txt
stringlengths
202
53.1k
# แอป YouTube บน iOS จะรองรับ Picture-in-Picture ดูวิดีโอไป ทำอย่างอื่นไปได้แล้ว The Verge รายงานโดยอ้างข้อมูลจากโฆษกของ YouTube ว่าแอป YouTube บน iOS จะรองรับคุณสมบัติ Picture-in-Picture ทำให้สามารถดูวิดีโอระหว่างใช้งานแอปอื่นได้ โดยในช่วงแรกจะใช้งานได้เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่สมัคร Premium ก่อน แต่จะทยอยเปิดให้กับผู้ใช้งาน iOS ทุกคนรวมทั้งผู้ใช้งานฟรีในอนาคต แอปเปิลรองรับคุณสมบัติ Picture-in-Picture ตั้งแต่ iOS 9 เฉพาะบน iPad ต่อมาได้ขยายสู่ iPhone ใน iOS 14 แต่ YouTube เองก็ยังไม่รองรับคุณสมบัตินี้ มีเพียงวิธีใช้งานผ่าน Safari ที่ทำได้ รายงานระบุว่าคุณสมบัติ Picture-in-Picture นี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้งานสำหรับลูกค้า Premium แต่ยังไม่ทุกคน ที่มา: The Verge
# IBM ส่งเรือไร้คนขับ MAS ข้ามมหาสมุทรจากอังกฤษไปอเมริกา ฉลอง 400 ปีเรือ Mayflower Mayflower เป็นชื่อของเรือที่ขนผู้อพยพชาวอังกฤษไปยังทวีปอเมริกาในปี 1620 จนสามารถตั้งเป็นอาณานิคมแห่งแรกๆ ในอเมริกา (และเป็นต้นกำเนิดของเทศกาลขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐอเมริกา) เวลาผ่านมา 400 ปี ในยุคของยานพาหนะไร้คนขับ IBM ร่วมกับองค์กรวิจัยทางทะเล ProMare จึงสร้างเรือ Mayflower Autonomous Ship (MAS) ขึ้นมาในปี 2020 และหลังจากทดสอบในทะเลจริงมาหลายเดือน เรือ MAS ก็พร้อมจะเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ตามเส้นทางของเรือ Matflower ต้นฉบับแล้ว แต่รอบนี้ไม่ต้องมีมนุษย์อยู่บนเรือเลย MAS เป็นเรือขนาดความยาว 15 เมตร ความเร็วสูงสุด 10 น็อต ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เก็บลงแบตเตอรี่เป็นหลัก (มีเครื่องยนต์ดีเซลเป็นเครื่องสำรอง) ติดตั้งเซ็นเซอร์ 30 ตัว กล้อง 6 ตัว ระบบประมวลผลบนเรือมีทั้ง IBM Power, NVIDIA Jetson Xavier, คอมพิวเตอร์อินเทล และคอมพิวเตอร์ที่ใช้ซีพียูแบบคัสตอม ฝั่งซอฟต์แวร์ใช้ระบบที่พัฒนาโดย IBM ทั้งหมด ถือเป็นยานพาหนะขับขี่อัตโนมัติระดับ 5 คือไม่ต้องใช้มนุษย์เลย MAS เริ่มออกเดินทางจากท่าเรือ Plymouth ในอังกฤษเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน เป้าหมายคือเข้าเทียบท่าเรือ Plymouth ในรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐอเมริกา แบบเดียวกับเรือ Mayflower เมื่อ 400 ปีก่อน โดย IBM ทำหน้าเว็บ MAS400 ให้เราสามารถติดตามเส้นทางของ MAS ได้แบบเรียลไทม์ (ตอนนี้ยังอยู่นอกชายฝั่งอังกฤษไม่ไกล เบี้ยวออกจากเส้นทางเป้าหมายเล็กน้อย) หรือติดตามได้จากทวิตเตอร์ @AI_Mayflower ที่มา - IBM, The Register
# ข้อมูลในสิทธิบัตรชี้ AMD กำลังทำซีพียู x86 แบบ big.LITTLE ด้วย สถาปัตยกรรมซีพียูแบบคอร์เล็ก+ใหญ่ผสมกัน หรือ big.LITTLE ที่เราเห็นจากซีพียูฝั่ง Arm กลายเป็นมาตรฐานในโลกอุปกรณ์พกพา ด้วยเหตุผลว่าประหยัดพลังงานกว่า แยกโหลดงานตามขนาดคอร์ได้ เทรนด์นี้กำลังเริ่มลามมายังซีพียูตระกูล x86 แล้ว ฝั่งอินเทลมีซีพียู Lakefield เปิดตัวในปี 2020 ข้างในเป็น Core 1 คอร์ + Atom 4 คอร์ และซีพียูสายหลักรุ่นหน้า Gen 12 ที่จะออกปลายปีนี้ Alder Lake ก็ใช้แนวทางเดียวกัน (8+8 คอร์) ล่าสุดมีคนไปเจอสิทธิบัตรของฝั่ง AMD ว่ากำลังทำซีพียู big.LITTLE อยู่เช่นกัน สิทธิบัตรฉบับนี้ชื่อว่า Method of Task Transition Between Heterogenous Processors เน้นไปที่กระบวนการย้ายโหลดงานจากซีพียูที่ต่างขนาดกัน ข้อมูลในสิทธิบัตรยังไม่ลงรายละเอียดของฮาร์ดแวร์มากนัก (ใช้คำแค่ว่า Big processor กับ Little processor) แต่อย่างน้อยก็เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า AMD กำลังพัฒนาซีพียูแนวทางนี้อยู่จริง ที่มา - ExtremeTech
# บริการโอนเงินระหว่างประเทศ Wise (ชื่อเดิม TransferWise) เตรียมเข้าตลาดหุ้นลอนดอนด้วยวิธี Direct Listing Wise หรือชื่อเดิมคือ TransferWise บริษัทฟินเทคพัฒนาระบบโอนเงินข้ามประเทศเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนแล้ว โดย Wise จะใช้วิธีเข้าตลาดแบบ Direct Listing คือไม่มีการออกจำหน่ายหุ้นไอพีโอเพื่อเพิ่มทุน TransferWise ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 และรีแบรนด์มาเป็น Wise เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลของปีงบประมาณล่าสุดเผยว่า รายได้ของ Wise เพิ่มขึ้นจาก 303 ล้านปอนด์เป็น 421 ล้านปอนด์ และมีกำไร 41 ล้านปอนด์ก่อนหักภาษี ซึ่ง Wise เป็นบริษัทที่ทำกำไรมาแล้วตั้งแต่ปี 2017 ปัจจุบัน Wise มีลูกค้าแอคทีฟที่โอนเงินข้ามประเทศราว 5 พันล้านปอนด์ในทุก ๆ เดือน ซึ่งนอกจากจะให้บริการบนแพลตฟอร์มของตัวเองโดยตรงแล้ว Wise ยังให้บริการผ่านแพลตฟอร์มของบุคคลที่สามอีก เช่น Monzo หรือ N26 รวมถึงมีบริการบัญชีและบัตรเดบิตหลายสกุลเงินให้ใช้งาน มีคู่แข่งสำคัญคือ MoneyGram และ Western Union การนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์แบบ Direct Listing จะไม่มีการระดมทุนด้วยการออกหุ้นไอพีโอเสนอขายสู่สาธารณะ วัตถุประสงค์หลักคือการเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งช่วงหลังมีบริษัทเทคโนโลยีใช้วิธีเข้าตลาดแบบ DIrect Listing กันอยู่บ้าง เช่น Slack และ Spotify ซึ่ง Wise น่าจะเป็นบริษัทเทคโนโลยีแรกที่เลือกเข้าตลาดหุ้นลอนดอนด้วยวิธี Direct Listing โดย Wise มองว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเพราะบริษัททำกำไรได้อยู่แล้ว จึงเลือกวิธีนี้เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายในการระดมทุนเหมือนกับการไอพีโอ ที่มา - TechCrunch, The Guardian
# Eclipse IDE รองรับ Apple M1 แล้ว, รองรับ Java 16 Eclipse IDE ปัจจุบันออกเวอร์ชันใหม่ทุกไตรมาส ออกเวอร์ชัน 2021-06 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ รองรับ Java 16 เวอร์ชันล่าสุด รองรับสถาปัตยกรรม Mac AArch64 (Arm64) หรือ Apple M1 ปรับปรุงเครื่องมือ Eclipse Java development tools (JDT) ปรับปรุงการทำงานของเทอร์มินัล เช่น การเปิดลิงก์ด้วย Ctrl+Click นอกจากตัวโปรแกรมแล้ว องค์กรแม่คือ Eclipse Foundation ที่ปัจจุบันมีโครงการในสังกัดมากขึ้น ยังได้ตั้งคณะทำงาน Eclipse IDE Working Group ขึ้นมาเพื่อโฟกัสกับกระบวนการพัฒนาตัว Eclipse IDE ชัดเจนกว่าเดิม โดยมีสมาชิกเป็นตัวแทนจากบริษัทใหญ่ๆ เช่น IBM, SAP, VMware, Renesas อยู่ในคณะทำงานด้วย ที่มา - Eclipse
# Terraform ซอฟต์แวร์ Infrastructure as Code ออกเวอร์ชัน 1.0 แล้ว Terraform ซอฟต์แวร์ที่ใช้กำหนดคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ด้วยแนวคิด infrastructure as code ออกเวอร์ชัน 1.0 ถือเป็นก้าวสำคัญนับจากออกเวอร์ชันแรกในปี 2014 Terraform พัฒนาโดยบริษัท HashiCorp ในซานฟรานซิสโก (บริษัทชื่อญี่ปุ่น เพราะผู้ก่อตั้งเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-สหรัฐ) ที่โด่งดังจากการสร้าง Vagrant ซอฟต์แวร์ด้าน virtualization มาก่อน แนวคิดของ Terraform คือการเขียนคอนฟิกเป็นโค้ด (declarative configuration files) ที่เรียกว่าภาษา HashiCorp Configuration Language (HCL) เพื่อให้ซอฟต์แวร์อ่านไฟล์เหล่านี้ได้ ทำงานอัตโนมัติได้ ช่วยให้การจัดการเครื่องจำนวนมากๆ ง่ายขึ้น ลดความผิดพลาดของมนุษย์ลง (ซอฟต์แวร์ตัวอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันคือ Chef, Puppet, Ansible เป็นต้น) Terraform ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุคคลาวด์ ตัวเลขของ HashiCorp บอกว่ามีการดาวน์โหลดมากกว่า 100 ล้านครั้ง และมีนักพัฒนาเข้าร่วมโครงการกว่า 1,500 คน การออกเวอร์ชัน 1.0 ถือเป็นก้าวสำคัญที่บอกว่าโครงการเสถียรพอสำหรับใช้ในวงกว้าง ถัดจากนี้ไปจะออกรุ่นแก้บั๊ก 1.x ที่ทุกรุ่นจะมีระยะการซัพพอร์ตนานอย่างน้อย 18 เดือน ที่มา - Terraform
# Accenture เผยองค์กรยุคใหม่ ไม่รอปรับตัว New Normal แต่สร้าง New Normal ขึ้นมาเอง การทำ Digital Transformation เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโรคระบาดถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ ที่ต้องมาพร้อมกับวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มีอำนาจในองค์กรด้วย Accenture ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและธุรกิจชั้นนำของโลก สำรวจความเห็นผู้นำในองค์กรชั้นนำ 6,241 ราย ใน 31 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย เพื่อหาคำตอบว่าแต่ละองค์กรมีวิธีคิดอย่างไร วิสัยทัศน์แบบไหนที่จะพาองค์กรรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ได้ Accenture สรุปผลออกมาเป็นรายงาน Accenture Technology Vision 2021 ในชื่อธีมว่า Leaders Wanted: Masters of Change at a Moment of Truth องค์กรยุคใหม่ ไม่รอ New Normal แต่สร้าง New Normal ขึ้นมาเอง รายงานของปี 2021 ชี้ว่า ผู้นำองค์กรทุกคนต้องเป็นผู้นำเรื่องเทคโนโลยีด้วย (every leader is a technology leader) เพราะธุรกิจแยกออกจากเทคโนโลยีไม่ได้อีกแล้ว ภัยคุกคามจาก COVID-19 ท้าทายความเชื่อเดิมๆ ของโลกธุรกิจมาก ทุกคนต้องปรับตัวเข้าหาโลกใหม่ และองค์กรที่จะประสบความสำเร็จต้องเป็นผู้นำเรื่องการเปลี่ยนแปลง (Master of Changes) ตอนนี้ ผู้นำองค์กรยุคใหม่มองไกลไปถึงยุคหลังโรคระบาดแล้ว พวกเขาไม่รอให้ New Normal เกิดขึ้นแล้วค่อยปรับตัว แต่สร้าง New Normal ขึ้นมาเอง เทคโนโลยีไม่ได้มีประโยชน์แค่แก้ปัญหาทางธุรกิจ แต่สามารถสร้างวิสัยทัศน์ใหม่สำหรับธุรกิจในอนาคต ผลสำรวจยังสามารถสรุปเป็นใจความสำคัญได้ว่า องค์กรที่มีพื้นฐานด้านดิจิทัลแข็งแรง จะสามารถปรับตัวและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ได้เร็ว สามารถต่อยอดสร้างรายได้ในช่องทางใหม่ๆ ให้องค์กรได้เร็วขึ้น และเร็วกว่าองค์กรที่ตามอยู่ถึง 5 เท่า บริษัทชั้นนำจึงต่างแข่งขันกันเพื่อปรับตัวและปรับบทบาทใหม่ รวมถึงการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาเอง เพื่อเป็นผู้กำหนดสภาวะความเป็นจริงแบบใหม่ที่พวกเขาต้องเผชิญ 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่องค์กรนำไปปรับใช้ได้ในสามปีข้างหน้า รายงาน Accenture Technology Vision 2021 ยังสรุปเทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคต 5 ด้าน ที่องค์กรต้องเตรียมปรับตัวในสามปีข้างหน้า 1. การเลือกสถาปัตยกรรมเทคโนโลยี (Stack Strategically) ยุคสมัยของ digital transformation ทำให้องค์กรมีตัวเลือกทางเทคโนโลยีมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผู้บริหารองค์กรจึงต้องเผชิญกับตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกประเภทของคลาวด์ เลือกโมเดลของ AI หรืออุปกรณ์ edge ที่ใช้ประมวลผลปลายทาง เราเริ่มเห็นข้อจำกัดขององค์กรยุคเก่าที่ติดอยู่กับสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีเก่าที่ไม่ยืดหยุ่นและปรับตัวตามโลกยุคใหม่ไม่ทัน เช่น รัฐบาลท้องถิ่นในสหรัฐที่ยังใช้ระบบประกันสังคมที่เขียนด้วย COBOL ซึ่งเป็นภาษาคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในงานธุรกิจภาษาแรกของโลก และมีปัญหาเมื่อต้องจ่ายเงินชดเชยคนตกงานช่วง COVID-19 ในยุคสมัยที่สถาปัตยกรรมหรือโครงสร้างทางเทคโนโลยีมีความสำคัญมากกว่าในอดีตมาก การเลือกโครงสร้าง และ tech stack ที่เหมาะสม เปิดโอกาสให้องค์กรปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องสำคัญมากของธุรกิจยุคนี้ 2. โลกคู่ขนาน กายภาพ-ดิจิทัล (Mirrored World) แนวคิด Digital Twins คือการทำสำเนาหรือแบบจำลองของวัตถุต่างๆ ทางกายภาพให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เช่น จำลองเครื่องจักรโรงงาน ซัพพลายเชน และวงจรชีวิตของสินค้า มาไว้ในโลกดิจิทัลในฐานะฝาแฝด ช่วงแรกของ Digital Twins ถูกผลักดันขึ้นมาด้วยเหตุผลเรื่องการมอนิเตอร์ หรือจำลองอุปกรณ์ต่างๆ เท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป องค์กรเริ่มค้นพบประโยชน์จากการเชื่อมต่อข้อมูลของฝาแฝดเหล่านี้จำนวนมากๆ เข้าด้วยกัน จนกลายเป็นโรงงาน หรือเมืองเสมือนในโลกไซเบอร์ ที่มีข้อมูลวิ่งไหลผ่านอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างบริษัทที่นำแนวคิดนี้ไปใช้คือ Unilever พัฒนา AI เพื่อควบคุมโรงงานผลิต ดึงข้อมูลจากเซ็นเซอร์บนเครื่องจักร เพื่อเก็บข้อมูลสถานะความชื้น อุณหภูมิ และหาสภาพที่ดีที่สุดในการทำงาน ผลคือ Unilever สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าล้านเหรียญ เพิ่มผลผลิต 3% โรงงานผลิตสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง ลดดาวน์ไทม์ของเครื่องจักรลง และลดภาระการดูแลโดยมนุษย์ลง 3. ทุกคนคือผู้สร้างเทคโนโลยี (I, Technologist) การสร้างเทคโนโลยีในองค์กรไม่ได้จำกัดเฉพาะโปรแกรมเมอร์หรือวิศวกรอีกต่อไป เพราะเครื่องมือยุคใหม่อย่าง low-code, การสั่งงานด้วยภาษาธรรมชาติ (natural language processing) และระบบอัตโนมัติ (robotic process automation หรือ RPA) ช่วยให้พนักงานตำแหน่งอื่นๆ ในองค์กร สามารถสร้างแอปพลิเคชันอย่างง่ายๆ มาช่วยแก้ปัญหาของตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอโปรแกรมเมอร์ ทำให้ความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้น เมื่อทุกคนในองค์กรเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียม พนักงานทุกคนจึงเป็นส่วนหนึ่งของ digital transformation สร้างนวัตกรรมขึ้นได้ เป็นโจทย์ขององค์กรที่จะต้องจัดหาเครื่องมือเหล่านี้ให้ทุกคน สอนและกระตุ้นให้ทุกคนรู้จักใช้งาน ตัวอย่างองค์กรที่เดินหน้าในทิศทางนี้คือ บริษัทเครื่องดื่ม G&J Pepsi นำ Power Apps ของไมโครซอฟท์มาเชื่อมต่อกับแอปที่ใช้งานในองค์กร โดยออกแบบ UI ที่ง่ายต่อการใช้งาน ผลคือพนักงานสามารถพัฒนาเครื่องมือขึ้นใช้ได้เอง แม้ไม่มีทักษะมาก่อน สามารถสร้างระบบงานใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการกระจายคลังสินค้าได้ 4. ยุคแห่งการทำงานที่ไหนก็ได้ (Anywhere, Everywhere) COVID-19 มาพร้อมกับรูปแบบการทำงานใหม่คือ การทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่ใช่แค่ทำงานจากที่บ้าน แต่อาจเป็นร้านกาแฟ หรือสนามบิน ดังนั้นผู้นำองค์กรจึงต้องเริ่มทบทวนและปรับวัฒนธรรมองค์กรให้เข้ากับโลกการทำงานในรูปแบบใหม่ องค์กรชั้นนำจะเริ่มเปลี่ยนแนวการทำงานจาก "นำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ในการทำงาน" (bring your own device - BYOD) มาสู่การที่พนักงานสามารถ “กำหนดสภาวะแวดล้อมการทำงานได้เอง” (bring your own environment - BYOE) ดังนั้น ทั้งระบบไอทีองค์กร ระเบียบองค์กร วัฒนธรรมองค์กร จึงต้องคิดใหม่ทั้งหมดเพื่อเปิดกว้างให้คนทำงานพันธุ์ใหม่นี้ Accenture ชี้ว่าบริษัทที่จะประสบความสำเร็จในอีก 3 ปีข้างหน้า คือบริษัทที่เปลี่ยนความคิดที่จะนำพนักงานทุกคนกลับไปทำงานในออฟฟิศดังเดิม แต่เลือกจะมองหาโมเดลการทำงานรูปแบบใหม่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ซึ่งแนวทาง BYOE จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการหาพนักงานมีฝีมือได้มาก เนื่องจากทำลายข้อจำกัดเรื่องสถานที่ลงไป ตัวอย่างองค์กรที่เป็นผู้นำในแนวทางนี้คือ Fujitsu ทำโครงการ work life shift ให้แก่พนักงานกว่าแปดหมื่นคน มอบอำนาจให้พนักงานเลือกเองว่าอยากทำงานแบบไหน นอกจากนี้ยังปรับแผนขยายออฟฟิศให้เป็นดาวกระจาย สร้างออฟฟิศย่อยขนาดเล็กในสถานที่ต่างๆ 5. อยู่รอดได้ด้วยความร่วมมือ (From Me to We) แนวคิด Multiparty Systems (MPS) คือการสร้างแพลตฟอร์มแชร์ข้อมูลระหว่างผู้ใช้และองค์กรหลายฝ่าย เพื่อหาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ แทนแนวคิดเดิมที่องค์กรเก็บข้อมูลไว้กับตัวเอง ตัวอย่างเทคโนโลยีแนวคิด MPS ได้แก่ blockchain, distributed ledger, distributed database, tokenization ที่นำข้อมูลมาใส่ระบบไอทีตรงกลาง และเปิดให้พาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้องหลายๆ รายเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ แนวคิดเหล่านี้สามารถช่วยแก้ปัญหาของระบบไอทียุคเดิมที่เป็นแบบจุดต่อจุด และอาจติดขัดได้หากระบบของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช้งานไม่ได้ชั่วคราว ดังที่เกิดขึ้นแล้วกับซัพพลายเชนในยุค COVID-19 ตัวอย่างจากเทรนด์นี้คือ บริษัทประกันในประเทศจีน ชื่อว่า ผิงอัน สร้างคลาวด์แพลตฟอร์มตามรูปแบบธุรกิจประกันของตัวเอง 5 ประเภท แต่ละกลุ่มธุรกิจมีแอปพลิเคชั่นของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ออกแบบระบบให้เชื่อมโยงกัน สามารถขายประกันข้ามกลุ่มได้ ผลที่ได้คือมีผู้ใช้งานกว่า 500 ล้านคนบนแพลตฟอร์มทั้งหมด มีลูกค้ารายใหม่และขยายแพลตฟอร์มไปยังบริการภายนอก เช่น สถาบันการเงิน ธนาคาร เพิ่มรายได้หมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านเหรียญ Accenture บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและธุรกิจระดับโลก เป็นเวลา 21 ปีแล้วที่ Accenture ได้วิเคราะห์สภาพแวดล้อมขององค์กรต่างๆ เพื่อค้นหาแนวโน้มด้านเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนโลกธุรกิจและอุตสาหกรรมในอนาคตได้ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าดูรายละเอียดเกี่ยวกับรายงานได้ที่ Accenture Technology Vision 2021 Accenture เป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก มีความถนัดด้านดิจิทัล คลาวด์ และระบบรักษาความปลอดภัย มีความเชี่ยวชาญเฉพาะครอบคลุมกว่า 40 อุตสาหกรรม สามารถให้คำแนะนำด้านยุทธศาสตร์และเป็นที่ปรึกษาแก่ธุรกิจ ปัจจุบันรองรับลูกค้ากว่า 120 ประเทศทั่วโลก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.accenture.com
# [Strategy Analytics] สมาร์ทโฟน 5G ส่งมอบรวม 136 ล้านเครื่อง ในไตรมาสที่ผ่านมา Apple ครองส่วนแบ่งอันดับ 1 บริษัทวิจัยตลาด Strategy Analytics รายงานภาพรวมการส่งมอบสมาร์ทโฟน 5G ในไตรมาสที่ 1 ปี 2021 จำนวนส่งมอบรวม 136 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2020 ตลาดที่มีความต้องการสินค้าสูงได้แก่ จีน อเมริกา และกลุ่มประเทศในยุโรปตะวันตก ส่วนแบ่งการตลาดแยกตามยี่ห้อ แอปเปิลมาเป็นอันดับ 1 ที่ 40.4 ล้านเครื่อง (29.8%) แต่ลดลงจากไตรมาส 4/2020 ที่ขายได้ 52.2 ล้านเครื่อง ตามด้วย OPPO, vivo, ซัมซุง และ Xiaomi ในลำดับที่ 2-5 ซึ่งทั้งหมดมีจำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2020 นักวิเคราะห์จาก Strategy Analytics ให้ความเห็นว่าซัมซุงมีการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟน 5G เพิ่มขึ้นถึง 79% อย่างไรก็ตามซัมซุงมีปัญหาในการทำตลาดที่จีน ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟน 5G ที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้ ซึ่งก็เป็นผู้ผลิตของจีนที่ครองส่วนแบ่งตรงนี้อยู่ ที่มา: Strategy Analytics
# Tamagotchi กลับมาอีกครั้งแบบสมาร์ทวอทช์ Tamagotchi Smart หน้าจอสี รองรับจอสัมผัส Bandai ฉลองทามากอตจิครบรอบ 25 ปี (ใช่แล้ว... 25 ปี) เปิดตัว Tamagotchi Smart ทามากอตจิรุ่นใหม่ ที่มาในรูปแบบสมาร์ทวอทช์ หน้าจอสีแบบสัมผัส รองรับการสั่งงานด้วยเสียง มีตัวนับระยะก้าว สามารถเชื่อมต่อกับ Tamagotchi Smart เครื่องอื่นได้ และสุดท้ายยังเป็นนาฬิกาในตัว แบตเตอรี่ของ Tamagotchi Smart อยู่ได้นานประมาณ 30 วัน นอกจากนี้ Bandai ยังเตรียมขายแยก กุญแจสำหรับเสียบไปที่สมาร์ทวอทช์ เพื่อเพิ่มคอนเทนต์เสริมเข้าไปได้ สินค้าจะเริ่มวางขายทั่วไปตั้งแต่ 23 พฤศจิกายน 2021 ราคาขายอยู่ที่ 7,480 เยน หรือราว 2,100 บาท ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะจำหน่ายนอกญี่ปุ่นหรือไม่ ที่มา: The Verge
# FromSoftware บอก Elden Ring ไม่มีปรับระดับความยาก แต่ระบบโอเพ่นเวิลด์จะทำให้เกมเข้าถึงได้ง่ายขึ้น Hidetaka Miyazaki ประธาน FromSoftware ให้สัมภาษณ์กับ Famitsu นิตยสารเกมชื่อดังจากญี่ปุ่น ระบุว่า Elden Ring จะมีความยากพอๆ กัน Dark Souls III แต่แมคคานิคใหม่ของเกม เช่น การลอบเร้น การอัญเชิญวิญญาณมาช่วยสู้ จะทำให้เกมง่ายขึ้น นอกจากนี้ความเป็นเกมโอเพ่นเวิลด์ของ Elden Ring จะทำให้เกมโดยรวมแตกต่างออกไป และดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่มากขึ้น เพราะแทนที่จะไปติดอยู่กับบอสตัวใดตัวหนึ่งเพราะสู้ไม่ผ่าน ผู้เล่นจะมีอิสระมากขึ้นในการเลี่ยงไปเส้นทางอื่นก่อน รวมถึงจะมีบอส “ตัวเลือก” ที่ไม่ต้องปราบก็สามารถเล่นจนจบได้ เกมตระกูล Dark Souls รวมถึง Bloodborne และ Sekiro: Shadows Die Twice ขึ้นชื่อเรื่องความยาก ที่อาจทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่ท้อได้ หลายๆ คนอยากให้ FromSoftware เพิ่มระดับการเล่นที่ง่ายขึ้นไว้เป็นตัวเลือก แต่ผู้เล่นดั้งเดิมมองว่าถ้าทำแบบนั้นคงทำให้ตัวเกมสูญเสียเสน่ห์ และความภาคภูมิใจในการฝึกเล่นจนปราบบอสยากๆ ได้ไป ระบบโอเพ่นเวิลด์และตัวเลือกที่มากขึ้นของ Elden อาจเป็นจุดสมดุลระหว่างความยากของเกม กับการลดกำแพงให้ผู้เล่นหน้าใหม่เข้าถึงเกมจาก FromSoftware ได้ง่ายขึ้น แต่จะยากหรือง่ายเกินไปหรือไม่ คงต้องรอติดตามเมื่อ Elden Ring วางจำหน่าย วันที่ 21 มกราคม ปี 2022 ที่มา - Frontline (แปลจาก Famitsu) Part 1, Part 2
# รีวิว vivo X60 Pro 5G เรือธงกล้อง ZEISS ครั้งแรกของ vivo พร้อมกันสั่น Gimbal สวยทุกมุมไม่มีเบลอ Carl Zeiss AG หรือที่คนในวงการกล้องจะรู้จักกันในแบรนด์ ZEISS เป็นบริษัทผลิตเลนส์กล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพจากประเทศเยอรมนีที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1846 และคราวนี้ เป็นครั้งแรกที่ vivo นำเทคโนโลยีเลนส์กล้องจาก ZEISS มาอยู่บนมือถือของบริษัท พร้อมสเปกระดับเรือธง และรองรับ 5G ในราคา 24,999 บาท เมื่อผนวกเลนส์ ZEISS และเทคโนโลยีถ่ายภาพบุคคล ZEISS Biotar เข้ากับเทคโนโลยีกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 และเทคโนโลยีถ่ายภาพกลางคืน Extreme Night Vision 2.0 + Superb Night Camera 2.0 และ Panorama Night กับ Ultra Wide Night ของ vivo ก็ทำให้ vivo X60 Pro 5G เป็นมือถือที่สามารถถ่ายภาพได้แทบจะทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะแสงน้อย หรือมีการเคลื่อนไหวแค่ไหน สเปกภายใน แน่นอนว่าเมื่อเป็นมือถือเรือธงของ vivo ย่อมไม่ได้มีดีแค่กล้องขั้นเทพ เสปกภายในอย่างชิปประมวลผล Snapdragon 870 รุ่นพัฒนาต่อยอดจากชิปเรือธงของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 865+ ในปีที่แล้วก็ทรงพลังเช่นกัน พร้อมหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.1 ก็เพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลของเครื่องให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนสเปกโดยรวม มีรายละเอียดดังนี้ หน้าจอ AMOLED 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376x1080 พิกเซล ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 870 แรม 12GB หน่วยความจำภายใน UFS 3.1 ความจุ 256GB แบตเตอรี่ 4200 mAh รองรับ FlashCharge 33W รัน Android 11 ครอบด้วย Funtouch OS 11.1 น้ำหนัก 179 กรัม แกะกล่องลองสัมผัส vivo X60 Pro 5G ให้อุปกรณ์มาครบถ้วน ทั้งเข็มจิ้มซิม เคสพลาสติกแบบแข็ง ที่ชาร์จ FlashCharge 33W สายชาร์จ USB-C และหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรพร้อมหัวแปลงเป็น USB-C ภายในกล่อง ตัวเครื่อง และพอร์ตเชื่อมต่อ เครื่องที่ผู้เขียนรีวิว เป็นสี Shimmer Blue สีน้ำเงินสะท้อนแสง ให้เฉดสีที่แตกต่างเมื่อมีแสงแดดตกกระทบที่ตัวเครื่อง ดูสวยงามเลยทีเดียว หน้าจอ Ultra O Screen เป็นจอ AMOLED 6.56 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ชัดเจน และสว่างพอที่ใช้งานได้แม้อยู่กลางแจ้ง อัตราตอบสนองหน้าจออยู่ที่ 120Hz อัตราตอบสนองการสัมผัสที่ 240Hz ทำให้สามารถเลื่อนหน้าจอได้อย่างลื่นไหล กล้องหน้าแบบเจาะรู อยู่กึ่งกลางหน้าจอ ตัวเครื่องบางเบา น้ำหนักแค่ 179 กรัม จับถนัดมือ โมดูลกล้องไม่ได้ยื่นออกมาจากตัวเครื่องมากนัก ปุ่มพาวเวอร์และเพิ่มลดเสียง อยู่ด้านขวา ส่วนลำโพงเป็นแบบลำโพงเดี่ยวด้านล่างของตัวเครื่อง ใกล้กับช่องใส่ซิม สเปกภายใน UI และการใช้งาน ชิป Snapdragon 870 ผนวกกับแรม 12GB และหน่วยความจำภายใน 256GB แบบ UFS 3.1 ทำให้ผลการทดสอบบนโปรแกรม Geekbench ได้คะแนนแบบแกนเดียวถึง 1035 คะแนน ละแบบหลายแกนถึง 3448 คะแนนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าสเปกสูสีกับเรือธงรุ่นอื่นๆ ใช้งานได้แบบสบายๆ แน่นอน ตัว UI เป็น UI ของฝั่ง Android ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สีสันสดใส สามารถเลือกโปรแกรมที่ต้องการติดตั้งในขั้นตอนการตั้งค่าเริ่มต้นของเครื่องได้ ภาพตัวอย่าง UI ของ Funtouch OS 11.1 กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังของ vivo X60 Pro 5G เป็นแบบ 3 กล้อง เป็นครั้งแรกที่ vivo นำเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่พัฒนาร่วมกันกับ ZEISS มาอยู่บนมือถือ โดยเป็นเลนส์ ZEISS Vario-Tessar และมีระบบถ่ายภาพบุคคล ZEISS Biotar กล้องหลักเซ็นเซอร์ Sony IMX589 ความละเอียด 48MP รูรับแสง f/1.8 กล้องอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.2 กล้องพอร์เทรต ความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.46 กล้องหน้า ความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.45 ตัวกล้องมาพร้อมกับระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 เป็นระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS แบบสี่แกน (4-axis) ทำให้ถ่ายภาพแสงน้อย หรือวัตถุเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ส่วนวิดีโอมีระบบกันสั่น VIS 5-Axis Video Stabilization ป้องกันการสั่นไหวแบบ 5 แกน ตัวอย่างภาพถ่าย ภาพจากกล้องหลังหลัก ภาพจากกล้องหลังหลัก ภาพจากกล้องหลังหลัก ภาพจากกล้องอัลตร้าไวด์ ภาพจากกล้องอัลตร้าไวด์ การถ่ายภาพพอร์เทรตแบบ ZEISS Biotar ก็ทำได้อย่างสวยงาม สามารถแยกตัวแบบกับฉากหลังเพื่อทำ Bokeh ได้อย่างชัดเจน และคมชัดแม้มีการเคลื่อนไหวในวันที่ลมแรงและแสงน้อย ท้องฟ้ามืดครึ้ม ภาพจากกล้องหลัก โหมด Portrait Superb Night Camera 2.0 และ Extreme Night Vision 2.0 ทำให้ถ่ายภาพยามค่ำคืนได้อย่างสวยงาม โดยทั้งสองระบบจะทำงานเพื่อลด noise และทำให้ภาพยังให้สีสันที่สวยงาม ครบถ้วน ทั้งภาพวิวเมืองในมุมกว้างและภาพถ่ายบุคคล ภาพจากกล้องหลัก เปิด Night Mode ภาพจากกล้องอัลตร้าไวด์ เปิด Night Mode ภาพ Portrait ที่ถ่ายตอนกลางคืนด้วย Night Mode ภาพ Portrait ที่ถ่ายตอนกลางคืนด้วย Night Mode ภาพ Portrait ที่ถ่ายตอนกลางคืนด้วย Night Mode กล้องหน้า 32MP พร้อมรูรับแสง f/2.45 ก็ถ่ายภาพได้รายละเอียดที่ชัดเจน ในหลายสภาพแสงเช่นเดียวกัน และไม่ได้มีการแต่งภาพที่มากจนเกินธรรมชาติ ภาพเซลฟี่จากกล้องหน้า สรุป vivo X60 5G เป็นมือถืออีกรุ่นที่จริงจังเรื่องความหลากหลายในด้านการถ่ายภาพของ vivo ที่เมื่อผนวกเทคโนโลยีถ่ายภาพต่างๆ เข้ากับเลนส์จาก ZEISS ยิ่งทำให้กล้องที่ใช้งานได้ดีอยู่แล้วในรุ่นก่อนๆ ดียิ่งขึ้นไปอีก แถมสเปกระดับ Snapdragon 870 แรม 12GB และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.1 ความจุ 12GB ก็อยู่ในระดับที่เทียบได้กับมือถือเรือธงรุ่นอื่นๆ ไม่มีการลดสเปกเพื่อไปเพิ่มประสิทธิภาพให้กล้องแต่อย่างใด ทำให้เป็นมือถือที่ใช้งานได้ครบครันอีกรุ่นที่น่าสนใจในปีนี้ ในราคา 24,999 บาท
# แบงก์ชาติ-ธนาคารกลางมาเลเซีย ทำ QR ชำระเงินข้ามกัน เตรียมทำโอนเงินระหว่างประเทศโดยใช้เบอร์มือถือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศความร่วมมือกับ ธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia: BNM) เปิดตัวการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่างสองประเทศ แบ่งโครงการเป็น 3 ระยะคือ ระยะแรกลูกค้าในประเทศไทยสามารถใช้แอปพลิเคชันบนมือถือสแกน DuitNow QR code มาตรฐานชำระเงิน QR ของมาเลเซียเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้าในประเทศมาเลเซีย รวมถึงการซื้อขายออนไลน์ระหว่างประเทศด้วย ระยะที่สอง ลูกค้าในประเทศมาเลเซียสามารถใช้แอปพลิเคชันบนมือถือสแกน Thai QR code เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้าในประเทศไทย คาดว่าจะเริ่มให้บริการในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ และในระยะสุดท้ายจะมีการขยายบริการสู่การโอนเงินระหว่างประเทศ (Remittance) ซึ่งลูกค้าทั้งสองประเทศ สามารถโอนเงินข้ามประเทศโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้รับโอน คาดว่าจะเริ่มให้บริการในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคาร Public Bank เป็นสองธนาคารแรกที่ให้บริการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่างประเทศในโครงการนี้ และในระยะต่อไปจะมีผู้เข้าร่วมให้บริการเพิ่มเติมเพื่อขยายจำนวนลูกค้าและร้านค้า ก่อนหน้านี้ แบงก์ชาติแถลงความร่วมมือการชำระเงินกับเวียดนามและสิงคโปร์ไปแล้ว ที่มา - ธนาคารแห่งประเทศไทย
# คิดไม่ออกบอก Shazam แอปเปิลเผยมีการใช้แอป Shazam หาเพลงถึง 1 พันล้านเพลงในเดือนเดียว Shazam แอปค้นหาเพลงที่แอปเปิลซื้อกิจการไปเมื่อปี 2018 ประกาศตัวเลขว่ามีผู้ใช้งาสนแอปเพื่อค้นหาเพลงถึง 1 พัน้ลานเพลงในเดือนเดียว มีการระบุเพลงไปแล้วนับตั้งแต่ก่อตั้งแอปในปี 2002 จำนวน 5 หมื่นล้านเพลง ตั้งแต่แอปเปิลซื้อไป ก็มีฟีเจอร์ร่วมกับแอปเปิลมากมาย ตั้งแต่เพลย์ลิสต์เพลงฮิตจาก Shazam บน Apple Music, Shazam Control Center บน iPhone เป็นต้น และใน iOS 15 แอปเปิลก็ได้เปิดฟังก์ชันนี้ให้กับแอปภายนอกผ่านเฟรมเวิร์ก ShazamKit นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากไลบรารีเนื้อหาของ Shazam หรือสร้างแค็ตตาล็อกเสียงเพื่อจับคู่เสียงได้ ช่วงปลายปีที่แล้ว Shazam ประกาศตัวเลขผู้ใช้งานว่ามี 200 ล้านบัญชี ที่มา - 9to5Mac
# แฮกเกอร์หัวใส ขโมยกระเป๋าคริปโตด้วยการส่งฮาร์ดแวร์วอลเล็ต Ledger Nano X ปลอมไปตามบ้าน Ledger แบรนด์ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต หรืออุปกรณ์ความปลอดภัยเพื่อเข้าใช้งานกระเป๋าเก็บเหรียญคริปโต ถูกเจาะข้อมูลเมื่อเดือนธันวาคมปี 2020 ทำให้อีเมลและที่อยู่ของผู้ใช้กว่า 27,000 ราย ถูกเผยแพร่บนเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แค่อีเมลและที่อยู่ ยังไม่พอที่จะให้แฮกเกอร์แฮกฮาร์ดแวร์วอลเล็ตได้ แต่แฮกเกอร์หัวใส เกิดไอเดียฟิชชิ่งสุดบรรเจิด นำ Ledger Nano X หนึ่งในฮาร์ดแวร์วอลเล็ตรุ่นยอดนิยม มาดัดแปลงนำไดรฟ์ USB ฝังลงไป พร้อมโหลดแอป Ledger Live แอปสำหรับเชื่อมวอลเล็ตปลอมใส่ไว้ แล้วแพ็กใส่กล่องส่งไปตามที่อยู่ผู้ใช้ที่หลุดออกมา แฮกเกอร์แนบจดหมายระบุว่า Ledger Nano X ชิ้นนี้เป็นฮาร์ดแวร์วอลเล็ตอันใหม่ที่อุดช่องโหว่ความปลอดภัยแล้ว และให้ผู้ใช้ใส่ 24-word recovery phrase ชุดคีย์เวิร์ด 24 คำที่ใช้เพื่อกู้กระเป๋าคริปโต ในแอป Ledger Live ปลอม ซึ่งคาดว่าหลังจากนั้นคงส่งข้อมูลกลับไปยังแฮกเกอร์ Ledger Nano X Ledger ยืนยันว่ามี Ledger Nano X ปลอมถูกส่งไปตามบ้านจริง และระบุว่า Ledger Nano X ของจริงไม่ใช่ไดรฟ์ USB จะไม่มีแอปอะไรอยู่ภายใน และบริษัทจะไม่ขอให้ผู้ใช้แชร์ 24-word recovery phrase กับบริการใดๆ ก็ตาม ส่วนแอป Ledger Live ดาวน์โหลดได้จากหน้าเว็บทางการของบริษัทเท่านั้น ถือเป็นอีกเรื่องที่ผู้ใช้ต้องระวัง เพราะแม้ตามหลักการณ์แล้ว กระเป๋าคริปโตจะถูกแฮกได้ยาก แต่ช่องโหว่ความปลอดภัยอื่นๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้จากการฟิชชิ่ง หลอกขอข้อมูลต่างๆ หรือการนำไฟล์ชุดคำศัพท์ไปเก็บไว้ในที่ที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงยังมีไวรัสคอมพิวเตอร์บางชนิดที่เปลี่ยนที่อยู่กระเป๋าเงินของผู้ใช้ ให้เป็นกระเป๋าของแฮกเกอร์ เมื่อผู้ใช้ก็อปปี้ที่อยู่จากแอปกระเป๋าเงินเช่น Metamask อยู่ด้วย ซึ่งควรเช็คให้ถี่ถ้วนทุกครั้ง ที่มา - Hot For Security
# การศึกษาเหยื่อ Ransomware พบ 80% ของเหยื่อจะโดนซ้ำ, 32% ต้องเปลี่ยนผู้บริหาร Cybereason บริษัทให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยไซเบอร์ออกรายงานความเสียหายจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (ransomware) ต่อธุรกิจ โดยสำรวจจากคนทำงานที่เกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์ 1,263 คน โดยองค์กรที่คนเหล่านี้ทำงานอยู่ครึ่งหนึ่งเคยถูกโจมตีด้วยมัลแวร์ประเภทนี้มาก่อน รายงานพบว่าองค์กรที่เคยเป็นเหยื่อมัลแวร์เรียกค่าไถ่ 80% จะตกเป็นเหยื่ออีกครั้ง และส่วนใหญ่จะตกเป็นเหยื่อมัลแวร์จากกลุ่มแฮกเกอร์เดิม นอกจากนี้ผลกระทบอื่นๆ ต่อองค์กรยังมีอีกหลายด้าน เช่น 66% ของเหยื่อระบุว่ารายได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตัวค่าไถ่มีราคาสูง 35% ขององค์กรที่ยอมจ่าย จะต้องเสียค่าไถ่ในช่วง 350,000-1,400,000 ดอลลาร์ (11-42 ล้านบาท) ขณะที่องค์กรเสียค่าไถ่เกิน 1.4 ล้านดอลลาร์มีถึง 7% 53% ของเหยื่อระบุว่าแบรนด์เสียหายอย่างหนัก 32% ของเหยื่อเสียผู้บริหารระดับสูง (C-Level) ต่อเนื่องจากการโจมตีของมัลแวร์ 29% ของเหยื่อต้องปรับลดพนักงาน 26% ของเหยื่อต้องหยุดกิจการไปอย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่ง มัลแวร์เรียกค่าไถ่นับเป็นภัยร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลัง กลุ่มคนร้ายมีแนวโน้มจะโจมตีอย่างเจาะจงเป็นรายองค์กร และมีการใช้เทคนิคอื่นๆ นอกจากมัลแวร์เอง เช่น EA ถูกใช้แชตหลอกไปยังฝ่ายไอทีเพื่อเข้าระบบอื่นๆ ต่อไป ที่มา - Cybereason
# สิงคโปร์ร่วมมือเฟซบุ๊ก เปิดโครงการวิจัยศูนย์ข้อมูลประสิทธิภาพสูงในเขตร้อน มหาวิทยาลัย National University of Singapore (NUS) และ Nanyang Technological University (NTU) ประกาศความร่วมมือกับเฟซบุ๊ก เปิดโครงการวิจัยการพัฒนาศูนย์ข้อมูลในเขตร้อน เพื่อให้ได้ศูนย์ข้อมูลประสิทธิภาพสูง โครงการวิจัยนี้มีมูลค่า 23 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยสร้างศูนย์ข้อมูลทดสอบการออกแบบระบบทำความเย็นเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยอาศัยระบบนำความร้อนด้วยของเหลว, การดึงความร้อนออกจากชิปโดยตรง, และพัฒนาเทคโนโลยีการดำเนินงานศูนย์ข้อมูล เช่นการนำปัญญาประดิษฐ์มาช่วยจัดการ ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ใช้พลังงานรวมถึง 7% ของพลังงานรวมในประเทศ และอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลนับเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก ที่มา - NUS
# Samsung เข้าร่วมมาตรฐานส่งไฟล์ MTA ของแบรนด์มือถือจีน เตรียมใช้ได้บน Quick Share MTA หรือ Mutual Transmission Alliance (MTA) เป็นมาตรฐานการส่งไฟล์บนมือถือของแบรนด์จากประเทศจีน ที่ร่วมก่อตั้งโดย OPPO, Vivo, และ Xiaomi ในปี 2019 ทำงานโดยใช้ Bluetooth LE เพื่อแสกนหามือถือที่อยู่ใกล้ และส่งไฟล์ด้วย Wi-Fi Direct แบบ P2P ด้วยความเร็วเฉลี่ยราว 20Mbps ปัจจุบันนอกจาก OPPO, Vivo และ Xiaomi แล้ว ASUS, Black Shark, Hisense, MEIZU, OnePlus, Realme, และ ZTE ก็ใช้มาตรฐานการส่งไฟล์นี้เช่นกัน และ Samsung จะผนวกโปรโตคอล MTA รวมเข้าไปในฟีเจอร์ Quick Share ที่เดิมใช้ได้กับมือถือ Samsung เท่านั้น Samsung ยังไม่เปิดเผยว่าจะผนวกมาตรฐาน MTA รวมเข้ากับ Quck Share เมื่อไร แต่ฟีเจอร์ Quick Share ที่สามารถส่งไฟล์ผ่าน MTA ได้ น่าจะกลายเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจนอกเหนือจากการใช้ Nearby Share ของ Google ที่ช้ากว่า และแบรนด์มือถือจีนบางแบรนด์ไม่สามารถใช้ได้ ที่มา - Sammobile
# Xbox Design Lab ตัวปรับแต่งสีคอนโทรลเลอร์กลับมาเปิดให้บริการแล้ว เลือกได้ 18 สี หากยังจำกันได้ ไมโครซอฟท์เปิดตัว Xbox Design Lab ในปี 2016 ให้ผู้เล่นปรับแต่งสีคอนโทรลเลอร์ได้ตามใจชอบ แต่ไมโครซอฟท์ปิดบริการนี้ไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2020 เพื่อเตรียมการเปิดตัว Xbox Series X|S ล่าสุด Xbox Design Lab กลับมาเปิดให้บริการแล้วพร้อมกับสามารถปรับแต่งคอนโทรลเลอร์ตัวใหม่อย่าง Xbox Wireless Controller ด้วย ผู้ใช้งานสามารถเลือกและจับคู่สีสำหรับตัวบอดี้ ปุ่มทั้งด้านหน้าเครื่องและด้านบนเครื่องได้ มีให้เลือกใช้ 18 สี รวมถึงสีใหม่ๆ อย่าง Shock Blue, Pulse Red และ Electric Volt ไมโครซอฟท์ระบุด้วยว่าตัวคอนโทรลเลอร์จาก Xbox Design Lab มีส่วนผสมของเม็ดพลาสติกแปรรูปจากวัสดุพลาสติกที่ไม่ได้ใช้งานแล้วหรือ post-consumer recycled (PCR) 30% แต่มีสีที่ไม่มีส่วนผสมของ PCR คือ Robot White, Pulse Red, Zest Orange และ Regal Purple Xbox Design Lab มีค่าใช้จ่าย 70 ดอลลาร์ และหากเพิ่มสลักเลเซอร์มีค่าบริการเพิ่ม 10 ดอลลาร์ ที่มา - Engadget, Xbox, Polygon
# ทีมสร้าง Among Us บอกความโด่งดังของเกม กดดันทีมงานจนหมดไฟอยู่หลายช่วง Among Us เกมล่าหาฆาตกรพร้อมทำภารกิจที่ทุกคนน่าจะพอรู้จัก เนื่องจากความโด่งดังที่มีต้นกำเนิดมาจากสตรีมเมอร์บน Twitch.tv ทำให้มีผู้เล่นเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ล่าสุดทีมงานสามคน Marcus Bromander, Forest Willard และ Amy Liu แห่งทีม Innersloth ผู้สร้างเกมนี้ ให้สัมภาษณ์กับยูทูบเบอร์ Anthony Padilla ถึงประสบการณ์ในช่วงพีคสุดๆ ของเกม Liu ที่เป็นฝ่ายศิลป์ร่วมกับ Bromander ให้สัมภาษณ์ว่าช่วงพีคของเกมมันกดดันมากเสียจนเธอหมดไฟ (burn out) ไปช่วงหนึ่ง เพราะเธอต้องทำงานหนักมาก จนไม่ได้เจอครอบครัวในช่วงวันหยุดยาวปลายปีเพราะโควิด และการต้องอยู่คนเดียวในช่วงวันหยุดเป็นหนึ่งในช่วงที่ยากลำบากที่สุดสำหรับเธอ Marcus Bromander ดีไซเนอร์และศิลปินอีกคน รวมถึงเป็นหนึ่งในสองผู้สร้างดั้งเดิมของเกมนี้ (Marcus วาดภาพ, Forest เป็นโปรแกรมเมอร์ ก่อนชวน Amy เข้ามาช่วยภายหลัง) บอกว่าการที่เกมสำเร็จมันก็เหมือนเป็นความฝัน และตัวเงินที่ได้มาก็ช่วยเรื่องความเครียดอื่นๆ ได้ แต่ความกดดันจากแฟนเกม ก็หนักหนาสาหัสอยู่เหมือนกัน บ่อยครั้งที่เขาต้องคอยอ่านคอมเม้นต์แย่ๆ บั่นทอนกำลังใจ เพื่อหาแนวคิดดีๆ และสร้างสรรค์ที่อาจซ่อนอยู่ในคอมเม้นต์เหล่านั้น แม้จะพยายามไม่สนใจ แต่มันก็หนักสะสมจนช่วงหนึ่งเขารู้สึกว่าไม่อยากจะทำเกมนี้ต่อไปแล้ว Forest Willard เล่าว่าพอผู้เล่นเห็นว่าภาพในเกมเป็นงานอาร์ตแบบเรียบง่าย ก็มักคิดไปว่าคอนเทนต์ใหม่คงจะทำได้ง่ายๆ แต่จริงๆ แล้ว การพยายามทำให้ดีกว่าเดิมตลอดเวลา ระหว่างที่มีคนหลายล้านคนคอยกดดันอยู่เป็นอะไรที่หนักมาก ทุกคนอยากให้ปัญหาในเกมซ่อมเสร็จในเดี๋ยวนั้นทันที และอยากให้มีคอนเทนต์ใหม่ออกไวๆ ตลอด ปัจจุบันตัวเกมอาจจะไม่ถึงกับไม่มีผู้เล่นโดยสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ได้โด่งดังหรือมีผู้เล่นมากเท่าช่วงพีคในปีที่แล้ว ทำให้ความกดดันของทีมงานลดลงพอสมควร Bromander ทิ้งท้ายไว้ว่าทุกอย่างมีขึ้นก็ต้องมีลง จุดสูงสุดมันไม่ได้ไปต่อไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าคงไม่ไปพยายามรีดไอเดียออกมามากจนเกินไปจากเกมนี้ และถ้าไม่มีไอเดียใหม่ๆ หยุดทำไปเลยคงดีกว่า Among Us เพิ่งออกอัพเดตใหม่ รองรับผู้เล่นเพิ่มเป็น 15 คน ปรับกราฟฟิกให้ดีขึ้น เพิ่มสีตัวละครใหม่ และอื่นๆ ใครที่คิดถึงช่วงเวลาสนุกๆ ของเกมนี้ และอยากให้กำลังใจทีมงาน ลองกลับไปนัดกับเพื่อนเล่นดูกันอีกสักครั้งน่าจะดี ตัวเกมเตรียมลงคอนโซล PS4, PS5, Xbox One และ Xbox Series X|S เร็วๆ นี้ แต่ยังไม่มีกำหนดวันชัดเจน ที่มา - AnthonyPadilla via Kotaku
# NVIDIA เปิดตัวโมดูล Jetson AGX Xavier Industrial สำหรับใช้ในโรงงาน NVIDIA เปิดตัวโมดูล Jetson AGX Xavier Industrial โมดูลสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมอันตราย, ร้อน, มีฝุ่นมาก, และเสียงดัง เช่นในโรงงานอุตสาหกรรม โดยตัวบอร์ดภายในเป็น Jetson AGX Xavier เดิม สเปคสำคัญของโมดูลใหม่นี้เป็น ได้แก่ ทนแรงกระแทก 50G ในเวลา 11ms ทนความสั่นไหว 5G ที่ 10-500Hz ทำงานได้ที่อุณหภูมิ -40 ถึง 85 องศาเซลเซียส แรมเป็นแบบ ECC ตัวโมดูล Jetson Xavier นั้นออกมาสามปีแล้ว สถาปัตยกรรมภายในยังเป็น Volta มี Tensor Core ทั้งหมด 64 คอร์ ตัวซีพียูเป็น Arm Cortex-R5 สองคอร์ ที่มา - NVIDIA
# คนจริงทดสอบบนโปรดักชั่น HBO Max ส่งเมลทดสอบหาผู้ใช้จำนวนมาก เช้าวันนี้ผู้ใช้ HBO Max จำนวนมาก ได้รับอีเมล "Integration Test Email #1" จากทาง HBO Max ระบุว่าเป็นอีเมลทดสอบ และจนตอนนี้ทาง HBO Max ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้นจึงส่งเมลเช่นนี้ออกมา และผู้ใช้ได้รับอีเมลจำนวนเท่าใด
# Amazon ตามรอย Google, Apple ประกาศลดค่าธรรมเนียมร้านค้าแอปให้นักพัฒนารายเล็ก หลัง Google และ Apple ประกาศลดค่าธรรมเนียมร้านค้าแอป Amazon ก็ร่วมด้วย ประกาศลดค่าธรรมเนียมเหลือ 20% ให้นักพัฒนารายเล็กที่ทำรายได้จากแพลตฟอร์มไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีบน Amazon Appstore อย่างไรก็ตาม อัตราใหม่ของ Amazon ยังมากกว่าของ Google และ Apple ซึ่งลดลงมาอยู่ที่ 15% ซึ่ง Amazon ก็พยายามที่จะชดเชยความแตกต่างนี้ด้วยการให้นักพัฒนา 10% ของรายได้นักพัฒนาในรูปแบบของเครดิตสำหรับใช้งานบริการคลาวด์ AWS ที่มา - Ars Technica, Amazon
# Spotify ซื้อกิจการ Podz ผู้พัฒนาเทคโนโลยีตัดไฮไลท์ และระบบแนะนำคอนเทนต์ Podcast Spotify ประกาศซื้อกิจการ Podz บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีในการค้นหารายการพอดคาสต์ เพื่อนำทีมงานและเทคโนโลยีนี้ มาเติมเต็มระบบการค้นหาและแนะนำคอนเทนต์พอดคาสต์กับผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น เทคโนโลยีหนึ่งที่น่าสนใจของ Podz คือการใช้ Machine Learning ตัดคลิปตัวอย่างจากพอดคาสต์หลัก เพื่อเป็นไฮไลท์สำหรับตัดสินใจเลือกฟัง จึงสามารถนำมาใช้งานกับระบบค้นหาแนะนำของ Spotify ได้นั่นเอง Spotify บอกว่าเทคโนโลยีนี้จะเริ่มเห็นการนำมาใช้งานภายในปีนี้ ที่มา: Spotify
# Visual Studio 2022 ออกรุ่น Preview 1, แกนหลักของโปรแกรมเป็น 64 บิตแล้ว จากที่ไมโครซอฟท์ประกาศไว้ว่า Visual Studio 2022 เป็น 64 บิตแล้ว รองรับแรมเกิน 4GB วันนี้ Visual Studio 2022 version 17.0 Preview 1 เปิดให้ทดสอบแล้ว ของใหม่นอกจากเรื่อง 64 บิต ได้แก่ รองรับ .NET 6 SDK (Preview) มาให้ในตัว รองรับการเขียน UI แบบใหม่ MAUI Intellicode รองรับการเติมโค้ดทั้งบรรทัด (whole line autocomplete) เปลี่ยนสถาปัตยกรรมบางอย่าง ทำให้ส่วนขยายของ VS 2019 ใช้กับ VS 2022 ไม่ได้ ต้องรอนักพัฒนาปรับแก้ส่วนขยายกันใหม่ WPF XAML Designer for .NET Framework ตัวใหม่ ตัวเดียวกับของ .NET Core VS2022 Preview 1 ยังขาดฟีเจอร์อีกหลายอย่างที่ประกาศเอาไว้ (บางส่วนยังย้ายมา 64 บิตไม่เสร็จ) ซึ่งจะทยอยตามมาในรุ่นพรีวิวถัดๆ ไป ที่มา - Visual Studio Blog
# หลังโดนอินเดียแบน PUBG Mobile กลับมาใหม่ในชื่อ Battlegrounds Mobile India เกม PUBG Mobile โดนแบนในประเทศอินเดียตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 พร้อมกับแอปจีนอีกหลายตัว เหตุผลก็เพราะ PUBG Mobile เป็นเกมของ Tencent ที่เป็นบริษัทจีน แต่จะให้ทิ้งตลาดอินเดียที่มีประชากรหลักพันล้านคนไปง่ายๆ ก็คงไม่ได้ และเมื่อ Krafton บริษัทแม่ของ PUBG เป็นบริษัทเกาหลี ทำให้ PUBG Mobile สามารถกลับมาทำตลาดอินเดียได้อีกครั้งโดยไม่ต้องผ่าน Tencent ภายใต้ชื่อใหม่ว่า Battlegrounds Mobile India ที่จะเปิดให้เล่นเฉพาะในอินเดียประเทศเดียวเท่านั้น ตอนนี้ Battlegrounds Mobile India เริ่มเปิดทดสอบแบบ Early Access บน Google Play Store ของอินเดียแล้ว โดย Krafton บอกว่าที่เปิดให้ลงทะเบียนแสดงความสนใจช่วงก่อนหน้านี้ มีคนมาลงทะเบียนมากถึง 20 ล้านคน ที่มา - Battlegrounds Mobile India, Android Police
# Nielsen วัดเรตติ้งการดูทีวีรายเดือนในสหรัฐ คนยังใช้เวลาดูรายการทีวีและเคเบิลมากกว่าสตรีมมิ่ง Nielsen เปิดตัว The Gauge การจัดเรตติ้งการดูเนื้อหาในทีวีทั้งหมด หรือ Total Usage of Television (TUT) เป็นรายเดือน ให้รู้กันไปเลยว่า คนใช้งานสตรีมมิ่งเยอะกว่าเคเบิลทีวีแล้วจริงหรือไม่ โดยแบ่งประเภทเนื้อหาออกเป็นเนื้อหาสำหรับออกอากาศ, สตรีมมิ่ง, เคเบิล และอื่นๆ จากรายงานใหม่ของ The Gauge ซึ่งจัดเรตติ้งในทีวีสหรัฐฯ พบว่าคนยังคงดูทีวีแบบเก่า คือดูรายการออกอากาศ และเคเบิลทีวี คิดเป็น 25% และ 39% ตามลำดับ ส่วนสตรีมมิ่งนั้นอยู่ที่ 26% ส่วนอีก 9% ที่เหลือเป็นการใช้ทีวีเพื่อกิจกรรมอื่นเช่นเล่นเกม เล่นเนื้อหาจาก DVR, การสตรีมผ่านกล่องรับสัญญาณเคเบิล เป็นต้น ภาพจาก Facebook Nielsen สตรีมมิ่งที่ได้รับความนิยมสูงยังคงเป็น Netflix และ YouTube มีคนดู 6%, Hulu 3%, Prime Video ของ Amazon 2% และ Disney+ 1% แต่เป็นการวัดเรตติ้งบนทีวีเท่านั้น ไม่รวมการดูสตรีมมิ่งผ่านมือถือ แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ แม้จำนวนคนรับชมสตรีมมิ่งยังห่างไกลกับทีวีแบบเดิม แต่ก็มีอัตราการรับชมสูงขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 20% และปี 2019 อยู่ที่ 14% โดย Nielsen คาดว่าการรับชมสตรีมมิ่งบนทีวีจะกินส่วนแบ่งได้ถึง 33% ภายในปีนี้ การวัดเรตติ้งของ The Gauge นั้น Nielsen ใช้การวัดจาก 14,000 ครัวเรือนโดยประมาณ ผ่านฮาร์ดแวร์ที่สังเกตการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตที่ผ่านเราเตอร์ เพื่อให้ Nielsen ได้เห็นภาพรวมชัดเจนและแม่นยำมากกว่าการวัดเรตติ้งแบบเก่าเพื่อศึกษาพฤติกรรมคนดูทีวี บริษัทสตรีมมิ่งเองไม่ได้เปิดตัวเลขคนดูเนื้อหาอย่างจริงจัง มี Netflix ที่ออกมาเปิดเผยบ้างว่าซีรีส์และหนังที่ได้รับความนิยมมีอะไรบ้าง ตัวเลขคนดู เป็นต้น Reed Hastings ซีอีโอ Netflix ให้ความเห็นต่อการวัดเรตติ้งใหม่ของ Nielsen ว่ารู้สึกประหลาดใจแต่ไม่คิดว่าสถิติจะคงอยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับกรอบเวลาว่าสตรีมมิ่งจะแทนที่ทีวีได้เมื่อไร ซึ่งจากเรตติ้งที่เติบโตขึ้นร้อยละ 6% ต่อปีนี้ คิดว่าอีกไม่นาน ที่มา - Nielsen, The New York Times
# Windows 7 ไม่สามารถอัพเดตไดรเวอร์ผ่าน Windows Update ได้แล้ว Windows 7 หมดระยะซัพพอร์ตไปตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 แปลว่าไม่มีแพตช์รายเดือนมานานแล้ว ล่าสุดไมโครซอฟท์ถอดความสามารถอีกอย่างของ Windows 7 (รวมถึง Windows Server 2008 และ 2008 R2 ที่หมดอายุพร้อมกัน) นั่นคือไม่สามารถติดตั้งไดรเวอร์ฮาร์ดแวร์อัตโนมัติผ่าน Windows Update ได้อีกแล้ว ด้วยเหตุผลว่าใบรับรอง SHA-1 Trusted Root Certificate Authority หมดอายุ และไมโครซอฟท์ตัดสินใจไม่ต่ออายุใบรับรองนี้ ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างไคลเอนต์กับเซิร์ฟเวอร์เป็นไปได้ยากขึ้น สำหรับลูกค้าที่ซื้อซัพพอร์ตแบบจ่ายเงิน Extended Security Updates (ESU) ยังสามารถอัพเดตไดรเวอร์ได้ผ่านวิธีอื่นคือ Windows Server Update Services (WSUS) ที่มา - Microsoft, MSpoweruser
# Adobe ไตรมาสล่าสุด รายได้รวมโต 23% จากผลิตภัณฑ์ตระกูล Creative Cloud Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 4 มิถุนายน 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 23% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็น 3,835 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 1,116 ล้านดอลลาร์ รายได้ในกลุ่ม Digital Media เพิ่มขึ้น 25% เป็น 2,790 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่มากจากผลิตภัณฑ์กลุ่ม Creative เพิ่มขึ้น 24% เป็น 2,320 ล้านดอลลาร์ ส่วน Document Cloud รายได้เพิ่มขึ้น 30% และรายได้ต่อเนื่องใน 1 ปี (ARR) เพิ่มขึ้นเป็น 11,210 ล้านดอลลาร์ ซีอีโอ Shantanu Narayen กล่าวในแถลงผลประกอบการว่าไตรมาสที่ผ่านมา Adobe มีผลงานโดดเด่นจาก Creative Cloud, Document Cloud และ Experience Cloud ที่ยังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านวิธีการทำงาน การเรียนรู้ และการเล่น ของผู้คน สู่โลกที่ดิจิทัลมาก่อน (Digital-first) ที่มา: Adobe (pdf)
# Apple ลดราคาแผนคุ้มครอง AppleCare+ สำหรับ MacBook Air และ MacBook Pro ชิป M1 แอปเปิลได้ปรับลดราคาแผนรับประกันเพิ่มเติม AppleCare+ สำหรับ MacBook Air และ MacBook Pro 13 นิ้ว ที่ใช้ชิป M1 โดยเงื่อนไขต่าง ๆ เหมือนเดิม ราคา AppleCare+ ใหม่ของ MacBook Air อยู่ที่ 5,900 บาท (เดิม 8,500 บาท) และ MacBook Pro 13 นิ้ว ชิป M1 ราคา 8,500 บาท (เดิม 9,500 บาท) มีข้อสังเกตว่าราคา MacBook Pro 13 นิ้ว ซีพียู Intel ยังคงราคาเดิมที่ 9,500 บาท ลูกค้าที่เพิ่งซื้อ AppleCare+ สำหรับ MacBook สองรุ่นนี้ไป สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อขอยกเลิกแผนเดิม และซื้อแผนรับประกันใหม่ที่ราคาถูกลงได้ แต่ไม่มีรายละเอียดว่าครอบคลุมกรณีนี้ถึงการซื้อวันไหน แผนคุ้มครอง AppleCare+ จะขยายระยะเวลาคุ้มครองเพิ่มเป็น 3 ปี และเพิ่มความคุ้มครองในกรณีเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุสูงสุด 2 ครั้ง แต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 3,300 บาท กรณีเป็นความเสียหายกับหน้าจอหรือตัวเครื่องภายนอก หรือ 10,000 บาท สำหรับความเสียหายอื่น ที่มา: MacRumors
# [บทสรุป E3 2021] Xbox มีเกมเอ็กซ์คลูซีฟสู้เขาได้แล้ว ปัญหาแก้ได้ด้วยเงินถ้ามีมากพอ เทศกาลเกมประจำปี E3 2021 จบลงไปแล้ว ถึงแม้งานปีนี้เป็นออนไลน์ 100% ทำให้ขาดบรรยากาศของแฟนเกมเดินตามบูธไปบ้าง แต่ก็ถือเป็นข่าวดีที่ E3 ได้กลับมาจัดอีกรอบ (E3 ปี 2020 ถูกยกเลิก) และมีเกมใหม่มาร่วมงานเปิดตัวมากมาย หากให้เลือกบริษัทเกมที่โดดเด่นที่สุดใน E3 รอบนี้ ย่อมหนีไม่พ้นไมโครซอฟท์ (โซนี่ไม่ได้เข้าร่วม E3) ที่เปิดตัวเกมแบบจัดเต็มหลังควบกิจการ Bethesda และเป็นจุดเริ่มต้นของไมโครซอฟท์ยุคใหม่ ที่แก้ปัญหาเรื่องขาดเกมเอ็กซ์คลูซีฟได้แล้ว (สักที) ปัญหาแก้ได้ด้วยเงิน ถ้ามีมากพอ นับจากการเปิดตัว Xbox One ในปี 2013 ไมโครซอฟท์อยู่ในสภาพเพลี่ยงพล้ำในสงครามคอนโซลมาโดยตลอด ยอดขายเครื่อง Xbox One ตามหลัง PS4 แบบไกลลิบ (ถึงขั้นไมโครซอฟท์ต้องเลิกประกาศยอดขายเป็นจำนวนเครื่อง และยังใช้ปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้) เหตุผลที่ Xbox One พ่ายแพ้ มีทั้งเรื่องนโยบายการตั้งราคาเครื่องในยุคแรกที่แพงกว่า PS4 เพราะพยายามขายพ่วง Kinect และปัจจัยการขาดแคลนเกมเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อดึงดูดให้คนมาซื้อเครื่อง ซึ่งโซนี่พร้อมกว่ามากในแง่สตูดิโอแบบ first party ที่ลงทุนเรื่องนี้มายาวนานตั้งแต่ยุค PS1 ในขณะที่ไมโครซอฟท์ไม่ได้ลงทุนเรื่องนี้มากนักในยุคของ Xbox 360 (หลักๆ มีแค่ 343 ที่ทำซีรีส์ Halo, The Coalition ที่ทำซีรีส์ Gears of War, Rare ที่ทำซีรีส์ Kinect และ Turn 10 ที่ทำซีรีส์ Forza) ช่วงปี 2014 เกิดการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของไมโครซอฟท์ 2 ตำแหน่ง ได้แก่ Satya Nadella ซีอีโอคนใหม่ที่เข้ารับตำแหน่งในช่วงนั้น และการเลื่อนตำแหน่ง Phil Spencer หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเกม Microsoft Studios ขึ้นมาดูแลธุรกิจเกมทั้งหมด (อ่านรายละเอียดในบทความ Phil Spencer เผย ไมโครซอฟท์เกือบออกจากธุรกิจเกมหลัง Xbox One แต่ Satya ให้โอกาส) หลังจากนั้นไม่กี่เดือน ในเดือนกันยายน 2014 เราก็เห็นดีลช็อคโลก ไมโครซอฟท์ซื้อ Mojang สตูดิโอผู้พัฒนา Minecraft ในราคา 2.5 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความสงสัยว่าไมโครซอฟท์จะเอาไปทำพังหรือไม่ แต่ไมโครซอฟท์กลับใช้วิธีปล่อยให้ทีม Mojang ทำงานที่ถนัดต่อไปโดยไม่เข้าไปยุ่งมากนัก (รายละเอียดในบทความ รู้จัก Helen Chiang หัวหน้าทีม Minecraft หญิงเอเชียคนแรกในตำแหน่งหัวหน้าบริษัทเกม) และสามารถผลักดัน Minecraft ให้ประสบความสำเร็จได้มากกว่าเดิมอีก แนวทางนี้ทำให้ไมโครซอฟท์มั่นใจ ในปี 2018 เป็นต้นมา เราจึงเห็นไมโครซอฟท์ซื้อ ซื้อ และซื้อบริษัทเกมอย่างต่อเนื่อง ชนิดว่าไม่น่าจะมีใครจำชื่อสตูดิโอในเครือได้ทั้งหมดแล้ว ก่อนมาขมวดปมด้วยดีลใหญ่ ZeniMax/Bethesda ในราคา 7.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2020 โดยสรุปแล้วไมโครซอฟท์มีสตูดิโอในมือทั้งหมด 23 แห่ง E3 2021 การลงทุนผลิดอกออกผล ไมโครซอฟท์เปิดตัว Xbox Series X|S ในช่วงปลายปี 2020 ด้วยเกมแบบแห้งเหือด เพราะเกมเด่นของค่ายอย่าง Halo Infinite ถูกเลื่อน ในขณะที่เกมของสตูดิโอชุดใหม่ก็ยังเสร็จไม่ทัน ทำให้เราเห็น Xbox Series X|S ต้องโปรโมทด้วยเกมจาก third party (ที่มีบนทุกแพลตฟอร์มอย่าง Assassin's Creed Valhalla) ไปแบบแกนๆ แทน ในขณะที่ PS5 สามารถโปรโมทด้วยเกมเอ็กซ์คลูซีฟของแพลตฟอร์มอย่าง Spider-Man: Miles Morales ที่วางขายพร้อมเครื่องตั้งแต่วันแรก หลังจากนั้นมา เราก็ยังเห็นฝั่ง PlayStation มีไลน์อัพเกมเด่นๆ ทยอยเปิดตัว และรอคิววางขายในอนาคต เช่น God of War ภาคใหม่, Horizon Forbidden West เป็นต้น ส่วนฝั่ง Xbox กลับค่อนข้างเงียบ ข่าวเดียวที่พบบ่อยๆ คือข่าวการกู้ชีพ Halo Infinite ให้กลับเข้าร่องเข้ารอย หลังเวลาผ่านจากช่วงนั้นมาราวครึ่งปี ในที่สุดไมโครซอฟท์ก็มีอะไรไปตอบโต้บ้าง การแถลงข่าวในงาน E3 2021 ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า เม็ดเงินมหาศาลที่ไมโครซอฟท์ลงทุนซื้อบริษัทเกมมาตั้งแต่ปี 2018 เริ่มผลิดอกออกผลแล้ว ถ้าให้เลือกภาพที่สำคัญที่สุดของงาน E3 2021 ผมคิดว่าเป็นภาพไลน์อัพเกมชุดใหญ่ของไมโครซอฟท์ (ภาพแรกสุดของบทความนี้) ที่เป็นการร้องตะโกนบอกต่อโลกว่า "เรามีเกมแล้วนะ แถมมีเยอะด้วย" บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลว่า ไมโครซอฟท์มีเกมเอ็กซ์คลูซีฟใดบ้างที่เปิดตัวแล้ว และรอวางจำหน่ายให้เล่นกัน เกมใหม่ปี 2021 Microsoft Flight Simulator เวอร์ชัน Xbox 27 กรกฎาคม Psychonauts 2 Double Fine, 25 สิงหาคม Age of Empires IV Relic/World's Edge, 28 ตุลาคม (มีเฉพาะพีซี) Forza Horizon 5 Playground Games, 9 พฤศจิกายน Halo Infinite 343 Industries, ปลายปี 2021 เกมใหม่ปี 2022 หรือหลังจากนั้น Starfield Bethesda Game Studios, 2022 Redfall Arkane Studios, ยังไม่ระบุวัน The Outer Worlds 2 Obsidian Entertainment, ยังไม่ระบุวัน Avowed Obsidian Entertainment, ยังไม่ระบุวัน Perfect Dark The Initiative, ยังไม่ระบุวัน Senua’s Saga: Hellblade II Ninja Theory, ยังไม่ระบุวัน Fable Playground Games, ยังไม่ระบุวัน Everwild Rare, ยังไม่ระบุวัน State of Decay 3 Undead Labs, ยังไม่ระบุวัน Forza Motorsport Turn 10, ยังไม่ระบุวัน The Elder Scrolls VI Bethesda Game Studios, ยังไม่ระบุวัน Wolfenstein III MachineGames, ยังไม่ระบุวัน Indiana Jones MachineGames, ยังไม่ระบุวัน นอกจากนี้ยังมีบางสตูดิโอของไมโครซอฟท์ที่ยังไม่ได้เปิดตัวเกมใหม่เลย แต่เรารู้แน่ๆ อยู่แล้วว่ากำลังทำเกมใหม่อยู่ เช่น The Coalition ที่ทำ Gears of War, Compulsion Games ที่เคยทำ We Happy Few หรือผลงานใหม่ของ id Software ที่ถัดจาก Doom Eternal เป็นต้น ไลน์อัพเกมชุดใหญ่นี้ ทำให้ไมโครซอฟท์มั่นใจถึงขนาดประกาศว่า จะออกเกมเอ็กซ์คลูซีฟ (ในที่นี้หมายถึงเอ็กซ์คลูซีฟ Xbox และพีซี) ใหม่ได้ทุกไตรมาสด้วย หมายเหตุ: บทความนี้ยังไม่ได้พูดถึงการเซ็นสัญญากับเกมจากบริษัทอื่น เพื่อมาให้เล่นบน Xbox Game Pass ซึ่งเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มีความเกี่ยวโยงกัน แต่เราสนใจเฉพาะ first party เท่านั้น ผลกระทบต่อการแข่งขัน ตอนนี้สู้เพื่อเสมอ แล้วเอาชนะด้วย Game Pass และ xCloud ถ้าเราเห็นความเคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นความพยายามแก้ปัญหาใหญ่ๆ ในยุค Xbox One ได้เกือบหมดแล้ว เครื่องแพงกว่าเขา ก็ตั้งราคาให้เท่ากันสิ (แถมมีตัวถูกคือ Xbox Series S) เครื่องแรงน้อยกว่าเขา ก็อัดสเปกฮาร์ดแวร์ให้แรงที่สุดสิ (ทำมาตั้งแต่ Xbox One X) มีเกมเอ็กซ์คลูซีฟน้อยกว่าเขา ก็ซื้อสตูดิโอเกมมันเลยสิ (สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างแล้วใน E3 ปีนี้) ถ้าวัดกันในแง่คุณสมบัติของแพลตฟอร์ม ตอนนี้ Xbox เริ่มมาตีเสมอ PlayStation ได้แล้ว หลังตามหลังมานาน 6-7 ปี คำถามคือ PlayStation สะเทือนหรือไม่ คำตอบ ณ ตอนนี้คือไม่สะเทือนเลย โมเดลการชูเกมเอ็กซ์คลูซีฟเด่นๆ เพื่อขายเครื่อง ดึงคนเข้าแพลตฟอร์ม เป็นโมเดลที่โซนี่ถนัดและประสบความสำเร็จมายาวนาน และในยุค PlayStation 5 ก็ยังแรงดีไม่มีตก โซนี่ยังสามารถผลิตเกมเด่นๆ เพื่อขายเครื่องได้มหาศาลเหมือนเดิม เพราะคนเชื่อมั่นในแบรนด์ PlayStation ว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง ดังนั้นถ้าเรามองการซื้อสตูดิโอเกมของไมโครซอฟท์เพื่อปิดจุดอ่อนเกมเอ็กซ์คลูซีฟ ก็คงช่วยให้ Xbox ทำได้อย่างมากแค่ "ตีเสมอ" ยอดขายของ PS5 เท่านั้น ถ้าเกมเด่นจำนวนพอๆ กัน สุดท้ายแล้วเกมเมอร์ก็อาจเลือกซื้อทั้งสองเครื่องไปเลย (ไมโครซอฟท์ก็มีท่ารับมือด้วย Xbox Series S ที่เอาไว้เผื่อแฟน PS5 อยากเล่นเกม Xbox บ้างแต่ไม่อยากจ่ายแพงมาก) แต่ไมโครซอฟท์ยังมีท่าตามหลังเตรียมรอไว้แล้วคือ Xbox Game Pass และ xCloud ที่ต้องมองว่าจับกลุ่มตลาด 2 ส่วนที่ต่างกัน Phil Spencer เคยอธิบายว่า ยอดขายเครื่องคอนโซลไม่โตมานานหลายเจนแล้ว ฐานผู้เล่นคอนโซลจะอยู่ราวๆ 100 ล้านคน ถ้าหากไมโครซอฟท์อยากหาตลาดใหม่ๆ ก็ต้องไปโตวิธีอื่น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของ Game Pass คือผู้เล่นคอนโซลที่ไม่มีเงินซื้อเกมราคาเต็ม 60-70 ดอลลาร์ แต่สามารถจ่าย 10-15 ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อเล่นเกมแบบเหมาจ่ายแทน ส่วน xCloud นั้นไปไกลกว่านั้นอีกมาก เพราะมันคือกลุ่มเกมเมอร์ที่ไม่มีคอนโซลหลักพันล้านคน (คิดจากฐานผู้เล่นเกมมือถือในปัจจุบัน) ที่ปัจจุบันเล่นเกมอย่าง PUBG Mobile หรือ Call of Duty Mobile บนมือถือ สิ่งที่ xCloud จะเข้ามาเปลี่ยนเกมตรงนี้ก็คือ อย่าเล่นเลยเกมเวอร์ชันมือถือ มาเล่น PUBG ตัวเต็มหรือ Call of Duty ตัวเต็มกันดีกว่า รันบน Xbox Series X แล้วสตรีมไปยังมือถือคุณ ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่กำลังจะเป็นจริงได้ในเร็วๆ นี้ ยุทธศาสตร์ของไมโครซอฟท์จะมองว่าทุกคนคือลูกค้าของ Xbox ไม่ว่าจะเล่นจากเครื่องไหน คอนโซลรุ่นใหม่ คอนโซลรุ่นเก่า พีซี มือถือ แท็บเล็ต สมาร์ททีวี ทีวีต่อกล่องสตรีมมิ่ง ฯลฯ ทุกคนจะได้เล่นเกมใหม่ล่าสุดจากสตูดิโอชื่อดังในเครือ (เช่น Starfield) คุณภาพกราฟิกระดับสูง ตั้งแต่วันแรกที่เกมวางขาย ยอดขาย Xbox Series X|S อาจไปไม่ถึงตัวเลข 100 ล้านอีกเจนหนึ่ง แต่ฐานลูกค้า Xbox อาจไปถึงพันล้านคนเลยทีเดียว
# Leica เปิดตัวสมาร์ทโฟน Leitz Phone 1 ขายเฉพาะในญี่ปุ่น Leica เปิดตัวสมาร์ทโฟนแบรนด์ของตนเองเป็นครั้งแรก โดยเป็นเอ็กคลูซีฟให้กับ SoftBank จำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น (ในตอนนี้) มีชื่อรุ่นว่า Leitz Phone 1 ซึ่งเป็นชื่อของผู้ก่อตั้ง Leica ตัวเครื่องเป็นการนำสมาร์ทโฟน Sharp Aquos R6 มาปรับแต่งให้มีความเป็น Leica มากยิ่งขึ้น ทั้งโลโก้จุดสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ฝาครอบเลนส์แบบแม่เหล็ก และวัสดุด้านหลังที่เป็นกระจกสีดำ สำหรับกล้องใช้สเป็กเหมือนกับ Aquos R6 คือเซ็นเซอร์กล้องหลัง 1 นิ้ว 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 12.6 ล้านพิกเซล หน้าจอ OLED แบบ Pro IGZO ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1,260 x 2,730 พิกเซล 240Hz ระบบปฏิบัติการ Android 11 ความจุพื้นฐาน 256GB พร้อมฟีเจอร์เพิ่มความเป็น Leica เช่นกล้องโหมด Leitz Looks สำหรับถ่ายภาพขาวดำ Leitz Phone 1 จำหน่ายผ่าน SoftBank เฉพาะในญี่ปุ่น ที่ราคา 187,920 เยน หรือประมาณ 53,000 บาท เริ่มเปิดจองตั้งแต่ 18 มิถุนายน และวางจำหน่ายทั่วไปปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะจำหน่ายนอกญี่ปุ่นหรือไม่ ที่มา: Engadget
# ผู้บริหาร Bethesda ขอโทษแฟนเกมที่ Starfield ไม่มีให้เล่นบน PS5 Pete Hines ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ Bethesda ไปออกรายการไลฟ์สตรีมของเว็บไซต์ Gamespot และออกปากขอโทษแฟนๆ PlayStation 5 ที่เกม Starfield กลายเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ Xbox ด้วยเหตุผลว่า Bethesda กลายเป็นบริษัทลูกของไมโครซอฟท์ไปแล้ว Hines บอกว่าเขาเป็นเจ้าของเครื่อง PS5 และเขามีโอกาสได้เล่น Starfield บน PS5 แล้ว (แปลว่า Bethesda ทำเกมเวอร์ชัน PS5 อยู่แล้ว และเพิ่งตัดสินใจไม่ขายบน PlayStation เมื่อไม่นานมานี้) เมื่อเขาไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้มีเพียงพูดคำว่า "ขอโทษ" เท่านั้น ในอดีตที่ผ่านมา เกมของ Bethesda มักลงทุกแพลตฟอร์มอยู่แล้ว จึงไม่แปลกใจที่มีฐานแฟนๆ หลากหลาย จนทำให้ Hines ต้องออกมาขอโทษแฟนเกมจำนวนหนึ่งที่จะไม่ได้เล่นเกมของ Bethesda อีกต่อไป ที่มา - Gamespot via Kotaku
# Akamai บริการ CDN รายใหญ่ล่ม พาธนาคาร, ตลาดหุ้น, เว็บจำนวนมากล่มนานครึ่งวัน Akamai บริการ CDN รายใหญ่ (และอาจนับได้ว่าเป็นรายแรกๆ) มีปัญหาล่มในหลายภูมิภาค กระทบองค์กรสำคัญๆ นับแต่ตลาดหุ้นฮ่องกง, สายการบิน, ธนาคาร ANZ หลายองค์กรรายงานว่าพบปัญหาตั้งแต่ช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้มีปัญหานานกว่า 7 ชั่วโมงแล้ว ทาง Akamai ออกมาทวีตแจ้งว่ารับทราบปัญหาเมื่อช่วงห้าโมงเย็นที่ผ่านมา ผมตรวจสอบพบว่าเว็บจำนวนมากที่รายงานว่าได้รับผลกระทบกลับมาใช้งานได้แล้ว และตอนนี้เว็บ Akamai เองก็ไม่ได้ล่ม ไม่แน่ชัดว่าปัญหากระทบเฉพาะบางภูมิภาคหรือไม่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Fastly บริการ CDN รายใหญ่อีกแห่งหนึ่งก็เพิ่งล่มไปจนพาบริการจำนวนมากล่มไปด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะย้ำกว่าโลกอินเทอร์เน็ตทุกวันนี้พึ่งพิงกับผู้ให้บริการไม่กี่รายเท่านั้น และหากผู้ให้บริการเหล่านี้มีปัญหาก็อาจกระทบเศรษฐกิจได้มากทีเดียว ที่มา - South China Morning Post ภาพบริการ CDN จาก Akamai
# Amazon เปิดตัว Kindle Vella แอปอ่านนิยายแบบจ่ายเหรียญ นักเขียนได้รายได้ครึ่งหนึ่ง Amazon เปิดตัว Kindle Vella แอปพลิเคชั่นอ่านนิยายแบบจ่ายเงินเพื่อปลดล็อกอ่านบทต่อไป ให้นักเขียนที่เขียนงานผ่านบริการตีพิมพ์อีบุ๊กหรือ Kindle Direct Publishing ได้สร้างรายได้เพิ่มเติม โดย Kindle Vella จะเปิดใช้งานเดือนกรกฎาคมนี้ จำกัดการใช้งานที่ผู้เขียนในสหรัฐฯที่เขียนงานเป็นภาษาอังกฤษ เนื้อหาในแต่ละตอนบน Kindle Vella จำกัดจำนวนคำที่ 600-5,000 คำ โดยสามบทแรกให้อ่านฟรี หลังจากนั้นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อเหรียญเติมเพื่ออ่านนิยายในบทต่อไป ราคาเติมเหรียญอยู่ที่ 2 ดอลลาร์ได้ 200 เหรียญ และ 15 ดอลลาร์ได้ 1,700 เหรียญ โดยคิดค่าเหรียญ 1 เหรียญต่อ 100 คำ ผู้เขียนสามารถติดแท็กประเภทนิยายหรือเรื่องราวของตัวเองได้ว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร เป็นแนวไหน ผู้อ่านสามารถกดติดตามนิยาย นักเขียนและกดไลค์เพื่อสร้าง engagement ให้นักเขียนได้ โดยนักเขียนได้เงิน 50% จากยอดขายเหรียญ และจะได้โบนัสจากยอด engagement เพิ่มด้วย ในไทยเองก็มีแอปพลิเคชั่นอ่านนิยายเช่น Readawrite, Joylada ที่คนเขียนสามารถสร้างรายได้จากผู้อ่านได้ ที่มา - Engadget, Amazon
# Facebook Groups ให้แอดมินจำกัดจำนวนโพสต์และคอมเม้นท์, บล็อกโพสต์ขายของในกลุ่มได้ Facebook เตรียมเพิ่มความสามารถให้แอดมิน Groups จำกัดจำนวนโพสต์ และจำกัดจำนวนคอมเม้นท์ใต้โพสต์ได้ มีเป้าหมายเพื่อชะลอการสนทนาที่ไม่เป็นมิตรกับคนอ่าน หรือ toxic ด้วยความสามารถใหม่นี้ แอดมิน และผู้คัดกรองเนื้อหาใน Groups จะมีอำนาจจำกัดจำนวนโพสต์และคอมเม้นท์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง Facebook ยังบอกด้วยว่าตอนนี้กำลังทดสอบระบบ conflict alerts แจ้งเตือนให้แอดมินรู้ว่าตอนนี้กำลังมีการสนทนาในเชิงปะทะกันอยู่ในกลุ่มด้วย การอัปเดตล่าสุดยังรวมถึงเครื่องมือสำหรับผู้ดูแล Groups ให้ข้อมูลโดยย่อเกี่ยวกับสมาชิกกลุ่มแต่ละคนรวมถึงจำนวนครั้งที่พวกเขาลบโพสต์เนื่องจากละเมิดกฎ Facebook, เพิ่มฟีเจอร์ช่วยคัดกรองเนื้อหา สามารถจำกัดคอมเม้นท์จากสมาชิกที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่มได้ รวมถึงบล็อกเนื้อหาบางประเภทอย่างพวกโพสต์ขายของได้ด้วย Facebook ยังเพิ่มข้อมูลในหน้า Admin Home โดยเพิ่มเซกชั่นทางซ้ายมือเป็นภาพรวมของ Groups ที่เราดูแลว่ามีใครเข้ามาโพสต์บ้าง เป็นจำนวนเท่าไน มีใครรายงานเนื้อหาใน Groups บ้าง จากฟีเจอร์ใหม่ๆ นี้ถือว่า Facebook เพิ่มอำนาจให้แอดมินกลุ่มในการช่วยดูแลคุณภาพการสนทนาบนแพลตฟอร์มค่อนข้างมากทีเดียว ครั้งหนึ่ง Groups เองก็สร้างปัญหาให้ Facebook มากมายทั้งกลุ่มต่อต้านการใส่หน้ากากอนามัย ต่อต้านการฉีดวัคซีน กลุ่มสนับสนุนทรัมป์ กลุ่มขวาสุดโต่ง เป็นต้น ที่มา - Facebook
# เผยภาพภายใน Google Store สาขาแรกของโลกที่นิวยอร์ก เน้นให้ลองจับ Pixel, Nest, Stadia ต่อเนื่องจากข่าว Google เตรียมเปิดร้าน Google Store แห่งแรกในนิวยอร์ก วันนี้ (17 มิถุนายน) เป็นวันแรกที่ร้าน Google Store แห่งนี้เปิดบริการ ทำให้กูเกิลนำภาพภายในร้านมาให้ดูกัน ร้าน Google Store แห่งนี้แต่งด้วยโทนลายไม้ตามสมัยนิยม มีโลโก้ Google สีสดๆ โดดเด่นเห็นแต่ไกล ธีมหลักของร้านคือการเปิดพื้นที่ให้คนมีโอกาสลองจับฮาร์ดแวร์ของบริษัท ทั้ง Pixel และ Nest รวมถึงลองใช้ฟีเจอร์เด่นๆ เช่น ลองถ่ายภาพในห้องมืดด้วย Pixel, มีซุ้มให้ลองพูดแล้วฟังการแปลภาษาแบบเรียลไทม์, มีมุมเกมให้ลองเล่น Stadia เป็นต้น Google Store แห่งแรกของโลกตั้งอยู่ที่ย่าน Chelsea ที่ถนน 9th Street ในนครนิวยอร์ก พิกัด
# Honor เปิดตัวมือถือใหม่ Honor 50 Series, แยกบริษัทแล้วดี มี GMS แล้ว Honor ที่แยกตัวมาจาก Huawei เรียบร้อยแล้ว เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Honor 50 Series ที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ Google Mobile Services (GMS) กลับมาแล้ว Honor 50 Series ประกอบด้วยมือถือ 3 รุ่นย่อยได้แก่ Honor 50, Honor 50 Pro ที่สเปกใกล้เคียงกัน และ Honor 50 SE น้องเล็กรุ่นที่ลดสเปกลง Honor 50 และ Honor 50 Pro ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 778G ตัวท็อปสุดของซีรีส์ 7xx ในตอนนี้, กล้องหลัง 4 ตัวเท่ากัน กล้องหลัก 108MP + กล้องมุมกว้าง 8MP + มาโคร 2MP + วัดระยะลึก 2MP จุดต่างของรุ่นปกติกับรุ่น Pro มีด้วยกันดังนี้ ขนาดหน้าจอ: รุ่นปกติ 6.57", รุ่น Pro 6.72" เป็นจอขอบโค้งเหมือนกัน อัตรารีเฟรช 120Hz ทัชแซมปลิง 300Hz กล้องหน้า: รุ่นปกติ 32MP, รุ่น Pro ใช้กล้องคู่ 32MP + 12MP มุมกว้าง 100 องศา แบตเตอรี่: รุ่นปกติ 4300mAh, รุ่น Pro 4000 mAh เล็กกว่าเล็กน้อย ชาร์จเร็ว: รุ่นปกติ 66W, รุ่น Pro 100W ราคาขายในจีนเริ่มที่ 2,699 หยวน (รุ่นปกติ) และ 3,699 หยวน (รุ่น Pro) เริ่มขายวันที่ 16 มิถุนายน และ Honor บอกว่าจะวางขาย Honor 50 ในหลายประเทศทั่วโลกด้วย แต่จากรายชื่อในภาพยังไม่มีประเทศไทย นอกจาก Honor 50 และ 50 Pro แล้วยังมีน้องเล็ก Honor 50 SE ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 900, หน้าจอแบน 6.78" 120Hz, กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 108MP Honor 50 SE วางขายในจีน 2 กรกฎาคม ราคาเริ่มต้น 2,399 หยวน ที่มา - Honor, GizChina
# ตรวจจับใบหน้ายังไม่พอ หลายบริษัทเทคกำลังพัฒนาระบบอ่านริมฝีปากด้วย ปัจจุบันระบบจดจำใบหน้ามีการใช้งานทั้งในแง่ความสะดวกสบายอย่างการสแกนใบหน้าเพื่อทำธุรกรรมและการยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัยในการทำกิจกรรมต่างๆ บนออนไลน์ ระบบจดจำใบหน้ายังถูกใช้งานในแง่ความมั่นคงและสอดส่องประชาชนด้วย ล่าสุดเว็บไซต์ Motherbord ออกรายงานพบว่าตอนนี้หลายๆ บริษัทเทคโนโลยีกำลังวิจัยพัฒนาระบบอ่านริมฝีปาก เริ่มจาก Liopa เป็นสตาร์ทอัพในไอร์แลนด์ พัฒนาแอปพลิเคชั่น SRAVI (Speech Recognition App for the Voice Impaired) เป็นแอปอ่านปากเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ในกรณีที่คนไข้ต้องการอะไรบางอย่างแต่ไม่สามารถเปล่งเสียงพูดออกมาได้ ก็สามารถใช้แอป SRAVI ช่วยอ่านริมฝีปากคนไข้ โดยขณะนี้ SRAVI กำลังอยู่ในขั้นตอนขอใบรับรองเป็นหนึ่งในอุปกรณ์การแพทย์ อย่างไรก็ตาม ระบบอ่านริมฝีปากจะสร้างความกังวลเมื่อมันถูกนำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่นที่คุกคามสิทธิพลเมืองและความเป็นส่วนตัว ซึ่ง Motherbord พบว่ามีหลายบริษัทกำลังพัฒนาระบบนี้โดยยังไม่เผยจุดประสงค์ว่าจะใช้งานกับใครบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Google, Huawei, Samsung และ Sony ต่างกำลังค้นคว้าเกี่ยวกับระบบ VSR (visual speech recognition) และดูเหมือนว่าจะมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ภาพจาก SRAVI ตัวแอป SRAVI ก็ไม่ใช่แอปพลิเคชั่นเดียวที่ Liopa ทำ ทางบริษัทกำลังพัฒนาระบบเดียวกันร่วมกับกับหน่วยงานวิจัยด้านการป้องกันประเทศของสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาเครื่องมือที่จะช่วยอ่านปากจากฟุตเทจกล้องวงจรปิด Motherbord ยังพบบริษัทอีกแห่งหนึ่งที่อ้างว่าขายระบบ AI สำหรับการอ่านริมฝีปาก และได้การตอบรับอย่างเต็มที่ Amarjot Singh ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ของ Skylark Labs บอกกับ Motherboard ว่าบริษัทได้นำเสนอชุดเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงการจดจำใบหน้าและอัลกอริธึมการตรวจจับความรุนแรงและอาวุธให้กับหน่วยงานตำรวจในอินเดีย ภาพจาก Skylark Labs เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพของระบบอ่านริมฝีปาก ระบบสามารถจับคีย์เวิร์ดจากการพูดเป็นคำได้ แต่ยังจับคำจากการพูดยาวๆ แบบต่อเนื่องไม่ได้ดีเท่าที่ควร งานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับระบบอ่านริมฝีปากที่ Google Deepmind ตีพิมพ์ออกมา ต้องย้อนไปตั้งแต่ปี 2018 พบว่า AI ยังมีความผิดพลาดในการตรวจจับคำถึง 41% การอ่านปากจากคลิปวิดีโอที่ไม่ระบุหัวข้อและบริบท มีอัตราความแม่นยำ 93% และ 86% เมื่อระบุหัวข้อ ในการใช้ระบบอ่านริมฝีปากจับคีย์เวิร์ดจากคำพูดเป็นคำๆ พบว่าระบบประเภทเดียวกันกับที่บริษัท Liopa และ Skylark Labs ใช้มีความแม่นยำสูง จากเว็บไซต์ paperswithcode.com พบอัตราความแม่นยำตั้งแต่ 83-88% แม้ระบบอ่านริมผีปากกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่ในขณะที่โลกได้รับบทเรียนจากระบบจดจำใบหน้าแล้ว นักวิชาการหลายคนจึงออกความเห็นว่า การพัฒนาเทคโนโลยีไม่ควรส่งผลเสียต่อผู้ใช้งาน และหากพัฒนาต้องมีการเฝ้าระวังและให้คนจากหลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ระยะแรก เพื่อพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้น ที่มา - VICE
# Microsoft แต่งตั้ง Satya Nadella เป็นประธานบอร์ดบริษัทคนใหม่ ไมโครซอฟท์ประกาศว่ากรรมการบอร์ดบริหารอิสระ ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์แต่งตั้งให้ Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ รับตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารบริษัทคนใหม่ และให้ John Thompson ประธานบอร์ดคนปัจจุบัน รับตำแหน่งหัวหน้ากรรมการบอร์ดบริหารอิสระ ซึ่งเขาเคยรับตำแหน่งนี้ช่วงปี 2012-2014 ในแถลงการณ์ระบุว่า Satya จะรับบทบาทในการนำประเด็นเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด โดยอาศัยความเข้าใจในธุรกิจที่ลึกซึ้ง เพื่อกำหนดกลยุทธ์และมองหาโอกาสใหม่ ๆ รวมถึงระบุความเสี่ยงเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณา ประกาศนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในฝ่ายบอร์ดบริหารที่สำคัญ นับตั้งแต่บิล เกตส์ ลงจากตำแหน่งเมื่อปี 2014 และให้ John Thompson ขึ้นมาเป็นประธานบอร์ดแทน ที่มา: ไมโครซอฟท์
# Red Hat ชูแนวทาง Open Hybrid Cloud เปิดทางองค์กรสร้างนวัตกรรม รองรับความเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ Red Hat ประกาศชูแนวทาง Open Hybrid Cloud แนวทางที่เปิดทางให้องค์กรสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่โหลดงานเพิ่มขึ้นอย่างเกินการคาดเดาได้ในงาน Red Hat Summit 2021 Matt Hicks ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี Red Hat ชี้ว่าปี 2020 นับเป็นปีที่องค์กรต่างๆ พบความเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก และพบความท้าทายอย่างมากไม่ว่าจะวางแผนไว้ดีเพียงใด ย้ำให้เห็นความสำคัญของแนวทาง open hybrid cloud ที่ Red Hat พยายามนำเสนอตลอดมา โดยแนวทางนี้เปิดทางให้องค์กรวางแผนถึงความเปลี่ยนแปลงระยะยาว ในขณะเดียวกันก็ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในเพื่อรองรับความจำเป็นระยะสั้นได้ทันท่วงที Matt ระบุว่าลูกค้าของ Red Hat พบว่าองค์กรไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างไอทีใหม่เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ทัน แนวทางการใช้ open hybrid cloud เปิดทางให้องค์กรใช้ทรัพยากรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรในธุรกิจลอจิสติกส์, ภาคการผลิต, หรือบริการสุขภาพ แนวทาง open hybrid cloud ของ Red Hat อาศัยสินค้า 3 ตัวสำคัญเป็นแพลตฟอร์มพื้นฐาน ได้แก่ Red Hat Enterprise Linux (RHEL), OpenShift, และ Ansible โดยในงาน Red Hat Summit ปีนี้ก็มีการประกาศบริการใหม่ๆ ออกมาซัพพอร์ตแนวทางต่อเนื่อง ฟีเจอร์ใหม่บน OpenShift OpenShift เป็นแพลตฟอร์มของ Red Hat ที่ได้รับความนิยมจากองค์กรอย่างสูง ทุกวันนี้องค์กรส่วนใหญ่ในกลุ่ม Fortune 500 รันแอปพลิเคชั่นสำคัญบน OpenShift และนับว่าเป็นแพลตฟอร์มที่นำคู่แข่งในตลาดเดียวกันไปไกล ทุกวันนี้ OpenShift รองรับแอปพลิเคชั่นหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่นจาวา, ระบบปัญญาประดิษฐ์, หรือแม้แต่โหลดงานประเภท virtualization ก็สามารถรันบน OpenShift ได้ทั้งสิ้น ในปีนี้ Red Hat รวมเอาบริษัท StackRox เข้ามาอยู่ในทีม Red Hat และเตรียมรวมเอาฟีเจอร์ของ StackRox เข้ามาอยู่ใน OpenShift และสินค้าตัวอื่นๆ บริการคลาวด์พร้อมการจัดการ Matt ระบุว่าลูกค้าที่ใช้งาน OpenShift แบบบริการคลาวด์พร้อมการจัดการ (managed cloud service) นับเป็นลูกค้ากลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุด ในปีนี้ Red Hat ก็ปรับสถานะบริการ Red Hat OpenShift Service on AWS เข้าสู่สถานะ GA อยู่ในระดับพร้อมใช้งานเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ Red Hat ยังมีบริการ OpenShift บนคลาวด์ของ AWS, Azure, IBM, และคลาวด์ของ Red Hat เอง เปิดทางให้องค์กรที่รันแอปพลิเคชั่นบน OpenShift สามารถย้ายโหลดงานขึ้นคลาวด์ได้ทันที และหันไปโฟกัสกับแอปพลิเคชั่นธุรกิจได้เต็มที่ นอกจากนี้ Red Hat ยังเพิ่มบริการคลาวด์ชุดใหม่ อีก 3 รูปแบบ ได้แก่ Red Hat OpenShift Streams for Apache Kafka เปิดทางองค์กรใช้ Kafka เป็นแพลตฟอร์มเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นเข้าด้วยกัน โดยไม่ต้องจัดการการรัน Kafka ในรูปแบบที่สเกลระบบตามโหลดงานด้วยตัวเอง Red Hat OpenShift Data Science เปิดทางนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (data scientist) ในองค์กรมุ่งพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่ตอบโจทย์ธุรกิจ นำโมเดลปัญญาประดิษฐ์ขึ้นรันบนแพลตฟอร์มเพื่อสร้างเป็นบริการเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว Red Hat OpenShift API Management ช่วยองค์กรปรับตัวไปสู่ยุคของการเปิดบริการต่างๆ เป็น API เต็มรูปแบบ ให้ API มีการจัดการและมีความปลอดภัย บริการคลาวด์เหล่านี้มาพร้อมกับพันธมิตรที่ให้บริการบนแพลตฟอร์ม เช่น IBM Watson Studio, Seldon Deploy ช่วยให้การให้บริการปัญญาประดิษฐ์จัดการได้ง่าย การใช้คลาวด์ยังทำให้องค์กรสามารถเข้าถึงฮาร์ดแวร์เฉพาะทางอย่างชิป NVIDIA GPU ได้ตามต้องการ Red Hat Edge นำ Red Hat ไปถึงปลายทาง Red Hat นำเสนอแนวทาง Red Hat Edge ที่จะขยายฟีเจอร์ของสินค้าต่างๆ ให้รองรับระบบไอทีในปลายทาง (Edge) โดย Matt ระบุว่า Edge คือจุดที่บริษัทต่างๆ ทำธุรกิจกับลูกค้าโดยตรง การสร้างนวัตกรรม โดยยังคำนึงถึงความปลอดภัย และการจัดการระบบไอทีขนาดใหญ่นับเป็นความท้าทาย ทำให้ Red Hat นำประสบการณ์นับสิบปีที่สร้าง RHEL ให้ปลอดภัยด้วยการอัพเดตอัตโนมัติมาใช้กับ Red Hat Edge สืนค้าหลายตัวมีการประกาศฟีเจอร์รองรับ Edge มาก่อนแล้ว เช่น Red Hat Enterprise Linux 8.4 เพิ่มความสามารถที่จำเป็นสำหรับการรันบน Edge ลดขนาดให้มีขนาดเล็ก มีระบบสร้างอิมเมจเฉพาะ และลดภาระในการจัดการ OpenShift รองรับคลัสเตอร์ขนาดเล็กเพียง 3 โหนดมาก่อนหน้านี้แล้ว และกำลังพัฒนาเพื่อรองรับการใช้งานแบบโหนดเดียวที่จำเป็นสำหรับงานอีกหลายรูปแบบ ตอนนี้เอง IBM ก็ใช้ OpenShift แบบโหนดเดียวบนสถานีอวกาศนานาชาติเพ่อเชื่อมต่อการทดลองถอดรหัส DNA และเชื่อมต่อข้อมูลกับบนโลก ปรับการทำงานบน hybrid cloud ให้อัตโนมัติเต็มรูปแบบ Red Hat ปรับการทำงานของ 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Ansible Automation Platform, Red Hat Advanced Cluster Management, และ Red Hat Insight ให้ทำงานร่วมกันได้เต็มที่ Red Hat Ansible Automation Platform รองรับทั้งแอปพลิเคชั่นที่เป็นคอนเทนเนอร์หรือแอปพลิเคชั่นดั้งเดิม Red Hat Insight วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการจัดการแพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ Red Hat Advanced Cluster Management ช่วยจัดการคลัสเตอร์จำนวนมากให้สามารถดูแลคลัสเตอร์ได้อย่างอัตโนมัติ ช่วยทุกองค์กรผ่านความเปลี่ยนแปลง Matt ระบุว่าปี 2020 แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างไอทีที่ปรับตัวได้ทันท่วงทีสำคัญแค่ไหนต่อลูกค้าของ Red Hat และเขาตื่นเต้นกับการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ จากแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สที่ Red Hat ร่วมสร้างนวัตกรรมกับชุมชน และทำงานร่วมกับนวัตกรรมจากลูกค้าของ Red Hat จนมาเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เราเห็นได้ในชีวิตประจำวัน และปี 2021 จะเป็นปีที่ Red Hat ทำงานกับลูกค้าเพื่อสร้างนวัตกรรมด้วยแนวทาง open hybrid cloud และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สต่อไป
# ไม่ทิ้งกัน ไมโครซอฟท์บอก Xbox One จะได้เล่นเกมของ Xbox Series X ผ่านคลาวด์ ตอนนี้ไมโครซอฟท์ยังออกเกมใหม่ให้กับคอนโซลทั้งสองเจนคือ Xbox One และ Xbox Series X เพราะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างเจน (โซนี่ก็ทำแบบเดียวกัน) แต่เราก็รู้ว่าอนาคตของคอนโซลเจนเก่าจะต้องจบลงสักวัน และตอนนี้เกมของไมโครซอฟท์บางเกมที่ต้องใช้พลังกราฟิกสูงๆ เช่น Microsoft Flight Simulator ก็ลงเฉพาะ Xbox Series X|S เท่านั้น โชคดีว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งคลาวด์เกมมิ่ง ทำให้ไมโครซอฟท์ประกาศว่าเจ้าของคอนโซล Xbox One จะได้เล่นเกมใหม่ๆ เหล่านี้ผ่านบริการ xCloud ด้วย เช่นเดียวกับผู้เล่น xCloud บนแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่างพีซีหรือสมาร์ทโฟน เกมที่ระบุชื่อแล้วคือ Microsoft Flight Simulator แต่ก็รวมถึงเกมอื่นๆ ด้วย ไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศว่ากำลังอัพเกรดเครื่องเบื้องหลัง xCloud จากเดิมที่ใช้ Xbox One S มาเป็น Xbox Series X จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นการโฆษณาว่า xCloud สามารถให้บริการเกมรุ่นใหม่ล่าสุดไปยังอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ ซึ่งรวมไปถึงคอนโซลรุ่นเก่าด้วย ที่มา - Polygon
# [Never Settle] OnePlus ประกาศรวมองค์กรเข้ากับ Oppo แต่ยังแยกแบรนด์อยู่ Pete Lau ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ OnePlus ประกาศแผนรวมองค์กร OnePlus เข้ากับบริษัท Oppo (บริษัทแม่เดียวกันคือ BBK Electronics) โดยให้เหตุผลว่ารวมกันเพื่อปรับกระบวนการทำงานและลดค่าใช้จ่าย แถมตัวเขาเองก็เข้ามารับผิดชอบงานภายในของ Oppo มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว Lau ยืนยันว่า OnePlus จะยังคงแบรนด์แยกของตัวเองต่อไป และการรวมกันจะทำให้ OnePlus มีทรัพยากรมากขึ้น ช่วยให้อัพเดตระบบปฏิบัติการได้เร็วและเสถียรขึ้นด้วย ที่มา - OnePlus ภาพจาก OnePlus
# เจาะลึกคุณสมบัติเชิงเทคนิค 5G จาก AIS ติดปีกอุตสากรรมไทยสู่ Smart Manufacturing AIS Business จัดงาน AIS Business Digital Future 2021 - Your Trusted Smart Digital Partner งานสัมมนาออนไลน์ครั้งใหญ่ประจำปี พูดคุยเทรนด์เทคโนโลยีที่จำเป็นในภาคอุตสาหกรรม บทความที่แล้ว Blognone ได้สรุปส่วนหนึ่งจากงานสัมมนาในหัวข้อ 5G กับการเตรียมความพร้อมอุตสาหกรรมสู่ Smart Manufacturing 4.0 อีกหัวข้อยังคงเน้นเรื่อง 5G ในหัวข้อ Is 5G Ready for Smart Manufacturing: How does 5G Transform the Factory Automation มาเจาะรายละเอียดเพิ่มเติมว่า 5G มีส่วนช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมในด้านใดบ้าง และยกกรณีตัวอย่างเครือข่าย 5G ของ AIS ที่ใช้งานจริงแล้วในโรงงานไทยอย่าง Bosch, SNC Former ผู้เข้าร่วมบรรยายในหัวข้อนี้คือ กรรณิกา ตันติการุณย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบสำหรับธุรกิจองค์กร AIS และ จรัญ สินสวัสดิ์มงคล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงข่ายอนาคต AIS 5G กับการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจมูลค่าสูง 475 ล้านเหรียญภายในปี 2025 คุณกรรณิกา ให้ภาพรวมเกี่ยวกับเครือข่าย 5G มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์, เซนเซอร์ และโรบอทในโรงงานทีละมากๆ ได้ในคราวเดียวกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดดาวน์ไทม์ในโรงงาน ยกตัวอย่างการใช้งานที่เป็นไปได้คือ Mobile Robots, AGV (Automated Guided Vehicle), AMR (Autonomous Mobile Robot), Predictive Maintenance, Asset Tracking, Augmented Reality และ Connected Product ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการผลิตด้วย จากชาร์ตข้างล่างจะเห็นได้ว่า เครือข่าย 5G จะช่วยปรับปรุงเส้นทางการผลิตในระบบ automation เปิดทางสู่การพัฒนา collaborative robots หรือการทำงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์ในโรงงาน การควบคุมหุ่นยนต์ผ่านคลาวด์ เป็นต้น รายงานของ Author D. Little บริษัทที่ปรึกษาแก่ธุรกิจคาดว่า 5G จะสร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับองค์กรทั่วโลกได้มากถึง 475 ล้านเหรียญภายในปี 2025 ในประเทศไทย 5G จะเริ่มมีบทบาทอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิต (manufacturing) รายงานของ Author D. Little พบกรณีศึกษาการใช้งาน 5G ในอุตสาหกรรมการผลิต 49% กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (retail) 20% และการขนส่ง (transport & logistics) 10% "สำหรับการทำ Smart Manufacturing 4.0 การตั้งเป้าหมายการทดสอบโซลูชันเพื่อขยายผล (proof of scale) แทนการทดสอบการใช้งาน (proof of concept) จะทำให้ได้ผลลัพท์ที่ใช้งานจริงได้แบบเป็นรูปธรรม" คุณกรรณิกากล่าว คุณสมบัติ 5G นำธุรกิจก้าวสู่ยุค Smart Manufacturing ด้านคุณจรัญ ผู้ดูแลเชิงเทคนิคเรื่องเครือข่าย 5G โดยเฉพาะ มาเล่ารายละเอียดเจาะลึกเชิงเทคนิค ว่าในแง่การใช้งานจริงนั้น 5G มีคุณสมบัติที่เหมาะกับอุตสาหกรรมการผลิตอย่างไรบ้าง High Speed การรับส่งข้อมูลอย่างรวดเร็ว แลกเปลี่ยนข้อมูลปริมาณมากได้ถึงระดับ 20 Gbps ต่อยอดสู่ fixed wireless access เครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในองค์กร ช่วยให้การส่งข้อมูลข้ามกันไปมาในองค์กรทำได้เร็วเพราะมีแบนด์วิธกว้างขึ้น นอกจากนี้ยังต่อยอดสู่ video analytic ได้ด้วย Very Fast Response ตอบสนองต่อการควบคุมที่มี latency ต่ำระดับต่ำกว่า 10 millisecond นับว่าเร็วขึ้น ทำให้เป็นไปได้ที่จะใช้งานรูปแบบใหม่ๆ เช่นการควบคุมรถยนต์อัตโนมัติ, การควบคุมพาหนะในโรงงานด้วยรีโมทคอนโทรลได้ทีละหลายตัว และ collaborative robots เป็นต้น Coverage & Mobility สามารถออกแบบพื้นที่ครอบคลุมได้ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับพื้นที่โรงงาน ครอบคลุมระดับกิโลเมตร ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Wi-Fi นอกจากนี้ยังรองรับการเคลื่อนที่ไปมาของอุปกรณ์ รองรับการเปลี่ยนตำแหน่งของอุปกรณ์ในสายการผลิตได้เร็ว ไม่มีปัญหา connection drop ระหว่างเคลื่อนย้าย Network Slicing การจัดสรรแบนด์วิธให้เหมาะสมกับแต่ละแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้งาน ถือเป็นคุณสมบัติเฉพาะที่มีอยู่ใน 5G เท่านั้น โดย AIS ก็จะมาทำหน้าที่บริหารเครือข่ายให้แตกต่างตามแต่ละพื้นที่ได้ Edge Computing คือการดึงการประมวลผลจากคลาวด์มาอยู่ใกล้ๆ กับอุปกรณ์ โดยสามารถติดตั้งในเครือข่าย 5G ตามพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน เพื่อความตอบสนองของแอปพลิเคชันที่เร็วขึ้น ข้อมูลไม่ต้องเดินทางไปไกล Private 5G Network คือ การออบแบบเครือข่ายพิเศษเฉพาะสำหรับการใช้งานของอุตสาหกรรม เพิ่มความเสถียร และเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลสร้างความมั่นใจแก่คู่ค้า "เทคโนโลยี 5G ถูกออกแบบจาก outside in คือ ทำอย่างไรให้มีเครือข่ายที่รองรับความต้องการจากทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมได้ การมี Network Slicing จะทำให้มั่นใจได้ว่าทราฟฟิกหรือข้อมูลที่ส่งได้รับการบริหารจัดการที่ดีที่สุดบนเครือข่าย 5G" คุณจรัญกล่าว เครือข่าย 5G จาก AIS ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย AIS ได้เข้าไปร่วมพัฒนาและให้บริการ 5G สำหรับโซลูชัน Smart Manufacturing กับโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยแล้วหลายแห่ง อาทิ Bosch, SNC Former โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญและความพร้อมด้านเครือข่าย 5G ทั้งแบบ SA (Stand Alone) และ NSA (Non-Standalone) ที่ตอบโจทย์สำหรับอุตสาหกรรม ครอบคลุมแล้วทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ สนใจบริการจาก AIS Business ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดูแลท่าน หรือคลิก Ais Business
# อยู่ในโลกเสมือนก็หนีโฆษณาไม่พ้น Oculus เริ่มแสดงโฆษณาแบบ VR แล้ว โมเดลธุรกิจของ Facebook ทั้งองค์กรคือการโฆษณา ทำให้ Oculus เป็นหน่วยธุรกิจล่าสุดที่หนีไม่พ้น ต้องเริ่มแสดงโฆษณาในโลก VR กันบ้างแล้ว ผู้ใส่แว่น Oculus จะเริ่มเห็นการทดสอบโฆษณาในเกม VR โดยแสดงเป็นแบนเนอร์ในสภาพแวดล้อมเสมือน (สีเขียวในภาพตัวอย่าง) เมื่อเอาคอนโทรลเลอร์ชี้ไปที่แบนเนอร์ก็สามารถคลิกไปดูรายละเอียดได้ ตอนนี้เกมที่เริ่มทดสอบโฆษณาคือเกม Blaston และเกมอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง Facebook ให้เหตุผลของการโฆษณาในโลก VR ว่าต้องการสร้างรายได้เพิ่มเติมให้นักพัฒนาเกม VR และเป็นการสนับสนุนโครงการ VR ของบริษัทในระยะยาวด้วย ที่มา - Oculus
# Waymo ประกาศรับเงินทุนรอบใหม่อีก 2,500 ล้านดอลลาร์ Waymo บริษัทพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของ Alphabet ประกาศรับเงินทุนรอบใหม่ 2,500 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มผู้ลงทุนรอบนี้ได้แก่ บริษัทแม่ Alphabet, Andreessen Horowitz, AutoNation, Canada Pension Plan Investment Board, Fidelity, Magna, Mubadala, Perry Creek Capital, Silver Lake, กองทุนโดย T. Rowe Price Associates, Temasek และ Tiger Global เงินทุนรอบใหม่นี้ Waymo ระบุว่าจะนำมาพัฒนาเทคโนโลยี และขยายทีมงานให้มากขึ้น บริษัทยังเปิดเผยข้อมูลว่าการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ ตอนนี้ทำได้มากกว่าหลายสิบล้านไมล์ บนถนนใน 25 เมืองของอเมริกาแล้ว เมื่อเดือนเมษายน Waymo ได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้บริหาร โดยแต่งตั้งซีอีโอร่วมคือ Tekedra Mawakana และ Dmitri Dolgov ขึ้นมาแทนซีอีโอเดิม John Krafcik ที่มา: Waymo
# Radxa เปิดตัว Radxa Zero บอร์ดคอมจิ๋วเท่า Raspberry Pi Zero W Radxa เปิดตัว Radxa Zero โดยบอกว่าเป็นบอร์ดคอมพิวเตอร์ฝังตัวทางเลือกของ Raspberry Pi Zero W ที่มีขนาดเท่ากัน แต่ใช้ชิป Amlogic S905Y ทำให้ประมวลผลได้สูงถึง 2.0 GHz แรม LPDDR4 เริ่มต้น 512MB สูงสุด 4GB พอร์ตเป็น micro SD, micro HDMI, GPIO 40 ขา เข้ากันได้กับ Raspberry Pi, USB 3.0 Type C และ USB 2.0 Type C แถมรองรับ eMMC เริ่มต้น 8GB ถึง 128GB รองรับ Micro SD Card ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 15 ดอลลาร์ ถึง 45 ดอลลาร์ กำหนดวางขายในอีก 8 สัปดาห์ข้างหน้า ที่มา Radxa Fourm, CNX Software
# Lenovo เปิดตัว ThinkPad P15 Gen 2 และ P17 Gen 2 จีพียู RTX A5000, SSD สูงสุด 6TB นอกจาก ThinkPad P1 Gen 4 แล้ว Lenovo ยังเปิดตัวแล็ปท็อปเวิร์คสเตชันรุ่นอัพเกรดใหม่อีกสองรุ่น คือ ThinkPad P15 Gen 2 และ P17 Gen 2 ที่สามารถคอนฟิกสเปกได้สูงกว่า P1 Gen 4 ด้วย แต่ก็แลกมากับตัวเครื่องที่หนาและใหญ่ขึ้น รวมถึงน้ำหนักเยอะกว่ามาก ThinkPad P15 และ P17 ต่างกันเพียงขนาดและสเปกหน้าจอ (15.6 หรือ 17.3 นิ้ว) ส่วนสเปกนอกนั้นเหมือนกันหมด ดังนี้ ซีพียู Intel Core 11th gen หรือ Xeon สูงสุด 8 คอร์ 5.0 GHz แรม DDR4-3200MHz ความจุสูงสุด 128GB จีพียู NVIDIA RTX A5000 สตอเรจ M.2 SSD PCIe 4.0 ความจุสูงสุด 6TB มีสามสล็อต ทำ RAID 0/1 ได้ หน้าจอ รุ่น P15 จอขนาด 15.6 นิ้ว 16:9 ความละเอียด 1920x1080 (FHD) HDR หรือ 3840x2160 (UHD) OLED HDR 500 หรือ IPS HDR 400 ส่วนรุ่น P17 จอขนาด 17.3 นิ้ว 16:9 ความละเอียด 1920x1080 (FHD) หรือ 3840x2160 (UHD) HDR 400 พอร์ต Thunderbolt 4 (USB-C) สองพอร์ต, USB-C หนึ่งพอร์ต, USB-A 3.2 สองพอร์ต, HDMI 2.1, แจ็ค 3.5 มม., Ethernet, ช่องเสียบ Nano SIM, ช่องอ่าน smart card, ช่องอ่าน SD card การเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6E (AX) ใช้การ์ด Intel AX210, บลูทูธ 5.2, รองรับ 4G ด้วยโมเด็ม Quectel กล้องหน้า 720p รองรับ Windows Hello แบตเตอรี่ 94 วัตต์ชั่วโมง (รุ่นใหญ่กว่าไม่ได้แบตฯ เยอะกว่า) ขนาด รุ่น P15 ตัวเครื่องหนา 31.4 มม. หนักเริ่มต้น 2.87 กิโลกรัม ส่วนรุ่น P17 ตัวเครื่องหนา 32.4 มม. หนักเริ่มต้น 3.67 กิโลกรัม ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home/Pro/Pro Workstation, Ubuntu, RedHat หรือ Fedora รุ่น P15 และ P17 จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม ราคาเริ่มต้น 1,749 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 54,500 บาท) และ 1,779 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 55,500 บาท) ที่มา - Windows Central ภาพโดย Lenovo
# Spotify เปิดตัว Greenroom แอปสนทนาด้วยเสียงแนวเดียวกับ Clubhouse Spotify เปิดตัวแอปใหม่ Greenroom แอปโซเชียลเน็ตเวิร์คสนทนาด้วยเสียงแนวเดียวกับ Clubhouse โดย Spotify พัฒนา Greenroom ขึ้นจาก Locker Room ของ Betty Labs ที่ Spotify เพิ่งซื้อเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Greenroom จะเน้นกลุ่มลูกค้าสตรีมมิ่งของ Spotify ทั้งหมด 365 ล้านคน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าพรีเมียมหรือฟรี ซึ่งผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าแอปโดยใช้ Spotify จากนั้นก็สามารถโฮสต์ห้องหรือเข้าร่วมสนทนาในห้องใด ๆ ก็ได้ ซึ่งจากเดิม Locker Room จะโฟกัสที่กลุ่มกีฬา Greenroom จะเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับเพลงและ pop culture เข้าไปด้วย (ตามลักษณะของผู้ใช้ Spotify) นอกจากนี้ Spotify เตรียมเปิดตัว Creator Fund สำหรับเป็นกองทุนเพื่อให้ค่าตอบแทนผู้ออกไลฟ์ด้วย ผู้สนใจสามารถลงทะเบียน Creator Fund ได้ที่นี่ ที่มา - Engadget, Spotify
# เปิดตัว ThinkPad P1 Gen 4 แล็ปท็อปเวิร์คสเตชันใส่การ์ดจอได้ถึง RTX 3080 เริ่มต้น $2,099 Lenovo เปิดตัวแล็ปท็อปสายเวิร์คสเตชันรุ่นใหม่ ThinkPad P1 Gen 4 อัพเกรดสเปกให้ทันสมัย รองรับซีพียู Intel Core 11th gen หรือ Xeon หน้าจอแบบ 16:10 ขนาด 16 นิ้ว กล้องเว็บแคม 1080p และรองรับการเชื่อมต่อ 5G หากต้องการคอนฟิกให้มีจีพียู ก็มีให้เลือกระหว่าง NVIDIA RTX A5000 (สาย Quadro เดิม) หรือ RTX 3080 โดยมีสเปกเต็มๆ ดังนี้ ซีพียู Intel Core 11th gen หรือ Xeon สูงสุด 8 คอร์ 5.0 GHz แรม DDR4-3200MHz ความจุสูงสุด 64GB จีพียู NVIDIA RTX A5000 หรือ RTX 3080 สตอเรจ M.2 SSD PCIe 4.0 ความจุสูงสุด 4TB มีสองสล็อต ทำ RAID 0/1 ได้ หน้าจอ 16 นิ้ว 16:10 ความละเอียด 2560x1600 (QHD+) 100% sRGB หรือ 3840x2400 (UHD+) HDR 400 100% AdobeRGB พอร์ต Thunderbolt 4 (USB-C) สองพอร์ต, USB-A 3.2 สองพอร์ต, HDMI 2.1, แจ็ค 3.5 มม., ช่องเสียบ Nano SIM, ช่องอ่าน SD card การเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6E (AX) ใช้การ์ด Intel AX210, บลูทูธ 5.2, รองรับ 5G ด้วยโมเด็ม Qualcomm X55 กล้องหน้า 1080p รองรับ Windows Hello แบตเตอรี่ 90 วัตต์ชั่วโมง ขนาด ตัวเครื่องหนา 17.7 มม. หนักเริ่มต้น 1.81 กิโลกรัม ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home/Pro/Pro Workstation, Ubuntu, RedHat หรือ Fedora ราคาเริ่มต้นที่ 2,099 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 65,500 บาท เริ่มวางจำหน่ายเดือนกรกฎาคมนี้ ที่มา - Windows Central ภาพทั้งหมดโดย Lenovo
# ซีอีโอ Disney บอกเอง ยังไม่มีแผนทำ Disney+ ราคาถูกแบบมีโฆษณา ในอเมริกาผู้ให้บริการสตรีมมิ่งหลายราย เริ่มเพิ่มตัวเลือกค่าสมาชิกรายเดือนที่ถูกลง แต่แลกกับการชมแบบมีโฆษณาคั่นอย่างเช่น HBO Max หรือ Hulu อย่างไรก็ตามคงไม่ใช่กับ Disney+ อย่างน้อยก็ตอนนี้ Bob Chapek ซีอีโอดิสนีย์ได้ไปร่วมงานสัมมนาของ Credit Suisse โดยเขาถูกถามว่า Disney+ มีแผนจะเพิ่มตัวเลือกค่าสมาชิกที่ถูกลงแต่มีโฆษณาหรือไม่ Bob บอกว่ายังไม่มีแผนดังกล่าวตอนนี้ ดิสนีย์ยังพอใจกับรูปแบบค่าสมาชิกที่ทำอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ปิดกั้นโอกาสในอนาคต ทั้งนี้นักวิเคราะห์ที่ร่วมงานสัมมนาให้ความเห็นน่าสนใจว่าดิสนีย์เองก็มี Disney Channel ช่องโทรทัศน์เคเบิ้ลอยู่แล้ว ซึ่งมีโฆษณาคั่นรายการ ฐานลูกค้าดิสนีย์เองจึงน่าจะคุ้นเคยกับการรับชมรายการแบบมีโฆษณา ที่มา: The Verge
# แนะนำ Replaced เกมแอ็กชั่นไซเบอร์พังก์ กราฟฟิกพิกเซล 2.5D ในโลกยุค 80 สุดดาร์ก Replaced เกมแอ็กชั่นแพลตฟอร์มเมอร์มุมมองด้านข้าง สไตล์ภาพพิกเซลอาร์ตย้อนยุคผนวกกับกราฟฟิกแบบ 2.5D จากทีม Sad Cat Studios เปิดตัวในงาน E3 2021 เตรียมลง Xbox One, Xbox Series X|S, PC และจะร่วมอยู่ใน Xbox Game Pass ภายในปี 2022 ตัวเกมได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ เช่น Blade Runner 2049, Upgrade และ Alien โลกในเกมเป็นสไตล์ Retro-Futuristic ยุค 80 ที่แตกต่างออกไปจากยุค 80 อันสดใสในโลกจริง เนื่องจากตามประวัติศาสตร์ของเกม เหตุการณ์ทดลองนิวเคลียร์ Trinity ยุค 40 เกิดล้มเหลว ทำให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นโลกล่มสลาย ผู้เล่นรับบทเป็น R.E.A.C.H เอไอที่ติดอยู่ในร่างมนุษย์ ในเมือง Phoenix City ที่ปกครองโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ Phoenix Corp บริษัทเปลี่ยนแปลงอวัยวะมนุษย์ ที่หากินกับคนรวย ใช้คนจนเหมือนเป็นแหล่งอวัยวะพร้อมเปลี่ยนถ่าย และขับไล่ผู้ที่ไม่ยอมสยบใต้อำนาจไปอยู่นอกเขตกำแพงเมืองเพื่อให้เอาตัวรอดแบบตามมีตามเกิด แต่ Phoenix Corp เองก็อาจเป็นผู้ให้กำเนิด R.E.A.C.H ขึ้นมา งานอาร์ตที่เป็นเอกลักษณ์ ผนวกกับสไตล์เกมแอ็กชั่นแพลตฟอร์มเมอร์เท่ๆ และโลกยุค 80 แบบไซเบอร์พังก์ น่าจะทำให้ Replaced เป็นอีกเกมที่น่าติดตามในปีหน้า ที่มา - Xbox
# คุยกับนายกสมาคมซอฟต์แวร์เกมไทย TGA เกมไทยอยู่ตรงไหน ทำไมเงินไม่เข้านักพัฒนาไทย ผู้ที่ติดตามข่าวสารเกมไทย คงได้ยินข่าวการรีแบรนด์ของสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย หรือ TGA (Thai Game Software Industry Association)โดยมีคุณเนนิน อนันต์บัญชาชัย เป็นนายกสมาคมพร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ Blognone มีโอกาสได้สัมภาษณ์คุณเนนิน พูดคุยถึงเกมไทยหลายเรื่อง ตั้งแต่ เป้าหมายการรีแบรนด์ TGA, วิวัฒนาการคนเล่นเกม บทบาทของคุณเนนินก่อนจะมาเป็นนายกฯ สมาคม ความคาดหวังของตลาดเกมไทย และเป้าหมายของ TGA ก่อนมาเป็นนายกสมาคม คุณเนนิน คร่ำหวอดในวงการพัฒนาเกมอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่จบการศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังจากนั้นทำเกมกับเพื่อนๆ แข่งตามงานอีเว้นท์ต่างๆ ได้รางวัลชนะเลิศในงาน Thai Developer Challenge ปี 2008 ในปีเดียวกัน 2008 คุณเนนินตั้งบริษัทพัฒนาเกมเองในชื่อว่า Extend Interactive ตัวอย่างผลงานเกมของ Extend Interactive ที่โด่งดังเช่น A.R.E.S ขายได้ 2 แสนชุด, So Many Me เป็นผลงานเกมที่ไมโครซอฟท์ซื้อลิขสิทธิ์ไปลง Xbox One จนถึงเกมล่าสุดคือ Pandora Hunter เป็นเกมที่เริ่มกลับมาเจาะตลาดผู้เล่นไทย และผลงานเกมล่าสุดที่กำลังพัฒนาอยู่ คือ Morning Moon Village เป็นเกมแนวทำฟาร์ม จากการเป็นทั้งคนทำเกม และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเกม ทำให้คุณเนนิน รู้จักกลุ่มคนพัฒนาเกมและรู้จักวงการเกมไทยมาพอสมควร จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ได้เข้ามาเป็นผู้นำรุ่นใหม่ของ TGA เป้าหมายหลักของ TGA คือ เกมไทยต้องเป็นที่รู้จักมากขึ้น “เกมไทยต้องเป็นที่รู้จักมากขึ้น” คือสาเหตุสำคัญที่ต้องรีแบรนด์ TGA และตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ คุณเนนินเล่าว่าแต่เดิม TGA มีเป้าหมายยกระดับเกมคนไทยอยู่แล้ว แต่ด้วยลักษณะชุมชนคนทำเกมที่มักคุยกันเองในวงแคบ อาจไม่เพียงพอให้คนไทยทั่วไปรู้จักเกมไทยมากขึ้น จึงเริ่มต้นรีแบรนด์ TGA ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ที่เข้าถึงง่าย เพิ่มเติมด้วยการทำรายการเกม พูดคุยกับนักแคสต์เกม และอินฟลูเอนเซอร์ลงโซเชียล นำเสนอข่าวเกมไทยต่างๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงอัพเดตการทำงานสมาคมด้วยว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง TGA ยุคใหม่ยังคงเป้าหมายเดิมเรื่องยกระดับเกมคนไทยเอาไว้ แต่เพิ่มเติมภารกิจใหม่คือขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังคนเล่นเกมทั่วไป องค์กรและหน่วยงานภาครัฐด้วย เพื่อให้พวกเขาได้รู้จัก เข้าใจวงการเกมมากขึ้น ส่วนคณะกรรมการชุดใหม่ยังเป็นคนที่อยู่ในวงการพัฒนาเกม แต่ก็เลือกคนที่เข้าใจการตลาดเกมเพิ่มมาด้วย เพราะเป้าหมายใหม่ของ TGA คือทำให้เกมไทยเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้เล่นมากขึ้น การตลาดจึงสำคัญไม่แพ้กัน ตอนนี้สมาคม TGA มีบริษัทเกมไทยเป็นสมาชิกแล้วกว่า 50 บริษัท มีทั้งกลุ่มนักพัฒนาเกม และผู้จัดจำหน่าย (publisher) ตัวอย่างบริษัทสร้างเกมที่ดังๆ ในไทยอย่าง Home Sweet Home, Timelie ก็เป็นสมาชิกสมาคมด้วย รายชื่อคณะกรรมการ TGA ชุดปัจจุบันประกอบด้วย เนนิน อนันต์บัญชาชัย (บริษัท Extend Interactive) นายกสมาคม สำเร็จ วจนะเสถียร (บริษัท CASA W Production) อุปนายก ศรัณย์พัจน์ เสรีวิวัฒนา (บริษัท Cloud Colour Games) อุปนายก จัตุพร รักไทยเจริญชีพ (บริษัท Innova Interactive Studio) กรรมการ ณยศ มังคโลดม (บริษัท Teapot Studio) กรรมการ ปริเมธ วงศ์สัตยนนท์ (บริษัท Urnique Studio) กรรมการ กิตติพงษ์ ดวงดีไพศาล (บริษัท Shin-A Service) กรรมการ เม็ดเงินในตลาดเกมยังไม่เข้ากระเป๋าคนไทยเท่าที่ควร คุณเนนินให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมูลค่าการตลาดของเกมในประเทศไทยอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท เป็นการคำนวณจากตัวเลขการเติมเงินและการซื้อเกม แต่น่าเสียดายที่เม็ดเงินเข้ากระเป๋าผู้พัฒนาเกมไทยน้อยมาก ดังนั้นภารกิจหลัก TGA คือดันผู้ประกอบการและเกมไทยให้คนรู้จักมากขึ้น รวมถึงเข้าไปช่วยกระตุ้นผู้พัฒนาเกมไทยเรื่องการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์เกมของตัวเอง สิ่งที่ TGA พยายามทำคือเป็นสะพานเชื่อมระหว่างผู้พัฒนาเกมกับหน่วยงานรัฐว่าสามารถช่วยผู้ประกอบการได้อย่างไรบ้าง จากการพูดคุยที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับที่ดี เช่น DEPA, กระทรวงวัฒนธรรม และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ช่วยออกค่าใช้จ่ายจัดบูธในต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีงานออกบูธเพราะ COVID-19 ด้านมุมมองรัฐบาลที่มีต่อเกม คุณเนนินยืนยันว่า หลายหน่วยงานในรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นวงการเกมไทยขนาดนั้น แต่อาจมีอุปสรรคตรงที่เขาไม่เข้าใจวงการเกม ไม่เข้าใจธรรมชาติของธุรกิจในวงการนี้ จึงเป็นหน้าที่ TGA ที่ต้องสื่อสารให้รู้ว่า เกมไทยมีศักยภาพไปต่อได้อีกไกลมาก คนทำเกมไทยสู้ในตลาดมือถือยาก เพราะโดนกินรวบมาก่อนแล้ว จากประสบการณ์ในวงการเกม พบว่าคนทำเกมไทยขาดการแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และขาดการประชาสัมพันธ์ผลงานของตัวเอง ซึ่ง TGA ต้องเข้าไปช่วยจุดนี้ ช่วยสร้างและกระตุ้นให้เกิดชุมชนนักพัฒนาเกม กระตุ้นให้พวกเขาออกมาโฆษณาผลงานเกมของตัวเองมากขึ้น แต่ความท้าทายที่สุดของคนทำเกมไทยคือตลาดเกมมือถือ ซึ่งมีคาแรกเตอร์ต่างจากเกมพีซี, คอนโซลโดยสิ้นเชิง เกมมือถือตอนนี้ ถูกผูกขาดจากบริษัทเกมจากจีนและจากบริษัทใหญ่ในต่างประเทศมาระดับหนึ่งแล้ว มีช่องว่างให้นักพัฒนาเกมในไทยน้อยมาก ส่วนหนึ่งเพราะเกมมือถือเป็นตลาดเงินทุน ไม่เพียงเนื้อหาดี เล่นสนุก แต่การตลาดต้องแน่น เม็ดเงินโฆษณาต้องเยอะด้วย ถึงจะดึงผู้เล่นในมือถือได้ คุณเนนินมองว่าคนไทยเสียเปรียบจุดนี้ ช่องทางที่นักพัฒนาเกมไทยจะอยู่รอดได้คือเกมพีซีและคอนโซล ที่ผู้เล่นค่อนข้างเปิดรับเกมใหม่ๆ มากกว่า เกมของคนไทยมีโอกาสถูกพบเจอบนร้านขายเกมในพีซีมากกว่ามือถือ ภาพจาก Facebook Depa ในประเด็นการตลาดเกม มีข้อมูลเพิ่มจากคุณ ปริเมธ วงศ์สัตยนนท์ จากบริษัท Urnique Studio หรือคุณเจมส์ ผู้สร้างเกม Timelie และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ TGA เขียนโพสต์บน Facebook ว่า จริงๆ แล้วประเทศไทยเป็นกลุ่มตลาดเป้าหมายของเกมที่ใหญ่มาก อยู่ระดับสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน และอยู่ใน 20 อันดับแรกของโลกและส่วนใหญ่เป็นตลาดเกมมือถือ แต่การทำเกมมือถือสำหรับคนไทยเป็นไปได้ยาก เพราะตลาดมือถือแทบไม่มีที่ยืนให้สตูดิโอทำเกมไทยแล้ว ถูกกินรวบจากบริษัทใหญ่ในต่างประเทศ เกมดังบนมือถือส่วนใหญ่เป็นเกมเก่าที่ครองใจคนมาได้นาน พฤติกรรมผู้เล่นเองก็ไม่ได้เลื่อนหาเกมที่อยากเล่นบนร้านค้าแอปในมือถือแล้ว การเจาะตลาดมือถือได้จึงเป็นเรื่องของเงินลงทุนโฆษณาล้วนๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่การทำเกมลงพีซีมีความเป็นไปได้มากกว่า ในโพสต์ฉบับเต็มยังพูดถึงพฤติกรรมการซื้อเกมของคนไทย, การรับข่าวสารวงการเกมในยุคโซเชียลมีเดียที่มทำให้เกมอินดี้ถูกพบเจอได้ยากขึ้น สามารถอ่านเนื้อหาทั้งหมดได้ที่โพสต์ของคุณเจมส์ด้านล่าง ปัจจุบันมีเครื่องมือให้สร้างเกมเองได้ มีคณะเกี่ยวกับเกมโดยเฉพาะ คุณเนนินชี้ว่า อีกปัจจัยหนุนที่ช่วยให้มีสตูดิโอผลิตเกมไทยมากขึ้นคือเทคโนโลยีช่วยให้การทำเกมง่ายขึ้น มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการสร้างเกมเช่น Unity, Unreal ไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์แพงๆ ขอเพียงมีบัญชีนักพัฒนาเกมซึ่งสามารถสมัครได้ตามแพลตฟอร์ม Google Play, Steam, Xbox, Nintendo ก็สามารถสร้างเกมได้ทันที ภาพจาก Blog Unity สังคมไทยเองก็เริ่มมองเกมในภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น หากลองย้อนกลับไปสัก 15 ปีก่อน คำว่าเกมในสายตาผู้ใหญ่มันดูเลวร้าย และยิ่งลูกหลานบอกพ่อแม่ว่าอยากเป็นคนทำเกม หรืออยากเรียนเกี่ยวกับเกม ก็จะเจอคำถามว่าจะทำเงินได้ยังไง แล้วขายที่ไหน แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปแล้ว สังคมเริ่มเข้าใจว่าเกมคือสื่อแขนงหนึ่ง เป็นอีกธุรกิจหนึ่ง นอกจากนี้ เด็กๆ ที่ฝันอยากทำเกมก็มองเห็นทางเดินชัดเจนกว่าในอดีต มีคณะในมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนเกี่ยวกับเกมโดยเฉพาะ เช่น คณะไอซีที สาขาเกม ม.ศิลปากร, ม. รังสิต, ม. กรุงเทพ, ม.ศรีปทุม, ม.เกษตรศาสตร์ เป็นวิชาเลือก, ม.ธรรมศาสตร์, ม. บางมด ถือว่ามีพัฒนาการกว่าเมื่อก่อนมาก จากที่ต้องไปเรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แล้วมาหาทางกันต่อเอง ตอนนี้มีทิศทางชัดเจน อย่างน้อยถ้าเด็กอยากทำเกม เขาจะรู้ว่าต้องไปเรียนที่ไหน คุณเนนินมองว่า ภาพรวมเกมไทยตอนนี้กำลังไปได้ดี แต่ละสตูดิโอผลิตเกมออกมามากขึ้น ตกอยู่ปีละ 6-7 เกม ถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับในอดีต และผลิตมาด้วยคุณภาพที่ดีขึ้น มีเนื้อหาหลากหลาย ตั้งแต่เกมผีที่ถูกจริตคนไทย ไปจนถึงเกมเนื้อเรื่องแปลกใหม่อย่าง Timelie ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. ที่ผ่านมามีโครงการสำคัญที่จะเป็นหมุดหมายของการพัฒนาเกมไทยใหม่ๆ อีกในอนาคตคือ Depa Game Accelerator batch 1 รับสมัครคนทำเกมและคัดเลือกจนเหลือ 10 ทีม เพื่อมาประชันไอเดียเกมของตัวเอง โดยคุณเนนินและคณะกรรมการ TGA ส่วนหนึ่งเป็นหนึ่งในผู้ตัดสิน ทีมที่ชนะจะได้โอกาสต่อยอดเกมของตัวเองบนแพลตฟอร์ม Nintendo และยังได้รับการสนับสนุนชุดพัฒนาเกมให้ทีมที่ผ่านคัดเลือกด้วย ภาพจาก Facebook Depa คุณเนนินมองว่า การจัดงานครั้งนี้สร้างความประทับใจกว่าที่คิดไว้ ทีมที่เข้าแข่งขันสร้างเกมน่าประทับใจทั้งในแง่เล่นสนุก กราฟิกสวยงาม และในเชิงเทคนิคการสร้างเกมก็ไม่ง่ายเลย ซึ่งคาดหวังว่าจะได้เห็นสิ่งนี้ batch ต่อไปเรื่อยๆ สรุปภารกิจของ TGA ในระยะสั้นตามวาระคณะกรรมการสองปี คือทำให้เกมไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่มผู้เล่นที่เป็นกำลังซื้อสำคัญ และทำให้ TGA เป็นที่รู้จักในภาครัฐ หากรัฐมีนโยบายหรือวันหนึ่งอยากทำอะไรเกี่ยวกับเกมขึ้นมา เขาจะต้องนึกถึง TGA เป็นที่แรก ส่วนระยะยาว 5 ปี วางเป้าหมายไว้ว่า TGA จะมีโครงการที่เป็นกระบอกเสียงให้ชุมชนคนทำเกมไทย และมีคอมมูนิตี้เป็นของตัวเอง และผลักดันเกมไทยให้ประสบความสำเร็จในตลาดโลก
# Nintendo นำเกม Advance Wars และ Advance Wars 2: Black Hole Rising ฉบับรีเมคลง Switch Nintendo ประกาศนำเกมซีรีส์คลาสสิค Advance Wars และ Advance Wars 2: Black Hole Rising ในแบบฉบับรีเมคพร้อมกราฟิก 3D ใหม่ ลง Switch เปิดให้เล่น 3 ธันวาคมนี้ Advance Wars เป็นซีรีส์เกมแนววางแผนกลยุทธ์การต่อสู้ เปิดตัวเป็นครั้งแรกในช่วงปี 2000 ต้นๆ หรือสมัยที่เครื่อง Game Boy กำลังรุ่งเรือง โดยเวอร์ชั่นรีเมคนี้มาพร้อมกราฟิกสามมิติสวยงาม โดย Nintendo เปิดให้เล่นทั้งสองเกมในแพ็กเกจเดียวคือ Advance Wars 1+2: Re-Boot Camp ตัวเกมเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วในราคา 60 ดอลลาร์ ภาพจาก Nintendo ที่มา - The Verge
# Twitter เปิดรับความเห็น หากทำฟีเจอร์ห้ามคนอื่นเมนชั่นหาเรา จะลดการคุกคามได้หรือไม่ Twitter กำลังพัฒนาฟีเจอร์ลดปัญหาการคุกคามกันบนออนไลน์ โดยให้ผู้ใช้งานเข้ามามีส่วนร่วม ช่วยคิดว่าฟีเจอร์ที่ป้องกันได้ควรเป็นแบบไหน Dominic Camozzi ดีไซเนอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของ Twitter โพสต์รูปหน้าตาฟีเจอร์ป้องกันคุกคามหลายตัว และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้งาน เริ่มจาก Unmention yourself หรือการตั้งค่าไม่ให้คนอื่นเมนชั่นหาเรา เราจะได้มองไม่เห็นหากมีคนเอาชื่อเราไปคุกคาม หรือไม่อยากมีส่วนร่วมในประเด็นที่ชาวทวิตกำลังพูดคุยกัน นอกจากนี้ยังสามารถ Unmention yourself จากโพสต์ของคนที่เราไม่ได้ติดตามได้ ทันทีที่ตั้งค่า Unmention คนอื่นก็จะพิมพ์ชื่อเราเพื่อกล่าวถึงไม่ได้เช่นกัน ตั้งค่าไม่ให้ใครก็ตามเมนชั่นหาเราในช่วงระยะเวลาหนึ่งได้ ตั้งแต่ 1 วัน 3 วัน 7 วัน ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบ ระบุบัญชีที่ห้ามเมนชั่นมาในช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบนี้ได้ ในกรณีที่เป็นบัญชีคนดัง มีคนเมนชั่นหาเราเยอะ ระบบจะแสดงการแจ้งเตือนให้กดปุ่มเพื่อตั้งค่า Unmention ได้ ที่มา - TechCrunch
# Cyberpunk 2077 จะกลับมาบน PS Store วันที่ 21 มิถุนายนนี้ CD Projekt ออกประกาศอย่างเป็นทางการว่า Cyberpunk 2077 เตรียมกลับมาวางจำหน่ายบน PS Store ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ หลังมีปัญหาทางเทคนิคจนถูก Sony ถอดจากร้านค้า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2020 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 6 เดือน Sony Interactive Entertainment ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเว็บไซต์ Polygon ยืนยันข้อมูลเดียวกันนี้ แต่เตือนผู้ใช้ว่าผู้ที่เล่นบน PS4 รุ่นธรรมดา จะยังเจอปัญหาที่ต้องรอ CD Projekt Red ปรับปรุงอยู่ และแนะนำให้เล่นบน PS4 Pro หรือ PS5 แทน ที่มา - CD Projekt, Polygon
# Next.js ออกเวอร์ชั่น 11 รองรับการทำภาพเบลอระหว่างโหลดอัตโนมัติ เพิ่มตัวย้ายแอปจาก React โครงการ Next.js เฟรมเวิร์คสำหรับการพัฒนาเว็บ ReactJS แบบ sever-side rendering (SSR) โดยมีฟีเจอร์สำคัญ ได้แก่ รองรับ ESLint สามารถตรวจหาปัญหาของเฟรมเวิร์คได้ล่วงหน้า แพ็กเกจ Image ใหม่สามารถปรับขนาดภาพได้เอง, ทำภาพความละเอียดต่ำเพื่อให้แสดงผลได้เร็ว รองรับการย้ายแอป ReactJS ที่สร้างจากคำสั่ง Create React App มาเป็น Next.js อัตโนมัติ สามารถแปลง router กลายเป็นไฟล์ในโฟลเดอร์ pages ตามแนวทางของ Next.js ปรับปรุงประสิทธิภาพเวลาเริ่มแอปลดลง 24% ปรับปรุงกระบวนการโหลดสคริปต์ กำหนดแนวทางโหลดสคริปต์ส่วนต่างๆ เช่น ก่อนผู้ใช้เริ่มใช้งาน (beforeInteractive) สำหรับสคริปต์ที่จำเป็น และหลังผู้ใช้ใช้งานไปแล้ว (afterInteractive) สำหรับสคริปต์เช่นระบบ analytics นอกจากฟีเจอร์ของ Next.js เองแล้วทาง Vercel ยังเปิดบริการ Next.js Live บริการโค้ดบนเว็บแบบทำงานร่วมกันหลายคน โดยตอนนี้ยังเป็นบริการระดับพรีวิวอยู่ Next.js 11 ต้องการ React 17 ขึ้นไป และมีการถอดฟีเจอร์เก่าๆ บางส่วนออกควรตรวจสอบเอกสารการอัพเกรดก่อนเริ่มใช้งาน ที่มา - Next.js
# Shin Megami Tensei V วางจำหน่ายบน Nintendo Switch 12 พฤศจิกายนนี้ Shin Megami Tensei V เกมแอ็กชั่นอาร์พีจีจับมอนสเตอร์ จากทีม Atlus ที่ไปสร้างเกม Persona จนหลายคนนึกว่าลืม Shin Megami Tensei V ไปแล้ว เพราะภาค IV วางจำหน่ายในปี 2013 และภาค V ก็เปิดตัวตั้งแต่ปี 2017 แต่ในที่สุดตัวอย่างใหม่ช่วง Nintendo ในงาน E3 2021 ก็เผยวันวางจำหน่าย 12 พฤศจิกายนนี้ เป็นเกมเอ็กซ์คลูซีฟบน Nintendo Switch และวางจำหน่ายพร้อมกันทั้งเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ ใน Shin Megami Tensei V ตัวเอกเป็นนักเรียนมัธยมที่ถูกดึงไปยังกรุงโตเกียวต่างมิติ ที่เป็นโลกหลังภัยพิบัติ เต็มไปด้วยเทวทูตและปีศาจ ก่อนจะได้รับพลัง เพื่อต่อสู้กับปีศาจเหล่านี้ หรือชวนมาเป็นพวกได้ผ่านการเจรจาแลกบางสิ่ง รวมถึงยังมีระบบฟิวชั่น รวมร่างปีศาจสองชนิดเพื่อสร้างปีศาจชนิดใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าอีกด้วย ที่มา - Nintendo Direct
# Life is Strange: True Colors ขาย 10 กันยายน, Remastered Collection 30 กันยายนนี้ ลง Switch ปลายปี Life is Strange: True Colors ภาคใหม่ของเกมผจญภัยเน้นเนื้อเรื่องที่พูดถึงปัญหาทั้งชีวิตและอารมณ์ของวัยรุ่น ผนวกกับพลังพิเศษเหนือธรรมชาติเล็กน้อย (ภาคแรกได้คะแนนไป 83 คะแนนจาก Metacritic) เตรียมวางขายบน PlayStation 4, PlayStation 5, PC, Xbox One, Xbox Series X|S และ Nintendo Switch วันที่ 10 กันยายนนี้ ภาค True Colors ผู้เล่นจะได้เล่นเป็น Alex Chen วัยรุ่นหญิงเชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน มีพลังพิเศษแตกต่างจาก Max ในภาคก่อนๆ คือพลังรับรู้ความรู้สึกในจิตใจผู้อื่น ที่ Alex มองว่ามันเป็น “คำสาป” และพยายามหลักเลี่ยงการใช้งาน จนกระทั่งเหตุการณ์น่าเศร้าบางอย่างทำให้เธอต้องใช้พลังนี้เพื่อค้นหาความจริง ส่วน Life is Strange Remastered Collection ภาครีมาสเตอร์ของภาคแรก รวม Life Is Strange, Life is Strange: Before the Storm และ Life is Strange 2 ปรับปรุงโมชั่นแคปเจอร์ใบหน้าตาของตัวละคร ปรับปรุงเอนจิ้น แสงเงา และแอนิเมชั่น เตรียมลง PlayStation 4, PlayStation 5, PC, Xbox One, Xbox Series X|S วันที่ 30 กันยายนนี้ และจะลง Nintendo Switch ตามหลังในช่วงปลายปี (ยังไม่ระบุวันที่ชัดเจน) ที่มา - Polygon
# Google เปิดตัว Search Console Insights แสดงผลว่าเนื้อหาใดในเว็บของเราที่ประสิทธิภาพดีบน Google ปัจจุบัน Google มีเครื่องมือ Search Console เป็นบริการฟรีจาก Google ชื่อเดิมคือ Webmaster Tools ที่ช่วยตรวจสอบและติดตามเว็บไซต์ที่ปรากฏในผลการค้นหา ล่าสุด Google เปิดตัว Search Console Insights ผสานความสามารถของ Search Console และ Google Analytics เข้ามาเสริมเพื่อให้ภาพรวมว่าเว็บไซต์ของผู้ใช้งานนั้นแสดงผลบน Google ได้ดีขนาดไหน และผลงานชิ้นไหนที่กำลังขึ้นเทรนด์ในขณะนี้ Google ระบุว่า ความสามารถหลักของ Search Console คือช่วยให้คนสร้างงานรู้ว่า เนื้อหาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดของเราคืออะไร, เนื้อหาชิ้นใหม่มีประสิทธิภาพอย่างไร, ผู้คนค้นพบเนื้อหาบนเว็บได้อย่างไร, ผู้คนค้นหาอะไรใน Google ก่อนเข้าชมเนื้อหาของเรา และบทความใดมีการอ้างอิงผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์และเนื้อหาของเราบ้าง โดยทั้งหมดเสนอผ่านหน้าตาการใช้งานที่ง่าย จากรูปภาพจะมองเห็นว่าระบบแสดงหน้าตาเนื้อหาที่ได้รับความนิยม นอกเหนือจากกราฟ สถิติตัวเลข ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมง่ายขึ้น Google ระบุด้วยว่า ผู้ที่ปกติแล้วไม่ได้ใช้งาน Google Analytics ก็สามารถใช้งาน Search Console Insights ได้ แต่เพื่อประสบการณ์ที่ดีควรเชื่อมบัญชีเว็บไซต์ทั้งใน Google Analytic และ Search Console ด้วย ที่มา - Google
# Krafton บริษัทแม่ของ PUBG เตรียมขายหุ้น IPO มุลค่าสูงสุดของเกาหลีใต้ Krafton บริษัทเกมเกาหลี และบริษัทแม่ของ PUBG ยื่นเอกสารเตรียมขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ คาดว่าจะระดมทุน 5.6 ล้านล้านวอน (ราว 5 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งจะกลายเป็นสถิติใหม่ของ IPO ในเกาหลีใต้ ทำลายสถิติเดิมของบริษัทประกันชีวิต Samsung Life ในปี 2010 ที่ 4.9 ล้านล้านวอน ชื่อเดิมของ Krafton คือ Bluehole ก่อตั้งในปี 2007 ก่อนมาประสบความสำเร็จระดับโลกกับ PlayerUnknown's Battlegrounds (PUBG) ในปี 2017 ทำให้ Bluehole จัดโครงสร้างองค์กรใหม่ในปี 2019 ตั้งบริษัทแม่ Krafton มาดูแลสตูดิโอภายในทั้งหมด 5 สตูดิโอ ได้แก่ Bluehole, PUBG, RisingWings, Striking Distance, Dreamotion ผลงานเกมอื่นๆ ของ Krafton ได้แก่ Tera, Elyon, Mistover และเกมมือถือ Golf King, Bowling King ที่มา - Reuters
# หลุดไฟล์ Windows 11 เวอร์ชันทดสอบ ปุ่ม Start ย้ายมาอยู่ตรงกลางเหมือน Windows 10X จากกระแสข่าว Windows เวอร์ชันใหม่เรียก Windows 11 เมื่อคืนนี้มีไฟล์ build image ของ Windows 11 หลุดมาก่อนกำหนด ทำให้มีสื่อต่างประเทศหลายรายมีโอกาสได้ทดสอบกัน ข้อมูลใน build image นี้ยืนยันชื่อว่าเป็น Windows 11 จริงๆ การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือหน้าตาของปุ่ม Start และไอคอนที่ย้ายมาอยู่ตรงกลางของ Task Bar เหมือนกับดีไซน์ของ Windows 10X ก่อนหน้านี้ (มีคนลองเล่นแล้วพบว่าสามารถเปลี่ยนกลับเป็นชิดซ้ายแบบเดิมได้) เมื่อกดเปิด Start Menu มาแล้วจะเห็นเฉพาะไอคอนแอพที่ปักหมุด (Pinned) และแอพที่แนะนำ (Recommended) เท่านั้น ต้องกดปุ่ม All apps ถึงจะเห็นรายการแอพทั้งหมด แนวทางดีไซน์ของ Windows 11 ใช้เอฟเฟคต์ภาพเบลอมากขึ้น มีแอนิเมชันเยอะขึ้น ขอบหน้าต่างกลายเป็นมุมโค้ง สามารถจัดกลุ่มหน้าต่างได้หลายแบบ (เป็นพัฒนาการของ Windows Snap ในปัจจุบัน) ในแง่ฟีเจอร์ของเดสก์ท็อปมีระบบ Widgets ที่ต้องกดปุ่มก่อนแล้วจะเลื่อนโผล่มาจากขอบด้านซ้าย (คล้ายกับของ macOS ในปัจจุบัน แต่เลื่อนมาจากคนละข้าง) มิติอื่นๆ ของ Windows 11 ไม่ต่างจาก Windows 10 ในปัจจุบันมากนัก ไม่ว่าจะเป็น Settings หรือ File Explorer ที่หน้าตาเหมือนเดิม (ยกเว้นเปลี่ยนไอคอนใหม่) ที่มา - Windows Central
# ฟีเจอร์ใหม่ Android กดดาวข้อความแชทสำคัญ, ค้นหาย้อนหลังง่าย, สั่งงานเสียงขณะมองจอ นอกจาก Google กำลังทยอยเปิดใช้งานเข้ารหัสใน Google Messages แล้ว ยังประกาศเปิดตัว 6 ฟีเจอร์ใหม่บน Android ด้วย Google Messages สามารถกดดาวที่ข้อความแชทได้ กรณีที่ข้อความนั้นมีความสำคัญทำให้สะดวกเมื่อต้องกลับมาค้นหาข้อความสำคัญในแชทนั้น จะเริ่มทยอยเปิดใช้งานในช่วงสัปดาห์ถัดไป Contextual Emoji Kitchen หรือการแนะนำอีโมจิให้สอดคล้องกับข้อความที่สื่อออกไปได้โดยไม่ต้องเสียเวลาหา โดยกดปุ่มอีโมจิหลังจากพิมพ์ข้อความเสร็จแล้ว ระบบแนะนำชุดอีโมจิที่สอดคล้องกันให้ พร้อมใช้งานใน Gboard เบต้าแล้ววันนี้ รองรับการใช้งานภาษาอังกฤษ สเปน และโปรตุเกสในอุปกรณ์ที่ใช้ Android 6.0 ขึ้นไป ตรวจจับการจ้องหน้าจอและใช้งานเสียงสั่งงานได้ เป็นฟีเจอร์เพื่อการใช้งานสำหรับผู้พิการที่มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว เมื่อผู้ใช้มองหน้าจอ ระบบจะตรวจจับได้ หลังจากนั้นก็สามาาถใช้เสียงสั่งการได้ เช่นสั่งให้ใส่รหัสผ่านโดยการพูดตัวอักษรทีละตัว สั่งให้เลื่อนหน้าจอขึ้นลง ขณะนี้ยังเปิดใช้งานในช่วงทดลอง อีกสามฟีเจอร์ที่เพิ่มมาใหม่คือ ขยายระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวหรือ Android Earthquake ไปยังตุรกี ฟิลิปปินส์ คาซัคสถาน สาธารณรัฐคีร์กีซ ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน หลังจากเปิดใช้งานที่นิวซีแลนด์และกรีซมาแล้ว, ใช้ Google Assistant สั่งงานในแอปออกกำลังกาย Strava ได้, จัดการตกแต่งหน้าจอ Android Auto ได้จากมือถือ เพิ่มแท็บให้ค้นหาคอนเทนต์ง่ายขึ้น ที่มา - Google
# Google Messages ทยอยให้ทุกคนใช้งานแชทเข้ารหัสแล้ว ใช้ได้เฉพาะห้องแชท 1:1 Google ทดสอบการใช้งานเข้ารหัสใน Google Messages มาตั้งแต่ปลายปี 2020 ล่าสุด Google ทยอยเปิดใช้งานใน Android แล้ว แต่ยังจำกัดการใช้งานในห้องแชทตัวต่อตัว นอกจากนี้ ผู้ใช้ต้องเปิดการใช้งานสมบัติ RCS Chat เสียก่อนถึงจะใช้งานเข้ารหัสได้ วิธีการคือเข้าไปที่เมนูตั้งค่า เลือก Chat Features และเปิดสวิตช์ใช้งาน Enable Chat Features เมื่อทำการเปิดใช้งานแล้วจะมองเห็นไอคอนรูปกุญแจในช่องแชท ที่มา - Gizmodo
# Oracle ไตรมาสล่าสุด ธุรกิจ ERP คลาวด์ ยังเติบโตสูงต่อเนื่อง ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2021 (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) รายได้ในไตรมาสเพิ่มขึ้น 8% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 11,227 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 4,033 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขรายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจนั้น รายได้จากค่าบริการบนคลาวด์และค่าสนับสนุนไลเซนส์ เพิ่มขึ้น 8% เป็น 7,389 ล้านดอลลาร์ และรายได้จากการขายไลเซนส์คลาวด์และออนพรีมิส เพิ่มขึ้น 9% เป็น 2,144 ล้านดอลลาร์ Safra Catz ซีอีโอออราเคิลกล่าวว่าผลิตภัณฑ์ Fusion และ NetSuite ยังเติบโตสูง โดย Fusion ERP เพิ่มขึ้น 46%, Fusion HCM เพิ่มขึ้น 35% และ NetSuite ERP เพิ่มขึ้น 26% ส่วนรายได้จาก Gen2 Cloud Infrastructure ซึ่งรวม Autonomous Database เติบโตมากกว่า 100% ที่มา: ออราเคิล ภาพ Oracle OpenWorld
# Nintendo เตรียมขายเกมกด Game & Watch เวอร์ชัน Zelda ฉลองครบรอบ 35 ปี รวมเกม 3 ภาค หน้าจอสี เมื่อปีที่แล้วนินเทนโดฉลองครบรอบ 35 ปี Super Mario Bros. โดยสิ่งหนึ่งคือการขายเกมกด Game & Watch รวมเกม Super Mario Bros. มาปีนี้ The Legend of Zelda มีอายุครบ 35 ปี นินเทนโดจึงทำเกมกด Game & Watch จอสี ออกมาขายด้วยเช่นกัน เกมกดของ Zelda นี้ รวมเกม Zelda เอาไว้ทั้งหมด 3 ภาค ได้แก่ The Legend of Zelda ภาคแรก, The Adventure of Link ภาคสอง และ Link's Awakening (ภาคแรกใน Game Boy) รวมทั้งมีเกมย่อย ที่เป็นเกมนาฬิกา Heroics of time และเกมตีตัวตุ่น Vermin อีกด้วย Game & Watch: The Legend of Zelda เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ราคาขายในญี่ปุ่น 5,480 เยน และในอเมริกา 49.99 ดอลลาร์ ที่มา: CNET
# Nintendo เปิดตัว Metroid Dread ลง Switch เริ่มขายตุลาคมนี้ ในงาน Nintendo Direct E3 2021 นินเทนโดได้เปิดตัวเกมในซีรี่ส์ Metroid ภาคใหม่ชื่อ Metroid Dread กำหนดวางขายในวันที่ 8 ตุลาคม 2021 นี้ Metroid Dread จะเป็นเกมที่มีการควบคุมในรูปแบบ 2D ครั้งแรกในรอบ 19 ปี สำหรับชื่อภาค Dread นั้นไม่ใช่ชื่อใหม่แต่อย่างใด เพราะเคยมีข่าวลือของชื่อเกมภาคนี้ตั้งแต่ปี 2007 แต่สุดท้ายก็ไม่มีเกมดังกล่าวออกมา นินเทนโดยังอัพเดตความคืบหน้าของ Metroid Prime 4 ที่เคยเปิดตัวเมื่อปี 2017 และต่อมาประกาศรีเซ็ตแผนพัฒนาเกมนี้ทั้งหมด แล้วให้ Retro Studios ผู้ผลิตเกม 3 ภาคแรก มาดูแลโครงการนี้อีกครั้ง ว่าเกมยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ที่มา: The Verge และ IGN
# Nintendo เผยเทรลเลอร์ล่าสุดของภาคต่อ The Legend of Zelda: Breath of the Wild ในงานแถลงข่าว Nintendo Direct ของ E3 2021 นินเทนโดได้เผยแพร่เทรลเลอร์ใหม่ล่าสุดของภาคต่อ The Legend of Zelda: Breath of the Wild ที่ประกาศไปเมื่อสองปีที่แล้ว (และไม่มีข้อมูลใดเพิ่มเติม) ข้อมูลที่เปิดเผยเพิ่มเติมมีเพียงคำบอกใบ้ว่า การผจญภัยของ Link ครั้งนี้ มีทั้งใน Hyrule และท้องฟ้าที่อยู่ข้างบนนั้น โดยเกมกำหนดวางขายในปีหน้า 2022 แต่ยังไม่ระบุวัน นินเทนโดยังระบุว่าปีนี้เป็นการฉลองครบรอบ 35 ปี ของซีรี่ส์เกม Zelda ซึ่งจะมีประกาศอื่นเพิ่มเติมออกมา โดยที่ประกาศไปแล้วคือรีมาสเตอร์ The Legend of Zelda: Skyward Sword HD กำหนดวางขาย 16 กรกฎาคมนี้ ที่มา: Gamespot
# Tim Berners-Lee เตรียมนำโค้ดชุดแรกของเวิล์ดไวด์เว็บออกประมูล NFT รายได้บริจาคการกุศล สำนักข่าว BBC รายงานว่า Tim Berners-Lee ผู้ให้กำเนิดเวิล์ดไวด์เว็บเตรียมเปิดประมูลซอร์สโค้ดแรกของเวิล์ดไวด์เว็บเป็น NFT โดยเขาและภรรยาจะนำรายได้จากการประมูลไปบริจาคให้องค์กรการกุศล การประมูลจะจัดขึ้นโดย Sotheby's เริ่มต้นที่ 1,000 ดอลลาร์ในวันที่ 23 มิถุนายนเวลาบ่ายสองโมงตามเขตเวลา EST ซึ่งตรงกับเวลาตีหนึ่งของวันที่ 24 มิถุนายนตามเวลาประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่จะนำออกประมูลมีซอร์สโค้ดราว 1 หมื่นบรรทัด (รวม HTML, HTTP และ URI), คำอธิบายเว็บเพจชุดแรก, visualization ของโค้ด และจดหมายจาก Berners-Lee ที่อธิบายความสำคัญ และดิจิทัลโปสเตอร์เขียนด้วย Python โดยเขาเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกเซ็นด้วยลายเซ็นดิจิทัลโดย Berners-Lee สำหรับรายได้ที่ได้จากการประมูลซอร์สโค้ดครั้งนี้ Berners-Lee และภรรยาจะนำไปบริจาคให้องค์กรการกุศลที่ทั้งคู่เลือกเอง ตัว Berners-Lee ไม่เคยทำเงินโดยตรงจากการพัฒนาเวิล์ดไวด์เว็บเลย และ CERN ที่เขาทำงานให้ในตอนนั้นก็โอเพ่นซอร์สเทคโนโลยีเป็น public domain ในปี 1993 ซึ่งจากความนิยมในระบบเวิล์ดไวด์เว็บนี้ก็บ่งบอกได้ว่าซอร์สโค้ดนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ค่อนข้างมาก Berners-Lee ระบุว่า เขาเลือกการประมูลผ่าน NFT เพราะรู้สึกว่า NFT มีความหมายมากที่สุดในการป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มา - Engadget, BBC Tim Berners-Lee ภาพจาก Wikimedia
# [Counterpoint Research] ตลาดแท็บเล็ต Q1/2021 ยังเติบโตสูง, Apple ครองส่วนแบ่งตลาด 37% บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint Research รายงานภาพรวมตลาดแท็บเล็ตทั่วโลก ของไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2021 ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 53% เทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2020 แต่ลดลง 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2020 ซึ่งเป็นไตรมาสที่ยอดส่งมอบสูงสุดในรอบ 5 ปี แอปเปิลและซัมซุง เป็นผู้ผลิตสองรายใหญ่ อันดับ 1-2 ที่ต่างก็มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น จากการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา และจากภาพรวมตลาดที่มีการแข่งขันไม่สูง เนื่องจากผู้ผลิตรายเล็กส่วนใหญ่ถอนตัวไปจากตลาดก่อนหน้านี้ แอปเปิลมีส่วนแบ่งการตลาด 37% และทำยอดขายในญี่ปุ่นทำสถิติสูงสุดใหม่ ข้อมูลน่าสนใจจากนักวิเคราะห์ของ Counterpoint คือ 56% ของยอดขายมาจาก iPad รุ่น entry ตามด้วย iPad Air และ iPad Pro ที่ 19% และ 18% ตามลำดับ ที่มา: Counterpoint Research
# อินเทลเปิดตัว IPU ชิปประมวลผลเครือข่าย ใช้ FPGA ช่วยเร่งความเร็ว แบ่งเบาภาระซีพียู อินเทลเปิดตัวหน่วยประมวลผลแบบใหม่ที่เรียกว่า infrastructure processing unit (IPU) สำหรับศูนย์ข้อมูล มันมีหน้าที่ประมวลผลด้านการสื่อสาร ดึงงานด้านนี้ออกมาจากซีพียู ในสายงานเครือข่ายมีหน่วยประมวลผล SmartNIC อยู่แล้ว สิ่งที่อินเทลเพิ่มเข้ามาคือการผนวกชิปที่โปรแกรมได้อย่าง FPGA และตัวช่วยเร่งการประมวลผล (infrastructure acceleration) ที่ออกแบบตามโหลดงานยุคใหม่ เช่น storage virtualization, network virtualization, security ผลดีของการใช้ IPU คือลดโหลดของซีพียูลง เพราะลดงานด้านสตอเรจและเครือข่ายมาไว้ที่ IPU, ประสิทธิภาพการประมวลผลดีขึ้นเพราะชุดคำสั่งออกแบบมาเฉพาะ, ระบบโดยรวมปลอดภัยและเสถียรขึ้น อินเทลระบุว่าใช้งาน IPU แบบ FPGA กับผู้ให้บริการคลาวด์บางรายมาระยะหนึ่งแล้ว (ที่ระบุชื่อคือ Azure) และกำลังทดสอบ IPU เวอร์ชัน ASIC อยู่ด้วยเช่นกัน ที่มา - Intel
# Chrome OS ปรับรอบการออกให้เร็วขึ้นเป็น 4 สัปดาห์ ตามรอบแบบใหม่ของ Chrome กูเกิลประกาศปรับรอบ Chrome OS จากเดิม 6 สัปดาห์ให้เร็วขึ้นเป็น 4 สัปดาห์ ตามแนวทาง Chrome ที่ประกาศไว้เมื่อเดือนมีนาคม Chrome จะเริ่มปรับรอบใน Chrome 94 ที่จะออกในไตรมาส 4/2021 แต่กรณีของ Chrome OS จะปรับตามทีหลังในเวอร์ชัน 96 ส่งผลให้มีช่องว่างของเวลาที่เหลื่อมกัน ทางแก้ของกูเกิลคือจะยกเลิก Chrome OS เวอร์ชัน 95 ไปเลยเพื่อให้รอบเวลาซิงก์กัน นอกจากนี้ Chrome OS จะแยกรอบการออกเป็น 2 แบบคือ รอบปกติทุก 4 สัปดาห์ เน้นเร็ว ออกฟีเจอร์ใหม่บ่อยๆ และรอบออกทุก 6 เดือนเพื่อตลาดองค์กร-ภาคการศึกษา ที่มา - Chromium Blog
# Amazon ขยายเทคโนโลยีร้านค้าไม่มีแคชเชียร์ สู่ซูเปอร์มาร์เก็ต Amazon Fresh ที่ใหญ่ขึ้น Amazon ประกาศนำเทคโนโลยีร้านค้าแบบไม่มีแคชเชียร์ ที่ลูกค้าสามารถเดินเข้ามาหยิบสินค้าแล้วเดินออกไปได้เลย ซึ่ง Amazon ใช้ชื่อว่า Just Walk Out จากเดิมมีในร้าน Amazon Go ขยายมาสู่ซูเปอร์มาร์เก็ต Amazon Fresh ที่มีขนาดพื้นที่ร้านใหญ่ขึ้นถึง 25,000 ตารางฟุต (ประมาณ 2,300 ตารางเมตร) มากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต Amazon Go Grocery ที่เปิดเมื่อปีที่แล้วมากกว่าเท่าตัว Amazon Fresh สาขาแรกที่ใช้เทคโนโลยี Just Walk Out นี้ เป็นสาขาใหม่แห่งที่ 14 ในอเมริกา ตั้งอยู่ในเมืองเบลล์วิว รัฐวอชิงตัน กำหนดเปิดให้บริการ 17 มิถุนายนนี้ Dilip Kumar รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีร้านค้าของ Amazon บอกว่าร้านค้าแห่งใหม่ในเมืองเบลเลอวูนี้ จะเป็นการนำเสนอตัวอย่างว่าเทคโนโลยี Just Walk Out สามารถสเกลไปกับร้านค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมทั้งทำงานได้ในสภาพแวดล้อม การจัดวางสินค้าที่แตกต่างออกไป แต่ยังคงให้ประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าในการเลือกซื้อของได้ ที่มา: Amazon
# Apple TV+ ลดเงื่อนไขดูฟรีเหลือ 3 เดือน เมื่อซื้ออุปกรณ์ Apple ใหม่ มีผลเดือนหน้า ที่ผ่านมาบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง Apple TV+ ของแอปเปิล มีโปรโมชันสำหรับผู้ซื้อฮาร์ดแวร์ใหม่ของแอปเปิล ให้ใช้งานได้ฟรีเป็นเวลา 1 ปี (ปกติค่าบริการรายเดือน 99 บาท และสามารถซื้อรวมใน Apple One ได้) อย่างไรก็ตามในเว็บไซต์แอปเปิลระบุว่าโปรโมชันดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โปรโมชันใหม่จะเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป โดยผู้ซื้อฮาร์ดแวร์ใหม่ของแอปเปิล จะสามารถสมัครรับชม Apple TV+ ได้ฟรี เป็นเวลา 3 เดือน Apple TV+ เริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2019 และทำโปรโมชันดูฟรี 1 ปี มาโดยตลอด ที่ผ่านมาแอปเปิลมีเฉพาะคอนเทนต์ออริจินัลที่ผลิตเอง และไม่เคยเปิดเผยจำนวนสมาชิกอย่างเป็นทางการ มีคอนเทนต์ที่สร้างชื่อเสียงอาทิ The Morning Show, Ted Lasso และ See ที่มา: MacRumors
# Turtle Beach ผู้ผลิตอุปกรณ์เกมมิ่ง เตรียมขายจอยสำหรับเกมขับเครื่องบิน ราคา 350 ดอลลาร์ Turtle Beach บริษัทผลิตอุปกรณ์เกมมิ่งชื่อดัง มีชื่อเสียงหลักจากหูฟังเกมมิ่ง เตรียมวางขายคอนโทรลเลอร์แบบพวงมาลัยและคันบังคับสำหรับเกมขับเครื่องบิน ชื่อ VelocityOne Flight ใช้ได้กับทั้งพีซีและ Xbox เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB ราคา 350 ดอลลาร์ (แพงกว่าเครื่อง Xbox Series S ที่ราคา 299 ดอลลาร์) VelocityOne Flight ผลิตโดยได้คำแนะนำจากวิศวกรการบินและนักบิน เพื่อให้ประสบการณ์ที่สมจริงกับผู้เล่นที่สุด มาพร้อมปุ่ม 18 ปุ่มที่สามารถตั้งค่าปรับเปลี่ยนได้เอง พวงมาลัยโยกได้ 180 องศา มีหน้าจอแสดงสถานะเช่นระยะเวลาบิน สนามบินปลายทาง มีสวิตช์ POV และสวิตช์ HAT แบบสี่ทางข้างละสวิตช์ มีตัวควบคุมหางเสืออยู่ด้านหลังพวงมาลัย ด้านขวามีคันโยกควบคุมความเร็วแบบ modular throttle quadrant และ trim wheel มีตัวควบคุมทั้งแบบ vernier-style และ lever controls พร้อมหัวเปลี่ยนได้สำหรับเครื่องบินแบบปีกหมุนและเครื่องเจ็ท บนแผงด้านหลังมีจอแสดงสถานะอื่นๆ เช่นไฟลงจอด สถานะของล้อ และมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร แต่น่าเสียดายที่ไม่มีระบบสั่น VelocityOne Flight เตรียมวางจำหน่ายช่วงฤดูร้อนปีนี้ (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม) รองรับเกม Microsoft Flight Simulator 2020 เวอร์ชั่นพีซีและเวอร์ชั่น Xbox Series X|S รวมถึงเกมแนว Flight Sim เกมอื่นๆ ที่มา - The Verge
# บริษัทแม่ของ WordPress.com เข้าซื้อ Day One แอปจดบันทึกส่วนตัวบน iPhone และ Mac Automattic บริษัทแม่ของ WordPress.com เข้าซื้อ Day One แอปจดบันทึกสำหรับ iPhone และ Mac เป็นแอปจดบันทึกส่วนตัวใช้งานฟรี มีเทมเพลตและ UI สวยงาม สามารถแนบรูปภาพและแผนที่ได้ ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดไปใช้แล้ว 15 ล้านครั้ง การเข้าซื้อจะช่วยให้เนื้อหาที่เขียนลงใน Day One สามารถอิมพอร์ตมาที่ WordPress หากผู้เขียนอยากแชร์เรื่องนี้ให้คนอื่นได้อ่านบ้าง นอกจากนี้ ทาง Automattic จะเข้าไปร่วมพัฒนาประสบการณ์และฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การเข้ารหัสและซิงค์เนื้อหาบนคลาวด์, การจัดรูปแบบ Rich text และ markdown, เทมเพลตต่างๆ, นำเข้ารูปจาก Instagram, บันทึกเสียง และเขียนตามคำบอก, ประวัติพิกัดที่ไปมา, รูปแบบการจัดพิมพ์เป็นหนังสือ ที่มา - TechCrunch, WordPress
# Tables เครื่องมือติดตามงานของ Google จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบริการ Google Cloud ปีที่แล้ว Area 120 หน่วยงานบ่มเพาะนวัตกรรมใน Google เปิดตัว Tables เครื่องมือติดตามการทำงานทั้งของตัวเองและทีมงาน ล่าสุด Tables ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในบริการ Google Cloud แล้ว Tables มีเครื่องมือช่วยงานหลังบ้านคือระบบอัตโนมัติหรือบ็อท ช่วยรวบรวมงานของแต่ละคน จัดการคิวงานของคนในทีมและแสดงเป็นแดชบอร์ด โดยทีมงานมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะใช้งานในหลายๆ use case เช่นงาน project management, การดำเนินงานด้านไอที, การติดตามการบริการลูกค้า, CRM, การสรรหาบุคลากร, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ทาง Google บอกว่ากรณีการใช้งานที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การจัดการสินค้าคงคลัง, การติดตามด้านการดูแลสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ทีมงานพบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ลูกค้ามีการใช้ Tables ในแผนกที่มีพนักงานประมาณ 30 ถึง 40 คนขึ้นไป ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถใช้ Tables ได้ฟรี โดยรองรับตารางได้ 100 ตารางและ 1,000 แถว สำหรับเวอร์ชั่นพรีเมี่ยมคาดว่ามีค่าใช้จ่าย 10 ดอลลาร์ต่อผู้ใช้ต่อเดือน รองรับ 1,000 ตารางและ 10,000 แถว และสามารถแนบไฟล์ขนาดใหญ่ การแนบฟอร์ม และการดูประวัติ ที่มา - TechCrunch
# Monster Hunter Stories 2 ปล่อยเดโม่ 25 มิถุนายนนี้, Monster Hunter Rise ได้เควสต์ใหม่และเกราะใหม่ Capcom เผยในงาน E3 ว่า Monster Hunter Stories 2: Wings of Ruin เตรียมปล่อยเวอร์ชั่นทดลองเล่นให้ดาวน์โหลดฟรีบน Nintendo Switch และพีซี วันที่ 25 มิถุนายนนี้ ก่อนวางจำหน่าย 9 กรกฎาคม และจะมีอัพเดตฟรีตัวแรก เพิ่มมอนสเตอร์ Palamute เป็นมอนสเตอร์ที่ขี่ได้ ในวันที่ 15 กรกฎาคม ผู้เล่น Monster Hunter Rise จะได้รับเควสต์ร่วมกับ Monster Hunter Stories 2 ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน ของรางวัลจากเควสต์คือเกราะที่จะเปลี่ยน Palico ของผู้เล่นเป็น Tsukino ตัวละคร Felyne ลึกลับ Monster Hunter Stories 2 และสามารถใช้เซฟเกม Monster Hunter Stories 2 มาใช้รับเกราะ Rider ได้ อัพเดตหน้าของ Monster Hunter Rise มาวันที่ 24 มิถุนายนนี้ ประกอบด้วยเควสต์ใหม่ 5 เควสต์ คือ Almudron: Fashion Victim, Fooled in the Flooded Forest, Rampage: Muddi Gras, Heart of a Hero, และ An Icy Blade So Bright ร่วมกับของรางวัลจากเควสต์ใหม่อื่นๆ ที่มา - Eurogamer
# จนกระทั่งโดนเลเซอร์ยิงหัวเข่า โปรดิวเซอร์ Skyrim คุย Starfield จะเป็น “Skyrim ในอวกาศ” Todd Howard โปรดิวเซอร์ Bethesda Game Studios ผู้สร้างเกม The Elder Scrolls V: Skyrim, Fallout 3, 4 และ Fallout 76 ให้สัมภาษณ์กับ Telegraph และ The Washington Post เกี่ยวกับ Starfield เกมสวมบทบาทในเซ็ตติ้งอวกาศเกมแรกของสตูดิโอที่เตรียมวางจำหน่าย 11 พฤศจิกายนปีหน้า Todd ระบุว่า Starfield จะเป็นเกมสวมบทบาทที่ผู้เล่นเปลี่ยนมุมมองระหว่างบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สามได้ เหมือนกับเกมอื่นของค่าย แต่จะเพิ่มความเป็นเกม RPG ที่ฮาร์ดคอร์ขึ้น มีระบบตัวละครแบบใหม่ที่ผู้เล่นสามารถเลือกปูมหลังของตัวละครได้ รวมถึงบอกว่าเกมนี้จะเป็น “Skyrim ในอวกาศ” ส่วน Ashley Cheng ประธานบริหารของ Bethesda ก็เรียกว่าเกมนี้จะเป็น “เกมจำลองการเป็นฮานโซโล” เลยทีเดียว ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นนักสำรวจหน้าใหม่ขององค์กร Constellation องค์กรสำรวจอวกาศ ในอนาคต 300 ปีข้างหน้าของมนุษยชาติ โดยผู้เล่นจะได้เลือกปูมหลังของตัวละครที่จะมีผลต่อเนื้อเรื่อง และมีเพื่อนร่วมผจญภัยเป็นหุ่นยนต์ชื่อ Vasco (ตั้งตามนักสำรวจชาวโปรตุเกส Vasco da Gama) Todd ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดจำเพาะเกี่ยวกับจักรวาล Starfield มากนัก และบอกว่าจะยังไม่เปิดเผยเกมเพลย์จนกว่าตัวเกมจะใกล้วางจำหน่ายในอีกประมาณปีครึ่งข้างหน้า แต่ก็บอกว่าจะมีเลเซอร์ มีเอเลี่ยน และดวงดาวต่างๆ ที่สำรวจได้ เขายังบอกอีกว่าเนื้อหาของเกมจะอิงมาจากคำถามสำคัญของมนุษยชาติ เช่น ในจักรวาลมีอะไรอยู่บ้าง เราอยู่เดียวดายในจักรวาลหรือเปล่า ต้นกำเนิดของอวกาศและกาลเวลาคืออะไร ศาสนามีบทบาทยังไงเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ซึ่งมีหนังและหนังสือ ที่ตีความคำตอบของตัวเองมาก่อนหน้านี้แล้ว และเขาอยากเห็นเกมทำแบบนั้นบ้าง ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อว่าเกมนี้จะตีความคำถามและคำตอบเหล่านี้ออกมาในรูปแบบใด ที่มา - Telegraph, The Washington Post
# Capcom ประกาศทำ DLC ให้ Resident Evil Village, เตรียมปล่อย RE:Verse เดือนหน้า Capcom เปิดเผยในงาน E3 เมื่อวานนี้ ว่ากำลังทำ DLC ให้กับ Resident Evil Village ตามเสียงเรียกร้องของแฟนๆ แต่ไม่มีรายละเอียดอื่นเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังเผยกำหนดปล่อย RE:Verse เกมออนไลน์แบบเดธแมตช์ในจักรวาล Resident Evil ที่แถมมากับ Resident Evil Village ให้เล่นในเดือนหน้า แต่นอกจากนี้ยังไม่มีข่าวอื่นเกี่ยวกับจักรวาล Resident Evil มากนัก ที่มา - IGN
# เปิดตัว AIS Media Cloud Service บริการสร้างเนื้อหาออกอากาศ ทำร่วมกับ VMware และ Vizrt ผู้ทำซอฟต์แวร์สื่อ AIS Business เปิดตัวบริการใหม่ AIS Media Cloud Service เป็นบริการในรูปแบบ SaaS เจาะกลุ่มธุรกิจสื่อ โดยร่วมมือกับ VMware ผู้ให้บริการคลาวด์แพลตฟอร์ม และ Vizrt ผู้ให้บริการพัฒนาซอฟต์แวร์สื่อและการออกอากาศสำหรับอุตสาหกรรมสื่อดิจิทัล เปิดโอกาสให้สื่อมาใช้บริการสร้างเนื้อหา ทำรายการสด เข้าถึงห้องถ่ายทอดสดหรือสตูดิโอแบบ virtual และทำการตัดต่อเนื้อหาได้บนคลาวด์ ลดค่าใช้จ่ายการเช่าซื้อสตูดิโอ AIS Media Cloud Service ให้บริการสองรูปแบบหลักๆ คือ ระบบบริหารจัดการสื่อ (Media Workflow Suite) สื่อสามารถจัดเก็บ ค้นหา จัดการลิขสิทธิ์ของเนื้อหา รวมถึงการจัดการในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูล พร้อมด้วยเครื่องมือในการตัดต่อ แก้ไข เปลี่ยนแปลงวิดีโอ หรือเนื้อหาต่างๆ ผ่านระบบคลาวด์ได้ ระบบผลิตและควบคุมสื่อ (Production Control Suite) ระบบโปรดักชั่นแบบออนไลน์เสมือนการยกระบบการถ่ายทำจากในสตูดิโอมาอยู่บนออนไลน์ เพื่อช่วยให้การสร้างสรรค์คอนเทนต์ สามารถผลิตเนื้อหาที่น่าสนใจได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างสตูดิโอหรือซื้อระบบการถ่ายทอดสดราคาสูง ค่าใช้จ่ายของ AIS Enterprise Cloud จะเป็นรูปแบบของค่าบริการรายเดือนโดยคิดตามการใช้งานจริงทำให้ธุรกิจสื่อและบันเทิง และในการใช้งานจริง ทาง AIS Business จะมีทีมงานเข้าไปช่วยคิดว่าควรใช้เทคโนโลยีใด เครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบใด เพื่อให้การออกอากาศสามารถทำงานบนคลาวด์ได้ ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์และงานแถลงข่าว
# ระบบไทยชนะใช้งานไม่ได้เพราะใบรับรองหมดอายุ (อัปเดต: แก้ไขแล้ว) เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 ผู้เขียนข่าวพบว่าระบบไทยชนะ ทั้งตัวแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ qr.thaichana.com ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากใบรับรอง HTTPS ได้หมดอายุไปแล้ว ก่อนหน้านี้แอปพลิเคชันหมอชนะก็เคยใช้งานไม่ได้เนื่องจากใบรับรองหมดอายุเช่นเดียวกัน ที่มา - พบเอง อัปเดต: เมื่อเวลาประมาณ 17:00 น. ระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ตรวจสอบพบว่าเปลี่ยนใบรับรองแล้ว
# เกมโจรสลัด Sea of Thieves เพิ่มเนื้อหาใหม่ของ Captain Jack Sparrow ช่วงหลังๆ เราเห็นการ crossover ข้ามซีรีส์เกมด้วยกัน หรือระหว่างเกมกับภาพยนตร์ มากขึ้นมาก ตัวอย่างล่าสุดคือ Sea of Thieves เกมโจรสลัดออนไลน์ของไมโครซอฟท์ ประกาศออกเนื้อหาเสริม A Pirate’s Life ที่มีตัวละครหน้าตาคุ้นเคย Captain Jack Sparrow จาก Pirates of the Caribbean มาร่วมแจมด้วย ในเนื้อหาเสริมนี้ ตัวละครของผู้เล่นจะต้องช่วยปล่อย Jack Sparrow ที่ถูกคุมขังไว้ในคุก เพื่อตามหาสมบัติโจรสลัดในตำนาน และมีตัวละครอื่นจากในภาพยนตร์เช่น Davy Jones เข้ามาร่วมด้วย สตูดิโอ Rare บอกว่าร่วมมือกับดิสนีย์อย่างใกล้ชิด เพื่อนำประสบการณ์จาก Pirates of the Caribbean ทั้งจากภาพยนตร์และเครื่องเล่นในสวนสนุก เข้ามาต่อเชื่อมจนเกิดเป็นเนื้อหาใหม่ร่วมกัน Sea of Thieves: A Pirate’s Life เป็นเนื้อหาอัพเดตฟรีให้ผู้เล่นทุกคน เริ่มเปิดให้เล่น 22 มิถุนายน 2021 ที่มา - Xbox
# Google Workspace เปิดตัวฟีเจอร์ Spaces ห้องสนทนาของทีม พูดคุย แชร์ไฟล์ ในที่เดียว Google Workspace เปิดตัวอินเทอร์เฟซใหม่ที่เรียกว่า Spaces มันเป็นการนำระบบแชท-วิดีโอคอลล์ Google Chat และ Google Meet เข้าไปฝังในแอพตัวอื่นอย่าง Gmail หรือ Google Docs อินเทอร์เฟซนี้ไม่ใช่ของใหม่ทั้งหมด เพราะกูเกิลเคยทำมันออกมาแล้วในปี 2020 ชื่อว่า Rooms แต่บอกว่านี่เป็นวิวัฒนาการล่าสุดของ Rooms แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Spaces (หรือจะมองว่ามันคือ Google Wave คืนชีพก็ได้เช่นกัน) รูปแบบการใช้งาน Spaces จะเป็นการสร้างห้อง (space) เชิญคนที่เกี่ยวข้องมาเข้าห้อง ในห้องนั้นจะมีหน้าจอแชท ไฟล์ และงาน (tasks) ที่เกี่ยวข้องกับโปรเจคต์หรือทีมนั้นๆ กูเกิลอธิบายว่าในการทำงานยุคใหม่ การทำงานร่วมกัน (collaboration) เป็นสิ่งสำคัญ โดย chat/video meeting กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ตั้งแต่ยุค COVID-19 จึงผนวกรวมทุกอย่างเข้าเป็นฟีเจอร์ Spaces ให้การประสานงานราบรื่น โดยไม่ต้องสนใจว่าใช้แอพตัวใดอยู่ ฟีเจอร์ Spaces จะเริ่มเปิดให้ใช้งานแทน Rooms ในช่วงฤดูร้อนกลางปีนี้ ที่มา - Google
# Tencent Cloud เปิดศูนย์ข้อมูลแห่งที่สองที่กรุงเทพ เปิดเป็น Availability Zone 2 Tencent Cloud ประกาศเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งที่ 2 ที่กรุงเทพ นับเป็น availability zone ที่สอง (AZ2) เพิ่มจากศูนย์ข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว (ศูนย์ข้อมูลแห่งแรกใช้ True IDC แห่งที่สองไม่ระบุยี่ห้อ บอกแต่ว่าเป็นระดับ Tier 3)) มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด บอกว่าการเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งนี้จะทำให้ Tencent เปิดบริการประมวลผล GPU ในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากที่กรุงเทพแล้ว Tencent ยังเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ที่แฟรงก์เฟิร์ต ฮ่องกง และโตเกียว ไปพร้อมกัน ปัจจุบัน Tencent มีศูนย์ข้อมูลใน 27 ภูมิภาค และ 66 พื้นที่บริการทั่วโลก ที่มา - Tencent Cloud
# Netflix ตั้ง ยงยุทธ ทองกองทุน ผู้ร่วมก่อตั้ง GDH559 เป็นผู้อำนวยการฝ่ายเนื้อหาประจำประเทศไทย Netflix แต่งตั้ง ยงยุทธ ทองกองทุน ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ประจำประเทศไทย โดย ยงยุทธ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง GDH 559 และเป็นผู้กำกับหนังไทยดังหลายเรื่อง เช่น สตรีเหล็ก (2543), สตรีเหล็ก 2 (2546), แจ๋ว (2547), สี่แพร่ง (2551), ความจำสั้น แต่รักฉันยาว (2552) นายยงยุทธระบุว่า หลังจากที่ได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับและนักสร้างสรรค์ชั้นแนวหน้าของไทยมาอย่างยาวนาน รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ Netflix และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Netflix จะได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทอดเรื่องราวจากฝีมือคนไทย และแสดงพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยให้ทั่วโลกได้เห็น ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ
# กูเกิลเปิดตัว Google Workspace Individual เปิดให้คนทั่วไปใช้งาน ไม่ต้องมีบัญชีองค์กร ซอฟต์แวร์อีเมลและแอพสายทำงานของกูเกิล เคยแยกขาดจากกันเป็น 2 ส่วนชัดเจนคือ Gmail/GDocs/Drive สำหรับผู้ใช้ทั่วไป และ G Suite สำหรับบัญชีองค์กร ถึงแม้พื้นฐานเป็นซอฟต์แวร์ตัวเดียวกัน แต่ฟีเจอร์ไม่เท่ากัน หลังกูเกิลเปลี่ยน G Suite มาเป็น Google Workspace ในช่วงปลายปี 2020 ก็มีนโยบายใหม่ว่าจะควบรวมทั้ง 2 ระบบเข้าด้วยกัน วันนี้กูเกิลเปิดตัว Google Workspace Individual เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไป (ขอแค่มีบัญชีกูเกิล) เข้ามาใช้งาน Google Workspace ได้แล้ว กูเกิลบอกว่านโยบายนี้ออกมาเพื่อตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ผู้ประกอบการ ให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องแยกบัญชีกัน สามารถใช้บัญชีเดียวทำได้ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว Google Workspace Individual จะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้ใน 6 ประเทศแรกคือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก บราซิล ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เริ่มใช้งานก่อน ส่วนผู้ใช้ประเทศอื่นๆ จะตามมาในลำดับถัดไป ที่มา - Google
# AIS เซ็นสัญญากับไมโครซอฟท์ เชื่อมเทคโนโลยีคลาวด์-เครือข่าย สร้างบริการให้องค์กรไทย AIS ประกาศเซ็นสัญญาเป็น Exclusive Strategic Partner ด้านคลาวด์กับไมโครซอฟท์ โดยความร่วมมือประกอบด้วยงาน 3 ส่วนกว้างๆ คือ ร่วมกันผลักดันโซลูชันด้านคลาวด์ ข้อมูล ความปลอดภัยไซเบอร์ IoT ให้กับองค์กรไทย เปิดให้พนักงานของ AIS พัฒนาทักษะด้าน deep tech จากทรัพยากรของไมโครซอฟท์ จัด hackathon ภายใน และขยายผลไปยังลูกค้าของ AIS ต่อไป เชื่อมระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์ เข้ากับเครือข่ายของ AIS เพื่อพัฒนาโซลูชันแบบใหม่ๆ เช่น edge computing, อาคารอัจฉริยะ, ปรับปรุงประสิทธิภาพให้ธุรกิจค้าปลีก ขนส่ง ลอจิสติกส์ มร. ฌอง-ฟิลลิปป์ คูร์ตัวส์ รองประธานกรรมการบริหาร และประธานฝ่ายขาย การตลาด และปฏิบัติการระดับโลก ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชัน บอกว่าความร่วมมือ 3 ส่วนนี้เป็นก้าวแรกภายใต้ความร่วมมือระหว่างเรากับ AIS ทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจจะได้เห็นความคืบหน้าอีกมากมายเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังจะเข้าไปเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของแพลตฟอร์ม AIS TheStartUp เพื่อช่วยสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยในการก้าวสู่ความสำเร็จอีกด้วย ส่วนนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอของ AIS ระบุว่าเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์มาตั้งแต่ปี 2558 และเชื่อมว่าจะนำเทคโนโลยีคลาวด์ของไมโครซอฟท์ มาบูรณาการกับเทคโนโลยีเครือข่ายของ AIS จะสร้างเป็นบริการใหม่ๆ ให้องค์กรไทย บนต้นทุนที่เหมาะสม
# แอป K PLUS ล่มตั้งแต่ 10:10 เว็บยังใช้งานได้ ช่วง 10:10 ที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยแจ้งปัญหาแอป K PLUS ไม่สามารถใช้งานได้ พร้อมกับระบุว่าลูกค้าบางส่วนทยอยใช้งานได้ อย่างไรก็ดียังมีลูกค้าเข้าไปแสดงความ ผมทดสอบดูพบว่าเว็บ K-Cyber ยังคงใช้งานได้ดี หากมีใครต้องการทำธุรกรรมก็อาจจะเป็นทางเลือกระหว่างนี้
# Razer เปิดตัว Razer Blade 14 รุ่นซีพียู AMD Ryzen 9 5900HX ครั้งแรก ราคา 1,799.99 ดอลลาร์ Razer เปิดตัว Razer Blade 14 โน้ตบุ๊ก 14 นิ้ว ซีพียู AMD Ryzen 9 5900HX ครั้งแรกที่ Razer ใช้ซีพียู AMD มาพร้อมตัวเลือกการ์ดจอสูงสุด GeForce RTX 3080 และสเปกอื่นๆ ดังนี้ หน้าจอ 14 นิ้ว ซีพียู AMD Ryzen 9 5990HX 8 แกน 16 เธรด สัญญาณนาฬิกาแบบบูสต์ สูงสุด 4.6GHz ตัวเลือกหน้าจอ FHD (1920 x 1080) 144Hz, AMD FreeSync Premium, 100% sRGB ตัวเลือกหน้าจอ QHD (2560 x 1440) 165Hz, AMD FreeSync Premium, 100% DCI-P3 ตัวเลือกการ์ดจอ GeForce RTX 3060 (6GB VRAM), GeForce RTX 3070 (8GB VRAM), GeForce RTX 3080 (8GB VRAM) ทั้งหมดเป็นรุ่น TGP 100W แรม 16GB DDR4 ความเร็ว 3200MHz SSD M.2 NVMe PCIe 3.0 x4 ความจุ 1TB รองรับ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2 พอร์ต USB 3.2 Gen 2 Type-C สองพอร์ต รองรับ Power Delivery, Display Port 1.4, USB 3.2 Gen 2 Type-A สองพอร์ต, พอร์ต HDMI 2.1 out (รองรับเสียง 7.1), รูหูฟัง 3.5 มม. แบตเตอรี่ 61.6WHr (แถมที่ชาร์จ 230W) Razer Blade 14 ราคาเริ่มต้น 1,799.99 ดอลลาร์ หรือราว 56,000 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในสหรัฐอเมริกา ที่มา - XDA Developers
# จิ๋วแต่แจ๋ว Razer เปิดตัวที่ชาร์จ GaN 130W ขนาดกะทัดรัด หนักแค่ 349 กรัม ราคา 180 ดอลลาร์ Razer เปิดตัวที่ชาร์จ Razer GaN 130W ใช้วัสดุเซมิคอนดักเตอร์จากวัสดุแกลเลียมไนไตรด์ (GaN) ช่วยลดขนาดอุปกรณ์ชาร์จลง ชาร์จได้ 30W ขนาด 7.7 x 3.2 x 6.2 เซนติเมตร น้ำหนัก 349 กรัม ใหญ่กว่าที่ชาร์จมือถือทั่วไปเพียงเล็กน้อย Razer GaN มีพอร์ต USB-C สองพอร์ต และ USB-A สองพอร์ต อัตราชาร์จสูงสุดของพอร์ต USB-C รวมกันอยู่ที่ 100W (ชาร์จพร้อมกันได้พอร์ตละ 50W ชาร์จพอร์ตเดียวได้ 100W) ส่วน USB-A สองพอร์ต อัตราชาร์จสูงสุดรวมกัน 18W (ชาร์จพร้อมกันได้พอร์ตละ 9W ถ้าชาร์จพอร์ตเดียวได้ 18W) ราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 180 ดอลลาร์ หรือราว 5,600 บาท ถือว่าราคาแรงได้มาตรฐาน Razer แต่ก็ถือว่าที่ชาร์จขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ที่น่าจะชาร์จได้ทั้งมือถือและโน้ตบุ๊กพร้อมกันด้วยกำลังไฟเท่านี้ น่าจะประหยัดพื้นที่และช่วยลดน้ำหนักกระเป๋าได้ไม่น้อย ที่มา - Anandtech
# ไมโครซอฟท์ประกาศทำตู้เย็นเล็ก Xbox Mini Fridge วางขายปลายปี 2021 ปีที่แล้วไมโครซอฟท์ทำ "ตู้เย็น Xbox Series X" ขนาดใหญ่ยักษ์มาเพื่อโปรโมทการวางขาย Xbox Series X จนเรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย แต่ตู้เย็นนี้ทำขึ้นมาพิเศษเพื่อกิจกรรมการตลาด และมีเพียง 3 เครื่องเท่านั้น ปีนี้ ไมโครซอฟท์ประกาศทำตู้เย็น Xbox Series X ขนาดเล็ก (Mini Fridge) ใส่น้ำกระป๋องได้ประมาณ 10 กระป๋อง มีลูกเล่นเล็กๆ คือเอนจินทำความเย็น Xbox Velocity Cooling Architecture (ตั้งชื่อล้อกับ Velocity Architecture สำหรับ I/O) กำหนดวางขายจริงปลายปี 2021 ยังไม่ระบุราคา
# สหภาพยุโรปเริ่มโครงการใบรับรอง COVID ยืนยันการติดเชื้อ, ผลทดสอบ, การฉีดวัคซีน สหภาพยุโรปเริ่มโครงการใบรับรอง COVID-19 เป็นแบบแอปพลิเคชั่นและกระดาษพร้อม QR ใช้สำหรับยืนยันผล 3 ประเภท ได้แก่ การฉีดวัคซีน, ผลทดสอบ COVID-19 เป็นลบ, หรือเป็นผู้ป่วย COVID-19 ที่หายแล้ว หลักการโดยทั่วไปของใบรับรองนี้คือชาติสมาชิกสหภาพยุโรปจะไม่วางเงื่อนไขการเดินทางสำหรับผู้ถือใบรับรอง อย่างไรก็ดีแต่ละชาติอาจจะมีเงื่อนไขการยอมรับใบรับรองต่างกัน เช่น บางชาติอาจจะยอมให้เดินทางทันทีเมื่อฉีดเข็มแรก ขณะที่บางชาติจะมีเงื่อนไขต้องฉีดครบโดสเท่านั้น สำหรับรายการวัคซีนที่ยอมรับได้ ทุกชาติจะยอมรับวัคซีนในรายการ EU marketing authorisation เหมือนกันหมด แต่บางชาติอาจจะยอมรับวัคซีนตัวอื่นๆ เพิ่มเติม ทางสหภาพยุโรประบุว่าข้อมูลการฉีดวัคซีนจะเก็บไว้ในฐานข้อมูลของชาติผู้ออกใบรับรองเท่านั้น ส่วนชาติอื่นที่ตรวจสอบความถูกต้องจะไม่เก็บข้อมูลไว้อีกหลังใช้งาน ที่มา - European Comission
# Spatial Audio และ Lossless Audio บน Apple Music ใช้งานบนมือถือแอนดรอยด์ได้ด้วย แอปเปิลเปิดใช้งาน Spatial Audio และ Lossless Audio หรือการฟังเพลงแบบไม่สูญเสียคุณภาพ บน Apple Music ซึ่งในช่วงแรกจำกัดการใช้งานเฉพาะผู้ใช้อุปกรณ์ iOS เท่านั้น ล่าสุดแอปเปิลอัพเดตให้ใช้งานบนมือถือแอนดรอยด์ได้ด้วย แต่ต้องเป็นผู้ใช้แอนดรอยด์ที่เข้าไปสมัครใช้งานเวอร์ชั่นเบต้าบน Play Store ก่อน เมื่อได้รับการอัพเดตแล้ว ผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่าใช้งานที่เมนูตั้งค่า และจะมองเห็นเมนู “Audio Quality” ซึ่งเข้าไปเปิดใช้งานฟีเจอร์ Lossless Audio ได้ นอกจากนี้ Apple Music ยังเพิ่มฟังก์ชั่น Automatic Crossfade หรือการเปลี่ยนผ่านจากเพลงหนึ่งไปยังอีกเพลงหนึ่งได้อย่างแนบเนียน สามารถตั้งค่าได้ว่าอยากให้เริ่ม Crossfade ในกี่วินาทีก่อนเพลงจบ โดยสามารถตั้งค่าสูงสุดได้ 12 วินาที อ่านบทความอธิบาย Spatial Audio บน Apple Music ได้ที่นี่ ที่มา - 9to5Google
# กล่องเกม Xbox Games ปรับดีไซน์ใหม่ เน้นแถบข้อความว่ามีคอนโซลรุ่นไหนรองรับเกมนี้บ้าง ถือเป็นการปรับเปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อยแต่มีประโยชน์ต่อคนซื้อเกมมาก โดยกล่องเกม Xbox Games ปรับดีไซน์ใหม่ เพิ่มแถบสีขาวพร้อมเน้นข้อความว่าเกมนี้มีคอนโซลรุ่นไหนรองรับบ้าง ซึ่งดีไซน์เก่ามีข้อความนี้อยู่แล้วแต่เป็นแถบสีดำ การเปลี่ยนเป็นสีขาวช่วยให้มองเห็นง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังลบแถบสีเขียวด้านบนออก เพิ่มพื้นที่หน้าปกเกมมากขึ้นด้วย และเมื่อเทียบดีไซน์กล่องทั้งเก่าและใหม่ จะเห็นว่าแบบใหม่ดูสะอาดตาขึ้น ภาพจาก ไมโครซอฟท์ ที่มา - Kotaku
# Apple ออกอัพเดต iOS 12.5.4 สำหรับ iPhone, iPad รุ่นเก่า แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย แอปเปิลออกอัพเดต iOS 12.5.4 สำหรับ iPhone, iPad และ iPod รุ่นเก่าที่อัพเดตเป็น iOS 14 ไม่ได้ โดยผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ที่ Settings > General > Software Update ในอัพเดตนี้แอปเปิลระบุว่าเป็นการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย และแนะนำให้ผู้ใช้งานทุกคนอัพเดต ซึ่งเกี่ยวกับช่องโหว่ทั้งหมด 3 รายการ โดยมี 2 รายการเกี่ยวกับ WebKit อุปกรณ์รุ่นเก่าที่สามารถอัพเดต iOS 12.5.4 ได้แก่ iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPad Air, iPad mini 2, iPad mini 3, และ iPod touch (6th Gen) ที่มา: MacRumors
# [ลือ] Apple Watch รุ่นใหม่ปีนี้ เน้นอัพเกรดฮาร์ดแวร์ ฟีเจอร์เด่นคาดมีในรุ่นปีหน้า ข้อมูลนี้เป็นรายงานจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม โดยพูดถึงฟีเจอร์ที่แอปเปิลเตรียมใส่เข้ามาใน Apple Watch Series 7 รุ่นใหม่ในปีนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นคุณสมบัติการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ รายละเอียดนั้น Apple Watch รุ่นใหม่ปีนี้ จะมีซีพียูที่เร็วขึ้น มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ โดยรองรับ Ultra-Wideband ซึ่งคาดว่าจะนำมาเป็นจุดขายร่วมกับ AirTag และหน้าจอรุ่นใหม่ ที่ส่วนจอกับกระจกหน้าปัดใกล้กันมากขึ้น ส่วนฟีเจอร์และรุ่นใหม่ ๆ ที่เคยมีรายงานก่อนหน้านี้ Gurman บอกว่า ทั้งหมดน่าจะเกิดขึ้นในปี 2022 ได้แก่ Apple Watch SE รุ่นใหม่, Apple Watch รุ่นทนทานพิเศษสำหรับกลุ่ม Extreme เช่นเดียวกับฟีเจอร์อย่างเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิร่างกาย ส่วนฟีเจอร์ที่มีการรายงานมานานแล้วอย่างระดับน้ำตาลในเลือดนั้น น่าจะใช้เวลาอีกหลายปี ที่มา: Bloomberg
# ทีมงานยืนยันเกม Guardians of The Galaxy โฟกัสการเล่นคนเดียว ไม่มี DLC ไม่มี Microtransactions หลัง Square Enix เปิดตัวเกม Guardians of the Galaxy ไปเมื่อวานนี้ มีข้อมูลเพิ่มเติมจาก Mary DeMarle ที่เป็น Executive Narrative Director ของเกม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับเว็บไซต์เกม Stevivor ของออสเตรเลีย ว่าเกมนี้จะไม่มีทั้ง DLC และ Microtransactions DeMarle ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าทีมงานอยากให้ผู้เล่นได้สัมผัสตัวเกมที่สมบูรณ์ตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย ทั้งสกิล ชุด และสกินต่างๆ สามารถปลดล็อกได้จากการเล่นเกม รวมถึงสกินที่เป็นโบนัส pre-order ผู้เล่นก็สามารถเล่นเพื่อปลดล็อกเองได้ภายหลังเช่นกัน Square Enix และ Eidos Montreal ดูจะตั้งใจเดินทางที่ต่างไปจากเกม Marvel’s The Avengers ที่เป็นเกมออนไลน์แบบ live-service จากแฟรนไชส์ Marvel เกมแรกของบริษัท ที่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่ก็ยังไม่ถูกทิ้งอย่างสิ้นเชิง โดยจะมีภาคเสริมฟรีอย่าง Black Panther: War for Wakanda เพิ่มเข้ามาในเดือนสิงหาคมนี้ ที่มา - Stevivor
# Novavax แถลงผลทดลองเฟส 3 วัคซีน NVX-CoV2373 ประสิทธิภาพ 90.4% Novavax ผู้พัฒนาวัคซีนอีกรายที่กำลังพัฒนาวัคซีน COVID-19 ในชื่อว่า NVX-CoV2373 แถลงประสิทธิภาพของวัคซีนที่ 90.4% (ความมั่นใจ 95% อยู่ที่ 82.9-94.6%) หลังจากเคยแถลงผลเบื้องต้นเมื่อสิ้นเดือนมกราคมว่ามีประสิทธิภาพ 89.3% การทดลองอาศัยอาสาสมัครรวม 29,960 คน แบ่งกลุ่มฉีดวัคซีนจริงและวัคซีนหลอกในอัตราส่วน 2:1 โดยระหว่างทางมีการสลับยา (cross-over) ให้คนที่ได้รับวัคซีนจริงสลับไปรับวัคซีนหลอก และกลุ่มได้รับวัคซีนหลอกสลับมาวัคซีนจริง โดยรวมแล้วมีผู้ติดเชื้อแบบมีอาการทั้งหมด 77 ราย อยู่ในกลุ่มได้รับวัคซีนหลอก 63 ราย กลุ่มได้รับวัคซีนจริง 14 ราย เป็นกลุ่มมีอาการน้อยทั้งหมด ทาง Novavax รายงานถึงประสิทธิภาพวัคซีนต่อกลุ่มกลายพันธ์ที่ต้องใส่ใจ (variants of interest - VoI) และกลุ่มกลายพันธุ์ที่น่ากังวล (variants of concern - VoC) ระบุว่าประสิทธิภาพต่อกลุ่มนี้ยังคงอยู่ในระดับ 93.2% (ความมั่นใจ 95% อยู่ในช่วง 83.9-97.1%) อย่างไรก็ดีการทดลองเฟส 2b ในแอฟริกาใต้พบว่าประสิทธิภาพต่อสายพันธุ์เบต้า (B.1.351) จะอยู่ที่ 48.6% งานวิจัยของ Novavax ครั้งนี้ได้รับจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เป็นหลัก รวมเป็นเงิน 1,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่าห้าหมื่นล้านบาท ที่มา - Novavax ภาพโดย Novavax
# Stripe เปิดให้ทดลองใช้บริการยืนยันตัวตน เน้นความปลอดภัยและอิมพลีเมนต์ง่าย Stripe สตาร์ทอัพฟินเทคพัฒนา API สำหรับระบบชำระเงินเปิดตัวบริการใหม่บนแพลตฟอร์มในชื่อว่า Stripe Identity เพื่อให้บริการยืนยันตัวตนสำหรับบริษัทที่ต้องการใช้งานโดยไม่ต้องสร้างระบบขึ้นมาเอง และอิมพลีเมนต์เข้ากับระบบที่มีอยู่เดิมได้ง่าย Stripe สร้างบริการยืนยันตัวตนขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ภาคธุรกิจที่ต้องการบริการยืนยันตัวตนแบบออนไลน์ที่ง่ายและเร็ว ทางบริษัทจึงพัฒนา Stripe Identity เพื่อตอบโจทย์ให้ภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพที่มีพนักงานเพียง 5 คน หรือจะเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ก็เริ่มใช้บริการยืนยันตัวตนได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น สำหรับเทคโนโลยีเบื้องหลัง Stripe Identity มีใช้ทั้ง computer vision และ machine learning เพื่ออ่านข้อมูลและจับคู่กับบัตรแสดงตัวตนที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐกับภาพเซลฟี่ โดยข้อมูลทั้งหมด Stripe จะเป็นคนดูแลพร้อมเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย ในขณะที่ยังคงความง่ายในการอิมพลีเมนต์เหมือนกับระบบอื่น ๆ ของ Stripe สำหรับ Stripe ปัจจุบันยังคงเน้นการพัฒนา API สำหรับการชำระเงิน ซึ่งแม้ว่า Stripe Identity จะไม่ใช่ธุรกิจหลัก แต่ก็เป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับระบบชำระเงินที่ลูกค้าถามหาค่อนข้างมาก โดยระบบยืนยันตัวตนถือว่าสำคัญมากในภาคธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องมีการรับชำระเงิน เพราะสามารถนำไปใช้ได้ในหลายสถานการณ์ เช่น ป้องกันไม่ให้เกิดการยึดบัญชีโดยบุคคลอื่น, ยืนยันอายุ, หรือ KYC ตามกฎหมาย เป็นต้น รวมถึงต่อยอดในภาคธุรกิจอื่น ๆ ได้อีกด้วย ตอนนี้ Stripe Identity เปิดให้ทดลองใช้แบบเบต้าแล้วใน 30 ประเทศ ส่วนค่าธรรมเนียมการใช้งานจะคิดเป็นจำนวนครั้งในการใช้งาน (per transaction) ตอนนี้มีผู้ทดสอบใช้งานรายใหญ๋แล้วได้แก่ Clubhouse และ Discord สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ Stripe Identity ที่มา - TechCrunch
# Niantic ดึงจักรวาล Transformers มาสร้างเกม AR ชื่อ Transformers: Heavy Metal เปิดตัวปีนี้ Niantic ผู้สร้างเกม Pokemon Go เตรียมผุดเกมใหม่ นำจักรวาลหุ่นยนต์ Transformers มาสร้างเป็นเกม ARในชื่อว่า Transformers: Heavy Metal โดยเป็นการสร้างเกมร่วมกับ Hasbro เจ้าของลิขสิทธิ์ของเล่น Transformers และ TOMY บริษัทของเล่นในญี่ปุ่น Phil Hong ผู้อำนวยการสร้างเกมเผยว่า Transformers: Heavy Metal จะเป็นเกม AR ที่ผู้เล่นจะได้ร่วมทีมกับหุ่นยนต์ Bumblebee และ Autobots ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์ม Niantic Lightship ในการพัฒนาเกมได้ร่วมมือกับ Very Very Spaceship เพื่อสร้างสตูดิโอเกมด้วย Transformers: Heavy Metal จะเปิดตัวให้ทดลองเล่นในบางประเทศ และจะเปิดให้เล่นเกมทั่วโลกภายในปีนี้ ที่มา - Niantic