title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
พบศพหนุ่มใหญ่เมืองนนท์ ลอยอืดปริศนาในแม่น้ำเจ้าพระยา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 พ.ค. 58 ร.ต.ท.ไชยสิทธิ์ ขัดผาบ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งจาก รปภ.โรงสีกิจพร หมู่ 3 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ว่ามีเหตุพบศพผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำหลังโรงสี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติพันธ์ ภูวเรืองพัฒน์ สวป.ฯ กำลังชุดสืบสวน แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู แต่เมื่อไปถึงพบว่าศพที่ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ปากเกร็ด ตามข้อตกลง จึงได้ประสานไปยัง ร.ต.ท.สวิช สืบเพ็ง พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ให้เดินทางมาตรวจสอบและชันสูตร โดยมี พ.ต.อ.ธนะวัฒน์ สุมานัส ผทค.สภ.ปากเกร็ด เดินทางมาด้วย,ในที่เกิดเหตุพบศพชายสภาพศพสวมเสื้อโปโลคอปกสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงสแล็กสีดำ คาดเข็มขัดหนังสีดำ ลอยขึ้นอืดนอนคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ เจ้าหน้าที่จึงให้อาสามูลนิธิ ลากศพมาที่บริเวณท่าน้ำหลังวัดบางคูวัดนอก ก่อนนำศพขึ้นมาชันสูตร ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย ตรวจค้นภายในกระเป๋ากางเกงพบบัตรประชาชนระบุชื่อ นายวรศักดิ์ รุ่งพิทักษ์ไพศาล อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 299/19 หมู่ 2 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน ก่อนมอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมจะติดต่อญาติมาสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
ศพหนุ่มใหญ่วัย 50 ปี ชาวบางบัวทอง จ.นนทบุรี ลอยขึ้นอืดคว่ำหน้าอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา หลังโรงสีย่านปทุมธานี แพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วกว่า 3 วัน ตำรวจเร่งตามหาญาติสืบสวนสาเหตุการตาย
ข่าว,ทั่วไทย
ศพลอยน้ำ,พบศพลอยน้ำ,ตายปริศนา,หนุ่มใหญ่เมืองนนท์,แม่น้ำเจ้าพระยา,โรงสีปทุมธานี,ชาวบางบัวทอง,นนทบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/498347
คค. เบรกขึ้นค่าแท็กซี่ รอบ 2 ขอเวลาศึกษา คาดสรุปไม่เกินเดือนหน้า
,วันที่ 19 ต.ค. 58 นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยผลการประชุมแนวทางแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพการให้บริการของแท็กซี่มิเตอร์ ได้ข้อสรุปว่า ยังไม่มีการพิจาณาปรับขึ้นค่าแท็กซี่รอบ 2 อีกร้อยละ 5 แต่มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก เร่งสรุปผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์ และแอพพลิเคชั่น DLT Checkin มายังกระทรวงคมนาคม ภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมว่า จะให้ปรับอัตราค่าโดยสารใหม่หรือไม่ เบื้องต้น ขอเวลาในการศึกษาไม่เกินเดือนพฤศจิกายน, ,ส่วนการพิจารณาค่าธรรมเนียมการใช้บริการแท็กซี่ หรือ ค่าเซอร์ชาร์จ ของสนามบินสุวรรณภูมิ และ สนามบินดอนเมือง กระทรวงคมนาคม ยังไม่ได้พิจารณาให้ปรับขึ้นเช่นกัน โดยบริษัทท่าอากาศยานไทย เสนอว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ โดยจะขยายพื้นที่จอดรถรอผู้โดยสารของแท็กซี่เพิ่มเติม จากเดิมมีพื้นที่สำหรับ 50 คัน เพิ่มเป็น 60-65 คัน และจะเพิ่มช่องทางการกดบัตรคิวแท็กซี่ ลดเวลาการรอของผู้โดยสาร รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการให้บริการ เนื่องจากพบว่าแท็กซี่มิเตอร์ส่วนใหญ่ที่ให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลารอผู้โดยสารประมาณ 80 นาที, ,นอกจากนี้ นายออมสิน ระบุอีกว่า การให้บริการแท็กซี่ในสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ พบปัญหาที่แตกต่างกัน จึงจะขอศึกษาหลักการ ทอท. ปรับระบบต่างๆ แล้ว 3 เดือน.
รมช.คมนาคม ยัน ยังไม่ปรับค่าแท็กซี่มิเตอร์ รอบ 2 ระบุ ไม่เกินเดือนหน้าได้ข้อสรุป เผย ขอเวลาศึกษาความเหมาะสมก่อน ขณะที่ ค่าเซอร์ชาร์จแท็กซี่สนามบิน ยังไม่พิจารณาปรับขึ้นเช่นกัน ชี้ขอเวลาศึกษา 3 เดือน
null
ขึ้นค่าแท็กซี่,ปรับค่าแท็กซี่,ค่าธรรมเนียมการใช้บริการแท็กซี่,ค่าเซอร์ชาร์จ,คมนาคม,ออมสิน ชีวะพฤกษ์,กรมการขนส่งทางบก,ปรับอัตราค่าโดยสาร,บัตรคิวแท็กซี่,สนามบินสุวรรณภูมิ,สนามบินดอนเมือง,ผู้โดยสาร,แท็กซี่,รถแท็กซี่,แท็กซี่มิเตอร์,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/533435
รายย่อยซื้อสวนตลาด
รายย่อยยังคงเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ 4,260.37 ล้านบาท ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิ 779.61 ล้านบาท กองทุนในประเทศขายสุทธิ 2,632.96 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ 847.80 ล้านบาท หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 152 บาท ลบ 5 บาท, AOT ปิด 73 บาท ลบ 1.25 บาท, PTT ปิด 45.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, SCB ปิด 115 บาท ลบ 2.50 บาท และ SCC ปิด 408 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง,ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลง ถูกกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจโลกและ เศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว ประกอบกับนักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุน รอติดตามผลการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน 10-11 ต.ค.,บมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY), ได้มีมติอนุมัติให้ขายหุ้น บมจ.เมืองไทยประกันภัย (MTI) ที่บริษัทถืออยู่ทั้งหมดด้วยวิธี Big lot จำนวน 3,197,937 หุ้น คิดเป็น 5.42% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วของ MTI ในราคาหุ้นละ 88 บาท รวมเป็นเงิน 281.42 ล้านบาท เหตุผลในการขายหุ้นเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนของบริษัท และสำรองไว้เพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน,โดยขายให้แก่,นางนวลพรรณ ล่ำซำ, ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกัน 1,662,937 หุ้น หรือ 2.82% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว และขาย ให้แก่นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ จำนวน 850,000 หุ้น หรือ 1.44% และนางชัยลดา ตันติเวชกุล จำนวน 685,000 หุ้น หรือ 1.1% รวมเป็นเงิน 135.08 ล้านบาท,ปิดท้าย มีความคืบหน้า ,บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC), ยื่นไฟลิ่งขาย IPO รวม 2,231.71 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุน 1,620 ล้านหุ้น ที่จะใช้แลกกับหุ้น ROBINS ที่ CRC ทำเทนเดอร์ฯ ที่ราคาหุ้นละ 66.50 บาท ก่อนจะเพิกถอนออกจากตลาดและหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม Hawthorn Resources Limited จำนวน 611.71 ล้านหุ้น เพื่อจำหน่ายต่อประชาชนทั่วไป,เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปขยายสาขาโรบินสันทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการปรับปรุงสาขาต่างๆ และขยายสาขาไทวัสดุ บิ๊กซี ในเวียดนาม รวมทั้งชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ,อินเด็กซ์ 51
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ต.ค.62 ปิดที่ 1,613.64 จุด ลบ 10.45 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,249.77 ล้านบาท
null
ดัชนีหุ้นไทย,ตลาดหุ้นไทย,บมจ.ล็อกซเล่ย์,นักลงทุน,หุ้น,เงาหุ้น,อินเด็กซ์ 51
https://www.thairath.co.th/news/business/stocks-gold/1674046
ร้านหมึกย่างขอโทษแล้ว ดราม่าติดป้ายราคา 10 บาท ทำลูกค้าสับสน
สาวโพสต์อุทาหรณ์ อ้างซื้อหมึกย่างในงานวัด มีป้ายติดไว้ว่า 10 บาท หลงคิดว่าราคาเท่ากันทุกไม้ สุดท้ายซื้อ 10 ไม้คิดราคา 340 บาทจากกรณีเฟซบุ๊ก อสูรตัวน้อย พีนัท โพสต์ภาพร้านขายปลาหมึกย่างภายในงานวัดแห่งหนึ่ง โดยมีป้ายเขียนไว้ว่า ไข่แท่ง 10 เนื้อหมึก 10 โดยระบุข้อความอ้างว่า ไม่อยากโง่ ให้ถามก่อนซื้อนะ จำไว้ ป้ายแบบนี้ คิดว่าไม้ละ 10 จริงๆ แล้วราคาตามนี้ โดนไป 10 ไม้ 340 เข็ดเลยต่อมาได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ โดยส่วนใหญ่ระบุว่า ป้ายแบบนี้ดูไม่ชัดเจน พร้อมกับแชร์ต่อเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่าหากไม่แน่ใจให้ถามราคาอีกครั้งโดยล่าสุด วันที่ 12 ก.พ.63 เจ้าของโพสต์อ้างว่า ตอนนี้ทางร้านได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ และจะปรับปรุงแก้ไขป้ายราคา.(โพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่)อสูรตัวน้อย พีนัท
สาวโพสต์อุทาหรณ์ อ้างซื้อหมึกย่างในงานวัด มีป้ายติดไว้ว่า 10 บาท หลงคิดว่าราคาเท่ากันทุกไม้ สุดท้ายซื้อ 10 ไม้คิดราคา 340 บาท
ข่าว,สังคม
หมึกย่าง,ร้านหมึกย่าง,งานวัด,ขายอาหาร,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1769871
จะออกไปแตะขอบฟ้า หงส์ ผงาดเวหา ยาแก้ปวดเบิ้ลจิกไส้นักบุญ 3-0
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2017/18 ประจำวันที่ 18 พ.ย. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์พบกับ นักบุญ เซาแธมป์ตัน,โดยเกมนี้ เยอร์เกน คลอปป์ จัดชุดใหญ่แฟนตาสติกโฟร์ลงสนามพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครั้งแรกประกอบด้วย โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟิลิปเป คูตินโญ, ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต เฟอร์มิโน ขณะที่ นักบุญวาง เชน ลอง ยืนเป็นหน้าเป้าโดยมี นาธาน เรดมอนด์, ดูซาน ทาดิช และ โซเฟียเน บูฟาล คอยสนับสนุนด้านหลัง,เปิดฉากเกมขึ้นมา หงส์แดง จัดหนักเกมรุกเต็บสูบและเกือบได้ประตูขึ้นนำนาทีที่ 23 ฟิลิเป คูตินโญ ได้สับไกด้วยขวาบอลไปติดเซฟ ฟอร์สเตอร์ หวุดหวิด,หงส์แดงบุกอยู่นานก่อนจะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 31 ทาดิช ตัดบอลได้ แต่ลากไปโดน โมเรโน ตัดเกมก่อนไหลให้ คลาวาน แตะต่อให้ ไวจ์นัลดุม ก่อนฝากให้ ซาลาห์ ปั่นโค้งๆด้วยซ้ายเสียบเสาสองงามหยด,เจ้าบ้านยังทำได้ดีกว่าและมาได้ประตูหนีห่าง 2-0 นาทีที่ 41 ฟิลิปเป คูตินโญ จ่ายคิลเลอร์พาสให้กับ ซาลาห์ เจ้าเก่าหลุดไปยิงสวนตัว ฟอร์สเตอร์เข้าไป,นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก หงส์ เกือบโดน จากลูกฟรีคิก ไรอัน เบอร์ทรานด์ ปั่นโค้งๆบอลผ่านมือ มินโญเลต์ไปแล้วแต่ดันเฉี่ยวเสานิดเดียวเท่านั้น และครึ่งแรกก็จบลงที่สกอร์นี้,เข้าสู่ครึ่งหลัง หงส์แดง หนีห่าง 3-0 นาทีที่ 68 โรแบร์โต เฟอร์มิโน ตะบันเต็มข้อบอลติดเซฟ ฟอร์สเตอร์ แต่บอลมาเข้าทาง คูตินโญ ตามซ้ำไม่เหลือซาก,นาทีที่ 84 หงส์แดงเกือบได้ลูกที่สี่อีกครั้ง โรแบร์โต เฟอร์มิโน อยากหาลูกแรกในเกมนี้บ้างลากมาซัดด้วยซ้ายบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว,เวลาที่เหลือ หงส์แดง คุมสถานการณ์ไว้ได้หมด จบเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เปิดบ้านถล่ม เซาแธมป์ตัน 3-0 ขึ้นที่ 5 ของตารางเรียบร้อย โดยมีแต้มตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาลเพียงแค่แต้มเดียว,ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นมีดังนี้,บอร์นมัธ ชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 4-0,เบิร์นลียื ชนะ สวอนซี ซิตี้ 2-0,คริสตัล พาเลซ เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2,เลสเตอร์ ซิตี้ แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2,เวสต์บรอมวิช อัลเบียน แพ้ เชลซี 0-4
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกยาแก้ปวดโชว์ฟอร์มสมกับเป็นเดอะแบกของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล เบิ้ลสองลูกพาทีมเปิดบ้านเอาชนะ นักบุญ เซาแธมป์ตัน ขาดลอย 3-0 พร้อมกับทวงที่ 5 คืนจากอาร์เซนอลได้อย่างรวดเร็ว
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,เซาแธมป์ตัน,ผลบอล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1130320
กัน อิ่มใจพาครอบครัวทำบุญวันเกิด แฮปปี้แม่ไฟเขียวคุยสาวใหม่
พามาเจอครอบครัวตนแล้ว,เรียกว่าอิ่มบุญอิ่มใจมากๆ ทีเดียว สำหรับพระเอกนักร้องหนุ่มหน้าใสจากเวทีเดอะสตาร์ กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ ที่พาคุณพ่อคุณแม่มาร่วมทำบุญวันคล้ายวันเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร.9 รพ.ตำรวจ พร้อมกับแฟนคลับบางส่วน โดยครั้งนี้หนุ่มกันได้บริจาคเงิน 100,000 บาท ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อบำรุงเครื่องมือแพทย์และทำเลนส์แว่นตาเทียมให้ผู้ยากไร้ พร้อมทั้งเยี่ยมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่และมอบของใช้ส่วนตัว หลังเสร็จสิ้นการทำบุญ เจ้าตัวจึงได้เปิดใจถึงการทำความดีครั้งนี้ พร้อมทั้งพูดถึงเรื่องการเตรียมตัวบวชในวันที่ 10 ธ.ค. ที่วัดโพธาราม จ.สุพรรณบุรี และเรื่องราวความรักครั้งใหม่กับสาวคนใหม่ รวมถึงความสัมพันธ์กับอดีตสาวคนสนิท ฐิสา วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร ด้วย,วันเกิดปีนี้เป็นไงบ้าง? จริงๆ วันคล้ายวันเกิดคือ 23 ต.ค. แต่เป็นช่วงที่เราอยู่ในการสูญเสีย จริงๆ มีการมีตติ้งกับแฟนคลับ ตอนนั้นมีคนลงทะเบียนมาร่วมงานเกือบพันคน แต่ว่าก็ต้องย้ายมาเป็นวันนี้ (3 ธ.ค. 2559) แฟนๆ ก็ยังเหนียวแน่นอยู่ อาจจะมีคนที่ไม่ค่อยสะดวกบ้าง วันนี้ก็เลยมาทำบุญในช่วงเช้า นำเงินมามอบให้กับพี่ๆ ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ และนำเงินมามอบให้มูลนิธิ รพ.ตำรวจ ช่วยในการบำรุงเครื่องมือการแพทย์และการทำต้อกระจกให้ผู้ยากไร้ ซึ่งจำนวนเงินที่มอบให้คือ 100,000 บาทครับ ช่วงบ่ายก็จะพบปะแฟนๆ 800-900 คนที่มาร่วมงานวันเกิด คงจะมีมินิคอนเสิร์ตเล็กน้อยแต่ไม่ครึกครื้นมากครับ ปกติทำบุญแบบนี้ทุกปีไหม? ทุกปีครับ ถ้ามีเวลาก็หาเวลาทำบุญ ถ้ามีวันสำคัญทางศาสนาคือทำเป็นประจำอยู่แล้ว ถ้ากลับบ้านที่ จ.สุพรรณบุรี ได้ก็ทำบุญวัดใกล้ๆ บ้านที่เป็นวัดที่เราจะบวชครับ,มีของขวัญอะไรให้กับตัวเองไหม? จริงๆ ปีนี้อยากเก็บเงินซื้อสิ่งที่เราชอบมากๆ คือเราชอบกล้อง เป็นกล้องที่เราอยากเก็บมากๆ คือกล้องฉลองครบรอบ 50 ปีการครองราชย์ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นกล้องของ Leica รู้สึกเป็นคุณค่าทางจิตใจครับ อาจจะราคาแพงนิดนึง แต่เราก็จะเก็บให้รุ่นลูกหลานให้ดูได้ ซึ่งผมได้ไปต่อคิวจองมาครับ แต่ต้องรอลุ้นจับสลากเพราะคนเยอะมากครับ คือกล้องมี 80 กว่าตัว แต่คนไปจองเกือบ 400 คนครับ ราคาก็เป็นแสนครับ ก็ลุ้นอยากได้มากครับ แล้วเรามีให้อะไรพ่อแม่และแฟนคลับเป็นพิเศษไหม? จริงๆ ของขวัญวันเกิดเนี่ยเราไม่ได้เน้นให้ตัวเอง เราคิดถึงพ่อแม่เพราะพ่อแม่ให้กำเนิดเรามา และคิดถึงแม่ว่าแม่คงเจ็บมาก ปกติก็ให้เงินแม่ทุกเดือนอยู่แล้ว พอถึงวันเกิดก็ให้เป็นพิเศษนิดนึงเป็นเงินก้อน แม่จะได้ยิ้มเยอะๆ (ยิ้ม) เราก็แฮปปี้ครับ ส่วนแฟนคลับวันนี้ก็มีเพลง มีสิ่งที่อยากจะบอกเขามาฝากในช่วงที่เจอกันช่วงบ่ายครับ ถามว่าจะมีขอขมาลาบวชกับแฟนคลับไหมมีแน่นอนครับ เพราะกับแฟนคลับก็มีทำอะไรไม่ดีต่อกันเยอะ (หัวเราะ) บางทีชอบงอน มีเหวี่ยงเขาบ้างในบางครั้งเวลาเราทำงานเหนื่อยๆ เขาน่ารักมากแต่เขาเข้าใจเราครับ เราก็ขอโทษเขาไว้ล่วงหน้าเพราะบางครั้งอาจทำอะไรด้วยอารมณ์ไปบ้าง คิดว่าการบวชครั้งนี้ทำให้เราเปลี่ยนแปลงขึ้นในเรื่องการใช้สติ อารมณ์ การนำหลักธรรมพุทธศาสนามาใช้ในชีวิตประจำวันเราได้มากขึ้นครับ,เตรียมตัวบวชไปถึงไหนแล้ว? ตั้งใจมากครับ ตื่นเต้นมาก เป็นการบวชพระใหญ่ครั้งแรกในชีวิต ไม่รู้จะเป็นครั้งเดียวรึเปล่า แต่อยากทำให้ดีที่สุดเพราะเป็นการบวชทดแทนคุณพ่อแม่และบวชเป็นพระราชกุศลให้ในหลวงด้วย ซึ่งทุกคนก็ขู่มาตลอดว่ารีบท่องนะ เดี๋ยวไม่ทันนะ พ่อก็เอาหนังสือที่ท่องมาให้และคั่นหน้าไว้ให้เลย ก็ท่องสะสมมาเรื่อยๆ ตอนนี้เริ่มคล่องขึ้นแล้วครับ ตั้งใจจะบวชกี่วัน? 15 วันครับ ผมก็ตั้งใจมาก ผมจะไม่เอาโทรศัพท์ไปเลยเพราะตั้งใจศึกษาจริงๆ อยากสงบจริงๆ และจำวัด 3 ที่ด้วยกัน คือวันบวชจำวัดที่วัดโพธาราม จ.สุพรรณบุรี เป็นวัดใกล้บ้านพ่อแม่ แล้วอีก 5 วันที่สองก็จะไปจำวัดที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี และ 5 วันสุดท้ายจะไปจำวัดที่วัดเลียบสะพานพุทธ ที่เราได้อาศัยวัดตอนเรียนมัธยมที่ ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย ที่จำวัด 3 ที่ จริงๆ ผมรู้สึกว่าเราผูกพันกับที่ไหน สิ่งแรกที่คิดคืออยากบวชให้พ่อแม่ก่อนครับ เป็นวัดที่เราคุ้นเคย ให้คนในหมู่บ้านตักบาตร สองเราอยากศึกษาธรรมะจริงๆ คือจริงๆ ศึกษาที่ไหนก็ได้ แต่ว่าเราเคยไปวัดป่าเลไลยก์ เคยอาศัยที่วัดเลียบ เรารู้สึกว่าเป็นที่ที่เราสงบ หลวงตาเจ้าอาวาสเราก็เลื่อมใส อยากปฏิบัติธรรม อยากให้ท่านสอนธรรมะกับเราครับ จริงๆ ผมกะบวชตั้งแต่ต้นปี แต่ว่าคิวงานไม่ได้ครับ ก็เลยได้เวลาช่วงนี้ครับ,คุณแม่หน้าบานมาก? แม่มีความสุขมาก ผมว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนพอรู้ว่าลูกจะบวชให้มันเป็นบุญครั้งใหญ่ก็ตื้นตัน ขนาดคนที่ไม่ใช่พ่อแม่เองแล้วเราไปขอขมาขออโหสิกรรมลาบวช เขายังร้องไห้ตื้นตัน ผมเชื่อว่าพ่อแม่ตื้นตันมากกว่าหลายเท่ามากๆ ครับ เราได้มีเชิญใครเป็นพิเศษไหม? เชิญทุกคนที่เป็นเพื่อนเราในและนอกวงการ คนที่เราสนิท ถามว่าเชิญคนที่คุยอยู่ไปด้วยไหมก็เชิญครับ น่าจะไปครับ แล้วผมเชิญคุณแม่เขาด้วยครับ ความสัมพันธ์กับฐิสาตอนนี้? ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันครับ นานๆ ทีคุยกันถ้าเกิดเรามีเรื่องหรือธุระที่ต้องปรึกษากัน แต่ถ้าไม่มีอะไรก็จะไม่ค่อยได้คุยกัน ซึ่งที่เรากลับมาคุยกันสองครั้งแล้วพัฒนาไปไม่ได้ผมมองว่าฐานะความเป็นเพื่อนของเรามันยืดยาวกว่าและรู้สึกว่าเรามีความสุขที่เป็นแบบนี้มากกว่าการที่จะพัฒนาไปมากกว่าเพื่อน ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่ามิกค์ ทองระย้า ตามจีบฐิสา ทำให้เราห่างกันด้วยรึเปล่า? ไม่เกี่ยวครับ เรื่องที่เราห่างกันมันมาจากความรู้สึกของเราสองคน และถ้าในอนาคตฐิสามีใครจริงๆ ผมก็ยินดีด้วย ส่วนผมเองตอนนี้ก็มีคนคุยและให้กำลังใจเรา เขาเป็นคนกึ่งๆ นอกวงการ คุยกันไม่นานนี้เองหลังจากที่ไม่ได้คุยกับฐิสาคือผมไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง แต่ยังไม่ได้เรียกว่าคบหากัน เราคุยกันแบบเพื่อนมากกว่า ที่ผมคุยกับเขาคือมันยังเป็นช่วงแรกๆ อยู่ยังวัดอะไรกันไม่ได้ ก็ดูไปเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้เราเวลาทำงาน,กับสาวคนใหม่ที่เราคุยมาระยะนึงแล้วเป็นไงบ้าง? ก็หลังจากเราอยู่คนเดียวมาสักพักใหญ่ๆ ก็ได้เจอน้องเขา ก็เป็นคนที่รู้สึกดีครับ แต่ว่าต้องใช้เวลาในการศึกษา เราเองก็โตแล้ว การที่เราเริ่มคบใครสักคน ณ ตอนนี้ คงไม่ใช่คบแบบปีสองปี คืออยากใช้เวลาดูว่าเขาใช่ไหมสำหรับเราที่จะดูแลกันและกันไปนานๆ เราก็มีประสบการณ์ความรักพอสมควร ใครก็ตามที่เข้ากับเราได้ รับในสิ่งที่เราเป็นได้ เรายอมรับในสิ่งที่เขาเป็นได้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงศึกษากันไปเรื่อยๆ เหมือนเราก็พาเขามาแนะนำให้ครอบครัวรู้จักแล้ว? ใช่ครับ ผมเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวมาก ถ้าเรารักใครหรือมีเรื่องอะไรที่เรารักหรือกำลังคุยก็ให้พ่อแม่รับรู้ และไม่ใช่แค่พ่อแม่เรา แต่อยากให้พ่อแม่น้องเขาได้รู้จักเรา คืออยู่ในสายตาผู้ใหญ่ครับ ส่วนตัวผมยังไม่เคยเจอคุณแม่เขา แต่ว่าได้โทรคุยบ้าง คุณแม่ก็ฝากของมาให้บ้างครับ ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสขอลาบวชเพราะคุณแม่อยู่ต่างจังหวัดครับ,แม่เราว่าไงบ้างเพราะเห็นว่าค่อนข้างหวงลูกชาย? ไม่น่าเชื่อว่าใจอ่อนเยอะครับ คือปกติคุณแม่จะทั้งหวงและห่วงลูกชาย แต่ผมก็เล่าให้ฟัง พอได้พาน้องไปเจอไปทานข้าวด้วยกันก็ได้รู้ความคิดความอ่านน้องเป็นยังไง เขาก็มากระซิบเราว่าน้องเขาเป็นคนมีความคิดดีนะ แต่ว่าเขาจะชอบเราจริงเหรอ (ยิ้ม) แล้วเขาก็ตะโกนถามเขาว่าจะชอบลูกชายแม่จริงเหรอ น้องก็บอกว่าแม่ถามลูกแม่ดีกว่า (หัวเราะ) ก็แซวกันไปมาครับ พร้อมที่จะเปิดตัวไหม? สักระยะดีกว่าครับ ให้รู้สึกว่าเรามั่นใจ คือตอนนี้เพิ่งเริ่มรู้จักกัน เริ่มเรียนรู้กัน คงยังบอกอะไรมากไม่ได้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ถ้าวันนึงเรามั่นใจเดี๋ยวบอกพี่ๆ อีกทีนึง ด้วยความที่เขากึ่งๆ อยู่ในวงการด้วย เรามีแนะนำอะไรเขาไหม? เขาก็เพิ่งเข้ามาด้วยครับ ประสบการณ์ในวงการน้อย แต่จริงๆ เขาก็คงทำงานหลักๆ ของเขามากกว่า แต่ผมก็แนะนำอะไรต่างๆ เยอะครับ ผมรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ เขาอายุน้อยกว่าผมแต่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าผม (หัวเราะ) เราดูแลเขาได้ เขาดูแลเราได้ในบางมุมครับ,เราเป็นห่วงเขาตรงไหนบ้าง เพราะเขาก็เพิ่งเข้ามาในวงการใหม่ๆ? ก็นึกภาพตอนเราเข้าวงการใหม่ๆ เราจะตื่นเต้นเจอคนโน้นคนนี้เข้ามาเป็นธรรมดา ถ้าเราไม่หนักแน่น สิ่งแวดล้อมมันพาให้เราเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ก็พยายามให้น้องโฟกัสถูกที่ในเรื่องการทำงาน ส่วนเรื่องอื่นมีอะไรก็ปรึกษาได้ ถามว่าห่วงเรื่องความมั่นคงทางจิตใจไหม จริงๆ เป็นสิ่งที่น้องเขาเลือกได้ ถ้าอยู่ในขั้นที่คบกันแล้วก็คงจะหวง แต่ตอนนี้เป็นขั้นที่เราศึกษากัน เราก็ไม่ได้อยากปิดกั้นอะไรน้อง ถ้าน้องเจอใครที่ดีที่โอเคก็บอกครับ,แฟนคลับให้ผ่านไหม? แฟนคลับเป็นคนที่เวลาผมมีแฟนหรือกำลังมีคนคุย เขาก็จะนอยด์ งอแง แต่พอวันนึงไม่มีใคร อยู่คนเดียว เหงา เขาก็จะยุให้เรามีแฟน ไม่มีความพอดีในตัวครับ (ยิ้ม) พอวันนึงเริ่มมีคนคุย เขาก็มาแบบแต่ไม่ถึงขั้นงอนหรอก ถามว่าพามาแนะนำให้รู้จักด้วยไหม โหคงลำบากครับ เพราะให้พาไปทุกบ้านก็ไม่ไหวครับ ไม่หรอกครับ เราเชื่อใจกัน ความสุขของเราคือความสุขของเขาถามว่าเขามีโอกาสได้เห็นรึยัง ผมว่าเขายังไม่เห็นครับ แต่ผมว่าเขาน่าจะรู้ว่าเป็นใคร เพราะพวกเขาไม่ค่อยอยู่กับตัวเองเท่าไร วันๆ จะอยู่กับผม เขาจะหาทางสืบได้ว่าศิลปินที่ตัวเองรักวันๆ ทำอะไรบ้าง กดไลค์รูปใครบ้าง พอกดไลค์นี่คือชีวิตผมพังเลยนะ เขาจะแคปมาแล้วว่าเรากดไลค์คนนี้ มีความน่าสงสัย เขาจะคิดของเขาไปเองครับ เป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดเองเออเองและเจ็บเองครับ (ยิ้ม).
กัน นภัทร ได้ฤกษ์บวช 10 ธ.ค. โดยจะบวช 15 วัน เผยเชิญทุกคนไปร่วมงานรวมถึงฐิสาด้วย ซึ่งกับฐิสาก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยินดีหากอีกฝ่ายมีแฟน ส่วนตนก็มีคนคุยแล้วและได้เชิญอีกฝ่ายมาร่วมงานบวชด้วย ความสัมพันธ์กับสาวคนใหม่แฮปปี้ดี
null
กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ,กัน เดอะสตาร์,ฐิสา วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร,วันเกิด,บวช
https://www.thairath.co.th/content/800977
ได้ฤกษ์มาดูโลก ลีเดีย เตรียมคลอดลูกคนที่ 2
อีกไม่กี่วันก็จะคลอดแล้ว สำหรับคุณแม่ยังแซ่บ ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ที่ตอนนี้กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 แต่ยังไม่บอกว่าเป็นเพศไหน ให้เพื่อนๆ และคนรอบข้างรอลุ้นกันเองในวันคลอด แต่ก่อนที่จะคลอดนั้นแม่ลีเดียก็ขอแซ่บเบาๆ แบบท้องโตๆ เพื่อเป็นที่ระลึก งานนี้หลายคนต่างเข้ามาคอมเมนต์ชมความแซ่บของคุณแม่กันเป็นจำนวนมาก พร้อมกับบอกว่าเป็นคุณแม่ที่แข็งแรงมาก เพราะสาวลีเดียนั้นออกกำลังกายเป็นประจำ จะเห็นได้ชัดว่ารูปร่างดูเฟิร์มมากทีเดียว อีกทั้งตอนที่คลอดน้องดีแลน หุ่นยังคืนรูปโดยไว้อีกด้วย , , ,ล่าสุด ลีเดีย ก็ได้โพสต์คลิปตัวเองในท้องโต 9 เดือน และลูกในท้องกำลังดิ้นจนเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นภาพที่ประทับใจมากจริงๆ น้องอยากจะออกมาดูภายนอกแล้ว พร้อมเขียนแคปชั่นว่า Acrobats inside mamas belly Cute or scarynot sure but Im so ready to pop though OMG #letmeout จะน่ารักหรือน่ากลัวดี? แต่ที่รู้ๆ อึดอัดมากที่สุดตอนนี้ บักแตงโมจะแตกแล้ว ถีบจนท้องเบี้ยวเลยลูก @matthew.deane1 #36weekspregnant #9เดือนเต็มแล้วจ้า,และคาดว่าในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ค.) ลูกคนที่สองของ ลีเดียกับแมทธิว จะออกมาทักทายคุณพ่อ คุณแม่ พี่ป้าน้าอาและโลกกว้างแล้ว รอกันได้เลยจ้าว่า จะเป็นเพศไหนดีนะ.
คุณแม่แซ่บมาก ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ เผยรูปสุดเซ็กซี่แบบท้องโต เตรียมคลอดลูกคนที่ 2 รอลุ้นเพศลูกพร้อมกันพรุ่งนี้
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ลิเดีย,ลิเดีย ศรัณย์รัชต์,ลิเดีย ท้อง,ลิเดีย แมทธิว,ลิเดีย ลูก,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1623798
หนูมาแล้ว หญิงคลอดลูกบนรถ เด็กโผล่ครึ่งตัว คอหวยไม่พลาดเลขเด็ด
วันที่ 28 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งมีหญิงท้องแก่ ,คลอดบนรถ, จึงเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือ ก่อนเคลื่อนย้ายทั้งแม่และเด็กนำส่งโรงพยาบาลบางสะพาน,นายณรงค์ศักดิ์ น่วมคง เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลร่อนทอง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ได้รับแจ้งประสานทางวิทยุ จากอาสากู้ชีพประจำหมู่บ้านวังน้ำเขียว ม.7 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า มีหญิงชาวมอญที่มารับจ้างกรีดยางในพื้นที่เจ็บท้องคลอด จึงได้เดินทางไปยังบริเวณป้อมตำรวจประจำหมู่บ้านวังน้ำเขียว,กระทั่งเวลา 13.39 น. พบ รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สี่ประตูสีขาว ทะเบียน กง 6574 ชุมพร ซึ่งเป็นของชาวบ้านในหมู่บ้านที่เตรียมพาหญิงท้องไปส่งโรงพยาบาล พบ นางมายี ซึ่งเป็นชาวมอญ อายุ 42 ปี นอนเจ็บท้องคลอดอยู่ที่เบาะหลังคนขับ เด็กได้หลุดออกมาครึ่งตัว จึงได้เร่งทำคลอดเด็ก พบเป็นทารกเพศชาย ก่อนที่จะเร่งนำตัวทั้งแม่และเด็กไปส่งต่อถึงยัง รพ.บางสะพาน ในเวลา 14.20 น. ซึ่งทั้งแม่และเด็กมีอาการปลอดภัยทั้งคู่,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทราบข่าวว่ามีเด็กคลอดบนรถคันดังกล่าว จึงได้มามุงดูทะเบียนรถเป็นจำนวนมากเพื่อเตรียมไปซื้อลอตเตอรี่ เสี่ยงโชค งวดวันที่ 1 ต.ค.62,,แม่ครับผมมาแล้ว สาววัย 30 คลอดลูกชายบนรถ คอหวยส่อง เลขเด็ด ทะเบียนสวย,คนรักหวย ส่องทะเบียนด่วน รวมเลขเด็ด ทารก อุแว้บนรถรอบนี้ มีเลขมังกร,สุดอั้น สาวเมืองคอน คลอดลูกบนรถกู้ภัย คอหวยลุ้นโชค แห่ส่องเลขเด็ด,แม่ครับผมอยากเห็นโลก สาววัย 21 ท้อง 2 คลอดลูกบนรถ ทะเบียนเบิ้ลอีกแล้ว
กู้ชีพฯ ช่วยเหลือหญิงมอญท้องแก่ คลอดลูกบนรถ หลังเด็กชายหลุดออกมาครึ่งตัวระหว่างนำส่งโรงพยาบาล คอหวยไม่พลาดแห่ส่องเลขเด็ด
ข่าว,สังคม
คลอดลูกบนรถ,ข่าวเด่น,เลขเด็ด,เลขเด็ดไทยรัฐ,ทะเบียนรถ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1670871
ขยะที่ไม่ใช่ประเด็นขยะ
และเมื่อ พ.ศ.2559 ก็ประกาศห้ามใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกอย่างเด็ดขาด ตอนที่ประกาศห้ามใช้ถุงพลาสติกเมื่อ 29 ปีที่แล้ว คนจำนวนไม่น้อยมองว่าคณะบริหารท้องถิ่นของเกาะเป็นพวกประหลาด แต่พอมาถึงเวลานี้ คณะบริหารชุดนั้นกลับได้รับการเชิดชูในวิสัยทัศน์,สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศมีพื้นที่ราบเรียบ จุดสูงสุดของประเทศสูงแค่ 200 เมตรจากระดับน้ำทะเล พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มน้ำ มีแม่น้ำลำธารไหลผ่านเป็นจำนวนมาก ที่เราคนไทยรู้จักกันดีก็เห็นจะเป็นแม่น้ำคงคาและแม่น้ำพรหมบุตร เกือบทุกปีจะมีอุทกภัยอย่างรุนแรงทำให้ผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก,ฝนตกเพียงนิดหน่อยในบังกลาเทศน้ำก็ท่วมแล้ว หนึ่งในหลายสาเหตุของการที่น้ำท่วมง่ายในบังกลาเทศเกิดมาจากท่อระบายน้ำอุดตัน ขยะหลายอย่างเน่าสลายหายไปได้ ทว่าที่คาอยู่ตามท่อน้ำมากที่สุดก็ถือถุงพลาสติก บังกลาเทศจึงเป็นประเทศแรกในโลกที่ออกกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบบางทั่วประเทศเมื่อ พ.ศ.2545,ทวีปที่เอาจริงเรื่องการห้ามใช้ถุงพลาสติกมากที่สุดก็คือแอฟริกา สิบปีที่แล้ว ผมตามพ่อ ซึ่งเป็นประธานที่ปรึกษาของบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนในประเทศตลาดใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ไปทำงานกันที่สาธารณรัฐบอตสวานา อย่างหนึ่งซึ่งเราได้รับข้อมูลจากการประชุมกับข้ารัฐการของบอตสวานาก็คือ ประเทศนี้มีการเก็บภาษีถุงพลาสติก ที่เก็บเพราะเรามุ่งมั่นที่จะลดการใช้ถุงพลาสติก พลาสติกเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม การกระดิกพลิกตัวทุกอย่างของบอตสวานา เราคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก,ตอนในของสาธารณรัฐแคเมอรูนเป็นพื้นที่ราบสูง แต่แถวชายฝั่งและตอนล่างของแม่น้ำสายต่างๆ เป็นที่ลุ่มน้ำชื้นแฉะ คนแคเมอรูนพบว่า มีปัญหาเรื่องขยะพลาสติกในพื้นที่ลุ่มน้ำและในแม่น้ำสายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นในแม่น้ำนีอองและแม่น้ำซานากา รัฐสภาแคเมอรูนจึงออกกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติกประเภทใช้แล้วทิ้งตั้งแต่ พ.ศ.2557,ตั้งแต่ราชวงศ์ตุตซีถูกโค่นและเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นสาธารณรัฐเมื่อ พ.ศ.2504 รวันดาเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงลบเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ไม่มีใครอยากไปลงหลักปักฐานหรือไปทำงานในสาธารณรัฐรวันดา แม้แต่คนรวันดาเองก็ยังอพยพลี้ภัยไปอยู่ในประเทศที่มีพรมแดนประชิดติดกันอย่างอูกันดา แทนซาเนีย บุรุนดี และคองโก,ทว่า ไม่นานมานี้ มีบริษัทต่างชาติหลายแห่งประกาศไปตั้งสำนักงานในกรุงคิกาลี เมื่อสืบหาข้อมูลของประเทศนี้เพิ่มเติม ก็พบว่ารวันดาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมากของโลก เป็นประเทศภาพลักษณ์ดี โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม รวันดาพลิกภาพลักษณ์ของตัวเองจากวิสัยทัศน์ความยั่งยืน 2020 ไม่ใช่แค่การประกาศวิสัยแบบโก้เก๋ แต่รวันดาเอาจริงกับสิ่งที่ประกาศไปทุกเรื่อง ที่โด่งดังและได้รับความชื่นชมมากที่สุดก็คือ การห้ามใช้ถุงพลาสติกอย่างเด็ดขาดตั้งแต่ พ.ศ.2551,นักท่องเที่ยวคิดว่ารวันดาคงประกาศไปอย่างนั้น แต่เมื่อเดินทางถึงสนามบิน ก็พบการตรวจค้นอย่างเข้มงวด ถุงพลาสติกแม้แต่ชิ้นเดียวก็เอาเข้าไปไม่ได้ รวันดาต้องการเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศ รวันดาก็ไม่เอาเหมือนกัน,ที่ชื่นชมกันมากในตอนนี้ก็คือศุลกากรของอินโดนีเซีย ต้นเดือนนี้ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และเยอรมนี ส่งตู้คอนเทนเนอร์บรรจุขยะพิษมาอินโดนีเซียมากถึง 65 ตู้ แจ้งว่าจะเอามาเข้ามาทำการรีไซเคิล แต่เมื่อศุลกากรอย่างละเอียดก็พบว่า 38 ตู้จาก 65 ตู้ ดันเป็นตู้ที่มีสารอันตราย รัฐบาลอินโดนีเซียจึงสั่งส่งตู้ทั้งหมดกลับไปประเทศต้นทาง,การจัดการขยะและพลาสติกทำให้ภาพลักษณ์ของหลายประเทศดีขึ้นครับ.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected]
รัฐแมสซาชูเสตต์ สหรัฐอเมริกา มีพื้นที่ติดมหาสมุทรแอตแลนติก ในรัฐนี้มีเกาะอยู่เกาะหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าแนนทักเก็ต เกาะแนนทักเก็ตเป็นสถานที่แรกของโลกที่ประกาศห้ามใช้ถุงพลาสติกตั้งแต่ พ.ศ.2533
null
ขยะ,ขยะพลาสติก,ถุงพลาสติก,ห้ามใช้ถุงพลาสติก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,เปิดฟ้าส่องโลก
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1611673
กทม.ขอความร่วมมือบุคลากรในสังกัด ไม่นำถุงพลาสติก เข้ามาในหน่วยงานทุกแห่ง
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า ได้เห็นชอบในประกาศเจตนารมณ์ กรุงเทพมหานครเป็นองค์กรชั้นนำ ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นลดการใช้พลาสติกและโฟม โดยให้หน่วยงานกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ปลอดขยะพลาสติกและโฟม ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้ทุกหน่วยงานช่วยกันลด ละ เลิกการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ภายในวันที่ 1 ม.ค.63 โดยเปลี่ยนไปใช้ถุงผ้าแทน โดยประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าว ได้กำหนดมาตรการสำคัญ 5 มาตรการ ดังนี้ 1.ขอความร่วมมือบุคลากรกรุงเทพมหานครทุกคน ไม่นำถุงพลาสติกหูหิ้วและโฟมเข้าอาคารสำนักงานของกรุงเทพมหานครทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 เป็น ต้นไป 2.ให้หน่วยงานสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่งกำหนดมาตรการสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมการมีสวนร่วมในการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ กรุงเทพมหานครเป็นองค์กรชั้นนำในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นลดการใช้พลาสติกและโฟม โดยให้หน่วยงานกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปลอดขยะพลาสติกและโฟม 3.ให้หน่วยงานสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่ง มีการสื่อสารนโยบาย ส่งเสริม รวมทั้งสร้างแรงจูงใจ ให้บุคลากรปฏิบัติตามประกาศเจตนารมณ์ กรุงเทพมหานครเป็นองค์กรชั้นนำในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นลดการใช้พลาสติกและโฟม โดยให้หน่วยงานกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ปลอดขยะพลาสติกและโฟม 4.ให้หน่วยงานสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่ง กำหนดให้ร้านอาหารที่นำของเข้ามาขายในหน่วยงานลด/งดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วและโฟม และ 5.ขอความร่วมมือให้บุคลากรของกรุงเทพมหานครทุกคน ให้คำแนะนำบุคคลภายนอกที่มาติดต่อราชการ ห้ามนำถุงพลาสติกหูหิ้วและโฟมเข้ามาในอาคารผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อการลดและคัดแยกมูลฝอยอย่างต่อเนื่อง ตามแผนพัฒนากรุงเทพมหานครในแต่ละปี โดยในปี 2563 เราได้เพิ่มมาตรการการดำเนินการให้ชัดเจน และเป็นรูปธรรมมากขึ้น ด้วยการประกาศเจตนารมณ์ เพื่อให้บุคลากรของกรุงเทพมหานครมีส่วนร่วมในการแสดงพลังเพื่อขับเคลื่อนนโยบายการลดปริมาณขยะ และเป็นต้นแบบให้หน่วยงานราชการอื่น รวมถึงกระตุ้นให้ประชาชนพร้อมใจกันเลิกใช้ถุงพลาสติกและโฟม ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จของการลดและควบคุมปริมาณมูลฝอยที่แหล่งกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต.
ผู้ว่าฯ กทม. มุ่งมั่นให้ กทม.เป็นองค์กรชั้นนำในการ ลดการใช้พลาสติกและโฟม ประกาศให้บุคลากรของกทม.ทุกคนไม่นำถุงพลาสติกและโฟม เข้ามาในหน่วยงานสังกัดทุกแห่ง ส่วนประชาชนขอความร่วมมือด้วย
ข่าว,ทั่วไทย
อัศวิน ขวัญเมือง,ลดการใช้พลาสติก,โฟม,เลิกใช้ถุงพลาสติก,ถุงผ้า,ลดปริมาณขยะ,ควบคุมปริมาณมูลฝอย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1739781
ชี้ เขื่อนขวางโขง ตัวการหลัก ทำน้ำแห้งขอด ผิดธรรมชาติ
วันที่ 18 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เลย ภายหลังแม่น้ำโขง ช่วง อ.เชียงคาน แห้งขอดจนเห็นดอนทรายไกลเป็นกิโลเมตร มีเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขงจนทอดยาวออกไปไกล บางพื้นที่น้ำโขงลดลงจนสามารถที่จะเดินข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาวได้ ชาวบ้านอาศัยช่วงน้ำแห้งนำแหทอดหาปลาน้ำโขงได้เป็นจำนวนมาก,ส่วนผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวลำน้ำโขงกลับโอดครวญ เกิดมาในชีวิตเจอมาสองครั้งแล้ว ครั้งนี้หนักที่สุดสาเหตุมาจาก สปป.ลาว สร้างเขื่อนไซยะบุรี กักน้ำ ไม่ปล่อยน้ำออกมา,นายวัฒนา แก้วพิลา อายุ 56 ปี เจ้าของเรือนำเที่ยวลุงอึ่ง บริเวณแก่งคุดคู้ อ.เชียงคาน กล่าวว่า ในรอบ 10 ปี เพิ่งเห็นครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง แต่ครั้งนี้น้ำแห้งขอดมากกว่า จนเห็นทรายและเกาะแก่งกลางน้ำโขง เรือนำเที่ยวก็ไม่สามารถออกเรือพานักท่องเที่ยวไปได้ หรือถ้าไปได้ก็เสี่ยงอันตราย น้ำโขงแห้งขอดมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว นับว่าปีนี้แล้งจัด สาเหตุมาจากฝนไม่ตก และเขื่อนไซยะบุรี ของ สปป.ลาว ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ไม่ปล่อยน้ำผ่านลงมา จนน้ำแม่น้ำโขงแห้ง ทั้งเรือเล็ก เรือใหญ่ เรือขนสินค้า ไม่สามารถแล่นผ่านไปได้เลย,ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายประมวล ลาภจิตต์ หน.ปภ.เลย เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือด่วนถึงนายอำเภอเชียงคาน นายอำเภอปากชม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขง อำเภอเชียงคาน อำเภอปากชม จังหวัดเลย ได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ดังที่เป็นข่าวในสื่อแขนงต่างๆ นั้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัยอยู่ในดินตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง ในพื้นที่อำเภอเชียงคาน และอำเภอปากชม จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง และพื้นที่ใกล้เคียงถือปฏิบัติดังนี้,ให้ติดตามข่าวสารสถานการณ์ระดับน้ำแม่น้ำโขง ที่อาจเพิ่มขึ้นหรือลงอย่างผิดปกติ โดยใกล้ชิดในห้วง 3 ถึง 7 วัน ให้ระวังอันตรายจากระดับแม่น้ำโขงที่อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะการเดินเรือการทำประมง หรือหาปลาตามวิถีพื้นบ้าน ให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ห้ามลงไปเดินเล่นหรือกางเต็นท์นอนในเขตแม่น้ำโขงในระยะนี้เด็ดขาด รวมทั้งให้ดูแลเด็กเล็กและบุตรหลานที่อาจลงไปเล่นน้ำอย่างใกล้ชิด หากมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น ให้รายงานอำเภอและจังหวัดทราบตามลำดับโดยด่วน เพื่อได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป.
คนเชียงคาน เผยเป็นครั้งที่2 ในรอบ10ปี ที่เห็นน้ำโขง แห้งงวดลงผิดธรรมชาติในหน้าฝน ชี้ สาเหตุหนึ่งเพราะปีนี้ฝนน้อย ส่วนสาเหตุหลักคือ เขื่อนลาวไซยะบุรีที่สร้างขวางลำน้ำ กักน้ำไว้ไม่ยอมปล่อย
ข่าว,ทั่วไทย
แล้ง,แม่น้ำโขงแห้ง,เขื่อนไซยะบุรี,เขื่อนลาว,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1618061
อีกแล้ว ลูกเรือประมงเมียนมา เครียดโดดทะเล ทรภ.1เร่งค้นหา ยังไร้วี่แวว
วันที่ 19 มี.ค.61 ผอ.ศรชล.เขต 1 สั่ง อากาศยานบินเลียดผิวน้ำพร้อมเรือรบเร่งค้นหาหลังรับแจ้ง ลูกเรือประมงพลัดตกทะเลในอ่าวไทย ยังไม่ทราบชะตากรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.ท.บรรจบ โพธิ์แดง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 1 (ผบ.ทรภ.1/ผอ.ศรชล.เขต 1 อ่าน สอน-ชน เขต1) จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุ มีลูกเรือประมงพลัดตกทะเล จำนวน 2 ราย ในพื้นที่ทะเลด้านอ่าวไทย จึงได้สั่งการให้ พลเรือตรีสำเริง จันทร์โส เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 และหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ ศรชล.เขต 1 ตรวจสอบและให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน,โดยสั่งการให้ นำเครื่องบินลาดตระเวน แบบที่ 1 ดอร์เนีย (บ.ลว.1) โดยมี นาวาตรีนัทกฤต สีเขียว นักบินที่ 1 เรือโทภัทร์ อยู่สบาย นักบินที่ 2 จากหมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 1 ขึ้นบินค้นหาผู้ประสบภัย กับสั่งการให้เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง 225 (เรือ ต.225) และเรือตำรวจน้ำ 537 (เรือ รน.537) ใน ศรชล.เขต 1 นำเรือเข้าสู่จุดหมายที่ได้รับแจ้งร่วมออกค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน พร้อมแจ้งประชาสัมพันธ์ทางเครือข่ายวิทยุมดดำนาวี ให้เรือประมงที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงช่วยค้นหาอีกทางหนึ่งด้วย,ในที่เกิดเหตุ จากการสอบถาม นายวัชรินทร์ ประทุมศิริ ไต๋เรือประมงศิลาแก้ว 111 ทราบว่า ได้นำเรือเดินทางจากท่าเรือประมงสมุทรสาคร ขณะทำการประมงในพื้นที่อ่าวไทย บริเวณแบริ่ง 280 ระยะห่าง 18 ไมล์ จากเกาะสีชัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี,นายเมียน วินอ่อง (Mr. Myan Win aung) อายุ 22 ปี ลูกเรือประมงสัญชาติพม่า ที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานได้เพียง 5 วัน ได้กระโดดลงทะเลระหว่างที่เรือกำลังลงอวน จึงได้รีบเก็บอวนแล้ววนเรือกลับมาหาลูกเรือพม่าคนดังกล่าว แต่หาไม่พบจึงได้ประสานมาทาง ทรภ.1/ศรชล.เขต 1 เพื่อขอรับการสนับ สนุนอากาศยาน และเรือรบออกค้นหาลูกเรือประมงดังกล่าวทั้งกลางวันและกลางคืน ในเบื้องต้นยังไม่พบลูกเรือประมงที่สูญหายแต่อย่างใด,ในขณะเดียวกัน ทรภ.1/ศรชล.เขต 1 ยังได้รับแจ้งจาก นางสาวปานใจ ฉายโรจนกุล เจ้าของเรือประมง จ.ทรงเจริญชัย 1 ว่า นายเปียก ลูกเรือประมงสัญชาติกัมพูชา ได้พลัดตกน้ำที่บริเวณ ระยะห่าง 101 ไมล์ จากชายฝั่งอ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้นำอากาศยานและเรือรบซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเข้าลาดตระเวนค้นหาในทันที ซึ่งอยู่ในระหว่างการค้นหา เบื้องต้นยังไม่พบลูกเรือประมงที่สูญหายแต่อย่างใด,พล.ร.ท.บรรจบ โพธิ์แดง ผบ.ทรภ.1/ผอ.ศรชล.เขต 1 กล่าวว่าขณะนี้ทาง ทรภ.1/ศรชล.เขต 1 ได้พยายามค้นหาลูกเรือที่ยังหายไปอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้องชาวประมง ตามที่ พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้แถลงไว้เป็นนโยบายในการปฏิบัติงานว่า กองทัพเรือจะเป็นกองทัพที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ว่า ทหารเรือจะอยู่เคียงข้างประชาชน
อีกแล้ว! ลูกเรือประมงเมียนมาเพิ่งมาทำงานได้แค่ 5 วัน เครียดจัดกระโดดลงทะเลอ่าวไทย ทัพเรือภาค 1 (ทรภ1) ส่งเรือรบเครื่องบินค้นหา ขณะที่อีกรายเป็นชาวกัมพูชาพลัดตก ยังไร้วี่แววทั้งคู่
ข่าว,ทั่วไทย
ลูกเรือเมียนมา,กระโดดทะเล,เครียดจัด,ไร้วี่แวว,ทรภ.1,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1232911
ตำรวจมาเยี่ยม แฟลชม็อบ ม.ปลาย หอวังนนท์ รีบปลดป้ายออก
เวลา 10.00 น. วันที่ 28 ก.พ. ที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ (หอวัง นนทบุรี) ถนนศรีสมาน ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมปลาย ประมาณ 10 คน รวมตัวกันอยู่ที่บริเวณสนามฟุตบอลของโรงเรียนนำป้ายผ้าและปริ้นต์ข้อความลงบนกระดาษเอ 4 เนื้อหาเป็นการเรียกร้องอยากมีประชาธิปไตย ไปติดบนที่นั่งของอัฒจันทร์ ซึ่งป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง ราว 30 นาทีต่อมา มีเจ้าหน้าที่สายตรวจของ สภ.ปากเกร็ด จำนวน 5 นาย เข้าไปตรวจสอบ จากนั้นกลุ่มนักเรียนได้ปีนขึ้นไปปลดป้ายข้อความออก และแยกย้ายกันไปขณะที่ตัวแทนนักเรียนคนหนึ่งกล่าวว่า ที่นัดมารวมตัวกันในวันนี้ เป็นการแสดงออกทางความคิดทางการเมืองของกลุ่มนักเรียนที่ไม่เอาเผด็จการ และต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่งเป็นการแสดงออกว่าพวกตนมีอิสระทางความคิดขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน ที่ดูแลบริเวณหน้าประตูทางเข้า ได้ตรวจสอบเข้มงวดกับบุคคลที่ผ่านเข้าออก
นักเรียนชั้น ม.ปลายโรงเรียนดังที่ปากเกร็ด รวมตัวติดป้ายแสดงความคิดทางการเมือง ต้องการประชาธิปไตย-ไม่เอาเผด็จการ แป๊บเดียวสายตรวจมาเยี่ยมถึงที่ 5 นาย ต้องรีบปลดป้ายออก
ข่าว,ทั่วไทย
แฟลชม็อบ,ต้านเผด็จการ,ม็อบนักศึกษา,แฟลชม็อบนักศึกษา,แฟลชม็อบนักเรียน,หอวัง นนทบุรี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1782760
ช้างศึก ยู-19 เฮ ติด 5 ทีมดีสุดอันดับ 2 คว้าตั๋วลุยชิงแชมป์เอเชีย
วันที่ 6 ต.ค. หลังจากที่ ช้างศึกจูเนียร์ ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี  พ่ายให้กับ เกาหลีใต้ ไป 1-2 ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2016 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช นัดสุดท้าย  ทำให้จบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม และต้องรอลุ้นเข้ารอบในการเป็น 1 ใน 5 ทีมของอันดับ 2 ที่ดีที่สุดจาก 10 กลุ่ม นั้น,ล่าสุด ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายของศึกยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย ที่บาห์เรน ในระหว่างวันที่ 13-30 ตุลาคม ปีหน้า ได้เรียบร้อยแล้ว ด้วยการเป็นที่ 3 จาก 5 ทีมที่ได้เข้ารอบ ในฐานะอันดับ 2 ที่ดีที่สุดจากทั้งหมด 10 กลุ่ม หลังจากกลุ่มอื่นๆ ที่ ทีมชาติไทย ต้องรอลุ้นอีก 5 กลุ่มจบลง ปรากฏว่า ฟ้ายังมีตา เมื่อ 2 คู่สุดท้ายที่จะมีผลกับ ไทย นั้น กาตาร์ เอาชนะ โอมาน 2-1 ในกลุ่มดี และ ซาอุดีอาระเบีย ชนะ เยเมน 2-0 ในกลุ่มบี,ทีมที่ผ่านเข้ารอบศึกฟุตบอล ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย 2016 ในฐานะแชมป์กลุ่ม มีดังนี้,กลุ่มเอ : อุซเบกิสถาน,กลุ่มบี : ซาอุดิอาระเบีย,กลุ่มซี : สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์,กลุ่มดี : กาตาร์,กลุ่มอี : อิหร่าน,กลุ่มเอฟ : อิรัก,กลุ่มจี : เวียดนาม,กลุ่มเอช : เกาหลีใต้,กลุ่มไอ : จีน,กลุ่มเจ : ญี่ปุ่น,ทีมที่ผ่านเข้ารอบศึกฟุตบอล ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย 2016 ในการเป็นอันดับสองที่ดีที่สุด 5 ทีม มีดังนี้,1.ทาจิกิสถาน 6 คะแนน (+7),2.ออสเตรเลีย 6 คะแนน (+5),3.ไทย 6 คะแนน (+5),4.เกาหลีเหนือ 6 คะแนน (+4),5.เยเมน 6 คะแนน (+0)
ช้างศึกจูเนียร์ ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายของศึกยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย ที่บาห์เรน ในเดือน ต.ค. ปีหน้าได้เรียบร้อย ด้วยการเป็นที่ 3 จาก 5 ทีมที่ได้เข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ที่ดีที่สุดทั้งหมด 10 กลุ่ม
null
ทีมชาติไทย,ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปี,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/530449
เละ ทีมดาราดัง-โก้ โดนลอยแพ เกิดมา 42 ปี เพิ่งเคยเจอ
เท เท เท และก็เท มหกรรมการลอยแพดาราดังครั้งใหญ่ เล่นเอาสะพรึงไปทั้งบึงกาฬ ไปงานบุญนึกว่าจะได้บุญ กลับเสียความรู้สึกอย่างแรงไปแทน ในงานบั้งไฟพญานาคโลก 15 ค่ำ เดือน 11@ ปากคาด รวมใจพี่น้องไทย-ลาว ที่อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ วันที่ 21-25 ตุลาคม 2561 จัดงานโดยบริษัทเฮเวนลี่ดีไลท์จำกัด ,ช่วงแรกๆ คนจัดงานโปรโมตอย่างยิ่งใหญ่อลังการดาวล้านดาว ว่าปีนี้จัดใหญ่มากสุดพลัง ขนดาราดังมาแน่นงานจริง เช่น แซ็ค ชุมแพ หรือ แซ็ค มงคล สิงห์ชา, คณะประถมบันเทิงศิลป์, ดาว มยุรี, ลาล่า ลูลู่, เอมมี่ แม็กซิม อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์, ก๊อบปี้โชว์แก๊งตีสิบ เบิร์ด จูแมนจี้ ติ๊กชิโร่, อร อรอนงค์ ปัญญาวงศ์, ษา วรรณษา ทองวิเศษ, โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา, ปิ๋ม ซีโฟร์, ลูกนก สุภาพร, โจนัส แอนเดอร์สัน ,วิน วาทิต ดาราช่อง 7,นังจวงบุพเพสันนิวาส หรือ จุ๊บแจง วิมลพันธ์ ชาลีจังหาญ ,บอย ศิริชัย หมอลำใจเกินร้อย พร้อมโชว์พิเศษ พุทธประวัติที่พญานาคมีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา โชว์ประวัตินาคาขอบวช และก๊วนพระเอกดาวรุ่ง จากผู้กำกับหนังปากจัด พชร์ อานนท์ โดยงานนี้หวังจะหารายได้ส่วนหนึ่ง เพื่อร่วมทำบุญ นำไปก่อสร้างอุทยานพุทธมุจรินทร์นาคราช ริมโขง อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ แต่แล้วทีมดาราทั้งหมดที่กล่าวมา ก็โดนผู้จัดงานเท,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้สัมภาษณ์กับ โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา พิธีกรดังรายการปากปลาร้าหน้าเป๊ะ และยังเป็นเจ้าของธุรกิจใหม่ล่าสุด สบู่โอวเนะโซป OWNE Soap ที่ทำร่วมกับพระเอกดัง อ๋อม อรรคพันธ์ โดยโก้ ธีรศักดิ์ เป็นหนึ่งในดารา ที่ตั้งใจมาร่วมงามครั้งนี้ รับหน้าที่เป็นพิธีกร,ตามกำหนดเดิมคือ โก้ ธีรศักดิ์ ต้องทำหน้าที่พิธีกรในงาน ตั้งแต่วันที่ 21-25 ตุลาคม แต่โก้ ธีรศักดิ์ ทำหน้าที่พิธีกรได้แค่วันเปิดงานเท่านั้น ก็ต้องจบ แยกย้าย เพราะโดนทางผู้จัดงานเท บอกเลยว่าไม่ต้องทำต่อแล้ว งานไม่มีต่อไปอีกแล้ว ,โก้ ธีรศักดิ์ เปิดใจเร็วๆ รัวๆ เมื่อวานก็มาแต่งหน้าทำผมรอ ตั้งแต่บ่ายๆ พอเย็นๆ เอ๊ะ ทำไมไฟดับ ก็ไปบอกให้ทีมงานเปิดไฟหน่อย เขาบอกมาว่างานยกเลิกแล้วนะ อ้าว งานไม่จัดแล้ว โก้ก็เลยเก็บกระเป๋าออกจากบึงกาฬ จะเข้าเมืองไปรอขึ้นเครื่องที่อุดรธานี,บอกตรงๆ โก้มาเป็นพิธีกรงานนี้ เพราะเป็นงานบุญ เราไม่ได้คิดค่าตัวอะไรมากมาย แล้วแต่ทางผู้จัดจะมีให้มา อีกอย่างอยากมาดูบั้งไฟพญานาคด้วย เพราะสมัยก่อนนานมากๆ เคยมาเป็นพิธีกรทำข่าว แต่ไม่เคยเห็นจะๆ ที่ลอยขึ้นเหนือแม่น้ำแล้วก็ดับไป เลยอยากจะมาดูว่าจะเป็นยังไง ก็มีดาราดังหลายคนเลย มาถึงที่งานแล้วรอขึ้นเวที แต่ก็ไม่ได้ขึ้นไปทำงาน เพราะงานโดนแคนเซิลหมด ,โก้ก็ตงิดๆ ใจตั้งแต่แรกๆ แล้วที่มาถึงงาน เพราะสถานที่จัดงาน ไม่ได้จัดในที่วางไว้ตั้งแต่ตอนแรก ย้ายไปจัดที่โซนใหม่ เพิ่งถางที่กันใหม่ๆ เลย งานเปิดวันแรก 21 ตุลาคม ก็มีโชว์ของ ลาล่า ลูลู่ และลูกนก สุภาพร ,อ๋อ แล้วรู้กันยัง ดาว มยุรี กับปิ๋ม ซีโฟร์ โพสต์ด่ากันเละทางเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับงานนี้แหละ  ,สาเหตุปัญหาของทีมจัดงาน ปัญหาของผู้ใหญ่ เราไม่เกี่ยวด้วย ก็ไม่รู้ติดต่อประสานงานกันอย่างไร เราไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร บอกให้เลิกทำ เราก็เลิก อ๋อ ค่ะ เลิก เพราะเรามาแค่เป็นพิธีกรให้ บอกเลยว่าตั้งแต่ทำงานอยู่ในวงการมาหลายสิบปี จนตอนนี้อายุ 42 แล้ว เพิ่งเคยเจอแบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต,งานนี้มีการโปรโมตอย่างยิ่งใหญ่ มีซุ้มจากสินค้าต่างๆ มามากมาย กะจัดงานที่อำเภอปากคาด แต่มาถึงแล้วผิดคาดจริงๆ (พยายามหัวเราะแห้งๆ) หลังวันที่ 26 ตุลาคมนี้ โก้ก็จะกลับถึงกรุงเทพ เตรียมตัวพาตัวแทนขาย ไปเที่ยวมัลดีฟส์กับ อ๋อม อรรคพันธ์ เพราะเพิ่งร่วมทำธุรกิจสบู่ด้วยกัน, , , , , , , ,
เท! เท! เท! และก็เท! มหกรรมการลอยแพดาราดังครั้งใหญ่ เล่นเอาสะพรึงไปทั้งบึงกาฬ ไปงานบุญนึกว่าจะได้บุญ กลับเสีย
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา,งานบึงกาฬ ปากคาดลอยแพดาราดัง,โก้ ปากคาด บึงกาฬ,ดาวมยุรี ปิ๋มซีโฟร์ด่ากัน,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1401428
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเก็บพระอัฐิสมเด็จพระสังฆราชฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการเก็บพระอัฐิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาและพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยเสด็จในการนี้ด้วย จากนั้นเสด็จขึ้นพระเมรุ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระอัฐิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ทรงสรงพระอัฐิ ทรงทอดผ้าไตรพระสามหาบ 2 สำรับ พระสงฆ์สดับปกรณ์ แล้วทรงเก็บพระอัฐิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกประดิษฐานในพระเจดีย์ศิลา แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระเจดีย์ศิลาบรรจุพระอัฐิลงจากพระเมรุไปประดิษฐานบนโต๊ะหมู่ในพลับพลาอิศริยาภรณ์จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินขึ้นประทับ ณ พลับพลาอิศริยาภรณ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระอัฐิ แล้วถวายพัดรองที่ระลึกงานพระเมรุแด่พระสงฆ์ ทรงประเคนสำรับภัตตาหารแด่ผู้เป็นประธานสงฆ์ พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จ ทรงถวายตู้สังเค็ดที่ระลึกงานพระเมรุ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก พระสงฆ์อีก 10 รูปสำหรับสวดมาติกาขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์แล้ว ทรงถวายพัดรองที่ระลึกงานพระเมรุ พระสงฆ์สวดมาติกา แล้วทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรกทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระเจดีย์ศิลาบรรจุพระอัฐิและผอบพระสรีรางคารขึ้นรถยนต์พระประเทียบ เพื่อไปประดิษฐานยังตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งหลังจากนี้จะเปิดให้พุทธศาสนิกชนถวายสักการะพระอัฐิในวันที่ 18 ธ.ค.2558 ในเวลา 8.00-18.00 น. และวันที่ 19 ธ.ค.2558 เวลา 08.00-14.00 น. และจะมีพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิในวันที่ 19 ธ.ค.2558 เวลา 16.30 น. ณ พระตำหนักเพ็ชร โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ส่วนวันที่ 20 ธ.ค.2558 เวลา 10.30 น. จะมีพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิ ณ พระตำหนักเพ็ชร และบรรจุพระสรีรางคาร ณ พระวิหารเก๋ง วัดบวรนิเวศวิหาร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการเก็บพระอัฐิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส
สังคม
ข่าวสังคม,พระตำหนักเพ็ชร,พระราชพิธีเก็บพระอัฐิ,วัดเทพศิรินทราวาส,สมเด็จพระสังฆราชฯ,เก็บพระอัฐิ
https://news.thaipbs.or.th/content/6858
แห่ยกย่อง นตท.หัวใจกล้า ช่วยชีวิตเด็กน้อยถูกกระแสน้ำพัดให้รอดปลอดภัย
หลังแฟนเพจเฟซบุ๊ก Pre-Cadet ได้โพสต์ภาพและข้อความ เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ระบุว่า วันก่อน นตท.ธัชพล เทียนแก้ว นตท.รุ่นที่ 58 ชั้น 2-1 และเป็น หน.ตอน ด้วย ได้สร้างวีรกรรมด้วยการช่วยชีวิตเด็ก ที่น้ำตกแก่งซอง จ.พิษณุโลก ขอแสดงความชื่นชมในการกระทำความดีในครั้งนี้ด้วยนะครับ,หลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ชื่นชมในความมีน้ำใจของ นตท.ธัชพล ที่มีความกล้าหาญเข้าช่วยเหลือเด็กที่กำลังได้รับอันตรายโดยไม่คิดชีวิต นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตรายหนึ่งระบุว่าเป็นอดีตคุณครูของนักเรียนเตรียมทหารรายนี้ ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น เล่าว่า ลูกศิษย์คนนี้ตอนเรียนอยู่ที่ รร.พิษณุโลกพิทยาคม เป็นเด็กดี มีน้ำใจจริงๆ เจอมากับตัวค่ะ ดิฉันท้องแก่ถือของหลายอย่าง ทั้งๆ ที่เราเองไม่เคยสอนเค้า เค้าวิ่งมาหาแล้วอาสาช่วยถือของ ดิฉันน้ำตาจะไหล เป็นคนดีจริงๆ ครูขอให้หนูเจริญๆ ยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ ความดีที่เคยทำให้กับครู ครูยังซาบซึ้งไม่ลืมเลือน,นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตระบุว่า นอกจาก นรต.ธัชพล เป็นคนดีมีน้ำใจแล้ว ยังเรียนเก่งสอบได้ที่ 1 ของนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 58 อีกด้วย พร้อมกับชื่นชมครอบครัวและทางโรงเรียนที่ปลูกฝังให้เป็นคนเก่งในทุกๆ ด้าน โดยจากการตรวจสอบพบว่า นตท.ธัชพล เทียนแก้ว ได้รับรางวัลการศึกษาดีเยี่ยมประจำปีการศึกษา 2558 ของโรงเรียนเตรียมทหาร รวมทั้งยังได้รับรางวัลชมเชยจากการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 14 ด้วย,คนดีต้องแชร์ หากใครพบเห็นคนดีในสังคม ส่งข้อความหรือแชร์มาบอกเราได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊กของ ,ไทยรัฐ, ,ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก ,Pre-Cadet, และ ,ธัชพล เทียนแก้ว, 
โลกโซเชียลแห่ยกย่องนักเรียนเตรียมทหารหัวใจกล้า เข้าช่วยชีวิตเด็กน้อยจากการพลัดตกกระแสน้ำ ที่น้ำตกแก่งซอง จังหวัดพิษณุโลก
null
นักเรียนเตรียมทหาร,ทหาร,ช่วยเด็กตกน้ำ,เด็กตกน้ำ,น้ำตกแก่งซอง,พิษณุโลก,ธัชพล เทียนแก้ว,นตท. รุ่น 58,นตท. 58,นตท.,พิษณุโลกพิทยาคม,คนดี,คนดีต้องแชร์,Pre-Cadet,เฟซบุ๊ก,ข่าว,ข่าวโซเชียล,ข่าวไทยรัฐ,สายตรวจโซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath
https://www.thairath.co.th/content/534937
แก้แบบสีชมพู เวนคืนแยกหลักสี่เพิ่ม
สีเหลืองย้ายที่ตั้งปาร์กแอนด์ไรด์สถานีวัดศรีเอี่ยม-ทางหลวงเสนอ รฟม.,นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้ประชุมหารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ซิโน-ไทยฯ ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง เรื่องการใช้พื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทางบนถนนติวานนท์ แจ้งวัฒนะ รามอินทรา สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู และถนนศรีนครินทร์ เทพารักษ์ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ทั้งนี้ จากการหารือรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ได้ข้อสรุปแล้ว โดย รฟม. ยินยอมปรับแบบและย้ายตำแหน่งก่อสร้างอาคารจอดรถ สถานีวัดศรีเอี่ยม รองรับรถได้ 3,500 คัน จากเดิมใช้พื้นที่บริเวณสำนักงานแขวงทางหลวงสมุทรปราการ ไปอยู่ฝั่งตรงข้าม ใกล้สะพานข้ามถนนบางนา-ตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ว่าง,นายธานินทร์กล่าวว่า ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพู กรมทางหลวงเสนอให้ รฟม.ปรับช่วงระยะห่างเสาตอม่อโครงสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้า บริเวณจุดกลับรถ บนถนนติวานนท์ ประมาณ 10 จุด จากเดิมระยะห่าง 30 เมตร เป็น 40 เมตร เพื่อให้รถกลับสะดวกไม่กีดขวางรถทางตรงและเพื่อความปลอดภัย อีกจุดบริเวณสถานีหลักสี่ ฝั่งตรงข้ามห้างไอทีสแควร์ จากถนนวิภาวดีรังสิต เลี้ยวซ้ายเข้าถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าวงเวียนหลักสี่ รฟม.ขอใช้พื้นที่ระยะทางประมาณ 350 เมตร ทำจุดจอดรถแท็กซี่ ซึ่งจุดดังกล่าวใกล้ทางแยก และมีปัญหาจราจรติดขัดเป็นประจำ จึงเสนอให้ รฟม.ขยับตำแหน่งและเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม เพื่อไม่ใ
นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้ประชุมหารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ซิโน-ไทยฯ ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู
ข่าว,ทั่วไทย
รถไฟฟ้าสายสีชมพู,เวนคืนที่ดิน,แยกหลักสี่,ธานินทร์ สมบูรณ์,กรมทางหลวง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1240787
เดอะแจ๊ค ชี้แจงชัด เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ไม่ใช่เหตุกราดยิง
รองโฆษก ตร. ชี้แจงเหตุอาวุธปืนภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขารัตนาธิเบศร์ ไม่ใช่เหตุกราดยิง อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนมูลเหตุเมื่อวันที่ 27 ก.พ.63 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณียิงกลางห้างแห่งหนึ่งย่านรัตนาธิเบศร์ ในพื้นที่ของ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.50 น. ได้รับแจ้งเหตุมีชายอายุประมาณ 41 ปี ยิงอาวุธปืนภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขารัตนาธิเบศร์ บริเวณชั้น 1 ณ ลานจัดแสดงสินค้า อาหารและเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบเข้าไประงับเหตุดังกล่าวโดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พร้อมทำการจับกุมตัวชายรายดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป และขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนให้รับฟังข่าวสารจากทางแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง และอย่าดูข่าวเก่าเพราะอาจทำให้เกิดความสับสนรองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ไม่ใช่เหตุการกราดยิง ในเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนมูลเหตุในการยิงปืนครั้งนี้ โดยพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง.
รองโฆษก ตร. ชี้แจงเหตุอาวุธปืนภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขารัตนาธิเบศร์ ไม่ใช่เหตุกราดยิง อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนมูลเหตุ
ข่าว,อาชญากรรม
ยิงกลางห้าง,ผัวเมียยิงกัน,เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์,กราดยิง,สภ.รัตนาธิเบศร์,กฤษณะ พัฒนเจริญ,เดอะแจ๊ค,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1782116
ตร.นำตัวผู้ต้องหาที่ปล้นเงินธนาคารกว่า 2 ล้านบาทในภูเก็ต ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ตำรวจภูธรจ.ภูเก็ต นำตัวนายอนุศิษฎ์ แก้วมุกดา ผู้ต้องหาปล้นเงิน 2.7 ล้านบาท จากธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี เมื่อ 3 วันก่อน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังถูกจับกุมได้ภายในอพาทเม้นต์ หลังสนามกีฬาสุระกุล อำเภอเมืองภูเก็ตผู้ต้องหาสารภาพว่าใช้ปืนจี้บังคับพนักงานให้นำเงินใส่ถุง จากนั้นได้ออกจากธนาคารขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่จอดไว้บนถนนเทพกระษัตรี ขี่รถมุ่งหน้าออกนอกเมือง แล้วนำเงินไปซุกซ่อนในห้องเช่าที่ตำบลเกาะแต้ว และแบ่งเงินประมาณ 2 แสนบาทติดตัวไว้ใช้ ระหว่างหลบหนีนอกจากนี้ยังยอมรับว่า เป็นผู้จี้ชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัส ได้เงินไปกว่า 6 แสนบาท เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา และที่สามารถก่อเหตุได้ถึง 2 ครั้ง เพราะธนาคารกสิกรไทยทั้ง 2 สาขา ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งเงินที่ปล้นไป ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้หนี้พนันบอล และหวยใต้ดิน ส่วนอาวุธปืนที่นำมาใช้เป็นปืนที่พบระหว่างช่วยเพื่อนขนย้ายทรัพย์สิน หนีน้ำท่วมเมื่อหลายปีก่อน
ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาปล้นเงินกว่า 2 ล้านบาท จากธนาคารกสิกรไทย ในจ.ภูเก็ต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ต้องหายอมรับว่า สาเหตุที่ปล้นเงินธนาคารกสิกรไทย ทั้ง 2 สาขา เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย
อาชญากรรม
ธนาคารกสิกรไทย,ปล้นเงิน,ปล้นเงินธนาคาร
https://news.thaipbs.or.th/content/123179
พ่อค้าข้าวแกง สุดเฮง ถูกหวยรางวัลที่ 1 รวย 12 ล้าน บอกได้เลขจากคนตาย
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม กลายเป็นที่ฮือฮาอีก หลังจากมีข่าวว่ามีผู้โชคดีในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ถูกรางวัลที่ 1 ได้รางวัลใหญ่ถึง 12 ล้านบาท ทางผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งพบผู้ถูกรางวัลใหญ่ เป็นสองสามีภรรยา ทำอาชีพร้านขายข้าวแกง ขึ้นชื่อในเขตเทศบาลเมืองนครพนม,ต่อมาทราบชื่อภายหลัง คือ นายอาคม สกุลชัยวัฒนา อายุ 64 ปี ส่วนภรรยา คือ นางอรอนงค์ สกุลชัยวัฒนา อายุ 68 ปี ซึ่งทั้งสองสามีภรรยาทำอาชีพขายข้าวแกง และจำหน่ายอาหารในตลาดโต้รุ่งกับลูก โดยทั้ง 2 คนได้ยืนยันว่าถูกรางวัลที่ 1 จริง พร้อมโชว์หลักฐานสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กันยายน 2562 จำนวน 2 ใบ หมายเลข ,798787, ท่ามกลางความตื่นเต้นดีใจ,นายอาคม เผยที่มาของรางวัลใหญ่ว่า ก่อนหน้านี้ได้ไปงานศพญาติที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งญาติที่เสียชีวิตมีอายุ 87 ปี จึงนำเลขมาเสี่ยงโชคเผื่อถูกรางวัล เพราะคนนครพนมถูกรางวัลใหญ่บ่อยครั้ง จนกระทั่งมาพบแม่ค้าขายลอตเตอรี่มาขายในตลาด จึงซื้อไว้ 2 ใบ หวังเสี่ยงโชค เพราะก่อนนี้เคยถูกรางวัลเลขหน้า 3 ตัว เลขท้าย 3 ตัว และเลขท้าย 2 ตัว มา 6 งวดติดแล้ว คิดว่าน่าจะมีรางวัลที่ 1 บ้าง,กระทั่งออกรางวัลพบว่าถูกจริง ดีใจมากจนบอกไม่ถูก เชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นบารมีขององค์พญาศรีสัตตนาคราชอันศักดิ์สิทธิ์ พญานาคริมแม่น้ำโขงที่ให้โชคลาภคนนครพนม หลังก่อสร้างขึ้น 4-5 ปี มีคนถูกรางวัลตลอด ล่าสุดงวดที่ผ่านมา พ่อค้าชาวนครพนมถูกรางวัลที่ 1 รวมถึง 30 ล้านบาท โดยตนได้วางแผนที่จำนำเงินส่วนหนึ่งไปบุญ และเก็บเงินไว้เป็นทุนการศึกษาลูก รวมถึงนำไปลงทุนค้าขายต่อไป,ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพญาศรีสัตตนาคราช ถือเป็นพญานาคศักดิ์สิทธิ์ริมน้ำโขง ที่มีประชาชน นักท่องเที่ยว เคารพศรัทธา กราบไหว้ไม่ขาดสาย หลังมีการก่อสร้างมาประดิษฐานตั้งแต่ปี 2559 ส่งผลดีทั้งภาคเศรษฐกิจ, การท่องเที่ยวคึกคักหลายเท่า ที่สำคัญยังเป็นที่ดึงดูดบรรดานักเสี่ยงโชค คอหวยมาเสี่ยงโชคขอพรกันคึกคัก โดยเมื่อปี 2561 มี ชาว จ.นครพนม เคยถูกมาสุดถึง 90 ล้านบาท และครั้งนี้มาถูกอีก 12 ล้านบาท.
คนดวงเฮงอยู่นครพนม พ่อค้าข้าวแกง ถูกหวยรางวัลที่ 1 รวย 12 ล้านบาท พร้อมบอกได้เลขจากคนตาย โดยถูกหวยมา 6 งวดติดแล้ว พร้อมเก็บเงินไว้เป็นทุนการศึกษาลูก และนำไปลงทุนค้าขาย
ข่าว,สังคม
ถูกหวย,ถูกหวยรางวัลที่ 1,รางวัลที่ 1,ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล,หวย
https://www.thairath.co.th/news/society/1650810
คจ.สช.จัด สมัชชาสุขภาพ ถก 4 ปัญหา มะเร็ง-เพศภาวะ-การใช้ยา-แร่ใยหิน
ขับเคลื่อนมติต่างๆของสมัชชาฯ ,เมื่อวันที่ 21 พ.ย.62 นพ.กิจจา เรืองไทย ประธานคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) กล่าวว่า ,สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ,เป็นพื้นที่กลาง ที่เปิดให้ทุกภาคส่วนมาร่วมกันพัฒนา และขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ด้านสุขภาพแบบมีส่วนร่วม โดยคำว่า สุขภาพ ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ครอบคลุมทั้งสุขภาพทางกาย ใจ สังคม และปัญญา สำหรับปีนี้ คจ.สช.เห็นร่วมกันที่จะกำหนดแนวคิดหลักการจัดงาน คือ ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงสู่การพัฒนาสังคมสุขภาวะ เพราะในปัจจุบันสังคมไทยและสังคมโลกกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงทุกมิติ หรือที่เรียกว่า Disruption ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เน้นการพัฒนาสิ่งใหม่จากโอกาสใหม่ๆ ไม่ใช่แค่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเดิม (Transform) คจ.สช.จึงอยากสื่อสารกับสังคมว่า ระบบสุขภาพไทยก็กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทุกด้าน ทุกภาคส่วนจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดวิธีทำงานเพื่อร่วมกันเตรียมรับมือความเปลี่ยนแปลง ทั้งสังคมสูงอายุ ความแตกต่างทั้งวิถีชีวิต วิธีคิดระหว่างกลุ่มวัย (Generation) เทคโนโลยี จนถึงการประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตประจำวัน โดยระเบียบวาระการประชุมที่สมาชิกสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 12 กว่า 2,000 คน จากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคราชการ การเมือง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ วิชาชีพ และภาคประชาชน และเอกชนจะพิจารณาร่วมกันในการประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย 4 ระเบียบวาระ คือ,1)ทบทวนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน เพราะแร่ใยหินทุกชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง ที่มีผลต่อสุขภาพทั้งกับคนที่ทำงานสัมผัสแร่ใยหินโดยตรงและประชาชนทั่วไป ซึ่งในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3 พ.ศ.2553 ได้มีมติเรื่อง มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน ซึ่งต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2554 เห็นชอบให้ดำเนินการตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ แต่การผลักดันยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ด้วยเหตุข้อขัดข้องต่างๆจึงนำมาสู่ข้อเสนอให้มีการทบทวนมติสมัชชาฯ เรื่อง มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน เพื่อให้เกิดการทบทวนและปรับมาตรการต่างๆ ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และประสานความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น,2) วิถีเพศภาวะ เสริมพลังสุขภาวะครอบครัว ปัญหาการยึดติดวิถีเพศภาวะดั้งเดิมอันส่งผลให้ทั้ง เพศหญิง เพศชาย และผู้หลากหลายทางเพศ มีปัญหาทั้งทางร่างกาย จิตใจ ส่งผลต่อสุขภาวะครอบครัว รวมถึงความสูญเสียด้านเศรษฐกิจ นำมาสู่การเสนอประเด็นวิถีเพศภาวะ เสริมพลังสุขภาวะครอบครัว เข้าเป็นหนึ่งในมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในปีนี้,3)การจัดการเชิงระบบสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล โดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง การใช้ยาไม่สมเหตุผลเป็นปัญหาสำคัญทั้งระดับโลกและระดับประเทศไทย โดยพบปัญหาการบริโภคยาอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาโดยไม่จำเป็น ใช้ยาตามการโฆษณาจากสื่อ ฯลฯ ในทุกระดับ ทั้งในสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชน รวมถึงพบการใช้ยาที่มีความเสี่ยงสูงในชุมชน เช่น ยาต้านจุลชีพ ยาสเตียรอยด์ ยาชุด เป็นต้น ซึ่งการแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องดำเนินการทั้งระบบโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาของชุมชนเอง เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาการใช้ยาในประเทศไทยอย่างยั่งยืน,4)รวมพลังชุมชนต้านมะเร็ง ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิต อันดับ 1 ของคนไทย 20 ปีซ้อน ปัจจัยเสี่ยงที่อาจมีผลต่อการเกิดโรคส่วนใหญ่เป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมถึงการขาดความรู้ความเข้าใจในการตรวจร่างกาย เพื่อค้นหามะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ขณะที่ การป้องกัน เช่น การรักษาสุขภาพและการตรวจคัดกรอง ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่ต้องเร่งดำเนินการกลับเป็นจริงได้ยาก เพราะประชาชนขาดความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก รวมถึงยังไม่รู้เท่าทันสื่อที่เข้าถึงประชาชนอย่างมากมาย โดยเฉพาะทางสังคมออนไลน์ ดังนั้นชุมชนจึงต้องมีบทบาทและส่วนร่วมรวมพลังกันเพื่อต้านมะเร็ง,ด้าน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มีมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันรวม 11 ครั้ง มีมติสมัชชาฯ ทั้งสิ้น 81 มติ ซึ่งนอกจากจะนำเสนอมติเหล่านี้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการตามบทบาทที่เกี่ยวข้อง คสช.ยังได้แต่งตั้ง คณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คมส.) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานทำหน้าที่สนับสนุนให้หน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องกับมติสมัชชาฯ ร่วมมือกันขับเคลื่อนมติให้เกิดผลในทางปฏิบัติ โดยใช้หลักการสำคัญคือ การสานพลังความร่วมมือ ร่วมกันกำหนดเป้าหมายและแผนการขับเคลื่อน โดยกำหนดหน่วยงานหลักหน่วยงานรองที่ทำงานหนุนเสริมกันไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการรายงานและผลัดเปลี่ยนกันนำเสนอผลการขับเคลื่อนมติในเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติทุกปี,นพ.ประทีป กล่าวต่อว่า ตัวอย่างรูปธรรมการขับเคลื่อนมติสมัชชาฯ มีหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ดำเนินการจนสามารถเปลี่ยนทิศทางของประเทศได้และเกิดขึ้นเร็วๆนี้ คือ เรื่อง เกษตร-อาหารปลอดภัย ซึ่งสมัชชาสุขภาพแห่งชาติมีมติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หลายครั้ง คือ ครั้งที่ 1, 5 และ 8 จากการขับเคลื่อนที่ผ่านมา สช.รวมกับหน่วยงานองค์กรภาคีเครือข่าย ได้แสดงจุดยืนในการผลักดันให้เกิดการดำเนินการตามมาตรการ ลด-ละ-เลิก การใช้สารเคมีทางการเกษตร ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง จนนำมาสู่การมติแบน 3 สารเคมีเกษตร คือ ไกลโฟเสต พาราควอต และคลอร์ไพรีฟอส จากที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา และในการขับเคลื่อนมติยังมีการเตรียมการยกร่างพระราชบัญญัติเกษตรกรรมยั่งยืน พ.ศ. เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาต่อไป ซึ่งจะเป็นการปรับทิศเปลี่ยนทางของระบบเกษตร-อาหารของประเทศไทยด้วย,ตลอดระยะเวลา 12 ปีของการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ถือได้ว่าเรามีบทบาทสนับสนุนให้เกิดการปฏิรูประบบสุขภาพของประเทศไทย กระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึ่งในต้นแบบกระบวนการมีส่วนร่วมทางนโยบาย แม้แต่องค์การอนามัยโลกก็ยอมรับว่า สมัชชาสุขภาพเป็นเครื่องมือในการสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วน เน้นการเสริมศักยภาพของประชาชนและสร้างจิตสำนึกแห่งความเป็นพลเมือง สอดคล้องกับแนวคิดสากลว่าด้วยทุกนโยบายห่วงใยสุขภาพ หรือ Health in All Policies นพ.ประทีป กล่าว,นอกจากนี้ ภายหลังการแถลงข่าวมีกิจกรรม Flash Mop กินยาผิด ติดไซเรน รณรงค์เรื่องการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ซึ่งเป็นหนึ่งในระเบียบวาระสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในปีนี้ ณ ลานสกายวอล์ค ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เพื่อสร้างกระแสให้สังคมตระหนักถึงการใช้ยาที่ถูกต้อง โดยจะมีการจัดทำมิวสิควิดิโอการแสดงดังกล่าวเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในวงกว้างอีกด้วย,ทั้งนี้ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เป็นการดำเนินกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ในปีนี้ นอกเหนือจากการพิจารณา 4 ระเบียบวาระหลัก ยังมีกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจ อาทิ ปาฐกถาพิเศษ โดย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ การเสวนาต่างๆ เช่น การป้องกัน ควบคุม และจัดการผลกระทบจากนโยบายการใช้กัญชาทางการแพทย์, จากเด็กหลอดแก้วถึงการแช่แข็งมนุษย์: ชีวจริยธรรมเรื่องที่ต้องการการมีส่วนร่วมของสังคม, สุขภาวะกับการท่องเที่ยวชุมชนย่านเก่า, ที่ดินคือชีวิต, ผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ฯลฯ รวมถึงนิทรรศการที่น่าสนใจ อาทิ Making The Invisible Visible: การมีส่วนร่วมในการจัดการ PM2.5 เพื่ออากาศสะอาด, การจัดการขยะในทะเล, กลั่นแกล้งออนไลน์ ภัยร้ายปลายนิ้ว, พลังสร้างสรรค์ของเด็กพิเศษ เป็นต้น
คกก.จัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เตรียมจัดงาน สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 12 ประจำปี 62 ภายใต้แนวคิด ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง สู่การพัฒนาสังคมสุขภาวะ ถก 4 นโยบายสำคัญ พร้อมโชว์ความสำเร็จจากการ
ข่าว,ทั่วไทย
สมัชชาสุขภาพ,สุขภาพ,สาธารณสุข,มะเร็ง,นโยบาย สธ.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1709590
ผู้นำมาเลเซียวิจารณ์ช่วงเวลาประท้วงไม่เหมาะสม เหตุตรงฝึกซ้อมพาเหรดฉลองวันชาติ
วันนี้ (28 ส.ค.2558) นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วิพากษ์วิจารณ์กลุ่มผู้จัดการประท้วงในสุดสัปดาห์นี้ว่า เป็นการกระทำที่ไม่เคารพต่อบรรพบุรุษที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศ เนื่องจากจัดการชุมนุมในช่วงเวลาและสถานที่เดียวกันกับการฝึกซ้อมขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองครบรอบ 58 ปี วันชาติมาเลเซียผู้นำมาเลเซียยังระบุว่ากลุ่มผู้ประท้วงจะต้องไม่ก่อให้เกิดการยั่วยุและวันชาติมาเลเซียไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นเวทีสำหรับข้อพิพาททางการเมือง ทางการมาเลเซียได้สั่งปิดเว็บไซต์ของกลุ่มต่อต้านและยกระดับการรักษาความปลอดภัยในกรุงกัวลา ลัมเปอร์ในวันนี้ รวมทั้งวางแผนซ้อมขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองวันชาติที่บริเวณลานประกาศอิสรภาพในสุดสัปดาห์นี้เช่นเดียวกันขณะที่กลุ่มเบอร์ซีห์ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองประกาศว่าจะมีชาวมาเลเซียประมาณ 200000 คน เข้าร่วมประท้วงครั้งนี้ เนื่องจากไม่พอใจการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลและกรณีที่ผู้นำพัวพันการทุจริตเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจมาเลเซียในระยะยาว (1MBD) กว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ผู้นำมาเลเซียตำหนิการนัดชุมนุมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่าจัดขึ้นในช่วงเวลาและสถานที่ ๆ ไม่เหมาะสม เนื่องจากตรงกับการฝึกซ้อมขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองครบรอบวันชาติปีที่ 58 ของมาเลเซีย
ต่างประเทศ
กัวลา ลัมเปอร์,ชุมนุม,นาจิบ ราซัค,ประท้วง,มาเลเซีย,วันชาติ,เบอร์ซี
https://news.thaipbs.or.th/content/4756
สรุปข่าวประจำวันที่ 2-3 พ.ย.57 ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น.
18.24 น. สนช.สายทหาร ห่วงไม่รับเรื่องถอดถอน สมศักดิ์-นิคม โดนข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เผย สนช.ยังเสียงแตกสองฝ่ายสำนวนถอดถอน บิ๊กกี่อุบไต๋ลงมติสอย กลัวถูกถล่มเละอีก,19.00 น. เทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ปัดไม่รู้ กมธ. สัดส่วน ครม.-คสช.เป็นใคร ชี้ต้องถาม นายกฯ เอง,20.28 น. ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เถลิงแชมป์สมัยที่ 3 หลังเปิดบ้านเขี่ย สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน เพื่อนตำรวจ ตกชั้น 2-1 ขณะที่ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี สุดเศร้าเจ๊า ทีโอที เอสซี ไป 1-1 คว้าตำแหน่งรองแชมป์,22.39 น. เซร์คิโอ อเกวโร สวมบทฮีโร่ ยิงประตูชัยช่วยให้ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 คน ตั้งแต่ครึ่งแรก ไป 1-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์,23.59 น. พาทริก แฮร์มันน์ เหมาคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ สิงห์หนุ่ม โบรุสเซีย มึยเช่นกลัดบัค เปิดบ้านเอาชนะ ฮอฟเฟนไฮม์ ไป 3-1 ทำแต้มจี้จ่าฝูง บาเยิร์น มิวนิก เหลือ 4 แต้ม ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน,02.11 น. ชโคดราน มุสตาฟี ทำคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ ค้างคาว บาเลนเซีย บุกมาเอาชนะ บียาร์เรอัล ถึงถิ่น 3-1 และเป็นการบุกมาเอาชนะเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี พร้อมจี้จ่าฝูง เรอัล มาดริดเหลือ 1 แต้ม,02.30 น. โนวัค ยอโควิช นักหวดชาวเซิร์บมือ 1 ของโลก โชว์ฟอร์มดุ ไล่ต้อน มิลอส ราโอนิค นักเทนนิสจากแคนาดา ขาดลอย 2 เซตรวด คว้าแชมป์ บีเอ็นพี พารีบาส มาสเตอร์ส ที่กรุงปารีส ไปครองเป็นสมัยที่ 3,05.01 น. เปาโล ดิบาลา ยิงประตูย้ำชัยช่วยให้ ปาแลร์โม บุกไปเอาชนะ เอซี มิลาน ถึงถิ่น 2-0 ในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา,06.00 น. ลูอิส แฮมิลตัน นักซิ่งชาวสหราชอาณาจักรของเมอร์เซเดส คว้าแชมป์การแข่งขัน ฟอร์มูลา วัน รายการ ยูเอส กรังด์ปรีซ์ ทำให้ทำคะแนนสะสมทิ้งห่าง นิโค รอสเบิร์ก นักซิ่งเมืองเบียร์เพื่อนร่วมค่าย 24 แต้ม,05.15 น. โดดเด่นอยู่บนฟลอร์เต้นดี๊ดี กลับมีข่าว ฮั่น-อิสริยะ ภัทรมานพ หรือ ฮั่น เดอะสตาร์ เด็ดดอกฟ้า เพราะมีภาพคู่ ฮั่น กับ อิงฟ้า ดำรงชัยธรรม ลูกสาวบิ๊กกู๋ แกรมมี่ มีการเอาคางวางเท้าไหล่กันด้วย คนเลยสงสัย เป็นแฟนกันหรือไม่ ถาม ฮั่น ในงาน Robinson the Musical Cruise Party ที่โรบินสัน,05.30 น. เชือดเฉือนกันสุดๆ โดยเฉพาะสาว มด-ณปภัช กับบท ดาว นางทาสหัวสูงในละคร ชิงรักหักสวาท ที่เล่นได้น่าหมั่นไส้ ยิ่งฉากนี้ยิ่งชวนให้คนเกลียดทั่วบ้านทั่วเมืองแน่ ในฉากที่ เดือน (ขนมจีน-กุลมาศ) ยืนอยู่ศาลาท่าน้ำ,05.01 น. ติมโอกาสและประสบการณ์สร้างสรรค์ให้แก่เยาวชนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เดินหน้าจัดกิจกรรม แคมป์ เยาวชน สานรัก คนเก่งหัวใจแกร่ง โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 6,05.15 น. เหล่าคนดังในวงการวิชาการและแฟชั่นดีไซเนอร์เมืองไทย ร่วมพูดคุยถึงความอัศจรรย์ในตัวศิลปินระดับโลก โยจิ ยามาโมโต้ ดีไซเนอร์ผู้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการแฟชั่นโลก,05.30 น.ร่วมเฉลิมพระเกียรติและเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวด้านดนตรีให้เป็นที่ประจักษ์ และเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมชื่นชมความสามารถของนักดนตรีเยาวชนรุ่นใหม่ ที่จะมาร่วมถ่ายทอดบทเพลงพระราชนิพนธ์,05.15 น. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการย้ายสถานีขนส่งกรุงเทพ (หมอชิต 2) ว่า มีแนวคิดให้บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส.ไปศึกษาเพิ่มเติมถึงการแยกสถานีขนส่งหมอชิต 2 โดยให้แยกสถานีขนส่งสายเหนือ และสายอีสานออกจากกัน,05.30 น. พาณิชย์ จ่อคิวดันส่งออกรถยนต์มือสอง เน้นตลาดเพื่อนบ้าน–แอฟริกา พร้อมช่วยตลาดในประเทศ แถมได้ยอดการส่งออก ด้าน ส.อ.ท.ออกโรงหนุนทันควัน หลังผู้ประกอบการเจอพิษเศรษฐกิจซบเซา แถมค่ายรถยนต์โหมแคมเปญขายรถใหม่ จนรถมือสองล้นตลาด,01.30 น. ประชาชนแห่ชมหุ่นโลกกันอย่างคึกคัก กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมสัญจร 4 ภูมิภาค คืนความสุขของขวัญปีใหม่ให้คนต่างจังหวัด,23:25น. องค์กรรณรงค์ระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การระบาดของไวรัสอีโบลาในประเทศเซียร์ราลีโอน เร็วขึ้นหลายเท่า โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท,01:22น. กลุ่มผู้ชุมนุมชาวฝรั่งเศสออกมาเดินขบวนในหลายเมือง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมคนหนึ่ง ซึ่งเสียชีวิตขณะปะทะกับตำรวจ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.,02:05น. ชาวอเมริกันเตรียมไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกลางเทอมทั่วสหรัฐฯในวันที่ 4 พ.ย.นี้ คาดพรรคฝ่ายค้านรีพับลิกัน ได้ชัยและจะมีเสียงข้างมากทั้งในสภาสูงและสภาล่าง,03:10น. กลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (ไอเอส) ก่อเหตุสังหารหมู่สมาชิกชนเผ่าชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ในจังหวัดอันบาร์ ทางตะวันตกของประเทศอิรักมากกว่า 200 ศพ,03:50น. ศาลในกรุงไคโรของอียิปต์ตัดสินลงโทษจำคุก 3 ปี ผู้ต้องหาชาย 8 ราย ฐานเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแต่งงานของคู่รักชายชาวเกย์ ซึ่งยังไม่เป็นที่ยอมรับในอียิปต์,05:11น. ตำรวจฮ่องกงตั้งข้อหาฆาตกรรมแก่ชายชาวสหราชอาณาจักร หลังพบศพหญิงสาว 2 คนในห้องของเขาที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งเมื่อวันเสาร์,18.20 น. นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ แห่กราบไหว้ขอพรพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่สร้างด้วยไม้สักทองท่อนเดียว ใหญ่สุดของประเทศที่พะเยา…,18.35 น. เหี้ยมฆ่าหั่นศพคนงานเพิงขายก๋วยเตี๋ยว ก่อนโยนทิ้งคลองระบายน้ำ สนามกีฬากลาง ตร.พุ่งเป้า น้าชายลงมือ โดยหลังเกิดเหตุได้หายตัวไป,19.20 น. เกิดเหตุอันน่าสลดใจ เมื่อวัยรุ่นอายุ 16 ปี ใน จ.พัทลุง ถูกไฟช็อตเสียชีวิตคาที่ คาดเข้าไปลักทรัพย์ในบ้าน แต่พลาดมือไปถูกลวดเหล็กที่เจ้าของบ้านเดินต่อโยงกับไฟฟ้าเพื่อป้องกันขโมย ด้าน ตร.เขาชัยสน เตรียมสอบสวนเร่งหาสาเหตุ ,20.01 น. ตำรวจเร่งล่าไอ้สาม มือยิงนักพนันไฮโลเสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บ 10 รายที่ จ.ขอนแก่น พบปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนสมัยสงคราม ปัจจุบันไม่มีใช้ในราชการไทย ซึ่งถูกฝังไว้ใกล้ไร่มันสำปะหลัง,20.50 น. โจรใต้ป่วนอีก ควบ จยย.ซ้อน 2 ตามประกบยิงนักศึกษาสาวเมืองนราธิวาสเสียชีวิต 1 ศพ โดยก่อนหน้านั้นพ่อของผู้ตายก็ถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีประกบยิงเสียชีวิตเมื่อปี 2555,21.30 น. รปภ.ซิ่งจยย.ตกโทลล์เวย์ บริเวณทางลงถนนงามวงศ์วานดับอนาถ คาดฝนตกถนนลื่น ตร.เร่งสอบสาเหตุการนำรถ จยย.ขึ้นโทลล์เวย์ เนื่องจากปกติแล้ว รถจักรยานยนต์ไม่สามารถผ่านจุดดังกล่าวได้,22.18 น. อดีตหัวหน้ากรมทางทลวง นักดื่มสุราแบบเสพติดสงสัยอาจจะเป็นพิษสุราเรื้อรัง ในโครงการ ลดดื่มสักนิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ของ สสส. เสียชีวิตคาบ้านพัก คาดดื่มสุรามากจนเสียชีวิต,23.30 น. โจรใต้ยิงถล่มชาวบ้าน ตาย 1 เจ็บ 3 ที่ ตากใบ นราธิวาส ขณะเจ้าของบ้านและเพื่อนบ้านกำลังนั่งคุยกันที่หน้าบ้านพัก เจ้าหน้าที่จัดกำลังไล่ล่าแต่ไม่พบตัว ,23.46 น. อุตรดิตถ์จัดงานสมโภชอนุสาวรีย์ พระยาพิชัยดาบหัก พร้อมจัดทำวัตถุมงคล รุ่นรวมพลังสามัคคีและเฉลิมฉลอง 100 ปี จังหวัดในปี 58 ทั้งจัดทำฐานประดิษฐ์สถานสูงจากเดิม และปรับภูมิทัศน์รอบ ๆ,00.18 น. พบศพทารกถูกพ่อ-แม่ทำคลอดทิ้งคาคอห่านในปั๊มน้ำมันสี่แยกชะอำ กล้องวงจรปิดในปั๊มจับภาพบุคคลต้องสงสัยไว้ได้ ตร.เร่งตามตัวมาดำเนินคดี ,00.31 น. ปมขัดแย้งตัดกิ่งไม้ท้ายไร่ เพื่อเดินสายไฟเข้าพื้นที่ ทำสองเพื่อนบ้านเกิดหมางใจ จากมิตรกลายเป็นความขัดแย้ง นำปืนมายิงพ่อลูก เจ็บหนึ่งดับหนึ่ง ที่อ.ปราณบุรี ก่อนหลบหนี ตร.คาดว่าจะจับตัวมาดำเนินคดีได้เร็วๆนี้,01.12 น. คนร้ายใช้อาวุธปืน จ่อยิงหนุ่มเมืองตรัง เสียชีวิตคาศาลาหมู่บ้าน คาดขัดผลประโยชน์ทางธุกิจ ตร.รู้ตัวคนก่อเหตุแล้ว เร่งลากตัวมาดำเนินคดี,01.48 น. เริ่มแล้วงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟสุโขทัย ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หลั่งไหลเข้าชมพิธีเปิดคึกคัก,02.25 น. หนุ่มผู้จัดการร้านเฟอร์นิเจอร์ ควบกระบะพาแฟนสาวและลูกหลานไปเที่ยวที่สวนน้ำเขาโพธิ์ เขต อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจอฝนกระหน่ำ รถเสียหลักพลิกคว่ำดับพร้อมแฟนสาว ส่วนลูกหลานได้รับบาดเจ็บ 3 ราย,02.50 น. คนขับรถวัย 70 ขับรถพาผู้สูงอายุไปทอดกฐินวัดเดียวกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขากลับบรรทุกมา 15 ชีวิต เกือบจะถึงบ้านยางหน้าเกิดระเบิด รถเสียหลักพุ่งลงคลอง ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย สาหัส 1 ราย,03.20 น. ชาวพม่า มอญ และกะเหรี่ยง กว่า 5 พันคน แต่งชุดประจำชนเผ่า ร่วมงานฉลองการยกยอดฉัตร พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง ขึ้นภูเขาวัดทัพศิลา จังหวัดกาญจนบุรี,03.38 น. เทศกาลลอยกระทงเชียงใหมจัดเต็ม แต่งเมืองเข้าสู่เทศกาลประเพณีเดือนยี่เป็ง ประดับประดาโคมไฟอย่างสวยงาม และจัดกิจกรรมทางประเพณีวัฒนธรรมล้านนา วันที่ 5 -7 พ.ย.มีการจุดผังประทีบอย่างงดงามทั้งเมือง,03.45 น. ตำรวจภาค 7 วางแผนล่อซื้อยาบ้า ก่อนจะจับกุมพ่อค้ายาบ้าได้ พร้อมของกลางกว่า 2 หมื่นเม็ด รับเป็นผู้รับจ้างขนยาเท่านั้น ได้ค่าจ้างครั้งละ 2-4 หมื่นบาท,04.10 น. ไฟลุกไหม้ ห้องเครื่องรถบรรทุก18 ล้อ คนขับสูญทรัพย์สิน-เงินสดนับหมื่น เหตุเอาออกมาไม่ได้ เพราะไฟลุกลามรวดเร็ว คาดไฟฟ้าลัดวงจร  ,05.01 น. ลอยกระทงมีทุกปี กลางคืนอธิษฐานขอโทษขอโพยพระแม่คงคา แต่รุ่งเช้าฟ้าสาง ภาระตกหนักเทศบาล เก็บกระทงหน้าดำหน้าแดง กลายเป็นขยะกองพะเนิน กว่าจะย่อยสลายรอกันนานนับปี,05.15 น. การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ ถือเป็นหน้าที่สำคัญอีกข้อหนึ่งของผู้ให้บริการทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รายงานวันจันทร์ วันนี้ จะพาไปชมสำนักงานเขตคันนายาว สถานที่ราชการตัวอย่างที่มีการจัดสถานที่และบริการเพื่อรองรับสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ
สนช.สายทหาร ห่วงไม่รับเรื่องถอดถอน สมศักดิ์-นิคม โดนข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เผย สนช.ยังเสียงแตกสองฝ่ายสำนวนถอดถอน บิ๊กกี่อุบไต๋ลงมติสอย กลัวถูกถล่มเละอีก ขณะที่สถานการณ์ภาคใต้ ยังป่วนอีก! ควบ จยย.ซ้อน 2 ตามประกบยิงนศ.
null
null
https://www.thairath.co.th/content/460898
ชุมชนประชาสามัคคี อ.เมืองภูเก็ต ยังปิดพื้นที่ สกัดโควิดให้ครบ 14 วัน
เมื่อวันที่ 9 พ.ค.63 ที่บริเวณจุดตรวจคัดกรองชุมชนประชาสามัคคีพื้นที่หมู่ 2 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการปิดชุมชนต่อไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดภูเก็ตได้ประกาศเปิดรอยต่อตำบลทุกตำบล แต่ยังมีการปิดพื้นที่ต่อในอีก 5 จุด ซึ่งชุมชนประชาสามัคคีเป็นอีกชุมชนที่ยังคงมีการปิดชุมชน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตั้งด่านจำนวน 2 จุดที่เป็นจุดรอยต่อเพื่อปิดทางเข้าออกแต่ก็อนุญาตในส่วนของการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นและเป็นไปตามประกาศของเจ้าหวัดเท่านั้นน.ส.จันทรัตน์ ชโลธร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 กล่าวว่า ในชุมชนประชาสามัคคี ชาวบ้านในชุมชนต่างให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี แม้จะมีการปิดพื้นที่ต่อเนื่องจากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา และทางจังหวัดได้ประกาศให้มีการปิดพื้นที่ชุมชนสามัคคีต่ออีกเพื่อเป็นการควบคุมโรคด้านนายสมบัติ สิงฆาฬะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะแก้ว กล่าวว่า หลังจากที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อในชุมชนประชาสามัคคี ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการสอบสวนโรคและได้มีการกักตัวผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยจำนวน 8 คน โดยจะครบกำหนดตามที่ทางราชการได้กำหนด 14 วันในวันที่ 11 พ.ค.นี้ โดยในขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการติดเชื้อแต่อย่างใด หลังจากครบกำหนดการกักตัวก็จะได้มีการตรวจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อ ส่วนผู้ป่วยขณะนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 อาการดีขึ้นตามลำดับ.
ภูเก็ตยังมีการตั้งด่านปิดพื้นที่ต่อใน 5 จุด โดย 2 จุดอยู่ที่ชุมชนประชาสามัคคี หมู่ 2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง โดยยังให้เข้าออกเฉพาะรถขนส่งของอุปโภคบริโภค เพื่อให้ครบ 14 วันในวันที่ 11 พ.ค.63
ข่าว,ทั่วไทย
โควิด-19,ไวรัสโคโรนา,ภูเก็ต,ปิดหมู่บ้าน,ปิดพื้นที่,กักตัว 14 วัน,ชุมชนประชาสามัคคี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1840328
คิม ไคล์จสเตอร์ แชมป์เก่าเข้ารอบ 3 ออสเตรเลียน โอเพ่น
การแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น แกรนด์สแลมป์แรกของปีเข้าสู่รอบที่ 2 คิม ไคล์สเตอร์ส แชมป์เก่าใช้เวลาเพียงแค่ 47 นาทีหวดเอาชนะ สเตฟานี่ โฟเรตซ์ กาคอง จากฝรั่งเศส 6-0 6-1 ไคล์จสเตอร์ จะพบกับ ดานิเอล่า ฮันตูโชว่า มือ 20 จากสโลวาเกียในรอบ 3 ด้านหลี่ นา มือวางอันดับ 5 เอาชนะ โอลิเวียร์ โรโกวสก้า จากรัสเซีย 6-2 6-2 หลี่ นา ผ่านเข้าไปพบกับอนาเบล เมดิน่า การ์ริเกส นักเทนนิสจากสเปนส่วนหญิงเดี่ยว รอบแรกเมื่อวานนี้ เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ผ่านเข้าสู่รอบ 2 หลังเอาชนะนักเทนนิสจากออสเตรียไป 2 เซตรวด โดย เซเรน่า ให้สัมภาษณ์ถึงอาการบาดเจ็บข้อเท้าซ้าย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างแข่งขันรายการที่บริสเบนว่ารู้สึกดีกับสภาพร่างกาย และไม่รู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าแล้วขณะที่ประเภทชายเดี่ยวรอบ 2 โทมัส เบอร์ดิช มือวางอันดับ 7 ของรายการจากเช็กก็ผ่านเข้ารอบ 3 ได้สำเร็จหลังหวดเอาชนะ โอลิวิเยร์ โรชุส นักเทนนิสจากเบลเยี่ยม 6-1 6-0 7-6 ไทเบรก 7-4 ขณะที่โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ไม่ต้องออกแรงเหนื่อยในรอบ 2 เพราะ อันเดรส เบ็คเกอร์ นักเทนนิสเยอรมนีคู่แข่งของเขาในวันนี้ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันแล้ว
คิม ไคล์สเตอร์ แชมป์เก่าเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่นผ่านเข้ารอบ 3 ได้แบบง่ายดาย
กีฬา
ออสเตรเลียน โอเพ่น,เทนนิส,แชมป์เก่า,ไคล์จสเตอร์
https://news.thaipbs.or.th/content/60283
#2 เฟมินิสต์ประสาทแดก: มายาคติเรื่องสมองของสอง (?) เพศ
ผู้เขียนได้ใช้เวลาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อพยายามทำความเข้าใจความคิดของคนเหล่านั้น และได้ข้อสรุปคร่าวๆประมาณ 3 ประเด็นหลักๆ ที่เห็นในสังคมออนไลน์ (ไทย)มีคนไม่เชื่อว่าระบอบชายเป็นใหญ่ยังมีอยู่ในสังคมไทย ซึ่งผู้เขียนในพยายามวิเคราะห์และแบตัวอย่าง/ตัวเลข ให้เห็นหลักฐานว่าสังคมเรายังเป็นสังคมชายเป็นใหญ่ (แนบว่าในเมล์นี้พร้อมรูปประกอบ)บางคนไม่ปฏิเสธการมีอยู่ของสังคมชายเป็นใหญ่ แต่ยังมีมายาคติเรื่อง Gender roleและมักอ้างว่าสังคมชายเป็นใหญ่ดีอยู่แล้ว เพราะสมองของผู้หญิงและผู้ชายต่างกัน จึงทำให้ผู้หญิงและผุู้หญิงเหมาะกับงานที่ต่างกัน (ซึ่งไม่จริง) ผู้เขียนได้อ่านงานวิจัยเรื่องสมองและประสาทมาบ้าง และได้เรียนรู้ว่า งานวิจัยด้านนี้นอกจากซับซ้อน มี controversial แล้ว ยังมีความ Neurosexism อีกด้วย มีงานวิจัยยุคใหม่หลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า สมองมนุษย์นั้นคล้ายกับพลาสติกที่สามารถแปรรูป เปลี่ยนโครงสร้างได้ตลอดเวลา และเพศกำเนิดไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ส่งผลกับโครงสร้างสมอง สังคม วัฒนธรรม พฤติกรรม และสภาพแวดล้อมก็ส่งผลต่อโครงสร้างสมองเช่นกัน ทั้งยังมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ทำให้เราต้องทบทวนมายาคติ และ Stereotype ที่เรามีเกี่ยวกับเรื่องเพศ อีกสิ่งที่ผู้เขียนอยากสื่อในบทความนี้คือ สุดท้ายแล้วแม้ความรู้ทาง Brain และ Neuroscience จะเป็นอย่างไร เราก็ไม่ควรทำความรู้พวกนี้มา stereotype และปิดกั้นโอกาสของคนเพศต่างๆ เราควรเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ค้นหาศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง ผู้เขียนเชื่อว่า สังคมควรขับเคลื่อนด้วยคนที่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักได้อย่างมีความสุขผู้เขียนอพยายามเข้าใจความเกรี้ยวกราดของตัวเองและเฟมินิสต์คนอื่นๆผู้เขียนคิดว่า การแสดงความเกรี้ยวกราด คือ การทวงคืนอำนาจอย่างหนึ่ง การบอกให้ผู้หญิงต้องเรียบร้อย พูดจาอ่อนหวาน ถือเป็นการควบคุมผู้หญิงอย่างหนึ่ง เหมือนที่ผู้มีอำนาจในประเทศนี้ชอบควบคุมประชาชนในบรรดาคนที่ ไม่ซื้อ การต่อสู้เพื่อความเสมอภาคทางเพศในไทยตามที่ฉันสังเกต คนบางกลุ่มไม่ปฏิเสธการมีอยู่ของสังคมชายเป็นใหญ่ และมักอ้างว่าสังคมชายเป็นใหญ่นั้นดีอยู่แล้ว พวกเขาเชื่อว่า เพียงเพราะเกิดมาด้วยอวัยวะเพศที่ต่างกัน แปลว่าสมองของเพศหญิงและชายต้องต่างกันด้วย ดังนั้นคนเหล่านี้จึงเชื่อว่า เพศหญิงและชายถูกกำหนดมาแล้วโดยธรรมชาติว่าควรมีบทบาทหน้าที่ทางสังคมต่างกัน งานบางงานควรเป็นงานของผู้ชาย หน้าที่บางอย่างควรเป็นของผู้หญิง ในความเห็นของคนกลุ่มนี้ เฟมินิสต์ประสาทแดกเพราะอยากได้ความเท่าเทียม ซึ่งในทางธรรมชาติ (ของสมองแล้ว) มันเป็นไปไม่ได้การถกเถียงในประเด็นนี้ทำให้ฉันนึกถึงบทความที่อ่านเมื่อปลายปีที่แล้วเรื่อง Neurosexism: the myth that men and women have different brains ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature โดยเป็นการให้สัมภาษณ์ของ Gina Rippon ศาสตราจารย์ด้าน Cognitive NeuroImaging จากมหาวิทยาลัย Aston ซึ่งทำให้ฉันได้ตระหนักว่าการเหยียดเพศนั้นฝังรากลึกไปวงการวิชาการด้านสมองและพฤติกรรมมนุษย์ ความประสาทแดกของเฟมินิสต์อันดับที่ 2 นี้ จะเล่าเรื่องผ่านการอธิบายของอาจารย์ Ribbon ผู้เปิดเนตรให้ฉันได้ตาสว่างจ้าเรื่องมายาคติทางเพศ โดยงานวิจัยที่อ้างอิงในบทความนี้ส่วนใหญ่ได้มาจากการอ่านหนังสือของอาจารย์ (The Gendered Brain: The New Neuroscience that Shatters the Myth of the Female Brain)Neurosexism ถูกนิยามครั้งแรกโดย Cordelia Fine ศาสตราจารย์ด้าน History and Philosophy of Science จากมหาวิทยาลัย Melbourne คำนี้ถูกใช้เรียกการทำวิจัยทางด้านประสาทวิทยาที่มุ่งหาแต่ความแตกต่างในโครงสร้างทางสมองระหว่างเพศหญิงและชาย เช่น ทักษะทางด้านภาษา ด้านมิติสัมพันธ์ (spatial skill) โดยที่ไม่ให้ความสำคัญกับโครงสร้างทางสมองส่วนที่เหมือนกัน หรือความยืดหยุ่นของสมองที่อาจเปลี่ยนไปเพราะสภาพแวดล้อมทางสังคม ราวกับสมองของสองเพศนั้นเป็นถูกออกแบบมาให้ต่างกัน (hard-wired) โดยที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโดยปัจจัยอื่นๆ เลย อาจารย์ Rippon ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ในจำนวนงานศึกษาด้านประสาทวิทยาและความแตกต่างทางเพศ งานที่ได้รับการตีพิมพ์และได้ความสนใจจากสื่อมักจะเป็นงานที่ ความแตกต่างของสมองอย่างมีนัยสำคัญ (significant difference) ระหว่างสองเพศ ซึ่งน่าสนใจว่ามีงานวิจัยจำนวนกี่ชิ้นที่ถูกเก็บไว้ในลิ้นชัก ไม่ได้รับการตีพิมพ์เพียงเพราะไม่พบความแตกต่างแบบนี้? ในปี 2018 John Ioannidias และคณะได้ศึกษาความเป็นไปได้ที่รายงานการศึกษาด้านความแตกต่างระหว่างเพศโดยเทคนิค Neuroimaging จะเป็นรายงานที่อคติ จากตัวอย่างงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์จำนวน 179 งาน พวกเขาพบว่า 88% ของงานวิจัยเหล่านี้รายงานว่า ซึ่ง Ioannidias และคณะให้ความเห็นว่า ตัวเลขนี้สูงเกินไปและไม่น่าเป็นไปได้ ถ้างานวิจัยเหล่านี้ถูกรายงานโดยปราศจากอคติ จำนวนโครงสร้างในสมองที่มีความแตกต่างระหว่างสองเพศ จะต้องมีความสัมพันธ์กับจำนวนตัวอย่างของผู้เข้าร่วมการทดลอง เช่น งานวิจัยที่สุ่มตัวอย่างโดยใช้จำนวนคนเยอะๆ ควรมีโอกาสเจอโครงสร้างในสมองที่มีความแตกต่างระหว่างสองเพศมากกว่า แต่การศึกษาของ Ioannidias กลับไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างสองปัจจัยนี้เลย พวกเขาจึงสรุปว่า รายงานเหล่านั้นอาจมีอคติ โดยอคตินี้อาจมาจาก วิธีวิเคราะห์ผล-การใช้สถิติในงานวิจัยอย่างไม่เหมาะสม หรือ ความกดดันด้านรางวัล-ชื่อเสียงที่จูงใจให้นักวิจัยรายงานเพียงแค่การศึกษาที่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเท่านั้นงานวิจัยนำโดย Douglas Dean ในปี 2018 ได้ศึกษาโครงสร้างสมองของทารกอายุ 1 เดือนจำนวน 143 คน (เพศหญิง 73 คน ชาย 70 คน) ตั้งแต่ขนาดของสมองโดยรวม (total brain volume) เนื้อสมอง รวมทั้งต่อมต่างๆ ในสมอง ในตอนที่งานวิจัยนี้เผยแพร่ครั้งแรก พวกเขารายงานว่า พบความแตกต่างในทุกส่วนของโครงสร้างระหว่างสมองของทารกทั้งสองเพศ โดยทารกเพศชายมีขนาดของสมองโดยรอม รวมถึงโครงสร้างในสมองอื่นๆ ที่ใหญ่กว่า แต่ว่าการสรุปเช่นนี้มีปัญหาและได้รับการท้วงติงจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะการคำนวณขนาดโครงสร้างภายในสมองในตอนแรกนี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่ได้คำนวณโดยพิจารณาขนาดสมองโดยรวมและอายุที่แท้จริงของทารก (gestation-corrected age) เพราะอายุและขนาดสมองโดยรวมมีผลต่อขนาดโครงสร้างในสมอง (สมองที่ใหญ่กว่า-ไม่ว่าเพศไหน-มักมีโครงสร้างภายในต่างๆ ที่ใหญ่กว่า) หลังจากที่ผู้วิจัยได้แก้ไขสูตรคำนวณแล้ว พวกเขาพบว่า ขนาดของโครงสร้างต่างๆ ในสมองของทารกทั้งสองเพศนั้นต่างกันแบบไม่มีนัยสำคัญ (ทั้งนี้ขนาดสมองโดยรวมไม่ใช่สาเหตุสำคัญต่อความฉลาดทางปัญญา (IQ) ของมนุษย์ )การศึกษาของ Daphna Joel และคณะ ได้เสนอว่า สมองและพฤติกรรมมนุษย์มีลักษณะเหมือนศิลปะโมเสก ลักษณะบางอย่างพบบ่อยในเพศหญิง บางอย่างพบบ่อยในเพศชาย บางอย่างพบได้ในทั้งสองเพศ และไม่ว่าความต่างทางพฤติกรรมและสมองของแต่ละเพศจะเกิดจากธรรมชาติหรือการเลี้ยงดู สมองมนุษย์ก็ไม่สามารถถูกจำแนกออกเป็นสองประเภทตามเพศกำเนิด ว่าเป็นสมองผู้หญิงหรือสมองผู้ชาย งานวิจัยนี้ดูเหมือนจะสอดคล้องกับงานวิจัยของ Stuart Ritchie และคณะ ที่พบว่า ในตัวอย่างประชากรเพศหญิงจำนวน 2750 คน และเพศชายจำนวน 2466 คน (ช่วงอายุ 44-47 ปี) ขนาดของโครงสร้างต่างๆ ภายในสมองของเพศหญิงชายมีความคาบเกี่ยวกันอย่างมาก (considerable distributional overlap between the sexes)Ethan Zell และคณะได้ศึกษาความเหมือนและความต่างทางเพศโดยวิธี Metasynthesis (รวมรวบผลการศึกษาจากหลายๆ งานวิจัยที่เกี่ยวกับความต่างทางเพศ) โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาว่า แท้จริงแล้วผู้หญิงและผู้ชายต่างกันมากเท่าไหร่ งานวิจัยนี้ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัยมากกว่า 20000 ชิ้น ที่ครอบคลุมตัวอย่างประชากรมากกว่า 12 ล้านคน พวกเขาพบว่าเพศหญิงและชายมีมากกว่า จากคุณลักษณะทางจิตวิทยา (psychological characteristics) ที่ศึกษาจำนวน 386 คุณลักษณะ พบว่า 85% ของคุณลักษณะเหล่านี้ ผู้หญิงและผู้ชายมีความต่างกันน้อย (คะแนน 0.11-0.35) ถึงน้อยมากๆ (คะแนน 0 – 0.10) ส่วนคุณลักษณะซึ่งมักมีมายาคติว่าเป็นความต่างที่สำคัญของสองเพศ เช่น (ความจำ สมาธิ ทักษะการแก้ปัญหา ความสามารถทางคณิตศาสตร์ มิติสัมพันธ์ และ ทักษะการใช้คำ เป็นต้น) และ (ภาวะผู้นำ อารมณ์ ความสนใจ ความก้าวร้าว การสื่อสารระหว่างบุคคล การช่วยเหลือ และวิถีทางเพศ เป็นต้น) งานวิจัยนี้กลับว่า (คะแนน 0.22) นอกจากนี้คุณลักษณะที่ต่างกันมากที่สุด คือลักษณะความเป็นชาย-หญิง (masculine vs feminine traits) นักวิจัยยังได้ให้ความเห็นไว้ว่า ความต่างทางด้านพฤติกรรมอาจมาจากการเรียนรู้ผ่านทางสังคม (ที่มักสอนเราตั้งแต่เราเริ่มพูดได้ว่า ผู้หญิง-ผู้ชาย ควร เป็นอย่างไร—ผู้เขียน) แม้จะมีคำกล่าวที่ว่าผู้ชายมาจากดาวอังคารและผู้หญิงมาจากดาวศุกร์ นักวิจัยยังย้ำว่า สุดท้ายแล้วงานวิจัยนี้ก็ชี้ให้เห็นว่า เรา-หญิงชาย-ไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้น และเราล้วนมาจากดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลกนี่แหละ Neural Plasticity คือความสามารถของระบบประสาทส่วนกลางที่จะปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมและประสบการณ์ งานวิจัยหนึ่งที่ฉันเห็นว่าเป็นตัวอย่างของ Neural Plasticity ที่ท้าทายมายาคติเรื่องเพศได้อย่างดี คือ การศึกษาเรื่องพฤติกรรมการเลี้ยงลูกที่ส่งผลต่อกิจกรรมในโครงสร้างทางสมองของเพศชาย วัฒนธรรมมนุษย์ส่วนใหญ่เชื่อว่าผู้หญิงถูกกำหนดมาให้เป็นแม่ มีหน้าที่เลี้ยงดูลูก แต่งานวิจัยนี้จะทำให้เราต้องทบทวนมายาคตินี้ใหม่ เพราะการศึกษาชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่เราเคยเชื่อว่าเป็น สัญชาตญาณความเป็นแม่ นั้น ไม่ได้เป็นลักษณะเฉพาะที่มีแต่ในผู้หญิง หรือถูกกระตุ้นเพียงแค่จากฮอร์โมน แต่สามารถเกิดขึ้นกับคนเพศไหนก็ได้ที่เลือก (ลงมือ) เลี้ยงลูกการศึกษานี้นำโดย Ruth Feldman นักจิตวิทยาและประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัย Bar-Ilan ซึ่งศึกษาการเลี้ยงลูกของครอบครัวสองแบบในอิสราเอล ได้แก่ ครอบครัวตามแบบแผนที่มีแม่เป็นผู้เลี้ยงหลักและมีพ่อเป็นผู้ช่วย กับครอบครัวคู่รักชาย-ชาย ที่มีลูกจากการอุ้มบุญ โดยคู่รักพ่อ-พ่อนี้แบ่งหน้าที่การเลี้ยงลูกเท่าๆ กัน การวิจัยนี้สนใจการเปลี่ยนแปลงภายในโครงสร้างทางสมองบางชนิดที่เกิดจากพฤติกรรมการเลี้ยงลูก โดยได้วัดระดับฮอร์โมนออกซิโทซิน (ฮอร์โมนแห่งความใกล้ชิด-คุ้นเคย และความรัก) ซึ่งเชื่อมโยงกับโครงสร้างในสมองที่เกี่ยวข้องการเลี้ยงดู ควบคู่ไปกับการสแกนสมองเพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมในสมองส่วนนั้นผลการศึกษาไม่พบความแตกต่างในระดับฮอร์โมนออกซิโทซิน ทั้งคู่พ่อ-แม่ และ คู่พ่อ-พ่อแต่พบความต่างของกิจกรรมภายในสมองด้านการเลี้ยงดูลูก ผ่านการกระตุ้นของวิถีสั่งการ 2 ส่วน โดยวิถีแรกเกี่ยวข้องกับโครงสร้างในสมองที่พัฒนามาจากวิวัฒนาการ เช่น amygdala insula และ nucleus accumbens ซึ่งโครงสร้างเหล่านี้ควบคุมอารมณ์ ความใส่ใจ ความระมัดระวัง และการให้รางวัล ส่วนอีกวิถีนั้นเกี่ยวกับประสบการณ์และการเรียนรู้ซึ่งถูกควบคุมโดยสมองส่วน prefrontal cortex และ superior temporal sulcusในครอบครัวตามแบบแผน สมองของแม่ที่ถูกกระตุ้นคือ สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับ amygdala ในขณะที่สมองของพ่อถูกกระตุ้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ แต่ในครอบครัวของคู่รักชาย-ชาย สมองของทั้งสองคุณพ่อกลับถูกกระตุ้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ amygdala เช่นเดียวกับในคุณแม่การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พฤติกรรมการเลี้ยงลูกสามารถปรับกิจกรรมในสมองของผู้เลี้ยงได้เหมือนกับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร นอกจากนี้ผู้วิจัยยังชี้ว่า การกระตุ้นของสมองส่วน amygdala ของพ่อในคู่ตามขนบนั้นจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนเวลาที่ใช้กับทารก ถ้าพ่อ (ในคู่ตามขนบ) ใช้เวลากับลูกมาก ก็จะมีการกระตุ้นของสมองส่วนนี้มากขึ้น อย่างไรก็ตามการตุ้นในสมองส่วนนี้ของพ่อตามขนบจะไม่สูงเท่าแม่ตามขนบหรือคู่รักพ่อ-พ่อ ซึ่งมีหน้าที่หลักในการเลี้ยงลูก………………………นี่เป็นเพียงตัวอย่างงานวิจัยเพียงไม่กี่ชิ้นที่ทำให้เราต้องกลับมาคิดทบทวนมายาคติเรื่องเพศ กลับมาทบทวนว่าค่านิยมในสังคมเราได้ปั้นแต่งสมอง พฤติกรรม ความคิดของคนในสังคมให้หลงทางไปไกลแค่ไหน ไม่ใช่เพียงแค่มายาคติที่หลอกเราว่า สมองทำให้เพศชายเหมาะกับงานเท่ๆ เพศหญิงเหมาะกับการเป็นแม่-เลี้ยงลูก แต่ยังรวมไปถึงการนิยามเพศให้มีเพียงแค่หญิง-ชาย อย่างที่ (กฎหมาย) รัฐไทยกำลังทำอยู่ในตอนนี้ เพศวิถีเป็นเรื่องส่วนบุคคล ทุกคนสามารถเป็นเพศที่อยากเป็น หรือไม่อยากเป็นเพศอะไรเลยก็ได้ สังคมและรัฐมีหน้าที่เคลียร์พื้นที่ให้ทุกคนได้เป็นอย่างที่ตนเองอยากเป็นด้วยความสุขและภาคภูมิเป็นความจริงที่ว่างานวิจัยทางสมองในมิติทางเพศนั้นเต็มไปด้วยข้อโต้แย้ง-ดีเบตที่เผ็ดร้อนระหว่างนักวิทยาศาสตร์ต่างสำนัก แต่เราต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า ในสายธารแห่งชายเป็นใหญ่ที่เราต่างก็แหวกว่ายอยู่นี้นอกจากอคติที่อาจมีผลต่อการตีพิมพ์งานวิจัยแล้ว สมองแต่ละก้อนนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งพันธุกรรม การเลี้ยงดู พฤติกรรม อายุ ฮอร์โมน (ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามพฤติกรรมอีกทีหนึ่ง) และเพศกำเนิดไม่ใช่เพียงปัจจัยเดียวที่ส่งผลต่อสมอง ฉันเป็นแฟนตัวยงของข้อเท็จจริงและเห็นด้วยว่าเราจำเป็นต้องศึกษาเพื่อเข้าใจมนุษย์ ฉันสนับสนุนเต็มที่หากการศึกษาความแตกต่างทางสมองและพฤติกรรมของคนแต่ละเพศจะนำมาสู่พัฒนาการทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือและรักษาชีวิตผู้คน—ไม่ว่าจะเพศใดก็ตาม แต่ฉันไม่เห็นด้วยอย่างมาก หากเราจะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์หรือการศึกษาที่อาจจะเต็มไปด้วยอคติ มาเหมารวม (stereotype) คนทั้งโลก และใช้อวัยวะเพศที่ติดตัวมาตอนเกิด มาเป็นตัวกำหนดบทบาท กำจัดสิทธิและศักยภาพของผู้อื่น ผู้เขียนขอขอบคุณ คุณรัชพงศ์ เนตรศรีทอง นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาสาขาชีววิทยาที่ช่วยอ่านทบทวนบทความนี้ให้ L. Eliot Nature vol. 566 no. 7745 Art. no. 7745 Feb. 2019 doi: 10.1038/d41586-019-00677-x. S. P. David et al. Scientific Reports vol. 8 no. 1 Art. no. 1 Apr. 2018 doi: 10.1038/s41598-018-23976-1. D. C. Dean et al. Brain Struct Funct vol. 223 no. 6 pp. 3007–3009 Jul. 2018 doi: 10.1007/s00429-018-1643-z. J. Pietschnig L. Penke J. M. Wicherts M. Zeiler and M. Voracek Neuroscience & Biobehavioral Reviews vol. 57 pp. 411–432 Oct. 2015 doi: 10.1016/j.neubiorev.2015.09.017. D. Joel et al. Proc Natl Acad Sci USA vol. 112 no. 50 pp. 15468–15473 Dec. 2015 doi: 10.1073/pnas.1509654112. S. J. Ritchie et al. Cereb Cortex vol. 28 no. 8 pp. 2959–2975 Aug. 2018 doi: 10.1093/cercor/bhy109. E. Zell Z. Krizan and S. R. Teeter Am Psychol vol. 70 no. 1 pp. 10–20 Jan. 2015 doi: 10.1037/a0038208. ScienceDaily. (accessed Jul. 12 2020) . E. NortonMay. 27 2014 and 4:45 Pm Parenting Rewires the Male Brain Science | AAAS May 27 2014. (accessed Jul. 13 2020) .
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ บทความชุด เฟมินิสต์ประสาทแดก ซึ่งมีจุดประสงค์ เพื่อทำความเข้าใจว่าเหตุใดคนบางส่วนจึง ไม่ซื้อ เรื่องการต่อสู้สิทธิสตรีและการต่อสู้กับระบอบชายเป็นใหญ่
การเมือง,วัฒนธรรม,สิทธิมนุษยชน
ผู้หญิงเปล่งแสง,เฟมินิสต์,มายาคติเรื่องเพศ
https://prachatai.com/journal/2020/07/88792
จนท.วิทยาการลงพื้นที่หาสาเหตุเพลิงไหม้วัดพนัญเชิงฯวันนี้
พระเทพรัตนากร เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงฯ ระบุ ส่วนอาคารที่ถูกไฟไหม้ เป็นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้เป็นเป็นพิพิธภัณฑ์หนังสือ แต่ยังไม่ได้นำหนังสือเข้าไปเก็บรักษาไว้ มูลค่าความเสียหายประมาณ 40 ล้านบาท ขณะที่ นายชัยนันท์ บุษยรัตน์ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ระบุมีอาคารเสียหาย 2 หลัง หลังแรกไฟไหม้หลังคาและตัวอาคารเสียหายเกือบทั้งหมด เนื่องจากเป็นโครงสร้างไม้ ส่วนอีกหลังเสียหายบางส่วน แต่ก็ใช้งานต่อไม่ได้แล้ว พร้อมยืนยันว่า เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ไม่ส่งผลกระทบกับโบราณสถานส่วนอื่นของวัด โดยเฉพาะที่เป็นห่วงกันคือ วิหารพระพุทธไตรรัตนายก หรือ วิหารหลวงพ่อโต ตั้งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 300 เมตรนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งวันนี้ (25 เม.ย.) เจ้าหน้าที่วิทยาการ จะลงพื้นที่สำรวจสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง
เหตุเพลิงไหม้หอสมุดและกุฏิพระภายในวัดพนัญเชิงวรวิหาร วันนี้ (25 เม.ย.) เจ้าหน้าที่วิทยาการ จะลงพื้นที่สำรวจสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง แม้ก่อนหน้านี้จะคาดการณ์สาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนความเสียหายประมาณการอยู่ที่ 40 ล้านบาท ขณะที่กรมศิลปากร ยืนยันว่า เหตุเพลิงไหม้ไม่กระทบวิหารหลวงพ่อโตและโบราณสถานบริเวณ
ภูมิภาค
พระไตรปิฎก,วัดพนัญเชิงวรวิหาร,หลวงพ่อโต,หอสมุด,โบราณสภาน,ไฟไหม้
https://news.thaipbs.or.th/content/80881
ตามรวบฆาตกรตัวร้าย ปล้ำน้องเมียไม่สำเร็จ ไปข่มขืนญาติสนิท
รวบตัวญาติหื่นฆ่าข่มขืนสาวร้านสะดวกซื้อซีเจ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ก.พ. ที่ห้องประชุม สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม ผกก.สภ.ชะอำ แถลงจับนายโสภณ หรือโน้ต นกงาม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 หมู่ 6 ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนและอำพรางศพ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 32 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อซีเจ ใน อ.ชะอำ เหตุเกิดภายในห้องเช่าสัมฤทธิ์ผล เลขที่ 6/10 ถนนชลประทานซีเมนต์ ต.ชะอำ อ.ชะอำ เมื่อกลางดึกวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา,พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม ผกก.สภ.ชะอำ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สภ.ชะอำ ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จ.เพชรบุรี รวบรวมหลักฐานจนทราบว่า นายโสภณผู้ต้องหา ซึ่งเป็นญาติของ น.ส.บี ผู้ตาย เป็นผู้ที่เคยมีประวัติกระทำอนาจารหญิงสาวมาหลายรายและน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ จึงติดตามจับกุมบริเวณท่าเทียบเรือประมง ถนนศรีตาปี ต.ตลาดล่าง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี,นายโสภณผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อน เกิดเหตุดื่มสุราฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่บ้านภรรยาใน ต.บางแก้ว อ.บ้านแหลม พอเมาได้ที่มีอารมณ์ทางเพศ ย่องเข้าหาน้องเมียเพื่อจะข่มขืน แต่น้องเมียขัดขืนและตะโกนให้คนช่วย ด้วยความตกใจขี่ จยย.หนีและโทรศัพท์ไปหาผู้ตาย ซึ่งเป็นญาติสนิท อ้างว่าทะเลาะกับภรรยาขอหลบไปพักอยู่ด้วย เมื่อถึงห้องพักต่างแยกย้ายกันไปนอน แต่ด้วยความที่ตนยังมีความต้องการ และมึนเมาสุรา พอเหยื่อหลับเลยเข้าไปข่มขืน แต่ผู้ตายขัดขืนจึงใช้หมอนปิดใบหน้าและคว้าสายอากาศทีวีรัดคอจนผู้ตายหมดสติ ก่อนถอดกางเกงนอนและชุดชั้นในออก ลงมือข่มขืนแต่ไม่สำเร็จความใคร่ ก่อนหลบหนีได้ใช้ผ้าห่มคลุมศพ และขโมยโทรศัพท์ของผู้ตายไปด้วย 2 เครื่อง ปิดประตูห้องใส่กุญแจตามเดิม และทิ้งซิมการ์ดโทรศัพท์ที่หน้าวัดเนรัญชราราม อ.ชะอำ ก่อนจะขึ้นรถโดยสารไปสมัครทำงานเป็นคนขนของลงเรือข้ามฟากไปเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งมีตำรวจตามไปจับกุม,หลังเสร็จการแถลงข่าวเพื่อนและญาติของผู้ตายกว่า 20 คน ยืนรวมกลุ่มและบุกเข้ามาเพื่อจะทำร้ายนายโสภณผู้ต้องหา ตำรวจต้องควบคุมตัวหลบออกประตูด้านหลังไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ตะครุบตัวฆาตกรหื่น ข่มขืนฆ่าโหดสาวร้านสะดวกซื้อ ที่แท้เป็นญาติสนิท อ้างเมาส่งท้ายปี บุกปล้ำน้องเมียไม่สำเร็จเลยหาที่ระบายอารมณ์ ออกอุบายโทร.หาเหยื่อว่าทะเลาะกับเมียแล้วขอไปพักด้วย สบโอกาสใช้หมอนปิดหน้า ก่อนคว้า
ข่าว,ทั่วไทย
ข่าวหน้า1,ฆ่าข่มขืน,ข่มขืนญาติ,ฆาตกรฆ่าข่มขืน,โสภณ นกงาม,ชะอำ,เพชรบุรี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/482747
ช่วยชาวนาสู้แล้ง พณ.ถกผู้ประกอบการ ลดราคาปุ๋ย-ค่าเช่ารถเกี่ยวข้าว
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 58 นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในหาแนวทางลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในฤดูกาลผลิตปี 58/59 ตามที่นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง โดยกรมฯ ได้ หารือกับผู้ประกอบการเพื่อลดราคาจำหน่ายปัจจัยการผลิต ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ยาป้องกันกำจัดศัตรูพืช และค่าบริการรถเกี่ยวข้าวแล้ว ,สำหรับปุ๋ยเคมีผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีที่ใช้ในนาข้าวในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลลงแล้ว 4 สูตรหรือลดลงกระสอบ (50 กก.) ละ 40-50 บาท ปุ๋ยเคมีที่ใช้กับพืชอื่นๆ 7 สูตร ลดลงกระสอบ (50 กก.) ละ 25-50 บาท สำหรับราคาจำหน่ายปลีกของร้านค้า ตัวแทนจำหน่าย และร้านค้าปลีกปุ๋ยเคมีในต่างจังหวัดจะมีค่าบริหารจัดการและค่าขนส่งเพิ่มขึ้นตามระยะทาง ส่วนการลดราคาจำหน่ายยาป้องกันกำจัดศัตรูพืช ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปรับลดราคาลงแล้ว 7 สูตร โดยลดลง 5-10% แต่ราคาจำหน่ายปลีกของร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าปลีกยาป้องกันกำจัดศัตรูพืชในต่างจังหวัดจะมีค่าบริหารจัดการและค่าขนส่งเพิ่มขึ้นตามระยะทาง,ขณะที่การลดราคาค่าบริการรถเกี่ยวข้าวนั้นได้ขอความร่วมมือชมรมรถเกี่ยวข้าว ขอให้ลดราคาลงในฤดูการผลิตข้าวนาปี ปี 58/59 ซึ่งชมรมได้ให้ความร่วมมือ โดยจะคิดค่าบริการรถเกี่ยวข้าวภาคกลางที่ไร่ละ 450 บาท ส่วนภาคอื่นๆ จะคิดค่าบริการไม่เกินไร่ละ 500 บาท ยกเว้นพื้นที่นาที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งยากต่อการเก็บเกี่ยว ให้ผู้บริการตกลงกับเกษตรกรเป็นรายกรณีไป,การปรับลดราคาดังกล่าว กรมฯ จะส่งไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดูแลให้มีการดำเนินการได้จริง ซึ่งการลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรจะเป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน เพราะการที่เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตต่ำ จะทำให้มีรายได้สูงขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นตามเป้าหมายของรัฐบาล นายบุณยฤทธิ์ กล่าว.
พาณิชย์ ร่วมแจมช่วยชาวนาฝ่าวิกฤติภัยแล้ง หารือผู้ประกอบการลดราคาปุ๋ย ยา ค่าเช่ารถเกี่ยว สำหรับฤดูกาลผลิตปี 58/59
null
ภัยแล้ง,น้ำแล้ง,แห้งแล้ง,ชลประทาน,แก้ภัยแล้ง,ขุดบ่อบาดาล,ทั่วประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าว,พาณิชย์,ผู้ประกอบกร,ลดราคา,ปุ๋ย,ค่าเช่ารถเกี่ยวข้าว,ยาป้องกันกำจัดศัตรูพืช
https://www.thairath.co.th/content/507288
เกิดเหตุระเบิดทหาร จ.ปัตตานี เบื้องต้นเสียชีวิต 4
วันนี้ (22 ก.ย.2560) พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 06.15 น. เกิดเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชป.ร้อย.ทพ.4412 ฉก.ทพ.44บนถนนสาย 41 บ้านเจาะกือแย ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 นาย ได้แก่ อาสาสมัครทหารพรานสุวิทย์ บุญชู อาสาสมัครทหารพรานณัฐพล รังสิมันตุชาติ อาสาสมัครทหารพรานปฐมพร คงสัย อาสาสมัครทหารพรานพิทักษ์คมสิทธิ์ ศักดิ์วิเศษสม และผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้แก่ สิบเอกธีรวุฒิ ปานแก้ว อาสาสมัครทหารพรานจักกฤษ จี่เอ้ย อาสาสมัครทหารพรานธันยา เอื้องฟ้าไพรวัลย์ อาสาสมัครทหารพรานประหยัด อินทร์แก้ว อาสาสมัครทหารพรานเอกชัย คำแคว่น และ น.ส.รอมือเลาะ สือรี โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ 9 นาย ออกตระเวนรักษาความปลอดภัยพื้นที่สายบุรีตามปกติ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางเบี่ยง ผู้ก่อเหตุได้วางระเบิดไว้ในท่อซีเมนต์ระบายน้ำ ก่อนจุดชนวน ทำให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่บนท้ายรถกระบะเสียชีวิตทั้งหมด 4 นายพ.อ.ปราโมทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเชิดชูเกียรติผู้ที่สละชีวิตทั้ง 4 นาย ที่ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองประชาชน ล่าสุด พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กำชับเรื่องการดูแลสิทธิกำลังพลและสวัสดิการต่างๆ อย่างเต็มที่ รวมถึงดูแลครอบครัวของผู้สูญเสียตามสิทธิที่ได้รับตามระเบียบของทางราชการอย่างเต็มที่ โดยจะได้รับการช่วยเหลือตามระเบียบ ทบ. ว่าด้วยการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ผู้ได้รับการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น หรือ อส.ทพ. ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และได้รับเงินช่วยเหลือประมาณ 22213099บาททั้งนี้ เตรียมจัดพิธีรดน้ำศพ เวลา 14.00 น. ที่วัดสุวรรณากร จ.ปัตตานี และส่งศพไปบำเพ็ญกุศลในภูมิลำเนา ที่ จ.ปัตตานี จ.ตรัง จ.นครศรีธรรมราช และ จ.เพชรบุรีอย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ ต้องรอการตรวจสอบวัตถุพยาน เชื่อว่ามีทั้งผู้ที่เคยถูกออกหมายจับแล้วและแนวร่วมใหม่ เนื่องจากการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวต้องมีผู้ร่วมวางแผนหลายคน ทั้งการประกอบวัตถุระเบิด ดูแลต้นทาง และจุดชนวนระเบิด โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรงทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ได้มุ่งเป้าเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เกิดเหตุลอบวางระเบิดทหารพรานชุดลาดตระเวนเส้นทางสายบุรี ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เสียชีวิต 4 นาย จัดพิธีรดน้ำศพในวันนี้ (22 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ที่วัดสุวรรณากร จ.ปัตตานี จากนั้นจะส่งศพไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา
ภูมิภาค
ระเบิด,ทหาร,ปัตตานี,สายบุรี,ตะบิ้ง,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/266309
พลังประชารัฐ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ชู ประยุทธ์ เป็นนายกฯ
วันนี้ (2 ก.พ.2562) พรรคพลังประชารัฐ จัดงานรวมพลังสร้างชาติ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 350 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน ที่สนามฟุตซอลบางกอกอารีน่า หนองจอก เขตหนองจอก กทม. นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวปราศรัยโดยย้ำว่า วันนี้เป็นวันที่พรรคประกาศความพร้อมเสนอตัวรับใช้บ้านเมือง และเชื่อว่าเป็นการเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการเมืองยุคนี้ ยืนยันว่า พรรคน้อมรับและรับฟังเสียงประชาชนซึ่งการรวมตัวจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ อยู่ภายใต้บริบทการก้าวความขัดแย้ง เป็น 1 ใน 51 พรรคการเมืองใหม่ ที่เสนอตัวเป็นทางเลือก และยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย ประสานรอยร้าว ในสังคม แม้ว่าจะมีบางพรรค บางกลุ่มที่อ้างเรื่องประชาธิปไตย แต่วิพากษ์วิจารณ์พรรคอื่นว่าสนับสนุนเผด็จการพร้อมย้ำว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องมุ่งแก้ปัญหาบ้านเมือง ไม่ใช่ทำเพื่อพวกพ้อง หรือเคลื่ิอนไหวในท้องถนน โดยพลังประชารัฐขอประกาศตัวยึดหลักประชาธิปไตย ด้วยการทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไป ไ่ม่ใช่การสร้างความขัดแย้งพร้อมยกเหตุการณ์การเมืองช่วงปลายปี 2556 ถึงต้นปี 2557 จนเกิดการเผชิญหน้าบนท้องถนน และเป็นที่มาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารประเทศ ในช่วงเวลาที่ประเทศเดินหน้าต่อไม่ได้ และเกิดสูญญากาศทางการเมือง ดังนั้นอย่าใช้วาทกรรมว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเผด็จการหากประเทศขาดผู้นำที่เหมาะสม ก็จะทำให้การฟื้นฟูประเทศที่ผ่านมาสูญเปล่า จึงหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบรับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเพราะบ้านเมืองต้องการผู้นำที่ได้รับการยอมรับจากคนทั้งประเทศนายอุตตม สาวนายน ย้ำถึงนโยบายพรรคพลังประชารัฐว่า แม้เป็นพรรคน้องใหม่ แต่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง และพรรคเลือกข้างแล้ว โดยไม่ใช่เลือกสนับสนุนพรรคที่อ้างประชาธิปไตย แต่เป็นข้างที่สร้างสรรค์ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงโดยนโยบายของพรรคให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้ 3 พันธกิจหลัก คือสวัสดิการประชารัฐ สังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชารัฐ โดยเฉพาะสวัสดิการประชารัฐ ที่มุ่งเน้นขจัดความเหลื่อมล้ำ สานต่อนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องบัตรประชารัฐ ด้วยแนวคิดเพิ่มคน เพิ่มสิทธิ์และชูนโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี ด้วยแนวทางพักหนี้ ฟื้นฟู เติมทุน ให้โอกาสอีกหนึ่งพันธกิจ คือ เศรษฐกิจประชารัฐ เน้นดูแลเรื่องการเกษตรกับนโยบาย เกษตรประชารัฐ ซึ่งประเด็นที่พรรคให้ความสำคัญคือ ปัญหาที่ดินทำกิน โดยเสนอนโยบายปรับเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็น ส.ป.ก.4.0 คือให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. สามารถโอนสิทธิ์ให้บุคคลอื่น ที่มีคุณสมบัติตามที่ ส.ป.ก.กำหนดได้เข้าทำประโยชน์แทนได้นายอุตตม ยืนยันว่า นโยบายของพรรคไม่ใช่การขายฝัน แต่ทำให้เกิดขึ้นได้จริงทุกเรื่อง หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล
พรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งบัญชีนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นเหมาะสมกับสถานการณ์ พร้อมเปิดนโยบายชุดแรก 4 เรื่อง ภายใต้พันธกิจหลัก 3 ด้าน สานต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
การเมือง
พรรคพลังประชารัฐ,เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.,ส.ส.,นายกรัฐมนตรี,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นโยบายพรรค,อุตตม สาวนายน,หัวหน้าพรรค,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/277444
กิจกรรมปั่นเพื่อแม่เพิ่มยอดขายจักรยาน
ร้านนครไทยจักรยานหนึ่งในร้านจำหน่ายจักรยานย่านลาดพร้าว ร้านนี้เปิดขายมานานกว่า 30 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้มีเพียงลูกค้ารายเก่าที่มักแวะเวียนมาหาซื้ออุปกรณ์เสริมและนำจักรยานมาซ่อมบำรุงอยู่บ้าง แต่หลังจากมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมไบค์ Bike for Mom ก็มีลูกค้าหน้าใหม่ มาซื้อจักรยาน อุปกรณ์เสริม รวมถึงสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับจักรยานมากขึ้น เพราะต่างอยากเข้าร่วมปั่นจักรยานเพื่อแม่ของแผ่นดินเช่นเดียวกับร้านขายจักรยานใหม่และจักรยานมือ 2 ในจังหวัดพะเยา พังงา และยะลา ต่างมีลูกค้ามาใช้บริการกันอย่างคึกคักทำให้จักรยานแม่บ้าน จักรยานเสือภูเขา หรือแม้แต่ จักรยานพับได้ ที่มีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขายได้วันละ 5 - 6 คัน ขณะที่บางส่วนบ้างก็นำจักรยานมาซ่อมเพื่อเตรียมให้พร้อมร่วมกิจกรรม Bike for Mom ในวันที่16 ส.ค.นี้สำหรับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ต้องการตรวจสภาพจักรยานก่อนร่วมกิจกรรม Bike for Mom สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานชุดช่างจักรยาน หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ตรวจสภาพจักรยานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ร้านจักรยานสุขสำราญ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ถึงวันที่ 12 ส.ค. ในเวลา 09.00 - 18.00 น. และในวันที่ 16 ส.ค. ที่ลานพระราชวังดุสิต และอาคารเอนกประสงค์ กรมทหารราบที่11รักษาพระองค์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. จนจบกิจกรรม
นอกจากกิจกรรม Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ จะเป็นสิ่งสะท้อนถึงความจงรักภักดี แด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่คนไทยต่างร่วมพลังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจ ให้คนสนใจการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานมากขึ้น
กีฬา
Bike for Mom,ปั่นเพื่อแม่,ร้านจักรยาน
https://news.thaipbs.or.th/content/4076
รายชื่อผู้เข้าชิง ออสการ์ ปีนี้มีตัวเต็งตบเท้าเข้าประชันคับคั่ง
รางวัลออสการ์ครั้งที่ 84 ในปีนี้ความน่าสนใจคือการประชันกันของตัวเต็งในหลายสาขาทั้ง จอร์จ คลูนีย์ ในบทพ่อผู้ประคับประคองครอบครัวใน The Descendants กับ ฌอง ดูเฌอร์แดง นักแสดงหนังเงียบผู้ตกอับ จาก The Artist ในสาขานักแสดงนำชาย ส่วน มิเชล วิลเลียมส์ ผู้สวมวิญญาณมาริลีน มอนโร ใน My Week with Marilyn ต้องชิงกับตัวเต็งอย่าง เมอริล สตรีป ผู้สวมบทมากาเร็ต แธตเชอร์ จาก The Iron Lady ในสาขานักแสดงนำหญิง เช่นเดียวกับการชิงชัยระหว่าง Footnote ภาพยนตร์สัญชาติอิสราเอล และ A Separation ตัวแทนจากอิหร่าน สองชาติคู่อริทางการเมืองที่เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมปีนี้ขณะที่การเล่าเรื่องอันน่าตื่นเต้น ผ่านเทคนิคการฉายระบบ 3 มิติ คือองค์ประกอบอันลงตัวของ Hugo สร้างกระแสให้ผลงานชั้นยอดของ มาร์ติน สกอร์เซซี ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดในปีนี้ถึง 11 สาขา แซงหน้าเต็งหนึ่งอย่าง The Artist ที่เข้าชิง 10 สาขา ส่วนคู่แข่งอย่าง The Descendants แม้เข้าชิงเพียง 5 สาขา แต่ล้วนเป็นรางวัลสำคัญทั้งสิ้นการเข้าชิงของThe Tree of Life ผู้ชนะปาล์มทองคำ และ Extremely Loud and Incredibly Close หนังเหตุการณ์ 11 กันยา ที่นักวิจารณ์รักและชังพอๆ กัน สร้างความแปลกใจต่อหลายฝ่ายเมื่อเข้าชิงทั้งในสาขาภาพยนตร์และผู้กำกับยอดเยี่ยม ขณะที่การเสนอชื่อ เดเมียน บิเชียร์ นักแสดงเม็กซิกันจาก A Better Life ในสาขานักแสดงนำชาย ถูกมองว่าแย่งพื้นที่ผู้ที่น่าเข้าชิงมากกว่าทั้ง ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ ไรอัน กอสลิง และ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ส่วน The Adventures of Tin Tin หนังแอนิเมชั่นรางวัลลูกโลกทองคำของ สตีเวน สปีลเบิร์ก กลับไร้ชื่อบนออสการ์เช่นกันการเสนอชื่อครั้งนี้มีการทำลายสถิติมากมายทั้ง สตีเวน สปีลเบิร์ก และ แคธลีน เคนเนดี ที่ทำสถิติผู้อำนวยการสร้างที่ส่งผลงานเข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมากที่สุดถึง 7 สมัย ขณะที่การเข้าชิงกันเองในสาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยมจาก Tin Tin และ War Horse ทำให้ จอห์น วิลเลียมส์ กลายเป็นบุคคลที่ถูกเสนอชื่อชิงออสการ์มากที่สุดเป็นอันดับสองที่ 47 ครั้ง ส่วน วูดดี้ อัลเลน ทำสถิติเข้าชิงในสาขากำกับและเขียนบทยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องเดียวกันมากที่สุดถึง 7 ครั้ง ขณะที่ เมอรีล สตรีป ก็เพิ่มสถิติการเป็นนักแสดงที่เข้าชิงมากที่สุดต่อไปเป็น 17 ครั้งในปีนี้
การชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้มีผลงานตัวเต็งเข้าชิงกันอย่างคับคั่ง ขณะที่รายชื่อที่หายไป และการเข้าชิงอย่างไม่คาดหมายของผลงานหลายๆ เรื่อง คือเสน่ห์ของการประกาศชื่อผู้เข้าชิงออสการ์ครั้งที่ 84
ศิลปะ-บันเทิง
Hugo,oscar,The Artist,The Descendants,จอร์จ คลูนีย์,รายชื่อผู้เข้าชิง,ออสการ์
https://news.thaipbs.or.th/content/61869
หนุ่มราชบุรีแสบหมายจับเพียบ เปิดเฟซฯอ้างชื่อเซียนพระดัง ตุ๋นเงินเหยื่อ
เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 8 ก.พ. พ.ต.ท.อนุชัย สวยงาม สว.สส. สภ.เมืองสตูล นำหมายจับศาล จ.ตลิ่งชัน ที่จ.24/2560 ลงวันที่ 23 ม.ค. 2560 เข้าจับกุมนายธนพล สกุลกรุณา อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 38 หมู่ 8 ต.เกาะศาลพระยา อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี โดยจับกุมได้ขณะที่ผู้ต้องหาพักอยู่ที่ห้องเช่ารีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาล ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,สำหรับผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมเปิดเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อและภาพถ่ายของเซียนพระชื่อดัง จากนั้นจะหลอกให้เช่าพระดังๆ พอเหยื่อโอนเงินให้ผู้ต้องหาจะปิดเฟซบุ๊ก และเปิดเฟซบุ๊กใหม่โดยใช้ชื่อเซียนพระดังๆ หมุนเวียนเปิดเฟซบุ๊กหลอกเหยื่อ โดยที่ผ่านมาผู้ต้องหาเคยถูกจับในคดีดังกล่าวมาแล้ว 3 คดีอยู่ระหว่างดำเนินคดี แต่ได้รับการประกันตัวออกมา นอกจากนี้ยังมีหมายจับศาล จ.ชัยนาท ที่ จ.121/2559 ลงวันที่ 8 ส.ค. 2559 และศาล จ.เชียงใหม่ ที่ จ.461/2559 ในคดีเดียวกันนี้ รวมถึงเคยก่อเหตุมาแล้วนับสิบคดี หากใครตกเป็นเหยื่อสามารถไปดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.บางพลัด,ขณะที่นายธนพล รับสารภาพว่า ได้เปิดเฟซบุ๊กโดยหมุนเวียนใช้ชื่อเซียนพระดังๆ หลอกให้เช่าพระในระดับหลักหมื่น ที่ผ่านมาได้เงินมาแล้วประมาณ 3-5 แสนบาท นำเงินไปเที่ยวและเล่นการพนันไปตามที่ต่างๆ. , ,

จับหนุ่มราชบุรีสุดแสบ แอบอ้างใช้ชื่อเซียนพระดังๆ หมุนเวียนเปิดเฟซบุ๊กให้เช่าพระ ตุ๋นเหยื่อให้โอนเงินแล้วปิดเฟซบุ๊กหนี โดนตำรวจสตูลรวบตัวจนได้ พบมีหมายจับเพียบ ก่อเหตุนับสิบคดี เอาเงินไปเที่ยว-เล่นพนัน
null
หนุ่มแสบตุ๋นเช่าพระ,ตุ๋นเงินเช่าพระ,อ้างชื่อเซียนพระดังตุ๋นเงินเช่าพระ,หลอกเช่นพระดัง,รวบหนุ่มราชบุรี
https://www.thairath.co.th/content/853712
อังกฤษปิดอนุสาวรีย์อดีตนายกฯ วินสตัน เชอร์ชิล กลัวม็อบรื้อ
เว็บไซต์บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันที่ 12 มิ.ย. ถึงบรรยากาศบริเวณจัตุรัสรัฐสภาในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์นายวินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ในเวลานี้ถูกเจ้าหน้าที่นำแผ่นกระดานมาปิดอนุสาวรีย์ทั้ง 4 ด้าน เพื่อป้องกันผู้ประท้วงต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อคนผิวดำ (Black Lives Matter) ที่มีแผนจะมาชุมนุมกันที่สวนสาธารณะไฮด์ปาร์ค (Hyde Park) ในช่วงสุดสัปดาห์นี้มาทำลาย หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อนุสาวรีย์แห่งนี้เพิ่งถูกผู้ประท้วงพ่นข้อความบริเวณฐานของอนุสาวรีย์ต่อท้ายชื่อของเขาว่า เป็นพวกเหยียดเชื้อชาติขณะเดียวกันการปิดอนุสาวรีย์อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษยังเป็นการป้องกันการเผชิญหน้า หลังมีรายงานว่า ผู้ประท้วงฝ่ายขวาจัดอาจมารวมตัวเพื่อปกป้องอนุสาวรีย์ จนอาจเกิดการปะทะกับผู้ประท้วง Black Lives Matter ด้วยนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวถึงการใช้แผ่นกระดานปิดอนุสาวรีย์อดีตนายกรัฐมนตรีเชอร์ชิลว่า เป็นเรื่องที่ไร้สาระและน่าขายหน้าที่ต้องทำแบบนี้ พร้อมย้ำว่า แม้อดีตนายกรัฐมนตรีเชอร์ชิลจะเคยให้ความเห็นในสิ่งที่เป็นเรื่องรับไม่ได้ในปัจจุบัน แต่เขาก็ยังเป็นฮีโร่ที่ปกป้องประเทศจากพวกเผด็จการและทรราชเหยียดเชื้อชาติในช่วงสงครามนายกรัฐมนตรีจอห์นสันยังกล่าวด้วยว่า เราไม่สามารถที่จะเซนเซอร์หรือแก้ไขอดีตของเราได้นายวินสตัน เชอร์ชิล เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เคยได้รับเลือกให้เป็นชาวอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จากการสำรวจความเห็นของบีบีซี เมื่อปี 2545 อย่างไรก็ตาม มีคนจำนวนมากวิจารณ์ถึงความคิดเหยียดเชื้อชาติของนายเชอร์ชิล ทั้งการไม่ยอมรับผิดต่อสิ่งที่อังกฤษทำกับชนพื้นเมืองอเมริกันและชาวอะบอริจินในออสเตรเลีย เนื่องจากมองว่าชาวผิวขาวเป็นชนเผ่าที่สูงส่งกว่าขณะเดียวกัน อดีตนายกรัฐมนตรีเชอร์ชิลเขายังถูกวิจารณ์ถึงท่าทีในช่วงภาวะขาดแคลนอาหารในอินเดียเมื่อปี 2486 สมัยที่ยังอยู่ใต้อาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งนายเชอร์ชิลไม่สนใจความลำบากของคนท้องถิ่น และเขายังถูกวิจารณ์ถึงความเห็นสนับสนุนการใช้แก๊สพิษต่อชนเผ่าที่ป่าเถื่อนด้วย
เจ้าหน้าที่อังกฤษติดตั้งแผ่นกระดานปิดอนุสาวรีย์วินสตัน เชอร์ชิล หวั่นผู้ประท้วงบุกทำลายเหมือนกับอนุสาวรีย์พ่อค้าทาสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ข่าว,ต่างประเทศ
ประท้วงต้านเหยียดผิว,วินสตัน เชอร์ชิลล์,อนุสาวรีย์วินสตัน เชอร์ชิลล์,อังกฤษ,จอร์จ ฟลอยด์
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1867947
ค้านปล่อยโคมลอยดอยม่อนแจ่ม หวั่นไฟไหม้ป่า
จากกรณีผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ม่อนแจ่ม ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เตรียมจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยจัดแพ็กเกจพร้อมโปรโมทผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยระบุรายละเอียดว่า ไฮไลท์ปลายปีนี้ คือ ปล่อยโคมลอยบนดอยโป่งแยง เคาท์ดาวน์ในรูปแบบแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร มีกิจกรรมปล่อยโคม 300 ลูก ปิ้งย่าง บาร์บีคิว ฟังดนตรีสด และจุดพลุต้อนรับปีใหม่ แต่ต้องจองล่วงหน้า ราคาคนละ 599 บาททั้งนี้ มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ส่วนหนึ่ง ออกมาท้วงติงการจัดกิจกรรมดังกล่าว ว่า ไม่เหมาะสมที่จะจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอยในพื้นที่ซึ่งอยู่ใกล้เขตป่า เพราะเกรงว่าอาจทำให้เกิดไฟไหม้ป่าได้ขณะที่นายชัยแสง พัฒนศักดิ์ภิญโญ นายอำเภอแม่ริม บอกว่า เบื้องต้นผู้ประกอบการยังไม่ได้ขออนุญาตปล่อยโคมลอยกับทางอำเภอ หากมาแจ้งและขออนุญาตก็จะต้องดูข้อมูลอีกครั้ง เพราะมีหลายฝ่ายที่แสดงความกังวล เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับพื้นที่ป่า เกรงว่าอาจจะทำให้เกิดอันตราย หรือเกิดไฟไหม้ป่า ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่มีประกาศอนุญาตให้ปล่อยโคมลอยได้ในช่วงเทศกาลยี่เป็ง หรือลอยกระทงที่ผ่านมา และอีก 1 วัน คือวันที่ 31 ธ.ค.2560 หลังเวลา 19.00 น. เป็นต้นไป โดยผู้ที่จะปล่อยโคมลอยต้องมาขออนุญาตกับทางอำเภอ พร้อมแจ้งจำนวนโคมลอยที่จะปล่อยล่าสุดผู้จัดงานได้แจ้งงดจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอยแล้ว
ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ แสดงความไม่เห็นด้วยกรณีผู้ประกอบการท่องเที่ยวในดอยม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ จัดโปรโมทกิจกรรมปล่อยโคมลอยคืนเค้าดาวน์ต้อนรับปีใหม่ หวั่นส่งผลกระทบพื้นที่ป่า ล่าสุดผู้จัดงานได้แจ้งงดจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอยแล้ว
สิ่งแวดล้อม
ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,โคมลอย,ม่อนแจ่ม,ดอยม่อนแจ่ม,เชียงใหม่
https://news.thaipbs.or.th/content/268738
การบินไทย ขยายหยุดบินชั่วคราวอีก 1 เดือน ยาวถึงสิ้นเดือน มิ.ย.63
เมื่อวันที่ 18 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวตามที่ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) มีคำสั่งขยายเวลาห้ามอากาศยานขนส่งผู้โดยสารทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 นั้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จึงมีความจำเป็นต้องขยายเวลาหยุดทำการบินชั่วคราวต่ออีก 1 เดือน ในเดือนมิถุนายน 2563อย่างไรก็ตาม สำหรับในเดือนกรกฎาคม 2563 บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาและประเมินสถานการณ์ เพื่อกลับมาทำการบินทันทีเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง โดยบริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์จากทั่วโลกอย่างใกล้ชิด และยังพิจารณามาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ของแต่ละประเทศ มาตรการปิดประเทศ (Lock Down) และความต้องการในการเดินทางของผู้โดยสาร ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้มีแผนเตรียมความพร้อมในการให้บริการไว้แล้ว และจะแจ้งกำหนดการที่แน่นอนให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไปปัจจุบัน บริษัทฯ ยังคงทำการบินในเที่ยวบินพิเศษในเส้นทางระหว่างประเทศเพื่อรับคนไทยกลับบ้าน รวมทั้งให้บริการเที่ยวบินขนส่งสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยทั้งนี้ ขอความกรุณาผู้โดยสารตรวจสอบหรือติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นทางการ ได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com หรือช่องทาง Social Media อย่างเป็นทางการของบริษัทฯ ได้แก่ เฟซบุ๊ก: facebook.com/ThaiAirways Line Official: @ThaiAirways Twitter: @ThaiAirways และ Instagram: thaiairways.
การบินไทย ขยายเวลาหยุดทำการบินชั่วคราวในเดือน มิ.ย. 63 อีก 1 เดือน ยาวถึง 30 มิ.ย.63 โดยกำลังประเมินและพิจารณากลับมาให้บริการในเดือน ก.ค.63 หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
ข่าว,เศรษฐกิจ
การบินไทย,โควิด-19,การบินไทยหยุดบิน,ขยายเวลาหยุดบิน,ไวรัสโคโรนา,ห้ามบินเข้าประเทศ,กพท.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1847414
กู้ร่างเหยื่อเที่ยวบินQZ8501 แล้ว 30คน พบวัตถุใต้ทะเล คาดซากแอร์บัส
ด้านสิงคโปร์-เกาหลีใต้ ส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมพิสูจน์,เมื่อวันที่ 3 ม.ค. เฟซบุ๊กสายการบินแอร์เอเชีย ประเทศไทย ออกคำชี้แจงฉบับที่ 10 ถึงความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย เครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เที่ยวบินที่ QZ8501 ซึ่งเข้าสู่วันที่ 7 ณ เวลา 20.00 น. ตามเวลามาตรฐานท้องถิ่น โดยระบุ หน่วยค้นหาและกู้ภัยแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (The National Search and Rescue Agency) หรือ BASARNAS ยืนยันว่า พบร่างของผู้โดยสารแล้วทั้งหมด 30 คนจากบริเวณที่ทำการค้นหา กระบวนการค้นหายังคงดำเนินต่อไป โดยมีหน่วยค้นหาและกู้ภัยของรัสเซียมาร่วมปฏิบัติการ ภายใต้การนำของหน่วย BASARNAS ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสภาพอากาศในพื้นที่ค้นหาและกู้ภัยในวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) จะดีขึ้น คลื่นมีแนวโน้มจะลดลงเหลือเพียง 2-3 เมตร
,เจ้าหน้าที่ของ BASARNAS ชี้แจงว่า อุปกรณ์โซนาร์ได้ตรวจพบวัตถุขนาดใหญ่ 2 ชิ้นบนพื้นใต้ทะเล ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นซากของเครื่องบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เที่ยวบิน QZ8501 โดยร่างของผู้โดยสารจำนวน 12 คน แบ่งเป็นชาย 9 คน และหญิง 3 คน ได้ถูกนำส่งมายังโรงพยาบาลบายังคารา เมืองสุราบายา วันนี้(3 ม.ค.) เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป
,นอกจากนี้ หน่วยงานตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้ประสบภัยพิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งสาธารณะ รัฐอินโดนีเซีย (Disaster Victim Identification of Police Department Republic of Indonesia) หรือ DVI POLRI ได้ยืนยันรายชื่อของผู้โดยสารเพิ่มอีก 2 คน หลังตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ Hendra Gunawan Syawal (เพศชาย) และ The Meiji Thejakusuma (เพศหญิง) ซึ่งนายซูนุ วิยาโมโก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเซีย ได้ส่งมอบร่างของผู้โดยสารทั้ง 2 คนให้กับครอบครัว ที่โรงพยาบาลบายังคารา เมื่อเช้าวันนี้(3 ม.ค.)
,อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ หน่วยงาน DVI POLRI ได้ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของผู้โดยสารแล้วเสร็จทั้งหมด 6 คน ส่วนอีก 24 คนยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยหน่วยงาน DVI POLRI ยืนยันด้วยว่ากระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อจากนี้ จะมีผู้เชี่ยวชาญ การตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้ประสบภัยพิบัติจากสิงคโปร์และเกาหลีใต้มาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม
,ทั้งนี้ สายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย อยากจะขอโอกาสนี้ ขอร้องให้ประชาชนติดตามความคืบหน้าของการค้นหาและเคลื่อนย้ายร่างของผู้โดยสารเที่ยวบิน QZ8501 รวมทั้งความคืบหน้าในการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล โดยอ้างอิงข้อมูลอย่างเป็นทางการจากหน่วยงาน BASARNAS และ DVI POLRI เท่านั้น โดยพวกเรายังคงสวดภาวนาและส่งให้กำลังใจครอบครัวและญาติของผู้โดยสารและลูกเรือ บนเที่ยวบิน QZ8501 และเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูแลทุกคนในทุกทางที่เราจะทำได้.
พบร่างเหยื่อเที่ยวบินQZ8501 รวมแล้ว 30 คน อุปกรณ์โซนาร์ พบวัตถุขนาดใหญ่ 2 ชิ้นใต้ทะเล คาดเป็นซากของเครื่องบิน ยืนยันชื่อผู้โดยสารเพิ่มอีก 2 คนเป็นชาย1 หญิง1 เหลืออีก 24คน อยู่ระหว่างพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล
null
แอร์เอเชีย,แอร์เอเชียอินโด,แอร์เอเชียหาย,แอร์เอเชียตก,QZ8501,airasia,เครื่องบินตก,ข่าวแอร์เอเชีย,ค้นหาร่าง,เหยื่อเที่ยวบินแอร์เอเชีย,เที่ยวบินQZ8501,คืบหน้าค้นหาร่าง,ร่างผู้โดยสาร,พิสูจน์อัตลักษณ์,อินโดนีเซีย,สุราบายา,ตกทะเลชวา,แอร์บัส
https://www.thairath.co.th/content/472623
คสช.เตรียมอำนวยความสะดวกประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 59 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยให้ความสำคัญต่อภารกิจการจัดระเบียบสังคม โดยให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็งในทุกด้าน พร้อมกำชับให้เตรียมมาตรการรองรับดูแลประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามข้อห่วงใยของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)โดยให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตั้งจุดอำนวยความสะดวก จุดบริการประชาชน ป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย ลดอุบัติเหตุ โดยเป็นการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน และให้มีอาสาสมัครประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในภารกิจดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ในห้วงเดือนธันวาคม 2559-เมษายน 2560 เกษตรกรจะเก็บเกี่ยวอ้อย และขนส่งเข้าสู่โรงงานน้ำตาล โดยที่ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้าไปมีส่วนในการจัดระเบียบรถบรรทุกอ้อย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้เส้นทางและป้องกันอุบัติเหตุ และกำกับดูแลให้การบรรทุกได้มาตรฐานตามกฎหมาย เป็นไปตามข้อตกลงที่ได้เคยทำร่วมกันไว้ระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับผู้ประกอบการ ทั้งในเรื่องของลักษณะการบรรทุก น้ำหนัก ความเร็วรถ และป้ายสัญลักษณ์ โดยในตลอด 6 เดือนจากนี้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จะได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ขนส่งในพื้นที่ในการดูแลให้เป็นไปตามข้อตกลง ให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสะดวกกับผู้ประกอบการและความปลอดภัยของประชาชน ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผู้ประกอบการและสมาคมชาวไร่อ้อยในภาคเหนือได้มีข้อตกลงร่วมกันที่จะงดการขนส่งอ้อยเข้าสู่โรงงานในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อลดความคับคั่งของการจราจร,พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด และการช่วยเหลือประชาชนใน ๒ จังหวัด ที่ระดับน้ำยังคงอยู่ คือ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง ทั้งนี้ การเกิดอุทกภัยในภาคใต้มีลักษณะเฉพาะ โดยขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายให้ทุกส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยในภาคใต้อย่างยั่งยืน ซึ่งรองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มอบให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้เตรียมการและพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมต่อการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในภาคใต้อย่างยั่งยืน เพื่อเสนอเป็นข้อมูลเข้าสู่แผนการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลโดยด่วนต่อไป สำหรับการช่วยเหลือประชาชน กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ยังคงดำเนินมาตลอดในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ การร่วมกับส่วนราชการและภาคประชาชน เข้ากำจัดผักตบชวาใน 25 จังหวัด สามารถกำจัดผักตบชวาได้ 14,086 ตัน และยังคงเดินหน้ากำจัดผักตบชวาตามแผนงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง,นอกจากนี้ ยังได้ช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการรับซื้อข้าว 1,937,309 กิโลกรัม ช่วยสีข้าว 66,690 กิโลกรัม ช่วยเกี่ยวข้าว 19,919 ไร่ ซึ่งเกษตรกรและสังคมให้การตอบรับเป็นอย่างดี รวมทั้งร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ต่างๆ โดยได้มอบผ้าห่มกันหนาว 64,630 ผืน และเสื้อกันหนาว 17,200 ตัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว นอกจากนี้ยังสนับสนุนการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม ให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดน้ำเสีย จำนวน 42 แห่ง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการตรวจรถตู้สาธารณะ จักรยานยนต์รับจ้าง ใน 45 จังหวัด ให้ปฏิบัติตามมาตรฐานการให้บริการ และความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
คสช.เตรียมอำนวยความสะดวก-ดูแลประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งจุดตรวจ อำนวยความสะดวก ป้องกระทำผิด ลดอุบัติเหตุ พร้อมหนุนรัฐแก้อุทกภัยใต้อย่างยั่งยืน
null
คสช.,อุบัติเหตุ,จุดบริการประชาชน,อุทกภัย,เทศกาลปีใหม่
https://www.thairath.co.th/content/809966
จตุพร ซัดคำพูด เจอกันที่ราชดำเนิน คือการข่มขู่ประชาชน
วันที่ 22 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานกำหนดการพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่เขตบางขุนเทียน โค้งสุดท้าย ใน ภารกิจส่งประยุทธ์กลับบ้าน นำโดย นายอารี ไกรนรา รองหัวหน้าพรรค นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรค และคณะผู้บริหาร รวมทั้ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ เริ่มต้นด้วยการไหว้พระ ณ วัดเลา พระราม 2 เขตบางขุนเทียน เช่นทุกครั้ง,ปรากฏว่า ขณะที่นายจตุพรสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้เกิด พระอาทิตย์ทรงกลด ขึ้น จากนั้นได้ขึ้นรถแห่พบปะพี่น้องประชาชน ณ เคหะไฟฟ้า ชุมชนวัดกำแพง เขตบางขุนเทียน กทม. ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขต 25 บางขุนเทียน นายสุไพรพล ช่วยชู ,ส่วนช่วงเย็นวันนี้ พรรคเพื่อชาติจัดปราศรัยใหญ่ ภายใต้ชื่อ ภารกิจสุดท้าย ปลุกคนไทย หยุดสืบทอดอำนาจเผด็จการ ณ ลานหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว กทม.,นายจตุพร กล่าวถึงกรณี พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นป้าย เลือกความสงบจบที่ลุงตู่ ว่า เป็นเหมือนการสร้างสถานการณ์ น่ากังวล สอดคล้องกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ออกมาพูดก่อนหน้านี้ว่า ถ้าเลือกพรรคฝ่ายเพื่อ ก็จะต้องเจอกันที่ราชดำเนินอีกครั้ง จะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.สืบทอดอำนาจ ต่างแบ่งงานกันทำ โดยเฉพาะชูเรื่องความสงบ แต่ถ้าไม่สงบก็เกิดจากนายสุเทพด้วย นายสุเทพที่ใช้วิธีข่มขู่คนไทย ถ้าเลือกพรรคฝ่ายเพื่อ ก็คงต้องนัดหมายไปเจอกันที่ราชดำเนินอีก ทำให้ผู้คนวิตก ตนคิดว่าบรรยากาศแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น การเลือกตั้งควรเป็นบรรยากาศของการใช้สิทธิเสรีภาพกันอย่างเต็มที่,นายจตุพร กล่าวด้วยว่า รู้สึกแปลกใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แสดงอาการอะไรเลย กับกระแสที่ออกมาของพรรคพวกที่สนับสนุน ดังนั้นวันนี้คิดว่าคนไม่สงบจริงคือ พล.อ.ประยุทธ์ ต่างหาก โดยเฉพาะจิตใจของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยสงบเลย แม้ว่าจะพยายามเสนอว่าจะเปลี่ยนบุคลิกตัวเองไม่ให้เป็นคนที่ขี้โมโห เป็นคนอารมณ์ดี เป็นคนตลก ไม่ทราบเป็นครั้งที่ร้อยแล้วหรือยัง แล้วท้ายที่สุดก็ไม่เคยรักษาคำพูดได้เลย เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเลือกความสงบ จบที่ลุงตู่ นั้นไม่ใช่ ลุงตู่คือความไม่สงบ ใจของลุงตู่เองนั่นแหละที่เป็นปัญหา.
จตุพร ซัด สุเทพ ข่มขู่ประชาชน ปลุกไม่ให้เลือกพรรคฝ่ายเพื่อ อัดพรรคหนุน ลุงตู่ แบ่งกันทำงาน ชี้การขึ้นป้าย เลือกความสงบจบที่ลุงตู่ เป็นการสร้างสถานการณ์ที่น่ากังวล
เลือกตั้ง
เลือกตั้ง62,จตุพร,พรรคเพื่อชาติ,ปราศรัยใหญ่,เลือกความสงบจบที่ลุงตู่,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1526333
หกล้อพุ่งอัดท้ายรถพ่วง 22 ล้อจอดเสียริมถนนที่ อ.เกาะจันทร์ ตาย 1 เจ็บ 2
เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 23 เมษายน 2563 ร.ต.อ.ธณัฐ ผาสุขยืด รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เกาะจันทร์ ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียง พนัสนิคม ว่าเกิดอุบัติเหตุ รถบรรทุกหกล้อ ชนท้าย รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ใกล้เคียงสี่แยกไฟแดงเกาะโพธิ์ มีผู้บาดเจ็บติดภายใน หลังรับแจ้งจึงเร่งรัดเข้าตรวจสอบ พร้อมรถกู้ชีพ รพ.เกาะจันทร์ และอาสากู้ภัย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสาย 331 (ขาเข้าโคราช) ห่างจากสี่แยกเกาะโพธิ์ เพียง 100 เมตร หมู่ 4 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี พบรถพ่วงบรรทุก 22 ล้อยี่ห้อฮีโน่ หัวสีขาว ทะเบียนส่วนหัว 70-3705 ส่วนลูก 70-3706 อุบลราชธานี จอดอยู่เลนซ้ายของถนน และที่ด้านท้ายของรถพ่วง พบรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หัวสีขาว ทะเบียน 83-3259 ระยอง ด้านหน้าหัวรถครึ่งนึงด้านซ้ายชนอัดก๊อบปี้ติดกับท้ายรถบรรทุกพ่วง ภายในมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ทราบชื่อ คือ นายชัชวาล แจ้งสว่าง อายุ 38 ปี ชาวบ้าน ม. 2 ต.พลงตาเอี่ยม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เป็นคนขับรถบรรทุกหกล้อส่วนอีกราย นายมารุต พากเพียร อายุ 19 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.พลงตาเอี่ยม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบเข้าให้การช่วยเหลือนำตัวคนขับ และผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังออกมาได้ ก่อนปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่งรักษาต่อที่ รพ.เกาะจันทร์ ไปก่อนหน้านี้ ส่วนผู้บาดเจ็บอีกหนึ่งรายคือคนที่นั่งคู่กับคนขับที่ถูกอัดก็อบปี้ ทราบชื่อ คือ นายสิทธิชัย ช้างพัน อายุ 23 ปี ขาทั้งสองข้างถูกคอนโซลรถกดทับ มีบาดแผลที่ศีรษะ เสียเลือดเป็นจำนวนมาก กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดประตูรถ นำร่างผู้บาดเจ็บออกมา ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถช่วยเหลือออกมาได้ ตรวจสอบพบขาท่อนล่างทั้งสองข้างหักผิดรูป ฝ่าเท้าด้านขวาเป็นแผลฉีกขาดฉกรรจ์ ทีมแพทย์ฉุกเฉินรีบนำตัวส่งรักษาต่อที่ รพ.เกาะจันทร์ แต่เสียชีวิตที่ รพ.ในเวลาต่อมาจากการสอบถามนายณัฏฐพล พลทา อายุ 38 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง กล่าวว่า ตนเองบรรทุกเม็ดพลาสติกมาเต็มคันรถจากระยองมุ่งหน้าไปส่งที่อำนาจเจริญ กระทั่งถึงที่เกิดเหตุราว 2 ทุ่ม เครื่องยนต์เกิดขัดข้องดับกลางทาง จึงโทรตามช่างให้มาแก้ไข แต่ช่างยังเดินทางมาไม่ถึง จึงได้จอดรถไว้ และหักกิ่งไม้ข้างทางมาทำเป็นสัญลักษณ์ หลังจากนั้นจึงเดินไปที่พักสายตรวจเกาะโพธิ์ เพื่อขอกรวยมาวางตั้ง และขึ้นไปนั่งรอช่างที่หน้ารถ จนกระทั่งถึงเวลาตี 4 ในขณะที่ตนเองหลับอยู่ ก็ได้ยินเสียงดังที่ท้ายรถจึงลงมาดู พบว่ามีรถบรรทุกมาชนท้ายรถตนเองแล้วจึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยมาให้การช่วยเหลือดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่าคนขับรถบรรทุกหน้าจะหลับใน มารู้สึกตัวอีกทีก็จวนตัวพยายามหักหัวรถหลบแต่ไม่พ้นด้าน นางสาววิมล แสงจังหรีด อายุ 38 ปี อาสากู้ภัยที่มาถึงที่เกิดเหตุคนแรก กล่าวว่า ทันทีที่มาถึงที่เกิดเหตุ ได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่เป็นคนขับกับคนที่นั่งด้านหลัง ออกมาก่อน ส่วนคนที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับไม่สามารถช่วยเหลือออกมาได้ในขณะนั้น ต้องรอเครื่องตัดถ่าง ระหว่างนั้นได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและได้ยินผู้บาดเจ็บ พูดเหมือนสั่งลาว่า ผมไม่ไหวแล้ว ฝากบอกแม่ผมด้วยว่า ดูแลตัวเองด้วย ผมจะไปแล้ว ผมไม่ไหวแล้ว จากนั้นผู้บาดเจ็บก็ค่อยๆ ซึมลง ทั้งตนเองและเพื่อกู้ภัยต่างก็เร่งช่วยเหลือ ก่อนให้รถกู้ชีพรับช่วงต่ออย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานก่อนจะเรียกคนขับรถหกล้อ และรถพ่วง มาสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อให้ทราบสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
รถพ่วง 22 ล้อที่บรรทุกเครื่องเสียจอดรอช่างมาซ่อม โดนรถหกล้อคาดว่าหลับในชนท้ายเต็มแรง ใกล้เคียงสี่แยกไฟแดงเกาะโพธิ์ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และ เสียชีวิต 1 ศพ
ข่าว,ทั่วไทย
หกล้อชนท้ายรถพ่วง,รถพ่วง 22 ล้อ,ถนนสาย 331,สี่แยกเกาะโพธิ์,อ.เกาะจันทร์,ชลบุรี,ตาย 1 เจ็บ 2,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1828178
มิน โต้เป็นนางเอกทำตัวขึ้นหิ้ง งดตอบ แยม มือที่ 3 แย่ง บอส
เรียกว่าเจอข่าวฉาวไม่หยุดหย่อนสำหรับนางเอกหน้าหวาน มิน พีชญา วัฒนามนตรี ล่าสุดมีเพจดังในเฟซบุ๊กพูดถึงนางเอกคนหนึ่งทำนองว่าเป็นนางเอกเรตติ้งตก ทำตัวขึ้นหิ้ง เพื่อนในวงการแอนตี้ และหลายคนโยงไปว่าน่าจะหมายถึงสาวมินที่มีข่าวฉาวหนักๆ ในช่วงหลัง ได้เจอมินมาร่วมงานเปิดตัวเครื่องซักผ้า-อบผ้า Beko ที่ลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยถามถึงเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องหัวใจกับหนุ่มนอกวงการที่อายุห่างกันถึง 9 ปี ที่หลายคนมองว่าเจ้าตัวเปิดตัวหนุ่มคนนี้เพื่อบลัฟอดีตหนุ่มรู้ใจอย่าง บอส ซึ่งกำลังคบหากับนางเอกสาว แยม มทิรา ตันติประสุต ในเวลานี้ และจากเรื่องนี้เองที่ทำให้คนมองว่าแยมเป็นมือที่ 3 ระหว่างมินและบอสด้วย,มีข่าวว่าแยม มทิรา คบกับบอส ซึ่งเคยคบกับเรา คนเลยมองแยมเป็นมือที่ 3? อ๋อ ขอไม่พูดถึงแล้วกันค่ะ พูดเรื่องดีๆ ดีกว่า เห็นข่าวแล้วไม่สบายใจไหม? จริงๆ ก็ทราบจากพวกพี่ๆ นี่แหละค่ะ ไม่มีอะไร งงไหมว่าเขาไปคบกันตอนไหน? ไม่งงหรอกค่ะ มินก็ดำเนินชีวิตปกติ ได้ติดตามข่าวบ้างไหม? จริงๆ ตอนนี้เร่งถ่ายละครมากค่ะ ก็ขอบคุณที่หลายๆ คนเป็นห่วงและเป็นกำลังใจให้ กับทางโน้นเราจบกันด้วยดีไหม? ขอไม่พูดถึงดีกว่าค่ะ แล้วกับหนุ่มคนใหม่ล่ะ? อะ โอเค (หัวเราะ) ไม่มีอะไรค่ะ จริงๆ เป็นพี่ที่รู้จัก เรียนอสังหาริมทรัพย์ด้วยกันที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ เรียกว่าเป็นรุ่นเดียวกัน แต่ไม่เคยคุยกันดีกว่า จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีโปรเจกต์ร่วมกัน แต่ก็ยังไม่ขึ้นอะไรเป็นรูปร่างนะคะ ต้องปรึกษาพี่เขา พี่เขาเป็นผู้บริหารที่เก่งเรื่องบริหารการเงินค่ะ เป็นที่ปรึกษาหัวใจด้วยไหม? (หัวเราะ) ตอนแรกก็มาจากเรื่องงานเนอะ ตอนนี้พี่เขาก็ดูเต็มที่ จริงใจ เข้าทางผู้ใหญ่ด้วย,เรียกว่าเขาเดินหน้าจีบไหม? ก็เต็มกำลังค่ะ แล้วเราเปิดใจรับเขารึเปล่า? จริงๆ มินว่าพี่เขาน่ารักดีนะ ดูจริงใจ ตอนนี้เข้าทางคุณพ่อคุณแม่ค่ะ ซึ่งก็ไม่ค่อยมีใครทำมาก่อน เขาเป็นผู้ใหญ่มากค่ะ เพราะฉะนั้นเขาทำอะไรเขาจะชัดเจน เข้าตามตรอก ออกตามประตูเป็นเรื่องปกติ ที่บ้านเราว่าไงบ้าง? คุณพ่อคุณแม่มินน่ารักค่ะ จริงๆ ท่านก็ไม่เคยบังคับเรื่องนี้อยู่แล้ว ถือว่าผ่านไหม ก็ดูไปก่อนค่ะ มันเร็วมากเลยค่ะ ยังบอกอะไรไม่ได้เลย กลัวจะมีปัญหาไหมเพราะอายุห่าง 9 ปี? จริงๆ เป็นแค่ตัวเลขค่ะ คุณพ่อคุณแม่เคยพูดมานานแล้วแหละว่ามินเหมาะกับผู้ใหญ่ อะไรที่เขาเคยพูดน่ะ แต่ที่ผ่านมามินก็ดื้อนิดนึง ผู้ใหญ่อายุเยอะไป แต่มันก็พิสูจน์อะไรหลายอย่างว่าที่ผ่านมาเราก็ทำงานเยอะเนอะ เราอาจจะต้องการคนที่ดูแลเราได้ กลัวคนมองว่าเปิดตัวเพื่อบลัฟฝั่งโน้นไหม? โห อย่าเปรียบเทียบเลยค่ะ อย่าเอามินไปยุ่งกับใครเลยค่ะ หลายคนชมว่าเขาหน้าเด็ก รู้สึกยังไงบ้าง? เขาหน้าเด็กจริงๆ ค่ะ คือถ้าไม่บอกอายุ คนคิดว่าอายุเท่ากันจริงๆคนมองว่าเขาเคยมีแฟนที่เป็นบล็อกเกอร์ แล้วเราไปคุยกับเขา? อ๋อ มินไม่ทราบเลยค่ะ มินไม่ได้ยึดติดกับอดีตเนอะ เป็นคนที่อยู่กับปัจจุบัน ถ้าเราทำอะไรแล้วมีความสุข ถ้าใครทำอะไรแล้วมีความสุขก็เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายแล้วกันค่ะ,ครั้งนี้ถือเป็นความรักครั้งใหม่ของมินได้ไหม? มินว่าใจเย็นๆ ก่อนดีกว่า (หัวเราะ) เดี๋ยวมันจะกลายเป็นว่าพอมันไม่ใช่แล้วมันจะผิดหวัง เสียใจค่ะ สถานะตอนนี้? ก็เป็นที่ปรึกษาดีไหม (ยิ้ม) ปรึกษาอะไรก็ว่ากันอีกที (หัวเราะ) ได้มีโอกาสเจอกันบ่อยไหม? ตอนนี้พี่เขาทำงานอยู่ต่างจังหวัดค่ะ ทั้งอาทิตย์นี้ก็ไม่ได้เจอ ต่างคนต่างทำงานเนอะ เราก็ให้เกียรติกันและกันเหมือนเดิมค่ะ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกค่ะ เนื่องจากว่าวุฒิภาวะค่อนข้างสูง มีความรับผิดชอบ มีเหตุผลเนอะ ได้ยินว่าบ้านเขารวยมาก? ต้องบอกว่าเขาเป็นเซลฟ์เมดค่ะ คือเขาประสบความสำเร็จด้วยตัวเองมาก่อน มีความรู้เยอะ ทำมาหลากหลายอาชีพค่ะ เป็นที่ปรึกษาและเป็นพี่ที่น่ารักค่ะ คนมองว่าเราเปิดตัวเขาเพื่อกลบกระแสเรื่องกระเป๋า? ไม่จริงเลยค่ะ เอาเป็นว่าถ้ามีความคืบหน้าเดี๋ยวอัพเดตให้รู้แล้วกันเนอะ ส่วนนั้นก็แยกเรื่องไปค่ะ จริงๆ ไม่ได้เป็นคนตั้งคำถามเนอะ เพราะฉะนั้นมินก็ถูกถามและตอบคำถามเป็นเรื่องปกติค่ะ เขาตกใจไหมที่มีรูปลงหนังสือ? เขาใสมาก ซื่อมาก เขาไม่รู้จักวงการบันเทิงเนอะ พี่ๆ ก็เอ็นดูพี่เขาหน่อยแล้วกันนะคะ (หัวเราะ) เขาก็มีคำถามว่าทำไมต้องเขียนว่าไฮโซ แปลว่าอะไร ดีหรือไม่ดี เราก็โถ ไม่เป็นไรนะ สบายๆ ไม่มีอะไร พี่ๆ เขาเอ็นดู เขาโดนเพื่อนแซวเยอะมาก เขาก็ตกใจ ตอนคุยกันเรารู้ไหมว่าเขาโสด? มั่นใจเพราะจริงๆ แล้วเขาคุยกับคุณพ่อคุณแม่มิน อย่างที่บอกว่าอดีตก็คืออดีตเนอะ เราทุกคนก็มีอดีต เพราะฉะนั้นเราก็อยู่กับปัจจุบัน เป็นกำลังใจให้กันและกันดีกว่า,มีเพจนึงเขียนประมาณว่านางเอกเรตติ้งตก ทำตัวขึ้นหิ้ง เพื่อนในวงการแอนตี้ บางคนก็ตีความว่าหมายถึงมิน? โห ไม่น่าจะใช่มินหรอกค่ะ เพราะมินก็ยังไปหาเพื่อนปกติและกินข้าวกับเพื่อนเนอะ ตอนนี้ก็งานเยอะมากด้วย ไม่น่าจะใช่ค่ะ แต่ว่ามินว่าในวงการอย่าทับถมกันเลยค่ะ มินว่าไม่มีประโยชน์ที่จะไปฟื้นฝอยหาตะเข็บอะไร มินว่าไม่มีใครชอบหรอกค่ะ ถ้ามีคนมาเขียนว่าอาชีพเราไม่รุ่งเรือง แต่วันนึงเขาอาจจะรุ่งเรืองขึ้นมาก็ได้ ซีเรียสไหมที่เจอหนักแบบนี้? ไม่เลยค่ะ มินเพิ่งได้ยินครั้งแรกเนี่ยแหละค่ะ ไม่เคยได้อ่านเลยค่ะ จริงๆ มินก็มีงานทุกวันเลยนะคะ บั่นทอนในการทำงานไหม? ไม่เลยค่ะ ถ้าไม่ได้ใกล้ตัวเราก็ไม่ได้รับมาใส่ใจอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรต้องปรับปรุงตัว เราก็ทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนปกติค่ะ พัฒนาตัวเองต่อไปค่ะ กระแสข่าวต่างๆ ไม่กระทบกับงานเราเลย? ไม่เลยค่ะ คิดว่ามันเป็นความคิดถึงที่พี่ๆ เจอมินแล้วอยากจะสัมภาษณ์อัพเดตว่าเป็นยังไง แฟนคลับก็อยากทราบข่าว อัพเดตกันไปค่ะ เรื่องจริงเรื่องไม่จริงใช้วิจารณญาณค่ะ,เวียร์ก็ออกมาแก้ข่าวว่าไม่ใช่เรา? เหรอ จริงๆ แล้วพี่เวียร์เป็นพี่ที่น่ารัก อย่างที่บอกว่าเราค่อนข้างสนิทกับพี่และเพื่อนๆ ในวงการหลายคน เพราะฉะนั้นมินมองว่าไกลตัวมากเลยค่ะ ไม่น่าจะใช่มินหรอกค่ะ หลายคนก็เข้าไปคอมเมนต์ฟื้นฝอยว่าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มา? เหรอคะ ก็ไม่เป็นไรค่ะ เอาที่ทุกคนมีความสุขเนอะ เราลอยตัวเหนือดราม่าดีกว่า ใช้ชีวิตแบบมีความสุข เพราะถ้าเกิดว่าเรายึดติดกับอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ต้องการให้เราพัฒนาตัวเอง เรียกว่าทำเต็มที่ในแบบของเราเองเนอะ คิดว่าเป็นข่าวสกัดดาวรุ่งเราโกอินเตอร์ไหม คนอาจจะอิจฉาเรา? จริงๆ คงเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมใครได้ มินไม่ได้กังวลใจเรื่องนี้อยู่เลย เวลาเจอใครเราไม่คิดเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราจะทักทายกับทุกคน มีความสุขกับการทำงานมาก คิดว่าถ้าใครไม่รู้จักเรา คงคิดว่าน่าจะได้รู้จัก เรียกว่ารู้จริง ไม่ใช่แค่รู้จัก ยืนยันว่าไม่ใช่คนที่เขาเขียนถึง? ไม่ใช่ค่ะ.
มิน พีชญา งดตอบข่าวเม้าท์แยม มทิรา เป็นมือที่ 3 แย่งบอส อดีตคนรู้ใจ ปัดเปิดตัวหนุ่มใหม่เพื่อบลัฟอีกฝ่าย ชมหนุ่มใหม่เป็นผู้ใหญ่ ยกให้เป็นที่ปรึกษา ไม่หวั่นอายุห่าง 9 ปีเป็นอุปสรรค โต้เป็นนางเอกทำตัวขึ้นหิ้ง-เพื่อนแอนตี้
null
มิน พีชญา วัฒนามนตรี,ความรัก,แฟน,หนุ่มนอกวงการ,ไฮโซ,แฟนเก่า,บอส,แยม มทิรา ตันติประสุต,มือที่ 3,นางเอกเรตติ้งตก,ทำตัวขึ้นหิ้ง,เพื่อนแอนตี้,ข่าว,ข่าวบันเทิง,บันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/673891
ผิดจากนี้ไม่ใช่ประชาธิปัตย์
ข้อมูลใหม่เปิดโอกาส ปชป.,ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า พ.ย.61 ปลายปีนี้จะได้เลือกตั้งหรือไม่ แต่ฝ่ายการเมืองเองพยายามเร่งเครื่องการเมืองในรูปแบบและลีลามากันเป็นชุด,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากประกาศตัวว่าเป็นนักการเมือง อดีตเคยเป็นทหารได้ย้ำว่าต้องรอกฎหมายลูกอีก 2 ฉบับเสร็จ,นั่นแหละสัญญาณการเลือกตั้งจึงจะปรากฏ,ว่าไปแล้วกฎหมายลูก 2 ฉบับที่ว่านั้นคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. น่าจะเสร็จภายในเดือนนี้ หาก สนช.ไม่แก้ไขอะไรมากมายนัก,แต่ที่กำลังเป็นปัญหาก็คือคำสั่ง ม.44 ที่ 53/2560 เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2560 ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือการกำหนดให้พรรคการเมืองในปัจจุบันต้องเปิดให้สมาชิกพรรคมาแสดงหลักฐานการมีคุณสมบัติและไม่มีในการเป็นสมาชิกพรรค,แสดงต่อหัวหน้าพรรคการเมือง พร้อมชำระค่าบำรุงพรรครายละ 100 บาท ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 1 เม.ย.61,ประเด็นปัญหาก็อยู่ตรงนี้แหละ,พรรคการเมือง 2 พรรคใหญ่ คือประชาธิปัตย์และเพื่อไทย ต่างไม่พอใจกล่าวหาว่า คสช.ใช้อำนาจเผด็จการเอาเปรียบพรรคการเมืองเก่า,เปรียบว่าเป็นการ รีเซ็ต สมาชิกพรรคทางอ้อม,ประชาธิปัตย์นั้นแสดงอาการออกนอกหน้ามากที่สุด จนเพื่อไทยไม่ต้องทำอะไรก็พลอยตีกินไปด้วย วิธีต่อสู้ในเรื่องนี้,ก็คือการจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคำสั่งนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่,แต่ คสช.ก็ชี้แจงว่าเป็นคำสั่งโดยชอบ เพื่อแก้ไขปัญหา ไม่ได้มุ่งหมายรีเซ็ตแต่อย่างใด แต่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกพรรค การเมืองทั้งเก่าและใหม่,อีกทั้งความเป็นสมาชิกเก่านั้น ได้ดำเนินการมานานแล้ว ไม่รู้ว่าถูกต้องหรือไม่ เป็นสมาชิกจริงหรือไม่ ซ้ำซ้อนกันหรือไม่,หากมาเริ่มต้นกันใหม่ก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหาแต่อย่างใด,ถ้ายังยึดมั่นใน อุดมการณ์ พรรคก็จะยืนยันในความเป็นสมาชิกพรรคต่อไป เว้นแต่จะเป็นอย่างอื่นหรือคิดเป็นอย่างอื่นก็ช่วยไม่ได้,ว่าไปแล้วหากไม่ติดใจทุกอย่างก็จบและดำเนินการไปตามครรลอง โดยเฉพาะจะไม่เป็นอุปสรรคทำให้การเลือกตั้งต้องล่าช้าออกไป,แต่การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความก็เป็นอีกทางหนึ่ง เพื่อให้ความแน่ชัดว่าทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ขัดรัฐธรรมนูญทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง,ถ้าขัดรัฐธรรมนูญก็ต้องว่ากันใหม่ ทำให้เสียเวลาไปอีกก็ได้,ทีนี้ถ้าล่าช้าขึ้นมาก็จะไปโทษ คสช.ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของพรรคการเมืองเองที่ดำเนินการเองจนทำให้ล่าช้าออกไป,จากวันนี้ไปหลังจากนายกฯประยุทธ์ประกาศตัวเป็น นักการเมือง เต็มตัว ก็คงจะต้องเจอด่านทดสอบเข้มข้นขึ้น,ประชาธิปัตย์ ดูจะจัดหนัก-จัดหนักมากที่สุด,ถามว่าเพราะอะไรในเกมการเมืองหลังเลือกตั้งนั้น หากประเมินเสียงกันแล้วโอกาสที่จะเป็นพรรคที่ 1 นั้นค่อนข้างยากมาก,อีกทั้งการจะร่วมรัฐบาลแทบจะไม่มีแล้ว เพราะไปเปิดฉากต้าน คสช. หรือจะไปร่วมกับพรรคเพื่อไทยก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ มันก็เลยอึดอัดเลือดพล่านอย่างนี้แหละ,แต่จะบอกทางออกให้พยายามหา ข้อมูลใหม่ เตรียมเอาไว้เผื่อจะมีโอกาสบ้าง.,สายล่อฟ้า
ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า พ.ย.61 ปลายปีนี้จะได้เลือกตั้งหรือไม่ แต่ฝ่ายการเมืองเองพยายามเร่งเครื่องการเมืองในรูปแบบและลีลามากันเป็นชุด
null
เลือกตั้ง,ประชาธิปัตย์,เพื่อไทย,กล้าได้กล้าเสีย,สายล่อฟ้า
https://www.thairath.co.th/news/politic/1174743
ประกาศ เพศสภาวะ-สุขภาพจิตครอบครัว เป็นระเบียบวาระที่2 สมัชชาสุขภาพแห่งชาติปีนี้
คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติฯ ประกาศระเบียบวาระที่ 2วิถีเพศภาวะ: เสริมพลังสุขภาพจิตครอบครัวเตรียมผลักดันเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่12ช่วงปลายปี 2562 เหตุพบสถิติผู้ป่วยจิตเวชและอัตราฆ่าตัวตายขยายตัวรวดเร็ว แม้ในต่างจังหวัด บุคลาการด้านจิตเวชไม่เพียงพอ การไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศภาวะทำครอบครัวไทยตึงเครียด หลังประกาศระเบียบวาระแรกมาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหินไปก่อนหน้านี้6 ส.ค.2562 กลุ่มงานสื่อสารสังคมสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมาที่อาคารสุขภาพแห่งชาติ มีการประชุมคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) ครั้งที่4/2562โดยมีนพ.กิจจา เรืองไทยประธาน คจ.สช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยที่ประชุมมีการรับรองระเบียบวาระที่2ที่จะประกาศในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่12ในเดือนธันวาคมปีนี้ คือวิถีเพศสภาวะ:เสริมพลังสุขภาพจิตครอบครัวธีมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในปีนี้ คือก้าวทันการเปลี่ยนแปลง สู่การพัฒนาสังคมสุขภาวะส่วนระเบียบวาระแรกที่ประกาศไปแล้วคือ มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน ซึ่งเป็นมติเดิมที่หยิบยกขึ้นมาทบทวนใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในเดือนกันยายน2562จะมีการประกาศระเบียบวาระอื่นๆ เพิ่ม โดยที่ประชุมคณะกรรมการจัดสมัชชาฯ จะเป็นผู้พิจารณาข้อเสนอจากอนุกรรมการวิชาการรศ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ประธานอนุกรรมการวิชาการ กล่าวว่า ระเบียบวาระวิถีเพศสภาวะ:เสริมพลังสุขภาพจิตครอบครัวพัฒนามาจากประเด็นสุขภาพสตรีและครอบครัว ซึ่งจากการประชุมภาคส่วนต่างๆ พบว่าปัญหาสุขภาพจิตกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในสังคมไทย เหตุผลสำคัญส่วนหนึ่งมาจากมุมมองเรื่องเพศสภาวะที่ทำให้สมาชิกในครอบครัวเกิดความเครียด เช่น แนวคิดเดิมเรื่องบทบาทหญิงชาย มุมมองชายเป็นใหญ่ การไม่ยอมรับเพศสภาพอื่นๆ สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องการได้รับการทบทวนและขยายความเข้าใจในสังคมรศ.จิราพร ยกตัวอย่างว่า หากสำรวจผู้ป่วยที่มารับบริการด้านจิตเวช อาทิ โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล ในปี2560พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปี2558มากกว่าร้อยละ50และมีผู้พยายามทำร้ายตัวเองเฉลี่ยชั่วโมงละ6คน จึงมีการหารือกับเครือข่าย ได้แก่ กรมสุขภาพจิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันราชานุกูล สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ กรมกิจการสตรี ฯลฯ เพื่อศึกษา รวบรวมประเด็นปัญหา และจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายสร้างเสริมสุขภาพสู่สังคมสุขภาวะผ่านมุมมองมิติเพศภาวะ เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนใน3ระบบหลัก ได้แก่ โครงสร้างสังคม ระบบการศึกษา ระบบบริการสุขภาพสุวณี สมาธิกรรมการจัดสมัชชาฯ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการหยิบยกปัญหาสุขภาพจิตมาขับเคลื่อนในปีนี้ เพราะกำลังเป็นเรื่องที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในระดับพื้นที่ แต่ละจังหวัดมีผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้นมาก โดยมีสาเหตุมาจากหลายเรื่องโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงอัตราการฆ่าตัวตายในจังหวัดต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นด้วย ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์ด้านตัวแทนคณะอนุกรรมการวิชาการระบุว่า มีสถิติตัวเลขรองรับว่าเรื่องนี้กำลังเป็นปัญหาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะวัยรุ่นทั้งหญิงชาย ขณะที่บุคลากรด้านนี้มีไม่เพียงพอ และบุคลากรสาธารณสุขโดยทั่วไปก็ไม่กล้าให้คำแนะนำกับผู้ป่วยจิตเวชในพื้นที่ ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการดำเนินการแก้ไขอย่างทันท่วงที ประชาชนจำนวนมากเข้าไม่ถึงบริการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตท้ายที่สุด ที่ประชุมมีมติรับรองระเบียบวาระดังกล่าวในเบื้องต้น โดยให้อนุกรรมการวิชาการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำเอกสารหลักศึกษาเรื่องนี้ให้สมบูรณ์แล้วนำเสนอในการประชุมครั้งถัดไป รวมทั้งอาจมีการปรับเปลี่ยนชื่อระเบียบวาระให้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ยังมีอีกระเบียบวาระหนึ่งที่คาดว่าจะมีการศึกษาเสร็จสมบูรณ์พร้อมนำเสนอในการประชุมครั้งหน้าคือ การจัดการปัญหามลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นPM2.5ทั้งนี้ การจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติเป็นเครื่องมือสำหรับพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพที่เน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคมไทย เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550โดยมีการจัดอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี2551และจัดต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี ปลายปี2562นี้จะเป็นครั้งที่12ภายในงานจะมีทั้งเวทีพัฒนานโยบายสาธารณะ ซึ่งในเบื้องต้นมีการนำเสนอมาแล้ว8ประเด็น เช่น ชีวจริยธรรมบทบาทของyoung bloodในการร่วมพัฒนานโยบายสาธารณะการจัดการป่าการจัดการน้ำการสังคายนาธรรมนูญสุขภาพพื้นที่ฯลฯ ในส่วนของลานสมัชชาและบูธนิทรรศการ มีการนำเสนอ7ประเด็น เช่น ขยะในทะเลCyberbullyingผู้สูงอายุ เป็นต้น ในส่วนของเวทีกลางมีการนำเสนอ6ประเด็น เช่น กลุ่มเปราะบางการท่องเที่ยวชุมชนการออมต้นไม้เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ฯลฯ สำหรับเครือข่ายที่จะเข้าร่วมงานนั้นจำนวน254กลุ่ม โดยมีทั้งเครือข่ายพื้นที่เครือข่ายภาคประชาสังคมเครือข่ายวิชาการ วิชาชีพ และเครือข่ายภาคราชการ
คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติฯ ประกาศระเบียบวาระที่ 2 วิถีเพศภาวะ: เสริมพลังสุขภาพจิตครอบครัว เตรียมผลักดันเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 12 ช่วงปลายปี 2562
คุณภาพชีวิต
คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ,สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ,เพศสภาวะ,สุขภาพจิตครอบครัว
https://prachatai.com/journal/2019/08/83772
เชื่อม 2 วัฒนธรรมสู่อาเซียน ที่ศูนย์ศึกษาอาเซียน จ.เชียงราย
ขอค้นตัว เรียกตรวจบัตร และถามเรื่องการเดินทาง เป็นภาษาพม่าได้คล่องแคล่ว จากที่เคยต้องมีล่ามช่วยสื่อสาร หลังอบรมคอร์สภาษาพม่าโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่โรงเรียนบ้านแม่จัน จ.เชียงราย ตามโครงการ ขยายผลชุมชนต้นแบบและการสื่อสารการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน วันนี้ผู้พิทักษ์สันติราชที่ด่านกิ่วทัพยั้ง ใช้ภาษาพม่าพื้นฐานได้ด้วยตัวเอง ทำให้ลดทั้งการเสียเวลา และความขัดแย้ง ซึ่งสำคัญต่อการรักษาความเรียบร้อย เมื่อด่านกิ่วทัพเป็นจุดตรวจที่จับกุมยาเสพติดได้มากที่สุดในเชียงรายแซง ยู นักท่องเที่ยวชาวพม่า เผยว่าเธอมาเชียงรายเป็นครั้งแรก เมื่อสักครู่ตำรวจหญิงไม่ได้พูดอะไร แค่ชี้ที่กระเป๋าเพื่อขอตรวจค้น แต่จะดีกว่าถ้าตำรวจไทยพูดภาษาพม่าได้ เพราะจะทำให้สื่อสารกันได้ดียิ่งขึ้นแสงเทียนในมือเคลื่อนไหวไปตามลีลานางรำในแบบฟ้อนผางประทีปของเมืองเหนือ แต่ผู้รำสวมหน้ากากและทำท่าเหมือนหุ่นกระบอกคล้ายฟ้อนหน้ากากของพม่า ครูนาฏศิลป์ ณัฐฐิรา ชัยพิวงค์ ตั้งใจประยุกต์ให้เห็นว่า 2 วัฒนธรรม สามารถผสมผสานเป็น 1 การแสดงที่งดงามได้ แสดงให้ชมในงานเปิดศูนย์ศึกษาอาเซียนภาคเหนือ ที่โรงเรียนบ้านแม่จัน ในเวทีเดียวกันยังแจกรางวัล ครอบครัวอาเซียน หลังชาวอำเภอแม่จัน กว่า 150 ครอบครัว แข่งขันตอบปัญหาความรู้รอบตัวอาเซียนไปเมื่อเดือนกรกฎาคม กิจกรรมนี้ตั้งใจให้เยาวชนมีส่วนทำให้ผู้ใหญ่ในบ้านหันมาสนใจและรู้เท่าทันอาเซียน ทั้งยังเห็นความสำคัญของครอบครัวที่มีบทบาทปลูกฝังลูกเมื่ออยู่นอกห้องเรียน สอดคล้องกับหลัก บวรโมเดล ที่โครงการขยายผลชุมชนต้นแบบฯ โดย สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับมูลนิธิร่มฉัตร ใช้ดึงพลังความร่วมมือจากชุมชน ศาสนา และภาครัฐ มาสร้างความตื่นตัวเรื่องเออีซีไปพร้อมๆกันในงานเปิดศูนย์อาเซียน มีน้องคนนึงพูดภาษาพม่าได้คล่อง ชื่อน้องฐิตา ซึ่งน้องบอกว่าจริงๆแล้วไม่ใช่คนไทยค่ะเป็นคนพม่าที่มาเกิดในเมืองไทยค่ะ แต่ด้วยสิ่งแวดล้อมก็อาจทำให้พูดพม่าได้ไม่คล่องนักพูดไทยได้มากกว่า ซึ่งน้องบอกว่าได้มาเรียนที่คอร์สสอนภาษาที่โรงเรียนเปิดสอนเหมือนกัน ทำให้พูดภาษาพม่าได้คล่องขึ้นเยอะอยู่เหนือสุดแดนสยาม ติดลาวและพม่า ทั้งเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยลำน้ำหลายสาย ทำให้เชียงรายมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ยิ่งในอนาคตสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 4 อำเภอเชียงของ เปิดใช้งาน ยิ่งเป็นอีกช่องทางที่ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติจะหลั่งไหลเข้ามาในไทย ดังนั้นนอกไปจากภาษาสากลอย่างอังกฤษ สำหรับคนเชียงราย การเรียนภาษาเพื่อนบ้านใกล้ ทั้งพม่า ลาวและจีน จะช่วยสร้างความใกล้ชิด เพื่อรองรับการค้าและการท่องเที่ยว ศูนย์ศึกษาอาเซียน ที่ตั้งขึ้นทั้ง 4 ภูมิภาค จึงเน้นเปิดสอนภาษาที่จำเป็นเร่งด่วนในแต่ละพื้นที่ เพราะภาษาคือประตูด่านแรกสู่ความเข้าใจ
เชียงรายอยู่ติดพม่า ลาว และเชื่อมกับจีนตอนใต้ จึงเป็นประตูสู่อาเซียนแห่งสำคัญ และเพิ่งจะตั้งศูนย์ศึกษาอาเซียนภาคเหนือขึ้นที่อ.แม่จัน หวังสร้างความตื่นตัวเรื่องเออีซีโดยเริ่มที่การสอนภาษาพม่า ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสนใจจำนวนมาก เพราะการสื่อสารสำคัญต่อการตรวจตราความเรียบร้อยในพื้นที่นี้
ศิลปะ-บันเทิง
ตำรวจ,ภาษาพม่า,ศูนย์,สสค.,อาเซียน,เชียงราย
https://news.thaipbs.or.th/content/192881
ให้สอบภาษีรบ.คสช. มาร์คจี้-ห้ามเว้น บิ๊กป้อมท้าตรวจ โยงรับเช็ค1ล้าน
มาร์ค ลั่นต้องอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ห้ามเว้นวรรครัฐบาลชุดนี้ เลขา ป.ป.ช.ยันมีหน้าที่ดูแค่ทรัพย์สินที่งอก ไม่มีอำนาจตัดสิน 60 นักการเมือง สรรพากรต้องไปพิจารณาเอง ผบ.เหล่าทัพร่วมเบิร์ธเดย์ 63 ปี บิ๊กตู่ ป.ย.ป.ขยับถกภาคเอกชน ดึงนักธุรกิจนิวเจนเป็นทีมเสริม บิ๊กป้อม ตรวจการบ้านปรองดอง วางฟอร์ม กปปส.ชงขยับโรดแม็ป รอสรุปร่างสัญญาประชาคม,ตามที่ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย แก้เกมโดยยื่นให้กรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้จากเช็ค 1 ล้านบาท ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เสมอภาคกัน ไม่เว้นคนในรัฐบาลปัจจุบัน,เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 มี.ค. ที่รัฐสภา นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแจ้งให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กว่า 60 คน ว่า สตง.ตรวจทุกภาษี ไม่ได้เจาะจงไปที่คนใดคนหนึ่ง ไม่ได้กล่าวหาว่านักการเมืองโกงภาษี แต่อาจเกิดเหตุลืมยื่นแบบรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ลืมเสียภาษี หรือเสียภาษีไม่ครบ จึงขอให้นักการเมืองที่รู้ตัวไปยื่นเอกสารแล้วจะไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ส่วนกรณีการตรวจสอบผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองในรัฐบาล คสช.นั้น ขณะนี้เขายังดำรงตำแหน่งอยู่ หากตรวจสอบจะได้แค่ข้อมูลทรัพย์สินก่อนเข้าดำรงตำแหน่งเท่านั้น จะไม่ได้ข้อมูลหลังพ้นจากตำแหน่ง,เมื่อถามถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้กรมสรรพากรตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่แจ้งว่ามีทรัพย์สินอื่นเป็นเช็คจำนวน 1 ล้านบาท ว่าเป็นเงินได้พึงประเมินหรือไม่นั้น นายพิศิษฐ์ตอบว่า ที่ตรวจสอบมายังไม่มีประเด็นนี้ แต่เป็นหน้าที่กรมสรรพากรต้องตรวจสอบต่อไป ส่วน สตง.จะติดตามไปตามปกติ เพราะถ้า สตง.ไปตรวจทั้งหมดทุกคนที่เสียภาษีจะไม่ได้อะไรเลย แต่ สตง.ต้องสุ่มตรวจ อาทิ ผู้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นหลังพ้นจากตำแหน่งจำนวนมาก,ผู้ว่าการ สตง.ยังชี้แจงกรณีฝ่ายการเมืองระบุว่ามุ่งเน้นตรวจสอบแต่อดีตนักการเมือง โดยไม่ตรวจสอบนักการเมืองในรัฐบาลปัจจุบัน ว่า นักการเมืองในรัฐบาลปัจจุบันยังไม่พ้นจากตำแหน่ง ก็ไม่รู้จะตรวจอย่างไร ต้องรอให้พ้นจากตำแหน่งแล้วแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อพ้นจากตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง 1 ปีก่อน จะได้นำข้อมูลทรัพย์สินมาเปรียบเทียบว่ามีเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน มีอะไรผิดปกติหรือไม่ ยืนยันคนที่ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินถูกตรวจแน่นอน เพราะนักการเมืองเมื่อมีการแสดงบัญชีทรัพย์สินถือว่าตรวจสอบง่ายกว่าอาชีพอื่น ที่ไม่จำเป็นต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน,ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า การที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นเรื่องให้กรมสรรพากรตรวจสอบการยื่นภาษีจากเช็ค 1 ล้านบาทของตนนั้น ทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ต้องเป็นห่วง และปฏิบัติตามกฎหมายเหมือนทุกคน ส่วนการเปิดเผยว่ามีเช็คโอนเงินมาให้ 1 ล้านบาทนั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้วตั้งแต่ปี 2551 ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ขอย้ำว่าไม่เคยรับเงินใคร และยืนยันว่าไม่เคยคิดจะฟ้องร้องใคร ทุกอย่างต้องการให้มีการตรวจสอบ เพราะไม่เคยทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เหมือนประชาชนทั่วไปที่ยึดถือและใช้กฎหมายร่วมกันเป็นหลัก,พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตามที่ฝ่ายการเมืองออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และข้าราชการระดับสูงนั้น ต้องตรวจสอบตามกฎหมายทั้งหมดไม่ว่าใคร ไม่ต้องเรียกร้องก็ต้องตรวจสอบ ใครมีหน้าที่ต้องดำเนินการ ไม่ว่าใครต้องเสียภาษี เราก็เสียภาษีกันหมดถ้ามีอะไรต้องเสีย ส่วนบัญชีทรัพย์สินของตนเปิดหมดแล้ว น่าจะลงเว็บไซต์ ป.ป.ช.หมดแล้ว มีหน้าที่เสียภาษีมาตลอดตอนเป็นข้าราชการ จนบัดนี้ก็ยังต้องเสีย,ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงสั้นๆถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองตั้งข้อสังเกตว่ามีการตรวจสอบการเสียภาษีเฉพาะอดีตนักการเมืองในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่มีการตรวจสอบนักการเมืองที่อยู่ในรัฐบาลชุดนี้ ว่า ให้กรมสรรพากรเป็นคนพูดจะดีกว่า,นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอย้ำว่าไม่มีปัญหาและเห็นด้วยกับการตรวจสอบเรื่องภาษีนักการเมือง ทราบว่าขณะนี้มีนักการเมืองบางราย ไปชี้แจงแล้ว สำหรับทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นของตนไม่ได้เกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินภาษี และยังไม่ได้รับเชิญให้ไปชี้แจง แต่หาก สตง.จะใช้แนวทางนี้ตรวจสอบเรื่องภาษี ควรต้องใช้กับทุกรัฐบาล รวมถึงรัฐบาลชุด ปัจจุบันด้วยเพื่อให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน,ขณะที่นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.ทำหนังสือแจ้งต่อกรมสรรพากรระบุมีอดีตรัฐมนตรี 4 คน ไม่ยื่นแสดงสำเนารายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อ ป.ป.ช. โดยอ้างว่าไม่มีรายได้ และมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี ว่า ตามหลักการเมื่อกรมสรรพากรสอบถามมา ป.ป.ช.จะตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินฯที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยื่นมาถึงความมีอยู่จริง ความถูกต้อง และการเปลี่ยนแปลงของรายได้ ถ้าเห็นว่า มีรายได้เพิ่มขึ้น จะแจ้งไปที่กรมสรรพากร แต่การมี รายได้เพิ่มขึ้นแล้วต้องเสียภาษีหรือไม่ กรมสรรพากรจะเป็นผู้พิจารณา เช่น หากเป็นกรณีการให้บางเรื่องก็ยกเว้นเรื่องภาษี แต่บางเรื่องไม่ได้รับการยกเว้น หรือการตีราคาทรัพย์สินเก่าที่เพิ่มขึ้น ไม่ถือว่าเป็นรายได้ เรื่องนี้สรรพากรต้องนำไปพิจารณาอีกครั้ง แต่ ป.ป.ช.ไม่มีหน้าที่พิจารณาว่าใครต้องเสียภาษีหรือไม่ เพราะเป็นหน้าที่กรมสรรพากรเป็นผู้พิจารณา,นายสรรเสริญกล่าวต่อว่า กรณี 4 อดีตรัฐมนตรีที่อ้างว่ารายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีนั้น ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ส่งเรื่องทำนองนี้ให้กรมสรรพากรตลอด หากสงสัยว่ามีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีจริงหรือไม่ ซึ่งกรมสรรพากรจะตรวจสอบว่า เป็นจริงตามที่แจ้งหรือไม่ ป.ป.ช.มีหน้าที่แจ้งข้อมูลอย่างเดียว ส่วนกรณี 60 นักการเมืองที่ สตง.ระบุว่าไม่ได้เสียภาษีตามความเป็นจริงนั้น สตง.อาจพบว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น โดยดูจากบัญชีทรัพย์สินของ ป.ป.ช. แล้วแจ้งไปที่กรมสรรพากร จากนั้นสรรพากรจึงสอบถามมาที่ ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช.ก็ตรวจสอบแล้วแจ้งกลับไปว่า มีรายได้ใดบ้างที่เพิ่มขึ้น แต่จะต้องเสียภาษีหรือไม่ เป็นหน้าที่สรรพากรพิจารณา,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่ 41/2560 เรื่องการขยายเวลาการออกหมายเรียกตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร ว่า กรณีที่เจ้าพนักงานประเมินมีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้ใดแสดงรายการตามแบบที่ยื่นไม่ถูกต้องตามความจริงหรือไม่บริบูรณ์ แต่ไม่ได้ออกหมายเรียกผู้ยื่นรายการนั้นมาไต่สวน และออกหมายเรียกพยานกับสั่งให้ผู้ยื่นรายการหรือพยาน นำบัญชีเอกสารหรือหลักฐานอื่นมาแสดงภายในเวลาสองปีนับแต่วันที่ได้ยื่นรายการ และไม่มีการอนุมัติโดยอธิบดี ให้ขยายเวลาการออกหมายเรียกดังกล่าวเกินกว่าสองปี แต่ไม่เกิน ห้าปีนับแต่วันที่ได้ยื่นรายการ ในกรณีปรากฏหลักฐานหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ยื่นรายการมีเจตนาหลีก เลี่ยงการเสียภาษีอากร เช่นนี้ รมว.คลังจะใช้อำนาจตามมาตรา 3 อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ในการขยายกำหนดเวลาการออกหมายเรียกตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อพ้นกำหนดเวลาห้าปี นับแต่วันที่ได้ยื่นรายการไว้ได้หรือไม่,คณะกรรมการฯได้พิจารณาและมีคำวินิจฉัยในการประชุมครั้งที่ 46/2560 วันที่ 7 มี.ค.2560 ว่า มาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร ได้กำหนดเวลาในการออกหมายเรียกของเจ้าพนักงานประเมิน และการอนุมัติให้ขยายเวลาการออกหมายเรียกของอธิบดี ในกรณีที่มีการยื่นรายการตามแบบไว้เป็นการเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำบทบัญญัติมาตรา 3 อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร เกี่ยวกับการขยายหรือเลื่อนกำหนดเวลาต่างๆ ตามประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นบททั่วไปมาใช้บังคับแก่กำหนดเวลาการออกหมายเรียกและการขยายเวลาการออกหมายเรียกตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากรได้ คำวินิจฉัยนี้ให้ใช้บังคับถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 15 มี.ค.2559 นายประภาศ คงเอียด รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายได้ ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร,วันเดียวกัน เวลา 07.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้บัญชาการเหล่าทัพ นำโดย พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร. พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางมายังตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อเข้าอวยพรล่วงหน้าเนื่องในวันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะมีอายุครบ 63 ปี วันที่ 21 มี.ค. ทั้งนี้ นายกฯได้มอบเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชนิดราคา 50 บาท และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ชนิดราคา 50 บาท และปลอกหมอนที่ทำจากผ้าขาวม้า มอบให้เป็นที่ระลึกกับ ผบ.เหล่าทัพ,ต่อมาเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) หรือมินิคาบิเนตครั้งที่ 4 ว่าด้วยการวางหลักการยุทธศาสตร์แก้ปัญหา 5 สินค้าเกษตรสำคัญ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด มัน ปาล์ม ยางพารา และจัดระดับลดขั้นตอนความยากง่ายการทำธุรกิจ การลดขั้นตอนความยุ่งยาก และแก้ปัญหาอุปสรรค เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ โดยมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการ ป.ย.ป. และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม,นายกฯกล่าวในที่ประชุมว่า ที่ผ่านมาการแก้ปัญหาประชาชนและเกษตรกร ไม่ครบวงจร ติดขัดทั้งเรื่องระเบียบ ข้อบังคับ การบริหารจัดการ ทำให้การปรับเปลี่ยนในทางปฏิบัติทำได้ยาก เพราะประชาชนเคยชินกับการได้รับการช่วยเหลือ แต่ยืนยันจะแก้ปัญหาให้ได้ โดย ป.ย.ป.แม้ไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม,นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เลขานุการ ป.ย.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าในงานของ ป.ย.ป.ว่า ได้พูดคุยกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่เป็นลูกหลานของสภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าไทยเข้ามาร่วมงานใน ป.ย.ป.แล้ว เพื่อรวบรวมความคิดเห็นสำหรับขับเคลื่อนประเทศไทย วันที่ 21 มี.ค. จะพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มเครือข่ายธุรกิจบิสคลับ เป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายธุรกิจการค้าที่มีอยู่ประมาณ 8,000 คน โดยให้ไปทำการบ้านมาว่าจะมีบทบาทช่วยขับเคลื่อนและวางอนาคตประเทศไทยอย่างไร เพื่อร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ หากมีโอกาสจะนำเข้าพบกับนายกฯ และมีการพูดคุยกับกลุ่มข้าราชการที่เป็นผู้นำท้องถิ่นด้วย,วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ได้เชิญ 4 คณะอนุกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิเข้าประชุมสรุปผลคืบหน้าการทำงานช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ประกอบด้วย อนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานฯ อนุกรรมการพิจารณาบูรณาการ ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.ทหารสูงสุด เป็นประธานฯ อนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เป็นประธานฯ อนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน,จากนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบรายละเอียดความคืบหน้าที่เป็นไปด้วยดี ทุกคนในคณะทำงานเห็นด้วยว่าเราเดินมาถูกทางแล้วในการสร้างความปรองดอง คณะที่ปรึกษาฯให้คำแนะนำให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้มากที่สุด การสร้าง ความปรองดองต้องยึดประชาชนเป็นหลัก ขณะนี้รับฟังข้อคิดเห็นประชาชนจากทุกสาขาอาชีพกว่า 20,000 คน ส่วนข้อเสนอของกลุ่ม กปปส. ที่เรียกร้อง ให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับตน แต่เราต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และต้องยึดตามโรดแม็ป ไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงโรดแม็ปได้ แต่ถ้ามีความจำเป็นอย่างไรที่จะเลื่อนก็เป็นอีกเรื่อง เมื่อถามว่ามีความชัดเจนหรือยังว่าสัญญาประชาคมจะเป็นรูปแบบใด พล.อ.ประวิตรตอบว่า กำลังดำเนินการอยู่ ตอนนี้เรายังอยู่แค่ต้นทางยังไม่ถึงปลายทางไม่ต้องรีบ แต่ต้องเสร็จในเดือน มิ.ย.ที่กำหนด,พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ประธานอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง แถลงว่า อนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นฯ มีหนังสือเชิญพรรคการเมืองทั้งหมด 70 พรรค กับ 2 กลุ่มการเมือง และอีก 60 องค์กรภาคประชาชน มีมาให้ข้อคิดเห็นแล้ว 53 พรรค และ 2 กลุ่มการเมือง มีอีก 13 พรรคที่ยังติดต่อไม่ได้ ส่วนการรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ซึ่งมี กอ.รมน.ภาคต่างๆดำเนินการอยู่ จะครบทั้ง 76 จังหวัดในวันที่ 23 มี.ค. โดยข้อมูลทั้งหมดเป็นเรื่องโครงสร้างประเทศ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาในแต่ละพื้นที่ที่อยากให้รัฐบาลช่วยแก้ไข ส่วนการรับฟังความคิดเห็นในส่วนกลาง จะเสร็จวันที่ 5 เม.ย. ส่วนการร่างสัญญาประชาคมจะมาจากการจัดทำข้อพิจารณาข้อคิดเห็นร่วม และออกเผยแพร่เวทีสาธารณะ เพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งสุดท้ายเพื่อปรับปรุงเป็นร่างสัญญาประชาคม ที่มองถึงประโยชน์ประชาชนส่วนใหญ่,ผู้สื่อข่าวรายงานจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ภายหลังนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 18/2560 เรื่องแต่งตั้งประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ภายหลังนายสมภพ ระงับทุกข์ ประธาน กกต.กทม. ลาออกจากตำแหน่ง และต่อมาที่ประชุม กกต.กทม.รับทราบและมีมติเอกฉันท์ เห็นชอบให้นายชัยณรงค์ เทียนมงคล กกต.กทม. ปฏิบัติหน้าที่ประธาน กกต.กทม. จากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการ กกต.มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งนายชัยณรงค์เป็นประธานกกต.กทม.คนใหม่ตามอำนาจ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งมาตรา 14 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและ ผอ.การเลือกตั้งประจำจังหวัด,อีกเรื่อง ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ว่า ก็ตรวจสอบไปไม่มีอะไร เพราะทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการแล้ว โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำผ่านการพิจารณาในขั้นตอนของ สนช.เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนจะนำเข้าที่ประชุม ครม.เมื่อไหร่ ยังไม่ทราบ สตง.จะทำอย่างไรก็ได้เพราะทำทุกอย่างโปร่งใส่ตรวจสอบได้ และการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน เป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)
พิศิษฐ์ ตีกรรเชียงสอบภาษีคนรัฐบาลคสช. อ้างตรวจสอบตอนนี้ก็ไม่ได้อะไร โบ้ยเป็นหน้าที่สรรพากรประเมินภาษีเช็ค 1 ล้าน บิ๊กป้อม ประวิตร แจงเรื่องเช็คเกิดมาตั้งแต่ปี 51 ยันไม่มีอะไรผิด ก.ม. บิ๊กป๊อก บอกโชว์หมดแล้วในเว็บไซต์
ข่าว
สอบภาษี,คสช.,กรมสรรพากร,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส
https://www.thairath.co.th/news/891121
ชาวบ้านเขวา กางจอยักษ์รอเชียร์ น้องแต้ว ล่าทอง อลป.
วันที่ 8 ส.ค. 59 บรรยากาศที่หมู่บ้านเขวา ตำบลกุดเค้า อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น เป็นไปอย่างคึกคักในขณะนี้ หลังจากชาวบ้านพร้อมใจจัดเตรียมสถานที่ พร้อมกับกางจอยักษ์เพื่อเตรียมเชียร์ น้องแต้ว พิมศิริ ศิริแก้ว นักยกน้ำหนักทีมชาติไทยในการล่าเหรียญทอง โอลิมปิก 2016 คืนวันจันทร์ต่อเช้าวันอังคารนี้  ,บรรดาผู้นำชุมชน และชาวบ้านเขวาได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ พร้อมกับจัดเตรียมสถานที่ในบริเวณวัดโพธิ์ทอง ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของน้องแต้ว เพื่อร่วมกันเชียร์และให้กำลังใจจอมพลังสาวสายเลือดขอนแก่น ที่จะลงแข่งขันยกน้ำหนักในรุ่น 58 กิโลกรัมหญิง คืนวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมนี้ เวลา 01.30 น. ซึ่งชาวบ้านทุกคนต่างมั่นใจว่า พิมศิริ จะสามารถสร้างรอยยิ้มและความภูมิใจให้กับชาวไทยทั้งประเทศได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีการทำสายเชียร์ เจิร์กแล้วแต้วสู้ๆ จำนวนกว่า 300 เส้น เพื่อแจกให้กับกองเชียร์อีกด้วย    ,ด้านนางอมรรัตน์ ศิริแก้ว มารดาของน้องแต้ว เผยว่า มีความมั่นใจในตัวของลูกสาวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะแพ้ชนะหรือได้เหรียญอะไรก็ตาม ถือว่าลูกสาวทำดีที่สุดแล้ว และเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ เพราะกีฬามีแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากสามารถคว้าเหรียญรางวัลในศึก ริโอ เกมส์ มาได้ จะทำบุญครั้งใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล    ,สำหรับ พิมศิริ ศิริแก้ว อายุ 26 ปี เป็นเจ้าของเหรียญเงินในการแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง โอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน โดยแพ้ให้กับ หลี่ ซื่อ หยิง เจ้าของเหรียญทองจากจีน
ชาวบ้านเขวา จ.ขอนแก่น ต่างพร้อมใจจัดเตรียมความพร้อมเพื่อร่วมเชียร์ น้องแต้ว ในการแข่งขันยกน้ำหนัก ริโอ เกมส์ คืนวันจันทร์ ต่อเช้าวันอังคารนี้ คุณแม่เชื่อ ลูกสาวจะสร้างความภูมิใจให้กับชาวไทยได้อีกครั้งแน่นอน
null
น้องแต้ว,พิมศิริ ศิริแก้ว,ยกน้ำหนักรุ่น 58 กิโลกรัมหญิง,โอลิมปิก 2016,ริโอ เกมส์,บ้านเขวา,ขอนแก่น,อมรรัตน์ ศิริแก้ว,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/685011
หัวใจอาสา อาจารย์นำนศ. ตัดผมฟรีทุกวันพุธที่ รพ.สุโขทัยกว่า 10 ปี
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 มิ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทุกวันพุธ ที่บริเวณทางเดิมเชื่อมระหว่างตึกผู้ป่วยหน้าและผู้ป่วยใน ภายในโรงพยาบาลสุโขทัย อ.เมือง จ.สุโขทัย จะมีกลุ่มจิตอาสานำอุปกรณ์ตัดแต่งผมทั้งชายและหญิง โดยตั้งหน่วยบริการตัดผมให้กับผู้ป่วยและญาติ ที่เดินทางมาโรงพยาบาลสุโขทัยฟรี ซึ่งทำติดต่อกันมาเกือบ 10 ปีแล้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่ากลุ่มจิตอาสาเป็นคณะอาจารย์และนักศึกษาของวิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย เป็นจำนวนกว่า 10 คน กำลังให้บริการตัดผมฟรีแก่ผู้ป่วยและญาติที่เดินทางมาโรงพยาบาลสุโขทัย,จากการสอบถาม นายประหยัด ยอดยิ่ง อายุ 52 ปี อาจารย์ภาควิชาแผนกตัดแต่งผมชาย วิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย เผยว่า ทุกวันพุธ ตนและเพื่อนอาจารย์ได้นำนักศึกษาภาควิชาแผนกตัดแต่งผมชาย ออกมาบริการตัดผมฟรีให้กับประชาชน โดยกลุ่มจิตอาสาให้บริการมากว่า 10 ปี ทั้งตัดแต่งผมชายและหญิง,นอกจากจะได้ทำบุญแล้ว ยังเป็นการฝึกนักศึกษาให้ชำนาญในการตัดแต่งผม รวมทั้งยังออกหน่วยให้บริการตัดผมฟรีแก่ประชาชน ตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นการจัดกิจกรรมของจังหวัดอีกด้วย,นายอำนาจ เพ็งเอี่ยม ชาวบ้านที่มาใช้บริการตัดผมฟรี เผยว่า คิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี เนื่องจากปกติแล้วผู้ป่วยจะเดินทางไปไหนมาไหนลำบาก จะไปตัดผมที่ร้านก็ลำบาก แต่เมื่อมีกลุ่มจิตอาสาออกมาบริการตัดผมให้ฟรีถึงโรงพยาบาล นับว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากผู้ป่วยได้มาหาหมอและได้ถือโอกาสตัดผมอีกด้วย.
อาจารย์วิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย นำทีมจิตอาสากว่า 10 คน บริการตัดผมให้กับผู้ป่วยและญาติ ที่เดินทางมาโรงพยาบาลโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งทำแล้วกว่า 10 ปี เพื่อทำบุญและฝึกให้นักศึกษาชำนาญในการตัดผม
ข่าว,ทั่วไทย
ตัดผมฟรี,รพ.สุโขทัย,จิตอาสา,วิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย,สุโขทัย
https://www.thairath.co.th/news/local/north/972638
หญิง 19 รับกุเรื่อง ถูกแท็กซี่ชิงทรัพย์-ลวนลาม หวังหาเงินช่วยมารดา
นายสมชาญ ธีระสมบูรณ์ คนขับรถแท็กซี่สีเขียว ทะเบียน ทศ 6240 กรุงเทพมหานคร นำรถแท็กซี่ให้ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางเขนตรวจสอบ พร้อมกับให้การถึงเหตุการณ์ตามที่หญิงอายุ 19 ปี อ้างว่าขึ้นรถคันดังกล่าวแล้วถูกชิงทรัพย์เงินสดไป 2350 บาท และถูกพยายามลวนลาม ขณะที่โดยสารรถมาจากย่านสายไหม เพื่อให้ไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งนายสมชาญ ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และในวันเกิดเหตุได้ขับรถอยู่ย่านรังสิต และไม่ได้รับผู้โดยสารคนนี้ขณะที่ หญิงคนดังกล่าว ยอมรับว่าเหตุดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาและก่อนหน้านี้ได้เข้ามากรุงเทพฯเพื่อสอบและพักอยู่ย่านจรัญสนิทวงศ์ ไม่ได้อยู่ย่านสายไหม และอ้างว่าที่ทำไปเพื่อจะหาเงินไปช่วยมารดาใช้หนี้ที่กู้มากับธนาคารหลังเกิดเหตุการณ์ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตลอดเส้นทางตามที่หญิงคนดังกล่าวอ้างถึง แต่ก็ไม่พบเหตุการณ์ดังกล่าว ประกอบกับการติดตามตัวคนขับแท็กซี่ ก็ให้การไม่สอดคล้องกับที่แจ้งความไว้ จนสุดท้ายหญิงคนนี้ได้รับสารภาพว่าไม่ใช่เหตุจริง ตำรวจจึงแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ก่อนที่จะส่งตัวดำเนินคดีที่ศาลแขวงพระนครเหนือในวันนี้ (3 ก.ค.)
หญิงอายุ 19 ปี ยอมรับสร้างเรื่องขึ้นมาเองว่า ถูกคนขับรถแท็กซี่พยายามลวนลาม และชิงเงินกว่า 2000 บาท ขณะที่เดินทางไปสถานีขนส่งหมอชิต
อาชญากรรม
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/264009
มุราคามิ วิพากษ์วิกฤตนิวเคลียร์ ความผิดพลาดจากน้ำมือของเราเอง
International Catalunya Prize ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยระบุว่า วิกฤตการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมา ไดอิชิ ซึ่งเสียหายจากแผ่นดินไหว เป็น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของพวกเราเองมุราคามิ กล่าวว่า ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศเดียวที่ประสบกับความเสียหายและความทุกข์ทรมานจากการแผ่กัมมันตภาพรังสีของระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่สอง ควรจะปฏิเสธพลังงานนิวเคลียร์ระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาที่มาภาพ:(CC BY-NC-SA 2.0)มุราคามิ ระบุว่า จะบริจาคเงินรางวัลจำนวน 80000 ยูโร (ราว 3.5 ล้านบาท) แก่ผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวและสึนามิ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ด้วยอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมา(ไดอิจิ)เป็นความเสียหายจากนิวเคลียร์ครั้งใหญ่เป็นลำดับสองที่คนญี่ปุ่นประสบมา เขากล่าวด้วยภาษาญี่ปุ่น และว่า อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดเพราะมีการทิ้งระเบิดใส่เรา แต่เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของพวกเราเองมุราคามิ กล่าวด้วยว่า คนญี่ปุ่นซึ่งได้เรียนรู้ผ่านการสังเวยที่ฮิบากุชะ (จุดที่ระเบิดถูกทิ้งลงที่ฮิโรชิมา) แล้วว่าการแผ่ของรังสีได้ทิ้งบาดแผลต่อโลกและมนุษยชาติไว้เลวร้ายอย่างไร ควรจะยืนหยัดในการปฏิเสธพลังงานนิวเคลียร์อย่างหนักแน่นเขากล่าวเสริมว่า กระนั้นก็ตาม ผู้ที่ตั้งคำถามกับความปลอดภัยของพลังงานนิวเคลียร์กลับถูกขับไปอยู่ชายขอบ ถูกเรียกว่าเป็นพวกฝันเฟื่อง ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นและผู้ให้บริการสาธารณูปโภคให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความสะดวกสบายเป็นอันดับแรก และเปลี่ยนประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวเป็นประเทศที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์มากเป็นอันดับสามของโลกมุราคามิ แนะว่าญี่ปุ่นควรดำเนินการระดับชาติในการพัฒนาแหล่งพลังงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อทดแทนพลังงานนิวเคลียร์ โดยการกระทำเช่นนี้จะเป็นการแสดงความรับผิดชอบร่วมกันต่อเหยื่อระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิด้วยอย่างไรก็ตาม มุราคามิ เชื่อว่าญี่ปุ่นจะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง เพื่อกลับสู่ภาวะปกติหลังปรับสภาพกายและใจได้ เช่นเดียวกับที่เคยผ่านเหตุการณ์หลายครั้งในอดีตมาได้อนึ่ง รางวัล International Catalunya Prize จัดขึ้นทุกปีโดยรัฐบาลแคว้นคาตาลัน มอบรางวัลแด่บุคคลที่มีผลงานซึ่งมีผลต่อการพัฒนาคุณค่าทางวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และมนุษยชาติอย่างมีนัยสำคัญ โดยมุราคามิเป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้Novelist Murakami slams nuclear policy
เว็บไซต์สำนักข่าวเดอะเจแปนไทมส์รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (9 มิ.ย.54) ฮารูกิ มุราคามิ นักเขียนร่วมสมัยชาวญี่ปุ่น วิจารณ์ถึงการดำเนินนโยบายพลังงานนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ในสุนทรพจน์รับรางวัล
คุณภาพชีวิต,ต่างประเทศ,วัฒนธรรม,สิ่งแวดล้อม,สังคม
ญี่ปุ่น,นิวเคลียร์,พลังงาน,ฟุกุชิมะ,ฮารูกิ มุราคามิ,โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมาไดอิจิ
https://prachatai.com/journal/2011/06/35386
ผบ.ตร. ย้ำ ออกหมายจับใคร ต้องมีพยานหลักฐานชี้ชัด
เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2558 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบเงินสนับสนุนและเครื่องช่วยความพิการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการตำรวจพิการจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. ว่า กรณีชุดสืบสวน และทหารค้นห้องพักซอยอ่อนนุช ย่านพระโขนงของชาวปากีสถาน 2 ราย คงต้องรอดูพยานหลักฐาน ว่าเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหรือไม่ อย่างไร จะรีบร้อนไม่ได้ เพราะการจะเสนอศาลให้ออกหมายจับ ต้องมีพยานหลักฐานเพียงพอ หากเสนอแล้วศาลไม่พิจารณาก็เสียหาย ดังนั้นต้องใจเย็นๆ ส่วนจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอย่างไรอีกหรือไม่ขึ้น อยู่กับพนักงานสอบสวนว่า สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้มากน้อยแค่ไหน,ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. และคณะ เดินทางไปพบผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลมาเลเซีย มีความชัดเจนมากน้อยแค่ไหน กรณีผู้ต้องสงสัย 3 คน ที่จับได้มีส่วนเชื่อมโยงกับการลักลอบพาผู้ต้องสงสัยหลบหนี ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ว่า ได้หารือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนไปขอข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่ทางการมาเลเซียควบคุมตัวไว้,เบื้องต้น ได้รับรายงานทั้ง 3 คน ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง แต่ที่ทางการมาเลเซียควบคุมตัวไว้ เนื่องด้วยเหตุผลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม แต่ทั้งนี้ต้องรอผลการสอบสวนของทางมาเลเซียก่อน ว่าคนเหล่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดในเมืองไทยหรือไม่ หรือไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด แต่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่น เช่น การช่วยเหลือ หรือสนับสนุนการเคลื่อนย้ายของชาวอุยกูร์ หรือชาวโรฮีนจาแบบผิดปกติ กรณีที่มีข่าวว่าเราไปติดต่อขอรับตัวผู้ต้องหานั้น ยืนยันไม่ใช่ ยังไม่ถึงขั้นนั้น ,อย่างไรก็ตาม ทางมาเลเซียและไทย มีการประสานงาน ทำงานร่วมกันทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และความร่วมมือในการทำงานด้านต่างๆ ซึ่งวันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็จะส่ง พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จตร. เข้าไปประสานงานกับทางมาเลเซีย ทั้งนี้ ตำรวจพยายามทุกวิถีทางเมื่อมีข่าวหรือมีสิ่งบอกเหตุ หรือน่าเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยหลบหนีไปอยู่ที่ใด แต่การจะกระทำการใดๆ ในประเทศอื่น เราต้องเคารพสิทธิ กฎหมาย สนธิสัญญาที่มีต่อกันด้วย ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศและเจ้าหน้าที่ทูตตุรกีประจำประเทศไทย ร่วมกันตรวจสอบพาสปอร์ต 200 กว่าเล่มที่ยึดได้จากห้องพัก พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก ได้ตรวจสอบพบบุคคลที่คาดว่า จะมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำให้การของผู้ต้องสงสัยต่อพนักงานสอบสวน แต่ทั้งนี้คำให้การของผู้ต้องสงสัยจะต้องหาข้อมูล และหลักฐานอื่นๆ มาประกอบ ว่าสอดคล้องพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงหรือไม่ เพราะเราไม่สามารถเชื่อคำให้การของผู้ต้องสงสัยทั้งหมดได้ เพราะอาจจะพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงหรือพูดเพื่อให้พ้นผิด เป็นหน้าที่ฝ่ายสอบสวนต้องค้นหาความจริง,ส่วนกรณีที่ นายชูชาติ กันภัย ทนายได้เดินทางเข้าพบพูดคุยกับ นายอาเดม คาราดัก ก็เป็นสิทธิที่จะสามารถกระทำได้ อย่างที่บอกคำให้การหรือคำพูดของผู้ต้องหา ไม่สามารถเชื่อถือได้ทั้งหมด ต้องอาศัยหลักฐานอื่นๆ ประกอบด้วย เพื่อยืนยันให้ได้ว่าเขาเป็นผู้กระทำผิดจริง.
ผบ.ตร. ย้ำ ออกหมายจับใครต้องมีพยานหลักฐานชี้ชัด โดยเฉพาะ ผู้ต้องสงสัย 3 ราย ที่ตร.มาเลย์จับกุมตัวได้ เบื้องต้น เชื่อไม่น่าเกี่ยวบึมราชประสงค์ แต่โยงการค้ามนุษย์
ข่าว,ทั่วไทย
ผบ.ตร.,ออกหมายจับ,พยานหลักฐาน,ผู้ต้องสงสัย3 ราย,ตร.มาเลย์,บึมราชประสงค์,ค้ามนุษย์,พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,ไม่เกี่ยวข้อง,จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.,ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล,มาเลเซีย,ข่าว,ข่าวสังคม,ภูมิภาค,ทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/525911
ว้าแดงรบไทใหญ่ สงครามวัดใจนโยบายไทย-พม่า
อาจกล่าวได้การสาดกระสุนช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างกองกำลังว้าแดง(UWSA-United Wa State Army) และกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่(SSA-Shan State Army)ของพันเอกเจ้ายอดศึกแถวชายแดนแม่ฮ่องสอนครั้งนี้เป็นสงครามที่ ไม่ธรรมดา ทั้งในเรื่องสาเหตุการรบ คู่สงครามและผู้สนับสนุนเบื้องหลัง รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา ทั้งผลกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างไทใหญ่และว้า รวมทั้งผลกระทบต่อความมั่นคงของชายแดนประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ศึกครั้งนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ 13 มีนาคม 2548 โดยฝ่ายว้าเริ่มโจมตีไทใหญ่ก่อน ลักษณะการรบเกิดขึ้นแบบประปราย ไม่รุนแรง เจ้ายอดศึก ผู้นำทางกองกำลังไทใหญ่จึงพยายามส่งคนไปเจรจาสงบศึก เพราะเป้าหมายของการตั้งกองกำลังไทใหญ่ขึ้นมาไม่ได้ต้องการรบกับว้า แต่ต้องการรบกับรัฐบาลทหารพม่าเพื่ออิสรภาพของชาวไทใหญ่ แต่ทว่าความพยายามก่อไม่เป็นผล พ.อ.เจ้ายอดศึก กล่าวถึงเหตุผลที่เจรจาไม่สำเร็จว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน ได้ส่งคนประสานงานกับทางUWSA เพื่อใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหา แต่ทางว้าไม่ยอมเจรจาด้วย โดยชี้แจงเหตุผลการขึ้นตีดอยไตแลง 3 ข้อเนื่องจาก -SSA เอาข้อมูลเรื่องเหวยเซียะกังค้ายาเสพติดส่งให้ทางไทยและสหรัฐฯ อยู่ๆเรื่อยๆ จนผู้นำว้าถูกสหรัฐฯ ออกหมายจับ -คนค้ายาเสพติดของเหวยเซียะกัง ชื่ออ้ายแดงและพวกถูกอุ้มหายไป 8 คน ว้ากล่าวหาว่าSSA จับตัวไป ประเด็นนี้ทางไทใหญ่ยืนยันกับว้าหลายครั้งว่า SSA ไม่ได้ทำให้เขาตรวจสอบดู แต่เขาไม่ฟัง -ว้ากล่าวว่า ทาง SSA ซุ่มยิงและวางระเบิดเขาบ่อย อย่างไรเสียเขาต้องรบและขึ้นยึดดอยไตแลงให้ได้ พ.อ.เจ้ายอดศึก กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้พม่าอยู่เบื้องหลัง กองทัพพม่าเคลื่อนทหาร 100 กว่าคนมาเตรียมอยู่แล้วที่ศูนย์แยกเมืองสาด และที่เมืองทา ผมบอกทางUWSAว่าเราไม่อยากรบกันเอง ถ้าเป็นไปได้อยากใช้การเจรจาหาทางออกด้วยสันติวิธี เพราะการที่ชนกลุ่มน้อยรบกันเอง เป็นสิ่งที่กองทัพพม่าต้องการอยู่แล้ว แต่ว้าไม่ฟัง เขาฟังพม่าฝ่ายเดียว ผมคิดว่าถ้ารบกันไปเรื่อยๆชายแดนไทยก็เดือดร้อน ประชาชนไทยก็เดือดร้อน ต้องรับผลกระทบ ผมเองไม่ต้องการรบกับว้า แต่เมื่อเขามารบเราเอง ขึ้นโจมตีเรา เราก็ต้องป้องกันตัวเอง พ.อ.เจ้ายอดศึก กล่าว และเมื่อการเจรจาไม่เป็นผลการสู้รบจึงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือดและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยกองทหารว้าแดงได้ทำการเสริมกำลังพลมากกว่า 600 คนตั้งแต่วันที่ 8-9 เมษายนที่ผ่านมา และมีการเคลื่อนอาวุธหนักเข้าในพื้นที่หลายหมู่บ้าน ฝั่งรัฐฉาน เพื่อเตรียมขึ้นยึดกองบัญชาการสูงสุดของSSA บนยอดดอยไตแลง ตรงข้าม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เหตุการณ์การสู้รบก็เริ่มปะทุขึ้นในเช้าตรู่ของวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา การปะทะกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง มีรายงานว่าทหารว้าแดงตายไปแล้ว 50 กว่าศพ บาดเจ็บ 80 กว่าราย ขณะที่ทางฝ่ายSSA ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต มีเฉพาะผู้บาดเจ็บเล็กน้อย เนื่องจากฝ่าย SSA อยู่ในพื้นที่สูงจึงได้เปรียบกว่าฝ่ายว้าที่บุกขึ้นมาจากข้างล่าง จนถึงวันที่ 13 เมษายนมีรายงานว่า ทหารว้าสังเวยชีวิตแล้วกว่า 70 ศพ บาดเจ็บ 134 นาย ส่วนทหารไทยใหญ่บาดเจ็บ 12 นาย แต่ยังไม่มีรายงานการเสียชีวิต หากวิเคราะห์ถึงความ ไม่ธรรมดา ของการรบครั้งนี้จะพบว่า คู่สงครามคราวนี้แตกต่างจากการรบครั้งที่ผ่านมาของกองกำลังไทใหญ่คือ ไม่ได้รบกับกองทัพรัฐบาลพม่า แต่รบกับกองทัพชนกลุ่มน้อยด้วยกัน และกองทัพชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้เป็นกองทัพที่มีความพร้อมทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ กำลังพลมากที่สุดกลุ่มหนึ่งในพม่า (แม้ว่ากองกำลังว้าจะเจรจาหยุดยิงกับกองทัพพม่ามาเป็นเวลากว่าสิบปี แต่กองกำลังว้าไม่เคยหยุดการพัฒนากำลังพลและอาวุธของตนเอง) และเมื่อการรบครั้งนี้ กองทัพว้ามีกองทัพรัฐบาลสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง กำลังพลและอาวุธของกองทัพว้าจึงมีจำนวนทวีคูณมากขึ้นไปอีก ขณะที่กองทัพไทใหญ่ภายใต้การนำของเจ้ายอดศึกไม่มีเงินทองมาซื้ออาวุธให้ทันสมัยเทียบเท่ากับยุคขุนส่า รวมทั้งยังสูญเสียอาวุธไปกับการรบกับกองทัพพม่าอยู่ทุกปี กำลังอาวุธระหว่างคู่สงครามครั้งนี้ ไทใหญ่เป็นฝ่ายด้อยกว่าอยู่หลายขุม สิ่งที่ไทใหญ่มีเหนือกว่ามีอยู่ 2 อย่าง คือ ฐานที่มั่นดอยไตแลงและแรงฮึดของคนที่อยู่ในลักษณะ หมาจนตรอก คือ ไม่สู้ก็ตาย แต่สู้ยังมีโอกาสรอด ฐานที่มั่นดอยไตแลงของไทใหญ่มีข้อได้เปรียบ คือ เป็นพื้นที่สูง ซึ่งชายแดนด้านหนึ่งติดกับไทย เมื่อทหารว้าไต่จากตีนดอยขึ้นมาบนดอยไตแลง ทหารไทใหญ่จะมองเห็นและยิงได้ถูกเป้าหมายมากกว่า ด้วยเหตุนี้ หลังจากการรบผ่านไปเพียงแค่สองวัน ทหารว้าจึงเสียชีวิตและบาดเจ็บรวมกันหลายร้อย ขณะเดียวกัน หากฝ่ายทหารว้ายิงปืนกระหน่ำมาทางดอยไตแลงมากเกินไป กระสุนปืนก็จะเข้ามาตกฝั่งไทย ซึ่งหากกองทัพไทยยังคงวางเฉย โดยไม่ส่งสัญญาณตักเตือน ก็ถูกมองว่าปล่อยให้เพื่อนบ้านละเมิดอธิปไตยของแผ่นดินไทย และหากกองทัพไทยยิงปืนตักเตือนที่รุนแรงเกินไป ฝ่ายกองทัพพม่าซึ่งสนับสนุนว้าอยู่ก็จะต้องไม่พอใจที่ไทยดูเหมือนจะช่วยไทใหญ่ มีการวิเคราะห์กันว่า สถานการณ์การสู้รบระหว่างว้าและไทใหญ่อาจบานปลายไปเป็นสงครามไทย-พม่า ดังนั้น การยิงปืนของฝ่ายว้าและพม่าใส่ไทใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ต้องระวังไม่ให้กระทบกับประเทศไทย ขณะที่ฝ่ายไทใหญ่สามารถยิงกระหน่ำคู่ต่อสู้ได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลัวจะปะทะกับไทย พื้นที่ดอยไตแลง จึงทำให้ไทใหญ่ได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามค่อนข้างมาก สำหรับ แรงฮึด ของทหารไทใหญ่นั้น มีความได้เปรียบจากทหารว้าเช่นกัน เนื่องจากฝ่ายไทใหญ่ต้องการรบเพื่อรักษาฐานที่มั่นที่สำคัญที่สุดเอาไว้ให้ได้ หากสูญเสียดอยไตแลงไป ความหวังของการกู้ชาติไทใหญ่ก็จะต้องริบหรี่ลงไปอีก ดังนั้น การต่อสู้ครั้งนี้จึงมีความหมายไปถึงการต่อสู้เพื่อแผ่นดินไทใหญ่ด้วยเช่นกัน ขณะที่ฝ่ายว้า ไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนถึงการต่อสู้เพื่อชนชาติว้า เพราะหากต้องการต่อสู้เพื่อชนชาติว้า ทหารว้าจะต้องต่อสู้กับกองทัพพม่า เช่นเดียวกับที่กองกำลังไทใหญ่ต้องการต่อสู้กับกองทัพพม่า ไม่ใช่กองทัพว้า ดังนั้น เป้าหมายของการสู้รบของว้าในครั้งนี้ จึงเป็นการรบเพื่อเป้าหมายอื่น ซึ่งหากพิจารณาสิ่งที่เจ้ายอดศึกให้สัมภาษณ์ไว้ถึงเบื้องหลังการรบครั้งนี้ จะพบว่า เป้าหมายของว้านั้นเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของผู้นำว้าบางคนเท่านั้น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2548 ทางพม่าเรียกเหวยเซียะกัง ผู้นำว้าไปย่างกุ้ง และบอกว่า หากว้ารบกับ SSA ที่ชายแดนไทย กองทัพว้าก็สามารถอยู่ต่อไปในรัฐฉานได้ อยากค้าขายอะไรก็ได้หมด ไม่มีปัญหา นั่นคือคำให้สัมภาษณ์เอาไว้ ดังนั้น สิ่งที่ไทย ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านน่าจะต้องเตรียมใจ หากการสู้รบครั้งนี้กองกำลังว้าเป็นฝ่ายชนะก็คือ ปัญหาเรื่องการไหลทะลักของยาเสพติด ปัญหาผู้ลี้ภัยไทใหญ่ และปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดน หากพิจารณาเหตุผลที่ทำให้ฝ่ายว้าสู้รบกับไทใหญ่ครั้งนี้จะพบว่า เป็นเพราะกองกำลังไทใหญ่ได้ทำลายเปิดโปงและทำลายกระบวนการค้ายาเสพติดของว้ามาโดยตลอด ดังนั้น หากฝ่ายว้าปราบไทใหญ่ได้สำเร็จ ย่อมหมายความว่า นับจากนี้ไปย่อมไม่มีใครมาขัดขวางกระบวนการค้ายาเสพติดของว้าตามแนวชายแดนไทยอีกต่อไป เมื่อชายแดนไทย-พม่าในเขตภาคเหนือโดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่า โอกาสที่ทหารไทยจะเข้าไปลาดตระเวณตลอดแนวชายแดนเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดจึงเป็นเรื่องยาก สงครามครั้งนี้จึงเป็นสงครามที่รัฐบาลและกองทัพไทยจะต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้อย่างดี ส่วนปัญหาผู้ลี้ภัยไทใหญ่นั้น คาดว่า จะต้องไหลทะลักอย่างแน่นอน และไม่ใช่แค่ผู้ลี้ภัยจากดอยไตแลงซึ่งมีทั้งชาวบ้านและเด็กกำพร้าหลายพันคนเท่านั้น แต่อาจรวมถึงผู้ลี้ภัยจากพื้นที่ชั้นในของรัฐฉานซึ่งเผชิญกับการกดขี่ข่มเหงของทหารพม่ามากยิ่งขึ้น ปัญหาผู้ลี้ภัยเหล่านี้ประเทศไทยจะทำอย่างไร เพราะหากไม่เปิดค่ายรองรับผู้ลี้ภัยเช่นเดียวกับผู้ลี้ภัยกะเหรี่ยงและคะยา ประเทศไทยก็จะต้องถูกมองว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวไทใหญ่อย่างแน่นอน ปัญหาสุดท้าย คือ ปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดน ซึ่งที่ผ่านมาทหารไทยเคยตั้งด่านคู่กับทหารไทใหญ่ จะต้องเปลี่ยนมาเป็นทหารว้า ซึ่งมีความแตกต่างทั้งภาษาและวัฒนธรรม รวมทั้งทัศนคติระหว่างกัน ซึ่งทั้งฝ่ายไทยและว้าไม่พอใจกันมาก่อนในหลาย ๆ เรื่อง ความไม่เข้าใจดังกล่าวอาจก่อให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งซึ่งกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของไทยอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ การสู้รบระหว่างว้าและไทใหญ่ครั้งนี้จึงเป็นการรบที่ ไม่ธรรมดา และเป็นสงครามวัดใจนโยบายไทย-พม่าว่าจะดำเนินต่อไป
อาจกล่าวได้การสาดกระสุนช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างกองกำลังว้าแดง(UWSA-Uni ted Wa State Army) และกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่(SSA-Shan State Army)ของพันเอกเจ้ายอดศึกแถวชายแดนแม่ฮ่องสอนครั้งนี้เป็นสงครามที่
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2005/04/3669
จ่อประกาศภัยพิบัติ สมุย-พะงันประปาขาดแคลน อากาศไม่เอื้อทำฝนหลวงไม่ได้
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ต.ค. 59 นายวิชวุทย์ จินโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องจากภาคส่วนต่างๆ ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อหารือ และพิจารณาการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยฝนแล้งในพื้นที่ อ.เกาะสมุย และ อ.เกาะพะงัน โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทางจังหวัดได้รับรายงานจากการประปาส่วนภูมิภาค สาขาเกาะสมุย ว่า ประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงอย่างต่อเนื่องจากภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้ไม่มีปริมาณน้ำดิบมาเติมในอ่างเก็บน้ำ อีกทั้ง ปฏิบัติการทำฝนหลวงที่ผ่านมาไม่สำเร็จ เนื่องจากสภาพอากาศและความชื่นไม่เอื้ออำนวย (,ล้มเหลวอีก สมุย-พะงัน แล้งหนัก ทำฝนหลวง ครั้งที่ 2 ไม่สำเร็จ,),ทำให้ขณะนี้มีความจำเป็นต้องปิดระบบจ่ายน้ำจำนวน 2 โรง จากทั้งหมด 5 โรง ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่กว่า 6,000 คน ได้รับความเดือดร้อน ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ขณะที่พื้นที่ อ.เกาะพะงัน ก็ได้ประสบปัญหาฝนแล้งทิ้งช่วงเช่นกัน และได้ทำการปรับลดอัตราการจ่ายน้ำจนกว่าจะมีฝนตกในพื้นที่ และปริมาณน้ำดิบในแหล่งกักเก็บน้ำที่เพียงพอ,ทั้งนี้ จากปัญหาดังกล่าว จึงได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อร่วมพิจารณาประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยตามระเบียบของทางราชการต่อไป,ด้าน นายประสพ พรหมมา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ได้นำเครื่องบินทำฝนหลวงไปยังพื้นที่ อ.เกาะสมุย ปรากฏว่าสภาพอากาศไม่เหมาะสมต่อการโปรยสารเคมี จึงได้บินไปปฏิบัติการในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้ร้องขอมาเช่นกัน โดยพื้นที่ อ.เกาะสมุย จะต้องให้สภาพอากาศมีความชื้นสัมพัทธ์มากกว่านี้จึงจะทำได้,ขณะที่ นายไพบูลย์ โอมาก นายอำเภอเกาะสมุย เปิดเผยว่า เบื้องต้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประสาน อบจ.สุราษฎร์ธานี ให้ส่งเครื่องจักรในการที่จะขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลมายังพื้นที่ อ.เกาะสมุย ส่วนทาง อ.เกาะสมุย เอง ก็ได้สำรวจพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สาธารณะ เช่น พื้นวัด โรงเรียน จำนวน 5 จุด กระจายโดยรอบเกาะสมุย เพื่อเตรียมที่จะขุดเจาะบ่อบาดาลน้ำตื้น ซึ่งคาดว่าจะลงมือขุดเจาะได้ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำน้ำไปใช้เป็นการชั่วคราว,นอกจากนี้ ทางการประปาส่วนภูมิภาค สาขาเกาะสมุย ยังคงนำน้ำประปาใส่รถบรรทุกน้ำ 12 คัน ออกแจกจ่ายประชาชนใน อ.เกาะสมุย อย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งวันนี้มีชาวบ้านในหลายชุมชนรอบเกาะสมุย ที่น้ำประปาไม่ไหล แจ้งมายังการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเกาะสมุย เพื่อขอให้นำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่าย สำหรับการผลิตน้ำประปาในวันนี้ การประปาส่วนภูมิภาค ยังคงสามารถผลิตน้ำประปาจากระบบ RO ผลิตน้ำประปาจากน้ำดิบพรุเฉวง ได้ประมาณ 8,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ที่จะส่งจ่ายให้กับผู้ใช้น้ำในพื้นที่ อ.เกาะสมุย แต่ยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,เหลือใช้ 20 วัน ประปาเกาะพะงันวิกฤติ เตรียมแผนสูบน้ำทะเลผลิตทดแทน,เทงบด่วน 12 ล้าน เพิ่มโรงกรองประปาพรุเฉวง จ่ายน้ำช่วยชาวสมุย,วิกฤติขาดน้ำเกาะเต่า-พะงัน กระทบโรงแรม-รีสอร์ตกว่า 10 แห่ง งดรับลูกค้า
รองผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมประกาศพื้นที่เกาะสมุย-เกาะพะงัน เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย หลังน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปาเริ่มขาดแคลน ขณะฝนหลวงรอบ 3 ยังทำไม่ได้ หลังสภาพอากาศไม่เหมาะโปรยสารเคมี
null
ประปาขาดแคลน,เกาะสมุย,เกาะพะงัน,สุราษฎร์ธานี,สมุย ประปาขาดแคลน,ฝนหลวง
https://www.thairath.co.th/content/751596
สมแล้วที่เป็นประเทศด้อยพัฒนา ไม่สามารถโพสต์ข้อความนี้ลงเฟซบุ๊กได้
เฟซบุ๊กบล็อกคำว่าสมเเล้วที่เป็นประเทศด้อยพัฒนา เตือนว่าเป็นสแปม ด้าน สมศักดิ์ แนะให้โพสต์โดยแก้คำว่า แล้ว จากสระ แอ เป็นสระ เอ 2 ตัวแทน1 พ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(1 พ.ค.60) เวลาประมาณ 00.00 - 02.00 น ผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคนโพสต์แจ้งว่าไม่สามารถโพสต์คำว่า สมแล้วที่เป็นประเทศด้อยพัฒนา ลงในเฟซบุ๊กได้ เช่น เฟซบุ๊กชือ Rackchart Wong-arthichart โพสต์ภาพและข้อความยืนยันว่าไม่สามารถโพสต์ข้อความดังกล่าวได้ โดยเฟซบุ๊กระบุว่าเป็นข้อความสแปมสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้โพสต์เชิงล้อเลียนพร้อมให้ทางแก้ปัญหาด้วยว่า เขาบอกว่า แทนที่จะพิมพ์ สระ แอ ตามปกติในคำที่สอง ให้พิมพ์ สระ เอ สองครั้งแทน ก็จะพิมพ์ประโยคข้างล่างนี้ได้ (สม) ไม่เช่นนั้น ถ้าพิมพ์ตามปกติ ระบบมันจะไม่ให้โพสต์ผมลองแล้ว ไม่ให้จริงๆ ขำหนักมาก ใครไม่เชื่อลองพิมพ์ตามปกติดูก่อนสิ ไม่ได้จริงๆ สมเเล้วที่เป็นประเทศด้อยพัฒนาสมศักดิ์ โพสต์ผู้สื่อข่าวได้ทดสอบโพสต์ข้อความดังกล่าว เมื่อเวลา 1.40 น. ที่ผ่านมา พบว่าไม่สามารถโพสต์ได้เช่นกัน โดยเฟซบุ๊กเตือนว่า การกระทำถูกบล็อค ระบบรักษาความปลอดภัยของเราพบว่ามีหลายคนพยายามโพสต์สิ่งเดียวกันพร้อมกัน ซึ่งอาจหมายความว่ามันเป็นสแปม กรุณาเขียนโพสต์ใหม่ หากคุณคิดว่าคุณกำลังเห็นสิ่งนี้โดยผิดพลาด โปรดแจ้งให้เราทราบล่าสุด 9.00 น ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สามารถโพสต์คำดังกล่าวได้แล้ว
เฟซบุ๊กบล็อกคำว่าสมเเล้วที่เป็นประเทศด้อยพัฒนา เตือนว่าเป็นสแปม ด้าน สมศักดิ์ แนะให้โพสต์โดยแก้คำว่า แล้ว จากสระ แอ เป็นสระ เอ 2 ตัวแทน 1 พ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(1 พ.ค.60)
ไอซีที
สมแล้วที่เป็นประเทศด้อยพัฒนา,สแปม,เฟซบุ๊ก
https://prachatai.com/journal/2017/05/71260
เปิดคลิปต้นเรื่องวิศวกรยิงโจ๋ มีเสียงคล้ายหยิบอาวุธปืนตั้งแต่แรกเริ่ม (ชมคลิป)
จากกรณีวิศวกรชายวัย 50 ปี หลังก่อเหตุยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นที่กรูลงมาจากรถตู้และพูดจาท้าทาย บริเวณถนนสายอ่างศิลา (แยกครกใหญ่) ส่งผลให้นายโอ๋ (นามสมมติ) วัยรุ่นอายุ 17 ปีที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่าทำไปเพื่อป้องกันตัว ตามข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ ,(ดูกันชัดๆ ความจริงนาทีเกิดเหตุ ทำไมวิศวะยิงโจ๋ 17),ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ได้มีการเปิดเผยคลิปวิดีโอตัวล่าสุดแสดงให้เห็นว่าขณะชายวิศวกรได้จอดรถซื้อของฝากบริเวณอ่างศิลา และกำลังจะเลี้ยวรถออก ได้ถูกรถตู้และรถเก๋งของคู่กรณีจอดรถขวาง ผู้หญิงในรถจึงได้ตะโกนบอก คุณคะ ขณะที่ชายวิศวกรได้เปิดไฟสูงและบีบแตรใส่ด้วยความหงุดหงิด พร้อมตะโกนบอกว่า เห้ย ที่จอดรถตั้งเยอะแยะ คุณมาจอดรถซ้อนคันอยู่ได้ยังไง จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่มากับรถตู้ได้ถามว่า แค่นี้รอไม่ได้ใช่ปะ ก่อนหญิงสาวจะยืนยันว่า ไม่ได้,ช่วงเวลาดังกล่าว ชายวิศวกรได้ตะโกนด่าด้วยคำหยาบคาย ส่งผลให้ชายที่กำลังจะเดินกลับไปที่รถได้หยุดชะงักช่วงหนึ่ง โดยเสียงบรรยากาศภายในรถคล้ายกับมีการหยิบสิ่งของบางอย่าง จากนั้นหญิงสาวได้พูดคุยกับวิศวกรว่า เอาปืนมา เพื่อหวังสงบสติชายวิศวกร แต่ถูกปฏิเสธคำขอ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับรถตีคู่กันไปก่อนจะบีบแตรใส่รถตู้วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,ยิงให้ตาย ป้องกันตัวหรือเกินกว่าเหตุ
เปิดคลิปกล้องหน้ารถวิศวกร พบถูกรถตู้จอดขวางซ้อนคัน ก่อนอารมณ์หลุดด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำกลุ่มวัยรุ่นอารมณ์ขึ้น มีเสียงคล้ายหยิบอาวุธปืนตั้งแต่แรกเริ่ม
null
กล้องหน้ารถ,วิศวกร,ยิงวัยรุ่น,อ่างศิลา,ชลบุรี
https://www.thairath.co.th/content/855024
อุตตม-สนธิรัตน์ เผยนายกฯให้กำลังใจให้ทำงานต่อไป
วันนี้ ( 5 พ.ค.2563) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นทั้งสองคนได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่านอกจากการหารือมาตรการเยียวยาให้ความช่วยเหลือกลุ่มที่ยังไม่ครอบคลุม ซึ่งได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19แล้ว นายกรัฐมนตรียังกล่าวให้กำลังใจในการทำงาน และชี้แนะว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในพรรคควรใช้แนวทางในการพูดคุยแก้ไข ซึ่งปัญหาต่างๆยุติลงแล้ว ขอให้ทั้งสองคนทำงานในหน้าที่ที่ทำอยู่นี้ต่อไป โดยไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใดส่วนการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในกระแสความขัดแย้งภายในพรรคนั้น นายสนธิรัตน์กล่าวเพียงว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร และคงจะได้มีการพูดคุยกันในวันนี้
แกนนำพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ได้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีเรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยนายกรัฐมนตรียังให้กำลังใจในการทำงานพรรคต่อไปด้วย
การเมือง
พปชร.,อุตตม สาวนายน,สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์,พรรคพลังประชารัฐ
https://news.thaipbs.or.th/content/292102
อนุทิน เยี่ยม 134 คนไทยในบ้านพักสัตหีบ
วันนี้ (7 ก.พ.2563) เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าบ้านพักรับรอง ที่มีคนไทยจากอู่ฮั่น พักอาศัยเพื่อพื้นฟูสภาพร่างกายและเฝ้าติดตามสุขภาพ ในช่วง 14 วันนี้ โดยนายอนุทิน สวมถุงมือสีม่วง เดินเข้าไปพร้อมกับคณะของผู้บริการกระทรวงสาธารณสุข และกองทัพเรือ และอธิบดีกรมสุขภาพจิต เพื่อติดตามอาการ ของบุคคลที่เข้าพักทั้ง 134 คน เพื่อสอบถามอาการและการเป็นอยู่ รวมถึงพูดคุยกับ นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร หัวหน้าคณะที่บินไปรับตัวคนไทยถึงที่อู่ฮั่น ก็อยู่ในบ้านพักด้วยตลอดช่วง 14 วันนี้ด้วย โดยทุกคนขณะนี้มีสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดีขณะที่รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ให้ทีมแพทย์พิจารณาว่า จะสามารถให้ใครที่สุขภาพแข็งแรง ออกจากบ้านพักได้ก่อนถึงช่วงระยะเวลาเฝ้าดูอาการ 14 วันหรือไม่ รวมถึงการเข้าไปภายในบ้านพักช่วงเย็นนี้ ยังได้ส่งมอบโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์การสื่อสาร คืนให้กับคนไทยทั้งหมดแล้ว เพื่อให้ใช้สื่อสารถึงญาติ และสามารถบันทึกภาพ หรือ ทำอะไรก็ได้ที่ต้องการในช่วงที่ยังต้องพักฟื้นอยู่ที่สัตหีบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้เช็ดทำความสะอาดโทรศัพท์ทุกคนรวมถึงอบแบบวิธีวิทยาศาสตร์เพื่อให้เกิดความสะอาดมากที่สุดก่อนส่งคืน ส่วน 4 คนที่ต้องอยู่โรงพยาบาลมา 2 วันก่อนหน้านี้ ขณะนี้ พบว่า 3 คน ไม่พบความผิดปกติที่ปอดแล้ว และจากการตรวจซ้ำ ไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา ส่วนอีก 1 คนต้องรอการตรวจและวินิฉัยซ้ำเพราะยังไม่สามารถตรวจปอดด้านล่างซีกขวาได้
2 วันในบ้านพักสัตหีบ คนไทยจากอู่ฮั่น 134 คนสุขภาพดี มี 4 คนอยู่ ร.พ. ด้าน อนุทินรุดลงพื้นที่มาเพื่อพูดคุย พร้อมคืนโทรศัพท์ให้ติดต่อญาติได้แล้ว
สังคม
ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,จีน,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019,อู่ฮั่น,เมืองอู่ฮั่น
https://news.thaipbs.or.th/content/288727
เตือน พายุฤดูร้อน 15-16 เม.ย. ระวังอันตรายจากฟ้าผ่า
วันนี้ (15 เม.ย.2562) กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 11 เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ซึ่งมีผลกระทบจนถึงวันที่ 16 เม.ย.ในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่าจึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่าสำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยผลกระทบตามภาคต่าง ๆ มีดังนี้วันที่ 15 เม.ย. จังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย มุกดาหาร ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดวันที่ 16 เม.ย. จังหวัดตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี จังหวัดลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท อุทัยธานี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราดทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ประกาศ ณ วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ซึ่งมีผลกระทบจนถึงวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.) ขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า
สังคม
กรมอุตุฯ,พายุฤดูร้อน,พายุฝน,ฝนฟ้าคะนอง,ฟ้าผ่า,ลูกเห็บตก,ความกดอากาศสูง,อากาศร้อน,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/279282
ระลึกไว้จนชีพวาย 9 คำสอนจากพ่อของแผ่นดิน ทำทุกเรื่องเพื่อส่วนรวม
จากที่ ,ไทยรัฐออนไลน์, ได้ถ่ายทอดบันทึกจากหัวใจของ ,รศ.ดร.สุธี อักษรกิตติ์, ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและระบบการสื่อสาร ผู้ที่ได้ถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร อย่างใกล้ชิด มานานกว่า 46 ปีนั้น (อ่าน : ,ที่แรก เปิดบันทึกจากดวงใจ ผู้ถวายงานระบบสายอากาศ พลิกโฉมวิทยุสื่อสาร,),ไม่เพียงแต่เราจะได้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย ความห่วงใยที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทรงมีต่อพสกนิกรของพระองค์แล้ว รศ.ดร.สุธี อักษรกิตติ์ ยังได้บอกเล่าเรื่องราวความประทับใจ จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงตรัสกับเขาในช่วงต่างๆ ของการถวายงาน,เราจึงขอใช้โอกาสนี้ ประมวลพระราชดำรัสเกี่ยวกับแนวทางในงานทำงาน จากการถ่ายทอดความทรงจำของ รศ.ดร.สุธี เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ชาวไทยทุกคนได้น้อมปฏิบัติตามต้นแบบของแผ่นดินสืบไป,1. ทั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงตรัสอยู่เสมอว่า ,เราต้องคิดว่าทุกเรื่องที่ทำนั้นไม่ได้ทำเพื่อตนเอง แต่เป็นการทำเพื่อส่วนรวม,2. มีครั้งหนึ่งที่ รศ.ดร.สุธี เคยคิดจะทิ้งเมืองไทยกลับไปศึกษาดูงานและลงหลักปักฐานในต่างประเทศ แต่ทั้ง 2 พระองค์ ได้ทรงรับสั่งในทำนองว่า ,งานที่ให้ทำนี้ เป็นงานเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ไม่ได้ใช้เพื่อพระองค์เอง, จึงเป็นเหตุผลให้ท่านอยู่ถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาทมานานถึง 46 ปี และไม่คิดใช้ชีวิตยาวนานในต่างประเทศอีกเลย,3. แม้ในช่วงแรกที่ทรงมีพระราชดำรัสถึงโครงการต่างๆ ที่ต้องการให้ รศ.ดร.สุธี พัฒนา จะเป็นบทสนทนาที่แฝงไว้ด้วยพระประสงค์ แต่ในช่วงต่อมามักจะทรงตรัสว่า ,มีการบ้านให้ทำ,4. ประโยคที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำและทำให้ผมพร้อมรับใช้พระองค์ทุกเวลา คือพระราชดำรัสที่ว่า ,เพราะประชาชน รอไม่ได้, ทรงตรัสว่าความเดือดร้อนของประชาชนนั้นเป็นเรื่องที่รอไม่ได้,5. ในยุคที่สังคมโลกแห่แหนไปให้ความสำคัญและมุ่งสู่ฐานะ เสือทางเศรษฐกิจ (หมายถึง ประเทศที่ทรงอำนาจทางเศรษฐกิจ) ในหลวงของปวงชนชาวไทยทรงตรัสเพียงว่า ,การเป็นเสือไม่สำคัญ แต่สำคัญคือประชาชนต้องมีกิน,6. ทรงเคยรับสั่งว่า ,การทำงานต้องเร็วและไม่ผิดพลาด เพราะงานไม่ใช่การลองผิดลองถูก,7. การบ้านที่พระองค์ทรงมอบหมายให้ดำเนินการนั้น ทุกครั้งเป็นโจทย์ปลายเปิด คือไม่มีข้อบังคับตายตัวในการปฏิบัติ แต่มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายเป็นสำคัญ เปรียบเป็นการแสดงถึงน้ำพระทัยที่ทรงมีอย่างล้นเหลือต่อผู้ถวายงานทุกคน เพราะสามารถนำเสนอความคิดของตนเองได้อย่างเป็นอิสระ,8. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นต้นแบบของผู้ที่ใช้งานทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดในทุกเรื่อง เพราะแม้จะทรงมีอุปกรณ์ชิ้นใหม่ แต่ก็จะทรงเก็บ รักษา และดูแลซ่อมแซมของชิ้นเก่าเป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่นวิทยุสื่อสารซึ่งทรงมีไว้สำหรับใช้ทรงงานเป็นจำนวนหลายสิบตัว แต่จะทรงเก็บรักษาตัวเก่าๆ อยู่เสมอ เพื่อให้สามารถใช้งานได้เป็นประโยชน์สูงสุดในทุกชิ้น,9. เชื่อเสมอว่าการที่พระองค์ทรงมอบหมายให้ปฏิบัติงานต่างๆ ในระยะเวลาจำกัดอยู่หลายครั้งหลายหนนั้น เป็นหนึ่งในวิธีการสอนทางอ้อม เพื่อให้ผู้ถวายงานรู้จักกับความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงาน ซึ่งทั้งหมดล้วนถูกนำไปพัฒนาเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน.
ร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงรับสั่งกับผู้เคยถวายงานใกล้ชิด เพื่อเป็นแนวทางในการยึดมั่นเพื่อปฏิบัติงานและดำเนินตน…
ข่าว,ไอที
ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระราชกรณียกิจ,ในหลวง,พระบรมศพ,พระบรมศพในหลวง,รัชกาลที่ 9,ในหลวง รัชกาลที่ 9,ในหลวง ร.9,คำสอน จากในหลวง,พระราชดำรัส ในหลวง,พระราชดำรัส ร.9,รับสั่ง ในหลวง,รับสั่ง ร.9,คำสอนในการทำงาน ในหลวง,คำสอนในการทำงาน ร.9,สุธี อักษรกิตติ์
https://www.thairath.co.th/news/tech/757712
จม.จากทักษิณขอให้ลืมเรื่องเก่าๆ และไม่ขอรับอภัยโทษ
วอนผู้สนับสนุนอย่าได้ผิดหวัง \เมื่อแสงแห่งธรรมปรากฎ\ ทุกอย่างจะจบเอง บ้านเมืองจะอยู่ในภาวะขัดแย้งอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ วันนี้ (20 พ.ย. 54) นายนพดล ปัทมะ ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่แถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เขียนด้วยลายมือ จากเมืองดูไบ สหรัฐสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผ่านเฟซบุค โดยเนื้อหาในจดหมายยืนยันที่จะไม่ขอรับประโยชน์จากการออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวมี เนื้อหาดังนี้ พี่น้องไทยที่เคารพรัก เนื่องด้วยขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤตจากปัญหาน้ำท่วม ผมเป็นห่วงและต้องการให้ประเทศและพี่น้องประชาชนผ่านพ้นวิกฤตโดยเร็ว ซึ่งต้องการความสามัคคีปรองดองภายในชาติ จึงจะร่วมกันฟันฝ่าภัยธรรมชาติในครั้งนี้ได้ ผมขอสนับสนุนทุกมาตรการที่จะนำไปสู่ความปรองดองในชาติและไม่อยากเห็นความ พยายามใดๆ ที่จะทำให้บรรยากาศนี้เสียหาย และผมพร้อมที่จะเสียสละความสุขส่วนตัว ทั้งๆที่ผมไม่ได้รับความเป็นธรรมมากว่า 5 ปีแล้ว เพื่อพี่น้องประชาชนผมจะอดทน จากการเสนอพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษประจำปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 ปี จึงมีข่าวว่าอาจจะมีผมรวมอยู่ด้วย ผมมั่นใจในหลักการที่ว่า รัฐบาลจะไม่ทำการใดๆที่ให้ประโยชน์แก่ผม หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำใดๆในช่วงนี้ต้องเป็นไปเพื่อนำประเทศสู่ความปรองดองและฝ่าฟันวิกฤต จากภัยธรรมชาติ น้ำท่วมใหญ่เท่านั้น อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระประชวรอยู่ เราต้องไม่ทำให้พระองค์ทรงหนักพระราชหฤทัยเป็นอันขาด และผมก็มั่นใจว่าท่านนายกฯของเรามีแนวคิดและความตั้งใจเช่นเดียวกับผม สำหรับพี่น้องที่สนับสนุนผม ห่วงใยผม ก็ขออย่าได้ผิดหวังเพราะเมื่อแสงแห่งธรรมปรากฎทุกอย่างจะจบเอง เพราะบ้านเมืองจะอยู่ในภาวะขัดแย้งอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ ท้ายนี้ผมขอเรียกร้องทุกฝ่ายที่รักชาติบ้านเมืองจริง ต้องรู้จักคำว่า \FORGIVE AND FORGET\ คือรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกันลืมเรื่องเก่าๆ เข้าสู่มิติใหม่ของวันพรุ่งนี้เพื่อบ้านเมืองและลูกหลานเราครับ
ทักษิณเขียนจดหมายไม่ขอรับการอภัยโทษ เชื่อรัฐบาลจะไม่ทำการใดๆ ที่ให้ประโยชน์แก่ตนหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ ชี้ช่วงนี้ต้องนำประเทศสู่ความปรองดองและฝ่าฟันวิกฤตจากน้ำท่วมใหญ่เท่านั้น
การเมือง
การขออภัยโทษ,ทักษิณ ชินวัตร,อภัยโทษ
https://prachatai.com/journal/2011/11/37943
ชาวบ้านโป่งจัดงานฉลองรับ นุศรา กลับบ้าน
ชาว อ.บ้างโป่ง จ.ราชบุรีร่วมกันจัดงานเลี้ยงต้อนรับ นุศรา ต้อมคำนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เจ้าของรางวัลตัวเซตยอดเยี่ยมวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย หลังจากช่วยให้ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชียเป็นสมัยที่ 2โดยบรรยากาศที่บ้านของนุศราค่อนข้างคึกคักมีชาวบ้านมารอให้การต้อนรับจำนวนมาก รวมทั้งยังช่วยพ่อ และแม่ของนุศราจัดเตรียมอาหาร เพื่อรอรับลูกสาวอีกด้วย โดยแม่ของนุศราได้เตรียมขาหมูพะโล้อาหารโปรดของนุศราไว้ด้วยโดยหลังจากนุศราเดินทางมาถึงบ้านได้ตรงเข้ากอดพ่อกับแม่ทันที ก่อนที่จะเปิดโอกาสให้ชาวบ้านโป่งขอลายเซ็น และถ่ายภาพร่วมกัน ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะมีการจัดขบวนแห่นุศราจากบ้านไปทั่วอำเภอบ้านโป่ง ซึ่งตลอดทางมีประชาชนมารอให้การต้อนรับจำนวนมากขณะที่ นายรุจน์ประทีป ธรรมพีภัทร์ นายอำเภอบ้านโป่ง และนายทรงยศ อรัญญกานนท์ นายกเทศมนตรี เทศบาล ต.ท่าผาได้มอบทองคำหนัก 10 บาท และเงินสด เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นุศราอีกด้วยสำหรับนุศราในช่วงค่ำที่ 26 กันยายนนี้ จะต้องเดินทางไปเล่นอาชีพที่ประเทศอาเซอร์ไบจัน กับทีมราบิต้า บากู ทีมแชมป์วอลเลย์บอลซูเปอร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วขณะที่แฟนวอลเลย์บอลที่ต้องการติดตามเรื่องราวชีวิตของนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย สามารถติดตามได้ในสารคดีสู้สุดใจไทยแลนด์ ซึ่งในคืนนี้ เวลา 20.20 น. ไทยพีบีเอสได้นำสารคดีตอนที่ 2 มาออกอากาศซ้ำอีกครั้ง โดยมีเนื้อหาถึงชีวิตของนักวอลเลย์บอลทั้ง 7 คนที่ไปเล่นอาชีพที่ประเทศอาเซอร์ไบจัน รวมไปถึงตามติดนักวอลเลย์บอลที่เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ซึ่งหลายคนมีฐานะยากจน แต่ได้กีฬาวอลเลย์บอลที่ช่วยให้พวกเธอสามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ชาวอำเภอบ้านโป่งจัดงานต้อนรับนุศรา ต้อมคำ นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เจ้าของรางวัลตัวเซตยอดเยี่ยมในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย
กีฬา
นุศรา ต้อมคำ,บ้านโป่ง,ราชบุรี,วอลเลย์บอล,อาเซอไบจัน
https://news.thaipbs.or.th/content/197950
รมว.กีฬา ย้ำโอกาสไทยเป็นเจ้าภาพบอลโลกมีน้อย เหตุต้องใช้เงินมหาศาล
วันนี้ (10 ต.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เคยออกมายืนยันว่ามีโอกาสจะจับมือกับสมาคมฟุตบอลของประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2034 หรือ อีก 17 ปีข้างหน้าแต่ล่าสุด นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การเสนอตัวร่วมจัดฟุตบอลโลก ควรจะศึกษารายละเอียดให้ครบทุกด้านเสียก่อน เนื่องจากการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกนั้น ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล จนกังวลว่าอาจมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศ และมองว่าไทยควรจะเน้นพัฒนาผลงานของนักเตะเพื่อคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซึ่งน่าจะสำคัญกว่าการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการพัฒนาบอลไทยสู่บอลโลก สำหรับเราสำคัญกว่าตัวอีเวนท์คือ จะทำยังไงให้ทีมนักกีฬาไทยวันนี้ไปถึงจุดนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ถามว่าฟุตบอลคือที่สุดหรือเปล่า ทุกคนรักฟุตบอล แต่ฟุตบอลก็ยังไม่ใช่เรื่องเดียวนะ มวยไทย ตะกร้อ ทุกๆ กีฬาในประเทศไทย เราถือว่าสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน นางกอบกาญจน์ กล่าวสำหรับงบประมาณในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก มีรายงานว่าบราซิล เจ้าภาพครั้งล่าสุดใช้เงินไปกว่า 3500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.1 แสนล้านบาท ในการสร้างสนามใหม่และปรับปรุงสนามเดิมให้ผ่านมาตรฐานของฟีฟ่า แต่จากการขาดการวางแผนที่ดี ทำให้บราซิลเจอปัญหากับการดูแลสนามที่สร้างขึ้นใหม่หลังจบทัวร์นาเมนท์ส่วนรัสเซีย เจ้าภาพบอลโลกปีหน้า ใช้งบประมาณในการเป็นเจ้าภาพกว่า 2500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 85000 ล้านบาท ขณะที่ กาตาร์ เจ้าภาพบอลโลก ปี 2022 ใช้งบกว่า 140000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4.6 ล้านล้านบาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยอมรับโอกาสที่ไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกร่วมกับอินโดนีเซีย แทบไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากต้องใช้ค่าใช้จ่ายมหาศาล โดยมองว่าหากเลือกพัฒนาไปที่ผลงานในสนามยังมีโอกาสคว้าสิทธิ์เข้าร่วมได้ง่ายกว่า
กีฬา
ฟุตบอลโลก,เจ้าภาพฟุตบอลโลก,ประเทศไทย,บอลไทย,งบประมาณ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร,บอลโลก,ปี2034,สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/266789
พายุถล่มตะกั่วป่า พัดต้นไม้เกี่ยวเสาไฟล้มขวางถนน กฟภ.ขอเวลาซ่อม 2 วัน
จากกรณีเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 2 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ที่บ้านบางหลาโอน หมู่ 7 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งวัน ทำให้เสาไฟฟ้าที่อยู่บริเวณถนนเพชรเกษม ช่วง อ.ตะกั่วป่า มุ่งหน้าไปภูเก็ต ช่วงทางโค้งที่ กม.800 รอยต่ออำเภอตะกั่วป่า-ท้ายเหมือง ได้เกิดฝนตกหนักและมีลมพัดกระโชกแรง ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ได้ล้มฟาดลงบนเสาไฟฟ้าแรงส่งขนาด 115 KV เป็นสายส่งของการไฟฟ้าภูมิภาค ซึ่งมีความสูงขนาด 22 เมตร จำนวน 3 ต้น และเสาไฟฟ้าขนาดเล็ก ขนาดกำลังส่ง 33 KV ความสูง 12 เมตร จำนวน 3 รวม 6 ต้น ล้มขวางถนนทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ทำการจราจรเป็นอัมพาตกว่า 2 ชั่วโมงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก กู้ภัยเขาหลัก เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลคึกคักเข้าช่วยเหลือพร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนทราบว่าไม่สามารถสัญจรได้จากเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน พร้อมกับให้ประชาชนเปลี่ยนไปใช้เส้นทางบ้านดอกแดง-กะปง แทนเพื่อมุ่งหน้าไปภูเก็ตหรือพังงาได้ จากนั้นทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอตะกั่วป่า ได้เร่งส่งเจ้าหน้าที่พร้อมรถเครนมาเร่งเคลียร์เส้นทางเพื่อเปิดการจราจร โดยการตัดสายไฟและยกเสาไฟฟ้าที่หักโค่นออกจากผิวจราจร ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงในการเคลียร์เส้นทาง ก่อนจะเปิดให้รถสามารถสัญจรได้เป็นปกติล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ส.ค.63 นายกิตติภพ พฤกษนันต์ ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า สาเหตุของการเกิดเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน เนื่องจากว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มฟาดลงบนเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงล้มลงไป 3 ต้น และเสาขนาดเล็กอีก 3 ต้น รวมเสาไฟฟ้าล้มไปทั้งหมด 6 ต้น ส่วนการซ่อมแซมจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินความเสียหายทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาในการซ่อมแซมประมาณ 2 วัน ระหว่างนี้ก็จะมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าระบบสำรองจากสถานีจ่ายไฟตะกั่วป่าเข้ามา ประชาชนในพื้นที่มีไฟฟ้าใช้อย่างแน่นอนระหว่างเจ้าหน้าที่ทำการซ่อมแซมขณะที่ทางจังหวัดพังงา ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก คลื่นลมแรง เนื่องจากลมตะวันตกกำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้จังหวัดพังงามีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563 นี้ ประชาชนในพื้นที่ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ ข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง.
พายุฝนลมแรงถล่มที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่โค่นล้มทับเสาไฟฟ้าแรงส่งขนาด 115 KV หักขวางถนนเพชรเกษม กฟภ.เร่งเคลื่อนย้ายเสาออก คาดใช้เวลา 2 วันปักเสาใหม่ ยันชาวบ้านมีไฟใช้แน่นอน
ข่าว,ทั่วไทย
ต้นไม้โค่น,เสาไฟฟ้าหัก,อ.ตะกั่วป่า,พังงา,คลื่นลมแรง,ฝนตกหนัก,บ้านบางหลาโอน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1902467
กรมการขนส่งทางบก จัดเก็บภาษีรถเดือน ต.ค.ในเขต กทม.กว่า 579 ล้าน
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 59 นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกได้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนสามารถเลือกชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางต่างๆ เฉพาะเดือน ต.ค. 59 สามารถจัดเก็บภาษีรถในเขต กทม.ได้ทั้งสิ้น 579,977,623.50 บาท ซึ่งพบว่าประชาชนยังนิยมใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่ง กทม.พื้นที่ 1–5 ของกรมการขนส่งทางบกมากที่สุด จำนวน 331,178 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 391,194,662.70 บาท,ขณะที่ อันดับที่ 2 ได้แก่ การใช้บริการรับชำระภาษีรถผ่านช่องทาง เลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ จำนวน 62,571 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 108,749,202.51 บาท และการใช้บริการชำระภาษีรถที่ห้างสรรพสินค้า ในวันเสาร์–อาทิตย์ ตามโครงการ ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax) มีผู้ใช้บริการ จำนวน 35,489 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 51,053,963.94 บาท,ขณะเดียวกัน การรับชำระภาษีรถผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ www.dlte-serv.in.th สามารถจัดเก็บภาษี ได้ทั้งสิ้น 11,511,682.15 บาท และที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่ให้บริการทุกวันจันทร์–ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30–15.00 น. สามารถจัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 9,500,022.17 บาท,นอกจากนี้ เป็นการรับชำระภาษีรถผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส สามารถจัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 6,399,132 บาท ผ่านไปรษณีย์และผ่านโทรศัพท์มือถือ จัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 1,568,958.03 บาท ซึ่งปัจจุบันเจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน โดยต้องเป็นรถที่ไม่ค้างชำระภาษีรถเกินกว่า 1 ปี สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี ต้องมีใบรับรองการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) มาแสดงด้วย,ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก มุ่งมั่นพัฒนางานด้านบริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานบริการ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก ที่ต้องการพัฒนารูปแบบการให้บริการประชาชนให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการสภาพสังคมปัจจุบัน ไลฟ์สไตล์ของประชาชน,นายณันทพงศ์ กล่าวอีกว่า ยกตัวอย่างเช่นการนำระบบ QR Code มาเป็นช่องทางเข้าถึงแอพพลิเคชั่น DLT eForm ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นให้ข้อมูลการให้บริการด้านทะเบียนและภาษีรถ เช่น หลักฐานที่ใช้ ขั้นตอน สถานที่ดำเนินการ พร้อมดาวน์โหลดหรือกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ Smart Phone เพื่อนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ทั้งสะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอน และลดระยะเวลาในการติดต่อราชการ,นอกจากนี้ ได้จัดตั้งศูนย์ราชการสะดวก (Government Easy Contact Center : GECC) เพื่อให้บริการประชาชนติดต่อสอบถามข้อมูล และให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกตั้งแต่ที่เดินทางมาติดต่อราชการ โดยให้จัดตั้งศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ที่กรมการขนส่งทางบก จตุจักร สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1–4 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
กรมการขนส่งทางบก จัดเก็บภาษีรถประจำปีในเขต กทม.เฉพาะเดือน ต.ค. 59 ได้กว่า 579 ล้านบาท พร้อมมุ่งมั่นพัฒนางานทุกด้านอย่างมืออาชีพ สร้างความพึงพอใจและการยอมรับจากประชาชนต่อไป
null
กรมการขนส่งทางบก,ณันทพงศ์ เชิดชู,จัดเก็บภาษีรถยนต์,ต่อภาษีรถยนต์,เศรษฐกิจ
https://www.thairath.co.th/content/800441
หนุ่มอ้าง พบยายตีหลาน ฉุนขอทานไม่ได้ตามเป้า วอนรัฐตรวจสอบ
วันที่ 2 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพและข้อความอ้างว่า ได้เดินซื้อของที่ตลาดคลองถมปากช่อง เห็นยายกับหลานอีก 3 คนนั่งขอทานจึงให้เงินไป 10 บาท แต่ขากลับได้ยินเสียงยายตะคอกหลาน ใช้มือตบหัวเด็กผู้หญิงหลายทีจนเด็กร้องไห้แต่ไม่มีเสียง และจะใช้ไม้ค้ำเดินตีหัวเด็กผู้ชาย,จับใจความได้ว่า เด็กขอทานได้น้อย ดึกขนาดนี้แล้ว ได้เงินไม่ถึงเป้า จนทำร้ายเด็ก เด็กกลัวมากไม่โต้ตอบ นั่งนิ่งเฉยๆ จนมีแม่ค้าข้างๆ มาถามว่าเกิดอะไรขึ้น, ,สอบถามพี่คนขายของข้างๆ ยายพาหลานมาขอทานทุกอาทิตย์ แล้วก็มีพฤติกรรมแบบนี้ตลอด ขนาดอยู่ในที่ชุมชนยังรุนแรงขนาดนี้ ถ้าที่บ้านจะขนาดไหน พ่อแม่เด็กไปไหน #สงสารเด็กเด็กขนาดนี้ไม่ควรมาขอทานข้างถนนแบบนี้ไม่รู้ได้เรียนหนังสือหรือเปล่า #หน่วยงานไหนสามารถเข้ามาตรวจสอบได้บ้าง,ทั้งนี้ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ระบุว่า เจอยายกับหลานกลุ่มนี้หลายครั้ง บางครั้งจะให้เด็กร้องเพลงแลกเงินตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ อาศัยนอนในปั๊มน้ำมัน ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตักเตือนแล้วจนยายหายไปพักหนึ่ง ก่อนจะพาหลานมาขอทานใหม่,โดยล่าสุด เจ้าของโพสต์รายงานความคืบหน้าว่า เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 (Social Assistance Centre) ได้แจ้งว่ามีพลเมืองดีได้ส่งเรื่องดังกล่าวเข้ามาขอความช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป.
หนุ่มอ้างเจอยายทำร้ายร่างกาย ทุบตีหลานชายหญิงที่ตลาดคลองถมปากช่อง ฉุนเด็กขอเงินไม่ได้ตามเป้า วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ
ข่าว,สังคม
ขอทาน,ยายตีหลาน,ตีเด็ก,ข่าวโซเชียล,ความรุนแรง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1535288
เจมส์ ฝันเป็นจริง บุกบริษัทฮาฯ แย่งพื้นที่ตลกซุปตาร์ ตบมุกไม่ยั้ง
เจอตัวท็อปแฟนมาเอง เล่นเอาตลกซุปตาร์แก๊ง บริษัทฮาไม่จำกัด(มหาชน) ถึงกับคอแห้งร้อง แฮ่ ไม่หยุด เมื่อต้องมาเจอกับแขกรับเชิญพิเศษ เจมส์–เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ นักร้องไอดอลชายสายแดนซ์ยุค 90 ขอมาออกรายการสักครั้งในชีวิตงานนี้ เจมส์ เลยโชว์ตลกเต็มที่ไม่มียั้ง ทั้งเปิดชงตบมุกกับแก๊งตลกซุปตาร์กันแบบโบ๊ะบ๊ะไม่มีหยุดพัก เจมส์ เผยว่า ผมยอมรับเลยว่าเป็นดาราที่เสนอตัวมารายการนี้เอง เพราะปกติผมเป็นคนชอบดูตลกมาก เคยไปนั่งดูที่คาเฟ่มาแล้วด้วย วันนี้ถือว่าเป็นไปตามที่ฝันไว้ ผมอยากมาตั้งแต่มีรายการใหม่ๆ ไปบอก พี่นุ้ยเชิญยิ้ม ว่าอยากมา พี่นุ้ยบอกได้ๆ เดี๋ยวพี่จัดให้ ไม่รู้จัดยังไง 3-4 ปีมาแล้ว (หัวเราะ)จนมาเจอ ตั๊ก-บริบูรณ์ เลยจัดให้ พลาดไม่ได้ต้องมาเพราะเราดูตลอดดูทุกตอน พอมาเล่นและได้มาเจอพี่ๆตลกทุกๆคนได้เห็นการปูมุกบอกมุกกันสดๆซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ของบริษัทฮาฯเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมาก ถ้ามีโอกาสอยากมาอีก ยังไงก็ฝากแฟนๆติดตามด้วยนะครับ ใน บริษัทฮาไม่จำกัด (มหาชน) วันเสาร์นี้ 16.00 น. ทางช่องวัน 31.
เจอตัวท็อปแฟนมาเอง เล่นเอาตลกซุปตาร์แก๊ง บริษัทฮาไม่จำกัด (มหาชน) ถึงกับคอแห้งร้อง แฮ่ ไม่หยุด
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
เจมส์ เรืองศักดิ์,บริษัทฮาไม่จำกัด,ช่องวัน31,นุ้ย เชิญยิ้ม,ตั๊ก บริบูรณ์,คาแรกเตอร์,ข่าววันนี้,นักร้อง
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1851033
แห่ขอหวย ตะเคียนวัดกำพร้า เข้าฝันฝังในบ่อกุ้ง คนเจอหวิดโดนตัดขา
เผย 2 ตัวเด็ดงวดนี้   ,วันที่ 14 ส.ค. 59 ที่วัดศรีสุทธาราม (วัดกำพร้า) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีคนขุดพบต้นตะเคียนใหญ่อายุหลายร้อยปี และนำมาไว้ที่วัดจึงเดินทางไปดู ,พบนายสมทรง แสงทองสี อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/84 ม.3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร บอกว่า ต้นตะเคียนต้นนี้ขุดพบที่วังกุ้งของตนเอง ซึ่งได้เช่าที่ดินอยู่ที่บริเวณ หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีเนื้อที่ 9 ไร่ 3 งาน โดยก่อนขุดพบนั้น เมื่อประมาณต้นปี 2559 ตนฝันเห็นมีผู้หญิงสองคนผมยาวสวมใส่สไบแพรและมีชฎาสวมอยู่ โดยนั่งหันหลัง ทั้งคู่บอกว่ามีเรืออยู่ลำหนึ่งในวังกุ้ง และข้างๆ เรือ มีต้นตะเคียนอยู่คู่หนึ่งให้ตนไปนำขึ้นมา,นายสมทรง กล่าวต่อว่า ทีแรกก็ไม่ได้คิดอะไร จนต่อมาตนไปดักปูที่บริเวณดังกล่าว ปรากฏว่าเท้าไปเขี่ยถูกบริเวณโคนต้นไม้ ตั้งแต่นั้นมาปรากฏว่าเท้าบวม จึงได้บนบานศาลกล่าว ขอให้มีโชคและให้ขาหายบวม ปรากฏว่าถูกหวยมาหลายงวดติดกัน แต่ขากลับบวมขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้สาเหตุ จนหมอบอกว่าอาจต้องตัดขาทิ้ง ตนจึงตัดสินใจนำรถแบ็กโฮมาขุดตักนำต้นตะเคียนที่ฝังอยู่ในดิน ซึ่งมีความลึกประมาณ 1.50 เมตร ขึ้นมา แล้วนำมาไว้ที่วัดกำพร้า,ต้นตะเคียนที่พบนี้มีความยาว 17.10 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.50 เมตร คาดว่าอายุหลายร้อยปี ส่วนบริเวณที่ขุดพบนั้นแต่ก่อนเป็นทะเล นายสมทรง กล่าว,ส่วนนางสาวดวงใจ หุ่นนอก อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/9 ม.3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร กล่าวว่าตนเป็นคนหนึ่งที่ทราบข่าวเรื่องพบต้นตะเคียนใหญ่ จึงเดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภเหมือนกับคนอื่นโดยหลายคนได้เลขเด็ดกันไป,อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มาหาโชคลาภส่วนใหญ่จะไม่ค่อยบอกกัน แต่ก็มีที่กระซิบกระซาบกันพอให้ได้ยินว่า งวดนี้สองตัว 14 น่าจะมาแรง,เช่นเดียวกับ นายสัญญา จันทร์สุข อายุ 55 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.บางหญ้าแพรกอ.เมือง สมุทรสาคร กล่าวว่า ตอนนี้คนที่ทราบข่าวต่างได้ทยอยกันมาเรื่อยๆ มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอโชคลาภ ส่วนรายได้จะมอบให้กับทางวัด นำไปสมทบทุนสร้างศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ วัดศรีสุทธาราม ต่อไป.
นักเสี่ยงโชคแห่กันไปที่วัดกำพร้า สมุทรสาคร หลังจากมีคุณลุงขุดเจอต้นตะเคียนฝังในบ่อกุ้ง พร้อมเรื่องราวแปลกประหลาด มีหญิง 2 คนห่มสไบสวมชฎามาเข้าฝัน โชคดีถูกหวยแต่ป่วยจนหมอจะตัดขา สุดท้ายต้องไปขุดเอาตะเคียนขึ้นมา
null
หวย,หวยตะเคียน,เลขเด็ด,หวยงวดนี้,หวย16ส.ค.,ตะเคียนโบราณ,วัดกำพร้า,สุมทรสาคร,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ข่าวสังคม,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/690311
องค์กรสิทธิฝรั่งเศสชี้ ห้ามจัดเสวนาเรื่อง ปชต. ขัด รธน.คสช.เอง
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าห้ามจัดเสวนาวิชาการ ห้องเรียนประชาธิปไตยบทที่ 2 การล่มสลายของเผด็จการในต่างประเทศ ที่ มธ. รังสิต และควบคุมตัวนักศึกษากลุ่มธรรมศาสตร์เสรี และนักวิชาการซึ่งเป็นวิทยากรไป สภ.คลองหลวง พร้อมตั้งเงื่อนไขให้จัดเสวนาวิชาการวงปิดและต้องขออนุญาต คสช. ก่อน ก่อนปล่อยตัวในช่วงดึก วานนี้19 ก.ย.2557 องค์กรสหพันธ์นานาชาติเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ FIDH ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) สมาชิกในประเทศไทย ออกเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยุติการคุกคามและกักตัวนักศึกษาและนักวิชาการซึ่งใช้เสรีภาพในการแสดงออกโดยทันทีคาริม ลาฮิดจิ ประธาน FIDH ชี้ว่า การจับกุมนักศึกษาและนักวิชาการ วานนี้ เป็นสิ่งช่วยเตือนความจำอีกครั้งถึงความไม่อดทนต่อเสียงของคนที่ไม่เห็นด้วยของคณะทหารเขาระบุด้วยว่า การจับกุมโดยพลการอย่างต่อเนื่องและการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกอย่างรุนแรงที่ผ่านมา ทำให้คำกล่าวอ้างว่าเคารพสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทหารเป็นเพียงการแก้ตัวที่ไม่แนบเนียนด้านจตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร ประธานสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) กล่าวว่า คสช.ต้องหยุดการละเมิดสิทธิมนุษยชน การห้ามอภิปรายสาธารณะเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนนั้นขัดต่อมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับที่ คสช.ให้ความเห็นชอบเอง
บรรยากาศงานเสวนา ก่อนถูกห้ามจัดในเวลาต่อมา (18 ก.ย.2557) กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าห้ามจัดเสวนาวิชาการ ห้องเรียนประชาธิปไตยบทที่ 2 การล่มสลายของเผด็จการในต่างประเทศ ที่ มธ. รังสิต
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
FIDH,LLTD,กฎอัยการศึก,คสช.,รัฐประหาร,รัฐประหาร 2557,สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน,เสรีภาพในการแสดงออก,เสวนา
https://prachatai.com/journal/2014/09/55627
คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบ 8-10%
อย่าเพิ่งรีบดีใจดัชนีเชื่อมั่น ผงกหัว ม.หอการค้าชี้อีกครึ่งปีคนเริ่มใช้จ่ายนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้ในระยะ (เฟส) ที่ 3-4 ประกอบกับ รัฐบาลออกมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งมาตรการด้านการเงินและการคลัง เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการโดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย.63 อยู่ที่ระดับ 49.2 เพิ่มขึ้นจาก 48.2 ในเดือน พ.ค.63 แต่ยังอยู่ในช่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ทำการสำรวจมาในรอบ 21 ปี 9 เดือนตั้งแต่เดือน ต.ค.41 เป็นต้นมา ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน อยู่ที่ 33.2 เพิ่มขึ้นจาก 32.2 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 56.8 เพิ่มขึ้นจาก 55.7 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 41.4 เพิ่มจาก 40.2 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางาน อยู่ที่ 47.6 เพิ่มขึ้นจาก 46.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 58.6 เพิ่มจาก 57.7อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและการว่างงานในอนาคต ที่จะส่งผลต่อ กำลังซื้อภายในประเทศ การท่องเที่ยว การส่งออก และธุรกิจโดยทั่วไป คาดว่าผู้บริโภคยังคงชะลอการใช้จ่ายอย่างน้อย 3-6 เดือนจนกว่าโควิด-19 จะคลายตัว รวมถึงกังวลสถานการณ์การเมืองที่จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ และปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ โดยคาดว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 จะติดลบหนักสุดที่ 10-15% และคาดว่าประชาชนจะพร้อมกลับมาใช้จ่ายปกติจากนี้ไปอีก 1 ปี ทั้งนี้ ศูนย์คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ น่าจะติดลบมากถึง 8-10% และจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 64 หากการระบาดของโควิด-19 คลี่คลายส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ จากการสำรวจพบว่า ประชาชนให้ความสนใจใช้สิทธิ์มาตรการเราไปเที่ยวกันน้อยมาก โดยน่าจะมาจากความกังวลโควิด-19 เศรษฐกิจ และการจ้างงาน รวมถึงความยุ่งยากในการลงทะเบียน อย่างไรก็ตาม ต้องการให้รัฐบาลนำงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400000 ล้านบาทเข้ามาสู่ระบบโดยเร็วที่สุด ผลักดันให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) เข้าถึงมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ด้วยการใช้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเข้ามาช่วยเสริม.
สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่สำรวจจากความเห็นประชาชน 2241 คนทั่วประเทศว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่รัฐบาลได้ผ่อนคลาย
ข่าว,เศรษฐกิจ
ภาวะเศรษฐกิจ,กระตุ้นเศรษฐกิจ,โควิด-19,ฟื้นฟูเศรษฐกิจ,งบฟื้นฟูเศรษฐกิจ,เศรษฐกิจติดลบ,ข่าววันนี้
https://www.thairath.co.th/news/business/1881507
โปรเม อึ้งซิวแชมป์เมเจอร์ เปิดใจออกทะเล 9 หลุมหลังจนเกือบพัง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 3 มิ.ย. ว่า โปรเม เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวขวัญใจชาวไทยมือ 9 ของโลกให้สัมภาษณ์หลังจากผงาดคว้าแชมป์เมเจอร์รายการ ยูเอส วีเมน โอเพ่น 2018,โปรเมทำได้ดี 3 วันแรกขึ้นนำจ่าฝูงต่อเนื่องมาถึง 9 หลุมแรกของวันสุดท้ายเมื่อตีเพิ่ม 5 เบอร์ดีเสียโบกี้เดียว,ทว่า 9 หลุมหลัง โปรเมกลับออกทะเลเหลือเชื่อตีเกินไปถึง 5 โอเวอร์พาร์ทำให้จบวันนี้ตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์สกอร์รวมหล่นมา 11 อันเดอร์พาร์เท่ากับ คิม ฮโย จู จากเกาหลีใต้ต้องไปวัดกันที่เพลย์ออฟ,โปรเมต้องไปลุ้นระทึกสุดดราม่าในช่วงเพลย์ออฟกับ คิม ฮโย จู จากเกาหลีใต้ แต่ โปรเม ก็โชว์หัวจิตหัวใจที่แกร่งกล้าเบียดเอาชนะ คิม ไปได้ในหลุมที่ 4 คว้าแชมป์เมเจอร์รายการที่สองในชีวิต,หลังจากคว้าแชมป์ โปรเม ให้สัมภาษณ์ว่า ฉันตี 9 หลุมหลังไม่ดีเลย รวมไปถึงเพลย์ออฟก็ยังตีไม่ดีอีก,มันยากมากแต่ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ฉันไม่ได้กังวลเกี่ยวกับผลการแข่งขัน,แต่ตอนจบกลับกลายเป็นเรื่องดีมาก ดังนั้นฉันจึงโอเคมากตอนนี้
โปรเม เอรียา จุฑานุกาล ก้านเหล็กสาวขวัญใจชาวไทย เปิดใจหลังผงาดคว้าแชมป์เมเจอร์รายการ ยูเอส วีเมน โอเพ่น 2018
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
เอรียา จุฑานุกาล,ยูเอส วีเมน โอเพ่น กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ,โปรเม
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1298712
ผลตรวจคนขับ 10 ล้อพบสารพืชกระท่อม ยันสู้คดี ตร.จับยาบ้าถึงที่สุด
วันนี้ (10 ธ.ค.2562) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าที่นายโสภณ วงษ์สวัสดิ์ คนขับรถบรรทุกสิบล้อ ร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกตำรวจภูธรสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับยาบ้า 1 เม็ด ขณะผ่านด่านตรวจหน้า สภ.สามร้อยยอด เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังจากรับเรื่องร้องเรียนกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ดำเนินการตรวจพิสูจน์สารเสพติดจากเส้นผม ที่จะสามารถตรวจพบสารเสพติดได้แม้จะผ่านการใช้สารเสพติดมาหลายสัปดาห์หรือ 1 เดือน โดยผลการตรวจเส้นผมของนายโสภณ พบว่ามีสารไมทราไจนิน เป็นสารในพืชกระท่อม ที่ระบุได้ว่านายโสภณ มีการเสพพืชกระท่อมมาในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือน แต่ยืนยันไม่พบสารเสพติดประเภทเมตแอมเฟตามีน (ยาบ้า)ด้านนายโสภณ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีการใช้พืชกระท่อมจริง โดยใช้เป็นยาเพื่อรักษาอาการปวดท้องจากโรคกระเพาะอาหาร และหลังจากนี้จะนำผลการตรวจพิสูจน์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ไปต่อสู้ในชั้นศาล เพื่อยืนยันความบริสุทธ์ของตัวเองว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาบ้า ขณะเดียวกันยอมรับว่ารู้สึกกลัวที่ต้องต่อสู้คดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้กับคนอื่นอีก และเพื่อเป็นบรรทัดฐานในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับประชาชนทั่วไป จึงยืนยันที่จะเดินหน้าต่อสู้ให้ถึงที่สุด
โชว์เฟอร์สิบล้อถูกตำรวจสามร้อยยอดจับยาบ้า มั่นใจนำผลนิติวิทยาศาสตร์สู้คดีในชั้นศาล ยืนยันตัวเองบริสุทธ์ ยอมรับกลัวที่มีคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ
อาชญากรรม
สิบล้อ,ยัดยาบ้า,สามร้อยยอด,ประจวบคีรีขันธ์
https://news.thaipbs.or.th/content/286915
ทช.รายงานพะยูนเกยตื้นตายตัวแรกของปี 2561
วันนี้ (8 ม.ค.2561) น.ส.ทิพามาศ อุปน้อย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากนายยอดชาย พันธ์ครุฑ ชาวประมงในพื้นที่ว่าพบซากพะยูนเกยตื้นอยู่ บริเวณหาดหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์กุ้ง หมู่ที่ 4 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จากการตรวจสอบพบว่าเป็นพะยูน เพศผู้ ยาวประมาณ 3 เมตร หนักประมาณ 200 กิโลกรัม สภาพซากสด โดยเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง เข้าตรวจสอบและขนย้ายซากมายังศูนย์วิจัยฯ เพื่อดำเนินการผ่าพิสูจน์ซากหาสาเหตุการตายต่อไป โดยเป็นรายงานพะยูนตายตัวแรกของปีนี้นักวิชาการ ระบุ ถึงแม้พะยูน จะได้รับการประกาศให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ภายใต้พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 แต่ประชากรยังลดจำนวนลงอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์ความเสื่อมโทรมสิ่งแวดล้อม และการล่าพะยูนเพื่อเป็นอาหารตลอดจนการล่า เพื่อนำอวัยวะพะยูนไปเป็นเครื่องรางของขลังตามความเชื่อ ทำให้พะยูนลดจำน้อยลงอย่างรวดเร็ว จนถือได้ว่ากำลังอยู่ในภาวะวิกฤตที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ซึ่งขณะนี้คาดว่าทะเลไทยมีพะยูนเฉลี่ย 200-250 ตัวแม้ว่าการล่าพะยูนเพื่อเป็นอาหารได้หมดไปจากทะเลไทยแล้ว แต่ยังมีพะยูนตายอยู่อย่างต่อเนื่อง สาเหตุมากสุดคือการตาย เนื่องจากติดเครื่องมือประมง หรือบาดเจ็บจากการหลุดรอดจากเครื่องมือประมงมาเกยตื้น โดยเครื่องมือประมงที่พะยูนมาติดและตายมากที่สุด ได้แก่ อวนลอย หรืออวนติดตาชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอวนปลาสีเสียด อวนลอยปลากะพง อวนสามชั้น อวนจมปู อวนปลากระเบน รองลงไป คือ โป๊ะอ่านข่าวเพิ่มเติม
เจอ พะยูน ตัวผู้ยาวประมาณ 3 เมตร เกยตื้นตายทะเลสุราษฎร์ธานี ทางทช.นำซากผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตาย ถือเป็นสัตว์ทะเลหายากกลุ่มพะยูน ที่มีรายงานตายตัวแรกของปีนี้ ชี้ภาพรวมสถานการณ์ยังน่าห่วง ส่วนใหญ่ตายจากเครื่องมือประมง
สิ่งแวดล้อม
พะยูน,สัตว์ทะเลหายาก,สุราษฎร์ธานี,กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง,ทช.,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/269187
ดารา 7 สี แนะวิธีสานสัมพันธ์วันสงกรานต์ยุคโควิด-19
สั่งห้ามการชุมนุม มั่วสุม บางจังหวัดมีสั่งล็อกดาวน์ นอกจากนี้กระทรวงวัฒนธรรมยังออกมาประกาศให้งดเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อกลับภูมิลำเนาไปอวยพรผู้หลักผู้ใหญ่ งดกิจกรรมรดน้ำดำหัว อีกทั้งคุณหมอก็ยังขอร้องให้หยุดอยู่บ้านเพื่อชาติ รักษาระยะห่างทางกายภาพ Physical Distancing เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด มาตรการหลายๆอย่างนี้ทำให้วันสงกรานต์ วันปีใหม่ไทย วันครอบครัว ในปีนี้แตกต่างออกไป และอาจจะเป็นปีแรกและปีเดียวที่คนไทยจะไม่เปียกน้ำเลยซักหยดเมื่อเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้งดเล่นน้ำ งดฉลอง งดกิจกรรม งดชุมนุม แล้วเราจะทำอะไรกันดี วันนี้มีไอเดียดีๆของพระเอกนางเอกของช่อง 7 สีมาฝากกัน เริ่มที่ บิ๊กเอ็ม-กฤตฤทธิ์ บุตรพรม เผยวิธีปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในแบบฉบับของตนเองว่า สำหรับผมอยู่กับคุณแม่อยู่แล้ว ดังนั้นก็ไม่ต้องเดินทางไปหาท่าน แต่ปกติเทศกาลสงกรานต์ทุกปีผมจะพาคุณแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ปีนี้น่าจะเป็นปีแรกเลยมั้งครับที่เราจะหยุดอยู่บ้านแบบนี้ (หัวเราะ) กับสถานการณ์แบบนี้เราเลยคุยกันว่างั้นเราทำกับข้าวทานกันในบ้านแทนแล้วกัน แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไรเลย แค่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้แม่ก็ดีใจแล้ว ซึ่งผมรู้สึกว่าการที่เราไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ ไม่ได้แปลว่าเราจะรักกันน้อยลง สำหรับผมแล้วคิดว่ากลับจะทำให้เรารักกันมากขึ้นด้วยซ้ำครับ เริ่มต้นก็ซึ้งเลยมาที่นาง-เอกคนสวย ฐิสา-วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร เผยถึงการบอกรักในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ในแบบของตนเองว่า ปกติทุกปีเทศกาลสงกรานต์ก็จะมีรดน้ำดำหัวขอพรในครอบครัวอยู่แล้ว แต่ด้วยปีนี้ก็อาจต้องแสดงความรักแบบห่างกันหน่อย ช่วงนี้งดกอด หอมแก้ม เว้นระยะห่างกันไปก่อนค่ะ แต่ความรักเรายังเหมือนเดิม ที่เราต้องห่างก็เพราะรักนะคะ แต่ถึงอย่างไรเราก็ได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนี่คือสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งแค่นี้ก็มีความสุขที่สุดแล้วค่ะที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก ซึ้งไปอีกอีกหนึ่งพระเอก เข้ม-หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล ก็บอกว่า ปกติผมและที่บ้านก็จะเดินทางไปหาญาติๆที่ จ.บึงกาฬครับ เพื่อไปขอพรจากผู้หลักใหญ่ที่เรารักและนับถือ แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ต้องงดการเดินทาง การพูดคุยขอพรกันปีนี้จึงเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการใช้เทคโนโลยีสื่อสารกันแทน ก็จะเป็นการโทรศัพท์ไปหา ไลน์ หรือวิดีโอคอลไปพูดคุยขอพร ซึ่งผมว่าก็น่ารักดีอบอุ่นไปอีกแบบครับ รักกันแม้ตัวห่างแต่ใจไม่ห่างนะครับปิดท้ายกับนางเอกหน้าใส มะเหมี่ยว-พรชดา วราพชระ กล่าวว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ อย่างที่ทราบกันนะคะว่า ด้วยสถานการณ์ของโรคโควิด-19 เราเลยไม่สามารถที่จะทำเหมือนกับทุกๆปีได้ งานเทศกาลที่ไหนๆก็คงงดหมด ดีค่ะ ช่วงนี้แล้งหนักด้วยค่ะ อย่าเล่นสาดน้ำก็ดีแล้ว อย่างไรก็ตาม เราก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมในวันขึ้นปีใหม่ไทยได้ ด้วยการส่งความคิดถึงกันผ่านโทรศัพท์ รวมถึงวิดีโอคอลต่างๆ แต่อย่าเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดกันเลยนะคะ ใครที่อยู่บ้านเดียวกันกับผู้ใหญ่ก็ขอให้ใช้วิธีกราบขอพรแบบที่มีระยะห่างจากกันหนึ่งถึงสองเมตร แม้ว่าเราจะทำเหมือนกับทุกๆปีไม่ได้ แต่วิธีเหล่านี้จะเป็นวิธีที่ทำให้คนที่เรารักปลอดภัย รวมถึงตัวเราเองด้วยค่ะ ขอให้ทุกๆคนสุขภาพแข็งแรง และเราจะผ่านช่วงร้ายๆไปด้วยกันนะคะ.
เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้จะไม่เหมือนเดิมเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้รัฐบาลประกาศเลื่อนวันหยุดออกไป อีกทั้งมีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินประกาศเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น.
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์,ฐิสา วริฏฐิสา,เข้ม หัสวีร์,มะเหมี่ยว พรชดา,วันสงกรานต์ยุคโควิด-19,พรก.ฉุกเฉิน,งดเล่นสงกรานต์,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1818879
จับผอ.เดือนอดีตครูวัย65 เครือข่ายค้ากาม-กระทำชำเราเด็ก
 เผยก่อนหน้าเคยมีคนติดคุกถึง 90 ปี   ,เวลา 14.30 น. วันที่ 3 ก.ย. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. นายธนพล จันทรนิมิ รอง ผวจ.อุดรธานี ร่วมกับแถลงข่าวปฏิบัติการ ทลายเครือข่ายค้าประเวณีเด็ก ค้ามนุษย์ และช่วยเหลือเหยื่อ ในพื้นที่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พร้อมอำนวยการสอบสวน 4 ผู้ต้องหา ตามนโยบายประกาศสงครามกับการค้ามนุษย์ของรัฐบาล โดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า ตำรวจร่วมกับทุกหน่วยงาน แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง จนสามารถยกระดับจาก เทียร์ 3 มาเป็น เทียร์ 2 และยังมุ่งมั่นยกระดับเป็น เทียร์ 1 ที่ผ่านมามีการนำสื่อออนไลน์ มาใช้ในการค้ามนุษย์มากขึ้น การทำงานจึงต้องช่วยกันทุกฝ่าย ล่าสุดมีพลเมืองดีแจ้งผ่านสายด่วน 1155 ว่ามีเครือข่ายจัดหาเด็กหญิง ไปขายบริการทางเพศในลูกค้าในพื้นที่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี จึงให้หน่วยและพื้นที่ร่วมกันติดตาม,ด้านพล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตำรวจหลายหน่วยร่วมกับพื้นที่ ช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 13, 14 และ 16 ปี รวม 3 คน ที่ถูกกระทำชำเรามาก่อนหน้ากว่า 1 ปี หลังจากสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับแล้ว วันที่ 3 กันยายนจึงได้เข้าจับกุมผู้ต้องหา 4 คน ใน 2 ข้อหากระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ และ ค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์มิชอบจากการค้าประเวณี ซึ่งได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ที่แตกต่างกัน ,ประกอบด้วย 1.นายเดือน เทพประชา อายุ 65 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ข้อหากระทำชำเราเด็กทั้ง 3 คน และนำเด็กทั้งหมดไปในการค้ามนุษย์ 2.นายเหงินอารี สาสุข อายุ 62 ปี ข้อหากระทำชำเราเด็ก 2 คน และนำเด็กไปในการค้ามนุษย์ 3.นางกนกวรรณ พิทักษ์วาปี ข้อหานำเด็กไปในการค้ามนุษย์ และ 4.นายพรเทพ พนมพร อายุ 41 ปี ข้อหากระทำชำเราเด็ก ซึ่งมีโทษจำคุก 4-20 ปี หากเกิดต่างกรรมต่างวาระ อาจะต้องรับโทษสูงที่สุดถึง 50 ปี ,พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. กล่าวต่อว่า ครั้งก่อนทีมเดียวกันนี้ก็มาจับค้าประเวณีเด็กชายที่อุดรธานี ความคืบหน้าคือมีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย ขณะที่ศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว 2 ราย รายแรกจำคุก 90 ปี รายที่สอง 80 ปี สำหรับคดีนี้ยังมีการขยายผล กับผู้มาซื้อบริการเด็กทั้ง 3 ราย นอกจากนี้ยังพบเหยื่อเพิ่มอีก 2 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน จะแจ้งข้อหาเพิ่มผู้ต้องทั้ง 4 คน หรือจับกุมคนอื่นเพิ่มหรือไม่ ทั้งหมดเป็นไปตามพยานหลักฐาน ,ขณะที่นายธนพล จันทรนิมิ รอง ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี ได้เข้าร่วมในการปฏิบัติการ โดยทั้งทีมของบ้านพักเด็กอุดรธานี และทีมงานสหวิชาชีพมีความเชี่ยวชาญ ร่วมสอบสวนเหยื่อออกหมายจับผู้กระทำผิด ตลอดจนการคุ้มครองและฟื้นฟูเหยื่อ ซึ่งทั้งหมดขณะนี้อยู่ในความดูแลของ บ้านนารีสวัสดิ์ รวมทั้งการเดินทางลงเยี่ยมครอบครัวเหยื่อทุกคน ,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ ผอ.เดือน นายเดือน เทพประชา อายุ 65 ปี เคยตกเป็นข่าวเมื่อต้นเดือนมกราคมปีนี้ เมื่อมีเด็กนักเรียนร้องเรียนผ่าน เพจแหม่มโพธิ์ดำ ว่ามีพฤติกรรมล่อลวงเด็กนักเรียน ด้วยการแจกเบอร์มือถือใครสนใจอยากได้เงินให้โทรมาหา มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าว มีนักเรียนยืนยัน แต่ไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด เพราะเด็กยังไม่ตกเป็นเหยื่อ ทำให้เรื่องค่อยๆ เงียบลง จนมาตกเป็นข่าวการจับกุมครั้งนี้
โดนเข้าแล้ว ผอ.เดือน อดีตผอ.โรงเรียนที่อุดรธานี เคยมีข่าวแจกเบอร์เด็กนักเรียน ใครอยากได้เงินให้โทรหา ล่าสุด บิ๊กโจ๊ก บินแถลงข่าวเอง หลังโดนจับพร้อมพวกรวม 4 คน ทั้งชำเรา-นำเด็กไปค้ากาม
ข่าว,ทั่วไทย
จับผอ.,อดีตผอ.,ชำเราเด็ก,พาเด็กค้ากาม,สุรเชษฐ์ หักพาล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1367994
เลือกตั้ง ส.ส.ในซีเรีย ฝ่ายต้าน รบ. มองเป็น ปาหี่
ชาวซีเรียลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส. แบบที่มีพรรคการเมืองหลายพรรคเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปีเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงานว่า ประชาชนชาวซีเรียได้ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส. แบบหลายพรรคเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ขณะที่ยังคงมีเหตุการณ์รุนแรงในประเทศอยู่ ขณะที่ฝ่ายต่อต้านพากันบอยคอตต์การเลือกตั้งนี้ บอกว่าเป็นปาหี่จากรายงานของผู้สังเกตการอิสระในกรุงดามัสกัสเปิดเผยว่า มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งบางตา ขณะที่ในพื้นที่ของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ก็พากันไม่ไปเลือกตั้งในวันจันทร์ (7 พ.ค.) ที่ผ่านมาด้านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลซีเรียแสดงให้เห็นภาพประชาชนยืนต่อคิวเข้าคูหาเลือกตั้ง โมฮัมหมัด อิบราฮิม อัล-ชาร์ รัฐมนตรีมหาดไทยของซีเรียกล่าวว่า การเลือกตั้งดำเนินไปอย่างสงบและศูนย์จัดเลือกตั้งก็เปิดเผยว่ามีผู้มาใช้สิทธิเยอะพอสมควรนายกรัฐมนตรีอาเดล ซาฟาร์ กล่าวในที่ประชุมแถลงข่าวที่ศูนย์จัดการเลือกตั้งของซีเรียว่า การเลือกตั้ง ส.ส. ในซีเรียเป็นขั้นตอนสำคัญและเป็นประวัติการของซีเรีย ในการก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับการปฏิรูปอย่างครอบคลุม แม้จะมีการสมคบคิดอยู่เบื้องหลังคอยบั่นทอนการพัฒนาก็ตามส่วนสหประชาชาติกล่าวแสดงความเห็นว่า การเลือกตั้งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างครอบคลุม สำหรับอนาคตของประชาธิปไตยในประเทศซีเรียการเลือกตั้งนี้ไม่ได้มีอยู่ในขอบข่ายงานที่วางไว้ มาร์ติน เนเซอกี โฆษกของเลขาธิการสหประชาชาติกล่าว นอกจากนี้แล้ว กระบวนการประชาธิปไตยยังไม่อาจสำเร็จลุล่วงได้ ตราบใดที่ยังคงมีเหตุการณ์ความรุนแรงอยู่อนิตา แมคนอจท์ ผู้สื่อข่าวอัลจาซีร่ารายงานจากกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี ว่ากลุ่มประชาชนชาวซีเรียเอง มีความรู้สึกต่อการเลือกตั้งครั้งนี้หลากหลายปะปนกันในเมื่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของทหาร เมื่อพื้นที่หลายแห่งในประเทศยังคงแปลกแยกตัวเองจากรัฐบาลกลาง และในบางพื้นที่ของประเทศกลายเป็นดินแดนแห่งความหวาดกลัว จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะขับเคลื่อนกระบวนการประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมได้ นี่คือข้อถกเถียงของฝั่งหนึ่ง แมคนอจท์กล่าวข้อถกเถียงของอีกฝั่งหนึ่งมีอยู่ว่า พวกเขาได้เห็นจุดเริ่มต้นของพหุนิยมทางการเมืองในซีเรีย ที่แม้ว่ามันจะดูอ่อนแอและยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม จาก 8 พรรค ที่ลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ ถือว่ามีมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วถึง 7 พรรค ประเทศซีเรียเป็นประเทศที่ปกครองโดยพรรคเดี่ยวมานานหลายทศวรรษ นี่อาจจะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เราได้เห็นอย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวอัลจาซีร่ากล่าวเสริมว่า ในร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของซีเรีย ระบุให้ครึ่งหนึ่งของผู้แทนฯ ในสภาใหม่ต้องมาจากกลุ่มกรรมกร ส่วนหนึ่งรวมถึงชาวนา หรือผู้ใช้แรงงานในพื้นที่ชนบทด้วยผู้ที่วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เปิดเผยว่า สหภาพแรงงานที่เป็นตัวแทนของคนงานเหล่านี้ถูกควบคุมโดยพรรคบาธ ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเป็นการปูทางให้กับพรรคบาธ ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ แมคนอจท์กล่าวการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูฯใหม่เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้การปกครองของพรรคบาธนับ 5 ทศวรรษสิ้นสุดลง มีการตั้งพรรคการเมือง 9 พรรค และมี 8 พรรคที่ลงแข่งขันการเลือกตั้ง ส.ส. โดยพรรคที่อยู่ฝายเดียวกับรัฐบาลพรรคบาธ รวมตัวกันในกลุ่มชื่อ แนวร่วมประเทศชาติก้าวหน้า (National Progressive Front)สำนักข่าวซานาของรัฐบาลซีเรีย รายงานว่าตัวเลขผู้ลงสมัครมีจำนวน 7195 คน เพื่อลงชิงชัยตำแหน่งส.ส. 250 ที่นั่งอย่างไรก็ตาม มีนักวิเคราะห์การเมืองเชื่อว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ของซีเรียจะไม่ช่วยให้เกิดความเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ อะไร เมื่อแผนการหยุดยิงของสหประชาชาติที่ส่งผลตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. ยังไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้โอรายิบ อัล-รันทาวี ผ.อ. ศูนย์วิจัยการเมืองอัลคุดกล่าวว่า การเลือกตั้งดำเนินไปท่ามกลางสภาวะไร้ความมั่นคง ยังคงมีการฆ่าฟันและความรุนแรง ขณะที่มีคนจำนวนมากถูกกุมขัง ถูกทรมาน หรือไร้ที่อยู่อาศัย รันทาวีแสดงความเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นแค่ สื่อโฆษณาชวนเชือ เท่านั้นแต่ทางรัฐมนตรีสารสนเทศของซีเรีย อัดนัน มาห์มูด ก็แสดงความเห็นว่าการลงคะแนนเสียงถือเป็นการช่วยปกป้องประเทศการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งของประชาชนชาวซีเรีย เป็นการต่อต้านแผนการก่อการร้ายนำโดยต่างชาติและบางกลุ่มในประเทศที่ทำสงครามก่อการร้ายต่อประเทศเรา อัดนันกล่าวฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียบอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นแค่ ปาหี่ บาชาร์ อัล-ฮาราคี สมาชิกของสภาแห่งชาติซีเรีย (SNC) ที่เป็นการรวมตัวของกลุ่มฝ่ายต่อต้านบอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นแค่ การเล่นตลกของละครสวมหน้ากากโดยรัฐบาลอย่างไรก็ตาม นักกิจกรรมภายในประเทศก็รู้สึกไม่พอใจกับการที่ SNC จัดตั้งสภาการเปลี่ยนแปลงการปกครองของซีเรีย (Transitional Syrian Parliament) ที่ต้องการใช้ต่อสู้โค่นล้มรัฐบาลอัสซาดSyria holds election snubbed by opposition Aljazeera 07-05-2012
ชาวซีเรียลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส. แบบที่มีพรรคการเมืองหลายพรรคเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงานว่า ประชาชนชาวซีเรียได้ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส.
การเมือง,ต่างประเทศ
การเลือกตั้ง,ซีเรีย
https://prachatai.com/journal/2012/05/40431
เจอจะจะ คลิปรถตู้ 2 คันขับสวนเลน หนีรถติด
ชาวเน็ตแห่วิพากษ์วิจารณ์ คลิปจากกล้องหน้ารถ หลังชาวเน็ตร้องเรียนพฤติกรรมการขับขี่ของรถตู้โดยสาร ที่อยู่บริเวณถนนประชาอุทิศ ท่ามกลางการจราจรหนาแน่น จู่ๆ รถตู้โดยสารสาธารณะ สาย ต.124-6 คันหนึ่งได้ขับกินเลนขวาสวนทางมา ทำให้เจ้าของคลิปไม่สามารถขับไปได้ ส่วนทางด้านรถตู้ก็ไม่มีท่าทีจะหลบแม้แต่นิดเดียว แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ รถคันนี้ก็ได้ขับไปต่อ ก็ไปเจอกับรถตู้โดยสารสายเดิมอีกคัน มีพฤติกรรมขับสวนเลนอยู่เหมือนเดิม,ซึ่งคลิปนี้ถูกเผยแพร่โดยสมาชิกเฟซบุ๊กที่ชื่อ POP DIFFER ระบุข้อความว่า ตามท้องเรื่อง รถตู้วินสยามนิเวศน์-จุฬา รถคันอื่นอาจจะหลบให้ แต่ผมไม่,ด้านเจ้าของคลิป เปิดเผยกับทีมข่าวสายตรวจโซเชียลว่า ปกติช่วงเช้าๆ เวลาประมาณ 6 โมงถึง 6 โมงครึ่ง รถตู้วินนี้จะวิ่งคู่กันมาเสมอ และก็เป็นจังหวะที่ตนถ่ายคลิปได้พอดี จากที่เห็นส่วนใหญ่ พฤติกรรมของคนขับรถตู้วินนี้ มักจะวิ่งสวนเลนเป็นประจำ,ขณะที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของกรมขนส่งทางบก ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งเรื่องแล้ว และได้ส่งเรื่องให้ทางด้านกองตรวจการขนส่งทางบกตรวจสอบอยู่ หากคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบต่อไป
ชาวเน็ตแห่วิพากษ์วิจารณ์ คลิปจากกล้องหน้ารถ จับภาพพฤติกรรมของรถตู้โดยสาร 2 คัน ขับสวนเลน
null
รถตู้,ขับรถสวนเลน,สวนเลน,รถตู้โดยสาร,ประชาอุทิศ,รถติด,ขับกินเลน,รถตู้วินสยามนิเวศน์-จุฬา,สาย ต.124-6,คลิป,คลิปวิดีโอ,สายตรวจโซเชียล,โซเชียล,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,Thairath
https://www.thairath.co.th/content/624844
เฮ รถไฟโดยสารรุ่นใหม่จ่อส่งมอบ 115 คันในปีนี้ รอบแรกมาก่อน 39 คัน
อุบลราชธานี, หนองคาย และหาดใหญ่ ไป–กลับ วันละ 2 ขบวน,นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับมอบนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้การรถไฟฯ ดำเนินการปรับปรุงการให้บริการเดินรถ พร้อมจัดหารถโดยสารใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ประชาชน,ทั้งนี้ความคืบหน้าล่าสุดในการดำเนินโครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์จำนวน 115 คัน การรถไฟฯ ได้รับรายงานจากบริษัท CRRC Corporation Limited (China Railway Rolling Stock Corporation) หรือ CNR (China CNR Corporation Limited) เดิม ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญาในการจัดหารถโดยสารว่า ได้ส่งรถโดยสารรุ่นใหม่รอบแรกมาถึงประเทศไทย บริเวณท่าเรือแหลมฉบังแล้วเมือคืนวันที่ 26 มิ.ย.59 ที่ผ่านมา โดยรถโดยสารรอบแรกที่มาถึงมีทั้งสิ้น 39 คัน ประกอบเป็นรถโดยสารได้ 3 ขบวน ขบวนละ 13 คัน โดยแต่ละขบวนแบ่งเป็นรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 (บนอ.ป.) 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 (บนท.ป.) 10 คัน (รวมรถสำหรับผู้พิการ 1 คัน) รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) 1 คัน และรถกำลังไฟฟ้า (Power Car) 1 คัน รวมเป็น 13 คัน,สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ระหว่างวันที่ 27-29 มิ.ย. 59 เจ้าหน้าที่จะมีการทยอยยกรถโดยสารขบวนแรกลงจากเรือควบคู่ไปกับการทำพิธีทางศุลกากร จากนั้นในวันที่ 30 มิ.ย.– 1 ก.ค.59 จะเคลื่อนย้ายขบวนรถไปที่รางรถไฟ บริเวณท่าซี (C) ในท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อประกอบเป็นขบวน ขบวนละ 13 คัน คาดว่าในวันที่ 1 ก.ค.59 จะนำรถโดยสารขบวนแรกที่ประกอบแล้วเสร็จไปที่สถานีศรีราชา เพื่อให้บริษัทคู่สัญญาทำการทดสอบระบบ ก่อนทำพิธีส่งมอบให้การรถไฟฯ อย่างเป็นทางการ พร้อมกับจัดพิธีรับมอบต่อไป หลังจากมีการรับมอบรถโดยสารชุดแรกแล้ว การรถไฟฯ จะทยอยได้รับมอบรถโดยสารชุดต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนครบ 115 คัน ภายในเดือน ก.ย. 59,นายวุฒิชาติ กล่าวว่า สำหรับรถโดยสารชุดใหม่ทั้งหมด การรถไฟฯ จะนำไปเปิดให้บริการจัดเป็นขบวนรถด่วนพิเศษในเส้นทางที่มีศักยภาพ 4 เส้นทาง ระหว่างสถานีกรุงเทพฯ–เชียงใหม่, สถานีกรุงเทพฯ–อุบลราชธานี, สถานีกรุงเทพฯ–หนองคาย และสถานีกรุงเทพฯ–หาดใหญ่ ไป–กลับ วันละ 2 ขบวนต่อเส้นทาง รวม 8 ขบวน โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 4 เส้นทาง ได้ในปีงบประมาณ 2560,อนึ่งการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 115 คัน มีรถที่มาใหม่ประกอบด้วย รถพ่วงเป็นรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 (บนอ.ป.) 8 คัน, รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 (บนท.ป.) 80 คัน ในจำนวนนี้มีรถสำหรับผู้พิการ 8 คัน, รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) 8 คัน และรถกำลังไฟฟ้า (Power Car) 8 คัน และในจำนวนทั้งหมดแบ่งเป็นรถสำหรับใช้งาน 104 คัน ส่วนอีก 11 คัน ใช้เป็นรถสำรองรวมทั้งสิ้น 115 คัน.
คนไทยเฮ! การรถไฟฯ เผยรถโดยสารรุ่นใหม่รอบแรก 39 คัน เตรียมรับมอบภายใน ก.ค.นี้ ก่อนทยอยรับมอบครบ 115 คัน ในสิ้นปีนี้ พร้อมเปิดให้บริการขบวนรถด่วนพิเศษ 4 เส้นทาง เชียงใหม่, อุบลราชธานี, หนองคาย และหาดใหญ่ ไป–กลับ วันละ 2 ขบวน
null
รถไฟขบวนใหม่,โบกี้ใหม่,รับมอบรถไฟใหม่,การรถไฟแห่งประเทศไทย,ขบวนรถด่วนพิเศษ,ข่าว,เศรษฐกิจ,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/648774
ทปอ.เลิกประกาศชื่อ นร.คะแนนสูงสุด 10 อันดับของประเทศ
วันนี้ (29 พ.ค.2562) นายพีระพงศ์ ตริยเจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ผช.เลขาฯ ทปอ.) กล่าวว่า ทปอ.ได้ประกาศผลการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (TCAS) ประจำปีการศึกษา 2562 รอบ 4 แอดมิชชัน ไปช่วงค่ำวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่าน ซึ่งภาพรวมพบว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสำหรับผู้สมัครสามารถเข้าระบบเพื่อตรวจสอบการประกาศผลเป็นรายบุคคลแล้ว ไม่มีปัญหาระบบล่ม ซึ่งรอบนี้เลือกประกาศผลก่อนเวลา 2 วัน เพื่อให้นักเรียนได้มีเวลาเตรียมตัวสัมภาษณ์ และป้องกันปัญหาเว็บล่มหรือมีผู้ที่ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนเว็บไซต์อย่างที่ผ่านมาขณะที่ การประกาศผลคะแนน TCAS รอบ 4 ในครั้งนี้จะไม่มีการประกาศรายชื่อนักเรียนที่สอบได้คะแนนสูงสุดของคณะหรือสาขาวิชา เป็นอันดับ 1 - 10 ของประเทศอย่างเช่นทุกปี แต่จะประกาศเพียงคะแนนสูงสุด-คะแนนต่ำสุดผ่านทาง เว็บไซต์ เท่านั้น เนื่องจาก ทปอ.พิจารณาแล้วว่าใน TCAS รอบ 1-3 ที่ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ก็มีเด็กเก่งในแต่ละรอบผ่านการคัดเลือก แต่ ทปอ.ก็ไม่ได้มีการประกาศรายชื่อเด็กแต่อย่างใดทั้งนี้ ในรอบ 4 ก็ไม่ควรประกาศเช่นเดียวกัน เพราะไม่อยากให้เป็นการยกย่องเฉพาะบุคคล อีกทั้งการรับแต่ละรอบมหาวิทยาลัยก็มีการกำหนดหลักเกณฑ์การรับที่ต่างกันจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ ซึ่งจากนี้จะถือแนวทางนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับปัญหาส่วนใหญ่ที่พบหลังการประกาศคะแนน นายพีระพงศ์ ระบุว่า เด็กสงสัยว่าคะแนนตัวเองสูงกว่าคะแนนต่ำสุดของสาขาทำไมถึงไม่ติด ซึ่งอาจมาจากนักเรียนดูช่องคะแนนผิด และมีกรณีสาขาวิชาเปลี่ยนกลุ่มสาขา ตรงนี้เป็นความผิดพลาดจากการส่งข้อมูลสาขาของมหาวิทยาลัย ซึ่ง ทปอ.ได้แจ้งให้มหาวิทยาลัยแก้ไขแล้ว
ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ทปอ. ยกเลิกประกาศรายชื่อนักเรียนที่สอบได้คะแนนสูงสุดของคณะหรือสาขาวิชา เป็นอันดับ 1 - 10 ของประเทศรอบแอดมิชชันอย่างเช่นทุกปี ชี้แต่ละรอบมหาวิทยาลัยมีกำหนดหลักเกณฑ์การรับต่างกันจึงเปรียบเทียบกันไม่ได้
สังคม
ทอป.,คะแนนสูง-ต่ำ,แอดมิชชัน,เด็กเก่ง,TCAS,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/280448
นักศึกษาชิลียึดโรงเรียนประท้วง ร้องรื้อระบบการศึกษาให้เป็นธรรม
นักเรียนและนักศึกษาในชิลีหลายร้อยคนถูกสลายการชุมนุมวานนี้ หลังยึดโรงเรียนในกรุงซานติเอโกหลายแห่งและปิดถนนเพื่อกดดันให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณหนุนการศึกษาและยกเลิกการแปรรูปมหาวิทยาลัย15 ส.ค. 55 - นักศึกษาหลายร้อยคนในกรุงซานติเอโก เมืองหลวงของประเทศชิลี ทำการประท้วงโดยยึดโรงเรียนหลายแห่ง และปิดถนนหลายเส้นใจกลางเมือง เพื่อประท้วงรัฐบาลให้ปฏิรูประบบการศึกษาระดับมัธยมและมหาวิทยาลัยให้ประชาชนสามารถมีสิทธิเข้าถึงได้มากขึ้น มีรายงานว่าตำรวจได้เข้าสลายการชุมนุมแล้ววานนี้ แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงยึดโรงเรียนประท้วงได้อย่างน้อย 7 แห่งนักศึกษาชิลีซึ่งได้ประท้วงกันต่อเนื่องโดยการหยุดเรียนช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เรียกร้องให้รัฐบาลรื้อและปฏิรูประบบการศึกษาในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกแปรรูปในสมัยเผด็จการของพลเอกออกุสโต ปิโนเชต์ ปกครองชิลีตั้งแต่ปี 2516- 2533 ทำให้ค่าเล่าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยและมัธยมมีค่าใช้จ่ายที่สูง โดยมีนักเรียนร้อยละ 45 เท่านั้นที่เรียนอยู่ในโรงเรียนของรัฐบาล โดยมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในชิลีเป็นของเอกชนทั้งนี้ ในปัจจุบัน รัฐบาลชิลีมีงบประมาณสนับสนุนด้านการศึกษา คิดเป็นร้อยละ 4.4 ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เท่านั้น โดยต่ำกว่ามาตรฐานของสหประชาชาติที่กำหนดไว้ร้อยละ 7ผู้ชุมนุมกล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาของคุณภาพการศึกษาที่ตกต่ำ คุณภาพอาจารย์และครูที่ไม่ดีเท่าที่ควร ค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัยที่สูง และการให้กู้เงินด้านการศึกษาของธนาคารทีมีดอกเบี้ยสูงเกินไป ทำให้เยาวชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาได้เนื่องจากไม่มีเงินเพียงพออย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีของชิลี เซบาสเตียน ปิเนร่า ปฏิเสธข้อเรียกร้องของนักศึกษาชิลีที่ให้ปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ และยื่นข้อเสนอจะตั้งกองทุนการศึกษาราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งให้ทุนการศึกษา และลดดอกเบี้ยเงินกู้การศึกษาจากร้อยละ 6 เป็นร้อยละ 2 แทน โดยเขากล่าวว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงสถาบันการศึกษาได้มากขึ้น ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ผู้นำนักศึกษายังไม่พอใจ และชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อภาคเอกชนถูกควบคุมโดยรัฐ และการหยุดทำให้การศึกษาเป็นธุรกิจเพื่อการค้ากำไรทั้งนี้ การประท้วงระบบการศึกษาของนักศึกษาชิลี ได้ดำเนินมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว หลังจากที่ได้เริ่มต้นด้วยการประท้วงใหญ่เมื่อเดือนกันยายนปี 2554 โดยในช่วงแรก รัฐบาลยอมทำตามข้อเรียกร้องโดยตั้งกองทุนการศึกษา และเปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องอื่นๆ ของนักศึกษาก็ไม่ได้รับการนำไปปฏิบัติ ในขณะเดียวกัน การประท้วงของขบวนการนักศึกษา ก็ได้ส่งผลให้คะแนนนิยมของเซบาสเตียน ปิเนร่า ประธานาธิบดีคนปัจจุบันลดลงอย่างมากก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักศึกษาหลายพันคนได้เดินขบวนประท้วงในกรุงซานติเอโก ก่อนจะถูกสลายการชุมนุมโดยสายฉีดแรงดันน้ำ เนื่องจากมีการก่อจลาจลโดยการเผารถเมล์ 3 คัน ทำให้มีการจับกุมผู้ชุมนุม 75 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 49 คน รัฐบาลได้ประณามผู้นำนักศึกษาที่ยอมให้มีการประท้วง เนื่องจากการเดินขบวนถูกสั่งห้ามในกรุงซานติเอโกที่มา: แปลและเรียบเรียงจากChile student protesters occupy high schools
นักเรียนและนักศึกษาในชิลีหลายร้อยคนถูกสลายการชุมนุมวานนี้ หลังยึดโรงเรียนในกรุงซานติเอโกหลายแห่งและปิดถนนเพื่อกดดันให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณหนุนการศึกษาและยกเลิกการแปรรูปมหาวิทยาลัย 15 ส.ค.
ต่างประเทศ,การศึกษา
ชิลี,การปฏิรูป,การศึกษา,การแปรรูปมหาวิทยาลัย,ขบวนการนักศึกษา,ซานติเอโก
https://prachatai.com/journal/2012/08/42075
อัจฉริยะ เผยฐานะ กุ้งมังกร 5 หมื่น แย้มนอกจากคลิป มีหลักฐานเด็ดอีก
ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ปธ.เครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม มาพูดคุยในรายการต่างคนต่างคิด ทางช่องอมรินทร์ ทีวี ถึงกรณีแฉขบวนการกุ้งมังกร 5 หมื่น และเรื่องความสัมพันธ์ของ นายอัจฉริยะ และทนายชื่อดัง ซึ่งก่อนหน้าที่มีความสนิทสนมกัน,เมื่อถามถึงเรื่องของทนายชื่อดัง กับหญิงคนหนึ่ง ที่นายอัจฉริยะ อ้างว่า ทนายรณรงค์ ก็ทราบดี ทนายรณรงค์ ตอบว่า ก็ทราบ เพราะตนเจอโดยบังเอิญแต่ไม่ได้คุยกัน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่อย่างหนึ่งที่รู้ได้คือ ถ้าวันศุกร์เปิดไป คนจะมาหาตนเยอะ ตนก็เลยไม่อยู่ ซึ่งตอนนี้ตนก็ยังติดต่อกับทั้งสองคนอยู่ เพราะตอนแรกก็คิดว่า มันน่าจะมีทางลงได้ แต่สุดท้าย แนวทาง อุดมการณ์ อาจจะไม่ตรงกัน,เมื่อถามถึงทนายเกี่ยวกับการวิ่งคดี ทนายรณรงค์ เผยว่า ก่อนหน้าก็มีคนติดต่อตนมาเยอะในคดียาเสพติด ซึ่งเขาก็จะถามเราว่า เราวิ่งคดีเป็นหรือไม่ ลดโทษอะไรแบบนี้ เราก็บอกทีมงานว่า ถ้าแบบนี้มา บอกเราไม่รู้จักใคร เราทำได้แค่เป็นทนายจำเลยมาซักค้านตามพยานหลักฐาน ว่าตามหน้างาน วิ่งเต้นเอาเงินไปจ่าย เราไม่ทำ,ต้องบอกอย่างหนึ่งว่า คดียาเสพติดมันได้เงินเยอะ อย่างคดีทั่วไปได้เงินไม่กี่หมื่น แต่ถ้าเป็นคดียาเสพติด ได้เป็นหลักแสน เป็นล้าน บางคนก็อยากทำแต่ยาเสพติด เพราะมันได้เงิน เท่ากับทำ 20-30 คดี,เมื่อถามว่า การวิ่งเต้นคดี ปกติมีหรือไม่ ทนายรณรงค์ ยอมรับว่าก็มี แต่ขึ้นอยู่กับว่า เขาจะมาเปิดเผยหรือไม่ แต่เราไม่เคย ทั้งนี้ในเรื่องของสำนวนคดี ไม่ว่าจะเป็นชั้นพนักงานสอบสวน หรืออัยการ ถือว่าเป็นความลับ จะให้ดูได้เฉพาะคำเบิกความ หรือคำให้การของตัวเอง บางครั้งคำให้การของตัวเอง ในชั้นพนักงานสอบสวน ยังขอดูไม่ได้เลย ต้องไปเอาหมายศาลมา,นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ อดีตประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยถึงกุ้งมังกรตัวละ 5 หมื่นว่า วันนี้ตัวละครสำคัญได้เดินทางไปพบชุดสอบสวนด้วย ซึ่ง กุ้งมังกรตัวนี้ อยู่ในฐานะพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ได้อยู่ในขบวนการ เพราะทุกคนที่มาช่วยกันตอนนี้ เนื่องจากเห็นความไม่ชอบมาพากล และอยากเห็นความเป็นธรรมในสังคม และอยากทำลายวงจรยาเสพติด ที่มีเงินแล้วมาวิ่งเต้นล้มคดี,เมื่อถามว่า จำนวน 5 หมื่นนั้น เป็นอะไร นายอัจฉริยะ ตอบว่า เป็นเงินสด ซึ่งเราก็ได้หลักฐานสำคัญมา ที่จะมัดตัวเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ซึ่งนอกจากพยานแล้ว เรามีคลิปและภาพถ่าย นอกจากนี้ เรามีคนที่รู้เห็นเหตุการณ์อีกคนหนึ่ง แต่ยังไม่ได้นำมา,เมื่อถามถึงขบวนการว่ามีกี่คน นายอัจฉริยะ ตอบว่า ตอนนี้ที่เรามีพยานหลักฐาน ก็ไม่ต่ำกว่า 3 คน แต่บอกสังกัดไม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ละคนก็พยายามทำลายหลักฐาน,เมื่อถามว่า เงิน 5 หมื่นที่พูดถึง เป็นเงินสำหรับสิ่งใด นายอัจฉริยะ ตอบว่า เพื่อไม่ให้นำความลับไปเปิดเผย ซึ่งจริงๆ คือหนึ่งแสน แต่วันนั้นมัดจำ 5 หมื่น แล้วสั่งกุ้งมังกรมาเลี้ยง และอีก 5 หมื่นจะจ่ายเมื่อทำตามที่เขาต้องการ ,ทั้งนี้ เมื่อถาม ทนายรณรงค์ ว่า หากมีการจ่ายเงินวิ่งคดี ไม่ว่าจะวิ่งเอง หรือผ่านทนาย มีความผิดหรือไม่ มีความผิด เนื่องจากจ่ายเงินแล้ว ก็ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว.,(ขอบคุณข้อมูล ,รายการต่างคนต่างคิด,)
อัจฉริยะ เผยฐานะ กุ้งมังกร ตัวละ 5 หมื่น บอกที่จริง 1 แสน แต่นี่แค่มัดจำ แย้มนอกจากคลิป ยังมีภาพถ่าย เป็นหลักฐานเด็ด มัดตัวเจ้าหน้าที่อีก 2 ราย
ข่าว,สังคม
กุ้งมังกร5หมื่น,อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์,ทนายดัง,วิ่งคดี,รณรงค์ แก้วเพ็ชร,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1384700
ไซปรัส-สหภาพยุโรป หารือแก้วิกฤตการเงิน
นายยานนาคิส โอมิรู (Yannakis Omirou) ประธานสภาของไซปรัสขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบและรอฟังผลการเจรจาในขณะที่ประธานาธิบดีนิคอส อนาสตาเซียเดส (Nicos Anastasiades) และรัฐมนตรีคลัง กำลังการหารือกับผู้แทนสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ อยู่ในกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยี่ยม เพื่อหาทางบรรลุข้อลงและเงื่อนไขในการขอรับเงินช่วยเหลือฉุกเฉินให้ได้ก่อนกำหนดเส้นตายของธนาคารกลางยุโรปในวันนี้ (25 มี.ค.2556)นายโอมิรูขอให้ประชาชนชาวไซปรัสอย่าแพร่กระจายข่าวลือใดๆ ที่จะส่งผลร้ายต่อประเทศในช่วงวิกฤต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันทั้งนี้หากไซปรัสไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขขอรับเงินช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันตามกำหนดเส้นตาย ธนาคารใหญ่ 2 แห่งที่กำลังปัญหาต้องล่มสลาย เพราะไม่ได้รับเงินอัดฉีดกู้สภาพคล่องจากธนาคารกลางยุโรปและไซปรัสอาจเป็นชาติแรกที่ออกจากกลุ่มยูโรโซน
ประธานสภาของไซปรัส ต้องวิงวอนให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบใน ขณะที่ประธานาธิบดีกำลังหารือกับผู้นำสหภาพยุโรป ในเบลเยี่ยม เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงและเงื่อนไขในการขอรับเงินช่วยเหลือฉุกเฉินมาแก้วิกฤตการเงินให้ได้ก่อนกำหนดเส้นตายในวันนี้ (25 มี.ค.2556)
ต่างประเทศ
ช่วยเหลือ,ยุโรป,ยูโรโซน,สหภาพยุโรป,เงิน,ไซปรีส
https://news.thaipbs.or.th/content/156740
เขตปกครองพิเศษ: ผ่าทางตันวิกฤตไฟใต้?
ประโยคสั้นๆ นี้เป็นเป็นคำให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของมาเลเซีย แต่ก็ได้รับความสนใจการสื่อต่างๆ ทั่วโลก นอกจากจะสะท้อนว่าปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้เป็นที่จับตามองเพียงไหนในระดับโลกแล้ว ยังบ่งบอกชัดว่า มหาธีร์ ยังคงมีความสำคัญอยู่เพียงใด เขายังคงมีอิทธิพล หรือความเป็นผู้นำทางความคิดอยู่สูงมาก คนในมาเลเซียเองก็รู้สึกว่ามหาธีร์ยังทำหน้าที่ในการคุมการเมืองอยู่ วิโรจน์ อาลี อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ให้ฟัง --------------- วิโรจน์กล่าวว่า มหาธีร์ยังมีความสำคัญในฐานะเป็นผู้นำความคิดในองค์การที่ประชุมกลุ่มประเทศอิสลาม(โอไอซี) ที่มีสมาชิกมากกว่า 57 ประเทศ มหาธีร์มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้โอไอซีประสบความสำเร็จในฐานะเป็นคนกลางที่มีบทบาทในการเคลื่อนไหวทำรัฐที่เป็นอิสระ ไม่ใช่รัฐอิสระแบบหลุดไปเลยเดี่ยวๆ แต่หมายถึงเขตปกครองพิเศษ ในฟิลิปินส์ก็มีอยู่ทั้งหมด 4 เขต ซึ่งเป็นหมู่เกาะทางภาคใต้ที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มาก และกำลังขยายเป็น 6 เขต วิโรจน์ระบุ วิโรจน์เท้าความถึงเขตปกครองพิเศษในฟิลิปปินส์ให้ฟังว่า มีความน่าสนใจมาก เพราะสิ่งที่มหาธีร์และโอไอซีเสนอก็คือ 1. ให้ทหารออกไปจากพื้นที่ 2.พยายามใช้พลเรือนเข้ามาจัดการแก้ไขปัญหามากขึ้น 3. ยอมให้มีศาลทางศาสนา มีธนาคาร ตลอดจนเปลี่ยนแปลงวันหยุดให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมมุสลิม ส่วนการปกครองตนเอง อาจจะใช้โครงสร้างเหมือนกับรัฐ มีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน แต่พยายามให้คนพื้นที่มีบทบาทมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ที่สำคัญที่สุดคือมีการพยายามตั้งโรงเรียนขึ้นมา ให้เด็กๆ ทั้งชาวมุสลิม และชาวคริสต์ เข้ามาเรียนหนังสือร่วมกัน เพื่อให้รับรู้ข้อมูลข่าวสารทั้งสองฝ่าย โดยโอไอซีทำหน้าที่เหมือนองค์กรระหว่างประเทศองค์กรหนึ่งที่จะทำการตรวจสอบ หรือคอยติดตามการทำงานของรัฐ และการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ดังกล่าวว่าเป็นไปตามข้อกำหนดที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้หรือไม่ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะ แต่ไม่ได้มีผลทางกฎหมาย กล่าวสำหรับหลักการของ เขตปกครองพิเศษ ที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์ จะว่าไปก็แทบไม่ต่างอะไรกับข้อเสนอของนายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่าง ฮัจยีนิเดร์ วาบา ที่เคยเสนอต่อรัฐบาล แต่ปฏิกิริยาตอบโต้จากหลายฝ่ายของไทยที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าคนยังไม่เข้าใจมากกว่า ไม่มีความรู้เรื่องแนวคิดการให้อำนาจเป็นเขตปกครองพิเศษ มันไม่ใช่เรื่องแปลก ในฟิลิปินส์ก็ทำ ในเมืองจีนก็ทำ ในประเทศที่มีปัญหาเรื่องชนกลุ่มน้อยเกือบทุกประเทศทำเรื่องนี้หมด เราน่าจะต้องให้ความสนใจในประเด็นนี้มากพอสมควร อาจารย์หนุ่มจากรั้วโดมกล่าว เขากล่าวอีกว่า เป็นความเข้าใจผิดพอสมควรที่คนคิดว่าเขตปกครองพิเศษเป็นเรื่องเดียวกับการแบ่งแยกดินแดน พร้อมทั้งยืนยันว่ามีงานวิจัยทางวิชาการหลายชิ้นที่บอกชัดเจนว่า คนพื้นที่ก็ไม่ได้อยากจะแยกดินแดน ไม่ได้อยากเข้าไปอยู่ฝั่งมาเลเซีย เพียงแต่อยากมีสิทธิ และเสรีภาพเหมือนกับคนอื่นๆ ผมคิดว่าที่มันน่าเศร้าที่สุดก็คือว่าเรื่องของการแบ่งแยกดินแดนในรอบหลายปีที่ผ่านมามันไม่หาย ยิ่งน่าสนใจก็คือ พวกที่เชื่อทักษิณเริ่มมีมากขึ้น และเริ่มแสดงตัวออกมาชัดเจน แล้วมันจะยิ่งทำให้สังคมถูกแยกฝ่ายแยกพวกกันไปใหญ่ ที่แปลกใจมากก็คือรัฐบาลก็ไม่ได้ออกมาพูดถึงผลร้าย ถ้าเป็นอเมริกาจะพูดเลยว่ามีพวกนั้นแล้วจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คนก็จะถูกทำให้เชื่อ แต่ทักษิณก็เฉยๆ ไม่ฟันธง ไม่ชัดเจน แล้วมันก็ไม่มีการชี้วัด เชื่อมโยงว่าปัญหาภาคใต้กระทบต่อเศรษฐกิจด้วย จึงไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไมคนชั้นกลางจึงเริ่มมีการพูดว่า จัดการพวกมันไปเสีย หรือถึงที่สุดแล้วมันมีอัตลักษณ์ที่แยกกันอยู่แล้ว เป็นเขาเป็นเรา วิโรจน์วิเคราะห์ พร้อมกันกับที่เขายอมรับว่า เขาช็อคที่คำว่า ชาติ กลับเข้ามามีบทบาท ทั้งๆที่ ในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา ดูจากการเรียกร้องของกลุ่มเอ็นจีโอ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ทุกฝ่ายต้องการแยกตัวออกจากความเป็นชาติไปสู่ความเป็นท้องถิ่น แต่พอเรื่องนี้ทุกอย่างกลับไปอยู่ที่เดิม ทั้งที่เกือบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา แทบไม่ได้ยินว่ามุสลิมต้องการแบ่งแยกดินแดน เมื่อถามว่ากระแสสนับสนุนการใช้ความรุนแรงของรัฐบาล จะทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับโลกมุสลิมหรือไม่ วิโรจน์มองว่า ณ จุดนี้คงยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะในช่วงที่เกิดเรื่องขึ้นมา ชาวมุสลิมยังมีลักษณะกระจัดกระจายมาก ไม่ได้รวมกัน และส่วนใหญ่เป็นพวกสายกลางๆ ไม่อยู่ข้างฝ่ายใด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มีแนวโน้มทำให้มุสลิมสายกลางหันไปร่วมกับกลุ่มต่อต้านมากขึ้น แทนที่จะรวมตัวกันขึ้นมาแล้วเรียกร้องออกไปสู่เวทีโลก เพื่อให้เกิดแรงผลักดันให้รัฐบาลปรับตัว ปรับนโยบาย ดังนั้น จึงอยู่ที่พลังภายในประเทศมากกว่าว่ากลุ่มมุสลิมในประเทศไทยจะสามารถต่อเชื่อมและสามารถใช้อำนาจของกลุ่มเรียกร้องได้มากแค่ไหน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ผมก็ไม่เข้าใจว่าทักษิณทำอะไร เมื่อมีท่าทีแข็งกร้าวแล้วจะทำให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์อะไรทางการเมือง ถ้าคิดให้ร้าย นี่อาจเป็นโอกาสให้คนที่อยากทำร้ายรัฐบาลมีโอกาสหาแนวร่วมต่อต้านรัฐมากขึ้น วิโรจน์เล่าว่าจากการพูดคุยกับนักวิชาการชาวมาเลย์คนหนึ่งทำให้รู้ว่า คนปัตตานี หรือคนในภาคใต้เข้าไปทำงานในมาเลเซียจำนวนมาก กระทั่งคนในรัฐเคดาห์จนเกือบจะถึงลังกาวี ฟังภาษาไทยได้ และแทบจะพูดภาษาไทยได้หมด เขาบอกว่าตอนนี้เริ่มมีการพูดจากันว่าจะส่งเงินเข้าไป เป็นเรื่องน่ากลัวเพราะเท่ากับเห็นด้วยกับการก่อการร้าย และพรรคการเมืองท้องถิ่นต่างๆ ในมาเลเซียก็เริ่มที่หันมาให้ความช่วยเหลือ และเขาบอกพวกสายกลางๆ ในมาเลเซียเองก็รู้สึกแย่กับเรื่องนี้ ดังนั้น เขามองว่าจึงเป็นไปได้ที่การออกมาพูดของมหาธีร์ครั้งนี้เป็นการสะท้อนมุมมองของโอไอซีทั้งหมดต่อกรณีภาคใต้ กล่าวอย่างถึงที่สุด สิ่งที่วิโรจน์วิเคราะห์อาจตีความได้ว่า กรณีตากใบอาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายทำให้วิกฤตการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยกระดับกลายเป็นสถานการณ์ก่อการร้ายในระดับสากล
หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่อ.ตากใบ จ.นราธิวาสไม่นาน ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำคนสำคัญแห่งมาเลเซียก็ออกมาพูดถึงแนวทางแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลไทยควรพิจารณาทบทวนความเป็นไปได้
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2004/11/1016
วิทยาแฉ เก้าอี้ตร.นครบาล ราคาบวกอีก2เท่า
ซัดมีตัวใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ เย้ยพล.ต.ต.ใหญ่กว่าพล.ต.อ. เทศา บินเงียบรีบรายงานตัว,วิทยาแฉซ้ำ ซื้อขายตำแหน่งไม่ใช่ แค่ที่ภาค 8 นครบาลยิ่งหนักใหญ่ บวกอีก 2 เท่าของราคา ปูดอีกมีตัวใหญ่อยู่กรุงเทพฯคนวงการตำรวจรู้จักชื่อหมด จี้จุดคีมึ้ง ประเทศนี้ พล.ต.ต. ใหญ่กว่า พล.ต.อ. ด้าน น.1 จูงมือสารวัตรใหม่ป้ายแดง โชว์ถามต่อหน้าสื่อโต้ซื้อขายตำแหน่งในเมืองกรุง ส่วน บิ๊กป้อม รับเด้ง ผบช.ภ.8 ลั่นใครเอี่ยวจัดการหมด ถาวร แนะกันคนจ่ายเป็นพยาน เล่นงานบิ๊กรับสินบน ยกตัวอย่างสมัยรัฐบาลสฤษดิ์ เอารัฐมนตรีเข้าคุก ส่วนอดีต ผบช.ภ.8 ตาปี 1 ย่องรายงานตัวที่ ศปก.ตร.แล้ว,กรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สะบัดปากกาเซ็นคำสั่งย้าย พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม และปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบ.ตร.มอบหมาย และมีคำสั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. หลังนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ออกมาปูดพฤติกรรมการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจระดับ สว.-รอง ผบก.พื้นที่ บช.ภ.8 ในคำสั่งแต่งตั้ง โยกย้ายนายตำรวจวาระประจำปี 59 พร้อมระบุมีกลุ่มนายตำรวจผู้พลาดหวังเตรียมตบเท้าบุกไปทวงเงินที่จ่ายไปรวมยอดกว่า 50 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปนั้น,ความคืบหน้าเรื่องนี้ วิทยาปูดอีก ซื้อขายตำแหน่งในนครบาลหนักกว่า เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 13 มิ.ย. นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส. และอดีตสมาชิก สปท. ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งโยกย้าย พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งในเขตพื้นที่ บช.ภ.8 ว่า เป็นการตัดสินใจของ ผบ.ตร. ถ้าถามว่าเป็นการแก้ปัญหาถูกจุดหรือไม่ ก็ยังไม่ถูกทั้งหมด เพราะต้องแก้ปัญหาทั้งโครงสร้างการบริหาร การตัดสินใจของ ผบ.ตร. เชื่อว่าคงมีข้อมูลเช่นกัน เรื่องการซื้อขายตำแหน่งไม่ใช่แค่ที่นี่ที่เดียว ขอให้ไปดูข้อมูลที่อื่นด้วย โดยเฉพาะตำรวจนครบาลที่บวกไปอีก 2 เท่าของราคา เชื่อว่าคนที่รู้ข้อมูลเรื่องนี้ดีที่สุดคือ ผบ.ตร.,เมื่อถามถึงกระแสข่าวการย้าย ผบช.ภ.8 เป็นเพราะ ผบ.ตร.ต้องการเอาคืนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กรณีมีสมาชิกกลุ่ม กปปส.ออกมาแฉมีการซื้อขายเก้าอี้ตำรวจหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า สามารถคิดอย่างนั้นได้ ส่วนตัวเชื่อว่า ผบ.ตร.มีข้อมูลจริง จึงมีคำสั่งดังกล่าวออกมา แต่ปัญหาคือ รัฐบาลจะเอาจริงเรื่องการปฏิรูปตำรวจหรือไม่ อย่าคิดว่าเรื่องนี้จะจบ เพราะไม่ใช่จะเกิดที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย ที่อื่นมีหรือไม่ แล้วจะจัดการอย่างไร,เรื่องซื้อขายตำแหน่งไม่มีผู้เสียหาย และไม่มีใครกล้าเปิดตัว โดยเฉพาะในนครบาล แล้วจะหมกเม็ดปัญหาตำรวจไว้ใต้พรมแบบนี้ตลอดหรือ พอถึงฤดูกาลโยกย้าย ก็สั่งย้ายกัน มีตัวใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ที่คนวงการตำรวจรู้จักชื่อกันหมด เอาเป็นว่าประเทศนี้ พล.ต.ต.ใหญ่กว่า พล.ต.อ. นายวิทยากล่าว,ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวว่า รับทราบข่าวที่มีการออกมาพูดของนักการเมืองทางสื่อต่างๆ แต่ยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม จะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้นิ่งนอนใจ ถ้ามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์จะตรวจสอบให้ทันที สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเป็นอำนาจของ ผบ.ตร.แต่เพียงผู้เดียว พร้อมรับผิดชอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว หากมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ขอให้ส่งมาเข้าระบบการตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรม พร้อมรับข้อมูลทุกคน แต่ขอให้เป็นข้อมูลจริงเพื่อได้แก้ไขปัญหา เพราะในการแต่งตั้งทุกคำสั่งมีกฎเกณฑ์ มีหลักเกณฑ์ มีขั้นตอน และวิธีการปฏิบัติที่ชัดเจนโปร่งใส ผบ.ตร.มีหน้าที่ในการพิจารณาคำสั่งให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะเรื่องซื้อขายตำแหน่งเป็นนโยบายสำคัญ แต่ในทุกคำสั่งย่อมมีทั้งคนที่สมหวังและผิดหวัง เป็นธรรมชาติของการแต่งตั้งโยกย้าย ทุกตำแหน่งต้องอยู่ในกรอบวิธีการแต่งตั้ง ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ซื้อขายตำแหน่งเข้ามาเกี่ยวข้อง,ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าว หลังประชุมมอบนโยบายให้กับนายตำรวจระดับ รอง ผบก.-สว. ที่ได้รับการแต่งตั้งมาดำรงตำแหน่งใน บช.น. ทั้งเลื่อนตำแหน่งและหมุนเวียน 512 คน กรณีนายวิทยา แก้วภราดัย ออกมาแฉเรื่องการซื้อ-ขายตำแหน่งแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจว่า บช.น.มีมากกว่าที่อื่น โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ จูงมือ พ.ต.ต.สมประสงค์ รักษาแก้ว รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง เพิ่งได้รับตำแหน่ง สวป.สน.บวรมงคล เข้ามาถามว่า รู้ไหมว่าจะได้เลื่อนยศตำแหน่ง พ.ต.ต.สมประสงค์ ตอบว่า ไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะได้เลื่อนยศตำแหน่ง ก่อนที่ พล.ต.ท.ศานิตย์จะกล่าวต่อว่า ตนแต่งตั้งคนที่ทำงานทำความดี นี่แค่ตัวอย่างเดียว ยังมีอีกหลายคนในนครบาล,ส่วนการเคลื่อนไหวของ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 หลังถูกคำสั่งย้ายขาด มีรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.เทศา เดินทางมาเซ็นรับทราบคำสั่งที่ ศปก.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนเดินทางกลับ ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ โดยเจ้าตัวรับสายแต่ปฏิเสธตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก่อนจะปิดมือถือไปในที่สุด,วันเดียวกัน หลังมีคำสั่งย้าย พล.ต.ท.เทศา มีรายงานจากแหล่งข่าวใน บช.ภ.8 ถึงเส้นทางการเรียกรับเงินในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจว่า ที่ผ่านมา มีการวิ่งเต้นจ่ายเงินกันมานานแล้ว แต่ไม่ครึกโครมเหมือนในช่วง 2 ปีนี้ โดยเริ่มมีการเรียกรับเงินกันตั้งแต่วาระการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2558 แต่ไม่สามารถแต่งตั้งได้ เนื่องจาก คสช.ใช้ ม.44 ให้อำนาจ ผบ.ตร.เป็นผู้แต่งตั้ง แต่มีการจ่ายเงินให้แก่ผู้บังคับบัญชาระดับภาคไปแล้ว ต่อมาสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 มีคำสั่งให้นายตำรวจไปช่วยราชการ เมื่อเดือน ก.ค.ปี 59 ตั้งแต่ระดับ รอง ผบก. ถึงสารวัตร ราว 20 ตำแหน่ง ไปรักษาราชการแทนในตำแหน่งที่สูงขึ้น ผู้ที่ได้รับคำสั่งคือกลุ่มที่ถูกเรียกรับเงิน และเรียกรับเพิ่มขึ้นในคำสั่งล่าสุด สุดท้ายส่วนใหญ่ไม่ได้รับแต่งตั้งจนนำมาสู่การร้องเรียนดังกล่าว,แหล่งข่าวเดียวกันเปิดเผยต่อว่า การเรียกรับเงินเพื่อการแต่งตั้งนั้น มีการแบ่งกันอย่างชัดเจนระหว่างผู้ใกล้ชิดกับ ผบช.ภ.8 จำนวน 2 คน กลุ่มหนึ่งจ่ายเงินกันที่เต็นท์ขายรถยนต์มือสอง ส่วนอีกกลุ่มจ่ายที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 นอกจากนี้ การวิ่งเต้นจ่ายเงินเพื่อเลื่อนตำแหน่งในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 ไม่ได้มีเพียงกลุ่มของนายตำรวจในพื้นที่เท่านั้น ่ยังมีกลุ่มนายตำรวจนอกพื้นที่เข้ามาประสานร่วมกับตำรวจระดับนายพลผู้หนึ่ง ในลักษณะให้นายพลคนดังกล่าวเป็นนายหน้า และทราบว่านายพลคนดังกล่าวได้รับเงินจากส่วนแบ่งไปถึง 15 ล้านบาท,อีกด้านหนึ่ง ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีย้าย พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ว่า ได้รับการร้องเรียน พล.ต.ท.เทศา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งนายตำรวจระดับ สว.-รอง ผบก.ใน บช.ภ.8 คงต้องรอการสอบสวนก่อน เพราะตั้งชุดตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ผบ.ตร.ให้คนที่มีปัญหาออกมาก่อนแล้วให้ผู้ช่วย ผบ.ตร.ไปรักษาการในตำแหน่งดังกล่าว ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้นยังไม่ทราบ ถ้าไปถึงใครค่อยว่ากัน เมื่อถามว่ามีนักการเมืองออกมาระบุ มีการซื้อขายตำแหน่งในพื้นที่ตำรวจนครบาลด้วย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะพูดอะไรต้องระบุให้ชัด ถ้าพูดออกมาลอยๆใครจะรับผิดชอบ จะมาพูดส่งเดชไม่ได้ แต่การโยกย้ายครั้งนี้มีข้อมูลมีเหตุมีผลอยู่จนต้องตั้งกรรมการสอบ ถ้าไม่มีเหตุผลคงไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้ง เพราะคนสอบครั้งนี้เป็นถึงจเรตำรวจ ไม่ว่าคนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งเป็นใครจะจัดการทั้งหมด,ด้านนายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.และอดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท้าให้นำตัวตำรวจหรือผู้ที่จ่ายเงินวิ่งเต้นแล้วไม่ได้ตำแหน่งในการโยกย้ายนายตำรวจว่า กรณีมีผู้หวังดีต่อบ้านเมือง หรือประชาชนร้องเรียนเรื่องทุจริตคอร์รัปชันต่อผู้บริหาร สิ่งแรกที่ผู้บริหารบ้านเมืองที่ดีต้องทำคือควรรับฟังข้อมูลในอาการสงบ จากนั้นควรเริ่มขั้นตอนตรวจสอบ เชิญบุคคลที่เปิดเผยเรื่องไม่ชอบมาพากลมาสอบถาม ถึงเวลานี้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงออกมาเปิดเผยเรื่องวิ่งเต้นโยกย้ายซื้อขายตำแหน่งตำรวจแล้วคือ 1.พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สปท. 2.นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สปท. และ 3.นายวิทยา แก้วภารดัย อดีต สปท. แกนนำ กปปส. มั่นใจว่าบุคคลทั้ง 3 คนหวังดีต่อชาติบ้านเมือง ขอให้พล.อ.ประวิตร เชิญมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงแล้วค่อยสรุปจะดีกว่า ปัญหานี้ควรจะได้รับการแก้ไขจากผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงด้วยการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ท้าทายกลับไปมา,นายถาวรกล่าวต่อว่า มีตัวอย่างการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่ได้ผลคือ การนำคนที่ยอมจ่ายเงินกันตัวไว้เป็นพยาน เพื่อหาตัวคนที่รับสินบนตัวจริง เคยมีกรณีที่เกิดขึ้นช่วงรัฐบาลจากการปฏิวัติ ที่มีอดีตรัฐมนตรีในยุครัฐบาลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ รับสินบนที่อื้อฉาว คือกรณีมีคหบดียอมจ่ายเงินสินบน 3 ล้านบาทแก่ภรรยานายทหารใหญ่ ซึ่งเป็น รมว.เกษตรฯ ขณะนั้นได้ให้เช่าที่ดินในเขตป่าสงวน 1 แสนไร่ในภาคใต้ แต่ก็ไม่ได้เช่า จึงออกมาร้องเรียนและเป็นข่าวครึกโครมยุคนั้น โดยอัยการกันคนจ่ายสินบนเป็นพยาน และเอาผิดกับคนรับสินบนและเครือข่าย จนรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งและติดคุก หากผู้บริหารบ้านเมืองต้องการแก้ไขปัญหานี้จริง ควรค้นหาความจริงกันคนจ่ายไว้เป็นพยาน ไม่ใช่ตั้งกรรมการเพื่อซื้อเวลา คนเขารู้ทั้งบ้านทั้งเมืองว่ามีพฤติกรรมเช่นนี้,ต่อมาเวลา 15.30 น. นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต สปท.และแกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ถึงกรณีการโยกย้ายตำแหน่งตำรวจในนครบาลต้องจ่ายแพงกว่าการโยกย้ายในภูธรภาค ว่า ในเขตนครบาลยึดหลักคือ ที่ไหนทำเลดีที่นั่นราคาแพง ทำเลดีหมายถึงที่ไหนมีบ่อนพนัน จะทำมาหากินคล่อง จ่ายเยอะ ที่ผ่านมาจะเห็นทหารบุกจับบ่อยครั้ง ดังนั้น นโยบายปราบปรามบ่อนได้ซบเซาไป กลายเป็นเหมือนการแกล้งหลับตาให้วิ่งเต้นตำแหน่ง จะเห็นว่าผู้กำกับ รองผู้กำกับต่างๆที่ถูกเด้ง เชื่อมโยงกับบ่อนพนันทั้งสิ้น แต่ความจริงเด้งพักหนึ่งก็กลับมาตั้งหลักได้ ตอนนี้มีคนแจ้งข้อมูลมาที่ตนเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลา จะส่งมอบข้อมูลให้กับคนที่พอไว้ใจได้ อาจเป็น ผบ.ตร.เพราะท่านรู้เรื่องทั้งหมดดี ทั้งนี้ต้องพิจารณาอีกครั้ง ที่สำคัญวันนี้ต้องเดินหน้าปฏิรูปตำรวจได้แล้ว เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ปฏิรูปแล้วเสร็จภายในหนึ่งปี ไม่ใช่ปฏิรูปตำรวจเพื่อตำรวจ ต้องหาวิธีปิดช่องการซื้อขายตำแหน่งไม่เช่นนั้นตำรวจจะกลายเป็นขี้ปากของคนทั้งประเทศ แนวคิดกระจายอำนาจตำรวจ ถือเป็นทางหนึ่ง ที่ตำรวจจะได้ดูแลประชาชนและรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี,เมื่อถามว่า การโยกย้าย พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 นายวิทยากล่าวต่อว่า ผบ.ตร.คงมีข้อมูลจึงได้ออกคำสั่งดังกล่าว แต่ก็เป็นหน้าที่ของผู้ลงนามคำสั่งต้องเปิดเผยความจริงให้ประชาชนทราบด้วย เป็นเพราะอะไร อย่างไร ทั้งนี้ ไม่ควรจะย้ายแค่ 1-2 เดือนแล้วย้ายกลับที่เดิม แบบนี้ถือว่าไม่ใช่การแก้ปัญหา
วิทยาแฉซ้ำ ซื้อขายตำแหน่งไม่ใช่ แค่ที่ภาค 8 นครบาลยิ่งหนักใหญ่ บวกอีก 2 เท่าของราคา ปูดอีกมีตัวใหญ่อยู่กรุงเทพฯคนวงการตำรวจรู้จักชื่อหมด จี้จุดคีมึ้ง ประเทศนี้ พล.ต.ต. ใหญ่กว่า พล.ต.อ.
ข่าว,การเมือง
ข่าวหน้า1,วิทยา แก้วภราดัย,ซื้อขายตำแหน่ง ตร.,สั่งย้าย,เทศา ศิริวาโท
https://www.thairath.co.th/news/politic/972103
จับปณ.โหด รัว18นัดฆ่าอริ
เหยื่อพ่อค้าก๋วยเตี๋ยว เขม่นกัน-ปมหึงหวง,ตำรวจนนท์ตามตะครุบหนุ่มไปรษณีย์กลางปืนโหด หลังก่อคดีฆ่าพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวตายคาลานจอดรถคอนโดฯเอื้ออาทร ท่าอิฐแล้วหนีไปกบดานบ้านญาติเมียใน จ.กาญจนบุรี คนร้ายสารภาพมีปากเสียงกับเหยื่อเรื่องหึงหวงเมียเก่า ก่อนปรี่เข้าฟาดปากกันอุตลุด พอสู้ไม่ได้เลยใช้ตัวช่วย ชักปืน 9 มม. รัวยิง 18 นัดจนกระสุนหมดไป 2 แมกกาซีน,ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 12 ก.พ. พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สำราญ ยินดีอารมณ์ ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ทศพร บรรจงเขียน รอง ผบก. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ถนอมจิตร รอง ผบก. พ.ต.อ.สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ ผกก.สภ.บางศรีเมือง แถลงผลจับกุม นายสมยศ โกสุมศรี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 1 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 60/2558 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางรถ จยย.คาวาซากิ รุ่นเซอร์ปิโก้ สีเขียว-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กางเกงยีนส์ที่สวมใส่วันก่อเหตุ สำเนาใบอนุญาตให้ซื้อปืน (ป.3) จับกุมได้ในเพิงพักไม่มีเลขที่ หมู่ 7 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี,พล.ต.ต.คเชนทร์ รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง รับแจ้งเหตุนายหนูเกียง จันทร์ศรี อายุ 38 ปี ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตบริเวณลานจอดรถ ระหว่างตึก 37-39 หมู่บ้านเอื้ออาทร ท่าอิฐ หมู่ 4 ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี สืบสวนทราบว่าคนร้ายคือ นายสมยศ โกสุมศรี ทำงานอยู่ไปรษณีย์กลาง บางรัก โดยมี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปขณะก่อเหตุไว้ได้ หลังทราบเบาะแส ผบก.ภ.จ.นนทบุรี สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.บางศรีเมือง และชุดสืบสวน ภ.จ.นนทบุรี ไล่ล่าจับตัวโดยเร็ว กระทั่งสืบทราบว่านายสมยศหนีไปกบดานอยู่บ้านญาติภรรยาคนที่ 2 ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ คุมตัวกลับมาสอบปากคำที่ บก.ภ.จ.นนทบุรี,นายสมยศ มือปืนโหด รับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้านว่าเป็นคนยิงนายหนูเกียง ผู้ตายจริง โดยอ้างว่าวันเกิดเหตุขี่รถ จยย.กลับไปที่ห้องพักตึก 37 อาคารเอื้ออาทร ท่าอิฐ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอาคารที่ผู้ตายพักอยู่ เพื่อเอาบิลค่าน้ำ ค่าไฟ เมื่อไปถึงพบผู้ตายยืนล้างรถก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ลานจอดรถและมีปากเสียงกัน ผู้ตายวิ่งเข้ามาชกตนล้มคว่ำ ด้วยความโมโห จึงชักปืน 9 มม. รูเกอร์ที่พกติดตัวมา กระหน่ำยิง ผู้ตายจนหมดทั้ง 2 แมกกาซีน รวม 18 นัด ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ขี่หลบหนีกลับไปที่ทำการไปรษณีย์กลาง บางรัก และโทรศัพท์หาภรรยาคนที่ 2 ให้ขับรถกระบะมารับเพื่อหลบไปกบดานบ้านญาติภรรยาใน จ.กาญจนบุรี เมื่อไปถึงสันเขื่อนแม่กลอง ภรรยาเห็นตนเครียดกลัวจะยิงตัวตาย จึงบอกให้โยนปืนทิ้งน้ำ และนำกระเป๋าสะพายที่ใส่ปืนไปเผาทิ้ง ก่อนพาไปซ่อนตัวในไร่มันสำปะหลัง กระทั่งถูกรวบตัวได้,นายสมยศอ้างอีกว่า ตนแอบคบหากับภรรยาของนายหนูเกียงมา 4 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยยังพักอาศัยอยู่ในคอนโดฯเอื้ออาทร เมื่อซื้อบ้านใหม่ที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ยังพาภรรยาผู้ตายไปอยู่กินด้วยกันในบ้านหลังดังกล่าว โดยภรรยาคนแรกและภรรยาคนที่ 2 ที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกันก็ไม่ได้ว่าอะไร หลังอยู่กินกัน 1 ปีเศษ ภรรยาผู้ตายขอกลับมาอยู่กับผู้ตาย อ้างต้องดูแลลูกเล็กๆ 2 คน ตนก็ยินยอม ซึ่งภรรยายังไปๆมาๆ ระหว่างห้องพักของผู้ตายกับบ้านตน จนวันเกิดเหตุมีใบเตือนมาที่บ้านให้ไปชำระค่าน้ำค่าไฟฟ้าของห้องพัก เมื่อตนมาเอาบิลได้พบกับผู้ตายแล้วเกิดโต้เถียงกันเรื่องความหึงหวง กระทั่งเหตุการณ์ลุกลามบานปลายรุนแรงขึ้น ยอมรับว่ายิงผู้ตายเพราะบันดาลโทสะ
ตำรวจนนท์ตามตะครุบหนุ่มไปรษณีย์กลางปืนโหด หลังก่อคดีฆ่าพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวตายคาลานจอดรถคอนโดฯเอื้ออาทร ท่าอิฐแล้วหนีไปกบดานบ้านญาติเมียใน จ.กาญจนบุรี
ข่าว,ทั่วไทย
พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว,หมู่บ้านเอื้ออาทร,ท่าอิฐ,หนุ่มไปรษณีย์,สมยศ โกสุมศรี,หนูเกียง จันทร์ศรี,นนทบุรี
https://www.thairath.co.th/news/local/480932
จับแท็กซี่แสบขูดรีดแถมชิงทรัพย์ นทท.สาวตุรกี
ไม่รอด ตร.ท่องเที่ยว จับแท็กซี่แสบขูดรีดค่าโดยสารสุดโหดจากนักท่องเที่ยวตุรกีเรียกจากสุวรรณภูมิ ไปส่งอรัญประเทศ จากราคาเหมา 2 พัน แต่กลับคิด 500 เหรียญสหรัฐฯ ก่อนจะมีปากเสียงแล้วแย่งทรัพย์ผู้โดยสาร ต้องหนีออกจากรถร้องขอความช่วยเหลือ จนจับตัวได้,เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พ.ค.59 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.ท.อภิรักษ์ จำปาศรี สว.ส.ทท.3 กก.2 บก.ทท. พ.ต.อ.สุชาติ ปราณี ผกก.สภ.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวผู้ต้องหาคือ นายวัชระ ทาน้อย อายุ 30 ปี คนขับรถแท็กซี่สาธารณะ บ้านเลขที่ 1/1 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ พร้อมรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทษ 3861 กรุงเทพมหานคร และทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกชิงทรัพย์ไป คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง หนังสือเดินทางประเทศตุรกี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ สภ.วังตะเคียน,พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค.59 เวลา 16.00 น. Miss Nesrin Ugar อายุ 26 ปี ชาวตุรกี ได้เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ลงที่สนามบินดอนเมือง เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชาทางจังหวัดสระแก้ว ได้เรียกรถแท็กซี่มิเตอร์จากสนามบินดอนเมืองให้ไปส่งยังอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในราคาเหมา 2,000 บาท เมื่อรถคันดังกล่าวขับมาถึงในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อแวะเติมแก๊สที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ผาติวนิช ผู้ต้องหาได้เรียกเก็บเงินค่าเติมแก๊ส 500 บาท ซึ่งผู้เสียหายเห็นว่าแท็กซี่คันก่อเหตุเติมแก๊สไปเพียง 277 บาท ทำให้ทั้งสองมีปากเสียงกัน แต่ผู้เสียหายได้ยื่นเงินให้แก่นายวัชระ ทาน้อย จำนวน 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทย 525 บาท),นอกจากนี้ นายวัชระ ทาน้อย โชเฟอร์แท็กซี่ ได้แจ้งแก่ Miss Nesrin Ugar ว่าต้องเสียค่าโดยสารใหม่ เป็นเงิน 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 17,500 บาท ทำให้ทั้งสองมีปากเสียงกันในรถ โดยผู้เสียหายให้ผู้ต้องหาพาไปสถานีตำรวจเพื่อตกลงเรื่องค่าใช้จ่าย แต่นายวัชระไม่ยอม พร้อมแจ้งว่าจะพาผู้เสียหายกลับกรุงเทพฯ จึงทำให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง นายวัชระจึงได้แย่งเอากระเป๋าของ Miss Nesrin Ugar แต่ Miss Nesrin Ugar ไม่ยอมให้ จึงเกิดการยื้อแย้งเป็นเหตุให้ Miss Nesrin Ugar ได้รับบาดเจ็บ และพยายามจะเปิดประตูหนี แต่นายวัชระได้กดล็อกประตูรถไว้ ในที่สุดก็สามารถเปิดประตูอีกฝั่งได้ พร้อมทั้งวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน พาไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเข้ารักษาตัวที่ รพ.กบินทร์บุรี,กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก. 1 บก.ทท. ทราบว่า ผู้ต้องหาคือนายวัชระ ทาน้อย ได้หลบหนีไปซ่อนตัวที่ห้อง 210 ชั้น 2 เลขที่ 40/71 ซอยพหลโยธิน 48 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าจับกุมตัวไปสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว ก่อนที่จะพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปนำทรัพย์สินของผู้เสียหายมาแถลงข่าวที่ สภ.วังตะเคียน.
ไม่รอด!! ตร.ท่องเที่ยว จับแท็กซี่แสบขูดรีดค่าโดยสารสุดโหดจากนักท่องเที่ยวตุรกีเรียกจากสุวรรณภูมิ ไปส่งอรัญประเทศ จากราคาเหมา2พัน แต่กลับคิด500เหรียญUS ก่อนจะมีปากเสียงแล้วแย่งทรัพย์ผู้โดยสาร ต้องหนีออกจากรถร้องขอความช่วยเหลือ
null
จับแท็กซี่,แท็กซี่โกง,แท็กซี่โกงมิเตอร์,แท็กซี่โกงนักท่องเที่ยว,แท็กซี่ชิงทรัพย์,แท็กซี่ ทษ 3861 กรุงเทพ,แท็กซี่เหมา,แท็กซี่โกงชาวต่างชาติ,นักท่องเที่ยวตุรกี,Miss Nesrin Uga,สนามบินสุวรรณภูมิ,อรัญประเทศ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/624589
ราชัน 10 คนฟอร์มโหดโดนก่อนรัวแซง บายาโดลิด 4-1 สรุปผลลาลีกา
การแข่งขันฟุตบอลลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2018/19 ประจำวันที่ 10 มี.ค. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง เรอัล บายาโดลิด เปิดบ้านโฆเซ ซอร์ริญา พบกับ เรอัล มาดริด,เปิดฉากมา 12 นาทีเจ้าบ้านชวดโอกาสขึ้นนำเมื่อได้ลูกจุดโทษทว่า อัลคาราซ ดันซัดเหินข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้นเลย,แต่นาทีที่ 29 พวกเขาก็มาขึ้นนำจนได้ 1-0 อันโตนิโอ เติมมาเปิดไปเสาสองให้กับ เซร์จี กวาร์ดิโอลา ตบเข้ากลางให้ อานูอาร์ ยิงจ่อๆเข้าไป,ทว่าอีก 5 นาทีต่อมา ราชัน ก็ตามตีเสมอทันควัน 1-1 จากลูกเตะมุม โทนี โครส เปิดไปหน้าประตูบอลกระเด้งสูงนาโชโขกชงให้ วาราน ยิงเข้าไปและครึ่งแรกก็จบลงที่สกอร์นี้,เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 51 ราชัน พลิกนำแล้ว 2-1โอดริโอโซลา ไปโดนทำฟาวล์ในเขตโทษก่อนที่ คาริม เบนเซมา จะรับหน้าที่สังหารตุงตาข่าย,อีก 8 นาทีต่อมา ราชัน นำโด่ง 3-1 จากลูกเตะมุมอีกครั้ง โทนี โครส เปิดไปจุดนัดพบให้กับ เบนเซมา ขวิดเข้าไป,นาทีที่ 80 ราชันเสียเปรียบตัวผู้เล่นเมื่อ คาเซมิโร ไปโดนเหลืองแดงไล่ออกจากสนาม แต่ 10 ตัวของราชันก็มาได้ประตูหนีห่าง 4-1 จากจังหวะที่ เบนเซมา หลุดมาฝั่งซ้ายก่อนไหลให้กับ โมดริช สับขาหลอกก่อนหลุดไปยิงตุงตาข่าย,เวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มจบเกมการแข่งขัน เรอัล มาดริด บุกไปเอาชนะ เรอัล บายาโดลิด 4-1 รั้งอันดับสามต่อไปและเป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 4 นัด,ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น,เซลตา บีโก แพ้ เรอัล เบติส 0-1,กิโรนา แพ้ บาเลนเซีย 2-3,เซบีญา ชนะ เรอัล โซเซียดัด 5-2,เลบันเต แพ้ บียาร์เรอัล 0-2
คาริม เบนเซมา เบิ้ลสองประตูกับอีก 1 แอสซิสต์พา ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เปิดบ้านยำใหญ่ เรอัล บายาโดลิด ขาดลอย 4-1 ในศึกลาลีกาสเปนเมื่อคืนที่ผ่านมา
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
ลาลีกา สเปน,เรอัล มาดริด,เรอัล บายาโดลิด,ผลบอล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1516043
4 สิ่งที่ โซลชาร์ จะเปลี่ยนแปลง แมนฯยู ซีซั่น 2019-20
1.เกมรับที่แข็งแกร่งขึ้น,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งปิดดีลซิว แฮร์รี แม็คไกวร์ ปราการหลังมาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวที่แพงเป็นสถิติโลกตำแหน่งกองหลังด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ซึ่งการมาของเขชาจะช่วยยกระดับแนวรับให้กับทีมได้อย่างแน่นอนและยังมีความเป็นผู้อีกด้วย,2.สร้างเกมรุกจากแดนหลัง,ต่อยอดมาจากข้อที่แล้ว แฮร์รี แม็คไกวร์ เป็นกองหลังที่สามารถขึ้นบอลจากแดนหลังได้ดี และมีความเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยเพิ่มมิติให้กับทีมได้อย่างแน่นอนแถมยังมีทีเด็ดในการขึ้นโขกลุ้นทำประตูในจังหวะที่ทีมได้เตะมุม,3.เน้นเกมรุกเป็นหลัก,แนวทางการเล่นในช่วงปรีซีซั่นเห็นได้ชัดว่า โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เน้นให้ทีมเล่นเกมรุกเป็นหลัก แม้จะยังไม่ละเอียดนักในหลายๆ จังหวะแต่มันก็สัญญาณไปในทิศทางบวกให้เห็น,4.โอเล เพรสซิ่ง,อีกหนึ่งสิ่งที่เห็นได้จากช่วงปรีซีซั่นคือทีมมีการเพรสซิ่งใส่คู่แข่งโดยเฉพาะการเพรสซิ่งแดนบนเพื่อบีบให้คู่แข่งพบกับความยากลำบากในการต่อบอลและถ้าทีมฉกบอลได้ก็เล่นเกมสวนกลับเร็วทันทีและนี่คืออีกหนึ่งอาวุธเด็ดของทีม
4 สิ่งที่ทาง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือชาวนอร์เวย์ จะเปลี่ยนแปลง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซีซั่น 2019-20 หลังได้เตรียมทีมในช่วงปรีซีซั่นแบบเต็มที่
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,โอเล กุนนาร์ โซลชาร์
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1633100
รพ.จุฬาฯ เตรียมพร้อมห้องแล็บตรวจ COVID-19 หากเข้าระยะ 3
ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทำหน้าที่ตรวจยืนยันเชื้อ COVID-19 ทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพราะต้องมีผลยืนยันหาเชื้อจาก 2 ห้องปฏิบัติการในแต่ละวัน ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่จะมีกลุ่มตัวอย่างที่ต้องตรวจหาสารพันธุกรรม COVID-19 เฉลี่ย 200-300 ตัวอย่าง โดย 1 ตัวอย่างสามารถทราบผลตรวจได้ภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ห้องปฏิบัติการของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่และคณะแพทยศาสตร์ รวม 3 แห่ง มีความพร้อมรองรับสถานการณ์หากเกิดการแพร่ระบาดในระยะที่ 3 เพราะสามารถตรวจยืนยันได้ถึงวันละ 1000 ตัวอย่างทนพญ.สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี รองหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ กล่าวว่า วิธีการตรวจหาสารพันธุกรรม COVID-19 ไม่ต่างจากตรวจไวรัสเมอร์สและซาร์ส แต่ COVID-19 เป็นโรคอุบัติใหม่และมีสารพันธุกรรมผันแปรสูงศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ยืนยันถึงความพร้อมรับมือหากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เข้าสู่ระยะที่ 3 ขณะนี้มีห้องความดันลบ หรือห้องแยกโรค 4 ห้อง และห้องกักโรคสำหรับกลุ่มเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค 20 เตียง ประชุมบุคลากรทางการแพทย์ ติดตามสถานการณ์เกือบทุกวันและจัดระบบผู้ป่วยไม่จำเป็นเร่งด่วน เพื่อลดภาระงานของแพทย์นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังพัฒนาห้องแล็บในศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ส่วนภูมิภาค 14 แห่ง ด้วยวิธีการเรียลไทม์พีซีอาร์ ที่จะรู้ผลใน 3 ชั่วโมง เพราะหากมีการส่งตรวจจากพื้นที่ต่างจังหวัดเข้ามายังกรุงเทพฯ ก็จะใช้เวลาในการเดินทาง ซึ่งเชื้ออยู่ในสภาพแวดล้อม 6-8 ชั่วโมงก็ตายแล้ว ดังนั้นจึงต้องพัฒนาในระดับภูมิภาคให้สามารถตรวจหาเชื้อ COVID-19 ได้ด้วย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ยืนยันความพร้อมรับมือหากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เข้าสู่ระยะที่ 3 เตรียมห้องปฏิบัติการ 3 แห่ง สามารถตรวจยืนยันได้ถึงวันละ 1000 ตัวอย่าง และจัดระบบคนไข้ไม่เร่งด่วนเพื่อลดภาระงานแพทย์
สังคม
COVID-19,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,ห้องแล็บ,โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
https://news.thaipbs.or.th/content/289388
เคน เป็นปลื้ม รับเหมือนฝัน ผงาดคว้า รองเท้าทองคำ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 18 พ.ค. ว่า แฮร์รี เคน ดาวซัลโวของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เป็นปลื้มหลังคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ ของศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015/16 มาครอง โดยโพสต์รูปภาพยิ้มแฉ่งกับรางวัลที่เจ้าตัวได้รับ พร้อมข้อความว่า ความฝันเป็นจริงแล้ว,ถึงแม้ว่าดาวยิงดีกรีทีมชาติอังกฤษรายนี้ จะประสบปัญหาปืนฝืดในช่วงต้นฤดูกาล แต่ถึงอย่างไรพอประตูแรกมา ประตูต่อๆ มาก็ไหลมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะยิงได้ถึง 25 ประตูเฉือนเอาชนะ เซร์คิโอ อเกวโร เพชฌฆาตชาวอาร์เจนไตน์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เจมี วาร์ดี หอกตัวเก่งของ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำได้ 24 ประตู พร้อมกับคว้ารางวัล GoldenBoot หรือ รางวัลรองเท้าทองคำ ไปครอง,โดย เคน ให้สัมภาษณ์หลังคว้ารางวัลนี้ผ่านทางเว็บไซต์ไก่เดือยทองว่า ในฐานะกองหน้า ไม่มีรางวัลส่วนตัวอะไรมากมายที่คุณสามารถคว้ามาได้หรอก และรางวัลนี้แสดงให้เห็นว่าคุณมีฤดูกาลที่ดีตลอดทั้งฤดูกาล นั่นคือการที่คุณมีฟอร์มที่คงเส้นคงวา,ผมแฮปปี้จริงๆ ที่เอาชนะรางวัลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพียงแค่ฤดูกาลที่สองที่ผมได้ลงเต็มๆ ในพรีเมียร์ลีก การจบรองดาวซัลโวเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก่อนจะดีขึ้นมาจนเอาชนะในฤดูกาลนี้ เป็นอะไรที่ทำให้ผมภาคภูมิใจมาก,แม้ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นฤดูกาลตอนที่ผมทำประตูไม่ได้มา 2-3 เกม ผมถูกวิพากษ์วิจารณ์ ดังนั้นผมต้องสู้ต่อและคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผมมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมเพียงใด,มันเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับผมที่ตอกหน้าเสียงวิจารณ์เหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ผมแค่มีสมาธิไปกับเกมของตัวเอง ผมรู้ในสิ่งที่ผมสามารถทำได้ และผมจะเก็บความเชื่อมั่นของผมเอาไว้ตลอดไป,ผมต้องขอขอบคุณทีมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งทีมงานและทุกคนที่สโมสร เพราะถ้าไม่มีพวกเขาผมก็คงไม่สามารถได้รางวัลนี้มาครองเป็นแน่
แฮร์รี เคน ดาวยิงตัวเก่งของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ประกาศอย่างภาคภูมิใจหลังคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ หรือดาวซัลโวของศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015/16 มาครอง
null
พรีเมียร์ลีก,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,แฮร์รี เคน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/622538
คนงานไทรอัมพ์ปักหลักใต้ถุน ก.แรงงาน หวังพบ รมต.ช่วยแก้ปัญหาเลิกจ้าง
กดดันบริษัทได้เช่นเดียวกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่กดดันจนบริษัทยอมจ่ายเงินชดเชยให้คนงานไทรอัมพ์ฯ ฟิลิปปินส์มากกว่าค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนดเมื่อวันที่ 13 ต.ค. เวลาประมาณ 10.00น. คนงานจากสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทยเดินทางยื่นหนังสือที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอให้แก้ปัญหาการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม จากนั้น ได้เดินทางไปยังกระทรวงแรงงาน โดยเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย เนื่องจากคนงานพยายามจะเข้าไปในกระทรวง แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงได้ปิดทางเข้าออกทุกด้าน ทำให้คนงานบางส่วนซึ่งเข้าไปไม่ทัน พยายามปีนรั้วและมุดลอดใต้ประตู เพื่อเข้าไปในกระทรวง อย่างไรก็ตาม สุดท้าย เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เปิดให้เข้าไปได้ทั้งหมดจิตรา คชเดช ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ในช่วงเช้า สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ได้ไปที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่อยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค ปชป. เนื่องจากหวังว่า ปชป. ที่เป็นพรรครัฐบาล มีทั้งนายกฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและอีกหลายเจ้ากระทรวง จะช่วยแก้ปัญหาของพวกเธอได้ อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้รับหนังสือแทน เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ไม่อยู่ที่พรรค จากนั้นในช่วงบ่าย ได้เดินทางไปกระทรวงแรงงาน หวังเข้าพบนายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งปรากฎว่า ก็ไม่อยู่ จึงยื่นหนังสือต่อนายอาทิตย์ อิสโม รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจิตรา กล่าวว่า ข้อเรียกร้องต่อทั้งพรรคประชาธิปัตย์และกระทรวงแรงงาน คือ หนึ่ง ขอให้ประสานงานไปยังผู้มีอำนาจในบริษัทเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับปัญหาการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสตามหลักจรรยาบรรณการค้าของบริษัท เกณฑ์ขององค์กรความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) และมาตรฐานแรงงานไทย สอง ให้บริษัทปฎิบัติตามข้อตกลงสภาพการจ้างที่เคยทำไว้กับสหภาพแรงงานฯ เมื่อ 6 ส.ค. 2542 สาม หากบริษัทจะมีการจ้างเหมาค่าแรง (ซับคอนแทรกท์) หรือจะขยายโรงงานจะต้องรับพนักงานที่ถูกเลิกจ้างกลับเข้าทำงานก่อน สี่ ต้องจ่ายค่าชดเชยเท่ากับที่คนงานไทรอัมพ์ของฟิลิปปินส์ได้ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา ได้เจรจาแต่กับตัวแทนของบริษัท ยังไม่เคยได้เจรจากับเจ้าของตัวจริงมาก่อน ในฐานะที่รัฐบาลนี้มีส่วนช่วยเหลือไทรอัมพ์เยอะมาก ไม่ว่าจะในส่วนของบีโอไอ หรือมาตรฐานแรงงานไทย ก็น่าจะพูดคุยกับบริษัทให้รับผิดชอบคนงานได้ เช่นเดียวกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ ที่กดดันจนบริษัทยอมจ่ายเงินชดเชยให้คนงานไทรอัมพ์ที่นั่นมากกว่าค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนดจิตรา ยืนยันว่า แม้ว่าทางกระทรวงจะแจ้งว่า รมว.แรงงานจะไม่เข้ามาที่กระทรวงในวันพรุ่งนี้ เนื่องจาก รมว.แรงงาน จะไปที่ทำเนียบ แต่คนงานก็คุยกันแล้วว่าจะปักหลักรออยู่ที่ใต้ถุนกระทรวงแรงงาน
คนงานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ยื่นหนังสือ นายกฯขรมว.แรงงาน เรียกร้องให้พูดคุยกับบริษัทให้รับผิดชอบคนงาน หวังรัฐบาลไทย
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,แรงงาน
พรรคประชาธิปัตย์,สหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย,เลิกจ้าง,ไทรอัมพ์
https://prachatai.com/journal/2009/10/26196
3 นิสิต ม.พะเยา ยุติกิจกรรม วิ่งไล่ลุง แต่ตำรวจยังติดตามถึงหอพักและถ่ายรูป
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผย 3 นิสิต ม.พะเยา ยุติกิจกรรม วิ่งไล่ลุง แต่ตำรวจยังติดตามถึงหอพักและถ่ายรูป11 ม.ค. 2563 รายงานว่าก่อนที่กิจกรรมวิ่งไล่ลุงจะถูกจัดขึ้นในเช้าของวันพรุ่งนี้ เกิดปรากฎการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามกดดันและห้ามปรามการจัดกิจกรรมดังกล่าวในหลายจังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ นครปฐม ชลบุรี นครพนม บึงกาฬ บุรีรัมย์ เป็นต้น อ่านสรุปสถานการณ์ละเมิดที่เกิดขึ้นก่อนกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ภาคอีสาน และ ภาคกลางสำหรับในพื้นที่ภาคเหนือ ก่อนหน้านี้ที่จังหวัดพะเยามีการออกหมายเรียก 3 นิสิต มหาวิทยาลัยพะเยา ภายหลังจากได้เข้ายื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์เตรียมจัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ต่อผู้กำกับสภ.เมืองพะเยา อีกทั้งยังมีการติดตามถึงที่บ้านผู้ปกครอง และติดต่อทางโทรศัพท์หลายครั้ง ก่อนที่นิสิตทั้งสามคนจะเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 5 ม.ค. โดยใช้เวลาพูดคุยกว่า 5 ชั่วโมง จนในที่สุดผู้กำกับการสภ.เมืองพะเยา ได้มีหนังสือตอบกลับเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ระบุว่าไม่ให้ความอนุเคราะห์ในกิจกรรม วิ่งลุ่ง เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากเทศบาลเมืองพะเยา รวมถึงการขอใช้พื้นที่ถนนดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกภายหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เฟสบุ๊คเพจ พลังใหม่ประชาธิปไตยพะเยา ได้โพสต์ข้อความระบุว่าขอยกเลิกกิจกรรมวิ่ง ที่ได้ประชาสัมพันธ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยอ้างถึงเอกสารของผู้กำกับสภ.เมืองพะเยา ที่ไม่ให้ความอนุเคราะห์ และทางเพจได้มีการออกแถลงการณ์อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมา ก่อนที่ทางเพจจะได้ประชาสัมพันธ์ปรับรูปแบบกิจกรรมให้ประชาชนในจังหวัดพะเยา ทำการ วิ่งเมื่อไรก็ได้ วิ่งที่ไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้ และส่งรูปเข้ามาในเพจเพื่อรวบรวมไว้เป็นภาพกิจกรรมวิ่งของจังหวัดพะเยาต่อไป อีกทั้งได้นัดหมายให้ผู้ที่ทำการซื้อเสื้อ วิ่งไล่ลุง ไว้กับทางเพจ เดินทางมารับเสื้อที่ทำการสั่งซื้อปรากฎว่าภายหลังจากเข้าชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพะเยา และได้ประกาศยกเลิกการจัดกิจกรรมวิ่งแล้ว กลุ่มนิสิตที่เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตามถ่ายรูปถึง 3 วันต่อเนื่องกันเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ม.ค. เวลาประมาณ 18.00 น. ระหว่างที่นายนราวิชญ์กำลังกินข้าวบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 คน เข้ามาพูดคุยด้วยโดยแจ้งว่ามาจากสภ.แม่กา มาเพื่อติดตามนายนราวิชญ์และจะทำการส่งรายงาน นาย ว่ากลุ่มนิสิตไม่ได้มีการเคลื่อนไหวแล้ว ก่อนจะทำการถ่ายรูปนายนราวิชญ์และเดินทางกลับไป ต่อมาวันที่ 10 ม.ค. เวลาประมาณ 17.30 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบประมาณ 5 คน เดินทางมาที่หอพักของนายทิวา นิสิตอีกคนหนึ่ง ระบุว่ามาเพื่อขอถ่ายรูปรายงานเบื้องบนเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของนายทิวา ซึ่งนายทิวายืนยันว่าไม่มีการจัดกิจกรรมใดๆแล้วตามที่แจ้งในเพจเฟสบุ๊ก เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจึงขอถ่ายรูปและเดินทางกลับไป ล่าสุดวันนี้ (11 ม.ค.) เวลาประมาณ 15.00 น. ได้มีเพื่อนของนายนราวิชญ์แจ้งว่าระหว่างที่นายนราวิชญ์ไม่อยู่หอพัก ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบจำนวน เดินทางมาตะโกนเรียกชื่อนายนราวิชญ์ เมื่อไม่มีใครตอบทางเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายรูปหอพักของนายนราวิชญ์ก่อนจะเดินทางกลับไปนายทิวาหนึ่งในกลุ่มนิสิต ยังแจ้งเพิ่มเติมอีกว่าวันนี้ ระหว่างการแจกจ่ายเสื้อ วิ่งไล่ลุง ที่มีการสั่งซื้อผ่านกลุ่มของนิสิต ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบราว 4 นาย นั่งอยู่รอบๆบริเวณที่มีการส่งมอบเสื้อให้กับประชาชนที่มารับเสื้อและมีการถ่ายภาพการส่งมอบไว้โดยตลอด
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผย 3 นิสิต ม.พะเยา ยุติกิจกรรม วิ่งไล่ลุง แต่ตำรวจยังติดตามถึงหอพักและถ่ายรูปที่มาภาพ: ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน11 ม.ค.
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
วิ่งไล่ลุง,มหาวิทยาลัยพะเยา,พลังใหม่ประชาธิปไตยพะเยา,พะเยา
https://prachatai.com/journal/2020/01/85873
หนูน้อยตกอ่างเก็บน้ำดับ หมาคู่ใจตัวเปียกวิ่งกลับมาบอกพ่อ-แม่
สลด หนูน้อยวัย 5 ขวบหายออกจากบ้านพร้อมสุนัขคู่ใจหลังเลิกเรียน จนเวลาผ่านไปกว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหมาเพื่อนซี้ได้วิ่งกลับบ้านอย่างตื่นตระหนกและเนื้อตัวเปียก แถมเดินวนเวียน คาดว่าอยากจะบอกอะไรบางอย่าง ว่าเจ้านายวัย 5 ขวบจมน้ำเสียชีวิตในอ่างเก็บน้ำที่ห่างจากบ้านไป 2 กม


,เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. ร.ต.อ.ทินกร ชูมณี รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาหม่อม จ.สงขลา รับแจ้งว่า มีเหตุเด็กสูญหายในอ่างเก็บน้ำพรุพลีควาย ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ต.พิจิตร อ.นาหม่อม ทางตำรวจจึงได้ประสานชุดประดาน้ำมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่และหน่วยกู้ชีพ อบต.พิจิตร เข้าไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อค้นหา
 โดยทราบว่าเด็กที่สูญหายไปในอ่างเก็บน้ำและคาดว่าน่าจะจมน้ำเสียชีวิตแล้วคือ ด.ช.ปณัฎฎา ธรรมโร อายุ 5 ปี หรือ น้องปีใหม่ กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โดยพบรอยเท้าของเด็กเดินย่ำไปจนถึงริมอ่างเก็บน้ำ ทางนักประดาน้ำจึงได้ลงไปค้นหาร่างตามจุดที่คาดว่าจะจมหายไปรวมทั้งญาติและชาวบ้านทั้งหมู่บ้านก็ช่วยกันเดินหารอบๆอ่างเก็บน้ำ แต่หลังจากที่ดำน้ำหาอยู่นานเกือบ 3 ชั่วโมงก็ยังไม่พบร่างของน้องปีใหม่ เนื่องจากสภาพอ่างเก็บน้ำลึกมากและเป็นเวลากลางคืน เจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังและจะมาค้นหาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ในขณะพ่อแม่และญาติยังไม่ละความพยายามยังคงเฝ้ารอและตามหาตลอดทั้งคืนนี้
,จากการสอบถาม นายประเสริฐ ธรรมโร พ่อของน้องปีใหม่ บอกว่า ลูกชายได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงบ่าย 3 โมงพร้อมกับสุนัขคู่ใจ ซึ่งเป็นปกติหลังเลิกเรียนมักจะออกไปวิ่งเล่นกับสุนัขตัวนี้เป็นประจำทุกวัน แต่ปรากฏว่าวันนี้ได้หายไปนานผิดสังเกต พ่อแม่ได้ออกตามหาในหมู่บ้านก็ไม่พบ กระทั่งเมื่อช่วง 2 ทุ่ม สุนัขได้เดินกลับมาที่บ้านในสภาพที่เปียกปอน แต่น้องปีใหม่ไม่ได้กลับมา และสุนัขตัวนี้ออกอาการเดินวนเวียนไปมาเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง ญาติจึงสงสัยว่าน่าจะมาเล่นน้ำที่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักออกไปราว 2 กิโลเมตร และพบรอยเท้าที่ริมอ่างเก็บน้ำคาดว่าน่าจะเป็นรอยเท้าของน้องปีใหม่ จึงได้ออกกันตามหาและแจ้งให้หน่วยกู้ภัยมาช่วยดำน้ำแต่ก็ไม่พบ ส่วนเจ้าสุนัขคาดว่าน่าจะกระโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วยน้องปีใหม่ ด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ไม่สามารถช่วยได้จึงได้เดินกลับบ้าน ซึ่งทั้งพ่อและแม่รวมทั้งชาวบ้านต่างภาวนาให้น้องปีใหม่ยังมีชีวิตรอด ขออย่าให้จมน้ำตามที่คาดการณ์เอาไว้.
สลด!! หนูน้อยวัย 5 ขวบหายออกจากบ้านพร้อมสุนัขคู่ใจหลังเลิกเรียน จนเวลาผ่านไปกว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหมาเพื่อนซี้ได้วิ่งกลับบ้านอย่างตื่นตระหนกและเนื้อตัวเปียก แถมเดินวนเวียน คาดว่าอยากจะบอกอะไร
ข่าว,ทั่วไทย
เด็กจมน้ำ,ตกอ่างเก็บน้ำ,หมาตัวเปียก,หมาแสนรู้,สงขลา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1314511
เลือดร้อน แค่เบิ้ลเครื่อง จยย.ใส่ ตามประกบยิงดับคาถนน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 14 พ.ย. ร.ต.ท.สมาน จันทร์ศรี ร้อยเวร สภ.หาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณริมถนนสายเพชรบุรี-หาดเจ้าสำราญ หมู่ 4 ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมืองเพชรบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.ท.มนตรี ดีบุกคำ สวญ.สภ.หาดเจ้าสำราญ รับทราบและรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยอาสากู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานจังหวัดเพชรบุรี ,ที่เกิดเหตุริมถนนสายเพชรบุรี-หาดเจ้าสำราญ พบร่างชาย 2 คน นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ทราบชื่อต่อมาคือนายวิษณุ อาศัย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ 1 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณกลางหลัง 1 แห่ง บาดเจ็บสาหัส และนายสุทธิวา เลขะสิทธิ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152/2 หมู่ 2 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธขนาดเดียวกันเข้าที่กลางหลัง 1 แห่ง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฟีโน่สีขาว หมายเลขทะเบียน ขขว 211 เพชรบุรี จอดล้มอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดเจ้าสำราญ จึงรีบนำตัวส่ง รพ.พระจอมเกล้าฯ แต่นายวิษณุเสียชีวิตในเวลาต่อมา,สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา นายวิษณุและนายสุทธิวา ได้ไปเที่ยวในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน ตัวเมือง จ.เพชรบุรี หลังจากเที่ยวเสร็จนายวิษณุได้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวกลับบ้านโดยมีนายสุทธิวานั่งซ้อนท้ายมาด้วย ระหว่างทางได้พบกลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวอยู่บริเวณทางเข้าโรงแรมไดแอน ริมถนนเพชรบุรี-หาดเจ้าสำราญ ต.โพไร่หวาน อ.เมืองเพชรบุรี ตะโกนและเบิ้ลเครื่องรถใส่ นายวิษณุจึงเบิ้ลเครื่องรถตอบโต้กลับไป แล้วรีบขับขี่มุ่งหน้ากลับบ้าน โดยมีกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวขับติดตามมา ,เมื่อขี่หลบหนีมาไกลกว่า 10 กม. กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ติดตามมาทัน และ 1 ในกลุ่มวัยรุ่นที่ขี่ติดตามมาได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่จากด้านหลัง จำนวน 2 นัด กระสุนปืนถูกหลังนายสุทธิวา และนายวิษณุจนรถคว่ำ บาดแผลกระสุนปืนทำให้นายวิษณุเสียชีวิตและนายสุทธิวาบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดเจ้าสำราญ กำลังประสานตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงเพื่อสืบหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป.
หนุ่มกลับจากสถานบันเทิง เจอวัยรุ่นอีกกลุ่ม ตะโกนท้าทายและเบิ้ลเครื่อง จยย. จึงเบิ้ลเครื่องยนต์ใส่กลับ ก่อนจะกลายเป็นชนวนให้อีกฝ่ายตามไปยิงดับคาถนนสายเพชรบุรี-หาดเจ้าสำราญ
null
ประกบยิง,ยิง,ฆ่า,วัยรุ่น,เบิ้ลเครื่อง,เร่งเครื่อง,จยย.,กลุ่มวัยรุ่น,เพชรบุรี,บ้านแหลม,หาดเจ้าสำราญ,วงจรปิด,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวอาชญากรรม
https://www.thairath.co.th/content/539415
แห่จับกุ้งแชบ๊วย ขุมทรัพย์จากมรสุม มากับคลื่นลม เต็มชายฝั่งเกาะช้าง
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 22 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงพื้นบ้านคลองสนหมู่ 3 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ได้นำเรือหางยาวกว่า 10 ลำ ออกจับกุ้งแชบ๊วยและกุ้งขาว ที่บริเวณปากอ่าวคลองสน ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง หลังพบมีกุ้งแชบ๊วยและกุ้งขาว เป็นฝูงใหญ่อยู่ในทะเลบริเวณดังกล่าว,ทั้งนี้ ชาวประมงพื้นบ้านจะนำอวนตาถี่ขนาด 4 เซนติเมตรใส่เรือหางยาว ไปวางอวนในทะเลบริเวณที่เห็นฝูงกุ้งมารวมกลุ่มกันบริเวณผิวน้ำ โดยมีทั้งวางในช่วงกลางคืนและในช่วงเช้า เมื่อดึงขึ้นจากน้ำจะมีกุ้งแชบ๊วย และกุ้งขาวติดตาอวนขึ้นมาจำนวนมาก ก่อนจะนำอวนขึ้นเรือวิ่งเข้าฝั่ง ซึ่งพบว่าในช่วงนี้ชาวประมงพื้นบ้าน สามารถจับกุ้งได้ลำละประมาณ 30-100 กิโลกรัม เป็นกุ้งแชบ๊วยขนาดใหญ่กับกุ้งขาว ซึ่งราคาค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังมีปลาหลายชนิดติดอวนมาด้วย,นายวรวัฒน์ สนนิวาสสรดี อายุ 50 ปี ชาวประมงพื้นบ้านคลองสน กล่าวว่า ช่วงประมาณปลายเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี จะมีกุ้งทะเล เช่น กุ้งขาวและกุ้งแชบ๊วย ว่ายมากับกระแสคลื่นมาที่บริเวณอ่าวคลองสนและย่านหาดทรายขาวของเกาะช้างจำนวนมาก แต่ปีนี้พบว่าฝูงกุ้งมาเร็วกว่าทุกปี ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ช่วงมรสุมเป็นต้นมา ยิ่งช่วงที่มีคลื่นลมแรงและน้ำในทะเลขุ่น จะพบฝูงกุ้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยชาวประมงพื้นบ้านที่มีเรือไฟเบอร์ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาวประมาณ 3-4 เมตร ติดตั้งเครื่องหางยาว จะนำอวน ออกไปวางในทะเลเพื่อจับกุ้ง ซึ่งวันนี้ตนได้กุ้งแชบ๊วยและกุ้งขาวประมาณ 40-50 กิโลกรัม มีพ่อค้าแม่ค้าและเจ้าของโรงแรมรีสอร์ตร้านอาหารมารับซื้อถึงบ้าน ในราคากิโลกรัมละ 250-300 บาท,จากการสอบถาม ทราบว่า ในช่วงนี้ชาวประมงพื้นบ้านคลองสนที่มีอุปกรณ์ในการจับกุ้ง จะมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1,000-2,000 บาทต่อวันต่อครัวเรือน ขึ้นอยู่กับจำนวนอวนที่นำไปวาง เมื่อบ้านไหนจับกุ้งได้มาก เพื่อนบ้านข้างเคียงก็จะมาช่วยกันแกะกุ้งออกจากอวน ซึ่งทุกปีชาวบ้านคลองสน อ.เกาะช้าง ได้อาศัยโอกาสช่วงที่มีมรสุมคลื่นลมในทะเลแรง เปลี่ยนจากการหาปลานอกชายฝั่ง มาเป็นการวางอวนจับกุ้งแชบ๊วยและกุ้งขาวบริเวณแนวชายฝั่งแทน เป็นโอกาสสร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัวของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี. 
ชาวประมงชายฝั่งที่เกาะช้าง ต่างรอโอกาสในช่วงมรสุม ส.ค.-พ.ย. คลื่นลมในทะเลแรงพัดเอากุ้งราคาแพงทั้งกุ้งแชบ๊วย กุ้งขาว เข้ามาที่แนวชายฝั่ง นำเรือออกไปจับขายโรงแรมร้านอาหารได้ราคาดี เผยปีนี้กุ้งมาเร็ว อีกทั้งมีจำนวนมาก
null
จับกุ้ง,กุ้งแชบ๊วย,กุ้งขาว,กุ้งมากับมรสุม,คลองสน,เกาะช้าง,ตราด,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว
https://www.thairath.co.th/content/698109
กินกันไม่ลง ฟิออฯ เจาะ คิเอโว ไม่เข้าเจ๊าจืด 0-0
การแข่งขันฟุตบอล กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ฤดูกาล 2015-16 ประจำวันอาทิตย์ที่ 30 เม.ย. คู่ที่น่าสนใจ ม้าศึก คิเอโว ทีมอันดับ  8  ของตาราง เปิดสนามสตาดิโอ  มาร์ก อันโตนิโอ  เบนเตโกดี  รับการมาเยือนของ ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนตินา ทีมอันดับ 5 ของตาราง โดยเจ้าถิ่นเล่นแบบไม่มีความกดดันแล้วแต่ยังต้องการคว้าสามคะแนนให้ได้ตามเป้าเพื่อแฟนบอล ส่วนทีมเยือนต้องการสามคะแนนเช่นกันเพื่อการันตีโอกาสคว้าโควตา ยูโรปาลีก ซีซั่นหน้า,เปิดฉากเริ่มเกมได้เพียง 11 นาที ทีมเยือนมีลุ้นก่อนจากจังหวะที่ คาลินิช แย่งบอลได้จากกองหลังเจ้าถิ่นก่อนตะลุยเข้ามาในกรอบเขตโทษเยื้องซ้ายไปดวลเดี่ยวกับนายด่านเจ้าถิ่นแต่กลับไม่ยอมยิงเองก่อนเลือกจ่ายบอลให้ คริสเตียน เตโญ แต่ติดบล็อก,ทีมเยือนทำได้ดีกว่าแต่ยังเจาะตาข่ายเจ้าถิ่นไม่ได้จนเกมดำเนินไปถึงนาทีที่ 40 เกือบได้ประตูขึ้นนำ ลาบิน บาเดลจ์ ลากหนีกองหลังเจ้าถิ่น ก่อนปั้นโค้งบอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว จบครึ่งแรกยังไม่มีสกอร์เสมอกันอยู่ 0-0,เข้าสู่ครึ่งหลังได้ 5 นาที เป็นเจ้าถิ่นที่ได้ลุ้นจะแจ้งครั้งแรก จากจังหวะสวนกลับเร็ว  ฟาบริซีโอ  ชัคคาตอเร ไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้แซร์โจ  เปลิซิเยร์ หลุดเข้าไปยิงคนเดียวโล่งๆ  แต่บอลไม่ผ่านมือของนายทวารทีมเยือน,นาทีที่  51 ทีมเยือนได้ฟรีคิกเยื้องซ้าย   เมาโร ซาราเตปั้นด้วยขวา บอลพุ่งชนคานกระดอนออกมาเข้าทาง อลอนโซ ตาบเก็บซ้ำดาบสองข้ามคานไปไกล,เกมผ่านไปกระทั่ง 10 นาที สุดท้ายทีมเยือนเกือบโดนลงทัณฑ์ เมื่อกองหลังทีมเยือนเตะสกัดออกมาไม่ขาดอีกครั้งบอลหลุดมาถึง อิวาน ราโวาโนวิช หลุดไปดวลเดี่ยวกับนายทวารทีมเยือนที่หมายจะจิ้มลอดขาเข้าประตู แต่มือกาวทีมชาติโรมาเนียพุ่งออกมาบล็อกได้ทันท่วงที รอดพ้นจากการเสียประตูหวุดหวิด,ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำอะไรกันเพิ่มได้ จบเกม ม้าศึก คิเอโว เปิดบ้าน เจ๊า ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนตินา 0-0 เก็บเพิ่ม 1 คะแนน มีเพิ่มเป็น 49 คะแนน จาก 36 นัด รั้งที่ 8 ต่อไป ไม่ต้องลุ้นอะไรแล้วเหลือแค่ลุ้นทำอันดับให้ดีที่สุดเท่านั้น ส่วนทีมเยือนจบเสมอในนัดนี้ก็ยังไม่เสียหายมากเพราะยังนำ เอซี มิลาน ทีมอันดับ 6 ของตาราง อยู่ 7 คะแนนแม้แข่งมากกว่า 1 นัด มีโอกาสสูงที่จะคว้าโควต้ายูโรปาลีก รอบคัดเลือก,ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้,อูดิเนเซ แพ้ โตริโน 1-5
ม้าคึก คิเอโว ทำได้แค่เสมอกับ ม่วงมหากาฬ ฟิออเรตินา ไปแบบเจาะไข่ไม่แตกทั้งคู่ 0-0 ศึกกัลโซ เซเรียอา อิตาลี นัดที่ 36 ของฤดูกาล
null
กัลโชเซเรียอา,ฟิออเรนตินา,คิเอโว,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/613763
นึกว่าอนาคอนด้า ที่แท้งูหลามยักษ์ กินตัวเงินตัวทองหนีลงน้ำ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 ก.ค. 58 หน่วยกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี ได้รับแจ้งจาก นางนพวรรณ พันยฤทธิ์ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านอาหาร ครัวพันยฤทธิ์ ให้ไปช่วยจับงูขนาดใหญ่ที่เลื้อยเข้าไปอยู่ใต้ถุนร้าน ซึ่งเป็นบึงน้ำอยู่ริมถนนเสาไห้ – ป๊อกแป๊ก หมู่ 2 ต.เสาไห้ อ.เสาไห้ จึงรีบนำอุปกรณ์จับงูรุดไปที่ร้านดังกล่าว,พบมีลูกค้าที่มานั่งกินอาหารกำลังมุงดูสิ่งมีชีวิตที่เลื้อยวนไปมาอยู่ในน้ำ เมื่อเห็นลายบนตัว เจ้าหน้าที่ก็ลงความเห็นว่าเป็น งูหลาม แต่เป็นงูหลามที่มีขนาดใหญ่มาก ความยาวกว่า 4 เมตร แน่นอน ต้องใช้คนถึง 5-6 คน ช่วยกันดึงงูยักษ์ออกมาจากใต้ถุนร้านได้สำเร็จ เป็นงูหลามเพศเมีย วัดความยาวได้ 4.7 เมตร น้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงนำขึ้นรถกู้ภัยไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป,นางนพวรรณ พันยฤทธิ์ เจ้าของร้าน กล่าวว่า ตนและคนงานได้ไปถางหญ้าบริเวณป้ายหน้าร้านริมถนน พบงูหลามยักษ์กำลังกินตัวเงินตัวทองอยู่ พองูเห็นพวกตนจึงว่ายลงน้ำหนีเข้าไปใต้ร้าน จึงโทรตามกู้ภัยมาช่วยจับ ส่วนตัวเงินตัวทองน่าจะถูกกลืนลงท้องไปแล้ว เพราะเห็นว่างูท้องป่อง.
มันมาอีกแล้ว งูหลามขนาดใหญ่กำลังเขมือบตัวเงินตัวทองอยู่ริมถนนหน้าร้านอาหาร เจ้าของร้านกับลูกน้องไปเจอ งูเลื้อยหนีลงน้ำ ว่ายวนไปมาดูคล้ายอนาคอนด้าเพราะตัวใหญ่มาก เรียกกู้ภัยมาจับ เป็นตัวเมียยาว 4.7 เมตร หนัก 80 กก.
ข่าว,ทั่วไทย
งูหลาม,จับงู,งูยักษ์,งูหลามยักษ์,เสาไห้,สระบุรี,ข่าวแปลก,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/513705
ตร.ขุนยวมจับหลานทรพี สารภาพถีบย่าจนทำให้ตาย ก่อนนำตัวไปขอขมาหน้าโลงศพ
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.61 พ.ต.อ.สันติ สุภา ผกก.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมกำลังตำรวจ ได้คุมตัว นายราเชนทร์ วงค์เมฆ (ซูโม่) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่เตะถีบย่าจนตาย เค้นสอบปากคำที่ห้องสอบสวน สภ.ขุนยวม นานหลายชั่วโมง และจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังสถานที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 663 หมู่ 1 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน,พ.ต.อ.สันติ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำร้ายร่างกายย่าจริงโดยใช้เท้าถีบ หลังจากย่าล้มลงตกจากบ้าน ญาตินำส่งโรงพยาบาลขุนยวม ไม่คิดว่าย่าจะตาย จากวันเกิดเหตุถึงวันที่ย่าตาย ห่างกันถึง 5 วัน สาเหตุเกิดจากผู้ต้องหาบันดาลโทสะขอเงินย่า 5,000 บาท จะไปหาภรรยาที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ แต่ย่าหาเงินให้ไม่ได้จึงลงมือทำร้ายย่าโดยไม่ได้ยั้งคิด และรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากสอบปากคำเสร็จ ผู้ต้องหาได้ขอให้ตำรวจพาไปขอขมาศพคุณย่าที่วัดม่วยต่อ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน,ต่อมา ผกก.สภ.ขุนยวม พร้อมกำลังตำรวจ ได้นำตัวผู้ต้องหาไปกราบขอขมาศพ นางหน่อวาชิ ถาวรภัทรอาภรณ์ ที่วัดม่วยต่อ ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม ที่เป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลของนางหน่อวาชิ ถาวรภัทรอาภรณ์ อายุ 71 ปี มีเพื่อนบ้านญาติสนิทพากันเดินทางมาเคารพศพและร่วมฟังสวดอภิธรรม และได้นำตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังสถานที่เกิดเหตุ ณ บ้านเลขที่ 663 หมู่ 1 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม โดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เนื่องจากญาติและเพื่อนบ้านไม่ติดใจหรือโกรธแค้น เพราะมั่นใจว่ากฎหมายต้องลงโทษผู้กระทำผิดต้องไปรับกรรมในคุก,ทั้งนี้ พงส. สภ.ขุนยวม ได้นำตัว นายราเชนทร์ วงค์เมฆ (ซูโม่) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหา ไปดำเนินคดีในข้อหา กรรโชกทรัพย์ ทำร้ายร่างกายบุพการี  ย่า) จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจจนเสียชีวิต และมีอาวุธปืนพกสั้นไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในครอบครอง โดยเจ้าหน้าที่ค้นพบปืนพกสั้น ไทยประดิษฐ์ ขนาด .45 มม. จำนวน 1 กระบอกพร้อมด้วยกระสุนอีก 1 นัด และสามารถจับกุมตัวได้ในพื้นที่อำเภอไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เมื่อบ่ายวันที่ 15 ต.ค.61 ที่ผ่านมา หลังจากนั้น พ.ต.ท.ชาญวิทย์ ธรรมรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปรับตัว นายราเชนทร์ วงค์เมฆ ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายย่าจนเสียชีวิตที่ สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ มายัง สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน นำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ตำรวจ สภ.ขุนยวม คุมตัวหลานทรพีสอบปากคำ ทำแผนรับสารภาพถีบย่าจนตกบ้าน ก่อนจะเสียชีวิต เหตุไปขอเงิน 5,000 บาทจะไปหาภรรยาแล้วไม่มีให้ พร้อมทั้งนำตัวไปขอขมาศพย่าหน้าโลง ญาติขอให้ชดใช้กรรมในคุก
ข่าว,ทั่วไทย
เตะย่า,หลานทรพี,สภ.ขุนยวม,เตะย่าตกบ้าน,แม่ฮ่องสอน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1397874
สาวก รอเก้อ บาร์ซา แถลง เมสซี-เนย์มาร์ ชวดทัวร์มะกัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 18 ก.ค. ว่า บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่ลีกกระทิง ประกาศไม่มีรายชื่อของ ลีโอเนล เมสซี และ เนย์มาร์ 2 ซุปเปอร์สตาร์ดังของทีม บินไปทัวร์ปรีซีซั่นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึงทางสโมสรได้ไฟเขียวให้กพักผ่อนอย่างต่อเนื่องหลงรำศึกหนักมาอย่างยาวนาน,ทั้งเนย์มาร์ และ เมสซี ต่างเล่นในศึกโคปาอเมริกามาเมื่อเดือนที่แล้ว ร่วมด้วยอีก 3 แข้งประกอบด้วย เคลาดิโอ บราโว,ฮาเวียร์ มาสเชราโน และ ดานี อัลเวส ก็จะไม่เดินทางไปกับเพื่อนร่วมทีมลงเตะอุ่นเครื่องที่แดนมะกันเช่นเดียวกัน,ขณะที่ 2 แข้งใหม่อย่าง อาร์ดา ตูราน และ อเล็กซ์ บิดัล มีชื่อติดทีมพร้อมลงสนามเปิดตัวเป็นครั้งแรก โดย บาร์ซา จะประเดิมนัดแรกในศึกอินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยน คัพ วันแรกพบกับ แอลเอ แกแล็กซี ทีมของ สตีเฟน เจอร์ราร์ด และ ร็อบบี คีน อดีตสตาร์ดังจากพรีเมียร์ลีกอยู่ในทีม ในวันอังคารนี้,รายชื่อ 24 ขุนพลชุดอุ่นเครื่องปรีซีซันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา,ผู้รักษาประตู : มาร์ก อันเดร สเตเกน,ฆอร์ดี มาซิป,โฆเซ ซัวเรซ,กองหลัง : เคราร์ด ปิเก,มาร์ค บราตา,ดักลาส,ฆอร์ดี อัลบา,อาเดรียโน,โทมัส เฟอร์มาเลน,เฌเรมี มาติเยอ,กองกลาง : อิวาน ราคิติช,แซร์จิโอ บุสเกตส์,อันเดรส อิเนสตา,ราฟินญา,แซร์จี โรแบร์โต,อาร์ดา ตูราน,อเล็กซ์ วิดัล,อเลน ฮาลิโลวิช,แซร์จี ซัมเพอร์,เจราร์ด กัมบู,กองหน้า : หลุยส์ ซัวเรซ,เปโดร,มูเนียร์ เอล ฮัดดาดี,ซานโดร
ลีโอเนล เมสซี และ เนย์มาร์ 2 สตาร์ดังแห่งวงการลูกหนังจะไม่มีชื่อติดทีมบาร์เซโลนา ไปอุ่นเครื่องปรีซีซันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สัปดาห์หน้าเป็นที่แน่นอนแล้ว
null
ลาลีกา สเปน,อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียนส์ คัพ,บาร์เซโลนา,ลีโอเนล เมสซี,เนย์มาร์,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/512462
คำปราศรัยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 3 ส.ค. 56 ที่ตลาดปัฐวิกรณ์
แต่ยืนยันว่าพรรคจะไม่เอากฎหมายล้างผิดหมายเหตุ: ได้เผยแพร่คำปราศรัยของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ปราศรัยบนเวที หยุดกฎหมายล้างผิดคิดล้มรัฐธรรมนูญ หยุดเงินกู้ผลาญชาติ หยุดอำนาจฉ้อฉล ที่ตลาดปัฐวิกรณ์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 56 โดยมีรายละเอียดดังนี้พี่น้องชาวตลาดปัฐวิกรณ์ ชาวบึงกุ่ม พี่น้องชาวกรุงเทพฯ และพี่น้องที่รักความถูกต้องทั้งประเทศ และทั่วโลกครับ สวัสดีครับ ผมต้องขอแสดงความชื่นชม แล้วก็คารวะ น้ำใจของพี่น้องประชาชนที่มาปักหลักที่เวทีผ่าความจริงแห่งนี้ ทั้งๆ ที่ประมาณ 1 ชม. ก่อนหน้านี้ ฝนตกลงมาหนักมาก และต่อเนื่องแต่มีพี่น้องจำนวนมากครับ ตั้งแต่ผมเข้ามา อยู่ในเต้นท์ อยู่ในบริเวณรอบๆ เวทีปราศรัยแห่งนี้ที่สำคัญที่สุด มีพี่น้องจำนวนมากนั่งปักหลักที่นี่ไม่ถอยครับ ขอแสดงความคารวะ ต่อความหนักแน่น มั่นคงของพี่น้องครับพี่น้องครับวันนี้สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดสมัยประชุมแล้ว วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในสมัยประชุมใหม่ เดี๋ยวขออนุญาต ท่านที่ยืนข้างหน้านะครับ ถ้าจะยืนข้างหน้ากรุณาหุบร่มนิดนึงครับ เพราะรู้สึกว่าจะเริ่มหงุดหงิดว่าไม่เห็นหน้าผม สภาเปิดประชุม เปิดสมัยประชุมไปแล้ว ประชุมไปแล้ว 1 วัน โชคดีว่าทางประธานสภา รองประธานสภา ไม่บรรจุกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่ระเบียบวาระ แล้วก็ไม่มีความพยายามในการที่จะผลักดันกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การประชุมในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาแต่วันนี้ครับ ผมเพิ่งได้รับหนังสือจากสภาผู้แทนราษฎร นัดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งต่อไปคือวันพุธที่ 7 สิงหาคม วันพุธที่จะถึงนี้ครับ เปิดระเบียบวาระออกมาดูเรียบร้อยแล้วครับ ระเบียบวาระที่จะมีเรื่องที่จะเป็นเรื่องพิจารณาเรื่องแรกในการประชุมวันพุธที่จะถึงนี้ คือกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับของนายวรชัย เหมะ และพวก หมายความว่าถ้าการประชุมเป็นไปตามปกติ สิ่งแรกที่สภาจะต้องพิจารณาในวันพุธนี้ คือกฎหมายที่ได้รวบรวมพี่น้องประชาชนมาเกือบจะ 60 เวทีทั่วประเทศ แสดงพลังในการต่อต้าน คัดค้านมาโดยตลอด และเป็นกฎหมายที่พรรคประชาธิปัตย์ ยังยืนยันมั่นคงในจุดยืนเดิมก็คือว่าคัดค้านจนถึงที่สุดแน่นอนครับ รัฐบาลเองก็ทราบว่า กฎหมายฉบับนี้ กำลังทำให้เกิดความขัดแย้ง มิฉะนั้น ไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ที่รัฐบาลจะต้องประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงครอบคลุม 3 เขตปกครองในกรุงเทพมหานคร ซึ่งก็คือพื้นที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล และที่ตั้งของรัฐสภา เพียงเท่านี้ก็ฟ้องไปทั่วโลกแล้วครับว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่มีทางที่จะเรียกได้ว่าเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ เพราะถ้าเป็นกฎหมายเรื่องปรองดอง กฎหมายว่าด้วยการสมัครสมานสามัคคีนั่นหมายความว่าทุกคนจะต้องสนับสนุน ทุกคนจะต้องออกไปบอกว่ารีบออกกฎหมายนี้เร็วๆ และจะไม่เป็นเหตุที่เป็นภัยต่อความมั่นคงได้เลย ฉะนั้นรัฐบาลไม่ต้องถามคนอื่น ถามตัวเองว่าที่ต้องออกกฎหมายความมั่นคง หรือประกาศตามกฎหมายความมั่นคง ห้ามสัญจร 12 เส้นทาง เพราะอะไร ใครเป็นคนก่อเหตุเมื่อวานนายกรัฐมนตรีอ้างว่า ที่ต้องประกาศมาตรการ พรบ. ความมั่นคงนั้น จำเป็นที่จะต้องทำเพื่อปกป้องและรักษาระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต้องป้องกันเหตุร้ายความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ราชการและเอกชนทั่วไป ตลอดจนผู้ชุมนุม พี่น้องฟังแล้วเชื่อมั้ยครับ เชื่อมั้ยครับ ก็ดูสิครับ ประกาศปั๊บ ขู่สารพัดว่าจะจัดการกับประชาชนอย่างไร แล้วก็เคยทำมาแล้ว เมื่อตอนที่มีการชุมนุมใหญ่ครั้งหนึ่งในรัฐบาลนี้ ตอนนั้นเสธ. อ้าย กับคณะ นำคนมาชุมนุม ก็มีการจัดการกับประชาชน ที่อ้างว่าจากเบาไปหาหนัก พี่น้องก็ทราบดีว่า ไม่เป็นความจริงเพราะเจอแก๊สน้ำตาตั้งแต่เช้ามืดผมกราบเรียนว่า ข้ออ้างที่พูดถึงทั้งหมด ฟังไม่ขึ้น คุณบอกคุณมาปกป้องระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่คุณกำลังจะเอาเจ้าหน้าที่ความมั่นคง มาพยายามปราบปรามคนที่เขาบอกว่า อย่าออกกฎหมายล้างความผิดให้กับคนที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ คุณบอกคุณกำลังจะคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน ให้ประชาชน แต่คุณกำลังจะออกกฎหมายล้างผิดให้คนที่เอาอาวุธสงครามมาฆ่าประชาชน และเผาทรัพย์สินทั้งของราชการ และของเอกชน มันขัดแย้งโดยสิ้นเชิง และเราก็จึงยืนยันครับว่า เราต้องทำหน้าที่ของเราต่อไปในการคัดค้านวันพุธที่ผ่านมา เราปราศรัยที่บริเวณสกายวอร์ค สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี หลายคนอาจจะไปเขียนวิพากษ์วิจารณ์ ตีความสารพัดว่าที่คุณสุเทพบอกว่า การออกไปต่อสู้ ถึงจุดที่จะเป็นประเด็นการแตกหักคือวาระ 3 มันช้าไปมั้ย หรือมันกลายเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาจริง เอาจังหรือไม่ ผมบอกกับพี่น้องครับ อยากทำความเข้าใจว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์แสดงจุดยืนอย่างนั้น เพราะเราบอกว่าเราต้องสู้ ทั้งใน และนอกสภา ถ้าเรากระโดดบอกว่า วันนี้เข้าไปชุมนุมแตกหักนอกสภา แล้วเรายังไม่ได้ทำหน้าที่ในสภา เขาก็จะบิดเบือน เขาก็จะกล่าวหาประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่เคารพในกติกาของระบบสภา แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องทำ ก็คือการแสดงออกในเวทีสภาให้เห็นว่ากฎหมายฉบับนี้ เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ ต่ออนาคตบ้านเมืองอย่างไร และจะต้องคัดค้านถึงที่สุด และจะต้องเปลี่ยนแปลงสาระของกฎหมาย หรือล้มกฎหมายฉบับนี้ในสภาให้ได้ผมรู้ว่าเป็นเรื่องยาก แต่ผมจะบอกกับพี่น้องว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา สส. ประชาธิปัตย์ พวกเราหลายคนไปคุยกับสส.พรรคเพื่อไทย ตกใจว่า สส.พรรคเพื่อไทย ยังไม่รู้เลยว่า กฎหมายของนายวรชัยนั้นมันจะมีความหมายอย่างไร เช่น เขาบอกว่า กำลังนิรโทษกรรมคนไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ บังเอิญไปติดคุก สส. เราเอารายชื่อคนที่ติดคุกอยู่ไปให้ดู ว่าที่ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่นั่นไปยิงวัดพระแก้ว ที่ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่นั้น ยิง M79 จนคนตาย ที่ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่นั้นคือคนที่เผาศาลากลาง เผาเซนทรัลเวิล์ด เผาสยามสแควร์ เผาเซ็นเตอร์วัน เผาสารพัดเผา แล้วที่ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่นั้นคือคนที่ขึ้นเวทีเสื้อแดง หรือสนับสนุนกระบวนการเวทีเสื้อแดง สร้างวาทกรรม เรื่องอำมาตย์ เรื่องไพร่ แล้วก็ลามไปถึงการหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ สส. เพื่อไทยหลายคนไม่รู้ครับ เราก็จะให้รู้ เพราะเดี๋ยวจะอ้างว่า ฟังจากพรรค ฟังจากนายวรชัย ฟังจากแกนนำ ฟังจากฝ่ายกฎหมายมันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องให้เขาได้ยินความจริงจากทุกฝ่าย ได้ยินก่อนจะได้รู้ว่า พวกคุณยืนยันใช่มั้ย ที่จะนิรโทษกรรมให้กับคนเผา คนฆ่า คนหมิ่น คนก่อการร้ายทั้งหลายให้โอกาสพวกคุณก่อนที่จะบอกว่า คุณยืนยันจะทำสิ่งนี้ แล้วถ้าผ่าน เราก็จะพยายามเปลี่ยนครับ ให้กฎหมายนี้เป็นไปตามหลักที่ถูกต้อง แล้วจะได้วัด จะได้เป็นตัวชี้ จะได้ฟ้องว่า สส.ทุกคน ไม่ว่าพรรคไหน คิดอย่างไร กับเรื่องเหล่านี้ ผมจะรอดดูว่า ถ้ามีคนแปรญัตติว่าไม่นิรโทษกรรมให้คนทำผิดมาตรา 112 สส.พรรคเพื่อไทย สส. พรรคไหนก็ตาม คนไหนบ้าง จะแสดงจุดยืนให้ชัดว่าคุณจะปล่อยให้มีการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ และล้างผิดให้หรือไม่ต้องทำให้ชัด ให้เป็นที่ปรากฏว่า จุดยืนคืออะไร ขณะเดียวกัน พี่น้องประชาชนที่ไม่เห็นด้วย ไม่มีโอกาสอย่างพวกผมเข้าไปอยู่ในสภา พี่น้องก็มีสิทธิ เสรีภาพเต็มที่ในการชุมนุมภายใต้กรอบของกฎหมาย และพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเคียงข้างท่านในการทำสิ่งนี้ เราต้องเดินไปอย่างนี้ครับ เพื่อให้เกิดความรัดกุม เราต้องเดินไปอย่างนี้เพื่อพิสูจน์ให้คนที่อาจจะยังไม่รับรู้ รับทราบ คนที่ยังคิดว่ามีพื้นที่ตรงกลาง รอดูสิ่งนั้น สิ่งนี้ ให้ชาวโลกได้รับรู้ รับทราบว่าข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างไร แต่ผมเห็นแล้วละครับ ว่าขณะที่เราก็ได้มีการรวบรวมแนวความคิดเผยแพร่ จัดเวที และพี่น้องประชาชนเริ่มแสดงออกมากขึ้น รัฐบาลก็รู้ตัวว่ากำลังทำในสิ่งที่ทำให้ประเทศเข้าสู่ความเสี่ยง จึงต้องประกาศกฎหมายความมั่นคง และเมื่อคืนนายกรัฐมนตรี ก็จึงต้องออกมาปราศรัยกับพี่น้องประชาชน ไม่ทราบใครได้ดูบ้าง โอ้ แฟนๆ นายกฯ เยอะ ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้วันนี้ครับ เดี๋ยวมีอีกหลายคนขึ้นมาปราศรัย แต่ผมพูดให้ชัดก่อนว่าที่นายกฯ พูดเมื่อวานนี้ หรือข้างหน้าตะโกนบอกผมว่า ที่อ่านเมื่อวานนี้ ผมต้องทำความเข้าใจ เพราะเจตนาจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ หลายเรื่องนายกฯ ไม่พูดความจริงกับประชาชน ผมขออนุญาตอ่านนะครับ นานๆ จะได้อ่านกับเขาบ้างในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดิฉันและรัฐบาล ได้ดำเนินการเพื่อให้เกิดการปรองดองขึ้นในชาติ ด้วยความพยายามอย่างจริงใจที่จะเดินหน้า อดทน ไม่ตอบโต้ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดอง สร้างสรรค์ และความไว้วางใจ รวมทั้ง รวมทั้งการเปิดพื้นที่ให้กับทุกกลุ่มที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองท่านนายกฯ ไปอยู่ไหนมาครับ ไปอยู่อาฟริกา หรือไปอยู่ยุโรป หรือไปอยู่ที่ไหนมาครับ ไอ้ที่เปิดพื้นที่ให้ทุกกลุ่มที่มีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง คือให้คนเอาลูกหิน ลูกแก้วมายิงพวกผมใช่มั้ย ไอ้ที่เปิดพื้นที่ให้กับทุกกลุ่มที่มีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมืองคือให้เสื้อแดงมาบอกใช่มั้ยว่านายอภิสิทธิ์ไปไหน จะจับตัวแล้วไม่ให้กลับไปแบบมีชีวิต ผมจึงอยากจะบอกกับนายกรัฐมนตรีครับว่า อย่า อย่าพูดไม่จริงกับประชาชน สู้ สู้ยอมรับความจริงแล้วบอกว่าจะแก้ไข อย่างนั้นสิครับ พวกเราพร้อมจะให้โอกาสเพราะพวกเราเป็นคนใจกว้างพอบรรยากาศที่ผ่านมาไม่ได้เป็นอย่างนั้น และผมอยากจะบอกว่าในทางตรงกันข้ามครับ นายกรัฐมนตรีไม่สังเกตเหรอครับว่า ท่านนั้นไปปฏิบัติหน้าที่ได้ทั่วประเทศ เพราะพวกผมไม่เคยคิดจะไปปลุกระดมไปต่อต้าน ภาคใต้ก็ไปได้ จนตั้งจังหวัดใหม่ชื่อ หาดใหญ่ไปแล้ว แล้วจะไปพื้นที่เหล่านี้ที ก็มีลูกน้องนายกฯ นั้นโทรมาขอ โทรมาขอคนของพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดไหน ก็โทรหา สส. จังหวัดนั้น อย่าเอาคนไปต่อต้าน พวกผมก็บอกไปแล้วว่าพวกผมไม่ทำ เพราะไม่มีสันดานเหมือนกับบางพวก ฉะนั้นอย่ามาป้ายสีว่าคนอื่นไม่ปรองดอง พวกผมประกาศมาตลอดว่า เชิญเป็นรัฐบาลให้ครบวาระ แต่เป็นรัฐบาลแล้วมาแก้ปัญหาประชาชน อย่าไปแก้ปัญหาพี่ชายโปรดฟังต่อ ที่น่าเสียใจที่สุด คือการที่มีบุคคลบางกลุ่มต้องการการเคลื่อนไหวบนท้องถนน มีท่าทีไม่ยอมรับกติกาของประชาธิปไตย มีการยั่วยุ กระตุ้นเพื่อนำไปสู่การล้มล้างรัฐบาล นี่ถ้าไม่ได้ดูนะ นึกว่ามีคนกำลังพูดถึงเสื้อแดงปี 52 – 53 แล้วก็พอดูแล้วก็ต้องดูอีกครั้งหนึ่งว่า คนที่พูด และอ่านประโยคเมื่อสักครู่นั้น ใส่เสื้อแดงอยู่หลังเวทีหรือเปล่า เมื่อปี 52 – 53 จ่ายสตางค์ให้ด้วยหรือเปล่า ให้เกิดการเคลื่อนไหวอย่างนั้นผมอยากจะบอกกับนายกรัฐมนตรีครับว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันจุดยืนของเราที่เชื่อมั่นในระบบสภา และที่เคลื่อนไหวกันมาทั้งหมดทั้งปี ถ้าจะฟังแม้แต่สัก 1 ชม. จะเข้าใจมาโดยตลอดได้ทันทีว่า ประชาธิปัตย์ไม่เคยเรียกร้องให้มีการปฏิวัติ รัฐประหาร ล้มล้างรัฐบาล แต่ประชาธิปัตย์ไม่เอากฎหมายล้างผิดแล้วก็ไม่ได้ดื้อดึงครับ ไม่ได้บอกว่าไม่ล้างผิดให้ใครทั้งนั้น เวลาที่มันมีข้อเสนอที่พอสมเหตุ สมผล ก็บอกว่า คุยกันได้ นายกฯ เคยขอความร่วมมือให้พวกผมไปทำเนียบ เรื่องปัญหาภาคใต้ พวกผมก็ไป แล้วผมก็เคยบอกด้วยวันนั้น ไปแล้ว ให้ข้อมูลทุกอย่าง รวมทั้งเตือนแนวคิดของทักษิณ ที่จะไปพูดคุยแบบเปิดเผยกับกลุ่ม BRN แล้ววันนี้ก็พิสูจน์แล้ว เตือนแล้วท่านไม่ฟัง แล้วปัญหาก็ยังลุกลามอยู่ แล้วก็แก้ยากขึ้นแต่พวกผมก็ไม่ได้ว่าอะไรในแง่ที่ว่าท่านเป็นรัฐบาล ท่านมีสิทธิ์ตัดสินใจ นี่พิสูจน์แล้วว่า ประชาธิปัตย์พร้อมจะหาทางออกให้กับประเทศ ทั้งๆ ที่ถูกข่มขู่ คุกคาม รังแก แล้วก็พวกผมก็ถูกไล่เช็คบิลดำเนินคดีสารพัดข้อหา เอาเงินบริจาคให้พรรคตัวเอง บำรุงพรรคตัวเอง ยังเอาผิดเลยนี่ ดีนะไม่ได้ไปช่วยเณรคำ ป่านนี้มันเอาตายเลยกำลังจะนิรโทษกรรมให้คนหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ใครพูดแตะยิ่งลักษณ์ แตะทักษิณ นู้นมาแล้ว สน.นั้น สน.นี้ หมายเรียกไปแล้ว พยายามเล่นงานสารพัด พวกผมก็อดทน เพราะอยากจะประคับประคองบ้านเมืองให้เดินหน้าไปได้ เพราะฉะนั้นอย่ามาสงสัย ระแวงพวกผมว่าทำให้บ้านเมืองไม่มั่นคง คนที่ทำให้บ้านเมืองไม่มั่นคง คือคนเห็นแก่ตัวที่อยู่เมืองนอก ที่ไม่ยอมหยุดทำร้ายประเทศไทย แล้วก็ไปสร้างปัญหาเอาไว้ ทำความผิดเอาไว้ปี 52 – 53 จนมาขอให้คนไทยล้างความผิดให้หลักเรื่องนี้ หลายคนพูดครับตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีตประธานรัฐสภา อย่างคุณอุทัย พิมพ์ใจชน มีนักวิชาการ นักกฎหมาย ญาตินายทหารที่เสียชีวิต ออกมาพูดชัดเจนว่า ทุกคนอยากให้ประเทศมีทางออก แต่ไม่ใช่การยัดเยียดทางออกที่ต้องการเพียงแค่ช่วยคนเพียงกลุ่มเดียว แล้วทำลายหลักการของบ้านเมืองฉะนั้นที่ท่านนายกฯ พูดเมื่อคืนว่า ในสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะเชิญตัวแทนกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีความเห็นที่หลากหลายในมุมมองให้มาหารือร่วมกัน บอกว่าจะขอเชิญชวนตัวแทนจากกลุ่มบุคคลทั้งฝ่ายรัฐบาล พรรคการเมือง แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สมาชิกวุฒิสภา องค์กรอิสระ เอกชน และนักวิชาการ มาร่วมโต๊ะ พูดคุยออกแบบประชาธิปไตยของประเทศไทยเพื่อหาทางออกให้กับอนาคตของเรา ผมเห็นหลายกลุ่มที่เกี่ยวข้องพูดไปบ้างแล้วครับ ก่อนออกมาเห็นมี สว. กลุ่มนึง เขาก็บอก เขาไม่ร่วม แกนนำพันธมิตรบางท่านก็ออกมาบอกว่าไม่ร่วม จนกว่าจะมีการถอนกฎหมายนิรโทษกรรมผมก็เรียนว่า ผมเองนั้น เป็นคนที่พยายามหาทางออกให้กับประเทศชาติเสมอ ผมฟังเมื่อคืน ผมก็นั่งคิดในใจว่านายกฯ พูดไป หรืออ่านไปนั้น นายกฯ จะพูดถึงกฎหมายนิรโทษกรรมสักคำมั้ย นายกฯ ไม่รู้จริงๆ เลยเหรอว่า ก่อนจะมาทำเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมนี้ บ้านเมืองก็สงบเรียบร้อยดี ไม่ได้มีความขัดแย้ง ไม่ได้จะมีการชุมนุมกันแบบนี้ นายกฯ ต้องรู้ครับ ไม่ใช่ไม่รู้ แต่ทำเป็นไม่รู้ แล้วในที่สุด วันนี้พอถูกสัมภาษณ์เรื่องนี้ก็บอกว่า พูดคุย ก็พูดคุยไป กฎหมายนิรโทษกรรมก็ให้สภาว่าไป มันแล้วจะพูดทำ จุด จุด จุด อะไรล่ะ คือบ้านเมืองกำลังขัดแย้งกันเรื่องนี้ คุณก็บอกว่ามาคุยกัน แล้วอย่าทะเลาะกัน แต่เรื่องนี้ทำต่อ ไม่มีความจริงใจ เพียงแต่เอาตัวนี้มาเป็นฉากหน้า แล้วเบื้องหลังก็เดินหน้าทำสิ่งที่มันเป็นปมความขัดแย้ง ที่คนเขาต่อต้านกันต่อไป อย่างนี้ไม่สามารถนำไปสู่การปรองดองได้เด็ดขาดต้องตั้งหลักใหม่ ผมก็นึกว่า เอ้า แล้วยังไงล่ะ นายกฯ จะมานั่งหัวโต๊ะ แสดงออกถึงความเป็นผู้นำว่าจะผ่าทางตัน จริงๆ นั้นผมรอว่าเมื่อไหร่จะมาแสดงความเป็นผู้นำ ปลดแอกตัวเองออกจากพี่ชายเสียที ปรากฏว่าสวมบทผู้นำแถลงกับประชาชนทั้งประเทศเสร็จไม่ถึง 1 คืน บอกว่าเรื่องนี้มอบให้ วรเทพ กับพงษ์เทพ ไปทำ ผมก็คิดในใจอีก แล้วอย่างนี้จะคุยกันทำ จุด จุด จุด อะไร ก็ถ้านายกฯ ยืนยันบอกว่า ก้าวก่ายสภาไม่ได้ เป็นเรื่องของสภา แล้วความขัดแย้งมันกำลังอยู่ในสภา จะมาชวนคุยแก้ปัญหาความขัดแย้ง แล้วไม่ยุ่งกับสภา จะคุยไปทำไมมันถึงเวลาที่นายกฯ ต้องตัดสินใจ จริงๆ ผมถือว่าตัดสินใจไปแล้ว วันที่บอกว่าเป็นเรื่องของสภา วันที่บอกว่ากฎหมายเดินหน้า ตัดสินใจแล้วไงว่า พร้อมที่จะนำบ้านเมืองสู่ความขัดแย้งเพียงเพื่อนิรโทษกรรม ล้างผิดให้กับพรรคพวกตัวเองผมก็ไม่ต้องการให้บ้านเมืองถึงทางตัน ผมก็เสนอกลับไปว่า อยากคุยจริง พวกผมคุยได้ แต่สิ่งแรกต้องพิสูจน์ความจริงใจก่อน คืออย่าให้มีการถกกฎหมายนิรโทษกรรมในสภา วันพุธนี้ ถ้าคุณยังเดินหน้าพูดวันพุธนี้ ผมไม่ต้องไปคุยบนโต๊ะเจรจา หรือโต๊ะปฏิรูป หรือโต๊ะอะไรที่จะจัดขึ้น ผมต้องไปทำอย่างเดียว ผมต้องไปลุยกันในสภา ให้ถึงที่สุด แล้วผมก็จะดูด้วยว่าที่เรียกร้องว่า มีอะไรไปพูดในสภา มีอะไรไปพูดในสภา พวกผมร้อยกว่าคนเตรียมพูดทุกคน ให้ได้พูดทุกคนสิ อย่าปิดอภิปรายนะ อย่าใช้เสียงข้างมากปิดอภิปราย อย่าอ้างว่า หมดเวลาแล้ว อย่าอ้างว่า เวลามีค่า เวลาของประชาชน ไม่ใช่เวลาของคุณผมจึงยืนยันอีกครั้ง ประชาธิปัตย์ไม่ขัดขวาง กระบวนการใดที่จะนำไปสู่ความปรองดอง แต่ต้องมีความจริงใจต่อกัน และต้องเคารพความจริง ถ้าพรุ่งนี้ มะรืนนี้ นายกฯ แถลงบอกว่า เพื่อให้การพูดคุยเริ่มต้นได้ จะให้พรรคเพื่อไทย ชะลอเรื่องนี้ ไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ วันพุธ ผมยืนยัน ประชาธิปัตย์มีคนไปคุยแน่ จุดยืนประชาธิปัตย์ไม่เปลี่ยนแปลง และเป็นจุดยืนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของพวกเรา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความต้องการจะไปล้มล้างรัฐบาล ประชาธิปไตยอะไรทั้งนั้น แต่เราต้องการให้ระบอบประชาธิปไตย และระบบรัฐสภาคงความศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องมีไว้ เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน และส่วนรวมผมพูดชัดๆ ยืนยันตามนี้ รอฟังคำตอบจากรัฐบาล นักข่าวไม่ต้องมาถามผมหลายรอบ ผมน่าเบื่อ ผมตอบทีไร ผมตอบเหมือนเดิม รัฐบาลนั่นแหละ ต้องตอบมาว่าจริงใจในการแก้ปัญหาสังคมมั้ย จริงใจจะเริ่มต้นกระบวนการพูดคุยมั้ย ถ้าจริงใจ หยุดกฎหมายนิรโทษกรรมที่ค้างอยู่ไว้ก่อน แต่ระหว่างนี้ เราก็เดินหน้าผ่าความจริง พรุ่งนี้ก็มี ความจริงพรุ่งนี้ผมจะขึ้นไปแม่สอด เพราะว่าไปดูพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย แล้วก็จะรีบบินกลับมาผ่าความจริงกับพี่น้องที่โรงเรียนประชานิเวศน์ วันจันทร์ วันอังคาร ก็คงจะมีเวทีผ่าความจริงต่อเนื่อง ต่อไป เดี๋ยวสาทิตย์มาประกาศ ผมไม่ไปแย่งงานเขา วันพุธ คงมีผ่าความจริงไม่ได้ ถ้ากฎหมายเข้าสภา เพราะผมตั้งใจพูดกันจนสว่างอย่างน้อยพี่น้องที่รักชาติทั้งหลาย ก็ยังมีหน้าที่กันครับ ช่วยกับพวกผม บอกต่อความจริง ระดมคนทั่วประเทศ หาวิธีการสะท้อนถึงรัฐบาลว่า การหาทางออกบ้านเมืองไม่ได้ยุ่งยาก ไม่ได้ซับซ้อน แค่ถอนกฎหมายนิรโทษกรรม บ้านเมืองเดินหน้าได้ เราตกลงกันอย่างนี้นะครับ ก่อนที่จะให้คนอื่นขึ้นมาพูดต่อ ก็ต้องขอคำยืนยัน สู้ไม่สู้ (สู้) สู้ไม่สู้ (สู้) สู้ไม่สู้ (สู้) กราบขอบพระคุณครับพี่น้องครับ
อภิสิทธิ์ยืนยันจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นในระบบสภา ถ้าติดตามการเคลื่อนไหวของพรรคมาตลอดจะเห็นได้ว่าประชาธิปัตย์ไม่เคยเรียกร้องให้มีการปฏิวัติ รัฐประหาร ล้มล้างรัฐบาล
การเมือง
การปรองดองแห่งชาติ,นิรโทษกรรม,พรรคประชาธิปัตย์,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
https://prachatai.com/journal/2013/08/48012