txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# Microchip เปิดขายบอร์ด PolarFire SoC Icicle บอร์ดพัฒนาซีพียู RISC-V รันลินุกซ์ พร้อม FPGA ในตัว
Microchip เปิดตัวชิป PolarFire SoC ที่เป็นชิป RISC-V รองรับลินุกซ์พร้อม FPGA ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และตอนนี้ก็เปิดตัวบอร์ดพัฒนาขายให้คนทั่วไปแล้วในชื่อ PolarFire SoC Icicle Kit
ตัวชิป PolarFire SoC เป็นชิป 5 คอร์ มี RISC-V RV64IMAC สำหรับตรวจสอบสถานะระบบหนึ่งคอร์ และ RV64GC สำหรับรันแอปพลิเคชั่นอีก 4 คอร์ แรมบนบอร์ดเป็น LPDDR4 2GB, สตอเรจมีทั้งแฟลชแบบ SPI 1Gb และ eMMC อีก 8GB (ใช้ SD แทนได้) ตัวชิปมาพร้อม FPGA ขนาด 254,000 logic element
อินเทอร์เฟซมีตั้งแต่งาน IoT อย่าง I/O 40 ขาแบบ Raspberry Pi, mikroBUS, SPI, I2C, CAN x 2, UART x 4, และ PCIe แบบ x4 อีกหนึ่งสล็อต พร้อมกิกะบิตอีเธอร์เน็ตอีก 2 พอร์ต
ตัวบอร์ดราคา 499 ดอลลาร์ค่าส่งทั่วโลก 20 ดอลลาร์เริ่มส่งสินค้ากันยายนนี้ ตัวบอร์ดรองรับ Linux และ FreeBSD ส่วน FPGA จะต้องใช้ซอฟต์แวร์ Libero ที่มีรุ่นฟรีใช้งานได้หนึ่งปีให้ดาวน์โหลดบนเว็บ Microchip
ที่มา - CrowdSupply |
# Leica เปิดตัว M10-R กล้อง rangefinder พร้อมเซนเซอร์ 40 ล้านพิกเซล
Leica เปิดตัว M10-R กล้องดิจิทัล rangefinder ที่มีเซนเซอร์ 40 ล้านพิกเซลแบบพัฒนาใหม่ของ Leica
สเปคของ Leica M10-R คือตัวกล้องจะใช้เซนเซอร์ 40 ล้านพิกเซลที่พัฒนาใหม่ สามารถลดสัญญาณรบกวนและมีไดนามิกเรนจ์ที่กว้างกว่าเดิม ทำให้เก็บรายละเอียดของภาพได้ดี, ISO 100-50,000 พร้อมชัตเตอร์กลไกที่ Leica เคลมว่าเงียบมากซึ่งนำมาจากรุ่น M10-P ซึ่งจะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของตัวกล้องในขณะถ่ายภาพ ทำให้ภาพออกมาคมชัดยิ่งขึ้น
ส่วนหน้าจอ M10-R เป็นจอ 3 นิ้ว 1.04 ล้านจุดแบบสัมผัส สามารถใช้เป็น live view และเป็นจอดูภาพได้, มีช่องเสียบ SD card UHS-I ทั้งหมด 1 ช่อง, ระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi ซึ่ง Leica M10-R ยังคงเป็นงานฝีมือคุณภาพสูงของ Leica ที่ทำมือโดยผู้เชี่ยวชาญจากโรงงานในประเทศเยอรมนี
Leica M10-R จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 8,295 ดอลลาร์ หรือราว 259,000 บาท มีให้เลือกสองสีคือสีดำและสีเงิน
ที่มา - dpreview |
# TSMC ยืนยัน หยุดรับออเดอร์ชิปจาก Huawei ตามคำสั่งแบนของสหรัฐแล้ว
Taiwan Semiconductor Manufacturing หรือ TSMC ยืนยันการหยุดรับออเดอร์ผลิตชิปจาก Huawei ตามคำสั่งแบนการส่งออกเทคโนโลยีชิปของรัฐบาลสหรัฐ
TSMC บอกว่าหยุดรับออเดอร์จาก Huawei มาตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐออกกฎสั่งแบน และจะส่งสินค้าล็อตสุดท้ายตามออเดอร์ก่อนหน้านี้ ภายในวันที่ 14 กันยายน
การเสียลูกค้ารายใหญ่อย่าง Huawei อาจกระทบต่อรายได้ของ TSMC แต่ธุรกิจของบริษัทในปีนี้ก็ไปได้ดี ประเมินรายได้ช่วงไตรมาส 3 เติบโตถึง 20% จากปัจจัยสินค้าด้าน 5G บูม
ที่มา - Nikkei Asian Review
ภาพจาก TSMC |
# ไมโครซอฟท์ประกาศให้ xCloud ฟรีกับสมาชิกเหมาจ่าย Xbox Game Pass Ultimate
หลังจากไมโครซอฟท์เปิดทดสอบบริการเกมสตรีมมิ่ง Project xCloud มาได้สักพักใหญ่ๆ โดยยังไม่คิดค่าบริการลักษณะเดียวกับคู่แข่งอย่าง Google Stadia ก็มีคนคาดกันว่าไมโครซอฟท์น่าจะผนวก xCloud เข้ามากับบริการเกมแบบเหมาจ่ายรายเดือน (แต่ไม่สตรีมมิ่ง) คือ Xbox Game Pass ด้วย
วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศยืนยันเรื่องนี้ โดยบอกว่าสมาชิก Xbox Game Pass Ultimate รุ่นท็อปสุด ที่จ่ายเงินเดือนละ 14.99 ดอลลาร์ ได้เล่นเกมแบบเหมาจ่ายทั้งบน Xbox One และพีซี (ถ้าเอาแพ็กเกจปกติเฉพาะคอนโซลเดือนละ 9.99 ดอลลาร์) จะได้ใช้บริการ xCloud ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
การผนวก Xbox Game Pass Ultimate ที่รองรับการเล่นเกมบนพีซีและคอนโซล (Xbox One และ Xbox Series X) กับ xCloud ที่เน้นการเล่นเกมเดียวกันบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต (ผ่านเทคโนโลยีสตรีมมิ่ง) ทำให้บริการตัวนี้ดูคุ้มค่ามากขึ้น เพราะจ่ายรายเดือนเท่าเดิม สามารถเล่นเกมหลักเกิน 100 เกมได้บนอุปกรณ์หลากหลายชนิดนั่นเอง (แถมแพ็กเกจ Ultimate ยังรวม Xbox Live Gold ที่ปกติคิดราคา 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือนมาให้ด้วยเลย)
ที่มา - Microsoft |
# OKD เวอร์ชัน 4 เข้าสู่สถานะ GA แล้ว เปลี่ยน OS ที่ใช้รันเป็น Fedora CoreOS ตาม OpenShift
OKD Working Group ประกาศว่าตอนนี้ OKD4 ซึ่งเป็น OpenShift Container Platform (OCP) เจเนอเรชั่นที่ 4 เวอร์ชันคอมมูนิตี้ได้เข้าสู่สถานะ GA อย่างเป็นทางการแล้ว
จุดสำคัญของ OKD4 จะเปลี่ยนไปในลักษณะเดียวกับ OCP4 คือตัว OS ที่ใช้เป็นฐานในการรันแพลตฟอร์มจะใช้ Fedora CoreOS หรือ FCOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ Linux ที่ออกแบบมาเพื่อการรันคอนเทนเนอร์ (Fedora CoreOS เป็นเวอร์ชันคอมมูนิตี้ของ Red Hat Enterprise Linux CoreOS) รวมถึงรองรับระบบ Operator ที่ใช้สำหรับ maintain resource ภายใต้คลัสเตอร์
นอกจากนี้ ด้วยแนวทาง Universal Base Image ที่ Red Hat เปิดตัวมาเมื่อปีที่แล้ว จะส่งผลต่อการพัฒนาระหว่าง OKD กับ OCP อย่างชัดเจน จากเดิมที่เป็น upstream-downstream เปลี่ยนมาเป็น sibling distribution คืออิมเมจที่สร้างมาสำหรับ RHEL7 สามารถใช้ทั้ง OKD และ OCP โดยไม่จำเป็นต้อง rebuild อีกต่อไป
ที่มา - OpenShift Blog
ภาพจาก OpenShift |
# ทวิตเตอร์บนเว็บสามารถตอบแชท DM ได้โดยไม่ต้องออกจากหน้าไทม์ไลน์
ปกติเวลาตอบแชททวิตเตอร์ หรือ DM บนเดสก์ทอป ระบบจะพาผู้ใช้ไปยัง DM เต็มหน้าจอ ล่าสุดทวิตเตอร์ทำฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ตอบแชทได้โดยไม่ต้องออกจากหน้าไทม์ไลน์
โดยช่องแชทจะปรากฏเป็นป๊อบอัพด้านล่างขวา เหมือน Facebook Messenger บนเดสก์ทอปนั่นเอง ทำให้สามารถตอบแชทและดูความเคลื่อนไหวบนไทม์ไลน์ได้
ที่มา - ทวิตเตอร์ |
# LINE TV ส่งออกออริจินัลคอนเทนท์ไป 18 ประเทศในเอเชียผ่าน Netflix
LINE TV ประกาศความร่วมมือกับ Netflix ในการนำเอาออริจินัลคอนเทนท์ของ LINE TV ทั้งหมด 8 เรื่องไปฉายและขยายตลาดไปยัง 18 ประเทศในเอเชีย
ออริจินัลคอนเทนท์ของ LINE TV ทั้ง 8 เรื่องมี Instinct ซ่อน ล่า หน้าสัตว์, พรุ่งนี้จะไม่มีแม่แล้ว (Abandoned), Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ, The Collector คนประกอบผี, Together with Me อกหักมารักกับผม, Together with Me: The NExt Chapter, โลกโซเชี่ยล Social Syndrome และ The Deadline
ขณะที่ 18 ประเทศที่จะถูกนำไปฉายผ่าน Netflix มี เกาหลีใต้, ไต้หวัน, สิงคโปร์, ฮ่องกง, เนปาล, บรูไน, ฟิลิปปินส์, ภูฏาน, มองโกเลีย, มัลดีฟส์, มาเก๊า, มาเลเซีย, เมียนมาร์, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, อินโดนีเซีย รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งก็ยังสามารถดูผ่าน LINE TV ได้เช่นเดิม
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ |
# ก.ต่างประเทศสหรัฐเตรียมแบนวีซ่าพนักงานจีนของ Huawei และบริษัทเทคจีน ไม่ให้เข้าประเทศ
Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐแถลงว่า ทางกระทรวงมีแผนเตรียมจะแบนการออกวีซ่าให้กับพนักงานชาวจีนบางรายของ Huawei และบริษัทไอทีจีนอื่น ๆ ที่สนับสนุนระบอบที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและข่มเหงประชาชนทั้งในและต่างประเทศ (Pompeo ยกตัวอย่างค่ายกักกัน เพื่อล้างสมองชาวอุยกูร์ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์)
อย่างไรก็ตาม Pompeo ไม่ได้ระบุว่าพนักงานคนไหน หรือพนักงานแบบไหนที่เข้าข่าย โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศอ้างว่าเป็นความลับในกระบวนการออกวีซ่า ขณะเดียวกันญาติหรือครอบครัวของพนักงานคนดังกล่าวก็จะไม่ได้รับวีซ่าเช่นเดียวกัน
มาตรการนี้ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเป็นอีกหนึ่งมาตรการของตะวันตกที่มีต่อจีน หลังอังกฤษออกคำสั่งแบน Huawei แล้ว และคำสั่ง ปธน. ที่ปรับลดสิทธิพิเศษของฮ่องกง ให้ลงมาเท่ากับจีน
ที่มา - SCMP
Wang Yi รมต. ตปท. จีนและ Mike Pompeo รมต. ตปท. สหรัฐ | ภาพจาก Getty Images |
# Airbnb กลับมาเดินหน้าตามแผนเพื่อ IPO อีกครั้งหลังเจอวิกฤติ
Brian Chesky ซีอีโอของ Airbnb กล่าวในการประชุมทาวน์ฮอลล์ผ่านวิดีโอออนไลน์กับพนักงานของบริษัทว่า Airbnb กลับมา (จากวิกฤติ) แล้ว แม้บริษัทอาจจะไม่สามารถให้คำมั่นได้ว่าจะ IPO ได้ในปีนี้ แต่ก็ไม่ตัดโอกาสด้วยเช่นกัน เพราะ Airbnb แค่ล้มแต่ยังไม่ตาย
เดิม Airbnb ที่กำลังเติบโต ถูกประเมินมูลค่าสูงถึง 3.1 หมื่นล้านเหรียญมีแผนจะเข้าตลาดราวเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ต้องพับแผน รวมถึงปรับตัวครั้งใหญ่จากวิกฤติ COVID-19 จากทั้งการปรับลดพนักงาน ลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม Chesky ได้แจ้งกับพนักงานผ่านวิดีโอคอลว่า Airbnb มียอดจองรวมกลับมาเพิ่มขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบวกมากขึ้น หลังสถานการณ์ย่ำแย่มาหลายเดือน
ที่มา - NYTimes |
# LINE เปิดตัว Effect Stickers สร้างแบคกราวด์แชทเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง
LINE เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Effect Stickers ผู้ใช้งานสร้างแบคกราวด์แชทเคลื่อนไหวได้แบบแอนิเมชั่น โดยที่เราสามารถกำหนดคำได้เอง ช่วยให้การส่งสติกเกอร์ในแชทมีชีวิตชีวาและสนุกสนานยิ่งขึ้น สามารถดูตัวอย่างได้ที่วิดีโอสั้นด้านล่าง
ผู้ใช้งานสามารถดูพรีวิว Effect Stickers ก่อนส่งได้ โดยเมื่อทำการส่งแล้วง ตัว Effect Stickers จะอยู่หลังแชทเลย ไม่บังข้อความแชท Effect Stickers สามารถใช้งานได้ทั้งมือถือ iOS และแอนดรอยด์ โดยต้องเป็น LINE เวอร์ชั่น 10.11.0 รวมถึงแอปบนเดสก์ทอป
ที่มา - LINE |
# Tencent เปิดตัว Minishop ร้านค้าเปิดหน้าร้านออนไลน์บน Wechat ได้
Tencent เปิดตัว Minishop ช่วยให้ร้านค้าเปิดหน้าร้านออนไลน์บน Wechat ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หวังดึงฐานลูกค้าและร้านค้าอีคอมเมิร์ซในจีนเข้ามายังแพลตฟอร์มตัวเองมากขึ้น จากที่ในจีนมีรายใหญ่ครองอยู่แล้วคือ อาลีบาบาและ JD
WeChat Minishop เป็นการให้ร้านค้ามาเปิดหน้าร้านโดยใช้เครื่องมือของ Tencent ไม่ต้องพึ่งนักพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือไม่ต้องสร้างเว็บไซต์ของตัวเองเลย และจะไม่เป็นระบบรวมศูนย์แบบ JD.com หรือ Taobao ของอาลีบาบา
Wechat ของ Tencent ได้ชื่อว่าเป็นซูเปอร์แอปในจีน เป็นทั้งแอปแชทที่มีผู้ใช้งานพันล้านราย และเป็นช่องทางชำระเงินซื้อเที่ยวบินและบริการสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังมี mini-programs ที่เปิดให้บริษัท,หน่วยงานภายนอกมาสร้างแอปในแอป Wechat อีกทีเพื่อให้บริการผู้ใช้งาน
ภาพจาก Tencent Media Library
ที่มา - CNBC |
# มีคนโอนจริง พบบัญชีบิตคอยน์ของแฮกเกอร์ทวิตเตอร์ได้เงินไป 3.5 ล้านบาท
หลังจากทวิตเตอร์ถูกแฮกและสามารถโพสแทนคนดังจำนวนมากเพื่อหลอกว่าหากให้เงิน 1,000 ดอลลาร์คนดังเหล่านั้นจะให้เงินคืนมา 2,000 ดอลลาร์ ผลสำรวจบัญชีบิตคอยน์ที่ใช้รับเงินก็พบว่ามีคนโอนเงินเข้าไปจริงๆ นับร้อยรายการ รวมเป็นเงินประมาณ 118,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.5 ล้านบาท โดยบิตคอยน์ที่ได้รับมาถูกโอนออกไปอย่างรวดเร็ว
แม้ทวีตจะหลอกขอเอาเงินทีละพันดอลลาร์แต่เงินที่ได้จริงส่วนมากก็อยู่ระดับสิบดอลลาร์เท่านั้น แต่ก็มีบางรายการที่โอนเกินพันดอลลาร์จริงๆ
ตอนนี้ผลกระทบจากการแฮกทวิตเตอร์ครั้งนี้ยังไม่ชัดเจน ล่าสุดบัญชีกลุ่มผู้ให้บริการเงินคริปโตก็ได้รับผลกระทบจำนวนมาก และมีการเปลี่ยนบัญชีรับเงินไปแล้ว
ที่มา - Forbes |
# เผยโฉม Gmail เวอร์ชันใหม่มี 4 แท็บ เพิ่มแชทในตัว, Rooms หน้ารวมโครงการที่ทำอยู่
เมื่อเดือนที่แล้ว เราเห็นข่าว แอพ Gmail บนมือถือเพิ่มแท็บ Meet เข้ามาด้านล่าง ซึ่งอาจดูแปลกๆ เพราะการเพิ่มแท็บเข้ามาถือว่าเปลืองพื้นที่แสดงผลในแนวตั้ง แต่กลับมีแค่ 2 แท็บคือ Mail กับ Meet เท่านั้น
วันนี้ปริศนาทั้งหมดไขกระจ่างแล้ว เพราะกูเกิลเผยโฉม Gmail (เวอร์ชัน G Suite) ร่างสมบูรณ์ที่มีทั้งหมด 4 แท็บ คือ Mail, Meet ของเดิม เพิ่มเข้ามาอีก 2 แท็บคือ Chat และ Rooms
แท็บ Chat คือแอพ Google Chat หรือ Hangouts Chat เดิม ซึ่งเป็นแอพแชทที่กูเกิลมีอยู่แล้วในชุด G Suite แค่ผนวกเข้ามาในแอพ Gmail เพื่อให้สื่อสารกับทีมง่ายขึ้นทั้งทางอีเมล-แชทไปพร้อมกัน (Chat มีใน Gmail เวอร์ชันเว็บอยู่แล้ว กำลังจะเพิ่มเข้ามาในเวอร์ชันแอพมือถือ)
ของใหม่จริงๆ คือแท็บ Rooms ซึ่งเป็นหน้ารวมโครงการ (Projects) ที่เรากำลังทำอยู่ โดยจะมีทั้งแชท ไฟล์ และงาน (Tasks) ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนั้นๆ มาให้เสร็จสรรพ สามารถกดประชุมทีมเพื่อพูดคุยเรื่องงานกันจากแท็บ Rooms ได้เลย
จากภาพเราจะเห็นว่า เพื่อนร่วมงานใน Rooms สามารถกดแก้ไขเอกสาร Google Docs พร้อมพิมพ์คุยกันใน Chat ได้จากหน้าต่าง Gmail เลย
กูเกิลยังบอกว่าเปิดให้แอพภายนอกเข้ามาเชื่อมกับ Rooms ได้ด้วย ที่ระบุชื่อคือ DocuSign, Salesforce, Trello
การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลทั้งเวอร์ชันเว็บและแอพ แต่ยังไม่ประกาศกำหนดวันที่แน่ชัดว่าจะเปิดใช้งานเมื่อไร
ที่มา - Google Cloud Blog |
# Xiaomi เปิดตัว Mi Smart Band 5 ราคา 1,190 บาท และหูฟังไร้สาย ราคา 999 บาท
Mi Smart Band 5 หน้าจอ AMOLED 1.1 นิ้ว มี watch face 65 แบบ สายรัดข้อมือหกสี กันน้ำ 5ATM เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ PPG ชาร์จแบบแม่เหล็ก แบตเตอรี่สแตนด์บายได้ 14 วัน
วางจำหน่ายวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ในร้าน Banana IT, Jaymart, TG Fone, Mi Stores และร้านค้าที่ได้รับการรับรองจากเสียวหมี่ ในราคา 1,190 บาท
นอกจากนี้ยังมี Mi True Wireless Earphones 2 Basic หูฟังไร้สาย แบตเตอรี่ใช้งานได้ 5 ชั่วโมง ชาร์จเพิ่มได้ อีก 3 ครั้งจากเคส รวมเป็น 20 ชั่วโมง มีระบบตัดเสียงรบกวนโดยใช้ไมค์ข้างหนึ่งรับเสียงภายนอกและกรองออก พร้อมรับเสียงพูดจากไมค์อีกข้าง มีระบบหยุดเล่นเพลงอัตโนมัติเมื่อถอดหูฟังออก รองรับการแปลงสัญญาณ SBC และ AAC พร้อมไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 14.2 มม.
วางจำหน่าย 22 กรกฎาคมนี้เช่นกัน ผ่าน Lazada, Shopee และ JD Central รวมถึงร้าน Banana IT, Jaymart, TG Fone, MI Stores และร้านค้าที่ได้รับการรับรองจากเสียวหมี่ ในราคา 999 บาท
ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์ |
# Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนราคาถูก Redmi 9, Redmi 9A, Redmi 9C รุ่นถูกสุด 2,799 บาท
Xiaomi เปิดตัวมือถือรุ่นประหยัดสามรุ่น Redmi 9, 9A และ 9C ขนาดหน้าจอ 6.53 นิ้ว ทั้งสามรุ่น มีสเปกดังนี้
Redmi 9
หน้าจอความละเอียด FHD+ กระจก Corning Gorilla Glass 3
ชิป Mediatek G80
มีรุ่นแรม 3GB + หน่วยความจำ 32GB กับรุ่นแรม 4GB หน่วยความจำ 64GB รองรับ microSD card ถึง 512GB
กล้องหลัง 4 กล้อง กล้องหลัก 13MP กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP กล้องมาโคร 5MP และ depth sensor 2MP
กล้องหน้า 8MP
รองรับ 4G, Bluetooth 5.0 และมี IR blaster
เคลือบนาโนกันน้ำกระเด็น (splash proof)
ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือด้านหลัง และสแกนใบหน้า
แบตเตอรี่ 5,020 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W แต่แถมที่ชาร์จ 10W
รันบน Android 10 ครอบด้วย MIUI11
มี NFC
มีสามสี Carbon Grey Ocean Green และ Sunset Purple
วางจำหน่ายแล้ว บน Shopee, Lazada และ JD Central และในร้าน Jaymart, TG, Com7 ร้านค้า Mi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ
รุ่น 3GB + 32GB ราคา 3,899 บาท
รุ่น 4GB + 64GB ราคา 4,599 บาท
Redmi 9A
หน้าจอความละเอียด HD+
ชิป Mediatek Helio G25
แรม 2GB หน่วยความจำ 32GB รองรับ microSD card ถึง 512GB
กล้องหลัง 13MP
กล้องหน้า 5MP
ปลดล็อกด้วย AI Face unlock
แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จ 10W (ผ่านพอร์ต Micro USB)
มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
รันบน Android 10 ครอบด้วย MIUI12
มีสามสี Granite Gray, Peacock Green และ Sky Blue
วางจำหน่าย 15 กรกฎาคม บน Lazada, Shopee และ JD Central และในร้าน Banana TG Fone Jaymart ร้าน Mi Stores และร้านตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ในราคา 2,799 บาท
Redmi 9C
หน้าจอความละเอียด HD+
ชิป MediaTek Helio G35
มีรุ่นแรม 3GB + หน่วยความจำ 32GB กับรุ่นแรม 3GB หน่วยความจำ 64GB รองรับ microSD card ถึง 512GB
กล้องหลังหลัก 13MP กล้องมาโคร 2MP และ depth sensor 2MP
กล้องหน้า 5MP
ปลดล็อกด้วย AI Face unlock
แบตเตออรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จ 10W (ผ่านพอร์ต Micro USB)
มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และมี NFC
รันบน MIUI12 ครอบ Android 10
มีสามสี Midnight Gray, Sunrise Orange และ Twilight Blue
Redmi 9C ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่าย
ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์ |
# ทวิตเตอร์ยืนยันพนักงานตัวเองถูกหลอก ส่งผลบัญชีคนดังถูกนำไปโพสหลอกลวง
ทวิตเตอร์แถลงยืนยันว่าบัญชีคนดังที่ถูกแฮกโพสหลอกเอาเงิน อย่าง บารัค โอบามา หรือ อิลอน มัสก์ ในวันนี้เกิดจากพนักงานซัพพอร์ตถูกหลอกแบบ social engineering ทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้
กระบวนการโจมตีเป็นการโจมตีอย่างเจาะจงไปยังพนักงานที่เข้าถึงเครื่องมือภายในของทวิตเตอร์ได้ ทำให้แฮกเกอร์สามารถโพสแทนเจ้าของบัญชี โดยทางทวิตเตอร์ได้ล็อกบัญชีเหล่านี้ทันทีและลบโพสทั้งหมดออก
คำชี้แจงไม่ได้ระบุว่าผลกระทบจะรวมถึงการเข้าถึงข้อความส่วนตัวหรือ direct message หรือไม่ หากได้รับผลกระทบด้วยความร้ายแรงอาจจะมากกว่าที่เห็น
ตอนนี้บัญชีจำนวนหนึ่งถูกล็อกเพื่อป้องกันการแฮกในวงกว้างกว่าเดิม ทางทวิตเตอร์ระบุว่าจะเปิดบัญชีกลับมาเมื่อแน่ใจว่าบัญชีปลอดภัยแล้ว และตอนนี้พนักงานที่เข้าถึงเครื่องมือภายในได้ก็จำกัดลงจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น
ที่มา - @TwitterSupport |
# แอปเปิลชนะคดีเลี่ยงภาษีในไอร์แลนด์มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์
ในปี 2016 คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ตัดสินว่าแอปเปิลเลี่ยงภาษีในไอร์แลนด์มาเป็นระยะเวลานาน มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ และ กำหนดให้ไอร์แลนด์ต้องเรียกภาษีที่ไม่ได้จ่ายคืนจากแอปเปิล
แต่ล่าสุด ศาลทั่วไปยุโรป (EU’s general court) ได้ตัดสินว่า คณะกรรมาธิการยุโรปไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลไอร์แลนด์ได้เสนอข้อได้เปรียบทางภาษีแก่แอปเปิล ส่งผลให้แอปเปิลชนะคดี ไม่ต้องจ่ายภาษีให้ไอร์แลนด์
ย้อนกลับไปยังปี 2016 คณะกรรมาธิการยุโรป ตัดสินว่าไอร์แลนด์อนุญาตให้แอปเปิลจ่ายภาษีน้อยกว่าธุรกิจอื่นๆ อย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลไอร์แลนด์และแอปเปิลยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน อ่านรายละเอียดย้อนหลังได้
จากคำตัดสินล่าสุดนี้ รัฐบาลไอร์แลนด์กล่าวว่ามีความชัดเจนอยู่เสมอมาว่าไม่มีการดูแลเป็นพิเศษแก่แอปเปิลแต่อย่างใด และปริมาณภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บก็เป็นกระบวนการจัดเก็บปกติตามกฎหมาย ด้านคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่าจะยังคงพิจารณามาตรการเชิงรุกภายใต้กฎการช่วยเหลือของสหภาพยุโรปเพื่อประเมินว่าไอร์แลนด์การช่วยเหลือจากรัฐที่ผิดกฎหมายหรือไม่
คณะกรรมาธิการยุโรปมีเวลาอุทธรณ์คดีสองเดือนนับจากนี้
ที่มา - CNBC |
# Google Play Pass เตรียมบุกอีก 9 ประเทศ พร้อมเพิ่มตัวเลือกเหมาจ่ายรายปี
หลังจากเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ล่าสุด Google Play Pass บริการเหมาจ่ายรายเดือนสำหรับเล่นเกมและแอปได้ไม่จำกัด เตรียมขยายบริการเพิ่มอีก 9 ประเทศภายในสัปดาห์นี้ ประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ไอร์แลนด์ อิตาลี นิวซีแลนด์ สเปน และสหราชอาณาจักร
Google ยังเพิ่มตัวเลือกเหมาจ่ายรายปีให้กับบริการ Play Pass เฉพาะในอเมริกา สนนราคาอยู่ที่ 29.99 เหรียญ (ประมาณ 950 บาท) สามารถเลือกอัพเกรดผ่าน Play Store ได้ทันที
นอกจากนี้ Google ยังเผยอีกว่าจะเพิ่มแอปและเกมเข้าไปใน Play Pass ทุกเดือน โดยเมื่อ 2 - 3 เดือนที่ผ่านมาก็ได้เพิ่มแอปไปแล้วกว่า 150 แอป
ที่มา - Google via GSMArena |
# Xiaomi เปิดตัวสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Mi Electric Scooter Essential ราคา 15,999 บาท
Xiaomi เปิดตัว Mi Electric Scooter Essential สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า วัสดุเป็นอะลูมิเนียมเกรดที่ใช้ผลิตอากาศยาน พับเก็บง่าย น้ำหนักเบาเพียง 12 กก. รวมถึงมีเทคโนโลยี Kinetic Energy Recovery System (KERS) ที่ดึงพลังงานมาใช้ได้จากการเบรค
ตัวแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ 20 กม. ระบบเบรคเป็นเบรคคู่ ล้อหลักเป็นดิสก์เบรก ล้อหน้าเป็น E-ABS รองรับการเชื่อมต่อกับ Mi Home เพื่อเช็คความเร็วในการขับขี่และพลังงานที่เหลือ
Mi Electric Scooter Essential วางขายที่ราคา 15,999 บาท
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ |
# Xiaomi เปิดตัว Mi TV Stick ดองเกิล Android TV ขนาดเล็ก ราคา 1,490 บาท
Xiaomi เปิดตัว Mi TV Stick ดองเกิล Android TV ขนาดเล็ก พกพาง่าย ใช้ซีพียู Cortex A53 แรม 1GB ความจุภายใน 8GB รองรับระบบเสียง Dolby และ DTS พร้อมรีโมทที่มีปุ่ม Google Assistant, Netflix และ Amazon Prime แยกมาให้เฉพาะ
Mi TV Stick ราคา 1,490 บาท เริ่มขาย 22 กรกฎาคมนี้
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ |
# Xiaomi เปิดตัวจอเกมมิ่งโค้ง 34 นิ้ว 144Hz ราคา 15,999 บาท
Xiaomi เปิดตัวจอเกมมิ่งแบบโค้งขนาด 34 นิ้ว ความละเอียด WQHD (3440x1440) สัดส่วน 21:9 รีเฟรชเรทที่ 144Hz รองรับ AMD FreeSync และช่วงสี sRGB กว้างถึง 121%
หน้าจอเกมมิ่งตัวนี้วางจำหน่ายในไทยที่ราคา 15,999 บาท วางจำหน่ายวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee และ JD Central รวมถึงร้านที่ได้รับรองจาก Xiaomi
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ |
# Apple เปิดตัว Apple News Today รายการสรุปข่าวประจำวันให้ฟัง
ในการอัพเดต iOS 13.6. วันนี้ Apple นอกจากการเผยฟังก์ชั่นใหม่ๆ ของ Apple News และได้เปิดตัวรายการพอดคาสต์ข่าวของตัวเองคือ Apple News Today เป็นการพูดสรุปข่าวประจำวันให้ฟังตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ความยาวแต่ละคลิปเสียงราว 7-8 นาที เล่าสรุปข่าวโดยบรรณาธิการข่าวของ Apple News คือ Shumita Basu และ Duarte Geraldino
Apple News Today จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Apple News หาเจอได้ผ่านแท็บ audio และ Apple Podcast เปิดใช้งานในสหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ และออสเตรเลีย
สำหรับความสามารถอ่านข่าวให้ฟังของ Apple News มีการทดสอบก่อนหน้านี้แล้ว และในการอัพเดต iOS 13.6. ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยผู้ใช้งาน Apple News+ ซึ่งเป็นแอปข่าวเวอร์ชั่นใช้เสียเงินรายเดือน จะได้รายการเสียงจากข่าวหรือบทความน่าสนใจสัปดาห์ละ 20 ตัว จากนิตยสารต่างๆ เช่น Esquire, Essence, Fast Company, GQ, New York magazine, Sports Illustrated, TIME, Vanity Fair, Vogue, Wired เป็นต้น
Apple ยังบอกด้วยว่ามีเพิ่มเนื้อหาจากข่าวท้องถิ่นมากขึ้น เช่น The Charlotte Observer, the Miami Herald และ The News & Observer และจะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายพื้นที่และเพิ่มเนื้อหาจากหนังสือพิมพ์ข่าวท้องถิ่น
ที่มา - Apple |
# คนดังทวิตเตอร์โดนแฮ็กครั้งใหญ่ Obama, Elon Musk, Bill Gates โพสต์ลิงก์สแปม
update: ทวิตเตอร์ออกมาชี้แจงว่าพนักงานถูกหลอก
ช่วงเช้ามืดวันนี้เกิดเหตุการณ์บัญชีคนดังในทวิตเตอร์ เช่น Barack Obama, Elon Musk, Bill Gates, Jeff Bezos, Kanye West, Joe Biden รวมถึงบัญชีของบริษัทดังๆ อย่าง Apple, Uber ถูกแฮ็ก และโพสต์ข้อความสแปม หลอกลวงให้คนโอนเงินผ่าน Bitcoin โดยข้อความของทุกคนเหมือนกันหมด
ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าการแฮ็กเกิดขึ้นได้อย่างไร (ซึ่งน่าจะเป็นการแฮ็กที่ระบบ มากกว่าแฮ็กที่บัญชีโดยตรง) เบื้องต้นทวิตเตอร์มีมาตรการชั่วคราว ปิดไม่ให้บัญชีคนดังเหล่านี้ที่เป็น verified account สามารถโพสต์ข้อความใดๆ ได้
ที่มา - Ars Technica, TechCrunch |
# Apple ออกอัพเดต iOS 13.6 รองรับกุญแจรถดิจิทัล Car Key, ปรับปรุง Apple News+
แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ระบบปฏิบัติการ iOS 13.6 และ iPadOS 13.6 โดยผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ที่ Settings > General > Software Update
รายการอัพเดตที่สำคัญได้แก่ ฟีเจอร์ Car Key กุญแจรถยนต์ดิจิทัล ซึ่งใช้งานได้เฉพาะรถยนต์รุ่นที่รองรับ (รายละเอียดเพิ่มเติม), Apple News+ มีคุณสมบัติอ่านข่าวให้ฟัง, Health เพิ่มตัวเลือกการบันทึกข้อมูลอาการป่วย นอกจากนี้ยังแก้ไขบั๊กและปรับปรุงย่อยอีกหลายรายการ
ในอัพเดตนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถกำหนดการอัพเดต iOS อัตโนมัติในอนาคตได้ละเอียดมากขึ้น โดยแอปเปิลใส่ตัวเลือกเปิด-ปิด ทั้งการดาวน์โหลดไฟล์อัตโนมัติ และการอัพเดตให้อัตโนมัติ แยกออกจากกันแล้ว
นอกจาก iOS 13.6 แอปเปิลก็ออกอัพเดตซอฟต์แวร์อื่นอีกด้วย รายละเอียดดังนี้
macOS Catalina 10.15.6 ปรับปรุง Apple News และแก้ปัญหาการเชื่อมต่อเมาส์ USB
watchOS 6.2.8 รองรับการทำงาน Car Key (ใช้ได้เฉพาะ Apple Watch Series 5)
tvOS 13.4.8. ปรับปรุงการทำงานทั่วไป
HomePod 13.4.8 ปรับปรุงการทำงานทั่วไป
ที่มา: MacRumors [1], [2], [3], [4], [5] |
# Google Cloud มีปัญหายาว 3 ชั่วโมง สร้าง/ลบเซิร์ฟเวอร์ Compute Engine ไม่ได้ กระทบบริการอีกหลายตัว
Google Cloud เกิดปัญหาบนบริการ Compute Engine ทำให้ผู้ใช้บางส่วนไม่สามารถสร้างหรือลบเครื่องบนบริการ Compute Engine และปัญหานี้ยังกระทบไปถึงบริการอื่นๆ ที่ใช้ Compute Engine เป็นฐาน ได้แก่ App Engine, Cloud Function, Cloud Data Fusion, Cloud Dataproc, Cloud Dataflow, และ Kubernetes Engine
บริการไม่ได้ล่มไปทั้งหมด โดยประกาศชั่วโมงที่ผ่านมากูเกิลพบว่ามีการขอสร้างเซิร์ฟเวอร์แต่ไม่สำเร็จประมาณ 2% คาดว่าจะแก้ปัญหาได้เร็วๆ นี้รวมระยะเวลามีปัญหา 3 ชั่วโมง
กูเกิลระบุว่าใครพบปัญหาให้พยายามส่งคำสั่งซ้ำไปเรื่อยๆ
ที่มา - Google Cloud Status |
# dtac ไตรมาส 2/2563 รายได้ลดลง 4.5% จาก COVID แต่กำไรเพิ่ม เพราะคุมค่าใช้จ่ายได้
ดีแทคประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ซึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างเต็มที่ (ผลประกอบการไตรมาส 1/2563)
รายได้ 19.16 พันล้านบาท ลดลง 4.3% จากปีก่อน และ 4.5% จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจาก COVID-19 ที่ทำให้ลูกค้าใช้บริการเป็นปริมาณน้อยลง ซื้อโทรศัพท์-เลขหมายน้อยลง โดยเฉพาะบริการข้ามแดนอัตโนมัติ ที่รายได้ลดลงเกินครึ่ง (56.9%) จากปีก่อน
กำไรสุทธิ 1.889 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน เหตุที่รายได้ลดแต่กำไรเพิ่ม มาจากต้นทุนลดลง โดยเฉพาะต้นทุนด้านการขาย การตลาด และการควบคุมค่าใช้จ่ายภายใน
จำนวนผู้ใช้บริการ 18.8 ล้านเลขหมาย ลดลง 8.35 แสนราย หรือลดลง 8.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีฐานลูกค้าเกิน 20 ล้านเลขหมาย
ฝ่ายบริหารของดีแทคระบุว่าอนาคตยังมีความไม่แน่นอนสูง แต่บริษัทก็ตั้งใจจัดการรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่มา - dtac (PDF) |
# กูเกิลลงทุนใน Jio 4.5 พันล้านดอลลาร์ ซื้อหุ้น 7.73%, จับมือพัฒนา Android ราคาถูก
กูเกิลเป็นบริษัทล่าสุดที่เข้าลงทุนใน Jio Platforms บริษัทโทรคมนาคมของอินเดีย (ถัดจาก Facebook, Intel และกองทุนอีกหลายกอง เช่น Silver Lake, General Atlantic, KKR) โดยจ่ายเงิน 4.5 พันล้านดอลลาร์ แลกกับหุ้น 7.73% ใน Jio (น้อยกว่า Facebook ที่จ่าย 5.7 พันล้านดอลลาร์ ได้หุ้น 9.99%)
การลงทุนครั้งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของแผน India Digitization Fund ที่กูเกิลเพิ่งประกาศไปเมื่อวันก่อน ว่าจะกันเงิน 10 พันล้านดอลลาร์มาลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในอินเดีย (ซึ่งเกือบครึ่งก็คือมาซื้อหุ้น Jio)
กูเกิลบอกว่ายังจะร่วมมือกับ Jio พัฒนา Android และ Play Store เวอร์ชันปรับแต่งสำหรับสมาร์ทโฟนราคาถูกในตลาดอินเดีย เพื่อขยายตลาดสมาร์ทโฟนในอินเดียให้กว้างขึ้นไปอีก แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่ามันต่างจากโครงการ Android Go ในปัจจุบันอย่างไรบ้าง
สำหรับผู้สนใจเรื่อง Jio สามารถติดตามได้จาก บทความ และ Podcast ของ Brand Inside
ที่มา - Google |
# Elon Musk ปล่อยภาพเรนเดอร์โรงงาน Tesla Gigafactory Berlin เมื่อสร้างเสร็จ
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 Elon Musk ได้ประกาศตั้งโรงงาน Tesla Gigafactory แห่งใหม่ใกล้เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อเจาะตลาดยุโรป อีกทั้งยังบอกว่าจะมีศูนย์ออกแบบและวิศวกรรมที่นี่ด้วย นอกจากนี้ Gigafactory Berlin ยังจะมีเทคโนโลยีทำสีรถที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก รวมถึงใช้พลังงานยั่งยืนแบบจริงจังในการผลิต
อย่างไรก็ตาม เสียงของชาวเมืองละแวกนั้นแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือสนับสนุนเพราะจะมีการจ้างงาน และคัดค้านเพราะต้องถางป่าจำนวนมาก ซึ่ง Tesla ก็ระบุว่าจะปลูกต้นไม้คืนให้สามเท่า ทำให้ศาลเยอรมนีออกมาสั่งหยุดสร้างโรงงานชั่วคราวเพื่อรับฟังข้อมูลของทั้งสองฝ่าย ส่งผลให้การก่อสร้างล่าช้าไปบ้าง
ล่าสุดการก่อสร้างดำเนินต่อแล้ว และ Elon Musk ก็ได้ปล่อยภาพเรนเดอร์เต็มๆ ของโรงงานใหม่นี้เมื่อสร้างเสร็จ สิ่งที่เห็นได้ทันทีคือการออกแบบที่ดูโมเดิร์นกว่าโรงงานอื่นๆ ของ Tesla มาก ผิดกับโรงงาน Gigafactory ที่เซี่ยงไฮ้กับเนวาดาที่ค่อนข้างคล้ายกัน นอกจากนี้ยังมีแผงโซลาร์เซลล์จำนวนมากบนหลังคาโรงงาน และบนหลังคาด้านหน้าก็มีพื้นที่คล้ายสวนกับบ่อน้ำอยู่ด้วย
Tesla วางแผนไว้ว่าจะสามารถเริ่มงานผลิตที่โรงงานใหม่นี้ได้ราวเดือนกรกฎาคม 2021 หรืออีก 1 ปีพอดีซึ่งถือว่าสั้นมากๆ ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าช่างเยอรมันจะทำงานเร็วสู้ช่างจีนได้หรือไม่ โดยโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ใช้เวลาเพียง 1 ปีก็เริ่มส่งมอบรถยนต์ได้แล้ว
ที่มา - Electrek |
# KBTG จับมือบุญเติม ส่งเทคโนโลยี Face Recognition ทำ e-KYC ได้ ผ่านตู้เติมเงินทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา KBTG/KBank ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการตู้ “บุญเติม” เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีวิเคราะห์ใบหน้า (Face Recognition) ของ KBTG บนตู้บุญเติม 1,500 ตู้ตามร้านสะดวกซื้อ ก่อนทยอยขยายไปสู่จุดอื่นในอนาคต
KBTG จะใช้ระบบวิเคราะห์ใบหน้าเพื่อการยืนยันตัวตนแบบ e-KYC จะใช้ยืนยันตัวตน e-wallet, การทำธุรกรรมสำหรับประกันภัย และการยืนยันตัวตนรูปแบบอื่นอีกมากในอนาคต โดยลูกค้าไม่ต้องเดินทางไปยังสาขาธนาคาร และใช้เพียงบัตรประชาชนกับใบหน้าในการยืนยันตัวตนที่ตู้บุญเติมใกล้บ้านได้เลย
ระบบการเก็บข้อมูลจะเป็นการสแกนใบหน้าด้วยระบบ Face Recognition ที่ KBTG พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งใช้ใบหน้าของคนไทย สอนระบบในรูปแบบ machine learning เพิ่มความแม่นยำในการสแกนใบหน้ามากขึ้น โดย KBTG ยืนยันว่าการเก็บข้อมูลจะเก็บเป็นรูปแบบดิจิตัล ที่ไม่สามารถใช้สืบย้อนไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ตามมาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลสวนบุคคล (PDPA) เรียบร้อยแล้ว แม้จะมีการเลื่อนการบังคับใช้ออกไปอีก 1 ปี
เทคโนโลยี e-KYC ผ่าน Face Recognition หรือเทคโนโลยี Contactless เป็นส่วนหนึ่งของการยืนยันตัวตนสำหรับการทำธุรกรรมรูปแบบใหม่ในโลกยุคหลัง COVID-19 ที่ผู้ใช้ต้องทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงสาขา หรือใช้เอกสารยืนยันตัวตนแบบเดิม และเป็นอีกก้าวที่สำคัญก่อนจะมีการต่อยอดเทคโนโลยีสแกนใบหน้า เพื่อใช้งานกับธุรกิจอื่นต่อๆ ไป
ปัจจุบัน บุญเติม มีตู้เติมเงินกว่า 130,000 ตู้ทั่วประเทศ เพิ่มช่องทางการยืนยันตัวตนให้สะดวกและครอบคลุมมากขึ้น
ทีมบุญเติมและ KBTG ยังพูดถึงอนาคตที่เป็นไปได้ ว่าอาจนำเทคโนโลยีมาใช้กับตู้กาแฟ “เติมเต็ม” เพื่อจำสูตรกาแฟที่ผู้ใช้ทานประจำ หรือนำไปเป็นระบบจดจำผู้ใช้ ใช้บนหุ่นยนต์ให้บริการต่างๆ ในห้างสรรพสินค้า หรืออื่นๆ ได้เช่นกัน
ที่มา - งานลงนามความร่วมมือ KBTG/KBank และ บุญเติม |
# [Dota 2] เปิดตัว ESL One Thailand: Online ทัวร์นาเมนต์ออนไลน์ ทีมจากเอเชีย-อเมริกา
แม้ว่าภาวะวิกฤต COVID 19 อาจทำให้วงการ esports ต้องชะงักไปบ้าง แต่ผู้จัดหลายรายก็เริ่มปรับตัวจัดการแข่งขันเป็นรูปแบบออนไลน์แทนกันบ้างแล้ว
สำหรับประเทศไทยกำลังจะมีทัวร์นาเมนต์ออนไลน์ของ Dota 2 มาให้ชมกัน เมื่อ ESL ผู้จัดทัวร์นาเมนต์ esports ชื่อดังประกาศเปิดตัว ESL Thailand: Online โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (MoTS) และการกีฬาแห่งประเทศไทย (SAT) พร้อมเปิดให้ทีม Dota 2 จากไทยเข้าไปร่วมแข่งขันกับทีมชั้นนำจากโซนเอเชียอีกด้วย
ทัวร์นาเมนต์นี้มีเงินรางวัลรวม 200,000 ดอลลาร์ โดยแบ่งออกเป็น 2 ดิวิชั่น ดังนี้
ดิวิชั่นเอเชีย ประกอบไปด้วยทีมจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน แข่งขันระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม - 6 กันยายน 2020 เงินรางวัลรวม 135,000 ดอลลาร์ 12 ทีมที่จะมาร่วมแข่งขันประกอบด้วย 8 ทีมเชิญ, 2 ทีมจากรอบคัดเลือก และอีก 2 ทีมผู้ชนะจากรายการ ESL Thailand Championship
ดิวิชั่นอเมริกา ประกอบด้วย 8 ทีมจากโซนอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ แข่งขันระหว่างวันที่ 8 - 30 สิงหาคม 2020 เพื่อชิงเงินรางวัลรวม 65,000 ดอลลาร์
ผู้เล่นชาวไทยที่อยากสัมผัสประสบการณ์การแข่งขันระดับโลก และเข้าร่วมชิงชัยเพื่อคว้าตั๋วเข้าร่วมรายการ ESL One สามารถลงสมัครรอบคัดเลือก Open Qualifier รายการ ESL Thailand Championship ทั้งสองรอบได้ในรอบวันที่ 20-22 กรกฎาคม และ 23-25 กรกฎาคม
ที่มา: จดหมายประชาสัมพันธ์, ESL Thailand, ESL |
# Nissan เปิดตัว Ariya รถยนต์ไฟฟ้าครอสโอเวอร์ 100% วิ่งได้สูงสุด 610 กม.
Nissan เปิดตัว Ariya รถครอสโอเวอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ไฟฟ้า 100% มาพร้อมเทคโนโลยี e-4ORCE ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยมอเตอร์คู่ และเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะต่าง ๆ ทั้ง ProPILOT 2.0, e-Pedal, กล้องรอบคัน, เทคโนโลยีเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ, เบรคฉุกเฉินขณะถอยและระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า
ภายในห้องโดยสาร Nissan Ariya มาในปรัชญาการออกแบบใหม่ที่เรียกว่า Timeless Japanese Futurism มีความเรียบง่าย หรูและล้ำ ขณะเดียวกันก็กว้างและเปิดโล่ง ระบบ infotainment รองรับ Amazon Alexa
Nissan Ariya มี 2 รุ่นย่อคือรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ แต่ละรุ่นจะมีตัวเลือกแบตเตอรี่มี 2 ขนาดคือ 65kWh และ 90kWh
ขับเคลื่อน 2 ล้อ
แบต 65kWh ใช้งานได้จริง 63kWh แรงบิด 300 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 ใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 450 กม. ตามมาตรฐาน WLTC
แบต 90kWh ใช้งานได้จริง 87kWh แรงบิด 300 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 ใน 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 610 กม. ตามมาตรฐาน WLTC
ขับเคลื่อน 4 ล้อ
แบต 65kWh ใช้งานได้จริง 63kWh แรงบิด 560 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 ใน 5.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 430 กม. ตามมาตรฐาน WLTC
แบต 90kWh ใช้งานได้จริง 87kWh แรงบิด 600 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 ใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 580 กม. ตามมาตรฐาน WLTC
Nissan Ariya จะเริ่มวางจำหน่ายในญี่ปุ่นช่วงกลางปี 2021 ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5 ล้านเยน (ราว 1.5 ล้านบาท) และจะขยายไปในยุโรป อเมริกาเหนือและจีนในช่วงปลายปีหน้า
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ |
# สหรัฐฯสั่งร.พ.ไม่ต้องส่งข้อมูลคนไข้ COVID-19 ให้ C.D.C, นักสุขภาพกังวลเรื่องความโปร่งใส
ในสหรัฐฯ มีประเด็นสำคัญเรื่องข้อมูลคนไข้ COVID-19 คือ รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้โรงพยาบาลไม่ต้องส่งข้อมูลคนไข้ให้ C.D.C หรือศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯแล้ว แต่ส่งไปให้ HHS หรือ Health and Human Services ซึ่งมีศูนย์ข้อมูลที่วอชิงตันแทน
สิ่งที่เป็นประเด็นคือความโปร่งใส เนื่องจากข้อมูลของ C.D.C นั้น นักวิจัยและนักข่าวสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยและการรายงานสถานการณ์ แต่ศูนย์ข้อมูล HHS นั้นไม่เปิดเป็น public ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกังวลว่า ข้อมูลที่ได้ไปจะถูกทำให้เป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่
ในเอกสารที่ตีพิมพ์ในเว็บไซต์ของ HHS ระบุว่า HHS จะรวบรวมรายงานประจำวันเกี่ยวกับผู้ป่วยที่โรงพยาบาลแต่ละแห่ง, จำนวนเตียงและเครื่องช่วยหายใจที่มีอยู่รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการติดตามการระบาดใหญ่ของ COVID-19 เพื่อให้ภาครัฐสามารถจัดสรรอุปกรณ์จำเป็น เช่นยา, ชุดป้องกัน เป็นต้น
Jen Kates ผู้อำนวยการหน่วยงานสุขภาพ Kaiser Family Foundation บอกว่า ที่ผ่านมา C.D.C มีบทบาทสำคัญ เพราะเราสามารถรู้ความเคลื่อนไหวในสถานการณ์โรคระบาด น่ากังวลว่าจากนี้ไปบทบาทของ C.D.C จะเป็นอย่างไร และข้อมูลที่ได้ไปจะได้รับการกำกับดูแลอย่างไร ด้าน Michael R. Caputo โฆษก HHS ระบุว่าทุกวันนี้ C.D.C มีความล่าช้าในการรายงานสถานการณ์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ซึ่งอเมริกาต้องการการทำงานแบบเรียลไทม์ ถึงจะสามารถเอาชนะโรคระบาดได้
Dr. Nicole Lurie ผู้ช่วยเลขานุการเคยทำงานในสมัยบารัก โอบามา บอกว่าการรวมศูนย์การควบคุมข้อมูลทั้งหมดเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองนั้นเป็นอันตราย ก่อให้เกิดความไม่น่าไว้วางใจ และลดทอนความสามารถของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่าง C.D.C
ที่มา - The New York Times |
# Chrome 84 ออกแล้ว เริ่มบล็อคข้อความแจ้งเตือนจากเว็บที่หลอกข้อมูล
Chrome 84 เข้าสถานะเสถียร ของใหม่ในเวอร์ชันนี้หลายอย่างเป็นสิ่งที่เคยประกาศไปก่อนแล้ว
บล็อคข้อความแจ้งเตือนของเว็บไซต์ที่หลอกข้อมูลหรือเป็นมัลแวร์ (abusive notifications)
กลับมาบังคับใช้ SameSite Cookie หลังหยุดไปชั่วคราวช่วง COVID-19
รองรับ Web OTP API เพื่อให้เบราว์เซอร์หรือเว็บแอพ สามารถอ่านรหัส OTP ที่ส่งมาทาง SMS และกรอกให้เราอัตโนมัติ (แบบเดียวกับที่แอพมือถือบางตัวทำอยู่)
เพิ่มหน้าจอถามยืนยัน หากติดตั้งส่วนขยายที่จะเปลี่ยนค่า default search engine ไปจากเดิม
ลดการใช้ซีพียูลง หากตรวจพบว่าหน้าต่างเบราว์เซอร์นั้นถูกบังอยู่ ผู้ใช้มองไม่เห็นเว็บเพจ เพื่อประหยัดแบตเตอรี่
ที่มา - Chrome Releases, 9to5google |
# Spotify เปิดตัวในอีก 13 ประเทศแถบยุโรปตะวันออก มีรัสเซีย, ยูเครน, โครเอเชีย ฯลฯ
Spotify ประกาศเปิดบริการในอีก 13 ประเทศแถบยุโรปตะวันออก ประกอบด้วย แอลเบเนีย, เบลารุส, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, โครเอเชีย, คาซัคสถาน, โคโซโว, มอลโดวา, มอนเตเนโกร, มาซิโดเนียเหนือ, รัสเซีย, เซอร์เบีย, สโลวีเนียและยูเครน เท่ากับว่าตอนนี้ Spotify ให้บริการสตรีมเพลงใน 92 ประเทศแล้ว
ปัจจุบัน Spotify มียอดผู้ใช้งาน 286 ล้านราย และเป็นผู้ใช้งานพรีเมี่ย 130 ล้านราย การขยายสู่ยุโรปเหนือจะช่วยเพิ่มฐานผู้ใช้งานอย่างมาก Spotify ยังบอกด้วยว่า รัสเซียเป็น 1 ใน 20 อันดับต้นๆ ของตลาดสตรีมมิ่งเพลง
อย่างไรก็ตามการเปิดตัว Spotify ในรัสเซียจะไม่มีพอดคาสต์ แม้จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกำไรให้บริษัท ซึ่ง Spotify บอกว่าตลาดพอดคาสต์ในรัสเซียนั้นยังเพิ่งเกิดและใหม่มาก
ที่มา - Spotify, Engadget |
# PS5 และ Oculus เตรียมเพิ่มการผลิตอีก คาดโควิดทำดีมานด์คนเล่นเกมอยู่บ้านพุ่ง
จากที่ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่า Sony จะผลิต PS5 เป็นจำนวนน้อยในปีแรกเพราะดีมานด์ต่ำ ล่าสุด Nikkei รายงานไปอีกทางหนึ่ง ว่า Sony เตรียมเพิ่มยอดการผลิต PS5 จาก 6 ล้านเครื่อง เป็น 9 ล้านเครื่อง ภายในปี 2020 ในขณะที่ Bloomberg รายงานว่าอาจเพิ่มไปถึง 10 ล้านเครื่อง ซึ่งมากกว่ายอดจำหน่าย PS4 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2013 และจำหน่ายภายในปีนั้นไป 4.2 ล้านเครื่อง
สาเหตุของการเพิ่มการผลิตครั้งนี้ คาดว่ามาจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นของเครื่องเล่นเกม และความบันเทิงภายในบ้าน หลังการระบาดของโรค COVID-19 ที่เปลี่ยนพฤติกรรมความบันเทิงไปอย่างมาก
นอกจากนี้ Nikkei ยังรายงานอีกว่าแว่น VR ตระกูล Oculus ของ Facebook แม้จะยังมีปัญหาผลิตไม่ทันอยู่ แต่ก็เตรียมเพิ่มยอดการผลิตให้ได้ถึง 20 ล้านยูนิต ในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 เช่นกัน ซึ่งมากขึ้นถึง 50% จากยอดจำหน่ายของปี 2019 ทั้งปี และยังเตรียมที่จะเริ่มผลิตแว่น VR รุ่นใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ในเดือนนี้อีกด้วย
Oculus Rift S
หลังดีมานด์ของการเล่นเกมพุ่ง จนทำให้เครื่อง Nintendo Switch และอุปกรณ์เสริม Ring Fit สำหรับเกมที่ทำให้ผู้เล่นได้ออกกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในบ้าน ขาดตลาด และมีราคาพุ่งสูง จน Nintendo สั่งเพิ่มการผลิต เป็น 22 ล้านเครื่องไปก่อนหน้านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ PS5 และ Oculus จะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่มา - Nikkei Asian Review via The Verge |
# ทรัมป์ถอย ยกเลิกกฎส่งนักศึกษาต่างชาติกลับประเทศ แม้จะเรียนออนไลน์
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกาหรือ ICE ยอมถอย ยกเลิกนโยบายให้นักศึกษาต่างชาติกลับประเทศ พราะเรียนออนไลน์แล้ว หลังกฎใหม่สร้างความไม่พอใจทั้งสภาบันการศึกษาและบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หลายแห่ง จนทำให้พวกเขารวมกลุ่มฟ้องร้องทรัมป์
เนื่องด้วยโรคระบาด ทำให้สถาบันการศึกษาพิจารณานโยบายการเรียนการสอนเป็นออนไลน์เต็มตัว หลังจากนั้น ICE ภายใต้รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ก็ประกาศกฎใหม่สำหรับนักศึกษาต่างชาติ หากเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ทั้งหมด ทางหน่วยงานสามารถส่งนักศึกษาต่างชาติกลับประเทศได้
รัฐบาลไม่ได้ระบุเหตุผลชัดเจนว่าทำไมถึงยอมยกเลิกคำสั่ง แต่มีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลจะปรับปรุงกฎที่เจาะจงนักเรียนนักศึกษาใหม่ ซึ่งต้องคอยจับตาดูต่อไป
ภาพจาก Shutterstock
ที่มา - Engadget |
# ผู้ร่วมก่อตั้ง OnePlus เผยโฉม OnePlus Nord ก่อนวันเปิดตัว ในรายการของ MKBHD
Carl Pei หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OnePlus เผยโฉม OnePlus Nord แบบเต็มๆ ก่อนงานเปิดตัว ในวิดีโอสัมภาษณ์กับ Marques Brownlee ยูทูบเบอร์เจ้าของช่อง MKBHD ช่วงประมาณนาทีที่ 14:50 โดยในวิดีโอ Pei พูดถึงหลักคิดในการสร้าง OnePlus Nord ที่เกิดขึ้นมาเพราะ OnePlus เชื่อว่าชิป Snapdragon 765G มีประสิทธิภาพพอให้บริษัทสร้างมือถือรุ่นกลาง ที่ทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวัน แทบจะแยกไม่ออกจากรุ่นเรือธงที่ใช้ชิป Snapdragon 865 ได้แล้ว
ในวิดีโอ Marques ยังถามถึงราคาของส่วนประกอบต่างๆ ในมือถือ และการตัดสินใจที่จะใส่ หรือตัดอะไรออกไปจากสมาร์ทโฟนรุ่นกลางเพื่อประหยัดต้นทุน เช่นการตัดค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์และการทดสอบการกันน้ำแบบ IP Rating เพิ่มเติมในสายพานการผลิต ประหยัดเงินได้เท่าไร หรือประโยชน์ของการตัดช่องหูฟังออก มีอะไรบ้าง
ก่อนที่ Pei จะพูดถึงกระบวนการดีไซน์ และเผยโฉม OnePlus Nord แบบเต็มๆ ในช่วงท้ายคลิป โดยมีสองสีคือสีเทากับเขียวน้ำทะเล และแสดงให้เห็นกล้องหน้าคู่ ที่ถ่ายได้ 105 องศา และกล้องหลังสี่กล้องเรียงกันในแนวตั้ง แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดสเปกภายในนอกเหนือจากนี้
OnePlus Nord เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ เวลาประมาณสามทุ่ม ของวันที่ 21 กรกฎาคม ตามเวลาประเทศไทย โดยสามารถรับชมสดผ่านการถ่ายทอดแบบ AR ได้บนแอป OnePlus Nord AR ทั้งบน iOS และ Android
ที่มา - XDA Developers, MKBHD |
# iPhone 12 อาจมาพร้อมกับสายชาร์จ USB-C to Lightning แบบถัก
ChargerLAB เผยภาพสายชาร์จแบบใหม่ที่คาดว่าจะมากับ iPhone 12 โดยรอบนี้ iPhone ทุกรุ่นย่อย จะได้สายชาร์จพอร์ต Lightning to USB Type-C แทนของเดิมที่เป็น USB Type-A (ไม่ใช่แค่รุ่น Pro เหมือนตอน iPhone 11) นอกจากนี้ สายแบบใหม่ยังเป็นสายแบบถักที่ทนทานกว่าสายที่มากับ iPhone รุ่นก่อน
เมื่อปีที่แล้ว ChargerLAB เคยให้ข้อมูลอย่างแม่นยำว่า iPhone 11 Pro จะมาพร้อมสาย USB-C to Lightning
สายชาร์จแบบใหม่ยาว 1.05 เมตร หนา 3.04 มม. หนากว่าสาย USB-C to Lightning แบบปัจจุบันเล็กน้อย รองรับระบบ Fast Charge สามารถชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที โดย ChargerLAB ได้ทดสอบและยืนยันว่าสายชาร์จรุ่นใหม่นี้ผ่านมาตรฐาน MFi เป็นที่เรียบร้อย
ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่า iPhone 12 จะไม่มีอะแดปเตอร์ชาร์จไฟและหูฟังมาให้ในกล่อง
ที่มา - MacRumors |
# ชน YouTube ตรงๆ Facebook จะสามารถลง MV เพลงเต็มได้แล้ว เริ่มใช้งานในสหรัฐฯ
ในเดือนสิงหาคม Facebook กำลังจะสามารถสตรีม MV ที่มีลิขสิทธิ์เพลงได้แล้วในสหรัฐฯ ถือเป็นความท้าทายของ YouTube โดยตรง จากที่ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้งาน Facebook ไม่สามารถลงคลิปเพลงเต็มๆ ได้ ทำได้เต็มที่แค่คลิปสั้น
โดยเว็บไซต์ TechCrunch พบว่า Facebook แจ้งการตั้งค่าใหม่แก่เจ้าของเพจและศิลปิน ผู้ใช้งานไม่ต้องอัพโหลดเองแต่เป็นการอนุญาตให้ Facebook เพิ่มมิวสิควิดีโอในหน้าของพวกเขาซึ่งแฟนๆ สามารถค้นพบได้ในแท็บวิดีโอ
หากเจ้าของเพจไม่มีการเคลื่อนไหวเพิ่มเติม Facebook ก็จะลงเพลงให้ศิลปินอัตโนมัติโดยสร้างหน้าเพจแยกเป็นชื่อศิลปินนั้นๆ เพื่อให้คนหาเจอบน Facebook Watch ศิลปินและเจ้าของเพจสามารถไปแก้ไขแคปชั่น, ภาพ thumbnail หรือใส่แฮชแท็กเพิ่มได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานในไทยอาจเคยเห็น MV เพลงใน Facebook Watch แล้วเพราะไทยและอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่ Facebook เสนอประสบการณ์รับชม MV เพลง นอกจากนี้ปีที่ผ่านมา Bloomberg รายงานว่า Facebook เจรจาเรื่องลิขสิทธิ์กับ 3 ค่ายเพลงใหญ่ Universal Media Group, Sony Music และ Warner Music Group
ที่มา - TechCrunch |
# Outlook เพิ่มฟีเจอร์ด้านนัดหมายชุดใหญ่, รองรับปฏิทินส่วนตัวจาก Google Calendar แล้ว
ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ชุดใหญ่ให้ Outlook โดยเน้นเรื่องปฏิทิน-ตารางนัดหมาย
ฟีเจอร์เด่นที่สุดคือ Outlook รองรับการเพิ่มปฏิทินจากบัญชีอื่นแล้ว เพื่อให้เราสามารถรวมปฏิทินของที่ทำงาน-ปฏิทินส่วนตัวไว้ในที่เดียวกัน ฟีเจอร์นี้เรียกว่า "add personal calendars" โดยบัญชีทำงานสามารถเพิ่มปฏิทินส่วนตัวจาก Microsoft Account (Outlook.com) หรือ Google Account (Google Calendar) ได้โดยตรง เพื่อนร่วมงานจะเห็นว่าเรา busy ในช่วงเวลาที่ลงนัดในปฏิทินส่วนตัว แต่ไม่เห็นข้อมูลว่าเป็นงานอะไร
ฟีเจอร์ถัดมาคือ Meeting Insights ที่ช่วยแก้ปัญหาต้องไปค้นอีเมลเก่าๆ ว่านัดประชุมกันเรื่องอะไร ที่ไหน ทางออกของไมโครซอฟท์คือเพิ่มแท็บ Meeting Details เข้ามาในหน้าจออีเมลเลย สรุปข้อมูลของนัดประชุมจากอีเมลให้เสร็จสรรพ และกด Join หรือสร้างห้องประชุมออนไลน์จากหน้าจอนี้ได้เลย
Meeting Insights ยังมีใน Outlook for Android โดยสรุปอีเมลและไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมนั้นให้เลย
อีกสองฟีเจอร์ที่มาคู่กันคือ สั่งให้ทุกนัดหมายในระบบ Outlook มีลิงก์สำหรับประชุมออนไลน์ให้เสมอ สำหรับองค์กรที่ยังต้อง Work from Home อยู่ และ Outlook for Android สามารถกดลิงก์ในปฏิทิน เข้าร่วมประชุมออนไลน์ได้ทันที รองรับระบบประชุมของคู่แข่งอย่าง Zoom และ Webex ด้วย ไม่บังคับต้องใช้ Microsoft Teams แต่อย่างใด
ที่มา - Microsoft |
# Phil Spencer ไม่เสียใจที่ทำ Mixer แม้สุดท้ายต้องปิด เตรียมโฟกัสกับ xCloud ต่อ
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox และรองประธานฝ่ายเกมมิ่งของ Microsoft ให้สัมภาษณ์กับ Gamesindustry.biz ถึงเรื่องที่ Mixer แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของ Microsoft ต้องปิดตัวลงภายในเดือนนี้ ว่าเป็นเรื่องน่าผิดหวัง แต่ไม่เสียใจที่ได้ทำ Mixer เพราะตัดสินใจทำโดยอิงจากข้อมูลที่ดีที่สุดในตอนนั้น ทุ่มพลังกับมันเต็มที่ และสิ่งสำคัญในวงการเกม คือต้องไม่กลัวความล้มเหลว
Microsoft ยังเน้นหลัก 3C คือ คอนเทนต์, คอมมิวนิตี้ และคลาวด์ (Content, Community and Cloud) แม้ความล้มเหลวของ Mixer ในการสร้างคอมมิวนิตี้ ทำให้คู่แข่งอย่าง Google ที่มี YouTube หรือ Amazon ที่มี Twitch อยู่ในมือดูจะได้เปรียบกว่า แต่ Microsoft ก็ยังมีคอมมิวนิตี้ของผู้เล่นบน Xbox Live ที่มีสมาชิกรายเดือนกว่า 100 ล้านคน
นอกจากนี้ Microsoft ยังมีข้อได้เปรียบในด้านคอนเทนต์ โดยมีสตูดิโอสร้างเกมที่ก่อตั้งมานาน และกำลังซื้อสูตดิโอสร้างเกมเข้ามาในสังกัดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อผลิตเกมที่มีคุณภาพแบบ first-party ในขณะที่ Google เพิ่งเริ่มสร้างสตูดิโอเกมของตัวเอง และเกมจาก Amazon Game Studios อย่าง Crucible ก็ไปได้ไม่สวยนัก
อาวุธลับในมือ Microsoft อีกชิ้น คือแพลตฟอร์มเล่นเกมแบบสตรีมมิ่ง xCloud ที่ต่อยอดมาจากระบบคลาวด์ Azure ที่จะช่วยเพิ่มฐานผู้เล่นให้กับแบรนด์ Xbox ได้อีก โดย Phil Spencer กล่าวไว้ว่า Xbox จะต้องไปอยู่บนทุกที่ ทุกอุปกรณ์ที่คนจะอยากเล่นเกมของ Xbox และ xCloud ก็จะตอบโจทย์นี้ได้ แถมยังเป็นประโยชน์ในการหาผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ที่มา - Gamesindustry.biz |
# จีนลบเกมกว่า 2,500 เกมจาก App Store เพราะไม่มีใบอนุญาต หนึ่งในนั้นมี Hay Day
Sensor Tower เผย รัฐบาลจีนลบแอปเกมกว่า 2,500 เกม จาก iOS จีน หนึ่งในนั้นมี Hay Day, Nonstop Chuck Norris, Contract Killer Zombies 2, Solitaire เนื่องจากเกมเหล่านี้ยังไม่มีใบอนุญาตจากจีนในการเปิดใช้งาน
จีนเป็นตลาดใหญ่อันดับ 1 สำหรับเกมมือถือ สร้างรายได้ให้แอปเปิล 12.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2019 แต่ในขณะเดียวกันจีนก็มีกฎเข้มงวดเรื่องการกำกับเนื้อหาเกม กำหนดให้ทุกเกมต้องได้รับอนุญาตจาก National Press and Publication Administration เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาไม่ผิดกฎรัฐบาล
Sensor Tower บอกว่าตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นต้นมา จีนก็สั่งลบเกมออกเรื่อยๆ แต่การลบมีจำนวนพุ่งสูงสุดใน 7 วันแรกของเดือน ก.ค. ถึง 2,500 เกม คิดเป็นรายได้ 34.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีจำนวนการดาวน์โหลดรวมกัน 133 ล้านครั้ง โดยผู้พัฒนาเกมมีเวลาจนถึง 31 ก.ค. ในการขออนุญาตจากจีนเพื่อให้เกมเปิดใช้งานต่อได้
Cosmas Hanson ผู้ร่วมก่อตั้ง Niko Partners บริษัทวิจัยข้อมูลตลาดเกมในจีนบอกว่า ประเด็นสำคัญของการขอใบอนุญาตจากจีนไม่ได้อยู่ที่ค่าธรรมเนียม แต่อยู่ที่ขั้นตอนน่าเบื่อและต้องส่งฟอร์มเป็นภาษาจีน
ภาพจาก Supercell
ที่มา - Venture Beat |
# AMD เปิดตัว Threadripper Pro ซีพียูเกรดเวิร์คสเตชัน, แรม 8 channel, ขายเฉพาะ OEM
AMD เปิดตัวซีพียูซีรีส์ใหม่ Ryzen Threadripper Pro สำหรับตลาดเวิร์คสเตชัน โดยจะไม่วางขายปลีกทั่วไป แต่ขายให้กับผู้ผลิตพีซี OEM เท่านั้น
Threadripper Pro ยังคงซีพียูแบบเดียวกับ Threadripper ซีรีส์ 3000 ที่เป็นแกน Zen 2 จุดแตกต่างสำคัญคือรุ่น Pro รองรับแรมแบบ 8 channel (รุ่นปกติ 4 channel) สูงสุด 2TB, รองรับ PCIe 4.0 มากถึง 128 เลน (รุ่นปกติสูงสุด 88 เลน) และฟีเจอร์ความปลอดภัย-การจัดการสำหรับภาคธุรกิจแบบเดียวกับ Ryzen Pro
Threadripper Pro มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ทุกตัวลงท้ายด้วยเลข 5 และห้อยท้าย WX (ต่างจาก Threadripper รุ่นปกติที่ลงท้ายด้วย 0X), ค่าการใช้พลังงาน TDP 280 วัตต์เท่ากันหมด
Threadripper Pro 3995WX 64 คอร์ 128 เธร็ด, คล็อค 2.7/4.2GHz
Threadripper Pro 3975WX 32 คอร์ 64 เธร็ด, คล็อค 3.5/4.2GHz
Threadripper Pro 3955WX 16 คอร์ 32 เธร็ด, คล็อค 3.9/4.3GHz
Threadripper Pro 3945WX 12 คอร์ 24 เธร็ด, คล็อค 4.0/4.3GHz
รุ่นท็อปสุด Threadripper Pro 3995WX มีจำนวนคอร์เท่ากับ 3990X ของฝั่งคอนซูเมอร์ (64 คอร์), 3975WX มีจำนวนคอร์เทียบได้กับ 3970X (32 คอร์) แต่ 2 รุ่นล่างคือ 3955WX (16 คอร์) และ 3945WX (12 คอร์) ไม่มีตัวเทียบตรงๆ เพราะตัวล่างสุดของฝั่งคอนซูเมอร์คือ 3960X ที่เป็น 24 คอร์
Threadripper Pro จะไม่วางขายปลีกทั่วไป แต่ขายส่งให้ OEM นำไปประกอบเครื่องขายเท่านั้น โดยพาร์ทเนอร์ร่วมเปิดตัวคือ Lenovo ที่ประกาศเครื่องเวิร์คสเตชัน ThinkStation P620 มาพร้อมกัน (โฆษณาว่าเป็นเวิร์คสเตชัน 64 คอร์เครื่องแรกของโลก) สเปกคร่าวๆ คือใช้ซีพียู Threadripper Pro, แรมสูงสุด 1TB, จีพียูเลือกได้เป็น Quadro RTX 8000 สองตัว หรือ Quadro RTX 4000 สี่ตัว เริ่มวางขายเดือนกันยายนนี้ ยังไม่ระบุราคา
ที่มา - AMD, Lenovo |
# ไมโครซอฟท์แจ้งเตือนช่องโหว่บนเซิร์ฟเวอร์ DNS ร้ายแรงสูงสุด ใช้โจมตีเป็น Worm ได้ควรแพตช์ทันที
ไมโครซอฟท์ออกแพตช์ประจำเดือนกรกฎาคมโดยแยกประกาศพิเศษให้กับช่องโหว่ CVE-2020-1350 กระทบตั้งแต่ Windows Server 2003 มาจนถึง Windows Server 2019 เปิดทางให้แฮกเกอร์ยิงคิวรี DNS ที่สร้างเฉพาะขึ้นมารันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์เหยื่อได้ โดยระบุว่าแฮกเกอร์อาจโจมตีได้ง่าย คะแนนความร้ายแรงตาม CVSSv3 เป็น 10.0
ไมโครซอฟท์ออกแพตช์ให้ Windows Server 2008 ขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับเครื่องที่อัพเดตไม่ได้ ไมโครซอฟท์แนะนำทางออกด้วยการแก้ค่าริจิสตรี HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\DNS\Parameters เป็นทางเลือกเสริม
ทาง Check Point Research เป็นผู้พบช่องโหว่นี้โดยตั้งชื่อว่า SigRed ที่จริงๆ แล้วเป็นบั๊ก buffer overflow ในกระบวนการคิวรีเมื่อได้รับคำขอคิวรีจากไคลเอนต์ แฮกเกอร์ต้องเตรียมสร้างเซิร์ฟเวอร์ DNS ต้นทางที่มุ่งร้ายเอาไว้ เมื่อเซิร์ฟเวอร์วินโดวส์ส่งต่อคำขอคิวรี DNS จึงตอบกลับด้วยผลแบบพิเศษเพื่อรันโค้ดบนวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์
ช่องโหว่นี้กระทบเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ DNS เท่านั้น ผู้ใช้วินโดวส์โดยทั่วไปไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ที่มา - The Hacker News, Microsoft
ภาพการคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ DNS จากไมโครซอฟท์ |
# กูเกิลโชว์โครงการรถไร้คนขับจิ๋ว ใช้ Pixel 4 เครื่องเดียว
กูเกิลเขียนบล็อกอธิบายถึงโครงการ Pixelopolis ที่เป็นโครงการสาธิตการใช้ TensorFlow Lite เพื่อสร้างปัญญาประดิษฐ์สำหรับแท็กซี่ไร้คนขับที่ประมวลผลด้วยโทรศัพท์ Pixel 4 เพียงเครื่องเดียว
Pixelopolis มีแอปเรียกแท็กซี่ไปยังจุดต่างๆ ในเมืองจำลองที่มีป้ายบอกตำแหน่ง ตัวรถแท็กซี่จิ๋วต้องสามารถขับรถให้อยู่กลางเลน, หยุดรถเพื่อหลบหลีกรถคันอื่นๆ บนถนน, และอ่านป้ายบอกทางให้ถูกต้อง โดยมีโมเดลปัญญาประดิษฐ์แบบ deep learning สองโมเดล คือโมเดลควบคุมทิศทางให้อยู่ในเลน (lane keeping) และโมเดลตรวจจับวัตถุโดยรอบ
รถแท็กซี่ไร้คนขับจิ๋วใน Pixelopolis
ทีมงานสร้างโมเดลควบคุมทิศทางรถด้วยการสร้างแบบจำลองสามมิติฝึกขับรถในสภาพแสงต่างๆ โดยใช้อินพุตขนาด 120x80 พิกเซล ภาพครอปและย่อจากกล้องหน้าของโทรศัพท์ Pixel 4 เพื่อควบคุมการหักเลี้ยวไม่เกิน 60 องศา ส่วนอีกโมเดลเป็นโมเดลตรวจจับวัตถุแบบ SSD mobilenet โมเดลทั้งสองมีขนาดเพียงประมาณ 3MB เท่านั้น โมเดลควบคุมทิศทางรันบนจีพียู ส่วนโมเดลตรวจจับวัตถุรันบนหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์
โครงการนี้เดิมเตรียมนำไปสาธิตในงาน Google I/O ปีนี้แต่ไม่ได้จัดงาน โดยทีมงานจำนวนมากที่กูเกิลให้เครดิตเป็นทีมงานของบริษัท bit.studio บริษัทไทยที่ปีที่แล้วก็ไปจัดแสดง Shadow Art เช่นกัน
ที่มา - TensorFlow Blog |
# Lego เปิดตัวชุดตัวต่อเครื่องเกม NES จำลอง พร้อมทีวีย้อนยุคที่มีมาริโอ้วิ่ง
Lego เปิดตัวของเล่นเซ็ตใหม่ ที่จำลองเครื่องเล่นเกม Nintendo Entertainment System (NES เวอร์ชันอเมริกา ที่ใช้ดีไซน์ต่างจาก Famicom ฝั่งญี่ปุ่น) พร้อมจอยแพด ตลับเกม และทีวีแบบย้อนยุค ที่หมุนแล้วเห็นมาริโอ้วิ่งในฉากแรกสุดของเกมด้วย
ของเล่นเซ็ตนี้มีบล็อคทั้งหมด 2,646 ชิ้น เหมาะสำหรับผู้เล่นอายุ 18 ปีขึ้นไป เริ่มวางขาย 1 สิงหาคมนี้ ราคาชุดละ 229.99 ดอลลาร์ แถมยังใช้ร่วมกับชุดตัวต่อ Super Mario Starter Course ที่ออกมาก่อนหน้านี้ (วางขาย 1 สิงหาคมพร้อมกัน)
ที่มา - Lego, Polygon |
# รัฐบาลอังกฤษสั่งแบน Huawei แล้ว ต้องถอดอุปกรณ์ 5G ออกทั้งหมดภายในปี 2027
จากข่าว หน่วยข่าวกรองอังกฤษเตรียมเสนอรัฐบาลแบน Huawei เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันนี้รัฐบาลอังกฤษประกาศแบนอุปกรณ์เครือข่าย Huawei อย่างเป็นทางการแล้ว
คำสั่งนี้มาจากที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Council หรือ NSC) ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตามข้อเสนอของศูนย์ความมั่นคงไซเบอร์ (National Cyber Security Centre หรือ NCSC) ด้วยเหตุผลว่า Huawei โดนสหรัฐอเมริกาแบนการใช้ชิปจากสหรัฐในเดือนพฤษภาคม ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีบางอย่างของสหรัฐ และชิปทดแทนอื่นๆ ไม่มีความน่าเชื่อมั่นเพียงพอในสายตาของ NCSC
ห้ามหน่วยงานในประเทศ สั่งซื้ออุปกรณ์ 5G ของ Huawei หลังวันที่ 31 ธันวาคม 2020
อุปกรณ์ Huawei ทั้งหมดจะต้องถูกถอดออกจากเครือข่าย 5G ภายในสิ้นปี 2027
คำสั่งของรัฐบาลอังกฤษครอบคลุมเฉพาะเครือข่าย 5G เท่านั้น แต่รัฐบาลก็กล่าวถึงความเสี่ยงของ Huawei ต่อเครือข่ายไฟเบอร์-บรอดแบนด์เช่นกัน เพียงแต่การเปลี่ยนผ่านทำได้ยากกว่า เพราะระบบบรอดแบนด์ของอังกฤษใช้อุปกรณ์เครือข่าย Huawei มาตั้งแต่ปี 2005 ตอนนี้จึงเป็นแค่ "คำแนะนำ" ให้บริษัทไฟเบอร์เริ่มหยุดซื้ออุปกรณ์จาก Huawei แล้ว ยังไม่มีคำสั่งบังคับออกมา
ภาพจาก Huawei UK
ที่มา - Gov.uk, BBC |
# Google Cloud เปิดตัว BigQuery Omni พา BigQuery ไปรันบน AWS/Azure
Google Cloud ประกาศพาบริการยอดนิยมของตัวเองอย่าง BigQuery ไปรันบนคลาวด์คู่แข่งทั้ง AWS และ Azure ในชื่อบริการ BigQuery Omni โดยยังใช้คอนโซล BigQuery เดิมบน Google Cloud แต่ไม่ต้องโยกข้อมูลข้ามคลาวด์ไปมา
กูเกิลระบุว่าเทคโนโลยีด้านล่างนั้นใช้ Anthos เป็นเลย์เยอร์สำหรับการรันเอนจิน BigQuery ซึ่งน่าจะแปลว่ากูเกิลไปเปิดคลัสเตอร์ Kubernetes ขึ้นใหม่เพื่อรันคิวรีแม้จะไม่ได้บอกไว้ตรงๆ ก็ตาม
ผู้ใช้ BigQuery Omni สามารถสั่งรันเอนจินบนโซนที่ข้อมูลของตัวเองวางอยู่แล้วคิวรีจากสตอเรจอย่าง S3 ได้จากในโซนของคลาวด์นั้นๆ โดยตรง เมื่อรันคิวรีแล้วสามารถเลือกให้แสดงผลกลับมาที่คอนโซลของ BigQuery บน Google Cloud หรือจะเซฟลงเป็นไฟล์กลับลงสตอเรจเพื่อหลีกเลี่ยงการย้ายข้อมูลข้ามคลาวด์ก็ได้
จุดเด่นสำคัญของ BigQuery คือการคิดค่าบริการตามปริมาณข้อมูลที่คิวรี ที่ประมาณ 160 บาทต่อเทราไบต์ แต่กูเกิลยังไม่ได้ประกาศค่าบริการของ BigQuery Omni แต่อย่างใด โดยตอนนี้ยังเป็นบริการแบบทดสอบวงปิด ส่วนบริการที่คล้ายกันของคลาวด์รายอื่นนั้น เช่น Amazon Athen ที่คิดค่าบริการ 160 บาทต่อเทราไบต์เหมือนกัน ขณะที่ Azure นั้นมีบริการ Azure Synapse ที่ไม่ได้คิดค่าบริการตามข้อมูลแต่คิดตามพลังประมวลผลและสตอเรจ แม้ว่าปีที่แล้วไมโครซอฟท์จะเคยระบุว่าจะเพิ่มโมเดลคิดราคาตามขนาดข้อมูล
ที่มา - Google Cloud Blog |
# Google Meet G Suite for Education ปิดไม่ให้คนที่ไม่ล็อกอินเข้าร่วมประชุม เป็นค่าตั้งต้น
Google Meet for G Suite for Education อัพเดตใหม่ ปิดไม่ให้คนที่ไม่ล็อกอินเข้าบัญชีกูเกิลเข้าร่วมประชุมเป็นค่าตั้งต้น ป้องกันการแชร์ลิงค์ประชุมไปสู่สาธารณะ หากแอดมินที่สร้างห้องประชุมต้องการปิดการใช้งานนี้ ต้องติดต่อไปที่ G Suite support เท่านั้น
ช่วงโรคระบาด มีปรากฏการณ์ Zoomboming ที่มีคนนอกเข้ามาป่วนการประชุมผ่าน Zoom ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อความเป็นส่วนตัว จน Zoom ต้องออกมายกเครื่องความปลอดภัยครั้งใหญ่ จนหลายหน่วยงานและโรงเรียนต้องแบนการใช้ Zoom
ที่มา - Engadget |
# Google Cloud เปิดตัว Confidential VM เข้ารหัสหน่วยความจำขณะประมวลผล
Google Cloud เปิดให้บริการเซิร์ฟเวอร์แบบใหม่ Confidential VM ที่เข้ารหัสข้อมูลตลอดเวลาแม้ขณะประมวลผลและข้อมูลอยู่ในหน่วยความจำ โดยใช้ฟีเจอร์ Secure Encrypted Virtualization (SEV) ของซีพียู AMD EPYC รุ่นที่สอง
SEV เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ VM แต่ละเครื่องสร้างกุญแจเข้ารหัสหน่วยความจำของตัวเองเพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลฮาร์ดแวร์อย่างกูเกิลเองหรือผู้ใช้อื่นที่แชร์เครื่องกันจะไม่สามารถอ่านหน่วยความจำข้ามเครื่องเสมือนได้
SEV เป็นฟีเจอร์ขยายมาจาก Secure Memory Encryption (SME) ที่ Cloudflare เคยทดสอบและระบุว่าประสิทธิภาพขณะเปิดใช้งานแทบไม่ลดลงเลย ในชุดเทคโนโลยีเดียวกันยังมีชุดคำสั่ง Secure Encrypted Virtualization-Encrypted State (SEV-ES) ที่เข้ารหัสรีจิสตรีในซีพียูขณะที่ไม่ได้ใช้งานทั้งหมดป้องกันข้อมูลรั่วไหลอีกชั้น แต่กูเกิลไม่ได้ระบุชัดว่าใช้งานด้วยหรือไม่
เครื่อง Confidential VM ทำงานเหมือนเครื่องทั่วไปแต่ต้องเลือกเปิดฟีเจอร์ตอนสร้างเครื่อง และตอนนี้มีอิมเมจลินุกซ์ที่รองรับได้แก่ Ubuntu 18.04, Ubuntu 20.04, Container Optimized OS 81, และ RHEL 8.2 โดยกำลังทำงานร่วมกับดิสโทรอื่นๆ เช่น CentOS และ Debian ต่อไป
ที่มา - Google Cloud Blog |
# Spotify เปิดตัวชาร์ตพอดคาสต์ยอดนิยมใน 26 ประเทศ อัพเดตทุกเดือน
Spotify เวอร์ชั่นแอปพลิเคชั่นบนมือถือ เปิดตัวชาร์ตจัดอันดับพอดคาสต์คือ Top Podcasts และ Trending Podcasts ใน 26 ประเทศ
Top Podcasts เป็นการรวมรายการพอดคาสต์ยอดนิยม 200 อันดับ สามารถเลือกดูอันดับในแต่ละประเทศได้ อัพเดตการจัดอันดับทุกเดือน ส่วน Trending Podcasts เป็นการแนะนำ 50 พอดคาสต์โดยใช้อัลกอริทึมผสมผสานกันระหว่างพอดคาสต์ที่ผู้ฟังน่าจะสนใจ (ทำนองเดียวกับเพลย์ลิสต์เพลง Discover Weekly) กับพอดคาสต์ที่มียอดคนฟังพุ่งสูงรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีการแนะนำพอดคาสต์ตามประเภทเนื้อหาใน 7 ประเทศคือ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, เม็กซิโก, บราซิล, สวีเดน, เยอรมนีและออสเตรเลีย ผู้ใช้งานสามารถค้นหาพอดตาสต์ตามประเภทเช่น อาชญากรรม, ตลก, ข่าว, ไลฟ์สไตล์, การศึกษา, ธุรกิจและเทคโนโลยี, คนดัง, กีฬา เป็นต้น
Spotify ยังเผยตัวเลขด้วยว่า จนถึงตอนนี้ บนแพลตฟอร์มมีรายการพอดคาสต์ 1 ล้านรายการแล้ว
ที่มา - Spotify, TechCrunch |
# Huawei รายงานผลประกอบการครึ่งแรกปี 2020 รายได้โต 13%
หัวเหว่ยรายงานผลการดำเนินงานประจำครึ่งแรกของปี 2020 มีรายได้ 4.54 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 13.1% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 9.2%
ธุรกิจโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ มีรายได้ 1.596 แสนล้านหยวน ธุรกิจลูกค้าองค์กรมีรายได้ 3.63 หมื่นล้านหยวน และธุรกิจลูกค้ารายย่อย มีรายได้ 2.558 แสนล้านหยวน
หัวเหว่ยระบุว่าในสถานการณ์โลกปัจจุบัน เทคโนโลยีและการสื่อสารเข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะเครื่องมือเพื่อจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ซึ่งหัวเหว่ยยังคงมุ่งมั่นร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ตลอดจนอุตสาหกรรมต่าง ๆ สร้างเครือข่ายที่สนับสนุนและรับมือกับการระบาดของไวรัส
ที่มา: หัวเหว่ย |
# กรณีศึกษาในต่างประเทศ แอพ Contact Tracing ไม่แจ้งเตือนอย่างที่ควรจะเป็น
แม้หลายประเทศจะพยายามใช้แอพจำพวก contact tracing ที่ใช้ Bluetooth ของมือถือ เพื่อติดตามและประเมินความเสี่ยงในการติด COVID-19 ของผู้ใช้ เช่น แอพ StopCovid ของฝรั่งเศส ที่มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 2 ล้านครั้ง และแอพ Covidsafe ของออสเตรเลีย ที่มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 6 ล้านครั้ง แต่ปัจจุบัน ทั้งสองแอพมียอดการแจ้งเตือนรวมกัน แค่ 14 ครั้งจาก StopCovid เท่านั้น ส่วน Covidsafe ของออสเตรเลียยังไม่มีการแจ้งเตือนสักครั้ง แม้ยังมีเคส COVID-19 ในรัฐวิคตอเรียอยู่
เว็บไซต์ MIT Technology Review ติดตามเรื่องนี้ และพบว่ามีหลายสาเหตุที่อาจทำให้แอพเหล่านี้ไม่เวิร์คเท่าที่ควร เช่นเหตุผลทางคณิตศาสตร์ ที่ศาสตราจารย์ Jon Crowcroft แห่งมหาวิทยาลัย Cambridge ให้ข้อมูลว่า ตามหลักสถิติแล้ว ถ้ามีคน 1% ติดโควิด และในจำนวนนั้น มี 1% ที่ใช้แอพ อัตราที่แอพจะตรวจเจอคนติดโควิด และส่งแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้อื่น ก็ยังมีแค่ 1 ใน 10,000 เท่านั้น
รูปจาก: University of Washington
นอกจากนี้ยังมีสาเหตุทางด้านเทคนิคต่างๆ เมื่อหลายประเทศ เลือกไม่ใช้โมเดลของ Google และ Apple ที่จะเก็บข้อมูลไว้บนมือถือของผู้ใช้เอง แต่สร้างแอพที่จะส่งข้อมูลไปเก็บไว้ยังเซิฟเวอร์ส่วนกลาง จนพบปัญหาว่า iOS ไม่ยอมให้แอพ Third-Party เปิดใช้งาน Bluetooth เป็นเบื้องหลัง เพื่อทำการ handshake ตรวจสอบการอยู่ใกล้กันของผู้ใช้ได้ แอพ Covidsafe ของออสเตรเลียจึงทำงานได้เพียง 1 ครั้ง จากการเปิดใช้งาน 4 ครั้งบนมือถือบางเครื่อง
ส่วนแอพของฝรั่งเศส ก็มีบั๊กที่แอพจะกินแบตของผู้ใช้มากเกินไป จนมีคนทยอยลบแอพออกไปเยอะ และนอกจากนี้ แอพแต่ละเจ้า ยังตั้งเกณฑ์ระยะเวลาการอยู่ใกล้กันของผู้ใช้ไว้นานจนเกินไป จากการพยายามป้องกันไม่ให้เกิดการเตือนที่ผิดพลาด แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีการเตือนเกิดขึ้นเลยแทน
แอพ Covidsafe ของออสเตรเลีย บน Play Store
เป็นเรื่องยากที่จะสร้างแอพ contact tracing ที่แยกออกจากระบบของ Apple หรือ Google โดยสิ้นเชิง และ MIT Technology Review ก็แนะนำว่าหลายๆ ประเทศอาจจะต้องลดการรวมศูนย์ข้อมูลไปยังส่วนกลางที่ทำให้เกิดปัญหาทางเทคนิคลง
หรืออีกทางเลือกก็คือใช้โค้ดของแอพที่พิสูจน์แล้วว่าใช้งานได้ผล เช่นแอพ Corona-Warn ของเยอรมันที่มีผู้ใช้กว่า 15 ล้านคน และเป็น open-source มาปรับใช้ แทนที่จะสร้างแอพใหม่ และควรให้ความรู้กับประชาชนว่าแอพ contact tracing เป็นเพียงอุปกรณ์หนึ่งในการติดตามเท่านั้น ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะแก้ไขปัญหา COVID-19 ได้ทันที
ที่มา - MIT Technology Review |
# Amazon เปิดตัว Dash Cart รถเข็นตะกร้าตรวจจับสินค้าได้ ไม่ต้องต่อแถวจ่ายเงิน
Amazon เปิดตัว Dash Cart ตะกร้าซื้อของอัจฉริยะที่ติดตั้งกล้อง จอภาพ และเซนเซอร์ ที่ซึ่งลูกค้าสามารถหยิบของใส่ตะกร้าและทำการจ่ายได้ทันที ไม่ต้องต่อแถวชำระเงินที่แคชเชียร์
ในการใช้งาน ผู้ใช้ต้องลงทะเบียนและสแกน QR Code ผ่านบัญชี Amazon ของตัวเองก่อน จากนั้นก็นำตะกร้าไปหยิบของตามชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ตตามปกติ ก่อนนำสินค้าลงตะกร้าให้สแกนบาร์โค้ดบนสินค้าเข้ากับเซนเซอร์ที่ติดมากับตะกร้ารถเข็น ส่วนสินค้าที่ไม่มีบาร์โค้ดแปะไว้อย่างผลไม้ ก็ให้กรอกหมายเลขสินค้าที่จอภาพ เมื่อลูกค้าเดินออกจากร้านจะมีใบเสร็จสินค้าส่งมาที่อีเมลอัตโนมัติ
Amazon ระบุว่า Dash Cart เหมาะกับการซื้อของในจำนวนไม่มาก ในปริมาณที่พอเหมาะกับการซื้อของ 2 ถุง จะเริ่มใช้งานในร้านขายของชำของ Amazon ที่ลอสแองเจลิสภายในปีนี้
ประสบการณ์การซื้อของบน Dash Cart จะคล้ายกับการซื้อของใน Amazon Go แต่ Dash Cart เป็นการพึ่งพาเทคโนโลยีที่ติดมาพร้อมกับตัวตะกร้ารถเข็นมากกว่าเซนเซอร์ตามชั้นวางในร้านค้า
ภาพจาก Amazon
ที่มา - Engadget |
# แอปเปิลลงทุน 400 ล้านดอลลาร์สร้างที่อยู่ราคาเอื้อมถึงในแคลิฟอร์เนีย
แคลิฟอร์เนียเจอวิกฤตค่าครองชีพสูงโดยเฉพาะราคาค่าเช่าที่อยู่อาศัย ล่าสุดแอปเปิลประกาศลงทุน 400 ล้านดอลลาร์ในโครงการที่อยู่อาศัยราคาเอื้อมถึงได้ เป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลาหลายปีของแอปเปิล เพื่อต่อสู้กับวิกฤตที่พักราคาสูงในแคลิฟอร์เนีย
โดยแอปเปิลจะร่วมมือกับ Housing Trust Silicon Valley เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยกว่า 250 แห่งในเขต North, East และ South Bay ของแคลิฟอร์เนีย และสร้างกองทุนช่วยเหลือการซื้อบ้านกับ California Housing Finance Agency (CalHFA) ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยไปจนถึงปานกลาง และเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบวิชาชีพครู นักดับเพลิง ทหารผ่านศึก เป็นต้น
ไม่เพียงแต่แอปเปิลที่มีโครงการช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย ปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์เองก็ประกาศลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ช่วยเหลือวิกฤตที่พักราคาสูงในซีแอตเทิล, กูเกิลมีแผนจะลงทุน 750 ล้านดอลลาร์ปรับปรุงที่ดินสร้างที่อยู่, แอมะซอนลงทุนสร้างที่อยู่ให้คนไร้บ้านในซีแอตเทิล เป็นต้น
ที่มา - Engadget, แอปเปิล |
# Google ยืนยันกับ EU ไม่ใช้ข้อมูลจาก Fitbit ในการยิงโฆษณา หวังไฟเขียวเข้าซื้อกิจการ
หลังจากประกาศเข้าซื้อกิจการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่กระบวนการยังไม่สิ้นสุดเพราะต้องรอการรับรองจากหลายประเทศ
ล่าสุด Google ยืนยันกับคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ว่าจะไม่ใช้ข้อมูลสุขภาพที่ได้จาก Fitbit ในการยิงโฆษณา ด้วยหวังว่าจะได้รับการรับรองการซื้อกิจการ Fitbit สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ทาง EU ได้ส่งแบบสอบถาม 60 ข้อเกี่ยวกับผลกระทบจากการซื้อขายไปยัง Google เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
โฆษกของ Google เผยว่า การซื้อขายในครั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับตัวอุปกรณ์มากกว่าข้อมูล และยินดีที่ได้ชี้แจงกับทางคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าทางบริษัทจะไม่ใช้ข้อมูลที่ได้จาก Fitbit เพื่อการโฆษณา
EU จะยังคงไม่รับรองการซื้อขายของ Google ในครั้งนี้จนกว่าจะได้รับข้อคิดเห็นจากบริษัทคู่แข่งและผู้ใช้ โดยการตรวจสอบอาจใช้เวลาสูงสุดถึง 4 เดือน
ที่มา - Reuters |
# เฟซบุ๊กกำลังพิจารณาแบนโฆษณาการเมืองช่วงเลือกตั้ง, การตัดสินใจยังไม่สิ้นสุด
The New York Times รายงานอ้างอิงคนวงในว่า เฟซบุ๊กกำลังพิจารณามาตรการแบนโฆษณาการเมืองช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่กำลังจะเกิดขึ้นช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่มาตรการนี้ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยและชั่งน้ำหนักเพื่อตัดสินใจ
การพูดคุยถึงมาตรการนี้เริ่มมีตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยทางเฟซบุ๊กได้พูดคุยกับกลุ่มการเมืองและแคนดิเดตที่ลงสมัครเพื่อรับฟังฟีดแบ็คด้วย แต่เรื่องนี้กลับมาถูกให้ความสำคัญอีกครั้งหลังไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเจอมรสุมอีกรอบจากท่าทีที่นิ่งเฉยของ Mark Zuckerberg ต่อโพสต์ของทรัมป์ โดยการถกเถียงภายในอยู่ที่ประเด็นว่า การแบนโฆษณาการเมืองเป็นการปิดปากกลุ่มคนบางกลุ่ม หรือปล่อยให้โฆษณา แต่อาจเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและส่งผลต่อการออกเสียงเลือกตั้ง
ที่ผ่านมาท่าทีและนโยบายของ Mark Zuckerberg ค่อนข้างชัดเจนว่าเขาเพิกเฉยต่อประเด็นนี้ โดยอ้างว่าไม่ต้องการเซ็นเซอร์นักการเมือง ประชาชนมีสิทธิรับรู้และตัดสินเอง ซึ่งท่าทีนี้ของ Mark ถูกโจมตีมาหลายต่อหลายครั้งไม่เว้นแม้แต่เคสล่าสุดอย่างโพสต์ของ Trump จนนำไปสู่ #StopHateforProfit แต่ก็ดูเหมือนว่า Mark ไม่ใยดีต่อการบอยคอตนี้เหมือนกัน
ที่มา - The New York Times |
# นักวิจัยใช้หุ่นยนต์วาดรูปหน้าคนจากการลงพู่กัน พบว่าทำได้ใกล้เคียงมือมนุษย์
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon สร้างหุ่นยนต์วาดรูปเพื่อทำการวิจัยและหาคำตอบว่า หุ่นยนต์จะสามารถเลียนแบบสไตล์การลงฝีแปรงตามศิลปินชื่อดังได้หรือไม่
ทีมวิจัยใช้ระบบ AI ร่วมกับแขนหุ่นยนต์ และใส่ข้อมูล input เป็นรูปแบบการลงฝีแปรงของศิลปิน จากนั้นให้แขนหุ่นยนต์จุ่มแปรงลงในสีและวาดรูป portrait ของคนๆ หนึ่งโดยใช้เทคนิคการลงแปรงพู่กัน จากนั้นจึงให้ผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ 112 คนดูรูป พบว่ากว่าครึ่งที่ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นรูปที่วาดโดยหุ่นยนต์
ปัจจุบัน นักวิจัยพยายามหาคำตอบอยู่เสมอว่า AI มีขีดความสามารถในการสร้างงานศิลปะได้ถึงระดับไหน ตัวอย่างเช่น การแข่งขัน AI สร้างงานศิลปะที่มีทุกปีอย่าง RobotArt, นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Maryland และ Adobe Research สร้างอัลกอริทึม LPaintB ที่สามารถสร้างงานวาดมือผืนผ้าโดยใช้รูปแบบของ Leonardo da Vinci, Vincent van Gogh แต่ในงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon เป็นการพยายามพัฒนาความสามารถให้ AI เรียนรู้สไตล์ของศิลปินที่เป็นมนุษย์ โดยเน้นเทคนิคการลงพู่กันโดยเฉพาะ
ภาพจาก งานวิจัย
ที่มา - Venture Beat |
# EU ออกกฎห้าม Apple, Google ลบแอปจากสโตร์โดยไม่แจ้งล่วงหน้า
สหภาพยุโรปเพิ่งผ่านร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยความเป็นธรรมและความโปร่งใสต่อบริการแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ช่วยลดอำนาจของเจ้าของแพลตฟอร์มแอปสโตร์อย่าง Apple, Google เหนือนักพัฒนาแอปลง โดยการแก้ไขกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ราวฤดูใบไม้ร่วงนี้ (ช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป)
ใจความหลัก ๆ ของการแก้ไขกฎหมายนี้ก็มี
Apple, Google ไม่มีสิทธิลบแอปหนึ่ง ๆ ทันที แต่จะต้องให้คำอธิบายเหตุผลล่วงหน้า 30 วัน ซึ่งทีมพัฒนามีโอกาสในการร้องเรียน/อุทธรณ์ หรือแก้ไขก่อนถูกลบ อย่างไรก็ตาม กฎก็มีการยกเว้นให้ทั้ง 2 เจ้าไม่ต้องแจ้งเตือนกรณีที่ต้องทำตามกฎหมาย, ผู้ให้บริการแอปละเมิดกฎซ้ำซาก, เป็นแอปปลอม ขโมยข้อมูล มัลแวร์ สแปมหรือเป็นภัยไซเบอร์
การจัดอันดับของแอปในสโตร์จะต้องมีความโปร่งใสมากขึ้น โดยคณะกรรมาธิการยุโรปจะออกไกด์ไลน์ของอัลกอริทึมที่ใช้ในการจัดอันดับออกมาเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้
Apple, Google จะต้องไม่มีความลำเอียงหรือเลือกปฏิบัติต่อสตูดิโอหรือทีมพัฒนาแอป หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าบริษัทใหญ่ ๆ มักได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าบริษัทเล็ก
Apple, Google ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเก็บข้อมูลอะไรบ้าง และให้ทีมพัฒนาเข้าถึงหรือไม่เข้าถึงข้อมูลอะไรบ้าง
ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน (T&C) ต้องปรับภาษาให้เข้าใจง่ายขึ้น (ตอนนี้แม้แต่นักกฎหมายเองมาอ่านยังเข้าใจยาก) และหากมีการแก้ไข T&C จะต้องแจ้งล่วงหน้า 15 วัน
การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้น่าจะช่วยแก้ปัญหาที่หลาย ๆ ทีมพัฒนาแอปเจอ อย่างปีที่แล้วเกม My Child Lebensborn จากสตูดิโอนอร์เวย์และชนะรางวัลจากเวที BAFTA ถูก Google แบนในเยอรมนี, รัสเซีย, ออสเตรียและฝรั่งเศส โดย Google อ้างว่ามีเนื้อหาอ่อนไหวและละเมิดกฎหมายท้องถิ่นในหลายประเทศ ขณะที่ทีมพัฒนาก็ไม่ได้รายละเอียดใด ๆ จาก Google เพื่อแก้ไขเลย ซึ่งก็น่าจะมาจากสิทธิของ Google ที่สามารถลบแอปใด ๆ โดยไม่ต้องแจ้งเตือนหรือให้คำอธิบาย
ทั้งนี้การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวของคณะกรรมาธิการยุโรปไม่ครอบคลุมถึงบริการ subscription ออนไลน์หรือแม้กระทั่งสโตร์ขายเกมของคอนโซล เพราะกฎหมายนี้ครอบคลุมเฉพาะแพลตฟอร์มที่เปิดให้นักพัฒนานำเสนอเกมให้ผู้เล่น โดยเจ้าของแพลตฟอร์มเป็นคนดูแลเรื่องการทำธุรกรรม ขณะที่สโตร์ของเกมคอนโซลอย่าง PlayStation Store เข้าข่ายการเป็นร้านค้าปลีกออนไลน์ ที่เจ้าของแพลตฟอร์มขายของโดยตรงกับลูกค้า
ที่มา - GameIndustry.biz, Official Journal of the EU |
# ไลนัสสาป AVX-512 ไปตาย ชี้ Intel เอางบไปเพิ่มคอร์ซีพียูแบบ AMD ดีกว่า
Linus Torvalds สาปส่งชุดคำสั่ง AVX-512 หลังพบว่าซีพียู Alder Lake ไม่มีฟีเจอร์นี้ โดยระบุว่า “ผมหวังว่า AVX512 มันจะตายอย่างเจ็บปวดไปซะที” พร้อมเสนอว่า Intel ควรใช้พื้นที่ชิปทำอย่างอื่น เช่นการเพิ่มประสิทธิภาพคอร์หรือเพิ่มจำนวนคอร์แบบเอเอ็มดี
เขาระบุว่าว่า Intel ควรจะกลับไปมองโปรเซสเซอร์ ไม่ใช่เอาแต่คิดชุดคำสั่งใหม่ๆ แล้วก็สร้าง benchmarks มาวัดผลเพื่อให้ชิปตัวเองดูดี เขาอยากให้ Intel กลับไปแก้ไขปัญหาพื้นๆ แล้วโฟกัสกับการทำงานของโค้ดปกติที่ไม่ใช่ HPC หรือรูปแบบพิเศษอื่นๆ มากกว่านี้ เลิกโฟกัสที่การคำนวณเลขทศนิยม (FP) ซะที เพราะมันไม่ได้สำคัญต่อผู้ใช้ขนาดนั้น สมัยก่อนที่ x86 ยังรุ่งๆ คู่แข่ง Intel มีประสิทธิภาพในการคำนวณเลขทศนิยมสูงกว่าทั้งนั้น แต่ Intel ก็ยังถล่มคู่แข่งได้
ชุดคำสั่ง AVX-512 เป็นชุดคำสั่งประมวลผลแบบเวคเตอร์ขนาดใหญ่ เดิมเริ่มใช้งานในชิป Xeon Phi ที่เป็นการ์ดเร่งความเร็วสำหรับงานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC) โดยเฉพาะ แต่อินเทลเริ่มใส่เข้ามาในซีพียูหลายรุ่นในช่วงหลัง
Linus ยอมรับว่าเขาอาจจะลำเอียงไปบ้าง เพราะไม่ชอบ benchmarks ที่วัดประสิทธิภาพการประมวลผลเลขทศนิยมเอาซะเลย แต่ก็ยังมองว่า AVX-512 เป็นสิ่งที่ Intel เดินเกมพลาด และ Intel ควรเลิกโฟกัสกับอะไรแบบพิเศษๆ ที่ไม่มีใครสนใจ ไปเอาจริงเอาจังกับเรื่องพื้นฐานของโปรเซสเซอร์อย่างการรันโค้ดทั่วไปให้ดีที่สุดมากกว่า แล้วค่อยแปะ FPU (ตัวประมวลผลเลขทศนิยม) ที่พอใช้ได้เข้ามา แค่นี้คนก็แฮปปี้แล้ว และ AVX2 มันก็เพียงพอแล้วเหมือนกัน
ที่มา - Phronix, Real World Technologies
ภาพ Linus Torvalds จากวิดีโอของ The Linux Foundation |
# ไมโครซอฟท์แยก XiaoIce แชทบอท AI ในจีนแยกออกมาเป็นบริษัทลูก
XiaoIce หรือ น้ำแข็งน้อย (Xiao Bing - 小冰) ในภาษาจีน ซอฟต์แวร์แชทบอทจากไมโครซอฟท์ ที่ทำเพื่อบุกตลาดจีน และค่อนข้างประสบความสำเร็จจนขยายไปญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย ทำให้ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศแยกตัว XiaoIce ออกมาเป็นบริษัทลูกต่างหากแล้ว
XiaoIce จะยังสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและสิทธิบัตรต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์เพื่อการวิจัยและพัฒนาได้อยู่ และจะยังคงแบรนด์เดิมเอาไว้ทั้ง XiaoIce ในจีนและ Rinna ในญี่ปุ่นเหมือนเดิม โดยมีไมโครซอฟท์ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท
ไมโครซอฟท์โปรโมท XiaoIce ว่าเป็นวัยรุ่นเสมือนจริง ที่บางครั้งก็มีความอ่อนหวาน บางครั้งก็มีความร้าย ๆ และเคลมว่ามีผู้ใช้งาน XiaoIce ราว 660 ล้านคนและไปอยู่บนอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์กว่า 450 ล้านอุปกรณ์
ที่มา - TechCrunch
ภาพจากไมโครซอฟท์ |
# [ไม่ยืนยัน] แอปเปิลจ่ายเงินให้ซัมซุง 950 ล้านเหรียญ เหตุสั่งจอ OLED ไม่ได้ตามตกลง
สัปดาห์ที่แล้วซัมซุงเผยคาดการณ์ผลประกอบการของไตรมาส 2 ออกมาว่าน่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานราว 6.78 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 22.7% จากปีที่แล้ว ที่น่าสนใจคือมีการระบุว่าธุรกิจหน้าจอได้รับเงินก้อน (one-time gain) มาแต่ไม่ได้ให้รายละเอียดไว้
ล่าสุด Display Supply Chain (DSCC) บริษัทวิเคราะห์ซัพพลายเชนสายหน้าจออ้างอิงแหล่งข่าวว่า เงินก้อนดังกล่าวที่ซัมซุงได้อยู่ที่ราว 950 ล้านเหรียญ และได้มาจากแอปเปิลที่ซัมซุงเป็นผู้ผลิตหน้าจอให้ โดยสาเหตุที่แอปเปิลต้องจ่ายเงินก้อนนี้ก็เพราะไม่สามารถสั่งผลิตหน้าจอ OLED ได้ตามเป้าที่ตกลงกันเอาไว้ได้
DSCC ระบุด้วยว่าไตรมาส 2 ปีที่แล้วแอปเปิลก็ต้องจ่ายเงินซัมซุงประมาณ 750 ล้านเพราะสั่ง OLED ไม่ถึงเป้าเช่นกัน
ที่มา - WSJ, DSCC via MacRumors |
# Fillgoods สตาร์ทอัพสายอีคอมเมิร์ซ เปิดรับพนักงานใหม่เพียบ
ธุรกิจเกี่ยวกับไอที โดยเฉพาะฝั่งอีคอมเมิร์ซ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สามารถเอาตัวรอดและไปต่อได้ในยุคโควิด มีโอกาสเติบโตขึ้นอีกมากในอนาคต
Fillgoods คือหนึ่งในสตาร์ทอัพสัญชาติไทยผู้ทำระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท Tech ที่กำลังเติบโตและขยายธุรกิจ โดยตอนนี้เปิดรับพนักงานสาย Tech เข้าร่วมงานมากมาย
Fillgoods มีโซลูชั่นช่วยให้ร้านค้าดำเนินธุรกิจบนออนไลน์ได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่ระบบการจัดการคลังสินค้า การสร้างออเดอร์สินค้า การแพ็คของรวมไปถึงขั้นตอนการจัดส่ง ซึ่งเป็นเบื้องหลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจทุกขนาดดำเนินกิจการไปข้างหน้าได้
Blognone Workplace จะพาไปรู้จักสตาร์ทอัพน้องใหม่รายนี้ให้มากขึ้น รวมถึงเจาะลึกวัฒนธรรมและบรรยากาศการทำงานด้วย
ทำความรู้จักสตาร์ทอัพไทย Fillgoods
คุณธนภูมิ สถิตสุขสมบูรณ์ (ภูมิ) ผู้ร่วมก่อตั้ง Fillgoods เล่าที่มาและความหมายของชื่อบริษัทให้ฟังว่า คำว่า Fillgoods มีความหมายตรงตัวคือ Fill เติมเต็ม และ goods คือ สินค้า คือเราต้องการมาเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มให้พ่อค้าแม่ค้าทำธุรกิจออนไลน์ต่อไปได้ ทั้งการจัดการสินค้า ลดต้นทุน และเพิ่มกำไรในอนาคต ซึ่งล้วนแล้วแต่มาจากเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆที่ Fillgoods มีให้
คุณธนภูมิ เล่าเพิ่มเติมว่า ตัวเขาเคยเป็นคนค้าขายบนออนไลน์มาก่อน จึงรู้จุดที่เป็น Pain Point ของคนขายของออนไลน์ คือไม่สามารถ Scale ธุรกิจให้ไปต่อข้างหน้าได้ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าการค้าขายที่ทำไปเนี่ย ได้กำไรเท่าไร การจัดการระบบหลังบ้านจึงเป็นปัญหาใหญ่ เราจึงมีวิธีที่ช่วยร้านค้าจัดการปัญหาหลังบ้านได้ ตั้งแต่จัดการคำสั่งซื้อไปจนถึงการจัดส่ง ที่สามารถทำได้ตั้งแต่ต้นจนจบอย่าง Seamless
ในแง่การเติบโต บริษัท Fillgoods คุณภูมิบอกว่าช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมามียอดเติบโต 300% ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เจอสถานการณ์โควิด พวกเขาหันมาใช้จ่ายและบริโภคสินค้าจากออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ยอดลูกค้าของ Fillgoods เติบโตตามไปด้วย และจะเติบโตมากขึ้นในอนาคต
ทำงานที่ Fillgoods ก็เหมือนมาทำงานบ้านเพื่อน
Fillgoods เปิดรับสมัครงานหลายตำแหน่ง และคนที่ Fillgoods ต้องการคือ คนมีไอเดียใหม่ๆ พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา ทั้งคนรุ่นใหม่และคนที่มีประสบการณ์ที่อาจมีไอเดียที่แม้แต่ผู้บริหารก็คาดไม่ถึง
คุณธนภูมิ เล่าให้ฟังเพิ่มเติมถึงวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมการทำงานที่ Fillgoods ว่า มีทั้งคนรุ่นใหม่และคนมีประสบการณ์มาทำงานร่วมกัน ด้วยบรรยากาศการทำงานเหมือนมาทำงานบ้านเพื่อน มีบรรยากาศสบายๆ ไม่เคร่งเครียดเรื่องการแต่งกาย เราสามารถคุยและร่วมกันแก้ปัญหาได้ และทางบริษัทก็พร้อมจะสนับสนุนทั้งเวลาและงบประมาณในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ของพนักงานด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ Fillgoods ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ และเชื่อว่าแต่ละคนอยากเรียนรู้หลายอย่าง บริษัทก็พร้อมสนับสนุนการเรียนรู้นั้นให้เกิดขึ้นจริง
พลวิทย์ ลาภเอี่ยมไพศาล (โบ้ท) Tech Team Lead ของ Fillgoods ปัจจุบันดูแลงานฝั่ง Tech ทั้ง Mobile, Team Tester, Frontend, Backend และแนะแนวทางเทคนิคต่างๆ ให้คนทำงาน คนที่นี่เก่งทุกคน พวกเขารักที่จะเรียนรู้ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจในการทำงานที่นี่
แรกเริ่มเดิมทีบริษัทก็พัฒนามาจากจุดเล็กๆ แล้วค่อยเติบโตขึ้น ปัญหาคือในช่วงแรกเราไม่รู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปจะมีลูกค้าเยอะขึ้นขนาดนี้ ทีม Tech จึงต้องพัฒนาและรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ให้ระบบยังรันต่อไปได้ รวมถึงพัฒนาให้รองรับการใช้งานเพิ่มขึ้นในอนาคต
การทำงานที่นี่มีความเปิดกว้างให้ทุกคนเรียนรู้ ให้กล้าลอง ต่อให้ผิดพลาดก็มาร่วมแก้ไขปัญหาด้วยกันได้ เพื่อจะได้เรียนรู้ไปด้วยกัน และโตไปด้วยกัน
คุณพลวิทย์บอกว่าอยากจะชวนคนรุ่นใหม่ ผู้ที่สนใจที่อยากมาร่วมงานกับเรา และได้ลองใช้ Tech stack ใหม่ไม่ว่าจะเป็น ไมโครเซอร์วิส, คลาวด์, Kafka ก็อยากให้ลองเข้ามาสมัครงานที่นี่และเรียนรู้ไปด้วยกัน มีงบประมาณให้ลองเล่นเทคโนโลยีใหม่ๆ เมื่อเข้ามาแล้วมีคอร์สเทรนนิ่ง และ Free learning day ที่ให้ทุกคนร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ด้วยกัน
ความรู้สึกทีมงาน
คุณกนดา กุลสวัสดิ์ (ฝ้าย) Senior QA Engineer ทำหน้าที่ดูแลคุณภาพของระบบก่อนที่จะส่งมอบให้กับลูกค้า และดู Requirement จากลูกค้าและส่งงานต่อให้นักพัฒนา
จากการทำงานที่นี่ 2 ปี รู้สึกว่าตัวเองได้เติบโตขึ้นในด้านทักษะ เราสามารถหาคอร์สพัฒนาทักษะมาเสนอบริษัทได้ ซึ่งบริษัทจะสนับสนุนงบประมาณให้
ที่ Fillgoods ยังมีสวัสดิการอาหารที่ดีมาก ทั้งอาหารกลางวัน ขนม ชานมไข่มุกในทุกการประชุม Town Hall ของบริษัท มีการโหวตไปทำกิจกรรมสันทนาการทุกเดือน เช่น กินบุฟเฟ่ต์ แฮงเอาท์ ที่สำคัญ พนักงานยังสามารถลาพักร้อนได้ 15 วัน พิจารณาขึ้นเงินเดือนปีละ 2 ครั้ง
คุณ ธนณัฐ ปัญญาโกษา (ต้อง) Lead Backend Engineer ทำหน้าที่ควบคุมและดูแลน้องๆ และทำ API เพื่อให้ติดต่อสื่อสารกับดาต้าเบส เรียบเรียงข้อมูลไปยังหน้าเว็บไซต์
ความท้าทายในเนื้องานที่เจอคือ ได้แก้ปัญหาให้ลูกค้า เช่นฝั่ง CS แจ้งมาว่าลูกค้ายังไม่ได้รับสินค้า เราก็ต้องมาดูว่าข้อมูลสินค้าตกหล่นไปอยู่ที่ไหน มีข้อมูลไม่สอดคล้องกันที่ไหนบ้าง อีกอย่างคือ ปัจจัยภายนอกของระบบ เช่นเราใช้คลาวด์ ระบบคลาวด์มีโอกาสล่มได้ เราต้องรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นนี้ให้ได้
สิ่งที่ประทับใจที่นี่คือ อาหารกลางวัน ได้ลองใช้ Tech Stack ใหม่ที่ทั่วโลกใช้กัน มีกระบวนการทำงานชัดเจน มีการแบ่งลำดับความสำคัญของงานชัดเจน มี Stand up meeting เพื่อคุยแก้ปัญหางานทุกวัน ทุกพักเที่ยงเรายังมีการตั้งวงเล่นบอร์ดเกม เล่นดนตรีด้วยกันทุกวันด้วย
Fillgoods มีทั้งสำนักงานในสาทร กทม., และจังหวัดเชียงใหม่ กำลังหาเพื่อนร่วมงานหลายตำแหน่ง ผู้ที่สนใจดูรายละเอียด และยื่น Resume สมัครงานได้ที่ Blognone Jobs และสามารถดูรายละเอียดของบริษัทได้ที่ Fillgoods.co |
# บริษัทไอที Google, Microsoft, Facebook ฯลฯ ร่วมฟ้องทรัมป์ ฐานออกกฎส่งนักศึกษาต่างชาติกลับประเทศ
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกาหรือ ICE ภายใต้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ออกกฎให้ส่งนักเรียนต่างชาติกลับประเทศตัวเองถ้าสถาบันการศึกษาทำการสอนออนไลน์แบบ 100% ส่งผลให้สถาบันศึกษาไม่พอใจ โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและสถาบัน MIT ออกมาฟ้องร้องรัฐบาลทรัมป์แล้ว ล่าสุดมีบริษัทไอทีใหญ่หลายรายเข้าร่วมกระบวนการฟ้องร้องด้วย
หนึ่งในรายชื่อบริษัทเทคโนโลยีที่เข้าร่วมฟ้องมี Google, Microsoft, Facebook, Github, Twitter, Spotify, Salesforce, Adobe, Dropbox, PayPal ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีทนายความตัวแทนจาก 18 รัฐ และกลุ่มล็อบบี้ยิสต์บางกลุ่มเข้าร่วมฟ้องด้วย
ในเอกสารฟ้องร้องระบุว่า หากสถาบันการศึกษาในอเมริกา ปราศจากนักศึกษาต่างชาติ ทางสถาบันจะไม่มีทางผลิตงานวิจัยที่ทันสมัย และฝึกอบรมทักษะแรงงานให้กับพวกเขาได้เลย นอกจากนี้พวกเขายังมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ หากไม่มีพวกเขา สถาบันการศึกษาในอเมริกาจะต้องเผชิญความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ก็ลงนามคำสั่งบริหาร ยกเลิกการใช้ H-1B หรือวีซ่าทำงานสำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพเชี่ยวชาญพิเศษ กระทบคนทำงานไอทีโดยตรง บรรดาคนไอทีก็ออกมาต่อต้านกฎดังกล่าว
ภาพจาก Shutterstock
ที่มา - Financial Times |
# OnePlus Nord จะมาพร้อมกล้องหน้า 2 ตัว ถ่ายเซลฟี่ได้มุมกว้างถึง 105 องศา
หลังจากลืออยู่พักใหญ่ ล่าสุด OnePlus ยืนยันผ่าน Instagram แล้วว่า OnePlus Nord สมาร์ทโฟนราคาถูกรุ่นใหม่ที่ใกล้เปิดตัว จะมาพร้อมกับกล้องหน้า 2 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องหลักความละเอียดอยู่ที่ 32 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพมุมกว้างได้มากถึง 105 องศาโดยไม่ต้องพึ่งไม้เซลฟี่
อนึ่ง OnePlus Nord จะเปิดตัวในวันที่ 21 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมาพร้อมกับชิป Snapdragon 765G, หน้าจอ OLED ขนาด 6.55 นิ้ว พร้อมอัตรารีเฟรซ 90Hz สนนราคาไม่เกิน 500 เหรียญ (ประมาณ 15,700 บาท) วางขายในยุโรปและอินเดียเป็นที่แรก
ที่มา - The Verge |
# [ลือ] Galaxy Note 20 และ Note 20 Ultra อาจยังใช้ Exynos 990 เหมือน S20
แฟนๆ Samsung อาจต้องเซ็ง ล่าสุดเว็บไซต์ Sammobile รายงานว่า Galaxy Note 20 และ Note 20 Ultra มือถือเรือธงตระกูล Note รุ่นใหม่ อาจยังใช้ชิป Exynos 990 เหมือนกับ Galaxy S20 ทั้งๆ ที่ เห็นได้ชัดว่า Exynos 990 ที่ใช้ในมือถือตระกูล Galaxy S20 ไม่สามารถเทียบเคียงกับ Snapdragon 865 ที่ Samsung ใช้ในบางตลาด เช่น สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ได้ (แถมมีข่าวลือว่าทำเอาทีมพัฒนาชิปต้องอับอายที่ Samsung เลือกใช้ Snapdragon ในตลาดบ้านตัวเอง)
นอกจากเสียเปรียบเมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกันที่ใช้ชิปของ Qualcomm แล้ว ยังอาจเสียเปรียบแบรนด์อื่นด้วย เพราะมือถือแอนดรอยด์ในครึ่งปีหลังอาจเริ่มใช้ชิป Snapdragon 865+ ที่เร็วกว่า 865 เดิม 10% กันแล้ว อาจทำให้ระยะห่างในด้านประสิทธิภาพ มากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ยังเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น และอาจจะดูเป็นการตัดสินใจที่ประหลาดไปหน่อยของ Samsung ถ้าจะใช้ชิปรุ่นเดิมโดยไม่อัพเกรดเป็น Exynos 992 ที่มีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ แต่ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ในด้านการคุมต้นทุนเพื่อให้ขายในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปในสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว คงต้องติดตามกันว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ในงาน Galaxy Unpacked วันที่ 5 สิงหาคมนี้
ที่มา - SamMobile |
# ถึงยุคไมโครซอฟท์ทำ Java, ช่วยพอร์ต OpenJDK ไปรันบน Windows 10 on ARM
วิศวกรไมโครซอฟท์กำลังพอร์ต Java Development Kit (OpenJDK) ไปรันบน Windows 10 on ARM โดยเริ่มจาก Java 15 ที่จะออกในเดือนมิถุนายนนี้
ตอนนี้โค้ดที่พอร์ตอยู่ระหว่างการเสนอไปยังโครงการ OpenJDK ต้นน้ำ (JEP 388) โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง ไมโครซอฟท์กับ Red Hat ซึ่งปัจจุบัน Red Hat เป็นผู้ดูแลโครงการ OpenJDK ร่วมกับ Oracle
ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดไบนารีได้จาก GitHub ของไมโครซอฟท์ (openjdk-aarch64) โดยไมโครซอฟท์บอกว่าทดสอบแล้วกับ Apache Maven, Apache Ant, Gradle และ Visual Studio Code Java Extension Pack (ซึ่งตัว VS Code ก็รองรับ Windows on ARM เรียบร้อยแล้ว)
เมื่อปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์เพิ่งซื้อกิจการบริษัท jClarified ผู้พัฒนา AdoptOpenJDK เพื่อเสริมทีมงานด้าน Java สำหรับงานฝั่งเซิร์ฟเวอร์
ที่มา - InfoWorld |
# WSJ เผย SoftBank กำลังพิจารณาขายหุ้น Arm บางส่วนหรืออาจขายทั้งหมด
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง เผยว่า SoftBank กำลังพูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงิน พิจารณาแผนการลงทุนในอนาคตกับ Arm Holdings โดยอาจขายหุ้นทั้งหมด หรือขายหุ้นบางส่วน หรืออาจทำไอพีโอนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม SoftBank อาจเลือกไม่ทำอะไรในตอนนี้ก็ได้
SoftBank ซื้อกิจการ Arm เมื่อปี 2016 ด้วยมูลค่าราว 32,000 ล้านดอลลาร์ และนำบริษัทออกจากตลาดหุ้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Arm ก็เตรียมโอนย้ายธุรกิจ IoT ให้ SoftBank อีกด้วย
ที่ผ่านมานักลงทุนรายใหญ่ใน SoftBank ได้กดดันให้ SoftBank พยายามขายหุ้นบริษัทที่ลงทุนบางส่วน เพื่อนำเงินสดออกมา ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่ที่ SoftBank ลงทุนอยู่นอกจาก Arm ยังมี T-Mobile และ Alibaba
ที่มา: The Wall Street Journal |
# Microsoft Flight Simulator ได้กำหนดวางขาย 18 สิงหาคม, รุ่นแพงสุด 120 ดอลลาร์
Microsoft Flight Simulator เวอร์ชันปี 2020 ที่เน้นจุดเด่นเรื่องความสมจริง กราฟิก 4K HDR ข้อมูลแผนที่ของจริง สภาพอากาศเรียลไทม์ ประกาศวันวางขายเวอร์ชันพีซี เป็นวันที่ 18 สิงหาคม 2020
ไมโครซอฟท์ระบุว่าข้อมูลแผนที่ในเกมมีอาคาร 1.5 พันล้านแห่ง ต้นไม้ 2 ล้านล้านต้น โมเดลเครื่องบินรวม 30 รุ่น สนามบินทั้งหมด 40 แห่ง
จำนวนเครื่องบินและสนามบิน จะขึ้นกับราคาของเกมแต่ละ edition ที่แบ่งเป็น 3 ระดับ
Standard Edition มีเครื่องบิน 20 รุ่น สนามบิน 30 แห่ง ราคา 59.99 ดอลลาร์
Deluxe Edition มีเครื่องบิน 25 รุ่น สนามบิน 35 แห่ง ราคา 89.99 ดอลลาร์
Premium Deluxe Edition มีเครื่องบิน 30 รุ่น สนามบิน 40 แห่ง ราคา 119.99 ดอลลาร์
สนามบินชั้นนำของโลกอย่าง Dubai, Frankfurt, Heathrow, San Francisco จะอยู่ในรุ่นแพงสุดคือ Premium Deluxe Edition เท่านั้น ทำให้เกมถูกวิจารณ์ในเรื่องนี้อยู่บ้าง (รายชื่อเครื่องบินและสนามบินทั้งหมด ดูได้จากที่มา)
เกม Microsoft Flight Simulator แบบ Standard Edition ที่ราคาถูกที่สุด จะเปิดให้เล่นฟรีสำหรับสมาชิก Xbox Game Pass for PC ที่เป็นบริการเหมาจ่ายรายเดือนด้วย ตั้งแต่วันแรกที่ออกขาย
ที่มา - Xbox, Eurogamer |
# OPPO เตรียมเปิดตัวระบบชาร์จมีสาย 125W เกทับ Xiaomi ที่ทำได้ 100W
หลัง Xiaomi โชว์ระบบชาร์จ 100W ช่วงปลายปีที่แล้ว และมีข่าวลือว่า อาจใส่มาใน Mi Mix 4 ที่จะเปิดตัวในปีนี้ คราวนี้ถึงคิว OPPO เกทับด้วยระบบชาร์จมีสาย 125W บ้าง หลังเปิดตัว Reno Ace ที่ชาร์จได้ถึง 65W ไปเมื่อปีที่แล้ว โดย OPPO ทวีตวิดีโอสั้นๆ ที่เป็นตัวเลข 65W ค่อยๆ เพิ่มไปเป็น 125W และปิดท้ายด้วยวันที่ 15 กรกฎาคมนี้
ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า OPPO แค่จะเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่เฉยๆ หรือจะเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 125W เลย และยังมีข้อถกเถียงว่าการชาร์จเร็วอาจทำให้อายุแบตสั้นลง ซึ่ง OPPO ก็เคยออกมายอมรับเองว่าเป็นความจริง แต่หลายๆ คนก็อาจจะมองว่าคุ้ม ถ้าได้ความเร็วเพิ่มมาในระดับนี้
ที่มา - Neowin
OPPO Reno Ace ชาร์จเร็ว 65W |
# กูเกิลร่วมกับภาคการศึกษาอินเดีย ฝึกครูใช้เครื่องมือการศึกษา G Suite for Education, Google Classroom
นอกจากกูเกิลจะประกาศลงทุนใหญ่ในอินเดียแล้ว ยังประกาศร่วมมือกับหน่วยงานดูแลโรงเรียนเอกชนและรัฐบาลในอินเดียหรือ Central Board of Secondary Education (CBSE) ที่ดูแลโรงเรียน 22,000 แห่ง ในการสนับสนุนให้โรงเรียนในอินเดียได้ใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อการศึกษา
ในการร่วมมือนี้ กูเกิลจะช่วยฝึกอบรมครูในการใช้งานโซลูชั่นต่างๆ เช่น G Suite for Education, Google Classroom และ YouTube เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์การศึกษาในโรงเรียนให้มีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ Facebook ก็ร่วมมือทางการศึกษากับ CBSE ในอินเดีย เปิดตัวหลักสูตรดิจิทัล ว่าด้วยความปลอดภัยบนโลกดิจิทัล, digital wellbeing และ augmented reality
ที่มา - TechCrunch |
# กูเกิลลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในอินเดียก้อนใหญ่ ร่วม 10,000 ล้านดอลลาร์
ในงาน Google for India มีประกาศสำคัญในงานคือ กูเกิลลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลก้อนใหญ่ 10,000 ล้านดอลลาร์ เป็นการลงทุนระยะยาวกินเวลา 5-7 ปีผ่าน India Digitization Fund
การลงทุนครอบคลุมงาน 4 ด้านคือ
ลงทุนเพื่อให้ประชาชนอินเดีย สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ในภาษาของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นภาษาฮินดี, ปัญจาบ, ทมิฬ
ลงทุนสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อตอบความต้องการของคนอินเดียจริงๆ
สนับสนุนธรกิจให้เปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
ลงทุนพัฒนาต่อยอด AI ในแขนงต่างๆ เช่น สุขภาพ, การศึกษา, การเกษตร
ที่ผ่านมา กูเกิลมีการลงทุนในอินเดียอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการเดินสายไฟเบอร์ไปตามรางรถไฟในอินเดียเพื่อให้บริการ Wi-Fi, สร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา AI ที่เมือง Bangalore,
ที่มา - กูเกิล |
# ประธานบอร์ด WeWork คาดบริษัทจะมีกระแสเงินสดเป็นบวกอีกครั้งในปีหน้า
ผ่านวิกฤติใหญ่มาตลอด 2 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเพราะตัวเองหรือเพราะ COVID-19 แต่ล่าสุด WeWork อาจจะเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์เมื่อ Marcelo Claure ประธานบอร์ดบริษัท (ที่ควบตำแหน่ง COO ของ SoftBank ด้วย) ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ว่า WeWork กำลังเดินหน้าตามแผนและน่าจะเริ่มมีกำไรจากการดำเนินงาน รวมถึงมีกระแสเงินสดเป็นบวกภายในปีหน้า
Claure บอกว่า WeWork หลังจากนี้จะเป็นบริษัทที่มีกำไร ขณะเดียวกันแม้ COVID-19 จะดูเหมือนกระทบ WeWork โดยตรง มีผู้เช่าหลายรายไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าหรือขอยกเลิกสัญญาก็ตาม แต่ Claure บอกว่าหลายบริษัทกลับเลือก WeWork ให้เป็นรีโมทออฟฟิศแทนการเข้าออฟฟิศของตัวเอง บริษัทใหญ่ ๆ ที่มีเซ็นสัญญาไปแล้วก็มี Mastercard, Bytedance, Microsoft และ Citigroup เป็นต้น ส่วนวิธีการลดรายจ่ายอื่น ๆ ของ WeWork ก็เป็นท่าปกติ อย่างเช่นขายกิจการที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจหลักและไม่น่าทำกำไร ลดพนักงาน ยกเลิกสัญญาเช่าในหลายพื้นที่
Marcelo Claure มีประสบการณ์และชื่อเสียงจากการทำให้ Sprint กลับมามีสถานการณ์ทางการเงินที่ดีขึ้นและมีส่วนสำคัญในการควบรวมกิจการของ Sprint และ T-Mobile ก่อนจะถูกแต่งตั้งให้เข้ามากู้สถานการณ์ WeWork หลัง SoftBank บีบให้ Adam Neumann อดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งลาออกเมื่อปีที่แล้ว
ที่มา - FT
ภาพจาก Shutterstock |
# IDC รายงานคนชมอีสปอร์ตเพิ่มขึ้นเท่าตัวหลัง COVID-19 ระบาด
IDC (International Data Corporation) แถลงข้อมูลร่วมกับ Esports Charts บริษัทรวบรวมข้อมูลด้าน Esports เปรียบเทียบยอดชั่วโมงการดูสตรีมเกมบน Twitch ในช่วงก่อนกับหลัง COVID-19 ระบาด พบอัตราการรับชมเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
จำนวนชั่วโมงที่คนดูสตรีมเกมบน Twitch ช่วงเดือนธันวาคมปี 2019 เทียบกับเดือนพฤษภาคม 2020 เพิ่มขึ้นถึง 99% จาก 867 ล้านชั่วโมง เป็น 1.72 พันล้านชั่วโมง
จำนวนชั่วโมงที่คนดู เกม 15 อันดับแรกของ Twitch มากขึ้น 88% โดย 5 อันดับแรกประกอบด้วย League of Legends, Fortnite, Counter-Strike: Global Offensive, Grand Theft Auto V, and Dota 2 และอื่นๆ และจำนวนชั่วโมงที่คนดูเกม 15 อันดับนี้ คิดเป็น 48% ของจำนวนชั่วโมงที่คนดูสตรีมบน Twitch ทั้งหมด (คนยังดูเกมดังๆ เกมเดิมเป็นส่วนใหญ่)
เปรียบเทียบจำนวนคนดูการแข่งขัน Esports ช่วงก่อนและหลัง COVID-19 ระบาด 15 การแข่งขัน (เช่นการแข่งขัน League of Legends ของเกาหลี LCK 2019 Spring กับ LCK 2020 Spring) พบว่าจำนวนชั่วโมงที่มีคนดู เพิ่มขึ้นถึง 114% และจำนวนคนดูเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึงสองในสาม
แบบสำรวจผู้เล่นเกมบน PC กว่า 13,000 คนเมื่อเดือนกันยายน ปี 2019 พบว่าฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ในจีน มีแนวโน้มที่จะดูวิดีโอสตรีมเกม และเป็นผู้อัดวิดีโอการเล่นเกมเพื่ออัพโหลดสู่โลกออนไลน์ มากกว่าเกมเมอร์ในสหรัฐอเมริกา เยอรมัน บราซิล และรัสเซีย
นอกจากนี้ IDC ยังกล่าวอีกว่าเกมส่วนใหญ่ที่มียอดการรับชมมากขึ้น เป็นเกม multi-platform คือวางจำหน่ายหลายเครื่อง ไม่ใช่แค่บน PC หรือบนคอนโซล โดยยอดชั่วโมงการรับชมบน Twitch กว่า 55% เปอร์เซ็นต์ มาจากเกม multi-platform ในเดือนธันวาคม 2019 และเพิ่มเป็น 62% ในเดือนพฤษภาคม 2020 ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจส่งเกมลงเครื่องต่างๆ ของผู้จัดจำหน่าย และแม้ยอดการรับชม Esports จะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังขาดความแน่นอน ว่าการจัดแข่งในสนามจริงจะยังทำได้หรือไม่ และต้องติดตามผลของ COVID-19 ที่มีต่อวงการ Esports กันต่อไป
ที่มา - IDC |
# Assassin's Creed Valhalla ประกาศวันวางขาย 17 พ.ย. มีระบบเลี้ยงแมวบนเรือไวกิ้ง
Ubisoft เผยข้อมูลเพิ่มเติมของเกม Assassin's Creed Valhalla โดยข้อมูลสำคัญที่สุดคือวันวางขาย 17 พฤศจิกายน 2020 บนทุกแพลตฟอร์ม PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X, PC, Stadia
การที่ Valhalla จะเป็นเกมเปิดตัว (launch title) ของคอนโซลยุคใหม่ทั้ง PS5 และ Xbox Series X ทำให้เราพอคาดเดาวันวางขาย PS5/Xbox Series X ได้บ้าง ว่าคงไม่หนีไปจากวันที่ 17 พฤศจิกายนมากนัก (PS3 ขายวันที่ 13 พฤศจิกายน 2013 และ Xbox One ขายวันที่ 22 พฤศจิกายน)
ข้อมูลอื่นๆ คือเกมมีระบบเลี้ยงแมว! โดยตัวเอก Eivor สามารถคุยกับแมวที่มีเครื่องหมายกล่องคำพูด และนำไปเลี้ยงบนเรือไวกิ้งได้ (ทีมงาน Ubisoft ใช้คำว่า cat raider), เกมตกปลา, แข่งร้องเพลงแร็ปไวกิ้ง, แข่งดื่มเหล้า และระบบรอยสักที่สามารถเลือกลายได้เองด้วย
คลิปเกมเพลย์แบบสรุป 5 นาที
คลิปเกมเพลย์แบบเต็ม 30 นาที
ที่มา - Ubisoft |
# GitHub ล่มยาวหลังมีปัญหาตั้งแต่ก่อนเที่ยง
GitHub มีปัญหาวันนี้ตั้งแต่ช่วง 11 โมงที่ผ่านมาโดยประสิทธิภาพการทำงานลดลงและอัตราการแจ้ง error สูงขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดแทบไม่มีใครเข้าได้
ทาง GitHub แจ้งว่าพบต้นเหตุของปัญหาตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมาและกำลังทำงานเพื่อกู้ระบบอยู่
ที่มา - GitHub |
# Google เตรียมแบนโฆษณาสปายแวร์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการเฝ้าติดตามบุคคล
Google ออกนโยบายแบนโฆษณาที่มีเนื้อหาโปรโมทสปายแวร์ เทคโนโลยี หรือบริการที่ใช้ในการเฝ้าติดตามบุคคลโดยไม่ได้รับคำยินยอม เช่น มัลแวร์ที่ใช้ในการดักจับข้อความ การโทร ประวัติการท่องเว็บ, เครื่องติดตาม GPS สำหรับสอดแนม เป็นต้น เริ่มใช้จริงในเดือนสิงหาคมนี้
นโยบายดังกล่าวครอบคลุมโฆษณาที่โปรโมทการสอดแนมทุกรูปแบบ แต่จะไม่รวมถึง บริการนักสืบเอกชน หรือผลิตภัณฑ์และบริการที่ออกแบบมาเพื่อเฝ้าสังเกตบุตรหลานที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
หากละเมิดนโยบายดังกล่าว Google จะไม่ระงับบัญชีในทันที แต่จะแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนบัญชีถูกระงับ
ก่อนหน้านี้ Google ก็ได้ถอดแอปพลิเคชั่นสปายแวร์ 4 แอปออกจาก Playstore ไปเช่นเดียวกัน
ที่มา - Google Via Gizmodo |
# เคอร์เนลลินุกซ์ร่วมวง เลิกใช้คำว่า master/slave และ blacklist/whitelist
Linus Torvalds เห็นชอบให้โค้ดและเอกสารของเคอร์เนลลินุกซ์ เลิกใช้คำที่อ่อนไหวอย่าง master/slave และ blacklist/whitelist
ข้อเสนอนี้มาจาก Dan Williams หนึ่งในผู้ดูแลเคอร์เนลลินุกซ์ โดยเสนอให้เลิกใช้คำเดิม ส่วนจะแทนด้วยคำใหม่ว่าอะไรนั้นไม่ได้กำหนดตายตัว ขึ้นกับบริบทของการใช้งานและการตัดสินใจของนักพัฒนาแต่ละคน
master/slave เสนอใช้คำว่า
primary/secondary
main/replica or subordinate
initiator/target
requester/responder
controller/device
host/worker or proxy
leader/follower
director/performer
blacklist/whitelist เสนอใช้คำว่า
denylist/allowlist
blocklist/passlist
รูปแบบคำเหล่านี้เป็นแค่ "สไตล์การเขียนที่แนะนำ" เท่านั้น และกรณีที่เป็นโค้ดเดิมที่มีอยู่ก่อน อาจยังคงคำเดิมไว้เพื่อความเข้ากันได้
โครงการเคอร์เนลลินุกซ์ ถือเป็นโครงการโอเพนซอร์สล่าสุดที่ประกาศปรับนโยบายเรื่องคำที่อ่อนไหวเรื่องเชื้อชาติ ตามหลังหลายโครงการที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ เช่น GitHub, OpenZFS, Chrome
ที่มา - LKML, ZDNet |
# Ubisoft ใจป้ำ เปิดลงทะเบียน แจก Watch Dogs 2 และไอเท็มพิเศษ ฟรี หลังระบบล่มเมื่อคืนนี้
หลัง Ubisoft ประกาศแจก Watch Dogs 2 โดยมีเงื่อนไขว่าต้องล็อกอินเข้าสู่ระบบ Uplay และเข้าชมงาน Ubisoft Forward หรือเชื่อมบัญชีกับ Twitch เพื่อรับ Twitch Drop เกม Watch Dogs 2 แต่ช่วงใกล้เริ่มงาน ระบบกลับล่ม ทำให้มีคนหลุดออกจากระบบ Uplay และไม่สามารถล็อกอินเข้าไปชมเพื่อรับเกมฟรีได้เป็นจำนวนมาก
วันนี้ Ubisoft ก็แสดงความใจป้ำ ตัดสินใจแจกเกม Watch Dogs 2 และไอเท็มในเกมอื่นๆ เช่น ขวาน Moonlight ใน Assassin's Creed Valhalla หรือเสื้อ Ubisoft Forward ในเกม Watch Dogs: Legion ให้ฟรี แค่ล็อกอิน Uplay ผ่านลิงก์นี้ ก็จะได้รับเกมและไอเท็ม เหมือนดูไลฟ์เมื่อคืนทุกประการ โดยเกม Watch Dogs 2 จะทยอยเข้าคลังบน Uplay ของผู้เล่น ส่วนไอเท็มใน Assassin's Creed Valhalla และ Watch Dogs: Legion จะได้รับเมื่อเกมวางจำหน่าย (และซื้อมาเล่น)
ที่มา - Ubisoft |
# Watch Dogs: Legion เผยรายละเอียดเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ใหม่ พร้อมตัวอย่างพากย์ไทย
ในงาน Ubisoft Forward เมื่อคืนนี้ มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ใหม่เพิ่มเติมของ Watch Dogs: Legion ว่ากรุงลอนดอนที่เป็นเมืองหลังของภาคนี้ อยู่ในสภาวะถูกทำลายจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย ทำให้ทหารรับจ้างบริษัท Albion ที่นำโดย Nigel Cass เข้ามาควบคุมเมืองแบบเบ็ดเสร็จโดยอ้างความสงบเรียบร้อย
แถมยังมีกลุ่มอาชญากรค้ามนุษย์ นำโดย Marie Kelly เข้ามาควบคุมบางพื้นที่ด้วยเช่นกัน คาดว่าสองคนนี้น่าจะเป็นตัวร้ายหลักของภาคนี้ และนอกจากนี้ แชนแนล Youtube ของ Ubisoft ไทย ยังลงตัวอย่างซินีมาติก Tipping Point ที่โชว์เนื้อเรื่องเกมแบบพากย์ไทยเต็มรูปแบบอีกด้วย
เกมเพลย์เดิมที่ Ubisoft เปิดเผย ในงาน E3 ปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าตัวละครใดในเมือง ก็ถูกเกณฑ์มาเป็นพวกเราได้ ส่วนงานคราวนี้เป็นการแสดงเกมเพลย์ และความสามารถที่แตกต่างกันของตัวละครอาชีพต่างๆ ในภารกิจบุกฐาน Albion ในหอคอยลอนดอนเพื่อสืบค้นข้อมูลไว้เล่นงาน Nigel
ผู้เล่นสามารถเล่นเป็นคนงานก่อสร้าง ใช้อาวุธเป็นประแจและปืนยิงตะปู บุกเข้าไปตรงๆ เล่นเป็นคนเล่นโดรน ใช้โดรนเพื่อลอบเร้นเข้าไป หรือจะเกณฑ์ทหารรับจ้าง Albion มาเป็นพวก (ที่ทีมงานบอกว่าจะเกณฑ์ยากกว่าตัวละครปกติ) แล้วใช้บัตรสแกนเข้าไปเลยก็ได้ นอกจากนี้ตัวละครคุณป้ามหาภัยที่เป็นตัวเด่นในตัวอย่างก่อนก็กลับมาอีกครั้ง แถมคราวนี้มีตัวละครใหม่ มือสังหารมืออาชีพ ที่เปิดตัวพร้อมเพลงประกอบคุ้นๆ และทำให้นึกถึงมือสังหารคนหนึ่งที่ฆ่าคนได้ด้วยดินสอ
Watch Dogs: Legion วางจำหน่าย 29 ตุลาคมนี้ บน PS4, Xbox One, PS5,Xbox Series X, PC และ Stadia
ที่มา - Ubisoft Forward |
# Hyperscape เกม Battle Royale ไซไฟจาก Ubisoft เปิด Open Beta ให้เล่นฟรีแล้ววันนี้
Hyperscape เกมยิงแนว Battle Royale ในโลกไซไฟจาก Ubisoft ที่เน้นการเคลื่อนที่ในแน่วดิ่ง ทั้งกระโดด แดช และการใช้สกิลต่างๆ คล้ายกับ Hero Shooter เปิด open-beta บน PC ให้ทดลองเล่นได้ฟรีแล้ว สามารถดาวน์โหลดได้ผ่านเว็บไซต์ Ubisoft และบน Uplay ส่วนบนคอนโซลจะตามมาทีหลัง และยังไม่เปิดเผยวันเปิดตัวเวอร์ชั่นเต็มอย่างเป็นทางการ
ที่มา - Ubisoft Forward |
# ไอบีเอ็มอินเดียประกาศหาวิศวกรประสบการณ์ Kubernetes 12 ปีขึ้นไป แม้โครงการเพิ่งมีมา 6 ปี
IBM GST (Global Technology Services) ฝ่ายบริการให้คำปรึกษาของไอบีเอ็มประกาศรับสมัครวิศวกรดูแลโครงสร้างคลาวด์เพื่อทำงานในอินเดีย โดยระบบที่ดูแลเป็นโครงสร้างของระบบงานด้านการวิเคราะห์ภาษาเพื่อการวิเคราะห์ log จากระบบ แต่จุดที่น่าสนใจคือประสบการณ์ที่ต้องการนั้นสูงมาก โดยต้องการประสบการณ์ในการใช้งาน Kubernetes ถึง 12 ปีขึ้นไป แม้ว่าตัวโครงการ Kubernetes เพิ่งประกาศสู่โลกภายนอกกูเกิลเพียง 6 ปีก็ตาม
นอกจากประสบการณ์ Kubernetes 12 ปีแล้ว ตำแหน่งนี้ยังต้องการประสบการณ์ในการจัดการ Elasticsearch, Logstash, Kibana (ELK) พร้อมด้วยประสบการณ์การจัดการระบบ Virtualization อย่าง VMware หรือ Citrix, ประสบการณ์การใช้คลาวด์, การจัดการคอนฟิกด้วย Ansible หรือ Chef, และความสามารถในการเขียนโปรแกรมภาษาไพธอน
โลกไอทีมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว ประกาศรับสมัครงานหลายครั้งจึงมักกำหนดประสบการณ์ผิดพลาดเช่นนี้ เช่นยุคต้นๆ ของจาวาก็มีการประกาศรับสมัครโปรแกรมเมอร์จาวาประสบการณ์สูงๆ เช่นกัน โดยทั่วไปแล้วประกาศงานเช่นนี้อาจจะหมายถึงการทำงานที่เกี่ยวข้องมานานพอ ถ้าใครพบประกาศแนวนี้แล้วสนใจก็ควรลองสมัครไปดู แม้จำนวนปีประสบการณ์จะไม่ตรงก็ตาม
ที่มา - Intellijobs, The Register |
# Phil Spencer ยัน Microsoft ยังไม่หยุดซื้อสตูดิโอสำหรับพัฒนาเกมลง Xbox
ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา Microsoft ซื้อสตูดิโอพัฒนาเกมไปแล้ว 7 แห่งเพื่อควบรวมเป็น Xbox Game Studios ประกอบด้วย Compulsion Games, Double Fine, InXile, Ninja Theory, Obsidian Entertainment, Playground Games และ Undead Labs และล่าสุด Phil Spencer รองประธานด้านเกมมิ่งของ Microsoft และหัวหน้าทีม Xbox ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ gameindustry.biz ว่า Xbox Game Studios ยังไม่มีแผนที่จะหยุดซื้อสตูดิโอพัฒนาเกมแต่อย่างใด
Spencer ให้สัมภาษณ์ว่าทีม Xbox Game Studios ยังคงมองหาสตูดิโอพัฒนาเกมอื่นอยู่เสมอ และจะซื้อแน่นอนเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม พร้อมทั้งกล่าวว่าทีม Xbox ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากทั้ง Satya Nadella ซีอีโอ และ Amy Hood ซีเอฟโอของ Microsoft และยังไม่มีสัญญาณว่าเขาควรหยุดซื้อสตูดิโอใหม่ๆ แต่อย่างใด
นอกจากนี้เขายังเน้นว่าแม้ Xbox จะยังไม่หยุดซื้อสตูดิโอใหม่ แต่การผนวกรวมสตูดิโอที่เพิ่งซื้อมาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ก็สำคัญเหมือนกัน เขาต้องการให้การควบรวมเป็นไปอย่างราบรื่น ให้สตูดิโอรู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ และเป็นส่วนหนึ่งของทีม Xbox มากที่สุด
เห็นได้ชัดว่าแนวทางที่ Xbox กำลังมุ่งไปในอนาคต คือการพัฒนาเกมแบบ first-party ที่มีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ที่เตรียมซื้อ Xbox Series X ช่วงปลายปีนี้ มั่นใจได้ว่าจะมีเกมดีไว้เล่น หลัง Sony ครองตลาดด้วยเกม first-party ดีๆ บน PS4 มากมายในยุคก่อนหน้านี้ และคงทำให้การขับเคี่ยวของสองค่ายนี้ เป็นผลดีต่อผู้บริโภคมากขึ้นไปอีก
ที่มา - gameindustry.biz via DualShockers |
# Baidu ประกาศยุติการเป็นสมาชิกของ The Partnership on AI (PAI) แล้ว
Baidu ซึ่งเป็นบริษัทจากจีนเพียงหนึ่งเดียว ประกาศยุติการเป็นสมาชิกของ Partnership on AI หรือ PAI -- องค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือในการวางมาตรฐานของ AI เช่น ความเป็นส่วนตัวทางดิจิตอล, ความเหลื่อมล่ำในเชิงอัลกอริทึ่ม และ ศีลธรรมในโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทไอทีขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Apple, Facebook, Google และ Microsoft
โดยครั้งนี้ Baidu ให้เหตุผลว่า เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเป็นสมาชิกสูงเกินไป แต่จากรายงานของ Wired คาดการณ์ว่า น่าจะเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
แต่อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้อาจจะไม่ใช้การยุติการเป็นสมาชิกอย่างถาวร อาจจะต้องติดตามกันต่อไปว่าความตึงเครียดทางเมืองนี้ จะมีผลกระทบต่อวงการ AI อย่างไรต่อไป
ที่มา - Wired.com |
# Foxconn ขยายโรงงานในอินเดียอีก 1 พันล้านเหรียญ, แอปเปิลขอให้ย้ายการผลิตจากจีน
Reuters รายงานว่า Foxconn มีแผนลงทุนในการขยายโรงงานในอินเดียเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญ ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดที่ Foxconn เคยลงทุนมา
แหล่งข่าวของ Reuters บอกด้วยว่าการลงทุนครั้งนี้ของ Foxconn เป็นส่วนหนึ่งของการทำตามคำขอของแอปเปิล ที่อยากให้ย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ซึ่งแอปเปิลต้องการย้ายออกแบบเงียบ ๆ และค่อยเป็นค่อยไป เพื่อหนีสงครามการค้า
โรงงานของ Foxconn ที่จะมีการขยายเพิ่มเติมอยู่ในเมือง Sriperumbudur ตอนใต้ของรัฐทมิฬนาฑู ซึ่งเป็นโรงงานที่เคยใช้ผลิต iPhone XR การขยายโรงงานคาดว่าจะใช้เวลาราว 3 ปี สร้างงานเพิ่มขึ้นราว 6,000 ตำแหน่ง
ที่มา - Reuters
ภาพจาก Foxconn |
# LinkedIn ถูกฟ้องกลุ่มหลังแอบเก็บข้อมูลผู้ใช้ผ่านคลิปบอร์ดบน iOS
ฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 14 ที่แจ้งเตือนผู้ใช้ว่าแอปมีการแอบเก็บข้อมูลคลิปบอร์ด ซึ่งหลายแอปก็ถูกจับได้ และล่าสุดแอปโซเชียลมีเดียสำหรับหางานอย่าง LinkedIn ก็ถูกจับได้ลักษณะเดียวกันและถูกฟ้องร้องแล้ว
LinkedIn ถูกฟ้องแบบกลุ่มที่ศาลกลาง (federal) ในซานฟรานซิสโก ฐานแอปเก็บข้อมูลผู้ใช้บน iPhone/iPad ผ่านคลิปบอร์ดรวมถึงเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์แอปเปิลเครื่องอื่นด้วย (ไม่มีรายละเอียดว่าเก็บจากเครื่องอื่นอย่างไร)
ด้านหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมของ LinkedIn ยืนยันว่าไม่มีการเก็บข้อมูลผ่านคลิปบอร์ด แต่ก็ได้ตรวจสอบปัญหาของโค้ดที่ทำหน้าที่ "equality check" ที่ตรวจสอบความถูกต้องระหว่างเนื้อหาบนคลิปบอร์ดและเนื้อหาที่พิมพ์ลงไป
ที่มา - Bloomberg
ภาพจาก Shutterstock |
# Far Cry 6 เปิดตัว เน้นสงครามกองโจร ปลดแอกผู้นำเผด็จการที่แช่แข็งประเทศ
หลังจากมีข้อมูลหลุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อคืนนี้ Ubisoft ได้ฤกษ์เปิดตัว Far Cry 6 อย่างเป็นทางการ
ข้อมูลของเกม Far Cry 6 ตรงกับที่หลุดออกมา เหตุการณ์เกิดในยุคปัจจุบันที่ประเทศสมมติชื่อ Yara เป็นประเทศเกาะเขตร้อนที่ถูกปกครองด้วยผู้นำเผด็จการ Antón Castillo (รับบทโดย Giancarlo Esposito จากซีรีส์ Breaking Bad และ The Mandalorian) มายาวนาน ทำให้ประเทศถูก "แช่แข็ง" ลักษณะเดียวกับประเทศคิวบา
ตัวเอกภาคนี้ชื่อ Dani Rojas (เลือกเพศได้ทั้งชายและหญิง) เป็นประชาชนของ Yara ที่ต้องการปลดแอกประเทศจาก Antón จึงเข้าร่วมกับสงครามกองโจรครั้งนี้ ตัวละครอีกตัวที่มีบทบาทในเรื่องคือ Diego ลูกชายวัยรุ่นของ Antón ที่ถูกวางตัวให้สืบทอดอำนาจ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเป็นเด็กอายุ 13 ปีเท่านั้น
Navid Khavari ผู้กำกับการเล่าเรื่อง (Narrative Director) ของเกมภาคนี้ ระบุว่าธีมหลักคือการปฏิวัติ (revolution) ส่วนเกมเพลย์เน้นสงครามกองโจร (guerrilla warfare) จึงเลือกคิวบาเป็นต้นแบบของประเทศ Yara โดยตัวเขาและทีมงานไปเก็บข้อมูลที่คิวบานานเป็นเดือน และได้สัมภาษณ์อดีตนักรบกองโจรตัวจริงๆ ด้วย
ฉากในเกมนี้ยังอิงจากสถาปัตยกรรมในคิวบาที่ "กาลเวลาถูกแช่แข็ง" (frozen in time) อยู่ในทศวรรษ 60s ถึงแม้ฉากหลังเป็นประเทศเกาะ แต่เป็นครั้งแรกของซีรีส์ Far Cry ที่มีเมืองหลวงให้เล่นด้วย ช่วยให้เกมเพลย์หลากหลายขึ้นจาก Far Cry ภาคก่อนๆ อย่างมีการต่อสู้ในตรอกแคบๆ หรือวิ่งบนหลังคาบ้านเรือน
เกมมีกำหนดวางขาย 18 กุมภาพันธ์ 2021 ลงเครื่อง Xbox Series X, PS5, Xbox One, PS4, Stadia และ PC (ขายผ่าน Epic Games Store และ Uplay) โดยผู้ที่ซื้อเวอร์ชัน Xbox One และ PS4 สามารถอัพเกรดเป็นเวอร์ชัน Xbox Series X และ PS5 ได้ฟรี
ที่มา - Ubisoft |
# ธนาคาร Wells Fargo สั่งพนักงานลบแอป TikTok เพราะกังวลความปลอดภัย
Wells Fargo หนึ่งในธนาคารรายใหญ่ สหรัฐฯ แจ้งพนักงานให้ลบแอป TikTok เนื่องจากกังวัลเรื่องความปลอดภัย
ในข้อความแถลงจากธนาคารระบุว่า มีพนักงานจำนวนหนึ่งได้ติดตั้งแอปพลิเคชั่น TikTok ในมือถือของพวกเขา รวมถึงมือถือของบริษัทที่ใช้ในการทำงานด้วย และเนื่อจากข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ TikTok ทางธนาคารจึงออกคำสั่งให้พนักงานเหล่านั้นลบแอปออก และอุปกรณ์ของธนาคารควรใช้งานเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับงานเท่านั้น
TikTok เป็นความกังวลของหน่วยงานรัฐมานาน ว่าจะมีการส่งข้อมูลกลับไปยังรัฐบาลจีนหรือไม่ Mike Pompeo รมต. ต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังออกมาพูดเองเลยว่ากำลังพิจารณาแบน TikTok อย่างที่อินเดียทำ
ภาพโดย Ildar Sagdejev
ที่มา - Gizmodo |
# รัฐบาลอังกฤษและบริษัทโทรคมอินเดียเข้าอุ้ม OneWeb บริษัทอินเทอร์เน็ตดาวเทียมออกจากกระบวนการล้มละลาย
ศาลล้มละลายสหรัฐฯ อนุมัติแผนการฟื้นฟูบริษัทอินเทอร์เน็ตดาวเทียม OneWeb ที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรและ Bharti Global เจ้าของ Bharti Airtel ประกาศลงทุนคนละ 500 ล้านดอลลาร์เพื่อนำบริษัทกลับมาดำนเนินการอีกครั้ง
OneWeb วางแผนให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงคล้ายกับ Starlink ของ SpaceX แต่ระบบดาวเทียมของ OneWeb จะใช้ดาวเทียม 648 ดวงเพื่อให้บริการทั่วโลก และดาวเทียมโคจรที่ความสูง 1,200 กิโลเมตร เทียบกับ Starlink ที่ต้องการดาวเทียมนับหมื่นดวงเพื่อให้บริการทั่วโลกและตัวดาวเทียมโคจรที่ระดับ 550 กิโลเมตรเท่านั้น
ภาพจาก OneWeb
ตอนนี้ OneWeb ยิงดาวเทียมไปแล้ว 74 ดวง และแม้ได้รับเงินมาพันล้านดอลลาร์แต่หักค่าชดเชยต่างๆ แล้วบริษัทจะมีเงินทุนกลับมาดำเนินการจริงๆ เพียง 640 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ขณะที่ OneWeb อาศัยการจ้างนำส่งดาวเทียมทำให้มีต้นทุนค่อนข้างสูง คาดว่าการยิงดาวเทียมทั้งระบบต้องใช้เงินอย่างน้อย 2 พันล้านดอลลาร์ ทำให้คาดว่าระหว่างนี้บริษัทก็ต้องหาผู้ลงทุนใหม่
แถลงประกาศการลงทุนของรัฐบาลสหราชอาณาจักรแสดงถึงความจำเป็นของการเป็นชาติที่มีเทคโนโลยีอวกาศแนวหน้า (first rank of space nations) พร้อมกับย้ำถึงความจำเป็นที่จะมีระบบดาวเทียมนำทางของตัวเองหลังออกจากสหภาพยุโรป แต่ก็ไม่ได้ระบุชัดว่าจะใช้ดาวเทียมของ OneWeb มาเป็นดาวเทียมนำทางอย่างไร
ที่มา - BBC, GOV.UK |
# ไมโครซอฟท์ตั้งทีม Android ของตัวเองเพื่อ Surface Duo, ดึงพนักงานจากบริษัทเอาท์ซอร์ส
ถึงแม้ Surface Neo เลื่อนวางขายไม่มีกำหนด แต่ข่าวในแวดวงไมโครซอฟท์ยังยืนยันว่า Surface Duo เดินหน้าตามกำหนดเดิมในช่วงครึ่งหลังของปี 2020
ล่าสุดมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไมโครซอฟท์เริ่มตั้งทีมพัฒนารอม Android ของตัวเองแล้ว จากที่ช่วงก่อนหน้านี้ใช้วิธีเอาท์ซอร์สงาน โดยใช้บริการของบริษัท Movial ที่มีสำนักงานหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงในซีแอทเทิล ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของไมโครซอฟท์ด้วย
ไมโครซอฟท์ยืนยันข่าวนี้โดยระบุว่าจ้างพนักงานบางส่วนของ Movial มาเป็นพนักงานไมโครซอฟท์ แต่ไม่ได้ซื้อกิจการบริษัท Movial แต่อย่างใด
ตามข่าวบอกว่าตอนแรกไมโครซอฟท์ใช้วิธีเอาท์ซอร์สงานเพื่อเร่งสร้างรอมสำหรับ Surface Duo ในช่วงพัฒนาต้นแบบ แต่เมื่อสินค้าใกล้เสร็จสมบูรณ์ ไมโครซอฟท์จึงตัดสินใจตั้งทีม Android ของตัวเอง เพื่อการอัพเดตระบบปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์เวอร์ชันที่สองด้วย
ที่มา - xda |
# นาซ่าปล่อยรายงานตรวจจรวดนำส่งนักบินของ Boeing มีแก้ไข 80 รายการ บินทดสอบครั้งหน้าไม่จ่ายเงิน
เมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา SpaceX นำส่งนักบินอวกาศสองรายขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติสำเร็จภายใต้โครงการ Commercial Crew แต่โครงการนี้ยังมีผู้ร่วมอีกรายคือ Starliner ของโบอิ้งที่บินทดสอบแบบไร้นักบินไปเมื่อธันวาคมที่ผ่านมาแต่กลับไม่สามารถขึ้นไปยังวงโคจรที่กำหนดได้ ทำให้ต้องพาจรวดกลับลงสู่โลกก่อนกำหนด ตอนนี้ทางนาซ่าและโบอิ้งก็ตรวจสอบข้อมูลการบินและออกรายงานออกมาแล้ว โดยกำหนดให้ทางโบอิ้งแก้ไขถึง 80 รายการ
รายงานระบุการแก้ไขแยกตามหมวดต่างๆ ตั้งแต่ กระบวนการทดสอบและจำลองการบิน 21 รายการ, เงื่อนไขตรวจสอบซอฟต์แวร์ 10 รายการ, การปรับปรุงกระบวนการทำงาน 35 รายการ, การแก้ไขซอฟต์แวร์ 7 รายการ, การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรและการแก้ไขฮาร์ดแวร์ 7 รายการ
ผลจากการตรวจจสอบ การบินทดสอบครั้งต่อไป Orbital Flight Test-2 (OFT-2) ทางโบอิ้งจะจัดทดสอบให้นาซ่าฟรี ก่อนหน้านี้โครงการ Commercial Crew เซ็นสัญญากับทั้งโบอิ้งและ SpaceX ด้วยมูลค่าสัญญา 4.2 พันล้านดอลลาร์และ 2.6 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ ทำให้ราคาต่อที่นั่งของ SpaceX ถูกกว่ามาก
ที่มา - NASA
ภาพโมดูล CST-100 ของโบอิ้ง |
# AWS เปิดตัว cdk8s+ ไลบรารีเขียนคอนฟิก Kubernetes ลดโค้ดที่ไม่จำเป็นลง
AWS เปิดตัว cdk8s+ ไลบรารีที่ขยายต่อมาจาก cdk8s ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดย cdk8s+ สร้างเป็นส่วนขยายขึ้นมาเพื่อลดการเขียนโค้ดส่วนที่ไม่จำเป็นลง
โดยปกติการคอนฟิก Kubernetes มีออปเจกต์ต้องคอนฟิกต่อเนื่องกันหลายส่วน เช่นการเปิดบริการขึ้นมารับการเชื่อมต่อผ่านเน็ตเวิร์คก็ต้องคอนฟิกทั้งพอร์ตของบริการและสร้างออปเจกต์ Service ขึ้นมาอีกครั้ง รวมถึงต้องประกาศ label เพื่อให้ Kubernetes ส่งทราฟิกไปยังคอนเทนเนอร์ได้ถูกตัว แต่ใน cdk8s+ สามารถเขียนโค้ดประกาศบริการทีเดียว คอนฟิกที่ออกมาจะสร้าง label และออปเจกต์ขึ้นมาเอง
แม้เพิ่งประกาศโครงการมาไม่นานแต่ตอนนี้ repository ของ cdk8s ก็มีคนกดดาวถึง 1,300 คนแล้ว
ที่มา - AWS Blog |
# Cisco Webex รองรับการเบลอภาพพื้นหลัง-เปลี่ยนฉากหลังตอนประชุมแล้ว
ฟีเจอร์เบลอหรือเปลี่ยนภาพฉากหลัง เริ่มนิยมขึ้นมาจาก Zoom ส่งผลให้คู่แข่งอย่าง Microsoft Teams และ Google Meet ต้องทำตาม
ล่าสุด คู่แข่งอีกรายคือ Cisco Webex หันมาทำตามบ้างแล้ว รองรับทั้งการเบลอฉากหลังและเปลี่ยนภาพพื้นหลัง ใช้ได้กับทั้งบน Windows, Mac, iOS, Android
ที่มา - Webex, The Verge |
# ผู้บริหาร Ubisoft ลาออกชุดใหญ่ หัวหน้าครีเอทีฟ-HR รับผิดชอบปัญหาภายใน
ความคืบหน้าต่อจากข่าว Ubisoft สั่งพักงานผู้บริหารหลายคนจากพฤติกรรมไม่เหมาะสม วันนี้มีข่าวว่าผู้บริหารหลายคนตัดสินใจลาออกจากบริษัทแล้ว
ผู้บริหารคนสำคัญที่ลาออกคือ Serge Hascoët เจ้าของตำแหน่ง Chief Creative Officer ที่ดูแลงานครีเอทีฟของเกมทั้งหมดในเครือ โดยซีอีโอ Yves Guillemot จะมารับผิดชอบงานตำแหน่งนี้ชั่วคราว
ผู้บริหารที่ลาออกพร้อมกันคือ Yannis Mallat หัวหน้าสตูดิโอในแคนาดา ที่ต้องลาออกหลังมีข้อกล่าวหาหลายเรื่องต่อพนักงานในแคนาดาหลายคน ทำให้เขาต้องแสดงความรับผิดชอบ และ Cécile Cornet หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ที่ตัดสินใจลาออกหลังความขัดแย้งภายในบริษัท โดย Ubisoft ประกาศปรับโครงสร้างงานด้าน HR ใหม่เพื่อแก้ไขปัญหานี้ด้วย
นอกจากผู้บริหาร 3 คนนี้แล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อน Maxime Beland ผู้ร่วมก่อตั้ง Ubisoft Toronto หนึ่งในสตูดิโอแคนาดาก็เพิ่งลาออกไป หลังถูกแฉเรื่องการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน
ข่าวนี้ออกมาก่อนงานแถลงใหญ่ประจำปี Ubisoft Forward ที่จะจัดขึ้นในช่วงดึกคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย
ที่มา - Ubisoft, Ars Technica |
# Debian 8 "jessie" หมดระยะซัพพอร์ตแล้ว
Debian 8 "jessie" ที่ออกครั้งแรกในปี 2015 หมดระยะซัพพอร์ตแล้วในวันที่ 30 มิถุนายน 2020 โดยจะไม่ได้แพตช์ความปลอดภัยอีก
หลังจากนี้ Debian 9 "stretch" จะเข้าสถานะซัพพอร์ตระยะยาว (LTS) แทน มีระยะซัพพอร์ตนาน 5 ปีเท่ากัน หมดอายุในวันที่ 30 มิถุนายน 2022
เวอร์ชันปัจจุบันของ Debian คือ Debian 10 "Buster" ที่ออกในปี 2019 และจะซัพพอร์ตไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2024 ส่วนเวอร์ชันหน้าคือ Debian 11 "Bullseye" มีกำหนดออกปี 2021 ตามนโยบายออกรุ่นใหญ่ทุกสองปี
ที่มา - Debian |
# Crysis Remastered ประกาศวันขายเวอร์ชัน Switch เป็นแพลตฟอร์มแรก 23 ก.ค. 2020
เมื่อเดือนเมษายน เราเห็นข่าว Crysis Remastered ประกาศลงพีซี, PS4, Xbox One, Nintendo Switch โดยระบุช่วงเวลาคร่าวๆ ว่า "ฤดูร้อน 2020"
ล่าสุดบริษัท Crytek ประกาศวันวางขายของ Crysis Remastered แล้วแต่เป็นเฉพาะเวอร์ชัน Nintendo Switch (แพลตฟอร์มอื่นยังไม่ประกาศวัน) คือวันที่ 23 กรกฎาคม 2020
เกมขายในราคา 29.99 ดอลลาร์ ขนาดไฟล์บน Switch คือ 6.2GB เปิดพรีออเดอร์แล้วบนเว็บไซต์ Nintendo ใครที่อยากรู้ว่า Switch รัน Crysis ได้จริงๆ ก็กดดูวิดีโอได้ตามลิงก์
ที่มา - @Crysis, GameInformer |
# ไมโครซอฟท์เปิดตัวหน้าจออัจฉริยะสำหรับคุย Microsoft Teams ไม่ต้องผ่านคอม-มือถือ
ไมโครซอฟท์เปิดตัวหน้าจออัจฉริยะ (smart display) สำหรับวิดีโอคอลล์ผ่าน Microsoft Team โดยเรียกฮาร์ดแวร์กลุ่มนี้ว่า "Microsoft Teams displays"
หน้าจออัจฉริยะกลุ่มนี้เหมือนกับ Google Home Hub/Nest Hub หรือ Amazon Echo Show โดยเป็นอุปกรณ์จอสัมผัส เน้นสั่งงานด้วยเสียงพูด มีกล้องวิดีโอและไมโครโฟนในตัว เพียงแต่อุปกรณ์ของไมโครซอฟท์เน้นลูกค้าองค์กรเป็นหลัก ต่างจากคู่แข่งที่เน้นตลาดคอนซูเมอร์
Microsoft Teams displays เชื่อมโยงกับ Microsoft Teams อย่างแนบแน่น ออกแบบมาเพื่อการประชุมออนไลน์และตอบแชทเพื่อนร่วมงาน ระบบผู้ช่วยส่วนตัวเป็น Cortana เวอร์ชันใหม่ที่เน้นตลาดองค์กร สั่งให้เข้าประชุม พรีเซนต์งาน และตอบแชทด้วยเสียงพูด
พาร์ทเนอร์รายแรกที่ออกฮาร์ดแวร์ตัวนี้คือ Lenovo ThinkSmart View ที่เคยเปิดตัวก่อนหน้านี้ เป็นหน้าจออัจฉริยะขนาด 8" (1280x800) ข้างในใช้ซีพียู Snapdragon 624, แรม 2GB, สตอเรจ 8GB eMMC, รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 ราคา 289.99 ดอลลาร์
นอกจากนี้ยังมีหน้าจออัจฉริยะของแบรนด์ Yealink ที่โชว์ภาพให้เห็นแล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูลสเปก ฟีเจอร์ และราคา
หน้าจอของ Microsoft Teams display ออกแบบมาให้มองเห็นข้อมูลและการแจ้งเตือนสำคัญๆ ได้ทันที
ที่มา - Microsoft, Lenovo |
# Apple เตือนลูกค้า อย่าปิดจอ MacBook ลง ถ้าติดตัวปิดเว็บแคมไว้ จอภาพอาจเสียหาย
แอปเปิลได้เพิ่มข้อมูลในหน้า Support ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม เตือนลูกค้าที่ใช้ Macbook, MacBook Pro และ MacBook Air ไม่ให้ปิดจอโน้ตบุ๊คลง หากมีตัวปิดคลุมกล้องเว็บแคมอยู่ เนื่องจาก MacBook ได้ออกแบบตัวเครื่อง ให้จอภาพกับคีย์บอร์ดมีความชิดกัน การใส่ตัวคั่นไว้อาจส่งผลต่อเครื่องได้ อีกทั้งการติดตัวคลุมกล้อง อาจส่งผลต่อเซ็นเซอร์วัดแสงโดยรอบ กระทบกับการทำงานของตัวปรับแสงหน้าจออัตโนมัติด้วย
หลายคนอาจติดตัวปิดเว็บแคมไว้เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว แอปเปิลจึงระบุว่าไม่จำเป็น โดยอธิบายว่าตัวกล้องนั้นออกแบบมาเพื่อป้องกันปัญหานี้อยู่แล้ว เมื่อกล้องหน้ากำลังทำงานจะมีไฟสีเขียวปรากฏสว่างขึ้น อีกทั้งผู้ใช้งานยังกำหนดคุณสมบัติการเข้าถึงกล้องเป็นรายแอปได้อยู่แล้ว
ทั้งนี้กรณีที่ผู้ใช้หลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องใช้ตัวปิดกล้อง แอปเปิลแนะนำว่าตัวคลุมกล้องไม่ควรหนากว่า 0.1 มิลลิเมตร (กระดาษ 1 แผ่น), หลีกเลี่ยงการใช้งานที่เกิดคราบกาว และกรณีตัวคลุมหนามากกว่านั้น ให้แกะออกก่อนปิดโน้ตบุ๊คลง
ที่มา: แอปเปิล ผ่าน MacRumors ภาพจาก Reddit |
# Tencent กำลังพูดคุยเพื่อซื้อกิจการ Leyou Technologies บริษัทแม่สตูดิโอ Warframe
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าโซนี่สนใจจะซื้อกิจการของ Leyou Technologies ก่อนที่ล่าสุด Leyou จะยืนยันว่ากำลังพูดคุยอยู่กับ Tencent แบบเอ็กคลูซีฟเจ้าเดียวถึงการถูกควบรวมกิจการ โดยมีกรอบระยะเวลาในการพูดคุย 3 เดือน
Leyou Technologies เป็นบริษัทโฮลดิ้งถือหุ้นใหญ่ในสตูดิโอ Digital Extremes ที่พัฒนา Warframe เกม MMORPG โอเพนเวิลด์ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างสูงและ Splash Damage สตูดิโอที่พัฒนา Gears Tactics ให้ไมโครซอฟท์และกำลังทำเกมลง Stadia ซึ่งก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจหากเป็นที่สนใจของ Tencent ที่ตอนนี้ลงทุนหรือเป็นเจ้าของสตูดิโอเกมใหญ่ ๆ ทั่วโลกอย่าง Riot (100%), Ubisoft (5%), Activision (5%), Epic (40%), Supercell (84%) เป็นต้น
ที่มา - Bloomberg |
# AIS เปิดตัว AIS eSports Studio ที่สามย่านมิตรทาวน์ หวังสร้างโครงสร้างอีสปอร์ตประเทศ
AIS ยังคงเดินหน้ายุทธศาสตร์ด้านอีสปอร์ตด้วยการเปิดตัว AIS eSports Studio คอมมูนิตี้ฮับด้านอีสปอร์ตที่สามย่านมิตรทาวน์ เพื่อตั้งเป้าขับเคลื่อนและสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านอีสปอร์ตของประเทศ
AIS eSports Studio ได้ร่วมมือกับสมาคมอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างนักกีฬาอีสปอร์ตรุ่นใหม่ผ่านการอบรบพัฒนาทักษะและการแข่งขัน รวมถึงช่วยผลักดันให้นักกีฬาสมัครเล่นมีโอกาสได้ก้าวเป็นนักกีฬามืออาชีพ
นอกจากนี้ยังมีการใช้พื้นที่จัดกิจกรรมด้านอีสปอร์ต อาทิ ห้องส่งสำหรับการไลฟ์สตรีม แคสต์เกม และรายการทอล์คด้านอีสปอร์ต, พื้นที่จัดสัมมาธุรกิจเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมอีสปอร์ต, จัดงานมอบรางวัล Thailand Zocial AIS Gaming Awards ร่วมกับ Wisesight เป็นต้น
AIS eSports Studio เปิดให้บริการอยู่ที่พื้นที่ 24 ชม. ชั้น 2 ของสามย่านมิตรทาวน์ |
Subsets and Splits
No saved queries yet
Save your SQL queries to embed, download, and access them later. Queries will appear here once saved.