเหลื่อมล้ำทั้งในเชิงภูมิภาค-เมือง คนทั่วไป-กลุ่มเปราะบาง การเข้าไม่ถึงบริการ ข้อมูล4.Efficiency (คุ้มค่า)คือการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ซึ่งต้องคำนึงถึงความทันเวลา และความมีคุณภาพ โดยตัวชี้วัดที่ชัดเจนคือคุณภาพของการให้บริการ(ไม่ใช่ปริมาณ)และระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บริการในส่วนของยุทธศาสตร์ที่4แบ่งออกเป็นการสร้างความมั่นใจ5ด้านประกอบด้วย การสร้างความมั่นใจในการเข้าถึงบริการ โดยมุ่งเน้นกลุ่มเปราะบางและกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงบริการ การสร้างความมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานและความเพียงพอ โดยเฉพาะชุดสิทธิประโยชน์การสร้างความมั่นใจเรื่องการบริหารกองทุนที่มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยการใช้กลไก ปรับระบบ ใช้เครื่องมือ และแผนใหม่ การสร้างความมั่นใจในการมีส่วนร่วม โดยทุกเรื่องจะจัดทำโดยกระบวนการกลุ่ม และทุกภาคส่วนสามารถเสนอผ่านเวทีรับฟังความคิดเห็นประจำปีได้ และการสร้างความมั่นใจเรื่องธรรมาภิบาล มีหลักฐาน โปร่งใส และเปิดเผยได้ถ้าจะพูดไปผมเองก็นับว่าอยู่ในจุดที่เริ่มต้นตั้งระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผมเป็นประธานตั้งแต่เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดทำระบบ และหลังจากมีการตัดสินใจเดินหน้าทำทั้งประเทศ ผมก็อยู่ในซีกกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้ามาร่วมกำหนดกรอบการจัดทำสิทธิประโยชน์ต่างๆ จึงได้เห็นภาพมาตั้งแต่ต้นปัจจุบันผมอยู่ในซีกของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ฉะนั้นหากให้ผมประเมินตามความเห็นส่วนตัวของผมเอง โดยมองอย่างเป็นธรรมตามกรอบของแต่ละยุทธศาสตร์ ตามความพร้อมและทรัพยากรที่มีในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงตัวระบบที่รองรับในแต่ละช่วงเวลา ผมคงจะให้คะแนนการทำงานในทุกยุทธศาสตร์ที่ผ่านมา9.5เต็ม10คือเราอย่าไปมองแบบเอาปัจจุบันไปมองเมื่อ16ปีที่แล้ว แต่เราต้องมองตามสถานการณ์และบริบทในขณะนั้น ส่วนยุทธศาสตร์ที่4ที่กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ผมมองโลกในแง่ดี ผมคิดว่าเราคงไม่น่าจะทำได้น้อยกว่าที่เคยทำมาในอดีต ยืนยันว่าการให้คะแนนไม่ได้ขี้โม้ หรือถ่อมตน เป็นการมองจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวย้ำว่าเป็นความสำเร็จที่ สำเร็จตามยุทธศาสตร์และเป้าหมายที่วางการบริหารกองทุน โดยเฉพาะเรื่องของคณะกรรมการต่างๆ คิดว่าองค์ประกอบที่มีอยู่เดิมค่อนข้างดีมากแล้ว แต่คงไม่มีอะไรในโลกที่สมบูรณ์ เพราะปัจจุบันมีภาคส่วนหรือองค์กรใหม่ๆ ที่จะต้องพิจารณา หรือชักชวนเข้ามาเป็นกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ด สปสช.)เพิ่มเติมเรากำลังพูดถึงเรื่องดิจิตอล ก็อาจจะเป็นต้องมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีเข้ามาช่วยวางระบบต่อไปข้างหน้า หรือโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากพฤติกรรม สังคม แวดล้อม เราอาจต้องคิดถึงผู้รู้ที่เกี่ยวกับปัจจัยคุกคามสุขภาพหรือไม่ หรือผู้แทนกลุ่มวัย เพราะปัจจุบันกรรมการค่อนไปในทางอาวุโสค่อนข้างมาก รวมไปถึงเรื่องเพศ ซึ่งตรงนี้อาจเป็นมิติใหม่ที่เราต้องมองไปข้างหน้าเพื่อรับมือกับอนาคตที่หมุนเร็วมากด้วย นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวทุกวันนี้ บอร์ด สปสช. ทำหน้าที่ในลักษณะซื้อมาขายไปคือขาขึ้นก็ไปของบประมาณจากภาครัฐ ขาลงก็คือนำไปซื้อบริการต่างๆ แต่ในอนาคตภายภาคหน้าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีกรรมการที่มองไปข้างหน้า เช่น ในอีก5ปี จะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งอาจจะมีผู้ที่มองว่านี่ไม่ใช่หน้าที่ของ สปสช. ถามว่าคิดแบบนี้ถูกหรือไม่ ก็ไม่ผิดแต่อาจเป็นการรอให้คนอื่นมาพิพากษาการทำงานของเราหรือไม่ ถ้าเรากล้าคิดนอกกรอบว่าสิ่งนี้จำเป็น อาจจะออกมาในรูปของคณะที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ หรือจะเข้ามาเป็นกรรการเลย ก็ต้องกลับมาคิดรูปแบบที่เรากำลังทำอยู่ เรียกว่าFinancing for Healthคือการพัฒนาระบบการเงินการคลังเพื่อจัดการระบบสุขภาพ ถ้าเรามองในเชิงรุกว่าถ้าเรามีคนในลักษณะแบบนี้ในสัดส่วนหนึ่งเข้ามาเป็นฐานในการช่วยคิดเรื่องนี้ ก็อาจจะเป็นประโยชน์นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวข้อมูลวิชาการประเมินว่าปัจจัยเสี่ยงสูงสุดของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คืองบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว กล่าวคือถ้าได้รับไม่เพียงพอก็อาจทำให้ระบบล้มทั้งยืนได้ทันทีดังนั้น ต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยเสี่ยงสูงสุดนี้ ต้องหาวิธีแก้ปัญหากันอย่างจริงจังจึงจะนำไปเกิดความยั่งยืนได้ อย่างไรก็ตามก็เห็นใจรัฐบาลว่ามีงบประมาณจำกัด ฉะนั้นสิ่งที่ต้องคิดต่อไปข้างหน้าคือการสร้างกระบวนการและกลไกในการดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเป็นแบบเฉพาะทางจะมีไหม องค์กรหรือหน่วยงานใดที่มาดูแลเรื่องหลักประกันสุขภาพของประเทศจริงๆ ดูแลทั้งระบบ ดูแลเรื่องFinancing for HealthหรือHealthSecurityนพ.ณรงค์ศักดิ์ ตั้งคำถาม และเทียบเคียงว่า ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เทียบกับรถที่แม้ว่าจะวิ่งมาไกลขนาดไหน หากน้ำมันหมดก็จะหยุดวิ่งโดยทันทีฉะนั้น จำเป็นต้องมีนักการเงินการคลังที่เข้ามาช่วยให้ทางเลือกอื่นๆ เช่น เปลี่ยนประเภทรถ เปลี่ยนเชื้อเพลิง เปลี่ยนโปรแกรมในการขับขี่ หรือแม้แต่เปลี่ยนเส้นทางในการเดินทางใหม่ ซึ่งหากยังมีแค่กรรมการในรูปแบบเดิม การเดินทางก็อาจจะใช้แผนที่ หรืออย่างเปิดGPSดู คำถามคือเพียงพอหรือไม่การอนาคตข้างหน้า
ถ้าคุณคิดว่าการสร้างหลักประกันสุขภาพให้ครอบคลุมคนไทยทั้งชาติเป็นเรื่องง่าย แค่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กับโรงพยาบาลนำไปใช้รักษาพยาบาลประชาชนฟรีๆ เพียงเท่านั้น
สังคม,สิทธิมนุษยชน,คุณภาพชีวิต
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ,ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา,สปสช.,บัตรทอง,30 บาท รักษาทุกโรค
https://prachatai.com/journal/2018/11/79648
วงการตลกสิ้น สีหนุ่ม เชิญยิ้ม หลังป่วยนาน
วันที่ 1 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วงการบันเทิง และแวดวงนักแสดงตลก ได้สูญเสีย นายบุญธรรม ฮวดกระโทก หรือสีหนุ่ม เชิญยิ้ม นักแสดงตลกรุ่นใหญ่ หลังมีอาการป่วยจากโรคเส้นเลือดในสมองแตก มาเป็นเวลานาน,โดย นายเฉลิม ปานเกิด หรือ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ลูกชาย เปิดเผยว่า พ่อได้รักษาตัวที่โรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก มาประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งอาการก็ไม่ได้มีโรคแทรกซ้อนใดๆ แต่อาการทรงแบบนี้มาหลายปีแล้ว จะมีก็แต่โรคไตเท่านั้น ส่วนศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯ ซึ่งคาดว่าจะทำพิธีศพที่บ้านตามที่บิดาเคยสั่งไว้ก่อนเสียชีวิต แต่ต้องมีการหารือภายในครอบครัวอีกครั้ง,ด้าน นายบำเรอ ผ่องอินทรกุล หรือ โน้ต เชิญยิ้ม นักแสดงตลกชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ,notechernyim, ว่า เจ็บป่วย ทนทุกข์มานาน ขอให้สวรรค์ ยื่นมือมารับดวงวิญญาณของเพื่อนผมด้วยครับ เหนื่อยมามากหลับให้สบายนะเพื่อน เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปพักผ่อนเถิดนะ สีหนุ่มเพื่อนรัก,ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางไพลิน จำปานคร ภรรยา เจี๊ยบ เชิญยิ้ม พร้อมด้วยน้องชาย และน้องสาว ได้มารอรับศพ สีหนุ่ม เชิญยิ้ม ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯ ก่อนเคลื่อน ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดนาบุญคลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี,สำหรับ สีหนุ่ม เชิญยิ้ม เกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2497 เป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก เริ่มเล่นตลกครั้งแรกเมื่ออายุ 23 ปี โดยใช้ชื่อว่า สีหนุ่ม พิษณุโลก ก่อนเปลี่ยนชื่อมาเป็น สีหนุ่ม เชิญยิ้ม จากนั้นปี 2551 สีหนุ่มเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก ขณะกำลังถ่ายทำซิทคอมบางรักซอย 9 ก่อนที่อาการจะทรงตัว แต่ก็ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว ไม่สามารถเดินและพูดได้ ซึ่งได้ทำการรักษาเรื่อยมา จนเสียชีวิต รวมอายุ 61 ปี
สีหนุ่ม เชิญยิ้ม เสียชีวิตแล้ว หลังป่วยเส้นเลือดในสมองแตก มาเป็นเวลานาน คาดตั้งศพบ้านเกิด ขณะ โน้ต เชิญยิ้ม เพื่อนนักแสดงตลก โพสต์ไอจี อาลัย
null
สีหนุ่ม เชิญยิ้ม เสียชีวิต,สีหนุ่ม เชิญยิ้ม ตาย,ป่วย,เส้นเลือดในสมองแตก,เฉลิม ปานเกิด,เจี๊ยบ เชิญยิ้ม,รักษา,นักแสดงตลก,วงการบันเทิง,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/543117
Hooyah รายงานภารกิจ 2 วัน 8 คนหมูป่าออกถ้ำหลวง
วันนี้ (9 ก.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.20 น.เพจเฟซบุ๊ก Thai NavySEAL ได้เผยแพร่ขอความว่าหมูป่าตัวที่ 1หมู่ป่าตัวที่ 2หมูป่าตัวที่ 3หมูป่าตัวที่ 4หมูป่าตัวที่ 5หมูป่าตัวที่ 6หมูป่าตัวที่ 7หมูป่าตัวที่ 82 วัน 8 ตัวHooyahซึ่งถือเป็นโพสต์ที่ 2 ของวันนี้ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเคลื่อนย้ายทีมหมูป่าอะคาเดมีคนที่ 567 และ 8 ออกจากถ้ำหลวง ส่งถึงโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ได้ในช่วงเวลาประมาณ 20.20 น.ที่ผ่านมาโดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 20.00 น.ได้โพสต์ว่า มีผู้วาดการ์ตูนน่ารัก มีความหมายสะท้อนปฏิบัติการ พาหมูป่ากลับบ้าน ในครั้งนี้ ที่เป็นปฏิบัติการระดับโลกที่น่าสนใจมาก แอดมินจึงขอนำมาขยายให้แฟนเพจได้ชมนะครับ ขอบคุณเจ้าของไอเดียนะครับภาพ : เฟซบุ๊ก Thai NavySEALขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sarawut Niamloi ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ตึกฉุกเฉิน รพ.เชียงรายฯ ที่ดูแลทีมหมูป่าเพิ่งสร้างเสร็จ ได้รับเงินจาก #ก้าวคนละก้าว 110.5 ล้านบาท ที่คนไทยที่ร่วมกันบริจาคให้กับตูน ถือว่าได้มีส่วนร่วมช่วยทีมหมูป่าไปในตัวที่น่าแปลกใจชื่อ อาทิวราห์ ชื่อจริงของพี่ตูนก็แปลว่าหมูป่าด้วย ทุกสิ่งในโลกนี้มันไม่มีคำว่าบังเอิญอ่านข่าวเพิ่มเติม
ปฏิบัติภารกิจสำเร็จ Thai NavySEAL รายงานความสำเร็จ 2 วัน 8 คน หลังนำเด็กถึงมือหมอปลอดภัย ขณะที่สื่อโซเชียล โพสต์ความบังเอิญตึกอุบัติเหตุสร้างจากงบ #ก้าวคนละก้าว 110.5 ล้านบาท และน้องไตตั้น เคยวิ่งรับบริจาคด้วย
สังคม
เด็กติดถ้ำ,เชียงราย,ทีมหมูป่า,ถ้ำหลวง,นักฟุตบอลเยาวชน,13ชีวิตต้องรอด,ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน,ข่าวไทยพีบีเอส,หน่วยซีล,13ชีวิตรอดแล้ว,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/273271
บิ๊กไบค์เมืองชลเบรกไม่อยู่ชน จยย.2 ผัวเมียสาหัส 3
เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 3 พ.ค.2559 ร.ต.อ.กุลธวัช รวมจิตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี พร้อมกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ไปตรวจสอบเหตุรถ จยย.ชนกันบนถนนเศรษฐกิจ ปากทางเข้าซอย 12 ขาเข้า อ.บ้านบึง หมู่ 6 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี พบร่างนายนิธาน ดีวรรณวงศ์ อายุ 20 ปี ชาวบ้าน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้รับบาดเจ็บที่ขาและศีรษะนอนร้องครวญครางอยู่ใกล้รถ จยย.บิ๊กไบค์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น จีทีอาร์ สีขาว ทะเบียน 1 กก 5283 ชลบุรี สภาพรถด้านหน้าพังยับ ห่างมาเล็กน้อยพบ นายวันนี แซ่เล้า อายุ 60 ปี และนางวรรณา แซ่เล้า อายุ 50 ปี 2 ผัวเมีย ชาวบ้านหมู่ 1 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ขาขวาหักทั้งคู่อาการสาหัส นอนอยู่ใกล้รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีแดง ดำ ทะเบียน จกค 335 ชลบุรี ที่มีรอยถูกชนด้านข้างขวาของตัวรถ กู้ภัยฯนำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน ส่ง รพ.ชลบุรี ,สอบถามนายนิธาน เผยว่าตนขี่รถ จยย.มาทางตรงจะไปสอบสัมภาษณ์งานที่สมัครไว้ที่ อ.บ้านบึง ถึงที่เกิดเหตุรถ จยย.2 ผัวเมียขี่ออกจากซอย 12 แล้วจะเลี้ยวเหมือนจะยูเทิร์นกลับรถ ตนเบรกไม่ทันจึงพุ่งชนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวน 2 ผัวเมียและจะดูภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
เกิดอุบัติเหตุหนุ่มเมืองชลวัย 20 ปี ควบบิ๊กไบค์รีบไปสมัครงาน ชนกับรถ จยย.2 ผัวเมียขี่ออกจากซอยบนถนนเศรษฐกิจ ขาเข้า อ.บ้านบึง เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ตร.สภ.เมืองชลบุรี เร่งสอบก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย
null
อุบัติเหตุ,บิ๊กไบค์ชนจักรยาน,กุลธวัช รวมจิตร,หนุ่มเมืองชล,บิ๊กไบค์เมืองชล,สภ.เมืองชลบุรี,บิ๊กไบค์ชนจยย.2ผัวเมีย,นิธาน ดีวรรณวงศ์,วันนี แซ่เล้า,อ.เมืองชลบุรี,ชลบุรี,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/614715
ยิ่งลักษณ์ร่วมงานบิ๊กเติ้ง
หลั่งน้ำตาไว้อาลัย หนูนาสานงานพ่อ,ยิ่งลักษณ์ นำสมาชิกเพื่อไทยร่วมฟังสวด บรรหาร น้ำตาคลอกอด กัญจนา ขณะที่บุตรสาวคนโตเปิดใจสูญเสียผู้เป็นบิดาอย่างกะทันหัน รับสานงานทุกอย่างต่อ ไม่ทิ้ง ยืนยันพรรคชาติไทยพัฒนายังอยู่และเดินหน้าต่อไป ขอบคุณชาวสุพรรณฯและประชาชนทั่วไปที่แสดงความอาลัย คนแห่ส่งหรีดจนล้นศาลา ส่วนชาวสุพรรณฯแต่งดำไว้ทุกข์,บรรดานักการเมืองและบุคคลที่รู้จักมักคุ้นเคารพนับถือในตัวนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคหอบหืดและภูมิแพ้ เมื่อวันเสาร์ที่ 23 เม.ย. เดินทางไปเคารพศพนายบรรหารซึ่งอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์และร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพกันอย่างเนืองแน่น เมื่อคืนวันที่ 25 เม.ย. ซึ่งเป็นคืนที่ 3 ของการตั้งศพบำเพ็ญกุศล ที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร โดยเมื่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา บุตรสาว พร้อมด้วยครอบครัว ญาติ คนสนิท ร่วมกันทำบุญเลี้ยงพระถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ 10 รูป อุทิศส่วนกุศลให้แก่นายบรรหาร,จากนั้นเวลา 11.00 น. น.ส.กัญจนาให้สัมภาษณ์ถึงการจากไปของนายบรรหารว่า ครอบครัวไม่ได้คาดคิดมาก่อน เป็นการจากไปอย่างกะทันหันเพราะในวัยย่าง 84 ปี นายบรรหารยังมีสุขภาพที่แข็งแรง เมื่อเทียบกับหลายๆคนในวัยเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นคนดูแลสุขภาพตัวเองอย่างดี ตรวจสุขภาพเป็นประจำ แม้จะมีโรคหอบหืดเป็นโรคประจำตัว แต่นายบรรหารไม่เคยประมาท พบแพทย์อยู่ตลอด ออกกำลังกายทุกวัน หลังจากเข้าโรงพยาบาลและจากไปภายในเวลา 2 วันทำให้เราตั้งตัวไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายที่ดูแลคุณพ่อ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมา เรื่องการพานายบรรหารไปโรงพยาบาลนั้น ถือว่าไม่เป็นประเด็น แล้วต้องขอขอบคุณที่แพทย์ ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่คงถึงเวลาของนายบรรหารแล้วที่จะต้องจากไป,น.ส.กัญจนากล่าวว่า ครอบครัวศิลปอาชารู้สึก สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานโกศ 8 เหลี่ยม และรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่พระราชทานพวงมาลาวางหน้าโกศศพ นอกจากนี้ ขอขอบคุณพี่น้องชาวสุพรรณบุรีทุกคนและประชาชนทุกคนที่ร่วมไว้อาลัย และส่งความปรารถนาดีกำลังใจมาให้กับครอบครัวศิลปอาชา สิ่งที่ตนและครอบครัวจะทำให้นายบรรหารต่อไป ภายหลังจากเสร็จสิ้นจากพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และสวดพระอภิธรรมตามกำหนดแล้ว จะดำเนินการบรรจุศพไว้ 100 วัน ระหว่างที่สวดพระอภิธรรมก็จะทำบุญเลี้ยงพระเพลทุกวัน และเมื่อครบ 1 เดือนในวันที่ 23 พ.ค.จะทำบุญใหญ่ที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้ชาวสุพรรณบุรีเข้ามามีส่วนร่วมไว้อาลัยและทำบุญอุทิศส่วนกุศลร่วมกัน จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวสุพรรณบุรีไว้ล่วงหน้า,ส่วนงานต่างๆที่คุณพ่อได้ทำไว้ โดยเฉพาะใน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นงานที่คุณพ่อรักตลอดมา ดิฉันจะสานต่อ สิ่งใดที่คุณพ่อสร้างไว้จะดูแลให้ดี สิ่งใดที่ยังทำไม่เสร็จดิฉันจะดำเนินการทำให้เสร็จ ส่วนชาวสุพรรณบุรี ดิฉันกับนายวราวุธ ศิลปอาชา น้องชายก็จะไม่ทิ้ง คนของคุณพ่อไม่ว่าจะอยู่ที่ใดดิฉันจะดูแลต่อ โดยจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีที่สุดในฐานะลูก น.ส.กัญจนากล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ,เมื่อถามถึงอนาคตของพรรคชาติไทยพัฒนา น.ส.กัญจนากล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่จะให้คำตอบ เพราะขณะนี้พรรคการเมืองยังไม่สามารถจัดกิจกรรมใดๆได้ และรัฐธรรมนูญยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่เมื่อถึงเวลานั้นตนจะบอกเอง แต่สิ่งหนึ่งที่บอกได้ตอนนี้ คือไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจใดๆของตนในอนาคต จะเป็นไปในฐานะลูกที่ดีที่จะทำเพื่อคุณพ่ออย่างเต็มที่ และสิ่งที่ดีของบ้านเมืองนี้ด้วย เพราะนี่คือเจตนารมณ์ของนายบรรหาร เมื่อถามอีกว่า ก่อนหน้านี้นายบรรหารบอกหรือสั่งเสียอะไรไว้หรือไม่ น.ส.กัญจนากล่าวว่า ไม่มีการสั่งเสียใดๆ เพราะเป็นการจากไปอย่างกะทันหัน โดยคุณพ่อเองก็คงไม่ได้คิด แต่ตอนนี้พรรคยังอยู่ โดยหลังจากนี้ตนจะทำให้ดีที่สุด เพราะทราบว่านายบรรหารต้องการอะไร ส่วนเรื่องร่างรัฐธรรมนูญนั้นคุณพ่อได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 เม.ย.2559 ที่ผ่านมาว่ารับได้ เพราะอยากให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว ส่วนจะมีปัญหาอะไรก็ค่อยแก้กันไป ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณพ่อพูดชัดเจนก่อนที่จะจากไป,ขณะเดียวกัน ที่ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ตลอดทั้งวันเดียวกันนี้ มีบุคคลสำคัญส่งพวงหรีดมาแสดงความเสียใจอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงบ่าย นายหลี บุญค้ำ เอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย พร้อมภรรยา ได้นำพวงหรีดของนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด อดีตรองนายกฯสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาแสดงความเสียใจ รวมทั้งกระทรวงวัฒนธรรมจีน โดย ฉิน ยู่ เซิน ที่ปรึกษาอาวุโส ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน เดินทางมาวางหรีดเคารพศพนายบรรหารอีกด้วย,ส่วนในช่วงค่ำ แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พร้อมด้วยนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยา พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ และสมาชิกของพรรคเพื่อไทย เดินทางมาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมาถึง ได้เข้าแสดงความเสียใจต่อ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา บุตรสาวนายบรรหาร โดยเข้าสวมกอดกันน้ำตาคลอเบ้าทั้งคู่ ซึ่งในช่วงค่ำได้มีผู้ส่งพวงหรีดมาแสดงความเสียใจต่อการจากไปของนายบรรหารอีกจำนวนมากจนล้นศาลา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำป้ายรายชื่อที่ติดมากับพวงหรีดมาติดไว้กับกระดานด้านหน้าศาลาแทน,ที่อุทยานมังกรสวรรค์ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อ.เมืองสุพรรณบุรี ชาวสุพรรณบุรี ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน กลุ่มพลังมวลชนและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวชมอุทยานมังกรสวรรค์และกราบไหว้ขอพรเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี พากันแวะไปยังจุดที่จัดไว้ให้ลงนามไว้อาลัยนายบรรหาร ซึ่งมีผู้มาลงนามไว้อาลัยจำนวนมาก อาทิ ตัวแทนจากสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดสุพรรณบุรี และชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั่วจังหวัดกว่า 100 คน,นายลำดวน อ้อมทอง นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านของจังหวัดสุพรรณบุรี ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวศิลปอาชา ที่ผ่านมานายบรรหารให้ความเมตตาต่อผู้นำท้องถิ่นมาโดยตลอด ส่งผลให้ทุกพื้นที่ของจังหวัดเจริญรุ่งเรือง ความรู้สึกเหมือนสูญเสียเสาหลักคนสำคัญของพวกเราไป,ขณะนี้สมาคมมีความเห็นร่วมกันว่า ให้ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบลทั่วจังหวัด ขึ้นป้ายไว้อาลัยให้กับนายบรรหาร โดยได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้วและตัวแทนของกำนันผู้ใหญ่บ้านในทุกอำเภอจะเดินทางไปร่วม เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมที่วัดเทพศิรินทร์ด้วย,ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้แทบทุกพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี พ่อค้า-แม่ค้าหรือแม้แต่ประชาชนทั่วไปพากันใส่ชุดดำ เป็นการแสดงความไว้อาลัยแก่นายบรรหารผู้สร้างคุณูปการใหญ่หลวงแก่เมืองสุพรรณบุรี พร้อมแห่กว้านซื้อเลขเด็ด 83-84-21 ที่เป็นเลขอายุนายบรรหาร รวมถึงเลขที่เคยดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 กันจนหมดเกลี้ยงทุกแผง
ยิ่งลักษณ์ นำสมาชิกเพื่อไทยร่วมฟังสวด บรรหาร น้ำตาคลอกอด กัญจนา ขณะที่บุตรสาวคนโตเปิดใจสูญเสียผู้เป็นบิดาอย่างกะทันหัน รับสานงานทุกอย่างต่อ ไม่ทิ้ง ยืนยันพรรคชาติไทยพัฒนายังอยู่และเดินหน้าต่อไป
null
บรรหาร ศิลปอาชา,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,สมชาย วงศ์สวัสดิ์,เยาวภา วงศ์สวัสดิ์,สวดพระอภิธรรมศพ,วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/content/611095
เข้มสงกรานต์ คุกคามทางเพศ-แอลกอฮอล์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ปท.
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 59 เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล พร้อมภาคีเครือข่ายกว่า 30 คน เข้ายื่นข้อเสนอเพื่อรับมือเทศกาลสงกรานต์ กระตุ้นความปลอดภัย ไม่มีเหล้า ไม่ฉวยโอกาส ไม่ลวนลาม ไม่อนาจาร ไม่รุนแรง ต่อพลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อสอดรับกับนโยบายของ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้สงกรานต์เป็นไปแบบสร้างสรรค์ รักษาประเพณีอันดีงาม,ด้าน เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันการเล่นสงกรานต์ได้เปลี่ยนแปลงไป ส่วนหนึ่งเกิดจากค่านิยมผิดๆ ว่า สงกรานต์จะทำอะไรก็ได้ จึงเกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น การสาดที่ไม่สร้างสรรค์ การฉวยโอกาสอนาจารคุกคามทางเพศ และสิ่งสำคัญที่สุดคือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอุบัติเหตุ และทะเลาะวิวาท วันนี้จึงยื่นข้อเรียกร้องให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงดูแลพื้นที่ในการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ได้รับความนิยม ควรมีสายตรวจดูแลอย่างใกล้ชิด และขอให้มีการประชาสัมพันธ์กฎหมายที่เกี่ยวข้อง สร้างค่านิยมที่ถูกต้องตามวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย,ขณะเดียวกัน พลตำรวจโทศานิตย์ เปิดเผยว่า ประชาชนทุกคนให้ความสำคัญกับเทศกาลสงกรานต์ แต่ปัจจุบันพบเห็นคนบางกลุ่มที่ทำเกินเลย ล้ำเส้นความถูกต้องอันดีงาม กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น และกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงมีส่วนทำลายการท่องเที่ยวไปด้วย ที่สำคัญการกระทำเหล่านั้นเข้าข่ายผิดกฎหมาย ทั้งเป็นการฉวยโอกาสล่วงละเมิดคุกคามทางเพศ การอนาจารทะเลาะวิวาท และการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งปีนี้ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เกิดเรื่องราวดังกล่าว
เครือข่ายงดเหล้ายื่นหนังสือ วอนตำรวจคุมเข้มคุกคามทางเพศ และการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ช่วงสงกรานต์ พร้อมสร้างภาพลักษณ์ที่เหมาะสมให้กับประเทศ
null
สงกรานต์,สงกรานต์ 2559,วันสงกรานต์,เทศกาลสงกรานต์,สงกรานต์ 59,งานสงกรานต์ 59,คุกคามทางเพศ,แอลกอฮอล์,เครื่องดื่มแอลกอฮอล์,ศานิตย์ มหถาวร,งดเหล้า,เล่นสงกรานต์,ประเพณีสงกรานต์,ข่าว,ข่าวสังคม,ข่าวทั่วไทย,กทม.,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/602426
ศาลสั่งคุก 3 ปี รอลงอาญา คดีเบนซ์ชนตำรวจ-ภรรยาเสียชีวิต
วันนี้ (31 ก.ค.62) ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของโรงงาน เดินทางมาฟังคำพิพากษาชั้นต้นในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5ยื่นฟ้อง ฐานความผิดขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่กฏหมายกำหนด ขับรถในขณะเมาสุรา หรือของมึนเมาอย่างอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส กรณีเมาแล้วขับรถเบนซ์สปอร์ต ชนประสานงากับรถส่วนตัวของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล หรือรองตี๋ รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 2 กองปราบปราม ที่เดินทางมาพร้อมครอบครัว ทำให้ พ.ต.ท.จตุพร และภรรยา เสียชีวิต ส่วนลูกสาวคนเล็กได้รับบาดเจ็บทั้งนี้ จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน พร้อมจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต 45 ล้านบาท และได้ประกันตัวระหว่างพิจารณาในวงเงิน 200000 บาทขณะที่ลูกสาวทั้ง 2 คนของ พ.ต.ท.จตุพร คือ เด็กหญิงพิชญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี และ น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล อายุ 16 ปี พร้อมกับญาติ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยศาลพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดกรรมเดียวแต่หลายความผิด จึงลงโทษหนักที่สุดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก จำคุก 6 ปี ปรับ 200000 บาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ มีความสำนึกผิด ไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน อีกทั้งหลังเหตุการณ์ได้ชดใช้ค่าเสียหาย จนผู้เสียหายจึงไม่ติดใจเอาความ ศาลจึงให้โอกาสกลับตนเป็นคนดีของสังคม ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี และปรับ 100000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามดื่มสุราและของมึนเมา โดยต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง ในรอบ 2 ปี รวมทั้งกิจกรรมบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมงในเวลา 1 ปี หากจำเลยไม่จ่ายค่าปรับจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถนายสมชาย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังจากฟังคำพิพากษาว่า ขอบคุณครอบครัวผู้เสียหายที่ให้อภัย ขอบคุณศาลที่ให้โอกาส และขอบคุณสังคมที่ให้อภัย หลังจากนี้จะมอบเงินให้ลูกสาวของ พ.ต.ท.จตุพร คนละ 10000 บาทต่อเดือน และค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว 20000 บาทต่อเดือน รวม 40000บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 8 ปี พร้อมฝากไปถึง พ.ต.ท.จตุพร และภรรยา ขอให้ไปสู่สุขคติ สู่ภพภูมิที่ดี ตัวเองขอสัญญาว่าจะดูแลลูกสาวของทั้ง 2 คนให้ดีที่สุดขณะที่ลูกสาวของ พ.ต.ท.จตุพร กล่าวว่า ในช่วงแรกทำใจไม่ได้ และมีผลกระทบกับการเรียน แต่ก็มีครอบครัวคอยให้กำลังใจ ทำให้ต้องเข้มแข็งและผ่านเรื่องเลวร้ายไปให้ได้ ดีกว่ามาโกรธแค้นกัน รวมถึงคู่กรณีก็ดูแลเป็นอย่างดี และได้รับกำลังใจเป็นอย่างดีกับทุกคน หลังจากนี้จะตั้งใจเรียน เพราะมีความฝันอยากเป็นหมอจะได้รักษาคนด้านนางขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ ป้าที่เป็นผู้ดูแลลูกของ พ.ต.ท.จตุพร ทั้ง 2 คน กล่าวว่า ครอบครัวเริ่มต้นจากการให้อภัยตั้งแต่แรกที่คู่กรณีเข้าไปกราบแม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งได้พูดกับนายสมชายว่าให้อภัย และขอให้เลิกดื่มแอลกอฮอล์ตลอดชีวิต จึงทำให้นายสมชายได้รับโอกาสจากสังคม
ศาลชั้้นต้นพิพากษา จำคุก 3 ปี รอลงอาญา และปรับ 1 แสนบาท คดีเบนซ์ชนรองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 2 กองปราบปราม และภรรยา เสียชีวิต เนื่องจากจำเลยสำนึกผิด ไม่เคยมีประวัติต้องโทษ และชดใช้ค่าเสียหาย
อาชญากรรม
เสี่ยเบนซ์,ชนตำรวจ,ขับรถชนตำรวจ
https://news.thaipbs.or.th/content/282211
บิ๊กตู่ ยัน สื่อนอกเลือกตั้งปี 60 ซัด พวกทำผิดแล้วหนีไปให้ร้ายปท.
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าววอยซ์อ็อฟอเมริกาภาคภาษาไทย ระหว่างร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-1 เมษายนนี้ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐฯ ว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นกลางปี 2560 ซึ่งจะไม่มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตัวแทน หรือ นอมินีเข้ามาลงเลือกตั้งเพื่อสืบทอดอำนาจแน่นอน ส่วนการเมืองที่เป็นห่วง คือ สิ่งที่กำลังแก้อยู่ทุกวันนี้ หากไม่สำเร็จและกลับมาที่เดิม เพราะคนที่เคยทำให้บ้านเมืองเสียหายไม่ยอมรับการกระทำของตัวเอง ส่วนที่ทำถูกนั้นตนไม่ว่า แต่ส่วนที่ผิดแล้วยังบอกว่าถูกแล้วยังกลับมาที่เดิม ขอถามว่า แล้วจะกลับมายังไง ก็กลับมาโดยประชาชนที่มีรายได้น้อยที่พร้อมจะถูกชักจูงเสมอเขาทำมาแบบนี้ตลอด ตนไม่ได้ต้องการให้มาเป็นฝ่ายตัวเอง แต่ต้องการให้เป็นคนดีของชาติ พัฒนาบ้านเมืองไม่ว่า จะเป็นชาวไร่ชาวนา หรือ อะไรก็แล้วแต่ เรื่องนี้ตนเป็นห่วง,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากถามว่า ตนกังวลกับสถานการณ์หรือไม่ ตนไม่กังวล เพราะมีกฎหมายซึ่งที่ผ่านมาวุ่นวาย กฎหมายไม่มีการบังคับใช้เท่าเทียม และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายไม่ได้ เพราะถูกแบ่งแยก วันนี้ทุกคนต้องทำความคำสั่งตนและคสช. ใครไม่ทำไม่ได้ ตำรวจ ทหาร ไม่ดีก็ปลดทิ้งไป โดยต้องทำตามคำสั่งที่ชอบธรรมและถูกกฎหมาย สำหรับเรื่องที่เป็นกังวลอีกเรื่อง คือ การสร้างรับรู้กับต่างประเทศ โดยตนให้ตอบคำถามกับหลายประเทศที่มาหา เขาก็พูดแต่ประชาธิปไตย การเลือกตั้ง และสิทธิมนุษยชน โดยเขาไม่ถามว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ทำไมตนต้องเข้ามา โดยตนได้บอกเหตุทุกครั้งแต่เขาไม่ใส่ใจ ไปใส่ใจแค่เพียงเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะมีคนไปพูดให้เขาฟังว่า รัฐบาลนี้เข้ามาแล้วฆ่าคนตายไปเท่านี้ เท่านั้น เอาคนมาติดคุกเป็นพันๆ คน ฆ่านักข่าวไป 400-500 คน เอาถุงดำครอบหัวประชาชน ตนไม่เคยทำสักอย่าง แต่ใครที่ไปพูดกับเขาก็ คือ คนที่หนีไปต่างประเทศด้วยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ซึ่งมีการเรียกไปรายงานตัว แต่ก็หลบหนีออกนอกประเทศ หากมาพบเจ้าหน้าที่ก็กลับบ้านได้ แต่ที่หนีไปนั้นเพราะมีความผิดหรือเปล่า แล้วก็ไปให้ร้ายประเทศอยู่ข้างนอก อย่างไรก็ตาม อนาคตทางการเมืองหลังมีการเลือกตั้ง ตนก็แค่กลับบ้านนอก แล้วเลี้ยงหลาน ตนก็อยากพักนะ แม้หลายคนจะบอกให้อยู่ แล้วมันอยู่ได้ไหมเล่า ถ้าบอกว่าอยู่ได้มันก็ผิดอีก
บิ๊กตู่ ให้สัมภาษณ์สื่อนอก ยันเลือกตั้งปี 60 แน่ ย้ำ ไม่ส่งนอมินีลงชิงนายกฯ สืบทอดอำนาจ ขู่ ปลดทิ้ง ตร.-ทหาร หากไม่ทำตามคำสั่ง คสช. ซัดพวกทำผิดแล้วหนีไปให้ร้ายประเทศ
null
นายกฯ,เลือกตั้งปี60,ไม่ส่งนอมินี,ชิงนายกฯ,สื่อนอก,ให้ร้ายประเทศ,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,สืบทอดอำนาจ,คสช.,หลบหนีไป,วอชิงตัน ดีซี,สหรัฐอเมริกา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/599689
คนงานสันกำแพงร้องสถานทูตแคนาดา โดนนักธุรกิจแคนาดาละเมิดสิทธิ
อดีตคนงาน บ.จอร์จี้ แอนด์ลู ร้องสถานทูตแคนาดา ระบุนักธุรกิจและบริษัทแคนาดาละเมิดสิทธิคนงาน กฎหมายไทย และมาตรฐานแรงงานสากลมาหลายปี ล่าสุดมีการลอยแพคนงาน ไม่จ่ายค่าชดเชย หนีไปเปิดโรงงานที่แม่สอด11 ต.ค. 2558 สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอและตัดเย็บเสื้อผ้าสัมพันธ์ ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เรื่องการขอให้ดำเนินการตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของนายเซบาสเตียน ซาโรอิ (Sebastien Sirois) และบริษัท Pure & Co Ltd. เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายไทย และมาตรฐานแรงงานสากลในจดหมายระบุว่า พวกเราในฐานะเป็นลูกจ้างของบริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลู จำกัด และในนามของสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอและตัดเย็บเสื้อผ้าสัมพันธ์ ต้องการเรียนท่านในฐานะที่ท่านมีหน้าที่ดูแลประชาชนของประเทศท่านที่เข้ามาในประเทศไทยว่ามีนักธุรกิจจากประเทศของท่านคือนายเซบาสเตียน ซาโรอิ (Sebastien Sirois) ซึ่งเป็นเจ้าของตัวจริงของทั้งบริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลู จำกัด และ Pure & Co Ltd. และยี่ห้อสินค้า Neon Buddha และ Pure Handknit โดยนายเซบาสเตียน ซาโรอิ และบริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลู จำกัด ได้ละเมิดสิทธิคนงาน กฎหมายไทย และมาตรฐานแรงงานสากลเป็นเวลาต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดมีการลอยแพคนงานที่ทำงานในบริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลู จำกัด ในจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทยโดยไม่จ่ายค่าชดเชย และไปเปิดโรงงานใหม่ในนาม บริษัท สนุก การ์เม้นท์ ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยจ่ายค่าจ้างให้กับคนงานต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำโดยในเดือนสิงหาคม 2556 บริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลูได้พยายามละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้างโดยการเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้างงาน ดังนั้นคนงานจึงได้รวมตัวกันเพื่อเจรจาต่อรองและได้จัดตั้งสหภาพแรงงานขึ้นในเดือนตุลาคม 2556 แต่บริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลูไม่เคารพสิทธิการร่วมกลุ่มของคนงาน โดยได้เลิกจ้างแกนนำคนงานในวันที่ 16 ตุลาคม 2556 หลังจากการยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัทฯ โดยปฏิเสธการจ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหายจากการกระทำไม่เป็นธรรม และต่อมาในวันที่ 6 และ 7 มกราคม 2557 เลิกจ้างกรรมการสหภาพแรงงานและปฏิเสธรับกรรมการสหภาพแรงงานกลับเข้าทำงานและจ่ายค่าเสียหายจากการกระทำไม่เป็นธรรม ตามคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ เลือกปฏิบัติต่อสมาชิกสหภาพแรงงานโดยไม่จัดโบนัสประจำปีให้กับสมาชิกสหภาพแรงงานในปี 2556 และ 2557 นอกจากนี้ยังจ่ายค่าจ้างให้กับพนักงานรายเดือนต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ ไม่จ่ายเงินจากกองทุนชื่นชมคืนให้แก่ลูกจ้าง ซึ่งทุกกรณีที่เกิดขึ้นเราได้ใช้สิทธิตามที่กฎหมายแรงงานไทยกำหนด โดยได้ร้องเรียนต่อสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ และศาลแรงงาน สำหรับกรณีค่าชดเชยและค่าเสียหายจากการกระทำไม่เป็นธรรม เงินเดือนของพนักงานรายเดือน โบนัส และกองทุนชื่นชม บริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลู ได้ยื่นอุทธรณ์ และปัจจุบันกรณีทั้งหมดอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฏีกาต่อมาในเดือนมิถุนายน 2558 บริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลูได้มีคำสั่งหยุดงานชั่วคราวภายใต้กฎหมายคุ้มครองแรงงานมาตรา 75 โดยให้เหตุผลว่ามีคำสั่งซื้อจากลูกค้าน้อยลง โดยคำสั่งดังกล่าวส่งผลกระทบต่อคนงานทั้งหมด 78 คน และเรื่องที่เลวร้ายที่สุดคือบริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลูไม่จ่ายค่าจ้างให้กับคนงานทั้ง 78 คนนับตั้งแต่การประกาศใช้มาตรา 75 และในวันที่ 8 กันยายน 2558 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดคำสั่งหยุดงานชั่วคราวตามมาตรา 75 พวกเราได้เดินทางไปที่บริษัทเพื่อกลับเข้าทำงานตามปกติ แต่กับพบว่ามีประกาศว่า ปัจจุบันนี้สถานประกอบการแห่งนี้ดำเนินกิจการโดย บริษัท สนุก การ์เม้นท์ จำกัด ซึ่งประกาศดังกล่าวลงวันที่ 7 กันยายน 2558คำอ้างของบริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลู ที่แจ้งว่าไม่มีคำสั่งซื้อจากลูกค้านั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทจอร์จี้แอนด์ลู ที่มีชื่อบริหารแทนนายนายเซบาสเตียน ซาโรอิ ได้จดทะเบียนบริษัทใหม่ในนาม บริษัท สนุก การ์เม้นท์ จำกัด ในวันที่ 3 มิถุนายน 2558 ซึ่งโรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตากและผลิตสินค้าให้กับ Pure & Co และหลังจากนั้นไม่กี่วันผู้จัดการทั่วไปของบริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลู จำกัด ได้จดทะเบียนเปิดบริษัทใหม่โดยมีชื่อว่า บริษัท น่ารัก โฮลดิ้ง จำกัด ในวันที่ 5 มิถุนายน 2558 โดยบริษัทดังกล่าวใช้บ้านเลขที่เดียวกับบริษัทจอร์จี้แอนด์ลู จำกัด ที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมน่าสงสัยในการยักย้ายทรัพย์สินของบริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลูให้กับบริษัทน่ารัก โฮลดิ้ง จำกัด เนื่องจากสหภาพแรงงานตรวจพบว่าบริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลู จำกัด ได้ขายที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงงานให้กับบริษัทน่ารัก โฮลดิ้ง เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 โดยทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเป็นบุคคลคนเดียวกันซึ่งเป็นทั้งตัวแทนบริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลู และเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทน่ารัก โฮลดิ้ง จำกัด ในการขายที่ดินของจอร์จี้ แอนด์ ลู ไม่มีความโปรงใสแสดงเจตนาให้เห็นว่าพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่จ่ายหนี้สินให้กับพวกเรา และการกระทำดังกล่าวของจอร์จี้ แอนด์ ลู อาจผิดต่อกฎหมายไทย และพวกเราได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้ดำเนินการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาทำการไต่สวนแล้ว แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อมีคำสั่งของศาลฎีกานายเซบาสเตียน ซาโรอิ และ Pure & Co Ltd. ได้ประชาสัมพันธ์ต่อลูกค้าและสาธารณะมาโดยตลอดว่าทำธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและคุณธรรม แต่ความเป็นจริงแล้วตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่คนงานได้ก่อตั้งสหภาพแรงงาน นายเซบาสเตียน ซาโรอิได้ละเมิดสิทธิแรงงานอย่างร้ายแรง ทั้งยังเพิกเฉยต่อการปฏิบัติตามกฎหมายไทย และมาตรฐานแรงงานสากล และล่าสุดคือการโกงค่าจ้างและหลบหนีการจ่ายค่าชดเชยให้กับคนงานเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 10954486.40 บาท1. ค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่ลูกจ้าง 51 คน จำนวน 3924114.75 บาท2. เงินจากกองทุนชื่นชมให้แก่ลูกจ้าง 59 คน จำนวน 930955.77 บาท3. ค่าจ้างค้างจ่ายตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน ถึง 7 กันยายน 2558 จำนวนให้แก่ลูกจ้าง 37 คน 1008973 บาท4. ค่าจ้างค้างจ่ายของพนักงานรายเดือนที่ยังจ่ายไม่ครบตามกฎหมายกำหนด จำนวน ให้แก่ลูกจ้าง 43 คน 333850 บาท5. โบนัสปี 2556 จำนวนให้แก่ลูกจ้าง 46 คน 425896.88 บาท และในปี 2557 ให้แก่ลูกจ้าง 41 คนจำนวน 334280 บาท6. ค่าเสียหายจากการกระทำอันไม่เป็นธรรมทั้งกลุ่มแกนนำ 10 คน จำนวน 460260 บาท และกรรมการสหภาพแรงงาน 4 คน จำนวน 848000 บาท7. ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมให้กับกลุ่มคนลูกจ้าง 37 คนที่ถูกลอยแพ จำนวน 2644700 บาท8. วันลาพักผ่อนประจำปีที่เหลือให้แก่ลูกจ้าง 27 คน 43456 บาทอนึ่งสาเหตุที่สหภาพแรงงานได้ร้องเรียนไปยังสถานทูตแคนาดา เนื่องจากนายเซบาสเตียน ซาโรอิ มีสัญชาติแคนาดา นอกจากนี้บริษัท Pure & Co Ltd. เจ้าของแบรนด์ Neon Buddha และ Pure Handknit ยังมีสำนักงานและร้านจำหน่ายในประเทศแคนาดาอีกด้วย
อดีตคนงาน บ.จอร์จี้ แอนด์ลู ร้องสถานทูตแคนาดา ระบุนักธุรกิจและบริษัทแคนาดาละเมิดสิทธิคนงาน กฎหมายไทย และมาตรฐานแรงงานสากลมาหลายปี ล่าสุดมีการลอยแพคนงาน ไม่จ่ายค่าชดเชย หนีไปเปิดโรงงานที่แม่สอด 11
คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,แรงงาน,เศรษฐกิจ,สังคม
Neon Buddha,Pure & Co Ltd.,Pure Handknit,บริษัท จอร์จี้ แอนด์ ลู จำกัด,สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอและตัดเย็บเสื้อผ้าสัมพันธ์,สันกำแพง,สิ่งทอ,เชียงใหม่,แคนาดา
https://prachatai.com/journal/2015/10/61869
เลขา ครป. เห็นด้วยเรียกร้องมหาเศรษฐี 20 คนร่วมเสียสละส่วนเกิน แนะเก็บภาษีก้าวหน้า
เลขา ครป. เห็นด้วยรัฐบาลเรียกร้องมหาเศรษฐี 20 คนร่วมเสียสละส่วนเกิน แนะรัฐเก็บภาษีทรัพย์สินอัตราก้าวหน้าแก้ปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจเหมือนในยุโรป18 เม.ย. 2563 นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) เห็นด้วยที่รัฐบาลขอความร่วมมือมหาเศรษฐี 20 คนร่วมรับผิดชอบโควิด 19 และเสียสละส่วนเกินเพื่อส่วนรวม เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มทุนชนชั้นนำไทยได้ผลประโยชน์จากส่วนเกินไปจำนวนมากจนร่ำรวยขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐี บ้างก็ร่ำรวยมาจากการให้สัมปทานรัฐ บ้างก็ร่ำรวยมาจากการผูกขาดทรัพยากร ภายใต้การสนับสนุนและคุ้มครองจากรัฐในรูปแบบนิติบุคคล ให้พวกเขาถึงทรัพยากรเพื่อเติบโตและร่ำรวย แต่ระหว่างที่ทรัพย์สินงอกเงยขึ้นนั้นได้จ่ายคืนแก่รัฐและสังคมเพียงพอหรือไม่ หรือจ่ายนอกจ่ายในจนกลายเป็นธุรกิจการเมืองและระบบราชการแบบอุปถัมภ์นิยมปฏิเสธไม่ได้ว่า โครงสร้างเศรษฐกิจที่รัฐควบคุมดูแลเปิดโอกาสให้มหาเศรษฐกิจร่ำรวยขึ้นมา โดยเฉพาะธุรกิจที่ผูกขาดเหล้าเบียร์ กฎหมายปัจจุบันยังคุ้มครองและออกมาเพื่อไปรอนสิทธิ์รายย่อยไม่ให้ทำการผลิตขนาดเล็กเพื่อไปแข่งขันได้ ความร่ำรวยจากการผูกขาดและเติบโตจากการสัมปทาน ถึงเวลาคืนส่วนเกินแก่สังคมและแก้กฎหมายให้มีความเป็นธรรมได้แล้ว นอกจากนี้ กลุ่มทุนประชารัฐที่ร่วมงานกับรัฐบาลมาตลอด 5-6 ปี กลับรวยขึ้นแบบก้าวกระโดดหลายแสนล้านบาทในช่วงเวลาที่มีการรวบอำนาจ สะท้อนว่าโครงสร้างเศรษฐกิจไม่มีความเป็นธรรมนอกจากการเรียกร้องให้มหาเศรษฐีร่วมรับผิดชอบสังคมแล้ว ผมเห็นว่ารัฐบาลควรมีมาตรการการเก็บภาษีทรัพย์สินอัตราก้าวหน้าแบบขั้นบันไดเหมือนในยุโรป เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและการรวยกระจุกจนกระจายจากโครงสร้างที่บิดเบือนปัจจุบันเราเสียภาษีทางอ้อมกว่า 70% และเสียภาษีทางตรงเพียง 30% ภาษีทางอ้อมนั้นเก็บผ่านฐานการบริโภค คือ ภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มต่างๆ ซึ่งเป็นการเก็บภาษีทางอ้อมที่ผลักภาระให้คนจนส่วนใหญ่เป็นผู้แบกรับภาษี ท่ามกลางความเหลื่อมล้ำทางสังคมมหาศาลและการกระจายรายได้ที่แย่มากที่สุดประเทศหนึ่งมหาเศรษฐีควรยินดีจ่ายภาษีส่วนเกินนี้คืนให้รัฐในอัตราก้าวหน้าจากทรัพย์สินและรายได้ที่งอกเงย เพราะแต่ละคนก็เอาประโยชน์ที่งอกเงยนั้นมาจากสังคมไม่เท่ากัน และรัฐบาลก็นำภาษีที่เก็บได้มาพัฒนาสังคม จนผลิตผลของทรัพย์สิน ที่ดินและมูลค่าของการลงทุนต่างๆ งอกเงยขึ้นมาเป็นดอกผลตอบแทนคืนสู่พลเมืองอีกระลอกหนึ่ง ทำให้สังคมส่วนรวมและคุณภาพชีวิตดีขึ้น อย่าลืมว่าระหว่างที่ทรัพย์สินงอกเงยขึ้น มาจากการคุ้มครองจากรัฐ และเราจ่ายภาษีเพียงบางส่วนให้แก่รัฐ แต่สังคมที่โอบอุ้มดูแลอยู่ เราได้เสียภาษีสังคมหรือไม่ สิ่งแวดล้อมที่เสื่อมสลายลงทีละน้อย เราได้จ่ายภาษีสิ่งแวดล้อมที่เสียไปอย่างคุ้มค่าหรือไม่ดังนั้น ภาษีทรัพย์สินคือภาษีทางตรงที่เราจ่ายให้แก่รัฐและสังคมระหว่างที่มีชีวิตอยู่ และภาษีมรดกคือการจ่ายส่วนเกินที่ปลายทางนั่นเอง ส่วนเกินที่เราสะสมมาจากมูลค่าที่สังคมโอบอุ้ม เราไม่ได้ร่ำรวยมาจากสูญญากาศ ดังนั้น เราจ่ายภาษีคืนแก่สังคมบกพร่องแน่นอน มันจึงพอกพูนงอกเงยขึ้นเป็นกองมรดกให้แก่ลูกหลาน กฎหมายภาษีมรดกในปัจจุบันจึงต้องแก้ไขให้เป็นอัตราก้าวหน้าที่ชัดเจนขึ้นอย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีอย่าทำเรื่องนี้ให้เป็นเพียงกระแสสังคม หรือมวยล้มต้มคนดู เพราะที่ผ่านมาก็ร่วมงานกันมาตลอดจนถึงขั้นแบ่งปันประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ อย่าให้เป็นการทดแทนบุญคุณทางอ้อมที่รัฐกำลังจะช่วยฟอก เพราะรัฐบาลจะตั้งกองทุนช่วยพยุงเศรษฐกิจและตลาดหุ้นซึ่งพวกเขาจะได้ผลประโยชน์มหาศาลโดยเฉพาะการที่รัฐบาลจะออก พรก.ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ค้ำประกันตราสารหนี้ 4 แสนล้านบาท และชดเชยความเสียหายให้แก่เอกชน ถือเป็นการก่อภาระต่อลูกหลานไทยให้ต้องชำระหนี้ในอนาคต แทนที่รัฐบาลจะต้องสงวนเงินภาษีไว้ช่วยเหลือชาวบ้านซึ่งเดือดร้อนแสนสาหัสแทนนี่เป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทนหรือไม่ ที่จะให้ ธปท. ใช้เงินภาษีประชาชนไปสนับสนุนสภาพคล่องแก่กลุ่มสถาบันการเงินเป็นการเฉพาะ ทำใมไม่ให้ผู้ที่ลงทุนในตราสารหนี้ไปแล้วต้องมาร่วมรับภาระด้วย หากรัฐบาลเห็นว่าสถาบันการเงินบางแห่งขาดเสถียรภาพก็ควรเข้าไปยึดกิจการบริษัทเอกชน (Nationalisation) ในบางธุรกิจที่ถือเป็นยุทธศาสตร์ไปเลย แทนที่จะไปจ่ายเงินเพื่ออุ้มนักลงทุนซึ่งเป็นคนรวยและคนต่างชาติ
เลขา ครป. เห็นด้วยรัฐบาลเรียกร้องมหาเศรษฐี 20 คนร่วมเสียสละส่วนเกิน แนะรัฐเก็บภาษีทรัพย์สินอัตราก้าวหน้าแก้ปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจเหมือนในยุโรป18 เม.ย.
การเมือง,เศรษฐกิจ,สังคม,คุณภาพชีวิต
COVID-19,เมธา มาสขาว,เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย,ครป.
https://prachatai.com/journal/2020/04/87253
เค้กอินทผลัม
นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้น ลดอาการท้องผูก และมีสารน้ำตาลให้พลังงานสูง แต่ผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานได้ เนื่องจากเป็นน้ำตาลเชิงเดี่ยว, ช่วยลดความกระหายและอ่อนเพลีย เนื่องจากในน้ำอินทผลัม ประกอบไปด้วยวิตามินเอ, บี 1, บี 2 และยังเป็นแหล่งที่ดีของแคลเซียม ซัลเฟอร์ โปแตสเซียม ฟอสฟอรัส แมงกานิส แมกนีเซียม และน้ำมันโวลาไตล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการยังยกให้อินทผลัมเป็นอาหารชั้นยอดอีกชนิดหนึ่งสำหรับแม่ที่ให้นมลูก เพราะอินทผลัมอุดมไปด้วยแร่ธาตุจากธรรมชาติที่ช่วยให้มีน้ำนมคงที่,ในประเทศไทยได้มีการปลูกอินทผลัมทางภาคเหนือ ที่ สวนโกหลัก ของ นายศักดิ์ ลำจวน ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยได้พัฒนาสายพันธุ์อินทผลัมให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นมาโดยตลอด ทำให้ได้ผลผลิตที่ใหญ่ และรสชาติหวานกลมกล่อม และขณะนี้ก็มีผลผลิตมาวางจำหน่ายใน เทศกาลอินทผลัมสด ที่กูร์เมต์ มาร์เก็ต พารากอน, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และโฮม เฟรช มาร์ท เดอะมอลล์ ทุกสาขา โดยมีการนำเนื้ออินทผลัมไปแปรรูปเป็นน้ำอินทผลัมพร้อมดื่ม, เค้ก, แยม, ลูกอม, ส้มตำ ฯลฯ เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้นด้วย,เจ๊วิน หรือ สุวิน ลำจวน ภรรยาเจ้าของสวนโกหลัก บอกว่า จุดเริ่มต้นของการนำอินทผลัมมาแปรรูป เนื่องจากมีเนื้ออินทผลัมที่เหลือจากการนำเมล็ดไปเพาะพันธุ์เป็นจำนวนมาก จะทิ้งไปก็เสียดาย จึงคิดว่าน่าจะเอาเนื้ออินทผลัมเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์จะดีกว่า เริ่มแรกได้นำมาทำ น้ำอินทผลัมพร้อมดื่ม ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ต่อมาก็พัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ เค้กอินทผลัม, แยมอินทผลัม, อินทผลัมกวน, ส้มตำอินทผลัม ฯลฯ โดยเจ๊วินได้แนะนำวิธีทำน้ำ Virgin Dates ไว้ดื่มแก้กระหายด้วย โดยผสมน้ำอินทผลัมกับน้ำแข็งละเอียดเขย่าให้เข้ากัน เทใส่แก้วและใส่เนื้ออินทผลัมสดสไลด์บางๆ บีบมะนาวครึ่งซีก ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ หรือจะเอามาทำเป็นเค้กก็เข้าท่า โดยมี,ส่วนผสมดังนี้ :, แป้งเค้ก 2 3/4 ถต./เนยสดรสเค็ม 3/4 ถต./อินทผลัม 1 ถต./อัลมอนด์ 1/2 ถต./ผงฟู 1 ชต./น้ำตาลทราย 1 1/3 ถต./ไข่ไก่ 4 ฟอง/นมสด 1/3 ถต./น้ำ 1/3 ถต./กลิ่นวนิลา 3/4 ชช. ,วิธีทำ,1) ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูเข้าด้วยกัน,2) ตีเนยสดพอเหลว ใส่น้ำตาลทราย ตีจนเนยกับน้ำตาลขึ้นฟูขาว,3) ใส่ไข่ไก่ทีละฟองจนหมด,4) เติมส่วนผสมของแป้ง สลับกับนมสดและวนิลา ตะล่อมให้เข้ากัน,5) เติมเนื้ออินทผลัมและอัลมอนด์ ตะล่อมให้ทั่วกัน,6) เทใส่พิมพ์ที่ทาเนยขาวรองด้วยกระดาษไว้,7) นำเข้าเตาอบไฟ 180 ํc ประมาณ 30 นาที หรือจนกระทั่งสุก.
อินทผลัมสด เป็นผลไม้ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในหมู่คนรักสุขภาพ เพราะมีการยืนยันทางการแพทย์ว่าอินทผลัมสดให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายนานัปการ ทั้งช่วยให้อาหารย่อยง่ายขึ้น
ไลฟ์สไตล์,อาหาร
ตั้งสำรับคาวหวาน,เค้กอินทผลัม,เค้ก,อินทผลัม,สุวิน ลำจวน,สวนโกหลัก,แปรรูปอินทผลัม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์
https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/520913
ชาคริต ไม่ยุ่ง วุ้นเส้น มีข่าวกับหนุ่มเยอะ เผยแม่ป่วยอาการดีขึ้น
มาร่วมงานเปิดตัวกระทะ โคโค่เบนเน่ กระทะของคนรักสุขภาพ ณ ลาน Lifestyle Avenue A ชั้น G ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางกะปิ พอได้เจอพระเอก-พิธีกรหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม เลยได้โอกาสอัพเดตถึงเรื่องที่อดีตภรรยาอย่างนักแสดง-พิธีกรสาวเซ็กซี่ วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ จะนัดกินข้าว รวมถึงอัพเดตอาการป่วยของคุณแม่ของเจ้าตัวว่าเป็นอย่างไรบ้าง,ซึ่ง ชาคริต พูดถึงเรื่องที่ วุ้นเส้น จะนัดทานข้าวว่า ยังครับ ตอนนี้ผมไม่ค่อยว่างด้วยครับ ผมก็อยู่ในช่วงเปิดเทอม เริ่มทำงานค่อนข้างเยอะ เห็นว่าเขากำลังดูว่าวันไหนว่าง ก็เจอกันเป็นเรื่องปกติครับ บางทีเขาต้องมาประชุมเรื่องร้านด้วย ก็ต้องมีอยู่แล้ว แสดงว่าเขาก็บอกไว้คร่าวๆ แล้ว? ก็มีบ้างครับ แต่พอดีผมไม่ค่อยว่างช่วงนี้ครับ ถามว่าได้เจอกันบ้างไหมยังๆ ครับ ก็อย่างที่บอกว่านานๆ ทีจะมีกริ๊งกร๊างคุยกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะส่งข้อความคุยกันมากกว่า วาเลนไทน์จะมีโอกาสไปทานข้าวด้วยกันไหม? คงไม่มีครับ เพราะยังไม่ได้มีแพลนอะไรครับ ผมเองก็ทำงานด้วย ไม่ได้มีเวลา ถ้าคิวว่างจะสะดวกไปได้ไหม? ถ้าว่างก็ไปได้สิ (ยิ้ม) แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นอนาคตจนถึงเดือน เม.ย. แล้ว คำว่าว่างยังไม่มี (หัวเราะ) คือบางทีเวลามันไม่ตรงกัน วันนี้เราเสร็จแล้ว ไปทานข้าวเย็นได้ แต่เขาไม่ได้ บางทีเราไปได้กลางวัน เขาก็ไปได้ตอนกลางคืน จะคลาดกันไป แต่อย่าไปซีเรียสครับ เราก็อยู่โลกใบเดียวกันเนอะ เดี๋ยวก็ต้องเจอครับ,วุ้นเส้นมีข่าวกับหนุ่มๆ เราทราบบ้างไหม? ไม่ได้ยุ่ง เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเนอะ เราก็ไม่เกี่ยวข้องและไม่อยากเอาตัวเองไปเกี่ยวข้อง เพราะเดี๋ยวมันไปกันใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องอะไรของเรา ผมก็ไม่รู้อะไรคืออะไร แต่ว่าเราให้เกียรติเขาอยู่แล้ว เพราะว่าเรื่องบางเรื่องบางครั้งมันก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะต้องไปยุ่งเนอะ มันก็เป็นการตัดสินใจของเขา เราเป็นห่วงไหมที่เขามีข่าวเยอะ? ก็ไม่คิดอะไร เพราะผมเชื่อว่าเขาก็ต้องดูแลตัวเองดีครับ อะไรที่ตัดสินใจก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เขาตัดสินใจ คนเราก็คงต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเนอะ เราก็คงจะไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ถ้าเกิดใครมาว่าเขาก็เป็นห่วงอยู่แล้วแหละครับ เราก็ไม่อยากให้ใครมาว่า อย่างเรื่องบางเรื่องไม่ใช่เรื่องอะไรที่จะต้องมานั่งว่ากันอย่างนั้นอย่างนี้ ตัวเราเองบางทียังไม่ทันทำอะไรก็โดนว่าซะแล้ว เรายังแบบอะไรกันนักหนา แต่ด้วยความที่เราเป็นผู้ชายมันก็เข้าใจได้ง่ายกว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องมาโดนสังคมว่า เราก็เป็นห่วง ก็เป็นกำลังใจให้แล้วกันครับ เขาก็เนื้อหอมนะ? ก็เขาสวย เก่ง คงต้องมีเป็นเรื่องธรรมดา แต่จริงไม่จริงอันนี้ผมไม่ทราบครับ ก็ขอไม่เกี่ยวด้วยแล้วกันครับ เราเองก็มีความรู้สึกดีๆ เป็นห่วงเขาอยู่เสมอครับ แล้วตัวเราเองล่ะ? โห ก็บอกแล้วว่าคิวเยอะมากถึงเดือน เม.ย. (หัวเราะ) ก็ขอทำงานไปก่อน อะไรที่จะเข้ามาหรือไม่เข้ามาค่อยว่ากัน ตอนนี้เราขอโฟกัสเรื่องงาน แค่นี้ก็แย่แล้ว อย่างที่บอกก็เรื่องคุณแม่ด้วยครับ เดี๋ยววันที่ 6 ก.พ.นี้ก็วันเกิดคุณแม่แล้ว ต้องถ่าย เป็นต่อ แล้วก็ต้องแวะไปหาคุณแม่ช่วงเช้าและค่อยไปทำงานต่อ,อาการคุณแม่เป็นไงบ้าง? ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ตอนนี้เพิ่งแอดมิท รพ.ไป 3-4 วัน เพราะลำไส้เริ่มปั่นป่วน แต่อาจเป็นเพราะร่างกายเริ่มดีขึ้น หลายๆ อย่างที่รับประทานอยู่เพื่อสุขภาพมันอาจจะกลายเป็นอะไรที่ร่างกายรับเต็มที่ตอนแรก แต่ตอนนี้อาจจะเป็นว่าขอใช้ครึ่งเดียวพอแล้ว และเหมือนมันก็ต้าน ก็ยังดีที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเส้นประสาทหรือเลือด สมอง หัวใจ เป็นเรื่องระบบลำไส้ปั่นป่วน แต่ก็โอเค เมื่อวานอยู่กับท่านก็แฮปปี้ดี เดี๋ยวเสร็จงานค่อยเข้าไปหาท่าน ตอนนี้กลับมาอยู่บ้าน แต่ก่อนหน้านี้พาไปอยู่ รพ. 3-4 วันครับ พยาบาลคอยดูแล น่ารักมากครับผม ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงใช่ไหม? ตอนนี้ยัง คือห้ามล้มอีกน่ะครับ ถ้าล้มอีกทีโอกาสกระทบกระเทือนค่อนข้างสูง ต้องวัดดวงเอาแหละ ถ้าเกิดล้มหรือกระแทกอีกทีนึงก็ไม่ควรเลย แม้แต่เบาๆ ก็ไม่ได้ ต้องระวังเยอะ แต่ว่าด้วยความที่ท่านก็แข็งแรง รับรู้อยู่กับปัจจุบันหมด รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ดื้อ เพราะเมื่อก่อนเป็นคนที่ฉายเดี่ยวตลอดเวลา ทำอะไรเองทุกอย่าง แต่ลูกกับแม่ก็กัดกันไปมาวันยังค่ำ ลูกก็เป็นลูก แม่ก็เป็นแม่ แต่บางวันไม่รู้ว่าใครเป็นแม่เป็นลูก (หัวเราะ) ต้องมีคนดูแลคุณแม่ตลอดเวลา? ก็มีพยาบาล 2 คน แม่บ้าน และมีพี่ที่ทำงานอยู่ด้วย ตัวเราด้วย ว่างก็เข้าไป อย่างที่บอกว่าเขาต้องดูแลเรื่องความสะอาดตลอดเวลา เราวางตัวลำบาก เวลาอยู่ที่กองบางครั้งป่วยเป็นภูมิแพ้ เราก็เอาตัวเองเสี่ยงอยู่กับคุณแม่ไม่ได้แล้ว เพราะว่าเขาเป็นอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นมันเสี่ยงมาก เป็นอะไรทีก็เป็นบ้าเป็นบอกันไปใหญ่อยู่แล้ว กลัวเขาจะตื่นตูม คนรถจะสตาร์ตรถไม่ทันเอา เลยต้องช่วยกันทุกฝ่าย ทำงานเยอะไม่เหงาใช่ไหม? ผมก็ไม่เหงานะ จริงๆ แล้วเมื่อก่อนไม่มีแฟน 2-3 ปี ไม่มีก็อยู่ได้เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้ามีคนเข้ามาคุยกันถูกคอ อยากจะเริ่มต้นคบหาดูใจกันก็เป็นเรื่องปกติ แต่ข่าวก็ไม่เขียนไงว่าเราไม่มีแฟน พอมีก็กระหน่ำซ้ำ (หัวเราะ) ตอนนี้ยังไม่มี แต่งกับงานครับตอนนี้.
ชาคริตแจงยังไม่ได้นัดกินข้าวกับวุ้นเส้น วิริฒิพา เพราะงานยุ่งและว่างไม่ตรงกัน ไม่ยุ่งอีกฝ่ายมีข่าวกับหนุ่มเยอะ แต่ยังเป็นห่วงอยู่เสมอ เผยแม่ป่วยลำไส้ปั่นป่วนแต่อาการดีขึ้นแล้ว ต้องระวังห้ามแม่ล้มอีก-หวั่นกระทบอาการป่วย
null
ชาคริต แย้มนาม,วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์,ชาคริต วุ้นเส้น,ชาคริต วุ้นเส้น ความรัก,ชาคริต แม่ป่วย
https://www.thairath.co.th/content/850060
สโลว์ไลฟ์แบบนิ่งๆ เย็นวันจันทร์ติดทุกเส้น วิภาวดีรังสิต-งามวงศ์วาน ไม่ขยับ
วันที่ 24 ส.ค. 58 กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) รายงานสภาพการจราจรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงเย็นวันนี้ ว่า ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก จาก แยกด่านดินแดง มุ่งหน้า แยกสุทธิสาร ไป แยกลาดพร้าว รถมากเคลื่อนตัวได้ช้าๆ ท้ายชะลอตัวอยู่แยกด่านดินแดง, ช่วง แยกลาดพร้าว มุ่งหน้า แยกบางเขน ไป แยกหลักสี่ รถมากเคลื่อนตัวได้ช้า, ถนนดินแดง จาก แยกใต้ด่วนดินแดง มุ่งหน้า แยกดินแดง รถหนาแน่นเคลื่อนตัวได้ช้า ท้ายชะลอตัวอยู่ที่แยกใต้ด่วนดินแดง, ช่วง ถนนราชวิถี จาก แยกดินแดง มุ่งหน้า แยกวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยฯ รถมากเคลื่อนตัวได้ช้า ส่วนถนนศรีนครินทร์ ขาเข้า จาก แยก หมู่บ้านนักกีฬา มุ่งหน้า แยกลำสาลี รถมากเคลื่อนตัวได้ช้า มีอุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถแท็กซี่ อยู่ช่วงก่อนถึงแยกลำสาลี ในช่องทางขวา ประสานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินการเคลื่อนย้าย,ด้านถนนพระราม 9 ขาออก จาก แยก อสมท มุ่งหน้า แยกศูนย์วิจัย ไป แยกพระราม 9 - 2 รถมากเคลื่อนตัวได้ช้า, ช่วง แยกพระราม 9 - 2 มุ่งหน้า แยกรามคำแหง ไป แยกพรีเมียร์ - พระราม 9 ใหม่ รถมากเคลื่อนตัวได้ช้า ท้ายชะลอตัวอยู่ที่แยกพระราม 9 - 2 ขณะที่ถนนสีลม จาก แยกศาลาแดง มุ่งหน้า แยกนราลม ไป แยกเดโช รถหนาแน่นเคลื่อนตัวได้ช้า ท้ายชะลอตัวอยู่ที่แยกศาลาแดง, ช่วง แยกเดโช มุ่งหน้า แยกสุรศักดิ์ ไป แยกสีลม - เจริญกรุง รถมากเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ,สำหรับถนนถนนงามวงศ์วาน ขาออก จาก แยกเกษตร มุ่งหน้า สะพานข้ามแยกบางเขน ไป แยกพงษ์เพชร รถหนาแน่นเคลื่อนตัวได้ช้า ท้ายชะลอตัวอยู่ที่อุโมงค์เกษตร, ช่วง แยกพงษ์เพชร มุ่งหน้า แยกแคราย รถมากเคลื่อนตัวได้ช้า ส่วนถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก จาก อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ มุ่งหน้า แยกหลักสี่ - วิภาวดี ไป แยกเมืองทอง รถหนาแน่นเคลื่อนตัวได้ช้า ท้ายชะลอตัวอยู่ที่หน้า ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ , ช่วง แยกเมืองทอง มุ่งหน้า แยกปากเกร็ด รถมากเคลื่อนตัวได้ช้า
กอง บก.จร. แจ้งสภาพจราจรช่วงเย็น ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก มุ่งหน้า แยกสุทธิสาร ไป แยกลาดพร้าว รถมากเคลื่อนตัวได้ช้า ส่วนถนนศรีนครินทร์ ขาเข้า จาก แยก หมู่บ้านนักกีฬา มีอุบัติเหตุก่อนถึงแยกลำสาลี จนท.เร่งเคลื่อนย้าย
ข่าว,ทั่วไทย
เช็กจราจร,สภาพจราจร,ตรวจจราจร,รถติด,ถนนวิภาวดีรังสิต,ถนนงามวงศ์วาน,ถนนพระราม 9,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/520501
นิตย์ เสียงแข็งเดินหน้าเจรจา ไอพีอาร์
พัทยา - 5 เม.ย.48 เรารับปากไม่ได้ว่าจะไม่นำเรื่องทรัพย์สินทางปัญญามาเจรจา แต่เรารับปากว่าจะนำข้อกังวลของท่านไปพูดคุยกับตัวแทนสหรัฐ หน้าที่ของเราคือเจรจา ดังนั้นจึงต้องรับฟังข้อเสนอของสหรัฐด้วย เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเจรจา ส่วนที่ตัดสินใจว่าจะเจรจาหรือไม่เป็นเรื่องของนโยบายที่รัฐบาลกำหนดมาแล้ว นายนิตย์ พิบูลสงคราม หัวหน้าคณะเจรจาการจัดทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย - สหรัฐ ยืนยันระหว่างนำคณะเจรจาอาทิ นงนุช เพชรรัตน์ รองหัวหน้าคณะเจรจาอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มาร่วมหารือกับตัวแทนเครือข่ายต่างๆ 15 คน ซึ่งใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ตัวแทนเครือข่ายดังกล่าวมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านการเจรจาเอฟทีเอจากทั่วประเทศกว่า 1500 คน ที่ปักหลักอยู่บริเวณหน้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช ฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งเป็นสถานที่จัดการเจรจารอบที่ 3 นี้ ตัวแทนทั้ง 15 คนได้ร่วมกันชี้แจงและเรียกร้องให้คณะเจรจาของไทยนำประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา (ไอพีอาร์) ออกจากการเจรจาเอฟทีเอกับสหรัฐ เพราะจะทำให้เกิดการผูกขาดปัจจัยการผลิตทางการเกษตรและทำให้ราคายาสูงขึ้น กระทบต่อการเข้าถึงการรักษาโรคของประชาชน ทำไมการเปิดเสรีทางการเงิน ไทยจึงบอกได้ว่าไม่พร้อมและยกออกจากการเจรจา แต่ประเด็นสิทธิบัตรซึ่งจะกระทบกับคนจำนวนมากกลับไม่สามารถหยิบยกออกจากการเจรจาได้ ถ้าท่านเอาออกไม่ได้ นี่คือการเปิดตัวการคัดค้านที่พลังของพวกเราจะช่วยให้ท่านนำเรื่องที่เราเสนอไปพูดคุยกับสหรัฐได้มากขึ้น นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย (ไบโอไทย) กล่าว อย่างไรก็ตาม นายนิตย์กล่าวยืนยันว่า จะรับฟังข้อวิตกกังวลทั้งหมดจากภาคประชาชน เพื่อนำไปร่วมพิจารณา แต่การเจรจาครั้งนี้และที่ผ่านมายังไม่มีการพูดคุยเรื่องยา และยังไม่มีการตกลงยอมรับในเรื่องใด คาดว่ากว่าจะสรุปข้อตกลงกันได้ อาจต้องใช้เวลามากกว่า 2-3 ปี อีกทั้งข้อตกลงต่างๆ ก็สามารถเสนอให้แก้ไขตลอดจนยกเลิกข้อตกลงนั้นเสียก็ได้ ชีวิตคนไม่ใช่สินค้าผมเข้าใจดี การเจรจาก็มีผลดีได้ อาจทำให้เกิดความร่วมมือที่ทำให้ยาถูกลงด้วยซ้ำ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ นายนิตย์กล่าวพร้อมทั้งตอบคำถามเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนว่าการเจรจามีข้อมูลของประเทศอื่นด้วย จึงไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในที่สุดต้องมีเรื่องที่ปรากฏอยู่ในรัฐสภา ด้านน.ส.สารี อ๋องสมหวัง จากสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค ขอคำยืนยันจากคณะผู้เจรจาว่าในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ประเทศไทยจะไม่ตกลงกับสหรัฐเกินไปจากข้อตกลงระหว่างประเทศขององค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) รอบโดฮา ซึ่งเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนามีมาตรการเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เหมาะสมกับตนเอง มาตรฐานขั้นต่ำต้องอยู่ในกรอบดับบลิวทีโอ ไม่มีการเจรจานอกกรอบ เว้นแต่บางเรื่องที่ยังไม่มีการพูดคุยในดับบลิวทีโอ อย่างไรก็ตาม การเจรจาไม่ใช่การรักษาผลประโยชน์เท่านั้น แต่อาจจะเป็นการเกื้อกูลสุขภาพทำให้ได้รับประโยชน์มากขึ้น ทำไมไปลดถึงขั้นต่ำสุด นายนิตย์กล่าว พร้อมกันนี้นายนิตย์เสนอให้ตัวแทนผู้ชุมนุมเข้าพบคณะเจรจาของสหรัฐในช่วงบ่าย ซึ่งยินดีจะพบกับภาคประชาชนไทย แต่ตัวแทนทั้งหมดปฏิเสธ โดยระบุว่าต้องการประกาศจุดยืนและยื่นข้อเรียกร้องกับตัวแทนของตนเองเท่านั้น และเป็นหน้าที่ที่คณะผู้เจรจาของไทยต้องไปเจรจากับสหรัฐเอง หลังเสร็จสิ้นการหารือ กลุ่มตัวแทนเครือข่ายได้ออกมาชี้แจงกับชาวบ้านที่รออยู่ด้านนอก โดยแสดงความผิดหวังที่คณะผู้เจรจาของไทยไม่หยิบยกประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการคุ้มครองสิทธิบัตรออกจากการเจรจา โดยให้เหตุผลว่าข้าราชการต้องทำตามหน้าที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจระดับนโยบาย
พัทยา - 5 เม.ย.48 เรารับปากไม่ได้ว่าจะไม่นำเรื่องทรัพย์สินทางปัญญามาเจรจา แต่เรารับปากว่าจะนำข้อกังวลของท่านไปพูดคุยกับตัวแทนสหรัฐ หน้าที่ของเราคือเจรจา ดังนั้นจึงต้องรับฟังข้อเสนอของสหรัฐด้วย
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2005/04/3504
ธนาธรผ่างบประมาณ กลาโหม เสนอตัดงบฯ ร้อยละ 40
วันที่ 1 ธ.ค., นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, จัดการบรรยายพิเศษ หัวข้อ ชำแหละงบประมาณ กระทรวงกลาโหม ซึ่งได้ความสนใจจากผู้สนับสนุนเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก,ในช่วงต้นของการบรรยาย นายธนาธร ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหม ทำข้อตกลงพิเศษกับกระทรวงการคลัง เรื่องการใช้เงินนอกงบประมาณว่า จะมีการตั้งระบบตรวจสอบและระบบบัญชีเอง ซึ่งทำให้ตรวจสอบยาก และอาจเกิดความไม่โปร่งใส รวมถึงแตกต่างจากกระทรวงอื่นๆ ที่หากจะใช้เงินนอกงบประมาณ จะต้องหารือร่วมกับกระทรวงการคลังก่อน,นายธนาธร ยกตัวอย่างกรณีที่กระทรวงกลาโหม เคยนำเงินนอกงบประมาณไปให้บริษัทอาร์อีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด มหาชน กู้ 1,200 ล้านบาท โดยไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งบริษัทดังกล่าว มีกองทัพบก ถือหุ้นร้อยละ 50 และมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ประมาณ 10 คน ถือหุ้นอีกร้อยละ 50 ขณะที่ข้อมูลของกรมธุรกิจการค้า พบว่า บริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน เพียง 10 ล้านบาท และขาดทุนต่อเนื่องหลายปี รวมเป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาทอยู่แล้ว,นายธนาธร ยังเล่าถึงการสอบถามข้อมูลเรื่องงบปฏิบัติการด้านข่าวสาร หรือ ไอโอ ในระหว่างที่ตัวเองยังเป็นกรรมาธิการฯ ว่า พยายามสอบถามกระทรวงกลาโหม เรื่องการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร เนื่องจากไม่ปรากฏงบประมาณที่ใช้ แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีปฏิบัติการนี้อยู่ เช่น มีเฟซบุ๊กเพจกองพันทหารราบที่ 3 ทหารราบที่ 152 ซึ่งระบุที่ตั้งว่า อยู่ในค่ายทหาร แต่ปัจจุบันเพจนี้ถูกปิดไปแล้ว เพราะถูกรีพอร์ตเนื่องจากข้อมูลที่เพจสร้างขึ้นเกือบทั้งหมดเป็นข้อมูลเท็จ ที่มีเป้าหมายสร้างความเกลียดชังในสังคม,นอกจากนี้ ยังตั้งคำถามถึงสนามมวยลุมพินี และสนามม้าที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า กองทัพบริหารงานเอง หรือให้เอกชนดูแล เพราะทั้ง 2 กิจการตั้งอยู่ในพื้นที่ของทหาร ซึ่งหากกองทัพบริหารจัดการเอง เงินที่ได้จากกิจการเหล่านี้ถูกนำไปรวมกับเงินนอกงบประมาณหรือไม่,นอกจากนี้ ยังมีการระบุถึงการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นงบผูกพัน ซึ่งมีการกำหนดไว้ว่า ทั้งงบประมาณใช้ได้ไม่เกินร้อย 10 โดย 10 ปี เพิ่มขึ้น 2.3 เท่า ปีละ 1 หมื่น 9 พันล้าน กลายเป็น 4 หมื่น 3 พันล้าน นายธนาธร ยังยกตัวอย่างถึงความจำเป็นในการสร้างบ้านรับรองของกองทัพเรือ แทนการนำเงินไปใช้อุดหนุนเศรษฐกิจประชาชน ซึ่งตัวเองไม่เห็นด้วย พร้อมมองว่ายังเป็นการจำกัดงบประมาณการลงทุนของกระทรวงอื่น จึงเสนอตัดงบประมาณลงร้อยละ 40 เพื่อลดการเป็นหนี้ของประชาชน ซึ่งการลงทุนยุทโธปกรณ์ในระยะยาวไม่จำเป็นในสภาวะเศรษฐกิจนี้ พร้อมระบุว่า งบบัตรทองน้อยกว่างบค่าหัวของทหาร
ธนาธร ผ่างบกลาโหม จวก ปฏิบัติการไอโอ ไม่เคยปรากฏอยู่ในงบประมาณ พร้อมเสนอตัดงบกระทรวงกลาโหมร้อยละ 40 ชี้ ควรเอาเงินสร้างบ้านพักรับรองกองทัพเรือ ไปช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ประชาชน
ข่าว,การเมือง
ธนาธร,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,งบกลาโหม,ตัดงบฯกลาโหม,ตัดงบประมาณ40%,บ้านพักรับรองกองทัพเรือ,ทร.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1715803
สิงห์หนุ่มเฮท้ายเกม กลัดบัคเฉือนบาเยิร์นฯ สุดหวิว 2-1
วันที่ 7 ธ.ค.62 การแข่งขันศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาล 2019-20 โดยคู่บิ๊กแมตช์ สิงห์หนุ่ม โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ทีมจ่าฝูง เปิดบ้านที่สนามโบรุสเซีย ปาร์ก รับมือ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก อันดับ 4 ของตาราง,เริ่มเกมในครึ่งแรก เป็นทีมเยือนที่ได้ลุ้นก่อน จากการวอลเลย์ด้วยขวาของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี แต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น,จากนั้นแม้ บาเยิร์น มิวนิก จะครองบอลบุกได้เหนือกว่า แต่จังหวะสุดท้ายกลับไม่เฉียบคมพอ ทำให้หมดครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0,กระทั่งครึ่งหลังในนาที 49 ทีมเสือใต้ก็พังประตูขึ้นนำ 1-0 สำเร็จ โธมัส มุลเลอร์ จ่ายบอลให้กับ อิวาน เปริซิช ตะบันด้วยซ้ายตุงตาข่าย,แต่นาที 60 กองเชียร์เจ้าถิ่นก็ได้เฮบ้าง เมื่อไล่ตีเสมอเป็น 1-1 จากการขึ้นโขกแบบเต็มหัวของ รามี เบนเซไบนี,เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่ในช่วงทดเจ็บนาที 90+2 ฆาบี มาร์ติเนซ ทำเสียจุดโทษและโดนใบแดงไล่อออกจากสนาม ก่อนที่ รามี เบนเซไบนี จะรับหน้าที่สังหารไม่พลาด,ทำให้จบเกม โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค จะเฉือนเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิก ไปแบบเจ็บแสบในช่วงท้ายเกม 2-1 ยังนำเป็นจ่าฝูงต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์.,ผลการแข่งขันในคู่อื่น,โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ชนะ ฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ 5-0,แอร์เบ ไลป์ซิก ชนะ ฮอฟเฟนไฮม์ 3-1,ไฟร์บวร์ก ชนะ โวล์ฟบวร์ก 1-0,เอาก์สบวร์ก ชนะ ไมนซ์ 2-1
รามี เบนเซไบนี ซัดจุดโทษเป็นประตูชัยในช่วงท้ายเกม ช่วยให้ทีมสิงห์หนุ่มเปิดบ้านเช็กบิลเสือใต้ไปแบบเจ็บแสบ 2-1 รั้งตำแหน่งจ่าฝูงบุนเดสลีกาอย่างเหนียวแน่น
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ผลบอล,บุนเดสลีกา,บาเยิร์น มิวนิก,โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค,ข่าวบอล,ข่าวฟุตบอล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1721390
จับตา ดีเอสไอ ประเมินสถานการณ์เลิก ม.44 คุมวัดธรรมกาย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 มี.ค. 60 ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัว พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตน เดินทางเข้าพบ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อชี้แจงเหตุการณ์เข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ระหว่างวันที่ 16 ก.พ.-10 มี.ค.ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าไม่พบตัวพระธัมมชโย จึงถือว่าเป็นผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ โดยดีเอสไอและตำรวจ ได้จัดชุดติดตามตัว พร้อมประสานข้อมูลร่วมกัน ทั้งนี้ ฝ่ายปกครอง และเจ้าคณะจังหวัด ยังคงเข้าตรวจสอบวัดพระธรรมกายเพิ่มเติมตลอด ซึ่งวัดพระธรรมกายได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีการระดมคนเข้ามาขัดขวางและกล่าวโจมตีให้ร้ายแต่อย่างใด,รมว.ยุติธรรม ได้มอบหมายให้ดีเอสไอ ประเมินสถานการณ์ว่ายังคงใช้ มาตรา 44 ต่อหรือไม่ เนื่องจากการข่าวของเจ้าหน้าที่ดำเนินการหลายเรื่อง และพบความเชื่อมโยงเครือข่าย นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ เตรียมเข้ามาสร้างสถานการณ์ภายในวัดพระธรรมกาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้มีการประสานกับทางการลาวเพื่อขอตัว นายโกตี๋ รวมทั้งอาจดำเนินการออกหมายจับต่อไป นอกจากนี้ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ได้เรียก น.ส.อลิสา อัศวโภคิน ทายาทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ มาสอบปากคำแล้วแต่ยังไม่ได้รับรายงาน หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว.
อธิบดีดีเอสไอ เผย รองนายกฯ วิษณุ สั่งประเมินสถานการณ์เพื่อยกเลิก ม.44 คุมวัดพระธรรมกาย มั่นใจเชื่อมโยงเครือข่าย โกตี๋ จ้องป่วน ขณะที่ได้เรียกทายาทธุรกิจดังมาให้ปากคำแล้ว
ข่าว,อาชญากรรม
ธัมมชโย,ธรรมกาย,มาตรา 44,ยกเลิกม.44,ดีเอสไอ
https://www.thairath.co.th/news/crime/899331
ประชุม TBC ไทย-พม่า ชื่นมื่น ถกปัญหายาเสพติด พัฒนา รพ.ชายแดน ฉลุย
 ,ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 ก.ย.59 ที่ห้องประชุมบุษราคัม มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร แม่สอด จ.ตาก มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา (TBC) ครั้งที่ 35 ซึ่งฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ โดยมี พ.อ.โสภณ นันทสุวรรณ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 เป็นประธาน และคณะประกอบด้วย พ.อ.อภิวิศน์ สุธรรมวรโรจน์ ผบ.นพค.ที่ 33 พ.อ.กฤต พันธะสา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 พ.อ.ก่อพงศ์ ทรงศิลป์ ผู้อำนวยการกองกิจการชายแดนไทย-เมียนมา พ.อ.เฉลิม สีเจริญ รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 310 ตรวจคนเข้าเมืองตาก นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอพบพระ นายศราวุธ ทังดิน ปลัดความมั่นคงอำเภอแม่สอด เข้าร่วมประชุม ด้านพม่ามี พ.ต.ตานวินไหน่ ผบ.พัน.คร.310 เป็นประธานฝ่ายเมียนมา,ส่วนข้อหารือในครั้งนี้ ฝ่ายไทยแจ้งแก่ทางการเมียนมาว่า ไทยจะสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังริมแม่น้ำเมย 2 แห่ง คือ ที่แม่สอด และท่าสองยาง รวมทั้งขอทราบผลคดีกรณีนายอัศวิน รอดชันเมือง และนายแคน มาชาวป่า ชาวไทยที่ขับรถไปส่งสินค้า ขากลับถูกจับตรวจค้นในรถ พบยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบ (tramadol) ยารักษาโรคเกาต์ ซึ่งทางการเมียนมาตั้งข้อหามียาประเภทควบคุมในครอบครอง แม้ฝ่ายไทยจะนำใบหลักฐานใบรับรองแพทย์ไปยืนยันแล้วก็ตาม ซึ่งเมียนมาแจ้งว่าวันพรุ่งนี้ศาลเมียนมาจะพิจารณาคดีและจะแจ้งให้ทราบ นอกจากนี้ยังมีการหารือความร่วมมือพัฒนาโรงพยาบาลคู่ขนานตามแนวชายแดนระหว่าง รพ.พบพระ กับ รพ.เมียวดี การหารือเกี่ยวกับบัตรข้ามแดนชั่วคราวที่ตรวจคนเข้าเมืองตาก พร้อมที่จะดำเนินการ และเรื่องปัญหายาเสพติดที่ปัจจุบันเริ่มขยายเข้ามาทางพื้นที่ชายแดนด้านนี้ โดยหารือการประสานงานอย่างใกล้ชิด ระหว่างแหล่งข่าว ป.ป.ส.ไทย และ ป.ป.ส.เมียนมา โดยหลังการประชุมหารือ ทั้งสองฝ่ายได้รับประทานอาหารร่วมกัน.
ชื่นมื่น!! การประชุม TBC ไทย - เมียนมา ของทหารทั้งสองชาติ บรรยากาศทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยหยิบยกปัญหายาเสพติด การพัฒนาโรงพยาบาลคู่ขนานตามแนวชายแดน พร้อมถกเรื่องราษฎรไทยที่ถูกพม่าจับ พกยารักษาโรคเกาต์
ข่าว,ทั่วไทย
ประชุมคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่า,ประชุมTBC,โสภณ นันทสุวรรณ,ผบ.ฉก.ร.4,ตานวินไหน่,ผบ.พัน.คร.103,ยารักษาโรคเกาต์,สร้างเขื่อนกันตลิ่งน้ำเมย,รพ.คู่ขนานชายแดน,รพ.พบพระ,รพ.เมียวดี,ปัญหายาเสพติดชายแดน
https://www.thairath.co.th/news/local/721295
คนร้ายลอบวางระเบิด ร.ร.บ้านกะลาพอ จ.ปัตตานี ทหารพรานเจ็บ 3 -ตาย 1 นาย
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดระเบิดบริเวณรั้วกำแพงโรงเรียนบ้านกะลาพอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ทำให้อาสาสมัครทหารพรานกองร้อยที่ 4205 กรมทหารพรานที่ 42 จำนวน 4 นาย ซึ่งอยู่ใกล้กำแพงบาดเจ็บ 3 นาย และ เสียชีวิต 1 นาย คือ อาสาสมัครทหารพรานธวัชชัย จันทร์แดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะนักเรียนกำลังเข้าห้องเรียน ทหารพราน 4 นาย ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงเรียน นั่งพักดื่มกาแฟข้างกำแพง โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุได้กดชนวนวัตถุระเบิดน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ที่วางไว้บนกำแพง ซึ่งหลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้สั่งปิดเรียนทันทีเพื่อความปลอดภัยส่วนการพูดคุยสันติภาพรอบที่ 3 ระหว่างตัวแทนฝ่ายไทยกับตัวกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่จะมีขึ้นในเดือน มิ.ย.ที่ประเทศมาเลเซีย นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิ และ ผู้นำศาสนาจังหวัดยะลา เสนอว่าทีมพูดคุยสันติภาพ ควรเตรียมข้อมูลที่จะไปพูดคุยครั้งนี้ให้ชัดเจน เพราะเห็นว่า การพูดคุย 2 ครั้งที่ผ่านมา ตัวแทนรัฐบาลไทยมีแต่ตั้งรับข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกร้องให้ตัวแทนรัฐบาลพูดคุยให้บรรลุวัตถุประสงค์
ผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เสนอทีมพูดคุยสันติภาพ ที่จะไปพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 13 มิ.ย.2556 ว่าควรเตรียมข้อมูลการพูดคุยให้ชัดเจนมากกว่าที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้า เกิดระเบิดบริเวณกำแพงโรงเรียนบ้านกะลาพอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ทำให้ทหารพรานบาดเจ็บ 3 นาย เสียชีวิต 1 นาย
ภูมิภาค
ทหารพราน,บาดเจ็บ,บ้านกะลาพอ,ปัตตานี,ระเบิด,ลอบ,สายบุรี,เสียชีวิต,โรงเรียน
https://news.thaipbs.or.th/content/172228
ฝนตกก็ไม่ถอย ลูกศิษย์แห่รับศพหลวงพ่อเสงี่ยม แน่นวัดห้วยจระเข้
จากกรณีที่ชาวจังหวัดนครปฐม สูญเสียพระเกจิดัง ทายาทพระปิดตาหลวงปู่นาค พระมงคลชัยวัฒน์ หรือหลวงพ่อเสงี่ยม อริโย เจ้าอาวาสวัดห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม สิริรวมอายุ 93 พรรษา 5 วัน 68 พรรษา ซึ่งเป็นเกจิชื่อดังรูปหนึ่ง มีวัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อเป็นพระปิดตาหลวงปู่นาค ที่บรรดาเซียนพระต่างแสวงหา หลังจากมรณภาพลงลงอย่างสงบด้วยโรคชราและปอดติดเชื้อที่โรงพยาบาลธนบุรี 1 กทม. เมื่อเวลา 17.03 น. ของวันที่ 5 ก.ย. 60,ล่าสุดเมื่อเวลา 09.09 น.ของวันที่ 7 ก.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานมาถึงบรรยากาศภายในวัดห้วยจระเข้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีประชาชนที่เคารพนับถือศรัทธาหลวงพ่อเสงี่ยม พระสงฆ์ ที่เคยเป็นลูกศิษย์เรียนบาลี นักเรียนพ่อค้า ประชาชน เดินทางมารอรับศพ และร่วมเคารพศพเป็นครั้งสุดท้ายกันอย่างมากมาย ถึงแม้ฝนจะตกโปรยปรายลงมาก็ตาม ยังเข้าแถวยืนรอรับศพเป็นแถวยาวกว่าครึ่งกิโลเมตร บางรายถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความอาลัย,เมื่อขบวนเคลื่อนศพหลวงพ่อเสงี่ยมเดินทางมาถึงหน้าซุ้มประตูวัด มีรถตำรวจนำคอยอำนวยความสะดวก ผู้ที่มาเฝ้ารอต่างยกมือพนม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ถือรูปภาพหลวงพ่อเสงี่ยมขนาดใหญ่เดินนำหน้ารถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮค 2842 กทม. เป็นรถจากโรงพยาบาลธนบุรี กทม. ตามด้วยขบวนของคณะสงฆ์ เคลื่อนศพได้ไปจอดอยู่ที่บริเวณด้านหน้าศาลาสามัคคีธรรม เพื่อเคลื่อนย้ายสรีรสังขารของหลวงพ่อเสงี่ยมขึ้นสู่บนศาลาที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยบริเวณด้านหน้าศาลาประดับประดาไปด้วยดอกไม้โทนสีเหลือง เขียว ขาว อย่างสวยงาม ด้านขวาตั้งรูปของหลวงพ่อเสงี่ยมขนาดใหญ่ ด้านซ้ายตั้งพัดยศเจ้าคุณชั้นสามัญพระมงคลชัยวัฒน์ หรือหลวงพ่อเสงี่ยม เคลื่อนศพขึ้นสู่สถานที่รองรับ เพื่อประกอบพิธีรดน้ำ เจ้าหน้าที่ได้เตรียมน้ำอบ น้ำปรุง โรยด้วยดอกมะลิและกลีบกุหลาบ เพื่อเตรียมเปิดให้ประชาชนได้เข้ารดน้ำศพหลวงพ่อเสงี่ยม,พระมหาพิทยา ปริญญาโณ พระเลขาเจ้าอาวาสวัดห้วยจระเข้ เผยว่า ตามกำหนดการจะเปิดให้รดน้ำศพตั้งแต่เวลา 13.00 น. แต่ทั้งนี้เมื่อเสร็จสิ้นการเตรียมการก่อนเวลา จึงเปิดให้ประชาชนเข้ารดน้ำศพได้เลยไปจนถึงเวลา 16.00 น. จากนั้นเวลา 16.30 น. จะมี ผู้แทนจากสำนักพระราชวัง อัญเชิญน้ำหลวงสรงศพพระราชทานมาถึงศาลา เพื่อประกอบพิธีสรงน้ำหลวงพระราชทานก่อนจะบรรจุศพลงโลงทองทึบ โดยมีพระพรหมโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เจ้าคณะภาค 5 และเลขานุการแม่กองบาลี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ประธานฝ่ายฆราวาส จากนั้นเวลา 19.00 น. จะสวดพระอภิธรรมศพ,สำหรับของชำร่วยที่จะแจกในงานรดน้ำศพนี้ เป็นวัตถุมงคลพระปิดตาเนื้อเมฆพัด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2559 ที่หลวงพ่อเสงี่ยม สร้างขึ้นเมื่อวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2559 สำหรับศพของหลวงพ่อเสงี่ยม คณะกรรมการวัดได้กำหนดสวดพระอภิธรรมศพไว้ 50 วัน หากพ้นจาก 50 วันไปแล้วไม่มีเจ้าภาพก็จะนำศพเก็บไว้ 100 วัน และสวดเฉพาะวันอังคารซึ่งตรงกับวันที่หลวงพ่อเสงี่ยมมรณภาพ ส่วนกำหนดการพระราชพระราชทานเพลิงศพนั้นจะเป็นในช่วงเดือนมกราคม 2561 ขณะนี้ ทางคณะกรรมการวัดกำลังดำเนินการอยู่.
ประชาชนชาวนครปฐมที่เคารพนับถือศรัทธาหลวงพ่อเสงี่ยม มารอรับศพที่วัดห้วยจระเข้ แม้ฝนจะตกลงมาก็ยังเข้าแถวรอยาวกว่าครึ่งกิโลเมตร บางรายร่ำไห้ด้วยความอาลัย ทางวัดกำหนดสวดพระอภิธรรมศพไว้ 50 วัน ก่อนเก็บศพ 100 วัน
ข่าว,ทั่วไทย
หลวงพ่อเสงี่ยม,วัดห้วยจระเข้,นครปฐม,สวดพระอภิธรรมศพหลวงพ่อเสงี่ยม,รดน้ำศพ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1062877
นอภ.สนธิกำลังทหาร ทลายซ่องเมืองหัวหิน รวบ 8 หญิงบริการ
วันที่ 12 พ.ค. 58 นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน นำฝ่ายปกครอง พร้อมอาสาสมัคร และชุดปฏิบัติการที่ 1 กองพันทหารราบที่ 2 ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ นำกำลังเข้าจับกุมหญิงค้าประเวณี จำนวน 8 ราย และเสมียน 1 ราย พร้อมชายคอยดูต้นทางอีก 1 คน ได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ริมทางรถไฟเขตเทศบาลเมืองหัวหิน อ.หัวหิน พร้อมของกลาง บัญชีการจ่ายเงินของลูกค้า และถุงยางอนามัยจำนวนมาก จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่กองร้อย อส.หัวหิน โดยพบว่าบ้านหลังดังกล่าวแบ่งซอยเป็นห้องพักจำนวน 10 ห้อง จัดให้หญิงที่มาขายบริการพักอยู่ภายในทั้งหมด ขณะที่ด้านหน้าห้องเช่าจะมีชายคอยดูต้นทาง ,ด้าน นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนว่า บ้านเช่าดังกล่าวมีการลักลอบเปิดการค้าประเวณีมานานแล้ว และเป็นที่รู้กันในหมู่นักเที่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แจ้งตำรวจพร้อมนำกำลังเข้าไปจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่พบเนื่องจากข่าวรั่ว ในครั้งนี้จึงมีการวางแผน พร้อมประสานทหารศูนย์การทหารราบฯ นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมได้ทั้งหมด,จากการสอบสวนหญิงทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นชาวอีสาน ทั้งจาก จ.ขอนแก่น จ.อุบลราชธานี จ.สุรินทร์ และ จ.แม่ฮ่องสอน เฉลี่ยมีอายุ 20-30 ปี ทั้งหมดยอมรับสารภาพว่า มาทำด้วยความสมัครใจ ไม่มีใครบังคับ สาเหตุเพราะมีรายได้ดี บางรายมาทำงานนานนับปีแล้ว และคิดค่าบริการจากลูกค้าครั้งละ 650 บาท หักให้เจ้าของ 350 บาท และหากลูกค้าค้างคืนจะคิด 3,500 บาท โดยแบ่งครึ่งกับเจ้าของ , ,ทั้งนี้ หญิงสาวส่วนใหญ่จะเริ่มทำงาน ตั้งแต่ช่วงเวลา 2 ทุ่ม เป็นต้นไปจนถึงประมาณ 04.00 น. แล้วแต่ลูกค้า และในแต่ละวันจะมีลูกค้ามาใช้บริการประมาณ 30 คน มีทั้งกลุ่มวัยรุ่น คนทำงานและแรงงานชาวพม่า ที่มาทำงานก่อสร้างในหัวหิน โดยเฉพาะช่วงกลางดึก หลังสถานบันเทิงเลิก จะมีลูกค้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ในแต่ละเดือนจะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละกว่า 30,000 บาทต่อคน หลังหักค่าใช้จ่าย เบื้องต้นไม่มีใครรับว่าเป็นเจ้าของสถานค้าประเวณี , ,จากการสอบสวน นายสุทโท ทวีศักดิ์ คนดูต้นทางให้การว่า กลางวันมีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ส่วนกลางคืนจะมารับจ้างคอยดูต้นทาง ได้ค่าจ้างคืนละ 200 บาท โดยทำมาเป็นเวลา 1 ปี ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารไม่ปักใจเชื่อ ภายหลังสอบสวนหญิงที่มาค้าประเวณีทั้งหมดแล้ว ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน เพื่อสอบสวนหาตัวเจ้าของสถานค้าประเวณีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
นอภ.หัวหินสนธิกำลังทหาร บุกทลายซ่องเปิดโจ๋งครึ่มกลางเมืองหัวหิน รวบหญิงลักลอบค้าประเวณี 8 คน ระบุสมัครใจทำเพราะรายได้ดี เฉลี่ย 3 หมื่นบาทต่อเดือน
ข่าว,ทั่วไทย
นอภ.หัวหิน,กองกำลังทหาร,บุกทลายซ่อง,ซ่อง,หัวหิน,หญิงขายบริการ,ลักลอบค้าประเวณี,ค้าประเวณี,สมัครใจขายตัว,สถานค้าประเวณี,ข่าวภูมิภาค,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/498228
ลักกี้อินเกมอินเลิฟ แม่ปุ๊ อาภัสรา ไฟเขียวให้ มาร์กี้ ช่วยดูแลทั้งงานและลูก
เมื่อช่วงที่ผ่านมา ได้เห็นหน้าสาว มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า จากละคร 2 เรื่องติดกัน 5 วันเต็ม ทำเอาหายคิดถึงกันไปเลย แถมละคร 2 เรื่องนี้กระแสยังดีอีกด้วย และดูเหมือนสาวมาร์กี้จะลักกี้อินเกมและอินเลิฟไปพร้อมกัน เพราะล่าสุด อาภัสรา หงสกุล แม่ของหนุ่ม ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ หวานใจของมาร์กี้ ได้เอ่ยปากให้สาวมาร์กี้มาช่วยกันดูแลธุรกิจสปา งานนี้เลยทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า แม่อาภัสรายกธุรกิจสปาให้และเตรียมเป็นว่าที่สะใภ้จิราธิวัฒน์เต็มตัว ซึ่งล่าสุดได้มีโอกาสเจอสาวมาร์กี้มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Digital OTOP Top Thai By D.I.P. (ดิจิทัล โอท็อป ท็อป ไทย บาย ดีไอพี) ที่ห้องไอวอรี่เลาจน์ ชั้น จี โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่า,ละคร ผู้กองยอดรัก กระแสดีมาก? ค่ะ (ยิ้ม) ดีใจค่ะ แค่เสียดายที่จบเร็วไปหน่อย มันเป็นละครคอมเมดี้เนอะ เป็นละครที่ต้องตัดเร็วนิดนึง เพื่อความสนุกสนานและกระชับด้วย ก็เลยมีแค่ 11 เทป แต่ว่าก็ดีใจค่ะ ได้เจอกี้ 5 วันเลย? ก็ดีเหมือนกันค่ะ เพราะมันเป็นละคร 2 เรื่องที่แตกต่างกัน คาแรกเตอร์แตกต่างกัน ใต้เงาจันทร์ เป็นยังไงบ้าง? ใต้เงาจันทร์นี่ผ่านไปครึ่งนึงแล้วค่ะ เรตติ้งดี กระแสดี แล้วก็กี้ไม่ได้เล่นละครที่คาแรกเตอร์แบบนี้นานแล้ว คือปกติไม่ค่อยได้แต่งตัวสวยสักเท่าไรในละคร คราวนี้จัดเต็มค่ะ หายเหนื่อยค่ะ ที่คนดูชอบทั้ง 2 เรื่อง,หลายคนชมว่าการแสดงเราดีมาก? ขอบคุณค่ะ เราจะทำให้ดีที่สุดในทุกเรื่องค่ะ ตอนนี้เราจะได้เห็นหน้ามาร์กี้ในอีเวนต์บ่อยกว่าเดิม? ค่ะ ก็ตอนนี้ถ่ายละครเรื่องเดียวค่ะ กี้ก็จะว่าง เสาร์อาทิตย์ก็อาจจะมีแว้บๆ มาเจอกันบ้างค่ะ เลยทำให้มีเวลาให้กับป๊อกมากขึ้น? ก็มีบ้างค่ะ แต่เสาร์อาทิตย์กี้ก็ถ่ายละครแหละ เขาอาจจะว่างเสาร์อาทิตย์ เราก็ได้เจอหลังเลิกงาน เพิ่งไปเที่ยวทะเลกันมาด้วย? อ๋อ ใช่ค่ะ ก็มีไปทำงานด้วย แล้วก็ไปเที่ยวด้วย ทำงานวันนึง เที่ยว 2 วัน ค่อนข้างหวานมาก ป๊อกเขาเพิ่งจะมีเวลาให้เรา? ค่ะ คือเวลามันไม่ค่อยตรงกันค่ะ เราทำงาน พฤหัสถึงอาทิตย์ เขาทำงานจันทร์ถึงศุกร์ เสาร์-อาทิตย์เขาจะว่าง ก็เลยช่วงวันว่างไม่ตรงกัน เลยอาจเจอกันวันหยุดนักขัตฤกษ์บ้าง,เขาหอบงานไปทำด้วย? ใช่ค่ะ สามารถทำได้ ก็เลยแบกงานไปด้วยค่ะ หลายคนแซวว่าเป็นคู่รักตัวติดกัน? ถ้าว่างก็ไปด้วยกันค่ะ เราไปทำงานก็ไม่อยากไปคนเดียวเนอะ ต่างคนต่างหาเวลาว่างให้กัน? ก็ทั้งคู่ค่ะ คือถ้าเราขี้เกียจ เวลาไหนสามารถไปก็ไป แต่นี่ไม่ขี้เกียจนิดนึง ต้องจัดเวลาให้มันมากขึ้นหน่อย,ตอนนี้มีธุรกิจสปา? ก็ช่วยกันทำค่ะ ไม่ได้ยกให้นะคะ มาช่วยทำมากกว่า เพราะว่าคือคุณแม่ของป๊อกก็ทำมานานแล้ว และป๊อกก็มาช่วย เราช่วยส่วนไหน? หนูก็จะดูแลเรื่องพีอาร์ค่ะ ดูแลเรื่องเซอร์วิสให้มันดีขึ้นไปอีกค่ะ เรื่องการตกแต่งร้าน ความสวยงาม ส่วนตัวป๊อกจะดูแลเรื่องการจัดการ เรื่องบัญชี ตอนแรกที่คุณแม่ป๊อกบอกให้เราดูแล เราบอกคุณแม่ว่ายังไง? ต้องบอกก่อนเลยว่ากี้ชอบเรื่องความสวยความงามอยู่แล้ว อันไหนที่เราช่วยได้ก็ช่วยค่ะ,กี้เข้ามานี้กระแสตอบรับดีไหม? ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ คือที่จริงต้องบอกก่อนเลยว่า สปาของคุณอาภัสราดีอยู่แล้ว มีลูกค้าเก่าค่อนข้างที่จะเยอะอยู่แล้ว เราต้องมีการปรับปรุงนิดๆ หน่อยๆ เพราะว่าสปา อาภัสราสปา ทำมา 10 ปีกว่าได้แล้ว แต่ว่าเราจะมีเรื่องพีอาร์สำหรับวัยรุ่นใหม่ๆ ที่อยากให้เขาเริ่มดูแลตัวเอง ตั้งแต่เยาว์วัยจะได้ดูสวย ซึ่งกี้ก็ได้ไปศึกษาเพิ่มเติมมาว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้ยังไงและมีทดลองใช้กับตัวเองด้วยเพื่อที่จะได้เข้าถึงฐานลูกค้าวัยรุ่นกลุ่มใหม่เพิ่มมากขึ้นเพราะบางคนอาจจะไม่รู้จัก ส่วนใหญ่จะมีแค่ลูกค้าที่เป็นฐานลูกค้าเก่าของคุณอาภัสราอยู่แล้ว ตอนนี้ก็เริ่มมีวัยรุ่นที่อายุเท่ากับกี้เข้าไปทำบ้าง,เรารู้สึกยังไงที่คุณแม่เขาไว้วางใจ? ก็ดีค่ะ อะไรที่เราช่วยกันได้ก็ช่วยกัน ถือเป็นธุรกิจคู่ธุรกิจแรกเลยหรือเปล่า? ใช่ค่ะ พอมีข่าวออกไปแม่ป๊อกได้มาถามไหมว่ามีข่าวเขายกธุรกิจสปาให้เรา? ไม่ได้ถามเรื่องข่าวค่ะ แค่ถามว่าธุรกิจที่ปรับปรุงใหม่เป็นยังไงบ้าง ส่วนในเรื่องของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางคุณอาภัสราจะเป็นคนดูแลอยู่แล้ว ธุรกิจนี้เรามีหุ้นในนั้นหรือเปล่า? เป็นการไปช่วยกันมากกว่าค่ะ เรายินดีที่จะช่วยไม่ได้อยากได้อะไรเป็นการตอบแทนอยู่แล้วค่ะ,เราตกใจไหมพอมีข่าวออกมาแบบนี้ประมาณว่าตกถังข้าวสารแล้ว? ต้องบอกก่อนนะคะว่า คุณอาภัสราไม่ได้ยกธุรกิจสปาให้หนู แต่ทางคุณอาภัสราให้คุณป๊อกมาทำ ป๊อกเองเขาก็เลยมาถามเราว่ารู้เรื่องเกี่ยวกับความสวยความงามไหมเพราะเขาไม่เก่งเรื่องนี้ จริงๆ เขาถนัดด้านบัญชีหรือการตลาดมากกว่า แต่ถ้าจะมาถามว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรตรงไหน หรือผลิตภัณฑ์ตัวนี้ดีจริงไหมเขาไม่รู้ เราก็เลยบอกว่ามาๆ เดี๋ยวช่วยเอง จะเป็นพรีเซ็นเตอร์คนต่อไปเลยมั้ย? พรีเซ็นเตอร์ต้องเป็นคุณอาภัสราอยู่แล้ว นอกจากเป็นพีอาร์ให้สปาแล้วยังเป็นพีอาร์ส่วนตัวให้ป๊อกด้วย? ซิงเกิลเขาออกมาตั้งนานแล้วค่ะ กระแสตอบรับก็ดีนะคะ,เป็นเพราะเราช่วยโปรโมตด้วยหรือเปล่า? ไม่หรอก เขามีฐานแฟนคลับของเขาอยู่แล้ว ฐานแฟนคลับเรากับฐานแฟนคลับเขาคนละแบบกัน คนที่ชอบเราจะไม่ฟังเพลงแนวเขา ตัวป๊อกเองเขาจะมีฐานแฟนคลับที่ต่างจากลุคของเรา พอมีเราเข้ามาเหมือนมีคนรู้จักป๊อกมากขึ้น? เราก็เหมือนเพิ่มฐานแฟนคลับให้เขา จริงๆ เราก็ได้ฐานแฟนคลับมากขึ้นเหมือนกันเพราะก็มีหนุ่มฮิปฮอปมาขอถ่ายรูปด้วย ช่วยกันสร้างรายได้ด้วยหรือเปล่า? ถ้ามีอะไรที่ช่วยได้เราก็พร้อมช่วยค่ะ ถ้าเราเหนื่อยเขามาช่วยเราก็จะไม่เหนื่อย ถ้าเขาเหนื่อยเราช่วยเขาก็จะไม่เหนื่อยเพราะฉะนั้นถ้าเราช่วยกันก็จะไม่มีใครเหนื่อย,ถามถึงเรื่องเบิร์ธเดย์แม่ป๊อกได้รับตำแหน่ง 50 ปี? ใช่ค่ะเมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา ก็คือวันครบรอบ 50 ปี ที่คุณอาภัสราได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาลโลก ก็เลยถือเค้กไปเซอร์ไพรส์ให้ค่ะ คนที่คิดคือพี่ไอซ์-พิชพงศ์ จริงๆ หนูไม่ค่อยรู้เรื่องนางงามเท่าไร คนที่เตือนคือพี่ไอซ์ แล้วเขาก็บอกว่าทำเค้กให้ท่านมั้ย เราสองคนก็เลยไปดูแบบว่าทำแบบไหนยังไง พอท่านเห็นท่านก็แฮปปี้ดีค่ะแล้วก็บอกว่าลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าวันนี้ครบรอบ 50 ปี คนก็ชงว่าเป็นว่าที่ลูกสะใภ้? เรื่องอนาคตไม่ทราบจริงๆ ค่ะ คือหนูโดนแซวเรื่องนี้จนไมีรู้สึกเขินแล้วค่ะ โดนแซวบ่อยจนเริ่มชินแล้ว ถามว่าได้มองอนาคตไว้ไหมก็เรื่อยๆ ค่ะ กี้เป็นคนไม่ได้มองเรื่องอนาคตก็ทำทุกวันให้ดีที่สุด.
มาร์กี้ ราศรี เผยล่าสุดที่ไปเที่ยวทะเลกับป๊อก ภัสสรกรณ์ ตัวเองไปทำงานเลยถือโอกาสชวนป๊อกเที่ยวด้วย ปัดแม่ป๊อกยกธุรกิจสปาให้ แต่ช่วยดูแลเรื่องการทำพีอาร์ เข้าไปช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น อันไหนที่ช่วยได้ก็ช่วย
null
มาร์กี้,มาร์กี้ ป๊อก,มาร์กี้ ราศรี,ราศรี บาเล็นซิเอก้า,ป๊อก ภัสสรกรณ์,ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์,อาภัสรา,อาภัสรา หงสกุล,ธุรกิจสปา,อาภัสราสปา,ธุรกิจสปามาร์กี้,อาภัสรา มาร์กี้,แฟนมาร์กี้,ป๊อกแฟนมาร์กี้,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/514748
ร้องนายกฯ ปลดพงศ์พร แถมแจ้งผิดอาญา กลุ่มพุทธฯ เอาคืน
และยื่นหนังสือกับ บิ๊กตู่ ที่ทำเนียบฯ อ้างสร้างความแตกแยกในคณะสงฆ์และไม่ทำตามหน้าที่ระบุไว้ในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ พศ. ขณะที่ตำรวจ บก.ปปป. ส่งสำนวนทุจริตเงินวัดชุด 3 ที่เหลืออีก 7 วัดให้ ป.ป.ช.แล้ว รวมรอบนี้มีพระ 7 รูป ฆราวาส 13 คน จาก 10 วัดทั่วประเทศ มูลค่าเสียหาย 140 ล้านบาท ชี้ต้นเรื่องที่แท้จริงไม่ใช่พระสงฆ์แต่เป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเกี่ยวข้อง,จากกรณี พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูปในคดีทุจริตงบการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาและงบเผยแผ่ศาสนา ชุดที่ 3 ก่อนแจ้งความเอาผิดอีกครั้งในช่วงค่ำวันที่ 19 เม.ย. เพื่อเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องใน 7 วัดที่เหลือ โดยพนักงานสอบสวนบก.ปปป. อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เตรียมนำสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.ให้ชี้มูลความผิด,ความคืบหน้า ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 23 เม.ย. พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก.ปปป. และพนักงานสอบสวน บก.ปปป. นำสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัดชุดที่ 3 ที่เหลืออีก 7 วัด จำนวน 8 แฟ้ม รวม 4,000 แผ่น เข้ายื่นต่อ ป.ป.ช. พ.ต.อ.วรายุทธกล่าวว่า นำสำนวนทุจริตเงินทอนวัดชุดที่ 3 มายื่นเพิ่มเติมต่อ ป.ป.ช. ส่วนใหญ่เป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรมใน 7 วัด เป็นพระสงฆ์ 2 รูป และฆราวาสบางส่วน เมื่อรวมกับสำนวนที่ บก.ปปป. ยื่นให้ ป.ป.ช.ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 เม.ย. จะมีผู้ถูกกล่าวหาประมาณ 20 คน แบ่งเป็นพระสงฆ์ 7 รูป ฆราวาส 13 คน จาก 10 วัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคใต้ และ กทม. มีมูลค่าความเสียหายรวม 140 ล้านบาท สำนวนที่นำมายื่นเพิ่มเติมครั้งนี้มีพยานบุคคลและเอกสารชัดเจน มีพฤติกรรมความผิดไม่ต่างจาก 2 ชุดแรกที่พนักงานสอบสวน บก.ปปป.นำมายื่นก่อนหน้านี้ ส่วนที่พระผู้ใหญ่บางรูปบอกตำรวจไม่เคยไปสอบปากคำหรือขอข้อมูลจากทางวัดแล้วก็มากล่าวหานั้น ไม่ขอชี้แจงอะไร เพราะรายละเอียดอยู่ในสำนวนแล้ว ยืนยันว่ากระทำการโดยบริสุทธิ์และพยานหลักฐานที่มีเพียงพอ ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต บางส่วนจะมีฆราวาสและมีพระสงฆ์สนับสนุน ต้นเรื่องที่แท้จริงไม่ใช่พระสงฆ์แต่เป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง,มีรายงานว่าการดำเนินคดีอีก 7 วัด ที่เหลือในคดีเงินทอนวัดชุดที่ 3 เป็นวัดอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ประกอบด้วย พื้นที่ จ.นนทบุรี 3 วัด จ.อุดรธานี 1 วัด จ.ลำปาง 1 วัด และ จ.นครศรีธรรมราช 2 วัด,วันเดียวกัน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสำนวนคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม มีพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป เกี่ยวข้องว่าอยู่ระหว่างแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะข้อมูลในสำนวนที่พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ส่งมายังไม่ครบถ้วน เนื่องจากมีเวลารวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพียง 30 วัน ป.ป.ช.เห็นว่ายังไม่ชัดเจน ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ตามระเบียบ ป.ป.ช.มีกรอบเวลาแสวงหาข้อมูล 6 เดือน หากทำไม่เสร็จ ขอขยายเวลาได้อีก 3 เดือน แต่หากยังทำไม่เสร็จอีก ต้องนำเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.เพื่อขยายเวลาต่อ 3 เดือน หลังจาก 1 ปี หากรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุม ป.ป.ช. เพื่อให้คณะกรรมการลงไปดำเนินการ คิดว่าหากรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จเร็ว เจ้าหน้าที่จะส่งให้ที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณา ทั้งนี้ ต้องรอดูพยานหลักฐานทั้งข้อมูลการเงิน การจัดสรรงบประมาณให้รอบคอบ เพราะเกี่ยวกับบุคคลสำคัญ ส่วนจะเรียก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธ-ศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาให้ข้อมูลหรือไม่ นั้นเป็นดุลพินิจของผู้รับผิดชอบ อาจเป็นการขอข้อมูลไปหรือสอบปากคำพยานผู้เกี่ยวข้อง ส่วนจะใช้หลักฐานเดิมจากคดีเงินทอนวัดที่ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้มาประกอบการพิจารณาได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน เพราะบางเรื่องสามารถใช้พยานหลักฐานเดิมได้,ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. แจ้งความเอาผิดพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบผิด-ถูกหรือไม่ แต่เป็นเรื่องน่ายินดีที่มีคนทำงานจริงจังกับเรื่องแบบนี้ได้ จะเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่สะสางเรื่องแบบนี้ในทุกวงการ ส่วนจะถึงเวลาปฏิรูปวงการสงฆ์หรือไม่นั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากทำทุกอย่างโปร่งใส ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลก็น่าจะเดินต่อไปได้,ขณะที่นายจรูญ วรรณกสิณานนท์ ตัวแทนกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน กล่าวว่า ในวันที่ 24 เม.ย.เวลา 10.00 น. กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดินและภาคีเครือข่ายองค์กรชาวพุทธอีกหลายองค์กร จะเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนกล่าวหา พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง ผอ.พศ. ซึ่งกฎหมายมิได้มอบอำนาจไว้ จากกรณีที่ พ.ต.ท.พงศ์พรได้เข้าร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป.เมื่อวันที่ 11 เม.ย. โดยกล่าวหาพระผู้ใหญ่ 5 รูป มีส่วนในการทุจริต เป็นการกระทำที่เจตนาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด เจตนาดังกล่าวเป็นการเล็งเห็นผลเพื่อให้คณะสงฆ์เกิดความเสียหาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 จากนั้นจะยื่นร้องเรียนที่ ป.ป.ช. ในฐานความผิดเดียวกัน,และในเวลา 13.00 น. วันเดียวกันจะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ปลด พ.ต.ท.พงศ์พรออกจากตำแหน่ง ผอ.พศ. เพราะขาดคุณสมบัติ มีความไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในตำแหน่งและถ้าอยู่ต่อไปยิ่งจะทำให้ พศ.เสียหาย เกิดความแตกแยกในคณะสงฆ์ ทั้งยังไม่ทำตามหน้าที่ที่ระบุไว้ในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ พศ. เท่ากับขาดความชอบธรรมในการทำงาน ทั้งนี้ เรื่องการตรวจสอบงบประมาณนั้นมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้วคือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อย่างไรก็ตาม แม้ว่า พ.ต.ท.พงศ์พรเคยถูกโยกย้ายไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่สามารถกลับมาเป็น ผอ.พศ. อีกครั้งได้ ก็ไม่กังวล เพราะในการยื่นข้อร้องเรียนในครั้งนี้ มั่นใจว่าประเด็นในการร้องเรียนชัดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาแน่นอน
กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดินและภาคีเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ รวมตัวเดินเกมปลด พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. เตรียมแจ้งความเอาผิดตาม ม.157 ที่ บก.ปปป. ก่อนไปร้องเรียนที่ ป.ป.ช.
ข่าว,ทั่วไทย
เงินทอนวัด,ทุจริตเงินทอนวัด,พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์,ทุจริตเงินวัด,ข่าวหน้า1
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1263371
ทำเพื่อลูก ให้ชาวโลกช่วยโปรยอัฐิลูกชาย ได้เที่ยวกว่า 100 ประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ความรักของ นางฮัลลี ทูมีย์ หญิงอเมริกัน ในรัฐเมน ประเทศสหรัฐฯ ที่มีต่อ ซีเจ ทูมีย์ ลูกชายที่จากโลกนี้ไปทั้งที่อยู่ในวัยหนุ่ม ด้วยการโพสต์ข้อความลงในโซเชียล มีเดีย เมื่อเดือน พ.ย. 2556 ขอให้ผู้คนทั่วโลกช่วยโปรยเถ้าอัฐิลูกชายของเธอในสถานที่ต่างๆ เพื่อต้องการให้ลูกชายของเธอได้มีโอกาสท่องเที่ยว เนื่องจากเขาไม่เคยมีโอกาสนั้น ขณะยังมีชีวิตอยู่ ปรากฏว่า หนึ่งปีต่อมาได้เกิดเหตุการณ์เหลือเชื่อ เมื่อมีผู้คนกว่า 100 ประเทศ ส่งภาพที่พวกเขาโปรยเถ้าอัฐิของ ซีเจ ทูมีย์ ตามสถานที่ต่างๆ แม้กระทั่งในห้วงอวกาศ,บีบีซี รายงานว่า จากภาพต่างๆ ในเฟซบุ๊กของ ซีเจ ทูมีย์ เราจะได้เห็นภาพหนุ่มหล่อ ยิ้มให้กล้อง ดวงตาสดใสเป็นประกาย คาดแว่นตากันแดดไว้บนศีรษะ สวมเสื้อยืดทีเชิ้ตสีแดงทีมเบสบอล บอสตัน เรด ซ็อกซ์ ซึ่งหนุ่มหล่อคนนี้คือ ซีเจ ทูมีย์ ที่เคยเป็นสมาชิกในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ผู้รักในการเดินทางและผจญภัย ก่อนจะจากไปเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2553,นางฮัลลี ทูมีย์ เล่าว่า หลังจาก ซีเจ เสียชีวิตไปแล้ว เธอได้ตัดสินใจที่ต้องการทำในบางสิ่ง ที่ลูกชายไม่มีโอกาสได้ทำขณะมีชีวิตอยู่ นั่นคือการท่องเที่ยว เธอจึงได้ปรึกษากับสามี และได้สร้างเฟซบุ๊กของทีเจขึ้นมา เพื่อขอร้องให้ใครก็ตาม ที่ปรารถนาจะนำอัฐิของซีเจไปโปรยในสถานที่ต่างๆ ที่พวกเขาเลือก,ตอนแรกก็มีคนตอบกลับมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งฉันและสามีคิดว่าเราโชคดีแล้วที่มีคนติดต่อกับมาถึง 200-300 คน นางฮัลลี เล่า แต่หลังจากนั้น ภายในเวลาปีเดียว ได้มีคนกว่า 9,000 คน เสนอจะนำอัฐิของทีเจไปโปรยตามสถานที่ต่างๆ ที่พวกเขาไปเที่ยวด้วย ซึ่งเธอปรารถนาให้ทุกคนที่เสนอเข้ามาทุกคนได้นำอัฐิของทีเจไปโปรยในสถานที่ที่พวกเขาไปเที่ยว เพียงแต่ด้วยความที่อัฐิมีจำกัด จึงทำให้ต้องเลือกสถานที่ที่พิเศษจริงๆ และทีเจไม่เคยไปเท่านั้น,นางฮัลลี ทูมีย์ เล่าว่า เมื่อมีคนเสนอมา และได้รับการติดต่อกลับไป เธอจะบรรจุอัฐิของทีเจลงในขวดเล็กๆ และส่งไปยังที่อยู่ของผู้ติดต่อมา พร้อมกับแนบภาพถ่ายของ ซีเจ ที่สวมเสื้อยืดทีมเบสบอล บอสตัน เรดซ็อกซ์ ไปด้วย ขณะเดียวกัน ก็ขอร้องให้คนเหล่านั้น ช่วยถ่ายภาพและส่งกลับมา,ด้วยเหตุนี้ ซีเจ เฟซบุ๊ก จึงเต็มไปด้วยรูปถ่ายจากทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ภูเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ รวมทั้งหมู่เกาะในเขตร้อน เรียกว่า ตั้งแต่แอละแบมา ถึงอัฟกานิสถาน และกัมพูชา ไปจนถึงเคปเวิร์ด ประเทศหมู่เกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรแอตแลนติกเลยทีเดียว,ขอขอบคุณข้อมูลและภาพ จาก บีบีซี
หญิงอเมริกัน สุดตื้นตัน มีผู้คนกว่า 100 ประเทศ ช่วยนำอัฐิลูกชาย ไปโปรยตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตั้งแต่ใต้ทะเล ไปจนถึงห้วงอวกาศ หลังสร้างเฟซบุ๊กหวังให้ลูกชายที่ล่วงลับได้มีโอกาสท่องเที่ยวทั่วโลก
null
ฮัลลี ทูมีย์,หญิงอเมริกัน,ซีเจ ทูมีย์,โปรยอัฐิ,ลูกชาย,ทั่วโลก,สถานที่ท่องเที่ยว,เสียชีวิต,เฟซบุ๊ก,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/466798
ก๊าซแอมโมเนียรั่ว สั่งปิดโรงน้ำแข็งพะเยา เพื่อนบ้านสูดดมเป็นลม
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 60 พ.ต.อ.เจริญ สุริยงค์ ผกก.สภ.แม่กา อ.เมืองพะเยา รับแจ้งช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า มีเหตุสารเคมี (ก๊าชแอมโมเนีย) รั่วไหล ที่โรงน้ำแข็งแห่งหนึ่งใน ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา และมีคนเป็นลมเพราะได้รับสารเคมี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ทวีสิงห์ นายอำเภอเมืองพะเยา นายภูวเดช เงินเย็น รองนายกเทศมนตรีตำบลแม่กา นายกิตติศักดิ์ ตันตินรเศรษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา สนง.ปภ.จว.พะเยา ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิลือชาแม่กา ที่เกิดเหตุพบว่าก๊าซรั่วไหลออกจากท่อข้อต่อ และทางโรงงานดูดก๊าชเข้าถังเก็บไว้แล้ว,จากการตรวจสอบพบผู้เป็นลมคือ นางปุ๊ด เชียงริน อายุ 48 ปี บ้านอยู่ใกล้โรงน้ำแข็งดังกล่าว ได้รับสารเคมีเข้าไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำการช่วยเหลือจนปลอดภัยแล้ว อีกทั้งพบว่าบริเวณใกล้กับโรงน้ำแข็งต้นหญ้ารอบๆ ถูกสารเคมีจนไหม้เกรียม สำหรับโรงน้ำแข็งดังกล่าวมี นายศักดา ไทยบรรหาญ อายุ 56 ปี เป็นผู้จัดการ และ นางวิไลพร ณ ลำปาง อายุ 42 ปี เป็นผู้รับใบอนุญาต โดยทั้งคู่เป็นชาวลำปาง อยู่บ้านเดียวกัน และยินยอมชดใช้ดูแลรับผิดชอบแก่ผู้ได้รับผลกระทบ,หลังเกิดเหตุ นายอำเภอเมืองพะเยา มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ พร้อมกับให้ปิดโรงน้ำแข็งเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ จนกว่าจะปลอดภัยจึงจะเปิดดำเนินการได้.
ก๊าซแอมโมเนียโรงน้ำแข็ง อ.เมืองพะเยา รั่วจากท่อข้อต่อ เพื่อนบ้านใกล้เคียงสูดดมเป็นลม 1 ราย หญ้าบริเวณโดยรอบไหม้เกรียม จนท.สั่งปิดตรวจสอบจนกว่าจะปลอดภัย
ข่าว,ทั่วไทย
แอมโมเนีย,ก๊าซแอมโมเนีย,โรงน้ำแข็ง,ก๊าซรั่ว,พะเยา
https://www.thairath.co.th/news/local/north/947877
ของเขามีไว้ขาย สาวโดนจับขโมยเนื้อหมู ทรุดลงกราบแม่ค้าขอให้ยกโทษ
เวลา 07.00 น. วันที่ 3 ก.ค พ.ต.ท.ไพฑูยร์ ตั้งความเพียร สว.สส.(พนักงานสอบสวน) สภ.แกลง จ ระยอง ทำการสอบปากคำ นางริน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาว จ.ลำปาง แต่มาทำงานอยูในพื้นที่อำเภอแกลง เนื่องจากนางวลัยพร ศิลภมร อายุ 44 ปี เจ้าของร้านบ้านหมู เจ้แต๋ม เปิดร้านขายอาหารสด อยู่ในตลาดสิริพัฒนา เขตเทศบาลเมืองแกลง อ.แกลง แจ้งว่าถูกนางริน ขโมยเนื้อไก่ หมูบด หมูยอ ในร้านโดยทำทีเข้าไปซื้อของภายในร้าน แล้วหยิบของใส่กระเป๋าที่เตรียมมาเป็นกระเป๋าผ้ายัดใส่จนตุง จากนั้นทำทีหยิบสินค้าราคาถูกมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ พนักงานถามว่ามีของแค่นี้หรือ จะคิดเงิน และขอดูในกระเป๋า แต่นางรินไม่ยอมเปิด จึงเรียกพนักงานมาช่วยกันค้นจนพบของดังกล่าวเต็มกระเป๋า,จากการสอบถามนางวลัยพร เจ้าของร้าน ทราบว่า เมื่อวันที่ 27-28 มิ.ย.ที่ผ่านมา นางริน ได้เข้ามาหยิบของใส่กระเป๋าแบบนี้หลายครั้ง โดยได้กล้องวงจรปิดในร้านมีภาพตอนที่นางริน เข้ามาขโมยของ ซึ่งนางรินมื่อเห็นว่าถูกจับได้คาหนังคาเขา ถึงกับยกมือไหว้ก้มกราบขอโทษทั้งน้ำตา แต่นางวลัยพร ผู้เสียหาย ขอให้นำเงินมาจ่ายค่าของที่โขมยไปทั้งหมด แล้วจะไม่เอาความ.
แม่บ้านวัย42ปี ไม่รู้นิสัยไม่ดีหรือไม่มีเงิน เข้าไปในร้านขายเนื้อหมู ไก่สด ในตลาด อ.แกลง ระยอง ลักของดีใส่ย่าม แล้วหยิบของถูกไปจ่ายเงิน คนขายเห็นมีพิรุธขอค้น สุดท้ายก้มลงกราบอ้อนวอนไม่ให้เอาโทษ เปิดวงจรปิดพบมาขโมยแทบทุกวัน
ข่าว,ทั่วไทย
ขโมยเนื้อหมู,ลักเนื้อหมู,กราบแม่ค้า,แกลง,ระยอง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/992208
เฟ้นหาสาวผิวสวยดุจเจ้าหญิง
สลิลาพร กองทองมณีโรจน์, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มี อินฟินิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใหม่ ,ซินเดอเรลล่าไวท์ เอสเซนส์, เอสเซนส์สูตรอัจฉริยะที่ผสานพลังบริสุทธิ์ของสารสกัดเข้มข้นจากดอกซากุระต้นฤดูใบไม้ผลิ ผสานกับพลังเหนือระดับจากสารสกัดจากต้นไวลด์ไทม์ สารสกัดจากต้นวิทช์ฮาเซล สารสกัดจากซัลโฟร่าไวท์ และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ เพื่อผิวสวยกระจ่างใส พร้อม จัดประกวด ,ซินเดอเรลล่า เดอะ พริ้นเซส, เพื่อเฟ้นหาสาวผิวสวยกระจ่างใส วัย 18-24 ปี บุคลิกดี มีความมั่นใจ เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ ณ เอ็มโพเรียม แกลลอรี ชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม,บรรยากาศในงานประกวดพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ หวานดุจเจ้าหญิงในเทพนิยาย กับรถฟักทองแสนหวาน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งอารมณ์เจ้าหญิง ซึ่งคึกคักไปด้วยเซเลบริตี้ผิวสุขภาพดี ที่มาร่วมอัพเดตเทรนด์บำรุงผิวใหม่ในบรรยากาศเป็นกันเอง และร่วมเชียร์สาวๆ วัยใส ที่เข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ โดยผู้ชนะใจกรรมการ ได้แก่ น.ส.ศุจีภรณ์ เซี่ยงหวอง สาววัย 20 ปี นักศึกษาคณะศิลปศาสตรบัณฑิตธุรกิจการบิน จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม คว้ารางวัลเงินสด 5 แสนบาท และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท พบกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวล่าสุด ซินเดอเรลล่า ไวท์ เอสเซนส์ ได้แล้ววันนี้ที่ร้านอีฟแอนด์บอย (Eveand-boy) ทุกสาขา หรือ Call Center โทร. 0-2195-2999.
ลุยงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สลิลาพร กองทองมณีโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มี อินฟินิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใหม่ ซินเดอเรลล่าไวท์ เอสเซนส์ เอสเซนส์สูตรอัจฉริยะ
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ซินเดอเรลล่าไวท์ เอสเซนส์,ซินเดอเรลล่า เดอะ พริ้นเซส,ดิ เอ็มโพเรียม,มี อินฟินิตี้,สลิลาพร กองทองมณีโรจน์,บำรุงผิว
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1061989
พล.อ.ประวิตร ปัดรัฐบาลสร้างสถานการณ์ระเบิดราชดำเนิน เพื่อคงอำนาจตามมาตรา 44 ไว้
วันนี้ (7 เม.ย.2560) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ระเบิดบริเวณถนนราชดำเนินครั้งล่าสุด มีวิธีการเหมือนกับเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง เมื่อปี 2550 และปี 2553 ซึ่งล่าสุดวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยไว้ได้ แต่ต้องตรวจสอบก่อนว่าเชื่อมโยงกับใครบ้าง พร้อมปฏิเสธว่าอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกตของบางฝ่าย เพราะรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ได้กำหนดเรื่องอำนาจตามมาตรา 44 ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมกับมีกรอบโรดแมปที่ชัดเจนพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เหตุระเบิดครั้งนี้มีลักษณะการประกอบระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุคล้ายคลึงกับเหตุระเบิดก่อความวุ่นวายในช่วงปี 2550 และปี 2553 ด้วยวงจรไอซีไทมเมอร์ แต่ยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ ต้องรอตรวจสอบจากพยานหลักฐาน รวมถึงกล้องวงจรปิดที่พบภาพผู้ต้องสงสัยสำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2550 เกิดขึ้นในช่วงการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งขณะนั้นเป็นรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และในปี 2553 เป็นช่วงการชุมนุมทางการเมือง ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุหลังเรียกชุดสืบสวนมาติดตามความคืบหน้าประชุมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงในบางประการ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงยืนยันเหตุระเบิดราชดำเนินไม่ได้เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อให้รัฐบาล คสช.อยู่บริหารประเทศต่อไป หรือหวังคงมาตรา 44 ไว้ พร้อมระบุแม้จะมีภาพวงจรปิด แต่ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ
การเมือง
ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ระเบิด,ราชดำเนิน,ธนาคารออมสิน,มาตรา 44,แผนประทุษกรรม,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
https://news.thaipbs.or.th/content/261479
ประเทศที่ปราบโกงได้
เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 64 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวต่อคณะรัฐมนตรีว่า ของขวัญที่อยากได้ คือให้ช่วยกันตรวจสอบระบบราชการ ให้ดำเนินการด้วยความสุจริต โปร่งใส ปราศจากการทุจริต กำจัดการทุจริตให้หมดสิ้น ต้องติดตามดูกันต่อไป นายกรัฐมนตรีจะได้ของขวัญที่ปรารถนาหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส,ในระยะแรกๆที่เข้าสู่อำนาจของรัฐบาล คสช. ผลการสำรวจความเห็นประชาชนมักจะพบว่า นอกจากชื่นชมผลงานการรักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว การปราบปรามการทุจริตก็เป็นผลงานที่น่าชื่นชม แต่ถ้าดูพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์วันนี้ จะเต็มไปด้วยข่าวการทุจริตโกงกิน ทั้งทุจริตอมเงินช่วยเหลือคนจน งาบทุนการศึกษาผู้ยากไร้ และเงินสงเคราะห์ชาวเขา,ผลการสำรวจความเห็นคนไทยทั่วประเทศ เกี่ยวกับข่าวการทุจริตในวง ราชการของสวนดุสิตโพลครั้งล่าสุด คนส่วนใหญ่เห็นว่ามีมานานทุกยุคทุกสมัยและเชื่อว่าจะกระทบต่อรัฐบาลมาก เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ ขาดความน่าเชื่อถือ ถูกมองว่าปกป้องพวกพ้อง กลุ่มตัวอย่าง 56.61% ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาได้ เพราะที่ผ่านมามีหลายคดีที่เงียบไป และเกี่ยวข้องกับพวกพ้อง,การทุจริตโกงเงินสงเคราะห์ผู้ไร้ที่พึ่ง น่าจะเกิดขึ้นในช่วงรัฐบาล คสช.เพราะมีโครงการช่วยเหลือคนจนมากมาย จนสับสนว่ามีกี่โครงการกันแน่ มีรายงานข่าวว่า สตง.ตรวจพบก่อนแล้ว ระบุว่าเกี่ยวข้องกับข้าราชการระดับสูง แต่เรื่องกลับเงียบหายไป จนกระทั่งนักศึกษาฝึกงานร้องเรียนต่อ คสช. และส่งเรื่องต่อให้ ป.ป.ท. ตรวจสอบ จึงพบว่าลามไปทั่วประเทศ,ส่วนการโกงทุนการศึกษาคนจน ของกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2551 ในช่วงรัฐบาลเลือกตั้ง ได้รับงบประมาณปีละ 10-30 ล้านบาท จนถึงปี 2561 เป็นเงินประมาณ 88 ล้านบาท โดยมีข้าราชการระดับ 8 เป็นผู้รับผิดชอบ ป.ป.ท.ตรวจสอบพบว่าเงินถูกโอนไปพักไว้ในบัญชีวงศาคณาญาติทั้งมารดา น้องชาย น้องสาว น้องสะใภ้และลูกศิษย์ รวม 22 บัญชี,ระบบราชการไทยที่ถูกครอบงำด้วยระบบอุปถัมภ์ ระบบพวกพ้อง และวงศาคณาญาติ ทำให้น่าวิตกว่านายกรัฐมนตรีอาจต้องผิดหวัง ไม่ได้รับของขวัญวันเกิดที่พึงปรารถนา นั่นก็คือ ความซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใสในวงราชการ และกำจัดการทุจริตให้หมดสิ้น เห็นได้ชัดว่าการโกงเงินคนจนและทุนการศึกษา สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งคือการเบิกจ่ายเงินหละหลวม และไร้การตรวจสอบ,การปราบปรามการทุจริตในประเทศอำนาจนิยม มักจะล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่ แม้จะโฆษณาข่าวการปราบปรามครึกโครม แต่มักจะมีการลูบหน้าปะจมูก เล่นพรรคเล่นพวก มีเพียงประเทศประชาธิปไตย เช่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป ที่ปราบการโกงกินสำเร็จ เพราะตัดทิ้งระบบพวกพ้อง ยึดนิติธรรมและธรรมาภิบาลเป็นหลัก และมีระบบการตรวจสอบที่เข้มแข็งเด็ดขาด.
ผลการสำรวจความเห็นประชาชนมักจะพบว่า นอกจากชื่นชมผลงานการรักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว การปราบปรามการทุจริตก็เป็นผลงานที่น่าชื่นชม
null
คสช.,ทุจริต,โกงเงินคนจน,คนไร้ที่พึ่ง,บทบรรณาธิการ
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1235266
รือเสาะไม่หวั่นถูกจับตาผุดชมรมตาดีกาแทน กลุ่มนะห์ฎอ
10 ตำบลรือเสาะ จับมือตั้ง ชมรมตาดีกา หลังภัยไฟใต้ส่งผลกระทบกิจกรรมครูตาดีกา จนต้องยุบ ชมรมตาดีกานะห์ฎอ เหตุต้องสงสัยเป็นภัยความมั่นคงนายมุสตอปา อูเซ็ง อายุ 62 ปี ครูสอนศาสนาโรงเรียนนะห์ฎอตุลสูบาน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความไม่สงบ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ส่งผลกระทบต่อชมรมตาดีกานะห์ฎอ หรือ Pertanam (Persatua Tadika Nahdhah Maju) จนต้องยุติบทบาทของชมรมฯ ลง เนื่องจากสมาชิกของชมรมฯ ถูกเพ่งเล็งว่า เป็นแนวร่วมของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ทำให้สมาชิกชมรมฯ ไม่กล้าเข้าไปสอนโรงเรียนตาดีกาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนเชื่อว่าคงไม่สามารถฟื้นฟูชมรมฯ ขึ้นมาใหม่ได้อีก นางซารีปะ ดอเลาะ อายุ 49 ปี ประธานชมรมตาดีกา หรือ Putra และครูสอนศาสนาโรงเรียนนะห์ฎอตุลสูบาน เปิดเผยว่า ชมรมตาดีกานะห์ฎอ เป็นชมรมที่อยู่ภายใต้โรงเรียนนะห์ฎอตุลสูบาน มีอุสตาซ และอุสตาซะห์ของโรงเรียนนะห์ฎอตุลสูบาน เป็นผู้ดูแล สำหรับชมรมตาดีกานะห์ฎอดำเนินการมานานกว่า 20 ปี หลังจากเกิดเหตุการณ์ปี 2547 ชมรมตาดีกานะห์ฎอก็ถูกยุบ และไม่มีการรวมตัวกันอีก จนกระทั่งปี 2554 จึงมีการก่อตั้งชมรมใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า Putra (Persatuan tadika Resok) ดูแลโรงเรียนตาดีกาในอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส โดยมีกระบวนการทำงานเหมือนเดียวกับ Pertanam เป็นการรวมตัวของครูโรงเรียนตาดีกาทั้ง 10 ตำบล โดยส่งตัวแทนตำบลละ 2 คน มาร่วมจัดกิจกรรมระหว่างโรงเรียนตาดีกาด้วยกัน ทำให้ง่ายต่อการประสานงานและจัดหลักสูตรโรงเรียนตาดีการ่วมกันสำหรับชมรมตาดีกา หรือ Putra เป็นชมรมที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาด้านการศึกษาและจัดหลักสูตรโรงเรียนตาดีในระดับอำเภอ ผ่านสัมพันธ์ระหว่างครูด้วยกัน เพื่อให้ได้หลักสูตรที่เหมือนกัน มีจุดประสงค์เดียวกันคือพัฒนาสังคมให้มีความร่วมมือร่วมใจและส่งเสริมการทำความดี
10 ตำบลรือเสาะ จับมือตั้ง ชมรมตาดีกา หลังภัยไฟใต้ส่งผลกระทบกิจกรรมครูตาดีกา จนต้องยุบ ชมรมตาดีกานะห์ฎอ เหตุต้องสงสัยเป็นภัยความมั่นคง นายมุสตอปา อูเซ็ง อายุ 62 ปี
สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง
จังหวัดชายแดนใต้,ชมรมตาดีกา
https://prachatai.com/journal/2012/04/40077
ช่วงบ่ายวันนี้ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ยังพบค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 38 จุด
กรมควบคุมมลพิษ เผยค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วง 12.00 น. เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ 38 พื้นที่ เตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพวันที่ 8 ม.ค. 2563 เว็บไซต์ กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้ง 50 สถานี เมื่อเวลา 12.00 น. พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองตรวจวัดค่าได้ระหว่าง 40–75 มคก./ลบ.ม. (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเช้า โดยพบพื้นที่มีปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 38 พื้นที่ (พื้นที่สีส้ม) ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งและติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิดทั้งนี้ คพ. ยังคงรายงานสถานการณ์และแจ้งประสานข้อมูล ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแล ภารกิจตามมาตรการ ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นละอองให้กลับสู่ปกติอย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบ Real Time ได้ทางเว็บไซต์ air4thai.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ http://bangkokairquality.comขอบคุณเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ
กรมควบคุมมลพิษ เผยค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วง 12.00 น. เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ 38 พื้นที่ เตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพ
ข่าว,สังคม
ฝุ่นละออง,PM 2.5,ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน,ฝุ่น PM2.5,ข่าววันนี้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1742713
ร้องถูกหลอกซื้อเลขล็อก กองสลากฯ สูญเงินกว่า 8 แสนบาท
วันนี้ (5 ก.ย.2562) เวลา 13.00 น. นายต๋อง คงมีทรัพย์ อดีตลูกจ้าง อบจ.นครปฐม พร้อมนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ เข้าพบ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดีถูกหลอกซื้อเลขล็อกกองสลากฯ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินายต๋อง ได้นำหลักฐานเป็นคลิปเสียง หลักฐานการโอนเงิน และใบเรียงเบอร์ที่มีการโฆษณามาแสดงต่อ รอง ผบ.ตร.ด้วย พร้อมระบุว่า ช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ซื้อใบเรียงเบอร์ 3 ใบ จากย่านตลาดห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และเห็นโฆษณาทำนองว่าล็อกเลขได้ แต่ต้องสมัครสมาชิก จึงได้ติดต่อทางโทรศัพท์ตามเบอร์ในโฆษณาจนได้พูดคุยกับ นายประเวศน์ วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งอ้างว่า รู้จักกับ พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมอ้างว่าสามารถล็อกเลขสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ แต่ต้องจ่ายค่าสมัครสมาชิก 14000 บาท แลกกับเลขท้าย 3 ตัว จำนวน 5 งวดต่อมามีการเจรจาให้จ่ายเงินอีกหลายครั้ง ซึ่งตัวเองได้จ่ายไป 7 ครั้ง รวมกว่า 820000 บาท โดยครั้งสุดท้าย มีการให้โอนเงินเข้าบัญชีของ นางสาวสุพัตรา แสงผึ้ง พร้อมย้ำ ไม่ให้บอกใคร และหากจ่ายไม่ครบ ก็จะไม่ได้เลขล็อคดังกล่าว โดยหลังจ่ายเงินครบ ได้เลขล๊อค 3 ตัวท้าย เป็นเลข 527 ประจำงวดวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า เลขไม่ได้ออกตามนั้น ส่วนตัวพยายามติดต่อกลับ ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้ว่าถูกหลอก ทำให้ได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะเงินกว่า 8 แสนที่นำไปจ่าย เป็นเงินกู้นอกระบบ จึงตัดสินมาร้องเรียนและต่อสู้คดีด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ยืนยันว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่สามารถล๊อคเลขได้แน่นอน จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ ส่วนผู้ที่โฆษณา จะเข้าข่ายมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ ต้องถูกดำเนินคดียึดทรัพย์ จากนี้ได้ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความตำรวจท้องที่ ส่วนตัวจะช่วยเร่งรัดคดี พร้อมเตรียมลงพื้นที่ตรวจโรงพิมพ์ย่านสำราญราษฎร์ด้วย
อดีตลูกจ้าง อบจ.นครปฐม ร้อง รอง ผบ.ตร. อ้างถูกหลอก ซื้อเลขล็อก กองสลากฯ หลงเชื่อ โอนเงินสูญกว่า 8 แสนบาท
อาชญากรรม
เลขล็อก,สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล,ตำรวจ,หลอก
https://news.thaipbs.or.th/content/283825
จิ้งจอกสนคว้า เนียง หอกดาวรุ่งมิลานเสริมแกร่ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 16 เม.ย.ว่า สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวกำลังให้ความสนใจ เอ็มบาย เนียง แนวรุกอนาคตไกลชาวฝรั่งเศสของทีม เอซี มิลาน มาเสริมทัพในฤดูหาลหน้า ตามความต้องการของกุนซือใหญ่ชาวอิตาเลียน    ,โดยแนวรุกวัย 21 ปี เคยตกเป็นข่าวกับสโมสรชั้นนำของอังกฤษอย่าง ทอตแนม ฮอตสเปอร์, อาร์เซนอล และ เอฟเวอร์ตัน เมื่อปี 2012 แต่สุดท้ายเจ้าตัวกลับเลือกที่จะย้ายจากบ้านเกิด เพื่อมาค้าแข้งอยู่กับทีมดังแห่งเมืองมิลานในที่สุด  ,อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว สกาย สปอร์ต สื่อชื่อดังแห่งเมืองผู้ดีรายงานว่า ทัพจิ้งจอกสยามภายใต้การคุมทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี ตกเป็นข่าวสนใจคว้าตัว เอ็มบาย เนียง มาร่วมทัพในฤดูกาลหน้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแนวรุกในการฟาดฟันบนศึกฟุตบอลถ้วยยุโรป แล้วพร้อมยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้    ,นอกจาก เลสเตอร์ ซิตี้ แล้ว ยังมี สโต๊ก ซิตี้ อีกหนึ่งทีมจากเกาะอังกฤษที่ให้ความสนใจกองหน้ารายนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งที่ในขณะนี้ เจ้าตัวยังคงอยู่ในช่วงของการรักษาตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า และปิดเทอมยาวไปจนจบซีซั่นนี้อย่างแน่นอนแล้ว.
สื่อในอังกฤษเผยว่า จิ้งจอกสยาม เล็งคว้าตัว เอ็มบาย เนียง กองหน้าอนาคตไกลชาวฝรั่งเศสของ เอซี มิลาน มาร่วมทัพในฤดูกาลหน้า เพื่อเป็นส่วนเติมเต็มแนวรุก สำหรับการลงตะบันแข้งในศึกฟุตบอลสโมสรยุโรป
null
เอ็มบาย เนียง,เลสเตอร์ ซิตี้,จิ้งจอกสยาม,พรีเมียร์ลีก,เคลาดิโอ รานิเอรี,เอซี มิลาน,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/606627
สงกรานต์เจอทั้งน้ำ เจอทั้งฝน ไทยตอนบน ระวังพายุฤดูร้อน
วันที่ 13 เมษายน จากการตรวจสอบสภาพอากาศ กับไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์คอมพานี พบบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 13-15 เมษายน 2560 ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนล่าง และมีลมใต้พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น,พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกไว้ด้วย ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกได้ในระยะนี้,สภาพอากาศแต่ละภูมิภาค, เป็นดังนี้,ภาคเหนืออากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส,ภาคอีสานอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู และมุกดาหาร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส,ภาคกลางอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออกอากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร,ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ,ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร,ภาคใต้ฝั่งอันดามันมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ,ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ,ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
สุขสันต์วันสงกรานต์ ไทยตอนบนระวังพายุฤดูร้อน ถึงวันที่ 15 เม.ย. บางพื้นที่อาจมีลูกเห็บตก ขณะที่ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น
ข่าว,ทั่วไทย
สงกรานต์,พายุฤดูร้อน,พยากรณ์อากาศ,ฝนตก,ลูกเห็บตก
https://www.thairath.co.th/news/local/912541
นี่แค่เริ่มต้น นตท.คลานเข้า ร.ร.นายร้อยตำรวจวันขึ้นเหล่า วิจารณ์สนั่น
เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง เมื่อเฟซบุ๊ก คนดังข้ามคืน (Return) - 2017 โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า ,วันที่นักเรียนเตรียมทหารทุกคนต่างเฝ้ารอคอย ขึ้นเหล่า #โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน, ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลายจำนวนมาก มีผู้เข้าชมคลิปนี้แล้วถึง 1 ล้านวิว,จากคลิปจะเห็นนักเรียนเตรียมทหารกำลังหมอบคลานเพื่อเข้าสู่ประตูโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ในวันแรกหรือวันขึ้นเหล่า ที่คล้ายว่าทำสืบเนื่องต่อกันในทุกปีที่เหล่านักเรียนนายร้อยตำรวจจะทราบกันดี ซึ่งระหว่างนั้นจะมีเสียงเลยเร่งให้นักเรียนเหล่านี้รีบคลานเข้าโรงเรียน และมีเสียงปืนดังขึ้นหลายครั้ง โดยมีพ่อแม่ ผู้ปกครอง และญาติพี่น้องยืนดูอยู่ ทั้งนี้เมื่อพ้นประตูโรงเรียนจะมีการฉีดน้ำด้วย,ขณะที่ ผู้บริหารโรงเรียนนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ชี้แจงว่า การกระทำดังกล่าวนี้ เป็นเหมือนการต้อนรับน้องใหม่ที่จะเข้าสู่รั้วโรงเรียนวันแรก ไม่ใช่เพียงแค่นักเรียนเตรียมทหาร แต่รวมถึงทุกระดับการศึกษาที่จะเข้ามาศึกษาต่อในสถาบันแห่งนี้ โดยมีผู้ปกครองรับรู้ รับทราบ ไม่ใช่เรื่องของความรุนแรง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลใกล้ชิด และไม่อยากให้นำไปเปรียบเทียบสถาบันอื่นๆ จนเป็นประเด็นไปไกล โดยเมื่อนักเรียนเข้ารั้วหมด ผู้ปกครองก็จะเดินตามเข้าไปเพื่อรับรู้ระเบียบต่างๆ ที่ทางโรงเรียนจะชี้แจงให้รับทราบโดยทั่วกัน.
วิจารณ์สนั่น! คลิปนักเรียนเตรียมทหารคลานเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน คนดูแล้วกว่า 1 ล้านครั้ง ชาวเน็ตแห่แสดงความเห็น
ข่าว,สังคม
นักเรียนเตรียมทหาร,นักเรียนนายร้อย,โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน,ขึ้นเหล่า,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1138402
แข้งไทยยู 16 เผด็จศึกจิงโจ้ 3-2 เข้าชิงบอลอาเซียน
ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี หรือ เอเอฟเอฟ ยู 16 แชมเปียนชิพ 2015 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม เป็นเกมรอบรองชนะเลิศ ทีมออสเตรเลีย เต็ง 1 ของรายการ ลงสนามพบกับทีมไทย ที่นำทัพโดยโค้ชยงค์ อ.พยงค์ ขุนเณร,ทีมไทยลงสนามในชุดสีแดงล้วน ขณะที่ทีมออสเตรเลียมาในชุดเสื้อสีเหลืองและกางเกงสีเขียว โดยเกมในครึ่งแรกเป็นไปอย่างสูสี แม้แข้งจิงโจ้จะได้เปรียบในเรื่องรูปร่างที่ใหญ่โตกว่า แต่ยังทำอะไรทีมไทยไม่ได้ หมดครึ่งแรกเสมอกัน 0-0,เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 3 นาที ทีมไทยเป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจิณณวัตร รัศมี ดาวยิงประจำทีม ที่ซัดประตูที่ 5 ของตัวเองในรายการนี้,จากนั้นในนาทีที่ 52 หัสวรรษ นพเนตร กัปตันทีมช้างศึก จัดการประตูที่ 2 ให้ไทยนำเป็น 2-0 ชนิดที่นักเตะออสซี่ไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนที่ในนาทีที่ 71 กรวิชญ์ ทะสา จะบวกเพิ่มให้ไทยนำห่างแบบไม่น่าเชื่อ 3-0,แต่อีก 2 นาทีต่อมา ทีมจิงโจ้ไล่มาเป็น 1-3 จากลูกจุดโทษของจอห์น โรเบิร์ตส์ จากนั้นในนาทีที่ 79 ดีแลน พีเรียส ซัดให้ออสเตรเลีย ไล่จี้มาเป็น 2-3,ช่วงเวลาที่เหลือ เกมรับของไทยสามารถต้านทานพลังบุกของแข้งจิงโจ้ได้ ทำให้จบเกม ทีมไทยพลิกเฉือนชนะไปหวุดหวิด 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ โดยจะพบกับทีมเมียนมา ที่เฉือนชนะทีมลาว 1-0,สำหรับเกมชิงอันดับ 3 ทีมลาว พบกับ ทีมออสเตรเลีย ส่วนนัดชิงชนะเลิศ ทีมไทย พบกับ ทีมเมียนมา ในวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคมนี้
แข้ง ช้างศึก จูเนียร์ ทีมเยาวชนไทย 16 ปี ทำผลงานสุดติ่ง ด้วยการพิชิตทีมออสเตรเลีย ไปหวุดหวิด 3-2 ทะลุเข้าชิงลูกหนังเอเอฟเอฟ ชิงแชมป์อาเซียน พบกับทีมเมียนมา ที่กัมพูชา 9 ส.ค.นี้
null
ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน,บอลเอเอฟเอฟ ยู 16,ทีมไทย,ช้างศึก,ทีมออสเตรเลีย,ผลบอล,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/516867
ช้าชัวร์กับเร็วแหกโค้ง
สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในข่ายที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า ได้แจกแบบฟอร์มให้ว่าที่รัฐมนตรีบางคนกรอกคุณสมบัติแล้ว,แนวโน้มใครได้กรอกคุณสมบัติก็ตัดชุดขาวรอล่วงหน้าได้,แต่ตรงกันข้าม ใครที่ยังไม่ได้รับแบบฟอร์มก็ใจตุ๊มๆต่อมๆ,แถมล่าสุด บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. พูดเองกับปาก วันนี้เพิ่งเริ่มขั้นตอนการเช็กคุณสมบัติรัฐมนตรี ต้องตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตรงกับนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ยืนยัน รายชื่อ ครม.ยังอยู่ระหว่าง ขั้นตอนการตรวจสอบ,ที่สำคัญมันล้อกับข้อมูลวงใน ระดับท่าน ส ถูกส่งมาคุมด่านตรวจ คิวซี เช็กมาตรฐานรัฐมนตรี ต้องไม่มีสีเทา ไร้คดีโดนร้องเรียนทุจริตคั่งค้าง แม้แต่ปมพฤติการณ์อื้อฉาวในอดีต,ร่อนตะแกรงกรอง ก่อนกระบวนการสุดท้ายรัฐบาลยุคเปลี่ยนผ่านประเทศไม่ปล่อยผีง่ายๆ,ขณะที่สถานการณ์อีกด้านก็ส่อลุ้นระทึก ปมหุ้นสื่อที่กลายเป็นไฟลามทุ่ง ทั้ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ไม่เว้นกระทั่ง ส.ว. ถ้าผิดจริงก็คงหายไปเป็นร้อยๆ,ติดแหรัฐธรรมนูญ มีชัย ตายน้ำตื้นเป็นแพแน่,ตามรูปการณ์การฟอร์ม ครม.ใหม่ กว่าจะเห็นโฉมหน้ากันชัดเจน อาจลากไปปลายเดือนกรกฎาคม,แต่ในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ช้าไม่ได้ ขืนรอ ครม.ใหม่ไม่ทันกินแน่,ตามจังหวะต้องรีบประคองความมั่นใจนักลงทุน แบบที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ เปิดเผยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ได้พิจารณาและรับทราบความคืบหน้าขั้นตอนการดำเนินโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ใน 2 โครงการ ที่จะมีการลงนามระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2562,นั่นคือ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ช่วง 1,รัฐบาล ลุงตู่ ภาค 1 ปิดจ๊อบ 2 โครงการยักษ์อีอีซี มูลค่ากว่า 2.7 แสนล้านบาท,ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน–ท่าเรือมาบตาพุด ถึงจุดที่อุ่นใจได้ระดับหนึ่ง เมกะโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐาน เร่งเครื่องปิดดีลทันตั้งแต่ยุค ลุงตู่ ภาค 1 ที่ปลอดจากเรื่องหัวคิว,เนื้องานคืบหน้าตามเนื้อผ้า เร่งปักหมุดลงเสาเข็มเป็นส่วนใหญ่,ถึงเปลี่ยนทีมรัฐบาล ก็ยากจะรื้อมา ตบหัวคิว กันใหม่,เรื่องของเรื่อง มันเป็นอะไรที่ถูกทิศถูกทาง ตามยุทธศาสตร์ที่ พล.อ.ประยุทธ์และนายสมคิด ใช้เวลาช่วงสุญญากาศรอ ครม.ชุดใหม่ ในการเดินหน้าเร่งดันโครงการสำคัญ,ได้เนื้องาน แถมประกันความโปร่งใส ปลอดหัวคิว,เป็นสิ่งชดเชยกับช่วงเวลาที่รอรัฐบาลใหม่ผ่านด่านเอกซเรย์เข้มๆ,ตามเกมทีม พล.อ.ประยุทธ์ ยังไงก็เสียเปรียบเชิงกระแส ในสถานการณ์รัฐบาล ลุงตู่ ภาค 2 มาช้า แถมมีข่าวการแย่งชิงเก้าอี้ แฝงด้วยพวกสีเทาโหนเอว เสือหิว เสือโหย แฝงตัวมาเขมือบ,ในอารมณ์ที่ผู้คนในสังคมเบื่อเซ็งการเมืองโบราณ,เทียบกับปรากฏการณ์อีกขั้วหนึ่ง ได้เห็นถึงฉากการรุกคืบอย่างรวดเร็วของทีม ไพร่หมื่นล้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เคลื่อนไหวชิงพื้นที่การเมืองนอกสภา,ขึ้นแท่น นายกรัฐมนตรีโซเชียลมีเดีย ของประเทศไทย,เดินหมากยกระดับตัวเองตีคู่ขนานไปกับ บิ๊กตู่ นายกฯ ตัวจริงเสียงจริง,แต่ถึงจังหวะก็เผยสิ่งที่ซ่อนไว้ใต้อุดมการณ์เบื้องลึก กับการขุดผีย้อนอดีตเหตุการณ์ 2475 อุ่นเตาเร้ากระแส,เปลี่ยนแปลงการปกครอง สอดคล้องกับปรากฏการณ์ คุณช่อ–อีช่อ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ที่โป๊ะแตก ภาพในโซเชียลมีเดียย้อนประจานพฤติการณ์ที่เสี่ยง เดินตลาด ไม่ได้,ในขณะเดียวกันก็รุกชิงพื้นที่อำนาจ ธนาธร ประกาศยุทธศาสตร์ลุยยึดการเมืองท้องถิ่น,เล่นเอาขาใหญ่ นักการเมืองเจ้าถิ่นตามหัวเมืองใหญ่ระส่ำ นั่งกันไม่ติด เพราะผวาฤทธิ์ พ่อฟ้า สร้างเซอร์ไพรส์ อนาคตใหม่สร้างปรากฏการณ์กวาด ส.ส.กว่า 80 ที่นั่ง,สามล้อถูกหวย ได้เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว,มันคือ ความน่ากลัวอย่างไม่มีเหตุผล ของทีม ไพร่หมื่นล้าน.,ทีมข่าวการเมือง
หายใจลึกๆลุ้นกันอีกเฮือกใหญ่ สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในข่ายที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า ได้แจกแบบฟอร์มให้ว่าที่รัฐมนตรีบางคน
ข่าว,การเมือง
ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,ไพร่หมื่นล้าน,พรรคอนาคตใหม่,การเมืองนอกสภา,วิเคราะห์การเมือง,ทีมข่าวการเมือง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1600138
ด่วนหามเฮียม้อนายก อบจ.สมุทรสาคร ส่งศิริราช เลือดออกในสมอง
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.สมุทรสาคร หลังทราบว่า นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ หรือที่ชาวสมุทรสาครเรียกว่า เฮียม้อ นายก อบจ.สมุทรสาคร ได้ล้มป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับสมอง เข้ามารักษาตัว แต่ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า ญาติได้นำนายมณฑลออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทราบว่านำส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ให้รายละเอียดเพียงว่า นายมณฑล ล้มป่วยโรคอาการเลือดออกในสมองใหญ่ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 30 ม.ค.58 และออกโรงพยาบาลไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อถามว่า คนป่วยอาการเป็นอย่างไร รู้สึกตัวหรือไม่ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมุทรสาครบอกว่า คนไข้รู้สึกตัว ส่วนเรื่องอาการตนไม่ทราบ ต้องไปถามแพทย์,อย่างไรก็ตาม นายมณฑล ขณะนี้อายุ 76 ปี มีอาการป่วยเป็นที่รับรู้ของคนในพื้นที่มานานแล้ว แต่ญาติและคนใกล้ชิดพยายามจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ จนล่าสุดคาดว่าอาการคงทรุดลงจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และเป็นที่สนใจของชาวสมุทรสาครที่เฝ้าติดตามข่าว,สำหรับนายมณฑล หรือเฮียม้อ ถือเป็นนักการเมืองระดับลายครามของ จ.สมุทรสาคร เคยเป็น ส.ส. เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ จนช่วงหลังได้วางมือไป ให้ทายาทสืบทอดแทน จนมาเกิดเหตุการณ์ยิงนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ หรือ นายกตุ่น อดีตนายกอบจ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นลูกชาย โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นได้ตัดสินประหารชีวิต จำเลย คือ นายครรชิต ทับสุวรรณ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ขณะที่นายมณฑล ก็ได้เดินทางไปร่วมฟังคำพากษาในคดีที่ลูกชายตนเองถูกฆ่าตายด้วย เมื่อวันที่ 12 พ.ย.57 ที่ผ่านมา.
หามเฮียม้อนายก อบจ.สมุทรสาคร ส่งโรงหมอ หลังป่วยหนักมีเลือดออกในสมองใหญ่ ล่าสุดญาติย้ายเข้ารักษาต่อที่ศิริราช เผยเป็นนักการเมืองลายคราม เคยเป็นถึง รมช.เกษตรฯ วางมือไปแล้วแต่ต้องกลับมาใหม่ หลังลูกชายที่เป็นนายก อบจ.ถูกยิงตาย
ข่าว,ทั่วไทย
เฮียม้อ,เลือดออกในสมอง,มณฑล ไกรวัตนุสสรณ์,นายอบจ.สมุทรสาคร,เฮียม้อป่วย,สมุทรสาคร,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,นายกตุ่น,ศิริราช,ครรชิต ทับสุวรณ,ประชาธิปัตย์
https://www.thairath.co.th/news/local/479047
ธงชัย คว้าที่ 3 กอล์ฟยูโรเปี้ยนทัวร์
กอล์ฟยูโรเปียน ทัวร์ รายการแรกของปี 2013 รายการ กอล์ฟ แชมเปียนชิพ ที่สนาม เดอร์บัน คันทรี คลับ ประเทศแอฟริกาใต้ การแข่งขันรอบสุดท้าย ธงชัย ใจดี นักกอล์ฟหนึ่งเดียวของไทยที่มีคะแนนตามหลังผู้นำหลังจบรอบที่แล้วอยู่ 5 สโตรก ก็เก็บเพิ่มได้อีก 4 อันเดอร์จากการทำ 6 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ คะแนนรวม 14 อันเดอร์ ได้อันดับที่สามไปครองพร้อมเงินรางวัลกว่า 130000 ยูโร หรือประมาณ 5 ล้านบาทส่วนแชมป์ตกเป็นของ หลุยส์ อุสธุยเซ่น โปรเจ้าถิ่น ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการทำ 7 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี คะแนนรวม 16 อันเดอร์ คว้าแชมป์รายการแรกของปีไปครองพร้อมรับเงินรางวัล 350000 ยูโร หรือประมาณ 14 ล้านบาท และถือเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยนทัวร์รายการที่ 6 ของ อุสธุยเซ่น ขณะที่สก็อตต์ เจมีสัน นักกอล์ฟจากสกอตแลนด์ ผู้นำรอบที่แล้วฟอล์มหลุด เสีย 1 โบกี้ กับ 1 ดับเบิลโบกี้ คะแนนรวมเท่าเดิม 15 อันเดอร์ ได้เพียงแค่รองแชมป์
โปรช้างธงชัย ใจดี ตีจบอันดับสาม ในการแข่งขันกอล์ฟยูโรเปี้ยนทัวร์รายการแรกของปี ส่วนแชมป์ตกเป็นของ หลุยส์ อุสธุยเซ่น นักกอล์ฟจากแอฟริกาใต้
กีฬา
กอล์ฟ,ธงชัย ใจดี,ยูโรเปี้ยนทัวร์,หลุยส์ อุสธุยเซ่น
https://news.thaipbs.or.th/content/139463