dhamma-scholar-book / 50 /500011.csv
uisp's picture
init upload
c5b6280
Book,Page,LineNumber,Text
50,0011,001,ท่านผู้สดับย่อมไม่บรรลุวิสุทธิโดยนิปปริยายก็มี .
50,0011,002,ต. ไม่ได้. เห็นว่าสังขารทั้งปวงนั้นหมายเอาทุกขขันธ์เมื่อเกิด
50,0011,003,ขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสิ้นไป ก็เป็นตัวทุกข์เท่านั้น จึงควรหน่ายในทุกข์
50,0011,004,เป็นทุกขอริยสัจ เป็นปริญเญยยธรรม เป็นทางแห่งวิสุทธิ ถึงเนื้อ
50,0011,005,เรื่องในอนัตตลักขณสูตร ท่านผู้สดับก็หน่ายในทุกข์จึงได้บรรลุวิสุทธิ.
50,0011,006,๑๓/๙/๖๗
50,0011,007,ถ. ในอุทเทสปฏิปทาแหงนิพพิทาว่า เมื่อใดเห็นว่าสังขารทั้งปวง
50,0011,008,ไม่เที่ยง เมื่อนั้นย่อมหน่ายในทุกข์ และแก้ว่าสังขารนั้นได้แก่
50,0011,009,ปัญจขันธ์ แต่มิได้ระบุว่า ใครเป็นผู้เห็นว่าปัญจขันธ์นั้นด้วยปัญญา
50,0011,010,ปัญจขันธ์ก็คือกายกับใจ ถ้าอย่างนั้นกายหรือใจเห็นปัญจขันธ์ หรือ
50,0011,011,ใครเป็นผู้เห็นปัญจขันธ์ จึงหน่ายในทุกข์ ?
50,0011,012,ต. ในอนัตตลักขณสูตรเป็นต้นว่า พระอริยสาวกผู้เห็นปัญจขันธ์ จึงหน่ายในปัญจขันธ์ คือทุกข์ ดังคำว่า เอวํ ปสฺสํ ภิกฺขเว
50,0011,013,สุตวา อริยสาวโก รูปสฺมึปิ นิพฺพินฺทติ <sup>๑<\sup> เป็นอาทิ.
50,0011,014,ถ. เห็นสังขารทั้งปวงไม่เที่ยง เป็นทุกข์หรือเป็นอนัตตาแล้ว
50,0011,015,น่ามีผลหน่ายในสังขาร แต่ไฉนท่านจึงว่าหน่ายในทุกข์ มิเป็นเหมือน
50,0011,016,ปัญหายาก ตอบไม่ได้แล้ว ไพล่ไปโทษใครต่อใครยุ่งหรือ ?
50,0011,017,ต. การเห็นปัญหายากตอบไม่ได้ เป็นคนละอย่างกับการเห็น
50,0011,018,สังสาร เพราะคำว่าสังขารทั้งปวง ท่านหมายเอาเบญจขันธ์ซึ่งเป็น