title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
ไทยตอนบนอากาศเย็น กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาฯ ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง
วันที่ 2 ก.พ. 2563 กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 04.00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังปานกลางพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้ภาคเหนือ บริเวณพื้นราบ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและเทือกเขาสูง มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 5-10 กม./ชม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณพื้นราบ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎ์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎ์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
วันนี้ภาคเหนือและอีสานมีอาการเย็นถึงหนาว ขณะที่ภาคกลางกับตะวันออกอากาศเย็นในตอนเช้า ขณะที่ภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ข่าว,ทั่วไทย
พยากรณ์อากาศ,อากาศวันนี้,กรมอุตุ,อากาศเย็น,ฝนฟ้าคะนอง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1762036
ภาคธุรกิจจ.ตาก เตรียมเสนอนายกฯสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2
ความแออัดในการเดินทางและการขนส่งสินค้าของสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 บริเวณบ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ประกอบกับในปี 2558 จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทำให้ภาคธุรกิจการค้าชายแดนและจังหวัดตากเตรียมเสนอให้มีการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2 โดยเร็วในโอกาสที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคมนี้ เพราะจะเป็นประโยชน์เพื่อรองรับการค้าในอนาคตนายพงษ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลพม่าปรับโครงสร้างประเทศใหม่และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ก็ทำให้การค้าชายแดนไทย-พม่า พื้นที่จ.ตากมีการขยายตัวมากขึ้น เพราะมีการผ่อนปรนสินค้าทั้งนำเข้าและสินค้าส่งออก หากมีการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2 จะทำให้การค้าขยายตัวมากขึ้นการค้าชายแดนไทย-พม่า ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 อ.แม่สอด จ.ตาก ในปี 2555 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 40000 ล้านบาท ภาคธุรกิจในพื้นที่ คาดการณ์ว่า หากมีการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 ขึ้น และเปิดประชาคมอาเซียน เชื่อว่าจะทำให้มูลค่าการค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน ล่าสุดแม้กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม จะได้ว่าจ้างบริษัทเอกชน 3 แห่ง ลงไปศึกษาความเหมาะสม ทั้งด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม แต่ใช้เวลาถึง 12 เดือน ก่อนได้ข้อสรุปและของบประมาณในการก่อสร้าง หลายฝ่ายจึงเป็นกังวลว่าอาจล่าช้า และไม่ทันกับการค้าที่กำลังขยายตัว
ในวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ในอ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งภาคธุรกิจในจ.ตาก เตรียมเสนอให้นายกรัฐมนตรี เร่งดำเนินการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 เหตุผลที่เสนอให้สร้างสะพานแห่งที่ 2 เนื่องจากขณะนี้สะพานแห่งที่ 1 มีความแออัด และเพื่อเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณการค้าขยายตัวมากขึ้น
ภูมิภาค
จ.ตาก,นายกรัฐมนตรี,สะพานมิตรภาพไทย-พม่า,อ.แม่สอด
https://news.thaipbs.or.th/content/140828
ซ้อมปั่นเพื่อแม่ โดนชนดับ พระราชทานพวงมาลางานศพ
ขณะที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบรถเก๋งต้องสงสัยวิ่งตามหลังผู้ตายมาด้วยความเร็ว เร่งตรวจสอบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี,หนุ่มใหญ่ซ้อมปั่นรถจักรยานถูกชนดับล้มข้างทาง เปิดเผยเมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 13 ส.ค. พ.ต.ท.ประทีป ทองดี พงส.สภ.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี รับแจ้งเหตุพบศพชายริมถนนพระยาสัจจา หมู่ 2 ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี ไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลชลบุรีและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์,ที่เกิดเหตุใกล้กับเสาไฟฟ้าหน้าร้านเมืองใหม่การยางบริเวณฟุตปาทพบศพนายธงชัย สุดศรี อายุ 56 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่บ้านเลขที่ 2/13 หมู่ 3 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี ใส่ชุดปั่นรถจักรยานเสื้อสีฟ้า กางเกงสีขาวคาดดำ สภาพศีรษะแตก แขนและลำตัวมีรอยฟกช้ำ ใกล้กันพบรถจักรยานล้มอยู่ล้อหลังพังยับเยินและหมวกกันน็อกอยู่ที่พื้น,สอบสวนนายณัฐพล ฉันทสิทธิกุลชัย อายุ 20 ปี ลูกชายผู้ตายทราบว่าทุกวันพ่อจะตื่นตั้งแต่เช้าขี่รถจักรยานไปรวมกลุ่มกับเพื่อนที่สวนหลวง ร.9 ถนนพระยาสัจจาเพื่อขี่รถจักรยานออกกำลังกาย โดยพ่อได้ไปสมัครเข้าร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติปั่นเพื่อแม่ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ชลบุรี ในวันที่ 16 ส.ค. ได้รับเข็มกลัดและเสื้อพระราชทานไว้แล้วลำดับที่ 6446 คาดว่าขณะปั่นรถจักรยานอยู่ข้างทางมีรถเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้เสียชีวิต,ด้าน พ.ต.อ.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผกก.สภ.เสม็ดกล่าวว่า สั่งให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนตรวจกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เบื้องต้นพบกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุบันทึกภาพเห็นผู้ตายกำลังขี่รถจักรยานอยู่คนเดียวเมื่อผ่านกล้องไปมีรถเก๋งสีขาวไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนวิ่งตามหลังผู้ตายมาด้วยความเร็ว คาดว่ารถเก๋งคันที่เห็นในกล้องอาจจะเป็นคันก่อเหตุ สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพให้ละเอียดเพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป,ขณะที่ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เชิญพวงมาลาพระราชทานศพนายธงชัย สุดศรี อายุ 56 ปี ชาว อ.เมืองชลบุรี ถูกรถชนแล้วหนีขณะซ้อมปั่นจักรยานจนเสียชีวิต โดยเป็นผู้ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ในวันที่ 16 ส.ค.นี้
หนุ่มใหญ่ปั่นจักรยานถูกรถเก๋งชนดับข้างทางถนนพระยาสัจจา อ.เมืองชลบุรี ขณะผู้ตายนัดกับเพื่อนรวมกลุ่มซ้อมปั่นรถจักรยานเตรียมเข้ากิจกรรมเทิดพระเกียรติ ปั่นเพื่อแม่
ข่าว,ทั่วไทย
ซ้อมปั่นเพื่อแม่,รถชน,เสียชีวิต,ชลบุรี,พวงมาลาพระราชทานศพ,ธงชัย สุดศรี,ข่าว,ทีมข่าวหน้า1,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/news/local/518166
เปิดเส้นทาง เสี่ยอ้วน หลบหนีไทย-กัมพูชา
การจับกุมนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน เกิดขึ้นหลังตำรวจชุดสืบสวนภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ควบคุมตัวผู้นำพาเสี่ยอ้วนออกนอกประเทศได้ 3 คน คือ โกวัน นายน้อย และชายชาวกัมพูชาอีก 1 คน ได้เมื่อ 2 วันก่อน และได้ควบคุมตัวไปชี้จุดที่นำพาเสี่ยอ้วนออกนอกประเทศไทยการสอบสวนทั้ง 3 คน ให้การสอดคล้องกันว่า หลังก่อเหตุเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม เสี่ยอ้วนและนายเกียรติศักดิ์ สุรางแสงมีบุญ หรือบอล คนขับรถ ได้หนีไปยังบ้านพักของเสี่ยอ้วน ที่อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ พักอาศัยอยู่นาน 2 วันกระทั่งวันที่ 31 กรกฎาคม ได้เปลี่ยนรถจากรถยนต์ฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี ซึ่งใช้ก่อเหตุยิงนางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์ และนายอนันตชัย จริตรัมย์ มาเป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า เดินทางไปยังบ้านพักของโกวัน ซึ่งเป็นญาติของนายบอล ที่ตำบลทุ่งมหาเจริญ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว เพื่อว่าจ้างให้พาหนีเป็นเงิน 300000 บาทโกวัน ติดต่อนายน้อย และชาวเขมรอีก 1 คน ซึ่งมีอาชีพนำพาแรงงานชาวเขมรเข้ามาทำงานในอำเภอคลองหาด ให้เป็นผู้นำพาเสี่ยอ้วนหลบหนีเข้าไปในประเทศกัมพูชา โดยได้ข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณระหว่างหลักกิโลเมตร 12-13 ของถนนศรีเพ็ญ ห่างจากด่านผ่านแดนถาวรเขาบิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อไปพักยังฝั่งอำเภอสำเภาลูน จังหวัดพระตะบอง ของกัมพูชาหลังจากนั้นเสี่ยอ้วนได้รับการช่วยเหลือจากเครือข่ายของชายชาวกัมพูชา ซึ่งถูกตำรวจควบคุมตัวแล้ว เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ เพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดไพรแวง หรือเปรยเวง ติดกับชายแดนประเทศเวียดนาม ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 600 กิโลเมตรโดยเข้าไปรับจ้างตัดหญ้าตามสวนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นพิรุธ กระทั่งตำรวจไทยประสานทางการกัมพูชา ให้ช่วยติดตามตัวและสามารถควบคุมตัวได้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ขณะเสี่ยอ้วนเตรียมหลบหนีไปยังเวียดนามตำรวจ ระบุ เสี่ยอ้วน ถึงไทยใช้เวลา 1-2 วันวันนี้ (16 ส.ค.2561) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งจากทางการกัมพูชาได้เดินทางเข้าไปประสานงานขอรับมอบตัวนายปัญญา ตามขั้นตอนระหว่างประเทศทันที ขณะนี้ตำรวจกัมพูชาอยู่ระหว่างนำตัวเสี่ยอ้วน เดินทางด้วยรถยนต์มาส่งที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาเดินทางมากกว่า 9 ชั่วโมง เพราะเดินทางมาจากฝั่งชายแดน กัมพูชา-เวียดนาม เมื่อมาถึงชายแดนไทยใกล้อรัญประเทศ ขั้นตอนส่งตัวข้ามมาไทย คาดว่าใช้เวลา 1 - 2 วัน จากนั้นจะนำตัวนายปัญญา ไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า ต้องรอให้ทางการกัมพูชาดำเนินคดีกับเสี่ยอ้วน ข้อหาหลบหนีเข้าเมืองให้เสร็จสิ้นก่อนพล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าทางการไทยประสานงานระหว่างประเทศเรื่องการติดตามจับนายปัญญา มาตลอด การจับตัวนายปัญญา เป็นไปตามความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่ใช่การว่าจ้างและไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแลกเปลี่ยน
เสี่ยอ้วน มีชาวกัมพูชาช่วยเหลือในการหลบหนี อาศัยช่องทางธรรมชาติเข้าประเทศ เสี่ยอ้วนต้องแฝงตัวรับจ้างตัดหญ้าเพื่อไม่ให้ถูกจับ และเตรียมตัวหลบหนีไปยังเวียดนาม แต่ถูกจับได้เสียก่อน ตำรวจระบุอาจใช้เวลา 1-2 วัน นำเสี่ยอ้วนกลับประเทศ
อาชญากรรม
เสี่ยอ้วน,นายปัญญา ยิ่งดัง,เส้นทางหลบหนี,กัมพูชา,ชายแดนไทย,ส่งผู้ร้ายข้ามแดน,จังหวัดสระแก้ว,คนกัมพูชา,ช่วยเหลือ,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/274024
กลับไม่ถึงบ้าน หนุ่มเชียงรายดวงกุด ข้ามถนนเจอกระบะชนดับ ก่อนซิ่งหนี
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 10 พ.ย. 58 ร.ต.ท.บุญช่วย กันธะวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนคนข้ามถนนเสียชีวิต บริเวณบ้านป่าสักน้อย ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สภ.แม่ยาว รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เชียงแสน พ.ต.อ.ศุภนัยว์ ศรีครุฑรานันท์ พงส.ผู้ทรงคุณวุฒิ ทราบ และพร้อมด้วย ร.ต.ท.สิรวิชญ์ ไชยวรรณ พงส. ร.ต.ต.มานพ มิหายศ รอง สวป. น.พ.พงศ์พันธ์ ศิรินภาพันธ์ แพทย์โรงพยาบาลเชียงแสน และหน่วยกู้ชีพอานุภาวธรรม รุดตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุถนนสายแม่จัน-เชียงแสน เยื้องปากซอย 13 บ้านป่าสักน้อย ม.3 ต.ป่าสัก ริมถนนพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายจำเลย สมศรี อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 129/1 ม.3 ต.ป่าสัก นอนเสียชีวิต จุดเฉี่ยวชนอยู่กลางถนน ห่างจากศพ นายจำเลย ประมาณ 20 เมตร พบเศษกระจกลักษณะคล้ายโคมไฟรถ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนรถที่ชนหลบหนีไปมุ่งหน้าเข้าตัว อ.เชียงแสน,เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า นายจำเลย เดินข้ามจากฝั่งตรงข้ามมาที่เกาะกลางถนน เพื่อจะกลับบ้านที่อยู่ในซอย 13 แต่ขณะข้ามจากเกาะกลางมีรถกระบะไม่ทราบสีและยี่ห้อขับมาจากทาง อ.แม่จัน มุ่งหน้า อ.เชียงแสน ด้วยความเร็ว พุ่งเข้าชน นายจำเลย อย่างจัง จนร่างกระเด็นไปตกอยู่ริมถนนเสียชีวิตคาที่ ส่วนรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อติดตามหารถกระบะคันก่อเหตุต่อไป.
หนุ่มเชียงรายวัย 56 ปี เดินข้ามถนนหวังกลับบ้าน เจอรถกระบะซิ่งชนจนร่างกระเด็นตกไปอยู่ริมถนนเสียชีวิตคาที่ ขณะคนขับตีนผีรีบเผ่นหนีไปทาง อ.เชียงแสน ด้าน ตร. เร่งติดตามล่าตัวดำเนินคดี
ข่าว,ทั่วไทย
รถชน,รถชนคนตาย,สุคนธ์ ศรีอรุณ,รถชนคนข้ามถนน,กระบะชนคน,กระบะตีนผี,ชนแล้วหนี,เชียงราย,อุบัติเหตุ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/538527
ไต้หวันจับ 2 ต้องสงสัย ฆ่าโหดครูแคนาดา ตัดคอ-หั่นศพทิ้งแม่น้ำ
สำนักข่าวต่างประเทศ,รายงานว่า ตำรวจในไต้หวันจับกุมชาย 2 คนผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนาย รามกาฮาน สันชัย ไรอัน ชาวแคนาดาวัย 43 ปี ซึ่งทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในไต้หวันมานานกว่า 10 ปี แล้วหั่นศพทิ้งลงแม่น้ำสายหนึ่งในเมืองนิวไทเปซิตี เมื่อสัปดาห์ก่อน,ตำรวจระบุว่า นายไรอันยังเป็นพ่อค้ายาเสพติดและเชื่อว่าเขาถูกสังหารโดยเพื่อนครูสอนภาษาชาวต่างชาติซึ่งเป็นสมาชิกแก๊งเดียวกัน เพราะนายไรอันถูกสงสัยว่าเป็นสายลับให้กับตำรวจ,ผู้ที่ถูกจับกุมรายที่ 1 คือนาย อู่ ซวน หรือนาย แดน อู่ นักโปรโมทจัดงานบันเทิง (club promoter) ชาวแคนาดาเชื้อสายไต้หวันวัย 21 ปี สารภาพว่าเป็นผู้จัดหารมีดสปาตา 2 เล่มที่ใช้ในการฆาตกรรมซึ่งเจอที่จุดพบศพ อีกคนคือนาย อีวาร์ต โอเดน เบนต์ ครูสอนภาษาอังกฤษชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาวัย 30 ปี ตำรวจเชื่อว่าชายคนนี้สังหารและหั่นศพนายไรอัน โดยร่วมมือกับผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 คือนาย โอเรน ชโลโม เมเยอร์ ครูสอนภาษาอังกฤษและช่างสักชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอล และเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ด้วย,ตามรายงานของสื่อไต้หวัน ตำรวจเชื่อว่าชนวนเหตุของการฆาตกรรมครั้งนี้คือการที่นายไรอันถูกจับเมื่อเดือนพ.ค. ฐานจัดหากัญชาให้ชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่ง ผลการตรวจค้นที่พักของเขายังพบกัญชาอีก 103 มัดอีกด้วย หลังจากนั้นเชื่อว่า พรรคพวกของนายไรอันเริ่มสงสัยว่าเขาเป็นสายให้กับตำรวจ นายเบนต์กับนายเมเยอร์จึงวางแผนฆาตกรรมนายไรอัน และลงมือเมื่อ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา,ตำรวจจับกุมนายอู่กับนายเบนต์ได้เมื่อ 24 ส.ค. หลังตรวจสอบโทรศัพท์ของนายไรอันแล้วพบข้อความโต้ตอบที่แสดงให้เห็นปัญหาระหว่างเขากับนายเบนต์ ส่วนนายเมเยอร์ไหวตัวทันหลบหนีออกจากไต้หวันไปแล้ว
ตำรวจไต้หวันจับกุม 2 ผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพครูสอนภาษาชาวแคนาดาเมื่อสัปดาห์ก่อน เชื่อเป็นผลจากความขัดแย้งในกลุ่มแก๊งค้ายาเสพติด
ข่าว,ต่างประเทศ
ไต้หวัน,ฆ่าหั่นศพ,ครูสอนภาษา,ค้ายาเสพติด,แคนาดา
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1363311
ชัยวัฒน์ ม้ามืดขึ้นแท่นปลัดคมนาคม
ตัดงบลงทุนทำตัวเต็งตกสวรรค์ โยก ผอ.สนข.แก้จราจรกรุงเทพ,พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จ.ชุมพร มีมติโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงคมนาคมรวม 9 ตำแหน่ง 1.นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง 2.นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้อำนวยการ สนข. 3.นางอัมพวัน วรรณโก ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมท่าอากาศยาน 4.นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า เป็นผู้ตรวจราชการ 5.นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นอธิบดีกรมเจ้าท่า 6.นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เป็นรองปลัดกระทรวง 7.นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมทางหลวง 8.นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางบก 9.นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมขนส่งทางบก เป็นรองปลัดกระทรวง นอกจากนั้น ยังมีติแต่งตั้งนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว เป็นปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยวัฒน์ ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งปลัดคมนาคมคนใหม่ ถือได้ว่าเป็นม้ามืดที่ขึ้นมาโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ขนาดที่เจ้าตัวยังไม่รู้มาก่อน เพราะตัวเต็งคือนายธานินทร์ สมบูรณ์ แต่กลับได้เพียงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงเท่านั้น ซึ่งสาเหตุสืบเนื่องมาจากสมัยที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวง ได้มีการปรับลดงบประมาณการเบิกจ่ายของกรมลงจาก 95% เหลือ 80% ซึ่งถือว่าสวนทางกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องเร่งรัดการเบิกจ่าย,ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สนข. เปิดเผยภายหลังมติแต่งตั้งว่า พร้อมเข้ามาทำงานตามแผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคมทันที ไม่ว่าจะเป็นโครงการเร่งด่วน การแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯและปริมณฑล จากเดิมที่เคยเป็นคนวางกรอบแผนงาน ทำแผนแม่บทโครงการต่างๆ ซึ่งเมื่อมานั่งตำแหน่งปลัดคมนาคมก็จะนำแผนที่วางไว้มาสานต่อและผลักดันเพื่อปฏิบัติงานได้ทันทีและให้เป็นรูปธรรม เนื่องจากเข้าใจความสำคัญของแต่ละโครงการที่ควรนำมาปฏิบัติก่อนและหลัง,ไม่หนักใจที่เข้ามารับตำแหน่ง พร้อมทำงานทันที แม้ว่าจะไม่เคยผ่านกรมต่างๆในสังกัดกระทรวงคมนาคม แต่ สนข.ก็เทียบเท่ากรมกรมหนึ่ง และการทำงานก็ดูแผนโครงการภาพรวมของทั้งกระทรวง โดยเป็นการนำนโยบายต่างๆมาผลักดันให้เป็นรูปธรรมตามกรอบนโยบาย ระยะเวลาที่วางไว้ให้เป็นรูปธรรม.
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จ.ชุมพร มีมติโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงคมนาคมรวม 9 ตำแหน่ง
ข่าว,เศรษฐกิจ
ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ,ปลัดกระทรวงคมนาคม,โยกย้ายข้าราชการระดับสูง,กระทรวงคมนาคม,โยกย้ายข้าราชการ
https://www.thairath.co.th/news/business/1359669
สุรพศ ทวีศักดิ์: พุทธะปฏิเสธ ศาสนายากล่อมประสาท
ผมมีข้อสังเกตว่า คนที่สังคมมองว่าปฏิเสธศาสนาหรือไม่นับถือศาสนานั้น เมื่อพิจารณาความคิดเกี่ยวกับศาสนาของเขาแล้ว กลับพบมุมมองคล้ายกับ พุทธะ อย่างมีนัยสำคัญเช่น มุมมองต่อพุทธศาสนาของจิตร ภูมิศักดิ์ ในคำอธิบายสาระและเจตนารมณ์ของบทความเรื่อง ผีตองเหลือง ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นการบ่อนทำลายพุทธศาสนา ก่อนที่ศาลทหารกรุงเทพฯ จะพิพากษาคดีของเขา เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2507 ตอนหนึ่งว่าfont-weight:normal>สาระสำคัญตามทัศนะของจิตร คล้ายกับทัศนะของคาร์ล มาร์กซ์ ที่ว่าThe abolition of religion as the illusory happiness of the people is required for their real happiness. The demand to give up the illusion about its condition is the demand to give up a condition which needs illusions. ความทุกข์ตามหลักศาสนาเป็นทั้งอาการของความทุกข์ที่แท้จริง และเป็นการต่อต้านความทุกข์ที่แท้จริงด้วย ศาสนาเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตที่ถูกกดขี่ แต่ก็เป็นหัวใจของโลกที่ไร้หัวใจ เป็นจิตวิญญาณของสภาพการณ์ที่ไร้จิตวิญญาณ ศาสนาคือยาฝิ่นของมวลชน การล้มเลิกศาสนาแบบที่ให้ความสุขอย่างเพ้อฝันแก่ประชาชน เป็นเงื่อนไขจำเป็นที่ทำให้พบความสุขที่แท้จริง เสียงเรียกร้องให้ยุติมายาคติของเงื่อนไขความสุขเช่นนั้น เป็นเสมือนเสียงเรียกร้องให้ทลายเงื่อนไขอันเป็นเหตุให้เกิดมายาคติดังกล่าวด้วย (สำนวนแปลของพิภพ อุดมอิทธิพงษ์)จะเห็นว่า ศาสนาที่มาร์กซ์มองว่าเป็น ยาฝิ่น หรือ ยากล่อมประสาท ของประชาชนคือ ศาสนาแบบที่ให้ความสุขอย่างเพ้อฝันแก่ประชาชน คำวิจารณ์ของจิตรในบทความเรื่อง ผีตองเหลือง ก็วิจารณ์ศาสนาในความหมายดังกล่าวนี้ แท้จริงแล้วพุทธะก็ปฏิเสธ ศาสนายากล่อมประสาท หรือ ศาสนาแบบที่ให้ความสุขอย่างเพ้อฝันแก่ประชาชน เช่น ที่พุทธะวิจารณ์ว่า เมื่อมีทุกข์ภัยต่างๆ แล้วมนุษย์หันไปพึ่งต้นไม้ จอมปลวก ภูเขา ว่าคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะขจัดทุกข์ภัยต่างๆ ได้ หรือเชื่อว่าแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์จะชำระล้างบาปได้ เทพเทวาหรือพระพรหมจะดลบันดาลความสุขให้ได้ เป็นต้น พุทธะปฏิเสธความเชื่อ เช่นนี้ ด้วยเหตุผลว่าไม่ใช่ความเชื่อที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้จริง ฉะนั้น ศาสนาในความหมายของพุทธะจึงไม่ใช่ศาสนาแบบที่ให้ความสุขอย่างเพ้อฝันแก่ประชาชน แต่เป็นศาสนาในความหมายของการใช้ชีวิตแสวงหาสัจจะและอิสรภาพ ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ของพุทธะที่ใช้ชีวิตลองผิดลองถูกจนค้นพบ อริยสัจสี่ ด้วยตนเองสำหรับจิตร ศาสนายากล่อมประสาทคือ สิ่งโสโครกสิ่งปฏิกูลทั้งหลายบรรดาที่เข้ามาแอบแฝงอาศัยศาสนาหากิน จำเป็นต้องขจัดออกไป สำหรับมาร์กซ์ การล้มเลิกศาสนาแบบที่ให้ความสุขอย่างเพ้อฝันแก่ประชาชน เป็นเงื่อนไขจำเป็นที่ทำให้พบความสุขที่แท้จริง และสำหรับพุทธะเอง ศาสนาแบบที่ให้ความสุขอย่างเพ้อฝัน เช่นการพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลต่างๆ ย่อมไม่อาจดับทุกข์ได้จริงหากมองตามทัศนะของจิตรและมาร์กซ์ ศาสนาแบบให้ความสุขอย่างเพ้อฝันแก่ประชาชนเป็น ยากล่อมประสาท เพราะเป็นการหลอกลวงมอมเมาให้ผู้คนอยู่ในโลกของความเพ้อฝัน ไม่สนใจเหตุผลและโลกของความเป็นจริง นอกจากนี้ศาสนาในความหมายดังกล่าวยังถูกใช้สร้าง มายาคติ มอมเมาประชาชนให้ซาบซึ้งในบุญญาธิการ สยบยอมต่ออำนาจศักดิ์สิทธิ์ของชนชั้นปกครอง อันเป็นที่มาของการกดขี่และความอยุติธรรมในรูปแบบต่างๆพุทธะเองก็มองเห็นอันตรายของการใช้ศาสนามอมเมาเพื่อการกดขี่ ดังที่ปฏิเสธระบบวรรณะ และการตัดสินคุณค่าของมนุษย์จากชาติกำเนิด เป็นต้น ผมคิดว่าคนอย่างจิตร และมาร์กซ์นี่แหละ คือคนที่มีศาสนาในความหมายของผู้ที่มีศรัทธาในการใช้ชีวิตแสวงหาสัจจะ อิสรภาพ (จากการกดขี่) และความยุติธรรม แน่นอนศาสนาในความหมายนี้ เราไม่อาจมีได้เพียงแค่จดจำคำสอน หรือเชี่ยวชาญในการอธิบายคำสอน แต่มีได้ด้วย การปฏิบัติ ซึ่งหมายถึงการดำเนินชีวิตบนเส้นทางของผู้ศรัทธาในการแสวงหาสัจจะ อิสรภาพ และความเป็นธรรมการมีศาสนาในความหมายนี้จึงไม่ใช่ การรับสัจจะมาจากปากของพุทธะ เพราะต่อให้เราท่องจำสิ่งที่พุทธะสอนได้มากมายเพียงใดก็ไม่ได้ทำให้เราค้นพบสัจจะ อิสรภาพ และความเป็นธรรมได้ แต่จะเป็นไปได้เมื่อเราได้ใช้ชีวิตแสวงหาสัจจะ อิสรภาพ และความเป็นธรรมด้วยตนเองดังที่พุทธะเคยใช้ชีวิตเช่นนั้นมาก่อนแต่สัจจะ อิสรภาพ และความเป็นธรรมในบริบทที่แตกต่าง ย่อมมีรายละเอียดแตกต่างกัน นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมผู้มีศาสนาที่แท้จึงต้องใช้ชีวิตแสวงหาด้วยตนเอง คำสอนของพุทธะเป็นเพียงการแนะแนวทาง และ พุทธะคือเพื่อนที่ดี (กัลยาณมิตร) คนหนึ่งเท่านั้น หาใช่ บุคคลศักดิ์สิทธิ์ ใดๆ ไม่ทว่าสิ่งที่น่าเศร้าคือ พุทธะและศาสนาของท่านกำลังถูกใช้เป็น ยากล่อมประสาท พุทธะถูกยกให้เป็น บุคคลศักดิ์สิทธิ์ ธรรมะกลายเป็น ของศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่เกี่ยวกับการส่งเสริมวิถีชีวิตแสวงหาสัจจะ อิสรภาพ และความเป็นธรรมอีกแล้ว พุทธศาสนาโดยรวมถูกบิดเบือนเป็นเครื่องมือค้ำจุนอำนาจของชนชั้นปกครอง เป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ในรูปพุทธพานิชต่างๆ ธรรมะที่เคยเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับความหมาย คุณค่า แก่นสารของชีวิต ถูกแปรรูปเป็น ธรรมะฮาวทู ประเภทให้ ความสุขแบบเพ้อฝัน จนเกลื่อนตลาดหนังสือธรรมะไปแล้ว
ผมมีข้อสังเกตว่า คนที่สังคมมองว่าปฏิเสธศาสนาหรือไม่นับถือศาสนานั้น เมื่อพิจารณาความคิดเกี่ยวกับศาสนาของเขาแล้ว กลับพบมุมมองคล้ายกับ พุทธะ อย่างมีนัยสำคัญ เช่น มุมมองต่อพุทธศาสนาของจิตร ภูมิศักดิ์
การเมือง,การศึกษา
ความเชื่อ,พุทธศาสนา,ศาสนา,สุรพศ ทวีศักดิ์
https://prachatai.com/journal/2012/05/40565
เปิดใจครูโพสต์ให้กำลังใจครู 5 รุ่นพี่ 2 ขืนใจเด็ก วอนสังคมเห็นใจลูกเมีย
จากกรณีแก๊งครู 5 กับศิษย์เก่า 2 รวม 7 คน บังคับข่มขืนนักเรียนสาว ม.2 และ ม.4 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร นานกว่าปี พร้อมถ่ายคลิปขู่หากไม่ยอมจะให้ซ้ำชั้น ซึ่งต่อมามีผู้เสียหายอีกรายเป็นเด็ก ม.6 ขณะที่กระแสในโลกออนไลน์เองก็ได้วิพากษ์วิจารณ์โพสต์จากเฟซบุ๊กของครูรายหนึ่งที่ได้โพสต์ในเชิงให้กำลังใจกลุ่มผู้ก่อเหตุล่าสุด วันที่ 9 พฤษภาคม 2563 จากการสอบถามครูเจ้าของโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ในมุมมองที่ตนอยากชี้แจงก็คือ จากการที่ได้ร่วมงานกับน้องๆ ก็ชื่นชมและประทับใจในการทำงานของพวกเขา แต่ในส่วนที่เขาทำผิดจรรยาบรรณ ตนก็ไม่เห็นด้วย และรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ฐานะที่เป็นครูรุ่นพี่และได้เจอกับลูกเจอเมียของเขา ก็อดที่จะมองไม่ได้ว่ายังไงก็ต้องถูกโซเชียลและสังคมรุมประณาม ซึ่งหากถามว่าน้องทำถูกไหมก็ไม่ถูก ก็สมควรโดน แต่ในบางทีก็อยากให้มองในส่วนของเพื่อน ของคนไทยด้วยกัน สิ่งที่เขาทำดีก็มีและตนตัดสินใจโพสต์ก็รู้ว่ามันจะมีเสียงสะท้อน แต่ตนมองในจุดที่ว่า ถ้าเมียเขาซึ่งคนหนึ่งกำลังตั้งท้อง แล้วเมียเขามองว่าทุกคนมองเขาแย่หมดเลย แล้วคิดสั้นหรือเป็นอะไรไป เสียชีวิตไป มันคุ้มค่าไหม ตนจึงยินดีที่จะเป็นส่วนรับทุกข์ตรงนั้น ในส่วนของนักเรียนก็เห็นใจมาก แต่ในเหตุการณ์นั้นตนก็ไม่รู้ แต่ก็ได้ออกไปเยี่ยมบ้านนักเรียน ก็เห็นว่าสังคม ชุมชนเราก็ดูแลนักเรียนอยู่ แต่เรื่องมันเกิดแล้ว อยากให้มองว่าเราจะเยียวยาคนที่เหลืออยู่อย่างไรครูเจ้าของโพสต์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ไม่ได้คุยกับน้องเลย ตอนนี้ตนก็ยอมรับกับกระแสสังคม เหตุการณ์ที่เกิดเขึ้นถือว่าสะเทือนขวัญมากก็อยากจะฝากว่า อย่างน้อยก็เปิดโอกาสให้คนที่อยู่ ญาติพี่น้องเขา ลูกเมียเขา ถ้าเขาไม่มีภูมิคุ้มกันหรือเขายังไม่มี ธรรมะ ไม่ได้เรียนรู้ธรรมชาติมากพอ มันรับไม่ได้ ซึ่งตนคิดว่าเขารับไม่ได้ ร้องไห้ตลอด 3 วัน ทุกคนมีครอบครัวและลูกยังเด็กและเพิ่งคลอดแต่ทั้งนี้ในกลุ่มเขามีน้องคนหนึ่งอายุ 25 ปี เพิ่งผ่านได้เป็นครูผู้ช่วย ตามที่ฟังมาน้องเขาปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมกระทำ ซึ่งตามปกติถ้าปิดห้องแล้วก่อเหตุในตอนกลางมันไม่น่าเป็นไปได้.
เปิดใจครูสาวโพสต์ให้กำลังใจแก๊งโฉดครู 5 รุ่นพี่ 2 ขืนใจนักเรียน วอนสังคมเห็นใจครอบครัว ลูกเมียผู้ก่อเหตุ บอกขอยอมรับกระแสสังคมเอง
ข่าว,ทั่วไทย
ข่มขืนเด็ก,ครูข่มขืนนักเรียน,ข่มขืนนักเรียน,ศิษย์เก่า,มุกดาหาร,กระทำชำเราเด็ก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/1840314
เรือใบทำสถิติใหม่ ยอดตั๋วปีฤดูกาลนี้พุ่ง 40000 ใบ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 27 ส.ค. ว่า สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมชั้นนำแห่งพรีเมียร์ลีก เผย มีการทำลายสถิติใหม่ของการจำหน่ายตั๋วปีของสโมสรไปแล้วกว่า 40,000 ใบ หลังจากมีการขยายความจุของสนามไปเมื่อช่วงก่อนเปิดฤดูกาล,ทีมเรือใบสีฟ้า ได้รับการอนุมัติจากสภาเมืองแมนเชสเตอร์ เพื่อขยายความจุของสนามเอติฮัด สเตเดียม ทางฝั่งอัฒจันทร์ทิศใต้ ทำให้จากเดิมที่รองรับแฟนบอลได้แค่ 48,000 ที่นั่ง กลายเป็น 55,000 ที่นั่งในฤดูกาล 2015-16 และแล้วเสร็จไปในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล,ล่าสุด สำนักข่าวเดลี เมล์ รายงานว่า ทีมมหาเศรษฐีแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ได้จำหน่ายตั๋วเพิ่มจำนวนสูงถึง 40,000 ใบ ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของสโมสร นับตั้งแต่ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลากว่า 135 ปี,นอกจากนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังได้ทำสถิติใหม่ในเกมที่เปิดบ้านถล่มทีมเชลซี 3-0 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ด้วยการมีผู้ชมเข้าชมเกมมากที่สุดในรอบ 42 ปี ที่จำนวน 54,331 คน ,ทั้งนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ย้ายจากสนามเมน โรด มาเช่าสนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดียม เมื่อปี 2003 หลังจากถูกใช้เป็นสถานที่เปิดและปิดกีฬาคอมมอนเวลท์ เกมส์ เมื่อปี 2002 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นเอติฮัด สเตเดียม ในปัจจุบัน
ทีมเรือใบสีฟ้า ยอดตั๋วปีพุ่งเป็นประวัติการณ์ หลังจากจำหน่ายไปได้แล้วถึง 4 หมื่นใบในฤดูกาลนี้ ซึ่งมีอานิสงส์มาจากการขยายความจุของสนามในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา สามารถรองรับแฟนบอลได้ถึง 58,000 คนในปัจจุบัน
null
แมนเชสเตอร์ ซิตี้,เรือใบสีฟ้า,จำหน่ายตั๋วปี,สถิติสโมสร,สภาเมืองแมนเชสเตอร์,เอติฮัด สเตเดียม,ขยายความจุสนาม,เมน โรด,ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดียม,คอมมอนเวลท์ เกมส์ 2002,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/521183
อิวานกา ทรัมป์ สตั๊นไป10 วิ โดนผดส.ร่วมไฟลต์ด่า พ่อกำลังทำลายประเทศ
(ภาพจากยูทูบ USA News),อิวานกา ลูกสาวคนสวยของโดนัลด์ ทรัมป์ เจอเรื่องคาดไม่ถึง ขณะขึ้นเครื่องบินเจ็ตบลู พร้อมสามีและลูกๆ จะไปพักผ่อนที่ฮาวาย โดนชายผู้โดยสารร่วมเที่ยวบิน ปรี่เข้ามาด่า บอกทรัมป์กำลังทำลายประเทศ จนลูกเรือต้องมาคุมตัวให้ลงจากเครื่อง ส่วนอิวานกาและครอบครัวตัดสินใจเปลี่ยนไปขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำเดินทางต่อ,เมื่อ 23 ธ.ค.59 สื่อต่างประเทศ TMZ รายงานเกิดเหตุการณ์สุดอึ้งกับอิวานกา ทรัมป์ บุตรสาววัย 35 ปี ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ เมื่อเธอได้ถูกนายแดน โกลด์สไตน์ ทนายความหนุ่มชาวเมืองบรู๊คลิน รัฐนิวยอร์ก ตรงเข้ามาพูดจาต่อว่าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ขณะที่อิวานกาพร้อมทั้งสามี เจเร็ด คุชเนอร์ และลูกทั้งสามอยู่บนเครื่องบินโดยสารของสายการบินเจ็ตบลู เมื่อเช้าวันพฤหัสฯ ที่ 22 ธ.ค. เพื่อเดินทางไปพักผ่อนที่ฮาวาย ว่า พ่อของเธอกำลังทำลายประเทศสหรัฐฯ,จากการเปิดเผยของผู้โดยสารที่นั่งอยู่ใกล้กับอิวานกาบนเที่ยวบินนี้ ยังเล่าว่า นอกจากนายโกลด์สไตน์ จะพูดจาถ้อยคำดังกล่าวใส่หน้าอิวานกาแล้ว เขายังเริ่มรุกรานอิวานกาต่อ ด้วยการถามอย่างเกรี้ยวกราดว่า ทำไมเธอต้องมาอยู่บนเที่ยวบินนี้ด้วย เธอควรจะไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวนะ ขณะที่ อิวานกา ซึ่งควบคุมสติอารมณ์ได้ดีเป็นเลิศ ยังคงนิ่งเฉย หลังจากต้องมาเจอเรื่องคาดไม่ถึง โดยเธอพยายามไม่สนใจชายที่เข้ามาพูดจาไม่ดีใส่  และทำทีหันไปดูแลลูกๆ ให้ใช้ดินสอสีระบายรูป จนกระทั่งลูกเรือได้มาคุมตัวนายโกลด์สไตน์ให้ลงไปจากเครื่องบิน,ต่อมา นายแมทธิว ลาสเนอร์ เพื่อนชายของนายโกลด์สไตน์ ซึ่งบอกว่าตัวเองเป็นสามีของนายโกลด์สไตน์ด้วยนั้น ได้ทวีตข้อความทางออนไลน์ว่า เจ็ตบลูเตะเราทั้งคู่ลงจากเที่ยวบินของเรา เมื่อสามีของผมแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการต้องมาเดินทางร่วมกับคนในครอบครัวทรัมป์,ด้านสายการบินเจ็ตบลูได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การถอดผู้โดยสารคนดังกล่าวออกจากเที่ยวบิน ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายๆ แต่เมื่อลูกเรือสรุปว่าลูกค้ากำลังสร้างความขัดแย้งบนเครื่องบิน ลูกเรือจะขอให้ลงจากเครื่องบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกเรือรู้สึกว่าสถานการณ์เสี่ยงลุกลามบานปลาย,ส่วนด้านอิวานกาและครอบครัว หลังจากมาเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องรู้สึกเซ็งตั้งแต่แรก จึงได้เปลี่ยนแผน หลังจากเครื่องบินเจ็ตบลูลงจอดที่นครซานฟรานซิสโก ด้วยการเปลี่ยนไปขึ้นเครื่องบินพาณิชย์แบบเช่าเหมาลำแทน เพื่อเดินทางต่อไปยังฮาวาย  เนื่องจากไม่อยากเจอเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมอีก ขณะที่อิวานกายังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อเธอถูกบรรดาช่างภาพรุมถ่ายภาพหลังทราบเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอ.
อิวานกา ลูกสาวคนสวยโดนัลด์ ทรัมป์ เจอเรื่องคาดไม่ถึง ขณะขึ้นเครื่องบินเจ็ตบลู พร้อมสามีและลูกๆ จะไปพักผ่อนที่ฮาวาย โดนชายผู้โดยสารร่วมเที่ยวบินปรี่เข้ามาด่า บอกทรัมป์กำลังทำลายประเทศ จนลูกเรือต้องมาคุมตัวชายผู้นี้ลงจากเครื่อง
null
โดนัลด์ ทรัมป์,อิวานกา ทรัมป์,อิวานกา โดนด่าบนเครื่องบิน,เจ็ตบลู,ต้าน โดนัลด์ ทรัมป์
https://www.thairath.co.th/content/819606
Money Expo ระยอง เงินกู้ดอกเบี้ย 0% 6 เดือน
วันนี้ขอพาท่านผู้อ่านไปที่ ระยอง กันสักวันนะครับ เพื่อให้ประชาชนและธุรกิจเอสเอ็มอีในระยองและภาคตะวันออกได้เข้าถึง เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 0% อย่างเท่าเทียมกันกับ งานมหกรรมการเงิน Money Expo ที่จัดขึ้นในจังหวัดอื่นทั่วประเทศ บุคคล หรือ ธุรกิจรายย่อย ที่ต้องการสินเชื่อหรือลงทุนไปใช้บริการได้,คุณอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม จะไปเป็นประธานเปิดงาน วันศุกร์ที่ 6 กันยายน เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ระยอง,จังหวัดระยอง เป็นหนึ่งใน 3 จังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC ประกอบด้วย ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา เป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษไฮเทค รองรับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ด้วย ดังนั้น จังหวัดระยองในอนาคตจะเป็นเมืองอุตสาหกรรมใหม่ที่รุ่งเรืองมั่งคั่งอย่างแน่นอน ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2561 รายได้ต่อหัวของคนระยองตกปีละ 1.10 ล้านบาท สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่าคนกรุงเทพฯ 2 เท่า และคาดว่า ปี 2562 คนระยองจะได้มีรายได้ต่อหัวต่อปีเพิ่มขึ้นเป็น 1.141 ล้านบาท เป็นจังหวัดที่รวยที่สุดในประเทศ ถ้าบวก EEC เข้าไปด้วยจะรวยกว่านี้อีกมาก,ชาวระยอง มีสำเนียงพูดแปลกกว่าจังหวัดอื่นในภาคตะวันออก จึงมีการเรียกขานว่า ระยองฮิ จังหวัดระยองเป็นทั้ง เมืองเกษตร มีสวนผลไม้มากมาย ทุเรียน เงาะ มังคุด มีการท่องเที่ยวชิมผลไม้ในสวนแบบไม่อั้น เมืองท่องเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่เรารู้จักกันดี เช่น เกาะเสม็ด เกาะมันนอก เกาะทะลุ แหลมแม่พิมพ์ หาดแสงจันทร์ หาดพยูน หาดแม่รำพึง ทุ่งโปรงทอง เป็นบ้านเกิด สุนทรภู่ กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และ เมืองอุตสาหกรรม มีนิคมอุตสาหกรรมสิบกว่าแห่ง เช่น นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ในอนาคตจะมีนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคเพิ่มขึ้นอีกมากมาย,จังหวัดระยอง มีอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็วมาตลอด จีดีพีจังหวัดปี 2561 พุ่ง ขึ้นไปกว่า 1 ล้านล้านบาทแล้ว มีประชากร 9 แสนกว่าคน ถ้านับประชาชนแฝงที่ไปทำงานในระยองอีกหลายแสนคน ก็น่าจะเกินล้านคนแน่นอน เศรษฐกิจระยองจึงมีการเติบโตสูงกว่าจีดีพีประเทศ,เมื่อ วารสาร การเงินธนาคาร ไปจัดงาน มหกรรมการเงิน Money Expo ระยอง ครั้งที่ 1 เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินของคนท้องถิ่น เปิดโอกาสให้คนในภาคตะวันออกเข้าถึงบริการทางการเงินและการลงทุน ดอกเบี้ยถูก ได้อย่างเท่าเทียมกัน ตั้งแต่ สินเชื่อบุคคล ไปจนถึง สินเชื่อเอสเอ็มอี ผมเชื่อว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดระยองและภาคตะวันออกได้เป็นอย่างดี ยังไม่นับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอีกกว่า 3 แสนล้านบาท การประกันราคาพืชเกษตรที่จะช่วยให้ประชาชนมีรายได้ดีขึ้น,ไปดู โปรโมชันพิเศษ ในงาน มหกรรมการเงิน Money Expo ระยอง ครั้งที่ 1 กันเสียหน่อยนะครับ จัดหนักกันขนาดไหน เริ่มต้นที่ Home Loan ธ.ออมสิน สินเชื่อซื้อบ้าน สร้างบ้าน ต่อเติมบ้าน ซ่อมแซมบ้าน ไถ่ถอน จำนอง รีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน ธ.กรุงศรีอยุธยา สินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ดอกเบี้ยปีแรกลด 0.25% ค่าธรรมเนียมประเมินลด 50% ธ.กรุงไทย สินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ย 1.75% นาน 1 ปี ธ.ไทยพาณิชย์ สินเชื่อบ้าน รีไฟแนนซ์ ฟรีค่าประเมิน ค่าจดจำนอง ปกติไม่มี,สินเชื่อบุคคล Speedy Cash ไทยพาณิชย์ ดอก 0% สูงสุด 3 รอบบัญชี สินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย ดอก 0% สูงสุด 90 วัน สินเชื่อเงินสดอีซีบาย ดอก 0% 30 วัน ธ.กรุงไทย เงินฝาก 8 เดือน 1.85% ฝาก 22 เดือน ดอกเบี้ย 2% ไทยประกันชีวิต จ่ายเบี้ย 5 ล้านบาท รับรถยนต์ MG3 จ่ายเบี้ย 1 ล้านบาท รับทองคำแท่งหนัก 8 บาท,ก็เป็น ตัวอย่างโอกาส ที่จะเกิดขึ้นใน งานมหกรรมการเงิน Money Expo ระยอง ครั้งที่ 1 ในงานมีสินเชื่อและการลงทุนให้เลือกอีกมาก เพื่อเพิ่มโอกาสทางการเงิน.,ลม เปลี่ยนทิศ
วันที่ 6-8 กันยายน นี้ เมืองระยองฮิ จะมีงานใหญ่ วารสาร การเงินธนาคาร จะไปจัดงาน มหกรรมการเงิน Money Expo ระยอง ครั้งที่ 1 ที่ ลานโปรโมชัน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ระยอง
null
มหกรรมการเงิน,Money Expo ระยอง,วารสารการเงินธนาคาร,สินเชื่อ,การลงทุน,หมายเหตุประเทศไทย,ลม เปลี่ยนทิศ
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1651938
พบแล้ว 1 ศพ นร.หญิง เรือล่มกลางแม่น้ำงึม เวียงจันทน์ (ชมคลิป)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีครูโรงเรียนบ้านหัวนาทุ่ง และโรงเรียนท่ากกไฮ เมืองปากงึม ได้นำเรียนชั้น ป.5 จำนวน 39 คน ขึ้นเรือข้ามฟากเพื่อไปสอบจบ ป.5 จนเป็นเหตุให้เรือข้ามแม่น้ำงึมเกิดล่มกลางแม่น้ำ ห่างจากฝั่ง 100 เมตร บริเวณท่าเรือบ้านนาบง เมืองปากงึม แขวงนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อเช้าตรู่วันที่ 26 พ.ค. ทำให้เด็กนักเรียนจมหาย 10 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 8 คน เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้ต้องระดมทีมประดาน้ำมูลนิธิจาก จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ และ จ.อุดรธานี เข้าช่วยเหลือ งมหาร่างนักเรียนเคราะห์ร้าย แต่ยังไม่พบเนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว จึงหยุดการค้นหา,ล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 พ.ค. เจ้าหน้าที่กู้ภัย สปป.ลาว และกู้ภัยจาก จ.หนองคาย บึงกาฬ และอุดรธานี ได้เริ่มต้นค้นหาร่างของเด็กนักเรียนเคราะห์ร้าย แต่มีอุปสรรคเนื่องจากเป็นแม่น้ำกว้างใหญ่ น้ำไหลเชี่ยว แต่ทีมค้นหาก็ไม่ย่อท้อ เพราะว่ามีพ่อแม่ผู้ปกครองญาติเด็กนักเรียนที่สูญหาย และชาวบ้านจำนวนมาก มานั่งรอว่าจะได้พบร่างของลูกแม้ว่าจะไร้วิญญาณแล้วก็ตาม,กระทั่งเวลา 16.30 น. นายปรีชา ไทธนภัทร์ หัวหน้าทีมกู้ภัยมูลนิธิประชาธรรม อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ได้แจ้งว่า พบศพเด็กนักเรียนหญิงเคราะห์ร้าย จมอยู่ใต้น้ำ สภาพยังสวมชุดนักเรียน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กม.เจ้าหน้าที่ได้นำเชือกผูก และนำร่างขึ้นมาท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพ่อแม่และญาติพี่น้อง ซึ่งต่างส่งเสียงร้องไห้ระงมเป็นที่น่าเวทนา และทีมกู้ภัยได้หยุดค้นหา และจะเริ่มค้นหาร่างที่เหลืออีก 9 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วในพรุ่งนี้เช้า.
ระดมนักประดาน้ำ จาก 3 จังหวัดในไทย ค้นหาร่างเด็กนักเรียน 10 คน ที่จมหายต่อหน้าครู และเพื่อนนักเรียน กลางแม่น้ำงึม แขวงนครเวียงจันทน์ หลังเรือข้ามฟากล่ม ล่าสุด พบแล้ว 1 ศพ เป็นนักเรียนหญิง
ข่าว,ทั่วไทย
เรือข้ามฟากล่ม,เรือล่มกลางแม่น้ำงึม,ร.ร.ท่ากกไฮ,เมืองปากงึม,แขวงนครเวียงจันทน์,ครูพาคณะนักเรียนข้ามแม่น้ำงึม,เรือล่ม,ร.ร.บ้านนาหัวทุ่ง,ระดมนักประดาน้ำ,ท่าเรือบ้านนาบง,ค้นร่างเด็กนักเรียน,ข่าว,ข่าวสังคมทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/501544
ฮือฮา ชาวบ้านถ่ายภาพระยะใกล้ วัวกระทิงในเขตชุมชนวังน้ำเขียว
ชาวบ้านอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา สามารถถ่ายภาพคลิปวัวกระทิงขนาดใหญ่เดินอยู่บนถนนในเขตชุมชน สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่พบเห็น โดยนายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยววังน้ำเขียว ได้นำคลิปดังกล่าวเปิดให้ผู้สื่อข่าวชมภาพที่หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา,วันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา สามารถถ่ายภาพคลิปวัวกระทิงขนาดใหญ่เดินอยู่บนถนนในเขตชุมชน สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่พบเห็น และอยู่ใกล้กับวัวกระทิงตัวดังกล่าวเป็นอย่างมาก,โดยผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของคลิปภาพดังกล่าว ซึ่งเจ้าของคลิปไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ แต่ได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์พบวัวกระทิงในคลิปดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (25 กันยายน 2559) เวลาประมาณ 16.00 น. โดยขณะที่ผู้ที่ถ่ายคลิปกำลังนั่งรับประทานกาแฟกับเพื่อนๆ อยู่ที่ร้านกาแฟ 22 องศาเซลเซียส ริมถนนสาย 3052 วังน้ำเขียว-ปากช่อง ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 12-13 ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างนั้น ได้มีกระทิงขนาดใหญ่ตัวหนึ่งเดินมาตามถนนสายดังกล่าว เจ้าของคลิปจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายวิดีโอเจ้ากระทิงตัวดังกล่าว ซึ่งเดินอยู่ห่างจากตัวของเจ้าของคลิปไม่ถึง 5 เมตร โดยเจ้ากระทิง ได้เดินมาตามถนนอย่างเงียบๆ และไม่มีท่าทีดุร้ายแต่อย่างใด โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน 2 นาย คอยเดินตามไล่ต้อนเจ้ากระทิงตัวดังกล่าวให้เดินกลับเข้าไปในป่าอย่างปลอดภัย ซึ่งเจ้ากระทิงที่เดินมาตามถนนนี้ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยว และชาวบ้านหลายคนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริเวณที่พบเห็นกระทิงเป็นเขตชุมชน และไม่ค่อยมีโอกาสพบเห็นกระทิงได้ง่ายนัก,ขณะที่ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (26 ก.ย. 2559) ที่หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยววังน้ำเขียว เปิดเผยว่า จากภาพที่เห็นคาดว่า กระทิงตัวดังกล่าวน่าจะเป็นกระทิงเพศผู้ อายุประมาณ 2-3 ปี น้ำหนักตัวประมาณ 600-700 กิโลกรัม ซึ่งตามปกติแล้วบริเวณเขาแผงม้า ซึ่งมีพื้นที่ติดกับบริเวณดังกล่าวติดกับเขตชุมชน เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางไปเที่ยวชมกระทิงออกมาหากินอาหารอยู่เป็นประจำ แต่ก็ต้องใช้กล้องส่องทางไกลในการดูกระทิง โดยไม่ค่อยได้มีโอกาสพบเห็นกระทิงใกล้ๆ เช่นนี้ ทั้งนี้ คาดว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตการเกษตรของชาวบ้านกำลังออกผล จึงทำให้กระทิงเดินออกมาจากป่าเพื่อหากินอาหารในเขตชุมชน อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนนักท่องเที่ยวว่า ไม่ควรเข้าไปใกล้กระทิงหรือสัตว์ป่าต่างๆ เนื่องจากสัตว์ป่าเป็นสัตว์ดุร้าย และอาจทำอันตรายแก่มนุษย์ได้ ซึ่งตามปกติแล้วกระทิงเมื่อพบเห็นคนมันจะเดินหนี และไม่เข้ามาใกล้คน ดังนั้นหากพบเห็นในระยะไกลก็ให้เดินหนีไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัย แต่ถ้าพบเห็นในระยะใกล้ๆ ก็ควรอยู่นิ่งๆ และไม่ควรส่งเสียงดัง เพราะอาจจะทำให้กระทิงเกิดอาการตกใจเข้ามาทำร้ายได้
ชาวบ้านอำเภอวังน้ำเขียว โคราช สุดตื่นเต้นถ่ายภาพกระทิงในเขตชุมชนได้ในระยะใกล้ คาดเป็นกระทิงออกมาจากเขาแผงม้า ด้านประธานชมรมท่องเที่ยวฯ แนะ หากพบเห็นอย่าเข้าไปใกล้หวั่นเกิดอันตราย
null
วัวกระทิง,ถ่ายภาพ,วังน้ำเขียว,นครราชสีมา,โคราช,ชาวบ้าน,วัวกระทิงขนาดใหญ่,เขาแผงม้า,ปากช่อง
https://www.thairath.co.th/content/734886
เปิดรายชื่อคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 6 คณะ 70 คน
วานนี้ (28 ก.ย.2560) จำนวน 6 คณะรวม 70 คน มีรายละเอียดว่า โดยที่พระราชบัญญัติการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา16 และมาตรา 28 (2) บัญญัติให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติขึ้นคณะหนึ่งหรือ หลายคณะเพื่อพิจารณาจัดทําร่างยุทธศาสตร์ชาติในด้านต่างๆ ตามที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติกําหนด และปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายหรือตามที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติมอบหมาย อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 16 และมาตรา 28 (2) แห่งพระราชบัญญัติการจัดทํา ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติในการประชุมเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560จึงมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติด้านต่าง ๆ ดังนี้พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร เป็นประธานคณะกรรมการ ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย นายจรัมพร โชติกเสถียร พล.อ. ชูศักดิ์ เมฆสุวรรณ์ พล.อ.ทวีป เนตรนิยม นายปณิธาน วัฒนายากร พลเรือเอก ประสาน สุขเกษตร นายวันชาติ สันติกุญชร นายสุวิทย์ สิมะสกุล นางอักษรศรี พานิชสาส์น นายเชิดศักดิ์ สันติวรวุฒิ กรรมการและเลขานุการนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธานคณะกรรมการ ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล นายจรัล งามวิโรจน์เจริญ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายปพนธ์ มังคละธนะกุล นายวิบูลย์ คูสกุล นางวันทนีย์ จิราธิวัฒน์ นายศักดา ธนิตกลุ นายสุภัค ศิวะรักษ์ นางสาวอรกัญญา พิบูลธรรม นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล นายธฤต จรุงวัฒน์ กรรมการและเลขานุการนายกฤษณพงศ์ กีรติกร เป็นประธานคณะกรรมการ ส่วนกรรมการประกอบด้วย นายดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ นายนนทิกร กาญจนะจิตรา นางสาวปิยะธิดา ประดิษฐบาทุกา นายวรเวศม์ สุวรรณระดา นายวรากรณ์ สามโกเศศ นางสาววลัยรัตน์ ศรีอรุณ นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล นายสารัชถ์ รัตนาวะดี นายสมประสงค์ บุญยะชัย นายสุธี อัสววิมล นายอุดม คชินทร นายชาญวิทย์ ผลชีวิน กรรมการและเลขานุการนายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ เป็นประธาน คณะกรรมการประกอบด้วย นายไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ นายพลากร วงค์กองแก้ว นายวรพล โสคติยานุรักษ์ นางวิพรรณ ประจวบเหมาะ นางวีรวรรณ มอสบี้ นายศิริชัย ไม้งาม นายสมชัย จิตสุชน นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ นายสุรเดช เดชคุ้มวงศ์ นางสีลาภรณ์ บัวสาย กรรมการและเลขานุการนายธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล เป็นประธานคณะกรรมการ ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นางสาวนิศรา การุณอุทัยศิริ นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย นายเผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ นายพิสุทธิ์ เพียรมนกุล นายสุวัช สิงหพันธุ์ นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และนางสาวลดาวัลย์ คำภา กรรมการและเลขานุการนายพงศ์โพยม วาศภูติ ประธานกรรมการ ส่วนกรรมการประกอบด้วย นายทรงศักดิ์ วงศ์ภูมิวัฒน์ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ นายภักดี โพธิศิริ นางวรารัตน์ อติแพทย์ นายวิพล กิติทัศนาสรชัย นายวุฒิสาร ตันไชย นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา นายสราวุธ เบญจกุล นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม นายสุเมธ รอยกุลเจริญ พลเอกอาชาไนย ศรีสุข นายดุสิต เขมะศักดิ์ชัย กรรมการและเลขานุการพร้อมกำหนดให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติตามประกาศนี้มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี โดยให้ได้รับค่าตอบแทนค่าใช้จ่าย และประโยชน์ตอบแทนอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านต่าง ๆ จำนวน 6 คณะ รวม 70 คน รวมคนดังในวงการเมือง ทหาร สังคม สิ่งแวดล้อมและการศึกษา มีวาระ 5 ปี
การเมือง
ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,คณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ,ราชกิจจานุเบกษา
https://news.thaipbs.or.th/content/266518
ธนาธร โว นักการเมืองอยากร่วมงาน พรรคอนาคตใหม่ เพียบ
วันที่ 4 ต.ค.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ในวันที่ 6 ต.ค. เวลา 09.00 น. พรรคอนาคตใหม่ จะเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ วันแรก ที่สำนักงานใหญ่พรรคอนาคตใหม่ ชั้น 5 ไทยซัมมิททาวเวอร์ โดยในขณะนี้ตนได้รับการติดต่อจากนักการเมืองหลายกลุ่มที่อยากเข้ามาร่วมงานกับทางพรรค แต่หลายคนยังมีแนวคิดแบบการเมืองเก่าๆ คิดว่าการมาติดต่อกับตน และขอลงสมัครเขตนั้น เขตนี้ ทำได้ง่ายๆ แต่แนวทางของพรรคเราไม่ใช่แบบนั้น เรามีกระบวนการที่ชัดเจนในการคัดสรรผู้สมัคร,ดังนั้น หากใครอยากลงสมัคร ส.ส.ก็ต้องผ่านกระบวนการอย่างถูกต้อง ซึ่งข้อกำหนดของพรรคเราชัดเจนว่า ไม่เอาผู้ที่เคยมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต ผู้มีอิทธิพล โดยเฉพาะผู้ที่เคยสนับสนุนกระบวนการที่นำไปสู่ความไม่เป็นประชาธิปไตย หรือแกนนำม็อบที่นำไปสู่การปฏิวัติ แต่หากเขาอยากร่วมงานกับเราให้ประกาศต่อสาธารณชนว่า สิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พรรคเราไม่ได้กีดกันใคร แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามแนวทางของเรา,นายธนาธร กล่าวอีกว่า แนวทางหลักของพรรคเรา คือ การนำประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับมาและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์และก้าวหน้า หลังจากนี้ พรรคอนาคตใหม่จะเปิดนโยบายเดือน 2 นโยบายเน้นโจทย์หลัก คือ การเปลี่ยนประเทศ แต่นโยบายที่ออกมาไม่ได้ออกมาเพื่อเน้นหาคะแนนเสียง แต่นโยบายของเราเพื่อพัฒนาประเทศจริงๆ ที่ผ่านมา รัฐบาลทุกรัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหาที่รากเหง้า วันนี้ประเทศไทยเดินมาถึงจุดที่ตราบใดที่การเมืองยังไม่นิ่ง เราจะไปแก้ปัญหาอย่างอื่นไม่ได้เลย ทุกวันนี้อำนาจถูกเอาไปใช้เพื่อการชนะกัน ไม่ได้เอาไปแก้ปัญหาประเทศ วันนี้จะเสนออะไรไปก็ทำไม่ได้ หากเราไม่แก้ปัญหาการเมืองก่อน จริงๆประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาก็เคยมีปัญหา แต่เขาทำให้อำนาจเป็นของประชาชน เราต้องทำให้ยั่งยืนไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีกต่อไป โดยเฉพาะการสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้น และต้องทำให้คนเชื่อว่าปัญหาแก้ได้โดยระบบรัฐสภา ตนหวังว่าจะทำให้สำเร็จให้ได้ในรุ่นเรา
ธนาธร โว นักการเมืองอยากร่วมงานพรรคอนาคตใหม่ เพียบ แต่ต้องทำตามหลักการไม่มีทางลัด ชี้ หากการเมืองไม่นิ่ง แก้ปัญหาอื่นไม่ได้ สมัครสมาชิก 6 ต.ค. จ่อ เปิดนโยบาย เน้นไม่ได้หาคะแนนเสียง
ข่าว,การเมือง
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,อนาคตใหม่,สมัครสมาชิกพรรค,6ต.ค.,นักการเมืองอยากร่วมงาน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1390261
ผอ.ไซเบอร์ ทบ.สั่งเฝ้าระวัง ติดตาม หลังลุยปิดเว็บหมิ่นไปแล้ว 435รายการ (คลิป)
ผอ.ศูนย์ไซเบอร์ทบ. ชี้ผลการปราบปรามอย่างหนักทำให้มีผู้หมิ่นสถาบันลดลง ปัจจุบันปิดไปแล้ว 435 รายการ และเร่งดำเนินการปิดอีก 6 พันรายการ ทั้งได้ประสานกับ ก.ดิจิทัล ปอท. และดีเอสไอ ทั้งติดตาม เฝ้าระวัง และตรวจการเผยแพร่ พบผู้กระทำผิดส่วนใหญ่อยู่ ตปท.,เมื่อวันที่ 11 พ.ค.60 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.ฤทธี อินทราวุธ ผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก ร่วมพิธีในวันสถาปนาศูนย์ไซเบอร์กองทัพบกครบรอบปีที่ 16 กล่าวว่า ที่ผ่านมาศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก ได้ดำเนินการเฝ้าระวัง ติดตาม และตรวจการเผยแพร่ข้อมูลทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อสถาบัน รวมจำนวน 820 รายการ โดย Facebook มี จำนวน 365 รายการ/ YouTube จำนวน 450 รายการ และ Twitter จำนวน 5 รายการ และได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการปิดกั้นและดำเนินคดีตามกฎหมาย,อีกทั้งยังได้ประสานดำเนินการปิดกั้นเว็บหมิ่นสถาบันฯ ไปแล้ว 435 รายการ อยู่ระหว่างดำเนินการ 111 รายการ และที่เปิดขึ้นมาใหม่ 274 รายการ แยกเป็น กลุ่มและบุคคลที่กระทำความผิด ซึ่งอยู่ต่างประเทศประมาณ 7-8 ราย และยังไม่ทราบแหล่งที่มาอีกประมาณ 18 ราย แต่ขณะนี้ได้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่าเป็นกลุ่มใด เชื่อเป็นกลุ่มเดิมที่เคยกระทำความผิด,การกระทำผิดด้านการหมิ่นสถาบันในปัจจุบันมีจำนวนลดน้อยลง โดยได้รับความร่วมมือจากประชาชน สื่อมวลชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้เร่งดำเนินการปิดเว็บหมิ่นสถาบันอีกกว่า 6,000 รายการ แต่ก็ยอมรับว่าติดขัดในเรื่องของข้อกฎหมายในต่างประเทศ รวมถึงการที่ผู้กระทำความผิดที่อยู่ต่างประเทศด้วย แต่ได้ประสานความร่วมมือในฐานะมิตรประเทศไปบ้างแล้ว พล.ต.ฤทธีกล่าว,ส่วนกรณีกระทำความผิดผ่านเฟซบุ๊กหรือยูทูบนั้น ผอ.ศูนย์ไซเบอร์ ทบ. กล่าวว่า ส่วนใหญ่ผู้กระทำผิดอยู่ในต่างประเทศ จึงอาศัยช่องว่างทางกฎหมายในการโพสต์หมิ่นสถาบันได้ แต่หาก ISP เป็นของประเทศไทยก็สามารถดำเนินการปิดกั้นได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็มีบางกลุ่มที่สามารถใช้เทคนิคในการหลบเลี่ยงแสดงข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และขณะนี้จำนวนผู้กระทำความผิดมีจำนวนลดลงตามลำดับ.
ผอ.ศูนย์ไซเบอร์ทบ. ชี้ผลการปราบปรามอย่างหนักทำให้มีผู้หมิ่นสถาบันลดลงปัจจุบันปิดไปแล้ว 435รายการ และเร่งดำเนินการปิดอีก 6พันรายการ ทั้งได้ประสานกับ ก.ดิจิทัล ปอท. และดีเอสไอ ทั้งติดตาม เฝ้าระวัง และตรวจการเผยแพร่ พบผู้กระทำ
ข่าว,การเมือง
ศูนย์ไซเบอร์ ทบ.,วันสถาปนาศูนย์ไซเบอร์,ศูนย์ไซเบอร์ ทบ.ครบรอบ16 ปี,กองทัพบก,เว็บหมิ่น
https://www.thairath.co.th/news/politic/937803
หนองบัวลำภูเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ตร. 47 ตร.พ้นถูกฟ้องล้มละลายจากหนี้กว่าร้อยล้าน
วันนี้ (8 ส.ค.2558) พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจ หลังได้รับแจ้งจากผู้บริหารธนาคารออมสินว่า ผลการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้สินของตำรวจในพื้นที่ ที่ดำเนินการมากว่า 8 เดือน ประสบผลสำเร็จซึ่งเกิดจากความพยายามเจรจาระหว่างผู้บังคับบัญชากับธนาคาร เพื่อขอปรับลดดอกเบี้ย และให้ตำรวจกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ มาชำระเงินต้นของธนาคาร รวมทั้งมีการหักเงินชำระหนี้ผ่านบัญชีเงินเดือนโดยตรง ทำให้ตำรวจที่เป็นหนี้สินจำนวนมากไม่ถูกฟ้องล้มละลายสำหรับบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู มีตำรวจในสังกัดทั้งหมด 760 นาย เป็นหนี้สินกว่า 600 นาย รวมมูลค่าหนี้สินกว่า 400 ล้านบาท ก่อนหน้านี้มีผู้ที่กำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย 47 นาย เป็นเงิน 100 กว่าล้านบาท แต่หลังจากเข้าเจรจากับธนาคาร เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้ไม่มีผู้ถูกฟ้องล้มละลาย จึงเป็นพื้นที่นำร่องแก้ไขปัญหาหนี้สินของตำรวจภูธรภาค 4 ที่ประสบความสำเร็จ
บก.ภ.จว.หนองบัวลำภู เผยโครงการนำร่องแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจในสังกัด ประสบผลสำเร็จสามารถเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ ทำให้ตำรวจกว่า 40 นาย ไม่ถูกฟ้องล้มละลาย
สังคม
ตำรวจภูธรภาค 4,หนองบัวลำภู,หนี้ตำรวจ,หนี้สิน
https://news.thaipbs.or.th/content/4217
พ่อตายแล้ว หนุ่มหาปลาขาย เก็บเงินค่าน้ำมันไปหาลูกสาว กลายเป็นศพลอยน้ำ
หนุ่มใหญ่วัย 51 ปี หาปลาตะเพียนขาย นำเงินเป็นค่าน้ำมันรถเดินทางไปหาลูกสาวในตัวเมืองชัยนาท อยู่ดีๆ กลายเป็นศพลอยคว่ำหน้ากลางแม่น้ำท่าจีน ชาวบ้านพูดเสียงเดียวกัน ผู้ตายนิสัยดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร  ,เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ก.ย. 2560 ร.ต.อ.เนตร เถื่อนผึ้ง รองสว. (สอบสวน) สภ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท รับแจ้งเหตุศพลอยน้ำ ที่บริเวณ สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ต.วัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาทและแพทย์เวร โรงพยาบาลวัดสิงห์,ที่เกิดเหตุ พบศพนายจวน โพธิ์แก้ว อายุ 51 ปี ใส่เสื้อลายสก๊อตสีส้ม กางเกงสามส่วนสีน้ำเงิน ลอยคว่ำอยู่กลางแม่น้ำท่าจีน เจ้าหน้าที่จึงรีบนำศพผู้เสียชีวิตขึ้นมาบนฝั่ง จากการชันสูตรพลิกศพ ผู้ตายเสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายใดๆ จึงนำศพส่งมอบญาติเพื่อประกอบพีธีกรรมทางศาสนาต่อไป,จากการสอบสวนทราบว่า นายจวน อาศัยอยู่ที่ ม.2 ต.หนองบัว อ.วัดสิงห์ ขี่จักรยานยนต์ นำปลาตะเพียนไปขายให้กับแม่ค้าที่ ตลาดสด ช่วงเย็นของวันที่ 5 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นค่าน้ำมันและเงินเดินทางไปหาลูกสาวในตัวเมืองชัยนาท จากนั้นก็หายไป ไม่เอาปลามาขายอีก จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น สร้างความสลดและเสียใจแก่คนที่รู้จักผู้ตายเป็นอย่างยิ่งเนื่องจาก ผู้ตายเป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร
หนุ่มใหญ่วัย 51 ปี หาปลาตะเพียนขาย นำเงินเป็นค่าน้ำมันรถเดินทางไปหาลูกสาวในตัวเมืองชัยนาท อยู่ดีดีกลายเป็นศพลอยคว่ำหน้ากลางแม่น้ำท่าจีน ชาวบ้านพูดเสียงเดียวกัน ผู้ตายนิสัยดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร
ข่าว,ทั่วไทย
เดินทางหาลูกสาว,หาปลา,ขายปลา,ศพลอยน้ำ,ชัยนาท,ข่าวเหตุ
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1062737
ย้อนประวัติศาสตร์เพลงฟุตบอลโลกที่กลายเป็นปรากฏการณ์ในโลกดนตรี
ถ้าไม่นับพิธีเปิดอันยิ่งใหญ่ในการแสดงของประเทศเจ้าภาพในแต่ละปี หรือเสียงเป่านกหวีดของกรรมการประจำสนาม เพลง คืออีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ช่วย กระตุ้น ความสนใจและบ่งบอกว่ามหกรรมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ตลอดระยะเวลา 56 ปี นับตั้งแต่ปี 1962 ที่มีเพลงประจำบอลโลกเกิดขึ้นที่ประเทศชิลี มีศิลปินมากมายที่เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสีสันให้การแข่งขันแต่ละครั้ง และไม่ใช่แค่ในสนาม เพราะมีหลายเพลงที่ยังสร้างปรากฏการณ์ที่น่าสนใจระดับโลกเอาไว้มากมาย และเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงพลังของ เสียงเพลง ที่มีอิทธิพลกับทุกวงการ แม้กระทั่งวงการ ลูกหนัง ที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยก็ตามEl Rock del Mundial – Los Ramblers (1962)ย้อนกลับไปเมื่อ 56 ปีที่แล้วในการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 7 ที่ประเทศชิลีเป็นเจ้าภาพ เนื้อร้องท่อนสั้นๆ ในภาษาสเปน Gol gol de Chile ได้ดังกระหึ่มไปทั่วโลกก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้น 3 สัปดาห์ และถูกจารึกไว้อย่างเป็นทางการว่านี่คือ เพลงธีม ฟุตบอลโลกเพลงแรกนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพลงนี้ถูกแต่งขึ้นมาโดย Los Ramblers วงร็อกดาวรุ่งสัญชาติชิลีที่ได้รับมอบหมายให้แต่งเพลงขึ้นมาเพื่อ เชียร์ ทีมชาติชิลีโดยเฉพาะ แต่เนื่องจากเป็นเพลงแรกที่ถูกนำมาใช้ในการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบกับท่วงทำนองที่สนุกสนานชวนให้คิดถึงราชาเพลงร็อก เอลวิส เพรสลีย์ เร้าอารมณ์ด้วยเสียงปรบมือและเสียงนกหวีดของกรรมการมาประกอบจังหวะ ทำให้กลายเป็นเพลงฮิตไปทั่วลาตินอเมริกาอย่างรวดเร็ว และทำให้อัลบั้ม The Ramblers สามารถขายได้มากถึง 2 ล้านก๊อบปี้ทั่วโลก เมื่อฟุตบอลโลกครั้งนั้นจบลงก็ถือเป็นการแจ้งเกิด Los Ramblers อย่างเป็นทางการ โดยมีผลงานออกมาทั้งหมด 8 อัลบั้มตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี และโลดแล่นอยู่บนเส้นทางดนตรีจนถึงปัจจุบัน กระทั่ง ฮอร์เก โรฆาส แอสตอร์กา มือเปียโนผู้ก่อตั้งวงเสียชีวิตลงในวัย 80 ปี เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเพลง El Rock del Mundial – Los Ramblers World Cup Willie – Lonnie Donegan (1966)4 ปีต่อมาที่ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพ เพลงฟุตบอลโลกถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยฝีมือของลอนนี โดนิแกน ศิลปินชาวสกอตแลนด์ที่ไปเติบโตที่ประเทศอังกฤษ และได้ฉายาว่า The King of Skiffle โดยเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อเจ้าสิงโตวิลลี่ที่นับว่าเป็น มาสคอต ตัวแรกประจำการแข่งขันฟุตบอลโลกจนกลายเป็นธรรมเนียมมาจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นเพลงฉลองแชมป์ให้กับทีมชาติอังกฤษที่สามารถเอาชนะทีมชาติเยอรมนีในการแข่งขันปีนั้นได้อย่างสวยงาม เพื่อให้เหมาะแข่งขันของคนทั้งโลกมากขึ้น คราวนี้เนื้อเพลงไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อเชียร์ทีมชาติอังกฤษอย่างเดียวเท่านั้น แต่พูดถึงความ คลั่งไคล้ ในกีฬาฟุตบอลของผู้คนทั่วทั้งโลก และเปลี่ยนแนวเพลงจากร็อกแอนด์โรลในปี 1962 มาเป็นแนวนิวออร์ลีนส์แจ๊ซเจือกลิ่นเพลงคันทรีที่เพิ่มความสนุกสนานด้วยเครื่องเป่าและจังหวะกลองสนุกๆ เพลง World Cup Willie – Lonnie Donegan Unestate Italiana – Edoardo Bennato & Gianna Nannini (1990)นอกจากเพลง Fútbol México 70 ของโรแบร์โต ดู นาสซิเมนโต ที่ใช้แนวเพลงสไตล์เม็กซิกันที่ฟังคึกคักชวนเต้นกันแบบสุดเหวี่ยงในปี 1970 หรือเพลง El Mundial ของเอ็นนิโอ มอร์ริโคเน ที่ชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ หัตถ์พระเจ้า ที่ดิเอโก มาราโดนา พาอาร์เจนตินาที่เป็นเจ้าภาพในปีนั้นคว้าแชมป์ไปแบบช็อกโลกในปี 1978 ก็แทบไม่มีเพลงใดโดดเด่นหรือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจดจำได้อีก กระทั่งปี 1990 ที่ประเทศอิตาลีเป็นเจ้าภาพและได้ถือกำเนิดหนึ่งในเพลงฟุตบอลโลกที่ได้รับการยอมรับว่า ดีที่สุดในโลก ขึ้นมา เวอร์ชันต้นฉบับเป็นของเอโออาร์โด เบนนาโต กับจานนา นานนินี ศิลปินดูโอชาวอิตาเลียน และเป็นเพลงแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกที่มีการเรียบเรียงใหม่เป็นภาษาอังกฤษที่ทุกคนคุ้นหูกันในชื่อ To Be Number One โดยจอวานนี จอร์จิโอ โมโรเดอร์ นักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ เจ้าของ 4 รางวัลแกรมมี่ ถึงแม้เพลงนี้จะไม่ได้ใช้ท่วงทำนองสนุกสนานเร้าใจ แต่เลือกใช้ความทรงพลังของดนตรีแนวบัลลาดร็อก มีท่อนโซโลหวานบาดใจเป็นเอกลักษณ์ ผสานกับเนื้อเพลงที่ถ่ายทอดความหมายของการเล่นฟุตบอลที่อยู่เหนือ ชัยชนะ ได้อย่างลึกซึ้งกินใจ ทำให้เพลงนี้ติดชาร์ตอันดับหนึ่งในประเทศอิตาลีนานหลายสัปดาห์ รวมทั้งขึ้นท็อปชาร์ตในหลายประเทศทั่วโลก และยังเป็นเพลงประจำฟุตบอลโลกเพลงแรกที่มีการปล่อยเวอร์ชัน คาราโอเกะ ให้แฟนบอลสามารถเอาไปร้องกันเองได้ตามสบายอีกด้วยเพลง To Be Number One – Giovanni Giorgio Moroderไม่เพียงแค่นั้น ฟุตบอลโลก ปี 1990 ยังมีปรากฏการณ์ทางดนตรีที่น่าสนใจคือเพลง World in Motion ที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษได้มอบหมายให้วงระดับตำนานอย่าง New Order แต่งเพลงเชียร์ทีมชาติอังกฤษโดยเฉพาะขึ้นมาในปีนี้ ความพิเศษคือการให้นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษอย่าง พอล แกสคอยน์ ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ เดส วอล์กเกอร์ สตีฟ แม็กมาฮอน มาร่วมร้องประสานเสียง ที่สำคัญยังเรายังได้สกิลการ แรป ของจอห์น บาร์นส์ ปีกในตำนานขวัญใจแฟนบอลทีมลิเวอร์พูลในเพลงนี้อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีเพลง Wir sind schon auf dem Brenner ของอูโด เจอร์เกนส์ ที่ได้ร่วมร้องเพลงกับนักฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีตะวันตกแบบยกทีม นำโดยฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ และโลธาร์ มัทเธอุส อีกหนึ่งเพลงธีมคือ Put Em Under Pressure เพลงเชียร์ของทีมชาติไอร์แลนด์ ได้ตำนานที่ยังมีชีวิตอย่างแลร์รี มูลเลน มือกลองแห่งวง U2 มาสร้างสรรค์และนำพลพรรคยักษ์เขียวมาร่วมกันร้องเพลงนี้ร่วมกัน โดยมีท่อนฮุก Olé Olé Olé ที่แฟนบอลทั่วโลกคุ้นหูและกลายเป็นอีกหนึ่งเพลง เชียร์ ที่ดีที่สุดในโลกมาจนถึงทุกวันนี้ เพลง Put Em Under Pressure The Cup of Life – Ricky Martin (1998) เพลง To Be Number One อาจยิ่งใหญ่ที่สามารถครองใจแฟนบอลพันธุ์แท้ทั่วโลกได้ แต่ The Cup of Life ของริกกี้ มาร์ติน ยิ่งใหญ่เพราะสามารถครองใจ แฟนเพลง ทั่วทั้งโลก คงไม่เกินไปนักถ้าจะบอกว่าคนที่เกิดทันยุคนั้น ไม่ว่าจะเคยดูฟุตบอลมาก่อนหรือเปล่าจะต้องสามารถร้องท่อนที่ว่า Here we go Ale ale ale Go go go Ale ale ale กันได้ทุกคน และยังช่วยปลุกกระแสให้ฟุตบอลโลกที่ประเทศฝรั่งเศสมีคนสนใจมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ด้วยดนตรีแนวละตินป๊อปแดนซ์ชวนเต้น ท่วงทำนองติดหู จำง่าย ทำให้ศิลปินชาวเปอร์โตริโกที่เริ่มเป็นที่รู้จักในตอนนั้นโด่งดังเป็นพลุแตก และเพลง The Cup of Life ก็ได้อันดับท็อปเท็นของชาร์ตเพลงทั่วโลก และสามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้ในประเทศสเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย อิตาลี เยอรมนี และฝรั่งเศส ทำให้อัลบั้ม Vuelve ของริกกี้ มาร์ติน ที่มีเพลงนี้รวมอยู่ด้วยทำยอดขายทั่วโลกไปได้ 8 ล้านก๊อบปี้ และคว้ารางวัลแกรมมี่ในปี 1999 สาขา Best Latin Pop Performance มาครองได้สำเร็จ ความสำเร็จของ The Cup of Life ทำให้เพลงฟุตบอลโลกในปีต่อๆ มาถูกผูกขาดด้วยแนวดนตรีสนุกสนานและพยายามเข้าถึงคนฟังส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่แฟนบอลมากขึ้น แต่ก็ไม่มีเพลงใดที่สร้างปรากฏการณ์แบบนั้นได้อีกจนกระทั่งปี 2010 เพลง The Cup of Life – Ricky MartinWaka Waka – Shakira feat. Freshlyground (2010)แม้จะมีดราม่าตั้งแต่ประกาศออกมาว่าเพลงนี้จะถูกขับร้องโดยนักร้องชาวโคลอมเบียอย่างชากีรา แทนที่จะเป็นนักร้องจากแอฟริกาใต้ที่เป็นเจ้าภาพในปีนั้น แต่จากยอดวิวมิวสิกวิดีโอเพลงในยูทูบมากกว่า 1.8 พันล้านครั้ง ทำให้ท่าเต้นสะบัดสะโพกกลายเป็น มีม ที่มีคนเอามาคัฟเวอร์เต็มไปหมด ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งมากกว่าที่ The Cup of Life เคยทำไว้ และทำยอดขายไปได้มากถึง 10 ล้านก๊อบปี้ในยุคที่การฟังเพลงในอินเทอร์เน็ตกำลังครองโลก ก็พอจะได้บอกว่าชากีราสามารถทำหน้าที่ของตัวเองในเพลงนี้ได้อย่างเต็มที่แล้วจริงๆ ชื่อเพลง Waka Waka เป็นภาษาถิ่นที่แปลได้ว่า This Time for Africa โดยเพลงนี้ถูกดัดแปลงจากเพลง Zangalewa ของวง Golden Sounds เนื้อเพลงพูดถึงการให้กำลังใจนักเตะในสนามฟุตบอลที่จะต้องลงไปฟาดฟันกับคู่แข่งโดยแบกชื่อเสียงของประเทศเอาไว้บนบ่า และยังไม่ลืมที่จะพูดถึงประเทศแอฟริกาใต้ที่ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในฐานะประเทศที่พร้อมต้อนรับทุกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่ทำให้ชากีราประสบความสำเร็จในฐานะนักร้องเท่านั้น แต่ยังมีมุมน่ารักของเพลง Waka Waka ที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้นักร้องสาวมีโอกาสพบกับเคราร์ด ปิเก้ กองหลังคนสำคัญที่พาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ในปีนั้น และเริ่มต้นความสัมพันธ์จนทั้งคู่ประสบความสำเร็จในด้านชีวิตคู่อีกด้วย เพลง Waka Waka – Shakira feat. Freshlygroundฟุตบอลโลก 2010 ยังมีอีกปรากฏการณ์ดนตรีที่น่าสนใจคือการมีเพลงอย่าง Wavin Flag ของ Knaan แรปเปอร์ชาวโซมาลี ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพลงฟุตบอลโลกที่บอกเล่าเรื่องราวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามจนต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยไร้ที่อยู่อาศัย และสิ่งที่พวกเขาต้องการนอกเหนือจากเงินทองของและบริจาคคือ อิสระ ในการใช้ชีวิตที่พวกเขาควรได้รับในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีคนเข้าไปดูมิวสิกวิดีโอนี้มากถึง 107 ล้านวิว เพลง Wavin Flag – Knaan ปี 2010 ยังเป็นครั้งแรกที่ศิลปินไทยมีโอกาสร่วมงานในมหกรรมฟุตบอลโลกครั้งนี้ถึง 2 คนคือ ซานิ-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ ที่เพิ่งคว้าแชมป์จากรายการ True Academy Fantasia ซีซัน 6 ได้ไปร่วมร้องและถ่ายมิวสิกวิดีโอ Oh Africa เพลงประจำแคมเปญฟุตบอลโลก 2010 ของเป๊ปซี่ โดยศิลปินฮิปฮอประดับโลกอย่าง Akon และ จุ๋ย จุ๋ยส์ (สุทธิพงศ์ สุทินรัมย์) ที่เพลง สู้สิสู้ ได้รับการอนุมัติจากฟีฟ่าให้อยู่ใน Listen Up The Official 2010 FIFA World Cup Album อัลบั้มอย่างเป็นทางการของเพลงฟุตบอลโลก 2010 Live It Up – Nicky Jam feat. Will Smith & Era Istrefi (2018)ส่วนเพลงหลักประจำฟุตบอลโลกที่รัสเซียในปีนี้ยังคงคอนเซปต์ของความเป็นลาตินอเมริกาเอาไว้ด้วยการให้นิกกี้ แจม ศิลปินชาวโคลอมเบีย ซูเปอร์สตาร์ของวงการดนตรีเร็กเก้และละติน มาร่วมฟีเจอริงกับวิล สมิธ นักแสดงและแรปเปอร์ชื่อดังเจ้าของรางวัลแกรมมี่ และเอรา อิสเทรฟี ศิลปินสาวป๊อปแดนซ์จากโคโซโวมาสร้างสีสัน และที่สำคัญยังได้ดีเจและโปรดิวเซอร์ตัวพ่อแห่งวงการอีดีเอ็มยุคนี้มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ในเพลงนี้ด้วย เพลง Live It Up – Nicky Jam feat. Will Smith & Era Istrefi อ้างอิง:
El Rock del Mundial ของ Los Ramblers คือเพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลโลกเพลงแรก เกิดขึ้นในปี 1962 ที่ประเทศชิลีเป็นเจ้าภาพ โดยเนื้อเพลงถูกแต่งขึ้นมาเพื่อเชียร์ทีมชาติชิลีโดยเฉพาะUnestate Italiana หรือ To Be Number One เพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 1990 คือหนึ่งในเพลงที่ถูกยกย่องให้เป็นเพลงฟุตบอลโลกที่ดีที่สุดมาจนถึงตอนนี้The Cup of Life ของริกกี้ มาร์ติน ในปี 1998 คือเพลงฟุตบอลโลกเพลงแรกที่สร้างปรากฏการณ์ฮิตไปทั่วโลก แม้กระทั่งคนที่ไม่เคยดูฟุตบอลมาก่อนก็ต้องรู้จักเพลงนี้Waka Waka ของชากีรา ในปี 2010 มีคนเข้าไปชมมิวสิกวิดีโอในยูทูบมากถึง 1.8 พันล้านครั้ง และทำยอดขายทั่วโลกได้ 10 ล้านก๊อบปี้เพลงประจำฟุตบอลโลก ปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย คือเพลง Live It Up เป็นการร่วมงานกันระหว่าง นิกกี้ แจม วิล สมิธ และเอรา อิสเทรฟี โดยมี Diplo ตัวพ่อแห่งวงการอีดีเอ็มมารับหน้าที่โปรดิวเซอร์
null
null
https://thestandard.co/fifa-world-cup-songs/
สาวฟรีแลนซ์ตายเปลือยคาคอนโด ทิ้งปริศนาพร้อม ยาลดความอ้วน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 พ.ค.61 ร.ต.อ.จิราเมธ จุลพิภพ ร้อยเวร สน.โคกคราม รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตตายผิดธรรมชาติภายในคอนโดแห่งหนึ่ง ในซอยนวมินทร์ 86 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผกก.สส.น.2 พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอดประทุมวัน รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม ทีมแพทย์และกองพิสูจน์หลักฐาน,ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดส่วนบุคคล ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.บุษยา การุญ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 ซอยเมธีนิเวศน์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. สภาพเปลือยกายบนเตียงนอน ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 วัน,ทางด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ารับแจ้งเวลา 11.00 น. ตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตบนเตียงนอน สภาพเปลือยกาย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7-10 วัน สภาพหนังเริ่มลอก ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุพบยาบ้างชนิดตกอยู่ และไม่ใช่ยาทั่วไปที่กินกัน ยังไม่ทราบว่าจะเป็นยาลดความอ้วนหรือไม่,จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นคนตัวใหญ่ แต่ตอนนี้ตัวเล็ก เห็นคนในคอนโดบอกว่า ผู้เสียชีวิตกินยาลดความอ้วน พักอยู่คนเดียว ทำงานเป็นฟรีแลนซ์ รับงานทั่วไป ตอนหลังเป็นโรคซึมเศร้า ตั้งแต่มารดาเสีย ประกอบกับตกงาน ก็เก็บตัวอยู่แต่ภายในห้องพัก จนถูกตัดไฟ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งมาพบศพดังกล่าว,สำหรับยาที่พบจำนวนหลายเม็ด จะเป็นยาลดความอ้วนหรือไม่นั้น ต้องรอส่งกองวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง รอง ผบช.น.กล่าวทิ้งท้าย.
ยาลดอ้วนมรณะส่อคร่าสาวฟรีแลนซ์วัย 27 ดับคาเตียงนอน หลังคนในคอนโดเผย ผู้ตายเป็นคนตัวใหญ่ มาระยะหลังกินยาลดอ้วน ทำน้ำหนักลดฮวบ ด้านตร.เร่งหาข้อเท็จจริง
ข่าว,อาชญากรรม
ยาลดความอ้วน,ยาลดอ้วน,สาวฟรีแลนซ์,ตายเปลือย,ตายปริศนา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1272244
ไพบูลย์ เผยบิ๊กป้อมตอบรับ จ่อซบ พปชร. เลิกทำพรรคประชาชนปฏิรูป
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 22 ส.ค. ที่รัฐสภา เกียกกาย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป (ปชช.) เปิดเผยว่า ตนจะเลิกทำพรรคการเมืองดังกล่าวเนื่องจากกรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรค มีมติเอกฉันท์ให้เลิกทำพรรค เพราะเห็นว่าพรรคมี ส.ส.แค่คนเดียว และกก.บห.พรรคส่วนใหญ่ ไม่มีเวลาในการร่วมจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง และประสานงานสร้างตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดอีก 69 พรรค ตามกฎหมายเลือกตั้งสส.และพรรคการเมือง,นอกจากนี้ กก.บห.พรรคจำนวนมาก ยังมีภารกิจส่วนตัวอื่นๆ ที่ต้องทำเป็นจำนวนมาก จึงเห็นว่า ควรยกเลิกพรรคประชาชนปฏิรูป โดยตนเองจะต้องหาพรรคการเมืองใหม่สังกัดเพื่อรักษาสถานภาพความเป็น ส.ส.ให้ได้ภายใน 60 วัน หลังยกเลิกพรรคการเมือง ทั้งนี้ เบื้องต้น ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ว่า จะขอย้ายเข้าไปร่วมสังกัดกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งพล.อ.ประวิตร ก็ไม่ขัดข้อง โดยจะขอให้อยู่ช่วยงานกับพรรคพลังประชารัฐ ด้านกฎหมาย ทั้งนี้ ส่วนตัวจะต้องรอให้กระบวนการยกเลิกกิจการพรรคการเมืองเสร็จสิ้นตามกฎหมายก่อนที่จะต้องมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. นี้ หลังจากนั้น จะเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ อันจะถือว่า เป็นส.ส.พรรคพลังประชารัฐเต็มตัวนับตั้งแต่วันที่ไปสมัคร,จะเป็นการเพิ่มจำนวน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐจาก 116 เสียง เป็น 117 เสียง ส่วนสมาชิกพรรคเดิมที่มีกว่า 14,000 คน ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ขัดข้องและทราบถึงข้อจำกัดของพรรคเป็นอย่างดี โดยต่างเห็นพ้องว่า จะย้ายไปสังกัดเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐด้วย เนื่องจากมีอุดมการณ์ตรงกัน คือ การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ และเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ประชาชนนำมาปฏิบัติ นายไพบูลย์ กล่าว,เมื่อถามว่า การย้ายไปเป็น ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ จะมีผลให้ต้องมีการคำนวณสัดส่วนจำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคจะพึงมีใหม่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นแค่การรักษาสถานภาพความเป็นส.ส.เท่านั้น จึงไม่ต้องมีการคำนวณสัดส่วน ส.ส.ใหม่แต่ประการใด
ไพบูลย์ เลิกทำพรรค ปชช.จ่อซบ พปชร. ฟุ้ง อุดมการณ์ตรงกัน แถมเพิ่มเสียงให้ พปชร.เผย บิ๊กป้อม ตอบรับแล้ว เชื่อ ไม่มีปัญหาต้องคำนวณ ส.ส.ใหม่
ข่าว,การเมือง
ไพบูลย์ นิติตะวัน,เลิกทำพรรคประชาชนปธิรูป,พลังประชารัฐ,พปชร.,ยุบพรรคประชาชนปฏิรูป,รักษาสถานภาพส.ส.,คำนวนสัดส่วนส.ส.ใหม่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1643266
แฮกเฟซ ต๋อย เผ่าฅณฑี หลอกยืมเงินคนสนิท เหยื่อหลงเชื่อสูญหลายหมื่น
วันที่ 1 ธ.ค.60 นายธนภณ ถาวรธนัตกุล หรือ ต๋อย เผ่าฅณฑี นักแสดงภาพยนตร์จากเรื่อง ใบ้หัวใจนี้เพื่อเธอ และศิลปินเพื่อชีวิต พร้อมด้วย นายสมนึก โอภาส หรือโก๋ชู อิมโพรไวซ์ อายุ 46 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ธีระพงศ์ ภัทรทิภารมย์ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพที่แฮกเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายธนภณ โดยหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน ซึ่งมีผู้ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปให้มิจฉาชีพกลุ่มนี้หลายหมื่นบาท โดยนำเอกสารหลักฐานการพูดคุยทางเฟซบุ๊กและชื่อบัญชีที่ใช้ในการโอนเงินมามอบให้กับเจ้าหน้าที่,นายธนภณ กล่าวว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนทำงานอยู่ มีน้องที่รู้จักอยู่ในจังหวัดราชบุรีโทรศัพท์มาสอบถามตนว่า พี่ต๋อยยืมตังค์ผมทำไม คนอย่างพี่ต๋อยยืมตังค์ผมด้วยหรอ ตนจึงตอบไปว่าคงไม่ใช่ตน ทำให้ตนรีบเข้าเฟซบุ๊กส่วนตัว แต่ไม่สามารถเข้าไปในเฟซบุ๊กของตัวเองได้ จึงคิดว่าเฟซบุ๊กตนคงโดนมิจฉาชีพแฮกแน่นอน และไม่สามารถโพสต์ข้อความเตือนเพื่อนในเฟซบุ๊กได้ทันที จึงทำให้มีผู้ที่หลงเชื่อโอนเงินไปให้กับมิจฉาชีพกลุ่มนี้ 2 คน รวมเป็นเงิน 27,000 บาท,โดยพฤติกรรมของมิจฉาชีพ ได้ทักข้อความส่วนตัวของเพื่อนในเฟซบุ๊ก โดยสอบถามว่ามีโมบายแบงกิ้ง หรือแอปโอนเงินในโทรศัพท์หรือไม่ เมื่อเหยื่อตอบว่ามี จะอ้างต่อไปว่าต้องการขอยืมเงินเพื่อโอนไปให้ญาติก่อน ทำให้ผู้เสียหายเห็นชื่อบัญชีธนาคารคนอื่น จึงไม่สงสัย หลงเชื่อรีบโอนเงินเข้าไปให้มิจฉาชีพทันที โดยยังไม่ได้โทรศัพท์มาสอบถามตนก่อน เพราะหากมีการไปโอนเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ผู้เสียหายอาจจะโทรศัพท์มาสอบถามตนก่อนได้ นอกจากนี้ยังมีเพื่อนตนถูกหลอกในลักษณะเดียวกันแต่ไม่ได้โอนเงินไปให้มิจฉาชีพ เพราะรู้ทันคนร้ายและได้โทรมาสอบถามว่าตนได้ขอยืมเงินหรือไม่ อย่างไรก็ตามที่มาแจ้งความในวันนี้เพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว และตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้ตรวจสอบ พร้อมประสานฝ่ายสืบสวนให้ดำเนินการหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ต๋อย เผ่าฅณฑี นักแสดงภาพยนตร์ และศิลปินเพื่อชีวิต ร้องตำรวจปอท. เอาผิดมิจฉาชีพแฮกเฟซบุ๊ก หลอกยืมเงินรุ่นน้องคนสนิทผ่านข้อความ อ้างจะโอนไปให้ญาติ เหยื่อหลงเชื่อสูญเงินหลายหมื่นบาท
ข่าว,อาชญากรรม
ต๋อย เผ่าฅณฑี,หลอกยืมเงิน,แฮกเฟซบุ๊ก,ศิลปินเพื่อชีวิต,มิจฉาชีพ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1141608
เพิ่มข้อหาที่ 10 แก๊งออฟโรด ยิงปืนในเขตป่า
วันนี้ (9 ต.ค.2561) นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี นำชิ้นส่วนของสัตว์ ประกอบด้วยฟันกรามกระดูก ชิ้นเนื้อ และขนสัตว์สีดำ ที่คล้ายเป็นของหมีขอ ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นได้ภายในอุทยานแห่งชาติไทรโยค ใกล้กับที่พักของกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 11 คน เมื่อวานนี้มาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรไทรโยค โดยหลังจากที่แจ้งความกับพนักงานสอบสวนวันนี้แล้ว จะส่งหลักฐานที่พบให้กับหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ว่าตรงกับอุ้งตีนหมีขอที่ตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้หรือไม่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ยังระบุว่า จากพฤติการณ์และหลักฐานที่พบ ขณะนี้เชื่อได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด มีพฤติการณ์ร่วมกันล่าสัตว์ป่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคขณะที่พนักงานสอบสวนได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 11 คน ไปขออำนาจศาลจังหวัดกาญจนบุรีฝากขังผัดแรกแล้ว โดยท้ายคำร้องคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ และเกรงว่าหากได้รับการประกันตัวผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จะนำของกลาง ซากอุ้งตีนหมี ชิ้นเนื้อ และวัตถุพยานที่พบจากการเก็บหลักฐาน ส่งมาให้ทีมนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า ตรวจสอบดีเอ็นเอ ซึ่งคาดว่าอาจจะใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์อ่านข่าวเพิ่มเติม
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค นำหลักฐานชิ้นส่วนสัตว์ป่า ที่ตรวจพบในอุทยานฯ มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพิ่มแจ้งอีก 1 ข้อหายิงปืนในเขตป่า รวมเป็น 10 ข้อแก๊งปลัดออฟโรด ขณะที่วันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) ส่งซากชิ้นเนิ้อตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอที่แล็บกรมอุทยาน
สิ่งแวดล้อม
ล่าหมีขอ,หมีขอ,อุทยานแห่งชาติไทรโยค,กาญจนบุรี,ปลัดไรเฟิล,ล่าหมี,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ปลัดหมีขอ
https://news.thaipbs.or.th/content/275016
โครงการศิลปะฤดูร้อนค่ายศิลปิน สร้างฝัน สร้างแรงบันดาลใจ กับเยาวชนรุ่นใหม่
เยาวชนค่ายเด็กสร้างหนังกว่า 70 คน ได้มีโอกาสหยิบจับอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ไม่ถนัดมือนัก และตั้งใจถ่ายทำกันสุดฝีมือ เพื่อให้ได้มุมภาพที่สวยงาม และนำไปลำดับภาพ ให้หนังสั้นออกมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด ตามที่ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับภาพยนตร์ ให้คำแนะนำ ทั้งคิดบท เลือกมุมกล้อง และตัดต่อ ซึ่งเป็น 1 ในกิจกรรมของโครงการค่ายศิลปิน เพื่อให้เยาวชนระดับชั้นมัธยมใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอม ผ่านการอบรมของผู้รู้มืออาชีพที่ผลัดเปลี่ยนมาให้ความรู้ ทั้งศิลปะ การเขียน และภาพยนตร์ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับภาพยนตร์ กล่าวว่า ช่วงเวลา 3 วันอาจจะไม่สามารถทำให้เด็กในค่ายถ่ายหนังกันอย่างมืออาชีพ แต่อย่างน้อยพวกเขาจะได้รู้จักตัวเองว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ซึ่งอาจจะทำให้ใครบางคนนำไปต่อยอดจนกลายเป็นผลผลิตของวงการภาพยนตร์ได้ ซึ่งสิ่งสำคัญคือเขาได้คิด ได้สร้างสรรค์ และเป็นผลดีกับต่อเขาเองด้านศิริวิมล พิทักษ์กาญจนกุล เยาวชนค่าย เด็กสร้างหนัง โครงการค่ายศิลปิน เปิดเผยว่า รู้สึกยาก เมื่อก่อนดูในทีวีคิดว่ามันง่าย แต่รู้สึกชอบคะ หนูอยากสร้างหนัง และจะนำเอาความรู้ไปต่อยอดในมหาวิทยาลัยค่ะส่วนเขมจิรา วรทายะพร เยาวชนค่าย เด็กสร้างหนัง โครงการค่ายศิลปิน กล่าวว่า ในอนาคตอยากเป็นผู้กำกับ และรู้สึก ตื่นเต้นที่ได้เรียนกับพี่ปรัชญา ซึ่งตอนใช้เครื่องมืออะไรที่เราไม่เคยรู้ก็ได้รู้ค่ะ ว่าเขาทำกันอย่างนี้นะและต้องถ่ายแบบนี้ เวลาเพียง 3 วัน ที่ได้เรียนรู้ อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดความชำนาญ หากแต่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนที่ร่วมกิจกรรมได้กลับไปพัฒนาตามฝันที่ตั้งใจในอนาคต
การเข้าค่ายร่วมโครงการศิลปะฤดูร้อนค่ายศิลปินของเยาวชน ในช่วง 3 วัน อาจไม่ทำให้ทำงานได้อย่างมืออาชีพ แต่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาได้ต่อยอดพัฒนาในสิ่งที่สนใจจากศิลปินมืออาชีพ
ศิลปะ-บันเทิง
ค่าย,ปรัชญา ปิ่นแก้ว,ภาพยนตร์,ศิลปะ,ศิลปิน,เยาวชน,แรงบันดาลใจ
https://news.thaipbs.or.th/content/168672
ยาน แคสสินี เข้าใกล้ดาวเสาร์มากสุดในประวัติศาสตร์-เริ่มสำรวจบรรยากาศ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ยานอวกาศ แคสสินี เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายในภารกิจสำรวจอวกาศของมันแล้วเมื่อวันจันทร์ เมื่อโคจรรอบดาวยักษ์ดวงนี้ในระยะใกล้มาก เป็นครั้งแรกจาก 5 ครั้งตามแผนการ เพื่อตรวจสอบชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ดวงนี้ ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ และถูกทำลายในเดือนหน้า,ก่อนหน้านี้ แคสสินีโคจรเป็นวงในพื้นที่ระหว่างชั้นบรรยากาศของดาวเสาร์ และวงแหวนของมัน และเมื่อเวลา 04.22 น. วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ตามเวลามาตรฐานสากล มันก็ได้เคลื่อนแฉลบเข้าใกล้ดาวเสาร์มากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นมา โดยอยู่ห่างจากเมฆชั้นบนสุดของดาวยักษ์ดวงนี้เพียง 1,600 กม.เท่านั้น ทำให้มันสามารถตรวจสอบตัวอย่างแก๊สที่กระจายอยู่ในบรรยากาศชั้นบนได้โดยตรง,ทั้งนี้ การแฉลบเข้าใกล้ดาวเสาร์ของยานแคสสินี จะเกิดแรงดึงให้มันเข้าหาดวงดาว ทำให้มันต้องใช้ไอพ่นในการรักษาโครงสร้างการบินให้เสถียร และหยุดไม่ให้ตัวมันเองตกลงไป แต่นักวิทยาศาสตร์คาดหวังว่า ยานแคสสินีจะสามารถเข้าใกล้ดาวเสาร์ได้มากกว่านี้ในการโคจรผ่านอีก 4 ครั้งที่เหลือ ก่อนที่มันจะตกลงสู่ดาวเสาร์ ในวันที่ 15 กันยายน,ภารกิจของยานแคสสินี อาจสามารถช่วยตอบคำถามหลายๆ อย่างของนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับดาวเคราะห์ยักษ์ดวงนี้ เช่น ในบรรยากาศของมันมีอะไรเป็นองค์ประกอบบ้าง โดยความเชื่อในปัจจุบันคือ เป็นไฮโดรเจนประมาณ 75% ส่วนที่เหลือคือ ฮีเลียม นอกจากนี้ ยังอาจสามารถให้คำตอบได้ว่า 1 วันของดาวเสาร์มีระยะเวลาเท่าใด โดยนักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า มีประมาณ 10 ชั่วโมงกับอีกราว 30 นาที,อนึ่ง โปรเจกต์แคสสินี เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานอวกาศของสหรัฐฯ, ยุโรป และอิตาลี โดยพวกเขาเตรียมยุติภารกิจ ซึ่งดำเนินมานานกว่า 20 ปีนี้ เนื่องจากเชื้อเพลิงของยานใกล้จะหมดลง และอีกไม่นานจะไม่สามารถควบคุมยานได้อีก และการที่พวกเขาเลือกให้ยานลำนี้ทำลายตัวเองด้วยการพุ่งเข้าใส่ชั้นบรรยากาศของดาวเสาร์ ก็เพื่อไม่ให้มันชนเข้ากับดวงจันทร์ ไททัน และ เอนเซลาดัส ที่อาจมีสภาพเหมาะสมที่จะมีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก
ยานอวกาศ แคสสินี เริ่มภารกิจสุดท้ายก่อนที่มันจะทำลายตัวเองแล้ว โดยโคจรเข้าใกล้ดาวเสาร์ในระยะใกล้ที่สุดที่เคยเกิดขึ้น เพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ดวงนี้
ข่าว,ต่างประเทศ
ดาวเสาร์,ยานแคสสินี,ชั้นบรรยากาศ,วงแหวนดาวเสาร์,เข้าใกล้ดาวเสาร์
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1037415
ยื่นยุบอนาคตใหม่ อ้าง ธนาธร-ปิยบุตร มีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง
เรื่องการสานต่อภารกิจคณะราษฎร และความเห็นทางวิชาการของปิยบุตร ประเด็นมาตรา 112 ในปี 255628 ก.พ. 2562 เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) บุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ อาชีพทนายความ ในฐานะทีมงานประชาชนปกป้องรัฐธรรมนูญ และสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. ให้พิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ โอยอ้างบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขมิได้ ประกอบบทบัญญัติตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เอกสารที่บุญถาวร ได้ยื่นต่อ กกต. นั้น ระบุข้อกล่าวหาว่า ธนาธร และปิยบุตร มีพฤติการณ์ และทัศนคติล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และมีการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมแนบหลักฐานประกอบ อาทิ บทสัมภาษณ์ของธนาธร เรื่องการสานต่อภารกิจคณะราษฎร ความเห็นทางวิชาการของปิยบุตร ประเด็นมาตรา 112 ในปี 2556ขณะที่ก่อนหน้านี้ ศรีสุวรรณ เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ กกต. ตรวจสอบ กรณีเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ ลงประวัติอันเป็นเท็จของธนาธรโดยอ้างว่าเคยเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระหว่างปี 2551-2555 และข้อมูลดังกล่าวยังมีการเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของพรรคอนาคตใหม่มาต่อเนื่องอย่างยาวนานกว่า 5 เดือน พร้อมขอให้ตรวจสอบกรณีที่ปิยบุตร แสดงความเห็นส่วนตัวผ่านเฟสบุ๊คซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการใส่ร้ายรัฐและดูถูกคนอีสาน โดยศรีสุวรรณ เห็นว่า การกระทำทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าวทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต จึงต้องการให้ กกต.พิจารณาว่าเข้าข่ายผิดตามมาตรา 132 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือไม่ และหากพบว่ากระทำผิดจริงก็ขอให้ กกต.เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ทันทีผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2562 พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ กับ PPTV ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการลงประวัติของธนาธรผิดว่า ยอมรับความผิดพลาดที่ลงประวัติของธนาธรผิด แต่เป็นเรื่องผิดพลาดเชิงเทคนิคและผู้ดูแลเว็บไซต์ก็เร่งแก้ไขทันทีภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากได้รับการแจ้ง ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง และตัวธนาธรเองก็ไม่เคยมีการพูดโฆษณาว่าตนเองเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ เชื่อว่ากระแสความนิยมในตัวธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ มาจากจุดยืนทางอุดมการณ์แนวนโยบาย และความมุ่งมั่นในการทำงานการเมือง ไม่ได้เป็นเพราะการที่ประชาชนถูกทำให้เข้าใจว่าธนาธรเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแต่อย่างใดส่วนการแสดงความเห็นของปิยบุตรผ่านเฟสบุ๊คเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2562 ซึ่งเป็นข้อความที่ทำให้ปิยบุตรถูกวิจารณ์ว่าดูถูกคนอีสานนั้น มีข้อความเต็มที่ระบุว่า อีสานถูกทำให้เชื่อว่าเป็นคนตลก เป็นแรงงาน ไม่มีความรู้ แต่แท้จริงแล้ว คนอีสานคือดินแดนกำแพงเหล็ก เป็นดินแดนแห่งนักประชาธิปไตย นักต่อสู้ความอยุติธรรม ขจัดความเหลื่อมล้ำในประเทศนี้ โดยปิยบุตรได้ชี้แจงเรื่องนี้หลังเกิดความเข้าใจผิดว่า ภาคอีสานเป็นภาคที่ตนเองเดินทางไปมากที่สุดและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากที่สุด เมื่อตอนเป็นอาจารย์นิติศาสตร์ มธ. เดินทางไปบรรยาย ร่วมเสวนา รณรงค์ทำกิจกรรมประชาธิปไตย เมื่อมาตั้งพรรคอนาคตใหม่ก็เดินทางไปภาคอีสานมากที่สุด รับมอบหมายให้ไปรณรงค์หาสมาชิก เสวนา ปราศรัย และรับฟังประเด็นปัญหาต่างๆ คนอีสานที่ไปพบปะและที่เป็นสมาชิกพรรค คงเป็นประจักษ์พยานได้อย่างดีว่า ตนไม่เคยดูถูกคนอีสานแม้แต่ครั้งเดียว เวลาที่มีใครพูดดูถูกคนอีสาน จะเป็นคนแรกๆ ที่ออกไปอธิบายทำความเข้าใจให้ทุกครั้ง โดยชี้ให้เห็นถึงปัญหาทางโครงสร้าง ปัญหาของการจัดการของรัฐไทยตั้งแต่อดีตส่วนเรื่องการให้สัมภาษณ์ของธนาธรเรื่องการสานต่อภารกิจคณะราษฎรนั้น เขาได้กล่าวไว้เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2561 ในงานเสวนาพิเศษ WAKE UP THAILAND SPECIAL ตอน 86 ปีประชาธิปไตยไทย ก้าวต่ออย่างไรให้ยั่งยืน ว่า อุปสรรคของระบอบประชาธิปไตยคือการทำรัฐประหาร เขาฝันว่าการทำรัฐประหารต้องจบในรุ่นของตน ไม่ส่งต่อไปถึงลูกหลานอีก ถือเป็นภารกิจของตน การเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ปี 2475 จนถึงปัจจุบัน เปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับรัฐ จากไพร่ที่ไม่มีปากเสียงมาสู่พลเมืองที่มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันการรวบอำนาจไปอยู่ที่กลุ่มคนๆ เดียวหรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วเครื่องมือที่คนกลุ่มนี้มีก็คือการใช้กองทัพมาทำรัฐประหาร ดังนั้น ก็ต้องเรียนว่า ไม่ว่าวาทกรรมที่เราจะพูดกันว่า คณะราษฎรชิงสุกก่อนห่าม ก็ตาม ไม่ว่าเราจะพูดกันว่า ปัญหาของการพัฒนาประชาธิปไตยไทยคือนักการเมือง ก็ตามประเด็นที่สำคัญที่สุดจริงๆ ก็คือ เรื่องที่ไม่มีใครกล้าพูด คือเรื่องการทำรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่า เวลาเราบอกว่าชิงสุกก่อนห่าม หรือว่านักการเมืองที่เลวร้าย ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาก็ดี ในทางกลับกัน สิ่งที่เป็นอุปสรรคคือ ประชาธิปไตยไม่เคยได้รับโอกาสให้เติบโตต่างหาก ประชาชนไม่เคยได้รับโอกาสให้ได้ลิ้มลองประชาธิปไตย ได้ใช้อำนาจของตัวเองต่างหาก ตรงนี้ต่างหากที่เป็นอุปสรรคของการพัฒนาประชาธิปไตยในช่วงที่ผ่านมาดังนั้นสรุปความในรอบแรก ถ้าไม่มีใครลุกขึ้นมาสานต่อภารกิจประวัติศาสตร์ ที่จะเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนจากไพร่เป็นพลเมือง แล้วทำให้รัฐประหารครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ผมและผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่และสมาชิกพรรคที่จะร่วมกันสร้างพรรคอนาคตใหม่ขอรับภารกิจประวัติศาสตร์นี้ไปทำต่อเองส่วนเรื่องความเห็นของปิยบุตร ต่อมาตรา 112 นั้น ปิยบุตร ได้ชี้แจงไว้เมื่อ วันที่ 21 มี.ค. 2561 ว่า ตนเองเคยรณรงค์แก้ ม.112 เป็นการกระทำส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับตั้งพรรคอนาคตใหม่เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจตรงกัน และเพื่อป้องกันมิให้กลุ่มบุคคลผู้ไม่ต้องการให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยได้ฉวยโอกาสนำเรื่องเหล่านี้มาปลุกระดมโฆษณาชวนเชื่อเพื่อขัดขวางการเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ได้ ผมขอยืนยันว่า ผมจะไม่นำเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาเกี่ยวข้องกับพรรค และไม่นำไปผลักดันในพรรค ปิยบุตร กล่าว
ทีมงานปกป้อง รธน. และสถาบันพระมหากษัตริย์ ยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่ อ้างธนาธร-ปิยบุตร มีพฤติการณ์และทัศนคติล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แนบหลักฐานบทสัมภาษณ์ของธนาธร
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
มาตรา 112,เลือกตั้ง 62,เลือกตั้ง,ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,มัลติมีเดีย,ปิยบุตร แสงกนกกุล,บุญถาวร ปัญญาสิทธิ์
https://prachatai.com/journal/2019/02/81268
เมียสั่งตาย จ้างมือมีด 5 พันฆ่าผัวตัวเอง แค้นเลี้ยงด้วยลำแข้ง
วันที่ 1 พ.ย. พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.จว.ยโสธร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฆนรพ รัตนใหม่ ผกก.สภ.เลิงนกทา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เลิงนกทา ได้ควบคุมตัว นายวุฒิพงษ์ รักถิ่น อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 8 บ้านดอนฮี ต.สวาท อ.เลิงนกทา จังหวัดยโสธร ผู้ต้องหาในคดีฆ่า นายศักดิ์ชัย คำไมล์ อายุ 47 ปี ถึงแก่ความตายภายในบ้านเลขที่ 153 หมู่ 7 บ้านคึมยาว ต.สร้างมิ่ง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตาย โดยภรรยาไปพบศพเมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 26 ต.ค.62 สภาพมีบาดแผลตามร่างกาย ร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคม บริเวณคอ หน้าอก และด้านหลัง นับ 10 แผล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายศักดิ์ชัย พร้อมควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ,จุดแรกบริเวณกระท่อมนาท้ายหมู่บ้านดอนฮี ต.สวาท อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาไปหลบซ่อนตัวหลังก่อเหตุและเป็นจุดที่เผาเสื้อผ้าเปื้อนเลือดชุดที่นายศักดิ์ชัย สวมใส่ในวันเกิดเหตุเพื่อทำลายหลักฐานทิ้ง ก่อนจะไป จุด 2 จุด ทิ้งมีดปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหานำไปโยนทิ้งน้ำบริเวณสระน้ำใกล้กับกระท่อมนา ห่างจากบ้านพักของผู้ตายประมาณ 7 กิโลเมตร และจุด 3 ไปทำแผนที่บ้านพักของผู้ตาย ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ,นายวุฒิพงษ์ มือฆ่า รับสารภาพว่าตนได้รับการว่าจ้างจากภรรยาของผู้ตายด้วยเงิน จำนวน 5,000 บาท เพื่อให้ไปสั่งสอนผู้ตาย ที่มักหาเรื่องทะเลาะตบตีภรรยาอยู่เป็นประจำ โดยมีน้องสาวของภรรยาผู้ตายเป็นคนประสานงาน มาให้ตนไปลงมือ ซึ่งในคืนวันเกิดเหตุภรรยาของผู้ตายออกไปทำงานนอกบ้าน จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ตนจึงให้นายไพสันต์ ซึ่งเป็นสามีของน้องสาวผู้ตายเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พาเดินทางไปที่บ้านของผู้ตายก่อนไปจอดรถอยู่ใกล้กับบ้านพัก จากนั้นได้เดินเปิดประตูเข้าไปในบ้านเพียงคนเดียวและในระหว่างนั้นผู้ตายตื่นขึ้นมาพอดี จึงเกิดการต่อสู้กัน ก่อนที่ตนจะผลักให้ผู้ตายล้มลงกับพื้น ขึ้นคร่อมร่างแล้วชักมีดปลายแหลมที่พกติดตัวไปจ้วงแทงตามร่างกายประมาณ 5-6 ครั้ง จนผู้ตายแน่นิ่งแล้วจึงกลับไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่นายไพสันต์ รออยู่หลบหนีไปที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านดอนฮี ต.สวาท อ.เลิงนทกา ก่อนจะเผาเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน นำมีดของกลางไปโยนทิ้งน้ำ ใกล้กับกระท่อมนาและหลบซ่อนตัวอยู่ที่กระท่อมนาดังกล่าว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา,พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ลงมือก่อเหตุ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วยนางพิสมัย ต้นไทร อายุ 44 ปี ภรรยาผู้ตาย, น.ส.มลฤดี เทพจันตา อายุ 28 ปี น้องสาวภรรยาผู้ตาย นายวุฒิพงษ์ รักถิ่น อายุ 21 ปี มือฆ่า และนายไพสันต์ หนูพุ่ม สามี น.ส.มลฤดี โดยจากการสอบสวนนางพิสมัย ภรรยาผู้ตายรับสารภาพว่า ผู้ตายชอบเสพยาบ้าและดื่มสุราเป็นประจำทุกวัน และทุกครั้งที่เมาก็จะทะเลาะตบตีด่าทอผู้เป็นภรรยาอยู่เสมอ จนภรรยาทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงไประบายความในใจให้กับ น.ส.มลฤดี ซึ่งเป็นน้องสาวฟัง พร้อมกับมีการวางแผนฆ่า จ้างนายวุฒิพงษ์ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องของสามี น.ส.มลฤดี โดยให้ค่าจ้างเป็นเงิน 5,000 บาท,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ว่า จ้างวานฆ่าผู้อื่น ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หนุ่มใหญ่วัย 47 ถึงแก่ความตายในบ้านตัวเอง เมียกลับมาเจอศพโดนแทงพรุน สืบไปสืบมากลายเป็นคดี เมียแจ้งฆ่าผัวโดยมีน้องเมีย และคู่เขยร่วมด้วย จ้างมือสังหาร 5 พันแทงพรุน เหตุแค้นชอบทำร้าย
ข่าว,อาชญากรรม
จ้างฆ่าผัว,เมียจ้างฆ่า,เมียฆ่าผัว,เมียบงการฆ่า,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1694865
ไตรกีฬารายการใหญ่ สามเหลี่ยมทองคำปี 4 นัดรวมพลที่เชียงราย
เข้าร่วมแข่งขันแล้ววันนี้,เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 60 ที่ห้องประชุมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนางสาวปราณปริยา พลเยี่ยม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ท่านผู้หญิงวิลาวัณย์ วีรานุวัตติ์ ประธานกรรมการมูลนิธิโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติผ่านดาวเทียม และนายธเนศ กิตติพรพานิช ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขันไตรกีฬาสามเหลี่ยมทองคำ ครั้งที่ 4 ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีผู้เข้าร่วมงานคับคั่ง,รายการนี้จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 4-5 มี.ค. ที่ จ.เชียงราย โดยกำหนดให้มีพิธีเปิดการแข่งขัน ในวันเสาร์ที่ 4 มี.ค. ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และกำหนดแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 5 มี.ค.,ส่วนการแข่งขันประกอบไปด้วย ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่ง ในเส้นทาง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และเมียนมา ระยะทางรวม 66.7 กม. แบ่งเป็นว่ายน้ำ 1.7 กม. จากกลางแม่น้ำโขง ประเทศลาว มายังท่าเรือห้าเชียง 2 อ.เชียงแสน จ.เชียงราย บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ปั่นจักรยาน 53 กม. จากท่าเรือห้าเชียง 2 มายังศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และวิ่ง 12 กม.จากศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน ไปยังเจดีย์ชเวดากอง องค์จำลอง ประเทศเมียนมา และวกกลับมา ยังศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันทวิกีฬา แบ่งเป็นวิ่ง 6 กม. ปั่นจักรยาน 53 กม. และวิ่ง 12 กม. ระยะทางรวม 71 กม.ด้วย,สำหรับประเภทการแข่งขันดังนี้ ไตรกีฬาประเภทชายเดี่ยว แบ่งออกเป็น 5 รุ่น คือ 18-29 ปี, 30-39ปี,40-49 ปี, 50-59 ปี และ 60 ปีขึ้นไป, ไตรกีฬาประเภทหญิงเดี่ยว แบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ 18-29 ปี และ 30 ปีขึ้นไป , ไตรกีฬาประเภททีม มีเฉพาะรุ่นทั่วไป (Open) ไม่กำหนดเพศ แต่อายุของสมาชิกในทีมต้องไม่ต่ำกว่า 18 ปี โดย 1 ทีม จะต้องมีนักกีฬา 3 คน/ทวิกีฬาประเภทชายเดี่ยว แบ่งออกเป็น 4 รุ่น คือ 18-29 ปี, 30-39 ปี, 40-49 ปี และ 50 ปีขึ้นไป, ทวิกีฬาประเภทหญิงเดี่ยว แบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ 18-29 ปี และ 30 ปีขึ้นไป,เปิดรับสมัครแข่งขันแล้วทั้งประเภทเดี่ยวและประเภททีมสำหรับการแข่งขันไตรกีฬา ส่วนการแข่งขันทวิกีฬาเปิดรับสมัครประเภทเดี่ยวเท่านั้น ชิงชัยเงินรางวัลรวมกว่า 3 แสนบาท พร้อมถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมัครและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thai goldentriathlon.com
ระเบิดศึกการแข่งขัน ไตรกีฬาสามเหลี่ยมทองคำ ปีที่ 4 ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งนี้ท้าทายจอมอึดระหว่าง 4-5 มี.ค.นี้ ที่ จ.เชียงราย มีให้ชิงชัยทั้งไตรกีฬาและทวิกีฬา โดยเปิดรับสมัคร
null
ไตรกีฬา,ไตรกีฬาสามเหลี่ยมทองคำ,เชียงราย,ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน,แม่สาย
https://www.thairath.co.th/content/864851
กรมปศุสัตว์ยัน หมูไก่เป็นเอดส์ ข่าวลวงโลกวอนอย่าแชร์ ผิด พ.ร.บ.คอมพ์
น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงกรณีที่ขณะนี้ในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะ LINE กลุ่มต่างๆ มีการนำข้อความเท็จเรื่องหมูไก่เป็นเอดส์ วนกลับมาแชร์กันอีกครั้ง ว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริง เป็นเพียงการแต่งขึ้นส่งต่อกันตั้งแต่ปี 2551 คาดว่าข้อความเท็จนี้น่าจะฝังอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต หรืออาจมีขบวนการจ้องทำลายเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีเจตนาทำร้ายเกษตรกรไทย , ,นอกจากนี้ ยังมีผู้ประสงค์ร้ายนำคลิปวีดีโอ ภาพการทำลายหมูที่เป็นโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ตามมาตรฐานขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ส่งไปพร้อมกับข้อความเท็จข้างต้น การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบร้ายแรงต่อภาคเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของไทย ที่มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากลและกระทบกับผู้บริโภคในวงกว้าง , ,ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์มีมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่อในสัตว์ ทั้งหมูและสัตว์ปีกอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันบูรณาการในการป้องกันโรค ASF อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อสกัดกั้นไม่ให้โรคนี้เข้ามาสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกรและเศรษฐกิจของประเทศได้จึงขอให้เกษตรกรและประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกและไม่ควรแชร์ข้อความที่ไม่เป็นความจริงดังกล่าวอีกต่อไป , ,อนึ่ง ผู้ที่ส่งต่อข้อมูลเท็จดังกล่าวมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ซึ่งที่ผ่านมามีกรณีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในประเด็นนี้มาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้เป็นโจทก์ และบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายโสภณ สุดสวาสดิ์ เป็นจำเลย ฐานความผิดหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 กรณีส่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ข้อความเท็จ อ้างว่ามีหมู ไก่ ป่วยเป็นโรคเอดส์ ขอให้คนหยุดกินหมู-ไก่ ประมาณ 6 เดือน ซึ่งข้อความดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกในสังคม , ,คดีดังกล่าว ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ตามความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 จำคุก 2 ปี ปรับ 100,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี ปรับ 50,000 บาท พิเคราะห์รายงานการพินิจและสืบเสาะแล้ว จำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน และหลังเกิดเหตุจำเลยลงประกาศหนังสือพิมพ์ขอขมาโจทก์ร่วม เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 2 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง ให้ทำกิจกรรมหรือทำงานสาธารณประโยชน์ 24 ชั่วโมง.
กรมปศุสัตว์ ยืนยัน หมูไก่เป็นเอดส์ ข่าวลวงโลก หลังพบวนกลับมาป่วนโซเชียลอีกหลังถูกส่งต่อมาตั้งแต่ปี 2551 เตือนคนแชร์ระวังโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ เพราะผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ข่าว,ทั่วไทย
กรมปศุสัตว์,หมูไก่เป็นเอดส์,โรคเอดส์,ข่าวปลอม,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์,โพสต์ข่าวบิดเบือน,โรคระบาดสัตว์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1597353
พระแท้ไม่ใช่แค่ผ้าเหลือง
เรื่องมีอยู่ว่า เหตุเกิดช่วงน้ำท่วม พระหลายวัดเดินบิณฑบาตไม่ได้ จำเป็นจะต้องพายเรือไปรับบาตร เหตุอยู่ที่ว่า พระสมัยใหม่พายเรือไม่เป็น หลวงตาท่านก็เลยอาสาหัดให้ หัดได้สักพักหลวงตาท่านก็บอกว่า เอาละใช้ได้แล้ว พรุ่งนี้พายเรือไปรับบาตรได้,พอเช้าวันใหม่มาถึง หลังจากที่ตื่นแต่เช้า ทำวัตรเช้าเสร็จก็ได้เวลาบิณฑบาต นักพายมือใหม่ก็ประจำการ ผ่านไปบ้านหลังแรก หลังสองก็ไม่มีปัญหาอะไร เหตุเกิดที่บ้านหลังที่สาม พอดีมีเรือหางยาวผ่านมาพอดี พระใหม่หัดพาย ก็พยายามจะบังคับเรือให้เทียบท่าน้ำที่บ้านโยม ด้วยแรงคลื่นทำให้เรือกระแทกเข้ากับท่าน้ำอย่างจัง หมาที่นอนที่ท่าน้ำก็ตกใจ เห่าเสียงดัง และเห่าไม่หยุดเอาซะด้วย โยมยายที่รอใส่บาตรก็รำคาญ จึงตะโกนออกมาว่า เห้ย พระก็เห่านะมึง พระรูปนั้นท่านก็แต่พูดเบาๆ ว่า โยม พระไม่ได้เห่านะโยม หมามันเห่า ,เอาละมาเข้าประเด็นที่จะพูดฉบับนี้กันดีกว่า ที่เกริ่นเรื่องพระ เพราะวันนี้เราจะมาพูดเรื่องพระ ก็อย่างว่านะโยมตอนนี้ข่าวในทางไม่ดีของพระออกมามากเหลือเกิน โยมบางคนเห็นแล้วไม่สบายใจ และหลายคนก็เสื่อมศรัทธาลงไปด้วย โยมทั้งหลายก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับพระก่อน,พระสงฆ์, หมายถึง หมู่สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ซึ่งฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้วเลื่อมใส สละเรือนออกบวช ถือวัตร ปฏิบัติก่อ ตามพระธรรมวินัยที่พระบรมศาสดาสั่งสอนและกำหนดไว้ พระไตรปิฎกภาษาบาลีได้กล่าวถึงถึง พระสงฆ์ ไว้ 2 ประเภท ได้แก่ ,สาวกสงฆ์, และ ,ภิกษุสงฆ์,สาวกสงฆ์, หรือที่สมัยหลังนิยมเรียกว่า ,อริยสงฆ์, คือหมู่พระอริยบุคคล ไม่ว่าเป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิต ไม่ว่าเป็นมนุษย์หรือเทวดา ที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า โดยการบรรลุมรรคผล อริยบุคคล 4 ประเภท คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์,ภิกษุสงฆ์, ในปัจจุบันเรียกว่า ,สมมติสงฆ์, คือ หมู่ภิกษุ ที่ได้รับการอุปสมบทตามพระบรมพุทธานุญาต จากพระเถระตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไปเรียกว่าสงฆ์ เนื่องจากคำว่าสงฆ์แปลว่าหมู่ จึงเรียกหมู่พระภิกษุว่า ภิกษุสงฆ์,คุณสมบัติของพระสงฆ์จะต้องมีดังนี้คือ,1. สุปฏิปณฺโณ ผู้ปฏิบัติดีงาม ,2. อุชุปฏิปณฺโณ ผู้ปฏิบัติตรง ถูกต้อง,3. ญายปฏิปณฺโณ ผู้ปฏิบัติชอบ, เพื่อธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์ ,4. สามีจิปฏิปณฺโณ ผู้ปฏิบัติสมควร, เหมาะสม,5. อาหุเนยฺโย เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา (นำมาถวาย เช่นนำมาใส่บาตรขณะบิณฑบาต) ,6. ปาหุเนยฺโย เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ (จัดไว้รอท่าให้ท่านมารับ เช่น การนิมนต์มาฉันที่บ้าน) ,7. ทกฺขิเนยฺโย เป็นสงฆ์ควรแก่การรับทักษิณาทาน ,8. อฺญชลีกรณีโย เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี (การประนมมือ) ,9. อนุตฺตรํ ปุญฺญเขตฺตํ โลกสฺส เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า,ข้อปฏิบัติทั้ง 9 ประการนี้ เป็นสิ่งที่ชาวพุทธคาดหวัง และพระสงฆ์ต้องปฏิบัติตาม แต่อาตมาขอพูดอีกมุมหนึ่ง, ชาวพุทธที่แท้จริง จะต้องหนักแน่น ไม่สั่นคลอนศรัทธา เมื่อเราเห็นข่าวพระในทางลบ เราอย่าเพิ่งเชื่อไปซะหมด ให้ตรองด้วยเหตุผลก่อน เหมือนหมอรักษาคนป่วย ถ้านิ้วเน่า เราก็ตัดแค่นิ้ว พระสงฆ์ก็เช่นกัน รูปไหนไม่ดีก็ให้สึกไป ศาสนาก็เหมือนทะเล ทะเลเมื่อมีสิ่งไม่ดีลงไป คลื่นก็จะซัดขึ้นฝั่ง ศาสนาก็เช่น เมื่อมีคนไม่ดีเข้ามา ธรรมวินัยก็จะซัดคนเหล่านั้นให้ออกไปเช่นกัน, และที่สำคัญเราอย่าเหมารวมว่าพระไม่ดี ศาสนาไม่ดี ที่จริงศาสนานั้นดี และดีมากด้วย พระที่ดีที่ทำประโยชน์ต่อศาสนา ต่อสังคมก็มีเยอะ ต้องทำความเข้าใจว่า คนที่เข้ามาบวชเป็นพระบางคนก็เป็นลูกชาวนาธรรมดา ยังมีกิเลสตัณหา เมื่อบวชเข้ามาแล้ว ก็ไม่ทิ้งนิสัยเดิม เลยทำให้เสื่อมเสียต่อส่วนรวม,และหน้าที่ของชาวพุทธที่จะต้องช่วยกันคือ,1. ศึกษาในหลักธรรมคำสอน ,2. การปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอน,3. การเผยแผ่พระศาสนา ,4. การป้องกันรักษาพระศาสนา,ถ้าเราช่วยกันดูแลพุทธศาสนา พุทธศาสนาก็จะอยู่คู่กับสังคมของเราตลอดไปเจริญพร.
ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุกๆ ท่าน พระมหาสมปองมาอีกแล้ว มาพร้อมกับธรรมะชื่นใจ พร้อมส่งให้ทุกๆ ท่าน ก่อนที่จะเข้าเนื้อหาของวันนี้ อาตมาขอเล่าเรื่องพระให้ฟังสักนิดหนึ่ง
คนดังนั่งเขียน
คนดังนั่งเขียน,พระมหาสมปอง,พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต,ธรรมะเดลิเวอรี่,วัดสร้อยทองพระอารามหลวง,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,คอลัมน์คนดัง,thairath,ชาวพุทธ,ผ้าเหลือง,ธรรมะ,หลักธรรมคำสอน,พุทธศาสนา,พระภิกษุ
https://www.thairath.co.th/content/636138
จับผับฉี่ม่วง 123 คน ยาเกลื่อนพื้น-เปิดเกินเวลา
เด้ง 5 เสือโรงพักกระทุ่มแบน,ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ร่วมกับ นอภ.สนธิกำลังบุกทลายผับชื่อดังย่านกระทุ่มแบนพบนักท่องราตรีกว่า 800 คนกำลังเต้น อย่างเมามัน พอเจ้าหน้าที่สั่งเปิดไฟปิดเสียงดนตรีต่างรีบโยนยาเสพติดออกจากตัวเกลื่อนพื้นมีทั้งยาอี ยาไอซ์ ยาเคตามีน และยาทรามาดอน จับตรวจฉี่เรียงตัวพบมีสีม่วง 123 คน แถมมีเยาวชนใช้บริการอีก 7 คน เจ้าของใบอนุญาตถูกตั้ง 6 ข้อหา เผยในผับแห่งนี้มีคนขายยาเสพติดพร้อมเสพในห้องน้ำ ขณะที่ 5 เสือโรงพักถูกเด้งประจำภาค 7 พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนทันควัน,บุกทลายผับ,มั่วสุมเสพยานรกเจอนักเที่ยว,ฉี่ม่วง,กว่า 100 คน และเยาวชนเข้าใช้บริการอีกหลายรายเปิดเผยเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 11 ส.ค. ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองนำโดยนายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับสืบสวนและปราบปรามพร้อมกำลังฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกองร้อยปฏิบัติการพิเศษ นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นอภ.กระทุ่มแบน ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นำโดยนายแสงประทีป โกมลบุตร ผู้ตรวจราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. ทหารกองทัพภาคที่ 1 และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเข้าปิดล้อมจับกุมสถานบันเทิงชื่อดัง NOS PUB ตั้งอยู่เลขที่ 20/2 ถนนเพชรเกษม หมู่ 7 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร,พบสถานบริการแห่งนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติทั้งที่เลยเวลา 01.00 น. ไปแล้วและมีนักเที่ยวจำนวนกว่า 800 คน ดื่มกิน และเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างเมามัน พอสบจังหวะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้แสดงตัวตรวจค้น สั่งให้ปิดเสียงดนตรี และเปิดไฟภายในร้าน ส่งผลให้นักเที่ยวต่างแตกตื่นรีบโยนยาเสพติดและวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทพร้อมอุปกรณ์การเสพลงบนพื้นเกลื่อนกลาดมีทั้งไอซ์ ยาอี ยาเคตามีน และยาทรามาดอน โดยยาเสพติดทั้งหมดเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.นำไปตรวจสอบต่อไป,จากนั้นจัดแยกกลุ่มนักเที่ยวชายหญิงเพื่อตรวจ สารเสพติดในปัสสาวะ ผลการตรวจปรากฏว่านักเที่ยวมีปัสสาวะสีม่วง จำนวน 123 คน เป็นชาย 80 คน เป็นหญิง 43 คน นอกจากนี้ ยังพบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 7 คน อายุต่ำสุด 17 ปี สอบถามเด็กเบื้องต้นทราบว่าเข้ามาเที่ยวบ่อยครั้งและเสพยาเสพติดในผับโดยซื้อยาเสพติดได้ในห้องน้ำของผับที่มีคนคอยบริการ,จากการตรวจสอบทราบว่าผับแห่งนี้มีชื่อตามใบอนุญาตว่า เฮาส์ซิงเกอร์ผับ มีนายปัญญา แสงประสิทธิ์ อายุ 60 ปี เป็นผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาแก่ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ NOS PUB ดังนี้ คือ 1.เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 3.ใช้ชื่อสถานบริการไม่ตรงกับใบอนุญาต 4.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ 5.ยินยอมหรือปล่อยปละ ละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ และ 6. ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หลังจับกุม นอภ.กระทุ่มแบนได้เสนอ ผวจ.สมุทรสาคร สั่งเพิกถอนใบอนุญาตตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ต่อไป,ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียน ว่าผับแห่งนี้เปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดและปล่อยปละละเลยให้มีการเสพยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครองได้แฝงตัวเข้าสืบสวนและประสานข้อมูลกับฝ่ายปกครองอำเภอกระทุ่มแบนจนได้ข้อมูลชัดเจนว่าผับแห่งนี้เป็นไปตามที่ได้รับการร้องเรียนจริง โดยเปิดบริการเกินเวลาเป็นประจำจนถึงตี 3 และปล่อย ปละละเลยให้มีการเสพยาเสพติดภายในสถานบริการ เช่นในห้องน้ำ เมื่อผู้ใช้บริการเสพยาเสร็จเรียบร้อย พนักงานทำความสะอาดจะรีบทำความสะอาดและกำจัดอุปกรณ์การเสพที่ทิ้งอยู่ทันที เพื่อไม่ให้เป็นหลักฐานว่าสถานบริการรู้เห็นกับผู้ใช้บริการ,ต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก (ตร.) เปิดเผยถึงกรณีฝ่ายปกครองบุกจับสถานบันเทิงใน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบนักเที่ยวที่มีปัสสาวะสีม่วง 123 คน และมีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีใช้บริการ 7 คนนั้นว่า พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร มีคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 ได้มีคำสั่งให้ 5 เสือ สภ.กระทุ่มแบน คือ 1. พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก. 2.พ.ต.ท.ภาคิน แสนพุฒิ รอง ผกก.(สส.) 3.พ.ต.ท.กอบโชค เล็กตระกูล รอง ผกก.(ป.) 4.พ.ต.ท.ประภาส ศิริรัตน์ สวป.และ 5.พ.ต.ต.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี สว.สส.ไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 7 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ร่วมกับ นอภ.สนธิกำลังบุกทลายผับชื่อดังย่านกระทุ่มแบนพบนักท่องราตรีกว่า 800 คนกำลังเต้น
ข่าว,ทั่วไทย
ฉี่ม่วง,ฉี่สีม่วง,NOS PUB,กระทุ่มแบน,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1352915
เปิดหมดหน้าตัก เมย์ รัชนก แบดฯฉกฉวยบางอย่างในชีวิตเรา
เป็นแฟนเมย์ต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย, คำกล่าวขำๆ ของเมย์ รัชนก อินทนนท์ พูดกับทีมงาน Thairath Talk เกี่ยวกับประสบการณ์ความรักและสเปกหนุ่มๆ ที่นักแบดมินตันหญิงคนนี้ชื่นชอบ พร้อมเรื่องเศร้า 3 บรรทัดของเมย์ รัชนกที่อุทิศตัวเพื่อชัยชนะแต่ต้องสูญเสียบางสิ่ง แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กสำหรับบางคน แต่มันติดในใจสาวน้อยวัย 24 ปีผู้นี้เสียหนักหนา ,ประสบการณ์บาดเจ็บที่สุดในชีวิต,Thairath Talk : มีการบาดเจ็บครั้งไหนที่เราจะหนักที่สุดตั้งแต่ในอาชีพเล่นแบดมา,หนูเจ็บหนักสุดเหรอคะ น่าจะเป็นช่วงสองปีแต่ว่าไม่ถึงกับผ่าแต่อาจจะเป็นเจ็บแล้วรักษายังไงก็ไม่หายจนเราจะต้องไปรักษาที่จีนก็มันเน้นการพักแล้วก็เน้นในเรื่องของการฝังเข็ม,Thairath Talk : ระหว่างนั้นก็แข่งไม่ได้เลย Fail ไหม กลัวไหมจะกลับมาไม่เหมือนเดิม,ตอนนั้นก็แข่งไม่ได้สองสามเดือน ก็ไม่ได้เชิงคิดในแง่ลบขนาดนั้นอะคะ เพราะว่าเราบาดเจ็บแบบอาจจะเขาเรียกว่า เหมือนการใช้งานมากเกินไป หรือว่าอาจจะคือว่าเราก็ไม่รู้มันจะเจ็บตอนไหน เหมือนกันอะคะเพียงแค่ว่าได้แต่สมมติมันเกิดขึ้นกับเราแล้ว เราเพียงแค่ดูแลตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม,Thairath Talk : ซึ่งเวลาเจ็บนี่ชอบเลยใช่มั้ยได้พักผ่อนไม่ต้องออกกำลังกาย,ไม่ค่ะ ตอนนั้นหนูเจ็บขาหนูยังจะต้องมาซ้อมช่วงบนช่วงแขนก็ไม่ได้พักค่ะ ถ้าเจ็บตรงไหนก็ต้องไปซ้อมที่ไม่เจ็บ เพราะแบดมินตันมันใช้ทุกส่วนของร่างกายค่ะ ถ้าเราเจ็บขาก็ไม่ต้องใช้ขา เพียงแค่ไม่ต้องวิ่งไม่ต้องก็เน้นๆ มือมากกว่า,ชีวิตนักกีฬาผู้โดดเดี่ยว ,Thairath Talk : ชีวิตส่วนตัวเมย์ฟังกิจวัตรประจําวันค่อนข้างโดดเดี่ยวไหมจริงๆ มันโดดเดี่ยวไหม,จริงๆ แล้วก็ไม่ได้โดดเดี่ยวนะคะ แต่ว่าถ้าพูดถึงในช่วงที่หนูจบมหาลัย มัธยมปลายส่วนใหญ่นักกีฬาหลายๆ คนก็เลิกแล้ว ก็ไปเรียนหนังสือเน้นในเรื่องของการเรียน แล้วก็มองถึงการทำงานมากกว่าค่ะ แต่ตัวเมย์ก็อยู่เป็นนักกีฬาทีมชาติก็จะแตกต่างกันออกไป ก็จะมีเพื่อนไม่ใช่เพื่อนเขาเรียกว่าไรเหมือนมีน้องๆ มากกว่า น้องที่เขาเล่นกีฬาก็จะห่างกันประมาณ 2-3 ปี หรือว่าอาจจะมีมากกว่านั้นนะ,Thairath Talk : สังคมส่วนใหญ่เมย์ก็ร้อยเกือบร้อยอยู่ในสังคมแบดมินตันนักกีฬาทั้งนั้นเลยใช่ไหม ไม่โดดเดี่ยวเหรอพี่ถามตรงๆ,ก็เราจะต้องอยู่ในแวดวงการของกีฬามากกว่าส่วนใหญ่เจอผู้ใหญ่ก็จะผู้ใหญ่ที่เขาชื่นชอบหรือว่าอะไรงี้มากกว่าไม่ได้แบบมองถึงธุรกิจหรืออะไรงี้ค่ะเพราะว่าตอนนี้เหมือนการเล่นกีฬาของหนูเหมือนการสร้างธุรกิจของตัวเองในที่แบบพยายามกอบโกยในช่วงที่เรามีโอกาสมากกว่า,Thairath Talk : ไม่ได้คิดว่าแบดมินตันฉกฉวยอะไรจากชีวิตเราไป,มันก็มีบ้าง เช่นช่วงมัธยมต้นเรียนจบ ปิดเทอมเราจะต้องมีกินหมูกระทะหรืออะไรหนูก็ปฏิเสธเพื่อน,Thairath Talk : จะไปกินหมูกระทะไม่ได้ไป เรื่องใหญ่เลยเหรอ,หนูก็ไปไม่ได้จริงๆ ซื้อมากินที่โรงเรียนได้ไหม แบบพวกพิซซ่าหรือเคเอฟซี แต่ว่าเพื่อนก็โอเคเพื่อนเข้าใจ เพราะบางทีเราไปต่างประเทศเราก็ซื้อพวกที่ติดตู้เย็นมาให้เพื่อนหรือช็อกโกแลต,Thairath Talk : นี่คือสิ่งฝังใจของเราก็คือไปกินหมูกระทะกับเพื่อนไม่ได้ก็คือปฏิเสธเพื่อน เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเมย์ รัชนก อินทนนท์ มาก,แต่เพื่อนหนูก็เข้าใจเพราะว่าในเรื่องของการทำงานในคลาส เพื่อนก็ช่วยแบบเอาชื่อเข้ากลุ่ม,Thairath Talk : ย้อนอดีตไปแก้ไข้ได้สมมติเรื่องเกี่ยวกับแบดมินตันแก้ไขแมตช์ไหนบ้าง,จริงๆ แล้วหนูไม่ได้จะกลับไปแก้ตัว แต่หนูพียงแค่ว่า ถ้ามันจะเป็นแชมป์มันก็อยู่ที่โชคชะตาเรามากกว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่เราแก้ไขอะไร แต่หนูว่าแก้ไขในปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ,ยังไม่โฟกัสเรื่องรัก,Thairath Talk : อายุ 24 ปี เรื่องเกี่ยวกับความรักนิยามความรักเรามันเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนไหมรักแบบหนุ่มสาว,ก็ถ้าเป็นในมุมหนูมันเป็นนักกีฬาจะก็ต้องแบบเขาต้องเข้าใจเราตรงที่ว่าเราไม่มีเวลาอะไรงี้มากกว่า,Thairath Talk : เป็นแฟนเมย์ต้องอดทน,สิบล้อชนจะต้องไม่ตาย(หัวเราะ) ไม่ใช่ก็ไม่ได้ซีเรียสหรือจริงจังขนาดแบบ จะต้องเอาจุดนี้มาเป็นเขาเรียกว่าคิดมากเกินไป แต่ว่าหนูคิดว่าแค่แบบความรักจากพ่อแม่ก็หนูมีน้องชายด้วยก็มันรู้สึกอบอุ่นอยู่แล้ว,Thairath Talk : ความรักสำหรับหนุ่มสาวมันทำให้เรามีพลังเพิ่มขึ้นบ้างไหม,จริงมันก็มีส่วนนึงตรงที่ว่าแบบมันกระชุ่มกระชวย แต่ว่าถ้าสมมติมันมีทะเลาะกันหรือคิดมากทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดก็มีบ้าง แต่ว่าตอนนี้แค่เพียงแค่ว่าหนูก็อยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี,Thairath Talk : เรื่องความรักเป็นเรื่องรอง,ก็ถ้าพูดถึงแบดกับความรักก็คงจะให้แบดมากกว่า เพราะว่าตอนนี้เรามีโอกาสที่ดีค่ะ,Thairath Talk : สเปกหนุ่มๆ ของเมย์เป็นไงบ้าง,หนูเป็นคนชอบคนแบบคิ้วเข้มๆ(หัวเราะ) ไม่สูงเกินไปเอาพอดีๆ,Thairath Talk : ถ้าเป็นดารามีบ้างไหมที่ชอบ ใครคือสเปกเรา,แต่ก่อนหนูชอบพี่เวียร์ หนูดูช่อง 7 ด้วยอะค่ะ ก็รู้สึกชอบชื่นชอบแต่ตอนนี้ก็มีดาราหน้าใหม่หลายๆ คนก็มีทั้ง พี่เจมส์จิ พี่เกรซ
คุยเมย์ รัชนก อดีตนักแบดหญิงมือหนึ่งของโลก เล่าเรื่องลับสิ่งที่แบดมินตันพรากบางสิ่งในชีวิตรัชนก อินทนนท์ไป เรื่องที่เมย์ รัชนกไม่เคยพูดที่ไหน Thairath Talk ที่แรก
บันเทิง
เมย์ รัชนก,รัชนก อินทนนท์,เมย์ นักแบดมินตันหญิง,ไทยรัฐทอล์ก,Thairath Talk
https://www.thairath.co.th/entertain/1649410
เจอ หัวกะโหลก ที่พัทยา คาดไหลมากับน้ำ ชาวบ้านจุดธูปไหว้
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก.สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา ร่วมตรวจสอบหัวกะโหลกมนุษย์ ที่ถูกพบบริเวณป่าด้านหลังโรงบำบัดน้ำเสียเมืองพัทยา หมู่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา,ในที่เกิดเหตุพบหัวกะโหลกมนุษย์ 1 หัว ถูกนำมาวางแล้วมีคนมาจุดธูปบูชา บริเวณขอบตาด้านล่างของกะโหลกมีร่องรอยใช้ลวดเย็บไว้ โดย นายอนันต์ บุญเกิด อายุ 34 ปี คนงานก่อสร้างที่พบกะโหลกคนแรกเล่าว่า ตนพบกะโหลกชิ้นนี้มานานกว่า 1 เดือน ทีแรกเห็นว่ามีลวดมัดนึกว่าเป็นของปลอม จึงนำมาวางไว้ตรงจุดนี้ แต่ต่อมามีคนมาจุดธูปไหว้และทราบว่าเป็นของจริง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำกะโหลกมนุษย์เก็บไว้เพื่อตรวจสอบ ส่วนที่มาของกะโหลกศีรษะชิ้นนี้ คาดว่าอาจจะไหลมาตามน้ำที่ท่วมในพื้นที่แถวนี้ ซึ่งอาจจะเป็นศพของบุคคลที่นับถือศาสนาอิสลามที่ฝังไว้บริเวณใกล้เคียงก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน จึงจะสรุปและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
คนงานก่อสร้างที่พัทยา พบหัวกะโหลกมนุษย์ ทีแรกคิดว่าเป็นของปลอมจึงนำไปวางไว้ แต่ต่อมามีคนจุดธูปบูชา รู้ว่าเป็นของจริงเลยแจ้งตำรวจ คาดน้ำท่วม กะโหลกของศพที่ถูกฝังไว้ไหลมากับกระแสน้ำ รอตรวจสอบให้แน่ชัด
ข่าว,ทั่วไทย
กะโหลก,กะโหลกมนุษย์,พบกะโหลก,พัทยา,บางละมุง,ชลบุรี,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/527501
นายกฯ นำคณะ บินไปกาฬสินธุ์ ตรวจนโยบายรัฐ ดูโครงการลุ่มน้ำลำพะยัง
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 13 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะ อาทิ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ นายอุตตมะ สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม,นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานร้อยเอ็ด และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยังสนามกีฬากลางบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการบริหารงานตามนโยบายของรัฐบาลพร้อมเยี่ยมเยียนประชาชน,จากนั้น นายกฯ ยังมีกำหนดการเยี่ยมชมวิถีชีวิตการทอผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ณ ศูนย์วัฒนธรรมภูไท หมู่บ้านโพน หมู่ที่ 5 ต.โพน อ.คำม่วง และมอบเครื่องจักรกลการเกษตร และมอบโค-กระบือ พร้อมกล่าวกับประชาชน ณ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทยผ้าไหมแพรวา เฉลิมพระเกียรติฯ ต.โพน อ.คำม่วง,และในเวลา 14.00 น. จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการลุ่มน้ำลำพะยังตอนบน อุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ และโครงการฝายลำพะยังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.สงเปลือย อ.เขาวง,โอกาสนี้ นายกฯยังเป็นประธานการประชุมสรุปยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ อาคารอำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคเขาวง ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง โดยนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลา 19.30 น.
บิ๊กตู่ หอบคณะ ติดตามความคืบหน้างานโยบายรัฐบาล-เยี่ยมประชาชน ตรวจโครงการลุ่มน้ำลำพะยัง จ.กาฬสินธุ์
ข่าว,การเมือง
ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกฯไปกาฬสินธุ์,นโยบายรัฐ,โครงการลุ่มน้ำลำพะยัง,เยี่ยมเยียนประขาชน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1151468
นักโทษสหรัฐฯ พยายามติดโควิด เข้าใจผิดคิดว่าติดเชื้อแล้วจะได้ออกจากคุก
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้รายงานว่า นายอเล็กซ์ วิลลานิวว่า (Alex Villanueva) นายอำเภอในนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่ากล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ถูกคุมขังจำนวนหนึ่งในเรือนจำนอร์ธ เคาน์ตี้ (North County) ได้ร่วมกันดื่มน้ำแก้วเดียวกัน และสูดหน้ากากอนามัยชิ้นเดียวกัน ซึ่งในสัปดาห์ที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพพฤติกรรมดังกล่าวได้ ทางการพบผู้ติดโรคโควิด-19 ในเรือนจำ 21 ราย โดยผู้ป่วยทั้งหมดไม่ได้มีอาการสาหัสแต่อย่างใดนายอำเภอ กล่าวว่า ผู้ถูกคุมขังทั้งหมดมีแก้วของตัวเอง และไม่มีเหตุจำเป็นต้องแบ่งกันใช้ ซึ่งนายอำเภอสันนิษฐานว่าที่นักโทษมีพฤติกรรมผิดปกติ เนื่องจากพวกเขาพยายามจะติดโรคโควิด-19 หลังเข้าใจว่าผู้ติดเชื้อจะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ทางเรือนจำได้ปล่อยตัวนักโทษมากกว่า 5 พันคน เพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคมภายในเรือนจำ ซึ่งทางการกล่าวว่าทางการจะให้ความรู้กับผู้ถูกคุมขังเกี่ยวกับเชื้อไวรัส และบทลงโทษของพฤติกรรมดังกล่าวทั้งนี้ เรือนจำถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 มากที่สุดในสหรัฐฯ โดยมีผู้ติดเชื้อในเรือนจำแล้วมากกว่า 25000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 350 ศพ.
นักโทษในสหรัฐฯ จำนวนหนึ่งร่วมดื่มน้ำแก้วเดียวกันเพื่อให้ตนติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าติดเชื้อแล้วจะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ
ข่าว,ต่างประเทศ
โควิด-19,COVID-19,สหรัฐอเมริกา,เรือนจำ,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ไฮไลต์ไวรัสโคโรน่า
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1842273
สุภิญญาเตรียมเสนอสร้างเงื่อนไขการอนุญาตทีวีรายเดิมออกอากาศคู่ขนานทีวีดิจิตอลบริการสาธารณะ
โดยสืบเนื่องจากโครงการมีเดียมอนิเตอร์ ภายใต้มูลนิธิสื่อมวลชนศึกษา ซึ่งเป็นองค์กรวิชาการ ที่ดำเนินการศึกษาและเฝ้าระวังสื่ออย่างต่อเนื่องและได้รับการยอมรับจากสาธารณะ ได้จัดส่งผลการศึกษาเกี่ยวกับผังรายการเพื่อวิเคราะห์ทิศทางการประกอบกิจการเพื่อบริการสาธารณะของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีโทรทัศน์ ช่อง ไทยพีบีเอส เพื่อกสท. และสำนักงาน กสทช. พิจารณาประกอบการทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อบริการสาธารณะ ตนเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ในช่วงการเปลี่ยนผ่านการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบแอนาล็อกไปสู่ดิจิตอล ตามที่ กสท. ได้มีมติและเปิดเผยต่อสาธารณะมาเป็นลำดับ เพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลอย่างสอดคล้องกับข้อเท็จจริงและเป็นที่ยอมรับของสาธารณะ ตลอดจนเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ของ กสทช. อย่างโปร่งใส จึงได้เสนอวาระ ดังนี้1.ให้ผู้ประกอบการช่องรายการโทรทัศน์ในระบบแอนาล็อกเดิมที่ออกอากาศคู่ขนานในระบบดิจิตอล 2. ให้ผู้ประกอบการช่องรายการโทรทัศน์ในระบบแอนาล็อกเดิมที่ออกอากาศคู่ขนานในระบบดิจิตอล ทั้งนี้เพื่อเป็นเงื่อนไขการกระจายการถือครองคลื่นความถี่ของภาครัฐ และให้เกิด การแข่งขันในกิจการโทรทัศน์อย่างเสรีและเป็นธรรม ลดการผูกขาด เพิ่มความหลากหลายของผู้ประกอบกิจการ.ทั้งนี้ สรุปสาระโดยสังเขป ส่งผลการศึกษาเกี่ยวกับผังรายการ เพื่อวิเคราะห์ทิศทางการประกอบกิจการเพื่อบริการสาธารณะจากโครงการมีเดียมอนิเตอร์ ภายใต้มูลนิธิสื่อมวลชนศึกษาได้ ดังนี้1 โครงการมีเดียมอนิเตอร์ ทำการศึกษาผังรายการของสถานีโทรทัศน์รวมสามช่องรายการประกอบด้วย สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีโทรทัศน์ ช่อง ไทยพีบีเอส โดยวิเคราะห์ผังและเนื้อหารายการ เพื่อจำแนกสัดส่วนประเภทรายการ ประกอบด้วย ข่าวสาร สาระประโยชน์ สาระบันเทิง บันเทิง และอื่นๆ โดยอ้างอิงและเปรียบเทียบกับหลักเกณฑ์ของ กสทช. และหลักเกณฑ์อื่นที่กำหนดในการศึกษา2 เนื้อหารายการที่นำมาศึกษาเป็นการออกอากาศระหว่างวันที่ 15 - 21 มกราคม 2556 สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ออกอากาศวันละ 24 ชั่วโมง มีเวลาออกอากาศในช่วงเวลาที่ศึกษา จำนวน 10080 นาที/สัปดาห์ ส่วนช่องไทยพีบีเอสซึ่งมีเวลาออกอากาศวันละ 21 ชั่วโมง มีเวลาออกอากาศในช่วงเวลาที่ศึกษา จำนวน 8820 นาที/สัปดาห์3 สรุปผลการศึกษาและการวิเคราะห์3.1.1 ออกอากาศรายการประเภทบันเทิงมากที่สุด คือ 3401 นาที/สัปดาห์ หรือ ร้อยละ 34 ตามด้วยรายการข่าวสาร คือ 3030 นาที/สัปดาห์ หรือร้อยละ 30 สาระบันเทิง 1459 นาที/สัปดาห์ หรือร้อยละ 14 สาระประโยชน์ 1410 นาที/ สัปดาห์ หรือร้อยละ 14 รายการประเภทแนะนำ/ขายสินค้า 720 นาที/สัปดาห์ หรือร้อยละ 7 รายการอื่นๆ รวม 60 นาที/สัปดาห์ หรือร้อยละ 13.1.2 การออกอากาศรายการประเภทบันเทิงมากที่สุด คือร้อยละ 34 ซึ่งไม่สอดคล้อง กับนโยบายของช่องซึ่งแถลงว่าจะปรับผังรายการปี 2556 โดยเพิ่มข่าวและรายการสาระความรู้เป็นร้อยละ 71 พร้อมกับลดกลุ่มรายการประเภทบันเทิงให้เหลือร้อยละ 29 (คำให้สัมภาษณ์ของพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ กรรมการผู้อานวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พบใน ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 2555 และไทยโพสต์ออนไลน์ 2556)3.1.3 หากพิจารณาตามเกณฑ์ของ กสทช. ที่กำหนดให้กิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ประเภทบริการสาธารณะ ต้องมีรายการที่เป็นข่าวสารหรือสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 แล้ว จะเห็นได้ว่า ซึ่งไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของสื่อเพื่อบริการสาธารณะตามที่ กสทช. กำหนด3.1.4 ในภาพรวม ช่อง ททบ.5 มีเนื้อหารายการที่เกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ หรือ ความปลอดภัยสาธารณะ ในสัดส่วนที่น้อย ไม่ว่าจะอ้างอิงนิยามหรือคำอธิบาย ความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยสาธารณะ จากแหล่งใด ทั้งพบว่าส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอรายการประเภทข่าวสาร ข้อเท็จจริง และเหตุการณ์ทั่วไป โดยเน้นการนำเสนอข่าวกิจกรรมและนโยบายต่างๆ ของกองทัพบก และหน่วยงานภาครัฐ ในรายการข่าวภาคดึก ขณะที่ในกลุ่มสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ พบรายการสารคดีสั้นที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแรงงาน ซึ่งอาจมีเนื้อหาเข้าข่ายความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยสาธารณะ ตามความหมายของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร และสภาความมั่นคงแห่งชาติ แต่ไม่พบรายการประเภทสาระประโยชน์ที่มีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยสาธารณะที่ชัดเจน3.1.5 หรือเป็นรายการประชาสัมพันธ์กิจกรรมและภาพลักษณ์ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและเอกชน3.2.1 มีสัดส่วนรายการที่เป็นข่าวสาร 5055 นาที/สัปดาห์ หรือร้อยละ 50 ขณะที่สัดส่วนรายการสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ 4100 นาที หรือร้อยละ 41 เมื่อรวมแล้วเป็น 9155 นาที หรือ ร้อยละ 913.2.2 ช่อง สทท.11 มีสัดส่วนข่าวสารสูงกว่าสัดส่วนสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ แต่เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นข้อมูลของภาครัฐเป็นหลัก เช่น นโยบาย และกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น ในขณะที่มีการนำเสนอข้อมูลและความคิดเห็นของภาคประชาชน รวมทั้งภาคส่วนอื่นในสัดส่วนที่น้อยกว่า3.2.3 ในกลุ่มรายการสาระประโยชน์จำนวนรวม 4100 นาที/สัปดาห์ มีเนื้อหา เพื่อคุณภาพชีวิต จำนวน 691 นาที/สัปดาห์ ในขณะที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งเสริมประชาธิปไตยเพียง 130 นาที/สัปดาห์ ซึ่งนับว่าเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อย3.2.4 ผังรายการและสัดส่วนรายการของช่อง สทท.11 ในช่วงเวลาที่ทำการศึกษามีเนื้อหาที่สะท้อนบริการสาธารณะประเภทที่สาม และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจหลักของสถานี3.2.5 ทั้งยังพบรายการที่มีผู้สนับสนุนเป็นองค์กรต่างๆ เช่น บริษัท ปตทจำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน การไฟฟ้านครหลวง เป็นต้น โดยเนื้อหารายการมีลักษณะ เป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรที่สนับสนุน3.3.1 สัดส่วนรายการที่พบมากที่สุด คือ รายการข่าวสาร รวม 3770 นาที/สัปดาห์ หรือร้อยละ 43 รองลงมาคือรายการสาระประโยชน์ รวม 3016 นาที/สัปดาห์ หรือร้อยละ 34 ที่เหลือเป็นรายการสาระบันเทิง รวม 2034 นาที/สัปดาห์ หรือ ร้อยละ 233.3.2 เมื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของ กสทช. ที่ระบุให้กิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ประเภทบริการสาธารณะ ต้องมีสัดส่วนรายการที่เป็นข่าวสาร หรือ สาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 พบว่า มีรายการข่าวสาร ร้อยละ 43 และ สาระประโยชน์ ร้อยละ 34 รวมแล้วเป็นร้อยละ 77 หากพิจารณาตามเกณฑ์ กสทช. พบว่า มีรายการที่ไม่สามารถจัดอยู่ในกลุ่มข่าวสารและสาระประโยชน์ เป็นจำนวนร้อยละ 23.06 แต่เมื่อพิจารณาจากหลักเกณฑ์ของ ส.ส.ท. พบว่าสามารถจัดอยู่ในประเภทรายการ สาระบันเทิง ซึ่งเป็นกลุ่มเนื้อหาที่ กสทช. ไม่ได้ระบุถึง3.3.3 หากวิเคราะห์ผังและเนื้อหารายการตามเกณฑ์ ส.ส.ท. พบว่าช่อง ไทยพีบีเอส มีสัดส่วนรายการข่าวสาร ร้อยละ 43 สาระประโยชน์ ร้อยละ 31 และสาระบันเทิง ร้อยละ 263.3.4 โดยสรุป พบว่า 3.3.5 รายการต่างๆ ในกลุ่มสาระประโยชน์ของช่องไทยพีบีเอส เป็นรายการที่มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ และการศึกษาในสาขาต่างๆ แม้แต่รายการสาระบันเทิงที่เป็นการ์ตูน ละคร ซิทคอม หรือภาพยนตร์ก็มีลักษณะเป็นรายการที่มีเนื้อหาสาระ ให้ความบันเทิง สอดแทรกความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกิจการโทรทัศน์เพื่อบริการสาธารณะ ประเภทที่หนึ่ง ตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย
ในวันจันทร์(29 เม.ย.นี้) นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์( กสท.) จะได้เสนอวาระเพื่อพิจารณาในที่ประชุมเรื่อง
สังคม
กสท.,กสทช.,มีเดียมอนิเตอร์,สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย,สุภิญญา กลางณรงค์
https://prachatai.com/journal/2013/04/46451
มวลชนดาหน้าหนุน ตร.ภ.4 จับมือฆ่าพระ
ที่ไม่เคยปรากฏในสำนวนสอบสวนเดิม หลังผ่านมาจะ 3 ปี นำสู่การรื้อคดีขึ้นสอบสวนใหม่ เพื่อตามล่าฆาตกรฆ่าพระศรีสกลกิจ อดีตรองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร เจ้าอาวาสวัดศรีสุมังคล์ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร ที่ถูกฆ่ามรณภาพบนกุฏิที่พัก โบแดงนุสรณ์ สุดเหี้ยมโหดเมื่อเช้าตรู่วันที่ 8 ก.ย.55 ล่าสุดชาวสกลนครดาหน้าหนุนส่งกำลังใจให้ตำรวจภาค 4 จับคนร้ายฆ่ารองเจ้าคณะจังหวัดให้ได้ให้ไทยรัฐเดินหน้าตีแผ่ทุกแง่มุม,ความคืบหน้าวันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจภูมิภาคไทยรัฐ ได้รับการเปิดเผยจากนายจักรพงศ์ วงศ์กาฬสินธุ์ อายุ 66 ปี อดีตข้าราชการบำนาญตำแหน่งนักวิชาการ กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยว่า สิ่งแรกตนต้องขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ และตำรวจภูธรภาค 4 แทนชาวสกลนคร ที่เข้ามาตีแผ่ความเป็นมาของคดีทุกแง่มุม ทำให้คดีนี้ถูกรื้อขึ้นมาสอบสวนใหม่หาผู้กระทำผิด เป็นสิ่งที่ค้างคาใจชาวสกลนครมานาน จะเข้า 3 ปี ยังไม่มีคำตอบว่าใครเป็นผู้ฆ่าอดีตรองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ สาเหตุที่ฆ่าเพราะอะไร ก่อนคดีจะปิดลงชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าปิดลงอย่างไร จนทุกอย่างเงียบไปหมด,ชาวบ้านทราบเพียงว่าก่อนถูกฆ่าไม่กี่วัน ผู้ตายได้ทวงถามเงิน มจร.ในบัญชีที่หายไปจำนวนเกือบ 3 ล้าน อยากรู้ว่าเงินจำนวนนี้ขณะนี้อยู่ไหน ใครเป็นผู้เอาไป เอาไปทำไมด้วยเหตุใด มารู้อีกทีว่าศาลออกหมายจับพระจำนวนหนึ่งที่นำเงินจำนวนนี้ไป สุดท้ายทราบว่ามีการสั่งไม่ฟ้อง มันเคลือบแคลงเกิดข้อสงสัยกันไปหมด ไม่มีใครให้คำตอบอะไรได้ ที่ ไทยรัฐ เข้ามาเกาะติดคดีนี้ขึ้นมา เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว จะเป็นการดีกับเรื่องอื่นๆอีกมาก ชาวสกลนครให้กำลังใจติดตามข่าวในหนังสือพิมพ์ทุกวัน ให้กำลังใจตำรวจภูธรภาค 4 ให้จับคนร้ายที่ฆ่าพระผู้ใหญ่มาลงโทษให้ได้,ด้านข้าราชการครูโรงเรียนสามัญศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา สอนอยู่ที่โรงเรียนสามัญศึกษาแห่งหนึ่ง ใน อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ไม่ขอเผยชื่อ ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐว่า คดีนี้เงียบมานานกว่า 3 ปี ตำรวจภูธรภาค 4 เข้ารื้อขึ้นสอบสวนใหม่ทำให้ความเป็นธรรมได้เกิดขึ้นกับอดีตรองเจ้าคณะจังหวัดสกลนครแล้ว พวกตนไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าคดีนี้จะถูกรื้อขึ้นมา เชื่อว่าตำรวจจะจับ คนร้ายได้ ชาวบ้านทุกอาชีพติดตามข่าวที่ ไทยรัฐ นำเสนอทุกวันขอให้กำลังใจหากไม่เข้ามาตีแผ่คดีนี้คงเงียบไปเลย สำหรับความคืบหน้าของคดีทางทีมข่าวเฉพาะกิจ นสพ.ไทยรัฐจะนำเสนอต่อไป.
คดีที่ ไทยรัฐ ติดตามนำเสนอต่อเนื่องอยู่ในความสนใจของประชาชนว่าจะปิดอย่างไร เมื่อตำรวจภูธรภาค 4 ที่ พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 ส่งเข้าคลี่คลายคดี ไปพบหลักฐานชิ้นใหม่
ข่าว,ทั่วไทย
มวลชนดาหน้า,จับมือฆ่าพระ,บุญเลิศ ใจประดิษฐ์,หลักฐาน,จักรพงศ์ วงศ์กาฬสินธุ์,โบแดงนุสรณ์,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/news/local/502466
อัดโวคาท สุดงง แผงหลังฟอร์มบู่ ทำแมวดำจมท้ายตาราง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 19 ส.ค. ว่า ดิค อัดโวคาท ผู้จัดการทีมซันเดอร์แลนด์ ยอมรับ ไม่เข้าใจเพราะเหตุใดฟอร์มการเล่นของแผงกองหลังทีมแมวดำ ถึงทำได้อย่างน่าผิดหวังโดนเจาะไปแล้ว 7 ลูก จากการลงสนามไปเพียงแค่ 2 เกมในฤดูกาลล่าสุด ,ทีมแมวดำ ออกสตาร์ตในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015-2016 ด้วยการพ่ายแพ้ต่อทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้ และ นอริช ซิตี้ ไปอย่างขาดลอย ลงไปจมอยู่ในอันดับสุดท้าย,ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ ได้เผยกับ ซันเดอร์แลนด์ เอคโค สื่อแห่งย่านตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษว่า ผมไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแผงหลังใหม่หมดหลังจบเกมแรก แต่ในตอนนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใดผู้เล่นถึงทำผลงานกันได้อย่างย่ำแย่เช่นนี้ ผมมักจะบอกกับนักเตะทุกคนว่าต้องการให้แบ็กทั้งสองข้างลงมารับให้แน่นเพราะปรัชญาสำคัญของการเล่นแบ็กโฟร์คือการไม่เสียประตู แต่พวกเขากลับเปลี่ยนแผนการเล่นไปหมดทุกอย่างเมื่ออยู่บนสนาม,สำหรับ ซันเดอร์แลนด์ เสียประตูไปมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกขณะนี้ถึง 7 ลูก และจมอยู่ในอันดับสุดท้ายของตาราง โดยจะมีคิวเปิดบ้านพบกับ หงส์ขาว สวอนซี ซิตี้ ในเกมวันอาทิตย์นี้
กุนซือทีมแมวดำ ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก หลังแนวรับของทีมเล่นกันได้อย่างย่ำแย่เกินกว่าจะเยียวยา เสียไปถึง 7 ลูก ใน 2 เกมแรก นอนอมบ๊วยของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกในขณะนี้
null
ซันเดอร์แลนด์,ผิดหวัง,แนวรับ,กองหลัง,แมวดำ,ฟอร์มบู่,อันดับสุดท้าย,พรีเมียร์ลีก,ฤดูกาล 2015-2016,เลสเตอร์ ซิตี้,นอริช ซิตี้,สวอนซี ซิตี้,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,ดิค อัดโวคาท
https://www.thairath.co.th/content/519419
สินค้า 94 รายการ ลดภาษีนำเข้าเป็นศูนย์ ภายใต้ JTEPA
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตกลง JTEPA ที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2550 นั้น ในวันที่ 1 เมษายน 2555 ที่จะถึงนี้ ญี่ปุ่นจะยกเลิกภาษีนำเข้าแก่สินค้าไทยเพิ่มเติมอีก 94 รายการ ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น โดยสินค้าที่ได้รับการยกเลิกภาษีในครั้งนี้ ได้แก่ ปลาสด แช่เย็น หรือแช่แข็งอื่นๆ (HS. 0302.29.000) ไข่ของปลานิชชินแบบแข็งที่ไม่ใช่ปลานิชชินแบบแข็งที่ป่น (HS. 0305.20.010)พืชจำพวกหอมกระเทียมอื่นๆ (บัวหอมพันธุ์เวลส์) (HS. 0703.90.010) พริกในตระกูลแคปซิคั่มหรือตระกูลพิเมนตาอื่นๆ (HS. 0709.60.090) ถั่วเขียว (HS. 0710.29.010) การ์เด้นสปิแนช (HS. 0710.30.000) พืชผักอื่นๆ (HS. 0710.80.090) แตงร้านและแตงกวา (HS. 0711.40.000) หน่อไม้สด (HS. 0712.90.010) ผลไม้แห้งอื่นๆ (HS. 0813.40.029) ปลาทูน่าแปรรูป (HS. 1604.14.010) เป็นต้น กรมการค้าต่างประเทศจึงรณรงค์ให้ผู้ประกอบการไทยเร่งใช้ประโยชน์จากความตกลงฯ ดังกล่าวอย่างเต็มที่นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า สินค้าจำนวน 94 รายการที่ญี่ปุ่นยกเลิกภาษีนำเข้าภายใต้ความตกลง JTEPA แก่ไทยจะสามารถช่วยผลักดันการส่งออกของไทยไปญี่ปุ่นให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยในปี 2554 มีการขอใช้สิทธิ JTEPA ส่งออกมูลค่า 6039.15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.56 จากปี 2553 ที่มีมูลค่าการขอใช้สิทธิมูลค่า 4771.79 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ร้อยละ 71.18 ของมูลค่าการส่งออกเฉพาะรายการที่ได้รับสิทธิฯ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2553 ที่มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ร้อยละ 66.78 ดังนั้น การได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นอีก 94 รายการดังกล่าวจะทำให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันในตลาดญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งตลาดญี่ปุ่นเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อสูง
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป ญี่ปุ่นจะยกเลิกภาษีนำเข้า (ร้อยละ 0) สินค้าจำนวน 94 รายการ ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (Japan-Thailand Economic Partnership Agreement) หรือรู้จักกันในชื่อ JTEPA นับเป็นประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นที่ผู้ส่งออกของไทยจะได้รับสิทธิลดภาษีศุลกากรนำเข้าของญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นจากที่ได้รับประโยชน์อยู่ในปัจจุบัน
เศรษฐกิจ
ลดภาษี,สินค้า,ส่งออก,เป็นศูนย์. หุ้นส่วนเศรษฐกิจ,ไทย-ญี่ปุ่น
https://news.thaipbs.or.th/content/69370
ตร. เตรียมจ่ายภาพละ 500 บ. หากได้คนในภาพต้านรัฐประหารมาปรับทัศนคติ
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยเตรียมรับมือผู้ชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ฝากเตือนนักศึกษาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ให้คิดถึงอนาคตของตนเองด้วย6 มิ.ย. 2557 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ทหาร หลังมีกระแสข่าวว่าในวันนี้จะมี กลุ่มประชาชนออกมาชุมนุมที่บริเวณสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาพล.ต.อ.สมยศ ยืนยันว่า หากมีผู้ชุมนุมออกมาทำกิจกรรมทางเจ้าหน้าที่ จะไม่ใช้ความรุนแรง ไม่มีการจับกุม แต่ทางตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่ทหาร จะบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานเพื่อเชิญตัวมาปรับทัศนคติ แต่หากพบว่าบุคคลใดมีการกระทำผิดซ้ำ ขั้นตอนต่อไป จะให้เจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้ดำเนินการ พร้อมฝากเตือน นิสิต นักศึกษา ที่ออกมาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขอให้คิดถึงอนาคตของตนเองด้วยนอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่ามีประชาชนทยอยส่งภาพถ่ายบุคคลต่างๆที่ออกมาชุมนุม ฝ่าฝืนคำสั่ง ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้กับตำรวจแล้วส่วนหนึ่ง หลังจากนี้จะดำเนินการเรียกตัวมาปรับทัศนคติ และจะส่งมอบเงินรางวัลไปให้ผู้ส่งภาพละ 500 บาทขณะที่บรรยากาศด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยได้นำรั้วเหล็กมากั้นทางเข้าออก พร้อมมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 / สน.ลุมพินี และตำรวจนอกเครื่องแบบ รักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยเตรียมรับมือผู้ชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ฝากเตือนนักศึกษาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ให้คิดถึงอนาคตของตนเองด้วย 6 มิ.ย.
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
กิจกรรมเชิงสัญลักษณ์,คสช.,ต่อต้านรัฐหาร,นักศึกษา,รางวัลนำจับ,สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา,สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
https://prachatai.com/journal/2014/07/54441
ดีเดย์ รถเมล์ 510 มธ.รังสิต-อนุสาวรีย์ฯ จ่ายค่าโดยสารผ่านบัตร ขสมก.
วันนี้ (9 เม.ย.2562) ขสมก.นำร่องทดลองการรับชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด โดยใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. ใช้เฉพาะรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สาย 510 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จำนวน 38 คัน วันนี้เป็นวันแรกผู้โดยสารต้องซื้อบัตรอิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋ารถเมล์ก็ต้องสะพายเครื่องรูดคู่กับกระบอกเก็บเงิน เพราะยังมีผู้โดยสารจ่ายแบบปกติอยู่ ยังไม่ตัดสินใจซื้อบัตร คุณวิภูษา สุขมาก ทดลองใช้บริการมาเป็นข้อมูลให้คุณผู้ชมตัดสินใจสำหรับบรรยากาศในวันนี้พนักงานเก็บค่าโดยสารรถประจำทางปรับอากาศสาย 510 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต้องพยายามอธิบายให้ผู้โดยสารแต่ละคนเข้าใจวิธีการในการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก.ซึ่งบัตรนี้จะนำมาใช้แทนการจ่ายเงินสดส่วนวิธีการใช้งานเมื่อผู้โดยสารแจ้งจุดหมายปลายทางกับพนักงานเก็บค่าโดยสาร พนักงานจะกดราคาและนำบัตรแตะที่ด้านบนของเครื่อง EDC คิดค่าโดยสารตามระยะทางที่กำหนดซึ่งผู้โดยสารที่ซื้อบัตรช่วงโปรโมชั่นจนถึงสิ้นเดือน เม.ย.นี้ในราคา 40 บาท จะได้รับเงินในบัตรมูลค่า 50 บาท บัตรใบนี้มีอายุการใช้งาน 5 ปี ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีปชช.หวังพัฒนาเป็นบัตรโดยสารใบเดียวใช้ได้ทุกบริการจากการทดลองใช้บริการ พบว่า คนส่วนใหญ่พร้อมจะซื้อบัตร เพราะส่วนใหญ่ใช้บริการเป็นประจำ และมองว่ามีความสะดวก ซึ่งหากอนาคตสามารถเชี่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆได้ก็จะสะดวกยิ่งขึ้นแต่ก็มีผู้โดยสารส่วนหนึ่งที่ยังมีความกังวลเนื่องจากยังไม่เข้าใจเรื่องการใช้บัตร และต้องการให้ขสมก.เร่งการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้นณัชชา อยู่สุข ผู้โดยสาร ระบุว่า สำหรับคนที่ใช้เทคโนโลยีอยู่แล้วก็จะใช้งานบัตรอิเล็กทรอนิกส์นี้ได้คล่องแต่ผู้สูงอายุอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ ส่วนตัวต้องการให้มีบัตรมานานแล้ว และต้องการให้มีการเชื่อมโยงไปใช้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส ให้เป็นบัตรใบเดียวใช้ได้ขณะที่พนักงานเก็บค่าโดยสารต้องใช้เวลาประมาณ 3 นาทีต่อการอธิบายผู้โดยสารหนึ่งคน พร้อมถือทั้งกระบอกเก็บค่าโดยสารและถือเครื่องอีดีซี แม้พนักงานเก็บค่าโดยสารจะบอกว่าไม่เป็นปัญหา เพราะยังเป็นช่วงแรกของการให้บริการจึงจำเป็นต้องให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้โดยสารขสมก.ตั้งเป้าว่าในอนาคตจะใช้ระบบจ่ายค่าโดยสารแบบไร้เงินสดบนรถเมล์ทุกคัน โดยระหว่างนี้จะติดตามผลตอบรับจากผู้ใช้บริการ หากเป็นไปในทางที่ดี ขสมก.อาจพิจารณาลดค่าโดยสารเพื่อจูงใจผู้โดยสาร รวมถึงการเชื่อมต่อบัตรอิเล็กทรอนิกส์ขสมก.ให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะประเภทอื่นด้วยเช็ก 4 จุด ซื้อบัตร-เติมเงิน บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ขสมก.สำหรับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของขสมก.สามารถซื้อได้บนรถสาย 510 และ ป้ายรถเมล์ 4 แห่ง คือ หน้าห้างเมเจอร์ รังสิต หน้าสนามบินดอนเมือง เกาะพหลโยธินอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ บีทีเอสจตุจักรสำหรับวิธีการใช้งานเมื่อแจ้งจุดหมายกับพนักงานเก็บค่าโดยสาร พนักงานจะกดราคา และนำบัตรแตะเครื่อง EDC คิดค่าโดยสารตามที่กำหนด นอกจากนี้ผู้ใช้บริการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังสามารถชำระได้ตามปกติ และยังสามารถชำระด้วยระบบคิวอาร์โค้ด ของทุกธนาคารส่วนการเติมเงินบัตรมี3 วิธี คือ เติมเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้งของทุกธนาคาร เติมเงินผ่านตู้เอทีเอ็มของทุกธนาคาร และเติมเงินผ่านเคาท์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาอ่าน
ขสมก.เริ่มทดลองการชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด โดยการชำระผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ขสมก. กับรถโดยสารประจำทางสาย 510 มธ.รังสิต-อนุสาวรีย์ฯ วันนี้เป็นวันแรก ขณะที่ประชาชนหวังว่าจะพัฒนาให้สามารถใช้บัตรใบเดียวชำระค่าโดยสารครอบคลุมทุกการคมนาคม
สังคม
รถเมล์,รถเมล์ 510,สังคมไร้เงินสด,บัตรอิเล็กทรอนิกส์,ขสมก.,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/279148
สาวใหญ่สะดุ้งโหยง จงอางป่าพันธุ์หายาก มาเยี่ยมถึงห้องนอน (คลิป)
เจองู ,เวลา 18.30 น. วันที่ 22 ต.ค เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง ได้รับแจ้งจากนางคล่อง สมาธิ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 197 ม.8 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง ว่ามีงูจงอางป่า หรืองูบองหลา เลื้อยเข้าไปขดตัวอยู่ภายในบ้าน หลังจากรับแจ้งจึงได้นำอุปกรณ์ครบมือรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านชั้นเดียว อยู่ในสวนยางพารา รอบข้างเป็นป่ารกทึบ บริเวณหลังบ้านติดกับลำห้วย,ตรวจสอบภายในห้อนอน พบงูจงอางนอนขดอยู่บริเวณบนพื้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงนำอุปกรณ์เข้าจับงูตัวดังกล่าวซึ่งได้ชูคอแผ่แม่เบี้ย ส่งเสียงขู่ พยายามฉกเมื่อกู้ภัยเข้าไป โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถจับงูจงอางได้,ตรวจสอบพบเป็นงูจงอางป่า ชนิดลายลูกหวายขาวดำ เป็นสายพันธุ์หายากไม่ค่อยเจอบ่อย ลำตัวเป็นสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นงูที่มีความดุร้ายกว่างูจงอางชนิดอื่นๆ พิษอันตรายถึงแก่ชีวิต โดยปกติจะอาศัยอยู่ภายในป่าเท่านั้น และหาพบได้ยาก จากการวัดขนาดความยาวประมาณ 3 เมตร น้ำหนัก 5 กก. ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติต่อไป,ขณะที่ นางคล่อง เจ้าของบ้าน เล่าด้วยอาการตื่นตระหนกว่า ก่อนพบงูจงอางป่าตัวนี้ ตนกวาดขยะอยู่ในบ้าน ระหว่างนั้นได้เห็นงูเลื้อยเข้าไปนอนขดอยู่ในห้องนอน เมื่อเห็นตน งูพยายามเลื้อยหนี ระหว่างนั้นตนตกใจมากจึงโทรหาลูกชายให้มาช่วยเอาไม้ไผ่เขี่ยให้งูอออกจากบ้าน แต่งูยังคงเลื้อยอยู่ภายในบ้าน,ได้จุดธูปเทียนขอ เพราะคิดว่าเป็นงูเจ้าที่ อธิษฐานว่าหากเป็นงูเจ้าที่จริง ศักดิ์สิทธิ์ ให้ออกไป แต่งูก็ไม่ไป ตอนนั้นรู้สึกตัวสั่นไปหมดเลย เพราะไล่เท่าไรก็ไม่ยอมไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่ผ่านมามักจะเจองูมาเลื้อยอยู่ บางทีก็เจอข้างบ้านเพื่อนบ้าน เจอบ่อย เพราะแถวนี้เป็นป่า ซึ่งปกติทุกครั้งที่เจอก็มักตีเป็นเลข โดยมีเลขที่ซื้อและถูกประจำคือเลข 56.
สาวใหญ่ที่ตรังบ้านอยู่ในสวนยางพารา มีอันต้องสะดุ้งโหยง เมื่อมีอาคันตุกะเป็นงูบองหลา ชนิดลายลูกหวายขาวดำ สายพันธุ์หายากเลื้อยเข้าห้องนอน ต้องจุดธูปเชิญออก เผยมีเลขเด็ดประจำตัว ซื้อทุกครั้งที่
ข่าว,ทั่วไทย
หวย,ข่าวเด็ด,เลขเด็ด,งูจงอาง,หวยไทยรัฐ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1688348
อินโดนีเซีย ประท้วง มาเลเซีย เหตุอ้างต้นเป็นกำเนิดวัฒนธรรม
ชาวอินโดนีเซียในเกาะสุมาตราเหนือรวมตัวประท้วงหน้าสถานกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำเกาะบาหลี โดยผู้ประท้วงบางคนแสดงการฟ้อนรำที่เรียกว่า โตร์ โตร์ และการเล่นเครื่องเคาะ ที่มีชื่อว่า กอร์ดัง ซัมเบียน ซึ่งการแสดงทั้งสองประเภทนี้ เป็นต้นเหตุทำให้ชาวอินโดนีเซียไม่พอใจ ที่ชาวมาเลเซียมักอ้างว่า การแสดงทางวัฒนธรรมทั้งสองชุดนี้มีต้นกำเนิดที่มาเลเซีย โดยชาวอินโดนีเซียโต้แย้งว่ามีต้นกำเนิดอยู่ที่เกาะสุมาตราขณะที่ด้านหน้าสถานทูตมาเลเซียในกรุงจาการ์ตา ผู้ประท้วงบางคนจุดไฟเผาธงชาติมาเลเซียและขว้างปาก้อนหินเข้าใส่อาคารสถานทูต ทำให้อุปทูตของสถานทูตมาเลเซียประณามการกระทำของผู้ประท้วงชาวอินโดนีเซีย และแสดงความเสียใจต่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นแม้รัฐบาลอินโดนีเซียและมาเลเซียพยายามคลี่คลายข้อพิพาทที่ต่างฝ่ายต้างอ้างว่าเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรรมหลายอย่าง แต่เจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศก็ยอมรับว่าแผนการส่งเสริมวัฒนธรรมของชาวเมนดาลิง ในเกาะสุมาตราเหนือ ซึ่งเป็นชนเผ่าที่อยู่ในช่องแคบมะละกา ใกล้พรมแดนทังสองประเทศ กลายเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่ เพราะที่ผ่านมาชาวอินโดนีเซียต่างผิดหวังที่มาเลเซีย ขโมย วัฒนธรรมของอินโดนีเซียไป ทั้งผ้าบาติก ดนตรีพื้นเมือง และแกงเรนดัง ซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อของอินโดนีเซียอย่างไรก็ตาม ประธานสมาคมเมนดาลิงในมาเลเซียกล่าวว่าการอ้างความเป็นเจ้าของวัฒนธรรม ไม่สำคัญเท่ากับการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก
ชาวอินโดนีเซียรวมตัวประท้วงหน้าสถานกงสุลใหญ่มาเลเซีย หลังไม่พอใจที่ประเทศเพื่อนบ้าน แอบอ้างว่าเป็นต้นกำเนิดทางวัฒนธรรม
ต่างประเทศ
บาหลี,ประท้วง,ฟ้อนรำ,มาเลเซีย,วัฒนธรรม,อินโดนีเซีย
https://news.thaipbs.or.th/content/94361
บทพิสูจน์ความสำเร็จของหนุ่มติสต์ สุรนาท เลิศคุณากรณ์
ด้านการตกแต่งมาปรับบ้านพักตากอากาศในอดีตให้กลายเป็นบูติคโฮเต็ลสวย น่าอยู่น่านอนบนชายหาดหัวหิน ริมถนนแนบเคหาสน์ ในชื่อว่า The Hen Hua-Hin Private Beach Villa,สุรนาท-โต้ง ทายาทของ กฤษณี และ นิวัตร์ เลิศคุณากรณ์ เจ้าของบริษัท วัตรพงษ์ จำกัด นำเข้าไม้จากประเทศมาเลเซีย เล่าว่า โตมากับโรงเรียนประจำที่อัสสัมชัญ ศรีราชา ด้วยความชอบด้านศิลปะจึงเลือกเรียนคณะศิลปากร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จากนั้นได้ไปเรียนภาษาที่ประเทศนิวซีแลนด์ 1 ปี เพื่อที่จะเรียนต่อปริญญาโท แต่สุดท้ายรู้ว่าไม่ใช่แนวที่ตัวเองชื่นชอบ จึงกลับมาเป็น Interior Designer รับออกแบบตกแต่งบ้านคนรู้จัก อย่างบ้านสวยสไตล์อังกฤษของ กมล ฉัตรเสน เมกอัพอาร์ติสต์ และได้รู้จักกับเจ้าของบ้านพักตากอากาศของสมาชิกในราชสกุลดิศกุล หรือที่รู้จักว่าสำนักดิศกุล ที่หัวหิน จึงขอเช่าเพื่อมาปรับปรุงเป็นโรงแรม โดย โต้ง คุมงานเองตั้งแต่ต้น เพื่อทำฝันของตัวเองที่อยากทำบูติคโฮเต็ลมาตั้งแต่เด็กให้เป็นจริง,มาเห็นบ้านครั้งแรกก็รักเลย เพราะผมชอบบ้านแบบโบราณ เลยขอท่านเจ้าของเพื่อปรับปรุงมาทำโรงแรม ซึ่งความยากของงานนี้คือ บ้านเป็นอาคารโบราณ เราต้องปรับปรุงอย่างไรให้คงทุกอย่างไว้อย่างดี เป็นเรื่องที่ยากกว่าการสร้างบ้านใหม่เสียอีก ผมใช้เวลารีโนเวทเป็นปี จนเสร็จเปิดบริการในปี 2552 ตอนที่ได้เห็นงานของตัวเอง จากที่เหนื่อยมา มันหายเป็นปลิดทิ้ง งานนี้ผมได้เรียนรู้มากมาย ได้ทั้งความรู้ด้านการตกแต่งและการบริหาร จากที่ไม่เคยมีหัวด้านการเงินเลย คุมงบการเงินไม่เป็น งบเลยบานปลาย คุณพ่อจึงได้เข้ามาสอนให้ทำแผนธุรกิจ แผนบริหาร ขณะเดียวกันก็ต้องดูเรื่องการตลาดด้วย เรียกว่าได้ความรู้มากพอกับที่ตั้งใจจะเรียนปริญญาโทเลย นอกจากนี้คุณพ่อยังสอนวิชาที่โรงเรียนไม่ได้สอนคือ เรื่องความกตัญญูรู้คุณกับผู้มีบุญคุณกับเรา รวมทั้งการบริหารคน ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราอีกด้วย หนุ่มโต้งอธิบายถึงความตั้งใจที่จะสานฝันให้เป็นจริง,ในการทำงานประสบผลสำเร็จสามารถสร้างโรงแรมให้เป็นที่รู้จักและเลี้ยงตัวเองได้นับตั้งแต่ปีแรก โต้ง บอกว่า ความรู้สึกแรกคือ ความภูมิใจและบอกกับตัวเองว่า เราทำได้ เพราะตนไม่ได้เป็นคนเรียนหนังสือเก่ง การได้ทำงานที่ถนัดและชอบ ทำให้ตนมีพลังและมีความสุขที่จะทำฝันนั้นให้เป็นจริง.
หากเรารู้จักตัวเองและสามารถดึงความสามารถที่มีอยู่ในตัวเองออกมาใช้อย่างเต็มที่ ความสำเร็จในชีวิตก็อยู่ในมือเราแล้ว พิสูจน์ได้จากความสำเร็จของนักบริหารหนุ่มคนนี้ สุรนาท เลิศคุณากรณ์ หรือ โต้ง ซึ่งได้ใช้ความสามารถและความชื่นชอบ
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
NEXTเจเนอเรชั่น,สุรนาท เลิศคุณากรณ์,โต้ง สุรนาท เลิศคุณากรณ์,ความสำเร็จในชีวิต,นิวัตร์ เลิศคุณากรณ์,บริษัท วัตรพงษ์ จำกัด,นำเข้าไม้,ออกแบบตกแต่งบ้าน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสตรี,ข่าวไลฟ์สไตล์
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/486113
นี่หรือตกอับ? เปิดบ้านลุงเอี่ยม ขอทานเงินล้าน ชีวิตใหม่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ,เดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เพื่อแวะเวียนไปเยี่ยมบ้านของอดีตขอทานผู้ร่ำรวยน้ำใจ นายเอี่ยม คัมภิรานนท์, ในวัย 67 ปี หรือที่ใครๆ รู้จักกันในนาม ,ลุงเอี่ยม ขอทานเงินล้านแห่งวัดไร่ขิง, ผู้พิการแค่ร่างกาย แต่หัวใจช่างน่ายกย่อง,ลุงเอี่ยม ยิ้มร่าชูสองนิ้วให้กับผู้สื่อข่าวตั้งแต่แรกเห็น ทีมข่าวเดินเข้าไปไหว้ลุงเอี่ยม พร้อมกับทักทายเจ้าหน้าที่นับสิบชีวิตที่แวะมาเยี่ยมเยียนลุงเอี่ยมเช่นกัน,(ข่าวของลุงเอี่ยมก่อนหน้านี้ : ,ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ลุงเอี่ยม ขอทานเงินล้าน วัดไร่ขิง ตกอับ,),สวัสดีค่ะลุง สบายดีไหมคะ เจ็บป่วยตรงไหนไหมคะ?, ผู้สื่อข่าวถามคนดังแห่งวัดไร่ขิงด้วยความเป็นห่วง ,ลุงไม่ได้ยินจ้ะ ต้องพูดดังๆ แบบนี้, นางมยุรี ดำเนิน ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นครปฐม พูดพลางเอาปากเข้าไปใกล้ๆ หูของลุงเอี่ยม ,ลุง สบายดีไหม นักข่าวเขาถาม, ผอ.มยุรี พูดดังลั่นบ้านลุงเอี่ยม,อ้อ สบายดี, ลุงเอี่ยมกล่าวตอบเรากลับมาอย่างยากเย็น ,สวย, ลุงเอี่ยมกล่าวชมผู้สื่อข่าวแถมมาให้ด้วย คำชมของลุงเอี่ยมทำเอาเจ้าหน้าที่บริเวณนั้นหัวเราะในความปากหวานของแกกันยกใหญ่,ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นครปฐม บอกเล่าถึงความเป็นอยู่ของลุงเอี่ยม ณ ปัจจุบันให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนนี้ลุงเอี่ยมอาศัยอยู่ที่ห้องเช่า 2 คูหา บริเวณหน้าวัดไร่ขิง ซึ่งห้องเช่าดังกล่าว ทางวัดเป็นผู้จัดหาดูแลให้แก่ลุงเอี่ยม ,โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น, (ปกติ อัตราเช่าห้องแถวหน้าวัดไร่ขิง จะอยู่ที่คูหาละ 1,200 บาท บวกเงินจองอีก 50,000 บาท),ส่วนเรื่องกับข้าวกับปลาของลุงเอี่ยมนั้น จะมีลุงขาว ซึ่งเป็นชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง คอยเข้ามาดูแลจัดหาให้เช้า กลางวัน เย็นไม่เคยขาด และที่สำคัญ ,ลุงขาวผู้นี้ ยังคอยดูแลทำความสะอาดห้องให้ลุงเอี่ยมด้วยใจ โดยที่ไม่ได้เงินสักบาท, ผอ.มยุรี ถามลุงเอี่ยมเสียงดังฟังชัดข้างหูลุงเอี่ยมถึงเรื่องอาหารการกินว่า ,ลุง ลุงกินข้าววันละกี่มื้อ?,สองบ้าง สามบ้าง ไม่อด,ลุงเอี่ยมหันมาบอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี,ลุงขาวเขามาดูแล ลุงเอี่ยมให้ตังค์แกบ้างเปล่า?, ผอ.มยุรี ถามเสียงดังฟังชัดเช่นเดิม ,ให้ สามร้อย, ลุงเอี่ยมตอบสั้นๆ , ผอ.มยุรีซักต่อ ,หึ เดือนละ 300, ลุงเอี่ยมหัวเราะร่า , เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งหันไปแซวลุงเอี่ยม,นางนงวรรณ โค้วปรีชา ประธานอาสาสมัครพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ ต.ไร่ขิง จ.นครปฐม หรือในฐานะเจ้าหน้าที่ของภาครัฐที่เข้ามาดูแลลุงเอี่ยมอยู่บ่อยครั้ง เธอบอกเล่ากับผู้สื่อข่าวแทนลุงเอี่ยม หลังจากที่ลุงเอี่ยมเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าว่า ,ปัจจุบัน ลุงเอี่ยมได้รับเบี้ยคนพิการ เดือนละ 800 บาทเท่านั้น, ,ซึ่งตามจริงแล้ว ลุงเอี่ยมจะต้องได้รับเบี้ยยังชีพคนชราจำนวน 600 บาทด้วย แต่ลุงเอี่ยมปฏิเสธที่จะรับเงินจำนวนนี้,แกก็บอกว่า จะได้เก็บไว้ให้คนอื่น, นางนงวรรณ บอกเล่าถึงความมีน้ำใจของลุงเอี่ยม,เดือนละ 800 ลุงเอี่ยมพอกินหรือคะ?, ผู้สื่อข่าวถามออกไปด้วยความสงสัย นายเมธี จารีบูรณภาพ รองปลัดเทศบาลเมืองไร่ขิง ที่ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องของลุงเอี่ยม หันมาตอบข้อซักถามในทันทีว่า ,พอกิน,แกได้รับน้ำจิตน้ำใจจากทุกคนไม่เคยขาดสาย แม้ว่าวันนี้แกจะไม่ได้ขอทานแล้วก็ตาม,เงินทองที่ลุงเอี่ยมได้มา แกเก็บไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัยหรือเปล่า?, ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสงสัย,โอ้โห ปลอดภัยเสียยิ่งกว่าปลอดภัย ลุงเอี่ยมเก็บเงินไว้ในตู้เหล็กหนาอย่างดี มีกุญแจที่ต้องใช้ไขหลายชั้น ,, รองปลัดเทศบาลเมืองไร่ขิง พูดพลางเดินไปชี้ที่ตู้เหล็กขนาดใหญ่ข้างที่นอนลุงเอี่ยม,นอกจากเงินที่ชาวบ้านคอยช่วยเหลือจุนเจือแล้วนั้น ลุงเอี่ยมยังมีรายได้จากการขายลอตเตอรี่ในวัดไร่ขิงเพิ่มเติมอีก ลุงเอี่ยมนั่งขายแป๊บเดียวก็หมดแล้ว, รองปลัดเทศบาลเมืองไร่ขิง ขวัญใจของลุงเอี่ยมบอกเล่าตามภาพที่ตนได้พบเห็น,ลูกหลานในไส้ของลุงเอี่ยมแวะเวียนมาหาบ้างไหม ทราบมาว่า แต่เดิมลุงเอี่ยมเคยมีลูกหลานจากสระบุรี แวะมาเยี่ยม?, ผู้สื่อข่าวหันไปซักถาม ผอ.มยุรี, ผอ.มยุรี พูดจบก็หันไปถามลุงเอี่ยม ,ลุงๆ ทำไมเดี๋ยวนี้ลูกหลานที่สระบุรีเขาไม่มาแล้วล่ะ?, ลุงเอี่ยมใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะตอบครบประโยค,จากนั้น ผู้สื่อข่าว ได้ขออนุญาตลุงเอี่ยม เดินสำรวจห้องพักขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ของลุงสักเล็กน้อย ซึ่งเราพบว่า ,ห้องพักของลุงเอี่ยมนั้น ไม่มีส้วมเอาไว้สำหรับขับถ่าย, จะมีก็แต่ฝักบัวเอาไว้ใช้สำหรับอาบน้ำ และใน,ส่วนห้องพักของลุงเอี่ยมนั้น หากสังเกตดีๆ จะพบว่า มีสภาพดีกว่าห้องข้างเคียงอยู่มาก,นางนงวรรณ ประธานอาสาสมัครพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ ต.ไร่ขิง จ.นครปฐม อธิบายถึงกรณีที่ห้องอาบน้ำของลุงเอี่ยมไม่มีส้วมเอาไว้สำหรับขับถ่ายว่า ,(เธอชี้นิ้วไปที่ห้องอาบน้ำ),(ห้องของลุงเอี่ยมอยู่ติดร้านข้าว),ผู้สื่อข่าวคำนวณด้วยสายตา ก็พบว่า ห้องน้ำที่ลุงเอี่ยมต้องเดินไปใช้นั้น ระยะทางอาจจะไกลไปสักหน่อยสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุอย่างลุงเอี่ยม ซึ่งทางผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และประธานอาสาสมัครพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ จึงลงความเห็นว่า ,จะเร่งจัดหาเก้าอี้นั่งถ่ายสำหรับคนชราให้แก่ลุงเอี่ยม, ซึ่งเก้าอี้ดังกล่าว สามารถถอดถุงใส่สิ่งไม่พึงประสงค์ไปทิ้งได้โดยง่าย,ในส่วนของห้องพักลุงเอี่ยมที่มีสภาพดีกว่าห้องอื่นๆ นั้น นางนงวรรณ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ,ลุงเอี่ยมได้ให้ช่างก่อสร้างมาติดฝ้า ปูกระเบื้อง กั้นห้องน้ำ ติดตั้งประตูเหล็กม้วน โดยลุงเอี่ยมออกค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองทั้งหมด เพราะฉะนั้น สภาพห้องของลุงเอี่ยม จึงดูดีกว่าห้องแถวในละแวกเดียวกัน,ผู้สื่อข่าวใช้เวลาพูดคุยกับลุงเอี่ยม และเจ้าหน้าที่จากภาครัฐนานนับ 3 ชั่วโมงเห็นจะได้ ทางทีมข่าวเกรงว่า ลุงเอี่ยมอาจจะเหนื่อยล้า และอยากจะพักผ่อน จึงเก็บข้าวเก็บของ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ แต่ลุงเอี่ยม หันมาพูดกับผู้สื่อข่าวอย่างช้าว่าๆ, มา อีก นะ, พร้อมกับส่งรอยยิ้มมาที่เรา ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่พวกเรา ณ ที่นั้น รู้สึกได้พร้อมๆ กันว่า นี่คือยิ้มอย่างจริงใจที่สุดเท่าที่คนๆ หนึ่งจะมอบให้แก่พวกเราได้ และไม่เพียงเท่านั้น ลุงเอี่ยมยังให้พรแก่ทีมข่าวว่า ,รวยๆ พรุ่ง นี้ รวย สี่ เจ็ด, และดูเหมือนว่า พรของลุงเอี่ยมที่ได้มอบให้กับพวกเรานั้น จะบังเกิดผลอยู่ไม่น้อย เพราะวานนี้ (16 มิ.ย.60) ผู้สื่อข่าว ได้รับโชคจากคำว่า ,สี่ เจ็ด,ของลุงเอี่ยมอีกด้วย
ลุงเอี่ยมยังมีเงินอยู่ไหม? อดีตขอทาน ไม่ขอรับเบี้ยผู้สูงอายุ ล่าสุด มีอาชีพใหม่ทีมข่าว เดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เพื่อแวะเวียนไปเยี่ยมบ้านของอดีตขอทานผู้ร่ำรวยน้ำใจ
สกู๊ปไทยรัฐ
ลุงเอี่ยม,ลุงเอี่ยม วัดไร่ขิง,ลุงเอี่ยม ขอทานเงินล้าน,ลุงเอี่ยม ขอทานวัดไร่ขิง,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/scoop/975147
มัลลิกา จับมือ ปชป. ซื้อผักจากสวนเชียงใหม่ แจกชาวบ้านในเมืองกรุง
มัลลิกา พร้อมเพื่อน ปชป. เปิดโครงการ ซื้อผักไปแจกผัก2020 ช่วยชาวสวนเชียงใหม่ นำส่งแจกชุมชนในกรุงเทพ แบบคุณภาพดีสดถึงที่หมาย#เราไม่ทิ้งกันเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 เม.ย.63 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน นายสุธรรม ระหงส์ ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมส่งมอบผักกะหล่ำปลีหัวสดๆ ปลอดสารพิษ จากชาวสวนอ.แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยโครงการมูลนิธิมัลลิกา-ประชาธิปัตย์เชียงใหม่ ช่วยประชาชนผ่านโควิด ระหว่างวันที่ 20-23 เม.ย. โดยใช้รหัสแฮชแท็ก #ซื้อผักไปแจกผัก2020เป็นโครงการร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือ มอบกะหล่ำปลีให้โรงทาน มหาวิทยาลัยรังสิต โรงทานผู้การแต้ม หรือ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ คณะที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ และอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตหลักสี่-ประชาชื่น โครงการช่วยชาวบ้านของนายอมร อมรรัตนานนท์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ จ.สระบุรี เพื่อนำไปแจกจ่ายเพื่อประชาชนที่ อ.วิหารแดงและแก่งคอย นอกจากนั้นพรรคประชาธิปัตย์ยังนำแจกจ่ายให้ประชาชนรอบพรรค วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ที่เข้ามาใช้บริการฉีดฆ่าเชื้อป้องกันโควิดวันนี้ด้วยนางมัลลิกา กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นได้เพราะความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสวนผักกะหล่ำปลี ที่อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งร้องทุกข์ผ่านทีมงานประชาธิปัตย์ที่สาขาจ.เชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขนผักลงดอยมาแจกจ่ายในพื้นที่ราบอ.เมือง จ.เชียงใหม่ไปครั้งหนึ่งและเกษตรกรยังต้องการตลาด ผู้รับซื้อ ในทุกช่องทางนอกเหนือจากช่องทางการหาตลาดของภาครัฐ ต้องขอบคุณทีมงานประชาธิปัตย์ ที่ช่วยประสานและอำนวยการในพื้นที่ คือ ทนายเต้ย ว่าที่ร.ท.วิศธร เถาตระกูล เขต 5 เชียงใหม่ นายนวพล ศิริรักษ์สกุล เขต 9 เชียงใหม่ นายวิศิษฏ์ วัชรินทร์ เขต 6 เชียงใหม่ นายวิชิต กลิ่นทอง เขต 3 เชียงใหม่ในภาวะวิกฤติโรคระบาดนี้ทุกคนเอาใจใส่พี่น้องประชาชน ทุกคนจึงประสานทำโครงการขึ้น หากโรงทานหรือชุมชนใดต้องการผักสดจากภาคเหนือสามารถประสานงานทีมงานจังหวัดเชียงใหม่ได้ทุกคนโดยมีการขนส่งของทีมงานบ.นิ่มซี่เส็ง จากนางปิยนุช สัมฤทธิ์ ช่วยอำนวยการขนส่งให้โครงการนี้ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณอย่างยิ่ง นางมัลลิกากล่าวนางมัลลิกา กล่าวด้วยว่า การซื้อผักไปแจกผัก2020 อาจจะเป็นงานหนักนิดหนึ่งแต่ทุกคนล้วนจิตอาสาใครมีกำลังก็ออกแรง ใครมีหน้าที่ตรงส่วนไหนก็ช่วยกันทำในภาวะเช่นนี้รู้สึกชื่นใจ #เราไม่ทิ้งกัน ต้องขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือร่วมใจกันในครั้งนี้ค่ะ
มัลลิกา พร้อมเพื่อน ปชป. เปิดโครงการ ซื้อผักไปแจกผัก2020 ช่วยชาวสวนเชียงใหม่ นำส่งแจกชุมชนในกรุงเทพ แบบคุณภาพดีสดถึงที่หมาย #เราไม่ทิ้งกัน
ข่าว,ทั่วไทย
โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรน่า,ซื้อผักไปแจก,แจกผัก2020,ซื้อผักสวนเชียงใหม่,มัลลิกา บุญมีตระกูล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1828424
Im Fat So What? อ้วนแล้วไงใครแคร์ เวทีประกวดนางแบบสาวพลัสไซส์
โบว์ ชลิดา สปิริตแรงเกินร้อยกับน้ำหนักตัวถึง 95 กิโลกรัม ถ้าไม่มั่นใจจริงก็คงไม่กล้าใส่ชุดว่ายน้ำทูพีซต่อหน้าคนดูเกือบร้อยคน อีกทั้งยังกัดฟันสู้กับอาการบาดเจ็บจากเอ็นขาฉีก โชว์ความภูมิใจในรูปร่างจนเอาชนะใจกรรมการ ผ่านเข้ารอบ 6 คนสุดท้ายเวทีประกวด Im Fat So What? อ้วนแล้วไงใครแคร์ไม่วัดกันที่ใครหุ่นดีหรือสวยกว่า แต่ดูกันที่ทัศนคติต่อรูปร่างล้วนๆอย่าง พรรณปพร เผ่าพันธุ์ ผู้ชนะเวทีประกวดนางแบบสาวอวบ ชวนผู้หญิงพลัสไซส์คิดบวก มองรูปร่างว่าไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิต หรือจำกัดความสามารถ ทั้งยังอาศัยประสบการณ์ครั้งเรียนต่อในต่างประเทศ อยากเห็นการเปิดกว้างและยอมรับรูปร่างที่หลากหลายของผู้หญิงในบ้านเราความแตกต่างระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ บ้านเราจะมีพิมพ์นิยม แต่ต่างประเทศจะเล็งเห็นความเป็นตัวเราและคุณค่าภายในตัวเรา แล้วเขาก็ให้ความสำคัญกับทุกคน และอยากจะบอกว่า ความอ้วนไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ต้องกลัวกัน ซึ่งเราก็ไม่ได้น้อยค่าไปกว่าใคร เรามีคุณค่าในตัวเองเหมือนกับทุกๆคน พรรณปพร กล่าวนี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับเวทีประกวดนางงาม เพราะสาวหน้าสวย เป๊ป เขมิกา สุขประสงค์ดี มีดีกรีเป็นถึงรองอันดับ 1 ราชินีช้างปี 2549 ซึ่งแฟนละครอาจค้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง เพราะมีผลงานละครโทรทัศน์หลายเรื่อง ทั้งรักต้องอ้วน สุภาพบุรุษจุฑาเทพ และเพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ ซึ่งการเป็นนักแสดงสาวเพียงไม่กี่คนในวงการที่มีรูปร่างอวบอ้วน อาจเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้จัดละครหลายคนคิดถึง หากในความเป็นจริงความแตกต่างทางรูปร่างก็มาพร้อมข้อจำกัดหลายอย่างในวงการบันเทิง ทั้งบทบาทซ้ำเดิม รวมถึงพื้นที่สำหรับแสดงความสามารถยังไงก็ยังต้องอิงความตลก ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่เป๊ปค่อนข้างน้อยใจ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส น้อยใจแค่ว่าคนอ้วนเป็นแค่ตัวตลกเท่านั้นเหรอ แต่พักหลังๆมานี้บทตัวละครที่ได้รับเริ่มจะมีมากกว่าความตลก เป๊ปมองว่าไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็แล้วแต่ หรือรูปร่างแบบไหนก็แล้วแต่ ซึ่งอะไรที่มันผิดปกติ คนมักจะมองว่าผิดปกติและจะเกิดการต่อต้าน เป๊ป เขมิกา กล่าวการเฟ้นหาสาวเจ้าเนื้อเพื่อเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงพลัสไซส์ อาจเป็นก้าวแรกๆในแวดวงแฟชั่นของไทยกับการยอมรับความแตกต่างเรื่องรูปร่าง สวนทางกับวงการแฟชั่นในต่างประเทศที่นำกระแสการใช้นางแบบพลัสไซส์ขึ้นปกนิตยสาร ถ่ายแบบโฆษณา รวมถึงการเดินแบบในงานแฟชั่นต่างๆมากขึ้น ซึ่งการเปิดกว้างที่เริ่มต้นจากสื่อบันเทิงและการประกวด อาจช่วยเปลี่ยนมุมมองความงามต่อสาวเจ้าเนื้อ
การที่จะประกวดนางงามแต่ละที สาวๆต้องผ่านการฟิตรูปร่างและออกกำลังกายอย่างหนัก แต่เวทีประกวด Im Fat So What? อ้วนแล้วไงใครแคร์ เปิดรับสาวพลัสไซส์ ชวนเพิ่มความมั่นใจและภูมิใจในรูปร่าง เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบไหนก็ไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิต
ศิลปะ-บันเทิง
นางแบบพลัสไซส์,สาวอวบ,I'm Fat So What?,อ้วนแล้วไงใครแคร์,สาวพลัสไซส์,พรีเซนเตอร์,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,เวณิกา วิชัยวัฒนา
https://news.thaipbs.or.th/content/253779
ย้ายนายอำเภอลำลูกกา ปกครองเดินหน้าสอบ ปม ผู้ใหญ่บ้าน ถูกฟ้องเรื่องขยะ
จากกรณี นายพิเชษ ศาสตรประเสริฐ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอ ลำลูกกา เดินเท้าถึงกระทรวงมหาดไทยแล้ว เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกดำเนินคดี ขณะช่วยเหลือชาวบ้านแก้ปัญหาขยะชุมชน เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย หลังออกเดินเท้าจากจังหวัดปทุมธานี ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของเอกชน หลังลงพื้นที่ตรวจสอบกองขยะ และการกำจัดของเสีย,เบื้องต้น มีตัวแทนจากศูนย์ดำรงธรรม พร้อมปลัดจังหวัดปทุมธานี และผู้แทนกรรมการปกครอง เข้ารับเรื่อง ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าวานนี้ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งด่วนให้ นายดอน สมิตเกษตริน นายอำเภอลำลูกกา เข้ามาช่วยราชการในส่วนกลางก่อน,ต่อมา กรมการปกครอง ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมลงไปสอบที่ว่าการอำเภอลำลูกกา โดยมีชาวบ้านกว่าสิบคนมาร้องเรียนความเดือดร้อนจากกองขยะบริเวณหมู่ 1 และหมู่ 10 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้ขอข้อมูล และรวบรวมไว้แล้ว,เบื้องต้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้มอบหมายให้นิติกรจากสำนักการสอบสวนและนิติการ เข้าให้ความช่วยเหลือทางคดี สร้างความพอใจให้กับ นายพิเชษ ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งนี้ กรมการปกครองได้มีคำสั่งย้ายนายอำเภอลำลูกกาให้ไปช่วยราชการด้วย
ปกครองลงพื้นที่สอบเท็จจริง กรณีผู้ใหญ่บ้าน อำเภอลำลูกกา เดินเท้าขอความเป็นธรรม เพราะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ในข้อกล่าวหาบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของเอกชน
ข่าว,ทั่วไทย
สอบข้อเท็จจริง,ย้ายนายอำเภอ,กรมการปกครอง,ถูกฟ้อง,บุกรุกอสังหาริมทรัพย์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1306124
ผบ.คุก เผย ยงยุทธ เครียด หลังเข้าเรือนจำวันแรก ยัน ไร้สิทธิพิเศษ
ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เผย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าเพื่อไทย เครียด หลังเข้าเรือนจำ คาด ใช้เวลาปรับตัวสักระยะ ยัน ไม่มีสิทธิพิเศษอะไรทั้งสิ้นวันที่ 17 ก.พ. นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังศาลฎีกา มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อายุ 78 ปี อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คดีทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ว่า หลัง นายยงยุทธ ถูกนำตัวมาควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทางเรือนจำก็ปฏิบัติตามขั้นตอนรับตัวผู้ต้องขังใหม่ เช่น ตรวจสุขภาพร่างกายก่อนรับตัว พบว่า มีโรคประจำตัว คือ เป็นโรคต้อหิน โรคข้อเข่าเสื่อม และโรคหัวใจ นอกจากนี้ จะมีการซักประวัติ ถ่ายรูป พิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อทำประวัตินักโทษ จากนั้นจะให้นักโทษเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้ต้องขังใหม่จะได้รับแจกอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวที่จำเป็น และผ้า 3 ผืน ใช้สำหรับปูรองนอน ม้วนเป็นหมอนและห่มนอน จากนั้น เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปคุมขังยังแดนแรกรับของเรือนจำ มีกล้องวงจรปิดคอยตรวจสอบตลอด 24 ชม. ในกรณีนักโทษรายสำคัญจะมอบหมายนักโทษผู้ช่วย 1-2 คน คอยให้ความช่วยเหลือ จนกว่านักโทษใหม่จะปรับตัวได้ ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่า นายยงยุทธ มีอาการเครียดเช่นเดียวกับผู้ต้องขังใหม่ทั่วไป คาดใช้เวลาสักระยะ ในการปรับตัวเข้ากับชีวิตในเรือนจำ ทั้งนี้ ทางเรือนจำดูแลตามระเบียบของเรือนจำ ไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรทั้งสิ้น นายกฤช กล่าว
ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เผย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าเพื่อไทย เครียด หลังเข้าเรือนจำ คาด ใช้เวลาปรับตัวสักระยะ ยัน ไม่มีสิทธิพิเศษอะไรทั้งสิ้น
ข่าว,การเมือง
ยงยุทธเครียด,ยงยุทธ วิชัยดิษฐ,อดีตรมว.มหาดไทย,จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา,เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ,ไม่มีสิทธิ์พิเศษ,ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1773690
มายาฤทธิ์ โรงละครจิตอาสาสำหรับเด็ก
เครื่องทำน้ำแข็งเกร็ดหิมะเพียงเครืองเดียว ก็เนรมิตบรรยากาศหน้าหนาวของรัสเซียพร้อมให้ผู้ชมวัยจิ๋วได้ลองชิมกันไปด้วย เป็นเทคนิคการเล่าเรื่องสนุกๆแบบ Object Theatre หรือการใช้สิ่งของรอบตัวมาสร้างจินตนาการ จุดเด่นของละครเวที บารอนมึนผจญภัย โดยโรงละครมายาฤทธิ์ดัดแปลงบทละครจากพระราชนิพนธ์แปล ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่อง นิทานโกหกเยอรมันของบารอน ฟอน มึนช์เฮาเซน สะท้อนวิถีของคนเยอรมันในอดีต ทั้งการล่าสัตว์ การเดินทาง และสงคราม พร้อมสอดแทรกข้อคิดสอนใจไม่เพียงตั้งใจให้เด็กๆ สามารถเข้าชมได้ทุกคน จึงเก็บค่าเข้าชมเพียง 350 บาท โรงละครมายาฤทธิ์ยังเป็นพื้นที่สำหรับจิตอาสา เปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมทำละครเวทีสำหรับเด็ก มีจิตอาสาตั้งแต่นักแสดงไปจนถึงคอสตูมและช่างแต่หน้า อย่าง ชนกันต์ แผ้วพาลชน นักศึกษาปีที่ 3 คณะทันตแพทยศาสตร์ ใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ฝึกฝนและร่วมแสดง แม้ไม่ได้รับค่าตอบแทน แต่สิ่งสำคัญคือความสุขจากการสร้างเสียงหัวเราะ และจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้ผู้ชมละครคืออาวุธทางปัญญา เป็นคติที่กลุ่มละครสำหรับเด็กยึดถือ แม้ที่ผ่านไม่มีโรงละครเป็นของตัวเอง แต่ยังมีใจร่วมกันจัดกิจกรรมในชุมชนและสถาบันการศึกษาหวังพัฒนาสังคม โดยใช้การละครเป็นเครื่องมือ การเกิดขึ้นของโรงละครมายาฤทธิ์ จึงเป็นความหวังของการให้ความสำคัญกับแหล่งเรียนรู้และเป็นพื้นที่ความสุขของครอบครัว
แหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนทั้งห้องสมุด โรงละคร หรือพิพิธภัณฑ์ มีส่วนไม่น้อยในการเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กๆ แต่ที่ผ่านมาสังคมไทยมีพื้นที่เหล่านี้ไม่มากนัก เป็นแรงบัลดาลใจให้นักทำละครที่รวมตัวกันด้วยจิตอาสา จัดตั้งโรงละครสำหรับเด็กและเยาวชนแห่งแรก
ศิลปะ-บันเทิง
Thai PBS,thaipbs,จิตอาสา,นิทานโกหกเยอรมัน,บารอน ฟอน มึนช์เฮาเซน,บารอนมึนผจญภัย,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,เยอรมนี,โรงละครมายาฤทธิ์,โรงละครสำหรับเด็กและเยาวชน,โรงละครสำหรับเด็กและเยาวชนแห่งแรกของไทย,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/2857
เปิดศาลอาญาคดีทุจริตฯ วันแรก
การตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแยกส่วนงานยุติธรรมในการพิจารณาคดีบางประเภท ทำให้เกิดเกิดความรวดเร็ว นอกจากนี้ยังถือเป็นการเปิดโอกาสให้คู่ความ สามารถยื่นฟ้องร้องได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะขั้นตอนการยืนฟ้องร้อง ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในประเทศก็สามารถดำเนินการได้กระบวนการของศาลอาญาคดีทุจริตฯ ในช่วงระยะเริ่มต้นโจทก์สามารถยื่นฟ้องได้ที่ศาลชั้นต้นทุกแห่งทั่วประเทศ เนื่องจากขณะนี้ที่ทำการของศาลอาญาคดีทุจริต ยังคงมีเพียงแห่งเดียวคือ กรุงเทพมหานครจากนั้นศาลชั้นต้นตามพื้นที่ต่างๆจะพิจารณาคำฟ้องและสำนวน แล้วส่งต่อมาให้ศาลอาญาคดีทุจริตพิจารณาว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ ส่วนกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ศาลจะใช้วิธีพิจารณาจากสำนวนการสอบสวนของ ปปช.หรือ ปปท. และหากมีประเด็นที่สงสัยจะมีการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติ่ม ด้านระบบการพิจารณาคดีทุจริตจะใช้ระบบแบบ 2 ชั้นครึ่ง คดีส่วนใหญ่จะสิ้นสุดที่ศาลอุธรณ์ แต่ก็มีข้อยกเว้นในบางกรณีสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม ระบุว่า คดีที่จะสามารถฎีกาได้นั้นจะต้องเป็นไปตามมาตรา 40 ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เช่น ปัญหาที่เกี่ยวพันกับประโยชน์สาธารณะ คำพิพากษาหรือคำสั่งขัดกับคำพิพากษาสูงสุดของศาลอื่นหรือในกรณีที่จำเลยถูกพิพากษาประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิตก็สามารถฎีกาได้เช่นกันตามโครงสร้างศาลอาญาคดีทุจริตฯ จะมีอธิบดีผู้พิพากษา 1 คน รองอีก 3 คน และมีองค์คณะผู้พิพากษา 20 คน มีนายอำนาจ พวงชมภู เป็นผู้พิพากษา เบื้องต้นคาดว่าจะรับโอนสำนวนคดีเจ้าหน้าที่รัฐประพฤติมิชอบกว่า 70 คดีมาพิจารณาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จะหมายถึงศาลอาญาคดีและประพฤติมิชอบกลาง 1 แห่ง และ ศาลอาญาคดีและประพฤติมิชอบภาค รวม 9 แห่ง โดยจะยังคง 3 ชั้นศาล คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และฎีกา มีอำนาจการในพิจารณาคดี เช่น การฟ้องเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐต่อการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ การฟอกเงิน ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน รวมถึงคดีที่บุคคลธรรมดาเกี่ยวข้องกับการเรียกรับสินบนหรือใช้กำลัง และคดีอาญาตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นคดีทุจริตและประพฤติมิชอบการดำเนินการพิจารณาคดีของศาลนี้จะแตกต่างจากศาลปกติอื่นๆ คือคดีส่วนใหญ่จะสิ้นสุดในชั้นอุธรณ์ แต่หากคู่ความต้องการจะยื่นฎีกาจะต้องได้รับการอนุญาตจากศาลก่อนว่าเป็นการถ่วงเวลาคดีหรือมีเหตุอันควรหรือไม่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ทำให้มีการยกฐานะของแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิของเจ้าหน้าที่รัฐในศาลอาญา จัดตั้งเป็นศาลอาญาคดีทุจติตและประพฤติมิชอบกลาง
วันนี้เป็นต้นไปคดีทุจริตจะอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือที่หลายคนเรียกว่าศาลปราบโกง เริ่มดำเนินการวันนี้วันแรก (3 ต.ค.2559) โดยจะช่วยลดระยะเวลาพิจารณาคดีทุจริตที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายของภาครัฐ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะโจทก์หรือจำเลย
สังคม
ศาลอาญาคดีทุจริต,ข่าวสังคม,ไทยพีบีเอส,ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
https://news.thaipbs.or.th/content/256292
จรัญ เตือน ฝ่ายบริหารไม่ควรก้าวก่ายฝ่ายตุลาการ
 ,เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 58 ที่รัฐสภา นายจรัญ  ภักดีธนากุล  ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ หลักนิติธรรมกับการใช้กฎหมาย ตอนหนึ่งว่า หลักนิติธรรมต้องประกอบด้วย 1. ความชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งถือเป็นปฐมบทแรก แม้จะชอบด้วยกฎหมายแต่ไม่ได้หมายความจะชอบด้วยหลักนิติธรรม 2. หลักสุจริต แม้จะทำไปด้วยความชอบตามกฎหมาย แต่หากทำด้วยความไม่สุจริตก็จะถือว่าไม่ถูกหลักนิติธรรม รวมถึงเรื่องประมาทที่แม้จะทำด้วยความไม่ตั้งใจ ไม่มีวาระซ้อนเร้น แต่ถือว่าไม่สุจริต ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรง และหลักนี้เป็นบรรทัดฐานที่นำมาใช้ในศาลฎีกา และศาลรัฐธรรมนูญผ่านคำวินิจฉัยต่างๆ แม้ไม่ได้ระบุชัดก็ตาม และ 3. หลักความไม่ลำเอียงปราศจากอคติ ตามหลักอคติ และ 4. หลักความได้สัดส่วนพอเหมาะพอควรต่อกรณี และการแต่งตั้งตำแหน่ง โยกย้ายข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยไม่ควรไปคำนึงถึงสิงห์แดง สิงห์ดำ สิงห์ขาว และสิงห์ทอง การพิจารณาแต่งตั้งตามรุ่นนั้นรุ่นนี้ด้วย, นายจรัญกล่าว, ,นายจรัญ กล่าวต่อว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการกำหนดเรื่องสิทธิมนุษยชน การห้ามเลือกปฏิบัติและเพิ่มมาในเรื่องเพศสภาพที่ได้รับการรองรับในรัฐธรรมนูญ รวมถึงจากเดิมรับรองสิทธิเฉพาะคนไทย แต่ครั้งนี้คนที่ไม่มีสัญชาติไทย ก็ยังได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอีกด้วย,นายจรัญ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นนักกฎหมาย ปิดทองหลังพระ เห็นว่าไม่ควรให้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายของฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายตุลาการเข้ามาครอบงำการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารมีความคิดเข้ามาครอบงำฝ่ายกฤษฎีกา ประเด็นนี้ฝ่ายนิติบัญญัติควรมีกฤษฎีกาเป็นของตัวเอง แต่จะต้องกำหนดไม่ให้ทำงานซ้ำซ้อนกัน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ามีการแบ่งสี แบ่งฝ่าย โดยเกิดจากการมอมเมา ปลุกระดมมวลชนออกมา ซึ่งมั่นใจว่าในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเนื้อหาที่ตั้งใจจะแก้ปัญหาดังกล่าวได้
จรัญ. ชี้ การสร้างความปรองดอง ไม่ได้สร้างด้วยปลายปากกา-เขียนกฎหมาย เตือนฝ่ายบริหาร ไม่ควรก้าวก่าย ฝ่ายตุลาการ
null
หลักนิติธรรมกับการใช้กฎหมาย,การสร้างความปรองดอง,จรัญ ภักดีธนากุล,ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ,ปลุกระดม,ฝ่ายตุลาการ,ไม่ก้าวก่ายฝ่ายตุลาการ,คปป.,สิทธิมนุษยชน,ฝ่ายบริหาร,ร่างรัฐธรรมนูญ,หลักนิติธรรม,นิติรัฐ,มาตรา 217,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/522211
AIS เปิดประตูสู่ภาคอีสาน รีดศักยภาพแรงงานไทยด้วย Contact Center แห่งแรกในโคราช
โดยปกติแล้ว เราจะเห็นศูนย์พัฒนาบุคลากรของบริษัทหรือองค์กรดังๆ ตั้งอยู่ในเมืองหลวงเป็นหลัก ด้วยสาเหตุของการคมนาคมที่สะดวก เข้าถึงได้ง่ายกว่าแต่ในกรณีของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กลับมองต่างออกไป เนื่องจากเล็งเห็นถึงปัญหาการกระจุกตัวขององค์กรในกรุงเทพฯ และมองว่าการจัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรของบริษัทในภูมิภาคอื่นๆ จะช่วยให้เกิดการกระจายตัว ยกระดับศักยภาพบุคลากรที่หลากหลาย สร้างโอกาสและรายได้ ที่สำคัญยังช่วยให้ความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นดีขึ้นตามลำดับด้วยเหตุนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา AIS จึงเปิดตัว AIS Contact Center ศูนย์พัฒนาบุคลากรและฐานทัพคอลเซ็นเตอร์ขนาดยักษ์แห่งแรกนอกกรุงเทพมหานครที่ตำบลโคกกรวด จังหวัดนครราชสีมา ศูนย์พัฒนาบุคลากร 6 ชั้นแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 11 ไร่ (18000 ตารางเมตร) ถูกออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ มีการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้ากลับมาใช้งาน ติดตั้งกระจกกันความร้อนที่ช่วยรักษาความเย็นในตัวอาคาร และยังเน้นการใช้งานบันไดแทนการใช้ลิฟต์ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในอาคารที่พร้อมจะช่วยเสริมคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในองค์กรให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสร้างโอกาส เสริมรายได้ ยกระดับศักยภาพและขีดความสามารถบุคคลท้องถิ่นภายใต้ตึกแฝดสองอาคารของ AIS Contact Center สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นที่ตั้งมั่นแห่งใหม่ของหน่วยงาน AIS Call Center ที่จะเข้ามาช่วยเสริมขุมกำลังให้กับทีมงานคอลเซ็นเตอร์ในกรุงเทพฯ แข็งแกร่งขึ้นไปอีกระดับ ทั้งยังเป็นศูนย์พัฒนาบุคลากรเฉพาะทางขององค์กรและบริษัทพันธมิตรสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความตั้งใจของ AIS คือการนำความสามารถด้านโครงสร้างดิจิทัลขั้นพื้นฐาน พร้อมองค์ความรู้สายงานโทรคมนาคมที่มีมาตลอด 25 ปีมาสนับสนุนและสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทย เพื่อให้ทรัพยากรบุคคลมีขีดความสามารถในการนำพาประเทศมุ่งไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงสิ่งที่ AIS ให้ความสำคัญมากๆ คือการสร้างและพัฒนา คน พวกเราให้ความสำคัญกับงานบริการเป็นอย่างมาก ซึ่งการจะให้บริการที่ดีได้ก็ต้องมีพนักงานที่มีขีดความสามารถที่ดี เราสร้าง AIS Contact Center แห่งนี้ขึ้นมาที่โคราชเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาคนที่นี่ให้มีขีดความสามารถทัดเทียมกับพนักงานในกรุงเทพฯ ซึ่งเราเคยทำสำเร็จมาก่อนแล้ว เราปรารถนาที่จะสร้างโคราชให้เจริญเท่ากับที่กรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นผมขอถือโอกาสนี้ฝากเนื้อฝากตัว และขอขอบคุณชาวโคราชที่ต้อนรับพวกเรา AIS อย่างอบอุ่นด้าน วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า นครราชสีมา หรือโคราช เป็นจังหวัดที่มี GDP มากกว่า 2.65 แสนล้านบาท ซึ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน และปัจจุบันภาครัฐกำลังให้การสนับสนุนโครงสร้างด้านการคมนาคม ไม่ว่าจะมอเตอร์เวย์หรือรถไฟรางคู่ รวมถึงภาคเอกชนที่มาเปิดห้างสรรพสินค้า หรือ AIS Contact Center ซึ่งผมเองต้องขอขอบคุณ AIS ที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบการสื่อสารและทรัพยากรบุคคลซึ่งการพัฒนาทรัพยากรบุคคลถือว่าเป็นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ประเทศชาติอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงนิมิตหมายอันดีที่รัฐและเอกชนมีเป้าหมายไม่ต่างกัน คือการร่วมกันผนึกกำลังพัฒนาประเทศ และผมเชื่อว่า AIS และชาวโคราชจะช่วยให้จังหวัดของเราแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้นปัจจุบันห้องปฏิบัติการสายงานคอลเซ็นเตอร์ของ AIS Contact Center แห่งนี้สามารถรองรับพนักงานได้ทั้งหมด 752 คน เมื่อรวมกับหน่วยงานคอลเซ็นเตอร์ในกรุงเทพฯ ก็จะมีทีมงานประมาณ 2500 คน แต่ในอนาคต AIS Contact Center โคราช มีแผนจะขยายพื้นที่ให้รองรับพนักงานเพิ่มให้ได้ถึง 1500 คนปัญญาประดิษฐ์ vs. แรงงานมนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ต้องเร่งขีดความสามารถให้พิเศษขึ้นบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ AIS และ ใจพร ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ AIS Call Center ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนพร้อมๆ กันว่า โดยปกติแล้วจะมีผู้บริโภคโทรศัพท์เข้ามาขอรับบริการจาก AIS Call Center เฉลี่ยวันละประมาณ 55000 สาย หรือราวๆ 10 ล้านสายต่อเดือนแต่ปัจจุบันแนวโน้มการโทรเข้ามาขอรับบริการคอลเซ็นเตอร์เริ่มลดน้อยลงจนขยับมาอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านสายต่อเดือน สาเหตุมาจากผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มหันไปใช้บริการจากแอปพลิเคชัน (my AIS) หรือเว็บไซต์ที่เป็นระบบการพูดคุยปรึกษาปัญหาผ่านแชตบอตมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหตุผลด้านความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับการใช้บริการตามศูนย์ AIS Shop ที่ลูกค้าส่วนใหญ่เกือบๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ชื่นชอบการทำบริการผ่าน kiosk มากกว่า ขณะที่ยอดการโทรเข้ามาขอรับบริการของลูกค้าในกลุ่ม AIS Fibre เป็นกลุ่มเดียวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา สวนทางกับกลุ่มผู้ใช้งานโทรศัพท์ AIS ทั่วไป อย่างไรก็ดี นี่ถือเป็นปัญหาที่ทำให้บุษยาและใจพรเห็นช่องโหว่ข้อบกพร่องของแรงงานปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งช่วยสะท้อนให้เห็นความสำคัญของทรัพยากรบุคคลมากขึ้น โดยทั้งคู่มองว่าในสายงานบริการของ AIS มนุษย์และพนักงานที่เป็น คน จริงๆ ยังมีความสำคัญและมีส่วนในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าเป็นอย่างมาก เพราะงานบางอย่างที่มีขอบเขตความเข้าใจและแก้ปัญหาที่ค่อนข้างซับซ้อนก็ยังถือเป็นข้อจำกัดสำหรับจักรกลและ AI บุษยากล่าวว่า เพราะพนักงานยังคงมีความสำคัญอยู่ แต่ขอบข่ายหน้าที่ในการปฏิบัติงานอาจจะเป็นการดูแลงานในส่วนที่ระบบอัตโนมัติอย่าง AI หรือ Self Service ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีความซับซ้อน เราจึงจำเป็นจะต้องจัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อพัฒนาขีดความสามารถและศักยภาพพนักงานคนขึ้นไปอีกระดับด้านใจพรบอกว่า ทักษะพิเศษของพนักงาน AIS Call Center คือการให้บริการด้านข้อมูลที่ไม่ใช่แค่การถามมา-ตอบไป แต่ต้องเป็นที่ปรึกษาของลูกค้าและเสนอทางเลือกในการช่วยแก้ปัญหาหรือตอบโจทย์ความต้องการให้เขาได้เป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นคนก็จะหันไปพึ่งพา AI แทน AIS จึงต้องเตรียมพร้อมพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในด้านนี้ และตอนนี้ก็ได้มีการพูดคุยกับมหาวิทยาลัยสองแห่งในโคราชเพื่อเตรียมเปิดหลักสูตรคอลเซ็นเตอร์ไว้แล้วด้วยนอกจากนี้ในการพูดคุยนอกรอบ สมชัยยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ในอนาคต AIS อาจเปิด Contact Center แห่งนี้ให้สถาบันศึกษาภายนอกได้เข้ามาเรียนรู้การทำงานมากขึ้น และยังมองถึงความเป็นไปได้ในเร็วๆ นี้ที่อาจจะเปิด AIS Campus พร้อมหลักสูตร AIS Academy เพื่อเป็นบริษัทที่ให้ความรู้พนักงานสายงานดิจิทัลและองค์ความรู้ในด้านอื่นๆ ที่มีประโยชน์ในอนาคต เราอยาก transform ไปเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัล (Digital Service Provider) คนและบุคลากรของเราก็จะต้องเปลี่ยนผ่านและปรับตัวไปสู่โลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปให้ได้ เพื่อแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ตอบโจทย์ลูกค้าทุกวันนี้ที่ AIS Contact Center เราทำสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้พนักงานทุกคนเป็นคนรุ่นใหม่ มีความจริงใจ สร้างสรรค์ และยั่งยืน ซึ่งรุ่นใหม่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงอายุ แต่หมายถึงแนวคิดในการทำงานAIS Contact Center ฐานทัพใหม่ใจกลางโคราช พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแก่พนักงานและประชาชนถ้าจะกล่าวถึงจุดเร่ิมต้นของ AIS Contact Center คงต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 2013 หรือเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้น AIS มีความตั้งใจจะจัดตั้งฐานทัพศูนย์พัฒนาบุคลากรและ Contact Center แห่งใหม่นอกกรุงเทพฯ (เดิมมีอยู่ที่ถนนพหลโยธินและถนนพระราม 4) AIS จึงเริ่มต้นกระบวนการศึกษาหาฐานที่มั่นแห่งใหม่นอกกรุงเทพฯ โดยพุ่งเป้าไปยังจังหวัดใหญ่ๆ และหัวเมืองหลักในแต่ละภูมิภาค ก่อนจะมาลงเอยที่โคราช เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ที่สำคัญของภาคอีสาน และยังเป็นโซนที่ค่ายผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือเจ้าอื่นๆ ยังไม่ได้ย่างกรายเข้ามาถึง ซึ่งนับเป็นประโยชน์มากๆ เพราะจะไม่เกิดการกระจุกตัว และยังช่วยให้บุคลากรทั้งประเทศเกิดการพัฒนาในระดับที่ทัดเทียมด้วยงบลงทุนรวมกว่า 873 ล้านบาท AIS ได้เนรมิตให้ที่ดิน 11 ไร่ผืนนี้กลายเป็นศูนย์พัฒนาบุคลากรและ Contact Center ขนาดยักษ์ที่พร้อมสรรพไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและความทันสมัย โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างรวมหาสถานที่เป็นระยะเวลา 4 ปีเต็มภายในอาคารแบ่งออกเป็น 5 โซนดังนี้ พื้นที่ฝึกอบรมบุคลากรสายงานบริการ (AIS Development & Training Center Arena)รองรับการหมุนเวียนของผู้ฝึกอบรมได้มากกว่า 500 คนต่อวัน ด้วยรูปแบบห้อง ทั้ง Lecture Type Auditorium Type และ Workshop Type ถึง 19 ห้อง พร้อมด้วยบรรยากาศการเรียนรู้เสมือนจริงแบบ On the Job Training 2. พื้นที่ทำงานแบบเปิด (AIS Work Space)ให้คนรุ่นใหม่ นิสิต และนักศึกษามาใช้เป็นสถานที่เรียนรู้จากหนังสือด้านเทคโนโลยีมากกว่า 1000 เล่มจากห้องสมุด ท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น AIS SUPER WiFi ความเร็วสูงสุดถึง 650 Mbps และ Meeting Room 3. พื้นที่จัดนิทรรศการ (AIS Exhibition)ชวนสัมผัสเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุด เช่น IoT แชตบอตผ่านแนวคิด Digital for Thais เช่น แอปพลิเคชัน อสม. ส่งเสริมสุขภาพคนไทย ฟาร์มสุข แพลตฟอร์มองค์ความรู้ และ Online Market Place เพื่อเกษตรกร ดิจิทัลคอนเทนต์ที่ครบทั้งสาระความรู้และความสนุกสนาน เสริมสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้เยาวชนไทยผ่านกล่องดิจิทัลทีวีสานรัก สานความรู้ พร้อมด้วย Innovation Idea จากเหล่า Startup ซึ่งจะมีการหมุนเวียนนิทรรศการต่างๆ มาจัดแสดงตามแต่ละโอกาส4. ศูนย์ปฏิบัติงานคอลเซ็นเตอร์ (AIS Contact Center Operation)พื้นที่ปฏิบัติงานแบบ 24×7 ของ Agent Call Center รองรับพนักงานในอนาคตได้ถึง 1500 ที่นั่ง พร้อมขีดความสามารถในการรับสายลูกค้าได้มากกว่า 4 ล้านสายต่อเดือน5. ห้องออกกำลังกายและโซนสันทนาการ (AIS Hall of Wellness)พื้นที่เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงานให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจด้วยห้องฟิตเนส สปา โยคะ เพื่อให้พนักงานมีความพร้อมในการดูแลลูกค้าและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อคนไทยได้อย่างเต็มที่สำหรับใครที่สนใจรายละเอียดของ AIS Contact Center สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่www.ais.co.th/applyjob หรือ aiscallcenter.ais.co.th/th/recruitment-detail/ais-call-center-1175
AIS จัดตั้ง AIS Contact Center ศูนย์พัฒนาบุคลากรและฐานทัพคอลเซ็นเตอร์แห่งแรกในโคราชห้องปฏิบัติการสายงานคอลเซ็นเตอร์แห่งนี้สามารถรองรับพนักงานได้ 752 คน เมื่อรวมกับหน่วยงานคอลเซ็นเตอร์ในกรุงเทพฯ ก็จะมีทีมงานประมาณ 2500 คน ถึงจะมีระบบตอบกลับอัตโนมัติจำพวกปัญญาประดิษฐ์และแชตบอต แต่พนักงานมนุษย์ก็ยังมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนและเข้าอกเข้าใจผู้บริโภคได้ดีกว่า
null
null
https://thestandard.co/ais-contact-center-korat/
รำลึกบ่อนไก่-พระราม 4: (2): เสี้ยวส่วนของชีวิตชุมชนบ่อนไก่
หลังจากรัฐบาลประกาศกระชับพื้นที่ราชประสงค์ ทหารพร้อมอาวุธครบมือเข้าปิดล้อมสถานที่ชุมนุม ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 บ่อนไก่-พระราม 4 จึงเป็นพื้นที่สำคัญของการต่อสู้ เริ่มด้วยในตอนสาย ทหารเข้ายึดพื้นที่แยกวิทยุและบริเวณใกล้เคียง และปิดการจราจร ต่อจากนั้น ราวเที่ยงวัน สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น เมื่อทหารติดอาวุธเข้าผลักดันและปะทะกับผู้ชุมนุม บนถนนพระราม 4 มาทางบ่อนไก่ พร้อมส่งหน่วยสไนเปอร์ไปอยู่ตามอาคารต่างๆทหารเคลื่อนกำลังตามแนวถนนพระราม 4 มุ่งหน้าบ่อนไก่ทั้งกระสุนจริงและกระสุนยาง ขณะเข้า กระชับพื้นที่ (Photo by Paula Bronstein/Getty Images)ประชาชนที่ถูกจับบริเวณสนามมวยลุมพินี (Photo by Athit Perawongmetha/Getty Images)ประชาชนรวมตัวกันต่อต้านปฏิบัติการของทหาร (Photo by Andy Nelson /Getty Images)การต่อสู้กับทหารของประชาชน (Photo by Andy Nelson /Getty Images)ขณะที่ทหารได้ตั้งกำลังไว้ตามจุดต่างๆ และสาดกระสุนใส่ประชาชนเป็นระยะ คนเสื้อแดงก็พยายามสร้างเครื่องกีดขวาง เผายาง เพื่อป้องกันตัว และรบกวนปฏิบัติการของทหารนับจากเที่ยงวันของวันที่ 14 -19 พฤษภาคม 2553 บ่อนไก่-พระราม 4 กลายเป็น ทุ่งสังหาร คนเสื้อแดงและประชาชนทั่วไปเมื่อราชประสงค์ถูกปิดล้อม ตัดน้ำตัดไฟ บ่อนไก่ กลายเป็นเส้นทางส่ง ท่อน้ำเลี้ยง ทั้งคนเข้า-ออก และอาหาร-น้ำ ไปสนับสนุน จนกระทั่งถึงวันที่ 18 พฤษภาคม 2553มีคนไปแจ้ง ศอฉ. ว่าที่นี่เป็นทางผ่าน ทางน้ำเลี้ยง ลำเลียงเสบียงไปราชประสงค์ จากนั้นเราก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้อีก มีทหารเข้ามาปิดซอยร่วมฤดี ใครก็เข้าไม่ได้ เราไม่มีโอกาสที่จะไปช่วยพี่น้องที่ราชประสงค์แล้ว บางส่วนก็รู้สึกว่าตายเป็นตาย คิดจะไปฝ่าด่าน นายวีรชัย ลื่นผกา เล่าสถานการณ์ให้ฟังในภาวะวิกฤต เสื้อแดงบ่อนไก่ ต้องทำหน้าที่ใน 2 ฐานะ คือ คนบ่อนไก่ และ คนเสื้อแดงคนในชุมชนออกมาดูสถานการณ์หน้าถนนพระราม 4เตรียมท่อน้ำไว้สำหรับดับเพลิงกรณีฉุกเฉินพวกเขารวมตัวกันจัดเวรยามตลอดถนนภายในชุมชนและหน้าถนนพระราม 4 เพื่อตรวจตราคนเข้า-ออก คอยระวังภัยให้กับคนในชุมชน เนื่องจากมี กระแส ว่าจะมีการเผาชุมชนทุกวันสิ่งที่กลัวไม่ใช่คนเสื้อแดง แต่เพราะ ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ ส่วนใหญ่ อย่างไรก็เลือกพรรคเพื่อไทย เป็นคนเสื้อแดง คนที่เขาไม่ชอบคนเสื้อแดง เขาก็เล็งว่า ถ้าเผาก็จะได้ไม่มีคนเสื้อแดงอีกมีวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์มาพร้อมกับแกลลอนน้ำมัน จะมาเผาธนาคารกรุงเทพ พวกเราและคนเสื้อแดงที่อยู่แถวนั้น ก็มาช่วยห้าม แต่จับไม่ได้ อยากรู้ว่าใครใช้ให้มาทำอย่างนั้น จะเกิดความรุนแรงขึ้นได้ เพราะเรารักสงบ เราไม่ใช้ความรุนแรงจนยุติการชุมนุม ตามแนวถนนพระราม 4 ด้านหน้าชุมชน ไม่มีอาคารใดถูกเผาเหมือนในที่อื่นๆผู้ชุมนุมที่อยู่แนวหน้า หลังบังเกอร์ยางรถยนต์ จุดพลุรบกวนทหารผู้ชุมนุมช่วยกันขนยาง ทำบังเกอร์หลบกระสุนพวกเขาร่วมชุมนุมต่อต้านกับพี่น้องเสื้อแดง สร้างเครื่องกีดขวาง เผายางตามแนวถนนพระราม 4 เพื่อสร้างควันไฟรบกวน ขณะเดียวกันก็ต้องคอยระวังไม่ให้มีควันจนมากเกินไปเพราะจะกระทบกับคนที่ยัง อยู่ในชุมนุม และคอยขอหาน้ำ อาหาร สนับสนุนพี่น้องที่อยู่แถวหน้าผู้ชุมนุมขี่รถจักรยานยนต์มาส่งน้ำให้กับเพื่อนที่อยู่แนวหน้านายขวัญชัย ภูมิโคกรักษ์ เด็กหนุ่มในชุมชนอธิบายเหตุผลที่ไป แถวหน้า ว่า เราเป็นเหมือนพี่น้องกัน ทำไมคนอื่นมาได้ รักในสิ่งเดียวกัน แล้วทำไมเราอยู่ตรงนี้จึงออกไปไม่ได้ ไม่ใช่เก่งอยู่แต่ในบ้าน เวลาทำจริงก็ไม่เห็นทำ ไม่ต้องถึงแนวหน้าก็ได้ ส่งข้าวส่งน้ำให้เขาหน่อย บางทีคนเขาก็เหนื่อย เขาอยากสู้ ทำไมเราจะไม่อยากสู้ละสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น นายสมพงษ์ บุญธรรม รู้สึกว่า เสียใจมากที่รัฐบาลเฮงซวยนี้มันทำกับเสื้อแดงเหมือนเป็นผักปลา ไร้ค่า ไม่มีความหมาย เหมือนเสื้อแดงเป็นสัตว์นรกตัวหนึ่งที่มาเกิด ต้องกำจัดให้สิ้นซากเพราะพวกมันไม่อยากจะให้พวกเราเจริญขึ้นมา ทุกวันนี้ พวกเรามีการศึกษาสูงขึ้นมา ปกครองยาก มันไม่อยากให้เรามีการศึกษาสูง กดหัวเราไว้ ไม่ให้รู้มาก มึงแค่นี้นะ ถ้ารู้มากมึงตายรายงานชั้นนี้เขียนขึ้นมาเพื่อส่วนหนึ่งในการรำลึกเหตุการณ์ในช่วง 14-19 พฤษภาคม 2553 ที่ชุมชนบ่อนไก่ ซึ่งชาวบ้านในชุมชนจะจัดให้มีกิจกรรมการทำบุญให้ผู้เสียชีวิตในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.54)
หลังจากรัฐบาลประกาศกระชับพื้นที่ราชประสงค์ ทหารพร้อมอาวุธครบมือเข้าปิดล้อมสถานที่ชุมนุม ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 บ่อนไก่-พระราม 4 จึงเป็นพื้นที่สำคัญของการต่อสู้ เริ่มด้วยในตอนสาย
การเมือง
การสลายการชุมนุม 10 เม.ย. – 19 พ.ค. 53,การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง,คนเสื้อแดง,ศปช.,ศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมกรณีเมษายน - พฤษภาคม 2553,แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
https://prachatai.com/journal/2011/03/33401
แนะ 3 วิธีดูแลเด็กห่างฝุ่น PM 2.5
วันนี้ (23 ม.ค.2562) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการลงพื้นที่สร้างความเข้าใจให้แก่นักเรียน ผู้ปกครอง รวมไปถึงโรงเรียน เพื่อให้รับมือกับสถานการร์ฝุ่นได้อย่างถูกต้อง ลดผลกระทบทางสุขภาพให้ได้มากที่สุด ซึ่งมีข้อแนะนำแก่ผู้ปกครอง คือ1.เช็กค่าฝุ่นละอองในทุกเช้า ก่อนพาบุตรหลานไปโรงเรียน หรือในกรณีที่เด็กเดินทางไปเรียนเอง เพื่อให้ทราบว่า ในพื้นที่โรงเรียน หรือเส้นทางที่ต้องใช้เดินทาง มีค่าฝุ่นละอองในระดับใด2.ในกรณีที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน หรือเป็นพื้นที่สีส้ม หรือสีแดง ควรงดกิจกรรมภายนอกสถานที่หรือกิจกรรมกลางแจ้ง จนกว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กจะเป็นปกติ3.หากจำเป็นต้องผ่านพื้นที่ที่มีฝุ่นสูง อาจลดระยะเวลาการสัมผัสฝุ่นลง เช่น จากเดิมที่อาจจะเดินไปโรงเรียนซึ่งใช้เวลานาน อาจเปลี่ยนมาใช้รถสาธารณะที่มีความรวดเร็วในการเดินทางเพิ่มขึ้น เพื่อลดเวลาในการสัมผัสฝุ่น และควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากชนิด N95 ซึ่งสามารถสวมใส่ระหว่างเดินทางไปและกลับจากโรงเรียนได้ เพราะใช้เวลาไม่นาน หากเป็นเด็กเล็กมากที่ไม่สามารถสวมหน้ากาก N95 ได้ สามารถเลือกใช้หน้ากากอนามัยธรรมดา คาดสายรัดให้แน่นมากขึ้น เพื่อให้กระชับและลดการสัมผัสฝุ่นละอองแพทย์เสนอเลื่อนเวลาเรียนเลี่ยงฝุ่นขณะที่การสวมหน้ากากทับสองชั้นจะเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน และเมื่อเดินทางถึงโรงเรียนที่อยู่ภายในอาคารปิดก็สามารถถอดออกได้ นอกจากนี้โรงเรียนหรือสถานศึกษาจำเป็นต้องเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการช่วยให้เด็กลดการสัมผัสฝุ่นละอองด้วย ทั้งการตรวจสอบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 หากพบว่าเกินค่ามาตรฐาน อาจปรับกิจกรรมต่าง ๆ ของการเรียนการสอน เพื่อไม่ให้เด็กต้องออกมาเผชิญกับฝุ่นกลางแจ้ง เช่น เรียนแต่ภายในห้อง หรือเข้าแถวเคารพธงชาติที่หน้าห้องเรียน ในอาคารเรียน ขึ้นอยู่กับมาตรการของแต่ละโรงเรียนด้าน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เสนอว่า หากค่าฝุ่นละอองในตอนเช้าสูงมากและเกินกว่ามาตรฐาน โรงเรียนอาจพิจารณาปรับเลื่อนเวลาในการเข้าเรียนเป็นช่วงที่ค่าฝุ่นลดลงจนไม่เกินค่ามาตรฐาน เพื่อเลี่ยงไม่ให้เด็กสัมผัสฝุ่นละออง แต่หากโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ฝุ่นละอองสูงไม่ดำเนินมาตรการใด เด็กและผู้ปกครองจะต้องมาโรงเรียนในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญฝุ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และทำได้แค่เพียงป้องกันตัวเองด้วยการใช้อุปกรณ์ป้องกันสั่งหยุดเรียน 3 วัน หลังฝุ่นยังเกินค่ามาตรฐานผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกาศหยุดการเรียนการสอนหลังกังวลผลกระทบฝุ่น PM 2.5 เช่น โรงเรียนรุ่งอรุณประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 23-25 ม.ค.นี้ โดยพบว่าเด็กเล็กมีขนาดสรีระไม่เหมาะสมกับหน้ากากอนามัย ซึ่งเด็กไม่สามารถใส่หน้ากากอนามัยได้ตลอดเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และการจำกัดกิจกรรมแต่ในห้องเรียน ทำให้เด็กเกิดความเครียด โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม ประกาศหยุดการเรียนการสอน 3 วัน หลังพบนักเรียนป่วยโรคไข้หวัดสายพันธุ์ต่าง ๆ ถึง 130 คน และมีแนวโน้มป่วยเพิ่มขึ้น ส่วนโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ สั่งลดกิจกรรมการเรียนการสอนกลางแจ้ง
กระทรวงสาธารณสุข แนะนำมาตรการดูแลเด็กเล็ก ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด จากกรณีฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ขณะที่โรงเรียนบางแห่งประกาศหยุดการเรียนการสอนแล้ว 3 วัน
สังคม
ฝุ่น PM 2.5,ฝุ่นละออง,ฝุ่นละอองขนาดเล็ก,ฝุ่น,กรมควบคุมมลพิษ,กรมอนามัย,กระทรวงสาธารณสุข,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/277196
มาแล้วใบส้มแรก กกต. แจก สุรพล ว่าที่ส.ส.เพื่อไทยเชียงใหม่
ว่าที่ ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ไว้เป็นการชั่วคราว (1ปี) หรือใบส้ม,โดยพิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของนายสุรพล เข้าข่ายผิด พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา73(2) ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิวัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด ,ทั้งนี้มติดังกล่าวมีผลให้ กกต. ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 8 เชียงใหม่ด้วย ,สำหรับใบส้ม เพิ่งมีในการเลือกตั้งปี 2562 ใบส้ม ถอนสิทธิเลือกตั้ง 1 ปี จะเกิดขึ้นในกรณี กกต.มีหลักฐานอันควรเพิ่มเติม เรียกได้ว่าผู้สมัครหรือผู้ใดก็ตาม กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อมโยงมาถึงผู้สมัคร ถ้า กกต. สั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส.คนนั้น อย่างนี้เรียกว่าโดนใบส้ม ผู้สมัคร ส.ส.คนดังกล่าวจะถูกตัดออกจากการแข่งขัน,กรณีโดนใบส้ม มีหลายขยัก ถ้า กกต.แจกใบส้ม หลังวันที่สมัคร แต่ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง คือผู้สมัครนั้นได้เบอร์ไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ในวันเลือกตั้ง ใครไปกาบัตรเบอร์นี้ ถือเป็นบัตรเสีย แต่ถ้าผู้สมัครโดนใบส้มหลังวันลงคะแนนเลือกตั้ง คือ กกต.แจกใบส้มหลังวันเลือกตั้ง ถ้าไม่ชนะเลือกตั้ง คะแนนที่ได้ไม่นำคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ แต่ถ้าบังเอิญผู้สมัครที่โดนใบส้มชนะเลือกตั้งในเขตนั้น ถ้าเกิดกรณีนี้ให้กกต.สั่งยกเลิกการเลือกตั้ง และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตนั้น,ส่วนใบเหลือง เลือกตั้งใหม่เฉพาะเขต เกิดขึ้น กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งใดไม่สุจริต เที่ยงธรรม หรือการนับคะแนนเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง ถ้า กกต.มีการสั่งให้เลือกตั้งใหม่ และให้ผู้สมัครยังเป็นคนเดิม ลักษณะอย่างนี้เรียกว่าผู้สมัครโดนใบเหลือง คือเขตเลือกตั้งนั้นไม่สุจริต แต่หาคนผิดยังไม่ได้.
คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติ สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครของ นายสุรพล เกียรติไชยากร
ข่าว,การเมือง
กกต,สุรพล เกียรติไชยากร
https://www.thairath.co.th/news/politic/1551913
รื้อบ้านในป้อมมหากาฬอีก 12 จาก 30
ที่เหลือกำหนดเสร็จ ก.ย.นี้-ถกกรมศิลป์หาเทคนิคซ่อมป้อม,เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2560 นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังตรวจการพัฒนาพื้นที่บริเวณโดยรอบป้อมมหากาฬว่า กทม. ได้ปรับภูมิทัศน์ป้อมมหากาฬ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โดย กทม.ได้ทำความสะอาด กำจัดวัชพืช เก็บขยะมูลฝอย ทาสีป้อมและกำแพง อีกทั้งได้ปรับภูมิทัศน์พื้นที่โล่งติดคลองโอ่งอ่างซึ่งรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างออกไปแล้วให้เป็นสวนหย่อม นอกจากนี้ ในวันที่ 18 ก.ย. 60 สำนักการโยธา และสำนักสิ่งแวดล้อม จะร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์เพิ่มเติมเพื่อเป็นสถานที่รองรับประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ คาดว่าจะใช้เวลาปรับปรุงภายใน 7 วัน โดยจะตั้งเต็นท์ บังแดด เพื่อให้บริการประชาชนจำนวนมากที่จะเดินทางมาในช่วงงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าการรื้อย้ายบ้านในป้อมมหากาฬที่เหลือจำนวน 30 หลัง ปัจจุบันประชาชนให้ความร่วมมือในการรื้อย้ายเพิ่มเติมจำนวน 12 หลัง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ส่วนบ้านที่เหลือจำนวน 18 หลัง ซึ่งมีการเสนอให้เป็นบ้านอนุรักษ์นั้น กทม.จะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการอนุรักษ์ รวมวิธีการ ว่าจะอนุรักษ์อย่างไร นอกจากนี้ กทม.จะหารือกับกรมศิลปากร เรื่องเทคนิคการปรับปรุงป้อมมหากาฬ กำแพงป้อมฯให้เหมาะสมกับสภาพสิ่งปลูกสร้าง โดยไม่ทำให้โบราณสถานเสียหาย ตามแผนจะเริ่มปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในปี 2561.
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2560 นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังตรวจการพัฒนาพื้นที่บริเวณโดยรอบป้อมมหากาฬว่า กทม. ได้ปรับภูมิทัศน์ป้อมมหากาฬ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
ข่าว,ทั่วไทย
จักกพันธุ์ ผิวงาม,ป้อมมหากาฬ,รื้อบ้าน,ปรับภูมิทัศน์
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1069389
ถูกจริง 90 ล้าน พ่อค้าสลากสมุทรสาคร ถือสัจจะไม่เผยข้อมูลเศรษฐีคนใหม่
หลังจากเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการลือกันสนั่นทั่วเมืองว่ามีคนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นจำนวนเงินถึง 90 ล้านบาทนั้น ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อไปตามหาข้อเท็จจริงทั่วเมืองมหาชัย โดยในที่สุดก็พบว่า ต้นขั้วของแผงลอตเตอรี่ที่ถูกเอ่ยถึงว่าเป็นแผงมหาเฮง มีคนโชคดีถูกลอตเตอรี่กลายเป็นมหาเศรษฐี 90 ล้านบาท ภายในไม่กี่ชั่วโมงนั้น ก็คือ แผงขายลอตเตอรี่ในปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาเอกชัย ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แต่ปรากฏว่าวันนี้แผงขายลอตเตอรี่ดังกล่าวได้หยุดขาย และจะกลับมาเปิดอีกครั้งในอีก 5 วันข้างหน้า ,ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับเจ้าของปั๊มน้ำมัน ถึงข่าวลือที่ว่ามีคนถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านบาท จากแผงขายแผงนี้เป็นจริงหรือไม่ ก็ได้รับการบอกเล่าว่า แผงลอตเตอรี่แผงนี้ มีหนุ่มจังหวัดเลยชื่อนายพีท เป็นพ่อค้าขายหวย และลูกค้าที่มาซื้อก็มักจะถูกรางวัลบ่อยครั้ง โดยในงวดวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมานั้น ตอนเย็นๆ ใกล้มืดแล้วตนเองเห็นคนขายลอตเตอรี่นั่งอยู่ที่ร้าน ยังไม่ยอมปิดแผงกลับบ้าน ก็เลยเดินเข้าไปพูดคุยด้วยว่าทำไมยังไม่กลับอีก ซึ่งนายพีทก็บอกว่า รอลูกค้ามาเอาลอตเตอรี่ที่สั่งซื้อไว้ โดยมีการสั่งซื้อกันผ่านทางไลน์และโอนเงินมาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว,จากนั้น นายพีท ก็ส่งลอตเตอรี่ที่เป็นชุด 15 ใบให้ดู พอตนเองเห็นเลขก็บอกกับพ่อค้าว่า นี่เป็นเลขที่ถูกรางวัลที่ 1 ทั้งพ่อค้าและตนก็รู้สึกตื่นเต้นตกใจและดีใจแทนคนที่ถูกรางวัลด้วย โดยยังได้มีการถ่ายภาพไว้ดูเล่น และพอหลังจากนั้นพ่อค้าหนุ่มก็รอจนลูกค้ามารับลอตเตอรี่ไป แต่ตนเองได้เดินออกมาทำธุระก่อนจึงไม่เห็นว่ามหาเศรษฐีใหม่ที่โชคดีนั้นเป็นใคร มาจากไหน แต่ที่รู้คือ ไม่ใช่คนในจังหวัดสมุทรสาครอย่างแน่นอน,ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 2 สิงหาคม 2561 ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปหาพ่อค้าแผงลอตเตอรี่มหาเฮงรายนี้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายธนวรรธน์ คำแหงพล หรือ พีท ชาวบ้าน ต.เอราวัณ อ.เอราวัณ จ.เลย โดยพ่อค้าลอตเตอรี่ยืนยันว่า มีลูกค้าที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงของตนเองถูกหวย 90 ล้านบาทจริง แต่ไม่ใช่คนในจังหวัดสมุทรสาคร เป็นคนจังหวัดใกล้เคียงที่เดินทางผ่าน แล้วก็มาแวะซื้อลอตเตอรี่กันอยู่บ่อยครั้ง จนมีการซื้อขายกันผ่านไลน์โทรศัพท์ และโอนเงินให้กัน ซึ่งทางผู้โชคดีเป็นมหาเศรษฐีใหม่รายนี้ได้ขอให้ตนไม่เปิดเผยชื่อ ที่อยู่ หรือจังหวัดของเขา เพราะไม่อยากเป็นข่าวดัง กลัวเกิดความอลเวงแบบหวย 30 ล้าน แต่ตนขอยืนยันว่ามีมหาเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นจากการถูกลอตเตอรี่ชุด 15 ใบ ในงวดวันที่ 1 กันยายน 2561 ที่ผ่านมาจริง ,พ่อค้าขายลอตเตอรี่แผงมหาเฮง เล่าว่า ในวันดังกล่าวนั้น ตนเองขายลอตเตอรี่จนถึงบ่าย 2 โมงแล้ว ปรากฏว่ายังเหลือหวยชุด 15 ใบอยู่หลายเลขด้วยกัน ตนจึงโทรศัพท์ไปถามคนดวงเฮงรายนี้ว่า มีเลขชุดนี้จะเอามั้ย ซึ่งเลขท้าย 10 นั้น ไปตรงกับความฝันของเขา จึงทำให้เขาตกลงซื้อ จากนั้นตนก็ถ่ายรูปส่งไปให้เขาดู แล้วทางคนดวงเฮงก็โอนเงินมาให้ในราคาต้นทุนที่ตนบอกไป เมื่อได้เงินแล้ว ตนก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก และไม่รู้ด้วยว่าหวยชุดดังกล่าวถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งตนก็นั่งรอจนเย็นเพื่อให้เจ้าของลอตเตอรี่มารับหวยไป,ส่วนที่มาทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 ก็ตอนที่ได้พูดคุยกับเจ้าของปั๊มน้ำมัน ทั้งนี้ตนเองพอรู้ว่าเป็นลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลใหญ่ถึง 90 ล้านบาทนั้น ก็ดีใจแทนคนดวงเฮงคนนี้ที่กลายเป็นมหาเศรษฐีภายในไม่กี่ชั่วโมง นับตั้งแต่ที่ตกลงซื้อจนถึงหวยออกก็เป็นเวลาแค่ราวๆ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และในช่วงที่รอนั้น ก็ได้ถ่ายรูปคู่กับลอตเตอรี่ไว้ดูเป็นบุญตาด้วย แต่ไม่เคยคิดที่จะโกงเอาไว้เพราะตนยึดถือในความซื่อสัตย์ที่พ่อค้าต้องมีต่อลูกค้า รวมถึงสัจจะที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ถูกรางวัลด้วย ขณะที่ทางผู้โชคดีรายนี้ก็ได้บอกกับตนว่า จะมอบเงินเป็นน้ำใจให้กับความซื่อสัตย์ของตนด้วย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยตัวเลขว่าเป็นจำนวนเท่าใด.
พ่อค้าสลากที่ปั๊มน้ำมันใน จ.สมุทรสาคร รอลูกค้าที่ซื้อลอตเตอรี่ทางไลน์มารับสลากถูกหวย 90 ล้าน ยันเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นจริงๆ แต่ไม่ขอเปิดเผยข้อมูลลูกค้า ยึดมั่นสัจจะวาจา
ข่าว,ทั่วไทย
ถูกหวย,รางวัลที่ 1,หวย 90 ล้าน,สมุทรสาคร,พ่อค้าลอตเตอรี่,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1367494
มงคลกิตติ์ หวั่นรัฐบาลแห่งชาติ กลายเป็น รัฐบาลฮั้ว เพื่อผลประโยชน์
เมื่อวันที่ 16 เม.ย.62 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง ภายหลังจากที่พรรคการเมืองต่างๆ ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ว่า ขณะนี้ที่ตนได้ยินมาว่า บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ก็พยายามดิ้นรนที่จะขอเข้าร่วมเป็นรัฐบาล โดยมีการพยายามชงสูตรต่างๆ ออกมาให้ประชาชนไขว้เขว ล่าสุด มีสมาชิกบางพรรคการเมือง ได้เสนอสูตร รัฐบาลแห่งชาติ โดยอ้างว่า เป็นรัฐบาลที่มีวาระเพียงแค่ 2 ปี ทำภารกิจหลัก 2 อย่างคือ แก้ปัญหาปากท้องกับแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้ง มีการโยนชื่อบุคคลสำคัญที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจำนวน 4 ราย เพื่อหยั่งกระแสความต้องการของประชาชน ซึ่งตนเห็นว่า ไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้,เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากประชาชนได้เลือก ส.ส.แล้ว ก็ยังได้เลือกนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคการเมืองอีกด้วย ดังนั้น การที่สมาชิกบางพรรคออกมาโยนชื่อใครต่อใครนั้น ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกับบุคคลที่คนนั้นเอ่ยอ้าง รวมถึงเป็นการไม่ให้เกียรติ ประชาชนกว่า 30 ล้านคนที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่แสดงเจตนาว่าต้องการที่จะได้นายกฯ จากบัญชีของพรรคการเมืองนั้นๆ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าว, ,นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า อีกทั้งกลไกของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน การเลือกนายกรัฐมนตรี ภายใน 5 ปีแรก จะต้องมีเสียงสนับสนุนของ ส.ส.- ส.ว. รวมกันถึง 376 เสียง และมีการคาดการณ์กันว่า สมาชิกพรรคการเมืองบางพรรคที่เคยไปแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลและมีการลงสัตยาบันนั้น จะตัดสินใจหันมาสนับสนุนอีกขั้วหนึ่ง เพื่อตั้งรัฐบาลเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้น การที่มีการปล่อยข่าวเรื่อง รัฐบาลแห่งชาติ จึงเป็นเรื่องของคนที่วิตกจริตไปเองมากกว่า เพราะในรัฐธรรมนูญเอง มีบทบัญญัติในการตั้งรัฐบาลอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และก็ยังมีบทบัญญัติเกี่ยวกับฝ่ายค้านไว้ตรวจสอบถ่วงดุลอีกด้วย ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องมีรัฐบาลแห่งชาติ แต่อย่างใด,การมีรัฐบาลแห่งชาตินะดีไหม ในความเห็นส่วนตัว ผมว่าไม่ดีแน่ เพราะจะไม่มีใครตรวจสอบตามระบบรัฐสภา ประชาชนที่เลือก ส.ส.มาจะเสียประโยชน์อย่างมาก ถ้านักการเมืองสมผลประโยชน์กันแบ่งผลประโยชน์กัน จะไม่มีใครตรวจสอบ การทุจริตคอร์รัปชั้นจะทวีคูณมากขึ้น และดีไม่ดีนักการเมืองจะแอบเจรจานิรโทษกรรมคดีของแต่ละฝ่ายกัน อ้างว่าบ้านเมืองจะขัดแย้งวุ่นวายจำเป็นต้องฮั้วกัน คราวนี้จะยิ่งกว่านิรโทษกรรมสุดซอย หลักนิติธรรมจะเสียหาย ซึ่งผมยังต้องการให้มีฝ่ายรัฐบาลที่เข้มแข็งบริหารประเทศได้ และฝ่ายค้านที่ตรวจสอบเก่งป้องปรามก่อนความเสียหายจะเกิดขึ้น พร้อมแนะแนวทางแก้ไขปรับปรุงให้รัฐบาลอีกมุมหนึ่ง ถ้าจะเกิดรัฐบาลแห่งชาติจริงแต่แทบไม่มีโอกาสเลย แล้วมาฮั้วกัน ผมเองขอบอกเลยชัดๆ ว่า จะขอเป็นฝ่ายค้านเพียงคนเดียว ผมจะไม่ยอมให้ใครมาร่วมมือกันทุจริตในประเทศเด็ดขาด โดยอ้างว่าบ้านเมืองจะวุ่นวายต้องปรองดอง ต้องรัฐบาลแห่งชาติ ประชาชนจะเสียหายหนัก ถ้าคนอื่นจะฮั้วกัน ผมไม่เอาด้วยเด็ดขาด นายมงคลกิตติ์ กล่าว.
มงคลกิตติ์ หวั่นรัฐบาลแห่งชาติกลายเป็นรัฐบาลฮั้วเพื่อผลประโยชน์ ชี้เลวร้ายกว่า นิรโทษกรรมสุดซอย ประกาศขอเป็นฝ่ายค้าน ดีกว่าไปร่วมแต่หลักนิติธรรมเสียหาย
เลือกตั้ง
รบ.แห่งชาติ,รบ.ฮั้ว,นิรโทษกรรม,หลักนิติธรรม,ไทยศรีวิไลย์,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1545738
ปฏิบัติการตามหาร่างด.ญ. 11 ขวบ ตร.แกะรอย กล่อมคนร้ายด้วยเพลงธรณีกันแสง (คลิป)
และตามไปแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนพบคนร้ายตัวจริง,ไทยรัฐออนไลน์ ขอย้อนเวลาปฏิบัติการตามหาเด็กหญิงวัย 11 ขวบ ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันก็ตามตัวจนพบคนร้าย และพบศพเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้าย ,เมื่อช่วงดึกของวันที่ 20 มิ.ย. 60 แม่และพ่อของเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) วัย 11 ปี เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยลูกสาวที่เรียนอยู่ชั้น ป.5 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งไม่กลับบ้านเหมือนเช่นทุกวัน โดยชาวบ้านบอกว่า มีคนเห็นน้องเอนั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ชายคนหนึ่งออกไปช่วงเวลา 16.00 น. ซึ่งคนที่พาน้องเอ ไปคล้ายกับเพื่อนที่เป็น รภป.ของพ่อ ซึ่งไม่ได้เจอกันมานานแล้ว,อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ ชาวบ้าน ตำรวจ กู้ภัย ครูที่โรงเรียน ได้กระจายกำลังออกตามหาน้องเอตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงช่วงดึกก็ไม่พบ โดยน้องเอ นั้น เป็นเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ และพูดไม่ค่อยชัด,เช้าวันที่ 21 มิ.ย. 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจกล้องวงจรปิด ที่ร้านค้าหน้าโรงงานแห่งหนึ่ง พบว่ามีชายต้องสงสัยได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สแมช 110 สีดำ-แดง ทะเบียน ปขธ 12 กท. มีเด็กนักเรียนหญิงนั่งซ้อนท้ายผ่านไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นน้องเอ ที่หายตัวไป จึงนำภาพดังกล่าวไปให้ผู้ปกครองดู ซึ่งทั้งคู่ยืนยันว่า บุคคลในภาพ คือนายวิชัย โชติเสนา อายุ 57 ช่างก่อสร้างอยู่ที่เดียวกับพ่อของเด็ก,จู่โจมจับกุม สอบสวน ธรณีกันแสง,จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเดินทางไปพบนายวิชัย ซึ่งคนร้าย กำลังเทปูนอย่างขะมักเขม้น ปรากฏว่า เมื่อนายวิชัย เห็นตำรวจถึงกับหน้าถอดสี ต่อมาจึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ปลวกแดง หลังจากเค้นสอบมาตลอดทั้งวัน ปรากฏว่านายวิชัย พูดคำเดียวว่าไม่รู้ไม่เห็น แถมยังให้การวกวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบคราบเลือด และเศษเส้นผมติดอยู่ล้อหน้ารถจักรยานยนต์ของนายวิชัยอีกด้วย,ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปลวกแดง จึงใช้จิตวิทยาขั้นสูง นำเพลงธรณีกันแสงมาเปิดคลอให้นายวิชัยฟัง พร้อมพูดโน้มน้าว บอกให้นายวิชัยพูดความจริงว่า เอาเด็กไปไว้ที่ไหน ถ้าเด็กเสียชีวิตแล้ว ศพเด็กอยู่ที่ไหน พร้อมกับพูดว่า ,วิชัยเองก็มีลูกชายอายุ 10 ปีนะ เรียนอยู่ที่เดียวกับน้องเอเลย ถ้ามีใครมาทำกับลูกวิชัยบ้าง เราจะรู้สึกอย่างไร,นายวิชัย สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุมาเจอเด็กที่หน้าโรงเรียนแล้วเกิดมีอารมณ์เพราะรู้จักกับเด็กอยู่แล้ว และเด็กก็เป็นคนพูดจาไพเราะเรียก ลุงจ๊ะลุงจ๋า จึงทำให้มีอารมณ์มากขึ้น จึงได้ออกอุบายหลอกเด็กว่าจะพาไปหาพ่อ ระหว่างทางเด็กได้เรียกตนเองด้วยความฉอเลาะจึงทำให้เกิดอารมณ์อีก จึงได้หาที่เปลี่ยวๆ ลงมือข่มขืน พอขี่จักรยานยนต์เจอจุดปลอดคน ซึ่งเป็นไร่มันสำปะหลัง,จากนั้น จึงดึงตัวน้องเอ ลงมาแล้วจับน้องกดลงกับพื้น ปรากฏว่าเด็กดิ้นและร้องเสียงดัง ประกอบกับอวัยวะเพศไม่แข็งตัวจึงเกิดความโมโหบีบคอน้องอย่างแรง ต่อจากนั้นก็ทำอนาจาร แต่น้องยังดิ้นจึงอุ้มตัวน้องไปทิ้งที่ลำราง และจับกดน้ำจนเด็กแน่นิ่งไป แล้วก็เอาเสื้อผ้าใส่กระเป๋าโยนลงน้ำไปด้วยกันก่อนจะขี่จักรยานยนต์กลับบ้านทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น,ก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลวกแดง ได้ประสานหน่วยกู้ภัย จัดชุดประดาน้ำค้นหาแต่ต้องคว้าน้ำเหลว กระทั่งนายวิชัยซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบเค้นยอมเปิดปาก จนพบว่าน้องเอถูกซุกอำพรางในป่ารกร้างใกล้แคมป์คนงานแถวนิคมอุตสาหกรรมเหมราช อ.ปลวกแดง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำศพน้องเอมาตรวจที่นิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต รวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย ,พ่อช็อก ฆาตกรทำร้ายลูกคือเพื่อน,พ่อน้องเอ กล่าวว่า ปกตินายวิชัย เป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยมีอะไรกับใคร โดยวันเกิดเหตุ นายวิชัยไม่ได้ไปทำงานเนื่องจากเมาสุรา จึงฝากให้ตนลางาน ตนเองไม่คิดเลยว่าจะมาก่อเหตุกับลูกสาวของตน ก่อนหน้านี้ตนเองก็เคยฝากนายวิชัยไปรับลูกสาวมาแล้ว 2 ครั้ง หากมีโอกาสพบเจอนายวิชัย อีกครั้ง จะสอบถามว่าทำไมถึงทำกับครอบครัวตนเองขนาดนี้,แม่น้องเอ กล่าวว่า แพทย์ระบุว่า น้องเอ จมน้ำจนทำให้ขาดอากาศหายใจ แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเกิดจากการจับกดน้ำหรือโยนลงน้ำ เนื่องจากพบน้ำอยู่ในหลอดลมและมีดินโคลนภายในปอดและกระเพาะอาหาร ส่วนร่องรอยการกระทำชำเรานั้นแพทย์ยังไม่ระบุเพราะศพมีสภาพเน่าเปื่อย แพทย์จึงเก็บตัวอย่างและชิ้นเนื้อ ส่งตรวจในห้องปฏิบัติการโดยคาดว่าจะทราบผลภายใน 1-2 วันนี้,ปกติแล้วลูกสาวจะกลับมาถึงบ้านตรงเวลาไม่เกิน 17.00 น. แต่ตนนั่งรอจนกระทั่ง 19.00 น. ก็ไม่พบวี่แววของลูกสาว จึงตัดสินใจพากันไปแจ้งความแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ตนสามีและครอบครัวพากันออกตามหาตลอดทั้งคืนแต่ไม่พบ จนรู้ว่าลูกตายแล้ว หากเจอหน้านายวิชัย อยากจะถามว่าทำไมถึงมาทำกับครอบครัวของเราแบบนี้ อยากจะตบหน้าสัก 1 ครั้ง และอยากให้มีบทลงโทษประหารชีวิตกับผู้กระทำความผิดเช่นนี้
คดีการหายตัวไปของเด็กหญิงวัย 11 ปีที่จังหวัดระยอง ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญของพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ช่วยให้ตำรวจสามารถแกะรอยคนร้ายได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง คือ บรรดาชาวบ้านในละแวกโรงเรียน ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาจนสืบทราบ
ข่าว,ทั่วไทย
เด็กหาย,เด็กป.5 หายตัว,เพื่อนพ่อลักพาตัว,ปลวกแดง,ระยอง,ข่าวเหตุ
https://www.thairath.co.th/news/local/south/980722
สางปมปัญหาคุณป้าทุบรถ ตลาดรอบบ้านควรอยู่หรือไป จากมุมมองนักกฎหมายที่สัมผัสปัญหาจริง
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร เพราะเกิดความลำบากใจจากการปฏิบัติงาน เนื่องจากผู้ค้าขายก็จำเป็นต้องมีรายได้เพื่อเลี้ยงครอบครัว ทางเขตจึงทำการจัดระเบียบการค้าขายแทน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบางครั้งในทางปฏิบัติ ไม่สามารถทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดได้ และเมื่อเกิดความลำบากใจขึ้น เจ้าหน้าที่ก็จะหันไปพึ่งบารมีศาล ซึ่งในกรณีนี้คือศาลปกครอง ด้วยเหตุว่า เจ้าหน้าที่เกรงว่าหากดำเนินการไปก่อน แล้วต่อมาศาลมีคำสั่งเป็นอีกอย่างหนึ่ง จะทำให้ต้องรับผิดในการกระทำที่เกิดขึ้นนี่คือคำพูดของเจ้าหน้าที่เขตประเวศคนหนึ่งช่วงปลายปี พ.ศ. 2554 เกี่ยวกับกรณีของความเดือนร้อนที่เกิดขึ้นต่อประชาชนในละแวกตลาดสวนหลวง ร.9 เมื่อครั้งที่ผู้เขียนและเพื่อนๆ นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิชาหลักวิชาชีพนักกฎหมายในชั้นปีที่ 4จริงๆ แล้วปัญหาในเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นมาหลายปีก่อนหน้าที่พวกเราจะเข้าไปลงพื้นที่ พอพวกเราได้ยินว่าประชาชนหลายคนในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ไม่ใช่แค่บ้านคุณป้าเท่านั้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีนายทุนมาเปิดตลาด จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปลงพื้นที่จริงๆ เพื่อดูว่าปัญหาเป็นอย่างไร และพวกเราในฐานะที่เป็นนักศึกษาจะช่วยแก้ไขได้อย่างไรบ้าง จึงได้เข้าใจถึงความเป็นมาของปัญหาดังต่อไปนี้ภาพการวางขายของบนถนน ปัจจุบันไม่มีแล้วความเป็นมาและสภาพของปัญหาในปี พ.ศ. 2554แต่เดิมนั้น บริษัทผู้จัดสรรที่ดินโครงการนี้ ได้แบ่งสัดส่วนของโครงการไว้เป็น 2 ส่วน คือ โครงการ 1 เพื่อเป็นหมู่บ้านจัดสรร และโครงการ 2 เพื่อเป็นส่วนของศูนย์การค้าซึ่งจัดตั้งไว้ติดถนนถนนศรีนครินทร์ อยู่ปากทางเข้าออกของหมู่บ้านเสรีวิลล่าคือศูนย์การค้าเสรีเซ็นเตอร์ (ปัจจุบันคือพาราไดซ์ พาร์ค) ซึ่งการแบ่งสัดส่วนของโครงการไว้ 2 ส่วนข้างต้น ชี้ให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ของการจัดสรรที่ดินได้ชัดเจนอยู่แล้วว่าส่วนหนึ่งใช้เพื่ออยู่อาศัย อีกส่วนใช้เพื่อเชิงพาณิชย์ ทำให้ตอนนั้นที่ดินจัดสรรภายในหมู่บ้านเป็นบริเวณเงียบสงบร่มรื่น ปราศจากเสียงรบกวนและมลภาวะใดๆ อันส่งผลต่อการดำเนินชีวิตตามปกติ ปรากฏว่าต่อมามีคนซื้อที่ดินในหมู่บ้านและได้นำมาทำเป็นตลาด เมื่อได้รับความนิยม ตลาดก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัวภาพประตูหน้าบ้านเมื่อปี 2554ในช่วงปี พ.ศ. 2554 ประตูรั้วบ้านคุณป้าที่ปรากฏในข่าวยังไม่มีป้ายติดเยอะขนาดนี้ ตลาดบางแห่งยังเป็นเต็นท์ไม่ได้เป็นอาคารที่มีลักษณะถาวรเหมือนตอนนี้ มาถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว หลายๆ อย่างกลับเลวร้ายลงกว่าเดิม ตลาดแทนที่จะลดลงกลับมีมากขึ้น ตลาดที่เป็นเต็นท์ชั่วคราวกลับกลายเป็นอาคารถาวร สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการดำเนินการของภาครัฐและหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องนั้นด้อยประสิทธิภาพเพียงใดจากความลำบากใจในการปฏิบัติงาน แต่อย่างน้อยที่สุด ผู้เขียนก็เห็นได้ว่าบางอย่างยังมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นบ้าง เช่น ขยะตามทางเดินที่ลดน้อยลงกว่าเดิมมาก รวมถึงการขายของบนถนนสาธารณะที่หายไปแล้วสุดท้ายแล้ว เนื่องจากในปีที่เราได้ลงพื้นที่ คดีความยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล พวกเราจึงไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรไปมากกว่าการทำรายงานฉบับนั้นออกมาขยะที่ถูกทิ้งเกลื่อนกลาดตามข้างทางถ้าจะให้สรุปในเบื้องต้นเกี่ยวกับกรณีนี้จากบทเรียนในอดีต สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เจ้าหน้าที่ของรัฐควรยึดถือคือการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดผ่านหลักนิติธรรม (The Rule of Law) หรือหลักการที่ยึดกฎหมายเป็นใหญ่ กล่าวคือเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องสมควรดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นสิ้นสุดไป นอกจากนี้ แม้ว่าผู้ค้าขายจะไม่อาจค้าขายในบริเวณดังกล่าวได้อีก แต่ทางรัฐก็สามารถทำการช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านั้นโดยการจัดหาสถานที่ให้ผู้ค้าขาย ได้มีโอกาสนำสินค้าของตนมาขายในลักษณะเช่นเดียวกันกับตลาดที่จัดตั้งแต่เดิม ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ก็ได้เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีตและประสบผลสำเร็จ คือการย้ายให้ผู้ค้าขายในตลาดนัดสนามหลวงไปค้าขายในบริเวณสวนจตุจักรแทนPhoto: ฐานิส สุดโตวิเคราะห์ปัญหาตลาดสวนหลวง ร.9 ในแง่มุมของกฎหมายเมื่อเกิดเหตุการณ์ป้าทุบรถขึ้น ประเด็นความเดือดร้อนจากการมีตลาดในบริเวณสวนหลวง ร.9 จึงกลับกลายมาเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในวงกว้างและอยู่ในความสนใจของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ หลายๆ คนอาจได้ฟังคำสัมภาษณ์ของผู้อำนวยการเขตประเวศเมื่อวานนี้ (20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561) และอาจจะสงสัยว่า 1. ตลาดในละแวกสวนหลวง ร.9 นั้นได้ทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ 2. ถ้าหากทำไม่ถูกต้อง เพราะเหตุใดตลาดถึงได้จัดตั้งไม่ถูกต้อง และ 3. การขออนุญาตก่อสร้างตลาด กับการขออนุญาตจัดตั้งตลาดคือสิ่งเดียวกันหรือเปล่า หรือมีความแตกต่างกันอย่างไรผู้เขียนคิดว่าสิ่งนี้เป็นประเด็นสำคัญที่อย่างน้อยทุกคนควรจะเข้าใจไว้ในเบื้องต้น เพราะถือเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวพวกเราอย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการก่อสร้างอาคารรวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงคิดว่าอยากจะแบ่งปันความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวดังต่อไปนี้Photo: ฐานิส สุดโต1. บทสรุปโดยย่อตามข้อกฎหมายการก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นตลาด ไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากขัดต่อกฎหมายจัดสรรที่ดิน อาคารตลาดที่สร้างขึ้นมาแล้ว อาจถูกรื้อถอนได้ เมื่อหน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่กำหนดไว้ในกฎหมายควบคุมอาคารแล้ว พร้อมกันนี้ เจ้าของอาคารตลาดต้องได้รับโทษจำคุก หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามแต่กรณี (ได้ระบุในรายละเอียดด้านล่าง) นอกจากนี้ การขออนุญาตเพื่อจัดตั้งตลาด ก็ไม่สามารถกระทำได้เช่นเดียวกัน เพราะการก่อสร้างอาคารไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย เมื่อการก่อสร้างอาคารทำโดยไม่ชอบตามกฎหมาย การขออนุญาตจัดตั้งตลาดจึงไม่สามารถกระทำได้เป็นผลต่อเนื่องกัน ทั้งนี้ ความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยสังเขปและการพิจารณากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่ได้วิเคราะห์ดังต่อไปนี้Photo: ฐานิส สุดโต2. กฎหมายที่เกี่ยวข้อง (ก) กฎหมายผังเมือง: กฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่กำหนดว่าพื้นที่ใด สร้างอาคารเพื่อประกอบกิจการใดได้บ้าง เช่น พื้นที่สีเขียวเป็นพื้นที่สำหรับเกษตรกรรม ก็จะก่อสร้างอาคารเพื่อทำอุตสาหกรรมไม่ได้ นอกจากนี้ หากพื้นที่ใดได้มีการประกาศกฎหมายผังเมืองใช้บังคับแล้ว พื้นที่นั้นก็จะกลายเป็นเขตควบคุมอาคาร ดังนั้น การก่อสร้างอาคารจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นก่อนเสมอด้วย (ข) กฎหมายควบคุมอาคาร: การก่อสร้างอาคารใดๆ ภายในเขตควบคุมอาคาร จะต้องดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสียก่อน เช่น เทศบาลต่างๆ โดยหน่วยงานเหล่านั้น ก็จะออกใบอนุญาตก่อสร้าง (แบบ อ.1 หรือแบบ กทม.6 สำหรับกรุงเทพมหานคร) หรือหนังสือรับแจ้งการก่อสร้างตามมาตรา 39 ทวิ ซึ่งหลักการของทั้งสองแบบนี้ก็จะเหมือนกันคือ ให้ผู้ขออนุญาตสามารถดำเนินการก่อสร้างอาคารได้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ ในแบบฟอร์มดังกล่าว ก็จะระบุด้วยว่า ให้ก่อสร้างอาคารประเภทใด เช่น อาคารพาณิชยกรรม หรืออาคารที่อยู่อาศัย มีจำนวนกี่ชั้น กี่หลัง เป็นต้น อย่างไรก็ดี มีอาคารเพียงบางประเภทที่สามารถก่อสร้างได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตก่อสร้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เป็นเพียงข้อยกเว้นเท่านั้น) ซึ่งในกรณีนี้ การก่อสร้างตลาดไม่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย(ค) กฎหมายจัดสรรที่ดิน: คือกฎหมายที่กำหนดว่าการขายที่ดินที่ได้แบ่งไว้ตั้งแต่สิบแปลงขึ้นไป จะต้องดำเนินการขออนุญาตจัดสรรที่ดินเสียก่อน ซึ่งแน่นอนว่าพอมีคำว่าขออนุญาตเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้จัดสรรก็มีหน้าที่เพิ่มเติมในการแบ่งที่ดินดังกล่าวเพื่อขาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรให้มีระบบสาธารณูปโภค ทำแผนผังการจัดสรรที่ดินว่าที่ดินส่วนใดจะใช้เพื่อประโยชน์อะไร และอื่นๆ อีกมากมายตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายจัดสรรที่ดิน (หมายเหตุ บางหมู่บ้านโดยเฉพาะหมู่บ้านเก่ามากๆ อาจจะไม่ได้จัดสรรที่ดินตามกฎหมายฉบับนี้ก็ได้ เนื่องจากว่าได้จัดสรรที่ดินก่อนกฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับ) (ง) กฎหมายสาธารณสุข: เป็นกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับเรื่องการจัดตั้งตลาด ซึ่งระบุว่าหากต้องการจัดตั้งตลาด จะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นเสียก่อนดังนั้น การอนุญาตก่อสร้างตลาด กับการอนุญาตให้จัดตั้งตลาด จึงเป็นคนละขั้นตอนกัน เพราะเป็นการอนุญาตภายใต้กฎหมายคนละฉบับ3. พิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้น(ก) การสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นตลาด ทำถูกต้องตามกฎหมายแล้วหรือไม่ เนื่องจากเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมอาคารมานานกว่าร้อยปีแล้ว เพราะฉะนั้น การก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นตลาด จำเป็นต้องดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างจากหน่วยงานท้องถิ่นก่อนเสมอ อย่างไรก็ดี คำถามที่เกิดขึ้นเป็นข้อแรกก็คือ บริเวณหมู่บ้านเสรีวิลล่า สามารถสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นตลาดได้หรือไม่ เมื่อพิจารณาจากกฎหมายผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับปัจจุบันที่ใช้บังคับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 พื้นที่หมู่บ้านเสรีวิลล่า ตั้งอยู่ในพื้นที่สีเหลือง ย.3-63 ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย (พิจารณาจากพื้นที่สีเหลืองในรูป) โดยได้ระบุไม่ให้ใช้ที่ดินในบริเวณนี้เพื่อประกอบกิจการหลายอย่าง อาทิ โรงงาน สถานบริการ รวมถึง ตลาด ด้วยเช่นกัน เว้นแต่ตลาดดังต่อไปนี้ที่สามารถทำได้1. ตลาดที่มีพื้นที่ประกอบการไม่เกิน 1000 ตารางเมตร ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะ ที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า 12 เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ 500 เมตร จากบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 2. ตลาดที่มีพื้นที่ประกอบการเกิน 1000 ตารางเมตร แต่ไม่เกิน 25000 ตารางเมตร ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า 16 เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ 500 เมตร จากบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน หรือ 3. ตลาดที่มีพื้นที่ประกอบการเกิน 25000 ตารางเมตร ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะ ที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า 30 เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ 500 เมตร จากบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนจากข้อกำหนดข้างต้น ประกอบกับสันนิษฐานจากข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่าถนนหน้าตลาดเป็นถนนสาธารณะที่มีความกว้างประมาณ 10 เมตร กฎหมายผังเมืองจึงอนุญาตให้ตลาดที่สามารถสร้างได้ในบริเวณดังกล่าว จะต้องมีพื้นที่ประกอบการไม่เกิน 1000 ตารางเมตรเท่านั้น ดังนั้น ต้องพิจารณาตามความเป็นจริงว่าตลาดเหล่านั้นมีขนาดพื้นที่เท่าใด หากไม่เกิน 1000 ตารางเมตร ก็ทำได้ตามกฎหมายผังเมือง กล่าวคือสามารถขออนุญาตก่อสร้างกับหน่วยงานท้องถิ่นต่อไปได้ ถ้าเกิน 1000 ตารางเมตร ก็จะไม่สามารถก่อสร้างได้ตามกฎหมายผังเมือง อย่างไรก็ดี นอกจากกฎหมายผังเมืองแล้ว จะต้องพิจารณากฎหมายจัดสรรที่ดินประกอบด้วยว่าการเอาที่ดินจัดสรรแปลงเหล่านั้นมาใช้เพื่อเป็นตลาด เป็นการขัดต่อการใช้งานที่ระบุไว้ในแผนผังจัดสรรที่ดินตอนยื่นจัดสรรที่ดินหรือไม่ เพื่อที่จะระบุได้ว่าการก่อสร้างอาคารเพื่อเป็นตลาดสามารถทำได้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่กฎหมายจัดสรรที่ดินได้กำหนดให้ผู้จัดสรรที่ดิน ต้องจัดทำแผนผังการใช้งานที่ดินว่าที่ดินแปลงใดจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไรบ้างเมื่อยื่นขอจัดสรรที่ดินต่อหน่วยงานของรัฐ เช่น ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ใช้เป็นสาธารณูปโภคส่วนกลาง หรืออื่นๆ โดยไม่ว่าจะมีการซื้อขายที่ดินจัดสรรดังกล่าวผ่านไปกี่มือก็ตามก็จำเป็นจะต้องใช้ที่ดินนั้นให้เป็นไปตามที่ระบุไว้ในแผนผังจัดสรรที่ดิน (เคยมีคำพิพากษาของศาลปกครองกลางได้ตัดสินในเรื่องนี้ไว้ คดีหมายเลขแดง ที่ 1143/2549 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2549) ทั้งนี้ แผนผังดังกล่าวอาจมีการขอแก้ไขได้ในภายหลัง โดยจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐเสียก่อนเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และสันนิษฐานว่าไม่ได้มีการยื่นขอแก้ไขแผนผังที่ดินจัดสรรมาก่อน การใช้งานที่ดินในหมู่บ้านเสรีวิลล่านั้น จะต้องเป็นการใช้เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยตามที่ได้ระบุไว้ในแผนผังที่ดินจัดสรรเท่านั้น (เพราะตลาดเหล่านี้ตั้งอยู่ในโครงการ 1) หากต้องการใช้เพื่อการอื่น เช่นเพื่อการพาณิชย์ จะต้องยื่นขออนุญาตแก้ไขแผนผังต่อหน่วยงานของรัฐเสียก่อนดังนี้ ถึงแม้ว่ากฎหมายผังเมืองจะบอกว่า สามารถสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นตลาดพื้นที่ไม่เกิน 1000 ตารางเมตร ในบริเวณหมู่บ้านเสรีวิลล่าได้ แต่สุดท้ายแล้วการสร้างอาคารเพื่อเป็นตลาดในบริเวณดังกล่าว ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากขัดต่อกฎหมายจัดสรรที่ดินนั่นเองจากคำให้สัมภาษณ์ของผู้อำนวยการเขตประเวศ พบว่ามีตลาด 3 แห่งที่ได้ขออนุญาตก่อสร้างแล้ว ส่วนอีกหนึ่งตลาดที่เหลือในบริเวณใกล้เคียงยังไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างแต่อย่างใด เมื่อพื้นที่หมู่บ้านเสรีวิลล่าไม่สามารถใช้เป็นตลาดได้เนื่องจากขัดต่อกฎหมายจัดสรรที่ดิน 1. ใบอนุญาตก่อสร้างตลาดที่ออกมาแล้ว 3 ใบนั้น อาจเป็นการออกใบอนุญาตที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ใบอนุญาตดังกล่าวจึงอาจถูกเพิกถอนได้ และ 2. ส่วนตลาดอีกแห่งหนึ่งที่เหลือนั้น เมื่อก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายควบคุมอาคารที่กำหนดว่าการก่อสร้างต้องขออนุญาตต่อหน่วยงานท้องถิ่นเสียก่อน ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น หน่วยงานของรัฐสามารถที่จะรื้อถอนตลาดที่ก่อสร้างโดยขัดต่อกฎหมายได้ เมื่อได้ดำเนินการตามกระบวนการที่ได้ระบุไว้ในกฎหมายควบคุมอาคารแล้ว นอกจากนี้ ผู้ก่อสร้างอาคารตลาดยังมีความผิดอาญาตามกฎหมายควบคุมอาคาร กล่าวคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 120000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมทั้งต้องปรับอีกวันละไม่เกิน 20000 บาท จนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายPhoto: ฐานิส สุดโต(ข) การประกอบกิจการตลาด ทำถูกต้องตามกฎหมายแล้วหรือไม่นอกจากเรื่องของตัวอาคารที่ใช้เป็นตลาดที่จะต้องดำเนินการให้ถูกกฎหมายแล้ว การขออนุญาตประกอบกิจการตลาดตามกฎหมายสาธารณสุข ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่ผู้ประกอบกิจการตลาดจะต้องดำเนินการให้ถูกกฎหมายด้วยเช่นกันกฎหมายสาธารณสุขได้กำหนดว่าการประกอบกิจการตลาดจะต้องยื่นขออนุญาตต่อหน่วยงานท้องถิ่นเสียก่อนจึงจะดำเนินการได้ หากประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่กิน 50000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับจากข้อเท็จจริงประกอบกับคำให้สัมภาษณ์ของผู้อำนวยการเขตประเวศ พบว่ายังไม่มีผู้ประกอบการตลาดรายใดในบริเวณหมู่บ้านเสรีวิลล่า ได้รับอนุญาตประกอบกิจการตลาดเลย ดังนั้น ผู้ประกอบการเหล่านั้นจึงต้องได้รับโทษตามที่ได้ระบุไว้ในกฎหมายสาธารณสุขนอกจากนี้ ขอตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ในการขออนุญาตประกอบกิจการตลาดต่อหน่วยงานท้องถิ่นนั้น จะต้องยื่นใบอนุญาตก่อสร้างไปพร้อมกับคำขอประกอบกิจการตลาดด้วย เมื่อการขออนุญาตก่อสร้างตลาดตามกฎหมายควบคุมอาคารไม่สามารถทำได้ ตามที่ได้พิจารณาในข้อ (ก) ด้านบนมาแล้ว ดังนั้น หน่วยงานของรัฐจึงไม่น่าที่จะอนุญาตให้เจ้าของตลาดประกอบกิจการตลาดในบริเวณหมู่บ้านเสรีวิลล่าได้เลย หากมีการอนุญาตเกิดขึ้น ก็น่าจะเป็นการอนุญาตที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและอาจถูกเพิกถอนได้ในภายหลังจากบทวิเคราะห์ข้างต้น เราจึงเห็นได้ว่า จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ของรัฐเอง มีอำนาจในการจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างเด็ดขาด แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ส่งผลให้การดำเนินการตามกฎหมายยังคงล่าช้าอยู่ และก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนในละแวกดังกล่าวต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด คำถามต่อมาก็คือว่า พวกเราในฐานะที่เป็นประชาชนเหมือนกัน ควรจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้หรือไม่ สำหรับผู้เขียนเองคิดว่า สิ่งที่ง่ายที่สุดและทุกคนทำได้โดยไม่เดือดร้อนใคร ก็คือการเริ่มเคารพสิทธิของผู้อื่น และเคารพกฎหมายที่มีอยู่เสียก่อน เมื่อทุกคนเริ่มตระหนักในจุดนี้ ผู้เขียนเชื่อว่าปัญหาความเดือดร้อนแบบกรณีคุณป้าทุบรถก็คงยากที่จะเกิดขึ้นอีกในสังคมไทยครับทั้งนี้ บทวิเคราะห์ข้างต้นได้จัดทำขึ้นบนข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อสันนิษฐานต่างๆ ตามที่ปรากฏต่อสาธารณะเท่านั้น ผลการวิเคราะห์อาจเปลี่ยนแปลงได้ในรายละเอียดหากมีข้อเท็จจริงสำคัญบางประการที่แตกต่างออกไป เช่น ปีที่อาคารได้ก่อสร้างขึ้น เป็นต้น
ผู้เขียนลงพื้นที่สัมผัสปัญหาของบ้านหลังนี้ ตั้งแต่ปี 2554 ขณะยังเป็นนักศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 เวลานั้นได้มีการฟ้องร้องกันระหว่างเจ้าของบ้านและหน่วยงานที่ปล่อยให้มีการตั้งตลาดในเขตที่อยู่อาศัยแล้วเมื่อพิจารณาจากแง่มุมกฎหมายแล้ว หน่วยงานของรัฐไม่น่าที่จะอนุญาตให้เจ้าของตลาดประกอบกิจการตลาดในบริเวณหมู่บ้านเสรีวิลล่าได้เลย หากมีการอนุญาตเกิดขึ้น ก็น่าจะเป็นการอนุญาตที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและอาจถูกเพิกถอนได้ในภายหลังสิ่งที่ง่ายที่สุดและทุกคนทำได้โดยไม่เดือดร้อนใคร ก็คือการเริ่มเคารพสิทธิของผู้อื่น และเคารพกฎหมายที่มีอยู่เสียก่อน เมื่อทุกคนเริ่มตระหนักในปัญหาความเดือดร้อนแบบกรณีคุณป้าทุบรถก็คงยากที่จะเกิดขึ้นอีกในสังคมไทย
null
null
https://thestandard.co/car-destroy-conflict-from-lawyer-opinion/
บิ๊กป้อม สั่งสำรวจกล้องซีซีทีวีทั่วประเทศ ขีดเส้นจบ มี.ค.ปี 60
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.59 ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ทั่วประเทศ ครั้งที่ 1/2559 ร่วมกับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง,ภายหลังการประชุม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งให้สำรวจกล้องซีซีทีวีทั้งประเทศสามารถจิ๊กซอว์กันได้หมดหรือไม่หลังจากที่ได้เสียงบประมาณติดตั้งไปทั้งหมด ซึ่งจะต้องบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นคณะรักษาความสงบ (คสช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และภาคเอกชน ที่จะต้องร่วมดูแล ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีไปเป็นชุดตรวจในจุดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยร่วมมือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้การตำรวจ และคสช.ในพื้นที่ ซึ่งกำหนดชัดเจนแล้วว่าต้องสำรวจให้แล้วเสร็จเร็วที่สุดภายในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ทั้งหมด เพื่อให้รู้ว่าที่ติดตั้งกล้องซีซีทีวีไปทั้งหมดทั่วประเทศติดต่อกันได้หมดหรือไม่ ถ้าไม่หมดจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง อีกทั้งเป็นการสำรวจงบประมาณที่ใช้ไปด้วย อาจจะต้องมีกรรมการขึ้นมาอีกชุดเพื่อมากำหนดเกี่ยวกับเรื่องทีโออาร์ โดยครั้งต่อไปจะต้องติดตั้งกล้องซีซีทีวีตามนี้ เพื่อให้จิ๊กซอว์กันได้ทั้งประเทศ เชื่อว่าปี 60 นี้ การบูรณาการในเรื่องดังกล่าวจะมีความชัดเจน แต่ต้องดูว่าเวลานี้ทำไปแล้วเท่าไร อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ตนเข้ามา 2 ปี ได้สั่งแล้วให้ติดตั้งกล้องซีซีทีวีและไฟแสงสว่างเพื่อลดปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ซึ่งก็ทำได้ในระดับหนึ่ง แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจน จึงต้องสำรวจทั้งหมด ถือเป็นความริเริ่มของฝ่ายความมั่นคงที่กราบเรียนขอความอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้อนุมัติมา,พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประมาณการได้ว่ากล้องซีซีทีวีทั้งหมด 76 จังหวัดทั่วประเทศ มีจำนวนเท่าไร ต้องรอการสำรวจ แต่ในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แยกออกไปอยู่แล้ว ซึ่งเขาทำอยู่แล้ว แต่ตอนนี้จะต้องทำที่เหลือทั้งหมดทั่วประเทศ
ประวิตร สั่งสำรวจกล้องซีซีทีวีทั่วประเทศ ให้จบ ก.พ.-มี.ค.เสร็จทั่วประเทศ หวังจิ๊กซอว์กล้องภาครัฐ-เอกชนเชื่อมต่อกัน พร้อมตรวจสอบงบ เตรียมตั้งกรรมการเข้มทีโออาร์ ดำเนินการเพิ่มเติม
null
กล้องซีซีทีวี,กล้องโทรทัศน์,วงจรปิด,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,อาชญากรรม,ติดตั้งกล้อง
https://www.thairath.co.th/content/789246
ชาวพัทลุง จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบฮั้วประมูลรังนก
ชาวจังหวัดพัทลุงที่ติดตามการพิพากษาของศาลปกครองสงขลา ในการพิจารณาให้การเซ็นสัญญาสัมปทานรังนกบนเกาะสี่ เกาะห้า ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2552 เป็นโมฆะตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) เรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความรับผิดชอบความเสียหาย ที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรทางธรรมชาติ มูลค่าหลายพันล้านบาทของจังหวัด ศาลปกครองสงขลา ใช้เวลาพิจารณาคดีอย่างรอบคอบ มานานกว่า 2 ปีแล้วพบว่า คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และนายวิญญู ทองสกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ฐานความผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการโดยมิชอบด้วยกฏหมาย ซึ่งคณะกรรมการที่ถูกฟ้องได้กำหนดเงินประกันซองไว้สูงถึงร้อยละ 75 และเงินประกันสัญญาร้อยละ 75 ในขณะพื้นที่อื่นกำหนดไว้เพียงร้อยละ 25 รวมถึงการขยายเวลาสัมปทานออกไปเป็น 7 ปี ซึ่งเป็นเสมือนการล็อคสเปคจากบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่จะต้องมีหลักทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 1000 ล้านบาทในการเข้าประมูล แม้ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้มีการทบทวบหลักเกณฑ์ แต่คณะกรรมการยังเปิดการประมูลท่ามกลางเสียงคัดค้าน เนื่องจากมีกลุ่มนายทุนเป็นนักการเมืองคอยขับเคลื่อน ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้นำเสนอข่าวการล็อคสเปคการประมูลรังนกอีแอ่นอย่างต่อเนื่อง
ชาวพัทลุงเรียกร้องให้หน่วยงานออกมาแสดงความรับผิดชอบ หลังศาลปกครองสงขลา พิพากษาให้ยกเลิกสัมปทานรังนกบนเกาะสี่ เกาะห้า อำเภอปากพะยูน เมื่อปี 2552
ภูมิภาค
พัทลุง,รังนก,รับผิดชอบ,ศาล,หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง,ฮั้วประมูล,เกาะสี่,เกาะห้า
https://news.thaipbs.or.th/content/16853
เก๋งเสียหลักชนขอบทาง ตีลังกาหลายตลบ โค้งอันตรายบางสะพาน (คลิป)
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์เชฟโรเลตแคปติว่า สีขาว ทะเบียน กค-4568 อำนาจเจริญ เสียหลักพลิกคว่ำอยู่บริเวณกลางถนน บริเวณโค้งสามแยกบางสะพาน บนถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ หลัก กม.385-386 ก่อนถึงที่ทำการหมวดทางหลวงบางสะพานประมาณ 300 เขตเทศบาลตำบลร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลร่อนทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยตำรวจทางหลวง เข้าตรวจสอบ,จากการสอบถาม น.ส.พัชราภรณ์ อิงบารมี อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว ทราบว่า ตนได้ขับรถกลับจากทำธุระที่บ้าน เพื่อมุ่งหน้าลงไปจังหวัดภูเก็ต โดยเดินทางมาเพียงผู้เดียว ขับมาด้วยความเร็วประมาณ 110-120 กม./ชั่วโมง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เป็นช่วงที่ฝนกำลังตกลงมาทำให้พื้นถนนลื่น เมื่อเข้าโค้ง รถได้เสียหลักลื่นไถล ควบคุมไม่ได้ จนไปชนกับขอบทาง ก่อนที่รถจะหมุนและตีลังกา แต่โชคดีที่ตนคาดเข็มขัดนิรภัย จึงทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด,นายสุพจน์ เสริมทรัพย์ หัวหน้าหมวดทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ บริเวณโค้งสามแยกบางสะพาน พบว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุ จะเป็นในช่วงเวลาที่ฝนตก พื้นถนนจะมีความลื่นมากกว่าปกติ ประกอบกับรถที่ประสบอุบัตืเหตุทุกคัน จะวิ่งมาก่อนถึงโค้งจะใช้ความเร็วค่อนข้างสูง คือมากกว่า 100 กม./ชั่วโมง ที่ผ่านมาได้ประสานกับหมวดทางหลวงบางสะพานให้มีการเพิ่มป้ายเตือน บริเวณก่อนถึงทางโค้ง,ส่วนในแผนระยะกลางที่คาดว่าภายในหนึ่งถึงสองเดือนนี้จะทำได้ คือ การตี เส้นจราจรแบบสันนูน (Profile Marking) มีลักษณะเป็นพื้นนูนบนเส้นไหล่ทางและข้างเส้นไหล่ทาง ความถี่ห่างกัน 20 เซนติเมตร ทำหน้าที่กระตุ้นเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวัง เพราะผู้ขับขี่เมื่อขับรถทับเส้นไหล่ทาง จะรู้สึกตื่นตัวและมีการชะลอความเร็ว เพราะรถจะสั่นสะเทือน ซึ่งใช้กันมากในแถบประเทศยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าน่าจะแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง และจะมีการเก็บข้อมูลเชิงลึกด้วย กล้องจับความเร็วควบคู่ไปด้วย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุบริเวณโค้งสามแยกบางสะพาน บริเวณดังกล่าว ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุมาแล้วนับสิบครั้ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย และเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2561 รศ.ดร.สมศักดิ์ ชุมชวย อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง ก็ได้มาประสบอุบัติเหตุบริเวณจุดดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา.
ถนนลื่น สาวควบเก๋งหลุดโค้ง เสียหลักชนขอบทาง บริเวณโค้งสามแยกบางสะพาน ก่อนตีลังกาหลายตลบ เคราะห์ยังดี คาดเข็มขัดนิรภัย
ข่าว,ทั่วไทย
ถนนลื่น,เก๋งหลุดโค้ง,รถตีลังกา,โค้งบางสะพาน,โค้งอันตราย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1402370
เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งซ้อนในอิตาลี บ้านเรือนเสียหายหลายหลัง
เจ้าหน้าที่เมืองวิสโซของอิตาลี ใช้รถตักดินทำลายกำแพงอาคารที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งซ้อน เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ต.ค.2559) ตามเวลาท้องถิ่น โดยแผ่นดินไหวครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น. โดยสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ วัดความรุนแรงได้ 5.4 ซึ่งจุดศูนย์กลางอยู่ระหว่าง จ.มาเชราตา กับ จ.เพรูเชียจากนั้นอีก 2 ชั่วโมงต่อมา เกิดแผ่นดินไหวตามมาเป็นระลอกที่ 2 ในพื้นที่เดียวกัน วัดความรุนแรงได้ 6.0 และเกิดลึกลงไปใต้ดินเพียง 10 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองวิสโซ จ.มาเชราตา ไปทางเหนือประมาณ 3.2 กิโลเมตร และเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกประมาณ 60 ครั้ง ซึ่งนักธรณีวิทยาของอิตาลีชี้ว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้เชื่อมโยงกับเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2559 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 300 คน เพราะเกิดในพื้นที่เดียวกันหัวหน้าสำนักงานพิทักษ์พลเรือนอิตาลี เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเพียงไม่กี่คน ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมไฟฟ้าให้กลับมาใช้ได้ตามปกติและเปิดทางให้ถนนกลับมาใช้การได้อีกครั้ง เนื่องจากมีเศษปรักหักพังลงมากองปิดเส้นทางสัญจร อีกทั้งมีอาคารบ้านเรือนหลายหลัง รวมทั้งโบสถ์เก่าแก่ในเมืองวิสโซได้รับความเสียหายขณะที่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเมืองวิสโซพักค้างคืนภายนอกอาคารและบางส่วนเข้าไปอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินคอยช่วยเหลือ พร้อมเตรียมเสบียงอาหารและเครื่องดื่มสำหรับประชาชน
เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งซ้อนในอิตาลีและเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีก 60 ครั้ง ทำให้บ้านเรือนพังเสียหายหลายหลังและมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ต่างประเทศ
อิตาลี,แผ่นดินไหว,อาฟเตอร์ช็อค,เมืองวิสโซ,จ.มาเชราตา,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/257097
5 อาหารผิวสวย สำหรับผู้หญิง 30+ บำรุงผิวเปล่งปลั่งมีออร่า
สำหรับสาวทำงานออฟฟิศที่มีอายุเข้าเลขสามแล้ว จะสังเกตว่าผิวพรรณมักจะแห้ง มีริ้วรอยย่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า ผิวกาย มือและเท้า รู้สึกว่าผิวไม่เด้ง ไม่ยืดหยุ่นเหมือนแต่ก่อน นี่เป็นสัญญาณบอกว่าผิวของคุณเริ่มโรยราไปตามกาลเวลาแล้วล่ะ ถ้าไม่อยากมีผิวเหี่ยวย่น ทำไงดี?,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, รวบรวมอาหารผิวที่คุณผู้หญิง อายุ 30+ ควรหามารับประทานในแต่ละวัน เพื่อเสริมสร้างผิวให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก ฟื้นฟูบำรุงผิวให้กลับมานุ่ม เด้ง ยืดหยุ่น เปล่งปลั่งดูมีออร่าเหมือนย้อนวัยไปเป็นสาวแรกรุ่น,1. มะเขือเทศ หรือ น้ำมะเขือเทศ,สาวๆ คะ คุณควรหันมาดื่มน้ำมะเขือเทศสดให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 แก้ว เพราะเป็นแหล่งรวมอาหารผิวชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินเค และสารไลโคปีน,โดยเฉพาะสารไลโคปีนในมะเขือเทศ มีประโยชน์มากในเรื่องการบำรุงผิว มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ชะลอความแก่ ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ทำให้ผิวดูสว่างใสขึ้นได้ด้วย,แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรดื่มมากเกินวันละ 2 แก้ว เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วได้ ส่วนใครที่ไม่สามารถดื่มน้ำมะเขือเทศได้จริงๆ ก็ให้หันมารับประทานมะเขือเทศสุกที่อยู่ในกับข้าวมื้อต่างๆ ให้มากขึ้นก็ได้,2. น้ำมะพร้าว,น้ำมะพร้าวสดๆ อุดมด้วยไปแร่ธาตุมากมายจากธรรมชาติ เช่น โพแทสเซียม เหล็ก โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดง กรดอะมิโน กรดอินทรีย์ วิตามินบี แถมยังมีน้ำตาลกลูโคสที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ภายใน 5 นาที ,น้ำมะพร้าวยังมีจุดเด่นในเรื่องการบำรุงผิว ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใสจากภายในสู่ภายนอกได้จริง เพราะในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ที่จะทำให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย แถมยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายพังๆ ของสาววัย 30+ อย่างเราด้วยแหละเธอ,3. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ,โยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมสดที่มีโปรตีนสูง มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้แข็งแรง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง,ในโยเกิร์ตอุดมไปด้วยวิตามินบี2 วิตามินบี5 วิตามินบี12 แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ไอโอดีน สังกะสี ฯลฯ ช่วยบำรุงเซลล์ผิวให้สมบูรณ์ ส่งผลมายังผิวพรรณภายนอกที่สดใส เปล่งปลั่ง ตึงกระชับ ,4. ชาเขียว,มีผลงานการวิจัยว่า ชาเขียว ถือเป็นอาหารบำรุงผิวชั้นยอดที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ชาเขียวมีสาร epigallocatechin gallate (EGCG) โดยมีความเข้มข้นของสาร EGCG ร้อยละ 60 มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก ซึ่งตัวนี้ก็จะมีฤทธิ์ชะลอความแก่ชรา และคงความอ่อนเยาว์ได้ ,อีกอย่างคือ การดื่มชาเขียวเป็นประจำจะช่วยขับสารพิษในร่างกาย ลดการอักเสบของผิวที่เกิดจากสิว ปรับสมดุลฮอร์โมนร่างกายในผู้หญิง แถมยังช่วยบรรเทาและป้องกันความเสียหายของผิวพรรณจากแสงแดด ป้องกันความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย นั่นก็รวมถึงเซลล์ผิวหนังด้วย พอเซลล์ผิวเสื่อมช้าลง ผิวพรรณที่อ่อนเยาว์ก็จะอยู่กับสาวๆ ได้นานยิ่งขึ้น,5. สาหร่ายทะเล,สาหร่ายทะเลประกอบด้วยวิตามิน แคลเซียม และไอโอดีนที่เข้มข้น มีคุณสมบัติการต่อต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและเส้นผมให้แข็งแรงอยู่เสมอ,มีงานวิจัยค้นพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้นที่พบในสาหร่ายทะเลบางชนิด สามารถช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระ และฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดี ลดสัญญาณการแก่ตัวของผิว เช่น รอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยบางๆ ได้เป็นอย่างดี , ,รู้อย่างนี้แล้ว ไปหาซื้ออาหารทั้ง 5 ชนิดนี้มาติดบ้านไว้กันเถอะค่ะสาวๆ เพื่อบำรุงผิวพรรณให้ต้องกลับมานุ่มเนียน เปล่งปลั่ง มีออร่า สวยเด้งย้อนวัยไปได้หลายปีเลยจ้า.
แนะนำอาหารที่สาวๆ วัยทำงาน อายุ 30+ ขึ้นไปควรหามารับประทาน บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส สุขภาพผิวแข็งแรง ดูมีออร่า เด้ง กระชับ แก้อาการผิวหย่อนคล้อยหย่อนยาน
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ชะลอความแก่,อาหารผิว,ผิวสวย,บำรุงผิว
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1383598
ล่องคงคาเที่ยวป่า ซุนดาบันส์
เรือ Sun Way, ที่ทาง ,Tourism Board, ของบังกลาเทศ จัดให้ล่องมาตามแม่น้ำคงคา หรือที่ชาวอินเดียและบังกลาเทศเรียกว่า, Ganges แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู, ที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาหิมาลัย ไหลผ่านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียไปทางตะวันออก และยังเป็นแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงผู้คนทั้งในอินเดียและบังกลาเทศด้วย,ระหว่างทางของการ,ล่องแม่น้ำคงคา, เพื่อเดินทางสู่ ,ซุนดาบันส์ (Sundarbans), ป่าชายเลนผืนใหญ่ของโลก ที่ซึ่งนักเดินทางจำนวนไม่น้อยลงความเห็นว่า นอกจากจะเป็นสถานที่อันตรายที่สุดริมฝั่งแม่น้ำ ,Ganges, แล้วมันยังมีความลี้ลับชวนให้ค้นหา,ไม่ใช่แค่ลักษณะพื้นที่ที่เป็นเหมือนเขาวงกตเท่านั้น แต่ทั้งเรื่องจริงและนิยายปรัมปราในซุนดาบันส์ล้วนตื่นเต้น ท้าทาย ควรค่าแก่การเดินทางมาพิสูจน์,ระหว่างทางสู่,ซุนดาบันส์,ก็มีเสน่ห์ไม่น้อย เราได้เห็นวิถีการหาปลาแบบดั้งเดิมของชาวเบงกาลี ที่ใช้ ,นาก หรือ Swordfish, ซึ่งเป็นสัตว์บกแต่สามารถว่ายน้ำและหากินในน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว การเลี้ยงกบเพื่อช่วยควบคุมจำนวนแมลง รวมไปถึงหอยทากแอปเปิ้ลยักษ์ที่กินสาหร่ายปกคลุมทุ่งหญ้า ที่ช่วยเพิ่มสารอาหารในดินและกำจัดศัตรูพืช,เรือลำใหญ่ค่อยๆแล่นเข้าสู่ท่าเรือในเขตป่าซุนดาบันส์ ,Moniruzzaman Masum, ผู้บริหารจาก Tourism Windows ปลุกทุกคนจากห้องนอนเล็กๆภายในเรือ,เตรียมกล้องถ่ายรูปของพวกคุณให้พร้อมนะครับ ถ้าโชคดีเราอาจจะเจอเจ้าบ้านที่นี่ เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มเห็นฟันขาว,เจ้าบ้านที่ ,Masum, บอก น่าจะหมายถึง เสือโคร่งเบงกอล เจ้าป่าแห่งอ่าวเบงกอล ที่กินพื้นที่ทั้งในอินเดียและบังกลาเทศ,เราจะเจอเสือมั้ยคะ จี ยอง หรือที่พวกเราเรียกเธอว่า จู นักข่าวสาวจากเกาหลีใต้ถาม,ไม่แน่ครับ ,Masum, บอก เรียกเสียงหัวเราะจากนักข่าวอีกกว่า 10 ชีวิตจากหลายประเทศ,เราลงจากเรือใหญ่ เพื่อนั่งเรือลำเล็กเข้าสู่ท่าเรือของ,อุทยานแห่งชาติซุนดาบันส์, ที่นอกจาก, เสือโคร่ง, แล้ว ที่นี่ยังมี ,จระเข้น้ำเค็ม งูเหลือมอินเดีย, รวมไปถึง,ผึ้งยักษ์,ที่กินน้ำหวานจากดอกของต้นโกงกาง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มากกว่า 50 สายพันธุ์ นกท้องถิ่นและนกอพยพมากกว่า 320 สายพันธุ์ สัตว์เลื้อยคลานประมาณ 50 สายพันธุ์ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอีกราว 8 สายพันธุ์ และปลามากกว่า 400 ชนิด,เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติซุนดาบันส์, ถือปืนยาวไรเฟิล มาคอยคุ้มกันบรรดาสื่อมวลชน ที่พากันยิงชัตเตอร์รัวสนั่นลั่นป่า พร้อมกับเตือนว่าให้ทุกคนเดินรวมกลุ่มตามเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ห้ามแตกแถวเด็ดขาด และที่สำคัญห้ามส่งเสียงดัง,เราค่อยๆเดินเข้าไปเรื่อยๆในป่าซุนดาบันส์ ระบบนิเวศชายเลนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ราว 12 ล้านไร่ ทั้งข้ามและเดินผ่านรากไม้แสม และโกงกาง ซึ่งเป็นพืชที่พบได้มากทั้งในป่าซุนดาบันส์และป่าชายเลนทั่วไป,เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้พวกเราทำตัวให้เงียบที่สุด เมื่อเห็นกวางลายจุดหรือกวางดาวฝูงใหญ่ สัตว์อีกชนิดที่พบมากในป่าแห่งนี้ พากันออกมาเล็มหญ้าและดูดกินน้ำหวาน รวมไปถึงน้ำค้างยอดหญ้า ที่กำลังจะถูกแสงแดดแผดเผาจนแห้งเหือดหายไป,ระหว่างที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับฝูงกวาง ใครบางคนในกลุ่มชี้ให้ดูรอยเท้าเสือขนาดใหญ่ บนดินโคลนที่ยังชื้นแฉะอยู่ เจ้าหน้าที่อุทยานกระซิบเบาๆว่า น่าจะเป็นรอยเท้าเสือเบงกอลเต็มวัย ที่อาจจะออกมาหาอาหารหรือกินดินโป่งเมื่อคืนนี้,ถ้าพวกกวางออกมาเล็มหญ้าเยอะขนาดนี้ ผมคิดว่าเราไม่น่าจะเจอเสือ เพราะพวกกวางจะรู้จักกลิ่นของเสือเป็นอย่างดี และมันจะไม่ออกมาหากินถ้าได้กลิ่นเสืออยู่ใกล้ๆ,ความรู้สึกของเราตอนนี้ ไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ แต่น่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า เพราะการเดินทางมาในที่ที่เราไม่คุ้นเคย การเสี่ยงอันตรายมากๆก็อาจจะดูน่าตื่นเต้นจนเกินไป,พวกเราเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ ไม่มีเสียงพูดคุย นอกจากเสียงชัตเตอร์จากกล้องถ่ายรูปเบาๆ เป็นระยะๆ เถาวัลย์ใหญ่ยักษ์พาดผ่าน กั้นเป็นแนวที่บางครั้งเราอาจต้องข้ามหรือลอดเถาวัลย์ยักษ์เป็นระยะๆ,แล้วเราก็มาถึงธารน้ำใหญ่ในป่าชายเลนที่ไหลออกสู่ปากแม่น้ำคงคา แดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ให้พวกเรารีบถ่ายรูปและกลับออกจากป่า เพื่อเดินทางกลับ ซึ่งเราต้องใช้เวลาอีกมากกว่า 7-8 ชั่วโมงในการเดินทางสู่เมืองคูลนา ก่อนที่จะบินกลับเข้าสู่กรุงธากา ซึ่งคาดว่าน่าจะถึงในตอนค่ำ,การเดินทางสู่,ซุนดาบันส์,คราวนี้ แม้เราจะไม่ได้เจอกับเสือเบงกอลสัญลักษณ์ของบังกลาเทศ แต่การเดินทางข้ามคืนล่องแม่น้ำคงคา เพื่อสัมผัสกับความสงบอันลึกลับของซุนดาบันส์ก็ถือว่าคุ้มค่าที่สุดแล้ว,Masum, บอกว่า การเดินทางมาซุนดาบันส์จากฝั่งบังกลาเทศ อาจจะดูยุ่งยากกว่าการเดินทางจากโกลกัตตา ของอินเดีย แต่ก็ท้าทาย ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะบินจากธากาไปลงที่เจสโซเร และขึ้นรถบัสต่อมายังคูลนา ซึ่งถือว่าเป็นประตูสู่,ซุนดาบันส์ ก่อนจะล่องเรือเข้ามายังซุนดาบันส์ หรือถ้ามีเวลามากหน่อย อาจจะนั่งรถไฟหรือรถบัสจากธากามายังคูลนาเลยก็ได้,ช่วงเวลาที่เหมาะในการเดินทาง คือช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศเย็น ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากเดือนกุมภาพันธ์อุณหภูมิจะร้อนขึ้น แต่ในช่วงฤดูฝนไม่แนะนำเด็ดขาด เพราะหากเกิดมรสุมอาจจะมีความเสี่ยงจากน้ำท่วมและพายุไซโคลนได้,เรากลับมาถึงธากาในช่วงค่ำจริงๆ Tourism Board จัดอาหารรอต้อนรับ พร้อมกับเชื้อเชิญให้เรากลับมาเยือนบังกลาเทศอีกครั้ง ถ้ามีโอกาส,อามาร์ โซนาร์ บังลา.,ฉันรักเธอนะบังกลาเทศ
แสงแรกของดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า หลังจากเราใช้เวลาทั้งคืนบน เรือ Sun Way ที่ทาง Tourism Board ของบังกลาเทศ จัดให้ล่องมาตามแม่น้ำคงคา
null
เที่ยวตามตะวัน,ล่องคงคา,ซุนดาบันส์,ป่าชายเลนผืนใหญ่ของโลก,เที่ยวป่า,ท่องเที่ยว,บังกลาเทศ,รีวิว
https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/abroad/1654951
ประหารผู้ใหญ่บ้าน ฆ่าน้องสโนว์ รอยกัดนิ้วโป้ง หลักฐานมัดแน่น
 แม้ผ่านไปกว่า 2 ปี 7 เดือน หรือกว่า 935 วัน,เพราะล่าสุด (17 ก.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ให้ประหารชีวิต นายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน และให้ชดใช้ค่าสินไหม จำนวน 2,390,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับแต่วันที่ 23 ธ.ค. 2558 เป็นต้นไป สร้างความพอใจให้กับพ่อแม่พี่สาวและญาติๆ ของน้องสโนว์ ที่มารอฟัง ต่างพากันหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ บอกน้องสโนว์จะต้องไม่ตายฟรี คนทำไม่ดีกับน้องควรได้รับผลกรรมที่ก่อขึ้น,ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ ตัดสินยืนโทษประหารชีวิตนายกฤติเดช ตามศาลชั้นต้น เนื่องจากปรากฏพยานแวดล้อมที่ให้การสอดคล้องกัน รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะรอยแผลบริเวณนิ้วมือ ซึ่งเป็นฟันของมนุษย์ และลูกอัณฑะ เป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ ที่ได้รับคำยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางนิติวิทยาศาสตร์,เบื้องหลังการทำคดีดังกล่าว ก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อม พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กมลาไสย ในขณะนั้น เคยเปิดเผยในรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ เมื่อ 6 เม.ย. 2559 ภายหลังจับกุม นายกฤติเดช จากพยานหลายปาก และโดยเฉพาะหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ เพราะก่อน น้องสโนว์ จะเสียชีวิตลง ได้บอกกับพ่อแม่ว่าได้มีการข่วน กัดมือ และบีบอัณฑะของคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกลุ่มผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ทุกตารางนิ้วมาตรวจร่างกาย และพบว่า นายกฤติเดช มีรอยแผลบนนิ้วโป้งเป็นรอยกัดของคน ซึ่งมีเพียงคนเดียว รวมถึงรอยข่วนบนใบหน้าอีกด้วย,นอกจากนี้ มีการตรวจวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว ห่างจากโรงเรียนร่องคำ ของน้องสโนว์ ประมาณ 7 กม. ใกล้กับหมู่บ้านของนายกฤติเดช และห่างจากบ้านของน้องสโนว์ ประมาณ 1 กม. พร้อมตรวจเศษดินทราย วัชพืชในที่เกิดเหตุ และเสื้อผ้า รวมถึงสีรถของนายกฤติเดช ซึ่งติดที่รถจักรยานยนต์ของน้องสโนว์ มาตรวจเปรียบเทียบ เพื่อให้หลักฐานแน่นที่สุด,ส่วนการหาหลักฐานขณะนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับช่วงแรกหาพยานบุคคลได้ยาก เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้นำชุมชน ส่วนลักษณะการลงมือ พบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ จึงแน่ใจว่าเป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียงใน 2 หมู่บ้าน รัศมี 2 กม. จึงเริ่มหาผู้ต้องสงสัย จนในที่สุดพบ นายกฤติเดช มีบาดแผลรอยกัดบนมือ ลักษณะการต่อสู้,ที่สำคัญอดีตผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว มักนั่งดื่มอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ รวมถึงการสอบปากคำได้พบพิรุธหลายอย่าง อีกทั้งภรรยาของนายกฤติเดช พูดไม่ตรงกันกับฝ่ายสามี และเชื่อว่าสามีเป็นฝ่ายถูก แต่ในที่สุดชุดสืบสวนคดีดังกล่าว ก็สามารถแกะรอยหาหลักฐานมัดตัวนายกฤติเดชจนได้ กระทั่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ประหารชีวิต สร้างความพอใจให้กับครอบครัวพลประสิทธิ์ แม้ว่าวันนี้สูญเสียน้องสโนว์ ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับก็ตาม.
คดีสะเทือนขวัญฆ่าและพยายามข่มขืน น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือ น้องสโนว์ วัย 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ จนถึงแก่ชีวิต กลับมาเป็นที่สนใจของสังคมอีกครั้ง
ข่าว,ทั่วไทย
ฆ่าน้องสโนว์,คดีฆ่าน้องสโนว์,เบื้องหลังคดีฆ่าน้องสโนว์,ประหารผู้ใหญ่บ้าน,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1336319
ดับปริศนา สาววัย 15 ไข้สูง-ตุ่มแดงเต็มตัว รอผลชันสูตร
วันที่ 19 พ.ย. 58 พ.ต.ต.อำนาจ นาควิจิตร สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากอาการป่วย โดยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่โรงพยาบาล ,เมื่อไปถึง พบว่าผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นางสาวปิยฉัตร ดาราษฎร์ หรือน้องเอิร์น อายุ 15 ปี อยู่บ้านใน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เข้ารักษาอาการป่วย เนื่องจากมีอาการตัวร้อน ปวดหัว ไข้ขึ้นสูง และพบตุ่มแดงตามตัว เมื่อช่วงเช้ามืด ซึ่งทางแพทย์ได้รับตัวไว้รักษา กระทั่งเสียชีวิตปริศนาเมื่อช่วงเช้า ซึ่งทางแพทย์ตรวจรักษาแล้ว แจ้งว่าไม่พบเชื้อไข้เลือดออกแต่อย่างใด ,สอบสวนนายสุพจน์ ผู้เป็นพ่อ ทราบว่า เมื่อสองวันก่อนลูกสาวมีไข้ ตัวร้อน จึงได้พามาหาหมอ และรับยามากิน กระทั่งเมื่อกลางดึก เริ่มมีอาการตัวร้อนมาก จึงได้รีบพามาโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ก็มาเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ว่าติดเชื้อไข้เลือดออกหรือไม่ ซึ่งจะได้ส่งศพชันสูตรตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดอย่างละเอียดอีกครั้ง ,ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักของนางสาวปิยฉัตร ซึ่งเป็นบ้านพักของบริษัท ที่พ่อทำงานอยู่ เป็นลักษณะห้องแถวปลูกเรียงกัน บริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่โล่ง แต่มีหญ้ารกปกคลุม และมีบ่อน้ำอยู่ด้านข้าง,สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า นางสาวปิยฉัตรป่วย จึงไม่ได้ไปโรงเรียน และมานั่งอยู่ที่ป้อมยามของบริษัท มีอาการซึม มีตุ่มขึ้นที่แขน กระทั่งอีกวัน พ่อของน้องได้พาไปหาหมอและรับยามากิน ต่อมาเกิดอาการตัวร้อนหนัก จึงรีบพากันไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็มาทราบว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ทางพ่อของน้องเอิร์นไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล เพราะยังอยู่ในอาการเสียใจมาก.
สาววัย 15 ปี จ.ปทุมธานี ปวดหัว ไข้ขึ้นสูง พบตุ่มแดงตามตัว กลางดึกพ่อหามส่ง รพ.ช่วยรักษา กระทั่งเสียชีวิตในเช้าวันต่อมา ขณะที่แพทย์ ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ทั้งนี้ รอชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง
null
ปิยฉัตร ดาราษฎร์,สาว 15 ป่วยตายปริศนา,ตุ่มแดงเต็มตัว,ตุ่มแดง,ไข้ขึ้นสูง,เสียชีวิตปริศนา,ตายปริศนา,ไข้เลือดออก,เชื้อไข้เลือดออก,ป่วยตาย,รพ.ธัญบุรี,ปทุมธานี,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/540492
นายกฯ ค้านเปิดข้อมูล สนช.โหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.โรงงาน
เพจ EEC Watch ได้ขึ้นข้อความว่า 142 สนช.ปล่อยผี พ.ร.บ.โรงงาน ขอสื่อช่วยกันเปิดเผยรายชื่อ และประโยชน์ทับซ้อน ประชาชนอยากรู้ ซึ่งเป็น 1 ในปฏิกริยาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ของกลุ่มศึกษาการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่เกิดขึ้นจากโรงงานในพื้นที่เพื่อเรียกร้องให้มีเปิดเผยรายชื่อ สนช.ที่โหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.โรงงาน ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เพราะเห็นว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ ลดทอนมาตรฐานการตรวจสอบ และควบคุมคุณภาพโรงงาน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนโดยเฉพาะการให้เอกชนไม่ต้องขออนุญาตต่ออายุ ใบประกอบกิจการโรงงาน จากเดิมที่ต้องต่อทุก 5 ปี ส่งผลให้โรงงานมากกว่า 60000 แห่งได้ประโยชน์ การอนุญาตให้โรงงานขนาดเล็กที่มีเครื่องจักรต่ำกว่า 50 แรงม้า และคนงานต่ำกว่า 50 คน ไม่ต้องขออนุญาตตั้งโรงงาน เท่ากับโรงงานกลุ่มนี้จะไม่อยู่ในกำกับของกรมโรงงานอีกต่อไป แต่ข้อเสนอนี้ก็ถูกคัดค้านจากนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.โดยให้เหตุผลว่า เป็นเรื่องอันตราย พร้อมย้ำว่า ทางออกเรื่องนี้คือให้ทุกคนพิจารณาอย่างรอบคอบไม่เฉพาะร่าง พ.ร.บ.โรงงาน แต่ยังมีร่างกฎหมายอีกหลายฉบับ ที่ค้างการพิจารณาในวาระ 2 และ 3 เฉพาะสัปดาห์นี้มีถึง 14 ฉบับ ซึ่งมีอย่างน้อย 4 ฉบับ ที่มีข้อกังวลว่า หากเร่งรีบพิจารณาจะส่งผลกระทบในวงกว้าง อย่างร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ และร่าง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าทำให้ภาคประชาชนในนามคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน สมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และภาคีเครือข่ายอีก 160 องค์กร 370 บุคคล ประกาศผ่านสื่อสังคมออนไลน์เรียกร้องให้ สนช.ยุติการพิจารณา ร่างกฎหมายที่ค้างการพิจารณาในทันที เพื่อรอให้สภาฯ ชุดใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาพิจารณาแทนโดยนัดแต่งชุดดำรวมตัวกันที่หน้ารัฐสภาวันนี้
ภาคประชาชนเรียกร้องให้เปิดเผยรายชื่อ สนช.ทั้ง 142 คน ที่ลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.โรงงาน แต่นายกฯไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้โดยระบุว่า สนช.เหล่านั้นเป็น คนทำงาน จึงไม่ควรไปเปิดเผยรายชื่อ
การเมือง
สนช.,โรงงาน,ไซเบอร์,อุทยานแห่งชาติ,สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/278015
คุณครูขวัญ สอนสนุกมาก ทั้งเต้นทั้งร้องโดนใจเด็กศิลป์ฝรั่งเศส (คลิป)
จากกรณีครูสาวรายหนึ่งโพสต์คลิปเดินแบบและเต้นเคาะฝาถังขยะร่วมกับเด็กนักเรียนขณะยืนเชียร์กีฬาสี บนเฟซบุ๊ก ,Ka Derd Kwanfunny, พร้อมแคปชั่น ใช่ค่ะ เราคือคนเดียวกัน เราเป็นคุณครูหลายแบบ สอนฝรั่งเศสได้ เชียร์กีฬาก็ดี ความสามารถฉันหลายปานนี้ บ่เป็นตาขึ้นเงินเดือนให้ฉันหลายๆ ตี้ ซึ่งต่อมามีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ยอดวิวพุ่ง 2 คลิปกว่า 5 แสนครั้ง,ทั้งนี้ ,ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์, ได้ติดต่อสอบถามไปยัง นางสาวกุลขวัญ โอษะคลัง หรือ ,ครูขวัญ, เจ้าของคลิป ซึ่งเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศส โรงเรียนผดุงนารี จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ตอนแรกรู้สึกงงและตกใจ ไม่คิดว่าคลิปจะถูกแชร์ไปรวดเร็วขนาดนี้ แต่ภายหลังมองว่าเป็นเรื่องตลกดี คนส่วนใหญ่อาจจะไม่เคยเห็นครูภาพลักษณ์แบบนี้มากนัก ที่ผ่านมา ตนก็ได้อัดคลิปเล่นกับเด็กๆ ที่โรงเรียนลงเฟซบุ๊กเป็นปกติอยู่แล้ว,สำหรับจุดเริ่มต้นของการเป็นครูสอนฝรั่งเศส ครูขวัญเล่าว่า ตนเรียนจบคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส ด้วยความที่พ่อแม่เป็นครูมาก่อน ตนจึงได้มาเป็นครูอัตราจ้าง และสอบบรรจุข้าราชการครู ปัจจุบันเป็นครูมากว่า 8 ปีแล้ว ทำงานมีความสุข คลุกคลีกับเด็กนักเรียนก็สนุกดี,ขณะที่เอกลักษณ์เฉพาะตัวของครูขวัญ เป็นคนร่าเริง เข้าถึงง่ายและเข้าใจเด็ก จึงค่อนข้างสนิทกับเด็กนักเรียนเหมือนเป็นคนในครอบครัว จนทุกวันนี้เด็กไว้ใจและพูดคุย ปรึกษาได้ทุกเรื่อง ส่งผลให้ผู้ปกครองไว้ใจให้ดูแลเด็กด้วยเช่นกัน,,เราเป็นนักเรียนมาก่อน รู้สึกว่าคงจะดีถ้ามีครูที่เข้าใจเด็กมากๆ จึงตั้งใจอยากเป็นครูที่สามารถเป็นเพื่อนกับเด็กได้ คุยกันได้ทุกเรื่อง ทำให้เวลาเด็กหรือผู้ปกครองมีปัญหาอะไรก็จะมาปรึกษาเราเสมอ ต้องขอบคุณผู้ปกครองที่ยอมรับในความเป็นครูขวัญแบบนี้,,เมื่อพูดถึงภาษาฝรั่งเศสที่สอน ตนมองว่า การเพิ่มความรู้ภาษาฝรั่งเศสเป็นเรื่องที่ดีกว่าไม่รู้เลย การรู้ภาษาที่สาม ไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก็ตาม คิดว่าเป็นเรื่องจำเป็น เพราะจะทำให้มีภาษีดีกว่าคนที่ไม่ได้เรียน สามารถสร้างอาชีพและเพิ่มมูลค่าให้เราได้,,วิธีการสอนฝรั่งเศสของเรา ไม่ได้เน้นแกรมม่า แต่เน้นสอดแทรกคำศัพท์ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การพูดถึงวัฒนธรรม การทำอาหาร อาจจะมีเกม วิดีโอ หรือเพลงให้เด็กได้เรียนรู้ไปด้วยกัน คือทำยังไงก็ได้พวกเขาสนุก และเราก็ปลูกฝังเด็กเสมอว่า ไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งมากก็ได้ ขอแค่เป็นคนดีก็พอ,.
รู้จัก ครูขวัญ สอนภาษาฝรั่งเศส โรงเรียนดังมหาสารคาม เต้นเชียร์กีฬาสีกับนักเรียน ยอดคนดูเฉียดครึ่งล้าน ตั้งปณิธาน อยากเป็นครูที่เข้าใจเด็ก
ข่าว,สังคม
ครูขวัญ,สอนภาษาฝรั่งเศส,ภาษาฝรั่งเศส,ข่าวโซเชียล,ครูสาว,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1696790
ลุ้น อสส. ชี้ขาด คดี เปรมชัยกับพวกล่าสัตว์ทันฝากขังสุดท้าย 30 เม.ย.
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.61 มีรายงานความคืบหน้าการพิจารณาความเห็นแย้งคดี นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) กับคนขับรถ, แม่ครัว และนายพราน ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเข้าป่าล่าสัตว์ทุ่งใหญ่นเรศวรว่า ภายหลัง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. นำความเห็นแย้งของ ผบช.ภ.7 ยืนยัน ให้ฟ้องนายเปรมชัยอีก 3 ข้อหา คือ 1. ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ร่วมกันมีเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ป่า 3. ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยืนยันให้ฟ้องผู้ต้องหาร่วมอีก 3 คน ด้วย มาส่งให้ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่าน จากที่คณะทำงานอัยการภาค 7 สั่งฟ้อง 6 ข้อหาแล้ว อัยการสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ได้พิจารณาความเห็นแย้งของตำรวจเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมเสนอให้นายกิตติ บุศยพลากร รองอัยการสูงสุด พิจารณากลั่นกรองตามลำดับชั้น โดยเย็นวันนี้ ได้นำเสนอความเห็นพร้อมสำนวนความเห็นแย้งของตำรวจ ให้นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด พิจารณาขี้ขาดแล้ว ทั้งนี้คาดว่า อัยการสูงสุดจะมีความเห็นชี้ขาดคดีนี้ได้ ทันภายในวันจันทร์ที่ 30 เม.ย. ซึ่งครบกำหนดฝากขังนัดสุดท้าย,ขณะที่ยังมีรายงานด้วยว่า สำหรับคดีครอบครอง งาช้างแอฟริกา 2 คู่ ที่เป็นของต้องห้าม ซึ่งอยู่ในบ้านพักเลขที่ 12/3 ของนายเปรมชัย ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีนายเปรมชัย, นางคณิตตา กรรณสูต อายุ 64 ปี ภรรยาของนายเปรมชัย และน.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 71 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้าง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้ามซ่อนเร้นเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันช่วย ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพา หรือรับไว้โดยประการใดๆ ที่ตนรู้ว่าเป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม หรือข้อจำกัด ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19, 47 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 243, 246 นั้น พนักงานสอบสวน บก.ปทส. ได้สรุปสำนวนพยานหลักฐานพร้อมความเห็นส่งให้อัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เมื่อช่วงสิ้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาสั่งคดีแล้ว,ซึ่งอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจฯ ได้มีคำสั่งให้ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสาม และได้ยื่นฟ้องนางคณิตตา ภรรยาของนายเปรมชัย, นายเปรมชัย และน.ส.วันดี เป็นจำเลยที่ 1-3 ในคดีหมายเลขดำ อ.1143/2561 ฐานร่วมกันนำซากสัตว์ป่าคุ้มครองเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 7 พ.ค.นี้ เวลา 08.30 น.,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีครอบครองงาช้างนี้ จะครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย 4 ผัด (48 วัน) ในส่วนของนายเปรมชัย วันจันทร์ที่ 30 เม.ย.นี้ ซึ่งเดิมศาลอาญากำหนดนัดให้นายเปรมชัย มารายงานตัวหลังจากครบกำหนดฝากขังในวันอังคารที่ 1 พ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ส่วนนางคณิตตา ภรรยาของนายเปรมชัย และน.ส.วันดี ครบฝากขังครั้งสุดท้าย ในวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ค. โดยศาลอาญา กำหนดนัดให้นางคณิตตา และน.ส.วันดี มารายงานตัวหลังจากครบกำหนดฝากขังในวันจันทร์ที่ 7 พ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ทั้งนี้เมื่ออัยการยื่นฟ้องคดีงาช้างแล้ว ก็รอตัวจำเลยมาสอบคำให้การตามวันนัด 7 พ.ค.ต่อไป
ลุ้น อสส. ชี้ขาด คดี เปรมชัยกับพวกล่าสัตว์ ทันฝากขังครั้งสุดท้าย 30 เม.ย.นี้. ส่วนคดีงาช้างฟ้องแล้วทั้ง เปรมชัย-เมีย รอสอบคำให้การเช้า 7 พ.ค.นี้
ข่าว,ทั่วไทย
ล่าเสือดำ,อสส.,ทันฝากขังครั้งสุดท้าย,เปรมชัย กรรณสูต,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1266284
ผบ.ทบ.ยัน คสช.บริหารประเทศ 3 ปี ไม่มีเสียของ
เมื่อวันที่ 8 พ.ค.60 ที่บ้านดีลัง จ.ลพบุรี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีครบรอบวาระการทำงาน 3 ปี ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ว่า ถ้าพูดเรื่องความกังวลตนก็มีความกังวลอยู่ทุกวัน เพราะเราทำงานในกรอบของความมั่นคง ที่ผ่านมาตั้งแต่ตนเป็นผู้ปฏิบัติในบทบาทของ คสช. ที่ดูแลภาพรวมของประเทศ มีทั้งจุดที่ประชาชนยอมรับโดยเฉพาะเรื่องด้านความมั่นคง ส่วนเรื่องเศรษฐกิจต่างๆ ถือเป็นปลีกย่อย ซึ่งอาจไม่ได้ดีหมดทุกอย่าง แต่ภาพรวมแล้วนั้นตนคิดว่าประชาชนพอใจในการดำเนินการของ คสช. โดยเฉพาะบทบาทเรื่องความมั่นคงของเมือง,เมื่อถามว่า 3 ปีที่ผ่านมา การดำเนินการเป็นไปตามเป้าหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ในส่วนตัวตนพึงพอใจในด้านความมั่นคง แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนว่า ประชาชนพอใจมากน้อยแค่ไหน อยากให้ถามประชาชน และจะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาปรับปรุง เพราะถ้ารวมแล้ว คสช.รับผิดชอบทุกเรื่องจะมีบางเรื่องที่ คสช.เดินหน้าไปได้เลยอย่างดี แต่บางเรื่องอาจมีข้อจำกัด ซึ่งถ้าแก้ไขได้ก็จะดำเนินการให้ ถ้าแก้ไขยังไม่ได้ก็ให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งดำเนินการแก้ไขต่อไป ส่วนตัวผมพอใจ เพราะทุกอย่างเดินหน้าตามโรดแม็ปที่วางไว้ และขอให้นักข่าวช่วยกันนำผลงานของรัฐบาลและคสช.ไปเขียนบ้างในส่วนที่เป็นประโยชน์ อย่าไปเขียนในส่วนที่เป็นประเด็นอย่างเดียว และผมขอยืนยันว่า 3 ปีที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ยังไม่มีอะไรเสียของ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว.
ผบ.ทบ.ยัน คสช.บริหารประเทศ 3 ปี ไม่มีเสียของ เชื่อส่วนใหญ่ประชาชนพอใจผลงาน ยอมรับ ปชช.ไม่พอใจ ศก. ระบุเป็นปัญหาปลีกย่อย
ข่าว,การเมือง
ผบ.ทบ.,คสช.,ผลงาน 3 ปี คสช.,วาระงาน คสช.,เฉลิมชัย สิทธิสาท
https://www.thairath.co.th/news/politic/935027
คนกรุงทิ้งขยะอันตราย 2.7 ตัน/วัน หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย ขยะอิเล็กทรอนิกส์
นางวัลยา วัฒนรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เช่น หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ กระป๋องสเปรย์ ยาฆ่าแมลง เครื่องสำอางหมดอายุ ยารักษาโรคที่หมดอายุ บรรจุภัณฑ์ใส่สารฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืช รวมถึงซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันพบว่าขยะอันตรายชุมชนที่กรุงเทพมหานครจัดเก็บจาก 50 เขต ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560-กุมภาพันธ์ 2561 มีปริมาณ 402.8 ตัน เฉลี่ยวันละ 2.7 ตัน โดยกรุงเทพมหานครดำเนินการเก็บรวบรวมและจ้างเอกชนนำไปกำจัดอย่างถูกหลักวิชาการในอัตราค่ากำจัดที่สูงกว่าการกำจัดขยะทั่วไป โดยไม่ได้มีการเก็บค่าบริการจากประชาชนแต่อย่างใด หากขยะอันตรายดังกล่าว ปะปนไปกับขยะทั่วไปและกำจัดไม่ถูกวิธี จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม,ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของทุกคนและเป็นการร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม จึงขอความร่วมมือประชาชนแยกขยะทุกประเภทก่อนทิ้งให้ถูกที่ โดยเฉพาะขยะอันตราย ขอให้แยกและรวบรวมใส่ถุง เขียนข้อความ ขยะพิษ หรือขยะอันตราย ติดไว้ที่ถุง เพื่อให้เจ้าหน้าที่เห็นได้อย่างชัดเจนและจัดเก็บอย่างถูกต้อง โดยนำไปทิ้งที่จุดทิ้งขยะอันตรายตามวันเวลาที่สำนักงานเขต กำหนด หรือทิ้งกับรถขยะของกรุงเทพมหานครได้ทุกวัน หรือสามารถนำมาทิ้งได้ที่สำนักงานเขต 50 เขต.
กรุงเทพมหานครให้บริการเก็บขนและกำจัดขยะอันตรายจากชุมชนโดยแยกจากการจัดเก็บขยะทั่วไป ซึ่งขยะอันตรายที่กรุงเทพมหานครจัดเก็บได้ส่วนใหญ่เป็นขยะที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน
ข่าว,ทั่วไทย
ขยะอันตราย,การกำจัดขยะอันตราย,จัดเก็บขยะ,ทิ้งขยะอันตราย,แยกขยะ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1265442
พสกนิกรหลายจังหวัดแปรอักษรแสดงความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9
พสกนิกรในหลายจังหวัดต่างพร้อมใจกันแปรอักษรเพื่อแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะที่ประชาชนใน จ.เชียงใหม่ กว่า 30000 คนร่วมกันจุดเทียนจนเต็มพื้นที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมพสกนิกรชาวเชียงใหม่ จำนวนกว่า 30000 คน ร่วมกันจุดเทียนแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่บริเวณลานหน้าหอคำหลวง ภายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมแปรอักษรคำว่า เชียงใหม่ รูปหัวใจ สัญลักษณ์ ภปร.พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จเยือน จ.เชียงใหม่ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2501 หลังจากนั้นก็เสด็จพระราชดำเนินมาทรงงานและได้พระราชทานความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรในพื้นที่เรื่อยมา รวมจำนวน 92 ครั้ง ปวงพสกนิกรชาวเชียงใหม่จึงรวมตัวกันในช่วงค่ำวานนี้ (2 พ.ย.2559) เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ส่วนที่ริมถนนเพชรเกษมฝั่งทิศตะวันตก ตรงข้ามวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประชาชนร่วมกันแสดงความอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยการร่วมกันจุดเทียนถวายอาลัยและร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงพระราชนิพนธ์ โดยมีนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ข้าราชการในสังกัด ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร่วมจุดเทียนแสดงความอาลัยด้วยคณะครูและนักเรียน โรงเรียนฟากกว๊านวิทยาคม จ.พะเยา จำนวน 989 คน พร้อมใจกันแปรอักษรเป็นเลข 9 รูปหัวใจและอักษร ฟ.ก. พร้อมร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมพสกนิกรชาว จ.ชลบุรี ทุกหมู่เหล่ากว่า 50000 คน ร่วมกันแปรอักษรเป็นรูปเรือใบที่มีเลข 9 ล้อมรอบด้วยรูปหัวใจ พร้อมข้อความ ชลบุรีรักพ่อ เพื่อรำลึกถึงเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเรือใบจากวังไกลกังวล มายังหาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระยะทาง 60 ไมล์ทะเลส่วนที่ จ.นราธิวาส ชาว อ.สุไหงโก-ลก กว่า 5000 คนร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ยืนสงบนิ่ง 9 นาทีและร่วมกันเปล่งเสียงคำว่า พ่อ 3 ครั้ง พร้อมร่วมกันแปรอักษรเป็นรูปหัวใจสีขาว ซึ่งมีความหมายว่า หัวใจ คือสัญลักษณ์ของการรวมใจแสดงความอาลัย และหัวใจแห่งความรักและการเทิดทูนรัชกาลที่ 9 ด้วยดวงใจอันบริสุทธิ์
พสกนิกรในหลายจังหวัดต่างพร้อมใจกันจุดเทียนและแปรอักษร เพื่อแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างเช่นประชาชนใน จ.เชียงใหม่ กว่า 30000 คนที่ร่วมกันจุดเทียนจนเต็มพื้นที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์
ภูมิภาค
ในหลวง,รัชกาลที่ 9,แปรอักษร,จุดเทียน,อุทยานหลวงราชพฤกษ์,วังไกลกังวล,ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี,แสดงความอาลัย,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/257313
ไม่รู้ใครฆ่าใคร กระสุนปริศนา จ่อหัว 2 ตายาย ดับในห้องพัก
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 ก.ค. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปพนพัชร์ ใบยา รอง ผกก.( สส.) เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลบางละมุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ร่วมตรวจสอบผู้เสียชีวิตหญิง-ชาย รวม 2 คน จากสาเหตุถูกอาวุธปืน เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 244/15 ซ.พัทยากลาง 9 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี,ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ด้านหน้าเปิดเป็นร้านตัดผม ส่วนที่พบศพอยู่ด้านหลังอาคารพาณิชย์ และสามารถเข้าออกอีกทางได้ พบศพทราบชื่อ นายรุ่งฤทธิ์ ชุนหะศรี อายุ 70 ปี นอนขวางอยู่บนเตียง ตรวจสอบบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะด้านหลัง กระสุนฝังใน ข้างกันที่พื้นพบศพ นางสาวอำนวย เพ็งกลา อายุ 62 ปี สภาพศพนอนคว่ำจมกองเลือด ตรวจสอบพบบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่เหนือคิ้วซ้ายทะลุหลังใบหูด้านขวา ตรวจสอบใต้เตียงพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนภายในห้องที่เกิดเหตุที่พบศพ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ,ด้าน นายทัศนพรรณ มณีจันทร์ อายุ 33 ปี พักอาศัยอยู่ชั้นที่ 2 ของห้องที่พบศพ โดยมีทางเข้าออกด้านหลัง เล่าว่า ตนเองออกจากห้องพักไปประมาณ 7 โมงกว่า ยังเห็นตานั่งอยู่หน้าบ้าน ส่วนยายแก่อยู่ในบ้าน พอตนกลับเข้าที่พักมาประมาณ 8 โมงกว่าก็เดินขึ้นห้องชั้น 2 เลย ไม่ได้สนใจและมาทราบว่าทั้ง 2 คน เสียชีวิต ตอนเจ้าหน้าที่ตำรวจมา,ส่วนด้าน นางสาวอรอุมา พงศ์อาภรณ์ อายุ 39 ปี พักอาศัยห้องด้านหลังที่เกิดเหตุ เล่าว่า ได้ยินเสียงดัง 3 ครั้ง ตอนนั้นคิดว่าเป็นเสียงไฟฟ้าลัดวงจรก็เลยไม่ได้สนใจ พอประมาณ 10 โมงกว่า จะไปข้างนอก ก็เลยจะเดินไปถามตากับยายทั้ง 2 คน ว่า เสียงที่ได้ยินเมื่อเช้ามาจากบ้านหรือเปล่า ก็พบว่านอนจมกองเลือด ทั้ง 2 คนจึงเรียกคนมาช่วยเหลือ เพื่อไปส่งโรงพยาบาล,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งศพไปชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ รวมทั้งส่งตรวจสอบเขม่าดินปืนที่มือของผู้ตายทั้ง 2 คน รวมทั้งอาวุธปืน ซึ่งในเบื้องต้นต้องรอผลยืนยันจากสถาบันนิติเวชเกี่ยวกับคราบเขม่าดินปืน เพราะอาวุธปืนที่ตกในที่เกิดเหตุนั้นตกแบบไม่เป็นธรรมชาติ แต่ในเบื้องต้นมีแนวโน้มว่าใครเป็นคนยิง ระหว่าง นายรุ่งฤทธิ์ กับ นางสาวอำนวย หลังจากนั้นก็ยิงตัวเองตายตาม,ส่วนในเบื้องต้นทั้ง 2 คนไม่มีเรื่องทะเลาะรุนแรง แต่ นายรุ่งฤทธิ์ มีโรคประจำตัวคล้ายโรคซึมเศร้า ซึ่งต้องรอพิสูจน์คราบเขม่าดินปืนเสียก่อน ก่อนจะสรุปสาเหตุการตายของทั้ง 2 คนอีกครั้ง
กระสุนปลิดชีพ จ่อศีรษะ ยิงเหนือคิ้วทะลุหลังหู ดับ 2 ตายาย ตายในบ้านพัก จนท.ยังงง ตรวจพิสูจน์ใครยิงใคร ข้างห้องระบุตาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
ข่าว,ทั่วไทย
ยิงสองตายาย,ตายปริศนา,กระสุนปลิดชีพ,โรคซึมเศร้า,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1343953
บวรศักดิ์ หนุนประชามติ รธน.ใหม่ โยนนายกฯชี้ขาด
วันที่ 13 ม.ค. เมื่อเวลา 13.15 น. ที่รัฐสภา นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ นายมานิจ สุขสมจิตร รองประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐฯ คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการทำงานสื่อสารกับสังคมใน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัย วีระไวทยะ รองประธานอนุ กมธ. เป็นตัวแทนรับมอบจุลสาร รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปประเทศเป็นอย่างไร จาก บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้การสนับสนุนในการจัดพิมพ์จุลสารทำความเข้าใจกับสังคมในวงกว้าง เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนได้รับรู้ความคืบหน้าในการร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงเนื้อหารายละเอียดต่างๆ ซึ่งจะออกประจำทุกเดือน จนกว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเสร็จและนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้,นายมานิจ กล่าวว่า การจัดพิมพ์จุลสารนี้ครั้งแรก 30,000 เล่ม ฉบับแรก แจกเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา และจะมีการพิมพ์เพิ่มในส่วนของ บริษัท บางจาก ราว 1 แสนเล่ม เพื่อนำไปแจกจ่ายที่ปั๊มน้ำมันบางจากสาขาต่างๆ จุดขึ้นทางด่วน และเวทีรับฟังความเห็นของกมธ.ยกร่างฯ ในต่างจังหวัดทั้ง 10 เวที รวมถึงตามแหล่งชุมชนต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ นายมีชัย ได้ประสานกลุ่ม บ.กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ และบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จํากัด ที่รับอาสา จัดทำสื่อออนไลน์ ทั้งอีบุ๊ก แอนิเมชั่น เว็บเพจและแอพพริเคชั่นเกี่ยวกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเผยแพร่ทั้งในสื่อออนไลน์และสื่อสาธารณะต่างๆให้สังคมได้เข้าใจในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ง่ายขึ้น สามารถอ่าน ดูได้ทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ไอแพด ส่วนฉบับที่ 2 จะออกมาอีก 2 สัปดาห์หน้า,นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ช่องทางต่างๆ นี้ยังสามารถให้ประชาชนเสนอความคิดเห็นต่อประเด็นการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อส่งกลับมายัง กมธ.ยกร่างฯ เพื่อนำมาใช้ประกอบกับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ โดย กมธ.ยกร่างฯสามารถค้นหาความคิดเห็นประชาชนผ่านระบบเสิร์ชเอนจิน หรือโปรแกรมค้นหา ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งหมด อาทิ เฟซบุ๊ก พันทิป เป็นต้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติ แต่เป็นเพียงการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเท่านั้น,ถามว่า จะเสนอให้รัฐบาล คสช. ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ คสช.และ ครม. จะหารือและตัดสินใจ ตรงนี้จะมีผลทางกฎหมายผูกมัดทันที ส่วนจุลสารเป็นแค่การทำความเข้าใจให้ความรู้กับประชาชน รวมถึงสื่อต่างๆ แต่ส่วนตัวเห็นว่าควรต้องการทำประชามติ และเคยบอกเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีไปแล้วในงานแต่งงานหนึ่ง ซึ่งนายกฯตอบรับว่า จะรับไว้พิจารณาเมื่อถึงสถานการณ์อันสมควร ส่วนฉบับที่ 2 จะเป็นเรื่องของระบบการเมือง ทั้งที่มาของสภาผู้แทนรารษฎร วิธีการป้องกันการซื้อเสียง ที่มาและอำนาจของวุฒิสภา,ซึ่งประชาชนสามารถส่งข้อมูลแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ มาถึงกมธ.ยกร่างฯ ได้ทาง ตู้ปณ.9 ปณฝ.รัฐสภา กทม.10305 หรือ ทางอีเมล์ e-mail:[email protected] ซึ่งสามารถส่งมาได้ถึงวันที่ 23 ก.ค.นี้,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ จุลสาร รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปประเทศเป็นอย่างไร ฉบับที่ 1 ที่ออกเผยแพร่มีหน้าปกสีชมพูเป็นรูปพระที่นั่งอนันตสมาคม และพระบรมราชานุสาวรีย์พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 มีเนื้อหาใหม่ๆ ที่จะมีขึ้นในรัฐธรรมนูญใหม่ ทั้งที่มาของการร่างรัฐธรรมนูญ การทำงานของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และการกำหนดสาระสำคัญในการปฏิรูปของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พร้อมกรอบเวลาหลักในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ (ไทม์ไลน์) เค้าโครงของร่างรัฐธรรมนูญ ที่แบ่งเป็นภาค หมวด ส่วนตามประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงระบบงบประมาณจากเดิมที่ใช้เป็นงบประมาณรายจ่ายมาเป็นระบบงบประมาณสองขา คือ ต้องมีทั้งรายรับและรายจ่าย การกำหนดให้มีศาลวินัยการเงินการคลังและงบประมาณ การมีส่วนร่วมและการตรวจสอบภาคพลเมือง
กมธ.ยกร่างฯตีปี๊บ ออกสื่อแจงสังคม เผย เนื้อหาจุลสาร รธน.ฉบับปฏิรูป ขณะที่ผุดสื่อออนไลน์รับฟังความเห็น ปชช.ด้าน บวรศักดิ์ หนุนประชามติ โยนนายกฯ ชี้ขาด
null
บวรศักดิ์,กมธ.ยกร่างรธน.,ตีปี๊บ,ปฏิรูป,สื่อออนไลน์,แจงสังคม,รับฟัง,ความเห็นประชาชน,ออกสื่อ,จุลสาร,หนุน,ประชามติ,โยนนายกฯ,ชี้ขาด,ข่าวการเมือง,บวรศักดิ์ อุวรรณโณ,ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
https://www.thairath.co.th/content/474534
หมาก เขิน โดนแซวถอดเก่ง แฮปปี้แฟนละคร ไทย-จีน ชอบ
โดนแซวหนักว่า ถอดเก่ง แทบทุกตอนที่ละครออกอากาศ สำหรับ พี่เธียร หรือ หมาก ปริญ สุภารัตน์ ในละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี ช่อง 3 ผลิตโดย ค่ายทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ของผู้จัด แอน ทองประสม ล่าสุด กระแสตอบรับแฟนละครที่ไทย เรตติ้งดีดสูงขึ้นทุกสัปดาห์ ส่วนที่จีน ก็แว่วว่า ยอดวิวเตรียมแตะร้อยล้านแล้ว ทำเอาเจ้าตัวแฮปปี้สุดๆด้านหมาก ปริญ กล่าวว่า เป็นอะไรที่ชื่นใจครับ ดีใจมาก รู้สึกหายเหนื่อยเลย ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร นอกจากคำว่าขอบคุณมากๆ ที่แฟนๆ ติดตามชมกัน ทั้งแฟนชาวไทย และแฟนชาวจีน อย่างตอนนี้ที่จีน ทาง Tencent Video ก็รายงานว่ายอดคนดูจะแตะร้อยล้านวิวแล้ว เรียกว่าดีมากๆ เลยครับ ปลื้มใจมาก ก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ทั้งคนไทยและคนจีนที่ติดตามชมกันมา ถ้ามีโอกาส ก็อยากจะไปขอบคุณแฟนๆ ชาวจีนที่ประเทศนะครับ (หัวเราะเสียงดัง)ส่วนเรื่องหุ่นแซ่บ โดนแซวมาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนล่าสุดเลย ว่า ถอดเก่ง (หัวเราะ) ยิ่งฉากไหนถอดเสื้อ คนจะแท็กรูปมาหาเยอะมาก คนชมหุ่นดี หุ่นแซ่บ เอาจริงมันก็เขินนะ อันนี้ต้องยกความดีให้พี่แอน ที่ให้ผมลดน้ำหนัก ลดไปประมาณ 5 กิโล ก็เลยหุ่นดี เพื่อจะเป็นพี่เธียรได้ตามจินตนาการของพี่แอน พี่แอ้ว ผู้กำกับครับ ตอนที่ไปถอดเสื้ออาบน้ำ และตากน้ำฝนกลางแจ้งที่เพิ่งออนแอร์ไป ก็มีเขินๆ บ้างครับ เพราะไทยมุงเยอะ แต่ก็เล่นไปตามบทครับ ให้ละครสนุก คนดูแฮปปี้ ตอนนี้ก็ถือว่าหุ่นอยู่ตัวแล้ว ก็รักษามาตรฐานนี้ไว้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ทำให้อ้วน คนถามกันมาเยอะว่ามีถอดเสื้อทุกตอนมั้ย อันนี้ขอให้ดู ให้ลุ้นกันไปทุกตอน รับรองไม่ผิดหวัง ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 กด 33 ครับ (หัวเราะทิ้งท้าย)อ่านเรื่องนิยายไทยรัฐทุกเรื่อง คลิก
เรื่องหุ่นแซ่บ โดนแซวมาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนล่าสุดเลย ว่า ถอดเก่ง (หัวเราะ) ยิ่งฉากไหนถอดเสื้อ คนจะแท็กรูปมาหาเยอะมาก คนชมหุ่นดี หุ่นแซ่บ เอาจริงมันก็เขินนะ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
อกเกือบหักแอบรักคุณสามี,นิยาย,ช่อง 3,ละคร
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1848948
น้องจีน ฟอร์มเจ๋ง คว้าแชมป์บุคคล กอล์ฟควีนสิริกิติ์ คัพ
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 61 สมาคมกีฬากอล์ฟสตรี ร่วมกับสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย และ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด จัดการแข่งขันกอล์ฟสตรีสมัครเล่นแห่งเอเซีย-แปซิฟิค ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งเวียนมาบรรจบครบรอบ 40 ปี ที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม ที่สนามกอล์ฟธนาซิตี้ คันทรีคลับ ถ.บางนา-ตราด กม.14 พาร์ 72 ระยะ 6,343 หลา โดยมีนักกอล์ฟสตรีทีมชาติจาก 14 ประเทศ ร่วมแข่งขัน ได้แก่ ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินเดีย, เมียนมา, ฮ่องกง, ไต้หวัน, จีน, ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และ ไทย เป็นวันสุดท้ายของการแข่งขัน ในประเภททีมหญิง (แข่ง 3 คน คิดคะแนนคนที่ดีสุดในทีม 2 คนต่อรอบ,สวิงสาวไทย ได้แก่ อาฒยา ฐิติกุล, ธัญรดา ปิดดอน และ ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ ช่วยกันทำคะแนนเข้ามาอีก 6 อันเดอร์พาร์ 138 จากอาฒยา 5 อันเดอร์ และ ธัญรดา 1 อันเดอร์ รวม 3 วันมี 15 อันเดอร์พาร์ 417 เท่ากับทีมชาติเกาหลีใต้ ซึ่งกฎของการแข่งขัน ให้นำคะแนนนักกอล์ฟคนที่ 3 (คนที่ไม่นำสกอร์มาคิดคะแนน) มาเป็นตัวตัดสิน ปรากฏว่า ฮี จองลิม จากเกาหลีใต้ ทำได้ดีกว่าที่อีเวนพาร์ 72 ขณะที่ณัฐกฤตาทำ 1 โอเวอร์พาร์ 73 ทำให้ทีมไทยได้เพียงรองแชมป์อย่างน่าเสียดาย,ด้านประเภทบุคคล น้องจีน อาฒยา สวิงทีมชาติไทยชุดเตรียมเอเชียนเกมส์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย วัย 15 ปี คว้าแชมป์ไปได้ที่ 13 อันเดอร์พาร์ 203 โดยรอบสุดท้ายเก็บเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ 67 จาก 6 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ เป็นนักกอล์ฟรายไทยที่ 2 ที่ครองถ้วยชนะเลิศประเภทบุคคล ต่อจาก สุภมาส แสงจันทร์ เมื่อปี 2013 ส่วนที่ 2 เป็น ยูนะ นิชิมูระ สาวญี่ปุ่น สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 206 และอันดับ 3 เป็น ยูกะ ซาโซ จากฟิลิปปินส์ ที่ 9 อันเดอร์พาร์ 207 ขณะที่ ธัญรดา ได้ที่ 13 ร่วม รวมอีเวนพาร์ 215 และ ณัฐกฤตา รั้งที่ 20 ร่วม 5 โอเวอร์พาร์ 221,ด้าน น้องจีน เผยหลังพาทีมได้รองแชมป์ประเภททีม ว่า เสียดายที่สุดเรามาใกล้มากแล้ว แต่ทำไม่ได้ ไม่เป็นไร ต้องพยายามกันต่อไป แมตช์ต่อไปจะมีดิ โอเพ่น จูเนียร์ ที่ประเทศสกอตแลนด์ ในเดือนกรกฎาคม ต่อด้วยบริติช จูเนียร์ โอเพ่น จากนั้นเป็นเอเชียนเกมส์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย หวังจะคว้าเหรียญทองให้ได้แบบรุ่นพี่ในครั้งก่อนๆ,สำหรับการแข่งขันกอล์ฟสตรีสมัครเล่นแห่งเอเซีย-แปซิฟิค ครั้งที่ 41 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 มีนาคม 2562 ที่สนามเกลนเนลค์ กอล์ฟคลับ เมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย
อาฒยา ฐิติกุล หวด 13 อันเดอร์ คว้าชัยประเภทบุคคล ควีนสิริกิติ์ คัพ ครั้งที่ 40 ส่วนทัพสวิงสาวไทย ซิวรองแชมป์ทีม สกอร์เท่าเกาหลีใต้ แต่พ่ายนับสกอร์คนที่ 3
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
อาฒยา ฐิติกุล,น้องจีน,น้องจีน อาฒยา,สวิงทีมชาติไทย,กอล์ฟสตรีสมัครเล่นแห่งเอเซีย-แปซิฟิค,กอล์ฟ
https://www.thairath.co.th/sport/others/1279544
คนในแคว้นกาตาลุญญานับหมื่นชุมนุมในวันชาติ กับการเรียกร้องทำประชามติแยกตัวจากสเปน
หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญสเปนตัดสินยกเลิกไม่ยอมให้พวกเขาทำประชามติในเรื่องนี้ ขณะที่ชาวคาตาลันบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการแยกตัวจากสเปน12 ก.ย. 2560 กรณีแคว้นกาตาลุญญา (Catalonia) กับการแยกตัวออกจากสเปนนั้นกลายมาเป็นประเด็นพูดถึงอีกครั้งในสื่อต่างประเทศ ในช่วงที่มีงานวันชาติของชาวคาตาลันที่เรียกว่าเดียดา (Diada) ซึ่งเป็นวันที่มีการรำลึกถึงการสูญเสียเอกราชของแคว้นบาร์เซโลนาให้กับสเปนตั้งแต่ปี 2257 อย่างไรก็ตามงานรำลึกนี้เริ่มกลายเป็นเรื่องการเมืองที่กาตาลุญญาพยายามขอแยกตัวออกจากสเปนมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมาเดอะ การ์เดียน ระบุว่านับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมาการเฉลิมฉลองเดียดาของสเปนมีลักษณะส่วนหนึ่งเป็นงานเทศกาล ส่วนหนึ่งเป็นการเดินขบวนประท้วง ในปีนี้การเฉลิมฉลองในวันดังกล่าวคงมีความตึงเครียดมากขึ้นหลังจากที่ความพยายามจัดทำประชามติขอแยกตัวออกจากสเปนถูกขัดขวางจากศาลรัฐธรรมนูญของสเปนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส.ส. ฝ่ายสนับสนุนเอกราชของคาตาลันท้าทายรัฐบาลกลางของสเปนโดยการออกกฎหมายประชามติเพื่อเป็นฐานสำหรับการจัดทำประชามติการเป็นเอกสารจากสเปนภายในวันที่ 1 ต.ค. อย่างไรก็ตามการร่างกฎหมายดังกล่าวถูกระงับอย่างรวดเร็วโดยศาลรัฐธรรมนูญของสเปนสำนักงานอัยการของสเปนยังพิจารณาว่าจะตั้งข้อหา คาร์เลส ปุกเดมอนต์ ผู้นำกาตาลุญญาและรัฐบาลคาตาโลเนียข้อหาขัดขืนคำสั่งหรือใช้อำนาจในทางมิชอบ ขณะที่ตำรวจถูกส่งไปสืบสวนคดีเรื่องว่ามีคนเตรียมทำประชามติหรือไม่โดยไปค้นสำนักงานหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นสองแห่งและร้านรับพิมพ์ในกาตาลุญญา ปุกเดมอนต์พูดถึงเรื่องนี้ว่า พวกนั้นไม่ได้กำลังหาใบลงคะแนน พวกนั้นกำลังหาเรื่องแม้จะถูกสกัดกั้นแต่ปุกเดมอนต์ก็ยืนกรานจะให้มีการลงประชามติต่อไปและเรียกร้องให้ชาวกาตาลุญญาออกมาชุมนุมในวันเดียดาเพื่อแสดงออกสนับสนุน อย่างสันติ และ อย่างเป็นประชาธิปไตยจอร์ดี ซานเชส ประธานองค์กรสภาแห่งชาติคาตาลัน (ANC) ซึ่งเป็นองค์กรสังกัดอิสระบอกว่าข้อเสนอทำประชามติในเดือน ต.ค. ที่จะถึงนี้ทำให้เดียดาในปีนี้มีอะไรพิเศษ โดยเชื่อว่าชาวคาตาลันต้องการใช้ประชามติเป็นเครื่องมือยุติการโต้เถียงในประเด็นการแยกตัวเป็นอิสระ อย่างไรก็ตามมันแม้เดียดาจะเป็นวันรำลึกประวัติศาสตร์แต่การมองประวัติศาสตร์แบบโรแมนติกนั้นก็สำคัญน้อยกว่าที่ชาวคาตาลันจะมองไปในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแต่ทว่าไม่ใช่ชาวคาตาลันทุกคนจะเห็นด้วยกับการแยกตัวเป็นอิสระ อเล็กซ์ รามอส รองประธานองค์กรโซเชียแทตซีวิลคาตาลานาเป็นองค์กรที่ไม่เห็นด้วยกับการแยกตัวเป็นอิสระบอกว่ากลุ่ม ANC และหลายคนอ้างใช้วันเดียดาไปในการโฆษณาชวนเชื่อและมีการอ้างประวัติศาสตร์ที่ชวนให้เข้าใจผิดในแบบที่ทำตัวเองเป็นเหยื่อ ขณะเดียวกันรามอสก็มองว่าถึงแม้เขาจะชื่นชมความสามารถของฝ่ายสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนที่ใช้สิ่งเหล่านี้ขับเคลื่อนผู้คนได้ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าชาวคาตาลันแม้แต่ฝ่ายสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนเองเริ่มเบื่อหน่าย เขาสงสัยว่าการเป็นอิสระจากสเปนจะให้อะไรกาตาลุญญาในทางเศรษฐกิจหรือในทางอารมณ์ความรู้สึกแอนโทนิโอ บาร์รอนโซ นักวิเคราะห์จากบริษัทให้คำปรึกษาบริษัทประเมินความเสี่ยงทางการเมืองเทเนโออินเทลลิเจนซ์ วิเคราะห์ว่าฝ่ายสนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระจะอาศัยวันชาติกาตาลุญญาเป็นการขับเคลื่อนเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะไม่มีการจัดลงประชามติ แต่การเรียกร้องการสนับสนุนให้ดูมีคนเยอะๆ เช่นนี้เป็นการแสดงภาพลักษณ์ให้เห็นว่าได้รับความนิยมเดอะการ์เดียนระบุว่าถึงแม้ชาวคาตาลันส่วนใหญ่จะเห็นด้วยให้มีการจัดลงประขามติในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันผลโพลล์ในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาออกมาว่าชาวคาตาลันร้อยละ 49.4 ต่อต้านการแยกตัวเป็นอิสระจากสเปน ขณะที่ร้อยละ 41.1 สนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระ แต่อีกโพลล์หนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ประเมินว่าถ้ามีประชามติจริงจะมีผู้โหวตสนับสนุนร้อยละ 72 และจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิร้อยละ 50สื่อบีบีซีระบุว่าในวันเดียดามีชาวคาตาลันนับหมื่นคนออกมาร่วมเดินขบวนบนท้องถนน มีการจัดรถประจำทางเกือบ 2000 คัน เพื่อขนคนมาร่วมชุมนุมบีบีซีระบุอีกว่าถึงแม้ชาวคาตาลันจะมีภาษา และประเพณีของตัวเอง มีอำนาจในการปกครองตนเองมากอยู่แล้ว แต่ก็เริ่มมีความรู้สึกว่าเหตุใดเงินภาษีจำนวนมากถึงถูกนำไปใช้กับมาดริดเมืองหลวงของสเปนขณะที่กาตาลุญญาเป็นหนึ่งในแคว้นที่ร่ำวยที่สุดของสเปน นอกจากนี้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2551 รวมถึงปัญหาการว่างงานก็ทำให้เกิดความรู้สึกอยากเป็นอิสระจากสเปนในหมู่ชาวคาตาลันCatalans to celebrate their national day with independence protests The Guardian 10-09-2017Catalan independence rally: Thousands gather in Barcelona BBC 12-09-2017
ประชาชนกาตาลุญญานับหมื่นร่วมชุมนุมในวันชาติ พร้อมกับที่ฝ่ายเรียกร้องการแยกตัวเป็นอิสระจากสเปนพยายามเรียกร้องการสนับสนุนให้กลับมาทำประชามติในเรื่องนี้อีกครั้ง
การเมือง,ต่างประเทศ
กาตาลุญญา,การแยกตัวเป็นอิสระ,คาตาลัน,คาร์เลส ปุกเดมอนต์,วันชาติกาตาลุญญา,สเปน,เดียดา
https://prachatai.com/journal/2017/09/73187
ศรีวราห์ โต้จัดฉากจับลูกน้อง โกตี๋ ซุกระเบิด ซัดโยงการเมือง
วันนี้ 13 ก.พ.61 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กล่าวถึงกรณีจับกุม นายกฤษชาพล พูลศิลป์ หรือ สิบตรี สุกิจ พูลศิลป์ อายุ 53 ปี พร้อม ของกลางไปป์บอมบ์ และระเบิดเอ็ม 26 ได้ที่ห้องพักเลขที่ 2/28 อาคารที่ 10 ภายในเมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า เป็นการจับกุมตามการแจ้งเบาะแสที่ประชาชนแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ ซึ่งระเบิดดังกล่าวลักษณะประกอบขึ้นมาใหม่ พร้อมใช้งาน โดยต้องตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอีกครั้ง,ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าการจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่การจัดฉาก หรือตำรวจยัดของกลาง เพราะเป็นผู้สอบสวนด้วยตัวเอง และผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าระเบิดเป็นของตัวเอง และข้อมูลด้านการข่าวของฝ่ายความมั่นคงก็มีอยู่แล้ว โดยผู้ต้องหาคนนี้เป็นลูกน้องของนายรพิน หรือนายธีรชัย อุตรวิเชียร ลูกน้องของโกตี๋ หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำเสื้อแดง ฮาร์ดคอร์,อีกทั้ง ผู้ต้องหาคนนี้เป็น 1 ใน 27 ฝ่ายปฏิบัติการของโกตี๋ ทำหน้าที่ปฏิบัติการ ถนัดยิง โดยทำประกอบระเบิดไม่ได้ ครั้งนี้ก็ต้องสืบสวนว่ารับระเบิดมาจากใคร เมื่อไหร่ การจับกุมได้เพราะชาวบ้านแจ้งเบาะแส ตำรวจก็ตรวจสอบจับกุม ส่วนจะเป็นระเบิดการเมืองหรือไม่ พวกนี้เกี่ยวกับการเมืองอยู่แล้ว ขณะนี้หน่วยความมั่นคงทั้งตำรวจ ทหาร กำลังสืบสวนขยายผลอยู่ สั่งการเก็บของกลางที่พบในห้องไปตรวจพิสูจน์ทั้งหมด.
บิ๊กปู ปัดจัดฉาก จับลูกน้อง โกตี๋ พร้อมระบุ เป็น 1 ใน 27 ฝ่ายปฏิบัติ ถนัดยิง และระเบิดที่ตรวจพบเป็นระเบิดประกอบใหม่พร้อมใช้งาน
ข่าว,อาชญากรรม
โกตี๋,จับลูกน้องโกตี๋,ซุกระเบิด,ระเบิด,ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1203182
ราโด แสดงตัวตนชัดเจน รังสรรค์ในรูปแบบตัวของตัวเอง
แบรนด์นาฬิกาชั้นนำในเครือ ,เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย), นำโดย, กิตติมา กรุดสุข, ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ จัดงานเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้ ,PORTRAITS OF TIME, ถ่ายทอดเรื่องราวของคอลเลกชั่นเรือนเวลาล่าสุดประจำปี 2017 ผ่านคอนเซปต์, พอร์ทเทรตส์ ออฟ ไทม์, โดยดึงดีเอ็นเอคาแรกเตอร์ของแต่ละบุคคลที่เปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของเทรนด์ยุคปัจจุบัน มาเป็นหัวใจหลักในการสะท้อนมุมมอง รังสรรค์ขึ้นในรูปแบบเอ็กซิบิชั่นสุดชิคกับ 4 มูด แอนด์โทนที่แตกต่าง อย่างบทกวี (POETRY), ความทรงจำ (MEMORY), ความสบาย (COMFORT) และดีไซน์ (DESIGN) ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน โดยนักวิเคราะห์เทรนด์แฟชั่นชื่อดังระดับโลกอย่าง ไลเดวิจ อิเดลคูร์ท ณ วูฟ แพค ศาลาแดง ซอย 1 ระหว่างนี้ถึง วันที่ 9 ส.ค.,ไลเดวิจ อิเดลคูร์ท, กล่าวว่า ราโดเป็นแบรนด์แห่งนวัตกรรม ที่มุ่งมั่นในการรังสรรค์เรือนเวลาอันโดดเด่นทางด้านดีไซน์เป็นหลักเสมอมา เพื่อที่จะสร้างจุดยืนอันมั่นคงให้กับแบรนด์ ในโลกปัจจุบัน ซึ่งเต็มไปด้วยนาฬิกาและสินค้ามากมายให้เลือกสรร ดังนั้น การสวมใส่นาฬิการาโดบนข้อมือ จึงเปรียบเสมือนการประกาศจุดยืนและการแสดงตัวตนที่ชัดเจน แสดงถึงความกล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวของตัวเอง.
ราโด (RADO) แบรนด์นาฬิกาชั้นนำในเครือ เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) นำโดย กิตติมา กรุดสุข ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ จัดงานเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้ PORTRAITS OF TIME ถ่ายทอดเรื่องราวของคอลเลกชั่นเรือนเวลาล่าสุดประจำปี 2017
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
ราโด,กิตติมา กรุดสุข,ไลเดวิจ อิเดลคูร์ท,ทิพาณัท เลณบุรี,ชนัดดา จิราธิวัฒน์,อื่นๆ
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/1024599
จับหมีควาย 200กิโล ติดกรงจนท.วางดักไว้ เตรียมปล่อยอุทยานฯทับลาน
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 16 ก.ค.62 เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์ป่าได้รับแจ้งจาก นายชาตรี กันดี ว่าพบหมีควายขนาดใหญ่เข้ามาติดกรงที่เจ้าหน้าที่วางดักเอาไว้ในสวนผลไม้บ้านสวน ต.ทุ่งโพธิ์ อ.อนาดี จ.ปราจีนบุรี หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อาสาสมัครมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี และเจ้าหน้าที่เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกร่ำบน,ที่เกิดเหตุเป็นสวนขนุน ประมาณ 400 ไร่ พบหมีควายขนาดใหญ่ เพศผู้ น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม ติดอยู่ภายในกรงที่วางดักอยู่ โดยหมีตัวดังกล่าวส่งเสียงคำรามขู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยิงยาสลบ ก่อนทำการเคลื่อนย้ายนำหมีไปปล่อยในพื้นที่บ้านคลองดินแดง เขาไม้ปล้อง หมู่ที่ 9 ตำบลแก่งดินสอ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน,สอบถาม นายชาตรี กันดี เจ้าของสวนผลไม้ กล่าวว่า หมีในเขตอุทยานทับลานจะเข้ามาในสวนเป็นประจำทุกปี โดยก่อนหน้านี้พบร่องรอยเท้าหมีเดินวนเวียนอยู่ภายในสวน ซึ่งตนเกรงว่าจะเกิดอันตรายและทำร้ายประชาชนที่ออกมาทำสวน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องรับทราบ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดช่วยเหลือสัตว์ป่า จึงได้นำกรงมาดักไว้บริเวณดังกล่าว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์,จนกระทั่งช่วงเย็นวันนี้ ตนเองได้เดินเข้ามาดูแลในสวนตามปกติ ก็ได้ยินเสียงเหมือนหมีร้องบริเวณกรงที่ดักไว้ จึงรีบเดินเข้าไปดู ก็พบหมีตัวดังกล่าว จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้ารับทราบเพื่อที่จะนำหมีตัวดังกล่าวกลับคืนสู่ธรรมชาติ ให้หางไกลจากชุมชน
จับหมีควายขนาดใหญ่ เพศผู้ น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม หลังติดกรงเจ้าหน้าที่วางดักเอาไว้ในสวนผลไม้ในพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
ข่าว,ทั่วไทย
จับหมี,หมีควาย,หมีติดกรง,ปราจีนบุรี,อุทยานแห่งชาติทับลาน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1616541
พร้อมลุย โมร็อกโก แบโผ 23 แข้งทำศึกบอลโลก
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 19 พ.ค. ว่า แอร์ฟ เรนาร์ด กุนซือทีมชาติโมร็อกโก ประกาศรายชื่อผู้เล่น 23 คน มาร่วมฝึกซ้อม ก่อนลงสนามเล่นเกมอุ่นเครื่อง 3 นัด ก่อนไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย,เรนาร์ด กุนซือชาวฝรั่งเศส วัย 49 ปี ได้ประกาศรายชื่อ 23 ผู้เล่น มาร่วมฝึกซ้อมที่กรุงราบัต ในวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม จากนั้นจะเล่นเกมอุ่นเครื่อง 3 นัด กับทีมชาติยูเครน ในวันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม ต่อด้วยพบกับทีมชาติสโลวาเกีย ในวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน และพบกับทีมชาติเอสโตเนีย ในวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน,รายชื่อผู้เล่น 23 คน มีดังนี้,ผู้รักษาประตู : ,มูเนียร์ เอล คาโจอุย (นูมันเซีย) ยัสซีน บูนู (กิโรนา) อาหมัด เรดา ทักนาอูติ (อิตติฮัด แทงเกอร์),กองหลัง :, เมห์ดี เบนาเตีย (ยูเวนตุส) โรเมน ซาสส์ (วูล์ฟแฮมป์ตัน) มานูเอล ดา คอสตา (บาซัคเซเฮียร์) บาเดอร์ เบนูน (ราจา คาซาบลังกา) นาบิล ดิราร์ (เฟเนบาห์เช) อัครัฟ ฮาคิมี (เรอัล มาดริด) ฮัมซา เมนดิล (ลีลล์),กองกลาง :, เอ็มบาร์ค บูสซูฟา (อัล จาซีรา) คาริม เอล อามาดี, โซเฟียน อัมราบัต (เฟเยนูร์ด) ยูสเซฟ เอท เบนนัสเซอร์ (ก็อง) ยูเนส เบลฮันดา (กาลาตาซาราย) เฟย์คัล ฟาเจอร์ (เกตาเฟ) อามีน ฮาริต (ชาลเก) ฮาคิม ซีเยค (อาแจกซ์),กองหน้า : ,คาลิด บูตาอิบ (มาลัตยัสปอร์) อาซิซ บูฮัดดูซ (ซังต์ เพาลี) อายูบ เอล คาบี (เรเนซองค์) นอร์ดิน อัมราบัต (เลกาเนส) เมห์ดี คาร์เซลา (สตองดาร์ด ลีแอช),สำหรับฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ทีมชาติโมร็อกโก อยู่กลุ่มบี ร่วมกับ ทีมชาติโปรตุเกส, ทีมชาติสเปน และทีมชาติอิหร่าน
แอร์ฟ เรนาร์ด ประกาศรายชื่อ 23 ผู้เล่นทีมชาติโมร็อกโก ชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย
กีฬา,ฟุตบอลโลก
ทีมชาติโมร็อกโก,แอร์ฟ เรนาร์ด,ฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย,ฟุตบอลโลก 2018,ฟุตบอลโลก
https://www.thairath.co.th/sport/worldcup/1286261
หลุยส์ นุ่น ยังไม่พร้อมแต่ง-ไร้แพลนฝากไข่ แจงไหว้ราหูเพื่อสิริมงคล
มาร่วมงานละครเรื่องเดียวกันเต็มๆ ครั้งแรกในละคร บุพเพสันนิวาส พอได้เจอคู่หวาน หลุยส์ สก๊อต และนุ่น รมิดา ประภาสโนบล ในงานบวงสรวงละครเรื่องดังกล่าว ที่บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด เลยถามถึงการมาร่วมงานครั้งนี้ รวมทั้งถามทั้งคู่ว่าอยากจะสละโสดใช้ชีวิตคู่สามีภรรยาบ้างรึยัง พร้อมทั้งถามถึงความพร้อมของหลุยส์ในการขึ้นคอนเสิร์ต เดอะเน็กซ์ เวนเจอร์ คอนเสิร์ต 2016 ว่าเป็นยังไงบ้าง,มาเล่นละครเรื่องเดียวกันแล้วจะกระชับความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นไหม? นุ่น เราไม่ได้เล่นคู่กันนะคะ แต่เราแค่อยู่ในบรรยากาศเรื่องเดียวกันแค่นั้นเองค่ะ หลุยส์ ความจริงเราไม่ได้เล่นด้วยกันครับ ทำให้มีเวลาอยู่ด้วยกันเยอะขึ้นไหม? นุ่น อันนั้นชัวร์อยู่แล้วค่ะ หลุยส์ ผมว่าก็แน่นอนอยู่แล้วครับ เพราะเราทำงานละครเรื่องเดียวกัน ถ้าเราเล่นคนละเรื่องก็คงไม่ได้เจอกัน แต่ถ้าเรื่องเดียวกันก็ได้เจอกันครับ แอบเสียดายที่ไม่ได้เล่นคู่กันไหม? นุ่น ไม่นะ หลุยส์ ไม่ครับ มีติดต่อให้เล่นคู่กันมาเยอะไหม? หลุยส์ ยังไม่มีครับ แล้วงานอีเวนต์ล่ะ? นุ่น ก็ตามสภาพค่ะ มาบ้างไม่มาบ้างค่ะ,แฟนๆ ก็ลุ้น หลายปีแล้วเมื่อไหร่จะแต่ง? นุ่น อย่าเพิ่งลุ้นเลย อย่างที่บอกค่ะ นุ่นรู้ว่าคำถามนี้ถามหลุยส์ไปเยอะมาก แต่นุ่นไม่ค่อยได้เจอพวกพี่ เอาตรงๆ นุ่นกับหลุยส์ไม่ได้ไม่คุยกัน แต่เรายังไม่พร้อมค่ะ เรายังไม่พร้อมสำหรับที่จะมีชีวิตคู่จริงจัง แต่เราก็ไม่ได้ล้อเล่นกันนะ เรามาจริง (หัวเราะ) แต่เราแค่ยังไม่พร้อมในอะไรหลายๆ อย่างค่ะ ครอบครัวเราก็ไม่ได้กดดันอะไรค่ะ เราก็เลยสบายใจเรื่องนี้ค่ะ หลุยส์ ก็เมื่อนั้นแหละครับผม ถามว่าพร้อมรึยัง อะไรคือพร้อมครับ มันก็แล้วแต่ว่าคนเขาคิดยังไงมากกว่า แต่งเพราะเป็นเทรนด์หรือพ่อแม่และสังคมต้องการให้แต่ง หรือว่ารอให้เราคุยกันสองคนพร้อมเมื่อไหร่ถึงแต่งแล้วค่อยบอกครับ ทุกคนก็คิดว่าพร้อม แต่เขาไม่รู้ลึกถึงขนาดนั้นรึเปล่า หรือเขาต้องการให้แต่งรึเปล่าถึงคิดว่าพร้อม ความพร้อมของเขาคืออะไรเท่านั่นเอง ผมคิดว่าถ้าเราพร้อมจริงๆ เราก็แต่งอยู่แล้วครับ จริงๆ เราไม่ได้ต้องการให้ใครมากดดันครับ แพลนไว้สักกี่ปี? หลุยส์ อันนี้ก็ไม่ นุ่น เรายังเด็กอยู่เลย (หัวเราะ) เรายังไม่รู้ คือส่วนตัวนุ่นกับหลุยส์ปล่อยชีวิตให้มันเป็นชีวิตน่ะค่ะ เราต้องทำงานค่อนข้างหนัก เราไม่ได้ห่วงว่าเราแต่งไปแล้วจะไม่ใช่คนในวงการ หรือความฮอตของหลุยส์จะน้อยลง แต่เรามองตรงที่หลุยส์บอกว่าความพร้อมคืออะไร เราไม่รู้ เราถึงยังไม่พร้อมที่จะแต่ง นุ่นเองพร้อมจริงๆ รึเปล่า หลุยส์เองยังอยากขี่มอเตอร์ไซค์ อยากอยู่กับเพื่อน ยังอยากทำงานในบางจุดที่ยังคิดว่าขออีกนิดนึงที่เป็นพีคของเขาค่ะ ส่วนนุ่นก็ไม่มีปัญหา ก็ทำงานอยู่ทุกวันค่ะ,ยังไม่มีโมเม้นต์อยากเป็นแม่บ้านบ้างเหรอ? นุ่น คือพ่อแม่สอนให้เป็นแม่บ้านอยู่แล้ว นุ่นเลยรู้สึกเฉยๆ ไง เพราะว่ามันติดตัวเรามาอยู่แล้วค่ะ เราเลยไม่ค่อยมีฟีลว่าฉันพร้อมแล้วนะ อยากล้างจาน (ยิ้ม) ยังอยากเฟี้ยวอยู่ค่ะ กดดันไหมโดนถามเรื่องนี้บ่อยมาก? หลุยส์ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบยังไง เพราะคำถามนี้ถามกันบ่อย เราก็ตอบบ่อย คำถามยังอยู่ที่เดิมและคำตอบยังอยู่ที่เดิม ไม่รู้จะพูดยังไงให้มันแตกต่างไปกว่าเดิม แต่ก็ยังรู้สึกดีกับนุ่นอยู่ เราก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ถ้ามีอะไรก้าวหน้าไปถึงที่ทุกคนคิดหรือหวังที่จะให้เกิด ผมว่ามันก็อยู่ในช่วงเวลาของเรานี่แหละครับ มีกังวลเรื่องมีลูกไหม? หลุยส์ ความจริงแล้วผมเป็นคนที่ชอบเด็กมาก นุ่นก็ชอบเด็กเหมือนกัน ถ้าเราชอบเด็กแล้วอยากมีเด็กเลยมันก็ยังไม่ได้ เพราะเราเองก็ต้องพร้อมที่จะเป็นพ่อแม่ บางครั้งผมอาจจะคิดเยอะเกินไป แต่มันทำให้เรามั่นคงในอนาคต ไม่ไปเครียดตอนนั้น บางคนที่ยังไม่พร้อมมีลูกก็แพลนฝากไข่แล้ว เราสนใจไหม? นุ่น ยังไม่มีความคิดตรงนั้นค่ะ แต่ตอนนี้ก็ 30 แล้วเนอะ พยายามออกกำลังกายจากไม่ค่อยออก แต่เอาแค่ให้ตัวเองแข็งแรงก่อนค่ะ ส่วนเรื่องฝากไม่ฝาก ของแบบนี้มันไม่รู้ค่ะ นุ่นว่ามันเป็นเรื่องของสิ่งที่ไม่รู้ มันไม่สามารถคาดเดาได้ค่ะ เราไม่อยากตอบคำถามในสิ่งที่เราไม่รู้ค่ะว่ามันจะเกิด เพราะเราไม่ได้แพลนอยู่แล้ว,ล่าสุดเห็นว่าควงกันไปไหว้ราหู? นุ่น หลุยส์เกิดวันพุธกลางคืน วันนั้นก็เลยพาไปไหว้ ไม่มีอะไร แต่เราไม่ได้ไปไหว้ในวันที่เขาไหว้กันนะคะ แต่เราดูข่าวแล้วแบบเออ ทำไมไม่ไหว้ล่ะ ก็ไปสิ เป็นปีชงรึเปล่า? หลุยส์ ความจริงแล้วของผมชงปีที่แล้วครับ แต่ปีนี้ไม่มีครับ ก็หางๆ ครับ ไม่โดนอะไร แต่เพื่อความนับถือมากกว่า ถามว่าไหว้ประจำไหมก็เท่าที่ได้นะครับ หมายถึงว่าเราไม่ได้จำเป็นต้องไหว้ แต่เป็นฟีลลิ่งที่จะไหว้ก็ไหว้ อยากบริจาคก็บริจาคครับ พอไหว้แล้วก็โอเคนะครับ แต่ท่องนานมากเลยครับ ผมอ่านนานมากเลยครับผม ท่อง 18 จบ ผมก็โอ้โห (หัวเราะ) ก็โอเคครับ สนุกดีครับ ถามถึงคอนเสิร์ตเดอะเน็กซ์? หลุยส์ ความจริงเรื่องคอนเสิร์ตผมยังไม่ได้ไปซ้อมครับ มีเปิดเพลงเก่าๆ ลองมาฟังก่อนเพื่อจะจำเนื้อร้องให้ได้ ท่าเต้นก็ค่อยๆ มาครับ พยายามที่จะซ้อมให้มากที่สุดเท่าที่เรามีเวลาเนอะ เอวยังได้รึเป่าอันนี้ต้องรอดูแล้วกัน (ยิ้ม) กระแสดีพอสมควรหลังจากเปิดตัวไป? หลุยส์ ก็มีคนแซวอยู่ตลอดเวลาแหละครับ โดยทีมงานกันเองและทั้งคนข้างนอกด้วย เขาเห็นเมื่อไหร่ก็ทำท่าเต้นตลอดครับ.
หลุยส์ สก๊อต แฮปปี้เล่นละครเรื่องเดียวกับนุ่น รมิดา บอกจะได้มีเวลาเจอกัน ด้านนุ่นย้ำยังไม่พร้อมเรื่องแต่งงานเพราะด้วยเหตุผลหลายอย่าง ครอบครัวไม่ได้กดดันอะไร ยังไม่คิดเรื่องฝากไข่ แจงพาหลุยส์ไปไหว้ราหูเพื่อเป็นสิริมงคล
null
หลุยส์ สก๊อต,นุ่น รมิดา ประภาสโนบล,หลุยส์ นุ่น,ละคร,บุพเพสันนิวาส,แต่งงาน,มีลูก,ครอบครัว,ไหว้ราหู,ปีชง,สิริมงคล,คอนเสิร์ต,เดอะเน็กซ์ เวนเจอร์ คอนเสิร์ต 2016,ข่าว,ข่าวบันเทิง,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/567102
กระทรวงยุติธรรม ตั้งศูนย์ข้อมูลความมั่นคงจังหวัดภาคใต้
รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมแถลงข่าวถึงการตั้งศูนย์ข้อมูลความมั่นคงจังหวัดภาคใต้ โดยได้นำเครื่องจีทีสแกน ซึ่งสามารถสแกนร่องรอยสารเสพติด ระเบิดและอาวุธปืน มาประกอบการแถลงข่าวนายชาญเชาว์ กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลความมั่นคงจังหวัดภาคใต้ เป็นการทำงานร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์หลักฐาน ดีเอ็นเอ สารพันธุกรรม วัตถุพยานในการคลี่คลายคดี และผู้เชี่ยวชาญจากดีเอสไอ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการประมวลข้อมูลมีความถนัดด้านการสื่อสารอิเล็กทรอนิคส์ และด้านการสืบสวนสอบสวน ทั้ง 2 หน่วยงานเอามารวมกันในส่วนนี้ หากทหารในพื้นที่สงสัยได้เบาะแสมาเบื้องต้นต้องการขยายผล ก็ติดต่อมาที่ศูนย์ข้อมูลฯ โดยไม่ใช่หน่วยปฏิบัติ ยกเว้นจะมีการขอให้เข้าไปที่เกิดเหตุผมต้องสร้างศูนย์ข้อมูลฯ นี้ขึ้นมาเพื่อให้การข่าวจับต้องได้และโปร่งใส เป็นเทคนิคในการบริหารกระบวนการยุติธรรมทางอาญา เพราะถ้าเราปล่อยให้การข่าวเป็นเรื่องการสืบสวนเพียงอย่างเดียวและเป็นการซื้อข่าวโดยไม่มีการจัดระบบ จะเป็นสิ่งที่ไม่มีหลักประกันให้กับประชาชน การจัดระบบฐานข้อมูลเป็นวิธีหนึ่งในการสร้างสมดุลและถ้าพัฒนาสำเร็จจะพัฒนาเป็นการสร้างศูนย์ข้อมูลอาชญากรรม คราวนั้นจะเป็นพยานหลักฐานได้ เราจะไม่ปล่อยให้งานด้านการข่าวเป็นเรื่องของการซื้อข่าว ลอยลม หรือเป็นสายลับ นี่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการบริหารจัดการเพื่อความโปร่งใส นายชาญเชาว์กล่าวนายชาญเชาว์ กล่าวด้วยว่า ประชาชนที่ให้ข้อมูลเป็นเบาะแสกับศูนย์ฯ จะเป็นการให้ข้อมูลในทางลับ หากมีการเปิดเผยหรือต้องไปเบิกความต่อศาลเป็นพยานให้การพนักงานสอบสวน ก็จะมีการคุ้มครองพยานชัดเจน ส่วนการรวบรวมข้อมูลทุกประเภท ในส่วนงานนิติวิทยาศาสตร์ มี 2 ด้านประกอบด้วยการพิสูจน์ที่สามารถยืนยันได้เลยว่าคนร้ายคือใครและอีกด้านหนึ่ง เมื่อพิสูจน์แล้วอาจไม่ใช่พยานหลักฐานที่ศาลจะลงโทษได้ทันทีและเป็นเพียงแต่การชี้ช่อง ดังนั้นประโยชน์สูงสุดที่ชาวบ้านจะได้ จึงต้องเอามารวมกันระหว่างคนที่เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนสอบสวนและคนที่เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งไม่ใช่นิติวิทยาศาสตร์บอกอะไรแล้วแปลว่าใช่เลยในฐานข้อมูล ไม่ได้หมายความว่าทุกคนเป็นคนร้ายหมด ยกตัวอย่างเรื่องการติดต่อสื่อสาร ผมทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้มา 7 ปี เป็นไปได้ว่าเบอร์โทรศัพท์ผมก็อยู่ในนั้น เพราะฉะนั้นงานศูนย์ข้อมูลไม่ใช่ศูนย์ข้อมูลอาชญากรรม ชาวบ้านต้องมั่นใจ จึงต้องเน้นย้ำว่าข้อมูลหมายถึงอะไร ไม่ใช่ข้อมูลอาชญากรรม และไม่ใช่เหวี่ยงแหกับพี่น้องประชาชนไปเสียทุกคน วันนี้เราจะทำให้เห็นเลยว่าเรามีความโปร่งใส เป็นส่วนหนึ่งของงานการข่าว ฉะนั้นคนที่เอาประโยชน์ไปจากฐานข้อมูลของเราต้องเข้าใจตรงนี้ นายชาญเชาว์กล่าวถามถึงวิธีการรวบรวมข้อมูลของดีเอสไอว่ารวมถึงการดักฟังโทรศัพท์ซึ่งอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่ นายชาญเชาว์ กล่าวว่า ที่มาของฐานข้อมูลต้องได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ถ้าเป็นข้อมูลที่ได้มาจากการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเราไม่ถือว่าเป็นฐานข้อมูลในนี้ ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า เรื่องความมั่นคงกับสิทธิเสรีภาพต้องสมดุลกัน ถ้าในกรุงเทพฯ มีเหตุการณ์ปกติ ตำรวจทั่วไป กฎหมายธรรมดาดูแลได้ก็ว่าไป แต่เขตพื้นที่ภาคใต้มีการประกาศกฎอัยการศึก โดยหลักสากลเขาก็ต้องยอมแลกสิทธิเสรีภาพบางอย่างเพื่อควบคุมอาชญากรรมพ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า นับตั้งแต่มีเหตุการณ์ปล้นปืน เมื่อปี 2547 ดีเอสไอเริ่มสืบสวน รวมพยานจัดโครงสร้างกลุ่มงานความมั่นคง ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการทำงานในคดีพิเศษ 3-4 คดี ซึ่งเป็นที่สนใจ อาทิ คดีปล้นปืน ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหากับพวก คดีระเบิดหน้าโรงแรม ซี เอส ปัตตานี รวมถึงเหตุระเบิดในภาคใต้หลายแห่ง ภายหลังจากส่งเจ้าหน้าที่ไปทำงานร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทหารและตำรวจ ทางดีเอสไอก็ได้พบตัวตนของตัวเองที่เป็นจุดแข็ง คือความเชี่ยวชาญชำนาญในการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงในการรวบรวมข้อมูลการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ สื่อดิจิตอล ที่เชื่อมโยงผู้ต้องสงสัยที่เข้าข่ายกระทำความผิดขณะนี้มีฐานข้อมูลที่ใหญ่พอสมควรในการวิเคราะห์ข้อมูลส่งให้หน่วยงานความมั่นคงที่ร้องขอมา และต่อมามีสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่ทำงานร่วมกัน เคียงบ่าเคียงไหล่ตำรวจ ทำให้เกิดการบูรณาการและได้รับความน่าเชื่อถือสูงมากนายสมโชค กล่าวว่า เครื่องจีทีสแกน สามารถตรวจสารเสพติด สารระเบิด หรือดีเอ็นเอผู้กระทำผิด ซึ่งนับแต่เกิดเหตุที่กรือเซะ และตากใบ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็ได้ลงไปช่วยเก็บข้อมูลกรณีภาคใต้ เริ่มเก็บดีเอ็นเอและวัตถุพยานขึ้นมาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ จนขณะนี้เก็บมาแล้ว 22193กรณี เป็นดีเอ็นเอที่มาจากตัวบุคคล 21391 รายการและดีเอ็นเอจากวัตถุพยาน 802 รายการ ส่วนการใช้เครื่องมือตรวจสอบทางด้านนิติวิทยาศาสตร์นั้น บอกได้เพียงว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าผู้เกี่ยวข้องสุจริตหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับการสืบสวนสอบสวน นอกจากนั้น เมื่อเกิดเหตุระเบิด ทางนิติวิทยาศาสตร์ ก็สามารถใช้อุปกรณ์เครื่องมือช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ว่าจะมีเหตุระเบิดซ้ำอีกหรือไม่ในการปิดล้อมตรวจค้น ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไม่มีความเชี่ยวชาญเชิงกฎหมาย ที่อยู่ๆ เราจะดิ่งเข้าไปปิดล้อมตรวจค้นและตามอำนาจหน้าที่ของเราไม่ชัดขนาดนั้น แต่เราไปในฐานะผู้ช่วยของพนักงานสอบสวน ผู้ช่วยของทหารในภาคใต้ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจปิดล้อมก็ขอความร่วมมือเรา ในฐานะผู้ชำนาญการ ในที่สุดได้ดีเอ็นเอ บางครั้งเจอโทรศัพท์ เจอสารระเบิด เจอเทปพันสายไฟที่พันระเบิด รวมทั้งบุคคลต้องสงสัย เราเก็บเอามาเป็นฐานข้อมูลทั้งสิ้น เราเก็บมาตั้งแต่กรณีตากใบ วันดีคืนดี เราพบว่ามี นาย ก.นาย ข. ตั้งแต่รุ่นตากใบในปี 2547-48 วันดีคืนดี ณ ปี 2549-2550 เราไปพบดีเอ็นเอของคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุในการวางระเบิดบ้าง ในบ้านหลังหนึ่งบ้าง ตรวจพบดีเอ็นเออันเดียวกับของนาย ก. นาย ข. เป็นการบ่งชี้ว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มที่เริ่มทำงานที่ตากใบและเริ่มมากระจายงานในพื้นที่ต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ อันนี้คือสิ่งที่โยงกันเป็นระบบ ค่อนข้างเห็นชัดส่วนสถิติปี 2552 ที่ผ่านมา งานต่างๆ มีเยอะที่ไปช่วยทหารออกตรวจข้อมูล เก็บข้อมูลผู้ต้องสงสัย 900 กว่าคน ซึ่งเต็มใจให้เก็บข้อมูลเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ทำผิด ซึ่งคนที่ถูกเก็บดีเอ็นเอ ก็ระวังตัวเอง ไม่ไปทำผิดแน่นอนและได้ฝึกคนเหล่านี้ตรวจดีเอ็นเอด้วยเพราะเจ้าหน้าที่ของเราไม่พอ พบพานวัตถุซึ่งเป็นสารระเบิดและยาเสพติด 6 พันกว่ารายการ และสารประกอบวัตถุระเบิดอีก 6 ร้อยกว่า สารเสพติดอีก 177 รายการ รวมทั้งบุคคลสูญหาย อีก ปัจจุบันเรามีสาระบบ 149 รายการเฉพาะภาคใต้ ทั้งหมดนี้คือสาระที่ทำอยู่ขอยกตัวอย่างเคสที่มีการเก็บและพบข้อเท็จจริงสามารถโยงมาจับกุมคนในการดำเนินคดีได้ คดีแรกลอบวางระเบิดทางรถไฟ ส่งผลให้มีการบาดเจ็บและเสียชีวิตที่ จ.นราธิวาส ซึ่งผลการตรวจฐานข้อมูลวัตถุพยานครั้งแรก พบว่าดีเอ็นเอหรือสารพันธุกรรมไปตรงกับผู้ต้องสงสัยที่ร่วมชุมนุมที่ตากใบ แล้วต่อมาได้ไปแจ้งพนักงานสอบสวนเข้าควบคุมดำเนินคดีตามขั้นตอน ตัวอย่างที่ 2 คือการส่งจดหมายข่มขู่ชาวบ้าน พอตรวจได้ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ส่งจดหมายได้แลบลิ้นเลียซองก่อนปิดซอง แล้วตรงนั้นเอามาสกัดเป็นดีเอ็นเอส่วนบุคคลได้หรือแสตมป์ก็ด้วย ในที่สุดตรวจพบว่าเป็นวัตถุพยานที่ส่งจากเหตุการณ์ต่างๆ ใน จ.นราธิวาส ผลจากการปิดล้อมตรวจค้นเลยนำเอาบุคคลผู้ต้องสงสัยทั้งครอบครัวมาตรวจดีเอ็นเอแล้วจึงพบข้อเท็จจริงว่าเป็นดีเอ็นเอของคนในบ้านไหน อีกรายการหนึ่งคือเทปกาวที่พันระเบิดมีลายนิ้วมือติด ก็นำมาสกัดพบโยงใยกับกลุ่มคนที่ปฏิบัติงานด้านนี้ในที่อื่นๆ สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นใคร นายสมโชคกล่าวเมื่อถามถึงกรณีเหตุระเบิดล่าสุดในภาคใต้ พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรมต่างๆ ส่วนดีเอสไอได้ทำงานด้านการติดต่อสื่อสาร แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ว่าทำอะไร เพื่อไม่ต้องการให้คนร้ายรู้เท่าทัน ส่วนกรณีเหตุระเบิดเมื่อ 2 วันที่แล้วก็คงมีการทำงานร่วมกัน แต่ชั้นนี้อาจจะเร็วเกินไปยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะเรียนให้ทราบได้ว่าเราวิเคราะห์ฟันธงได้ว่าเกิดอะไรด้านเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่ กล่าวว่า กรณีที่เจาะไอร้อง เมื่อฝ่ายข่าวสืบสวนมาได้ว่ากลุ่มใดต้องสงสัย ก็จะหาข้อมูลส่งมาให้เราวิเคราะห์เครือข่ายเพื่อเข้าปิดล้อมตรวจค้นเครือข่าย เพื่อตรวจสอบหาการกระทำผิดให้ได้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีกี่เครือข่าย เจ้าหน้าดีเอสไอ กล่าวว่า ฐานข้อมูลเก็บจากคดีพิเศษ อาทิยาเสพติด จากนั้นทำการเชื่อมโยงติดต่อขยายผลมาเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆ แล้วจะเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ โดยมีการเชื่อมกันอยู่โดย ไม่สามารถบอกเป็นจำนวนเครือข่ายได้ แต่เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ชี้ชัดจากพยานหลักฐานว่าเครือข่ายยาเสพติดเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ เพราะระบุได้เพียงว่ามีการติดต่อกัน
ที่กระทรวงยุติธรรม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายสมโชค บุญกำเนิด
การเมือง,ความมั่นคง
กรมสอบสวนคดีพิเศษ,กระทรวงยุติธรรม,ศูนย์ข้อมูลความมั่นคงจังหวัดภาคใต้,สถาบันนิติวิทยาศาสตร์,เครื่องจีทีสแกน
https://prachatai.com/journal/2009/06/24624
วิษณุ ย้ำยึดโรดแม็ป เลือกตั้ง ปี 60 ยัน บิ๊กตู่ ไม่สืบอำนาจ
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 59 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ และ พล.ต.วิระ โรจนวาศ สมาชิกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เกี่ยวกับแนวทางและขั้นตอนต่างๆ หลังทราบผลประชามติอย่างไม่เป็นทางการว่า เมี่อได้มีการหารือกับคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระบวนการต่างๆ เร็วขึ้นแล้ว จะเสนอต่อที่ประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 9 ส.ค. ส่วนวันนี้จึงไม่จำเป็นต้องหารือกับนายกฯ อีก ทุกฝ่ายรู้ว่าต้องดำเนินการต่ออย่างไร บางอย่างที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว อาจทำไม่ได้ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้ ทุกฝ่ายต้องปรับตัว ส่วนรายละเอียด กระบวนการ และระยะเวลา อาจเปิดเผยหลังการประชุมร่วม ,เบื้องต้น กกต.รายงานให้ทราบว่า มีคนออกมาใช้สิทธิเกือบ ร้อยละ 60 ถือว่าน่าพอใจ เทียบกับการทำประชามติของอังกฤษ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่วนผลประชามติ จะสร้างความปรองดองได้หรือไม่นั้น ตนหวังเช่นเดียวกับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ว่า ทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไปได้ รัฐบาลคงไม่แปลหรือตีความอะไร เราต้องเดินต่อไปให้ดีที่สุดเพื่อให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจ,เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่การเลือกตั้งจะถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2561 เนื่องจากยังมีขั้นตอนต่างๆ อีกจำนวนมาก นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าใช้กำหนดเวลาเต็มตามที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็ไม่เกินปี 2560 กรธ.มีหน้าที่ปรับร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง ในเวลา 30 วัน จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญที่มีเวลาพิจารณา 30 วัน รวมทั้งการร่างกฎหมายลูก 10 ฉบับ ที่มีเวลาร่าง 8 เดือน หากทำ 4 ฉบับที่จำเป็นสำหรับเลือกตั้งก่อน จะทำให้เร็วขึ้นได้ รวมถึงเวลาที่จะให้ สนช.พิจารณากฎหมายลูก ภายใน 60 วัน ทุกขั้นตอนอาจไม่ต้องใช้เวลาเต็ม เมื่อทุกอย่างสั้นลงก็ไปสู่เป้าหมายเลือกตั้งปี 2560 ได้ ทุกอย่างเป็นตามโรดแม็ป,เมื่อถามย้ำว่า เหตุใด นายมีชัย ถึงพูดว่าอาจขยายเวลาเลือกตั้ง ช่วงต้นปี 2561 จนทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวล นายวิษณุ กล่าวว่า มีอะไรบางอย่างที่เราอาจทำของเราจนสุดแล้ว แต่มีบางอย่างเหนือกระบวนการที่เราจะควบคุม จึงต้องบวกลบเผื่อเวลา ถ้าเราทำให้เร็วการบวกลบเวลาก็ไม่ควรจะเผื่อไปยาวกว่าปี 60 แต่เมื่อเอาอย่างอื่นมาเผื่อเข้าไป มันอาจจะต้องเกิน แต่ถ้าเราทำให้มันเร็วเผื่ออย่างไรก็ไม่เกิน ผมอยากให้มันเร็ว พูดวันนี้ก็ยังเลือกตั้งในปี 60 ก็ไม่เห็นจะต้องมีปัญหาอะไร นายกฯ ก็พูดแล้วว่าไม่สืบทอดอำนาจและเลือกตั้งในปี 60,เมื่อถามว่า บรรยากาศบ้านเมืองขณะนี้ ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล และ คสช. ออกมายอมรับผลประชาติ ถือเป็นสัญญาณที่ดีใช้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดี แต่บางคนไม่ถึงขนาดอยู่ตรงข้าม แต่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลายเหตุผล บังเอิญไม่ได้เอาเหตุผลเหล่านั้นออกมาเผยแพร่จึงได้แต่เดา ส่วนที่บางฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองนั้น ต้องดูอีกที ตนไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะยังไม่ได้คิดอะไรในเรื่องนี้ และตนก็ไม่ได้มีอำนาจในเรื่องดังกล่าว,ด้าน พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ คงไม่มีการแถลงชี้แจงต่อประชาชน หลังการออกเสียงประชามติในวันนี้ เนื่องจากต้องรอผลการนับคะแนนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเป็นทางการก่อน ส่วนการประชุมนอกรอบ ระหว่างนายกฯ กับนายวิษณุ และผู้เกี่ยวข้องนั้น วันนี้คงจะไม่มี เนื่องจากวันที่ 9 ส.ค. ในช่วงเช้าก่อนการประชุม ครม. จะมีการหารือร่วมกับ คสช.อยู่แล้ว
วิษณุ เผยเตรียมชงที่ประชุมร่วม ครม.-คสช. 9 ส.ค.นี้ เชื่อไร้ปัญหา ลต.ปี 60 ยันนายกฯ ไม่สืบทอดอำนาจ พอใจคนใช้สิทธิเกือบร้อยละ 60 ด้าน เลขาฯ นายกฯ แจง บิ๊กตู่ ยังไม่ชี้แจง ปชช.
เลือกตั้ง
ประชามติ,ผลประชามติ,วิษณุ เครืองาม,ร่างรัฐธรรมนูญ,ประชุมร่วม ครม.-คสช.,ประชามติ ปี 59,เลือกตั้ง,โรดแม็ป,คำถามพ่วง,สืบทอดอำนาจ,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/684781
ชาวลำปางใช้สิทธิ์เลือกตั้งแบบนิว นอร์มอล
วันนี้ (20 มิ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเลือกตั้งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนในหน่วยเลือกตั้งที่ 2 และหน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง กำลังตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการคัดกรองและการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เน้นย้ำให้มีการเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19ส่วนชาวบ้านที่มาเลือกตั้ง ระบุว่า มาตรการตรวจโควิด-19 ที่เพิ่มเข้ามาไม่เป็นปัญหาต่อการมาเลือกตั้ง รู้สึกดีที่ทางเจ้าหน้าที่ใส่ใจตรงจุดนี้ด้วย ขณะเดียวกัน ต้องการให้ผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชน แก้ไขปัญหาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ และปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภคมาตรการโควิด-19 ทำให้การใช้สิทธิ์ล่าช้าขณะที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 1 อ.สบปราบ จ.ลำปาง มีชาวบ้านในพื้นที่เดินทางมารอใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมาก ผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา เนื่องจากมีขั้นตอนในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แม้จะทำให้เกิดความล่าช้า แต่รู้สึกปลอดภัย และการเดินทางมาเลือกตั้งมีความหวังว่าผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งจะมาช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะด้านสาธารณูปโภคเครื่องวัดอุณหภูมิบางหน่วยเลือกตั้งขัดข้องขณะที่บางหน่วยเลือกตั้งได้มีประชาชนเป็นจำนวนมากมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ทำให้พบปัญหา คือสถานที่คับแคบ ใช้เวลารอนาน และเครื่องวัดอุณหภูมิในร่างกายเกิดการขัดข้อง เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน เจ้าหน้าที่ อสม.ต้องนำไปแช่ในกระติกน้ำแข็ง เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทั้งนี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่พบการกระทำผิดการเลือกตั้ง แต่อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการเลือกตั้งก็เน้นย้ำให้ประชาชน ทำตามที่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการทำการผิดกฎหมาย
การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ลำปาง ต้องปรับเปลี่ยนขั้นตอน เพื่อป้องกันความเสี่ยงโรคระบาด ทั้งการคัดกรอง และเว้นระยะห่าง
การเมือง
เลือกตั้งซ่อม,เลือกตั้ง,ลำปาง,โควิด-19,โควิด19,COVID-19,COVID19
https://news.thaipbs.or.th/content/293821
รัฐสวัสดิการในสวีเดน (A modern democratic welfare state)
มีอัตราความยากจนที่ต่ำที่สุดในโลก เป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมมากที่สุดในแง่ของการกระจายรายได้และสวัสดิการสังคม (เอื้อมพร พิชัยสนิธ 2553) นี้คือภาพความสำเร็จของรัฐสวัสดิการสมัยใหม่ที่เรามักจะรู้จักกันในชื่อของ The Swedish Model อย่างไรก็ตามรัฐสวัสดิการไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากกระบวนการสร้างและพัฒนาการที่ยาวนาน คำถาม คือ ระบบคิดเรื่องสวัสดิการมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร และอะไรคือเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนารัฐสวัสดิการในสวีเดน และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ บทเรียนจากสวีเดนช่วยให้เราเข้าใจความเป็นไปได้และปัญหาในการไปสู่รัฐสวัสดิการของไทยได้อย่างไรย้อนกลับไปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 หรือประมาน 300 กว่าปีที่แล้ว สวีเดน เคยเป็นประเทศที่ยากจนอันดับต้นๆในยุโรป ช่วงเวลานั้นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นพื้นการเกษตรกรรม ประชากรมากกว่า 80% เป็นชาวนายังคงทำการเกษตรแบบยังชีพและอยู่ภายใต้อำนาจของขุนนางเจ้าที่ดินจนกระทั่งสวีเดนเริ่มเข้าสู่การปฏิวัติเกษตรกรรม และการปฏิรูปที่ดินอย่างจริงจังในศตวรรษที่ 19 และเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เปลี่ยนโฉมหน้าพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจและการเมืองในสวีเดนอย่างรอบด้าน ชาวนาสามารถเปลี่ยนฐานะตัวเองจากผู้เช่าที่ดินกลายเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ (freeholder) ก่อให้เกิดชนชั้นและขบวนการชาวนาที่เข้มแข็ง ทำให้ชาวนามีอิทธิพลทางการเมืองมากขึ้น จนนำไปสู่การก่อตั้งพรรคการเมืองชาวนา(Agrarian party) ที่มีอำนาจต่อรองในรัฐสภาของสวีเดนเพื่อที่จะมองเห็นภาพของพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ตลอดจนผลสำเร็จที่เกิดจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของสวีเดน และฐานคิดสำคัญในการส่งเสริมประเด็นความเท่าเทียมด้านกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล อันนำมาซึ่งการส่งเสริมรัฐสวัสดิการในสวีเดน เราจะมาดูกันว่าสวีเดนถูกหล่อหลอมให้กลายมาเป็นรัฐสวัสดิการแบบทุกวันนี้ได้อย่างไร โดยพิจารณาจากสามปัจจัยสำคัญที่เป็นเงื่อนไขของการเปลี่ยนแปลง คือ การปฏิรูปที่ดิน การปฏิวัติอุตสาหกรรม และที่น่าสนใจที่สุดเนื่องจากสอดคล้องกับสถานการณ์ในเมืองไทยคือ การประนีประนอมระหว่างชนชั้นการปฏิรูปที่ดินเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการรัฐสมัยใหม่ จุดเริ่มต้นของการปฏิรูปที่ดินอยู่ที่รัฐ Scania ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของสวีเดน โดยกลุ่มชาวนาในพื้นที่ ซึ่งผลของการปฏิรูปที่ดินคือเปลี่ยน Scania จากพื้นที่เกษตรเล็กๆ กลายเป็นฐานการผลิตทางการเกษตรขนาดใหญ่และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของสวีเดน การปฏิรูปที่ดินสามารถสร้างแรงจูงใจให้กับชาวนาให้หันมาทำการผลิตเพื่อส่งออก จนชาวนาสามารถเปลี่ยนฐานะจากผู้เช่าที่ดินกลายมาเป็นผู้ถือครองที่ดิน การเติบโตของชนชั้นชาวนาจึงส่งเสริมให้เกิดกระบวนการชาวนาที่เข้มแข็งขึ้นในระยะหลัง และในสวีเดนเองนั้นการเกษตรมีความสำคัญ ตรงที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและการกระจายรายได้ ตลอดจนความมั่นคงและอิทธิพลทางการเมืองให้กับชาวนา ในขณะที่แรงจูงใจของชาวนาบวกกับความต้องการของตลาด เร่งให้พื้นที่อื่นๆของสวีเดนหันมาปฏิรูปที่ดินมากขึ้น ถ้าย้อนกลับไปดูเงื่อนไขของการปฏิรูปที่ดินจะพบว่าเกิดจากปัจจัยสองด้าน ได้แก่ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก คือก่อนที่สวีเดนจะเข้าสู่การปฏิรูปที่ดิน ภาคเกษตรกรรมยังคงใช้รูปแบบของระบบดั้งเดิม คือเป็นการทำเกษตรแบบยังชีพ ซึ่งเป็นระบบที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนอาหารและมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้การผลิตในรูปแบบเดิมจึงดำรงอยู่ต่อไปไม่ได้ สวีเดนจึงจำเป็นต้องขยายภาคเกษตรเพื่อทำการผลิตส่วนเกินภายใต้โครงสร้างเศรษฐกิจสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต โดยการผลิตต่อหัว สร้างเงื่อนไขให้เกิดการแบ่งงานกันทำในระยะยาว และภายหลังทำให้เกิดภาคการผลิตในตลาด (market production) จำนวนมากตามมา ดังนั้นกระบวนการปฏิรูปที่ดินจึงเป็นกลไกที่เกิดขึ้นเพื่อรักษาความอยู่รอดของรัฐสวีเดน ผลคือเปลี่ยนสวีเดนจากประเทศที่เคยนำเข้าธัญพืชกลายเป็นประเทศที่ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ของยุโรปในปี 1850 (ruralhistory 2556)การหลั่งไหลของแนวคิดเสรีนิยมนำวิธีการผลิตสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้ในภาคเกษตรกรรม ทำให้ประชากรส่วนใหญ่ที่เป็นชาวนาค่อยๆเติบโตขึ้นจากรูปแบบการทำเกษตรกรรมเชิงพาณิชย์ จำนวนการถือครองที่ดินในภาคปฏิบัติของขุนนางลดลงอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากชาวนามีกรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของที่ดินมากขึ้นผ่านกระบวนการนี้เรียกว่า การทำให้ภาคเกษตรกรรมเป็นของปัจเจก (Individualization of agriculture) แนวคิดเสรีนิยมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของชนชั้นชาวนาเกี่ยวกับการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน การเติบโตของชนชั้นชาวนาอิสระจึงเป็นการก่อรูปโครงสร้างทางชนชั้นที่สำคัญของสวีเดน ด้วยเหตุนี้เสรีนิยมจึงเข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจของสวีเดนให้ทันสมัย ลดกฎเกณฑ์ต่างๆลง สร้างเงื่อนไขตามกลไกตลาดแบบเสรี ซึ่งผลของการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถสร้างกลไกทางอำนาจให้ชนชั้นล่างต่อรองกับชนชั้นสูงได้มากขึ้น และไม่ตกอยู่ในฐานะผู้ที่ถูกกดขี่ปัจจัยทั้งสองข้อข้างต้นปลุกกระแสให้เกิดการปฏิรูปที่ดินเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตามการปฏิรูปที่ดินเป็นกระบวนการที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ ใช้เวลาเป็นร้อยๆปี และเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของสวีเดนในช่วงปี 1870-1970 (the rise of Swedish economy) หรือยุคทองทางเศรษฐกิจ (Stein Kuhnle Sven E. O. Hort. 2547) การปฏิรูปที่ดินก่อให้เกิดผลสองด้าน อย่างแรกคือปลดปล่อยชาวนาให้เป็นอิสระ ชาวนาสามารถใช้ดินเป็นเครื่องมือในการผลิต อย่างที่สองคือทำให้สวีเดนประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ สามารถผลักดันตัวเองขึ้นมาจากประเทศที่เคยยากจนที่สุดในยุโรป เป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งจากการส่งออกสินค้าเกษตร การปฏิรูปที่ดินจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาบันที่สำคัญ เพราะเปลี่ยนโฉมหน้าพัฒนาการทางสังคมการเมืองทั้งหมดของสวีเดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล ที่ทำให้ชาวนาอยู่ในฐานะที่สามารถต่อรองอำนาจกับขุนนางได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนการที่สวีเดนสามารถเปลี่ยนจากสังคมเกษตรกึ่งศักดินา (semi-feudal agrarian society) มาสู่สังคมสวัสดิการที่มั่งคั่งนั้น ไม่ได้เกิดจากการปฏิวัติโดยชนชั้นกลางอย่างในอังกฤษและฝรั่งเศส และไม่ได้เกิดจากการปฏิวัติแบบถอนรากถอนโคน (radical revolution) โดยชาวไร่ชาวนาเหมือนในรัสเซีย แต่เงื่อนไขของการเปลี่ยนแปลงในสวีเดนคือ ความเข้มแข็งของชาวนาที่เกิดขึ้นก่อนจะเข้าสู่ยุคพัฒนาอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกันเราได้เห็นการปรากฏภาพขึ้นของความอ่อนแอของเจ้าที่ดินและการถืออำนาจของชนชั้นสูงที่เกิดจากความขัดแย้งของรัฐในสแกนดิเนเวียด้วยกันเอง นำมาสู่การล่มสลายของจักรวรรดิสวีเดนช่วงต้นศตวรรษที่ 19 และการมีที่ตั้งอยู่บริเวณชายขอบ (periphery) ของระบบเศรษฐกิจการเมืองยุโรป (Stein Kuhnle Sven E. O. Hort. 2547)สวีเดนจึงไม่ได้อยู่ในที่ที่มีการสะสมทุน ทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมไม่เข้มข้นเหมือนประเทศในยุโรปตอนกลาง สามปัจจัยนี้ส่งผลให้สวีเดนไม่มีภาพการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างเข้มข้นเหมือนประเทศอื่น มีเพียงการต่อสู้และการปฏิวัติแบบสงบสันติของชนชั้นชาวนา ซึ่งสาเหตุสำคัญอาจจะเป็นเพราะทรัพยากรที่ดินได้ตกไปอยู่ในมือของชาวนาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ไม่มีภาพของการขูดรีดชาวนาตามชนบท หรือการผูกขาดอำนาจโดยกษัตริย์และขุนนางเหมือนที่อื่นๆในช่วงศตวรรษที่ 19 สวีเดนยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของการทำเกษตร แม้แต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เกษตรกรรมยังคงเป็นแหล่งกำเนิดของการจ้างงาน รูปแบบที่เกิดขึ้นทำให้ภูมิภาคนี้ถูกแยกออกจากยุโรป หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมหลั่งไหลเข้ามา ผลกระทบทางสังคมของสวีเดนแตกต่างจากผลกระทบในยุโรปอย่างเห็นได้ชัด ในยุโรปพบว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้ปัญหาสังคมค่อยๆเพิ่มขึ้นตามชนบท อุตสาหกรรมในยุโรปเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการล่าอาณานิคมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ นายทุนในแต่ละประเทศพยายามสั่งสมความมั่งคั่งและแข่งขันกันเอง ในอังกฤษชาวนาจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในเมืองเพื่อเป็นกรรมกรตามโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลให้เมืองเต็มไปด้วยผู้คนและกลายเป็นศูนย์กลางของทรัพยากรจำนวนมาก เกิดชุมชนแออัด เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ และไม่น่าอยู่ ในขณะที่สวีเดนฐานเศรษฐกิจส่วนใหญ่สามารถกระจายไปอยู่ในมือของชาวนา เมืองในสวีเดนจึงไม่เคยแออัดด้วยสลัม สวีเดนไม่เคยเกิดภาพการขูดรีดชนชั้นแรงงานและไม่เคยเป็นเมืองทุนนิยมเข้มข้นที่เน้นวิถีการผลิตเพียงอย่างเดียว ทำให้ชาวนาในชนบทของสวีเดนเติบโตและมีความเข้มแข็งมากกว่าชาวนาในยุโรปเพราะฉะนั้นการปฏิวัติอุตสาหกรรม กลายเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่ทำให้พัฒนาการของแต่ละรัฐมีความแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ประเทศอย่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างเข้มข้นจึงกลายเป็นรัฐทุนนิยมเต็มรูปแบบ ทำให้ชนชั้นนำในรัฐเหล่านั้นสามารถใช้ทุนเป็นเครื่องมือในการควบคุมชนชั้นชาวนาและกรรมกรตามโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่สวีเดนเป็นรัฐทุนนิยมเพียงครึ่งเดียวอีกครึ่งหนึ่งยังคงให้ความสำคัญกับภาคเกษตรกรรม เพราะฉะนั้นการสร้างกลไกทางอำนาจของชนชั้นนำจึงไม่เข้มข้นเพราะขาดฐานเศรษฐกิจที่สำคัญคือทุน สิ่งนี้จึงสร้างเงื่อนไขที่ทำให้ชนชั้นนำอ่อนแอ เมื่อการขูดรีดไม่เข้มข้นเหมือนรัฐในยุโรป จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ชนชั้นนำจะเข้มแข็งและอยู่ในฐานะที่จะเอาเปรียบชนชั้นอื่นๆได้ ชนชั้นชาวนาของสวีเดนจึงมีพลังในการต่อรองและไม่อยู่ภายใต้อำนาจของชนชั้นนำนายทุนเวลาเราพูดถึงรัฐสวัสดิการเรามักจะนึกถึงคำถามว่าอะไรคือฐานคิดสำคัญของการสร้างรัฐสวัสดิการในสวีเดน ทำไมชนชั้นนำและผู้มีรายได้สูงจึงยอมจ่ายภาษีในอัตราก้าวหน้าที่สูง เพราะปกติชนชั้นนำมักจะใช้กระบวนการขูดรีดชนชั้นล่างแบบปิดบังซ่อนเร้นที่เรามักจะมองไม่เห็น และคนเหล่านี้จะไม่ยอมสูญเสียผลประโยชน์ของตัวเองเพื่อผู้อื่นโดยง่าย แต่ในกรณีของสวีเดนคือชนชั้นนำกลับยอมกระจายความเท่าเทียมออกไปให้คนส่วนใหญ่ คำถามสำคัญคือทำไมคนเหล่านี้จึงยอมถ้าเราย้อนดูพัฒนาการทั้งหมดที่เกิดขึ้นและดูการเติบโตของสวัสดิการสังคมของสวีเดนในปัจจุบัน เราสามารถอธิบายได้ว่ารัฐสวัสดิการเกิดจากผลของการประนีประนอมระหว่างชนชั้น มีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความไม่เท่าเทียมระหว่างชนชั้นที่อาจนำไปสู่การล่มสลายของสถาบันทางการเมืองในสวีเดนในอนาคต นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา การผลักดันแนวคิดเกี่ยวกับรัฐสวัสดิการเป็นไปอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการต่อสู้ในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ และการกระจายรายได้ กระทั่งช่วงที่สวีเดนหันมาใช้รูปแบบการปกครองแบบสังคมนิยมประชาธิปไตย (Social Democratic Regime) ที่ทำให้เศรษฐกิจในสวีเดนอยู่ระหว่างความเป็นสังคมนิยมและทุนนิยม หรือเศรษฐกิจแบบผสม (Mixed Economy) ซึ่งเศรษฐกิจแบบนี้ไม่เพียงวางรากฐานโครงสร้างด้านสวัสดิการสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังก่อให้เกิดการเติบโตของภาคธุรกิจตลอดจนการจ้างงานในระยะยาวเพิ่มขึ้นด้วย (เอื้อมพร พิชัยสนิธ 2553)สำหรับการเติบโตเรื่องรัฐสวัสดิการนั้นก่อตัวขึ้นจากการประนีประนอมระหว่างชนชั้น จากการเรียนรู้ผ่านชุดประสบการณ์ความขัดแย้งในอดีต และการมองผ่านสถาบันสำคัญๆในยุโรปที่เริ่มเสื่อมสลายลง ว่าการไม่ยอมประนีประนอมกับพลังทางสังคมใหม่ของชนชั้นกลางและชนชั้นล่างจะนำความหายนะมาสู่ชนชั้นนำในหลายประเทศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์การปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ.1789 ที่เกิดจากพลังของขุนนางร่วมมือกับชนชั้นล่างต่อต้านอำนาจของกษัตริย์ที่ต้องการจะเก็บภาษี ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือเปลี่ยนฝรั่งเศสจากประเทศที่เคยปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธ์มาเป็นระบอบสาธารณรัฐ เมื่อกลับมามองสวีเดน ชนชั้นนำในสวีเดนเห็นว่าเงื่อนไขเดียวที่จะสามารถรักษาความอยู่รอดของชนชั้นนำได้ คือการประนีประนอม เพราะถ้าหากชนชั้นสูงปฏิเสธเงื่อนไขนี้อาจจะต้องเผชิญกันความไม่พอใจจากชนชั้นล่าง ซึ่งก็จะเป็นการสร้างโอกาสให้นำไปสู่ความขัดแย้งทางชนชั้นในอนาคตการประนีประนอมจึงเป็นฐานคิดที่นำมาสู่การส่งเสริมสวัสดิการสังคมในช่วงต้น และได้รับการพัฒนาจนเติบโตเป็นรัฐสวัสดิการสมัยใหม่ โดยลักษณะของรัฐสวัสดิการคือมีการออกกฎหมายเพื่อเก็บภาษีคนรวยมาช่วยคนจน หรือที่เรารู้จักกันดีคือ ระบบภาษีในอัตราก้าวหน้า สิ่งที่คนรวยได้รับจากการจ่ายภาษีคือ การเมืองและเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ เพราะรัฐสามารถจ่ายเงินอุดหนุนให้คนที่ตกงานได้สองปี และยังสามารถกระจายสวัสดิการให้ประชาชนได้อย่างเท่าเทียม ดังนั้นถ้าคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ก็จะเกิดเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ ทำให้คนรวยมีฐานเศรษฐกิจที่มั่นคง และไม่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายปั่นป่วนทางการเมือง ผลลัพธ์ของการกระจายความเท่าเทียมคือคนรวยสามารถขยายฐานเศรษฐกิจของตัวเองได้มากขึ้น และสวัสดิการต่างๆยังเป็นหลักประกันความสงบสันติในระยะยาวให้กับประเทศอีกด้วยเพราะฉะนั้นสิ่งนี้จึงสะท้อนว่าต้นทุนของการเป็นรัฐสวัสดิการของสวีเดนถูกกว่าต้นทุนของการไม่เป็นรัฐสวัสดิการ การไม่ส่งเสริมนโยบายด้านสวัสดิการอาจทำให้ประเทศเผชิญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ มีคนตกงานออกมาประท้วงอย่างรุนแรงจนกลายเป็นความขัดแย้ง เหมือนกับประเทศอื่นๆที่กำลังเผชิญปัญหาเหล่านี้ไม่เว้นแต่ละวัน สวีเดนมองว่าความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาสำคัญของความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพราะฉะนั้นการขจัดความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมความเท่าเทียมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความสงบสันติในสวีเดนอย่างยั่งยืนหลังจากที่ชนชั้นนำยอมประนีประนอมกับชนชั้นล่าง จึงทำให้เกิดสมดุลระหว่างชนชั้น การกระจายความเท่าเทียมด้านสวัสดิการทำให้จำนวนชนชั้นล่างค่อยๆลดลง เพราะทุกคนไม่ว่าจะมาจากชนชั้นสูงหรือชนชั้นล่างสามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้อย่างเสรี ทำให้ความ radical ในคนกลุ่มนี้มีระดับที่น้อยลงไปเรื่อยๆ แม้ว่าในสวีเดนจะมีพวกสังคมนิยมสุดขั้วอยู่แต่ก็มีจำนวนน้อยและมีการเคลื่อนไหวที่ไม่เข้มแข็งเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่สนับสนุนระบอบสังคมประชาธิปไตยและเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม ดังนั้นพวกสังคมนิยมสุดขั้วจึงไม่มีพลังมากพอที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงใดๆ การประนีประนอมจึงมีกลไกที่ลดความ radical ของทั้งสองฝ่ายลง และการเติบโตของระบบสวัสดิการของสวีเดนในปัจจุบันเป็นผลมาจากชนชั้นสูงและชนชั้นล่างยินดีที่จะพึ่งพากันและกันมากกว่าจะสร้างความขัดแย้ง ซึ่งต่างจากประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆที่ยังคงเผชิญกับโครงสร้างทางสังคมและโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เหลื่อมล้ำ รวมถึงปัญหาความขัดแย้งเพราะไม่สามารถสร้างสมดุลทางชนชั้นให้เกิดขึ้นได้อีกทั้งยังสร้างระบบการเมืองและเศรษฐกิจที่เอาเปรียบชนชั้นล่าง จึงเกิดปัญหามากมายตามมาถึงตอนนี้เราได้เห็นภาพพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ และการเติบโตของรัฐสวัสดิการในสวีเดนที่ชัดเจนขึ้น จริงๆเเล้วการมองรัฐสวัสดิการผ่านกรอบคิดทางประวัติศาสตร์ทำให้เราเข้าใจการเปลี่ยนเเปลงที่ผ่านมาว่าฐานคิดของรัฐสวัสดิการเกิดจากเงื่อนไขอะไรตลอดจนมีกระบวนการเปลี่ยนเเปลงอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะเข้าใจสังคมไทยมากขึ้น ในวันนี้เเม้ว่าสังคมไทยอาจยังไปไม่ถึงรูปเเบบรัฐสวัสดิการ แต่อย่างน้อยเราก็ได้เข้าใจว่า การจะสร้างฐานคิดเรื่องรัฐสวัสดิการในสังคมไทยต้องอาศัยเวลา และต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ของเราเองและจากที่อื่นๆ ควบคู่กันไป ในวันนี้ต้นทุนของการมีรัฐสวัสดิการในสังคมไทยอาจเเพงกว่าสวีเดน เพราะเรายังต้องใช้งบประมาณมหาศาลเพื่อนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และยังต้องส่งเสริมความเท่าเทียมในเเง่ของการกระจายรายได้ เเก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ตลอดจนปัญหาอื่นๆอีกมากมาย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในอนาคตคนไทยจะเริ่มตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น เพราะทุกคนจำเป็นต้องเห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันว่าวิกฤตการเมืองในบ้านเรารอบที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่บั่นทอนศักยภาพในการพัฒนาประเทศลงไปมาก และที่สำคัญคือมันกระทบกับชีวิตของเราโดยตรง ดังนั้นในอนาคตฐานคิดของการกระจายความเท่าเทียมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำจะเป็นหลักประกันเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเมืองในบ้านเรา แต่ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ที่ตัวเราเองว่าจะสามารถเรียนรู้และมองเห็นอนาคตของประเทศร่วมกันได้มากแค่ไหนStein Kuhnle Sven E. O. Hort.(2004) The Developmental Welfare State in Scandinavia Lessons for the Developing WorldUnited Nation research institute for social development. 2013-08-24.Konrad Person. Social Welfare in Sweden.http://www.ssa.gov/policy/docs/ssb/v12n4/v12n4p16.pdf p.16-18.Robert Erikson.(1987).The Scandinavian model welfare state and welfare research p.5-14Andreas Bergh.(2001). The risefall and revival of a capitalist welfare state: What are the policy lessons from Sweden? Research Institute of Industrial Economics. StockholmSwedenUniversity of Gothenburg.(2011). The Agrarian Revolution in Scandinavia Social Change Seminar: Modern Scandinavian Economic history.p.2-3.เอื้อมพร พิชัยสนิธ.(2553). เศรษฐกิจทางเลือกว่าด้วยรัฐสวัสดิการนุชประภา โมกข์ศาสตร์ นิสิตคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ถ้าเราพิจารณาประเทศที่ประสบความสำเร็จในแง่ของการพัฒนาระบบสวัสดิการแล้ว สวีเดนคือหนึ่งในประเทศที่เรากำลังพูดถึง สวีเดนเป็นประเทศที่เปิดกว้างในด้านเสรีภาพของมนุษย์
การเมือง,ต่างประเทศ
นุชประภา โมกข์ศาสตร์,รัฐสวัสดิการ,สวีเดน
https://prachatai.com/journal/2013/12/50503
หอพักขอขึ้นค่าเช่า-ค่าส่วนกลาง
ทีมข่าวได้สำรวจอะพาร์ตเมนต์ ในซอยวิภาวดีรังสิต 60 พบว่า ผู้ดูแลหอพักเตรียมใช้วิธีเดียวกัน และมีการพูดคุยกับผู้เช่าแล้ว ถึงระเบียบใหม่ที่จะประกาศใช้โดยจะปรับลดค่าไฟและค่าน้ำให้แต่จะขอจัดเก็บค่าบริหารจัดการเพิ่มเฉลี่ย 200 -300 บาทเนื่องจากปกติจะมีค่าใช้จ่ายกับการไฟฟ้าฯและการประปา ไม่เท่ากับครัวเรือน โดยจัดเก็บเป็นอัตราก้าวหน้า เฉลี่ยหน่วยละ 4.23 บาท - 4.50 บาท และค่าน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 16 บาทต่อหน่วย และยังมีต้นทุนอย่างอื่น เช่น ไฟฟ้าบริเวณทางเดิน ค่าจ้างช่าง รปภ. แม่บ้าน รวมประมาณ 100000 บาทหากกฎหมายบังคับให้จัดเก็บค่าไฟฟ้า และค่าน้ำเท่ากับอะพาร์ตเมนต์จ่ายให้การประปาและการไฟฟ้า จำเป็นต้องเพิ่มค่าบริหารจัดการ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน ถ้าหากไม่จัดเก็บค่าบริหารจัดการเพิ่ม จำเป็นต้องขึ้นค่าเช่าห้องตั้งแต่ 200 -500 บาทต่อเดือนผู้เช่ารายหนึ่ง บอกว่า อะพาร์ตเมนต์อีกแห่งมีการเก็บค่าบริการทำความสะอาดและเก็บขยะเดือนละ 200 บาทอยู่แล้ว และปัจจุบันเสียค่าไฟที่ 7 บาทต่อหน่วย เป็นเงิน 1694 บาท และค่าน้ำ อยู่ที่ 697 บาท คิดอัตราหน่วยละ 17 บาท หากลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำลงได้ตามกฎหมายโดยไม่มีค่าบริหารจัดการเพิ่ม จะช่วยลดรายจ่ายได้ประมาณ 1000 บาทต่อเดือนแม้การเริ่มใช้กฎหมายใหม่จะเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ( 1 พ.ค.61) แต่จนถึงขณะนี้ ผู้เช่า ยังไม่ได้รับแจ้งจากหอพักว่า จะปรับลดค่าน้ำ ค่าไฟ ลงหรือไม่ การร่างกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ผู้เช่ามองว่า อย่างน้อยช่วยป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบได้ แต่ในอีกมุมของผู้ประกอบการ ต้องการให้ภาครัฐสร้างความเป็นธรรมให้แก่ธุรกิจ เพื่อไม่ให้กระทบทั้ง 2 ฝ่าย
ป้ายประกาศแจ้งให้ผู้เช่าทราบ อัตราการจัดเก็บค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าใหม่ ถูกแชร์ในโลกโซเชียล แม้อะพาร์ตเมนต์จะปรับราคาลงให้เป็นไปตามกฎหมาย ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ แต่ถือว่ายังสูง เพราะเลี่ยงไปใช้วิธีแยกค่าส่วนกลางออกไปทำให้อัตราที่เรียกเก็บจากผู้เช่าก็ยังเหมือนเดิม
เศรษฐกิจ
หอพัก,ค่าเช่า,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/271951
สนช.ถกยาว 4 ชม.ลดอาชีพ ส.ว.เหลือ 10 กลุ่ม โยน กกต.ตั้งกฎกันฮั้ว
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.61 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา(ส.ว.) ในวาระ 2 และ 3 ทั้งนี้ ในมาตรา 11 การแบ่งกลุ่มวิชาชีพนั้น นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ ในฐานะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ชี้แจงว่า รัฐธรรมนูญกำหนดในวรรคแรกของมาตรา 107 โดยให้แนวคิดว่า ส.ว.ต้องมีวิชาชีพที่หลากหลาย ดังนั้นการแบ่งกลุ่มจึงต้องมีความหลากหลายในส่วนต่างๆ เพื่อให้มีโอกาสได้รับเลือกเป็น ส.ว.ซึ่งตามทฤษฎีนั้นประเทศเรามีอาชีพ 240 กลุ่ม จึงน่าจะมี 240 กลุ่ม แต่ในทางปฏิบัติทำไม่ได้ เมื่อ กรธ.มีการถามประชาชนก็เห็นพ้องกันว่า ควรจะมี 20 กลุ่ม ทั้งนี้ทุกคนทุกวิชาชีพจะต้องมีโอกาสได้เข้ามาเป็นวุฒิสภา อย่างไรก็ตามร่างเดิมของ กรธ.นั้น กำหนดกลุ่มอาชีพไว้ 20 กลุ่ม โดยใช้หลักการนำเอากลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถ ในแนวทางที่ใกล้เคียงกันมาจับเป็นกลุ่ม,ด้าน นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ สมาชิก สนช.อภิปรายว่า ร่างเดิมที่ กรธ.เสนอมามีสัดส่วนของกลุ่มสตรีอยู่ใน ส.ว.ร้อยละ 14.5 ของสมาชิกทั้งหมด ซึ่งสัดส่วนตรงนี้ถือเป็นการร่างกฎหมายที่ทันสมัยสำหรับสิทธิสตรี แต่กรรมาธิการฯแก้ไขโดยนำกลุ่มสตรีไปรวมไว้กลับกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ ตนรู้สึกตกใจที่มีการเอากลุ่มสตรีมารวมกับกลุ่มอัตลักษณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่บอบบาง ดังนั้นเราต้องเสริมสร้างผู้หญิงในรัฐสภาอย่างเท่าเทียม โดยควรมีสัดส่วนผู้หญิงที่เท่ากับผู้ชาย,ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช.อภิปรายว่า การได้มาซึ่ง ส.ว.ยังมีปัญหา อาจทำให้เกิดการบล็อกโหวตในกลุ่มวิชาชีพได้ เพราะมีการจัดกลุ่มในรูปแบบที่ไม่ถูกต้อง อาจเกิดปัญหาและทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติได้ในอนาคต จึงอยากเสนอให้ประชาชนเป็นผู้เลือกจัดกลุ่มอาชีพด้วยก่อนที่ คสช.จะเป็นผู้เลือก ส.ว.เพื่อให้ได้ ส.ว.ที่เป็นบุคคลที่มาจากผู้แทนของประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนการแบ่งกลุ่มอาชีพนั้นตนเห็นด้วยกับเจตนารมณ์ที่ต้องการได้กลุ่มอาชีพที่หลากหลาย แต่การออกแบบให้มี 20 กลุ่มนั้น ถือว่าไม่ได้สะท้อนถึงความหลากหลายของอาชีพอย่างแท้จริง ทำให้เกิดการบล็อกโหวตได้ง่าย เพราะบางกลุ่มมีประชากรจำนวนหลักร้อย ขณะที่จำนวนผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละกลุ่มก็แตกต่างกัน อาจเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มการเมืองสามารถส่งผู้แทนเข้ามาเป็น ส.ว.จำนวนมากได้ อย่างไรก็ตามการที่ตนเสนอให้เหลือ 10 กลุ่มนั้นไม่ได้ต้องการอยากจะเป็น ส.ว.ตามที่มีคนกล่าวหา ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นการอภิปรายเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง แต่ตนเห็นว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะชี้ชะตาอนาคตของประเทศ หากไม่พิจารณาให้ดีจะทำให้เกิดปัญหาว่า ผู้ที่มาเป็น ส.ส.และ ส.ว.มาจากกลุ่มเดียวกัน,นายสมคิด เลิศไพรฑูรย์ ประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า จำนวนกลุ่มตามร่างเดิมที่ กรธ.ร่างมา 20 กลุ่ม มีผู้สงวนความเห็นไว้ 5 กลุ่มกับ 10 กลุ่ม แต่หลักการของรัฐธรรมนูญคือต้องให้ครอบคลุมทั้งหมด ทุกคนสามารถเข้าทุกกลุ่มได้ แต่ 5 กลุ่มนั้นน้อยเกินไป เพราะกลุ่มน้อยจะทำให้มีการฮั้วง่ายขึ้นหรือไม่ ถ้ามากกลุ่มการฮั้วหรือการบล็อกก็จะยากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้กรรมาธิการฯมองว่า 20 กลุ่มนั้นละเอียดเกินไป จึงเอา 20 กลุ่มเป็นตัวตั้งแล้วพิจารณาใหม่เหลือ 15 กลุ่ม ส่วนกลุ่มสตรีนั้นมีหลายประเทศที่ไม่ได้กำหนดสตรีเป็นกลุ่มเฉพาะ แต่เอาไปรวมกับกลุ่มอื่นซึ่งก็มีสตรีเข้ามาทำงานในสภาฯได้อย่างไม่เป็นปัญหา ดังนั้นสตรีของเรามีความรู้ความสามารถ เชื่อว่า ส.ว.ครั้งนี้สตรีจะเข้าไปนั่งในสภาฯ ได้อย่างไม่เป็นปัญหา ทั้งนี้ไม่ติดใจหากจะลดจำนวนกลุ่มเหลือเพียง 10 กลุ่ม  ,ขณะที่ นายมณเฑียร บุญตัน สมาชิก สนช.อภิปรายว่า แม้การแบ่งกลุ่มเป็น 20 กลุ่มจะดูว่ามีการลักลั่นในเชิงประเด็นและเชิงตัวแทน แต่คนยากจน คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสยังถูกขมวดปมให้อยู่ในจุดเล็กๆ ขณะที่การเลือกไขว้กันนั้นก็ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ด้อยโอกาส สตรี คนพิการ คนที่ทำงานด้านสังคม มีโอกาสน้อยลงไปอีก ดังนั้นการแบ่งเป็น 20 กลุ่ม จึงน่าจะมีความหลากหลายทางอาชีพได้มากที่สุด,นายสมคิด จึงชี้แจงอีกครั้งว่า หลังจากที่ฟังสมาชิกอภิปรายและได้มีการหารือกันนอกรอบแล้วเห็นว่า 20 กลุ่มที่กรธ.เสนอมานั้นคิดว่ามากเกินไป ส่วน 15 กลุ่มที่กรรมาธิการฯ เสนอ และยังมีตัวเลือกอีกคือ 10 กลุ่มและ 5 กลุ่มนั้น  เมื่อหารือกันแล้วเห็นว่า ควรจะมี 10 กลุ่มก็น่าจะพอกับการคำนวณ เพราะจะได้กลุ่มละ 20 คน ขณะที่ 15 กลุ่มนั้นจะมีปัญหา เพราะจะมีกลุ่มละ 13 คน ซึ่งถือว่าไม่ลงตัวและลำบากต่อการคำนวณ ดังนั้น จึงนำ 20 กลุ่มมาแบ่งใหม่เป็น 10 กลุ่มได้แก่ 1.การบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ได้แก่ ผู้เคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 2.กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 3.การศึกษา และการสาธารณสุข ได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานการศึกษา บุคคลากรทางการศึกษา ผู้เป็นหรือเคยเป็นแพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน,นายสมคิด กล่าวต่อว่า 4.อาชีพกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทำนา ทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 5.พนักงาน ลูกจ้าง ซึ่งไม่ใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานรัฐ ผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 6.ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 7.ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม และผู้ประกอบกิจการอื่นๆ ผู้ประกอบธุรกิจ หรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว  มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน 8.สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์ 9. ศิลปวัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา สื่อสารมวลชน ผู้สร้างวรรณกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน และ 10.กลุ่มอื่นๆ ทั้งนี้ กรรมาธิการเสียงข้างมากเห็นว่า การนำ 20 กลุ่มที่กรธ.เสนอมาแบ่งใหม่นั้นถือเป็นสายกลางแล้ว,จากนั้นเวลา 11.30 น. นายพรเพชร ได้แจ้งกับที่ประชุม สนช.ว่า การอภิปรายจากนี้ไปควรที่จะมีการหารือกันเฉพาะผู้ที่แปรญัตติไว้หรือไม่ เพราะเกรงว่าจะพิจารณาให้เสร็จได้ไม่ทันในวันนี้,ในเวลาต่อมา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.จึงลุกขึ้นอภิปรายว่า ไม่มีเหตุผลว่าที่ลดเหลือ 10 กลุ่มนั้นดีกว่า 15 กลุ่มที่เสนอไว้ก่อนหน้าที่อย่างไร ทั้งๆ ที่เสนอมา 15 กลุ่ม แต่เมื่อมีสมาชิกเสนอ 10 กลุ่มกรรมาธิการฯก็เอาด้วย เห็นด้วยทันทีโดยไม่มีเหตุผลเลย การขยายเวลาบังคับใช้กฎหมาย ส.ส. 90 วัน ยังมีเหตุผลดีกว่าด้วยซ้ำ,               ,นายสมคิด จึงชี้แจงอีกครั้งว่า กรรมาธิการฯคิดว่า กรธ.เองก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมต้องแบ่งเป็น 20 กลุ่ม จะดีกว่าหรือไม่อย่างไร เพราะหากถามว่าการแบ่งเป็น 20 กลุ่มตามที่ กรธ.เสนอมานั้นรอบคอบแล้วหรือไม่ก็คงไม่ ไม่เช่นนั้นคงจะไม่มีเสียงวิจารณ์ ขณะที่กรรมาธิการฯ เห็นว่าการแบ่ง 10 กลุ่มน่าจะดีเพราะคำนวณง่าย และการลดเหลือ 10 กลุ่มกรรมาธิการฯก็ไม่ได้ไปตัดสิทธิ์กลุ่มใด ไม่ได้ไปตัดสิทธิ์ใครทั้งสิ้น ยังมีครบทุกกลุ่มอาชีพอยู่ ทั้งนี้การแบ่งกลุ่มนั้นไม่ว่าจะ 10 กลุ่มหรือ 20 กลุ่มก็มีการฮั้วหรือการล็อกได้ไม่มากก็น้อยเหมือนกัน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่จะต้องกำหนดกติกาด้วย,             ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุม สนช.อภิปรายมาตรา 11 นานเกือบ 4 ชั่วโมง ที่ประชุมจึงได้ลงมติเห็นด้วยกับการแก้ไขของกรรมาธิการฯ ที่ให้มีเพียง 10 กลุ่ม ด้วยคะแนนเห็นชอบ 166 ต่อ 35 เสียง และงดออกเสียง 5 เสียง
สนช.ถก ม.11 กฎหมาย ส.ว.เกือบ 4 ชม.หลังมีมติ 166 ลดเหลือ 10 กลุ่มอาชีพนั่ง ส.ว.อ้างคำนวณง่าย โยน กกต.ทำคลอดกติกากันล็อกเก้าอี้
ข่าว,การเมือง
สนช.,ส.ว.,กฎหมาย ส.ว.,ที่มา ส.ว.,กฎหมาย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1187462
อย่าเพิ่งเซ็ง เชลซี ประกาศคว้า ราห์มัน อุดแบ็กซ้าย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 16 ส.ค. ว่า สิงโตน้ำเงินครามเชลซี ประกาศคว้าตัว บาบา ราห์มัน ฟูลแบ็กตัวเก่งจาก เอาส์กบวร์ก ร่วมทีมอย่างเป็นทางการแล้วแต่ยังไม่มีการเปิดเผยค่าตัวแต่อย่างใด,ฟูลแบ็กทีมชาติกานาตกเป็นข่าวย้ายมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์แล้วเพื่อจะเข้ามาเป็นตัวแทนของ เฟลิเป หลุยส์ แบ็กซ้ายแซมบ้าที่เพิ่งย้ายไปเล่นให้กับ แอตเลติโก มาดริด สโมสรเก่าของเขาก่อนหน้านี้,จนกระทั่งล่าสุดทาง เชลซี ก็ออกมายืนยันผ่านทางเว็บไซต์สโมสรว่าพวกเขาได้จัดการคว้าตัวแข้งรายนี้มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการโดยจะเซ็นสัญญายาวจนกระทั่งถึงปี 2020 เลยทีเดียว ส่วนค่าตัวถึงแม้ทางสองสโมสรจะยังไม่เปิดเผยมานั้น แต่เป็นที่เชื่อกันว่าน่าจะตกอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 1,060 ล้านบาท,ผมแฮปปี้มากที่ได้เซ็นสัญญากับเชลซีซึ่งคือหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และผมไม่สามารถรอที่จะร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมและตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับพวกเขารวมไปถึงมิสเตอร์ มูรินโญ ผมตั้งหน้าตั้งตารอโอกาสที่จะได้พบกับแฟนบอลให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ราห์มันเผย,สำหรับ ราห์มัน ใช้เวลา 2 ปีที่ประเทศเยอรมันโดยเล่นให้กับ กอยเธอร์ เฟือธ เมื่อฤดูกาล 2013/14 ก่อนจะย้ายมาเล่นให้กับ เอาก์สบวร์ก เมื่อซัมเมอร์ที่แล้วและสร้างผลงานได้อย่างสม่ำเสมอเป็นส่วนสำคัญพาทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมรั้งอันดับ 5 เมื่อจบซีซั่น
อย่าเพิ่งเซ็งสำหรับสาวกสิงห์บลู หลังทางสโมสรออกมาประกาศยืนยันคว้าตัว บาบา ราห์มัน ฟูลแบ็กจากเอา์สกบวร์ก ร่วมทีมอย่างเป็นทางการแล้ว
null
พรีเมียร์ลีก,เชลซี,บาบา ราห์มัน,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,เอาส์กบวร์ก
https://www.thairath.co.th/content/518721
สุดสลดหยดน้ำตา รวมนักกีฬาดังอำลาโลกตลอดปี 2016
ในปี 2016 มีใครกันบ้างเรามาดูกัน,อันดับ 1 แห่งความสูญเสีย ทีมชาเปโคเอนเซ เสียชีวิตเกือบทั้งทีมจากโศกนาฏกรรมเครื่องบินตก,ในวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็น 1 ในความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการกีฬาโลก เมื่อเครื่องบิน ลาเมีย แอร์ไลนส์ ของประเทศโบลิเวีย ที่ขนทีมชาเปโคเอนเซไปสู้ศึกโกปา ซูดาเมริกานา รอบชิงชนะเลิศ กลับประสบอุบัติเหตุพุ่งโหม่งโลก คร่าชีวิตลูกเรือ รวมทั้งผู้โดยสารถึง 71 จาก 77 ชีวิต ซึ่งรวมถึงนักเตะจากทีมชาเปโคเอนเซถึง 19 คน พร้อมกับสตาฟฟ์โค้ชอีก 5 ชีวิต,อย่างไรก็ตาม 3 จาก 6 ผู้รอดชีวิตคือ นักเตะชาเปโคเอนเซนามว่า แจ็กสัน โฟลแมนน์ (ผู้รักษาประตู), อลัน รุสเซล (แบ็กขวา) และ เนโต้ (กองหลัง) ซึ่งปัจจุบันทั้งสามก็ปลอดภัยแล้วโดยรายแรกต้องตัดขาเพื่อยื้อชีวิต ส่วนรายสอง ล่าสุดเดินได้เล็กน้อยถูกนำตัวส่งกลับบ้าน ขณะที่รายที่สามก็กลับมามีสติอีกครั้ง,และเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการกีฬาในปี 2016 โดย ชาเปโคเอนเซ ต่างได้รับความช่วยเหลือจากทั่วทุกมุมโลก แต่นั่นก็ไม่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดที่พวกเขาเผชิญอย่างแน่นอน,อันดับ 2 มูฮัมหมัด อาลี ปิดตำนานกำปั้นผู้ยิ่งใหญ่ เสียชีวิตในวัย 74 ปี,นักชกเจ้าของฉายา สิงห์จอมโว ต้องอำลาโลกในวัย 74 ปี หลังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยตำนานนักชกรุ่นยักษ์ เฮฟวีเวตชาวอเมริกัน 3 สมัย (1964, 1974 และ 1978) ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคประจำตัวอย่าง พาร์กินสัน มาเป็นเวลายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ หลังจากแขวนนวม กระทั่งวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นวันสุดท้ายที่ มูฮัมหมัด อาลี มีลมหายใจอยู่ในโลกใบนี้,อย่างไรก็ตาม ชื่อของ มูฮัมหมัด อาลี จะไม่มีวันตายตามร่างกายของเขาอย่างแน่นอน โดยเกียรติประวัติ ชื่อเสียงเรียงนามที่ก้องไปทั่ววงการกำปั้น จะอยู่เป็นตำนานเล่าขานไปสู่ทุกยุคทุกสมัย,อันดับ 3 : โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานแข้งดัตช์แมน เจอมะเร็งคร่าชีวิตจากโลกในวัย 68 ปี,ตำนานลูกหนังแห่งชาวดัตช์เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 3 สมัยคนแรกเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของวงการลูกหนังทั่วโลก ต้องเหลือเพียงคำกล่าวขานเอาไว้แก่คนรุ่นหลัง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมาที่ตัวเขาต้องอำลาโลกใบนี้ หลังเจอมะเร็งปอดเล่นงาน คร่าชีวิตเขาในวัย 68 ปี,โยฮัน ครัฟฟ์ ถูกยกให้เป็นโคตรลูกหนังคนหนึ่ง โดยก่อนที่ บาร์เซโลนา จะสร้างชื่อระบบ ติกิตะกะ เขาคนนี้แหละที่ทำให้ โททัล ฟุตบอล กลายเป็นที่จดจำของโลก ทั้งกับอาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม และกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาแจ็กซ์ ที่เขาพาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปียน คัพ ถึงสามสมัยเลยทีเดียว,อันดับ 4 : เดอะ คิง พาลเมอร์ ราชาก้านเหล็ก ปิดตำนานวงสวิงในวัย 87 ปี,นักกอล์ฟผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับสมญานามว่า เดอะ คิง ต้องจากโลกไป เหลือเอาไว้แต่ความทรงจำเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยวัย 87 ปี หลังเจอกับโรคหัวใจเล่นงาน,เดอะ คิง ผู้ถูกยกให้เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นคนแรกที่ทำเงินจากกีฬาชนิดนี้ 1 ล้านดอลลาร์ หรือจะเป็นการคว้าแชมป์เมเจอร์ 7 รายการ ซึ่งในยุค 1960 ไม่มีใครไม่รู้จักชายคนนี้หลังถูกสดุดีให้เป็นชายที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักกีฬากอล์ฟอย่างกว้างขวาง ทั้งบุคลิกในและนอกสนาม ที่ต่างทำให้แฟนคลับหลงใหลอย่างมากมายทั่วทุกแห่งของโลก,อันดับ 5 : คาร์ลอส อัลแบร์โต กัปตันแซมบ้าชุดแชมป์โลก เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจในวัย 72 ปี,ในยุค 1970 ไม่มีใครไม่รู้จักอดีตแบ็กขวาระดับตำนานของทีมชาติบราซิลคนนี้ ที่เคยถูกยกให้เป็นแบ็กขวาอันดับ 1 ของโลก และเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ร่างกายของเขาต้องจำใจจากโลกใบนี้ไปด้วยวัย 72 ปี จากปัญหาโรคหัวใจ ,อย่างไรก็ตาม ร่างกายจากไปแต่ชื่อเสียงของเขาจะถูกจารึกไว้ตลอดไป โดยกัปตันทีมชาติบราซิลรายนี้ เป็นผู้ยิงประตูสุดสวยพาชาติของเขาดับอิตาลี 4-1 พร้อมกับผงาดคว้าแชมป์โลกในปี 1970 ที่ประเทศเม็กซิโก และถูกบันทึกว่าเป็นชาวบราซิลคนสุดท้ายที่ได้ชูถ้วย จูลส์ ริเมต์ ด้วย,อันดับ 6 : หลุยส์ ซาลอม นักบิดโมโตจีพี รถชนกำแพงดับในวัยแค่ 24 ปี,เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นวันแห่งความสูญเสียดาวรุ่งพุ่งแรงจากวงการความเร็ว หลุยส์ ซาลอม เจ้าหนูวัย 24 ต้องจากโลกไปอย่างรวดเร็ว หลังประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์คู่ใจเสียหลักไปชนกำแพง สร้างความเศร้าสลดต่อทุกคนทั่วโลกเป็นอย่างมาก,นักบิดชาวสแปนิชกำลังโลดแล่นอยู่ในวงการสองล้อโมโตจีพี โดยมีสถิติที่น่าประทับใจนับตั้งแต่เริ่มเส้นทางอาชีพเมื่อปี 2009 โดยเขาคว้าแชมป์มาทั้งหมด 9 รายการ ฉลองยืนตรงโพเดียมถึง 25 ครั้ง แต่วันที่เกิดเหตุเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง รถที่เขาบิดดันหลุดโค้งไปชนกำแพงอย่างจัง ถึงแม้ว่าทีมงานจะพยายามช่วยส่งโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัด แต่สุดท้ายก็สายเกินไปเสียแล้ว,อันดับ 7 : ปิดตำนานราชินีมวยปล้ำ ไชน่า เสียชีวิตในวัย 46 ปี,นับเป็นข่าวช็อกวงการมวยปล้ำ WWE อย่างแท้จริง เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังโจนนี มารี ลอว์เลอร์ หรือที่รู้จักกันในวงการว่า ไชนา เจ้าแม่มวยปล้ำ ต้องมาเสียชีวิตลงในวัย 45 ปี ที่อพาร์ตเมนต์ของตัวเอง แต่สาเหตุการตายมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เป็นไปได้ว่าอาจเป็นการที่เธอเล่นยาเกินขนาด,เจ้าแม่แห่งวงการมวยปล้ำรายนี้ถูกยกให้เป็นคนที่บุกเบิกนักมวยปล้ำหญิงให้เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก โดยเขาเริ่มเป็นที่รู้จักกับบทบาทบอดี้การ์ดของ ทริปเปิล เอช ก่อนจะคว้าแชมป์โลกหญิง WWF และที่ถูกยกย่องสุดคงหนีไม่พ้นแชมป์ Intercontinental Champion ของฝั่งชาย ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังมีแค่เธอคนเดียวที่ทำได้ นับเป็นเกียรติประวัติที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง,อันดับ 8 : วิล สมิธ ยอดเกมรับอเมริกันฟุตบอล โดนยิงดับในวัย 34 ปี,เป็นอีกหนึ่งข่าวช็อกของวงการกีฬาโลก เมื่อยอดดีเฟนซีฟ เอนด์ เกมรับ ดีกรีแชมป์ซุปเปอร์โบวล์ 2010 ของนิวออร์ลีน เซนต์ส ต้องมาเสียชีวิตลงในวัย 34 ปีเท่านั้น หลังถูกยิงดับ เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา,วิล สมิธ ถูก นิวออร์ลีน เซนต์ส ดราฟรอบแรกเมื่อปี 2004 ก่อนจะแจ้งเกิดเป็นตัวหลักให้กับทีมจนมีส่วนสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ซุปเปอร์โบว์ลมาครองได้เป็นครั้งแรก แต่ถึงกระนั้นตัวเขาต้องจากโลกไปก่อนวัยอันควร หลังไปมีปากเสียงกับคู่กรณีที่ขับรถชน จนถูกยิงเสียชีวิตคารถอย่างอนาถ สร้างความสลดใจต่อครอบครัวที่ต้องสูญเสียเสาหลักไปอย่างมาก,อันดับ 9 : โฆเซ เฟร์นันเดซ พิตเชอร์คนดัง เรือคว่ำสิ้นลมอายุแค่ 24 ปี,ในปีนี้ต่างมีนักกีฬาอายุน้อยต้องจากโลกไปก่อนวัยอันควร ซึ่ง โฆเซ เฟร์นันเดซ พิตเชอร์คนดังของไมอามี มาร์ลินส์ ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่จำใจจากโลกไปด้วยวัยเพียงแค่ 24 ปี จากอุบัติเหตุเรือพลิกคว่ำที่ท่าเรือไมอามี เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งคาดกันว่าอาจจะไปชนกับก้อนหิน และเหตุการณ์นั้นทำให้เพื่อนเขาอีกสองรายต้องจบชีวิตลงด้วยเช่นกัน,โฆเซ เฟร์นันเดซ กำลังไปได้สวยกับวงการเมเจอร์ลีก เบสบอล (MLB) หลังคว้ารางวัลรุกกี้ ออฟเดอะเยียร์ เมื่อปี 2013 พร้อมกับติดออลสตาร์ถึง 2 ครั้ง,อันดับ 10 : ไบรซ์ เดชอน-โจนส์ รุกกี้เอ็นบีเอ ลงเล่นแค่ปีเดียวโดนยิงตาย,เจ้าหนูยัดห่วงวัย 23 ปี เพิ่งเจิดจรัสในวงการเอ็นบีเอแค่ปีเดียว แต่กลับโชคร้ายต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังถูกฆ่าในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง โดยเป็นที่คาดว่าวันที่เกิดเหตุ การ์ดรุกกี้รายนี้กำลังเมา แล้วไปโหวกเหวกโวยวายจนโดนเจ้าของบ้านหยิบปืนมายิงที่ท้องจนเสียชีวิตอย่างอนาถ,สำหรับ ไบรซ์ เดชอน-โจนส์ เพิ่งจะได้รับบทบาทเป็นตัวจริงในตำแหน่งชู้ตติงการ์ดให้กับ นิวออร์ลีนส์ เพลิแคนส์ โดยเขามีผลงานในเอ็นบีเอปีแรกเฉลี่ย 5.6 แต้ม 3.4 รีบาวน์ และ 1.1 แอสซิสต์,ทั้งหมดนี้คือนักกีฬาจากหลากหลายวงการที่ต้องจากโลกใบนี้ตลอดปี 2016 อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ร่างกายจะจากเราไป แต่ความทรงจำที่เขาฝากไว้จะหลงเหลือไปสู่ทุกยุคทุกสมัยแน่นอน
เข็มเวลาดำเนินต่อไปไม่หยุด ศักราช 2016 กำลังจะเปลี่ยนหน้าเป็น 2017 วงการกีฬาตลอดปีที่ผ่านมาต่างมีเรื่องราวที่พูดกล่าวขานกันไม่เว้นแต่ละวัน โดย ไทยรัฐออนไลน์ จะมารวบรวมเรื่องราวที่น่าสลดใจของวงการกีฬา กับนักกีฬาที่เสียชีวิต
null
นักกีฬาเสียชีวิต,ชาเปโคเอนเซ,มูฮัมหมัด อาลี,โยฮัน ครัฟฟ์,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/819214
พิชัย แนะ รบ. เปลี่ยนกรอบคิดทางการคลัง
วันที่ 7 พ.ย. นายพิชัย นริพทะพันธ์ุ อดีต รมว.พลังงาน คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ออกมาให้ความมั่นใจว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะโตเกิน 4% โดยถึงกับกล้าท้า สภาพัฒน์ นั้น ต้องขอให้กำลังใจและอยากให้ทำให้ได้ แต่หากกรอบคิดทางการคลังของ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ในปัจจุบันยังเป็นอย่างนี้ ต้องบอกว่าโอกาสแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะตั้งแต่ รมว.คลัง เข้ามาทำงานได้ส่งสัญญาณที่สับสนให้กับประชาชนมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งก็บอกว่า นโยบายเศรษฐกิจที่ออกมาเห็นแล้วจะร้องว้าว แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร,ต่อมามีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รมว.คลัง ออกมายืนยันว่าเศรษฐกิจจะโตทะลุ 2% แน่ แต่พอไม่นานออกมาบอกว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะเงินฝืด (Stagnation) และอาจจะโตไม่ถึง 1.5% ซึ่งสร้างความสับสนให้กับประชาชนและนักธุรกิจเป็นอย่างมาก และหลังสุดออกมาบอกว่าจะต้องใช้หนี้การจำนำข้าวถึง 30 ปี ยิ่งแสดงให้เห็นชัดว่า รมว.คลังไม่ได้มีแนวคิดทางการคลังเลย เพราะหนี้ดังกล่าวเมื่อเทียบกับรายได้ประชาชาติที่จะต้องเพิ่มขึ้นในอนาคตจะมีสัดส่วนที่น้อยมาก นอกจากว่าท่าน รมว. คลังจะไม่มีวิธีคิดที่จะขยายการเจริญเติบโตของรายได้ประชาชาติเหมือนรัฐบาลในอดีตได้ และอยากให้ท่านไปอ่านหนังสือของนายลีกวนยิว รัฐบุรุษสิงคโปร์ ที่บอกชัดเจนว่าการเพิ่มรายได้ของคนระดับล่างของไทยแบบที่เคยทำมาจะทำให้มีการบริโภคเพิ่มและจะทำให้ประเทศไทยเจริญ
พิชัย อดีตรมว.พลังงาน แนะรัฐบาล เปลี่ยนกรอบคิดทางการคลัง ชี้สมหมายทำงานส่งสัญญาณสับสน- นโยบาย ศก.ไม่กระตุ้น
null
พิชัย นริพทะพันธ์ุ,อดีต รมว.พลังงาน,พรรคเพื่อไทย,เศรษฐกิจ,ปรีดิยาธร เทวกุล,สมหมาย ภาษี,รมว.คลัง,รัฐบาล
https://www.thairath.co.th/content/461967
นักข่าวยังโดน ซื้อของออนไลน์ ถูกจริงๆ ถูกหลอก เตือนเป็นอุทาหรณ์
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 ม.ค. 60 ร.ต.อ.ประเชิญ พุ่มเพชร รอง สว.สส. สภ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งความ กรณีนายสมพงษ์ พงศ์สุทธิยากร อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/7 หมู่ 1 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นผู้นิยมพระเครื่อง ได้นำหลักฐานการสนทนา การโอนเงินจากธนาคารทหารไทยที่ตู้ ATM ในอำเภอคลองลาน และรูปบัตรประชาชน ที่ถูกผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ นายวรเมธ เสวกวงษ์ อายุ 35 ปี เป็นสมาชิกของชมรมพระเครื่องจังหวัดนครสวรรค์ มีรหัสประจำตัวคือ NSN0334 หลอกขายกรอบพระทองคำใส่เหรียญพระเครื่องหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยใช้เฟชบุ๊ก ชื่อ Nam Woramet ลงประมูลขาย กรอบพระใส่เหรียญพระเครื่องหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ในกลุ่มพระเครื่อง ชื่อกลุ่ม หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มกว่า 1 แสนคน,ทั้งนี้ ข้อความในการเปิดประมูลมีว่า เปิดประมูล กรอบทองแท้ 75% ใส่เหรียญหน้าแก่หลวงปู่สี อายุยืนเต็มองค์ ครึ่งองค์ เหรียญมหาลาภ และพระเครื่องที่มีขนาดใกล้เคียง (ขนาดกว้าง 2.6X3.4 ซม. น้ำหนัก 3.30 กรัม) ซึ่งนายวรเมธ เสวกวงษ์ ผู้ขาย ได้โพสต์บัตรประชาชนโดยมีกรอบพระทองคำวางทับเพื่อยืนยันและให้โอนเงินจำนวน 2,700 บาท ต่อ 1 ชิ้น เข้าบัญชีเลขที่ 407-644029-0 ระบุชื่อ นายวรเมธ เสวกวงษ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ 5200 สาขาคริสตัลดีไซน์ เซนเตอร์ ชั้น 1 เลขที่ 1448/3 ซอยลาดพร้าว 87 (จันทราสุข) แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร,เมื่อนายสมพงษ์ โอนเงินจำนวน 2,700 บาท ผ่านตู้ ATM เมื่อวันที่ 17 ม.ค.60 ผู้เสียหายติดต่อกลับไปอีกครั้ง แต่ถูกบล็อกทั้งเฟซบุ๊ก และปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ ผู้เสียหายจึงไปโพสต์สอบถามผู้เสียหายรายอื่นๆ ในกลุ่มพระเครื่อง กลุ่มหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค จังหวัดนครสวรรค์ จึงทราบว่ามีผู้ถูกหลอกขายกรอบพระเครื่องทองคำเหมือนกันหลายสิบราย ซึ่งแต่ละรายพากันไปแจ้งความในพื้นที่ จึงฝากเตือนผู้จะซื้อของออนไลน์ให้ระมัดระวังด้วย หรือถ้าเป็นไปได้อยากให้ซื้อแบบเก็บเงินปลายทาง หรือมีแอดมินในกลุ่มเป็นคนกลางซื้อขายโดยทั้งคนซื้อและคนขาย ส่งสิ่งของไปที่จุดเดียวก่อนให้แอดมินส่งกลับไปให้ทั้งผู้ซื้อและขาย เพื่อไม่ให้ถูกหลอกเหมือนกับตน เพราะเห็นเป็นของถูก,ร้านขายทองจะขายอยู่ที่ 4,700 บาท ราคาถูกกว่ากันถึง 2,000 บาท ต่อหนึ่งกรอบ ถูกจริงๆ แต่ถูกหลอก และฝากบอกถึงคนอื่นๆ ว่า อย่าไปหลงเชื่อสั่งซื้อสินค้าทางเฟซบุ๊กเด็ดขาด เพราะของถูกไม่มีในโลก อาจถูกหลอกเหมือนกับผม นายสมพงษ์ กล่าว,หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวน จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามตัวหนุ่มมหาภัยมิจฉาชีพที่หากินทางเฟซบุ๊กรายนี้ มาดำเนินคดีข้อหาอฉ้อโกง หลอกลวงได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม,ขณะที่ แอดมินกลุ่มหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค จังหวัดนครสวรรค์ ชื่อกานต์ เชียงเห็น ได้ลงเตือนในกลุ่มพระเครื่องหลายๆ กลุ่ม ว่าห้ามซื้อขายกับ นายวรเมธ เสวกวงษ์ บุคคลคนนี้ ลงประมูลกรอบทองแล้วไม่ส่งของให้ลูกค้า มีสมาชิกโดนกันไปหลายราย. 
นักข่าวเมืองกล้วยไข่ อยากได้กรอบพระทองคำหลวงปู่สี มีผู้ประมูลขายทางออนไลน์ราคาถูกไม่น่าเชื่อ สุดท้ายถูกหลอก แจ้งความและฝากเป็นอุทาหรณ์ อย่าไปหลงเชื่อสั่งซื้อสินค้าทางเฟซบุ๊ก โดยไม่มีคนกลางหรือแอดมิน เพราะของถูกไม่มีในโลก
ข่าว,ทั่วไทย
หลอกขายกรอบพระ,นักข่าวถูกหลอก,ขายของออนไลน์,ของถูกไม่มีในโลก,สมพงษ์ พงศ์สุทธิยากร
https://www.thairath.co.th/news/local/839325
หนุ่ม-สาวชาวจีน หลงเสน่ห์เมืองปาย บินมาถ่ายพรีเวดดิ้งเพื่อใช้ในงานแต่ง
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 60 นายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้มีชาวจีนจากมณฑลฉางชุน เดินทางมาถ่ายทำภาพพรีเวดดิ้ง ที่บริเวณร้านกาแฟคอฟฟี่อินเลิฟ สำหรับนำไปใช้ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวชื่อนายฉางไคว้ อายุ 27 ปี เจ้าสาวชื่อ น.ส.เฉียนเจียน อายุ 25 ปี ทั้งสองเป็นชาวเมืองเชียนขว่าง มณฑลฉางชุน ประเทศจีน ซึ่งการขอแต่งงานในครั้งนี้ น.ส.เฉียนเจียน เจ้าสาวเผยว่า มีข้อตกลงกันหากต้องการแต่งงานกับตน นายฉางไคว้ เจ้าบ่าว ต้องพาตนเองมาถ่ายภาพ พรีเวดดิ้งที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เท่านั้น น.ส.เฉียนเจียน จึงจะตกลงยินยอมแต่งงานด้วย ทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวจึงต้องพาว่าที่เจ้าสาวมาถ่ายภาพที่เมืองปายตามข้อตกลง สำหรับหนุ่มสาวคู่นี้ คบหาดูใจกันมา 3 ปี โดยทั้งคู่มีกำหนดจะจัดงานแต่งงานภายในเดือนสิงหาคม 2560 นี้,สำหรับเมืองปาย เป็นเมืองเล็กๆ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นเมืองสงบเงียบ เป็นเมืองที่ศิลปินทั้งไทยและเทศมักจะมาแฝงตัวเอง วาดรูป แต่งเพลง เมืองปายเป็นเมืองที่ฝรั่งแบกเป้เที่ยวจะต้องมาถึงเมื่อมาที่ประเทศไทย เดิมเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีแต่ฝรั่งต่างชาติ แต่มาในห้วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ พากันหลั่งไหลมาเที่ยวในเมืองปายเป็นจำนวนมากกว่าชาติอื่น และเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากมีนักธุรกิจชาวจีนมาลงทุนเข้าหุ้นกับผู้ประกอบการชาวไทยทำธุรกิจในเมืองปาย ซึ่งคาดว่าอนาคตการท่องเที่ยวของเมืองปายทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นเรื่อยๆ.
หลงมนต์เสน่ห์เมืองปาย!! หนุ่ม-สาว ชาวจีน จากมณฑลฉางชุน บินมาถ่ายทำภาพพรีเวดดิ้ง ถึงร้านกาแฟดังในเมืองปาย เพื่อนำไปใช้เป็น VTR ในวันแต่งงาน เหตุเจ้าสาวหลงรักและอยากได้โลเคชั่นจากเมืองปาย
ข่าว,ทั่วไทย
เมืองปาย,พรีเวดดิ้งเมืองปาย,ร้านกาแฟคอฟฟี่อินเลิฟปาย,ธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์,แม่ฮ่องสอน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1040024
ค้านทำประชามติตัดสิน โรงไฟฟ้ากระบี่
วันนี้ (24ก.พ.2560) จากกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือก ตั้ง หรือ กกต. ออกมาแสดงความเห็นควรทำประชามติเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ซึ่งเรื่องนี้ยังมีความเห็นต่าง นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ นักวิชาการที่เคลื่อนไหวคัด ค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา ให้ความเห็นว่าทางออกของปัญหาโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ไม่ใช่การทำประชามติ เพราะการจะทำประชามติ ต้องมีการให้ข้อมูลครบถ้วนทั้งด้านดี และไม่ดี ที่สำคัญจะทำประชามติอย่างไรจึงจะได้เสียงที่ชัดเจนและถูกต้องโดยเฉพาะคนกลุ่มใดเป็นผู้ออกเสียง ระหว่างคนใน จ.กระบี่ คนในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน หรือประชาชนทั้งประเทศเพราะโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เป็นเรื่องของประเทศปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และการผลักดันโครงการที่ใช้วิธีการไม่โปร่งใสนั้น ไม่เป็นไปตามหลักสากลทั้งนี้ แม้ว่า นายสมชัยจะออกมาชี้แจงการให้ความเห็นดังกล่าวว่า เป็นการถามนำของผู้สื่อข่าว แต่มองว่า ความเห็นดังกล่าวไม่ควรออกมาจาก กกต. ซึ่งเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง
ตัวแทนกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้า เมินทำประชามติแก้ปมขัดแย้ง การก่อสร้างไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ตามความเห็นของ กกต. ชี้หลายประเด็นที่ไม่สามารถใช้วิธีการนี้ได้
ภูมิภาค
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,โรงไฟฟ้าถ่านหิน,กระบี่,ประชามติ
https://news.thaipbs.or.th/content/260441
พณ. ลุยสร้างอาชีพคนจน 11.4 ล้านราย ดึงแฟรนไชส์ พี่เลี้ยงธุรกิจ
เบื้องต้นคาดช่วยเหลือได้ 2 หมื่นราย กระตุ้นเศรษฐกิจได้ 2 พันล้านบาท

,นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่โครงการสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาลประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งยกระดับผู้มีรายได้น้อยที่ได้ลงทะเบียนกับภาครัฐไว้ 11.4 ล้านคน ให้สามารถดำรงชีพได้อย่างมั่นคงถาวร ผ่านโครงการสร้างงานสร้างอาชีพของกระทรวงพาณิชย์ ตนจึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมมือกับผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมฯ ทำโครงการ แฟรนไชส์สร้างอาชีพเพื่อผู้มีรายได้น้อย เพราะธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นธุรกิจที่ง่ายต่อการเริ่มต้นธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ มีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนด้วยตนเอง ที่สำคัญ มีเจ้าของแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซอร์) ช่วยคิดวางแผนธุรกิจและการเงินให้โดยไม่จำเป็นต้องลองผิดลองถูกเอง จึงทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์มีอัตราความเสี่ยงทางธุรกิจต่ำ,สำหรับแนวทางการดำเนินการนั้น กรมฯ จะคัดเลือกแฟรนไชส์ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพเข้าร่วมโครงการฯ โดยจะเป็นแฟรนไชส์ที่มีขนาดไม่ใหญ่ ผ่านการพัฒนาจากกรมฯ และเป็นธุรกิจง่ายๆ ที่ผู้มีรายได้น้อยสามารถใช้ประกอบเป็นอาชีพได้ทันที เช่น ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวประเภทต่างๆ ลูกชิ้นทอด ข้าวเหนียวหมูปิ้ง กาแฟโบราณ ฯลฯ โดยแฟรนไชส์เหล่านี้จะเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้มีรายได้น้อยตลอดระยะเวลาที่ประกอบธุรกิจ รวมถึงให้ความรู้ความเข้าใจในกระบวนการบริหารธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและเลี่ยงความล้มเหลวในการประกอบธุรกิจได้,เบื้องต้น กรมฯ จะร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เชิญชวนผู้มีรายได้น้อยในแต่ละพื้นที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงด้านอาชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อย นอกจากนี้ ยังร่วมกับธนาคารรัฐในการให้สินเชื่อพิเศษเพื่อเป็นทุนสำหรับการประกอบอาชีพด้วย โดยในเฟสแรก คาดว่า ธนาคารจะสามารถให้สินเชื่อส่วนบุคคลรายย่อยแก่ผู้มีรายได้น้อยที่เข้าร่วมโครงการฯ และยืนยันว่า ผู้มีรายได้น้อยจะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ไม่ยาก เพราะรัฐบาลต้องการขับเคลื่อนให้ผู้มีรายได้น้อยมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพอยู่แล้ว คาดว่าโครงการนี้ จะสร้างอาชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อยเกือบ 20,000 ราย และกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าได้ราว 2,000 ล้านบาท
พาณิชย์ รับลูก บิ๊กตู่ เดินหน้าสร้างอาชีพคนจน ที่ลงทะเบียนกับรัฐ 11.4 ล้านราย หวังยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นในระยะยาว หันขอความร่วมมือผู้ประกอบการแฟรนไชส์ เป็นพี่เลี้ยงทำธุรกิจ ลดความเสี่ยง เลี่ยงความล้มเหลว
ข่าว,เศรษฐกิจ
สร้างอาชีพ,ลงทะเบียนคนจน,พาณิชย์,แฟรนไชส์,ผู้มีรายได้น้อย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1121547
ผู้นำคิมอ่อยทรัมป์-2 โสมนัดซัมมิตรอบใหม่
เมื่อ 6 ก.ย. นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เผยกับเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ที่เข้าพบในกรุงเปียงยาง เตรียมจัดการประชุมสุดยอดระดับผู้นำเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ช่วงปลายเดือน ก.ย. ว่า เขายังศรัทธาในตัวประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯไม่เปลี่ยน ต้องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีให้ได้ภายในช่วงการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยแรกของนายทรัมป์ ซึ่งนายคิมเคยประชุมซัมมิตกันครั้งประวัติศาสตร์ที่สิงคโปร์เมื่อเดือน มิ.ย. และย้ำไม่เคยพูดเชิงลบเกี่ยวกับทรัมป์ ผู้นำเกาหลีเหนือยังประกาศเจตนารมณ์เพื่อทำงานบรรลุสันติภาพถาวรกับเกาหลีใต้,การประชุมซัมมิตผู้นำเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ตามแผนดังกล่าว จะนับเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 1 ทศวรรษ ที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้ไปเยือนกรุงเปียงยาง ประธานาธิบดี มุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ จะไปเยือนเกาหลีเหนือช่วง 18-20 ก.ย. เพื่อหารือมาตรการที่ดำเนินการได้จริงและการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังนายมุนและนายคิมประชุมซัมมิตกันครั้งแรกที่เขตปลอดทหารหมู่บ้านปันมุนจอมเมื่อเดือน เม.ย. การประชุมซึ่งจะนับเป็นการหารือซัมมิตครั้งที่ 3 ของผู้นำเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ อาจนำมาซึ่งโอกาสรอบใหม่เพื่อจัดหารือปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ หลังทรัมป์สั่งระงับการเดินทางเยือนเกาหลีเหนือเมื่อเดือนที่แล้วของนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่าง–ประเทศสหรัฐฯ เพราะไม่มีอะไรคืบหน้าจากการเจรจาในหลายรอบที่ผ่านมา ต่อมาทรัมป์ทวีตข้อความชื่นชมนายคิมที่เชื่อมั่นและว่าเราจะทำให้สำเร็จด้วยกัน.
ผู้นำเกาหลีเหนือและใต้เตรัยมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างกันอีกครั้งปลายเดือนก.ย.นี้ ขณะที่คิม จอง-อึน ยืนยันยังศรัทธาในตัวโดนัลด์ ทรัมป์
ข่าว,ต่างประเทศ
เกาหลีเหนือ,เกาหลีใต้,คิม จอง อึน,โดนัลด์ ทรัมป์,ประชุมสุดยอด
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1370833