title
stringlengths 2
223
| body
stringlengths 496
195k
| summary
stringlengths 34
1.83k
| type
stringlengths 4
98
⌀ | tags
stringlengths 2
1.52k
⌀ | url
stringlengths 27
112
|
|---|---|---|---|---|---|
ปู นี่ปลื้มเลย โน้ต ชอบผิวแทน ฟิตหุ่นหน้าอกเล็กแต่ได้สะโพกเซ็กซี่ | โดยเจอ ปู ในงานเปิดตัวเพจไลฟ์สไตล์สุดฮิพ ซีพีเอ็นไลฟ์-เอฟเวอรี่เดย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ พอแซวว่าช่วงนี้ดูผิวสีแทนขึ้นได้แรงบันดาลใจจากอะไรรึเปล่า? ปูก็พูดเลย ที่เห็นผิวแทนเพราะทาเอาค่ะไม่ได้แทนธรรมชาติ ปูเพิ่งไปดำน้ำมาผิวมันก็แทนขึ้นมานิดนึง แต่ยังไม่ได้ขนาดนี้ ถามว่าทำไมอยู่ดีๆถึงอยากผิวแทน คือส่วนมากคนรอบข้างชอบกัน (ยิ้ม) โดยเฉพาะโน้ตรึเปล่า? ใช่ค่ะ พี่โน้ตชอบให้ปูผิวแทน เค้าบอกว่ามันดูสุขภาพดี ส่วนตัวปูก็ชอบแต่ไม่ว่าจะผิวขาวหรือผิวแทนมันดูก็เซ็กซี่หมด เพียงแต่ปูอยากเปลี่ยนลุคบ้าง แต่ว่าก็คงไม่ได้ทาให้ผิวแทนตลอดเพื่อเอาใจโน้ต สลับไปสลับมาแต่ปูก็ชอบ รู้สึกผิวแทนแล้วสุขภาพดี พี่โน้ตก็ชมบ่อยว่าสวยค่ะ,ล่าสุดเห็นไปเที่ยวทะเลที่พัทยา? ปูไปสอบดำน้ำมากับคุณพ่อ น้องชาย และเพื่อนสนิทสองคน พี่โน้ตพาไปสอบ เค้าเป็นคนที่ดำน้ำมาตั้งแต่ต้น แล้วก็อยากให้ปูดำเป็นด้วย ตอนนี้ก็สอบผ่านแล้วแต่ก็ยังแอบกลัวนิดนึงเพราะไม่คุ้นกับการอยู่ใต้น้ำ หลังจากนี้พี่โน้ตคงจัดทริปพาไปดำน้ำ แต่ต้องรอให้งานน้อยลงนิดนึงก่อน มีเว็บไซต์หนึ่งจัดให้ปูเป็นผู้หญิงที่มีสะโพกเซ็กซี่ที่สุดในเมืองไทย? ขอบคุณมากนะคะ ปูก็ตั้งใจออกกำลังกายเพื่อให้ได้หุ่นที่สวยอยู่แล้ว รู้สึกดีที่คนสังเกตและชื่นชมค่ะ ที่จริงปูพยายามออกกำลังกายมาเกือบจะ 2 ปีแล้วนะกว่าคนจะมาสังเกต ก็เลยรู้สึกว่าที่ตั้งใจทำมาไม่ได้เสียเปล่า หน้าอกลดลงด้วยรึเปล่า? ไม่เป็นไรค่ะ ได้ส่วนอื่น (หัวเราะ) ส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสเพราะต้องเข้าใจว่าเป็นธรรมชาติ ปูก็ไม่ได้เสียเซลฟ์รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ ตั้งใจให้ถึงขั้นมีซิกซ์แพ็กเลยมั้ย? ทุกวันนี้ทำเพื่อให้ไปทิศทางนั้น แต่ว่าเจตนาจริงๆคือไม่ได้ทำให้กล้ามขึ้นหรือกระชับหุ่น แต่ทำเพื่อสุขภาพ ตอนนี้ติดการออกกำลังกายมากจนผู้จัดการถามว่าจะไปโอลิมปิกหรือจะทำงาน ปูออกกำลังกายวันละ 2 ชม. ตอนนี้พี่โน้ตก็เริ่มออกกำลังกายเหมือนกัน เห็นรูปล่าสุดมั้ยกล้ามแขนขึ้นด้วย ชอบมั้ยที่โน้ตมีกล้าม? จะมีกล้ามหรือไม่มีกล้ามก็ชอบเหมือนเดิมค่ะ แต่เห็นเค้าสุขภาพดีก็ดีใจค่ะ.,ภาพ:VOGUE | คนมันกำลังอินเลิฟอ่ะนะ ทำอะไรก็ดูดีไปโม้ด ขนาดนางเอกเซ็กซี่ ปู–ไปรยา สวนดอกไม้ อาบแดดจนผิวสีแทน หวานใจนาย โน้ต–วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ก็ยังออกอาการปลื้มปริ่มพูดชม ปู ผิวสวย | null | ปู,ไปรยา สวนดอกไม้,โน้ต,วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์,ฟิตหุ่น,สะโพกเซ็กซี่,ผิวสีแทน,พัทยา,ดำน้ำ,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/514268 |
ตร.ดอยสะเก็ด จับหนุ่มคลั่งไล่กระทืบคนแก่เจ็บหลายราย สารภาพเครียดจัด | เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.61 พ.ต.อ.พงษ์พีระ การะเกต ผกก.สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐพล จันมะโน รอง ผกก.ป.สภ.ดอยสะเก็ด และชุดสืบสวนตรวจค้นบ้านเลขที่ 133 หมู่ 6 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อจับกุม นายนพรัตน์ หรือต้อม พันธุราษฎร์ อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 285/700 ต.วัดเกต อ.เมือง จ.ลำพูน ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ ได้เครียดไล่ทำร้ายชายชรา ที่เห็นทั่วไปจนมีคนบาดเจ็บหลายราย เบื้องต้นทราบชื่อคนเจ็บประกอบด้วย นายบุญมา พาจรทิพย์ ชาวบ้านป่าไม้แดง อ.ดอยสะเก็ด นายศรี ดอกแก้ว นายดวงคำ พันธุราช และนายสว่าง จันทร์ขาว ทั้งหมด เป็นชาวบ้านป่าไม้แดง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้รับบาดเจ็บ หน้าตาบวม หัวแตก บาดเจ็บคนละเล็กละน้อย ส่วนสาเหตุเนื่องจาก นายนพรัตน์ พันธุราษฎร์ น่าจะเกิดความเครียด,หลังจากก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งทราบว่าพักอาศัยที่บ้านแฟนที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงได้เข้าปิดล้อมตรวจค้น จับกุม แล้วนำตัวไปตรวจค้นหอพัก ย่านสี่แยกแอร์พอร์ต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมจะได้นำตัวไปตรวจหาสารเสพติด และแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนข้อหาอื่นหากพบว่ามีการเสพยาเสพติดก็จะเพิ่มข้อหาต่อไป. | ตำรวจ สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จับหนุ่มตีนโหด หลังเครียดแล้วคลั่งไล่ทำร้ายชายชราบาดเจ็บหลายราย พอได้สติหนีหัวซุกหัวซุนมาซุกบ้านเมียหวังหนีความผิด แต่สุดท้ายไม่รอด | ข่าว,ทั่วไทย | สภ.ดอยสะเก็ด,เชียงใหม่,กระทืบคนแก่,เครียดจัด,ทำร้ายร่างกาย,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1445165 |
เครื่องบินฝึกบินวิทยาลัยการบินนานาชาติตกที่นครพนม เสียชีวิต 3 คน | วันนี้ (2 มิ.ย.) เวลา 05.30 น. เกิดเหตุเครื่องบินฝึกบินเล็ก 2 ที่นั่ง รุ่น DA42 ของวิทยาลัยการบินนานาชาติ มหาวิทยาลัยนครพนม ตกกระแทกพื้นบริเวณหน้าฐานบินตรงข้ามทางเข้าสนามบินนครพนม บ้านโคกก่อง หมู่ 6 ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม ทำให้นักบินที่อยู่บนเครื่องทั้ง 3 คน เสียชีวิตผู้เสียชีวิตเป็นนักบิน 2 นาย คือ 1.พ.ต.ท.สมบูรณ์ คำนึงรัตนะวงศา หัวหน้าครูการบิน วิทยาลัยการบินนานาชาตินครพนม 2.ว่าที่ ร.ต.ชินวุฒิ นวลกลับ นักบิน และมีผู้โดยสารเสียชีวิต 1 คน คือ นายยิ่งยศ อุดรพิมพ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม และประธานคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.)เจ้าหน้าที่สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นักบินจากวิทยาลัยการบินนานาชาติ ได้นำเครื่องบินขนาดเล็กขึ้นฝึกบินในเวลา 05.00 น. กระทั่งเวลาประมาณ 05.30 น. ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด โดยต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัยการบิน เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง | เกิดเหตุเครื่องบินฝึกบินเล็กของวิทยาลัยการบินนานาชาติมหาวิทยาลัยนครพนม ตกกลางทุ่งนาบ้านโคกก่อง ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม มีผู้เสียชีวิต 3 คน เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนหาสาเหตุ | อาชญากรรม | เครื่องบินตก,นครพนม,นักบินจากวิทยาลัยการบินนานาชาติ,ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS,ข่าวไทยพีบีเอส | https://news.thaipbs.or.th/content/252794 |
น้ำไม่ใช่ของฟรี | ข้อสำคัญ ต้องรอให้พ้นเดือนกันยายน ไปก่อน เพราะเดือนกันยายนเป็นช่วงฝนกระหน่ำหนักที่สุดของปี,ถ้าผ่านเดือนกันยายนช่วงไคลแมกซ์ไปได้อย่างสะดวกโยธิน แสดงว่า รัฐบาลบิ๊กตู่ วางแผนป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้ผลดี,จะดีจริงหรือไม่ ยังต้องลุ้นเสียวต่อไปอีก 45 วัน??,แม่ลูกจันทร์ กราบเรียนว่า หน้าฝนของทุกปี รัฐบาลต้องเร่งระบายน้ำส่วนเกินทิ้งลงทะเลไปฟรีๆอย่างมโหฬาร,แต่เพราะเมืองไทยมีน้ำเยอะ คนไทยจึงไม่เห็นคุณค่าของน้ำ ไม่ตระหนักถึงความสำคัญของน้ำ มองเห็นน้ำเป็นของฟรีๆ ใช้น้ำกันทิ้งๆ ขว้างๆ ล้างผลาญน้ำกันไม่บันยะบันยัง,ล่าสุด ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ ทีดีอาร์ไอ ได้ร่วมกับกรมชลประทาน ทำการศึกษาวิจัยการจัดสรรทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจไทย,สรุปว่า น้ำ ไม่ใช่ของฟรี น้ำ ทุกหยดมีต้นทุน,ทรัพยากรน้ำ 1.5 แสนล้าน ลบ.เมตร ที่คนไทยทั้งประเทศใช้ในปัจจุบัน มีมูลค่ารวมกันเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1.7 แสนล้านบาทต่อปี,ภาคการเกษตรใช้น้ำมาก 70-80 เปอร์เซ็นต์ของน้ำทั้งหมดในระบบชลประทาน,โดยเฉพาะการทำนาปรัง ซึ่งใช้น้ำ อย่างมหาศาล แต่ได้เกิดประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจต่ำที่สุด,หากเอาน้ำที่ใช้ทำนาปรังไปปลูกพืชชนิดอื่น เช่น อ้อย หรือลำไย จะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเท่าตัว,นักวิชาการเกียรติคุณของสถาบัน ทีดีอาร์ไอย้ำว่า น้ำมีราคา น้ำไม่ใช่ของฟรี น้ำในระบบชลประทานทุก 1 ลบ.เมตร ต้องใช้ต้นทุนการจัดสรร 1 บาท 25 สตางค์,แต่การประปานครหลวงจ่ายค่าน้ำให้กรมชลประทานต่ำมาก เพียง 15 สตางค์ ต่อ ลบ.เมตรเท่านั้นเอง,ดังนั้น หากขึ้นค่านํ้าประปาคนกรุงเทพฯ อีก 10 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้คนกรุงเทพฯประหยัดการใช้นํ้าได้ไม่ตํ่ากว่า 13 เปอร์เซ็นต์,เช่นเดียวกับการใช้นํ้าภาคอุตสาหกรรม ซึ่ง ก.ม.อนุญาตให้เก็บค่าใช้นํ้า ลบ.เมตรละ 50 สตางค์ แต่กรมชลประทาน เก็บรายได้น้อยมากไม่ถึง 800 ล้านบาทต่อปี,ส่วนภาคเกษตร ไม่เก็บค่าใช้นํ้าชลประทานเลย เพราะรัฐบาลกลัวกระแสต่อต้านจากพี่น้องเกษตรกร,ทำให้รัฐบาลไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปลงทุนพัฒนาขยายระบบชลประทานให้มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร,ดร.นิพนธ์ จึงเสนอให้กรมชลประทานต้องเก็บค่าใช้นํ้าชลประทานจากผู้ใช้นํ้าทุกกลุ่มอย่างเข้มข้นถึงลูก ถึงคน และขึ้นค่าใช้นํ้าให้สอดคล้องกับ ต้นทุนที่แท้จริง,ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เข้ากระเป๋าเพิ่มอีก 5,000 ล้านบาท ถึง 10,000 ล้านบาทต่อปี สำหรับไปใช้ลงทุนปรับปรุงระบบชลประทานโดยไม่ต้องแบกภาระขาดดุลงบประมาณก้อนโต,แม่ลูกจันทร์ เห็นว่า ข้อเสนอของ ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร แห่งสถาบัน ทีดีอาร์ไอ มีเหตุผลข้อเท็จจริงที่รัฐบาล คสช.ควรรับไปพิจารณา,แต่พิจารณาแล้ว รัฐบาลจะเอาด้วยหรือไม่ยังไม่ค่อยแน่ใจ??,เพราะเศรษฐกิจยังซึม ขืนขึ้นค่าน้ำประปาอีก 10 เปอร์เซ็นต์ คนกรุงเทพฯก็สวดชยันโต,ราคาสินค้าเกษตรยังตกตํ่า ชาวนาเป็นหนี้อานตะไท ขืนเก็บค่าใช้นํ้าภาคเกษตรกรรม พี่น้องชาวนาด่าเปิง,ข้อเสนอดี แต่จังหวะไม่ได้ เก็บใส่ตู้เย็นไว้ก่อนก็แล้วกัน.,แม่ลูกจันทร์ | ฝนฟ้าเป็นเรื่องประมาทไม่ได้ ตราบใดฤดูฝนยังไม่จบ อย่าเพิ่ง มั่นใจว่าปีนี้เมืองไทยจะไม่เจอน้ำท่วมแน่นอน | ข่าว,ทั่วไทย | สำนักข่าวหัวเขียว,แม่ลูกจันทร์,น้ำท่วม,กรมชลประทาน,เกษตรกร | https://www.thairath.co.th/news/local/1353514 |
แกนนำต้านเหมืองแร่ อ.อมก๋อย ถูกฟ้อง | เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้าน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ กว่า 50 คน รวมตัวกันที่สถานีตำรวจภูธรอมก๋อย เพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พนักงานสอบสวน และแกนนำต่อต้านการขอประทานบัตรเหมืองแร่อมก๋อย หลังถูกบริษัท 99 ธุวานนท์ จำกัด มอบอำนาจให้ทนายความ แจ้งความดำเนินคดี ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กับแกนนำที่ร่วมกันทำกิจกรรมรณรงค์คัดค้านการทำเหมืองแร่ เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2562 รวมทั้ง นักวิชาการอิสระ และกลุ่มนักศึกษา ที่เผยแพร่ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ รวม 7 คนนายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ระบุว่า การเข้าพบตำรวจเมื่อวานนี้ เป็นการนัดรายงานตัวครั้งแรกโดยได้ยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติม เบื้องต้นตำรวจระบุว่าจะขอตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน รวมทั้งเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา และนัดให้มาพบอีกครั้ง เพื่อรับฟังว่าจะมีการสรุปสำนวนให้อัยการหรือไม่ ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้สำหรับแนวทางการต่อสู้คดี ผอ.ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ระบุว่า โครงการเหมืองแร่ถ่านหิน ถือเป็นโครงการของรัฐที่อนุญาตให้เอกชนประมูล หรือขอสัมปทาน ซึ่งจะต้องทำการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มแกนนำชาวบ้าน และผู้เกี่ยวข้องจึงถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญสำหรับเหมืองถ่านหิน ในพื้นที่บ้านกะเบอะดิน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ มีการยื่นขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ถ่านหิน ในที่ดิน 284 ไร่ แต่ถูกคัดค้านจากชาวบ้านที่กังวลจะได้ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และ วิถีชีวิต ล่าสุด การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น โดยสำนักงานอุตสาหกรรม จ.เชียงใหม่ และผู้เกี่ยวข้อง ที่โรงเรียนบ้านแม่อ่างขาง ต.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ต้องถูกยกเลิกและเลื่อนออกไป เนื่องจากชาวบ้านรวมตัวคัดค้านและปฎิเสธจะเข้าร่วมเวที | ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น เข้าให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ แกนนำต่อต้านการขอประทานบัตรเหมืองแร่อมก๋อย จ.เชียงใหม่ นักวิชาการ และนักศึกษา ที่ถูกบริษัทเอกชนแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา | ภูมิภาค | เหมืองแรลิกไนต์,สื่อสังคมออนไลน์,ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น,แกนนำ | https://news.thaipbs.or.th/content/286034 |
เมืองน่าน เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม เฝ้าระวัง 24 ชม. | เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2558 นายอุกริช พึ่งโสภา ผวจ.น่าน แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ จ.น่าน เตรียมความพร้อมจากการเกิดฝนตกหนัก เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานสภาพอากาศ ลมมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณตอนบนของภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ และจังหวัดน่าน เสี่ยงภัยที่อาจเกิดดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ในระยะ 1-2 วัน จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบลุ่มริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังภัยอันตรายอันเกิดจากฝนตกหนัก และให้ติดตามรับฟังข่าวสารผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และวิทยุสมัครเล่น วิทยุชุมชน รวมทั้งให้ใช้ประโยชน์จาก มิสเตอร์เตือนภัย แจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้นให้ ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ต่อไป,ด้าน นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน นำเจ้าหน้าที่ช่างเทศบาลติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณจุดต่างๆ ตามชุมชนติดริมน้ำน่าน ตรวจเช็กความพร้อมของเครื่องยนต์เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมจากการที่พายุที่จะเข้าสู่พื้นที่จังหวัดน่าน ซึ่งจะทำให้ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันหลังจากนี้ โดยทางเทศบาลมีเครื่องสูบน้ำ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 นิ้ว จำนวน 4 เครื่อง และวันนี้ได้ติดตั้งที่ริมน้ำใต้ต้นโพธิ์ ชุมชนบ้านดอนศรีเสริม 1 เครื่องแล้ว,นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า หากระดับน้ำที่สถานีวัดระดับน้ำกาดแลง เชิงสะพานพัฒนาภาคเหนือ เทศบาลเมืองน่านวัดได้ 5.30 เมตร ก็จะปิดประตูระบายน้ำทั้ง 2 แห่ง เพื่อไม่ให้น้ำเข้าสู่ตัวเทศบาลและจะเร่งสูบน้ำออก โดยแต่ละเครื่องสูบได้ชั่วโมงละ 1,420 ลูกบาศก์เมตร จะสามารถชะลอไม่ให้น้ำเข้าสู่เทศบาลได้ 12 ชั่วโมง หากระดับน้ำขึ้นชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร จนถึงจุดวิกฤติในระดับ 7.30 เมตร เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมตัวขนของมีค่าขึ้นสู่ที่สูง และจะขอสนับสนุนจากชลประทานน่านอีกจำนวน 2 เครื่อง,พร้อมกันนั้น ยังได้ระดมพลเจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยอยู่เวรยามเฝ้าระวังเตือนภัยและช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง อยู่เฝ้าประจำการ 30 นาย และหากเกิดเหตุการณ์ สามารถระดมเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร อปพร. อีก 150 คน ขอสนับสนุนทหารอีก 300 นาย,ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. สถานีวัดน้ำที่ N.64 ผาขวาง วัดได้ 5.25 ซม. N.1 กาดแลง วัดได้ 4.49 ซม. และเมื่อเวลา 11.00 น. N.1 กาดแลง วัดได้ 4.50 ซม. ในระหว่าง 1 ชม.ที่ผ่านมา ระดับได้ลดลง 1 ซม. | เมืองน่าน เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม เสี่ยง ดินโคลนถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก จากการเกิดฝนตกหนัก ในระยะ 1-2 วัน เทศบาลเร่ง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ตรวจเช็กอุปกรณ์ และระดมกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม. | ข่าว,ทั่วไทย | อุกริช พึ่งโสภา,น่าน,ฝนตกหนัก,น้ำท่วม,กรมอุตุนิยมวิทยา,พื้นที่เสี่ยงภัย,ดินโคลนถล่ม,รับมือฝนตกหนัก,ป้องกัน,ระมัดระวัง,น้ำท่วมฉับพลัน,น้ำป่าไหลหลาก,ชุมชน,ทะเลอันดามัน,อ่าวไทย,มิสเตอร์เตือนภัย,เครื่องสูบน้ำ,ชลประทาน,เจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย,เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร อปพร.,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/local/516057 |
สุวิทย์จัดทัพปั้นนักรบเศรษฐกิจ | (เอสเอ็มอี) ให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้มีเอสเอ็มอีที่จดทะเบียนถูกต้อง 680,000 ราย จากทั้งหมด 2.7 ล้านราย ซึ่งต้องผลักดันให้เข้าสู่ระบบให้ได้เพิ่มขึ้น เพื่อที่รัฐจะได้ช่วยเหลือและผลักดันให้เข้มแข็งมากขึ้น,สำหรับแนวทางในการสร้างผู้ประกอบการใหม่ จะเน้นทั้งการฝึกอบรม พัฒนา เพื่อให้เกิดธุรกิจรายใหม่ โดยรัฐจะช่วยส่งเสริมด้านองค์ความรู้ และเพิ่มแรงจูงใจด้านภาษี ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการ,ขณะเดียวกัน เมื่อธุรกิจมีการจัดตั้งขึ้นแล้ว ก็ต้องหาทางเชื่อมโยงและขยายเครือข่าย เพื่อให้ธุรกิจเติบโตขึ้น ซึ่งในส่วนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการจัดตั้ง Biz Club ซึ่งเป็นเครือข่ายนักธุรกิจในจังหวัดต่างๆ ที่กรมให้การช่วยเหลือ โดยล่าสุดมีการจัดตั้งแล้วใน 38 จังหวัด มีสมาชิกกว่า 7,000 ราย สำหรับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ได้เร่งผลักดันให้ผู้ประกอบการที่ทำการค้าขายออนไลน์เข้ามาจดทะเบียนเข้าสู่ระบบมากขึ้น,ส่วนด้านการอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ จะต้องมีการพัฒนางานให้บริการให้มีความรวดเร็วและตอบสนองต่อความต้องการให้ได้มากขึ้น เช่น การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลคนเดียว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา และคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ เพราะหากทำได้ ก็จะทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพราะมีตัวตนชัดเจน และยังเข้าถึงการส่งเสริมของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ด้วย,นายสุวิทย์กล่าวว่า ในด้านการจัดหาเงินทุนในการประกอบธุรกิจของเอสเอ็มอี ขณะนี้กระทรวงการคลังได้มีมาตรการช่วยเหลือแล้ว ส่วนกระทรวงพาณิชย์กำลังรอการบังคับใช้ของ พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถนำทรัพย์สินอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่ดิน อาคาร สิ่งปลูกสร้างมาใช้เป็นหลักประกันเพื่อขอกู้เงินได้ เช่น เครื่องจักร พาหนะ รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร. | นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนจะสร้างนักรบเศรษฐกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ โดยเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก | null | สุวิทย์ เมษินทรีย์,รมช.พาณิชย์,นักรบเศรษฐกิจ,ผู้ประกอบการรายใหม่,เอสเอ็มอี,ระบบเศรษฐกิจ,กระทรวงการคลัง,ข่าว,ทีมข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/525008 |
มูรินโญ เตรียมปล่อย ซาลาห์ แบบยืมตัวซัมเมอร์นี้ | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 26 ก.ค. ว่า โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม สิงโตน้ำเงิน เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายืนยันว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกทีมชาติอียิปต์ จะไม่ได้อยู่ค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในซีซั่นนี้อย่างแน่นอน โดยเตรียมปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวไปใช้งาน,สำหรับ ซาลาห์ วัย 23 ย้ายจาก บาเซิล มาร่วมทีมเชลซี เมื่อเดือนมกราคม ปี 2014 แต่เขาสามารถสอดแทรกเข้าไปยึดตัวจริงของทีมได้ ก่อนถูกปล่อยให้ ฟิออเรนตินา ยืมตัวในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2014-15 ซึ่งเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ ฟิออฯ อยากยืมตัวต่อในซีซั่นใหม่นี้ แต่ซาลาห์กลับอยากไปเล่นกับทีมอื่นมากกว่า อย่างไรก็ตาม มูรินโญ ยืนยันระหว่างพาทีมอุ่นเครื่องอยู่ที่สหรัฐฯ ว่า ซาลาห์ไม่ได้อยู่กับทีมในฤดูกาลนี้แน่นอนแล้ว,เขาไม่ได้อยู่ในทีมของผมและเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย สิ่งสำคัญก็คือการที่เขาเล่นได้ดีกับฟิออเรนตินา ดังนั้นผมจึงมีความสุขจากการปล่อยให้เขาถูกยืมตัวไป ฟุตบอลอิตาลีเป็นลีกที่เล่นยากนะ โดยเฉพาะบรรดานักเตะในแนวรุก ดังนั้นถ้าไม่ใช่ฟิออเรนตินา ก็อาจเป็นโรมา,อินเตอร์ หรือ ยูเวนตุส ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน บางทีเขาอาจจะย้ายไปแบบยืมตัว เขาเป็นเด็กดีและเป็นนักเตะที่ดีด้วย เขาต้องได้เล่นฟุตบอลในลีกระดับสูงมากกว่านี้ ซึ่งผมจะมีความสุขกับทุกการตัดสินใจของเขาและสโมสร มูรินโญ | โชเซ มูรินโญ กุนซือทีมเชลซี ออกมายืนยันว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกตัวสำรอง จะไม่ได้อยู่กับทีมในซีซั่นนี้อย่างแน่นอน โดยเตรียมปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวไปใช้งาน | null | พรีเมียร์ลึก,เชลซี,โชเซ มูรินโญ,โมฮาเหม็ด ซาลาห์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/514338 |
เกิดเหตุนั่งร้านก่อสร้างพังถล่ม เสียชีวิต 2 คน | วันนี้ (18 มี.ค.) เวลาประมาณ 12.20 น. เกิดเหตุอาคาร 2 ชั้นที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเกิดพังถล่ม บริเวณถนนราชพฤกษ์ ใกล้กับร้านอาหารอิ่มปลาเผา ซึ่งเป็นพื้นที่ สภ.คลองข่อย จ.นนทบุรีผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตที่อยู่ใต้อาคาร จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าอาคารที่กำลังก่อสร้างเป็นบ้านพัก 2 ชั้น ขณะเกิดเหตุคนงานกำลังเทปูนชั้น 2 และมีการตั้งนั่งร้าน ก่อนที่จะใช้ไม้อัดปูด้านบนและมีเหล็กยึดกับตัวคอนกรีต จากนั้นมีการเทปูนบริเวณด้านบน จึงคาดว่าคานด้านบนที่เป็นไม้อัด รวมถึงนั่งร้าน รับน้ำหนักไม่ไหวจึงเกิดถล่มลงมา ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่คนงานกำลังทำงานเบื้องต้น ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 2 คน ทราบชื่อคือนายสุวัฒน์ หนูเซ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาบ้านหลังนี้ และนายเชน แรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชา โดยตำรวจ สภ.คลองข่อย รวมถึงเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ได้ช่วยกันนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากซากปรักหักพัง เพื่อให้แพทย์นิติเวชชันสูตรเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลล่าสุด นายอำพล อังคภากรณ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้ขออนุญาตก่อสร้างกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองพระอุดมถูกต้อง แต่ต้องไปตรวจสอบแบบแปลนที่ขออนุญาตไว้ว่าก่อสร้างถูกต้องตามแบบหรือไม่ หากผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถยืนยันได้เพราะต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียด | เกิดเหตุนั่งร้านอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่ม บริเวณถนนราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 คน | อาชญากรรม | นั่งร้านถล่ม,ถนนราชพฤกษ์,สภ.คลองข่อย,อาคารก่อสร้างพังถล่ม,แรงงานข้ามชาติ,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/271071 |
ปส.4 รวบ 2 หนุ่มมาเลย์ลอบค้าไอซ์ ได้ของกลาง 200 กก. มูลค่ากว่า 200 ล. | และบนรถไฟ
,เมื่อกลางดึกวันที่ 22 ส.ค.60 พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ปส.4, พ.ต.อ.วัชระ ทิพย์มงคล, พ.ต.อ.อานันทพงศ์ เชิดเกียรติกุล, พ.ต.อ.พีรวัส บุญลอย และ พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด รอง ผบก.ปส.4 ได้สั่งการให้ กก.3 บก.ปส.4 ประสานข้อมูลและบูรณาการกำลังกับ บก.ป., บก.ขส. สภ.คลองแงะ อ.สะเดา จ.สงขลา ศรภ.กอง 12, ตชด. 244 โดยให้ พ.ต.ท.อภิรัตน์ โทจำปา, พ.ต.ท.พิชญุตม์ เกียรติกิตติคุณ รอง ผกก.3 พร้อมกำลังร่วมทำการสืบสวนติดตามจับกุม นายชาง เว่ย ยิน อายุ 48 ปี สัญชาติมาเลเซีย ทำหน้าที่ขับรถนำ และนายเลา ยอง ยี อายุ 35 ปี สัญชาติมาเลเซีย ทำหน้าที่ขับรถขนยาเสพติดจากเอเย่นต์แห่งหนึ่งในภาคใต้ ได้ของกลางเป็นยาไอซ์ รวมประมาณ 200 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท พร้อมรถฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว ป้ายทะเบียนมาเลเซีย PGJ 9950 ซึ่งเป็นรถนำคอยรายงานด่านตำรวจว่ามีหรือไม่ โดยมีรถฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ป้ายทะเบียนมาเลเซีย WUR 4693 เป็นรถขนยาเสพติด ป้ายทะเบียนไทย พบ 1302 กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้ปิดทับทะเบียนรถยนต์ขนยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือรวม 4 เครื่อง
,โดยได้จับกุม นายชาง เว่ย ยิน ผู้ต้องหาขับรถนำ ได้บริเวณจุดตรวจหน้า สภ.คลองแงะ และจับกุม นายเลา ยองยี ผู้ต้องหาขับรถขนยาเสพติด ซึ่งหลบหนีและทิ้งรถไปซ่อนตัวในป่าริมสวนยาง ทั้งสองจุดอยู่ในเขต ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา และนำตัวมาตรวจค้นร้านนวดแผนโบราณที่โรงแรมแห่งหนึ่งในบ้านด่านนอก อ.สะเดา ได้เอกสารสำคัญหลายรายการ และได้ข้อมูลว่านายชาง เว่ย ยิน เคยทำเหล้าปลอมขายส่งไป อ.หาดใหญ่ แต่กิจการไม่ดี เนื่องจากเจ้าหน้าที่จับกุมหลายครั้ง จึงหันมาค้ายาไอซ์,
เจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติต่อไป. | ตร.ปส.4 รวบ 2หนุ่มมาเลย์ เอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาไอซ์ 200 กก. มูลค่ากว่า 200ล้านบาท หลังพบเคยเปิดนวดแผนโบราณ และค้าเหล้าปลอม แต่รวยช้า เลยหันมาค้าไอซ์ร่วมกับเพื่อน เผยเป็นเครือข่ายเดียวกับชุดที่จับได้ 280 กก. | ข่าว,อาชญากรรม | จับไอซ์200กิโล,บก.ปส.4,จับไอซ์200ล้าน,จุดตรวจสภ.คลองแงะ,สงขลา,ข่าวเหตุ | https://www.thairath.co.th/news/crime/1047685 |
เด็ก หญิงหน่อย ตบเท้าเชียร์ผลงานเพียบ หนุนชูธงนำทัพเพื่อไทย | เมื่อวันที่ 12 มี.ค.61 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีมีผู้วิจารณ์การบริหารงานในพรรคเพื่อไทยนั้น ใครอาสาเข้ามาทำงานการเมืองในช่วงที่ภาวะไม่ปกติเช่นนี้ ถือว่าเป็นผู้เสียสละ และหนึ่งในนั้นคือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ได้มามือเปล่า เพราะเข้ามาพร้อมเสนอพิมพ์เขียวในการปฏิรูปพรรค ซึ่งหลักคิดของคุณหญิงสุดารัตน์คือยึดมั่นอุดมการณ์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคไทยรักไทย คือ ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข,แต่สิ่งที่พัฒนาขึ้นไปตามสถานการณ์ คือ การให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อก้าวให้ทันโลก สำคัญที่สุดคือการปฏิรูปพรรคให้เป็นสถาบัน ให้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง คุณหญิงสุดารัตน์เห็นว่าจะไม่ชี้นิ้วไปที่อื่น แต่จะปฏิรูปตัวเองให้เป็นที่ยอมรับของคนในพรรคและประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อเป็นความหวังของประชาชนที่คาดหวังจะให้พรรคเพื่อไทยได้รับโอกาสเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในช่วงที่มีปัญหาทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง,ขณะที่ นายสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนรุ่นใหม่ของพรรค กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัว คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม เนื่องจากเคยมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น โครงการหมู่บ้านศีล 5 มีเป้าหมายในการสร้างอาชีพเพื่อให้เกษตรกรหายจากความยากจน ไอเดียการตั้งกองทุน Next AGRI คือ กองทุนที่จะนำเด็กรุ่นใหม่ไปจับคู่กับเกษตรกรที่ผลิตสินค้า และมูลนิธิก็จะช่วยสนับสนุนเงินทุนในลักษณะของการระดมทุนจากบริษัทต่างๆ โดยให้มีเจ้าภาพเป็นคนรุ่นใหม่ให้เป็นธุรกิจของเขา โดยได้ไปเปิดตลาดที่จีน ญี่ปุ่น แล้ว,ด้าน นายไชยา พรหมา อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส่วนตัวมีความเห็นว่า ในสถานการณ์การเมืองในขณะนี้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมจะเป็นผู้นำพรรค เนื่องจากเป็นบุคลากรที่สำคัญของพรรคและมีบทบาทสำคัญในการรับผิดชอบในนโยบายสำคัญๆ ของพรรคไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมมากมาย เช่น เป็นผู้ผลักดันโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการปฏิรูปการเกษตร ซึ่งทุกโครงการล้วนส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยขน์สูงสุดจากนโยบายของพรรค,ดังนั้นในมิติทางการเมือง ถือได้ว่าคุณหญิงสุดารัตน์เป็นบุคคลากรที่มากด้วยประสบการณ์ และมีคุณสมบัติเหมาะสมในการนำพาพรรคเพื่อไทยไปสู่การเมืองในมิติใหม่ ที่สร้างสรร จรรโลงระบอบประชาธิปไตย และรักษาไว้ซึ่งสถาบันอันสูงสุด สร้างปรองดองและสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และเท่าที่ได้คุยกับ ส.ส.อีสานหลายคน เห็นว่าคุณหญิงสุดารัตน์เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำพรรคเพื่อไทยในสถานการณ์ขณะนี้อย่างยิ่ง. | ชวลิต หนุน หญิงหน่อย นำทัพเพื่อไทย ชมเปาะทันสมัยเข้าใจคนรุ่นใหม่ ไชยา อ้างกลุ่ม ส.ส.อีสานหลายคนหนุนหลัง | ข่าว,การเมือง | สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์,เพื่อไทย,หัวหน้าพรรคเพื่อไทย,แกนนำพรรคเพื่อไทย,พท.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/politic/1226155 |
โปเกมอน บุกศาลเจ้ากวนอิม นักเล่นตามล่า ติดป้ายเขตอภัยทาน ห้ามจับ | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่ศาลเจ้าแม่กวนอิมลอยน้ำ ภายในสมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทรา พบว่า นายปัญญา หลำประเสริฐ อายุ 61 ปี นายกสมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้ช่วยกันนำป้ายประกาศขนาดกว้าง 60 ซม.ยาว 100 ซม. พื้นสีขาว ระบุข้อความเป็นตัวหนังสือสีแดง ว่า เขตอภัยทาน ห้ามจับโปเกมอน 555 เล่นอย่างมีสตินะจ๊ะ ด้วยความห่วงใย จาก กู้ภัยฉะเชิงเทรา มีวงกลมสีแดงขีดทับตัวโปเกมอนสีเหลือง จำนวน 3 ป้าย ไปติดไว้ที่ประตูทางเข้าสมาคมฯ จำนวน 2 ป้าย และอีก 1 ป้ายติดไว้ที่ประตูเข้าศาลเจ้าแม่กวนอิมลอยน้ำ,ขณะเดียวกัน ได้มีกลุ่มวัยรุ่น ขี่จักรยานยนต์ซ้อนท้ายวนไปมาและบางคนเดินถือโทรศัพท์มือถือ วนเวียนมาอยู่ภายในลานจอดรถภายในสมาคมสงเคราะห์การกุศล ค้นหาโปเกมอน ก่อนที่จะพากันออกจากสมาคมไป,นายปัญญา หลำประเสริฐ นายกสมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จากกระแสการเล่นเกมจับโปเกมอน ที่เริ่มระบาดอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมการเล่นที่แตกต่างกันไป บ้างเดินหา บ้างขี่จักรยานยนต์หา โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย จนเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทางสมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทรา เป็นองค์กรหนึ่งของสาธารณะ รู้สึกห่วงใย และไม่มีเจตนาที่จะไปห้ามการเล่นเกมจับโปเกมอน เพียงแต่อยากเตือนสติกลุ่มคนที่เล่นเกมนี้ พึงต้องใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น ข้อความในป้ายอาจจะมองดูเหมือนหวงห้าม แต่การทำป้ายขึ้นมาก็เพื่อเตือนสติในการเล่นเท่านั้น,ทางด้าน เยาวชนชาย อายุ 15 ปีคนหนึ่ง ซึ่งใช้โทรศัพท์เดินก้มหน้าก้มตาตามหาตัวโปเกมอนอยู่ภายในสมาคมสงเคราะห์การกุศล บอกว่า สถานที่สำคัญ มักจะมีเจ้าตัวโปเกมอนอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น วัด ศาลเจ้า ตามถนนในชุมชน โรงเรียน ซึ่งอาจจะเป็นการตั้งโปรแกรมเอาไว้ โดยเฉพาะสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพสักการะ ก็จะค้นหาได้ไม่ยาก อย่างเช่น ที่ศาลเจ้าแม่กวนอิมลอยน้ำแห่งนี้ ตนเดินตามหาและสามารถจับเจ้าตัวโปเกมอนได้ถึง 22 ตัวแล้ว,เมื่อถามว่า มีเจ้าหน้าที่นำป้ายมาติดประกาศ เป็นเขตอภัยทาน ห้ามจับโปเกมอน รู้สึกอย่างไร เยาวชนคนดังกล่าวบอกว่า เป็นเพียงข้อคิดเตือนสติเวลาเล่นเท่านั้น ซึ่งเวลาเล่นทุกคนก็ระมัดระวังขณะตามจับโปเกมอนอยู่แล้ว. | โปเกมอนบุกศาลเจ้ากวนอิมลอยน้ำที่แปดริ้ว นักเล่นเดินกันพล่าน หนุ่มน้อยวัย 15 บอกวันเดียวจับได้22ตัว ตั้งข้อสังเกตตามสถานที่สำคัญ โรงเรียน วัด จะมีโปเกมอนให้จับมาก ผู้ดูแลสถานที่ต้องติดป้ายเตือนสติเขตอภัยทาน ห้ามจับโปเกมอน | null | โปเกมอน,เกมโปเกมอน,จับโปเกมอน,ศาลเจ้าแม่กวนอิมลอยน้ำ,เขตอภัยทาน,ห้ามจับโปเกมอน,ฉะเชิงเทรา,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/685663 |
มองทั่วทิศเมืองไทย : ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง | เป็นข้าวที่ผ่านระบบจัดการคุณภาพ ,GAP, และควบคุมด้วยระบบ, GI, ที่ใส่ใจต่อสุขภาพของผู้บริโภค ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง เป็นการผลิตข้าวกล้อง และข้าวซ้อมมือใต้การควบคุมคุณภาพ,กรมทรัพย์สินทางปัญญา,ได้ประกาศรับรองให้เป็น,สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI), เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2549 นับเป็น,ข้าว GI, พันธุ์แรกของประเทศไทยที่ได้รับรองเป็นสินค้าดังกล่าว มีการซื้อขายกันในราคาไม่น้อยกว่าตันละ 20,000 บาท,นาย,วิรัตน์ รักษ์พันธ์, รอง ผวจ.พัทลุง เผยว่า ในฤดูกาลปลูกข้าวปี 2563-2565 จังหวัดพัทลุงได้ผลิต,ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง,เพื่อการส่งออก สู่ตลาดสหภาพยุโรป (EU) โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากงบยุทธศาสตร์ พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ ฝั่งอ่าวไทย,มี,เกษตรกร,เข้าร่วมโครงการมากกว่า 400 ราย และมีการติดตั้งโรงสีข้าว ขนาด 5 ตัน/วัน ในการแปรรูปข้าวดังกล่าวจำนวน 2 โรง ในพื้นที่ ต.โคกทราย อ.ป่าบอน และพื้นที่ ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง พร้อมกันนั้นทางจังหวัดยังได้ ส่งผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศด้วย เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการสูง,ด้าน นาง,อรุณรัตน์ ชิงชนะ, พัฒนาการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอประดับ 5 ดาว ของจังหวัดพัทลุง ในปี 2561 ที่ผ่านมามียอดจำหน่ายมากกว่า 16 ล้านบาท,นอกจากนั้น ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ยังได้นำ,ข้าวสังข์หยด,ไปแปรรูปเป็น ผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปในระดับ 4-5 ดาว ในหลากหลายชนิด อาทิ ขนมต่างๆ กาแฟ เส้นหมี่ ข้าวอัดแผ่น แป้งข้าวเจ้า จมูกข้าวสังข์หยด ไอศกรีม คุกกี้ และเวชสำอาง ฯลฯ สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ เป็นที่น่าพอใจ,สำหรับท่านใดที่ยังไม่ได้ลองลิ้มชิมรสของ,ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง, และผลิตภัณฑ์แปรรูปในรูปแบบประเภทต่างๆ ก็ลองหามาพิสูจน์ความสุดยอดกันได้ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน,สุธรรม คงเพชร | เมื่อพูดถึง ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักและเคยรับประทานมาแล้ว ปัจจุบันมีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ | null | ข้าวสังข์หยด,ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง,ข้าว GI,สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์,สินค้า GI,มองทั่วทิศเมืองไทย,สุธรรม คงเพชร | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1703623 |
ป้ายหาเสียงถูกร้องเรียน 213 ป้าย | กทม.สั่งเขตแจ้งเจ้าของป้ายแก้ไข-กวดขันป้ายคอนโดฯสวมรอย,พบ 213 ป้ายหาเสียงติดตั้งไม่ถูกต้อง กำชับทุกเขตกวดขัน ตรวจสอบอย่างเข้มงวด ประชาชนเดือดร้อนไม่ได้รับความสะดวกในการเดินเท้า,ที่สำนักเทศกิจ กทม. เมื่อวันที่ 18 ก.พ. เวลา 13.30 น. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานประชุมผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต โดยที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินการ ป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือดำเนินการไม่ถูกต้อง พบว่าตั้งแต่ 8 พ.ค.2561-15 ก.พ.2562 สำนักงานเขตได้จัดเก็บป้ายที่ดำเนินการไม่ถูกต้องจำนวน 77,325 ป้าย แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของป้ายแล้ว 47 ราย จับ-ปรับ 1,568 คดี ปรับเป็นเงิน 4.62 ล้านบาท,นายสกลธีกล่าวอีกว่า กทม.ได้รับการร้องเรียนเรื่องป้ายหาเสียงของผู้สมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ติดตั้งไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 213 ป้าย ในส่วนนี้ได้กำชับให้ ทุกเขตกวดขัน ตรวจสอบป้ายหาเสียงที่ไม่ถูกต้องและให้ดำเนินการตามหน้าที่ทันที เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องความไม่สะดวกในการใช้ทางเดินเท้าและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในการประสานเจ้าของป้ายหาเสียงให้ดำเนินการแก้ไขเป็นไปด้วยความเรียบร้อย,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม นายสมภาคย์ สุขอนันต์ รองปลัด กทม.ได้กำชับเรื่องป้ายโฆษณาของภาคเอกชนโดยเฉพาะป้ายโฆษณาอสังหาริมทรัพย์ บ้านจัดสรร คอนโด ที่ลักลอบติดป้ายโฆษณาใกล้กับป้ายหาเสียงของพรรคการเมือง จึงมอบหมายให้ทุกเขตกวดขันอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะคืนวันศุกร์ที่มักจะมีผู้ลักลอบมาติดตั้งป้ายโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต. | พบ 213 ป้ายหาเสียงติดตั้งไม่ถูกต้อง กำชับทุกเขตกวดขัน ตรวจสอบอย่างเข้มงวด ประชาชนเดือดร้อนไม่ได้รับความสะดวกในการเดินเท้า | ข่าว,ทั่วไทย | เลือกตั้ง,เลือกตั้ง62,ป้ายหาเสียง,สกลธี ภัททิยกุล,ติดตั้งไม่ถูกต้อง | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1499288 |
รธน.50 รับๆไปก่อน แก้ได้ฝ่ายเดียวทีหลัง ฉบับมีชัย59 แก้ยากเช่นกัน สุดท้ายศาลรธน.ชี้ขาด | หากแก้ไขบททั่วไป การแก้ไขเพิ่มเติม รธน. หรืออำนาจศาลและองค์กรอิสระ ต้องทำประชามติก่อน และให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดว่า จะแก้ได้หรือไม่ได้การทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่เป็นสิ่งสำคัญแล้ว หากผ่านประชามติไปแล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญภายหลังก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ซึ่งกระบวนการแก้ไขก็จะระบุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ หากย้อนกลับไปที่รัฐธรรมนูญ 2550 ที่มีกระแส รับไปก่อนแล้วแก้ทีหลัง ซึ่งเป็นอีกความหวังหนึ่งที่แม้ร่างรัฐธรรมนูญที่อาจไม่เห็นด้วยในทุกมาตรา แต่การโหวตให้ผ่านประชามติก็สามารถเริ่มกระบวนการแก้ไขใหม่ได้ อย่างที่ อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอนรณรงค์รับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ว่า ผมมั่นใจว่า ฉบับนี้แก้ไขได้ แล้วก็ถ้ารับไปบ้านเมืองก็เดินหน้าได้ กลับคืนสู่สภาวะปกติ มันไม่เลิศเลอมันไม่สมบูรณ์ แต่มันก็ไมได้เลวร้ายอย่างที่หลายคนกลัวอย่างไรก็ตามการแก้ไขโดยการนำของพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐบาลปี 54 ทั้งมาตรา 93-98 เรื่องระบบการเลือกตั้ง และมาตรา 190 เรื่องการทําหนังสือสัญญากับนานาประเทศหรือกับองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 มี.ค.54 ขณะที่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 56 มีการเสนอแก้ไขประเด็นที่มาของ ส.ว. นั้นกลับถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าผิดมาตรา 68 วรรค 1 เป็นการกระทำให้ได้มาซึ่งอำนาจปกครองโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญสำหรับกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ระบุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับลงประชามติ ล่าสุดนั้น วิเคราะห์ว่าในส่วนความสามารถสามารถขอให้แก้ไขในร่างฯ นี้ กำหนดว่าผู้ที่มีสิทธิขอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้แก่ คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของ ส.ส. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภารวมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกรัฐสภา และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 50000 คนเข้าชื่อกัน | ย้อนดูประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ 50 ภายใต้ รับๆ ไปก่อน แล้วแก้ทีหลัง แต่ความเป็นจริงกลับแก้ได้ฝ่ายเดียวทีหลัง iLaw ชี้ฉบับมีชัย ก็แก้ยาก ต้องได้เสียงจาก ส.ว. 1 ใน 3 และพรรคการเมือง 20% | การเมือง | iLaw,การแก้ไขรัฐธรรมนูญ,ประชามติ,รับๆ ไปก่อน แก้ทีหลัง,ร่างรัฐธรรมนูญ | https://prachatai.com/journal/2016/04/65078 |
กวีประชาไท: This is Bullshit | Hey You Yes. Its youน่าอดสู กับ Damn Propagandaชอบเบือนบิด Bullshit ผิดเวลาAgenda คืออะไร I ชักงง Reconcile ภายใต้ คำตอแหลพวกโก๋แก่ NCPO โง่ และ หลงThai Junta จะพาใครให้มั่นคงแล้วตกลงเรื่องของ You หรือ ของ I Protesters แปลงเป็น TerroristsOh Damn You. Bullshit ช่างคิดได้อีกทั้ง Red Warrior เออ ทำไปให้ตีไข่ ใส่ Color เพ้อให้พอ ก็คอยดู เพราะ You Cruel สร้างความแค้นTorlae Land ร้อนจนเลือดเดือดแล้วหนอDestiny ที่เราเฝ้าคอยรอYou ยอมหักไม่ยอมงอ ก็เตรียมตัว จากวันนั้น วันที่ YouCoup DetatConspired โดยนายหน้า ค้าความชั่วหลง Power เพ้อบ้า ตามืดมัวคิดว่า Sure แต่ความชังยังยืดยาว สิทธิ-เสรี Freedom ปลอมมาให้ธรรมนูญ Under GuidedI ปวดร้าวแล้วยังมา ยึกยัก Fuck AroundI กินข้าว มิใช่ควาย I เป็นคน Cmon ปรอง Cmon ดอง กันดีไหมHurry up ไวไว ได้กุศลสร้าง Road Map E-แอบ อลวนจะเกิดผลบน Tollway ในเร็ววัน Democrat เคลือบสีที่ฟอกย้อมอีก Freedom ก็ของปลอมช่างน่าขันLiberty ใครก็มีของแท้กันแต่บ้านฉัน นั่นของแท้ Torlae Land Human Rights ไม่ต้องมีจะดีกว่าเพราะ Hidden Agenda ImportantCommittee ก็มั่วได้ ไปแกนแกนGovernance. So bad ฉัน Sad จัง Parliament เหม็นคาวเรื่องฉาวโฉ่ทั้ง Hi So Lo So ทำโง่งั่งMinister Senator เรอเสียงดังอยากจะนั่ง NGV ให้ปรีดา อยากจะมี 5G ไม่ดีหรอกยังต้อง Blocked web site ไห้โหยหาTV News TV Old โอ้ขวัญตามาร่วม Propaganda บ้าหอบฟาง Rule of Law ขอขีดเส้น แล้วเว้นวรรคตราชั่งหนัก One Way เป๋เอียงข้างเพระ Justice ไม่เคยคิดอยู่ตรงกลางHe ลากบ้าง She ลากบ้าง ช่างปะไร Dictator เจอ Freeman แสนสนุกผู้มีบุญหุ่นกระปุกมา Surprisedอยากจะปรอง อยากจะดอง Reconcileผู้ยิ่งใหญ่ ยังไม่ Care ช่างแม่มันนะจ๊ะ. | Hey You Yes. Its youน่าอดสู กับ Damn Propagandaชอบเบือนบิด Bullshit ผิดเวลาAgenda คืออะไร I ชักงง Reconcile ภายใต้ คำตอแหลพวกโก๋แก่ NCPO โง่ และ หลงThai Junta | การเมือง,วัฒนธรรม | กวีประชาไท,Paul Unter Redest (กวีไพร่) | https://prachatai.com/journal/2019/10/84827 |
กรุงเทพมหานครแชมป์ตายมากสุด ปิดฉาก 7 วันอันตราย สังเวย 373 ศพ | อย่างยั่งยืนเมื่อวันที่ 3 ม.ค.62 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้ดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 โดยบูรณาการทุกภาคส่วน มุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อควบคุมพฤติกรรมเสี่ยง ตามแนวทางประชารัฐ ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร เกิดอุบัติเหตุ 354 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 45 ราย ผู้บาดเจ็บ 359 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ขับรถเร็ว ร้อยละ 30.23 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 23.73 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.97 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 61.30 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 42.94 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 29.66ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 28.53 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2029 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64957 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 953238 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 230603 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 56447 ราย ไม่มีใบขับขี่ 51686 รายโดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สงขลา (21 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (5 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สงขลา (21 คน)สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 7 วันของการรณรงค์ (27 ธ.ค.62 – 2 ม.ค.63) เกิดอุบัติเหตุรวม 3421 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 373 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 3499 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 6 จังหวัด ได้แก่ ตราด พะเยา แม่ฮ่องสอน ยะลา ลำพูน และสตูลจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สงขลา (116 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (15 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สงขลา (121 คน)สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 32.68 ขับรถเร็ว ร้อยละ 29.00 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 56.12 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 22.49ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.97 รถปิกอัพ ร้อยละ 6.81 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 63.37 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 39.02ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 26.28นายนิพนธ์ กล่าวต่อไปว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 พบว่า สาเหตุหลักของอุบัติเหตุทางถนนยังคงเกิดจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็ว รวมถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ซึ่งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดบูรณาการสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยกำชับให้จังหวัดถอดบทเรียนและวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในเชิงลึกอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง รวมทั้งค้นหาปัญหาอุปสรรคและปัจจัยความสำเร็จในการลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการและแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละพื้นที่ พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง คือ ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลในโอกาสต่อไปทั้งนี้ ศปถ.จะได้ดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในการใช้รถ ใช้ถนนอย่างปลอดภัย ตลอดจนปรับเปลี่ยนทัศนคติ ค่านิยม และสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจะเป็นรากฐานในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืนในสังคมไทยต่อไป ท้ายนี้ ศปถ. ขอขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วน เครือข่ายอาสาสมัคร กลุ่มจิตอาสา และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนในการเดินทาง ด้วยความทุ่มเท และเสียสละ | ศปถ.สรุปยอดอุบัติเหตุ 7 วันตายสังเวยปีใหม่ 373 ศพ บาดเจ็บ 3499 คน สาเหตุเมาแล้วขับยังครองแชมป์ เน้นย้ำจังหวัด ถอดบทเรียน ลดอุบัติเหตุทางถนน เดินรณรงค์สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน | ข่าว,อาชญากรรม | ยอดตาย,อุบัติเหตุปีใหม่,ปีใหม่,เมาขับ,อุบัติเหตุบนท้องถนน,7 วันอันตราย,ศปถ.,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1739301 |
ส่องหนังสือ ครม. ส่งถึง สนช.แจ้งสถาปนา องค์รัชทายาท | ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 พ.ย.59 หลังจากการประชุม สนช.นัดพิเศษเสร็จสิ้น บรรดากองทัพสื่อมวลชนทุกแขนง ที่มารอรายงานการประชุม ได้มารอแถลงที่โถงชั้นล่าง อาคารรัฐสภา 1 แต่ไม่มีประธาน หรือรองประธาน สนช. ลงมาแถลง มีเพียงเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติแจกเอกสาร เป็นหนังสือของสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ประทับตรา ด่วนที่สุด ที่ นร.0503/44549 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 ถึงสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ลงเลขรับที่ 12237 เวลา 10.08 นาฬิกา วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 เรื่อง แจ้งเรื่องการสถาปนาแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้แล้ว ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 กราบเรียนประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามที่ประกาศสำนักพระราชวัง เรื่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 นั้น ถือว่าเป็นกรณีที่ราชบัลลังก์ว่างลงและจำเป็นต้องมีการดำเนินการเกี่ยวกับการสืบราชสมบัติต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย,ในเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ชะลอการดำเนินการเกี่ยวกับขั้นตอนดังกล่าวในส่วนของรัฐบาลไว้ก่อนเพื่อสนองพระราชดำริในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารที่ว่า ยังไม่สมควรดำเนินการใดที่แสดงถึงการที่พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ในระหว่างที่ประชาชนอยู่ในภาวะทุกข์โศกและยากจะทำใจ พระองค์เองก็ทรงขอเวลาร่วมทุกข์และทำใจเช่นเดียวกับประชาชนจนกว่าพระราชพิธีพระบรมศพจะผ่านพ้นไประยะหนึ่ง ซึ่งมีพระราชดำริว่า เมื่อการบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานผ่านพ้นจนถึงปัญญาสมวาร (ครบ 50 วัน) คือวันที่ 1 ธันวาคม 2559 แล้ว จึงค่อยพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งในระหว่างเวลานั้นรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้มีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อนอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะมีข้อขัดข้องใดๆ ในราชการบ้านเมือง,บัดนี้การพระราชพิธีพระบรมศพได้ล่วงเลยเวลาบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุประทานจนเข้าเขตปัญญาสมวาร (50 วัน) ทั้งประชาชนก็มีโอกาสเข้าถวายบังคมพระบรมศพแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึงบัดนี้ ประมาณ 1 เดือน มีจำนวนประมาณหนึ่งล้านคน รัฐบาลจึงนำความกราบบังคมทูลว่า นับเป็นกาลอันควรดำเนินการต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามราชประเพณีและรัฐธรรมนูญ อันจะยังความปลื้มปีติ และสร้างขวัญกำลังใจแก่พสกนิกร ซึ่งทรงทราบฝ่าละอองพระบาทแล้ว,โดยที่การสืบราชสมบัติต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 ซึ่งมาตรา 2 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนี้ กำหนดให้นำบทบัญญัติในหมวด 2 ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาใช้บังคับ โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2557 ดังนั้น การสืบราชสมบัติ จึงต้องเป็นไปตามความในหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ซึ่งมาตรา 23 วรรคหนึ่งของรัฐธรรมนูญดังกล่าวบัญญัติว่า,ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 แล้ว ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อรับทราบ และให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ,คณะรัฐมนตรีจึงขอแจ้งมาเพื่อทราบว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2515 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต ท่ามกลางมหาสมาคม ประกอบด้วย พระบรมวงศานุวงศ์ คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต ข้าราชการ ทหาร พลเรือน และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ต่อมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ตรัสถวายสัตย์ปฏิญาณสาบานในการพระราชพิธี ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดารามด้วยแล้ว,ประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ วันที่ 28 ธันวาคม 2515 เล่ม 89 ตอนที่ 200 มีความตอนหนึ่งว่า,ก็โดยราชนีติอันมีมาในแผ่นดินนั้น เมื่อสมเด็จพระบรมราชโอรส ซึ่งจะทรงรับรัชทายาทสืบราชสันตติวงศ์ ทรงพระเจริญวัยสมควรแล้ว ย่อมโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เฉลิมพระอิสริยยศตั้งแต่งไว้ในตำแหน่ง สมเด็จพระยุพราชมกุฎราชกุมารในกาลปัจจุบันนี้ ประชาชนทั้งหลายตลอดถึงชาวต่างประเทศทั่วไปในโลก ย่อมพากันนิยมยกย่องว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ทรงอยู่ในฐานะที่จะรับราชสมบัติปกครองราชอาณาจักรสืบสนองพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์นั้น เล่าก็ทรงพระเจริญพระชนมายุบรรลุนิติภาวะ ทรงพระวีรยภาพ ควรทรงอนุวัตรให้เป็นไปตามธรรมนิยม และขัตติยราชประเพณี ตามความเห็นชอบเห็นดีของมหาชน และผู้บริหารประเทศทุกฝ่ายเฉลิมพระเกียรติยศขึ้นให้สมบูรณ์ตามตำแหน่งทุกประการ,จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร,อนึ่ง ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 มาตรา 4 (1) บัญญัติว่า พระรัชทายาท คือ เจ้านายเชื้อพระบรมวงศ์ พระองค์ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สมมติขึ้น เพื่อเป็นผู้ทรงสืบราชสันตติวงศ์สนองพระองค์ต่อมา และมาตรา 4 (2) บัญญัติว่า สมเด็จพระยุพราช คือ พระรัชทายาทที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาขึ้น เป็นตำแหน่งสมเด็จพระยุพราช โดยพระราชยุพราชาภิเษก หรือ โดยพิธีอย่างอื่น สุดแท้แต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ,ตำแหน่งพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งในวันที่ 28 ธันวาคม 2515 นั้น เป็นตำแหน่งเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์แรกของไทย เมื่อ พ.ศ. 2429 และสถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์ที่สอง เมื่อ พ.ศ.2437 ซึ่งต่อมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงรับราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ต่อจากสมเด็จพระบรมชนกนาถ ตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร จึงเป็นตำแหน่งพระรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลดังกล่าว และตามที่รัฐธรรมนูญระบุ,ถึงดังนั้น เมื่อได้พิจารณาตามประวัติศาสตร์ ข้อกฎหมาย ประกาศพระบรมราชโองการสถาปนา และโบราณราชนิติประเพณีแล้ว โดยเฉพาะข้อกฎหมายที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญบรรดาที่มีมาทุกฉบับ นับแต่ พ.ศ. 2534 จนกระทั่งถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ได้รับความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ เห็นด้วยว่าล้วนแต่วางกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการสืบราชสันตติวงศ์ไว้เป็นแบบแผนเดียวกัน คณะรัฐมนตรีจึงแจ้งมายังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะประธานรัฐสภา เพื่อทราบว่าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นพระรัชทายาทที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งไว้แล้ว ตามความในมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และทรงสถิตอยู่ในที่พระรัชทายาทสืบมาจนถึงปัจจุบัน,จึงกราบเรียนมาเพื่อทราบ และโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไป,ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา,นายกรัฐมนตรี | สำนักนายกฯ ส่งหนังสือถึง สนช. แจ้งเรื่องสถาปนาแต่งตั้งองค์รัชทายาท ขึ้นเป็น พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 | null | รัชกาล ที่ 10,องค์รัชทายาท,พระมหากษัตริย์,สถาปนา,ครม.-สนช. | https://www.thairath.co.th/content/796887 |
ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาวังพาถูกบุกรุกกว่า 1 พันไร่ | นายวิชิต นิลพันธุ์ ปลัดอำเภอคลองหอยโข่ง ทำหน้าที่ผู้บังคับกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดสงขลาที่ 1 ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาวังพา ในพื้นที่บ้านสายแซะ ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่งจากการตรวจสอบพบว่า มีการทำถนนเพื่อใช้เดินทางเข้าไปถึงพื้นที่ด้านใน และยังพบมีการตัดโค่นไม้หลายขนาดกระจายเป็นจุดๆจำนวนมาก ซึ่งร่องรอยการตัดไม้พบว่าเพิ่งถูกโค่นไม่เกิน 2 วัน และไม่เกิน 1 เดือน นอกจากนี้ ยังมีการปลูกยางพาราทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่กระจายทั่วผืนป่า ทำให้สภาพป่าได้รับความเสียหายอีกกว่า 5000 ไร่นายวิชิต บอกว่า จะเร่งรายงานผลการตรวจสอบทั้งหมดไปยังนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุก พร้อมดำเนินการผลักดันกลุ่มที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวออกนอกพื้นที่ป่า และจะส่งข้อมูลไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เพื่อดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องด้วย | เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและประชาชนในจ.สงขลา ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาวังพา ในอ.คลองหอยโข่ง โดยในขณะนี้พบว่า มีพื้นที่ป่าถูกบุกรุกไปแล้วกว่า 1000 ไร่ | ภูมิภาค | 000 ไร่,1,จ.สงขลา,บุกรุก,ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาวังพา | https://news.thaipbs.or.th/content/118132 |
ใครจะบอกว่าแต่งก็ปล่อยเขาไป สุเทพ น้อง สังข์ทอง ไม่ติดใจ แจ๊ส เอาเพลงหากิน | หลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นกับประเด็นเพลง หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว ข้อพิพาทของ ยาว อยุธยา และ แจ๊ส ชวนชื่น ที่ฝั่งตลกรุ่นพ่อจะออกมาฟ้อง ตลกรุ่นลูกที่นำเพลงนี้มาทำเป็นเพลง แว้นฟ้อหล่อเฟี้ยว โดยไม่ขออนุญาตตน แต่สุดท้ายเรื่องราวมาเปิดเผยว่าเพลงต้นฉบับ หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว จริงๆ นั้นเป็นของ สังข์ทอง สีใส ที่ออกมาเมื่อปี 2525 ความจริงเรื่องลิขสิทธิ์ของเพลงนี้จะเป็นอย่างไร แจ๊ส ชวนชื่น ได้ไปขอจากทายาท สังข์ทอง เจ้าของลิขสิทธิ์ หรือไม่ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ไปถามจากปาก สุเทพ สีใส น้องชายแท้ๆ ของ สังข์ทอง สีใส,พี่ชายผมเป็นคนร้องและเป็นคนแต่ง มีหลักฐานอยู่แล้วว่าลิขสิทธิ์อยู่กับหลานผม ซึ่งเป็นลูกของพี่ชายผม (สังข์ทอง สีใส),จริงๆ การที่จะเอาเพลงมาทำอย่างนี้ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ใช่มั้ย,จริงๆ ก็ต้องมี งั้นจะมีลิขสิทธิ์ทำไม แต่ทางเราไม่ได้ขอเขา แล้วเขาเองก็ไม่ได้มาขอไม่ได้มาอะไร เขาคงไม่รู้มากกว่า เพราะเพลงมันเก่าแล้วไง แล้วทางน้ายาวเขาก็บอกว่าเขาแต่ง ก็เรื่องของเขาไป แต่ทางเรามีหลักฐานที่ตอบได้แล้วไง,ทางเราได้มีการพูดคุยกับทาง แจ๊ส หรือเปล่า,แจ๊สโทรมาหาผม ผมก็ไม่ได้อะไร หลานผมกับผมก็พูดกันแล้วว่าโอเค มันเป็นอย่างนี้แล้วเราพี่น้องกัน ทำมาหากินเหมือนกัน ได้มีเพลงให้คนมีความสุขก็โอเคแล้ว เราไม่ติดใจอะไรตรงนี้ ถ้าหวังอะไรเราคงต้องฟ้องเขาไปตั้งนานแล้ว,ทาง แจ๊ส ชวนชื่น เขาติดต่อมาหลังจากมีเรื่องมีราวแล้ว หรือว่าติดต่อแต่แรกแล้วว่าขอเพลงไปทำ,เขาไม่ได้ขอ เรื่องมันเพิ่งมาปรากฏเมื่อไม่กี่วันนี้เองว่าพี่สังข์ทองร้องและแต่ง จริงๆ เรื่องนี้ผมเคยพูดไปแล้วกับตลกหลายๆ คนว่าพี่เปี๊ยก (สังข์ทอง สีใส) ร้อง พูดตั้งแต่ได้ยินข่าวว่าอีกฝ่ายเขาจะออกมา เรื่องนี้สังคมรู้แล้วว่าเพลงใครเป็นต้นฉบับ แล้วผมเองก็ไม่ได้ติดใจกับแจ๊ส. | ความจริงเรื่องลิขสิทธิ์ของเพลง หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว จะเป็นอย่างไร แจ๊ส ชวนชื่น ได้ไปขอจากทายาท สังข์ทอง เจ้าของลิขสิทธิ์ หรือไม่ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ไปถามจากปาก สุเทพ สีใส น้องชายแท้ๆ ของ สังข์ทอง สีใส | null | ยาว อยุธยา,แจ๊ส ชวนชื่น,สุเทพ สีใส,สังข์ทอง สีใส,ทายาทสังข์ทอง,ทายาทสังข์ทอง สีใส,แว้นฟ้อหล่อเฟี้ยว,หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว,ยาว แจ๊ส,ดราม่ายาว แจ๊ส,แจ๊ส ชวนชื่น ก๊อปปี้เพลงหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว ยาว อยุธยา,หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว เวอร์ชั่นยาว อยุธยา,พ่อดม ชวนชื่น,หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว ต้นฉบับ,สังข์ทอง สีใส หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว,ตลกไทย,ตลก เข้าข้างแจ๊ส,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/527117 |
ทุบสถิติเดิม 221 ทีมแห่สมัครฟาดแข้งไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก 2019 | วันที่ 12 ก.ค.62 การแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก (Thailand Amatuer League) ฤดูกาล 2019 เป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกสมัครเล่นของประเทศไทย ปีนี้มีจำนวนสโมสรที่สมัครเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 221 สโมสร ทุบสถิติเดิมจากปีที่ผ่านมาที่มีทีมร่วมแข่งขัน 168 ทีม,ทางคุณกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมฯ ได้กล่าวถึงการแข่งขันในปีนี้ว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสโมสรสมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกกับสมาคมฯ และให้ความสนใจเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก 2019 วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัคร จำนวนทีมที่สมัครก็ทะลุยอดของปีที่แล้วเรียบร้อยนะครับ,สิ่งที่สำคัญของปีนี้คือโอกาสของทีมเลื่อนชั้นขึ้นไปสู่ออมสิน ลีก หรือ ไทยลีก 4 ก็จะมีมากขึ้นในบ้างโซน ปีที่แล้วเราให้ขึ้นโซนละ 1 ทีม ปีนี้เราจะดูแต่ละโซนว่าโซนไหนมีทีมน้อยบ้าง และอาจจะเพิ่มทีมเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นไทยลีก 4 เป็น 2-3 ทีม,แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สโมสรก็ต้องผ่านเกณฑ์ของคลับไลเซนซิ่งของสมาคมฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด กำหนดไว้ด้วย ส่วนรูปแบบการแข่งขันคงเป็นรูปแบบเดิม โซนไหนมีทีมเข้าร่วมแข่งขันเยอะจะมีรอบคัดเลือกก่อนเข้าไปเล่นในรอบมินิลีกต่อไป,สำหรับการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก (Thailand Amatuer League) ฤดูกาล 2019 จะแบ่งออกเป็น 12 โซน โดยแชมป์ของแต่ละโซน จะต้องแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เพื่อหา 6 สโมสรเลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งขันในฟุตบอลออมสิน ลีก หรือ ไทยลีก 4 ในปี 2020,ส่วนสโมสรทั้ง 221 ทีมจะต้องเข้าประชุมทีมเพื่อรับทราบระเบียบการแข่งขันต่างๆ ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย ห้องประชุมชั้น 24 เวลา 14.00 น. จากนั้นจะมีการกำหนดวันจับสลากแบ่งสายกันต่อไปนี้ ขณะที่การแข่งขันในรอบมินิลีก จะเริ่มฟาดแข้งกันในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป | สโมสรสมาชิกของสมาคมฯ ทั้งเก่าและใหม่ 221 สโมสร แห่สมัครเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก 2019 ทุบสถิติเดิมจากปีที่แล้ว โดยในรอบมินิลีกจะเริ่มฟาดแข้งช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้
| กีฬา,ฟุตบอลไทย | ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก,สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย,กรวีร์ ปริศนานันทกุล | https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1613898 |
เปิดขั้นตอนการขอคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน จากโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน | เปิดขั้นตอนการขอคืนเงิน ค่าตั๋วเครื่องบิน จากโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน รับเงินช่วยเหลือ 40% ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 1000 บาทหลังจากเปิดให้มีการลงทะเบียน มาตรการ เที่ยวปันสุข ในแพ็กเกจ เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ในวันที่ 15 ก.ค. 2563 ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ซึ่งการลงทะเบียนในขั้นตอนนี้ จะไม่มีปิดลงทะเบียน ประชาชนสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้เรื่อยๆสำหรับ การจองตั๋วเครื่องบิน และการขอเงินคืนในโครงการเราเที่ยวด้วยกันนั้น มีเงื่อนไขดังนี้1. ประชาชนที่เข้ามากรอกข้อมูลเพื่อรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน จะต้องเป็นผู้ที่จองโรงแรมผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเท่านั้น2. มีสิทธิ์ในการได้รับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 สิทธิ์ผู้โดยสาร ต่อ 1 ห้องโรงแรมที่จอง แต่ไม่เกิน 10 สิทธิ์ผู้โดยสารต่อประชาชน3. เงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 1000 บาท ต่อผู้โดยสาร4. ต้องจ่ายเงินค่าตั๋วเต็มจำนวนไปก่อน ณ ตอนจองตั๋วเครื่องบิน และต้องมีการเดินทางในเที่ยวบินนั้นจริง รวมถึง check-in และ check-out ที่โรงแรมที่จองไว้กับโครงการจริง5. ตั๋วเครื่องบินเป็นประเภทไปหรือกลับ หรือทั้งไปและกลับจากจังหวัดที่อยู่ภาคเดียวกับจังหวัดที่จองโรงแรม กรณีขึ้นลงคนละจังหวัด สามารถทำได้ กับเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกันกับจังหวัดที่จองโรงแรม6. วันที่เดินทางไปหรือกลับ ต้องไม่ห่างจากวัน check-in หรือ check-out โรงแรมที่จองผ่านโครงการไม่เกิน 5 วัน และการเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวจะต้องอยู่ภายใน 31 ตุลาคม 25637. หลังจาก check-out แล้ว ให้เข้าเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เพื่อกรอกข้อมูลสำหรับใช้สิทธิ์ค่าตั๋วเครื่องบิน9. รอรับเงินคืนค่าตั๋วเครื่องบินตามเงื่อนไข กรณีเดินทางโดยเครื่องบิน ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ และปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการ | เปิดขั้นตอนการขอคืนเงิน ค่าตั๋วเครื่องบิน จากโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน รับเงินช่วยเหลือ 40% ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 1000 บาท | ข่าว,เศรษฐกิจ | เราเที่ยวด้วยกัน,โครงการเราเที่ยวด้วยกัน,ลงทะเบียนเที่ยว,ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน,www.เราเที่ยวด้วยกัน.com,เที่ยวปันสุข,ลงทะเบียนเที่ยวปันสุข,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1895767 |
เดอะ พาเลซ แอนด์ เฟรนด์ส กำลังจะกลับมาอีกครั้ง | พร้อมแขกรับเชิญคนพิเศษคงเดิมอย่าง ปุ๊-อัญชลี, ดำ ฟอร์เอฟเวอร์ และแขกรับเชิญใหม่อย่าง แหม่ม-ปุ้ม สาว สาว สาว, แม่เม้าท์-สุดา ชื่นบาน, แม่แดง-ฉันทนา กิติยพันธ์ ยังไม่พอเพียงเท่านี้ งานนี้จัดเต็มจริงๆ ด้วยการเพิ่มศิลปินเจนเนอเรชั่นใหม่ร่วมแบทเทิ่ลกันบนเวทีอย่าง นนท์ เดอะ ว๊อยซ์ 1, หนุ่ม เดอะว๊อยซ์ 3 และปอ AF7 ด้วย หลายคนที่พลาดครั้งที่แล้วไปบอกเลยว่า ครั้งนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดแล้วจะบ่นเสียดายไม่ได้นะจ๊ะ,งานปาร์ตี้นี้ จี๊ป วสุ ถือโอกาสเป็นพิธีกรดำเนินงานเองซะเลย เมื่อถึงเวลาก็กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนที่มาร่วมในงานกันอย่างเป็นกันเอง ตามด้วยเรียนเชิญผู้สนับสนุนใจดีมาตลอดอย่าง คุณปิย สมุทรโคจร Marketing Director บมจ.เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ขึ้นบนเวที ตามด้วย คุณกฤต สุทธิถวิล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ขึ้นกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการอย่าง น้ำดื่มคริสตัล และกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ข่าวทุกรูปแบบให้กับ น้ำดื่มคริสตัล พรีเซนทส์ เดอะ พาเลซ แอนด์ เฟรนด์ส คอนเสิร์ต ที่ผ่านมา,ต่อจากนั้นก็ถึงเวลาแห่งความสนุกสนานกับเรโทรปาร์ตี้ของเหล่าศิลปิน วง เดอะ พาเลซ นำโดย จี๊ด (รอยัลสไปรท์ส ), ต้น (แมคอินทอช), สายชล (ดิ อินโนเซ้นท์), พีรสันติ (ดิ อินโนเซ้นท์), จืด (ฟอร์เอฟเวอร์), อ๊อด (คีรีบูน), เต้ย (อินคา) และ จี๊ป วสุ (พลอย) จัดหนักให้กับขาแด๊นซ์ทั้งหลายได้ร้อง เล่น เต้น กันให้จุใจ ร่วมด้วยแขกรับเชิญพิเศษอย่าง ปุ๊-อัญชลี จงคดีกิจ และ 2 คู่ซี้อย่าง แม่เม้าท์-สุดา ชื่นบานและแม่แดง-ฉันทนา กิติยพันธ์ บรรยากาศทั้งงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานและแดนซ์กันกระจายอย่างเป็นกันเอง และอบอุ่นของเหล่าบรรดาสื่อมวลชนที่มาร่วมงาน,น้ำดื่มคริสตัล พรีเซนทส์ คอนเสิร์ต เดอะพาเลซ แอนด์ เฟรนดส์ รีสเตจ ในครั้งนี้มีศิลปินมากมายตบเท้าเข้าร่วมสร้างความสุขให้กับแฟนเพลงตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น แต่ยังมีแขกเซอร์ไพร์สที่เรายังอุบเอาไว้อีกซึ่งจะเป็นใครนั้นต้องรอลุ้นกันบนเวที คอนเสิร์ตจะจัดขึ้นใน วันเสาร์ที่ 17 มกราคม 2558 ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เวลา 15.00 น. เปิดจองบัตรแล้ววันนี้ที่ THAITICKETMAJOR ทุกสาขา โทร.0-2262-3456 บัตรราคา 4,000 / 3,000 / 2,500 / 1,500 และ 1,000 บาท (โปรโมชั่นลด 10% เพียงนำฉลากน้ำดื่มคริสตัล 5 ฉลากมาแลกรับส่วนลดได้ที่บูธไทยทิคเก็ตเมเจอร์) ฟิตร่างกายให้พร้อมแล้วมาสนุกร่วมกันอีกครั้ง. | iWAVE (ไอเวฟ) ได้จัดงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินเรโทรทั้ง 8 คนตามคำเรียกร้องอีกครั้งกับ น้ำดื่มคริสตัล พรีเซนทส์ เดอะ พาเลซ แอนด์ เฟรนด์ส รีสเตจ คอนเสิร์ต ที่กลับมาให้เต็มอิ่มกันอีกหนในวันเสาร์ที่ 17 มกราคม 2558 นี้ | null | คอนเสิร์ต,ไอเวฟ,เดอะ พาเลซ แอนด์ เฟรนด์ส,น้ำดื่มคริสตัล พรีเซนทส์ คอนเสิร์ต เดอะพาเลซ แอนด์ เฟรนดส์ รีสเตจ,จี๊ป วสุ,iWAVE,คอนเสิร์ตเรโทร,ปาร์ตี้,ปุ๊ อัญชลี,รีสเตจ | https://www.thairath.co.th/content/471756 |
ญาติระอา หนุ่มเมายาบ้าข้ามวัน อาละวาดทำลายข้าวของ ถือมีดไล่ฟันคน | เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 61 ด.ต.สมเกียรติ ไกรนรา หัวหน้าป้อมสายตรวจกรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.ทุ่งใหญ่ ว่า มีคนเสพยาเสพติดเมาอาละวาดที่ในบ้านแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ พบ นายจรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี กำลังยืนถือมีดพร้ากวัดแกว่งไปมา พูดจาจับใจความไม่ได้พยายามเจรจาอยู่นาน จน นายจริทร์ ยอมวางอาวุธมีดลง และยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าใกล้จับกุมตัว,นอกจากนี้ ในบ้านที่เกิดเหตุพบข้าวของเครื่องใช้ถูกทุบทำลายจนพังเสียหายไปหลายอย่าง ภายในบ้านยังมีกลิ่นแก๊สหุงต้มเหม็นคละคลุ้งกระจายฟุ้งเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่ต้องสั่งห้ามทุกคนทำให้เกิดประกายไฟ ก่อนจะช่วยกันเปิดประตูหน้าต่างบ้าน และเปิดพัดลม เพื่อให้ระบายกลิ่นแก๊สออกให้หมด,ขณะเดียวกัน ที่หน้าบ้านพบรถกระบะโตโยต้า ซึ่งเป็นของน้องชายของนายจรินทร์ ถูกทุบกระจกหน้ารถจนแตกร้าว สร้างความไม่พอใจให้กับพ่อแม่และพี่น้องทุกคนของนายจรินทร์ ถึงขั้นต้องให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด,แม่ของนายจรินทร์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่หัวค่ำของคืนวันที่ 17 ก.พ. ถึงเช้าวันที่ 18 ก.พ. นายจรินทร์ลูกชายคนกลางของตนคนนี้ แอบไปเสพยาบ้าจนเพี้ยน เมาอาละวาดทุบทำลายข้าวของจนพังเสียหาย แถมยังดุด่าใช้มีดพร้าไล่ฟันทุกคนที่อยู่ในบ้าน จนต้องหนีตายกระเจิดกระเจิงไปหลบซ่อนตัว ขอนอนพักอาศัยอยู่ที่บ้านของลูกชายคนโต ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน,ทั้งนี้ พอเช้ามาก็ยังเห็น นายจรินทร์ ยืนถือมีดพร้ากวัดแกว่งไปมาตลอดเวลา พูดจาวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง แถมยังขู่จะจุดไฟเผาบ้านให้ไหม้หมดทั้งหลัง ทุกคนจึงทนดูพฤติกรรมต่อไปไม่ไหว ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ | หนุ่มวัย 34 ปี เสพยาบ้าข้ามวัน เมาเพี้ยนจนหลอน ทำลายข้าวของภายในบ้าน ก่อนถือมีดพร้าไล่ทำร้ายญาติพี่น้อง เดือดร้อนแม่บังเกิดเกล้าต้องออกจากบ้าน หวั่นไม่ปลอดภัย | ข่าว,ทั่วไทย | ลูกชายเมายา,เมายาบ้า,นครศรีธรรมราช,สภ.ทุ่งใหญ่,เมายาคลุ้มคลั่ง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1207512 |
ฟอร์เรสต์ ซิตี้ เมืองอัจฉริยะในอิสกันดาร์ | อิสกันดาร์ เมืองเล็กๆในรัฐยะโฮร์บาห์รูของมาเลเซีย กำลังถูกเนรมิตให้เป็นที่ตั้งของเมืองอัจฉริยะแห่งอนาคตภายใต้ชื่อ ฟอร์เรสต์ ซิตี้ ที่กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางขนส่งและศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และศูนย์รวมทางการค้าและศิลปวัฒนธรรมแห่งใหม่ของโลกภายในระยะเวลาอีกไม่เกิน 20 ปีข้างหน้า,ดร.เหริน ซื่อ ยิ่ว ประธานและหัวหน้าฝ่ายแผนงานธุรกิจ บริษัท การ์เด้น แปซิฟิกวิว เชื้อเชิญสื่อมวลชนจากประเทศอาเซียนทั้ง เมียนมา เวียดนาม มาเลเซีย ไทย ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ รวมทั้ง ฮ่องกง และ จีน ให้เดินทางไปเยี่ยมชมเมืองใหม่ฟอร์เรสต์ ซิตี้ ที่ห่างจากชายแดนสิงคโปร์เพียงแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น ที่สำคัญคือ เป็นเมืองที่อากาศไม่ร้อนมาก แค่ประมาณ 21-32 องศา สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี,ดร.ยิ่ว บอกว่า ฟอร์เรสต์ ซิตี้ เป็นเมืองที่เกิดจากการถมทะเลลึกมากกว่า 12-15 เมตร บนพื้นที่มากกว่า 20 ตารางกิโลเมตรของเกาะ 4 เกาะ โดยเฟสแรกที่เราไปเยือนคราวนี้เป็นเกาะแรกของโครงการ ที่มีทั้งคอนโดฯที่พักอาศัย โรงแรม และสนามกอล์ฟ 18 หลุมอีก 3 สนาม,หนึ่งในนั้นออกแบบโดยแจ๊ค นิคลอส,โดยจะเป็นต้นแบบของเมืองแห่งอนาคต ที่เป็นทั้งเมืองสีเขียวและเมืองอัจฉริยะ เอาแค่เรื่องระบบความปลอดภัยเรื่องเดียว ฟอร์เรสต์ ซิตี้ ก็สามารถตอบโจทย์คนที่เข้าไปพักอาศัยหรือท่องเที่ยวได้แล้ว ด้วยกล้อง CCTV มากกว่า 100 ชุดที่ติดตั้งตลอดทั้งเมือง,ซึ่งถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยว พักผ่อนที่นี่ในช่วงที่โครงการกำลังเริ่มต้นดำเนินการอยู่นี้ แค่ได้ไปนอนมองวิวทะเลจากทุกด้านของเมืองในรูปแบบพาโนรามา 270 องศา ในโรงแรมหรูแห่งแรกที่ชื่อ Phoenix Hotel ก็ถือว่าคุ้มสุดๆ เรียกว่านอนอยู่ที่นี่ สามารถที่จะมองเห็นประเทศสิงคโปร์อีกด้านได้ชัดเจน แต่ราคาที่พักถูกกว่าการพักในสิงคโปร์ในโรงแรมระดับเดียวกันประมาณ 3-4 เท่า นอกจากนี้ ถ้านั่งรถจากโรงแรม Phoenix ไปไม่เกินครึ่งชั่วโมง สวรรค์ของนักช็อปอยู่ที่นี่เลย ยะโฮร์บาห์รู พรีเมียม เอาต์เล็ต แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากกว่า 100 แบรนด์ แถมยังมีเสื้อผ้าแบรนด์ท้องถิ่น ที่ราคาไม่แพงที่ตัดเย็บดีๆให้เลือกช็อปอีกด้วย,ประธานและหัวหน้าฝ่ายแผนงานธุรกิจ บริษัท การ์เด้น แปซิฟิกวิว บอกกับเราว่า เป้าหมายของโครงการนอกเหนือจากการผสานระหว่างการพัฒนาเมืองกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติแล้ว ยังตั้งเป้าหมายที่จะให้เป็นเมืองแห่งสวนในแนวตั้ง เป็นตัวอย่างของแนวทางการลดคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับศตวรรษที่ 21 โดยมีโครงการที่จะจัดสร้างทางเดินผ่านดาดฟ้าของอาคารที่มีทั้งสวนสาธารณะและสวนหย่อมเชื่อมต่อระหว่างอาคารบ้านเรือนที่พักอาศัยให้กลายเป็นดาดฟ้าสีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งขณะนี้แค่เริ่มสร้างและเปิดโครงการมาประมาณ 2 ปี สามารถขายที่พักอาศัยได้มากกว่า 15,000 ยูนิตแล้ว,ด้วยจุดเด่นด้านการออกแบบอาคารของเมืองที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการอยู่อาศัยในเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก สามารถเดินได้ทั่วถึง มีกิจกรรมทางวัฒนธรรมและกิจกรรมเพื่อการผ่อนคลาย ท่ามกลางบรรยากาศในเขตเมืองร้อนและวิวของมหาสมุทร ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนจะไม่รู้สึกถูกตัดขาดจากส่วนอื่นๆในภูมิภาค ด้วยสาธารณูปโภคสำหรับการเดินทางในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบรถไฟฟ้าและเครือข่ายเรือเฟอร์รี่ที่เชื่อมต่อกับเส้นทางรถ MRT ของสิงคโปร์ในอนาคต รวมทั้งเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของมาเลเซียสู่กัวลาลัมเปอร์ด้วย,แค่ออกไปเดินเล่นรอบๆโรงแรมที่พักในฟอร์เรสต์ ซิตี้ ที่เพิ่งเริ่มต้น ก็ทำให้จินตนาการไปถึงภาพอนาคตที่ ดร.ยิ่ว บอกว่า ในปีที่โครงการเสร็จสมบูรณ์ บนถนนของเมืองจะไม่มีรถวิ่ง เพื่อเป็นการลดมลพิษ แต่รถจะลงไปวิ่งที่ถนนด้านล่างซึ่งออกแบบเป็นถนนและอาคารจอดรถ 2 ชั้น อยู่ใต้ดินทั้งหมด เพื่อทำให้เป็นเมืองที่มีสิ่งแวดล้อมที่สะอาด บริสุทธิ์ สำหรับคนที่พักอาศัย ส่วนคนที่มาเที่ยว อนาคตที่นี่จะเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคและในระดับโลก ด้วยชายหาดที่ทอดยาว 650 เมตรในย่านการค้า นักช็อปปิ้งสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมชายหาดได้ตลอดเวลา รวมทั้งจะเป็นศูนย์กลางของร้านค้าปลอดภาษีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,การเดินทางมายังฟอร์เรสต์ ซิตี้ มาได้ทั้งทางเรือยอชต์ เครื่องบิน รถไฟ และรถ MRT ของสิงคโปร์ รวมทั้งเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะมาจากฝั่งสิงคโปร์และมาเลเซียด้วย,อีกอย่างที่เป็นไฮไลต์ของฟอร์เรสต์ ซิตี้ คือ การทำให้เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่จะมีทั้งการแพทย์แผนตะวันตกและตะวันออกรวมไว้ด้วยกัน,นอกจากนี้ ที่นี่ยังจะเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์รังนกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของรังนกตั้งแต่การผลิตไปจนถึงอุตสาหกรรม,เอาเป็นว่า ตอนนี้ถ้ากำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนใหม่ๆ ใกล้ๆเมืองไทย แนะนำที่นี่เลยฟอร์เรสต์ ซิตี้อิสกันดาร์ ลงเครื่องที่สิงคโปร์ นั่งรถไปประมาณไม่เกิน 45 นาที ทำพิธีการผ่านแดน คุณก็จะได้พบกับสถานที่พักผ่อนแบบสบายๆชิลๆ และได้เรียนรู้การวางแผนอนาคตของเมืองที่เชื่อว่าไม่เกินปี ค.ศ.2020 จะไม่มีใครไม่รู้จัก ฟอร์เรสต์ ซิตี้ เมืองแห่งอนาคตนี้อย่างแน่นอน. | หากเอ่ยชื่อ เมืองอิสกันดาร์ อาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่นัก ทั้งๆที่เมืองนี้อยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยเท่าไหร่ แค่มาเลเซียใกล้ๆนี่เอง อิสกันดาร์ เมืองเล็กๆในรัฐยะโฮร์บาห์รูของมาเลเซีย กำลังถูกเนรมิตให้เป็นที่ตั้งของเมืองอัจฉริยะ | null | เที่ยวตามตะวัน,ฟอร์เรสต์ ซิตี้,อิสกันดาร์,มาเลเซีย,เมืองอัจฉริยะ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/travel/abroad/1063464 |
ติดกล้อง 6 ตัวไม่ช่วยอะไร โจรย่องเบาบุกบ้านหรูยกทีวี 52 นิ้วหนีลอยนวล | เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 60 ร.ต.อ.อภิวุฒิ ลีโพนทอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ ที่บ้านเลขที่ 59 ซอย 5 หมู่บ้านสิทธารมย์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.วิเชียร คล้อยดี รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกำลังรุดไปตรวจสอบ ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุเป็นหมู่บ้านหรู มี รปภ.เฝ้าประตูเข้าออกหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง,ทั้งนี้ นางสาวอัฉริยา สุริยา อายุ 35 ปี อาจารย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เจ้าของบ้าน ให้การว่า ตนมีบ้าน 2 หลัง บ้านหลังนี้ตนซื้อไว้ 3 ปีแล้ว จะมาทำความสะอาดรดน้ำต้นไม้ และพักอาศัยสัปดาห์ละ 1 วัน โดยไม่ได้เก็บของมีค่าไว้ในบ้าน นอกจากทีวีจอแบนขนาด 52 นิ้ว 1 เครื่องเท่านั้น โดยรอบบ้านตนได้ติดกล้องวงจรปิดไว้ 6 ตัว,โดยก่อนเกิดเหตุ ตนได้แวะมาดูและรดน้ำต้นไม้ เมื่อเปิดบ้านเข้ามาก็พบทีวีหายไป จึงได้เดินตรวจรอบบ้าน ก็พบหน้าต่างหลังบ้านถูกงัด เหล็กแหลมบนรั้วคอนกรีตหลังบ้านถูกหักออก 4 ซี่ ซึ่งก่อนหน้านี้เพื่อนบ้านได้มาบอกตนให้มาแวะดูบ้านบ่อยๆ เพราะเคยเห็นผู้ชายปีนรั้วเข้าออกบ้านของตนประจำ ซึ่งตนก็ไม่ได้ระมัดระวัง ยังคงมาบ้านสัปดาห์ละครั้งเหมือนเดิม กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว,ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนในหมู่บ้าน มีไม่ต่ำกว่า 2 คน เข้ามาดูลาดเลาก่อนลงมือ โดยปีนรั้วเข้ามาด้านหลัง ก่อนใช้ไม้ที่มีความยาวกดกล้องวงจรก้มหน้าลง ทำให้กล้องไม่สามารถจับภาพคนร้ายได้ ก่อนจะงัดหน้าต่างให้หลุดออกจากร่อง และยกออกทั้งบ้าน ก่อนเข้าไปลักเอาทีวีหลบหนีไป ซึ่งตำรวจจะได้สืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป | โจรเหนือกล้อง! อาจารย์ ม.ราชภัฏอุดรธานี สุดเซ็ง ติดกล้องวงจรปิด 6 ตัว แต่ก็ยังมีโจรย่องเบามางัดบ้านยกทีวีจอแบน 52 นิ้ว หนีลอยนวล แถมยังนำไม้กดกล้องลงทำให้ไม่เห็นหน้า | null | โจรขึ้นบ้าน,กล้องวงจรปิด,ขโมยทีวี,บ้านหรู,อุดรธานี | https://www.thairath.co.th/content/854128 |
ผู้นำฝ่ายค้านชี้ ร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี57 ไม่ตรงประเด็น-แนะสมช.ทวนแนวทางพูดคุยบีอาร์เอ็น | นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ว่า ฝ่ายค้านพุ่งเป้าที่การใช้จ่ายงบประมาณในทางการเกษตร ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์ และอยากให้รัฐบาลทบทวนแนวทาง เพราะโครงการรับจำนำข้าวเห็นว่ามีความสูญเสียชัดเจน ขณะที่รัฐบาลยังชี้แจงไม่ตรงประเด็น โดยเฉพาะเรื่องที่พรรคชี้ให้เห็นว่าเกษตรกรได้รับเงินเพียงร้อยละ 40-50 เท่านั้น แต่ที่เหลือสูญเสียไปกับการทุจริต ซึ่งหากเดินหน้าต่อ พรรคประชาธิปัตย์คงไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้ และการที่นายกรัฐมนตรี อ้างว่าไม่สามารถระบายข้าวได้ เพราะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทนั้นไม่ตรงความจริง เนื่องจากการกำหนดแผนโครงการรับจำนำข้าวผิดเป้ามาโดยตลอด และเห็นความสูญเสียชัดเจน หากอ้างผลกระทบค่าเงินบาท ประเทศอื่นๆที่ขายข้าวได้มากกว่าไทย จะได้รับผลกระทบจากค่าเงินด้วย ดังนั้นจึงอยู่ที่ความไม่ถูกต้องของนโยบายมากกว่าทั้งนี้ยืนยันว่า การอภิปรายของฝ่ายค้านที่ผ่านมาตรงประเด็น อยู่ในกรอบการใช้งบประมาณปี 2557 โดยเป็นการชี้ให้เห็นถึงทางที่จะมีการทุจริต และเม็ดเงินที่จะสูญเสียไป และไม่ได้เป็นการมุ่งโจมตีรัฐมนตรีรายบุคคล เหมือนการอภิรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นการพูดในภาพรวมซึ่งไม่ผิดข้อบังคับ ดังนั้นขอให้รัฐบาลอย่าใช้วิธีการประท้วงในช่วงที่การอภิปรายอยู่ในประเด็นนายอภิสิทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า การเผยแพร่คลิปผ่านยูทูปของกลุ่มบีอาร์เอ็น รอบที่ 3 ปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นฝ่ายก่อความรุนแรง แต่เป็นฝ่ายรัฐไทย ที่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา เห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช. จะต้องทบทวนแนวทางการพูดคุย และต้องเปลี่ยนท่าที เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะต้องไปพูดคุยกับกลุ่มที่กล่าวหาว่ารัฐใช้ความรุนแรง และไม่มีความจริงใจในการที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหา ด้วยการสร้างความเข้าใจผิดในสายตาของนานาประเทศ โดยการให้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง โฆษณาชวนเชื่อ เกี่ยวกับความรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งหากยังยืนยันเดินหน้าพูดคุยต่อไม่น่าจะนำไปสู่ความสงบเรียบร้อย และจะตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มบีอาร์เอ็นในการสร้างความเข้าใจที่ผิดส่วนการที่ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันจะเดินหน้าต่อเพราะเป็นการเพิ่มช่องทางในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่นั้น ควรประเมินว่า 3-4 เดือนที่ผ่านมา การเพิ่มช่องทางการพูดคุยแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ ในทางกลับกันเป็นช่องทางหนึ่งที่สะท้อนความอ่อนแอ ความไม่ชัดเจนและความไม่เป็นเอกภาพของรัฐบาล ดังนั้นหากรองนายกรัฐมนตรีจะไปพูดคุยในพื้นที่จะต้องมีความชัดเจน และที่สำคัญควรพิจารณาด้วยว่าหากกลุ่มบีอาร์เอ็น ไม่สามารถควบคุมแนวร่วมหรือระงับความรุนแรงในพื้นที่ได้ ควรจะพูดคุยอีกหรือไม่ และหากนายกรัฐมนตรีจะทบทวนแนวทางแก้ไขปัญหาขณะนี้ยังไม่สาย ซึ่งฝ่ายค้านไม่ได้มองว่าล้มเหลว แต่อย่างน้อยหากแก้ไม่ได้ก็ไม่ควรทำให้แย่กว่าเดิม | ผู้นำฝ่ายค้านระบุรัฐบาลชี้แจงร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 57 ไม่ตรงประเด็น ขณะที่เสนอแนะสมช.ให้ทบทวนแนวทางพูดคุยกับขบวนการบีอาร์เอ็น หลังเผยแพร่คลิปผ่านยูทูปรอบ 3 | การเมือง | ขาดดุล,บีอาร์เอ็น,ผู้นำฝ่ายค้าน,พ.ร.บ.งบประมาณ,พูดคุย,รัฐบาล,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | https://news.thaipbs.or.th/content/173070 |
สาวผู้ก่อตั้งกลุ่มประท้วงเปลือยอก ฟีเมน ฆ่าตัวตายในปารีส | สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน,ว่า น.ส. โอคซานา ชาชโค ชาวยูเครนวัย 31 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรี ฟีเมน (Femen) และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการบุกประท้วงต่อหน้าผู้นำโลกรวมทั้งประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ด้วยการเปลือยอก เสียชีวิตแล้วที่ฝรั่งเศส โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย,ข่าวระบุว่า ศพของน.ส.ชาชโคถูกพบที่อพาร์ตเมนต์ของเธอในกรุงปารีส เมื่อวันจันทร์ที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีจดหมายลาตายวางอยู่ข้างตัว,ทั้งนี้ กลุ่มฟีเมนและน.ส.ชาชโคออกมาประท้วงกลุ่มหรือบุคคลที่มีอำนาจทางการเมืองอยู่เป็นประจำ ก่อนที่น.ส.ชาชโคจะถูกคนร้ายลักพาตัวไประหว่างที่ประธานาธิบดีปูตินเดินทางเยือนประเทศรัสเซีย จากนั้นน.ส.ชาชโคจึงหลบหนีไปประเทศฝรั่งเศสก่อนจะถูกพบเป็นศพ,น.ส.อินนา เชฟเชนโก หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มฟีเมนอีกคนผู้อาศัยอยู่ในฝรั่งเศส เป็นคนออกมายืนยันข่าวการเสียชีวิตของน.ส.ชาชโค ขณะที่เพื่อนๆ บอกกับสื่อว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา น.ส.ชาชโคพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง และทำสำเร็จในครั้งที่ 3 นี้เอง | สาวชาวยูเครนหนึ่งในสี่ผู้ก่อตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวประท้วงเปลือยอก ฟีเมน ฆ่าตัวตายในกรุงปารีส แต่ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุการตาย หรือสาเหตุที่เธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง | ข่าว,ต่างประเทศ | ฆ่าตัวตาย,ฟีเมน,ประท้วงเปลือยอก,ปารีส,โอคซานา ชาชโค | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1342006 |
รถกระบะ ล้อระเบิด พุ่งชนต้นไม้เกาะกลาง ลูกสาวกับหลานเจ็บ ส่วนแม่ตาย | เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 8 ส.ค. ร.ต.อ.ทนงศักดิ หล้าคำมี รองสารวัตรสอบสวน สภ.สูงเม่น จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนต้นไม้เกาะกลางถนน บนถนนสายยันตรกิจโกศลขาล่อง หมู่ที่ 3 ต.ร่องกาศ อ.สูงเม่น จ.แพร่ หลังได้รับแจ้งแล้วได้ร่วมกับหน่วยกู้ภัยสูงเม่น รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบว่า มีรถยนต์ปิกอัพ อีซูซุ สองตอน สีบรอนเงิน ทะเบียน บ.ม 6283 แพร่ จอดขวางถนนขาล่อง ทำให้รถติดยาว พบมีผู้บาดเจ็บจำนวน 3 คน เป็นผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 คน จึงได้รีบนำส่งโรงพยาบาลแพร่,จากการสอบสวนทราบว่า คนขับ คือ นางสาวลัดดาวัลย์ แคทมาลาศรี อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 407/120 หมู่ 6 ต.ป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนอีกคนที่นั่งมาด้วย คือ นางสร้อยสุดา โนนโพธิ์ บ้านเลขที่ 407/201 หมู่ 6 ต.ป่าแมด อ.เมือง จ.แพร่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้น มีเด็กเป็นหญิง อายุ 5 ขวบ ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ส่วนสาเหตุ นางสาวลัดดาวัลย์ คนขับให้การว่า ตนและแม่ และหลานอีกคน ไปทำธุระในอำเภอสูงเม่น ขากลับมา ถึ่งที่เกิดเหตุซึ่งตนไม่ชินเส้นทางในขณะนั้น ยางล้อหน้าเกิดระเบิดเสียงดัง ตนตกใจพยายามเบรครถเสียหลักพุ่งขึ้นเกาะกลางถนนและชนกับต้นไม้ จนทำให้รถพุ่งไปตกอีกเลนขาล่อง และทำให้แม่เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวน จะได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ต่อไป | เศร้า! รถกระบะ กลับจากทำธุระ ที่ อ.สูงเม่น แพร่ ล้อระเบิดพุ่งชนต้นไม้เกาะกลาง ลูกสาวคนขับวัย 21 ปีกับหลาน อายุ 5ขวบ บาดเจ็บ ส่วนแม่ที่นั่งคู่มาด้วยกัน ไปตายที่รพ. | ข่าว,ทั่วไทย | รถกระบะ,ชนต้นไม้เกาะกลาง,ลูกสาวสาหัส,แม่ตาย,ล้อระเบิด,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/north/1350987 |
เพเซอร์ส เปิดรัง ดับซ่า บูลล์ส 98-84 | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 มี.ค. การแข่งขันบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ฤดูกาล 2014-15 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) เกมที่น่าสนใจ อยู่ที่สนามไลฟ์ ฟิลด์เฮาส์ เป็นการดวลกันของทีมในกลุ่มตะวันออก อินเดียนา เพเซอร์ส เปิดสนามรับการมาเยือนชอง ชิคาโก บูลล์ส,เริ่มควอเตอร์แรกเจ้าบ้านออกตัวได้ดีกว่าทำแต้มขึ้นนำก่อน 23-20 เช่นเดียวกันกับในควอเตอร์ที่สอง แต่คราวนี้ฝั่งผู้มาเยือนทำเสียวได้ ดั๊ก แม็คเดร์มอตต์ ฟอร์เวิร์ดวัย 23 ปี ชู้ตพาทีมพลิกขึ้นนำช่วงกลางเกม แต่ดันมาแผ่วปลาย ทำให้ เพเซอร์ส ยังคงนำที่ 45-42,ควอเตอร์ที่สามฝั่ง กระทิงเปลี่ยว สู้ไม่ถอย ไมค์ ดันเลย์วี นำทีมทำแต้มลดช่องว่างก่อนที่ แม็คเดร์มอตต์ ยังชู้ตปิดท้าย ทำให้ทีมไล่ตีเสมอ 66-66 มาถึงควอเตอร์สุดท้ายทั้งสองทีมดวลกันอย่างสูสี และเป็นเจ้าถิ่นที่เหนือกว่า เอียน มาฮินมี ทำคนเดียว 9 แต้ม,จบการแข่งขัน อินเดียนา เพเซอร์ส เอาชนะ ชิคาโก บูลล์ส ไป 98-84 คว้าชัยต่อเนื่องเป็นเกมที่ 4 อยู่อันดับที่ 8 ของกลุ่ม มีสถิติ ชนะ 27 แพ้ 34 ขณะที่ บูลล์ส ชนะ 39 แพ้ 24 อยู่อันดับที่ 2 ของกลุ่ม,สำหรับผู้เล่นที่ทำคะแนนสูงสุดของทั้งสองทีม ฝั่ง ชิคาโก บูลล์ส เป็น พอล กาซอล ที่ยิงไป 18 แต้ม 10 รีบาวน์ 1 แอสซิสต์ ขณะที่ของ อินเดียนา เพเซอร์ส เป็น โซโลมอน ฮิลล์ ที่ทำไป 16 แต้ม 5 รีบาวน์.,ผลคู่อื่น (ทีมหลังเป็นเจ้าบ้าน),โตรอนโต แร็พเตอร์ส แพ้ ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ 94-103,ซาคราเมนโต คิงส์ แพ้ ออร์แลนโด แมจิกส์ 114-119,ยูทาห์ แจ๊ซซ์ ชนะ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส 89-83,ไมอามี ฮีต แพ้ วอชิงตัน วิซาร์ดส์ 97-99,คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส แพ้ แอตแลนตา ฮอว์กส์ 97-106,ฟีนิกซ์ ซันส์ ชนะ บรู๊คลิน เน็ตส์ 108-100,ดีทรอยต์ พิสตันส์ แพ้ ฮุสตัน ร็อกเก็ตส์ 93-103,ลอสแองเจลิส เลเกอร์ส แพ้ เมมฟิส กริซสลีส์ 90-97,บอสตัน เซลติกส์ ชนะ นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ 104-98, เดนเวอร์ นักเก็ตส์ แพ้ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส 111-120,ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ แพ้ โกลเดนสเตท วอร์ริเออร์ส 89-104 | อินเดียนา เพเซอร์ส คว้าชัยต่อเนื่องเป็นเกมที่ 4 หลังเปิดรังดับซ่า กระทิงเปลี่ยว ชิคาโก บูลล์ส 94-84
| null | เอ็นบีเอ,บาสเกตบอล,ฤดูกาล 2014-15,ชิคาโก บูลล์ส,อินเดียนา เพเซอร์ส,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/485496 |
ใบตองแห้ง: ลิเกปราบโกง | ไม่ใช่จุดอ่อน แต่เป็นจุดแข็งต่างหาก ทำให้ต้องเข้มงวดตัวเอง ระมัดระวังยิ่งกว่าคนอื่น เพราะถูกมองมากกว่า ถูกโยงอยู่ตลอดเวลาจริงๆ นะ ปู่มีชัยเขียนรัฐธรรมนูญผิด ที่ห้ามเป็น ส.ส. ส.ว. ข้าราชการการเมือง หรือสมาชิกพรรคการเมือง 10 ปี ก่อนมาเป็นองค์กรอิสระ ทำให้ได้แต่สมาชิกพรรคข้าราชการ หรือพวกเสแสร้งอาโนเนะไม่เลือกข้าง มันต้องชัดๆ ไปเลย อย่างประธานวัชรพลนี่สิ ไม่ปิดไม่บังว่าเป็นน้องรักพี่ป้อม ตัดสินอะไร สังคมก็จับจ้องได้ ไม่สามารถอ้างตัวเป็นเทวดา ลอยจากฟ้ามาเป็นกลางปัญหาจึงไม่ใช่แค่วัชรพลมีสายสัมพันธ์กับพี่ป้อม แต่พี่ป้อมมีอำนาจจากรัฐประหาร วัชรพลเป็น ป.ป.ช.โดยมติ สนช.แต่งตั้ง แถม สนช.ยังเขียนกฎหมายให้อยู่ต่อ อยู่ยาวถึงรัฐบาลหน้า ที่คาดกันว่าจะสืบทอดอำนาจมองให้กว้างจึงไม่ใช่แค่วัชรพล แต่ ป.ป.ช.เกือบทั้งคณะ องค์กรอิสระทุกองค์กร ไม่ได้มาจากกระบวนการชอบธรรม มาจากรัฐประหารตั้ง แต่แสร้งทำให้มีกระบวนการ ดูเหมือนมีอิสระ มีหน้ามีตา ถามว่าอิสระอะไรกัน ม.44 ยังปลด กกต.สมชัยได้เอาเข้าจริงก็เป็นปาหี่ หรือลิเกโรงใหญ่ ทำให้ดูว่ามีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่จะปราบทุจริตประพฤติมิชอบ ดูแลเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะไม่ได้มาจากการเมือง ไม่ยึดโยงอำนาจจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่มาจากอำนาจรัฐประหารคนดี (ที่กำลังดูด ส.ส.สืบทอดอำนาจ)องค์กรปราบโกงที่ไม่ยึดโยงประชาชน ยังได้อำนาจเพิ่มจนเป็นองค์กรอันตราย หลักๆ คือวางโครงสร้างไว้แทรกแซงการเมือง เช่น กกต.มีอำนาจระงับสิทธิผู้สมัคร ซึ่งจะส่งผลต่อคะแนนพรรค ป.ป.ช.มีอำนาจยับยั้งนโยบายรัฐบาล ส่งศาลเอาผิดถ้าขัดยุทธศาสตร์ชาติแต่บางเรื่องก็เพิ่มอำนาจเพื่อเอาใจกระแสบ้าจี้ คลั่งยาแรง ซึ่งเป็นอาการป่วยอย่างหนึ่งของคนดีในสังคมไทย เช่น ให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินกิ๊ก ทั้งที่ไม่มีสถานะตามกฎหมาย ให้ข้าราชการทุกคนต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินกับต้นสังกัด ไว้ ป.ป.ช.อยากดูเมื่อไหร่จะเรียก ซึ่งมองผิวเผินเหมือนดี แต่ข้าราชการระดับล่างส่วนใหญ่ไม่มีอำนาจให้คุณให้โทษ ไปสร้างภาระให้เขาทำไมขณะที่คนโกง ก็รู้กัน มันไม่เอามาใส่บัญชีทรัพย์สินหรอก แต่องค์กรปราบโกงถนัดจับผิดเอกสาร หรือติดคุกเพราะการตีความ ทุจริตจริงจับมือใครดมไม่ได้ เว้นแต่ฝรั่งญี่ปุ่นจับส่งให้บัญชีทรัพย์สินจึงจะกลายเป็นภาระของข้าราชการ ซึ่งในชีวิตจริง อาจมีรายได้อื่นของครอบครัว ของลูกเมีย ที่ไม่อยู่ในระบบภาษี ต่อจากนี้ต้องรู้จักแต่งบัญชี เตรียมที่มาที่ไป ไม่งั้นอีก 20 ปีโดน ป.ป.ช.สอบตอบไม่ได้ ปปง.ยึดทรัพย์ ฉิบหายเลยอันตรายของโรคบ้าจี้ ถ้าเทียบให้เห็นชัดๆ คือรัฐประหาร 2549 มุ่งเอาผิดเฉพาะทักษิณ ไทยรักไทย แต่ 4 ปียุคนี้ มีการเข้มงวดจัดระเบียบประชาชน ไม่เฉพาะทางการเมืองแต่ไปถึงการใช้ชีวิต การทำมาหากิน ซึ่งเท่ากับเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ปกครอง เทศกิจ ป่าไม้ เจ้าท่า ศุลกากร ฯลฯ ที่มีอำนาจจับกุมและออกใบอนุญาตต่างๆขณะเดียวกัน ก็ออกระเบียบกฎหมายมาควบคุมความประพฤติ การทำงาน ของข้าราชการ เช่น กฎหมายจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งส่งผลชะงัด ถ้าไม่บังคับก็ไม่มีใครอยากเป็นกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง เอาคอเข้าไปเสี่ยง เพราะ สตง. ป.ป.ช. ป.ป.ท. ปปง. ไล่ตอมเต็มไปหมดแต่ถามว่าทุจริตหมดไปไหม คนโกงก็ยังหาช่องได้ หรือการเอื้อประโยชน์เชิงนโยบาย การประมูลโครงการใหญ่ๆ โดยคนที่มีอำนาจจริง คนที่อยู่ในขั้วอำนาจ ใครกล้าแตะ | ต่อตระกูล ยมนาค ผู้เคยเรียกร้องให้ประชาชนส่งข้อความถึง ป.ป.ช. แสดงความไม่พอใจที่ถ่วงเวลาสอบ นาฬิกาเพื่อน น่าจะเปลี่ยนใจซาบซึ้งน้ำตาไหล เมื่อได้ฟังประธาน ป.ป.ช.เปิดใจ ว่าสายสัมพันธ์ พี่ป้อม | การเมือง,เศรษฐกิจ | ใบตองแห้ง,คอร์รัปชัน,ต่อตระกูล ยมนาค,องค์กรอิสระ,คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ,ป.ป.ช. | https://prachatai.com/journal/2018/07/78042 |
ซัมมิต คิม-ปูติน สู่ความหวังการเจรจา 6 ฝ่ายเวอร์ชัน 2.0 เพื่อสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี | การพบกันระหว่างผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ คิมจองอึน และ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2019 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งการประชุมที่สำคัญยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งสองผู้นำแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็มีเดิมพันสูงยิ่งในการพบกันครั้งนี้สำหรับคิมจองอึนและเกาหลีเหนือ รัสเซียคือประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุดโดยเฉพาะมิติทางเศรษฐกิจ จีนอาจจะมีความสำคัญในมิติการเมือง-ความมั่นคง แต่รัสเซียคือแหล่งที่มาของเงินตราต่างประเทศที่ไหลเข้าเกาหลีเหนือ นอกจากการขายสินค้าที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ ถ่านหิน ประมง ให้กับรัสเซียแล้ว รัสเซียทางด้านตะวันออกซึ่งขาดแคลนแรงงาน กลายเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ที่สุดของแรงงานเกาหลีเหนือในต่างประเทศ ที่ผ่านมาแรงงานกว่า 50000 คนของเกาหลีเหนือทำงานอยู่ในพื้นที่ทางด้านห่างไกลทางตะวันออกของรัสเซีย โดยเฉพาะการทำงานในเหมืองและประมง แต่เมื่อสหประชาชาติประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือในปี 2017 จำนวนแรงงานเกาหลีเหนือที่ทำงานในรัสเซียก็ลดลงเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีแรงงานทำงานอยู่เพียงประมาณ 10000 คนเท่านั้น และถ้าไม่มีการเจรจาระหว่างคิมกับปูติน จำนวนแรงงานเกาหลีเหนือในรัสเซียก็จะลดลงจนหมดไปภายในปี 2020 ดังนั้น คิมจองอึน ต้องผูกมิตรกับรัสเซียเอาไว้ เพราะนี่คือแหล่งรายได้ในรูปเงินสกุลต่างประเทศที่ยังเหลืออยู่อีกไม่กี่แหล่งสำหรับรัฐบาลเปียงยางนอกจากแหล่งรายได้จากการขายแรงงานแล้ว รัสเซียคืออีกหนึ่งมหาอำนาจที่เกาหลีเหนือสามารถใช้สายสัมพันธ์กับรัสเซียในการสร้างอำนาจต่อรองในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาการเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาในครั้งที่ 1 ที่ประเทศสิงคโปร์ ก็ยังไม่มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ซ้ำร้ายการประชุมครั้งที่ 2 ที่กรุงฮานอยก็ล้มเหลว ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ ได้ การเจรจากับจีนที่ผ่านๆ มา แน่นอนว่าก็ทำให้เกาหลีได้รับความช่วยเหลือตลอดมา แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่จีนเองก็ยังมีปัญหาสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ก็ทำให้จีนไม่สามารถทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยกู้สถานการณ์หรือแสดงความเป็นพี่เบิ้มได้อย่างเต็มที่ เพราะจีนเองก็ไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เลวร้ายลงมากไปกว่านี้ ดังนั้นรัสเซียจึงกลายเป็นยักษ์ข้างบ้านที่มีพรมแดนติดกัน ที่สามารถสร้างอำนาจต่อรอง (Leverage) ให้เกาหลีเหนือได้ในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในขณะที่รัสเซียเองก็มีผลประโยชน์ในการเจรจาครั้งนี้ เพราะรัสเซียทางด้านตะวันออกเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ แต่ขาดแคลนแรงงาน ด้วยเหตุนี้การใช้แรงงานราคาถูกจากเกาหลีเหนือก็เป็นทางออกที่ดีที่จะเสริมให้เมืองท่าอย่างเช่นวลาดิวอสต็อกกลายเป็นจุดศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกได้อย่างที่รัสเซียสร้างความหวังเอาไว้ ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของรัสเซีย วลาดิวอสต็อกคือเมืองท่าเพียงจุดเดียวของรัสเซียที่ทะเลไม่ได้เป็นน้ำแข็งตลอดทั้งปีเหมือนเมืองท่าอื่นๆ ของประเทศ นั่นจึงทำให้ที่นี่เป็นที่ตั้งฐานทัพเรือที่ใหญ่ที่สุด และเป็นที่จอดของเรือรบและเรือดำน้ำติดขีปนาวุธของกองทัพรัสเซีย เช่นเดียวกับเรือสินค้าที่ต้องมาเทียบท่าที่นี่ เพื่อนำเอาแร่ธาตุ ก๊าซธรรมชาติ โลหะต่างๆ ที่อุดมสมบูรณ์ในทุ่งน้ำแข็งไซบีเรียออกไปขายสร้างรายได้ให้กับรัสเซียในอนาคตหากสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีเกิดขึ้นได้ การเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟเข้าสู่เมืองท่าแห่งนี้ก็ยิ่งจะทำให้ความฝันของรัสเซียเป็นจริงได้มากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากเกาหลีเหนือจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญโดยเฉพาะ Rare Earth ที่ใช้ในอุตสาหกรรมไฮเทคเกือบทุกประเภทแล้ว เกาหลีเหนือยังมีทองคำ เหล็ก โลหะเงิน ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมัน รวมทั้งยังเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญไปสู่เกาหลีใต้ที่มีทั้งเทคโนโลยีและกำลังซื้อ และยังเชื่อมโยงไปยังญี่ปุ่นและจีนได้อีกด้วย นั่นทำให้หลายๆ ประเทศโดยเฉพาะจีนและรัสเซียพยายามอย่างยิ่งที่จะผูกมิตรผ่านการค้าขายกับรัฐบาลเกาหลีเหนือตลอดมา แม้จะมีมติคว่ำบาตรจากสหประชาชาติอยู่ก็ตามประธานาธิบดีปูตินก็เข้าใจในสิ่งนี้ และคงพิจารณาด้วยเช่นกันว่าที่ผ่านมาบทบาทของรัสเซียในคาบสมุทรเกาหลีและในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอาจจะยังอ่อนไป ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ที่พี่ใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกอย่างจีนกำลังพะว้าพะวังกับสงครามการค้าสหรัฐฯ ปูตินจึงเสนอตัวเพิ่มบทบาทของรัสเซียในเวทีการเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี ดังที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อเขาได้พบกับผู้นำสูงสุด คิมจองอึนการเข้ามาของรัสเซียในการเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในอดีตระหว่างปี 2003-2007 การเจรจา 6 ฝ่ายระหว่างเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และรัสเซียก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แม้ว่าการเจรจาครั้งนั้นจะไม่มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากนักก็ตามการเจรจา 6 ฝ่ายในรอบแรกเกิดขึ้นในปี 2003 เนื่องจากความล้มเหลวของข้อตกลงเจนีวาปี 1994 ระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกา โดยในทศวรรษ 1990 เกาหลีเหนือประสบปัญหาภัยธรรมชาติจนเศรษฐกิจตกต่ำ และยังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนพลังงาน ทางออกของเกาหลีเหนือในขณะนั้นคือการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อพัฒนาการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งสหรัฐฯ เกรงว่าการพัฒนาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ดังกล่าวอาจทำให้เกาหลีเหนือภายใต้การนำของ คิมจองอิล ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวไปสร้างอาวุธนิวเคลียร์ การลงนามในข้อตกลงเจนีวาปี 1994 จึงเกิดขึ้น (ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบิล คลินตัน) โดยเกาหลีเหนือสัญญาว่าจะปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ดังกล่าว ซึ่งฝ่ายเกาหลีเหนือก็ปิดจริง แลกกับการที่สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะเป็นผู้เข้ามาลงทุนสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เป็นเทคโนโลยีที่ไม่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธให้กับเกาหลีเหนือ โดยในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนเกาหลีเหนือ สหรัฐฯ จะส่งน้ำมันดิบปริมาณ 500000 ตันเข้ามายังเกาหลีเหนือในทุกๆ ปีเหตุการณ์ดำเนินได้ด้วยดีจนกระทั่งหมดวาระของคลินตันในปี 2001 และภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช กลับประกาศว่า เกาหลีเหนือ คือ 1 ใน 3 ประเทศที่เป็นภัยคุกคามของโลกภายใต้ชื่อ Axis of Evil (ควบคู่กับอิรักและอิหร่าน) ในขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ นางคอนโดลิซซา ไรซ์ ก็ประกาศว่า ผู้นำเกาหลีเหนือคือ Outpost of Tyranny เหล่านี้ทำให้สหรัฐฯ นั่นเองที่เป็นฝ่ายไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเจนีวาปี 1994 โดยผลักภาระไปให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นผู้รับภาระทั้งหมดไป และนั่นเท่ากับเป็นการบีบให้เกาหลีเหนือต้องกลับมาเดินหน้าสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใหม่อีกรอบ และในที่สุดก็กลายเป็นชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์ได้อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ปี 2003 ด้วยความหวาดหวั่นของสหรัฐฯ ว่าเกาหลีเหนือจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ สหรัฐฯ จึงขอให้ปักกิ่งเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจา 3 ฝ่าย สหรัฐฯ จีน และเกาหลีเหนือ ในการบังคับให้เกาหลีเหนือยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์ ซึ่งแน่นอนว่าในครั้งนั้นเกาหลีเหนือก็ไม่ยอมรับคำขอของสหรัฐฯ เสียแล้ว เกาหลีเหนือมองว่าหากตนเองยอมทำตามนั่นก็เท่ากับตนเองยอมให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ เท่ากับสหรัฐฯ เข้ามามีอำนาจเหนือรัฐบาลของคิม ซึ่งยึดมั่นในหลักการจูเช (Juche พึ่งพาตนเองบนหลักการ 3 ข้อ Jaju การมีอิสรภาพ Jarip เศรษฐกิจชาตินิยมพึ่งตนเอง และ Jawi การมีกองทัพที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันตนเอง ร่วมกับแนวคิด Songkun กองทัพต้องมาก่อน) แต่เกาหลีเหนือก็ยังเปิดทางเจรจาไว้ โดยขอให้เป็นการเจรจา 6 ฝ่าย อันได้แก่ เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย ซึ่งการเจรจา 6 ฝ่ายก็เกิดขึ้นระหว่างปี 2003-2007 ซึ่งแน่นอนสำหรับเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน และรัสเซีย การที่เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์เป็นของตนเองคือหอกข้างแคร่ ดังนั้นจึงเข้าร่วมการเจรจา แต่อย่างไรก็ตาม การเจรจา 6 ฝ่ายก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น 6 รอบ และยุติลงไปแล้วในปี 2009ดังนั้นในปี 2019 ซึ่งนับเป็นวาระครบรอบ 10 ปีหลังการยุติการเจรจา 6 ฝ่าย และเมื่อเราได้เห็นรัสเซียเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่เสนอตัวเข้ามาในการสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี เท่ากับว่าเราได้เห็นผู้เล่นทั้ง 6 กลับเข้าสู่สนามการเจรจาอีกรอบ นั่นหมายความว่า Six-Party Talk version 2.0 อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเร็วๆ นี้ ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินคาดหวังภาพ: พิสูจน์อักษร: | การประชุมสุดยอดผู้นำระหว่าง คิมจองอึน และ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เป็นเครื่องสะท้อนว่า รัสเซียยังคงเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญของเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะมิติทางเศรษฐกิจ เพราะรัสเซียเป็นแหล่งที่มาสำคัญของเงินตราต่างประเทศที่ไหลเข้าเกาหลีเหนือนอกจากแหล่งรายได้จากการขายแรงงานแล้ว รัสเซียคืออีกหนึ่งมหาอำนาจที่เกาหลีเหนือสามารถใช้สายสัมพันธ์กับรัสเซียในการสร้างอำนาจต่อรองในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ซัมมิตที่วลาดิวอสต็อกเป็นสัญญาณว่ารัสเซียกำลังกลับมาเป็นผู้เล่นในการสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่การเจรจา 6 ฝ่ายยุติลงด้วยความล้มเหลวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว | null | null | https://thestandard.co/kim-jong-un-vladimir-putin-summit-4/ |
เพจ ลุงตู่ ตูน ยัน ไม่มียกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขอปชช.อย่ากังวล | โดยข้อความระบุว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่มีหมดอายุ ,อย่าหลงเชื่อข่าวลือที่หวังสร้างความสับสนให้ประชาชน และดิสเครดิตรัฐบาลชุดใหม่ เรื่องการยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยให้เหตุผลว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา นายกฯ ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อาทิ การพูดในระหว่างการตรวจราชการพื้นที่กรุงเทพมหานคร กลุ่มตะวันออก ที่ตลาดมีนบุรี เขตมีนบุรี ว่า คำพูดของผมไม่ได้โกหก ไม่ได้บิดเบือน ไม่อะไรทั้งสิ้น อะไรทำได้ผมก็รับปากทำได้ และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่มีวันเลิก,นอกจากนี้ ในเพจลุงตู่ ตูน ยังได้โพสต์ภาพ และข้อความ ปฏิทิน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนมิถุนายน ให้เห็นว่าในเดือนมิถุนายนนี้ จะได้รับสิทธิประโยชน์ใดบ้าง ว่า ในวันที่ 1 มิถุนายน สิทธิประโยชน์ที่ประชาชนจะได้ คือ เงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค 500 บาท วันที่ 2 มิถุนายน เงินค่าอบรม 100-200 วันที่ 9 มิถุนายน เบี้ยคนพิการ 200 บาท วันที่ 12 มิถุนายน เงินช่วยเหลือค่าเช่าบ้านผู้สูงอายุ 400 บาท วันที่ 15 มิถุนายน เงินสงเคราะห์ยังชีพ เพื่อผู้สูงอายุ 50-100 บาท วันที่ 18 มิถุนายน เงินช่วยเหลือค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 เงินช่วยเหลือไม่เกิน 230 บาท และวันที่ 21 มิถุนายน ค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล/ค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวกับสุขภาพ,เพจลุงตู่ ตูน ยังโพสต์ข้อความ ยืนยันขอให้พี่น้องประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.5 ล้านคน ไม่ต้องกังวล รัฐบาลใหม่ยังคงเดินหน้าดูแลประชาชนผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเหมือนเดิม | เพจเฟซบุ๊ก ลุงตู่ ตูน ที่สนับสนุนการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความ ชี้แจง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่มีวันหมดอายุ หลังมีข่าวลือ รัฐบาลใหม่ จะยกเลิก | ข่าว,การเมือง | บัตรคนจน,บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ,ลุงตู่ ตูน,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ยกเลิก บัตรคนจน,ไม่ยกเลิก บัตรคนจน,เพจลูงตู่ตูน,เกษตร | https://www.thairath.co.th/news/politic/1589238 |
ปู่รอยยก บาร์คลีย์-ทาวน์เซนด์ ตัวเปลี่ยนเกม | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 31 มี.ค. รอสส์ บาร์คลีย์ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือ สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ แสดงความชื่นชม รอสส์ บาร์คลีย์ และ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ที่ช่วยพลิกสถานให้ทีมในเกมอุ่นเครื่องที่บุกไปเสมอ อัซซูรี อิตาลี 1-1,ในเกมอุ่นเครื่อง ที่ สนาม ยูเวนตุส สเตเดียม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อิตาลี เป็นฝ่ายที่ได้ประตูออกนำก่อนใน นาทีที่ 28 จากลูกโขกของ กราเซียโน เปลเล ก่อนที่ อังกฤษ จะมาได้ประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 79 จากลูกยิงของ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ตัวสำรอง ช่วยให้ทีมมีสถิติยังไร้พ่าย 9 นัดติด ,หลังเกม ฮอดจ์สัน ก็ได้ให้สัมภาษณ์แสดงความชื่นชมสองตัวสำรองอย่าง บาร์คลีย์ และ ทาวน์เซนด์ ที่ช่วยพลิกสถานการณ์ของทีม โดยกล่าวว่า บาร์คลีย์ มหัศจรรย์มาก ผมคิดว่าทั้งเขาและ ทาวน์เซนด์ ช่วยเปลี่ยนเกม และ บาร์คลีย์ เล่นได้ดีมากจริงๆ,บาร์คลีย์ มีความกล้าหาญมากๆ เขาเป็นคนหนุ่มที่โดดเด่นและมันก็ดีที่เรามีโอกาสได้เขามาร่วมทีม นอกจากนี้แล้วผมก็ยังต้องขอพูดถึง แอนดรอส เพราะเขาลงสนามและทำสิ่งที่วิเศษในตอนที่เรากำลังต้องการมัน ถึงแม้จะเป็นแค่เกมอุ่นเครื่องแต่การมาเยือนอิตาลีไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาไหนๆ ก็ไม่ง่ายที่จะทำเรื่องแบบนี้ เราเป็นหนี้บุญคุณ แอนดรอส จริงๆ. | รอย ฮอดจ์สัน กุนซือ สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ แสดงความชื่นชม รอสส์ บาร์คลีย์ และ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ที่ช่วยพลิกสถานพาทีมอุ่นเครื่องเสมอ อัซซูรี อิตาลี 1-1 …
| null | อุ่นเครื่อง,สิงโตคำราม,ทีมชาติอังกฤษ,รอย ฮอดจ์สัน,แอนดรอส ทาวน์เซนด์,รอสส์ บาร์คลีย์,อิตาลี,อัซซูรี,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/490368 |
จาตุรนต์ ฉายแสง: จะรำลึกเหตุการณ์พฤษภา 35 กันอย่างไร ? | เหตุการณ์พฤษภาทมิฬเมื่อ 24 ปีก่อน เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่สืบเนื่องจากการรัฐประหารโดยคณะ รสช.เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2534หลังจากการรัฐประหารแล้วได้มีการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นท่ามกลางการคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนิ้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย ประเด็นสำคัญที่คัดค้านกันมากในขณะนั้น คือ การกำหนดให้ผู้ที่ไม่ได้เป็น สส.สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้และ ส.ว.มาจากการแต่งตั้ง แต่ในที่สุดก็ได้มีการประกาศใช้ร่างรัฐธรรมนูญในปี 2534 นั้นเอง และได้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในเดือนมีนาคม 2535 และมีการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นในเวลาต่อมาคณะ รสช.ได้อยู่เบื้องหลังการรวบรวมนักการเมืองจากพรรคต่างๆมาตั้งเป็นพรรคการเมืองขึ้นใหม่ พรรคการเมืองนี้ได้ที่นั่งส.ส.มากเป็นอันดับหนึ่ง จึงได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลขึ้น ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ผบ.ทบ.ในขณะนั้นซึ่งมีฐานะเป็นแกนนำคนสำคัญของ รสช.ด้วยกระแสคัดค้านรัฐธรรมนูญมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้วไปจนหลังการเลือกตั้งทั่วไปก็มีการเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นสำคัญ คือ ให้นายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส.และให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา การเรียกร้องนี้มีองค์กรสมาพันธ์ประชาธิปไตยเป็นแกนนำ มีองค์กรนักศึกษาและองค์กรภาคประชาสังคมเข้าร่วมอย่างแข็งขัน พรรคการเมืองฝ่ายค้านในขณะนั้นได้แก่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคความหวังใหม่ พรรคพลังธรรมและพรรคกิจประชาคม ก็เข้าร่วมด้วยก่อนการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร ประกาศอย่างหนักแน่นชัดเจนมาตลอดว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆในรัฐบาล แต่ต่อมากลับรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่าเป็นการ ทำให้ผู้ที่ร่วมกันเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชนจำนวนมากมีความไม่พอใจอย่างมาก ที่มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารและตระบัดสัตย์เหตุการณ์ทางการเมืองจึงได้พัฒนาไปเป็นการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญควบคู่กันไปกับการขับไล่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ออกจากตำแหน่ง มีประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมและสนับสนุนการเรียกร้องนี้อย่างกว้างขวาง กลุ่มที่มีบทบาทมากเป็นพิเศษและมักถูกกล่าวถึงก็คือ ชนชั้นกลางในเมือง ซึ่งขณะนั้นเพิ่งนิยมใช้โทรศัพท์มือถือกันมากและสามารถสื่อสารถึงกันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การชุมนุมในเดือนพฤษภาคม 2535 ถูกเรียกว่าเป็น ม็อบมือถือการชุมนุมที่เข้มแข็งมีพลังเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2535 เมื่อสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นๆ พรรคฝ่ายค้านในขณะนั้นได้เสนอให้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนขึ้นเพื่อประชุมหาทางคลี่คลายสถานการณ์ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จต่อมามีการจับผู้นำการชุมนุม ปราบผู้เข้าร่วมชุมนุมจนเหตุการณ์บานปลาย มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากและในที่สุดพล.อ.สุจินดา คราประยูรได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการสิ้นสุดลงของการสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหารเพียงเท่านั้นมีการตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นแทนที่โดยรัฐบาลนั้นประกาศอย่างชัดเจนว่าจะอยู่ทำหน้าที่เพียงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วก็จะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นก่อนจะมีการเลือกตั้ง ได้มีการแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก สส.และให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา แม้การแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนั้นไม่ได้ครอบคลุมประเด็นกว้างขวางนัก แต่ก็ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวใหญ่และเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการปฏิรูปการเมืองที่ก่อให้เกิดรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นโดยประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนหลายฝ่ายได้ร่วมกันเรียกร้องให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยในประเด็นสำคัญ คือ ปฏิเสธการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส.หรือมักเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า นั่นเองมักมีการกล่าวอ้างกันว่าการกำหนดในรัฐธรรมนูญให้คนนอกสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้นไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะหากพรรคการเมืองหรือนักการเมืองไม่เอาด้วยเสียอย่าง คนนอกก็ไม่อาจเป็นนายกรัฐมนตรีได้อยู่ดีหากศึกษาทบทวนเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่การรัฐประหารโดยรสช.ในปี 2534 เรื่อยมาจนถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬและสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา ก็จะเห็นว่าที่การกล่าวอ้างเช่นนั้นไม่เป็นจริงเลย เพราะเมื่อมีการเปิดช่องแม้เพียงเล็กๆให้คนนอกสามารถเป็นนายกฯได้แล้ว สิ่งที่ตามมา ก็คือ การพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้คนนอกได้เป็นนายกฯได้จริงๆ เช่น การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน การอายัดทรัพย์สินที่ถูกใช้เป็นเงื่อนไขต่อรองให้นักการเมืองต้องยอมสยบร่วมมือ การตั้งพรรคการเมืองโดยคณะ รสช.บงการและสนับสนุน การใช้อำนาจรัฐและทุนมหาศาลแทรกแซงการเลือกตั้งอย่างโจ๋งครึ่ม และการบัญญัติในรัฐธรรมนูญเพื่อปิดทางนักการเมืองบางคน บางพรรคไม่ให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง เหล่านี้เป็นต้น ได้เกิดขึ้นเพียงเพื่อทำให้การสืบทอดอำนาจของรสช.และให้แกนนำรสช.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งได้เป็นนายกฯสมใจตามแผนการที่วางไว้ล่วงหน้าในประเทศที่ประชาธิปไตยพัฒนาก้าวหน้าจนมั่นคงอยู่ตัวแล้ว จะกำหนดว่านายกฯต้องมาจากการเลือกตั้งหรือไม่ก็อาจไม่ต่างกัน เพราะสังคมทั้งสังคมเขาก็จะไม่ยินยอมให้ผู้ที่ไม่มาจากการเลือกตั้งมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ง่ายๆ รวมทั้งไม่ยอมให้เกิดการแทรกแซงทำลายความเป็นประชาธิปไตยของการเมืองการปกครองของเขาด้วย ประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อยในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เหตุการณ์นี้ได้ทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นและพัฒนาก้าวหน้าต่อมาอีกเป็นสิบๆปีไม่น่าเชื่อว่า 24 ปีผ่านไป เราต้องมารำลึกเหตุการณ์เดือนพฤษภา 35 กันในขณะที่ประเด็นเรียกร้องเดิมๆกลับมาอีก และบ้านเมืองอยู่ในสภาพที่ถอยหลังยิ่งกว่าช่วงก่อนเหตุการณ์เดือนพฤษภาเสียอีก | เหตุการณ์พฤษภาทมิฬเมื่อ 24 ปีก่อน เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่สืบเนื่องจากการรัฐประหารโดยคณะ รสช.เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2534 | การเมือง | คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ,จาตุรนต์ ฉายแสง,พฤษภาทมิฬ,รัฐประหาร,รำลึกเหตุการณ์พฤษภา 35 | https://prachatai.com/journal/2016/05/65825 |
การปฏิเสธมหายานของพุทธศาสนาไทย เป็นสิ่งที่จะวนกลับมาเป็นภัยต่อตัวเอง | คือการปิดกั้นต่อคุณค่าเหล่านั้นทั้งหมดยุคที่พุทธศาสนารุ่งเรืองที่สุดในอินเดีย ไม่ใช่ยุคพุทธกาล แต่เป็นยุคที่พุทธศาสนากลายเป็นส่วนนึงของจินตนาการ ความฝัน และความหวังของผู้คนธรรมดาๆ พูดง่ายๆ คือ พุทธศาสนาพัฒนาจาก พุทธศาสนาของพระ (สาวก) ไปสู่พุทธศาสนาของคนทุกคน คนทุกคนมีส่วนร่วมในจินตนาการ การนำพุทธธรรมไปสู่บริบทชีวิตในแบบของเขา การตีความคำสอนที่มากกว่าตามตัวอักษร และที่ขาดไม่ได้คือ ศิลปะที่สะท้อนจินตนาการและความรักเวลาคนไทยไปเที่ยวอินเดีย และเดินทางไปจาริกสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา นอกจากสังเวชนียสถาน ที่มักพ่วงมาด้วยก็คือสถานที่สำคัญที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในอินเดียหลังพุทธกาล อย่างมหาวิทยาลัยนาลันทา ถ้ำอชันต้า ถ้ำเอลโลร่า เป็นต้นแต่น้อยคนที่เดินทางไปยังสถานที่เหล่านี้ จะตระหนักว่า นี่คือสถานที่ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในจินตนาการและความเปิดกว้างตามคติแบบมหายานทั้งสิ้น รูปปั้น ประติมากรรม ภาพวาดฝาผนัง ที่ล้วนแล้วแต่สะท้อนจินตนาการที่เปิดกว้างออกไปจากสมัยพุทธกาล คือพัฒนาการของความเข้าใจและความรักในพุทธธรรมที่รุ่งเรืองมากๆ ในอินเดียยุคนั้น จากพุทธศาสนาที่จำกัดการเรียนรู้จากพุทธวจนะ มหายานได้เปิดพื้นที่ให้กับการต่อยอดตีความคำสอน จนการเรียนรู้แบบพุทธ สามารถเปิดรับความแตกต่างของประสบการณ์และความรู้ต่างศรัทธาความเชื่อได้มากขึ้น จนพัฒนาไปสู่ความเป็นมหาวิทยาลัย นาลันทาคือตัวอย่างของความเปิดกว้างของพุทธศาสนาแบบ สากลนิยม เพื่อรับใช้เพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ตามอุดมคติแบบมหายาน | มหายานไม่ใช่เรื่องของการแตกนิกาย การบิดเบือนคำสอน หรือพระมีเมีย อย่างที่อ้างกัน แต่จริงๆ แล้ว มหายาน คือ ทัศนคติ จินตนาการ โลกทัศน์ ความใจกว้าง และความรัก การปฏิเสธมหายานของพุทธไทย | สังคม,วัฒนธรรม | วิจักขณ์ พานิชย์,พุทธศาสนา,มหายาน | https://prachatai.com/journal/2019/09/84349 |
วงจรยาบ้าทะลักชายแดน กระจายเต็มพื้นที่เหนือ-ใต้ | ตัดตอนการรับรู้เป็นส่วนๆให้ยากต่อการสืบสวนจับกุม,อะไรคือ ปัจจัย ที่ทำให้วงจรการค้ายาเสพติดยังคงดำรงอยู่ได้ ทั้งที่หลายประเทศสกัดกั้น จับกุม แต่ไม่บรรลุผลมากนัก ปัจจัยสำคัญคือ มีตลาด มีลูกค้า มีคนเสพ คนใช้ยาเสพติด คนอยากลองของใหม่ๆ เมื่อมีลูกค้า มีตลาด ยิ่งลูกค้ามีในหลายประเทศค่าสินค้ายิ่งมากขึ้นตามกลไกของตลาดแหล่งผลิตราคาถูก ขนส่งระยะใกล้ ราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะทาง ความยากง่ายของการนำออกไปส่งลูกค้า,สิ่งตามมาคือ ผลกำไร รายได้ เมื่อเห็นผลกำไรจำนวนมากๆอย่างการค้าขายยาเสพติด รวยในพริบตา ถ้างานผ่าน คนก็กล้าที่จะเสี่ยงทำผิดมากขึ้นตามไปด้วย,ต้องยอมรับพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำกินพื้นที่ไทย เมียนมา ลาว คือขุมทองของการผลิตยาเสพติด ยิ่งระยะหลังทางตอนใต้ของจีนที่ติดพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ยูนนาน มีการผลิตไอซ์คุณภาพดีออกมาจำหน่ายในลาวด้านติดลำน้ำโขง ทั้งรับยาจากเมียนมา ผลิตกัญชาคุณภาพดีอัดแท่ง ส่งออก ผ่านประเทศไทย ผ่านเวียดนาม ผ่านกัมพูชา ไปยังประเทศที่สาม,พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำอยู่ในความปกครองของรัฐฉาน มีกองกำลังของชนกลุ่มน้อยปกครองตนเอง รัฐบาลเมียนมาควบคุมทำได้เพียงพื้นที่เมือง พอพ้นเขตเมือง ผู้ทรงอิทธิพลตัวจริงด้านนี้คือ กลุ่มว้า จะมีผบ.กองกำลังที่รับผิดชอบพื้นที่ และแบ่งพื้นที่กันชัดเจน เป็นสัดส่วน ไม่ล้ำเส้นกัน รายได้จากการค้าขายยาเสพติดถูกส่งเข้ากงสี มาพัฒนาบ้านเมือง กองกำลัง ซื้ออาวุธที่ทันสมัย ปกป้องตนเอง เป็นที่มาของการผลิตยาเสพติดในพื้นที่,ปัจจุบัน กลุ่มทุนที่มาลงทุน นอกจากกลุ่มตระกูลเดิมๆของเหล่าอดีตนักรบจากกองพล 93 กลุ่มลูกหลานที่ได้มีโอกาสไปเรียนต่างประเทศ กลุ่มเครือญาติที่กระจายในประเทศต่างๆ ทั้งอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย ไต้หวัน ฮ่องกง หลังจากพ่ายแพ้สงครามของกองพล 93,อีกส่วนที่เติบโตขึ้นมาคือกลุ่มชนเผ่าต่างๆ เช่น มูเซอ ลาหู่ อาข่า ม้ง ไทใหญ่ กะเหรี่ยง ผลิตยาเสพติดมาตีตลาดได้เช่นกัน กลุ่มนายทุนจากไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย และคนไทยเอง บางส่วนเข้าไปร่วมลงทุนในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเสียเอง เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต,เมื่อมีนายทุนแล้ว มีสารตั้งต้นมาผลิตยาเสพติดนำเข้าจากด้าน อินเดีย ปากีสถาน อาหรับ จีน เวียดนาม ไทย ไต้หวัน ฮ่องกง ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางสายการบิน เพราะสารบางชนิด บางประเทศไม่ใช่สารต้องห้าม สามารถส่งออกนำเข้าไปยังพื้นที่ผลิตได้ เมื่อได้สารตั้งต้นแล้ว มีโรงงานผลิตด้านว้าเหนือ ว้าใต้ มากกว่า 11 โรงงานใหญ่ มีกระจายทั่วไปในพื้นที่ใกล้แนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา,ปริมาณการผลิตในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 1,000ล้านเม็ด จับได้ปริมาณเท่าไรต่อปี ที่เหลือยาหายไปไหน แสดงให้เห็นว่า ยาที่เหลือกระจายไปในชุมชน ไปต่างประเทศ ตามที่ลูกค้าแต่ละประเทศสั่ง,ที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยในการสกัดกั้น จับกุม ทำลายเครือข่าย แบบขุดรากถอนโคน ไล่ล่า ติดตามยึดทรัพย์ ดำเนินคดี และกระบวนการนำสืบในกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล เพื่อให้ศาลมองเห็นภาพและทำให้ศาลเชื่อโดยปราศจากเหตุสงสัย และสามารถลงโทษกลุ่มขบวนการที่ทำหน้าที่แต่ละฝ่ายได้,ปัจจุบัน พ่อค้ายาเสพติดที่ติดคุกในคดีเล็ก คดีกลาง คดีใหญ่ๆ ทำให้มีโอกาสได้พบกันในเรือนจำ สามารถเครดิตสินค้ากันได้ แม้ตัวอยู่ในเรือนจำ ยิ่งพวกที่พ้นโทษออกมาแล้ว หรือบางคนถูกออกหมายจับ แต่จับกุมตัวไม่ได้ พากันหลบไปซุกปีกกลุ่มพ่อค้ายา,โบรกเกอร์ตัวแทนจำหน่ายยาเสพติดของฝ่ายผู้ผลิตเจ้าของยา ทำให้ตลาดการค้าขายยาเสพติดกว้างขวางขึ้น เพราะพวกที่มีหมายจับ หรือพวกที่พ้นโทษแล้วหลบข้ามแดนไป พวกเขาเหล่านั้นไปพร้อมบัญชีลูกค้า มีตัวตายตัวแทนฝั่งไทย ทำหน้าที่ประสานสั่งของจากฝ่ายผู้ผลิต เจ้าของโรงงานตรง ฝ่ายตัวแทนนายหน้าหรือโบรกเกอร์ ได้ราคาถูกกว่าซื้อที่เมืองไทยอยู่ดี เม็ดยาเพิ่มมากขึ้น สั่งตรงจากเมียนมา ลาว มากขึ้น,ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มนายทุน เจ้าของยาเสพติดเอง มาทำการตลาดเชิงรุก นำเข้ามาเอง ผ่านคนของตัวเอง หรือจ้างคนไทย หรือคนเผ่าตนเอง การเก็บยาในพื้นที่ตอนใน รอฟังคำสั่งการส่งให้ลูกค้า มีหน้าที่เพียงเก็บรักษา ส่งกระจายยาตามคำสั่ง การชำระเงินไม่เกี่ยว เขาติดต่อชำระกันเอง กลุ่มผู้ต้องหาคือคนเก็บสต๊อกยา และส่งต่อไปที่ลูกค้าเจ้าของยาที่ฝั่งท่าขี้เหล็กหรือฝั่งลาว ทั้งใน กทม. ปริมณฑล ลำเลียงลงใต้ ส่งให้ลูกค้าชาวมาเลเซียอีกทอดหนึ่ง,การลำเลียงเข้ามาจากชายแดน อาศัยช่องทางธรรมชาติ ฝั่งด้านเขาเดินลัดเลาะตามแนวสันเขา ลงตามทางธรรมชาติในพื้นที่ที่ดูแลได้ หรือฝั่งทางน้ำด้านแม่สาย เชียงแสน เชียงของ เวียงแก่น ก็ลำเลียงข้ามน้ำมาฝั่งไทย แล้วคนรอรับเพื่อเดินทางต่อหรือรับไปพักคอยก่อนลำเลียงลงไปยังพื้นที่ตอนใน,ถ้าลำเลียงจากชายแดนมาได้แล้ว มีหลายกรณีคือ กลุ่มผู้ซื้ออาจมาขนเองจากด้านเหนือของไทยลงไป หรือทีมรับจ้างขนลงไป ทีมรับของรอรับพื้นที่ นครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี สุพรรณบุรี สมุทรปราการ นครปฐม กทม. แต่ส่วนใหญ่จุดส่งของกันจะอยู่แถวพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา,ทีมขนกลุ่มส่วนใหญ่เป็นทีมม้ง มีความชำนาญในการขนส่งเพราะปกติจะขนส่งสินค้าการเกษตรอยู่แล้ว ได้ค่าจ้างในการขนแต่ละครั้งทั้งในรูปของเงินสด ผ่านบัญชี ให้รถเป็นค่างาน ให้ยาเสพติดเป็นค่าทำงานบางส่วน เงินบางส่วน อีกกลุ่มคือ ทีมเก็บของ โกดัง สต๊อกยา จะทำหน้าที่นับยามาเก็บที่โกดังก่อนกระจายส่งให้ลูกค้าตามที่เจ้าของงานสั่ง หรือบางกลุ่ม รับยาไปจำหน่ายเอง,ที่สำคัญและยากมากคือ กลุ่มทำหน้าที่ทางการเงิน กลุ่มนี้จะมีหน้าที่ในการหาบัญชีนอมินี ให้ค่าจ้างเปิดบัญชี และนำบัญชีรับโอนเงินค่ายา แล้วถอนเงินสดหรือโอนต่อไปตามบัญชีต่างๆ ตามที่เจ้าของยาสั่ง บางครั้งอาจสั่งให้ส่งค่าน้ำมัน ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าสินค้าอื่นๆ ค่ารถยนต์ ค่าที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือโอนเข้าบัญชีนอมินีของฝ่ายทำหน้าที่ทางการเงิน,เงินค่ายาเสพติดจะแยกกับเงินตัวเม็ดยา เป็นหน้าที่ของฝ่ายที่บังคับใช้กฎหมาย ต้องสืบสวนหาพยานหลักฐานเชื่อมโยง และนำพยานหลักฐาน ให้พนักงานอัยการนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาลได้,เรื่องเงินจะสำคัญมาก รวมถึงการไล่ล่า ยึดทรัพย์ แบบ ขุดรากถอนโคน ให้สิ้นซาก ทุกส่วนต้องช่วยสืบค้นข้อมูลจริงจัง ตั้งแต่สถาบันการเงิน ต้องรีบให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ทันทีที่ร้องขอ หรือมีหมายเรียกไป ต้องถือเป็นหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. ปปง. สรรพากร ศุลกากร เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ที่ดิน,รวบรวมให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของ ป.ป.ส. ปปง. เล่นต่อให้สุดทาง.,ทีมข่าวอาชญากรรม | คำถามที่คนสงสัยคือ ยาบ้า ไอซ์เค จำนวนมหาศาล ทำไมยังเล็ดลอดเข้ามาปริมาณมากได้ สิ่งที่ต้องยอมรับความจริง วงจรการค้าขายยาเสพติด กว้างขวาง ไร้พรมแดนมากขึ้น เป็นเครือข่ายข้ามชาติอย่างแท้จริง ทำงานเป็นระบบ แบ่งหน้าที่กันทำ | null | ยาบ้า,ขบวนการยาเสพติด,ยานรก,แกะรอยสัปดาห์,ทีมข่าวอาชญากรรม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/1160608 |
นายกฯ ขอพวกบิดเบือนงาน รบ.-คสช. หยุดทำสังคมสับสน เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง | ถามเป็นคนไทยหรือเปล่า นำปัญหาตัวเองก่อโยนความผิด แถมประจานใน ตปท.,เมื่อวันที่ 17 มี.ค.60 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ว่า ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิสูงขึ้นทุกวัน ก็อยากให้ทุกคนใจเย็นๆ ไม่ใช้อารมณ์ฉุนเฉียวในการแก้ปัญหา ตนเองก็ด้วย ต้องแก้ไขปรับปรุงตัวเอง เพราะว่าวันนี้ในท้องถนน ในการทำงาน หรือแม้กระทั้งที่บ้าน ย่อมมีเรื่องที่ไม่ค่อยได้ดั่งใจ อาจมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ด้วยคำพูดด้วยการกระทำ ก็ขอให้ทุกคนได้มีสติ รู้จักให้อภัยกัน อย่าใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา ขอให้อดทนฟังกันให้มาก ร่วมกันคิดแก้ปัญหานี้ ไม่ตั้งแง่ใส่กันค้านทุกอย่าง เปิดใจให้กว้างขึ้นน่าจะดีกว่า อย่างที่ทราบ บันได 3 ขั้น สู่ความสำเร็จคือ คิด พูด แล้วก็ทำ ทำให้ครบวงจรและรอบคอบ ถ้าต่างคนต่างคิดไม่รับฟังความคิดเห็นต่างเลย ไม่ยอมกันอย่างเดียว ก็ไม่สามารถจะลงมือทำไปสู่ความสำเร็จได้,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้สื่อมวลชนเองมีความสำคัญในการให้ความจริง ถ้าเราให้โดยเป็นความเท็จก็เป็น อวิชชา ไม่สร้างการรับรู้ความรู้ที่ดีแล้ว ยังนำไปสู่ความเข้าใจผิด และความขัดแย้งในที่สุด ที่ผ่านมาเราคงโทษใครไม่ได้ แต่อยากให้สติทุกคน เสนอข่าวด้วยความระมัดระวัง ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง อย่าสร้างประเด็นที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง จะได้ลดภาระรัฐบาลลง อย่าสร้างความคิดที่ทำให้การเปลี่ยนผ่านของประเทศไทยติดขัด,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอร้องบรรดาบุคคล กลุ่มบุคคล ที่เจตนาบิดเบือนการทำงานของรัฐบาลและ คสช. จับเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เรื่องส่วนตัวมาทำให้สังคมสับสนอลม่านไปหมด เพื่อประโยชน์ของตน คนกลุ่มเหล่านี้ยังมีอยู่ ขอร้องให้ยุติได้แล้ว ประชาชนช่วยกันตัดสินใจ จะให้คนเหล่านี้อยู่สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศชาติต่อไปหรือไม่ วันนี้หลายอย่างทำไม่ได้ ติดขัดทั้งหมด ไม่ต่อเนื่อง คือถ้าเราทำไม่ได้ประโยชน์ ก็ไม่เกิดกับใครทั้งสิ้น ส่วนรวมก็ไม่ได้ ส่วนน้อยก็ไม่ได้ ตัวเองก็ไม่ได้ เพราะคัดค้านกันไปหมด ขณะที่การกระทำใดๆ ก็ตามที่ดี รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่ถ้าทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน รัฐบาลและ คสช.พยายามใช้กฎหมายปกติ อำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม เราไม่ได้มุ่งหวังใช้มาตรา 44 ไปใช้ด้วยเจตนาร้าย เราทำเพื่อให้เกิดการบูรณาการ เพื่อนำเข้าทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ใช้กฎหมายปกติเท่านั้น,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราต้องมองปัญหาประเทศของเราด้วยความเข้าใจ ไม่ลำเอียง ไม่เอาคนอื่นมามองตัวเรา เพราะมันเป็นกลไกภายนอกประเทศ แต่เราก็ทำตามไม่ได้ฝ่าฝืน เว้นแต่บางอย่างเราต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน การบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบันที่กำลังเตรียมการไปสู่การปฏิรูปประเทศ มียุทธศาสตร์ชาติด้วยการดำเนินการทำอย่างระมัดระวัง ซึ่งตนเสียใจที่มีคนไทยบางคนบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจ บางคนไม่เข้าใจแล้ว หลายส่วนหลายกลุ่มหลายคนก็สร้างความเสียหายเหล่านี้ไว้ให้ตนแก้วันนี้ แล้วเอาเรื่องเหล่านี้ไปประจานที่ต่างประเทศโดยไม่พูดถึงปัญหาที่ตัวเองทำไว้ แล้วก็โยนคำผิดต่างๆ เหล่านี้ให้กับรัฐบาล ไม่มีความรักประเทศตัวเองเลยนะครับ เป็นคนไทยหรือเปล่า ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือ ประชาชนทุกคนทุกฝ่าย ต้องร่วมมือกันให้มากที่สุด ถ้าเราคิดแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลงตนเอง ไม่ขวนขวายหาความรู้ใหม่ ไม่สร้างนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ มันก็เสียโอกาส ตกยุค-ตกขบวน หรือหาเราเชื่อฟังคำบิดเบือน ข้อโต้แย้งโดยไม่ตั้งสติให้ดี ไม่มีหลักคิดไม่ใช้สติปัญญา คิดใคร่ครวญให้ดี การคิดการตัดสินใจก็จะผิดเพี้ยน บิดเบี้ยว ถูกชี้นำในทางที่ไม่ถูกต้อง สิ่งใหม่ๆ ที่ทุกคนต้องการดีกว่า ก็ไม่เกิด ความพยายามที่จะลดความเหลื่อมล้ำก็ไม่สำเร็จ เศรษฐกิจของประเทศก็ไม่ดีขึ้น วันนี้ก็มีแต่พูดกันมาแล้วก็ไม่เคยทำวันนี้เราพยายามทำทุกอย่างที่ท่านพูดมาแล้วไม่ทำหลายคนนะ,หากว่าเราฟังคำบิดเบือนมากมาย โดยไม่พิจารณาให้ถ่องแท้ มันก็เหมือนการกินยาพิษ กินยาแทนที่จะรักษามันก็จะเป็นการกินยาผิดขนานเข้าไป กินยาผิดซอง นอกจากจะไม่รักษาโรคแล้วก็เกิดโรคตามมา โรคเก่าก็แก้ไม่ได้ โรคใหม่ตามมาอีก เหมือนกับไม่ให้รัฐบาล คสช.แก้ปัญหาเก่าๆ แต่ก็อยากให้ทุกอย่างดีขึ้น เร็วขึ้น อยากให้อยู่อย่างสบายที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว | นายกฯ ขออย่าใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา ชี้ย่อมมีบางเรื่องไม่ได้ดั่งใจ ขอพวกบิดเบือนยุติตีกิน รบ.-คสช. เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ทำสังคมเดือดร้อน ยันความผิดอดีต-ปัจจุบัน ใช้ ก.ม.ปกติ ปัดใช้ ม.44 ด้วยเจตนาร้าย | ข่าว | รายการศาตร์พระราชาฯ,รายการนายกฯ,นายกฯ,มาตรา 44,บิดเบือน | https://www.thairath.co.th/news/888101 |
สร้างพลังงานที่ยั่งยืน | ในอนาคตเพราะ พลังงานคือต้นทุน ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ,พื้นฐานการดำรงชีวิตของประชาชนและการเจริญเติบโตของประเทศ ปัจจัยหนึ่งคือ การวางแผนระยะยาวในการบริหารจัดการพลังงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ผู้ค้าและผู้บริโภคในเชิงบูรณาการ โดยจะต้องมีการนำผลกระทบที่จะเกิดกับชาวบ้าน หรือ คุณภาพชีวิต มาเป็นต้นทุนด้วย,ปัจจุบันประเทศไทยและประเทศทั่วโลก ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานหลัก ในการผลิตกระแสไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม การผลิตสินค้าและการดำรงชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะ การผลิตกระแสไฟฟ้า ใช้ก๊าซธรรมชาติถึงร้อยละ 60 เนื่องจากเป็นพลังงานสะอาดและมีการปล่อยมลภาวะทางอากาศน้อยมาก,ประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นจากอ่าวไทย ที่ขุดเจาะมาใช้ประโยชน์ตลอด 38 ปีที่ผ่านมา แหล่งก๊าซจากเมียนมา ที่ใช้มาแล้วอย่างต่อเนื่องถึง 24 ปี สิ่งที่ต้องยอมรับคือ ก๊าซธรรมชาติเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป ปริมาณสำรอง ในแหล่งก๊าซต่างๆที่ใช้มาเป็นระยะเวลานานลดน้อยลงเรื่อยๆ,สิ่งที่จะเข้ามาทดแทนคือ ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG ที่จะต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยที่ LNG มีข้อดีคือ สามารถขนย้ายได้ทางเรือ เนื่องจากเป็นของเหลวจากการลดอุณหภูมิก๊าซธรรมชาติมาอยู่ที่ -160 องศา ลดต้นทุนในการวางท่อก๊าซและสามารถหาซื้อได้ง่ายมากขึ้น,ตลาดการซื้อขาย LNG มีหลายแหล่งด้วยกัน มีทั้งการซื้อในระยะยาว กลาง สั้น ตามความต้องการ ราคาจะเป็นไปตามกลไก Demand-Suppy ในตลาดโลก,นโยบายภาครัฐในการสนับสนุนและผลักดันการเปิดเสรีนำเข้า LNG โดยที่ กกพ. คณะกรรมการกำกับพลังงาน ได้อนุมัติและประกาศใช้ ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดใช้หรือเชื่อมต่อระบบก๊าซธรรมชาติบนบกให้กับบุคคลที่สาม และการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานี LNG แก่บุคคลที่สาม ไปแล้ว เมื่อเดือน มี.ค.2558 มีวัตถุประสงค์ที่จะให้ มีผู้เล่น มากขึ้น ในการที่จะนำเข้า LNG ทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคา ป้องกันการผูกขาดและจะทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดลงได้,ปัจจุบันมีผู้นำเข้า LNG สองรายใหญ่ ได้แก่ ปตท. และ กฟผ. ซึ่งมีภาครัฐที่เข้ามากำกับดูแลการนำเข้า ประกอบด้วย ครม. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานและคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน,สถานการณ์การใช้ก๊าซในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างคงที่ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้การผลักดันเศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่การแข่งขัน พลังงานจะเป็นปัจจัยและต้นทุนที่สำคัญที่สุด.,หมัดเหล็ก,[email protected] | เก้าอี้กระทรวงพลังงาน ตามโผจะพลิกซ้ายพลิกขวาอย่างไร แต่นโยบายพลังงานของประเทศเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องมีการบริหารจัดการวางแผนยุทธศาสตร์เอาไว้ต่อเนื่องทั้งปัจจัยเสี่ยงและปัญหาที่จะเกิดขึ้น | null | กระทรวงพลังงาน,ก๊าซธรรมชาติ,อ่าวไทย,ก๊าซธรรมชาติเหลว,พลังงาน,คาบลูกคาบดอก,หมัดเหล็ก,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/business/1605008 |
ผู้นำอายุน้อย | ชื่อ ,น.ส.เจซินดา อาร์เดิร์น, เป็นหัวหน้าพรรคเลเบอร์ หรือพรรคแรงงาน ซึ่งมีแนวคิดนิยมในสายกลาง–ซ้าย ทั้งที่พรรคเลเบอร์นั้นไม่ได้รับคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 แต่เป็นพรรคที่ได้อันดับ 2,กระนั้นพรรคการเมืองซึ่งเป็นพรรคเล็กพรรคน้อยในนิวซีแลนด์เมื่อได้พูดคุยกับพรรคเลเบอร์แล้ว ต่างแสดงความปรารถนาที่จะเข้าร่วมเป็นรัฐบาลผสมกับพรรคเลเบอร์ เช่น พรรคกรีนและพรรคนิวซีแลนด์มาก่อน (นิวซีแลนด์ เฟิร์สต์) จึงทำให้พรรคเนชั่นแนลซึ่งได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 ต้องถอยให้กับการรวมพลังที่มีพรรคเลเบอร์เป็นแกนนำเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่,ดังนั้น เจซินดา อาร์เดิร์น จึงกลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของนิวซีแลนด์ (ถัดจากเจนนิเฟอร์ แมรี ชิพลีย์และเฮเลน คลาร์ก) หนำซ้ำอาร์เดิร์นยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในรอบ 161 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2399 ท่ามกลางการฉลองของกลุ่มผู้สนับสนุนที่ต่างเห็นว่า อาร์เดิร์นเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรง คล้ายนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาวัย 45 ปี, นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส วัย 39 ปี รวมทั้งนายเซบาสเตียน,เคอร์ซ ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งเป็นผู้นำออสเตรียด้วยวัยเพียง 31 ปีเท่านั้น,เจซินดา อาร์เดิร์น ได้พิสูจน์แล้วว่า เธอเป็นนักรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่ดี, มีเสน่ห์,ดึงดูดใจผู้คน และสามารถเจรจาทางการเมืองจนรวบรวมคะแนนเสียงได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ความท้าทายต่อไปที่สำคัญคือ จะทำอย่างไรให้ผู้ที่ไม่ได้ลงคะแนนเสียงเลือกพรรคเลเบอร์ยอมรับความเป็นผู้นำของเธอให้ได้ คงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามดูกันต่อไป,อีกประการที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ เธอจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลทำงานร่วมกันได้ด้วยดีไปได้นานแค่ไหน? เพราะสมาชิกบางคนของพรรคกรีนและพรรคนิวซีแลนด์ เฟิร์สต์ดูเหมือนจะไม่ถูกกันก็มีนะ,แม้อาร์เดิร์นจะไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคเลเบอร์ที่นำพาพรรคให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ตาม แต่ความสำเร็จของพรรคเลเบอร์คราวนี้ถ้าไม่มีมิสเจซินดา อาร์เดิร์น ก็อาจไม่ทำให้พรรคมาไกลถึงเพียงนี้,ตามประวัติ เธอสนใจการเมืองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น และเคยเข้าไปช่วยเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ของอังกฤษ กระทั่งกลับมานิวซีแลนด์ก็ได้รับเลือกให้เข้าสภาเป็น ส.ส.เมื่ออายุ 28 ปี,และได้เป็นหัวหน้าพรรคเลเบอร์เพียงไม่กี่เดือนก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไป จึงเป็นความโชคดีของเธอที่ได้เป็นนายกฯที่อายุยังน้อย.,ยูเรนัส | ในที่สุดนิวซีแลนด์ก็ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่โดยเกาะกระแสโลกอีกประเทศ ที่ได้ผู้นำเป็นคนรุ่นใหม่ซึ่งหน้าตาดีและอายุยังน้อย โดยเป็นผู้หญิงวัยแค่ 37 ปี | null | นิวซีแลนด์,นายกรัฐมนตรีหญิง,เจซินดา อาร์เดิร์น,หน้าต่างโลก,ยูเรนัส | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1104964 |
ภูเก็ตเข้มออกตรวจไกด์เถื่อน หวังตัดวงจรลวง-ฉ้อโกง นทท. | เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ม.ค. ที่ด่านตรวจภูเก็ต นายสันติ ป่าหวาย ผอ.นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้เขต 2 พร้อมด้วย น.อ.พงศ์จักร อุไรมาลย์ ผบ.หมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 3 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถบัสและรถตู้ของบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ที่ทยอยเดินทางกลับจากแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ใน จ.พังงาเข้ามายัง จ.ภูเก็ต ซึ่งมักจะมีการลักลอบใช้มัคคุเทศก์ที่ไม่มีใบอนุญาตบ่อยครั้ง ,โดยการตรวจสอบมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เป็นชุดผสมแยกตรวจสอบรถตู้และรถบัสของบริษัทนำเที่ยวทุกคันที่ผ่านด่านตรวจ โดยมีการตรวจสอบตั้งแต่ใบจ็อบออร์เดอร์ของบริษัทนำเที่ยว ซึ่งจะมีการประทับตราผ่านตั้งแต่สนามบินภูเก็ต การตรวจบัตรอนุญาตมัคคุเทศก์และการใช้ไกด์ต่างชาติผิดกฎหมาย รวมถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตามนโยบายของจังหวัด,นายสันติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้กระทำความผิดเป็นไกด์ชาวไทยไม่มีใบอนุญาตมัคคุเทศก์ 5 ราย และใช้ใบอนุญาตผิดพื้นที่ 1 ราย ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 ผู้กระทำความผิดไม่มีใบอนุญาตนั้น มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และจำคุกไม่เกิน 1 ปี แต่ครั้งนี้สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์จะเรียกบริษัทดังกล่าวมาตักเตือนและพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 15 วัน หากพบว่ายังกระทำอีกเป็นครั้งที่ 2 จะสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 30 วัน หากบริษัทใดยังฝ่าฝืนและกระทำความผิดครบ 3 ครั้งจะเพิกถอนใบอนุญาตทันที ,จากการตรวจสอบในครั้งนี้ไม่พบไกด์เถื่อนชาวต่างชาติแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในการสนธิกำลังลงพื้นที่ครั้งนี้ยังได้มีการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวต่างชาติถึงมาตรการตรวจสอบดูแลความปลอดภัย รวมถึงดูแลไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบ หลอกลวงหรือฉ้อโกงนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น. | สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ภาคใต้เขต 2 สนธิกำลังทหาร-ตำรวจ ตรวจรถบัสและรถตู้บริษัทนำเที่ยวด่านตรวจภูเก็ต เพื่อตัดวงจรไกด์เถื่อน พบไกด์คนไทยไม่มีใบอนุญาต 5 ราย ใช้ผิดพื้นที่ 1 ราย | null | ไกด์เถื่อน,มัคคุเทศก์เถื่อน,มัคคุเทศก์ที่ไม่มีใบอนุญาต,ตรวจบัตรอนุญาตมัคคุเทศก์,สันติ ป่าหวาย,ผอ.นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยว,มัคคุเทศก์ ภาคใต้เขต2,พงศ์จักร อุไรมาลย์,ผบ.หมวดบินเฉพาะกิจ,ทัพเรือภาคที่ 3,พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว,พรบ.มัคคุเทศก์ พ.ศ.2551,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ลข่าวทั่วไทย,ภูเก็ต,นักท่องเที่ยว | https://www.thairath.co.th/content/565709 |
นศ.สาวปี 2 สังเวยเบญจเพส ขี่ จยย.จะไปเที่ยวต่อ ชนเสาไฟฟ้าดับ | เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 26 ก.พ. ร.ต.ท.นวมินทร์ ขุนพาสน์ รอง สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในซอยลาดพร้าว-วังหิน 79 ถนนลาดพร้าว-วังหิน แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง,ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางลัดจากพร้าว-วังหิน ไปรัชดา36 พบรถจักรยานยนต์ แบบมินิไบค์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 6กฬ 235 กทม. สภาพหน้ารถ จยย.พุ่งชนติดคาอยู่ที่กำแพงข้างเสาไฟฟ้าริมถนน ใกล้กันพบศพ น.ส.ปิยะมาศ ยมรัตน์ อายุ 25 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต อยู่ในสภาพสวมเสื้อยืด สีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้น จากการตรวจสอบพบขาซ้ายหัก และมีบาดแผลศีรษะแตก นอนจมกองเลือดเสียชีวิต นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บที่นั่งซ้อนท้าย ทราบชื่อ น.ส.นิตยา หอบภูงา อายุ 25 ปี มีสภาพศีรษะบวมช้ำและตามร่างกายมีรอยถลอก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเปาโล โชคชัย,จากการสอบสวนเพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีเพื่อน 5-6 คนและผู้ตายได้ไปเที่ยวร้านอาหารแห่งหนึ่ง ด้านหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม หลังจากนั้นเพื่อนๆ ก็ได้ชักชวนไปเที่ยวกันต่ออีก ที่ร้านอาหารแถวๆ ลาดพร้าว-วังหิน โดยผู้ตายได้ขี่รถ จยย.ของเพื่อนในกลุ่มมา จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะขับขี่รถ จยย.มาด้วยความเร็วขณะวิ่งลงจากสะพานข้ามคลอง จึงทำให้รถวิ่งเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางจนเสียชีวิต ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุต่อไป | นักศึกษาสาวปี 2 เคราะห์ร้ายมาเยือนในวัยเบญจเพส ขี่ จยย.ขึ้นสะพานข้ามคลอง ลงมาด้วยความเร็ว พุ่งชนเสาไฟฟ้าในซอยลาดพร้าว-วังหินฯ เสียชีวิต เพื่อนมาด้วยบาดเจ็บ | ข่าว,ทั่วไทย | จยย.ชนเสาไฟฟ้า,ชนเสาไฟดับ,นักศึกษาชนเสาไฟฟ้า,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1505226 |
แม่ชีชราเป็นลมบนทางรถไฟสถานีน้ำตก อ.ไทรโยค ถูกวิ่งทับขาขาดเสียชีวิต | เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 59 ร.ต.อ.กสานต์ พารา รอง สว.สส.สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพแม่ชีเสียชีวิตในสภาพขาข้างซ้ายขาด คาดว่าน่าจะถูกรถไฟทับ เหตุเกิดบริเวณเยื้องหน้าสถานีรถไฟน้ำตกไทรโยคน้อย หมู่ที่ 3 ต.ท่าเสา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ขบวนรถไฟใช้ถอยหลังสับราง จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ไทรโยค ร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์,ที่เกิดเหตุบริเวณรางรถไฟใกล้กับชานชาลาเยื้องสถานี พบร่างของหญิงชรานุ่งขาวห่มขาว สภาพขาด้านซ้ายขาดจากลำตัว ข้างตัวผู้ตายพบสัมภาระตกอยู่ ตรวจสอบหลักฐานในตัวทราบชื่อ นางทองห่อ เหลนปก อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 4 ต.หนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เป็นแม่ชีอยู่ที่แดนมหามงคล ของแม่ชีบงกช,จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางสถานีรถไฟ พบว่า ก่อนหน้าที่จะพบศพ แม่ชีทองห่อ เดินถือของพะรุงพะรังข้ามทางรถไฟ อยู่ๆ ก็ล้มลงศีรษะฟาดกับรางรถไฟ ต่อมา พยายามตะเกียกตะกายจะลุกขึ้นแต่ก็ล้มลงหมดสติ คาดว่าน่าจะเป็นลม ซึ่งช่วงเกิดเหตุเป็นเวลา 13.24 น. กระทั่งเวลา 15.00 น. มีขบวนรถไฟสายธนบุรี-น้ำตก ขบวนที่ 468 วิ่งจากต้นทางสถานีธนบุรี ปลายทางน้ำตกไทรโยค วิ่งเข้าชานชาลาเพื่อรับส่งผู้โดยสารเป็นที่เรียบร้อย ได้เคลื่อนขบวนถอยหลังไปลากตู้โดยสารและสับรางเพื่อออกเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร คาดว่าไม่มีใครเห็นว่า แม่ชี นอนหมดสติอยู่ จึงถูกขบวนรถไฟทับจนขาดด้านซ้ายขาดและเสียชีวิต,เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมอบหน้าที่ให้มูลนิธินำศพส่งสถาบันนิติเวช เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าชันสูตรว่า ผู้ตายเป็นลมล้มลงศีรษะฟาดกับรางรถไฟจนเสียชีวิตตามภาพวงจรปิด หรือถูกขบวนรถไฟวิ่งถอยหลังทับขาจนเสียชีวิต ซึ่งจะได้ติดตามสอบสวนเพื่อหาสาเหตุต่อไป. | อนาถ! แม่ชีวัย 77 ปี เดินข้ามทางรถไฟสถานีน้ำตก อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เป็นลมล้มศีรษะฟาดรางหมดสติโดยไม่มีใครเห็น ถูกขบวนรถไฟวิ่งทับขาซ้ายขาด เสียชีวิต เร่งชันสูตร สิ้นใจก่อนถูกรถไฟทับหรือไม่ | null | แม่ชีรถรถไฟทับ,แม่ชีเป็นลม,แม่ชีชรา,รถไฟทับขาขาด,สถานีรถไฟน้ำตก,อ.ไทรโยค กาญจนบุรี,รถไฟชนคน,รถไฟทับคน,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวไทยรัฐ,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/618898 |
ช้ำหนัก ยูเอ็น ปลด มาเรีย จากตำแหน่งทูตองค์กร | สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 16 มี.ค. ว่า สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศคำสั่งระงับบทบาทของ มาเรีย ชาราโปวา นักเทนนิสสาวชาวรัสเซีย จากหน้าที่ทูตสันถวไมตรีขององค์กรเป็นการชั่วคราว หลังจากยอดนักหวดสาวไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้น ระหว่างแข่งขันออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา,ก่อนหน้านี้ อดีตมือหนึ่งของโลกฝ่ายหญิงวัย 28 ปี จากแดนหมีขาว ออกมายอมรับต่อหน้าสื่อมวลชนว่า ไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้นในช่วงของการกรำศึกแกรนด์ สแลม แรกของปี 2016 เนื่องจากยาที่ใช้รักษาอาการป่วยมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี มีส่วนผสมของ เมลโดเนียม ซึ่งถูกขึ้นบัญชีดำเป็นหนึ่งในสารต้องห้ามล่าสุด เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และอาจถูกห้ามลงแข่งนานถึง 4 ปี หากมีความผิดจริง,ล่าสุดมีรายงานว่า ยูเอ็น องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ได้ประกาศสั่งระงับการทำหน้าที่ของนักหวดสาวรายนี้เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวด้านภาพลักษณ์ จนกว่าการสอบสวนในกรณีดังกล่าวจะสิ้นสุดลง,สำหรับ ชาราโปวา ถูกแต่งตั้งจากยูเอ็น ให้ดำรงตำแหน่งทูตขององค์กร มาตั้งแต่ปี 2007 เพื่อทำงานด้านส่งเสริมสิทธิสตรีและเด็กที่ด้อยโอกาส | ยูเอ็น ประกาศระงับการทำหน้าที่ของ มาเรีย ชาราโปวา ยอดนักเทนนิสสาวจากรัสเซีย หลังออกมาสารภาพ ไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้น ระหว่างลงแข่งแกรนด์ สแลม แรกของปี 2016 | null | ยูเอ็น,สหประชาชาติ,ทูตสันถวไมตรี,มาเรีย ชาราโปวา,สารกระตุ้น,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/591705 |
ทำเสียชื่อ 2 หื่นชกท้องข่มขืนครู สาวต่างชาติสอนภาษาอังกฤษ รวบแล้ว 1 | จากเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. พ.ต.ต.อนนท์ เรืองวงษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร รับแจ้งจาก น.ส.แคร์ (นามสมมติ) ชาวแอฟริกาใต้ เป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนแห่งหนึ่งว่า ถูกคนร้าย 2 คนลวงไปข่มขืนในทุ่งนา,ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.สืบพงษ์ กลิ่นสุคนธ์ ผกก.สภ.พรานกระต่าย พ.ต.อ.ดิเรก อินหัน ผกก.สส.ภ.กำแพงเพชร ร.ต.สันติ ตุ้มเรือง หัวหน้าชุดมวลชน อ.พรานกระต่าย และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พรานกระต่าย นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบภาพในกล้องวงจรปิด คนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์พาครูสาวไป โดยคนขี่ทราบชื่อต่อมาว่า นายสมศักดิ์ หรือ แกะ สุรเดช อายุ 24 ปี อยู่หมู่ 14 ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย จึงสนธิกำลังไปควบคุมตัวได้ที่บ้าน นำตัวมาสอบสวน ซึ่งนายสมศักดิ์ให้การรับสารภาพ,จากนั้น พ.ต.อ.เฉลิมพล จินตรัตน์ รรท.ผบก.จ.กำแพงเพชร เดินทางร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชานำตัวนายสมศักดิ์ไปชี้ที่เกิดเหตุ โดยนายสมศักดิ์พาไปที่กลางทุ่งนา บ้านนาถัง หมู่ 7 ต.ถ้ำกระต่ายทอง ซึ่งเป็นที่ลงมือข่มขืน ในที่เกิดเหตุพบกางเกงในสตรี 1 ตัวตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งนายสมศักดิ์ได้นำชี้บริเวณดังกล่าว พร้อมให้การว่า ตนเป็นแค่คนดูต้นทางเท่านั้น,ด้าน พ.ต.อ.เฉลิมพล เปิดเผยว่า คดีนี้ หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดลงมาช่วยสืบสวนหาตัวคนร้าย ซึ่งต่อมาสามารถจับตัวนายสมศักดิ์ได้ ส่วนผู้ที่ลงมือข่มขืน ทราบว่าขณะนี้หลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ไปแล้ว ตำรวจจึงไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุเกลี้ยกล่อมแม่ ให้ติดต่อลูกชายมาเข้ามอบตัว เพราะรู้ตัวแล้วหนีไปก็ไม่พ้น,ทางด้านครูสาวผู้เสียหาย ตำรวจได้นำตัวมาสอบสวนในรายละเอียดอีกครั้ง โดยขอร้องอย่าถ่ายภาพเพราะเกรงจะมีอันตราย และเสียชื่อเสียง จากนั้นได้ให้นายสมศักดิ์ ยืนปะปนกับผู้อื่นอยู่นอกห้องสืบสวน พร้อมให้ผู้เสียหายชี้ตัว ซึ่งครูสาวชาวต่างชาติ สามารถชี้ตัวนายสมศักดิ์ได้ถูกต้อง , ,นายสมศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า คืนวันเกิดเหตุตนนั่งดื่มสุรากับนายอภิสิทธิ์ หรืออ้น สหะชาติ อายุ 29 ปี ชาวบ้าน ม.10 ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย หลังจากนั้นตนขี่รถจักรยานยนต์ออกมาโดยมีนายอภิสิทธิ์นั่งซ้อนท้ายมาเพื่อไปบ้านเอาเงินมาซื้อเหล้าดื่มต่อ พบครูสาวชาวต่างชาติ ผิวขาว รูปร่างเล็ก หน้าตาสวย เดินอยู่ข้างถนน นายอภิสิทธิ์จึงให้ตนจอดรถเข้าไปถาม ทราบว่าครูสาวจะไปที่สถานีขนส่ง นายอภิสิทธิ์ จึงชักชวนว่าจะไปส่ง ครูสาวชาวต่างชาติไว้ใจ จึงขึ้นรถมานั่งด้านหน้า โดยมีตนเป็นคนขับ ส่วนนายอภิสิทธิ์ นั่งซ้อนท้าย จากนั้นนายอภิสิทธิ์ให้พาวนไปตามถนนสายต่างๆ แล้วบังคับให้ตนไปยังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะจอดให้นายอภิสิทธิ์ลงไปทำร้ายครูสาวที่ส่งเสียงร้องโดยการชกที่ท้อง 2-3 ครั้งจนเงียบไป แล้วนายอภิสิทธิ์ไล่ให้ตนออกไปดูต้นทาง หลังจากที่ใช้เวลาข่มขืนอยู่นานจนเสร็จ จึงพาครูสาวไปส่งในตลาด แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน. | ตำรวจกำแพงเพชร ทำงานเงียบๆ รวบแล้ว 1 คนร้ายข่มขืนแหม่มสาวสาวต่างชาติ ที่มาเป็นครูช่วยสอนภาษาอังกฤษโรงเรียนใน อ.พรานกระต่าย อ้างแค่ดูต้นทาง ส่วนคนลงมือข่มขืนและชกท้องให้เงียบเสียง หนีเข้ากรุงเทพฯ ไปแล้ว
| ข่าว,ทั่วไทย | ข่มขืนครู,ครูสาวแอฟริกาใต้,2หื่นข่มขืนครู,ครูช่วยสอนภาษา,พรานกระต่าย | https://www.thairath.co.th/news/local/810202 |
การบินไทยยกเลิก 5 เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-มะนิลา เลี่ยงภูเขาไฟปะทุ | วันนี้ (13 ม.ค.2563) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งยกเลิกเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ หลังเกิดการปะทุของภูเขาไฟตาอัล บนเกาะลูซอน ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงมะนิลา ส่งผลให้เกิดเขม่าควันและเถ้าภูเขาไฟฟุ้งกระจายเป็นจำนวนมากปกคลุมน่านฟ้าและพื้นดิน จนเป็นเหตุให้ท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลา ต้องประกาศปิดสนามบินชั่วคราว และให้ทุกสายการบินงดทำการบินผ่านและขึ้นลง ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.2563 เวลา 19.00 น. ซึ่งเวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมงเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินของการบินไทย จึงมีความจำเป็นต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบิน ดังนี้หากท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลาเปิดทำการ และบริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้ทำการบินได้ บริษัทฯ จะทำการบินในเส้นทางไป-กลับกรุงเทพฯ-มะนิลาตามปกติ และขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางในเที่ยวบินดังกล่าวติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและตรวจสอบตารางการบินได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com หรือ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมงทั้งนี้ ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารการบินไทยในเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-มะนิลา ที่ระบุวันเดินทางระหว่างวันที่ 12-27 ม.ค.2563 จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงด้านบัตรโดยสาร ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้ภายในวันที่ 27 ม.ค.2563 ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด | การบินไทยแจ้งยกเลิก 5 เที่ยวบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-มะนิลา ในวันที่ 12-13 ม.ค.นี้ สาเหตุจากการปะทุของภูเขาไฟตาอัล บนเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ | เศรษฐกิจ | การบินไทย,ยกเลิกเที่ยวบิน,ภุเขาไฟปะทุ,ฟิลิปปินส์,กรุงเทพฯ-มะนิลา | https://news.thaipbs.or.th/content/287926 |
ณุศา มายโอโซน สวรรค์คนรักสุขภาพ | เนรมิตที่ดินผืนงามบนเนื้อที่กว่า 1,300 ไร่ ให้เป็นโครงการที่พักอาศัยและรีสอร์ตสุขภาพแบบองค์รวมครบวงจรแห่งแรกในไทย ภายใต้คอนเซปต์ The Greatest Wealth is Health เพราะสุขภาพดี คือความมั่งคั่งแท้จริง,ผู้บริหารหญิงคนเก่งบอกเล่าว่า เฮลตี้ไลฟ์สไตล์เป็นเทรนด์การใช้ชีวิตของคนยุคนี้ ผู้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น นิยมการบำบัดฟื้นฟูด้วยวิถีออร์แกนิกมากขึ้น และมองหาการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกแบบไม่ใช้ยามากขึ้น ฉะนั้น การสร้างสุขภาพที่ดี เพื่อความมั่งคั่งอย่างแท้จริง จึงเป็นเป้าหมายของการสร้าง ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่ เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ,นอกจากจะโดดเด่นด้วยบ้านพักสไตล์ทัสคานีแบบพูลวิลล่า โรงแรมหรู และสนามกอล์ฟระดับโปร 18 หลุม ภายในโครงการยังมี ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม Panacee Wellness KhaoYai เป็นจุดเด่นสร้างชื่อ ศูนย์แห่งนี้ให้บริการครบวงจรด้วยมาตรฐานสากล ทั้งการรักษาฟื้นฟูสุขภาพ และเวชศาสตร์ชะลอวัย ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริง ขณะเดียวกัน ก็มีโปรแกรมฟื้นฟูดูแลสุขภาพแบบองค์รวมจากเยอรมนี ที่มุ่งเน้นการดูแลปรับสมดุลสุขภาพ และคืนความอ่อนเยาว์จากภายในสู่ภายนอก มีให้เลือกหลากโปรแกรม อาทิ การตรวจสุขภาพแบบโฮลิสติก นำเสนอเทคโนโลยีตรวจการทำงานของเซลล์ผ่านการวิเคราะห์เซลล์เม็ดเลือดแดง เพื่อบ่งชี้ระดับความเสื่อมของร่างกาย และแนวโน้มของโรคภัยที่อาจเกิดในอนาคต หรือจะเป็นโปรแกรมทำทรีตเมนต์ ที่สามารถฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรงขึ้น ด้วยการทำคีเลชั่นฟื้นฟูเส้นเลือด และลดการสะสมของสารพิษ,ที่นี่ยังมีบริการปลุกพลังชีวิตเติมความสดใสด้วยการนวดผ่อนคลายและบำบัด ภายใต้โปรแกรม Soul Awakening Therapy ผสมผสานเรื่องสุขภาพกับความงามไว้ด้วยกัน ลองมาแล้วเวิร์กมากคือ Ozone Massage การนวดสูตรพิเศษใช้เทคโนโลยีผสานน้ำมันธรรมชาติสกัดเย็น ร่วมกับการเติมโอโซน แทรกซึมไปทุกอณูของน้ำมัน ช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ที่แข็งแรง ไหนๆมาสูดอากาศ บริสุทธิ์ก็อยากให้ลองรับประทาน อาหารคลีนฟู้ด ที่เก็บผลผลิตสดใหม่จาก คลีน ฟาร์ม นำมาปรุงเมนูกันสดๆดีต่อใจและสุขภาพ. | เป็นทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพระดับไฮเอนด์ สำหรับ ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่ ผุดขึ้นท่ามกลางแหล่งโอโซนอากาศบริสุทธิ์อันดับต้นๆ ของโลก ปลุกปั้นโดย หมวย-ศิริญา เทพเจริญ | ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง | ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่,โอโซนอันดับ 7 ของโลก,พานาซี เวลเนส เขาใหญ่,พานาซี,รีสอร์ตสุขภาพ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/835165 |
แหวกฮอลลีวูด 18/09/60 | เพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัว นอกจากช็อป กิน เที่ยว เซเลน่า โกเมซ ยังพาเพื่อนรัก ฟรานเซีย เรียซา ไปผ่าตัดแบ่งไตให้ด้วย ส่วนแฟนหนุ่ม Weekend หายหัวบอกติดงาน,ซ่อมเครื่องอีกคน เลดี้ กาก้า เจอโรคปวดกล้ามเนื้อไปทุกจุด จนต้องเลื่อนคอนเสิร์ตที่มอนทรีออล.,คุณปู่ แฮริสัน ฟอร์ด วัย 75 คัมแบ็กใน Star Wars, Indiana Jones และ Blade Runner เปิดใจวัยเริ่มหลง ขับเครื่องบินใจลอยลงผิดเลน เพราะนึกถึงป้าวัย 101 ที่กำลังป่วยเข้าโรงพยาบาล.,ตัวตลกสุดหลอนเรต R ของ สตีเว่น คิง ในเรื่อง อิท โผล่ท็อปอันดับ 1 ขนาดเรื่องมารดาที่ว่าหลอนยังต้องหลบ.,แฟชั่นคิ้วดกรกรุงรังกลับมาฮิต อย่าง คาร่า เดอเลวีน โซเฟีย เฮดจิพานาติ ถ้าศิลปินดัง ฟรีด้า คาห์โล ยังอยู่คงตื่นเต้น.,เตียงหักกับนัก ร้อง ซิล นางแบบวัย 44 ไฮดี คลูม กินหญ้าอ่อนวัย 31 วิโต ชนาเบล นักข่าวคุ้ยรูปผู้ชายแอบจูบปากคนอื่นเลยโสดอีกรอบ.,โบกมือลา Black Eyed Peas เฟอร์กี้ ทำเพลงเดี่ยวนานไปนิด MV ออกมาคล้ายของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ทำปุ๊บออกปั๊บ เลยต้องเสนอขายข่าวเลิกกับสามีสุดหล่อดาวน์ทูเอิร์ท จอร์จ ดูฮาเมล ผู้พัน Trans former แทน.,ซุปเปอร์เกิร์ล | ซ่อมเครื่องอีกคน เลดี้ กาก้า เจอโรคปวดกล้ามเนื้อไปทุกจุด จนต้องเลื่อนคอนเสิร์ตที่มอนทรีออล | null | GossipHollywood,แหวกฮอลลีวูด,ซุปเปอร์เกิร์ล,เลดี้ กาก้า,เซเลน่า โกเมซ,กอสซิป | https://www.thairath.co.th/entertain/inter/1072490 |
มักง่าย พระนักเทศน์ฉะผู้กำกับดึง ปืน เล่นหนัง ทั้งที่ไม่ควรเอาอย่าง | พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์หลังจากมีการปล่อย MV เพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่อง ,หลวงพี่แจ๊ส5G, นำแสดงโดย แจ๊ส ชวนชื่น ผลงานการกำกับของ พชร์ อานนท์ ที่ได้ดึงวัยรุ่นหนุ่ม หรือ ปืน ใน,คลิปด่าตำรวจ,ที่เคยเป็นประเด็นโด่งดังมาร่วมแสดงด้วย โดยมีบทพูด เช่น ตำรวจกูยังด่าเลย ทำไมพระกูจะด่าไม่ได้ และจะต่อยกับพระ ,พระมหาไพรวัลย์ แสดงความคิดเห็นพร้อมตั้งคำถามว่า ผู้กำกับเขากำลังจะให้อะไรกับคนดู? คือประเด็นนี้ อาตมามองว่า มันเป็นความมักง่ายของผู้กำกับนะ ในการที่คิดจะหยิบเอาประเด็นอะไรก็ได้ในสังคมมาล้อเลียน หรือทำเป็นเรื่องตลก โดยไม่สนใจว่าพฤติกรรม ภาษา หรือการใช้คำพูดบางอย่างมันจะส่งผลต่อความเข้าใจหรือความรู้สึกถูกผิด และการเลียนแบบของคนดูยังไงบ้าง โดยไม่สนใจว่า พฤติกรรมบางอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งสังคมมองว่า มันเป็นสิ่งที่แย่และไม่ควรนำมาเป็นแบบอย่าง ควรที่คนทำหนังจะให้คุณค่า หรือหยิบขึ้นมาทำมันให้ดูเป็นแค่เรื่องที่ตลกไปหรือเปล่า อันนี้เป็นความละเอียด เป็นเรื่องของความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อคนดู (โดยเฉพาะก็ถ้าหนังไม่ได้ติดเรต) ของคนสร้างหนังนะ | พระมหาไพรวัลย์ มอง กรณี ปืน วัยรุ่นเคยยืนด่าตำรวจได้เล่นหนัง มอง เป็นความมักง่ายของผู้กำกับ เอาประเด็นสังคมมาล้อเลียนโดยไม่สนใจว่าพฤติกรรมไม่ควรเป็นแบบอย่าง | ข่าว,สังคม | หลวงพี่แจ๊ส5G,ปืนด่าตำรวจ,ด่าตำรวจ,พระมหาไพรวัลย์,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1163678 |
เพื่อไทย-ปชป. พร้อมเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. - กกต.ย้ำจัดการเลือกตั้งตามกฎหมาย | พรรคประชาธิปัตย์เปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการให้กำลังใจของผู้สนับสนุนพรรค โดยมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันแกนนำพรรคและ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง แถลงแสดงความพร้อมในการแข่งขันการเลือกตั้ง ภายใต้แคมเปยรณรงค์หาเสียง รักกรุงเทพ ร่วมสร้างกรุงเทพม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา กทม.ต้องเผชิญกับปัญหานานัปการ แต่ก็สามารถข้ามผ่านมาได้ด้วยความร่วมมือจากประชาชน พร้อมยืนยันที่จะยังคงเจตนาทำประโยชน์เพื่อประชาชนต่อไป ด้วยการลงสมัครอีกครั้ง และยอมรับว่า งานของ กทม.ไม่ใช่ภารกิจที่ง่าย แต่เป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ ทั้งนี้เปิดเผยว่า วันที่ 21 มกราคม หลังลงสมัครรับเลือกตั้งจะแถลงเปิดนโยบายต่อไปขณะที่คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเรียกประชุมลงมติเลือกผู้เหมาะสมลงรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในวันที่ 13 มกราคม ซึ่งมีรายงานว่า ส.ส.กทม.หรือโซน กทม.เตรียมถอนชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ออกจากการพิจารณาแล้ว เนื่องจากได้แสดงเจตจำนงค์ขอถอนตัวไปแล้ว ดังนั้นก็จะมีรายชื่อที่จะต้องพิจารณาและลงมติเห็นชอบเพียงคนเดียวคือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.และเลขาธิการ ป.ป.ส.จากนั้นวันที่ 14 มกราคม พล.ต.อ.พงศพัศ จะเดินทางเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และวันที่ 15 มกราคม จะเข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย และจะมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงเปิดตัวและเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียง โดยนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ เชื่อมั่นว่าการเปิดตัวล่าช้าจะไม่ทำให้ผู้สมัครของพรรคเสียเปรียบคู่แข่งส่วนความพร้อมในการบริหารจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง ด้านการบริหารการเลือกตั้ง บรรยายพิเศษกำชับผู้อำนวยการเขต 50 เขตของ กทม. ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะข้อผิดพลาดของเจ้าหน้าที่กลายเป็นช่องว่างให้เกิดการร้องเรียน เพื่อหวังผลเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้ง พร้อมระบุสาระสำคัญของระเบียบใหม่ ว่าห้ามผู้สมัครนำเรื่องสถาบัน คำไม่สุภาพ และการโจมตีให้ร้ายมารณรงค์หาเสียง และคาดการณ์ว่า คนกรุงเทพฯจะออกมาใช้สิทธิ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 อย่างแน่นอน | คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ร่วมบรรยายพิเศษกำชับผู้อำนวยการเขต 50 เขตของ กทม.จัดการเลือกตั้งด้วยการยึดข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด หลังข้อผิดพลาดของเจ้าหน้าที่กลายเป็นช่องว่างของการร้องเรียน เพื่อหวังผลการเปลี่ยนแปลงเลือกตั้ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความพร้อมในการลงสมัครรับเลือกตั้ง เตรียมแถลงนโยบาย กทม.ในเร็ว ๆ นี้ | การเมือง | BKKElection56,กกต.,ปชป.,เพื่อไทย,เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.56 | https://news.thaipbs.or.th/content/139082 |
คึกคัก สมัครโครงการ ฮัก TAXI ผ่อนรถใหม่จ่ายน้อยกว่าค่าเช่า | วันนี้ (27 ธ.ค.2561)ผู้ขับรถแท็กซี่จำนวนมากไปเข้าคิวลงทะเบียนจองสิทธิ์ขอกู้เงินดอกเบี้ยต่ำในโครงการ ฮัก TAXI เสริมแกร่งแท็กซี่ไทย โดยบางคนมารอตั้งแต่ 23.00 น. ของคืนวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมาธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) ได้เปิดให้ผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ ยื่นเอกสารแสดงความต้องการกู้เงินเพื่อซื้อรถใหม่ไปใช้ประกอบอาชีพ ราคาคันละ 700000 - 1000000 บาท ต่อคนขณะที่ธนาคารเตรียมวงเงินไว้1 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.42 ต่อเดือน หรือร้อยละ 2.5 ต่อปี ให้กู้เต็มวงเงินรวมทั้งอุปกรณ์ที่ติดตั้งในตัวรถไม่ต้องดาวน์ ทำให้สามารถผ่อนชำระน้อยกว่าการจ่ายค่าเช่าแท็กซี่รายวัน เฉลี่ยวันละประมาณ 400-500 บาทมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ SME Bank ระบุว่า จะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน โดยวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาทักษะ เงินทุน และคุณภาพชีวิต โดยผู้ที่มีรถเป็นของตัวเองแล้วก็สามารถร่วมโครงการได้ส่วนผู้สมัครเข้าร่วมโครงการระบุว่า การลดต้นลดดอกเป็นเเรงจูงใจหลักที่มาสมัครเข้าโครงการ เพราะช่วยทำให้หนี้หมดเร็วขึ้น ขณะที่บางคนคาดหวังว่าเมื่อเข้าโครงการแล้วจะมีสวัสดิการต่างๆทั้งนี้ ปัจจุบันรถแท็กซี่ที่ให้บริการอยู่ในระบบกว่าครึ่งหรือ ประมาณ 35000 คัน เป็นรถที่เหลืออายุการใช้ไม่ถึง 5 ปี ซึ่งตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป จะมีรถแท็กซี่ทยอยหมดอายุ ปีละกว่า 10000 คัน | คนขับแท็กซี่เข้าคิวลงทะเบียนจองสิทธิ์ขอกู้เงินดอกเบี้ยต่ำในโครงการ ฮัก TAXI เสริมแกร่งแท็กซี่ไทย อย่างคึกคัก หวังกู้ซื้อรถแท็กซี่ใหม่ไม่ต้องดาวน์ ติดตั้งอุปกรณ์พร้อม ผ่อนชำระน้อยกว่าจ่ายค่าเช่ารายวัน | สังคม | รถแท็กซี่,กู้เงิน,ผ่อน,SME Bank,ฮัก TAXI เสริมแกร่งแท็กซี่ไทย,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ไทยพีบีเอส,ThaiPBS | https://news.thaipbs.or.th/content/276599 |
ฉัตรชัย ยัน นักบินลาออก ไม่กระทบทำฝนหลวงช่วงวิกฤติแล้ง | เมื่อวันที่ 2 มี.ค. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึง กรณีนักบินของกรมฝนหลวงลาออก ว่า ได้เตรียมแผนปรับโครงสร้างอัตรากำลังของกรมฝนหลวง คาดจะแล้วเสร็จภายใน 4-5 เดือน หลังจากต้นปีที่ผ่านมา มีนักบินฝนหลวงลาออกเพิ่มเติมอีก 4 คน จากปีที่แล้ว ลาออกไปแล้ว 16 คน ซึ่งอาจจะกระทบต่อการดำเนินโครงการฝนหลวงช่วงวิกฤติภัยแล้ง ทั้งนี้ ยืนยันขณะนี้จำนวนนักบินที่มีอยู่ 54 คน สามารถปฏิบัติการฝนหลวงได้ภายใต้อากาศยานที่มีอยู่ 41 ลำ โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆ แต่จะพิจารณารับนักบินเพิ่มเพื่อแบ่งเบาภาระงาน,อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ประสานกองทัพอากาศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดการผลิตนักบิน พร้อมเตรียมของบประมาณจากสำนักงานการบินพลเรือน ในการผลิตนักบินรุ่นต่อๆ ไปมาทดแทน และจะมีการปรับเพิ่มอัตราค่าตอบแทนให้แก่นักบิน เริ่มต้นงวดแรกเดือน มิ.ย.นี้,ส่วนสถานการณ์ภัยแล้ง ได้มีแผนปรับการบริหารจัดการน้ำใน 10 เขื่อนระดับภูมิภาค อาทิ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มีการปรับแผนการส่งน้ำแบบเป็นรอบเวร ปริมาณ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ใน 1 วันต่อสัปดาห์ มั่นใจว่าจะเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค รวมถึงภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคเหนือ ขณะที่เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี ได้ประสานความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด และการประปาส่วนภูมิภาค ในการนำน้ำอุปโภคบริโภคมาแจกจ่ายในพื้นที่ที่ประสบปัญหา นอกจากนี้ จะติดตามสถานการณ์ใน 12 จังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งอย่างใกล้ชิด ขณะที่พื้นที่ประกาศภัยพิบัติ ยังมีเพียง จ.นครราชสีมา | รมว.เกษตรฯ ยัน นักบินที่ลาออกไม่กระทบการทำฝนหลวงช่วงวิกฤติแล้ง เร่งประสาน ทอ.ผลิตนักบินฝนหลวง จ่อปรับแผนบริหารจัดการน้ำ 10 เขื่อนระดับภูมิภาค พร้อมติดตามสถานการณ์ 12 จังหวัด พื้นที่ประสบภัยแล้งอย่างใกล้ชิด | null | สำนักงานการบินพลเรือน,นักบินฝนหลวง,นักบินฝนหลวงลาออก,วิกฤติแล้ง,ภัยแล้ง,กรมฝนหลวง,ฉัตรชัย สาริกัลยะ,บิ๊กฉัตร,กองทัพอากาศ,ผลิตนักบิน,บริหารจัดการน้ำ,10 เขื่อนภูมิภาค,12 จังหวัด ภัยแล้ง,ข่าว,ข่าวเศรษฐกิจ,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวภัยแล้ง,ภัยแล้ง59,สาเหตุภัยแล้ง,พื้นที่ภัยแล้ง | https://www.thairath.co.th/content/585082 |
ธปท.ยกเครื่องเกณฑ์คุมแบงก์พาณิชย์ เปิดให้ 6 เอกชนซื้อขายเงินต่างประเทศ | นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ของภาคเอกชนสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ที่สำคัญ ธปท.ยังอนุญาตให้บริษัทและกลุ่มบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติตามที่กำหนด (Qualified Company) ทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศกับธนาคารพาณิชย์ได้เอง โดยไม่ต้องแสดงเอกสารประกอบ โดย ธปท.จะมีการตรวจสอบการทำธุรกรรมย้อนหลัง และมีความเชื่อใจว่าเอกชนที่รับได้อนุญาตดังกล่าวจะไม่ใช้ประโยชน์ในการเก็งกำไรค่าเงินบาท,ทั้งนี้ ล่าสุดมีบริษัทสนใจขออนุญาตแล้วทั้งบริษัทไทยและต่างประเทศกว่า 20 บริษัท และ ธปท.ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว 5 บริษัท และศูนย์บริหารเงิน 1 ราย อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้รับข้อมูลว่ายังมีอีกหลายบริษัทที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ แต่ต้องการให้มีการผ่อนคลายเกณฑ์ในครั้งนี้ ธปท.จึงได้เห็นชอบให้ผ่อนคลายคุณสมบัติของบริษัทและกลุ่มบริษัทในส่วนของปริมาณ และการทำธุรกรรม นอกจากนั้น ยังขยายเวลาออกไปอีก 6 เดือน จนถึงวันที่ 16 พ.ย.นี้ นอกจากนั้น ยังมีการผ่อนคลายเกณฑ์ที่ประกาศเพิ่มเติมอีก โดยอยู่ระหว่างรอความเห็นชอบจากกระทรวงคลัง, ,ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากการปรับปรุงกฎเกณฑ์การ แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเอกชนไทยแล้ว ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ธปท.ได้ร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมปรับปรุงกฎเกณฑ์ ธปท.ที่อาจจะเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการทำธุรกรรมสถาบันการเงินในฐานดิจิทัล หรือดิจิทัล แบงกิ้ง โดยปรับปรุงเกณฑ์ทั้งการบริการจัดการ การบริหารความเสี่ยง และการลงทุนของธนาคารพาณิชย์ในธุรกิจดิจิทัล รวมทั้งเตรียมปรับปรุงเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เนื่องจากอาจจะไม่สอดคล้องหรือเท่าทันกับการประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีในยุคใหม่ และมีเอกสารที่ต้องเตรียมจำนวนมาก หากมีการปรับปรุงในเกณฑ์เหล่านี้ให้ทันสมัยมากขึ้น อาจจะช่วยลดต้นทุนทั้งในส่วนของเอสเอ็มอี และต้นทุนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งส่งผลดีให้เอสเอ็มอีได้รับสินเชื่อได้ง่ายขึ้นและดอกเบี้ยถูกลง. | ตั้งแต่กลางปี 2560 ที่ผ่านมา ธปท.ได้เริ่ม โครงการปฏิรูปและผ่อนคลายกฎเกณฑ์การควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เพื่อช่วยลดขั้นตอน ลดต้นทุน และลดระยะเวลาในการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ | ข่าว,เศรษฐกิจ | เงินตราต่างประเทศ,ธนาคารแห่งประเทศไทย,แลกเงิน,ธปท.,ดิจิทัล แบงกิ้ง | https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1296582 |
ชมคลิป รถบัสไปไม่พ้น ชนรถไฟที่นครปฐม ตาย 3 เจ็บเพียบ | เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 3 เม.ย. 59 การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า ขบวนรถนำเที่ยวที่ 909 กรุงเทพ-น้ำตก ถูกรถบัส 2 ชั้น เฉี่ยวชน ที่ 29/9 ระหว่าง วัดสุวรรณ-วัดงิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ในทางขึ้น รถดีเซลรางได้รับความเสียหาย ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ มีผู้บาดเจ็บประมาณ 20 ราย, ,นายพรสุทธิ ทองสาด ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันนี้ ขบวนรถไฟนำเที่ยว กทม.-หัวหิน และกาญจนบุรี ที่เดินทางออกจาก กทม. ได้วิ่งมาถึงทางผ่านทางแยกตัดกับถนนที่ไม่มีไม้กั้นทางรถไฟ บริเวณวัดงิ้วราย จ.นครปฐม ได้เกิดเหตุชนประสานงาเข้ากับรถทัวร์อย่างแรง จนรถทัวร์กระเด็นและพลิกคว่ำ ทำให้คนขับรถทัวร์เสียชีวิตทันที และผู้โดยสารรถทัวร์ เสียชีวิต 2 ราย และยังมีผู้โดยสารบนรถทัวร์ได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 20 คน ขณะนี้ได้นำส่งโรงพยาบาลแล้ว,สำหรับขบวนรถไฟนั้นเสียหาย และมีคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยขณะนี้การรถไฟได้ตัดขบวนส่วนท้ายออก และลากไปยังสถานีวัดสุวรรณ โดยได้ขนถ่ายผู้โดยสารทั้งหมดเดินทางไปกับขบวนรถดังกล่าวเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง โดยไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ส่วนขบวนรถไฟส่วนหัว ยังอยู่บนรางในที่เกิดเหตุ เพื่อรอให้เจ้าหน้าตำรวจมาตรวจสอบพิสูจน์หลักฐาน แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถ รถไฟยังเดินได้ตามปกติ เพราะเป็นช่วงทางคู่ซึ่งเดินสวนกันได้ นายพรสุทธิ กล่าว, ,ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ รฟท. ยังล่าวอีกว่า จุดนี้รถไฟกำลังทำไม้กั้น รอที่จะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ แต่มาเกิดเหตุขึ้นก่อน เท่าที่สอบถามจากคนขับรถไฟบอกว่า เป็นการชนแบบประสานงา เบื้องต้นยังบอกไม่ได้ว่าใครผิด ต้องรอตำรวจสรุป ถ้ารถไฟผิดเรายินดีรับผิดชอบเต็มที่ ทั้งผู้เสียชีวิตและคนเจ็บ,สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต มีดังนี้,1.นายสาโรจน์ กิตติเจริญสินชัย อายุ 62 ปี,3.นายนิพนธ์ ลดาธนะกิจ,ขอบคุณภาพจาก มรกต 21,ชมคลิป | รฟท. รายงานเหตุ รถไฟนำเที่ยว กทม.-หัวหิน และกาญจนบุรี ชนประสานงากับรถบัส 2 ชั้น ระหว่าง วัดสุวรรณ-วัดงิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน | null | รถบัส,รถไฟพุ่งชน,รถไฟนำเที่ยว,รถไฟชนรถบัส,นครปฐม,รฟท.,พรสุทธิ ทองสาด,ข่าว,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/600426 |
อิเหนา ฮึด หวังซิวทองบอลซีเกมส์ก่อนโดนแบน | อิเหนา ทีมชาติอินโดนีเซีย หวังคว่้าเหรียญทองฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2015 เพื่อเป็นการส่งท้าย หลังถูกฟีฟ่าสั่งแบนห้ามเข้าร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติทุกรายการหลังจบศึกที่สิงคโปร์ครั้งนี้ หลังไม่สามารถแก้ปัญหารัฐบาลแทรกแซงได้ทันตามกำหนด,สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 12 มิ.ย. ว่า อิเหนา ทีมชาติอินโดนีเซีย หวังคว้าเหรียญทองฟุตบอลชาย ซีเกมส์ เพื่อเป็นการส่งท้าย หลังถูกฟีฟ่าสั่งแบนห้ามเข้าร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติทุกรายการ หลังจบ ซีเกมส์ 2015 หลังจากที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการละเมิดธรรมนูญฟีฟ่า ข้อที่ว่าด้วยการเข้ามาก้าวก่ายกิจการของหน่วยงานรัฐ ได้ทันตามกำหนดเวลาที่ตั้งไว้,สำหรับ อินโดนีเซีย ผ่านเข้ารอบศึกฟุตบอลชายซีเกมส์ 2015 ที่สิงคโปร์ ได้สำเร็จ ในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ โดยจะลงสนามรอบตัดเชือก พบกับทีมชาติไทย ในวันเสาร์ที่ 13 มิ.ย. นี้ เวลา 19.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งอินโดนีเซียตั้งเป้าคว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้ให้ได้ เป็นการส่งท้ายก่อนถูกแบน,เฟอร์รี ยูเนียร์โต โคโน ผู้ช่วยผู้จัดการทีม อินโดนีเซีย กล่าวว่า แม้ว่าเราจะมีปัญหาในประเทศของเราแต่มันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเรา ผู้เล่นของเราอาจมีการโต้เถียงกันเล็กน้อย แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะคว้าเหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ที่นี่ไม่มีประเด็นการเมืองอะไรทั้งนั้น แรงกระตุ้นของทีมเรา,นักเตะ และแฟนบอลของเรามีความเข้มแข็งมาก ดังนั้น เราหวังว่ารัฐบาลจะมองเห็นสปิริตที่เข้มแข็งนั้นของเราแม้จะต้องถูกแบน ,ขณะที่ มานาฮาตี เลสตูเซน กัปตันทีมฟุตบอลชายของอินโดนีเซีย กล่าวว่า นักเตะของเรารู้สึกผิดหวังมากที่โดนแบน แต่เมื่อเราก้าวลงไปในสนาม เราจะพยายามลืมมัน | อิเหนา ทีมชาติอินโดนีเซีย หวังคว่้าเหรีัยญทองฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2015 เพื่อเป็นการส่งท้าย หลังถูกฟีฟ่าสั่งแบนห้ามเข้าร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติทุกรายการหลังจบศึกที่สิงคโปร์ครั้งนี้ หลังไม่สามารถแก้ปัญหารัฐบาลแทรกแซงได้ทันตามกำหนด | null | ซีเกมส์,ซีเกมส์ 2015,ซีเกมส์ ครั้งที่ 28,ทีมชาติอินโดนีเซีย,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/504771 |
เตบาส กลัว เมสซี ย้ายหนีบาร์ซา-ลา ลีกา | สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 ก.ค. ว่า ฆาเบียร์ เตบาส ประธาน ลา ลีกา ยอมรับ เขากลัวว่า ลิโอเนล เมสซี กองหน้าชาวอาร์เจนตินา จะย้ายออกทีม เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา หลังถูกศาลกระทิงดุตัดสินว่ามีความผิดฐานหลบเลี่ยงภาษี,เมสซี และคุณพ่อของเขา ถูกศาลสเปน สั่งตัดสินจำคุก เป็นเวลา 21 เดือน จากความผิดข้อหาหลีกเลี่ยงภาษี ระหว่างปี 2007-2009 เป็นเงินมากกว่า 4 ล้านยูโร แต่ยังไม่ต้องติดคุกเนื่องจากโทษยังไม่ถึงเกณฑ์ของกฎหมายสเปนและไม่เคยทำผิดคดีอาญามาก่อน อย่างไรก็ตาม เตบาส ในฐานะประธานลูกหนัง ลา ลีกา ยอมรับ เขากลัวเหลือเกินว่า เมสซี จะย้ายออกจากบาร์ซาและไปค้าแข้งลีกอื่นจากปัญหาดังกล่าว โดยมี 2 ทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ที่ตกเป็นข่าวว่าให้ความสนใจดึงไปร่วมทัพ,แน่นอน ผมกลัวว่าเมสซีจะย้ายออกจากบาร์เซโลนาและลีก ลาลีกา แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสามารถบอกกับเขาได้ในฐานะลา ลีกา คือเราเชื่อว่าเขาไม่ได้มีความผิด และเขาควรจะอยู่ในวงการฟุตบอลสเปนต่อไป ผมไม่คิดว่าคนอย่างเมสซีจะเป็นผู้กระทำผิดได้ เตบาส กล่าว | ฆาเบียร์ เตบาส บิ๊กบอสลีกลูกหนังสเปน ยอมรับ เขากลัวว่า ลิโอเนล เมสซี ดาวยิงเลือดอาร์เจนไตน์ จะย้ายออกทีมบาร์เซโลนา และลีกนี้ไป หลังถูกศาลกระทิงดุตัดสินว่ามีความผิดฐานหลบเลี่ยงภาษี | null | ฆาเบียร์ เตบาส,บาร์เซโลนา,ลิโอเนล เมสซี,ลา ลีกา สเปน,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/658932 |
หุ้นบาดตา เงินบาดใจ จะเอายังไงชีวิตการลงทุน? | สัปดาห์ที่เต็มไปด้วยสถานการณ์ปั่นป่วนทุกรูปแบบเกิดขึ้นทั่วโลกในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะภาวะการลงทุนดำดิ่งในตลาดทุนทั่วโลก น้ำหนักส่วนใหญ่มาจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่อยู่ในจังหวะขาลงอย่างรุนแรง ยกเว้นวินาศกรรมสี่แยกราชประสงค์ที่เหนือความคาดหมาย มาซ้ำเติมตลาดทุนไทย คำถามยอดฮิตปลิวว่อนทั่วตลาดทุนว่า ,เมื่อไหร่จะขึ้น สำหรับคนติดดอย(ราคา)สูง จุดต่ำสุดอยู่ไหน? สำหรับคนชอบสวนซื้อราคาถูก(ไม่สุด) พ้นจุดต่ำสุดหรือยัง? สำหรับคนเล็งซื้อกองทุนหักภาษี(แต่ก็ยังพลาด) หรือแม้แต่ ขอโทษนะครับ กูจะเอายังไงดีกับชีวิตการลงทุน? ข้อนี้สำหรับทุกเพศ ทุกวัย ทุกชนชั้น และทุกชนชาติ,ไม่มีนักลงทุนคนไหน หรือแม้แต่ราคาหุ้นตัวไหน ที่จะรับข่าวไปก่อนการตัดสินใจของนักลงทุน บ่อยครั้งที่มักจะได้ยินคำพูดจากปากบรรดานักเติมเคราะห์วงการตลาดทุนว่า หุ้นรับข่าวนั้น รับข่าวนี้ไปแล้ว ทั้งๆ ที่รู้ตั้งแต่ต้นปีนี้ว่า ดอกเบี้ยสหรัฐฯขึ้นแน่ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายปีนี้ เศรษฐกิจจีนปีนี้แย่สุดๆ รอบ 25 ปี น้ำมันดิบปีนี้ไหลลื่นหาบาร์เรลละ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เพียงแค่ในสัปดาห์ที่แล้ว มูลค่าหุ้นในดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ถูกเทขายรวมกันถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 36 ล้านล้านบาท เนื่องจากดัชนีหุ้นดังกล่าว -5.8% นับเป็นสัปดาห์ที่ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ที่ตกต่ำมากที่สุดในรอบ 4 ปี หรือตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2011 ไม่เพียงเท่านั้น ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และนาสแดค ร่วง 5.8% และ 6.8% ตามลำดับในสัปดาห์นี้ด้วย,นักลงทุนทุกตลาดหุ้นในเอเชีย แน่นอนว่าไทยก็หนีไม่พ้น ล้วนเอามือก่ายหน้าผาก(สูง) เมื่อดัชนีหุ้น MSCI ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นเฉลี่ยของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไม่รวมตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ดิ่งลง 2.4% ทำสถิติต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2012 หรือปิดต่ำสุดในรอบ 3 ปี แสดงว่าตลาดหุ้นทั้งหมดเข้าสู่ฤดใบไม้ร่วง เริ่มจากตลาดหุ้นจีน ปิดร่วงลง 4% ลงต่ำสุดในรอบ 1 ปี เมื่อรวมตลอดทั้งสัปดาห์ -11% ตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วง 2.4% ทั้งสัปดาห์ -7.4% ตลาดหุ้นญี่ปุ่นฉุด 2.9% สะสมทั้งสัปดาห์นี้ -5.2% ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดดิ่ง 1.6% สะสม -4% ในสัปดาห์นี้ รวมถึงตลาดหุ้นไทย -3.4% ถึงเวลานี้ ราคาหุ้นบาดดวงตานักลงทุนจำนวนไม่น้อย,ไม่มีผู้ส่งออกคนไหน นักเก็งกำไรค่าเงินรายใด หรือสกุลเงินใดๆ ที่จะรับรู้ข่าวไปก่อนการตัดสินใจของนักธุรกิจและนักค้าเงินด้วยตัวเองทั้งนั้น บนแผ่นเสียงตกร่องของนักเติมเคราะห์ที่ได้ยินจนหูชา ด้วยสาเหตุเดียวกันกับปัจจัยลบข้างบน และเติมให้อีกนิดว่า ประเทศใดค้าขายกับจีนทั้งจำนวนและมูลค่ามากกว่าคู่ค้าชาติอื่นๆ ซึ่งทางการจีนชิงลดค่าเงินหยวนจนอ่อนค่าเป็นประวัติการณ์ไปเมื่อ 11 สิงหาคม และหากประเทศนั้นพึ่งส่งออกพลังงานโดยเฉพาะน้ำมันเป็นหลัก ค่าเงินประเทศเหล่านั้น ซึ่งอยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่จำนวน 10 ชาติเข้าขั้นถูกเทขายหนักอย่างไม่ยั้ง ทุนสำรองระหว่างประเทศเสี่ยงสูงลดลงต่อเนื่อง แบงก์ชาติแต่ละแห่งต้องเลือกระหว่าง ลอยค่าเงิน ลดค่าเงิน หรือปล่อยอ่อนจนถึงฟางเส้นสุดท้าย,ทำให้ตั้งแต่ต้นปีนี้ ค่าเงินเรียล บราซิล อ่อนค่าเกือบ 34% แย่ที่สุดในโลก เงินวอน เกาหลีใต้ร่วงเกือบ 7.9% และบาท ไทย อ่อนเกือบ 7.8% ครองอันดับ 6 และ 7 ของโลกตามลำดับ เฉพาะสัปดาห์ที่แล้ว เงินริงกิต มาเลเซีย ร่วงต่ำสุดรอบ 17 ปี หายไป 16% อ่อนค่ามากที่สุดในอาเซียน บาทไทยตามมาเป็นอันดับ 3 ติดลบ 7.7% ไม่ปฏิเสธว่า เงินยิ่งอ่อน ส่งออกยิ่งดี แต่เวลานี้และอีกหลายปี กำลังซื้อลูกค้าไม่มี แถมต้นทุนนำเข้าพุ่งอ่วม ส่งออกวัตถุดิบไม่ได้ราคา นั่นคือความท้าทายสำหรับธุรกิจขนาด SME ในกลุ่มประเทศที่มีค่าเงินอ่อน แม้แต่ไทยก็หนีไม่พ้น ถึงเวลานี้ ค่าเงินบาดใจคนทำการค้า และนักลงทุนจำนวนไม่น้อย,วันนี้และไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี จีนใส่เกียร์ถอยมาตรการแทบทุกรูปแบบ เพื่อหวังแก้ปัญหาเศรษฐกิจหลายกลุ่มที่ออกอาการย่ำแย่ในรอบหลายปีผ่านมา ,โดยเฉพาะอีก 1 ปีจากนี้ไป จีนต้องเตรียมเงินหยวนให้ได้รับการยอมรับจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ในการประกาศให้เป็นสกุลเงินหลักในทุนสำรองระหว่างประเทศของประเทศสมาชิกไอเอ็มเอฟอย่างเป็นทางการ, ในห้วงเวลาเดียวกัน เศรษฐกิจกลุ่มประเทศยุโรปที่ใช้เงินเหรียญยูโร ยังต้องเติมมาตรการการเงินหลายอย่างต่อเนื่อง บนการตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นประวัติการณ์ต่อไป เพื่อรอสัญญาณบวกเงินเฟ้อ และกำลังกล้าใช้จ่ายของชาวยุโรปกลับมา,สำหรับญี่ปุ่น ที่ยังไม่มีความแน่นอนในการรักษาสภาพเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างเข้าร่องเข้ารอย ทำให้สารพัดมาตรการเติมเงินเข้าระบบ พยุงกำลังซื้อชาวญี่ปุ่นให้กระเตื้องขึ้นต่อเนื่อง บนต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำมานานกว่าทศวรรษ ยังคงได้เห็นกันต่อไปนานพอสมควร และพี่ใหญ่เศรษฐกิจของโลก สหรัฐฯต้องเตรียมรับสภาพการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐฯเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 9 ปี ซึ่งอาจได้เห็นขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ และปรับขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้น เป็นภาวะที่ดูแลได้อย่างสบายๆ ไม่มีปัญหา,การเปลี่ยนผ่านทุกอย่าง มีเจ็บ มีปวด แต่มีเพียงข้อมูลที่ใช่ ผสมเพดานบินที่เหนือกว่า เป็นลาภอันประเสริฐสุด สำหรับคำตอบที่ถามว่า ขอโทษนะครับ กูจะเอายังไงดีกับชีวิตการลงทุน? | เมื่อไหร่จะขึ้น สำหรับคนติดดอย(ราคา)สูง จุดต่ำสุดอยู่ไหน? สำหรับคนชอบสวนซื้อราคาถูก(ไม่สุด) พ้นจุดต่ำสุดหรือยัง? สำหรับคนเล็งซื้อกองทุนหักภาษี(แต่ก็ยังพลาด) หรือแม้แต่ ขอโทษนะครับ กูจะเอายังไงดีกับชีวิตการลงทุน? ข้อนี้สำหรับทุกเพศ ทุกวัย ทุกชนชั้น และทุกชนชาติ | คนดังนั่งเขียน | คนดังนั่งเขียน,บัญชา ชุมชัยเวทย์,เศรษฐกิจ,ระเบิดสี่แยกราชประสงค์,การลงทุน,กองทุนหักภาษี,หุ้น MSCI,เงินหยวน,ทุนสำรองระหว่างประเทศ,ธนาคารกลางสหรัฐฯ,นักลงทุน,กองทุนการเงินระหว่างประเทศ,ไอเอ็มเอฟ,ตลาดหุ้น,น้ำมัน,เศรษฐกิจจีน,ดอกเบี้ยสหรัฐ | https://www.thairath.co.th/content/520351 |
นิติราษฎร์ชี้คำวินิจฉัยศาลรธน.ไม่มีผลทางกฎหมาย ร่างแก้ไข รธน.ยังสมบูรณ์ | 23 พ.ย.2556 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มนิติราษฎร์จัดแถลงข่าววิพากษ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. ที่มีคำวินิจฉัยไปเมื่อ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา การแถลงข่าวครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลขนและประชาชนเป็นจำนวนมาก เริ่มการแถลงข่าว ระบุว่า นิติราษฎร์เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีความผิดพลาดร้ายแรงในแง่ของเขตอำนาจของศาลตลอดจนความบกพร่องในการวินิจฉัย ซึ่งศาลชี้ว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมีความบกพร่องทั้งในแง่เทคนิค คือ เนื่องจากมีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน รวมถึงกรณีความบกพร่องทางเนื้อหาสำหรับเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญนั้น วรเจตน์ชี้ว่า นี่เป็นประเด็นสำคัญที่สุดที่ถ้าทำให้ความเข้าใจถ่องแล้วก็ไม่ต้องวิเคราะห์เรื่องอื่นต่อไปอีกศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญไม่ได้เกิดขึ้นมาเองด้วยตัวเอง ไม่ได้เกิดจากกฎหมายธรรมชาติหรือเทศบัญญัติหรือกฎหมายอื่นใด ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญก็ไม่มีศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อรัฐธรรมนูญก่อตั้งศาลขึ้นมาก็กำหนดอำนาจหน้าที่ขึ้นมาบุคคลที่ทรงอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือรัฐสภา เวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญจะทำงานหรือตัดสินคดีไม่สามารถตัดสินคดีได้ตามอำเภอใจ เช่นมีคนฆ่าคนตาย ฝ่ายของคนที่ถูกฆ่าตายก็ไปร้องให้ศาลวินิจฉัยโดยเชื่อว่าศาลจะทรงความยุติธรรมเหนือกว่าศาลอื่นใด ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าศาลรับตัดสินก็ไม่มีผลทางกฎหมายศาลมีเขตอำนาจจำกัดตามที่รธน. และการดูเรื่องขอบเขตอำนาจเป็นเรื่องต้องทำก่อนการวินิจฉัยคดีสิ่งที่ทำเมื่อวันที่ 20 พ.ย. คือศาลไม่ได้วินิจฉัยว่าตัวเองมีอำนาจวินิจฉัย แต่ไปอ้างหลักการเสียงข้างน้อยมาใช้ ฟังดูอาจจะเคลิ้มแต่ถ้าเราคิดและตรึกตรองดูให้ดีแล้วจะพบว่าการอ้างหลักการคุ้มครองเสียงข้างน้อยมีความคลาดเคลื่อนหลายประการนิติราษฎร์เห็นว่าสาระสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตยคือเสียงของประชาชน และประชาชนนั้นมีจำนานมาก และมีความคิดความเห็นต่างกัน หากต้องหาเจตจำนงของประชาชนให้ยุติโดยความเห็นพ้องอย่างเอกฉันท์นั้นเป็นไปไม่ได้ จึงต้องใช้หลักเสียงข้างมาก แต่ก็ต้องมีหลักการคุ้มครองเสียงข้างน้อยเพื่อให้ข้อยุติจากเสียงข้างมากเป็นไปอย่างมีเหตุผล แต่การคุ้มครองเสียงข้างน้อยไม่ใช่การยอมทำตามเสียงข้างน้อย แต่เปิดโอกาสให้เสียงข้างน้อยได้แสดงความเห็น เพื่อโน้มน้าวให้เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยเพื่อจะเป็นเสียงข้างมากในวันหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่ไม่ปรากฏในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งๆ ที่เป็นหลักการที่สำคัญศาลของรัฐธรรมนูญไม่ได้มีหน้าที่ในการทำให้เสียงข้างน้อยบรรลุเป้าหมาย เพราะศาลรธน. ไม่ใช่ผู้แทนของเสียงข้างน้อย ผู้แทนของเสียงข้างน้อยคือฝ่ายค้านในสภา แต่ศาลรธน.เป็นคนกลางที่ทำหน้าที่วินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญสรุปลงอย่างง่ายๆ ว่าเสียงข้างน้อยไม่มีที่อยู่ที่ยืน แต่ไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ ที่สนับสนุนว่าเสียงข้างน้อยในประเทศนี้ไม่มีที่อยู่ที่ยืนอย่างไร ไม่มีที่บอกว่าทุกวันนี้ไม่มีกลไกการตรวจสอบเสียงข้างมาก ตราบที่มีศาลรัฐธรรมนูญมันยังมีกลไกตรวจสอบ ยังมีมติสาธารณะ มีคอลัมนิสต์มีการแสดงความเห็นที่ทำให้เห็นว่าเสียงข้างน้อยมีที่อยู่ที่ยืนสำหรับการแก้ไขที่มา ส.ว.เสียงข้างน้อยที่ไมเห็นด้วยกับเสียงข้างมากที่ลงคะแนนไปแล้วก็ควรจะไปรณรงค์ใช้เหตุผลโน้มน้าวใจคนอื่นให้เห็นด้วย ไม่ใช่การบังคับข่มขืนใจคนอื่นให้เห็นด้วยได้ศาลรธน. สมควรต้องตระหนักและสำนึกว่าการออกแบบโครงสร้างการเมืองว่าควรอย่างไร เป็นเรื่องของประชาชนและองค์กรทางการเมืองคือ รัฐสภา เพราะบุคคลเหล่านี้มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย ไม่ใช่หน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญที่จะมาบอกว่าต้องเป็นแบบนี้ แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนร่วมกับองค์กรทางการเมืองศาลรัฐธรรมนูญได้อ้างหลักนิติธรรมขึ้นในหลายแห่งของคำวินิจฉัย ฟังดูดีแต่พอดูรายละเอียดจะพบว่าเป็นการอ้างที่เลื่อนลอย การอ้างอย่างนี้โดยผลของคำวินิจฉัยนี้ก็คือการควบคุมขัดขวางเสียงข้างมากเพื่อให้ความต้องการของเสียงข้างน้อยบรรลุผล การทำอย่างนี้สุดท้ายเป็นการช่วยให้เสียงข้างน้อยทำลายเจตนารมณ์ของเสียงข้างมาก และทำให้เสียงข้างมากต่างหากที่ไม่มีที่อยู่ที่ยืน เป็นการสนับสนุนเผด็จการเสียงข้างน้อยในที่สุดวรเจตน์กล่าวว่า อารัมภบทที่ศาลรธน. พูดมายืดยาว ไม่เข้าข้อกฎหมาย เมื่อพิจารณาตามมาตรา 68 ทุกคนก็เห็นว่าไม่ค่อยมีที่ใช้โดยปกติ เว้นแต่ปัจเจกบุคคลหรือพรรคการเมืองกระทำการเข้าองค์ประกอบ ซึ่งไม่ใช่กรณีที่เกิดขึ้นตัวบทของมาตรา 68 พูดเรื่อง สิทธิเสรีภาพ ว่าบุคคลจะใช้สิทธิเสรีภาพไปในทางล้มล้างการปกครองหรือให้ได้มาซึ่งอำนาจอันไม่เป็นไปถามวิถีทางที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญไม่ได้ จะไปแปลว่าเป็นเรื่อง อำนาจ ได้อย่างไร เรื่องทีเกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบุคคลหรือพรรคการเมืองด้วย แต่เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาที่มีอำนาจ แต่คำวินิจฉัยของศาลนั้นปะปนกันไปหมดระหว่างการใช้สิทธิเสรีภาพกับการใช้อำนาจหน้าที่ และนักกฎหมายหลายคนก็ออกมาพูดว่าสิทธิเสรีภาพก็คืออำนาจเดี๋ยวนี้คนเขามีสติปัญญาที่จะคิดได้ว่าที่คุณพูดมามันมั่วนอกจากนี้วรเจตน์ยังตั้งข้อสังเกตว่า ในคำวินิจฉัยนั้นศาลอ้างเรื่องการไปตรวจสอบถ่วงดุลองค์กรอื่นๆ แต่กลับไม่มีการถ่วงดุลตัวเองศาลถ่วงดุลคนอื่นหมดเลย แล้วใครถ่วงดุลท่าน วรเจตน์ตั้งคำถามคนที่ไม่ทำตามขั้นตอนที่รธน.กำหนดไว้แน่ๆ ก็คือศาลรธน.เอง เพราะรธน.กำหนดให้ไปยื่นเรื่องที่อัยการสูงสุดก่อนเพื่อกลั่นกรอง แต่นี่เสียงข้างน้อยที่โหวตแพ้ไปยื่นเรื่องต่อศาลรธน.โดยตรงและศาลก็รับไว้พิจารณา เป็นการไม่เคารพขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องเรียนกฎหมายก็รู้ผลของการวินิจฉัยมาตรา 68 เป็นการสถาปนาอำนาจของศาลรธน.ขึ้นมาเอง ตีความอย่างกว้างขวาง ไม่ชอบด้วยหลักการตรวจสอบถ่วงดุล และไม่ชอบด้วยหลักการจัดโครงสร้างรัฐ ถ้าปล่อยให้การตีความมาตรา 68 ของศาลรัฐธรรมเป็นแบบนี้ก็เป็นการปล่อยให้เขตอำนาจขยายไปเรื่อย เชื่อว่าจะมีคนมาร้องศาลรัฐธรรมนูญตลอดเวลา เพราะมีคนพร้อมจะทำเช่นนั้นอยู่แล้วในทุกเรื่อง ศาลจะมีอำนาจในการรับคดีต่างๆ มาพิจารณาคดีเต็มไปหมด กลายเป็น ซูเปอร์องค์กร เป็นองค์กรที่อยู่เหนือองค์กรทั้งปวง และศาลนั้นแม้จะเกิดจากรัฐธรรมนูญ แต่โดยผลของการใช้กฎหมายแบบนี้จะกลับเป็นคนที่ให้กำเนิดรัฐธรรมนูญเอง มันจะเกิดสภาพวิปลาส ผิดเพี้ยนไปหมด มีผลรุนแรงทำลายหลักนิติรัฐและประชาธิปไตยลง ส่งผลให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสูงสุดเด็ดขาด โดยความร้ายแรงแบบนี้เองที่ทำให้เราต้องยืนยันว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนี้เสียเปล่าและไม่มีผลทางกฎหมายวิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรธน.ที่วินิจฉัยข้อบกพร่องในกระบวนการ โดยอธิบายว่าเวลาเขียนตอบข้อสอบกฎหมาย ต้องเอาประเด็นมาวาง เอาหลักกฎหมายมาวางแล้วเอาข้อเท็จจริงมาวินิจฉัย แล้วปรับใช้ แต่จากคำวินิจฉัยของศาลนั้นไม่ใช่การอ้างหลักกฎหมาย เป็นการพรรณนาความไปเรื่อยๆ แล้วพอจะลากเข้าหาเขตอำนาจ ก็ไปอ้างเอาหลักนิติธรรมตามมาตรา 3 วรรค 2 ของรธน.เพื่อจะบอกว่ากำลังทำตามรัฐธรรมนูญอยู่ ซึ่งจริงๆ รธน.กำหนดให้ทุกองค์กรทำไปตามหลักนิติธรรมซึ่งต้องรวมตัวศาลรัฐธรรมนูญด้วยท่านเทศนา สั่งสอนประณามฝ่ายการเมืองลงไปในคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษา แต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะเอามาตัดสินคดี ในระบบกฎหมายเขียนแบบนี้ไม่ได้ ไม่ใช่การใช้เหตุผลในทางกฎหมายประเด็นองค์คณะ นิติราษฎร์ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยว่าศาลมีอำนาจวินิจฉัยคดีนี้ และเมื่อมาพิจารณาในแง่องค์คณะ เวลาที่รับคำร้อง ไม่มีนายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์ ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งและโปรดเกล้าฯ ภายหลัง แต่ท้ายสุดกลับมาลงคะแนนเสียงในการวินิจฉัย ซึ่งตามหลักแล้วทำไม่ได้ สาระสำคัญของเรื่องนี้คือ คู่ความต้องรู้ล่วงหน้าว่าใครจะมีตัดสินคดีเขา ถ้าไม่ไว้วางใจ คู่กรณีจะได้มีโอกาสในการร้องคัดค้านองค์คณะประเด็นต่อมาคือ ถ้าองค์คณะรับฟ้องมี 7 คนแล้วมาตัดสิน 9 คน ถ้ามีการเปิดโอกาสแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันจะเปิดโอกาสให้เติม-ลดองค์คณะได้เรื่อยๆ ซึ่งมีผลต่อการนับเสียงในการวินิจฉัย โดยปิยบุตรย้ำว่าองค์คณะที่รับเรื่องไปจนตัดสินวินิจฉัยต้องเป็นองค์คณะเดิมเป็นจำนวนเดิมและเป็นคนเดียวกัน เว้นแต่กรณีตาย หรือถูกร้องค้านประเด็นถัดมา องค์คณะต้องเป็นกลางและปราศจากอคติ แต่ทัศนคติของนายจรัญ ภักดีธนากุล ซึ่งได้เคยแสดงความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์อย่างยิ่งต่อการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาแบบเลือกตั้งแล้วในอดีต ในการอภิปรายเรื่องส.ว.สรรหา ในสสร.50 หากให้นายจรัญวินิจฉัยคดีนี้ก็ชัดเจนว่าเขาจะไม่สนับสนุน ส.ว. เลือกตั้ง ปิยบุตรเห็นว่านี่เป็นกรณีที่นายจรัญต้องถอนตัวทำไมเราต้องใส่ใจคำวินิจฉัยนี้ คำตอบคือเพราะศาลได้อ่านออกสาธารณะจนทำให้สาธารณชนได้เข้าใจว่าเรื่องเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง เพราะสภาก็ทำผิดจริง แม้ว่าศาลจะไม่มีอำนาจ ปิยบุตรโต้แย้งว่ากระบวนการต่างๆ ที่ศาลวินิจฉัยว่าไม่ชอบนั้น ไม่จริงเลย ทั้งประเด็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมเป็นคนละร่างกับร่างฯ ที่เสนอ ประเด็นการนับวันในการเสนอคำแปรญัตติซึ่งศาลเห็นว่าให้เวลาฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเสนอคำแปรญัตติแค่ 1 วัน ซึ่งน้อยเกินไป รวมไปถึงประเด็นการเสียบบัตรแทนกันประเด็นแรก เรื่องร่างฯ วันที่ยื่นกับร่างฯ วันที่แก้ เป็นคนละร่างฯ กันนั้นเป็นความจริง แต่ไม่ส่งผลเสียหายใดๆ ตามกระบวนการขั้นตอนเพราะวันที่เริ่มเข้าสู่กระบวนการแก้ไขเพิ่มเติม ก็ให้โอกาสในการพิจารณาร่างฯ ฉบับที่มีการแก้ไขในวันนั้นเหมือนๆ กัน สมาชิกรัฐสภาทุกท่านที่ได้รับแจกร่างฯ ที่มีการแก้ไขแล้วทั้งหมด นี่ไม่ใช่สาระสำคัญที่จะส่งผลร้ายถึงกับจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้มีความบกพร่องประเด็นนับวันเสนอการแปรญัตติ ที่ศาลเห็นว่าเหลือเวลา 1 วันเท่านั้นศาลชี้ว่าขัดข้อบังคับ ปรากฏว่าข้อบังคับการประชุมรัฐสภา 2553 ข้อ 96 กำหนดให้แปรญัตติภายใน15 วันนับจากวันรับหลักการในวาระ 1 เว้นแต่รัฐสภาเห็นเป็นอย่างอื่น ซึ่งต้องลงมติว่าจะเปลี่ยนจาก 15 เป็นกี่วัน ข้อเท็จจริงคือประธานรัฐสภาถาม ก็มีคนเสนอขอ 60 วัน แต่ปรากฏว่าเมื่อจะโหวตองค์ประชุมกลับไม่ครบ จึงกลับไปสู่หลักเดิมคือ 15 วันปัญหาคือ 14 วันก่อนหน้านั้นทำไมท่านไม่มาเสนอคำแปรญัตติ พอมาเหลือ 1 วัน ท่านมาขอขยายเวลาเป็น 60 วันความร้ายแรงของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่อ้างว่าการนับเวลาย้อนหลังไปจะทำให้เหลือเวลาแปรญัตติเพียง 1 วันขัดข้อบังคับการประชุมและขัดกับหลักนิติธรรม แต่กลับไม่มีข้อบังคับข้อไหนเลยที่ศาลจะนำมาอ้าง เพราะไม่มีข้อบังคับไหนกำหนดให้นับวันแบบศาลรัฐธรรมนูญบอก หมายความว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นนี้โดยไม่มีกฎหมาย คนที่เป็นศาลจะต้องตัดสินคดีด้วยความยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมาย ไม่ใช่ตัดสินตามความรู้สึก ไม่ใช่สร้างกฎหมายขึ้นมาเอง โดยเขายกเอารธน. มาตรา 197 มาอ้างประเด็นต่อมา คือ การตัดไม่ให้สมาชิกอภิปรายในวาระ 2 ซึ่งมีคนแปรญัตติ 57 คน ถูกตัดสิทธิอภิปรายเพราะทำผิดข้อบังคับเนื่องจากเหลือวันอภิปรายเพียง 1 วัน แต่ศาลได้วินิจฉัยว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ปิยบุตรชี้ว่าประเด็นนี้ศาลได้ทิ้งเชื้อไว้ ทำให้กระบวนการนิติบัญญัติในประเทศไทยมีปัญหาในอนาคต ต่อไปกฎหมายฉบับที่สำคัญๆ พรรคฝ่ายค้านจะขอแปรญัตติเป็นร้อยๆ คนเมื่อใกล้กำหนดเวลา และหากจะโดนตัดสิทธิอภิปรายก็จะหยิบยกคำวินิจฉัยนี้ขึ้นมาอ้างประเด็นต่อมาคือเรื่องการเสียบบัตรแทนกัน ศาลมีอำนาจในการไต่สวนแสวงหาข้อเท็จจริงได้ด้วยตนเองตามคำร้อง มีการเสียบบัตร 8 ใบ ต่อให้จริง มติเห็นชอบในการแก้ไขรธน.นั้นกระทบกระเทือนหรือไม ข้อเท็จจริงคือมันไม่ได้ส่งผลกระทบกระเทือนต่อการลงมติตอนจบ จะเอาเรื่องเสียบบัตรแทนมาล้มมติไม่ได้ และถ้ามีการเสียบบัตรแทนกันจริงซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้องก็ต้องไปลงโทษคนที่เสียบบัตรแทนกัน ไม่ใช่มาล้มร่างฯ ฉบับนี้ เพราะถ้าจะใช้วิธีนี้ก็จะเกิดการกลั่นแกล้งกันต่อไป เช่น ต่อไปฝ่ายข้างน้อยก็อาจจะใช้การเสียบบัตรแทนกันเพื่อทำลายมติในตอนหลัง อย่างไรก็ตาม หากประเด็นเสียบบัตรแทนจะมีผลล้มมติ ต้องเป็นการเสียบบัตรจำนวนมากๆ ต่างกับกรณีนายทวีเกียรติเพราะศาลรัฐธรรมนูญมีองค์คณะจำนวนน้อยเวลาศาลจะล้มเรื่องใหญ่ๆ ศาลจะใช้เรื่องกระบวนการ ปิยบุตรตั้งข้อสังเกตโดยยกกรณีการเพิกถอนการเลือกตั้งเพราะหันคูหาออก ซึ่งเขาชี้ว่ากระบวนการนั้นเป็นเรื่องผิดพลาดได้ในการทำงาน หากจะมีผลต่อผลลัพธ์ต้องเป็นกรณีที่หากบกพร่องแล้วผลลัพธ์จะเปลี่ยน วิจารณ์ในส่วนของคำวินิจฉัยของศาลในเนื้อหาของร่างแก้ไขรธน.โดยศาลชี้ว่าจะทำให้เกิดการไม่สมดุล เป็นสภาญาติพี่น้อง สภาครอบครัวหรือสภาผัวเมียทำให้สูญสิ้นสถานะและศักยภาพแห่งการเป็นสติปัญญาให้กับสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทำลายสาระสำคัญของการมีสองสภาศาลเข้ามาใช้อำนาจชี้นำการกำหนดโครงสร้างทางการเมืองเป็นกรณีที่ศาลกระทำสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ของศาลและการมีวุฒิสภาในประเทศอื่นในโลกที่เป็นประชาธิปไตยก็ล้วนมาจากการเลือกตั้งการที่ศาลอ้างว่าไม่เป็นประชาธิปไตยก็ขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตยส่วนการมีเจตจำนงให้วุฒิสภามาจากการแต่งตั้งเป็นการถาวรตลอดไปก็ต้องเขียนไวในรัฐธรรมนูญมาตรา 291ปิยบุตรกล่าวเสริมว่า การพยายามมาแตะเรื่องเนื้อหาเพราะว่าการแก้ไขส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดเป็นการได้มาซึ่งอำนาจการปกครองที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อวางหลักไว้ว่าจะไม่มีใครสามารถมาเสนอเรื่องแบบนี้ได้อีกแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญกำลังขยายแดนของบทบัญญัติที่ห้ามแก้ไขออกไปเรื่อยๆ ทั้งที่ตามรธน.มีแค่ 2 เรื่องเท่านั้นที่แก้ไม่ได้ คือการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเรื่องรูปของรัฐถ้าเห็นด้วยกับ ส.ว. แต่งตั้งก็ไปร่วมรณรงค์กับเสียงข้างน้อยเพื่อโน้มน้าวให้เสียงข้างมากเห็นด้วย ไม่ใช่เอาทัศนคติตัวเองไปลงไว้ในคำวินิจฉัย ซึ่งปิยบุตรย้ำอีกครั้งส่า ส.ว. แต่งตั้งเป็นมรดกตกทอดจากการรัฐประหาร ปิดท้ายการแถลงข่าวโดยสรุปว่า หลังจากนี้อาจจะมีข้อโต้แย้งว่า แม้คำวินิจฉัยจะมีปัญหาร้ายแรงตามที่วิพากษ์วิจารณ์มา แต่หากไม่ทำตาม ไม่ยอมรับ บ้านเมืองก็ไม่มีขื่อไม่มีแป จะทำอย่างไรกันต่อไปเราจะยอมถูกกดขี่โดยคำวินิจฉัยไปชั่วกัลปาวสานหรือ นี่มันไม่ใช่หลักนิติธรรม ไม่ใช่หลักประชาธิปไตย วรเจตน์กล่าวพร้อมระบว่าอาจมีคนอ้างมาตรา 206 วรรค 5 ว่าผลการวินิจฉัยของศาลรธน. ให้มีผลผูกพันองค์กรของรัฐทุกองค์กร แต่วรเจตน์เห็นว่ากรณีนี้โมฆะ เนื่องจากคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญจะมีผลเป็นเด็ดขาดไม่ได้ เพราะเป็นคำวินิจฉัยที่ขัดต่อหลักประชาธิปไตย นิติรัฐ นิติธรรม และไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเอง ในทางกฎหมายต้องถือเป็นโมฆะ บังคับองค์กรของรัฐไม่ได้ แต่ถามว่าจะเกิดวิกฤตไหม เกิดวิกฤตแน่นอนในส่วนของผลทางกฎหมาย คำวินิจฉัยนี้ไม่ได้บอกว่าต้องทำอะไร ระหว่างนี้มีคนบอกว่าร่างรธน. นี้ตกไปแล้ว แต่ถามว่าตกไปจากไหน ตอบไม่ได้ กระบวนการขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ไปแล้ว ซึ่งในคำวินิจฉัยของศาลก็ไม่ได้บอกว่าร่างรธน.นี้ตกไป เพราะเขาไม่มีอำนาจจะบอกได้ ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการรอลงพระปรมาภิไธย จะสั่งกษัตริย์ให้ไม่ลงพระปรมาภิไธยก็ไม่ได้ มาตรา 68 ก็ไม่ได้ให้อำนาจไว้ เป็นการชี้ว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยไม่มีอำนาจดังนั้นขณะนี้ร่างรธน. ยังมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายทุกประการ และหากกษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยก็นำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ถ้าไม่ทรงวงพระปรมาภิไธย ก็ถือว่าทรงใช้อำนาจวีโต้ สภาก็ต้องมาปรึกษากัน ถ้าลงมติยืนยันไม่ถึง 2 ใน 3 ก็ตกไป แต่ถ้าลงคะแนนถึง 2 ใน 3 ก็ต้องยืนยันทูลเกล้าฯ อีกครั้ง และครั้งนี้หากพ้น 60 วันก็ประกาศเป็นกฎหมายต่อไปได้ไม่มีหลักกฎหมายที่บอกให้นายถอนร่างฯ ดังกล่าวออกหลังจากที่ทูลเกล้าฯ ไปแล้วผลทางการเมืองของคำวินิจฉัย ปัญหาตอนนี้ถ้าองค์กรที่เกี่ยวข้องหงอ ยอม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายของบ้านเมือง ผลคือสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการกระทบต่อระบอบประชาธิปไตย กระทบกับหลักการแบ่งแยกอำนาจ รัฐสภาจะไม่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนได้อีก และจะต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2550 ไปตลอดกัลปาวสาน และศาลรัฐธรรมนูญก็จะเป็นองค์กรที่ีอำนาจสูงสุด ประเทศไทยกลายเป็นรัฐตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถ้ายังคงยอมรับผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเขาชี้ว่าคำวินิจฉัยนี้ไม่มีผลในทางแก้วิกฤตความขัดแย้งระหว่างเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย ซ้ำยังสร้างวิกฤตของหลักนิติรัฐด้วยวรเจตน์ชี้ว่าหลังจากนี้สภาต้องประชุมกันลงมติว่าคำวินิจฉัยนี้ไม่มีผลผูกพันสภา จึงจะเป็นทางออกได้ บีบให้เกิดการปะทะกันของขั้วทางสังคม และหากมีปัญหาต่อไปภายภาคหน้า ศาลรัฐธรรมนูญต้องรับผิดชอบต่อคำวินิจฉัยวันที่ 20 พ.ย. 2556ผมพูดจากใจให้รัฐบาลไทยไปให้สัตยาบันในอนุสัญญาศาลอาญาระหว่างประเทศได้แล้ว เพราะถ้าวันข้างหน้าการพูดจากันทำไม่ได้อีกแล้วในสังคมนี้ อย่างน้อยการใช้กำลังทหารมาทำความรุนแรงกับประชาชนจะได้ไปในระดับระหว่างประเทศ คนที่จะเอาทหารออกมาจะได้คิด แล้วนี่น่าจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำในระยะเวลาอันไม่ช้าไม่นานมานี้ธีระ สุธีวรางกูร สมาชิกกลุ่มนิติราษฎร์แสดงความเห็นส่วนตัวในช่วงท้ายของการแถลงข่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มเป็นองค์กรที่อันตรายที่สุดในประเทศไทย เพราะเริ่มมีสถานะเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุด และตามคำวินิจฉัย 20 พ.ย. 2556 ศาลกำลังวางเกณฑ์ที่ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในอันตราย ศาลรัฐธรรมนูญกำลังจะปกปักรักษาโครงสร้างของระบบการเมืองแบบเดิมๆ เอาไว้ไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนผ่าน อีกประการหนึ่งจากที่ศาลบอกว่ารัฐสภาไม่สามารถไปแก้ไขรัฐธรรมนูญลดอำนาจการตรวจสอบของตัว เป็นการแสดงให้เห็นงว่าศาลไม่ยอมให้มีการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อลดอำนาจของตัวเอง นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าศาลไม่ยอมให้แก้ไขยุบองค์กรของตัวเองเขากล่าวว่าความเข้าใจของนายถาวร เสนเนียม ที่เข้าใจว่าศาลรัฐธรรมนูญอยู่เหนืออำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิดจากหลักการ แต่ถูกต้องในความเป็นจริงอันตรายอยู่ตรงที่ว่าเมื่อสังคมไทยต้องการเปลี่ยนแปลงในระบบปกติ เมื่อระบบปติทำไม่ได้ประชาชนจะใช้วิธีการที่ไม่ปกติ และการเปลี่ยนผ่านจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งจึงเปลี่ยนได้ยาก โดยท้ายที่สุดเขาได้เรียกร้องความรับผิดชอบจากคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในสังคมไทยต่อการใช้อำนาจบาทใหญ่ในสังคมมากขึ้นทุกวันของศาลรัฐธรรมนูญถ้าท่านไม่สู้ ผมก็จะอยู่บ้านเลี้ยงลุก แต่ถ้าท่านสู้ ผมก็จะสู้ร่วมกับท่าน | อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มของนิติราษฎร์ เรื่องคำวินิจฉัยศาลรธน.กรณีแก้ไขรธน.เรื่องที่มาสว. 23 พ.ย.2556 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ | การเมือง | คำวินิจฉัย,ที่มา ส.ว.,นิติราษฎร์,ประชาธิปไตย,มาตรา 68,ศาลรัฐธรรมนูญ,แถลงข่าว | https://prachatai.com/journal/2013/11/49936 |
ระบบสวนครัวน้ำหยด ลงทุน 3 พันไม่หวั่นแล้ง | เอ่ยกันแค่นี้ หลายคนอาจส่ายหัวมองเป็นเรื่องไกลเกินตัวสำหรับเกษตรกรรายย่อย เพราะต้นทุนราคาระบบน้ำหยดเกินเอื้อมสำหรับคนจนแต่วันนี้ระบบน้ำหยดไม่ได้แพงเหมือนอย่างที่คิด มีเงินแค่ 3,000 สามารถมีระบบน้ำหยด ปลูกพืชผัก ทำมาหาเลี้ยงได้ทั้งปี,ระบบสวนครัวน้ำหยดราคาประหยัดที่เราคิดขึ้นมานี้ เกิดจากแนวคิดให้เกษตรกรในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน ใช้น้ำอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ได้ทดลองใช้เป็นครั้งแรกที่ จ.มหาสารคาม ตั้งแต่ปี 2553 ปรากฏว่าได้ผลดีมาก ที่สำคัญสามารถประยุกต์ใช้กับการปลูกพืชผักในแปลงทุกขนาด ทุกพื้นที่ ใช้น้ำน้อย ประหยัดต้นทุน บำรุงรักษาง่าย อุปกรณ์หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป ด้วยเงินลงทุนแค่ไม่ถึง 3,000 บาท,ธราวุฒิ ไก่แก้ว วิศวกรการเกษตรชำนาญการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) อธิบายถึงข้อดีระบบสวนครัวน้ำหยด ทดลองแล้วในแปลงปลูกขนาดไม่เกิน 200 ตร.ม. กว้าง 10 ม.×ยาว 20 ม. ปลูกพืชระยะห่างระหว่างแถว 50 ซม.,ผลคือพืชได้น้ำสม่ำเสมอ เพราะเป็นระบบให้น้ำเฉพาะราก ประหยัดแรงงาน เวลา การเปิดให้น้ำแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที ทำให้ใช้น้ำน้อยแค่ 50 ลบ.ม. ต่อฤดูกาลผลิต (100 วัน) แถมประหยัดสุดๆ ค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จ มีค่าน้ำ ค่าไฟสูบน้ำแค่ 200 บาท ต่อฤดูกาลผลิตเท่านั้นเอง,กรรมวิธีติดตั้งและทำระบบไม่ยากเย็น คนไม่มีทักษะทางช่าง ทำได้สบายๆเริ่มจากการวัดพื้นที่ตามความเหมาะสม เตรียมอุปกรณ์ ถังน้ำ 200 ลิตร ท่อพีวีซี วาล์วน้ำ ข้อต่อต่างๆ เทปน้ำหยด และอุปกรณ์ต่อพ่วง,เจาะรูก้นถังน้ำ 200 ลิตร ประมาณ 5 ซม. ติดตั้งทางน้ำออก นำข้อต่อพีวีซีเกลียวนอกพันด้วยเทปพันเกลียว ขันเข้ารูให้แน่น ล็อกข้อต่อพีวีซีเกลียวนอกต่อมาติดตั้งวาล์วพีวีซี ติดตั้งชุดกรองน้ำเกษตร ให้หัวลูกศรที่ตัวกรองหันไปทิศทางเดียวกับการไหลของน้ำ ติดตั้งท่อพีวีซีตามความกว้างของหัวแปลง ตั้งถังบนที่สูงให้สูงกว่าแปลงปลูก 1-2 เมตร จากนั้นเจาะท่อพีวีซีในตำแหน่งที่ต้องการวางสายเทปน้ำหยด ใส่ลูกยางกันรั่วในรูที่เจาะ,ติดตั้งข้อต่อเทปน้ำหยด เปิดน้ำไล่เศษตะกอน ก่อนครอบฝาพีวีซีปิดปลายทั้งสองข้าง เสียบเทปน้ำหยดเข้ากับข้อต่อ ล็อกเทปให้แน่น ให้รูน้ำหยดหงายขึ้น เปิดวาล์วทดสอบระบบ สุดท้ายพันปลายสายเทปน้ำหยดให้แน่น เพียงเท่านี้เกษตรกรจะได้ระบบสวนครัวน้ำหยดราคาประหยัด,สำหรับเกษตรกรที่มีพื้นที่ปลูกมาก และมีเงินทุนมาก สามารถนำประยุกต์ใช้ให้พอเหมาะกับพื้นที่ได้ไม่ยาก แค่เพิ่มอุปกรณ์ต่างๆเข้าไปตามสัดส่วนเท่านั้น,ส่วนใครที่อยากอินเทรนด์ประหยัดพลังงาน หรืออยู่ในพื้นที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ทีมวิจัย ส.ป.ก. ยังได้พัฒนาระบบมอเตอร์สูบน้ำ พลังงานโซลาร์เซลล์ มาให้เป็นอีกตัวเลือกด้วย แต่ต้องลงทุนอุปกรณ์เพิ่มอีกราว 7,000 บาท สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-4904-4506.,กรวัฒน์ วีนิล | โลกร้อน ภัยแล้ง น้ำมีน้อยหายาก หนทางที่จะให้เกษตรกรทำกิน ปลูกพืชไร่ พืชสวน ที่พอจะเป็นไปได้ ทำได้ สิ้นเปลืองน้ำไม่มาก ระบบ น้ำหยด น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด | null | ภัยแล้ง,แก้ปัญหาภัยแล้ง,ระบบน้ำหยด,น้ำหยด,ประหยัดน้ำ,วิธีประหยัดน้ำ,สวนครัวน้ำหยด,ธราวุฒิ ไก่แก้ว,วิธีรดน้ำ,ข่าวเกษตร,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,ข่าว | https://www.thairath.co.th/content/591085 |
สรุปผลทัพไทยอชก. วันที่ 28 ส.ค. ซิวเหรียญประวัติศาสตร์ 3 กำปั้นฟอร์มดุ | การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ที่กรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 28 ส.ค. ทัพนักกีฬาไทยเก็บเพิ่มอีก 1 เงิน รวมเป็น 9 ทอง 11 เงิน 33 ทองแดง หล่นมาอยู่อันดับ 11 ตามหลัง อินโดนีเซีย เจ้าภาพที่รั้งอันดับ 4 มี 24 ทอง 19 เงิน 29 ทองแดง และจีน จ่าฝูงที่ได้ 95 ทอง 64 เงิน 45 ทองแดง,โดยเหรียญเงิน เหรียญเดียวที่ไทยทำได้ในวันนี้มาจาก ชญาณิศา ชมชื่นดี แชมป์ซีเกมส์ 3 สมัย ทำเซอร์ไพรส์ได้อันดับ 2 กีฬากระโดดค้ำถ่อหญิง พร้อมกับทุบสถิติประเทศไทยจากเดิม 4.21 เมตร มาเป็น 4.30 เมตร และเป็นเหรียญประวัติศาสตร์ของนักกรีฑาสาวไทยในเอเชียนเกมส์ด้วย,สรุปเหรียญรางวัลเอเชียนเกมส์ทั้งหมด,มวยสากลสมัครเล่นรุ่น 52 กก.ชาย รอบ 8 คนสุดท้าย,ยุทธพงษ์ ทองดี ชนะ กางคูยัก กาน-เออร์ดีน (มองโกเลีย) 3-2 การันตีเหรียญทองแดง,มวยสากลสมัครเล่นรุ่น 69 กก.ชาย รอบ 8 คนสุดท้าย,สายลม อาดี ชนะ คาเซมซาเดห์ พอชทิรี ซัจยาด (อิหร่าน) 5-0 การันตีเหรียญทองแดง,มวยสากลสมัครเล่นรุ่น 57 กก.หญิง รอบ 8 คนสุดท้าย,นิลาวัลย์ เตชะสืบ ชนะ ซานิยา ซุลทานคีซี (คาซัคสถาน) 3-2 การันตีเหรียญทองแดง,วอลเลย์บอลทีมชายรอบก่อนรองชนะเลิศ,ไทย ชนะ เมียนมา 3-1 เซต,ตะกร้อ 4 คน ทีมหญิงกลุ่มบี,ไทย ชนะ มาเลเซีย 2-0,ยิมนาสติกลีลา ประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์,กานต์พิชชา พัฒนศักดิ์ คะแนน 4.375 อันดับ 19,เบญจพร ลิ้มพานิชย์ คะแนน 40.00 อันดับ 22,ฮอกกี้ ทีมชาย กลุ่มบี,ไทย ชนะ คาซัคสถาน 3-2,บาสเกตบอล 5x5 รอบชิงอันดับ 5-8,ไทย ชนะ มองโกเลีย 80-51 | สรุปผลการแข่งขันของทัพนักกีฬาไทยในศึกเอเชียนเกมส์ 2018 วันที่ 28 สิงหาคม ได้เพิ่ม 1 เหรียญเงิน ส่วนจีนยังโกยไม่หยุดนำฝูงเหรียญรวม | กีฬา,เอเชียนเกมส์ | นักกีฬาไทย,เอเชียนเกมส์ 2018 | https://www.thairath.co.th/sport/asiangame/1364038 |
ปตท. ต่อยอดปลูกป่า สวนป่าครัวเรือน เน้นเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่ว ปท. | ป่า สวน พร้อมผสมผสานการใช้ชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง , ,นางณภัค กรรณสูต ผู้จัดการฝ่ายสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวระหว่างการลงพื้นที่เพื่อดูความคืบหน้าโครงการ สวนป่าครัวเรือน ในตำบลห้วยลึก อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ว่าโครงการได้รับการตอบรับจากชุมชนเป็นที่น่าพอใจ โดยมีราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) เป็นแกนนำ ผู้เข้าร่วมโครงการเกิดความตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ควบคู่ไปกับการทำนา ทำสวน เกษตรผสมผสาน และการดำเนินชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมกับการรักษาวัฒนธรรมตาลโตนดอันเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่, ,สำหรับตำบลห้วยลึกนั้น เป็นหนึ่งในพื้นที่ปลูกป่า 1 ล้านไร่ ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ตามโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติ 50 ปี เมื่อปี พ.ศ.2537 นอกจากปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติแล้ว ปตท.ยังร่วมกับกองทัพภาค กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช น้อมนำโครงการราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงจัดอบรมให้กับราษฎรรอบแปลงปลูกป่า ในส่วนตำบลห้วยลึกมีพื้นที่แปลงปลูกป่า FPT 3/6 จำนวน 1,278 ไร่ ปลูกเมื่อปี 2542 ชาวตำบลห้วยลึก ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การอาสาสมัครพิทักษ์ป่า จำนวน 130 คน โดยมีการจัดอบรมขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554,ผลของการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ และเข้าร่วมอบรมราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า ทำให้ราษฎรในพื้นที่เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาทรัพยากรป่าไม้และร่วมมือร่วมใจกันในการรักษาทรัพยากรป่าไม้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ระบบนิเวศฟื้นคืนกลับสู่ธรรมชาติ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2561 บริษัท ปตท. จำกัด ได้นำสมาชิก รสทป.ไปศึกษาดูงานที่แพนด้า แคมป์ จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งดำเนินการโดย อาจารย์ศิริพงษ์ โทหนองตอ ทำให้เกิดแนวทางในการสร้างสวนป่าครัวเรือนขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ,ผู้จัดการฝ่ายสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท. กล่าวต่อว่า ลักษณะของสวนป่าครัวเรือนในแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกันไป แต่หัวใจสำคัญคือต้องมีการดูแลเรื่องของป่าเป็นหลัก เน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวระดับครัวเรือน มีการเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างสอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิม โดยปตท.ให้ความสนับสนุนในเรื่องขององค์ความรู้ต่างๆ , ,ปัจจุบันตำบลห้วยลึกมีโครงการในลักษณะของสวนป่าครัวเรือนอยู่ประมาณ 80 ครัวเรือน พื้นที่โดยประมาณ 300 ไร่ และมีพื้นที่ตัวอย่างให้เปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้ 7 ครัวเรือน พื้นที่โดยรวมประมาณ 127 ไร่ 3 งาน,นายสายัณห์ สุขสงัด ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) ระดับประเทศ กล่าวว่า การจัดทำโครงการสวนป่าครัวเรือน ตำบลห้วยลึกนั้น ทำให้เกิดการร่วมแรงร่วมใจของสมาชิกในชุมชน ที่มีความสนใจเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่มีทั้งผู้ที่ทำนา ทำสวน ทำไร่ โดยแต่ละบ้านยังคงวิถีชีวิตแบบเดิม แต่มุ่งพัฒนาสิ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เช่น มีจุดมุ่งหมายในการรักษาป่า การสร้างแหล่งอาหารปลอดภัย การพัฒนาด้านสุขอนามัย การต่อยอดเมนูอาหารจากวัตถุดิบของชุมชน ใช้เวลาดำเนินการร่วมกันมาตลอด 1 ปี,ปัจจุบัน บ้านห้วยลึก เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ ในเรื่องการรักษาป่า ควบคู่กับการปลูกพืชไร่ พืชสวน ผสมผสานไปกับการสืบสานงานวัฒนธรรมการทำน้ำตาลโตนด อันเป็นวิถีดั้งเดิมของชุมชน เป็นต้นแบบของการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง แต่เลี้ยงตัวเองได้ ผู้สนใจแวะไปเยี่ยมเยียน เพื่อการเรียนรู้ ติดต่อได้ที่ นายสายัณห์ สุขสงัด ประธานเครือข่ายรสทป.ระดับประเทศ 085-266-5544. | ปตท. ต่อยอดโครงการปลูกป่า ขยายผลแนวคิด สวนป่าครัวเรือน ทั่วประเทศ เน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวระดับครัวเรือนควบคู่กับการดูแลป่า ประเดิมพื้นที่ ตำบลห้วยลึก เพชรบุรี แหล่งเรียนรู้ดูงานไร่ นา | ข่าว,ทั่วไทย | ปตท.,ปลูกป่า,สวนป่าครัวเรือน,เพชรบุรี,เพิ่มพื้นที่สีเขียว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1677348 |
ตีแผ่กลโกงเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง เปิดช่องโหว่ระบบราชการ สังคมไทยควรเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ | กรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และไร้ที่พึ่งกลายเป็นประเด็นที่คนในสังคมให้ความสนใจจับตามองเป็นพิเศษในรอบเดือนที่ผ่านมา โดยจุดเริ่มต้นของการเปิดโปงกลโกงนี้มาจาก น้องแบม-ปณิดา ยศปัญญา นักศึกษาฝึกงานของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดขอนแก่น ก่อนจะลุกลามบานปลายกลายเป็นการโกงกินที่ขยายวงกว้างออกไปทั่วประเทศในขณะที่สังคมเชิดชูยกย่องความกล้าหาญของน้องแบมและเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ที่ออกมาเปิดโปงเรื่องดังกล่าวอย่างไม่เกรงกลัวภัยคุกคาม ในอีกด้าน การตรวจสอบทุจริตยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการตรวจพบการทุจริตในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 14 จังหวัดแล้ว และอาจมีข้าราชการระดับสูงหลายคนเกี่ยวข้องกับมหากาพย์การทุจริตเรื่องนี้ด้วยแม้ผลลัพธ์จะยังไม่ชี้ชัดว่าใครถูก-ผิด แต่ระหว่างนี้มีหลายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และสังคมน่าจะได้เรียนรู้ร่วมกันได้เพื่อป้องกันไม่ให้การทุจริตลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตที่มาของกลโกงเงินสงเคราะห์ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ถูกจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2557 เพื่อจัดสรรสวัสดิการสังคมให้กับคน 3 กลุ่มคือ กลุ่มคนที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ ให้ทุนประกอบอาชีพแก่ผู้มีรายได้น้อย และให้เงินสงเคราะห์แก่ผู้ติดเชื้อเอดส์โดยในหลักเกณฑ์การขอรับเงินอุดหนุนระบุไว้ว่า ผู้ขอเงินอุดหนุนต้องมีสัญชาติไทย หัวหน้าครอบครัวที่เป็นผู้หารายได้เสียชีวิต ทอดทิ้ง สูญหาย หรือต้องโทษจำคุก เจ็บป่วยร้ายแรง พิการจนไม่สามารถทำงานได้ ครอบครัวประสบภาวะยากลำบากในการดำรงชีพ ไม่สามารถดูแลครอบครัวได้ด้วยเหตุอื่นใด หรือเกิดภัยพิบัติต่างๆ ในพื้นที่ขั้นตอนการจ่ายเงินสงเคราะห์ดังกล่าวจะเริ่มจากเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหรืออาสาสมัครออกไปพบเจอผู้เดือดร้อน หรือผู้เดือดร้อนเข้ามาขอความช่วยเหลือเองที่ศูนย์ฯ จากนั้นทางศูนย์ฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและบันทึกข้อมูล แล้วนำกลับมาวิเคราะห์หาแนวทางการช่วยเหลือซึ่งการช่วยเหลือมีตั้งแต่ให้เงิน ให้สิ่งของอุปโภคบริโภค ให้เข้ารับการศึกษา ให้เข้ารับการรักษาพยาบาล ก่อนจะเสนอให้อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หรือผู้ได้รับมอบหมาย นั่นคือผู้อำนวยการศูนย์ฯ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติต่อไปสำหรับการให้สงเคราะห์ด้วยเงิน ผู้อำนวยการศูนย์ฯ จะเป็นผู้พิจารณาว่าครอบครัวผู้เดือดร้อนควรจะได้รับวงเงินสงเคราะห์เท่าไร โดยเริ่มตั้งแต่ 1000-3000 บาทต่อครั้ง และจะให้ได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีงบประมาณ จากนั้นจึงจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปมอบเงิน ซึ่งตามระเบียบการเบิกจ่ายจะทำได้ใน 2 แนวทางคือ จ่ายเป็นเช็คและเงินสดโดย 3 ปีที่ผ่านมามีการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้วกว่า 1367.96 ล้านบาท มีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว 682133 คน แบ่งเป็นปีงบประมาณ 2559 จำนวน 298022 คน วงเงิน 599.74 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2560 จำนวน 246872 คน วงเงิน 493.74 ล้านบาท และปี 2561 (งวดที่ 1) อีกจำนวน 137239 คน วงเงิน 274.47 ล้านบาทแน่นอนว่าหากเงินจำนวนนี้ถูกนำไปช่วยเหลือผู้ไร้ที่พึ่งที่กำลังเดือดร้อนจริงก็น่าจะช่วยบรรเทาทุกข์และสร้างสวัสดิการที่ดีให้กับพวกเขาได้ไปสักระยะ แต่ในทางกลับกัน หากมีการทุจริตเกิดขึ้น นั่นหมายถึงชะตากรรมของคนนับแสนกำลังถูกย่ำยีซ้ำจากข้าราชการที่มีหน้าที่ช่วยเหลือคุ้มครองพวกเขาโดยตรงเปิดช่องโหว่เงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง: ระบบรั่วหรือคนชั่วจากการชี้แจงหลังมีการตรวจสอบการทุจริต โดย นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ระบุว่ากรณีดังกล่าวเป็นความผิดส่วนบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ทั้งๆ ที่ระเบียบการจ่ายเงินสงเคราะห์มีความชัดเจนและดีอยู่แล้วโดยมาตรการเพื่อให้การทำงานรัดกุมยิ่งขึ้น หลังจากนี้ทางกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ดังนี้นอกจากนี้ยังมอบมาตรการการจ่ายเงินโดยเน้นให้จ่ายผ่านธนาคารด้วยระบบ E-Payment จ่ายเป็นเช็ค หรือกรณีที่ประชาชนอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ห่างไกล ไม่สะดวกรับเงินผ่าน E-Payment หรือเช็คก็ให้จ่ายเป็นเงินสด แต่ต้องถ่ายภาพให้เห็นจำนวนเงินสดที่มอบ และเชิญภาคีเครือข่ายหรือเพื่อนบ้านใกล้เคียงมาร่วมเป็นพยานในการจ่ายเงินทุกครั้งด้วยส่วนระบบติดตามผลการดำเนินงานหลังจากนี้จะเน้นย้ำให้หัวหน้าหน่วยงานในพื้นที่ ลงพื้นที่ติดตามผลการจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นระยะ และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจะมีการจัดชุดคณะนิเทศติดตาม โดยกำหนดแผนในการติดตามเป็นรายปีอีกด้านจากการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พลตำรวจเอก จรัมพร สุระมณี พบช่องโหว่ของโครงการดังกล่าวในเบื้องต้นว่าจุดอ่อนอยู่ที่การเขียนแผนยุทธศาสตร์เพื่อนำเงินไปจ่ายให้กับผู้ยากไร้ในลักษณะที่ได้รับงบประมาณมาแล้ว จึงทำการสำรวจจำนวนผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้ยากไร้ นอกจากนี้ยังให้อำนาจผู้อำนวยการศูนย์ฯ ใช้ดุลพินิจเบ็ดเสร็จทั้งในฐานะผู้สำรวจ ผู้มีสิทธิ์ ผู้อนุมัติจ่ายเงิน โดยไม่มีการกลั่นกรองจากหน่วยงานอื่นขณะนี้ยังไม่อยากฟันธงหรือชี้ชัดว่ามีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ บอกได้เพียงว่าเป็นอาชญากรรมพื้นฐานที่มีการทำบ่อย ทำซ้ำจนเป็นขบวนการ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบอีกว่าเงินช่วยเหลือจากรัฐสามารถจ่ายได้หลายรูปแบบ หลายกรณี ได้แก่ เงินสงเคราะห์บุตร เงินส่งเสริมอาชีพ เงินสงเคราะห์ผู้ป่วยเอดส์นอกจากนี้ พันตำรวจโท วันนพ จินตนกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. ยังเปิดเผยข้อมูลว่า จากการตรวจสอบพบว่าพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดมีด้วยกัน 4 รูปแบบคือ หนึ่ง ปลอมแปลงเอกสารทั้งหมด เช่น บัตรประชาชน เอกสารอื่นๆ โดยชาวบ้านไม่ทราบเรื่อง แล้วนำเอกสารไปยื่นเบิกงบ สอง ให้ชาวบ้านยื่นเอกสารจริง แต่ไม่ได้รับเงิน สาม ให้ชาวบ้านยื่นเอกสารจริงและได้รับเงิน แต่ได้ไม่ครบจำนวน สี่ ให้ชาวบ้านที่ไม่มีคุณสมบัติยื่นเอกสารจากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่าโครงการดังกล่าวมีช่องโหว่ในหลายขั้นตอน ตั้งแต่การใช้ดุลพินิจของผู้อำนวยการศูนย์ฯ ขั้นตอนการเก็บรวบรวมเอกสารหลักฐานที่ตรวจสอบยาก รวมไปถึงการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งแม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับการทุจริตในโครงการขนาดใหญ่ แต่ผลเสียหายที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้อาจร้ายแรงกว่าที่คิดแพตเทิร์นกลโกงใหม่: คอร์รัปชันในระบบราชการดร.มานะ นิมิตรมงคล ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่าเป็นเรื่องปกติที่แพตเทิร์นของการคอร์รัปชันจะเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ เพื่อให้ยากต่อการตรวจจับ จากเดิมที่เป็นการคอร์รัปชันขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เป็นการโกงจากระดับบนลงไประดับล่าง แต่โครงการนี้เป็นการทุ่มเงินลงไปข้างล่างก่อน แล้วระดับล่างจึงมีการทุจริตกัน จากนั้นจึงส่งส่วยกลับมาที่ข้างบน ซึ่งทำให้ยากต่อการตรวจสอบ เพราะข้อมูลและเอกสารต่างๆ จะมีปริมาณมากและถูกกองอยู่ในระดับล่างความน่ากลัวของการทุจริตรูปแบบนี้คือยากต่อการตรวจจับ และที่สำคัญกว่านั้น มันอาจเป็นการโกงกินในระบบราชการที่เรียกว่าคอร์รัปชันในระบบราชการ ซึ่งมีมานานแล้ว แต่กำลังพัฒนารูปแบบใหม่ๆ เป็นการกินอย่างเป็นระบบ และเกื้อกูลกันระหว่างระดับล่างกับระดับบนโดยที่ทั้งสองฝ่ายรับรู้กันดีอยู่แล้วทีนี้ความน่ากลัวมันอยู่ที่การเริ่มดึงประชาชนเข้ามามีส่วนเกี่ยวพันอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในผลประโยชน์ที่เกิดจากการโกงอย่างต่อเนื่อง มันจะเป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ไม่ถูกต้องให้ซึมลึกฝังแน่นเข้าไปอีกถ้าทุกคนวิน-วินก็ไม่มีใครออกมาเปิดโปง ในเมื่อแกได้ ฉันได้ ทุกฝ่ายยอมรับได้ การโกงกินก็จะกลับมาในขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันได้แสดงความกังวลต่อท่าทีของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ออกมาชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงความเข้าใจผิด ซึ่งอาจจะทำให้การตรวจสอบและการหามาตรการป้องกันในอนาคตทำได้ยากยิ่งขึ้นสิ่งที่เราอยากเห็นในตอนนี้คือให้กระบวนการตรวจสอบมันลุล่วงไปโดยโปร่งใส ไม่มีการแทรกแซง ในวันนี้ ป.ป.ท. เข้าไปตรวจสอบแล้ว ในวันข้างหน้าหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องควรจะมีส่วนในการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ป.ป.ช. หรือ ปปง. เพื่อดูว่าเรื่องนี้เป็นการปิดบังซ่อนเร้นเงินที่ได้มาจากการทุจริตไหม เพราะฉะนั้นถ้าหน่วยงานต่างๆ ทุ่มเทกำลังเข้าไปตรวจสอบให้เต็มที่ ทุกอย่างก็จะมีความชัดเจนมากกว่านี้นอกจากนี้ ดร.มานะยังระบุว่าการทุจริตที่เกิดขึ้นถือเป็นการคอร์รัปชันขนาดย่อยที่เม็ดเงินในแต่ละศูนย์ถือว่าไม่เยอะมาก แต่เรื่องนี้กลับเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เพราะอาจเป็นการคอร์รัปชันในระบบราชการที่กินพื้นที่กว้าง ดังนั้นหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบต้องตอบคำถามให้ได้ว่านี่คือรูปแบบใหม่ของการคอร์รัปชันในระบบราชการใช่หรือไม่ จากนั้นจึงตีแผ่กลโกงเหล่านี้ให้สังคมได้รับรู้ถ้าทุกคนช่วยกันปกปิดแล้วบอกว่ามันเป็นเรื่องของคนไม่กี่คน เกิดขึ้นไม่กี่พื้นที่ การแก้ไขปัญหาก็จะไม่เกิด นั่นหมายถึงรัฐบาลต้องมีความใจกว้างด้วย และวันนี้คงต้องทวงถามคำสั่ง คสช. ที่ 69/2557 ที่บอกว่าถ้าข้าราชการทุจริต ผู้บังคับบัญชาต้องร่วมรับผิดชอบด้วย จะเกิดขึ้นกับกรณีนี้ไหมเป็นคนดีมีต้นทุน: กรณีน้องแบม สู่ภาพสะท้อนของคนตัวเล็กๆ ที่ต่อสู้กับระบบที่ไม่เป็นธรรมสำหรับคนที่ติดตามข่าวกรณีนี้มาตั้งแต่ต้นคงจะทราบแล้วว่า ก่อนที่เรื่องนี้จะถูกเปิดโปงและมีหน่วยงานอิสระเข้ามาตรวจสอบ น้องแบม ผู้จุดประเด็นนี้ให้สังคมในวงกว้างได้รับรู้กลับต้องเผชิญชะตากรรมที่กล้ำกลืน ทั้งถูกข่มขู่ คุกคาม ถูกเค้นสอบจากอาจารย์มหาวิทยาลัยที่เข้าใจว่าเธอกุเรื่องขึ้นมาเอง คำดูถูกว่า ทำไมไม่เรียนให้จบก่อนล่ะ ถ้าอยากจะไปร้องเรียนเอาผิดเขา จนมาถึงการต้องก้มลงกราบเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกสะท้อนภาพชัดเจนว่าการเป็นคนดีในบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะต้องอาศัยทั้งความกล้าหาญและความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ซึ่งน้องแบมยอมรับว่ากว่าจะตัดสินใจไปยื่นเรื่องร้องเรียน เธอต้องใช้เวลานานมากในการตัดสินใจ และรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุด แต่สุดท้ายเธอก็กัดฟันเดินหน้าต่อด้วยความคิดว่าตอนนั้นคือคิดถึงอนาคตของตัวเราเองด้วย แล้วก็คิดถึงประชาชน 2000 คนที่เรากรอกเอกสารเป็นลายมือเรา ปลอมเรื่องเท็จให้เขา ทั้งๆ ที่เราไม่รู้จักบ้านเขา ไม่รู้รายได้ที่เขามี เหมือนรู้สึกผิดที่เราต้องมาทำอะไรแบบนี้ แล้วมันขัดกับสิ่งที่เราเรียนมาเมื่อ THE STANDARD ถามเธอว่า คิดว่าการเป็นคนดีมีต้นทุนที่สูงไหมเมื่อเทียบกับการอยู่เฉยๆ แล้วไม่ต้องเดือดร้อน น้องแบมเปิดใจว่า หนูคิดว่าไม่นะ เพราะหนูได้รับคำขอบคุณและกำลังใจจากชาวบ้านที่เขาเดือดร้อนจริงๆ มาเยอะ รู้สึกดีใจมากกว่า เพราะจากที่ดูข่าว ทางชาวบ้านที่ ป.ป.ท. ลงไปสอบถามรายละเอียดเขาก็พูดว่า ป้าไม่รู้ว่าเป็นเด็กสถาบันไหน แต่ป้าขอบคุณมากที่มาเปิดโปง ถ้าไม่เปิดโปง ป้าคงไม่รู้ว่าป้าโดนหลอก คือบางคนก็ได้เงินไม่ครบ หรือบางคนก็ไม่ได้เงินเลยทั้งที่มีชื่อเขาปรากฏอยู่นอกจากนี้เธอยังฝากบอกคนที่กำลังตัดสินใจจะลุกขึ้นมาต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้องว่า อยากจะบอกว่าถ้าเราเมินเฉย สิ่งที่คุณทำเพื่อประชาชนมันก็เสียเปล่า แล้วประชาชนจะไปขอความช่วยเหลือจากใครได้ ถ้าพวกเราเมินเฉยกันแบบนี้ ช่วยๆ กันเถอะค่ะ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องนี้ แต่ประเทศเรากำลังมีปัญหาในหลายๆ เรื่องด้าน ดร.มานะ นิมิตรมงคล แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า กรณีน้องแบมถือเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะหากประเทศไทยมีคนรุ่นใหม่แบบนี้มากๆ เราคงเอาชนะคอร์รัปชันได้ ซึ่งเมื่อเกิดกรณีแบบนี้แล้ว สังคมต้องช่วยกันพูดต่อและยกย่องให้คนเห็นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งดีงามอย่างไร ส่วนเรื่องการปกป้องคุ้มครองน้องแบม ส่วนตัวมองว่าเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้ว สังคมจะเป็นเกราะคุ้มครองให้กับความปลอดภัยของเธอได้แน่นอนในเคสนี้ สิ่งที่ดีที่สุดเลยคือทำให้เราได้เห็น active citizen หรือพลเมืองตื่นรู้สู้โกง คือเด็กรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของประเทศไทยที่รังเกียจการโกง ปฏิเสธการโกง และพร้อมที่จะต่อสู้กับคนโกง ทำให้เราเห็นอนาคตของการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันของประเทศภาพประกอบ:Thiencharas.wอ้างอิง: | 3 ปีที่ผ่านมา มีการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และไร้ที่พึ่งไปแล้วกว่า 1367.96 ล้านบาท มีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว 682133 คน หากมีการทุจริต นั่นหมายถึงชะตากรรมของคนนับแสนกำลังถูกย่ำยีซ้ำจากข้าราชการที่มีหน้าที่ช่วยเหลือคุ้มครองพวกเขาโดยตรงดร.มานะ นิมิตรมงคล ให้ความเห็นว่าความน่ากลัวของการคอร์รัปชันรูปแบบนี้คือการที่ทุกฝ่ายวิน-วิน ซึ่งทำให้การตรวจสอบกลายเป็นเรื่องยาก และเป็นการโกงกินอย่างเป็นระบบที่อาจฝังรากลึกในระยะยาวโครงการดังกล่าวมีช่องโหว่ในหลายขั้นตอน ตั้งแต่การใช้ดุลพินิจของผู้อำนวยการศูนย์ฯ ขั้นตอนการเก็บรวบรวมเอกสารหลักฐานที่ตรวจสอบยาก รวมไปถึงการจัดสรรงบประมาณ | null | null | https://thestandard.co/corruption-in-low-income-destitute-allowance-government/ |
ไมโครซอฟท์ ประกาศ วินโดวส์ 10 ให้อัพเกรดฟรี เจอกัน 29 ก.ค. | บริษัทไมโครซอฟท์ ประกาศถึงการพร้อมใช้งานของ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 (Windows 10) ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และเพิ่มความสนุกสนานแก่ผู้ใช้งานมากขึ้น ด้วยประสบการณ์การใช้งานที่เจาะจง และบ่งบอกความเป็นตัวตนของการใช้งานคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานแต่ละคนมากขึ้น และสามารถทำงานผสานการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ภายใต้การทำงานที่คุ้นเคยแต่ดียิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด และการอัพเดตความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 หรือวินโดวส์ 8.1 ที่มีอยู่กว่าหลายร้อยล้านคนทั่วโลกสามารถอัพเกรดเป็นวินโดวส์ 10 ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในวันที่ 29 ก.ค.2558 ใน 190 ประเทศ ,นายเทอรี่ เมเยอร์สัน รองประธาน ไมโครซอฟท์ กล่าวว่า ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 เป็นวินโดวส์รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ผู้ใช้งานสามารถทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ วินโดวส์ 10 สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเราในการทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์มีความเป็นตัวตนของคุณมากขี้น (more personal computing) เห็นได้จากการที่เราปกป้องและเคารพในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ประสบการณ์การใช้งานผสานดีไวซ์ต่างๆ และการตอบโต้อย่างเป็นธรรมชาติกับวินโดวส์ ดีไวซ์ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การสัมผัส การขีดเขียน และโฮโลแกรมส์,วินโดวส์ 10 ได้นำปุ่มสตาร์ตเมนูที่ทุกคนคุ้นเคยและชื่นชอบกลับมา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาไฟล์ ปักหมุดแอพพลิเคชั่นและโปรแกรมที่ชื่นชอบ (favorite) ได้ง่ายยิ่งขึ้น วินโดวส์ 10 เปิดใช้งานได้รวดเร็วและสามารถกลับมาทำงานต่อได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานกว่าเดิม วินโดวส์ 10 มาพร้อม วินโดวส์เฮลโล (Windows Hello) ไมโครซอฟท์ พาสปอร์ต (Microsoft Passport) และ วินโดวส์ ดีเฟนเดอร์ (Windows Defender) โปรแกรมป้องกันมัลแวร์ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย และจะมีการอัพเดตความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานของดีไวซ์ มีการพัฒนาให้เหมาะกับการใช้งานกับทั้งคีย์บอร์ดและระบบสัมผัส วินโดวส์ 10 ถูกออกแบบให้ใช้งานประสานกันได้เป็นอย่างดีกับวินโดวส์ดีไวซ์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ,วินโดวส์ 10 สามารถปรับเปลี่ยนไปตามผู้ใช้งานได้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่บ่งบอกความเป็นคุณมากขึ้น คอร์ทาน่า (Cortana) ผู้ช่วยอัจฉริยะระบบดิจิตอลแบบแรกของโลก ช่วยให้ผู้ใช้งานทำงานสำเร็จผ่านดีไวซ์ต่างๆ คอร์ทาน่า เรียนรู้การใช้งานของแต่ละเครื่องเพื่อจัดหาคำแนะนำที่เหมาะสม การเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็วและการเตือนความจำในเรื่องที่สำคัญผ่านการพูดคุยหรือพิมพ์ข้อความ วินโดวส์เฮลโล (Windows Hello) ทักทายผู้ใช้งานโดยการเรียกชื่อและผู้ใช้งานสามารถล็อกอินเข้าคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องใช้พาสเวิร์ด แต่ใช้วิธีพิสูจน์ผ่านชีวมิติเพื่อให้เจ้าของเครื่องสามารถเข้าใช้งานได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย วินโดวส์ 10 ให้คุณตอบโต้กับดีไวซ์ด้วยวิธีดั้งเดิมผ่านคีย์บอร์ดหรือเมาส์ หรือวิธีที่เป็นธรรมชาติยิ่งกว่า เช่น การใช้เสียง ปากกา หรือท่าทาง,เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน,ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 จะช่วยให้ผู้ใช้งานทำงานได้มากขึ้นโดยใช้ความพยายามที่น้อยลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน ไมโครซอฟท์ เอดจ์ (Microsoft Edge) เบราว์เซอร์โฉมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานได้เสร็จสมบูรณ์บนออนไลน์ โดยให้ผู้ใช้งานสามารถขีดเขียน แชร์ และดูลิสต์การอ่านได้บนเบราว์เซอร์ ด้วยการทำงานร่วมกับคอร์ทาน่า ไมโครซอฟท์ เอดจ์ มอบผลลัพธ์การค้นหาที่รวดเร็วและคอนเทนต์ที่อยู่บนพื้นฐานของความสนใจและความพึงพอใจของแต่ละบุคคล รวดเร็ว ทันสมัยและมีความเป็นส่วนตัว ไมโครซอฟท์ เอดจ์ เพิ่มศักยภาพให้ผู้ใช้งานเข้าถึงคอนเทนต์ที่มีความสำคัญต่อพวกเขา และมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์อย่างเต็มที่,นอกจากชุดโปรแกรม Office 2016 เต็มรูปแบบสำหรับเดสก์ท็อป แอพพลิเคชั่นวินโดวส์ ยูนิเวอร์ซัล (Universal Windows Applications) สำหรับโปรแกรม Word, Excel, PowerPoint, OneNote และ Outlook เวอร์ชั่นใหม่ ยังมอบประสบการณ์ touch-first ที่ไม่สะดุดผ่านอุปกรณ์ทั้งแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์พีซี ด้วยโปรแกรมที่ออกแบบให้สามารถใช้งานบนวินโดวส์ 10 โดยเฉพาะ และเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด ผู้ใช้งานสามารถสร้างและแก้ไขไฟล์ Word รวมถึงการทำ PowerPoint ได้อย่างง่ายดาย ขณะที่คุณสมบัติ touch-first ใหม่ล่าสุดในโปรแกรม Excel ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างหรืออัพเดต Spreadsheet โดยไม่ต้องใช้คีย์บอร์ด หรือเมาส์ ทำงานและเล่นในแบบที่คุณต้องการผสานดีไวซ์ต่างๆ,วินโดวส์ 10 มอบประสบการณ์ที่คุ้นเคยและต่อเนื่องผสานดีไวซ์ต่างๆ ด้วยฟีเจอร์ คอนทินัม (Continuum) ช่วยให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ปรับรูปลักษณ์และฟังก์ชั่นให้แท็บเล็ตกลายเป็นเครื่องพีซี หรือเครื่องพีซีกลายเป็นแท็บเล็ต และวินโดวส์โฟนก็ยังสามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานได้เหมือนเครื่องพีซี โปรแกรมเกม Xbox บนวินโดวส์ 10 นั้นขยายเน็ตเวิร์ก Xbox Live ให้กว้างกว่าเดิมไปยังคอมพิวเตอร์พีซีและแท็บเล็ต คอเกมสามารถสื่อสารกับเพื่อนบนคอมพิวเตอร์พีซีระบบวินโดวส์ 10 และ Xbox One ขณะที่เล่นเกมคอมพิวเตอร์ได้ และสามารถแชร์คอนเทนต์ผ่านโปรแกรม Game DVR ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดเกมได้โดยตรงจากกล่อง Xbox One ไปยังแท็บเล็ตหรือเครื่องพีซีที่เป็นระบบวินโดวส์ 10 ที่บ้าน เกมที่พัฒนาสำหรับ DirectX 12 บนวินโดวส์ 10 จะเห็นได้ชัดถึงพัฒนาการด้านความเร็ว สมรรถณะ และกราฟิกที่สวยงามยิ่งขึ้น,ในวันที่ 29 ก.ค.2558 นี้ ผู้ใช้งานสามารถอัพเกรดระบบปฏิบัติการเป็นวินโดวส์ 10 ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือ บนดีไวซ์วินโดวส์ 10 ใหม่ๆ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8.1 จะสามารถอัพเกรดเป็นวินโดวส์ 10 ได้อย่างง่ายดาย และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายจำนวนมาก จะให้ความช่วยเหลือและให้บริการอัพเกรดอีกด้วย เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ใช้สามารถเลือกจองการอัพเกรดเป็นวินโดวส์ 10 ได้ฟรี โดยเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ,windows.com, สำหรับดีไวซ์อื่นๆ จะสามารถใช้งานได้ภายในปีนี้. | ไมโครซอฟท์ ประกาศ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 พร้อมให้อัพเกรดใช้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเริ่ม 29 ก.ค.2558 ใน 190 ประเทศ สำหรับผู้ใช้งานวินโดวส์ 7 และ วินโดวส์ 8.1 โดยพบการกลับมาของปุ่ม Start Menu และฟีเจอร์ใหม่ คอร์ทาน่า | ข่าว,ไอที | วินโดวส์ 10,อัพเกรดวินโดวส์ 10,ลงวินโดวส์,ระบบปฏิบัติการ,คอร์ทาน่า,Cortana,วินโดวส์เฮลโล,Windows Hello,ไมโครซอฟท์ เอดจ์,Microsoft Edge,Windows 10,ปุ่ม Start Menu,ไมโครซอฟท์,วินโดวส์ 10อัพเกรดฟรี,ข่าวไอที,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/news/tech/502479 |
ดร็อกบา เรียกร้องเพื่อนร่วมชาติยุติความรุนแรง-สงคราม | ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าทีมเชลซี และกัปตันทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ เดินทางเข้าพบกับ ชาร์ลส โคนาน แบนนี่ย์ นายกรัฐมนตรีของไอวอรี่ โคสต์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน โดยดร็อกบา ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 11 ทูตสัมพันธภาพไมตรีตามโครงการของสหประชาชาติเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งการเข้าพบกันครั้งแรกกับผู้นำประเทศของไอวอรี่ โคสต์ ดร็อกบา บอกว่าในฐานะนักฟุตบอลเขาอยากจะขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันเพื่อหยุดความรุนแรงและสงครามที่เกิดขึ้นภายในประเทศไอวอรี่ โคสต์โดยดร็อกบาพูดถึงกรณีที่ประชาชนไอวอรี่ โคสต์ เสียชีวิตกว่า 3000 คนจากการที่กองกำลังทหารของประธานาธิบดี โรล็องส์ จีบักโบ ใช้ความรุนแรงเข้าจัดการกับกลุ่มผู้ต่อต้านก่อนที่ ประธานาธิบดี จีบักโบ จะถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำหรับดร็อกบามีโอกาสลงสนามให้กับ เชลซี ในเกมคาร์ลิ่งคัพที่จะพบกับ ฟูแล่ม คืนนี้ หลังจากที่ ดร็อกบา หายจากอาการบาดเจ็บซึ่งทำให้ต้องพักไปนานกว่า 2 สัปดาห์ | ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าทีมเชลซีเรียกร้องเพื่อนร่วมชาติร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อหยุดความรุนแรง และสงครามที่เกิดขึ้นภายในไอวอรี่ โคสต์ | กีฬา | ความรุนแรง,ดร็อกบา,สงคราม,ไอวอรี่โคสต์ | https://news.thaipbs.or.th/content/34865 |
ตำรวจจีนยิงแก๊สน้ำตาสลายการประท้วง | กลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนเผชิญหน้ากับตำรวจ ใกล้กับทางเข้าทางหลวงในเมืองไห่เหมิน มณฑลเจียงซู ทางใต้ของจีน โดยเรียกร้องให้ทางการปล่อยตัวผู้ประท้วงที่ถูกจับไปจำนวนหนึ่ง นับเป็นการชุมนุมต่อต้านการขยายโรงงานไฟฟ้าถ่านหินเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ประท้วง เพื่อสลายการชุมนุม เป็นครั้งที่ 3 ในสัปดาห์นี้ตำรวจซึ่งมีหมวกกันน็อกและโล่ได้ตั้งแนวป้องกันบริเวณทางเข้าทางหลวง และจับผู้ที่ทำลายทรัพย์สินของทางการที่ประท้วงไป 5 คนผู้ประท้วงระบุว่า โรงไฟฟาถ่านหินมีส่วนทำให้มีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งเพิ่มสูงขึ้น และสร้างมลพิษในทะเล เป็นปัญหาใหญ่สำหรับหมู่บ้านที่ต้องพึ่งพาการทำประมงเพื่อเลี้ยงชีพสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะชะลอโครงการขยายโรงงานไฟฟ้า แต่ผู้ประท้วงระบุว่า ไม่ได้รับการแจ้งโดยตรงจากทางการว่าจะชะลอโครงการนี้ ทั้งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นอีก เมื่อมีข่าวลือว่าผู้ประท้วง 1 หรือ 2 คน เสียชีวิตระหว่างการปะทะกับตำรวจ | ตำรวจจีนยิงแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการขยายโรงไฟฟ้าถ่านหินในเมืองไห่เหมิน มณฑลเจียงซูทางใต้ของจีน | ต่างประเทศ | จีน,สลายการประท้วง,แก๊สน้ำตา,โรงไฟฟ้าถ่านหิน | https://news.thaipbs.or.th/content/55185 |
มติเอกฉันท์ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด สุเทพ ผิดทุจริตสร้างโรงพัก 396 แห่ง ขณะที่ อภิสิทธิ์ รอด | เสียหายกว่า 1.7 พันล้าน ขณะ อภิสิทธิ์ รอด6 ส.ค.2562 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า วันนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ 8 เสียง ชี้มูลความผิด สุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และพวก รวม 2 คดี ได้แก่ การทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 แห่ง เป็นเหตุให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหาย เป็นเงิน จำนวน 1728 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย (แฟลต) จำนวน 163 หลัง เป็นเหตุให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหายเป็นเงิน จำนวน 3994 ล้านบาท และปรากฏมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเรียกรับเงินจากผู้รับจ้าง เป็นเงินจำนวน 91678000 บาทส่วน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิติวัฒน์ และ พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไปโดยคดีทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) ชี้มูลว่า (1.) การกระทำของ สุเทพ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และการกระทำของ พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 79 (1) (5) และ (6)ขณะที่ พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ และ พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2552 มาตรา 10 และมาตรา 12 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 79 (1) (5) และ (6)ส่วน พ.ต.อ.จิรวุฒิ จันทร์เพ็ญ พ.ต.อ. สุทธี โสตถิทัต พ.ต.อ.พิชัย พิมลสินธุ์ พ.ต.อ.ณัฐเดช พงศ์วรินทร์ และ พ.ต.อ.ณัฐชัย บุญทวี มีมูลความผิดทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 78 (1) (2) และ (9)บริษัท พีซีซี ดีเวลล๊อปเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด โดยนายวิษณุ วิเศษสิงห์ กรรมการผู้จัดการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท และนายวิษณุ วิเศษสิงห์ ในฐานะส่วนตัว มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญาดังกล่าว โดยให้ส่งเรื่องรายงาน เอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลส่วนคดีทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย (แฟลต) คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของ สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นกรรมเดียวกันกับกรณีอนุมัติให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปลี่ยนแปลงแนวทางการจัดจ้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 แห่ง ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้วินิจฉัยแล้วว่า การกระทำดังกล่าวมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157โดยที่ พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิติวัฒน์ พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ พ.ต.อ.ปัทเมฆ สุนทรานุยุตกิจ พ.ต.อ.จิรวุฒิ จันทร์เพ็ญ พ.ต.ต.สิทธิไพบูลย์ คำนิล พ.ต.อ.พิชัย พิมลสินธุ์ และ พ.ต.ต.สมาน สุดใจ มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วย ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 และมาตรา 12 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 79 (1) (5) และ (6)ส่วน ดาบตำรวจ สายัณ อบเชย มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 79 (1) (5) และ (6)ขณะที่ พ.ต.ท.คมกริบ นุตาลัย คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง ต่อ 3 เสียง ว่ามีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 79 (1) (5) และ (6)บริษัท พีซีซีฯ โดยนายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล กรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทฯ และนายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ในฐานะส่วนตัว มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 10 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่มา : | มติเอกฉันท์ ป.ป.ช. ชี้มูล สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 แห่ง ทำสตช. | การเมือง | สุเทพ เทือกสุบรรณ,คดีทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพัก,อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | https://prachatai.com/journal/2019/08/83748 |
แซ่บสไตล์ลูกทุ่ง เจาะดราม่าเพจดัง อีสานพาสวบ เน็ตไอดอลชายทะลุโซเชียล | ไทยรัฐออนไลน์, จะพาไปล้วงลึกและทำความรู้จักเน็ตไอดอลสายอาหารแซ่บๆ เจ้าของฉายา หนุ่มน้อยเมืองร้อยเกิน คนนี้กันสักหน่อย ว่ากันว่ามีแฟนคลับต่างชาติเข้ามาดูกันรัวๆ ทั้งเวียดนาม พม่า ลาว มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ จีน ดูไบ แม้กระทั่งฝรั่งตาน้ำข้าวจากสหรัฐอเมริกา,มันจะน่ากินแซ่บนัวขนาดไหน? ตามมาดู,Q : ไปไงมาไงถึงมาเป็นเน็ตไอดอลชายที่ดังที่สุดในโซเชียลตอนนี้?,มันเริ่มต้นมาจากผมชอบเล่นโซเชียลนี่แหละ เมื่อก่อนเคยทำเพลงแล้วเอามาโพสต์ลงในยูทูบในเฟซบุ๊ก แล้วบางทีก็มีทำกับข้าวกินเองก็โพสต์ลงโซเชียลอยากแบ่งปันสูตรอาหารอีสานบ้านเรา ทำไปทำมาเกิดมีคนชอบ มีคนมาติดตามเยอะ เขาอยากดูอีก ผมก็เลยทำเพิ่มมาเรื่อยๆ จนตอนนี้มีคนมาตามฟอลโล่ 2 ล้าน 4 แสนกว่าคนแล้วครับ เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2558,Q : เลือกเมนูยังไง ทำไมถูกใจคนดูขนาดนี้,บางเมนูเราก็เห็นจากของคนอื่นบ้าง เราอยากลองก็เอามาหัดทำ บางเมนูก็เป็นอาหารอีสาน แต่หลังๆ มาจะคิดเมนูเองหมด เน้นเมนูอีสานแซ่บๆ ชวนให้คนอีสานที่ทำงานในกรุงเทพฯ คิดถึงบ้านเกิด อย่างเมนูที่ดังมากๆ ตอนนั้นที่เริ่มมีคนกดไลค์เยอะๆ แชร์เยอะๆ คนดู 20 กว่าล้านวิว คือ หอยขมนึ่งราดน้ำจิ้มแซ่บ อันนี้ผมก็คิดเมนูเอง ตอนไลฟ์สดก็พยายามทำให้มันออกมาน่ากินที่สุด,คลิกชมวิดีโอ 20 ล้านวิว >>, ,รีวิวเมนูหอยขมนึ่งราดน้ำจิ้ม,Q : ทำเอง ถ่ายเอง ตัดคลิปเองเลยเหรอ?,
ผมทำเอง ซื้อวัตถุดิบเอง เตรียมของเอง ทำเองกินเอง ตัดคลิปเอง โพสต์เอง ทุกอย่างทำคนเดียวหมดเลย คือมันจะมีแอปพลิเคชันง่ายๆ สำหรับตัดต่อวิดีโอ ผมก็ลองเล่น ลองหัดทำดู เออก็ไม่ยาก ทำไปทำมาก็เลยทำเป็น
ซึ่งเมนูที่มียอดคนดูเยอะสุดก็คือหอยนึ่งนี่แหละครับ,แล้วพอมีคนติดตามเยอะ ก็เลยทำเพิ่มเป็น 3 รายการ มีรายการอีสานพาสวบ(อีสานพากิน) รายการอีสานพาม่วน(อีสานพาสนุกร้องรำทำเพลง) และรายการอีสานคันแข่ว(อีสานหมั่นเขี้ยว : แสดงความเห็นต่อกระแสต่างๆในสังคมโซเชียล) แล้วก็มีรับงานรีวิวสินค้าในเพจของตัวเองด้วย ผมก็มีรายได้จากตรงนี้ครับ,Q : ดังถึงขนาดได้ออกรายการทีวี?,ก็มีโอกาสไปออกหลายรายการทีวีหลายช่อง ก็มีทั้ง ยกทัพข่าวเช้าช่องพีพีทีวี รายการแฉช่องจีเอ็มเอ็ม รายการซุปเปอร์หม่ำ รายการไมค์ทองคำ รายการบ้านทุ่งรีพอร์ต รายการแรงชัดจัดเต็ม รายการแบทเทิลทีวีสถานีแข่งไลฟ์ รายการห้าเช้าเม้าท์ใหญ่ ประมาณนี้ครับ,Q : ได้ข่าวว่ามีแฟนคลับต่างชาติด้วย มีประเทศอะไรบ้าง?,
แฟนคลับอาเซียนแทบจะทุกประเทศเลย ทั้งมาเลเซีย เวียดนาม พม่า ลาว กัมพูชา อินโด สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะแฟนคลับเวียดนามจะเข้ามาทักเยอะมาก แล้วก็จะมีแฟนคลับจากประเทศจีน ดูไบ สหรัฐอเมริกา เป็นคนฝรั่งเลยนะครับไม่ใช่คนไทย,เวลาคุยกับแฟนคลับต่างชาติ จริงๆ ผมไม่เก่งภาษาอังกฤษ พูดได้แค่นิดๆ หน่อยๆ แต่เขาก็เข้าใจจากภาษาท่าทางของเรา เวลาเราทำกับข้าว เวลาเรากินโชว์ เห็นสีหน้าเราว่าอร่อย เขาก็รู้ ก็เข้าใจว่าเราพยายามจะสื่อสารอะไรออกไป แล้วเวลาเราไลฟ์สด เราก็บอกไปตรงๆ เลยว่าเราพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้นะ เขาคงฟังไม่ออกหรอกแต่เขาก็ยังชอบที่จะติดตามเราเหมือนเดิม,Q : ย้อนเวลากลับไปก่อนหน้านี้ ทราบมาว่าชีวิตค่อนข้างลำบาก?,ผมเป็นคนอีสานครับ บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด เรียนจบแค่ ม.6 เคยทำงานมาหลายอย่าง เข้ากรุงเทพฯ มาหางานทำ สู้ชีวิตมาตลอด ก็คือว่าชีวิตผมค่อนข้างลำบากน่ะ ก็เลยต้องดิ้นรนหน่อย เคยเป็นลูกจ้างทำสร้อยทองที่บางกรวย, เก็บค่าห้องน้ำ บางขุนเทียน, ทำแปรงขัดห้องน้ำล้างขวดนม บางบอน, ผู้ช่วยพยาบาล หอผู้ป่วยชาย รพ.หัวเฉียว, ผู้ช่วยห้องผ่าตัด หัวเฉียว, ผู้ช่วยแพทย์ คลินิก,คนเรากว่าจะได้ดีมันไม่ใช้เรื่องง่าย หลายปีที่ผ่านมาลำบากสุดๆ แต่ต้องสู้เพราะเรียนมาน้อย มีงานอะไรก็ต้องทำเพื่อให้อยู่รอดไปวันๆ ผมมีคติประจำใจว่า สู้ต่อไปสักวันต้องได้ดี,ตอนนั้นผมเป็นผู้ช่วยในห้องผ่าตัด ทำอยู่ 4-5 ปี จนมาเป็นที่รู้จักจากเพจอีสานพาสวบ ก็เลยลาออกจากงานประจำมาทำเพจเต็มตัว ทำงานอิสระ ก็ลาออกมาได้ประมาณปีนึงแล้วครับ ตอนเริ่มทำเพจใหม่ๆ ตอนนั้นก็ยังทำงานที่คลินิกอยู่เลย,Q : พอดังแล้วก็มีดราม่า โดนด่าเละ คุณรับมือยังไง?,มีดราม่าเข้ามาตลอดครับ อย่างช่วงหนึ่งก็จะมีดราม่าที่ผมไปจับแมลงช้างมากิน แล้วคนดราม่าว่ามันเป็นแมลงหายาก กินทำไม เดี๋ยวจะสูญพันธุ์ คือจริงๆ ผมก็เพิ่งเคยกินครั้งแรก มีน้องๆ แถวบ้านมาชวนให้ลองกิน ผมไม่ได้ไปบุกรุกพื้นที่ป่าอะไรนะ แมลงชนิดนี้มันมาอยู่ตามต้นลำไยที่ชาวบ้านเขาปลูกไว้ มันมีเป็นฤดูกาล เราไม่ได้จับกินตลอดทั้งปี คงไม่สูญพันธุ์หรอกครับ,ก็เหมือนที่คนอีสานกินไข่มดแดง ก็หากินได้เฉพาะตามฤดูกาลเหมือนกัน แล้วอีกอย่างคือผมไม่ได้จับไปขายไม่ได้จับเพื่อการค้า แค่เอามาพอกิน ตามประสาวิถีคนบ้านนอกทั่วไปนี่แหละครับ,แล้วก็มีดราม่าเรื่องดังแล้วลืมตัว ฝากร้านก็ไม่ได้ ไม่มีน้ำใจ อันนี้ผมไม่ได้ห้าม ก็ฝากได้ แต่เขียนฝากยาวไป บางทีผมอยากอ่านคอมเมนต์จากแฟนคลับบ้าง แต่อ่านไม่ได้เลย มีแต่คนมาฝากร้านเต็มฟีดไปหมด วันนั้นก็เลยขอว่า งดฝากร้านนะใครมาฝากร้านในเพจผมขอให้ขายไม่ดี ก็เลยเป็นประเด็น โดนถล่มเละเลย,จริงๆ ผมมองว่านี่เป็นสิทธิ์ของเราไง นี่คือเพจเรา เราไม่อยากให้มีฝากร้านเยอะเกินไปแบบนี้ ก็อยากบอกว่าฝากร้านได้ครับ แต่ให้มันสั้นลงหน่อยครับ กะทัดรัด ให้มันพอดีๆ ครับ,Q : อัพเดตชีวิตช่วงนี้หน่อย ล่าสุดเห็นมีไปเล่นหนัง?,ตอนนี้มีถ่ายหนัง มีโอกาสได้ร่วมงานกับพี่พจน์ อานนท์ เพิ่งจะถ่ายเสร็จไป แล้วก็กำลังจะถ่ายหนังอีกเรื่องนึงเร็วๆ นี้ อีกอย่างคือกำลังจะมีเดินสายต่างประเทศด้วย ไปโชว์ตัวที่ประเทศบาห์เรน แล้วก็ไปทัวร์ยุโรปปีหน้า ไปโชว์ตัว ร้องเพลง ตามที่เขาเชิญไปครับ,Q : ชีวิตจากตอนนั้นถึงตอนนี้มาไกลมาก ภูมิใจมั้ย?,ผมรู้สึกว่ามันเกินคาดแล้ว มันมาไกลกว่าที่คิด มาได้ถึงขนาดนี้ผมว่าผมภูมิใจแล้ว เพราะตอนนี้ผมมีเงินไปสร้างบ้านใหม่ให้พ่อกับแม่ได้แล้ว อยู่ที่ร้อยเอ็ดบ้านเกิด ตั้งแต่เล็กจนโต ผมเปลี่ยนที่อยู่มา 5-6 ครั้ง ไม่เคยมีบ้านของตัวเอง แต่วันนี้ผมทำได้แล้ว ผมมีบ้านให้พ่อแม่ และเป็นบ้านที่ผมหาเงินมาด้วยตัวเอง ผมดีใจมากครับ,Q : ฝากถึงแฟนคลับที่ชื่นชอบคุณหน่อย,
คนที่เป็นแฟนคลับเรามานาน คือเขาก็มีความเข้าใจในตัวตนเรา กับรูปแบบรายการของเราอยู่แล้วแหละ ว่าเราเป็นยังไง มาจากไหน ส่วนคนที่เพิ่งจะมารู้จักผม เขาอาจจะยังไม่ได้รู้จักตัวตนเราดีพอ ก็จะมีบ้างที่ดราม่ากันไป
,แต่ยังไงก็ขอบคุณแฟนคลับทุกคนครับ ที่ติดตามผลงานผมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นรายการในเพจอีสานพาสวบ หรือว่าเวลาผมไปออกรายการทีวี หรือผลงานเพลงอะไรก็ตามที่ผมทำ ก็ขอบคุณมากๆ,ถ้าผมมีเมนูใหม่ๆ เมนูน่ากิน หรือการถ่ายทอดวิถีวัฒนธรรมความเป็นอีสาน ผมก็จะเอามาโชว์ในรายการให้ได้ชมกัน อะไรที่เป็นการอนุรักษ์พื้นถิ่นอีสานผมทำหมด คือเราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความเป็นอีสานให้คนได้รู้จักความน่ารัก ความจริงใจของคนอีสานครับ,
ที่มาภาพ : ,Mr.Chumnan101,
| พาไปรู้จักเน็ตไอดอลชายแรงทะลุโซเชียล อีส ชำนาญ เมืองหงษ์ เจ้าของเพจอีสานพาสวบที่มียอดฟอลโล่เยอะถึง 2.4 ล้านคน ทำไมเขาถึงทำรีวิวอาหารได้ถูกใจแฟนคลับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ? | ไลฟ์สไตล์,อาหาร | รีวิวอาหาร,รีวิวเมนูเด็ด,เพจอาหารดัง,เมนูแซ่บน่าลอง,เพจอีสานพาสวบ | https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/1085029 |
เปิดตัวปิดเทอมสร้างสรรค์ ปี 62 ระดม 1248 กิจกรรม จัดเต็มทุกพื้นที่ | ปิดเทอมสร้างสรรค์ปี 62 สสส.จัดเต็มพื้นที่สร้างสรรค์ 1,248 กิจกรรม พร้อมถอดบทเรียนกิจกรรมเหมาะสมทุกช่วงวัย พบส่วนใหญ่ชอบเข้าค่าย แนะประถมฯสนุกสนาน มัธยมใช้วิชาการสอดแทรกประเด็นสังคม มหาลัยปรับใช้ในชีวิต, ,เมื่อวันที่ 26 ก.พ.62 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ อัศจรรย์วันว่าง ว่า สสส.ร่วมกับเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จัดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง ในปี 2562 มีกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่กระจายทุกภูมิภาค ถึง 1,248 กิจกรรม รวมถึงการเปิดรับตำแหน่งงานพิเศษ 10,000 ตำแหน่ง ที่สำคัญปีนี้ สสส.จัดอบรมนักจัดการปิดเทอมสร้างสรรค์ เพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยงกิจกรรมที่น่าสนใจ อุดช่องโหว่ที่สำรวจ พบว่า มีเด็กกว่า 43 % เข้าไม่ถึงกิจกรรมอะไรเลย เพราะบ้านอยู่ไกล โดยนำร่องเพิ่มในพื้นที่ 15 จังหวัด กิจกรรมทั้งหมดจะรวบรวมอยู่ใน www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com ซึ่งเด็กเยาวชนสามารถค้นหากิจกรรมที่มีความหลากหลายใน 4 หมวดหมู่ คือ ตามความฝัน ค้นหาตัวตน แบ่งปันสังคม และสนุกฝึกฝนเปิดโลกเรียนรู้ เพื่อเป็นช่องทางให้เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง เข้าถึงกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่สนใจได้ง่ายขึ้น,ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า สสส.ได้ประมวลผลและถอดบทเรียนรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มวัย พบว่า กิจกรรม 3 อันดับแรกที่เด็กสนใจ อันดับ 1 เข้าค่าย 45 % อันดับ 2 ท่องเที่ยว ทัศนศึกษา 22.4% อันดับ 3 กิจกรรมกีฬา 21.9 % เมื่อแยกเป็นวัยต่างๆ เด็ก ป.4 ป.5 ป.6 ควรมุ่งเน้นกิจกรรมการสร้างความสัมพันธ์ ความสนุก น่าสนใจ เช่นการไปเที่ยวหรือการไปทัศนศึกษา เยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ต้องจัดกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ออกแบบกิจกรรมให้เนื้อหารอบด้าน ไม่มุ่งเน้นเฉพาะความสนุกสนาน และต้องกระตุ้นความสนใจหรือส่งเสริมการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น ส่วนเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ต้องเน้นวิชาการ สอดแทรกประเด็นทางสังคมเข้าไปด้วย เยาวชนระดับมหาวิทยาลัย ต้องเป็นกิจกรรมที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หรือนำไปพัฒนาตัวเองได้ กลุ่มเยาวชนสายอาชีวะ ควรทำกิจกรรมแบบอบรมเชิงปฏิบัติการ หรือ workshop ไม่เน้นเรื่องความสัมพันธ์มาก แต่ให้เน้นทักษะที่เขาจะนำไปใช้ได้ในอาชีพ,ด้าน นางเทพวัลย์ ภรณวลัย รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ การคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิ การส่งเสริมสวัสดิการเด็กและเยาวชน เพื่อให้เด็กและเยาวชน มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความมั่นคงในการดำรงชีวิต ภายในวิสัยทัศน์ เด็กและเยาวชนมีความเป็นพลเมือง เก่ง ดี มีสุข และสร้างสรรค์ โดยในปี 2562 ได้มีการดำเนินกิจกรรม ถนนเด็กเดิน เพลิดเพลินวัฒนธรรม นำสื่อสร้างสรรค์ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีพื้นที่แสดงออกและพัฒนาศักยภาพของตนเอง ทั้งทางด้านวิชาการ ศิลปวัฒนธรรม ดนตรี งานฝีมือและอื่นๆ และได้เผยแพร่ผลงานกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์,ขณะที่ นายวิบูลย์ เสรีชัยพร ผู้จัดการฝ่ายการบริหารลูกค้า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ ปณท.จัดกิจกรรม One Day Camp ชวนเด็กๆไปเปิดหน้าต่างบานเล็กสู่โลกใบใหญ่ สารพันเรื่องราวที่น่าสนใจบนดวงแสตมป์ทั้งของไทยและเทศ ในพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน ส่องแสตมป์ดวงแรกของโลกและของไทย พร้อมสนุกกับกิจกรรมสะสมแสตมป์ อีกหนึ่งงานอดิเรกที่คาดไม่ถึงสำหรับเด็กยุคไอที และจะมีค่ายตะลุยโลกแสตมป์ 4 วัน 3 คืน ซึ่งจะพาเยาวชนอายุระหว่าง 11-14 ปี จำนวน 100 คน ไปเรียนรู้โลกกว้างในสถานที่และเรื่องราวที่อยู่บนดวงแสตมป์,สำหรับภาคีความร่วมมือกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ ประกอบด้วย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ กรมศิลปากร มิวเซียมสยาม ทีเคพาร์ค สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ องค์กรภาคเอกชน โดยการเชื่อมโยงความร่วมมือของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เทสโก้โลกัส คิสซาเนีย อะเดย์ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นต้น และเครือข่ายภาคประชาสังคม อาทิ ธนาคารจิตอาสา เครือข่ายนับเราด้วยคน มิวสิคแชร์ลิ่ง เป็นต้น ค้นหารายละเอียดกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ได้ที่ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com Facebook: Happyschoolbreak และ Twitter: pidterm | ปิดเทอมสร้างสรรค์ปี 62 สสส.จัดเต็มพื้นที่สร้างสรรค์ 1,248 กิจกรรม พร้อมถอดบทเรียนกิจกรรมเหมาะสมทุกช่วงวัย พบส่วนใหญ่ชอบเข้าค่าย แนะประถมฯสนุกสนาน มัธยมใช้วิชาการสอดแทรก | ข่าว,สังคม | ปิดเทอมสร้างสรรค์ปี 62,สสส.,ปิดเทอม,กิจกรรมปิดเทอม,กิจกรรมสร้างสรรค์,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1506041 |
หัวใจเธอน่ากราบ ยอดหญิงซุปเปอร์สตรองวงการบันเทิง | สตรองสตรองสตรอง กลายเป็นวลีฮิตติดปากคนทั้งเมืองไปแล้ว ปลุกกระแสโดย ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม จนถูกนำมาเปรียบกับดาราดัง ที่ผ่านมรสุมชีวิตหนักหน่วง แต่ยังยืนหยัดเข้มแข็งไม่มีถอย ไม่ว่าจะเตียงหัก, ชีวิตพัง, เป็นซิงเกิลมัม หรือชีวิตทรหด ก็พร้อมฝ่าฟันทุกอุปสรรค,สตรองตัวแม่ต้องยกให้เจ้าของวลีเด็ด ลูกเกด–เมทินี กิ่งโพยม มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 1992 และซุปเปอร์โมเดลแถวหน้า ลูกเกดโลดแล่นใน วงการมายากว่า 23 ปี สร้างสรรค์ผลงานไว้เพียบ ยิ่งโด่งดังเมื่อมารับบทเมนเทอร์สุดแซ่บในรายการ The Face Thailand ทางช่อง 3 กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงสตรองยุคใหม่ ที่บุคลิกแข็งกร้าว พร้อมปะ-ฉะ-ดะทุกสถานการณ์,ต้นแบบผู้หญิงสตรองในวินาทีนี้ คงไม่มีใครเข้มแข็งเท่า โบว์–แวนด้า สหวงษ์ ผู้กุมหัวใจพระเอกหนุ่มแสนดี ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ ที่ยืนหยัดเคียงข้างสามีเฝ้าภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์ หลังปอป่วยหนักขั้นโคม่าด้วยโรคไข้เลือดออก ต้องนอนไร้สติอยู่ในห้องซีซียู รพ.รามาธิบดี ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่มีวี่แววจะฟื้นกลับมา ถ้าไม่ได้ลูกสาววัย 2 ขวบ น้องมะลิ-พาขวัญ เป็นกำลังใจสำคัญ ป่านนี้สาวโบว์อาจถอดใจยอมแพ้ไปแล้ว,แกร่งกร้าวไม่แพ้ใคร เพราะผ่านมรสุมชีวิตมาเยอะ ขอยกให้ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ หลังขึ้นแท่นเป็นคุณนายปากน้ำได้ ไม่นาน เจนี่ก็ตกบัลลังก์อย่างแรง กลายเป็นแม่ม่ายทั้งที่ยังสาวยังแส้ ท่ามกลางข่าวลือทนไม่ไหวเพราะโดนสามีเลี้ยงด้วยแข้ง เจนี่หนีไปฟื้นฟูจิตใจที่อเมริกาพักใหญ่ ก่อนจะบินกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยหัวใจมุ่งมั่น แต่ตามประสาคนสวยเสน่ห์ล้น เจนี่โสดไม่นานก็ได้นักธุรกิจหนุ่มไฮโซ กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ เข้ามาดามอกให้หายเศร้า ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดตัวว่าเป็นคู่รัก แต่ภาพฟ้องชัดว่า เจนี่กำลังอินเลิฟอีกครั้ง,ฟากนางเอกสุดมั่น พลอย–เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ เจอมรสุมข่าวรุมเร้าตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงในวัยละอ่อน กระทั่งโด่งดังเปรี้ยงปร้าง ก็มีวีรกรรมความรักรสแซ่บมาตลอด เคยเป็นเจ้าของหัวใจพระเอกฮอตหลาย คน รวมถึงโดม-ปกรณ์ ลัม และต้าร์-นาวิน เยาวพลกุล กระนั้นชีวิตรุ่งๆต้องอับแสง เพราะถูกสื่อแบนไม่นำเสนอข่าวตั้งแต่ปีที่แล้ว เนื่องจากไม่พอใจพฤติกรรมก้าวร้าวของนางเอกดัง กลายเป็นบทเรียนสำคัญของชีวิต ที่ต้องเสียเครดิตเพราะปากและอารมณ์เหวี่ยงไม่ยั้ง แต่พลอยซะอย่างยังไงก็ไม่แคร์ ย้ำชัดอยู่แบบนี้สบายใจไม่ต้องถูกสื่อตาม,ใครจะเถียงว่า ซือเจ๊บุ๋ม–ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ไม่สตรอง อุตส่าห์เปิดมูลนิธิองค์กรทำดี รณรงค์ให้คนไทยหันมาทำความดี ก็ไม่วายโดนกระแสชอบ สร้างภาพ ทำดีเอาหน้า แถมยังเผือกทุกเรื่อง จนหลายคนมองว่า บุ๋ม อยากเป็น ปวีณา 2 แต่บุ๋มไม่เคยท้อเรื่องทำดี ถึงจะโดนถล่มด่าไม่ยั้งในโลกโซเชียล เพราะถือคติทำดีสร้างภาพ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย คิดดูสิว่าถ้าจิตไม่แข็งพอคงเลิกทำดีไปนานแล้ว,ซิงเกิลมัมที่ต้องยืนหยัดเลี้ยงลูกลำพังก็มีตัวอย่างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นซิงเกิลมัมลูกสอง ตุ๊ก–ชนกวนันท์ รักชีพ โดนสามีนอกใจประกาศกร้าวขอหย่าทันที เล่นเอาช็อก ทั้งประเทศ ปล่อยให้ตุ๊กแบกหนี้สินหนักอึ้ง และตามล้างตามเช็ดปัญหาสารพัด แต่นางก็ยังยิ้มสู้ ขอโอกาสกลับมาทำงานในวงการอีกครั้งเพื่อหาเลี้ยงลูก ทุกวันนี้กำลังปลูกต้นรักใหม่กับหนุ่มเกาหลี ขอให้ตุ๊กโชคดีเจอผู้ชายจริงใจ,ด้านแอร์สาวการบินไทย พลอย–พลอยพรรณ ทวีรัตน์ เจ็บจี๊ดหนักเพราะสามีซุปตาร์ ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ไม่กลับบ้าน หายไปกับหญิงอื่น ทิ้งให้พลอยต้องเลี้ยงลูก 2 คนตามลำพัง ผ่านไปหลายเดือนแล้ว ปีเตอร์ก็ไม่ติดต่อกลับ ปล่อยให้ปัญหาคาราคาซัง แต่พลอยยังยิ้มกว้าง เพราะมองโลกแง่บวก สักวันปีเตอร์ต้องเห็นใจกลับมาเคลียร์,ฟากซิงเกิลมัม ยังสาว ซาร่า คาซิงกีนี แม่ของ น้องแม็กซ์เวลล์ ก็เป็นอีกหนึ่งหญิงแกร่งไม่ง้อผู้ชาย โดนซุปตาร์ หนุ่ม ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ลอยแพให้เลี้ยงลูกลำพัง แต่ซาร่าก็กัดฟันสู้ พร้อมทำหน้าที่พ่อและแม่ของ ลูกโดยไม่เรียกร้องใดๆ. | สตรองสตรองสตรอง!! กลายเป็นวลีฮิตติดปากคนทั้งเมืองไปแล้ว ปลุกกระแสโดย ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม จนถูกนำมาเปรียบกับดาราดัง ที่ผ่านมรสุมชีวิตหนักหน่วง | null | ลูกเกด,เมทินี กิ่งโพยม,ดาราดัง,มรสุมชีวิต,แวนด้า สหวงษ์,น้องมะลิ,เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ,เฉลิมชัย มหากิจศิริ,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐฉบับพิมพ์ | https://www.thairath.co.th/content/540265 |
เบลเยี่ยมเริ่มเก็บข้อมูล ผู้เดินทางในประเทศ เพื่อความมั่นคง | เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2561 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำประเทศเบลเยียมรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 16 เมษายน หน่วยงานเบลเยียมประกาศว่า ผู้โดยสารเดินทางภายในประเทศเบลเยียมจะถูกตรวจสอบและจัดเก็บข้อมูลส่วนตัว โดยมีหน่วยงานด้านความมั่นคงและปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง 4 แห่งร่วมกันจัดทำ Passenger Information Unit (PIU) หน่วยงานกลางที่มีเป้าหมายในการป้องกันเครือข่ายอาชญากรรม และได้มีการเร่งจัดทำภายหลังเกิดเหตุวินาศกรรม 22 มีนาคม 2016,Passenger Information Unit (PIU) ได้เริ่มปฏิบัติการอย่างเป็นทางการในวันนี้ หลังจากที่ทำการทดลองในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานประมวลข่าวกลาง สำนักงานข่าวและการรักษาความมั่นคง และศุลกากร ที่ประสานความร่วมมือระหว่างกัน,นายโอลิเวียร์ วานรามดองค์ โฆษกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า Passenger Information Unit (PIU) ได้รับข้อมูลผู้โดยสารเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศ รวมทั้งผู้โดยสารเดินทางทางบก ทางเรือ และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ร่วมกับฐานข้อมูลของหน่วยงานทั้ง 4 หน่วยงานดังกล่าวข้างต้น,การวิเคราะห์และเตรียมการตั้งรับการเคลื่อนย้ายของบรรดาเหล่าอาชญากรและผู้ก่อการร้าย หน่วยงานนี้มีหน้าที่เป็นหน่วยข่าวกรองต่อต้านขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติและเครือข่ายก่อการร้าย จากข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์ดังกล่าวข้างต้น สามารถช่วยสนับสนุนการปฏิบัติการหน่วยงานด้านความมั่นคงและรักษาความปลอดภัยในการจับตามองความเคลื่อนไหวของบุคคลเหล่านี้บนแผนที่ได้อย่างง่ายดาย เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงาน PIU สามารถตรวจจับผู้โดยสารสองคนที่ขนเฮโรอีนมูลค่า 210,000 ยูโร (8,190,000 บาท) ผ่านสนามบินกรุงบรัสเซลส์. | เบลเยียมเก็บข้อมูลตรวจสอบผู้เดินทางผ่านทั้งบนบก ทางอากาศและทางทะเล สำหรับผู้ที่เดินทางภายในประเทศ เพื่อสนับสนุนงานด้านความมั่นคง และเฝ้าระวังการก่อการร้าย | ข่าว,ต่างประเทศ | Passenger Information Unit,ข้อมูลการเดินทางผู้โดยสาร,เบลเยี่ยม,ความมั่นคง,ป้องกันอาชญากรรม,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1257736 |
ฎีกาจำคุก สรยุทธ รวม 6 ปี 24 เดือน คดีบริษัทไร่ส้มฯ โกงอสมท 138 ล้าน | ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาทำให้ บมจ.อสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท หลังคำพิพากษาเจ้าตัวถูกส่งเข้าเรือนจำทันที พบมีโรคไขมันในเลือดสูงและถุงลมโป่งพอง ขณะที่เฟซบุ๊กเจ้าตัวระบุ ต้องยอมรับให้ได้ แม้ชีวิตจะเริ่มต้นอีกครั้งในคุก แล้วค่อยพบกันใหม่ที่ห้องพิจารณาคดี 703 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 21 ม.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางพิชชาภา หรือนางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท บริษัท ไร่ส้ม จำกัด นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อายุ 53 ปี กรรมการ ผจก.บริษัทไร่ส้ม และอดีตนักจัดรายการเล่าข่าวชื่อดัง และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานบริษัทไร่ส้ม เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และจำเลยที่ 2 3 4 ในความผิดฐานสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ม.6 8 11นัดนี้ นายสรยุทธที่ยุติบทบาทสื่อมวลชนโดยสิ้นเชิงเดินทางมาศาล ในชุดสูทสีเข้ม สีหน้าเรียบเฉย มีทีมงานผู้จัดรายการข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ผู้บริหารไทยทีวีสีช่อง 3 รวมทั้งนักแสดงตลกคู่หู โก๊ะตี๋ อารามบอย มาให้กำลังใจคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.48-28 เม.ย.49 ต่อเนื่องกัน นางพิชชาภา หรือนางชนาภาพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ มีหน้าที่จัดการ รักษาทรัพย์ อาศัยโอกาสในตำแหน่งแสวงหาประโยชน์อันมิชอบกล่าวคือ จำเลยที่ 1 จัดทำคิวโฆษณารวมในรายการ คุยคุ้ยข่าว ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 อสมท ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลา เพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลาจาก บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท เสียหายขาดรายได้ 138790000 บาท และจำเลยที่ 1 ยังเรียกรับเอาเงิน 658996 บาท จากจำเลยที่ 2-4 เพื่อเป็นการตอบแทน ถือเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยหน้าที่และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ บมจ.อสมท มีจำเลยที่ 2-4 เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือด้วยการจ่ายเช็คเพื่อตอบแทนการกระทำของจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ อ้างเป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติ ไม่มีเจตนาทุจริตและไม่ได้กระทำตามโจทก์ฟ้อง ขอให้ยกฟ้องคดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุก 20 ปีกับนางพิชชาภา จำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินฯ สั่งปรับ บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 รวม 80000 บาท ส่วนนายสรยุทธ จำเลยที่ 3 และ น.ส.มณฑา จำเลยที่ 4 ถูกพิพากษาจำคุก คนละ 13 ปี 4 เดือน ต่อมาวันที่ 29 ส.ค.60 ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น นายสรยุทธกับพวกได้ประกันตัวในวงเงิน 5 ล้านบาท จำเลยทั้งหมดฎีกาขอยกฟ้องว่าขาดเจตนา ไม่มีการกระทำผิดตามที่ฟ้อง โทษที่ลงสูงเกินไป หรือขอรอลงอาญาและอ้างเหตุอื่นๆศาลฎีกามีคำพิพากษาใจความว่าจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ต้องรายงานคิวโฆษณาส่วนเกินเวลาให้ผู้บังคับบัญชาทราบแต่ไม่รายงาน การไต่สวนรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 4 เป็นผู้ใช้จำเลยที่ 1 หาช่องทางช่วยเหลือตามคำขอของจำเลยที่ 3 ซึ่งจำเลยที่ 1 ใช้น้ำยาลบคำผิดแก้ไขเอกสาร แม้จะฟังไม่ได้ว่าเช็ค 6 ฉบับ จ่ายเป็นค่าตอบแทน แต่ฟังได้ว่ามีการจ่ายเช็คในช่วงเวลาดังกล่าว หากไม่ได้ประโยชน์จำเลยที่ 1 คงไม่หาช่องทางช่วยเหลือและแม้จะมีการจ่ายเงินค่าโฆษณาส่วนเกินคืน แต่ก็จ่ายหลัง อสมท ผู้เสียหายตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้วและเวลาล่วงเลยไป 2 ปี ถือว่าการกระทำจำเลยทั้ง 4 เป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ 6 กระทง ทั้งนี้ พฤติการณ์ของจำเลยที่ 1-4 เป็นเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวอาวุโส กลับทำผิดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จำเลยที่ 3 เป็นสื่อมวลชนอาวุโส ต้องปฏิบัติตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สื่อมวลชนอื่น พฤติการณ์จึงไม่เพียงพอให้รอการลงโทษหรือลงโทษสถานเบา ตามที่จำเลยทั้งหมดฎีกาศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาหารือแล้ว ที่ศาล อุทธรณ์ลงโทษมานั้นสูงเกินไป สมควรแก้บางส่วน พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิด 6 กระทง ลงโทษจำคุกนางพิชชาภาจำเลยที่ 1 กระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 18 ปี ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 12 ปี ลงโทษ ปรับ บ.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 กระทงละ 18000 บาท รวมปรับ 108000 บาท ลดโทษ 1 ใน 3 คงปรับ 72000 บาท และให้จำคุกนายสรยุทธและ น.ส.มณฑา จำเลยที่ 3 และ 4 กระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 12 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี 24 เดือนหลังคำพิพากษานายสรยุทธอยู่ในอาการนิ่งสงบ หันมาพูดคุยกับเพื่อนที่เดินทางมาให้กำลังใจ ประกอบด้วย โก๊ะตี๋ อารามบอย ดาวตลกคนสนิทที่นั่งให้กำลังใจอยู่ด้านหลัง เอื้อมตัวมากุมมือปลอบใจ น้ำตาซึมสีหน้าเศร้าหมอง เช่นเดียวกับนายประวิทย์ มาลีนนท์ อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด และกรรมการบริหาร บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) นางธัญญา วชิรบรรจง ดาราและผู้จัดละคร โน้ส-อุดม แต้พานิช น้องไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ และไก่-ภาษิต อภิญญาวาทภายหลังน้องไบรท์-พิชญทัฬห์ พร้อมคณะที่เดินทางมาให้กำลังใจนายสรยุทธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า ทุกคนให้กำลังใจนายสรยุทธในการต่อสู้คดีมาโดยตลอด รู้สึกเสียใจมากและเห็นใจที่นายสรยุทธต่อสู้เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่เคยมีพฤติกรรมไปเบียดบังเวลาของ อสมท อย่างที่ทุกคนเข้าใจต่อมาเวลา 14.40 น. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานหลังศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุกนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พร้อมพวก เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์นำตัวนายสรยุทธเข้าไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และแยกนักโทษหญิง 2 ราย ไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อรับโทษตามคำพิพากษา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ปฏิบัติต่อนายสรยุทธและผู้ต้องขังหญิงอีก 2 ราย เหมือนผู้ต้องขังรายอื่น ก่อนจะจำแนกไปไว้แดนอื่น พร้อมให้ช่วยงานตามความรู้ความสามารถของแต่ละคนด้านนายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้รับตัวนายสรยุทธเข้าเรือนจำในช่วงบ่ายแล้ว ก่อนตรวจร่างกายตามขั้นตอนการรับตัวผู้ต้องขังใหม่เข้าเรือนจำ จากการสอบถามประวัติและตรวจร่างกายพบว่า มีโรคประจำตัวคือโรคไขมันในเลือดสูง มีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่แต่ไม่ใช่เนื้อร้าย ร่วมกับมีเลือดออกในลำไส้ และโรคถุงลมโป่งพอง แต่เจ้าตัวได้นำยารักษาโรคประจำตัวมารับประทานรักษาอาการ เท่าที่สังเกตเจ้าตัวมีสภาพจิตใจปกติ เพราะก่อนหน้านี้เคยเข้ามาอยู่เรือนจำแห่งนี้มาแล้วระยะหนึ่ง คาดจะใช้เวลาปรับตัวรอบนี้ไม่นานวันเดียวกัน เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว มีการโพสต์ความในใจของนายสรยุทธ ก่อนฟังคำพิพากษา ใจความสรุปว่า ผมต้องหยุดทำงานที่ผมเคยทำมาทุกวัน ทั้งที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ใครไม่เป็นผมคงไม่รู้ว่ามันทุกข์ทรมานขนาดไหนกับการต้องตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วไม่ได้ออกไปใช้ชีวิตอย่างที่เคย สำหรับผมการต้องหยุดทำงาน เพราะคำพิพากษาของสังคมคือความทุกข์ทรมานที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต อิสรภาพในการใช้ชีวิตของผมหมดไปตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน ผมติดคุกสังคมมา 4 ปีแล้ว ตลอด 4 ปีของการต่อสู้คดีก็ไม่เคย มีความสุขเลยแม้แต่วันเดียว ความรู้สึกเสมือนยิ่งสู้ยิ่งแพ้ แต่ก็ต้องสู้ วันนี้ผมคงติดคุกตามคำพิพากษาของศาลสูงสุด ความยากลำบากเดียวคือทำใจ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะทำได้ขนาดไหน ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ที่จะทำความคุ้นเคยกับมัน แต่ต้องยอมรับให้ได้ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป อย่างน้อยวันนี้ชีวิตผมจะได้เริ่มต้นใหม่เสียที แม้จะต้องเริ่มต้นจากติดลบอยู่ในคุก จุดต่ำสุดของชีวิต ขอขอบคุณทุกคนที่เจอกันเข้ามาจับมือให้กำลังใจ ไม่ได้เจอกันก็ส่งกำลังใจมาให้ จนกว่าจะมีโอกาสพบกันใหม่ครับ.สรยุทธ สุทัศนะจินดา 21 มกราคม 63 | บทสรุปคดีไร่ส้ม ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 6 ปี 24 เดือน สรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวคนดังฐานสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 | ข่าว,ทั่วไทย | สรยุทธ สุทัศนะจินดา,สรยุทธคดีไร่ส้ม,คดีไร่ส้ม,ฎีกาคดีไร่ส้ม,คําพิพากษาคดี สรยุทธ,ศาลฎีกา,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1753090 |
เด็กชายวัย 3 ขวบ เดินเล่นกับสุนัข หายตัว 4 วัน เป็นศพลอยในร่องน้ำ | เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ม.ค. 59 พ.ต.ต.วิรวัฒน์ นิยมทรัพย์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งว่าพบศพเด็กลอยน้ำ เหตุเกิดภายในแคมป์คนงานหล่อแผ่นปูน หมู่ 17 ต.บึงทองหลวง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่มไทร ในที่เกิดเหตุภายในร่องน้ำด้านหลังแคมป์ เจ้าหน้าที่พบศพ ด.ช.ยุทธกร อายุ 3 ขวบ สภาพศพลอยอืด สวมเสื้อยืดสีน้ำตาล นุ่งกางเกงขาสั้นสีเขียว เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน จากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย,จากการสอบสวน นายเลอ ชาวพม่า ผู้เป็นพ่อให้การว่าก่อนพบศพประมาณ 4 วันที่แล้ว ตนได้ออกไปทำงานโดยลูกชายก็เดินเล่นอยู่ที่แคมป์กับสุนัข โดยลูกชายมักจะเล่นกันสุนัขมาตั้งแต่เล็กๆ ส่วนแม่ของเด็กถูกรถชนเมื่อหลายปีก่อนจนสติไม่ดี จึงต้องขังไว้ในห้อง โดยปล่อยให้ลูกอยู่ข้างนอกตามลำพัง,กระทั่งตกเย็นกลับจากทำงานก็หาไม่พบ ได้เดินตามหาอยู่หลายวัน จนวันนี้ได้กลิ่นจึงพบร่างไร้วิญญาณของลูก นายเลอ กล่าว ,พ.ต.ต.วิรวัฒน์ นิยมทรัพย์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.ลำลูกกา กล่าวว่า ในเบื้องต้นคาดว่าเด็กได้เดินเล่นกับสุนัขมาจนถึงที่เกิดเหตุ แล้วสุนัขคงกระโดดลงน้ำว่ายข้ามฝั่งไป เด็กอาจจะกระโดดตาม หรือไม่ก็ลื่นตกลงไปเอง ทำให้จมน้ำเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ได้มอบศพให้ทางมูลนิธินำส่งตรวจยัง รพ.ลำลูกกา ก่อนที่จะมอบศพให้ทางญาติไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป | สุดสลด! ลูกชายพม่าวัย 3 ขวบ เดินเล่นกับหมาแถวบ้าน หายตัวลึกลับ 4 วัน พ่อออกตามหาไม่พบ เจออีกทีกลายเป็นศพลอยอืดในร่องน้ำ เจ้าหน้าที่สันนิษฐาน พยายามว่ายน้ำข้ามฝั่งตามสุนัข แต่ลื่นพลัดตกเอง มอบศพมูลนิธินำส่งตรวจยัง รพ.ลำลูกกา | null | เด็กชายวัย3ขวบจมน้ำอืด,เด็กจมน้ำ,เด็กพลักตกน้ำ,หายตัวลึกลับ,เดินเล่นกับหมา,ลูกชายพม่า,ศพลอยน้ำ,แคมป์คนงาน,ตายปริศนา,ข่าย,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย | https://www.thairath.co.th/content/559372 |
ศาลนัดสืบพยาน มาร์ค-สุเทพ ฟ้อง ธาริต ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ | เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 ส.ค.60 ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ศาลนัดตรวจหลักฐานในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับพวกเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา,กรณีเมื่อ ก.ค.54 - 13 ธ.ค.55 จำเลยทั้งสี่สรุปสำนวนกล่าวหานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพข้อหาก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าโดยเจตนาและเล็งเห็นผล จากการออกคำสั่ง ศอฉ.ใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่การชุมนุมของ นปช.เมื่อปี 2553 โจทก์เห็นว่าการแจ้งข้อหาบิดเบือนจากข้อเท็จจริง และอำนาจสอบสวนเป็นของ ป.ป.ช.ไม่ใช่ ดีเอสไอ ศาลสอบคำให้การจำเลยทั้งสี่ จำเลยให้การปฏิเสธ,ทั้งนี้ ทนายโจทก์แถลงนำพยานเข้าสืบ 8 ปาก ใช้เวลา 5 นัด ส่วนทนายจำเลยแถลงนำพยานเข้าสืบ 13 ปาก ใช้เวลา 8 นัด ศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากแรกวันที่ 6 มี.ค.61 และสืบพยานจำเลยปากแรกวันที่ 27 มี.ค.61 ก่อนมีคำพิพากษาต่อไป. | ศาลตรวจหลักฐานคดี มาร์ค-สุเทพ ฟ้องหมิ่น ธาริต เพ็งดิษฐ์ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เหตุสลายชุมนุม นปช.ปี 53 โจทก์เตรียมพยานเข้าสืบ 8 ปาก ส่วนจำเลยยื่นขอพยาน 13 ปาก ศาลนัดสืบพยานครั้งแรก 6 มี.ค.ปีหน้า | ข่าว,อาชญากรรม | อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,สุเทพ เทือกสุบรรณ,ธาริต เพ็งดิษฐ์,ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ,สลายชุมนุม ปี 53,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/crime/1045345 |
ผบช.น.ยันคดีทุบจ่านิวคืบ จ่อจับ 5 แชร์ข่าวเท็จบิ๊กช้าง | ยันถ้าตำรวจพูดจริงยอมขอโทษ ส่วนคดีข่าวเท็จ บิ๊กช้าง ตำรวจ ปอท.เรียกคนแชร์ 8 คนรับทราบข้อหาแล้ว ส่วนอีก 5 คนรวมคนทำข่าวเท็จเตรียมเข้าจับกุมเร็วๆนี้ ด้าน เอกชัย หงส์กังวาล หอบหลักฐานไปกองปราบฯ ขอให้โอน 9 คดีทำร้ายและเผารถตัวเองมาสอบสวนแทน บช.น. เชื่อผู้มีอิทธิพลบงการ ที่ประชุมสภาผู้แทนฯ พรรคอนาคตใหม่ตั้งกระทู้ซัก บิ๊กป้อม กดดันนัก เคลื่อนไหว รมช.กลาโหม ตอบแทน ป้องนายเปล่าห้ามเคลื่อนไหว ทำได้ถ้าอยู่ในกรอบของกฎหมาย,กรณีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ,จ่านิว, อายุ 27 ปี นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน ทำร้ายบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณปากซอยรามอินทรา 109 ตำรวจอยู่ระหว่างตามจับกุมคนร้าย ความคืบหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 ก.ค. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. ว่า สอบปากคำพยานไป 15-16 ปาก ส่วนการติดตามตัวคนร้ายคืบหน้าไปมากพอสมควรแต่ยังไม่สามารถระบุชื่อคนร้ายได้ ถามว่า น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ แม่นายสิรวิชญ์พูดลักษณะตำรวจยื่นข้อเสนอให้หยุดเคลื่อนไหวแล้วจะคุ้มครอง ผบช.น.ตอบว่า การยื่นเงื่อนไขต่างๆ ถ้าตำรวจพูดตนพร้อมขอโทษ จริงๆแล้วเป็นเรื่องของกรมคุ้มครองสิทธิฯจะกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ตนไปก้าวล่วงไม่ได้,ส่วนกรณีนายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า มีตำรวจจาก สน.ดอนเมืองไปหาเป็นครั้งที่สอง แจ้งว่า นาย สั่งให้มาตรวจสอบดูว่ายังพักอยู่บ้านหลังนี้หรือไม่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.กล่าวว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาการประชุมสภามีกระทู้ว่าผู้มีความคิดเห็นต่างทางการเมืองจะถูกปองร้ายหรือทำร้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นห่วง จึงสั่งการให้ บช.น.และทุกบช. ลงไปดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของกลุ่มบุคคลต่างๆ ถือโอกาสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละ บก.ลงไปตรวจสอบดูแลความปลอดภัย ไม่ใช่แค่ผู้มีความคิดเห็นต่างทางการเมือง แต่รวมถึงบุคคลสำคัญต่างๆที่อยู่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบด้วย,ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันเดียวกัน นายเอกชัย หงส์กังวาน อายุ 42 ปี และนายอนุรักษ์ หรือฟอร์ด เจนตวนิชย์ อายุ 51 ปี นักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมพวก 10 คน เข้าพบ พ.ต.ท.ชนินทร ง่วนสน สว. (สอบสวน) กก.1 บก.ป.ขอให้กองปราบฯช่วยรับโอนคดีที่ถูกทำร้ายจาก บช.น. ทั้งหมด 9 คดีมาสอบสวนแทน เนื่องจากหลายคดีไม่คืบหน้า นายเอกชัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเคยถูกลอบทำร้ายรวม 9 คดี แบ่งเป็นถูกทำร้ายร่างกาย 7 คดี เผารถยนต์ 2 คดี มีเพียง 2 คดีที่จับกุมผู้ก่อเหตุได้ ส่วนอีกคดีจับกุมได้เพียง 1 คนทั้งที่มีผู้ร่วมก่อเหตุ 3 คน คิดว่าคดีที่เหลือคงไม่มีความคืบหน้า เชื่อว่าน่าจะมีผู้มีอิทธิพลบงการ รวมทั้งน่าจะมีการขัดขวางกระบวนการสอบสวน อยากให้กองปราบปรามรับโอนทุกคดีจาก บช.น. วันนี้นำหลักฐานเอกสาร บันทึกประจำวัน และภาพถ่ายที่ถูกทำร้ายแต่ละคดีมามอบให้ เพราะเชื่อว่ากองปราบฯสามารถทำคดีได้ดีกว่าหน่วยงานอื่น อยากให้เร่งจับผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย,ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. แถลงความคืบหน้ากรณีสังคมโซเชียลโพสต์ข้อความพาดพิง พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร.มีส่วนกรณีคนร้ายรุมทำร้ายร่างกายจ่านิว พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นข่าวเท็จ บก.ปอท.สืบสวนจนทราบตัวบุคคลที่นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ สำหรับบุคคลที่แชร์ข้อมูลต่อทั้งที่รู้ว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ดังนั้นทั้งบุคคลนำเข้า ข้อมูลอันเป็นเท็จและบุคคลที่แชร์ข้อมูลมีอัตราโทษเท่ากันคือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ,บก.ปอท.ดำเนินการพิสูจน์ตัวบุคคลทั้งผู้ที่นำเข้าและผู้แชร์ เบื้องต้นพิสูจน์ตัวบุคคลที่แชร์ข้อมูลได้ 13 คน บางคนใช้บัญชีอวตาลหรือบัญชีปลอม คิดว่าไม่สามารถสืบสวนติดตามได้ แต่ขอยืนยันว่า บก.ปอท.สามารถสืบสวนติดตามได้ ผู้ต้องหา 8 ใน 13 คนเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินการตามกฎหมายส่วนคนนำเข้าเรารู้ตัวแล้วจะดำเนินการจับกุมเร็วๆนี้,ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย เป็นประธานประชุม พิจารณากระทู้ถามสดเรื่องการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ เพื่อกดดันผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ถึงความคืบหน้าคดีทำร้ายจ่านิวระบุว่า ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐไปคุกคามนักเคลื่อนไหวอีกหลายคน รวมทั้ง ส.ส.เชียงรายพรรคอนาคตใหม่อยากถามว่า เหตุใด พล.อ.ประวิตร และเจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นเงื่อนไขให้เลิกเคลื่อนไหวทางการเมืองแลกการคุ้มครองพยาน และส่งเจ้าหน้าที่คอยตามประชาชนที่ต่อต้าน คสช. เหตุใดการต่อต้านคสช.ถูกโยงเป็นเรื่องเดียวกับความมั่นคงของรัฐ หาก กดดันประสบผล ทำให้ประชาชนเลิกแสดงออกทาง การเมืองได้ ผู้ได้รับประโยชน์คือ คสช. เช่นนี้แล้ว คสช.เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นปฏิบัติการดังกล่าวหรือไม่,พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ตอบกระทู้แทน รมว.กลาโหมว่า เรื่องของสิทธิเสรีภาพประชาชน รัฐบาลยืนยันว่า ทำได้ในกรอบของกฎหมาย ดูแลความปลอดภัยเสมอกันไม่เลือกปฏิบัติ ความคืบหน้าคดีนายสิรวิชญ์เชื่อว่าเร็วๆนี้จะออกหมายจับได้ ส่วนการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตรตอบ 2 คำถามในคราวเดียวกันว่า ตำรวจจะดูแลความปลอดภัย ส่วนกรมคุ้มครองสิทธิฯจะดูแลเรื่องการคุ้มครองพยาน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้าม ไม่สามารถห้ามบุคคลแสดงออกโดยความบริสุทธิ์ใจได้ ส่วนที่เป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐ เพราะเมื่อแสดงออกกิจกรรมทางการเมือง อาจเกิดเหตุกระทบกระทั่งของผู้เห็นด้วยและเห็นต่าง เป็นอำนาจหน้าที่และความจำเป็นของตำรวจจะดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมตามกฎหมาย ใครได้ประโยชน์หรือได้เสียอย่างไรอยู่ที่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นสำคัญ | ผบช.น. เผย คดีทำร้ายจ่านิวคืบหน้า แต่ยังระบุตัวคนร้ายไม่ได้ ส่วนกรณีแม่จ่านิวโวย ตำรวจยื่นข้อต่อรองให้เลิกเคลื่อนไหวแลกการคุ้มครอง | ข่าว,ทั่วไทย | จ่านิว,จ่านิว ถูกทำร้าย,สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์,ปอท.,ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย,บิ๊กช้าง,ข่าวหน้า1,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1612426 |
ส.ยิมปลื้มผลงานดีตลอดปี 61 การันตีซีเกมส์มีอย่างน้อย 3 ทองติดมือ | สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ประชุมใหญ่สามัญประจำปี สรุปผลงานในรอบปีเป็นที่น่าพอใจ พร้อมได้มีการวางแผนอย่างรัดกุมด้วยการดึงโค้ชต่างประเทศเร่งติวเข้มในช่วงโค้งสุดท้าย ลั่นซีเกมส์ปลายปีนี้ต้องมีอย่างน้อย 3 เหรียญทอง,วันที่ 1 พ.ค.62 น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561 ที่ห้องประชุม 211 สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก โดยมีผู้บริหารและสมาชิกสโมสรเข้าร่วมประชุมจำนวน 26 สโมสร จากทั้งสิ้น 42 สโมสร (มากกว่าครึ่งหนึ่ง) ในการนี้ น.ส.กมลวรรณ สุทธิบุตร และ น.ส. รุ่งรัชดา ขาวพรหม เจ้าหน้าที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์ และให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาของการประชุม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา,โดยที่ประชุมได้มีการแถลงงบดุลปี 2561 ซึ่งมีรายรับ 26,255,756.94 บาท ส่วนรายจ่าย 24,115,372.54 บาท ทำให้มีรายรับมากกว่ารายจ่าย 2,143,449.50 บาท แต่เมื่อนำไปหักลบค่าใช้จ่ายสะสมที่เป็นหนี้สินเมื่อปี 2560 มีจำนวน 6 ล้านกว่าบาท ทำให้สมาคมยังมีหนี้สินคงค้างอยู่อีก 4 ล้านกว่าบาท ส่วนผลงานตลอดทั้งปี 2561 ที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันทั้งในประเทศและรายการอินวิเตชั่น อย่างชิงแชมป์โลกและชิงแชมป์เอเชีย นักกีฬาสามารถสร้างผลงานคว้าเหรียญทองจนเป็นที่น่าพอใจ รวมทั้งยังได้มีการส่งผู้ฝึกสอนเดินทางไปเข้าร่วมอบรมชั้นสูงระดับนานาชาติอีกด้วย นับว่าเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดที่น่าพอใจ,นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังได้ติดต่อจ้าง มิสนาเดีย อเล็กซานโดรฟ ผู้ฝึกสอนระดับอาชีพชาวอังกฤษ และ มิสนาตาชา ผู้ฝึกสอนชาวรัสเซีย มาถ่ายทอดการฝึกซ้อมรูปแบบใหม่ๆ ในท่าที่ยากขึ้นกว่าเดิม ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเพื่อดูการพัฒนาและความสามารถของนักกีฬายิมนาสติกลีลา ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ในเดือนมิถุนายนที่พัทยา และต่อเนื่องด้วยการควบคุม ดูแลฝึกสอนนักกีฬายิมนาสติกศิลป์ ที่ศูนย์ฝึกแห่งชาติในซอยเพชรเกษม 81 จนถึงเดือนธันวาคม ซึ่งในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ปลายปีนี้ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ยิมนาสติกมีชิงทั้งสิ้น 19 เหรียญทอง สมาคมฯ มั่นใจว่าน่าจะได้อย่างน้อย 3 เหรียญทอง. | สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยสรุปผลงานในรอบปีเป็นที่น่าพอใจ พร้อมได้มีการวางแผนอย่างรัดกุมด้วยการดึงโค้ชต่างประเทศเร่งติวเข้มในช่วงโค้งสุดท้าย ลั่นซีเกมส์ 2019 ต้องมีอย่างน้อย 3 เหรียญทอง | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์,สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย,ซีเกมส์ 2019 | https://www.thairath.co.th/sport/others/1557720 |
ส.กีฬาม้าแข่งไทย พร้อมจัดแข่งม้าไร้พนัน ชิงเงิน 1.5 ล้านบาท | สมาคมกีฬาม้าแข่งไทย เดินหน้าจัดงานใหญ่ ศึกแข่งขันม้าแข่งแบบไม่มีการพนัน ขึ้นเป็นครั้งแรก ในเดือน ม.ค.ปีหน้า ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านบาท ส่วนครั้งที่ 2 เป็นแมตช์ชิงแชมป์ประเทศไทย ในเดือน ก.ค.ปีหน้า เช่นกัน ด้าน พล.อ.วิชญ์ เผย ส.กีฬาม้าแข่งไทย เซ็นเอ็มโอยู กับ บริษัทใหญ่จากจีน เล็งสร้างสนามแข่งม้าขึ้นที่ย่านบางนา-ตราด บนพื้นที่เกือบ 3 พันไร่ ชี้ เมกกะโปรเจกต์ จะเป็นจริงหรือไม่ รอลุ้นผลอีก 2 เดือน,บิ๊กน้อย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นายกสมาคมกีฬาม้าแข่งไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ ครั้งที่ 3 ที่ห้องคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. สรุปวาระสำคัญ คือ ที่ประชุมได้พิจารณาโครงสร้างของสมาคมฯ และการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ ขณะที่ ประธานในที่ประชุม ได้มอบหมายให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ พร้อมกับให้นำเสนอรายชื่อฝ่ายต่างๆ ในการประชุมครั้งต่อไป ที่จะมีขึ้นวันที่ 18 ต.ค.นี้ ต่อไป,จากนั้นได้หารือถึงการพิจารณากำหนด วัน เวลา และสถานที่ เพื่อจัดการแข่งม้ากีฬา และการจัดการแข่งขันม้าชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ซึ่งที่ประชุมมีมติว่า สมาคมกีฬาม้าแข่งไทย จะจัดการแข่งขันม้ากีฬาครั้งแรก ในช่วงเดือน ม.ค.63 ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านบาท ระยะ 1,200 เมตร จำนวน 5 เที่ยว ส่วนสนามแข่งขันจะมีการทำเรื่องขอรับการสนับสนุนไปยังราชกรีฑาสโมสร เป็นสนามแข่งขัน แต่หากไม่ได้รับการอนุมัติจะไปแข่งขันที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นเรื่องของเกมกีฬา ไม่มีเรื่องของการพนันขันต่อ เข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ส่วนครั้งที่ 2 จะมีขึ้นในช่วงเดือน ก.ค.63 ซึ่งจะเป็นรายการชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย พร้อมเพิ่มเงินรางวัลพิเศษให้อีกด้วย,พล.อ.วิชญ์ แจ้งเพิ่มเติมว่า สมาคมฯ ได้มีการลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับ บริษัท จ๊อกกิ้ง คลับ และบริษัท รอยัล ฮอร์ส อินดัสตรี กรุ๊ป (ประเทศไทย จำกัด) ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศจีน ที่จะเข้ามาลงทุนก่อสร้างสนามแข่งม้า บริเวณ กม.39 บางบัว ถนนบางนา-ตราด ซึ่งสนามแข่งม้าแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 2,994 ไร่ ประกอบด้วย คอมเพล็กซ์, ห้างสรรพสินค้า, คอนโด และสนามม้าแข่ง (450 ไร่) ซึ่งสมาคมฯ จะได้สิทธิ์ถือหุ้นในส่วนของสนามแข่งม้า จำนวน 5 เปอร์เซ็นต์ ในเบื้องต้น บริษัท รอยัล ฮอร์ส อินดัสตรี กรุ๊ปฯ ขอพิจารณาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ เป็นเวลา 2 เดือน ก่อนจะมีการหารือร่วมกันเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป. | สมาคมกีฬาม้าแข่งไทย เดินหน้าจัดงานใหญ่ ศึกแข่งขันม้าแข่งแบบไม่มีการพนัน ขึ้นเป็นครั้งแรก ในเดือน ม.ค.ปีหน้า ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านบาท ลงนามเซ็นเอ็มโอยู กับบริษัทจากจีน เล็งสร้างสนามแข่ง | กีฬา,กีฬาอื่นๆ | สมาคมกีฬาม้าแข่งไทย,พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา,เอ็มโอยู,บริษัท จ๊อกกิ้ง คลับ,บริษัท จ๊อกกิ้ง คลับ และบริษัท รอยัล ฮอร์ส อินดัสตรี กรุ๊ป (ประเทศไทย จำกัด) | https://www.thairath.co.th/sport/others/1670103 |
พ่อฟ้ามาแล้ว ธนาธร รับทราบข้อหา ม.116 แฟนคลับตะโกนให้กำลังใจ (คลิป) | เวลา 10.00 น. วันที่ 6 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางมาถึงที่ สน.ปทุมวัน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหามาตรา 116 เป็นภัยต่อความมั่นคง,ทั้งนี้ ภายในหมายเรียกออกโดย สน.ปทุมวัน โดยมีผู้กล่าวหาคือ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และผู้ถูกกล่าวหาคือ นายธนาธร ด้วยเหตุว่า ร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือด้วยวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดหรือผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม,ขณะที่บรรยากาศโดยรอบ สน.ปทุมวัน มีแฟนคลับ เดินทางมาให้กำลังใจ นายธนาธร จำนวนมากตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยดูแลความสงบเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ UN และเจ้าหน้าที่จากสถานฑูตทั้งโซนยุโรป และอเมริกา มาร่วมสังเกตุการณ์,ทั้งนี้ เมื่อมาถึง นายธนาธร ได้ขอตัวที่จะไปรับทราบข้อกล่าวหากับทางเจ้าหน้าที่ก่อน แล้วจะออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง,เมื่อถามว่า ในวันที่ 24 มิถุนายน อยู่ที่ไหน นายธนาธร ระบุว่า, ก็อยู่ตรงนี้แหละครับ กลับมาจะเล่าให้ฟัง,ข่าวที่เกี่ยวข้อง,- ,ธนาธร เล่าวินาทีเอารถตู้รับรังสิมันต์ โรม ขึ้นรถ โดนขับตามติด ยันไม่สนิทสนม | ธนาธร มาตามนัด รับทราบข้อกล่าวหา ม.116 ที่ สน.ปทุมวัน แฟนคลับมารอแต่เช้า ตะโกนให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ | ข่าว,ทั่วไทย | ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,รับทราบข้อหา,มาตรา116,เป็นภัยต่อความมั่นคง,สน.ปทุมวัน,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1538645 |
หวานได้อีก น้ำฝน ยก อาร์ม คือคนที่ดีที่สุด | โดนถามบ่อยตอบจนชินขอเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น,เป็นคู่รักที่หมั่นเติมหวานไม่ขาดทั้ง อาร์ม–พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์ กับนักแสดงสาว ,น้ำฝน–พัชรินทร์ ศรีวสุภิรมย์, จนหลายคนลุ้นแล้วลุ้นอีกว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดีลั่นระฆังวิวาห์กันซะที,เจอ น้ำฝน มาร่วมงานบวงสรวงละครเรื่อง ,ผมอาถรรพ์, ที่ช่อง 3 หนองแขม เลยต้องถามถึงความรักที่แฮปปี้จนหลายคนอิจฉา? ดีแล้วค่ะ โตแล้วก็ขอมีความสุขหน่อย ความรักของเราเป็นความรักที่เรียบง่าย มีความสุขในทุกวัน ไม่ต้องมีความสุขแค่แป๊บเดียวแล้วอยู่ดีๆหายไป,ถือว่าคนนี้ลงตัวแล้ว?, ลงตัวมากๆ พี่อาร์มคือคนที่ดีที่สุดสำหรับฝน เค้าเป็นคนใจเย็นมาก เวลาเราอยู่ใกล้ใครมากๆ เราก็จะซึมซับสิ่งต่างๆเหล่านั้นมาด้วย ฝนใจเย็นขึ้นก็เพราะเค้า,ใกล้ได้ยินข่าวดีรึยัง?, ยังค่ะ ต้องตามขั้นตอน ให้เค้าขอก่อน ไปคุยกับพ่อแม่ก่อน ขั้นตอนเหล่านี้ยังไม่ได้เกิดขึ้น เพียงแต่เราคุยกันว่าชีวิตทุกวันนี้มีความสุขนะ แต่อาจจะต้องรอเวลาที่ทุกอย่างลงตัว ตอนนี้ฝนยังทำงานเยอะ และคุณยายไม่ค่อยสบายเยอะมาก อยู่โรงพยาบาลมา 3 อาทิตย์แล้ว เราเองก็ต้องเข้าออกโรงพยาบาลทุกวัน ยังยุ่งๆกับการดูแลครอบครัว ยังไม่ถึงช่วงที่เราจะคิดถึงเรื่องของตัวเอง,อาร์มเค้าพร้อมแล้ว ติดที่เรายังไม่พร้อม?, ฝนก็พร้อม แต่ยังขรุขระ ยังอยากดูแลคุณยาย เชื่อว่าพี่อาร์มเค้าก็รู้ว่าเรายังห่วงคุณยาย ห่วงครอบครัวเยอะอยู่,คุยกันมั้ยว่าเมื่อไหร่ ยังไงดี?, ไม่ได้คุย แค่บอกไว้เฉยๆว่าสมมติว่าเราตั้งใจจะมีลูก ฝนตั้งใจจะมีลูกตอนอายุไม่เกิน 35 ปี ตอนนี้ 33 ปี ก็ใกล้แล้ว ในมุมของผู้หญิงเราอยากมีแรงเลี้ยงลูก ลูกคลอดออกมาจะได้สมบูรณ์แข็งแรง,ต้องเป็นปีหน้า ไม่งั้นจะเกินนะ? ,นั่นน่ะสิ ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) แต่อนาคตก็เป็นเรื่องไม่แน่นอน แต่ก็เห็นพี่ๆ หลายคนอยากจะมีตอน 40 ปีก็ยังทัน สมัยนี้เทคโนโลยีช่วยได้,ผู้ใหญ่ถามถึงเรื่องนี้บ้างมั้ย?, คุณพ่อ คุณแม่ไม่ได้เร่ง ไม่ได้ถามอะไร แต่ว่าคุณยาย ตอนช่วงที่ท่านยังแข็งแรง ก็ถามกับคุณแม่ว่าเมื่อไหร่ ฝั่งบ้านพี่อาร์มก็ไม่ได้เร่งผู้ใหญ่ทั้ง 2 บ้านน่ารักมาก เข้าใจ เค้าแล้วแต่เรา,พอยิ่งคุณยายป่วยท่านยิ่งไม่ถามมากขึ้นกว่าเดิมเหรอ คนแก่ยิ่งป่วยยิ่งอยากเห็นงานแต่งหลาน โดนเฉพาะหลานรัก?, ยังค่ะ ตอนนี้คุณยายป่วยถึงขั้นนอนป่วย เรายิ่งรู้สึกว่าเรายังไม่พร้อมที่จะคิดถึงเรื่องตัวเองขนาดนั้น คิดแค่ว่าจะดูแลคุณยายก่อน,แปลว่าเราไม่กะเกณฑ์ แต่ถ้าถึงวันนึงที่พร้อมก็อาจจะปุ๊บปั๊บจัดงานเลย?, ใช่ค่ะ คงไม่ได้แพลนนานขนาดนั้น,คนถามเยอะมั้ย?, เยอะมากค่ะ จนตอบเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ก็เมื่อถึงเวลา ถ้าพร้อมเค้าขอเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ. | เป็นคู่รักที่หมั่นเติมหวานไม่ขาดทั้ง อาร์ม–พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์ กับนักแสดงสาว น้ำฝน–พัชรินทร์ ศรีวสุภิรมย์ จนหลายคนลุ้น | บันเทิง,ข่าวบันเทิง | น้ำฝน พัชรินทร์,อาร์ม พิพัฒน์,อาร์ม น้ำฝน,อาร์ม น้ำฝน แฟน,อาร์ม น้ำฝน แต่งงาน,ดารา | https://www.thairath.co.th/entertain/news/1513745 |
ต้นมะพร้าวแตกยอด คล้ายเศียรพญานาค แห่ไหว้ขอโชค ให้เลขงวดก่อนถูกหลายแสน | วันที่ 15 พ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คอหวยฮือฮา หลังทราบข่าวว่า มีต้นมะพร้าวแตดยอดอ่อน มีลักษณะคล้ายเศียรพญานาค ที่บ้านเลขที่ 165 ม.1 ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ ของ นางรุ่งมณี บุญมูล อายุ 33 ปี ซึ่งเจ้าของบ้าน และเพื่อนบ้าน ก็เพิ่งถูกเลขสลาก ไปเมื่องวดที่ผ่านมา รวมกันหลายแสนบาท ,ซึ่งหลังข่าวแพร่ออกไป ต่างก็มีคอหวย พากันเดินทางนำธูปเทียน ดอกไม้ น้ำหวาน ขนมหวาน ไปกราบไหว้ต้นมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์เตี้ยต้นนี้ ที่แตกกิ่งรูปร่างคล้ายเศียรพญานาค 3 เศรียร จำนวนมาก,จากการสอบถาม นางรุ่งมณี ทราบว่า ต้นมะพร้าวน้ำหอมต้นนี้ ได้ซื้อมาปลูกมาไว้เมื่อ 2 เดือนแล้ว กระทั่งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ต้นมะพร้าวแตกยอดอ่อนออกมา มีลักษณะคล้ายกับหัวพญานาค 3 หัว ซึ่งก่อนหน้าที่ต้นมะพร้าวจะแตกกิ่งคล้ายพญานาค มีเพื่อนบ้านฝันเห็นว่า ตรงที่ดังกล่าวว่า มีพราหมณ์แต่งชุดขาว และมีศาลเจ้าอยู่ตรงที่ดังกล่าว ตรงกับฝันของสามีตน เห็นพราหมณ์ชุดขาวและเด็ก 2 คน มาวิ่งเล่นอยู่บนบ้าน ซึ่งตนและสามีเชื่อว่าจะนำโชคมาให้ครอบครัว ซึ่งเพื่อนบ้านที่รู้ข่าวต่างก็พากันมาทำพิธี จุดธูป ขอเลข ขอโชค ขอลาภ จนถูกหวยกันไปตามๆ กัน,สำหรับเลขเด็ดงวดนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นตรงกันคือเลข 16,65 ซึ่งตรงกับเลขที่บ้านคือ 165. | มาแล้วเลขเด็ดต้นมะพร้าวเศียรพญานาค ของสาวอำนาจเจริญ หลังเคยให้โชค ถูกสลากกันรวมหลายแสนบาท เผยก่อนแตกยอดสามีฝันแปลก ส่วนงวดนี้ ชาวบ้านเห็นตรงกัน 16,65 ซึ่งตรงกับเลขที่บ้าน | ข่าว,ทั่วไทย | ต้นมะพร้าวแตกยอด,ยอดมะพร้าว,พญานาค,อำนาจเจริญ,เลขเด็ด | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/942203 |
ขนส่งฯ เร่งส่งมอบเสื้อวินจยย.แบบใหม่ทั่วกรุง 7หมื่นราย | ขนส่งทางบก เร่งส่งมอบเสื้อวินแบบใหม่ทั่วกรุง 7หมื่นราย คาดส่งมอบได้ครบภายในเดือนมี.ค.นี้ ด้านกองทัพกร้าว หากตรวจพบวินใดให้เช่า-ขายเสื้อวินต่อ เพิกถอนสิทธิ์-ยกเลิกป้ายเหลืองเป็นป้ายดำทันที พร้อมเปิดลงทะเบียนรอบ2 ให้คนที่อยากขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ,เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 58 นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงผลการดำเนินการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะในเขตกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ ให้สามารถประกอบอาชีพได้ถูกต้องตามกฎหมาย และเกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการว่า หลังจากที่ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนขอจัดตั้งวินใหม่ และเพิ่มคนในวินเดิม มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 57 ปรากฏว่า มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มาลงทะเบียนจำนวน 5,679 วิน และมีผู้ขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะมาลงทะเบียนจำนวน 104,134 ราย และได้นำคำขอทั้งหมดเข้าสู่คณะกรรมการประจำพื้นที่ เพื่อพิจารณาเห็นชอบการจัดตั้งสถานที่จอดรอผู้โดยสาร (การจัดตั้งวิน) และออกหนังสือรับรองการใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะ เพื่อใช้ประกอบการยื่นขอจดทะเบียนรถ และลงทะเบียนเพื่อรับเสื้อวินแบบใหม่ ที่แสดงบัตรประจำตัวและหมายเลขประจำตัวที่ถูกต้องนั้น,สำหรับผลการดำเนินการจนถึงปัจจุบัน พบว่า มีรถจักรยานยนต์สาธารณะที่จดทะเบียน กับกรมการขนส่งทางบกแล้วกว่า 91,874 คัน มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะเข้าลงทะเบียน เพื่อขอรับบัตรประจำตัวและหมายเลขเสื้อวินแบบใหม่จำนวน 73,997 ราย คิดเป็นร้อยละ 71.0 ของจำนวนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีอยู่ในระบบทั้งหมด 104,134 ราย โดยกรมการขนส่งทางบกดำเนินการส่งมอบเสื้อวินแบบใหม่แล้ว จำนวนกว่า 25,000 ตัว ทำการกระจายส่งมอบไปยังเขตต่างๆ โดยขณะนี้มีเขตที่ได้รับแจกเสื้อวินไปแล้วกว่า 90% ได้แก่ เขตบางรัก เขตปทุมวัน เขตคลองเตย เขตบางนา เขตบางแค เขตหนองแขม เขตบางพลัด เขตราษฎร์บูรณะ และเขตบางขุนเทียน,อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบกจะเร่งดำเนินการจัดส่งเสื้อวินให้ทุกเขต จนครบถ้วนภายในเดือนมีนาคม 58 นี้ สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ยังไม่ได้มาลงทะเบียน เนื่องจากอาจติดขัดปัญหา เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ของตัวรถ หรือปัญหาการไม่ได้รับอนุญาตจัดตั้งวินนั้น ทางกรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป หลังจากนี้กรมการขนส่งทางบก จะควบคุมการให้บริการของรถจักรยานยนต์สาธารณะ โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เช่น รถจักรยานยนต์สาธารณะทุกคัน จะต้องติดป้ายเหลืองที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ส่วนรถป้ายดำจะถูกจับกุม รวมทั้งผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กับเสื้อวินจะต้องมีข้อมูลที่ตรงกันและถูกต้อง,ทั้งนี้ ขอเชิญชวนให้ประชาชนเลือกใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้อง ตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้องจะได้รับการอบรมเกี่ยวกับ กฎจราจร มารยาทการขับขี่รถจักรยานยนต์ และผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากร จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนได้รับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ,นอกจากนี้รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมายจะสังเกตได้จาก แผ่นป้ายทะเบียนรถ ซึ่งต้องเป็นสีเหลืองและเสื้อวิน พร้อมบัตรติดเสื้อแบบใหม่เท่านั้น หากพบเห็นว่ามีการฝ่าฝืนเอาเปรียบผู้โดยสาร หรือพบรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ไม่ปลอดภัย สามารถจดรายละเอียดเบื้องต้น เกี่ยวกับวันเวลา สถานที่เกิดเหตุ หมายเลขทะเบียนรถ แจ้งที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด,ด้านพันเอกวณัฐ ลักษณสิริ รองเสนาธิการ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพได้เข้ามาร่วมจัดระเบียบรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างทั่วไป ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก ตำรวจในท้องที่, เทศกิจ มาตั้งแต่ปี 57 และได้จัดระเบียบวินมอเตอร์ไซค์ผิดกฎหมายที่มีผู้อิทธิพลคุ้มครองกว่า 88 วิน ให้หมดไปจากระบบที่มีกว่า 5,000 วินแล้ว พร้อมยืนยันว่า หลังจากที่ได้มีการมอบเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ที่ถูกต้อง ให้ครบทุกคนที่มาขึ้นทะเบียนแล้ว หากมีการตรวจพบว่า ยังมีคนขับขี่มอเตอร์ไชค์รับจ้างคนใด ที่มีเสื้อวินถูกกฎหมายแต่ยังเอาเสื้อไปปล่อยเช่า หรือขายต่อ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจพบหรือรับร้องเรียน และสอบสวนว่าเป็นจริง ทางกองทัพจะประสานให้ขนส่งทางบก ถอนสิทธิ์ ยึดใบอนุญาตรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ และถอนทะเบียนจากป้ายเหลืองเป็นป้ายดำทันที. | ขนส่งทางบก เร่งส่งมอบเสื้อวินแบบใหม่ทั่วกรุง 7หมื่นราย คาดส่งมอบได้ครบภายในเดือนมี.ค.นี้ ด้านกองทัพกร้าว หากตรวจพบวินใดให้เช่า-ขายเสื้อวินต่อ เพิกถอนสิทธิ์-ยกเลิกป้ายเหลืองเป็นป้ายดำทันที พร้อมเปิดลงทะเบียนรอบ2 | null | เสื้อวินจักรยานยนต์,เสื้อวินมอไซค์ใหม่,เสื้อวินแบบใหม่,กรมการขนส่งทางบก,รถจักรยานยนต์สาธารณะ,ธีระพงษ์ รอดประเสริฐ,อธิบดีกรมการขนส่งทางบก,พันเอกวณัฐ ลักษณสิริ,รองเสนาธิการ,กองพลที่ 1 รักษาพระองค์,ยกเลิกป้ายเหลือง,จัดระเบียบวิน,มอเตอร์ไซค์รับจ้าง,วินมอไซค์,มอเตอร์ไซค์,เสื้อวิน,ลงทะเบียนเสื้อวิน | https://www.thairath.co.th/content/481810 |
หวีดร้องลั่น นาทีแผ่นดินไหว ขนาด 7.3 เขย่าเวเนซุเอลา เตือนสึนามิ (คลิป) | ชาวเวเนซุเอลาสุดตระหนก เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.3 ทางภาคเหนือ แรงสั่นสะเทือนไกลถึงกรุงการากัส และเมืองหลวงโคลอมเบีย อีกทั้งยังทำให้ไฟดับในบางพื้นที่ของตรินิแดด ก่อนต่อมาจะเกิดแผ่นดินไหว 6.7 เขย่าวานูอาตู,เมื่อ 22 ส.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.3 เขย่าเมืองอิราปา เมืองชายฝั่งทางภาคเหนือของเวเนซุเอลา ประเทศชายฝั่งทางเหนือของทวีปอเมริกาใต้ เมื่อเวลาประมาณ 17.32 น. ของวันอังคารที่ 21 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนสั่นสะเทือน ประชาชนพากันวิ่งหนีออกจากอาคารบ้านเรือนด้วยความตื่นตระหนก และแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้หลายประเทศแถบชายฝั่งทะเลแคริบเบียน,ข่าวแจ้งว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวยังรับรู้ได้ไกลถึงกรุงการากัส เมืองหลวง ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวถึง 622 กิโลเมตร เช่นเดียวกับ กรุงโบโกตา เมืองหลวงโคลอมเบีย และทำให้กระแสไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ของตรินิแดด,ขณะที่ สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ ระบุ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ขนาด 7.3 อยู่ลึกจากพื้นดิน 123 กิโลเมตร โดยยังไม่มีรายงานมีผู้เสียชีวิต หรือ บาดเจ็บจากธรณีพิโรธ ขณะที่ ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิก ได้ออกคำเตือนเบื้องต้น ให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลของเวเนซุเอลา ตลอดจนตรินิแดดและโตเบโก และประเทศเกรนาดา ระวังอันตรายอาจเกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดชายฝั่งหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง,นอกจากนั้น ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดิโอจากกล้องวงจรปิด ในซุปเปอร์มาร์เก็ต แห่งหนึ่ง บันทึกนาทีที่ผู้คนที่มาซื้อของ หวีดร้องด้วยความหวาดกลัวขณะเกิดแผ่นดินไหว ,ต่อมา มีรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 เขย่าทางเหนือเกาะแอมบริม ในวานูอาตู ประเทศหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อเช้าวันพุธที่ 22 ส.ค. โดยสำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (USGS) ระบุ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากปลายเกาะแอมบริม ทางตอนเหนือเพียงไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น. | ชาวเวเนซุเอลาสุดตระหนก เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.3 ทางภาคเหนือ แรงสั่นสะเทือนไกลถึงกรุงการากัส และเมืองหลวงโคลอมเบีย ก่อนต่อมาจะเกิดแผ่นดินไหว 6.7 เขย่าวานูอาตู
| ข่าว,ต่างประเทศ | แผ่นดินไหว,แผ่นดินไหว เวเนซุเอลา,แรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว,เวเนซุเอลา,วานูอาตู | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1359779 |
ถ่ายแบบแค่อาชีพเสริม ริกะ ยันไม่ทิ้งหน้าที่หลักบนสังเวียนแน่นอน | ที่มีชื่อเสียงและแฟนคลับติดตามเธอจำนวนมาก,วันที่ 24 พ.ค.62 ด้วยบุคลิกและความสดใสน่ารักสไตล์ลูกครึ่งญี่ปุ่น ทำให้ ริกะ เป็นที่ชื่นชอบทั้งแฟนกีฬาศิลปะการต่อสู้และผู้ชมทุกเพศทุกวัย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากจะมีงานแสดงหรือถ่ายแบบติดต่อให้เข้าไปร่วมงานด้วยอยู่เรื่อยๆ,ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าตัวเปิดเผยว่า สำหรับงานถ่ายแบบต้องเรียกว่าเป็นจ๊อบพิเศษค่ะ เพราะ ริกะ ไม่ใช่นางแบบอาชีพ จะมีงานถ่ายแบบเสื้อผ้าบ้าง ซึ่งเรารู้สึกว่าน่าสนใจดี เหมือนมุมของเด็กผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวและถ่ายรูป แต่ยังไม่ได้ยึดเป็นอาชีพหลัก บอกตรงๆ ว่าทุกครั้งที่ไปถ่ายแบบจะตื่นเต้น และเกร็งกับการโพสต์ท่าถ่ายแบบที่ไม่ใช่ตัวเราเอง,การรับงานถ่ายแบบของ ริกะ ค่อนข้างเลือกมากทีเดียว อย่างแรกคือต้องไม่ใช่งานโป๊เปลือย ถ้าเป็นชุดว่ายน้ำจะเน้นแนวสปอร์ตมากกว่า ริกะ จะเลือกถ่ายแบบที่เป็นตัวเรา และอยากสื่อให้คนเห็นในมุมของเรา ซึ่งไม่ใช่ตัวแทนของความเซ็กซี่ ที่ชอบจริงๆ มีหลายสไตล์อย่างแฟชั่น สตรีต ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเป็นแนวสปอร์ตและเซ็กซี่มีบ้าง แต่น้อยมากจริงๆ ส่วนแนวหวานฟรุ้งฟริ้งก็เคยมีนะ อีกแนวที่อยากถ่ายคือหลุดโลก ดูอาร์ตๆ หรือแอ็บสแตรกต์,บอกตรงนี้เลยว่า ริกะ ชอบการเป็นนักกีฬามากกว่า การจะอยู่ต่อหน้ากล้องโพสต์ท่าใส่อินเนอร์ แอ็กติ้ง เห็นอย่างนี้ ริกะ เขินนะคะ อีกอย่างกลัวว่าทำได้ไม่ดี เพราะไม่ใช่งานถนัดสำหรับริกะเลย แต่การเป็นนักกีฬาเป็นการใช้ความรู้สึกของเราจริงๆ มันมีความเป็นตัวเราอยู่แล้ว แต่ถ้ามีงานถ่ายแบบ ถ่ายละคร เอ็มวี หรืออื่นๆ ติดต่อเข้ามา เราก็จะพิจารณาตามความเหมาะสม และเป็นตัวเองจริงๆ ทำแล้วรู้สึกเอ็นจอยและสบายใจดีกว่า,ยืนยันอย่างหนักแน่นแล้ว สำหรับ ริกะ อิชิเกะ ที่มีใจมุ่งมั่นให้กับการเป็นนักกีฬา MMA ผู้สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นตัวแทนของสาวรักสุขภาพและการออกกำลังกาย,นอกจากนี้ ริกะ ยังได้เปิดช่องยูทูบของตัวเอง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวไลฟ์สไตล์และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งแฟนๆ สามารถติดตามได้ทางยูทูบแชแนล Rika TinyDoll ส่วนผลงานของเธอบนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ติดตามได้ทางเฟซบุ๊ก ONE Championship และ www.onefc.com | ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ไทนี่ ดอลล์ ริกะ อิชิเกะ คือนักกีฬาสาวไทยสุดฮอตคนแรกและคนเดียว แห่งสังเวียนมิกซ์ มาร์เชียล อาร์ตสระดับอาชีพ วัน แชมเปียนชิพ | กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์ | ริกะ อิชิเกะ,วัน แชมเปียนชิพ,ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น,ไทนี ดอลล์ | https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1577293 |
ศิวกร สอนเชิงเด็ด ชนะคะแนนเพชรนิรันดร์ มวยคู่เอกลุมพินี |
,วันที่ 12 พ.ค. 60 ศึกมวยไทยเมกาไฟต์ เพชรหนุ่มน้อย ที่สนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา คู่เอก ศิวกร เกียรติเจริญชัย พบกับ เพชรนิรันดร์ ดาบรันสารคาม,ศิวกร เกียรติเจริญชัย ฝ่ายแดง เคยเสมอกับ เพชรนิรันดร์ ดาบรันสารคาม ฝ่ายน้ำเงิน มาแล้วครั้งหนึ่ง แบบดุเดือด แต่หนนี้ ศิวกรมาดีมาก ดักวางแข้งสลับแทงเข่าจน เพชรนิรันดร์ เข้าไม่ติด ครบ 5 ยก กรรมการรวมคะแนนแล้วชูมือให้ศิวกรชนะคะแนนไปแบบสบายๆ,ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้,ทับทิมทอง ส.จ.เล็กเมืองนนท์ ชนะคะแนน เฮอริเคน เคซ่ายิม,คมไผ่ ส.จุลเสน ชนะคะแนน ทองพูน ศิษย์พนันเชิง,รุ่งรัตน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ชนะน็อกยก 4 เพชรมะกอก ศิษย์ดาบไหม,ราฟฟี่ สิงห์ป่าตอง (ฝรั่งเศส) ชนะน็อกยก 4 ยอดอาวุธ ก้าวไกลยิมส์,ขุนพล พยัพคำพันธ์ ชนะน็อกยก 3 วุฒิชัย หยกขาวแสนชัยมวยไทยยิม,ขาวสนิท ดราก้อนมวยไทยยิม ชนะคะแนน ปฏักเพชร ซินบีมวยไทย,ก้องฟ้า ส.อุสมาน ชนะคะแนน วรพล ไผ่ดงยิม,สองพยัคฆ์ ศิษย์ก้องพยัคฆ์ ชนะคะแนน ก้องขุนหาญ ศิษย์ลมหนาว | คู่เอก ศึกมวยไทยเมกาไฟต์ เพชรหนุ่มน้อย ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ผลจบลงด้วยชัยชนะของ ศิวกร เกียรติเจริญชัย ที่ออกอาวุธจะแจ้งมากกว่า ก่อนจะเอาชนะคะแนน เพชรนิรันดร์ ดาบรันสารคาม ไปขาดลอย
| กีฬา,มวย/MMA | มวยลุมพินี,มวยไทย,ศิวกร เกียรติเจริญชัย,เพชรนิรันดร์ ดาบรันสารคาม,ศึกมวยไทยเมกาไฟต์ เพชรหนุ่มน้อย | https://www.thairath.co.th/sport/boxing-mma/939478 |
อดิศักดิ์ ขอสอง เมืองทอง บุกถล่มชลบุรี 3-0 นำจ่าฝูงต่อ | การแข่งขันศึกฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2016 นัดที่ 25 ของฤดูกาล ประจำวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2559 โดยคู่ที่น่าสนใจที่สนามชลบุรี สเตเดียม ซึ่งเป็นเกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี อันดับ 7 ของตาราง เปิดรับมือทีมจ่าฝูง กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ,เปิดฉากครั้งแรกมาได้เพียงแค่ 1 นาที พลพรรคกิเลนผยองก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว เมื่อ ธีรศิลป์ แดงดา จ่ายตัดแนวรับเจ้าถิ่นให้กับ อดิศักดิ์ ไกรษร แตะบอลหลบผู้รักษาประตูชลบุรีเข้าไปยิงง่าย ๆ ,จากนั้นในนาที 19 เมืองทองฯ หนีห่างออกไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา กระชากบอลขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนโยนไปที่เสาสองให้กับ ไมเคิล เอ็นดรี ล็อกบอลหนึ่งจังหวะก่อนตะบันมุมแคบเข้าไปอย่างสวยงาม ,นาทีที่ 30 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสได้ประตูตีไข่แตก เมื่อ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ รับบอลหลุดมือมาเข้าทาง คิม จอง พิล ยิงสวนตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจังหวะฟาวล์ของผู้เล่นชลบุรีไปก่อน ,แต่ในนาทีที่ 42 ทีมจ่าฝูงก็ขยับหนีออกไปอีกครั้งเป็น 3-0 ชนาธิป สรงกระสินธ์ พาบอลขึ้นมาหน้าประตูเจ้าถิ่น ก่อนไหลใส่พานให้กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ยิงเล่นทางเข้าไป และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้,กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 53 ชลบุรี ได้ลุ้นตีไข่แตก จากจังหวะที่ ปกเกล้า อนันต์ ซัดด้วยขวาในเขตโทษ บอลแฉลบผู้เล่นเจ้าถิ่นออกหลังไป,ถัดมานาทีเดียว ชลบุรี พลาดได้ประตู จากจังหวะที่ ชลทิตย์ จันทคาม เปิดบอลเข้าเขตโทษด้านซ้าย แอนเดอร์สัน ดอส ซานโต๊ส ขึ้นโหม่งย้อยเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว,จากนั้น นาทีที่ 57 เมืองทองได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ ธีรศิลป์ แดงดา ปั่นด้วยขวา บอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว,ถึงนาทีที่ 77 เมืองทองน่าได้ประตูที่ 4 จากจังหวะที่ ไมเคิล เอ็นดรี ได้ยิงในเขตโทษ แต่กองหลังของชลบุรี สกัดทิ้งออกจากเส้นได้หวุดหวิด,และในนาทีที่ 80 เมืองทองน่าได้ประตูเพิ่มสุดๆ จากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา โซโล่เดี่ยวเข้าเขตโทษ ก่อนล้มตัวยิงด้วยซ้าย แต่ ธณชัย หนูราช นายด่านชลบุรี เซฟออกไปได้,ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 62 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงต่อไป | อดิศักดิ์ ไกรษร ทำ 2 ประตู ช่วยให้ กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี 3-0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ นำเป็นจ่าฝูงศึกโตโยต้า ไทยลีก 2016 ต่อไป | null | ชลบุรี เอฟซี,เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,ไทยลีก 2016,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์ | https://www.thairath.co.th/content/677398 |
เร่งขึ้นรูปบันไดนาคติดพระเมรุ ยิ่งใหญ่สุด | ที่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ถนนพุทธมณฑลสาย 5 วันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาทิ ภาพจิตรกรรมฝาผนังโครงการพระราชดำริ 46 โครงการของในหลวงรัชกาลที่ 9 เตรียมนำมาติดตั้งใน 3 ด้านของพระที่นั่งทรงธรรม โดยมีนักศึกษาจากวิทยาลัยช่างศิลป์ สถาบันพัฒนศิลป์ และวิทยาลัยเพาะช่าง สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ช่วยลอกลายมาขยายเพื่อเขียนบนผ้าไวนิลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีส่วนของการจัดสร้างฉากบังเพลิงที่วิจิตรบรรจง โดยมีนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ เดินทางมาร่วมเขียนในฐานะจิตอาสา,ขณะเดียวกันในส่วนประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ หนึ่งในจำนวนชิ้นงานที่กำลังขึ้นรูปและมีความงดงามได้รับการจับตามองมากที่สุด คือ ครุฑยืน ความสูง 2 เมตร ชิ้นที่ 2 ของนายพิทักษ์ เฉลิมเล่า ประติมากรรมชำนาญการสำนักช่างสิบหมู่ ที่ครั้งนี้สร้างสรรค์ผลงานโดยออกแบบครุฑที่มีรูปกายเป็นนกอินทรี มือถือดอกบัวถวายแด่พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประดับด้วยสังวาลนาค,อีกด้านหนึ่งที่โรงเรียนศิลปะธนบุรี นายสมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างศิลปกรรมอาวุโส กลุ่มงาน ศิลปะประยุกต์และเครื่องเคลือบดินเผา สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เปิดเผยความคืบหน้าการจัดสร้างประติมากรรมประดับพระเมรุมาศในส่วนของบันไดนาคและประติมากรรมท้องไม้พระเมรุมาศองค์ประธาน กรมศิลปากร มอบหมายให้ศูนย์ศิลปาชีพ เกาะเกิด จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จ.อ่างทอง จัดสร้างว่า การจัดสร้างราวบันได และประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ มี อ.สุดสาคร ชายเสม เป็นผู้ออกแบบและควบคุมทุกขั้นตอนการจัดสร้างยึดหลักการออกแบบอย่างยิ่งใหญ่ให้สมพระเกียรติ บันไดนาคชั้นที่ 1 นาคเศียรเดียว รูปแบบศิลปะรัตนโกสินทร์ ได้ต้นแบบจากเรือพระที่นั่ง อนันตนาคราช มีขนาดยาว 2.10 เมตร จำนวน 8 ตัว ทำพิมพ์ หล่อไฟเบอร์ ขัดตกแต่ง ทำสีแล้ว อยู่ระหว่างประดับเลื่อมลงยา ส่วนบันไดนาคชั้นที่ 2 เหราพด เป็นนาคสามเศียร ความยาว 2.50 เมตร อ้างอิงจากประติมากรรมนาคพบที่เตาวัดมะปรางค์ จ.สิงห์บุรี รูปแบบศิลปะสมัยสุโขทัย จำนวน 8 ตัว ขณะนี้กำลังทำพิมพ์ และทยอยหล่อไฟเบอร์ ในส่วนของบันไดนาคทั้ง 2 ชั้น คืบหน้ากว่าร้อยละ 70,นายสมชายกล่าวอีกว่า ส่วนบันไดนาคชั้นที่ 3 นาคทรงเครื่อง 5 เศียร พญาวาสุกรีนาคราช เป็นนาคสวมมงกุฎยอดชัย ความยาว 4.45 เมตร ต้นแบบจากราวบันไดนาควัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี ศิลปะสมัยอยุธยา จำนวน 8 ตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างปั้นต้นแบบ ใส่เครื่องประกอบ ขณะที่บันไดนาคชั้นที่ 4 ชั้นพระเมรุมาศองค์ประธานเป็นชั้นที่สำคัญที่สุด เป็นนาคนิรมิตพญาอนันตนาคราช มี 7 เศียร ต้นแบบจากปราสาทพระเทพบิดร ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ความยาว 5.80 เมตร จำนวน 8 ตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างการขึ้นรูปลำตัวโดยแต่ละเศียรเป็นหน้าเทวดาตามคัมภีร์พระนารายณ์บรรทมสินธุ์บนแท่นพญาอนันตนาคราช อ.สุดสาคร กำลังร่างต้นแบบเศียรให้ลงตัว ภาพรวมความคืบหน้า ในส่วนของบันไดนาค,นอกจากนี้ยังทยอยจัดสร้างบันไดชั้นส้าง เป็นนาคเศียรเดียว ความยาว 3.40 เมตร จำนวน 8 ตัว โดยส้างเป็นอาคารสี่เหลี่ยมหลังคายอดสำหรับพระสงฆ์สวดอภิธรรม ตั้งอยู่ 4 มุมเมรุ ออกแบบนาคโดยยึดปรัชญาธรรม ตัวพญานาคได้ถูกมกรกลืนกินเข้าไปเปรียบชีวิตที่ถูกเวลากลืนกินทุกขณะ รูปแบบจะคล้ายบันไดขึ้นธรรมาสน์,การจัดสร้างราวบันไดนาคประดับพระเมรุมาศ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ถือเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมไทยที่วิจิตรบรรจงมากที่สุด ยังไม่เคยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าบันไดนาคพระเมรุมาศสมัยใดยิ่งใหญ่เท่านี้ และเป็นครั้งแรกที่มีการประดับเลื่อม เป็นพลาสติกสังเคราะห์เคลือบสีสันต่างๆ นักเรียนศิลปาชีพตัดตามขนาดและลวดลายที่กำหนด ก่อนประดับเลื่อมเพื่อให้ประติมากรรมนาคมีความงดงาม นายสมชายกล่าว,นายสมชายกล่าวว่า นอกจากนี้ นักเรียนศูนย์ศิลปาชีพจะจัดสร้างเทพชุมนุมฐานไพทีนั่งราบ 27 แบบ หล่อจำนวน 108 องค์ ขนาดสูง 70 เมตร ประกอบด้วยครุฑพนมนั่งราบ ยักษ์พนมนั่งราบ พานรพนมนั่งราบ และเทวดาพนมนั่งราบ ขณะนี้ปั้นต้นแบบครุฑพนมและยักษ์พนมเสร็จแล้ว กำลังทำพิมพ์ ส่วนเทวดาพนมและพานรพนมอยู่ระหว่างปั้นต้นแบบ โดยทั้ง 27 แบบ รูปแบบจะไม่เหมือนกันเลย เพื่อใช้เป็นต้นแบบทั้ง 4 ด้าน ขณะนี้ อ.สุดสาคร ทยอยออกแบบให้ครบถ้วน งานประติมากรรมประดับ พระเมรุมาศ ยังมีเทพพนมนั่งส้น จำนวน 28 องค์ ขนาดสูง 70 เมตร และครุฑยุดนาค จำนวน 28 องค์ ขนาดสูง 60 เซนติเมตร รวมถึงเทพพนมแกะไม้กลีบลายพระโกศ ขนาดเล็กสูง 15 เซนติเมตร จำนวน 56 องค์ และขนาดใหญ่สูง 19 เซนติเมตร จำนวน 24 องค์ ซึ่งนักเรียนศูนย์ศิลปาชีพ 2 แห่งทำทั้งหมด,ส่วนที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรม มหาราชวัง นับเป็นวันที่ 146 ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ภาคเอกชน คณะบุคคลต่างๆ ร่วมเป็น เจ้าภาพบำเพ็ญกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังสิ้นสุดพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร 100 วัน ขณะที่ สำนักพระราชวัง สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ว่า มีจำนวน ทั้งสิ้น 20,158 คน รวม 225 วัน มี 7,680,638 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล รวมทั้งสิ้น 601,660,642.51 บาท | ช่างฝีมือของกรมศิลป์ ร่วมกับกลุ่มจิตอาสา นักศึกษาด้านศิลปะจากสถาบันต่างๆ เร่งรัดจัดทำส่วนประกอบสำคัญต่างๆของพระเมรุมาศให้แล้วเสร็จทันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในเดือน ต.ค. | ข่าว,ทั่วไทย | พระเมรุมาศ,บันไดนาค,ถวายพระเพลิงพระบรมศพ,ครุฑยืน,จิตรกรรมฝาผนัง,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/975302 |
น้ำป่ามาไว หลากท่วมบ้านชาวคึกคักวูบเดียว เสียหายกว่า 15 หลัง | (ภาพจาก สุชาติ ไกรเลิศ),น้ำป่าจากเทือกเขาหลัก-เขาโตน ไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน 15 หลังคาเรือนใน ต.คึกคัก จ.พังงา ส่งผลให้ทรัพย์สิน เครื่องใช้ไฟฟ้าของชาวบ้านพังเสียหาย,เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืนในพื้นที่จังหวัดพังงา ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาหลัก-เขาโตน ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน จำนวน 15 หลังคาเรือน ในพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านปากวีป ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา อย่างรวดเร็วจนชาวบ้านไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทัน,ทั้งนี้ส่งผลให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายทั้งที่นอน เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เสื้อผ้า รถจักรยานยนต์ ถูกน้ำไหลเข้าท่วม ซึ่งสาเหตุเกิดจากฝนตกหนักตลอดทั้งคืนทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมมาก ประกอบกับเส้นทางที่น้ำไหลผ่านมีเศษไม้ เศษขยะอุดตันท่อระบายน้ำ จึงทำให้น้ำไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลคึกคัก และหน่วยกู้ภัยปากวีป ได้ลงพื้นที่สำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน,นายสุชาติ ไกรเลิศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 กล่าวว่า สาเหตุการเกิดน้ำป่าไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนจำนวน 15 หลังคาเรือน สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมมาก ประกอบกับเส้นทางที่น้ำไหลผ่านมีเศษขยะ เศษไม้ขวางทางน้ำ และท่อระบายน้ำที่มีขนาดเล็ก ทำให้น้ำไหลผ่านไม่สะดวกจึงได้ไหลเข้าท่วมบ้านประชาชนทำให้ทรัพย์สินเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่นอน ได้ถูกน้ำท่วมเสียหาย ขณะนี้ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ปกติแล้ว โดยทางอำเภอตะกั่วป่าอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย เพื่อเสนอถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป.,** ,เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม, ** | น้ำป่าจากเทือกเขาหลัก-เขาโตน ไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน 15 หลังคาเรือนใน ต.คึกคัก จ.พังงา ส่งผลให้ทรัพย์สิน เครื่องใช้ไฟฟ้าของชาวบ้านพังเสียหาย | null | น้ำป่า,น้ำป่าไหลหลาก,เทือกเขาหลัก-เขาโตน,คึกคัก,ตะกั่วป่า,พังงา | https://www.thairath.co.th/content/746371 |
ไปเที่ยวโคราชกัน ทุ่งคอสมอสวัดโป่งดินสอ บานสะพรั่งรับลมหนาว | เมื่อวันที่ 27 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศในช่วงนี้พื้นที่ จ.นครราชสีมามีสภาพอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ช่วงเช้า และเย็น อุณหภูมิในช่วงเช้ามืดและกลางคืนอยู่ประมาณไม่ถึง 20 องศาฯ ส่วนกลางวันประมาณกว่า 20 องศาฯ เล็กน้อย นอกจากนี้พืชสวนไม้ดอกหลายแห่งกำลังอยู่ในช่วงเบ่งบานสวยงาม มีประชาชนต่างพาครอบครัว บุตรหลานไปพักผ่อนท่องเที่ยวชมธรรมชาติกันอย่างคึกคักในหลายจุด อาทิ ที่วัดโป่งดินสอ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีนักท่องเที่ยวพากันไปชมทุ่งดอกคอสมอสกันอย่างคึกคักท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น ลมเย็นพัดเบาๆ แสงแดดอ่อนๆ ทำให้ร่างกายอบอุ่น ซึ่งทุกคนต่างยืนรับแดดกันสบายใจ ,ทั้งนี้ ทุ่งคอสมอสดังกล่าวนี้ทางพระภิกษุและสามเณรวัดโป่งดินสอ ได้ร่วมกันปลูกขึ้นบนเนื้อที่จำนวน 5 ไร่ บริเวณท้ายวัด เพื่อปรับปรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยปุ๋ยที่ได้จากต้นคอสมอส สำหรับใช้ทำการปลูกต้นไม้สร้างความร่มรื่นให้กับพื้นที่วัดในอนาคต ซึ่งช่วงนี้ต้นคอสมอสที่ปลูกได้โตเต็มที่ และกำลังออกดอกบานสะพรั่งเต็มทุ่งพื้นที่ 5 ไร่ เมื่อมองมุมกว้างจะเห็น สีสันสวยงาม ทั้งสีส้มและสีเหลือง ประกอบกับช่วงนี้อากาศในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กำลังหนาวเย็นต่อเนื่อง เมื่อดอกคอสมอสต้องลมหนาว จะพลิ้วไหวสวยงาม โดยมีฉากหลังเป็นเจดีย์ของวัดโป่งดินสอ ทำให้มีนักท่องเที่ยวพาครอบครัวมาเที่ยวชม และถ่ายรูปเซลฟี่แชร์ในโลกโซเชียลกันอย่างคึกคัก. | ทุ่งดอกคอสมอส 5 ไร่ วัดโป่งดินสอ จ.นครราชสีมา บานสะพรั่งรับลมหนาว และพลิ้วไหวโอนอ่อนไปตามสายลม นักท่องเที่ยวแห่ชม ถ่ายรูปไปลงโซเชียลเน็ตเวิร์กกันคึกคัก | ข่าว,ทั่วไทย | ทุ่งดอกคอสมอส,วัดโป่งดินสอ,นครราชสีมา,ต้นคอสมอส,อากาศหนาว,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1137447 |
จนท. ตรวจพบปั้มน้ำมันไม่มีคุณภาพ 11 แห่งในจ.สตูล | รถโมบายของหน่วยตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงกระทรวงพลังงาน เข้าตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง ตามสถานีบริการต่างๆ ในจังหวัดสตูล เพื่อสุ่มตรวจหาค่าน้ำมันและสิ่งเจือปน หลังพบมีการลักลอบนำน้ำมันเถื่อนคุณภาพต่ำเข้ามาจำหน่ายในประเทศจำนวนมากนายวิชาญกรณ์ประภาวิทย์ หัวหน้าพลังงานจังหวัดสตูล ระบุว่า การตรวจสอบปั้มน้ำมันในจังหวัดสตูล ซึ่งขึ้นทะเบียน ทั้งหมด 60 แห่ง พบว่าในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา สุ่มตรวจพบปั้มไม่มีคุณภาพ 11 แห่ง ซึ่งลักลอบนำน้ำมันเถื่อนราคาถูกมาผสมและถูกสั่งปิดแล้ว 1 แห่ง ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างดำเนินการส่วนเจ้าของรถยนต์ในพื้นที่ส่วนใหญ่บอกว่าจะนำรถเข้าเติมน้ำมันในสถานีบริการ เพราะมั่นใจในคุณภาพ และเชื่อว่าไม่มีสิ่งเจือปนในน้ำมัน โดยจะตรวจสอบว่าสถานีบริการผ่านการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พลังงานหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกจากผู้ค้าน้ำมัน | ปัญหาการลักลอบนำน้ำมันเถื่อนเข้ามาจำหน่ายในหลายจังหวัดภาคใต้โดยเฉพาะที่จังหวัดสตูล ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในสถานีบริการทุกแห่ง เพื่อป้องกันการนำน้ำมันเถื่อนเข้ามาปลอมปน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบปั้มน้ำมันไม่มีคุณภาพ 11 แห่ง | เศรษฐกิจ | คุณภาพ,ตรวจสอบ,น้ำมันเถื่อน,ปั้มน้ำมัน,ภาคใต้,สตูล | https://news.thaipbs.or.th/content/125350 |
คปพ.ค้าน สนช.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม | วันนี้ (30 มี.ค.2560) เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) รวมตัวเพื่อเข้ายื่นหนังสือต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พร้อมทั้งเคลื่อนไหวแสดงจุดยืนคัดค้านกฎหมายปิโตรเลียม ที่จะมีการนำร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม 2 ฉบับ เข้าที่ประชุม สนช.พิจารณาลงมติให้ความเห็นชอบนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ตัวแทน คปพ. ยืนยันว่า ไม่ได้มาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล แต่ถือเป็นวาระสำคัญ เพราะกังวลว่า หากร่าง พ.ร.บ.ผ่านความเห็นชอบของ สนช. ทั้งที่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องกรอบเวลาการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ จะกระทบต่อการแข่งขันด้านพลังงานปิโตรเลียมโดยเสรี รวมทั้งจะทำให้เกิดการเอื้อประโยชน์และผูกขาดเอกชนรายเดิม หลังจากสัมปทานปิโตรเลียมกว่า 40 ปี กำลังจะหมดอายุสัมปทาน ทั้งแหล่งเอราวัณที่จะหมดอายุสัญญาสัมปทานในปี 2565 และแหล่งบงกชที่จะหมดอายุสัญญาสัมปทานในปี 2566 หากอยู่ภายใต้กฎหมายเดิมที่ไม่สามารถต่ออายุสัมปทานใน 2 แหล่งนี้ให้กับผู้รับสัมปทานรายเดิม ทรัพย์สินทั้งหมดของผู้รับสัมปทาน ได้แก่ แท่นขุดเจาะปิโตรเลียม อุปกรณ์ที่ใช้ในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม จะตกเป็นกรรมสิทธิ์อย่างสมบูรณ์แก่รัฐทั้งนี้ คปพ.เรียกร้องให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อกำหนดรายละเอียดการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันข้ามชาติให้ชัดเจน ก่อนต่ออายุสัมปทานทั้ง 2 แหล่ง หรือก่อนการสำรวจแหล่งพลังงานรอบใหม่ โดยแก้ไขกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ และมีมาตรการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องอย่างไรก็ตาม คปพ.เตรียมเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล หาก สนช.มีมติเห็นชอบผ่านร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยและสังเกตการณ์โดยรอบอาคารรัฐสภา | เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย เรียกร้อง สนช.ถอนร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม แปรญัตติ 4 ประเด็น เพื่อให้มีการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ก่อนเปิดสัมปทานปิโตรเลียมและการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่ พร้อมแก้ไขระบบประมูลแข่งขันป้องกันการผู | การเมือง | ไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBS,คปพ.,เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย,พ.ร.บ.ปิโตรเลียม,บรรษัทน้ำมันแห่งชาติ | https://news.thaipbs.or.th/content/261265 |
รองหัวหน้า คสช.ยันไม่มีการทุบรื้อทำเนียบ-จะปรับปรุงให้ดีขึ้น-ไม่มีเลวร้าย | ม.ล.ปนัดดา ยันปรับปรุงทำเนียบยึดสถาปัตยกรรมเดิม และเป็นไปตามแนวทางพอเพียง15 ก.ค. 2557 - รายงานวันนี้ (15 ก.ค.) ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ คสช. กล่าวว่า จะไม่มีการ ทุบ หรือ รื้อถอน สิ่งก่อสร้างภายในทำเนียบรัฐบาล และไม่มีนโยบายเข้าแทรกแซง หรือ ย้ายสถานที่ทำงานของสื่อมวลชน โดยยังคงให้ปฎิบัติงานในรังนกกระจอกได้เช่นเดิม เนื่องจาก ที่ผ่านมา มีเพียงนโยบายให้ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเท่านั้นส่วนการย้ายศูนย์แถลงข่าว ประจำทำเนียบรัฐบาล ไปยังตึกบัญชาการ 2 เป็นเพียงแนวคิดที่ยังไม่ได้ข้อยุติ จึงขอย้ำว่าการปรับปรุงครั้งนี้ จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่มีอะไรที่แย่ หรือ เลวร้ายลง สำหรับงบประมาณที่ใช้ แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ยืนยันว่าไม่ถึง 300 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอนด้าน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้รับทราบแผนการปรับปรุงอาคารสถานที่ ภายในทำเนียบรัฐบาล และได้กำชับว่า การปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเป็นไปตามสถาปัตยกรรมเดิม ซึ่งการดำเนินการต้องมีการหารือร่วมกับกรมศิลปกร กรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงต้องเป็นไปตามแนวทางพระราชดำรัสเรื่องความพอเพียง ประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรังนกกระจอกสถานที่ทำงานของสื่อมวลชน ซึ่งมีการก่อสร้างเพื่อให้เป็นสถานที่ทำงานให้มาตั้งแต่ปี 2522 ก็ไม่มีการทุบ หรือย้ายสถานที่ทำงานแต่อย่างใดก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. มีรายงานข่าวในว่า ในแผนการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล นอกจากการย้ายศูนย์แถลงข่าวตึกนารีสโมสร ไปอยู่ที่ตึกบัญชาการ 2 จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์แล้ว ยังมีแผนการรื้อห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 1 หรือรังนกกระจอกเก่า เพื่อใช้พื้นที่ทำเป็นสวนหย่อมสำหรับพักผ่อน และย้ายให้สื่อมวลชนทั้งหมดไปรวมกันอยู่ที่ห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 2 โดยจะขอฟังความเห็นจากสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามเมื่อมีกระแสข่าวออกไป ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และกระแสต่อต้านจากสื่อมวลชน เนื่องจากรังนกกระจอกถือเป็นห้องปฏิบัติการสื่อมวลชนที่อยู่คู่กับทำเนียบรัฐบาล จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2522 ส่วนการเพิ่มห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 2 ก็เพื่อลดความแออัดของจำนวนสื่อมวลชน เนื่องจากมีปริมาณเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ปัจจุบัน | พล.ต.อ.อดุลย์ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ คสช. ยืนยันว่าไม่มีการทุบ-รื้อสิ่งก่อสร้างในทำเนียบรัฐบาล สื่อมวลชนยังทำงานได้ในรังนกกระจอก ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องงบแต่ใช้ไม่ถึง 300 ล้านแน่ๆ ส่วน | การเมือง | คสช.,ทำเนียบรัฐบาล,ปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล,ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล,สื่อมวลชน,อดุลย์ แสงสิงแก้ว | https://prachatai.com/journal/2014/07/54579 |
ไม่แก้สปอตโฆษณาพรรคสามัญชน เลิศศักดิ์ยืนยัน เผด็จการทหาร คือความจริง ซัด กกต. เปราะบางเกินไป | เลิศศักดิ์ยืนยันพูดตามข้อเท็จจริง ซัด กกต. เปราะบางเกินไป28 ก.พ. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น วิรอน จิไชยวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 21 และ ภัทราภรณ์ แก่งจำปา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 22 จ.เลย พรรคสามัญชนพร้อมด้วยประชาชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดจังหวัดเลย 20 คน ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ กกต. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จังหวัดเลย ตามที่มีหนังสือเรียกเพื่อขอให้ปรับแก้ไขสปอตโฆษณาพรรคการเมืองโดยหลังจากทางผู้สมัคร ส.ส. พรรคสามัญชนทั้ง 2 เขต ได้เข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ กกต. แล้วได้เปิดเผยว่า จากเดิมที่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาทางโทรศัพท์เพื่อขอให้ตัดคำว่า เผด็จการทหาร และ โซ่ตรวน ออกจากสปอตโฆษณาพรรคการเมือง ที่ทางพรรคได้ยื่นขอการสนับสนุนจาก กกต. เพื่อเผยแพร่ผ่านทางวิทยุ เนื่องจากทาง กกต. เห็นว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ข้อที่ 8 วรรควัสดุเผยแพร่สำหรับการออกอากาศที่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองจัดทำตามวรรคหนึ่ง ต้องใช้ข้อความ ถ้อยคำที่สุภาพและรูปแบบที่เหมาะสม ไม่ใส่ร้ายหรือเสียดสีบุคคลหรือพรรคการเมืองใด ไม่ขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่หลังจากที่ได้เข้าพูดคุย ทาง กกต. ขอเปลี่ยนแปลงคำว่า เผด็จการทหาร ให้เหลือเพียงแค่ เผด็จการ เพราะเห็นว่าเป็นคำที่เสียดสี และเป็นภัยต่อความั่นคง ส่วนคำว่า โซ่ตรวน สมารถใช้ได้ตามเดิม อย่างไรก็ตามผู้สมัคร ส.ส. พรรคสามัญชน ยืนยันว่าจะไม่ปรับแก้ตามที่ กกต. ระบุ รายงานด้วยว่า พ.ต.ท.สันติ ขั้นพิภพ หัวหน้างานพรรคการเมือง ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนและพรรคการเมือง กล่าวว่า ทาง กกต.จังหวัดเลย ให้โอกาสผู้สมัครแต่ละพรรคที่ทำสปอตหาเสียงส่งทางสถานีวิทยุ ชี้แจงนโยบายให้ประชาชนรับทราบทั่วๆ ไป แต่หลังจากตรวจสอบพบมีพรรคสามัญชนส่งสปอตมาและพบบางข้อความไม่เหมาะสม จึงเรียกให้ผู้สมัครมาชี้แจงและตกลงว่าพอจะปรับเปลี่ยนข้อความได้หรือไม่ ซึ่งคำว่าเผด็จการทหารเป็นการระบุ เพราะคำว่าเผด็จการไม่จำเป็นต้องเป็นทหาร ทั่วๆ ไปก็เป็นเผด็จการได้ จึงอยากให้ใช้คำที่นุ่มนวล ไม่ต้องระบุ เพียงแต่ใช้คำว่าเผด็จการโดยตัดคำว่าทหารออก ในเรื่องนี้แม้ว่าผู้สมัครยังคงยืนยันไม่ตัดออกก็ออกสปอตได้ แต่ผู้สมัครต้องรับผิดชอบเอง กรณีมีคนร้องเรียนมา ทาง กกต. ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่อไปด้านเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หัวหน้าพรรคสามัญชนให้สัมภาษณ์กับประชาไทว่า การกระทำของ กกต. ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเปราะบาง และความหวั่นเกรงผู้มีอำนาจมากเกินไป การที่พรรคใช้คำว่า เผด็จการทหาร นั้นไม่ได้เป็นคำที่เกินเลยข้อเท็จจริงแต่อย่างใด และที่สำคัญบริบททางการเมืองในเวลานี้เองก็อยู่ภายใต้การปกครองของเผด็จการทหาร | กกต. จังหวัดเลยขอให้พรรคสามัญชนเปลี่ยนคำว่า เผด็จการทหาร ในสปอตโฆษณาพรรค เป็นคำว่า เผด็จการ แทน ชี้เป็นคำที่นุ่มนวลกว่า หากไม่เปลี่ยนก็ได้แต่ถ้ามีผู้ร้องเรียนต้องรับผิดชอบเอง | การเมือง,สิทธิมนุษยชน | เผด็จการ,เผด็จการทหาร,เลือกตั้ง 62,เลือกตั้ง,พรรคสามัญชน,กกต.,เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ | https://prachatai.com/journal/2019/02/81263 |
ยรรยง ยืนยันระบายข้าวผ่านช่องทางประมูลเหมาะสมที่สุด | ธกส.15 ก.พ. 2557 รายงานว่านายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังนำคณะสำรวจตรวจสอบโกดังโรงสีข้าวกลางเจี่ยเม้ง และโกดังข้าวทรัพย์เกษตรสยาม อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ทั้ง 2 แห่งเป็นโกดังเก็บข้าวสารสตอกของรัฐบาล ทั้งฤดูเก่าและใหม่ ซึ่งมีปริมาณข้าวสารเก็บฝากอยู่ที่ 24820.4 ตัน แยกเป็นของเจี่ยเม้ง 13694.87 ตัน และโกดังทรัพย์เกษตรสยาม 11125.53 ตัน โดย จ.พระนครศรีอยุธยา มีจำนวนข้าวเปลือกตั้งแต่ปี 2554 ทั้งนาปีและนาปรัง และแปลงเป็นข้าวสารแล้วทั้งสิ้น 406631 ตัน โดยมีโกดังกลาง 59 แห่งทั้งนี้ การมาสำรวจครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ โดยเฉพาะชาวนาทั่วประเทศได้รับทราบว่า ข้าวสารสตอกของรัฐบาลที่เก็บฝากไว้ยังมีปริมาณครบถ้วน ไม่มีปัญหาการสูญหายในโกดังตามที่มีกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้ รวมถึงเพื่อต้องการตรวจวัดคุณภาพข้าวในโกดังทั้ง 2 แห่งด้วยว่า มีคุณภาพข้าวเป็นอย่างไรบ้าง เพราะขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการนำข้าวในสตอกออกมาระบายทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการระบายแบบเปิดประมูลเป็นการทั่วไป การประมูลขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟท) และอีกหลายช่องทาง เพื่อให้ได้เงินจากการขายข้าวครั้งนี้ส่งคืนหน่วยงานต่างๆ เพื่อชำระเงินค่าข้าวให้กับเกษตรกรชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินค่าข้าวในการจำนำข้าวกับรัฐบาลต่อไปนายยรรยง กล่าวว่า รัฐบาลไม่ขัดข้อง หากเกษตรกรชาวนา นักวิชาการ หรือหน่วยงานต่างๆ จะมาดูข้าวของรัฐบาลที่เก็บฝากไว้ในโกดังและไซโล 1735 คลังทั่วประเทศ ที่มีข้าวกว่า 10 ล้านตัน ยังอยู่ครบถ้วน ไม่สูญหาย ดังนั้น ฝากผู้ที่จะมาดูขอให้เป็นบุคคลที่มีความรู้เกี่ยวกับข้าว เพราะข้าวไทยมีหลายชนิด ซึ่งการดูแลรักษาข้าวของรัฐทุกโกดังมีมาตรการเข้มงวดทุกขั้นตอน และไม่อยากตำหนิสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ออกมาให้ข่าวยืนยันโครงการรับจำนำข้าวมีพฤติกรรมโกงทุกขั้นตอน โดย สตง.มีหน้าที่ตรวจเงิน ไม่ใช่ตรวจข้าว หากมากล่าวหาเช่นนี้ ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย และหากจะมาตรวจภาระหนี้ค้างต่างๆ รัฐบาลพร้อมให้มีการตรวจสอบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ ข้าวรัฐบาลที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติและเกิดเพลิงไหม้ มีจำนวน 10 โกดัง กว่า 600 ตัน เป็นมูลค่าเพียง 7.2 ล้านบาท ซึ่งได้ทำประกันไว้ทุกแห่ง และขณะนี้รัฐบาลพยายามที่จะเร่งระบายข้าวทุกช่องทาง โดยยืนยันเกษตรกรชาวนาจะได้รับเงินค่าข้าวที่รัฐบาลค้างอยู่ ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ เป็นต้นไปส่วนข้อเสนอของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการหาเงินมาจ่ายค่าจำนำข้าวให้กับชาวนา โดยเสนอว่า รัฐบาลควรปล่อยให้ชาวนานำข้าวไปขายให้กับโรงสีราคาตลาด จากนั้นรัฐบาลก็จ่ายเงินค่าปัจจัยการผลิตชดเชยส่วนต่างเข้าบัญชีชาวนาโดยตรง โดยกำหนดราคากลางไว้ที่ตันละ 12000 บาท เช่น หากชาวนาขายข้าวได้เกวียนละ 8000 บาท รัฐก็ชดเชยให้ 4000 บาทเท่านั้น อยากให้ผู้เสนอกลับไปคิดมาใหม่ แล้วใครจะรับผิดชอบกรณีการขนถ่ายหรือขนส่งข้าวออกจากโกดัง ซึ่งปัญหาทางปฏิบัติมีมาก ดังนั้น วิธีการที่ดี คือ การเร่งระบายผ่านช่องทางประมูลต่างๆ จะเหมาะสมที่สุดนอกจากนี้สยังรายงานอีกว่าธนาคารออมสิน จะแถลงข่าวเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ให้กับ ธ.ก.ส.วันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานใหญ่ หลังมีกระแสข่าวว่า ธนาคารปล่อยเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. นำไปจ่ายให้ชาวนาตามโครงการรับจำนำข้าว โดยมี ก.คลัง ค้ำประกัน | ยรรยง พร้อมเปิดโกดังให้ผู้มีความรู้เรื่องข้าวพิสูจน์ ย้ำ ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินชาวนา 17 ก.พ. ยืนยันวิธีระบายข้าวผ่านช่องทางประมูลต่างๆ เหมาะสมที่สุด ธ.ออมสินแถลงพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) กรณีข่าวปล่อยกู้ | การเมือง,เศรษฐกิจ | จำนำข้าว | https://prachatai.com/journal/2014/02/51801 |
เต็มๆ ตา มิสเวเนซุเอลา ลีลาเด็ดขาด | จากเวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนล Miss International 2015 ,เวเนซุเอลาเป็นมหาอำนาจทางนางงาม เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อมากๆ ว่ามีนางงามมากมายก่ายกองที่สุดอีกประเทศหนึ่งของโลก โดยเฉพาะเวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนล สาวงามจากเวเนซุเอลาเคยชนะได้ตำแหน่งที่ 1 มาแล้วถึง 7 คน คือปี 1985 Alejandrina Sicila Hernandes, ปี 1997 Consuelo Adler, ปี 2000 Vivian Ines Urdaneta Rincon, ปี 2003 Goizeder Azua, ปี 2006 Daniela Di Giacomo, ปี 2010 Elizabeth Mosquera และปีล่าสุด 2015 คือ Edymar Martinez ,ช่วงเก็บตัวหลายสัปดาห์ที่โตเกียว ญี่ปุ่น เอดีมาร์ มาร์ติเนซ (Edymar Martinez) ได้รับการจับตา ว่าเป็นตัวเต็งมาตั้งแต่แรกๆ แล้ว ควบคู่กับนางงามจากไทยแลนด์ ศศิ สินทวี เรียกว่าแข่งขันกันสวยสะดุดตา บันเทิงไทยรัฐออนไลน์นำภาพชุดสุดเซี๊ยะของ เอดีมาร์ มาร์ติเนซ (Edymar Martinez) มาให้ชมแบบเต็มๆ อีกครั้ง เธอสวยจัดทุกมุมมอง สะกดทุกคนบนเวที ด้วยท่วงท่าลีลาที่โดดเด่น เพราะเธอเป็นนางแบบมืออาชีพมาก่อน ด้วยส่วนสูง 177 บวกกับรูปร่างที่เป๊ะสุดๆ B90 / W62 / H90 ที่สำคัญเธอทำได้โอเคทั้งสามชุดประกวด คือ ชุดราตรี, ชุดว่ายน้ำ และ ชุดประจำชาติ ผสมกับการตอบคำถามที่เตรียมตัวมาอย่างค่อนข้างดี มงกุฎมิสอินเตอร์เนชั่นแนลปีนี้ เธอจึงคว้ามาได้อย่างสวยงาม. | ไม่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด มิสเวเนซุเอลา เอดีมาร์ มาร์ติเนซ (Edymar Martinez) สวยสะเด็ดคว้าใจคณะกรรมการได้ที่ 1 | null | ศศิ มิสอินเตอร์เนชั่นแนล,มิสเวเนซุเอลา,มิสอินเตอร์เนชั่นแนล,Edymar Martinez,เอดีมาร์ มาร์ติเนซ,Edymar martinez Miss International 2015,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์,ประกวดนางงาม,ศศิ สินทวี miss international 2015,Miss International Thailand 2015,ศศิ,Miss International 2015 | https://www.thairath.co.th/content/537737 |
แม่เลี้ยงเดี่ยว สวมครุยอุ้มลูก เล่าประสบการณ์ชีวิตเคยปั๊มนมในห้องเรียน | เฟซบุ๊ก ,Sunartpich Fontang, ซึ่งเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ได้เล่าประสบการณ์ลงในกลุ่ม ,HerKid รวมพลคนเห่อลูก, ว่า รอบนี้ขออวดทุกความลำบากสำหรับการอดทนของแม่และลูกได้ไหมคะ เรียนจบแล้วจ้า ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,จำได้ว่าเรียนไปปั๊มนมในห้องเรียน ตอนกลางวันอาจารย์เปิดห้องให้เราปั๊มนมและพกกับข้าวจากบ้านมากินทุกวัน (แม่กินอาหารนอกบ้านไม่ได้ ลูกชายแพ้อาหารหลายอย่างค่ะ ทำให้แม่กินไม่ได้ไปด้วย เพราะให้นมลูก) กินเสร็จแล้วก็ไปเรียนต่อ ไม่เคยได้เจอเพื่อน ต้องรีบกลับบ้านหาลูก สนุกไปอีกแบบค่ะ (ตอนมีลูกเราเรียนอยู่ปี 4 พอดี),บางวันก็เอาลูกไปเรียนด้วย หอบลูกไปด้วย (โชคดีที่ก่อนมีลูก เราเก็บวิชาเรียนจนเกือบครบหมดแล้วค่ะ ปีสุดท้ายเหลือเหลือแค่ 1 วิชากับฝึกงานที่ รพ.ศิริราช การหอบลูกไปไหนมาไหนจึงไม่เป็นอุปสรรคกับแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้) ฝ่าฟันกันมา ทั้งเรียนทั้งฝึกงาน ทั้งหน้าที่แม่เลี้ยงเดี่ยว เราจบแล้วค่ะ แม่วัย 24 ลูก 2.10 ปี,ป.ล.ธรรมศาสตร์มีแต่เรียนภาคปกตินะคะ จ.-ศ. เรียนแบบทั่วไปเลยค่ะ อดทนหน่อย เหนื่อยหน่อย แต่คุ้มที่ตั้งใจค่ะ พลาดแล้วต้องทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปให้ได้ นี่คือสาเหตุที่ให้ลูกใส่ชุดครุยธรรมศาสตร์ด้วย การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมันไม่ง่ายเลยจริงๆ เราต่อสู้โรคซึมเศร้าตั้งแต่ก่อนมีลูกค่ะ ไม่ดราม่าชุดครุยธรรมศาสตร์นะคะ.,(,โพสต์ต้นฉบับ,), , ,Sunartpich Fontang | แม่เลี้ยงเดี่ยวคนเก่ง วัย 24 ปี สวมชุดครุยรับปริญญา เล่าประสบการณ์ตอนเรียนปีสุดท้าย ต้องปั๊มนมในห้องเรียน บอกพลาดแล้วต้องทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปให้ได้ | ข่าว,สังคม | แม่เลี้ยงเดี่ยว,รับปริญญา,มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์,แรงบันดาลใจ,ข่าวโซเชียล,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/society/1535663 |
กกต. เตรียมเครื่องโหวตอิเล็กทรอนิกส์ต้นแบบ ที่เขตราชเทวี รองรับประชามติร่างรธน. | ที่ประชุมพิจารณาเรื่องการเลือกตั้งด้วยเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะจัดทำแผนพัฒนาเครื่องลงคะแนนใน 3 ระดับ คือ ระยะสั้น 1 ปี ระยะกลาง 5 ปี และระยะยาว 10 ปีเพื่อให้ทันกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ กกต.จะใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ต้นแบบ ในหน่วยออกเสียงประชามติ 2 หน่วย ในเขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงประมาณ 1600 คน จะทำให้ผู้มาใช้สิทธิได้มีโอกาสเลือกรูปแบบการออกเสียง และเป็นการทดสอบระบบเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ ว่าสามารถตรวจสอบได้ และให้เกิดความไว้ใจ ซึ่งจะเป็นการโชว์ศักยภาพของหน่วยเลือกตั้งในอนาคต สมชัย กล่าวว่าสมชัย กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีการหารือถึงการพัฒนาแอพพลิเคชั่นดาวเหนือในโทรศัพท์มือถือ ใช้งบกว่า 100000 บาท เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง สามารถโหลดแอพพลิเคชั่น แล้วกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ก็จะทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยเลือกตั้ง ที่ตั้งหน่วย ลำดับการใช้สิทธิ์ รวมทั้ง แผนที่นำทางไปยังหน่วยเลือกตั้งที่บุคคลนั้นมีสิทธิ แต่อาจจะใช้ได้ในเขตเมือง ไม่ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลจะเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ให้เสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ และหากมีการทำประชามติในเดือน ม.ค. 2559 ก็จะเป็นครั้งแรก ที่ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติจะได้ใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าว และถือว่าเป็นประเทศแรกในโลก ที่ใช้แอพพลิเคชั่นอำนวยความสะดวก และลดความยุ่งยากให้กับผู้มีสิทธิออกเสียง สมชัย กล่าวขณะที่วานนี้(21 ก.ค.58) สมชัย แถลงว่า ที่ประชุม กกต. มีมติให้ทำจดหมายถึงกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเนื่องจากพบว่ามีบางประเด็นสำคัญไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือ กรณีที่ กกต.มีมติให้ใบเหลือง-ใบแดงในการเลือกตั้งซึ่งเดิมตามรัฐธรรมนูญ 2550 ระบุไว้ว่าเมื่อศาลรับคำร้องใบเหลือง-ใบแดงจาก กกต.แล้ว ส.ส. และ ส.ว.ที่ถูกร้องต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที ดังนั้น กกต. จะเสนอเรื่องนี้ไปยัง กมธ.ยกร่างฯ รวมทั้งจะให้หมายรวมถึงกรณีให้ใบเหลือง-ใบแดง ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเพิ่มเข้าไปด้วยถ้าร่างฉบับนี้ไม่มีประโยคดังกล่าว ถ้าคนๆ นั้นได้เข้าสู่ตำแหน่งและสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จะส่งผลเสียหายเป็นอย่างมาก อาจใช้ตำแหน่งหน้าที่ข่มขู่พยาน ยกตัวอย่างกรณีการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 คนที่ กกต. ให้ใบแดงอยู่ในตำแหน่งประธานรัฐสภา กว่าจะถูกศาลให้ใบแดงต้องใช้เวลาถึง 7 เดือน จนถึงขณะนี้ระยะเวลาผ่านมา 8 ปี คนที่เป็นพยานยังไม่สามารถกลับเข้าพื้นที่ได้ เป็นต้น สมชัย กล่าว | 22 ก.ค.2558 สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการเลือกตั้ง ว่า | การเมือง | กกต.,การให้ใบเหลืองใบแดง,ประชามติ,ร่างรัฐธรรมนูญ,สมชัย ศรีสุทธิยากร,เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ | https://prachatai.com/journal/2015/07/60494 |
อิสราเอลผ่าน ก.ม.ความเป็นรัฐชาติ | สำหรับ ชาวอาหรับที่เป็นชนกลุ่มน้อยนั้นใช้ภาษาอารบิกเป็นภาษาราชการ ส่วนภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางธุรกิจที่ใช้กันโดยทั่วไป,ตัวเลขของผู้นับถือศาสนาต่างๆในรัฐอิสราเอลน่าสนใจครับ ผู้คนที่นั่นนับถือศาสนายิวร้อยละ 75 มุสลิม 17.7 คริสต์ 2 ดรูซ 1.6 ส่วนที่เหลือนับถือศาสนาอื่น,สิ่งที่เกิดขึ้นในอิสราเอลในช่วงหลังที่ทำให้โลกตกใจมีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือสหรัฐฯตัดสินใจเป็นชาติแรกที่ย้ายสถานทูตของตนจากกรุงเทลอาวีฟไปนครเยรูซาเล็ม เมื่อ 14 พฤษภาคม 2561 ซึ่งมีเสียงคัดค้านอื้ออึงจากทั่วโลก และมีการประท้วงทำให้กองทัพอิสราเอลฆ่าคนไปจำนวนไม่น้อย,เรื่องที่ 2 เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม 2561 ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติของรัฐอิสราเอล ซึ่งมีชื่อว่า สภาคเนสเซ็ท มีมติเสียงข้างมากผ่านร่าง พ.ร.บ.ความเป็นรัฐชาติที่ว่าด้วยอิสราเอลคือดินแดนมาตุภูมิของคนยิวมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์,หลังจากที่ร่างกฎหมายนี้ถูกบังคับใช้ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง อย่างแรกคือ ภาษาอารบิก ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ภาษา ราชการของอิสราเอลจะถูกลดสถานะลงอย่างมาก แต่รัฐบาลอิสราเอลก็ออกมายืนยันว่า พวกคุณยังใช้ภาษาอารบิกในการสื่อสารกันภายในหรือระหว่างองค์กรที่เป็นพวกอาหรับที่มีเชื้อชาติอาหรับในอิสราเอล,ชนเชื้อสายอาหรับที่อยู่ในรัฐอิสราเอลต่อไปในอนาคตก็จะลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกตัดสิทธิ ถูกเหยียดเชื้อชาติและศาสนา แม้ว่าจะมีประชากรเกือบ 2 ล้านคน เลือก ส.ส. เชื้อชาติอาหรับเข้าไปในสภาคเนสเซ็ท ความมี ส.ส. จำนวนน้อยก็ทำอะไรไม่ได้มาก ญัตติต่างๆที่เสนอขึ้นไปก็แพ้ตลอด,แต่เดิม แผ่นดินทางแถบนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกอาหรับปาเลสไตน์ ส่วนพวกยิวนั้นได้กระจัดพลัดพรายแตกกระสานซ่านเซ็นออกไปจากแผ่นดินนี้เป็นพันปีแล้ว พวกยิวต้องไปมีชีวิตตกระกำลำบากจากการถูกรังเกียจเดียดฉันท์ ไปอยู่ในประเทศไหนก็มักจะถูกเจ้าของแผ่นดินเดิมขจัด เคยโดนถึงขนาดถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยุคที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ปกครองเยอรมนี ระหว่าง พ.ศ.2476-2488 ผู้อ่านท่านที่เคารพก็คงจะจำเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่า ฮอโลคอสต์ ได้นะครับ,ชาวยิวค่อยๆกลับไปซื้อที่ดินในตะวันออกกลางจากชาวปาเลสไตน์ จนกระทั่ง พ.ศ.2490 สหประชาชาติลงมติรับแผนการแบ่งแผ่นดินตรงแถบนี้ออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นรัฐอาหรับ และรัฐอิสราเอล โดยให้นครเยรูซาเล็มอยู่ในความควบคุมของหลายชาติ การถูกแบ่งออกเป็น 2 รัฐ โดยสหประชาชาตินี้ พวกยิวเอาด้วย แต่พวกอาหรับปาเลสไตน์ต่อต้าน,ขณะที่อาหรับกำลังเงอะๆงะๆ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี คนยิวก็ประกาศตั้งรัฐอิสราเอล พวกอาหรับก็รวมตัวกันโจมตีอิสราเอลจนเกิดสงครามอาหรับ-อิสราเอล เมื่อ พ.ศ.2491 อาหรับแพ้ ทำให้ อิสราเอลได้ครอบครองดินแดนส่วนใหญ่ที่เคยเป็นอดีตดินแดนอาณัติ,โลกพยายามแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ทั้งประเทศมหาอำนาจและไม่มหาอำนาจ จัดให้มีการลงนามข้อตกลงออสโล การมีแผนสันติภาพ การประชุมสุดยอดแอนแนโพลิส และมีกระบวนการแก้ไขปัญหาอะไรอีกมากมาย แต่ก็ไม่เคยได้ผล สุดท้ายก็เหมือนกับว่าโลกโดยเฉพาะมหาอำนาจพยายามซื้อเวลาให้อิสราเอล บั้นปลายท้ายที่สุด อิสราเอลเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์ ได้ทำตามที่ตนมุ่งหวังตั้งใจแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยมีสหรัฐฯใช้อิสราเอลเป็นเครื่องมือของตนเองเพื่อสร้างอิทธิพลและแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากร,70 ปีที่แล้ว ตอนที่ตั้งรัฐอิสราเอลใหม่ๆ พวกอาหรับรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น แต่เมื่อวันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป ความเป็นอาหรับและการนับถือศาสนาอิสลามเหมือนกันก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก ไม่มีใครยึดถือ 2 สิ่งนี้เป็นสรณะจริงจัง,เวลาหมุนไปเรื่อยๆ ความเป็นอาหรับปาเลสไตน์มีสถานะด้อยลงไป แต่ความเข้มแข็งของชาวยิวกลับเพิ่มขึ้น.,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย,[email protected], | รัฐอิสราเอลมีประชากร 8.3 ล้านคน ร้อยละ 75 มีเชื้อชาติยิว ที่เหลืออีกร้อยละ 25 ส่วนใหญ่เป็นชาวอาหรับ ภาษาที่เป็นทางการที่ใช้ในอิสราเอลมี 2 ภาษา คือ ภาษาฮีบรู | null | รัฐอิสราเอล,ชาวอาหรับ,ศาสนายิว,เปิดฟ้าส่องโลก,นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย | https://www.thairath.co.th/news/foreign/1339875 |
กระทรวงพลังงานเตรียมเผยผลสอบน้ำมันรั่ว หลังจากที่เลื่อนมาจากสัปดาห์ก่อน | กระทรวงพลังงานเตรียมเปิดเผยผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามข้อสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวง ซึ่งคุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเป็นประธาน ว่าความผิดพลาดเกิดจากเจ้าหน้าที่หรืออุปกรณ์ทั้งนี้การเผยผลสอบเลื่อนมาจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากยังขาดรายละเอียดบางประเด็น ทั้งนี้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รมว.พลังงานย้ำว่า คณะกรรมการทำงานด้วยความอิสระ ปราศจากการแทรกแซงส่วนความคืบหน้าการฟื้นฟูทะเลและชายหาด ในจังหวัดระยอง กรมควบคุมมลพิษจะส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บตัวอย่างน้ำทั้ง 12 หาด เป็นเวลา 3 สัปดาห์ จากนั้นจะเก็บตัวอย่างต่อเนื่องทุก 3 เดือน จนถึงประมาณปีหน้าหลังจากที่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม กรมควบคุมมลพิษ รายงานว่าทะเลบริเวณอ่าวพร้าว มีปริมาณสารปรอทในน้ำอยู่ที่ 2.9 และอ่าวทับทิมมีปริมาณสารปรอท 0.25 ไมโครกรัมต่อลิตร เกินค่ามาตรฐานที่ 0.1 ไมโครกรัมต่อลิตร โดยเตือนให้นักท่องเที่ยวเลี่ยงการเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าวขณะที่วันที่ 14 สิงหาคม เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย นำโดยนายอิฐบูรณ์ อ้นวงศ์ษา ยื่นข้อเรียกร้องต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมประกาศแถลงการณ์ให้รัฐบาลหยุดขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และยกเลิกมติ ครม.ให้กลุ่มปิโตรเคมีใช้แอลพีจีจากโรงแยกก๊าซ โดยให้ภาคครัวเรือน และยานยนต์เป็นผู้ใช้ลำดับแรก ส่วนที่เหลือจึงให้อุตสาหกรรม และปิโตรเคมีรวมทั้งให้ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบต้นทุนราคาแอลพีจี โดยมีตัวแทนจากภาคประชาชนเข้าร่วมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง พร้อมทั้งให้จัดตั้งคณะกรรมการปฎิรูปพลังงานแห่งชาติขึ้นโดยเร็วขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี และมีภาคประชาชน และนักวิชาการอิสระมากกว่าครึ่งหนึ่งของคณะกรรมการ ทั้งหมดเพื่อเสนอนโยบาย และแผนบริหารกิจการพลังงานของประเทศ ข้อเรียกร้องนี้จะมีการติดตามผลภายใน 7 วัน โดยวันที่ 23 สิงหาคม จะมีการนัดชุมนุมที่บริเวณหน้าบริษัท ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิตขณะเดียวกันให้ละเว้นการเลือกปฎิบัติเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจปิโตรเคมีถูกจัดเก็บในอัตรา 1 บาทต่อกิโลกรัม แต่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ จัดเก็บกิโลกรัมละ 12 บาท ขณะ เดียวกันให้ยกเลิกนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปชดเชยราคาแอลพีจีให้กับโรงกลั่นน้ำมันเพื่อจูงใจให้โรงกลั่นนำแอลพีจีออกมาขายมากขึ้น | กระทรวงพลังงาน เตรียมเผยผลสอบสวน กรณีเหตุการณ์น้ำมันดิบของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล รั่ว ไหลในทะเล จังหวัดระยอง ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ พบปริมาณสารปรอทเกินค่ามาตรฐานในน้ำทะเลบริเวณอ่าวพร้าว และอ่าวทับทิม | สังคม | OilSlip,กระทรวงพลังงาน,น้ำมันรั่ว,ปรอท,ระยอง,อ่าวพร้าว | https://news.thaipbs.or.th/content/189679 |
มวยถูกคู่ | ผู้จัดการทีมชาวสแปนิช ที่จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน หงส์แดง ลิเวอร์พูล จากการคอนโทรลของ เยอร์เกน คลอปป์ เทรนเนอร์เลือดเบียร์,อย่างที่ผมจั่วหัวไว้ว่า มวยถูกคู่ เป็นเพราะว่ายอดทีมแห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม ยุคที่ผลัดเปลี่ยนจาก 22 ปี อาร์แซน เวนเกอร์ มาสู่ อูไน เอเมรี ที่ตอนแรกสื่อหลายสำนักต่างคาดเดาไปในทิศทางเดียวกันว่าทีมจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับและก้าวขึ้นมาสู่ทีมที่มีผลงานระดับท็อปอีกครั้ง,และยิ่งผลงาน 2 นัดในลีกพวกเขาออกสตาร์ตด้วยการแพ้รวดทั้งสองนัด (เปิดบ้านแพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-2, บุกแพ้ เชลซี 2-3) ก็มีประเด็นขึ้นมาทันทีว่าพวกเขาจะหลุดท็อปโฟร์อีกซีซั่นหรือเปล่า,แต่ทว่าหลังจากนั้นจนถึงตอนนี้ลูกทีม อูไน เอเมรี ก็ไม่เคยสะกดคำว่าแพ้อีกเลย พร้อมทั้งเดินหน้าเก็บชัยชนะแบบเงียบๆ โผล่พรวดมาอีกทีก็รั้งอันดับที่ 4 ในลีกได้แล้ว ที่สำคัญตามหลัง เชลซี ทีมอันดับ 3 เพียง 2 คะแนน และ 2 ทีมนำอย่าง แมนฯ ซิตี้ และลิเวอร์พูล ที่มี 26 คะแนนเท่ากันเพียง 4 แต้มเท่านั้น ซึ่งตอนนี้พวกเขาสร้างสถิติชนะรวด 11 นัดติดต่อกันก่อนที่จะเพิ่งเสียสถิติดังกล่าวในเกมที่เสมอ คริสตัล พาเลซ,ขณะที่ ลิเวอร์พูล ปีที่แล้วพวกเขาเป็นทีมที่มีแนวรุกที่เรียกได้ว่าร้อนแรงไม่แพ้ใครในโลก แต่ทว่าแนวรับที่ปวกเปียกทำให้ผลงานของทีมไม่คงเส้นคงวาแต่ปีนี้ เยอร์เกน คลอปป์ ปรับจุดอ่อนในแนวรับได้หมดแล้ว,คำตอบสุดท้ายอย่าง อลิสสัน เบคเกอร์ จอมหนึบมือหนึ่งทีมชาติบราซิล ที่มีค่าตัว 67 ล้านปอนด์ ก็คือจิ๊กซอว์ที่ทีมตามหามานานจนมีส่วนนำทีมผงาดติดลมบนในตอนนี้ทำให้ทีมสมดุลทั้งเกมรุกและเกมรับพร้อมสถาปนาก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ในปีนี้อย่างเต็มตัว,แม้ผลแพ้ชนะคู่นี้อาจจะยังไม่ใช่การชี้ขาดว่าใครจะได้ลุ้นแชมป์ต่อหรือใครจะหมดโอกาสลุ้นแชมป์ แต่อย่างมันก็เป็นการวัดศักยภาพของทีมในช่วงเวลาที่เจอทีมในระดับเดียวกันได้เป็นอย่างดี | การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2018-19 นัดที่ 11 ของฤดูกาลนี้ ซึ่งมีเกมคู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ภายใต้การบังคับการของผู้นำยุคใหม่อย่าง อูไน เอเมรี | null | ลิเวอร์พูล,อาร์เซนอล,พรีเมียร์ลีก | https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premiereleague/1408945 |
โรงเกลือคึกคัก เสื้อกันหนาวมือสองขายดี ผวจ.คาดเงินสะพัดกว่า 150 ล้าน | เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดปอยเปต ประเทศกัมพูชา คึกคักไปด้วยผู้คนและรถบรรทุกสินค้าตลาดที่เข็นเสื้อกันหนาวมือสองมายังตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีพ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรกว่า 3,000 คนเร่งรีบเดินทางจากฝั่งปอยเปต เข้ามาเปิดร้านค้าขายในตลาดโรงเกลือ กันอย่างคึกคัก,เจ๊หญิง แม่ค้าชาวเขมร กล่าวว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเริ่มหาซื้อเสื้อกันหนาวมือสองเป็นจำนวนมาก ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าคนไทยจากภาคเหนือและภาคอีสานก็มารับเสื้อกันหนาวมือสองของตนไปขายตามตลาดนัดในแต่ละจังหวัด ทำให้ช่วงนี้พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรต้องรีบสั่งของและส่งของเป็นจำนวนมาก,นายตัง กวง อายุ 42 ปี นักธุรกิจนำเข้าเสื้อผ้ามือสอง ชาวกัมพูชา เผยว่า ช่วงนี้เริ่มมีลมหนาวพัดผ่านมาแล้ว คาดว่าหน้าหนาวปีนี้จะมาเร็วกว่าที่ผ่านมาตลาดเสื้อผ้ามือสองในตลาดโรงเกลือซบเซามานานกว่า 1 ปี แม่ค้าชาวเขมรหวังว่า ช่วงหน้าหนาวนี้จะทำให้เศรษฐกิจในตลาดโรงเกลือดีขึ้น ทำให้มีการเร่งสั่งเสื้อกันหนาวมือสองไปกักตุนมากขึ้น คาดว่าปีนี้จะมีการสั่งซื้อเสื้อกันหนาวมือสองไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัน,ด้าน นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า คาดว่าช่วงหน้าหนาวนี้จะมีเงินสะพัดในตลาดโรงเกลือไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาทอย่างแน่นอน โดยจังหวัดได้สั่งให้เพิ่มความปลอดภัยของผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว จึงได้ประสานกับกองกำลังบูรพา ตำรวจสภ.สระแก้ว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ศุลกากรอรัญประเทศ ให้ดูแลพื้นที่เป็นพิเศษ. | พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา แห่ขนเสื้อกันหนาวมือสองข้ามแดนมาจำหน่ายที่โรงเกลือเป็นจำนวนมาก หลังอากาศหนาวพ่อค้าแม่ค้าจากอีสานและเหนือเริ่มมาหาซื้อเพื่อนำไปจำหน่าย ผู้ว่าฯ สระแก้วคาดหนาวนี้เงินสะพัดที่โรงเกลือกว่า 150 ล้าน | null | ตลาดโรงเกลือ,กล้าณรงค์ พงษ์เจริญ,เสื้อกันหนาวมือสอง,ปอยเปต,สระแก้ว | https://www.thairath.co.th/content/801247 |
กระบะ อบจ.สงขลา พุ่งอัดเสาไฟ-ต้นไม้ ที่หาดใหญ่ ตาย 1เจ็บ 3 คาดหลับใน | เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 ส.ค. 2560 ร.ต.อ.เจตพร แก้วบุบผา รองสารวัตรสอบสวน สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะตกในคูกลางถนนลพบุรีราเมศวร์ สายหาดใหญ่-สงขลา ฝั่งขาเขาตัวเมืองสงขลา พื้นที่บ้านท่านางหอม หมู่ 6 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ พบรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สี่ประตู สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 2 กฬ 1036 กรุงเทพมหานคร เป็นรถขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา สภาพด้านหน้าพังเสียหายเนื่องจากพุ่งชนเสาไฟส่องทางจนล้ม 1 ต้น แบบถอนรากถอนโคนทั้งตอม่อ และลากติดไปกับรถ ก่อนที่ตัวรถจะฟาดกับต้นไม้ใหญ่อีกที,จากการตรวจสอบในรถคันที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย ถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่ในซากรถตรงเบาะหน้าด้านซ้าย ทราบชื่อ นางอารียา แก้วมณีรัตน์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นนักพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ กองส่งเสริมคุณภาพชีวิต องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมา นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน คือ นายพิทักษ์ รอดชู นักพัฒนาชุมชนชำนาญการ เป็นคนขับ น.ส.ฉวีพร ขอจิตต์เมตต์ ผู้ช่วยนักพัฒนาชุมชน และนางปิยนันท์ สิงห์ทอง ผู้อำนวยการกองส่งเสริมคุณภาพชีวิต ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลา อาการน่าเป็นห่วง เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก โดยทั้ง 4 คนเป็นเจ้าหน้าที่กองส่งเสริมคุณภาพชีวิต องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา,จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทั้งสี่คนเดินทางกลับจากปิดอมรมโครงการรักษ์ป่าพงไพร ที่ศูนย์การเรียนรู้กรมป่าไม้ ที่ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเหลืออีกประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการ อบจ.สงขลา ส่วนสาเหตุคาดว่าคนขับน่าจะหลับใน เนื่องจากในบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยของการเบรก แต่มีรอยรถพุ่งลงข้างทางไปชนกับเสาไฟฟ้าและต้นไม้ในคูกลางถนน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะสอบสวนคนขับอีกครั้งหนึ่ง. | สลด! กระบะเจ้าหน้าที่ อบจ.สงขลา กลับจากปิดการอมรมโครงการรักษ์ป่าพงไพร เกิดเสียหลักพุ่งชนต้นไม้และเสาไฟ ก่อนตกในคูกลางถนนหาดใหญ่-สงขลา ฝั่งขาเข้าตัวเมืองสงขลา อ.หาดใหญ่ มีตาย 1 เจ็บอีก 3 ราย ตร.คาดคนขับหลับใน | ข่าว,ทั่วไทย | กระบะชนเสาไฟ,อบจ.สงขลา,สภ.คอหงส์,อ.หาดใหญ่,สงขลา,ข่าวทั่วไป | https://www.thairath.co.th/news/local/south/1026371 |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.