title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
ทางการอินโดนีเซียส่งลูกเรือ Silver Sea 2 กลับไทย 3 คน ยังเหลืออีก 20 คน
วันนี้ (13 พ.ค.2560) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ได้ส่งลูกเรือของเรือบรรทุกสินค้าแช่เย็นชักธงไทย Silver Sea 2 จำนวน 3 คน ซึ่งได้รับการอนุมัติจากทางการอินโดนีเซียให้เดินทางกลับไทย ได้แก่ นายสถาพร พึ่งชื่น นายพรศักดิ์ ผายเงิน และ นายชลอ พุ่มเปี่ยมลูกเรือทั้ง 3 คน เดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมืองในวันนี้ เวลา 07.30น. โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ QZ 154 โดยมีผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศรอรับและอำนวยความสะดวกที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเรือ Silver Sea 2 ถูกทหารเรืออินโดนีเซีย เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2558 ใกล้เมืองซาบัง จังหวัดอาเจะห์ ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ในข้อหาทำการประมงโดยผิดกฎหมาย โดยในขณะนั้น มีไต้ก๋งและลูกเรือไทยรวม 19 คน แต่ต่อมาทางการอินโดนีเซียได้อนุมัติปล่อยตัวลูกเรือมาเป็นระยะ ตามคำขอของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ด้วยเหตุผลปัญหาสุขภาพของลูกเรือสำหรับนายโยธิน เกื้อระเบียบ ไต้ก๋งเรือ Silver Sea 2 ศาลเขตเมืองซาบัง ได้เริ่มพิจารณาคดีครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2560 โดยได้เบิกตัวนายโยธิน เพื่อให้การในชั้นศาลในฐานะจำเลย และได้พิจารณาคดีอีกครั้งเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2560 โดยลูกเรือทั้ง 3 คน ได้ขึ้นศาลในวันดังกล่าว ในฐานะพยานจำเลย ก่อนเดินทางกลับไทยตามคำขอของบริษัท ซิลเวอร์ ซี รีฟเฟอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของเรือ Silver Sea 2การปล่อยตัวลูกเรือ 3 คน ของเรือ Silver Sea 2 เป็นผลจากการพบหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกับนายยูซุฟ กัลลา รองประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2560ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ได้ติดตามและขอความร่วมมือจากทางการอินโดนีเซีย ในการเร่งรัดการสืบสวนและพิจารณาคดีมาอย่างต่อเนื่อง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ได้ส่งกลับลูกเรือไทยในอินโดนีเซียกลับประเทศไทยระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2557-13 พ.ค.2560 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1943คน โดยคาดว่ายังเหลือลูกเรือประมงไทยในอินโดนีเซียเพื่อส่งกลับไทย อีกประมาณ 20 คน ซึ่งส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่กับครอบครัวในอินโดนีเซีย
กระทรวงต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยในอินโดนีเซีย ล่าสุดทางการอินโดนีเซียอนุมัติให้ลูกเรือของเรือบรรทุกสินค้าแช่เย็นชักธงไทย Silver Sea 2 เดินทางกลับไทย จำนวน 3 คน ยังเหลืออีกประมาณ 20 คน
สังคม
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,ลูกเรือประมงไทย,เรือ Silver Sea 2,ทำประมงผิดกฎหมาย,ไต้ก๋ง,อินโดนีเซีย,ปล่อยตัว,กลับไทย
https://news.thaipbs.or.th/content/262417
ศุภชัย หวังนำวิชาจาก ดีโอโก-ชาช่า มาปรับใช้ในทัพช้างศึกยู-21
วันที่ 4 ต.ค.60 ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าร่างโย่งอนาคตไกลจากค่าย ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หวังนำเอาแนวทางและเทคนิคจากสองรุ่นพี่สังกัด มาประยุกต์ใช้ในการฝึกซ้อมกับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ให้มากที่สุดในระหว่างการเก็บตัว,โดย ศุภชัย เข้าสมทบกับเพื่อนร่วมทีมเป็นวันแรกเมื่อวันอังคาร หลังเคลียร์ภารกิจส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังการฝึกซ้อมเสร็จสิ้นลง เจ้าอาร์ม ก็ได้เปิดใจว่า ผมดีใจนะครับ เพราะผมผูกพันกับเพื่อนชุดนี้หลายคน เพื่อนใหม่ก็พยายามศึกษากัน วันนี้เป็นวันแรกของผม ก็พยายามเรียนรู้แท็กติกที่โค้ชต้องการ,การซ้อมกับบุรีรัมย์ ผมก็ได้รู้ระบบทีม และได้เรียนรู้จากนักเตะอย่าง ดีโอโก หลุยส์ ซานโต และ ชาช่า ผมก็พยายามนำมันมาปรับใช้ในบางจังหวะ และพยายามนำประสบการณ์มาใช้ให้ได้มากที่สุด กับโอกาสในการลงสนามที่ไม่มาก ผมคิดว่าไม่เป็นปัญหา เพราะการซ้อมกับบุรีรัมย์ ได้ซ้อมกับคนที่เก่งกว่าหลายคน ผมก็ตั้งใจเสมอและได้โอกาสลงสนามอยู่บ้าง,ผมก็เคยเก็บตัวกับทีมมาแล้วรอบหนึ่ง คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็พยายามทำออกมาให้ดีที่สุด ตอนนี้ผมก็พัฒนารูปร่างให้หนาขึ้น ก็เข้าฟิตเนสเพิ่มกล้ามเนื้อต่อเนื่อง รวมถึงการจบสกอร์ที่ต้องทำให้ดีขึ้น,สำหรับทีมชาติไทยยู-21 ภายใต้การคุมทัพของ ฆูเลียน มาริน บาซาโล จะลงอุ่นเครื่อง 2 นัด คือในวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม พบกับ ทีมชาติจอร์แดน ยู-23 และในวันอังคารที่ 10 ตุลาคม พบกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด.
เจ้าอาร์ม ศุภชัย ใจเด็ด แนวรุกร่างโย่งของบุรีรัมย์ หวังนำเอาสิ่งที่เรียนรู้จาก ดีโอโก หลุยส์ ซานโต และ ชาช่า สองรุ่นพี่ร่วมค่าย มาพัฒนาตัวเองในระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อมกับช้างศึกยู-21
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
ศุภชัย ใจเด็ด,ช้างศึก,ทีมชาติไทยยู-21,ดีโอโก หลุยส์ ซานโต,ชาช่า
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1089329
โพลชี้คนสับสนคิดว่า ธนาธร ยังเป็น ส.ส. มองฝ่ายค้าน ไร้ดาวเด่นศึกซักฟอก
เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง คอการเมืองกับการซักฟอกรัฐบาล กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1296 ตัวอย่าง พบว่า จำนวนมากหรือร้อยละ 40.8 ระบุเป็นคอการเมืองระดับเข้มข้น (ทุกวันถึงเกือบทุกวัน)ในการติดตามข่าวสารการเมืองประจำวัน ในขณะที่ร้อยละ 43.8 ระบุปานกลาง และร้อยละ 15.4 ระบุเบาบางถึงไม่ติดตามเลยที่น่าเป็นห่วงคือ ความเข้าใจของประชาชนต่อความเป็น ส.ส.ของนักการเมือง พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50.7 เข้าใจว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังเป็น ส.ส. รองลงมาคือ ร้อยละ 32.7 ระบุเข้าใจว่า นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็น ส.ส. ร้อยละ 16.3 เข้าใจว่า ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น ส.ส. และร้อยละ 14.6 เท่านั้นที่ระบุเข้าใจว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็น ส.ส.ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.2 คิดว่า ฝ่ายค้านไม่มีดาวเด่นในสภาในศึกซักฟอกรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 43.8 คิดว่า มี เช่น นายปิยบุตร แสงกนกกุล นางสาวพรรณิการ์ วานิช นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นต้น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.0 คาดว่า รัฐบาลชนะอยู่ดีในศึกซักฟอกรัฐบาลครั้งนี้ ในขณะที่ร้อยละ 25.0 คิดว่าฝ่ายค้านชนะ ทำให้เปลี่ยนรัฐบาลได้แน่ที่น่าห่วงคือ ก้ำกึ่งกันเป็นลูกผีลูกคนไม่รู้ไปทางไหนดี คือร้อยละ 50.2 คาดว่าผลจากการซักฟอกจะไม่ได้รับประโยชน์ในการแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน ในขณะที่ ร้อยละ 49.8 คาดว่าจะได้รับประโยชน์ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ว่า คอการเมืองเองยังสับสนกับนักการเมืองคนไหนเป็น ส.ส. หรือคนไหนไม่ได้เป็น ส.ส. คำถามคือ อะไรทำให้คนสับสนได้ถึงขนาดนี้ และประเทศชาติกับประชาชนจะก้าวเดินอย่างไร เมื่อต่างฝ่ายต่างไปคนละทิศคนละทาง ในขณะที่บางประเทศที่เขาเดินหน้าได้ดีเพราะทุกฝ่ายเขามุ่งที่เป้าหมายแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนและช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบสุขมั่นคง ประชาชนทำมาหากินได้ไม่ขัดสน นักการเมืองทุกฝ่ายและคนในชาติของเขาช่วยกันแก้ไขไม่ทำตัวเป็น จระเข้ขวางคลองสำหรับทางออกคือ ต้องใช้ 3 ก. 1 ส. คือ ก.1.กำจัด นักการเมืองที่เป็นจระเข้ขวางคลอง ก.2.คือ กำหนด คนดีและเก่งเข้ามาเสริม ก.3.คือ แก้ปัญหาตอบโจทย์ตรงเป้าโดนใจ และ 1 ส.คือ สื่อสารขับเคลื่อนคนในสังคมให้หนุนเสริมภารกิจของผู้นำได้ดีไม่ใช่สื่อสารออกไปทำคนสับสนเหมือนไม่ใช่คนในชาติภาษาเดียวกันแบบทุกวันนี้.
ซูเปอร์โพล เผยประชาชนเกินครึ่งเข้าใจว่า ธนาธร ยังเป็น ส.ส. มองฝ่ายค้านไม่มีดาวเด่นในศึกซักฟอกรัฐบาล ส่วนใหญ่คาดว่ารัฐบาลจะชนะอยู่ดี
ข่าว,การเมือง
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,อภิปรายรัฐบาล,ซูเปอร์โพล,ด่าวเด่นสภา,ฝ่ายค้านอภิปรายรัฐบาล,ศึกซักฟอกรัฐบาล,สับสนเข้าใจธนาธรเป็นส.ส.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1772655
สะพัด ตร.รู้ที่กบดาน มือยิงแม่ดับแทนลูกแล้ว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ม.ค. 58 ที่ ศปก.สภ.นครชัยศรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ได้เดินทางมารับฟังผลความคืบหน้าในคดีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นางกรณัฐ หรือ เจ๊นัด ปุเรนโสภา อายุ 39 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเป็ด จนเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา,โดยเรียก ตร.ที่เกี่ยวข้องในการคลี่คลายคดี ประกอบด้วย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงค์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุวัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ.191พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พตอ.ธีรเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.อ.อภิชาติ ศรีทองกุล พงส.ผทค.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.ธารา ศรีพรมคำ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.กำพล จึงรุ่งสำราญ สว.สส. พ.ต.ท.นาวิน ทรงละออ พงส.เจ้าของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ชุดสืบสวนจากกองปราบปราม ชุดสืบสวนตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 7 กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี เข้าประชุม ตามที่ได้รับหมอบหมายจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. โดยปิดห้องประชุม ใช้เวลา 2 ชม.,หลังออกจากห้องประชุมแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ เผยถึงผลการประชุมครั้งนี้ ว่า พอใจมากสำหรับคดีที่ได้รับมอบหมายให้มาดู มีความคืบหน้าไปมาก มีการกดดันให้กลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุ เข้ามอบตัวอย่างต่อเนื่อง ภายใน 2 วันนี้ มีผู้ปกครองนำลูกมามอบตัวแล้วทั้งหมดที่ร่วมก่อเหตุเป็นเยาวชนถึง 19 คน ซึ่งล้วนแล้วแต่อายุ 15-17 ปีทั้งหมด ส่วนตัวหัวโจก หรือที่กลุ่มเด็กก่อเหตุเรียกเป็นลูกพี่นั้น 2 คน อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม คนแรกคือ นายยุทธนา สมบูรณ์ อายุ 25 ปี ที่ถูกศาล จ.นครปฐม ออกหมายจับในคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งมีพยานให้การว่า เป็นคนขี่ จยย.ให้นายธนวัฒน์ หรืออ้วน แก้วงาม ซ้อนท้าย ไปจอดที่หน้าบ้าน และใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยว และถูกนางกรณัฐ หรือ เจ๊นัด จนเสียชีวิต ขณะนี้ ทั้ง 2 ยังหลบหนีการตามล่าของตำรวจอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวภายในวันสองวันนี้,ขณะเดียวกัน ทางด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.อภิชาติ ศรีทองกุล พงส.ผทค.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.นาวิน ทรงลออ พงส. และตำรวจจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ ที่บ้านเลขที่ 64/19 ม.1.ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี ที่เป็นบ้านของนางกรณัฐ หรือ เจ๊นัด แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเป็ด ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องกับบุตรชายไล่ยิง และมาถูกนางกรณัฐ จนเสียชีวิต เพื่อค้นหาวัตถุพยาน ทั้งที่จุดเกิดเหตุและบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนให้ละเอียดครบถ้วน และหาหัวกระสุนในที่เกิดเหตุและ ทิศทางการยิงของมือปืน ตรวจสอบสภาพแวดล้อม ซึ่งจากการตรวจสอบครั้งนี้ พบว่าที่ประตูด้านล่างมีรูกระสุนทะลุเข้าไปด้านในบ้านและที่ฝาผนังอีก 1 จุด แต่ไม่พบหัวกระสุน เจ้าหน้าที่จึงทำการบันทึกภาพในที่เกิดเหตุ,ล่าสุด เมื่อ 18.30 น. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม พบตัวนายธนวัฒน์ แก้วงาม มือปืน และนายยุทธนา สมบูรณ์ 2 ผู้ต้องหาที่ยังจับไม่ได้และเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่ใช้อาวุธปืนยิง แล้ว ภายในสวนแห่งหนึ่งใน อ.นครชัยศรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 หน่วยได้ปิดล้อมอยู่ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้มีคำสั่งไปให้ ตร.ที่เข้าจับกุมตัวระวังตัวเป็นพิเศษ หากมีการต่อสู้ขัดขืนการจับกุม ให้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดทันที
ตำรวจตรวจวิถีกระสุนยิงแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเป็ดดับแทนลูก ไปประกอบสำนวนคดี สะพัด! เจ้าหน้าที่รู้ที่กบดานมือยิงแล้ว ขณะนี้กำลังล้อมจับ ผบ.ตร.ลั่น หากยิงต่อสู้ขัดขืน ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดทันที
ข่าว,ทั่วไทย
สภ.นครชัยศรี,แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเป็ด,ดับแทนลูก,พล.ต.อ.จักรทิพย์,นครปฐม,ล้อมจับ,ไทยรัฐออนไลน์,ยิง,ฆ่า,ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างหลบหนี,หลักฐานเพิ่มเติม,วิถีกระสุน,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/477711
โสมแดงอ้างขีปนาวุธรุ่นใหม่ยากป้องกัน
นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ระบุถึงการยิงทดสอบขีปนาวุธรุ่นใหม่ 2 ลูกเมื่อช่วงเช้าตรู่วันพฤหัสบดี 25 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น คือ คำเตือนอย่างจริงจัง ถึง เกาหลีใต้ผู้กระหายสงคราม ทั้งระบุเกาหลีเหนือถูกบีบบังคับให้ต้องพัฒนาอาวุธเพื่อใช้ กำจัดภัยคุกคามโดยตรง นำไปสู่การพัฒนาระบบอาวุธนำวิถีรูปแบบใหม่,ผู้นำเกาหลีเหนือระบุอีกว่า เกาหลีใต้ไม่ควรปฏิเสธการเตือนจากเกาหลีเหนือ ทั้งอ้างถึงระบบขีปนาวุธรุ่นใหม่ของเกาหลีเหนือไม่ง่ายนักที่จะป้องกันการโจมตี ทั้งนี้ เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยยิงระยะใกล้ 2 ลูก จากเมืองวอนซาน แถบชายฝั่งตะวันออกของประเทศไปตกลงกลางทะเลญี่ปุ่น หรือทะเลตะวันออก ขีปนาวุธลูกหนึ่งพิสัยยิงระยะราว 690 กม. แต่ไม่ชัดว่านายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ควบคุมการยิงขีปนาวุธชุดนี้เองหรือไม่,การยิงขีปนาวุธ 2 ลูกดังกล่าว ถือเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งแรกนับแต่นายคิมพบหารือกะทันหันกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่เขตปลอดทหาร (DMZ) กั้นพรมแดนสองเกาหลีเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งเกิดขึ้นหลังเกาหลีเหนือแสดงความไม่พอใจต่อแผนซ้อมรบประจำปีของสหรัฐฯและเกาหลีใต้ในช่วงเดือนหน้า โดยเตือนเรื่องซ้อมรบอาจกระทบกระบวนการฟื้นการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เพราะเกาหลีเหนือย้ำมาตลอดเรื่องการซ้อมรบของสหรัฐฯกับเกาหลีใต้เสมือนการยั่วยุและเตรียมรุกรานเกาหลีเหนือ,อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้เรียกร้องเกาหลีเหนือให้ยุติพฤติกรรมทดสอบขีปนาวุธ เพราะไม่ได้ช่วยให้ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีผ่อนคลายลง ส่วน รมว.กลาโหมของญี่ปุ่นระบุการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือไม่ถึงน่านน้ำญี่ปุ่นและไม่กระทบความมั่นคงของญี่ปุ่น ขณะที่นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุถึงการทดสอบขีปนาวุธครั้งใหม่ของเกาหลีเหนือเป็นเพียงยุทธวิธีเรียกร้องเจรจาข้อพิพาท ส่วนนักวิเคราะห์สถานการณ์มองว่าเกาหลีเหนืออาจกำลังพยายามสร้างความแตกแยกระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีใต้.
คิม จอง-อึน เผยการยิงขีปนาวุธเมื่อวันพฤหัสบดี เป็นคำเตือนถึงเกาหลีใต้ และอ้างว่า ระบบขีปนาวุธรุ่นใหม่ของเกาหลีเหนือไม่ง่ายนักที่จะป้องกันการโจมตี
ข่าว,ต่างประเทศ
เกาหลีเหนือ,ทดสอบขีปนาวุธ,ขีปนาวุธรุ่นใหม่,เกาหลีใต้,คำเตือน
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1623923
เปิดกว้างเอสเอ็มอีคนตัวเล็ก ปล่อยกู้กระหึ่มให้ขยายกิจการ
โดยกระทรวงอุตสาหกรรมรับผิดชอบกองทุนเอสเอ็มอีคนตัวเล็กวงเงิน 8,000 ล้านบาท โดยเริ่มปล่อยกู้ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา และขณะนี้มีคำขอเข้ามาแล้ว 2,399 ราย วงเงิน 11,165 ล้านบาท อยู่ระหว่างวิเคราะห์ 173 ราย วงเงิน 167.8 ล้านบาท อนุมัติแล้ว 15 ราย วงเงิน 13.4 ล้านบาท วัตถุประสงค์ในการขอกู้ของ เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ระบุว่าต้องการนำเงินไปใช้ลงทุน ขยายปรับปรุงพัฒนากิจการให้มีประสิทธิภาพและขีดความสามารถเพิ่มมากขึ้น รวมถึงลงทุนเริ่มต้นธุรกิจ สร้างธุรกิจใหม่ หรือใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ กำหนดวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุด 3 ปี ดอกเบี้ย 1% ต่อปีตลอดอายุสัญญา ส่วนกรณีผู้กู้เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้จะให้วงเงินสูงสุดกู้ไม่เกิน 200,000 บาท หากมีการชำระหนี้เป็นปกติไม่น้อยกว่า 3 งวด หรือตามเงื่อนไขที่ ธนาคารกำหนด แต่ไม่น้อยกว่า 3 เดือนให้สามารถขอวงเงินเพิ่มได้ตามความเหมาะสม และความสามารถในการชำระหนี้,อย่างไรก็ตาม หากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) อนุมัติและทำสัญญาหมดแล้ว พบว่าคุณภาพของผู้กู้และสัดส่วนหนี้เสียอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ก็มีโอกาสที่รัฐบาลจะขยายวงเงินกู้เพื่อช่วยเอสเอ็มอี.
นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ การช่วยเหลือเอสเอ็มอีผ่านกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี และการให้คำปรึกษาผ่านศูนย์ช่วยเหลือเอสเอ็มอีมีความคืบหน้าไปมาก
ข่าว,เศรษฐกิจ
พสุ โลหารชุน,เอสเอ็มอี,หนี้,ปล่อยกู้,วงเงิน
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1270514
ชาวกรีซรวมตัวประท้วงรัฐบาลปิดสถานีวิทยุโทรทัศน์
ผู้ประท้วงรวมตัวที่หน้าบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพเฮเลนิค หรือ ERT ซึ่งเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากงบประมาณของรัฐบาล เพื่อประท้วงการตัดสินใจของรัฐบาล ที่ออกรัฐบัญญัติปิดสถานีดังกล่าว โดยอ้างว่างบสนับสนุนที่ให้กับสถานีแห่งนี้เป็นเงินที่สูญเปล่าเจ้าหน้าที่ในสถานียังคงไปทำงานตามปกติ และทำการถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ต ด้านสหภาพนักข่าวของกรีซ นัดหยุดงานประท้วง 24 ชั่วโมง ซึ่งจะรวมถึงการยุติออกอากาศข่าวทางสถานีเอกชนในช่วงหยุดงานประท้วงด้วย พร้อมทั้งระบุว่านักข่าวในกรีซจะไม่ยอมแพ้ จนกว่ารัฐบาลจะยกเลิกคำสั่งปิดสถานีขณะที่โฆษกรัฐบาลกรีซออกมาปกป้องการตัดสินใจปิดสถานี ERT ว่า การปิดสถานีอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการประกาศการตัดสินใจของรัฐบาล เป็นเพราะไม่ต้องการให้เกิดการนัดหยุดงานประท้วง หรือการทำลายข้าวของ และอุปกรณ์ของสถานี โดยเฉพาะแฟ้มภาพที่ทางสถานีเก็บไว้ ซึ่งถือเป็นสมบัติชาติพร้อมทั้งกำหนดกรอบเวลาว่าในอีก 1 เดือน จะเปิดตัวสถานีโทรทัศน์สาธารณะ ERT ใหม่ หลังปรับโครงสร้างให้คล่องตัว และลดขนาดองค์กร ท่ามกลางเสียงประณามจากหลายฝ่ายในสังคม รวมทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาชาติในสหภาพยุโรป
ชาวกรีซรวมตัวประท้วงที่หน้าสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ERT ที่จอดับ เนื่องจากรัฐบาลสั่งปิด เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ทางการเรียกว่าเป็นความสิ้นเปลือง
ต่างประเทศ
กรีซ,ประท้วง,วิทยุ,สถานี,โทรทัศน์
https://news.thaipbs.or.th/content/176428
ทักษิณ ปรับแผนดับไฟใต้ โยกคนเก่า-หั่นสายบังคับบัญชา
กรุงเทพฯ -- 20 พ.ค. 48พล.ต.อ. ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เผยแผนแก้ไฟใต้รอบใหม่ ระบุอาจมีการเปลี่ยนตัวบุคลากร และปรับสายบังคับบัญชาให้สั้นลง ทั้งนี้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในวันนี้ โดยผู้เข้าประชุมประกอบด้วย พล.อ. ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายรุ่ง แก้วแดง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ศึกษาธิการ พล.อ.วินัย ภัททิยะกุล เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ ภายหลังการประชุม พล.ต.อ. ชิดชัย กล่าวถึงผลการประชุมว่า สำหรับสถานการณ์ใต้นั้น ยังอยู่ในระดับที่จัดการได้ แต่ก็ต้องแก้เกม โดยจะต้องปรับในด้านการจัดการของกองอำนวยการสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ให้เน้นปฏิบัติการเชิงรุกมากขึ้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนพิจารณาร่วมกับสมช. เพื่อปรับให้การทำงานมีความกระชับขึ้น เช่นเรื่องสายบังคับบัญชาซึ่งต้องสั้นลง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติการในพื้นที่รับคำสั่งเต็มที่ และทำงานเชิงรุก ทั้งนี้ ในส่วนของการปรับการทำงานนั้น พล.ต.อ. ชิดชัยกล่าวว่าอาจจะรวมถึงตัวบุคคลด้วย แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือและยังไม่มีข้อยุติ เนื่องจากไม่อยากทำให้ใครเสียกำลังใจ เพราะทุกคนตั้งใจทำงาน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีข้อยุตติภายในเดือนกันยายนนี้ แต่ก็คงเป็นการปรับ เปลี่ยนเพียงเล็กน้อย พล.ต.อ. ชิดชัยกล่าวด้วยว่า แม้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคล ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นทำงานบกพร่องและคงต้องปรับทั้ง 3 ฝ่ายคือ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ทั้งนี้ พล.ต.อ. ชิดชัยกล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือกันเรื่องการปรับระบบการศึกษา และการปรับหน่วยข่าวด้วย สำหรับประเด็นการศึกษานั้น ที่ประชุมมุ่งให้ความสำคัญที่โรงเรียนปอเนาะและโรงเรียนตาดีกา โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ ดร. รุ่ง แก้วแดง รมช. ศึกษาฯ เป็นผู้พิจารณาราละเอียด และเชื่อว่าจะใช้ระบบการศึกษาใหม่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายในปี 2549 ด้านพล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า แม้จะมีการเปลี่ยนจากกฎอัยการศึกมาใช้กฎหมายฉบับใหม่ แต่ก็ต้องคำนึงถึงบทบาทของทหารด้วย เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ การควบคุมจากฝ่ายทหารก็ยังมีความจำเป็น
กรุงเทพฯ -- 20 พ.ค. 48 พล.ต.อ. ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เผยแผนแก้ไฟใต้รอบใหม่ ระบุอาจมีการเปลี่ยนตัวบุคลากร และปรับสายบังคับบัญชาให้สั้นลง ทั้งนี้ พ.ต.ท.
สิ่งแวดล้อม
null
https://prachatai.com/journal/2005/05/4087
ตร.วิสามัญฯ คนร้ายคดีฆ่าผู้อื่นโยงขบวนการค้ายาเสพติด
พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า นายคำรณ สว่างนพอายุ 28 ปี หลังถูก ตำรวจสืบสวนภูธรเมืองสมุทรปราการ วิสามัญฆาตกรรม ภายในรถยนต์ สีขาว ทะเบียน ฌร 2905 กรุงเทพมหานคร บริเวณลานจอดรถ ศูนย์การค้าฟู้ดแลนด์ สาขาศรีนครินทร์ ย่านตำบลสำโรงเหนือ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา สืบเนื่องจาก ตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธรเมืองสมุทรปราการ ทราบข้อมูลหลังขยายผลการจับกุมผู้เสพ และผู้ค้ารายย่อยว่า นายคำรณ เชื่อมโยงกับขบวนการค้าเสพติดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับหลายท้องที่ อาทิ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสมุทรปราการ ในคดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่น หลังทราบว่า นายคำรณ จะเข้ามาในจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเจรจาการค้ายาเสพติด ตำรวจจึงนำกำลังไปจับกุม แต่คนร้ายพยายามขับรถฝ่าวงล้อม พร้อมใช้อาวุธปืนยิงใส่ เพื่อเปิดทางหลบหนี ตำรวจจึงยิงตอบโต้ ถูกนายคำรณเสียชีวิต ส่วน นายศุภมิตร เฉลยโฉม คนขับรถบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลสมุทรปราการ โดยมีตำรวจติดตามไปเฝ้าเพื่ออายัดตัวหลังตำรวจตรวจจุดเกิดเหตุ พบว่า ป้ายทะเบียนรถของคนร้ายเป็นของปลอม เนื่องจากเป็นหมวดอักษรประเภท รถกระบะ ส่วนในรถ พบเสื้อคลุมแขนยาวมีอักษรคำว่า POLICE อาวุธปืน 1 กระบอกมีด 3 เล่ม และยาเสพติดจำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบข้อมูลว่า นายคำรณ มักใช้ปืนยิงใส่คู่กรณีโดยไม่มีเหตุอันควร คล้ายพฤติกรรมของ นายนพพล ประสงค์ศิล หรือ จิ๊บ ไผ่เขียว 1 ในคนร้าย ขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตำรวจจังหวัดสมุทรปราการ วิสามัญฆาตกรรม คนร้ายคดีฆ่าผู้อื่นในหลายท้องที่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีส่วนเชื่อมโยงขบวนการค้ายาเสพติดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อาชญากรรม
ขบวนการค้ายาเสพติด,คดีฆ่าผู้อื่น,ตร.,วิสามัญฆาตกรรม,สมุทรปราการ
https://news.thaipbs.or.th/content/69793
คนภาคอีสานมีความสุขที่สุด ลูกจ้างภาครัฐทำงานแฮปปี้กว่าพนักงานออฟฟิศ
นายภุชพงค์ โนดไธสง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผย (มีช่วงคะแนน 50.00-74.99 คะแนน) และเมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยคะแนนความสุขคนทำงานในองค์กรระดับประเทศ ในแต่ละมิติความสุขทั้ง 9 มิติ โดยมิติความสุขที่มีค่าคะแนนสูงที่สุดคือ มิติครอบครัวดี มีค่าคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 64.50 คะแนน และมิติที่มีค่าคะแนนต่ำที่สุดคือ มิติใฝ่รู้ดี มีค่าคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 49.46 คะแนน จัดอยู่ในระดับ Unhappy หรือ ระดับความสุขต่ำกว่าเป้าหมาย เป็นสัญญาณให้ต้องพัฒนาอย่างจริงจัง,และจากการจำแนกคนทำงานในองค์กร พบว่า คนทำงานเพศหญิงมีคะแนนความสุขสูงกว่าคนทำงานเพศชายเล็กน้อย เมื่อพิจารณาตามกลุ่มอายุ พบว่า วัยทำงานช่วงอายุ 25-59 ปี มีคะแนนความสุขสูงสุด รองลงมาคือวัยสูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ตามด้วยเยาวชนที่มีช่วงอายุ 15-24 ปี และเมื่อจำแนกตามสถานภาพการทำงาน พบว่า ลูกจ้างรัฐบาลมีคะแนนความสุขสูงกว่าลูกจ้างเอกชนมาก และหากแยกตามภาคพบว่าคนที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสานมีคะแนนความสุขสูงสุด รองลงมาเป็นภาคเหนือ, ภาคใต้, ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร,สำนักงานสถิติฯยังได้สำรวจความต้องการพัฒนาขีดความสามารถของประชากร พบว่า ประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป มีความต้องการพัฒนาขีดความสามารถ หรือสนใจเข้ารับการเรียนรู้ 4.76 ล้านคน โดยต้องการพัฒนาขีดความสามารถด้านอาหารและโภชนาการมากที่สุด ตามด้วยการเพาะปลูก, เสริมสวย, ช่างยนต์และตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นต้น.
ผลสำรวจความสุขคนทำงานปี 61 พบว่า คะแนนความสุขคนทำงานในองค์กรระดับประเทศมีค่าคะแนนเฉลี่ย 58.62 คะแนน ซึ่งตามเกณฑ์ของเครื่องมือ HAPPINOMETER จัดอยู่ระดับ HAPPY หรือ ระดับความสุขตามเป้าหมาย
ข่าว,เศรษฐกิจ
ผลสำรวจ,ความสุขคนทำงาน,ความสุข,พนักงานออฟฟิศ,สำนักงานสถิติแห่งชาติ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/1382532
หนุ่มพม่าขับรถส่งผัก ตกหลุมพลิกคว่ำ ทับลูกวัย 6 ขวบดับ
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 13 พ.ค. ร.ต.ท.ดำรงศักดิ์ แสงเงิน พงส.สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งเหตุรถพลิกคว่ำทับเด็กเสียชีวิตบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนกาญจนาภิเษกมุ่งหน้าบางแค แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ,ที่เกิดเหตุอยู่ในช่องทางเดินรถคู่ขนาน พบรถกระบะบรรทุกผักยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 1 ฒฆ 3722 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำตะแคงซ้ายในสภาพยางล้อหลังด้านขวาระเบิดขวางถนนทั้ง 3 เลน มีเข่งผักระเนระนาดกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน ที่คานเสาหน้าข้างซ้ายของตัวรถทับร่างผู้เสียชีวิตเป็นเด็กหญิงคาอยู่ 1 ราย ทราบชื่อคือ ด.ญ.ลิลลี่ ดอกไม้งาม อายุ 6 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนวัดนิมมานรดี สภาพศพกระดูกซี่โครงแหลกละเอียดที่แขนข้างซ้ายหักมีบาดแผลฉกรรจ์ โดยมีนายโซ ฮาลา อายุ 29 ปี ชาวพม่า ซึ่งเป็นบิดาและผู้คนขับรถนั่งร้องไห้กอดศพลูกไม่ห่างจนเป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น,จากการสอบสวน นายโซ ฮาลา ให้การทั้งน้ำตา ว่า ตนมีอาชีพขับรถส่งผักให้แม่ค้าในตลาดบางแค ก่อนเกิดเหตุขับรถจากบ้านพักย่านหลังตลาดบางแค พา น.ส.มะลิ ดอกไม้งาม อายุ 27 ปี ภรรยาชาว จ.กาญจนบุรี น้องลิลลี่ ลูกสาวคนโต และ น้องฮันนี่ ลูกสาวคนเล็กวัย 2 ขวบ ไปรับผักจากตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี กำลังมุ่งหน้าไปส่งให้ลูกค้าที่ตลาดบางแคตามปกติ ระหว่างที่มาถึงจุดเกิดเหตุปรากฏว่า รถเกิดกระเทือนอย่างรุนแรงคล้ายตกหลุมขนาดใหญ่ตนตกใจจึงเหยียบเบรกกะทันหันทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำทันที เนื่องจากบรรทุกผักมาเต็มคัน ส่งผลให้ร่างของน้องลิลลี่ หลุดออกนอกตัวรถ ก่อนถูกรถทับเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา โชคดีที่ภรรยากับลูกสาวคนเล็กปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บ,ด้าน ร.ต.ท.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งเหตุได้ประสานให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดสำนักงานเขตตลิ่งชันมาช่วยเคลื่อนย้ายรถ และเก็บเศษผักที่กระจัดกระจายบนพื้นถนนเพื่อเปิดเส้นทางการจราจรอย่างเร่งด่วน ส่วนนายโซ ฮาลา นั้นคาดว่าน่าจะได้สัญชาติไทยแล้ว เพราะเจ้าตัวมีใบอนุญาตขับขี่ เบื้องต้นจะรอให้สงบสติอารมณ์ก่อนเชิญตัวไปโรงพักรับทราบข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายต่อไป.
หนุ่มพม่าขับกระบะบรรทุกผักสดเตรียมไปส่งตลาด เกิดเสียหลักตกหลุม รถพลิกคว่ำ ทำให้ลูกสาวคนโตวัย 6 ขวบ กระเด็นออกนอกรถ ถูกรถทับดับ
ข่าว,ทั่วไทย
รถส่งผักพลิกคว่ำ,รถบรรทุกผัก,โซ ฮาลา,หนุ่มพม่าขับรถส่งผัก,มะลิ ดอกไม้งาม,ลิลลี่ ดอกไม้งาม,ลูกสาววัย6ขวบ,ถูกเสาคานทับเสียชีวิต,รถส่งผัก,ถนนกาญจนาภิเษก,ข่าว,ข่าวสังคมทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/498426
MOU กับภาคเอกชน บนระเบียงเศรษฐกิจ
สายวันที่ 19 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยมีเป้าหมาย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านธุรกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ผลักดันระเบียงเศรษฐกิจให้เกิดการยอมรับและเกิดโครงการต่างๆร่วมกันในอนาคต ทั้งนี้ผู้ร่วมลงนามในส่วนของราชอาณาจักรไทย นำโดยนายฐิติ วิศวชัยวัฒน์ ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ภาคเหนือล่าง 1 นายทวีศักดิ์ ปึงวงศานุรักษ์ ประธานหอการค้าภาคเหนือล่าง 1 นายปรีชา รังษีธนะไพศาล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคเหนือล่าง 1 ดร.บุญทรัพย์ พานิชการ ผอ.วิทยาลัยโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ม.นเรศวร เป็นพยาน ด้านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนำโดยนายสังเวียน แสงกันนารี ประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมแขวงไชยบูลี นายบุญเทียง สุลิวัน ประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมแขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นำโดยนายหลา เฉียน ประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมรัฐมอญ และนายโซ ติน เลขาธิการ สภาการค้าและอุตสาหกรรมรัฐกะเหรี่ยง,นายฐิติกล่าวว่า ภาคเอกชนทั้ง 3 ประเทศ ได้เล็งเห็นโอกาสในการเชื่อมโยงเพื่อให้เกิดการเจริญเติบโตของธุรกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการศึกษา ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 อันประกอบด้วย จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดตาก รวมถึงทางด้านของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จึงได้จัดโครงการประชุมนานาชาติ ระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย เรื่อง ภูดู่ ประตูแห่งมิตรภาพและโอกาส (Luangprabang-Indo–china-Mawlamyine Economic Corridor (LIMEC) International Conference PhuDoo Gate of Companionship and Opportunities) ขึ้น ระหว่างวันที่ 16-20 ส.ค.2558 เพื่อเป็นเวที ในการศึกษาความต้องการ ปัญหา อุปสรรคและแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจที่มีศักยภาพ และประชาสัมพันธ์จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ให้รับรู้ในวงกว้าง รองรับศักยภาพในการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจ และเป็นประตูสู่ประชาคมอาเซียนต่อไป.
ที่ห้อง คอนเวนชั่นโรงแรมท็อปแลนด์ จ.พิษณุโลก ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจในการขับเคลื่อนและสนับสนุน การดำเนินงานโครงการภายใต้ ระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย
ข่าว,ทั่วไทย
MOU,พิธีลงนาม,ระเบียงเศรษฐกิจ,หลวงพระบาง,อินโดจีน,เมาะลำไย,พิษณุโลก,ธุรกิจการค้า,การลงทุน,เศรษฐกิจ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/news/local/520328
ปัญหาและทางออกของ วิชาการดูแลสุขภาพในมิติจิตวิญญาณ ของ ม.เทคโนโลยีสุรนารี
ขณะนี้มีข้อเท็จจริงที่ว่า มีการเผยแพร่ เอกสารที่เป็นส่วนหนึ่งของการสอน ของวิชาการดูแลสุขภาพในมิติจิตวิญญาณ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีดังนี้เอกสารดังกล่าวได้รับข้อวิจารณ์ว่า (1) เป็นทัศนะแบบวิทยาศาสตร์เทียม pseudoscience ถ้าสอนทัศนะนี้ในฐานะความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ย่อมเป็นเรื่องที่เข้ากันไม่ได้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2) เอกสารที่เป็นส่วนหนึ่งของการสอน ขาดการอ้างอิงและความน่าเชื่อถือทางวิชาการทั้งในแง่ของวิชาวิทยาศาสตร์ วิชาพุทธศาสนศึกษา (Buddhist Studies) และวิชาพุทธปรัชญา (Buddhist philosophy) ถ้านำเอกสารนี้ถูกนำมาสอนในฐานะของความรู้ ย่อมเป็นเป็นเรื่องที่เข้ากันไม่ได้กับสถานะวิชาการและสถานะของมหาวิทยาลัยเชิงวิชาการ ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีน่าจะมีจุดยืนเป็นมหาวิทยาลัยเชิงวิชาการหลังจากเอกสารดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในสังคม สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้ออกมาชี้แจ้งว่า วิชาการดูแลสุขภาพในมิติจิตวิญญาณ (รหัสวิชา 601111) เป็นวิชาที่ใช้หลักการของศาสนาพุทธมาใช้เพื่อให้ผู้เรียนเป็นบุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม มีความสุข มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจ และรู้เท่าทันความเจริญทางวัตถุ เป้าหมายของวิชานี้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของบัณฑิตของมหาวิทยาลัย และผลลัพธ์ของการสอนก็เป็นไปตามเป้าหมายของวิชาที่วางไว้ ส่วนเรื่องเอกสารที่ถูกเผยแพร่ในสังคมนั้นเป็นเอกสารบางส่วนของหนังสืออ่านนอกเวลาที่ใช้ในการประกอบการสอนเท่านั้นจะเห็นได้ว่า ในขณะที่ข้อวิจารณ์มีความลึกซึ้งที่มุ่งวิพากษ์สถานะของความรู้ที่ถูกนำมาสอนผู้เรียนในมหาวิทยาลัยเชิงวิชาการ แต่คำชี้แจ้งของสำนักแพทยศาสตร์ฯ กลับเป็นเพียงการอธิบายเป้าหมายของวิชา ผลลัพธ์ตามเป้าหมาย และชี้ว่า เอกสารที่เผยแพร่ในสังคมไม่ใช่ เอกสารอ่านในเวลา แต่เป็น เอกสารอ่านนอกเวลา คำชี้แจงของสำนักแพทยศาสตร์ฯ จึงไม่สามารถตอบข้อวิจารณ์ได้ และดูเหมือนว่า สมมุติฐานที่ยอมรับไว้ก่อนของการแบ่งเอกสารเป็นใน/นอกเวลาเป็นการหลีกหนีประเด็นเพราะ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารใน/นอกเวลา สถานะของความรู้ในเอกสารนั้นก็ไม่ควรแตกต่างกัน มิเช่นนั้นก็อาจทำให้สรุปไปได้ว่า ถ้าอ่านในเวลา เอกสารจะต้องน่าเชื่อถือ แต่ถ้าอ่านนอกเวลา เอกสารไม่น่าเชื่อก็ได้นอกจากนั้นคำชี้แจ้งที่ว่า วิชาการดูแลสุขภาพในมิติจิตวิญญาณเป็นวิชาที่นำหลักการของศาสนาพุทธมาใช้ในการดูและสุขภาพ สอนคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ทำให้วิชานี้น่าจะอยู่ในขอบเขตของ การสอนศาสนา มากกว่าอยู่ในขอบเขตของวิทยาศาสตร์สุขภาพ (heatlh science)หากอยู่ในขอบเขตของ การสอนศาสนา ข้อวิจารณ์ในสังคมก็เป็นข้อวิจารณ์ที่ไม่ได้ใหม่เพราะ ทัศนะที่มุ่งวิพากษ์สถานะของความรู้ของ การสอนศาสนา ในมหาวิทยาลัยมีมานานแล้ว อย่างน้อยที่สุดนับได้จากการแยก การสอนศาสนา ออกเป็น เชิงจารีต (traditional) กับเชิงวิชาการ หรือที่เรียกว่า ศาสนศึกษา (religious studies) การสอนศาสนาเชิงวิชาการไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อสร้างศรัทธา ศาสนิก หรือบุคคลที่มีลักษณะตามคำสอนของศาสนา และวิธีการศึกษาจะต้อง เป็นวิชาการ ไม่ได้ใช้ศรัทธา และกำหนดความจริง/เท็จตามจารีตของตนเองแต่ในข้อเท็จจริงคงต้องยอมรับว่า การแบ่งแยกเชิงจารีต/เชิงวิชาการ ไม่ได้เป็นการแบ่งแยกเดียวกันกับนอกมหาวิทยาลัย/ในมหาวิทยาลัย เพราะมีบางมหาวิทยาลัยเป็น มหาวิทยาลัยศาสนา ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างนักบวชของศาสนาตนอย่างไรก็ดี การแบ่งแยกเชิงจารีต/เชิงวิชาการ ไม่ได้บอกว่า ในพื้นที่ใดๆ จะต้องสอนศาสนาจะต้องเป็นแบบวิชาการ หากแต่บอกว่า ถ้ามหาวิทยาลัยมีจุดยืนที่จะเป็นมหาวิทยาลัยเชิงวิชาการ ก็ไม่ควรสอน เชิงจารีต เพราะมันขัดแย้งกันปัญหาของการที่วิชานี้อยู่ในขอบเขตของ การสอนศาสนา คือทำไมผู้สอนจึงไม่ใช่อาจารย์ด้านปรัชญาหรือศาสนศึกษา แต่กลับเป็นด้านแพทยศาสตร์ ถ้าผู้สอนเป็นอาจารย์ปรัชญาหรือศาสนศึกษาน่าจะทราบและเลือกใช้เอกสารที่มีความน่าเชื่อถือได้ ข้อกังขาจากสังคมก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ถ้าไม่พิจารณาในขอบเขตของ การสอนศาสนา แต่พิจารณาในขอบเขตของ วิทยาศาสตร์สุขภาพ (heatlh science) แทน การดูแลสุขภาพในมิติจิตวิญญาณ (Spiritual Healthcare) เป็นหัวข้อที่มีมาตั้งนานแล้วเช่นกัน เป็นการมุ่งดูแลสุขภาพ (health) มนุษย์ ซึ่งมีความคิดพื้นฐานที่ว่า มนุษย์ไม่ได้ประกอบแต่เพียงร่างกายเท่านั้น หากแต่มนุษย์มีมิติของจิตวิญญาณ (Spiritual dimension) ด้วย การกล่าวถึง จิตวิญญาณ นี้ ไม่ได้เป็นกำลังกล่าวถึง ผี ปีศาจ วิญญาณ แต่เป็นการกล่าวถึง ระบบคุณค่าความหมาย (value meaning) ต่างๆ ที่ประกอบรวมเป็นมนุษย์คนๆ หนึ่ง และการดูแลมิติด้านจิตวิญญาณนี้ส่งผลที่ดีต่อภาพรวมของสุขภาพ ตัวอย่างที่เข้าใจได้ง่ายคือ สำหรับบางคนการเข้าใจความหมายของชีวิตส่งผลให้ความเครียดลดน้อยลงสิ่งที่ทำให้การดูแลสุขภาพในมิติจิตวิญญาณไปเชื่อมโยงกับศาสนาได้เพราะ สำหรับบางคน ระบบคุณค่าความหมาย ของเขาเป็นเรื่องทางศาสนา แต่การเชื่อมโยงนี้เป็นแบบไม่จำเป็นเพราะ ระบบคุณค่าความหมายไม่ได้จำกัดอยู่กับแค่ศาสนาหรือจำกัดอยู่กับแค่ศาสนาพุทธเท่านั้น แต่ยังมีระบบคุณค่าความหมายที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาด้วย และก็เป็นข้อเท็จจริงที่ว่า ระบบคุณค่าที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาเป็นมิติทางจิตวิญญาณของคนจำนวนไม่น้อย อีกทั้งการศึกษาเชิงวิชาการเรื่องมิติจิตวิญญาณของสุขภาพก็ไม่ได้จำกัดเพียงแค่มิติทางศาสนาเท่านั้น หากทบทวรรณวรรณกรรมอย่างครบถ้วนก็ไม่น่าจะได้คำตอบที่จำกัดอยู่กับแต่ศาสนาพุทธ และด้วยนัยยะนี้การดูแลสุขภาพในมิติจิตวิญญาณจึงมีลักษณะอัตวิสัย (subjective) ขึ้นอยู่กับระบบคุณค่าความหมายของแต่ละคนด้วยดังนั้น การดูแลสุขภาพในมิติจิตวิญญาณจึงไม่ได้มีเป้าหมายที่จะทำให้บุคคลหนึ่งเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายของวิชาที่สำนักแพทยศาสตร์ฯ เปิดสอน หากแต่เป็นหมายเป็นไปตามชื่อคือ ดูแลสุขภาพ โดย ดูแลมิติทางจิตวิญญาณของสุขภาพ ที่จะต้องพึงตระหนักอยู่เสมอถึงความเป็นอัตวิสัยของระบบคุณค่าความหมาย มิเช่นนั้นจะกลับกลายเป็นการบังคับให้ผู้เรียนเปลี่ยนระบบคุณค่าความหมายของตนเพื่อเข้ากับทัศนะของผู้สอน การทำเช่นนี้จะสอดคล้องกับ การสอนศาสนาเชิงจารีต อันเป็นการสอนศาสนาที่ไม่ควรอยู่ในมหาวิทยาลัยเชิงวิชาการผู้เขียนเห็นว่า ทางออกของสำนักแพทยศาสตร์ฯ น่าจะมีอยู่ 2 ทางคือ ทางแรก ปิดวิชานี้ เพราะเท่าที่พิจารณาจากข้อมูลที่มีอยู่ นอกจากเอกสารที่เป็นส่วนหนึ่งของการสอน ขาดความน่าเชื่อถือทางวิชาการทั้งในแง่ของวิชาวิทยาศาสตร์ วิชาพุทธศาสนศึกษา และวิชาพุทธปรัชญา แล้วเป้าหมายของวิชายังไม่ได้เป็นเป้าหมายของ Spiritual Healthcare ที่แท้ด้วยทางที่สองคือ ปรับลักษณะต่างๆ ของวิชา เพราะเนื้อแท้ Spiritual Healthcare เป็นสิ่งก่อให้เกิดผลดีต่อภาพรวมของสุขภาพ ดังนั้นการที่นักศึกษาจะได้เรียนรู้เรื่องนี้ย่อมก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพของเขาไม่มากก็น้อย แต่สิ่งที่ต้องปรับคือให้เป็น Spiritual Healthcare ที่แท้ ไม่ใช่มีเป้าหมายเพื่อสอนให้คนมีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม เอกสารและเนื้อหารายวิชาวางอยู่บนข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือ และตระหนักความเป็นอัตวิสัยของระบบคุณค่าความหมาย ไม่ใช่มุ่งสอนระบบคุณค่าของศาสนาพุทธ ซึ่งแท้จริงก็เป็น ศาสนาพุทธในแบบที่คนสอนเข้าใจ อาจจะตรงหรือไม่กับพุทธปรัชญาก็ได้ความตระหนักนี้อาจทำได้โดยไม่ให้วิชานี้สอนโดยอาจารย์คณะแพทย์อย่างเดียว แต่ต้องดึงอาจารย์จากสาขาวิชาอื่นๆ เกี่ยวข้องกับระบบคุณค่าความหมายมาสอนด้วย แง่นี้สาขาวิชาที่ขาดไปไม่ได้คือ ปรัชญา เพราะปรัชญาเกี่ยวข้องกับคำถามเกี่ยวกับคุณค่า ชีวิตที่ดี ความหมายของชีวิต ทั้งทางศาสนาและนอกเหนือจากศาสนา และการทำงานของปรัชญาไม่ได้ยอมรับไว้ก่อนว่า คำตอบที่ถูกต้องคืออะไร ดังนั้นในการสอนอาจารย์ปรัชญาจึงไม่มุ่งสอนให้ผู้เรียนมีระบบคุณค่าความหมายตามของตน อันสอดคล้องกับความเป็นอัตวิสัยของมิติด้านจิตวิญญาณ และไม่ทำให้วิชานี้กลายเป็นการสอนศาสนาเชิงจารีต อันขัดกับความเป็นมหาวิทยาลัยเชิงวิชาการอย่างไรก็ดี ผู้เขียนเห็นว่า ข้อเสนอเรื่องทางออกค่อนข้างมีข้อจำกัดเพราะข้อมูลที่มีอยู่เป็นเพียงบางส่วนของวิชา คงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยที่สำนักแพทยศาสตร์ฯ จะเปิดเผยประมวลรายวิชา รายนามเอกสารอ้างอิงทั้งหมด เอกสารประกอบการสอนทั้งในและนอกเวลาทั้งหมด สไลด์ประกอบการสอนตามความเป็นจริง จะได้เป็นลบข้อกล่าวหาและข้อกังขาของสังคมที่มีต่อวิชานี้ด้วย1. ในคำชี้แจงสำนักแพทยศาสตร์ฯ ใช้คำว่า คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ติดกัน ข้อสังเกตคือในสังคมไทยมักจะพบการใช้สามคำนี้ติดกันอยู่เสมอและใช้อย่างไม่เข้าใจที่มาและความหมายของทั้งสามคำ2. การสอนจริยธรรม เป็นสิ่งที่อยู่ในวิชาจริยศึกษา (moral education)3. ติดตามเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ที่ facebook ของอ. เจษฎา Jessada Denduangboripant
ขณะนี้มีข้อเท็จจริงที่ว่า มีการเผยแพร่ เอกสารที่เป็นส่วนหนึ่งของการสอน ของวิชาการดูแลสุขภาพในมิติจิตวิญญาณ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีดังนี้ เอกสารดังกล่าวได้รับข้อวิจารณ์ว่า (1)
วัฒนธรรม,การศึกษา
วิชาการดูแลสุขภาพในมิติจิตวิญญาณ,เทคโนโลยีสุรนารี,ยุทธศิลป์ อร่ามศรี,วิทยาศาสตร์สุขภาพ,การสอนศาสนา
https://prachatai.com/journal/2019/01/80609
สุดช็อก หมอออสซี่ จงใจฉีดอินซูลินฆ่าเมีย ฮุบประกัน 17ล้าน อยู่กับชู้
เมื่อ 9 ธ.ค. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าคดีดังในออสเตรเลีย นายแพทย์ไบรอัน คริซคิตต์ วัย 63 ปี ชาวออสเตรเลียในนครซิดนีย์ รัฐนิว เซาท์ เวลส์ ตกเป็นผู้ต้องหาอุกฉกรรจ์ ก่อคดีฆาตกรรม นางคริสตีน คริซคิตต์ อายุ 61 ปี ภรรยาของตนเองเมื่อปี 2553 หรือ 6 ปีก่อนนั้น ในที่สุด เมื่อ 8 ธ.ค. ศาลสูงนิว เซาท์ เวลส์ ซึ่งได้ใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์พิจารณาคดี พบว่า นายแพทย์ไบรอัน ซึ่งเป็นหมออายุรแพทย์ ได้ตั้งใจฆาตกรรม ฉีดฮอร์โมนอินซูลินปริมาณเกินกำหนดเพื่อปลิดชีพเธอ ที่บ้านพัก ในนครซิดนีย์ ช่วงวันที่ 31 ธันวาคม 2552 และ 1 มกราคม 2553,ระหว่างการพิจารณาคดี อัยการได้ให้การต่อศาลสูงว่า ในช่วงหลายวันก่อนที่ นายแพทย์ไบรอัน จะลงมือฆ่าภรรยาของเขาเองนั้น เขาได้เสิร์จ ค้นหาข้อมูลในกูเกิลเกี่ยวกับการจงใจใช้ฮอร์โมนอินซูลินปริมาณมากเกินกำหนดที่ส่งผลอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาได้เขียนใบสั่งยาสำหรับการซื้ออินซูลินให้แก่คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และนำใบสั่งยาไปซื้อที่ร้านขายยาแคมป์เบลล์ทาวน์ โดยหลังจากที่เขาได้ฉีดอินซูลินในปริมาณที่เป็นอันตรายต่อชีวิตให้แก่ภรรยาแล้ว ในค่ำคืนนั้น เขายังไปหา นางสาวลินดา ลิเวอร์มอร์ ชู้รักของเขาด้วย,อัยการยังอ้างว่า เจตนาที่นายแพทย์ไบรอันต้องการฆ่านางคริสตีน ภรรยา เพื่อหวังเอาเงินประกันชีวิตที่นางคริสตีนทำไว้เป็นจำนวนเงินกว่า 5 แสนดอลลาร์ (ประมาณกว่า 17.5 ล้านบาท) และยังต้องการดำเนินความสัมพันธ์กับ นางลิเวอร์มอร์ ชู้รัก ที่ทำให้เขาไม่ชอบภรรยาของตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ,เว็บไซต์ ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮอรัลด์ ในออสเตรเลีย รายงานว่า บริเวณด้านนอกศาลสูงนิว เซาท์ เวลส์ นางเทรซีย์ วิกกินส์ บุตรสาวคนโตของนางคริสตีน คริซคิตต์ ที่เกิดจากการแต่งงานครั้งแรก ซึ่งมารับฟังการพิจารณาไต่สวนคดี พูดด้วยความเสียใจว่า เธอคิดว่า เธอรู้จักนายคริซคิตต์ดี และคงไม่มีคำพูดใดสามารถอธิบายถึงความเจ็บปวดของครอบครัวที่ได้รับในครั้งนี้ได้,ทั้งนี้ หลังจาก นางคริสตีน คริซคิตต์ เสียชีวิตในช่วงสิ้นปีแล้ว ไม่มีการชันสูตรศพใดๆ จนถึงวันที่ 2 ม.ค. 53 และไม่มีการแจ้งสาเหตุที่ทำให้เธอเสียชีวิต กระทั่งหลายเดือนต่อมา เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ดูภาพศพของนางคริสตีน หลังเสียชีวิต และสังเกตเห็นรอยจุดเล็กๆ สีแดงชัดเจนรอยหนึ่งที่บริเวณก้นของนางคริสตีน จนนำไปสู่การสืบสวนในคดีนี้ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตจนได้ความกระจ่างชัดในที่สุด,ก่อนหน้านี้ คำให้การของนายแพทย์ไบรอัน ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในเย็นวันที่พบ นางคริสตีน ภรรยาเสียชีวิต บอกว่าเขาและภริยาได้เกิดการทะเลาะตบตีกัน จนทำให้เขาเก็บเสื้อผ้าและขับรถออกมาจากบ้านด้วยความฉุนเฉียว ก่อนจอดนอนที่สวนสาธารณะและหลับไป โดยนายแพทย์ไบรอันบอกกับตำรวจว่าเขาได้โทรศัพท์หาเพื่อนคือ นางสาวลิเวอร์มอร์ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหญิงคนนี้ อย่างไรก็ตาม คำให้การหนสองของนายแพทย์ไบรอัน เขาสารภาพผิดกับตำรวจว่าได้พูดเท็จเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับนางสาวลิเวอร์มอร์ และบอกว่าหลังทะเลาะกันแล้ว เขาได้ขับรถตรงไปยังบ้านของลิเวอร์มอร์และนอนค้างคืนที่นั่น แต่เมื่อเขากลับมาบ้านในวันปีใหม่ ก็พบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตแล้วบนพื้นในห้องนอน
ต้องอึ้งศาลสูงออสเตรเลีย พบความผิด หมอไบรอัน วัย 63 จงใจฉีดอินซูลินปริมาณมากเกินกำหนดเพื่อฆ่าภรรยา หลังอัยการพบหลักฐานค้นหาข้อมูลเขียนใบสั่งซื้อยาเอง ฉีดเอง หวังเอาเงินประกันที่ภรรยาทำไว้กว่า 17.5 ล้าน และจะได้อยู่กับชู้รัก
null
หมอออสเตรเลีย ฉีดอินซูลินฆ่าเมีย,ไบรอัน คริซคิตต์,หมอออสเตรเลีย ฆ่าเมีย,เงินประกันชีวิต,อยู่กับชู้รัก
https://www.thairath.co.th/content/806427
น้าชายไม่ทน ปืนอัดลมยิงอกหลานดับ ปมโมโห ระราน หมา-วางยาเบื่อ
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2560 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พล.ต.ต.สมเกียรติ เกิดจงรัก ผบก.ภ. จว.สกลนคร พ.ต.อ.ธวัชชัย หาญนัทธี รองฯ พร้อมพวก แถลงข่าวการจับกุม นายดำรง ทองอันตัง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 728 ม.7 ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร หลังก่อเหตุใช้ปืนอัดลมยาวไทยประดิษฐ์ ยิงหลานชายคือ นายอนุชา ศรีพุ่ม อายุ 27 ปี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.7 ต.ท่าแร่ เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดที่ 41 ม.7 บ้านท่าแร่ ตำบลท่าแร่ ใกล้บ้านผู้ก่อเหตุ จากนั้นได้หลบหนีไป,ต่อมาตอนสายวันนี้ ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ ที่กระท่อมนา บ้านหนองผือ ต.นาแก้ว อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร นำมาสอบสวน ซึ่งนายดำรง ทองอันตัง รับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ใช้ปืนยิงนายอนุชา ศรีพุ่ม ผู้เป็นหลานชายแท้ๆ ของตนจริง เนื่องจากตนเองกับนายอนุชา ผู้ตาย มีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน เรื่องสุนัขที่ตนเองเลี้ยงไว้,นายดำรง อ้างว่า ผู้ตายเคยใช้ยาเบื่อสุนัขที่ตนเลี้ยงไว้ และเวลาเมาจะชอบเตะสุนัขของตนเป็นประจำ ทั้งยังขู่ว่าจะจับสุนัขของตนไปย่าง ไม่เคยแสดงความเคารพ ทั้งๆ ที่ตนเองมีศักดิ์เป็นน้าชายแท้ๆ ในวันเกิดเหตุ ตนเองนอนดูโทรทัศน์ในบ้าน เวลาประมาณ 19.00 น.นายอนุชา ผู้ตาย ได้มาตะโกนโหวกเหวกที่หน้าบ้าน ลักษณะเป็นการท้าทาย ด้วยความโมโห ตนเองจึงจับปืนอัดลม ที่ตนเองไว้ใช้ล่าหนูนา ยิงสวนออกไป โดยไม่คิดว่า กระสุนปืนอัดลมจะเข้ากลางหน้าอก จนเป็นเหตุให้นายอนุชา ถึงแก่ชีวิต,หลังจากเกิดเหตุตนได้หนีไปหลบในกระท่อมนาอีกหมู่บ้านหนึ่ง จนมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด ก็รู้สึกเสียใจ ไม่คิดว่าปืนอัดลม จะทำให้หลานชายถึงแก่ความตาย ซึ่งขอรับผิดในสิ่งที่ตนเองทำลงไป 
น้าแท้ๆ ใช้ปืนอัดลม ยิงหลานชายดับ อ้างปมเหตุชอบระราน-รังแกสุนัขที่เลี้ยงไว้ ซ้ำวางยาเบื่อ ไร้ซึ่งความเกรงใจ ก่อนเกิดเหตุยั่วโมโหโวยวาย ทนไม่ไหวยิงปืนอัดลมใส่อกหลานดับ! รู้สึกผิดไม่คิดจะถึงตาย
ข่าว
ยิงหลานชายดับ,น้ายิงหลาน,ระรานหมา,สกลนคร,ปืนอัดลม
https://www.thairath.co.th/news/959625
อุเทน ลั่นพร้อมร่วมวงคุยปรองดอง แนะใจกว้าง แก้มาตรฐานบังคับใช้ ก.ม.
เตือน คสช.มีอำนาจ-เวลาล้น แต่บางปัญหาล่าช้ามาก แก้ไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ปล่อยไว้จะยิ่งเสียหายกว่านี้,เมื่อวันที่ 13 ก.พ.60 นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการรับฟังความเห็น ในคณะกรรมการอำนวยการเตรียมการปรองดองจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองเรียงตามตัวอักษรเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อสร้างความปรองดอง ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ว่า ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนคนไทยทุกคน ต้องการเห็นความสมัครสมานสามัคคีเกิดขึ้นในบ้านเมืองอย่างแน่นอน พรรคคนไทยเองก็พร้อมที่จะไปร่วมพูดคุย และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างความปรองดอง หากแต่ยังกังวลว่าการกำหนด 10 หรือ 11 ประเด็นหัวข้อไว้ล่วงหน้า โดยห้ามพูดนอกเหนือจากที่กำหนดนั้น ก็เหมือนกับเลี่ยงไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นในหัวข้ออื่น ซึ่งบางความเห็นอาจมาจากบริบทความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม อีกทั้งยังอาจถูกมองว่ามีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า จนการรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้เป็นเพียงพิธีกรรม เพื่อให้กระบวนการนี้เกิดความศักดิ์สิทธิ์น่าเชื่อถือเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าหากไม่สามารถแก้ไขการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามหลักสากล ยังมีหลายมาตรฐานอยู่เช่นนี้ เราคงต้องยอมรับว่าการปรองดองของคนในชาติจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้,เมื่อเปิดเวทีพูดคุยแล้ว ก็ต้องรับฟังและให้น้ำหนักผู้แสดงความคิดเห็นทุกคน ทุกฝ่ายอย่างทั่วถึง ไม่ใช่ฟังหรือให้ความสำคัญแต่พรรคการเมืองใหญ่ ซึ่งจะเป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่เกณฑ์ตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ไปเข้าฉาก แต่พอบทสรุปออกมา ก็เป็นไปตามบทที่ผู้กำกับเขียนไว้ นายอุเทน กล่าว,นายอุเทน กล่าวด้วยว่า รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีอำนาจที่เหลือล้น มีเวลาที่เหลือเฟือ ก็ควรคิด ตระหนักถึงปัญหาของชาติที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจของคนรากหญ้า ที่ตนได้เตือนไปแล้วหลายครั้งว่า จะเกิดวิกฤติความเหลื่อมล้ำ หากเสียเวลามากไปกว่านี้ เศรษฐกิจบ้านเมืองจะยิ่งเสียหายและหมดหนทางที่จะฟื้นตัว จนอาจเกิดวิกฤติเหมือนเมื่อปี 2540 ที่จำเป็นต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แต่ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ต้องไม่ลืมว่า วิกฤติเมื่อปี 2540 เป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นจากคนรวย ซึ่งรัฐบาลตอนนั้นแค่เข้าไปช่วยให้เกิดการเจรจาประนอมหนี้ปัญหาก็คลี่คลายลง แตกต่างจากในตอนนี้ ที่วิกฤติเกิดจากปัญหาปากท้อง คนจนจึงเหนื่อยและลำบาก การที่ใช้นโยบายโยนเงินให้เพียง 2-3 พันบาท เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เหตุเพราะปัญหาหมักหมมมานาน จากการใช้จ่ายภาครัฐที่ฟุ่มเฟือย ไร้ประสิทธิภาพ เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน จนภาระหนี้ตกอยู่กับส่วนรวม โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่มีการใช้งบประมาณอย่างสุรุ่ยสุร่ายขาดการตรวจสอบ ส่งผลให้เศรษฐกิจของชาติฝืดเคือง ข้าวยากหมากแพง ประชาชนส่วนใหญ่ชักหน้าไม่ถึงหลัง ทั้งนี้ขอเตือนว่าถ้าวันหนึ่งคนจนเกิดอิจฉาคนรวย อิจฉาข้าราชการ อิจฉาที่รัฐบาลเอาใจแต่คนกลุ่มนี้ขึ้นมา วันนั้นก็คงถึงคราวกลียุคแน่
พรรคคนไทยพร้อมร่วมวงปรองดอง แนะกรรมการเปิดใจกว้าง ฟังความเห็นที่กลั่นมาจากความเป็นจริง ดักคอตั้งประเด็นคำถามไว้แค่เป็นพิธี แต่ล็อกคำตอบไว้แล้วหรือเปล่า ชี้แก้เรื่องมาตรฐานการบังคับใช้ ก.ม.ไม่ได้ ก็หมดทางปรองดอง
null
อุเทน ชาติภิญโญ,พรรคคนไทย,ปรองดอง,ป.ย.ป.,กฎหมาย
https://www.thairath.co.th/content/857484
ฟุตซอลไทย ชนะอิหร่าน เข้าชิงชนะเลิศแชมป์เอเชีย
การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย รอบรองชนะเลิศ วานนี้ (30 พ.ค.) ทีมฟุตซอลไทย พบ ทีมอิหร่าน ซึ่งเป็นทีมอันดับ 1 ของเอเซีย และอันดับ 6 ของโลก โดยเริ่มเกมอิหร่านขึ้นนำ 2-0 จาก วาฮิด แซมเซอี กับ อัลเซีย ทาเยบี้ แต่ ไทยได้ประตูแรกจาก ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ขณะที่อิหร่านเริ่มเกมเร็วทำประตูที่ 3 แต่ไทย ได้จุดโทษ โดย ศุภวุฒิ ทำประตูที่ 2 ให้ไทย ก่อนจบเกม จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ทำประตูตีเสมอให้ไทย ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ 10 นาที ซึ่ง อภิวัฒ์ แจ่มเจริญ ทำประตูที่ 4 ให้ไทย แต่อิหร่านได้ประตูตีเสอมจาก วาฮิด แซมเซอี แต่นาทีสุดท้าย ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ทำประตูชัยให้ไทยชนะอิหร่าน 5-4 ส่งผลให้ไทยผ่านเข้าไปรอบชิงชนะเลิศได้เป็นสมัยที่ 2โดยไทยจะเข้าไปพบกับ ญี่ปุ่น ที่ชนะออสเตรเลีย ในวันพรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ฟุตซอลไทย ชนะอิหร่าน 5-4ส่งผลให้ไทยผ่านเข้าไปรอบชิงชนะเลิศฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย โดยไทยจะเข้าไปพบกับ ญี่ปุ่น พรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
กีฬา
ชนะ,ชิงชนะเลิศ,ญี่ปุ่น,ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย,ฟุตซอลไทย,อิหร่าน
https://news.thaipbs.or.th/content/88351
ดีเอสไอคุมผู้ต้องหาเครือข่าย โกตี๋ ฝากขัง ค้านประกันตัว
วันนี้ (25 มี.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ควบคุมตัวผู้ต้องหาเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) พร้อมพวกรวม 9 คน มาที่ศาลอาญา เพื่อขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก 12 วัน ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ขอยื่นคัดค้านการประกันตัว โดยระบุว่า เป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เนื่องพบอาวุธสงครามจำนวนมาก รวมถึงกังวลว่าผู้ต้องหาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหลักฐานอื่นในคดีผู้ต้องหาในคดีนี้ถูกจับกุมในปฏิบัติการตรวจค้นแหล่งสะสมอาวุธสงคราม 9 จุด ใน 7 จังหวัด เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหาแตกต่างกัน เช่น อั้งยี่ซ่องโจร ครอบครองอาวุธสงคราม และข้อหาอื่นๆ และในจำนวนนี้มีผู้ต้องหา 1 คนที่ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) อายัดตัวดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีการเผยแพร่ข้อความหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งทหารจะควบคุมตัวไปที่ศาลทหารขณะที่ญาติผู้ต้องหา เตรียมยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวชั่วคราว หากศาลพิจารณาไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 9 คนจะถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพทันทีพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า จะขอความร่วมมือกับประเทศลาว เพื่อขอส่งตัวนายวุฒิพงษ์ กับพวกรวม 4 คน กลับมาดำเนินคดี หลังมีข้อูมลหลบหนีไปอาศัยอยู่ พร้อมยืนยันเจ้าหน้าที่ทำคดีอย่างตรงไปตรงมาล่าสุด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำผู้ต้องหาเครือข่ายนายวุฒิพงษ์ ส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิง หลังจากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว
พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำผู้ต้องหาเครือข่ายโกตี๋ 9 คน ขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก 12 วัน ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง
อาชญากรรม
ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,โกตี๋,เครือข่ายโกตี๋,อาวุธ
https://news.thaipbs.or.th/content/261140
รวบชายใบ้ลักโน้ตบุ๊กในร้านเวดดิ้ง คาดเอาไปขายต่อไม่ได้เลยนำมาคืน
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 59 พ.ต.ท.สมชาย เมืองใย สว.สส.สภ.เมืองชลบุรี พร้อมพวกเข้าจับกุมหนุ่มใบ้ ไม่ทราบชื่อและที่อยู่ ขณะนั่งอยู่บนโต๊ะม้าหินภายในซอยหน้าโรงเรียนวัดกำแพง เขตเทศบาลเมือง ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี ตามหมายจับของศาล จ.ชลบุรี ที่ จ.343/2559 ลงวันที่ 24 ส.ค. 59,สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจากนางสาววีรยา ธีระตันติกุล อายุ 22 ปี เจ้าของร้านวีว่า เวดดิ้ง ถ.สุขุมวิท อ.เมือง จ.ชลบุรี ว่ามีคนร้ายปีนเข้าทางหน้าต่างหลังตึก งัดเก๊ะโต๊ะทำงานเอากล้องถ่ายรูปไป 2 ตัว และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง ใส่กระเป๋าสะพายไป ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ชัดเจน,ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายรายนี้เป็นคนใบ้เร่ร่อนอาศัยนอนอยู่บนเตียงผ้าใบที่จับกุมได้ จึงรวบรวมหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ขอหมายศาล จ.ชลบุรี เข้าจับกุมได้ดังกล่าว และเนื่องจากสืบได้ว่าคนร้ายเป็นคนใบ้พูดไม่ได้ จึงได้ทำหนังสือขอเชิญ นายวัชระ อินทนนท์ ครูผู้ชำนาญการ โรงเรียนโสตศึกษา จ.ชลบุรี เข้าร่วมสอบสวนขณะจับกุมด้วย,นายวัชระ กล่าวว่า หลังสอบถามคนร้าย ทราบว่าเป็นคนไทยแต่อยู่ไกลไม่ทราบว่าชื่ออะไร และอยู่จังหวัดอะไร สารภาพว่าได้เข้าก่อเหตุที่ร้านนี้จริง โดยปีนเข้าด้านหลัง แล้วปีนเข้าหน้าต่าง เดินลงมาชั้นล่างรื้อค้นเอาทรัพย์สินไป แต่เนื่องจากคงนำไปขายไม่ได้หรืออย่างไร วันรุ่งขึ้นได้นำกระเป๋ามีโน้ตบุ๊ก และกล้องถ่ายรูปมาแขวนคืนไว้ที่หน้าร้านให้,ส่วน นางสาววีรยา กล่าวว่า วันรุ่งขึ้นหลังโดนก่อเหตุ คนร้ายได้เอากระเป๋าพร้อมของกลางที่ขโมยไปเอามาแขวนไว้ที่หน้าบ้านจริง สงสัยเปิดหรือใช้ไม่เป็น หรืออาจขายไม่ได้จึงนำมาคืน เบื้องต้นดีใจที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้ จะได้ไม่ไปก่อเหตุที่อื่นอีก
ตร.ชลบุรี รวบชายใบ้ ย่องเบางัดแงะร้านเวดดิ้ง ขโมยกล้องถ่ายรูป 2 ตัว คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง แต่วันรุ่งขึ้นกลับเอาของมาแขวนคืนไว้ที่หน้าร้าน คาดคงนำไปขายต่อไม่ได้
null
ชายใบ้ขโมยของ,ชายใบ้ลักโน้ตบุ๊ก,ชายพิการ,ชายใบ้,ย่องเบาขโมยของ,วีว่า เวดดิ้ง,วีว่า เว็ดดิ้ง,โรงเรียนโสตศึกษา,ชลบุรี
https://www.thairath.co.th/content/706429
ผบช.ก. ส่งหลักฐานให้ ศรีวราห์ กรณี 2 นายตำรวจกองปราบ เอี่ยว ม.112
ความคืบหน้ากรณี 4 นายตำรวจกองบังคับการปราบปราม ที่ลาออกจากราชการก่อนหน้านี้ และพบว่า 2 ใน 4 อดีตนายตำรวจ มีความเชื่อมโยงกับขบวนการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ,เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2558 พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ได้ส่งพยานหลักฐานของ 2 อดีตนายตำรวจสังกัดกองบังคับปราบปราม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้กับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับการหักค่าหัวคิวด้านสื่อสารมวลชน,โดยหลักฐานดังกล่าวได้จากการบอกเล่าของพยานแวดล้อมที่มีการซัดทอดมาถึง 2 อดีตนายตำรวจ แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินของผู้กระทำผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการหาพยานหลักฐานด้านอื่น ๆ มาประกอบสำนวนการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป แต่ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนยังไม่พบผู้เกี่ยวข้องคนอื่น ๆ พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าว ,พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวต่อว่า ส่วนของนายตำรวจอีก 6 นาย ที่ถูกย้ายไปช่วยราชการ และ 2 นาย ลาออกจากราชการนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากยังอยู่ในอายุความการดำเนินการ ซึ่งหากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเด็ดขาด.
ผบช.ก.ส่งหลักฐาน ตร.สังกัดกองปราบปราม 2 นายเกี่ยวข้อง ม.112 ให้ ศรีวราห์ แล้ว เล็งขยายผล มีใครเอี่ยวเพิ่มหรือไม่ เผยหลักฐานส่วนใหญ่เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการหักค่าหัวคิวด้านสื่อสารมวลชน
null
ตำรวจกองปราบ,เอี่ยวคดี112,จาบจ้วงเบื้องสูง,หมิ่นพระบรมฯ,ตำรวจกองปราาบเอี่ยว 112,ตร.กองปราบลาออก,ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์,ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง,ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล,รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/541625
รบ.ปัดถังแตก แจงขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน ควรขึ้นไม่เกิน 50บ./ที่นั่ง
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินภายในประเทศ ในทำนองว่ารัฐถังแตกจึงต้องไปรีดภาษีสูงขึ้น ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ข้อมูลฐานะการคลังของรัฐบาล ณ เดือน ธ.ค. 59 ยังมีเงินคงคลัง ซึ่งเป็นตัวเลขที่หักลบรายได้และรายจ่ายแล้วคงเหลือทั้งสิ้น 74,907 ล้านบาท ฐานะการคลังของรัฐบาลยังอยู่ในระดับที่เข้มแข็งเพียงพอ,โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ส่วนเหตุผลในการปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินคือ การสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีและเป็นไปตามกลไกตลาด เพราะการขนส่งทางถนน ผู้ประกอบการหรือผู้ใช้รถต้องเสียภาษีน้ำมันเบนซินในอัตรา 5-6 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ขณะที่การขนส่งทางอากาศ ผู้ประกอบการเสียภาษีน้ำมันเครื่องบินเพียง 20 สตางค์ต่อลิตร ติดต่อกันมาถึง 24 ปีแล้ว รัฐจึงได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4 บาทต่อลิตร เมื่อวันที่ 25 ม.ค.60 และจากการคำนวณต้นทุนของกรมสรรพสามิตพบว่าการปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินครั้งนี้จะทำให้ค่าตั๋วเครื่องบินปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 50 บาท ไม่น่าจะถึง 150 บาทต่อเที่ยว.,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,ชี้ภาษีน้ำมันเพิ่มแค่ 50 บาท สรรพสามิตอัดโลว์คอสต์ขึ้นค่าตั๋วเกินเหตุ,สายการบินโลว์คอสต์ ขอขึ้นราคาทุกที่นั่ง 150 บาท หลัง ครม.ปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน, 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปัดข่าว รัฐบาลถังแตก ยันมีเงินคงคลังเข้มแข็งพอ แจงเหตุปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน เพื่อเป็นไปตามกลไกตลาดและความเป็นธรรมด้านภาษี ชี้ รัฐปรับขึ้น 4 บาทต่อลิตร ต่อเที่ยวบิน ควรขึ้นไม่เกิน 50บ./ที่นั่ง
null
สรรเสริญ แก้วกำเนิด,รัฐบาลถังแตก,ขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน,ภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง,ขึ้นราคาตั๋วเครื่องบิน
https://www.thairath.co.th/content/851250
ทางการเยอรมนีคุมเข้ม หวั่นผู้ประท้วงป่วนประชุม จี 20
วันนี้ (7 ก.ค.2560) กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จี 20 จุดไฟเผารถยนต์ได้รับความเสียหายอย่างน้อย 4 คัน นอกจากนี้ยังนั่งรวมตัวกันกลางถนนกีดขวางทางจราจร ก่อนที่การประชุมจะเปิดฉากขึ้นในเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนีการประท้วงในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงพยายามฝ่าวงล้อมของตำรวจปราบจลาจลพร้อมอาวุธครบมือ เข้าไปใกล้บริเวณสถานที่จัดการประชุม จนเกิดการปะทะกัน ส่งผลให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บมากกว่า 70 นายกลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันภายใต้ชื่อ จี 20 เวลคัม ทู เฮลล์ หรือ ยินดีต้อนรับสู่อเวจี เพื่อแสดงพลังต่อต้านผู้นำโลกที่เดินทางมาร่วมประชุม เนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วง มองว่ากลุ่มประเทศ จี 20 ไม่สามารถคลี่คลายปัญหาต่างๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่อประชาคมโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพขณะที่ทางการเยอรมนี คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประท้วง ประมาณ 100000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 8000 คน มีแนวโน้มจะก่อเหตุรุนแรงจึงระดมกำลังตำรวจ 20000 นาย เข้ามาดูแลความปลอดภัยระหว่างการประชุมที่จะมีขึ้นในวันนี้ถึงวันพรุ่งนี้
ทางการเยอรมนีระดมกำลังตำรวจรักษาความปลอดภัย รอบบริเวณสถานที่จัดการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จี 20 หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจและก่อเหตุเผารถยนต์กีดขวางการจราจร
ต่างประเทศ
ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS,จี 20,การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่,ประเทศเยอรมนี,ผู้ประท้วง
https://news.thaipbs.or.th/content/264182
ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ NHK ระบุแต่ละประเทศมีรูปแบบของประชาธิปไตยที่แตกต่างกัน
ยังให้ความสำคัญต่อสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับญี่ปุ่นและจะต้องทำให้ความสัมพันธ์นี้ก้าวหน้าต่อไป30 มิ.ย. 2562 รายงานว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ซึ่งเพิ่งได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยกล่าวว่า เขามุ่งมั่นจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่เน้นประชาชนเป็นหลักพลเอกประยุทธ์ให้สัมภาษณ์แก่ NHK เมื่อวันเสาร์ที่ 29 มิ.ย. ที่นครโอซากา ทางตะวันตกของญี่ปุ่น โดยนี่เป็นการให้สัมภาษณ์แก่สื่อในฐานะนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกสำหรับเขา ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ได้รับเชิญให้มาร่วมการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศที่สำคัญและชาติที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู 20 ชาติ หรือ G20 ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียนท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลที่ว่าทหารอาจยังคงมีอิทธิพลในการเมือง พลเอกประยุทธ์เน้นย้ำว่า สำหรับเขาประชาชนนั้นมีความสำคัญเป็นอันดับแรก เขากล่าวว่าแต่ละประเทศนั้นต่างก็มีรูปแบบของประชาธิปไตยที่แตกต่างกันพลเอกประยุทธ์เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในรัฐประหารเมื่อ 5 ปีก่อน รวมทั้งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและระบบเลือกตั้งภายใต้รัฐบาลเฉพาะกาลที่มีตัวเขาเองเป็นผู้นำจนกระทั่งไทยได้กลับคืนสู่การปกครองโดยพลเรือนในปีนี้พลเอกประยุทธ์ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนมิถุนายนนี้ หลังประเทศไทยได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงเวลา 8 ปีนอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ยังได้เน้นย้ำว่า เขาจะยังคงให้ความสำคัญต่อไปแก่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับญี่ปุ่น โดยระบุว่ารัฐบาลของเขาจะต้องทำให้ความสัมพันธ์นี้ก้าวหน้าต่อไปรับชมวีดิทัศน์ประกอบข่าวได้จาก NHK
สำนักข่าว NHK สัมภาษณ์ ประยุทธ์ ร่วมประชุม G20 ที่โอซากา ระบุแต่ละประเทศมีรูปแบบของประชาธิปไตยที่แตกต่างกัน
การเมือง,ต่างประเทศ
ญี่ปุ่น,ประยุทธ์ จันทร์โอชา
https://prachatai.com/journal/2019/06/83221
ตร.พังงาออกหมายมือปืนยิงพ่อ ไอซ์ อาร์สยาม เสียชีวิตแล้ว-คาดยังกบดานในพื้นที่
จากเหตุการณ์ที่นายสมศักดิ์ วงษ์ศรี หรือ เณรศักดิ์ อายุ 48 ปี ก่อเหตุสะเทือนขวัญใช้อาวุธปืนแบบกล็อก 9 ม.ม.กระหน่ำยิงชาวบ้านจนเสียชีวิต 3 ศพ ประกอบด้วย นายสมบูรณ์ กิ้มติ๋น อายุ 69 ปี นายประจวบ ชูจิต อายุ 42 ปี และ นายสราวุธ บุญกลิ่น อายุ 31 ปี จากนั้นตำรวจได้จัดกำลังเพื่อสกัดจับกุมและได้ตั้งประเด็นมาจากยัดแย้งเรื่องที่ดินในสวนยางพารา เนื่องจากผู้เสียชีวิตได้ปิดกั้นเส้นทาง ทำให้นายสมศักดิ์ไม่สามารถเดินทางผ่านได้ จึงเกิดความไม่พอใจจนเป็นสาเหตุของการสังหารหมู่ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมาล่าสุด พ.ต.ท.อภัยพงษ์ สุระกา สวป.สภ.ตลาดใหญ่ จ.พังงา ได้ทำหนังสือยื่นขออนุมัติศาลจังหวัดตะกั่วป่าเพื่อออกหมายจับนายสมศักดิ์แล้ว ขณะที่กำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงได้ทำการปิดล้อม กดดัน และ สกัดจับมือปืนให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และ สะเทือนขวัญ และอยู่ในความสนใจของประชาชน คนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยมโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายส่วนพื้นที่ซึ่งคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนีมีลักษณะเป็นหุบเขาและป่าทึบจึงทำให้ยากต่อการติดตามค้นหา ซึ่งได้มีการสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดที่มีอยู่ใช้ความพยายามเร่งไล่ล่านายสมศักดิ์ วงษ์ศรี หรือ เณรศักดิ์ อายุ 48 ปี มือปืน โดยตำรวจเชื่อว่า คนร้ายยังคงหลบซ่อนอยู่ภายในพื้นที่ที่ก่อเหตุหรืออาจจะหลบหนีไปพื้นที่ใกล้เคียงโดยใช้เส้นทางในป่า จึงได้มีการประสานงานให้ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงช่วยตรวจสอบ และสกัดเส้นทางหลบหนีของคนร้ายรายนี้แล้วสำหรับศพนายสมบูรณ์พ่อของนักร้องวัยรุ่นชื่อดัง น.ส.ตรีชฎา กิ้มติ๋น หรือ น้องไอซ์ อาร์สยาม พร้อมด้วยศพนายประจวบและศพนายสราวุธ ญาติได้นำออกจากโรงพยาบาลตะกั่วป่าเพื่อนำไปตั้งศพสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลที่วัดหัวพานหรือวัดศรีนิคม ต.บางไทร อ.ตะกั่วป่า
ตำรวจออกหมายจับมือปืนยิงนายสมบูรณ์ กิ้มติ๋น พ่อนักร้องดัง ไอซ์ อาร์สยาม เสียชีวิต พร้อมด้วยเพื่อนบ้านรวม 3 ศพ ที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ด้านตำรวจได้จัดชุดสืบสวนติดตาม โดยคาดว่า คนร้ายยังคงกบดานในพื้นที่
ภูมิภาค
กบดาน,นักร้องชื่อดัง,พังงา,มือปืน,หมายจับ,ไอซ์ อาร์สยาม
https://news.thaipbs.or.th/content/134805
ถึงไทยแล้ว ศพหนุ่มถูกยิงในฝรั่งเศส แม่พร่ำเรียก กลับบ้านนะลูก
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 22 ธ.ค. ที่เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายสุกรี สืบสมาน นางยกหลั่ง สืบสมาน บิดาและมารดา ของนายอนุพงษ์ สืบสมาน อายุ 45 ปีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงที่ตลาดคริสต์มาส บริเวณจตุรัสแพลซ เคลแบร์ เมืองสตราสบูร์ก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วยภรรยาของนายอนุพงษ์ และญาติพี่น้อง เดินทางมารับศพนายอนุพงษ์ ซึ่งทางการฝรั่งเศสได้ดำเนินการส่งศพมาจากกรุงปารีส ด้วยเที่ยวบิน ทีจี931 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเช้าวันนี้,ทั้งนี้ ทุกคนยังคงอยู่ในอาการเสียใจ โดยมี พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.3 บก.ทท.1 นายเจอด กลางประพันธ์ เจ้าหน้าที่บริหาร 7 ส่วนปฏิบัติการคลังสินค้า ฝ่ายบริหารการขนส่งสินค้าทางอากาศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว กก.3 บก.ทท1 เจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการคลังสินค้า ฝ่ายบริหารการขนส่งสินค้าทางอากาศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาคอยอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการรับศพไปบำเพ็ญกุศล,ขณะเดียวกัน ครอบครัวของนายอนุพงษ์ ได้นิมนต์พระจำนวน 2 รูปมารับ และระหว่างประกอบพิธีเพื่อนำร่างของนายอนุพงษ์ ออกจากคลังสินค้านั้น มารดาของนายอนุพงษ์ได้เรียกลูกชายให้กลับไปอยู่บ้านตลอดเวลาที่พระทำการประกอบพิธี โดยบอกว่าพ่อกับแม่มารับแล้ว จากนั้นจึงนำร่างของนายอนุพงษ์ขึ้นรถตู้สีขาวทะเบียน 1ฒถ-7448 กรุงเทพมหานครออกจากคลังสินค้า ผ่านจุดเอกซเรย์บริเวณด้านหน้าสถานีตรวจสอบสินค้า จากนั้นรถของตำรวจท่องเที่ยว จึงไขับนำขบวนรถตู้และขบวนรถของญาติ เพื่อนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเทพนิมิตร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ต่อไป. 
ครอบครัวสืบสมานรับศพบุตรชาย นายอนุพงษ์ สืบสมานโดนคนร้ายกราดยิงตายในฝรั่งเศส ถูกส่งกลับถึงประเทศไทย บรรยากาศสุดเศร้า แม่พร่ำเรียกกลับบ้านเรานะลูก นำศพประกอบพิธีที่วัดในอ.เมืองฉะเชิงเทรา
ข่าว,ทั่วไทย
ถูกยิงในฝรั่งเศส,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1451848
อัซปิลิกวยตา ย้ำ ยังไม่คิดชิ่ง สิงห์ กลับบ้านเกิด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 3 พ.ย. ว่า เซซาร์ อัสปิลิกวยตา ฟูลแบ็กคนสำคัญของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเวลานี้ ออกมาย้ำชัดว่าไม่คิดที่จะตีชิ่งออกจากต้นสังกัดปัจจุบันเพื่อย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลนา 2 ยักษ์ใหญ่ลีกกระทิงที่ให้ความสนใจในตัวกองหลังรายนี้อยู่,แข้งวัย 25 ปีก้าวมาเป็นขุนพลตัวหลักของ สิงโตน้ำเงินคราม ภายใต้การคุมบังเหียนของ โฆเซ มูรินโญ และสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องจนสื่อผู้ดีต่างยกว่าเป็นฟูลแบ็กระดับต้นๆของพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว,ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นนี้เอง ทำให้ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา 2 ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน ต่างให้ความสนใจในตัวกองหลังสารพัดประโยชน์รายนี้ แต่เจ้าตัวออกมาย้ำชัดแล้วว่าไม่คิดที่จะย้ายออกจากเชลซีเพื่อย้ายกลับไปเล่นในลีกบ้านเกิดในตอนนี้แน่นอน,ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย เพราะผมมีความสุขกับที่นี่ ผมเคยเล่นในลาลีกาแต่ผมไม่คิดที่จะกลับไปที่นั่น พูดตามความจริงเลยผมยังมีเพลิดเพลินในลอนดอนตอนนี้ ผมชอบพรีเมียร์ลีก ผมได้ลงเล่นสม่ำเสมอและนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดและมันคือความชัดเจนที่ตอบโจทย์ว่าคุณได้ประสบความสำเร็จแล้ว ผมยังต้องปรับปรุงการเล่นของผมให้ดีขึ้นไปอีก เมื่อใดที่ผมได้ดูเกมการแข่งขันผมจะมองไปที่คนที่เล่นตำแหน่งผมเพราะพวกเขาจะสอนให้ผมได้พัฒนาตัวเอง อดีตฟูลแบ็กมาร์กเซย์เผย
เซซาร์ อัสปิลิกวยตา ฟูลแบ็กตัวเก่งของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี แจง ยังไม่เคยคิดอยากย้ายทีมเพื่อไปเล่นในลีกบ้านเกิดของตัวเอง โดย เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา ต่างให้ความสนใจอยู่ในตอนนี้
null
พรีเมียร์ลีก,พรีเมียร์ลีก 2014,เชลซี,เซซาร์ อัสปิลิกวยตา,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/467143
เด็ดทุกร้าน แพตตี้คอนเฟิร์ม 3 ร้านโตมาด้วยกัน
มาตั้งแต่เด็ก รสชาติของอาหารก็ยังดีเหมือนเดิม,งานนี้ทำให้เราอยากรู้เลยสิว่า เมนูเหล่านั้นจะเด็ดขนาดไหนกันแน่ ถึงทำให้สาวแพตตี้ติดอกติดใจมาจนป่านนี้ ไปดูกันเลยดีกว่า,จริงๆ แล้วเมนูโปรดเลยคือ ต้มข่าไก่ แล้วหนูก็กินได้ทุกอย่างนะคะ เพราะเราไม่ได้กลัวอ้วน เราจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าแบบไม่แคร์โลกเลย ส่วนร้านโปรดเราจะมี 3 ร้านค่ะ ที่เติบโตมาด้วยกัน ,1.ภัตตาคารจันทร์เพ็ญชอบทั้งครอบครัว,เมนูชอบสุกี้แห้ง กินตั้งแต่เด็กๆ มันอร่อยค่ะ สุกี้แห้ง ซึ่งสุกี้แห้งจะเข้มข้นกว่าแบบน้ำ เป็นเมนูที่เน้นผักแบบนี้ก็จัดผักหลายๆ อย่างได้ตามชอบเลยค่ะ ซึ่งผักหลักๆ ก็จะเป็นผักบุ้ง ผักกาดขาว และที่ขาดไม่ได้อย่างวุ้นเส้น กับน้ำจิ้มสุกี้ โดยน้ำจิ้มสุกี้ของภัตตาคารจันทร์เพ็ญเค้าจะพิถีพิถันในการทำให้อร่อยถูกปากอย่างแน่นอน ,และอีกอย่างหนึ่งที่ชอบเลยค่ะ ไอศกรีม Homemade coconut ไปแล้วจะพลาดไม่ได้ อร่อยมากๆ เลย(ยิ้มหวาน), 2.ร้านเส็ง สมัยคุณพ่อวัยรุ่น,สมัยคุณพ่อวัยรุ่นค่ะ สืบทอดมาที่เรา ร้านเป็นร้านเก่าๆ แถวสาธุประดิษฐ์ ราดหน้าที่เป็นน้ำแบบเหลวๆ กึ่งใสๆ นิดนึง ไม่ข้นเหมือนที่เราเห็นทุกวันนี้ และไม่เคยกินร้านไหนเหมือนที่นี่เลย มันอร่อยมาก เราแบบโตมาด้วยกันเลย,3.สเต๊กลาวแถวบ้านก็โอเค,อาหารทั่วไปเลยค่ะใกล้บ้านเราเอง แต่เขามีหลายสาขา อาหารไทยก็จะแบบเยอะแยะมากมายอร่อย เกือบทุกอย่าง ที่สั่งบ่อยๆ ส้มตำไทย มีกะพงทอดวางเป็นเครื่องเคียง เกี๊ยวทอดข้างในเป็นผัก ห่อหมกทะเล อะไรแบบนี้รสชาติดีมากๆ เข้มข้นถึงเครื่อง ถ้าใครไปแพตอยากให้ลองนะ ถามว่าเรียกเราว่าสายกินได้มั้ย เราสายกินได้นะ เพราะกินทุกอย่าง แต่ไม่ค่อยสรรหา,สาวแพตตี้อุตส่าห์แนะนำร้านเด็ดมาขนาดนี้แล้ว เราขอแวบไปตามหาพิกัดร้านก่อนนะจ๊ะ บ๊ายบาย ,ที่มาภาพ: IG ,แพตตี้ อังศุมาลิน ,สเต็กลาว,ภัตตราคารจันทร์เพ็ญ
ใครบอกว่าผอมบางแบบนี้กินอะไรไม่ได้เลย แต่นักแสดงวัยรุ่นสาวสวย แพตตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา หวานใจหนุ่มแดน วรเวช ดานุวงศ์ ที่มาเยือนไทยรัฐออนไลน์ ได้เปิดเผยถึงร้านอาหารโปรดเก่าแก่สมัยคุณพ่อยังหนุ่ม แถมมีเมนูเด็ดว่ากิน
ไลฟ์สไตล์,อาหาร
แพตตี้ อังศุมาลิน,ร้านโปรดแพตตี้,อาหารโปรดแพตตี้,แพตตี้แฟนแดน,ร้านอาหารเด็ด
https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/review/920985
มอยส์เล็งโซลดาโด-ยังเข้ารังโซเซียดาด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 16 พ.ย. เดวิด มอยส์ นายใหญ่ป้ายแดงสโมสร เรอัล โซเซียดาด ทีมในลีก ลาลีกา สเปน ตกเป็นข่าวเตรียมเสริมทัพด้วยการคว้า แอชลีย์ ยัง ปีกลูกรักจากอดีตต้นสังกัด ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ โรแบร์โต โซลดาโด หัวหอก ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ มาเสริมทัพในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะ รอบที่ 2 เดือนมกราคมนี้,กุนซือชาวสกอตเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ โซเซียดาด ไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่รอช้าเร่งทำลิสต์รายชื่อสำหรับการเสริมทัพในช่วงปีใหม่นี้ทันที,ตามรายงานของ เดอะ พีเพิล สื่อดังของอังกฤษก็ระบุว่า อดีตกุนซือ ปิศาจแดง ได้ตั้งเป้าที่จะยื่นข้อเสนอให้กับ สเปอร์ส เพื่อคว้า โซลดาโด หัวหอกชาวสแปนิชมาร่วมงาน เนื่องมองว่านักเตะน่าจะต้องการกลับมาค้าแข้งที่บ้านเกิดหลังไม่ประสบความสำเร็จกับ ไก่เดือยทอง,ขณะเดียวกัน มอยส์ ก็ยังมองหาโอกาสที่จะเซ็นสัญญากับอดีตลูกทีมอย่าง ยัง ปีกจอมเลี้ยงที่ตอนนี้กลายเป็นตัวเลือกในลำดับท้ายๆในทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งทั้ง โซลดาโด และ ยัง นับเป็นนักเตะคนสำคัญในแผนการทำทีมของกุนซือรายนี้,อย่างไรก็ตามก็มีรายงานว่าทาง โซเซียดาด ยังไม่ได้ให้งบประมาณการซื้อขายนักเตะให้กับกุนซือวัย 51 ปี แต่อย่างใด.
เดวิด มอยส์ นายใหญ่ชาวสกอตเล็งฉก แอชลีย์ ยัง ปีกลูกรักทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ โรแบร์โต โซลดาโด หัวหอก ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ มาเสริมทัพ เรอัล โซเซียดาด ปีใหม่นี้…
null
ลาลีกา,สเปน,เดวิด มอยส์,เรอัล โซเซียดาด,แอชลีย์ ยัง,โรแบร์โต โซลดาโด,ปิศาจแดง,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ไก่เดือยทอง,ทอตแนม ฮอตสเปอร์,ข่าวกีฬา
https://www.thairath.co.th/content/463762
หนุ่มเมืองชลออกบ้านตามหาเมียหายไป 4 วัน จนเมียกลับมาพบเป็นศพในป่าหญ้า
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 กันยายน 2561 ร.ต.อ.วิรัตน์ ตระกูลไทย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านบึง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคม บ้านบึง ว่ามีคนพบศพผู้เสียชีวิตภายในร่องน้ำกลางป่ามันสำปะหลัง หลังรับแจ้งจึงรุดตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรจากโรงพยาบาลบ้านบึง และกู้ภัย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงร่องน้ำกลางไร่อ้อยและมันสำปะหลัง หมู่ 2 ตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ,พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สภาพศพขึ้นอืดนอนหงายหน้าอยู่ในร่องน้ำมีต้นหญ้าปกคลุม สวมเสื้อและกางเกงชุดกีฬาสีแดง คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 4 วัน ทราบชื่อต่อมาคือนายไสว สีดาโคตร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 3 ตำบลนาเกษม อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ,จากการสอบถามนางหลอด อนุลีจันทร์ อายุ 35 ภรรยาของนายไสว ผู้ตาย เล่าว่า ตนเองกับผู้ตายมีอาชีพลูกจ้างทำสวนทำไร่ โดยก่อนเกิดเหตุนายไสว สามีได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่านายไสว คงจะออกเดินมาตามหาตนเองที่ได้ออกไปหาปลา แต่เมื่อตนเองกลับจากหาปลากลับไม่พบสามีอยู่ที่บ้าน ตนจึงออกตามหาสามีก็ไม่พบจนกระทั่งมาวันนี้จึงออกตามอีกครั้ง จนมาได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงจึงเดินตามกลิ่นไป ก็มาพบศพนายไสวสามีดังกล่าว จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้มาตรวจสอบ ทั้งนี้ ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการตายจึงมอบร่างผู้เสียชีวิต ให้ญาติดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป.
หนุ่มชลบุรีวัย 40 ปี หายจากบ้านนาน 4 วัน พบอีกทีกลายเป็นศพในป่าหญ้า ด้านแฟนผู้ตายเผยสามีเดินออกตามหาตนเองที่ออกไปหาปลา แต่ตนกลับมาไม่เจอสามี คาดโรคประจำตัวคร่าชีวิต
ข่าว,ทั่วไทย
ตายคาป่าหญ้า,หายไป 4 วัน,หนุ่มเมืองชล,ชลบุรี,ตามหาเมีย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1386601
สาวน้อยผู้เป็นดาว มาตัง เดอะสตาร์ แฟนคลับแห่ต้อนรับกลับบ้านเกิดเพียบ
 ที่สร้างชื่อเสียงให้พี่น้องชาวไทยได้รู้จักชาวอำเภอหนองหาน จ.อุดรธานี ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ,เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 58 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณภายในห้องประชุมที่ว่าการอำเภอหนองหาน จ.อุดรธานี มีกำนันผู้ใหญ่บ้านและแฟนคลับ สาวน้อยเสียงทรงพลังเกินวัย และความสามารถในการร้องเพลงได้หลากหลายสไตล์ ทำให้เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ชม กวาดคะแนนโหวตจากคนไทยทั้งประเทศไปอย่างท่วมท้น ถือเป็นประวัติศาสตร์แห่งการเริ่มทศวรรษใหม่เวที เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 11 ของเมืองไทยไปครอง จากเด็กสาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี กลายเป็นดาวดวงเด่น มาตัง เดอะสตาร์  หรือ น.ส.ระดับดาว ศรีระวงศ์ อายุ 15 ปี กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอุดรพิยานุกูล ที่สร้างชื่อเสียงให้คนพี่น้องชาวไทยได้รู้จักชาวอำเภอหนองหาน จ.อุดรธานี ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ,ด้านนายเวียงชัย แก้วพินิจ นายอำเภอหนองหาน จ.อุดรธานี กล่าวว่า พี่น้องชาว อ.หนองหาน มีความรู้สึกดีใจมากที่ น้องมาตัง ได้เข้ารอบการประกวดแข่งร้องเพลง จนสามารถชนะใจประชาชนทั้งประเทศ ที่ร่วมกันส่งคะแนนโหวต กระทั่งได้คะแนนอันดับหนึ่งของประเทศ กลายเป็นขวัญใจมหาชน มาตัง เดอะสตาร์ ส่วนตนเองนั้น ก็ได้ติดตามดูและส่งแรงใจช่วยตลอดในช่วงเข้ารอบ ด้วยวัยเพียง 15 ปี ความสามารถของเธอ สมเป็นนักร้องคุณภาพจริงๆ มั่นใจว่าไม่ได้มาเพราะดวงหรือโชคช่วยอย่างแน่นอน,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ พี่น้องชาว อ.หนองหาน ร่วมกันจัดพิธีต้อนรับสาวน้อยเสียงทรงพลัง มาตัง เดอะสตาร์ ท่ามกลางความอบอุ่นและภาคภูมิใจเป็นที่น่าปลื้มใจยิ่งนัก ขณะที่ มาตัง เดอะสตาร์ เดินทางมาถึงที่ว่าการอำเภอ ทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน พี่น้องประชาชนชาวหนองหานและแฟนคลับ พากันแห่การต้อนรับ ก่อนจัดขบวนแห่ให้ มาตัง เดอะสตาร์ ร่วมเดินทางไปที่โรงเรียนหนองหาน เพื่อเข้าเยี่ยมครู นายศุภชัย โพธิ์ทรัพย์ อดีต ผอ.ร.ร.หนองหาน ที่ป่วยมานานนับสิบปีก่อน ที่ มาตัง เดอะสตาร์ จะเดินทางไปไหว้สิ่งศักด์สิทธิ์เจ้าปู่หอคำ ต่อ,ทั้งนี้ นายสายัณห์ ศรีระวงศ์ อายุ 44 ปี พ่อของสาวน้อยเสียงทรงพลัง อาชีพรับราชการครู ร.ร.บ้านนาดอกไม้ สพป. สกลนคร เขต 3 กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจมาก ที่มีแฟนคลับให้การต้อนรับ มาตัง กันอย่างล้นหลาม ขนาดตนเองยังคาดไม่ถึงว่าจะมีแฟนคลับให้การต้อนรับมากมายเช่นนี้ แม้แต่แดดร้อนจัดเหล่าแฟนคลับยังไม่ย่อท้อ แห่มาให้การต้อนรับจำนวนมาก ต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทั้งประเทศและพี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานี และอำเภอหนองหาน ที่ให้กำลังใจกับลูกสาว น้องมาตัง พร้อมทั้งช่วยกันโหวตจนชนะได้อันดับหนึ่ง,อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ พี่น้องชาวอำเภอหนองหาน พร้อมใจกันร่วมจัดงานฉลองให้ น้องมาตัง ที่โรงเรียนบ้านหนองบัวแดง ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ส่วนในตอนเย็นวันที่ 2 พ.ค. นี้ น้องมาตังจะเดินทางไปร่วมงานมินิคอนเสิร์ต ที่ศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ ในตัวเมืองอุดรธานี เพื่อร่วมหาเงินสมทบทุนบริจาค ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เนปาล อีกด้วย.
มาตัง เดอะสตาร์ กลับบ้านเกิด อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก ผู้ใหญ่ส่วนราชการ ญาติ-พี่น้อง แฟนคลับ ที่แห่มาร่วมแสดงความยินดี พร้อมจัดขบวนแห่ต้อนรับสาวน้อยเสียงทรงพลังเกินวัย
ข่าว,ทั่วไทย
บ้านเกิด,สร้างชื่อเสียง,มาตัง,มาตัง เดอะสตาร์,หนองหาน,อุดรธานี,แฟนคลับ,ร่วมแสดงความยินดี,ขบวนแห่ต้อนรับ,สาวน้อยเสียงทรงพลัง,น่าภาคภูมิใจ,ที่ว่าการอำเภอหนองหาน,แชมป์เดอะสตาร์คนที่ 11,ระดับดาว ศรีระวงศ์,โรงเรียนอุดรพิยานุกูล,ประวัติศาสตร์,ทศวรรษใหม่,เวทีเดอะสตาร์,เดอะสตาร์,ค้นฟ้าคว้าดาว,ข่าวบันเทิง,ข่าวภูมิภาค,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/496349
ชาวสวนยางเตรียมเคลื่อนไหวชุมนุม 3 ก.ย.นี้
กลุ่มเกษตรกรเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด และเครือข่ายรักษ์เจ้าไหม เตรียมเดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพารา 14 จังหวัดภาคใต้ ในวันที่ 3 ก.ย.2556 โดยเมื่อวานนี้ (30 ส.ค.2556) ได้ยื่นหนังสือที่สำนักงานเกษตรจ.ตรัง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรทุกชนิดที่กำลังตกต่ำแตกต่างกับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นขณะที่เครือข่ายชาวสวนยางจ.สงขลา เตรียมเสบียงอาหาร คาดมีชาวสวนยางสงขลาไม่น้อยกว่า 1000 คน เข้าร่วมการชุมนุมที่จ.สุราษฎร์ธานีขณะที่กลุ่มเครือข่ายชาวสวนยางจ.ศรีสะเกษ เตรียมยื่นหนังสือต่อตัวแทนรัฐบาล เพื่อแสดงเจตนารมย์ไม่ยอมรับข้อเสนอของทางรัฐบาล เพราะการใช้งบประมาณมาสนับสนุนเงินให้กับชาวสวนยางพาราเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และเชื่อว่าเงินที่รัฐบาลส่งมาช่วยเหลือจะไม่ถึงมือเกษตรกรนายภาคภูเบศ พวงมาลี ประธานเครือข่ายชาวสวนยางจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยมติหารือของทางกลุ่ม ต้องการให้รัฐบาลประกันราคายางพาราที่กิโลกรัมละ 82-104 บาท จึงจะยอมรับการช่วยเหลือจากทางรัฐบาลได้ส่วนผู้ว่าราชการจ.บุรีรัมย์ ร่วมหารือแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำกับเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่ เพื่อชะลอการร่วมชุมนุม โดยระบุ จะแก้ไขปัญหาในระยะยาว ด้วยการตั้งโรงงานแปรรูปยางพารา 6 แห่ง จากเงินงบยุทธศาสตร์จังหวัด 6 ล้านบาท เพื่อแปรรูปยางก้อนถ้วยเป็นยางแผ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตยางพาราด้านนายอัครวัฒน์ กิตติพงษ์ภาภรณ์ กรรมการเครือข่ายชาวสวนยาง จ.บุรีรัมย์ ระบุว่ายังรอคำตอบจากแกนนำที่เดินทางไปร่วมประชุมหารือที่ภาคใต้ถึงแนวทางการชุมนุมประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรมในวันที่ 3 ก.ย.2556นายจรินทร์ เดชเดชะ ประธานสหกรณ์นครไตรตรึงษ์ เครือข่ายองค์กรการสวนยาง (อสย.) กรรมการสมาคมสวนยางแห่งประเทศไทย ระบุว่าการหารือกับกรรมการและชาวสวนยางพารา ได้ตกลงกันจะยังไม่ออกไปเคลื่อนไหวชุมนุมในจังหวัดอุตรดิตถ์ วันที่ 3 ก.ย.2556 เพราะได้ทำหนังสือแจ้งความต้องการให้กับรัฐบาล โดยรัฐจะให้คำตอบวันที่ 13 ก.ย.2556 หากไม่ได้ตามที่ต้องการจะพิจารณาในการเคลื่อนไหวอีกครั้งแต่สำหรับชาวสวนยางในจังหวัดพิษณุโลก และอุตรดิตถ์ บางส่วน ยืนยันชุมนุมบริเวณถนนสายอุตรดิตถ์-พิษณุโลก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 62 - 63 บ้านซำบอน หมู่ที่ 1 ตำบลนายาง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ในวันที่ 3 ก.ย.2556นายโสวัตร กาญจนสุนทร ประธานสมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ทางเครือข่ายมีมติชะลอการชุมนุมในวันที่ 3 ก.ย.2556 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อรอท่าทีภาครัฐในการช่วยเหลือชาวยางพารา
กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราในภาคเหนือบางจังหวัด ยังไม่มีการเคลื่อนไหว ในวันที่ 3 ก.ย.2556 โดยจะรอการแก้ปัญหาของรัฐบาล ขณะที่กลุ่มเครือข่ายเกษตรชาวสวนยางจ.ศรีสะเกษ ยืนยัน ไม่รับข้อเสนอของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือด้านต้นทุนการผลิต โดยจะร่วมประท้วงกับเกษตรกรสวนยางทางภาคใต้
ภูมิภาค
ชุมนุม,นครศรีธรรมราช,มติ,ม็อบ,ยางพารา,รัฐบาล,ราคา
https://news.thaipbs.or.th/content/192872
ติดปีกโอทอปบุกสนามบิน เอสเอ็มอีแบงก์จัดหนักอุ้มธุรกิจเบี้ยน้อย
ขยายตลาดให้มากขึ้น จึงมีแนวคิดเพิ่มช่องทางขายสินค้าที่สนามบิน ซึ่งเป็นประตูออกสู่ต่างประเทศได้ง่ายขึ้น สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ประกอบด้วย 5 หน่วยงาน คือ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม (สมอ.) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank),ทั้งนี้ การลงนามโครงการกิจกรรมส่งเสริมผลิตภัณฑ์โอทอปและเอสเอ็มอี ติดปีก 4.0 จะให้สินค้าโอทอปและเอสเอ็มอีใช้พื้นที่กรมท่าอากาศยานในการจัดจำหน่ายสินค้า เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นให้มีรายได้เพิ่มขึ้น คาดว่า 2-3 เดือนจะทยอยนำสินค้าโอทอปจำหน่ายในท่าอากาศยาน 28 แห่ง และใช้เครือข่ายของสายการบินไทยสมายล์นำผู้ประกอบการไปเปิดตลาดพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น ขณะที่เอสเอ็มอีแบงก์พร้อมปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการผ่านโครงการสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชน 7,500 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะปล่อยสินเชื่อดังกล่าวได้หมด ความร่วมมือครั้งนี้ เอสเอ็มอีแบงก์ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร พร้อมเปิดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินต้นทุนต่ำผ่านโครงการสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชนวงเงิน 7,500 ล้านบาท เพื่อยกระดับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องในชุมชนและภูมิภาค.
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้สินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และโอทอปของไทย
ข่าว,เศรษฐกิจ
โอทอปไทย,สนามบิน,ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง,มงคล ลีลาธรรม,SME,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1054372
ไล่เรียงเหตุการณ์ทำร้ายครู ในพื้นที่ชายแดนใต้
วันที่ 22 พฤศจิกายน กลุ่มก่อความไม่สงบใช้อาวุธสงครามกราดยิงถล่มนางนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เสียชีวิต ทำให้คณะครูในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ต่างเสียขวัญ และหวาดกลัว จนสมาพันธ์ครูจังหวัดปัตตานีสั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี กว่า 300 โรงอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กระทั่งได้ข้อสรุปจากหน่วยงานด้านความมั่นคงถึงมาตรการป้องกันดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับครู จึงมีกำหนดเปิดการเรียนการสอนตามปกติอีกครั้งพร้อมกันทั้งจังหวัดในวันที่ 3 ธันวาคม นั้นต่อมาในวันที่ 3 ธันวาคม โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ที่กลับมาเปิดเรียนอีกครั้ง แต่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ครูฉัตรสุดา นิลสุวรรณ อายุ 32 ปี จากโรงเรียนบ้านตาโงะ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ถูกยิงเสียชีวิต ขณะขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน ทำให้โรงเรียน 21 แห่งใน อำเภอเจาะไอร้อง ปิดการเรียนการสอนชั่วคราว ถัดต่อมาอีก 1 วัน ครูธีระพล ชูส่งแสง อายุ 52 ปี จากโรงเรียนบ้านบอเกาะ หมู่ 2 ตำบลสากอ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้สมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาสประกาศปิดการเรียนการสอนโรงเรียนประถมศึกษาทั่วทั้งจังหวัดเป็นการชั่วคราว เป็นการชั่วคราว และมีกำหนดเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 11 ธันวาคมและล่าสุดกับเหตุการณ์ที่ ครูถูกคนร้ายบุกยิงเสียชีวิต 2 ศพถึงในโรงเรียนบ้านบาโง ตำบลปานัน อำเภอมายอ เหตุเกิดในช่วงพักเที่ยง ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลา 12 วัน เท่านั้น ที่เกิดเหตุการณ์ร้ายกับครูในพื้นที่ภาคใต้ ที่ยังไม่นับกับเหตุการณ์วางเพลิงเผาโรงเรียนด้วยด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการกระทำอย่างโหดเหี้ยมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และจะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมมาลงโทษตามกระบวน การทางกฎหมายให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งจะเร่งประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าวอย่างเร่งด่วนต่อไป พร้อมทั้งจะยังคงดำรงความมุ่งหมาย ในมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมกับขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแส หรือข้อมูลใดๆ ที่เป็นประโยชน์ โทร.สายด่วน 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง
เหตุการณ์ที่กลุ่มก่อความไม่สงบทำร้ายครูในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดขึ้นหลายครั้ง สามารถไล่เรียงเหตุการณ์ได้ดังนี้
สังคม
กลุ่มก่อความไม่สงบ,ครู,ชายแดนใต้,นราธิวาส,ปัตตานี
https://news.thaipbs.or.th/content/132277
ผู้เสียหายแชร์หวยร้องดีเอสไอ ถูกหลอกให้ลงทุนสูญเงินกว่า 30 ล้านบาท
ผู้เสียหายกว่า 30 คน ทั้งนักเรียน นักศึกษา และ ข้าราชการ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นได้ร้องเรียนที่ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ หรืออีเอสไอ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ปาณิศา จิตรงาม อายุ 32 ปี อดีตข้าราชการนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค เขต 9 จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมพวกอีก 3 คน หลังหลอกให้ร่วมลงทุนซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในลักษณะแชร์ลูกโซ่ผู้เสียหายอ้างว่า น.ส.ปาณิศา ใช้ความเป็นข้าราชการ ชักชวนคนรู้จักมาร่วมลงทุนซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจะให้เงินปันผลตอบแทนในทุกงวด หลังการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล 5 วัน และจะได้เงินปันผล 300-400 บาท ต่อเงินลงทุน 8000 บาทจึงมีชาวบ้าน และเพื่อนข้าราชการร่วมลงทุนจำนวนมาก รวมเป็นเงินกว่า 34 ล้านบาท ซึ่งช่วงแรกทุกคนจะได้เงินตรงเวลา แต่ระยะหลังกลับไม่ได้เงิน ถูกบ่ายเบี่ยงอ้างว่า มีปัญหาเรื่องเช็ค เมื่อผู้เสียหายหลายคนทวงถาม ก็หายตัวไปติดต่อไม่ได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก
ผู้เสียหายแชร์หวยในจังหวัดเชียงใหม่ ร้องเรียนกับดีเอสไอ หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุน ทำให้สูญเสียเงินไปกว่า 30 ล้านบาท
ภูมิภาค
ดีเอสไอ,หวย,เชียงใหม่,แชร์ลูกโซ่
https://news.thaipbs.or.th/content/170360
แน่จริงก็ยิงมา บราโว ลั่น ไม่กลัว เมสซี-ซัวเรซ-เนย์มาร์
หลุยส์ ซัวเรซ และเนย์มาร์ ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เดือนหน้า,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 26 ก.ย. ว่า เคลาดิโอ บราโว ผู้รักษาประตูทีมชาติชิลี ของทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยัน เขาไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับ ลิโอเนล เมสซี,หลุยส์ ซัวเรซ และเนย์มาร์  3 แนวรุกระดับโลกของทีม เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา ในเกมที่ทั้งสองทีมจะดวลแข้งในกันในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มในเดือนหน้า,สำหรับ บราโว เพิ่งย้ายจากบาร์เซโลนามาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์นี้ และเขาก็เตรียมเผชิญหน้ากับต้นสังกัดเก่าของตัวเอง ซึ่ง บราโว ยืนยันว่าเขาไม่ได้มีความกลัว 3 ประสานในแนวรุกของบาร์เซโลนาแต่อย่างใด,ผมไม่คิดว่าการเจอกับ เมสซี,ซัวเรซ และ เนย์มาร์ คือฝันร้ายนะ ผมไม่เคยมองว่ากองหน้าของคู่แข่งเป็นฝันร้าย แถมยังรู้สึกตรงกันข้ามอีกต่างหาก คุณต้องเห็นว่ามันเป็นความท้าทายและคุณต้องการที่จะมีส่วนร่วมในเกมที่มีนักเตะที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ในสนาม แมตช์เหล่านี้มันจะช่วยกระตุ้นคุณ แทนที่จะเป็นเกมที่คุณรู้สึกกลัวคู่แข่ง และคุณมักจะรู้สึกแข่งแกร่งเมื่อต้องเจอกับพวกเขา บราโว กล่าว
เจอเพื่อนเก่า! เคลาดิโอ บราโว ผู้รักษาประตูทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยัน เขาไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับ 3 แนวรุกสุดอันตรายของบาร์เซโลนาอย่าง ลิโอเนล เมสซี,หลุยส์ ซัวเรซ และเนย์มาร์ ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เดือนหน้า
null
ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก,เคลาดิโอ บราโว,ลิโอเนล เมสซี,หลุยส์ ซัวเรซ,เนย์มาร์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,บาร์เซโลนา,แมนเชสเตอร์ ซิตี้
https://www.thairath.co.th/content/735166
จับยาไอซ์ 10 กก. แก๊ง มหาจ่า พันธมิตรเครือข่าย พ.ท.ยี่เซ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผบ.มทบ.ที่ 33 จ.เชียงใหม่ และนายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ปปส.ภาค 5 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายสมพล หรือ เทิด ลุงยา อายุ 39 ปี ชาวไทยใหญ่ อยู่บ้านเลขที่ 136/ช หมู่ 13 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และนายกั๊บ หรือ หมะหะ ไม่มีนามสกุล ชาวว้า อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/ช หมู่ 6 ต.หมอกจำแป๋ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยถูกจับพร้อมของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 10 ก้อน น้ำหนัก 10 กิโลกรัม รถกระบะสีเทา หมายเลขทะเบียน ผห 5044 เชียงใหม่ เงินที่ใช้ล่อซื้อ ที่บริเวณถนนซอย 5 บ้านป่าแดด หมู่ 7 อ.เมือง จ.เชียงใหม่,พล.ต.ต.ประหยัชว์ กล่าวว่า ขบวนการค้ายาเสพติดชายแดนไทยด้าน จ.แม่ฮ่องสอน เป็นกลุ่มของ มหาจ่า ที่ร่วมเครือข่าย พ.ท.ยี่เซ ลักลอบนำยาเสพติดประเภทยาไอซ์เข้ามา จึงวางแผนจับกุมตั้งแต่ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนประสบความสำเร็จ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. 2559 โดยขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ ต้องใช้วิธีการล่อซื้อเท่านั้นจึงจะสำเร็จ เพราะรู้ความเคลื่อนไหวของตำรวจดีกว่ากลุ่มนักค้า กว่าจะถูกจับได้หลอกล่อตำรวจไปมาหลายรอบ ถือเป็นขบวนการใหญ่ชายแดนที่มีการเคลื่อนไหวลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังฝั่งไทย เป็นกลุ่มใหม่ที่ติดตามความเคลื่อนไหวมานานแล้ว.
ตำรวจภาค 5 จับยาไอซ์หนัก 10 กก. ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยใช้วิธีล่อซื้อจากแก๊ง มหาจ่า ที่ร่วมกับเครือข่าย พ.ท.ยี่เซ ลอบขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
ข่าว,ทั่วไทย
จับยาไอซ์,ยาไอซ์,ยาเสพติด,แก๊งพ.ท.ยี่เซ,แก๊งมหาจ่า,เชียงใหม่,ตำรวจภาค 5,ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์,ผบช.ภ.5,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/645597
อุตุฯเตือนระวังพายุฤดูร้อนภาคเหนือ-อีสาน-กลาง วันที่ 11-12 เม.ย.
วันนี้ (11 เม.ย.2558) เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ ฉ.4 เตือนระวังพายุฤดูร้อนในไทย โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บ ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ช่วงวันที่ 11- 12 เม.ย.ภาคใต้ ช่วงวันที่ 12 -14 เม.ย.ระวังอันตรายโดยให้ประชาชนอยู่ห่างต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา สิ่งก่อสรางที่ไม่แข็งแรง โดยมีเนื้อหาดังนี้ ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 11 เมษายน 2558 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนแล้ว และจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกในระยะต่อไป ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งจะมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ โดยจะมีผลกระทบต่อภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11-12 เมษายน 2558 ส่วนภาคใต้จะมีผลกระทบในวันที่ 12-14 เมษายน 2558 ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย ประกาศ ณ วันที่ 11 เมษายน 2558 เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 11 เมษายน 2558 เวลา 11.00 น. (นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย) อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ ฉ.4 เตือนระวังพายุฤดูร้อนในไทย โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บ ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ช่วงวันที่ 11- 12 เม.ย.ภาคใต้ ช่วงวันที่ 12 -14 เม.ย.
ภูมิภาค
กรมอุตุนิยมวิทยา,พายุฝนฟ้าคะนอง,พายุฤดูร้อน,ภาคกลาง,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,ภาคเหนือ,ลมกระโชกแรง,ลูกเห็บ
https://news.thaipbs.or.th/content/147
กระทรวงพลังงาน เตรียมหารือรับมือผลกระทบ กรณีพม่าหยุดจ่ายก๊าซ
ในวันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ กระทรวงพลังงานเตรียมประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมแผนรับมือการหยุดจ่ายก๊าซของพม่า พร้อมเตรียมชี้เเจงให้ประชาชนให้เข้าใจในสถานการณ์ ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานอาจต้องใช้มาตรการหยุดจ่ายไฟฟ้าในบางพื้นที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้พิจารณานำโรงไฟฟ้าเก่าที่หยุดการผลิต ซึ่งใช้เชื้อเพลิงน้ำเตาเเละดีเซล มาผลิตกระเเสไฟฟ้าทดแทน รวมถึง เตรียมเครื่องปั่นไฟการประกาศปิดซ่อมท่อก๊าซที่พม่าครั้งนี้ สาเหตุเกิดจากเเท่นผลิตก๊าซยาดานาในพม่า ทรุดตัวต่อเนื่องปีละ 25 เซนติเมตร โดยมีกำหนดซ่อมบำรุง 4-12 เมษายน 56 แต่กระทรวงพลังงานขอให้พม่าเลื่อนการปิดซ่อมออกไปเป็นช่วงวันที่ 7 หรือ 8 เมษายน ซึ่งขณะนี้กำลังรอความชัดเจนว่า ตามแผนการผลิตไฟฟ้าของไทย ปกติจากสามารถผลิตได้ 32000 เมกกะวัตต์ เเต่การหยุดจ่ายก๊าซของพม่าครั้งนี้ จะทำให้ปริมาณไฟฟ้าหายไป 4100 เมกกะวัตต์ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเเห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เตรียมฟื้นโรงไฟฟ้าเก่า และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ รวมถึงจะรับซื้อไฟจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นนายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่ากฟผ.กล่าวว่า เป็นกังวลกับปัญหาภัยเเล้งในขณะนี้ด้วยว่า จะกระทบต่อปริมาณน้ำที่จะใช้ผลิตไฟฟ้า โดยอาจจะทำให้การผลิตไฟฟ้าสำรองฉุกเฉินราว 1200 เมกกะวัต อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายนอกจากนี้ยังกังวลกับการจ่ายไฟไปยังจุดที่มีผู้ใช้จำนวนมากด้วยอาจเกิดปัญหาไฟตกเเละไฟดับ หากไม่สามารถดึงไฟฟ้าจากพื้นที่อื่นไปเพิ่มเติมได้ทันการ ซึ่งกระทรวงพลังงานกำลังหาทางรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเเห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. วางแผนดึงไฟสำรองจากโรงไฟฟ้าเก่า เเละการซื้อไฟเพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน รับมืออาจเกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า จากการปิดซ่อมท่อก๊าซของพม่า ขณะที่กระทรวงพลังงานเรียกหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันพุธนี้ เบื้องต้นอาจต้องหยุดจ่ายไฟบางพื้นที่
สิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน,จ่ายก๊าซ,ผลกระทบ,พม่า
https://news.thaipbs.or.th/content/147865
สลด นทท.ต่างชาติ อุ้ม น้องหมากดน้ำทะเล
วานนี้(31 ก.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อสังคมสังคมออนไลน์ส่งต่อคลิปจากเพจรักหมา โดยเป็นภาพของนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติจำนวน 2 คน อุ้มสุนัขไม่ทราบสายพันธุ์ขนาดเล็ก ห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนู เดินลงไปในทะเลบริเวณชายหาดจอมเทียน ตรงข้าม ซีตัส คอนโดมิเนียม ปากซอยจอมเทียน 15 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีก่อนจะนำสุนัขกดลงไปในน้ำจนขาดใจตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนจะอุ้มร่างสุนัข แล้วพากันเดินหายไป ซึ่งพบว่ามีประชาชนเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากขณะที่นายจิระวัฒน์ ชมชาย พ่อค้าขายผลไม้ ซึ่งทุกวันจะนำข้าวและอาหารมาเลี้ยงสุนัขจรจัดบริเวณชายหาดจอมเทียน กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่ทราบเจตนาของนักท่องเที่ยว แต่ส่วนตัวแล้วมองว่า เป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจ เพราะที่ผ่านมา ก็คอยดูแลสุนัขจรจัดตลอดแนวชายหาดมานาน เพราะถือว่าเป็นสัตว์ร่วมโลกเดียวกัน
สื่อสังคมออนไลน์ส่งต่อคลิปเหตุการณ์ นักท่องเที่ยว อุ้มสุนัขห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนู จับกดน้ำทะเลตาย โดยไม่ทราบเเรงจูงใจในการก่อเหตุ
สังคม
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,หมา,ชลบุรี,หาดจอมเทียน,เพจรักหมา
https://news.thaipbs.or.th/content/264848
ทางหลวงปรี๊ดแตก กทพ.ชุบมือเปิบ จ่อฟ้องศาลปกครองคุ้มครองสิทธิ์
นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึง ระหว่างกรมทางหลวงกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตั้งแต่ปี 52 ว่า หน่วยงานไหนจะเป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการ จากเดิม กทพ.ได้สิทธิ์เข้ามาสร้างด่านจัดเก็บเงินค่าผ่านทางในพื้นที่ของกรมทางหลวง (ทล.) เนื่องจาก กทพ.ไม่มีพื้นที่ พร้อมขอเข้าบริหารจัดการและให้ ทล.จ่ายค่าดำเนินการ จัดเก็บค่าผ่านทางกับ กทพ. 9-12 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่ง ทล.มองว่า หากต้องจ่ายค่าดำเนินการมากขนาดนั้น ทล.จะขอดำเนินการเอง เพราะจากการคำนวณต้นทุนการบริหารจัดการจะอยู่ที่ 6 ล้านบาทต่อเดือนเท่านั้น ดังนั้น หาก 1 ก.ค.61 นี้ ซึ่งเป็นวันแรกที่จะเก็บค่าผ่านทาง หากยังไม่ได้ข้อสรุป ทล.จะฟ้องศาลปกครอง เพื่อคุ้มครองสิทธิ์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ของ ทล.,กรมทางหลวงขอยืนยันว่า ทางด่วนของ กทพ.จากบางนา-ตราด มาพระราม 2 รวมระยะทาง 22.5 กิโลเมตร (กม.) มาสิ้นสุดถึงแม่น้ำเจ้าพระยา และทางด่วนของ ทล.จะเริ่มตั้งแต่แม่น้ำเจ้าพระยา พระราม 2-สุขสวัสดิ์-บางขุนเทียน ซึ่ง กทพ.ไม่มีพื้นที่สร้างด่านจัดเก็บค่าผ่านทาง ทล.จึงสร้างด่านเก็บค่าผ่านทางในราคา 15 บาทต่อคันในพื้นที่ของ ทล. แต่ ครม.เคยมีมติให้ กทพ.ซึ่งมีความชำนาญในการจัดเก็บค่าผ่านทางด่วน จึงให้เป็นผู้รับผิดชอบ เรื่องนี้ กระทรวงคมนาคม โดยนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมทางหลวง สำนักงบประมาณ สภาพัฒน์ มาหารือร่วมกันให้ได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้แล้ว แต่หากไม่สามารถตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายบริหารจัดการในพื้นที่ ของ ทล.ได้ ทาง ทล.จึงจำเป็นต้องเรียกร้องสิทธิ์ และขอเข้าบริหารจัดการเอง โดยให้ กทพ.ออกจากพื้นที่ และไม่จ้าง กทพ.บริหาร,นายธานินทร์ กล่าวว่า ข้อพิพาทในการเป็นผู้จัดเก็บ บริการจัดการค่าผ่านทางในเส้นทางดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ครม.เคยมีมติมาตั้งแต่ปี 52 ให้ ทล.จัดเก็บค่าผ่านทาง แต่ ทล.ก็ไม่สามารถตกลงทำความเข้าใจกับ กทพ.ได้ ทำให้ ทล.สูญเสียรายได้ไปกว่า 600 ล้านบาท และหากคำนวณความสูญเสียรายได้จากปี 52 ถึงปัจจุบัน สูญเสียรายได้กว่า 5,400 ล้านบาท สำหรับส่วนต่อขยายโครงการทางยกระดับโทลล์เวย์ จากรังสิต-บางปะอินนั้น เรื่องนี้อยู่ระหว่างให้ที่ปรึกษากฎหมายศึกษาข้อดีข้อเสีย หาก ทล.ดำเนินการ เพราะยังติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายทางด่วนด้านเหนือ ที่ กทพ.ให้สัมปทานกับบริษัทเอกชนไปดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตาม หากได้ข้อสรุปจะดำเนินการต่อทันที เนื่องจากแบบก่อสร้างโทลล์เวย์ รังสิต-บางปะอิน เรียบร้อยแล้ว.
ความคืบหน้าการหาข้อสรุป การเข้าบริหารจัดการจัดเก็บค่าผ่านทางช่วงทางหลวงพิเศษถนนกาญจนาภิเษก (ถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้) ช่วงพระราม 2-สุขสวัสดิ์-บางขุนเทียน
ข่าว,เศรษฐกิจ
ค่าผ่านทาง,ด่านจัดเก็บเงิน,กรมทางหลวง,ทางด่วน,ค่าทางด่วน
https://www.thairath.co.th/news/business/1236406
หลายหน่วยงานเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ
ชาวนา ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ขุดดินใส่กระสอบเพื่อนำไปเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมนา หลังฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำในแม่น้ำเปา และแม่น้ำต๊าก ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร และถนนเข้าสู่หมู่บ้าน ขณะที่ ต.วาวี อ.แม่สรวย ต้นไม้ใหญ่ได้โค่นทับ 2 แม่ลูก ชาวบ้านห้วยน้ำอุ่น หมู่ 21 ต.วาวี เสียชีวิตขณะเดินลัดเลาะไปตามหุบเขาเพื่อไปทำไร่ข้าวโพดส่วนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก หน่วยงานต่างๆ เร่งแจกถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยอุทกภัยในเขต ต.แม่สอด ล่าสุด สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ยังท่วมขังในบางพื้นที่ ส่วนพื้นที่ชุมชนริมแม่น้ำเมย ชายแดนไทย - พม่า น้ำยังคงเอ่อล้นเข้าท่วมชุมชน และร้านค้า และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การไฟฟ้าภูมิภาค อ.แม่สอด ยังงดจ่ายกระแสไฟฟ้าขณะเดียวกัน หลายจังหวัดภาคเหนือตอนบนยังคงแจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือกับน้ำท่วม และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ลำพูน หลังพบว่าแม่น้ำสายหลักทั้ง 4 สาย มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
หน่วยงานต่างๆ ยังคงเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ หลังฝนที่ตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
ภูมิภาค
น้ำท่วม,ภาคเหนือ
https://news.thaipbs.or.th/content/186999
ส่องดาราหาวิธีแบบไหนถึงห่างไกลไวรัสโควิด-19
เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องสู้กับมัน อย่างที่ เจินเจินบุญสูงเนิน ได้ร้องเพลงนี้ ต้องสู้จึงจะชนะ และแม้แต่ นายกฯตู่ ก็ยังบอกไว้ ประเทศ ไทยต้องชนะ ศิลปินดารานักร้องเองก็มีสารพัดวิธีต่อสู้กับภัยร้ายไวรัสโควิด-19 เราไปดูว่าใครทำอะไรกันบ้างสายบ้าพลัง การออก กำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เป็นยุทธวิธีต่อสู้กับเชื้อร้ายไวรัสโคโรนา 2019 ได้ดีที่สุด อย่าง อาร์ต-พศุฒน์ ที่อยู่ระหว่างกักตัวเองแต่ก็ไม่ได้กักเปล่าๆปลี้ๆ เล่นฟิตเนสอยู่กับบ้าน สน-ยุกต์ ตื่นนอนมาก็เข้าห้องยิมขลุกอยู่ทั้งวัน ยกเว้นกินกับนอน งานนี้คงได้เห็น นิวคนเหล็ก แน่นวล คนดังอย่าง เบลล่า-ราณี กิจกรรมนอกบ้านก็ยังมี และหนึ่งในนั้นคือไปยิม แถมขอเล่นท่ายากแบบ หัวหก ก้นขวิด สาว ใหม่-ดาวิกา นี่เก็บตัวก่อนใครตั้งแต่กลับจากอิตาลีเดือนที่แล้ว ฟิตซะตอนนี้เห็นแล้วกลัวเอวจะหัก แอน ทองประสม คนนี้ออกกำลังกายสม่ำเสมอให้หุ่นฟิต หน้าอ่อนวัย ต้านไวรัสน่ะของแถม สาว ญาญ่า-อุรัสยา นานๆจะมีวันว่างอย่างนี้ นั่งๆนอนๆ เบื่อปูเสื่อเล่นโยคะเอาชนะโรคภัยได้ คนนี้สายบ้าพลังตัวจริง ก้อย-รัชวิน เชื้อโรคอะไรก็ไม่กล้าเข้าร่าง ล่าสุดนางดีใจมากเข้าฟิตเนสวิ่งสู้ฟัดกับเชือกทำลายสถิติ พี่ตูน ของนางเฉยเลยสาวคนนี้สายกิจกรรม ปู-ไปรยา เพิ่งจะมีเวลาว่างช่วงนี้ก็หันมาฟิตเนสดูแลตัวเองหน่อย เพราะห่างมานาน เบเบ้-ธันย์ชนก สาวสายสุขภาพลีนทั้งร่าง ล่าสุดนี่เพิ่งจะโชว์ท่าฉีกขา 180 องศา แถมแนะเทคนิคเอาไว้ด้วย สาวไหนอยากกระชับจัดไป มิน-พีชญา ออกกำลังกายอยู่กับบ้าน แต่ว่าเสื้อผ้าแต่งเต็มเพราะอยากรีวิวให้ บอสแต้ว-ณฐพร สายชิลด์ พวกเน้นสุขภาพจิตดีมีชัยไปกว่าครึ่ง อย่าง หมาก-ปริญ กับสาว คิม-คิมเบอร์ลี่ มีวันว่างเยอะอย่างนี้หายาก เลยเดินสายตระเวนกินกับแก๊งต่อด้วยเที่ยวหัวหินกินลมชมทะเลชาร์จพลังเต็มเปี่ยม สาวเดอะเฟซ กวาง-วรรณปิยะ รวมก๊วนสาวๆไปดำน้ำที่หมู่เกาะสิมิลัน เป็นการติดเกาะที่สุดวิเศษพัดพัด-รัตน์ฟ้า ก็หนี ก้อง-กรุณ คุณแฟนไปตระเวนเที่ยวไปตามเกาะแก่งแอ่งอ่าวแบบว่าถ้าไม่ทั่วภูเก็ตเป็นไม่ยอมกลับ ส่วนคุณพ่อลูกอ่อนบีม-กวี ก็พาลูกเมียไปพักผ่อนที่พัทยาให้เวลากับครอบครัวเต็มที่ เช่นเดียวกับ ฟลุค-จิระ ที่เทเวลาให้ลูกเมียเต็มอิ่มแฟมิลี่ไทม์อีกคู่ ซี-ศิวัฒน์ กับ เอมี่ ล็อกดาวน์ตัวเองอยู่กับบ้านจัดการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกซอกทุกมุมจนปลอดทุกเชื้อโรคบนโลกนี้ จากนั้นก็ใช้ชีวิตสุขขี นอนดูหนัง ฟังเพลง ทำอาหารกินกันเอง#ไม่ปิดประเทศ ปิดบ้านตัวเองก็ได้
เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องสู้กับมัน อย่างที่ เจินเจิน บุญสูงเนิน ได้ร้องเพลงนี้ ต้องสู้จึงจะชนะ และแม้แต่ นายกฯตู่ ก็ยังบอกไว้ ประเทศ ไทยต้องชนะ ศิลปินดารานักร้องเองก็มีสารพัดวิธี
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ส่องไอจีดารา,โควิด-19,วิธีต่อสู้,ไวรัสโคโรนา,อาร์ต พศุตม์,เบลล่า ราณี,ใหม่ ดาวิกา,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1798058
สื่อดังแฉ ปืนใหญ่จวกกันเอง ไม่พอใจฟอร์ม 3 แข้ง เกมพ่ายไบรท์ตัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วันที่ 6 มี.ค. ว่า นักเตะของทีม ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ไม่พอใจฟอร์มการเล่นของ เมซุต โอซิล, เฮนริคห์ มคิตาร์ยาน และ ชโคดราน มุสตาฟี ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่บุกไปแพ้ ไบรท์ตัน 1-2 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา,จากความพ่ายแพ้ดังกล่าว ทำให้ อาร์เซนอล แพ้เป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน ส่อแววหมดลุ้นติดท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้,รายงานข่าวล่าสุดจาก เดอะ ซัน สื่อดังของอังกฤษ ระบุว่า นักเตะของอาร์เซนอลตำหนิกันเองในห้องแต่งตัวหลังจบเกมดังกล่าว โดยเป้าหมายอยู่ที่ เมซุต โอซิล ที่แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกม รวมทั้ง เฮนริคห์ มคิตาร์ยาน ที่ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ และ ชโคดราน มุสตาฟี ที่ถูกเพื่อนร่วมทีมตำหนิ เนื่องจากชอบตำหนินักเตะคนอื่นเวลาเสียประตู แต่เกมนี้เขาเป็นคนสร้างความผิดพลาดเสียเอง,นอกจากนี้ รายงานยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า เฮคตอร์ เบเยริน มีปัญหากับ อาร์แซน เวนเกอร์ หลังจากถูกตัดชื่ออกจากตัวจริง ก่อนเกมกับไบรท์ตันจะเริ่มขึ้นเพียง 2 ชั่วโมง
สื่อดังของอังกฤษ ออกมาแฉว่านักเตะของทีม ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ไม่พอใจฟอร์มเพื่อนร่วมทีม 3 ราย ในเกมบุกแพ้ ไบรท์ตัน 1-2
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
อาร์เซนอล,เฮนริคห์ มคิตาร์ยาน,เมซุต โอซิล,ชโคดราน มุสตาฟี,ไบรท์ตัน
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1220702
หลายจังหวัดเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยช่วงปีใหม่
ตำรวจเพิ่มกำลัง เฝ้ารักษาความปลอดภัยในพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทั้งนี้ได้ตั้งด่านตรวจรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่ผ่านเข้า-ออกอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบนำอาวุธ และรถต้องสงสัย เข้ามาก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง พร้อมเตรียมแผนรองรับอาชญากรรม และปัญหาเกี่ยวกับทรัพย์สินในย่านชุมชนด้วยขณะที่ฝ่ายความมั่นคงกำชับให้เจ้าหน้าที่ ติดตามความเคลื่อนไหวของ 4 แกนนำแนวร่วมในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย นายเสรี แวมามุ นายรุสลัน ใบมะ นายเจ๊ะหมะ วานิ และ นายมะรูดิง สามะ หรือรายู หลังมีรายงานว่า อาจมีการก่อเหตุรุนแรงเช่นเดียวกับจังหวัดสตูล ตำรวจน้ำกว่า 50 นาย นำเรือออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว รอบเกาะหลีเป๊ะ พร้อมกำชับเรื่องความปลอดภัยแก่ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว โดยเฉพาะการจัดเตรียมอุปกรณ์ชูชีพให้เพียงพอกับผู้โดยสาร
หลายจังหวัดเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่
อาชญากรรม
นักท่องเที่ยว,ปีใหม่,สถานที่ท่องเที่ยว,เทศกาล
https://news.thaipbs.or.th/content/135265
ปินส์ระทึกต่อจากจีน เจอแผ่นดินไหวขนาด 6.2 เขย่าเกาะลูซอน
เมื่อ 11 ส.ค.60 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 6.2 เขย่าเกาะลูซอน ทางภาคเหนือฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 11 ส.ค. โดยแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงมะนิลา ซึ่งอยู่บนเกาะลูซอน อาคารสูง และโรงเรียนจำนวนมากสั่นโยก เป็นเหตุให้ผู้คนที่อยู่บนอาคารสูงและโรงเรียน พากันตื่นตระหนกรีบอพยพวิ่งหนีลงจากอาคารและโรงเรียนกันจ้าละหวั่น,รอยเตอร์ระบุว่า เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ จากเหตุธรณีพิโรธ ซึ่งเบื้องต้น สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) แจ้งความรุนแรงของแผ่นดินไหวเขย่าเกาะลูซอน ว่าอยู่ที่ขนาด 6.6 ก่อนจะมีการปรับลดลงมาเหลือ 6.2 โดยแผ่นดินไหว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.28 น.ของวันที่ 11 ส.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ศูนย์กลางธรณีพิโรธอยู่ห่างจากเมืองนาซักบู ในจังหวัดบาตันกัส ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 10.7 กม.และมีความลึกจากผิวดินประมาณ 184 กิโลเมตร,อย่างไรก็ดี สถาบันศึกษาภูเขาไฟและแผ่นดินไหวในฟิลิปปินส์ ไม่ได้แจ้งเตือนภัยจะเกิดสึนามิ คลื่นยักษ์หลังแผ่นดินไหว เพราะส่วนใหญ่จะเกิดเมื่อมีขนาดความรุนแรง6.3 ขึ้นไป เพียงแต่คาดว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อก แผ่นดินไหวต่อเนื่องเขย่าตามมาในพื้นที่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว
ชาวฟิลิปปินส์ในมะนิลา แตกตื่นวิ่งลงจากอาคารสูง เกิดธรณีพิโรธ ขนาด 6.2 เขย่าเกาะลูซอน ทำอาคารสูง โรงเรียนสั่นโยก เบื้องต้นยังไม่มีรายงานคนเจ็บ คนตาย
ข่าว,ต่างประเทศ
แผ่นดินไหว ฟิลิปปินส์,แผ่นดินไหว ลูซอน,เกาะลูซอน,ฟิลิปปินส์,ธรณีพิโรธ
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1035187
หลบไม่รายงานตัว รองเต่า คนสนิทพงศ์พัฒน์
วันที่ 1 ธ.ค. ผู้ต้องหาที่เป็นทหารยศ สิบเอก นัดเข้ามอบตัวอีก 2 คน รรท.ผบช.ก.ฮึ่ม ล้างระบบส่วยตำรวจน้ำ แถมหาหลักฐานเอาผิดผู้บังคับบัญชาที่รับส่วยทั้งอดีตและปัจจุบัน พร้อมแจง หลังยกเลิกให้ใช้นามสกุล อัครพงศ์ปรีชา เปลี่ยนนามสกุลผู้ต้องหาเป็น สุวะดี ไม่ใช่ เกิดอำแพง ขณะที่ชุดทำงานเรียกร้องให้ รองเต่า คนสนิทอดีต ผบช.ก.อีกคน เข้าให้การ หลังหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.,กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทลายเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. และพวกพร้อมตรวจค้นได้ทรัพย์สินจำนวนมาก แจ้งข้อหาฉกรรจ์ทั้งแอบอ้างเบื้องสูง เรียกรับส่วยน้ำเถื่อน บ่อนการพนัน ไปจนถึงอุ้มทวงหนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ขออนุมัติศาลทหารกรุงเทพออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม 5 คน ประกอบด้วย นายชลัช โพธิราช อายุ 30 ปี นายวิทยา หรือแท็ก เทศขุนทด อายุ 26 ปี นายณธกร หรือสิบเอกณธกร ยาศรี อายุ 29 ปี สิบเอกธีรพงศ์ ช่อจำปี อายุ 28 ปี และนายณัฐนันท์ ทานะเวช อายุ 24 ปี ที่ร่วมกับนายชากานต์ หรือยูริ ภาคภูมิ อายุ 34 ปี นายณรงค์ หรือปื้ด สุวะดี (อัครพงษ์ปรีชา) อายุ 41 ปี และนายณัฐพล หรือกอล์ฟ สุวะดี (อัครพงษ์ปรีชา) อายุ 29 ปี ที่ถูกจับกุมไปก่อนแล้ว รวม 8 คน อุ้มผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าหนี้ไปข่มขู่ให้ลดหนี้กว่า 100 ล้านบาท เหลือ 20 ล้านบาท,จับเพิ่ม 2 ผู้ต้องหาแจ้ง 4 ข้อหาฉกรรจ์,ความคืบหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 พ.ย. พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.น.2 พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.วัดพระยาไกร และฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร แถลงข่าวจับกุม นายชลัช โพธิราช อายุ 30 ปี และนายณัฐนันท์ ทานะเวช อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารที่ 128/2557 และ 132/2557 ลงวันที่ 28 พ.ย.2557 รวม 4 ข้อหา ประกอบด้วยข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือยอมจำนนต่อสิ่งนั้นโดยมีอาวุธ โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป จับกุมทั้งคู่ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 3 ซอยสุทธิพงศ์ 4 แขวงและดินแดง กทม.,ชุดจับกุมนำของกลางอาวุธปืนที่ติดตามยึดมาได้จากกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 3 กระบอก ได้แก่ อาวุธปืนยี่ห้อคิมเบอร์ ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน 1 อัน อาวุธปืนยี่ห้อพาราออดแนนซ์อาร์เอช 17489 ออโตเมติก ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน 1 อัน และอาวุธปืนยี่ห้อโคลท์ ออโตเมติก ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน 1 อัน ปืนทั้งหมดเป็นของนายวิทยา หรือแท็ก เทศขุนทศ ผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี มีรายงานด้วยว่า ชุดสืบสวนยังยึดอาวุธปืนได้อีก 1 กระบอก ของ ส.อ.ธีระพงศ์ ช่อจำปี ผู้ต้องหาอีกคนยังจับกุมไม่ได้,พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รรท.ผบช.ก.กล่าวว่า ผู้ต้องหา 2 คนอยู่ในทีมประนอมให้ลดหนี้สิน เหตุเกิดท้องที่ สน.วัดพระยาไกร โดยมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีก 5 คนดังกล่าว พนักงานสอบสวน ขออนุมัติหมายจับทั้งหมดแล้ว ชุดสืบสวน กก.สส. บก.น.5 ร่วมกับชุดสืบสวน สน.วัดพระยาไกร จับผู้ต้องหา 2 คนได้เมื่อคืนวันที่ 29 พ.ย. คดีดังกล่าวแตกต่างกับคดี สน.พระโขนง เนื่องจากลูกหนี้จ้างกลุ่ม ผู้ต้องหาไปประนอมหนี้ด้วยวิธีผิดกฎหมาย พาเจ้าหนี้นายบัณฑิต โชติวิทยะกุล อายุ 45 ปี ผู้เสียหายไปบีบบังคับให้ลดหนี้จากประมาณ 120 ล้านบาทให้เหลือ 20 ล้านบาท มีนายนพพร ศุภพิพัฒน์ อายุ 43 ปีเป็นลูกหนี้คู่กรณี ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้ากว่า 10 ปี กลุ่มผู้ต้องหาจะได้ส่วนแบ่งร้อยละ 10 จากเงินที่ลดได้ ถ้าหนี้เหลือ 20 ล้านจะได้ส่วนแบ่ง 10 ล้านบาท ลูกหนี้ติดต่อผ่านทางนายชากานต์ วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินผู้ต้องหาคดีอาวุธปืน จากนั้นผู้ต้องหานัดไปเจรจาต่อ แต่เจ้าหนี้ไม่ยอมทำตามข้อตกลง จึงข่มขู่และข่มเหงแอบอ้าง กลุ่มผู้ต้องหามีเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย และพลเรือน 1 คน ผู้ต้องหาที่เหลือ 3 คนมีบางรายติดต่อขอมอบตัวแล้ว,ผู้สื่อข่าวถามถึงการติดตาม พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รอง ผกก.6 บก.ป.หรือ รองเต่า พยานปากเอกของคดี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. พล.ต.ท.ประวุฒิตอบว่า อยู่ระหว่างพยายามให้ผู้บังคับบัญชาเรียกตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม จากเดิมเรียกตัวมาสอบแล้วให้กลับไป ถึงวันนี้เรียกตัวมาสอบปากคำเพิ่มแต่ไม่มา คาดว่าคงหลบหนีด้วยความกลัวหรือตกใจ ขอให้ พ.ต.ท.ทรงรักษ์ติดต่อมาด้วย ถ้าหลบหนีไปเกรงว่าจะเกิดอันตราย ขอให้ติดต่อผู้บังคับบัญชาที่ไว้ใจ ติดต่อหรือเข้ามาหาตนได้ทันที พ.ต.ท.ทรงรักษ์ อาจจะรู้เห็นในเส้นทางการส่งผลประโยชน์ที่อยู่ในขบวนการ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เคยเข้ามาให้ปากคำอาทิตย์ที่แล้วไม่มีอะไรจึงให้ปล่อยตัวกลับไป ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ แต่ขอไม่เปิดเผยเพราะเป็นเรื่องในสำนวน ทั้งนี้ได้ลงบันทึกประจำวันข้อมูลดังกล่าว ไว้แล้ว หากไม่เข้ามาพบเกิน 15 วัน จะมีโทษทางวินัยคือขาดราชการเกินกว่า 15 วัน ถ้าขาดโดยไม่มีเหตุอันควรก็จะถูกให้ออกจากราชการ,ถามว่า การถอดยศ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกดำเนินคดีขณะนี้อยู่ขั้นตอนใด พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด ต้องให้เป็นไปตามสำนวนคดีด้วยว่า ดำเนินการไปถึงไหน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ยังไม่ได้สั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการกรณีดังกล่าว ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หลังจากนั้นถึงจะมีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องการถอดยศ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข อย่างเงื่อนไขแรกต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกก็อยู่ในข่ายที่ถอดยศ ยังต้องไปดูเงื่อนไขดังกล่าวอีกหลายข้อว่าเข้าข่ายเงื่อนไขที่จะต้องถูกถอดยศต่อไป,พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.วัดพระยาไกร กล่าวว่า คืนวันที่ 29 พ.ย. นายชลัชและนายณัฐนันท์ติดต่อชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.5 ซึ่งพักอยู่ย่านดินแดง นัดหมายเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 23 มิ.ย.เวลาประมาณ 14.00 น. ผู้เสียหายพักอยู่ที่คอนโดริเวอร์เฮฟเว่น ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม จากการสอบปากคำพยานร้านค้าใกล้เคียงที่เกิดเหตุทราบว่า เห็นนายชากานต์มาดูลาดเลาตั้งแต่ช่วงเช้า กลุ่มผู้ต้องหาพยายามอุ้มผู้เสียหายแต่เกิดการยื้อยุดฉุดกระชาก มีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ค่อนข้างมากก่อนแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ จากนั้นจึงนำตัวผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดไปสอบสวน ดำเนินคดีผู้ต้องหาส่วนหนึ่งคดีพกพาอาวุธปืน และมีบางส่วนไม่พบการกระทำความผิดจึงปล่อยตัวไป จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหานัดผู้เสียหายไปพบกันที่ร้านอาหารอัญญา ย่านพุทธมณฑล เพื่อตกลงเจรจากันเองเพื่อประนอมหนี้อีกครั้งในวันเดียวกัน,ด้านนายชลัช โพธิราช ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนรับจ้างขับรถให้นายชากานต์ ภาคภูมิ มีพี่ที่รู้จักพาไปสมัคร ทำมา 1 ปีกว่าแล้ว ได้เงินเดือน 8,000 บาท วันที่เกิดเหตุตนขับรถไปจอดอยู่นายชากานต์สั่งให้ตนขับรถไปเชิญตัวนายบัณฑิต โชติวิทยะกุล ผู้เสียหาย เพียงแค่จับมือและฉุดกระชากกันเท่านั้น เพื่อเอาขึ้นรถตามที่นายชากานต์สั่ง ได้ค่าจ้างประมาณ 4,000-5,000 บาทต่อคน ได้มาครั้งเดียว ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง เคยเจอคนที่อยู่ในตระกูลอัครพงศ์ปรีชาบางครั้ง นายชากานต์ให้ขับรถไปด้วยจึงทำให้เห็นบุคคลดังกล่าว ได้ยินชื่อเรียกว่านายปื้ด หรือนายณรงค์ อัครพงศ์ปรีชา แต่คุยเรื่องอะไรกันหรือ แอบอ้างอะไรตนไม่ทราบ มีหน้าที่ขับรถอย่างเดียว แต่ช่วงเกิดเหตุ เห็นนายแท็ค หรือนายวิทยา เทศขุนทด เป็นคนทุบกระจก เคยทำแบบเดียวกันนี้มา 2 ครั้ง ครั้งที่ 2 ให้ขับรถไปรับคนแถววัดศรีเอี่ยม คนที่นายชากานต์บอกมาให้ตนไปรับกับคนอื่นอีก 2-3 คน ไม่ยอมออกมาพบ,ถามว่าตอนนี้กลัวหรือไม่ นายชลัชตอบว่ากลัว ตอนแรกไม่รู้ว่าเขาไปพูดอะไรบ้าง กลัวเรื่องใหญ่ กลัวที่จะโดนจับออกหมายเรียก รู้สึกไม่ดีที่โดนแจ้งข้อหา ม. 112 แต่เท่าที่ทราบนายชากานต์รู้จักกับน้องหม่อม รู้แต่ที่เคยได้ยินเรียกชื่อว่า พี่ปื้ด ระหว่างที่ขับรถตู้ให้นายชากานต์ได้ยินเสียงแว่วเข้ามา โดยที่ไม่สนใจว่าพูดเรื่องอะไรอยู่ ไม่จำเป็นต้องทราบ ยืนยันในวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับอาวุธด้วย โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดเข้ามาทำร้ายหรือซ้อม ตนยอมรับทุกข้อกล่าวหา เพราะตนลงมือทำจริงในวันเกิดเหตุ ด้านนายณัฐนันท์กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ขับรถ จยย.รับเอกสารและรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา,มีรายงานด้วยว่า นายนพพร ที่เป็นผู้จ้างวานให้กลุ่มผู้ต้องหามาก่อเหตุประนอมหนี้ยังให้การปฏิเสธ และไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหาแต่อย่างใด นอกจากนี้มีผู้ต้องหา 2 คน คือ ส.อ.ณธกร ยาศรี และ ส.อ.ธีรพงศ์ ช่อจำปี จะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 1 ธ.ค. เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนนายณัฐนันท์ ทานะเวช ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว,ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.วัดพระยาไกร นำกำลังเข้าตรวจสอบที่ร้านอาหารอัญญาเพลสเรสเตอรองต์ เลขที่ 152 หมู่ 5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายณัฐพลพร้อมพวกรวม 8 คน พานายบัณฑิต โชติวิทยะกุล ผู้เสียหายมาเจรจาตกลงให้ลดหนี้ให้กับนายนพพร ศุภพิพัฒน์ จากยอดหนี้ 120 ล้านบาท ให้เหลือเพียง 20 ล้านบาท กลุ่มผู้ต้องหาจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงินร้อยละ 10 ของยอดหนี้ที่ลดได้ พ.ต.อ.เกียรติณรงค์กล่าวว่า วันนี้มาตรวจที่เกิดเหตุ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหามาพูดคุยเจรจาลดหนี้กับผู้เสียหาย โดยมีนายณัฐพล สุวะดี (อัครพงศ์ปรีชา) นายชากานต์ ภาคภูมิและนายณรงค์ สุวะดี (อัครพงศ์ปรีชา) นั่งเจรจากับนายบัณฑิตภายในร้าน ขณะที่นายณัฐนันท์ ทานะเวชและนายชลัช โพธิราช ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวเดินทางมาด้วย,ทั้งนี้ ระหว่างการเจรจากลุ่มผู้ต้องหามีการข่มขู่ผู้เสียหาย โดยการแอบอ้างเบื้องสูง แต่ในที่สุดไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ ส่วนที่นัดมาที่ร้านอาหารแห่งนี้ เพราะใกล้กับสถานที่สำคัญ ต้องการแสดงตัวให้ผู้เสียหายรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ล่าสุด ส.อ.ณธกร ยาศรี และ ส.อ.ธีรพงษ์ ช่อจำปี ผู้ต้องหาที่เหลือในคดีนี้ ได้ติดต่อเข้ามอบตัวในช่วงบ่าย วันที่ 1 ธ.ค.นี้ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงเหลือผู้ต้องหาเพียงรายเดียวคือ นายวิทยา เทศขุนทด ที่ตรวจสอบประวัติครอบครองอาวุธปืนถึง 3 กระบอก ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างระมัดระวัง ผกก.สน.วัดพระยาไกรกล่าว,ที่ สตช. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รรท.ผบช.ก.กล่าวว่า การสืบสวนสอบสวนในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ต้องหาความเชื่อมโยงมีใครโยงใยเกี่ยวข้องการเรียกเก็บส่วย รับส่วย และส่งส่วยให้เครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. จะดำเนินการทั้งคนเก็บรวบรวมและคนที่รับผลประโยชน์จากส่วยทุกประเภท มีทั้งนายตำรวจที่อยู่ในตำแหน่ง อดีตผู้บังคับบัญชาที่มีส่วนได้รับผลประโยชน์ นโยบายของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กำชับให้ดำเนินการกับผู้ที่เป็นระดับหัวของกลุ่มเพื่อหยุดยั้งขบวนการทุจริตทุกประเภท ทั้งการซื้อขายตำแหน่ง การค้าน้ำมันเถื่อน การแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์จากบ่อนการพนันและสถานบริการผิดกฏหมาย การอุ้มเรียกค่าคุ้มครองหรือรับจ้างทวงหนี้ ซึ่งเป็นเครือข่ายการกระทำผิดกฎหมายทั้งหมด ซึ่งในการสืบสวนทางลับ พยานหลักฐานที่ได้จากผู้ต้องหา และพยานปากสำคัญที่เกี่ยวข้องมีความเชื่อมโยงนายตำรวจอีกหลายนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นชุดเฉพาะกิจ ใช้อำนาจหน้าที่เรียกเก็บผลประโยชน์เพื่อส่งต่อให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์อาจจะเรียกตัวเข้ามาสอบปากคำและดำเนิน คดี หากได้พยานหลักฐานครบถ้วน ผู้ใดที่เกี่ยวข้องจะแยกดำเนินการตามความผิด ทั้งทางวินัยและคดีอาญา รวมทั้งโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่เพื่อไม่ให้สัมผัสใกล้ชิดประชาชน,พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วนการรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ กับการประกอบธุรกิจของขบวนการค้าน้ำมันผิดกฎหมาย ทั้งในน่านน้ำอาณาเขตประเทศไทยและนอกพื้นที่อาณาเขตประเทศ ไทย เป็นเหมือนทำเนียมปฏิบัติของตำรวจน้ำในการรับส่วยแต่ละตำแหน่ง ที่มีกลุ่มพ่อค้าจ่ายเป็นรายเดือนมาโดยตลอด ต้องมีการรื้อระบบแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ และโยกย้ายตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้อง บางคนเข้าไปอยู่วงในจนร่วมเป็นหุ้นส่วนของกลุ่มพ่อค้าน้ำมันผิดกฎหมาย มีการใช้ตำแหน่งกดดันและสนับสนุนให้กับผู้ค้าน้ำมันเถื่อน ในการสืบสวนทางลับมีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเข้ามาเกี่ยวข้องผลประโยชน์มหาศาล จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่งั้นจะเป็น การเอื้อประโยชน์ให้กับเครือข่ายค้าน้ำมันผิดกฎหมายอย่างไม่มีวันจบสิ้น,ต่อมา พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณีที่กองกิจการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร ขอยกเลิกชื่อสกุลพระราชทาน อัครพงศ์ปรีชา โดยให้ผู้ที่ใช้สกุลพระราชทานนี้ในปัจจุบันกลับไปใช้ชื่อสกุลเดิม เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าชื่อสกุลเดิมคือ เกิดอำแพง แต่เมื่อได้ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าชื่อสกุลเดิมคือ สุวะดี,พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการเรียกรับผลประโยชน์หลายประเภท ทั้งบ่อนการพนัน เครือข่ายน้ำมันผิดกฎหมาย การละเมิดลิขสิทธิ์ และการซื้อขายตำแหน่ง กรณี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก.เป็นกรณีตัวอย่างให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของรัฐได้คิดทบทวนว่า หากคิดใช้อำนาจหน้าที่กระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหนก็มีสิทธิถูกจับกุมดำเนินคดีอาญา ที่ผ่านมาไม่รู้ว่าผู้บังคับบัญชาคนอื่นคิดอย่างไร แต่ในยุคนี้ได้ย้ำกับตำรวจทุกครั้ง จะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดและการทำงานให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ทำหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ศรัทธาตำรวจ ทำให้ประชาชนรัก จำเป็นต้องดำเนินการ กับตำรวจที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เอารัดเอาเปรียบพี่น้องประชาชน คิดแต่ฉกฉวยหาประโยชน์ใส่ตัวโดยไม่คิดถึงความเสื่อมเสียองค์กรส่วนรวม ขอยืนยันยุคนี้จะไม่ปล่อยให้มีตำรวจทำผิดกฎหมายลอยนวล หากมีพยานหลักฐานจะดำเนินคดีอาญาและวินัยร้ายแรง แต่ถ้าไม่มีพยานหลักฐานแต่มีข้อมูลเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้อง จะมีคำสั่งช่วยราชการปรับย้ายให้พ้นตำแหน่ง เพื่อไม่ให้สร้างความเสื่อมเสียกับตำรวจส่วนใหญ่ที่ตั้งใจทุ่มเทเสียสละทำงาน จะทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มียัดเยียดหรือกลั่นแกล้ง ทุกอย่างว่ากันไปตาม พยานหลักฐาน,ที่ บก.ป. พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผกก.6 บก.ป. กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รอง ผกก.6 บก.ป.หรือรองเต่า หายตัวไปหลังจาก พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร.รรท.ผบช.ก.มีหนังสือให้มารายงานตัวกับ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป.ว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทรงรักษ์กลับมาจากไปราชการที่ประเทศสหรัฐฯ กองปราบปรามมีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี ต้องเข้ามารายงานตัวที่ทำงานทุกวัน โดยเซ็นชื่อเข้าออกทุกครั้ง ทั้งนี้หลังจากที่ได้มีหมายเรียกจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทรงรักษ์ขาดการติดต่อไม่เข้ามาที่ทำงานอีกเลย ครั้งสุดท้ายที่เข้ามาคือเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนที่ทำงานต่างพยายามติดต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ความรู้สึกส่วนตัวเป็นห่วงในฐานะที่เป็นรุ่นน้องและผู้ใต้บังคับบัญชา อยากให้รองทรงรักษ์เข้าพบกับผู้บังคับบัญชา เสียดายอนาคตเป็นอย่างมาก เพราะรองทรงรักษ์ถือเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถคนนึง,ด้านสำนักข่าวต่างประเทศ เว็บไซต์ บีบีซี นิวส์ ของบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งอังกฤษ(บีบีซี) รายงานเมื่อ 29 พ.ย.ว่า สำนักงานราชเลขานุการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ขอให้รัฐบาลยกเลิกชื่อสกุลพระราชทานของครอบครัวของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา การขอให้ยกเลิกชื่อสกุลมีขึ้นหลังจากญาติผู้ใกล้ชิดของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา 7 คนถูกจับกุม ในปฏิบัติการกวาดล้างบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับการคอร์รัปชัน
คุม 2 ผู้ต้องหาเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. กรรโชกทรัพย์มาแถลงข่าว สารภาพสิ้นเคยก่อเหตุ 2 ครั้ง แฉเจรจาลดหนี้หฤโหดจาก 120 ล้าน ให้เหลือ 20 ล้านบาท
null
พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์,แอบอ้างเบื้องสูง,อัครพงศ์ปรีชา,รองเต่า,บัณฑิต โชติวิทยะกุล,ทรงรักษ์ ขุนศรี,ถอดยศ,ตำรวจน้ำ,ประวุฒิ ถาวรศิริ,เกิดอำแพง,สุวะดี,ยกเลิก,นามสกุลพระราชทาน,กรรโชกทรัพย์,รับส่วย,น้ำมันเถื่อน,ข่าวอาชญากรรม
https://www.thairath.co.th/content/466485
บิ๊กต๊อก ขอศึกษารายละเอียดก่อนสอบ ขรก.-เอกชน เอี่ยวทุจริตจำนำข้าว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ก.ย. 59 ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี ถ.แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงกรณีมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา มอบหมายให้ ศอตช. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานปราบปรามทุจริตทั้งหมด ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐทั้งระดับนโยบาย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติ และเอกชนที่เกี่ยวข้องในโครงการรับจำนำข้าว ในส่วนความเสียหายอีกร้อยละ 80 หรือวงเงิน 1.42 แสนล้านบาท ว่า ในส่วนของ ศอตช.นั้น ยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะเพิ่งทราบจากที่ประชุมเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากเห็นว่าหน่วยของเราสามารถทำงานได้เราก็จะทำ ซึ่งตนก็ต้องไปศึกษารายละเอียดของเรื่องดังกล่าวก่อน โดยจะให้เลขานุการ ศอตช. รวบรวมหน่วยงานที่ดูแลเรื่องข้าวทั้งระบบเลยว่ามีใครบ้าง เพื่อจะทยอยเรียกมา เพราะว่ามันเป็นขั้นตอนการหาเกี่ยวกับผู้กระทำผิด ซึ่งคงต้องใช้เวลาดูโครงสร้าง และที่มาที่ไปว่าใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง,ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จก่อนที่จะมีการพิจารณาฐานความผิดทางละเมิดในเดือน ก.พ. 2560 หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า มันก็อาจจะเป็นเส้นเวลาหนึ่งที่ตนต้องนำมาพิจารณา จึงต้องขอไปศึกษาก่อน แต่ก็ได้เรียกมาพูดคุยแล้วว่า อะไรคือเส้นเวลาในการทำงานของเราที่จะต้องเร่งรีบ ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้เลขานุการ ศอตช. ไปดำเนินการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยให้ดูว่ารอบแรกที่เราจะเรียกมาเป็นหน่วยงานใดบ้าง,นอกจากนี้ พล.อ.ไพบูลย์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐบาลแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 หรือ วัน แม็ป ว่า ขณะนี้ตนทราบว่าทุกจังหวัดได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะสรุปเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเป็นมติ ครม. เพื่อนำไปสู่การแก้แผนที่ท้าย พ.ร.บ. ซึ่งในวันนี้จะมีการชี้แจงครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ จะดูว่างานที่ต่อจากโครงสร้างวันแม็ปแล้วเราจะทำอะไรกันต่อ แต่วันนี้ก็คือจะมีการสรุปเพื่อนำเข้า ครม.ได้รับรอง และใช้จัดการกับปัญหาที่ดินของรัฐ และนำไปสู่การแก้ปัญหาใหญ่ต่อไป.
รมว.ยุติธรรม ขอศึกษารายละเอียดโครงการรับจำนำข้าวก่อน หลัง ครม.มีมติให้ ศอตช. ตรวจสอบข้าราชการ และเอกชนเกี่ยวข้องการทุจริต ระบุยังไม่กำหนดกรอบเวลา-เตรียมสรุปแผนที่ วัน แม็ป เข้า ครม.
null
ทุจริตจำนำข้าว,ศอตช.,ไพบูลย์ คุ้มฉายา ข่าว,บิ๊กต๊อก,วันแม็ป,แนวเขตที่ดินของรัฐ,ครม.,ข้าราชการทุจริต
https://www.thairath.co.th/content/737331
เกษตรกรหวั่นจุดรับจำนำมันไม่พอ ร้องเปิดจุดย่อย
แม้กระทรวงพาณิชย์จะยืนยันว่า พร้อมเปิดโครงการรับจำนำมันสำปะหลังในวันที่ 1 ก.พ.นี้ แต่นายอัครวัฒน์ กิติพงษ์ภากรณ์ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง จังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า ขณะนี้ยังมีความไม่ชัดเจนในหลายเรื่อง ทั้งลานมันและโรงแป้งที่เป็นจุดรับซื้อ โดยเฉพาะโรงแป้งยังไม่สามารถตกลงกับหน่วยงานของรัฐในเรื่องของอัตราแปรสภาพหัวมัน รวมทั้งค่าแรงในการแปรสภาพได้ นอกจากนี้ เงื่อนไขในการรับจำนำมันสำปะหลังของเกษตรกรก็ยังไม่ชัดเจนทั้งนี้ การที่รัฐบาลกำหนดให้ลานมันเข้าร่วมโครงการก่อนโรงแป้งอาจจะทำให้ไม่สามารถรองรับความต้องการของเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงนี้ จึงต้องการให้รัฐบาลโดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดจุดรับจำนำย่อยในบางพื้นที่ที่มีลานมันหรือโรงแป้งน้อยเกินไป เช่น จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีษะเกษ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสุรินทร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกร ไม่ต้องรับภาระค่าขนส่งในการจำนำนอกพื้นที่นายเสรี เด่นวรลักษณ์ นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย ระบุว่า โครงการรับจำนำมันสำปะหลังของรัฐบาลจะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ส่งออกมันสำปะหลังเหมือนกับข้าว เนื่องจากราคาที่รับจำนำนั้นยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ที่ราคา 2.50-3.00 บาท แต่เป็นห่วงเรื่องการบริหารจัดการของรัฐบาล ทั้งเรื่องของการระบาย หากเก็บไว้ในปริมาณมากและนานอาจจะส่งผลให้แป้งมันเสื่อมคุณภาพเหมือนโครงการรับจำนำในอดีตนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ยืนยันว่า พร้อมรับจำนำมันสำปะหลังเดือน ก.พ.นี้ และขณะนี้ได้เร่งประกาศรับสมัครโรงงานมันสำปะหลังให้ครอบคลุมพื้นที่ปลูกมันจำนวน 47 จังหวัด เข้าร่วมโครงการ ซึ่งในเบื้องต้นได้กำหนดปริมาณการรับจำนำไว้ที่ 20 ล้านตัน ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 31 พ.ค. ราคารับจำนำเริ่มที่กิโลกรัมละ 2.75 บาท และจะมีการปรับเพิ่มขึ้นทุกเดือนๆ ละ 5 สตางค์ สูงสุดในเดือนสุดท้ายกิโลกรัมละ 2.90 บาท จากปัจจุบันที่มีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 2.20-2.50 บาท
ตัวแทนเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง กังวลจุดที่จะเปิดรับจำนำมันที่จะเริ่มขึ้นต้นเดือน ก.พ. อาจยังไม่มีความพร้อม และเพียงพอต่อปริมาณผลผลิตที่จะออกมา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดจุดรับจำนำย่อย
เศรษฐกิจ
กระทรวงพาณิชย์,บุญทรง เตริยาภิรมย์,มันสำปะหลัง,สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย
https://news.thaipbs.or.th/content/62403
เพิ่มค่าปรับแพทย์หนีทุน 5 ล้านเริ่มปี 62
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวกรณีที่ประชุมโครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทยปี 2561-2562 มีมติยืนยันการผลิตแพทย์เพิ่มปีละ 3,000 คนว่า การผลิตแพทย์ของไทยมี 4 ส่วน คือ 1.การผลิตแพทย์ในระบบปกติ 2.การผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชนบท 3.การผลิตจากภาคเอกชน และ 4.นักเรียนไทยที่ไปจบแพทย์จากต่างประเทศ ทั้งนี้ในอดีตการผลิตแพทย์ในระบบปกติไม่เพียงพอ จึงมีโครงการผลิตแพทย์เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งสองส่วนนี้รัฐบาลอุดหนุนงบประมาณในการเรียนจึงต้องมีการมาใช้ทุนหลังเรียนจบในโรงพยาบาลของหน่วยราชการต่างๆ ซึ่งโดยหลักแล้วมักเป็นของ สธ. ขณะที่แพทย์ที่ผลิตเพิ่มเพื่อชนบทจะกลับไปใช้ทุนในพื้นที่บ้านเกิดของตนเอง โครงการผลิตแพทย์เพิ่มครบกำหนดเมื่อปี 2560 จึงต้องยื่นเสนอโครงการใหม่ นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ จึงหารือกับ ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สธ. ขอให้ทำอัตรากำลัง ความต้องการแพทย์ ซึ่ง สธ.ก็พิจารณาว่าทั้งสัดส่วนแพทย์ต่อจำนวนประชากร และการรองรับบริการในอนาคต โดยเฉพาะสังคมผู้สูงอายุ จึงเสนอให้คงตัวเลขการผลิตที่ 3,000 คน เป็นระยะเวลา 10 ปีจึงจะเพียงพอ,พญ.พรรณพิมลกล่าวว่า ส่วนการเสนอแก้ไขสัญญาเพิ่มค่าปรับจาก 4 แสนบาทเป็น 5 ล้านบาท เพราะสัญญาเดิมใช้มานานแล้ว ปัจจุบัน หลายคนสามารถจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวได้ทันทีแลกกับการไม่ต้องไปใช้ทุน บางคนมีผู้ออกเงินจ่ายให้ก่อนด้วยซ้ำ ขณะที่การลงทุนเรียนแพทย์ค่อนข้างสูง จึงมีการเสนอตัวเลขค่าปรับที่ 5 ล้านบาท ทั้งนี้ ค่าปรับในส่วนของแพทย์ที่ไปเรียนเฉพาะทางจะคิดจากเงินเดือนที่ได้รับ โดยคิดเป็น 2 เท่าของเวลาที่ไปเรียน แต่หากเป็นสาขายอดนิยมก็จะคิด 3 เท่า เพราะมีโอกาสไปทำงานที่อื่นมากกว่า เช่น ด้านผิวหนัง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการเพิ่มค่าปรับไม่ต้อง มีการจ่ายเงินค้ำประกันใดๆก่อนอย่างแน่นอน และเหตุผลในการปรับเพิ่มค่าปรับดังกล่าวไม่ใช่เพราะอยากได้ค่าปรับ แต่อยากได้บุคลากรทำงานใช้ทุนครบ 3 ปี สำหรับการเปลี่ยนสัญญาค่าปรับใหม่คาดว่าจะเริ่มได้ในปีการศึกษา 2562 เพราะไม่ทันปีการศึกษา 2561 ที่รับนักศึกษาและทำสัญญาไปแล้ว.
การผลิตแพทย์ของไทยมี 4 ส่วน คือ 1.การผลิตแพทย์ในระบบปกติ 2.การผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชนบท 3.การผลิตจากภาคเอกชน และ 4.นักเรียนไทยที่ไปจบแพทย์จากต่างประเทศ ทั้งนี้ในอดีตการผลิตแพทย์ในระบบปกติ
ข่าว,ทั่วไทย
นักเรียนแพทย์,เรียนแพทย์,ทุนเรียนแพทย์,ทุนการศึกษา,กระทรวงสาธารณสุข,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/local/1321449
ประกาศงดเล่นน้ำทะเลปราณบุรีชั่วคราว แม้สถานการณ์คราบน้ำมันดีขึ้น-พบก้อนน้ำมันขนาดใหญ่เกยหาดในสงขลา
วันนี้ (3 พ.ย. 2558) นายทวี นริสสิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวภายหลังส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจบริเวณหาด วนอุทยานปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า ขณะนี้ สั่งห้ามนักท่องเที่ยงลงเล่นน้ำชั่วคราวอีกครั้ง เพราะยังพบคราบน้ำมันในลักษณะก้อนเล็กหรือทาร์บอลฝังในพื้นทรายบางส่วน โดยต้องต้องประเมินสถานการณ์อีก 1-2 วัน จนกว่าทะเลจะเข้าสู่ภาวะปกติล่าสุดเจ้าหน้าที่คาดว่าคราบน้ำมันในทะเลน่าจะหมดแล้ว เนื่องจากไม่มีคราบน้ำมันให้เห็นแล้ววันนี้ ส่วนผลการตรวจสอบตัวอย่างคราบน้ำมันของกรมควบคุมมลพิษเบื้องต้นระบุว่า คราบน้ำมันที่พบไม่เป็นอันตราย เพียงแต่จะล้างออกค่อนข้างยากเมื่อติดตามร่างกายเท่านั้น นายทวีระบุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งรวบรวมข้อมูลเรือบรรทุกน้ำมัน เรือขนถ่ายน้ำมัน ใน จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เข้าออกทะเลช่วงเดือน ต.ค. 2558 ที่ผ่านมา ส่งให้กับคณะทำงานตรวจสอบต้นต่อที่มาของคราบน้ำมัน ทั้งนี้ เบื้องต้นกรมเจ้าท่าประเมินว่า น้ำมันที่รั่วไหลครั้งนี้มีปริมาณ 1-5 ตัน แต่ยังสรุปว่าคราบน้ำมันดังกล่าวเป็นการลักลอบทิ้งหรือไม่ เนื่องจากต้องรอผลดีเอ็นเอที่ส่งไปตรวจในต่างประเทศ เพื่อยืนยันถึงประเภทน้ำมัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า ชาวบ้านใน ต.บ่อแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา พบก้อนน้ำมันคล้ายยางมะตอยถูกคลื่นชัดกองเต็มชายหาด ตั้งแต่บริเวณ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จนถึง อ.สิงหนคร จ.สงขลา เมื่อใช้มือสัมผัสบีบจะเหนียวติดมือล้างออกยาก และยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ โดยชาวบ้านเชื่อว่าก้อนน้ำมันดังกล่าวมาจากจากแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทย ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ สั่งห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลปราณบุรีชั่วคราว เหตุยังพบก้อนน้ำมันขนาดเล็กฝังอยู่ในทราย แม้กรมควบคุมมลพิษระบุไม่เป็นอันตราย ด้านเจ้าหน้าที่ติดตามเร่งจับเรือปล่อยน้ำมันลงทะเล แต่ไม่ฟันธงลักลอบทิ้งรอผลดีเอ็นเอคราบน้ำมันก่อนระบุ ขณะที่ชาวบ้านร้องพบก้อนน้ำมันคล้ายยางมะตอยเกยหาดเป็นบริเวณกว้าง ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ถึง จ.สงขลา
สิ่งแวดล้อม
thaipbs,Thaipbsnews,ก้อนน้ำมัน,คราบน้ำมันในทะเลหัวหิน,ทวี นริสสิริกุล,ทาร์บอล,นครศรีธรรมราช,น้ำทะเลปนเปื้อน,น้ำมันรั่วในทะเล,ปิโตรเลียม,ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์,ยางมะตอย,วนอุทยานปราณบุรี,สงขลา,สั่งห้ามเล่นน้ำทะเลปราณบุรี,แท่นขุดเจาะน้ำมัน,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/5767
ซากดึกดำบรรพ์พบในรัสเซีย ยังไม่อาจระบุเป็นสายพันธุ์ใหม่
ใหญ่เทียบเท่ากับรถโดยสาร เป็นสายพันธุ์ใหม่ ซากนี้เคยได้รับการตั้งชื่อว่าลุซข่าน ไอทิเลนซิส (Luskhan Itilensis) มีลักษณะคอสั้น สามารถว่ายน้ำได้เร็ว ฟันใหญ่แถมขากรรไกรก็ยังทรงพลัง,นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลีแยชแห่งประเทศเบลเยียม เผยว่า สายพันธุ์นี้น่าจะเป็นชนิดของไพลโอซอร์ (Pliosaur) อยู่ในกลุ่มของสัตว์เลื้อยคลานทางทะเลที่เรียกว่าเพลสิโอซอร์ (Plesiosaur) มีชีวิตอยู่ในยุคไทรแอสสิกและจูราสสิก ซึ่งทีมนักวิทยาศาสตร์จากนานาชาติได้พยายามศึกษาเพื่อหาความชัดเจนว่าซากดึกดำบรรพ์นี้ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ แต่ลักษณะที่ผิดปกติของมันโดยเฉพาะจะงอยปากเพรียวบาง มีฟันเล็กๆคล้ายปลาโลมานั้นเป็นสิ่งที่โดดเด่น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าไพลโอซอร์ได้สร้างวิถีชีวิตเฉพาะนิเวศกว้างกว่าที่เคยสันนิษฐานไว้ อาจทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องทบทวนถึงวิวัฒนาการของกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานโบราณใหม่อีกครั้ง,ทั้งนี้ ไพลโอซอร์อาศัยอยู่ร่วมยุคเดียวกับไดโนเสาร์ ทว่าไม่ถูกนับเป็นไดโนเสาร์ แต่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสัตว์นักล่า ตัวฉกาจเมื่อ 135 ล้านปีที่ผ่านมา และในเหตุการณ์สูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตเมื่อ 66 ล้านปีที่แล้วก็ทำให้ไพลโอซอร์สูญพันธุ์ตามไปด้วย.
มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์เลื้อยคลานทางทะเลชนิดหนึ่งเมื่อปี 2545 ที่บริเวณฝั่งแม่น้ำโวลกา ในประเทศรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าซากกะโหลกศีรษะขนาดยาวประมาณ 150 เซนติเมตร
ข่าว,ทั่วไทย
โลกโศภิน,นักวิทยาศาสตร์,เบลเยียม,ไพลโอซอร์,ไดโนเสาร์
https://www.thairath.co.th/news/local/959230
การเคหะฯเร่งสานต่อ โครงการชุมชนสดใสฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 8 ก.ย. มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการเคหะชุมชนและบ้านเอื้ออาทรทั่วประเทศ ได้ร่วมกันนำเสนอแนวคิด เพื่อการพัฒนาคุณภาพการอยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมภายในชุมชน หวังปลุกจิตสำนึกรักษ์บ้าน รักษ์ชุมชน รักษ์สิ่งแวดล้อม มีความสามัคคีกันมากขึ้น รวมทั้งการมีส่วนร่วมสร้างงานสร้างรายได้สามารถบริหารจัดการด้วยตนเอง ตลอดจนเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากชุมชนโครงการอื่นๆ โดยมีหลายชุมชนให้ความสนใจพร้อมเสนอแนวคิดส่งผลงานเข้าประกวดต่อเนื่องทุกปี ซึ่งได้มีการพัฒนาจุดเด่น และพยายามแก้ไขจุดด้อยของชุมชนให้ดียิ่งขึ้น,ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติเผยอีกว่า ปีนี้มอบรางวัล โครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงาม ประจำปี 2558 ไปเมื่อเร็วๆนี้ ณ โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น ทั้งนี้มีชุมชนที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือก 8 โครงการ ชุมชนที่ชนะเลิศอาคารแนวราบ ได้แก่ บ้านเอื้ออาทรสมุทรสงคราม (ลาดใหญ่) รองชนะเลิศ เคหะชุมชนขอนแก่น ระยะ 1-3 ชมเชย ได้แก่ บ้านเอื้ออาทรระยอง (บ้านฉาง 3) และบ้านเอื้ออาทรพิษณุโลก (วัดพริก) ส่วนอาคารแนวสูง ชนะเลิศ ได้แก่ บ้านเอื้ออาทรเทพารักษ์ รองชนะเลิศ บ้านเอื้ออาทรเชียงใหม่ รางวัลชมเชย บ้านเอื้ออาทรลาดกระบัง และบ้านเอื้ออาทรนครปฐม (ศาลายา 1-2) ซึ่งได้รับเงินรางวัล โล่ และใบประกาศเกียรติคุณ,นอกจากนี้ ยังมีพิธีมอบรางวัลโครงการประกวดวาดภาพระบายสีหัวข้อ บ้านแห่งความสุข ในระดับประถมศึกษาตอนต้น ประถมตอนปลาย มัธยมศึกษาตอนต้น และตอนปลาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่การเคหะแห่งชาติ มุ่งส่งเสริมให้เยาวชน มีความคิดสร้างสรรค์กล้าแสดงออก ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พร้อมมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนให้เป็นสังคมน่าอยู่ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าว.
นายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า ปีนี้ การเคหะแห่งชาติได้สานต่อ โครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงาม ประจำปี 2558 โดยจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6 แล้ว
ข่าว,ทั่วไทย
กฤษดา รักษากุล,การเคหะแห่งชาติ,มอบรางวัล,พิธีมอบรางวัล,บ้านแห่งความสุข,บ้านเอื้ออาทร,ชุมชน,ไทยรัฐฉบับพิมพ์
https://www.thairath.co.th/news/local/523945
รมว.ไอซีที เสนอนายกฯทบทวนโครงสร้างอนุกรรมการดิจิทัลฯ เดือนหน้า
วันนี้ (26 ส.ค.2558) ภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหาร กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดทำแผนงานที่เป็นรูปธรรมเสนอภายในเดือนหน้า โดยแต่ละหน่วยงานจะต้องเสนอ 2 โครงการอย่างน้อย เนื่องจากขณะนี้ กระทรวงไอซีที ถือว่าอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่ต้องผลักดันทำให้หน่วยงานต่างๆ ประชาชน ภาคเอกชน ใช้เทคโนโลยีสนสนเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหาร กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดทำแผนงานที่เป็นรูปธรรมเสนอภายในเดือนหน้า โดยแต่ละหน่วยงานจะต้องเสนอ 2 โครงการอย่างน้อย เนื่องจากขณะนี้กระทรวงไอซีทีถือว่าอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องผลักดันทำให้หน่วยงานต่างๆ ประชาชน ภาคเอกชน ใช้เทคโนโลยีสนสนเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดนอกจากนี้ จะยังสอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลที่อยู่ระหว่างเดินหน้าขณะนี้ โดยบทบาทของกระทรวง ยืนยัน จะขับเคลื่อนต่อไปแม้จะไม่มี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ก็ตาม แต่เดือนหน้าเพื่อให้มีความชัดเจนในสิ่งที่จะต้องทำ ทางกระทรวงจะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ทบทวนโคงสร้างอนุกรรมการดีอีใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับแผนที่จะขับเคลื่อน ซึ่งการปรับโครงสร้างจะทำให้แผนงานต่าง ๆ ล่าช้าออกไปหรือไม่นั้น จะอยู่ที่การตัดสินใจของคณะกรรมการดีอีชุดใหญ่รมว.ไอซีทีกล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาสำหรับการวางรากฐานและแก้ไขร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 8 ฉบับ แต่ปีนี้การเดินหน้าไปสู่การขับเคลื่อนความคิดใหม่ ๆ ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น หากแผนงานต่าง ๆ เป็นรูปธรรมทำให้สังคมรับทราบได้จะทำให้ประชาชนได้ใช้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่สะดวกสบายและรวดเร็วขึ้น ก็จะช่วยขับเคลื่อนความเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้นได้จริงและส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ เห็นทิศทางของรัฐบาล สามารถวางแผนการลงทุน ขยายงาน และจ้างงานในภาคเอกชนได้ชัดเจนตามไปด้วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และผู้ประกอบการรายใหม่ จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเร่งส่งเสริมให้ใช้ระบบเทคโนโลยีเข้าไปบริหารจัดการมากขึ้น
รมว.ไอซีที มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดทำแผนงานที่เป็นรูปธรรมเสนอภายในเดือนหน้า โดยแต่ละหน่วยงานจะต้องเสนอ 2 โครงการอย่างน้อย พร้อมเตรียมเสนอนายกฯทบทวนโครงสร้างอนุกรรมการดีอีใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับแผนที่จะขับเคลื่อนในเดือนหน้า
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,อุตตม สาวนายน,ไอซีที
https://news.thaipbs.or.th/content/4693
ใต้เท้าขอรับ: กปปส. ศาลรธน. และกกต. คือผู้พาประเทศไปสู่สงครามกลางเมือง
การชำเราสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่เชื่อมั่นในแนวทางประชาธิปไตยคือภาวะที่สังคมไทยได้เผชิญมาอย่างน่าเวทนาและต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีมาแล้วมวลชน กปปส. คือกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ไร้หลักการขนาดใหญ่ขบวนท้ายๆ ของโลก ที่ไม่มีหลักการใดๆ ให้ยึดเหนี่ยวนอกจากความเชื่อว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น ข้อเรียกร้องของพวกเขาจึงไม่ยึดโยงอยู่กับหลักการใดๆ หากแต่เป็นเพียงอารมณ์ทางการเมืองที่ถูกปลุกสร้างขึ้น น่าสมเพชเวทนาประเทศนี้ยิ่งนักที่ความไร้วุฒิภาวะทางการเมืองของมวลชนกลุ่มนี้กลับได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากองค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งบิดเบือนกฎหมาย รัฐธรรมนูญและหลักนิติรัฐมาตลอดอย่างน้อยก็หลังการรัฐประหารเป็นต้นมาทางออกจากวิกฤตอย่างสันติ คือการเลือกตั้งตามวิถีทางประชาธิปไตยถูกปิดลงไปวันนี้ เมื่อประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าของตัวเองถูกสกัดขัดขวาง ด้วยความยินยอมพร้อมใจส่วนหนึ่งของเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีหน้าที่จัดการการเลือกตั้งเหตุปะทะ ยิงกัน และมีผู้เสียชีวิตล่าสุด ในฐานะมนุษย์นั้นน่าเสียใจยิ่ง แต่เมื่อมองจากปรากฏการที่เกิดขึ้น มันจะมีอีกมาก จะยิ่งหนักหนากว่านี้รัฐบาลยังคงมีหน้าที่ต้องคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นมวลชนกลุ่มใด เพราะนี่คือหน้าที่พื้นฐานที่สุดของรัฐดิฉันอยากให้ทุกท่านได้ย้อนอ่าน-ฟังบทเรียนจากกัมพูชา เปล่า— ดิฉันไม่ได้กำลังจะบอกให้เราเรียกหาสันติภาพ แต่ประโยคหนึ่งจากผู้ผ่านโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยเพื่อนร่วมชาติ กล่าวว่า คุณไม่อาจเรียกร้องให้คนรุ่นที่ฆ่ากัน ปรองดองกันได้หรอก มันเป็นเรื่องของคนรุ่นถัดไปย้อนกลับมาที่เมืองไทย มันไม่เคยมีข้อเรียกร้องที่เท่ากันระหว่างมวลชนและผู้นำทั้งสองฝ่าย เมื่อฝ่ายหนึ่งละเมิดทุกกติกาที่มี และได้รับการตอบสนองจากเครือข่ายอำนาจนอกระบอบประชาธิปไตยอย่างดีเสมอมา ขณะที่อีกฝ่ายต้องเอาหลังพิงหลักการไว้ให้มั่น ข้อเรียกร้องไม่ต่างกับให้ประชาชนต่อสู้อย่างสันติด้วยการนั่งรอให้รถถังมาบดขยี้ ความโกรธแค้น ความน้อยเนื้อต่ำใจในชะตากรรมของตนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยนั้นสะสมมาเป็นเวลานานหลายปี ผ่านการสอบทานมาหลายครั้งหลายครา ทั้งการรัฐประหาร การตัดสินคดีโดยศาลรัฐธรรมนูญ การปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระอันลักลั่น หลายมาตรฐาน สิ่งที่ประชาชนผู้เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยทำก็คือการกลืนเลือดลงไป ท่องบ่นหลักการประชาธิปไตย แล้วก็ดำรงรักษาความหวังวันที่ 26 ม.ค. 2557 แนวทางประชาธิปไตยที่จะเป็นทางออกให้แก้ปัญหาวิกฤตการเมืองอย่างสันติถูกปิดลง และความอดทนของประชาชนจะถูกสอบทานอีกครั้ง เมื่อมีการหารือกันระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายกรัฐมนตรี และอีกครั้ง (หากมี) ในวันที่ 2 ก.พ. 2557……….ดิฉันไม่ทราบว่านักสันติวิธีอยู่ที่ไหนในเวลานี้ แต่ที่นี่ประเทศไทย สงครามกลางเมืองใกล้เข้ามาแล้วคาดการณ์สำหรับสิ่งที่จะเกิดต่อไปในอนาคตอันใกล้ ความวุ่นวายอันเกิดจาก มวลชน กปปส. ไปขัดขวางการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชน ก็อาจจะเปิดให้มีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ ถึงนาทีนี้ โปรดอย่าถามหาข้อกฎหมายและประเทศไทยจะน่าอนาถมากขึ้นอีกหากเจ้าของอำนาจอธิปไตยถูกละเมิดซ้ำแล้วซ้ำอีก คือถูกขัดขวางโดย กปปส ที่กระทำการละเมิดกฎหมายและต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 แล้วยังถูกทำให้การใช้สิทธิของตัวเองเป็นโมฆะไม่ว่าโดยทางใดก็ตามสำหรับองค์กรที่ไม่เคยเห็นหัวประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย บรรดาคนที่ต้องการรักษาสิทธิเลือกตั้งของตัวเอง ที่ออกมาเคลื่อนไหวจุดเทียนตามที่ต่างๆ เร็วๆ นี้คงต้องรวมตัวกันไปที่เดียว หรืออาจจะ 2 ที่ คือ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญทางออกที่พอจะทำได้คือ การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 จะต้องเกิดขึ้นตามกำหนดเดิม คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องทำทุกวิถีทางให้ประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้ใช้สิทธิเลือกตั้งของตน เรามีมวลชนที่บ้าคลั่งปราศจากหลักการอยู่จำนวนหนึ่งแล้ว อย่าให้มวลชนที่รักษาหลักการและพยายามแสวงหาทางออกด้วยวิถีทางประชาธิปไตยต้องคิดหาทางออกด้วยความรุนแรงอื่นใดเลย
การชำเราสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่เชื่อมั่นในแนวทางประชาธิปไตยคือภาวะที่สังคมไทยได้เผชิญมาอย่างน่าเวทนาและต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีมาแล้ว มวลชน กปปส.
การเมือง
กกต.,กปปส.,การขัดขวางการเลือกตั้ง,การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57,การเลือกตั้งล่วงหน้า,ศาลรัฐธรมนูญ
https://prachatai.com/journal/2014/01/51421
เคล็ดลับความสวย รอยยิ้ม-ฟัน เพิ่มเสน่ห์ให้ ผู้หญิง ชวนมอง
เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนนั้นไม่อยากหยุดสวย ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุไหน หรือวัยใดก็ตาม และสิ่งที่จะทำให้ ,ผู้หญิง, ทุกคนนั้นสวยได้ ก็คงจะต้องเป็นความงามที่เกิดจากภายในสู่ภายนอก และส่งผลมาถึงผู้รับด้วย ,รอยยิ้ม, ที่เปล่งปลั่ง ที่พร้อมทำให้โลกใบนี้สดใส และถือเป็นโอกาสที่ดีของสาวๆ ,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, เพราะภายในงานเปิดบ้านคลินิกทันตกรรมบีดับเบิลยูซี (BWC Dental Clinic) เรามีโอกาสได้พูดคุยกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่าง ,ทพญ.วลัยลักษณ์ เกียรติธนากร, ถึงเทรนด์ความงาม และหนทางแห่งการมีรอยยิ้มที่สวยงามมาฝากสาวๆ กันค่ะ,เคล็ดลับเหล่านี้เชื่อว่าไม่ยาก สาวๆ เตรียมพร้อมที่จะมีรอยยิ้มสวยๆ ไว้กระชากใจชายหนุ่มได้เลยค่ะซิส,เทรนด์ความงามที่ยั่งยืน,1. สุขภาพ,การ,มีสุขภาพที่ดี, จะสะท้อนออกมาให้เห็นจากภายในสู่ภายนอก จะทำให้เรารู้สึกว่ามีความสุข และเปล่งประกายออกมาเพื่อเป็นการสื่อความหมายให้ทราบว่าเราสามารถดูแลสุขภาพได้ดี เมื่อมีใครพบเห็นก็จะรู้เลยว่าคนนี้มีสุขภาพที่ดี เพราะผิวพรรณของเธอนั้นสดใส ไม่เป็นโรค ไม่มีความเครียด ซึ่งการดูแลตัวเองที่ดีของแต่ละคนนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่ดี การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การดื่มน้ำ หรือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงการรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินต่างๆ ด้วย ,หากถามว่าร่างกายของเราควรจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดได้อย่างไรเพื่อสุขภาพที่ดี คุณก็จะต้องได้รับการเจาะเลือดเพื่อตรวจเช็กว่า ร่างกายของคุณนั้นขาดวิตามินอะไรบ้าง? เพราะต้องเข้าใจก่อนว่าอาหารที่เรารับประทานเข้าไปในในทุกๆ วัน มันก็ได้ประโยชน์ แต่มันก็ยังไม่เพียงพอต่อร่างกายอยู่ดี ฉะนั้นหากถามว่าวิตามินอะไรดีที่สุด สำหรับคนๆ นี้ เราไม่สามารถบอกได้เลย เพราะว่าร่างกายของแต่ละบุคคนมีความไม่เหมือนกัน ดังนั้นอาหารเสริม หรือวิตามินที่ดีที่สุด ก็คือ ต้องเฉพาะบุคคลเท่านั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่,ผู้หญิง,ควรรับรู้ เพื่อเป็นการช่วยเสริมเข้าไปให้ร่างกายมีสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้นได้อย่างตรงจุด,2. บุคลิกภาพ,สิ่งที่จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้หญิงทุกคนในขั้นตอนต่อไป นั่นก็คือการมี,บุคลิกภาพ,ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเสื้อผ้า ใบหน้า หรือทรงผมต่างๆ ในร่างกายของเรา,เมื่อเรามีทั้งสองอย่างนี้แล้ว ทั้งการดูแลตัวเองเป็นอย่างดีที่ส่งผลให้เรามีสุขภาพที่ดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง, หน้าตาผ่องใส และเสื้อผ้า ใบหน้า ทรงผมที่เข้ามาช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเราแล้ว ,รอยยิ้ม,ของเราก็จะเริ่มมีความหมายแล้ว ซึ่งหมอคิดว่ามันคือความสวยงามของ ,ผู้หญิง, ที่ถือเป็นเทรนด์หลักที่คงอยู่ไปตลอดกาล,สุขภาพฟัน/รอยยิ้ม,ต้องเริ่มตั้งแต่แรกว่า ใบหน้าของแต่ะละคนไม่เหมือนกัน พระเจ้าสร้างความสวยงามของแต่ละคนมาให้แบบแตกต่าง เริ่มตั้งแต่,รูปทรง ใบหน้า, รวมไปถึง,ฟัน,ด้วย , ผู้หญิงหลายคนไม่มีความมั่นใจที่จะยิ้ม ทั้งที่เมื่อยิ้มแล้วจะสวยมากๆ เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟัน ไม่ว่าจะเป็นฟันผุ ฟันเก หรือโรคเหงือก ฉะนั้นเมื่อมีปัญหาแบบนี้เทคโนโยลีการช่วยเหลือจึงเป็นเหตุจำเป็น ,เพราะเมื่อเรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีแล้วนั้น ,รอยยิ้มที่สวย,ก็จะตามมาเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวคุณเอง เราได้รอยยิ้มที่ดี มีความมั่นใจที่จะยิ้ม ยิ้มอย่างมีความสุข คนพบเห็นก็จะรู้สึกดีไปด้วย เพราะฉะนั้นการที่มีฟันที่สวยงาม เรียงตัวดี สุขภาพของฟันดีก็คือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ความงามที่ดีเช่นเดียวกัน,เทรนด์การจัดฟัน,ประเทศไทยของเรามีเทคโนโลยีหลากหลายประเภทที่เข้ามาช่วยให้สุขภาพของฟันนั้นดีขึ้นรวมไปถึงการจัดฟันด้วย ซึ่งก็จะแบ่งได้ประมาณนี้,การจัดฟันแบบเหล็กหรือลวด,ต้องบอกอย่างนี้ว่าการจัดฟันที่ใช้เหล็กหรือลวดในการจัดนั้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ ได้ว่า เราจะดึงต้นไม้ต้นนึง เราก็ต้องผูกหนึ่งต้น หนึ่งต้นในที่นี้ก็คือ 1 ลวด ในภาษาทันตกรรมเราเรียก แบล็คเก็ต ติดไปที่ฟัน แล้วก็เอาลวดโยงไปอีกต้นนึง แล้วทำการดึงมันเข้ามา บางทีก็มีการใส่นอต ซึ่งก็เป็นวิธีการที่ดี เพราะมีความชัดเจน เราอยากดึงหรืออยากแก้ตรงไหน? ก็สามารถดึงได้เลย โดยตัวหมอฟันเองก็ได้มีการเรียนรู้มาถึงการใช้แรง การเลือกขนาดไซส์ลวด การดึง เพื่อให้ฟันออกมาสวยงาม แต่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบให้เห็นเหล็กหรือลวดที่ดัด จึงส่งผลให้ไม่มั่นใจในเวลายิ้มเพราะมันเต็มปากไปหมด และบางทีก็มีผลต่ออาชีพของบุคคล,การจัดฟันแบบใส,จึงมีการจัดฟันแบบใสด้วยระบบดิจิตอล invisalign ที่น่าสนใจ เพราะว่าเป็นเทคโนโลยี clear aligner ชื่อเดิมมันก็แปลได้ว่า มองไม่เห็น เป็นเครื่องมือจัดเรียงตัวของฟันแบบใส ซึ่งก็แล้วแต่จัดน้อยจัดมาก 7 ชิ้น, 20 ชิ้น, 40 ชิ้น ชิ้นนึงก็มีระยะเวลาในการใช้งานอาจจะ 2 ปีครึ่ง - 5 ปี ก็พอๆ กันกับจัดฟันแบบเดิม ใส่ทั้งวันทั้งคืน และถอดออกเมื่อตอนรับประทานอาหาร ข้อดีของ invisalign คือมีระบบจัดการจัดเก็บข้อมูลที่มาจากทุกคนในโลกรวบรวมไว้ในระบบแบบดิจิตอล ซึ่งการจัดฟันแบบนี้คือคนทั่วไปจะมองไม่เห็นว่าคุณจัดฟัน และใครๆ ก็สามารถทำได้ โดยไม่มีจำกัดอายุ,เคล็ดลับดูแลสุขภาพฟัน,ถ้าถามหมอฟันทุกคน ก็จะบอกว่าควร ,แปรงฟันให้ถูกวิธี, คือ,1. เลือกขนแปรงอัลตร้าซอฟต์ ที่มีความนุ่มระดับนึง,2. วางบนแปรง 45 องศา ปัดเบาๆ ,3. ใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์ เพราะจะช่วยให้ผิวฟันแข็งแรง ไม่ผุง่าย,4. ต้องทำบ่อยๆ วันละ 2 ครั้งอย่างน้อย,5. แปรงฟันให้ครบ 5 ด้าน มีด้านหน้า ด้านกระพุ้งแก้ม ด้านใน ด้านหลัง ด้านขบเคี้ยว,6. ในกรณีที่แปรงฟันไม่ถึง อาจต้องใช้ไหมขัดฟันช่วยในการทำความสะอาด,7. ต้องแปรงลิ้นด้วยนะ เพราะลิ้นเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่สามารถสะสมกลิ่นได้,8. ห้ามแปรงเเรง ห้ามแปรงเร็ว ห้ามรีบ อาจจะดูหนังไปด้วยก็ได้,9. ตรวจสุขภาพ/ทดสอบกลิ่นปาก ต้องบอกก่อนว่าต้นเหตุของกลิ่นปากเกิดได้ทั้งจากบริเวณในจมูก หลอดอาหาร (เชื้อแบคทีเรียย่อยไม่หมด) หลอดลม (มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ) หรือช่องปาก เพื่อรักษาให้ถูกจุดการทดสอบกลิ่นปากจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะสาเหตุนอกช่องปากก็มีส่วนด้วยเช่นเดียวกัน,สุดท้าย เราไม่อยากให้สาวๆ ทุกคนมองข้ามและเห็นว่าสุขภาพของฟันและช่องปากเป็นเรื่องเล็กๆ ที่มองข้ามไป เพราะสถิติประชากรอายุมากกว่า 65 ปีในเอเชียจำนวนถึง 23% สูญเสียฟันทั้งปากและมีแนวโน้มสูงมากขึ้นในอนาคต 23% ของประชากรในเอเชียสูญเสียฟันทั้งปากจาก ฟันผุ โรคเหงือก และมะเร็ง,เพราะ,รอยยิ้ม,ที่สวยงาม จะเป็นสิ่งที่โชว์ได้ว่าคุณมีความสุข และมีสุขภาพที่ดีค่ะ ส่งท้ายถึงสาวๆ ที่รักสุขภาพทุกคน คุณสามารถติดตามเรื่องราวของ ,สุขภาพ, เพิ่มเติมได้ที่ ,Thairath Women, ไม่ว่าจะเป็น ,เคล็ดลับง่ายๆ ในการกำจัด กลิ่นปาก, หรือ ,สาเหตุ ปากเหม็น และ กลิ่นปาก มาจากไหน?, แล้วเราจะยิ้มสวยๆ ให้กันนะคะซิส.
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ มีข้อมูลดีๆ จาก ทพญ.วลัยลักษณ์ เกียรติธนากร ถึงการดูแลสุขภาพฟันที่ดี เพื่อ ผู้หญิง มี รอยยิ้ม ที่สวยงาม
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
รอยยิ้ม,ผู้หญิง,สุขภาพ,ช่องปาก,ฟัน,ดัดฟัน
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1522108
SPCG แกร่งโชว์ผลประกอบการครึ่งปี 62 โกยรายได้กว่า 2600 ล้านบาท
SPCG โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2562 กวาดรายได้รวมแข็งแกร่งกว่า 2,600 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 1,520.1 ล้านบาท ประกาศจ่ายปันผล 0.5 บาทต่อหุ้น พร้อมเดินหน้าขยายฐานธุรกิจโซลาร์ต่อเนื่องทั้งในไทยและต่างประเทศ ประกาศร่วมลงทุนโครงการ Mega Solar ที่ญี่ปุ่นอีก 469 MW เงินลงทุนกว่า 6 หมื่นล้านบาท,เมื่อวันที่ 13 ส.ค.62 ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG แถลงผลประกอบการงวด 6 เดือนหรือครึ่งปีแรก สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิกว่า 1,520.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากงวดเดียวกันของปีก่อนและทำรายได้รวมกว่า 2,600 ล้านบาท ดังนั้นคณะกรรมการบริษัท จึงมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดผลดำเนินงาน วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.5 บาท ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลระหว่างกาล (Record Date) ในวันที่ 28 สิงหาคม 2562 กำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 6 กันยายน 2562, ,ดร.วันดี กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีแรกนี้ บริษัทฯ ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือ โซลาร์ฟาร์มทั้ง 36 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า 260 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ฟาร์มที่เมืองทอตโตะริประเทศญี่ปุ่น ขนาด 30 เมกะวัตต์ รวมไปถึงยอดขายโซลาร์รูฟ จากลูกค้าทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบ้านพักอาศัย, กลุ่มอาคารพาณิชย์ และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ยังคงให้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเมื่อลูกค้าติดโซลาร์รูฟของบริษัทแล้ว ต่างเห็นผลลัพธ์ที่ดี สามารถลดค่าไฟได้ทันที ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน ทำให้กิจการของลูกค้ามีกำไรเพิ่มขึ้น,ดร.วันดี กล่าวต่อว่า ความคืบหน้าของโครงการโซลาร์ฟาร์ม Ukujima ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 469 เมกะวัตต์ ที่เป็นการร่วมทุนของ 8 บริษัท ได้แก่ Kyocera Corporation, Kyudenko Corporation, Mizuho Bank, SPCG Pubic Company Limited, Tokyo Century Corporation, Furukawa Electric Company Limited, Tsuboi Corporation และ The Eighteenth Bank Limited งบการลงทุนกว่า 60,000 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการยื่นเอกสารสำคัญต่างๆ และจะเข้าสู่ขั้นตอนการก่อสร้างต่อไป โดยจะมีการแจ้งให้ทราบถึงสัดส่วนในการถือหุ้นเร็วๆ นี้,สำหรับความคืบหน้าของโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) ที่ได้ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับทั้ง 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท Mitsubishi UFJ Lease & Finance Company Limited หรือ MUL, บริษัทพีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดหรือ PEA ENCOM และ บริษัท KYOCERA Corporation, Japan หรือ KYOCERA ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมานั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดตั้งบริษัทร่วมกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนกันยายน 2562 นี้ โดยตั้งเป้าในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) ให้กับกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ภายในสิ้นปี 2563 กำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์.
SPCG โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2562 กวาดรายได้รวมแข็งแกร่งกว่า 2,600 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 1,520.1 ล้านบาท ประกาศจ่ายปันผล 0.5 บาทต่อหุ้นพร้อมเดินหน้าขยายฐานธุรกิจโซลาร์ต่อเนื่องทั้งในไทยและ
ข่าว,เศรษฐกิจ
เอสพีซีจี,โซลาร์ฟาร์ม,พลังงานแสงอาทิตย์,ผลประกอบการ,วันดี กุญชรยาคง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1636356
ฝันเด่น นำทีมกู้ภัยปีนเขาชัน 80 องศา หาโพรงเพิ่ม บาดเจ็บแต่ไหว บอกน้องรออยู่
------ฝันเด่น จรรยาธนากร นำทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมอุปกรณ์จำเป็น ปีนเขาชัน 80 องศา หาโพรงเพิ่ม หากเจอสำรวจทันที หวังหาช่องทะลุไปถึง 13 ชีวิต เผยบาดเจ็บแต่ไหว บอกน้องๆ รออยู่ ,ฝันเด่น จรรยาธนากร นักแสดง หนึ่งในทีมกู้ภัย ได้โพสต์คลิปลงเฟซบุ๊ก ,Alex Marine Junyatanakorn, ขณะปีนขึ้นเขา ไปหาโพรงเชื่อมภายในถ้ำหลวงเพิ่ม ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชันประมาณ 80 องศา โดยเตรียมอุปกรณ์ขึ้นมาพร้อม หากเจอโพรง ก็พร้อมสำรวจทันที ทั้งนี้ ฝันเด่นได้รับบาดเจ็บ เพราะลื่นเมื่อวานนี้ แต่เจ้าตัวบอกยังไหว เพราะน้องๆ รออยู่ ซึ่งวันนี้แดดแรงเป็นพิเศษ และฝากเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนด้วย,(ภาพและคลิปจาก : เฟซบุ๊ก ,Alex Marine Junyatanakorn,),เกาะติดข่าวค้นหา 13 ชีวิตติดในถ้ำหลวง,ทหารมะกัน ใช้โดรนบินสแกนถ้ำหลวง เผยอาจมีข่าวดีเร็วๆ นี้,13 ข้อ อัพเดตเกาะติดซีลดำน้ำไปพัทยาบีชในถ้ำหลวงวันนี้ จากปาก ผบ.หน่วย,เปิดสัญลักษณ์เหล่านักรบ แข็งแกร่ง-ฝึกโหด แต่ละเครื่องหมายมีความหมาย,ฝนฟ้าเป็นใจ สูบน้ำต่อเนื่อง เชื่อเย็นนี้ได้ลุ้นเจอ 13 ชีวิต
ฝันเด่น นำทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมอุปกรณ์จำเป็น ปีนเขาชัน 80 องศา หาโพรงเพิ่ม หากเจอสำรวจทันที หวังหาช่องทะลุไปถึง 13 ชีวิต เผยบาดเจ็บแต่ไหว บอกน้องๆ รออยู่
ข่าว,สังคม
ถ้ำหลวง,เด็กติดถ้ำ,ปีนเขา,สำรวจโพรง,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1324139
กระบะช่างสวนน้ำหลับใน ชนท้าย 18 ล้อ ที่สัตหีบ ดับ 1 เจ็บ 2
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 23 พ.ค. 2558 ร.ต.ท.พงษ์สวัสดิ์ มอมุงคุณ พนักงานสอบสวน สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะ ชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าบริษัท จเรรัตน์ ค้าวัสดุ จำกัด ริมถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 159 ขาเข้า อ.สัตหีบ ก่อนถึงแยกไฟแดงบ้านอำเภอ หมู่ 9 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ และมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา,ที่เกิดเหตุพบรถกระบะฟอร์ด สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บว 3449 ระยอง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันลำเลียงร่าง นายสุวิทย์ คำพิชิต อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.บ้านหัน อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ คนขับรถ และนายวัชรพงศ์ สุขนาน อายุ 23 ปี ชาวบ้าน ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลวัดญาณสังวราราม,นอกจากนี้ ภายในรถกระบะ บริเวณข้างคนขับ พบร่าง นายวีระพล งามแสง อายุ 28 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ สภาพกะโหลกแตก เสียชีวิตคาที่ ด้านเบาะหน้าข้างคนขับ โดยทั้งหมดเป็นช่างก่อสร้างสวนน้ำแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สัตหีบ ใกล้กันพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-8432 ระยอง หมายเลขทะเบียนลูกพ่วง 70-9718 ระยอง บรรทุกปูนกระสอบ จอดอยู่ริมถนน ในสภาพด้านท้ายพังยับเยิน โดยมี นายอาทิตย์ พลเยี่ยม อายุ 27 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 221 ม.1 ต.วังทอง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เป็นคนขับ และยืนรอให้การอยู่ริมถนน,สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุ เห็นรถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็ว ก่อนรถจะส่ายไปมา คล้ายคนขับหลับใน ก่อนจะพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 18 ล้ออย่างจัง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตดังกล่าว ,จากการสอบถาม นายอาทิตย์ คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ กล่าวว่า ตนขับรถบรรทุกปูนกระสอบมาจาก จ.สระบุรี นำมาส่งให้บริษัท จเรรัตน์ ค้าวัสดุ จำกัด พอเดินทางมาถึงก็ได้จอดนอนเพื่อรอให้บริษัทดังกล่าวเปิดทำการในช่วงสาย ซึ่งตนได้จอดรถบรรทุกไว้ริมถนน พร้อมกับเปิดสัญญาณไฟกะพริบไว้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถพุ่งชนท้ายรถของตนอย่างรุนแรง จึงรีบลงไปดู พบว่ามีผู้ได้รับเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ,ทางด้าน ร.ต.ท.พงษ์สวัสดิ์ มอมุงคุณ พนักงานสอบสวน สภ.นาจอมเทียน กล่าวว่า จากการทำบันทึกที่เกิดเหตุและจะเรียกผู้ที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวน โดยเบื้องต้นทราบว่า ผู้ที่มากับรถกระบะทั้ง 3 คน เป็นช่างที่มารับเหมาก่อสร้างภายในสวนน้ำแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สัตหีบ ก่อนในช่วงเช้าจะรีบเข้าไปทำงาน โดยคาดว่าคนขับน่าจะหลับใน เพราะรถบรรทุก 18 ล้อ ได้จอดชิดไหล่ทางด้านในสุด และยังได้เปิดสัญญาณไฟกะพริบไว้ด้วย แต่รถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็ว พุ่งชนด้านท้ายรถบรรทุกอย่างจัง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ.
เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนอัดท้ายรถ 18 ล้อบรรทุกปูน ที่จอดริมถนนสุขุมวิท กม.159 ขาเข้าสัตหีบ จ.ชลบุรี สภาพรถพังยับ พบตายคาที่ 1 ราย เจ็บสาหัสอีก 2 ชาวบ้านเห็นรถกระบะขับส่ายไปมาก่อนชน
ข่าว,ทั่วไทย
อุบัติเหตุ,คนขับหลับใน,กระบะชนท้ายรถ 18 ล้อ,พงษ์สวัสดิ์ มอมุงคุณ,สภ.นาจอมเทียน,ถนนสุขุมวิท,อ.สัตหีบ,ชลบุรี,ข่าวทั่วไทย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/500600
เหนือ-อีสานตอนบน อากาศหนาวเย็น-ลมแรง ส่วนภาคใต้คลื่นสูง 2-3 ม.
วันที่ 1 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี ร่วมกับ เดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า สำหรับท่านที่จะเดินทางไปทำบุญต้อนรับปีใหม่กับครอบครัว ก็ขอให้ ตรวจเช็กสภาพอากาศกันสักหน่อยนะครับ เนื่องจากในช่วงนี้มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนต่อเนื่อง ไปจนถึงวันที่ 3 มกราคมนี้ จึงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง,โดยในภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส สำหรับยอดดอยสูงในภาคเหนือ จะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นบางพื้นที่ ส่วนภาคอื่นๆ อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิในเช้าวันนี้ อากาศหนาวจะแผ่ลงมาปกคลุม ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน ต่ำสุดอยู่บริเวณภาคเหนือประมาณ 15–17 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ส่วนในภาคอีสาน มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศา เซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิในช่วงกลางวัน สูงสุดอยู่บริเวณภาคกลาง อยู่ที่เพียง 33–34 องศาเซลเซียสเท่านั้น,สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น จึงส่งผลให้บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ตั้งแต่ในช่วงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2559 ไว้ด้วย,ส่วนสภาพอากาศวันนี้จะเป็นอย่างไร เราไปดูกัน เริ่มที่,ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศาเซลเซียส,ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส,ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร,ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร,กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ภาคเหนือ-อีสานตอนบน อากาศหนาวเย็น-ลมแรง บริเวณยอดดอยมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ส่วนลมมรสุมที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 ม. ชาวเรือควรระมัดระวัง เรือเล็กงดออกจากฝั่งถึง 3 ม.ค.นี้
null
พยากรณ์อากาศ,ภาคเหนือ,อีสานตอนบน,อากาศหนาวเย็น,ลมแรง,คลื่นสูง2-3ม.,เรือเล็กงดออกจากฝั่ง,ไทยรัฐทีวี,เดอะเวตเตอร์ คอมพานี,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ทั่วไทย,ภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/content/556823
ป๋าต๊อบ ว่าไง? ปีใหม่ ทวงบัลลังก์ความเซ็กซี่อวดเนื้อนมไข่ในบิกินีตัวจิ๋ว
แซ่บลืมกันทีเดียว สำหรับนักแสดงสาวหุ่นเซ็กซี่ ปีใหม่ สุมนรัตน์ ที่แม้จะแต่งงานกับสาวหล่ออย่าง ป๋าต๊อบ ปฏิญญา เจ้าของธุรกิจพันล้านแล้ว แต่เธอก็ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้โทรมแต่อย่างใด แม้ว่าในอดีตเกือบจะเคยหลงผิดก็ตามที แต่เธอและสามีก็ยังดึงสติกลับมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ มาเดินในเส้นทางที่ถูกที่ควรอีกครั้ง,อีกทั้งตอนนี้ทั้งเธอและป๋าต๊อบก็ได้กลายเป็นคู่รักสุขภาพดีไปแล้ว หมั่นจูงมือกันไปออกกำลังกายฟิตหุ่นให้ดูสวยสดใสเสมอ และตัวสาวปีใหม่เองก็ไม่เคยทำให้แฟนๆ ผิดหวังแต่อย่างใด รูปร่างที่เคยแย่กลับมาดูเชฟบ๊ะอวบอั๋น งานนี้เรียกใจแฟนคลับไปเต็มๆ และยิ่งล่าสุดช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา ทั้งสาวปีใหม่และป๋าต๊อบชวนกันจูงมือไปเที่ยวพักผ่อนริมทะเล,แต่งานนี้ถือว่าแต่งกายถูกกาลเทศะอย่างมาก ไปทะเลก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ สาวปีใหม่ได้เผยหุ่นอวบสุดเชฟบ๊ะ ที่อุดมไปด้วยเนื้อนมไข่ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว งานนี้ได้ใจหนุ่มๆ ไปเต็มๆ เพราะแต่ละรูปเห็นแล้วต้องร้องซี้ดหนัก มาในชุดบิกินีตัวจิ๋ว ที่เผยให้เห็นรอยสักลวดลายสวยๆ ลายดอกไม้เลื้อยเต็มแผ่นหลังและต้นขา เรียกว่าสวยเซ็กซี่แบบมีศิลปะอย่างมาก ว่าแต่อวดขนาดนี้ ป๋าต๊อบจะมีแอบหวงบ้างรึเปล่าน๊า??
ปีใหม่ สุมนรัตน์ มาพร้อมบิกินีตัวจิ๋ว อวดเนื้อนมไข่สุดเชฟบ๊ะ ซึ่งเป็นผลพวงจากการออกกำลังกายและปฏิวัติตัวเองใหม่
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ปีใหม่,ปีใหม่ ป๋าต๊อบ,ปีใหม่ สุมนรัตน์,ป๋าต๊อบ ปฏิญญา,ดารา
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1171230
สุดแสนเสียใจ ตร.ทองหล่อ แจงภาพสาวโอนเงินจ่ายค่าปรับ ฝ่ายหญิงเป็นคนอ้อนวอน
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 59 มีรายงานว่าในสังคมออนไลน์กำลังแชร์ภาพจากเฟซบุ๊กหญิงสาวรายหนึ่งที่โพสต์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยอ้างว่า ตนจอดรถผิดฝั่งจึงโดนล็อคล้อ จากนั้นตำรวจได้นั่งกินข้าวรออยู่ร้านใกล้ๆ เมื่อตนเดินมาที่รถ มีบริการเรียกเก็บตังถึงที่ แถมให้จ่ายระบบออนไลน์ได้อีกด้วย โดยผู้โพสต์ยังได้แนบภาพสลิปใบเสร็จโอนเงินออนไลน์ไว้เป็นหลักฐานจำนวน 500 บาท ระบุชื่อผู้รับเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งใน สน.ทองหล่อ ซึ่งแฟนเพจเรารักด่านตรวจได้นำมาแชร์ต่อโดยตั้งคำถามว่า จ่ายค่าปรับโอนเข้าบัญชีส่วนตัวตำรวจได้ด้วยเหรอ?,ซึ่งจากภาพที่เกิดขึ้นทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อสงสัยไปต่างๆ นานา ในหมู่ชาวเน็ต โดยบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า การจ่ายค่าปรับสามารถโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หรือไม่ ขณะที่บางส่วนสงสัยว่าผู้โพสต์อาจมีการพูดคุยตกลงกันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น ฝากจ่าย หรือไม่,สายตรวจโซเชียลได้ติดต่อไปยังดาบตำรวจที่ปรากฎชื่อในสลิปโอนเงิน ได้รับการเปิดเผยว่า หญิงสาวที่ถูกออกใบสั่งอ้างว่าต้องการรีบไปทำงาน และขอความช่วยเหลือเนื่องจากไม่มีเงินสด ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อฝากจ่าย ซึ่งตนได้ท้วงไปแล้วว่าอาจมีปัญหาภายหลังได้ แต่ผู้ถูกออกใบสั่งได้อ้อนวอนขอความกรุณา ตนจึงรับดำเนินการและนำมาจ่ายค่าปรับให้เรียบร้อย ส่วนตัวหลังทราบข่าวรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น,ขณะที่ พ.ต.ท.วสุ เชื่อพุทธ รองผกก.จร.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเรียกสอบสวนดาบตำรวจคนดังกล่าว ยังไม่สามารถสรุปข้อเท็จจริงได้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมอย่างไรจะนำเสนอให้ทราบต่อไป.
ดราม่าสนั่น! สาวโชว์ภาพโอนเงินจ่ายค่าปรับเข้าบัญชีส่วนตัวตำรวจทองหล่อ ด้าน ตร.ผู้รับโอนเงินเผย ฝ่ายหญิงเป็นคนอ้อนวอน เนื่องจากต้องรีบไปทำงาน และไม่มีเงินสดจ่ายค่าปรับ รู้สึกเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
null
โอนเงิน,จ่ายค่าปรับ,ล็อกล้อ,บัญชีธนาคาร,ตำรวจ,ทองหล่อ,สายตรวจโซเชียล,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/634722
นักวิชาการต่างชาติวิเคราะห์การใช้สื่อโฆษณาชวนเชื่อของ ไอซิส
การพยายามสื่อสารในลักษณะที่ทำให้รู้สึกเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงมีการพยายามสื่อสารกับคนที่อาศัยอยู่ในประเทศตะวันตก15 ก.ย. 2557 ในช่วงที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศวิเคราะห์เรื่องการใช้สื่อโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มไอซิส (ISIS) ที่เปลี่ยนชื่อเรียกตัวเองเป็นไอเอส (IS) ไว้หลายแง่มุม ทั้งทางด้านเทคนิค เป้าหมายของการสื่อสาร และข้อถกเถียงที่ว่าสื่อของพวกเขามีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนคนเดินทางไปสมัครร่วมเป็นนักรบด้วยหรือไม่เว็บไซต์พับลิกเรดิโออินเตอร์เนชันแนลหรือพีอาร์ไอ (PRI) ระบุว่ากลุ่มไอซิสมักจะใช้สื่อที่ทันสมัยอย่างโซเชียลมีเดียในการเข้าถึงผู้คนและดูเหมือนว่าสามารถใช้สื่อวิดีโอที่มีความซับซ้อนได้ พีอาร์ไอรายงานอีกว่าเมื่อไม่นานมานี้กลุ่มไอซิสได้จัดตั้งหน่วยงานด้านการสร้างโฆษณาชวนเชื่อโดยเฉพาะชื่อหน่วยงาน ศูนย์สื่ออัลฮายัตพีอาร์ไอได้ให้ผู้สร้างภาพยนตร์จากนิวยอร์กชื่ออีเลียต กรีนน์บัม ผู้ทำงานด้านโฆษณาดูวิดีโอของไอซิส หลังจากนั้นเขาก็บอกว่าไอซิสมีฝีมือด้านนี้อยู่พอสมควร กรีนน์บัมแจงว่าผู้สร้างสื่อให้ไอซิสใช้เทคนิคนำภาพประวัติศาสตร์มาเสริมฟิลเตอร์ในการตัดต่อและมีการวางเลเยอร์ของภาพให้ดูมีพลัง ซึ่งวิดีโอที่กรีนน์บัมพูดถึงเป็นวิดีโอเฉลิมฉลองการก่อตั้ง รัฐอิสลาม ตามความหมายที่พวกไอซิสนิยามกันเองได้กรีนน์บัมกล่าวอีกว่าระดับฝีมือของไอซิสไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้ได้ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมง และดูจากการออกแบบตัดต่อแล้วดูเหมือนว่าเป็นงานของคนที่ทำเป็นอาชีพหรือทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไอซิสยังนำเสนอโฆษณาชวนเชื่อชุด มูจาทวีตส์ ที่พยายามแสดงให้เห็นว่าผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีภายใต้การปกครองของไอซิสสถาบันวิจัยสื่อตะวันออกกลางซึ่งมีสำนักงานในสหรัฐฯ ระบุในรายงานเกี่ยวกับอัลฮายัตว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อเหล่านี้น่าจะเป็นนักร้องเพลงแร็พชาวเยอรมันที่ชื่อเดโซ ด็อกก์ ซึ่งกลายเป็นผู้เข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธนอกจากมีโปรดักชั่นระดับสูงแล้ว วิดีโอโฆษณาชวนเชื่อเหล่านี้ยังดูเหมือนพยายามเข้าถึงกลุ่มผู้ชมตะวันตก โดยมีการแปลซับไตเติ้ลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาของชาติยุโรปอีกหลายภาษา บางวิดีโอมีผู้พูดเป็นนักรบที่ใช้ภาษาอังกฤษได้พีอาร์ไอระบุอีกว่าวิดีโอจากไอซิสไม่เพียงแค่มีการผลิตที่มืออาชีพกว่าของกลุ่มติดอาวุธอิสลามกลุ่มอื่นๆ แต่ยังออกมาเร็วกว่ากลุ่มอื่นๆ ด้วย ทำให้แม้ว่าไอซิสจะบอกว่าพวกเขาเกลียดชังสังคมและค่านิยมสมัยใหม่ แต่วิดีโอของพวกเขาก็แสดงให้เห็นความสามารถและความรู้ด้านเทคโนโลยีฌอง ฮิวสตัน ศาตราจารย์วิชาภาษาอังกฤษและการศึกษาภาพยนตร์จากสถาบันเดอะซิตาเดล วิทยาลัยทหารนอร์ทแคโรไลนา วิเคราะห์ว่า ไอซิสใช้ลักษณะแบบสมัยนิยมที่ดู ฮิป เพื่อส่งเสริมค่านิยมในแบบยุคกลาง โดยได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์บู๊ ภาพยนตร์ผจญภัย ภาพยนตร์ระทึกขวัญ หรือแม้กระทั่งวิดีโอเกมส์ แต่เป็นการนำเสนอในแบบที่ไม่ได้วางน้ำหนักด้านจริยธรรมลงไปด้วย จากการที่พวกเขาไม่สนใจชีวิตของเหยื่อที่ถูกสังหารหรือทำร้ายว่ามีความเป็นมนุษย์และมีครอบครัวกรีนน์บัมเห็นด้วยว่าวิดีโอของไอซิสลดทอนความรู้สึกของผู้ชมให้เหลือเพียงความรุนแรง แต่ขณะเดียวกันก็พูดถึงงานโปรดักชั่นระดับสูงว่าแสดงให้เห็นถึงอำนาจการควบคุมให้สื่อออกมาดูเนี้ยบ อย่างไรก็ตามกรีนน์บัมคิดว่าแม้วิดีโอของไอซิสจะมีเทคนิคที่ดี แตมันก็ไม่น่าจะช่วยเรียกให้มีคนเข้าร่วมเพิ่มขึ้นได้จากในแง่นี้แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีนักวิเคราะห์มองว่าปัจจัยต่างๆ อย่างการส่งเสริมความรุนแรงของสื่อไอซิส การเชื่อมต่อกับโซเชียลเน็ตเวิร์ก และการโฆษณาที่ชวนให้รู้สึกเข้าถึงตัวผู้ปฏิบัติการได้ง่าย ล้วนเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้คนเดินทางไปเข้าร่วมรบกับไอซิสในบทสัมภาษณ์ของสื่อเอนพีอาร์ คลิน วัตต์ จากสถาบันนโยบายการต่างประเทศ (Foreign Policy Institute) กล่าวว่า เมื่อเทียบกับในอดีตการที่กลุ่มติดอาวุธจะสามารถติดต่อสื่อสารกับชุมชนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ได้มีจำกัดมาก แต่หลังจากยุคที่ชาวตะวันออกกลางและแอฟริกามีสมาร์ทโฟนใช้ทำให้กลุ่มติดอาวุธสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นวัตต์ยังได้กล่าวถึงผู้ปฏิบัติการซึ่งคอยเกณฑ์คนเข้าร่วมกองกำลังติดอาวุธ บอกว่ากลุ่มเหล่านี้สามารถติดต่อกับผู้ที่สนใจเข้าร่วมขบวนการเพื่อแนะนำช่องทางเดินทางไปสมัครได้ง่าย และในอีกแง่หนึ่งพวกเขาก็ใช้โซเชียลมีเดียพูดถึงเรื่องประสบการณ์การสู้รบในซีเรียและอิรัก บางครั้งก็เป็นเรื่องการพูดถึงเหตุการณ์ในลักษณะเหมือนต้องการสื่อสารกลับไปยังชุมชนวัตต์กล่าวถึงอีกมุมหนึ่งในการนำเสนอตัวเองของไอซิสว่า สมาชิกไอซิสมีการนำเสนอภาพของกิจกรรมที่ดูเหมือนเป็นกิจกรรมของคนทั่วไปในโลก เช่น ภาพตอนทานอาหาร ภาพตอนกำลังเล่นกับสัตว์ ซึ่งขัดแย้งกับการนำเสนอภาพความโหดเหี้ยม ซึ่งวัตต์บอกว่าเป็นสิ่งที่ดู ขัดแย้งกันอย่างประหลาดอย่างไรก็ตามวัตต์ยังกล่าวว่าสื่อของกลุ่มไอซิสทำให้ชาติตะวันตกสามารถรับรู้สถานการณ์ได้ในสถานที่ซึ่งไม่มีนักข่าวหรือการรายงานจากรัฐบาล และเมื่อถูกถามว่าทำไมบริษัทเอกชนซึ่งเป็นเจ้าของโซเชียลมีเดียทั้งหลายถึงไม่ปิดกั้นสื่อเหล่านี้เสียทั้งหมด วัตต์ตอบว่าพวกเขาทำไม่ได้เพราะขัดกับนโยบาย อาจจะมีบ้างที่เป็นการลบบัญชีของผู้ที่ข่มขู่หรือแสดงออกเชิงความรุนแรง แต่การพูดในเชิงความคิดเป็นเรื่องตัดสินได้ยากมันยากเพราะใครจะเป็นคนตัดสินล่ะว่าความคิดหรือแนวคิดของคนๆ หนึ่งควรจะทำให้แนวคิดอื่นถูกดีดกระเด็นออกไป วัตต์กล่าวISIS has mastered high-end video production in its new propaganda wing PRI 11-09-2014ISIS Runs A Dark Media Campaign On Social Media NPR 06-09-2014
สิ่งหนึ่งที่ทำให้กลุ่มติดอาวุธไอซิส แตกต่างจากกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ไม่เพียงแค่เรื่องการแสดงออกโหดเหี้ยมอย่างโจ่งแจ้งเท่านั้น แต่มีผู้วิเคราะห์ว่าไอซิสมีความสามารถในการทำสื่อวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อ
ต่างประเทศ,ไอซีที
IS,ISIS,ซีเรีย,บทวิเคราะห์,โซเชียลมีเดีย,ไอซิส
https://prachatai.com/journal/2014/09/55551
ประท้วงในตรุกี วันที่ 3 บาดเจ็บกว่า 1700 คน
ชาวตุรกีกว่า 1000 คน รวมตัวในกรุงอังการ่าในวันอาทิตย์ (2 มิ.ย.2556) ซึ่งเป็นการรวมตัวประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วประเทศเป็นวันที่ 3 เพื่อเรียกร้องให้นายรีเซ็ป เทยิบ แอร์โดกัน นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งโดยการประท้วงในวันนี้เป็นการประท้วงที่สงบกว่าการประท้วงเมื่อวันเสาร์ (1 มิ.ย.2556) ซึ่งเป็นเหตุจลาจลในกรุงอังการา และนครอิสตันบุล รวมทั้งมีการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับผู้ชุมนุมในหลายจุด จนเจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำสกัดกลุ่มผู้ชุมนุม ก่อนที่ตำรวจปราบจลาจลจะตัดสินใจเปิดทางให้ผู้ประท้วงรวมตัวต่อไปการประท้วงต่อต้านรัฐบาล มีจุดเริ่มต้นจากการนั่งประท้วงของกลุ่มอนุรักษ์กลุ่มเล็กๆ ที่ต่อต้านการปรับปรุงจตุรัสกลางกรุงอังการ่า แต่เนื่องจากตำรวจใช้กำลังรุนแรงจัดการกับผู้ประท้วง ทำให้เกิดกระแสไม่พอใจ และมีการรวมตัวผู้ประท้วงในหลายเมือง จนกลายเป็นการประท้วงขับไล่รัฐบาลครั้งใหญ่ขึ้น
ชาวตุรกีรวมตัวประท้วงต่อต้านรัฐบาลเป็นวันที่ 3 โดยมีการควบคุมตัวผู้ประท้วงและก่อจลาจลหลายเมือง เกือบ 1000 คน
ต่างประเทศ
ตุรกี,นายกรัฐมนตรี,ประท้วง,รวมตัว,รัฐบาล
https://news.thaipbs.or.th/content/173829
ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก ทะเลคลื่นสูง 2 เมตร
เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2562 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก สำหรับทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง,ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว และเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้,ภาคเหนือ,  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่านอุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตากอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.   ,ภาคกลาง, มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.  ,ภาคตะวันออก, มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,ภาคใต้ฝั่งตะวันออก, มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร,ภาคใต้ฝั่งตะวันตก, มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล,อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร  ,กรุงเทพมหานคร, มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ข่าว,ทั่วไทย
กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,อากาศวันนี้,อุณหภูมิวันนี้,สภาพอากาศ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1658766
ประกาศ กทช.มีผลบังคับใช้ กระตุ้นวิทยุชุมชนขึ้นทะเบียน ถึง 24 ส.ค.นี้
และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะทำงานด้านกิจการวิทยุกระจายเสียงชุมชน ในคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เปิดเผยว่า หลังจากนี้มีเวลาอีก 30 วันตามกฎหมาย คือถึงวันที่ 24 ส.ค.2552 เพื่อให้วิทยุชุมชนแจ้งขึ้นทะเบียนสำหรับยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการชั่วคราว 1 ปี ในกลุ่มที่มีความพร้อมและมีคุณสมบัติเข้าข่ายเป็นวิทยุชุมชน คือ ต้องไม่มีโฆษณา ส่วนวิทยุธุรกิจที่มีรายได้จากโฆษณา จะต้องมาขึ้นทะเบียนตามระยะเวลาที่กำหนดเช่นกัน โดยจะได้รับฐานะทดลองออกอากาศ 300 วัน อย่างไรก็ตาม หลังจาก กทช.ได้จัดโครงการเตรียมความพร้อมการขึ้นทะเบียนวิทยุชุมชน ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาใน 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา เพื่อให้วิทยุชุมชนทั่วประเทศมาแจ้งความประสงค์ขอขึ้นทะเบียน ก่อนที่ร่างประกาศฯ จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา พบวิทยุชุมชนกว่า 4000 สถานีแจ้งความประสงค์ขอขึ้นทะเบียนกับ กทช. หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของวิทยุชุมชนทั่วประเทศ แบ่งเป็นจากภาคกลาง 1200 สถานี ภาคเหนือ 800 สถานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1600 สถานี และภาคใต้ 400 สถานี ส่วนวิทยุชุมชนอีก 10% หรือประมาณ 400 สถานีที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนกับ กทช. ยังมีเวลาถึงวันที่ 24 ส.ค.นี้ คาดว่าในจำนวนนี้จะมาขึ้นทะเบียนเกือบทั้งหมด น่าจะมีเพียง 1% หรือ 40-50 สถานีเท่านั้น ที่ตั้งใจจะไม่มาขึ้นทะเบียน ด้วยมีวัตถุประสงค์ใช้วิทยุชุมชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง หลังจากพ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้มาขึ้นทะเบียนวิทยุชุมชนแล้ว ผู้ที่ไม่มาขึ้นทะเบียนจะเข้าข่ายประกอบกิจการวิทยุชุมชนโดยไม่มีใบอนุญาต จะมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 5 ล้านบาท ส่วนกลุ่มที่ขึ้นทะเบียนแล้วจะต้องดำเนินการตามระเบียบ คือ ไม่ออกอากาศเนื้อหารายการที่เป็นการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ไม่มีเนื้อหาปลุกระดมมวลชนและขัดต่อศีลธรรม รวมทั้งต้องบันทึกเทปเนื้อหาที่ออกอากาศย้อนหลัง 30 วัน โดยเสียค่าธรรมเนียมปีละ 500 บาทกทช.และคณะทำงานวิทยุชุมชนไม่มีเจตนาจะดำเนินคดีกับผู้ที่ตั้งใจไม่มาขึ้นทะเบียน การออกประกาศฯ เพื่อให้มาขึ้นทะเบียนเป็นมาตรการเยียวยา และจัดระเบียบวิทยุชุมชนในช่วงนี้ ระหว่างรอองค์กรอิสระจัดสรรคลื่นความถี่ฯ แต่หากพบผู้ร้องเรียน กทช.ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน พ.อ.นที กล่าว ทั้งนี้ ผู้ที่ดำเนินการวิทยุชุมชนหรือกำลังจะดำเนินการ สามารถนำเอกสารต่างๆ อาทิ หลักฐานส่วนบุคคลรูปถ่ายและแผนที่สถานี เข้ายื่นความประสงค์ขอดำเนินงานวิทยุได้ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. - 23 ส.ค.52 ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. โดยวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2552 ลงทะเบียนได้ที่ อาคารอำนวยการ ชั้น 7 จากนั้นตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม - 23 สิงหาคม 2552 ลงทะเบียนได้ที่ อาคารหอประชุม ชั้น 1 สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 87 ถนนพหลโยธิน 8 (ซอยสายลม) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400 ในต่างจังหวัด กทช. ได้จัดให้มีการขึ้นทะเบียนตามศูนย์และสถานีตรวจสอบการใช้ความถี่วิทยุของสำนักงาน กทช. จำนวน 14 แห่ง ทั่วประเทศ ดังนี้ นนทบุรี จันทบุรี อุบลราชธานี นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี ลำปาง เชียงใหม่ พิษณุโลก สงขลา นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ระนอง ชุมพร ซึ่งสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ในเว็บไซต์ของสำนักงาน กทช.www.ntc.or.th
สืบเนื่องจากการที่ ประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน)ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2552
คุณภาพชีวิต,สิทธิมนุษยชน,สังคม
กทช.,ขึ้นทะเบียนวิทยุชุมชน,ประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ,วิทยุชุมชน
https://prachatai.com/journal/2009/07/25267
เบิ้ล ปทุมราช ปล่อยซิงเกิลใหม่ คว้า แซนดี้ เล่น MV หน้าโหดโหมดคิตตี้
วิดีโอสุดน่ารัก กับบทบาทของนักเลงบ้านๆมาดสุดกวน ที่ไปสะดุดรักเข้าอย่างจังกับนางเอกหน้าหวานอย่าง แซนดี้ ด้วยเรื่องราวส่วนใหญ่จะมาจากจินตนาการของ เบิ้ล เอง เลยทำให้การแสดงจะออกแนวโอเว่อร์แอ็กติ้งตลกๆน่ารักๆ บรรยากาศการถ่ายทำก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานโดยทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ว่า เบิ้ล ปทุมราช ผมได้ชื่อเพลงนี้ตอนเดินเล่นในตลาดนัดครับ ได้ยินเค้าพูดกันเยอะ รู้สึกเป็นความขัดแย้งที่ลงตัวดี เลยแต่งขึ้นมาเป็นเพลง หน้าโหดโหมดคิตตี้ ในแนวคอมเมดี้น่ารักๆ มีการผสมผสานจังหวะดนตรีหมอลำเต้ยโขง ช่วงกลางๆเพลงได้ น้องออย ธนวรรณ และ น้องแบม ไพลิน มาร่วมแจมด้วย ส่วนเนื้อหาเอ็มวีก็เป็นเรื่องราวน่ารักๆของผู้ชายที่อยากโปรโมตตัวเอง เหมือนเวลาเราไปเจอคนน่ารัก เราก็อยากนำเสนอเค้าว่าถึงเราจะขี้เหร่แต่เราก็มีดีของเรานะส่วน แซนดี้ชลิดา เผยว่า ดีใจค่ะที่ได้มาร่วมงานกับเบิ้ล ถือว่าเป็นเอ็มวีแรกที่ได้มาทำงานร่วมกัน จริงๆเบิ้ลเป็นคนทำงานเก่งนะคะ อาจจะมีเล่นๆบ้างนิดหน่อย แต่จริงๆแล้วเค้าเป็นคนน่ารักค่ะ เนื้อหาในเอ็มวีส่วนใหญ่จะเป็นภาพมโนของตัวเบิ้ลเองเลยจะเล่นแบบโอเว่อร์กันหมด แต่โดยรวมแล้วสนุกดีค่ะ เพราะทุกคนจะไม่เคยเห็นคาแรกเตอร์แซนแบบนี้เลยติดตามบทสรุปความรักของหนุ่มนักเลงบ้านๆ กับสาวหน้าหวาน ว่าจะลงเอยยังไง จะสมหวังแฮปปี้เอนดิ้งหรือไม่ ติดตามได้ทางยูทูบ : Rsiammusic และ เบิ้ล ปทุมราช Official เร็วๆนี้.
ปล่อยผลงานเพลงให้ฟังอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม ปล่อยซิงเกิลใหม่ หน้าโหดโหมดคิตตี้ พร้อมถึงดึงดาราระดับนางเอกแถวหน้า ช่อง 8 อย่าง แซนดี้-ชลิดา กล่ำปาน มาร่วมถ่ายทอดมิวสิก
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
เบิ้ล ปทุมราช,ปล่อยเพลงใหม่,แซนดี้ ชลิดา,มิวสิกวิดีโอ,นักร้องลูกทุ่ง,หน้าโหดโหมดคิตตี้,อาร์สยาม,นักร้อง
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1788719
กองปราบแจ้งข้อหาเสมียนทนาย-ร.ต.อ.เจ้าของปืน คดียิงในศาลจังหวัดจันทบุรี
พนักงานสอบสวนกองปราบฯ แจ้งข้อหาเสมียนทนาย-ร.ต.อ.เจ้าของปืนยิงเด็ดชีพ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติในศาลจังหวัดจันทบุรี จ่อเรียก บุญช่วย อ้างตัวเป็นเจ้าของที่ดิน หลังหลักฐานปรากฏเป็นของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 พ.ค.63 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดี พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ อายุ 67 ปี ก่อเหตุยิง นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความชื่อดัง ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้อง นางสุภาพร ภรรยานายบัญชา นายวิชัย อุดมธนภัทร และนายวิจัย สุขรมย์ ทีมทนายฝ่ายโจทก์ ภายในศาลจังหวัดจันทบุรี ขณะกำลังรอพยานฝ่ายจำเลยกับรอผู้พิพากษาขึ้นนั่งบัลลังก์นัดสืบพยานฝ่ายจำเลยนัดแรก เพื่อรับฟังการพิจารณาคดีการฟ้องร้องทางแพ่งเกี่ยวกับที่ดินขนาด 3800 ไร่ ใน อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี จนเป็นเหตุให้นายบัญชา และนายวิจัยเสียชีวิต ส่วนนางสุภาพร และนายวิชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วน พล.ต.ต.ธารินทร์ หลังก่อเหตุได้ถูกนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนายนำอาวุธปืนของ ร.ต.อ.ขจร บรรจง ตำรวจประจำศาลจังหวัดจันทบุรี ยิงใส่จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมาพ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า หลังเกิดเรื่อง น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยาของ พล.ต.ต.ธารินทร์ ได้ร้องขอให้มีการโอนสำนวนคดีทั้งหมดมาให้กับกองปราบปรามดำเนินการแต่เพียงผู้เดียว โดยเหตุการณ์ยิงกันในศาลแบ่งออกเป็น 2 คดี คดีแรกเป็นคดีที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ กราดยิงนายบัญชา และพวกเสียชีวิต 2 รายนั้น มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนคดีที่สองเป็นคดีต่อเนื่องกับคดีแรกที่นายธนากร ใช้อาวุธปืนของ ร.ต.อ.ขจร ยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ จนเสียชีวิต โดยอ้างว่าเป็นการยิงเพื่อระงับเหตุนั้น จากการสอบสวนนายธนากร เบื้องต้นให้การว่า พล.ต.ต.ธารินทร์ ได้เล็งอาวุธปืนไปยังฝ่ายคู่กรณีคนอื่นๆ ที่เหลือ จึงตัดสินใจใช้ปืนที่ ร.ต.อ.ขจร ส่งมาให้ ยิงเพื่อระงับเหตุ แต่จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด รวมถึงหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์นั้น ยืนยันว่าคำให้การนายธนากรขัดแย้งกับหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฏ พนักงานสอบสวนจึงพิจารณาแจ้งข้อหาดำเนินคดีฐานฆ่าผู้อื่นและความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนส่วน ร.ต.อ.ขจร ผู้ยื่นปืนให้นายธนากร นั้นจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เนื่องจากพิจารณาจากหลักฐานภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏนั้นพบว่า การกระทำของ ร.ต.อ.ขจร ไม่ได้เป็นไปตามหลักการระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งหลังเกิดเหตุยังไม่มีการจับกุมนายธนากร ผู้ก่อเหตุกลับปล่อยให้ผู้ก่อเหตุหลบหนี พนักงานสอบสวนกองปราบจึงมีความเห็นพิจารณาดำเนินคดีฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และสนับสนุนให้ฆ่าผู้อื่น โดยวันนี้จะส่งสำนวนคดีดังกล่าวให้กับอัยการคดีทุจริตภาค 2 ดำเนินการต่อไป รอง ผบก.ป. กล่าวพ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์การถือครองที่ดินกว่า 3800 ไร่ ที่นายบุญช่วย เจริญสถาพร น้องชายของพระกิตติวุฑโฒ ภิกขุ อดีตประธานมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ อ้างตัวเป็นเจ้าของที่ดิน จนมีการฟ้องร้องกันนั้น จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเอกสารราชการ การสอบสวนพยานบุคคลและประจักษ์พยานต่างๆ จนเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ที่ดินทั้งหมดเป็นของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ อีกทั้งยังพบว่านอกจากที่ดินผืนดังกล่าวแล้วยังมีการยักยอกมีที่ดินในจังหวัดอื่นๆ ของมูลนิธิฯ อีกหลายร้อยไร่ รวมที่ดินของมูลนิธิที่ถูกนายบุญช่วยยักยอกไปมีจำนวนกว่า 4 พันไร่ โดยหลังจากนี้จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อกำหนดวันออกหมายเรียกนายบุญช่วย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง มาแจ้งข้อกล่าวหาภายใน 1-2 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ ส่วนกรณีดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบจนถึงขณะนี้ยังไม่พบความผิดที่ชัดเจน.
พนักงานสอบสวนกองปราบฯ แจ้งข้อหาเสมียนทนาย-ร.ต.อ.เจ้าของปืนยิงเด็ดชีพ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติในศาลจังหวัดจันทบุรี จ่อเรียก บุญช่วย อ้างตัวเป็นเจ้าของที่ดิน
ข่าว,อาชญากรรม
ยิงในศาล,ยิงในศาลจันทบุรี,ยิงในศาลจังหวัดจันทบุรี,ศาลจังหวัดจันทบุรี,ธารินทร์ จันทราทิพย์,กองปราบ,แจ้งข้อหา,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1839404
รัสเซีย ระงับข้อตกลงความปลอดภัยทางอากาศกับสหรัฐฯ
วันนี้ (7 เม.ย.2560) สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น ประเทศซีเรีย เผยแพร่ภาพการโจมตีฐานทัพอากาศซีเรียในเมืองฮอมส์ ด้วยขีปนาวุธโทมาฮอว์ค จำนวน 59 ลูก จากเรือพิฆาตของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา บริเวณตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างขณะที่สื่อประเทศรัสเซีย อ้างว่าการโจมตีดังกล่าว ทำให้เครื่องบินของกองทัพซีเรียถูกทำลายจำนวน 9 ลำ คลังอาวุธและคลังเชื้อเพลิงได้รับความเสียหาย แต่รันเวย์หรือทางวิ่งขึ้นลงของฐานทัพอากาศ ไม่ได้รับความเสียหายด้านโฆษกการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียประกาศว่า รัสเซียสั่งระงับข้อตกลงทวิภาคีกับสหรัฐฯ ในการใช้สายด่วนป้องกันการปะทะกันเหนือน่านฟ้าซีเรีย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศ ได้ลงนามเมื่อเดือนตุลาคม 2558 นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า สหรัฐฯ เตรียมการโจมตีทางอากาศต่อฐานทัพซีเรียในเมืองฮอมส์ ก่อนที่กองทัพอากาศซีเรียจะถูกกล่าวหาว่า ใช้อาวุธเคมีโจมตีเมืองอิดลิบ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 86 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 27 คนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ยังระบุอีกว่า การโจมตีซีเรียของสหรัฐฯ เป็นการรุกรานรัฐอธิปไตยและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ และทำให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นขณะที่กองทัพซีเรีย เปิดเผยว่า การโจมตีของสหรัฐฯ สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง พร้อมทั้งประกาศว่า จะเดินหน้าปราบปรามการก่อการร้าย รวมทั้งฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงให้แก่ชาวซีเรียทุกคน นอกจากนี้ ยังกล่าวหากองทัพสหรัฐฯว่า เป็นมิตรกับกลุ่มไอเอส กลุ่มอัล-นุสรา ฟรอนท์ และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ เนื่องจากการโจมตี เป็นการแสดงความก้าวร้าวอย่างโจ่งแจ้งด้านนายเรเซป ไทยิป เออร์ดวน ประธานาธิบดีประเทศตุรกี ประกาศว่า ตุรกีพร้อมให้ความช่วยเหลือสหรัฐฯ หลังจากที่กองทัพซีเรียโจมตีเมืองอิดลิบด้วยอาวุธเคมี โดยรัฐบาลตุรกีแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาลของนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย พร้อมเรียกร้องให้นายอัสซาดลงจากตำแหน่งมาโดยตลอด
รัสเซียสั่งระงับข้อตกลงความปลอดภัยทางอากาศกับสหรัฐฯ ในซีเรีย หลังจากผู้นำสหรัฐฯ สั่งโจมตีฐานทัพอากาศซีเรียด้วยขีปนาวุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิต และสร้างความเสียหายอย่างหนัก
ต่างประเทศ
ThaiPBSnews,ThaiPBS,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ซีเรีย,ขีปนาวุธ,สหรัฐฯ,โจมตี,ทหาร,ตุรกี,รัสเซีย
https://news.thaipbs.or.th/content/261477
ตำรวจนครบาล ตรวจสถานบันเทิงย่านลาดพร้าวเปิดเกินเวลา
ร้านสถานีหัวหิน และ เดอะสกาย 2 ย่านลาดพร้าว เป็นเป้าหมายที่ตำรวจนครบาล เข้าตรวจสอบตามนโยบายป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและแหล่งอบายมุข ซึ่งตำรวจจะเน้นการเฝ้าระวังไม่ให้มีการใช้สถานบันเทิงเป็นที่มั่วสุม และลักลอบจำหน่ายยาเสพติดจากการตรวจสอบร้านสถานีหัวหิน พบว่า มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา แต่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานบริการ จึงดำเนินคดีเจ้าของร้านในข้อหาจำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฏหมายกำหนด และกำชับให้สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ดำเนินการกรณีจอดรถกีดขวางการจราจรอย่างเร่งด่วน ซึ่งหากตำรวจท้องที่ไม่ดำเนินการจะมีความผิดฐานปล่อยปละละเลย รวมถึงทางร้านหากไม่ดำเนินการแก้ไขจะถูกดำเนินคดีด้วยพล.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า สถานบันเทิงมีการใช้เสียงดัง และจอดรถยนต์กีดขวางการจราจร ซึ่งยอมรับว่า ร้านหรือสถานบันเทิงเหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาตประกอบการสถานบริการ และเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นการใช้ช่องว่างทางกฏหมายในการกระทำผิด ซึ่งตำรวจพยายามแก้ไขเร่งดำเนินการจับกุมดำเนินคดี
ตำรวจนครบาล ตรวจสถานบันเทิงย่านลาดพร้าว ตามนโยบายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมและแหล่งอบายมุข หลังได้รับการร้องเรียนว่าเปิดเกินเวลาและเป็นแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น
อาชญากรรม
นครบาล,ลาดพร้าว,หัวหิน,อบายมขุ,เดอะสกาย
https://news.thaipbs.or.th/content/140701
นาโปลี ตายยาก พลิกดับ เจนัว 2-1 ขึ้นรองฝูงกัลโชบี้ฝูง 3 แต้ม
การแข่งขันฟุตบอลกัลโชเซเรียอา ฤดูกาล 2018/19 ประจำวันที่ 10 พ.ย. เป็นการพบกันในคู่ระหว่าง เจนัว เปิดสนาม ลุยจิ แฟร์ราริส พบกับ นาโปลี,ครึ่งแรกเป็นเจนัวได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 นาทีที่ 20 จากจังหวะที่ โรมูโล เปิดไปให้กับ ควาเม โขกเสียบเสาแรกเข้าไปเลยและครึ่งแรกก็มีสกอร์เดียวที่เกิดขึ้น,จากนั้นนาโปลีลุยแหลกและมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 นาทีที่ 62 อัลลัน จ่ายให้กับ รุยซ์ วิ่งทะลุไปยิงตุงตาข่าย,นาโปลี บุกหนักและมาพลิกแซงจนได้ 2-1 นาทีที่ 87 อินซิเญ เปิดให้กับ อัลบิโอล เบียดกับ บิราสคี เข้าประตูตัวเองไปเฉยเลย,จบเกมการแข่งขัน นาโปลี เฉือนเอาชนะ เจนัว 2-1 เก็บสามแต้มขึ้นที่สองของตาราง ตามหลังยูเวนตุสจ่าฝูง 3 คะแนน,สรุปผลคู่อื่น,โตริโน แพ้ ปาร์มา 1-2,สปัล เสมอ กายารี 2-2
นาโปลี ตายยาก!! พลิกเอาชนะ เจนัว ในช่วงท้ายเกมหืดจับ 2-1 ผงาดขึ้นรองจ่าฝูงกัลโชเซเรียอาเรียบร้อย
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
นาโปลี,กัลโชเซเรียอา,เจนัว,ผลฟุตบอล
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/1417910
ผู้ว่างงานเหตุถูกเลิกจ้าง ทยอยเข้าฝึกทักษะฝีมือหวังนำไปประกอบอาชีพอิสระ
เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการในหลายจังหวัดว่าได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ ซึ่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยอมรับผ่านรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน แต่รัฐบาลก็เตรียมมาตรการช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาผลกระทบแล้ว และเชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะสามารถปรับตัวได้ทั้งนี้ รัฐบาลจะเน้นการดูแลผู้ประกอบการ เน้นลดผลกระทบค่าใช้จ่าย เพิ่มศักยภาพและรายได้ และช่วยเหลือสภาพคล่อง เพื่อทำให้ผู้ประกอบการประคับประคองธุรกิจได้นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุ 5 มาตรการที่จะเสนอในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 8 มกราคมนี้ ประกอบด้วย การลดค่าธรรมเนียมห้องพักโรงแรมลงร้อยละ 50 จากปัจจุบันที่จัดเก็บห้องละ 80 บาทต่อปี เป็นเวลา 3 ปี การจัดคลินิกพัฒนาฝีมือแรงงานเคลื่อนที่ไปยังสถานศึกษาและสถานประกอบการเพิ่มอัตราค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมสัมมนาของส่วนราชการ การจัดคาราวานสินค้าราคาถูกไปจำหน่ายให้ลูกจ้าง และ การลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 2 โดยคาดว่ามาตรการทั้งหมดจะช่วยธุรกิจให้แข่งขันได้ และเดือนมีนาคมจะมีความชัดเจนถึงการประเมินผลกระทบการปรับขึ้นค่าแรงทั่วประเทศบรรดาผู้ว่างงานที่ถูกเลิกจ้างทยอยสมัครเข้ารับการฝึกทักษะฝีมือแรงงาน ด้านช่างแผนกต่างๆ เช่นที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพัฒนาฝีมือ และนำความรู้ไปประกอบอาชีพอิสระขณะที่โรงงานและสถานประกอบการหลายแห่งทยอยปลดพนักงานที่ด้อยคุณภาพ ทำงานไม่คุ้มกับค่าแรงที่ปรับขึ้นออก รวมถึงผู้ประกอบการบางแห่งต้องปรับตัว เช่น โรงหล่อเครื่องทองเหลืองขนาดเล็กในตำบลนาสะไมย์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร กว่า 7 แห่ง ที่ปรับเปลี่ยนการจ้างแรงงานจากวันละ 250 บาท เป็นจ้างเหมารายชิ้น เพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งทำให้แรงงานก็ต้องขยันทำงาน เพื่อมีรายได้ต่อวันเฉลี่ยคนละ 300 ถึง 500 บาทสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เรียกประชุมคณะกรรมการและสมาชิกสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เพื่อหารือผลกระทบนโยบายปรับค่าแรงของรัฐบาล เนื่องจากสถานประกอบการอ้างว่าไม่สามารถปฏิบัติได้ เพราะต้นทุนสูงขึ้น และต้องแข่งขันกับต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่า
การปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศทำให้โรงงานและสถานประกอบการหลายแห่ง เริ่มทยอยปลดพนักงานที่ด้อยคุณภาพและไม่คุ้มกับค่าจ้างที่ต้องปรับขึ้น ขณะที่รัฐบาลเตรียมพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์นี้
เศรษฐกิจ
กิตติรัตน์,ค่าแรง 300 บาท,ปลด,เผดิมชัย
https://news.thaipbs.or.th/content/137522
แจ้งข้อหาข่มขืน หนุ่มถูกสาวกัดจู๋ นกเขาอักเสบรุนแรง ถือว่าล่วงล้ำแล้ว
 ,จากคดีสาวสวยชาว จ.ร้อยเอ็ด แก้เผ็ดคนร้ายจอมหื่น ด้วยการกัดนกเขา ขณะบุกเข้าไปชกท้อง แล้วข่มขืน ด้วยการบังคับให้ใช้ปากสำเร็จความใคร่ ในหอพักแห่งหนึ่งในซอย 10 ถนนเทวาภิบาล เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา (,สั่งสอนไอ้หื่น บุกห้องบังคับสาวสวยอมนกเขา รอเคลิ้มงับหวิดขาด,),ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้นายชาตรี คนร้ายวัย 28 ปี ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ร้อยเอ็ด เนื่องจากอวัยวะเพศเป็นแผลบวมช้ำ อักเสบอย่างรุนแรง กับมีอาการปวดศีรษะ ปวดกราม พร้อมกับมีคำสั่งอายัดตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ดำเนินคดีข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่น ที่มิใช่ภรรยาตน (การที่อวัยวะเพศล่วงล้ำเข้าไปในร่างกาย ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง กฎหมายถือว่า ข่มขืนสำเร็จแล้ว) ทำร้ายร่างกายผู้อื่น บุกรุกเคหสถานในยามวิกาล โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลัง ประทุษร้าย โดยมีอาวุธ หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ,ส่วนข้อสงสัย หลังพบภาพผู้ชายคล้ายนายชาตรีกำลังยืนพูดคุยกับหญิงสาวที่คล้าย น.ส.สวย ผู้เสียหาย อยู่ที่ประตูหน้าห้องนอน และในภาพมีการยื่นวัตถุคล้ายกระเป๋าเงินให้กันและกันนั้น ได้ข้อสรุปแล้วว่า ทั้งสองไม่รู้จักกันมาก่อน แต่พฤติกรรมดังกล่าว น่าจะอยู่ในแผนการของนายชาตรี ที่ทำทีไปเคาะประตูเรียกเพื่อถามว่าลืมของหรือไม่ ก่อนจะบุกเข้าไปก่อเหตุในห้องของผู้เสียหาย ,อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนนายชาตรี ยังเถียงกับ พ.ต.ต.นิรนทร์ นามบ้านค้อ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองร้อยเอ็ด ว่า การให้ น.ส.สวย อมเจ้าโลก ไม่ใช่การข่มขืน เพราะไม่ได้เอาเจ้าโลกสอดใส่เข้าช่องคลอด ทำให้ พ.ต.ต.นรินทร์ ต้องเอาหนังสือประมวลกฎหมายอาญา ออกมาให้นายชาตรีอ่าน นายชาตรีจึงเงียบไป ,ล่าสุด พนักงานสอบสวนของสภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้นำคำร้องไปยื่นขออำนาจศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ฝากขังผู้ต้องหา พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัวเพราะกลัวไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ส่วนอาการบาดเจ็บของผู้ต้องหา คืออักเสบที่อวัยวะเพศ ปวดกราม และปวดศีรษะ หากยังไม่ดีขึ้น ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ในการดูแลและพิจารณาว่า ควรให้รักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือจะไปรักษากันในเรือนจำ.
หนุ่มหื่นบุกห้องสาวสวยที่ร้อยเอ็ด บังคับอมนกเขา ถูกแก้แค้นสาสมด้วยการกัดอย่างแรงแผลอักเสบรุนแรงยังรักษาที่รพ. ตำรวจขออำนาจศาลฝากขัง เผยภาพยื่นกระเป๋าให้สาว เป็นแผนเคาะประตูเรียก ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
null
กัดจู๋,กัดนกเขา,อมนกเขา,บังคับใช้ปาก,จู๋อักเสบ
https://www.thairath.co.th/content/837026
พัทยาโอนลี่ สุดบัดสี ออรัลเซ็กส์โชว์สดแบบไม่อาย ประชาชีต้องฉีดน้ำไล่
โหมโรงวันไหล โชว์กันสดๆ ในบาร์เบียร์ หญิงไทยถูกหนุ่มต่างชาติจับถ่างขาทำออรัลเซ็กส์ต่อหน้าธารกำนัล ทั้งชาวบ้านและคนที่เล่นสงกรานต์ ทนดูไม่ไหวต้องฉีดน้ำไล่ มีคนถ่ายคลิปเผยแพร่ เช็กแล้วเป็นที่พัทยา ตร.กำลังตามล่าหาตัว   ,เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกโซเชียลมีการแชร์คลิปชาวต่างชาติกำลังทำออรัลเซ็กส์ให้กับหญิงไทยที่สวมชุดบิกินี โดยในเพจ เจ้าพ่อคลิปเด็ด และ The Clip by ระบุชื่อ เบรินกันสดๆ มีผู้เข้าชมคลิป กว่า 30,000 ครั้ง มีการแชร์ไปกว่า 400 ครั้ง มีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นกว่า 600 ความคิดเห็น,ทั้งนี้ ภาพในคลิปเป็นบาร์เบียร์แห่งหนึ่งซึ่งไม่ได้ระบุว่าที่ไหน มีสาวบาร์เบียร์สวมชุดบิกีนีกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะที่มีราวสเตนเลสล้อม อยู่ๆก็มีชายชาวต่างชาติสวมเสื้อสีขาว เดินตรงเข้ามา ก่อนจับหญิงคนดังกล่าวแยกขา แล้วเอาหน้าซุกไปตรงบริเวณกลางหว่างขาโดยไม่แคร์สายตาประชาชนชาวบ้านแถวนั้น จนมีพนักงานร้านบาร์เบียร์เดินเข้าไปห้ามการกระทำดังกล่าว พร้อมมีชาวบ้านมาฉีดน้ำไล่ทั้ง 2 คนให้แยกจากกัน สร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์และภาพลักษณ์การท่องเที่ยว รวมถึงประเพณีสงกรานต์ของชาวไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งเมืองพัทยาจะมีงานสงกรานต์วันไหล เริ่มในวันที่ 18 เม.ย.นี้,ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ว่าได้ทราบและเห็นคลิปดังกล่าวหรือยัง และได้ตรวจสอบว่าใช้ที่พัทยาหรือไม่ ทาง ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า เห็นคลิปแล้วและได้สั่งการให้จ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ จนทราบว่าเป็นที่ไหน รวมทั้งรู้ตัวหมดแล้วทั้งหญิงไทยและชายต่างชาติ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองพัทยา.
โหมโรงวันไหล โชว์กันสดๆ ในบาร์เบียร์ หญิงไทยถูกหนุ่มต่างชาติจับถ่างขาทำออรัลเซ็กส์ต่อหน้าธารกำนัล ทั้งชาวบ้านและคนที่เล่นสงกรานต์ ทนดูไม่ไหวต้องฉีดน้ำไล่ มีคนถ่ายคลิปเผยแพร่ เช็กแล้วเป็นที่พัทยา ตร.กำลังตามล่าหาตัว
null
ทำออรัล,ทำบัดสี,คลิปหญิงชาย,โชว์สด,บาร์เบียร์,พัทยา,สงกรานต์,สงกรานต์พัทยา,ข่าว,ไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ไทยรัฐออนไลน์,ออรัลเซ็กส์,อนาจาร,โจ๋งครึ่ม
https://www.thairath.co.th/content/606634
EXIM BANK เล็งขอยืดหนี้ SME ต่ออีก 1 ปี พบลูกค้า 40% ยังชำระหนี้ไม่ได้
เอ็กซิมแบงก์ เล็งขอยืดหนี้ SME ต่ออีก 1 ปี หลังพบลูกหนี้กว่า 40% ยังไม่สามารถชำระหนี้ตามปกติ พร้อมดันเอสเอ็มอีเกษตรจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ขยายส่งออกสินค้าไปตลาด CLMV และอาเซียน คาดเกิดมูลค่าส่งออกไม่ต่ำกว่า 500 ล้านนายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์ (EXIM BANK) กล่าวว่า ธนาคารเตรียมเสนอจะขอยืดพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอีก 1 ปี ในการประชุมคณะกรรมการสภาสถาบันการเงินของรัฐ จากเดิมมาตรการจะสิ้นสุดในเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ยังลากยาว ทำให้ลูกหนี้บางส่วนไม่สามารถกลับมาทำธุรกิจได้เต็มที่ จึงไม่สามารถที่จะผ่อนชำระหนี้ได้ตามปกติสำหรับลูกหนี้ที่เป็นเอสเอ็มอีของธนาคารมีจำนวนทั้งสิ้น 20000 ราย ในจำนวนนี้พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยกับธนาคาร 3000 ราย มูลหนี้ 20000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ 60% สามารถกลับไปชำระหนี้ได้ตามปกติส่วนอีก 40% ไม่สามารถกลับมาชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้ ดังนั้นธนาคารจึงเตรียมขอยืดระยะเวลาพักชำระหนี้ให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีในกลุ่มนี้ โดยอาจจะแบ่งออกเป็นหลายมาตรการเพื่อให้เอสเอ็มอีเลือกได้ว่าจะใช้เงื่อนไขแบบใด เช่น พักดอกเบี้ย จ่ายเงินต้น หรือจ่ายดอกเบี้ยแค่ 50% เป็นต้นนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และภาคีเครือข่ายพันธมิตรจากภาครัฐและภาคเอกชน เปิดกิจกรรม Global Business Matching 2020 : เปิดโลกการค้า เจรจาธุรกิจ พิชิตตลาดส่งออกทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ส่งออกเอสเอ็มอีไทยภาคการเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จับคู่ธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ เพื่อขยายการส่งออกไปตลาด CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม และประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ที่ยังมีกำลังซื้อและความต้องการสินค้าส่งออกจากไทยอีกมาก ท่ามกลางการปรับตัวของผู้บริโภค และภาคธุรกิจจากผลกระทบของโควิด-19นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการจ้างงานและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตรของไทย ขับเคลื่อนการเติบโตของภาคการส่งออกและการพัฒนาประเทศของไทยและภูมิภาคอาเซียนปีที่ผ่านมากิจกรรมฯ นี้ ประสบความสำเร็จในการจับคู่ธุรกิจให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคเกษตรส่งออกไปผู้ซื้อในต่างประเทศเป็นมูลค่าการส่งออกรวมกว่า 500 ล้านบาท ส่วนในปีนี้คาดจะสามารถสร้างยอดส่งออกไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา
EXIM BANK เล็งขอยืดหนี้ SME ต่ออีก 1 ปี หลังพบลูกหนี้กว่า 40% ยังไม่สามารถชำระหนี้ตามปกติ พร้อมดันเอสเอ็มอีเกษตรจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ขยายส่งออกสินค้าไปตลาด CLMV และอาเซียน
ข่าว,เศรษฐกิจ
SME,EXIM BANK,พักหนี้ SME,พิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา,ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย,เอ็กซิมแบงก์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1905931
ชาวแพร่ แห่เข้าคิวแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 1 ชม. หมดเกลี้ยง
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 59 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ภายหลังจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่แพร่ เปิดให้ประชาชนที่สนใจได้แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกที่เกี่ยวข้องกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้มีการผลิตออกมาในโอกาสต่างๆ ซึ่งกรมธนารักษ์ ได้จัดสรรให้หน่วยงานสังกัดกรมธนารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ นำมาให้ประชาชนแลกเพื่อเก็บไว้เป็นระลึกนั้น ภายหลังจาก ธนารักษ์พื้นที่แพร่ เปิดให้แลก ปรากฏว่าประชาชนให้ความสนใจมารอเข้าคิวแลก และหมดเกลี้ยงภายใน 1 ชั่วโมง,นายชัยวัฒน์ ศรีสมนึก ธนารักษ์พื้นที่แพร่ กล่าวว่า สำนักงานธนารักษ์พื้นที่แพร่ เปิดให้แลกเหรียญ 4 ประเภท ประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธ.ค. 2550 ชนิด ราคา 20 บาท จำหน่ายพร้อมตลับใส่เหรียญในราคา 30 บาท เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกรางวัลนักวิทยาศาสตร์ทางดินเพื่อมนุษยธรรม 16 เม.ย. 2555 ชนิดราคา 20 บาท จำหน่ายพร้อมตลับใส่เหรียญในราคา 30 บาท เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระบิดาแห่งฝนหลวง ครบ 50 ปี ฝนหลวงพระราชทาน 14 พ.ย. 2548 ชนิดราคา 20 บาท จำหน่ายพร้อมตลับใส่เหรียญในราคา 30 บาท และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเนื่องในโอกาสที่ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ปี 2549 ชนิดราคาหน้าเหรียญ 900 บาท จำหน่ายในราคาเหรียญละ 1,800 บาท.
สำนักงานธนารักษ์แพร่ เปิดให้แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเกี่ยวข้อง ในหลวง รัชกาลที่ 9 ประชาชนแห่เข้าคิวซื้อหมดเกลี้ยงใน 1 ชั่วโมง
ข่าว,ทั่วไทย
ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต,รัชกาลที่ 9 สวรรคต,สิ้นรัชกาลที่ 9,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช,พระราชกรณียกิจ,พระราชประวัติ,ประวัติในหลวง,รูปในหลวง,ภาพในหลวง,พระราชดำรัส,พระบรมฉายาลักษณ์,เหรียญกษาปณ์,เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก,เหรียญกษาปณ์ในหลวง
https://www.thairath.co.th/news/local/767191
คลอปป์ จัดหนัก ตะเพิดคนสำคัญหงส์แดง เผื่ออะไรในทีมจะดีขึ้น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 7 ต.ค. ว่า เยอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ปลด แอนดี เรนชอว์ หัวหน้ากายภาพบำบัด เป็นที่เรียบร้อย,เรนชอว์ ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้ากายภาพบำบัดให้กับหงส์แดงชุดใหญ่เมื่อ 1 ปีก่อนหลังจากที่ คริส มอร์แกน อดีตหัวหน้ากายภาพบำบัดของหงส์แดงได้แยกทางไป,อย่างไรก็ตามล่าสุดจากรายงานของ เดอะ เทเลกราฟท์ ระบุว่า เยอร์เกน คลอปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงทีมครั้งสำคัญโดยการอัญเชิญ เรนชอว์ ออกจากสโมสร,ถือเป็นเรื่องเซอไพรส์ไม่น้อยกับการเด้งฟ้าผ่าครั้งนี้เนื่องจาก เรนชอว์ ตั้งแต่ย้ายมาจากโบลตันในปี 2009 ก่อนจะขึ้นไปทำงานกับชุดใหญ่เมื่อ 15 เดือนที่แล้วและได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของวิทยาศาสตร์การกีฬาภายในทีม,เป็นที่คาดว่า เยอร์เกน คลอปป์ ไม่สบอารมรณ์กับเขา โดยมองว่าอาการบาดเจ็บของนักเตะในทีมมีมากเกินไปโดยเฉพาะ อดัม ลัลลานา ที่ต้องมาพักยาวจากอาการเจ็บที่ต้นขา รวมถึง ฟิลิปเป คูตินโญ ที่เจ็บหลังในช่วงต้นฤดูกาลและกว่าจะกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ก็ปาไปเกือบเดือน,ทั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะเข้ามาเป็นหัวหน้ากายภาพบำบัดของหงส์แดงคนต่อไป โดยมีศึกแดงเดือดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังงวดเข้ามาในวันที่ 14 ต.ค.นี้แล้ว
เดอะ เทเลกราฟท์ สื่อดังเกาะอังกฤษประโคมข่าวว่า เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล จัดการเด้งฟ้าผ่าใส่หนึ่งในสตาฟฟ์คนสำคัญของทีม
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
พรีเมียร์ลีก,ลิเวอร์พูล,หงส์แดง,เยอร์เกน คลอปป์,แอนดี เรนชอว์
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1092744
แชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ลูกเกือบตายเพราะเยลลี่ หมอชี้ชัดเป็นขนมยอดแย่ ไฉนไม่ควรให้กิน
เป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะคนที่มีลูกเล็กต้องระแวดระวังให้ดี เพราะหากปล่อยปละละเลย อาจทำให้เสียคนที่รักได้ ดังกรณีของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Ratcha Mook Hemmabut ได้โพสต์รูปพร้อมข้อความระบุว่า,จากกรณีดังกล่าว หลังเผยแพร่ในโลกโซเชียล ชาวเน็ตนอกจากจะเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจแล้ว หลายคนบอกว่าโชคดีที่ช่วยไว้ได้ทัน และจะระวังและดูแลลูกหลานมากขึ้น,น.ส.รัชชา เหมบุตร อายุ 23 ปี เจ้าของโพสต์ ย้อนเล่าเหตุการณ์ร้ายครั้งนี้กับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ลูกชายชื่อ หมูเต๊ะ อายุ 2 ขวบ 2 เดือน หยิบขนมมากัดกินแล้วลื่นลงคอ เธอตกใจมาก และพยายามเอาหัวลูกทิ่มลง แต่ขนมก็ยังไม่ออกจากปาก พอเห็นแววตาของลูกนิ่งๆ คุณตาเลยตัดสินใจล้วงคอจนขนมหลุดออกมา,หลังเกิดเหตุ ลูกชายนอนผวาอยู่ 2 คืน กินอะไรก็บอกเดี๋ยวติดคอตาย ตอนนี้เธอห้ามไม่ให้ลูกกินของที่กลมๆ ลื่นๆ หรือถ้าให้กินก็หั่นครึ่ง และให้เคี้ยวอาหารให้ละเอียด จะได้ไม่เกิดปัญหาอาหารติดคออีก , เธอกล่าว,ด้าน รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผอ.สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความคิดเห็นกับกรณีดังกล่าวว่า ขนมเยลลี่ไม่ควรให้กินด้วยซ้ำในเด็กเล็ก เพราะมีโอกาสสำลักสูง ยิ่งทำเป็นเม็ดกลมขนาดพอดีให้อุดกับหลอดลม ยิ่งทำให้สำลักได้ง่าย และยังมีแต่โทษ ไม่มีคุณค่าทางอาหารใดๆ เพราะเป็นการเอาน้ำตาลมาทำโดยใส่องค์ประกอบเข้าไปให้มีรสชาติ สี กลิ่นชวนกิน เป็นขนมยอดแย่, รศ.นพ.สุริยเดวระบุ.
ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะคนที่มีลูกเล็กต้องระแวดระวังให้ดี หากปล่อยปละละเลย อาจทำให้เสียคนที่รักได้
ข่าว
สุริยเดว ทรีปาตรี,ขนมติดคอลูก,เกือบตายเพราะกินขนม,เยลลี่ อันตราย,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/1057380
สลดวันแม่ พาแม่ไปไหว้ยาย จยย.ถูกเฉี่ยวล้ม หกล้อเหยียบกะโหลกลูกชายดับ
วันที่ 12 ส.ค. 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนกันบนถนนสายบายพาสเลี่ยงเมือง เยื้องทางเข้าออกโกดังคลังสินค้าบริษัทน้ำอัดลมยี่ห้อเอส จำกัด ใน ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี จึงประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนาเข้าตรวจสอบ,ในที่เกิดเหตุพบศพ นายจักรกฤษ ศรีสวัสดิ์ อายุ 16 ปี สภาพศพนอนหงาย กะโหลกศีรษะแตก โดยมีนางเพ็ญพร ศรีสวัสดิ์ อายุ 36 ปี ผู้เป็นแม่นั่งกอดศพร่ำไห้คร่ำครวญว่า แม่ไม่น่าชวนหนูมาเลย เป็นเพราะแม่ต้องการไปไหว้แม่ ทำให้หนูต้องมาเกิดเรื่อง,ทั้งนี้นางเพ็ญพร เปิดเผยว่า ตนกับลูกชายกำลังเดินทางไปไหว้แม่ของตนที่บ้านแม่ ใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี โดยลูกชายเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนตนนั่งซ้อนท้าย ได้ขี่รถออกจากบ้านมุ่งหน้ามาตามถนนสายบายพาสเลี่ยงเมือง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์อีกคันวิ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม วิ่งมาเลี้ยวยูเทิร์นในช่องทางเลี้ยวออกมากะทันหันจึงเฉี่ยวชนกันจนรถล้ม เป็นเวลาเดียวกับรถบรรทุก 6 ล้อของบริษัทน้ำอัดลมวิ่งออกมาจากโกดังคลังสินค้าวิ่งมาทับลำตัวและศีรษะของลูกชายพอดีทำให้เสียชีวิต,จากการตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 ซีซี.สีดำ เลขทะเบียน ขคต 675 กาญจนบุรี ซึ่งเป็นรถที่นายจักรกฤษ ผู้ตาย และ พบ รถ จักรยายต์ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็ก สีส้ม เลขทะเบียน 2 กข. 3616 ชลบุรี ล้มบนถนนอยู่ใกล้กัน ส่วน รถบรรทุก 6 ล้อ หลังเกิดเหตุคนขับได้จอดรถเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่ริมถนนห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 20 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยแพทย์ร่วมมูลนิธิฯ หลังทำการชันสูตรพลิกศพเป็นที่เรียบร้อยได้มอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพไปไว้ที้ รพ. เพื่อมอบให้ญาติรับไปจัดการตามประเพณีทางศาสนา ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ระบุว่าเกิดจากอะไรโดยจะทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกันต่อไป
แม่ร่ำไห้ ลูกชายขี่จักรยานยนต์พาแม่จะไปไหว้ยาย เกิดเฉี่ยวกับรถจักรยานยนต์อีกคันจนรถล้ม ถูกรถ 6 ล้อบรรทุกน้ำอัดลม ทับดับกะโหลกแตก
ข่าว,ทั่วไทย
อุบัติเหตุ,วันแม่,ลูกตาย,รถ6ล้อ,นครนายก,ข่าวเหตุ
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1035974
นิวซีแลนด์ ทดลองปลูกข้าวในทะเลได้สำเร็จ
วงการวิทยาศาสตร์โลกไปไกลถึงขั้นเข้าไปแก้ไขยีน (Gene Editing) ในพืชผักให้ทนต่อโรค แมลง สภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก รวมทั้งรองรับปริมาณอาหารที่มีแนวโน้มลดลง สวนทางกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทุกวันขณะที่บ้านเรายังล้าหลังในเรื่องเหล่านี้ เพราะลำพังแค่พืชจีเอ็มโอ ยังกลายเป็นของแสลงไปตามความคิดมโนของเอ็นจีโอไม่ใช่นักวิจัยเราไม่เก่ง แต่เพราะงานวิจัยเดิมที่เคยมีเกี่ยวกับพืชจีเอ็มโอ ที่จะนำมาต่อยอดสู่การแก้ไขยีนกลายเป็นของต้องห้าม ทุกอย่างเลยสะดุดไปหมดล่าสุด ปลูกข้าวได้เหมือนกอผักตบลอยน้ำโดยขณะนี้สามารถเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในห้องปฏิบัติการพันธุศาสตร์พืชได้แล้วโดยนักวิจัย Agrisea ใช้ยีนในข้าวซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการขับไล่เกลือ การหุ้มเซลล์ และการป้องกันสารพันธุกรรม และเพิ่มการแสดงออกของยีนเหล่านี้ เมื่อยีนเหล่านี้มารวมกันจะทำหน้าที่ในลักษณะเครือข่ายธรรมชาติ ช่วยให้ข้าวเจริญเติบโตได้เหมือนข้าวปกติ ขณะที่ฟาร์มข้าวกลางทะเลจะทำหน้าที่เป็นตัวกรอง ดูดซับสิ่งต่างๆ ให้กับทะเลบริษัทวางแผนที่จะทำฟาร์มนำร่องขนาดเล็กแห่งแรกในทะเลภายในสิ้นปีนี้ และทำฟาร์มนำร่องขนาดใหญ่หลายแห่งในมหาสมุทร ปลายปี 2564 ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับประเทศผู้ผลิตข้าวและผู้บริโภครายใหญ่อย่าง ไนจีเรีย จีน เวียดนาม บังกลาเทศ นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และชิลี เพื่อสร้างฟาร์มมหาสมุทรไม่แปลกใจเลยที่ไทยเราแม้จะผลิตและส่งออกข้าวอันดับต้นๆของโลก แต่กลับไม่มีชื่อติดโผกับเขา.
Agrisea บริษัททางการเกษตร นิวซีแลนด์ ประสบความสำเร็จกับการทดลองแก้ไขยีนในข้าว ให้ปลูกในมหาสมุทรได้ ทั้งทนเค็ม ไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ย น้ำจืด หรือแม้กระทั่งดิน
ข่าว,ต่างประเทศ
ปลูกข้าวในทะเล,ทะเล,นิวซีแลนด์,พืชจีเอ็มโอ,ยีนในข้าว,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1801189
ปชป.ขอรัฐตรวจสอบข้อเรียกร้องกลุ่มบีอาร์เอ็นให้รอบคอบ หวั่นกระทบความมั่นคง
เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดในจ.นราธิวาส ตรวจสอบป้อมยามภายในโรงเรียนบ้านบูเกะบากง หมู่ 2 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ หลังเมื่อคืนนี้มีกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามยิงใส่ ทำให้นายอันรัน อูบง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และนายอาสมาน เจ๊ะเห ครูผู้ช่วยได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์แล้วขณะที่บรรยากาศในย่านการค้ากลางเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ยังคงวางกำลังหน่วยงานด้านความมั่นคง รักษาความปลอดภัยในหลายจุดอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะวันนี้ (29เม.ย.56) มีการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลและผู้แทนบีอาร์เอ็น ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งอาจจะมีการลอบก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพ จึงมีการเพิ่มกำลังและมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มงวดขณะที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตข้อเรียกร้อง 5 ข้อของกลุ่ม บีอาร์เอ็น อาจกระทบต่อแนวทางการแก้ปัญหาสันติภาพของประเทศ โดยขอให้รัฐบาลพิจารณาประเด็นในแต่ละข้อด้วยความรอบคอบ และไม่ใช้วิธีการตลาดแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบข้อเรียกร้องของกลุ่มบีอาร์เอ็นให้รอบคอบ ขณะที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้อาวุธสงครามยิงใส่ป้อมยามโรงเรียนบ้านบูเกะบากง ในอ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้ (28เม.ย.56) ทำให้ครูผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านได้รับบาดเจ็บ
การเมือง
คุยสันติภาพ,บีอาร์เอ็น,ปชป.
https://news.thaipbs.or.th/content/165804
2 ชายซิ่ง จยย.ชนท้ายเก๋งที่บางปะกง 10 ล้อตามหลังเบรกไม่ทัน ทับดับสยอง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 ส.ค. 59 ร.ต.อ.สมศักดิ์ ปวงสุข รอง สว.สส.สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา รุดตรวจสอบอุบัติเหตุรถชน บริเวณทางเบี่ยงช่องทางด่วน ถนนบางนา-ตราด กม.48 ช่องคู่ขนานขาเข้าชลบุรี พื้นที่หมู่ 13 ต.บางปะกง พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อ นายสนิท จุ้ยเกิด อายุ 68 ปี และ นายนรินทร์ จันทร์ทอง อายุ 31 ปี ถูกรถทับจนกระดูกหักทั้งตัว ใกล้กันพบรถยนต์ฮอนด้า บีอาร์วี สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ข 4503 ชลบุรี ของ น.ส.ณัฐกาญจน์ ตันย่องเฮง อายุ 55 ปี จอดอยู่เลนขวา ท้ายรถด้านซ้ายถูกชนพังเสียหาย ส่วนรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีแดง-ขาว ทะเบียน 1กส 1493 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตาย ติดอยู่ใต้ท้องรถบรรทุกสิบล้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 76-3073 กรุงเทพมหานคร ที่มี นายสุวิท แซ่เจีย อายุ 48 ปี เป็นคนขับ ที่จอดอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร,จากการสอบสวน นายสุวิท ให้การว่า รถจักรยานยนต์ขี่มาด้วยความเร็ว ก่อนจะพุ่งชนท้ายรถยนต์ของ น.ส.ญัฐกาญจน์ ที่จอดรอเข้าทางเบี่ยงเต็มแรง จากนั้นกระเด็นมาที่รถสิบล้อของตนที่ขับตามมา ทำให้เบรกไม่ทันจึงชนแล้วทับร่างของทั้งคู่เสียชีวิต.
2 ชายต่างวัย ซิ่งรถจักรยานยนต์พุ่งชนท้ายรถเก๋งจอดรอออกทางเบี่ยง ถนนบางนา-ตราด ต.บางปะกง ขาเข้าชลบุรี ก่อนกระเด็นล้ม รถบรรทุก 10 ล้อ ขับตามมาเบรกไม่ทัน ทับกระดูกแหลก 2 ศพ
null
รถชน,สิบล้อทับ,บางปะกง,ฉะเชิงเทรา,ชนท้าย,สิบล้อทับ จยย.,อุบัติเหตุ,ขับรถเร็ว
https://www.thairath.co.th/content/705510
สึกพระหนุ่ม ต้องคดีข่มขืนฯ ก่อเหตุตอนอายุ17 หนีคดี17 ปี
วันที่ 19 ก.ค. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล ผกก.1 บก.ปคม. และ พ.ต.ต.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สว.กก.1 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม นายสหพล หรือ นายกฤษดา หวังชนะ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางที่ 43/2547 ลง 19 ม.ค.2547 ในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จับได้ที่ภายในวัดท่าพระยาจักร (ช่องลม) ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี,ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือน เม.ย. ปี 2546 ขณะนั้นผู้ต้องหามีอายุ 17 ปี ได้ไปเที่ยวผับกับกลุ่มเพื่อน ย่านสุขาภิบาล 1 พบกลุ่มหญิงสาววัยรุ่นที่มาเที่ยวในร้าน หนึ่งในนั้นมี น.ส.ต้อย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ร่วมอยู่ด้วย ก่อนจะดื่มสุราจนมึนเมาครองสติไม่ได้ ผู้ต้องหาอาสาขับรถไปส่งที่บ้านย่านลำผักชี เขตหนองจอก แต่ระหว่างทางกลับใช้กำลังข่มขืนกระทำชำเราภายในรถ แล้วพา น.ส.ต้อย ไปส่งที่หน้าบ้านแล้วหลบหนีไป,ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความดำเนินคดี จนศาลออกหมายจับไว้ กระทั่งเวลาผ่านไป 16 ปี ชุดสืบสวน กก.1 ปคม. สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้เปลี่ยนชื่อหลบหนีไปบวชเป็นพระอยู่ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จึงไปจับกุมตัวเอาไว้ได้ จากการสอบสวนให้การปฏิเสธ นำตัวส่ง สน.ลำผักชี ดำเนินคดีต่อไป.
จับสึกพระหนุ่มวัย 34 หนีคดีข่มขืน โดนออกหมายจับตั้งแต่อายุ 17 ปี เปลี่ยนชื่อหนีไปบวช แต่ไม่รอด กองปราบบุกรวบคาวัดในอีก 17 ปีต่อมา
ข่าว,ทั่วไทย
จับสึก,จับพระ,พระหนีคดีข่มขืน,หนีคดี17ปี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1618410
มองต่างมุมหนุน กาสิโน โสภณ จี้ทลายขุมทรัพย์แก๊งอิทธิพล
เผยคดีฆ่ากันตายในประเทศมีบ่อน น้อยกว่าไทยและอินโดที่ไม่มีบ่อน,นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวที่อยากจะให้มีการเปิดสถานที่เล่นการพนันแบบถูกต้องตามกฎหมาย (กาสิโน) ในประเทศไทย ถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งดูได้จากประเทศทางตะวันตก อาทิ เยอรมนี ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น โดยเฉพาะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ประชาชนมีจริยธรรมสูง มีวินัยดีเยี่ยม มีคุณภาพชีวิตและการศึกษาชั้นยอด ยังเปิดกว้างสำหรับการเปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย แต่สำหรับในไทย แม้จะไม่มีกาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เป็นที่ทราบทั่วกันว่า มีบ่อนอยู่ทั่วไป,หลักการและเหตุผลสำหรับการตั้งกาสิโนในไทยเป็นการทลายขุมทรัพย์ของผู้มีอิทธิพล ที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายที่จะนำเงินไปใช้เพื่อการแผ่อิทธิพลอย่างต่อเนื่อง เช่น การซื้อเสียง และยังเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศชาติ,ทั้งนี้ คำถามที่เป็นปัญหาสำคัญคือ การเปิดกาสิโนจะยิ่งส่งเสริมให้มีการเล่นการพนันเพิ่มขึ้นหรือไม่ ในข้อนี้จะเห็นได้ว่าประเทศอื่นๆ ที่มีกาสิโนแบบถูกกฎหมาย ไม่ได้มีอัตราอาชญากรรมที่สูงกว่าประเทศไทย และควรเปิดโอกาสให้ประชาชนในท้องที่ได้เรียนรู้ในการรู้จักป้องกันตัวเองจากการเล่นการพนัน หากดูให้ดีจะพบว่า ผู้ที่เล่นการพนันส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยว นักแสวงโชค และกลุ่มเซียนพนันอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ใช่ประชาชนทั่วไป,สำหรับสถานที่ตั้งกาสิโนนั้น อาจเป็นในที่ทุรกันดารที่ใดที่หนึ่ง เพราะพฤติกรรมของนักเล่นการพนันไม่มีข้อจำกัดต่อทำเลที่ตั้ง ซึ่งสังเกตได้ว่าประเทศไทยมีกาสิโนอยู่ตามริมชายแดน ก็ยังมีนักพนันคนไทยเดินทางไปเล่นเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรวางแผนการพัฒนาเมืองที่จะตั้งเป็นกาสิโนให้ดี,ผมเคยไปประเมินค่าที่ดินที่จะทำกาสิโนโดยนักลงทุนมาเลเซียที่ชายแดนลาวพบว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวมีราคาคิดเป็นเงินไทยราวไร่ละ 20 ล้านบาท ขณะที่ที่ดินฝั่งไทยที่ใช้เพื่อการเกษตรหรือทำธุรกิจทั่วไป มีราคาไร่ละไม่ถึงล้าน นี่เป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงของศักยภาพของที่ดินที่ใช้ทำธุรกิจที่ได้กำไรงาม กับที่ใช้กันตามปกติ,สำหรับการเสียภาษีกาสิโนนั้น สิงคโปร์กำหนดให้กาสิโนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และเสียภาษีของกิจการอีก 17% มาเลเซียเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายประมาณ 30% ส่วนที่มาเก๊าเก็บหนักถึง 35% และยังหักเพื่อสังคมอีก 2-3% รวมแล้วเกือบ 40% ของรายได้สุทธิของกาสิโน สำหรับที่สหรัฐอเมริกา เสียภาษี 7.5-32% ของรายได้สุทธิ ทำรายได้เข้าประเทศเป็นกอบเป็นกำ อย่างในลาสเวกัส รายได้กาสิโนอยู่ที่ 155,010 ล้านบาท,ส่วนปัญหาอาชญากรรมที่หวั่นเกรงกันนั้น กรณีคดีฆ่ากันตาย อัตราของฮ่องกงคือ 0.2, สิงคโปร์ 0.3, มาเก๊า 0.7, มาเลเซีย 2.3 ส่วนไทยที่ไม่มีกาสิโน กลับมีอัตราสูงถึง 4.8 อินโดนีเซีย ซึ่งไม่มีกาสิโนเช่นกัน สูงถึง 8.1.
มองต่างมุม บ่อนกาสิโน ถูกกฎหมาย โสภณ ระบุเป็นการทลายขุมทรัพย์ผู้มีอิทธิพลที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย และใช้เงินแผ่อิทธิพลของตน ช่วยปราบทุจริต ย้ำรัฐต้องจัดการ กำหนดพื้นที่ให้ดี เก็บภาษีแพงๆ นำเงินเข้าประเทศมหาศาล
null
ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,โสภณ พรโชคชัย,มองต่างมุม,บ่อนกาสิโน,กาสิโนถูกกฎหมาย,ทลายขุมทรัพย์แก๊งอิทธิพล,ธุรกิจผิดกฎหมาย,ปราบทุจริต,ข่าวไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/507095
เปิดรายงานผลตรวจ DNA จระเข้ เลพัง มหิดลระบุชัดพันธุ์ผสม
วันนี้ (4 ต.ค.2560) ไทยพีบีเอสออนไลน์ รายงาน ที่จับได้จากธรรมชาติในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต ในวันที่ 8 ก.ย.2560ล่าสุด คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยืนยันผลตรวจจระเข้ เลพัง พบเป็นจระเข้เพศผู้ ความยาว 2.80 ม.โตเต็มวัย สภาพทั่วไปสมบูรณ์มีบาดแผลภายนอกเล็กน้อย เลือดและซีรั่มอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่พบปรสิตผลตรวจพันธุกรรมพบว่าเป็นจระเข้ลูกผสมระหว่างจระเข้สยาม หรือ จระเข้น้ำจืด (C.siamenis) x (C.porosus) ไม่พบการทำเครื่องหมายภายนอกและฉีดไมโครชิพ พฤติกรรมไม่ก้าวร้าวนัก มีความเครียดและกำลังปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้มีข้อเสนอแนะในการดำเนินการ 4 ข้อ ดังนี้1.ผลการยืนยันพันธุกรรมพบว่า เป็นจระเข้ลูกผสมระหว่างจระเข้น้ำจืดและน้ำเค็ม ประกอบกับประวัติการพบเห็นในธรรมชาติของพื้นที่และประวัติการเผยแพร่กระจายที่ไม่มีการพบเห็นจระเข้น้ำเค็มมาก่อนจึงเป็นไปได้ว่า จระเข้ตัวนี้เป็นจระเข้ที่เกิดจากฟาร์มและเข้าสู่แหล่งธรรมชาติโดยไม่ทราบสาเหตุและแหล่งที่มา2.จระเข้ลูกผสมไม่มีคุณค่าในเชิงอนุรักษ์ ไม่สามารถปล่อยสู่ธรรมชาติหรือนำไปใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมจระเข้พันธุ์แท้ได้อีกต่อไป3.ทางออกสำหรับจระเข้ตัวนี้คือถือเป็นโอกาสในการฟื้นฟูจระเข้น้ำเค็มโดยเป็นตัวกระตุ้นความตระหนักของการมีจระเข้อีกครั้ง ในแหล่งควบคุมที่เป็นแหล่งเดิมเช่น พรุไม้ขาว ด้วยการทำพื้นที่ให้จระเข้ลูกผสมตัวนี้ให้เป็นสัดส่วนพร้อมกับนำจระเข้น้ำเค็มพันธุ์แท้ขนาดและจำนวนที่เหมาะสมเข้ามาเลี้ยงบริเวณควบคุมอันเป็นธรรมชาติ โดยจัดตั้งเป็นแหล่งเรียนรู้เพาะอนุรักษ์พันธุ์จระเข้น้ำเค็มของ จ.ภูเก็ต ต่อไป ซึ่งจะได้ผลทั้งการเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ การอนุรักษ์สัตว์ป่าที่สูญพันธุ์ไปแล้วให้กลับมาคงอยู่ต่อไปด้าน นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit โดยระบุว่าผลตรวจ DNA จระเข้เลพัง ภูเก็ต ออกมาเป็นลูกผสม น้ำจืด x น้ำเค็ม แสดงว่าน่าจะมาจากฟาร์มเลี้ยงมากกว่าเกิดในธรรมชาติ เข้าใจว่าผลตรวจทำโดยกระบวนการที่ถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ผมจึงไม่อาจเรียกร้องให้ปล่อยสู่พื้นที่ธรรมชาติตามเดิมได้ตามที่เคยบอกไว้ครับต้องขออภัยทุกๆท่านด้วยที่ผมเรียกร้องโดยขาดหลักฐานเชิงลึกที่ชัดเจนทางวิทยาศาสตร์และขอบคุณ จนท. และผู้เชี่ยวชาญทุกท่านที่ตั้งใจทำความจริงให้กระจ่างตามขบวนการวิทยาศาสตร์ แต่อย่างไร ผมก็ขอให้เราได้ดูแลเขาได้มีชีวิตที่ดีตามสมควรนะครับ
คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.มหิดล ยืนยันผลตรวจดีเอ็นเอ จระเข้เลพังเป็นจระเข้ลูกผสมระหว่างจระเข้น้ำจืดและน้ำเค็ม เกิดในฟาร์มหลุดเข้าสู่ธรรมชาติโดยไม่ทราบสาเหตุ
สิ่งแวดล้อม
จระเข้,เลพัง,ภูเก็ต,คณะสัตวแพทยศาสตร์,มหาวิทยาลัยมหิดล,ข่าวไทยพีบีเอส,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/266661
เกลือ 5 ชนิดที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
เกลือ,เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารมาช้านาน เรียกว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญที่มีส่วนชี้ชะตาของอาหารจานนั้นๆเลยก็ว่าได้ ,เกลือ,มีหลากหลายชนิด แต่ใช่ว่าทุกชนิดจะมีประโยชน์เหมือนกันหมด ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้จัดกลุ่ม,เกลือ,ที่มีคุณค่า 5 ชนิดที่สามารถนำไปปรุงอาหารได้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย,เกลือ,ที่เหมาะจะนำไปใช้ได้แก่ ,เกลือเสริมไอโอดีน, เป็น,เกลือยอดนิยม,มีลักษณะเป็นเม็ดละลายได้ง่ายในอาหาร ที่สำคัญการขาด,ไอโอดีน,ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับต่อม,ไทรอยด์, และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาสมองในเด็ก ซึ่งผู้ใหญ่อายุ 18 ปีควรบริโภค 150 ไมโครกรัมต่อวัน อีกชนิดคือ,เกลือโคเชอร์, เป็น,เกลือ,ที่ไม่มีส่วนประกอบของสารอื่นๆ ละลายได้เร็ว รสชาติไม่ได้แตกต่างจาก,เกลือ,ปกติ ช่วยป้องกันความดันโลหิตและโรคหัวใจได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาแนะนำว่าควรบริโภคน้อยกว่า 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วน,เกลือสมุทร,ที่ได้จากการระเหยของน้ำทะเล อาจจะละลายได้ยากแต่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ แมกนีเซียม แคลเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี และไอโอดีน ควรใส่ในอาหารก่อนและหลังการปรุง หรือใส่ขวดน้ำ ปริมาณที่บริโภคได้คือ 1 ช้อนชาต่อวัน,สำหรับผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตนั้นเหมาะกับ,เกลือโซเดียมต่ำ, มีส่วนประกอบสำคัญคือโพแทสเซียม และ,เกลือ,ชนิดสุดท้ายคือ,เกลือสีชมพู,หรือ,เกลือหินหิมาลายัน, เป็น,เกลือ,ธรรมชาติจากเทือกเขาหิมาลัย มีปริมาณแร่ธาตุสูง ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ และช่วยในการไหลเวียนโลหิต พร้อมทั้งสร้างความสมดุลของค่าความเป็นกรด-ด่างภายในเซลล์ นอกจากจะใช้กินแล้วยังสามารถใช้อาบน้ำล้างพิษได้ด้วย อย่างไรก็ตาม การบริโภค,เกลือ,ควรใช้อย่างเหมาะสม เพราะ,เกลือ,นั้นมีประโยชน์ก็จริง แต่หากใช้มากเกินไปก็ให้โทษได้เช่นกัน
มนุษย์ใช้เกลือเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารมาช้านาน เรียกว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญที่มีส่วนชี้ชะตาของอาหารจานนั้นๆเลยก็ว่าได้ เกลือมีหลากหลายชนิด แต่ใช่ว่าทุกชนิดจะมีประโยชน์เหมือนกันหมด ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้จัดกลุ่มเกลือ
ข่าว,ทั่วไทย
เกลือ,Salt,เกลือเสริมไอโอดีน,ประโยชน์ของเกลือ,ชื่นชีวิต,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/local/963188
ป.ป.ช.เล็งอบรม จนท. ใช้ปืน-ศิลปะป้องกันตัว
ป.ป.ช.มอบประกาศนียบัตร อาสาสมัครพิทักษ์ ป.ป.ช. หลังทำหน้าที่รักษาสำนักงานตั้งแต่เหตุรุนแรงทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา เล็งฝึกยิงปืน-ศิลปะป้องกันตัวทุกเดือน30 ก.ค.2557 รายงานว่า นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งติ (ป.ป.ช.) กล่าวในโอกาสเป็นประธานมอบประกาศนียบัตรประกาศเกียรติคุณและโล่เกียรติยศ ให้แก่อาสาสมัครพิทักษ์ ป.ป.ช. จำนวน 70 คน ว่า อาสาสมัครพิทักษ์ ป.ป.ช. จัดตั้งขึ้นตั้งแต่มีเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองที่มีการปิดล้อมข่มขู่กรรมการ ป.ป.ช. และมีการใช้อาวุธสงครามยิงใส่สำนักงาน ป.ป.ช.อาสาสมัครพิทักษ์ ป.ป.ช. ตั้งขึ้นเพื่อเป็นมาตรการป้องกันตัวเองของสำนักงาน ป.ป.ช. และเพื่อทำงานประสานกับทหาร-ตำรวจ และดูแลความเรียบร้อยในสำนักงาน ป.ป.ช. หากมีเหตุการณ์ที่จะต้องอพยพเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครพิทักษ์ ป.ป.ช.จะเข้ามาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ถือว่าอาสาสมัครเหล่านี้มีความเสียสละ อดทน เพราะต้องเสียสละเวลาส่วนตัว นายปานเทพ กล่าวนายปานเทพ กล่าวว่า จากนี้ไปจะมีการฝึกอบรมทุกเดือนต่อเนื่อง โดยจะฝึกยิงปืน ฝึกศิลปะป้องกันตัว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะต้องเดินทางไปสืบสวนคดีในต่างจังหวัดค่อนข้างบ่อย จึงต้องควรฝึกการป้องกันตัว อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายังไม่มีการข่มขู่คุกคามเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.แต่อย่างใด เป็นเพียงมาตรการป้องกันของสำนักงานเท่านั้น
ป.ป.ช.มอบประกาศนียบัตร อาสาสมัครพิทักษ์ ป.ป.ช. หลังทำหน้าที่รักษาสำนักงานตั้งแต่เหตุรุนแรงทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา เล็งฝึกยิงปืน-ศิลปะป้องกันตัวทุกเดือน 30 ก.ค.2557 สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายปานเทพ
การเมือง
ป.ป.ช.,ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ,ป้องกันตัว,อาสาสมัครพิทักษ์ ป.ป.ช.
https://prachatai.com/journal/2014/07/54835
จนท.แขวงการทางน่าน เร่งซ่อมสะพานลำห้วยสมุนที่ขาด หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่
เจ้าหน้าที่ช่างแขวงการทางน่าน เร่งซ่อมเส้นทางเบี่ยงข้างสะพานข้ามลำห้วยสมุน ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง บริเวณถนนสายน่าน-พะเยา ในเขตต.สะเนียน อ.เมืองน่าน หลังน้ำในลำห้วย กัดเซาะทางเบี่ยงขาดเป็นระยะทางกว่า 10 เมตร สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ผู้ที่ต้องการเดินทางระหว่างจังหวัดน่าน และ พะเยา ต้องหันไปใช้เส้นทางรองระหว่างตำบลแทนส่วนที่จ.พิษณุโลกผู้ขับขี่รถยนต์ บริเวณสี่แยกอินโดจีน ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก ต้องเปิดไฟหน้ารถ และ เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากมีหมอกหนาจัด จนทำให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นลดลงเหลือเพียงไม่เกิน 100 เมตร นอกจากนี้หมอกที่หนาจัด ยังทำให้เสื้อผ้าเปียกชื้นเช่นกัน เช่นเดียวกับสภาพอากาศในจ.เชียงรายหลังมีฝนตกในบางพื้นที่ ส่งผลให้อุณหภูมิในพื้นราบ ลดต่ำลงจากวานนี้อีก 3 องศาเซลเซียส เหลือ 15 องศาเซลเซียสส่วนตามยอดดอยวัดได้ 7-10 องศาเซลเซียส เช่นที่ ดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย สภาพอากาศหนาวจัด ทำให้ชาวบ้านยังต้องสวนใส่เสื้อกันหนาว และ ผิงไฟคลายหนาวเกือบตลอดทั้งวัน
สภาพอากาศที่แปรปรวนในภาคเหนือ ทำให้เป็นอุปสรรคในการสัญจร เนื่องจากหลายพื้นที่มีหมอกหนาจัด จนทำให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นลดลงเหลือไม่เกิน 100 เมตร ส่วนที่จ.น่านฝนที่ตกหนัก ทำให้เส้นทางถูกน้ำเซาะถนนจนขาด
ภูมิภาค
จ.น่าน,ฝนตกหนัก,สะพานขาด,แขวงการทางน่าน
https://news.thaipbs.or.th/content/143924
บานปลาย เกิดกระแส บอยคอต เลิกเที่ยวบาหลี ต้านอินโดฯจะประหาร 2 นักโทษค้ายา (ชมคลิป)
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรณีรัฐบาลประธานาธิบดีโจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซียยืนยัน ไม่ผ่อนปรนโทษประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติด ชายออสเตรเลีย 2 คน คือนายแอนดรูว์ ชาน วัย 31 ปี และนายมิวรัน ซูคูมารัน วัย 33 ปี ตามคำร้องขอของนายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์ และชาวออสเตรเลียที่พยายามเรียกร้องให้ทางการอินโดนีเซียให้ความเมตตา ไว้ชีวิตแก่ 2 นักโทษชาวออสเตรเลียด้วยนั้น,ปรากฏว่าเรื่องนี้ กำลังก่อให้เกิดกระแสในโลกโซเชียล เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ร่วมกัน บอยคอต เลิกมาเที่ยวเกาะบาหลี ซึ่งเป็นเกาะท่องเที่ยวชื่อดังของอินโดนีเซีย เพื่อต่อต้านการประหารชีวิตของ 2 นักโทษชาวออสเตรเลีย,สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ได้เกิดกระแสในโลก โซเชียล มีเดีย รณรงค์เรียกร้องให้ชาวออสเตรเลีย ยกเลิกมาเที่ยวเกาะบาหลี ด้วยการติดแฮชแท็ก คำว่า # BoycottBali พร้อมกับระบุข้อความในทวิตเตอร์ว่า มือวางระเบิดที่เกาะบาหลี ยังได้รับความเมตตา แต่ชายออสเตรเลีย 2 คน ต้องได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิตเชียวหรือ? ขณะที่มีชาวอินโดนีเซียบางคนได้ตอบโต้ว่า ถึงชาวออสเตรเลียที่รัก คุณคิดว่า พวกเราชอบการท่องเที่ยวมากกว่ายาเสพติดที่ฆ่าอนาคตของลูกหลานพวกเราหรืออย่างไร?,ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา นางเร็ตโน มาร์ซูดี รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซียได้กล่าวระหว่างแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการตัดสินใจของประธานาธิบดีวิโดโดที่ปฏิเสธจะให้ความเมตตาลดหย่อนโทษประหารชีวิตนักโทษต่างชาติในคดีค้ายาเสพติด,ขณะที่ วันเดียวกัน ทางการอินโดนีเซียได้มีการเลื่อนการย้ายตัวนักโทษประหารในคดียาเสพติด 8 คน ในจำนวนนี้เป็นนักโทษชาวต่างชาติ 7 คน ไปคุมขังที่เรือนจำบนเกาะคัมบันกัน นอกชายฝั่งเกาะชวา เพื่อรอการประหารด้วยการถูกยิงเป้า โดยระบุว่าเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิคบางประการ ขณะที่ทางการอินโดนีเซียได้อนุญาตให้ 2 นักโทษชาวออสเตรเลีย มีเวลาพบหน้าสมาชิกครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ,ทั้งนี้ นายแอนดรูว์ ชาน และซูคูมารัน เป็นสมาชิกของแก๊งค้ายาเสพติดที่ชื่อ บาหลี ถูกจับได้ที่สนามบินเดนปาซาร์ บนเกาะบาหลี ตั้งแต่ปี 2548 ด้วยข้อหาลักลอบขนยาเสพติดกว่า 8 กิโลกรัม และเป็นนักโทษ 2 ใน 8 คนที่โดนศาลอินโดนีเซียตัดสินประหารชีวิต,ขอขอบคุณข้อมูลจาก ,http://www.bbc.com/news/blogs-trending-31504579
เกิดกระแสในโลกโซเชียล เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวชาวออสซี่ พร้อมใจ บอยคอต เลิกมาเที่ยวเกาะบาหลี หวังต่อต้าน รบ.อินโดฯไม่ยอมให้ความเมตตา ยืนกรานจะประหารชีวิต 2 นักโทษหนุ่มออสเตรเลีย ค้ายาเสพติด
null
รัฐบาลออสเตรเลีย,นายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์,กระแสโซเชียล,โลกโซเชียล,เลิกเยือนบาหลี,# BoycottBali,ต่อต้าน,ประหารชีวิต,นักโทษค้ายาเสพติด,อินโดนีเซีย,เกาะบาหลี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ,แฮชแท็ก
https://www.thairath.co.th/content/482015
รองโฆษก ปชป. เชื่อนิติราษฎร์มีเป้าหมายที่ไกลกว่าแก้ ม.112
แต่กลับมีชีวิตอย่างปกติเมื่อเห็นผู้นำบางคนเอาสัมปทานไปขายให้ต่างชาติ แทรกแซงองค์กรอิสระ หรือฆ่าหมู่ที่กรือเซะ-ตากใบ วอนอย่าทำร้ายหัวใจคนไทยอีกเลย เว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์ รายงานวานนี้ (16 ม.ค.) ว่า นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มนิติราษฎร์เปิดตัวคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) เพื่อผลักดันการแก้ไขประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 รวมทั้งการรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อแก้ไขกฏหมายดังกล่าวว่า ขอให้สาธาณะชนจับตาเจตนาที่แท้จริงของกลุ่มนิติราษฎร์ ว่าต้องการแก้ไขมาตรา 112 หรือมีเป้าหมายที่ไกลไปกว่านั้น นายอรรถพรกล่าวว่า การรณรงค์ของกลุ่มนิติราษฎร์อาจมองได้ว่าเป็นเสรีภาพในเชิงวิชาการหรือการเคลื่อนในมุมของสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่ในภาวะที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยวิกฤติการรอบด้าน เช่น ปัญหาความขัดแย้งจากกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเยียวยาคนเสื้อแดง ความตกต่ำทางเศรษฐกิจจากมหาอุทกภัย และราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำลงทุกชนิด ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศไทย ก้าวสู่วิกฤติการที่รุนแรงอย่างยิ่งในปี 2555 การเร่งรีบเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ก็จะยิ่งทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งร้าวลึกมากยิ่งขึ้นและอาจรุนแรงกว่าทุกประเด็นความขัดแย้งในขณะนี้ ซึ่งเป็นการซ้ำเติมประเทศไทย สาธารณชนจึงควรตั้งคำถามว่าเป้าหมายของกลุ่มนิติราษฎรที่แท้จริงคืออะไร กลุ่มนิติราษฎร์ก็รู้ว่าการแก้ไขมาตรา 112 เป็นเรื่องยากที่จะทำสำเร็จเพราะสังคมไทยยอมรับไม่ได้และ พวกเขาก็รู้ต่อไปด้วยว่า การผลักดันในเรื่องนี้ต่อไปก็จะยิ่งทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และความขัด แย้งในสังคมทุกระดับลุกลามบานปลายออกไปจึงอาจกลายเป็นภาวะความรุนแรง แต่กลุ่มนิติราษฎร์ก็ยังเดินหน้าต่อไปไม่ยอมหยุด ผมจึงมองเจตนาของคนกลุ่มนี้ได้เพียงประการเดียว คือต้องการให้สถาบันหลักของบ้านเมืองเกิดความสั่นคลอน และเมื่อประสานแผนกับคนกลุ่มอื่นๆ ที่มีเป้าหมายเดียวกันสถานการณ์ก็อาจนำไป สู่วิกฤติการณ์รุนแรงถึงขั้นเปลี่ยนแปลงระบบของประเทศ และนั่นผมเชื่อว่าคือเป้าหมายที่แท้จริง นายอรรถพรกล่าว รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อไปว่าในขณะที่คนกลุ่มนี้ทนมีชีวิตอยู่ไม่ได้ที่ถูกกฏหมายห้ามมิให้วิพากษ์วิจารณ์ ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายสถาบันเบื้องสูง แต่กลับมีชีวิตอย่างปกติเมื่อเห็นผู้นำบางคน เอาสัมปทานของชาติไปขายให้ต่างชาติ แทรกแซงองค์กรอิสระ หรือฆ่าหมู่ที่กรือเซะ-ตากใบ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์บางคนยังเข้าร่วมเคลื่อนไหวและมีผลประโยชน์ร่วมในขบวนการของผู้นำคนนั้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ผมจึงขอเรียกร้องให้อาจารย์เหล่านี้ พอเถอะครับ อย่าทำร้ายหัวใจของคนไทยและประเทศไทยมากไปกว่านี้เลย นายอรรถพรกล่าว
ชี้บ้านเมืองวิกฤติรอบด้าน การเคลื่อนไหวของนิติราษฎร์เป็นการซ้ำเติมประเทศ อัดนักวิชาการกลุ่มนี้ทนมีชีวิตอยู่ไม่ได้ที่ถูกกฏหมายห้ามวิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ
การเมือง
กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชาุนุภาพ,การแก้ไขกฎหมาย,คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ,นิติราษฎร์,พรรคประชาธิปัตย์
https://prachatai.com/journal/2012/01/38785
รมว.กลาโหม ไม่หนักใจ ตั้ง ผบ.ทบ.ใหม่ ลั่นทุกคนเป็นน้องรัก
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 12 ส.ค. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 หลังจากนัดทุกเหล่าทัพส่งบัญชีรายชื่อภายในวันที่ 15 ส.ค. นี้ว่า ตนเชื่อว่าก่อนที่ทุกเหล่าทัพจะส่งรายชื่อมาให้กระทรวงกลาโหม ก็ต้องมีความมั่นใจแล้ว และตนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อได้ แต่ขณะนี้จะส่งมาครบทุกเหล่าแล้วหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะรายชื่อทั้งหมดของทุกเหล่าทัพจะต้องรวบรวมส่งให้กับพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลก่อน ดังนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด ,ส่วนจะประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลวันใดนั้นไม่ขอบอก แต่ยืนยันว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับแผนงานตามที่กฎหมายเขียนไว้ อย่างไรก็ตาม หลักการการพิจารณาคัดเลือกคนยังคงเหมือนเดิมคือพิจารณาจากความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ความอาวุโส และผลงานที่ผ่านมาในอดีต ทั้งนี้จะดำเนินการให้ดีที่สุดและเร็วที่สุด,เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่กับการพิจารณาครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่หนักใจ ส่วน ผบ.ทบ.คนใหม่นั้นใครจะมาเป็นก็ได้ ข่าวก็เขียนมโนกันไปว่าคนนั้นเป็นน้องรัก และคนนี้ไม่ใช่น้องรัก แต่ทุกคนเป็นน้องรักของตนทั้งหมด.
บิ๊กป้อม ไม่หนักใจเลือก ผบ.ทบ.คนใหม่ ลั่นทุกคนเป็นน้องรัก ยันเหล่าทัพส่งชื่อมาเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อุบวันประชุม คกก. ปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล
null
โผทหาร,โผทหาร58,ผบ.ทบ.คนใหม่,ประวิตร วงษ์สุวรรณ,รมว.กลาโหม,ความคิดเห็น,บัญชีโยกย้ายนายทหาร,เหล่าทัพ,รายชื่อ,พิจารณา,หลักเกณฑ์,น้องรัก,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์,บิ๊กป้อม,โยกย้าย,ตำแหน่ง,เลื่อนขั้น,เลื่อนยศ,ผบ.ทบ.,ศิริชัย ดิษฐกุล,ล็อบบี้
https://www.thairath.co.th/content/517809
ครม.เห็นชอบหลักการร่าง พรฎ.จัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน
วันนี้ (26 เม.ย.2559) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ) พ.ศ. ตามที่สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) (บจธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2554 ดังนี้ 1. แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินโดยเพิ่มกรรมการ ผู้แทนองค์กรชุมชนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้มีจำนวนมากกว่ากรรมการโดยตำแหน่ง ซึ่งเป็นข้าราชการประจำในตำแหน่งปลัดกระทรวง2. เพิ่มเติมบทบัญญัติห้ามมิให้กรรมการในคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินเป็นกรรมการในองค์การมหาชนในเวลาเดียวกันเกินกว่า 3 แห่ง3. แก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินในการออกระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่และลูกจ้าง รวมทั้งให้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ4. เพิ่มเติมบทบัญญัติการกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานของ บจธ. ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี5. แก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินให้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกำหนดให้คณะกรรมการตรวจสอบได้รับเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด6. เพิ่มเติมบทบัญญัติให้ดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 90 วัน และหากมีเหตุผลและมีความจำเป็นขยายได้ไม่เกิน 60 วัน แต่หากยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จให้รายงาน กพม. เพื่อรายงานคณะรัฐมนตรี7. แก้ไขคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามและการพ้นจากตำแหน่งของผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เมื่ออายุครบ 65 ปีบริบูรณ์8. แก้ไขให้ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เป็นผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่และลูกจ้างของ บจธ. ทุกตำแหน่ง9. แก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของเจ้าหน้าที่ของ บจธ.10. เพิ่มเติมบทบัญญัติให้การขาดคุณสมบัติเพราะอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ของเจ้าหน้าที่ บจธ. ให้ถือว่าเป็นการพ้นจากตำแหน่งตามกำหนดเวลาในสัญญาจ้าง11. แก้ไขให้มีเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจสอบภายใน12. เพิ่มเติมบทบัญญัติให้ บจธ. อยู่ภายใต้ระบบการประเมินผลองค์การมหาชน ตามที่ กพม.กำหนด และแก้ไขอำนาจหน้าที่การกำกับดูแลของรัฐมนตรีผู้รักษาการ13. แก้ไขการขยายระยะเวลาการดำเนินงานของ บจธ. ที่กำหนดไว้ 5 ปี เป็น ให้ บจธ. ยุบเลิก เมื่อมีการจัดตั้งธนาคารที่ดินหรือองค์กรอื่นที่มีวัตถุประสงค์ทำนองเดียวกับธนาคารที่ดินหรือเมื่อพ้นระยะเวลาสามปีนับแต่วันที่ร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้มีผลใช้บังคับแม้จะยังมิได้มีการจัดตั้งธนาคารที่ดินหรือองค์กรอื่นที่มีวัตถุประสงค์ทำนองเดียวกับธนาคารที่ดิน14. เพิ่มเติมบทเฉพาะกาลรองรับตำแหน่งคณะกรรมการของ บจธ. และการนับวาระการดำรงตำแหน่ง15. เพิ่มบทเฉพาะกาลกรณีผู้ใดดำรงตำแหน่งกรรมการขององค์การมหาชน เกินกว่า 3 แห่ง16. เพิ่มบทเฉพาะกาลรองรับการแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้อำนวยการบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) และเจ้าหน้าที่ของ บจธ.17. เพิ่มบทเฉพาะกาลรองรับการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ตามสัญญาจ้างที่มีอยู่ก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
เศรษฐกิจ
ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ครม.,คณะรัฐมนตรี,สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน,ธนาคารที่ดิน,ที่ดิน
https://news.thaipbs.or.th/content/251960
อาชีวะคลอด 4 กฎคุมเข้มเปิดเทอม
ของนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา เพื่อเตรียมการเฝ้าระวังก่อนเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2561 ร่วมกับภาคีเครือข่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้บริหาร สถานศึกษา ว่า ตนได้ลงนามหนังสือแจ้งมาตรการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาท มาตรการป้องกันยาเสพติด มาตรการป้องกันการเล่นพนัน ในช่วงฟุตบอลโลก 2018 และมาตรการห้ามจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ของสำนักงาน คณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) ปีการศึกษา 2561 ให้สถานศึกษาสังกัด สอศ.ทั้งรัฐและเอกชน 914 แห่ง ดำเนินการในช่วงเปิดภาคเรียนอย่างเข้มข้น ขอให้วิทยาลัยกลุ่มเสี่ยงเข้มงวดดูแลนักศึกษา ไม่ให้เกิดการซ่องสุม ขณะเดียวกันเฝ้าระวังไม่ให้มีการเล่นพนันฟุตบอล โดยเฉพาะในช่วงเดือน มิ.ย. ที่จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก ขอให้วิทยาลัยต่างๆหามาตรการกำกับดูแลไม่ให้มีการเล่นพนัน,จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าปัญหาการทะเลาะวิวาทมีจำนวนลดลง แต่สิ่งที่กังวลคือการนำคลิปวิดีโอเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้น ทั้งกรณีทะเลาะวิวาท และการจัดกิจกรรมรับน้องที่ไม่เหมาะสมมาเผยแพร่ซ้ำ ทำให้อาชีวะเกิดความเสียหาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำว่ากรณีนี้ถือเป็นการหมิ่นประมาท ทำให้เสียชื่อเสียง สอศ.สามารถพิจารณาใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ที่นำภาพและคลิปวิดีโอมาเผยแพร่ได้ นายสุเทพกล่าว,เลขาธิการ กอศ.กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการห้ามจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ สอศ.ห้ามมิให้สถานศึกษาในสังกัดจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษาและให้จัดสถานศึกษาเป็นเขตปลอดบุหรี่และสารเสพติด,การพนันทุกชนิด.
นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวในการประชุมนโยบายมาตรการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาท มาตรการป้องกันยาเสพติดและมาตรการป้องกันการเล่นพนันในช่วงฟุตบอลโลก 2018
ข่าว,ทั่วไทย
สุเทพ ชิตยวงษ์,แก้ไขปัญหา,ทะเลาะวิวาท,คลิปวิดีโอ,การเล่นพนัน,การศึกษา
https://www.thairath.co.th/news/local/1276414
ปวดร้าวมาก ประกวดนางงามเวทีระดับโลก แต่เก็บตัวเกรดต่ำ
โอ๊ยๆๆๆ พูดไปก็เจ็บจี๊ดๆๆๆ ในทรวง มันน้ำท่วมปากจริงๆ ค่ะคุณขา น้องนางงามสุดเป๊ะ คว้ามง ระดับชาติจากไทย บินไปประกวดต่อที่เวทีนางงามแห่งหนึ่งที่ต่างประเทศ เวทีก็เก่าแก่ประกวดมานานมากๆ หลายสิบปีแล้ว น่าจะเชื่อใจอุ่นใจหายห่วงได้ว่ามีมาตรฐานจริง แต่ผลปรากฏสุดตะลึงว่า กองประกวดพานางงามต่างชาติตะลอนๆ ไปหาสปอนเซอร์ตามที่ต่างๆ แลดูแปลกป่วง และแอบน่ากลัวนิดหน่อยจนถึงปานกลาง,เช่น พาเหล่านางงามไปหาสปอนเซอร์ตามร้านอาหารเล็กๆ ที่แลดูพิกลมิดชิดไปมั้ยจ๊ะ หรือพาไปหาสปอนเซอร์ที่เป็นปั๊มน้ำมันธรรมดา เติมน้ำมันครบตามจำนวนเท่านั้นเท่านี้นะ แล้วจะได้ถ่ายรูปคู่ แชะๆๆๆ กับนางงาม โอ๊ยๆๆๆ ช่างคิดโปรโมชั่นล่อใจลูกค้าจริงๆ ยังมีหลายกิจกรรมที่ชวนสงสัย ชวนเอ๊ะๆ ฯลฯ,ทางกองประกวดที่อ้างว่าจัดการประกวดระดับโลก น่าจะคัดเลือกหาสถานที่ทำกิจกรรมที่มันดูดีหน่อย ไม่ใช่สปอนเซอร์ให้เงินครบ รับมาก็จบๆ กันไป ให้เกียรติกับนางงามต่างชาติ ที่เดินทางไกลบินมาประกวดกันหน่อย ยังมีอีกหลายเรื่องเน่า ลับ ลวง แหล ของเวทีประกวดนางงาม ที่ชอบอ้างว่าทำกันมีมาตรฐานระดับโลก แต่เบื้องหลัง เฮ้อ ต้องถอนหายใจหลายๆ เฮือกใหญ่.
โอ๊ยๆๆๆ พูดไปก็เจ็บจี๊ดๆๆๆ ในทรวง มันน้ำท่วมปากจริงๆ ค่ะคุณขา น้องนางงามสุดเป๊ะ คว้ามง! ระดับชาติจากไทย บินไปประกวดต่อที่เวทีนางงามแห่งหนึ่งที่ต่างประเทศ
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ข่าวแฉนางงาม,นางงามเก็บตัวเวทีดังระดับโลก,ประกวดนางงาม,แฉเวทีนางงาม,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/891871
บิ๊กตู่ ออกตัวไม่ล้วงลูกฝ่ายบริหาร ให้ปชช.ตัดสินใจเรื่องประชามติ
เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 14 ส.ค.58 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยตอนหนึ่งถึงการจัดกิจกรรม Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไปว่า อีก 2 วัน ประชาชนชาวไทยก็จะได้ร่วมใจกันทำกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็นเสมือนแม่ของแผ่นดิน อีกทั้งเป็นการแสดงพลังความรู้รักสามัคคีของคนไทยทุกคนพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการจัดทำสถิติความร่วมมือร่วมใจของปวงชนชาวไทยในกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ โดยกินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ เรคคอร์ด อีกด้วย ทั้งนี้ในช่วงการจัดกิจกรรมอาจส่งผลกระทบบ้างต่อการจราจร ก็ขอทำความเข้าใจและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการสนับสนุนกิจกรรม หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางของการปั่นจักรยานในช่วงนั้น โดยสามารถตรวจสอบเส้นทาง และวางแผนเดินทางไว้ล่วงหน้าได้ที่ โทร.1348 เว็บไซต์ ,www.Bikeformom2015.com, และเฟซบุ๊ก ,bikeformom2015,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดกิจกรรมคู่ขนาน สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีใจรักในงานศิลปะภาพถ่ายได้มีส่วนร่วมในการบันทึกเหตุการณ์สำคัญของชาติ และของโลกในครั้งนี้ โดยการร่วมส่งภาพในกิจกรรมที่ถ่ายทอดแนวคิด สื่อความหมาย ภายใต้แนวคิด ความรัก ความสามัคคี ความกตัญญู ลูกทำเพื่อแม่ และความมุ่งมั่น เพื่อชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สามารถส่งภาพเข้าร่วมได้ภายในวันที่ 23 ส.ค.นี้,นายกฯ เปิดเผยด้วยว่า อีกเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคนไทยและประเทศไทยก็คือการที่ องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) เตรียมทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล ความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์ แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ซึ่งนับว่าทรงเป็นเจ้าหญิงพระองค์แรกของโลก ที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลดังกล่าว โดย WIPO ได้ตระหนักถึงพระปรีชาสามารถด้านการสร้างสรรค์ผลงานทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทรงมีผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ที่ได้รับการจดข้อมูลด้านลิขสิทธิ์ 354 ผลงาน ซึ่งรวมถึงงานด้านศิลปกรรมฝีพระหัตถ์ งานพระราชนิพนธ์ กลอน – หนังสือ – เพลง อีกทั้งยังทรงเป็นนักดนตรี ที่เปี่ยมความสามารถและพรสวรรค์ ทั้งดนตรีพื้นบ้านและดนตรีพื้นเมือง ที่สำคัญปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระองค์เจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา และเมื่อปี 2552 WIPO ได้เคยทูลเกล้าฯถวายเหรียญรางวัล ผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา ให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาแล้วด้วยเช่นกัน,พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงการกำหนดให้มี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้เสนอไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีหน้าที่ในการที่จะกำหนดแนวทางในการปฏิรูป ปรองดอง ขจัดความขัดแย้ง ซึ่งจะต้องมีทั้งอำนาจ หน้าที่ และกลไก ที่จะสามารถอำนวยการปฏิบัติได้ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไกในการขจัดความขัดแย้งและความรุนแรง ที่รัฐบาลปกติหรือกฎหมายปกติอาจจะไม่สามารถแก้ไข ขับเคลื่อนประเทศได้อย่างเช่นสถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมา ในส่วนของการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ก็เป็นเรื่องของประชาชนทุกคนนั้นจะต้องร่วมกันในการตัดสินใจ ไม่ใช่ตัดสินใจเพื่อตน รัฐบาล หรือเพื่อ คสช. แต่ก็ให้ทุกคนคำนึงถึง เพื่อประเทศชาติ และอนาคตของลูกหลานต่อไป เราจะปฏิรูปบ้านเมืองกันได้อย่างไร สำหรับแนวทางการปฏิรูป 11 ด้านตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยภายในเดือน ก.ย.นี้จะส่งต่อให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูป 200 คน ที่เราจะต้องจัดตั้งขึ้นใหม่ ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับแก้ไขให้พิจารณาอีกครั้ง,คงจะต้องลงลึกในการจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อกำหนดลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วน ว่าจะทำทันที ปานกลาง หรือระยะยาว ให้มีความเหมาะสม จากนั้นจะต้องมีผลในทางกฎหมายก็คงจะต้องนำเข้าไปพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อจะได้ให้ที่รัฐบาลต่อไปได้นำไปสู่การปฏิบัติ เราก็คงจำเป็นจะต้องมีคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติอำนวยการปฏิบัติ แต่ก็คงไม่สามารถจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการปกติของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว,สำหรับเรื่องปัญหาปากท้องของประชาชนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันอาจจะไม่ได้เกิดจากปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำอย่างเดียวเท่านั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือกระแสวัตถุนิยม ซึ่งอาจจะทำให้พี่น้องประชาชนก่อหนี้สินผูกพันโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่พสกนิกรชาวไทย เพื่อเป็นแนวทางการดำรงชีวิต ให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน ประเทศ รัฐบาลนี้ก็ได้นำมาเป็นแนวทางนะครับ ไปสู่การพัฒนาและบริหารประเทศ เพื่อให้ดำเนินการไปได้ในทางสายกลาง ปัจจุบันนั้นรัฐบาลได้ให้การดูแลหนี้สินกับพี่น้องเกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบ,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลก็ยังห่วงใยพี่น้องข้าราชการ ที่ถือเป็นมนุษย์เงินเดือน และมีรายได้น้อยเมื่อเทียบกับภาคเอกชน เรื่องภาระหนี้สินของกำลังพลและผู้ใต้บังคับบัญชานั้นถือเป็นหน้าที่หนึ่งของหัวหน้าหน่วยงาน ผู้บังคับบัญชา ที่นอกจากจะต้องคิดว่า จะรับใช้ประเทศชาติและดูแลประชาชนอย่างไรแล้ว ก็ต้องคิดด้วยว่า จะช่วยลูกน้องเราให้สามารถทำงานอย่างมีความสุขได้อย่างไร ยกตัวอย่างโครงการหนึ่งของกองทัพบกที่ปฏิบัติมาตั้งแต่อดีตและปัจจุบัน แล้วประสบความสำเร็จอย่างดีในการช่วยบริหารจัดการหนี้สินครอบครัวกำลังพลในกองทัพบก ด้วยการนำหลักพื้นฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีมาใช้ อาทิ การสร้างความตระหนักรู้ต่อตนและครอบครัวถึงภาระหนี้สินและบัญชีครัวเรือน เพื่อให้รู้ด้วยตนเองว่า ภาระที่จะต้องจ่ายในแต่ละเดือน มีอะไรบ้าง การรีไฟแนนซ์ โดยหาแหล่งเงินทุนที่ดอกเบี้ยถูกกว่า หรือการเลือกชำระดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าก่อน ที่สำคัญ คือการควบคุมตนเองไม่ให้ก่อหนี้ซ้ำอีก เป็นต้น,หากตัวข้าราชการสามารถแก้ปัญหาหนี้สินของตนเองได้ ในระดับครอบครัว และหัวหน้าส่วนราชการสามารถดูแลช่วยให้ข้าราชการในสังกัดให้แก้ไขปัญหาหนี้สินได้แล้ว รัฐบาลก็จะมีทรัพยากรบุคคลที่มีความพร้อมในการให้บริการแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังสามารถ ปราศจากเรื่องกังวล หนี้สิน ภาระ ซึ่งอาจจะคอยฉุดรั้งประสิทธิภาพในการทำงานให้กับประเทศชาติ นายกฯ กล่าว,พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟมด้วยว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนดให้การจัดการขยะมูลฝอยเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งมีกรอบแนวคิดหลักในการสร้างสังคมรีไซเคิล ตามหลักการ 3R (Reduce + Reuse + Recycle) และเพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้างวินัยคนในชาติ ที่จะมุ่งสู่การจัดการขยะที่ยั่งยืน รัฐบาลพร้อมทั้งภาคธุรกิจเอกชน และผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และร้านสะดวกซื้อ 15 หน่วยงาน อยากขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ในการเตรียมถุงผ้า กระเป๋า สำหรับหอบหิ้วสินค้า แทนการขอรับถุงพลาสติกในวันที่ 15 ของทุกเดือน หรือมากกว่านั้น หรือทุกๆ วันก็ได้ เราจะเริ่มดำเนินการพร้อมกัน ในวันพรุ่งนี้ 15 ส.ค.58 ทั้งนี้ การปฏิเสธการรับถุงพลาสติกจากห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ เพียงคนละ 1 ใบต่อวัน ก็จะทำให้ประเทศไทย ลดปริมาณขยะจากถุงพลาสติก ได้ราว 70 ล้านใบต่อวัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ประยุทธ์ หวัง Bike for Mom แสดงพลังสามัคคีคนไทย แจงจำเป็นต้องมีคกก.ยุทธศาสตร์ชาติในรธน. เพื่อดันแนวทางปฏิรูป-ปรองดอง-ขจัดความขัดแย้ง รบ.ปกติอาจทำไม่ได้ ออกตัวไม่ล้วงลูกฝ่ายบริหาร บอกปชช.ให้ตัดสินใจประชามติ เพื่ออนาคตชาติ
null
รายการคืนความสุขให้คนในชาติ,คสช.,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี,คืนความสุข,Bike for Mom,ไบค์ฟอร์มัม,ปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ,องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก,WIPO,ปฏิรูปประเทศ,ปรองดอง,สปช.,สนช.,เศรษฐกิจพอเพียง,ข้าราชการ,หนี้สินข้าราชการ,ลดการใช้ถุงพลาสติก,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/518300
ไม่ไหวแล้วจ้าลูก คุณแม่วัย 23 คลอดทารกเพศหญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม บนรถกระบะ
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนสาย 344 หน้าโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคม บ้านบึง และกู้ชีพจากโรงพยาบาลบ้านบึง ได้เร่งให้การช่วยเหลือ นางสุนิสา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ที่เจ็บท้องคลอดลูกอยู่บนรถยนต์กระบะอีซูซุ แบบแค็บ สีบรอนซ์เงิน หมายเลข ผท 2289 ชลบุรี,ทั้งนี้ ทางกู้ชีพและกู้ภัยต้องช่วยกันทำคลอด โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที เด็กจึงคลอดออกมาอย่างปลอดภัย เป็นทารกเพศหญิง ผิวขาว สมบูรณ์แข็งแรง น้ำหนักราว 2,500 กรัม ส่งเสียงร้องดังลั่น โดยทางกู้ชีพได้ทำการตัดสายสะดื้อเสร็จ พร้อมกับนำผ้ามาเช็ดทำความสะอาด จากการตรวจสอบเด็กทารกมีนิ้วมือ ข้างละ 6 นิ้ว และนิ้วเท้า ข้างละ 6 นิ้ว รวบทั้งหมด 24 นิ้ว ,นางบุญเกด ปุ้ม อายุ 54 ปี เจ้าของรถกระบะ เล่าว่า เมื่อช่วงก่อนเที่ยงแม่ของนางสุนิสา ได้มาร้องขอให้ตนเองช่วยขับรถไปส่งลูกสาวที่มีอาการปวดท้องลักษณะใกล้คลอด ตนเองจึงได้บอกลูกชายให้รีบขับไปส่ง แต่ในระหว่างเดินทาง นางสุนิสา ก็ได้ร้องและขอให้ลูกชายช่วยจอดรถข้าง ซึ่งตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบโทรขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งกู้ภัยและกู้ชีพมาถึงและเข้าช่วยเหลือจนเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก,ทางด้านยายของเด็กทารก เล่าว่า ลูกสาวที่ตั้งท้องคลอดหลานคนนี้เป็นคนที่ 3 แล้ว ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจที่หลานออกมาได้อย่างปลอดภัย ส่วนที่นิ้วมือและนิ้วเท้ามีข้างละ 6 นิ้วนั้น คาดว่าเป็นเพราะกรรมพันธุ์ เพราะตนเองและลูกสาวก็มีนิ้วข้างละ 6 นิ้วเช่นกัน,สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ถือว่าสร้างความ ฮือฮาให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยเป็นอย่างยิ่ง ต่างก็พูดคุยกันว่าจะนำเลขของนิ้วเด็กทารก และทะเบียนรถที่ทำคลอดมาตีเป็นเลขเด็ดเพื่อเสี่ยงโชคในงวดที่จะมาถึงนี้
คุณแม่วัย 23 ปี ปวดท้องกะทันหัน คลอดลูกบนรถกระบะ เป็นทารกเพศหญิง ชาวบ้านตื่นเต้น น้องมีนิ้วมือและเท้านับรวมกันทั้งหมดได้ 24 นิ้ว
ข่าว,สังคม
เลขหงส์,คลอดลูกบนรถ,ชลบุรี,หวยไทยรัฐ,หวย
https://www.thairath.co.th/news/society/1630143
กทม.ปิด ร.ร.ในสังกัด 27 แห่ง วันนี้
กรุงเทพมหานครได้ประกาศปิดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ในวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2556 ประกอบด้วย เขตพระนคร 11 แห่ง ได้แก่ ร.ร.ราชบพิธ ร.ร.วัดตรีทศเทพ ร.ร.วัดพระเชตุพน ร.ร.วัดมกุฏกษัตริยาราม ร.ร.วัดมหรรณพ์ ร.ร.วัดมหาธาตุ ร.ร.วัดราชนัดดา ร.ร.วัดราชบูรณะ ร.ร.วัดสุทัศน์ ร.ร.วัดใหม่อมตรส และ ร.ร.วัดอินทรวิหารเขตดุสิต 9 แห่ง ได้แก่ ร.ร.วัดเบญจมบพิตร ร.ร.วัดจันทรสโมสร ร.ร.วัดเทวราชกุญชร ร.ร.วัดธรรมาภิรตาราม ร.ร.วัดประชาระบือธรรม ร.ร.วัดสวัสดิ์วารีสีมาราม ร.ร.วัดราชผาติการาม ร.ร.วัดสมณานัมบริหาร และ ร.ร.สุโขทัยเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 4 แห่ง ได้แก่ ร.ร.วัดคณิกาผล ร.ร.วัดดิสานุการาม ร.ร.วัดพระพิเรนทร์ และ ร.ร.วัดสิตารามเขตหลักสี่ 3 แห่ง ได้แก่ ร.ร.ทุ่งสองห้อง ร.ร.บางเขน และ ร.ร.วัดหลักสี่ และหากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการขยายพื้นที่การชุมนุมออกไป กรุงเทพมหานครอาจมีการพิจารณาปิดโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มเติม
กรุงเทพมหานครได้ประกาศปิดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 9 ธันวาคม 2556 และหากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการขยายพื้นที่การชุมนุมออกไป กรุงเทพมหานครอาจมีการพิจารณาปิดโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มเติม
สังคม
กทม.,กปปส.,ชุมนุม,ปิดโรงเรียน,ม็อบ
https://news.thaipbs.or.th/content/210872
นาโต้ยังโจมตีลิเบียต่อเนื่อง
เสียงระเบิดและกลุ่มควันที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาในลิเบีย เชื่อว่าเกิดจากองค์การนาโต้โจมตีทางอากาศบริเวณที่พักของ พ.อ.โมฮัมมาร์ กัดดาฟี ซึ่งตั้งอยู่กลางกรุงตริโปลี ซึ่งคืนก่อนหน้านี้นาโต้ได้ทำการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่พันธมิตรชาติตะวันตกเข้าบังคับใช้มาตรการห้ามบินเหนือน่านฟ้าลิเบียของสหประชาชาติ ส่วนสถานการณ์ประท้วงขับไล่รัฐบาลในเยเมนได้ปรากฏถึงความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นแบบพลิกผัน หลังชนเผ่า ฮาชิด ซึ่งเป็นชนเผ่าใหญ่ที่สุดได้หันมารบกับฝ่ายรัฐบาลเสียเอง โดยการต่อสู้กันอย่างดุเดือดตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 12 คนและบาดเจ็บหลายสิบคน ซึ่งล่าสุดนักรบชนเผ่าฮาชิดได้วางกำลังคุ้มกันที่พักหัวหน้าเผ่าที่เพิ่งถูกฝ่ายรัฐบาลบุกเข้าโจมตี มีแนวโน้มว่าการนองเลือดครั้งต่อไปในเยเมนนั้นจะเป็นการรบกันระหว่างนักรบชนเผ่า ซึ่งพร้อมไปด้วยอาวุธกับทหารที่จงรักภักดีกับประธานาธิบดีอาลี ดับดุลเลาะ ซาเละห์ที่กุมอำนาจมายาวนาน 32 ปี ทั้งนี้การแปรพักตร์ของชนเผ่าฮาชิดนับได้ว่า เป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ของการขับไล่ประธานาธิบดีซาเละห์ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง 3 เดือน
สถานการณ์ในเยเมนตึงเครียดอย่างหนักหลังชนเผ่าใหญ่ที่สุดหันมาต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาล ส่วนในลิเบีย นาโต้ยังคงยกระดับมาตรการโจมตีทางอากาศ
ต่างประเทศ
นาโต้,ลิเบีย,เยเมน
https://news.thaipbs.or.th/content/12362
กรม สบส. แนะ สวนน้ำทุกแห่ง เข้มความสะอาดของน้ำ ต้องมีมาตรฐาน
วันนี้ 12 เม.ย. 59 น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พร้อมด้วย นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผช.อธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ  และ จนท.สาธารณสุข รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ได้เข้าตรวจเยี่ยมสวนน้ำ จังเกิ้ล วอเตอร์ พาร์ค สถานที่ท่องเที่ยวสวนน้ำแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ริม ถ.ติวานนท์-ซ่อมสร้าง ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อติดตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยมีนายวีนัส หัสกิจ ปธ.บห. และ นายจันทวัฒน์ หัสกิจ กก.ผจก. จังเกิ้ล วอเตอร์ พาร์ค ให้การต้อนรับ,น.ต.นพ.บุญเรือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีสถานประกอบการประเภทสวนน้ำ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งสวนน้ำเหล่านี้ จะมีทั้งเครื่องเล่นของเด็กเล่น สไลเดอร์ สระน้ำ ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ คาดว่า จะเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนไปใช้บริการเพื่อผ่อนคลายในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นจำนวนมาก,ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นห่วงด้านความสะอาด และความปลอดภัย โดยจะเน้นเรื่องที่ผู้ประกอบการสวนน้ำ จะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งก็คือ ความสะอาดของน้ำ จะต้องไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค ต้องมีระดับคลอรีนตกค้างในน้ำตั้งแต่ 2 ถึง 3 พีพีเอ็ม ขึ้นไป ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำ และมีค่าความเป็นกรดด่างอย่างเหมาะสม ที่ระดับ 7.4 ถึง 7.5 ขึ้นไป น้ำที่ใช้เล่นในสระต้องมีความสะอาด ผ่านการกรองจากอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นระบบมาตรฐาน ที่ผู้ประกอบการจะต้องยึดเป็นหลักในการดำเนินการ,นอกจากนี้ ทางผู้ประกอบการสวนน้ำทุกแห่ง จะต้องมีระบบการดูแลรักษาความปลอดภัย มิให้เกิดเหตุอันตรายใดๆ หรือจะต้องมีเจ้าหน้าที่ ผ่านการอบรมในเรื่องของการช่วยชีวิต คอยดูแลผู้ใช้บริการ ซึ่งมีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ หากมีเหตุการณ์ เช่น อุบัติเหตุจากเครื่องเล่น หรือการจมน้ำเกิดขึ้น จะสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที,ส่วนสวนน้ำ จังเกิ้ล วอเตอร์ พาร์ค แห่งนี้ จากการได้เข้ามาตรวจสอบแล้ว พบว่า มีการปฏิบัติได้ถูกต้องและถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่มีความมาตรฐานปลอดภัย.
อธิบดี สบส. ตรวจเยี่ยมสวนน้ำ จังเกิ้ล วอเตอร์ พาร์ค สวนน้ำแห่งใหม่ ปทุมธานี เพื่อติดตามมาตรฐานความปลอดภัย เน้นย้ำ สวนน้ำทุกแห่ง ดูแลความสะอาดของน้ำ เพื่อความปลอดภัยผู้มาใช้บริการ
null
กรม สบส.,บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์,สวนน้ำแห่งใหม่ ปทุมธานี,ปทุมธานี,มาตรฐานความปลอดภัย,ความสะอาดของน้ำ,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,จังเกิ้ล วอเตอร์ พาร์ค,สวนน้ำจังเกิ้ล วอเตอร์ พาร์ค
https://www.thairath.co.th/content/604998
เจ๋ง ดอกจิกกลับคำให้การสู้คดีหมิ่นสถาบัน/ผู้หญิงยิง ฮ.ยังรอศาลเมตตาให้ประกัน
ทนายแจ้ง เจ๋งป่วยลำใส้อักเสบ ศาลเลื่อนตรวจหลักฐาน 5 ก.ย.54 ส่วน นฤมล วรุณรุ่งโรจน์ หรือ จ๋า และพวกอีก 2คนยังรอลุ้นอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ให้ประกันตัว29 สิงหาคม 2554 ศาลอาญารัชดาฯ นัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.2740/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายยศวริศ หรือประมวล ชูกล่อม หรือที่เป็นที่รู้จักกันในนาม เจ๋ง ดอกจิก แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีกล่าวปราศรัยด้วยถ้อยคำหมิ่นเบื้องสูงบนเวที นปช.เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2553คดีนี้จำเลยได้ให้การรับสารภาพเมื่อวันที่ 3 ส.ค.53 โดยศาลมีคำสั่งให้ยื่นคำให้การรับสารภาพภายใน 15 วัน ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมาจำเลยได้ยื่นคำให้การต่อศาลยืนยันปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและขอแต่งตั้งทนายความพร้อมพยานหลักฐานต่อสู้คดีอย่างไรก็ดีในวันนี้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปก่อน เนื่องจากจำเลยป่วยเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบมีอาการถ่ายเป็นเลือด ไม่สามารถเดินทางมาที่ศาลได้ พร้อมแนบใบรับรองแพทย์มาเป็นหลักฐาน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตตามคำร้อง โดยให้นัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.ขณะเดียวกันศาลอุทธรณ์ ภาค1 ยังไม่มีคำสั่งให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว นางนฤมล วรุณรุ่งโรจน์ นายสุรชัย นิลโสภา และนายชาตรี ศรีจินดา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่ไม่ได้รับใบอนุญาตร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยผิด กฎหมาย และร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบ ครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอมหลังจากที่ศาลจังหวัดพระโขนงได้มีคำสั่งยกฟ้องที่สั่งให้มีการขังบุคคลทั้งสามเอาไว้ก่อนเพื่อรอว่าทางอัยการจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ และในวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความได้นำ นส.จารุพรรณ กุลดิลก และ นส.ภูวนิดา คุนผลิน และคณะ สส.พรรคเพื่อไทยเข้ายื่นความจำนงค์ขอใช้ตำแหน่งในการประกันตัวจำเลยทั้งสามในระหว่างรอการอุทธรณ์จากอัยการข้อมูลบางส่วนจาก:
ทนายแจ้ง เจ๋งป่วยลำใส้อักเสบ ศาลเลื่อนตรวจหลักฐาน 5 ก.ย.54 ส่วน นฤมล วรุณรุ่งโรจน์ หรือ จ๋า และพวกอีก 2คนยังรอลุ้นอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ให้ประกันตัว 29 สิงหาคม 2554 ศาลอาญารัชดาฯ
การเมือง,สิทธิมนุษยชน
นฤมล วรุณรุ่งโรจน์,ผู้หญิงยิง ฮ.,มาตรา112,ยศวริศ ชูกล่อม,เจ๋ง ดอกจิก
https://prachatai.com/journal/2011/08/36687
ผอ.กองช่าง ซิ่งเก๋งชนต้นไม้ดับ รถขาดสองท่อน
เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 3 ส.ค. 58 ร.ต.ท.พิชาภพ เชยใย สารวัตรเวร สภ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักชนต้นไม้ มีผู้เสียชีวิตเหตุเกิดบริเวณหลัก กม.13 ถนนสายสวรรคโลก-ทุ่งเสลี่ยม ฝั่งซ้าย หมู่ 5 ต.นาทุ่ง รุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.สวรรคโลก และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ประชากู้ภัยสวรรคโลก ,ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 7718 สุโขทัย เสียหลักพุ่งชนกับต้นไม้ข้างทางสภาพรถขาดเป็น 2 ท่อนพังยับเยิน ใกล้กันพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายสุรชัย บูรณศรี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/6 ม.4 ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย ซึ่งทำงานเป็น ผอ.กองช่าง อยู่ที่ อบต.บ้านใหม่ไชยมงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม สภาพศพสวมชุดข้าราชการครึ่งท่อน ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาว สวมกางเกงขายาวสีกากี บริเวณลำตัวยังมีสายเข็มขัดนิรภัยติดอยู่ที่เอว มีบาดแผลขาขวาหัก เลือดไหลออกหูทั้ง 2 ข้าง ,จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายสุรชัย ได้ขับรถเก๋งออกจากบ้านที่ อ.บ้านด่านลานหอย เพื่อมาทำงานที่ อบต.บ้านใหม่ไชยมงคล เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถได้เกิดเสียหลักพุ่งตกลงไปข้างทาง และพาดเข้ากับต้นสะเดาขนาดใหญ่ จนทำให้รถขาดเป็นสองท่อน ส่วนตัวของนายสุรชัย ถูกแรงเหวี่ยงของรถทำให้หัวกระแทกกับตัวรถและขาหัก เสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่จึงบันทึกเป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
ผอ.กองช่าง อบต.บ้านใหม่ไชยมงคล ซิ่งเก๋งจะไปทำงาน เสียหลักชนต้นสะเดาดับคาที่ บริเวณถนน กม.13 ถนนสายสวรรคโลก-ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ความแรงทำให้รถขาดเป็นสองท่อน
ข่าว,ทั่วไทย
เก๋งชนต้นไม้ดับ,สุรชัย บูรณศรี,ผอ.กองช่าง อบต.บ้านใหม่ไชยมงคล,ขับรถชนต้นไม้,กม.13ถ.สายสวรรคโลก-ทุ่งเสลี่ยม,มาสด้า กค7718สุโทัย,พิชาภพ เชยใย,สว.เวรสภ.สวรรคโลก,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคมทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/515849