txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# แรมจะแพงอีกหรือไม่ SK hynix ยอมรับสายการผลิตแรมมีปัญหา แต่ยังคาดเดาปริมาณไม่ได้
SK hynix ผู้ผลิตแรมรายใหญ่ออกมายอมรับว่าสายการผลิตแรมมีปัญหาบางสาย โดยยังไม่สามารถระบุปริมาณแรมที่มีปัญหาได้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีข่าวลือว่ามูลค่ารวมของแรมที่มีปัญหามีปริมาณถึง 240,000 เวเฟอร์ คิดเป็นสัดส่วนถึง 13% ของกำลังผลิต 1.8 ล้านเวเฟอร์ต่อเดือนของ SK hynix มูลค่ารวมถึงหกหมื่นล้านบาท แม้ว่าทางบริษัทจะไม่สามารถระบุมูลค่าความเสียหายได้แต่ระบุว่าตัวเลขนี้เกินความเป็นจริงไปมาก และได้แจ้งความต่อตำรวจเพื่อหาต้นตอข่าวลือนี้
SK hynix มีรายได้เกือบทั้งหมดจากการผลิตแรมและหน่วยความจำแฟลช คิดเป็นกำลังผลิต 80% ของโรงงาน รายได้ไตรมาสแรกของปี 2021 สูงถึง 8.5 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท
ที่มา - The Register |
# Sony เปิดตัว WF-1000XM4 หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวนระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่
วันที่ 8 ที่ผ่านมา Sony ได้เปิดตัวหูฟัง WF-1000XM4 รุ่นใหม่ที่จะขึ้นมาแทน WF-1000XM3 หูฟังตัดเสียงรบกวนระดับบไฮเอนด์ยอดนิยมของบริษัทที่มีอายุในตลาดร่วมสองปี
จุดเด่นของ WF-1000XM4 นอกจากหน้าตางานออกแบบใหม่แล้ว ยังมีตัวประมวลผล Integrated Processor V1 รุ่นใหม่ซึ่งมีพลังในการประมวลผลสูงกว่าชิป QN1e เดิม ทำงานร่วมกับไมค์ 2 ตัวและไดร์เวอร์ขนาด 6 มม.ที่ออกแบบใหม่ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของการตัดเสียงรบกวนมากขึ้น รวมทั้งสามารถนำความสามารถจากหูฟังรุ่นพี่ WH-1000XM4 อย่าง Speak-to-Chat และ DSEE Extreme มาใส่ลงในหูฟังรุ่นนี้ได้ ในขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม 10%
นอกจากนี้ทีมพัฒนายังได้เพิ่มไมค์ Beamforming และเซนเซอร์ Bone Conductor เพื่อช่วยให้รับเสียงสนทนาได้แม่นยำมากขึ้น เพิ่มระบบลดเสียงลมอัตโนมัติและการป้องกันของเหลวระดับ IPX4 เพื่อให้สามารถใช้งานออกกำลังกายได้ และออกแบบจุกหูฟังใหม่ที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีขึ้น ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้แอพ Headphones Connect เลือกขนาดจุกที่เหมาะสมได้จากภาพของใบหู
ส่วนอายุแบตเตอรี่นั้น WF-1000XM4 สามารถใช้งานได้นาน 8 ชม. และเมื่อรวมกับเคสแบตเตอรี่ที่ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม 40% แล้วสามารถใช้งานได้นานรวม 24 ชม. ตัวหูฟังรองรับการชาร์จเร็ว 5 นาที ใช้งานได้นาน 1 ชม. และตัวเคสรองรับการชาร์จไฟแบบไร้สายตามมาตรฐาน Qi ได้
WF-1000XM4 จะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปภายในเดือนมิถุนายนนี้ สนนราคา 280 ยูโร มีให้เลือก 2 สีคือสีดำและสีเงิน
ที่มา - Sony Press Centre |
# แนะนำ Terra Nil เกมสร้างเมืองสุดแหวก ฟื้นฟูธรรมชาติในโลกอันรกร้าง แทนสร้างตึก
Terra Nil เกมใหม่จากทีม Free Lives ผู้สร้าง Broforce และจัดจำหน่ายโดย Devolver Digital ที่จัดจำหน่ายเกมอย่าง Serious Sam 4, Reigns โดย Terra Nil มาในรูปแบบเกมแนวสร้างเมือง ที่คราวนี้ไม่ได้ให้ผู้เล่นสร้างตึกหรือถนน แต่เป็นการฟื้นฟูโลกรกร้าง ให้กลับมามีพืชและสัตว์ รวมถึงผืนดินและระบบนิเวศที่อยู่อาศัยได้อีกครั้ง
ผู้เล่นจะต้องสร้างกังหันลม โรงบำบัดน้ำ โรงเพาะพันธุ์พืช เพื่อคืนชีวิตให้กับผืนดินที่แห้งแล้ง ที่หลังจากฟื้นฟูสภาพดิน พืชชนิดต่างๆ ก็จะเริ่มมีสัตว์กลับมาอยู่อาศัยมากขึ้น และสภาพแวดล้อมถูกฟื้นฟูถึงระดับที่สิ่งก่อสร้างต่างๆ ไม่เป็นที่ต้องการแล้ว ก็ยังสามารถรีไซเคิลกลับไปเป็นทรัพยากรได้ รวมถึงยังต้องเฝ้าระวังภัยพิบัติต่างๆ เช่นไฟป่า และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมซ้ำ หลังเกิดภัยพิบัตินั้น
แผนที่ในเกมจะถูกสร้างขึ้นแบบสุ่ม ในแต่ละภูมิภาคของแผนที่จะมีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน ทำให้ผู้เล่นต้องใช้การฟื้นฟูที่แตกต่างกันไป และเล่นซ้ำได้อย่างไม่มีสิ้นสุด คลอไปกับเพลงประกอบแนวสงบสุขสร้างสมาธิ ช่วยให้ผู้เล่นผ่อนคลาย และถือเป็นเกมสร้างเมืองแนวใหม่ที่แหวกไปจากขนบเดิมๆ
ตัวเกมเตรียมลงพีซี ตอนนี้มีหน้าเพจ Steam รองรับแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลวันวางจำหน่าย หรือจะพอร์ตลองคอนโซลอื่นด้วยหรือไม่
ที่มา - Kotaku |
# Adobe Illustrator และ InDesign รองรับ Apple M1 แล้ว
Adobe ประกาศแอพในชุด Creative Cloud ที่รองรับการทำงานบนชิป Apple M1 เพิ่มเติมคือ Illustrator และ InDesign ตามหลัง Photoshop ที่นำร่องไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม
ตัวเลขของ Adobe ระบุว่า Illustrator ทำงานได้เร็วขึ้น 65% และ InDesign ทำงานเร็วขึ้น 59% เมื่อเทียบกับการรันแอพเวอร์ชัน x86 เดิมบน M1
นอกจากนี้ Adobe ยังประกาศผลการทดสอบ Premiere Pro แบบ Beta บน M1 ที่ทำงานได้เร็วขึ้นเฉลี่ย 77% ด้วย
ที่มา - Adobe, Adobe |
# ไมโครซอฟท์ออก Office Scripts ตัวช่วยแปลงงานที่ต้องทำซ้ำๆ บน Excel for Web ให้เป็นอัตโนมัติ
ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดใช้งาน Office Scripts ฟีเจอร์ใหม่ของ Excel for Web ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยแปลงงานที่ต้องทำซ้ำๆ เป็นประจำให้กลายเป็นงานที่สามารถสั่งรันได้อัตโนมัติ
ฟีเจอร์ Office Scripts จะเปิดให้ผู้ใช้สามารถอัดการสั่งงานบนชีท Excel ออกมาเป็นสคริปต์ที่สามารถสั่งรันได้ในภายหลัง (ผ่านแท็บ Automate > Record Actions) ช่วยร่นระยะเวลาการสั่งงาน Excel ที่มีขั้นตอนที่ผู้ใช้ต้องคอยทำซ้ำๆ ให้เหลือเพียงการคลิกรันสคริปต์ที่อัดไว้ล่วงหน้าเพียงแค่ขั้นตอนเดียว
ในส่วนของการอัดสคริปต์นั้นทำได้โดยง่าย ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การเขียนโปรแกรมมาก่อน แต่หากต้องการแก้ไขโค้ดภายในสคริปต์ก็สามารถเปิด Code Editor ภายใต้ Excel for Web ขึ้นมาแก้ไขโค้ดซึ่งเขียนด้วยภาษา TypeScript ได้โดยตรง
ภาพตัวอย่างการใช้งานจากวิดีโอแนะนำ Office Scripts บน Excel Blog
และหากต้องการตั้งรันสคริปต์อัตโนมัติ ผู้ใช้ยังสามารถเรียกใช้งานสคริปต์ที่อัดไว้ได้จาก Power Automate เพื่อตั้งการสั่งรันตามเงื่อนไข (เช่นเมื่อเกิดการสร้างไฟล์ใหม่บน SharePoint) หรือสั่งรันตามเวลาที่ได้กำหนดไว้
ภาพตัวอย่างการตั้งรัน Office Scripts บน Power Automate
อย่างไรก็ตาม Office Scripts เป็นฟีเจอร์ที่จำเป็นต้องมีชุดไลเซนส์ Microsoft 365 สำหรับภาคธุรกิจหรือภาคการศึกษาซึ่งมีแอพ Office Desktop รวมไว้ให้ใช้งานอยู่แล้ว (ยกตัวอย่างเช่น Office 365 E3 หรือ E5) หากใช้ Excel for Web บนไลเซนส์ที่เข้าข่ายและไม่ได้มีการปิดใช้งานโดยผู้ดูแลระบบ แท็บ Automate ก็จะปรากฏให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้งานได้ครับ
ที่มา - Excel Blog via Windows Central |
# Fastly บริการ CDN รายใหญ่ล่ม พา Reddit, Twitch, CNN, imgur, GitHub, StackOverflow ล่มตาม
Fastly ผู้ให้บริการ CDN รายใหญ่พบปัญหาในหลายศูนย์ข้อมูล ทำให้ระบบล่มไปจำนวนมาก กระทบผู้ใช้ในไทยด้วยจำนวนหนึ่งเพราะโหนดที่สิงคโปร์ก็ล่มเช่นกัน
เว็บที่ใช้ CDN ของ Fastly เช่น Reddit, Twitch, imgur, CNN, The Guardian, Financial Times, GitHub, StackOverflow, และเว็บอีกจำนวนมาก
บนเว็บสถานะของ Fastly ระบุว่าโหนดที่มีปัญหาอยู่ในสถานะ "Degraded Performance" และทีมงานกำลังสอบสวนสาเหตุ
ที่มา - Fastly Status |
# ทีม FF XIV ทำตัวละครเผ่า Viera เพศชายนอกเวลางาน ตามเสียงเรียกร้องของแฟนเกม
Final Fantasy XIV ออกภาคเสริม Shadowbringers เมื่อปี 2019 ให้ผู้เล่นสามารถสร้างตัวละครเผ่าหูกระต่าย Viera และเผ่าสิงโต Hrothgar ได้ แต่เผ่า Viera สร้างได้แค่ตัวละครหญิง ส่วนเผ่า Hrothgar สร้างได้แค่ตัวละครชายเท่านั้น
เหตุผลในตอนนั้นคืออิงจากตัวละครหญิง Fran ที่เป็นเผ่า Viera ในภาค FFXII (ไม่มีตัวละครเผ่า Viera เพศชายในเกม) ส่วนตัวละคร Kimahri มาจากภาค FFX ที่เป็นเผ่า Hrothgar ก็เป็นเพศชาย และไม่มีตัวละครหญิง การตัดสินใจนี้ทำให้แฟนๆ FFXIV ไม่ค่อยพอใจที่ตัวละครถูกล็อกให้เล่นได้เพศเดียว
ในตอนนั้น Naoki Yoshida โปรดิวเซอร์เกม FFXIV ระบุว่าไม่น่าจะสร้างอีกเพศให้แล้ว เพราะการสร้างตัวละครเล่นได้ตัวใหม่ในเกมออนไลน์ ต้องมีการทดสอบและปรับปรุงมากมาย ทั้งตรวจเช็คว่าตัวละครอยู่ในเฟรมของคัทซีนหรือไม่ ตรวจสอบเครื่องแต่งกาย อาวุธ ทรงผมต่างๆ การขยับท่าทาง แอนิเมชั่นอีโมต และอื่นๆ ว่าเข้ากันได้หรือไม่ ซึ่งเป็นงานหนักพอสมควร
แต่ล่าสุด Yoshida เพิ่งให้สัมภาษณ์กับใน PS Blog ว่าไม่ใช่แค่แฟนๆ ที่ไม่พอใจ เพราะทีมกราฟฟิกของ FFXIV ก็อยากเพิ่มตัวละครอีกเพศเข้ามาให้เช่นกัน โดยเลือกใช้เวลาว่างนอกเวลางานในช่วงกว่าครึ่งปีที่ผ่านมา เพื่อหาวิธีทำให้สำเร็จ
ทีมงานพบว่ามีเวลาและทรัพยากรพอที่จะเพิ่มตัวละครได้อีกแค่ 1 เพศ สำหรับ 1 เผ่าในภาคเสริม Endwalker ที่กำลังจะออกวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ และถ้าจะรอให้เสร็จทั้งสองเผ่าซึ่งอาจต้องรอถึงเวอร์ชั่น 7.0 เลยทีเดียว คุณ Yoshida เลยตัดสินใจให้ทีมงานปล่อยตัวละคร Viera เพศชายมาก่อน ค่อยสร้าง Hrothgar เพศหญิงตามมาในอนาคต
Yoshida ไม่ได้ระบุว่าตัวละคร Hrothgar เพศหญิงจะมาเมื่อไร แต่น่าจะเป็นในภาคเสริมถัดไปหลังจาก Endwalker
ที่มา - PlayStation Blog |
# ซอร์สโค้ดหลุด Cyberpunk 2077 เผย เนื้อหาที่ถูกเซ็นเซอร์เพื่อประเทศจีน ถูกแท็กว่า WinnieThePooh
หลัง CD Projekt ถูกโจมตีเครือข่ายและขโมยข้อมูลไปบางส่วน จนมีซอร์สโค้ดหลุดไปถึงมือชาวเน็ตในเว็บ 4chan และ Reddit จนมีผู้พบว่าในหมวดการเซ็นเซอร์เนื้อหาประเภทต่างๆ นอกจากภาพโป๊เปลือย เรื่องเพศ ยาเสพติด ภาพสยดสยอง และเรื่องศาสนาแล้ว ยังมีการเซ็นเซอร์เนื้อหาสำหรับประเทศจีนโดยเฉพาะ ที่ตั้งชื่อหมวดไว้อย่างขำๆ ว่า “WinnieThePooh”
Winnie The Pooh เป็นการ์ตูนเด็กยอดฮิตที่ถูกแบนในประเทศจีน หลังประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ถูก “ทำมีม” ล้อเลียนว่าดูคล้ายกับ Winnie The Pooh ตั้งแต่ไปเยือนสหรัฐในปี 2013 และตอนที่จับมือกับนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น จนทีมงานของพรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องออกมาไล่ลบเนื้อหามีมเหล่านี้ หลังจากนั้นทั้งการ์ตูน Winnie The Pooh และภาพยนตร์คนแสดง Christopher Robin ก็ถูกห้ามฉายในประเทศจีนเช่นกัน
แม้ CD Projekt ยังต้องเอาใจประเทศจีน เพื่อให้เกมสามารถทำยอดขายในตลาดเกมที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกได้ และเพื่อให้ GOG ร้านค้าเกมของ CD Projekt ยังดำเนินงานต่อได้อย่างปกติ แต่ก็ยังไม่วายแอบตั้งชื่อแซวหมวดที่ต้องเซ็นเซอร์ว่า WinnieThePooh ในซอร์สโค้ด คงต้องติดตามกันต่อว่าเมื่อข้อมูลหลุดมาแบบนี้ จะส่งผลกระทบอะไรกับแพลตฟอร์มของ CD Projekt ในประเทศจีนหรือไม่
ที่มา - Reddit |
# Disney+ Hotstar เคาะราคาไทย 99 บาท/เดือน, 799 บาท/ปี ผู้ใช้ AIS ได้สิทธิ์จ่ายเดือนละ 35 บาท
เคาะราคาไทยแล้วสำหรับ Disney+ Hotstar ที่จะเปิดให้ดาวนโหลดแอปและสตรีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ ราคาอยู่ที่ 99 บาทต่อเดือน และ 799 บาทต่อปี และตรงตามข่าวก่อนหน้านี้ที่ดิสนีย์พาร์ทเนอร์กับ AIS มอบราคาพิเศษแก่ผู้ใช้งานเหลือเดือนละ 35 บาทต่อเดือน ยาวนาน 12 เดือน
ลูกค้า AIS สามารถสมัครบริการ Disney+ Hotstar ล่วงหน้าในราคาพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 8 - 27 มิถุนายน 2564 โดยระบบจะคิดค่าบริการในวันที่ 29 มิถุนายน 2564
ฟีเจอร์ของ Disney+ ดังนี้ รับชมได้บนมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือทีวี (ต้องใช้อุปกรณ์ที่รองรับ), สตรีมได้ 2 เครื่องพร้อมกันต่อ 1 บัญชี, เลือกความคมชัดได้, สามารถดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในมือถือหรือแท็บเล็ตได้ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข)
ที่มา - Disney+ Hotstar |
# เสียดายคนจีนไม่ได้ใช้ Private Relay ฟีเจอร์ปกปิดตัวตนของ Apple จะไม่เปิดใช้งานในจีน
หนึ่งในฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวที่ Apple ประกาศในงาน WWDC เมื่อคืนนี้คือ Private Relay หรือบริการแบบ VPN ที่ออกแบบมาเพื่อปกปิดข้อมูลการท่องเว็บของเรา ไม่ให้ ISP และผู้ลงโฆษณาเข้าถึงข้อมูลเพื่อทำการตลาดเจาะกลุ่มได้ เป็นบริการเสริมให้ผู้ใช้งาน iCloud+ ดูเป็นฟังก์ชั่นปกป้องความเป็นส่วนตัว แต่น่าเสียดายที่คนจีนจะไม่ได้ใช้งานฟีเจอร์นี้ เนื่องจากกฎระเบียบของรัฐบาล
จีนถือเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของ Apple มีส่วนแบ่งรายได้ของบริษัทถึง 15% แต่ในขณะเดียวกันจีนเป็นประเทศที่มีกฎระเบียบรัดกุมเรื่องเนื้อหาออนไลน์ และสอดส่องประชาชนตลอดเวลา Apple เองก็ยอมผ่อนปรนลดความสามารถคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวในลูกค้าจีนตามที่ The New York Times รายงานไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ จีนยังบังคับใช้นโยบายการให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านช่องทางพิเศษและบริการ VPN นั้นจะต้องได้รับการยินยอมจากรัฐบาลก่อน
ในส่วนของ iCloud ประเทศจีน ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา Apple ได้ย้ายกุญแจดิจิทัลที่ใช้ล็อคข้อมูล iCloud ของผู้ใช้ชาวจีนออก ทำให้รัฐบาลยังคงเข้าถึงข้อมูลได้ผ่านอำนาจศาล ส่งผลให้ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวบน iCloud ในจีนใช้งานได้ไม่เทียบเท่ากับประเทศอื่น และส่งผลต่อหลักการทำงานของ Private Relay ด้วย
หลักการทำงานของ Private Relay คือ การใช้เซิร์ฟเวอร์สองชั้นมาบัง เพื่อเปลี่ยน IP address ของผู้ใช้งานไปเรื่อยๆ ทำให้ระบุตัวตนได้ยาก โดนโฆษณาเจาะกลุ่มยากขึ้นเช่นกัน โดย Apple ยังไม่ได้บอกว่าผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ที่เป็น 3rd party นั้นเป็นใคร
นอกจากจีนแล้ว Private Relay จะไม่เปิดใช้งานในเบลารุส, โคลอมเบีย, อียิปต์, คาซัคสถาน, ซาอุดีอาระเบีย, แอฟริกาใต้, เติร์กเมนิสถาน, ยูกันดา และฟิลิปปินส์ด้วย
ที่มา - Reuters |
# สหรัฐฯ ร่วมมือออสเตรเลีย ให้บริการโทรศัพท์แชตเข้ารหัสหลอกขายกลุ่มค้ายาเสพติด รวบจับทีเดียวนับร้อยราย
ตำรวจออสเตรเลีย (Australian Federal Police - AFP) ร่วมมือกับ FBI กวาดล้างกลุ่มอาชญากรค้ายาเสพติดวันเดียวจับได้ 224 ราย และกำลังตามจับอีก 526 รายเฉพาะในออสเตรเลีย และยังมีการจับกุมที่เกี่ยวข้องอีก 18 ประเทศ โดยอาศัยการแทรกซึมเข้าไปยังแก๊งค้ายาด้วยการขายโทรศัพท์แชตเข้ารหัส ANoM ในชื่อปฎิบัติการ Ironside
Ironside เริ่มมาตั้งแต่ปี 2018 หลัง AFP ร่วมมือกับ FBI ทลายบริการแชตเข้ารหัส Phantom Secure ที่นิยมในกลุ่มค้ายาเสพติดได้สำเร็จ ทั้งสองหน่วยงานรู้ว่ากลุ่มค้ายาเสพติดจะต้องการบริการแบบเดิมอีกครั้ง เมื่อ FBI ยึดแพลตฟอร์ม ANoM ที่เป็นโทรศัพท์พิเศษที่ติดตั้งแอปแชตเฉพาะกิจได้ จึงให้บริการต่อมาเรื่อยๆ เพื่อเก็บข่าวกรองสำหรับการจับกุม
กลุ่มค้ายาเสพติดจะต้องซื้อโทรศัพท์และส่งให้เครือข่ายของตัวเองไปเรื่อยๆ ทำให้ AFP และ FBI รู้ว่ามีใครเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายบ้าง รวมถึงสามารถถอดรหัสข้อความในแชตออกมาเป็นข่าวกรอง โดยนอกจากธุรกิจค้ายาเสพติดแล้วยังมีธุรกิจค้าอาวุธและคำสั่งฆ่า รวมการจับจากข่าวกรองของปฎิบัติการ Ironside ยึดยาเสพติดได้ 3.7 ตัน, อาวุธ 104 ชิ้น, เงินสด 44 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย, และทรัพย์สินอื่นรวมหลายร้อยล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
แม้ว่า ANoM จะได้รับความนิยมจนสามารถจับกุมได้เป็นวงกว้างแต่ AFP ก็ยอมรับว่ามีแพลตฟอร์มแชตเข้ารหัสที่ได้รับความนิยมสูงกว่า ANoM ใช้งานในหมู่อาชญากรอยู่
ที่มา - AFP
note: เวอร์ชั่นแรกของบทความนี้ระบุว่า AFP และ FBI สร้างแพลตฟอร์ม ANoM ขึ้นเอง หลังตรวจสอบซ้ำพบว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ยึดมา |
# เหรียญ Chia ทำพิษ ผู้ผลิต SSD เริ่มลดจำนวนการเขียนข้อมูล (TBW) ที่รับประกันลง
Chia เป็นเครือข่ายบล็อกเชนตัวใหม่จาก Bram Cohen ผู้สร้างโปรโตคอล BitTorrent ที่ผู้ใช้จะสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ของ Chia ลงเครื่อง เพื่อแบ่งพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ให้เครือข่าย Chia ใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลได้ และจะได้รับเหรียญ Chia เป็นเหรียญรางวัล แต่หากใช้ SSD ก็จะต้องมีการเขียนและลบข้อมูลอยู่ตลอดเวลา ทำให้อายุการใช้งาน SSD สั้นลง
ตอนนี้เริ่มมีบริษัทผู้ผลิต SSD บางราย เช่น PNY ปรับนโยบายการรับประกันของ SSD รุ่น XLR8 CS3030 ลง โดยลดจำนวนข้อมูลที่เขียนได้ทั้งหมด (TBW หรือ Tereabytes Written) ที่ระบุอยู่บน SSD ตั้งแต่ 55 ถึง 79 เปอร์เซ็นต์จากเดิม ดังนี้
รุ่นความจุ 250GB TBW เดิม 380TB เหลือ 170TB (ลดลง 55%)
รุ่นความจุ 500GB TBW เดิม 800TB เหลือ 170TB (ลดลง 79%)
รุ่นความจุ 1TB TBW เดิม 1665TB เหลือ 360TB (ลดลง 78%)
รุ่นความจุ 2TB TBW เดิม 3115TB เหลือ 660TB (ลดลง 79%)
PNY ระบุสาเหตุหลักกับเว็บไซต์ Tom’s Hardware ว่ามาจากการที่ชิป NAND ขาดแขลน และจากการที่ผู้ใช้นำ SSD ไปฟาร์มเหรียญ Chia ทำให้ผู้ใช้ที่มีจำนวน TBW เกินกว่าที่ระบุ ไม่สามารถเคลมประกันได้ แม้จะยังอยู่ในช่วงรับประกันของ SSD
นอกจากนี้ GALAX ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และ SSD อีกเจ้า ยังขึ้นข้อความเตือนผู้ใช้บนหน้าเว็บไซต์ประเทศจีนของบริษัท ว่าผู้ใช้ที่ใช้งาน SSD จนเกินจำนวน TBW ที่ระบุ และทำให้ SSD ช้าลง หรือเสียหาย จะไม่สามารถใช้งานบริการหลังการขายของ GALAX ได้
การนำ SSD มาให้เครือข่าย Chia ประมวลผลข้อมูลเพื่อทำการฟาร์มเหรียญรางวัล อาจทำให้ผู้ผลิต SSD เจ้าอื่นๆ นอกจาก PNY และ GALAX ต้องทบทวนมาตรการรับประกันอายุการใช้งาน SSD ได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ SSD ทั่วไป และอาจเป็นอีกผลกระทบของบล็อกเชนและสกุลเงินคริปโต ที่มีต่อโลกฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ หลังทำให้การ์ดจอมีราคาพุ่งสูงก่อนหน้านี้
ที่มา - Tom’s Hardware via Neowin |
# FBI ยึดเงินค่าไถ่ข้อมูลจากกลุ่มมัลแวร์ DarkSide ได้เกือบครบ, มูลค่าหายไปเยอะเพราะ Bitcoin ราคาตก
FBI ประกาศความสำเร็จในการยึดเงินค่าไถ่ข้อมูลที่บริษัท Colonial Pipeline จ่ายให้กับกลุ่มมัลแวร์ DarkSide เพื่อกู้ข้อมูล ได้บิตคอยน์กลับมา 63.7BTC จากที่จ่ายไปทั้งหมด 75BTC
ทาง Colonial Pipeline จ่ายบิตคอยน์รวม 75BTC ไปยังบัญชีที่ลงท้ายว่า jc9fr เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา รวมมูลค่า 4.4 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 130 ล้านบาท ทาง FBI ติดตามเงินก้อนนี้และพบว่าเงินถูกกระจายไปเรื่อยๆ FBI ไม่เปิดเผยว่าใช้เทคนิคอะไรจึงยึดเงินก้อนนี้ได้ แต่ระบุว่าสามารถดึงเงินเข้าบัญชีลงท้ายว่า fsegq ที่กุญแจอยู่กับ FBI ได้สำเร็จในวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เนื่องจากมูลค่าบิตคอยน์เปลี่ยนไปมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าบิตคอยน์ที่ยึดกลับมาได้เหลือมูลค่า 2.3 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
ทาง FBI ระบุว่ากลุ่ม DarkSide เป็นตัวหนึ่งในกลุ่มใหญ่ที่มีมัลแวร์เรียกค่าไถ่กว่า 100 ตัวที่พัฒนาและให้บริการกับกลุ่มอาชญากรโดยนำส่วนแบ่งค่าไถ่ไปแบ่งกัน หรือเรียกว่าบริการ ransomware-as-a-service และกรณีนี้แสดงให้เห็นความสำคัญของการรายงานเหตุมายัง FBI ให้เร็วที่สุดเพื่อรวบรวมข้อมูลแก้ไขให้ทันท่วงที
ที่มา - FBI, Bleeping Computer |
# Google Meet for Android เปลี่ยนภาพพื้นหลังได้แล้ว (สักที)
Google Meet ประกาศเพิ่มฟีเจอร์เปลี่ยนภาพพื้นหลังไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่นั่นเป็นการประกาศเฉยๆ ว่าจะทำ
เวลาผ่านมาหนึ่งไตรมาส นานจนหลายคนอาจลืมไปแล้ว ตอนนี้ Google Meet for Android เริ่มได้ฟีเจอร์เปลี่ยนภาพพื้นหลังกันจริงๆ แล้ว
ที่มา - Google Workspace Updates, 9to5google |
# Rainbow Six Quarantine ได้ชื่อใหม่ Rainbow Six Extraction เพื่อไม่ให้มีคำว่า Quarantine
Ubisoft ประกาศชื่อใหม่ของเกม Rainbow Six Quarantine ที่อยากเปลี่ยนชื่อเพราะมีคำเกี่ยวกับโรคระบาด คือ Rainbow Six Extraction
Rainbow Six Quarantine เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ก่อนเหตุการณ์ COVID-19 โดยเป็นเกมเอาตัวรอด co-op จากเชื้อปรสิตจากนอกโลกเข้ามาอยู่ในร่างมนุษย์ เดิมทีเกมมีกำหนดขายในปี 2020 แต่เลื่อนมาสองรอบ เป็นเดือนมีนาคม 2021 และล่าสุดคือกันยายน 2021
รายละเอียดเพิ่มเติมของเกมจะประกาศในงาน Ubisoft Forward วันที่ 12 มิถุนายนนี้
ที่มา - Kotaku |
# Google Pixel ได้ฟีเจอร์เพิ่ม: ถ่าย timelapse ในโหมด Night Sight, โฟลเดอร์เก็บรูปลับ ฯลฯ
เดือนนี้กูเกิลปล่อยฟีเจอร์ให้ Pixel เยอะเป็นพิเศษ ภายใต้โครงการ Pixel Feature Drop ที่ดำเนินมาได้หลายเดือนแล้ว โดยบางส่วนมาพร้อมกับแพตช์ความปลอดภัยประจำเดือนมิถุนายน ที่ของ Pixel 5 มีขนาด 154MB (ปกติหลัก 10MB) และบางส่วนจะค่อยๆ ปล่อยออกมาเร็วๆ นี้
สำหรับฟีเจอร์หลักๆ มีดังนี้
Timelapse for Astrophotography เป็นการต่อยอดจากฟีเจอร์ถ่ายดาวที่มีอยู่แล้ว โดยหลังจากนี้เมื่อผู้ใช้เข้าโหมด Night Sight (ใช้ร่วมกับ tripod) แล้วกล้องตรวจจับว่ากำลังถ่ายดาว มันจะถ่ายวิดีโอ timelapse มาให้ด้วย ยิ่งถ้าทิ้งไว้นานๆ ก็จะเห็นการเคลื่อนไหวของดาวอย่างชัดเจน
Locked Folder อันนี้เป็นฟีเจอร์ที่ประกาศในงาน Google I/O เดือนที่แล้วทำงานร่วมกับ Google Photos เป็นโฟลเดอร์สำหรับเก็บรูปลับ หรือรูปที่ไม่อยากให้ไปโชว์ในที่ใดๆ ก็ตาม เช่น Memories โดยสามารถเก็บเข้า Locked Folder ได้ทันทีที่ถ่ายรูปในแอพกล้องเลย
รับ/วางสายด้วยเสียง เป็นฟีเจอร์เล็กๆ ที่ให้ความสะดวกได้มาก เช่นพอมีสายเข้าแต่มือเราไม่ว่าง ก็สามารถพูด "Hey Google, answer call" หรือ "reject call" ได้เลย
Heads Up เป็นฟีเจอร์ที่รวมอยู่ใน Digital Wellbeing ที่ตอบรับสไตล์การใช้ชีวิตของคนสมัยนี้ได้เป็นอย่างดี เวลาผู้ใช้เดินไปด้วยใช้มือถือไปด้วย ทำให้ไม่ได้มองทางข้างหน้า โดยมือถือจะตรวจจับได้ว่าเรากำลังเดินอยู่ และส่งการแจ้งเตือนให้มองทางเป็นระยะๆ
Recorder แอพอัดเสียงที่มีฟีเจอร์แปลงเป็นข้อความให้อัตโนมัติ ตอนนี้รองรับภาษาอังกฤษสำเนียงสิงคโปร์, ออสเตรเลีย, ไอริช และอังกฤษแล้ว อันนี้จะมาภายในเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้ก็เป็นฟีเจอร์ที่ใช้ในประเทศไทยไม่ได้ เช่นการตรวจจับรถชนที่มีอยู่แล้ว แต่เพิ่มประเทศที่รองรับ คือสเปน, ไอร์แลนด์ และสิงคโปร์ รวมถึง Call Screen ที่ตรวจจับให้ก่อนรับสายว่าเป็นโฆษณาหรือสแปมโทรมาหรือไม่ โดยใช้ในญี่ปุ่นได้แล้ว
สุดท้ายยังมีการอัพเกรด Gboard ให้แสดงข้อความที่ก็อปปี้ไว้ให้เอาไปใช้ต่อได้ง่าย เช่นเบอร์โทร, อีเมล, URL และยังมีวอลล์เปเปอร์, ริงโทน และเสียงการแจ้งเตือนที่ร่วมสร้างสรรค์โดยศิลปิน LGBTQ+ สำหรับต้อนรับ Pride month อีกด้วย
ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ไม่ได้ให้ Pixel ทุกรุ่น แต่ Pixel 3 ที่เก่าสุดก็ได้เกือบครบ ตามตารางท้ายข่าว
ที่มา - Android Police, The Keyword |
# YouTube เปิดทดสอบคลิปสั้น Shorts สู้ TikTok ในแคนาดา, อังกฤษ, ละตินอเมริกา
YouTube เริ่มเปิดตัว Shorts คลิปสั้นในอินเดียและสหรัฐฯมาแล้วก่อนหน้านี้ และพยายามลงทุนจูงใจให้ครีเอเตอร์หันมาใช้งาน Shorts ด้วยเม็ดเงิน 100 ล้านดอลลาร์ ล่าสุด ขยายการใช้งาน Shorts ไปยังประเทศอื่นเพิ่มเติมคือ แคนาดา, อังกฤษ, ประเทศในละตินอเมริกา ทาง YouTube เผยด้วยว่า ได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ให้เข้าถึงแคตตาล็อกวิดีโอมากขึ้น แต่ไม่ได้บอกว่าเข้าถึงได้มากเท่าไร
YouTube ไม่ได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับ Shorts มาก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนครีเอเตอร์ที่มาใช้งาน ผู้ใช้งานรายวัน รายเดือน บอกเพียงว่า YouTube Shorts มีการดูแล้ว 6.5 พันล้านครั้งต่อวัน
ในเชิงเทคนิค YouTube Shorts ยังอยู่ในขั้นทดสอบใช้งานหรือเบต้า ซึ่งจะยังมีฟังก์ชั่นใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีกมากในอนาคต ซึ่งตอนนี้ผู้ใช้งานสามารถทำคลิปสั้นพื้นฐานได้ ความยาวสูงสุด 60 วินาที เพิ่มเสียง ข้อความกราฟิก โดย YouTube บอกว่าได้ดีลกับค่ายเพลงร่วม 250 ค่ายเพื่อนำเพลงมาใช้ เช่น Sony Music Entertainment and Publishing, Warner Music Group and Warner Chappell Music เป็นต้น
ที่มา - TechCrunch |
# มาร์กบอกเอง Facebook จะไม่ตัดส่วนแบ่งเงินครีเอเตอร์ไปถึงปี 2023 และถ้าตัดก็ไม่มากเท่า Apple
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก โพสต์ Facebook ก่อนการเริ่มงาน WWDC ของ Apple ไม่กี่ชั่วโมง เขาประกาศว่า Facebook มีนโยบาย ไม่ตัดส่วนแบ่งเงินรายได้จากครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มไปจนถึงปี 2023 ครอบคลุมครีเอเตอร์ที่ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ บน Facebook ไม่ว่าจะเป็นอีเว้นท์ออนไลน์, การสมัครสมาชิกรายเดือน, badges รวมถึงแพลตฟอร์มนักเขียนอินดี้ที่กำลังจะเปิดตัว
มาร์กบอกด้วยว่า เมื่อถึงเวลาที่ Facebook ต้องหักเปอร์เซนต์ จะไม่มากเท่าหัก 30% ที่ Apple ทำอยู่แน่นอน
นอกจากนี้ Facebook กำลังจะเปิดตัวอินเตอร์เฟซใหม่ ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์รู้ว่าค่าธรรมเนียมและภาษีของบริษัทต่างๆ ส่งผลกระทบต่อรายได้ของพวกเขาอย่างไร ซึ่งโฆษก Facebook ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าครีเอเตอร์จะมองเห็นรายได้ตัวเองหลังโดนหักเปอร์เซนต์จากแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Google และ Apple อินเตอร์เฟซใหม่อยู่ในรูปแบบเว็บไซต์ และรองรับอีเว้นท์ออนไลน์ก่อนในระยะแรก
ภาพจาก Facebook มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
ที่มา - Engadget |
# iOS 15 เพิ่มตัวเลือก ให้อยู่กับ iOS 14 ต่อไป แล้วอัพเดตเฉพาะแพตช์ความปลอดภัยเท่านั้น
ที่ผ่านมาการอัพเดต iOS ในแต่ละเวอร์ชัน จะมีการปรับปรุงหลัก ๆ สองส่วน คือฟีเจอร์คุณสมบัติใหม่ และการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย ซึ่งผู้ใช้ต้องอัพเดตไปทั้งหมด แต่ผู้ใช้งานบางคนอาจไม่ต้องการใช้ฟีเจอร์ใหม่ ล่าสุดใน iOS 15 ที่เปิดตัวไปเมื่อคืนนี้ แอปเปิลระบุว่าผู้ใช้งานสามารถเลือกอัพเดตเฉพาะส่วนช่องโหว่ความปลอดภัยได้
โดยในหน้า Software Updates ของแอป Settings ใน iOS จะมีตัวเลือกในการอัพเดต 2 แบบ คืออัพเดตเป็น iOS 15 เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งได้ทั้งฟีเจอร์ใหม่และส่วนแก้ไขด้านความปลอดภัย หรือเลือกอยู่กับ iOS 14 ต่อไป แล้วอัพเดตเฉพาะส่วนแก้ไขด้านความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งสามารถเปลี่ยนใจอัพเดตเป็น iOS เวอร์ชันล่าสุดได้เมื่อต้องการ
ทางเลือกในการอัพเดต iOS เฉพาะส่วนความปลอดภัยนี้ถูกรายงานการค้นพบครั้งแรกใน iOS 14.5 เบต้า 4 ทั้งนี้อุปกรณ์ที่สามารถใช้งาน iOS 14 ได้ทั้งหมด จะสามารถอัพเดตเป็น iOS 15 ได้ ทางเลือกนี้จึงน่าจะถูกใจหลายคนที่ไม่อยากใช้ของใหม่ แต่ต้องการความปลอดภัย
ที่มา: Apple Insider |
# Stadia รองรับ Chromecast with Google TV และ Android TV บางรุ่นแล้ว
บริการคลาวด์เกมมิ่ง Stadia ประกาศรองรับอุปกรณ์ Chromecast with Google TV ของกูเกิลเองแล้ว โดยจะเริ่มปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ในวันที่ 23 มิถุนายน
นอกจากนี้ Stadia ยังประกาศรองรับอุปกรณ์กลุ่ม Android TV อีกจำนวนหนึ่ง ได้แก่
สมาร์ททีวี Hisense Android TV (U7G, U8G, U9G)
สมาร์ททีวี Philips Android TV (8215, 8505, OLED 935/805)
กล่องทีวี NVIDIA Shield TV และ Shield TV Pro
กล่องทีวี Xiaomi Mi Box 3 และ 4
Onn FHD Streaming Stick
ส่วนอุปกรณ์ Android TV อื่นๆ นอกจากรายการนี้ สามารถเล่นได้แบบ opt-in experimental ซึ่งกูเกิลยังไม่รับประกันว่าจะทำงานได้ดี แต่ก็เปิดให้ลองเล่นได้ วิธีการคือติดตั้งแอพ Stadia ได้จาก Play Store
ก่อนหน้านี้ Stadia รองรับแต่การเล่นบนสมาร์ทโฟน Android บางรุ่น, Chromecast Ultra และเล่นผ่านเว็บเบราว์เซอร์บนพีซี และบน iOS
ที่มา - Stadia |
# เปิดตัว macOS Monterey เพิ่มคุณสมบัติด้าน Productivity
แอปเปิลเปิดตัวระบบปฏิบัติการ macOS เวอร์ชันใหม่ในชื่อ Monterey ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยใน macOS เวอร์ชันนี้ Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิล อธิบายว่าเป็นการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานที่มากขึ้น
ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญมีดังนี้
ปรับปรุงหน้าจอ Safari ใหม่
เพิ่มแอป Shortcuts เหมือนใน iPhone, iPad
รองรับ AirPlay เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ iOS
Universal Control ใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ ควบคุมข้ามอุปกรณ์ไป iPad ได้
ฟีเจอร์อื่น
เพิ่ม Focus ควบคุมการแจ้งเตือนตามสถานการณ์แบบเดียวกับ iOS 15
FaceTime รองรับ spatial audio และอื่น ๆ เหมือน iOS 15
SharePlay แชร์หน้าจอระหว่างคุย FaceTime
ที่มา: แอปเปิล |
# สรุปทั้งหมด iPhone, iPad, Mac, Apple Watch รุ่นไหน ได้ไปต่อกับ OS เวอร์ชันใหม่
แอปเปิลได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการชุดใหญ่เป็นประจำเหมือนทุกปีในงาน WWDC ซึ่งสำหรับงาน WWDC21 นี้ก็ยังคงประกาศเวอร์ชันใหม่ของทุกอุปกรณ์ และมีอุปกรณ์รุ่นที่ไม่ได้อัพเดต และรุ่นที่ยังได้อัพเดตเวอร์ชันใหม่ต่อ มีรายละเอียดทั้งหมดดังนี้
iOS 15
iPhone 12, iPhone 12 mini, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max, iPhone 11, iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max, iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone XR, iPhone X, iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone 7, iPhone 7 Plus, iPhone 6s, iPhone 6s Plus, iPhone SE (รุ่น 1), iPhone SE (รุ่น 2), iPod touch 7th Gen
สรุปคือ iPhone ทุกรุ่นที่ใช้ iOS 14 จะได้ไปต่อกับ iOS 15 ทั้งหมด
iPadOS 15
iPad Pro ทุกรุ่น, iPad 5th Gen ขึ้นไป, iPad mini 4 ขึ้นไป, iPad Air 2 ขึ้นไป
เช่นเดียวกับ iOS 15 นั่นคือ iPad รุ่นที่ใช้งาน iPadOS 14 จะได้อัพเดตเป็น iPadOS 15 ทั้งหมด
macOS Monterey
iMac รุ่นปลายปี 2015 เป็นต้นไป
iMac Pro รุ่นปี 2017 เป็นต้นไป
MacBook Air รุ่นต้นปี 2015 เป็นต้นไป
MacBook Pro รุ่นต้นปี 2015 เป็นต้นไป
Mac Pro รุ่นปลายปี 2013 เป็นต้นไป
Mac mini รุ่นปลายปี 2014 เป็นต้นไป
MacBook รุ่นต้นปี 2016 เป็นต้นไป
Mac รุ่นที่ไม่ได้อัพเดต macOS Monterey ได้แก่ iMac ปี 2014, iMac กลางปี 2015, MacBook Air ปี 2013-2014, MacBook Pro ปี 2013-2014, MacBook ปี 2015
watchOS 8
Apple Watch Series 3 และรุ่นที่ใหม่กว่านั้นทั้งหมด กล่าวคือทุกรุ่นที่ใช้ watchOS 7 จะได้อัพเดตทั้งหมด
ที่มา: แอปเปิล [1], [2], [3], [4] |
# แอปเปิลออกแบบหน้าจอ Safari ใหม่ รองรับ extension ทุกแพลตฟอร์ม
แอปเปิลออกแบบหน้าจอ Safari ใหม่โดยมีส่วนสำคัญคือการย้ายส่วนแสดงแท็บขึ้นไปอยู่ระดับเดียวกับ URL และยังรองรับการจัดกลุ่มแท็บให้สลับไปมาระหว่างกลุ่มได้ง่ายขึ้น การจัดกลุ่มแท็บสามารถซิงก์ข้ามอุปกรณ์ได้ทั้ง Mac, iPad, และ iPhone
ฟีเจอร์สำคัญอีกอย่างคือการรองรับส่วนขยาย (web extension) สามารถดาวน์โหลดจาก App Store ได้ ก่อนหน้านี้แอปเปิลเข้าร่วมกับกูเกิล, ไมโครซอฟท์, และมอซิลล่า เพื่อตั้งกลุ่มทำงานออกมาตรฐานการทำงานส่วนขยายให้ตรงกันทุกเบราว์เซอร์ รอบนี้แอปเปิลประกาศรองรับส่วนขยายนี้บนทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง macOS, iPadOS, และ iOS
ฟีเจอร์ Intelligent Tracking Prevention ใน Safari ยังเพิ่มมาตรการอีกขั้นด้วยการซ่อนไอพีผู้ใช้เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ติดตามตัว ทำให้เซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นไม่สามารถใช้หมายเลขไอพีเพื่อระบุตัวตนผู้ใช้ได้อีกต่อไป
ที่มา - Apple 1, 2 |
# แอปเปิลเปิดตัว Universal Control ควบคุมเครื่องข้าม iPad, Mac, MacBook
แอปเปิลเปิดตัวฟีเจอร์ Universal Control ใช้งานกับ macOS Monterey และ iPadOS 15 ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์สามเครื่องได้จากเมาส์และคีย์บอร์ดชุดเดียว
ฟีเจอร์นี้ไม่ใช่การใช้ iPad เป็นหน้าจอที่สอง แต่ผู้ใช้สามารถลากคอนเทนต์ข้ามระบบปฎิบัติการได้โดยตรง ทำให้สามารถใช้แอปต่างกันจากบน iPad ข้ามมายัง Mac ได้ เช่นการวาดภาพบน Notes เพื่อมาใช้ในเอกสาร
ที่มา - Apple (iPadOS, macOS) |
# watchOS 8 ปรับปรุง Photos, แอปใหม่ Mindfulness และของใหม่อีกหลายอย่าง
แอปเปิลเปิดตัว watchOS 8 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดสำหรับผู้ใช้ Apple Watch โดยปรับปรุงแอปเดิมหลายรายการ พร้อมเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ มีรายละเอียดดังนี้
Portraits Watch Face
สามารถนำรูปภาพที่มีใน Photos มาทำเป็นหน้าปัดนาฬิกา โดยแสดงผลภาพแบบ Portrait ทำให้มีลูกเล่นความชัดลึก นอกจากนี้แอป Photos ใน watchOS ยังเข้าถึงคลังรูปภาพใน Memories พร้อมแชร์ต่อได้ผ่าน Apple Watch ทันที
Messages
การส่งข้อความสามารถทำได้ง่ายขึ้น โดยรวมการเขียนตัวอักษร (Scribble), Dictation และ Emoji รวมไว้ที่เดียว และเพิ่มความสามารถให้แก้ไขข้อความก่อนส่งได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มแอป Contacts ทำให้ค้นหารายชื่อผู้ต้องการติดต่อได้ง่ายขึ้น
Mindfulness
แอป Breathe ที่แจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานได้ผ่อนคลายด้วยการฝึกหายใจเข้าออก ปรับปรุงใหม่เป็นแอปชื่อ Mindfulness โดยมีสองส่วนการใช้งานคือ Breathe แบบเดิม และเพิ่มเติมคือ Reflect ให้ผู้ใช้งานได้ผ่อนคลายและกำหนดจิตให้อยู่กับสิ่งหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งนาที
ของใหม่อื่น ๆ
เพิ่มการออกกำลังกาย ไทเก็ก และพิลาทิส
เพิ่มการเก็บข้อมูลอัตราการหายใจขณะนอนหลับ
คุณสมบัติใหม่ใน Wallet แบบเดียวกับ iOS 15
แอป Home ปรับหน้าตาใหม่
เพิ่มตัวควบคุมการแจ้งเตือน Focus แบบ iOS 15
watchOS 8 ใช้งานสำหรับ Apple Watch Series 3 ขึ้นไป โดยต้องทำงานร่วมกับ iPhone 6s ขึ้นไป และใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 15 เปิดให้ดาวน์โหลดสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปช่วงปลายปี ส่วนนักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดรุ่นทดสอบได้ตั้งแต่วันนี้ และเวอร์ชัน Public Beta มีกำหนดออกมาในเดือนหน้า
ที่มา: แอปเปิล |
# แอปเปิลเปิดตัว Xcode Cloud บริการคอมไพล์และทดสอบแอปอัตโนมัติ, Swift Playground เขียนแอปได้เต็มรูปแบบ
แอปเปิลเปิดตัวฟีเจอร์สำคัญสำหรับนักพัฒนาในงาน WWDC นอกเหนือจากการอัพเดต API ตามรอบการอัพเดตระบบปฎิบัติการแล้ว ยังมีเปิดตัวเครื่องมือพัฒนาอีกหลายรายการ
บริการแรกคือ Xcode Cloud บริการคลาวด์สำหรับการคอมไพล์แอป, ทดสอบ, และกระจายแอปรุ่นทดสอบให้เทสเตอร์ บริการนี้ทำให้นักพัฒนาไม่ต้องใช้เครื่องตัวเองในการคอมไพล์เอง ลดระยะเวลาที่เครื่องโหลดหนักลง ตัวบริการเริ่มทดสอบวงปิดในปีนี้และเปิดบริการจริงในปีหน้า ส่วนราคาจะแจ้งภายหลัง
แอป Swift Playground อัพเดตเป็นเวอร์ชั่น 4 สำหรับเรียนเขียนโค้ดบน iPad เพิ่มความสามารถในการเขียนแอปเต็มรูปแบบ สามารถเขียนแอปด้วย SwiftUI ได้ทันที รวมถึงสามารถส่งแอปขึ้น App Store โดยตรง
ภาษา Swift เองก็มีอัพเดตฟีเจอร์ async, await, actor ทำให้เขียนโค้ดที่รันแบบขนานได้โดยไม่ยุ่งยาก ตอบสนองผู้ใช้ได้แม้มีงานเบื้องหลังหนักๆ
ฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนาอื่นๆ เช่น
หน้าจอ App Store ปรับแต่งได้ตามกลุ่มเป้าหมาย สามารถทดสอบไอคอนหรือภาพหน้าจอว่าแบบใดได้ผลดี
RealityKit 2 เพิ่มฟีเจอร์สแกนวัตถุสามมิติ
Virtual Game Controller API อำนวยความสะดวกสำหรับนักพัฒนาเกมที่ต้องการสร้างตัวคอนโทรลเลอร์บนหน้าจอพร้อมๆ กับรองรับคอนโทรลเลอร์จริง
Xcode 13 ทำงานร่วมกับ Xcode Cloud และบริการทำงานร่วมกันอื่นๆ เช่น GitHub, GitLab, Bitbucket ได้ดีขึ้น
ที่มา - Apple |
# iPadOS 15 - ปรับแต่งหน้า Home ได้มากขึ้น, ปรับปรุง Multitasking
แอปเปิลเปิดตัว iPadOS 15 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดสำหรับ iPad โดยมีการปรับปรุงและเพิ่มเติม 3 ฟีเจอร์สำคัญ คือ Widgets, Multitasking และ Quick Note รายละเอียดดังนี้
Widgets
เป็นการนำฟีเจอร์ Widgets แบบเดียวกับใน iOS 14 มาใส่ใน iPadOS 15 ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Widgets ตามต้องการได้ในหน้า Home ของ iPad
App Library
เป็น App Library แบบเดียวกับใน iOS 14 ที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงรายชื่อแอปในอุปกรณ์ได้แบบแยกหมวดหมู่ โดยบน iPadOS ส่วน App Library จะอยู่ใน Dock แถบด้านล่าง
Multitasking
เพิ่มไอคอนด้านบนขณะใช้งานแอป เพื่อเลือกรูปแบบการแสดงผลหลายแอปในจอเดียวว่าจะเป็นแบบเต็มหน้าจอ (Full Screen), Split View หรือ Slide Over และเพิ่มคุณสมบัติใหม่เรียกว่า Shelf ที่ทำให้เลือกสลับไปยังแอปที่เปิดใช้งานอยู่ได้ง่ายขึ้น
Quick Note
แอปย่อยสำหรับจดบันทึกขณะใช้งานแอปใด ๆ เพื่อบันทึกความจำความคิดในตอนนั้น โดยจะผูกติดอยู่กับแอปนั้น และสามารถเรียกขึ้นมาดูในเวลาอื่นได้ตามต้องการ
ที่มา: WWDC21 |
# ฟีเจอร์ใหม่ AirPods ใช้เหมือนเครื่องช่วยฟัง, ค้นหาได้ดีขึ้นใน Find My, Spatial Audio บน tvOS และ macOS
ในงาน WWDC วันนี้ Apple เผยฟีเจอร์ใหม่ของหูฟังตระกูล AirPods ที่จะมาพร้อมกับอัพเดต iOS 15 เริ่มต้นด้วย Conversation Boost ของ AirPods Pro ที่สามารถใช้ไมโครโฟนช่วยจับและขยายเสียงพูดของคนที่อยู่ตรงหน้าพร้อมตัดเสียงรบกวนอื่นๆ ได้
ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับช่วงที่อยากคุยกับเพื่อนโดยใส่หูฟังไปด้วย แต่อยู่ในที่ที่มีเสียงดัง และสามารถใช้เหมือนเป็นเครื่องช่วยฟังในการสนทนาได้ นอกจากนี้ยังมีเมนูตั้งค่าแบบใหม่ที่ละเอียดขึ้น ให้ผู้ใช้สามารถเปิด-ปิด Conversation Boost ปรับระดับการตัดเสียงรบกวนแบบสไลเดอร์ หรือปรับสมดุลเสียงด้านซ้ายและขวาได้
AirPods ยังสามารถอ่านแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ฟังได้แล้ว พร้อมปรับปรุงการค้นหาในแอป Find My ให้ทำได้ละเอียดขึ้น โดยใช้เครือข่ายอุปกรณ์ iOS เครื่องอื่นบน Find My (คล้าย AirTag) และสามารถสั่งเล่นเสียงบนหูฟังได้ ร่วมถึงให้หูฟังส่งแจ้งเตือนระบุตำแหน่งได้ เมื่อผู้ใช้อยู่ห่างจาก AirPods
อีกฟีเจอร์ที่ขยายขอบเขตการใช้งานเพิ่มเติม คือ Spatial Audio ระบบเสียงรอบทิศทางที่ใช้การตรวจจับการหันหัวเพื่อเล่นเสียงตามทิศทางที่ถูกต้อง เตรียมเปิดให้ใช้งานได้บน tvOS และ macOS แล้ว แต่ยังไม่ระบุว่ารองรับแอปใดบ้าง
ที่มา - WWDC21 |
# แอปเปิลเปิดตัว iCloud+ เพิ่มบริการ VPN, อีเมลชั่วคราว, เก็บภาพกล้องวงจรปิด
แอปเปิลเปิดบริการ iCloud+ ขยายบริการ iCloud โดยเพิ่มบริการรักษาความเป็นส่วนตัว ได้แก่
Private Relay: บริการ VPN จากแอปเปิล ที่ต้องผ่านโหนดอย่างน้อยสองครั้งเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าเราเข้าเว็บจากไอพีอะไร
Hide My Email: บริการอีเมลชั่วคราว โดยสร้างชื่ออีเมลสุ่มเพื่อรับอีเมล สามารถลบเมลทิ้งเมื่อไม่ต้องการได้
HomeKit Secure Video: บริการเก็บภาพกล้องวงจรปิด โดยไม่รวมพื้นที่เข้ากับการใช้ iCloud ตามปกติ
iCloud+ ยังคงราคาเท่ากับ iCloud ปกติ |
# เปิดตัว iOS 15 เน้นเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง การแจ้งเตือน FaceTime และอื่น ๆ
แอปเปิลเริ่มต้นงาน WWDC21 ด้วยการเปิดตัว iOS 15 ระบบปฏิบัติการของ iPhone โดยปีนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในส่วนการใช้งานหลัก แต่เน้นเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้กับแอปพื้นฐานเดิม มีรายละเอียดสำคัญดังนี้
FaceTime
ปรับปรุงระบบเสียง โดยรองรับ Spatial Audio ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติเหมือนอยู่ในวงสนทนาใกล้กัน มีระบบตัดเสียงรบกวน ระบบวิดีโอภาพ Portrait เบลอฉากหลัง สามารถคุยแบบกลุ่มโดยแสดงผลแบบ Grid เหมือนแอปประชุมงาน และสามารถสร้างลิงก์สำหรับนัดหมายคุยผ่าน FaceTime ซึ่งทำให้ผู้ใช้ Android และ Windows สามารถคุย FaceTime ผ่านเว็บได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ SharePlay ที่สามารถคุย FaceTime พร้อมกับแชร์การดูหนัง ฟังเพลง หรือแชร์หน้าจอ ระหว่างสนทนาได้ด้วย นอกจากนี้ SharePlay ยังมี API ให้นักพัฒนานำไปใช้งานกับแอปของตนได้อีกด้วย
Messages
เพิ่มความสามารถการแชร์คอนเทนต์ที่มากขึ้น ทั้งรูปภาพ เพลง ข่าว (Apple News) คอนเทนต์เว็บ พอดคาสต์ และคอนเทนต์ Apple TV
Notifications
ระบบแจ้งเตือนใน iOS 15 มีการเปลี่ยนแปลงหลายรายการที่สำคัญ โดย Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิล บอกว่าเน้นให้ผู้ใช้งาน มี Focus กับสิ่งที่กำลังทำมากขึ้น จึงแยกการแจ้งเตือนเป็นที่สำคัญและไม่สำคัญ ตามสถานการณ์และช่วงเวลา
Notification summary รวมการแจ้งเตือนทั้งหมดเป็นไอเท็มเดียว
Focus ปรับแต่งการแจ้งเตือน จากเดิมมีเฉพาะ Do Not Disturb มีตัวเลือก Personal, Work และ Sleep สามารถกำหนดรายแอปได้ว่าให้แอปใดยังแสดงการแจ้งเตือนในช่วงเวลานั้น ๆ
Do Not Disturb สามารถแจ้งเตือนกลับใน Message ได้ ทำให้ผู้ติดต่อทราบว่าคนนั้นไม่ว่าง
Photos
เพิ่มฟีเจอร์ Live Text ค้นหาข้อความในรูปภาพ และสามารถคัดลอกออกมาเป็นตัวหนังสือได้ เบื้องต้นรองรับ 7 ภาษา และยังไม่มีภาษาไทย
Photos memories มีการปรับปรุงใหม่ สามารถจัดผสมรูปภาพและวิดีโอ รวมทั้งใส่เพลงจาก Apple Music ได้ นอกจากนี้รูปภาพยังเพิ่มมารวมในผลการค้นหาของ Spotlight ด้วย
อื่น ๆ
Wallet รองรับกุญแจและบัตรประชาชน
Maps เพิ่มมุมมองและรายละเอียดที่มากขึ้นในหลายเมือง เพิ่มข้อมูลรายละเอียดถนนสำหรับ CarPlay
Weather ดีไซน์แบบใหม่ มีระบบแสดงสภาพอากาศบนแผนที่
ที่มา: WWDC21 |
# ฝรั่งเศสปรับกูเกิล 8,400 ล้านบาทฐานละเมิดกฎหมายผูกขาดในตลาดโฆษณา กูเกิลสัญญาจะปรับปรุงในปี 2022
หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดฝรั่งเศส (Autorité de la concurrence) สั่งปรับกูเกิล 220 ล้านยูโร หรือ 8,400 ล้านบาทฐานให้บริการโฆษณาโดยอาศัยอำนาจเหนือตลาดของตัวเองเอื้อประโยชน์เข้าตัวเอง
กูเกิลมีธุรกิจโฆษณาสองฝั่ง คือฝั่งแสดงโฆษณาหรือ Google AdSense และการแสดงโฆษณาบนบริการต่างๆ ของกูเกิล เช่น YouTube อีกด้านหนึ่งกูเกิลมีบริการ Google AdX สำหรับการซื้อพื้นที่โฆษณา
ทางฝรั่งเศสระบุว่าบริการซื้อโฆษณา หรือ AdX ของกูเกิลเข้าถึงข้อมูลการขอแสดงโฆษณาของผู้ซื้อโฆษณารายอื่นๆ ที่ซื้อโฆษณาผ่านบริการของกูเกิลได้ทำให้กูเกิลได้เปรียบจนแพลตฟอร์มอื่นแข่งขันไม่ได้ ขณะเดียวกันก็กระทบต่อเว็บและสื่อต่างๆ ที่อาศัยรายได้จากโฆษณา
หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดฝรั่งเศสระบุว่าธุรกิจโฆษณาทุกวันนี้มีความซับซ้อนสูงและการสอบสวนคดีนี้ต้องมีรู้ทางเทคนิคพอที่จะทำความเข้าใจกระบวนการประมูลโฆษณา ทางด้านกูเกิลไม่อุทธรณ์ต่อคำสั่งปรับครั้งนี้และจะปรับกระบวนการทำงานภายในไตรมาสแรกปี 2022
ที่มา - BBC World Service, Yahoo! News
ภาพโดย denvit |
# จะสร้างทำไมถ้าตัวเองไม่ได้ขึ้นไปด้วย Jeff Bezos จะขึ้นทัวร์อวกาศ Blue Origin เที่ยวแรกพร้อมน้องชาย
ในที่สุดยาน New Shepard ของ Blue Origin ที่ก่อตั้งโดย Jeff Bezos เตรียมจะขึ้นบินนอกโลกเชิงพาณิชย์เป็นเที่ยวแรกในเดือนกรกฎาคมนี้แล้ว แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าตัวผู้ก่อตั้งไม่ร่วมเดินทางครั้งนี้ด้วย ล่าสุด Jeff Bezos เผยว่าเขาและน้องชายจะร่วมเดินทางในเที่ยวแรกนี้
Bezos เผยใน Instagram ว่าตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ ก็ใฝ่ฝันที่จะเดินทางไปในอวกาศมาตลอด และในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ เขาจะร่วมเดินทางไปกับน้องชายด้วย
จนถึงตอนนี้ การประมูลที่นั่งในเที่ยวบินยังไม่จบ และคาดว่ามีผู้เข้าร่วมประมูลแล้วเกือบ 6,000 คนจาก 143 ประเทศ โดยมีผู้เสนอราคาสูงสุดที่ 2.8 ล้านดอลลาร์ โดยเงินที่ได้นี้ทางบริษัทบอกว่าจะนำไปมอบให้ Club for the Future สนับสนุนการศึกษาให้กับบุคลากรที่เล่าเรียนในสาย STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics)
ทริป New Shepard ครั้งนี้เป็นการบินเหนือพื้นโลก 100 กม. เพื่อสัมผัสความรู้สึกไร้แรงโน้มถ่วง และดูวิวพื้นผิวของโลก
ที่มา - Engadget |
# แอริโซนา พื้นที่สุดฮ็อตโลกเซมิคอนดักเตอร์ ทั้ง TSMC/อินเทล ตั้งโรงงานใหม่ที่นี่
ทำเลที่ตั้งโรงงานผลิตชิปที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้คือ รัฐแอริโซนาของสหรัฐอเมริกา เพราะผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกคือ TSMC และ อินเทล ต่างก็มาตั้งโรงงานใหม่ที่นี่ (TSMC อยู่ที่เมือง Phoenix ส่วนอินเทลอยู่ที่เมือง Chandler)
เว็บไซต์ Ars Technica ให้เหตุผลว่าทำไมโรงงานผลิตชิปเหล่านี้ถึงเลือกแอริโซนา มาจากหลายปัจจัยคือ แอริโซนามีภัยธรรมชาติน้อย ทั้งเฮอริเคนและไฟป่า, มีระบบผลิตพลังงานค่อนข้างมั่นคง มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาก, มีทรัพยากรมนุษย์พร้อม มีมหาวิทยาลัยที่ผลิตคนด้านออกแบบชิป, อินเทลเองก็ตั้งโรงานในแอริโซนามานานกว่า 40 ปี และรัฐบาลท้องถิ่นก็ออกมาตรการดึงดูดให้โรงงานเหล่านี้มาตั้งด้วย
ส่วนประเด็นว่าโรงงานผลิตชิปต้องใช้น้ำปริมาณมาก และแอริโซนาเป็นรัฐที่แห้งแล้ง ฝนตกน้อย (TSMC สู้วิกฤตภัยแล้งในไต้หวัน) ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก เพราะต้องการเก็บน้ำมาใช้แค่ครั้งแรกครั้งเดียว จากนั้นไม่ได้ต้องการน้ำมาเติมในระบบบ่อย นอกจากนี้บริษัทอย่างอินเทลยังเข้ามาช่วยโครงการบำบัดน้ำเสีย ทำให้มีน้ำใช้กลับเข้ามาอีกจำนวนมากด้วย
กรณีของซัมซุงนั้นมีโรงงานที่รัฐเท็กซัส ซึ่งถือเป็นรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาเช่นกัน
ภาพโรงงานของอินเทลที่แอริโซนา
ที่มา - Ars Technica |
# Michael Dell อธิบาย แยก VMware กับ Dell ออกจากกัน เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย
Michael Dell ซีอีโอของ Dell Technologies ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการแยกหุ้นของ Dell กับ VMware ที่จะทำให้ VMware เป็นอิสระจาก Dell อีกครั้ง (EMC ซื้อ VMware ในปี 2003 แล้วนำหุ้นบางส่วนมาขาย IPO ก่อนที่ EMC จะถูก Dell ซื้อในปี 2016)
เขาให้เหตุผลว่าการที่ VMware เป็นอิสระจาก Dell ทำให้ทั้งสองบริษัทมีอิสระในการเลือกโซลูชันมากขึ้น โดย Dell จะยังเลือกใช้โซลูชันของ VMware ต่อไปในหลายส่วน แต่ก็เปิดโอกาสให้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์รายอื่นได้ด้วย
เขายังพูดถึงแนวทางของ Dell หลังจากนี้ว่าจะขยายไปยังตลาด edge computing, ตลาดโทรคมนาคมที่มี 5G และแนวทางการให้บริการแบบ IT-as-a-Service ที่ใช้แบรนด์ Apex ทำตลาด
ที่มา - CRN |
# ซีอีโอ EA ยังเชื่อว่าคลาวด์เกมมิ่งคืออนาคต ระบุปัญหา Stadia คือหาเพื่อนเล่น Multiplayer ไม่ได้
Andrew Wilson ซีอีโอของ EA ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Fortune ถึงอนาคตของวงการคลาวด์เกมมิ่ง ระบุว่าเขายังเชื่อว่าคลาวด์เกมมิ่งก็คืออนาคตของวงการเกมอย่างไม่ต้องสงสัย (“it’s a foregone conclusion”) แต่ระบุว่าคงต้องใช้เวลาพัฒนาสักระยะก่อนจะไปถึงจุดนั้น
เมื่อถูกถามถึงเรื่องที่ Google Stadia กำลังประสบปัญหาหลายอย่างในปัจจุบัน Wilson ตอบว่าตัวเขาเองเคยลองเล่นเกมบน Stadia มาแล้ว และมันก็ไม่ได้แย่นัก แต่ปัญหาคือการที่ระบบ Multiplayer ของ Stadia หาคนเล่นด้วยแทบไม่ได้ เพราะเขามองว่าเกมสมัยนี้เป็นเหมือนโซเชียลมีเดียมากกว่า ไม่ใช่แค่ “เกมเล่นคนเดียวที่นั่งเล่นในห้องนอนหรือในชั้นใต้ดินของบ้าน” อีกต่อไป
ระบบออนไลน์ของเกมบน Stadia หลายๆ เกม ยังจำกัดให้ผู้เล่นเล่นด้วยกันได้แค่บนแพลตฟอร์ม Stadia ด้วยกันเท่านั้น เช่นเกม FIFA และ Madden ของ EA เอง แต่ก็มีเกมที่เปิดให้เล่นกับพีซีได้ เช่น The Elder Scrolls Online, The Division 2 และ PUBG ที่เล่นกับคอนโซลได้เมื่อใช้ Stadia Controller ปัญหาจึงน่าจะมาจากฝั่งผู้พัฒนาเกมที่อาจต้องปรับปรุงตัวเกมให้เล่นด้วยกันได้ มากกว่าจะเป็นข้อจำกัดของแพลตฟอร์ม
ปัจจุบัน Google Stadia กำลังประสบปัญหาหลายด้าน ทั้งสตูดิโอภายในถูกปิด ผู้บริหารลาออก และยอดผู้เล่นอาจไม่ถึงเป้าที่ Google วางไว้ คงต้องติดตามกันต่อไปว่าคลาวด์เกมมิ่งจะเป็นอนาคตจริงหรือไม่ และถ้าใช่ Stadia เป็นส่วนหนึ่งของอนาคตนั้นหรือเปล่า
ที่มา - Fortune via 9to5Google |
# Apple เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ผู้บริหารทั้งหมดเป็น Memoji ก่อนเริ่มงาน WWDC
Apple เตรียมถ่ายทอดสดงานสัมนานักพัฒนาประจำปี 2021 หรือ WWDC 2021 เป็นวันแรก เวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน ตามเวลาประเทศไทย และงานจะมีไปถึงวันที่ 11 มิถุนายนนี้
ตอนนี้หน้าโปรไฟล์ผู้บริหารของเว็บไซต์ Apple.com รวมถึงทวิตเตอร์ของ Tim Cook เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็น Memoji ก่อนถึงเวลางานแล้ว อาจแปลว่าในงานจะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Memoji เป็นหนึ่งในจุดสนใจ
นอกจากนี้ในงานคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์ และระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ซึ่งอาจมีทั้ง iOS, macOS, iPadOS และ watchOS รวมถึงอาจมีการเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M1 รุ่นอัพเกรด หรือที่สื่อหลายสำนักเรียกกันว่า M1X อีกด้วย ซึ่งคงต้องรอติดตามกันในเวลางาน
ที่มา - 9to5Mac |
# KBTG ร่วมถกปัญหาทักษะแรงงานอนาคต ชี้การทำงานกับ Machine คือทักษะจำเป็นไปอีก 10 ปี
ภาคการศึกษากำลังเผชิญความท้าทายจากระบบการศึกษาที่พัฒนาและปรับเปลี่ยนหลักสูตรการสอนไม่ทันต่อเทรนด์โลก ผลิตคนไม่ตอบโจทย์อุตสาหกรรม และยังมีความท้าทายเรื่อง reskill ในสาขาอาชีพเสี่ยงตกงานตามความต้องการในตลาดแรงงาน เราจึงเห็นองค์กรใหญ่เข้าไปทำงานกับสถาบันการศึกษา เพื่อระบุทักษะสำคัญในโลกจริงแล้วนำไปปรับใช้ในการพัฒนาหลักสูตร เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
KBTG ถือเป็นองค์กรที่ตื่นตัวในเรื่องนี้มาตลอด เห็นได้จากการทำโครงการ Tech Kampus เข้าไปร่วมพัฒนาหลักสูตรในและร่วมทำงานวิจัยกับมหาวิทยาลัย เตรียมความพร้อมนักศึกษาสู่ตลาดอุตสาหกรรมจริง รวมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานรีสกิลตัวเองอยู่เสมอ
ถือเป็นโอกาสอันดีที่สำนักวิจัย The Stanford Thailand Research Consortium ของมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่างสแตนฟอร์ด จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “Future Thailand-Innovation in Education and Workforce Development” โดยมีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมของนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
ผู้ร่วมอภิปรายคือคณาจารย์และนักวิจัยในโครงการ ITS หรือ Innovative Teaching Scholars จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ด้านผู้บรรยายจากภาคธุรกิจที่มาพูดคุยและสำรวจมุมมองของภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย
คุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มอินทัช และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิซิเนส - เทคโนโลยี กรุ๊ป (KASIKORN Business-Technology Group หรือ KBTG)
ทักษะจำเป็นในช่วง 10 ปี คือการทำงานกับเครื่องจักร
คุณกระทิง ให้มุมมองว่า ทักษะที่จะมีความสำคัญอย่างน้อยไปอีก 10 ปีต่อจากนี้คือ ทักษะการทำงานกับเครื่องจักร (machine) เพราะ 10 ปีต่อจากนี้เทคโนโลยีจะมีความสำคัญในทุกองค์ประกอบของชีวิต คนทำงานโดยเฉพาะฝั่งเทคโนโลยี ต้องเรียนรู้ที่จะทำงานกับปัญญาประดิษฐ์ ยกตัวอย่างในองค์กร KBTG ที่ปรับใช้ปัญญาประดิษฐ์ และการทำงานอัตโนมัติในทุกกิจกรรมการทำงานตั้งแต่ระดับปฏิบัติการทั่วไปจนถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์
แต่ในขณะเดียวกัน คนต้องไม่สูญเสียทักษะซอฟต์สกิลอย่างความเห็นอกเห็นใจ (empathy) ความคล่องตัว (agility) หรือความสามารถที่จะเรียนรู้ใหม่ได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญอย่างปัจจุบันนี้
คุณกระทิงคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า โลกจะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง (continuous disruption) โดยเฉพาะฝั่งเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนเร็วมาก ดังนั้นทักษะที่จำเป็นในระยะยาวคือเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเปลี่ยนแปลง หาทางประยุกต์ทักษะตัวเองเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้
ที่ KBTG เองก็มีโครงการรีสกิลพนักงานมากมาย มีพนักงานหลายคนที่ไม่ได้เรียนจบตรงสาย แต่มารีสกิลหรือพัฒนาทักษะใหม่ๆ ที่ KBTG ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากพนักงานเหล่านั้นขาดทัศนคติการเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคย
เมื่อถามว่าเกรดและ GPA มีผลกับการทำงานจริงหรือไม่ คุณกระทิงระบุว่าองค์กรไม่ได้ให้ความสำคัญกับเกรดมากขนาดนั้น เพราะในชีวิตการทำงานจริง ยังมีเนื้อหาที่อยู่นอกขอบเขตการเรียนการสอนอีกมาก ทั้งความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กร ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ความสามารถในการสื่อสารและการเป็นผู้นำในตัวเอง
เมื่อ KBTG รับพนักงานที่เพิ่งจบการศึกษา เราจะใช้เวลาราว 6 เดือนให้เขาเรียนรู้งานและรีสกิลตัวเองให้พร้อมทำงาน ในบางครั้งเราพบคนที่ได้ GPA 4.0 แต่ทำงานโค้ดดิ้งไม่ได้ตามที่เราคาดหวังไว้ ซึ่งเกิดจากปัญหาการทดสอบระดับมืออาชีพ (professional test) ที่ใช้งานจริง กับการทดสอบในมหาวิทยาลัย ไม่สอดคล้องกัน
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ KBTG เข้าไปทำงานกับสถาบันการศึกษาในโครงการ Tech Kampus กับมหาวิทยาลัย 10 แห่ง ส่งทีมงาน KBTG เข้าไปทำงานอย่างใกล้ชิดกับอาจารย์เพื่อพัฒนาหลักสูตรร่วมกัน และทำงานกับนักศึกษาเพื่อวิจัยร่วมกัน ให้นักศึกษาเห็นภาพการทำงานในชีวิตจริงตั้งแต่ยังศึกษาอยู่ ในระยะยาวองค์กรจะได้ใช้เวลารีสกิลพนักงานใหม่น้อยลงด้วย
นอกเหนือจากเกรดและผลการศึกษาแล้ว คุณกระทิงมองว่ายังมีการทดสอบแบบอื่นที่ใช้ประเมินศักยภาพของนักศึกษาได้เช่นกัน ที่ KBTG เองมีแบบทดสอบขององค์กรที่ช่วยให้เรารู้ว่าคนที่จะเข้ามาทำงานกับเรามีทักษะระดับใด รับมือกับอุปสรรคอย่างไร แก้ปัญหาอย่างไร และในอนาคตเราจะมองเห็นการทดสอบในรูปแบบอื่นจากแพลตฟอร์ม Edtech ต่างๆ ที่เติบโตขึ้น
คุณกระทิงมองว่าการศึกษาดิจิทัลที่ใครก็เข้าถึงได้ และคอร์สเรียนออนไลน์ที่ออกใบรับรองได้ ปัจจัยเหล่านี้จะมีบทบาทในการคัดเลือกคนทำงานมากขึ้น ถือเป็นความท้าทายที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลยุคใหม่ต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน
โครงการ ITS จุดประกายนักการศึกษา ทดลองแนวทางใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมนักศึกษา
สถาบันการศึกษาผลิตคนไม่ตอบโจทย์การทำงานจริงไม่ได้เป็นเพียงปัญหาประเทศไทย แต่ยังเป็นปัญหาระดับโลก ดร. ลาติเซีย บริทอส คาแวคแนโร ศาสตราจารย์พิเศษ สถาบันออกแบบ Hasso PlattnerInstitute of Design กล่าวว่า มหาวิทยาลัยทั่วโลกต่างกำลังเผชิญกับปัญหาด้านความไม่สอดคล้องระหว่างการเตรียมความพร้อมของนักศึกษากับทักษะและวิธีคิด (mindset) ที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพในอนาคต จึงตั้งโครงการ ITS ขึ้นเพื่อติดอาวุธให้แก่คณาจารย์มหาวิทยาลัยไทย 50 คน ได้ทดลองทำแนวทางการสอนแบบใหม่ ส่งเสริมให้อาจารย์เหล่านี้เป็นผู้นำที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมงานและสถาบันของพวกเขาได้ทดลองแนวการสอนแบบใหม่ด้วย
คุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม จากเอไอเอสให้ความเห็นว่า เอไอเอสเองมีโครงการรีสกิลพนักงานในองค์กรอย่าง Academy for Thai และทำงานร่วมกับภาคการศึกษาอยู่แล้วเช่นกัน และอยากเสนอทางภาคการศึกษาให้ความสำคัญกับซอฟต์สกิลซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการทำงานจริง
ด้านคุณวิทการ จันทวิมล จาก เอพี ไทยแลนด์ แสดงความเห็นว่าการเตรียมนักศึกษาให้มีความพร้อมในการทำงานในยุคปัจจุบันนั้น นอกจากจะต้องเชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพของตนเองแล้ว ยังต้องมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสื่อสาร และการทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมถึงมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางเอพีก็มีโครงการ AP Open House ช่วยเสริมสร้างแนวทางที่เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้พัฒนาทักษะดังกล่าว
สำหรับโครงการ ITS หรือ Innovative Teaching Scholars program เป็นโครงการริเริ่มของ the Stanford Thailand Research Consortium (STRC) เปิดรับสมัครนักการศึกษาในประเทศไทยที่สนใจเข้าร่วมเวิร์คชอป เน้นที่ทักษะการสอนและวิธีการที่ครูอาจารย์จะสามารถนำไปบูรณาการระหว่างภาคเรียนได้ |
# [ไม่ยืนยัน] Facebook เตรียมเปิดตัว Bulletin แพลตฟอร์มนักเขียนอิสระ มีทั้งอ่านฟรีและเสียเงิน
จากข่าว Facebook ประกาศทำแพลตฟอร์มสำหรับ "นักเขียนอิสระ" แต่ยังไม่มีชื่อในขณะนั้น ล่าสุดเว็บไซต์ Recode รายงานว่า Facebook เตรียมจะเปิดตัวแล้วในชื่อว่า Bulletin เป็นจดหมายข่าวสารซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มแยกออกจาก Facebook เตรียมเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้ มีทั้งแบบอ่านฟรี และเสียเงิน
ในระยะแรก เนื้อหาบน Bulletin จะเน้นไปที่กีฬา สิ่งแวดล้อมและแฟชั่น และจะมีเนื้อหาข่าวท้องถิ่นจากโครงการ Journalism Project ของ Facebook เองด้วย
สำหรับเหตุผลที่แยก Bulletin ออกจาก Facebook นั้น Recode อ้างอิงแหล่งข่าวภายในว่ามีสองเหตุผล คือต้องการทำแบรนดิ้ง Bulletin แยกออกไปเลย กับอีกเหตุผลคือต้องการหลีกเลี่ยงจ่ายค่าคอมมิชชั่นของร้านค้าแอปให้กับ Apple และ Google ในขณะเดียวกัน Facebook จะช่วยโปรโมท Bulletin ให้เข้าถึงคนหมู่มาก และใช้ความสามารถในการทำการตลาดเฉพาะกลุ่มสร้างฐานผู้อ่านใน Bulletin ได้
ใน Recode ยังบอกด้วยว่า Facebook ทำข้อตกลงกับนักเขียนไว้สองปี และหลีกเลี่ยงเนื้อหาการเมือง
ที่มา - Engadget |
# openSUSE ออกรุ่น Leap 15.3 ใช้ไบนารีร่วมกับ SUSE Linux Enterprise
โครงการ openSUSE ประกาศออกรุ่นย่อย openSUSE Leap 15.3 แม้จะเป็นรุ่นย่อยตามรอบปกติแต่ความเปลี่ยนแปลงภายในค่อนข้างใหญ่ คือการใช้ไบนารีโดยตรงจาก SUSE Linux Enterprise (SLE) รุ่นสำหรับขายองค์กรโดยตรง
โครงการ openSUSE Leap และ SLE นั้นเป็นคู่กันระหว่างโครงการชุมชน และรุ่นขายไลเซนส์สำหรับองค์กร คล้ายกับ RedHat Enterprise Linux และ CentOS แต่ที่ผ่านมาแม้ openSUSE Leap และ SLE จะใช้ซอร์สโค้ดร่วมกัน แต่กระบวนการคอมไพล์นั้นแยกกัน ทำให้บางครั้งพบปัญหาต่างกันจากพารามิเตอร์การคอมไพล์ ในเวอร์ชั่น 15.3 นี้ไบนารีจะตรงกับ SLE 15 SP3
แนวทางนี้ทำให้นักพัฒนาและผู้ใช้ลินุกซ์มือสมัครเล่นสามารถพัฒนาแอปพลิเคชั่นบน openSUSE Leap แล้วย้ายงานไปยัง SLE โดยมีปัญหาน้อยลง
ที่มา - openSUSE |
# Capcom โดนช่างภาพฟ้องฐานนำรูปไปใช้ใน Resident Evil 4 และ Devil May Cry โดยไม่ได้ขออนุญาต
Judy A. Juracek ศิลปิน และช่างภาพรายหนึ่งยื่นฟ้อง Capcom ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ที่ศาลใน Connecticut กล่าวหาว่าบริษัทนำผลงานของเธอไปใช้ในเกม Resident Evil 4 และ Devil May Cry โดยไม่ได้ขออนุญาต
Juracek บอกว่า Capcom นำผลงานออกแบบของเธอจากหนังสือ Surfaces คอลเลกชั่นภาพที่เธอถ่ายไว้กว่า 1,200 รูป ไปใช้ในหลายๆ เกมและหนึ่งในนั้นมี Resident Evil 4 และ Devil May Cry ด้วย โดยคอลเลกชั่นภาพบน Surfaces เป็นรูป texture พื้นผิวในรูปแบบต่างๆ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการวิจัยด้วยภาพในกลุ่มนักออกแบบ ศิลปิน
โจทก์ชี้ให้เห็นว่ามีภาพถ่ายอย่างน้อย 80 ภาพที่ถูกใช้ในฉากต่างๆ ในเกม Capcom ยกตัวอย่างเช่นภาพพื้นผิวกระจกแตกที่ถูกใช้ในโลโก้ Resident Evil 4 ซึ่งหากใครต้องการใช้รูปภาพในเชิงพาณิชย์ ต้องมาติดต่อที่ Juracek โดยตรง แต่ Capcom ไม่เคยติดต่อมาหาเธอแต่อย่างใด
ทนายความของ Juracek ขอให้ศาลตัดสินค่าเสียหายที่ 12 ล้านดอลลาร์จากการละเมิดลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ Juracek ยังจะเรียกร้องค่าเสียหาย 2,500- 25,000 ดอลลาร์ สำหรับภาพถ่ายที่ที่ถูกนำไปใช้ในแต่ละภาพ
ด้าน Capcom รับทราบเรื่องการฟ้องร้องแล้ว แต่ยังไม่มีความเห็นเพิ่มเติม
ภาพจาก Resident Evil 4
ที่มา - Polygon |
# Starling Home Hub ตัวเชื่อมระบบ Google Home เข้ากับ Apple HomeKit อัพเดตใหม่ รองรับ AirPlay แล้ว
Starling Home Hub เป็นอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ช่วยเชื่อมอุปกรณ์ตระกูล Nest หรืออุปกรณ์ที่ใช้ระบบของ Google Home เข้ากับอุปกรณ์ระบบ HomeKit ของ Apple และควบคุมผ่าน Siri ได้ รวมถึงมี Developer Connect API เชื่อมอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีก
ก่อนหน้านี้ Starling Home Hub ยังไม่รองรับการเล่นวิดีโอหรือเพลงผ่าน Apple AirPlay บนอุปกรณ์เช่น Google Nest Speaker หรือ Nest Smart Display แต่ปัจจุบันทำได้แล้วผ่านอัพเดตเวอร์ชั่น 9.0 หลัง Apple เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้ที่ใช้ทั้งอุปกรณ์ฝั่ง Android/Google และฝั่ง iOS/HomeKit หลัง Apple อัพเดตให้ Apple Music เล่นบนอุปกรณ์ Google Home ได้ และล่าสุดเพิ่งอัพเดตให้แอป Apple TV ดาวน์โหลดได้บนทีวี Android ส่วนใหญ่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
Starling Home Hub ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย และระบบสมาร์ทโฮมในบ้านเราคงยังต้องใช้หลายแอปเพื่อควบคุมอยู่ แถมยังมีอุปกรณ์อื่น เช่นอุปกรณ์ Xiaomi ที่ต้องใช้แอป Mi Home หรือ Tuya ที่ต้องใช้แอป Smart Llife ควบคุม ที่ยังไม่แน่ชัดว่า API ของ Starling Home Hub จะรองรับหรือเปล่า คงต้องติดตามอัพเดตและรอดูอุปกรณ์หรือแอปควบคุมสมาร์ทโฮมอื่นๆ ต่อไป
ที่มา - 9to5Mac |
# NVIDIA กำลังร่วมมือกับ Valve นำเทคโนโลยี DLSS ให้ใช้กับเกมบนลินุกซ์ได้
NVIDIA ให้ข้อมูลว่ากำลังร่วมมือกับ Valve นำฟีเจอร์ DLSS (Deep Learning Super Sampling) ของ GeForce RTX มายังแพลตฟอร์มลินุกซ์ด้วย
ปัจจุบันเกมบน Steam จำนวนหนึ่งใช้เทคโนโลยี Proton ของ Valve เพื่อให้นำเกมจากวินโดวส์มารันบนลินุกซ์ได้ง่ายขึ้น (ข้างใต้เป็น Wine อีกที) สิ่งที่ NVIDIA ทำคือร่วมมือกับ Valve ให้เอนจิน Proton รองรับ DLSS ในตัวเลย
Valve ยังไม่เปิดเผยว่ามีเกมไหนบ้างที่รองรับ DLSS บนลินุกซ์แล้ว แต่จากฐานข้อมูล ProtonDB ที่ผู้ใช้ร่วมกันรายงานข้อมูลเข้ามาเอง พบว่ามีเกมบนลินุกซ์ประมาณ 30 เกมแล้วที่รองรับ
ช่วงหลังๆ เราเห็น Valve ลงทุนในแพลตฟอร์มลินุกซ์มากขึ้นมาก ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับข่าวลือการพัฒนาเครื่องเกมพกพาคล้าย Switch ที่ใช้ระบบปฏิบัติการเป็นลินุกซ์
ที่มา - The Verge |
# Super Follow ของ Twitter จำกัดเฉพาะผู้มีคนติดตามหมื่นคน อายุ 18 ปีขึ้นไป เปิดทางเนื้อหาผู้ใหญ่
เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Twitter เปิดตัวและเผยหน้าตาของ Super Follow บริการเสียเงินที่ผู้ใช้จ่ายเงินเพื่อเข้าถึงเนื้อหาเอ็กซคลูซีฟของครีเอเตอร์ เป็นโมเดลคล้าย Patreon และ OnlyFans
ล่าสุด นักแกะแอป Jane Manchun Wong โพสต์รูปหน้าตาฟีเจอร์ Super Follow พร้อมเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ครีเอเตอร์ที่จะสามารถทำเงินผ่าน Super Follow ได้ต้องมีผู้ติดตามอย่างน้อย 10,000 คน มีการโพสต์บน Twitter ไม่น้อยกว่า 25 ครั้งในช่วง 30 วัน และต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังพบคีย์เวิร์ดที่ช่วยให้ครีเอเตอร์ จำกัดนิยามของเนื้อหาตัวเองว่าเกี่ยวกับอะไร เช่น เนื้อหากีฬา พอดแคสต์ และยังพบว่ามีคำระบุประเภทเนื้อหาผู้ใหญ่ และ OnlyFans ด้วย
ช่วงนี้ถือเป็นเวลาสำคัญของ Twitter ที่พยายามสร้างตัวให้เป็นมากกว่าโซเชียลมีเดียแต่เป็นแพลตฟอร์มเพื่อครีเอเตอร์ด้วย เห็นได้จากการเปิดตัวฟังก์ชั่นใหม่ตั้งแต่ Twitter Spaces, Tip Jar หรือการจ่ายทิปให้ใครก็ได้ที่โพสต์เนื้อหาถูกใจ และที่สำคัญคือ Twitter Blue ฟีเจอร์พรีเมี่ยมเสียเงินที่มาพร้อมความสามารถ Undo Tweet, เรียงข้อความเธร็ด, Bookmark Folder เริ่มเปิดตัวในแคนาดาและออสเตรเลียแล้ว
ที่มา - The Verge |
# ยุโรป-อังกฤษ สอบสวน Facebook Marketplace และ Facebook Dating ใช้ข้อมูลเอาเปรียบคู่แข่ง
คณะกรรมการยุโรป (European Commission หรือ EC) ร่วมกับคณะกรรมการแข่งขันของสหราชอาณาจักร (Competition and Markets Authority หรือ CMA) ประกาศสอบสวน Facebook ว่าใช้ข้อมูลโฆษณาในระบบตัวเอง เพื่อเอาเปรียบคู่แข่งในตลาดที่ทับซ้อนกันหรือไม่
กรณีของ EC สนใจตลาดลงประกาศซื้อขายของบุคคลรายย่อย (classified ads) ที่ Facebook มีบริการ Facebook Marketplace มาแข่งกับเว็บลงประกาศซื้อขายรายอื่นๆ แต่เว็บลงประกาศเหล่านี้ก็ซื้อโฆษณาผ่านบริการ Facebook ที่เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คเช่นกัน ทำให้ EC สนใจว่า Facebook นำข้อมูลโฆษณาเหล่านี้มาเรียนรู้พฤติกรรมของคู่แข่ง แล้วพัฒนาให้ Facebook Marketplace ได้เปรียบกว่าหรือไม่
ส่วนกรณีของ CMA สนใจทั้งเรื่อง classified ads และตลาด online daring ซึ่งบริษัทมีบริการ Facebook Dating ที่กลายเป็นคู่แข่งกับเว็บไซต์หาคู่รายอื่นๆ ที่มาลงโฆษณากับ Facebook เช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ CMA เพิ่งเปิดการสอบสวนกูเกิลเรื่องข้อเสนอการถอดคุกกี้ 3rd party จาก Chrome และสอบสวนแอปเปิลเรื่องการผูกขาด App Store ไปเช่นกัน
ที่มา - EC, CMA |
# Fossil กำลังพัฒนาสมาร์ทวอช Wear แบบพรีเมียม คาดเปิดตัวปีนี้, รุ่นเก่าจะไม่ได้อัพเกรดไป Wear โฉมใหม่
Google และ Samsung เพิ่งจะจับมือพัฒนา Wear ระบบปฏิบัติการสมาร์ทวอชแบบใหม่เมื่อเดือนที่แล้วที่เน้นประสานแพลตฟอร์ม Wear OS กับ Tizen เข้าด้วยกัน
ล่าสุด Fossil Group ที่พัฒนาสมาร์ทวอชหลายกลุ่มก็เตรียมพัฒนานาฬิการะดับไฮเอนด์สำหรับ Wear แล้ว โดยคาดว่าจะออกภายในปีนี้ โดย CNET ได้สัมภาษณ์ Greg McKelvey และ Steve Prokup ผู้บริหารระดับ Chief Commercial Officer ว่าสมาร์ทวอชชุดใหม่ที่จะพัฒนาออกมาจะเป็นรูปแบบใหม่โดยสมบูรณ์ (entirely new)
ผู้บริหารระบุว่า Fossil รุ่นถัดไป (คาดว่าจะใช้ชื่อ Gen 6) ที่กำลังพัฒนาอยู่เป็นนาฬิกาในกลุ่มพรีเมียมที่ราคาสูงกว่ารุ่นปัจจุบัน ส่วนฮาร์ดแวร์ข้างในก็จะอัพเกรดครั้งใหญ่ให้ได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น, แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น และอาจใส่ฟีเจอร์ด้านสุขภาพเข้ามาเพิ่มเติม
สำหรับกลุ่มสมาร์ทวอชราคาย่อมเยา McKelvey ระบุว่า Fossil อาจใช้วิธีลดราคารุ่นเดิมลง และยืนยันว่านาฬิกาที่ Fossil พัฒนาขึ้นมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดไม่สามารถอัพเกรดไปเป็น Wear เวอร์ชันใหม่ได้ และผู้บริหารยังกล่าวถึงนาฬิกาแบบไฮบริดที่ Fossil ทำขึ้นมาด้วยว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับสมาร์ทวอชเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า Fossil อาจเลิกโฟกัสผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้แล้ว
ปัจจุบัน Fossil Group พัฒนาสมาร์ทวอชหลายแบรนด์ ตั้งแต่แบรนด์ Fossil ของตัวเอง ไปจนถึงแบรนด์อื่นอย่าง Skagen, Diesel, Michael Kors, Emporio Armani และอื่น ๆ
ที่มา - CNET
Fossil Gen 5 ภาพโดย Fossil |
# Apple, Google, Microsoft, Mozilla ตั้งคณะทำงานให้ Extension ใช้ร่วมกันได้
บริษัทผู้พัฒนาเบราว์เซอร์ 4 รายใหญ่คือ Apple, Google, Microsoft, Mozilla ประกาศตั้งกลุ่ม WebExtensions Community Group (WECG) เพื่อให้ส่วนขยายของเบราว์เซอร์ทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น
ระบบส่วนขยายของเบราว์เซอร์ในปัจจุบันอิงจากแนวทางของ Chrome เป็นหลัก กรณีของ Edge ที่ใช้เอนจิน Chromium คงไม่มีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้มากนัก ส่วน Firefox หันมาใช้ฟอร์แมตแบบ Chrome ในปี 2015 และ Safari เป็นรายล่าสุดที่ตามมาในปี 2020
แต่ถึงแม้ตัวฟอร์แมตของส่วนขยายอิงตาม Chrome การที่เบราว์เซอร์แต่ละตัวมีพฤติกรรมแตกต่างกัน ก็ย่อมทำให้นักพัฒนาทำงานยากขึ้น การรวมกลุ่ม WECG จึงเป็นความพยายามสร้าง API กลางที่ทุกเบราว์เซอร์มีเหมือนกัน เพื่อเป็นจุดร่วมในการพัฒนา แต่ทาง WECG ก็บอกว่าคงไม่ถึงขั้นลงรายละเอียดไปทุกด้าน และเบราว์เซอร์แต่ละตัวก็ยังมีรายละเอียดต่างกันอยู่ดี
ที่มา - WECG via CNET, ภาพจาก Mozilla |
# Facebook Gaming ซื้อกิจการ Unit 2 Games ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสร้างเกมบนคลาวด์ Crayta
แผนก Facebook Gaming ประกาศว่า Unit 2 Games จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน เพื่อต่อยอดจากบริการที่มีอยู่ตอนนี้คือ วิดีโอสตรีมมิ่งสำหรับแคสต์เกม และการสร้างเกมบนแพลตฟอร์มของ Facebook โดยมีเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์เกมแบบร่วมกัน
เทคโนโลยีของ Unit 2 Games ที่ทำให้ Facebook ดึงทีมงานเข้ามาคือ Crayta แพลตฟอร์มเครื่องมือสำหรับสร้างเกมบนคลาวด์ ซึ่งสร้างบน Unreal Engine 4 โดยสามารถร่วมมือกับคนอื่นได้ด้วย ซึ่งเดิมแพลตฟอร์มนี้มีเฉพาะบน Stadia
ในรายละเอียดของการซื้อกิจการนั้น Crayta จะยังคงพัฒนาอยู่ต่อไป จึงไม่มีผลกระทบกับเกมที่สร้างบนแพลตฟอร์มในตอนนี้
ที่มา: Engadget และ Facebook |
# FBI พยายามขอหมายเลขไอพีผู้อ่านบทความในเว็บ USA TODAY แม้ถอนหมายไปภายหลัง
FBI ออกหมายขอข้อมูล (subpoena) เพื่อขอข้อมูลผู้เข้าอ่านข่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แม้จะถอนหมายออกไปภายหลังก็ตาม
ทาง FBI ระบุว่าต้องการสอบสวนหาคนร้ายผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กจึงขอข้อมูลจาก USA TODAY อย่างไรก็ดีรัฐบาลโจ ไบเดน เปลี่ยนนโยบายไม่ให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายบีบเอาข้อมูลจากสื่อมวลชน
หมายของ FBI ระบุว่าขอข้อมูลหมายเลขไอพีและข้อมูลระบุตัวตนอื่นๆ ที่เข้าอ่านข่าวที่ระบุภายในช่วงเวลา 35 นาที โดยข่าวที่ FBI ระบุเป็นรายงานถึงเหตุการเข้าจับกุม David Huber แต่เกิดเหตุยิงกันจนเจ้าหน้าที่ FBI เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ 3 ราย
USA TODAY ต่อสู้กับหมายเรียกข้อมูลนี้โดยระบุว่า FBI ใช้อำนาจเกินขอบเขตจากการเรียกข้อมูลสำหรับการสอบสวนเอาจากสื่อ
ที่มา - USA TODAY
ภาพชายสวมชุด FBI จากกองถ่าย Fringe โดย Shinsuke Ikegame |
# นักวิจัยความปลอดภัยกูเกิลชี้ ปลั๊กอินเก็บรหัสผ่านเพิ่มความเสี่ยง อยากสะดวกใช้ตัวเก็บรหัสในเบราว์เซอร์ดีกว่า
Tavis Ormandy นักวิจัยความปลอดภัยกูเกิลเขียนบทความวิเคราะห์ความปลอดภัยของปลั๊กอินที่เชื่อมต่อโปรแกรมเก็บรหัสผ่านเข้ากับเบราว์เซอร์เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
Travis ระบุว่าปลั๊กอินที่เชื่อมตัวเก็บรหัสผ่านเข้ากับเบราว์เซอร์นั้นมักอาศัยการแก้ไขคอนเทนต์ในตัวเว็บเพื่อแสดงไอคอนและ UI ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการรหัสผ่าน จากนั้นตัวโปรแกรมมักสร้างช่องทางพิเศษเพื่อเชื่อมต่อไปยังตัวโปรแกรมจัดการรหัสผ่านนักเบราว์เซอร์ แนวทางเช่นนี้สร้างความเสี่ยงเพราะเว็บที่มุ่งร้ายสามารถใช้ช่องทางนี้เข้าถึงโปรแกรมจัดการรหัสผ่านได้ และสคริปต์ที่ปลั๊กอินใส่เข้าไปในหน้าเว็บก็เปิดทางให้เว็บมุ่งร้ายดัดแปลงสคริปต์มาหลอกผู้ใช้ได้
เขาระบุว่าหากต้องการใช้ตัวจัดการรหัสผ่านสำหรับบริการออนไลน์ในเบราว์เซอร์แล้ว เขาแนะนำให้ใช้ตัวจัดการรหัสผ่านในเบราว์เซอร์เองเลยดีที่สุด เพราะตัวจัดการเหลา่นี้ใช้ UI ของตัวเบราว์เซอร์เองโดยตรง (เช่นแสดงไอคอนในช่อง URL) ปิดโอกาสไม่ให้เว็บมุ่งร้ายพยายามแสดงหน้าจอหลอกผู้ใช้ และลดความเสี่ยงการบุกรุกเครื่อง
ที่มา - cmpxchg8b |
# หัวหน้าอินเทลเอเชียแปซิฟิก ระบุอินเทลอยู่ในจุดพิเศษที่สุดในยุคชิปขาดตลาด
เดือนที่ผ่านมา Blognone มีโอกาสได้สัมภาษณ์ Santhosh Viswanathan รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของอินเทลเอเชียแปซิฟิก ถึงประเด็นการกระจายชิปในภูมิภาคนี้ โดยยืนยันว่ากระบวนการกระจายชิปยังเท่าเทียมกันทั่วโลก ไม่ได้ดึงชิปไว้กับภูมิภาคใดเป็นพิเศษ
การเปิดตัวซีพียูยุคใหม่ในช่วงหลังๆ มักเห็นพันธมิตรเช่นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ อย่าง AWS, Azure, หรือ Google Cloud ได้รับชิปก่อนอยู่เสมอๆ และผู้ให้บริการเหล่านี้ก็มักจะนำชิปไปใช้งานในศูนย์ข้อมูลหลัก เช่น สหรัฐฯ หรือยุโรปก่อน
Santhosh ระบุว่าลูกค้าในกลุ่มคลาวด์ระดับ hyperscale นั้นเป็นเป็นผู้ใช้ชิปกลุ่มแรก (early adopter) เป็นเรื่องปกติ แนวทางนี้ก็ยังเหมือนเดิมในช่วงหลังๆ แต่ผู้ให้บริการแถบเอเชียก็ประกาศใช้ชิป Xeon Scalable รุ่นที่ 3 ตั้งแต่แรกเช่นกัน เช่น Reliance Jio, Wipro, CtrlS, และ Pi Datacenter ขณะที่ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์นั้นน่าจะขายเซิร์ฟเวอร์ออกมาภายในไตรมาสสองของปี อย่างไรก็ดีเขายอมรับว่าความต้องการชิปรุ่นใหม่นั้นสูงมาก โดยเฉพาะตอนนี้ผู้ให้บริการโทรคมนาคม เช่น เครือข่ายโทรศัพท์มือถือนั้นกำลังอัพเดตอุปกรณ์เน็ตเวิร์คโดยใช้ Xeon รุ่นใหม่เช่นกัน
สำหรับปัญหาชิปขาดตลาด Santhosh ระบุว่าอินเทลนับอยู่ในจุดพิเศษสุด (unique position) ที่จะสามารถส่งมอบสินค้าตามคำสั่งได้แม้ความต้องการจะสูงขึ้นมากเหตุ COVID-19 ที่ผ่านมาอินเทลขยายกำลังผลิตไปมากและทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์เพื่อให้ขยายกำลังผลิตตามมาได้ ก่อนหน้านี้ซีอีโอของอินเทลก็เพิ่งประกาศขยายกำลังผลิตผ่านแนวทาง IDM 2.0 การลงทุนส่วนหนึ่งอยู่ในเอเชียแปซิฟิก เช่น ศูนย์ประกอบและทดสอบในเวียดนาม ที่อินเทลประกาศลงทุนเพิ่มเติมถึง 475 ล้าน หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท
Pat Gelsinger ซีอีโออินเทลระบุในงาน Computex ว่าปัญหาชิปขาดตลาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะแก้ปัญหาได้หมด
ฟีเจอร์ที่อินเทลชูอย่างมากใน Xeon ช่วงหลังคือความสามารถในการรันโมเดลปัญญาประดิษฐ์ Santhosh ระบุว่าในความเป็นจริงแล้วมีผู้ใช้จำนวนมากรันโมเดลปัญญาประดิษฐ์บน Xeon โดยตรง เช่น SK Telecom ที่ทำนายการใช้งานเครือข่ายจากข้อมูลเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือกว่า 400,000 ต้นด้วยโมเดลที่รันบน Xeon ทั้งหมด และทำนายปัญหาเน็ตเวิร์คล่วงหน้าได้
ที่มา - การสัมภาษณ์ทางอีเมล |
# ยืนยันแล้ว Xbox Series X|S จะรองรับ FidelityFX ฟีเจอร์ Upscaling ภาพของ AMD
ตัวแทนของไมโครซอฟท์ยืนยันข้อมูลกับ IGN ว่า Xbox Series X|S จะรองรับ AMD FidelityFX Super Resolution เทคนิคการขยายภาพ upscaling ที่เพิ่งเปิดตัวในงาน Computex 2021
ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะ Xbox Series X|S ใช้จีพียู AMD รุ่นล่าสุดที่เป็น RDNA 2 อยู่แล้ว และตัว FidelityFX เองก็เป็นเทคนิคทางซอฟต์แวร์ เปิดโอเพนซอร์ส และย้อนกลับไปใช้กับจีพียู NVIDIA Pascal (ที่ไม่รองรับ DLSS ของฝั่ง NVIDIA) ได้ด้วย
ฝั่งของ PS5 ที่ใช้จีพียู AMD เหมือนกันก็น่าจะรองรับ FidelityFX เช่นกัน แต่โซนี่ยังไม่ประกาศข้อมูลใดๆ ในตอนนี้
AMD จะปล่อยฟีเจอร์ FidelityFX ให้กับผู้ใช้พีซีในวันที่ 22 มิถุนายนนี้
ที่มา - IGN |
# ทวิตเตอร์ถูกบล็อคในไนจีเรีย หลังทวีตของประธานาธิบดีโดนลบเพราะละเมิดกฎ
เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2021 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ในประเทศไนจีเรียตื่นมาเพื่อพบว่าไม่สามารถใช้งานทวิตเตอร์ได้ โดยกระทรวงไอซีทีและวัฒนธรรมของไนจีเรียได้ออกมาประกาศทางทวิตเตอร์ว่ารัฐบาลไนจีเรียได้ปิดกั้นการเข้าถึงแพลตฟอร์มทวิตเตอร์อย่างไม่มีกำหนดแล้ว
ในประกาศได้ระบุว่าทวิตเตอร์ปล่อยให้แพลตฟอร์มถูกใช้เป็นเครื่องมือบ่อนทำลายรัฐบาลไนจีเรีย แต่สาเหตุที่ทวิตเตอร์ถูกบล็อคน่าจะเป็นเพราะเมื่อสองวันก่อน ประธานาธิบดีไนจีเรีย มูฮัมมาดู บูฮารี ได้ทวีตตอบโต้กลุ่มคนที่เขาอ้างว่าเป็นผู้โจมตีสาธารณูปโภคพื้นฐานทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศว่า "จะส่งนักรบที่ผ่านสงครามกลางเมืองมาแล้วไปคุยด้วยภาษาที่คุยกันเข้าใจ" กล่าวคือเป็นการขู่ว่าจะส่งนักรบไปเอาคืนนั่นเอง
ทวีตนั้นส่งผลให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวไนจีเรียมองว่าเป็นการข่มขู่ประชาชนจึงพากันรีพอร์ตทวีตดังกล่าว ทำให้ทวิตเตอร์ลบทวีตนั้นไปและให้เหตุผลว่าละเมิดกฎแพลตฟอร์ม
รัฐมนตรีไอซีทีของไนจีเรียวิจารณ์ทวิตเตอร์ว่า "สองมาตรฐาน" รวมถึงตั้งคำถามกับจุดประสงค์ของทวิตเตอร์ในไนจีเรีย ด้านทวิตเตอร์ก็ออกแถลงการณ์ว่าบริษัทรู้สึกกังวลอย่างมากที่แพลตฟอร์มถูกปิดกั้น และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เปิดกว้างและฟรีนั้นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ยุคใหม่ พร้อมระบุว่าจะพยายามทำให้ทวิตเตอร์กลับมาใช้งานในไนจีเรียได้อีกครั้ง
ด้านผู้ใช้ทวิตเตอร์ในไนจีเรียก็เริ่มหันไปใช้ VPN เพื่อเข้าถึงทวิตเตอร์กันแล้ว และผู้ใช้ทวิตเตอร์บางส่วนก็มองว่ามันน่าตลกที่รัฐบาลไนจีเรียประกาศปิดกั้นทวิตเตอร์ทางทวิตเตอร์เสียเอง
ที่มา - CNN
ประธานาธิบดีไนจีเรีย มูฮัมมาดู บูฮารี | ภาพโดย U.S. Institute of Peace |
# NVIDIA บอกชิปขุดเหมือง CMP ขายได้เยอะแล้ว ช่วยแก้ปัญหา GeForce ขาดแคลนได้
Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA พูดถึงแนวทางแก้ปัญหาจีพียูขาดตลาดจากการนำไปขุดเหมืองคริปโต ว่าการออกชิปสำหรับขุดเหมืองโดยเฉพาะ CMP (Cryptocurrency Mining Processor) ช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
Huang ให้ข้อมูลว่าชิป CMP มียอดขาย 150 ล้านดอลลาร์แล้วในไตรมาสล่าสุด และคาดว่ายอดขายจะแตะหลัก 400 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ เขาบอกว่าการที่ชาวเหมืองไปซื้อชิป CMP มาทำงานให้ตรงตามจุดประสงค์ จะช่วยลดความต้องการแย่งซื้อ GeForce กับเหล่าเกมเมอร์ลง และการที่ CMP ไม่สามารถนำมาขายต่อให้ชาวเกมเมอร์ได้ ก็ช่วยให้สองตลาดนี้แยกกันชัดเจนด้วย
เขายังยืนยันว่า NVIDIA จะไม่ตั้งโรงงานผลิตชิปเอง โดยบอกว่าจริงๆ แล้วบริษัทมีศักยภาพสามารถทำได้ แต่ไม่มีทางทำให้ดีเหมือนกับที่ TSMC ทำได้
ที่มา - ZDNet
หน้าตาของชิปขุดเหมือง NVIDIA CMP |
# ไมโครซอฟท์พลาด บล็อคภาพ Tank Man ชายผู้ร่วมประท้วงจีนในปี 1989 บน Bing
ไมโครซอฟท์บล็อคภาพ Tank Man ชายผู้ยืนขวางรถถังในการประท้วงรัฐบาลจีนที่จตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อปี 1989 ส่งผลให้ผู้ใช้ Bing ไม่พบผลการค้นหาใดๆ เลยเมื่อค้นคำว่า "tank man" แม้จะใช้งานจากนอกจีน
ไมโครซอฟท์ชี้แจงว่าการบล็อคครั้งนี้เป็นความผิดพลาดและกำลังเร่งแก้ไข โดยขณะที่เขียนข่าวนี้ผลค้นหากลับมาปกติแล้ว ที่ผ่านมา Bing ยังให้บริการในจีนได้โดยไมโครซอฟท์ยอมบล็อคคำสำคัญต่างๆ ตามคำสั่งรัฐบาลจีน
บริการค้นหาอื่นที่ใช้บริการจากไมโครซอฟท์ เช่น DuckDuckGo ก็กระทบไปด้วย
ที่มา - The Guardian |
# สหรัฐฯ ยกระดับภัย Ransomware เท่าการก่อการร้าย
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศแนวทางสอบสวนคดีมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (ransomware) ให้เท่ากับการก่อการร้าย หลังสหรัฐฯ ถูกโจมตีท่อส่งน้ำมันหลักจนเศรษฐกิจปั่นป่วน
Colonial Pipline บริษัทผู้ดูแลท่อส่งน้ำมันฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ จ่ายค่าไถ่ข้อมูลไปทั้งสิ้น 5 ล้านดอลลาร์เพื่อกู้ระบบ
กลุ่มธุรกิจที่ถูกจับตาเป็นพิเศษจากแนวทางการสอบสวนใหม่ ได้แก่ ธุรกิจหลบเลี่ยงโปรแกรมป้องกันไวรัส, เว็บบอร์ดใต้ดิน, ตลาดค้าเงินคริปโต, บริการโฮสต์เว็บแบบป้องกันลูกค้าจากกฎหมาย (bulletproof hosting), บริการ botnet, และบริการฟอกเงิน
ธุรกิจมัลแวร์เข้ารหัสทุกวันนี้เป็นเครือข่ายธุรกิจที่ซับซ้อน มีกลุ่มอาชญากรเข้าร่วมหลายกลุ่มทั้งแข่งขันและร่วมมือกัน เช่น ธุรกิจค้าข้อมูล, ธุรกิจให้บริการมัลแวร์
ที่มา - Reuters
ภาพโดย iAmMrRob |
# HarmonyOS ที่จริงแล้วคือชื่อเรียก OS สองตัวที่ไม่เกี่ยวกัน LiteOS และ Android
สัปดาห์ที่ผ่านมา Huawei เปิดตัว HarmonyOS 2.0 พร้อมประกาศแผนอัพเดตให้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของตัวเองชุดใหญ่ ท่ามกลางข้อถกเถียงกันว่า HarmonyOS แท้จริงแล้วคือ Android หรือไม่
เว็บไซต์ Ars Technica ตอบคำถามนี้ด้วยการอธิบายว่า แท้จริงแล้วคำว่า "HarmonyOS" คือระบบปฏิบัติการ 2 ตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย
สำหรับอุปกรณ์ IoT และนาฬิกา มันคือระบบปฏิบัติการ LiteOS ที่ Huawei ทำมาตั้งแต่ปี 2015 และใช้กับนาฬิกาของตัวเองมาตลอด ระบบปฏิบัติการตัวนี้โอเพนซอร์สในปี 2020 ภายใต้ชื่อ OpenHarmony
สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต มันคือ Android เวอร์ชันดัดแปลง โดยยังใช้เคอร์เนลลินุกซ์เหมือนเดิม
Ars Technica บอกว่า Huawei ตั้งใจใช้แบรนด์ HarmonyOS แบรนด์เดียวทำตลาดทำให้เกิดความสับสน และหลายครั้งเราเห็นการ "เคลม" ฟีเจอร์ฝั่ง LiteOS ที่สุดท้ายแล้วไม่มีฟีเจอร์แบบเดียวกันบนฝั่งมือถือ เช่น การยืนยันว่า HarmonyOS ไม่ใช่ Android ซึ่งก็ถูกต้อง หากหมายถึง LiteOS
Ars ยังบอกว่าไม่ผิดอะไรที่เราจะนำ Android มาดัดแปลง แต่ก็ควรยอมรับอย่างตรงไปตรงมา โดยยกกรณี Fire OS ของ Amazon ที่บรรทัดแรกของหน้าเว็บก็เขียนไว้ชัดเจนว่า "Fire OS is a fork of Android"
ที่มา - Ars Technica, ภาพจาก Huawei |
# NVIDIA ตอบโต้ AMD บอกว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมของ Ray Tracing บนมือถือ
Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ตอบคำถามสื่อในประเด็นคู่แข่ง AMD ออกจีพียูให้ชิปมือถือซัมซุง ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2 รองรับ ray tracing
Huang บอกว่า NVIDIA ยังไม่ทำ ray tracing บนมือถือในตอนนี้ ด้วยเหตุผลเรื่องข้อจำกัดทางฮาร์ดแวร์ เขาบอกว่าเกมที่รองรับ ray tracing มีขนาดใหญ่ ข้อมูลมีขนาดใหญ่ ในอนาคตคงมีวันที่ NVIDIA จะทำ แต่ยังไม่ใช่ในตอนนี้
เขามองว่าทางออกที่เหมาะกับการเล่นเกม ray tracing ในตอนนี้คือผ่านบริการ cloud gaming อย่าง GeForce Now มากกว่า ซึ่งปัจจุบันมีผู้เล่น 10 ล้านคน และมีเกมรองรับกว่า 1,000 เกมแล้ว
ที่มา - ZDNet, ภาพจาก NVIDIA |
# Facebook ประกาศแบน Donald Trump อย่างน้อย 2 ปี, ออกนโยบายกำหนดระยะเวลาแบน
เดือนที่แล้ว คณะกรรมการ Oversight Board ที่เป็นคนนอก ตัดสินให้ Facebook แบนบัญชีของ Donald Trump ต่อไป จากกรณีโพสต์ยุยงให้เกิดความรุนแรงในการยึดรัฐสภาสหรัฐ อย่างไรก็ตาม Oversight Board เสนอว่าการแบนควรมีระยะเวลาที่ชัดเจน ไม่ใช่แบนไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด
วันนี้ Facebook ออกมารับลูกแนวทางของ Oversight Board โดยประกาศนโยบายกำหนดระยะเวลาแบน 4 ระดับคือ 1 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี, 2 ปี ตามคำนวนครั้งของการทำผิดกฎ
ในกรณีของ Trump นั้น Facebook บอกว่าทำผิดซ้ำมาหลายครั้งแล้ว จึงบังคับใช้โทษแบนสูงสุดนาน 2 ปี โดยเริ่มนับจากการแบนครั้งแรกในวันที่ 7 มกราคม 2021 ไปจนถึง 7 มกราคม 2023 หลังจากครบกำหนดแล้ว Facebook บอกว่าจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่าการปลดแบนมีความเสี่ยงต่อสาธารณะหรือไม่ หากประเมินว่ายังเสี่ยงอยู่ก็จะยังแบนต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง
ในกรณีที่ปลดแบนแล้ว บัญชีของ Trump จะถูกบังคับด้วยกฎที่เข้มงวดขึ้น และจะมีมาตรการต่างๆ หากทำผิดซ้ำ ซึ่งรวมถึงการแบนบัญชีแบบถาวรด้วย
ส่วนกรณีของ Twitter นั้นบริษัทยืนยันแล้วว่าเป็นการแบนถาวร
ที่มา - Facebook |
# [ลือ] iPad Pro รุ่นใหม่ปีหน้าอาจรองรับชาร์จไร้สาย, AirPower อาจกลับมาอีกครั้ง
Mark Gurman จาก Bloomberg ซึ่งเป็นนักข่าวที่มีรายงานข่าวลือสินค้าใหม่แอปเปิลมาต่อเนื่อง ล่าสุดได้ให้ข้อมูลว่าแอปเปิลมีแผนเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ในปีหน้า 2022 โดยตอนนี้แอปเปิลกำลังทดสอบตัวเครื่องด้านหลังที่เป็นกระจก ทำให้รองรับการชาร์จแบบไร้สาย โดยอาจมาในรูปแบบ MagSafe รวมทั้งอาจทำให้ iPad Pro เป็นอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สายสำหรับอุปกรณ์เสริมอื่นได้ด้วย อย่างไรก็ตามทั้งหมดยังอยู่ในสถานะการทดสอบ และแอปเปิลอาจเปลี่ยนแผนได้ในอนาคต
ส่วนข้อมูล iPad รุ่นอื่นมีดังนี้ iPad mini รุ่นใหม่ กำหนดวางขายภายในปีนี้ ขอบหน้าจอและลง และอาจตัดปุ่ม Home ออกไป ส่วน iPad รุ่นปกติ (entry level) จะมีขนาดเครื่องบางลง กำหนดวางขายภายในปีนี้เช่นกัน
Gurman ยังให้ข้อมูลของแท่นชาร์จไร้สายหลายอุปกรณ์ AirPower ที่ประกาศยกเลิกโครงการไป ว่าแอปเปิลกำลังเริ่มการศึกษาความเป็นไปได้ของผลิตภัณฑ์นี้อีกครั้ง โดยอาจเปลี่ยนการวางตำแหน่งขดลวดภายในใหม่ ซึ่งต้องรอดูกันต่อไป (คำใบ้)
ที่มา: Bloomberg |
# ข้อมูลล่าสุด ผู้ใช้ iPhone จำนวน 85% อัพเดตเป็นระบบปฏิบัติการ iOS 14 แล้ว
แอปเปิลอัพเดตข้อมูลส่วนแบ่งผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS และ iPadOS แยกตามเวอร์ชัน โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2021 มีรายละเอียดดังนี้
iPhone นับเฉพาะรุ่นที่เปิดตัวย้อนหลัง 4 ปี เป็น iOS 14 90%, iOS 13 8% ที่เหลือเก่ากว่านั้น
iPhone ทุกรุ่น iOS 14 85%, iOS 13 8% ที่เหลือ 7% เก่ากว่านั้น
iPad เฉพาะรุ่นเปิดตัวย้อนหลังใน 4 ปี เป็น iPadOS 14 91%, iPadOS 13 8% ที่เหลือเก่ากว่านั้น
iPad ทุกรุ่น เป็น iPadOS 14 79%, iPadOS 13 9% ที่เหลือ 12% เก่ากว่านั้น
แอปเปิลรายงานตัวเลขส่วนแบ่งครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ในตอนนั้น iOS 14 มีส่วนแบ่งเฉพาะ iPhone ที่ 80%
ที่มา: MacRumors |
# ซีอีโอ Square เผย อาจพัฒนาฮาร์ดแวร์สำหรับเป็นกระเป๋าเงิน Bitcoin
Jack Dorsey ซีอีโอ Square (และ Twitter) เปิดเผยข้อมูลผ่านบัญชี Twitter ของเขาเองว่า Square กำลังพิจารณาสร้างฮาร์ดแวร์สำหรับเป็นกระเป๋าเงินบิตคอยน์ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บิตคอยน์สามารถควบคุมเงินคริปโตได้มากขึ้น
ที่น่าสนใจคือ Dorsey บอกว่าฮาร์ดแวร์กระเป๋าเงินนี้จะออกแบบเป็นระบบเปิด ไม่จำกัดและควบคุมโดย Square เอง การพัฒนาจะทำผ่านความร่วมมือของชุมชนนักพัฒนา แนวทางคือให้ผู้ใช้งานควบคุมเงินในกระเป๋าได้เอง โดยลดการพึ่งพาตัวกลางแต่ยังมีความปลอดภัยในการถือครองเงิน
ช่วงที่ผ่านมา Jack Dorsey แสดงความสนใจในบิตคอยน์และเงินคริปโตอยู่หลายครั้ง ใน Bio ของเขาบน Twitter เองก็เขียนสั้น ๆ ว่า bitcoin
ที่มา: CNBC |
# กองทุน Blackstone ประกาศซื้อกิจการ IDG เจ้าของ IDC, CIO, PCWorld มูลค่าดีล 1,300 ล้านดอลลาร์
กองทุน Blackstone ประกาศซื้อกิจการ International Data Group หรือ IDG กลุ่มธุรกิจสื่อและข้อมูลด้านเทคโนโลยี ที่มูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์ ต่อจากกลุ่มบริษัทเจ้าของเดิม Oriental Rainbow
IDG เป็นเจ้าของบริษัทวิจัยด้านตลาดเทคโนโลยีที่คุ้นชื่ออย่าง IDC และยังเป็นเจ้าของสื่อด้านเทคโนโลยีหลายราย อาทิ CIO, Computerworld, Macworld, PCWorld ซึ่งเคยเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ปัจจุบันปรับรูปแบบเป็นดิจิทัลแทน
Peter Wallace หัวหน้าฝ่ายการลงทุนในตราสารทุนของ Blackstone อธิบายเหตุผลของการซื้อกิจการ IDG ว่า เนื่องจาก IDG มีข้อมูลและบทวิเคราะห์ที่มีคุณภาพในแวดวงเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้น
สัปดาห์ที่ผ่านมาอาจเรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์แห่งดีลซื้อกิจการเทคโนโลยี ของบรรดาบริษัทจัดการกองทุน ตั้งแต่ Cloudera, Stack Overflow และ FireEye
ที่มา: IDG |
# Edge ปรับวิธีเรนเดอร์ฟอนต์ให้ใช้ ClearType ของ Windows, ส่งโค้ดเข้า Chromium ด้วย
การเปลี่ยนแปลงเอนจินของ Edge ตัวเก่า (EdgeHTML) มาเป็น Chromium ส่งผลให้การเรนเดอร์ฟอนต์บน Windows เปลี่ยนไป เพราะ Chromium มีระบบเรนเดอร์ฟอนต์ของตัวเองที่เหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม แต่ต่างจากแอพบน Windows ตัวอื่นๆ
ล่าสุดไมโครซอฟท์ปรับปรุง Edge ให้สามารถใช้เอนจินเรนเดอร์ฟอนต์ของ Windows ได้แล้ว เบื้องหลังการทำงานจะใช้ DirectWrite และการเรนเดอร์แบบ ClearType ข้อดีคือเห็นฟอนต์แบบเดียวกันกับแอพอื่นๆ และตั้งค่าระดับความเข้ม (contrast) ของฟอนต์ใน Settings ทีเดียวแล้วเปลี่ยนทั้งหมด
ไมโครซอฟท์บอกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเห็นผลชัดเจนในภาษากลุ่มจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี (CJK) ที่การทำ anti-alias ดีขึ้นมาก ฟีเจอร์นี้เริ่มเข้ามาแล้วใน Edge Canary และตั้งเป้าว่าจะใช้ใน Edge 92 ต่อไป ไมโครซอฟท์ยังบอกว่าจะส่งโค้ดนี้กลับไปยัง Chromium และหวังว่าทาง Chromium จะรับเข้าต้นน้ำ เพื่อให้เบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ได้ประโยชน์ตามไปด้วย
ที่มา - Microsoft Edge Dev |
# ซัมซุงออก Galaxy Book Go โน้ตบุ๊กพลัง Arm ราคาถูก เริ่มต้นที่ 349 ดอลลาร์
ซัมซุงเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ Galaxy Book Go เป็นโน้ตบุ๊กพลัง Arm ที่ใช้ซีพียู Snapdragon 7c Gen 2 รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว
สเปกคร่าวๆ คือหน้าจอ 14" TFT 1920x1080, แรม 4GB/8GB, สตอเรจ eUFS 64GB/128GB, รองรับ LTE ในตัว, น้ำหนัก 1.38 กิโลกรัม, รัน Windows 10, ราคาเริ่มต้นที่ 349 ดอลลาร์
นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชันย่อยคือ Galaxy Book Go 5G ที่อัพเกรดซีพียูเป็น Snapgragon 8cx Gen 2 ที่แรงขึ้นอีกระดับ และรองรับ 5G ในตัว ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยราคา
ที่มา - Samsung |
# Huawei เปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นรอง MatePad 11 หน้าจอ 11 นิ้ว 120Hz รัน HarmonyOS 2.0
นอกจาก MatePad Pro ขนาด 12.6 และ 10.8 นิ้วแล้ว Huawei ยังเปิดตัวแท็บเล็ต HarmonyOS รุ่นรองอีกหนึ่งรุ่น คือ MatePad 11 หน้าจอ LCD 11 นิ้ว ใช้ชิป Snapdragon 865+ เรือธงรุ่นปีที่แล้วของ Qualcomm สเปกภายในอื่นๆ ดังนี้
Huawei MatePad 11
หน้าจอ LCD 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120 Hz แสดงผลสี DCI-P3 100% รองรับ adaptive refresh rate
ชิป Snapdragon 865+
แรม 6GB หน่วยความจำภายใน 64GB / 128GB รองรับ microSD card
รองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1
กล้องหลังหลัก 13MP
กล้องหน้า 8MP
แบตเตอรี่ 7,250mAh รองรับชาร์จเร็วมีสาย 22.5W
แสกนลายนิ้วมือด้านข้าง
รัน HarmonyOS 2.0
MatePad 11 เตรียมวางขายในประเทศจีน วันที่ 10 มิถุนายนนี้ (ไม่มีข้อมูลราคา) ในเยอรมันและประเทศในโซนยุโรป วางจำหน่ายวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ที่ราคา 399 ยูโร หรือราว 15,150 บาท ส่วนประเทศอื่นต้องติดตามต่อไป
ที่มา - Notebookcheck
ที่มา - Notebookcheck |
# Huawei เผยโฉมแรก Huawei P50 กล้องหลัง LEICA 4 ตัว ยังไม่กำหนดวันวางจำหน่ายเพราะปัญหาชิปขาดแคลน
ในงานเปิดตัว HarmonyOS 2.0 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน Huawei ยังได้เผยวิดีโอสั้นช่วงท้ายงาน เผยโฉมแรกด้านหลังของ Huawei P50 เผยให้เห็นกล้องหลัง LEICA 4 ตัวและแฟลช 2 ตัว พร้อมระบุว่า Huawei P50 จะยกระดับการถ่ายภาพด้วยมือถือไปอีกขั้น และมาในดีไซน์เบาๆ แบบ “lightweight”
Huawei ยังไม่ระบุวันวางจำหน่ายของ Huawei P50 เนื่องจากปัญหาที่คาดว่าเป็นปัญหาขาดแคลนชิป และระบุว่าบริษัทกำลังพยายามหาวิธีให้มือถือรุ่นนี้ถึงมือผู้ใช้ได้โดยเร็วที่สุด (“We’re trying to figure out how to make this great product available to you.”)
การที่ Huawei ยังไม่ระบุวันวางจำหน่ายนี้และดูเหมือนจะมีปัญหาในการผลิตชิปนี้ ทำให้ข่าวลือว่า Huawei จะใช้ชิป Snapdragon ใน P50 รุ่น 4G และใช้ชิป Kirin แค่ในรุ่น 5G มีความเป็นไปได้มากขึ้น เพราะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแบ่งเบาภาระการผลิตชิป Kirin ของ Huawei เอง และ Huawei ก็เริ่มใช้ชิป Snapdragon ทั้งใน MatePad Pro และ MatePad 11 ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ที่มา - Huawei HarmonyOS 2.0 Launch
นาทีที่ 1:57:14 |
# Huawei เปิดตัว MatePad Pro 12.6 และ MatePad Pro 10.8 รัน HarmonyOS 2.0
Huawei เปิดตัวแท็บเล็ต MatePad Pro พร้อมกันสองขนาด ในงานเปิดตัว HarmonyOS เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา คือรุ่น MatePad Pro 12.6 และ MatePad Pro 10.8 ทั้งสองรุ่นเปิดให้สั่งจองในประเทศจีน วันที่ 2 มิถุนายน และวางขาย 10 มิถุนายน 2564 ส่วนประเทศอื่นยังไม่มีกำหนดวางจำหน่าย
MatePad Pro 12.6 ใช้หน้าจอ OLED 12.6 นิ้ว มีทั้งรุ่น 5G ใช้ชิป Kirin 9000 และรุ่น WiFi ใช้ชิป Kirin 9000E ซึ่งเป็นรุ่นลดสเปกของ Kirin 9000 ลดแกนจีพียู Mali-G78 ไปใช้รุ่น 22 แกน และลดจำนวนแกนเอ็นพียู (ตัวประมวลผล neural) เหลือ 1 แกนใหญ่ + 1 แกนเล็ก จาก 2 แกนใหญ่ + 1 แกนเล็ก ใน Kirin 9000 มีสเปกดังนี้
หน้าจอ OLED 12.6 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล อัตรารีเฟรช 60Hz แสดงผลสี DCI-P3 ได้ 100%
ชิป Kirin 9000 / 9000E
แรม 8GB หน่วยความจำ UFS 3.1 ขนาด 128GB / 256GB
รองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2
กล้องหลังหลัก 13MP กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP มีเซ็นเซอร์ ToF
กล้องหน้า 8MP
ลำโพงปรับแต่งโดย Harman Kardon 8 ตัว ไมค์ 4 ตัว ไม่มีรูหูฟัง
แบตเตอรี่ 10,050mAh ชาร์จเร็วมีสาย 40W ไร้สาย 27W
แสกนลายนิ้วมือด้านข้าง
รัน HarmonyOS 2.0
น้ำหนัก 609 กรัม
MatePad Pro 12.6 วางจำหน่ายในประเทศจีน แบ่งเป็น 4 แบบย่อย ดังนี้
MatePad Pro รุ่น WiFi 128GB - ราคา 4999 หยวน (ราว 24,390 บาท)
MatePad Pro รุ่น WiFi 256GB - ราคา 5499 หยวน (ราว 26,825 บาท)
MatePad Pro รุ่น WiFi 256GB พร้อมคีย์บอร์ด + M-Pencil - ราคา 6,699 หยวน (ราว 32,700 บาท)
MatePad Pro รุ่น 5G 256GB พร้อมคีย์บอร์ด + M-Pencil - ราคา 7,999 หยวน (ราว 39,000 บาท)
ส่วน MatePad Pro 10.8 เปลี่ยนไปใช้หน้าจอ IPS LCD ขนาด 10.8 นิ้ว แต่ได้อัตรารีเฟรช 120Hz พร้อม adaptive refresh rate และใช้ซีพียู Snapdragon 870 แทนชิป Kirin เป็นครั้งแรก ตรงกับข่าวลือก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่า Huawei เตรียมหันมาใช้ชิป Qualcomm เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาผลิตชิป Kirin ไม่ทัน ส่วนสเปกอื่นของ MatePad Pro 10.8 มีดังนี้
หน้าจอ IPS LCD 10.8 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 อัตรารีเฟรช 120Hz แสดงผลสี DCI-P3 ได้ 100%
ชิป Snapdragon 870
แรม 8GB หน่วยความจำ UFS 3.1 ขนาด 128GB / 256GB
รองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2
กล้องหลังหลัก 13MP
กล้องหน้า 8MP
ลำโพง 4 ตัว ไม่มีรูหูฟัง
แบตเตอรี่ 7,250mAh ชาร์จเร็วมีสาย 40W ไร้สาย 27W
แสกนลายนิ้วมือด้านข้าง
รัน HarmonyOS 2.0
น้ำหนัก 460 กรัม
MatePad Pro 10.8 แบ่งจำหน่ายเป็นสามรุ่นย่อยในประเทศจีน ดังนี้
MatePad Pro 10.8 รุ่น WiFi 128GB - ราคา 3,799 หยวน (ราว 18,500 บาท)
MatePad Pro 10.8 รุ่น WiFi 256GB - ราคา 4,299 หยวน (ราว 21,000 บาท)
MatePad Pro 10.8 รุ่น WiFi 256GB พร้อมคีย์บอร์ด + M-Pencil - ราคา 5299 หยวน (ราว 25,800 บาท)
ที่มา - Huawei Harmony OS Launch
นาทีที่ 1:30:30 |
# Injustice 2 Mobile ให้ผู้เล่นสู้เอาชนะ Poison Ivy ตัวละครไบเซกชวล เพื่อฉลองเดือนความเท่าเทียมทางเพศ
ถือเป็นการฉลอง Pride Month หรือเดือนแห่งความเท่าเทียมทางเพศที่ออกจะแปลกประหลาดไปสักหน่อย เมื่อ Injustice 2 Mobile เกมต่อสู้ของฮีโร่ค่าย DC ฉลองเดือนแห่งความเท่าเทียมทางเพศด้วยการให้ผู้เล่นต่อสู้กับ Poison Ivy วายร้ายหญิงแห่งจักรวาล DC และยังเป็นตัวละครไบเซ็กชวลด้วย
โดยภารกิจของ Pride Challenge ตามที่หน้าจอเกมระบุคือ ผู้เล่นต้องต่อสู้และเอาชนะ Poison Ivy 4 แสนครั้งเพื่อปลดล็อก Grand Bundle ชนะ 450,000 ครั้งเพื่อปลดล้อก Epic Bundle และชนะ 5 แสนครั้งเพื่อปลดล็อก Mega Bundle
มีผู้เล่นหลายคน วิจารณ์ว่า การต่อสู้เพื่อเอาชนะตัวละคร lgbt ไม่น่าจะสอดคล้องกับเป้าหมายที่แท้จริงของ Pride Month ล่าสุด ทางบริษัทผู้พัฒนาเกมออกมาแถลงการณ์ขอโทษแล้ว
ภาพจาก Injustice 2 Mobile
ที่มา - Kotaku |
# SAP ประกาศแนวทางทำงานใหม่ ให้พนักงานเลือกเองว่าอยากเข้าสำนักงานหรืออยู่บ้าน
SAP ประกาศแนวทางการทำงานใหม่ เปิดทางให้พนักงานเลือกเองได้ว่าอยากทำงานในสำนักงาน, ทำงานจากที่บ้าน, ตลอดจนทำงานจากระยะไกลรูปแบบอื่นๆ และยังเลือกช่วงเวลาทำงานได้เอง โดยปรับแนวคิดว่าต้องเชื่อใจพนักงานเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เฉพาะกรณีพิเศษ
แนวทางนี้มาจากการสำรวจภายในของบริษัท โดย SAP พบว่าพนักงาน 80% อยากทำงานผสมผสาน ทั้งทำงานจากที่บ้านและทำงานในสำนักงานบางช่วง ขณะที่ผลสำรวจจากภายนอกก็ยืนยันว่ากลุ่มผู้หญิงและพนักงานจบใหม่นั้นได้ประโยชน์จากการทำงานแบบเลือกสถานที่และเวลาเองได้
Julia White ประธานฝ่ายการตลาดและโซลูชั่นที่เพิ่งเริ่มงานเมื่อเดือนมกราคมระบุว่าเธอเองก็ต้องเริ่มงานจากระยะไกล และเพิ่งได้พบผู้บริหารรายอื่นๆ ของ SAP เมื่อเดือนพฤษภาคมโดยบินไปพบเพื่อนร่วมงานในเยอรมัน และตัวเธอเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวทำให้ยิ่งเห็นความสำคัญของการทำงานที่ปรับได้ (flexible) เช่นนี้
ที่มา - SAP, IT News
ภาพการประชุมประจำปีของ SAP เมื่อปี 2019 |
# Facebook เตรียมทำ Researcher API นักวิจัยศึกษาพฤติกรรมคนจากเพจและกลุ่มบน Facebook ได้
Facebook เตรียมเปิดตัว Researcher API เปิดทางนักวิจัยศึกษาพฤติกรรมหรือสำรวจความคิดเห็นของคน กลุ่ม หรือเพจสาธารณะจากแพลตฟอร์ม Facebook ที่เปิดสาธารณะได้ง่ายขึ้น เตรียมเปิดตัวในปีนี้
โดย API ใหม่นี้ช่วยให้นักวิจัยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เข้ามาศึกษากิจกรรมออนไลน์ต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงข้อความโพสต์ของผู้ใช้งาน ซึ่ง Facebook ระบุว่าจะแสดงชื่อเป็น anonymous ซ่อน username เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว นักวิจัยยังสามารถเข้าถึงตัวชี้วัดผู้ติดตามและสถิติการมีส่วนร่วมสำหรับกลุ่ม เหตุการณ์ และเพจต่างๆ ได้ด้วย
การทำวิจัยหรือศึกษาพฤติกรรมคนใน Facebook เคยเป็นประเด็นอื้อฉาวจากกรณี Cambridge Analytica มาแล้ว ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลที่สามถูกดึงข้อมูลไปใช้โดยไม่รู้ตัว และไม่ได้ยินยอม
Chaya Nayak หัวหน้าฝ่าย Open Research and Transparency ของ Facebook กล่าวว่า Researcher API ออกแบบมาเพื่อนักวิจัยโดยเฉพาะ และจากการที่นักวิจัยสามารถเข้าถึงกลุ่ม เพจ หรือเหตุกาณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งได้โดยเฉพาะนั้นจะช่วยให้การศึกษาวิจัยความเคลื่อนไหวที่ไม่ใช่กระแสหลักได้ด้วย
ที่มา - Engadget, Researcher API |
# ฉลองเดือนแห่งความเท่าเทียมทางเพศ Google ให้ร้านค้าระบุว่ามีห้องน้ำไร้เพศได้ใน Maps และ Search
เนื่องในเดือน Pride Month หรือเดือนแห่งการแสดงออกความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ ซึ่งตรงกับเดือนมิถุนายนของทุกปี Google เพิ่มฟีเจอร์ให้เจ้าของธุรกิจ ห้างร้าน สามารถระบุรายละเอียดร้านค้าของเราใน Google Maps และ Google Search ได้ว่า มีห้องน้ำไร้เพศ ให้บุคคลข้ามเพศ หรือคนที่เป็น nonbinary เข้ามาใช้ได้
โดยข้อมูลห้องน้ำ จะแสดงในแท็บ About เป็นอีกฟีเจอร์เพิ่มเข้ามาจาก 3 ปีที่แล้ว ที่ธุรกิจสามารถระบุข้อมูลใน Google ได้ว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยกับบุคคลข้ามเพศ
ที่มา - Google |
# Twitter ทดสอบเพิ่มเซกชั่นสำหรับ Spaces โดยเฉพาะบน iOS แล้ว
ตอนนี้ Twitter Spaces หรือฟังก์ชั่นคุยกันแบบ Clubhouse ยังไม่มีเมนูแยกให้เป็นสัดส่วน ผู้ใช้จะหาเจอได้ก็ต่อเมื่อมีคนเปิดห้องคุย แล้วแสดงไอคอนด้านบนของหน้าจอ ล่าสุด Twitter ทดสอบเพิ่มปุ่ม Spaces แล้ว โดยปุ่มจะอยู่ระหว่างปุ่ม Explore และปุ่ม Notification
การเพิ่มปุ่ม Spaces ช่วยให้เราหาห้องเจอง่ายขึ้น มองเห็นได้ว่าแต่ละห้องเปิดคุยในหัวข้ออะไรบ้าง ฟีเจอร์ใหม่เริ่มทดสอบในกลุ่มเบต้าราว 500 คน และเริ่มทดสอบฝั่ง iOS ก่อน
ที่มา - Engadget |
# Apple จะอัพเดตให้ AirTag ส่งเสียงเร็วขึ้นเมื่ออยู่ห่างจากเจ้าของ ป้องกันการนำอุปกรณ์ไปสะกดรอยตามคนอื่น
Apple อัพเดต AirTag อุปกรณ์บลูทูธขนาดเล็กสำหรับติดตามตำแหน่งอุปกรณ์ ลดระยะเวลาในการแยกตัวอุปกรณ์และเจ้าของออกจากกันโดยไม่ส่งเสียงเตือน จาก 3 วันเป็นสุ่มเวลาได้ระหว่าง 8 ถึง 24 ชั่วโมง ป้องกันการนำ AirTag ไปใช้ในทางที่ผิด อย่างการติดตามคนอื่นโดยที่เขาไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ Apple จะพัฒนาแอป Android เพื่อตรวจจับอุปกรณ์ที่อาจมาติดตามเราที่โดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่ใช่แอปที่ออกแบบมาเพื่อควบคุม AirTag เต็มตัว แต่เป็นการสแกนหาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ถ้าเจ้าของ AirTag ตั้งค่าดัดแปลงไม่ให้อุปกรณ์ส่งเสียง Apple จะมีมาตรการรองรับเรื่องนี้อย่างไร ก่อนหน้านี้ก็มีการเตือนจาก Lukasz Krol นักวิจัยความปลอดภัย ว่าตัวอุปกรณ์เปิดช่องการกระทำผิดอย่างการนำ AirTag ไปวางตามจุดที่ไม่มีอุปกรณ์ iOS บนเครือข่าย Find My อื่น ทำให้คนร้ายรับรู้ได้ว่าเจ้าของบ้าน (ที่ใช้ iPhone) ออกจากบ้านและกลับบ้านเวลาใดบ้าง
ที่มา - Engadget |
# [ไม่ยืนยัน] Facebook จะประกาศบังคับใช้กฎแพลตฟอร์มกับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่นักการเมือง
จากกรณีโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งทรงอิทธิพลในโซเชียลมีเดียมาก แม้เนื้อหาจะขัดต่อหลักสิทธิพลเมืองและกฎแพลตฟอร์ม ก็ตาม Facebook เองก็เคยยืนกรานว่า ถ้อยคำของประธานาธิบดี คือสิ่งที่ประชาชนมีสิทธิ์รับรู้ และแพลตฟอร์มไม่มีสิทธิ์ปิดกั้น แต่เหตุการณ์บุกรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้โซเชียลมีเดียต้องกลับมาคิดใหม่ เพราะอิทธิพลของทรัมป์ส่งผลต่อโลกจริงมากกว่าที่คิด
ล่าสุด มีรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวภายใน Facebook 2 ราย ระบุว่า Facebook จะเปลี่ยนนโยบาย บังคับใช้กฎแพลตฟอร์มกับนักการเมืองด้วย โดยจะแถลงนโยบายต่อสังคมเร็วๆ นี้
ภาพจาก Mark Zuckerberg ถ่ายในปี 2017
ย้อนกลับไปในปี 2019 มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เคยกล่าวในปาฐกถาที่ Georgetown University เน้นย้ำบทบาท Facebook จะไม่เป็นผู้ชี้ขาดว่าใครควรพูดอะไร เชื่อว่าต้องยืนยันการแสดงออกอย่างเสรีต่อไป ส่งผลให้กลุ่มสิทธิพลเมืองและนักกฎหมาย วิจารณ์ Facebook อย่างกว้างขวางในขณะนั้น
สุดท้ายแล้ว ทรัมป์ก็ถูกแบนจากโซเชียลมีเดียใหญ่ทั้งหมด เป็นเรื่องยากที่เขาจะกลับมามีอิทธิพลต่อฐานเสียงในโซเชียลมีเดียได้ โดย Facebook ส่งต่อเรื่องแบนทรัมป์ให้ Oversight Board หรือคณะกรรมการอิสระตรวจสอบอำนาจไปพิจารณาแล้ว
ที่มา - The New York Times |
# เปิดตัว Huawei Watch 3, Watch 3 Pro รัน HarmonyOS วัดออกซิเจนในเลือดได้
Huawei เปิดตัว Huawei Watch 3 และ Watch 3 Pro หน้าจอ AMOLED 1.43 นิ้วความละเอียด 466x466 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 1,000 nits รัน HarmonyOS ใช้เม็ดมะยมในการควบคุม UI ใช้ eSim รองรับ 4G ได้ และกันน้ำ 5ATM
ทั้งสองรุ่นมีเซ็นซอร์วัดออกซิเจนในเลือด เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจ 24 ชั่วโมง มี Fall Detection ตรวจจับการลื่นล้ม สเปกภายในแรม 2GB หน่วยความจำภายใน 16GB
รุ่นธรรมดาแบตเตอรี่ 450mAh แสตนด์บายได้ 14 วัน หรือ 3 วันเมื่อเปิด 4G มีสายให้เลือก 4 แบบ รุ่น Active สายแบบยาง, รุ่น Classic สายหนัง, รุ่น Elite สายโลหะ และรุ่น Classic สายถักทอแบบพรีเมี่ยมจากอิตาลี
รุ่น Pro สเปกภายในอื่นไม่ได้ต่างจากรุ่นธรรมดา แต่เพิ่มแบตเตอรี่เป็น 790mAh ทำให้สแตนด์บายได้สูงสุด 21 วัน และ 5 วันเมื่อเปิด 4G เน้นดีไซน์ที่พรีเมี่ยมขึ้น ดูเป็นนาฬิกาทำงานมากกว่า สายมีสองแบบ รุ่น Classic เป็นหนัง รุ่น Elite สายเป็นไทเทเนียม-เซรามิก พร้อมกระจกแซฟไฟร์ป้องกันการขีดข่วน
ทั้งสองรุ่นเปิดให้จองแล้วในประเทศจีน Huawei Watch 3 ราคา 2,600 หยวน (ราว 12,700 บาท) Huawei Watch 3 Pro ราคา 3,300 หยวน (ราว 16,000 บาท) วางขายอย่างเป็นทางการ 11 มิถุนายนนี้
ที่มา - Huawei Central |
# โครงข่าย 5G จาก AIS เตรียมพาอุตสาหกรรมสู่ยุค Smart Manufacturing 4.0
ในงาน AIS Business Digital Future 2021 ที่ผ่านทาง AIS Business ผู้นำโซลูชันดิจิทัล แก่กลุ่มองค์กรนำเสนอแนวคิด Your Trusted Smart Digital Partner โดยเปิดช่องทางให้พันธมิตรสำคัญของ AIS ทำงานร่วมกันกับธุรกิจต่างๆ จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้ชนะในยุค Digital Transformation
และหนึ่งในหัวข้อที่พลาดไม่ได้ของงานคือหัวข้อ Enterprise 5G Private Network & Edge Computing การพูดคุยเพื่อหาคำตอบว่าความสามารถใหม่ๆ ของเครือข่าย 5G จะช่วยสนับสนุน Digital Transformation สำหรับภาคธุรกิจได้อย่างไร ผู้ร่วมเสวนาในหัวข้อนี้ ได้แก่ AIS ในฐานะผู้นำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทย, Bosch Thailand บริษัทผู้ให้บริการโซลูชัน Industry 4.0 และ SNC Former จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่อีอีซี มาแลกเปลี่ยนกรณีศึกษาร่วมกัน
5G ดีกว่า 4G, 3G หรือแม้กระทั่งเครือข่าย Wi-Fi อย่างไร
คุณอัศนีย์ วิภาตเวท Head Of Enterprise Telecom Technology Product Department จาก AIS ระบุถึงความแตกต่างระหว่าง 5G กับเครือข่ายในปัจจุบันอย่าง 4G, 3G ว่า 5G มีแบนด์วิธที่มากกว่า และความหน่วงต่ำกว่า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในการนำไปปรับใช้กับระบบ Automation ในโรงงานอุตสาหกรรม
5G ยังสามารถรองรับเครือข่ายอุปกรณ์ IoT ในปริมาณมาก แม้เครือข่าย 4G, 3G จะสามารถใช้งานได้เหมือนกันระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีอุปกรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ในระดับ Smart City เครือข่ายเดิมๆ ก็อาจจะรองรับไม่ไหวอีกต่อไป การลงทุนกับอุปกรณ์ IoT จึงควรพิจารณาถึง 5G เพื่อการขยายตัวในอนาคต
และเมื่อเปรียบเทียบ 5G กับเครือข่ายประเภท Wi-Fi นั้น 5G มีเสถียรภาพสูงกว่าเพราะใช้ช่องสัญญาณที่ผ่านการประมูล (licensed band spectrun)มาใช้ ทำให้ผู้ได้รับอนุญาตอย่าง AIS สามารถจัดการช่องสัญญาณให้มีคุณภาพดี สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ต่างจากช่องสัญญาณที่สามารถใช้งานได้เสรี (unlicensed band) ที่แม้จะไม่ต้องเสียค่าใช้งานช่องสัญญาณ แต่ในโลกความเป็นจริงเราก็พบปัญหาอุปกรณ์ใช้งานจำนวนมากจนอุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมต่อเครือข่ายไม่ได้อยู่เสมอๆ
นอกจากนี้ 5G ยังเหมาะแก่การใช้งานกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งถูกออกแบบให้สามารถย้ายข้ามพื้นที่ จากสถานีฐานหนึ่งไปอีกสถานีฐานหนึ่ง จึงรองรับการใช้งานในพื้นที่กว้างได้ดีกว่า Wi-Fi และเทคโนโลยีแบบสาย Fiber Optic ตัวอย่างเช่นงานเครื่องจักรที่ต้องปรับเปลี่ยนตำแหน่งในสายการผลิต, งาน Logistics ในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นงานที่เหมาะกับการใช้ 5G ได้เป็นอย่างดี ลดงบประมาณและประหยัดเวลาในการออกแบบสายการผลิตใหม่ หรือเดินสายใหม่ให้ยุ่งยาก
"หัวใจสำคัญของการสนับสนุน Transformation ในธุรกิจ คือการเข้าใจ Pain และความต้องการของลูกค้า เพราะเราไม่สามารถทำงานอยู่คนเดียวที่ส่วนกลาง การทำงานร่วมกันระหว่างเอไอเอส, Partner และลูกค้าจะทำให้เราก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงของยุคดิจิทัลได้" คุณอัศนีย์กล่าว
5G กับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย Smart Manufacturing
Mr. Joseph Hong, Managing Director จาก Bosch Thailand แนะนำถึง Bosch ว่าบริษัทให้บริการโซลูชัน Industry 4.0 และ Smart Manufacturing มาตั้งแต่ปี 2011 มียอดขายในโซลูชัน Industry 4.0 รวมทั่วโลกถึง 4 พันล้านยูโรหรือประมาณ 150,000 ล้านบาท ในปี 2020 และยังสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 700 ล้านยูโรหรือประมาณ 27,000 ล้านบาทในส่วนของโซลูชัน Connected Manufacturing
คุณ Josep เล่าถึงประโยชน์ของ Smart Manufacturing ที่กลุ่มอุตสาหกรรมจะได้คือโซลูชันเหล่านี้สามารถเพิ่ม Productivity หรือกำลังการผลิตได้ถึง 25%, เพิ่มระยะเวลาทำงาน (availability) ของเครื่องจักรได้มากกว่า 15%, ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้มากกว่า 25%
โดยโครงข่าย 5G นับเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการนำเครือข่ายไร้สายมาใช้กับงานที่สำคัญยิ่งยวด (critical application) ของโรงงานต่างๆ อาทิ ระบบควบคุมเครนจากระยะไกล, รถไร้คนขับในโรงงาน (automated guided vehicles - AGV), augmented reality (AR) เป็นต้น โดยตอนนี้ Bosch ได้ทดสอบเครือข่าย 5G แบบเฉพาะพื้นที่ (5G Private Network) ที่จะใช้สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับ AIS เฟสแรกที่โรงงานในจังหวัดระยอง พบว่าเทคโนโลยีและเครือข่าย 5G ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน, ลดการใช้พลังงาน และลดระยะเวลาหยุดการผลิต (downtime) ตลอดทั้งสายการผลิตได้เป็นอย่างดี ซึ่ง 5G ช่วยให้สามารถจัดการกับข้อมูลจำนวนมากที่เกิดขึ้นในสายการผลิตได้แบบ Real-time ทำให้ Bosch มองว่า 5G จะเป็นเสมือนเส้นประสาทสำคัญของ Smart Factory ในอนาคต
“5G คือมาตรฐานการสื่อสารใหม่ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของ Smart Factory ในอนาคต ผู้ที่ปรับตัวไม่ทัน มีความเสี่ยงที่จะตกขบวนในอนาคต” Mr. Joseph กล่าว
อีกกรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ 5G Private Network ของ AIS เพื่อใช้ในโรงงาน SNC Former บริษัทสัญชาติไทยผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถยนต์
คุณสมชาย งามกิจเจริญลาภ Managing Director บริษัท SNC Former จำกัด (มหาชน) เล่าภาพรวมให้รู้จักบริษัทมากขึ้นว่า บริษัทได้เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทรับจ้างผลิต (OEM) ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนในรถยนต์ โดยใช้ความได้เปรียบจากค่าแรงที่ต่ำกว่า แต่เมื่อสภาพการแข่งขันเปลี่ยนไป แต่ละบริษัทนำเอาเทคโนโลยีที่สูงขึ้นมาใช้ ทาง SNC จึงต้องปรับตัว ด้วยการหาเทคโนโลยีและโซลูชัน Smart Manufacturing เข้ามาใช้ โดยยึดแนวคิดหลักคือการเชื่อมต่อเครื่องจักร คน และข้อมูลเข้าด้วยกัน
ช่วงสองปีที่ผ่านมา SNC Former ได้ร่วมมือกับ AIS ในการนำ 5G เข้ามา ตั้งเสา 5G ที่โรงงานในระยอง เปิดทางให้สามารถนำเทคโนโลยีใหม่อย่างหุ่นยนต์และอุปกรณ์ IoT เข้ามาเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 5G ในโรงงาน เพื่อช่วยเติมเต็มการทำงานให้เป็น Smart Manufacturing อย่างสมบูรณ์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้
"อนาคตข้างหน้าเราฝันว่า จะมีโรงงานที่พนักงานเราทำงานจากที่ไหนก็ได้ เป็นโรงงานปิดไฟมืด มีแต่เครื่องจักรที่ทำงาน วิศวกรก็ดี ผู้บริหารก็ดี นั่งอยู่ข้างนอก นั่งจิบกาแฟ มีปัญหาก็แก้ไขผ่านมือถือ" คุณสมชายกล่าว
5G ไม่ได้มีแค่ประโยชน์แค่เชื่อมต่อข้อมูลแต่ยังรวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
5G ช่วยเรื่องการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในความหน่วงต่ำ และการทำงานเรียลไทม์ แต่ประโยชน์ด้านการเชื่อมต่อเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะ 5G จะช่วยขับเคลื่อนองคาพยพของโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม
คุณอัศนีย์ วิภาตเวท จาก AIS เล่าถึงโครงสร้างที่เกิดขึ้นด้วยเทคโนโลยี 5G ได้แก่ Edge Computing ที่เปิดทางให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถใช้เซิร์ฟเวอร์ประมวลผลบนโครงข่าย 5G ในพื้นที่ที่ใกล้กับความต้องการใช้งาน เช่น การตั้งศูนย์ข้อมูลในนิคมอุตสาหกรรม ช่วยให้ใช้งานได้เหมือนคลาวด์ที่โรงงานไม่ต้องดูแลเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่การยังได้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้หรือแม้แต่อยู่ในพื้นที่ของโรงานเอง และ 5G ยังเปิดทางผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถสร้างเน็ตเวิร์คที่มีความปลอดภัยสูง แยกเน็ตเวิร์คออกสำหรับลูกค้าแต่ละรายเป็นส่วนตัวเหมือนเป็นเน็ตเวิร์คของตัวเอง (Private Network)
สรุป
ถ้าย้อนเวลากลับไปสัก 2-3 ปีก่อน คำว่า 5G ดูเป็นอนาคตไกลตัว แต่ในวันนี้เราได้เห็นแล้วว่า 5G กับการใช้งานในพื้นที่จริงและช่วยให้ธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ได้อย่างไรบ้าง
ก้าวต่อไป 5G ของ AIS คือ การสร้างความเข้าใจในธุรกิจของลูกค้าว่าลูกค้ามีความต้องการและรายละเอียดทางธุรกิจแบบไหน และมี pain point ตรงไหนบ้าง ซึ่ง AIS มีทีมงานที่จะเข้าไปทำงานกับลูกค้า เพื่อช่วยให้ลูกค้าองค์กรได้เปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ดิจิทัลได้ ไม่ว่าลูกค้าจะมาจากอุตสาหกรรมใดก็ตาม
ผู้ที่สนใจบริการจาก AIS Business สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดูแลองค์กรของท่าน หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ AIS Business |
# Slack ไตรมาสล่าสุด รายได้รวมโต 36% มีลูกค้าเสียเงินมากกว่า 169,000 องค์กร
Slack รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 36% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 273.4 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิแบบ GAAP 27.9 ล้านดอลลาร์
ไตรมาสที่ผ่านมา Slack มีลูกค้าที่ใช้งานแบบจ่ายเงินมากกว่า 169,000 ราย เพิ่มขึ้น 39% มีลูกค้า 1,285 ราย ที่จ่ายเงินมากกว่า 1 แสนดอลลาร์ต่อปี และมีลูกค้า 113 ราย ที่จ่ายเงินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี
ฟีเจอร์สำคัญ Slack Connect ที่ทำให้สามารถคุยงานข้ามบัญชีองค์กรได้มีองค์กรที่ใช้งานแล้วมากกว่า 91,000 แห่ง คิดเป็นการเชื่อมต่อ 950,000 endpoints
ที่มา: Slack |
# เปิดตัวหูฟังไร้สาย Pixel Buds A-Series ราคา 99 ดอลลาร์ ลดลงครึ่งหนึ่งจากรุ่นปกติ
กูเกิลเปิดตัวหูฟังไร้สาย Pixel Buds A-Series ที่จับตลาดล่างลงมาจาก Pixel Buds รุ่นปกติ ขายในราคา 99 ดอลลาร์ (รุ่นปกติขาย 179 ดอลลาร์)
ดีไซน์ของ Pixel Buds A-Series คล้ายกับ Pixel Buds Gen 2 ทั้งตัวหูฟังและเคส มีให้เลือก 2 สีคือ ขาว Clearly White และเทา Dark Olive
จุดต่างในแง่ฮาร์ดแวร์คือ Pixel Buds A-Series กันน้ำเฉพาะตัวหูฟัง (รุ่นใหญ่กันน้ำที่เคสด้วย), ไม่รองรับการชาร์จเคสแบบไร้สาย, มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนตอนคุยโทรศัพท์ แต่ไม่ตัดเสียงลม และไม่สามารถใช้ท่า swipe เพื่อปรับระดับเสียงได้ ทำได้แต่แตะเพื่อหยุดหรือเล่นเพลงต่อเท่านั้น
ในแง่ฟีเจอร์ทางซอฟต์แวร์ มี Adaptive Sound ปรับระดับความดังเสียงตามสภาพแวดล้อม, รองรับคำสั่งเสียง Hey Google เหมือนกับ Pixel Buds รุ่นใหญ่ อันที่หายไปคือ Attention Alerts การแจ้งเตือนเสียงจากด้านนอกเผื่อมีเหตุการณ์รอบตัวเกิดขึ้น
แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 5 ชั่วโมงสำหรับฟังเพลงต่อเนื่อง ถ้ารวมแบตในเคสด้วยใช้ได้ 24 ชั่วโมง มีระบบชาร์จเร็ว 15 นาทีได้แบตเตอรี่มา 3 ชั่วโมง ซึ่งอยู่ในระดับเท่ากับ Pixel Buds รุ่นใหญ่
ที่มา - Google |
# แอพจดบันทึก Journal จาก Microsoft Garage ออกอัพเดต, เลือกกระดาษโน้ตได้หลายรูปแบบ
Journal แอพจดบันทึกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบจดโน้ต/สเก็ตช์ไอเดียผ่านการขีดเขียน ซึ่งได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการ Microsoft Garage ออกอัพเดตใหม่ เพื่อเพิ่มตัวเลือกเปลี่ยนสไตล์ของหน้ากระดาษบนแอพให้มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น
จากเดิมที่เคยมีให้ใช้งานเพียงหน้ากระดาษแบบมีเส้นบรรทัดเพียงรูปแบบเดียว หลังจากอัพเดตแอพ Journal ผู้ใช้จะสามารถเลือกรูปแบบหน้ากระดาษได้ทั้ง กระดาษกราฟ, กระดาษลายจุด, กระดาษสตอรี่บอร์ด ไปจนถึงกระดาษเปล่า
ไมโครซอฟท์กล่าวว่าฟีเจอร์ข้างต้นเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่มีผู้ใช้ร้องขอเข้ามาเป็นจำนวนมาก และหากนับตั้งแต่ปล่อยแอพ Journal ในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ทางไมโครซอฟท์ยังได้ปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาหลายอย่างพอสรุปได้ดังนี้
เพิ่มตัวเลือกปรับแต่งสีปากกา
รองรับการปรับน้ำหนักลายเส้นตามแรงกดของปากกา (เปิดใช้งานได้ที่ Setting > Pen Setting > Pen pressure, Pencil Pressure)
สามารถปรินท์และ export โน้ตเป็นไฟล์ PDF หรือส่งไปยัง OneNote
(หมายเหตุ: ผลลัพธ์จากการ export เข้า OneNote จะได้เป็นรูปภาพ ยังไม่สามารถนำลายเส้นที่จดไว้มาแก้ไขเพิ่มเติมได้ - ผู้เขียน)
เพิ่มเมนูแทรกรูปเรียกใช้งานได้จากปุ่ม + บนทูลบาร์
ท่านใดสนใจดาวน์โหลดแอพ Journal ได้แล้วที่ Microsoft Store ครับ
ที่มา - Microsoft Garage blog (May update, March update) |
# FireEye แยกครึ่งบริษัท ขายธุรกิจ FireEye เดิมให้กลุ่มทุน STG, เหลือฝั่ง Mandiant ไว้
บริษัทความปลอดภัย FireEye ประกาศขายกิจการส่วนของ FireEye เดิม (network, email, endpoint, cloud security) รวมถึงชื่อแบรนด์ FireEye ให้กับกลุ่มบริษัท Symphony Technology Group (STG) ในราคา 1.2 พันล้านดอลลาร์
หลังจากขายกิจการแล้ว FireEye เดิมจะเหลือส่วนธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลความปลอดภัย Mandiant ที่ซื้อกิจการมาในปี 2013 (และคาดว่าจะเปลี่ยนชื่อนิติบุคคลกลับมาเป็น Mandiant)
ซีอีโอคนปัจจุบันของ FireEye คือ Kevin Mandia ผู้ก่อตั้ง Mandiant นั่นเอง (รับตำแหน่งในปี 2016) ส่วนเหตุผลที่ต้องแบ่งครึ่งบริษัทเป็นเพราะธรรมชาติของธุรกิจทั้งสองปีกต่างกัน และมองว่า Mandiant มีโอกาสเติบโตมากกว่า จึงแยกบริษัทเพื่อให้โฟกัสกับ Mandiant เต็มที่
ส่วนผู้ซื้อกิจการ FireEye คือกลุ่มทุน STG เพิ่งซื้อธุรกิจ enterprise ของ McAfee ไปเมื่อต้นปีนี้ในราคา 4 พันล้านดอลลาร์ และซื้อบริษัท RSA ต่อจากกลุ่ม Dell เมื่อปี 2020 รวมถึงซื้อบริษัทความปลอดภัยรายเล็กๆ มาก่อนหน้านี้อีกหลายราย รูปแบบธุรกิจของ STG คือการซื้อบริษัทมาปรับปรุงกิจการ ก่อนนำไปขายหุ้น IPO กลับอีกครั้งในภายหลัง
FireEye คาดว่าธุรกรรมจะเสร็จภายในไตรมาส 4/2021 โดยระหว่างนี้ทั้ง FireEye กับ Mandiant จะยังอยู่ด้วยกันภายใต้ร่มของบริษัทเดียวกันไปก่อน
ที่มา - FireEye |
# Norton 360 เปิดตัวฟีเจอร์ขุดเงินคริปโต Ethereum แบบปลอดภัย จัดการ Wallet ให้ด้วย
NortonLifeLock บริษัทแม่ปัจจุบันของ Norton Antivirus (ร่างใหม่ของ Symantec หลังแยกกิจการในปี 2019) ประกาศฟีเจอร์ใหม่คือ Norton Crypto
Vincent Pilette ซีอีโอของ NortonLifelock ระบุว่าเงินคริปโตกลายมาเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตลูกค้าแล้ว แต่ที่ผ่านมา การขุดเหมืองยังทำได้ยาก มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากโค้ดที่ใช้ขุดเหมือง ดังนั้นแทนที่จะเสี่ยง ปิดแอนตี้ไวรัสหรือซอฟต์แวร์ความปลอดภัยเพื่อขุดเหมือง ก็ทำให้ลูกค้าแอนตี้ไวรัสสามารถขุดเหมืองได้โดยตรงแทนดีกว่า
แอพความปลอดภัย Norton 360 จะสามารถแบ่งทรัพยากรเครื่องมาขุดเหมือง Ethereum ได้ จากนั้นเหรียญที่ได้จะเข้าในกระเป๋า Norton Crypto Wallet ที่ซิงก์กับคลาวด์ เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
ที่มา - NortonLifeLock |
# Twitter Blue บริการจ่ายเงินรายเดือนมาแล้ว Undo Tweet, เรียงข้อความเธร็ด, Bookmark Folder
หลังจากมีข่าว มาสักระยะ วันนี้ Twitter ก็เปิดตัวบริการ subscription ของตัวเองอย่างเป็นทางการในชื่อ Twitter Blue
Twitter Blue เป็นบริการจ่ายเงินรายเดือนเพื่อได้ฟีเจอร์พิเศษ ซึ่งตอนนี้มีทั้งหมด 3 อย่างคือ
Bookmark Folders เป็นการนำฟีเจอร์เซฟข้อความทวีต (ที่เดิมทีคือ favorite) กลับคืนมา พร้อมแยกโฟลเดอร์จัดหมวดหมู่ได้ละเอียดขึ้น
Undo Tweet ฟีเจอร์เด่นที่พูดถึงกันมานาน เราสามารถตั้งเวลาหน่วงได้นานสูงสุด 30 วินาที เพื่อมีเวลาคิดและกด Undo ยกเลิกการส่งได้ทัน
Reader Mode รวมข้อความทวีตในเธร็ดยาวๆ ให้เป็นข้อความยาวๆ ต่อกัน และจัดฟอร์แมตข้อความให้อ่านง่ายขึ้น
นอกจาก 3 ฟีเจอร์หลักแล้ว สมาชิก Twitter Blue ยังสามารถเปลี่ยนไอคอนแอพได้ และเปลี่ยนธีมสีของแอพ Twitter ได้ด้วย ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ จะตามมาในอนาคต
Twitter Blue จะเปิดบริการใน 2 ประเทศก่อนคือ ออสเตรเลีย (4.49 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อเดือน) และแคนาดา (3.49 ดอลลาร์แคนาดาต่อเดือน) แล้วจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ต่อไป
ที่มา - Twitter |
# เกมยิง Valorant ประกาศทำเวอร์ชันมือถือ แยกขาดจากเวอร์ชันพีซี เล่นด้วยกันไม่ได้
Riot Games ประกาศข่าว Valorant เกมยิง FPS แบบทีม 5v5 ที่เพิ่งเปิดให้เล่นเมื่อ 1 ปีก่อน จะออกเวอร์ชันมือถือด้วย ในชื่อว่า Valorant Mobile
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดหรือแม้แต่ภาพของ Valorant Mobile เรารู้แต่เพียงว่ามันจะเป็นเกมอีกเวอร์ชันที่ต่างจากพีซี และไม่รองรับ cross-play ระหว่างกัน
ช่วงหลังเราเริ่มเห็น Riot Games มุ่งสู่เกมมือถือมากขึ้น เช่น League of Legends: Wild Rift ที่ใช้แนวทางการเป็นเวอร์ชันแยกจากพีซีเช่นกัน
Riot Games ยังเปิดเผยข้อมูลว่าตอนนี้ Valorant มีผู้เล่นต่อเดือน 14 ล้านคนแล้ว
ที่มา - Kotaku |
# Apple ประกาศให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์ เริ่มกันยายนนี้
Tim Cook ซีอีโอ Apple ส่งอีเมลถึงพนักงานในบริษัททุกคน โดยระบุว่าทางบริษัทจะเริ่มให้กลับเข้ามาทำงานที่สำนักงานเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้
นโยบายการทำงานของ Apple ในช่วงเริ่มให้พนักงานกลับมาที่ออฟฟิศอีกครั้ง คือจะให้เข้ามาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วัน คือวันจันทร์, อังคาร และพฤหัสบดี ในขณะที่วันพุธและวันศุกร์อนุญาตให้ทำงานจากระยะไกลได้ ส่วนบางทีมอาจต้องเข้าออฟฟิศ 4-5 วันต่อสัปดาห์ ขึ้นกับลักษณะงาน
ตามนโยบายใหม่ของ Apple ยังอนุญาตให้พนักงานสามารถทำงานระยะไกลได้มากสุดถึง 2 สัปดาห์ต่อปี เพื่อให้พนักงานมีเวลาอยู่ร่วมกับครอบครัวและคนที่รัก, เปลี่ยนบรรยากาศ, จัดการการเดินทางที่มาแบบฉับพลัน หรือเหตุผลส่วนตัวอื่น ๆ โดยจะต้องขออนุมัติการทำงานระยะไกลจากระดับผู้จัดการ
ที่มา - The Verge |
# Pluralsight ซื้อกิจการ A Cloud Guru เพื่อรองรับความต้องการทักษะด้าน Cloud
Pluralsight แพลตฟอร์มการเรียนสายเทคโนโลยีสำหรับพัฒนาบุคลากรในองค์กร ประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ A Cloud Guru แพลตฟอร์มการเรียนที่เน้นเนื้อหาด้านเทคโนโลยีคลาวด์โดยเฉพาะ โดยไม่เปิดเผยมูลค่าของดีล
ปัจจุบัน Pluralsight อยู่ในขั้นตอนขายกิจการให้กับกองทุน Vista Equity Partners ซึ่งดีลนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
Aaron Skonnard ซีอีโอ Pluralsight ให้ข้อมูลว่าในบรรดาทักษะทางเทคโนโลยีมากมายที่สำคัญสำหรับองค์กรในตอนนี้ เป็นที่ชัดเจนว่าคลาวด์เป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นมาก การซื้อกิจการ A Cloud Guru จึงช่วยเติมเต็มให้กับความต้องการขององค์กร เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ที่ต้องการโซลูชันจำเป็น
ที่มา: Pluralsight |
# Harmony OS มาแล้ว เตรียมอัพเดตให้อุปกรณ์ Huawei เกือบร้อยรุ่น ภายในครึ่งปีแรกปี 2022
Huawei เปิดตัว HarmonyOS เวอร์ชั่นเต็มอย่างเป็นทางการบนอุปกรณ์มือถือและแท็บเล็ตเมื่อวานนี้ ใต้คอนเซ็ปต์ One as All, All as One ชูการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ในอีโค่ซิสเท็มของ Huawei พร้อมยังระบุว่า Harmony OS จะทำงานได้ลื่นไหลกว่า EMUI เวอร์ชั่นล่าสุด และประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น
Harmony OS สามารถคอนฟิกโมดูลต่างๆ ให้รันได้ทั้งบนมือถือ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ และเครื่องใช้สมาร์ทโฮมต่างๆ ของ Huawei สามารถให้อุปกรณ์เครื่องหนึ่งเป็น Super Device สั่งการอุปกรณ์อื่นๆ ได้ และ Harmony OS ดูจะไม่กินหน่วยความจำมากนัก ทำให้รันได้บนอุปกรณ์ที่มีหน่วยความจำตั้งแต่ 128KB ขึ้นไป แต่ทาง Huawei ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าอุปกรณ์ที่ต่างกันขนาดนี้จะมีส่วนต่างกันอย่างไรบ้าง เพราะที่ผ่านมา Harmony OS บนโทรศัพท์นั้นเป็นแอนดรอยด์แทบทั้งหมด
Harmony OS รองรับอุปกรณ์ของ Huawei ย้อนหลังไปถึงปี 2016 เช่น Huawei Mate 9 และจะทยอยอัพเดตให้อุปกรณ์ทั้งหมดในประเทศจีนเกือบร้อยชนิดภายในครึ่งแรกของปี 2022 ตามรายการและระยะเวลาในลิงก์นี้
ที่มา - Huawei Central 1, Huawei Central 2, Huawei Central 3 |
# Cloudera ขายกิจการให้กลุ่มกองทุน Clayton, CD&R และ KKR มูลค่า 5,300 ล้านดอลลาร์
Cloudera ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านฐานข้อมูลสำหรับองค์กร ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงให้กลุ่มกองทุนคือ Clayton, Dubilier & Rice (CD&R) และ KKR เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของบริษัท ที่มูลค่าดีล 5,300 ล้านดอลลาร์ โดยดีลนี้จ่ายเป็นเงินสดทั้งหมด ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่ามูลค่ากิจการตามราคาล่าสุดในตลาดหุ้น 24%
หลังดีลนี้เสร็จสิ้น Cloudera จะนำบริษัทออกจากตลาดหุ้น
Rob Bearden ซีอีโอ Cloudera กล่าวว่าดีลนี้เป็นการสร้างคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้นปัจจุบัน และช่วยสนับสนุนกลยุทธ์ของ Cloudera ในระยะยาวต่อไป
ที่มา: Cloudera |
# บล็อกของทรัมป์ปิดตัวลงแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมกลับมาในรูปแบบโซเชียลมีเดียเร็ว ๆ นี้
ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้เปิดเว็บบล็อกของเขาเองในชื่อ From the Desk of Donald J. Trump ซึ่งล่าสุดบล็อกของเขาได้ปิดตัวลงแล้วหลังจากเปิดตัวได้ราว 1 เดือน
Jason Miller ผู้ช่วยอาวุโสของทรัมป์ยืนยันเรื่องนี้กับ CNBC ว่าบล็อกของทรัมป์ได้ปิดตัวลงไปแล้วจริง และจะไม่กลับมาอีก พร้อมเผยว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่กำลังพัฒนาอยู่ (Miller ใช้คำว่า broader effort) แต่เขายังไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้มากนัก ซึ่งต่อมามีนักข่าวคนหนึ่งถามเขาทางทวิตเตอร์ว่าเป็นสัญญาณว่าเขาได้เข้าร่วมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นแล้วใช่หรือไม่ Miller ก็ตอบยืนยันว่าใช่และให้รอติดตามต่อไป
สำหรับทรัมป์เองถูกแบนจากโซเชียลมีเดียกระแสหลักอย่าง Facebook และ Twitter ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ US Capitol ซึ่งทรัมป์และผู้สนับสนุนของเขากล่าวหาโซเชียลมีเดียว่ามีความลำเอียงและเลือกเซนเซอร์ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทำให้ทรัมป์ต้องพยายามหาพื้นที่สื่อให้ตัวเอง ซึ่งบล็อกนี้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนักเมื่อเทียบกับสมัยที่ยังมีพื้นที่บนแพลตฟอร์มหลัก
ที่มา - Engadget, CNBC
ภาพ Gage Skidmore/Flickr (CC BY-SA 2.0) |
# Etsy ซื้อกิจการ Depop แพลตฟอร์มซื้อขายเสื้อผ้ามือสอง ที่เจาะตลาดคนรุ่นใหม่
Etsy แพลตฟอร์มขายสินค้าแฮนด์เมด ประกาศเข้าซื้อกิจการ Depop แพลตฟอร์มซื้อขายเสื้อผ้ามือสองของอังกฤษ ที่มูลค่า 1,625 ล้านดอลลาร์ โดยจ่ายเป็นเงินสด หลังดีลแล้วเสร็จ Depop จะยังดำเนินงานต่อภายใต้แบรนด์เดิม และทีมงานหลักยังทำงานอยู่ที่อังกฤษต่อไป
Etsy ให้ข้อมูลว่า Depop เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเสื้อผ้ามือสองที่มีความโดดเด่นจากคู่แข่ง มียอดขายร้านค้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ในปีที่ผ่านมา เป็นแพลตฟอร์มที่คนรุ่นใหม่นิยมใช้งาน เพราะมีผู้ใช้งานมากกว่า 90% อายุน้อยกว่า 26 ปี ผลสำรวจยังพบว่าแบรนด์เป็นที่นิยมในกลุ่มคนเจเนอเรชัน Z
หลังจบดีลนี้ Etsy จะมีแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าสามแบรนด์ ได้แก่ Etsy ที่เน้นสินค้าทำมือ, Reverb ซื้อขายเครื่องดนตรี และ Depop
ที่มา: Etsy |
# Sony บอก Horizon Forbidden West อาจขายไม่ทันปี 2021, Gran Turismo 7 ลง PS4 ด้วย
Sony เพิ่งโชว์คลิปเกมเพลย์ขนาดยาวของ Horizon Forbidden West และเรียกเสียงฮือฮอาในหมู่เกมเมอร์ได้มาก แต่เราอาจต้องรอกันอีกนานกว่าจะได้เล่นเกมจริงๆ กัน
Hermen Hulst หัวหน้า PlayStation Studios ให้สัมภาษณ์กับ PlayStation Blog ของบริษัทเอง ยอมรับว่ายังไม่สามารถฟันธงได้ว่า Horizon Forbidden West จะสามารถวางขายได้ทันช่วงเทศกาลปลายปี แม้บริษัทตั้งเป้าไว้แบบนั้น และสถานะการพัฒนาก็เป็นไปตามเป้าหมาย
Sony เพิ่งประกาศเลื่อนวันขาย God of War ภาคใหม่เป็นปี 2022
นอกจากนี้ Hulst ยังให้ข้อมูลว่าเกมที่เคยคิดกันว่าเป็นเอ็กซ์คลูซีฟของ PS5 อย่าง Gran Turismo 7 จะลง PS4 ด้วย (ร่วมกับ Horizon Forbidden West และ God of War ที่ประกาศไปแล้วว่าลง PS4) โดยให้เหตุผลว่ายังมีเจ้าของเครื่อง PS4 จำนวน 110 ล้านคนที่ควรได้เล่นเกมเหล่านี้
ที่มา - PlayStation Blog, Kotaku |
# ไมโครซอฟท์จัดงานเปิดตัว Windows เวอร์ชันใหม่ 24 มิถุนายน
ไมโครซอฟท์ประกาศจัดงานแถลงข่าว Windows ในวันที่ 24 มิถุนายน 2021 ตอน 11:00 ตามเวลาสหรัฐ (เวลาไทยคือ 22:00) โดยบอกเพียงว่า see what's next for Windows พร้อมภาพประกอบเป็นรูปไอคอน Windows ที่มีเงาสะท้อนเป็นประกายออกสีรุ้งเล็กน้อย
Satya เพิ่งพูดในงาน Build ว่าจะเปิดตัว Windows ที่เปลี่ยนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี โดยข้อมูลที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้พูดถึงโค้ดเนม Sun Valley ที่เป็นการยกเครื่องดีไซน์ครั้งใหญ่ของ Windows
ที่มา - Microsoft |
# Stack Overflow ขายกิจการให้กองทุน Prosus มูลค่าดีล 1,800 ล้านดอลลาร์
Stack Overflow เว็บบอร์ดสนทนาด้านโปรแกรมมิ่ง ประกาศว่า Prosus กองทุนด้านเทคโนโลยีได้เสนอซื้อกิจการทั้งหมดที่มูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์ โดยหลังการซื้อกิจการแล้วเสร็จ Stack Overflow จะยังดำเนินงานอย่างอิสระต่อไป โดยมีการสนับสนุนผ่านบริษัทที่ Prosus ลงทุนอยู่แล้ว
ปัจจุบัน Stack Overflow มีรายได้จากการขายโฆษณาบนเว็บ และให้บริการบางอย่างที่ต้องเสียเงินเพิ่ม
Prosus เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยีทั่วโลก มีพอร์ตการลงทุนในบริษัทอาทิ Tencent, Brainly, BYJU’s, Codecademy, OLX, PayU, Remitly และ Udemy ในส่วนการลงทุน Stack Overflow นั้น กองทุนระบุว่าเป็นการลงทุนในหมวด EdTech
ที่มา: Stack Overflow |
# God of War ภาคใหม่ ยืนยันลงทั้ง PS4 และ PS5 แต่เลื่อนวันวางจำหน่ายเป็นปี 2022
Santa Monica Studio สตูดิโอผู้สร้างเกม God of War ของ Sony แถลงผ่านทวิตเตอร์ขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตาม พร้อมประกาศขอเลื่อนช่วงวางจำหน่ายของเกม จากภายในปี้นี้ ไปเป็นภายในปี 2022 เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของทีมงาน ตรงกับข่าวลือที่ Jason Schreier ผู้สื่อข่าวชื่อดังในวงการเกมเคยระบุไว้ก่อนหน้านี้
แม้จะน่าผิดหวังอยู่บ้างสำหรับผู้ที่ซื้อเครื่อง PS5 ที่จับจองอย่างยากลำบากมาแล้ว แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องดีกับคุณภาพของเกมและชีวิตของทีมงาน ที่อาจไม่ต้องเร่งทำเกมให้เสร็จทันภายในปีนี้ และมีเวลาขัดเกลาคุณภาพประสิทธิภาพของ God of War ไม่ให้ซ้ำรอยเกมอย่าง Cyberpunk 2077
นอกจากนี้ในบทสัมภาษณ์ของ Hermen Hulst ประธาน Sony Studios บน PlayStation Blog ยังระบุว่า God of War ภาคใหม่จะลงให้กับ PS4 ด้วย ซึ่งอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ต้องเลื่อนตัวเกมไปวางจำหน่ายปี 2022 แทน
ที่มา - Santa Monica Studio, PlayStation Blog |
# LG Pay เตรียมหยุดให้บริการในสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายนนี้
LG เตรียมหยุดให้บริการ LG Pay ระบบชำระเงินผ่านโทรศัพท์แบบไร้สัมผัสของ LG ในสหรัฐฯ โดยทางบริษัทแจ้งว่าจะหยุดให้บริการภายในวันที่ 1 พฤศจิกายนปีนี้
LG ระบุว่า จะปิดให้บริการ LG Pay Wallet ในสหรัฐฯ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2021 โดยทางบริษัทจะหยุดรับลงทะเบียน LG Pay, ปิดไม่ให้เพิ่มบัตรใหม่เข้าบัญชีเดิม ทั้งบัตรเครดิต, เดบิต, พรีเพด, gift card หรือ loyalty card และไม่เปิดให้ซื้อบัตร gift card ใหม่ แต่สำหรับบัตรที่เพิ่มไว้ใน LG Pay จะยังคงใช้ได้ต่อไปจนกว่าจะหยุดให้บริการโดยสมบูรณ์
LG เองปิดหน่วยพัฒนามือถือตั้งแต่เดือนเมษายนเนื่องจากการแข่งขันของธุรกิจกลุ่มนี้อยู่ในระดับสูง และการปิด LG Pay ก็น่าจะเป็นหนึ่งในผลลัพธ์จากการปิดหน่วยพัฒนามือถือของ LG นี้เอง
ที่มา - Engadget, Droid Life
ภาพจากข่าวเก่า |
# Canon เผยรายละเอียด EOS R3 เพิ่มเติม: ถ่ายวิดีโอ 4K oversample, กันสั่นสูงสุด 8 สต็อป
Canon เผยรายละเอียดถัดไปของ EOS R3 กล้อง Mirrorless เซนเซอร์ฟูลเฟรมล่าสุดอีกครั้ง หลังจากที่เปิดเผยครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
Canon ระบุว่า EOS R3 จะใช้เซนเซอร์ Stacked CMOS ที่สามารถอ่านข้อมูลจากเซนเซอร์ได้เร็มาก ถ่ายภาพ RAW ได้สูงสุดถึง 30 ภาพต่อวินาที พร้อมระบบกันสั่นในบอดี้ที่เมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ RF ที่รองรับ สามารถกันสั่นได้สูงสุดถึง 8 สต็อป
ส่วนออโต้โฟกัส EOS R3 จะปรับปรุงระบบตรวจจับหน้า, ตา, หัว และสัตว์ให้ดีขึ้น พร้อมเพิ่มระบบตรวจจับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เข้ามา ซึ่ง Canon เคลมว่าระบบโฟกัสของ EOS R3 จะสามารถโฟกัสได้ที่ค่าแสงต่ำสุดถึง -7EV
ในด้านระบบวิดีโอ EOS R3 จะอัดวิดีโอที่ 4K แบบ oversample พร้อมรองรับระบบ Canon Log3 และ RAW ด้วย
สำหรับบอดี้ของตัวกล้อง Canon ใช้แมกนีเซียมอัลลอย ใส่ hot shoe มาให้ในตัว ซึ่งถือเป็นกล้อง Canon ตัวแรกที่เป็นชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับ Speedlite มีจอหลังแบบสัมผัสมาให้ พร้อม Smart และ Multi controller ส่วนระบบเชื่อมต่อ Canon ใส่ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ช่องเสียบการ์ดมีสองช่อง รองรับ CFexpress และ SD แบตเตอรี่ใช้ LP-E19 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับ EOS 1DX III
ที่มา - dpreview |
# สิงคโปร์อนุญาตให้ใช้วัคซีน Sinovac สำหรับผู้เจาะจงอยากฉีด แต่ไม่ฟรีเหมือน Pfizer/Moderna
สาธารณสุขสิงคโปร์อนุญาตให้ใช้งานวัคซีน Sinovac-CoronaVac หลังจากองค์การอนามัยโลกรองรับให้วัคซีนใช้งานได้แบบฉุกเฉิน หลังจากสิงคโปร์เน้นใช้งานเฉพาะวัคซีน mRNA ทั้ง Pfizer และ Moderna
วัคซีน mRNA มีรายงานว่าก่อให้เกิดอาการแพ้รุนแรง (anaphylaxis) ในกลุ่มผู้เป็นภูมิแพ้ที่มีอาการแพ้รุนแรงมาก่อน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานว่าพบผู้รับวัคซีนที่มีอาการแพ้รุนแรงจำนวน 21 คน คิดเป็น 11.1 รายต่อ 1 ล้านโดส โดยในจำนวนนี้ 17 คนเคยมีประวัติการแพ้รุนแรงมาก่อน นอกจากนี้วัคซีน mRNA ยังอาจจะไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (immunocompromised)
แม้จะใช้งานได้ แต่สิงคโปร์จะไม่นำ Sinovac-CoronaVac เข้าโครงการวัคซีนแห่งชาติ ทางสาธารณสุขสิงคโปร์จะประกาศราคา และออกเอกสารยินยอมสำหรับผู้ที่เลือกฉีดวัคซีนตัวนี้ออกมาภายหลัง
ตอนนี้ยอดฉีดวัคซีน COVID-19 ของสิงคโปร์อย่างน้อย 1 เข็มอยู่ที่ 40% ของประชากร และฉีดครบสองเข็มแล้ว 31% ของประชากร และตอนนี้มีวัคซีน Sinovac-CoronaVac อยู่ในสต็อกทั้งหมด 200,000 โดส
ที่มา - CNA
ภาพโดย qimono |
# เปิดตัว SAP Business Network แพลตฟอร์มเชื่อมต่อธุรกิจจบบนแพลตฟอร์ม SAP
SAP เปิดตัวบริการ SAP Business Network แพลตฟอร์มสำหรับสำหรับเชื่อมต่อธุรกิจเข้าด้วยกัน โดย SAP หวังว่าบริการนี้จะเป็นศูนย์รวมสำหรับคู่ค้าต่างๆ ให้ทำงานร่วมกัน
ก่อนหน้านี้ SAP มีบริการสำหรับเชื่อมต่อธุรกิจเข้าด้วยกันแยกเป็นด้านๆ เช่น Ariba Network, SAP Logistics Business Network, และ SAP Asset Intelligence Network ต่อจากนี้ทาง SAP จะเชื่อมบริการเหล่านี้เข้ามาใน SAP Business Network
ฟีเจอร์ที่ SAP เตรียมเพิ่มเข้ามาในบริการนี้ เช่น การติดตามรายการซื้อสินค้าให้ติดตามการส่งสินค้าได้ทั่วโลก, ระบบให้บริการทางการเงินเพื่อให้ธุรกิจหาคู่ค้าที่เข้ามาช่วยการบริหารกระแสเงินสด, การแสดงข้อมูลวัดประสิทธิภาพการทำงาน เทียบกับธุรกิจอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
ที่มา - SAP |
# ไมโครซอฟท์ปล่อย Windows Server 2022 เข้า Evaluation Center ให้ดาวน์โหลดได้แล้ว
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่ม Windows Server 2022 เข้า Evaluation Center เปิดทางให้พันธมิตรสามารถดาวน์โหลดไปทดสอบ ทั้งแบบ ISO และรันเครื่องทดสอบบน Azure
ไมโครซอฟท์เริ่มปล่อย Windows Server 2022 มาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผ่านช่องทาง Insider Preview โดยช่วงหลังไมโครซอฟท์ปรับรูปแบบการออก Windows Server เวอร์ชั่นใหม่เป็นรูปแบบที่คาดเดาได้มากขึ้น โดยมีการอัพเดตฟีเจอร์ทุกๆ 6 เดือน (Semi-Annual Channel) และทุกๆ 2-3 ปีจะออกเวอร์ชั่นซัพพอร์ตระยะยาว (Long-Term Servicing Channel - LTSC) ที่จะซัพพอร์ตเต็มรูปแบบไป 5 ปีและซัพพอร์ตระยะยาวไปอีก 5 ปี รวมสามารถใช้งานได้นาน 10 ปี
แนวทางนี้ทำให้ฟีเจอร์ของ Windows Sever 2022 ไม่ได้เพิ่มทีละมากๆ เหมือนแต่ก่อน ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาเช่น Secured-core, เว็บเซิร์ฟเวอร์รองรับ TLS 1.3, ระบบแชร์ไฟล์ SMB รองรับการเข้ารหัส AES-256 นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เพื่อนกรทำงานร่วมกับ Azure เช่น Azure Arc หรือ Storage Migration Service ไปจนถึงการใช้ Windows Container รันแอปพลิเคชั่นที่ต้องการ Active Directory โดยไม่ต้อง join domain
ที่มา - Windows Server Blog |
# Firefox ประกาศรองรับ Manifest V3 ตาม Chrome แต่ยังรองรับ API เก่าต่อไป
เมื่อต้นปี 2019 ทีมงาน Chrome เสนอสเปก API ชื่อ Manifest V3 ที่เปลี่ยนพฤติกรรมการควบคุมหน้าเว็บของส่วนขยายเบราว์เซอร์ ตัวบล็อคโฆษณาต้องขอให้เบราว์เซอร์ทำหน้าที่บล็อคโฆษณาให้ ข้อดีคือความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น แต่ส่งผลกระทบให้ตัวบล็อคโฆษณาใช้วิธีเดิมไม่ได้อีก
ข้อเสนอ Manifest V3 เป็นประเด็นถกเถียงกันมากมาย กูเกิลก็ยอมถอยบางก้าว และสุดท้ายเริ่มใช้งานใน Chrome 88 ช่วงปลายปี 2020
เบราว์เซอร์ตัวอื่นที่ประกาศรองรับ Manifest V3 คือ Microsoft Edge ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนักเมื่อดูจากสายสัมพันธ์ของไมโครซอฟท์กับกูเกิลในช่วงหลัง และตัว Edge เองที่ต้องอิงกับเอนจิน-ส่วนขยายของ Chromium
สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าย Mozilla เริ่มขยับตัวแล้ว โดยประกาศว่าจะรองรับ Manifest v3 ใน Firefox ด้วยเหตุผลด้านความเข้ากันได้ของส่วนขยายข้ามเบราว์เซอร์ แต่อาจมีแนวทางบางส่วนที่แตกต่างจาก Chrome เช่น วิธีการให้ผู้ใช้ควบคุมสิทธิการเข้าถึงเพจของส่วนขยาย (host permission control), แนวทางการรันงานในแบ็คกราวด์ผ่าน background service workers เป็นต้น
อีกประเด็นที่แนวทางของ Chrome แตกต่างจาก Firefox คือ Manifest V3 มี API ตัวใหม่ declarativeNetRequest (DNR) มาแทน blocking webRequest API ของเดิมที่ส่วนขยายใช้กันมานาน โดย Firefox ประกาศว่าจะรองรับ API ทั้งสองตัวเอาไว้ เพื่อความเข้ากันได้กับส่วนขยายทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ และนักพัฒนาสามารถเลือกได้เองว่าจะใช้ API ตัวไหน
ตามแผนของ Mozilla จะเริ่มรองรับ Manifest V3 ในช่วงไตรมาส 4/2021 และเริ่มรับส่วนขยายแบบ V3 ในต้นปี 2022
ที่มา - Mozilla |
# Twitter เปิดตัว Tomorrow แหล่งข่าวพยากรณ์อากาศ เสริมกำลังบริการข่าวพรีเมี่ยม
Twitter ร่วมมือกับ Eric Holthaus ผู้ผลิตเนื้อหาข่าวสารสภาพอากาศผ่านสื่อสิ่งพิมพ์เช่น Grist, The Wall Street Journal และ Slate นำเนื้อหามาลงบริการข่าวพยากรณ์อากาศในชื่อว่า Tomorrow
บริการข่าว Tomorrow จะมีทีมงานผลิตจดหมายข่าวและเนื้อหาแบบยาวพิเศษส่งให้สมาชิกรับข่าวสารผ่าน Revue และทำเนื้อหาสั้นๆ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปผ่านฟังก์ชั่น Ticket ใน Spaces และ ฟังก์ชั่น Q&A เป็นต้น
Tomorrow เริ่มเปิดตัวใน 16 เมืองในอเมริกาเหนือคือ แอตแลนตา, บอสตัน, ชาร์ล็อต, ชิคาโก, ดัลลาส/ฟอร์ตเวิร์ธ, ดีทรอยต์, ฮูสตัน, มินนีแอโพลิส, นิวยอร์กซิตี้, ฟิลาเดลเฟีย, พอร์ตแลนด์, ซานอันโตนิโอ, ซานฟรานซิสโก, โตรอนโต วอชิงตัน ดี.ซี. และโดมินิกัน
Twitter กำลังปั้นฟีเจอร์พรีเมี่ยม Twitter Blue ที่รวมเอาหลากหลายความสามารถเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Undo Send,
Bookmarks/Collections, และคาดว่ามีตัวลบโฆษณาและจดหมายข่าว Revue ที่เข้าซื้อมาด้วย
ที่มา - Axios, 9to5Mac |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.