title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
---|---|---|---|---|---|
ร้านอาหารเกาะล้าน หลังคาถล่ม บาดเจ็บ 2 เผยเจ้าของเป็นคนจีน | หลังคาร้านอาหารของคนจีน ริมหาดตาแหวน เกาะล้าน พังถล่ม บาดเจ็บ2 ราย แม่ค้าเล่านาทีระทึก เห็นโครงสร้างหลังคาง่อนแง่นมาหลายวัน ก่อนที่เหล็กจะร่วงแล้วหลังคาก็พัง ยังดีเป็นช่วงบ่าย คนที่มาเที่ยวกลับไปฝั่งพัทยาเกือบหมดแล้ว ,เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 ส.ค. มีรายงานเหตุหลังคาร้านอาหารบนเกาะล้าน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ห่างชายฝั่งเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พังถล่มลงมา มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ,ต่อมา จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบเป็นร้านอาหารชื่อ ฟู่หลง เจ้าของเป็นชาวจีนเช่าสถานที่จากคนไทย สร้างเป็นอาคารรองรับนักท่องเที่ยว โครงเหล็กและหลังคากระเบื้องสีฟ้าด้านหน้าตรงกลางติดชายหาดตาแหวน ยุบตัวถล่มลงมาทับโต๊ะกินข้าวสำหรับลูกค้าและอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆได้รับความเสียหายจำนวนมาก เบื้องต้นมีนักท่องเที่ยวเป็นชายชาวจีนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย แม่ค้า 1ราย,สอบถามนางแดง ชื่นอารมย์ แม่ค้าชาวไทย ที่วางขายสินค้าที่ระลึกอยู่ติดกับอาคารร้านอาหารเกิดเหตุ และได้รับบาดเจ็บด้วย บอกว่า สังเกตเห็นความไม่ปกติของโครงสร้างหลังคาเหล็กร้านอาหารมาก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว จนกระทั่งวันนี้เห็นเหล็กด้านบนร่วงลงมา ก่อนที่หลังคาจะยุบตัวพังตามมาติดๆ แต่ยังโชคดีที่ตอนเกิดเหตุ เป็นช่วงหลังบ่ายโมง นักท่องเที่ยวส่วนมากลงเรือกลับพัทยาไปแล้ว แต่ก็มีนักท่องเทียวชาวจีนโดนเหล็กตกเฉี่ยวใบหูได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่วนตนบาดเจ็บเล็กน้อย,ด้านพ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความเก่าของโครงเหล็กที่ใช้งานมาหลายปีจนขึ้นสนิมจึง ทำให้ถล่มลงมา อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุต่อไป. | หลังคาร้านอาหารของคนจีน ริมหาดตาแหวน เกาะล้าน พังถล่ม บาดเจ็บ2ราย แม่ค้าเล่านาทีระทึก เห็นโครงสร้างหลังคาง่อนแง่นมาหลายวัน ก่อนที่เหล็กจะร่วงแล้วหลังคาก็พัง ยังดีเป็นช่วงบ่าย คนที่มาเที่ยวกลับไปฝั่งพัทยาเกือบหมดแล้ว | null | หลังคาพัง,หลังคาถล่ม,ร้านอาหารเกาะล้าน,ร้านคนจีน,เกาะล้าน,พัทยา,ชลบุรี,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/700539 |
ควันเหนือลดลง แต่ต้องเฝ้าระวัง | ได้รับบาดเจ็บ คพ.เผยพื้นที่สีแดงน้อยลง ขณะที่พายุฤดูร้อนถล่มหลายจังหวัด บ้านเรือนได้รับความเสียหาย,สถานการณ์หมอกควันทางภาคเหนือเริ่มลดลง แล้ว เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นายคมสัน สุวรรณอำพา รอง ผวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่ร่วมปฏิบัติภารกิจด้านจิตวิทยามวลชน และเข้าไปควบคุมการเผาในพื้นที่เสี่ยง 91 ตำบล ใน 24 อำเภอ ใช้วิธีเข้าไปฝังตัวอยู่กินกับชาวบ้านเฝ้าระวังการเกิดไฟป่า ตรวจสอบจากดาวเทียมจุดฮอตสปอตพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ลดลงเหลือเพียง 44 จุด ได้แก่ อ.พร้าว 7 จุด อ.เวียงแหง 6 จุด อ.อมก๋อย 6 จุด อ.แม่แตง 5 จุด อ.กัลยาณิวัฒนา 5 จุด อ.แม่ริม 4 จุด อ.เชียงดาว 3 จุด อ.จอมทอง 3 จุด อ.แม่แจ่ม 2 จุด อ.ไชยปราการ 1 จุด และ อ.แม่ออน 1 จุด นอกจากนั้นทาง จ.เชียงใหม่ เปิดห้องเซฟตี้โซนหรือที่พักผ่อนปลอดมลพิษ ให้ประชาชน 297 แห่ง ทั้ง 25 อำเภอ ใช้รถบรรทุกน้ำ 81 คัน ฉีดพ่นน้ำใน 23 เส้นทางหลัก และจับกุมรถควันดำไปแล้ว 123 คัน และแจกหน้ากากอนามัยไปแล้วจำนวน 1,979,691 ชิ้น,ด้าน พล.ต.สืบสกุล บัวระวงศ์ ผบ.มทบ.ที่ 33 ค่ายกาวิละ อ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จัดกำลังเข้าไปในพื้นที่ 92 ชุด 500 นาย ปฏิบัติการในเฉพาะพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทหารที่เข้าไปอยู่ในป่าต้องต่อสู้กับพวกที่ลักลอบเข้ามาเผาป่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นมาจากชาวบ้านลักลอบเผาถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ผลการปฏิบัติงานเป็นที่น่าพอใจ จุดฮอตสปอตลดลง จุดที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุดอยู่ที่ อ.พร้าว อ.สะเมิง อ.แม่แจ่ม และ อ.กัลยาณิวัฒนา จะนำกำลังทหารเข้าไปนอนเฝ้าระวังในป่า จนกว่าหมอกควันจะคลี่คลายลง,นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 6 เม.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ศล.1 (แม่แพง-ม่อนหินไหล) ฝ่ายปกครอง ต.แม่ปั๋ง ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ทหาร และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า (บ้านหลวง) ออกตรวจสอบจุดความร้อนในพื้นที่ป่า ต.แม่ปั๋งและ ต. โหล่งขอด อ.พร้าว พบชาย 2 คนตัดไม้ในป่า เจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดและขอตรวจค้น แต่ขัดขืนหยิบปืนแก๊ปยิงใส่เจ้าหน้าที่จนเกิดการปะทะกัน ชาย 2 คนถูกยิงได้รับบาดเจ็บทราบชื่อว่านายยอซะพะ จะลา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 หมู่ 4 ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ถูกยิงที่ขาซ้าย 1 นัด และนายคำ อายุ 26 ปี แขนซ้ายหัก ทั้งคู่เป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ พร้อมยึดปืนแก๊ป 1 กระบอก มีด 3 เล่ม ไฟแช็ก 1 อัน และรถ จยย.1 คัน สารภาพเดินมาหาของป่าและล่าสัตว์ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลพร้าว พร้อมแจ้งข้อหาบุกรุกพื้นที่เผาป่า และพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตห้ามเก็บของป่า เข้าไปในพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขณะที่กลุ่มจิตอาสาวิจัยและพัฒนาพลังงานเพื่อการจัดการภัยพิบัติ จ.ขอนแก่น นำเครื่องฟอกอากาศแบบเคลื่อนที่ สำหรับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 หรือที่เรียกว่า (JET VENTURI SCRUBBER ERIG 02) ประดิษฐ์โดยฝีมือคนไทย เดินทางจาก จ.ขอนแก่น มาถึงศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ เป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ด้านนายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้า ปภ.จ.เชียงใหม่ สั่งให้ทีมงานนำเครื่องฟอกอากาศไปติดตั้งช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่ข่วงประตู่ท่าแพ เพื่อช่วยลดปริมาณหมอกควัน,พล.ต.สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผบ.มทบ.37 ในฐานะ ผบ.กกล.รส.จ.เชียงราย แถลงผลการปฏิบัติการป้องกันและดับไฟป่าที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย ว่า จัดกำลังพล 36 ชุด ออกไปสนับสนุนหน่วยงานต่างๆที่อยู่ประจำเพื่อป้องกันและดับไฟป่าทั้ง 18 อำเภอ พร้อมประสานขอเฮลิคอปเตอร์ MI-17 จากกองบินที่ 41 กรมการบิน ศูนย์การบิน ทหารบกช่วยดับไฟป่าบนยอดดอยเป็นวันที่ 3 ค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 วัดได้ 123 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร,ด้าน พล.ท.สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 3 ร่วมสร้างห้องเซฟตี้ โซน แบบห้องปลอดควัน แก่โรงพยาบาลที่ขาดแคลน จากคณะวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 59 มอบเครื่องกรองอากาศจำนวน 12 เครื่อง และหน้ากากอนามัย N-95 จำนวน 6,400 ชิ้น นำร่อง 6 โรงพยาบาล ใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย รพ.แม่สะเรียง รพ.ศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน และ รพ.สะเมิง รพ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ รพ.เเม่สรวย จ.เชียงราย และ รพ.สามเงา จ.ตาก เพื่อดูแลประชาชนและเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล,จ.พะเยา เกิดไฟป่าบริเวณบนเขาและแนวชายป่า บนดอยหลวง ต.แม่นาเรือ อ.เมือง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าพะเยา ตลอดจนองค์กรส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร ในแต่ละหมู่บ้านร่วมกันออกไปดับไฟ และลาดตระเวนตั้งจุดสกัดคนเข้าป่าและเฝ้าระวัง ไม่ให้เกิดไฟไหม้ป่าตลอด 24 ชั่วโมง ขณะนี้ยังมีกลุ่มควันกระจายไปทั่วจังหวัด,ด้านนายวรกิตติ ศรีทิพากร ผวจ.น่าน เป็นประธานเปิดโครงการ ชาวน่าน รินน้ำใจ ดับไฟป่า พร้อมส่งมอบเครื่องเป่าลมฉีดน้ำ และอุปกรณ์เครื่องใช้ให้กับทหารจากมณฑลทหารบกที่ 38 และนายอำเภอทั้ง 15 อำเภอ ขณะเดียวกันเปิดรับบริจาคหน้ากากอนามัย เครื่องดื่ม และน้ำสะอาด เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันใน จ.น่าน,พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันภาคเหนือโดยรวมดีขึ้น แต่ยังมีผลกระทบอยู่ 3 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ช่วงวันหยุดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่น ไฟป่า และหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด และได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง พบว่าจุดความร้อน หรือ Hotspot โดยรวมวันนี้ลดลงจากวันที่ 2 เม.ย. อย่างมากจาก 1,969 จุด เหลือ 375 จุดใน 9 จังหวัด แต่บางพื้นที่จุด Hotspot มีขึ้นมีลงตามสภาพอากาศและภูมิประเทศ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งปฏิบัติการอย่างไม่หยุดหย่อน นายกฯขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกนาย พร้อมกำชับให้จังหวัดดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย,นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลัง–ประชารัฐ พร้อมคณะทำงานด้านนโยบายสิ่งแวดล้อมของพรรคลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นควันที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ โดยนายกอบศักดิ์หารือสถานการณ์และแนวทางการแก้ปัญหาจัดการไฟป่ากับเจ้าหน้าที่ศูนย์กำกับดูแลไฟป่า และสอบถามปัญหาด้านสุขภาพกับประชาชน นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองมีผลกระทบอย่างมากกับประชาชนในพื้นที่ ทางทีมนโยบายด้าน สิ่งแวดล้อมของพรรคหารือแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้นกับนักวิชาการต่างๆ มาระยะหนึ่งแล้ว วันนี้มาลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ รับฟังปัญหาและข้อคิดเห็นกับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม ทั้งนี้ ในการแก้ปัญหาในระยะยาวจำเป็นต้องแก้ที่ต้นเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการลดความรุนแรงของไฟป่า การลดการเผาฟางจากไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด เป็นต้น ทั้งนี้ จะมีการหารือระดมความคิดแนวนโยบายกับนักวิชาการและผู้ประกอบการในหลายภาคส่วนเพิ่มเติม เพื่อนำไปเตรียมผลักดันนโยบายการแก้ปัญหาในระยะสั้น กลาง และยาวต่อไป, ,นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือพบว่า ค่าฝุ่นละอองส่วนใหญ่ลดลงในหลายพื้นที่ เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อวาน คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศปานกลาง-มีผลกระทบต่อสุขภาพ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีแดง 3 พื้นที่ (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) และพื้นที่สีส้ม 8 พื้นที่ (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) สีเหลือง 3 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลางค่า) PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 47-123 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 61-155 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.),นิด้าโพล โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น เรื่อง ปัญหาฝุ่นควันใน 9 จังหวัดภาคเหนือ สำรวจระหว่างวันที่ 4-5 เม.ย. จากผู้ที่พักอาศัยอยู่ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน ลำปาง พะเยา แพร่ และตาก จำนวน 1,253 หน่วยตัวอย่าง พบว่าร้อยละ 36.47 ระบุได้รับผล กระทบมากร้อยละ 20.51 ระบุได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ร้อยละ 25.54 ระบุว่า ได้รับผลกระทบบ้าง (ไม่ถึงกับมาก) ร้อยละ 8.22 ระบุว่า ได้รับผลกระทบน้อยหรือแทบไม่ได้รับผลกระทบเลย และร้อยละ 9.26 ระบุว่า ไม่ได้รับผลกระทบเลย ในจำนวนของผู้ที่ระบุว่า ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นควันใน 9 จังหวัดภาคเหนือ พบว่า ร้อยละ 60.51 ระบุ มีอาการ แสบจมูก เป็นหวัด น้ำมูกไหล รองลงมา ร้อยละ 49.34 ระบุ หายใจไม่สะดวก ร้อยละ 48.11 ระบุ ระคายเคืองตา ร้อยละ 39.23 ระบุไอ จาม เจ็บคอ แสบคอ ร้อยละ 7.12 ระบุคันตามร่างกาย ส่วนวิธีป้องกันตัวเองส่วนใหญ่ร้อยละ 83.73 ระบุสวมหน้ากากอนามัย รองลงมา ร้อยละ 29.02 ระบุหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้าน ร้อยละ 21.64 ระบุ ปิดประตู-หน้าต่างกันฝุ่น ร้อยละ 10.64 ระบุว่า งดออกกำลังกายกลางแจ้ง และดื่มน้ำมากๆ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 6.16 ระบุใช้พัดลม-เครื่องฟอกอากาศ ร้อยละ 5.63 ระบุ งดการเผาขยะ เมื่อถามผู้ที่ได้รับผลกระทบว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานี้ มีปัญหาเรื่องฝุ่นควันจนต้องไปหาหมอหรือไม่ พบร้อยละ 87.95 ระบุไม่ได้ไปหาหมอ รองลงมาร้อยละ 10.82 ระบุไปหาหมอ และร้อยละ 1.23 ระบุไปหาหมอแต่ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับเรื่องฝุ่นหรือไม่,ส่วนในบางพื้นที่เกิดพายุฤดูร้อนซัดได้รับความเสียหาย ที่ จ.กระบี่ เกิดฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำป่าจากเขาต่อในพื้นที่หมู่ 7 ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา ไหลทะลักลงมาท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่หมู่ 7 ได้รับความเดือดร้อนกว่า 10 หลังคาเรือน นอกจากนี้ น้ำป่ายังกัดเซาะถนนสายกระบี่-สุราษฎร์ธานี เป็นถนนอยู่ระหว่างก่อสร้างเส้นทางหลักเชื่อมต่อ จ.กระบี่ และ จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้ถนนทรุดตัวเสียหายไป 1 ช่องจราจร เป็นระยะทางยาวกว่า 50 เมตร ลึกกว่า 5 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องปิดเส้นทาง 1 ช่องจราจร ทำให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาว,จ.ลำปาง เกิดพายุซัดในพื้นที่ ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา และอ.ห้างฉัตร หลังคาบ้านและโครงสร้างหลังคาเป็นไม้ ปลิวว่อนบ้านเรือนเสียหายไปกว่า 100 หลัง ล่าสุด พ.อ.สุกิจ ภิญโญ หัวหน้ากองยุทธการ มทบ.ที่ 32 นำกำลังทหารและจิตอาสาลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย พร้อมช่วยเหลือเก็บเศษไม้ เศษกระเบื้อง และช่วยซ่อมแซมหลังคา ที่ จ.เลย เกิดพายุฤดูร้อนฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่บ้านศรีฐาน หมู่ 14 ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง เสาไฟฟ้าข้างทางล้ม ต้นไม้โค่น ศาลาที่พักหลังคาปลิวหายไป และบ้านเรือนเสียหายเป็นจำนวนมาก ด้านนายประมวล ลาภจิต หัวหน้า ปภ.จ.เลย ลงพื้นที่พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความเสียหาย,จ.เลย พายุฤดูร้อนซัดที่บ้านศรีฐาน หมู่ 14 ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง มีลมกระโชกแรงทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นทับควายตาย 4 ตัว และมีควายอีก 2 ตัวขาติดต้นไม้ ชาวบ้านช่วยกันดึงควายออกจากต้นไม้ แต่ไม่สำเร็จ ต้องใช้เลื่อยยนต์ตัดต้นไม้เป็นท่อนๆ ช่วยชีวิตควายที่เหลือไว้ได้ | จุดฮอตสปอตทางภาคเหนือลดลงฮวบ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เชิง รุกอยู่กินกับชาวบ้าน พร้อมส่งทหารนอนเฝ้าป่าป้องกันไฟ จ.เชียงใหม่ ชาวเขา 2 คนลักลอบเข้าไปหาของป่า พบเจ้าหน้าที่ขัดขืนยิงต่อสู้จน | ข่าว,ทั่วไทย | หมอกควัน,ไฟป่า,เผาป่า,ฝุ่นละอองขนาดเล็ก,ค่าฝุ่นละออง,ลักลอบเผาป่า,ข่าวหน้า1 | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1539623 |
สหภาพฯ ธอส. จี้ อุตตม สั่งบอร์ดตั้ง กก.สรรหา เอ็มดี คนใหม่ | สหภาพฯ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธอส. จี้ อุตตม สั่งบอร์ดตั้ง กก.สรรหา เอ็มดี คนใหม่ หลัง คนเดิม จะครบวาระดำรงตำแหน่ง 4 พ.ค. 2563วันที่ 19 ก.พ. นายธวัช บุณยะผลึก ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า สหภาพฯ ธอส. ได้มีหนังสือถึง นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ขอให้เปิดการสรรหากรรมการผู้จัดการ ธอส.คนใหม่ เนื่องจาก นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส.คนปัจจุบัน จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 4 พ.ค.63 จึงขอให้สั่งการให้คณะกรรมการ ธอส.เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมผู้จัดการ ธอส. ตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่กำหนดว่า ในการจ้างและแต่งตั้งผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ ให้คณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจนั้น ตั้งคณะกรรมการสรรหาคณะหนึ่ง จำนวน 5 คน ทำหน้าที่สรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจเพื่อให้ได้บุคคลที่มีความเหมาะสมมาเป็นกรรมการผู้จัดการ ธอส. ทั้งนี้ สหภาพฯ ธอส.ทราบมาว่า มีความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา และพยายามจะต่ออายุการดำรงตำแหน่งคนปัจจุบัน โดยอ้างว่าการจ้างผู้บริหารเดิมจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งแก่รัฐวิสาหกิจ โดยที่ไม่ได้มีการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งๆ ที่การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาจะก่อให้เกิดประโยชน์กับธนาคารอย่างยิ่งยวดนายธวัช กล่าวด้วยว่า การตั้งคณะกรรมการสรรหา จะเป็นการเปิดโอกาสให้ธนาคารคัดเลือกบุคคลที่หมาะสมในการที่จะนำธนาคารให้เท่าทันต่อการปลี่ยนแปลงในยุคที่สถาบันการเงินจะต้องพบกับการแข่งขันอย่างรุนแรงในธุรกิจสถาบันการเงิน รวมถึงการที่จะต้องพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อเตรียมความพร้อมในยุค 4.0 และโลก Digtal disruption ซึ่งสหภาพฯ ธอส.เห็นว่ายังมีปัญหาภายในหลายๆ เรื่องที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และขาดความพร้อมในการที่จะเปลี่ยนแปลงให้เท่าทันต่อยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการบริหารดีๆ ที่เคยได้ผลในอดีต อาจไม่ตอบโจทย์ในอนาคตนับแต่นี้อีกต่อไปรายงานข่าวจาก ธอส.ระบุด้วยว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบริหารที่ไม่โปร่งใส ภายใน ธอส. โดยเฉพาะโครงการบ้านล้านหลัง ตั้งแต่ปลายปี 2561 ที่รัฐบาลให้ ธอส.เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้มีรายได้น้อย มีประชาชนมายื่นจองสิทธิ์ในวันแรกอย่างล้นหลาม มีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อให้ได้จำนวน 2.8 หมื่นล้านบาท แต่ถึงสิ้นปี 62 กลับทำได้ไม่ถึง 50% ถือว่านโยบายล้มเหลวโดยสิ้นเชิง แต่กลับมีความพยายามที่จะใช้วิธีการต่อสัญญาจ้างให้ผู้บริหารรายเดิม โดยไม่คำนึงถึงโอกาสองค์กรที่จะได้บุคคลที่เหมาะสมมาช่วยขับเคลื่อนบริหาร ธอส. | สหภาพฯ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธอส. จี้ อุตตม สั่งบอร์ดตั้ง กก.สรรหา เอ็มดี คนใหม่ หลัง คนเดิม จะครบวาระดำรงตำแหน่ง 4 พ.ค. 2563 | ข่าว,การเมือง | ธนาคารอาคารสงเคราะห์,ตั้งเอ็มดีคนใหม่,อุตตม สาวนายน,ธอส.,สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ,รมว.คลัง,กรรมการผู้จัดการ ธอส.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1775515 |
แห่งแรกในเอเชีย เป๊ปซี่ เปิดแคมเปญ Say it with Pepsi ผ่าน อีโมจิ | วันที่ 14 ต.ค. 58 บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดตัวโกลบอลแคมเปญ Say it with Pepsi หรือ พูดด้วยเป๊ปซี่เต็มที่ทุกอารมณ์ ในประเทศไทย ถือเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย โดยการนำสัญลักษณ์สื่ออารมณ์บนโลกดิจิตอลอย่าง อีโมจิ (emoji) มาพัฒนา เป็น เป๊ปซี่โมจิ การสื่อสารอารมณ์ สนทนา และส่งความรู้สึกถึงกัน ผ่านอีโมจิสุดน่ารักถึง 40 ดีไซน์ จากทั้งหมดกว่า 100 ดีไซน์ ซึ่ง 28 ดีไซน์ ได้รับการสร้างสรรค์โดยทีมงานระดับโลก พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยการออกแบบ 12 ดีไซน์ สะท้อนเอกลักษณ์ วัฒนธรรมไทย มาพิมพ์ลงบนบรรจุภัณฑ์ของเป๊ปซี่ทุกขนาด มุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำเทรนด์และนวัตกรรมเพื่อสร้างสีสันให้ตลาดน้ำดำช่วงปลายปี,ด้าน นายสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เปิดเผยว่า แคมเปญ พูดด้วยเป๊ปซี่เต็มที่ทุกอารมณ์ เป็นการเชิญชวนคนรุ่นใหม่ปลดปล่อยจินตนาการไปกับการสื่อสารกันผ่านอีโมจิ และเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้ จะสามารถปลุกกระแสการสื่อสารที่สนุกสนานและมีสีสันเพื่อให้ผู้บริโภคมาร่วม โดยเฉพาะช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการสังสรรค์และเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ,ทั้งนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเป๊ปซี่รุ่นพิเศษนี้ จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งการวางตลาดของผลิตภัณฑ์แต่ละดีไซน์จะแตกต่างกันไปตามขนาดสินค้า โอกาสในการบริโภค และช่องทางการจัดจำหน่าย,นอกจากนี้ เป๊ปซี่จะเพิ่ม เป๊ปซี่โมจิ ลายใหม่ๆ ในบรรจุภัณฑ์ตลอดระยะเวลา 4 เดือน นับจากนี้ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของงบประมาณจะใช้งบ 200 ล้านบาท เตรียมดำเนินกิจกรรมทางการตลาดแบบ 360 องศา รุกตลาดช่วงปลายปีผ่านสื่อโฆษณาและสื่อสนับสนุนด้วยดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา สร้างความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ สร้างการติดต่อกับลูกค้า และ ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการในตัวเป๊ปซี่ ให้เป็นแบรนด์ในใจของผู้บริโภคนั่นเอง และในขณะนี้ เป๊ปซี่ ติด 1ใน 3 ที่ขายดีของเอเชียแปซิฟิก,สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ไม่ส่งผลกับการตลาดหรือการบริโภค เนื่องจากผู้บริโภคใช้ชีวิตตามปกติ ดื่มกินเป็นปกติอยู่แล้ว ใน 1 ปี เป๊ปซี่จะจัดแคมเปญใหม่ๆ เฉลี่ย 4 แคมเปญ และสำหรับยอดขายในปีที่ผ่านมา ช่วงซัมเมอร์ เป็นช่วงที่ยอดขายดีที่สุด และตอนนี้หวังว่าแคมเปญใหม่นี้ จะกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลนั่นเอง นายสมชัย กล่าว | เป๊ปซี่-โคล่า เปิดตัวแคมเปญ Say it with Pepsi พูดด้วยเป๊ปซี่เต็มที่ทุกอารมณ์ ส่งความรู้สึกผ่านอีโมจิน่ารัก 40 ดีไซน์ ตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรม เผย ใช้งบ 200 ล้าน เตรียมรุกการตลาดแบบ 360 องศา หวัง กระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี | null | เป๊ปซี่,เป๊ปซี่-โคล่า,เป๊ปซี่โมจิ,Say it with Pepsi,พูดด้วยเป๊ปซี่...เต็มที่ทุกอารมณ์,อีโมจิ,emoji,เป๊ปซี่แคมเปญใหม่,สมชัย เกตุชัยโกศล,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์,โลกดิจิตอล,แห่งแรกในเอเชีย,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/532259 |
เพราะรสพระทำ วัดที่พิษณุโลกขายขนมปังทำเอง นาน 4 ปี สร้างศาลาการเปรียญ | คืบหน้าแล้ว 80%,เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระสงฆ์วัดโพธิญาณ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้ผลิตขนมปังขึ้นมาเพื่อจำหน่ายให้แก่คนที่มาทำบุญเลี้ยงอาหารปลาบริเวณวังปลาหน้าวัดโพธิญาณ ติดกับแม่น้ำน่าน ซึ่งได้เริ่มทำการผลิตตั้งแต่เช้า 08.00 น. ซึ่งพระสงฆ์กำลังช่วยกันปั่นผสมแป้งและส่วนประกอบ เพื่อทำขนมปังนำมาวางจำหน่ายให้ประชาชนซื้อหาไปรับประทาน หรือนำไปใช้เป็นอาหารปลา โดยตั้งชื่อว่า ขนมปังรสพระทำ,พระครูสุนทรโรจนคุณ เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณ กล่าวว่า ทางวัดได้จัดทำวังปลา เพราะประชาชนจำนวนมากที่มาทำบุญที่วัด มักให้อาหารปลาในแม่น้ำน่านหน้าวัดกันบ่อยครั้ง ทางวัดจึงได้จัดสร้างแพให้อาหารปลาขึ้น เพื่อความสะดวกแก่ผู้มาทำบุญ โดยได้จัดหาอาหารเม็ดและขนมปังมาจำหน่าย แต่ในบางครั้งทางร้านไม่สามารถนำขนมปังมาส่งให้ทางวัดได้ จึงมีแนวคิดจะผลิตขนมปังเพื่อจำหน่ายเอง โดยได้มีการปรึกษากับพระลูกวัดที่มีความสามารถในการทำอาหารและขนมปังได้ จากนั้นก็ลงทุนซื้อเครื่องอบขนมปังมาตั้งแต่ต้นปี 2555 เพื่อทำขนมปังจำหน่ายดังกล่าว จนกระทั่งปัจจุบัน มีเครื่องอบขนมปัง 2 ตู้ กำลังการผลิตจะผลิตได้ประมาณ 300-400 ก้อนต่อวัน โดยพระลูกวัดและลูกศิษย์วัดมาช่วยกันทำ,อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ที่ทางวัดโพธิญาณ ได้เริ่มโครงการทำขนมปังรสพระทำ ถือว่ามีพุทธศาสนิกชนมาสนับสนุนในการทำบุญบริจาคซื้อขนมปังไปให้อาหารปลา ที่วังปลา แม่น้ำน่านหน้าวัด และบางส่วนก็นำไปรับประทาน โดยมียอดบริจาควันหนึ่งประมาณ 3,000-4,000 บาท หากเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ จะมียอดบริจาคประมาณ 8,000-10,000 บาท,ทั้งนี้ การให้พระลูกวัดทำขนมปังขายเพื่อหารายได้ในการสร้างศาลาการเปรียญและเมรุไร้มลพิษ ซึ่งประเมินราคาที่ 15 ล้านบาท ปัจจุบันรายได้จากการจำหน่ายขนมปัง และจากที่ชาวบ้านมาทำบุญบริจาครวมกว่า 6 ล้านบาท ทางวัดได้เริ่มสร้างศาลาการเปรียญ ในเฟสแรกได้ 80% แล้ว ส่วนเฟสที่ 2 ก็จะนำไปสร้างเตาเมรุไร้มลพิษซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในปี 2560,นอกจากจะถือว่าเริ่มประสบผลตามวัตถุประสงค์ การทำขนมปังรสพระทำ ยังทำให้วัดโพธิญาณเป็นแหล่งเรียนรู้มีชาวบ้าน และนักเรียนที่สนใจ มาเรียนรู้การทำขนมปังเพื่อนำความรู้ไปทำเป็นอาชีพเสริม และนำไปพัฒนาสร้างรายได้ต่อไปอีกด้วย | พระสงฆ์วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก ทำ ขนมปังรสพระทำ เพื่อหารายได้สร้างศาลาการเปรียญและเมรุไร้มลพิษ ตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างดี สามารถขายได้ถึงวันละ 3-4 พันบาท นำไปจัดสร้างศาลาฯ | ข่าว,ทั่วไทย | ขนมปัง,ขนมปังรสพระทำ,วัดโพธิญาณ,ศาลาการเปรียญ,เมรุไร้มลพิษ,พิษณุโลก | https://www.thairath.co.th/news/local/737292 |
ส่งออก เม.ย.ครองที่ 2 อาเซียน | น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือน เม.ย.61 การส่งออกมีมูลค่า 18,945.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 12.34% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 586,314.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.79% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,229.0 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 20.36% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 634,972.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.19% ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 1,283.4 ล้านเหรียญ หรือ 48,658.5 ล้านบาท,ขณะที่ในช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) ปีนี้ การส่งออกมีมูลค่า 81,775.1 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 11.53% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นอัตราขยายตัวสูงสุดในรอบ 7 ปี เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 2.579 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.58% ส่วนนำเข้ามีมูลค่า 81,101.8 ล้านเหรียญเพิ่มขึ้น 17.18% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 2.592 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.79% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 673.3 ล้านเหรียญ แต่เมื่อคิดเป็นเงินบาทขาดดุล 12,568.5 ล้านบาท,สำหรับปัจจัยที่ทำให้การส่งออกเดือน เม.ย.61 ขยายตัวสูงขึ้น มาจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ที่กลับมาเพิ่มขึ้น 9.8% จากเดือน มี.ค.ที่ติดลบ 3.3% ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่ม 12.2% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ขณะที่ตลาดส่งออก ขยายตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด,การส่งออกเดือน เม.ย. ที่เพิ่มขึ้นถึงกว่า 12% ทำให้ไทยมีอัตราการขยายตัวของภาคส่งออกสูงเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และสูงกว่าเวียดนาม โดยสินค้าดาวเด่น คือ ข้าว มัน ไก่ ผักและผลไม้ ขณะที่การนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นไม่น่าห่วง เพราะเป็นการนำเข้าสินค้าทุนวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ที่จะส่งผลดีให้มีการผลิตและการส่งออกเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป โดยในเดือน เม.ย. ไทยส่งออกผลไม้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะทุเรียน ที่มีมูลค่า 220.4 ล้านเหรียญ เพิ่ม 207.2% โดยส่งไปจีนมากที่สุด 110.1 ล้านเหรียญ เพิ่ม 774.9% จากการซื้อขายผ่าน ,Tmall.com,. | น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือน เม.ย.61 การส่งออกมีมูลค่า 18,945.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ | ข่าว,เศรษฐกิจ | ส่งออก,พิมพ์ชนก วอนขอพร,ส่งออกขยายตัว,สินค้าเกษตร,สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1289196 |
เดือดร้อนทั้งพระ-ผี ปากพนังท่วมนาน ไม่มีเรือไปบิณฑบาต เมรุจมน้ำ | วันที่ 24 ม.ค. ฝนตกหนักต่อเนื่อง ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลายระลอก ส่งผลกระทบในพื้นที่ทั้ง 23 อำเภอ โดยเฉพาะอำเภอปากพนัง ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำก่อนไหลลงสู่ทะเล ถูกน้ำท่วม น้ำขังเป็นเวลานาน ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและพระสงฆ์จากวัดต่างๆ ในพื้นที่ ถึงผลกระทบและความเดือดร้อนที่ได้รับเกิดจากภาวะน้ำท่วมในขณะนี้,จากการลงพื้นที่ไปตามวัดต่างๆ พบว่า ถึงแม้ปริมาณน้ำลดลงไปบ้างแล้ว แต่ยังคงมีน้ำขังสูงตั้งแต่ 30-50 เซนติเมตร พระสงฆ์ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องความเป็นอยู่ การออกบิณฑบาต ส่วนชาวบ้านจะไปถวายภัตตาหารพระที่วัด ก็เดินทางด้วยความยากลำบาก บางรายที่จะจัดงานฌาปนกิจศพญาติ ต้องเลื่อนการเผาศพออกไปเพราะน้ำท่วมเมรุเผาศพ,ดาบตำรวจสาโรจน์ ศรีเจริญ อายุ 50 ปี กล่าวว่า มารดาได้เสียชีวิตลงตั้งศพบำเพ็ญกุศลในวัดใกล้บ้าน ตำบลป่าระกำ อ.ปากพนัง จนถึงวันกำหนดฌาปนกิจศพ ก็ยังไม่ทราบว่าจะเผาศพได้หรือไม่ เพราะยังมีฝนตกต่อเนื่อง ในวัดมีปริมาณน้ำมากจนท่วมเมรุเผาศพ หากฝนยังไม่หยุดตกอาจต้องเลื่อนพิธีเผาศพออกไป,ทางด้านพระสงฆ์ กล่าวถึงความเดือดร้อน ว่า จากภาวะน้ำท่วมขัง พระสงฆ์ในวัดต่างๆ ได้รับความเดือดร้อนมาแล้วเป็นเวลาแรมเดือน ยังดีที่ชาวบ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้ให้ความช่วยเหลือด้านถุงยังชีพ ส่วนในระยะยาว ต้องการจะมีเรือไว้สำหรับพายไปบิณฑบาต รวมทั้งต้องการให้ผู้ใจบุญและภาครัฐให้ความช่วยเหลือในด้านการบูรณปฏิสังขรณ์ สิ่งสาธารณประโยชน์ภายในวัด ที่ได้รับความเสียหายหลังน้ำลดด้วย. | พระที่ปากพนังขาดเรือพายออกฝ่ากระแสน้ำออกไปบิณฑบาต น้ำท่วมนานเป็นเดือนแล้ว ยังดีได้พึ่งถุงยังชีพที่คนนำมาช่วย ส่วนศพคนตาย สวดแล้วยังต้องรอวันเผา เพราะเมรุจมน้ำ
| null | น้ำท่วม,น้ำท่วมใต้,พระเดือดร้อน,น้ำท่วมเมรุ,นครศรีธรรมราช | https://www.thairath.co.th/content/842785 |
บิ๊กโบ้ ดาวเรืองยอดนิยมนักการเมือง | วันนี้ (14 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่สำรวจตลาดดอกดาวเรือง บริเวณปากคลองตลาด พบว่าผู้ค้าต่างนำดอกดาวเรืองมาขายกันอย่างคึกคัก เฉพาะที่ปากคลองตลาดจะมีดอกดาวเรืองเข้ามาขายมากกว่าวันละ 1 ล้านดอก โดยเฉพาะวันพระ นอกจากนี้มาลัยดาวเรืองยังเป็นที่นิยมในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งของบรรดาพรรคการเมืองดอกดาวเรืองที่ปากคลองตลาด มีหลายขนาดและราคาแตกต่างกันไป โดยดอกดาวเรืองขนาดใหญ่ หรือรุ่นบิ๊กโบ้ ราคาดอกละ 1.80 บาท ขนาดใหญ่ 1 บาท ขนาดกลาง 80 สตางค์ และขนาดเล็ก 20-30 สตางค์นางกอง ศรีกระแจะ แม่ค้าปากคลองตลาด ที่ยึดอาชีพขายพวงมาลัยมานานกว่า 10 ปี เปิดเผยว่า ปีนี้ราคาดอกดาวเรืองพุ่งสูง โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง ทำให้ดอกดาวเรืองรุ่นบิ๊กโบ้ มีราคาดอกละ 1.80 บาท และหากร้อยเป็นพวง ราคาอยู่ที่พวงละ 60-150 บาท ตามความยาวของมาลัย ซึ่งเป็นขนาดดอกดาวเรืองที่นักการเมืองนิยมชมชอบ ทำให้บรรดาสมาชิกพรรค หรือผู้สนับสนุนของแต่ละพรรค มักซื้อไปคล้องคอให้กับผู้สมัคร ส.ส.เวลาลงพื้นที่หาเสียงพ่อค้าแม่ค้ายังบอกอีกว่า สาเหตุที่ราคาดอกดาวเรืองพุ่งสูงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด แม้จะมีการหาเสียงเลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้าย ขณะเดียวกันยอดสั่งมาลัยดาวเรืองก็มีไม่มากนัก ซึ่งแต่ละร้านจะมียอดสั่งพวงมาลัยดอกดาวเรืองเพียงวันละ 10-15 พวงเท่านั้น | ไทยพีบีเอสสำรวจตลาดดอกดาวเรืองช่วงหาเสียง พบว่าปีนี้มีราคาสูงขึ้นอยู่ที่ดอกละ 1.80 บาท เนื่องจากเป็นช่วงหน้าแล้ง ขณะที่การหาเสียงของพรรคการเมืองไม่ส่งผลต่อราคาดอกดาวเรือง | สังคม | ดอกดาวเรือง,หาเสียง,ปากคลองตลาด,แล้ง,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/278407 |
14 ทีมไทยพรีเมียร์เรียกร้องสมาคมฟุตบอลฯเร่งทำ คลับไลเซนซิ่ง | บุรีรัมย์ยูไนเต็ดเป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงรับประทานอาหารเสวนาร่วมกันของทุกทีมในสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกที่โรงแรมพูลแมนเมื่อคืนนี้ ( 12 มี.ค.) โดยมี 14 ทีมเข้ามาร่วมรับประทานอาหารขาดเพียงทีมเมืองทอง เชียงราย ทีโอทีเอสซี อาร์มี่ยูไนเต็ด โดยการประชุมเสวนาของทั้ง 14 ทีมหัวข้อหลักคือ การจะลงชื่อให้สมาคมฟุตบอลเร่งทำใบอนุญาตการลงเล่นของทุกทีมให้กับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ AFCสำหรับการลงชื่อเสนอให้สมาคมฟุตบอลเร่งทำคลับไลเซนซิ่ง รวมถึงการลงชื่อให้วัวชนยูไนเต็ดไปเล่นที่สงขลา คาดว่า การลงชื่อของทุกทีมจะยื่นเสนอให้สมาคมได้ภายใน 2-3 วันข้างหน้า นอกจากนั้นในวันที่ 26 มีนาคมชลบุรีจะเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำของทั้ง 18 ทีมที่โรงแรมเรดิสัน ซึ่งจะเชิญสมาคมฟุตบอล บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกมาร่วมรับประทานอาหารด้วย | 14 ทีมในสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกเตรียมยื่นหนังสือเรียกร้องให้สมาคมฟุตบอลเร่งทำเรื่องใบอนุญาตการลงเล่นให้ทันภายในปีนี้รวมถึงการลงชื่อขอให้ทีม วัวชนยูไนเต็ด เล่นในจ.สงขลา | กีฬา | AFC เอเอฟซี,คลับไลเซนซิ่ง,ฟุตบอลแห่งเอเชีย,วัวชน,สมาคมฟุตบอลฯ,ไทยพรีเมียร์ลีก | https://news.thaipbs.or.th/content/72244 |
นาก2พี่น้องแสนรู้ที่ชุมพร อยู่ครอบครัวเดียวกับหมาแมว ใครเห็นก็ชมน่ารัก | เมื่อวันที่ 1 ม.ค.61 ที่ศูนย์ประสานงาน ภายในศูนย์เรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา โครงการแก้มลิงหนองใหญ่ ตามพระราชดำริ ในหลวง รัชกาลที่ 9 หมู่ที่ 12 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร มีตัวนาก 2 ตัว เป็นพี่น้องกัน ที่ 2 สามีภรรยาผู้ดูแลครัวพอเพียง ไปพบขณะถูกน้ำป่าซัดลอยมาติดอยู่ในพงหญ้าริมตลิ่งตั้งแต่ตัวยังแดงๆ แบเบาะ เมื่อนำมาเลี้ยงดูผ่านไป 1 ปี จนกลายเป็นสัตว์แสนรู้ อยู่กินครอบครัวเดียวกับแมวและหมาหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานฉันพี่น้อง แม้จะเป็นสัตว์ต่างสายพันธุ์ก็ตาม กลายเป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดู,นอกจากนั้นที่หลายคนเมื่อเห็นแล้วต้องถึงกับอึ้ง เมื่อนากทั้ง 2 ตัวพี่น้องออกไปเที่ยวหรือเล่นน้ำ อาบน้ำ ก่อนเข้าบ้านจะต้องทำความสะอาดตัวเองโดยเช็ดตัวกับผ้าจนแห้ง และให้คนอุ้มกอดหอมได้อย่างคุ้นเคย จนกลายเป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวที่จะต้องแวะเข้าไปหา ให้อาหาร อุ้มกอด ขอเซลฟี่ถ่ายรูปอยู่ตลอดเวลา ,นายไพศาล เล็กมณี อายุ 48 ปี นางพรพิรุณ ชลสาคร อายุ 52 ปี สองสามีภรรยาผู้ดูแลศูนย์ประสานงานครัวพอเพียง กล่าวว่า นากทั้ง 2 ตัว เป็นพี่น้องกัน ตัวโตตัวผู้เป็นพี่ชื่อ น้อง ตัวเล็กเป็นตัวเมียชื่อ อั่งเปา ทั้ง 2 ตัว ไปพบขณะตัวยังเล็กแบเบาะ เมื่อเดือนธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นเกิดฝนตกหนักและมีน้ำท่วมใหญ่ นากทั้ง 2 ตัว ได้ถูกน้ำป่าซัดลอยมาติดในพงหญ้าริมตลิ่งภายในแก้มลิงหนองใหญ่ จึงนำมาเลี้ยงให้นมให้อาหาร จนถึงทุกวันนี้อายุประมาณ 1 ปีแล้ว ทุกวันอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันกับแมวและหมาอีกหลายตัว ไม่มีทะเลาะหรือกัดทำร้ายกันภายในครัวพอเพียงแห่งนี้ ,สองสามีภรรยา กล่าวต่อว่า ตนเอานากสองพี่น้องมาเลี้ยงไม่เคยขังจนถึงทุกวันนี้ เพราะรักเหมือนลูกและจะคอยหัดคอยสอนมันมาตั้งแต่เล็กๆ โดยเฉพาะเมื่อทั้งสองตัวออกไปเที่ยวหรือไปเล่นน้ำอาบน้ำ ตนจะนำผ้ามาวางบนพื้นให้มันถูตัวเช็ดตัวจนแห้งก่อนเข้าบ้าน และก่อนจะไปให้นักท่องเที่ยวอุ้มหอมให้อาหารมัน หรือไปหยอกล้อกับแมวและหมา จนทุกวันนี้กลายเป็นนิสัยที่นากทั้งสองพี่น้องได้จดจำต้องทำทุกครั้งที่มันออกไปเที่ยวในป่าใกล้ๆ หรืออาบน้ำเล่นน้ำก่อนเข้าบ้านครัวพอเพียงจะต้องกลิ้งเช็ดตัวไปมาบนผ้าจนตัวแห้ง ซึ่งนิสัยไม่ดุร้ายเพราะเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังแบเบาะ ,อาหารที่มันชอบกินจะเป็นลูกชิ้นปลา และหากวันไหนนากตัวน้องหายไปนาน นากตัวพี่ก็จะร้องเรียกหา หากไม่เจอมันจะออกไปตะโกนร้องเสียงดังลั่นตามหาเพื่อให้น้องกลับมา ซึ่งดูจากอาการแล้วนากตัวพี่จะรักและห่วงน้องของมันมาก เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง นากตัวน้องไม่สบายต้องพาไปหาหมอนานหลายชั่วโมง นากตัวพี่กระวนกระวายวิ่งร้องเรียกหาอยู่ตลอดเวลา เห็นรู้สึกสงสารมาก เมื่อนำนากตัวน้องกลับมาจากรักษา มันจะดีใจมากวิ่งเข้าหาคลอเคลียไม่ห่าง ทุกวันนี้นากสองพี่น้องกลายเป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวไปแล้ว สองสามีภรรยา กล่าว. | นากสองพี่น้อง สัตว์แสนรู้แห่งโครงการแก้มลิงหนองใหญ่ จ.ชุมพร ออกไปเที่ยว อาบน้ำต้องเช็ดตัวให้แห้งก่อนเข้าบ้านครัวพอเพียง อาศัยร่วมกับหมา แมว จนเป็นขวัญใจนักท่องเที่ยวแห่ดู เซลฟี่ถ่ายภาพ | ข่าว,ทั่วไทย | นากสองพี่น้อง,โครงการแก้มลิงหนองใหญ่,ชุมพร,นากแสนรู้,นากเล่นน้ำ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1167178 |
ชาวเน็ตวิจารณ์แซด วงร็อกญี่ปุ่น คอสเพลย์เลียนแบบสงฆ์ขึ้นแสดงสด | วันที่ 13 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนาหู หลังนักร้องนำวงดนตรีร็อกจากประเทศญี่ปุ่น ,Wat Mayhem Orchestra, แต่งคอสเพลย์ ห่มจีวร เลียนแบบการแต่งกายของพระสงฆ์ เพื่อถ่ายภาพโปรโมตวงและขึ้นแสดงสด ,ต่อมาหลายเพจในเฟซบุ๊ก ได้นำมาตั้งเป็นกระทู้ เปิดรับแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าว ว่าเหมาะสมหรือไม่ ก็มีทั้งผู้ที่เห็นว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นเครื่องแต่งกายของสงฆ์ ทำลายภาพลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา และไม่น้อยที่รู้สึกเฉยๆ โดยให้เหตุผลว่าเครื่องแต่งกายทุกชุด มีไว้ให้คนใส่พึงตระหนักถึงความรับผิดชอบนั้นๆ ว่าอยู่ในสถานะใด ควรดูที่การกระทำและหน้าที่รับผิดชอบมากกว่า,ทั้งนี้ ก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วย ไปแสดงความคิดเห็นผ่านทางเพจของวงเป็นจำนวนมาก โดยวง Wat Mayhem Orchestra ได้ออกมาโพสต์ขอโทษถึงการกระทำดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า ,You of Thailand. I am sorry. We love Thailand. ถึงพวกคุณคนไทย ผมขอโทษครับ พวกเรารักประเทศไทย,และล่าสุดทางเฟซบุ๊กของวง Wat Mayhem Orchestra ได้นำข้อความของ Takaya Yamauchi นักร้องนำที่ห่มจีวรที่โพสท์ขอโทษผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวมาลง โดยมีใจความว่า ,ผมต้องขอโทษคนไทยทุกคนด้วยนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะดูหมิ่นศาสนาพุทธและผมก็ยอมรับว่าผมไม่ค่อยที่จะรู้จักธรรมเนียมของประเทศไทยมากเท่าไหร่ ผมขอให้คนไทยยกโทษให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ขอโทษจริงๆ ครับ. | วิจารณ์แซด วงดนตรีร็อกญี่ปุ่น แต่งคอสเพลย์ ห่มจีวร เลียนแบบพระสงฆ์ ถ่ายโปสเตอร์โปรโมตวงพร้อมขึ้นเวทีทำการแสดงสด ล่าสุด วงโพสต์เฟซบุ๊กขอโทษแล้ว
| null | วงดนตรี,ญี่ปุ่น,ห่มจีวร,พระสงฆ์,เล่นดนตรีสด,วิจารณ์,โลกโซเชียล,ข่าวบันเทิง | https://www.thairath.co.th/content/463067 |
รัฐบาลซีเรียยึดเมืองรัสทาน กวาดต้อนจับกว่า 3000 ราย | 2011 - นักกิจกรรมในซีเรียรายงานว่ากองทัพของรัฐบาลซีเรียไล่กวาดต้อนจับกุมคนตามบ้านหลังต่อหลังในช่วง 3 วันที่ผ่านมา (1-3 ต.ค.) ในเมืองที่มีการลุกฮือต่อต้านรัฐบาล นักกิจกรรมบอกว่าตัวเลขผู้ที่ถูกรัฐบาลจับกุมตัวรวมแล้วราว 3000 ราย ซึ่งพวกเขาถูกกักตัวไว้ในโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ โรงเรียน และสปอตส์คลับบางแห่งในเมืองรัสทาน นักกิจกรรมผู้ให้ข้อมูลชื่อฮัสซันบอกว่าญาติของเขา 10 คนถูกจับตัวไป สถานการในเมืองตอนนี้เต็มไปด้วยความหดหู่ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่เมืองนี้ถูกถล่มด้วยระเบิดจากตลอด 5 วันนับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. ที่ทหารฝ่ายรัฐบาลเริ่มบุกโจมตีเมือง ทางด้านสื่อรัฐบาลซีเรียอ้างว่าได้เข้ายึดเมืองรัสทานหลังจากที่ออกกวาดล้าง \กลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธ\ ที่ซ่อนตัวอยู่ในเมือง โดยเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมาสื่อรัฐบาลซีเรียรายงาว่าสามารถเข้ายึดเมืองรัสทานได้หลังจากการต่อสู้ยาวนาน 5 วัน พวกเขาเรียกกลุ่มทหารที่ไปเข้ากับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลว่าเป็น \กลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธ\ ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ ขณะที่ผู้นำกลุ่มสิทธิมนุษยชนในซีเรียบอกว่าทหารรัฐบาลสามารถยึดครองพื้นที่ร้อยละ 80 ของเมือง หลังจากนำกำลังรถถังเข้ามากว่า 250 คัน เปิดตัว สภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติ ในวันเดียวกันนั้นเอง (1 ต.ค.) กลุ่มสภาแห่งชาติซีเรีย (SNC) ซึ่งเป็นการพยายามรวบรวมผู้ที่ต่อต้านการปกครองของประธานาธิบดีอัสซาด ก็ได้ประชุมหารือลับที่อิสตันบูลประเทศตุรกีกับเบอฮาน ฆอลิยูน นักวิชาการฝรั่งเศสผู้มีเชื้อสายชาวเคิร์ด และเป็นผู้แทนชนเผ่า ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำสภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติ (National Transitional Council) ซึ่งมีผู้สนับสนุนทั้งชาวอิสลามและฆราวาส กลุ่มสภาแห่งชาติซีเรีย (SNC) เป็นตัวแทนของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่จัดตั้งใจกรุงอิสตันบูลในช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โฆษก SNC กล่าวว่าการรวมกลุ่มในครั้งนี้มีความต้องการให้กลุ่มภราดรภาพมุสลิมซึ่งถูกรัฐบาลซีเรียแบนไปตั้งแต่พรรคบาธขึ้นสู่อำนาจในปี 1963 เข้าร่วม รวมถึงกลุ่มเคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตยซึ่งจัดตั้งขึ้นในกรุงดามากัสตั้งแต่ปี 2005 หลังจากนั้นในวันที่ 2 ต.ค. กลุ่ม SNC ก็ได้ประกาศการจัดตั้งสภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติอย่างเป็นทางการในอิสตันบูล ซึ่งเบอฮาน ฆอลิยูน กล่าวในการเปิดตัวกลุ่มใหม่ว่า วัตถุประสงค์ของสภาถ่ายโอนอำนาจฯ คือการสนับสนุนสังคมประชารัฐ พร้อมทั้งยืนยันว่าเป็นกลุ่มที่ไม่มีการแทรกแซงจากต่างชาติ \สภาฯ ของชาวซีเรียเปิดกว้างให้กับชาวซีเรียทุกคน เป็นกลุ่มอิสระเสมือนตัวแทนอำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชนชาวซีเรียในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ\ \ทางสภาฯ มีหน้าที่ขับเคลื่อนประชาชนทุกหมู่เหล่าในซีเรียและให้การสนับสนุนการปฏิวัติเพื่อความก้าวหน้าและยอมรับความปรารถนาของประชาชนในการโค่นล้มการปกครอง สัญลักษณ์ และผู้นำ\ ฆอลิยูนกล่าว โดยฆอลิยูนยังได้บอกอีกว่าการรวมกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในครั้งนี้เป็น \ประวัติศาสตร์\ ของการรวมกลุ่มต่างๆ ทั่วซีเรียไม่ว่าจะมาจากแนวคิดการเมืองใด รวมถึงกลุ่มภราดรภาพมุสลิมและกลุ่มชาววเคิร์ดและอัสซีเรียนด้วย \พวกเราคือแนวร่วมท่ามกลางการสังหารหมู่ประชาชนวันต่อวันของรัฐบาลที่กระทำต่อประชาชนผู้ไม่มีอาวุธ โดยเฉพาะในเมืองรัสทานช่วงนี้\ ฆอลิยูนกล่าว ที่มา Syrian army reclaims central town | รัฐบาลซีเรียบุกยึดเมืองรัสทานได้สำเร็จหลังมีการปะทะต่อเนื่องกับกลุ่มทหารย้ายข้าง จับกุมตัวคนในพื้นที่มากว่า 3000 คน ด้านฝ่ายต้านรัฐบาลซีเรียพยายามรวมกลุ่ม สภาถ่ายโอนอำนาจ ให้เป็นหนึ่ง 3 ต.ค. | การเมือง,ต่างประเทศ | ซีเรีย,สงครามกลางเมือง,สภาถ่ายโอนอำนาจ | https://prachatai.com/journal/2011/10/37227 |
ยุคบัณฑิตตกงาน-ยากจน | ข้อมูลล่าสุดระบุว่า กลุ่มผู้จบระดับอุดมศึกษาเป็นกลุ่มที่ว่างงานมากที่สุด แม้แต่ผู้จบปริญญาโทและเอกก็ยังติดกลุ่มคนจน,รายงานภาวะว่างงานประจำเดือนกรกฎาคม 2560 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า มีผู้ว่างงาน 476,000 คน เท่ากับ 1.2% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 จำนวน 85,000 คน เรื่องที่น่าตกใจก็คือ กลุ่มผู้จบระดับอุดมศึกษาหรือปริญญาตรีขึ้นไป ว่างงานมากที่สุด 253,000 คน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บัณฑิตว่างงานเพิ่มขึ้น 57,000 คน,อัตราการว่างงาน 1.2% ของคนไทยโดยรวม ถือว่าเป็นอัตราการว่างงานที่ต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับอีกหลายประเทศ แต่การ ว่างงานของบัณฑิตกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ยังมีเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่า นั่นก็คือมีผู้จบการ ศึกษาปริญญาโท 5,800 คน หรือมหาบัณฑิตและผู้จบปริญญาเอกเป็นดุษฎีบัณฑิต 700 คน ลงทะเบียนในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เพื่อขอสวัสดิการจากรัฐ,มีผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนขอสวัสดิการจากรัฐ 14.1 ล้านคน ถูกตัดสิทธิไปเหลือ 11.6 ล้านคน ไม่ทราบกลุ่ม กลุ่มมหาบัณฑิตและ กลุ่ม ดร. ที่ขอความช่วยเหลือจากรัฐ มีรายได้เฉลี่ยประมาณเดือนละเท่าใด รัฐบาลจะแบ่งผู้มีรายได้น้อยเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกมีรายได้ไม่เกินปีละ 30,000 บาท กลุ่มที่สองมีรายได้เกินปีละ 30,000 บาท แต่ยังเข้าข่ายได้รับสวัสดิการ,ตามระเบียบของทางราชการ ผู้ที่จบปริญญาตรีจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท ปีละประมาณ 180,000 บาท ผู้จบโทและเอกจะต้องได้มากกว่านั้น เว้นแต่จะตกงาน หรือมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน คือเดือนละ 2,492 บาท ข้อมูลเมื่อปลายปี 2557 ระบุว่ามีคนไทยที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นยากจน 8.4 ล้านคน สูงกว่าเส้นความยากจนเล็กน้อย 7.2 ล้านคน,รวมกลุ่มคนที่ยากจนและเกือบยากจนทั้งหมด 15.6 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีการศึกษาไม่มาก แต่ถ้าผู้มีการศึกษาสูงระดับปริญญาโทและเอก ต้องกลายเป็นคนจนบวกกับปัญหาบัณฑิตตกงาน ต้องถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ จะต้องแก้ไขปัญหาเป็นการเร่งด่วน ด้วยการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การปฏิรูปบนแผ่นกระดาษ,อาจต้องปฏิรูปตั้งแต่ค่านิยมของสังคมไทย ที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองนิยมส่งบุตรหลานให้เรียนสูงๆ เพื่อให้ได้ปริญญาบัตรในสาขาใดไม่เกี่ยง ขอเพียงแต่ให้ได้ปริญญา เพื่อให้มีเกียรติและศักดิ์ศรี รวมทั้งปฏิรูประบบการศึกษาที่ยังมีมรดกตกทอดระบบเก่าๆให้ลูกหลานเป็นข้าราชการ เป็นเจ้าคนนายคน และปฏิรูปสถาบันอุดมศึกษาให้ผลิตบัณฑิตตามความต้องการของสังคม. | ในขณะที่รัฐบาลประกาศว่าจะขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ 4.0 และมุ่งมั่นนำประเทศให้หลุดพ้นกับดักของกลุ่มประเทศ ที่มีรายได้ปานกลาง ไปสู่กลุ่มประเทศรายได้สูง แต่ในอีกด้านหนึ่งต้องยอมรับว่าประเทศไทย กำลังก้าวสู่ยุค บัณฑิตเตะฝุ่น | null | บทบรรณาธิการ,บัณฑิตเตะฝุ่น,บัณฑิตจบใหม่,อัตราการว่างงาน,ผู้มีรายได้น้อย | https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1053195 |
ตร.บุรีรัมย์สรุปสำนวนวัยรุ่นทำร้ายผู้บริหารโรงเรียน | ตำรวจจังหวัดบุรีรัมย์นำเอกสารซึ่งเป็นสำนวนคดีกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 13 คน บุกเข้าไปภายในโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล เพื่อหวังทำร้ายนายวัชรพล ทองศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียน และเจ้าหน้าที่ ขณะกำลังปฐมนิเทศนักศึกษาเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนวัยรุ่นจะถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงเรียนยิงเสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บ 3 คนพ.ต.ท.อนิรุทธิ์ ผดุงดี พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ระบุว่า จากการรวบรวมพยายานหลักฐานนานกว่า 2 เดือน พบหลักฐานเชื่อมโยงถึงผู้กระทำความผิด คือนายวิเชียร สมศักดิ์ เป็นผู้นำกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้าไปภายในโรงเรียน รวมถึง นายพสิทธิ์ ดาววัฒนะทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้จ้างวานขณะนี้ทั้ง 2 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้ขอเข้ามอบตัว 6 คน ส่วนอีก 5 คนยังหลบหนี ซึ่งอัยการได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบสำนวน เพื่อพิจารณาส่งฟ้องศาล ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ | ตำรวจจังหวัดบุรีรัมย์ สรุปสำนวนคดีกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้าไปทำร้ายผู้บริหารโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อให้อัยการส่งฟ้องศาล ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ยังถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำ 2 คน | ภูมิภาค | ทำร้ายร่างกาย,บุรีรัมย์,ผู้อำนวยการ,วันรุ่น,โรงเรียน | https://news.thaipbs.or.th/content/172884 |
สหรัฐตัดงบหนุนประชาธิปไตยในพม่า | กรุงเทพฯ-24 มี.ค.48สำนักข่าว Washington Post รายงานเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 48 ว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมตึกเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 เป็นต้นมา รัฐบาลสหรัฐได้ทุ่มงบประมาณเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยในประเทศอิสลามเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐเห็นว่าการสร้างระบอบประชาธิปไตยในประเทศอิสลาม เป็นอีกหนทางที่จะช่วยลดปัญหาการก่อการร้าย ดังนั้นประเทศในตะวันออกกลางจึงได้รับงบประมาณด้านการส่งเสริมเพื่อประชาธิปไตยมากกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ ทำให้ประเทศอื่นๆ อย่างเช่นพม่าซึ่งมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนสูงขึ้น ได้รับงบประมาณในการส่งเสริมประชาธิปไตยน้อยลง อย่างไรก็ตามสหรัฐได้ให้ความเห็นว่า การให้งบประมาณเพื่อส่งเสริมประเทศตะวันออกกลางเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะในประเทศอิรัก ซึ่งถ้าหากไม่สามารถปลูกฝังระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นในอิรักได้ การวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายก็อาจจะตามมา ด้วยเหตุนี้การสร้างประชาธิปไตยในอิรักและในตะวันออกกลางก็จะดำเนินต่อไป ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายหนึ่งของศูนย์ข่าวสาละวิน ( Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ และ snn_ติดตามข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าเป็นภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org | กรุงเทพฯ-24 มี.ค.48 สำนักข่าว Washington Post รายงานเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 48 ว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมตึกเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย. | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/03/3328 |
ส่องนิสัย เต๋อ-ใหม่ ในกอง อ้วน เห็นด้วยเปลี่ยนคำนำหน้า สาวประเภทสอง | อนันต์ เสมาทอง คลุกคลีกับนางเอกฮอตฉ่า ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ และพระเอกหล่อแรง เต๋อ ฉันทวิชช์ มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันมาพักหนึ่งแล้วในกองถ่ายละครเรื่อง ชายไม่จริงหญิงแท้ มีเรื่องราวดีๆ อยากจะแชร์กันหน่อย,เวลาอยู่ในกองละคร ใหม่เป็นคนอย่างไรกันแน่? ,ทำงานเต็มที่ เป็นเด็กขยัน สวยเก่ง น่ารัก เวลาเล่นจำบทแม่น เขาเป็นคนชัดเจนนะ นัด 7 โมง ก็มาตรงเวลาเป๊ะ ใหม่เป็นคนตรงต่อเวลา, โอ๊ยๆ มีแต่เรื่องราวดีๆ เนอะ? จริงๆ เขาเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ เวลาว่างๆ พักกองถ่าย ใหม่ก็จะอยู่กับเกล้าผู้จัดการ อยู่กับแม่ (รัตนากร โฉมยงค์) ซึ่งแม่ใหม่ก็จะเป็นฝ่ายเสบียง จะชอบซื้อของกินมาเผื่อคนในกอง เร็วๆ มากินข้าวกัน ละครชายไม่จริงหญิงแท้ พี่อ้วนเล่นเป็นคนพาใหม่เข้ามาประกวดนางงาม สมัยก่อนที่แหม่ม คัทลียา กับ ดู๋ สัญญา เคยเล่นด้วยกัน ดังมากเปรี้ยงมากนะ,เวลาอยู่ในกองถ่าย เต๋อเป็นพระเอกแบบไหนนะ? เป็นพระเอกที่หล่อน่ารักอ่ะ เวลาเราพูดทะลึ่งๆ ก็ทำหน้างง พวกเราจะทะลึ่งไง (หัวเราะ) ว่างๆ เขาก็จะซ้อมบทของเขาไป เป็นคนกินเก่งนะ (หัวเราะ),ละครเรื่องชายไม่จริงหญิงแท้ ก็จะช่วยทำให้เราได้เห็นหลายๆ มุมของสาวประเภทสอง? ใช่ๆ บางทีเราจะเห็นภาพสาวประเภทสองแรงๆ ใช่มั้ย แต่ในละครเรื่องนี้เราจะได้เห็นมุมน่ารัก มุมความสามารถต่างๆ ของสาวประเภทสองด้วยค่ะ พี่อ้วนเห็นด้วยๆ อยากจะให้ออกกฎหมายได้แล้ว เรื่องการเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อของสาวประเภทสองที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว ให้ใช้คำนำหน้าว่านาย ให้ตรงกับเพศปัจจุบัน? ,ใช่ๆ อยากจะให้เปลี่ยน คือเขาหน้าสวยแล้ว รูปร่างหน้าตาเป็นผู้หญิงไปแล้ว คือเขาเกิดมาเป็นผู้หญิง แต่ยังมีคำนำหน้าเป็นมิสเตอร์เป็นนายอยู่ บางทีอาย แต่บางคนเขาก็ไม่ซีเรียสนะ ไม่เปลี่ยนก็ได้ มันมองได้หลายมุม,อย่างเวลาเขาเดินทางไปต่างประเทศมันก็โดน จะมีปัญหา ทำไมคำนำหน้าชื่อเป็นนาย แต่ตัวจริงเป็นผู้หญิงสวยเลย คือเรื่องนี้ต้องมีการประชุมกันเยอะ ว่าจะเอายังไงกันดี เปลี่ยนไปแล้วจะมีปัญหาอะไรกระทบตามมาหรือเปล่า เพราะมันเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานด้วย, เรื่องคำนำหน้าสาวประเภทสอง ให้ความเสมอภาคทางเพศ เรื่องกฎหมายแต่งงานของชายรักชาย หญิงรักหญิง เห็นว่าเรื่องพวกนี้กำลังไปถึงผู้ใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กำลังเคลียร์ กำลังพิจารณากันอยู่นะ. | จะเห็นนิสัยดาราจริงๆ (บางส่วน) ก็ต้องตามติดไปแอบส่องดูพฤติกรรมในกองถ่ายละครว่าเป็นคนอย่างไร ดารารุ่นใหญ่เผ็ดแรงตลอด อ้วน รีเทิร์น | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | อ้วน รีเทิร์น ชายไม่จริงหญิงแท้,ใหม่ ดาวิกา เต๋อ ฉันทวิชช์ ชายไม่จริงหญิงแท้,อ้วน รีเทิร์น อนันต์ เสมาทอง,กฎหมายเปลี่ยนคำนำหน้าสาวประเภทสอง,สาวประเภทสอง เปลี่ยนคำนำหน้าเป็นนางสาว,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/964697 |
นายกฯ ไม่หวั่นพรรคการเมืองไม่เอาร่าง รธน.ฉบับมีชัย-ถาม ปชช.เชื่อใจคนช่วยแก้ปัญหาประเทศหรือไม่ | วันนี้ (18 เม.ย. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับท่าทีของพรรคการเมืองไทย ที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชามติของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ว่า จนถึงขณะนี้ มีพรรคการเมืองที่ออกมาแสดงท่าทีต่อร่างรัฐธรรมนูญแล้ว 4 พรรคด้วยกัน โดยมีทั้งที่รับร่างฯ โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่รับร่างฯ ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป และบางพรรคยังไม่แสดงท่าที โดยให้เหตุผลว่าขอเวลาพิจารณาศึกษาอีกระยะหนึ่งส่วนจำนวนประชาชนที่มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติจำนวน 50 ล้านคน หากออกมาใช้สิทธิ์ร้อยละ 80 หมายความว่าเสียงข้างมากที่จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติต้องอยู่ที่ 21 ล้านเสียง ส่งผลให้คสช. กรธ. และ กกต. ต้องทำงานหนักไม่น้อยผู้สื่อข่าวรายงานต่ออีกว่า แม้ใจความการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เมื่อเร็ว ๆ นี้ จะเป็นการตอบคำถามต่อท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่แถลงไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง พร้อมร้องขอให้ คสช. เปิดเผยแนวทางรองรับร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติแต่ในส่วนหนึ่งกลับแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของ คสช. ว่า ไม่กังวลหรือหวั่นไหวหากฐานเสียงทางการเมืองของแต่ละพรรค ไม่สนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และนายกรัฐมนตรียังโยนคำถามกลับไปยังประชาชนว่า จะเชื่อมั่นและศรัทธาใคร ระหว่างพรรคการเมืองที่มีแต่ความวุ่นวายจนต้องเกิดเหตุการณ์รัฐประหารครั้งล่าสุด ในวันที่ 22 พ.ค. 2557 หรือจะเชื่อนายกฯ ที่พยายามทำให้บ้านเมืองดีขึ้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากย้อนกับไปดูท่าทีของแต่ละพรรคการเมืองต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ในส่วนของพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งคำถามถึงการยึดโยงกับประชาชน ขณะเดียวกันทางพรรคได้ออกแถลงการณ์ย้ำว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญส่วนพรรคภูมิใจไทยนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล ออกมาประกาศพร้อมรับร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่มีเงื่อนไข และยอมรับในกติกาที่ผู้มีอำนาจสร้างขึ้น โดยพร้อมลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเป็นทางเลือกของประชาชนขณะที่ พรรคชาติไทยพัฒนาตอบรับที่จะลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งนายบรรหาร ศิลปอาชา เชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยมีข้อดีที่สามารถหักล้างข้อเสียที่อยู่ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์ได้ด้านพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากแสดงท่าทีไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ยังกังวลในประเด็น ส.ว.สรรหาช่วงเปลี่ยนผ่าน และรัฐสภาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่อาจมีปัญหาในเรื่องดุลอำนาจ เพราะหาก ส.ว.สรรหา สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างมากจะเกิดภาวะเสียงข้างมากที่เบ็ดเสร็จ แต่ถ้า ส.ว.สรรหาเทคะแนนสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะทำให้รัฐบาลเลือกตั้งไร้เสถียรภาพเช่นเดียวกับ เครือข่ายนักวิชาการสิทธิพลเมืองที่แถลงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ด้วยเหตุผลด้านสิทธิและเสรีภาพ ตลอดจนความเป็นประชาธิปไตยจึงเป็นเรื่องที่ คสช. กรธ. หรือแม้แต่ กกต. ต้องหาวิธีจัดการรับมือเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ | พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ง้อฐานเสียงพรรคการเมืองแสดงท่าทีไม่รับร่างฯ-ไม่สนับสนุนลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย ถามประชาชนกลับเชื่อใจใครระหว่างฝ่ายทำบ้านเมืองวุ่นวายจนต้องรัฐประหาร กับคนที่พยายามทำให้บ้านเมืองดีขึ้น | การเมือง | ท่าทีพรรคการเมืองต่อร่างรัฐธรรมนูญ,ร่างรัฐธรรมนูญ,ลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ,ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย,มีชัย ฤชุพันธุ์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,คสช.,กรธ.,กกต.,พรรคประชาธิปัตย์,พรรคเพื่อไทย,พรรคภูมิใจไทย,พรรคชาติไทยพัฒนา,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/251746 |
เร่งติดตามตัว บังโอม โยงค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา | จากกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจพบและจับกุมชาวโรฮิงญา 65 คน ที่ขึ้นฝั่งที่เกาะราวี อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล และอยู่ระหว่างพยายามเดินทางไปมาเลเซีย เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2562วันนี้ (22 มิ.ย.2562) หน่วยข่าวกรอง ระบุว่า เรือลำดังกล่าวเป็นเรือประมง ก่อนที่จะตกไปอยู่กับขบวนการค้ามนุษย์ โดยเจ้าของเรือเป็นนายตำรวจยศ พันตำรวจเอก สังกัดกองกำกับการตำรวจน้ำ ซึ่งประมูลจากศุลกากร ใช้ประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือ แต่ประสบปัญหาทางธุรกิจ จึงขายทอดให้ชาวเมียนมาเมื่อต้นปี 2561 และถูกดัดแปลงสัญชาติเรือเป็นสัญชาติเมียนมา ก่อนใช้ขนชาวโรฮิงญาขณะที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทำหนังสือถึงเจ้าท่าส่วนภูมิภาค ขอทราบทะเบียนเรือและผู้ครอบครองเรือลำดังกล่าวว่าก่อนจะถูกขายทอด ใครเป็นผู้จดทะเบียนเรือ หากพบผู้จดทะเบียนเรือและผู้ครอบครองเป็นตำรวจดังกล่าวจริง จะเรียกเจ้าตัวมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนชาวโรฮิงญาหรือไม่ส่วนการติดตามขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญานั้น ตำรวจอยู่ระหว่างหาข้อมูลและติดตามตัว บังโอม มาดำเนินคดี หลังนายสังคม พาพันธุ์ ชาวจังหวัดระนอง และชาวเมียนมา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาค้ามนุษย์ ซัดทอดว่า เป็นผู้ติดต่อให้นำพาชาวโรฮิงญา 65 คน ไปส่งที่ประเทศมาเลเซีย | ตำรวจเร่งติดตามตัว บังโอม หลังถูกซัดทอดว่าเป็นผู้ติดต่อให้นำชาวโรฮิงญา 65 คนไปส่งที่มาเลเซีย พร้อมตรวจสอบตำรวจยศ พ.ต.อ. ที่เคยเป็นเจ้าของเรือว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ | อาชญากรรม | ค้ามนุษย์,โรฮิงญา,บังโอม,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/281077 |
ฮ่องกงเดือด ตร.ยิงแก๊สน้ำตาสลายม็อบต้านจีน จ่อออก ก.ม.ความมั่นคงฉบับใหม่ | เมื่อ 24 พฤษภาคม 63 สำนักข่าวรอยเตอร์ และเว็บไซต์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า ตำรวจปราบจลาจลในฮ่องกงได้ใช้แก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงสลายม็อบฝูงชนชาวฮ่องกงหลายพันคนที่มารวมตัวชุมนุมประท้วง และผู้ชุมนุมได้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันติดเชื้อโควิด-19 ที่ย่านคอสเวย์ เบย์ และหวั่นจ๋าย แหล่งช็อปปิ้งบนเกาะฮ่องกง ในวันนี้ (24 พ.ค.) เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านทางการจีนเตรียมการจะออกกฎหมายด้านความมั่นคงฉบับใหม่มาใช้กับเกาะฮ่องกง ซึ่งผู้ประท้วงเหล่านี้เห็นว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของชาวฮ่องกง และไม่ได้อยู่บนหลักการปกครองฮ่องกง แบบหนึ่งประเทศสองระบบเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้จับกุมผู้ชุมนุมประท้วงอย่างน้อย 120 คนที่พยายามตั้งเครื่องกีดขวางถนนที่ย่านคอสเวย์ เบย์ และหวั่นจ๋าย และถนน Gloucester หลังจากผู้ชุมนุมได้เริ่มใช้ความรุนแรงขว้างปาขวดน้ำ และร่มใส่เจ้าหน้าที่ทั้งนี้การชุมนุมของชาวฮ่องกงในการคัดค้านทางการจีนที่เตรียมจะออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกง ครั้งนี้เป็นการชุมนุมครั้งแรกหลังจากเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีรายงานว่า สภาประชาชนแห่งชาติจีนจะพิจารณาออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ทำให้ถูกมองว่ากฎหมายฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือของรัฐบาลจีนในการควบคุมและจำกัดการเคลื่อนไหวต่อต้านจีนของชาวฮ่องกง. | ตำรวจฮ่องกงยิงแก๊สน้ำตา ฉีดน้ำใส่ม็อบฝูงชนหลายพันคน นัดรวมตัวประท้วงต่อต้านทางการจีนเตรียมการจะออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เกี่ยวกับฮ่องกง ถูกมองจะลิดรอนเสรีภาพชาวฮ่องกงมากขึ้น | ข่าว,ต่างประเทศ | ม็อบฮ่องกง,ข่าวเด่น,ประท้วงฮ่องกง,กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่,จีน,ฮ่องกง,ประท้วงต้านจีน | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1852359 |
กสทช.เสียงข้างน้อยเตรียมเสนอร่างเกณฑ์ทีวีดิจิตอลสาธารณะ | กรรมการ กสทช.เสียงข้างน้อย 2 คน คือ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ และนายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ได้ประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อจัดทำร่าง หลักเกณฑ์พิจารณาการคัดเลือกผู้ขอรับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล ประเภทกิจการบริการสาธารณะ โดยมีตัวแทนจากนักวิชาการ และภาคสังคมร่วมแสดงความเห็น ก่อนจะได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะมีการให้คะแนนใน 5 ด้าน สำหรับผู้สนใจขอใบอนุญาตน.ส.สุภิญญา กล่าวว่า จะนำร่างความเห็นทั้งหมดเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงฯ พิจารณาในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ แต่หากไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้ก็จะส่งผลให้การแข่งขันในกิจการทีวีดิจิตอลไม่เกิดความเป็นธรรม และไม่ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี ขัดต่อเจตนารมณ์ของการปฏิรูปสื่อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ที่จะร่วมประมูลในกลุ่มช่องธุรกิจ 24 ช่องด้วย เช่น อาจทำให้ผู้ประกอบการรายกลางที่สนใจร่วมประมูลมารอคอยทำสัญญา หรือรับช่วงงานต่อจากหน่วยราชการที่ได้ใบอนุญาตแทน เพราะลงทุนน้อย และมีโอกาสได้ผลิตรายการมากกว่าทั้งนี้ หากมีการใช้ร่างหลักเกณฑ์นี้จริง ขั้นตอนหลังจากพิจารณาการให้คะแนนแล้ว ก็จะเปิดเผยคะแนนต่อสาธารณะ รวมทั้งจะให้นักวิชาการจากภายนอกองค์กรมาร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อความโปร่งใส แต่หากบอร์ดไม่รับพิจารณาก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการฟ้องร้องจากผู้ที่ไม่เห็นด้วยแน่นอน และทำให้เกิดผลกระทบต่อการจัดสรรใบอนุญาตทั้งกลุ่มสาธารณะ 12 ช่อง และกลุ่มธุรกิจ 24 ช่อง | กรรมการ กสทช.เสียงข้างน้อย 2 คน เตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณาร่างกติกากลางในการให้คะแนนผู้ที่จะขอใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอล ช่องบริการสาธารณะ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส | เศรษฐกิจ | กสทช.,ช่องสาธารณะ,ทีวีดิจิตอล,บิวตี้คอนเทสต์ | https://news.thaipbs.or.th/content/166251 |
เอาใจเพศที่ 3 ฟิล์ม-โด่ง-เอ-เดซี่ นโยบายจะจริงจังแค่ไหน? | การเมืองเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องใส่ใจร่วมกันสนใจตรวจสอบ ปีหน้า 2562 คาดการณ์ว่าน่าจะมีการเลือกตั้งใหญ่ได้แล้ว ส่อแววความคึกคักน่าสนใจแรง เพราะมีหลายพรรคใหม่ๆ มีผู้ลงเลือกหน้าใหม่อีกเพียบ ประวัติน่าสนใจ ตั้งใจหวังจะเป็น ส.ส. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร น่าจะทำให้การเมืองไทยมีสีสัน น่าตามติดมากกว่าการเลือกตั้งครั้งไหนๆ,เปิดตัวกันไปแล้ว ฮือฮาประมาณหนึ่ง คือดาราดังสุดหล่อลาก ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ที่โดดมาลงเล่นการเมืองอย่างเต็มตัว เป็นครั้งแรกในชีวิต ลงสมัครสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไท โดยพรรคนี้มีอีกนโยบายหนึ่งที่สนใจมากๆ คือจะให้ความสำคัญจริงจัง กับกลุ่มความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBT (lesbian เลสเบี้ยน ,gay เกย์ ,bisexual ไบเซ็กชวล ,transgender / transsexual คนข้ามเพศ) จะจริงจังกับนโยบายเพื่อเพศที่สาม มากน้อยแค่ไหน ต้องดูกันไปยาวๆ,หลายจับตาอย่างแรงว่า ฟิล์ม รัฐภูมิ จะแจ้งเกิดจะสอบผ่าน ได้รับการเลือกเป็น ส.ส. ได้อย่างที่ตั้งใจหรือไม่ และที่สำคัญจะช่วยผลักดันนโยบายพรรคที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวมได้มากน้อยแค่ไหน,อีกพรรคที่น่าสนใจอีกเช่นกันคือ พรรคไทรักธรรม หัวหน้าพรรคคือ พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ตอนนี้มีจุดขายอีกอย่าง ที่ดึงความสนใจของประชาชนคือ มีสองดาราดังในอดีตมาร่วมลงสมัครด้วยคือ เอ วิทิต แลต ที่เปิดตัวไปแล้ว ส่วนโด่ง สิทธิพร นิยม รอจังหวะอีกหน่อยกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ,แฟนละครคงจำกันได้อยู่บ้าง เอ วิทิต แลต เป็นดาราดังในอดีต มีผลงานมากมายหลายเรื่อง โดยเฉพาะในละครเรื่องล่า เวอร์ชั่น นก สินจัย ที่ เอ วิทิต แลต รับบทเป็นโจรชั่วตีบทแตกจนคนเกลียดกันทั่วบ้านทั่วเมือง เอ วิทิต แลต ได้ให้สัมภาษณ์กับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์,ผมได้มีการเตรียมตัวมา 2 ปีแล้ว คือทางหัวหน้าพรรคเขามาชวนเล่นการเมือง ตัวเราเองแรกๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะด้วยอคติที่เรารู้ๆ เห็นๆ กันอยู่ว่าการเมืองมันไม่ค่อยโปร่งใส แต่พอเราได้ลองเข้าไปพูดไปคุยประชุมพรรค มันก็เร่ิมมีความรู้สึกมั่นใจขึ้น,เมื่อก่อนเราจะมองว่าการเมืองเป็นเรื่องไกลตัวเรามาก แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ กฎหมายไม่ได้กำหนดคุณสมบัติคนที่จะสมัครเข้าเป็น ส.ส. คือเขาไม่ได้กำหนดการศึกษา อาชีพคนธรรมดา พ่อค้าแม่ค้า ประชาชนทั่วไปก็สมัครได้ การเลือกตั้งครั้งใหม่มันจะเป็นอะไรที่ใกล้ตัวมาก,ที่สำคัญพรรคไทรักธรรมผู้สมัครส่วนใหญ่ จะเป็นภาคประชาชนทั้งนั้น ตอนนี้ประชาชนธรรมดาทุกคนก็มีสิทธิ์เป็น ส.ส. ไม่ผูกขาดว่าต้องเป็นคนทุนหนา นามสกุลดังๆ เท่านั้น อีกอย่างทางพรรคก็สนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ โดยเฉพาะเพศที่สาม,เราทำงานในวงการแสดง มีเพศที่สามเยอะมากเก่งๆ กันทุกคน แต่พวกเขาแทบจะไม่มีสิทธิ์อะไรในชีวิตของเขาเลย เช่นการจดทะเบียนอาชีพ หรือหลายๆ อย่าง จึงทำให้เราคิดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มันเปิดกว้างมาก มีความโปร่งใสมากขึ้น จึงทำให้ผมสนใจเข้ามาเล่นการเมือง,ส่วนรายนี้น่าสนใจไม่น้อยคือ เดซี่ สมชาย เล็กน้อย หรือที่น่าจะคุ้นหูกันบ้างกับฉายา ตุ๊ดสลัมเงินล้าน อดีตบรรณาธิการหนังสือบันเทิงดังแห่งยุค ก็อซซิปสตาร์ Gossip Star และเคยเป็นเจ้าของนิตยสารบันเทิงหลายเล่ม ที่ส่งขายดีเว่อร์ตาม 7-11 ปัจจุบันยังเป็นผู้อำนวยการสร้างหนังสยองน่าจะเปรี้ยงเรื่อง เก็บศพร้อยวันวิญญาณอาฆาต ที่กำลังรอคิวเข้าฉายอยู่ ,ล่าสุดเดซี่ สมชาย เพิ่งพุ่งไปที่วัดบ้านแข้วนาราม อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เพื่อไปเปิดตัวสาขาพรรคไทรักธรรม ที่ชัยภูมิ เดซี่ สมชาย ให้สัมภาษณ์พยายามจะสวยสุดฤทธิ์กับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์,ตอนนี้เดซี่ยังพูดอะไรมากไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง แต่ที่แน่ๆ ลงมาเล่นการเมืองครั้งนี้ ไม่ได้มาเล่นๆ แน่นอนค่ะ จริงๆ ต้องยอมรับก่อนว่าการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเราในทุกๆ ด้าน หลายคนอาจจะบ่นเบื่อการเมืองไทย แต่อยากให้ความสำคัญใส่ใจกันต่อไป เดซี่ก็สนใจการเมืองมานาน ตามติดในฐานะคนไทยคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้จริงจังมากมาย เพราะเราทำงานด้านบันเทิง ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วแหละ ที่เราจะต้องจริงจังกับการเมืองมากขึ้นกว่าเดิม,การเลือกตั้งครั้งหน้า ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีต้นปีหน้านั้น เดซี่คิดว่าชาวไทยจะตื่นตัวกันมากขึ้น พรรคใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะ ก็หวังว่าเราจะมี ส.ส. หน้าใหม่ที่ตั้งใจจริงทำงานเพื่อส่วนรวมจริง เข้ามาช่วยกันพัฒนาประเทศไทยให้ดีขึ้นกว่าเดิม,แน่นอนว่าเดซี่เป็นสาวข้ามเพศ นโยบายสำคัญอีกอย่างของพรรคไทรักธรรม ที่เดซี่สังกัดอยู่ ก็จะช่วยผลักดันปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับเพศที่สาม สาวข้ามเพศทั้งหลาย ให้ได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกัน กับชายจริงหญิงแท้ในหลายๆ เรื่องต่อไปค่ะ,งานบันเทิงที่เดซี่รักและถนัดนั้น เดซี่ยังไม่ทิ้งไปไหนค่ะ เพราะตอนนี้หนังเรื่องแรกในชีวิตที่เราเข้ามาทำ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างเรื่อง เก็บศพร้อยวันวิญญาณอาฆาต ได้ทำเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว รอคิวจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อยู่ค่ะ. | การเมืองเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องใส่ใจร่วมกัน สนใจตรวจสอบ ปีหน้า 2562 คาดการณ์ว่า | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์,ฟิล์มเล่นการเมืองพรรคพลังท้องถิ่นไท,เดซี่ สมชาย เล็กน้อย เล่นการเมืองพรรคไทยรักธรรม,เอ วิทิต แลต เล่นการเมืองไทรักธรรม,โด่ง สิทธิพร นิยม พรรคไทรักธรรม เล่นการเมือง,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1403462 |
ก.เกษตรฯ บีบสหกรณ์เพิ่มโควต้าปลูกข้าวโพด | วันนี้ (18 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา โดยมีตัวแทนสหกรณ์ 250 แห่งในพื้นที่ 33 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการนายพิเชษฐ์ กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรจะทำหน้าที่บริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิต จัดหาเมล็ดพันธ์เครื่องจักร และรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรสมาชิก เพื่อส่งขายให้กับผู้ประกอบการ โดยประสานกับเอกชนทำสัญญาการซื้อขายผลผลิตล่วงหน้า กำหนดราคาเพื่อสร้างความมั่นใจว่าผลผลิตที่เกษตรกรปลูกจะมีตลาดรับซื้อและราคาที่แน่นอน พร้อมระบุว่าโครงการนี้เป็นไปตามนโนบายของรัฐซึ่งข้าวโพดกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดขณะที่ นายวิเชียร วงษ์คำ รอง ผจก.สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จ.พิษณุโลก หนึ่งในพื้นที่นำร่องของกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ประสานความร่วมมือกับบริษัทซีพีและแปซิฟิค ซึ่งทั้ง 2 บริษัทขายเมล็ดพันธุ์และพร้อมรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรต้นทุนปลูกข้าวโพดต่อไร่อยู่ที่ 3200 บาท ซึ่งผู้ปลูกขายข้าวโพดสดได้อย่างน้อย 5 บาทต่อกิโลกรัมวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะหารือร่วมกับผู้ประกอบการ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ 16 ราย และสมาคมผู้ค้าเมล็ดพันธุ์ถึงราคาที่จะรับซื้อคุณภาพและจุดรับซื้อ ที่ที่อย่างน้อยจะต้องมีอำเภอละ 1 จุด เป้าหมายโครงการปลูกข้าวโพดหลังทำนามีประมาณ 2800000 ไร่ล่าสุดมีเกษตรกรที่ต้องการร่วมโครงการเเล้ว 800000 ราย โดยจะเริ่มเพาะปลูกเดือน พ.ย.นี้ ทั้งนี้ รัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดยสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรเเละสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้เกษตรกรกู้ยืม อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเป็นค่าปัจจัยการผลิตและเตรียมแปลง ไร่ละ 2000 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ รวมทั้งสนับสนุนเบี้ยประกันภัย 65 บาทต่อไร่ เมื่อเสียหายเกษตรกรจะได้เงินชดเชยไร่ละ 1500 บาท เมื่อได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติจะได้รับเงินชดเชยไร่ละ 1500 บาท | โครงการปลูกข้าวโพดหลังนาป้องกันปัญหาน้ำแล้ง ทำต่อเนื่องจากปีก่อน มีรายงานว่าบางจังหวัดชาวนาให้ความสนใจน้อยลง กระทรวงเกษตรจึงเร่งให้ได้ตามเป้า 2 ล้านไร่ ในพื้นที่ 33 จังหวัด และหันไปใช้สหกรณ์เกษตรช่วยเร่งโครงการคล้ายกับให้สหกรณ์ดึงสมาชิกเข้าโครงการให้ทุนกับสหกรณ์ตั้งเป็นตัวกลางรับซื้อวางเเผนการผลิตไปจนถึงส่งขายให้กับบริษัท | เศรษฐกิจ | ธ.ก.ส.,พิษณุโลก,โครงการสานพลังประชารัฐ,ปลูกข้าวโพด,สหกรณ์การเกษตร | https://news.thaipbs.or.th/content/275191 |
สนช.ผ่าน ร่าง กม.เกษตรพันธะสัญญา และแก้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง | เป็นกฎหมาย หวังให้การบังคับคดีเร็วและมีประสิทธิภาพ24 มี.ค. 2560 รายงานข่าวระบุวา วันนี้(24 มี.ค.60)การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ได้พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธะสัญญา พ.ศ. มีทั้งหมด 46 มาตรา โดย เป็นการพิจารณาต่อจากวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อใน มาตรา 4 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมในวรรคสามที่ระบุว่า ในกรณีเขตท้องที่ใดมีความจำเป็นต้องกำหนดให้การทำสัญญาการผลิตผลิตผล หรือ บริการทางการเกษตรประเภทใดต้องนำระบบเกษตรพันธสัญญาไปใช้กับบุคคลธรรมดา ซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรรมตั้งแต่สองรายขึ้นไป ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่งสมาชิก สนช. ประกอบด้วย นายกล้านรงค์ จันทิก นายวันชัย ศารทูลทัต และนายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสองรายขึ้นไปจะขัดกับร่างเดิมที่กำหนดไว้เป็นสิบรายหรือไม่และเกรงว่าจะซ้ำซ้อนกันในเรื่องของการตีความ ซึ่งสิ่งที่กรรมาธิการชี้แจงไม่ชัดเจนว่าจะเกิดประโยชน์และมีความจำเป็นอย่างไรในอนาคตวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. ตั้งข้อสังเกตในมาตรา 39/1 วรรคสองที่ระบุว่า ค่าสินไหมทดแทนหรือค่าเสียหาย ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบตามวรรคหนึ่ง หมายความรวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ทางราชการต้องรับภาระจ่ายจริงในการขจัดมลพิษหรือฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งคำว่า ขจัดมลพิษ ครอบคลุมถึงเรื่องน้ำเสีย อากาศและอื่นๆ ที่จะก่อให้เกิดมลพิษด้วยหรือไม่กรรมาธิการ ชี้แจงว่า ถ้าระบุว่าหนึ่งรายจะขัดต่อคำนิยามของกฎหมาย เพราะสิบรายขึ้นไปจะต้องเข้าระบบเกษตรพันธสัญญาอยู่แล้ว แต่กรณีที่ไม่ถึงสิบรายต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่งการทำสัญญาไม่จำเป็นต้องทำพร้อมกันและในท้องที่เดียว แต่เป็นการนับทั่วประเทศโดยไม่นับเรื่องเวลา นอกจากนี้ การที่ระบุไว้เช่นนั้นส่วนหนึ่งเป็นไปตามแผนตามยุทธศาสตร์ชาติ ที่สามารถรองรับเกษตรกรที่ไม่ถึงสิบรายเข้าสู่ระบบเกษตรพันธสัญญาในอนาคต ส่วนคำว่า ขจัดมลพิษ นั้น จะรวมถึงมลพิษทั้งหมดตามที่พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 กำหนดทุกประการ อย่างไรก็ตามในที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. ด้วยคะแนน 190 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไปสำหรับ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีจำนวน 46 มาตรา กรรมาธิการฯ มีการแก้ไข 28 มาตรา โดยเหตุผลของกฎหมายนี้ เนื่องจากประเทศไทยส่วนใหญ่นั้น มีอาชีพเกษตรกรรม และที่ผ่านมามีความพยายามที่จะพัฒนาการภาคเกษตร เพื่อให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ดังนั้น ร่างกฎหมายนี้จึงมีสาระสำคัญ เพื่อทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่มีมาตรฐานขณะที่ผู้ประกอบการจะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและประเทศชาติจะมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจวันเดียวกัน สนช. ยังมีมติเห็นชอบประกาศใช้ร่างพ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ) พ.ศ. (ลักษณะ 2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง) ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว เป็นกฎหมายด้วยคะแนนเสียง 213 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 218 คน พร้อมเห็นด้วยกับข้อสังเกตของกรรมาธิการฯภัทรศักดิ์ วรรณแสง รองประธาน กมธ.วิสามัญฯ คนที่หนึ่ง ได้กล่าวชี้แจงว่า ภายหลัง กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว มีการแก้ไขบางมาตรา อาทิ กำหนดให้ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วัน จากเดิม 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับกรณีทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องที่จะขายหรือจำหน่ายมีสภาพเป็นของสดของเสียได้ หรือถ้าหน่วงช้าไว้จะเป็นการเสี่ยงความเสียหาย หรือค่าใช้จ่ายจะเกิดส่วนแห่งค่าของทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องนั้น ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายหรือจำหน่ายได้ทันทีโดยวิธีขายทอดตลาดหรือวิธีอื่นที่สมควร ทั้งนี้ กมธ.ได้ฝากข้อสังเกตข้อเสนอแนะให้หน่วยงานผู้บังคับใช้ร่างกฎหมายฉบับนี้เตรียมความพร้อมโดยการตรวจสอบกฎกระทรวง และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องว่ามีบทบัญญัติใดขัดหรือแย้งกับร่างกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ ซึ่งหากมีต้องเร่งดำเนินการแก้ไขบทบัญญัติและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกัน และเมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลใช้บังคับให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการบังคับคดีที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎหมายใหม่ให้บุคลากรในหน่วยงาน และสังคมได้รับทราบ เมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลใช้บังคับสำหรับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวตราขึ้น เพื่อเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ใช้บังคับอยู่บางส่วนไม่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ทำให้การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเป็นไปโดยล่าช้าไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนผู้มีอรรถคดี และเปิดโอกาสให้มีการประวิงคดี จึงควรแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายดังกล่าวให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น | สนช. ผ่าน ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธะสัญญา หวังให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง รับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่มีมาตรฐาน พร้อมผ่านร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งฯ | การเมือง,เศรษฐกิจ | การบังคับคดี,ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง,ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธะสัญญา,สนช.,เกษตรพันธะสัญญา | https://prachatai.com/journal/2017/03/70729 |
เปิดศูนย์จดทะเบียนแรงงาน 3 สัญชาติเพิ่ม 8 แห่ง 7 จว. | หลังสัปดาห์ก่อนประเดิมจุดแรกที่สมุทรสาคร7 ก.ค. 2557 - วันนี้ (7 ก.ค.) รายงานว่า นายพินิจ หาญพาณิชย์ ผวจ.สมุทรปราการ กล่าวว่า จ.สมุทรปราการ ได้เปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (ONE STOP SERVICE) จ.สมุทรปราการ เพื่อจดทะเบียนแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย 3 สัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เปิดรับจดทะเบียนระหว่างวันที่ 7 กรกฎาคม - 5 สิงหาคม 2557 ที่ศูนย์เบญจบูรพาสุวรรณภูมิ ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าจะมีนายจ้างนำแรงงานมาจดทะเบียน 95000 คน แบ่งเป็นแรงงานพม่าราว 50000 คน กัมพูชา 30000 คน และลาว 15000 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและแรงงานก่อสร้าง คาดว่าจะดำเนินการจดทะเบียนได้วันละ 1000 รายโดยก่อนหน้านี้ รายงานเมื่อวันที่ 4 ก.ค. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำหนดให้จัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service เพิ่มเติมในพื้นที่ 7 จังหวัด เพื่อทำหน้าที่พิจารณาออกใบอนุญาตทำงานชั่วคราว หรือ ทร.38/1 โดยจะเริ่มในวันที่ 7 ก.ค. - 5 ส.ค. นี้ ในพื้นที่ 7 จังหวัด 8 แห่ง ได้แก่ 1. จ.สมุทรปราการ ที่ศูนย์เบญจบูรพาสุวรรณภูมิ ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 2. จ.ฉะเชิงเทรา ที่กองพลทหารราบที่ 11 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 3. จ.ชลบุรี จัดตั้ง 2 จุด จุดที่ 1 ที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติ ต.บางทราย อ.เมืองชลบุรี จุดที่ 2 ที่ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออกเมืองพัทยา ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง4. จ.ระยอง ที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง 5. จ.พระนครศรีอยุธยา ที่อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา 6. จ.สุราษฎร์ธานี ที่ศูนย์การเรียนรู้วิภาวดี ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และ 7. จ.สงขลา ที่สโมสรทหารเรือสงขลา ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา | คสช. และกระทรวงมหาดไทยเปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จจดทะเบียนแรงงานเข้าเมืองไม่มีเอกสารจากพม่า-ลาว-กัมพูชา เพิ่ม 7 จังหวัด สมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อยุธยา-สุราษฎร์ธานี-สงขลา | แรงงาน,ความมั่นคง | การจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติ,สมุทรปราการ,แรงงานข้ามชาติ | https://prachatai.com/journal/2014/07/54454 |
เอ็นจีโอ ยืนยันเดินหน้าคุ้มครอง ก๊าซขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรมชั่วคราวอีกครั้ง | นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการกรรมาการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 มกราคมว่า นับเป็นข่าวดีที่ผู้บริโภคจะมีความหวังอีกครั้ง เพราะขณะนี้ทั้งรัฐบาลและปตท. ยังไม่สามารถตอบคำถามมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและผู้ร่วมฟ้องคดีได้ว่า ราคาตุ้นทุนเนื้อก๊าซที่กำหนด 8.39 บาท เป็นราคาที่ขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต นับเป็นราคาที่บวกกำไร และค่าขนส่ง จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแล้ว จึงไม่ใช่ต้นทุนเนื้อก๊าซที่แท้จริง หรือแม้แต่ต้นทุนค่าขนส่งและค่าการตลาดที่รัฐบาลใช้เป็นฐานในการคำนวณราคาที่ยังมีข้อมูลไม่ตรงกัน ก็ยังไม่ได้รับคำตอบเช่นเดียวกัน พร้อมยืนยันเดินหน้าผลักดันให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมในเรื่องโครงสร้างราคาก๊าซ พร้อมขอให้ผู้บริโภคและนักวิชาการที่มีข้อมูลร่วมส่งข้อมูลให้กับมูลนิธิเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวนี้ร่วมกัน โดยสามารถส่งข้อมูลได้ทุกช่องทางที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โทร. 02 248 3737 หรือwww.consumerthai.org เพื่อทำให้มีความรอบคอบและเหตุผลเพียงพอในการขอคุ้มครองชั่วคราวอีกครั้งก่อนมีคำพิพากษาคดีนี้ ด้านนายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค กล่าวเพิ่มเติมว่าอยากให้ผู้บริโภคได้ช่วยกันจับตาว่าที่จะมีการให้กองทุนรวมวายุภักษ์มาซื้อหุ้นของ ปตท. 2% จากที่ปัจจุบันกระทรวงการคลังถือหุ้นของปตท.อยู่ 51.15% การทำเช่นนี้จะทำให้หนี้สินของปตท.จำนวน7.56 แสนล้านบาท ถูกผลักให้ประชาชนเป็นผู้รับผิดชอบ และยังทำให้ ปตท.กลายเป็นบริษัทเอกชนเต็มตัวที่ทำกำไรสูงสุดได้เต็มที่โดยไม่ติดกรอบพันธะกิจความเป็นรัฐวิสาหกิจที่จะต้องถูกกำกับดูแลโดยรัฐอีกต่อไป สภาพกิจการของ ปตท. ในปัจจุบัน เป็นกิจการที่ได้สิทธิผูกขาดจากความเป็นรัฐวิสาหกิจในกิจการปิโตรเลียมทั้งหมดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหา การแยกก๊าซ การขนส่ง การขายส่ง การขายปลีก เมื่อมีการขายหุ้นปลดล๊อกความเป็นรัฐวิสาหกิจก็จะทำให้ ปตท.กลายเป็นกิจการที่ผูกขาดโดยบริษัทเอกชนอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งกฎหมายแข่งขันทางการค้าที่ประเทศไทยมีอยู่ในขณะนี้ ไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาการผูกขาดของบริษัทเอกชนได้เลย สภาพการผูกขาดในกิจการอันเป็นพื้นฐานการดำรงชีวิตของประชาชนจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ประชาชนอย่างใหญ่หลวงได้ ดังนั้น จึงขอเรียกร้องต่อประชาชนให้ช่วยกันติดตามปัญหานี้ เพราะผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีเพียงกลุ่มผู้ถือหุ้น ปตท.ทั้งที่อยู่ในและนอกประเทศได้ประโยชน์ แต่ผู้ที่เสียประโยชน์นั้นนั้นคือประชาชนอย่างแน่นอน นายอิฐบูรณ์ กล่าว | เหตุพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ที่ปรึกษากฎหมายและนักวิชาการยืนยันสามารถทำได้ เตรียมพร้อมทำคำขอคุ้มครองอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ มีสิทธิยื่นคำขอบรรเทาทุกข์ชั่วคราวต่อศาลปกครองกลางในการให้ความคุ้มครองชั่วคราวเพื่อระงับการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี และแอลพีจี | เศรษฐกิจ | บรรเทาทุกข์,มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค,ศาลปกครอง.,แถลงการณ์ | https://news.thaipbs.or.th/content/60878 |
จับหนุ่มใหญ่หื่น นั่งแอบถ่ายคลิปใต้กระโปรง นร.หญิง | ผู้อื่นปรับ 1,000 บาท,ช่วงเย็นวันที่วันที่ 21 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชายโรคจิตชอบแอบใช้มือถือแอบถ่ายใต้กระโปรงนักเรียน นักศึกษาและหญิงสาวทั่วไปที่บริเวณสถานีรถไฟสวี อ.สวี จ.ชุมพร จึงเดินทางไปตรวจสอบตามที่รับแจ้งพบชายต้องสงสัยอายุประมาณ 55-60 ปี ใส่เสื้อยืดคอกลมสีดำสวมทับด้วยเสื้อยีนส์แขนกุด นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีเขียวและสวมหมวกแก๊ป ขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในสถานีรถไฟใกล้กับหญิงสาววัยรุ่นสวมชุดนักเรียน,ผู้สื่อข่าวจึงซุ่มสังเกตการณ์และแอบถ่ายเพื่อติดตามพฤติกรรมตามที่รับแจ้ง ปรากฏว่าไม่นานชายคนดังกล่าวพยายามใช้มือถือโทรศัพท์เอื้อมเข้าไปใต้โต๊ะเพื่อถ่ายภาพใต้กระโปรงของนักเรียนหญิงคนดังกล่าวที่นั่งอยู่ตรงข้ามใกล้ๆ กัน โดยพยายามอยู่หลายครั้งจนนักเรียนสาวที่ตกเป็นเหยื่อรู้ตัว ทำให้ชายโรคจิตจึงรีบเดินออกไปทางด้านหลังสถานีรถไฟพร้อมกับขับรถจักรยานยนต์หลบหนีหายไป,ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.สุมล จักรมานนท์ สวป.สภ.สวี ให้ทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าวพร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบด้วย ร.ต.อ.สมบูรณ์ บุญนาค ร.ต.ท.จรูญ จินา รอง สวป.สภ.สวี ทำหน้าที่เวรสายตรวจรถยนต์ เพื่อติดตามจับกุมชายโรคจิตคนดังกล่าว ,ต่อมาช่วงค่ำวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนหาข่าวจนทราบชื่อคือ นายปรีชา อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 582/1 หมู่ 5 ตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร มีอาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 1 กิโลเมตร จึงติดตามไปจับกุมพร้อมกับผู้เสียหายนักเรียนสาวชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองชุมพร ไปชี้ตัวขณะนั่งอยู่ภายในบ้านพักพร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ MGT สีดำ ตรวจสอบพบว่ามีภาพถ่ายเป็นคลิปวิดีโอเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นเป็นคลิปภาพขณะถ่ายใต้กระโปรงของนักเรียนผู้เสียหายรวมอยู่ด้วย จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวี,จากการสอบสวนเบื้องต้นนายปรีชายอมรับสารภาพว่า ได้ใช้มือถือแอบถ่ายหญิงสาวเพียงไม่กี่ครั้งและจะเอาคลิปที่ถ่ายไว้ดูอย่างเดียวไม่ได้เอาทำอย่างอื่นแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากมีแม่ค้าละแวกสถานีรถไฟ บอกว่าเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นนายปรีชาชายโรคจิตชอบมาเดินป้วนเปี้ยวหน้าสถานีรถไฟเป็นประจำ และชอบแอบถ่ายหญิงสาวที่มารอรถไฟจนแม่ค้ารู้ถึงพฤติกรรมมานานแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาฐานก่อความรำคาญแก่ผู้อื่นปรับ 1,000 บาท พร้อมทั้งยึดโทรศัพท์ไว้ตรวจสอบเพื่อหาผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่นายปรีชาได้ถ่ายคลิปเอาไว้เพื่อติดตามมาแจ้งความเพิ่มเติมก่อนทำประวัติและปล่อยตัวไป. | ตร.สวี จับหนุ่มใหญ่ป่วยจิต แอบถ่ายใต้กระโปรงนักเรียนขณะรอญาติ ที่สถานีรถไฟ จนท.ตามรวบตัวได้คาบ้าน และพบหลักฐานคลิปในโทรศัพท์ที่ได้แอบถ่ายผู้หญิงจำนวนมาก ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาฐานก่อความรำคาญแก่ | ข่าว,ทั่วไทย | แอบถ่าย,ถ่ายคลิป,ถ่ายใต้กระโปรง,หนุ่มหื่น,ชุมพร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1451666 |
IBF เปิดโผคณะเปาตัดสินคู่ อำนาจ-เมียง | นับเป็นครั้งแรกที่ สมพงษ์ อัชฌานุเคราะห์ ผู้แทนสถาบันประจำประเทศไทย ได้รับเกียรติให้เป็นสักขีพยาน จิมมี่ ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์ การันตี,ความโปร่งใส ไทยรัฐทีวีถ่ายทอดสดให้ชมทางช่อง 32 ทุกกล่องทุกจาน ตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น.ความเคลื่อนไหว หัวหิน เซ็นเทนเนียล ซุปเปอร์ไฟต์ ซึ่ง เจ้าเพชร อำนาจ เกษตรพัฒนา ป้องกันแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ครั้งที่ 5 กับเมียง โฮ ลี ผู้ท้าชิงรองแชมป์อันดับ 10 ชาวญี่ปุ่น เป็นคู่นำรายการ ในวันจันทร์ 7 ธ.ค.นี้ ที่หัวหินเซ็นเทนเนียลสปอร์ตคลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอำนวยการแข่งขัน ไทยรัฐทีวีถ่ายทอดสดทางช่อง 32 ทุกกล่องทุกจาน ตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น.,จิมมี่ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์ เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น เผยว่า ทาง มร.ดารีล พีเพิล ประธานสหพันธ์มวยนานาชาติ ชาวสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการตัดสินคู่ อำนาจ-โฮลี ประกอบด้วย มร.โรเบอร์โต รามิเรซ ชาวเปอร์– โตริโก เป็นกรรมการผู้ตัดสินบนเวที และกรรมการให้คะแนน 3 คนได้แก่ มร.อัลเบิร์ต เบนเนท ชาวสหรัฐอเมริกา มร.โทนี มาเร็ตตา และ มร.เนเชียส เมสซาดิลี ชาวออสเตรเลีย โดยได้มอบหมายให้นายสมพงษ์ อัชฌานุเคราะห์ ผู้แทน IBF ประจำประ– เทศไทย เป็นสักขีพยานควบคุมการแข่งขัน กรรมการที่แต่งตั้งมาล้วนเป็นกรรมการชาติเป็นกลางและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ถือเป็นเครื่องการันตีความโปร่งใส,โปรโมเตอร์เกียรติกรีรินทร์ระบุว่า โรเบอร์โต รามิเรซ เคยทำหน้าที่เป็นกรรมการบนเวทีในไฟต์ที่จอมทอง ชูวัฒนะ ชิงแชมป์โลก WBA รุ่น 130 ปอนด์ แพ้น็อก ทากาชิ อูชิมา แชมป์โลกชาวญี่ปุ่น ยก 2, ยอดมงคล ซีพีเฟรชมาร์ท ชิงแชมป์โลก WBA รุ่นฟลายเวท แพ้น็อก ฮวนคาร์ลอส เรเบโว แชมป์ชาวอาร์เจนตินา ยก 5 และรัตนชัย ส.วรพิน ชิงแชมป์โลก WBO ชนะคะแนน ครูส คาบาฮาล แชมป์โลกชาวเม็กซิกัน มาแล้ว ส่วน มร.อัลเบิร์ต เบนเนท เคยทำหน้าที่ให้คะแนนในคู่เดิมพันแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวท IBF/WBC เมื่อครั้งที่เลนน็อกซ์ ลูอิส ชนะน็อก ฟรานซ์ โบธา ยก 2 ขณะที่ มร.โทนี มาเร็ตตา กรรมการให้คะแนนจากออสเตรเลีย เคยเดินทางมาให้คะแนนคู่ชิงแชมป์ว่างที่อำนาจชนะคะแนนฟูเอน–เตส และ มร.โทนี มาเร็ตตา ทำหน้าที่ให้คะแนนในไฟต์อำนาจป้องกันแชมป์กับอาร์โรโยเมื่อปีที่แล้ว,สำหรับ มร.ดารีล พีเพิล ประธาน IBF เคย มาทำหน้าที่สักขีพยานไฟต์ที่อำนาจชนะคะแนน ซู ชิ หมิง ที่มาเก๊า ซึ่งการแต่งตั้งให้นายสมพงษ์เป็นสักขีพยานไฟต์นี้นั้นถือว่าเป็นคนไทยคนแรก ที่ได้รับเกียรติทำหน้าที่เป็นสักขีพยานมวยชิงแชมป์โลกของสถาบัน เพราะก่อนหน้าเคยทำหน้าที่สักขีพยานเฉพาะคู่มวยชิงแชมป์เอเชีย IBF มาแล้วหลายครั้งจนผลงานเป็นที่ยอมรับ และถือเป็นเกียรติภูมิของชาวไทยที่ได้รับการยอมรับจากสหพันธ์มวยนานาชาติสถาบันมวยระดับโลกสถาบันเดียวที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา | IBF แต่งตั้งคณะกรรมการตัดสิน คู่มวยป้องกันแชมป์โลกรุ่นฟลาย-เวท อำนาจ-เมียง โฮ ลี จันทร์ 7 ธ.ค.นี้ที่หัวหินครบเซตแล้ว ล้วนมาจากชาติเป็นกลางที่ผ่านการทำหน้าที่ซึ่งทั่วโลกให้การยอมรับมาแล้ว | null | อำนาจ เกษตรพัฒนา,เมียง โฮ ลี,ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง,IBF,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/543112 |
ปชช.ทยอยเข้าพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต | ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาบางส่วน เริ่มทยอยเดินทางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางไปด้วยตนเอง หลังทราบข่าวจากสื่อต่างๆ ขณะเดียวกันมีประชาชนทยอยนำสิ่งของไปบริจาคด้วย ด้านนายกำพล รุจิวิชชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เปิดเผยว่าทางมหาวิทยาลัย เตรียมโรงยิมเนเซี่ยมไว้ 2 แห่ง คาดว่าในเบื้องต้นจะสามารถรองรับผู้ประสบภัยได้ประมาณ 1000 คนส่วนฝนที่ตกหนักในภาคเหนือ ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบางพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดสุโขทัย น้ำป่าจากอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ไหลลงสู่คลองสามพวง ทำให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมหลายหมู่บ้านในตำบลหนองจิก อำเภอคีรีมาศ ขณะที่น้ำป่าจากเทือกเขาสนามเพรียงด้านทิศตะวันตกไหลท่วมถนนพหลโยธิน ช่วงกำแพงเพชร - ตาก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 378 - 379 อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร 2 ช่องทาง ให้รถวิ่งสวนทางกัน และเตรียมปิดการจราจรหากระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นขณะเดียวกันน้ำท่วมยังส่งผลให้พืชผักมีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะที่ตลาดสดเทศบาล 2 เขตเทศบาลเมืองพิจิตร ผักทุกชนิดปรับราคาสูงขึ้น กิโลกรัมละ 20-30 บาท เช่น ผักกาดขาวจากเดิมกิโลกรัมละ 70 บาท เป็นกิโลกรัมละ 90 บาท กระหล่ำปลี จากเดิมกิโลกรัมละ 70 บาท เป็น 100 บาท โดยแม่ค้าบอกน้ำท่วมพื้นที่ปลูกผัก และการขนส่งผักก็ทำได้ยากลำบาก เพราะเส้นทางส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วม ผักต่างๆจึงแพงขึ้นส่วนที่จังหวัดพิษณุโลกพนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง นำน้ำดื่มบรรจุขวดขึ้นวางบนชั้นวางสินค้า หลังประชาชนในพื้นที่ซื้อไปกักตุน และนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกทัย จนทำให้สินค้าขายหมดชั้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับอาหารแห้ง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และ ข้าวสารบรรจุถุง มีความต้องการซื้อเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ด้านผู้บริหารห้างสรรพสินค้าหลายแห่งทั้งในจังหวัดพิษณุโลก และ กำแพงเพชร ยืนยันว่ายังไม่ปรับราคาสินค้า แต่กำลังประสบปัญหาการขนส่ง เพราะต้องใช้เส้นทางเลี่ยงถนนสายหลักที่ถูกน้ำท่วม ทำให้การขนส่งช้ากว่าเดิม 2 วัน แต่ยังไม่ส่งผลทำให้สินค้าขาดตลาด | ประชาชนหลายจังหวัดเริ่มซื้ออาหาร และน้ำดื่มไว้กักตุนเพราะเกรงว่า สถานการณ์น้ำท่วมอาจยาวนาน ทำให้สินค้าขาดตลาด ส่วนผู้ประสบภัยในอยุธยาเริ่มทยอยเดินทางยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตแล้ว | ภูมิภาค | กักตุน,น้ำท่วม,พิจิตร,พิษณุโลก,ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต,ศูนย์พักพิง,สุโขทัย,อยุธยา | https://news.thaipbs.or.th/content/38654 |
ฮือฮา พบต้นตะเคียนอายุ 100 ปี ในแม่น้ำท่าจีน | วันที่ 18 ม.ค. 59 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายประสิทธิ์ ศรีสังข์งาม อายุ 42 ปี อดีต อบต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ว่าขุดพบต้นตะเคียนเก่าแก่อายุประมาณ 100 ปี ซึ่งจมอยู่ในแม่น้ำท่าจีน บริเวณท่าน้ำวัดบางสาม หมู่ 7 ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี จำนวน 3 ต้น จึงรุดไปตรวจสอบ,ที่ดังกล่าว พบชาวบ้านแห่มาเกือบ 1,000 คน กำลังใช้รถเครนขนาดใหญ่ดึงขึ้นมาจากแม่น้ำ ลึกลงไปกว่า 10 เมตร ก่อนจะให้นักประดาน้ำของมูลนิธิเสมอกัน นำลวดสลิงไปผูกกับต้นตะเคียนและดึงขึ้นมา ทั้งหมดมีความยาว 15 เมตร ความกว้าง 2 คนโอบ ต่อมา ชาวบ้านในละแวกนั้นทราบเรื่อง จึงพากันเดินทางมาถวายเครื่องสักการะและชุดไทยจำนวนมาก พร้อมทั้งจุดธูปเทียนปะแป้งขัดถูขอเลขเด็ด,จากการสอบถาม นางวิไล โต๊ะน้อง อายุ 40 ปี ภรรยานายประสิทธิ์ ฝันว่า มีนางตะเคียนอยากจะขึ้นมาจากแม่น้ำแห่งนี้ เมื่อมาตรวจสอบตามที่ฝันก็พบตอต้นตะเคียนอยู่ในแม่น้ำจริง ก่อนนิมนต์พระครูวิมล วรดิตถ์ (อาจารย์ทวนทอง) เจ้าอาวาสวัดท่าข้าม มาทำพิธีอัญเชิญเจ้าแม่ตะเคียนขึ้นมาทั้ง 3 ต้น,ด้าน พระครูวิมล วรดิตถ์ เล่าว่า นิมิตว่ามีเจ้าแม่ตะเคียน 3 องค์ ซึ่งเป็นพี่น้องกันมากราบไหว้ โดยทั้งหมดร้องขอให้ช่วยนำต้นตะเคียนที่มีอายุ 100 ปี มาเก็บไว้ภายในวัด เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการะบูชาและทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล ในความเชื่อ ทั้งนี้ ระหว่างมีการทำพิธี มีหญิงสาวรายหนึ่งที่มาร่วมงาน มีอาการสั่นไปทั้งตัวคล้ายคนถูกผีเข้าเอาแต่ร้องไห้ ก่อนที่จะจุดประทัดอัญเชิญเสียงดังไปทั่วบริเวณ. | ฮือฮา! พบต้นตะเคียน อายุกว่า 100 ปี จมอยู่ในแม่น้ำท่าจีน หน้าวัดบางสาม จ.สุพรรณบุรี ขณะที่เจ้าอาวาสวัดท่าข้าม ทำพิธีอัญเชิญต้นตะเคียนเก็บภายในวัดให้ชาวบ้านบูชา สร้างความเป็นสิริมงคล | null | ตะเคียน,ต้นตะเคียน,ตะเคียนเก่าแก่ 100 ปี,แม่น้ำท่าจีน,สุพรรณบุรี,ขอเลขเด็ด,ขอหวย,เจ้าแม่ตะเคียน,ความเชื่อ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/564443 |
นักเศรษฐศาสตร์ประเมินผลกระทบสงครามการค้าตั้งกำแพงภาษีนำเข้าจีนสหรัฐฯ รอบ 4 | ล่าสุดหวั่นส่งออกทั้งปีติดลบกว่า 3% 25 ส.ค. 2562 ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป สถาบันเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่าตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน ก.ค. ส่งสัญญาณเศรษฐกิจอาจกระเตื้องขึ้นบ้างช่วงปลายปี โดยอัตราการขยายตัวการส่งออกเดือน ก.ค. อยู่ที่ 1.55% ส่งออกเป็นบวกเล็กน้อยพร้อมการนำเข้าสินค้าทุนและเครื่องจักรเพิ่มในเดือน ก.ค. ส่งสัญญาณเศรษฐกิจอาจกระเตื้องปลายปี ตัวเลขนำเข้าที่เพิ่มขึ้น 1.7% โดยมีการนำเข้าสินค้าทุนและเครื่องจักรเพิ่มขึ้น 11.9% เฉพาะการนำเข้าเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 23.9% สะท้อนการลงทุนปลายปีน่าจะกระเตื้องขึ้น อย่างไรก็ตาม การขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯของจีนมูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้มีผลทันทีในวันที่ 1 กันยายนนี้ โดยเก็บภาษี 5%-10% กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯรวม 5078 รายการ การขึ้นภาษีนำเข้าของจีนล่าสุดได้ถูกตอบโต้ด้วยการตั้งกำแพงภาษีรอบใหม่โดยสหรัฐฯ ทันทีในวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยสินค้ามูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์จะถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 30% จากก่อนหน้านี้ที่เก็บ 25% และยังจะเก็บภาษีบางรายการจากเดิม 10% เป็น 15% ให้มีผลในวันที่ 1 ก.ย. เช่นเดียวกันการตั้งกำแพงภาษีตอบโต้กันรอบใหม่นี้จะทำให้ระบบการค้าโลกและเศรษฐกิจเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะถดถอยเร็วขึ้นและแรงขึ้น อาจทำให้ภาคส่งออกไทยทั้งปีติดลบมากกว่า 3% และหักล้างสัญญาณอ่อนๆการฟื้นตัวของการส่งออกและภาคการลงทุนที่อาจกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในช่วงปลายปี ความรุนแรง ยืดเยื้อและการขยายวงของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาจะทำให้รายได้การท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายอีกด้วย นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจลดลงกว่าเป้าหมายประมาณ 2-3 แสนคน อุตสาหกรรมภายในจะได้รับผลกระทบจากการทุ่มตลาดของจีนมากขึ้น สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อห่วงโซ่อุปทานไทยที่ส่งสินค้าขั้นกลางไปจีน นักลงทุนจีนชะลอการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยผศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวอีกว่าการตอบโต้ด้วยการขึ้นกำแพงภาษีระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ถือเป็นสงครามการค้ารอบที่สี่ จะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเป็นวงกว้างมากกว่าเดิม ประเด็นความขัดแย้งและการชุมนุมเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในฮ่องกงจะทำให้สงครามการค้ามีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าโลกและนโยบายการค้าของสหรัฐฯทำให้คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกชะลอตัวลง ภาคธุรกิจชะลอแผนการการลงทุนระยะยาวโดยเฉพาะการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร การเก็บภาษีล่าสุดจะกดดันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกไปอีกอย่างน้อย 3-5 ปี โดยการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯน่าจะลดลงไม่ต่ำกว่า 0.5% และ เศรษฐกิจจีนลดลงไม่ต่ำกว่า 1% (รวบรวมข้อมูลจากการประมาณการของสำนักวิจัยของสถาบันการเงินระหว่างประเทศต่างๆ) นอกจากนี้ สงครามการค้าสินค้าเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ สหรัฐฯกับอียู และ อียูกับจีนสร้างปัญหาท้าทายต่อโครงสร้างตลาดและการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ของโลก เพราะการแบ่งฝ่ายแบ่งขั้วทางการค้าทำให้ระบบการพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตสินค้าเทคโนโลยีมีต้นทุนสูงขึ้น การพึ่งพากันในห่วงโซ่อุปทานได้รับผลกระทบ การแบ่งค่ายทางเทคโนโลยีจะกดดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีและระบบ Ecosystem ของตัวเองขึ้นมา ทำให้การเชื่อมโยง การเปิดกว้างต่อกันและพึ่งพาซึ่งกันและกันน้อยลงไทยที่มีความสัมพันธ์กับสองมหาอำนาจจะต้องสร้างความสมดุลด้านความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนทั้งในด้านการค้าและเทคโนโลยี ขณะเดียวกันอย่าคาดหวังมากเกินไปว่า ผลกระทบจากสงครามทางการค้าจะนำมาสู่การย้ายฐานการผลิตมาที่ไทยเนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์และสมองกลอัจฉริยะทำให้ระบบห่วงโซ่อุปทานของโลกเปลี่ยนไปจากเดิม การย้ายฐานการผลิตจะไม่ใช่เรื่องของค่าแรงราคาถูกแต่จะย้ายฐานไปยังประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและมีแรงงานทักษะสูงมากกว่า เราจึงเห็นได้ว่า การย้ายฐานของบรรษัทข้ามชาติในจีนมาไทยส่วนใหญ่ยังเป็นบริษัทที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น บริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ขั้นพื้นฐานหรือขั้นกลาง ของ Delta Electronics บริษัทผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์อย่าง Sharp Besser Western Digital บริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์หรือยางรถยนต์ เป็นต้น ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงจะย้ายไปมาเลเซียและเวียดนามมากกว่าผศ.ดร.อนุสรณ์ เสนอว่าควรนำกองทุนพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันมาสนับสนุนให้บริษัทไทยและแรงงานไทยมีผลิตภาพและทักษะสูงขึ้น นอกจากภาครัฐควรออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนแบบไม่ใช้งบประมาณ ใช้การผ่อนคลายกฎระเบียบเรื่องการลงทุน ลดขั้นตอน ลดต้นทุนด้านต่างๆเกี่ยวกับการลงทุน การขยายตัวของการลงทุนจะช่วยรักษาระดับการจ้างงานและรายได้ของประชาชนเพื่อรับมือความท้าทายจากการทรุดตัวของการค้าโลกและการส่งออกของไทย ต้องทำให้การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐไม่รั่วไหลหรือทุจริตคอร์รัปชัน เม็ดเงินภาษีประชาชนกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมาย เพิ่มต้นทุนการโกงให้สูงขึ้นจนไม่คุ้มที่จะโกง มีกลไกระบบยุติธรรมที่มีประสิทธิภาพไม่เลือกปฏิบัติ เปิดเผยข้อมูลเรื่องการลงทุนสู่สาธารณะให้ประชาชนและสื่อมวลชนตรวจสอบได้มากขึ้น ลดการใช้อำนาจดุลพินิจในการพิจารณาโครงการลงทุนต่างๆ | นักเศรษฐศาสตร์ระบุส่งออกเป็นบวกเล็กน้อยพร้อมการนำเข้าเครื่องจักรเพิ่มในเดือน ก.ค. ส่งสัญญาณเศรษฐกิจกระเตื้องปลายปีแต่ถูกหักล้างโดยการสงครามตั้งกำแพงภาษีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ | การเมือง,เศรษฐกิจ,ต่างประเทศ | อนุสรณ์ ธรรมใจ,สงครามการค้า,การเมืองระหว่างประเทศ,สงครามการค้าจีน-สหรัฐอเมริกา | https://prachatai.com/journal/2019/08/84039 |
เขื่อนลาดพร้าวสะดุดช้า 6% บ้านรุกริมคลองไม่ยอมรื้อย้าย-ตอกเสาเข็มได้แค่ครึ่ง | นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า จากการติดตามการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล) และประตูระบายน้ำ คลองลาดพร้าว จากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า-รามคำแหง รวมสองฝั่งระยะทาง 45.30 กม. งบประมาณก่อสร้าง 1,645 ล้านบาท พบว่า ขณะนี้โครงการฯมีความคืบหน้าร้อยละ 8.8 ล่าช้ากว่าแผน ร้อยละ 6.2 โดยตามแผนผู้รับจ้างจะต้องดำเนินการได้ร้อยละ 15.08 เนื่องจากมีปัญหาอุปสรรคคือบ้านที่บุกรุกริมคลองส่วนใหญ่ไม่ยอมรื้อย้ายออกจากพื้นที่ จึงไม่สามารถดำเนินการตามแผนหรือตอกเสาเข็มในพื้นที่นั้นๆได้ โดยพื้นที่โครงการฯ มีพื้นที่ระยะทาง 8 กม.ที่สามารถดำเนินการได้เลย เนื่องจากแนวก่อสร้างไม่มีปัญหาชุมชนรุกล้ำคลอง แต่ตามแผนจะต้องตอกเสาเข็มได้ 10,000 ต้น ปรากฏว่าตอกเสาเข็มได้ 5,105 ต้น ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งติดขัดปัญหาเส้นทางการลำเลียง ขนย้ายอุปกรณ์ก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ผู้รับจ้างตอกเสาเข็มได้เฉลี่ยประมาณวันละ 30 ต้น หลังจากนี้ กทม.ตั้งเป้าให้ตอกเสาเข็มได้วันละ 50 ต้น พร้อมมอบหมายให้สำนักงานเขตแต่ละพื้นที่เป็นผู้นำผู้รับจ้างเข้าพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อช่วยแก้ปัญหารื้อย้ายชุมชนที่รุกล้ำคลองออกจากแนวก่อสร้าง และเพื่อให้การทำงานเป็นไปตามแผน โดยการก่อสร้างจะใช้เวลา 1,260 วัน เริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 15 ม.ค.59 สิ้นสุดสัญญา 27 มิ.ย.62. | ขณะนี้โครงการฯมีความคืบหน้าร้อยละ 8.8 ล่าช้ากว่าแผน ร้อยละ 6.2 โดยตามแผนผู้รับจ้างจะต้องดำเนินการได้ร้อยละ 15.08 เนื่องจากมีปัญหาอุปสรรคคือบ้านที่บุกรุกริมคลองส่วนใหญ่ไม่ยอมรื้อย้ายออกจากพื้นที่ จึงไม่สามารถดำเนินการตามแผน | null | เขื่อนคลองลาดพร้าว,ประตูระบายน้ำ,บ้านรุกริมคลอง,จักกพันธุ์ ผิวงาม | https://www.thairath.co.th/content/840614 |
จยย.ลักไก่พุ่งข้ามถนน ถูกเก๋งชนคอหักดับ ผญบ.เผยกำลังไปงานศพญาติ | เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 ส.ค.63 ร.ต.อ.พอดี ไชยคำหาญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต ที่หน้าตลาดผ้านาข่า ถนนมิตรภาพ (หนองคาย-อุดรธานี) ขาเข้าเมืองอุดรธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวร รพ.อุดรธานี กู้ชีพ อบต.นาข่า และอาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมที่เกิดเหตุพบศพ นายถาวร ชำนาญพรม อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 292 หมู่ 1 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน สภาพศพขาขวาหัก กะโหลกแตก และคอหัก ใกล้รถพบจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เมท สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มตะแคงอยู่ริมถนนช่องทางขวา ห่างไป 5 เมตร พบรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ สวิฟ สีเหลือง ทะเบียน กว 7091 อุดรธานี ด้านหน้าซ้ายมีร่องรอยเฉี่ยวชนพังเสียหาย และกระจกหน้ารถแตกจากสอบสวน นายถาวร รัตนวงศ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 6 ต.โนนเมือง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู คนขับรถเก๋งให้การว่า ทำงานเป็นวิศวกรบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ขับรถมาจากบ้านพักใน จ.หนองคาย มุ่งหน้าเข้ามาทำงานที่ จ.อุดรธานี เมื่อขับมาถึงที่เกิด ซึ่งขับอยู่ในช่องทางขวา ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากซอยซ้ายมือ แล้วข้ามถนนตัดหน้ารถยนต์มาสองคัน เพื่อจะข้ามร่องกลางถนนไปอีกฝั่ง แบบกระชั้นชิด ทำให้ตนเบรกไม่ทัน ชนผู้ตายเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าวด้าน นายจิรวัฒน์ ไพรศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเดินทางมาที่เกิดเหตุ ให้การว่า ผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี กำลังจะไปร่วมงานศพญาติ ซึ่งบ้านอยู่ฝั่งตรงกันข้าม แต่ไม่ไปจุดกลับรถ จะข้ามที่ร่องกลางถนน ทำให้ถูกรถชนเสียชีวิต ซึ่งบริเวณร่องกลางถนนดังกล่าว มีชาวบ้านมักง่ายขี่รถข้ามเป็นประจำและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เคยมีผู้เสียชีวิตมาแล้ว อยากเตือนชาวบ้านให้เคารพกฎจราจร เพราะจะปลอดภัยกว่าด้าน ร.ต.อ.พอดี ไชยคำหาญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ และดูภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นหลักฐานว่า ผู้ตายกระทำผิดกฎจราจร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป | หนุ่มวิศวะซิ่งเก๋ง มุ่งหน้าไปทำงาน ชน จยย.ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านดับคาที่ เผยขับมาเลนขวา จยย.พุ่งจากซอยตัดหน้ากะทันหัน เบรกไม่ทัน ชนเต็มๆ ตำรวจเตรียมสอบพยาน-เปิดกล้องดูสาเหตุ | ข่าว,ทั่วไทย | รถชน,เก๋งชน จยย.,จยย.ถูกเก๋งชน,จักรยานยนต์,อุบัติเหตุ,อุดรธานี,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1909524 |
สั่งย้าย รอง ผอ.เสิงสางในคลิปตบหัวนักเรียน-ด้านนักเรียนต้องการให้บริหารโปร่งใส | ด้านนักเรียนในคลิปเผยว่าต้องการให้มีการตรวจสอบการทำงานของผู้บริหาร โครงการที่ทำขึ้นมาสอดคล้องความเป็นจริงหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบการเก็บเงินค่า SMS22 ส.ค. 2558 - หลังจากเมื่อวานนี้ มีการเผยแพร่คลิปจากโรงเรียนเสิงสาง บ้านบัวหลวง ต.เสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา บันทึกเหตุการณ์นักเรียนประท้วงโรงเรียนเก็บค่า SMS เพื่อใช้สื่อสารระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครอง และโดยคลิปประธานนักเรียนซึ่งนำการประท้วง ถูกชายคนหนึ่งเรียกตัวเองว่า รอง ต่อมาทราบชื่อคือ ไอสูรย์ปิยธร จุฑาธรรม ตำแหน่งรองผู้อำนวยการ โรงเรียนเสิงสาง เข้ามาตบศีรษะนักเรียนที่เป็นประธานนักเรียน รวมทั้งพูดว่าขอดูอวัยวะเพศชายของนักเรียนด้วย ทำให้อาจารย์ท่านอื่นต้องเข้ามาช่วยห้ามปรามนั้น ล่าสุด รายงานว่า ชูเกียรติ วิเศษเสนา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 (สพม.31) ซึ่งดูแลรับผิดชอบโรงเรียนมัธยมศึกษาใน จ.นครราชสีมา รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดเหตุ และตั้งกรรมการสอบสวนวินัย รองผู้อำนวยการโรงเรียนเสิงสางคนนี้แล้ว ขณะเดียวกันได้ย้ายผู้บริหารรายดังกล่าวมาช่วยราชการที่ สพม. เขต 31 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 ส.ค. สำหรับสาเหตุที่นักเรียนชุมนุมประท้วง เนื่องจากไม่พอใจการบริหารงานของผู้บริหารโรงเรียน ซึ่งไม่ได้ระบุว่าผู้ใด และมีข้อสงสัย 3-4 เรื่อง เกี่ยวกับการเก็บเงินนักเรียน เช่น เงินค่า SMS ขณะที่พฤติกรรมของ รอง ผอ. คนนี้ มองว่าการทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน เป็นเรื่องไม่เหมาะสม และไม่ควรเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในสถานศึกษาขณะเดียวกันในวันนี้เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ดำเนินรายการโดยสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา นำเหตุการณ์นี้ไปรายงานด้วย ต่อมาประธานนักเรียนคนดังกล่าว ได้โพสต์ชี้แจงจุดประท้วงการเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊คบัญชีของเขาว่าขณะที่ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ได้อัดคลิปและเผยแพร่ 2 ครั้ง (ชมคลิป ) เพื่อตั้งข้อสงสัยในความไม่ชอบมาพากลในการใช้เงินของโรงเรียนหลายกรณี เช่น เก็บค่าอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแต่เล่นแทบไม่ได้ และ ค่า SMS ซึ่งเขาเห็นว่าไม่มีประโยชน์ และไม่คุ้มเนื่องจากเก็บเงินเกินความเป็นจริง และตั้งข้อสงสัยนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ว่าไม่ฟรีจริง และกลับมีค่าใช้จ่ายเกินจริงหลายอย่าง | ผู้อำนวยการ สพม. เขต 31 สั่งย้าย รอง ผอ.เสิงสาง ในคลิปตบหัวนักเรียนประท้วงโรงเรียนเก็บค่า SMS พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงและวินัย | คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,วัฒนธรรม,การศึกษา | นครราชสีมา,นักเรียน,ประท้วงเก็บค่า SMS,เสิงสาง | https://prachatai.com/journal/2015/08/60982 |
นิธิ เอียวศรีวงศ์: ความหวังไม่รู้ดับของไผ่ ดาวดิน | ผมยอมรับว่า ตลอด 3 ปีกว่าที่ผ่านมา ไม่มีครั้งไหนที่ผมรู้สึกสิ้นหวังกับบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองเท่ากับครั้งนี้ เมื่อได้ทราบคำพิพากษากรณีไผ่ ดาวดินไผ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดอิสระของตนเอง คนรุ่นใหม่เช่นนี้เป็นความหวังของทุกประเทศ เพราะพวกเขาคือพลังสำคัญที่จะทำให้สังคมเปลี่ยนไปสู่สภาวะที่ดียิ่งขึ้น แต่ไผ่และที่จริงสังคมไทยโดยรวม กลับต้องสูญเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เมื่อเอาเขาหรือคนอย่างเขาไปจำขัง ทั้งนี้โดยความสมยอมของคนในระบบและความจำนนของคนนอกระบบตลอดกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าสังคมไทยยังเหลือช่องว่างแคบๆ เล็กๆ ที่เปิดให้ผู้คนซึ่งมองหาทางเลือกทางการเมืองที่ต่างจากที่ถูกยัดเยียดมาให้ ได้พอดิ้นรนขยับขยายผลักดันได้บ้าง แม้อย่างจำกัดจำเขี่ยเต็มทีก็ตาม พื้นที่เล็กๆ ตรงนี้ไม่เพียงแต่ต่ออายุให้แก่เสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่านั้น แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่สามารถขยายตัวออกไปได้ในระยะยาวคำพิพากษากรณีไผ่ ทำให้ผมตระหนักว่า พื้นที่แคบๆ เล็กๆ ดังกล่าวนั้นไม่มีมากไปกว่ายุทธศาสตร์และยุทธวิธีของผู้มีอำนาจจะกำหนดขึ้น การมีอยู่ของพื้นที่นั้นไม่ใช่เพื่อเสรีภาพ แต่เพื่อการครอบงำโดยสมบูรณ์ผมรู้ดีว่า ความสิ้นหวังต่ออนาคตของบ้านเมืองเช่นนี้เป็นอารมณ์ความรู้สึก ซ้ำเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่พวกเขาอยากจะเพาะให้เกิดในใจพวกเราให้มากด้วย เพราะมันทำให้พวกเขามีอำนาจที่ยั่งยืนมั่นคงกว่า ผมจึงรวบรวมสติปัญญาเพื่อมองหาเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรรักษาความหวังของเราไว้ แม้ในยามที่ไม่มีเหตุที่จะมองโลกในแง่อื่นได้ นอกจากในแง่ร้ายอาจเพราะสนใจประวัติศาสตร์มาชั่วชีวิต จึงง่ายมากที่จะเตือนสติตนเองว่า ช่วงชีวิตของเรา ของเขา ของมัน ล้วนเป็นช่วงสั้นๆ แทบไม่กี่ลมหายใจก็หมดแล้ว สิ่งที่เราหวังจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เป็นเรื่องเวลาทางประวัติศาสตร์ ไม่เกิดในช่วงชีวิตเรา ก็ช่วงชีวิตลูก ไม่เกิดในช่วงชีวิตลูก ก็ช่วงชีวิตหลานโดยเฉพาะในโลกยุคใหม่และยุคปัจจุบัน เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้นอย่างมากในช่วงทศวรรษ 2420 จะมีคนกรุงเทพฯ สักกี่คนคิดว่า ขุนนางซึ่งถืออำนาจในการบริหารและผลประโยชน์จำนวนมหาศาลอันเป็นผลจากการบริหาร จะกลายเป็นข้ารับใช้พระเจ้าแผ่นดินอย่างไม่มีทางต่อรองได้เลย แต่อีกเพียง 20 ปีต่อมา ลูกหลานตระกูลขุนนางเก่าแก่ขนาดไหนก็ตาม ล้วนเป็นข้าราชการที่ได้รับพระราชทานเงินเดือนตามแต่ท่านจะกำหนดลงมา ไม่อาจมีปากมีเสียงใดๆ ได้อีกเลยเช่นเดียวกับในทศวรรษ 2440 จะมีคนกรุงเทพฯ คนไหนคิดบ้างว่า พระราชอำนาจอันเปี่ยมล้นและไร้ขีดจำกัดของพระเจ้าแผ่นดินในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จะสิ้นสุดลงในเวลาอีกเพียงไม่เกิน 35 ปีข้างหน้า20 ปีและ 35 ปี จะว่านานก็นานในชีวิตคน แต่สั้นกระจิริดในประวัติศาสตร์ เวลาจึงอยู่ฝ่ายเราเสมอจากประวัติศาสตร์อีกเหมือนกัน เรานอนใจได้เลยว่า ไม่ว่าในระบอบปกครองใดๆ ก็ตาม ความเห็นชอบมีความสำคัญเสมอ ปัญหาอยู่ที่ว่า จะต้องเป็นความเห็นชอบของใครบ้างประวัติศาสตร์บอกเราว่า ผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะมากล้นสักเพียงไร ย่อมต้องแสวงหาความเห็นชอบจากกลุ่มคนที่มีศักยภาพจะเป็นภัยต่ออำนาจของตนได้เสมอ การใช้กำลังเข่นฆ่าคนเหล่านี้ลงทั้งหมด นอกจากเป็นไปไม่ได้แล้ว ยังเกิดผลร้ายแก่อำนาจของตนเองด้วย เช่นพ่อค้าใหญ่ๆ ทั้งหลายมีศักยภาพจะต่อต้านอำนาจของผู้ครองรัฐได้ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม แต่หากฆ่าหรือริบทรัพย์พ่อค้าใหญ่ทั้งหมดเสียแต่ต้น ก็ไม่มีใครนำโภคทรัพย์มาแก่ท้องพระคลังได้ดีไปกว่าคนกลุ่มนี้ จะต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าช่องทางหาเงินเข้าท้องพระคลังใหม่ๆ จะสัมฤทธิ์ผลเท่าช่องทางเดิม ผู้ครองอำนาจอาจตายเสียก่อนที่จะรวยล้นฟ้าก็ได้ใครบ้างที่มีศักยภาพจะเป็นภัยต่ออำนาจของเผด็จการในเมืองไทยได้ คำตอบคือคนหน้าเดิมๆ ทั้งหลายที่ไม่เคยเสียส่วนแบ่งของอำนาจไปแต่อย่างใด ไม่ว่าจะอยู่ในระบอบปกครองแบบไหน คนเหล่านี้ได้รับการเอาใจจากเผด็จการทหารอยู่แล้ว แต่กลุ่มที่น่าสนใจกว่าคนหน้าเดิม คือคนหน้าใหม่ ซึ่งค่อยๆ มีศักยภาพมากขึ้นในระยะประมาณ 1 ศตวรรษที่ผ่านมา นั่นคือสามัญชนหรือประชาชนธรรมดาทั่วไปคนประเภทนี้มีมาตั้งแต่โบราณแล้ว ถึงแม้มีจำนวนมากเป็นมหาชน แต่ไม่มีศักยภาพจะเป็นภัยต่ออำนาจของชนชั้นปกครองได้ เพราะขาดเครือข่ายและการจัดตั้งอย่างที่ชนชั้นปกครองมี อีกทั้งไม่มีความจำเป็นจะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับชนชั้นปกครองมากนัก เนื่องจากมีกลวิธีทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมที่จะกันมิให้อำนาจของชนชั้นปกครองเข้ามาใกล้ชิดตัวจนเกินไป (เช่นหนีเข้าป่า)แต่ภายใต้สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่ คนกลุ่มนี้ไม่อาจหลบอำนาจของชนชั้นปกครองได้อย่างแต่ก่อนแล้ว เกิดความจำเป็นต้องเข้ามาต่อรองอำนาจมากขึ้นตามลำดับ จนไม่นานมานี้เองก็กลายเป็นหนึ่งในเงื่อนไขหลักของการตัดสินใจทางการเมืองแม้ว่าในปัจจุบัน ประชาชนแตกร้าวกันทางการเมืองและสังคมอย่างหนัก กลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งสนับสนุนการยึดอำนาจของกองทัพก็จริง แต่นั่นไม่น่าไว้วางใจแต่อย่างไร การที่มวลชนจำนวนมากที่ร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯ และกปปส. สามารถเคลื่อนไหวทางการเมืองให้เกิดผลได้ด้วยตนเอง (ส่วนความจริงเบื้องหลังอาจไม่ใช่อย่างที่เขาคิด แต่ประสบการณ์ของแต่ละคนทำให้พวกเขาเชื่อว่าเป็นฝีมือของพวกเขาล้วนๆ) จะเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงไปชั่วลูกชั่วหลาน ซึ่งหมายถึงเส้นทางทางการเมืองที่คนกลุ่มนี้จะเลือกเดินไปชั่วลูกชั่วหลานเหมือนกัน ฉะนั้นตราบเท่าที่พวกเขายังไปกับเผด็จการได้ เผด็จการก็ปลอดภัยแต่ที่ไปกันได้กับเผด็จการก็เพราะความแตกร้าวบาดหมางกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงอย่างเดียวกัน ไม่มีความแตกร้าวบาดหมางใดๆ ในโลกนี้ที่อาจดำรงอยู่ได้ชั่วนิรันดร์ สักวันหนึ่งรอยแผลของความบาดหมางก็จะเลือนลง ถึงตอนนั้นเผด็จการทหารก็จะเผชิญกับมวลมหาประชาชน (ที่แท้จริง) ถึงวันนั้น อำนาจของอาวุธยุทธภัณฑ์และกำลังรบ จะไม่สามารถหยุดประเทศไทยให้นิ่งอยู่กับที่ได้อีกต่อไป ฝันร้ายส่วนหนึ่งของคนไทยย่อมจะบรรเทาลงผมไม่ได้หมายความว่า เส้นทางสู่ประชาธิปไตยจะกลับคืนมา บ้านเมืองของเรายังอาจต้องเผชิญเผด็จการในรูปแบบอื่นต่อไป แต่ต้องเป็นเผด็จการที่แสวงหาความเห็นชอบจากคนส่วนใหญ่ มากกว่าแสวงหาการยอมจำนนแรงกดดันจากภายนอกจะทำให้ฝันร้ายนี้ดำรงสืบเนื่องต่อไปยาวนานนักไม่ได้ ผมไม่ได้หมายความถึงแรงกดดันทางการเมืองจากมหาอำนาจ เมื่อสิ้นสงครามเย็น ประเทศไทยไม่มีความสำคัญมากพอที่มหาอำนาจใดจะแทรกแซงการเมืองภายในมากไปกว่าการแสดงท่าที หากจะมีบางส่วนในกองทัพก่อรัฐประหารซ้อนขึ้นวันใด เชื่อผมเถิดว่าอเมริกันไม่เกี่ยว จีนไม่เกี่ยว และรัสเซียก็ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของการแย่งอำนาจกันในกลุ่มชนชั้นปกครองของไทยเองแต่ผมหมายถึงแรงกดดันจากความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ด้านความคิดอ่าน ด้านวัฒนธรรม ด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดในโลกกว้าง ซึ่งจะมีความรุนแรงกว่า รวดเร็วกว่า และแผ่ไพศาลกว่า ความเปลี่ยนแปลงสู่ความทันสมัยหรือความเป็นตะวันตกของคริสต์ศตวรรษที่ 19 เสียอีก ระบอบเผด็จการของไทยปัจจุบัน ถอยหลังไปไกลเกินกว่าจะอยู่ในโลกอย่างนั้นได้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ระบอบนี้จะดำรงอยู่อย่างยืนนาน ไม่ว่าในประเทศไทยหรือประเทศใดในโลกปัญหาสถาพรของระบอบอัตตาธิปไตยทุกชนิดในทุกสมัยก็คือ จะสืบทอดอำนาจโดยสงบได้อย่างไร แม้แต่ระบอบกษัตริย์ในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นระบอบอัตตาธิปไตยที่วางระเบียบแบบแผนของการสืบทอดอำนาจอย่างรัดกุมที่สุด ก็หนีการชิงราชสมบัติ สงครามกลางเมือง การจลาจล การลอบสังหาร หรือสงครามระหว่างรัฐไม่พ้น เมื่อจำเป็นต้องผลัดแผ่นดินคงจำได้ว่า ถนอม-ประภาสจำเป็นต้องปล่อยวางอำนาจควบคุมกองทัพบกในพ.ศ.2515 ผลที่ตามมาคือ 14 ตุลาคม 2516กล่าวโดยสรุปก็คือ ระบอบที่ทำให้คนไทยสิ้นหวังต่อบ้านเมืองของตนเองนี้ ไม่มีทางที่จะดำรงอยู่นานได้ แล้ววันใหม่ก็ต้องผุดขึ้นมาจนได้ จะเป็นเมื่อไรไม่ทราบได้ ในชั่วชีวิตของผมอาจไม่ได้เห็น แต่ในชั่วชีวิตของไผ่จะได้เห็นอย่างแน่นอนเพียงแต่ว่า วันใหม่ที่มาถึงอาจไม่ตรงกับความหวังของเรานักก็ได้ (แต่ผมมั่นใจว่าดีกว่าวันนี้แน่) ไผ่ได้ใช้สติปัญญาและความกล้าหาญอย่างน่าสรรเสริญ ก็เพื่อทำให้วันใหม่ที่จะมาถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น ใกล้เคียงกับความหวังของเรามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้แต่ที่เขาถูกจองจำอยู่ในวันนี้ ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวันใหม่ให้ตรงกับที่พวกเราหวัง คือนับแต่นี้ ลูกหลานของพวกเราทุกคนจะไม่ถูกจำขังอย่างไผ่อีก | ไผ่ ดาวดิน / จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ผมยอมรับว่า ตลอด 3 ปีกว่าที่ผ่านมา ไม่มีครั้งไหนที่ผมรู้สึกสิ้นหวังกับบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองเท่ากับครั้งนี้ เมื่อได้ทราบคำพิพากษากรณีไผ่ ดาวดิน | การเมือง,สิทธิมนุษยชน,ความมั่นคง | กฎหมายอาญา มาตรา 112,คนรุ่นใหม่,จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา,นิธิ เอียวศรีวงศ์,ประวัติศาสตร์,สังคมไทย,ไผ่ ดาวดิน | https://prachatai.com/journal/2017/08/72931 |
ร็อดเจอร์ส ฟันธง สเตอร์ริดจ์ ยิงกระฉูดหลังหายเจ็บ | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 3 มี.ค. ว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ออกมาแสดงความมั่นใจในตัวกองหน้าตัวเก่งของทีมอย่าง เดเนียล สเตอร์ริดจ์ จะกลับมายิงกระจายอย่างแน่นอน หากกลับจากอาการบาดเจ็บและฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง,กองหน้าทีมชาติอังกฤษ วัย 25 ปี ต้องใช้เวลาถึงห้าเดือน ในการรักษาอาการบาดเจ็บที่บริเวณต้นขา อย่างไรก็ตาม กุนซือทีมหงส์แดงเผยว่า สเตอร์ริดจ์ จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคม พร้อมกับเชื่อจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับแผนการเล่นในระบบ 3-4-3 ของทีมได้อย่างไร้ปัญหา,เดเนียลตื่นเต้นเป็นอย่างมาก กับเล่นในระบบใหม่ของทีม เขายังไม่ฟิตสมบูรณ์อย่างเต็มที่ แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาทำผลงานได้อยางดีในการลงเล่นกับเพื่อร่วมทีมที่สนามซ้อม ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าเข้าจะกลับมาเป็นคนเดิม ที่ยิงได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เพื่อช่วยให้ทีมทำผลงานดีเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ร็อดเจอร์ส กล่าว,ทั้งนี้ มีการคาดหมายกันว่า สเตอร์ริดจ์ จะกลับมาลงสนามได้ในเกมกลางสัปดาห์ที่ถึงนี้กับเบิร์นลีย์ หลังจากมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา | นายใหญ่ทีมหงส์แดง สุดมั่นใจ! เดเนียล สเตอร์ริดจ์ จะกลับมาผลิตสกอร์ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอีกครั้ง หลังหายเจ็บและกลับมาฟิตสมบูรณ์ เชื่อมั่น หัวหอกวัยเบญจเพส จะปรับตัวให้เข้ากับแผนการเล่นใหม่ได้แน่นอน | null | หงส์แดง,ลิเวอร์พูล,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์,เบรนแดน ร็อดเจอร์ส,เดเนียล สเตอร์ริดจ์,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/content/484690 |
หนุ่มอัดคลิปไล่ล่าระทึก พบเป็นตำรวจ สภ.บ้านฉาง จับชายเอี่ยวค้ายา | จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ,เต้ย ไม่หล่อ ไม่เท่ แต่มีแดก, โพสต์ข้อความว่า เหตุการณ์ระทึก ไล่ล่า พร้อมด้วยคลิปชาย 3 คน ขี่รถจักรยายนต์ มีการไล่ติดตามรถยนต์จนตกลงร่องกลางถนน พื้นที่ จ.ระยอง และมีการจับกุมบุคคลที่อยู่ในรถยนต์ที่เผยแพร่อยู่ในโซเชียลมีเดีย จนเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้,ต่อมา ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. ชี้แจงว่า บุคคลดังกล่าวที่อยู่ในคลิปวิดีโอ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ได้รับการชี้แจงในเบื้องต้นจาก พ.ต.อ.จักรกรินทร์ ทั่วสุภาพ ผกก.สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง ว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนปราบปรามและจับกุมยาเสพติด ของ สภ.บ้านฉาง ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่จับกุมบุคคลผู้ต้องสงสัยที่ทีมสืบสวนได้เฝ้าสังเกตมาระยะหนึ่ง มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติด และผู้ต้องสงสัยขับรถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ซึ่งแต่งกายอำพรางเพื่อเข้าจับกุม,ทั้งนี้ วันที่เกิดเหตุมีสายข่าวรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยมีการนัดหมายส่งยาบ้าจำนวนหนึ่ง จึงเข้าทำการจับกุม แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทัน และหลบหนีการจับกุมโดยขับรถยนต์หนีจากพื้นที่ สภ.บ้านฉาง จนมาจุดเกิดเหตุในพื้นที่ สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง ล่าสุด ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการสืบสวน และหากมีการรายงานชี้แจงเพิ่มเติมจาก สภ.บ้านฉาง ทางศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. จะดำเนินการชี้แจงให้ทราบอีกครั้ง. | หนุ่มโพสต์คลิป ชายคล้ายเจ้าหน้าที่ไล่ล่าระทึกกลางถนน จ.ระยอง ด้าน ผกก.สภ.บ้านฉาง แจงตำรวจจริง เฝ้าติดตามพฤติกรรมจนรู้เกี่ยวข้องค้ายา ก่อนขับรถหลบหนีการจับกุม | ข่าว,สังคม | จับยา,ยาเสพติด,ค้ายา,หนีตำรวจ,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1181493 |
อุตุฯ เตือนระวังพายุฝน และน้ำป่าไหลหลากในภาคอีสาน | สถานการณ์น้ำท่วมภายในชุมชนบ้านหาดสวรรค์ เขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู จากฝนที่ตกหนัก และน้ำป่าจากเทือกเขาภูพานไหลเข้าท่วมเมื่อ 2 วันก่อน ขณะนี้เริ่มคลี่คลายแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ระดมเครื่องสูบน้ำพร้อมใช้รถแบ็คโฮขุดร่องเพื่อเปิดทางน้ำส่วนที่จังหวัดบึงกาฬ ผู้รับเหมาเร่งซ่อมแซมถนนสายโนนสมบูรณ์-นาสวรรค์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างสองตำบลให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนถูกตัดขาดเมื่อ 2 เดือนก่อนเช่นเดียวกับจังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่เร่งขุดลอกดินใต้สะพานบ้านเปื่อยน้ำ-บ้านมะค่า อำเภอกันทรวิชัย เพื่อเปิดร่องน้ำให้ไหลสะดวกยิ่งขึ้น ตามมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประชาชนระวังพายุฝนที่ตกหนักและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังปานกลางยังคาดพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งจะทำให้มีฝนตกกระจายร้อยละ 80 บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม | กรมอุตุฯ แจ้งเตือนประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเฝ้าระวังพายุฝนตกหนัก และน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ขณะนี้เริ่มคลี่คลายแล้ว | ภูมิภาค | กรมอุตุนิยมวิทยา,น้ำท่วม,น้ำป่า,บึงกาฬ,ฝนตก,พายุ,มหาสารคาม,หนองบัวลำภู | https://news.thaipbs.or.th/content/96110 |
อส.กำแพงเพชร ยิงตัวตายหลังดื่มเหล้ากับเพื่อน คนรอบข้างไม่ทราบสาเหตุ | เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 16 มิ.ย. 60 พ.ต.ท.ไพศาล วรรณชัย สว.สส.สภ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งว่ามีคนยิงตัวตายที่ซอยบ้านนา หมู่ 3 ต.นครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สมบัติ ศรีคงรักษ์ รอง ผกก.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกับหน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร ที่เกิดเหตุพบศพ นายเอกชัย เอิบอิ่ม อายุ 33 ปี นอนหงายจมกองเลือด ห่างจากบ้านผู้ตาย 30 เมตร โดยมี นางภิญญาพัชญ์ ขำรอด อายุ 32 ปี ชาวกำแพงเพชร ภรรยาของผู้ตายยืนร้องไห้อยู่ใกล้กับ นายปุญญวัตน์ บูรพา อายุ 32 ปี เพื่อนของผู้ตาย,จากการสอบสวนเบื้องต้นภรรยาเปิดเผยว่า นายเอกชัย เป็นอาสารักษาดินแดนประจำกองบังคับการรักษาดินแดน จ.กำแพงเพชร สังกัดกองร้อย อส.อ.เมืองกำแพงเพชร ตำแหน่งลูกแถว ก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มสุรากับเพื่อนหน้าบ้าน จนดึกมากแล้วยังไม่เห็นสามีเข้าบ้านจึงโทรศัพท์ตามเพื่อนที่ดื่มสุราด้วยกันมาช่วยตามหา กระทั่งมาพบเสียชีวิตในที่เกิดเหตุแล้ว,ด้าน นายปุญญวัตน์ เพื่อนผู้ตาย เปิดเผยว่า นั่งดื่มสุรากับผู้ตายตั้งแต่ 20.30 น. ที่ผ่านมา โดยพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ แต่ผู้ตายไม่ได้บ่นเครียดหรือมีปัญหาอะไร จนสุราหมดไปขวดครึ่งผู้ตายบอกดื่มต่อไม่ไหวแล้วจึงเข้าบ้านนอน ส่วนตนหลังเคลียร์บริเวณที่นั่งดื่มกันเสร็จก็กลับบ้านเมื่อเวลา 23.30 น. จนถึงเวลาเกิดเหตุภรรยาผู้ตายโทรศัพท์มาบอกว่าสามีหายไป ตอนแรกคิดว่าอาจไปเที่ยวสถานบันเทิงต่อจึงมาดูและพบว่าเสียชีวิตแล้ว,ต่อมา นายภาสกร บุญญลักษณ์ ปลัดจังหวัดกำแพงเพชร เดินทางมาดูที่เกิดเหตุด้วย จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพบอาวุธปืนประจำกายของหลวง ขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่ปลายเท้า พบปลอกกระสุนตกอยู่ 1 ปลอก ตรวจดูตามร่างกายพบบาดแผลรอยกระสุนเข้าที่ขมับข้างซ้ายทะลุหูขวา บาดแผลอื่นๆ ไม่มี ทุกฝ่ายสันนิษฐานว่ายิงตัวตายเอง เนื่องจากผู้ตายถนัดซ้าย ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบเพราะไม่มีเรื่องขัดแย้งกับใครทั้งที่ทำงานและที่บ้าน จากนั้นหน่วยกู้ภัยนำศพส่ง รพ.กำแพงเพชร เพื่อชันสูตรอย่างละเอียด. | เมีย อส.กำแพงเพชร ออกตามหาสามีหลังดื่มเหล้ากับเพื่อนเสร็จแล้วหายไป พบเป็นศพยิงตัวตายห่างจากบ้าน 30 ม. เพื่อนนั่งดื่มด้วยเผย ผู้ตายไม่ได้พูดหรือระบายอะไรให้ฟัง ไม่รู้สาเหตุ | ข่าว,อาชญากรรม | ฆ่าตัวตาย,ยิงตัวตาย,ยิงขมับ,กำแพงเพชร,อส.กำแพงเพชร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/974317 |
การไฟฟ้า มอบเครื่องตัดไฟฟ้ารั้วให้ ร.ร.ไทยรัฐวิทยา เพื่อลดการสูญเสีย | เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 ม.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 5 (วัดตลิ่งต่ำ) หมู่ 8 ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล นายนรงค์ วงษ์กระสันต์ รองผู้จัดการฝ่ายเทคนิค การไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค จ.อุตรดิตถ์ ประธานชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนช่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอุตรดิตถ์ และคณะ มามอบเครื่องตัดไฟฟ้ารั้ว (RCD) ในโครงการ ส่งใจ ไฟฟ้าปลอดภัย ให้น้อง ร.ร.ไทยรัฐวิทยา 5 รวมทั้งหมด 8 เครื่อง เพื่อติดตั้งเครื่องดังกล่าว จำนวน 8 จุด เพื่อป้องกันไฟฟ้าดูด โดยมีนายชัชวาลย์ เพ็ชร์แบน ผอ.ร.ร.ไทยรัฐวิทยา 5 และคณะครูและนักเรียนให้การต้อนรับ,สำหรับ เนื่องในโอกาสที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ลง MOU กับมูลนิธิไทยรัฐ และครบรอบวันสถาปนาปีที่ 57 ปี เมื่อวันที่ 28 กันยายน 60 และโรงเรียนช่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะครบรอบ 50 ปี ในวันที่ 3 มิถุนายน 61 สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนช่างฯ และชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนช่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัดโครงการดังกล่าว ก็คือ ส่งใจ ไฟฟ้าปลอดภัย ให้น้อง โดยดำเนินการติดตั้งไฟรั้ว (RCD) ให้กับ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ทั่วประเทศ 54 แห่ง,ทั้งนี้ สำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ครู และนักเรียน ช่วยลดการเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากระบบไฟฟ้า ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินและความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัย อันตรายจากกระแสไฟฟ้า วันนี้ได้มามอบอุปกรณ์ดังกล่าว พร้อมด้วยอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 5 (วัดตลิ่งต่ำ) อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เพื่อเป็นการนำร่อง. | การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอุตรดิตถ์ มอบเครื่องตัดไฟฟ้ารั้วให้ ร.ร.ไทยรัฐวิทยา 5 รวมทั้งหมด 8 เครื่อง เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ครูและนักเรียน ช่วยลดการเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากระบบไฟฟ้า รวมทั้งลดความสูญเสียต่อชีวิต | ข่าว,สังคม | เครื่องตัดไฟฟ้ารั้ว,การไฟฟ้า,ร.ร.ไทยรัฐวิทยา 5,ไทยรัฐวิทยา,อุตรดิตถ์,การศึกษา | https://www.thairath.co.th/news/society/1189778 |
จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ 7: นิรโทษกรรมไม่ใช่นโยบายเพื่อไทย? | เป็นเพียงคำพูดของคนคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น\ ที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือ ถัดมาอีกหนึ่งวันพรรคเพื่อไทยถึงกับออกแถลงการณ์ว่า \นิรโทษกรรม\ ไม่ใช่นโยบายพรรค และกล่าวหาว่าผมจงใจใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย ผมคิดไม่ถึงว่าจะมีพรรคการเมืองหลอกลวงประชาชนซึ่ง ๆ หน้า เช่นนี้ เพราะไม่ใช่วิสัยของพรรคการเมืองที่ต้องเคารพและซื่อสัตย์ต่อคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน แต่พรรคเพื่อไทยกลับซ่อนรูปกลบเรื่องนิรโทษกรรมทันทีที่กระแสตีกลับ ทั้งที่ตีปี๊บโหมโรงตั้งแต่วันแรก ๆ ที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง เนื่องจากมั่นใจนักหนาว่าจะชนะการเลือกตั้งได้จัดรัฐบาล สามารถดำเนินการทุกอย่างได้ตามใจชอบเมื่อมีอำนาจรัฐมาครอบครองไว้ในมือ ผมทบทวนความจริงกับพี่น้องประชาชนอย่างนี้ \คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร\ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในวันที่ 21 พ.ค. 54 อย่างเป็นเรื่องเป็นราวมีการมอบหมายหน้าที่ชัดเจนในการดูแลเรื่องนี้ว่า \จะมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 3ไปดูแล เพราะ เคยเสนอให้มีการออก พระราชบัญญัติอภัยโทษ และนิรโทษกรรม ส่วนวิธีการจะมีคณะกรรมการที่มาจากคนกลาง พิจารณาอีกครั้ง โดย ยึดหลักนิติธรรมคือความเสมอภาค ทุกคนต้องได้รับความเสมอภาคที่เท่าเทียมกัน ส่วนจะทำประชามติหรือไม่ ต้องไปว่ากันในรายละเอียด และต้องให้โอกาส พ.ต.ท.ทักษิณได้รับความเป็นธรรมเหมือนคนอื่น ส่วนการเยียวยาให้กับคนเสื้อแดง นั้นก็จะทำให้สมบูรณ์ที่สุด แต่ไม่อยากให้เป็นลักษณะของการเร่งรัด ทุกอย่างต้องอยู่ที่จังหวะและเวลา และความถูกต้องในรายละเอียด\ วันถัดมาคุณยิ่งลักษณ์เปิดปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่พูดบนเวทีเป็นภาษาเหนือว่า. \ไม่เคยกลับบ้านครั้งไหนซึ้งใจเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย น้องสาวกลับยังขนาดนี้ ถ้าพี่ชาย (พ.ต.ท.ทักษิณ) กลับจะขนาดไหน\ คุณยิ่งลักษณ์ยังระบุต่อไปว่า \พรรคเพื่อไทยจะคิดใหม่ทำใหม่ โดยมีทักษิณช่วยคิด แต่ยิ่งลักษณ์เป็นคนขอทำ\ วันเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าทีมปรองดองของคุณยิ่งลักษณ์ย้ำบนเวทีปราศรัยว่า \แนวคิดการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ผมเป็นคนเปิดออกมาเอง เพราะถ้าไม่พูดแล้วประชาชนไม่เอา ดังนั้น ต้องเปิดหน้าชนเลย พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลสั่งจำคุกกรณีลงนามให้ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ภริยา ไปซื้อที่ดินจากกองทุนฟื้นฟูฯ ย่านรัชดาฯ แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์ คำหนึ่ง สองคำ ก็บอกว่า \ทักษิณทุจริต\ถ้าจะนิรโทษให้ ผมจะนิรโทษให้ในเรื่องนี้\ ร.ต.อ.เฉลิม ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมด้วยว่า \จะเน้นผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติ-รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา ประชาชนและคนทั่วโลก ไม่พอใจปฏิวัติ ดังนั้น ไม่อยากให้มองว่าพรรคเพื่อไทย คิดแก้ปัญหารายบุคคล โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่อยากให้มองว่า พ.ต.ท.ทักษิน เป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ ที่สำคัญ ประเทศต้องได้ประโยชน์ คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ อาจได้เป็นรายบุคคล ซึ่งรวม พ.ต.ท.ทักษิณด้วย อยากให้ประชาชนเข้าใจ เรื่องที่นำมาเป็นนโยบายหาเสียง เราต้องดูข้อกฎหมาย หากออกพ.ร.ก.นั้นทำได้เร็ว แต่ต้องเข้าสภา หากเป็นพ.ร.บ. ก็ต้องได้เสียงข้างมาก แต่ที่สำคัญที่สุด ได้คิดเรื่องนี้มาหลายปี และไม่ปกปิด บอกประชาชนมาตลอด ถ้าประชาชนยังเลือกพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมาก และตั้งรัฐบาลได้ เชื่อว่าจะไม่มีใครขัดขวาง ที่พรรคประชาธิปัตย์บอกว่าถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย จะแก้ปัญหาให้ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นไม่ใช่ แต่เป็นการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศและคนส่วนใหญ่ใครทำผิดก็ต้องผิด ใครไม่ผิดเพราะถูกกลั่นแกล้งก็ได้รับความเป็นธรรมเรื่องนี้ถูกต้องที่สุด\ ชัดเจนไหมครับ ทำไมวันนั้นทั้งคุณยงยุทธและพรรคเพื่อไทยไม่ออกมาคัดค้านล่ะครับ ที่สำคัญคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีการติดป้ายหาเสียงชัดเจนว่า \ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ\ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศหลายแห่งว่า \จะกลับประเทศไทยในเดือนธันวาคมเพื่อร่วมงานแต่งงานของบุตรสาวคนโต และพูดถึงการนิรโทษกรรมโดยอ้างว่าไม่ใช่ทำเพื่อคุณทักษิณเพียงคนเดียว แต่เพราะคุณทักษิณคือบุคคลหนึ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องได้ประโยชน์จากการนิรโทษกรรมด้วย\ นอกจากนั้นยังปรารภเสมอว่าเงิน 4.6 หมื่นล้าน ถูกรัฐปล้นไป เหลือเงินเพียงแค่ 3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ทำไมไม่มีใครโต้แย้งว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายที่จะทำเรื่องนี้ แต่กลับเดินหน้าพูดต่อสาธารณะในหลายเวทีเกี่ยวกับแนวทางนิรโทษกรรมในลักษณะรับลูกกันเป็นทอด ๆ ตลอดเวลา แม้แต่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาแถลงในวันทึ่ 13 มิ.ย.ว่า \ถ้าพรรคเพื่อไทย ได้เสียงสูงสุด ก็จะจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการปรองดอง และตั้งใจจะนำสันติสุข ความสามัคคี โดยจะไม่มีการแก้แค้นหรือเอาคืน แต่จะพยายามดูเรื่อง ผู้เสียหายและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา การปรองดองของพรรค จะอยู่บนหลัก 5 ข้อ เมตตาธรรม ประชาธรรม นิติธรรม การให้อภัย ความสามัคคีและกลมเกลียวในอนาคต ดังนั้น ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถามจุดยืนของการปรองดองของพรรค พรรคก็อยากให้ประชาชนได้เลือกตั้งระหว่างแนวทางปรองดองของพรรคเพือ่ไทยกับของพรรคประชาธิปัตย์ที่ใช้ ทหาร กองกำลัง จบด้วยการปะทะกับประชาชนจนเสียชีวิต ที่อ้างว่า ยึดตามหลักกฎหมาย แต่สุดท้ายก็คือ การเอาคุกเป็นสรณะ เมื่อเข้าคุกจึงให้อภัยก่อน ประชาชนจะได้เลือกว่า สิ่งไหนถูก และนำสู่การปรองดองของประเทศอย่างแท้จริง จะมีการตั้งคณะกรรมการเชิญคนทุกสีมาหารือกัน โดยคณะกรรมการชุดนี้จะยึดเนื้อหาตั้งแต่การยึด 19 กันยา 2549 เป็นต้นมาที่เป็นต้นเหตุความขัดแย้ง\ แม้นายปลอดประสพจะออกตัวว่า เรื่องนิรโทษกรรมจะทำเป็นเรื่องสุดท้ายหลังจากดูแลเรื่องการเยียวยาแล้วก็ตาม แต่เนื้อหาทั้งหมดก็คือการล้างความผิดหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ซึ่งแน่นอนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือบุคคลหนึ่งที่พยายามบอกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมหลังการยึดอำนาจ นายปลอดประสพ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังพูดถึงเรื่องการนิรโทษกรรมในวันที่ 29 พ.ค. ว่า ขอตอบแบบมนุษย์ เวลามีใครทะเลาะถึงขั้นต่อยกัน จะเอาคนกลางมาห้ามคงไม่ได้ ต้องให้ 2 ฝ่ายหยุดกันเอง มาจับมือสัญญาว่าเลิกทะเลาะกัน ดังนั้น การปรองดองเป็นการยินยอมพร้อมใจของผู้ที่แตกแยก ไม่ใช่ให้คนอื่นมาชี้ อย่ามาโม้ ให้คนกลางมาช่วยมันเป็นเพียงนิยาย คำพูดของนายปลอดประสพขัดแย้งกันเองเพราะเคยระบุว่าจะให้คณะกรรรมการกลางเข้ามาแก้ปัญหานี้ ผมถามคุณยงยุทธและพรรคเพื่อไทยว่า คุณปลอดประสพใช่รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไหมครับ เคยแถลงในนามพรรคเพื่อไทยใช่ไหมครับ แล้วพรรคเพื่อไทยจะไม่มีแนวคิดที่จะทำเรื่องนิรโทษกรรมตามที่มีการออกแถลงการณ์ได้อย่างไร ล่าสุดบุตรสาวคนโตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ออกมาพูดเองว่า ยังมั่นใจว่าพ่อจะได้กลับมางานแต่งงานของตัวเองในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งก็สอดรับกับที่คุณยิ่งลักษณ์เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า \พี่ชายจะกลับประเทศมาร่วมงานแต่งลูกสาว\ ผมก็ยังยืนยันในสิ่งที่เคยเขียนในเฟซบุ๊คนี้ว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาโดยที่ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีการล้างความผิดให้ สถานที่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องไปไม่ใช่งานแต่งงานบุตรสาว แต่ประตูคุกเปิดรออยู่ เพราะเป็นผู้ต้องหาหนีคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา ดังนั้นทันทีที่ถึงแผ่นดินไทยก็ต้องถูกควบคุมตัวไปรับโทษตามกฎหมาย ที่สำคัญถ้า นิรโทษกรรมไม่ใช่นโยบายพรรคเพื่อไทยทำไมในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ ยังมีการแจกใช้สื่อหาเสียง \พาทักษิณกลับบ้าน\ กันอย่างครึกโครม ผมคิดว่าประชาชนรู้เท่าทัน ไม่ว่าจะพยายามซ่อนเร้นแย่างไรก็ปกปิดเป้าหมายแท้จริงที่ต้องการล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นวาระแรกของรัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้ แถลงการณ์พรรคเพื่อไทยเป็นการตอกย้ำการทำงานการเมืองที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อประชาชน เพราะคำพูดต่อสาธารณะไม่ใช่สัญญาที่ต้องปฏิบัติ เป็นเพียงลมปากที่จะเปลี่ยนไปได้ตามสถานการณ์โดยคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคเป็นสำคัญ พื้นที่ไหนขาย พ.ต.ท.ทักษิณได้ ก็ชูนโยบายพาทักษิณกลับบ้าน พื้นที่ไหนที่คนตื่นตัวมีความรู้เท่าทันเล่ห์กลการเมืองในการล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พยายามเบี่ยงเบนประเด็นซ่อนเรื่องนิรโทษกรรมเอาไว้ เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อคะแนนนิยมของพรรคตัวเอง อย่างนี้ไม่ใช่การทำงานของพรรคการเมืองหรอกครับ แต่เป็นการทำงานของบริษัทที่ดีดลูกคิดคำนวณตลอดเวลาถึงกำไรที่จะได้มา โดยไม่คำนึงถึงวิธีการในการหากำไรเข้าบริษัท และเจ้าของบริษัทคือผู้ที่ต้องได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนเพื่อค้ากำไร ซึ่งในที่นี้ก็รู้กันดีอยู่ว่าใครเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย ผมถามคนไทยว่าเราจะปล่อยให้พรรคการเมืองที่ไม่ใช่เพียงแค่ดีแต่พูด แต่โกหกประชาชนอย่างไม่ละอายใจมาเป็นผู้บริหารบ้านเมืองหรือครับ วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เคยพูดอะไรไว้ในวันแรกของการหาเสียงไม่มีคำไหนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและจะยึดมั่นคำสัญญาปฏิบัติในสิ่งที่ให้คำมั่นไว้กับประชาชนทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล คนไทยต้องเลือกระหว่างแนวทางพรรคประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยแตกต่างกันชัดเจน เอาให้เด็ดขาดไปเลยว่า หลังเลือกตั้งคราวนี้อยากให้ประเทศเดินหน้าอย่างไร ถ้าอยากให้เดินหน้าโดยมีประโยชน์ทางการเมืองซ่อนเร้นอยู่ตลอดเวลา และรับใช้ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งจะคอยบงการทุกอย่างให้ได้รับการล้างความผิด ก็เลือกพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าคนไทยต้องการนายกรัฐมนตรีที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชนโดยไม่มีประโยชน์ส่วนตนเข้ามาเกี่ยวข้อง เดินหน้าปรองดองบนความถูกต้อง รักษาหลักนิติรัฐ นิติธรรม ไม่มีการล้างความผิดให้ใครคนใดคนหนึ่งก็เลือกพรรคประชาธิปัตย์ให้ท่วมท้นเกิน 250 เสียง วันนั้นล่ะครับที่คนไทยจะเป็นผู้ถอนพิษทักษิณออกจากประเทศนี้ และนำบ้านเมืองของเราก้าวข้ามปัญหาทักษิณกลับสู่การแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองและประชาชน ซึ่งจะทำให้เราพ้นกับดักความรุนแรงและความขัดแย้งได้อย่างแท้จริงจากมติของประชาชนที่ร่วมกันปฏิเสธไม่เอา \ระบอบทักษิณกลับมาทำร้ายประเทศอีก\ | ผมยอมรับว่าค่อนข้างตกใจที่ในวงดีเบตซึ่งองค์กรกลางจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม คุณยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะพูดหน้าตาเฉยโดยไม่สะทกสะท้านว่า \นิรโทษกรรมไม่ใช่นโยบายพรรคเพื่อไทย | การเมือง | การเลือกตั้งทั่วไป 2554,จดหมาย,ทักษิณ ชินวัตร,พรรคประชาธิปัตย์,พรรคเพื่อไทย,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | https://prachatai.com/journal/2011/06/35669 |
เปียงซ้อปลายฟ้า น่าน | ปีนี้ช่วงวันธรรมดาที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก เลยถือโอกาสขึ้นไปเมืองน่านอีกครั้ง โดยการเชื้อเชิญของ ททท.สำนักงานน่าน ที่อยากโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ โดยเฉพาะบ้านเปียงซ้อ หมู่บ้านชาวลัวะ ที่อยู่เหนือ อ.บ่อเกลือ ขึ้นไปราว 30 กิโลเมตร,เราปักหมุดคืนแรกกันที่ บ้านสะปันชุมชนเล็กๆที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา มีลำน้ำมางไหลผ่าน ในช่วงหน้าฝนที่เป็นฤดูทำนา นอกจากภูเขาแล้วยังมีวิวทุ่งนาเขียวสดๆให้ชมวิว และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวชิกๆแห่งใหม่ของ จ.น่าน ห่างจากบ่อเกลือภูเขาไปเพียง 9 กิโลเมตรเท่านั้น,ไม่กี่ปีมานี้ จากหมู่บ้านเล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก สะปันกลายเป็นที่ตั้งของโฮมสเตย์เก๋ๆ ซึ่งดัดแปลงจากบ้านไม้ และที่สร้างขึ้นใหม่ๆสไตล์ดิบๆ เพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ สำหรับคืนนี้พวกเราพักกันที่โฮมสเตย์บ้านไม้เล็กๆชื่อ สะปัน รีทรีทที่ตั้งอยู่ติดกับลำน้ำมางในหมู่บ้านที่นี่นอกจากจะสงบเหมาะแก่การพักผ่อนแล้ว ยังเป็นตัวอย่างของสโลแกน บ้านหลักร้อย วิวหลักล้านได้จริงๆ,ส่วนใหญ่แล้ว ที่พักในสะปันจะให้บริการทั้งอาหารเช้า และอาหารเย็น แต่ถ้าใครอยากได้บรรยากาศของการกินหมูกระทะกลางหุบเขา ริมน้ำ ก็สามารถสั่งได้ ทางโฮมสเตย์เขามีวัตถุดิบและหม้อย่างหมูกระทะบริการเรียกว่า ใช้ชีวิตติดดินกินง่ายๆ แบบสโลว์ไลฟ์ได้อย่างสบายๆเลยล่ะ,หลับฝันดีที่สะปันในคืนแรกเสียงไก่ขันในหมู่บ้าน ทำหน้าที่นาฬิกาปลุกให้พวกเราตื่นมาจิบกาแฟ ดูพระอาทิตย์ขึ้น ก่อนจะออกไปขี่จักรยาน ชมวิถีเนิบช้าในหมู่บ้าน ที่มีทั้งสะพานแขวน และน้ำตกสะปัน น้ำตกเล็กๆ สูงไม่เกิน 6 เมตร ลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และยังเป็นจุดสบของลำน้ำสำคัญ 3 สายของ จ.น่าน คือ ลำน้ำมาง ลำน้ำว้า และ ลำน้ำน่าน,เช้านี้จุดหมายการเดินทางของเรา คือ โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง ซึ่งต้องใช้รถโฟร์วีล ขับขึ้นไปอีกราว 30 กิโลเมตร เราได้ พี่วิทย์ เจ้าของรีสอร์ต และร้านอาหาร ชื่อกลิ่นไอเกลือ ในเขต อ.บ่อเกลือ เป็นทั้งสารถีและผู้นำทาง ระหว่างทางผ่านจุดกำเนิดแม่น้ำน่าน ในเขตเทือกเขาหลวงพระบาง ที่บ้านสะเละ ตำบลบ่อเกลือเหนือ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ที่ต้องเดินเท้าเข้าไปยังจุดตาน้ำในเขตพื้นที่ป่า ประมาณ 500 เมตรที่ถ้าแค่ไปดูธรรมดาๆก็คงไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก,แต่สำหรับเราการได้มาเห็นต้นกำเนิดของ 1 ใน 4 ของแม่น้ำสายหลัก ที่ไหลลงไปรวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา สายเลือดที่หล่อเลี้ยงคนไทยในเขตภาคเหนือเรื่อยไปจนถึงพระนครเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย,เราใช้เวลาประมาณ 20 นาที ที่จุดกำเนิดแม่น้ำน่าน ก่อนจะออกเดินทางต่อไปยังบ้านสะจุก-สะเกี้ยง เพื่อชมความสวยงามและความสำเร็จอันเกิดจากน้ำพระราชหฤทัยของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีพระราชดำริให้สร้างโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงขึ้นในหมู่บ้าน เพื่อให้ความรู้เรื่องการทำนาแบบขั้นบันได เพื่อแก้ไขปัญหาป่าเสื่อมโทรม และทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากผลผลิตในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น เบอร์รี มัลเบอร์รี ชาอู่หลง มะเขือเทศ และพืชผลเมืองหนาวอีกหลายชนิด,นอกจากเป็นสถานีพัฒนาการเกษตรในพื้นที่สูงแล้ว ที่นี่ยังมีจุดชมวิวไร่ชาขั้นบันไดแบบสวยๆ ให้ชมด้วย ส่วนที่พักตอนนี้ปิดให้บริการ ถ้าจะพักแนะนำให้พักที่บ่อเกลือ หรือบ้านสะปัน แล้วเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวแบบ One Day trip จะสะดวกกว่า,จากสถานีเกษตร เดินทางต่อขึ้นไปอีกไม่ไกล เป็นที่ตั้งของ บ้านเปียงซ้อที่ต้องบอกว่า นอกจากจะเป็นจุดสูงสุดของเมืองน่านแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด เป็นธรรมชาติที่สุด และอากาศดีสุดๆ,นี่ถ้าเก็บโอโซนกลับไปได้ อยากจะอัดกระป๋องกลับไปเลยทีเดียว แต่ที่ต้องเก็บไว้ในความทรงจำเห็นจะเป็นวิวยอดเขา 360 องศา จดขอบฟ้าเมืองน่านที่ไม่ว่าจะยืนมุมไหนก็ถ่ายรูปสวยๆ ได้หมด ยิ่งตอนนี้ เปียงซ้อยังไม่ดังมาก ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปมากนัก จะไปเสาร์-อาทิตย์ หรือวันธรรมดา ก็ไม่วุ่นวายมากแนะนำให้ไปเที่ยวแบบการันตีความสุข,ไปสัมผัสความสวยงามของปลายฟ้า,ปลายฟ้าที่ไม่ต้องหลับตาลงก็คงได้พบกัน ได้โอบกอดสวรรค์บนดินแบบฟินสุดๆ,ที่นี่ล่ะเปียงซ้อปลายฟ้าน่าน | หนาวแรกของปีนี้ แวะมาทักทายในช่วงที่ฝนยังแวะเวียนมาทำให้เปียกปอนในทุกๆวัน แน่นอนเรากำลังอยู่ในช่วงของปลายฝนต้นหนาว | null | น่าน,เปียงซ้อ,หน้าหนาว,หมู่บ้านชาวลัวะ,บ่อเกลือ,เที่ยวน่าน,เที่ยวตามตะวัน | https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/thaitravel/1680315 |
พายุถล่มหาดใหญ่พัดเสาไฟริมสนามบินหัก 7 ต้น ในเมืองอีก 2 ต้น | เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 61 เกิดลมฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ถนนเลียบสนามบินหาดใหญ่ พื้นที่หมู่2 บ้านทุ่งตำเสา ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ เสาไฟฟ้าแรงสูงได้โค่นล้มเป็นโดมิโนเรียงรายกัน 7 ต้น ทำให้กระแสไฟฟ้าในบริเวณดังกล่าวดับ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของประชาชน สาเหตุมาจากบริเวณเส้นทางดังกล่าว กำลังมีการขยายถนนใหม่ และขุดคูน้ำใกล้กับเสาไฟฟ้า และจากภาวะฝนที่ตกหนักสะสมมา 2 วัน และลมกระโชกแรง ทำให้ดินทรุดและเสาไฟฟ้าล้มลงมาเรียงรายต่อเนื่องกัน 7 ต้น ,โดยหลังเกิดเหตุ นายสาธิต เรืองสังข์ รองผู้จัดการ (เทคนิค) การไฟฟ้าหาดใหญ่ ได้นำเครื่องจักรพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าไปซ่อมแซมยกเสาไฟฟ้าให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาซ่อมแซมจนถึงเวลาประมาณ 3 ทุ่มคืนนี้จึงจะแล้วเสร็จ และจ่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนในพื้นที่หมู่ 2 ได้,ขณะที่เมื่อช่วงบ่าย ได้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ทำให้ต้นไม้ใหญ่เลียบคลองเตย ใกล้กับซอยสุขเจริญ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ล้มขวางถนนและพาดกับสายไฟฟ้า ทำให้เสาไฟฟ้าล้มขวางถนนอีก 2 ต้น แต่โชคดีที่ไม่มีรถขับผ่านไปมาในช่วงเกิดเหตุจึงไม่มีใครได้รับอันตราย ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหาดใหญ่ ต้องตัดกระแสไฟฟ้าชั่วคราว และเร่งเคลียร์พื้นที่ตัดต้นไม้ที่ขวางถนนออก และเร่งซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่หักโค่นลงมาทั้งสองต้น ต้องใช้เวลาอีก 1-2 วันจึงจะแล้วเสร็จ ทำให้ชาวบ้านในบริเวณเกิดเหตุไม่มีไฟฟ้าใช้ชั่วคราว. | พายุฝนพัดกระหน่ำทำเสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนเลียบสนามบินล้มเป็นโดมิโนเรียง 7 ต้น ส่งผนให้ไฟฟ้าดับ เช่นเดียวกับในเขตเทศบาล ต้นไม้หักพาดสายไฟดึงเสาล้มอีก 2 ต้น ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ 2 วัน | ข่าว,ทั่วไทย | อ.หาดใหญ่,สงขลา,ฝนตกหนัก,เสาไฟฟ้าหัก,ต้นไม้หัก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1311419 |
เสก ยอมไม่ได้ ไล่ออก ลูกน้องโกงเงินบริษัท ลั่นขอดำเนินคดีถึงที่สุด | เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 ก.พ. ที่บ้านเลขที่ 9/27 หมู่บ้านนันทวัน-วัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. นายเสกสรรค์ สุขพิมาย หรือ เสก โลโซ อายุ 43 ปี ร็อกเกอร์ชื่อดัง เปิดบ้านชี้แจงกรณี 2 พนักงานทุจริตเงินบริษัท จนทำให้บริษัทและตนเองได้รับความเสียหาย,นายเสกสรรค์ เปิดเผยว่า วันนี้จะชี้แจง 2 เรื่อง กรณีมีการคอร์รัปชันในบริษัท แต่สิ่งที่เราต้องการให้ทุกคนรับทราบสิ่งที่เรียกว่า การโกง การคอร์รัปชันเป็นสิ่งที่หยุดความก้าวหน้าของบริษัท อีกทั้งผิดในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม และกฎหมายด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวตนรู้มานานแล้ว แต่ตนเห็นว่าทำงานด้วยกันเชื่อใจกันมากกว่า จึงไม่ได้ตรวจเช็กอะไรมาก,กรณีแรกถูก น.ส.สุนิสา รวยอบกลิ่น ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน เบิกเงินส่วนต่างๆ ไป แต่กลับไม่นำไปชำระ ซึ่งก่อนหน้านี้จับได้บ้างบางครั้ง แต่เป็นเงินจำนวนไม่มาก ตนจึงไม่สนใจอะไร แต่ล่าสุดมาพบหลักฐานมีการเตรียมที่จะโกงเงินจำนวนกว่า 1,000,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะ ตนจึงยอมไม่ได้ อีกทั้งเป็นการทำในช่วงที่ตนเองกำลังถูกดำเนินคดี อาจจะเป็นเพราะคิดว่าตนคงถูกจับนาน หรือไม่ ก็ไม่มีเวลาตรวจเช็ก,อย่างกรณีการชำระค่าส่วนกลางของบ้าน ซึ่งมีการเบิกไปแล้วแต่ไม่นำไปชำระ บางครั้งนำมาเบิกซ้ำ ล่าสุดมาจับได้เนื่องจากมีเอกสารจากทางนิติบุคคลของหมู่บ้านแจ้งยอดการชำระเงินส่วนกลางมา แต่ปรากฏว่ายังมียอดค้างชำระอยู่กว่า 7 หมื่นบาท ซึ่งการเบิกบางรายการได้ทำการเบิกไปแล้ว แต่กลับไม่มีบิลมายืนยัน รวมถึงยอดการใช้บัตรเครดิตที่มีการใช้ยอดเงินกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งมีการตัดยอดชำระไปแล้ว แต่ น.ส.สุนิสา พยายามนำเอกสารมาให้ตนเซ็นเบิกอีก ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าตนจะจำไม่ได้ว่าใช้เงินทำอะไรไปบ้าง จนเมื่อวันที่ 16 ม.ค. มีเอกสารของธนาคารส่งมายืนยันว่า ตนไม่มียอดค้างชำระบัตรเครดิตแต่อย่างใด ตอนนี้ก็ได้ไล่ออกไปแล้ว,อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้วที่ สน.คันนายาว เวลา 11.20 น. เมื่อวันที่ 8 ก.พ. และอยากให้โอกาส น.ส.สุนิสา เข้ามาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงนำเอกสารการเบิกต่างๆ มาคืน,นายเสกสรรค์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ตนไม่ไปเล่นงานคอนเสิร์ตในสถานที่ต่างๆ ตนขอประกาศว่า นายธนกิจ หรืออ้วน เดชโยธิน พนักงานฝ่ายคอนเสิร์ต ซึ่งลาออกไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทแล้ว การทำสัญญาหรือรับเงินต่างๆ มาให้รับผิดชอบกันเอง ในส่วนที่มีการทำสัญญาว่าจ้างงานแต่ไม่มีการเซ็นสัญญา แต่พอไม่ไปเล่น จะมาฟ้องร้องได้อย่างไร ขอให้ไปจัดการกันเอง,ส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกับผม ผมจะรับผิดชอบทั้งหมด แต่ส่วนไหนที่ไม่เกี่ยวข้องกับผม ก็ไปดูแลกันเอาเอง ในส่วนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการทำสัญญาแต่ไม่มีการเซ็นสัญญากันที่ใดบ้าง ซึ่งฝากถึงผู้ที่จะจ้างงานคอนเสิร์ต หากมีนายธนกิจ หรืออ้วน ไปขายงานให้ อย่าไปรับ ทั้งนี้ตนยืนยันว่า จะแจ้งเสก ยอมไม่ได้ ไล่ออก ลูกน้องโกงเงินบริษัท ลั่นขอดำเนินคดีถึงที่สุดทั้ง 2 คนให้ถึงที่สุด หากพบหลักฐานการกระทำผิด,เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการเลื่อนนัดศาล ตนได้มอบหมายให้ทีมงานดำเนินการเรียบร้อย ซึ่งการเลื่อนนัดศาลต่างๆ ก็ต้องมีเหตุผล ส่วนในวันที่ 13 ก.พ. ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช นัดอีกทั้งวันที่ 19 ก.พ. ที่ศาลจังหวัดมีนบุรีนัด ตนยืนยันว่าจะเดินทางไปตามที่ศาลนัดหมายอย่างแน่นอน ผมไม่มีอะไรที่ผิดร้ายแรงที่จะไม่ไป,ส่วนเอกสารการป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ ตนได้ส่งไปให้กับทางเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ผลจะออกมาอย่างไรอันนี้ก็ว่ากันในชั้นศาล ตนไม่มีการวิตกใดๆ ทั้งสิ้น นายเสกสรรค์ กล่าวทิ้งท้าย. | เสก โลโซ แถลงเจอลูกน้องโกงเงินบริษัท ลั่นยอมไม่ได้ ขอดำเนินคดีถึงที่สุด บอกรู้มานานแล้ว แต่เพราะความเชื่อใจ จึงไม่ได้เช็กละเอียด | ข่าว,ทั่วไทย | เสก โลโซ,ลูกน้องโกงเงิน,ดำเนินคดี,ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน,พนักงานฝ่ายคอนเสิร์ต,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1200023 |
ใบเตย เมินโดนสับเละชุดเหมือน อาเรียนา แกรนเด บอกมีสิทธิ์ใส่ | เนื่องจากด้วยชุดที่สาวใบเตยใส่ในคอนเสิร์ตหนึ่งดันไปเหมือนเป๊ะกับนักร้องป๊อปสตาร์คนดังกล่าว งานนี้ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้บอกว่าไม่ซีเรียสกับกระแสดังกล่าว ,ใส่ชุดซ้ำกับนักร้องต่างประเทศ? ยังไม่เห็นค่ะ เพิ่งเห็นนี่แหละ ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเนาะ ใบเตยก็สไตลิสต์คนไหนตัดมาให้เราก็ใส่หมด โดยส่วนตัวเราได้รีเควสต์มั้ยว่าอยากใส่ชุดไหน? ไม่นะคะ ไม่เคยรีเควสต์เลย ส่วนใหญ่เค้าก็ดูตามหุ่นเรามากกว่า ประเด็นคือเราสั้นมาประมาณนั้นตลอดเค้าก็คงเลยตัดอย่างนั้นให้ คนเอามาเปรียบเทียบหลายชุดมากคือเหมือนกันทั้งผม รองเท้า ทุกอย่างคือเป๊ะ? เหรอคะ ไม่ได้ตั้งใจไม่รู้เลยยังไม่ได้เห็นข่าวด้วยซ้ำ ก็ไม่ได้ซีเรียสนะคะเค้าทำอะไรมาให้หนูก็ทำหมดอะ ในโลกออนไลน์ค่อนข้างมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แรงมาก มีกระทบมาถึงเราตอนนี้รึยัง? ไม่ค่ะ ยังไม่เห็นข่าว มาในไอจีไม่มีเลยค่ะ,ถ้าเค้ามองว่าเราชอบการก๊อบปี้เรารู้สึกยังไง? ความจริงใบเตยมองว่าเราไม่ซีเรียสหรอกค่ะ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะใส่แบบไหนก็ได้เอาที่ตัวเองมั่นใจ บางทีมันคงอาจจะเป็นอินสไปเรชั่นของสไตลิสต์ หรือว่าอาจจะบังเอิญตัดมาเหมือนๆ ด้วยหุ่นเราด้วยลักษณะตัวเตี้ยๆ เราจะไปบอกสไตลิสต์มั้ยว่าอย่าไปเหมือนเค้า? น่าจะไม่นะคะ ใบเตยศรัทธาคนที่ทำชุดให้เรา คือเค้าก็ทำใบเตยมาตั้งแต่โคโยตี้ ทุกชุดที่ออกงานเป็นข่าวชุดของเค้าหมด เราเชื่อมั่นเราไม่อยากให้เค้าเสียกำลังใจในการทำชุดให้เรา กระแสวิพากษ์วิจารณ์มันจะแรงขึ้นมั้ยถ้าเราปฏิเสธว่าไม่เหมือน? ไม่นะคะ ก็ยังไม่เห็นเลยว่ามันเหมือนไม่เหมือน แต่หนูรู้สึกว่าใส่ชุดนั้นแล้วดูอวบมาก เราก็เลยรู้สึกเฉยๆ จากนี้เราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร? ค่ะ เพราะชุดก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เปลี่ยนตลอด ชุดนั้นเค้าก็ตัดมาเฉพาะงานช่วงสงกรานต์ก็ใส่ปกติ,เราโดนข่าวชุดเหมือนคนนั้นคนนี้ตลอดเราเบื่อมั้ย? ไม่นะคะ เราอยู่ตรงที่สว่างก็ธรรมดาค่ะ คนเห็นก็ไปจับโยงคนนั้นคนนี้ธรรมดาค่ะ ก็เป็นกิจกรรมของโซเชียลไปแล้วเดี๋ยวนี้ แล้วเค้าเอารูปมาเปรียบเทียบเยอะๆ แบบนี้เรารู้สึกยังไง? ก็เฉยๆ นะคะ จริงๆ อะต้องขอบคุณเพราะเรายังไม่รู้เลยว่าเราเล่นคอนเสิร์ตวันนั้นชุดเราไปเหมือนใคร มีกระแสแบบนี้ อย่างงี้เราจะมีคิดเป็นชุดของตัวเองไม่เหมือนใครขึ้นมาเองเลยมั้ย? ความจริงก็มีเยอะตั้งแต่แน่นอกก็เป็นสไตล์เราหมด แต่ว่าก็คงมีบางชุดที่เราแล้วแต่สไตลิสต์ว่าเค้าอยากทำแบบไหน อยากฝากอะไรถึงคนที่วิจารณ์เราแรง? ก็อยากบอกว่าไม่ต้องซีเรียสเนาะ เพราะเรื่องชุดมันจะมาแนวไหนก็ได้ หรือว่าอย่างงานเหมือนก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วทั้งสไตลิสต์ คอสตูม เค้าก็มีสิทธิ์ที่จะทำทุกๆ อย่าง อาจจะเลียนแบบบ้างไม่เลียนแบบบ้าง อย่างใบเตยก็ทำตามหน้าที่คนใส่เนาะ ก็เลยไม่ซีเรียสอะไรค่ะ. | เป็นประเด็นได้ทุกเรื่องสำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว ใบเตย อาร์สยาม เจ้าของฉายา สั้นเสมอหู ที่ล่าสุดโดนจับมาเปรียบเทียบกับ อาเรียนา แกรนเด นักร้องป๊อปสตาร์ที่เคยมีข่าวกับ จัสติน บีเบอร์ | null | ใบเตย,ใบเตย อาร์สยาม,ใบเตย สุธีวัน,สุธีวัน ทวีสิน,สั้นเสมอหู,อาร์สยาม,ใบเตยชุดเหมือน,ใบเตยชุดซ้ำ,ดาราชุดซ้ำ,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/612127 |
จิตอาสา เร่งจัดระเบียบ หลังพบมีกลุ่มคนพยายามแซงคิว | จิตอาสา เร่งจัดระเบียบแถว หลังพบมีกลุ่มคนฉวยโอกาสแซงคิว ,วันที่ 26 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ รพ.ศิริราช เวลา 12.33 น. ประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายดอกไม้จันทน์ ณ โรงพยาบาลศิริราช นั้น ได้ล้นออกไปจนถึงบริเวณตึก 84 ปี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จิตอาสา แจ้งว่า ประมาณการล่าสุดของผู้ที่เข้ามาถวายดอกไม้จันทน์ อยู่ที่ราว 20,000 คน,ทั้งนี้ ในช่วงเช้ามีประชาชนจำนวนหนึ่งแสดงอาการไม่พอใจ ภายหลังจากที่มีประชาชนบางคนพยายามแซงคิวเข้ามาบริเวณหัวแถว ก่อนเข้าหอประชุมราชแพทยาลัย แต่ไม่เกิน 15 นาที เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลก็สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้สำเร็จ,ลุง 64 ชาวนนทบุรี ขอถวายดอกไม้จันทน์ที่ รพ.ศิริราช เพราะเคยช่วยรักษาจนรอดชีวิต ,โดยผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ นายคุณาวุฒิ ภัทรมาลัย วัย 64 ปี ราษฎรจากจังหวัดนนทบุรี ภายหลังจากที่คุณลุงชาวนนทบุรีท่านนี้ถวายดอกไม้จันทน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคุณลุงบอกเล่ากับผู้สื่อข่าวด้วยความอาลัยว่า,ผมไม่มีวันลืมพระมหากรุณาธิคุณของ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้อย่างแน่นอน เพราะช่วงที่ผมป่วยหนัก เป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ผมมีโอกาสได้เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลของพระองค์ท่าน ทั้งๆ ที่โรงพยาบาลชื่อดังหลายต่อหลายแห่งปฏิเสธที่จะให้การรักษาผมแล้ว,โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แจ้งกับลูกเมียของผมว่า ผมจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน อีกแห่งหนึ่งปฏิเสธไม่รับการรักษา เพราะเห็นว่าอาการของผมหนักแล้ว จะมีก็แต่ รพ.ศิริราช ที่รับรักษาผม จนผมหายดีมาจนถึงทุกวันนี้ ผมไม่มีวันลืมพระคุณ และนี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมวันนี้ผมถึงเลือกมาถวายดอกไม้จันทน์ที่นี่ นายคณาวุฒิ กล่าว,นายคณาวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงชีวิตของตนนั้น เคยพบในหลวงรัชกาลที่ 9 หนึ่งครั้ง เมื่อตอนที่ตนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศิริราช ซึ่งในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จลงจากที่ประทับชั้น 16 เพื่อเสด็จพระราชดำเนินไปยังร้านโกลเด้นเพลส สาขาศิริราช,ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่เดินทางมาถวายดอกไม้จันทน์ ณ โรงพยาบาลศิริราช ทุกท่านจะได้รับแผ่นพับพระราชประวัติ และหนังสือที่ระลึกอีกด้วย,เจออีกจุด กลุ่มจ้องแซงคิว จุดคัดกรองหน้ากระทรวงมหาดไทย ,ส่วนบรรยากาศที่บริเวณจุดคัดกรอง หน้ากระทรวงมหาดไทย ผู้สื่อข่าวทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.40 น. ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อมีกลุ่มคนพยายามจะแซงคิว เพื่อผ่านเข้าไปยังบริเวณท้องสนามหลวง จนกระทั่งทำให้ประชาชนที่อดทนมารอเข้าคิว ตั้งแต่เวลา 22.00 น. วานนี้ ร้องขอไปยังเจ้าหน้าที่จิตอาสา ให้ช่วยเพิ่มความเข้มงวดเรื่องการลำดับคิวของผู้ที่จะเข้าไป,อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่จิตอาสาที่มีจำนวนน้อย ก็ยังไม่สามารถจัดระเบียบคิวได้สำเร็จ ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งอดรนทนไม่ไหว จึงได้ลุกขึ้นและพยายามฝ่าจุดคัดกรองเข้าไปบ้าง ทำให้กลุ่มจิตอาสา ต้องรวมตัวเกาะเกี่ยวแขน เพื่อกั้นไม่ให้มีการล้ำจุดคัดกรองเข้าไปได้สำเร็จ ในเวลาประมาณ 12.00 น. จากนั้นจึงได้ขอความร่วมมือจากประชาชนเพื่อจัดแถวใหม่ได้สำเร็จ,พระเมรุมาศจำลอง ลานพระราชวังดุสิต แบ่งให้เข้า ทั้งหมด 5 จุด แล้ว ,บรรยากาศที่ ลานพระราชวังดุสิต ผู้สื่อข่าวฯ รายงาน ว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ประชาชนบางกลุ่มโดยเฉพาะฝั่งวัดเบญฯ ไม่พอใจการจัดระเบียบประชาชนเข้าถวายดอกไม้จันทร์ เนื่องด้วยหลังจากรับเสด็จประชาชนที่นั่งรออยู่บริเวณถนนราชดำเนินนอกได้กรูกันมาที่หน้าลานพระราชวังดุสิตจนแน่นขนัด และทะยอยเข้าถวายดอกไม้จันทร์หน้าพระเมรุมาศจำลอง,ขณะเดียวกัน ประชาชนที่ตั้งแถวรอตั้งแต่ 05.00 น. ฝั่งวัดเบญฯ ยังไม่ได้เข้าไปถวายดอกไม้จันทร์จนแถวยาวเหยียดไปจนถึงแยกวัดเบญฯ รวมทั้ง เจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าฝั่งถนนราชดำเนินด้วย ทำให้ประชาชนหลายคน อาศัยช่องว่างที่ไม่มีจิตอาสาหรือเจ้าหน้าที่ดูแล แอบไปต่อแถวฝั่งถนนราชดำเนิน เพราะเห็นว่าได้เข้าไปเร็วกว่า ยิ่งทำให้แถวฝั่งวัดเบญฯไม่ขยับกว่า 2 ชม.,ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ประชาชนฝั่งวัดเบญฯ ถูกให้ไปต่อแถวใหม่จนสับสน ทำให้ยังไม่ได้เข้าถวายดอกไม้จันทร์ ส่วนฝั่งพล ร.1 ประชาชนมารอตั้งแต่ 02.00 น. ยังไม่ได้เข้าเช่นกัน,เจ้าหน้าที่จิตอาสารายหนึ่ง กล่าวว่า ได้แก้ปัญหาโดยการนำรั้วเหล็กมากั้นตรงกลางเรียบร้อยแล้ว และจะทะยอยปล่อยแถวจากฝั่งวัดเบญฯ ส่วนประชาชนที่เดินลัดแอบไปต่อแถวบริเวณป้อมหน้ากองทัพภาคที่ 1 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปกั้นไว้แล้ว รวมทั้ง กรณีของประชาชนหรือจิตอาสาที่จะเดินเข้าออกไปเข้าห้องน้ำ จะมีการแลกบัตรประชาชนไว้ เพื่อป้องกันการลัดคิว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่มีแสตมป์ปั๊มข้อมือ,ทั้งนี้ จากที่เปิดจุดคัดกรอง 2 ทางคือ ฝั่งพล ร.1 หรือ บช.น. และวัดเบญฯ ได้เปิดเป็น 5 จุด เนื่องจากมีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาถวายดอกไม้จันทร์เป็นจำนวนมาก,ล่าสุดเวลา 13.00 น. ณ พระเมรุมาศจำลอง ณ ลานพระราชวังดุสิต แบ่งให้เข้าทั้งหมด 5 จุด ได้แก่,จุดที่ 1-2 พล ร.1 นอกจุดคัดกรองท้ายแล้วถนนสามเสน,จุดที่ 3 ถนนราชดำเนิน ฝั่งบช.น. ท้ายแถวอยู่ถนนพิษณุโลก,จุดที่ 4 ถนนราชดำเนิน ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ท้ายแถวอยู่ถนนพิษณุโลก,จุดที่ 5 วัดเบญจมบพิตร ท้ายแถวอยู่สวนสัตว์เขาดิน,โดยแต่ละจุดจะตั้งแถว 10-12 แถว และจะปล่อยประชาชนเข้ามาด้านในจุดละ 50 คน เรียงตั้งแต่จุดที่ 1-5,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน | กลุ่มจิตอาสา เร่งจัดระเบียบการเข้าแถวถวายดอกไม้จันทน์ หลังพบมีกลุ่มคนพยายามแซงคิว | ข่าว | รัชกาลที่9,ในหลวง ร.9,พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ส่งใจสู่ฟ้าอาลัยพ่อ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/1108537 |
สพฉ. ผลักดันพท.เสี่ยงเร่งซ้อมแผนรับมือก่อนเกิดเหตุไม่คาดคิด พร้อมเตรียม 3 มาตรการ รับมือ | นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย ผู้ช่วยเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเหตุสารเคมีโทลูอีนรั่วไหลโรงงานบริษัทจำกัด ในเครือบริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ที่ส่งผลให้คนงานเสียชีวิตถึง 12 คน บาดเจ็บ 142 คน และสารเคมีรั่วไหลจากโรงงานของบริษัท อดิตยาลาม เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก ส่งผลให้คนงานและชาวบ้านนับร้อยที่สูดดมก๊าซเข้าไปจนเกิดอาการอ่อนเพลียวิงเวียนศีรษะจนต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาล ว่าจากการลงพื้นที่เห็นว่าหน่วยงานต่างๆ ควรมีมาตรการเรื่องการป้องกันที่เข้มงวดโดยเฉพาะขณะทำงาน อาทิ ควรมีระบบการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุ มีการจัดเตรียมแผนดับเพลิง ที่สำคัญคือควรมีการจัดซ้อมแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของอาสากู้ชีพ-กู้ภัยในพื้นที่ เป็นประจำ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในการทำงานเป็นทีม และเพื่อให้บุคลากรทั้งในส่วนที่จะเข้าช่วยเหลือ และประชาชนผู้รับการช่วยเหลือตื่นตัวและรู้วิธีการปฏิบัติการตัวที่จำเป็นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งการเตรียมพร้อมและซักซ้อมบ่อยๆ นี้จะช่วยลดความรุนแรง หรือลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตที่ไม่จำเป็นได้ นอกจากนี้ควรมีมาตรการป้องกันอันตรายขณะปฏิบัติหน้าที่ของทุกหน่วยทั้งหน่วยกู้ชีพ กู้ภัย และหน่วยดับเพลิง เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพมากที่สุด | พัฒนา คน-อุปกรณ์-แผน ดันอบรมทีมเฉพาะรับมือด้านสารเคมี โรคระบาด และเหตุวินาศกรรม | สังคม | มาตรการป้องกัน,สพฉ.,สารเคมีรั่ว,เหตุวินาศกรรม,แผนรับมือ,โรคระบาด | https://news.thaipbs.or.th/content/83711 |
เจ้าของ เซเว่น-อีเลฟเว่น ญี่ปุ่น ซื้อกิจการเครือข่ายปั๊มน้ำมัน สปีดเวย์ ในสหรัฐฯ | เจ้าของ เซเว่น-อีเลฟเว่นญี่ปุ่น ซื้อกิจการเครือข่ายปั๊มน้ำมัน สปีดเวย์ ในสหรัฐฯด้วยมูลค่า 21000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 655770 ล้านบาท ปิดดีลด้วยมูลค่าสูงสุดในโลกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 63 บริษัท เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ (Seven & i Holdings-SVNDF) เจ้าของเซเว่น-อีเลฟเว่น ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกญี่ปุ่น แถลงว่า ได้เข้าซื้อกิจการ สปีดเวย์ เครือข่ายร้านสะดวกซื้อและสถานีบริการน้ำมันรายใหญ่ในสหรัฐฯ ของบริษัท มาราธอน ปิโตรเลียม (Marathon Petroleum-MPC) ด้วยมูลค่า 21000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 655770 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการปิดดีลซื้อกิจการด้วยมูลค่าสูงสุดในโลก นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัท เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ ซึ่งยังเป็นเจ้าของเครือข่ายซุปเปอร์มาร์เก็ตอิโต-โยคาโด ตลอดจนห้างสรรพสินค้าโซโก และเซบู ตลอดจนเป็นผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 9000 แห่งระบุว่า นี่เป็นการลงทุนซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทางบริษัท และจะทำให้เซเว่น แอนด์ ไอ มีจำนวนร้านค้าในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.4 เท่า หรือ 3900 แห่งที่ผ่านมา บริษัทมีเป้าหมายขยายเครือข่ายไปยังต่างประเทศ เนื่องจากตลาดภายในประเทศเริ่มอิ่มตัวแล้วในขณะนี้ โดยการได้เป็นเจ้าของสปีดเวย์ ที่มีสาขาอยู่กว่า 4000 แห่งในมหานคร 47 แห่งจาก 50 แห่งในสหรัฐฯ จะทำให้ช่วยเข้าสู่ตลาดโซนอเมริกาเหนือได้ หลังจากมาราธอน ปิโตรเลียม ประกาศความตั้งใจขายกิจการ สปีดเวย์ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานายโจ เดอปินโต ซีอีโอเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ ระบุในแถลงการณ์ว่า การบรรลุข้อตกลงนี้จะปูทางให้บริษัทเข้าไปเติบโตในตลาดสหรัฐฯ โดยเฉพาะแถบมิดเวสต์และอีสต์โคสต์ด้านนักวิเคราะห์การตลาดมองว่า แม้ร้านสะดวกซื้อส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ จะตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน แต่เซเว่น แอนด์ ไอ อาจได้ประโยชน์จากการจำลองโมเดลธุรกิจแบบญี่ปุ่นขึ้นมาในใจกลางเมืองของสหรัฐฯ.ที่มา :cnn | เจ้าของเซเว่น-อีเลฟเว่นญี่ปุ่น ซื้อกิจการเครือข่ายปั๊มน้ำมันสปีดเวย์ในสหรัฐฯด้วยมูลค่า 21000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 655770 ล้านบาท ปิดดีลด้วยมูลค่าสูงสุดในโลกนับตั้งแต่เกิดโควิด-19 | ข่าว,ต่างประเทศ | เซเว่น อีเลฟเว่น,ร้านสะดวกซื้อ,ค้าปลีก,ปั๊มน้ำมัน,น้ำมัน,ซื้อกิจการ,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1903075 |
ทัวร์โดยสารเชียงใหม่-ขอนแก่น เสียหลักพุ่งข้ามเกาะ ชนเสาไฟ เจ็บ 27 ราย | เมื่อเวลา 01.25 น. วันที่ 27 ธ.ค. 58 ร.ต.อ.นพดล ไม้งาม ร้อยเวร สภ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถทัวร์ชนเสาไฟฟ้า บริเวณ ม.3 ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 220-221 ไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ ,ที่เกิดเหตุ พบรถทัวร์ของสายเชียงใหม่–ขอนแก่น หมายเลขรถ 175-7 ทะเบียน 10-8431 ขอนแก่น พลิกตะแคงอยู่ไหล่ทางด้านล่างและมีเสาไฟฟ้าหักพาดอยู่กับตัวรถ ตรวจสอบภายในรถไม่มีผู้โดยสารติดอยู่ภายในแล้ว โดยผู้โดยสารส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 27 คน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยข่าวภาพ รับดำเนินการนำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช และโรงพยาบาลเอกชนในเขต อ.เมืองพิษณุโลก,ทั้งนี้ รถทัวร์คันดังกล่าวได้รับผู้โดยสารมาเต็มคันรถประมาณ 40 ที่นั่ง จากจังหวัดเชียงใหม่ปลายทางขอนแก่น จากการสอบถามผู้โดยสารทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองพิษณุโลก รถทัวร์มีอาการส่ายไปส่ายมาอยู่หลายครั้ง ประกอบกับเวลานั้นมีฝนตกลงมาอาจจะทำให้ถนนลื่น จนเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถทัวร์ก็ได้พุ่งข้ามเกาะกลางถนนไปชนกับเสาไฟฟ้าที่อยู่อีกฝั่งของถนนเข้าอย่างจัง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 27 ราย,ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ สันนิษฐานว่า คนขับรถทัวร์อาจจะขับมาด้วยความเร็วประกอบกับมีฝนตกลงมา ทำให้ถนนลื่น และเสียการควบคุมรถ จนส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุที่แท้จริง เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนคนขับอีกครั้งหนึ่ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | รถทัวร์ขนผู้โดยสารกว่า 40 ชีวิต จากเชียงใหม่มุ่งหน้าขอนแก่น ระหว่างทางมีฝนตกทำถนนลื่น รถเสียการควบคุม พุ่งข้ามเกาะกลางชนเสาไฟฟ้าหักครึ่ง ที่พิษณุโลก เจ็บเกือบ 30 ราย เร่งสอบสาเหตุ | ข่าว,ทั่วไทย | อุบัติเหตุ,รถทัวร์,รถโดยสาร,เสียหลัก,ฝนตก,ถนนลื่น,พุ่งข้ามเกาะ,ชนเสาไฟฟ้า,พิษณุโลก,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/555027 |
แฟนคลับเศร้า เรนะ มัตสึอิ ประกาศลาวง SKE48 ส.ค.นี้ | ภาพจาก tokyogirlsupdate,เรนะ มัตสึอิ ได้ประกาศการจบการศึกษาจากวง SKE4 อย่างเป็นทางการ โดยจะอยู่ทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกวง SKE48 ไปจนถึงช่วงเดือน ส.ค. ขณะที่เผยมีความคิดจะออกจากวงมาตั้งแต่ 2 ปีก่อน,เว็บไซต์ tokyogirlsupdate รายงานว่า หลังจากที่มีข่าวลือว่า เรนะ มัตสึอิ ไอดอลสาวชาวญี่ปุ่น สมาชิกหลักวง SKE48 (เอสเคอีโฟร์ตี้เอดจ์) ทีม E วงน้องสาวของ AKB48 (เอเคบีโฟร์ตี้เอดจ์) จะออกมาประกาศจบการศึกษาผ่านทางวิทยุประจำสัปดาห์ของวง AKB48 AKB48 no All Night Nippon ,ในที่สุดเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 10 มิ.ย.(ตามเวลาญี่ปุ่น) เรนะ มัตสึอิ ได้ประกาศการจบการศึกษาจากวง SKE4 อย่างเป็นทางการ โดยเธอไม่ได้ไปร่วมเลือกตั้ง หรือ ปรากฏตัวในการเลือกตั้งเซ็นบัตสึ เหมือนกับสมาชิกที่เคยมีคะแนนสูงอย่าง ฮารุนะ โคจิมา โดยขณะนี้ เหลือคนที่มีนามสกุลมัตสึอิเพียงคนเดียวในกลุ่ม 48 แฟมิลี่ คือ จูรินะ มัติสึอิ เพราะก่อนหน้า ซากิโกะ มัตสึอิ ได้ประกาศจบการศึกษาไปก่อนหน้าเมื่อ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา,เรนะ กล่าวว่า เธอมีความคิดที่อยากจะจบการศึกษาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน แต่แผนการเพิ่งจะเริ่ม เมื่อได้พูดคุยกับแฟนๆ ทำให้เธอไม่อยากจะโกหกแฟนๆ บอกว่า ฉันจะไม่ออกจากวง ความฝันของฉันอยากเป็นนักแสดง,เรนะ กล่าวขอบคุณในสิ่งที่เธอได้รับมาตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ได้สัมผัสและทำในหลายสิ่งหลายอย่างในฐานะสมาชิก SKE48 แม้จะมีความกังวลกับการต้องทิ้งวงให้น้องๆ รุ่นใหม่ รับช่วงต่อ แต่จากผลการเลือกตั้งเซ้นบัตสึที่ผ่านมา สมาชิก SKE48 ก็ติดอันดับหลายคน เธอจึงคิดคงไม่เป็นไรถ้าจากนี้ไปวงจะไม่มีเธอ,ทั้งนี้เรนะ มัตสึอิ จะอยู่ทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกวง SKE48 ไปจนถึงช่วงเดือน ส.ค.ก่อนที่จะมีการแสดงสเตจสุดท้ายเพื่ออำลาแฟนๆ ก่อนจะเดินสู่สายงานด้านการแสดงตามที่เธอต้องการ.,ที่มา : ,tokyogirlsupdate | เรนะ มัตสึอิ ได้ประกาศการจบการศึกษาจากวง SKE4 อย่างเป็นทางการ โดยจะอยู่ทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกวง SKE48 ไปจนถึงช่วงเดือน ส.ค.ขณะที่เผยมีความคิดจะออกจากวงมาตั้งแต่ 2 ปีก่อน | null | เรนะ มัตสึอิ,ไอดอลสาว,SKE48,AKB48,เลือกตั้งเซ็นบัตสึ,ประกาศการจบการศึกษา,ออกจากวง,ข่าวบันเทิง,บันเทิงเอเซีย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/504652 |
สว. นัดถก อิทธิพลท้องถิ่นฆ่าพระ | ประชาไท-20 มิ.ย. 48 พระสงฆ์ที่ทำงานเพื่อพัฒนายังถูกทำร้ายเสียชีวิต แล้วอย่างนี้ประชาชนไทยจะปลอดภัยได้อย่างไร นาง เตือนใจ ดีเทศน์ สว. เชียงรายกล่าว พร้อมระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ วุฒิสภาจะนำกรณีพระสุพจน์ สุวโจ (สุพจน์ ด้วงประเสริฐ) เข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา โดยกรณีดังกล่าวจะอยู่ในวาระหารือในช่วงเช้าก่อนการอภิปรายวาระอื่น ๆ ในช่วง 9.30 น. ทั้งนี้ นางเตือนใจได้เดินทางไปร่วมงานอภิธรรมศพ พระสุพจน์ สุวโจในวันนี้ ซึ่งเป็นการสวดวันแรก และกล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิ.ย. คณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะเป็นเจ้าภาพงานสวดพระอภิธรรมศพ พระสุพจน์ ด้วย สำหรับบรรยากาศงานอภิธรรมศพวันแรกนั้น มีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในแวดวงองค์กรพัฒนาเอกชนด้านศาสนา รวมถึงพระสงฆ์ ซึ่งมีบาทบาททางสังคม เช่นพระไพศาล วิสาโล คณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ พระศรีปริยัติโมลี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นต้น | ประชาไท-20 มิ.ย. 48 พระสงฆ์ที่ทำงานเพื่อพัฒนายังถูกทำร้ายเสียชีวิต แล้วอย่างนี้ประชาชนไทยจะปลอดภัยได้อย่างไร นาง เตือนใจ ดีเทศน์ สว. เชียงรายกล่าว พร้อมระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ | สิ่งแวดล้อม | null | https://prachatai.com/journal/2005/06/4509 |
หายไป 3 ปี ตู่ พร้อมมากๆ ส่งเพลงใหม่สุดซึ้ง แต่ยังคิดถึง | มิวสิกวิดีโองานเพลงใหม่ มากระแทกๆ รูหูแฟนคลับกันแล้ว ในเพลง แต่ยังคิดถึง รออีกนิดได้ดูกันเต็มๆ ตากับมิวสิกวิดีโอที่นำแสดงโดย ต่อ ฮอร์โมน ธนภพ ลีรัตนขจร,ตู่ ภพธร เปิดใจกับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ งานเพลงชุดนี้เป็นชุดที่ 3 แล้วครับ เพลงแต่ยังคิดถึง จะปล่อยเป็นซิงเกิลแรก ซึ่งเพลงนี้ได้ โอ แว่นใหญ่ (โอฬาร ชูใจ) แห่งวง Room 39 เป็นคนมาช่วยแต่งเนื้อร้องให้ ผมเป็นโปรดิวเซอร์ นำมาเรียบเรียงใหม่ในสไตล์ของผมเอง,ก็ 3 ปีแล้วที่ผมไม่มีงานเพลงออกมา ก็ค่อนข้างนาน อยากให้ออกมาปุ๊บ เอาใจแฟนคลับเลยครับ ต้องติดหูแน่นอน เพลงนี้เลือกมาอย่างดีแล้วครับ เออ 3 ปีที่ผมหายไปในการไปทำงานเพลง กลับมาเพลงนี้ แต่ยังคิดถึง จะได้ฟังอะไรที่คุ้มค่ากับการรอคอย,สำหรับผมแล้วเพลง แต่ยังคิดถึง ฟังแล้วชอบ เพลงนี้ต้องเอามาปล่อยเป็นเพลงแรก ผมทำในสไตล์เพลงของเราในรูปแบบเสียงร้องของเรา จะทำให้เป็นเพลงฮิตติดหูได้ เราเชื่ออย่างนั้นจริงๆ พอเราเชื่อปุ๊บเราก็ทำ พอทำจริงๆ ก็แป๊บเดียวเองครับ (ยิ้ม) เอ็มวีเดี๋ยวจะออกแล้วครับ รอดูกันได้ครับมี ต่อ ฮอร์โมน เป็นพระเอกเอ็มวี. | กลับมาแล้วไม่ได้หายหน้าไปไหน ซุ่มทำงานเพลงใหม่ได้สักพักใหญ่ ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตู่ ภพธร สุนทรญาณกิจ นักร้องเสียงนุ่ม เตรียมปล่อย | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | ตู่ ภพธร นักร้อง,ตู่ เพลงใหม่ แต่ยังคิดถึง,ต่อ ฮอร์โมน แต่ยังคิดถึง,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1156488 |
วัชระ ถาม อัยการ-ดีเอสไอ ไม่อุทธรณ์คดีฟอกเงิน ธ.กรุงไทย โอ๊ค แล้วหรือ | นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ปชป. ถาม อัยการ-ดีเอสไอ ไม่อุทธรณ์คดีฟอกเงินธนาคารกรุงไทย โอ๊ค พานทองแท้ จริงหรือดักทาง ถ้าจริงต้องชี้แจงสังคม เพราะสาเหตุใดวันที่ 14 เม.ย. นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2563 ตนได้ส่งหนังสือสอบถามความคืบหน้า คดีฟอกเงินกรุงไทย กรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รับเช็ค 10 ล้านบาท ถึงนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม มีเนื้อหาสรุปได้ว่า ตามที่สื่อมวลชนมีการตั้งข้อสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของดีเอสไอ ตนติดตามคดีนี้มาตั้งแต่ขณะเป็น ส.ส. โดยยึดหลักยุติธรรมและประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ และเป็นคดีที่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศให้ความสนใจติดตาม จึงขอเรียนถามอัยการสูงสุด อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่า 1.สถานะของคดีนี้ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนใด 2.อัยการสูงสุด/ดีเอสไอ จะอุทธรณ์คดีนี้หรือไม่ อย่างไร จึงขอให้สำนักงานอัยการสูงสุด/ดีเอสไอ รีบดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนต่อไป และโปรดแถลงข้อสงสัยของประชาชนโดยด่วนที่สุด แม้ว่าจะอยู่ในช่วงโรคโควิด-19 ระบาดก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อรักษาไว้ซึ่งหลักนิติรัฐและนิติธรรมนายวัชระ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ได้ส่งหนังสือสอบถามอัยการสูงสุดอย่างเป็นทางการแล้ว ยังไม่คืบหน้าประการใด แต่มีกระแสข่าวว่า อัยการสูงสุดเห็นชอบกับการไม่อุทธรณ์คดีของ นายพานทองแท้ ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ เพราะคดีนี้เป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ การสั่งไม่อุทธรณ์คดีนี้ยึดหลักการอะไร ชอบด้วยหลักนิติรัฐนิติธรรมหรือไม่ ควรแถลงเรื่องนี้ให้โปร่งใสกับสาธารณชน เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวพันกับนายทักษิณ ซึ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการอนุมัติสินเชื่อให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร กลับปรากฏว่าถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกจำนวนหลายสิบคนจึงอยากฝากท่านวงศ์สกุล อัยการสูงสุด คนปัจจุบัน กรุณาถามนายวิโรจน์ นวลแข อดีตประธานบอร์ดธนาคารกรุงไทย ดูว่า ท่านจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุดก่อนหน้าท่าน รับปากอะไรนายวิโรจน์ไว้หรือไม่ และทำได้หรือไม่ แล้วคดีนั้นเกี่ยวพันกับคดีนายพานทองแท้หรือไม่ ชะตากรรมที่นายวิโรจน์กับพวกได้รับหรืออะไร เพื่อเป็นอุทาหรณ์ นายวัชระ กล่าว. | นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ปชป. ถาม อัยการ-ดีเอสไอ ไม่อุทธรณ์คดีฟอกเงินธนาคารกรุงไทย โอ๊ค พานทองแท้ จริงหรือ ดักทาง ถ้าจริงต้องชี้แจงสังคม เพราะสาเหตุใด | ข่าว,การเมือง | ฟอกเงินธ.กรุงไทย,พานทองแท้ ชินวัตร,วัชระ เพชรทอง,ธนาคารกรุงไทย,ประชาธิปัตย์,อัยการ-ดีเอสไอ,อุทธรณ์คดีธนาคารกรุงไทย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1820276 |
ผลประโยชน์กุมชะตา ควบรวมทหารไทย-ธนชาต | พาณิชย์ไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ของไทยมีขนาดใหญ่ขึ้น อีกทั้งเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันในระดับอาเซียน,โดยธนาคารพาณิชย์ที่ควบรวมกิจการ จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ ตลอดจนค่าใช้จ่ายจากการควบรวมยังนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด,ทันทีที่ ครม.มีมติ กระแสควบรวมธนาคารพาณิชย์ก็จุดติดขึ้นทันที โดยมีกระแสการควบรวมกันระหว่างธนาคารกรุงไทยกับธนาคารทหารไทย ผ่านการมองแบบผิวๆ เพราะกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารทั้งคู่ มีโอกาสควบรวมง่ายที่สุด แต่ไอเอ็นจีแบงก์ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของธนาคารทหารไทยไม่เล่นด้วย ดีลดังกล่าวจึงล้มอย่างรวดเร็ว,ไม่นานจากนั้น กระแสควบรวมธนาคารพาณิชย์กลับมาจุดติดอีกครั้ง เมื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารทหารไทยและธนาคารธนชาต เห็นพ้องต้องกันสนใจควบรวมกิจการ โดยแต่งตั้งให้แบงก์ออฟอเมริกาเป็นที่ปรึกษาการเงิน,หากมองในเชิงของธุรกิจ คนในวงการธนาคารต่างเห็นตรงกันว่า การควบรวมกันระหว่างธนาคาร 2 แห่ง ถือเป็นการเสริมประโยชน์ซึ่งกันและกันในลักษณะวิน-วิน,ฝั่งธนาคารทหารไทยมีความแข็งแกร่ง ด้านลูกค้ารายใหญ่ ลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้าส่วนบุคคล อีกทั้งยังเป็นผู้นำในตลาดดิจิทัลแบงกิ้ง,สร้างความโดดเด่นจากนโยบายฟรีค่าธรรมเนียม ด้วยการนำร่องก่อตั้ง ME by TMB ธนาคารรูปแบบดิจิทัลแห่งแรกของไทย ที่ได้คนรุ่นใหม่และมนุษย์เงินเดือนตอบรับสนับสนุนเป็นอย่างดี,ส่วนธนาคารธนชาต มีความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อรถยนต์ ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของไทย ด้วยสินเชื่อรถยนต์มูลค่า 420,000 ล้านบาท หากมองย้อนหลังกลับไปธนาคารธนชาตเคยมีธุรกิจสินเชื่อครบวงจร หลังเข้าไปเทกโอเวอร์ธนาคารนครหลวงไทย พร้อมนำมาควบรวมกิจการ,แต่ด้วยความที่ไม่ถนัดสินเชื่อรายใหญ่ เอสเอ็มอี และลูกค้าส่วนบุคคล พอร์ตลูกค้าที่โยกมาจากนครหลวงไทยจึงทยอยหลุดออกไป ทำให้พอร์ตสินเชื่อของธนชาตเล็กลง ขยับไปโดดเด่นเฉพาะด้านสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งเมื่อธุรกิจเปลี่ยน ทิศทางดอกเบี้ยยุคปัจจุบันกลับมาเป็นขาขึ้น โอกาสทองของธุรกิจเช่าซื้อจึงอาจต้องปิดฉากในไม่ช้า,เนื่องจากยุคดอกเบี้ยเงินฝากต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ที่ลากยาวมานับ 10 ปี สร้างผลกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์กำลังจะสิ้นสุดลง เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ซึ่งเป็นรายรับเท่าเดิม แต่ดอกเบี้ยเงินฝากที่เป็นรายจ่ายของแบงก์กลับเพิ่มขึ้น พูดง่ายๆคือต้นทุนทางการเพิ่มขึ้นทันที ส่งผลให้กำไรในอนาคตลดลง,การควบรวมกิจการกับธนาคารทหารไทย จึงถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีสำหรับธนชาต ช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน โดยฝั่งของธนาคารทหารไทย ซึ่งไม่มีธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ก็จะมีโอกาสขยายพอร์ตสินเชื่อให้ใหญ่ขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้นหากสามารถจัดการต้นทุนการเงินได้ดี ลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนลง จะส่งผลให้กำไรของธนาคารเพิ่มขึ้น,ขณะที่เมื่อมองในเชิงผู้ถือหุ้นใหญ่ ฝั่งธนาคารทหารไทยมีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ 25.92% ของทุนจดทะเบียน รองลงมาไอเอ็นจีแบงก์ถือหุ้น 25.02% ส่วนฝั่งของธนาคารธนชาต มีบริษัททุนธนชาตถือหุ้น 51% และโนวาสโกเทียแบงก์ถือหุ้น 49%,โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้มอบนโยบายชัดเจนให้กับสำนักงานเศรษฐกิจการ คลัง (สศค.) และสำนักงานรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ให้โจทย์ของการควบรวมว่า คลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารทหารไทย ต้องได้รับประโยชน์จากการควบรวมกิจการ แม้สัดส่วนการถือหุ้นจะลดลงไปบ้าง,โจทย์ของ รมว.คลังถือว่าเป็นงานหิน เพราะปัจจุบันราคาหุ้นทหารไทยในตลาดเคลื่อนไหวอยู่ที่หุ้นละ 2.20-2.30 บาท แต่กระทรวงการคลังมีต้นทุนอยู่ที่หุ้นละ 3.80 บาท หรือคิดเป็นต้นทุนที่ 43,183 ล้านบาท สมมติต้องใส่เงินเพิ่มทุนอีก 8,000 ล้านบาท เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้ หลังควบรวมมูลค่าหุ้นของธนาคารทหารไทยในสัดส่วนที่คลังถืออยู่ ต้องสูงกว่า 51,183 ล้านบาท จึงจะตอบโจทย์ รมว.คลัง,ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สศค.ได้ร่วมกับ สคร. ทำการบ้านร่วมกับฝั่งเอกชน จนได้ข้อสรุปในกรอบใหญ่ว่า ธนาคารทหารไทยจะเพิ่ม,ทุนจดทะเบียน เพื่อนำเงินไปซื้อธนาคารธนชาต โดยคลังใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในราคาหุ้นที่ต้องต่ำกว่าราคาในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมทั้งให้กองทุนวายุภักษ์เข้ามาร่วมซื้อหุ้นเพิ่มทุน เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้เท่าเดิม,ในฝั่งของคลัง จึงดูเหมือนจะได้ข้อยุติแล้ว แต่ในฝั่งของผู้ถือหุ้นเอกชนของทั้ง 2 แบงก์ โดยเฉพาะโนวาสโกเทียแบงก์กับไอเอ็นจีแบงก์ กระบวนการยังเคลียร์ไม่จบ เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่า โนวาสโกเทียต้องการถอยออกจากประเทศไทย และเร่ขายหุ้นที่ถืออยู่ในธนาคารธนชาต มาตั้งแต่ 2-3 ปี ขณะที่ไอเอ็นจีแบงก์ซึ่งถือหุ้นอยู่ในทหารไทย มีจุดยืนชัดเจน คือต้องการถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 และพร้อมใส่เงินซื้อหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งรวมถึงการตั้งท่ารอรับซื้อหุ้นในสัดส่วนของโนวาสโกเทียด้วย ส่วนบริษัททุนธนชาต ยอมลดบทบาทเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 3,การควบรวมกิจการในครั้งนี้ จึงยังมีกระบวนการแห่งผลประโยชน์ ให้เคลียร์กันอีกหลายยก.,ประพัฒน์ เนตรอัมพร | ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 เม.ย.2561 มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่) พ.ศ. หรือมาตรการเพื่อสนับสนุนการควบรวมธนาคาร | null | ควบรวมกิจการธนาคารพาณิชย์,ธนาคารธนชาต,ธนาคารทหารไทย,The Issue,ประพัฒน์ เนตรอัมพร,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1498898 |
บุ๋ม ปนัดดา เผยชื่อเล่นลูกสาวครั้งแรก หลังรอมา 13 ปี | เป็นคุณแม่สุดสตรองที่ทั้งเก่ง และขยันสุดๆ สำหรับ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ล่าสุด บุ๋ม ก็ได้ลุกขึ้นมาตั้งชื่อให้กับลูกสาว น้องอันดามัน วงศ์ผู้ดี เป็นครั้งแรก หลังจากที่ น้องอันดามัน ไม่เคยมีชื่อเล่นมาก่อน เพราะที่ผ่านมาใครหลายคนมักจะเรียกชื่อ น้องอันดา มาตลอด โดย แม่บุ๋ม นั้นได้ตั้งชื่อเล่นให้ลูกสาวว่า น้องทะเล เพราะชอบดำน้ำกันทั้งคู่ โดย แม่บุ๋ม ได้แจงผ่านอินสตาแกรมว่าหลังจากผ่านไป 13 ปี ก็ตัดสินใจได้แล้วว่า จะให้อันดามัน มีชื่อเล่นว่าอะไร ทะเล เพราะแม่ชอบดำน้ำ เพราะอันดามันก็มาชอบดำน้ำ เพราะคนเข้าใจผิดว่า อันดาคือชื่อจริง แล้วก็พูดต่อว่า อันดากับฟ้าใส แล้วบางทีนักข่าวก็ชอบถามว่า พี่บุ๋มไปไหนมาไหนกับ อนันดา บ้างไหมคะ? คือจะให้พี่ไปกับพระเอกให้เป็นข่าวทำไม? ก็เลยมาตกลงกับลูกว่า แม่ได้ชื่อเล่นละนะน้อง ทะเล อันดามัน .#13ปียังไม่สาย #แม่เพิ่งคิดได้ #ชื่อเล่น. | บุ๋ม ปนัดดา โพสต์แจงได้ตั้งชื่อเล่นว่า น้องทะเล ให้กับลูกสาวแล้ว หลังตัดสินใจมา 13 ปี ที่ผ่านมาเรียก อันดามัน มาตลอด บางทีก็เรียก อนันดา จนคนเข้าใจผิด | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | บุ๋ม ปนัดดา,บุ๋ม ปนัดดา ลูก,น้องอันดามัน ลูกบุ๋ม ปนัดดา,ลูกบุ๋ม ปนัดดา,ข่าวบันเทิง,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1883917 |
น้ำยมจากสุโขทัยยังไหลท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ จ.พิษณุโลก อย่างต่อเนื่อง | ขณะที่อำเภอประกาศเตือนว่าระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก และล่าสุดน้ำที่ท่วมในพื้นที่อำเภอบางระกำ อำเภอพรหมพิราม และอำเภอเมือง ได้ขยายวงกว้างออกไปส่วนน้ำจากแม่น้ำยมที่ไหลจากตอนเหนือเข้าสู่อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ทำให้บ้านและถนนในหมู่บ้านเริ่มมีน้ำท่วม และมีแนวโน้มว่าจะขยายพื้นที่ ในอำเภอบึงนาราง และอำเภอโพทะเลฝนที่ตกหนักในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และมวลน้ำจากจังหวัดสระแก้วส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรีโรงเรียนในเขตเทศบาลเริ่มถูกน้ำท่วมสูง เช่นเดียวกับวัดและชุมชนในที่ลุ่มใกล้แควหนุมาน ถูกน้ำท่วมซ้ำเติมบางพื้นที่ ซึ่งที่ถูกน้ำท่วมก่อนหน้านี้ส่วนที่จังหวัดอ่างทองชาวบ้านในพื้นที่ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก และ ตำบลจำปาหล่อ อำเภอเมือง ยังได้รับผลกระทบกว่า 200 ครอบครัว จากระดับน้ำที่ยังทรงตัวล่าสุดน้ำผ่านจังหวัดอ่างทองประมาณ 1600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที | ฝนที่ตกหนักในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และมวลน้ำจากจังหวัดสระแก้ว ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ขณะที่น้ำจากแม่น้ำยมจากจังหวัดสุโขทัย ยังคงท่วมเป็นวงกว้างในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ชาวตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ปรับระดับของสะพานที่ใช้เดินเข้า-ออกหมู่บ้านให้สูงขึ้น หลังน้ำจากแม่น้ำยมที่ไหลไปจากจังหวัดสุโขทัย มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและท่วมสะพานในบางจุด | ภูมิภาค | จ.ปราจีนบุรี,จ.พิษณุโลก,ต.กบินทร์,น้ำท่วม,สุโขทัย | https://news.thaipbs.or.th/content/112730 |
นายกฯ นำ ครม.-ดารา รับสายบริจาคช่วยเหลือ ปชช.เหยื่อน้ำท่วมใต้ | เมื่อวันที่ 12 ม.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดภายใต้ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ในวงกว้างถึง 12 จังหวัด หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมให้ความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปบ้างแล้ว และเพื่อการแก้ไขปัญหามองกันไปในระยะยาวและเป็นวาระแห่งชาติ และเพื่อให้เกิดความร่วมมือในทุกภาคส่วนในลักษณะประชารัฐ ในการร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในขณะนี้,พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จึงดำริให้จัดงานภายใต้ชื่อ ประชารัฐร่วมใจช่วยอุทกภัยภาคใต้ ขึ้นในวันที่ 15 ม.ค.ตั้งแต่เวลา 18.00-20.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย แทนรายการเดินหน้าประเทศไทย โดยนายกฯ รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี(ครม.) จะรับโทรศัพท์จากประชาชนที่โทรเข้ามาบริจาคในรายการด้วยตัวเอง พร้อมกันนี้ ยังมีศิลปิน ดารานักแสดง มาร่วมรับโทรศัพท์ด้วย โดยในการรับบริจาค จะเน้นการบริจาคเงิน เพื่อสะดวกในการส่งมอบแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ และสิ่งของให้ตรงกับความต้องการของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถส่งต่อได้อย่างรวดเร็ว เพราะหากเป็นข้าวของ อาจไม่สะดวกในการเก็บรักษา ส่วนผู้ที่มีความประสงค์เดินทางเข้ามาบริจาคเงินที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยตัวเองก็สามารถเข้ามาได้ แต่ขอให้รวมกลุ่มกันมา โดยในวันนั้น จะเปิดการรับบริจาคจะมีไปถึงเวลา 23.00 น. และรัฐบาลยังเปิดให้มีสายด่วน 1111 เพื่อรับแจ้งปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากภัยพิบัติ โดยปัญหาที่ร้องทุกข์เข้ามาจะถูกส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป | รบ.เปิดทำเนียบฯ 15 ม.ค.จัดงาน ประชารัฐร่วมใจช่วยอุทกภัยภาคใต้ เปิดสายโทรศัพท์รับบริจาคช่วย ปชช. นายกฯ นำ ครม.-ศิลปิน-ดารา รับสายบริจาคด้วยตัวเอง | null | นายกฯ,น้ำท่วม,ภาคใต้,อุทกภัย,ประชารัฐ | https://www.thairath.co.th/content/834466 |
ผบ.ตร.เดินหน้าสอบสวนกรณี พล.ต.ต.ปวีณถูกข่มขู่ เปิดใจ ผมให้อภัยเขา แต่ผมต้องตกเป็นจำเลยสังคม | วันนี้ (15ธ.ค.2558) พล.ต.อ.จักรทิพย์ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการสอบสวนคำกล่าวอ้างของ พล.ต.ต.ปวีณ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และหัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาที่ระบุว่าถูกข่มขู่จนต้องลาออกจากราชการและขอลี้ภัยไปอยู่ประเทศออสเตรเลียว่า ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.สอบสวนกรณีนี้แล้วผมคุยกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ว่าทำไม พล.ต.ต.ปวีณไม่แจ้งความดำเนินคดีเมื่อถูกข่มขู่ ขนาดประชาชนทั่วไปที่ถูกข่มขู่ก็ไปแจ้งความที่โรงพักได้ ขนาดชาวบ้านยังแจ้งได้เลย แล้วท่านเองมียศมีตำแหน่งในขณะนั้น ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่แจ้งความดำเนินคดีในขณะนั้นเลยเมื่อรู้ว่าถูกปองร้าย จริงๆ แล้วประเด็นนี้ผมไม่อยากพูดต่อแล้ว มันจบไปนานแล้ว แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามผมก็ต้องชี้แจงให้เข้าใจพล.ต.ต.ปวีณอ้างว่าท่านเป็นพนักงานสอบสวนแล้วโดนข่มขู่ ต้องตรวจสอบว่า พนักงานสอบสวนอีกหลายคนที่อยู่ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 ที่ทำคดีนี้มีใครโดนข่มขู่อีกบ้างหรือไม่ เราต้องการรู้ว่าพนักงานสอบสวนคนไหนถูกข่มขู่แบบพล.ต.ต.ปวีณบ้าง ถ้าพูดปากเปล่าเดี๋ยวก็ไม่เชื่อกันอีก ก็ตั้งคณะทำงานสอบสวนขึ้นมา เพราะพนักงานสอบสวนที่ทำงานในคดีนี้มีเป็นร้อยคน ทั้งจากตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 เราจะไปดูว่ามีพนักงานสอบสวนคนไหนที่ถูกข่มขู่ ล็อกเป้า ชี้เป้าบ้างหรือไม่ผู้สื่อข่าวถามพล.ต.อ.จักรทิพย์ว่าเมื่อพล.ต.ต.ปวีณให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติโดยพาดพิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นนี้จะปกป้องตนเองอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ผมให้อภัยได้อยู่แล้ว แต่ผมก็ตกเป็นจำเลยของสังคม ถูกกล่าวหาว่าโยกย้ายไม่เป็นธรรม ซึ่งผมชี้แจงหลายครั้งแล้วว่าในการโยกย้ายพล.ต.ต.ปวีณนั้น เมื่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไม่รับ ยืนยันหนักแน่นว่าไม่เอาเพราะเห็นว่าเป็นคนไม่มีวินัย ผมก็ต้องหาที่ให้อยู่คือศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จริงๆ พล.ต.ต.ปวีณต้องมาขอบคุณผมด้วยที่ผมอุตส่าห์หาที่ให้ไปอยู่ ผมต้องไปหาว่าใครจะรับบ้าง ประกอบกับการที่เขาเคยสมัครใจไปทำงานที่ ศชต.และเคยทำงานในพื้นที่ช่วงทำคดีโรฮิงญา มีประสบการณ์ด้านการทำงานสอบสวน ต้องมาขอบคุณผมด้วยนะที่หาที่ให้อยู่ แต่กลับมาหาว่าผมโยกย้ายไม่เป็นธรรม สังคมก็ตำหนิผม ผมก็โดนสังคมพิพากษาไปแล้วพล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่าหลังจากที่พล.ต.ต.ปวีณให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศที่ออสเตรเลียเรื่องการขอลี้ภัยและการถูกข่มขู่แล้ว ขณะนี้ไม่ทราบว่าพล.ต.ต.ปวีณอยู่ที่ใด แต่ถ้ากลับมาประเทศไทยก็จะให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการถูกข่มขู่. | พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่าภายในสัปดาห์นี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อตรวจสอบกรณีที่ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อ้างว่าถูกผู้มีอิทธิพลข่มขู่จากการทำคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์จะเรียกพนักงานสอบสวนในคณะทำงานสอบสวนคดีโรฮิงญาทั้งหมดมาสอบถามว่ามีใครถูกข่มขู่เช่นเดียวกับที่ พล.ต.ต.ปวีณกล่าวอ้างหรือไม่ นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังเปิดใจถึงการที่ พล.ต.ต.ปวีณกล่าวหาเรื่องถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรมว่าตนให้อภัย แม้ว่าจะตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้ว | อาชญากรรม | ##@ข่มขู่,คดีโรฮิงญา,จักรทิพย์ ชัยจินดา,จักรทิพย์โต้ปวีณ,ตรวจสอบปวีณโดนข่มขู่,ปวีณ พงศ์สิรินทร์,ผบ.ตร.,ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,โรฮิงญา##@ | https://news.thaipbs.or.th/content/6765 |
คุมทำแผน 2 มือปืนโหด สั่งตายวิน จยย. อ้างยิงดับแค้น ถูกพูดจาเหยียดหยาม | จากเหตุ 2 มือปืนอุกอาจ ประกบยิงแสกหน้าวินจักรยานยนต์รับจ้าง กลางเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจตามไล่ล่ากดดัน จนสามารถจับกุมตัวทั้ง 2 ได้ พร้อมของกลาง อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และพาหนะที่ใช้หลบหนีล่าสุดเวลา 17.00 น. วันนี้ (30 ก.ค.) พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้คุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสอง คือ นายมนัส อิ่มหน่ำ อายุ 39 ปี และนายนิพนธ์ ปานทอง อายุ 45 ปี ไปชี้จุดเกิดเหตุ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่บริเวณที่ผู้ก่อเหตุได้เฝ้าดูผู้ตายที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย แล้วติดตามมากระทั่งถึงจุดลั่นไกสังหาร ที่บริเวณด้านหลังประตูโรงเรียนเมืองพัทยา 8 โดย นายนิพนธ์ เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะ มาประกบแล้ว นายมนัส ได้ชักอาวุธปืน 11 มม. ลั่นไก 1 นัด คมกระสุนเข้าที่เบ้าตา นายประทุม สอาดนัก อายุ 47 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้างเสียชีวิตคาที่ จากนั้นเร่งเครื่องหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ห้องพักภายในซอย 5 ธันวา ก่อนจะหนีไปกบดานในพื้นที่บางแสน จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ในที่สุดส่วนสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่า เกิดจากผู้ก่อเหตุและผู้ตายได้ตั้งวงดื่มสุรากัน แล้วถูกผู้ตายพูดจาดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย จนผู้ก่อเหตุทนฟังคำถากถางไม่ได้ ทำให้เกิดความคับแค้นใจ จึงวางแผนเฝ้าติดตาม เมื่อสบโอกาสจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาลั่นไกสังหาร เพื่อสางปมแค้นคาใจดังกล่าวเบื้องต้นตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป | คุมทำแผน 2 มือปืนโหด จ่อยิงแสกหน้าวิน จยย.กลางเมืองพัทยา เข้าเบ้าตาทะลุหัวดับ สารภาพแค้นใจ-ถูกพูดจาถากถาง จึงวางแผนเฝ้าติดตาม เมื่อสบโอกาส ลั่นไกสังหารสางแค้นในใจ | ข่าว,อาชญากรรม | ยิงวินจักรยานยนต์,ยิงวิน จยย.,2 มือปืนโหด,ยิงวิน จยย.พัทยา,ฆ่าคนตาย,ยิงคนตาย,พัทยา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1900327 |
พท.ขู่ไม่เลิกดูด ส.ส.เปิดคลิปประจาน ปูดดูดเกรดเอ 30 ล.มาเป็นพวง 100 ล. | เมื่อวันที่ 6 ก.ค.61 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ตนกล่าวไปก่อนหน้านี้ถึงกระแสข่าวนายทหารชั้นผู้ใหญ่ เดินสายติดต่ออดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เพื่อมาหารือกับแกนนำ คสช.ที่ กทม.นั้น จนถึงขณะนี้ก็ยังมีความพยายามไม่เลิก นอกจากจะใช้ให้อดีต ส.ส.ที่คิดจะย้ายออกไปโทรศัพท์มาชักชวนแล้ว ยังคงมีการใช้ระดับแม่ทัพใหญ่ แม่ทัพน้อย ติดต่อและประสานกับอดีต ส.ส.นครราชสีมา ของพรรคอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเสนอค่าตอบแทนให้จำนวนมาก แว่วว่าถ้าเป็น ส.ส.เกรดเอก็ได้ 30 ล้านบาท แต่ถ้ามาเป็นพวงก็อาจได้ถึง 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้มาร่วมกันแบ่งเขตเลือกตั้งได้เอง การันตีว่าไม่มีแพ้ ทั้งนี้ อดีต ส.ส.ที่ไม่คิดจะย้ายออกไปจากพรรคเพื่อไทย ก็ใช้วิธีโทรศัพท์กดดันเขาเช้าเย็น แถมข่มขู่ว่าถ้าไม่ย้ายออกมาจะมีปัญหา อ้างว่าขนาด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังโดนดำเนินคดีจำนวนมาก แต่ไม่มีใครกลัว ยิ่งเอาแกนนำ คสช.มาอ้างด้วยยิ่งไม่มีใครกลัว ทุกคนตัวเท่ากันหมด ส่วนที่บอกว่าจะมีคลิปแฉนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้มีการถ่ายหรืออัดคลิปไว้ หากพูดกันรู้เรื่องก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าผู้มีอำนาจยังไม่หยุดใช้วิธีรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของอดีต ส.ส.ของพรรค ก็อาจจะมีคลิปเสียงออกมา และถ้าพวกท่านยังไม่เลิก ก็อาจจะมีคลิปภาพตามมาอีกด้วย. | เพื่อไทย เตือน ถ้าไม่เลิกดูด ส.ส. เจอคลิปประจานแน่ แฉอีกแม่ทัพเสนอมาเป็นพวงให้ร้อยล้าน ลั่นอดีต ส.ส.ไม่กลัวกดดัน ทุกคนตัวเท่ากัน
| ข่าว,การเมือง | เพื่อไทย,ส.ส.,ดูด ส.ส.,กลุ่มสามมิตร,พรรคพลังประชารัฐ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1328893 |
ชม เหนื่อยเพื่อชาติ | ออกโรงป้องทหารเจ๋งดับวิกฤติ อย่าปรามาสยิงปืนเป็นอย่างเดียว บิ๊กตู่ กำชับทหาร-ตร.ต้องสุจริตโปร่งใสอย่าให้สังคมระแวง วิษณุ ชี้นายกฯคนนอกแค่โยนหินถามทาง เตือนกลับไปคิดใหม่ กมธ.ยกร่าง รธน.เปิดช่องถอย พร้อมทบทวนปมร้อน เสรี ซัด ส.ส.ไร้สังกัดเร่ขายตัว ทุบระบบการเมืองล่มสลาย เจษฎ์ ล้อมคอกออก ก.ม.ลูกถอดถอน ส.ส.ทุจริต 3 ระดับ ฟัน หน.พรรคหาเสียงขายฝัน แต่ไม่ทำจริง ป.ป.ช.สอบเพิ่ม นิพนธ์ ชงคลังเรียกค่าเสียหายเจ๊งจำนำข้าว 6 แสนล้าน,กรณีกรอบการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเรื่องที่มานายกรัฐมนตรี ระบบการเลือกตั้ง ส.ส. ตกเป็นเป้าโจมตีอย่างหนัก โดยเฉพาะประเด็นนายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจาก ส.ส. ล่าสุดคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแสดงท่าทีเปิดกว้างพร้อมจะให้มีการปรับปรุงทบทวน เพื่อความรอบคอบ,เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายแสดงความไม่เห็นด้วยกับกรอบการยกร่างรัฐธรรมนูญหลายเรื่องว่า เบื้องต้นคณะอนุ กมธ.ยกร่างกรอบรัฐธรรมนูญที่มีนางกาญจนรัตน์ ลีวิโรจน์ สปช. เป็นประธาน คงต้องยกร่าง รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราตามกรอบที่คณะ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญมีความเห็นไปก่อน จากนั้นเมื่อเข้าสู่วันที่ 12 ม.ค.58 เป็นต้นไป ที่คณะ กมธ.ยกร่างฯ จะนำร่างที่คณะอนุ กมธ.ยกร่างมาไปพิจารณายกร่างเป็นรายมาตราอย่างเป็นทางการ ก็จะนำความเห็นจากภาคส่วนต่างๆที่มีความเห็นคัดค้านในเรื่องต่างๆ มาพิจารณาทบทวนอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของคณะ กมธ.ยกร่างฯจะเห็นอย่างไร ซึ่งเรื่องที่เห็นคัดค้านอย่างหนัก เช่น เรื่องนายกรัฐมนตรีคนนอก ที่มา ส.ว.สรรหา 200 คน จะเริ่มพิจารณาได้ช่วงปลายเดือน ม.ค.ถึงต้นเดือน ก.พ.58,พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวว่า เท่าที่ฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนยังไม่มีประเด็นใดที่สังคมคัดค้านอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังมีทั้งผู้เห็นด้วยและเห็นต่าง ซึ่งเมื่อขั้นตอนการยกร่างเป็นรายมาตรา คณะ กมธ.ยกร่างฯคงต้องฟังความเห็นของประธานคณะอนุ กมธ.ยกร่างฯในแต่ละด้านว่า จะยังยืนยันแนวทางที่เสนอมาหรือไม่ รวมถึงต้องฟังกระแสสังคมประกอบด้วย ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีการแก้ไขกี่ประเด็นเรื่องใดบ้าง อย่างไรก็ตาม กรอบการร่างรัฐธรรมนูญที่คณะ กมธ.ยกร่างฯเสนอไป เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า คณะ กมธ.ยกร่างฯมีความเห็นอย่างไร ก็เสนอไปเช่นนั้น ไม่มีการตั้งธง แอบยกร่างไว้ล่วงหน้า,นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องนายกฯไม่จำเป็นต้องมาจาก ส.ส. หากหลายส่วนต้องการให้เพิ่มความรัดกุมในการเขียนเนื้อหาว่า ให้นำมาใช้เฉพาะกรณีเกิดวิกฤติในบ้านเมืองจริงๆ ทางคณะ กมธ.ยกร่างฯก็พร้อมจะทบทวน เพื่อให้เกิดความรัดกุมที่สุด รวมถึงประเด็นอื่นๆที่เห็นต่างด้วย แม้คณะ กมธ.ยกร่างฯ จะยกร่างเสร็จในวันที่ 17 เม.ย.58 แล้ว แต่ยังต้องนำร่างรัฐธรรมนูญไปขอความเห็นจาก คสช.และ สปช.ในช่วงวันที่ 25 พ.ค.-23 ก.ค. 58 คณะ กมธ.ยกร่างฯยังเปิดกว้างรับฟังความเห็นจาก คสช.และ สปช.มาพิจารณาก่อนตัดสินใจครั้งสุดท้ายก่อนวันที่ 23 ก.ค.58,นายเจษฎ์ โทณะวณิก กรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองวิพากษ์วิจารณ์กรอบหลักการใหม่เกี่ยวกับระบอบการเมืองของ กมธ.ยกร่างฯ ที่ให้กลุ่มบุคคลลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยไม่ต้องสังกัดพรรค ส.ส.เขตไม่ต้องสังกัดพรรคและ ส.ส.ไม่ต้องฟังมติพรรคว่า ทุนจะเข้ามาซื้อ ส.ส.ในการโหวตว่า กมธ.ยกร่างฯเชื่อและเห็นถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ว่า คนที่ผ่านการคัดเลือกจากประชาชนมาเป็น ส.ส.เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยยังเป็นมนุษย์อยู่ ฟังดูอาจจะแรงเกินไปแต่เป็นข้อเท็จจริง กรณี ส.ส.ขัดมติพรรคก็ไม่น่าจะเกิด เราเชื่อว่าการรวมตัวเป็นพรรคการเมือง เพราะมีอุดมการณ์เดียวกัน หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงก็ไม่รู้ว่าจะโทษตัว ส.ส.หรือประชาชนผู้เลือกเข้ามาดี,นายเจษฎ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม มีการคิดแก้ไขปัญหานี้ในเรื่องสิทธิการถอดถอนโดยประชาชนที่เลือก ส.ส.เขตคนนั้นเข้ามา โดยเฉพาะกรณีที่พบว่ามีการทุจริต หรือประพฤติผิดต่างๆ กระบวนการถอดถอนจะมี 3 ระดับ คือ 1.การถอดถอนจากกระบวนการตามขั้นตอนในสภา ที่ต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. และ ส.ว.ดำเนินการ 2.การถอดถอนจากประชาชนในพื้นที่เลือกตั้ง กรณีที่เป็น ส.ส.เขตให้มีการตั้งกรรมการพิเศษจากชุมชน ประชาชนสอบสวนและถอดถอนออกจากตำแหน่ง 3.หากการกระทำนั้นเป็นความผิดทางอาญา และมีโทษก็ถูกตัดสิทธิโดยปริยาย ตามที่ตั้งหลักเกณฑ์ไว้ว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องไม่ถูกดำเนินคดีอาญา หรือถูกตัดสินโทษในคดีทุจริตมาก่อน,นายเจษฎ์กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคการเมืองที่ประกาศนโยบายใช้ในการหาเสียง ต้องรับผิดชอบต่อนโยบายนั้น ทั้งที่มาของเงินงบประมาณและความเป็นไปได้ในการทำนโยบาย หากหาเสียงไว้แล้ว พอเป็นรัฐบาลกลับไม่ดำเนินการ หรือทำไม่ได้ตามที่ให้สัญญาประชาคมไว้ ก็มีกระบวนการถอดถอนเอาผู้เป็นหัวหน้าพรรคและ ส.ส.ของพรรคนั้นออกจากตำแหน่ง แต่ไม่ยุบพรรคเพื่อให้สมาชิกพรรคอื่นที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ลงเลือกตั้งแทนได้ ส่วนที่เกรงกันว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายป้ายสี เพื่อเอาคนออกจากตำแหน่ง ส.ส.นั้น ผู้กระทำมีโทษหนักเป็นสองเท่า เหล่านี้เป็นกรอบแนวคิดหลักที่จะโยงไปกำหนดในกฎหมายลูกต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นกลไกการตรวจสอบ ถ่วงดุลการใช้อำนาจของฝ่ายต่างๆ,นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธาน กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของ สปช. กล่าวว่า กรณีคณะ กมธ.ยกร่างฯ วางแนวทางการยกร่างรัฐธรรมนูญให้ ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง และให้ ส.ส.มีอิสระจากมติพรรคการเมืองนั้น ทำให้ต่อไประบบพรรคการเมืองต้องล่มสลาย ส.ส.จะขายตัวทั้งระยะสั้นและระยะยาว เสียงของ ส.ส.จะมีค่า มีราคาเป็นเงิน เป็นผลประโยชน์ ซึ่งรัฐบาลจะต้องหาวิธีการให้ได้คะแนนเสียง ส.ส.มาสนับสนุนในการตั้งนายกฯและ ครม. ทำให้การลงทุนทางการเมืองจะเริ่มต้นรุนแรงตั้งแต่ยังไม่เลือกตั้ง ขณะที่การเลือกตั้งจะต้องลงทุนเพื่อให้จำนวน ส.ส.มาก เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพ เมื่อ ส.ส.ขายตัวได้โดยง่าย จะแก้ปัญหาการทุจริตได้อย่างไร เมื่อหัวมันส่าย หางก็คงต้องกระดิก,นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหลายฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอของคณะ กมธ.ยกร่างฯ อาทิ นายกฯคนนอกว่า เป็นเพียงการโยนหินถามทางให้เกิดกระแส เพื่อให้สังคมมีปฏิกิริยา ทั้งหมดยังไม่ได้ข้อสรุปและยังไม่ตกผลึก ข้อเสนอวันนี้มีเป็นข้อๆ แต่ตอนร่างจะเอาทุกข้อมาผูกกัน ถึงตอนนั้นอาจพบว่าข้อนี้ไปด้วยกันไม่ได้กับข้อนั้น ต้องเลือกเอาอย่างหนึ่ง ทั้งหมดคณะ กมธ.ยกร่างฯต้องกลับมาคิดใหม่ มาถึงวันนี้พอใจที่จะฟังคณะ กมธ.มากกว่าจะให้ปิดประตูตีแมวแล้วมาบอกว่าร่างเสร็จแล้ว เมื่อถามถึงการลดอำนาจขององค์กรอิสระ นายวิษณุตอบว่า ความจริงต้องดู 3 องค์ประกอบ คือ 1.ที่มาต้องให้สมเหตุสมผล 2.จำนวน ถ้าน้อยไปและมีอำนาจเด็ดขาดก็ลำบาก 3.อำนาจที่จะให้บางครั้งเอาอำนาจประเคนให้ทั้งหมด เหมือนเคยประเคนให้ กกต. แต่วันนี้ถอยกลับมาคิดใหม่แล้ว อาจทำให้สังคมมองว่าเกิดการถ่วงดุล,เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา คณะผู้แถลงข่าวสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นำโดยนายอลงกรณ์ พลบุตร นายวันชัย สอนศิริ นายกอบศักดิ์ ภูมิตระกูล ร่วมกันแถลงข่าวถึงภารกิจของ สปช.ในปี 58 โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่า ปี 58 จะเป็นปีแห่งการปฏิรูปและท้าทายกับประเทศไทยต่อการเป็นประชาคมอาเซียน สปช.กำหนด 2 ภารกิจหลักสำคัญ คือ 1.การจัดทำและเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับถาวรซึ่งเป็น ฉบับปฏิรูป 2.การปฏิรูปประเทศ ซึ่งในปี 58 จะมีการเปลี่ยนแปลงแบบมีนัยสำคัญใน 4 ด้าน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาสังคม ภาคการเมือง โดยเดือน ม.ค.จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กช็อป) วิสัยทัศน์ประเทศไทย ครั้งที่ 2 เพื่อให้เป็นกรอบพิมพ์เขียวในการปฏิรูปประเทศและ กมธ.ปฏิรูป สปช.ทั้ง 18 คณะทำให้เสร็จภายในปี 58,ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ สปช. กล่าวว่า ปี 58 คนไทยจะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงคือการกระจายอำนาจรัฐ การเช็กบิล การตรวจสอบ การบริหารราชการแผ่นดินที่โปร่งใสรวมถึงเรื่องงบประมาณ และใน 3 เดือนจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญในการปฏิรูปตำรวจ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตำรวจตามที่ สปช. เคยเสนอต่อสื่อมวลชนไปแล้ว และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรม ที่มีภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม,ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล สปช. กล่าวถึงการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ 4 ประเด็น คือ 1.เชิงยุทธศาสตร์ประเทศ ที่ผ่านมาไทยประสบปัญหาความไม่ชัดเจนทางยุทธศาสตร์ จึงต้องสร้างความชัดเจนขึ้น 2.การยกระดับของภาคเอกชนให้มีระดับมากขึ้น โครงสร้างของประเทศไทยที่เก่าแก่ จะมีการหารือว่าจะยกระดับอย่างไร เช่น ภาคเกษตร 3.การแข่งขันในภาคเศรษฐกิจ ที่จะยึดโยงกับกฎหมายมากขึ้น 4.บทบาทของเอกชนในการช่วยพัฒนาประเทศ ถ้าหากเอกชนมามีส่วนมากขึ้นจะช่วยด้านเศรษฐกิจของประเทศ,อีกด้าน เมื่อเวลา 07.00 น. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1รอ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและ ผบ.ทบ.นำปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทร. ผบ.ทอ.และ ผบ.ตร.พร้อมคณะนายทหารระดับสูงเข้าอวยพรและรับพรปีใหม่จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม โดย พล.อ.อุดมเดชกล่าวแสดงความขอบคุณรองนายกฯและ รมว.กลาโหมที่ได้พัฒนาเสริมสร้างกระทรวงกลาโหมให้เป็นที่ยอมรับนับถือ มุ่งเน้นการปฏิบัติการร่วมกันป้องกันประเทศ สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล พร้อมเตรียมความพร้อมในการเป็นประเทศในกลุ่มสมาชิกสมาคมอาเซียนในปีหน้า ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน และยังสร้างความเป็นปึกแผ่นความปรองดองให้เกิดกับคนในชาติ,พล.อ.ประวิตรได้กล่าวแสดงความขอบคุณว่า ตลอดเวลาที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทุกคนที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือรัฐบาลและนายกฯ ในการนำความสงบความปรองดองกลับมายังประเทศ เพราะนั่นคือความหวัง การที่เข้ามาดูแลการบริหารประเทศตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา มีเป้าหมายเพื่อสร้างความสงบให้เกิดขึ้นภายในชาติ และทุกกรณีที่เกิดขึ้นจะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย นายกฯมุ่งมั่นสร้างความปรองดองสมานฉันท์ จึงฝากทุกคนให้ช่วยกันทำให้เป็นผลสัมฤทธิ์ เพราะจะส่งผลให้ประเทศชาติเดินหน้าและเกิดความมั่นคงต่อชาติและประชาชน,ต่อมาเวลา 09.00 น. ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดบ้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ารับพรปีใหม่ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.พร้อมนายทหารระดับสูงเข้าขอรับพรปีใหม่,พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เนื่องในโอกาสปีใหม่ 2558 ตนและ ครม.ถือโอกาสอำนวยพรแก่ท่านและแสดงมุทิตาจิตด้วยความเคารพยิ่ง พวกตนตระหนักดีว่า พล.อ.เปรมเป็นผู้มีคุณูปการต่อประเทศชาติในความเป็นผู้นำ มากด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์ รวมทั้งถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอดถึงทุกวันนี้ เกียรติประวัติอันดีงามและผลงานของท่านถือเป็นแบบอย่าง และเป็นแนวทางที่พวกตนจะยึดถือเป็นแนวทางการบริหารราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รักสามัคคี เพื่อนำพาประเทศชาติให้มีความก้าวหน้าและมั่นคงอย่างยั่งยืน,จากนั้น พล.อ.เปรม กล่าวอวยพรแก่นายกฯว่า นายกฯลุงตู่ ตนพูดตามที่คนชอบเรียกนายกฯว่านายกฯลุงตู่ ดูเป็นกันเองดี ขอฝากขอบคุณไปยังผู้ที่ไม่ได้มา ซึ่งตนดีใจที่พวกเรามาอวยพรแสดงให้เห็นถึงความรักความสามัคคี ถ้าพวกเราจำเหตุการณ์วันที่ 22 พ.ค.ได้ คงจะภูมิใจและคนในชาติก็จะภูมิใจมากที่นายกฯลุงตู่ เข้ายึดอำนาจการปกครองมาจากรัฐบาล ถือเป็นการกระทำให้ชาติบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่ต้องหันหน้าอย่างไม่เป็นเพื่อนกัน วันนั้นเป็นวันที่แสดงให้เห็นว่าทหารและกองทัพ รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ด้วย เมื่อถึงคราวเวลาต้องออกไปดูแลชาติบ้านเมือง เราก็ทำได้ ทำเป็น ทำดี พวกเราคงจะภูมิใจที่ได้กระทำสิ่งเหล่านั้น ในวันที่ 22 พ.ค.ถือเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ เป็นการตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง แสดงความจงรัก ภักดีที่ยิ่งใหญ่มาก คิดว่าคนไทยส่วนใหญ่จะเห็นด้วยและพอใจ ภูมิใจในการกระทำของนายกฯลุงตู่,แต่มีคนคนหนึ่งที่เป็นคนไทยเท่านั้น ในหกสิบกว่าล้านคนที่เขาพูดว่า ทหารทำอะไรไม่เป็น ได้แต่ยิงปืน คนหนึ่งเท่านั้นนะ แล้วก็นายกฯลุงตู่แสดงให้เห็นว่า เมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องทำ เราก็ทำอะไรเป็น ทำเป็นทำดีได้ด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ควรจะเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นทหารของพวกเรา แม้ว่าคุณยงยุทธ ยุทธวงศ์ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล คุณวิษณุ เครืองาม ไม่ได้เป็นทหาร แต่ก็เป็นพวกเดียวกัน สิ่งที่ผมคิดว่าคนคงจะรู้จะได้เห็นพระสยาม เทวาธิราช คงจะมองเห็นว่านายกฯลุงตู่ได้ช่วยชาติ นำความสงบมาให้แก่คนไทยทั้งปวง เราได้กระทำไปแล้ว และเราก็จะทำต่อไป ผมอยากจะบอกให้พวกเราทราบว่า โอกาสนี้เป็นโอกาสสำคัญที่พวกเราจะแสดงให้เห็นว่าเมื่อถึงคราวที่ชาติคับขัน ไม่ปรองดองกัน พวกเราจะเข้ามาช่วยดูแล นั่นคือหน้าที่ของเรา ที่เข้ามาดูแลชาติบ้านเมือง ตามที่เราได้ ปฏิญาณตนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าเราจะทำอะไรให้แก่ชาติบ้านเมืองบ้าง พล.อ.เปรมกล่าว,พล.อ.เปรมกล่าวต่อว่า อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะกล่าวกับนายกฯลุงตู่ว่า โอกาสนี้เป็นโอกาสที่เสี่ยงที่สุดและสำคัญที่สุด ที่พวกเราแสดงให้เห็นว่าเมื่อใดบ้านเมืองเกิดวิกฤติ เมื่อนั้นทหารจะเข้าไปดูแลชาติบ้านเมือง และเราจะดูแลให้ดีที่สุด เท่าที่จะดีได้ เพื่อความสงบของชาติบ้านเมือง ตอนนี้นายกฯลุงตู่ ที่เป็นทั้งรัฐบาลและ คสช.กำลังทำอยู่ อยากให้คน ไทยมองเรื่องนี้ว่าเป็นหน้าที่ของเราและให้ความร่วมมือกับนายกฯ,ผมได้พูดกับนายกฯลุงตู่ เป็นการส่วนตัวว่า เราออกมาแล้ว เราคงจะถอยไม่ได้จะต้องเดินหน้าไปอย่างองอาจและกล้าหาญ เดินหน้าไปอย่างสุภาพบุรุษ และเดินไปข้างหน้าอย่างที่เป็นคนไทยโดยสายเลือดและต้องเดินหน้าไปเพื่อลูกหลานของเรา อีกทั้งเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะแสดงให้เห็นว่าพวกเราจะไม่ทอดทิ้งพี่น้องของเราให้ทุกข์ยากลำบากได้ ผมรู้ว่าทุกคนเหนื่อยและเหนื่อยด้วยกันทั้งนั้น แต่ทุกคนเหนื่อยเพื่อชาติ เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและคนไทยทุกคน สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เราหายเหนื่อย และมีกำลังใจจะต่อสู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ผมใคร่ขอให้พี่น้องทหารเหล่าทัพต่างๆ ช่วยเป็นกำลังใจกับท่านนายกฯและคณะรัฐบาล ที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ฉะนั้นเราจึงเป็นมิตรกันและเป็นเพื่อนร่วมตายกัน ต้องช่วยดูแลซึ่งกันและกัน พล.อ.เปรมกล่าว,พล.อ.เปรมกล่าวว่า ในวาระปีใหม่ผมขออวยพรให้นายกฯลุงตู่และคณะรัฐบาลประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการจะทำ เพื่อตอบแทนบุญคุณของชาติ และถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และขอให้สิ่งต่างๆที่พวกเราเสียสละ แม้แต่ชีวิตเพื่อชาติบ้านเมือง ก็ขอให้ทำสำเร็จ มีความปลอดภัยและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดังนั้นขอให้กำลังใจและหวังว่าทุกคนคงพร้อมเพรียงกัน เพื่อทำงานให้ชาติให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการนำของนายกฯลุงตู่ และก็หวังว่าทุกคนจะดูแลชาติบ้านเมืองและขอให้ความมุ่งมั่นต่างๆจงสำเร็จแก่คณะรัฐบาลและ คสช. พร้อมกันนี้ตนขอให้บารมีของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวคุ้มครองพวกเราให้มีแต่ความสุขความเจริญมีความก้าวหน้าประสบความสำเร็จ ต่อความเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองในครั้งนี้ด้วย,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าอวยพรครั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ได้นำแจกันดอกไม้และกระเช้าผลไม้มอบให้ พล.อ.เปรม โดย พล.อ.เปรมได้มอบหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด รุ่นบ้านเกิด ปี 2557 เป็นของที่ระลึกให้คณะที่เข้าร่วมอวยพรด้วย จากนั้น พล.อ.เปรมให้สื่อมวลชนสายทหารเข้ารับพรปีใหม่และร่วมถ่ายภาพ โดย พล.อ.เปรมอวยพรว่า ขอให้ทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ให้เดินหน้าเพื่อชาติ คือให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาต่อไปใช่หรือไม่ พล.อ.เปรมกล่าวว่า ใช่ เมื่อถามย้ำว่าแต่รัฐบาลและ คสช.มีกรอบเวลาทำงาน 1 ปีตามโรดแม็ป พล.อ.เปรมกล่าวว่า นายกฯไม่มีเกษียณ เพราะไม่ใช่ข้าราชการ,ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นประธานพิธีเปิดงานประชุมวิชาการนานาชาติด้านฮาลาล มีนาย อาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน นายวินัย ดะห์ลัน ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ประกอบการสินค้าฮาลาล เข้าร่วม โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดว่า รัฐบาลยินดีสนับสนุนอาหารฮาลาล เติบโตอย่างเข้มแข็ง ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก วันนี้มาเป็นนายกฯต้องขับเคลื่อนประเทศ รักษาความ สงบและปฏิรูปประเทศ ขอยืนยันจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุด เหตุการณ์ต่างๆ จะยุติลงโดยเร็ว ความขัดแย้งที่เกิดจากความยากจนได้รับการแก้ไข จะทำให้เต็มที่ คืนความสุขให้คนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม อะไรที่ติดค้างในใจขอรับไว้เพียงผู้เดียว ขอวันเวลาที่เหลือเดินหน้าเพื่อลูกหลาน บนดินแดนแห่งความสุขสงบ,กระทั่งเวลา 15.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลัง ใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม นำคณะผู้บัญชาการเหล่าทัพและนายทหารชั้นผู้ใหญ่ รวมถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร. นำกระเช้าผลไม้เข้าเยี่ยมคารวะอวยพรและขอพรเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2558 จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. โดย พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ศิริชัย เป็นตัวแทนกล่าวอวยพร พร้อมกล่าวจะทุ่มเททำงาน เพื่อชาติบ้านเมือง ตามที่นายกฯมอบหมาย โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวให้พรว่า ขอให้ทุกคนประสบแต่ความสุข ความเจริญ และจากการที่บ้านเมืองผ่าน ความขัดแย้งมา ทุกคนช่วยกัน เพราะทำคนเดียวไม่ได้ ขอให้ทุกคนทุ่มเททำงานเพื่อประเทศ ด้วยความสุจริต โปร่งใส อย่าให้สังคมหวาดระแวง เพื่อให้ประชาชนไว้ใจ และเป็นที่พึ่ง รวมถึงให้ดูแลขวัญกำลังใจและความเป็นอยู่ของกำลังพล,ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบข้อสั่งการไปยังผู้ว่าฯทั่วประเทศผ่านระบบการประชุมทางไกล จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลกำชับการดูแลความปลอดภัยช่วงปีใหม่ ด้านความมั่นคงกำชับให้ระมัดระวังทุกพื้นที่เสี่ยงที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศไปรวมตัวกัน ให้ตรวจสอบการข่าวทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพิ่มมาตรการเข้มงวดขึ้นทุกพื้นที่ เบื้องต้นสถานการณ์ยังไม่มีเหตุน่าเป็นห่วง แต่กำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้ประมาท เพิ่มการดูแลและการข่าวให้ครอบคลุมพื้นที่มีชาวต่างชาติ,ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. กล่าวภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง (นขต.) วาระพิเศษว่าได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับ นขต.ติดตามงานทุกภาคส่วนและการข่าว ให้ทุกพื้นที่ดูแลความสงบเรียบร้อยช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่แนวชายแดน ปัจจุบันไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่จะไม่ประมาท ให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจพื้นที่ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดที่จะจัดงานเคาต์ดาวน์ ยอมรับว่ายังมีกลุ่มคนที่คิดไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ แต่พยายามจะเข้าไปทำความเข้าใจ อาวุธสงครามที่ตรวจ พบต้นเดือนที่ผ่านมาลักลอบนำเข้าจากชายแดน ไม่ใช่อาวุธจากราชการ ไม่น่าจะนำมาใช้ก่อเหตุ,นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า เพื่อให้การปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถาบันฯมีประสิทธิภาพ จึงร่วมกับกสทช.ตั้งศูนย์ให้บริการครบวงจรปราบปรามและปิดเว็บไซต์หมิ่นสถาบันอย่างเข้มข้น (one stop center) ซึ่งการปิดเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงไม่ใช่เฉพาะเฟซบุ๊ก แต่ดูทั้งอินเตอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์กในภาพรวมที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม และขอให้ประชาชนระมัดระวังตรวจสอบเนื้อหาข้อความก่อนโพสต์หรือแชร์เนื้อหาข้อความใดๆ เพราะมีความผิดตามาตรา 112 กฎหมายอาญา,นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้เสนอ ครม.ให้พิจารณาปรับเพิ่มเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) เพิ่มขึ้น 4% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 57-30 ก.ย.58 โดยใช้งบกลางเพิ่มขึ้น 3,855 ล้านบาท มีข้าราชการบำนาญได้รับประโยชน์ 533,328 คน จากการปรับเพิ่มครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเพิ่มเงินข้าราชการ การปรับเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของข้าราชการระดับล่างที่ ครม.มีมติไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้จะต้องรอให้ ครม.พิจารณาก่อนซึ่งถ้าเร็วสุดน่าจะพิจารณาได้ในวันที่ 30 ธ.ค.นี้,นายวัลลภ พริ้งพงษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจกฎหมายมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญฉบับ (ชั่วคราว) ลงนามคำสั่งที่ 1/2557 เรื่องการได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นการชั่วคราวว่า คำสั่งดังกล่าวทำให้สถานการณ์การปกครองท้องถิ่นดีขึ้น ได้ผู้บริหารและสภาที่มาจากประชาชนโดยแท้จริงสอดคล้องกับการบริหารงานโดย อปท.ทั่วประเทศพอใจ ทั้งนี้ รมว.มหาดไทยสั่งการให้ทุกจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่รองรับการเข้ารายงานตัวของสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นที่ครบวาระก่อนวันที่ 1 ม.ค.58 ในวันที่ 1-11 ม.ค.58,เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณารายงานเรื่องการนำเสนอพื้นที่อนุรักษ์ในทะเลอันดามันเป็นมรดกโลก ตามที่คณะกรรมาธิการปฏิรูปทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาเสร็จแล้ว โดยสมาชิก สปช.อภิปรายอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่สนับสนุนให้ผลักดันพื้นที่ทะเลอันดามันเป็นมรดกโลก แต่ขอให้ระวังการประกาศพื้นที่มรดกโลกไปทับพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน ในที่สุดที่ประชุมลงมติเห็นชอบรายงานดังกล่าวด้วยคะแนน 187 ต่อ 10 พร้อมให้เพิ่มข้อสังเกตของสมาชิก สปช.ไปด้วย เพื่อเสนอให้ประธาน สปช.ส่งให้ ครม.ดำเนินการต่อไป,อีกเรื่อง นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช.กับอัยการสูงสุด เพื่อหาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอดีตนายกฯว่า ที่ระบุว่าอัยการสูงสุดขอให้ ป.ป.ช.สอบพยานเพิ่มเติม 2 ปากนั้น ขอชี้แจงว่า ความจริงแล้วขอให้สอบพยานเพิ่มเติมเพียง 1 ปาก คือนายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการทีดีอาร์ไอ ซึ่งมาให้การเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ตนจะนำข้อมูลไปใช้เป็นข้อมูลแถลงเปิดคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ในโครงการรับจำนำข้าวต่อที่ประชุม สนช. วันที่ 9 ม.ค.58 หลังจาก ป.ป.ช.สอบปากคำนายนิพนธ์แล้ว เชื่อว่าอัยการสูงสุดไม่ควรมีปัญหาเรื่องการส่งฟ้องคดีดังกล่าว,นายวิชากล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการไต่สวนการทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจีของนายบุญทรง เตริ-ยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวก คณะอนุกรรมการไต่สวนที่ตนเป็นพยานสอบข้อเท็จจริงครบถ้วนหมดแล้ว จะส่งเรื่องให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ลงมติได้ต้นปีหน้า แม้ขณะนี้มีข้อมูลต่างๆเพิ่มมาเรื่อยๆ แต่อย่างน้อย ป.ป.ช.จะเร่งชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐ 6 คน และเอกชน 15 คนให้ได้ก่อน จากการไต่สวนพบว่านอกจากบริษัทเอกชนจีน 2 แห่งคือ บริษัทไห่หนาน และบริษัท กวางตุ้ง ที่ไม่ใช่ตัวแทนของรัฐบาลจีนในการทำจีทูจีแล้ว ยังมีบริษัทเอกชนจีนอีก 4 แห่งที่ส่งออกข้าวโดยไม่เป็นจีทูจี มีมูลค่าส่งออกรวม 14 ล้านตัน พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุม ป.ป.ช.ยังมีความเห็นให้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังให้เรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 5-6 แสนล้านบาทกับผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้โครงการดังกล่าวเสียหาย โดยให้กระทรวงการคลังรอดูผลสอบในสำนวนโครงการจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคดีการทุจริตซื้อขายข้าวจีทูจีของนายบุญทรงที่ ป.ป.ช.จะส่งสำนวนคดีไปให้กระทรวงการคลัง ประกอบการพิจารณาว่าจะเรียกค่าเสียหายในโครงการจากใครบ้าง,นายวิชากล่าวอีกว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ยังมีมติให้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเพื่อให้หามาตรการคุ้มครองผู้ถูกกล่าวหาคดีการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ จำนวน 20 คนที่ ป.ป.ช.กันไว้เป็นพยาน ตามกฎหมายคุ้มครองพยาน หลังพยานถูกกระทรวงมหาดไทยกลั่นแกล้งบีบบังคับข่มขู่กล่าวหาเป็นผู้ทำลายสถาบัน มหาดไทยตัดสิทธิไม่ให้สมัครสอบโรงเรียนนายอำเภอ และตัดสิทธิกู้เงินจากสหกรณ์ ป.ป.ช.คงยอมไม่ได้ และสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูลเท็จจริงเบื้องต้น หาผู้เกี่ยวข้องแล้ว | ประยุทธ์ นำ คสช.-ครม.-ผบ.เหล่าทัพตบเท้า เข้าบ้านสี่เสาฯ ขอพรปีใหม่ประธานองคมนตรี ป๋าเปรม โปรยคำหวาน นายกฯลุงตู่ ยึดอำนาจเพื่อชาติ เชียร์ไม่มีเกษียณนั่งยาวนายกฯเกินโรดแม็ป 1 ปี | null | ป๋าเปรม,เปรม ติณสูลานนท์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ขอพร,ปีใหม่,คำนูณ สิทธิสมาน,นายกคนนอก,การเมือง,วิษณุ เครืองาม,กมธ.,สภาปฏิรูปแห่งชาติ,สปช.,จำนำข้าว,ยกร่าง,รัฐธรรมนูญ,ส.ส.,ทุจริต | https://www.thairath.co.th/content/471952 |
นครพนมอ่วม 2 อำเภอยังวิกฤติ จนท.ประสานศูนย์อำนวยการช่วยเหลือ | ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมายังคงมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง ส่งผลให้มวลน้ำจากพื้นที่ จ.สกลนคร ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมไหลทะลักลงสู่แม่น้ำสาขาสายหลัก มี ลำน้ำอูน ไหลผ่าน อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม อ.ท่าอุเทน ก่อนไหลระบายลงสู่แม่น้ำโขง แต่ในช่วงนี้ระดับน้ำโขงสูงใกล้วิกฤติอยู่ที่ระดับประมาณ 10-11 เมตร ทำให้ลำน้ำสาขาไหลระบายได้ช้า ทำให้ลำน้ำอูนทะลักท่วมพื้นที่ลุ่ม บ้านเรือนของชาวบ้าน รวมถึงพื้นที่การเกษตรนาข้าว ในพื้นที่ ต.บ้านเสียว ต.ท่าเรือ อ.นาหว้า จ.นครพนม ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 ครัวเรือน มีนาข้าวถูกน้ำท่วมจำนวนหลาย 1,000 ไร่,นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ที่ได้รับผลกระทบหนักจากมวลน้ำพื้นที่ จ.สกลนคร ไหลลงสู่หนองหาร ก่อนไหลระบายลงสู่ลำน้ำก่ำ ทำให้เอ่อล้นไหลผ่าน พื้นที่ อ.โคกศรีสุพรรณ อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร มายัง อ.วังยา อ.นาแก อ.เรณูนคร ก่อนไหลระบายลงสู่แม่น้ำโขง ที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยเฉพาะพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มติดกับลำน้ำก่ำ และบางพื้นที่เป็นลักษณะคอขวดและแอ่งกระทะ ทำให้น้ำไหลระบายช้าจนเกิดปัญหาน้ำท่วมขัง บ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่ ต.นาแก ต.พิมาน และ ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม รวมเกือบ 500 หลังคาเรือน,อย่างไรก็ตาม พื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วมขังมากกว่า 5,000 ไร่ หนักสุดคือพื้นที่ บ้านปากบัง กับ บ้านพิมานท่า ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม เดือดร้อนกว่า 200 ครัวเรือน ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ ที่รองรับน้ำจากลำน้ำกับ และลำน้ำบัง ก่อนไหลลงสู่น้ำโขง ทำให้น้ำเอ่อท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมมีพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมขังแล้วกว่า 10,000 ไร่,เบื้องต้นทางจังหวัดนครพนมได้ประสานงานไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง ระดมเจ้าหน้าที่ ตั้งศูนย์อำนวยการดูแลให้การช่วยเหลือตามพื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมลงพื้นที่สำรวจแจ้งเตือนประชาชน ระดมจัดเก็บสิ่งของขึ้นที่สูงป้องกันความเสียหาย และเตรียมพร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือ ช่วยเหลืออพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ หากมีปริมาณน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าวันนี้จะส่งผลกระทบหนักมากขึ้น เนื่องจากยังมีฝนตกหนัก และมีมวลน้ำไหลมาจากพื้นที่ จ.สกลนคร มาสมทบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ระดมตรวจสอบช่วยเหลือเร่งด่วน. | นครพนมสองอำเภอวิกฤติ มวลน้ำจากสกลนคร ทะลักน้ำอูน น้ำก่ำ ท่วมบ้านเรือน นาข้าวนับหมื่นไร่ จนท.ประสานตั้งศูนย์อำนวยการดูแลให้การช่วยเหลือ 24 ชม. ลงพื้นที่สำรวจแจ้งเตือนประชาชน | ข่าว,อาชญากรรม | น้ำท่วม,ฝนตกหนัก,ท่วมนาข้าว,สกลนคร,นครพนม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1020265 |
แกะรอยความสำเร็จของผู้หญิงที่ชื่อ Charlotte Tilbury | ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและความงามระดับโลก ชื่อของ ชาร์ล็อตต์ ทิลบูรี (Charlotte Tilbury) จัดเป็นหนึ่งชื่อสำคัญที่จัดอยู่ในระดับเอลิสต์ของผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่ง กว่าเธอจะมีวันนี้ที่ได้รับความรักจากทั้งเซเลบริตี้ดัง บิวตี้เอดิเตอร์ บล็อกเกอร์ และแฟนๆ ที่ชื่นชอบในแบรนด์ของเธอที่เติบโตและสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่องตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นบทพิสูจน์แล้วว่าเธอไม่เพียงจะเป็นเมกอัพอาร์ทิสต์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเท่านั้น แต่ในการบริหารธุรกิจเธอก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ด้วยยอดขายผลิตภัณฑ์กว่า 200 รายการที่ทะลุ 39 ประเทศทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าเธอคือตัวจริงและสามารถเป็นแรงบันดาลใจอันทรงพลังให้กับคนอื่นได้อีกมากมาย เราจึงอยากพาผู้อ่านทุกคนไปรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ให้มากขึ้น เพื่อจะแกะรอยความสำเร็จที่เธอฝ่าฟันมาตลอด 20 ปีในอาชีพเมกอัพอาร์ทิสต์ จนมาเป็นตัวแม่เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางไฮเอนด์เริ่มแต่งหน้าตัวเองในวัย 13 ปีชาร์ล็อตต์เปิดเผยกับนิตยสาร InStyle ว่าสมัยเป็นนักเรียนในวัย 13 ปี ครอบครัวส่งเธอเข้าเรียนในโรงเรียนประจำที่กรุงลอนดอน เธอเริ่มแต่งหน้าตัวเองตั้งแต่ตอนนั้น พอเธอกลับไปที่สเปนในไม่กี่เดือนต่อมา การที่เธอกรีดตาและปัดมาสคาร่าสร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนรอบตัวเธอเป็นอย่างมาก นั่นทำให้เธอค้นพบถึงพลังของการแต่งหน้าที่กลายเป็นอาวุธชิ้นเด็ดที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเธอ ช่วงเวลานั้นเองที่แพสชันเรื่องความสวยงามจากการแต่งหน้าได้ถาโถมเข้าสู่ชีวิตของเธอ เธอทุ่มเท หมกมุ่น และเอาจริงเอาจังกับการหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแต่งหน้านับจากวันนั้น เพราะมองเห็นความฝันของตัวเองตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าอยากมีแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองเรียนแต่งหน้าตอนอายุ 16 ปี เมื่อรู้ตัวว่าชอบอะไร ชาร์ล็อตต์ไม่มีคำว่าลังเล เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนแต่งหน้า Glauca Rossi ในวัย 16 ปี และเป็นผู้ช่วยให้กับ แมรี กรีนเวล (Mary Greenwell) ช่างแต่งหน้ามืออาชีพที่คร่ำหวอดทั้งในวงการแฟชั่นและความงามขณะนั้น ซึ่งการได้ใกล้ชิดคนเก่งบวกกับความคลั่งไคล้ในการแต่งหน้า ทำให้ชาร์ล็อตต์เก็บเกี่ยวเทคนิคและได้ฝึกฝีมือจนได้รับความไว้วางใจจากแมรีให้เข้าไปช่วยงานทั้งในอีเวนต์แฟชั่นโชว์ชื่อดังรวมถึงงานถ่ายแบบต่างๆทำงานให้ Vogue ตอนอายุ 19 ปีเธอเป็นผู้ช่วยคนเก่งให้กับแมรีได้ไม่กี่ปี โอกาสครั้งสำคัญที่ถือเป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนในชีวิตก็เริ่มต้น เด็กสาวในวัย 19 ปีได้ทำงานให้กับนิตยสาร British Vogue โดยการหยิบยื่นโอกาสจาก อิสซาเบลลา โบลว์ (Isabella Blow) แฟชั่นไดเรกเตอร์ของ British Vogue ในตอนนั้น เธอเริ่มจากงานถ่ายพอร์เทรต จากนั้นเครดิตของชาร์ล็อตต์ก็เริ่มปรากฏหนาตาขึ้นในแวดวงแฟชั่นและความงาม ความสามารถด้านการแต่งหน้าได้ต่อยอดไปสู่โอกาสใหม่ๆ รวมทั้งการได้ทำหน้าที่สำคัญในงานแฟชั่นวีกระดับโลก ทั้งในนิวยอร์ก มิลาน ปารีส และลอนดอน โดยทำหน้าที่เป็นผู้กำกับการแต่งหน้าให้กับแบรนด์ดังอย่าง Alexander McQueen Prada Roberto Cavalli Lanvin Chloé และ Tom Ford ช่วงเวลานั้นเองที่เธอได้ชิมลางเอี่ยวแคมเปญด้านความงามร่วมกับ Tom Ford และ Burberryขึ้นแท่นเป็นที่รักของตัวท็อประดับโลกการสะสมชั่วโมงบินของชาร์ล็อตต์พิสูจน์ให้เห็นผ่านผลงานจำนวนมากในอุตสาหกรรมแฟชั่นและความงาม ชื่อของเธอกลายเป็นชื่อที่คนในวงการให้การยอมรับ และเป็นที่รักของเหล่าคนดังตัวท็อประดับโลก เช่น เคต มอสส์ (Kate Moss) ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนรักและเป็นทั้งแม่ทูนหัวให้กับลูกทั้งสองของชาร์ล็อตต์ด้วย รวมถึง เคต บอสเวิร์ธ (Kate Bosworth) และเซียนนา มิลเลอร์ (Sienna Miller) ที่มีส่วนร่วมเต็มที่ในการช่วยสนับสนุนเธอเสมอมาเปิดตัวแบรนด์ของตัวเองในปี 2013แม้จะใช้เวลานานในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และสร้างชื่อให้กับตัวเองมายาวนาน 20 ปี ในที่สุดชาร์ล็อตต์ก็เปิดตัวแบรนด์ความงามของตัวเองได้สำเร็จในปี 2013 และถือเป็นแบรนด์เครื่องสำอางระดับไฮเอนด์ที่สร้างกระแสและนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงใหม่ของนิยามในการดูแลผิวและการแต่งหน้าให้กับสาวๆ ทั่วโลก ภายใต้สิ่งที่เธอยึดมั่นที่จะสร้างความสุขและสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิงผ่านการแต่งหน้า โดยไอเท็มที่สร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ Charlotte Tilbury มีมากมาย เช่น Magic Cream Wonder Glow Face Primer แป้ง Filmstar Bronze and Glow มาสคาร่า Full Fat Lashes Mascara ลิปสติก Matte Revolution Lipstick Pillow Talk และฮีโร่โปรดักต์อย่าง Magic Foundation ก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มลูกรักของใครหลายคน เครื่องสำอาง Charlotte Tilbury สามารถกวาดรางวัลกว่า 160 รางวัล (นับตั้งแต่ปี 2015-2018)ความลับแห่งความสำเร็จการที่คนคนหนึ่งจะได้ลิ้มรสกับสำเร็จในชีวิตนั้น มันไม่มีสูตรตายตัวหรอกว่าควรทำหรือไม่ทำอะไร แต่สำหรับผู้หญิงอังกฤษที่ชื่อ ชาร์ล็อตต์ ทิลบูรี สิ่งหนึ่งที่สามารถเรียกว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จน่าจะเป็นเพราะหัวใจที่มีความซื่อสัตย์ต่อตัวเองสูง เมื่อรู้ตัวว่าอยากเห็นตัวเองเป็นแบบไหนในอนาคต เธอไม่ลังเลที่จะพาตัวเองไปสู่จุดเริ่มต้นที่ถูกต้อง หมั่นสร้างโอกาสให้ตัวเองได้ฝึกฝนอย่างใกล้ชิดกับคนเก่งๆ และเมื่อได้โอกาสมาอยู่ในมือ การทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อย่างมีความสุขที่สุด คือเชื้อเพลิงอย่างดีที่จะปลุกพลังให้สร้างผลงานจนเป็นที่ยอมรับ นอกเหนือจากความเก่งที่ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญแค่นั้นไม่พอ การฝึกจิตใจก็สำคัญไม่แพ้กันอยากรู้ไหมว่าทำไมใครๆ ก็รัก ชาร์ล็อตต์ ทิลบูรี?เพราะเธอเป็นคนที่มองโลกอย่างสร้างสรรค์และคิดเชิงบวกอยู่เสมอ เมื่อเจอเรื่องร้ายๆ เธอจะบอกตัวเองเสมอว่าในแง่ลบทุกอย่างมีแง่ดี ฉันเชื่อในแง่บวกเท่านั้น ภาพ: Getty Imagesพิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์อ้างอิง: | ชาร์ล็อตต์ ทิลบูรี (Charlotte Tilbury) เป็นหนึ่งในคนสำคัญระดับเอลิสต์ที่ทรงอิทธิพลในโลกความงาม เราพาคุณไปแกะรอยความสำเร็จที่เธอฝ่าฟันมาตลอด 20 ปีในอาชีพเมกอัพอาร์ทิสต์ จนมาเป็นตัวแม่เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางไฮเอนด์ที่คว้ารางวัลกว่า 160 รางวัล (นับตั้งแต่ปี 2015-2018) | null | null | https://thestandard.co/charlotte-tilbury/ |
นิทรรศการกระเป๋าแบรนด์เก่าแก่ที่สุดในโลก | สมกมล เวชชาชีวะ, ชนัดดา-ยุวดี จิราธิวัฒน์, ฌ็อง ลาอีล์, บรม พิจารณ์จิตร, อินทิรา ธนวิสุทธิ์ ร่วมชื่นชมนิทรรศการ.,สมชื่อเป็นแหล่งรวมสิ่งที่น่าสนใจจากทุกมุมโลก ร้านศิวิไล (SIWILAI) จัดแสดงกระเป๋าหรูระดับโลก ในนิทรรศการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Delvauxs Les Humeurs de Brillant กระเป๋าลิมิเต็ดเอดิชั่น จำนวน 9 ใบ จากแบรนด์ เดลโว (Delvaux) หนึ่งในแบรนด์หรูที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นแบรนด์โปรดของราชสำนักเบลเยียม และครองใจสาวๆ รสนิยมหรูทั่วโลก ในพิธีเปิดงานคึกคักไปด้วยเซเลบฯ คนดังที่มาชื่นชมและเข้าคิวสั่งจอง โดยมี บรม พิจารณ์จิตร ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และผู้ก่อตั้งร้านศิวิไลคอนเซ็ปต์สโตร์ และ มร.ฌ็อง ลาอีล์ ผู้บริหารแบรนด์เดลโว ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ให้การต้อนรับ ที่ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี,ในนิทรรศการ เดลโว เลส์ อูเมอร์ เดอ บริลย็อง ได้จัดแสดงกระเป๋า เลอ บริลย็อง (Le Brillant) ดีไซน์พิเศษจำนวน 9 ใบ แต่ละใบผลิตขึ้นด้วยมือในจำนวนที่จำกัด นับเป็นกระเป๋าดีไซน์พิเศษ ที่สะท้อนถึงประวัติความเป็นมาอันยาวนานของแบรนด์ และงานฝีมืออันเป็นเลิศ ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว กับกลิ่นอายศิลปะแบบเหนือจริง แต่ละใบสื่อถึงคุณค่าและแก่นแท้ของแบรนด์ เครื่องหนังที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยรุ่น เลอบริลย็อง นี้ ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1958 และได้กลายเป็นกระเป๋ารุ่นไอคอนนิกของแบรนด์นับแต่นั้นมา ที่สำคัญ เป็นงานฝีมือชั้นเลิศ ที่ผลิตจากชิ้นส่วนมากถึง 64 ชิ้น ใช้เวลาการผลิตแต่ละใบนานถึง 8 ชั่วโมง ร่วมชื่นชมและสั่งจองคอลเลกชั่นเลอค่านี้ได้ ที่ร้านศิวิไลคอนเซ็ปต์สโตร์ที่เดียวเท่านั้นในประเทศไทย ถึง 16 พ.ย.ศกนี้. | สมชื่อเป็นแหล่งรวมสิ่งที่น่าสนใจจากทุกมุมโลก ร้านศิวิไล (SIWILAI) จัดแสดงกระเป๋าหรูระดับโลก ในนิทรรศการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Delvauxs Les Humeurs de Brillant กระเป๋าลิมิเต็ดเอดิชั่น จำนวน 9 ใบ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | นิทรรศการ,กระเป๋า,ลิมิเต็ดเอดิชั่น,แบรนด์เก่าแก่ที่สุดในโลก,เลอ บริลย็อง,ฌ็อง ลาอีล์,ข่าว,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/535132 |
ตร.สภ.ตันหยง จับหนุ่มขนยาไอซ์ซุกเบาะรถ ส่งเอเย่นต์รายใหญ่ จ.ปัตตานี | วันที่ 21 ธ.ค. 58 ร.ต.อ.สุพล สุขบูรณ์ รอง สวป.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตันหยง จ.นราธิวาส ระหว่างที่ได้ตั้งด่านตรวจตามปกติบนถนนสายเลี่ยงเมืองนราธิวาส-ตากใบ ม.13 บ้านสะปอม ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้ทำการตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยยี่ห้อ Nissan Teana หมายเลขทะเบียน ชล 3164 กรุงเทพมหานคร ซึ่งคนขับมีพฤติกรรมต้องสงสัยและพยายามจะหลบหนีเมื่อเห็นการตั้งด่าน,จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สกัดจับทราบชื่อต่อมา คือ นายแวฮัมดี สุใน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/4 ม.1 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส หลังตรวจค้นภายในรถอย่างละเอียด พบว่า ได้มีการซุกซ่อนยาไอซ์ ซึ่งเป้นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จำนวน 135 กรัม มูลค่ากว่า 3 แสนบาท เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย,ร.ต.อ.สุพล สุขบูรณ์ รอง สวป. สภ.ตันหยง เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจโดยรอบพื้นที่รับผิดชอบ ตามคำสั่งของ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก. สภ.ตันหยง ระหว่างที่กำลังตั้งด่านตรวจความเรียบร้อยตามปกติ พบรถยนต์คันดังกล่าวกำลังจะขับเข้ามาผ่านด่าน แสดงท่าทีมีพิรุธ พยายามจะวนรถกลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสกัดจับโดยทันที พบของกลางเป็นยาไอซ์ 135 กรัม ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เพิ่งทำเป็นครั้งแรกได้ค่าจ้าง จำนวน 5,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ,เส้นทางการขนยา การข่าวทราบว่า มีการนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยผ่านมายัง อำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ก่อนจะนำไปส่งให้เอเย่นต์รายใหญ่ในจังหวัดปัตตานี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับยาเสพติดที่ผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่บ่อยครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการขนผ่านจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยเฉพาะช่วงนี้ใกล้เทศกาลปีใหม่ ตำรวจต้องทำการตั้งด่านถี่กว่าเดิม เพื่อดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับถิ่นฐานบ้านเกิด และเฝ้าระวังการขนสิ่งของผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทย ร.ต.อ.สุพล กล่าว | หนุ่มนราธิวาส รับจ้างขนยาไอซ์ ถูกตำรวจตั้งด่านสกัดพบซุกยาไอซ์หลังเบาะนั่งคนขับกว่า 135 กรัม มูลค่า 3 แสนบาท สารภาพรับมาจาก อ.สุไหงโก-ลก นำส่งต่อเอเย่นต์รายใหญ่ในปัตตานี ขณะที่การข่าวทราบว่าเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ | null | หนุ่มรับจ้างขนยาไอซ์,ขนยาไอซ์ส่งปัตตานี,หนุ่มนราธิวาสขนไอซ์,แวฮัมดี สุใน,สุพล สุขบูรณ์,ยาเสพติด,ปัตตานี,สุไหงโกลก,นราธิวาส,สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/552274 |
ชาวไทยคริสต์ ร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาส | การจัดงานเทศกาลคริสมาสต์ในหลายจังหวัด มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง เพื่อระลึกถึงการประสูติของพระเยซู โดยที่บริเวณโบสถ์เซนต์นิโกลาส อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พ่อแม่ผู้ปกครองชาวคริสต์ตัง ต่างพาบุตรหลานมาร่วมเฉลิมฉลองในคืนคริสต์มาสอีฟ หรือ วันเฉลิมฉลองเพื่อระลึกถึงการประสูติของพระเยซูกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการแข่งขันประกวดตกแต่งถ้ำ ซึ่งจำลองภาพที่พระเยซู ทรงประสูติท่ามกลาง ฝูงแกะ โดยมีพระแม่มารี และโยเซฟอยู่เคียงข้าง ก็ได้รับความสนใจจากเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก นอกเหนือจากการมอบของขวัญให้แก่กันและกันส่วนโรงแรมหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ต่างก็ตกแต่งสถานที่ ด้วยต้นคริสต์มาส เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์ โดยบางแห่งมีการประยุกต์ นำตุงล้านนามาตกแต่งต้นคริสต์มาสอย่างสวยงามด้วยส่วนที่จังหวัดเชียงราย ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ ทั้งชาวไทย และต่างประเทศ ต่างร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสขณะที่ ชาวคาทอลิกตำบลท่าแร่ จังหวัดสกลนคร หลายพันคน ประดิษฐ์และตกแต่งดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการถือกำเนิดของพระเยซูเจ้า ออกมาร่วมขบวนแห่ เพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ก่อนที่จะมีการแห่ดาวอย่างยิ่งใหญ่ในคืนวันนี้ (25 ธ.ค.) ที่บริเวณถนนสุขเกษม ทางเข้าศูนย์ราชการจังหวัดสกลนคร ซึ่งจะมีชาวคริสต์จาก 4 จังหวัด คือ สกลนคร นครพนมมุกดาหาร และกาฬสินธุ์ มาร่วมขบวนแห่ดาวด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่เดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ต่างให้ความสนใจถ่ายรูปบรรยากาศงานคริสต์มาส ที่ประดับตกแต่งไว้ทั่วเมืองพัทยา โดยเฉพาะย่านถนนคนเดิน ส่งผลให้การจราจรในเขตเมืองพัทยา ติดขัดเป็นอย่างมากเทศกาลคริสต์มาส ถือเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู และเป็นการฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์โลก โดยส่งบุตรชาย คือ พระเยซู ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยไถ่บาป และช่วยให้มนุษย์รอดพ้นจากการทำชั่วนั่นเอง ดังนั้นในวันนี้ถือเป็นวันที่มีความหมายสำคัญชาวคริสต์ทั่วโลกและมีการส่งบัตรอวยพร ให้ของขวัญ แก่กันและกัน รวมทั้งประดับประดาตกแต่งบ้านเรือนด้วยแสงไฟ และต้นคริสต์มาสอย่างสวยงาม | ชาวคริสต์ทั้งไทย และต่างชาติ ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสกันอย่างคึกคัก เพื่อรำลึกถึงการกำเนิดพระเยซู ในคืนที่ผ่านมา | ภูมิภาค | คริสต์,ฉลอง,พระเยซู,สกลนคร,อีฟ,เชียงราย,เทศกาล | https://news.thaipbs.or.th/content/135090 |
ฆ่าโหดชิงทรัพย์ บุกทุบหัวเมียฝรั่ง ตายคาเตียง | เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 11 ธ.ค.พ.ต.ต.อนุรักษ์ ดีคล้าย สารวัตรเวรสภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 106/22 ม.2 ซอยโรงบอล ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รองผบก.ภ.สมุทรสาคร พ.ต.อ.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน พ.ต.ท.นนท์ ภักดีพันธ์ รอง ผกก. มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร แพทย์เวรรพ.กระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร,ที่เกิดเหตุเป็นเทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ที่ชั้นล่างประตูทางเข้าด้านหลังบ้านมีร่องรอยถูกงัดเข้าไป และที่ชั้น 3 ในห้องนอนพบศพ นางสิรารมย์ เหลืองประเสริฐ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1270/26 ถ.สุคนธวิท ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง สวมเสื้อยืดสีฟ้าแขนสั้น กางเกงขาสั้นลายดอกไม้ ถูกถลกลงมาบริเวณเข่า สภาพเปลือยท่อนล่าง และสวมถุงเท้ายาวสีดำ ศพที่พบมีบาดแผลบริเวณท้ายทอยถูกตีด้วยกระถางต้นไม้ เป็นแผลฉีกขาดเล็กน้อย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง ส่วนบนเตียงนอน พบเศษกระเบื้องกระถางต้นไม้กระจายเกลื่อน,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางสิรารมย์ เหลืองประเสริฐ ผู้ตาย มีสามีชื่อนายฟิลิป อายุ 60 ปี เป็นชาวออสเตรเลีย โดยผู้ตายมีอาชีพขายน้ำแร่และยาสมุนไพร ก่อนเกิดเหตุผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว นายฟิลิป สามี เดินทางไปต่างประเทศ ได้โทรศัพท์มาหาหลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับสาย จึงได้โทรไปหา นางทัศภาพัชญ์ เม็ชท์เลน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/41 ม.5 ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน ซึ่งเป็นภรรยาของเพื่อน ให้มาดูที่บ้าน แต่เมื่อนางทัศภาพัชญ์มาถึงบ้านพบว่าประตูถูกเปิดไว้จึงรีบเข้าไปดู และพบว่านางสิรารมย์ ถูกฆ่าตายอยู่ในห้องนอน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว,ด้าน พ.ต.อ.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน กล่าวว่า จากการตรวจในบ้านเกิดเหตุ พบว่าตู้ครอบเซฟมีร่องรอยถูกเปิด จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีทรัพย์สินอะไรหายไปบ้าง ต้องรอสามีผู้ตายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศก่อน โดยจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ ส่วนเรื่องคดีได้ให้เจ้าหน้าที่กองวิทยาการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงและร่องรอยในที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมกับให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง,สำหรับสาเหตุการตายนั้นเป็นไปได้ว่า อาจถูกตีด้วยกระถางต้นไม้ แล้วจับกดกับหมอนทำให้ขาดอากาศหายใจ ส่วนร่องรอยการข่มขืนเบื้องต้นยังตรวจไม่พบ โดยจะนำศพส่งโรงพยาบาลศิริราชเพื่อทำการชันสูตร และตรวจสอบหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป. | เมียฝรั่งอยู่บ้านคนเดียวที่กระทุ่มแบน ถูกคนร้ายงัดเข้าไปฆ่าโหด ตายอนาถคาเตียงในห้องนอนในสภาพเปลือยท่อนล่าง ตำรวจเชื่อโจรประสงค์ต่อทรัพย์เพราะมีรอยงัดตู้เซฟ อาจฆ่าด้วยการทุบหัวแล้วจับหน้ากดกับหมอน ไม่พบร่องรอยการข่มขิืน | ข่าว,ทั่วไทย | ฆ่าโหด,ฆ่าเมียฝรั่ง,ฆ่าชิงทรัพย์,ทุบหัว,จับกดหมอน,สิรารมย์ เหลืองประเสริฐ,ฆาตกรรม,อาชญากรรม,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/468593 |
กรมคุมประพฤติเผยสถิติเมาแล้วขับช่วงสงกรานต์ 4856 คดีจากทั้งหมด 5173 คดี | วันนี้ (19 เม.ย.2560) พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ ร่วมกับ นพ.สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี จัดแถลงข่าว คุมประพฤติจัดหนัก ดื่มแล้วขับ เข้าห้องดับจิต ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยอธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการเกิดอุบัติเหตุ 3690 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 390 ราย และผู้บาดเจ็บ 3808 ราย ซึ่งมีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติจากสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ 120 แห่ง มีจำนวนทั้งสิ้น 5173 คดี แบ่งเป็นขับรถขณะเมาสุรา 4856 คดี ขับเสพ 278 คดี และขับรถประมาท (ตามประมวลกฎหมายอาญา) 39 คดี และจังหวัดที่มีสถิติคดีสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครพนม 402 คดี สำนักงานคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 287 คดี สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุรินทร์ 285 คดีสำหรับมาตรการบังคับใช้กฎหมายตามคำสั่งศาลของกรมคุมประพฤติ ซึ่งมีการส่งผู้กระทำผิดในคดีขับรถขณะเมาสุรา ทำงานบริการสังคมในสถานพยาบาล รวมทั้งดำเนินกิจกรรมการกระตุ้นจิตสำนึกและรับทราบถึงความสูญเสียต่างๆ โดยการพาผู้กระทำผิดไปเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงจากอุบัติเหตุทางถนนทั้งในส่วนของห้องฉุกเฉินและห้องดับจิต รวมถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและสภาพของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและพิการจากอุบัติเหตุทางถนนนอกจากนี้ กรมคุมประพฤติมีมาตรการนำเครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์มาใช้กับผู้ถูกคุมความประพฤติทุกกลุ่ม ทุกฐานความผิด ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงเดือนมิถุนายน 2560 รวมทั้งมาตรการลงโทษทางสังคม สำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข มาตรการ ประสานจับกุม ซึ่งเป็นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ผิดเงื่อนไข เพื่อให้ผู้กระทำผิดตระหนักว่า ไม่มีเรา ท่านเข้าคุกนพ.สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่า ปัจจุบันมียอดผู้มาปฏิบัติหน้าที่บริการสังคมในโรงพยาบาล 2314 ราย โดยจัดกิจกรรมศึกษาดูงานและทำงานบริการสังคม อาทิ ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน หอผู้ป่วยศัลยกรรมชาย และห้องดับจิต เป็นต้น ซึ่งจะพิจารณาตามศักยภาพ บุคลิกภาพ ความรู้ความสามารถพื้นฐานเดิม และเพศ ให้เหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาล ทั้งนี้ ทุกมาตรการของกรมคุมประพฤติล้วนมุ่งหวังเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกแก่ผู้กระทำผิดในคดีขับรถขณะเมาสุรา ขับรถประมาท และคดีอื่นๆ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 รับทราบถึงความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนนทั้งในช่วงเทศกาลต่างๆ และช่วงเวลาปกติด้วย | อธิบดีกรมคุมประพฤติเผยช่วงเทศกาลสงกรานต์มีอุบัติเหตุ 3690 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 390 ราย และผู้บาดเจ็บ 3808 ราย ซึ่งมีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ 5173 คดี แบ่งเป็นขับรถขณะเมาสุรา 4856 คดี ขับเสพ 278 คดี และขับรถประมาท 39 คดี | อาชญากรรม | ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,กรมคุมประพฤติ,สงกรานต์,เทศกาลสงกรานต์,อุบัติเหตุ | https://news.thaipbs.or.th/content/261738 |
แทมมี่ สู้เต็มที่ซิว 2 เหรียญเงินให้หวดไทยในซีเกมส์ | วันนี้ (7 ธ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแข่งขันเทนนิสซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ริซาล เมมโมเรียล เทนนิส คอร์ท รอบชิงชนะเลิศ หญิงคู่ แทมมี่ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ กับ เอิร์ธ เพียงธาร ผลิพืช คู่มือวาง 2 ของรายการ พบกับบีทรีซ กูมูลย่า กับเจสซี่ พริสก้า รอมไพรส์ คู่นักหวดจากอินโดนีเซีย คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการเซตแรก คู่สาวไทยออกสตาร์ทดีนำ 3-1 แต่หลังจากนั้นคู่สาวอินโดนีเซียอาศัยการดักหน้าเนตดี และเกมโต้กลับที่เหนียวแน่นแข็งแกร่ง เก็บ 5 เกมรวด ชนะ 6-3เซต 2 คู่นักหวดจากอินโดนีเซียยังแรงไม่ตก กดดันจนคู่ไทยพลาดถูกเบรกเสิร์ฟตาม 0-3 ก่อนจะไล่มา 3-5 แต่ไม่ทัน เมื่อคู่อินดดนีเซียออกมาปิดเกม 9 ได้สำเร็จ ทำให้แทมมี่ กับเพียงธาร พ่าย 0-2 เซต ด้วยสกอร์ 3-6 และ 3-6 คว้าได้เพียงเหรียญเงินคู่ผสมพ่ายอินโดฯ คว้าเหรียญเงินส่วนประเภทคู่ผสม รอบชิงชนะเลิศ ต้อง สรรค์ชัย รติวัฒน์ กับ แทมมี่ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ จะลงชิงชนะเลิศ พบคริสโตเฟอร์ รุงกัท กับอัลดิล่า ซูต์เจียดี้ คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการจากอินโดนีเซีย ที่มีดีกรีเจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18เซตแรก คู่อินโดนีเซียเบรกเกมเสิร์ฟคู่ไทยได้ตั้งแต่เกมแรก ก่อนตาม 2-0 จากนั้นคู่ไทยมารักษาเกมเสิร์ฟไล่ตาม 1-2 ก่อนจะมาเบรกเสิร์ฟคืนในเกม 4 ตีเสมอ 2-2 เกมหวดเป็นไปอย่างสนุก โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างรักษาเกมเสิร์ฟตัวเองได้ต่อเนื่องจบเกม 9 ไทยนำ 5-4 เกม ต่อมาคู่ไทยหันมาใช้การวางบอลริมเส้นได้ดี ทำให้บีบจนคู่แข่งพลาดถูกเบรกเสิร์ฟจบเซตแรก คู่ไทยชนะ 6-4เซต 2 เกมหวดยังคงเป็นไปอย่างสนุก ทั้ง 2 คู่ยิงโต้กันและผลัดกันรักษาเกมเสิร์ฟสกอร์เสมอ 3-3 เกมต่อมา สรรค์ชัย เสิร์ฟเสียไป 1 ดับเบิลฟอลท์ ก่อนถูกเบรกตาม 3-4 คู่อินโดนีเซียรักษาเกมเสิร์ฟได้ขึ้นแท่นนำ 5-3 เกม ต่อมาแทมมี่ กับ สรรค์ชัยสามารถเซฟเซตพ้อยท์ไว้ได้รักษาเสิร์ฟไล่จี้ 4-5 แต่คริสโตเฟอร์ ออกมารักษาเกมเสิร์ฟปิดเซตได้สำเร็จ คู่อินโดนีเซียชนะเซต 2 ไป 6-4 ตีเสมอ 1-1 เซตเซตตัดสินเล่นในระบบซูเปอร์ไทเบรก ปรากฎว่าเกมยังคงสูสี ไทยนำก่อน 5-4 แต่ก็ถูกคู่อินโดนีเซียที่เล่นไม่หลุดเก็บแต้มพลิกนำ 8-5 คู่ไทยไล่เก็บอีก 2 แต้ม แต่ไม่ทันคู่แข่งจากอินโดนีเซียชนะไป 10-8 ทำให้แทมมี่กับสรรค์ชัยได้เหรียญเงิน ส่วนอินโดนีเซียได้เหรียญทอง และเหรียญทองแดงเป็นของสนฉัตร รติวัฒน์ กับพัชรินทร์ ชีพชาญเดช และคู่เดวิด เอกุง ซูซานโต้ กับบีทริซ กูมูลย่า จากอินโดนีเซียแทมมี่ กล่าวว่า วันนี้เล่นได้สนุก พร้อมขอโทษแฟนกีฬาชาวไทยที่ไม่สามารถทำเหรียญทองได้ แต่ต้องเดินหน้าต่อไป จากนี้จะขอดูร่างกายตัวเอง เพราะอยากทำอันดับให้ได้ไปโอลิมปิกเกมส์ปี 2563สรุปผลงานนักเทนนิสไทยในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 30 จากการชิงชัย 5 เหรียญทอง ปรากฎว่าคว้ามาได้ 2 เหรียญเงิน จากหญิงคู่ (แทมมารีน ธนสุกาญจน์-เพียงธาร ผลิพืช) คู่ผสม (แทมมารีน ธนสุกาญจน์-สรรค์ชัย รติวัฒน์) 3 เหรียญทองแดง จาก หญิงเดี่ยว (อัญชิสา ฉันทะ) หญิงคู่ (ลักษิกา คำขำ-พัชรินทร์ ชีพชาญเดช) และคู่ผสม (สนฉัตร รติวัฒน์-พัชรินทร์ ชีพพชาญเดช) | แทมมี่ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ ลงแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เทนนิสหญิงคู่ร่วมกับ เอิร์ธ เพียงธาร ผลิพืช แต่พ่ายคู่นักหวดจากอินโดนีเซีย คว้าเหรียญเงินมาครอง ส่วนคู่ผสมกับ ต้อง สรรค์ชัย รติวัฒน์ ก็ยังพ่ายความแข็งแกร่งของคู่แข่งอินโดฯ คว้าเหรียญเงินมาครองเช่นกัน | กีฬา | แทมมารีน ธนสุกาญจน์,สรรค์ชัย รติวัฒน์,เทนนิส,ซีเกมส์,แทมมี่ | https://news.thaipbs.or.th/content/286826 |
รู้จัก Health Tech โอกาสทางธุรกิจใหม่ เมื่อสังคมไทยกำลังแก่ | เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 เครือข่ายนวัตกรรม Aging 2.0 Bangkok โดยทีมงานอาสาสมัคร เอจจิ้ง 2.0 บางกอกแชปเตอร์ จัดงานสัมมนา The Golden ERA Health Startups in Thailands Aging Society หรือยุคทองของสตาร์ทอัพไทยในสังคมผู้สูงวัย เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมฟังสนใจธุรกิจสตาร์ทอัพด้านสุขภาพ (Health Tech) มากขึ้น ทั้งยังชี้ถึงโอกาส และผลักดันการทำธุรกิจต่อไป สำหรับ key speaker ในงานครั้งนี้ ได้แก่ กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ร่วมบริหารกองทุน 500 TukTuks ในฐานะนักลงทุน นายแพทย์คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ ซีอีโอบริษัท Ruckdee Consultancy และ แพทย์หญิงพิรญาณ์ ธำรงธีระกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง ชีวีไลฟ์ (Chiiwii LIVE) แอปพลิเคชันช่องทางปรึกษาทางการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) แบบเรียลไทม์ผ่านสมาร์ตโฟนโลกกำลังแก่ แต่ทุกคนยอมจ่ายเพื่อสุขภาพและการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เรืองโรจน์ พูนผล กล่าวว่า สตาร์ทอัพที่มาขอเงินลงทุนจากกองทุนของตนน้อยที่สุดคือด้าน Health Tech ทั้งที่ตลาดนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตค่อนข้างดี เนื่องจากจำนวนผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น และหลายคนยอมเสียเงินเพื่อตนเองและครอบครัว Health Tech จึงจะเป็นกลุ่มสตาร์ทอัพที่หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญที่สุดในอีก 2 ปีข้างหน้า เพราะจะเข้ามาช่วยเหลือและตอบโจทย์ความต้องการด้านการดูแลรักษาสุขภาพของประชากรโลกถึง 20 ล้านคนในปี 2568 ซึ่งไม่ได้ช่วยเพียงคนที่สุขภาพไม่แข็งแรง แต่ยังแบ่งเบาภาระของคนรอบข้างที่ต้องดูแลผู้ป่วยด้วย เรืองโรจน์ยกตัวอย่างโดยอธิบายจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ต้องดูแลพ่อแม่ เขาพบว่าเมื่อถึงเวลาจำเป็น คนเรายอมจ่ายเท่าไรก็ได้เพื่อช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ดังนั้นต้องมองว่ามันคือการแมตชิ่งคอนเทนต์กับผู้สูงวัย สำหรับสตาร์ทอัพ Health Tech ที่ประสบผลสำเร็จจะต้องมีส่วนผสมของ Health คือแพทย์ ที่จะต้องมีแพทย์ถาวรประจำทีม ไม่ใช่แค่รวมตัวเฉพาะกิจ และ Tech คือคนที่สามารถพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่หนุนธุรกิจ และต้องระดมทุนให้เพียงพอ ซึ่งอาจจะต้องมีทุนที่มากกว่าสตาร์ทอัพประเภทอื่นๆ4 ปัจจัยเสี่ยงที่สตาร์ทอัพสาย Health Tech ควรรู้ โอกาสที่น่าสนใจก็มาพร้อมกับความเสี่ยงใหม่ๆ เช่นกัน เรืองโรจน์ชี้ว่าสตาร์ทอัพที่สนใจกลุ่มธุรกิจนี้ควรจับตามองความเสี่ยงต่อไปนี้ Growth Stage หรือระยะการเติบโต เป็นปัญหาที่สตาร์ทอัพทั้งโลกประสบเหมือนกัน แม้ว่าสตาร์ทอัพจะมีโมเดลธุรกิจและรายได้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่เมื่อลงทุนไปสักพัก เงินทุนไม่มา จะเรียกสภาวะนี้ว่า ซอมบี้ ตนขอแนะนำให้มีพาร์ตเนอร์ เพื่อให้ข้ามพ้นจากการระดมทุนรอบ series-A (เน้นระดมทุนเพื่อออกผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาด กระจายสินค้าหรือบริการไปสู่ฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น หรือขยายไปยังตลาดใหม่) ไปยัง series-B (เน้นระดมทุนเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจ) ให้ได้ ดังนั้นต้องมีเงินทุนสำรองให้เยอะ Outdated Regulations กฎหมายของประเทศไทยล้าสมัย มีข้อจำกัดทางกฎหมายมากมาย ซึ่งไม่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ Patient Risk ความเสี่ยงของผู้สูงวัย Adoption Risk ไม่มีคนทดลองสินค้าก่อนออกสู่ตลาด จึงไม่ทราบความต้องการหรือประสบการณ์ที่แท้จริงของผู้ใช้ ซึ่งอาจจะต้องให้ผู้สูงวัยเป็นคนทดลองสินค้าสตาร์ทอัพไทย กับโอกาสที่จะเป็นผู้นำในตลาดของสังคมผู้สูงวัย ตอนนี้ยังไม่มีประเทศใดครองด้าน Heath Tech ซึ่งไทยได้เปรียบในเรื่องนี้ เรามีชื่อด้านการบริการสุขภาพอยู่แล้ว อย่างประเทศสิงคโปร์เป็นเมืองหลวงของสตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังไม่มีประเทศใดเป็นเมืองหลวงในด้านเฮลท์แคร์ ซึ่งเราสามารถทำได้ เรามีจุดแข็ง มีฐานลูกค้า ประเด็นคือตอนนี้มีไม่ถึง 20 บริษัทที่ลงทุนด้าน Health Tech จากประมาณ 1600 บริษัทสตาร์ทอัพทั่วโลก เราจะหวังพึ่งราชการไม่ได้ ผมอยากให้มีด้าน doctor on demand อย่างตอนนี้ที่มีประเด็นเรื่องโรคซึมเศร้า ก็สามารถปรึกษาหมอได้เลย ไม่ต้องไปโรงพยาบาล Health Tech บางอันที่ไม่เวิร์กคือขี่ช้างจับตั๊กแตน ปัญหาบางอย่างมันเล็ก แต่ทำใหญ่ อีกอย่างคิดว่าลูกหลานมักเป็นผู้ซื้อสินค้าให้คนมีอายุในบ้านใส่ ซึ่งคนเหล่านี้ลูกหลานซื้ออะไรให้ก็ใส่ ทั้งนี้ไม่เห็นด้วยเท่าไรกับการผลิตสินค้าเป็นฮาร์ดแวร์ เพราะมีคู่แข่งเยอะ อีกทั้งยังพัฒนายาก ลงทุนก็ยาก อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าไทยสามารถเป็น Medical Hub ได้ เรืองโรจน์ปิดท้าย ทางด้าน นายแพทย์คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ กล่าวว่า สัดส่วนตลาดด้านสาธารณสุขในประเทศไทยนั้นเติบโตเรื่อยๆ ทั้งที่คนสูงวัยในประเทศเพิ่มจำนวน ยังมีคนสูงวัยจากต่างแดนย้ายข้ามมาพำนักในประเทศ ตนมองว่าปัญหาของเฮลท์แคร์ขยายวงกว้างมาจากคนทำนโยบาย หมอ และคนไข้ ที่เห็นกันคือบางครั้งไม่ได้มีอาการที่น่าเป็นห่วงจนต้องมาโรงพยาบาล หรืออุปกรณ์ในโรงพยาบาลไม่เพียงพอกับความต้องการของคนไข้ โดยในอนาคต จำนวนคนไข้จะยิ่งเพิ่ม ประเทศไทยอาจต้องอยู่ในจุดที่ย่ำแย่ แต่ในทางกลับกันก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนหรือสตาร์ทอัพที่ต้องการเข้ามาทำตลาดเฮลท์แคร์เช่นกัน นายแพทย์คณวัฒน์กล่าวต่อว่า แรงผลักดันทางเศรษฐกิจ สังคม ประชากร และเทคโนโลยี ที่เป็นตัวกำหนดเทรนด์สำคัญในด้านสาธารณสุข ได้แก่ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ความต้องการผู้เชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้น สังคมสูงวัย การเติบโตของเมือง การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการใช้ดิจิทัลสำหรับ 5 เทรนด์สำคัญที่มองได้ว่าเป็นโอกาส มีดังนี้ ปิดท้ายด้วยแพทย์หญิงพิรญาณ์ ธำรงธีระกุล เล่าประสบการณ์การทำธุรกิจสตาร์ทอัพ Health Tech ชีวีไลฟ์ บริการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ระยะไกล เน้นผู้ใช้บริการที่เป็นผู้หญิงที่มักจะมีโรคบางชนิดที่ไม่กล้าปรึกษาหมอโดยตรง ประกอบกับสังเกตว่าคนไข้ส่วนใหญ่มักค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคก่อน จึงมองเห็นความต้องการใหม่ที่เกิดขึ้น แรกเริ่ม ชีวีไลฟ์ให้บริการในรูปแบบเว็บไซต์ chiiwii.com ให้คนเข้าไปถาม-ตอบโดยไม่คิดเงิน วางจุดยืนเป็นผู้ประกอบการทางสังคม (Social Enterprise) มีแอดมินคอยคัดกรองบางโรคที่ร้ายแรงเพื่อแนะนำให้ไปพบแพทย์ กรองคำถามว่าอยู่ในหมวดใด และยังเปิดเป็นคอมมูนิตี้ให้ผู้ที่มีอาการป่วยคล้ายๆ กันได้แลกเปลี่ยน มีบทความจากแพทย์ให้คำแนะนำด้านสุขภาพ พบว่าคำถามด้านเพศเยอะสุด เพราะคนไม่กล้าไปหาหมอ หลังจากทำเว็บไซต์ พบว่าการให้คำปรึกษาจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ หากได้มีการพูดคุยซักถามเพิ่มเติมแบบ two-way communication เป็นที่มาของแอปพลิเคชันชีวีไลฟ์ ที่ทำให้คนไข้สามารถทำการนัดหมายเพื่อปรึกษากับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญได้อย่างสะดวกสบายบนสมาร์ตโฟนแบบเรียลไทม์ โดยจะเน้นให้คำปรึกษาในเรื่องที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสำหรับผู้หญิง ทั้งในด้านความสวยความงาม การดูแลผิวพรรณ โรคผิวหนัง ปัญหาเรื่องเพศ ที่ผู้หญิงมักจะอาย ไม่กล้าถาม หรือในด้านการวางแผนครอบครัว รวมไปถึงการเตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์ การดูแลตัวเองระหว่างการตั้งครรภ์ และการเลี้ยงลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เหมาะกับการปรึกษาออนไลน์เบื้องต้น สำหรับประเด็นเรื่องการฟ้องหมอ Telemedicine มันโดนเรื่องกฎหมายโดยตรง ขอเงินคืนได้หรือไม่ หรือการฟันธงโรค แต่ต่อให้ไปโรงพยาบาลเองก็ใช่ว่าจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม แอปฯ นี้ไม่ได้ตอบโจทย์การไปโรงพยาบาล ไม่ได้มาแทนการไปโรงพยาบาล แต่อาจจะตอบสนองด้านการสกรีนคนไข้ที่อาการที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ช่วยคัดกรองผู้ป่วยในเบื้องต้นได้ สำหรับในอนาคต ชีวีไลฟ์ตั้งให้เป็น portal ของการปรึกษาแพทย์ที่เป็นหมอเฉพาะทางจริงๆ โดยตรง ที่ไม่ใช่การโพสต์ในเฟซบุ๊ก หรือพันทิป เพื่อให้ปัญหาของผลข้างเคียงหรือความยุ่งยากที่เกิดขึ้นจากการได้รับข้อมูลผิดๆ ลดลง นอกจากนี้ แพทย์หญิงพิรญาณ์ได้แสดงความเห็นต่อสถานการณ์สตาร์ทอัพ Health Tech ในเมืองไทย ณ ขณะนี้ว่า สตาร์ทอัพ Health Tech มันยังไม่ค่อยมีในไทย และที่บอกมาทั้งหมดยังตัวเล็กมาก ซึ่งยังพัฒนาได้อีกเยอะ แต่ก็ติดในแง่ของกฎหมายที่ทำให้เราโตช้ากว่าประเทศอื่น ทุกคนอยากทำ อยากช่วย ทุกคนเห็นปัญหา และเหมือนมาด้วยใจจริง อยากแก้สังคมจริงๆ เพราะ Health Tech ได้เงินไม่เยอะหรอก นี่เป็นเพียงตัวอย่างของกรณีศึกษาปัญหาและความเป็นไปได้ของสตาร์ทอัพที่สนใจและพยายามผลักดันธุรกิจ Health Tech เพื่อหยิบยื่นทางเลือกใหม่ๆ ของการรักษาโรค ดูแลสุขภาพ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ อุตสาหกรรมนี้ยังเต็มไปด้วย pain point อีกมากมายที่รอให้คนค้นพบทางแก้ไขและต่อยอดเป็นโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งหวังว่าเราจะไม่นิ่งหรือมองข้ามกันอีกต่อไปอ้างอิง:สถิติข้อมูลประชากรผู้สูงอายุของโลกกับประเทศไทย จากรายงาน World Population Prospect: The 2017 Revision | การทำธุรกิจ Health Tech ต้องมีทีมเป็นแพทย์ ร่วมกับผู้มีทักษะความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยี มีเงินทุนมากพอให้รอดไปถึงระยะเติบโต5 เทรนด์สำคัญที่ควรจับตา ได้แก่ สังคมผู้สูงวัย (Aging Society) การจัดการข้อมูลและโลจิสติกส์ด้านสาธารณสุข (Healthcare Logistics) ระบบสาธารณสุขยุคดิจิทัล (Digital Healthcare) กลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง (Healthcare-related Industries) และการดูแลสุขภาพ-ความงาม (Wellness and Preventive Measure) สตาร์ทอัพ Chiiwii LIVE บริการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ทางไกล เผยผู้ใช้บริการมักเป็นผู้หญิง และผู้ขอคำปรึกษาปัญหาเรื่องเพศ ช่วยคัดกรองอาการเบื้องต้น ให้คำแนะนำสำหรับอาการที่ไม่ซับซ้อนโดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลบ่อย | null | null | https://thestandard.co/news-business-health-tech/ |
บลูเวฟ ไล่ขยี้ ม.เกษมบัณฑิต 5-1 ศึกฟุตซอลไทยลีก | วันที่ 8 พ.ย. การแข่งขัน เอสไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 นัดที่ 17 ของฤดูกาล ฉลามชลโต๊ะเล็ก พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ทีมจ่าฝูง เปิดสนามพีทีที บลูเวฟ อารีนา รับการมาเยือน ของ เด็กร่มเกล้า ม.เกษมบัณฑิต ทีมอันดับ 4 ของตาราง,เกมนี้ โค้ชหมี รักษ์พล สายเนตรงาม กุนซือใหญ่ของเจ้าถิ่น จัดทัพผู้เล่น 5 คนแรก แบบเต็มอัตราศึก โดยมี คฑาวุธ หาญคำภา เป็นผู้รักษาประตู, ผู้เล่น กฤษดา วงษ์แก้ว (C), จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง และ ดิเอโก นูเนซ ส่วนทีมเยือน ม.เกษมบัณฑิต ของ โค้ชสมบัติ ปานสมุทร ส่งผู้เล่น 5 คนแรก ประกอบไปด้วย นัทธพงศ์ หยีมะเหรบ เป็นผู้รักษาประตู, ผู้เล่น อนันตชัย ปราบวงษา, จัหจาฮ อันเวอร์ บัตต์, เบญจรงค์ พานพบ, ทศพร โอทอง,เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 11 บลูเวฟ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร รับบอลจากจังหวะตัดเกม ของ กฤษดา วงษ์แก้ว ก่อนส่งต่อไปให้ ดิเอโก นูเนซ ยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย จากนั้นนาทีที่ 18 บลูเวฟ ขึ้นนำเพิ่มเป็น 2-0 จากจังหวะที่ผู้เล่นของ ม.เกษมบัญฑิต เสียบอลที่กลางสนาม ดิเอโก นูเนซ พาบอลเล่นโต้กลับเร็ว ก่อนจ่ายออกขวา ไปให้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ส่งต่อไปให้ กฤษดา วงษ์แก้ว ได้ยิงเข้าไปง่ายๆ,จบครึ่งแรก พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี นำ ม.เกษมบัณฑิต อยู่ 2-0,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 22 ลูกฟรีคิกในแดนของทีมเยือน กฤษดา วงษ์แก้ว เล่นลูกสูตร จ่ายมาให้ ดิเอโก นูเนซ แปเปลี่ยนทางเข้าไปให้ บลูเวฟ ขยับนำห่างเป็น 3-0,จากนั้นนาทีที่ 25 ม.เกษมบัณฑิต ไล่มาเป็น 1-3 จากจังหวะโต้กลับเร็ว บอลขึ้นมาบริเวณริมเส้นฝั่งขวา เบญจรงค์ พานพบ ยกบอลเปลี่ยนไปฝั่งซ้ายที่หน้าประตู อนันตชัย ปราบวงษา โฉบมาโหม่งตุงตาข่าย แต่นาทีที่ 28 ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง รับบอลจาก ดิเอโก นูเนซ ก่อนจับหนึ่งจังหวะแล้วยิงด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเสียบเสา 2 เข้าไปอย่างสวยงามพา บลูเวฟ นำห่างอีกครั้ง เป็น 4-1,เข้าสู่ช่วงท้ายเกม บลูเวฟ หนีไปไกลเป็น 5-1 จาก ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง และช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี เปิดบ้านเอาชนะ ม.เกษมบัณฑิต ไป 5-1 นำเป็นจ่าฝูงต่อไป. | ฉลามชลโต๊ะเล็ก พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี เปิดบ้านเอาชนะ ม.เกษมบัณฑิต ไป 5-1 นำเป็นจ่าฝูงศึกเอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 ต่อไป
| กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี,ม.เกษมบัณฑิต,เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017,ฟุตซอลลีก | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1120524 |
ขอแม่สอบก่อน เข็นสาวท้องแก่ส่งคลอด ปวดท้องแต่ทนนั่ง ลุ้นติดครูผู้ช่วย | (ภาพจากประชาสัมพันธ์ สพป.อำนาจเจริญ),ลูกก็จะออก อยากสอบบรรจุครูก็อยาก สาวท้องแก่ที่อำนาจเจริญ ดันมาปวดท้องคลอดในการสอบสัมภาษณ์ครูผู้ช่วยวันสุดท้ายพอดี กัดฟันสอบจนเสร็จ จากนั้นรถพยาบาลมารับไปทันที เผยทั้งประเทศรับ 2.5 พันคน แต่แห่สมัครมากถึง 1.3 แสน ,วันที่ 19 ก.ย. วันที่สองของการสอบครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1/2559 ที่สพฐ.ได้จัดให้มีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย มีตำแหน่งว่างประมาณ 2,500 ตำแหน่ง แต่มีผู้สมัครสอบทั่วประเทศ กว่า 1.3 แสนคน ซึ่งในวันนี้เป็นการสอบสัมภาษณ์ (,แห่สอบกว่า 1.3แสน สพฐ. จัดสอบครูผู้ช่วยทั่วประเทศ รับแค่2,561อัตรา,),ที่ จ.อำนาจเจริญ นายอดุลย์ กองทอง ผอ.สพป.อำนาจเจริญ ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองและคณะกรรมการ ออกตรวจเยี่ยมสนามสอบครูผู้ช่วยตามหน่วยสอบต่างๆ โดยวันนี้เป็นการสอบวันสุดท้ายและเป็นการสอบสัมภาษณ์ ได้รับรายงานจากคณะกรรมการหน่วยสอบครูผู้ช่วยหน่วยสอบโรงเรียนอำนาจเจริญพิทยาคม ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ ว่า มีผู้เข้าสอบคนหนึ่งเป็นหญิงมีอาการปวดท้องจะคลอดลูก ตนและกรรมการตรวจเยี่ยมสนามสอบจึงรีบเดินทางไปที่โรงเรียนอำนาจเจริญพิทยาคม พบ น.ส.เกศดาพร โวอ่อนศรี เป็นผู้เข้าสอบตำแหน่งครูผู้ช่วย ห้องสอบที่ 1 อายุ 32 ปี มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอสว่างวีรวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี มีอาการปวดท้องหน่วงคล้ายจะคลอดลูก คณะกรรมการสอบจึงได้ประสานให้โรงพยาบาลอำนาจเจริญ นำรถฉุกเฉินมาเตรียมไว้ เพื่อรอส่งโรงพยาบาล,ขณะเดียวกัน คณะกรรมการสอบสัมภาณ์ ได้สอบถาม น.ส.เกศดาพร โวอ่อนศรี ผู้เข้าสอบท้องแก่คนดังกล่าว ว่า อาการปวดท้องพอจะทนไหวหรือไม่ นางเกศดาพร บอกว่ายังพอทนไหว คณะกรรมการจึงได้ประชุมกันและอนุโลมให้สอบก่อนได้ เมื่อสอบเสร็จพยาบาลจากโรงพยาบาลอำนาจเจริญ จึงนำตัว น.ส.เกศดาพร ขึ้นรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล นำส่งไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อคลอดบุตรต่อไป เนื่องจากเจ้าตัวได้ฝากท้องไว้ที่นั่น. | ลูกก็จะออก อยากสอบบรรจุครูก็อยาก สาวท้องแก่ที่อำนาจเจริญ ดันมาปวดท้องคลอดในการสอบสัมภาษณ์ครูผู้ช่วยวันสุดท้ายพอดี กัดฟันสอบจนเสร็จ จากนั้นรถพยาบาลมารับไปทันที เผยทั้งประเทศรับ 2.5 พันคน แต่แห่สมัครมากถึง 1.3 แสน | null | สอบครูผู้ช่วย,สาวท้องแก่,สาวท้องสอบครูผู้ช่วย,เจ็บท้องคลอด,สพฐ.,อำนาจเจริญ | https://www.thairath.co.th/content/727208 |
โยงถึง ปอเนาะ ป่วน7จังหวัดใต้ เด็กรุ่นใหม่ฝึกจากนอกไม่มีประวัติ | ส่วน นปป. 17 คน ที่ถูกออกหมายจับอาจรับโจทย์มาคนละอย่างแต่เป้าหมายเดียวกัน ศรีวราห์ เตรียมนำคณะร่วมประชุมชุดคลี่คลายคดีรอบสอง พร้อมขออนุมัติศาล ทหารออกหมายจับ ศักรินทร์ ที่ถูกปล่อยตัวไปก่อนหน้านี้ ด้าน ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี ประกาศตั้งรางวัลผู้ให้เบาะแสจนได้โฉมหน้าคนร้ายเป็นเงิน 1 แสนบาท ส่วนคดีเผาห้างเทสโก้ โลตัส มีพยานยืนยันคนร้ายมี 4 คน บิ๊กป้อม แจงการจับกุม นปป.ไม่ใช่ แพะ ย้ำไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ถ้าทำผิดกฎหมายต้องจับกุม วิษณุ แถลงเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้เสร็จปลายเดือนนี้ ผู้เสียชีวิตได้รายละ 1,180,000 บาท,ตำรวจยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเชื่อมโยงขบวนการวางระเบิดและวางเพลิงป่วนเมืองในพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ภูเก็ต และตรัง ซึ่งหลักฐานส่วนใหญ่เป็นกล้องวงจรปิดละแวกที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะขออนุมัติศาลทหารออกหมายจับได้ ความคืบหน้าการล่าตัวขบวนการก่อวินาศกรรมป่วนเมืองเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 ส.ค. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ และ พ.ต.อ.อนุชน ชามาตย์ รอง ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีวางระเบิดและวางเพลิง ร่วมประชุมที่ห้องประชุม บก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของสำนวนการสอบสวน และพยานหลักฐานในคดี พบว่าคดีคืบหน้าไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ มีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัย 4 ราย แต่ยังไม่สามารถเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของคนร้าย,จากนั้น พล.ต.อ.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้ตั้งรางวัล 1 แสนบาท แก่ผู้แจ้งเบาะแสสถานที่พัก สถานที่รับประทานอาหาร และสถานที่อื่นๆที่คนร้ายตามลักษณะที่ปรากฏตามภาพวงจรปิดไปปรากฏอยู่ที่สามารถชี้เห็นรูปพรรณใบหน้าได้ชัดเจน และพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ราย เดินทางเข้าเขต อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 ส.ค. โดยสามารถแจ้งมาที่ตน ตามหมายเลข 08-1787-4224 พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี หมายเลข 09-3935-1514 และ พ.ต.อ.อนุชน ชามาตย์ รอง ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี หัวหน้าชุดสืบสวน หมายเลข 08-6567-3535 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะเก็บข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ,ที่ห้องประชุม บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 เดินทางมาร่วมประชุมกับ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช พร้อมชุดคลี่คลายคดีวางเพลิงเผาห้างเทสโก้ โลตัส เพื่อตรวจความเรียบร้อยของสำนวนการสอบสวน และเตรียมความพร้อมในการต้อนรับคณะของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่จะเดินทางมาร่วมประชุมในวันที่ 23 ส.ค. เวลา 10.00 น. ใช้เวลาประชุมนานราว 1 ชั่วโมงเศษ จากนั้น พล.ต.ท.เทศา เดินทางกลับ จ.สุราษฎร์ธานี โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด,ตำรวจชุดคลี่คลายคดีเผาห้างเทสโก้ โลตัส เปิดเผยว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก ตำรวจได้พยานสำคัญบริเวณสถานี บขส.นครศรีธรรมราช ต.โพธิ์เสด็จ เห็นชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนรูปร่างผอมสูง ผิวสีเข้ม 2 คน และผิวขาว 2 คน มาเปลี่ยนเสื้อผ้าบริเวณมุมมืดของสถานี แล้วโดยสารรถทัวร์สายเกาะสมุย-สุไหงโก-ลก เดินทางไปลงสถานี บขส.หาดใหญ่ พยานได้ดูกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องหาวางเพลิงทั้ง 2 คน ยืนยันว่า 2 ใน 4 ชายดังกล่าวสวมชุดเดียวกับผู้ต้องสงสัยวางเพลิง ทำให้ตำรวจเชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุวางเพลิงรวม 4 คน นอกจากนี้ตำรวจยังมีหลักฐานสำคัญบางอย่างทำให้รู้ชื่อของผู้ร่วมก่อเหตุบางคนแล้ว ทำให้ตำรวจมั่นใจว่าหลักฐานที่มีสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับได้แล้ว,ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า คดีวางระเบิดเพลิงเผาห้างเทสโก้ โลตัส สาขานครศรีธรรมราช พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เคยยื่นขออนุมัติศาลทหาร มทบ.41 ขอออกหมายจับพร้อมนายอาหะมะ เลงหะ ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต แต่ศาลทหารอนุมัติหมายจับนายอาหะมะ เพียงคนเดียว ส่วนมือวางเพลิงเผาห้างดังกล่าว ศาลทหารให้ไปหาหลักฐานเพิ่มเติมให้แน่ชัดก่อน คาดว่าการเดินทางมาร่วมประชุมที่ บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ครั้งนี้ เป็นการมาตรวจความเรียบร้อยของสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว เพื่อขออนุมัติออกหมายจับคนร้ายเพิ่มเติม รวมทั้งตรวจความเรียบร้อยของคดีในพื้นที่อื่นว่าเพียงพอที่จะขอออกหมายจับหรือไม่ โดยในการประชุมครั้งนี้มี ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี ผบก.ภ.จ.กระบี่ พร้อมชุดสืบสวนร่วมประชุม ส่วน ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต ผบก.ภ.จ.พังงา และชุดสืบสวนไม่ได้เข้าประชุมแต่อย่างใด,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ตำรวจทราบขั้นตอนหมดแล้วว่าแผนประทุษกรรมของคนร้าย ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร เหตุที่เกิดทั้ง 7 จังหวัดน่าเชื่อว่ามีผู้รวมขบวนการประมาณ 20 กว่าคน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นระดับผู้ปฏิบัติการ ที่เคยผ่านการเรียนในปอเนาะและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากต่างประเทศ และเป็นคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยมีประวัติ ทำให้การสืบสวนค่อนข้างลำบาก ผู้ก่อเหตุพยายามปกปิดใบหน้า ใส่กางเกงขาสั้น อำพรางตัวเองให้คล้ายนักท่องเที่ยว ส่วนการออกหมายจับ ขณะนี้มีการออกหมายจับเพียง 1 ราย ที่ จ.ภูเก็ต,พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวต่อว่า ประเด็นต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงประชามติ การสร้างสถานการณ์ภาคใต้เพื่อขยายพื้นที่ จะเป็นอย่างไรยังไม่มีการตัดประเด็น รวมทั้งอาจจะเป็นการทำงานแบบเฉพาะกิจรับจ้างมาอีกทีหรือไม่นั้น ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ส่วนจะเป็นการกระทำของกลุ่มใดนั้น ยังไม่มีการประกาศตัวชัดเจน ไม่ชี้ชัดว่าเป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นหรือกลุ่มวาดะห์ เพราะที่ผ่านมาพบหลายกลุ่มพยายามเคลื่อนไหวมาโดยตลอดและมีการกระทำความรุนแรงหวังผลหลายอย่างในเวลาเดียวกัน หากถามความเห็นตนก็คาดว่าทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เรื่องการเมือง จะแตกตัวมาจากไหนก็แล้วแต่ ยอมรับว่ามีการลงพื้นที่ใน จ.ปัตตานี เพื่อติดตามผู้ต้องสงสัย ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเป็นผู้ลงมือจุดใด อยู่ระหว่างติดตามตัวและตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน ยืนยันว่าสามารถออกหมายจับเพิ่มเติมได้ในเร็ววัน เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยน่าจะยังหลบหนีอยู่ในประเทศ มีการประสานประเทศมาเลเซียมาตลอด,ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ส่วน นปป. 17 ราย ที่ถูกออกหมายจับเกี่ยวกับอั้งยี่ซ่องโจรและชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน เชื่อว่ามีเป้าหมายเดียวกันกับกลุ่มที่ก่อเหตุระเบิด แต่อาจเพียงต้องการเคลื่อนไหวทางการเมืองเท่านั้น บุคคลเหล่านี้รู้เป้าหมายว่าพวกเขาจะทำอะไร เช่นการที่เรียกตัวเองว่า นปป.เป้าหมายคือการขัดขวางการทำงานของรัฐบาล ไม่เอารัฐบาล วิธีการอาจจะไม่ใช่มาวางระเบิด แต่มีแนวคิดเดียวกันเป้าหมาย,เดียวกัน คน 2 กลุ่มอาจรับโจทย์มาคนละอย่างแต่เป้าหมายเดียวกัน ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวของตน ถ้าผิดก็ขอให้ตำหนิตนคนเดียว หากสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้รายใดรายหนึ่งจากทั้งหมด 20 กว่าคน อาจทำให้รู้อะไรมากขึ้น การออกหมายจับในทุกพื้นที่ต้องให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เห็นชอบ แต่เพื่อความรอบคอบหาจุดเชื่อมโยงต่างๆต้องขอเวลาทำงานอีกระยะ,ด้าน พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.กองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า ขอเท็จจริงกรณีของนายศักรินทร์ คฤหัส เดิมที่พนักงานสอบสวนบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ตรวจพบหลักฐานเบื้องต้นมีความชัดเจน จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับในความผิดฐานวางเพลิง ต่อมาหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุพบวัตถุพยานที่เป็นตัวจุดเพลิงให้ลุกไหม้เป็นวัตถุระเบิด ฐานความผิดเปลี่ยนไป อำนาจในการพิจารณาคดีของศาลเปลี่ยนไป จากศาล จังหวัดหรือศาลพลเรือนปรับมาเป็นศาลทหาร จากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ จะเดินทางไปยัง จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 23 ส.ค. เพื่อขอหมายอีกครั้งที่ศาลทหาร,ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ ว่าคดีคืบหน้าไปมาก เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวคนร้ายอยู่ ได้ตัวมาแล้วบางคน ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ถ้าเปิดเผยไปเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย ส่วนจะเชื่อมโยงถึงกลุ่มก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ขณะนี้ได้ข้อมูลมาก แต่บอกตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการและออกมาแถลงพร้อมกัน ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เชื่อมโยงกับความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่า 15 นปป. ล้วนแต่เป็นผู้สูงอายุนั้น เข้าใจว่าพวกเขาทำกันมานาน ตอนนี้ก็ทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะแก่หรือหนุ่มถ้าทำผิดกฎหมาย ทำผิดรัฐธรรมนูญ ต้องดำเนินการ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จับแพะ เพราะมีการติดตามกันมานาน และมีการเคลื่อนไหวที่แรงขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องติดตามจับกุมตัว เมื่อถามถึงการจับกุมตัวนางมีนา แสงศรี แม่ค้าขายพริกแกง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า พบมีการเชื่อมโยงกัน ถ้าไม่มีหลักฐานเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่จับ,ส่วน พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิช โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงถึงการประชุมสภากลาโหมที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า เป็นการประชุมในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยประชาชนและการรักษาความสงบภายในประเทศ ภายหลังการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ท่องเที่ยวหลายจังหวัดทางภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นความตั้งใจของกลุ่มขบวนการทำลายชาติ ที่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก สับสนและไม่ปลอดภัย เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยประสงค์ให้รัฐขาดความเชื่อมั่นจากประชาชนและการยอมรับจากต่างประเทศ เป็นสถานการณ์ที่อ่อนไหวต่อกิจการภายในประเทศ พล.อ.ประวิตร กำชับให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ เพิ่มความเข้มงวดต่อมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญในความรับผิดชอบ รวมทั้งประสานและส่งเสริมการทำงานร่วมกันทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างใกล้ชิด,เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพ นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) เป็นทนายความของ 15 นปป. ผู้ต้องหาในคดีกระทำผิดอั้งยี่ และฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 ว่าด้วยการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน กล่าวภายหลังยื่นเอกสารและหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัวทั้ง 15 คนว่าศาลทหารกรุงเทพอนุญาตให้ประกันตัวทั้ง 15 คน วงเงินประกันคนละ 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองและห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ทางทนายเตรียมหลักทรัพย์ไปไม่พอ ทำให้การปล่อยตัวต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 23 ส.ค.ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ,ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบภัยอันเกิดจากการวางระเบิดและการวางเพลิงเผาทรัพย์ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายวิษณุแถลงว่า จากเหตุการณ์มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บ 37 ราย เป็นคนไทย 26 ราย ต่างชาติ 11 ราย เดินทางกลับประเทศแล้ว 10 ราย ยังพักรักษาตัวอยู่ 1 ราย กรณีเสียชีวิต ได้รับการเยียวยาในวงเงิน 1,180,000 บาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ความช่วยเหลือเป็นไปตามระดับความรุนแรง ค่ารักษาพยาบาลรัฐดูแลให้ทั้งหมด มีกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพ รวมถึงได้รับค่าขาดอาชีพ ไร้การงาน เงินทำขวัญ ที่ถือเป็นการเยียวยาไม่มีใบเสร็จอีกจำนวนหนึ่ง จะเป็นเงินจากกองทุนต่างๆ อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงมหาดไทย ขณะที่ชาวต่างชาติจะได้ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายในส่วนของญาติที่เดินทางมาดูแลเพิ่ม,นายวิษณุกล่าวว่า นอกจากนี้ยังดูแลค่าเสียหายที่อยู่อาศัยและทรัพย์สิน ห้างร้าน ตลาด ยกเว้นหาบเร่แผงลอย มีผู้ว่าราชการจังหวัดดูแล สั่งจ่ายจากกองทุนของกระทรวงมหาดไทย แต่ถ้ามีปัญหาให้แจ้งมายังสำนักนายกรัฐมนตรี และกำหนดให้ผู้ว่าฯรับเงินจากหน่วยงานต่างๆทั้งหมด เป็นผู้รับไปมอบ มีการขึ้นทะเบียนบัญชีให้ทราบ และถ้าอยู่ไปมีความเดือดร้อนเสียหายต่อไปอีกหรืออาการบาดเจ็บหนักขึ้น สามารถแจ้งผู้ว่าฯเพื่อสงเคราะห์เพิ่มเติมต่อไป และขอให้ปิดบัญชีสรุปการเยียวยาให้ได้ภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ ส่วนกรณีมีข่าว 7 ราย จากผู้ได้รับการเสียหายจากเหตุราชประสงค์ ยังไม่ได้รับการเยียวยา ให้กระทรวงสาธารณสุขไปตรวจสอบแล้ว พบว่าทั้งหมดยังไม่แจ้งขอความช่วยเหลือมา | ผบ.ตร.เผยผู้ร่วมปฏิบัติการวินาศกรรมป่วน 7 จังหวัด มี 20 กว่าคน ส่วนใหญ่อยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยมีประวัติ เตรียมออกหมายจับเพิ่มเร็วๆนี้ | null | ชายแดนใต้,วินาศกรรมป่วน,วางระเบิด,จักรทิพย์ ชัยจินดา,ประจวบคีรีขันธ์,นครศรีธรรมราช,สุราษฎร์ธานี,กระบี่,พังงา,ภูเก็ต,ตรัง,วางเพลิง,3จังหวัดชายแดนใต้,ศักรินทร์,นปป.,อภิชาติ บุญศรีโรจน์ | https://www.thairath.co.th/content/698643 |
สุดารัตน์ ติงนายกฯ คำพูดอย่างเดียวแก้เศรษฐกิจไม่ได้ จี้ทบทวนค่าบีทีเอส | คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย, กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ยื่นญัตติเพื่อบรรจุและพิจารณาในวันที่ 6 พ.ย.นี้ โดยพรรคจะเข้าไปชี้แจงเหตุผลเพื่อขอการตัดสินใจ และตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) โดยเลือกตั้งบุคคลผู้มีความเชี่ยวชาญแต่ละวิชาชีพมาเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศแก้ไขรัฐธรรมนูญใน สสร. ส่วนตัวเห็นว่าถ้าปลดล็อก มาตรา 256 ได้ก็จะสามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ ถ้าทุกพรรคที่ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนหรือเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องแก้ไขเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม และการใช้อำนาจรัฐ ก็มาร่วมกันโหวตเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ,ส่วนกรณีของ ครม.เศรษฐกิจ ที่มีมติจำกัดราคารถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อเที่ยวไม่เกิน 150 บาท คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ควรมีการศึกษาเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชน เอกชนผู้ลงทุนได้ความเป็นธรรมและรัฐไม่เสียประโยชน์ แต่ส่วนตัวยังไม่เห็นด้วยกับกรณีนี้ อยากให้ศึกษาให้รอบคอบกว่านี้ เพื่อหาทางออกที่ประชาชนไม่ต้องรับภาระค่าโดยสารที่แพงเกินไป และไม่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนจนประเทศเสียประโยชน์,นอกจากนี้ ,คุณหญิงสุดารัตน์, ยังกล่าวถึงกรณีที่ ,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ระบุ ไม่ได้ใช้คำว่าเศรษฐกิจถดถอยแต่เป็นเศรษฐกิจเติบโตช้าลง ว่า ,ปัญหาเศรษฐกิจไม่สามารถแก้ได้โดยการใช้คำ และที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีก็ใช้คำให้เกิดความสับสน, บอกว่าปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่นักการเมืองสร้างมาบ้าง หรือเกิดจากเศรษฐกิจโลกบ้าง แต่ยอมรับไหมว่านโยบาย 5 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล คสช. ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำสูงและไปอุ้มนายทุนขนาดใหญ่ ประชาชนตัวเล็กๆ และ SME ถูกทอดทิ้งและไม่ได้รับการสนับสนุน ,ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่าจะเรียกว่าอะไร แต่สำคัญว่าจะแก้ปัญหาได้ไหม,คุณหญิงสุดารัตน์, ยังเผยด้วยว่า ไม่เห็นภาพนายกรัฐมนตรีหยิบเรื่องเศรษฐกิจและระดมกำลังแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะรัฐบาลที่มีความสามารถจะมีเครื่องมือในการแก้ปัญหาไขปัญหา เช่น ค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้น 8% ทำให้การส่งออกชะลอตัว โรงงานทยอยปิดตัว และปีหน้าจะมีคนตกงานกว่า 5 แสนคน คนจบใหม่ก็จะหางานทำยาก ซึ่งเรื่องค่าเงินบาทแข็งตัวรัฐบาลสามารถใช้เครื่องมือ อุดหนุนสินค้าที่ต้องใช้อยู่แล้ว การใช้เงินกู้จากต่างประเทศให้เร็วกว่าปกติ ฯลฯ,รัฐบาลชอบบอกว่าทำอะไรไม่ได้ มันเป็นเพราะเศรษฐกิจโลก แล้วอย่างนั้นเราจะมีรัฐบาลไว้ทำไม ที่บอกว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่โต 2% แต่มันโตเฉพาะทุนขนาดใหญ่ หรือบางครั้งมันอาจจะลดการเติบโต แต่พวกเขาก็ไม่สะเทือน แต่คนตัวเล็กทั้งประเทศตายหมดแล้ว,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ ,คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมด้วย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ, นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส. กทม., นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายรัฐภูมิ โคตงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รัฐภูมิ, ตัวแทนทีมเพื่อไทยพลัส ลงพื้นที่หมู่บ้านนาริสา หมู่บ้านทวีสุข เพื่อรับฟังปัญหาประชาชนเป็นแนวทางในการแก้ไข พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน ในหมวดหมู่บ้านจัดสรร แก้ไขปัญหาสาธารณูปโภคที่เป็นของเอกชนและหน่วยงานราชการไม่สามารถเข้ามาดูแลเมื่อเกิดปัญหาได้ เช่น ไฟฟ้าดับ น้ำท่วมเพราะท่อไม่เคยขุดลอก รวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางถูกเอาไปขายลูกบ้านไม่สามารถใช้ประโยชน์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับหมู่บ้านเก่า ,คุณหญิงสุดารัตน์, ระบุว่า การผลักดันในประเด็นนี้อาจจะเสนอผ่านช่องทางคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ที่นายพลภูมิ เป็นกรรมาธิการ เพื่อเสนอเข้าสภาต่อไป,ขณะที่ ,นายวิชาญ, เสนออีกช่องทางหนึ่ง คือ การแก้โดยผ่านระเบียบของกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากผู้อยู่อาศัยจ่ายเงินให้กับรัฐบาลในการดูแลท่อน้ำ เสาไฟฟ้า ดังนั้นประชาชนสามารถยื่นหนังสือต่อหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยได้ ทางด้าน ,นายพลภูมิ, รับปากว่าจะเอาเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมาธิการฯ และเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง เพื่อเจรจากับเจ้าของโครงการให้โอนพื้นที่ส่วนนี้เป็นสาธารณะ และหางบประมาณในการปรับปรุงดูแลพื้นที่. | สุดารัตน์ ขอพรรคการเมืองร่วมโหวตตั้ง สสร. แก้รัฐธรรมนูญ ขจัดความเหลื่อมล้ำและการใช้อำนาจไม่เป็นธรรม จวกรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ อย่ามัวแต่ใช้คำหรือโทษคนอื่น ต้องระดมกำลังแก้ไขจริงจัง | ข่าว,การเมือง | สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,พรรคเพื่อไทย,สสร.,แก้รัฐธรรมนูญ | https://www.thairath.co.th/news/politic/1695940 |
รวยสุดๆ คิง ซาอุฯ ติดลิฟต์ขึ้น-ลงบ้านพักตากอากาศกับชายหาดที่ฝรั่งเศส | เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าปฏิกิริยาไม่พอใจของชาวฝรั่งเศสต่อการปิดชายหาดมิรันโดล ในเมืองวัลโลรี ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ประเทศฝรั่งเศส ขณะกษัตริย์ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบียได้เสด็จพระราชดำเนินมาแปรพระราชฐาน ณ บ้านพักตากอากาศสุดหรู บริเวณชายหาดมิรันโดล โดยมีเชื้อพระวงศ์ระดับสูงและข้าราชบริพารนับพันคนตามเสด็จเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 25 ก.ค.นั้น,บีบีซีรายงานว่า ใช่แต่เพียงมีการปิดชายหาดมิรันโดล เพื่อให้กษัตริย์ซัลมาน ตลอดจนบรรดาเชื้อพระวงศ์ระดับสูง และข้าราชบริพาร ได้อาบแดดเล่นน้ำทะเลเป็นการส่วนตัว รวมถึงด้วยเหตุผลในเรื่องการถวายการอารักขาความปลอดภัยกษัตริย์ซัลมานแล้ว ปรากฏว่า ยังมีการติดตั้งลิฟต์แบบชั่วคราว บริเวณชายหาดมิรันโดล เพื่ออำนวยความสะดวกในการเสด็จขึ้น-ลงระหว่างบ้านพักตากอากาศของกษัตริย์ซัลมาน กับชายหาดด้วย,นายมิเชลล์ ซาลูซกี นายกเทศมนตรีเมืองวัลโลรี ยังได้เขียนจดหมายเปิดผนึกประท้วงการก่อสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาตจากทางการที่บริเวณชายหาด เพราะมีการเทแผ่นคอนกรีตเพื่อติดตั้งลิฟต์ชั่วคราวบนชายหาด สำหรับกษัตริย์ซัลมานจะได้เสด็จขึ้น-ลงระหว่างบ้านพักกับชายหาดง่ายมากขึ้น พวกเราเข้าใจเหตุผลด้านความปลอดภัยและผลประโยชน์ที่มากกว่าเดิมของประเทศชาติ แต่ไม่มีใครสามารถทำให้ตนเองอยู่เหนือกฎหมายที่ดินได้ นายกเทศมนตรีเมืองวัลโลรี คัดค้านการสร้างลิฟต์ชั่วคราวบนชายหาด,อย่างไรก็ตาม ผู้แทนพระองค์ของกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่าจะมีการรื้อลิฟต์จากชายหาด หลังจากกษัตริย์ซัลมานเสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังประเทศซาอุดีอาระเบียแล้ว,ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบีบีซียังได้เปิดเผยถึงความมั่งคั่งร่ำรวยของกษัตริย์ซาอุดีอาระเบียว่า ถึงกับมีการเช่ารถยนต์หรูอย่างน้อย 400 คัน พร้อมกับว่าจ้างคนขับรถยนต์ ท้องถิ่นในฝรั่งเศส สำหรับเป็นพาหนะในการเดินทางของเชื้อพระวงศ์และเหล่าข้าราชบริพารในการไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ระหว่างมาพักผ่อนที่ฝรั่งเศส | กษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุฯ เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานที่ฝรั่งเศส โดนทักท้วงอีก ถึงกับติดลิฟต์ขึ้นลงระหว่างบ้านพักตากอากาศหรูกับชายหาด ขณะที่ผู้แทนพระองค์ชี้แจง เสด็จกลับเมื่อไหร่จะรื้อลิฟต์ให้ | null | กษัตริย์ซัลมาน,ซาอุดีอาระเบีย,เสด็จแปรพระราชฐาน,ฝรั่งเศส,ชายหาด,บ้านพักตากอากาศ,ปิดชายหาด,ติดตั้งลิฟต์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ | https://www.thairath.co.th/content/514697 |
แม่รู้ข่าวถึงกับทรุด ลูกควบเก๋งตกข้างทาง ชนต้นไม้พังยับ กระเด็นดับ | เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 2 ม.ค. พ.ต.ท.สัมพันธ์ วัฒน์สงค์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถเก๋งตกข้างทางชนอัดต้นไม้ มีผู้เสียชีวิตเหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย 41 ฝั่งขาขึ้น หมู่ 7 ต.ถ้ำพรรณรา จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประวิทย์ เขียวไสว ผกก. นพ.เกริกอิทธิ นาจันทร์ ผอ.รพ.ถ้ำพรรณรา มูลนิธิประชาร่วมใจ และมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์จุดถ้ำพรรณรา,ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียน กท 5840 นครศรีธรรมราช เสียหลักตกร่องกลางถนน พุ่งชนอัดต้นไม้ใหญ่ สภาพรถพังยับเป็นเศษเหล็ก ที่เกิดเหตุพบศพ นายไพรรัตน์ อินทอง อายุ 25 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี อาชีพเปิดร้านขายส่งเบเกอรี่ อยู่ที่ อ.ถ้ำพรรณรา สภาพศพศีรษะด้านขวากะโหลกแตกละเอียด และยุบถึงใบหน้า ร่างกายซีกขวาทั้งแถบซี่โครงหัก 7 ซี่ ปอดฉีกขาด แขนขวา ขาขวาหัก,สอบสวนทราบว่า ตอนตีสามครึ่ง ผู้ตายขับรถออกจากบ้านพักที่ อ.ถ้ำพรรณรา ไปส่งแฟนสาวที่ อ.ทุ่งสง ขากลับรีบขับรถทำเวลา เพื่อจะมาเปิดร้านทำขนมเบเกอรี่ส่งขาย ถึงที่เกิดเหตุ คนขับเกิดอาการหลับใน ทำให้รถเสียหลักตกร่องกลางถนน พุ่งชนอัดต้นไม้ใหญ่รถพังยับเป็นเศษเหล็ก คนขับร่างกระเด็นออกจากตัวรถเสียชีวิตทันที ,ซึ่งเมื่อมารดาทราบข่าวลูกชายเสียชีวิต ก็รีบรุดมาดูศพที่ รพ.ถ้ำพรรณรา ถึงกับทรุดร่ำไห้ใจแทบขาด ญาติต้องช่วยปฐมพยาบาล นำยาดมมาให้ดมจนอาการดีขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป. | หนุ่มร้านเบเกอรี่เมืองคอน ควบเก๋งไปส่งแฟนที่ทุ่งสง ขากลับ รถเสียหลักพุ่งลงข้างทาง ชนอัดต้นไม้อย่างแรง จนพังยับ ร่างกระเด็นออกนอกรถ ตายคาที่ แม่รู้ข่าว ถึงกับทรุด ร้องไห้แทบขาดใจ | ข่าว,ทั่วไทย | รถชนต้นไม้,นครศรีธรรมราช,กระเด็นออกนอกรถ,หนุ่มขายเบเกอรี่,เบญจเพส,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1167388 |
ชายวัย42 อ้าง เป็นพ่อน้องแนท บอกภูมิใจลูกประกวด Miss Universe | หนุ่มสิงห์บุรี วัย 42 ปี อ้าง เป็นพ่อน้องแนทอนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ตัวแทน ประกวด(Miss Universe 2015) พร้อมโชว์รูปถ่ายตอนเด็กของน้องแนท บอกภูมิใจ บุตรสาวเป็นคนสิงห์บุรี ย้ำ ที่ออกมาไม่ได้อยากเป็นข่าว แค่อยากแสดงความยินดีด้วย ,วันที่ 21 ธ.ค.หลังจากที่มีข่าว น.ส.อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ หรือน้องแนท ได้รับรางวัลชุดแต่งกายประจำชาติ ในตลาดเมืองสิงห์บุรี ก็มีกระแสข่าว ว่า น.ส.อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ หรือ น้องแนท เกิดที่จังหวัดสิงห์บุรี จนผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านอาหารตามสั่งตามที่ทราบข่าวมา ที่ตลาดโต้รุ่งในตัวเมืองสิงห์บุรี ที่ร้านเจ๊แมว เป็นร้านอาหารตามสั่งพบชายวัยกลางคน กำลังเตรียมของเพื่อจะเปิดร้านกับญาติๆ,จากการสอบถามทราบชื่อ นายอนุชา ผาสุข อายุ 42 ปี บ้านเลขที่82 /5 หมู่ที่ 1 ตงน้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จากการสอบถามชายคนดังกล่าวยอมรับว่า เป็นพ่อของ น.ส.อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ หรือ น้องแนท จริง โดยตนเองมีบุตรสองคน คือ น.ส.อนิพันธ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ และ น.ส.อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ หรือน้องเนท,นายอนุชา ผาสุข กล่าวว่า ไม่อยากเป็นข่าว เพราะกลัวลูกจะมีปัญหา แต่ถ้าผู้สื่อข่าวอยากรู้ก็จะเล่าให้ฟัง โดยนายอนุชา เล่าให้ฟังเมื่อตอนเป็นหนุ่มพอมีลูกสองคนก็เกเร ตามประสาวัยรุ่น จนแยกทางกับแม่ของเขา จนคุณพ่อของผมเอง คือ ปู่ของหลานทั้งสอง คิดว่า ถ้าหลานอยู่กับตนคงจะลำบากแน่ จึงตัดสินใจ อุ้มหลานไปส่งให้กับ ตา และยาย ที่จังหวัดลำปาง จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับตนเองได้แต่ติดต่อกับปู่จนปู่เสียชีวิตเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา,นายอนุชาเล่าให้ฟัง พร้อมทั้งให้ดูภาพน้องแนทตอนเล็กๆ นายอนุชา เล่าให้ฟังว่า ที่ยอมพูดกับผู้สื่อข่าวนี้ ไม่ได้หวังอะไร ออกมาเพื่อแสดงความยินดีกับลูกด้วย และขอให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต และขอให้ลูกนึกเสมอว่า พ่อคนนี้ยังคิดถึงลูกเสมอ ถ้าจะมาหาพ่อ มาหาได้ที่ตลาดโต้รุ่งสิงห์บุรี ร้านเจ๊แมว พ่อทำงานอยู่ที่นี่.,ฟิลิปปินส์ คว้า Miss Universe-น้องแนท สุดยอดเข้า 10 คนสุดท้าย,ไม่คว้ามง แต่คว้าใจ เส้นทาง น้องแนท เข้าถึง 10 คนสุดท้าย Miss Universe,บิ๊กตู่ ยินดี น้องแนท เข้ารอบ 10 คน คว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม | หนุ่มสิงห์บุรี วัย 42 ปี อ้าง เป็นพ่อน้องแนทอนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ตัวแทน ประกวด(Miss Universe 2015 พร้อมโชว์รูปถ่ายตอนเด็กของน้องแนท บอกภูมิใจ บุตรสาวเป็นคนสิงห์บุรี ย้ำ ที่ออกมาไม่ได้อยากเป็นข่าว แค่อยากแสดงความยินดีด้วย | null | ชายวัย42,หนุ่มสิงห์บุรี,เป็นพ่อ,น้องแนท,อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์,Miss Universe 2015,ประกวด,รูปถ่าย,ภูมิใจ,แสดงความยินดี,ปู่,สิงห์บุรี,เจ๊แมว,อนุชา ผาสุข,ไม่อยากเป็นข่าว,ตลาดโต้รุ่งสิงห์บุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/552262 |
ออย ปฏิบัติการสามี มุดผ้าห่มง้อ น้องมารี | พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อมัดใจผู้ชายอย่าง ออย–ธนา ในละคร ชิงรัก ริษยา สุดท้ายสาว มารี เบรินเนอร์ ก็ทำสำเร็จซะที เอ้า ตบมือให้นางสิคะ รออะไร? จะพาไปดูการถ่ายฉากนี้กัน เป็นตอนที่ ม่อน (มารี) ตัดพ้อต่อว่า รณภีณ์ (ออย) ด้วยความเสียใจและน้อยใจเพราะตั้งแต่แต่งงานมายังไม่เคยโดนไม่เคยได้ซักดอก จน รณภีณ์ รู้สึกผิดที่ปล่อยให้ภรรยานอนเปล่าเปลี่ยวก็เลยจัดหนักไปช่วยให้ ม่อน สมหวังสักที---ปักหลักถ่ายทำกันที่บ้านหรูย่านพุทธมณฑลสาย 2 ก่อนถ่าย ออย กับ มารี ก็มาซักซ้อมคิวกัน แม้ก่อนหน้านี้จะมีเลิฟซีนกันมาบ้างแต่ฉากนี้เป็นเลิฟซีนจริงจังกว่าที่ผ่านมา มารี ก็เลยค่อนข้างเขินจนซ้อมไปซักพักจึงผ่อนคลาย,ส่วน ออย ก็ขอโทษขอโพยน้องก่อน เมื่อเริ่มถ่ายจริง ออย เดินถือดอกกุหลาบเข้าห้องนอนมาง้อ มารี ยิ้มหวานรับ ออย ก็ไม่พูดพล่ามให้เสียเวลามุดเข้าใต้ผ้าห่มเข้ามานอนเบียดทันที แล้วบอกว่าจะมาทำหน้าที่สามีที่ดี มารี ตาลุกวาวเลย จริงเหรอ? ออย พูดจบก็เริ่มบรรเลงเพลงรักอย่างชำนาญกอดจูบลูบไล้ มารี ก็ปล่อยอารมณ์ตาม พี่ออย ไป ผกก.ได้ภาพสมใจจึงสั่งคัต มารี ถอนใจเสียงดัง เฮ่ออะไรจะหนักอกหนักใจ มารี ขนาดนี้ ลองตามชมกันคืนนี้ ทางช่องวัน 31. | พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อมัดใจผู้ชายอย่าง ออย–ธนา ในละคร ชิงรัก ริษยา สุดท้ายสาว มารี เบรินเนอร์ ก็ทำสำเร็จซะที เอ้า ตบมือให้นางสิคะ รออะไร?! จะพาไปดูการถ่ายฉากนี้กัน | null | ชิงรักริษยา,ออย ธนา,มารี เบรินเนอร์,ละคร,เลิฟซีน | https://www.thairath.co.th/content/847978 |
เชียงแสนอากาศเย็น เช้านี้ 18 องศา ผู้ค้าเริ่มขนเสื้อกันหนาวขาย | เชียงแสน เช้านี้อุณหภูมิลดลงเหลือ 18 องศา หมอกปกคลุมทั่วอำเภอ หลังฝนตกหลายวันติด ด้านแม่ค้าเตรียมเสื้อกันหนาวขายแล้ว ขณะสาธารณสุข ห่วงสุขภาพ ปชช. แนะ ปฏิบัติตามหลัก 3อ. 2ส.,เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ต.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ในเขต อ.เชียงแสน มีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว เช้าวันนี้ อุณหภูมิอยู่ที่ 18 องศาเซลเซียส หลังจากมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน เมื่อฝนหยุดอุณหภูมิก็ลดลงทันที มีลมหนาวพัดตลอดเวลา หมอกปกคลุมไปทั่ว ไม่เห็นแสงแดด ในแม่น้ำโขง หมอกลงหนาทึบ ต้องรอจนสายๆ หมอกถึงจะบาง,ซึ่งจากอากาศที่หนาวเย็นลง ทำให้ชาวบ้านเริ่มเตรียมหาเสื้อกันหนาวไว้ใส่เพื่อบรรเทาอากาศหนาว ร้านค้าในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ต่างสั่งเสื้อกันหนาวมาขายประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาสัมผัสอากาศหนาว ซึ่งบางร้านบอกว่า ปีนี้อากาศที่ อ.เชียงแสน หนาวเย็นเร็ว คาดว่าจะหนาวนานและหนาวมาก เพราะหากปีไหนมีฝนตกมากปีนั้นจะหนาว จึงมีการเตรียมเสื้อกันหนาวไว้หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ,ด้าน นายอินชัย อุ่นหน้อย สาธารณสุขอำเภอเชียงแสน กล่าวว่า สภาพอากาศในช่วงนี้ลดลงอย่างลดเร็ว อาจจะทำให้ประชาชนปรับตัวไม่ทัน ไม่สบาย และเจ็บป่วยได้ อยากให้ปฏิบัติตามหลัก 3อ. 2ส. โดย 3อ. คือ อาหาร รับประทานอาหารครบ 3 มื้อครบทั้ง 5 หมู่ ลดหวาน มัน เค็ม และเพิ่มผัก ออกกำลังกาย การออกกำลังกายทำให้แข็งแรง อายุยืน ลดการเกิดโรคเรื้อรัง และ อารมณ์ คนเรามีวิธีคลายเครียดต่างกัน ส่วนใหญ่จะเลือกวิธีที่ถนัดสนใจทำแล้วเพลิดเพลินมีความสุข ส่วน 2 ส. คือ ไม่สูบบุหรี่ และงดสุรา. | เชียงแสน เช้านี้หนาวแล้ว 18 องศา หมอกปกคลุมทั่วอำเภอ หลังฝนตกหลายวันติด ทำอุณหภูมิลดเร็ว ด้านแม่ค้าเตรียมเสื้อกันหนาวขายแล้ว ขณะสาธารณสุข ห่วงสุขภาพ ปชช. แนะ ปฏิบัติตามหลัก 3อ. 2ส. | ข่าว,ทั่วไทย | หนาว,อากาศหนาว,เชียงแสน,อินชัย อุ่นหน้อย,หนาว 18 องศา,หมอกลง,อุณหภูมิลด,เชียงราย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค | https://www.thairath.co.th/news/local/531957 |
ล็อก บอย ครุฑซ้อน ลูกน้องเจ้าพ่อยานรก โหดจัดใช้เอ็ม16 ทวงหนี้ | เมื่อวันที่ 17 พ.ค ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย สว.กก.5 บก.ป.ร่วมกับตำรวจ บก.สส.ภ.8 นำกำลังจับกุม นายสุรศักดิ์ หรือบอย ครุฑซ้อน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/2 หมู่ 7 ต.น้ำหัก อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางอาวุธปืนเอ็ม 16 อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานวางไว้ใกล้ตัว ยาบ้า 9,748 เม็ด ยาไอซ์ 9.7 กรัม กระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 46 นัด และกระสุนปืนขนาด .22 อีก 45 นัด จับได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา,พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ.2561 ตำรวจภูธรภาค 8 ได้เปิดยุทธการพิทักษ์เมืองคนดี ขุดรากถอนโคน ตัดโค่นต้นตอยาเสพติดเครือข่าย นายเสรี ช่วยชนะ หนึ่งในเครือข่ายยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้กว่า 373 คน ดำเนินคดีทั้งหมด 351 คดี พร้อมของกลางอาวุธและยาเสพติดอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 500 ล้านบาท ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 27 ล้าน,พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า แม้การกวาดล้างในครั้งดังกล่าวจะจับกุมผู้ต้องหาไปได้มากพอสมควร แต่ทว่าตัวการใหญ่ของเครือข่ายคือ นายเสรี ช่วยชนะ ยังคงหลบหนีลอยนวล ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายสุรศักดิ์ หนึ่งในเครือข่ายของนายเสรี มีหน้าที่เป็นคนทวงหนี้ค่ายาเสพติดจากสมาชิกในเครือข่าย และพกอาวุธสงครามติดตัวไว้พร้อมต่อสู้ตลอด หนีกลับมากบดานในบ้านพัก จึงวางแผนนำกำลังจับกุมได้ดังกล่าว,สอบสวน นายสุรศักดิ์ ให้การว่าอาวุธปืนได้รับมาจากผู้ค้ายาเสพติดในเครือข่ายนายเสรี เพื่อใช้ในการทวงหนี้ให้เครือข่าย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่ง ตำรวจภูธรภาค 8 ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. | กองปราบตามรวบ บอย ครุฑซ้อน มือทวงหนี้เครือข่าย เสรี ช่วยชนะ เจ้าพ่อยานรกรายใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เผยปี 61 ตร.ภาค 8 เปิดยุทธการขุดรากถอนโคน ยึดทรัพย์มาแล้ว 27 ล้าน | ข่าว,อาชญากรรม | บอย ครุฑซ้อน,เจ้าพ่อยาเสพติด,ใช้เอ็ม16 ทวงหนี้,กองปราบ,ยาเสพติด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1569888 |
ชัยนาท-ป่าสัก-อ่าวไทย | ติดสอยห้อยตามคณะติดตามการขับเคลื่อนโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มเจ้าพระยา ไม่ให้หลากท่วมพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ตั้งแต่ชัยนาท-พระนครศรีอยุธยา-ปทุมธานี-นนทบุรี-กทม.-สมุทรปราการ,เห็นรูปแบบประตูระบายน้ำที่ออกแบบมีอัตลักษณ์ เป็นเรือสำเภา กางกั้นคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณ ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ให้ชวนทัศนาเป็นยิ่งนักไม่ใช่แค่สวยงาม แปลกตา แต่ศักยภาพน่าหลงใหล,หลายคนคงจะจำเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ได้ดีปรากฏการณ์น้ำท่วมแบบนั้นจะเกิดขึ้นทุก 50 ปี แต่จากการศึกษาของ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) คาดการณ์ผลกระทบของสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงในอีก 35 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มเกิดน้ำท่วมบ่อยขึ้น,จากเดิมน้ำท่วมใหญ่เกิดทุก 50 ปี จะกลายเป็นทุก 7 ปี,ความเสียหายจะทวีความรุนแรง จากเดิมมีค่าเฉลี่ยพื้นที่น้ำท่วม 1.66 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นเป็น 4.12 ล้านไร่ และมูลค่าความเสียหายจากปีละ 25,691 ล้านบาทต่อปี จะเพิ่มเป็น 150,787 ล้านบาท,เลยเป็นที่มาของโครงการคลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก ให้มีศักยภาพระบายน้ำได้มากขึ้น,จากปัจจุบัน ต้นคลองรับน้ำหลากได้แค่ 210 ลบ.ม./วินาที ปลายคลองรับน้ำได้แค่ 130 ลบ.ม./วินาทีให้สามารถระบายน้ำหลากได้ 930 ลบ.ม./วินาที เท่ากันตลอดทั้งคลองที่มีความยาว 134 กม.,ปัจจุบันโครงการนี้อยู่ระหว่างสำรวจออกแบบ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2563-2566 นอกจากจะเป็นการช่วยตัดยอดน้ำหลากได้แล้ว ยังสามารถเก็บน้ำในคลองไว้แก้แล้งได้อีก 54 ล้าน ลบ.ม.,และเมื่อน้ำหลากถูกส่งต่อไปยังโครงการคลองระบายน้ำหลากป่าสัก-อ่าวไทย อีก 1 ใน 9 แผนงานบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง (ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และมีแผนดำเนินการก่อสร้างในปี 2565-2568) จะสามารถลดพื้นที่น้ำท่วมได้ถึง 3.48 ล้านไร่.,สะ-เล-เต | สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เร่งรัดการปรับปรุงคลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก เพื่อตัดยอดน้ำหลากหน้าเขื่อนเจ้าพระยาไปออกอ่าวไทย | null | ลุ่มน้ำเจ้าพระยา,เขื่อนเจ้าพระยา,เขื่อนป่าสัก,คลองชัยนาท-ป่าสัก,คลองระบายน้ำ,หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน,สะ-เล-เต,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/local/1509785 |
แฟชั่นรอบรั้วมหาลัยพาไปจี๊ด ทรงผมนักศึกษา ทรงไหนเจ็บ ทรงไหนโดน? | น่าสงสารเสียจริง (สงสารตัวเองดีกว่ามั้ย 555) เพราะถ้าไม่ถูกลอตเตอรี่ 30 ล้าน ก็ก้มหน้าก้มตาทำกันต่อไป ฮ่าๆ…ขรรมๆ,ไม่ต่างไปกับคอลัมน์ ,แฟชั่นรอบรั้วมหาลัย ,เผลอแป๊บเดียว เวียนวนมาเจอกันอีกจนได้ คราวนี้เรามีเรื่องราวแฟชั่น เกี่ยวกับทรงผมนักศึกษามาฝากกัน จะเท่ จะสวย จะน่ารักแค่ไหน ไปชมไปอ่านกัน,เริ่มกันที่สาวๆ กับทรงอมตะนิรันดร์กาล ด้วยทรงผมนักศึกษา ,แบบยาวตรง, ทรงนี้ดูเรียบร้อย สวยสมวัย กับการเป็นหนุ่มสาวเต็มตัว บ้างทำสี ก็ดูดีไม่น้อย แต่ถ้าจะดำเงา ก็สวยดูดีไม่แพ้กัน,แต่ถ้า,สไลด์,นิดหน่อย ดูมีวอลลุ่ม ก็ทำให้ดูน่ามองเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย,บางคนไว้ตรงยาว ,ขนาดประบ่า, นี่ก็ช่วยให้ดูกระฉับกระเฉงเหมือนกัน แถมทำให้ลุคดูเปรี้ยวเล็กๆ น่ารัก,หรือถ้าออกอาการเบื่อ ก็เอาโรลมา,ม้วนปลาย,นิดหน่อย เพิ่มความเป็นเกาหลีลงไป ช่วยให้ดูสดใส น่ารัก แต่ขอให้แต่งหน้าเบาบาง บางเบา ก็พอนะ จะได้คาวาอิ๊ คาวาอิ,ต่อกันที่ทรงผมนักศึกษา ,แบบดัดลอน, อันนี้คอนเฟิร์ม สวยเป๊ะ แต่จะดัดลอนเล็ก ลอนใหญ่ แล้วแต่คุณหนูๆ เลย ถ้าลอนใหญ่ก็ดูเฉี่ยว วัยรุ่น เซ็กซี่ แต่ถ้าเล็ก อันนี้ขอสนับสนุนเป็นรายคนไป เพราะถ้าดัดลอนเล็ก จะเหมือนอาซิ้ม อาเจ๊กันหมด นึกภาพใส่ชุดนักศึกษาก็คงไม่สมวัยแน่นอน,สำหรับคนที่อยากเปรี้ยว ก็,แสกข้าง ปาดหน้า, เข้าไปอีก งานนี้ทั้งเปรี้ยว ทั้งเฉี่ยว รับรองเข็ดฟัน,ส่วนสาวคนไหนมั่นใจ หรือยังอินกับวัยมัธยม ,ทรงผมแบบสั้น, ก็ทำให้ดูอ่อนกว่าวัยไม่น้อย ใสๆ น่ารัก นี่ถ้าใกล้หน้าร้อน ขอสนับสนุนคนหนึ่ง ใครที่ไม่เคยลองตัดผมสั้น ลองดูชีวิตเปลี่ยน บอกเลิกความขี้เกียจขณะสระผม เป่าผม ได้เลย แหม่…มันช่างโล่ง ช่างเบาสบายหัวเสียจริง,อีกทรงสำหรับสาวเนิร์ด ,ตัดหน้าม้า, แล้วใส่แว่นตากรอบเก๋ๆ น่ารักอย่าบอกใครเชียวล่ะ เทรนด์เด็กเนิร์ด ใส่เสื้อนักศึกษาชาย มาแรงไม่เบา จะกี่ยุค ก็ยังมีคนใส่เสมอๆ อยากเนิร์ด อยากโก๊ะ ลองดูเลยจ้ะ,โอะพูดถึง,ทรงผมผู้ชาย, ไอ้กระผมนี่ถึงขั้นเซ็ง เพราะมันขึ้นอยู่กับอารมณ์คนตัด และความอาร์ตของคนให้ตัดจริงๆ จะออกมาอย่างไร มีลุ้นกันตัวโก่ง,จะบอกอย่างงี้ว่า ทรงผมสำหรับผู้ชาย มันก็มีอยู่ไม่น้อย จะ,ไว้ยาว ไว้ฟู, จะตัดสั้น ตัดเกรียน ตัดกวนๆ มีหมด,บ้างก็,ไถข้าง ไถ 2 ข้าง, ไถข้างเดียว บ้างก็ทรงแบบ เอากะลาวางแล้วตัดตาม,บ้างก็เกรียนเกิ้น ,ตัดซิกแซ็ก, โอ๊ยจะเรียกว่า ทรง คงนิยามยาก เพราะบอกไปแล้ว แล้วแต่คุณเลย 555,พูดตรงๆ ยุคสมัยนี้ อิสระทางความคิดมากๆ มหาวิทยาลัยก็เน้นเรื่องคุณภาพการศึกษาเป็นหลัก เรื่องแฟชั่นนี่ปล่อยให้นักศึกษาจัดการตัวเองเลย ไม่ได้มากะเกณฑ์ จนเป็นข้อบังคับ ซึ่งเราก็เห็นดีด้วยนะ เพราะกว่าจะมาเป็นวัยรุ่นนี้ เด็กๆ อดทนรอมาเกือบ 20 ปี พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ขออิสระหน่อย ไม่ได้หรือไร,แต่กระนั้นเรื่องของการเรียน ก็อย่าให้เสียนะครับน้องๆ เพราะเมื่อวันเวลามันพ้นผ่านไป ไม่มีใครจะนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปได้สักคน,ดังนั้น ,จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด ใช้ชีวิตให้มันเต็มที่ บนความภาคภูมิใจของพ่อแม่,กราบสวัสดีแล้วมาพบกันใหม่ ,แฟชั่นรอบรั้วมหาลัย, ที่นี่ ,ไทยรัฐออนไลน์,อ้อเกือบลืม แฟชั่นทรงผมของคนไม่สระผม ทรงนี้เลย โดนใจสุดๆ มัดรวบตึง ช่วยอำพรางได้ 5555 ไม่ใช่สำหรับคนที่ต้องการความคล่องตัว ไม่อยากหัวฟู ใครจะนำไปใช้ไม่ว่ากันนะ จะให้ดี ถ้าผมมันมันนัก โรยแป้งเด็กก็ได้นะ เคล็ดลับดีๆ สำหรับคนขี้เกียจสระผม 555 (ขำๆ ครับ). | สุขสันต์วันอาทิตย์ หลายคนคงพักผ่อนกันอย่างมีความสุข ส่วนสาวๆ ก็คงจะง่วนอยู่กับการเก็บกวาดบ้าน ทำความสะอาดโน่นนี่นั่น สารพัดสารพัน เผลอแป๊บเดียว ตะวันตกดินอีกแล้ว แถมพรุ่งนี้ก็วันทำงานซะแล้ว วันจันทร์สุดเซ็งของพนักงานออฟฟิศ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | แฟชั่นรอบรั้วมหา'ลัย,แฟชั่นรอบรั้วมหาลัย,ทรงผมนักศึกษา,ผมยาว,ทรงผมสุดฮิต,ผมสั้น,ทรงผมผู้หญิง,ทรงผมนักศึกษาหญิง,ทรงผมผู้ชาย,ทรงผมนักศึกษาชาย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไลฟ์สไตล์ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/479688 |
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 19-25 เม.ย. 2563 | เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2563 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระคืน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ระบุว่าโดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระคืน เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีการแพร่ระบาดขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการยื่นคำขอรับเงินสมทบส่วนที่เกินจำนวนที่ต้องชำระคืน และเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 47 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2537 เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมจึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า ระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระคืน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันที่ 21 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2564ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ 4/1 แห่งระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระคืน พ.ศ.2560ข้อ 4/1 นอกจากการยื่นคำร้องขอรับเงินคืนตามที่กำหนดไว้ในข้อ 4 แห่งระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระคืน พ.ศ.2560 นายจ้างหรือผู้ประกันตนที่นำส่งเงินสมทบเกินจำนวนที่ต้องชำระ อาจยื่นคำร้องขอรับเงินคืนพร้อมแนบสำเนาเอกสารประกอบการยื่นคำร้องขอรับเงินคืนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สํานักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่ สํานักงานประกันสังคมจังหวัด หรือสํานักงานประกันสังคมจังหวัดสาขา ด้วยวิธีการทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ โทรสาร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือแอปพลิเคชันไลน์ในกรณียื่นคำร้องขอรับเงินสมทบส่วนที่เกินจำนวนคืนตามวรรคหนึ่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ จะถือวันประทับตราไปรษณีย์ต้นทางเป็นสำคัญ หรือกรณียื่นคำร้องขอรับเงินสมทบส่วนที่เกินจำนวนคืน ทางโทรสาร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือแอปพลิเคชันไลน์ ให้ผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินคืน เก็บหลักฐานการส่งเพื่อการตรวจสอบประกาศ ณ วันที่ 21 เม.ย. พ.ศ.2563ทศพล กฤตวงศ์วิมานเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม24 เม.ย. 2563 ภาคีสังคมสู้โควิด -19 จัดเสวนาออนไลน์และแถลงข่าว หัวข้อ ประกันสังคมว่างงาน 62 เปอร์เซ็นต์ มาตรการล้มบนฟูกซุกปัญหาแรงงานใต้พรม โดยมีผู้ร่วมเสวนา นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล ประธานสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย นายวิจิตร ดาสันทัด ประธานสมาพันธ์แรงงานธุรกิจโรงแรมและบริการ นายวรวิชญ์ เจริญเลิศ นักวิชาการแรงงาน นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์นายมานิตย์ กล่าวถึงการออกกฎกระทรวงแรงงาน เรื่องเหตุสุดวิสัยที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลดีผลเสียต่อลูกจ้าง นายจ้างอย่างไร ว่า ประกาศกฎกระทรวงดังกล่าวได้เพิ่มเหตุสุดวิสัย เพื่อนำเงินประกันสังคมออกมาใช้ในกรณีที่รัฐสั่งให้สถานประกอบการปิดกิจการ ผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงจะไม่ได้รับค่าจ้าง ซึ่งเขาจะยังไม่ได้รับเงินชดเชย ในส่วนนี้เราเห็นด้วยที่จ่ายเงินชดเชย แต่ประกาศของกฎกระทรวงได้ขยายวงกว้างไม่ได้มองเฉพาะกลุ่มเสี่ยงหรือรัฐให้หยุดกิจการในกรณีดังกล่าวนี้ทำให้มีบางสถานประกอบการใช้ประกาศกฎกระทรวงเป็นประโยชน์ เพื่อจะไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยในมาตรา 75 ซึ่งส่วนนี้เราไม่เห็นด้วย เนื่องจากผู้ประกันตนบางส่วนได้ร้องเรียนมาที่ตน เช่น นายจ้างเรียกพนักงานไปพูดคุยเป็นรายบุคคลให้หยุดงาน โดยไม่จ่ายค่าจ้าง และบางที่ได้มีการออกใบรับรองว่าปิดกิจการและให้พนักงานไปติดต่อรับเงินชดเชยจากประกันสังคม และบางทีไม่มีการออกใบรับรองแต่ไปพูดคุยและให้พนักงานเซ็นรับทราบว่าให้หยุดโดยไม่รับค่าจ้างจากบริษัท โดยมองว่าการกระทำลักษณะนี้เป็นการเอาเปรียบลูกจ้าง ทั้งโยนภาระให้กับประกันสังคมนายสาวิทย์ กล่าวว่า ภาพรวมมองว่าเป็นประโยชน์ เพราะคนงานที่จ่ายเงินสมทบเมื่อได้รับความเดือดร้อนก็ควรจะได้รับความช่วยเหลือ และอีกส่วนคือกิจการที่รัฐไม่ได้สั่งปิดแต่ได้รับผลกระทบก็มี แต่ส่วนจะจริงหรือไม่นั้นต้องพิสูจน์กัน ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยเสนอว่า หากนายจ้างพยายามปิดเบือนโดยไม่ได้เดือดร้อนจริงและอ้างเหตุสุดวิสัยและให้ลูกจ้างรับเงินจากประกันสังคมเรื่องนี้เป็นปัญหา นอกจากนี้มองว่ากฎกระทรวงต้องมองให้ครอบคลุมถึงแรงงานทุกส่วนทั้งในระบบ นอกระบบ และแรงงานข้ามชาติ ต้องเอาจำนวนผู้ประกันตนทั้งหมดมาประเมินว่าเขาควรจะได้รับการเยียวยาอย่างไร และส่วนที่อ้างเหตุสุดวิสัย ไม่กำหนดเวลาที่ชัดเจนว่าจะเลิกจ้างหรือไม่ รัฐบาลและกระทรวงแรงงานต้องมีแนวทางแก้ไขนายวรวิชญ์ กล่าวว่า การเลิกจ้างงานค่อนข้างคลุมเครือ ผู้ประกอบการบางส่วนผลักภาระให้ประกันสังคม ผู้ประกันตนมาตรา 33 จะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ ทั้งนี้หากพูดถึงเพียงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมองว่าเกิดขึ้นกะทันหัน ซึ่งมองว่ายังขาดการเข้าไปตรวจสอบ นอกจากนี้ยังต้องเผชิญปัญหาซ้อนคือเรื่องเศรษฐกิจที่มีปัญหาจริง ฉะนั้นเงินประกันการว่างงานต้องดูกันดีๆ และระบบประกันสังคมจะต้องมีการปฏิรูปเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2563 ที่กระทรวงแรงงาน คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) นำโดยนายชาลี ลอยสูง รองประธาน คสรท. และนายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อขอให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19นายชาลี กล่าวว่า คสรท.และ สรส.ได้เปิดรับเรื่องราวร้องทุกข์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และได้ทำการสรุปผลสำรวจรับเรื่องร้องทุกข์จากศูนย์พื้นที่ 14 แห่ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. จนถึงวันที่ 22 เม.ย. 2563 โดยมีแรงงานที่ได้รับผลกระทบจำนวน 880212 คน สาเหตุปัญหาหลักการร้องทุกข์เกิดจากประกาศใช้มาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ของนายจ้างทุกๆอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ลูกจ้างหลายแห่งถูกนายจ้างเลิกจ้าง บอกเลิกสัญญาจ้างงาน ให้คนงานบางส่วนหยุดงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง หยุดการผลิตชั่วคราว รวมทั้งนายจ้างปิดกิจการไม่จ่ายค่าจ้างนายสาวิทย์กล่าวว่า หลังจากตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ มีผู้ใช้แรงงานจำนวนมากร้องเรียน ซึ่งโดยสถานการณ์ปกติก็มีปัญหามากอยู่แล้ว แต่ยามนี้สถานการณ์ไม่ปกติยิ่งมีปัญหามาก ลำพังกลไกของรัฐเพียงลำพังอาจแก้ไขปัญหาได้ไม่เพียงพอ เพราะปัญหาการเลิกจ้างทุกอย่างต่างอ้างเหตุสุดวิสัยในสถานการณ์โควิด โดยนายจ้างขอยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าจ้างตามมาตรา 75 ท้ายสุดคนงานต้องพึ่งกองทุนประกันสังคม ที่สำคัญอุตสาหกรรมการบินหยุดอย่างสิ้นเชิง พนักงานได้มาร้องทุกข์เพราะยังไม่มีความแน่นอนว่าถูกเลิกจ้างหรือไม่นายสาวิทย์กล่าวว่า ปัญหาลักษณะนี้จะเกิดขึ้นอีกมากมาย และคาดว่าคงไม่จบในเวลาอันใกล้ใน 2-3 เดือน แต่อาจยืดเยื้อนานนับปี ท้ายที่สุดคนจะแห่มาที่กระทรวงแรงงาน ดังนั้นจึงควรสร้างกลไกพิเศษขึ้นมาโดยเอาความยุติธรรมเป็นตัวตั้ง หากนายจ้างประสบปัญหาจริงจากไวรัสโควิดก็ช่วยเหลือกันไป แต่หากนายจ้างยังมีทุนหรือเงินเยียวยาช่วยเหลือลูกจ้างได้ก็ควรช่วยกันเพื่อลดภาระรัฐบาล ไม่ใช่โยนภาระให้รัฐบาลหรือประกันสังคมทั้งหมดซึ่งไม่ยุติธรรม เพราะในยามที่นายจ้างมีกำไรเกิดขึ้น ครั้งนี้เมื่อเกิดวิกฤต นายจ้างควรช่วยเหลือให้ลูกจ้างได้มีงานทำต่อไปลำพังรัฐคงช่วยได้ไม่เต็มที่ มาตรการช่วยเหลือ 5 พันบาท คงช่วยเหลือได้ไม่หมด เราได้นำข้อเสนอมาให้กระทรวงแรงงานเพื่อแสดงความตั้งใจว่าอยากช่วยเหลือกระทรวงแรงงานเพื่อให้มีการตั้งกลไกพิเศษขึ้นมาดูแล ซึ่งเราพร้อมเข้าไปช่วยเป็นหนึ่งในกลไกและอยากให้กระทรวงแรงงานเร่งดำเนินการ มิฉะนั้นกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ นายสาวิทย์ กล่าวทั้งนี้ในเอกสารที่ คสรท.นำเสนอให้ผู้บริหารกระทรวงแรงงานนั้น ได้สรุปผลสำรวจจำนวนแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จำนวน 880212 คน ซึ่งระบุถึงแรงานที่ได้รับผลกระทบจากแหล่งต่างๆ เช่น พื้นที่อมตะ จำนวน 130000 คน พื้นที่บ่อวิน ระยอง 55000 ธุรกิจการบิน 80000 คน บริการท่องเที่ยว การโรงแรม 200000 คนการประกาศกระทรวงเรื่องโรค COVID-19 เป็นเหตุสดวิสัย ทำให้นายจ้างหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าจ้างตามมาตรา 75 ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541 และให้ลูกจ้างไปใช้ประโยชน์กรณีว่างงานจากประกันสังคมแทน ในเอกสารระบุนอกจากนี้ คสรท. ยังได้จัดทำข้อเสนอ จำนวน 12 ข้อ อาทิ รัฐต้องนำเงินสมทบค้างจ่าย 95989 ล้านบาทคืนประกันสังคม ห้ามนำเงินกองทุนชราภาพจ่ายชดเชยแทนกองทุนว่างงาน กรณีกองทุนว่างงานหมดลงและรัฐต้องจ่ายเงินอุดหนุนตาม มาตรา 24 รัฐต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีที่นายจ้างละเมิดสิทธิของคนงาน จ่ายเงินไม่ครบ เลิกจ้างไม่เป็นธรรม จากผลกระทบการระบาดของไวรัส COVID-19 ต้องช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา 50% ในระยะเวลา 6 เดือน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว ในช่วงการระบาดของไวรัส COVID-1923 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ ว่าในส่วนของงบบัตรทอง จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นั้น เป็นการตัดงบประมาณ ในส่วนของเงินเดือนบุคคลากรสาธารณสุขที่เพิ่งได้รับการบรรจุใหม่ 45684 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มาตรา 46 (2) ที่ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายของหน่วยบริการในส่วนของเงินเดือนและค่าตอบแทนบุคคลากร ให้สำนักงบประมาณดูแลยืนยันว่าการตัดงบประมาณส่วนนี้ไม่ได้กระทบต่องบบริการของ สปสช. ที่มีให้กับประชาชนแน่นอน เพราะหากไม่เพียงพอทาง สปสช. สามารถทำเรื่องเสนอของบประมาณสนับสนุนเพิ่มได้ ซึ่งทุกปี ตั้งแต่ปี 2561 และ ปี 2562 มีการของบประมาณเพิ่ม ปีละ 5186 ล้านบาท และ 5000 ล้านบาท และที่ผ่านมาทาง สปสช.เพิ่งได้รับงบประมาณส่วนกลางอีก 3260 ล้านบาท มาใช้เป็นบริการจัดการสถานการณ์โควิด -19 อาทิ ค่าตรวจแล็บ เป็นต้น นพ.สุขุม กล่าวปลัด สธ.กล่าวอีกว่า ส่วนงบฯ กระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกตัด 1233 ล้านบาท นั้น เป็นงบครุภัณฑ์ งบก่อสร้าง หากไม่มีการใช้จ่ายส่วนนี้จะต้องส่งคืนสำนักงบประมาณอยู่แล้ว ซึ่งเนื่องจากว่ามีสถานการณ์โควิด ทำให้การเบิกจ่ายงบลงทุนสร้างตึก สร้างอะไรไม่ทัน หรือเป็นงบครุภัณฑ์ไม่ทัน ซึ่งตามกฎหมายต้องคืนสำนักงบประมาณกลับไปอยู่แล้ว โดยตอนนี้ยังไม่มีการประกาศหรือว่ายังไม่ได้ทำการทำสัญญาซื้อหรือก่อสร้างอะไรนพ.สุขุม กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ ทำให้บุคลากรกระทรวงสาธารณสุขมีขวัญกำลังใจมากขึ้น สามารถลดภาระเงินบำรุงของหน่วยบริการอีกด้วย และมีการจัดนวัตกรรมในการดูแลรักษาผู้ป่วย เช่น การส่งยาให้ผู้ป่วยที่บ้านผ่าน อสม. การขยายบริการปฐมภูมิ เพื่อประชาชนจะได้ประโยชน์จากการได้รับบริการจากโรงพยาบาลมากขึ้นบริษัท ไปรษณีย์ไทย ยืนยันเจ้าหน้าที่ที่ติด COVID-19 ปฏิบัติงานหน้าที่คัดแยกไปรษณียภัณฑ์ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการลูกค้า โดยเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2563 เป็นไข้หวัดจึงไปตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัด และตรวจไม่พบเชื้อ COVID-19 แต่แนะนำให้สังเกตอาการ 14 วัน จึงได้เข้ารับการกักตัว ณ สถานที่เทศบาลเมืองป่าตองกำหนด เป็นเวลา 14 วัน จนถึงวันที่ 16 เม.ย. 2563 และให้กลับบ้านได้เนื่องจากครบกำหนดเวลาแล้วแต่ไม่มีอาการบ่งบอกแต่อย่างใด พร้อมขอลาหยุดงานต่อจนถึงวันที่ 19 เม.ย. 2563แต่เมื่อกลับมาปฏิบัติงานตามปกติเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2563 โดยมาตรการของไปรษณีย์ไทยจะมีการตรวจวัดไข้เจ้าหน้าที่ทุกคนก่อนปฏิบัติงานทุกวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่มีไข้ แต่มีอาการไออย่างรุนแรง จนกระทั่งเมื่อเวลา 10.30 น. จึงได้ไปพบแพทย์อีกครั้งและผลตรวจครั้งนี้ปรากฎว่ามีผลเป็นบวก จึงได้เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลทันทีดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ไปรษณีย์ไทยได้สั่งการให้ที่ทำการไปรษณีย์ ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต หยุดให้บริการชั่วคราว 1 วันในวันที่ 23 เม.ย. 2563 เพื่อฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดสถานที่ และสิ่งของทางไปรษณีย์ที่รอการส่งต่อเรียบร้อยแล้ว ตามคำแนะนำการป้องกันควบคุมโรคไวรัสโคโรน่า (COVID -19) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว หยุดปฏิบัติงานเพื่อเฝ้าระวังที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน โดยจัดเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานแทนโดยในระหว่างที่ที่ทำการไปรษณีย์ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระงับการให้บริการชั่วคราว ผู้ใช้บริการยังสามารถใช้บริการไปรษณีย์ไทยได้ที่เคาน์เตอร์ไปรษณีย์นาใน เคาน์เตอร์ไปรษณีย์กมลา ไปรษณีย์ทวีวงศ์ ไปรษณีย์กะทู้แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาย 130 คน รวมตัวกันที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.สมุทรปราการ ย่านถนนเทพารักษ์ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2563 เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ โดยอ้างว่า ถูกเลิกจ้างงาน โดยไม่ทราบล่วงหน้าแรงงานที่เข้าเรียกร้อง เปิดเผยว่า ถูกนายหน้า ซึ่งเป็นบริษัทผู้รับเหมาจัดหาแรงงาน แห่งหนึ่ง ย่าน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี ส่งไปทำงานที่บริษัทผลิตและขายส่งชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ขนาดใหญ่ ย่านถนนเทพรัตน หรือถนนบางนา-ตราด พื้นที่เดียวกัน แต่ต่อมา ก็ถูกบอกเลิกจ้าง โดยไม่ทราบล่วงหน้า เมื่อทวงถามสิทธิ์ในส่วนของค่าชดเชยเยียวยา ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยนายหน้าอ้างว่าผู้ประกอบการไม่มีเงินจ่าย เนื่องจากประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงรวมตัวมาร้องเรียนต่อมาวันที่ 23 เม.ย. 2563 ขณะที่นายศักดิ์ศิลป์ ตุลาธร สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ได้เรียกบริษัทผู้รับเหมาจัดหาแรงงานในฐานะนายหน้า มาเจรจาร่วมกับตัวแทนแรงงานฯ แล้ว แต่ยังหาข้อยุติไม่ได้ เบื้องต้น จึงให้พนักงานตรวจแรงงาน รับคำร้องของแรงงานทั้งหมดไว้ และนัดตัวแทนแรงงานฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มในวันนี้ อีกครั้งทั้งนี้ ระหว่างที่แรงงานฯ เหล่านี้ เข้าร้องเรียน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวของ เช่น สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฯ ประกันสังคม ฝ่ายปกครอง และตำรวจภูธรสำโรงเหนือนำกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะการจัดระเบียบ เว้นระยะบุคคล หรือ Social distancing เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตามมาตรการสาธารณสุขด้วยเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2563 ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวว่า กระทรวงแรงงานมีมาตรการเร่งด่วนกรณีวิกฤติการณ์โรค COVID-19 เพื่อป้องกันและเยียวยาในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ได้แก่1) การชะลอการอนุมัตินำเข้าแรงงานต่างด้าว ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ 2) การผ่อนปรนให้แรงงานต่างด้าวสามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้ต่อไปจนถึง 30 พ.ย. 2563 3) ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว โดยร่วมมือกับสภากาชาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการป้องกันนำร่องในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและขยายความร่วมมือไปยังจังหวัดต่างๆ4) การประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับโรคโควิด – 19 ในสถานประกอบการ 5) การให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรค COVID-19 6) การปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน และ 7) ลดหย่อนอัตราเงินสมทบและขยายกำหนดเวลายื่นแบบอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน เป็นต้นนายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในปัจจุบันยังพบว่ามีสถานประกอบกิจการบางแห่งยังขาดการจัดมาตรการและการกำกับดูแลที่รัดกุมและทั่วถึง โดยเฉพาะในสถานประกอบกิจการที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากอุปสรรคทางด้านภาษาทำให้แรงงานกลุ่มนี้ไม่เข้าใจมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐได้เท่าที่ควรดังนั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19ในกลุ่มของสถานประกอบกิจการที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว กสร. ได้ให้พนักงานตรวจแรงงานเข้าไปทำความเข้าใจกับนายจ้างในการจัดมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แก่แรงงานต่างด้าว โดยให้นายจ้างจัดทำเอกสารเผยแพร่เป็นภาษาของแรงงานต่างด้าว เพื่อให้สามารถสื่อสารเข้าใจง่าย รวมไปถึงจัดมาตรการและกำกับดูแลให้แรงงานต่างด้าวที่พักอาศัยในที่พักที่นายจ้างจัดให้ตามที่กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาครัฐกำหนด เช่น เว้นระยะทางกายภาพ (Physical Distancing) งดเว้นการชุมนุมสังสรรค์ และไม่ออกจากพื้นที่ในเวลาที่กฎหมายกำหนดอธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนายจ้างในกิจการประมงทะเลซึ่งมีสภาพการทำงานที่แตกต่าง และมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ ขอให้นำมาตรการของทางภาครัฐไปปรับใช้ให้เหมาะสม เช่น การให้ความรู้แก่ ผู้ควบคุมเรือ ลูกจ้างในการป้องกันดูแลตนเองและสถานที่ปฏิบัติงาน การตรวจคัดกรองลูกจ้างก่อนปฏิบัติงาน เป็นต้น ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1506 กด 3ตัวแทนคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย หรือ คสรท.นำโดยรองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย นายชาลี ลอยสูง และตัวแทนสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือสรส. เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ขอให้เร่งช่วยเหลือเยียวยาลูกจ้างซึ่งอยู่ในระบบประกันสังคมที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาลกรณีเร่งด่วนเพราะจากสถานการณ์วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ผลจากวิกฤตการระบาดเป็นเหตุให้มีประชากรทั้งโลกติดเชื้อมากกว่าสองล้านคน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่าแสนคน สถานการณ์การแพร่ระบาดขยายเพิ่มองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศให้วิกฤตการแพร่ระบาดครั้งนี้ถือเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ของโลก ที่ทุกประเทศ ทุกฝ่าย ต้องเร่งรีบหาทางขจัดเชื้อโรคร้ายนำพาประชากรโลกฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้โดยเร็วประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19)ในครั้งนี้ รัฐบาลไทยโดยกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศให้ไวรัสโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรง ต่อมารัฐบาลได้ออกประกาศใช้ พระราชบัญญัติบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และออกข้อกำหนดและมาตรการต่างๆเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดรวมทั้งมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนทุกสาขาอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดในครั้งนี้ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และเครือข่ายแรงงานเห็นด้วยกับมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการอยู่โดยเฉพาะประเด็นให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการที่รัฐดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพียงแต่ว่ายังมีมาตรการบางประการที่ยังไม่ครอบคลุมและเป็นธรรมกับลูกจ้าง ซึ่งอยู่ในระบบประกันสังคม คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เพื่อเป็นศูนย์กลางให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้ามาร้องเรียนนางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กรณีที่แรงงานไทยโพสต์คลิปผวาอดตายในเกาหลีใต้นั้น ล่าสุดได้รับรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากนางสาวพินยุดา แจ่มจันทร์ศรี อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานฯ สำนักงานแรงงานไทย (สนร.) เกาหลีใต้ แล้วว่า ผู้โพสต์คลิปที่เป็นข่าวดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายณัฐพล พุทธชัย เป็นแรงงานที่จัดส่งตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ EPS มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดหนองคาย มาทำงาน Re – entry กับนายจ้าง DAWONDOJANGGONGEOP ที่ PARDAL DAEGU BUK GU สัญญาจ้างจะสิ้นสุดวันที่ 11 พ.ค. 2563 แต่ขอเลิกสัญญากับนายจ้างก่อนล่วงหน้าเนื่องจากมีแผนที่จะเดินทางกลับไปแต่งงานตามกำหนดที่ประเทศไทยโดยได้ยื่นเรื่องขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้แก่ เงินประกันเดินทางกลับ เงินประกันสิ้นสุดการจ้าง (แทจิกึม) เงินส่วนต่างครบสัญญาจากนายจ้าง และเงินกุกมินยอนกึมเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถเดินทางกลับได้เนื่องจากการระงับเที่ยวบินเข้าประเทศไทย ทำให้ต้องยกเลิกสัญญาหลายครั้ง มีค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการยกเลิกตั๋วเครื่องบิน ขณะนี้ได้ลงทะเบียนขอกลับประเทศภายในวันที่ 30 เม.ย. 2563 กับทาง สอท.ไว้แล้วนอกจากนี้ การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกระทรวงแรงงาน โดยฝ่ายแรงงานฯ สนร.เกาหลี ได้ติดตามให้ความช่วยเหลือแก่แรงงานไทยที่ไปทำงานตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) ที่ประสบปัญหาค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันระหว่างรอเดินทางกลับตามเงื่อนไขของระเบียบกองทุนช่วยเหลือคนหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศ ในระหว่างนี้ด้วยทั้งนี้ ฝ่ายแรงงานฯ ยังได้ประสานไปยังสถานทูตไทยในเกาหลีใต้ โดยเปิดให้มีการลงทะเบียนเพื่อสำรวจความจำเป็นที่จะเดินทางกลับเพื่อเสนอขอเที่ยวบินพิเศษเดินทางกลับประเทศไทยต่อไปเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 วรรคหนึ่งแห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2563 จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปข้อ 2 กำหนดให้งานตามที่ระบุไว้ในบัญชีหนึ่งท้ายประกาศนี้ หรืองานที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพต้องมีสัญชาติไทย เป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำโดยเด็ดขาดในทุกท้องที่ในราชอาณาจักรข้อ 3 กำหนดให้งานตามที่ระบุไว้ในบัญชีสองท้ายประกาศนี้เป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ในทุกท้องที่ในราชอาณาจักรโดยมีเงื่อนไขให้คนต่างด้าวทำงาน ได้ตามข้อตกลงระหว่างประเทศหรือพันธกรณีที่ประเทศไทยมีความผูกพันภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายข้อ 4 กำหนดให้งานตามที่ระบุไว้ในบัญชีสามท้ายประกาศนี้เป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำในทุกท้องที่ในราชอาณาจักร โดยมีเงื่อนไขให้คนต่างด้าวทำงานฝีมือหรือกึ่งฝีมือนั้นได้ก็แต่เฉพาะงานที่มีนายจ้างข้อ 5 กำหนดให้งานตามที่ระบุไว้ในบัญชีสี่ท้ายประกาศนี้เป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำในทุกท้องที่ในราชอาณาจักรโดยมีเงื่อนไขให้คนต่างด้าวทำงานนั้นได้ก็แต่เฉพาะงานที่มีนายจ้างและได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานกับนายจ้าง ตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามเงื่อนไขตามที่อธิบดีกรมการจัดหางานประกาศกำหนดข้อ 6 ในกรณีเป็นงานที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพต้องได้รับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองคนต่างด้าวจะขอรับใบอนุญาตทำงานได้ก็ต่อเมื่อได้รับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองตามกฎหมายนั้นแล้วประกาศณวันที่ 1 เม.ย.2563 หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานนายมัฮดี มูเด็ง ประธานชมรมพยาบาลวิชาชีพจ้างเหมาบริการจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการบรรจุพนักงาน ลูกจ้างสาธารณสุข เป็นข้าราชการเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 45242 ตำแหน่งนั้น ปรากฎว่าพยาบาลจ้างเหมาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้และอีก 4 อำเภอของ จ.สงขลา จำนวน 184 คน ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการบรรจุด้วย ทั้งๆที่เป็นพยาบาลวิชาชีพและปฏิบัติงานเป็นด่านหน้าในการควบคุมป้องกันรักษาโรคโควิด-19นายมัฮดี กล่าวว่า พยาบาลจ้างเหมา คือพยาบาลที่ถูกจ้างโดยโรงพยาบาล ทำงานแบบเดียวกับพยาบาลที่จ้างในรูปแบบอื่นๆ มีศักดิ์ สิทธิ์ และอำนาจหน้าที่เหมือนกัน แต่ไม่มีความมั่นคงในหน้าที่การงานเพราะหากวันไหนโรงพยาบาลไม่มีงบ พยาบาลจ้างเหมาก็ต้องตกงาน นอกจากนี้ยังไม่มีสวัสดิการใดๆ หากเจ็บป่วยก็ต้องใช้สิทธิบัตรทองเหมือนประชาชนทั่วๆไป ไม่มีวันลา หากลาต้องถูกหักเงินเดือน ไม่มีวันลาคลอด ถ้าลาคลอดก็จะไม่ได้เงินเดือนเดือนนั้นแม้แต่บาทเดียวทุกวันนี้เราก็ต้องระมัดระวังตัวสุดๆ เพราะถ้าติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นมาก็จะไม่มีสวัสดิการอะไรมาสนับสนุนเลย นายมัฮดี กล่าวนายมัฮดี กล่าวต่อไปว่า เมื่อรัฐบาลประกาศว่าคนที่จะได้บรรจุรอบนี้คือคนที่ทำงานด่านหน้าในสถานการณ์โควิด-19 พยาบาลจ้างเหมาต่างก็ดีใจกันทุกคน แต่พออ่านประกาศแล้วปรากฎว่าไม่มีสิทธิใดๆ เลย เพราะจะบรรจุเฉพาะ 3 ระบบ คือ พนักงานราชการ ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานกระทรวงสาธารณสุข พอมองว่าอย่างน้อยน่าจะได้บรรจุเป็นพนักงานราชการ แต่ปรากฎว่าประกาศกระทรวงบอกว่า 3 ตำแหน่งที่ได้บรรจุไปแล้วให้ยุบทิ้งเลย พยาบาลจ้างเหมาจึงไม่รู้จะไปเสียบตรงไหนกลายเป็นว่าเราก็ต้องล่องลอยในแอ่งน้ำ มองซ้ายมองขวาก็มืดไปแปดด้าน จึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เราอยากเรียกร้องให้มีสิทธิเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในกรอบที่รัฐบาลประกาศด้วยเพราะเรามีคุณสมบัติพร้อมหมด เป็นพยาบาลวิชาชีพ เป็นคนที่ทำงานด่านหน้า แต่กลับไม่มีสิทธิเข้าไปเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่ถูกคัดเลือกเป็นข้าราชการ เราอยากบอกรัฐบาลว่ามันมีตำแหน่งนี้อยู่ รัฐบาลอาจตกหล่น ก็อยากให้มีใครสักคนเปิดประตูบานนี้มาเจอพวกเรา ประธานชมรมพยาบาลวิชาชีพจ้างเหมาบริการจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวทั้งนี้ ชมรมพยาบาลวิชาชีพจ้างเหมาบริการจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังได้เข้ายื่นหนังสือต่อเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.)ไปเมื่อเร็วๆ นี้ด้วยโดยชมรมพยาบาลวิชาชีพจ้างเหมาบริการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ระบุว่า ตลอดระยะเวลาราว 10 ปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีการบรรจุพยาบาลวิชาชีพเป็นข้าราชการจำนวนน้อยมาก เนื่องจากถูกมองว่าพยาบาลวิชาชีพมีจำนวนที่เพียงพอด้วยเหตุที่มีพยาบาลในโครงการ 3000 อัตรา ที่ได้รับการบรรจุตามมติคณะรัฐมนตรีในปี 2550 อนุมัติโครงการผลิตพยาบาลระดับปริญญาตรี 3000 คนของกระทรวงสาธารณสุขที่เมื่อจบการศึกษาจะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการในพื้นที่ จึงมีการกันตำแหน่งข้าราชการไว้ในช่วงเวลาดังกล่าว ส่งผลทำให้ผู้ที่จบพยาบาลในปีถัดจากนั้น หมดโอกาสที่จะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการในพื้น 3 จังหวัดชายแดนใต้แต่ในความเป็นจริงจำนวนพยาบาลในพื้นที่ยังไม่เพียง ทำให้โรงพยาบาลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้และบางส่วนของจังหวัดสงขลา มีการว่าจ้างพยาบาลในรูปแบบตำแหน่งจ้างเหมาบริการรายเดือน ที่แทบไม่มีสวัสดิการใดๆ และไม่มีความมั่นคงในการทำงานแต่ปฏิบัติงานที่ไม่ต่างจากพยาบาลวิชาชีพในตำแหน่งอื่นๆ และปฏิบัติงานท่ามกลางเหตุการณ์ความไม่สงบของพื้นที่และท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันพยาบาลวิชาชีพจ้างเหมาบริการรายเดือนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้และบางส่วนของจังหวัดสงขลา ล้วนมีความตั้งใจในการทำงานตามมาตรฐานวิชาชีพ และมีความทุ่มเท เสียสละ และอุทิศตนสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านเกิดของตนเองอย่างเต็มความสามารถด้วยเหตุนี้ทางชมรมฯ เล็งเห็นว่าการบรรจุข้าราชการตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 เม.ย. 2563 ครั้งนี้จะเกิดขึ้นเหมือนตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ที่ตำแหน่งจะลงมาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้น้อยมาก หรือมีเฉพาะ พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข หรือลูกจ้างชั่วคราวเท่านั้นที่มีสิทธิคัดเลือกเป็นข้าราชการและทำให้พยาบาลวิชาชีพจ้างเหมาบริการรายเดือนปฏิบัติงานในพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้และบางส่วนของจังหวัดสงขลาที่มีประมาณ 183คนไม่มีสิทธิบรรจุเป็นข้าราชการตามมติคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ด้วยเหตุนี้ชมรมพยาบาลวิชาชีพจ้างเหมาบริการรายเดือนจึงขอเสนอเพื่อพิจารณาดำเนินการให้พยาบาลวิชาชีพจ้างเหมาบริการรายเดือนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้และส่วนหนึ่งของจังหวัดสงขลา มีสิทธิคัดเลือกแต่งตั้งเป็นข้าราชการตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 เม.ย. 256320 เม.ย. 2563 ที่กระทรวงแรงงาน นายอนันต์ บวรเนาวรักษ์ หัวหน้าผู้ตรวจรายการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2563 ร่วมกับนายสุชาติ ไทยล้วน ประธานสภาองค์การลูกจ้างแห่งชาติ ในฐานะประธานการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติประจำปี 2563โดยภายหลังการประชุม นายสุชาติ กล่าวว่าจากการหารือร่วมกับทางสภาองค์การลูกจ้าง 15 สภา ทั้งสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และกลุ่มแรงงานนอกระบบ เป็นพ้องกันว่าจะงดจัดงานวันแรงงานแห่งชาติในปีนี้ เนื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของติดเชื่อไวรัส COVID-19 โดยไม่อยากดื้อรั้นจัดงาน เพราะจะไม่เป็นดีต่อแรงงาน และจะส่งมอบงบสนับสนุนการจัดงานจำนวน 4.9 ล้านบาท คืนให้กับทางรัฐบาลเพื่อนำไปจัดสรรใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหา COVID-19แต่ภาคแรงงานยังจะยื่น 9 ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้แก้ปัญหาแรงงานที่เรียกร้องไว้เมื่อปี 2562 และยังไม่ได้ดำเนินการ อาทิ การรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ILO ฉบับที่ 87 และ 98 ว่าด้วยสิทธิการรวมตัว และสิทธิการเจรจาต่อรองการเพิ่มคุณภาพชีวิตแรงงาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประกันสังคมนายสุชาติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ลูกจ้างได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากผลกระทบ COVID-19 ซึ่งคากว่าจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานถึง 7 ล้านคน โดยในระหว่างนี้ได้มีการทยอยเลิกจ้างงานเรื่อยๆ นอกจากนี้ผู้นำแรงงานไม่เห็นด้วยกับมาตรการการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในขณะนี้ ซึ่งมองเป็นการผลักภาระให้กับกองทุนประกันสังคมรับผิดชอบ จ่ายเงินในกรณีที่สภถานประกอบการปิดกิจการชั่วคราว ที่ทางรัฐบาลสั่งหรือได้รับผลกระทบซึ่งในเรื่องดังกล่าวนี้มองว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย โดยกฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายเงินให้ลูกจ้างไม่ร้อยกว่าร้อยละ 75 ตามพ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน แต่กลับผลักภาระให้กับประกันสังคมจ่ายร้อยละ 62 ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าลูกจ้างจะได้รับจากนายจ้าง ทั้งนี้ยังมีความกังวลจากผู้นำแรงงานหลายคนว่าการผลักภาระให้กับประกันสังคมจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของทุนประกันสังคมในอนาคต ที่จะไม่สามารถดูแลผู้ประกันตนได้ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) เปิดโครงการ จากด้วยใจ เป็นโครงการสมัครใจลาออก เป็นทางเลือกและเปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อเป็นสวัสดิการเสริม โดยผู้สมัครเข้าร่วมโครงการต้องเป็นพนักงานประจำของธนาคารที่มีอายุครบ 55 ปีขึ้นไปในปี 2563 โดยพนักงานที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ สามารถแสดงความจำนงได้ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.-31 พ.ค. 2563โดยธนาคารจะตรวจสอบคุณสมบัติพนักงานที่ยื่นหนังสือสมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ และจะแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบทางอีเมลระหว่างวันที่ 16 – 19 มิ.ย. 2563 โดยธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้พนักงานเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่าธนาคารไม่ได้กำหนดว่าโครงการสมัครใจลาออกครั้งนี้มีเป้าหมายจำนวนกี่คนคุณสมบัติพนักงานที่มีสิทธิ แสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการฯ- เป็นพนักงานประจำของธนาคาร- เป็นผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป และรวมถึงผู้ที่จะมีอายุครบ 55 ปี บริบูรณ์ใน 2563 นับจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563- เป็นผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาโทษทางวินัยเว้นแต่ธนาคารจะพิจารณาให้เป็นกรณีพิเศษผลประโยชน์ตอบแทนแก่พนักงานที่ธนาคารอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ1. เงินตอบแทนหลัก ในจำนวน 1 เท่าถึง 13.33 เท่าของเงินเดือนอัตราสุดท้าย โดยคำนวณตามระยะเวลาที่พนักงานทำงานกับธนาคาร2. เงินตอบแทนพิเศษตามระยะเวลาที่พนักงานทำงานกับธนาคารสูงสุด 20 เท่าของเงินเดือนอัตราสุดท้าย โดยอายุงาน 1 ปี จะได้รับเงินตอบแทนพิเศษ 1 เท่าของเงินเดือนอัตราสุดท้าย ซึ่งการคำนวนเงินตอบแทนพิเศษจะคำนวณจากระยะเวลาที่พนักงานทำงานกับธนาคารเป็นจำนวนปี เดือน และวันตามตารางแนบท้ายสำหรับพนักงานที่มีระยะเวลาทำงานกับธนาคารมากกว่าระยะเวลาทำงานกับธนาคารที่เหลือจนถึงวันที่พนักงานจะเกษียณอายุตามระเบียบของธนาคาร (อายุ 55 ปี หลังอายุ 60 ปี) โดยนับจากวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ธนาคารจะคำนวณเงินตอบแทนพิเศษให้กับพนักงานเท่ากับจำนวนเดือนที่เหลือดังกล่าวนอกจากนี้ยังมีการคิดค่าจ้างวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่เหลือดังนี้- ค่าจ้างวันหยุดพักผ่อนประจำปี ในจำนวนเท่ากับเงินเดือนอัตราสุดท้ายหารด้วยสามสิบ และคูณด้วยจำนวนวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่สะสมและยกมาจากปี 2562 และสิทธิ์ที่จะได้หยุดปี 2563 โดยคำนวณระยะเวลาที่ทำงานกับธนาคารจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2563- ส่วนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานจะได้รับตามข้อบังคับของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)หลักการของโครงการฯ- การเข้าร่วมโครงการฯ ให้เป็นไปตามความประสงค์และความสมัครใจของพนักงาน- ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้พนักงานผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ แต่เพียงฝ่ายเดียว ผลการพิจารณาของธนาคารให้ถือเป็นที่สุด- พนักงานที่ยื่นความจำนงเข้าร่วมโครงการฯแล้วไม่สามารถยกเลิกเพิกถอนการแสดงความจำนงในการเข้าร่วมโครงการกำหนดวันที่มีผลเป็นการพ้นสภาพพนักงาน และการจ่ายเงินช่วยเหลือ- วันที่มีผลเป็นการพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของผู้ที่ได้รับการอนุมัติคือวันที่ 1 ก.ค. 2563 (วันทำงานสุดท้ายวันที่ 30 มิ.ย. 2563)- ธนาคารจะจ่ายเงินผลประโยชน์ตอบแทนให้กับพนักงานที่ธนาคารได้อนุม้ติให้เข้าร่วมโครงการฯ ในวันที่ 30 มิ.ย. 2563- เงินผลประโยชน์ตอบแทน ธนาคารจะต้องหักเงินภาษีตามกฎหมาย ดังนั้นพนักงานจะได้รับเป็นยอดเงินที่ธนาคารได้หักภาษีไว้เรียบร้อยแล้ว- สำหรับเงินเดือนประจำเดือน มิ.ย. 2563 และเงินโบนัสคงที่ พนักงานจะได้รับตามกำหนดเดิมคือวันที่ 25 มิ.ย. 2563นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) มอบหมาย เรืออากาศเอกหญิงศุภพร อยู่วัฒนา ประกันสังคมจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง จากนายจ้างพบว่าบริษัทดังกล่าว ตกลงเลิกจ้างลูกจ้างในกลุ่มรับเหมาค่าแรงจากบริษัทรับเหมาค่าแรง 7 บริษัท เป็นจำนวนรวม 1119 คนโดยให้มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา บริษัทยินยอมจ่ายเงินชดเชย และค่าบอกกล่าวล่วงหน้าตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน เป็นเงินกว่า 41 ล้านบาท โดยโอนเข้าบัญชีลูกจ้างทุกรายที่ถูกเลิกจ้างแล้ว และจะมีการจ่ายค่าจ้างในวันที่ 20 เม.ย. นี้ โดยการโอนเข้าบัญชีธนาคารลูกจ้างเช่นกันในการนี้เรืออากาศเอกหญิงศุภพรฯ ประกันสังคมจังหวัดชลบุรี ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า ตามข้อสั่งการของเลขาธิการฯ ตนได้รีบเข้าประสานงานกับทางนายจ้าง เมื่อทราบข้อสรุปว่าเป็นการเลิกจ้างและบริษัทได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานอย่างถูกต้องโดยจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินกว่า 11 ล้านบาท และค่าชดเชยเป็นจำนวนเงินกว่า 30 ล้านบาท ในส่วนของประกันสังคมซึ่งมีหน้าที่ช่วยเหลือในเรื่องการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติมเรืออากาศเอกหญิงศุภพรฯ กล่าวอีกว่า ตนจึงได้ให้คำแนะนำถึงขั้นตอนการขอรับเงินว่างงานกรณีถูกเลิกจ้าง พร้อมเอกสารประกอบที่จำเป็น รวมทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกจ้างกลุ่มดังกล่าว ขอให้ทางบริษัทเป็นผู้รวบรวมเอกสารดังกล่าว และเร่งนำส่งสำนักงานประกันสังคมโดยเร็ว เพื่อเร่งตัดจ่ายสิทธิประโยชน์ว่างงานกรณีถูกเลิกจ้างให้แก่ผู้ประกันตนโดยเร็วซึ่งการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานอันเนื่องมาจากถูกเลิกจ้างในครั้งนี้ กลุ่มลูกจ้างดังกล่าวได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นจากมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจของกระทรวงแรงงานที่ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 ให้ได้รับเงินกรณีว่างงานเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นร้อยละ 70 ของค่าจ้างไม่เกิน 200 วัน เรืออากาศเอกหญิงศุภพรฯ กล่าวเรืออากาศเอกหญิงศุภพรฯ กล่าวต่ออีกว่า สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลจากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล ได้เร่งรัดให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินการออก กฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานสืบเนื่องจากได้รับผลกระทบ จากสภาวะเศรษฐกิจ พ.ศ. 2563 ฉบับลงวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2563 นับได้ว่าสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้าง ได้รับในครั้งนี้สมตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และเลขาธิการสำนักงานประกันสังคมในการมุ่งช่วยเหลือผู้ประกันตนอย่างแท้จริง19 เม.ย. 2563 สำนักงานแรงงานในสิงคโปร์จัดทำถุงยังชีพพร้อมประสานกระทรวงแรงงานสิงคโปร์ เพื่อขออนุญาตจัดส่งข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของจำเป็น ให้แก่แรงงานไทยที่ถูกกักตัวในหอพักแรงงาน หลังจากรัฐบาลสิงคโปร์ออกมาตรการให้แรงงานต่างชาติอยู่ในหอพักแรงงาน และลดเวลาออกนอกหอพักแรงงานรวมถึงหอพักแรงงาน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหอพักแรงงานต่างชาติหลายแห่งในสิงคโปร์ ทั้งนี้ ล่าสุด ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ สำนักงานแรงงานฯ และสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารฯ ภายใต้ทีมประเทศไทย ได้ส่งมอบถุงยังชีพ ประมาณ 150 ชุด ให้แก่หอพัก PPT Lodge 1A เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยหอพักดังกล่าวได้ส่งถุงยังชีพให้แรงงานไทยในหอพักเรียบร้อยแล้วนอกจากนี้ เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า กงสุลไทย กัวลาลัมเปอร์ ของฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แจ้งความคืบหน้าการประสานงานให้คนไทยในมาเลเซียกลับเข้าประเทศไทย ผ่านด่านถาวรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตามที่คนไทยหลายคนประสบปัญหาติดขัดในการลงทะเบียนขอหนังสือรับรองการเดินทางกลับเข้าประเทศขอชี้แจงว่าขณะนี้โควตาสำหรับการผ่านด่านถาวรสะเดา ด่านสุไหงโก-ลก และด่านเบตง เต็มไปจนถึงวันที่ 3 พ.ค.2563 แล้ว ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางจึงจะต้องรอโควตาของวันถัดไป ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนหลังเที่ยงคืนของแต่ละวัน19 เม.ย. 2563 รายงานข่าวจากสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ชี้แจงว่าตามที่มีจดหมายเลิกจ้างพนักงานของสายการบินฯออกเป็นข่าวนั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเลิกจ้างพนักงานทั้งหมดของสายการบินซึ่งปัจจุบันมีกว่า 4000 คน แต่อย่างใด แต่เป็นการเลิกจ้างพนักงานที่มีอายุงานไม่ถึง 1 ปี จำนวนประมาณ 120 คน โดยได้มีการพูดคุยกับพนักงานกลุ่มที่จำเป็นจะต้องเลิกจ้างว่าหากสายการบินสามารถกลับมาเปิดทำการบินตามปกติได้และมีความจำเป็นจะต้องรับพนักงานเพิ่ม สายการบินจะพิจารณาพนักงานกลุ่มนี้เป็นลำดับแรกนอกจากนี้ สายการบินฯ คาดว่าจะมีการเปิดให้พนักงานลาหยุดโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without Pay) และลาออกโดยสมัครใจในเดือน พ.ค.นี้ เนื่องจากสายการบินฯ ต้องบริหารจัดการต้นทุนในภาวะวิกฤตที่โรค COVID-19 ยังแพร่ระบาดทั้งนี้สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ขอยืนยันว่ายังไม่มีการปิดกิจการอย่างแน่นอน โดยสายการบินฯพร้อมเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2563 สำหรับเส้นทางบินในประเทศ ส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศจะทยอยเปิดบินบางเส้นทางเป็นลำดับต่อไป | ประกันสังคมออกระเบียบขอรับเงินสมทบที่นำส่งไว้เกินจำนวนคืนเมื่อวันที่ 24 เม.ย. | สังคม,แรงงาน,คุณภาพชีวิต | สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ | https://prachatai.com/journal/2020/04/87365 |
บอร์ด กสท.เคาะ 12 ช่อง ทีวีสาธารณะ ช่อง 511 ฉลุยได้โควตา | บอร์ด กสท.เคาะช่องรายการทีวีสาธารณะ ช่อง 5-11 ได้คนละช่อง ไทยพีบีเอสคว้า 2 ช่องแลกยุติอนาล็อกเร็วขึ้นเป็นภายใน 3 ปี-คืนคลื่นความถี่ให้ กสทช.นำไปจัดสรรใหม่คาดออกใบอนุญาตใน มิ.ย.นี้รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2556 พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กสท. อนุมัติกำหนดช่องรายการสำหรับกิจการโทรทัศน์ดิจิตอล (ทีวีดิจิตอล) ประเภทสาธารณะ จำนวน 12 ช่อง แบ่งเป็น 1-3 จะเป็นสิทธิของผู้ประกอบการรายเดิมคือ ช่อง 5 11 และไทยพีบีเอส โดยทุกช่องจะคงผังรายการเดิม และอายุการอนุญาตขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความต้องการของช่อง 5 และ 11 ส่วนช่อง 4 ไทยพีบีเอส ที่จะต้องเน้นรายการสำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว ซึ่งในส่วนไทยพีบีเอสนั้นที่ได้สิทธิ 2 ช่อง เนื่องจากได้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนมายัง กสท.โดยจะยุติการออกอากาศระบบอนาล็อกและเปลี่ยนเป็นดิจิตอลภายใน 3 ปี คืนความถี่ UHF ทั้งหมดให้ กสทช.เพื่อนำไปจัดสรรใหม่ เพราะทำให้มีช่องรายการแบบความคมชัดสูง (HD) เพิ่มมากขึ้นส่วนช่อง 5-12 จะเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ โดยช่อง 5 จะเน้นรายการให้ความรู้ การศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ช่อง 6 เน้นรายการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม การเกษตร และการส่งเสริมอาชีพอื่นๆ ช่อง 7 เน้นรายการสุขภาพ อนามัย กีฬา หรือการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน ช่อง 8 เพื่อความมั่นคงของรัฐ ช่อง 9 เพื่อความปลอดภัยสาธารณะ ช่อง 10 เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารเพื่อส่งเสริมการเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลกับประชาชนและรัฐสภากับประชาขน ช่อง 11 เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารเพื่อการส่งเสริมสนับสนุนในการเผยแพร่และให้การศึกษาเกี่ยวกับการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ช่อง 12 เพื่อบริการข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์สาธารณะแก่คนพิการ คนด้อยโอกาส รวมถึงเด็กและเยาวชนหรือความสนใจกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะพ.อ.นที กล่าวต่อว่า สำหรับระยะเวลาการอนุญาตนั้น ช่อง 4-12 จะมีอายุการอนุญาต 4 ปี หลังจากนั้น กสทช.จะพิจารณาการออกใบอนุญาตให้อีกครั้งว่าจะอนุญาตให้ 15 ปีตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการประกอบกิจการในช่วง 4 ปีที่ได้รับอนุญาตว่าเป็นไปตามคำนิยามการประกอบกิจการสาธารณะหรือไม่ ส่วนการหารายได้จากการโฆษณานั้น ช่อง 8 และ 9 สามารถหาโฆษณาเชิงธุรกิจได้ แต่ต้องเพียงพอและจำเป็นต่อการประกอบกิจการเท่านั้น ซึ่ง กสทช.จะกำหนดกฎเกณฑ์อีกครั้ง ส่วน 5 6 7 10 11 12 สามารถโฆษณาได้ในเชิงภาพลักษณ์องค์กร (ซีเอสอาร์) ได้ในระยะเวลา 12 นาทีต่อชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนดนอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบนิยามประเภทช่องรายการทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจ 24 ช่อง โดยช่องรายการเด็ก เยาวชนและครอบครัว 3 ช่อง หมายถึงช่องรายการที่เน้นการนำเสนอรายการส่งเสริมการเรียนรู้ การศึกษา ต้องมีเนื้อหาเหมาะสมกับเด็ก ไม่แสดงออกรุนแรง ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ใช้คำหยาบคาย คำนึงถึงความเท่าเทียมและโอกาสของเด็กทุกสังคม ช่องรายการข่าวสารและสาระ 7 ช่อง หมายถึง ช่องรายการข่าว ข้อเท็จจริง วิเคราะห์ และข้อคิดเห็นต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต โดยเสนออย่างเที่ยงตรงรอบด้าน อิสระและเป็นกลาง เสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ 75%ช่องรายการทั่วไปแบบความคมชัดปกติ SD จำนวน 7 ช่อง และช่องรายการทั่วไปแบบความคมชัดสูง HD จำนวน 7 ช่อง หมายถึง ช่องรายการที่นำเสนอรายการตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด และผังรายการ เนื้อหารายการ ตามที่ กสทช.กำหนด และไม่ขัดกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดช่องรายการทีวีดิจิตอลสาธารณะ 12 ช่อง และคำนิยามทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจ 24 ช่องนั้น จะเป็นกรอบการทำงานและกรอบการเชิญชวนผู้ที่สนใจและเกี่ยวข้องเข้าประมูลทีวีดิจิตอล โดยทีวีสาธารณะกฎเกณฑ์ต่างๆ จะเริ่มชัดเจนภายในเดือน เม.ย.นี้ และออกใบอนุญาตในเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้ | บอร์ด กสท.เคาะช่องรายการทีวีสาธารณะ ช่อง 5-11 ได้คนละช่อง ไทยพีบีเอสคว้า 2 ช่องแลกยุติอนาล็อกเร็วขึ้นเป็นภายใน 3 ปี-คืนคลื่นความถี่ให้ กสทช.นำไปจัดสรรใหม่คาดออกใบอนุญาตใน มิ.ย.นี้ ไทยรัฐออนไลน์ | คุณภาพชีวิต,ไอซีที,เศรษฐกิจ | กสทช.,ทีวีดิจิตอล | https://prachatai.com/journal/2013/03/45941 |
งูจงอางเข้าบ้าน ยายวัย 83 ภาวนาตอนหนีขอให้ปลอดภัย ก่อนร้องกู้ภัยจับ (คลิป) | เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 12 ธ.ค. 60 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเต็กก่าจีคุงเกาะลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ได้รับแจ้งมีงูจงอางเข้าบ้านเลขที่ 122 ม.8 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อมจ.กระบี่ ชึ่งเป็นของนางเกลื้อม ทับไทร อายุ 83 ปี เจ้าของบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณภายในห้องนอน พบที่เตียงนอนด้านใต้ มีงูจงอางขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 3 เมตร ซุกอยู่ และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ได้แผ่แม่เบี้ยขู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ไม้จับงู จับใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็สามารถจับได้แล้วนำใส่กรง ซึ่งจะได้นำไปปล่อยในป่าต่อไป อย่างไรก็ตามเนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นย่านชุมชน จึงมีชาวบ้านจำนวนมาก เกือบ 50 คน เดินทางมาดูงูตัวดังกล่าวด้วย,นางเกลื้อม บอกว่า ตนเองนั่งดูทีวี อยู่บนเตียง ขณะนั่งดูทีวีอยู่นั้นได้ยินเสียงดังกุกๆกักกัก ใต้เตียงตนเองสงสัยว่ามันคือเสียงอะไรจึงได้เอาตะเกียงส่องดูก็ตกใจสุดขีดเห็นงูตัวขนาดใหญ่ จึงวิ่งออกจากบ้านแล้วก็ปิดประตูไว้ได้บอกชาวบ้าน ชาวบ้านจึงวิ่งมาดู แล้วแจ้งกู้ภัยให้มาจับ ซึ่งนางเกลื้อม ยังได้บอกอีกว่าขณะนั้นตนนั่งอยู่นั้น ได้นั่งภาวนาเจ้าที่เจ้าทางขออย่าให้งูตัวดังกล่าวทำร้ายตนเองเลยเพราะอยู่ตัวคนเดียว ก่อนกู้ภัยจะมาช่วยจับจนปลอดภัยดังกล่าว. | งูจงอางยาว 3 เมตร แอบเข้าบ้านยายวัย 83 ปี ชาวกระบี่ เผยเห็นเลื้อยเข้าใต้เตียง ได้แต่ภาวนาขอให้ปลอดภัย ก่อนขังงูไว้ในบ้านแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยจับไปปล่อยคืยธรรมชาติ | ข่าว,ทั่วไทย | งูเข้าบ้าน,งูจงอาง,งูจงอาง บุกบ้าน,กระบี่,จับงู,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1151320 |
เบื่อแดนกระทิง โมดริช จ่อย้ายหนีราชันเข้าฝูงงูใหญ่ | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 1 ส.ค. ว่า ลูกา โมดริช กองกลางและกัปตันทีมชาติโครเอเชีย ชุดรองแชมป์โลก 2018 เตรียมย้ายออกจากถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว ของ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ไปร่วมทัพงูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ในฤดูกาล 2018-19,หลังจากนำทัพโครเอเชีย คว้าตำแหน่งรองแชมป์โลก 2018 มาหมาดๆ ล่าสุด มี่รายงานข่าวจากสื่อในประเทศอิตาลี ว่า โมดริช แข้งวัย 32 ปี ที่ค้าแข้งกับราชันชุดขาว มาตั้งแต่ฤดูกาล 2012-13 อาจตัดสินใจย้ายทีมเพื่อหาความท้าทายใหม่ๆ และว่าที่ต้นสังกัดใหม่ก็คือ อินเตอร์ มิลาน ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกเซเรีย อา,สำหรับ โมดริช ย้ายจากทอตแนม ฮอตสเปอร์ มาอยู่กับเรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาล 2012-13 จนถึงฤดูกาลที่ผ่านมา ลงเล่นทั้งหมด 257 นัด ทำได้ 13 ประตู,ทั้งนี้ ทีมงูใหญ่ชุดปัจจุบัน มีนักเตะทีมชาติโครเอเชีย อยู่ในทีมแล้ว 3 คน คือ อีวาน เปริซิช, มาร์เซโล โบรโซวิช และ ซิเม เวอร์ซาลิโก ถ้าโมดริชย้ายมาจริง ก็จะเพิ่มเป็น 4 คน ทันที | สื่ออิตาลี ระบุ ลูกา โมดริช เตรียมชิ่งหนี ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ไปร่วมทัพ งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน เพื่อหาความท้าทายใหม่ | กีฬา,ฟุตบอลยุโรป | โมดริช,ลูกา โมดริช,ทีมชาติโครเอเชีย,เรอัล มาดริด,อินเตอร์ มิลาน | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1345862 |
ชาวบ้านตื่นหมูแฝดเมืองคอน เกิดมาร่างติดกัน คอหวยวิเคราะห์เลขตามระเบียบ | เมื่อวันที่ 29 ส.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางสาวอาภรณ์ ศรีดุก อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/2 หมู่ที่ 1 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติจ.นครศรีธรรมราช ว่ามีแม่หมูตัวหนึ่งออกลูกหมูมาแปลกประหลาดผิดปกติไม่เหมือนลูกหมูทั่วๆ ไป โดยแม่หมูดังกล่าวเกิดลูกออกมาจำนวน 7 ตัว ในจำนวนนั้นมีลูกหมูจำนวน 2 ตัวที่เกิดมามีร่างกายติดกัน หรือเรียกว่า ลูกหมูแฝด อย่างไรก็ตามลูกหมูแฝดดังกล่าวเกิดมาเพียงไม่กี่นาที ก็เสียชีวิต หลังชาวบ้านทราบข่าว ต่างแห่เดินทางไปดูลูกหมูประหลาดดังกล่าวกันคึกคัก เพื่อหาเลขเสี่ยงโชคหวยงวดที่จะถึงนี้ ,นางสาวอาภรณ์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพเลี้ยงหมูขายมานานหลายสิบปี เลี้ยงหมูครอกละประมาณ 20-30 ตัว ที่ผ่านมา แม่หมูออกลูกครอกละ 7-10 ตัว ทุกตัวทุกครอกเป็นปกติทุกอย่าง กระทั่งบ่ายวันที่ 28 ส.ค.60 ปรากฏว่ามีแม่หมูตัวหนึ่งออกลูกจำนวน 7 ตัว โดยลูกหมูตัวที่ 1 ถึงตัวที่ 6 ปกติทุกอย่าง แต่ลูกหมูที่ออกตัวสุดท้ายพบว่ามีความแปลกประหลาดไม่เหมือนลูกหมูทั่วไป โดยมีสองหัว แปดขา ลำตัวติดกันตั้งแต่หัวจนถึงท้อง หลังลูกหมูแฝดออกมาจากท้องแม่หมู ก็ดิ้นพล่านส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร เพียงไม่กี่นาทีลูกหมูแฝดสิ้นลมหายใจตาย อย่างไรก็ตามถือว่ามีความแปลกประหลาดมากเพราะตนเลี้ยงหมูมานานหลายสิบปี ก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ตนจึงฉีดฟอร์มาลีนและแช่แข็งลูกหมูแฝด เพื่อเก็บรักษาไว้ เพราะคาดว่าลูกหมูแฝดน่าจะให้โชคลาภตน ,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังชาวบ้านทราบข่าวลูกหมูแปลกประหลาด เกิดมามีสองหัว ลำตัวติดกัน ต่างแห่มาดู และหาเลขเด็ดจากลูกหมูแฝด เพื่อเสี่ยงโชคหวยงวดวันที่ 1 ก.ย.60 นี้ ส่วนใหญ่จะนำตัวเลขกับลูกหมูแฝด เช่น 248 , 84 , 48 รวมทั้งนำเลขที่บ้าน 712 มาเสี่ยงโชค,ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านปศุสัตว์ ให้ข้อมูลว่า ลูกหมูแฝดดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดทางพันธุกรรม แต่ก็ไม่ใช่เกิดขึ้นง่ายๆ ถือว่ามีความแปลกเช่นกัน. | ชาวบ้าน อ.เฉลิมพระเกียรติ ฮือฮา ลูกหมูเมืองคอนแม่หมูตกลูกออกมา 7 ตัว ตัวสุดท้ายผิดปกติมีเกิดมามี 2 หัวลำตัวติดกัน ดิ้นพล่านไม่กี่นาทีก็ตาย คอหวยไม่พลาดแห่ขอเลขเด็ดไปลุ้นหวยตามระเบียบ | ข่าว,ทั่วไทย | ลูกหมูประหลาด,ลูกหมูแฝด,นครศรีธรรมราช,หวย,เลขเด็ด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1053555 |
เปิดใจ ครูโบ้ เต้นสนั่นร้านลำโพง บอกเงินเดือนแค่ 9 พันแต่รวยความสุข (คลิป) | นายพลากร คะนองมาตย์ หรือ คุณครูโบ้ อายุ 27 ปี ครูสอนวิชาดนตรีนาฏศิลป์ โรงเรียนเมืองนครราชสีมา คุณครูที่ใช้สกิลการเต้นเพื่อต่อราคาลำโพง เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ตนเรียนจบเอกวิชานาฏศิลป์ จากวิทยาลัยนาฏศิลป์นครราชสีมา และได้ทำงานเป็นครูสอนวิชาดนตรีนาฏศิลป์ ที่โรงเรียนนี้มา 3 ปีแล้ว,ทั้งนี้ ตนทำงานในตำแหน่งครูอัตราจ้าง รับเงินเดือนอยู่ที่ 9,000 บาท ซึ่งปกติแล้วตนเป็นคนสนุกสนาน และก็มักจะเต้นตามสถานที่ต่างๆ ที่มีเสียงเพลง อย่างเช่น ร้านขายส้มตำ ร้านขายของต่างๆ,เมื่อวันก่อนตนไปเลือกซื้อลำโพงแบบพกพา เพื่อเอาไว้ไปสอนเด็กนักเรียน ตนก็ได้ลองเลือกลำโพงหลายตัว และตนก็ได้ใช้วิธีแบบสนุกด้วยการเต้นต่อรองราคาทุกตัว ซึ่งวันนั้นตนก็ไม่ได้เลือกซื้อลำโพงตัวนั้น เพราะราคาสูงเกินไป,อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการแชร์คลิปที่ตนเต้นต่อราคาออกไป ทางเจ้าของร้านขายลำโพงก็ใจดี ติดต่อให้ตนไปรับลำโพงตัวดังกล่าวฟรี โดยไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว ซึ่งตนก็ไปรับลำโพงตัวดังกล่าวมาเรียบร้อยแล้ว,ปกติครูมักจะสอนเด็กนักเรียนให้รู้จักกล้าแสดงออก และทำให้เด็กสนุกสนาน ไม่เบื่อหน่ายเวลาที่ได้เรียนวิชาดนตรีนาฏศิลป์ ซึ่งครูอยากให้เด็กรู้สึกรัก และอยากมาเรียนตลอด,ล่าสุด นายธนกฤต กีรติเกริกไกร ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองนครราชสีมา ก็ได้ดำเนินการอนุมัติเงินให้คุณครูอัตราจ้างในโรงเรียนเมืองนครราชสีมาทุกคน ทั้งหมด 60 คน จำนวนเงินคนละ 2,500 บาท รวมเป็นเงิน 150,000 บาท,(ขอบคุณภาพจาก ,Palakorn Khanongmat,) | เปิดใจ ครูโบ้ ออกสเตปเต็มแรงเพื่อต่อราคาลำโพง บอกภูมิใจแม้เงินเดือนไม่มาก แต่มีความสุข อยากให้เด็กรู้จักกล้าแสดงออก และสนุกสนานตามวัย | ข่าว,สังคม | ครูเต้นต่อราคา,ต่อราคา,ลำโพง,สื่อการเรียนการสอน,นครราชสีมา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1301877 |
มูรินโญ ปลื้มฟอร์มแข้งเชลซีเกมเจ๊าหงส์แดง | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ว่า โชเซ มูรินโญ ผู้ จัดการทีม สิงโตน้ำเงิน เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาชื่นชมฟอร์มการเล่นของลูกทีม หลังเปิดบ้านเสมอ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ไป 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา, ,เกมที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากการโหม่งของ จอห์น เทอร์รี ในนาทีที่ 5 ก่อนที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด จะมาโขกทำประตูตีเสมอ 1-1 ให้ลิเวอร์พูล ในนาทีที่ 44 ทำให้จบเกมแบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน โดยหลังจบเกม มูรินโญ ก็ไม่พลาดที่จะออกมาชื่นชมฟอร์มการเล่นของลูกทีม ที่สู้อย่างเต็มที่แม้จะได้แชมป์ไปแล้วก็ตาม,มันเป็นฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมเลยนะถ้าคุณเข้าใจสถานการณ์ของเกมนี้ เมื่อทีมสามารถคว้าแชมป์ได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะสูญเสียความกระตือรือร้นนิดหน่อย แต่เรายังคงทำงานอย่างหนัก เรามีนักเตะที่ยังมุ่งมั่นและสู้เพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ดี เราเล่นได้ดีมากในช่วงครึ่งแรก สภาพร่างกายของเราอาจล้าลงไปในช่วงครึ่งหลัง มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่จะแสดงให้เห็นว่าเราคือแชมเปี้ยน และเราเล่นอย่างมีศักดิ์ศรีเพื่อพยายามได้รับผลที่ต้องการ ส่วนกรณีของ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ผมถอดเขาออกจากสนามเพราะผมจินตนาการได้ว่าเขาต้องเจอความยากลำบากในช่วง 30 นาทีสุดท้าย เขาถูกถอดออกมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม ลอฟตัส-ชีค เข้าใจแล้วว่าพรีเมียร์ลีกเป็นยังไง และมันไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว ผมอยากเห็นเขามี 60 นาทีที่ดี มากกว่าจะลงไปเล่น 75 หรือ 90 นาที แล้วเล่นไม่ดี มูรินโญ กล่าว | โชเซ มูรินโญ กุนซือทีมเชลซี ออกมาชื่นชมลูกทีมว่าโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเปิดบ้านเสมอ ลิเวอร์พูล ไป 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา | null | พรีเมียร์ลีก,เชลซี,ลิเวอร์พูล,โชเซ มูรินโญ,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/498005 |
โทนี่-แก้ว จูบตามหัวใจวิบวับ ส่งท้าย นางสาว 18 มงกุฎ | พักข่าวเครียดๆ มาเบียดในหัวใจดูฉากหวานของคู่พระนาง โทนี่ รากแก่น และ แก้ว-จริญญา ในละคร นางสาว 18 มงกุฎ กันดีฝ่า เรื่องราวมาถึงตอนอวสานแล้ว ถึงแม้จะยังคงเดินหน้าตามทายาทซอสอิ่มพุงเต็มเหนี่ยว แต่ พี่ธนา (โทนี่) ก็ไม่ลืมดูแลหัวใจตัวเองควง น้องน้ำ (แก้ว) ไปสวีตบนสะพานพุทธฯท่ามกลางการจราจรติดขัดในช่วงเย็น แดดร่มลมตกแสงสีทองส่องประกายชวนให้ใจวิบวับๆวันนี้ไหนๆก็ถ่ายตอนอวสานกันแล้วก็ขอสวยหล่อส่งท้ายเอาใจผู้ชมกันหน่อย บวกกับบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยายามพระอาทิตย์ตกดินมันช่างโรแมนติกจริงๆ เรียกว่าการจราจรที่ติดขัดนัวเนียอยู่บนสะพานนั้นไร้ความหมายไปเลยช่วงซ้อมคิวหวานก็ไม่มีปัญหา ผกก.มาบรีฟให้ฟังว่า แค่ปล่อยหัวใจไปตามที่มันเรียกร้องแค่นั้นแล้วคนเป็นแฟนกันน่ะ มันเรียกร้องอะไรล่ะ ต้องบอกมั้ย?? เริ่มถ่าย โทนี่ กำลังปล่อยใจสวีตอยู่เล้ย เอ้า เรือสำราญดันแล่นมาพร้อมเปิดเพลงแดนซ์ดังหนักมากเลยสะดุดต้องถ่ายใหม่ พอเทกสอง เอ้า ลมพัดแรงจน แก้ว ผมกระเซอะกระเซิง เฮ่อ ถ่ายใหม่ เทกที่สามนี่เหมือนรวมเอาความอัดอั้นจนพลุ่งพล่านระบายออกมาเต็มที่>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<โทนี่ กับ แก้ว หยอกเย้าหยอกเอินกันมุ้งมิ้งๆน่ารัก บวกกับบรรยากาศท้องฟ้าสีส้มยามพระอาทิตย์ตกโรแมนติกสุดๆ โทนี่ อดใจไม่ไหวประคองดวงหน้าสาว แก้ว ไว้ก่อนประทับจูบอย่างดูดดื่ม แบบนี้แหละ ที่หัวใจรักมันเรียกร้อง ห้ามพลาดชม วันพฤหัสฯนี้ 20.10 น. ช่อง GMM25. | พักข่าวเครียดๆ มาเบียดในหัวใจดูฉากหวานของคู่พระนาง โทนี่ รากแก่น และ แก้ว-จริญญา ในละคร นางสาว 18 มงกุฎ กันดีฝ่า | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | นางสาว 18 มงกุฎ,โทนี่ รากแก่น,แก้ว จริญญา,ละครช่องGMM25,ช่อง GMM 25,นิยาย,ข่าววันนี้,ละคร | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1792649 |
ทส.จัดป่าชายเลนให้คนจน 1.6 หมื่นไร่ | นายประลอง ดำรงค์ไทย โฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า หมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) นำพื้นที่ป่าชายเลนที่มีสภาพเสื่อมโทรมจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ มากำหนดเป็นเป้า หมายดำเนินการจัดที่ดินทำกิน เพื่อกำกับควบคุมไม่ให้ชุมชนมีการขยายตัว และป้องกันการบุกรุกป่าชายเลนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการในปี 2559 จนถึงเดือน พ.ค.2560 สามารถดำเนินงานได้ครบถ้วนตามเป้าหมาย โดยจัดหาที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน 16,000 ไร่ และจัดหาที่ดินเพื่อการ อยู่อาศัย จำนวน 9 จังหวัด 28 ชุมชน ดังนี้ ปี 2559 จัดหาที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย 7 ตำบลของ จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 11,000 ไร่ โดยในจำนวนนี้นำไปออกหนังสืออนุญาตแล้วจำนวน 7,785 ไร่ ส่วนปี 2560 เดือน ม.ค. ถึง พ.ค.นี้ ได้จัดหาที่ดินทำกินใน จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 5,000 ไร่ และจัดหาที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยใน 9 จังหวัด 28 ชุมชน สำหรับพื้นที่ที่มีการดำเนินการจัดให้เป็นที่ดินทำกินของราษฎรแล้ว พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทส.ได้สั่งการให้เร่งรัดการออกหนังสืออนุญาตให้แล้วเสร็จโดยเร็ว,โฆษก ทส. กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนเสื่อมโทรมระยะยาวนั้น ในแผนยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2559-2579) กำหนดเป้าหมายจัดที่ดินทำกินในพื้นที่ป่าชายเลนให้ได้ 80,000 ไร่ ขณะที่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) มีเป้าหมายจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ได้ 18 จังหวัด จำนวน 280 ชุมชน. | การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ปัญหาราษฎรผู้ยากไร้ไม่มีที่ทำกิน รวมทั้งแก้ปัญหาการบุกรุกป่าและที่ดินของรัฐ โดยขณะนี้ ทส.ได้จัดที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนเสื่อมโทรม ซึ่งได้มอบ | ข่าว,สังคม | ป่าชายเลน,ป่าชายเลนให้คนจน,ประลอง ดำรงค์ไทย,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/961058 |
ปัดฝุ่นโครงการสะพานถนนสตูล-เปอร์ลิส ขยายการค้าชายแดน | วันที่ 19 ธ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนจากภาคธุรกิจ ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคประชาชน จ.สตูล กว่า 400 คน เข้าร่วมประชุมสัมมนาครั้งที่ 1 ของโครงการศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการสะพานถนนสตูล-เปอร์ลิส ซึ่งจัดขึ้นโดยจังหวัดสตูลร่วมกับหอการค้าจังหวัด และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ระบุว่า การสร้างถนนสตูล-เปอร์ลิส เพื่อเชื่อมโยงทางด้านเศรษฐกิจในเรื่องการค้าชายแดน ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ เนื่องจากจังหวัดสตูลอยู่ใกล้กับประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งขนาดเศรษษฐกิจของทั้ง 3 ประเทศ มีมูลค่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของอาเซียน เมื่อเปิดถนนในเส้นทางนี้จะทำให้ไทยได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยจะเร่งเดินหน้าศึกษาเรื่องความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ ด้านวิศวกรรม และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปีโครงการสะพานถนนสตูล-เปอร์ลิส มีระยะทาง 14 กิโลเมตร เป็นการเชื่อมโยงจากชายฝั่งทะเลบริเวณ ต.ตำมะลัง อ.เมืองสตูล โดยการสร้างสะพานริมฝั่งทะเลเกาะปูยู จ.สตูล ไปยังรัฐเปอร์ลิสของมาเลเซีย โดยเป็นโครงการที่มีความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา จ.สตูล และพื้นที่ภาคใต้ของไทยในด้านการขนส่ง การค้า และการลงทุน | จังหวัดสตูล ปัดฝุ่นโครงการสะพานถนนสตูล-เปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย หวังกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจ หลังโครงการท่าเรือปากบาราสร้างความขัดแย้งและการต่อต้าน | เศรษฐกิจ | ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,สตูล,โครงการสะพานถนนสตูล-เปอร์ลิส,สะพานถนนสตูล-เปอร์ลิส,สตูล-เปอร์ลิส,การค้าชายแดน | https://news.thaipbs.or.th/content/268678 |
เสี่ยงอันตราย ไฟแดงแยกอินทรีย์ อ.เมือง จ.สุโขทัย เสียวอน จนท.ช่วยดูแล | ชาวสุโขทัยร้องไม่ปลอดภัย ไฟแดง เสีย บริเวณ สี่แยกหน้าที่ทำการไฟฟ้าภูมิภาค กับ แยกอินทรีย์ อ.เมือง จ.สุโขทัย สอบถามหน่วยงานดูแล บอกไม่มีงบ ประชาชนใช้รถสัญจรผ่านจุดเสี่ยงทุกวัน เกรงจะเกิดอุบัติเหตุ วอน เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ จัดงบประมาณซ่อมแซมด่วน ก่อนเกิดเหตุร้ายแรง,ดูความลำบากของคนหมู่ 3 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ถนนทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ระยะทางกว่า 5 กม. พังชำรุดทรุดโทรมตลอดทั้งเส้น ชาวบ้านทนใช้ถนนสภาพนี้มานานหลายปี ฝากท่านผู้ว่าฯ วัฒนา พุฒิชาติ ช่วยเหลือชาวบ้านด้วย,เสียวอุบัติเหตุ ฝาท่อระบายน้ำที่ วิภาวดีซอย 16 แยก 1–10 แขวงจอมพล เขตจตุจักร ชาวบ้านแจ้งมา ฝาท่อพัง,ยุบตัว ไม่เสมอพื้นถนน รถวิ่งผ่านสัญจรลำบาก วอน เขตจตุจักร ส่งเจ้าหน้าที่แก้ไขด่วน,ผิวถนนพังเป็นหลุมลึก บริเวณป้ายรถเมล์หน้า กรมการขนส่งทางบก ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร คนใช้เส้นทางแจ้งมา พบหลุมขนาดใหญ่ฝั่งเลนซ้าย รถสัญจรผ่านลำบาก โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์หักหลบไม่ทันอาจเกิดอุบัติเหตุได้ วอน หน่วยงานดูแล เข้าแก้ไขซ่อมแซม,นางรัตนธร รัตนสกุล ผอ.เขตสาย-ไหม ชี้แจงกรณี ถนนซอยจตุโชติ 4 ช่วงท้ายซอย เส้นทางลัด ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 32 ถนนพังขรุขระ เขตสายไหม ตรวจสอบแล้ว พร้อมทั้งดำเนินการซ่อมแซม ผิวจราจรบริเวณดังกล่าว เพื่อบรรเทาความ เดือดร้อนของประชาชนเรียบร้อยแล้ว,[email protected], | ชาวสุโขทัยร้องไม่ปลอดภัย! ไฟแดง เสีย บริเวณ สี่แยกหน้าที่ทำการไฟฟ้าภูมิภาค กับ แยกอินทรีย์ อ.เมือง จ.สุโขทัย สอบถามหน่วยงานดูแล บอกไม่มีงบ! ประชาชนใช้รถสัญจรผ่านจุดเสี่ยงทุกวัน! เกรงจะเกิดอุบัติเหตุ | ข่าว,ทั่วไทย | ไฟแดงเสีย,สัญญาณไฟจราจร,สุโขทัย,ฝาท่อระบายน้ำ,ห้องร้องทุกข์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/central/1105052 |
ภาค ปชช.ร้องสภาทนายความช่วยกรณีถูกเรียกเก็บภาษีจากงบฯสสส. 800 ล้านบาท | วันนี้ (14 ม.ค.) เครือข่ายขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน (ขสช.) เข้าหารือกับสภาทนายความ เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกับมูลนิธิและองค์กรต่างๆ ที่ได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รวมกว่า 800 ล้านบาท โดยเห็นว่าการตีความการจ่ายภาษี ไม่ควรเหมารวมงบประมาณในการทำกิจกรรม ซึ่งไม่ใช่รายได้ขององค์กรและมูลนิธินายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เปิดเผยว่า สภาทนายความยินดีให้คำปรึกษาทุกองค์กรที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบังคับใช้กฎหมาย หลังมีการยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือ ก็จะตั้งคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนตามกฎหมาย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้คำปรึกษา และช่วยเหลือในแต่ละประเด็นขณะที่นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน กล่าวถึงการเลื่อนประชุมคณะกรรมการ สสส. ออกไปเป็นวันที่ 22 ม.ค. โดยให้เหตุผลว่าองค์ประกอบไม่ครบ ว่าเป็นข้ออ้างที่ไม่ถูกต้อง เพราะในกฎหมายกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ระบุว่า หากองค์ประชุมเกินกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการ จะสามารถจัดประชุมได้ จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการประวิงเวลา ทำให้กระบวนการแก้ไขปัญหาล่าช้าออกไป | สภาทนายความ เตรียมตั้งคณะกรรมการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือตามกฎหมาย องค์กรและมูลนิธิที่รับเงินสนับสนุนโครงการจาก สสส. หลังถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 5 ปี รวมกว่า 800 ล้านบาท | สังคม | ภาคประชาชน,สสส.,ขสช.,ภาษีย้อนหลัง | https://news.thaipbs.or.th/content/7305 |
อะไรก็ยอม เจที พร้อมทำทุกอย่างเพื่อ มูรินโญ | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 8 ก.ย. ว่า จอห์น เทอร์รี ปราการหลังกัปตันทีม สิงโตน้ำเงิน เชลซี สโมสรดังประจำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าว พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อ โชเซ มูรินโญ กุนซืออหังการ หลังทำผลงานที่น่าผิดหวังในช่วงต้นฤดูกาล,อดีตแนวรับทีมชาติอังกฤษ เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยผลงานที่น่าผิดหวัง จนโดนกุนซือชาวโปรตุกีสถอดออกจากสนามระหว่างเกมที่เชลซี บุกไปแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-3 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แถมตอนนี้ยังติดโทษแบนจากกรณีที่โดนใบแดงจากเกมบุกไปชนะเวสต์บรอมวิช อัลเบียน 3-2 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา,ล่าสุดทาง เพียซ มอร์แกน นักข่าวและแฟนบอลทีม ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ได้ออกมาเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตัวเขาได้มีโอกาสพบกับ เจที และได้พยายามโน้มน้าวให้ปราการหลังรายนี้ย้ายมาค้าแข้งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม หลังจากมีแนวโน้มว่า อาจจะโดนมูรินโญจับนั่งสำรอง,บทสนทนาของทั้งคู่ได้รับการตีพิมพ์ลงในการ์เดียน ฟุตบอล วีคลีย์ ซึ่งเทอร์รีได้เผยกับมอร์แกน ว่า ผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ผมไม่สามารถเล่นให้กับสโมสรอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก นอกเหนือจาก เชลซี ได้,โชเซ มูรินโญ เป็นผู้จัดการทีมดีที่สุดเท่าที่ผมเคยร่วมงานด้วย ผมยอมโยนตัวเองไปอยู่ใต้รถบัสเพื่อเขา,สำหรับสถานการณ์ในลีกตอนนี้ เชลซี มีคะแนนตามหลัง แมนฯซิตี้ จ่าฝูงอยู่ 8 คะแนน จากผลงานเสมอ 1 ชนะ 1 แพ้ 2 โดยมีโปรแกรมไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ในวันที่ 12 กันยายนนี้ | เพียซ์ มอร์แกน เหยี่ยวข่าวแฟนบอลทีม ปืนใหญ่ อาร์เซนอล อ้าง จอห์น เทอร์รี ปราการหลัง สิงโตน้ำเงิน เผย พร้อมทำทุกอย่างเพื่อ โชเซ มูรินโญ หลังออกสตาร์ตซีซั่นใหม่ได้น่าผิดหวัง… | null | พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,จอห์น เทอร์รี,เชลซี,เพียซ์ มอร์แกน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,โชเซ มูริญโญ,สิงโตน้ำเงิน | https://www.thairath.co.th/content/523789 |
รัฐบาลทหารไทยกับการพูดอย่างทำอย่าง | ในช่วงปีแรกหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 รัฐบาลทหารไทยสั่งเรียกตัวบุคคล ทั้งที่เป็นปัญญาชน แกนนำการเมือง และผู้ที่ถูกรัฐบาลทหารมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม บุคคลเหล่านี้ถูกควบคุมตัว สอบปากคำ ข่มขู่ หรือตักเตือนให้ยุติการต่อต้านรัฐประหาร มีบางส่วนถูกตั้งข้อหาในเวลาต่อมา แต่ส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวหลังจากเซ็นชื่อในหนังสือ สัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารอีกในช่วงปีแรกของรัฐบาลทหาร มีการลงโทษอย่างรวดเร็วต่อผู้ทีแสดงความเห็นต่อต้านในประเทศ และมักลงโทษอย่างเปิดเผย มีการขัดขวางหรือยกเลิกการประชุมทางวิชาการและสาธารณะในประเด็นการเมือง หรืออย่างน้อยมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปคอยสอดส่องข้อมูล ทั้งยังมีการฟ้องคดีต่อบุคคลในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและมีรายงานข่าวอย่างแพร่หลาย รวมทั้งการฟ้องคดีนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยแทบไม่คำนึงถึงกระบวนการอันควรตามกฎหมาย การแย่งชิงทรัพยากรเกิดขึ้นทั่วประเทศ สร้างผลกระทบอย่างมากต่อที่ดินและการดำรงชีวิตของพลเมืองในชนบท พวกเขาทำสิ่งเหล่านี้โดยอ้างว่าเป็นการ สมานฉันท์ปฏิรูป เป็นอีกคำหนึ่งที่รัฐบาลนี้ใช้อธิบายการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ผ่านคำสั่งของรัฐบาลทหารหรือตามที่กำหนดไว้ในเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ แต่แทนที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้น มาตรการเหล่านี้เป็นเพียงการหมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไป 30 ปี ทั้งในแง่พัฒนาการของประชาธิปไตย การกระจายอำนาจ และบทบาทของทหารกับการเมืองพวกเขาผลักดันการ ปฏิรูป แบบนี้ภายใต้คำขวัญ เดินหน้าประเทศไทย คืนความสุขให้คนในชาติ แม้จะมีข่าวการกดขี่ปราบปราม ความอยุติธรรม และข่าวร้ายทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องสำหรับ คสช. การสมานฉันท์หมายถึงการขจัดความขัดแย้งทางสังคมหรือการเมืองในภายนอก การปรับทัศนคติหมายถึงการยอมรับความเห็นตามที่กำหนดโดยรัฐบาลทหารอย่างดุษฎี ส่วนปฏิรูปหมายถึงการย้อนเวลากลับไปก่อนจะมีระบอบประชาธิปไตย การพูดอย่างทำอย่างแบบที่ออแวลล์กล่าวไว้เกิดขึ้นในประเทศไทยภายใต้ระบอบคสช.การพูดอย่างทำอย่างไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่หรือเกิดขึ้นเฉพาะเมืองไทย ในปี 2553 รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะสั่งปราบปรามอย่างรุนแรงต่อการประท้วงของคนเสื้อแดงใจกลางกรุงเทพฯ เขาเรียกการปราบปรามครั้งนั้นว่าเป็น การขอคืนพื้นที่ ภายใต้ ระบอบใหม่ - New Order รัฐบาลอินโดนีเซียในช่วงปี 2508-2541 สั่งคุมขังประชาชนหลายหมื่นคนในคุกที่อยู่บนเกาะ พวกเขาเรียกว่าเป็น โครงการด้านมนุษยธรรม - Humanitarian Project จะในอดีตหรือปัจจุบัน การใช้วาทศิลป์เหล่านี้ไม่สามารถปกปิดความรุนแรงที่อยู่เบื้องหลังความจำเป็นที่ต้องการสร้างคำที่มีความหมายคลุมเครือเลยการพูดอย่างทำอย่างของรัฐบาลทหารไทยในปัจจุบัน แตกต่างจากการใช้วาทศิลป์ในยุคเดิมอยู่บ้างบางประการประการแรก การพูดอย่างทำอย่างของรัฐบาลทหารประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เพราะมีผู้สนับสนุน พวกเขาเป็นผู้มีอิทธิพลและร่ำรวยในสังคมไทย คนเหล่านี้มีความเข้าใจคล้ายคลึงกันในแนวคิดหลัก ๆ สำหรับรัฐบาลทหารและบรรดาผู้สนับสนุน ประชาธิปไตยของพวกเขาหมายถึงระบอบปกครองของคนดีที่ไม่โกง เป็นผู้ที่สามารถทำให้เกิด ความสามัคคี ซึ่งเป็นอีกคำหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสังคมไทย พวกเขาเชื่อมั่นในเอกลักษณ์ของ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ การมีรัฐบาลของ คนดี ที่ปกครองประเทศในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณ พวกเขาให้ความใส่ใจกับวิธีการปกครองน้อยกว่าศีลธรรมจรรยา ตรงข้ามกับประชาธิปไตยแบบตะวันตก ซึ่งพวกเขามองว่าส่งผลให้เกิดระบอบที่ชาวบ้านที่โง่เขลาเลือกตั้งนักการเมืองเข้ามาโกงกินบ้านเมืองถือว่าเป็นมรดกของการเมืองโบราณแบบพุทธ อย่างไรก็ดี คำว่า ธรรมภิบาล ในภาษาไทยซึ่งแปลมาจาก good governance มีความหมายว่า การกำกับดูแลโดยธรรม หรือการกำกับดูแลโดยกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ความสามัคคี ซึ่งหมายถึงการรักษาระเบียบสังคม และการปราศจากความขัดแย้งร้ายแรง กลายเป็นหลักการสำคัญของการกำกับดูแลโดยธรรม ภายใต้กรอบความคิดเช่นนี้ ความสมานฉันท์ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความจริงหรือความยุติธรรม แต่กลับหมายถึงความสามัคคีที่เห็นได้จากภายนอกโดยมีการกลบเกลื่อนเสียงที่เห็นต่างและซุกอยู่ใต้พรมประการที่สอง มีช่องว่างใหญ่หลวงในแง่ความเข้าใจถ้อยคำเหล่านี้ เปรียบเทียบระหว่างผู้สนับสนุนรัฐบาลทหารฝ่ายหนึ่งกับผู้ที่เห็นต่างและประชาคมนานาชาติอีกฝ่ายหนึ่ง รัฐบาลทหารทราบดีว่าประชาชนจำนวนมากต่อต้านการปกครองของตนเอง และไม่ได้หลงเชื่อไปกับการพูดอย่างทำอย่างของพวกเขาแม้เพียงชั่วขณะเดียวรัฐบาลทหารตระหนักดีถึงความบกพร่องเช่นนี้ แต่ยังคงใช้วิธีพูดอย่างทำอย่างเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับผู้สนับสนุนฝ่ายตนเอง เป็นเหตุให้รัฐบาลทหารต้องหาทางจัดการกับช่องว่างระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนตนเองกับฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะประชาคมนานาชาติ ฝ่ายที่ส่งเสียงวิจารณ์ในประเทศต้องเผชิญกับการคุกคาม การจับกุม และการคุมขัง เมื่อต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์กับทั้งองค์การสหประชาชาติ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ฮิวแมนไรท์วอทช์ และรัฐบาลจากทั่วโลก รัฐบาลทหารทำได้แค่ปฏิเสธอย่างรวบรัดว่าไม่เคยละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่เคยจำกัดเสรีภาพ และไม่เคยแทรกแซงประชาธิปไตย การปราบปรามภายในประเทศอย่างเข้มงวดพร้อมกับการเพิกเฉยต่อเสียงวิจารณ์ของประชาคมนานาชาติ ต่างมุ่งตอบสนองความต้องการที่จะกระชับและตอกย้ำความสนับสนุนในประเทศของตนเองประการที่สามและสำคัญสุด การพูดอย่างทำอย่างอย่างต่อเนื่องและซ้ำซาก ประกอบกับการใช้กฎหมายเอาผิดผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหาร เป็นการปิดกั้นไม่ให้เกิดความจริง ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ก่อความรุนแรงลอยนวลพ้นผิด ในขณะที่รัฐบาลปัจจุบันใช้ถ้อยคำบิดเบือนอ้างว่าการควบคุมตัวและทรมานเป็น การปรับทัศนคติ เป็นการใช้แนวทางเดิมแบบที่เคยเป็นมา ซึ่งในอดีตรัฐไทยได้เคยปราบปรามพลเมืองมาในหลายเหตุการณ์ รวมทั้งการสังหารประชาชน โดยไม่ต้องกังวลว่าต้องรับผิด ล่าสุดในกระบวนการประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นเหตุให้มีการฟ้องคดีอาญานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและพรรคพวกเมื่อปลายปี 2556 ต่อศาลอาญาในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาจากการปราบปรามนองเลือดเมื่อปี 2553 เพียงแต่มุ่ง ขอคืนพื้นที่ ของผู้ชุมนุม แต่ตามเงื่อนไขกฎหมายที่ยังคลุมเครือ ภายหลังรัฐประหารล่าสุดรัฐบาลทหารในปัจจุบันยังคงยืนยันว่า พวกเขาเป็นนักปฏิรูปที่ทำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยเพื่อสร้างความสมานฉันท์ และคืนความสุขให้กับคนไทย และอ้างว่าตนเองไม่ได้เป็นเผด็จการ พวกเขารู้ดีว่าระบบตุลาการถือหางพวกเขาอยู่ หรือไม่ก็สามารถใช้ประโยชน์เพื่อทำให้การพูดอย่างทำอย่างของพวกเขาชอบด้วยกฎหมาย และสามารถปลดเปลื้องความรับผิดใดๆแต่ในขณะที่เสียงต่อต้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการประท้วงอย่างสงบในโอกาสครบรอบหนึ่งปีของรัฐประหารซึ่งนำไปสู่ นักศึกษากว่า 50 คน เริ่มทำให้เห็นรอยร้าวบนฉากหน้าแห่งความปรกติที่รัฐบาลทหารใช้วาทศิลป์แบบพูดอย่างทำอย่างสร้างเอาไว้ แม้จะมีการปล่อยตัวนักศึกษาโดยไม่ตั้งข้อหา แต่เพิ่งมีการตั้งข้อหาในตอนนี้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อพวกเขาในวันที่ 8 มิถุนายน ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เป็นรูปธรรมของการพูดอย่างทำอย่าง รัฐบาลทหารคงหวังว่าจะลดกระแสความไม่พึงพอใจลงได้บ้าง พวกเขาอาจหวังว่าประวัติศาสตร์การลอยนวลพ้นผิดที่ผ่านมา คงทำให้เขามีเวลาเหลือเฟือที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปรัฐบาลทหารปัจจุบันใช้การพูดอย่างทำอย่างเป็นยุทธศาสตร์หลักในการปกครองประเทศ และเปลี่ยนให้เป็นศิลปะแห่งความเหลวไหล คนที่ใส่ใจต่อคนไทยอย่างพวกเรา คงต้องให้ความหมายที่แท้จริงต่อคำว่า ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ซึ่งไม่มีอะไรต่างไปจากคำที่ใช้เรียกขานเผด็จการแบบในอดีตนั่นเองธงชัย วินิจจะกูลเป็นศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ที่ University of Wisconsin-MadisonTyrell Haberkorn เป็นอาจารย์สอนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมที่ Australian National UniversityThe Thai juntas doublespeak New Mandala | ในช่วงปีแรกหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 รัฐบาลทหารไทยสั่งเรียกตัวบุคคล อย่างน้อย 751 คน ทั้งที่เป็นปัญญาชน แกนนำการเมือง | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | ธงชัย วินิจจะกูล,พิภพ อุดมอิทธิพงศ์,รัฐประหาร 2557,ไทเรล ฮาเบอร์คอร์น | https://prachatai.com/journal/2015/06/59705 |
ร้องผู้ว่าฯสมุทรสาคร สั่งปิดโรงงานคัดแยกขยะส่งกลิ่นเหม็น | วันนี้(21 มิ.ย.2563) นางสุณิสา โชติเสถียร พร้อมด้วยชาวบ้าน ต.ยกกระบัตร ต.โรงเข้ ต.ธรรมโชติ อ.บ้านแพ้ว และชาว ต.บางโทรัด อ.เมืองสมุทรสาคร กว่า 150 คน ออกมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ระงับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานคัดแยกขยะแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบางโทรัด พร้อมตั้งกรรมการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงการฟื้นฟูและปรับสภาพสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายให้กลับมามีสภาพดังเดิมหลังชาวบ้านตรวจสอบพบว่าโรงงานคัดแยกขยะดังกล่าวมีการฝังกลบขยะทำให้มีน้ำเสียไหลลงสู่ลำคลองป่าโคกมะตูม ที่อยู่ใกล้กับโรงงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งกลิ่นเหม็นจากขยะมูลฝอยยังสร้างมลภาวะทางอากาศรบกวนชาวบ้านมานานกว่า 5 ปีนางสมนึก ท้าวเกร็ด ชาวตำบลบางโทรัด บอกว่า นอกจากปัญหาด้านกลิ่นแล้ว ตนยังได้รับผลกระทบต่ออาชีพเป็นอย่างมาก เพราะปลาในกระชังที่เลี้ยงไว้ตายมาแล้ว 2 ครั้ง ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุมาจากน้ำในลำคลองเน่าเสีย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และนายก อบต.บางโทรัด ลงพื้นที่รับฟังปัญหา พร้อมหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน โดยเบื้องต้นทาง อบต.บางโทรัด จะระงับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานคัดแยกขยะดังกล่าว โดยให้หยุดการดำเนินกิจการ ตั้งแต่วันพุธที่ 24 มิ.ย. 2563 เป็นต้นไปหลังจากนี้ทางผู้ว่าฯสมุทรสาครจะตั้งกรรมการตรวจสอบ พร้อมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีเจ้าหน้าที่นักวิชาการจากทางจังหวัดร่วมกับทางอำเภอเมือง อบต.บางโทรัด และมูลนิธิบูรณนิเวศ ร่วมปฏิบัติงาน ทั้งนี้ในระหว่างที่มีการระงับใบอนุญาตประกอบกิจการ ห้ามโรงงานดำเนินการใดๆ หากพบว่ามีการขนย้ายขยะเข้าออกโรงงานจะทำการเพิกถอนใบอนุญาตทันที | ชาวบ้านกว่า 150 คนใน 2 อำเภอ จ.สมุทรสาคร รวมตัวยื่นหนังสือผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ให้ระงับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานคัดแยกขยะแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางโทรัด อ.เมืองสมุทรสาคร หลังส่งกลิ่นเหม็นทำลายสิ่งแวดล้อม มานานกว่า 5 ปีแล้ว | สิ่งแวดล้อม | ข่าวไทยพีบีเอส,ร้องทุกขฺ์ลงป้ายนี้,โรงงานคัดแยกขยะ | https://news.thaipbs.or.th/content/293891 |
พิธีขอขมาชาวเผ่าเย้า ขอเจ้าป่าเจ้าเขา ช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง | เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ชาวเขาเผ่าเอี่ยวเหมี้ยน(เย้า) บ้านผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ได้ติดตามข่าวเด็กและโค้ชทีมฟุตบอลเยาวชน 13 คน สูญหายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โดยรู้สึกเป็นห่วงและเห็นใจผู้ปกครอง จึงร่วมกันประกอบพิธีตามความเชื่อของชนเผ่า โดยทำพิธีขอขมาผีเจ้าป่าซึ่งได้ลงโทษ เนื่องจากทำผิดบางอย่าง หากทำพิธีขอขมาจะเปิดทางให้,ด้านนางกนกพร จรัลพรเลิศสิน ชาวเขาเผ่าเอี่ยวเหมี้ยน(เย้า) เผยว่า ต้องการสื่อสารผ่านไปยังครอบครัวของเด็กนักฟุตบอลและโค้ช ขอให้ปั้นตัวแทนหุ่นจำนวน 13 หุ่น และเขียนรายชื่อแต่ละคนติดที่หุ่น พร้อมกับเลือดสัตว์ 1 ถ้วย นำไปบูชาบริเวณปากทางเข้าถ้ำหลวง เพื่อขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่ ที่บังอำพรางร่างทั้ง 13 คนอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากได้กระทำบางสิ่งที่ไม่บังควร,พร้อมกับบอกว่า หลังติดตามข่าวสารมาต่อเนื่อง รู้สึกเป็นห่วงและเห็นใจครอบครัว คนในหมู่บ้านจึงร่วมกันทำพิธีสื่อสารกับผีประจำชนเผ่า โดยมีหมอผีหมู่บ้านเป็นผู้ประกอบพิธี โดยใช้ไข่ดิบตั้งบนข้าวสารที่ใส่ถ้วยแล้ววางสตางค์เหรียญวางตั้งบนไข่ พร้อมอธิษฐานหากเป็นความจริงขอให้เหรียญตั้งบนไข่ไม่ตก และพบว่าไข่ไม่ตก ทางหมอผีได้แจ้งให้ไปทำพิธีแก้และขอขมา จะทำให้เจ้าหน้าที่พบตัวทั้ง 13 คนพาออกจากถ้ำดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย ตามความเชื่อของชาวเขาเผ่าเอี่ยวเหมี้ยนที่ปฏิบัติมายาวนานจากบรรพบุรุษ. | ชาวเขาเผ่าเย้า ทำพิธีขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา เปิดทางให้พบ 13 ชีวิต ติดในถ้ำหลวง เพราะทำสิ่งไม่บังควร ฝากบอกครอบครัวผู้สูญหาย ปั้นหุ่นติดชื่อ พร้อมนำเลือดสัตว์ไปบูชาทางเข้าถ้ำ | ข่าว,ทั่วไทย | ถ้ำหลวง,ช่วยเด็กติดถ้ำ,พิธีขอขมาช่วยเด็กติดถ้ำ,ขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา,13ชีวิตหายในถ้ำ,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1318331 |
แพทย์เผยวิธีลากสวนลิ่มเลือด ช่วยผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ | วันนี้ (18 มี.ค.62) นพ.เขตต์ ศรีประทักษ์ แพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์เขตสุขภาพ ที่ 6 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมูลนิธิเทใจดอทคอม ใน กองทุนรักษาโรคลิ่มเลือดสมองอุดตัน มอบเงินช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบระยะเฉียบ พลันที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีลากลิ่มเลือดผ่านสายสวนหลอดเลือด จำนวน 249320 บาท แก่สถาบันประสาทวิทยา ซึ่งโรคดังกล่าวเป็นสาเหตุการเสียชีวิตและความพิการอันดับต้นๆของประเทศ อันพ.เขตต์ กล่าวว่า วิธีการลากลิ่มเลือดผ่านสายสวนหลอดเลือดผู้ป่วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ (Stroke) เป็นการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี ผู้ป่วยมีการตอบสนองที่ดีต่อการรักษาอาการดีขึ้นจนเป็นปกติ แต่ผู้ป่วยหลายคนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 180000 บาท ผู้ป่วยที่ใช้สิทธิบัตรทองไม่สามารถเบิกได้ในขณะที่การสิทธิข้าราชการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพียง 30000 บาท ทำให้ผู้ป่วยบางรายเลือกปฏิเสธการรักษา กองทุนนี้ จึงเกิดขึ้นด้วยความร่วมมือจากมูลนิธิเทใจดอทคอม สถาบันประสาทวิทยาและสำนักการแพทย์เขตสุขภาพที่ 6 (ภาคตะวันออก) ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และจัดส่งต่อผู้ป่วยระยะเฉียบพลันระหว่างรพ.เขตดังกล่าวกับสถาบันประสาทวิทยาปัจจุบันรพ.ที่มีแพทย์เชี่ยวชาญ ได้แก่ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ด้านนพ.ธนบูรณ์ วรกิจธำรงชัย แนะวิธีสังเกตอาการผู้ป่วยหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน ถ้ามีอาการปวดหัวรุนแรง ชาครึ่งซีก ปากเบี้ยว ขยับไม่ได้ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล อย่าละเลยสัญญาณนี้ หรือใช้เข็มจิ้มตามข้อมูลเท็จที่ส่งต่อมา แม้เป็นโรคที่พบได้ทุกวัย แต่มีวิธีป้องกันที่สำคัญคือการออกกำลังกายการรักษาด้วยวิธีสวนหลอดเลือดสามารถทำได้ภายใน 24 ชั่วโมง โดยเจาะตาข่ายขดลวด ขนาด 3-4 มิลลิเมตร ที่บริเวณหน้าขาผ่านหลอดเลือดใหญ่ไปยังจุดตีบตัน ทิ้งไว้ประมาณ 6 นาทีแล้วดึงลิ่มเลือดร้ายออกมา วิธีนี้ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์เพราะต้องใช้มือทุกขั้นตอนทั้งยังเปิดเผยปัญหาในการรักษาให้ไทยพีบีเอสออนไลน์ฟังว่า บางคนแม้ต้องจ่ายเพิ่มแค่ 30000 บาท เขาก็ไม่มี ยอมกลับบ้านรักษาตามอาการ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าสุดท้ายคนไข้อาจพิการ อัมพาต หรือตายได้ ลำบากใจทุกครั้งที่ต้องพูดถึงค่าใช้จ่ายก่อนทำการรักษากับผู้ป่วยปัจจุบันกองทุนรักษาโรคลิ่มเลือดสมองอุดตัน ยังคงเปิดรับเงินบริจาคผ่านมูลนิธิเทใจดอทคอม และผู้บริจาคสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ | มูลนิธิเทใจดอทคอม มอบเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเส้นเลือดอุดตัน ด้วยวิธีลากสวนลิ่มเลือด ให้สถาบันประสาทวิทยา เพื่อรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลภาคตะวันออก แพทย์ชี้วิธีสังเกตอาการเสี่ยง ปวดหัวรุนแรง ชาครึ่งซีก ปากเบี้ยว รักษาช้าเสี่ยงอัมพาต แนะออกกำลังกาย | สังคม | ลิ่มเลือด,กองทุนรักษาโรคลิ่มเลือดสมองอุดตัน,โรคเส้นเลือดในสมองตีบ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews | https://news.thaipbs.or.th/content/278482 |
ก่อแก้ว ลั่น นปช. ยึดสันติวิธี ไม่เห็นด้วย ปาบึมศาลอาญา | วันที่ 9 มี.ค. นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีการปาระเบิดศาลอาญา ที่ผู้ต้องหาน่าจะเป็นแนวร่วมเสื้อแดงว่า ขอเรียนอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่เห็นด้วยในการกระทำดังกล่าว นปช. มีจุดยืนที่ยืนหยัดเสมอมาว่า เราจะต่อสู้ด้วยแนวทางสันติวิธีเท่านั้น ถึงแม้จะเห็นผลช้า แต่เป็นแนวทางที่ยอมรับกันในสากล และไม่สร้างความเสียหายให้กับสังคมไทย การปาระเบิดเข้าไปในศาล ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากทำให้สังคมเกิดความไม่สบายใจ นักท่องเที่ยว นักลงทุนหวาดกลัวแล้ว ข้าราชการศาลก็จะต่อต้านหรือถึงขั้นเกลียดชังเสื้อแดงเข้าไปอีก,ในเนื้อข่าวผู้ต้องหายังอ้างว่า เตรียมจัดตั้งองค์กรภาคีภาคประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีแนวคิดที่จะให้มีการปกครองประเทศแบบสหพันธรัฐ ซึ่งตนไม่เอาด้วยอย่างเด็ดขาด ซึ่งนปช.มีนโยบายที่ชัดเจนว่า เราจะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่เป็นรัฐเดี่ยวเท่านั้น,ขอวิงวอนไปยังทุกท่านที่รักประชาธิปไตย ขออย่าใช้แนวทางต่อสู้ด้วยความรุนแรง เราควรจะช่วยกันให้ความรู้และข้อเท็จจริงต่อสังคม ว่า ทำไมเราควรปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง และที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย และทำไมเราจึงเชื่อว่า ประเทศนี้มีความยุติธรรม 2 มาตรฐาน จะดีกว่าครับ นายก่อแก้ว กล่าว. | นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. โพสต์เฟซฯ ไม่เห็นด้วย ปาระเบิดใส่ศาลอาญา วอน ผู้รักประชาธิปไตย ต้องอย่าใช้ความรุนแรง | null | ปาระเบิดศาลอาญา,ก่อแก้ว พิกุลทอง,แกนนำ นปช.,คนเสื้อแดง,ประชาธิปไตย,นปช.,สันติวิธี,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/485846 |
บิ๊กตู่ เมินถูกโจมตี เผยทีมผู้แทนพิเศษ เริ่มงานสัปดาห์หน้า ดับไฟใต้ | ฉุนสื่อแพร่ภาพข่าว หญิงนุ่งกระโจมอกอาบน้ำกลางถนน ประจานทั่วโลก สั่งคาดโทษย้าย จนท.ยกแผง ตั้งแต่ล่างขึ้นบน เตรียมแก้ ก.ม.เพิ่มเงินอัดฉีดนักกีฬาพาราลิมปิก ชี้ ไม่มี รบ.ชุดไหนให้มากเท่านี้,เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 59 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวโจมตีตัว พล.อ.ประยุทธ์ และคนใกล้ชิดในขณะนี้ว่า ตนรู้ตัวว่าเป็นคนอย่างไร และเป็นธรรมดาที่ต้องถูกโจมตี การทำความดีไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไรในบ้านเมืองดี เป็นธรรมดาที่ต้องถูกขัดขวาง ส่วนจะผิดหรือถูกนั้นก็ไปว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม ไม่เข้าใจกันหรือว่ากระบวนการยุติธรรมอยู่ตรงไหน บางเรื่องมีกติกา กลไก และผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว ไม่ใช่ให้ตนสั่งทุกเรื่อง อย่าจับไปโยงกันในทุกเรื่อง อย่างไรก็ตาม แม้มีหลายเรื่องเข้ามา แต่ก็ทำให้ตนเข้มแข็งและอดทนขึ้น ไม่ทำให้เสียสมาธิ เพราะแยกแยะออกระหว่างอารมณ์โมโหและการทำงาน อีกทั้ง ตนยืนยันว่าไม่เคยห้ามใครตรวจสอบ ขอให้ตรวจสอบไปตามกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันขอให้ดูอำนาจของตนด้วยว่าอยู่ตรงไหน เพราะตนไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ขอให้เข้าใจว่าตนใช้อำนาจเพื่ออะไร และอย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร หากผิดก็ไปฟ้องร้องมา เพื่อให้ชี้แจงและแก้ปัญหา หากชี้แจงไม่ได้ให้สอบสวนต่อ ซึ่งทุกเรื่องก็ทำกันมาตลอด จึงต้องดูว่าเป็นธรรมและถูกต้องหรือไม่,พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการขับเคลื่อนงานของผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเพื่อประสานงานการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า คณะนี้จะเริ่มปฏิบัติงานในสัปดาห์หน้า โดยจะทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจ นักศึกษา และนักวิชาการด้วย หลังจากนี้ กระทรวงกลาโหมจะมีการประชุมปรับปรุงแผนงานให้สมบูรณ์ขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มียุทธศาสตร์ 9 เรื่องที่ต้องขับเคลื่อน เช่น เศรษฐกิจ ความมั่นคง ความปลอดภัย การพูดคุยสันติสุข การเปิดเวที การมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นต้น เพื่อไปด้วยกันให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมา เล่นการเมืองกันอยู่ จึงแก้ไขไม่ได้ ตนเสียใจอยู่อย่างเดียวคือประเทศเดือดร้อน คนใช้วิธีการสกปรก สร้างความเข้าใจผิด และบิดเบือนรัฐธรรมนูญ จึงต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนทั้ง 9 ยุทธศาสตร์ และนำคณะทำงานไปกลั่นกรอง เพื่อบริหารงานทุกแห่ง ทุกกระทรวง ให้สอดคล้องกับพื้นที่ เพิ่มเทคโนโลยีปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น และใช้ระบบดิจิตอลในการเฝ้าระวัง ส่วนด้านเศรษฐกิจ ตนได้มอบหมายทั้งงบประมาณและแผนงานที่ต้องไม่ทำซ้ำซ้อนกัน รวมทั้งขับเคลื่อนสามเหลี่ยมเศรษฐกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีความมั่งคั่งและเชื่อมโยงกันในกิจกรรมให้เกิดขึ้นได้ทันที นอกจากนี้ เรื่องความปลอดภัย เราต้องช่วยให้ประชาชนในพื้นที่เข้มแข็ง ไม่หวาดกลัวอิทธิพล,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่ภาพผู้หญิงใส่ชุดอาบน้ำบนถนนของสื่อมวลชนว่า เขียนกันเข้าไป อยากจะเขียนอะไรก็เขียน อยากเอารูปอะไรใส่ก็ใส่ แล้วคอยดูก็แล้วกัน เรื่องอาบน้ำบนถนนทั่วโลกเขาเอาไปประจานกันหมดแล้ว เป็นคนไทยหรือเปล่าไม่อายกันหรืออย่างไร หากมีปัญหาพื้นที่ใดเพียงไปบอกกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หรือตน ก็ได้ เพราะทุกวันนี้เห็นอะไรก็สั่งการไปทันที และตนไม่เข้าใจว่าถนนเส้นนี้เป็นอะไรกัน ซึ่งขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็โมโห ไม่ได้โมโหสื่อที่นำเสนอ แต่โมโหข้างล่างจะสั่งย้ายทั้งหมด ตนได้คาดโทษไปหมดแล้ว ทั้งนี้ ขอให้ฟ้องมาเรื่อยๆ ตนจะเล่นงานผู้รับผิดชอบข้างล่างให้เดือดร้อนให้หมด ตั้งแต่ท้องถิ่นขึ้นมาดูว่าจะเกิดอะไรบ้าง ซึ่งทุกคนต้องการให้ประเทศเดินหน้า แต่ไม่ยอมรับอะไรเลย ตามใจกูหรือตามใจใคร เป็นประชาธิปไตยแบบตามใจ ตนจึงกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะปล่อยให้เละดีหรือไม่ ขออย่าตกไปเป็นเครื่องมือให้กับคนไม่ดี,นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการเรียกร้องขอเพิ่มเงินอัดฉีดให้กับนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ให้เทียบเท่านักกีฬาโอลิมปิกว่า รัฐบาลกำลังแก้กฎหมายเพื่อให้เงินอัดฉีดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ให้เพิ่มเป็นพิเศษมากกว่าเดิม 2-3 เท่าไปแล้ว แต่จะต้องคำนึงถึงกฎหมายที่มีอยู่ด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลชุดใดให้มากเท่ารัฐบาลนี้ | นายกฯ เมินกระแสโจมตี ยันรู้แก่ใจว่าทำอะไร ย้ำไม่เคยห้ามใครตรวจสอบ เผยทีมผู้แทนพิเศษ เริ่มทำงานสัปดาห์หน้า ยันทำงานไม่ซ้ำซ้อน เน้นบูรณาการเดินหน้า 9 ยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ | null | กระแสโจมตีนายกฯ,กระบวนการยุติธรรม,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,คณะผู้แทนพิเศษ,รบ.ส่วนหน้า,คปต.,ไฟใต้,ปัญหาภาคใต้,สันติสุข,ชายแดนใต้,ความมั่นคง,ก่อการร้าย | https://www.thairath.co.th/content/743456 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.