txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# EA นำภาพ John Madden กลับมาขึ้นปกเกม Madden NFL 23 เป็นเกียรติหลังเสียชีวิต
EA ประกาศนำภาพของ John Madden โค้ชอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง กลับมาเป็นภาพปกของเกม Madden NFL 23 หลังจากห่างหายไปนานกว่า 20 ปี
เกมอเมริกันฟุตบอลซีรีส์ Madden NFL ใช้ชื่อของ John Madden ทำตลาดมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 1990 โดยจุดขายหลักคือใช้เสียงพากย์ของ Madden ซึ่งเป็นคอมเมนเตเตอร์ในการถ่ายทอดสดทางทีวี มาให้เสียงในเกมด้วย (ภาคหลังๆ ถึงเปลี่ยนเป็นคนอื่นเพราะ Madden แก่แล้ว) เกมยุคแรกๆ ยังใช้ภาพของ Madden เป็นภาพปกจนถึงปี 2000 หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนมาใช้ภาพนักกีฬาแทน
John Madden เพิ่งเสียชีวิตเมื่อปลายปี 2021 ทำให้ EA นำภาพของเขากลับมาขึ้นปกอีกครั้งให้เป็นเกียรติ รวมถึงนำเสียงบรรยายของเขามารีมาสเตอร์ใหม่ด้วย
ที่มา - EA |
# กูเกิลออกแอพ Google TV บน iOS, มาแทนแอพ Play Movies & TV ของเดิม
กูเกิลออกแอพ Google TV บน iOS ตามหลังแอพเวอร์ชัน Android ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2020 (App Store)
แอพ Google TV บนสมาร์ทโฟน เป็นการรีแบรนด์แอพ Google Play Movies & TV ของเดิมที่ใช้ซื้อ เช่า และดูหนังออนไลน์แบบเป็นเรื่องๆ ไม่ใช่แบบเหมาจ่าย (ชื่อสับสนและเปลี่ยนบ่อยตามสไตล์กูเกิล) โดยกระบวนการฝั่ง Android เริ่มย้ายไปแล้ว และแอพ Play Movies & TV ของ iOS จะถูกอัพเดตเป็นแอพ Google TV ตัวใหม่เช่นกัน
ตอนนี้แบรนด์ Google TV ถูกใช้ในหลายความหมาย ได้แก่ เป็นอินเทอร์เฟซครอบ Android TV ในสมาร์ททีวี, เป็นซอฟต์แวร์ของ Chromecast และเป็นชื่อแอพมือถือบน Android/iOS
ที่มา - Google |
# [ลือ] นโยบายใหม่ Netflix จะเน้นสร้างหนังเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
เว็บข่าวบันเทิง The Hollywood Reporter ให้ข้อมูลภายในว่า Netflix กำลังปรับนโยบายผลิตคอนเทนต์ของตัวเองใหม่ หลังเจอปัญหายอดสมาชิกลดลง จนหุ้นตกหนัก และต้องปลดพนักงานออก 150 คนเพื่อลดค่าใช้จ่าย
ภาพรวมของ Netflix จะเน้นเรื่องคุณภาพมากกว่าปริมาณ สร้างหนังใหญ่ขึ้น คุณภาพสูงขึ้น แต่ลดจำนวนเรื่องลง ตัวอย่างคือแทนที่จะลงทุนสร้างหนังมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ 2 เรื่อง ก็เปลี่ยนมาสร้างหนัง 20 ล้านดอลลาร์เรื่องเดียวแทน
กลุ่มหนังที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายใหม่คือ หนังกลุ่มครอบครัว แอนิเมชัน ในขณะที่หนังใหญ่ๆ แบบ Don’t Look Up, Red Notice, Adam Project จะเป็นตัวอย่างของหนังที่ Netflix อยากทำ
Netflix ยังมีโปรเจคหนังใหญ่ๆ มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์อยู่ในคิว เช่น The Gray Man (แสดงโดย Ryan Gosling และ Chris Evans) จะฉายบนแพลตฟอร์มหลังเข้าโรงในเดือนกรกฎาคมเพียง 1 สัปดาห์ และ Knives Out 2 (Daniel Craig) เริ่มฉายในไตรมาส 4 ของปีนี้
ที่มา - The Hollywood Reporter |
# โซนี่แจกเกมฟรี God of War สำหรับสมาชิก PS Plus รอบเดือน มิ.ย. 2022
โซนี่ประกาศรายชื่อเกมแจกฟรีประจำเดือนสำหรับสมาชิก PlayStation Plus ซึ่งถือเป็นเดือนแรกภายใต้ระบบสมาชิก PlayStation Plus แบบใหม่ มีเกมใหญ่อย่าง God of War (2018) มาเป็นแม่เหล็กให้ด้วย (เผื่อใครยังไม่มี เพราะขายได้แล้วประมาณ 20 ล้านชุด)
คาดกันว่าโซนี่นำ God of War ภาคแรกมาแจกเพื่อเตรียมโปรโมท เกมภาคต่อ God of War: Ragnarok ซึ่งมีกำหนดขายปี 2022 แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลาที่แน่ชัด จึงเป็นไปได้สูงว่าโซนี่จะประกาศวันขายของ Ragnarok ในเร็วๆ นี้ด้วย
เกมอื่นที่แจกคือ Naruto to Boruto: Shinobi Striker และ Nickelodeon All-Star Brawl โดยสมาชิก PS Plus ทุกระดับจะได้เกมฟรีทั้ง 3 เกมนี้
ที่มา - PlayStation Blog |
# ทำสักที กูเกิลยุบรวม Google Meet กับ Google Duo เข้าด้วยกัน ใช้แบรนด์ Meet
กูเกิลประกาศทำในสิ่งที่ทุกคนตั้งคำถามมานานหลายปี นั่นคือทำไมไม่รวม Google Meet กับ Google Duo เข้าด้วยกัน วันนี้มันเกิดขึ้นจริงๆ แล้ว
แบรนด์ที่จะยังคงอยู่คือ Google Meet เลิกใช้แบรนด์ Google Duo
แต่ตัวเอนจินการประชุมที่ใช้ต่อคือ Google Duo
สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ กูเกิลจะเพิ่มฟีเจอร์ของ Meet ลงในฝั่ง Duo แล้วรีแบรนด์มันเป็น Meet ในช่วงปลายปีนี้ (ไม่งงนะครับ)
ระหว่างนี้ Duo จะทยอยได้ฟีเจอร์จาก Meet เช่น virtual background, scheduled meetings, in-meeting chat เมื่อพร้อมแล้วกูเกิลจะประกาศเปลี่ยนชื่อแบรนด์อีกที
แอพวิดีโอคอลล์ Duo เปิดตัวพร้อมแอพแชท Allo ในปี 2016 โดยเป็นแอพฝั่งคอนซูเมอร์ ที่แยกจากแอพฝั่งองค์กร (เทียบได้กับ Google Meet และ Google Chat ตามลำดับ ซึ่งสองตัวนี้มาจาก Hangouts เดิม)
แต่เมื่อปี 2018 กูเกิลเลิกทำแอพแชท Allo ไปก่อนแล้ว โดยยุบรวมกับแอพแชท Google Messages แทน ส่วนแอพแชทองค์กร Google Chat ยังถูกใช้งานอยู่ในชุด Google Workspace
ที่มา - Google |
# HPE ไตรมาสล่าสุด คำสั่งซื้อเติบโต 20% ทำสถิติต่ออีกไตรมาส
HPE (Hewlett Packard Enterprise) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดเดือนเมษายน มีรายได้รวม 6,713 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.2% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 250 ล้านดอลลาร์
ปริมาณคำสั่งซื้อเติบโตถึง 20% ซึ่งเป็นการเติบโตในระดับที่สูงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 โดยคำสั่งซื้อประเภท As-a-Service เพิ่มขึ้นถึง 107%
Antonio Neri ซีอีโอ HPE กล่าวว่าคำสั่งซื้อที่เพิ่มสูง สะท้อนความสนใจของลูกค้าในพอร์ตโฟลิโอของ HPE ที่รองรับจาก Edge ถึง Cloud ตลอดจนแพลตฟอร์ม GreenLake ขณะที่ซีเอฟโอ Tarek Robbiati กล่าวว่าด้วยคำสั่งซื้อในแบ็คล็อคในระดับสูงเป็นสถิติ ทำให้บริษัทเชื่อมั่นในการเติบโตตลอดปีการเงินนี้
ผลการดำเนินงานแยกรายกลุ่มธุรกิจเป็นดังนี้ Intelligent Edge โต 8%, HPC & AI โต 4% และ Compute ที่เป็นรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทเติบโต 1%
ที่มา: HEP (pdf) |
# Sheryl Sandberg ซีโอโอ Facebook และ Meta ประกาศลาออกจากตำแหน่ง
Sheryl Sandberg ซีโอโอ Meta บริษัทของ Facebook ประกาศลาออกจากตำแหน่ง มีผลในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ Sandberg จะยังรับตำแหน่งในบอร์ดบริหารของ Meta ต่อไป
Javier Olivan หัวหน้าฝ่ายการเติบโตของ Meta (Chief Growth Office) จะมารับตำแหน่งซีโอโอต่อ ซึ่งจากนี้จะเป็นช่วงการส่งต่องานทั้งหมดให้
Sheryl Sandberg ร่วมงานกับ Facebook ในปี 2008 ในฐานะซีโอโอและเบอร์ 2 ของบริษัทรองจาก Zuckerberg มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ Facebook เป็นบริษัทที่สร้างรายได้จากโฆษณาจนเติบโต และกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก
Sandberg บอกว่าได้ตัดสินใจเรื่องดังกล่าวและแจ้งกับซีอีโอ Mark Zuckerberg ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง Zuckerberg บอกว่าตำแหน่งที่ Sandberg รับผิดชอบนั้นมีรูปแบบเฉพาะและไม่มีใครแทนที่ได้ Olivan ที่จะมาเป็นซีโอโอคนถัดไปจะรับผิดชอบงานที่เป็นของซีโอโอจริง ๆ โดยเขาเตรียมปรับโครงสร้างบริหารใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้
ที่มา: CNBC, Mark Zuckerberg และ Sheryl Sandberg |
# Elon Musk สั่งผู้บริหาร Tesla ทุกคนต้องกลับมาเข้าออฟฟิศ ถ้าเข้าไม่ได้ต้องขออนุญาตโดยตรง
Elon Musk อีเมลหาผู้บริหาร Tesla ว่าทุกคนต้องเข้าออฟฟิศอย่างน้อยสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง และหากจำเป็นต้องทำงานนอกสำนักงานต้องขออนุญาตจากเขาเองโดยตรงเป็นรายกรณีไปเท่านั้น นอกจากการบังคับเข้าออฟฟิศแล้ว คำสั่งยังระบุว่าต้องเข้าออฟฟิศที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำงาน ไม่ใช่ไปนั่งสาขาอื่นตามสะดวกอีกด้วย
ท่าทีเช่นนี้นับว่าต่างจากบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ที่พยายามให้ทางเลือกพนักงานทำงานจากที่บ้านได้มากขึ้น โดยเฉพาะทวิตเตอร์ที่ Musk กำลังเข้าซื้อนั้นประกาศแนวทางไม่ต้องกลับมาทำงานในสำนักงานตลอดไป ตั้งแต่ปี 2020 Musk เองก็ยอมรับว่าบริษัทอื่นๆ ให้อิสระมากกว่า แต่เขาก็ตั้งคำถามว่าบริษัทเหล่านั้นออกสินค้าเจ๋งๆ เหมือน Tesla ได้หรือไม่
ในภาพรวมแล้ว Tesla มีพนักงานจำนวนมาก และตำแหน่งที่ไม่ใช่ผู้บริหารก็มีงานแบบรีโมตอยู่การส่งคำสั่งเช่นนี้จึงไม่น่าใช่การสั่งทั้งองค์กร แต่ก็แสดงท่าทีของ Musk ได้ดีว่าเขาไม่เชื่อว่าจะทำงานแบบรีโมตได้เท่ากับการทำงานในออฟฟิศ
ที่มา - TheVerge
` |
# FBI จับกุมอดีตผู้บริหาร OpenSea ข้อหาใช้ข้อมูลภายในซื้อ NFT ก่อนดัง, ฟอกเงิน
FBI จับกุมและตั้งข้อหากับ Nathaniel Chastian อดีตผู้บริหารของ OpenSea ในตำแหน่ง Head of Product ในมกราคมถึงกันยายน 2021 หลักจากพบว่า Chastian ดักซื้อ NFT หลายโหลก่อนที่จะเอา NFT ของครีเอเตอร์ขึ้นหน้าแรกของเว็บ OpenSea
Chastian มีหน้าที่คัดเลือก NFT ที่จะแสดงแบบเด่น (featured) ของ OpenSea ซึ่งมักทำให้ครีเอเตอร์ที่ได้รับคัดเลือกดังขึ้นอย่างมาก FBI ระบุว่าเขาใช้ข้อมูลการคัดเลือกนี้ ไปแอบกว้านซื้อ NFT อื่นๆ ของครีเอเตอร์ที่กำลังได้รับคัดเลือกไว้ล่วงหน้าด้วยบัญชีลับที่ไม่ระบุตัวตน เพราะงานชิ้นอื่นๆ ก็มักจะราคาขึ้นไปด้วยเมื่อตัวครีเอเตอร์ดังขึ้น ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ Chastian ทำกำไร NFT แต่ละชิ้นได้ 2-5 เท่าตัว
FBI ตั้งข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน พร้อมกับยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับการกระทำแบบนี้ต่อไป
ที่มา - Justice.gov
ภาพหน้าจอ OpenSea |
# [Counterpoint] ตลาด Smartwatch ไตรมาส 1/2022 โต 13% - Apple Watch ยังครองที่ 1
บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint รายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทวอทช์ของไตรมาสที่ 1 ปี 2022 ตลาดรวมเติบโต 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2021 ถือเป็นการเติบโตระดับเลขสองหลักติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5
แอปเปิลยังครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 และเพิ่มขึ้นเป็น 36.1% ส่วนอันดับ 2 คือซัมซุงที่ 10.1% การเติบโตมาจากตลาดเอเชีย ตามด้วยหัวเหว่ย Xiaomi และ Garmin ในลำดับที่ 3-5
Sujeong Lim นักวิจัยของ Counterpoint กล่าวว่าแอปเปิลยังครองตลาดอันดับ 1 ได้เนื่องจากความนิยมของแบรนด์ที่ต่อยอดจาก iPhone โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าอายุน้อย จึงมองว่าแอปเปิลจะครองตลาดในระดับสูงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี
ที่มา: Counterpoint |
# TweetDeck เวอร์ชันบน Mac จะปิดบริการ 1 กรกฎาคมนี้ ให้ไปใช้เวอร์ชันบนเว็บแทน
Twitter ประกาศว่าแอป TweetDeck เวอร์ชันบน Mac จะใช้งานได้ถึงวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยผู้ใช้งานปัจจุบันจะเห็นแถบข้อความเตือนของประกาศดังกล่าว
Twitter แนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้ TweetDeck เวอร์ชันบนเว็บเบราว์เซอร์แทน หรือสมัครเพื่อขอใช้งานเวอร์ชันทดสอบที่อยู่ในสถานะ Preview ตอนนี้
TweetDeck เป็นเครื่องมือการใช้งาน Twitter ของกลุ่ม power users ซึ่ง Twitter เป็นผู้พัฒนาเอง และ Twitter ก็มีข่าวว่าจะนำโมเดลการใช้งานแบบเสียเงิน Twitter Blue เข้ามายังผู้ใช้กลุ่มนี้ แต่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม
ที่มา: 9to5Mac |
# Instagram เตรียมเปิดใช้ Amber Alert ระบบเตือนเมื่อมีเด็กถูกลักพาตัว เริ่มต้นใน 25 ประเทศ
Instagram ประกาศจะเริ่มเปิดใช้ Amber Alert ระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เมื่อเกิดรายงานเหตุเด็กหายถูกลักพาตัวในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้ค้นหาเด็กได้เร็วขึ้น (เพิ่มเติม: Amber Alert ระบบแจ้งเตือนผ่านมือถือเมื่อมีเด็กถูกลักพาตัว)
ในช่วงแรก Amber Alert จะเปิดใช้งานใน 25 ประเทศ ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งยังไม่มีประเทศไทย แต่ Instagram บอกว่าจะขยายประเทศที่รองรับในอนาคต
Instagram บอกว่าผู้ใช้งานจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนนี้บ่อยนัก ระบบจะส่งการเตือนแบบจำกัดและเฉพาะในรัศมีพื้นที่ซึ่งมีการรายงานเหตุ โดยอาศัยข้อมูลเช่น IP และพิกัดหากผู้ใช้งานเปิดไว้ เพื่อดูว่าอยู่ในกลุ่มที่ควรได้รับการแจ้งเตือนหรือไม่
ที่มา: Meta |
# เผย Apple ย้ายการผลิต iPad บางส่วนไปที่เวียดนามแล้ว
มีรายงานจาก Nikkei Asia ว่าแอปเปิลได้เริ่มย้ายการผลิต iPad บางส่วน จากจีนไปที่เวียดนามแล้ว จากที่บริษัทเคยต้องการย้ายการผลิตมาตั้งแต่ต้นปี 2021 แต่ติดปัญหาซัพพลายเชน ซึ่งตอนนี้ปัญหาได้แก้ไขให้ดีขึ้นแล้ว
BYD เป็นบริษัทที่ถูกระบุว่าช่วยในการย้ายการผลิต iPad จากจีนไปเวียดนาม ทำให้ iPad เป็นสินค้าหลักตัวที่สองของแอปเปิลซึ่งมีการผลิตในเวียดนามต่อจาก AirPods
นักวิเคราะห์คาดว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แอปเปิลย้ายการผลิตบางส่วนออกจากจีน มาจากการสั่งล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งกระทบต่อการผลิต
ที่มา: MacRumors |
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Laptop Go 2 โน้ตบุ๊กหน้าจอ 12.4 นิ้ว, ความปลอดภัย Secure-core
ไมโครซอฟท์เปิดตัวโน้ตบุ๊ก Surface Laptop Go 2 ใช้ซีพียู Core i5 รุ่นที่ 11 หน้าจอ 12.4 นิ้วสัดส่วน 3:2 จอสัมผัสแบบ PixelSense น้ำหนัก 1.12 กิโลกรัม โดยฟีเจอร์สำคัญคือการซ่อมบำรุงที่ง่ายขึ้นและความปลอดภัยตามแนวทาง Secure-core ที่ป้องกันการโจมตีในระดับเฟิร์มแวร์ นับเป็นสินค้า Surface ที่ใช้ชิปอินเทลตัวแรกที่ทำตามแนวทางนี้
Surface Laptop Go 2 สามารถเปลี่ยนอะไหล่ได้หลายชิ้นกว่าเดิม ได้แก่ SSD, แผ่น C-Cover ที่มีทั้งคีย์บอร์ดและทัชแพด, AB Cover ที่มีหน้าจอ, แบตเตอรี่, และสาย Surflink แต่บางชิ้นต้องเปลี่ยนที่ศูนย์บริการเท่านั้น
เริ่มสั่งได้แล้ววันนี้ในสหรัฐฯ แต่จะเริ่มส่งมอบสินค้าจริงวันที่ 7 นี้ ราคาเริ่มต้น 599 ดอลลาร์ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ ฟ้า Ice Blue, ชมพู Sandstone, เขียว Sage, และเทา Platinum
ที่มา - Microsoft |
# Diablo Immortal จะไม่ทำตลาดเนเธอร์แลนด์และเบลเยียม เพราะติดกฎหมาย Loot Box
Diablo Immortal ภาคใหม่ของเกม Diablo แบบ free-to-play จะเปิดให้เล่นทั่วโลกในวันพรุ่งนี้ 2 มิถุนายน (ยกเว้น บ้านเราและเอเชียคือ 22 มิถุนายน) แต่จะไม่เปิดบริการในเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ เพราะ 2 ประเทศนี้มีกฎหมายเรื่อง loot box ที่เข้มงวดนั่นเอง
Diablo Immortal เป็นเกม free-to-play ที่ใช้โมเดลหารายได้ผ่านการขายไอเทมแบบสุ่ม (loot box) ซึ่งทั้ง 2 ประเทศออกกฎหมายห้ามทำเพราะถือเป็นการพนัน และศาลเนเธอร์แลนด์เคยตัดสินให้ EA ผิดกฎหมายจากการขายการ์ดนักเตะในเกม FIFA เมื่อปี 2020 (ภายหลังศาลสูงได้กลับคำตัดสินนี้ แต่ก็ต้องสู้คดีกันหลายปี ระหว่างนั้น EA ต้องถอนการขายแต้ม FIFA Point ออกจากเกม)
ก่อนหน้านี้ Blizzard เองก็ถอนระบบ Loot Box ออกจากเกม Overwatch และ Heroes of the Storm ด้วยเช่นกัน และกรณีของ Diablo Immortal คือเลือกไม่ทำตลาดตั้งแต่แรกไปเลย
ที่มา - Eurogamer |
# Spotify ออกแอพเดสก์ท็อปวินโดวส์ ที่เป็น Arm แบบเนทีฟ
โมเมนตัม Windows on ARM ยังเดินหน้าไปอย่างช้าๆ โดย Spotify เป็นบริษัทใหญ่รายล่าสุดที่ออกไคลเอนต์แบบเนทีฟบน Arm ตอนนี้ยังมีสถานะเป็นเบต้าและยังมีบั๊กเล็กน้อย แต่ก็เปิดให้ผู้สนใจทั่วไปดาวน์โหลดไปติดตั้งกันได้แล้ว
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศจะออก Visual Studio และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาบนวินโดวส์ เวอร์ชัน Arm และเปิดตัว Project Volterra คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่ใช้ซีพียู Snapdragon สำหรับนักพัฒนา
ที่มา - Spotify |
# Elon Musk เผยรายละเอียด Starlink 2.0 มีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นแรก
Elon Musk CEO ของ SpaceX ได้เปิดเผยในรายการ “Everyday Astronaut” ว่า ดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ หรือ Starlink 2.0 จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม มีกำลังมากขึ้น และยังถูกออกแบบให้สามารถที่เพิ่มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตพื้นที่ห่างไกลได้อีกด้วย
ณ ขณะนี้ SpaceX ได้เริ่มทำการผลิต Starlink 2.0 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยดาวเทียมรุ่นใหม่นี้จะมีความสูง 7 เมตร หนักประมาณ 1.25 ตัน ซึ่ง Musk ระบุว่า เมื่อเทียบกับ Starlink รุ่นเดิมนั้น จะมีประสิทธิภาพมากกว่าอย่างมาก
อย่างไรก็ดี ด้วยขนาดและน้ำหนักที่มากขึ้น ทำให้ Starlink 2.0 จะไม่สามารถที่จะใช้จรวด Falcon 9 ในการปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรได้เหมือนกับ Starlink รุ่นเดิม แต่จะเปลี่ยนไปใช้ “Starship” จรวดอวกาศรุ่นใหม่ที่ทาง SpaceX กำลังพัฒนาอยู่ ทว่ากำลังประสบปัญหายังไม่สามารถปล่อยจรวดออกไปทดสอบได้เนื่องจากติดเงื่อนไขทางด้านสิ่งแวดล้อมจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (FAA) ทั้งนี้ ตามรายงานล่าสุด Starship อาจจะผ่านการอนุมัติและเริ่มทดสอบได้ในช่วงเดือน มิถุนายน
“เราต้องการให้ Starship ได้ทำงานและบินบ่อย ๆ ไม่เช่นนั้น Starlink ก็จะคาอยู่บนพื้น” Musk กล่าว
ทั้งนี้ หลายหน่วยงานก็แสดงความกังวลต่อการขึ้นสู่วงโคจรของ Starlink 2.0 เช่น NASA ได้ออกหนังสือแสดงความกังวลว่าดาวเทียม Starlink มีโอกาสที่จะชนเข้ากับดาวเทียมของ NASA ที่อยู่บนวงโคจรอยู่แล้ว
ในเวลานี้ มีดาวเทียมของ SpaceX ขึ้นสู่วงโคจรแล้วทั้งสิ้น 2,300 ดวง และ Elon Musk มีเป้าหมายในการสร้างหมู่ดาวเทียมอินเทอร์เน็ตที่ประกอบไปด้วยดาวเทียมกว่า 42,000 ดวง
นอกจากนี้ นักวิจัยทางด้านการทหารของจีนยังได้ทำการร่างเสนอว่า ควรมีอาวุธเพื่อทำลาย Starlink ในฐานะที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของจีนอีกด้วย
ที่มา - GIZMODO |
# Seagate Q3/2022 รายได้ 2.8 พันล้านเหรียญ กำไรเพิ่มขึ้น จากสตอเรจ Nearline
Seagate รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2565 ว่ามีรายได้ตามบัญชี GAAP อยู่ที่ 2.802 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีกำไรสุทธิ 346 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 329 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อรายได้ของ Seagate คือสตอเรจกลุ่ม Nearline สำหรับเอาไว้ใช้สำรองข้อมูลกึ่งออนไลน์และออฟไลน์ (มีการเรียกใช้ข้อมูลบ่อยกว่าออฟไลน์หรือ Cold Storage แต่ไม่บ่อยเท่าออนไลน์) ที่มีความต้องการผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ รายได้ส่วนนี้สามารถชดเชยผลกำไรที่ลดลงในตลาดต่าง ๆ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นแอปพลิเคชั่นวิดีโอและรูปภาพ
ที่มา - Seagate |
# Euro Truck Simulator 2 ยกเลิกการขาย DLC Heart of Russia เพื่อต่อต้านสงครามในยูเครน
SCS Soft ผู้พัฒนาเกมขับรถบรรทุกยอดนิยม Euro Truck Simulator 2 ได้ประกาศผ่านบล็อกของผู้พัฒนาว่า จะทำการยกเลิกการวางจำหน่ายส่วนเสริม “Heart of Russia” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการไม่สนับสนุนการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
เดิมนั้น ส่วนเสริม Heart of Russia จะเป็นการขยายแผนที่ให้ผู้เล่นสามารถที่จะขับรถบรรทุกออกสำรวจพื้นที่แม่น้ำโวลก้าตอนบน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้เล่นสามารถที่จะขับรถบรรทุกเข้าไปในบางส่วนของรัสเซียได้แล้ว ผ่านส่วนเสริม Beyond the Baltic Sea โดย Heart of Russia นั้นมีแผนที่จะพัฒนาแล้วเสร็จไม่กี่สัปดาห์หลังเดือนกุมภาพันธ์ แต่เกิดเหตุการณ์รุกรานยูเครนของรัสเซียเกิดขึ้นเสียก่อน
นอกจากนี้ หลังการรุกราน SCS Soft ได้นำรายได้จากการขายส่วนเสริม Ukrainian Paint Jobs ทั้ง 85,000 ชุดมาบริจาคให้กับการกุศลทั้งหมด
ผู้พัฒนายังระบุอีกว่า “เราพยายามอยู่เสมอ ๆ ให้การพัฒนาเกมไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพื่อปกป้องผู้เล่นทั่วโลกจากข้อขัดแย้งต่าง ๆ เราค่อนข้างที่จะชอบแนวคิดและความหลงใหลในเรื่องของการจำลองการขับรถบรรทุก ได้เชื่อมโยงผู้คนจากทั่วโลกเข้าหากัน ได้ไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านอย่างสันติ และเพลิดเพลินไปกับงานอดิเรกที่ชอบเหมือนกันโดยไม่มีอะไรมาแบ่งแยกได้ แต่เมื่อส่วนเสริม Heart of Russia นั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับรัสเซีย และเกี่ยวข้องกับอีกหลายคนที่ได้รับความเจ็บปวด เราจึงตัดสินใจที่จะงดการวางจำหน่วยส่วนเสริมนี้ เพื่อที่จะได้ไม่ถูกมองว่าเราสนับสนุนความรุนแรงที่เกิดขึ้น”
อย่างไรก็ดี ผู้พัฒนาได้กล่าวว่า ในอนาคต หากสถานการณ์ทั้งหลายดีขึ้น ส่วนเสริมนี้ก็อาจจะถูกนำมาวางจำหน่ายอีกครั้ง
ที่มา - SCS Soft, The Verge |
# ศาลสูงสุดสหรัฐยับยั้งกฎหมายห้ามโซเชียลมีเดียเซ็นเซอร์ความคิดเห็นทางการเมืองของรัฐเท็กซัส
สำนักข่าว CNET รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา ศาลสูงสุดสหรัฐได้มีมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 5 - 4 ยับยั้งกฎหมายของรัฐเท็กซัส “HB20” ที่จะห้ามโซเชียลมีเดียเช่น Facebook หรือ Twitter ในการเซ็นเซอร์เนื้อหาหรือความคิดเห็นที่มาจากมุมมองและอุดมการณ์ทางการเมือง
กฎหมายฉบับนี้ที่เสนอร่างโดยสำนักงานของผู้ว่าการรัฐเท็กซัส มีเป้าประสงค์ในการปกป้องไม่ให้ประชาชนชาวเท็กซัสถูกผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียเซ็นเซอร์เพราะเผยแพร่เนื้อหาหรือแสดงความคิดเห็นที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองประกอบ
นอกจากนี้ ตามกฎหมายใหม่นี้ยังอนุญาตให้ประชาชนในรัฐเท็กซัสสามารถฟ้องร้องบริษัทผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียหากถูกเซ็นเซอร์หรือจำกัดเนื้อหา
ในรายงานอีกฉบับของเว็บไซต์ Time ระบุว่า กฎหมายฉบับนี้เคยถูกยับยั้งโดยผู้พิพากษาประจำเขตมาก่อนหน้านี้ แต่ได้ผ่านการอุทธรณ์ให้มีผลบังคับใช้จนสำเร็จ
ที่ผ่านมานักวิจารณ์ฟากฝั่งอนุรักษ์นิยมในสหรัฐอเมริกาได้กล่าวหาว่าโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือ Twitter มักกีดกันเนื้อหาที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองประกอบอยู่ ในขณะที่ฝั่งนักวิจารณ์ด้านกฎหมายระบุว่า การบีบให้ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียไม่เซ็นเซอร์เนื้อหา จะทำให้บนแพลตฟอร์มเหล่านั้นเต็มไปด้วยเนื้อหาที่รุนแรง hate speech และข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
ณ ขณะนี้ Twitter ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทางด้าน Facebook และ สำนักงานของผู้ว่าการรัฐเท็กซัส Greg Abbott ก็ยังไม่ได้แสดงความเห็นอย่างเป็นทางการ
อ่านกฎหมาย HB20 ฉบับเต็มได้ ที่นี่
ที่มา - CNET Time |
# แกะฝาเจาะสูตรลับนวัตกรรมจอพับสุดล้ำที่ไม่มีใครเทียบ ใน "HUAWEI Mate Xs 2"
ใครจะไปรู้ว่าเดี๋ยวนี้เทรนด์ของงานดีไซน์สมาร์ทโฟนยอดฮิตจะกลับมาสู่มือถือแบบฝาพับกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มาในรูปแบบหน้าจอสัมผัส ย้อนไป 2-3 ปี แบรนด์มือถือยักษ์ใหญ่หลายเจ้าก็ได้เริ่มออกสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ที่มีหน้าจอแบบพับได้กันมากขึ้น และดูเหมือนว่าผู้บริโภคสายชอบลองของใหม่ก็ค่อนข้างจะถูกใจกับสมาร์ทโฟนสไตล์นี้ด้วย แน่นอนว่าข้อเด่นๆ อย่างหนึ่งคือ ยังได้จอใหญ่เท่าเดิม หรือบางทีใหญ่กว่าเดิม แต่ยังพกพาสะดวกประหยัดที่จากการพับเหลือเพียงครึ่งเดียว ยิ่งถ้าพับได้สนิทไม่มีช่องว่างตอนพับจอยิ่งน่าสนใจไปอีกขั้น
และหนึ่งในแบรนด์ที่พับสนิทยิ่งกว่าใครในตลาดตอนนี้ ก็คือ สมาร์ทโฟนจอพับพรีเมียมระดับเรือธง HUAWEI Mate Xs 2 จากหัวเว่ย กับนวัตกรรมด้านวัสดุบอดี้ บานพับ และหน้าจอแสดงผลที่จะทำให้ผู้บริโภคได้ใช้สมาร์ทโฟนฝาพับได้อย่างคุ้มค่าทุกราคาที่มากับความพรีเมียม เรามาไขปริศนาไปด้วยกันว่าสมาร์ทโฟนตัวนี้ใช้สูตรลับอะไรในการส่งมอบประสบการณ์ใช้งานจอพับที่เหนือชั้นกว่าสมาร์ทโฟนจอพับตัวอื่น
หน้าจอคมกริบยืนหนึ่ง พร้อมทนทานทุกแรงกระแทก
ในแง่สเปคของหน้าจอแสดงผลสมาร์ทโฟน HUAWEI Mate Xs 2 มาพร้อมกับหน้าจอพับแบบ True Chroma ขนาด 7.8 นิ้ว ส่งภาพคมชัดที่ความละเอียดระดับ 2480 x 2200 หรือ 424ppi พิกเซล ซึ่งนับเป็นหน้าจอบนสมาร์ทโฟนจอพับที่ทั้งจอใหญ่และมีความละเอียดของพิกเซลระดับต้นๆ ในตลาดตอนนี้ นอกจากนี้ยังมีอัตราการรีเฟรชเรตของหน้าจอสูงสุดถึง 120Hz และยังมีอัตราการตอบสนองต่อการใช้งานหน้าจอสัมผัสสูงสุดถึง 240Hz ทำให้เจ้าของเครื่องได้ประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอสัมผัสที่ลื่นไหล ส่วนในแง่ความทนทาน HUAWEI Mate Xs 2 ยังมาพร้อมกับงานดีไซน์หน้าจอแบบคอมโพสิตระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม จากนวัตกรรมที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้นเอง กันกระแทกได้ดี มาพร้อมความหนาของหน้าจอถึง 4 ชั้น ได้แก่ ชั้นป้องกัน ชั้นบัฟเฟอร์สำรอง ชั้นกั้นกันกระแทก และชั้นหน้าจอแสดงผล ซึ่งทั้ง 3 ชั้นแรกจะประกอบด้วยโครงสร้างมาโครโมเลกุลที่ทำหน้าที่ช่วยกันดูดซับแรงกระแทก ซึ่งเป็นการออกแบบด้วยนวัตกรรมและหลักการเดียวกับระบบกันกระแทกเพื่อความปลอดภัยของโครงสร้างรถยนต์ ทั้งหมดนี้ทำให้ตัวเครื่องและหน้าจอแข็งแรงทนทานที่สุดในทุกการใช้งาน
ผสมผสานวัสดุอันหลากหลาย เพื่อส่งมอบความบางเบาคู่ความแกร่ง
บอดี้ของสมาร์ทโฟนดีไซน์หน้าจอพับได้จำเป็นต้องตอบโจทย์ทั้งในด้านความทนทาน ความยืดหยุ่น และความสวยงามไปพร้อมกันในตัว สมาร์ทโฟน HUAWEI Mate Xs 2 จึงต้องผสมผสานหลักการดีไซน์และการเลือกวัสดุที่หลากหลาย เพื่อช่วยเสริมจุดแกร่งของกันและกัน โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้ดีไซน์การพับหน้าจอให้จอแสดงผลอยู่ด้านนอก ด้วยนวัตกรรมวัสดุของหน้าจอตรงจุดเชื่อมระหว่างบอดี้ทั้งสองส่วนที่บางเบาเป็นพิเศษ ส่งมอบประสบการณ์การใช้งานหน้าจอพับที่สามารถกางออกและพับเก็บได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยด้านหลังของบอดี้สมาร์ทโฟนใช้กระจกไฟเบอร์กลาสแบบที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน และนับเป็นครั้งแรกของการออกแบบพื้นผิวสัมผัสตัวเครื่องแบบ 3D Fiberglass ช่วยลดรอยนิ้วมือจากการใช้งาน ส่วนกรอบหน้าจอใช้วัสดุไทเทเนียมอัลลอยด์เกรดเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศ และบานพับของหน้าจอก็ใช้เหล็กกล้าแบบพิเศษซึ่งได้รับการออกแบบโดยหัวเว่ยโดยเฉพาะ เพื่อให้มีคุณสมบัติด้านความแข็งแกร่งและความบางเบาควบคู่กันไป ทำให้สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นใหม่ล่าสุดนี้มีทั้งความอึดถึกทนแต่ยังคงความเบาบาง ด้วยน้ำหนักรวมเพียง 255 กรัม และความหนาของบอดี้ตอนกางจอเพียง 5.4 มิลลิเมตรเท่านั้น
บานพับเจเนอเรชันใหม่ ส่งมอบหน้าจอที่เนียนเรียบไร้รอยต่อ
หนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้ผู้สนใจใช้สมาร์ทโฟนจอพับหลายคนเป็นกังวลคือหน้าจอแสดงผลที่อาจจะดูไม่เรียบเนียนเวลากางออกมาใช้งาน หรือบางครั้งอาจถึงขั้นรู้สึกว่าความละเอียดภาพบนหน้าจอดูไม่คมกริบสวยงามแบบสมาร์ทโฟนปกติ นั่นทำให้ HUAWEI Mate Xs 2 มาพร้อมกับบานพับหน้าจอนวัตกรรมปีกนกแบบใหม่ Falcon Wing บานพับแบบปีกนกเหยี่ยวแบบหมุนได้ 2 ชั้น (Double-rotating Falcon Wing) เพื่อให้ได้หน้าจอที่เรียบเนียนที่สุดจนแทบไม่ต่างจากแผ่นกระจก โดยตัวบานพับจะสามารถเลื่อนล็อคหน้าจอในแนวตรงได้อย่างแนบเนียนเวลากางใช้งาน ส่งมอบประสบการณ์การพับหรือกางหน้าจอออกมาใช้งานได้อย่างลงตัว ทำให้รู้สึกดีทุกครั้งเมื่อล็อคหน้าจอตอนพับเก็บหรือหยิบออกมาเปิดใช้ นอกจากนี้ หากเทียบกับ HUAWEI Mate Xs รุ่นที่แล้ว นวัตกรรมบานพับแบบใหม่ยังช่วยให้จอของ HUAWEI Mate Xs 2 เรียบเนียนกว่า HUAWEI Mate Xs รุ่นเดิมถึง 70%
นวัตกรรมการถ่ายภาพชั้นนำ มาตรฐานที่คู่ควรกับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม
HUAWEI Mate Xs 2 มาพร้อมระบบกล้อง True-Chroma Camera กล้องหลังสามตัวความละเอียดสูงสุด 50MP รองรับ HUAWEI XD Optics ให้ภาพสวยสมจริง และ HUAWEI XD Fusion เก็บตกสีสันของภาพได้อย่างคมชัด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีนวัตกรรมการถ่ายภาพแบบ Mirror Shooting ที่ให้ตากล้องและนายแบบหรือนางแบบได้พรีวิวภาพที่ถ่ายจากสองจอหน้าหลังเมื่อพับอยู่ไปพร้อมๆ กัน และแน่นอนว่ามาพร้อมแบตเตอรี่ 4,600mAh รองรับ 66W HUAWEI SuperCharge ชาร์จเต็ม 90% ในเวลาเพียง 30 นาที1 ถ่ายภาพได้ต่อเนื่องไม่ขาดตอน
AppGallery และ HUAWEI Apps ส่งมอบประสบการณ์สมาร์ทโฟนจอพับให้สมบูรณ์แบบกว่าที่เคย
หัวเว่ยยังพัฒนาแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาให้ใช้งานกับสมาร์ทโฟนจอพับขนาดใหญ่ได้อย่างไร้รอยต่อ และ HUAWEI Mate Xs 2 ยังรองรับการใช้งาน Smart Multi-Window2 เปิดการใช้งานสองหน้าจอพร้อมกัน เช่น ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินไปกับการเปรียบเทียบราคาของที่ต้องการซื้อ หรือจะดูริวิวสินค้าไปได้ในเวลาเดียวกันคู่ขนานสองหน้าจอ เช่นเดียวกันกับการใช้ Petal Search ที่จะสามารถแสดงผลการค้นหาได้สองหน้าจอที่แตกต่างกัน นอกจากนั้นการใช้งาน Petal Maps ที่ผู้ใช้งานจะได้ใช้ฟีเจอร์ที่มีลูกเล่นมากกว่าที่เคย อาทิ Lighting Effect กับ Dark Mode ตอนกลางคืน หรือ ‘Lane Guidance’ ที่จะสามาถช่วยบอกภาพรวมของสี่แยกหรือวงเวียนด้านหน้า แสดงภาพในมุมมองที่กว้างกว่าเดิม
1ข้อมูลมาจากการทดสอบใน Huawei lab ที่ต้องชาร์จด้วยที่ชาร์จและสายชาร์จของหัวเว่ยที่รองรับ HUAWEI SuperCharge เท่านั้น
2ฟีเจอร์ Smart Multi-Window” ใช้งานได้กับบางแอปพลิเคชันเท่านั้น การปรับเปลี่ยนหรืออัปเดตรูปแบบการใช้งาน อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
อ่านมาขนาดนี้ ใครที่อยากสัมผัสถึงความล้ำของนวัตกรรมล่าสุดในวงการสมาร์ทโฟนจอพับ ที่สามารถส่งมอบทั้งความทนทาน ความเรียบเนียน และความบางเบากว่าสมาร์ทโฟนจอพับทั้งหลายที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ คงไม่มีทางอื่นนอกจากให้ลองหา HUAWEI Mate Xs 2 มาใช้ด้วยมือตัวเองเพื่อซึมซับประสบการณ์การใช้งานหน้าจอพับแบบสมาร์ทที่ราบรื่นและเสถียรที่สุดเท่าที่เคยมีมา เปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 61,990 บาท แถมตอนนี้หัวเว่ยเขายังจัดโปรแรงสำหรับผู้นำเทรนด์ที่พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2565 ถึง 7 กรกฎาคม 2565 รับทันที! สมาร์ทวอทช์ HUAWEI WATCH GT 2 Pro มูลค่า 8,990 บาท และเคสใสสำหรับ HUAWEI Mate Xs 2 มูลค่า 1,599 บาท (รวมมูลค่า 10,589 บาท) โดยสามารถสั่งจองได้ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน My HUAWEI ทั้งไฮเทคทั้งโปรแรงขนาดนี้ สายเทคล้ำๆ ทั้งหลายจะพลาดได้ไง ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารก่อนใครกันเลยได้ที่นี่ และศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่
ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน HUAWEI AppGallery
#HUAWEIMATEXs2 #HUAWEIFlagshipProductLaunch2022
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ได้ที่:
Website: http://consumer.huawei.com/th
Facebook: http://www.facebook.com/HuaweiMobileTH
LINE: HuaweiMobileThailand, IG: Huawei.TH |
# Tiktok กำลังเริ่มทดลอง “clear mode” นำ UI ออกเพื่อให้ดูวิดีโอได้สะดวกขึ้น
TechCrunch รายงานว่า แอปพลิเคชั่น Tiktok กำลังเริ่มทำการทดลองฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “clear mode” ซึ่งเป็นการทำให้หน้าจอเวลาใช้งานโล่งขึ้น โดยทาง Tiktok ได้ยืนยันกับ Techcrunch ว่า ฟีเจอร์ใหม่ที่ว่านี้จะเป็นการนำ UI ต่าง ๆ บนหน้าจอออกและทำให้ผู้ใช้งานสามารถดูคอนเทนท์ได้โดยไม่มีสิ่งใดขึ้นมาบดบังบนหน้าจอ เช่น caption หรือ ปุ่มต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม การทดลองฟีเจอรใหม่นี้ยังจำกัดอยู่เพียงบรรดา User ที่ถูกเลือกบางกลุ่มเท่านั้น
Matt Navarra นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมโซเชียลมีเดีย ได้โพสท์ภาพหน้าจอที่แสดงให้เห็นถึงตัวเลือกการตั้งค่าแบบใหม่ลงบน Twitter ส่วนตัวของเขา โดยแสดงให้เห็นว่า เมื่อเลือกตั้งค่า clear mode แล้ว บนหน้าจอของ Tiktok จะไม่ปรากฏ Usernames คำบรรยายของคลิป และรายละเอียดอื่น ๆ และจะเหลือเพียงคลิปวิดีโอเท่านั้นเพื่อให้ไม่ดึงดูดความสนใจจากวิดีโอ
หาก User ใดที่สามารถทดสอบฟีเจอร์ใหม่นี้ เมื่อกดค้างที่หน้าเจอจะปรากฏตัวเลือก “clear mode” ขึ้นใต้ตัวเลือก “Add to Favorites” เดิมที่มีอยู่
เมื่อฟีเจอร์ใหม่นี้เปิดให้ใช้งานเต็มรูปแบบ ก็จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะเลือกสนใจเพียงแต่วิดีโอที่ชมอยู่เท่านั้น และตัดส่วนที่อาจจะไม่จำเป็นออกไป ซึ่งฟีเจอร์ clear mode จะช่วยให้ปัญหา UI ต่าง ๆ บดบังส่วนที่สำคัญของคลิปวิดีโอหมดไป
นอกจากนี้ Tiktok ยังกำลังทดสอบอีกหลายฟีเจอร์บนแพลตฟอร์ม อย่างเช่นฟีเจอร์ เกม Interactive ที่สร้างจาก HTML 5 ให้สามารถเล่นบนตัวแอปพลิเคชั่นได้ ฟีเจอร์ live mobile gaming ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับ Creator ได้มากขึ้นเวลา livestream และ Tiktok ยังกำลังทดสอบฟีเจอร์ปุ่ม Dislike สำหรับคอมเมนท์ต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคอนเทนท์หรือมีความไม่เหมาะสมอีกด้วย
ที่มา - Techcrunch |
# Elon Musk เปิดศึกผู้สร้าง Dogecoin หลังถูกวิจารณ์เขียนโค้ดไม่เป็น เอาแต่ขายฝัน
จากความสนิทสนมระหว่าง Elon Musk กับวงการเหรียญหมา Dogecoin เมื่อปี 2021 ลามมาจนถึงต้นปี 2022 ที่สินค้าที่ระลึกของ Tesla บางชิ้นต้องซื้อด้วย Dogecoin เท่านั้น
ล่าสุด Jackson Palmer ผู้สร้างเหรียญ Dogecoin เล่นๆ เพราะมองว่าเป็นแค่มีมตลกๆ ออกมาวิจารณ์ Elon Musk อย่างดุเดือด และฝั่งของ Musk ก็ตอบโต้กลับเช่นกัน (Palmer ถอนตัวจากวงการ Dogecoin และคริปโตทั้งหมดตั้งแต่ปี 2015 และเปลี่ยนท่าทีมาเป็นสายวิจารณ์คริปโต รวมถึงไม่ได้ยุ่งเกี่ยวตอนที่ Musk เข้ามาสนใจ Dogecoin ในภายหลัง)
เรื่องเริ่มจาก Palmer เปิดรายการพ็อดแคสต์ใหม่ชื่อ Griftonomics มีเนื้อหาพูดถึงวัฒนธรรมการเงินยุคใหม่ ที่ภาพ JPEG สามารถขายได้เป็นล้านดอลลาร์ หรือเซเล็บคนดังออกมาเชียร์แชร์ลูกโซ่กันอย่างเปิดเผย ซึ่ง Palmer ต้องการพูดถึงและวิจารณ์กระแสเหล่านี้ (ชื่อรายการมาจากศัพท์แสลง grift แปลว่าได้เงินมาอย่างไม่ถูกต้อง)
Palmer เป็นคนออสเตรเลีย จึงให้สัมภาษณ์สื่อของออสเตรเลีย Crikey เพื่อโปรโมทรายการ เขาได้รับคำถามว่ามองอย่างไรต่อการที่ Elon Musk ไปซื้อทวิตเตอร์
เขาเล่าถึงครั้งแรกที่ได้คุยกับ Musk ว่าเกิดจากเขาเขียนสคริปต์ตรวจสอบว่ามีใครโพสต์ลิงก์ชวนลงทุนคริปโตหลอกลวง (crypto scam) ในข้อความ mention บนทวิตเตอร์บ้าง ซึ่งเขาตกลงกับ Jack Dorsey ซีอีโอทวิตเตอร์ในตอนนั้น ว่าสคริปต์ตัวนี้จะรายงานตรงไปยังทีมของ Dorsey เพื่อให้แก้ปัญหาได้รวดเร็ว
Palmer แจกสคริปต์ของเขาไปยังคนดังในโลกคริปโตบางคน ที่มักถูกฝังลิงก์หลอกลวงใน reply/mention บ่อยๆ เมื่อ Musk รู้เรื่องนี้เข้าจึงทักเขามาเพื่อขอใช้งานบ้าง แต่ Palmer พบว่า Musk มีความรู้ด้านเขียนโค้ดไม่เยอะดังภาพลักษณ์ที่แสดงออก เพราะ Musk ถามเขากลับมาว่า "จะรันสคริปต์ Python นี้ยังไง"
Palmer บอกว่าหลังให้สคริปต์กับ Musk ไปแล้ว ตัวเขาก็ไม่ได้ชื่นชอบ Musk อยู่ดี เพราะมองว่า Musk เป็น "grifter" ขายวิสัยทัศน์ที่หวังว่าคงทำได้จริงตามนั้นสักวันหนึ่ง และเป็นคนที่เก่งเรื่อง "แสร้งว่ารู้" โดยฟีเจอร์ full-self-driving ของ Tesla เป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้
หลังจาก Musk มาสนใจคริปโต (และเชียร์ Dogecoin) เขายังยืนยันว่า Musk เป็น grifter แต่โลกชอบคนแบบนี้ คนชอบไอเดียที่สักวันหนึ่งจะรวยเป็นมหาเศรษฐี ซึ่ง Musk ก็ขายฝันอันนี้ที่คนชอบ
ส่วนประเด็นการซื้อทวิตเตอร์ Palmer มองว่า Musk จะเข้ามาทำลายทวิตเตอร์มากกว่า เพราะท่าทีของเขาคือสนับสนุนข้อมูลปลอมและการโจมตีกันบนทวิตเตอร์โดยไม่ต้องแบน
หลังจากบทสัมภาษณ์ Palmer เผยแพร่ออกไป Musk ก็เข้ามาตอบโต้ต่อท้ายบัญชี @crikey ว่า Palmer อ้างว่าสคริปต์ของเขาตรวจจับบ็อตได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง และเรียกร้องให้แชร์สคริปต์ให้โลกเห็น เขายังบอกด้วยว่าลูกของเขาตอนอายุ 12 ยังเขียนโค้ดได้ดีกว่าสคริปต์ของ Palmer เลยด้วยซ้ำ
สคริปต์ของ Palmer อยู่บน GitHub มาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งเขาอธิบายว่ามันใช้ได้กับสถานการณ์บ็อตเมื่อปี 2018 ที่ยังไม่ซับซ้อนเท่ากับในปัจจุบัน
ที่มา - Crikey, Business Insider |
# บริษัท Meta ขอเปลี่ยนตัวย่อหุ้นจาก FB เป็น META มีผล 9 มิถุนายน 2022
หลัง Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta Platforms, Inc. สิ่งที่ยังคงอยู่จากยุค Facebook คือตัวย่อหุ้น (Ticker Symbol) ที่ยังใช้ "FB" เหมือนเดิม
แต่ล่าสุด Meta ประกาศว่ายื่นขอเปลี่ยนตัวย่อหุ้นจาก FB เป็น META แล้ว การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในวันที่ 9 มิถุนายน 2022
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีผลเฉพาะตัวย่อหุ้นเท่านั้น โครงสร้างผู้ถือหุ้นยังเหมือนเดิมทั้งหมด
ที่มา - Meta |
# Salesforce ไตรมาสล่าสุด รายได้เติบโตสูงถึง 24%
Salesforce รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดเดือนเมษายน รายได้รวมเพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 7,411 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 28 ล้านดอลลาร์
Marc Benioff ซีอีโอร่วมของ Salesforce กล่าวว่าตัววัดผลสำคัญที่สะท้อนทิศทางการเติบโตคือรายรับในอนาคต ตามสัญญาที่ทำไว้กับลูกค้ายังมีมูลค่ารวมกว่า 42,000 ล้านดอลลาร์ ช่วยให้บริษัทมีรายได้ที่สม่ำเสมอ ตลอดจนกระแสเงินสดเป็นบวกในระยะยาว
ส่วนซีเอฟโอ Amy Weaver กล่าวว่าบริษัทยังคงรับพนักงานใหม่เพิ่ม แต่มีการประเมินความสำคัญในการรับมากขึ้น
ที่มา: Salesforce และ CNBC |
# HP ไตรมาสล่าสุด รายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากธุรกิจพีซีลูกค้าองค์กร
HP รายงานผลประกอบการของไตรมาสเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2022 รายได้รวม 16,490 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,000 ล้านดอลลาร์
Enrique Lores ซีอีโอ HP กล่าวว่ากลุ่มธุรกิจหลัก ที่เป็นเป้าหมายการเติบโตสูง ยังคงเติบโตดีที่ระดับสองหลัก ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตได้ดีท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน
กลุ่มธุรกิจ Personal Systems รายได้ 11,532 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% รายได้จากลูกค้าบุคคลลดลง 6% ส่วนลูกค้าองค์กรเพิ่มขึ้น 18% จำนวนเครื่องที่ส่งมอบรวมลดลง 17% โน้ตบุ๊คลดลง 23% และเดสก์ท็อปเพิ่มขึ้น 11% ส่วนรายได้จากกลุ่ม Printing ลดลง 7% เป็น 4,963 ล้านดอลลาร์ จำนวนฮาร์ดแวร์ส่งมอบลดลง 23%
ที่มา: HP |
# Rocket.Chat ประกาศใช้โปรโตคอล Matrix เปิดทางแชตข้ามแอป
Rocket.Chat โปรแกรมแชตสำหรับองค์กรแบบโอเพนซอร์ส ประกาศรองรับโปรโตคอล Matrix เปิดทางให้สามารถใช้ Rocket.Chat คุยกับองค์กรอื่นๆ แม้ใช้โปรแกรมคนละตัวกัน
บริการแชตในช่วงหลังมีลักษณะเป็นระบบปิดมากขึ้นเรื่อยๆ แอปแต่ละตัวไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ แม้แอปแชตระดับองค์กรจะมีฟีเจอร์คุยข้ามองค์กร เช่น Microsoft Teams หรือ Slack แต่ก็บังคับว่าทั้งสององค์กรต้องใช้บริการเดียวกันเท่านั้น เทียบกับบริการดั้งเดิมอย่างอีเมลนั้นสามารถใช้งานได้ครอบคลุม (แม้จะมีปัญหาสแปมหนักหน่วงจนทุกวันนี้)
ทางโครงการ Matrix แสดงความยินดีที่ Rocket.Chat อิมพลีเมนต์ฟีเจอร์นี้และแสดงความหวังว่าโปรแกรมแชตโอเพนซอร์สอื่น เช่น Nextcloud หรือ Mattermost จะอิมพลีเมนตโปรโตคอล Matrix ตามมาในอนาคต
ที่มา - Matrix, Rocket.Chat |
# ไมโครซอฟท์รวบบริการยืนยันตัวตนผู้ใช้เข้าเป็นชุดในชื่อ Microsoft Entra
ไมโครซอฟท์ประกาศจัดชุดบริการยืนยันตัวตนและจัดการการเข้าถึง (Identity and Access Management - IAM) เข้าเป็นแบรนด์ Microsoft Entra จากเดิมที่เป็นบริการภายใต้แบรนด์ Azure พร้อมกับเพิ่มบริการที่ซื้อบริษัท CloudKnox Security เข้ามา โดยรวม Microsoft Entra จะมีบริการหลัก 3 ส่วน คือ
บริการยืนยันตัวตน (login) เป็น Azure AD และ Azure B2C เดิม
บริการจัดการสิทธิ์เข้าถึงบริการคลาวด์มาจาก CloudKnox แต่เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft Entra Permissions Management เริ่มใช้งานได้จริงเดือนกรกฎาคมปีนี้
Microsoft Entra Verified ID เปลี่ยนชื่อจาก Azure Active Directory Verifiable Credentials เป็นบริการสำหรับการยืนยันตัวตนในโลกความเป็นจริง เช่น หลักฐานการทำงาน, หลักฐานการศึกษา, การยืนยันว่าเป็นสมาชิกองค์กรต่างๆ (เช่นคนไข้ยืนยันว่ากำลังคุยออนไลน์กับแพทย์จริง) เริ่มใช้งานได้จริงเดือนสิงหาคมนี้
การใช้งานโดยรวมอาจจะไม่ต่างจากเดิมนัก แต่ธุรกิจ IAM ก็นับเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตสูง บริษัทคู่แข่งของไมโครซอฟท์จำนวนมากเป็นบริษัทที่ทำแต่ธุรกิจ IAM เป็นหลัก เช่น Okta, Ping Identity, หรือ OneLogin การแยกแบรนด์ออกมาและทำตลาดว่าสามารถใช้งานกับบริการคลาวด์รายอื่นนอกจาก Azure ได้ด้วย ก็น่าจะทำให้ธุรกิจส่วนนี้ของไมโครซอฟท์ชัดเจนขึ้น
ที่มา - Microsoft |
# Fujifilm เปิดตัว X-H2S กล้อง Mirrorless เซนเซอร์ APS-C ระดับไฮเอนด์
Fujifilm เปิดตัวกล้อง X-H2S เป็นกล้อง Mirrorless ขนาดเซนเซอร์ APS-C ระดับไฮเอนด์
สเปคของ Fujifilm X-H2S ใช้เซนเซอร์ Stacked CMOS 26 ล้านพิกเซลที่อ่านข้อมูลออกมาได้ไว สามารถถ่ายภาพรัวสุดได้ถึง 40 ภาพต่อวินาทีเมื่อใช้งานโหมด Full AF และสามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้สูงสุดที่ 120 เฟรมต่อวินาที ส่วนระบบกันสั่นของตัวกล้องสามารถกันสั่นได้สูงสุด 7EV
หน่วยประมวลผล Fujifilm ใส่ X-Processor 5 พร้อมเพิ่ม subject recognition AF เข้ามา ซึ่งบัฟเฟอร์ในตัวกล้องรองรับไฟล์ภาพถ่ายต่อเนื่องเมื่อใช้ควบคู่กับโหมดรัว 40 ภาพต่อวินาทีได้มากสุด 184 ไฟล์ในโหมด JPEG หรือ 175 ไฟล์ในโหมด RAW หรือหากใช้โหมดชัตเตอร์กลไกจะได้ 15 ภาพต่อวินาที จะถ่ายภาพต่อเนื่องได้นานสุด 1000 ไฟล์ในโหมด JPEG หรือ 400 ไฟล์ในโหมด RAW
ในด้านวิดีโอ Fujifilm X-H2S สามารถถ่ายวิดีโอ DCI หรือ UHD 4K ได้ที่ 60 เฟรมต่อวินาทีโดยใช้เซนเซอร์เต็มความกว้าง เทียบเท่ากับความกว้าง 6.2K และมีโหมดถ่ายภาพ 6.2K ที่ 3:2 โดยใช้เต็มพื้นที่เซนเซอร์ หรือจะถ่าย 4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาทีในโหมดครอป 1.29x ก็ได้
ตัวกล้อง Fujifilm เป็นแมกนีเซียมซีลกันสภาพอากาศ มีช่องเสียบหูฟัง, HDMI, USB 3.2 Gen 2 (10Gbps) ส่วนจอมี OLED เป็นจอบน, ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED 5.76 ล้านจุด สามารถรีเฟรชเร็วสุดได้ถึง 120 เฟรมต่อวินาที และจอหลังเป็นจอ LCD ปรับหมุนได้ 1.62 ล้านจุด
Fujifilm X-H2S จะเริ่มวางจำหน่ายในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ที่ราคา 2,499 ดอลลาร์ หรือราว 85,000 บาท
ที่มา - dpreview |
# Amazon เตรียมปิดบริการ Cloud Cam อุปกรณ์จะใช้งานไม่ได้หลัง 2 ธันวาคม เสนอให้ Blink Mini ฟรีทดแทน
Amazon ประกาศเลิกซัพพอร์ตกล้องความปลอดภัย Cloud Cam ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์จะใช้งานไม่ได้หลังวันที่ 2 ธันวาคม เสนอให้ผู้ใช้รับ Blink Mini ไปใช้งานฟรีแทน
Amazon ระบุว่า ทางบริษัทจะเลิกซัพพอร์ตกล้อง Cloud Cam ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ โดยผู้ใช้มีเวลาใช้กล้องจนถึงดาวน์โหลดวิดีโอจนกว่าจะถึงวันหยุดให้บริการ และหลังจากวันที่ 2 ธันวาคม ตัวกล้องจะไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนวิดีโอที่บันทึกไว้ทั้งหมดจะถูกลบทิ้ง และ Cloud Cam Key Edition จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับ smart lock ได้ แต่จะได้รับ Echo รุ่นที่สี่เพื่อทดแทนฟังก์ชันดังกล่าว
ผู้ใช้งาน Cloud Cam จะได้รับโค้ดสำหรับนำไปแลก Blink Mini ฟรี และสำหรับ Cloud Cam Key Edition จะได้รับโค้ดแลก Echo ฟรี โดยโค้ดจะจัดส่งไปก่อนวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่ง Blink Mini ที่เสนอให้นี้จะมาพร้อม Blink Subscription Plus 1 ปี (มูลค่า 100 ดอลลาร์)
Amazon Cloud Cam เปิดตัวครั้งแรกปี 2017 และเริ่มลดบทบาทลงในปี 2019 หลังจากที่ Amazon เข้าซื้อ Blink และ Ring ผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทโฮมความปลอดภัย
ที่มา - The Verge |
# ผู้ชม Netflix ในเปรู ที่เริ่มทดสอบระบบป้องกันการแชร์บัญชี พบในทางปฏิบัติ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม
เมื่อเดือนมีนาคม Netflix ประกาศแนวทางใหม่ เพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานแชร์บัญชีกัน คาดว่าสาเหตุหลักเพื่อเพิ่มรายได้ หลังผลประกอบการไตรมาสล่าสุดจำนวนสมาชิกลดลง แม้จริง ๆ Netflix ก็มีข้อกำหนดอยู่แล้วว่าผู้ใช้งานที่แชร์บัญชีต้องอาศัยในที่พักเดียวกัน แต่ไม่ได้เข้มงวดมากนัก
ในตอนนั้น Netflix บอกว่าจะเริ่มทดสอบระบบใหม่เพื่อควบคุมปัญหานี้ มีผลกับผู้ใช้งานใน ชิลี คอสตาริกา และเปรู ระบุว่าผู้ใช้งานที่แชร์บัญชีกันจะต้องจ่ายเงินค่าสมาชิกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ทีมงานของ Rest of World ได้สอบถามผู้ใช้งาน Netflix ในเปรูหลายสิบคนที่มีการแชร์บัญชี ต่างพบว่าถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ถูกเก็บเงินเพิ่มอย่างที่ Netflix บอก บางคนอาจได้รับข้อความเตือนให้ยืนยันตัวตน แต่เมื่อกดข้ามก็ยังใช้งานต่อได้ตามปกติ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าของ Netflix คนหนึ่ง ก็บอกว่าเขาสับสนกับคำแนะนำลูกค้าในประเด็นนี้เช่นกัน บางกรณีที่พบลูกค้าใช้งานบัญชีเดียวกันแต่ต่างพื้นที่ ลูกค้าก็บอกว่าเพราะอยู่นอกบ้าน ซึ่งที่ทำได้ก็คือการส่งรหัสให้ยืนยันตัวตน แล้วปล่อยให้ใช้งานต่อตามปกติ ไม่มีการเก็บเงินเพิ่ม
ที่มา: Rest of World |
# Foxconn เผย ปัญหาล็อกดาวน์ในจีน กระทบการผลิตเพียงเล็กน้อย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีรายงานข่าวว่า iPhone 14 อาจมีปัญหาการผลิตล่าช้า เนื่องจากการล็อกดาวน์ในจีน แต่ล่าสุด Young Liu ประธาน Foxconn โรงงานหลักในการผลิต iPhone กล่าวกับผู้ถือหุ้นในประเด็นนี้
โดย Liu บอกว่าโรงงาน Foxconn ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ค่อนข้างจำกัด ซึ่งตัวเลขรายได้ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมนั้น ออกมาดีกว่าที่บริษัทประเมินไว้ และภาพรวมตลอดปีนี้น่าจะดีกว่าที่เคยประเมินด้วย
ทั้งนี้ Foxconn รายงานยอดขายเดือนเมษายน ลดลง 4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่โรงงานอื่นที่รับผลิตสินค้าให้แอปเปิลอย่าง Pegatron (iPhone) รายได้ลดลง 35% และ Quanta Computer (MacBook) รายได้ก็ลดลง 40%
ที่มา: 9to5Mac |
# [ลือ] แว่น PS VR2 เริ่มผลิตครึ่งหลังปีนี้ อาจเริ่มขายต้นปีหน้า
มีข้อมูลจาก Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ขาประจำสินค้าใหม่ของแอปเปิล แต่คราวนี้เป็นแว่น PlayStation VR2 หรือ PS VR2 ที่โซนี่เปิดตัวเมื่อต้นปี แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเริ่มวางขายเมื่อใด
โดย Kuo บอกว่า สายการผลิตหลักจะเริ่มในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 จำนวนที่คาดว่าจะส่งมอบได้คือ 1.5 ล้านเครื่อง เขาจึงประเมินว่าโซนี่จะเปิดตัวและวางขายในช่วงต้นปี 2023 เพราะต้องมีเกมที่รองรับในจำนวนที่มากพอด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้โซนี่บอกว่าในช่วงเปิดตัว PS VR2 จะมีเกมที่รองรับประมาณ 20 เกม โดยมีทั้งเกมที่โซนี่พัฒนาเอง และเกมจากสตูดิโอภายนอก บางเกมอาจเปิดตัวเป็นทีเซอร์ในสัปดาห์หน้า
ที่มา: Upload |
# รองประธานซัมซุงพบซีอีโออินเทล พูดคุยหาโอกาสร่วมมือด้านผลิตชิป
Lee Jae-yong รองประธานของซัมซุง ซึ่งถือเป็นผู้บริหารสูงสุดของซัมซุงตอนนี้ (ประธานคือพ่อของเขาป่วยอยู่ในโรงพยาบาล) พบกับ Pat Gelsinger ซีอีโอของอินเทลที่เดินทางไปเกาหลีใต้ และหารือว่าจะทำอะไรร่วมกันได้ในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์
ซัมซุงและอินเทล ถือเป็นบริษัท Top 3 ที่มีเทคโนโลยีการผลิตชิปก้าวหน้าที่สุดในโลก (อีกรายคือ TSMC) การที่สองบริษัทนี้จับมือกันจึงน่าจับตาว่าจะส่งผลต่อการแข่งขันกับ TSMC อย่างไร
ในแถลงการณ์ของซัมซุงเอง ระบุว่าผู้บริหารทั้งสองคนหารือกันเรื่องชิปหน่วยความจำยุคหน้า, ชิปที่ผลิตแบบ fabless (ไม่มีโรงงานเอง) และ foundry (มีโรงงานเอง) รวมถึงธุรกิจด้านพีซีและอุปกรณ์พกพาด้วย
ที่มา - Nikkei |
# รัฐบาลฝรั่งเศสแบนศัพท์เกมภาษาอังกฤษ เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของภาษาฝรั่งเศส
สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า รัฐบาลฝรั่งเศสตัดสินใจที่จะห้ามใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอเกมเพื่อที่จะคงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของภาษาฝรั่งเศส
กระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศสได้ระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้นอกเหนือไปจากการรักษาความบริสุทธิ์ของภาษาแล้ว ยังเป็นการทำให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นเกมเมอร์เข้าใจสิ่งที่เกี่ยวข้องกับแวดวงวิดีโอเกมได้ง่ายมากขึ้น
คำสั่งห้ามนี้ได้ถูกระบุอย่างเป็นทางการบนเอกสารของรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นทำให้มีผลบังคับใช้ทันที
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา องค์กรด้านภาษาในฝรั่งเศสอย่าง “Académie Française” เคยออกมาเตือนว่าการมีภาษาอังกฤษเข้ามาปะปนอยู่ในในการใช้ภาษาฝรั่งเศสอย่างคำว่า “Big data” หรือคำว่า “Dive-in” จะเป็นการทำให้ภาษาฝรั่งเศสถูกด้อยค่าลงไปเรื่อย ๆ
ตัวอย่างของคำศัพท์ที่ถูกเปลี่ยนให้ใช้ภาษาฝรั่งเศสแทนมี อาทิเช่น
Pro-gamer ให้ใช้ Joueur professionnel
Streamer ให้ใช้ Joueur-animateur en direct
Cloud gaming ให้ใช้ Jeu video en nuage
Esports ให้ใช้ Jeu video de competition
ที่มา - The Guardian, Neowin
* Vitality ทีม Esport จากฝรั่งเศส |
# จับกระแสลำโพงฝังเบาะนั่ง Lovesac ทำโซฟาใส่ระบบเสียง Harman Kardon ฟากญี่ปุ่นทำเสื่อทาทามิติดลำโพง
เทรนด์การออกแบบลำโพงเริ่มล้ำสมัยขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ลำโพงทรงตะเกียงของ Sony และลำโพงแบบบางเฉียบใช้แปะผิวหนังเพื่อเปิดเพลงฟังได้ของงานวิจัยจากเกาหลี
ล่าสุดเหมือนทุกอย่างจะล้ำขึ้นไปอีก เพราะ Lovesac แบรนด์เก้าอี้พักผ่อนจากสหรัฐอเมริกาเริ่มขายชุดโซฟาฝังลำโพงที่ออกแบบระบบเสียงโดย Harman Kardon แถม Yatsushiro Tatamix Project องค์กรความร่วมมือในญี่ปุ่นเตรียมพัฒนาเสื่อทาทามิที่มีลำโพงสั่นสะเทือนติดอยู่ภายใน
ลำโพงแบบล้ำ ๆ ทั้ง 2 รุ่นนี้มีรายละเอียดการใช้งาน ให้เสียงออกมาแบบไหน และราคาเท่าไร ทีมงาน Blognone ได้รวบรวมมาให้รับรู้กันครับ
Lovesac StealthTech โซฟาฝังระบบเสียง Harman Kardon
เริ่มที่ Lovesac แบรนด์เก้าอี้พักผ่อนจากสหรัฐอเมริกากันก่อน โดยแบรนด์นี้ได้เปิดตัว Lovesac StealthTech ชุดโซฟาฝังลำโพงที่ออกแบบระบบเสียงโดย Harman Kardon ตอบรับกระแสตกแต่งบ้านแบบไร้สาย เพราะจากเดิมหากต้องการระบบเสียงดี ๆ เจ้าของบ้านต้องต่อลำโพงหลายตัว และอาจมีสายมาเกะกะสายตา
Lovesac StealthTech มาพร้อมกับเทคโนโลยีเสียง 5.1 Dolby Digital Surround ผ่านการฝังลำโพงไว้ในจุดต่าง ๆ ของโซฟา เช่น ใต้เบาะนั่ง, ด้านข้าง และด้านหลังเบาะ ทั้งยังรองรับผ้าคลุมเบาะทุกแบบของ Lovesac เพื่อให้เสียงออกมาดีที่สุด และจัดวางเลย์เอาต์ของชุดโซฟาได้อิสระอีกด้วย
การใช้งานของ Lovesac StealthTech ผู้ซื้อจะต้องติดตั้ง Center Channel หรือลำโพงที่มีลักษณะเหมือน Soundbar เพื่อเชื่อมต่อกับโทรทัศน์ด้วยสาย HDMI จากนั้น Center Channel จะเชื่อมต่อตัวลำโพงที่อยู่ในโซฟาเพื่อส่งเสียงให้ตรงกันเมื่อใช้งาน นอกจากนี้ตัวชุดลำโพงยังเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน และทำตัวเป็นที่ชาร์จไร้สายได้
ทั้งนี้ Lovesac StealthTech จะมีสายไฟที่ต้องเสียบเข้าปลั๊กไฟบ้าน 2 จุดคือ สายไฟจากตัว Center Channel และสายไฟจาก Subwoofer ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางจ่ายไฟ และสายสัญญาณเสียงให้กับลำโพงในจุดอื่น ๆ ของโซฟา หากเก็บสายไม่ดีก็อาจมีเกะกะได้ แต่น่าจะสะดวกกว่าการไล่เก็บสายต่าง ๆ รอบโซฟาในการใช้ลำโพง 5.1 แบบปกติ
สำหรับราคาของ Lovesac StealthTech เริ่มต้นที่โซฟา 2 ที่นั่ง ได้ลำโพงแบบ 5.1 (อยู่ที่ด้านข้างของโซฟาข้างละ 2 ตัว, ด้านหน้าโทรทัศน์ 1 ตัว และ Subwoofer ใต้โซฟา 1 ตัว) ราคาปกติ 6,050 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.07 แสนบาท แต่ผู้ซื้อต้องประกอบโซฟาชุดนี้ด้วยตัวเอง และจากการสำรวจยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายถูกต้องในประเทศไทย
Tatamix V20 เสื่อทาทามิสั่นสะเทือนสร้างเสียง
ต่อด้วยเสื่อทาทามิที่สร้างเสียงได้ โดยหน่วยงานสร้างการรับรู้ให้กับเสื่อทาทามิของเมืองยาสุชิโระ จังหวัดคุมาโมโต้ต้องการยกระดับเสื่อทาทามิขึ้นไปอีกขั้น ไม่ได้เป็นแค่พื้นที่พักผ่อนในบ้านอีกต่อไป จึงจัดตั้ง Yatsushiro Tatamix Project กิจการที่หาพาร์ตเนอร์ที่น่าสนใจเข้ามาร่วมการยกระดับครั้งนี้
โครงการแรกที่ออกมาคือการฝังลำโพงสั่นสะเทือนไว้ในเสื่อทาทามิ และตั้งชื่อสินค้าว่า TTM-V20 ผ่านการร่วมมือกับ Japan Acoustic Lab โดยสินค้าดังกล่าวจะติดตั้งลำโพงสั่นสะเทือนไว้ในเสื่อทาทามมิถึง 6 ตัว และชื่อสินค้ามีที่มาจากเสื่อ Tatami (TTM), Vibration (V) และเสียงความถี่ต่ำที่สุดที่มนุษย์ได้ยินคือ 20Hz (20)
TTM-V20 นอกจากจะให้เสียงที่มนุษย์ได้ยินแล้ว ยังสร้างความสนุก หรือผ่อนคลายผ่านการสั่นสะเทือนของลำโพง และตัวโครงการมีการแสดงตัวอย่างการใช้งานในโรงอาบน้ำ, ในคอนเสิร์ต หรือใช้ดูภาพยนตร์ภายในบ้าน ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานเสื่อทาทามิ
อย่างไรก็ตาม TTM-V20 ยังไม่เปิดจำหน่าย และอยู่ระหว่างพัฒนา ส่วนเหตุผลที่ต้องเป็นหน่วยงานทางการของเมืองยาสุชิโระ เพราะเมืองยาสุชิโระมีหญ้ากกที่ใช้ทำเสื่อทาทามิเป็นจำนวนมาก และเสื่อทาทามิที่ใช้ในประเทศกว่า 99% ถูกผลิตจากเมืองนี้
อ้างอิง // ภาพ และเนื้อหาจาก Lovesac, Soranews24, ภาพเสื่อทาทามิจาก Tatamix |
# [แก้ไขแล้ว ]แอปพลิเคชัน SCB Easy ขัดข้อง ผู้ใช้ Twitter โพสต์พบปัญหาการทำธุรกรรมจำนวนมาก
ทีมงาน Blognone พบว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันนี้ (31 พ.ค. 2022) ผู้ใช้ Twitter จำนวนมากโพสต์ว่าไม่สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น โอน หรือจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน SCB Easy ได้ พร้อมกับดันแฮชแท็ก #scbล่ม ขึ้นที่ 1 ของ Thailand Trends จนถึงช่วงเวลา 13.35 น.
ทั้งนี้บัญชี Twitter ทางการ @scb_thailand ยังไม่มีการโพสต์ชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
อัพเดต: เมื่อเวลา 16.11 น. ทางทีมได้ทดสอบโอนเงินด้วยแอปพลิเคชัน SCB Easy พบว่าสามารถทำธุรกรรมสำเร็จ
อ้างอิง // Twitter |
# [ข่าวลือ] Samsung Galaxy Z Fold4 ใช้ขนาดจอเท่าเดิม กล้องดีขึ้น รองรับ S Pen แต่ไม่มีช่องใส่
GSMArena รายงานว่า Samsung Galaxy Z Fold4 จะมาพร้อมกับตัวเครื่องที่ขนาดใกล้เคียงเดิม ผ่านการใช้หน้าจอพับด้านใน 7.6 นิ้วเท่ารุ่นก่อน แต่จะลดตัวรอยพับที่เกิดขึ้นบริเวณกลางจอ ส่วนหน้าจอด้านนอกจะมีขนาด 6.2 นิ้ว และทั้งคู่เป็นหน้าจอแบบ AMOLED 120 Hz
ด้านกล้องถ่ายภาพ กล้องหลังจะมี 3 กล้องเช่นเดิม โดยกล้องหลักจะมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล กล้อง Telephoto จะเพิ่มระยะซูมเป็น 3 เท่าจากเดิม 2 เท่า ส่วนกล้อง Ultrawide จะยังไม่เปลี่ยนอะไรมาก โดยกล้องรองทั้งคู่จะมากับความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
นอกจากนี้ Samsung Galaxy Z Fold4 ยังมากับกล้อง Selfie อีก 2 ตัวเช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ โดยกล้องที่อยู่ด้านนอก (บนหน้าจอเล็ก) จะเป็นจุด Punch Hole ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องที่อยู่ด้านใน (บนหน้าจอใหญ่) จะอยู่ใต้หน้าจอความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
สำหรับระบบประมวลผล สมาร์ตโฟนพับได้รุ่นนี้จะมากับ Snapdragon 8+ Gen 1 จับคู่กับแรม 12 หรือ 16 GB มากกว่ารุ่นเดิมที่มีให้เลือกแค่ 12 GB ส่วนความจุในเครื่องจะมีให้เลือก 256 กับ 512 GB และใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,400 mAh รองรับการชาร์จ 25 W ที่สำคัญคือรองรับ S Pen แต่ยังไม่มีช่องใส่ปากกาเช่นเดิม
ข้อมูลทั้งหมดนี้ GSMArena อ้างอิงข้อมูลจาก Yogesh Brar ผู้ปล่อยข่าวหลุดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเขามองว่า Samsung Galaxy Z Fold4 และ Filp4 จะต้องเตรียมขึ้นไลน์ผลิตเพื่อรองรับการเปิดตัวในช่วงเดือน ส.ค. 2022 ตามรอบการเปิดตัวเดิม และอาจเพิ่มการผลิตเท่าตัวจากรุ่นก่อเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น
รายงานดังกล่าวมีบางข้อขัดแย้งกับข่าวลือก่อนหน้านี้ เช่น การมีช่องเก็บปากกา
อ้างอิง // GSMArena
ภาพ Samsung Galaxy Z Fold3 จาก Samsung |
# ทำไมองค์กรธุรกิจต้องใช้ Intel vPro มันต่างกับการใช้ Intel เฉย ๆ แค่ไหน?
คอมแรง คอมเร็ว สร้างความได้เปรียบทางธุรกิจได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้า คอมไม่ปลอดภัย โอกาสที่ธุรกิจจะชะงัก หรือพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งก็มีสูง ดังนั้นคงจะดีกว่าที่ในโลกธุรกิจจะใช้ คอมแรง, คอมเร็ว และคอมที่ปลอดภัย
Intel เล็งเห็นปัจจัยดังกล่าว จึงพัฒนา Intel vPro หรือเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ ตอบโจทย์ความต้องการ และช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ในโลกธุรกิจได้ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยที่สำคัญไม่แพ้กับฝั่งประสิทธิภาพในการทำงาน
Blognone อยากชวนมาทำความเข้าใจกันว่า ทำไมองค์กรธุรกิจถึงควรเลือกใช้คอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับ Intel vPro และการใช้งาน Intel vPro ในโลกธุรกิจจะต่างกับการใช้คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง CPU ของ Intel ที่ไม่มีแพลตฟอร์มเทคโนโลยีนี้แค่ไหน
ความปลอดภัยคือสิ่งที่แตกต่าง
Intel vPro โดดเด่นเรื่องความปลอดภัย เพราะฝังระบบความปลอดภัยมาในระดับ Silicon และ Intel vPro เป็นแพลตฟอร์มธุรกิจหนึ่งเดียวที่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ช่วยตรวจสอบ Ransomware และการโจมตีซอฟต์แวร์แบบต่าง ๆ ได้
ตัวอย่างการโจมตีที่ฮาร์ดแวร์ เช่น การที่แฮกเกอร์เข้าไปแฮกที่เฟิร์มแวร์ของกล้องในคอมพิวเตอร์เพื่อโจมตีข้อมูลในเครื่อง และระบบ ที่สำคัญการที่ระบบความปลอดภัยฝังไว้ในระดับ Silicon จึงไม่รบกวนการทำงาน ต่างกับคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีแพลตฟอร์มนี้ที่ต้องต้องเปิดระบบสแกนไวรัสไว้ตลอดเวลา
Intel vPro สามารถทำงานเข้ากันได้กับหลากหลายซอฟต์แวร์ เช่น Microsoft Defender, CrowdStrike และ Connect Wise เป็นต้น เมื่อประกอบกับ Threat Detection Technology หรือ TDT ช่วยตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยตลอดเวลา และการทำงานแบบ Machine Learning เรื่องความปลอดภัยจึงมั่นใจได้
ประสิทธิภาพที่โดดเด่นเช่นเดิม
Intel คือแบรนด์ที่เชื่อใจได้เรื่องประสิทธิภาพอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ Intel vPro แพลตฟอร์มธุรกิจ สามารถยกระดับเรื่องนี้ขึ้นไปอีกขั้น ผ่านการรองรับการใช้งานบนโน้ตบุ๊ก, เดสก์ทอป หรือการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Chrome OS รวมถึงการทำงานบนบราวเซอร์ต่าง ๆ
ปัจจุบัน Intel vPro ถูกออกแบบให้ทำงานบน 12thGen intel® core™ processors หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือซีพียู Generation 12 ของ Intel แล้ว โดยหากเปรียบเทียบระหว่าง Intel vPro with 12th Gen Intel Core i9 processor กับ AMD Ryzen 7 5700G จะทำงานบน Excel และแชร์ผ่าน Zoom ได้เร็วขึ้นมากถึง 23% และใช้ Power BI พร้อมแชร์ผ่าน Zoom ได้เร็วขึ้นมากถึง 46%
ที่สำคัญ Intel vPro ยังถูกออกแบบเพื่อรองรับการทำงานแบบ Work from Anywhere ผ่านการรองรับการเปิดใช้งานเครื่องตลอดเวลา, การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 6E รวมถึงการใช้งาน Thunderbolt 4 เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งปัจจุบัน และในอนาคต
เข้ากันได้ตั้งแต่ SMB จนถึง Enterprise
หากกังวลว่าเทคโนโลยีความปลอดภัย และประสิทธิภาพของ Intel vPro จะเหมาะสมแค่การทำงานในระดับ Enterprise หรือองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 100 คน จริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น เพราะ Intel vPro ตอบโจทย์ได้ตั้งแต่การทำงานในระดับ SMB หรือมีพนักงานน้อยกว่า 50 คน
ผ่านการออกแบบ Intel vPro ให้มีถึง 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
Intel vPro Essentials ที่มีโซลูชันเหมาะกับกลุ่ม SMB
Intel vPro Essentials for Chrome ที่เหมาะกับองค์กรที่ใช้ Chrome OS
Intel vPro Enterprise ที่มีโซลูชันเหมะกับกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่
Intel vPro-An Intel Evo Design ที่เหมาะกับผู้บริหาร หรือผู้ที่ต้องการการใช้งานระดับสูง
ทั้งหมดนี้มากับซอฟต์ระบบจัดการอุปกรณ์อัจฉริยะที่ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบ หรือเข้าซ่อมแซมเครื่องจากที่ใดก็ได้ เช่นกรณีคอมพิวเตอร์ขึ้น Blue Screen หรือเปิดไม่ติด เพียงแค่ผู้ใช้เสียบปลั๊กเครื่อง ผู้ดูแลก็สามารถรีโมทเข้ามาแก้ไขได้ทันที
ต่างกับเครื่องที่ไม่มีเทคโนโลยีนี้ที่ผู้ดูแลระบบต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เพื่อใช้ควบคุมระยะไกล ทำให้ Intel vPro ที่มีระบบนี้ติดตั้งมาตั้งแต่ออกจากโรงงานจึงช่วยผู้ดูแลระบบบริหารจัดการคอมพิวเตอร์ได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ถ้าอยากใช้ Intel vPro ก็มีให้เลือกหลายรุ่น
จากคุณสมบัติเหล่านี้ องค์กรธุรกิจต่าง ๆ คงเห็นประโยชน์จากการใช้งาน Intel vPro มากขึ้น แต่หากกังวลว่าจะหาซื้อคอมพิวเตอร์ที่ใช้แพลตฟอร์มธุรกิจนี้ได้ลำบาก ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่เช่นกัน เพราะ Intel vPro มีให้เลือกมากกว่า 150 โมเดลจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชั้นนำ
นอกจากนี้ยังติดต่อผ่านตัวแทนจำหน่ายเพื่อปรับแต่งประสิทธิภาพของเครื่องได้ตามต้องการ จึงทำให้เห็นว่า Intel vPro ทำมาเพื่อองค์กรธุรกิจจริง ๆ ผ่านข้อสรุปสั้น ๆ คือ โดดเด่นเรื่องความปลอดภัย, ประสิทธิภาพการทำงานที่สูง และบริหารจัดการได้สะดวกสบาย
ศึกษาตัวอย่างการใช้งาน Intel vPro จากองค์กรจริง
หลังจากทำความรู้จักรายละเอียดของ Intel vPro คราวนี้ลองมาศึกษาตัวอย่างการใช้งาน Intel vPro ของ บริษัท ทาลอนเน็ต จำกัด ผู้ทำธุรกิจ System Integrator ที่ให้บริการในด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ และมีกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นภาครัฐ และวิสาหกิจเป็นส่วนใหญ่
ทาลอนเน็ต ใช้ Intel vPro เพื่อแก้ปัญหาการทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะกับในพื้นที่ห่างไกล เพื่อมอนิเตอร์การทำงานเมื่อติดตั้งสำเร็จ ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบหลัก และหากตัวเครื่องมีประสิทธิภาพจะช่วยระยะเวลาการบำรุงรักษาเมื่อการทำงานมีปัญหาซึ่งกินเวลา 3-4 วัน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคู่ค้ามากกว่าเดิม
จึงเป็นที่มาของการเลือกใช้ Intel NUC ที่มากับ Intel vPro เพื่อให้บริการลูกค้าหลายราย โดย วีรภัทร จันทร์แก้ว ผู้บริหาร บริษัท ทาลอนเน็ต จำกัด กล่าวว่า "บริษัทฯ ของเราให้บริการระบบและโซลูชันที่จำเป็นต้องมีการทำงานอย่างต่อเนื่องและเป็นแบบเรียลไทม์ อีกทั้งกลุ่มลูกค้าของเรานั้นส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ บางงานจำเป็นต้องมีการดูแลและคอยตรวจสอบระบบในแบบ 24 ชั่วโมง เป็นต้น
ปัจจุบันทาลอนเน็ต ได้อิมพลีเมนท์โซลูชันของตนพร้อมด้วยคอมพิวเตอร์ Intel® NUC ให้แก่ลูกค้ามากกว่า 2 ปีแล้ว จากการใช้งานที่ผ่านมาพบว่า ปัญหาของเครื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตนั้นแทบจะหมดไป ตัวเครื่องมีความทนทานต่อสภาพการใช้งาน การบริหารจัดการและการมอนิเตอร์ระบบจากทำงานระยะไกลก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น เวลาที่ดาวน์ไทม์น้อยลงเหลือแค่ 1-2% จากเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นจาการใช้งานโซลูชันของ Intel® NUC ที่รันแพลตฟอร์ม Intel vPro® ทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจต่อโซลูชันของทาลอนเน็ตเป็นอย่างมาก
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ [email protected] บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด |
# สิงคโปร์ออกใบเกิดดิจิทัลวันแรก 141 ใบ พ่อแม่บางคนยอมแจ้งเกิดช้ารอระบบใหม่
สิงค์โปร์เริ่มออกใบเกิดดิจิทัลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นับเป็นการเปลี่ยนรูปแบบใบเกิดให้เป็นดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ หลังจากก่อนหน้านี้ยังออกใบเกิดแบบกระดาษให้ประชาชนอยู่ แม้จะใช้กระบวนการแจ้งออนไลน์ก็ตาม โดยวันแรกมีการออกใบเกิด 141 ใบ ขณะที่อัตราการเกิดเฉลี่ยของสิงคโปร์อยู่ที่วันละ 107 คน
พ่อแม่บางคนยอมรอแจ้งช้าถึงหนึ่งสัปดาห์เพื่อให้ได้ใช้กระบวนการใหม่ที่ไม่ต้องเดินทางไปรับใบเกิดที่โรงพยาบาล หรือจุดให้บริการของรัฐเช่นเดิมอีกต่อไป
ใบเกิดและมรณะบัตรดิจิทัลของสิงคโปร์จะเป็นไฟล์ภาพให้ดาวน์โหลดเก็บไว้ในเครื่อง แต่จะมี QR เพื่อให้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานรัฐได้โดยตรง
ที่มา - The Strait Times |
# อดีตพนักงานดูแลคอนเทนท์ Instagram แฉ อิหร่านเสนอสินบนเพื่อลบแอคเคาท์วิจารณ์รัฐบาล
สำนักข่าว BBC รายงานว่า อดีตพนักงานดูแลคอนเทนท์ภาษาเปอร์เซียของ Telus International ที่มีหน้าที่ดูแลคอนเทนท์บน Instagram ในอิหร่านเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัฐบาลอิหร่านได้เสนอมอบสินบนให้กับพนักงานหลายคนเพื่อแลกกับการลบแอคเคาท์ที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอิหร่าน
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัฐบาลอิหร่านถูกกล่าวหาว่าได้เสนอเงินจำนวน 5,000 - 10,000 ยูโร สำหรับการลบแอคเคาท์ของเหล่าบรรดานักข่าวและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ลงคอนเทนท์ไปในทิศทางวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยอีกว่า พนักงานดูแลคอนเทนท์จำนวนหนึ่งที่มีอุดมการณ์สนับสนุนรัฐบาลอิหร่านก็ได้ปฏิบัติตาม “คำสั่ง” ของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอีกด้วย
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่รัฐบาลอิหร่านต้องการให้ถูกลบออกไปจาก Instagram ตามรายงานคือ Masih Alinejad นักเขียนและนักเคลื่อนไหวชาวอิหร่าน-อเมริกัน ซึ่งอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยก่อนหน้านี้ตัวเธอเองเคยเปิดเผยว่า รัฐบาลอิหร่านมีความพยายามที่จะ ลักพาตัวเธอ และมีเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของอิหร่านสี่คนถูกทางการสหรัฐควบคุมตัวในฐานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามโฆษกของ Meta บริษัทแม่ของ Instagram ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้กับ BBC เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เราไม่เห็นหลักฐานใด ๆ ที่เชื่อมกับข้อกล่าวหาดังกล่าว ฝ่ายดูแลคอนเทนท์จะนำลบเนื้อหาที่มีการละเมิดกฎเท่านั้น” โฆษกของ Meta ระบุ
ที่มา - BBC, androidcentral |
# แจ้งเตือน คนร้ายโจมตีช่องโหว่ MSDT ในวินโดวส์เปิดทางแฮกเกอร์รันโค้ดในเครื่องเหยื่อ ยังไม่มีแพตช์
ไมโครซอฟท์แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2022-30190 ช่องโหว่รันโค้ดผ่าน URL ที่เป็นโปรโตคอลสำหรับ Microsoft Support Diagnostic Tool (MSDT) โดยฝัง URL ในเอกสารในรูปแบบ ms-msdt:/ เมื่อผู้ใช้เปิดเอกสารก็จะกลายเป็นการรันโค้ดทันที แม้จะเป็นการเปิดเอกสารแบบพรีวิว, เปิดแบบ read-only, หรือเปิดใน Word ที่ปิดฟีเจอร์มาโครก็ตามที
ตอนนี้มีมัลแวร์จำนวนหนึ่งเริ่มอาศัยช่องโหว่นี้แล้ว และยังไม่มีแพตช์เป็นทางการ โดยไมโครซอฟท์แนะนำให้ลบการรองรับ URL สำหรับ MSDT ออก แต่กระบวนการยุ่งยากเล็กน้อยเพราะต้องลบ registry ด้วยตัวเองเท่านั้น ไม่มีหน้าจอสำหรับกระบวนการนี้
สำหรับ Microsoft Office หากเปิดเอกสารจากอินเทอร์เน็ตค่าเริ่มต้นจะเปิดใช้ Protected View ซึ่งป้องกันมัลแวร์ที่ใช้ช่องโหว่นี้ได้ แต่คนร้ายก็อาจจะหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดเอกสารมาเปิดในเครื่องได้อยู่ดี
ที่มา - MSRC |
# Ni no Kuni: Cross Worlds วิวัฒนาการจากเกมกาชา สู่เกมบล็อคเชน และ NFT กำลังตามมา
Ni no Kuni เป็นซีรีส์เกม RPG ฝั่งญี่ปุ่น ที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัท Level-5 (ผู้สร้าง Yo-kai Watch, Inazuma Eleven) กับ Studio Ghibli มาทำแอนิเมชันให้ และจัดจำหน่ายโดย Bandai Namco
เกม Ni no Kuni ภาคหลักลงเครื่องคอนโซลและพีซี แต่ก็มีเกมมือถือมาทำตลาดญี่ปุ่นแยกเป็นพิเศษด้วย โดยเกมภาคล่าสุด Ni no Kuni: Cross Worlds เป็นเกม RPG แบบ free-to-play ที่พัฒนาโดยสตูดิโอ Netmarble จากเกาหลีใต้ (Level-5 จัดจำหน่าย) เริ่มทำตลาดญี่ปุ่น-เกาหลีในปี 2021 และเพิ่งออกมาทำตลาดโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา
การที่ Ni no Kuni: Cross Worlds เป็นเกมมือถือแบบ free-to-play จากสตูดิโอฝั่งเอเชีย หลายคนจึงน่าจะเดาได้ว่ามีโมเดลธุรกิจแบบ "กาชา" นั่นเอง แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาของเกมเวอร์ชัน global ที่ออกในปี 2022 คือ "เปลี่ยนกาชาเป็นบล็อคเชน"
กลไกการทำงานของเกม Ni no Kuni: Cross Worlds เวอร์ชัน global มีแร่ในเกมเรียกว่า Territe ได้จากการต่อสู้กับมอนสเตอร์, ทำภารกิจ หรือเป็นเจ้าของจุดขุดแร่ในเกม กับเงินในเกมชื่อ Asterite ได้จากการแข่งขันในเกม
ผู้เล่นสามารถนำแร่ Territe ไปแลกเป็นเหรียญ Territe Token (NKT) และนำเงิน Asterite แลกเป็นเหรียญ Asterite Token (NKA) ซึ่งเหรียญทั้งสองประเภทรันอยู่บนบล็อคเชน MARBLEX ของ Netmarble อีกทีหนึ่ง (เหรียญ MBX) เจ้าของเหรียญ NKT กับ NKA สามารถแปลงเป็นเหรียญ MBX แล้วซื้อขายแลกเปลี่ยนกับเหรียญคริปโตอื่นๆ (เช่น BTC, ETC) ได้ตามปกติ แปลว่าในด้านกลับกัน เราสามารถเอา BTC แปลงเป็น MBX แล้วแปลงมาเป็น NKT/NKA แล้วแปลงกลับแร่หรือเงินในเกมได้เช่นกัน
นอกจากนี้บริษัท Netmarble เองยังมีแผนจะออกขาย NFT ในไตรมาส 4 ของปี 2022 ด้วย รายละเอียดทั้งหมดดูได้จาก เว็บไซต์ของเกมภาคภาษาอังกฤษ
ผู้เล่นหลายราย และสื่อเกมตะวันตกที่ได้ลองเล่นเกมเวอร์ชัน global ระบุว่าแม้ Netmarble สัญญาว่าคริปโตไม่ใช่ส่วนสำคัญของเกม แต่ในทางปฏิบัติแล้วกลับกัน เพราะผู้เล่นที่ยอมจ่ายเงินซื้อคริปโต ก็ร่ำรวยในเกมและสามารถซื้ออาวุธ-ไอเทมดีๆ เพื่อเอาชนะในการเล่นโหมด PvP ได้ไม่ยาก ทำให้สมดุลของเกมเสียไปอย่างสิ้นเชิง
ที่มา - Reddit, Noisy Pixel, Kotaku |
# ยอดสั่งซื้อหุ่นยนต์ในอเมริกาเพิ่มขึ้น 40% หลายองค์กรต้องการแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน
สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่าในไตรมาส 1 ปี 2022 องค์กรต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกาสั่งซื้อหุ่นยนต์เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หากนับทั้งปี 2021 ยอดสั่งซื้อหุ่นยนต์มีมูลค่าถึง 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 55,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อนหน้า
ข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงจากการสำรวจโดย Association for Advancing Automation ส่วนเหตุผลที่มีการสั่งซื้อหุ่นยนต์มากขึ้นขนาดนี้ มาจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานในสหรัฐอเมริกา เพราะหลายองค์กรต้องการนำหุ่นยนต์มาช่วยเหลือในส่วนงานที่แรงงานขาดหายไป
ทั้งนี้ในเดือน มี.ค. 2022 มีตัวเลขตำแหน่งงานที่องค์กรต่าง ๆ ต้องการถึง 11.5 ล้านตำแหน่ง สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และนักวิเคราะห์มองว่าเหตุการณ์นี้จะดำเนินไปอีกหลายปี ส่งผลกระทบในทุกอุตสาหกรรม จึงไม่แปลกที่หุ่นยนต์จะเข้ามาทดแทนและแก้ปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว
Michael Cicco ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Fanuc America ผู้จำหน่ายหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เผยว่า ด้วยต้นทุนเทคโนโลยีที่ถูกลง และความฉลาดของหุ่นยนต์ที่มากขึ้น ช่วยเปลี่ยนความเข้าใจเดิม ๆ ขององค์กรต่าง ๆ ที่มองว่าหุ่นยนต์แพง และใช้งานยาก จนองค์กรเหล่านั้นหันมาใช้งานหุ่นยนต์มากขึ้น
ในทางกลับกัน Daron Acemoglu ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จาก MIT มองว่า จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ อาจส่งผลให้ตำแหน่งต่าง ๆ ที่เดิมเป็นของมนุษย์หายไป
อ้างอิง // Wall Street Journal, Business Insider
ภาพจาก Fanuc America |
# Ubuntu 22.10 จะเปลี่ยน Gedit มาเป็น Text Editor ตัวใหม่ของ GNOME
Ubuntu ประกาศเปลี่ยน text editor ของระบบปฏิบัติการ จากของเดิม Gedit ที่ใช้มานานตั้งแต่ Ubuntu เวอร์ชันแรก มาเป็น GNOME Text Editor ตัวใหม่ของโครงการ GNOME
GNOME เพิ่งเปลี่ยน text editor ในเวอร์ชันล่าสุดคือ GNOME 42 และดิสโทรอื่นคือ Fedora 36 เริ่มนำมาใช้ก่อนแล้ว กรณีของ Ubuntu เวอร์ชันล่าสุด 22.04 LTS ใช้ GNOME 42 เหมือนกัน แต่ยังคงแพ็กเกจ Gedit ไว้เป็นดีฟอลต์อยู่ ในเวอร์ชันถัดไป Ubuntu 22.10 จะย้ายมาใช้ GNOME Text Editor แทน
ถึงแม้หน้าตาของ editor ทั้งสองตัวดูคล้ายกัน แต่ GNOME Text Editor เพิ่งถูกเขียนขึ้นมาใหม่อยู่บนไลบรารี libadwaita ที่ใช้จัดการ UI ของแอพยุคใหม่ มีฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างการติดตามการเปลี่ยนแปลง และการเซฟอัตโนมัติ ปิดโปรแกรมไปแล้วยังเก็บข้อความที่พิมพ์ไว้ให้
ที่มา - Ubuntu, OMG Ubuntu |
# ผู้ใช้รายงาน Galaxy Watch 4 พบปัญหาในการใช้งาน หลังอัพเดท
มีรายงานว่าผู้ใช้ Samsung Galaxy Watch 4 ประสบกับปัญหาหลายประการในการใช้งาน หลังจากมีการอัพเดทล่าสุดที่ทำให้ Galaxy Watch 4 สามารถที่จะใช้งาน Google Assistant ได้
ผู้ใช้งานรายหนึ่งได้ตั้งกระทู้บน Reddit ว่าเขาประสบกับปัญหาการที่ตัว Galaxy Watch 4 ไม่สามารถเชื่อมต่อกับกับโทรศัพท์ของเขา และยังหายไปจากรายการเชื่อมต่ออุปกรณ์ของ Galaxy Wearable app และไม่สามารถที่จะเชื่อมต่ออีกครั้งได้เลย ซึ่งก็มีผู้ใช้งานหลายรายใน Reddit ประสบปัญหาในลักษณะคล้ายกัน
อย่างไรก็ตาม วิธีแก้ไขให้สามารถกลับมาเชื่อมต่อได้อีกครั้งคือการ Reset ตัว Galaxy Watch 4 ซึ่งจะทำให้ข้อมูลทั้งหมดที่มีสูญเสียไป
นอกจากนี้ยังมีการพบปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ที่หมดเร็วขึ้น โดย Galaxy Watch 4 ที่อัพเดทฟังชั่นก์ Google Assistant ใช้แบตเตอรี่ไปถึง 20% ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น โดยวิธีแก้ไขที่ผู้ใช้งานหลายคนพบก็คือการตั้งค่าปิดฟังชั่นก์ “Hey Google” ก็จะสามารถช่วยให้ปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ณ เวลานี้ ยังไม่มีรายงานหรือการชี้แจงจากทั้ง Google และ Samsung ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นรวมถึงการแก้ไขในอนาคต
ที่มา - 9to5google, XDA |
# [ลือ] Google ร่วมลงทุนใน ShareChat โซเชียลเน็ตเวิร์กของอินเดีย ที่มูลค่ากิจการ 5 พันล้านดอลลาร์
มีรายงานว่ากูเกิล เตรียมร่วมกับผู้ลงทุนทั้งกลุ่มสื่อ Times Group และกองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์ ร่วมลงทุนใน ShareChat บริการโซเชียลในอินเดีย เป็นเงินรวม 300 ล้านดอลลาร์ และทำให้ ShareChat มีมูลค่ากิจการราว 5 พันล้านดอลลาร์
คาดว่าดีลนี้จะประกาศอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้กูเกิลเคยลงทุนในแอปโซเชียลของอินเดียมาแล้วคือ Josh ซึ่งให้บริการแอปแนววิดีโอสั้น ที่ก็เป็นคู่แข่งสำคัญของ Moj เจ้าของ ShareChat นั่นเอง ตลาดแอปวิดีโอสั้นของอินเดียมีความเฉพาะตัว เหตุผลหนึ่งเพราะรัฐบาลแบน TikTok เมื่อปี 2020 ทำให้แอปในประเทศได้รับความนิยมแทน
ShareChat มีมูลค่ากิจการปัจจุบันราว 3,700 ล้านดอลลาร์ มีผู้ลงทุนสำคัญคือ Alkeon Capital และกองทุนเทมาเส็ก ขณะเดียวกัน Twitter และ Snap ก็ร่วมลงทุนในบริษัทนี้ด้วย
ที่มา: Reuters |
# ร่วมอนุรักษ์ความเป็นไทย ด้วยส่วนขยายเบราว์เซอร์แสดงเลขไทยแทนเลขอารบิค
ด้วยเหตุที่มีกระแสเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้เลขไทยในเอกสารราชการ ซึ่งอาจส่งผลให้หลายฝ่ายเกิดความไม่สบายใจว่าเอกลักษณ์ความเป็นไทยอาจเลือนหายจนนำไปสู่การสิ้นชาติ เช่นนั้นแล้ว นักพัฒนาชาวไทยผู้มีใจรักชาติจึงได้สรรค์สร้างส่วนขยายของเบราว์เซอร์เพื่อแสดงผลเลขไทยแทนเลขอารบิค
ส่วนต่อขยายดังกล่าวสามารถดาวน์โหลดได้จาก กิตฮับของผู้พัฒนา โดยปัจจุบันยังรองรับเฉพาะเบราว์เซอร์โครมและเอดจ์ ผู้ที่สนใจร่วมสืบสานและอนุรักษ์ความเป็นไทยสามารถตรวจสอบและติดตั้งส่วนขยายดังกล่าวได้ตามขั้นตอนที่ระบุในที่มา
ที่มา - เฟซบุ๊กของผู้พัฒนา |
# เหรียญ Luna 2.0 เริ่มซื้อขายแล้ว เปิดที่ 17.8 ดอลลาร์ ตอนนี้ราคา 6.42 ดอลลาร์
บล็อคเชน Terra 2.0 และเหรียญ Luna 2.0 เริ่มใช้งานแล้วเมื่อวานนี้ (29 พ.ค.) ช่วงเวลาราว 16.00 ตามเวลาบ้านเรา
เหรียญ Luna 2.0 ใช้ตัวย่อเหมือนเดิมคือ $LUNA ส่วนเหรียญเดิมที่รันในเชนเดิมยังอยู่ แต่เปลี่ยนชื่อเป็น Luna Classic หรือ $LUNC โดยเหรียญใหม่เริ่มถูกซื้อขายผ่านกระดานแลกเปลี่ยนดังๆ หลายแห่ง เช่น Bybit, Kucoin, Kraken ส่วนรายใหญ่อย่าง Binance ระบุว่าจะเริ่มซื้อขาย Luna ในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ (วันพรุ่งนี้)
ราคาเหรียญช่วงแรกเปิดตัวที่ 17.8 ดอลลาร์ แล้วพุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 19.6 ดอลลาร์ ก่อนลดลงมาเหลือราว 4-5 ดอลลาร์ และคงอยู่ในระดับนั้นมาตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันขณะที่เขียนข่าว เหรียญมีมูลค่า 6.42 ดอลลาร์ (ราคาทั้งหมดอ้างอิงจาก Coinmarketcap) ส่วนเหรียญ $LUNC ตัวเดิมมีมูลค่า 0.0001378 ดอลลาร์
ตอนนี้ยังอาจเร็วไปที่จะสรุปว่าเหรียญ Luna 2.0 จะเป็นเช่นไร ฝั่งของ Do Kwon ซีอีโอของ Terraform Labs ก็ไม่ได้โพสต์มากนัก นอกจากบอกว่าเหรียญเริ่มขายแล้วตามกระดานต่างๆ ส่วนความเห็นของวงการคริปโตก็หลากหลาย มีทั้งมองว่าไม่ควรไปยุ่งกับ Luna ใดๆ อีกแล้ว, ควรอยู่กับ $LUNC ต่อไป หรือแสดงความยินดีกับ Terra/Luna ที่ไได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ที่มา - Decrypt |
# Samsung Display ประกาศปิดสายการผลิต LCD มิถุนายนนี้
Samsung Display บริษัทลูกของซัมซุงที่ผลิตชิ้นส่วนหน้าจอ ประกาศปิดสายการผลิตจอ LCD ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิม 6 เดือน โดยก่อนหน้านี้ซัมซุงบอกว่าจะปิดสายการผลิตทั้งหมดในสิ้นปีนี้
สาเหตุสำคัญที่ซัมซุงหยุดการผลิตจอ LCD เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาจากผู้ผลิตในจีนและไต้หวันที่มากขึ้น ทำให้ส่วนการผลิตจอ LCD ขาดทุน โดยซัมซุงจะไปโฟกัสที่จอ OLED และ QD สำหรับโทรทัศน์แทน
เดิมทีซัมซุงต้องการปิดการผลิต LCD ในปี 2020 แต่สถานการณ์โควิด ทำให้ความต้องการจอ LCD เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ธุรกิจยังทำเงินได้ไปอีกระยะหนึ่ง
ที่มา: The Korea Times |
# ยุคคลาวด์ขึ้นราคา Scaleway แจ้งลูกค้าขอขึ้นราคาเซิร์ฟเวอร์ 3.8-8% ระบุค่าไฟแพง
Scaleway ผู้ให้บริการคลาวด์รายเล็กที่เน้นตลาดยุโรปส่งอีเมลแจ้งลูกค้าขอปรับราคาขึ้นในศูนย์ข้อมูลหลักๆ โดยระบุเหตุผลว่าค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก รายการปรับราคาได้แก่
AMS1, PAR1 ขึ้นราคา 8%
WAW1 ขึ้นราคา 3.85%
PAR3 ศูนย์ข้อมูลในหลุมหลบภัยลดราคาลง 50% จากเดิมที่ค่าบริการในศูนย์นี้แพงกว่าศูนย์อื่นๆ ถึง 3 เท่าตัว
การขึ้นราคานี้มีผลเฉพาะบริการเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น บริการอื่นๆ เช่น สตอเรจยังคงราคาเดิม
ปัญหาพลังงานและชิปขาดแคลนกระทบต่อบริการคลาวด์เป็นวงกว้าง เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา Digital Ocean ก็เพิ่งประกาศขึ้นราคาเซิร์ฟเวอร์ไป 20%
ที่มา - Hacker News |
# เปิดสเปก AYA NEO AIR และ Ayn Loki เครื่องเกม Handheld ระบบปฏิบัติการ Windows คู่แข่ง Steam Deck
Handheld Gaming PC หรือเครื่องเกมแบบพกพาที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์, ลีนุกซ์ หรืออื่น ๆ มีตัวเลือกมากขึ้น ไม่จำกัดแค่ Steam Deck ที่สามารถเล่นเกมระดับ AAA บน Steam ได้อย่างลื่นไหล
ทีมงาน Blognone จึงอยากชวนมารู้จัก AYA NEO AIR และ Ayn Loki สองเครื่องเกมแบบนี้ที่เล่นเกม AAA บน Steam ได้ลื่นไหลเช่นกัน สเปกจะดุเดือดขนาดไหน เล่นเกมอะไรได้บ้าง และราคาอยู่ที่เท่าไร
AYA NEO AIR กับขุมพลัง Ryzen 5 5560U และ Radeon RX Vega 6
เริ่มต้นที่ AYA NEO AIR กันก่อน เครื่องเกมรุ่นดังกล่าวประกอบด้วย 2 รุ่นย่อยด้วยกันคือ AYA NEO AIR และ AYA NEO AIR Pro โดยทั้งสองรุ่นมากับหน้าขอ OLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1,920 x 1,080 พิกเซล ถือเป็นรุ่นที่มีความละเอียดหน้าจอสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ของ AYA NEO
AYA NEO AIR มากับซีพียูแบบประหยัดพลังงานของ AMD รหัส 5560U มีค่า TDP ต่ำที่สุดเพียง 5 W พร้อมแรม 8 GB ที่เก็บข้อมูลภายในเครื่องเริ่มต้นที่ SSD 128 GB แบตเตอรี่ 7,350 mAh ขนาดตัวเครื่อง 224.0 x 89.5 x 17.0~26.7 มม. และน้ำหนัก 395 ก. ราคาขายปลีกเริ่มต้น 599 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 20,000 บาท
ส่วน AYA NEO AIR Pro จะมีรุ่นที่ใช้ซีพียูตัวเดียวกับรุ่นข้างต้น และมีรุ่นใช้ซีพียู Ryzen 7 5825U และขยับการ์ดจอขึ้นเป็นรุ่น Radeon RX Vega 8 แรมสูงสุด 32 GB และที่เก็บข้อมูลในเครื่องแบบ SSD สูงสุด 2 TB มีขนาด และน้ำหนักใกล้เคียงกับรุ่นข้างต้น ราคาขายปลีกปกติ 649-1,399 ดอลลาร์ หรือราว 22,100-47,000 บาท
AYA NEO คือแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องเกม Handheld ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่เคลมตัวเองว่าเป็นรายแรกที่ใช้ซีพียู 7 นาโนเมตร Ryzen 5 4500U พร้อมการ์ดจอ Radeon เปิดตัว และจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ระดมทุน Indiegogo เมื่อเดือน เม.ย. 2021 สามารถเล่นเกมระดับ AAA ต่าง ๆ ได้ตั้งแต่วันนั้น
Ayn Loki ที่เล่นเกม AAA ได้ในราคา 10,000 บาท
ต่อด้วยแบรนด์ Ayn ที่ก่อนหน้านี้เคยสร้างความน่าสนใจด้วยการเปิดตัวเครื่องเกม Handheld รุ่น Odin ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เน้นเล่นเกม Retro แต่คราวนี้มามาดใหม่ที่รองรับการเล่นเกมระดับ AAA ด้วยรุ่น Loki โดยทางแบรนด์โปรโมทว่าเป็นเครื่องเกม Handheld ที่เล่นเกมระดับ AAA ได้ในราคาที่ถูกที่สุดในตลาด
เหตุที่บอกอย่างนั้นเพราะ Ayn Loki มีราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 10,000 บาทเท่านั้น โดยเครื่องเกมรุ่นนี้สามารถแบ่งได้เป็น 3 รุ่นย่อยคือ
Ayn Loki Mini ใช้ซีพียู Intel Alder Lake U ราคา 299 ดอลลาร์ หรือราว 10,000 บาท
Ayn Loki ใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 6600 U มี 3 ความจุให้เลือกคือ SSS 64, 256 และ 512 GB ราคา 499, 599 และ 699 ตามลำดับ หรือราว 17,000-23,000 บาท
Ayn Loki Max ใช้ซีพียู AMD Ryzen 7 6800U มากับความจุ 512 GB ราคา 799 ดอลลาร์ หรือราว 27,000 บาท
ทั้งนี้ขนาดตัวเครื่อง หน้าจอ และน้ำหนัก รวมถึงคุณสมบัติอื่น ๆ ยังไม่เปิดเผยออกมา โดย Ayn Loki คาดว่าจะเปิดตัวช่วงปลายเดือน พ.ค. 2022 แต่สุดท้ายต้องเลื่อนออกไป และยังไม่มีการแจ้งสาเหตุ แต่ถือเป็นความน่าสนใจของวงการเกม Handheld ที่จะมีคู่แข่งออกมาสู้กับ Steam Deck มากขึ้น
Steam Deck ยังเป็นตัวเลือกแรกอยู่ดี
ถึงจะมีตัวเลือกมาขึ้น แต่ Steam Deck ยังเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผู้ซื้อหากต้องการซื้อเครื่องเกม Handheld ที่สามารถเล่นเกมต่าง ๆ บน Steam ได้ แถมยังเป็นเครื่องที่แพลตฟอร์มผลิตขึ้นมาจำหน่ายเอง ช่วยสร้างความเชื่อใจในการใช้งานมากกว่า Ayn และ AYA NEO ที่อาจต้องตั้งค่าต่าง ๆ ในการใช้งาน
สำหรับราคาของ Steam Deck แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อยดังนี้
รุ่นความจุ 64 GB ราคา 399 ดอลลาร์ หรือราว 13,500 บาท
รุ่นความจุ 256 GB ราคา 529 ดอลลาร์ หรือราว 18,000 บาท
รุ่นความจุ 512 GB ราคา 649 ดอลลาร์ หรือราว 22,000 บาท
คุณสมบัติเบื้องต้นของ Steam Deck ประกอบด้วยใช้ซีพียู AMD สถาปัตยกรรม Zen 2 แบบคัสตอมสี่แกน ร่วมกับการ์ดจอ RDNA 2 และแรม LPDDR5 16GB รองรับเกม Steam ทุกเกม ใช้ระบบปฏิบัติการ SteamOS (Linux แบบคัสตอม รันเกม Windows ผ่าน Proton) อ่านแบบเต็ม ๆ ได้ที่นี่
ทั้งนี้เครื่องเกมแบบ Handheld ทั้ง 3 รุ่นที่อยู่ในบทความนี้ยังไม่มีการจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
อ้างอิง // Notebookcheck, The Verge, Retrododo, ภาพจาก Twitter ของ AYANEO, Instagram ของ Ayn |
# Frontier ครองแชมป์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่แรงที่สุดในโลก ทำลายกำแพง 1 Exaflop/s
อันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์โลก TOP500 ประจำรอบเดือนมิถุนายน 2022 (จัดปีละ 2 ครั้งทุกเดือนมิถุนายนและพฤศจิกายน) มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือมีแชมป์ใหม่ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Frontier ของห้องวิจัย Oak Ridge National Laboratory (ORNL) ของสหรัฐ แถมยังเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกที่มีสมรรถนะ 1.102 Exaflop/s ทะลุกำแพง Exaflop ได้เป็นครั้งแรก
Frontier เป็นหนึ่งในซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ 3 เครื่องของกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2019 (อีกสองเครื่องคือ Aurora และ El Capitan ซึ่งยังไม่เสร็จ) ทั้งสามเครื่องพัฒนาโดยบริษัท Cray (ปัจจุบันคือ HPE) โดยมีแนวทางเทคโนโลยีแตกต่างกันไป
เครื่อง Frontier เลือกใช้แนวทาง AMD ล้วน ซีพียูเป็น AMD Epyc 64C และตัวเร่งประมวลผลเป็น AMD Instinct MI250x เชื่อมต่อกันด้วยระบบเครือข่าย HPE Slingshot, มีจำนวนคอร์รวมทั้งระบบ 8,730,112 คอร์ สมรรถนะ 1.1 Exaflop ทำให้แรงกว่าอันดับสองประมาณ 2.5 เท่า และแรงกว่าอันดับ 2-8 รวมกัน
อันดับสองคือแชมป์เก่า Fugaku ของญี่ปุ่นที่ครองแชมป์มานานครบ 2 ปีพอดี ใช้ซีพียู Arm Fujitsu A64FX สมรรถนะ 442 Petaflop/s
อันดับสามเป็นเครื่องใหม่ที่เข้ามาติดชาร์ทคือ LUMI ของฟินแลนด์ ใช้แพลตฟอร์ม HPE Cray Ex 235a เดียวกับเครื่อง Frontier (เป็น AMD Eypc+Instinct เหมือนกัน) แต่จำนวนคอร์รวมน้อยกว่าคือประมาณ 1.1 ล้านคอร์ สมรรถนะอยู่ที่ 151 Petaflop/s
อันดับสี่คือ แชมป์เก่ายุคก่อน Summit ที่สร้างโดย IBM และเป็นของศูนย์วิจัย Oak Ridge National Laboratory เช่นกัน ซีพียูสถาปัตยกรรม Power มีสมรรถนะ 148 Petaflop/s ส่วนที่เหลือดูได้จาก TOP500
ทำเนียบซูเปอร์คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ที่แรงที่สุดในโลกยังน่าจะเปลี่ยนอีกหลายครั้งในรอบ 1-2 ปีข้างหน้า เพราะกระทรวงพลังงานสหรัฐยังมีเครื่องอยู่ในคิวอีก 2 เครื่องคือ Aurora ใช้เทคโนโลยีฝั่งอินเทลล้วน มีกำหนดเสร็จปลายปี 2022 และ El Capitan ใช้เทคโนโลยีฝั่งเอเอ็มดี ทั้งสองเครื่องมีเป้าหมายสมรรถนะที่ราว 2 Exaflop/s
ที่มา - Top500, AMD, HPE |
# DeLorean Motor เผยโฉม Alpha5 รถสปอร์ตไฟฟ้า 4 ที่นั่ง เตรียมเปิดตัวสิงหาคม 2022
DeLorean Motor ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกัน ได้เผยโฉม “Alpha5” รถยนต์ขุมกำลัง EV ตัวใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกทีในงาน Pebble Beach Concours d’ Elegance ช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
Alpha5 จะมีขุมกำลังเป็น Dual Motor มีระยะทางสูงสุดอยู่ที่ 300 ไมล์ ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (483 กิโลเมตรโดยประมาณ) แบตเตอรี่จะมีความจุมากกว่า 100kwh และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 155 ไมล์ต่อชั่วโมง (250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยประมาณ) นอกจากนี้ยังสามารถทำความเร็ว 0 - 60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0 - 100 กิโมตรต่อชั่วโมง) ได้ภายใน 2.99 วินาที
ราคาค่าตัวของ Alpha5 นั้น คาดการณ์กันว่าจะอยู่ที่ประมาณ 150,000 ดอลลาห์สหรัฐ หรือประมาณ 5.1 ล้านบาท
สำหรับบริษัท DeLorean Motor นั้น ก่อตั้งเมื่อปี 1975 โดย John DeLorean ที่ผ่านมาได้มีรถยนต์ผลิตออกมาเพียงแค่โมเดลเดียวเท่านั้น คือ “DMC DeLorean” หรือที่คุ้นหน้าคุ้นตากันในภาพยนต์ไตรภาคเรื่อง “Back to The Future” ในฐานะรถที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็น Time mechine นั่นเอง
ที่มา - techblog
*DMC Delorean รถสปอร์ตปีกนกสุดคลาสสิคที่เราคุ้นจาก Back to the Future” |
# สิงคโปร์ ใช้หุ่นยนต์แก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน ครอบคลุมการทำงานในห้องสมุดจนถึงไซต์ก่อสร้าง
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า องค์กรต่าง ๆ ในประเทศสิงคโปร์หันมาลงทุนในหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติมากขึ้นตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากแรงงานชาวต่างชาติขาดแคลน โดยการทำงานของหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติครอบคลุมการทำงานตั้งแต่ในห้องสมุดจนถึงไซต์ก่อสร้าง
หากเริ่มที่การทำงานในห้องสมุดจะพบว่า ห้องสมุดแห่งชาติของสิงคโปร์จะใช้งานหุ่นยนต์เพื่อช่วยตรวจสอบ และแจ้งบรรณารักษ์ว่าหนังสือเล่มใดวางไม่ถูกที่ โดยตัวหุ่นยนต์สามารถตรวจสอบหนังสือได้ 1 แสนเล่ม/วัน หรือคิดเป็น 30% ของหนังสือทั้งหมด ช่วยลดการใช้แรงคนในการตรวจสอบ และนำเวลาไปทำงานอื่น ๆ ได้
ต่อด้วย The Robot Barista ตู้ชงกาแฟอัตโนมัติที่มีหุ่นยนต์แขนกลชื่อว่า Ella ที่พัฒนาโดย Crown Digital ทำหน้าที่ชงกาแฟ และเครื่องดื่มต่าง ๆ ตั้งอยู่ใน 30 สถานีรถไฟฟ้า แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในธุรกิจร้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ปกติต้องจ้างแรงงานที่มีทักษะไม่สูงมากมาทำงานนี้ แต่ต้องจ้างหลายคน เปลี่ยนเป็นจ้างแรงงานทักษะสูงแค่ไม่กี่คนเพื่อมาดูแลหุ่นยนต์แทน
สุดท้ายคือ Spot หุ่นยนต์สี่ขาที่ทำหน้าที่ตรวจสอบไซต์งานก่อสร้าง และรายงานข้อมูลไปยังศูนย์ควบคุมแบบอัตโนมัติ ถือเป็นการช่วยประหยัดแรงงานผู้เชี่ยวชาญที่ปกติต้องใช้ถึง 2 คน เป็นใช้เพียง 1 คนเพื่อสั่งงานหุ่นยนต์ดังกล่าว นอกจากนี้ Reuters ยังเปิดเผยรูปการใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด และหุ่นยนต์ดักยุงในสิงคโปร์ด้วย
หากอ้างอิงตัวเลขจากกระทรวงแรงงานของสิงคโปร์พบว่า จำนวนแรงงานชาวต่างชาติลดลงถึง 2.35 แสนรายนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2019 จนถึงเดือน ก.ย. 2021 และสิงคโปร์ถือเป็นประเทศอันดับที่ 2 ของโลกที่ใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการผลิต โดยใช้หุ่นยนต์ 605 ตัวต่อพนักงาน 10,000 คน เป็นรองแค่เกาหลีใต้ที่ใช้หุ่นยนต์ 932 ตัวต่อพนักงาน 10,000 คน
อ้างอิง // Reuters
ภาพจาก Crown Digital |
# ชาวลิทัวเนียช่วยระดมทุน Crowdfunding 5.4 ล้านยูโร ซื้อโดรนจู่โจม Bayraktar ให้ยูเครน
ชาวลิทัวเนีย ช่วยกันระดมทุนผ่านวิธี crowdfunding เพื่อซื้อโดรนจู่โจมรุ่น Bayraktar TB-2 ให้กับประเทศยูเครน โดยแคมเปญของลิทัวเนียสามารถระดมทุน 5 ล้านยูโร (ประมาณ 185 ล้านบาท) ได้สำเร็จภายในเวลา 3 วัน ได้โดรนหนึ่งลำเรียบร้อย
ยูเครนใช้โดรนรุ่น Bayraktar TB-2 ที่ผลิตโดยตุรกีมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นสงคราม และประสบความสำเร็จอย่างสูงในการใช้โดรนทำลายรถถังของรัสเซีย ความสำเร็จนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ชาวลิทัวเนีย (ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มสหภาพโซเวียตเดิมด้วยกัน และปัจจุบันเป็นสมาชิก NATO เรียบร้อยแล้ว) ต้องการซื้อและส่งให้ยูเครนใช้งาน
แคมเปญนี้ริเริ่มโดย Laisves TV สื่อออนไลน์ของลิทัวเนีย เลือกใช้วิธี crowdfunding เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมโดยตรง และผลคือเงินส่วนใหญ่เป็นยอดบริจาคก้อนเล็กๆ ระหว่าง 10-500 ยูโร แต่จำนวนคนบริจาคก็เยอะพอที่จะซื้อโดรนได้หนึ่งลำ
บัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของทั้งสองประเทศคือ @Lithuania และ @Ukraine ต่างก็โพสต์สนับสนุนและขอบคุณกันเรื่องนี้ด้วย
ที่มา - Business Insider |
# บอร์ด NanoPi R5S มาพร้อมพอร์ตแลน 2.5GbE สองช่อง
FriendlyElec ผู้พัฒนาบอร์คคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจากจีนเปิดตัวบอร์ด NanoPi R5S บอร์ดเราท์เตอร์ที่มีจุดเด่นมีพอร์ตแลนแบบ 2.5GbE มาด้วยจำนวนสองช่อง ทำให้สามารถใช้งานที่ต้องการแบนวิดท์สูงๆ เช่น NAS ได้เต็มประสิทธิภาพขึ้น
ตัวบอร์ดใช้ซีพียูเป็น Rockchip RK3568B2 บนตัวชิปมีแลนแบบ GbE มาในตัวหนึ่งช่อง แต่เนื่องจากมี PCIe 3.0 มาด้วย ทำให้ผู้พัฒนาบอร์ดอย่าง FriendlyElec ใส่ชิปเน็ตเวิร์คคือ RTL8125BG เพิ่มเติมเข้าไปได้ ตัวบอร์ดใส่แรม LPDDR4X มาให้ 2GB มี eMMC ในตัว 8GB มีช่อง microSD และติดตั้งสตอเรจเพิ่มทางช่อง M.2 ได้ รับพลังงานด้วย USB-PD
ทาง FriendlyElec ระบุว่าประสิทธิภาพของพอร์ต 2.5GbE เมื่อใช้งานจริงจะส่งข้อมูลได้ 1.85Gbps และรับข้อมูลได้ 2.30Gbps ขณะที่พอร์ต GbE นั้นรับส่งข้อมูลได้ที่ 941Mbps ค่อนข้างเต็มแบนวิดท์ หากใครจะนำไปใช้เป็น VPN gateway ตัวซีพียูสามารถเข้ารหัสได้แบดวิดท์สูงสุด 158.8 MBps ที่ AES-256-GCM
ราคา 59 ดอลลาร์สำหรับบอร์ดเปล่า สามารถซื้อเคสเพิ่มราคา 16 ดอลาร์
ที่มา - FriendlyElec via CNX-Software |
# Takara Tomy เปิดตัว Coemo ลำโพงเล่านิทานอัจฉริยะ จำลองเสียงเหมือนพ่อแม่มาเล่าให้ฟัง
Takara Tomy บริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เปิดตัว Coemo ลำโพงเล่านิทานอัจฉริยะ ที่สามารถเล่านิทานผ่านการจำลองเสียงพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ได้ มีนิทานทั้งหมด 45 เรื่องให้เลือกอ่าน จำหน่ายช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 ราคา 12,980 เยน หรือราว 3,500 บาท เปิดจองช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2022
สำหรับการใช้งานลำโพงอัจฉริยะ Coemo ผู้ใช้ต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน Koe Station เพื่อใช้อัดเสียงตัวเอง โดยตัวแอปฯ จะให้ผู้ใช้อ่านข้อความสั้น ๆ เพื่อนำไปประมวลผล และจำลองการออกเสียง ทั้งยังสร้างโปรไฟล์เสียงเพิ่มเติมได้ เปิดโอกาสให้บุตรหลานสามารถเลือกฟังนิทานจากเสียงที่หลากหลาย
หลังจากนั้นผู้ใช้ต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน Coemo เพื่อดึงข้อมูลเสียงข้างต้นลงมา พร้อมกับเลือกนิทาน และเสียงที่ต้องการก่อนสั่งการให้ตัวลำโพง Coemo อ่านนิทานให้บุตรหลานฟัง โดยนิทานที่เล่าจะมีการออกเสียงที่ถูกต้อง ทั้งให้ความหนักเบาเพื่อเพิ่มความสนุก และสมจริงเหมือนกับผู้ปกครองมาอ่านให้ฟัง
สำหรับนิทาน 45 เรื่องที่มีให้เลือกในแอปพลิเคชัน Coemo จะประกอบด้วยนิทานที่แต่งขึ้นใหม่ และนิทานเก่าแก่ของญี่ปุ่น และทั่วโลก เช่น โมโมทาโร่, หนูน้อยหมวกแดง และลูกหมูสามตัว แต่น่าเสียดายที่ Coemo รองรับแค่การอ่านเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น และต้องดูว่าในอนาคตจะมีอุปกรณ์ลักษณะนี้ที่เล่าเรื่องเป็นภาษาไทย หรืออังกฤษหรือไม่?
อ้างอิง // Soranews24 |
# Starship ของ SpaceX รอไฟเขียวสัปดาห์นี้ เพื่อบินขึ้นทดสอบบนวงโคจรเที่ยวแรก
หลังจากเลื่อนมานานหลายเดือน ในที่สุดแผนการขึ้นบินทดสอบจรวดอวกาศรุ่นใหม่ “Starship” ของ SpaceX อาจจะได้รับการอนุมัติจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ ( Federal Aviation Administration หรือ FAA) ให้ปล่อยยานขึ้นสู่วงโคจรได้ในสัปดาห์นี้
Spaceflight กำลังรอผลการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม (Programmatic Environmental Assessment หรือ PFA) ของ FAA อันเป็นการประเมินทั้งความคิดเห็นจากชุมชนโดยรอบ ความปลอดภัยสาธารณะ และความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจะเป็นการชี้ว่าการปล่อยจรวดขึ้นทดสอบบนวงโคจรในครั้งนี้ จะสามารถกระทำได้ในพื้นที่ Starbase launch facility ของ SpaceX เองใน โบก้าชิก้า รัฐเท็กซัสหรือไม่
หาก FAA ไม่อนุมัติให้ปล่อยจรวดขึ้นทดสอบจากพื้นที่ของ SpaceX เอง ก็อาจจะทำให้การปล่อยจรวดทดสอบต้องหันไปใช้ Kennedy Space Center ในรัฐฟลอริด้าแทน ซึ่งจะทำให้ SpaceX ต้องขนย้ายทั้งตัว จรวด อุปกรณ์ และระบบที่จำเป็นทั้งหมดไปที่ฟลอริด้า ซึ่งระยะทางที่ต้องขนย้ายนั้นไกลถึง 1,000 ไมล์ และจะทำให้การทดสอบล่าช้ามากไปกว่าเดิม
Starship นั้นอยู่ในแผนของ NASA ที่จะนำไปใช้ในภารกิจอวกาศต่าง ๆ เช่นการไปสู่ดวงจันทร์ ดาวอังคาร และบริเวณที่ห่างไกลไปกว่านั้น
คาดการณ์กันว่า คำตัดสินของ FAA จะออกมาอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 พฤษภาคม 2022
ภาพจาก SpaceX
ที่มา - digitaltrends |
# Goldman Sachs คาดราคาโลหะใช้ผลิตแบตฯ รถยนต์ไฟฟ้า จะถูกลง เนื่องจากเกิดภาวะ Oversupply
Goldman Sachs วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่า มูลค่าโลหะที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เช่น โคบอลต์, ลิเธียม และนิกเกิล จะมีราคาถูกลงภายใน 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากมีบริษัทมากมายเข้ามาลงทุนเกี่ยวกับโลหะดังกล่าวจนโลหะเหล่านี้เกิดภาวะ Oversupply
ปัจจุบันโคบอลต์, ลิเธียม และนิกเกิล ยังประสบปัญหาขาดแคลน เพราะการระบาดของโรคโควิด-19 และการเกิดสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จนทำให้ราคาพุ่งสูง แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายองค์กรมองเห็นโอกาสในการลงทุนโลหะเหล่านี้ และมองว่าแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าคืออีกสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานในอนาคต
ดังนั้นเมื่อมีการลงทุนมีมากขึ้น โอกาสที่โคบอลต์, ลิเธียม และนิกเกิลจะมีมากเกินไปในตลาดก็มีสูง และเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้มีโลหะเหล่านี้มากกว่าที่ตลาดต้องการจนบริษัทต่าง ๆ เริ่มจำหน่ายโลหะดังกล่าวในราคาถูกลง ถือเป็นเรื่องดีในฝั่งผู้บริโภคที่มีโอกาสครอบครองรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่เอื้อมถึง
McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกมองว่า มูลค่าตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ 3.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 12 ล้านล้านบาท ภายในปี 2030 โดยปัจจุบันมีค่ายผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิมเริ่มลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าเกือบทุกราย นอกจากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเกิดใหม่ ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามีความต้องการสูงขึ้น
อ้างอิง // Business Insider
ภาพโดย Nerijus jakimavičius จาก Pixabay |
# [ลือ] AMD อาจจะกำลังเตรียมออกวางจำหน่ายการ์ดจอราคาถูกตัวใหม่เร็ว ๆ นี้
เว็บไซต์ Phoronix.com ได้รายงานว่า ใน Patch อัพเดทไดรเวอร์ตัวล่าสุดสำหรับ Linux 5.19 ของการ์ดจอ AMD ได้มีการพบถึง Device ID ของอุปกรณ์ใหม่ในตระกูล “Beige Goby” ซึ่งเป็นตระกูลของการ์ดจอระดับเริ่มต้นของ AMD
Phoronix.com ยังระบุอีกว่า เมื่อนำ Device ID ที่ปรากฏขึ้นมาใหม่มาตรวจสอบดู ก็พบว่าเป็น Device ID ที่ไม่เคยเป็นของอุปกรณ์ชิ้นไหนมาก่อน ที่ผ่านมา Device Id ของ การ์ดจอตระกูลนี้คือ 0x7421, 0x7422, 0x7423, และ 0x743F แต่ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่คือ 0x7424 นั่นจึงเป็นการยืนยันว่า Patch ที่อัพเดทนั้นทำเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการ์ดจอตัวใหม่นั่นเอง
การ์ดจอตัวใหม่ในตระกูล Beige Goby นั้น คาดการณ์ว่าจะเป็นการ์ดจอราคาย่อมเยาและมีประสิทธิภาพย่อมลงมาจาก Radeon RX 6300 หรืออาจจะเป็นการปรับปรุง RX 6450 และ 6550 XT ก็เป็นได้
ที่มา - phoronix |
# ArchLinux ออกตัวติดตั้ง Archinstall 2.5 รองรับการเข้ารหัสดิสก์ด้วยกุญแจ FIDO2
ArchLinux ออก Archinstall ตัวติดตั้งอัตโนมัติเวอร์ชั่น 2.5 แม้จะเป็นเวอร์ชั่นย่อยแต่ก็มีฟีเจอร์สำคัญคือรองรับการเข้ารหัสดิสก์ด้วยกุญแจ FIDO2 ในระดับเบต้า
ฟีเจอร์นี้มากับ systemd 248 ที่ออกมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว โดย systemd ทำให้กระบวนการเข้ารหัสดิสก์และยืนยันกุญแจด้วยช่องทางต่างๆ เช่น FIDO2, TPM2, หรือสมาร์ตการ์ด PKCS#11 ทำได้ง่ายขึ้นมาก
กุญแจที่จะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ต้องอิมพลีเมนต์ส่วนขยาย hmac-secret ของมาตรฐาน FIDO2 ซึ่งเป็นส่วนขยายที่กำหนดกระบวนการรักษากุญแจเข้ารหัสแบบสมมาตร (symmetric encryption) ด้วยกุญแจ FIDO 2 ซึ่งตอนนี้กุญแจแบรนด์หลักๆ มักจะอิมพลีเมนต์กันหมด แต่ทาง ArchLinux ก็เตือนว่ายังไม่ได้ทดสอบกุญแจมากนัก
ที่มา - Archinstall |
# รีวิวเทียบ Xiaomi 12 vs Xiaomi 12 Pro คุ้มมั้ยที่จะจ่ายรุ่น Pro เพิ่ม 5,000 บาท
ก่อนหน้านี้ Xiaomi ประเทศไทยเปิดตัวเรือธงรุ่นล่าสุดคือ Xiaomi 12 Series มาใน 2 รุ่นย่อยคือ Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro แต่ราคาแตกต่างกันถึง 5,000 บาท น่าจะเป็นคำถามให้คนที่สนใจว่าสุดท้ายแล้ว ด้วยราคาที่ต่างกัน ในแง่การใช้งานมันแตกต่างกันขนาดไหน และคุ้มไหมที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อซื้อรุ่น Pro
สเปค
Xiaomi 12
หน้าจอ OLED 6.28 นิ้ว ความละเอียด 1080x2400 รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างสูงสุด 1100 nit
ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1
แรม 12GB
กล้องหลัก 50MP Sony IMX766 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56", อัลตร้าไวด์ 13MP, เทเล 5MP
ลำโพงคู่บนล่าง
Xiaomi 12 Pro
หน้าจอ แบบประหยัดพลังงานของซัมซุง LTPO 6.73 นิ้ว ความละเอียด 3200x1440 รีเฟรชเรท 120 Hz ความสว่างสูงสุด 1500 nit
ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1
แรม 12GB
กล้องหลัก 50MP Sony IMX707 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.28"
อัลตร้าไวด์ 50MP Samsung JN1 มุมกว้าง 115 องศา
เทเล 50MP Samsung JN1 ซูม 2x
ลำโพงคู่บนล่าง
ความแตกต่างแรก บอดี้และหน้าจอ
สิ่งที่แตกต่างชัดที่สุดของ 2 รุ่นนี้คือขนาดและน้ำหนัก โดยตัว Pro หนักกว่าที่ 204 กรัมและ Xiaomi 12 ที่ 179 กรัม รวมถึงสัมผัสของฝาหลังของทั้ง 2 รุ่น แม้จะเป็นพลาสติกเหมือนกัน ซึ่งก็ได้ข้อดีที่ไม่มีความมันหรือรอยนิ้วมือติด แต่รุ่น Xiaomi 12 จะเป็นแบบ glossy มีสัมผัสที่สากนิ้วกว่าเล็กน้อย ส่วน Pro จะเป็นแบบ matte สีดำด้าน ดูเรียบหรูกว่า
ส่วนของหน้าจอ อาจจะชัดเจนตั้งแต่ในสเปคว่า Pro ละเอียดกว่า ความสว่างมากกว่า ซึ่งชัดเจนที่สุดคือการใช้งานกลางแดด แต่พอใช้งานจริง สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ชัดว่าแตกต่างกันคือโทนสีของจอ แม้จะเลือกโทรสี Vivid ด้วยกันทั้งคู่ แต่โทนสีจอของ Xiaomi 12 เห็นได้ชัดว่าออกไปทางโทนเหลืองมากกว่ารุ่น Pro
กล้อง
เรื่องกล้องเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าประทับใจทั้ง 2 รุ่น ไม่ว่าจะถ่ายกลางวันหรือ Night Mode ที่ปรับแสงปรับสีให้ แต่ออกมายังค่อนข้างเป็นธรรมชาติ แม้ภาพถ่ายกลางวันจะรู้สึกว่า saturation จะถูกปรับให้สูงไปนิดหน่อยก็ตาม
Xiaomi 12
ทว่าสิ่งที่ยังขัดใจคือโบเก้หรือการเบลอด้วยอัลกอริทึมใน Portrait Mode ที่ยังมีแยกวัตถุไม่ได้บ้าง หรือตัดขอบเส้นผมจนไม่ค่อยสมจริงไปบ้าง แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มา
Xiaomi 12
การใช้งานทั่วไป
ด้วยความที่ทั้ง 2 รุ่นมีสเปคภายในเหมือนกัน ดังนั้นการใช้งานทั่วไป (daily use) เลยเหมือนกันคือดีเร็วและไหลลื่น ตามคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนเรือธง อาจจะมีหงุดหงิดบ้างที่รีเฟรชเรทของจอแม้จะเป็น 120Hz แต่เป็นแบบ Adaptive คือหากปัดหน้าจอในหน้าโฮมหรือ setting จะลื่น แต่ถ้าเปิด Chrome หรือแอปอื่น รีเฟรชเรทจะถูกปรับลดลงทันที ซึ่งเข้าใจได้ แต่สำหรับแอปบางตัวเช่น YouTube ที่ต้องมีการไถหน้าจอเยอะๆ มันรู้สึกถึงความแตกต่างมากเกินไป รู้สึกได้ว่ารีเฟรชเรทและไม่ลื่น ทำให้เดาว่าอาจจะปรับลงมาที่ต่ำกว่า 60Hz
ในแง่ประสิทธิภาพการใช้งานจริง ทั้งสองรุ่นแทบไม่แตกต่างกัน ด้วยชิปเซ็ตตัวเดียวกันและแรม LPDDR5 เหมือนกัน ทว่าจุดที่รู้สึกต่างคือแบตเตอรี่ แม้ในแง่ตัวเลขจะพอๆ กันคือ Xiaomi 12 Pro ที่ 4,600 mAh และ Xiaomi 12 ที่ 4,500mAh แต่สัมผัสได้ว่า Xiaomi 12 อยู่ได้นานกว่าและแบตไหลช้ากว่า ในปริมาณการใช้งานแบบทั่วไปที่ใกล้ๆ กัน โดย Xiaomi 12 Pro มี screen time อยู่ที่ประมาณ 5-6 ชั่วโมง ทว่า Xiaomi 12 อยู่ที่ประมาณ 8-9 ชั่วโมง (อาจจะเกิดจากเรื่องของหน้าจอที่ Pro กินแบตมากกว่า)
ทว่ารุ่น Pro ก็ได้ชาร์จเร็ว 120W มาชดเชยตรงนี้ (แต่ก็วุ่นเวียนต้องพกที่ชาร์จหรือหาปลั๊กเสียบเวลาอยู่ข้างนอก) ใช้เวลาแค่ประมาณ 10 นาที ก็ได้แบตกลับมาราว 70-80% แล้ว
สรุป
ถ้าจะให้สรุปความแตกต่างหลักๆ ของ Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro ที่ชัดเจนที่สุดคงมีแต่เรื่องของหน้าจอ กล้อง และแบตเตอรี่ ในกรณีของหน้าจออาจจะไม่ได้แตกต่างขนาดกระทบการใช้งานขนาดนั้น เช่นเดียวกับกล้อง ที่หากไม่ได้คิดว่าจะต้องใช้กล้องซูม ก็อาจจะไม่ได้จำเป็นที่จะต้องอัพเกรด รวมถึงหากต้องใช้งานนอกบ้านมากกว่า ไม่ได้อยากพกที่ชาร์จติดตัวหรือหาปลั๊กยาก Xiaomi 12 ที่แบตทนกว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีมากกว่า
ดังนั้นส่วนตัวผมเองแอบรู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มกับการจ่ายเพิ่ม 5,000 บาท แลกกับคุณสมบัติบางอย่างที่ส่วนตัวไม่ค่อยได้ใช้ |
# [ลือ] iOS 16 จะรองรับล็อคหน้าจอแบบ Always-On คาดเตรียมสำหรับ iPhone 14
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลในจดหมายข่าว Power On ตอนล่าสุด โดยเขาพูดถึงระบบปฏิบัติการที่แอปเปิลเตรียมเปิดตัวในงาน WWDC สัปดาห์หน้า ทั้ง iOS 16, iPadOS 16, watchOS 9, tvOS 16 และ macOS รุ่นใหม่ ดังนี้
iOS 16 จะมาพร้อมหน้าจอขณะล็อค (Lock Screen) แบบใหม่ รวมทั้งพื้นหลัง (Wallpaper) ที่แสดงข้อมูลต่าง ๆ แนว Widget
iOS 16 จะรองรับหน้าจอล็อคแบบแสดงผลตลอดเวลา (Always-On) ซึ่งคาดว่าทำเพื่อ iPhone 14
iPadOS 16 มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ในระบบหน้าต่างและมัลติทาสก์
tvOS 16 รองรับการทำงานร่วมกับระบบสมาร์ทโฮม
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลของระบบปฏิบัติการและ แอปพื้นฐานอื่นเพิ่มเติม
Messages จะรองรับฟีเจอร์โซเชียลมากขึ้น รวมทั้งชูฟีเจอร์เสียงมากขึ้น
Health จะไม่ขยายไปยัง iPadOS และ macOS ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ยังคงอยู่กับ iPhone และ Apple Watch ต่อไป
macOS จะปรับปรุง System Preferences ให้เหมือนกับระบบ Settings ใน iOS มากขึ้น
ที่มา: MacRumors |
# เผย Broadcom สนใจซื้อ VMware นานแล้ว แต่รอเวลา และปิดดีลในเวลาไม่ถึง 1 เดือน
สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผย พูดถึงเบื้องหลังดีลใหญ่อีกดีลของปีนี้ที่ Broadcom ซื้อกิจการ VMware ที่มูลค่า 61,000 ล้านดอลลาร์ ว่า Broadcom นั้นสนใจจะซื้อ VMware มาหลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่เริ่มเจรจา เนื่องจาก VMware เพิ่งแยกบริษัทออกมาจาก Dell ในเดือนพฤศจิกายน หากเริ่มเจรจาเลยจะทำให้ดีลเกิดขึ้นยาก เนื่องจากผู้ถือหุ้นจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีใน 6 เดือนแรกที่แยกกิจการ
เมื่อครบกำหนด 6 เดือน Hock Tan ซีอีโอ Broadcom ก็เริ่มเจรจากับ Michael Dell ซีอีโอ Dell ซึ่งมีตำแหน่งประธานบริษัท VMware ด้วย เพื่อขอซื้อกิจการเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และดีลก็ถูกประกาศเป็นทางการหลังจากนั้น ทั้งนี้ VMware ยังมีเวลา 40 วัน ที่จะไม่รับข้อเสนอนี้ หากมีผู้เสนอราคาซื้อกิจการที่สูงกว่า
ซีอีโอ Tan มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Silver Lake บริษัทด้านการลงทุนซื้อกิจการ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ VMware โดยเขามารับตำแหน่งซีอีโอของ Avago เมื่อปี 2006 ซึ่งเวลานั้นมี Silver Lake และอีกบริษัทการลงทุน KKR เป็นเจ้าของ จากนั้น Avago ก็ซื้อกิจการ LSI ในปี 2014 และ Broadcom ในปี 2015 แล้วรวมบริษัททั้งหมดเป็น Broadcom หลังจากนั้นมา
ที่มา: Reuters |
# LG เปิดตัวมอนิเตอร์ OLED ขนาด 47.5" อัตรารีเฟรช 120Hz ใหญ่พอใช้ต่อคอนโซลแทนทีวี
สัปดาห์ที่ผ่านมา LG เปิดตัวเกมมิ่งมอนิเตอร์แบรนด์ UltraGear หลายรุ่น โดยรุ่นที่น่าสนใจคือมอนิเตอร์ 48GQ900 ที่ใช้พาเนลประเภท OLED และมีขนาดใหญ่ถึง 47.5" ก้าวขึ้นมาในระดับเท่ากับทีวี OLED รุ่นจอเล็กๆ แล้ว
LG UltraGear 48GQ900 เป็นจอ 4K UHD (3,840 x 2,160), อัตรารีเฟรช 120Hz, อันตราการตอบสนอง 0.1ms, รองรับ HDR10, G-Sync/FreeSync, HDMI 2.1 และมีลำโพงในตัว เพียบพร้อมทุกอย่างสำหรับการนำมาเล่นเกมคอนโซล โดยไม่ต้องพึ่งพาทีวี
LG UltraGear 32GQ850 เป็นจอ Nano IPS ขนาด 31.5" QHD (2,560 x 1,440) ที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 240Hz อัตราตอบสนอง 1ms และผ่านมาตรฐานใหม่ VESA AdaptiveSync ที่รองรับ VRR แบบไม่อิงค่ายจีพียู
อีกรุ่นที่คล้ายกันคือ LG UltraGear 32GQ950 เป็นจอ Nano IPS 31.5" เท่ากัน แต่เพิ่มความละเอียดเป็น 4K UHD แลกกับอัตรารีเฟรชเรตเหลือ 144Hz, รองรับมาตรฐาน VESA DisplayHDR 1000 และระบบสี DCI-P3 98%
จอทั้งสามรุ่นยังไม่เปิดเผยราคาขาย โดยบอกว่าจะเริ่มขายในญี่ปุ่นก่อนเป็นประเทศแรก
ที่มา - LG, Ars Technica |
# Binance จดทะเบียนให้บริการอย่างถูกต้องในอิตาลี ไม่มีบริการ Futures และ Derivatives
Binance เปิดให้บริการในอิตาลีอย่างถูกต้องภายใต้ชื่อ Binance Italy หลังขึ้นทะเบียนกับ Organismo degli Agenti e dei Mediatori (OAM) หรือหน่วยงานกำกับกิจการเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของอิตาลี ถือเป็นอีกก้าวในการบุกตลาดยุโรปเต็มรูปแบบ
การขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องทำให้ Binance สามารถให้บริการในประเทศอิตาลีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือของการฟอกเงินอีกต่อไป หลังจากถูกกลุ่มประเทศยุโรปกดดันให้เข้ามาอยู่ในการกำกับกิจการ โดยหลังจากนี้ Binance จะเปิดสำนักงานในอิตาลี และจ้างพนักงานท้องถิ่นเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม Binance Italy จะไม่ให้บริการสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และบริการเกี่ยวกับตราสารอนุพันธ์ (Deriavtives) นอกจากนี้ Binance มีแผนจดทะเบียนอย่างถูกต้องในยุโรปเพิ่มเติม เช่น สวิสเซอร์แลนด์, สวีเดน, สเปน, เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส และออสเตรีย
สำหรับในประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2565 Binance เตรียมเข้ามาให้บริการในประเทศไทยผ่านการร่วมมือกับ บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ Gulf เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย
อ้างอิง // Reuters
ภาพจาก Binance |
# Ampere เปิดตัวซีพียู Arm ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ตัวใหม่ AmpereOne ผลิต 5nm, คอร์ออกแบบเอง
ซีพียู Arm สำหรับเซิร์ฟเวอร์กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ เราเริ่มเห็นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่เริ่มออกแบบชิป Arm ใช้เอง เช่น AWS Graviton, Alibaba Yitian รวมถึงเรากำลังจะมี NVIDIA Grace วางขายในปีหน้า 2023
อีกบริษัทที่ทำชิป Arm ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ได้โดดเด่นคือ Ampere Computing บริษัทสัญชาติอเมริกันที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2018 โดย Renee James อดีตผู้บริหารระดับสูงของอินเทล
ล่าสุด Ampere เปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ AmpereOne ที่พัฒนาจากรุ่นเดิมตรงที่ใช้คอร์ดีไซน์เองเป็นครั้งแรก จากที่ก่อนหน้านี้ใช้สถาปัตยกรรม Arm Neoverse N1 รุ่นมาตรฐาน
ที่ผ่านมา Ampere ออกซีพียู Arm สำหรับเซิร์ฟเวอร์มาแล้วจำนวนหนึ่ง รุ่นล่าสุดคือ Ampere Altra Max ที่มีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 128 คอร์ (เยอะที่สุดในตอนนี้) และถูกนำไปใช้ในคลาวด์หลายยี่ห้อ เช่น Oracle Cloud, Equinix, Microsoft Azure รวมถึงคลาวด์จีนทั้ง Tencend และ JD
ของใหม่อย่างอื่นของ AmpereOne เปลี่ยนมาใช้กระบวนการผลิต 5nm (ไม่ระบุยี่ห้อแต่ก็น่าจะเป็น TSMC) รองรับแรม DDR5 และ PCIe Gen 5 เช่นเดียวกับซีพียูคู่แข่งฝั่ง Intel/AMD แต่ข้อมูลอย่างอื่นยังมีไม่เยอะนัก ทั้งรายละเอียดสถาปัตยกรรมที่ออกแบบเอง และจำนวนคอร์ว่าจะมากขึ้นจากรุ่น Altra Max หรือไม่
ความน่าสนใจของ Ampere คือเป็นบริษัทที่ตอบโจทย์ผู้ผลิตคลาวด์หลายๆ ราย ที่อาจไม่มีกำลังออกแบบซีพียูเอง (แบบเดียวกับที่ AWS หรือ Alibaba ทำ) แต่จำเป็นต้องให้บริการซีพียูสถาปัตยกรรม Arm ตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ การที่ Ampere เน้นจำนวนคอร์สูงๆ ก็ไปได้ดีในตลาดคลาวด์จีน ที่นำเครื่องไปให้บริการเกมมือถือที่มีผู้เล่นจำนวนมากๆ ด้วย
ที่มา - Serve the Home, Tom's Hardware |
# [ลือ] เศรษฐกิจแย่ กำลังซื้อชะลอตัว ซัมซุงปรับลดการผลิตมือถือปี 2022 ลง 30 ล้านเครื่อง
เมื่อวันก่อนเพิ่งมีข่าวลือว่า แอปเปิลปรับยอดการสั่งผลิต iPhone 14 ลงเล็กน้อย ล่าสุดมีข่าวจากฝั่งเกาหลีใต้ว่า ฝั่งซัมซุงก็ปรับแผนการผลิตมือถือของตัวเองเช่นกัน
ข้อมูลนี้มาจากสื่อเกาหลีใต้ Maeil Economic Daily ว่าซัมซุงปรับเป้าการผลิตมือถือปี 2022 ลง จากเดิมตั้งเป้า 310 ล้านเครื่อง ลงมาเหลือ 280 ล้านเครื่อง (ลดลงราว 30 ล้านเครื่อง) ซึ่งใกล้เคียงกับยอดการผลิตของปี 2021
เหตุผลของซัมซุงมาแบบเดียวกับของแอปเปิลคือ ภาวะเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อมือถือใหม่ลง บวกกับปัญหาชิปและชิ้นส่วนขาดแคลนที่กระทบทั้งอุตสาหกรรม
การที่ทั้งแอปเปิลและซัมซุงมีข่าวลดกำลังการผลิตมือถือลง น่าจะส่งผลต่อยอดขายมือถือของปี 2022 ในภาพรวมเช่นกัน
ที่มา - Maeil Economic Daily via 9to5google |
# ไปอีก Go - แอป Gallery Go บน Android เปลี่ยนชื่อเป็น Gallery เฉย ๆ แล้ว
เว็บ 9to5Google พบว่า Gallery Go แอปจัดการรูปภาพของกูเกิลแนว Google Photos ที่ออกแบบมาให้แอปมีขนาดเล็ก ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตเร็ว ล่าสุดได้ออกเวอร์ชันอัพเดตโดยนำคำว่า Go ออกไป เหลือแค่ Gallery รวมทั้งเปลี่ยนไอคอนซึ่งตัดคำว่า Go ออกไปเช่นกัน
ประเด็นที่น่าสนใจคือนี่อาจเป็นสัญญาณ ว่ากูเกิลอาจลดการทำแอปในกลุ่ม Go เมื่อต้นเดือนก็เพิ่งประกาศเลิกทำแอป YouTube Go ส่วน Files Go ก็เปลี่ยนชื่อไปก่อนหน้านั้นแล้ว
แอปตระกูล Go ที่ยังมีอยู่ก็มีหลายแอป ได้แก่ Google Go, Maps Go, Gmail Go, Assistant Go รวมทั้ง Android Go 12 ที่ประกาศเมื่อปลายปีที่แล้ว
ที่มา: 9to5Google |
# สีเหลือง Cyberpunk 2077 ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากโค้กขวดแก้ว
Michał Janiszewski หัวหน้าฝ่ายทัศนศิลป์ของเกม Cyberpunk 2077 เปิดเผยภายในงานสัมมนาเกี่ยวกับเกม Digital Dragons ว่า ที่มาของการใช้สีเหลืองเป็นสีธีมของเกม Cyberpunk 2077 ทางทีมงานได้แรงบันดาลใจมากจากรูปลักษณ์ และการออกแบบของ โค้กขวดแก้ว
อาจจะงง ๆ ว่าโค้กขวดแก้ว กับสีเหลือง Cyberpunk 2077 มันเกี่ยวอะไรกัน แต่หัวหน้าฝ่ายทัศนศิลป์ของเกมนี้อธิบายไว้อย่างน่าสนใจว่า โค้กขวดแก้วมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ถึงจะไม่แปะยี่ห้อ หรือใส่สีใด ๆ เวลาคนมองเห็นก็จะรู้ว่ามันคือขวดของโค้ก ซึ่งทีมศิลป์ของ Cyberpunk 2077 อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเกมบ้าง
"ยอมรับว่า Blade Runner และ Judge Dredd คือแรงบันดาลใจของเกมนี้ แต่ถ้าเราเอาธีมสีเดิม ๆ มาใช้ เช่น สีแดง หรือสีน้ำเงิน ก็คงไม่สร้างความแตกต่าง และการจดจำ" Michał กล่าว และสุดท้ายทีมงานเลือกใช้สีเหลืองโทนสว่างมาใช้ และกลายเป็นที่จดจำในเวลาต่อมา
นอกจากสีเหลือง Cyberpunk 2077 จะถูกใช้เพื่อโปรโมทเกมในช่องทางต่าง ๆ ตัวสีดังกล่าวยังถูกใช้ภายในเกม เช่น เสื้อผ้าของตัวละคร และตามจุดต่าง ๆ ของเมือง Night City ช่วยสร้างการจดจำของสี ถือเป็นการใช้สีเพื่อสร้างการจดจำอย่างน่าสนใจ และคล้ายกับแบรนด์ต่าง ๆ ที่เลือกใช้สีมาช่วยสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด จากการจดจำ และการเฝ้ารอการแก้ไขตัวเกม ทำให้ Cyberpunk 2077 ที่ CD Projekt ทำการอัพเดตเป็นเวอร์ชันสำหรับเครื่องเกมเจ็นปัจจุบัน (PlayStation 5 และ Xbox Series X|S) พร้อมแก้ไขบั๊กต่าง ๆ ในตัวเกม ส่งผลให้ภาพรวมกำไรสุทธิของบริษัทไตรมาส 1 ปี 2022 เติบโต 112% เป็น 68.9 ล้านซวอตือ หรือราว 550 ล้านบาท
อ้างอิง // IGN |
# Valve โพสต์โซเชียล Team Fortress 2 ในรอบเกือบ 2 ปี ตอบรับแฟนๆ ให้แก้ปัญหาบ็อต
Valve โพสต์ข้อความลงบัญชีทวิตเตอร์ @TeamFortress เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี (โพสต์ครั้งสุดท้ายเดือนตุลาคม 2020) ตอบรับข้อเรียกร้องของแฟนๆ ที่ต้องการให้ Valve แก้ปัญหาบ็อตระบาดในเกม
Team Fortress 2 เป็นเกมยิง FPS แบบมัลติเพลเยอร์ที่ออกในปี 2007 ก่อนเปลี่ยนมาเป็นโมเดล free-to-play เมื่อปี 2011 ถึงแม้ช่วงหลังๆ อาจไม่ได้ยินคนพูดถึงมากนัก เพราะมีเกม FPS มัลติเพลเยอร์ใหม่ๆ มากลบรัศมีไปเยอะ แต่ชุมชน Team Fortress 2 ก็ยังคงเหนียวแน่นมาจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา Team Fortress เจอปัญหาบ็อตระบาด และตัวเกมเองก็ไม่ได้อัพเดตมานานมาก (ถึงขนาด Valve ไม่อัพเดตอะไรบนหน้าเว็บและโซเชียลมานาน น่าจะไม่มีคนอยู่ในโปรเจคแล้ว) ทำให้แฟนๆ ออกมาเรียกร้องผ่านแคมเปญ #SaveTF2 และในที่สุด Valve ก็ตอบสนองแล้ว ต้องรอดูกันว่าการที่ Valve กลับมาสนใจเกมนี้อีกครั้งจะมีผลต่อการปรับปรุงเกมแค่ไหน
ที่มา - TechRadar |
# ไมโครซอฟท์ชะลอการจ้างพนักงานใหม่ในทีม Windows, Office, Teams
ไมโครซอฟท์เป็นบริษัทล่าสุดที่มีข่าวชะลอการจ้างพนักงานใหม่ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในช่วงนี้
ข้อมูลนี้มาจากอีเมลภายในของ Rajesh Jha ผู้บริหารตำแหน่ง Executive Vice President ที่ส่งหาพนักงาน (หลุดออกมายัง Bloomberg) ระบุว่าไมโครซอฟท์จะชะลอการจ้างพนักงานในทีม Windows, Office, Teams แต่นโยบายนี้ไม่กระทบกับทีมอื่น โฆษกของไมโครซอฟท์ยืนยันข่าวนี้และบอกว่าเป็นการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสม
ก่อนหน้านี้มีบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งที่ประกาศนโยบายแบบเดียวกัน เช่น Meta และ Uber แต่ไมโครซอฟท์เองก็เพิ่งมีนโยบายขึ้นเงินเดือนให้พนักงานทั่วโลก เช่นกัน
ภาพจาก Microsoft
ที่มา - Bloomberg via TechRadar |
# ไมโครซอฟท์ยืนยันข่าว Keystone อุปกรณ์สตรีมเกม Xbox Cloud Gaming
เว็บไซต์ Windows Central รายงานข้อมูลอุปกรณ์สตรีม xCloud หรือ Xbox Cloud Gaming ที่ลือกันมานาน ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้มีโค้ดเนมว่า Keystone
รอบนี้ไมโครซอฟท์มาแปลกคือ ยืนยันกับทาง Windows Central ว่ากำลังพัฒนาอุปกรณ์ชื่อ Keystone จริงๆ (ระบุโค้ดเนมให้เสร็จสรรพ) โดยอธิบายว่าพยายามหาวิธีขยายฐานผู้เล่น Xbox Cloud Gaming ให้กว้างกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม กระบวนการพัฒนาต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะไมโครซอฟท์เพิ่งตัดสินใจปรับทิศทางของ Keystone ไปจากแผนเดิม (ไม่บอกว่าปรับอย่างไร)
ตอนนี้เรายังไม่มีภาพของ Keystone หลุดออกมา บ้างก็ว่าเป็นอุปกรณ์หน้าตาคล้าย Chromecast หรือ Amazon Fire Stick หรือบ้างก็ว่าเป็นกล่องสตรีมมิ่งขนาดเล็กที่ต้องวางบนพื้นแทน
เดิมที Keystone เคยระบุว่าใช้ระบบปฏิบัติการ GameOS ซึ่งน่าจะเป็น Xbox OS เวอร์ชันลดรูป แต่ก็ไม่แน่ชัดว่า "ทิศทางใหม่" ของไมโครซอฟท์คือการเปลี่ยนมาใช้ Android เพื่อรองรับแอพได้กว้างขวางขึ้นหรือไม่
ภาพจาก @teroalhonen
ที่มา - Windows Central |
# EA เปิดตัว Star Wars Jedi: Survivor ภาคต่อของ Star Wars Jedi: Fallen Order
EA และ Respawn Entertainment เปิดตัวเกม Star Wars Jedi: Survivor ภาคต่อของเกม Star Wars Jedi: Fallen Order ที่ออกในปี 2019
เหตุการณ์ของภาค Jedi Survivor เกิดขึ้นตอน 5 ปีหลังจากภาค Fallen Order โดยตัวเอกยังเป็นอัศวินเจได Cal Kestis คนเดิมและหุ่นคู่หู BD-1 ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกมซีรีส์นี้ ตอนนี้ยังมีแต่เทรลเลอร์ที่เป็นภาพยนตร์ให้เห็นศัตรูรายใหม่ที่เอาชนะ Cal และแย่งดาบไลท์เซเบอร์ของเขาไป
เกมระบุว่าจะออกในปี 2023
ที่มา - IGN |
# AlmaLinux เปิดตัวเวอร์ชั่น 9 ตามหลัง RHEL เพียง 2 สัปดาห์
AlmaLinux โครงการลินุกซ์ทดแทน CentOS ที่เคยเป็นเวอร์ชั่นฟรีของ RHEL ประกาศออกเวอร์ชั่น 9.0 ตามหลัง RHEL 9 เพียง 2 สัปดาห์ นับว่าเป็นโครงการที่เร็วที่สุดในบรรดาโครงการที่ประกาศตัวทดสอบ CentOS โดยโครงการซัพพอร์ตแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ใกล้เคียงกับโครงการต้นน้ำคือ RHEL
ซีพียูรองรับทั้ง 4 สถาปัตยกรรม ได้แก่ x86-64, Arm64, PowerPC, และ IBM Z
บริการคลาวด์รองรับทั้ง AWS, Azure, Google Cloud, และ Oracle Cloud โดยรองรับ Arm64 บนคลาวด์ที่รองรับเช่นกัน
Docker มีทั้งอิมเมจแบบธรรมดา และอิมเพจขนาดเล็กล้อไปกับ UBI ของ RHEL (ที่จริงๆ RHEL ให้ใช้งานได้ฟรีอยู่แล้ว)
รองรับ Raspberry Pi และ WSL บนวินโดวส์
การปรับปรุงของ AlmaLinux เองเป็นหน้าจอที่มีชุดพื้นหลังสีลดใสขึ้น
ที่มา - AlmaLinux |
# npm รายงานข้อมูลรั่วจากโทเค็น Heroku/Travis-CI คนร้ายได้แฮชรหัสผ่านผู้ใช้แสนคน
GitHub รายงานข้อมูลเพิ่มเติมจากเหตุโทเค็น OAuth รั่วไหลเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่าคนร้ายได้รับข้อมูลมากกว่าซอร์สโค้ดของ npm เอง โดยคนร้ายได้ฐานข้อมูล ชื่อผู้ใช้, อีเมล, และค่าแฮชรหัสผ่าน ของผู้ใช้ประมาณ 100,000 คนไปด้วย
ข้อมูลที่หลุดไปอยู่ในไฟล์สำรองข้อมูลของเว็บ skimdb.npmjs.com ที่สำรองไว้ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2021 ในไฟล์ข้อมูลยังมี metadata ของแพ็กเกจส่วนตัวทั้งหมด, และแพ็กเกจภายในขององค์กรสององค์กร
ตอนนี้ npm ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ล็อกอินด้วยรหัสผ่านอย่างเดียว โดยหากไม่ได้เปิดการล็อกอินสองขั้นตอนก็จะยืนยันอีเมลซ้ำอยู่ดี ทำให้คนร้ายไม่สามารถแฮกบัญชีผู้ใช้ได้ แต่ตอนนี้ก็ได้รีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดแล้ว
ที่มา - GitHub |
# พบ Telegram ถอดข้อความ Free Forever และ No Subscription Fees ออกจากแอพแล้ว
Alessandro Paluzzi นักปล่อยข้อมูลหลุดแอพมือถือ ซึ่งเป็นผู้คนพบบริการ Telegram Premium พบว่าหน้าจอตอนเริ่มต้นแอพ Telegram (ก่อนล็อกอิน) ที่โฆษณาฟีเจอร์ต่างๆ ของบริการ
ของเดิมมีหน้าที่เขียนว่า Free ที่มีข้อความว่า "Telegram is free forever. No ads. No subscription fees." แต่หน้านี้ถูกเปลี่ยนเป็น "Telegram provides free unlimited cloud storage for chats and media." แทนแล้ว (แต่ยังไม่ชัดเจนว่า Paluzzi นำภาพมาจากแอพเวอร์ชันใด)
การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะสะท้อนทิศทางของ Telegram Premium ที่เป็นบริการแบบ subscription นั่นเอง แม้ตอนนี้ Telegram Premium ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่หลักฐานก็บ่งชี้ว่ามันน่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
ที่มา - Android Police |
# Google Drive เวอร์ชันบนเว็บ รองรับการใช้ Ctrl + C, Ctrl + V แล้ว
Google Drive เวอร์ชันบนเว็บ เพิ่มคุณสมบัติใหม่สำหรับคนที่สะดวกกับการใช้ Shortcut คีย์บอร์ด โดยสามารถใช้คำสั่งลัด Ctrl + C, Ctrl + X และ Ctrl + V (⌘ กรณีใช้ Mac) ในการคัดลอก ย้าย และวางไฟล์ได้แล้ว
คุณสมบัติใหม่นี้รองรับเฉพาะการใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ Chrome มีผลกับผู้ใช้งานทุกคนทั้งบัญชีแบบฟรีและ Google Workspace โดยทยอยได้อัพเดตตั้งแต่วันนี้
นอกจากนี้ เมื่อใช้คำสั่ง Ctrl + C เพื่อคัดลอกไฟล์ ยังสามารถแทรกแสดงผลเป็นลิงก์เมื่อวางขณะใช้งานเอกสารหรืออีเมลได้ด้วย และเมื่อเลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ หากใช้ Ctrl + Enter จะเป็นการเปิดในแถบใหม่ให้ทันที สะดวกต่อการเรียกดูไฟล์
ที่มา: กูเกิล |
# iQiyi รายงานผลประกอบการไตรมาส มีกำไรเป็นครั้งแรก
iQiyi แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่ของจีน รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2022 โดยมีประเด็นสำคัญคือผลประกอบการมีกำไรเป็นครั้งแรกที่ 169.1 ล้านหยวน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 7,277.1 ล้านหยวน ลดลง 8.7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน
ซีอีโอ Yu Gong กล่าวว่าในไตรมาสที่ผ่านมา จำนวนสมาชิกของแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น จากการคัดสรรคอนเทนต์ นอกจากนี้ยังปรับปรุงต้นทุนในการดำเนินงาน ทำให้ผลประกอบการออกมามีกำไร ซึ่งบริษัทจะยังคงกลยุทธ์นี้ต่อไป
จำนวนสมาชิกเฉลี่ยในไตรมาสมี 101.4 ล้านราย มีรายได้เฉลี่ยต่อสมาชิกต่อเดือนที่ 14.69 หยวนต่อคน
ที่มา: iQiyi ผ่าน TechNode |
# Lenovo ไตรมาสล่าสุด รายได้เติบโต แต่ระบุปัญหาซัพพลายเชนยังกระทบอยู่มาก
Lenovo รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2021/22 สิ้นสุดเดือนมีนาคม รายได้รวมเพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 16,694 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 421 ล้านดอลลาร์
ธุรกิจหลัก 3 กลุ่มของ Lenovo ล้วนมีกำไรเฉพาะกลุ่มที่เพิ่มขึ้น โดยกลุ่ม Solutions and Services รายได้เพิ่มขึ้น 28% กลุ่ม Infrastructure Solutions มีกำไรเฉพาะส่วนธุรกิจติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สอง และกลุ่ม Intelligent Devices มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 18
Luca Rossi รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Lenovo กล่าวในช่วงแถลงผลประกอบการว่า บริษัทยังได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากปัญหาซัพพลายเชน ทำให้กระทบการส่งมอบสินค้าในทุกส่วน โดยเฉพาะในจีน นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาภูมิศาสตร์การเมือง และปัญหาเงินเฟ้อ
Lenovo บอกว่ากลุ่มพีซีเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นจากสถานการณ์ล็อคดาวน์ในจีน ขณะที่กลุ่มสมาร์ทโฟนและ Data Center ยังกระทบค่อนข้างมาก
ที่มา: Lenovo (pdf) ผ่าน Reuters |
# [ลือ] Sony เข็น Gran Turismo เป็นภาพยนตร์ฉายโรง ไม่ใช่ซีรีส์ฉายทีวี
เว็บข่าวบันเทิง Deadline ให้ข้อมูลของโปรเจค Gran Turismo ที่ตอนแรกว่าทำเป็นซีรีส์ฉายทีวี ว่าจริงๆ แล้วแผนของโซนี่คือทำเป็นหนังฉายโรงต่างหาก
ตอนนี้ยังมีข้อมูลของโปรเจคนี้น้อยมาก ไม่รู้แม้แต่พล็อตเรื่องใดๆ เพราะโปรเจคยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยมีข่าวลือว่า Neill Blomkamp ผู้กำกับชาวแอฟริกาใต้ที่สร้างชื่อจาก District 9 และ Elysium สนใจมากำกับหนังเรื่องนี้
โซนี่ค่อนข้างประสบความสำเร็จกับหนัง Uncharted ที่ทำรายได้รวมทั่วโลก 400 ล้านดอลลาร์ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเข็นเกมในสังกัดตัวเองมาเป็นหนังเพิ่มเติม
ที่มา - Deadline |
# ฉายภาพ PC Game Pass และอนาคต Xbox ในไทย กับ ภาณุ สมุทรโคจร หนึ่งในผู้บริหารคนไทยของ Xbox
PC Game Pass บริการสมัครสมาชิกเล่นเกมนับร้อยบนคอมพิวเตอร์ในราคา 99 บาท/เดือน เปิดตัวเงียบ ๆ ในประเทศไทยช่วงปลายเดือน เม.ย. 2022 แต่ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับเกมเมอร์ไทยไม่น้อย เพราะถือเป็นครั้งแรก ๆ ที่ Xbox ของ Microsoft เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
กว่าจะมีวันนี้ PC Game Pass และ Xbox วางแผนอะไรบ้าง และทำไมถึงเลือกไทย รวมถึงเลือกแล้วอนาคตจะมีเกมภาษาไทยมากขึ้นหรือไม่ ทีมงาน Blognone มีโอกาสสัมภาษณ์ ภาณุ สมุทรโคจร Xbox Games Category Management หนึ่งในผู้มีส่วนร่วมของการผลักดันเรื่องข้างต้น เพื่อหาคำตอบไปด้วยกัน
จุดเริ่มต้นของ Xbox และ PC Game Pass ในไทย
ภาณุ เล่าให้ฟังว่า นับตั้งแต่ Xbox เปิดตัวเมื่อกว่า 20 ปีก่อน การทำตลาดในประเทศไทยคงเป็นแค่ความฝันของเกมเมอร์ชาวไทย แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ตลาดเกมเติบโตอย่างรวดเร็ว อาเซียน กับไทยกลายเป็นพื้นที่สำคัญในการทำตลาดเกม และนี่คือที่มาของการเปิดตัว PC Game Pass บริการสมัครสมาชิกเล่นเกมไม่จำจัด
"Xbox วิจัยเกมเมอร์ 3,500 ล้านคนทั่วโลก เพื่อรับรู้ถึงพฤติกรรมของพวกเขาในการเล่นเกมบนคอนโซล, พีซี, โมบาย และอื่น ๆ ว่าเล่นอย่างไร ชอบแบบไหน ก่อนนำมาพัฒนาเป็น PC Game Pass บริการสมัครสมาชิกเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์กว่าร้อยเกมได้ไม่จำกัด ถือเป็นมิติใหม่ของวงการเกมในประเทศไทย และทั่วโลก"
สำหรับในประเทศไทย PC Game Pass ให้บริการในราคา 99 บาท/เดือน และหากเป็นผู้ใช้ครั้งแรกจะมีโปรโมชัน 29 บาท/เดือน ส่วนเกมที่เล่นได้จะมีทั้งเกมจากสตูดิโอในเครือ Microsoft และเกมจากพาร์ตเนอร์ รวมถึงได้เป็นสมาชิก EA Play บริการสมัครสมาชิกเล่นเกมของ EA เช่นกัน
เล่นเกม Day 1 แต่ไม่ทำลายธุรกิจค่ายเกม
อีกจุดแข็งของบริการ PC Game Pass คือการได้เล่นเกมใหม่แบบ Day 1 หรือวันแรกที่จัดจำหน่าย เช่น S.T.A.L.K.E.R. 2: Heart of Chernobyl แต่ไม่ได้ทำลายผู้ผลิต และตัวแทนจำหน่ายของเกมต่าง ๆ เพราะการเข้ามาอยู่ใน PC Game Pass ตัวเกมยังจำหน่าย DLC ต่าง ๆ ได้เหมือนเดิม
"จากข่าวอดีตผู้บริหาร Xbox ออกมาบอกว่า PC Game Pass และบริการสมัครสมาชิกอื่น ๆ ทำลายอุตสาหกรรมเกม ผมว่ามันไม่เป็นอย่างนั้น เพราะการเข้ามาในแพลตฟอร์มสมัครสมาชิกมันก็ยังสร้างรายได้ให้พวกเขา หากเกมน่าสนใจจริง ผู้เล่นก็มีสิทธิ์ตัดสินใจเลือกซื้อ DLC ถือเป็นการให้สิทธิ์ลูกค้าว่าอยากจ่ายเงินกับอะไร และแบบไหน"
จากจุดแข็งข้างต้น ทำให้การเปิดตัว PC Game Pass ได้ผลตอบรับที่ค่อนข้างน่าพอใจจากเกมเมอร์ชาวไทย แต่ Xbox ไม่สามารถเปิดตัวตัวเลขผู้สมัคร รวมถึงอัตราการเติบโตนับตั้งแต่เปิดตัวได้ แม้จะมีปัญหาเรื่องมีเกมไม่ครบเหมือนกับบางพื้นที่เพราะติดเรื่องลิขสิทธิ์ก็ตาม
เกมภาษาไทยในอนาคตต้องมี ฟีเจอร์ต่าง ๆ ต้องเพิ่ม
นอกจากการเปิดตัว PC Game Pass ในประเทศไทย Xbox ยังให้ความสำคัญกับผู้เล่นในไทยด้วยการทำเกมเป็นภาษาไทยมากขึ้น เช่น ปัจจุบันมีเกม Sea of Thieves ที่รองรับภาษาไทย 100% ส่วนเกมใดจะมีภาษาไทยอีกยังไม่สามารถแจ้งได้ แต่ทางทีมงานมีการพัฒนาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
"Xbox มีแนวคิดว่า ทุกประเทศที่เข้าไปให้บริการ PC Game Pass จะต้องมีเกมที่รองรับภาษาท้องถิ่น 100% และต้องไม่หยุดแค่ 1 หรือ 2 เกม เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นในแต่ละท้องถิ่นให้ได้ดีที่สุด เช่นเดียวกับการเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการผู้เล่นแต่ละท้องถิ่นในอนาคต"
อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง xCloud บริการเล่นเกมใน PC Game Pass ผ่านคลาวด์ ภาณุ ยอมรับว่า ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เพราะต้องการพัฒนา เซิร์ฟเวอร์ หัวใจสำคัญของบริการนี้ให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเสียก่อน แม้ประเทศไทยจะมีอินเทอร์เน็ตเร็วเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกก็ตาม
เครื่อง Xbox และแผนอื่น ๆ ในอนาคตยังตอบไม่ได้
ในทางกลับกัน หากเจาะไปที่อนาคตของเครื่องเกม Xbox Series X|S และบริการอื่น ๆ ในประเทศไทย ภาณุ ยังให้คำตอบไม่ได้ เพียงแจ้งกลับมาว่า "ผมไม่เคยคิดเลยว่า โปรดักต์อะไรก็ได้ของ Xbox จะมาเมืองไทย แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว และเริ่มที่ PC Game Pass ซึ่งมันก็ฝันเป็นจริง และอยากให้โฟกัสเรื่องนี้ไปก่อน"
เช่นเดียวกับการเปิดตัวแผนสมาชิกแบบครอบครัวของ PC Game Pass รวมถึงการนำ PC Game Pass ไปทำตลาดร่วมกับสินค้าของผู้ผลิตคอมพิวเอตรืแบรนดืต่าง ๆ เช่นกัน ส่วนที่ชัดเจน และสนับสนุน PC Game Pass ที่สุดคือ Microsoft ขายจอย Xbox เจ็นล่าสุดในร้านตัวแทนจำหน่ายในไทยมาระยะหนึ่งแล้ว ราคาราว 2,200 บาท
สำหรับหน้าที่ของ ภาณุ ในหน่วยธุรกิจ Xbox คือ การดูแลเกมทั้งหมดในเปิดให้เล่นบนแพลตฟอร์มของ Xbox ทั่วโลก และทำให้ผู้เล่นอยากเล่นเกมเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งวิธีการทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น การทำงาน PC Game Pass ในไทยก็คือหนึ่งในโอกาสสำคัญ
สรุป
ตอนนี้คำว่า Xbox ไม่ได้หมายถึงแค่เครื่องเกม แต่หมายถึงแพลตฟอร์มเกี่ยวกับเกมทั้งหมดของ Microsoft ซึ่งบริการ PC Game Pass น่าจะเป็นอีกเรื่องยืนยันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และส่วนตัวผู้เขียนมองว่าน่าจะเป็นสัญญาณดีของเกมเมอร์ในประเทศไทยที่อยากให้ Xbox เข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการเสียที
ผมเองก็เป็นหนึ่งในวัยรุ่นอาเจนฯ ที่รับรู้ว่าการเล่นเกมบน Xbox นั้นเปิดโลกให้รู้ว่าการเล่นเกมในไทยไม่ได้มีแค่ PlayStation หรือ Nintendo ดังนั้นก็คงอยู่ที่ความพร้อม และการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจของ Microsoft ว่าจะบุกตลาดไทยเต็มรูปแบบเมื่อไร |
# นักลงทุน Twitter รวมตัวกันฟ้อง Elon Musk และ Twitter เหตุดึงเช็งดีลซื้อกิจการ
กลุ่มนักลงทุน Twitter รวมตัวกันฟ้องร้อง Elon Musk และ Twitter เพราะทั้งคู่ต่างดำเนินหน้าดีลซื้อกิจการต่อไปไม่ได้ ทั้งมีการการดูหมิ่น รวมถึงพยายามต่อรองเรื่องมูลค่าซื้อขายกิจการจากที่กำหนดไว้ 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการฟ้องร้องมี Frank Bottini เป็นทนาย และยื่นคำรองต่อศาลใน San Francisco
นับตั้งแต่ Elon Musk เดินหน้าซื้อกิจการ Twitter มักจะมีเรื่องฉ้อฉล และสร้างความสงสัยต่อนักลงทุนมากมาย เช่น ความล่าช้าในการเปิดเผยข้อมูลว่า Elon Musk เข้าไปถือหุ้น Twitter อย่างมีนัยสำคัญ และการที่ Elon Musk ประกาศชะลอดีลนี้เพราะต้องการให้ Twitter ชี้แจงอัตราส่วนของบัญชีปลอม เป็นต้น
ที่สำคัญ หลัง Elon Musk ประกาศซื้อหุ้นทั้งหมดของ Twitter โดยคิดเป็นราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์ แต่เรื่องราวต่าง ๆ ข้างต้นทำให้ปัจจุบันมูลค่าหุ้นของบริษัทลดลงกว่า 27% เมื่อเทียบกับมูลค่าดังกล่าว จนเขากลายเป็นผู้มีอิทธิพลมากเกินไปใน Twitter และสร้างปัญหาให้กับกลุ่มนักลงทุน
ทั้งนี้ Elon Musk เคยพูดบนเวทีสัมนาเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค. 2022 ในแนวทางที่ต้องการหาทางซื้อกิจการ Twitter ในราคาที่ถูกกว่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามที่ตกลงกับคณะกรรมการบริษัทของ Twitter ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
อ้างอิง // BBC
ภาพจาก Pixabay |
# CD Projekt มีกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2022 550 ล้านบาท เหตุ Cyberpunk 2077 ตัวแก้ไขผลตอบรับดี
CD Projekt บริษัทผู้พัฒนาเกมจากประเทศโปแลนด์รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2022 ว่า มีรายได้เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็น 216 ล้านซวอตือ หรือราว 1,700 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิเติบโต 112% เป็น 68.9 ล้านซวอตือ หรือราว 550 ล้านบาท
ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้ และกำไรสุทธิเติบโตมาจากการแก้ไข และจำหน่ายตัวเกม Cyberpunk 2077 สำหรับเครื่องเจ็นปัจจุบัน (PlayStation 5 และ Xbox Series X|S) ทำได้เป็นที่น่าพอใจ โดย Adam Kicinski ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CD Projekt บอกว่า ตัวเกมได้รับผลตอบรับที่ดีทั้งจากผู้เล่น และยอดขาย
CD Projekt ทยอยแก้ไขเกม Cyberpunk 2077 มาตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2020 เพราะตัวเกมออกมาไม่ค่อยสมบูรณ์ โดยเฉพาะการเล่นบนเครื่องเจ็นก่อนหน้านี้ (PlayStation 4 และ Xbox One) ขัดแย้งกับความคาดหวังของผู้เล่นที่คิดว่าเกมนี้จะยิ่งใหญ่ และอาจดีกว่าซีรีส์ The Witcher ที่ทางค่ายเป็นผู้พัฒนา
ขณะเดียวกัน CD Projekt เตรียมเปิดตัว The Witcher 3: Wild Hunt - Complete Edition ภาคสำหรับเครื่องเจ็นปัจจุบัน (PlayStation 5 และ Xbox Series X|S) ภายในสิ้นปี 2022 หลังจากล่าช้าจากกำหนดเดิมที่วางไว้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022
อ้างอิง // Reuters
ภาพจาก CD Projekt |
# Tether เปิดตัว MXNT เหรียญ Stablecoin ผูกกับเงินเปโซเม็กซิโก เหรียญลำดับ 4 ของบริษัท
Tether บริษัทที่อยู่เบื้องหลังเหรียญ USDT ที่เป็น stablecoin ผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ประกาศออกเหรียญใหม่ MXNT (หรือเขียนให้ถูกสไตล์คือ MXN₮) เงินแบบเดียวกัน แต่ผูกกับค่าเงินเปโซของเม็กซิโก
ก่อนหน้านี้ Tether มีเหรียญ stablecoin แล้ว 3 เหรียญคือ USDT, EURT (ผูกกับค่าเงินยูโร) และ CNHT (ผูกกับค่าเงินหยวนนอกประเทศจีน) ทำให้ MXNT ถือเป็นเหรียญลำดับสี่ของบริษัท
Tether ระบุว่าเหรียญ MXNT ยังใช้นโยบายเดียวกับ USDT คือมีสินทรัพย์ค้ำประกันเต็มจำนวน แต่ก็ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดของสินทรัพย์เช่นที่แล้วๆ มา
ที่มา - Tether |
# จบแล้วยุค Exclusive โซนี่ตั้งเป้ายอดขายเกมพีซี 300 ล้านเหรียญ ร่วมพาร์ตเนอร์ทำเกมมือถือ
Jim Ryan ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sony Interactive Entertainment ประกาศระหว่างการประชุมกับผู้ถือหุ้นว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายจากธุรกิจเกม PC ในปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดเดือน มี.ค. 2023 กว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีงบประมาณที่พึ่งจบไปทำได้ 80 ล้านดอลลาร์
การเติบโตมากขนาดนี้มาจากความจริงจังในการทำตลาดเกม PC ตั้งแต่ปี 2020 เช่น เกม Horizon: Zero Dawn, Days Gone และ God of War นอกจากนี้การซื้อกิจการ Bungie ค่ายผู้พัฒนาเกม Destiny 2 ที่ดีลจะเสร็จสิ้นภายในปี 2022 ยังช่วยเพิ่มยอดขายจากธุรกิจเกม PC เช่นกัน
Sony ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2025 เกมที่เปิดตัวจะให้บริการบนคอมพิวเตอร์ในสัดส่วน 30% จากแพลตฟอร์มทั้งหมด โดยที่เหลือจะแบ่งเป็น PlayStation 5 50% และอีก 20% เป็นเกมบนโทรศัพท์มือถือ โดยเกมของ Sony ที่จะเปิดตัวบนคอมพิวเตอร์หลังจากนี้มี Uncharted: Legacy of Thieves Collection แต่ยังไม่แจ้งวันจำหน่าย
สำหรับการรุกตลาดเกมบนโทรศัพท์มือถือ Sony เตรียมนำลิขสิทธิ์เกมต่าง ๆ ในมือไปร่วมพัฒนากับบริษัทชั้นนำของตลาดนี้ ทั้งส่งเสริมให้ค่ายพัฒนาเกมในเครือหันมาออกแบบเกมบนโทรศัพท์มือถือ และสร้างทีมจัดจำหน่ายที่มีคุณภาพคู่ขนานไปกับการพัฒนาเกมด้วย
อ้างอิง // Sony |
# ซัมซุงโชว์เซ็นเซอร์ ISOCELL 200MP ถ่ายภาพแล้วพิมพ์เป็นผ้าใบขนาดใหญ่ แขวนบนตึก
ซัมซุงเปิดตัวเซ็นเซอร์ภาพ ISOCELL HP1 ความละเอียด 200MP มาตั้งแต่กลางปี 2021 แม้ตอนนี้เรายังไม่เห็นมันถูกนำมาใช้งานในสมาร์ทโฟน (ลือกันว่าเป็น Galaxy S23 Ultra) แต่ล่าสุดซัมซุงก็เริ่มประชาสัมพันธ์ ISOCELL HP1 ต่อผู้บริโภคแล้ว
แคมเปญการตลาดของซัมซุงในเกาหลีใต้ นำเซ็นเซอร์ ISOCELL HP1 ที่ตอนนี้ยังเป็นบอร์ดแยกเฉพาะ มาต่อกับเลนส์กล้อง DSLR เพื่อนำไปใช้ถ่ายภาพแมว (อ่านไม่ผิดครับ แมว) ซึ่งเป็นวัตถุที่อยู่ไม่นิ่ง ถือเป็นความยากอย่างหนึ่งของการถ่ายภาพ ซัมซุงบอกว่าตัดสินใจเลือกแมวเพื่อท้าทายความสามารถของทีมพัฒนากล้อง ว่าจะสามารถก้าวข้ามไปได้หรือไม่
เป้าหมายของซัมซุงคือการโชว์ว่าเซ็นเซอร์ระดับ 200MP มีความละเอียดสูงเพียงใด จึงนำภาพถ่ายที่ได้ไปสั่งพิมพ์เป็นผ้าใบขนาด 28x22 เมตร (คิดเป็นพื้นที่ 616 ตารางเมตร) โดยต้องพิมพ์แยก 12 ชิ้นแล้วนำมาเย็บติดกันภายหลัง จากนั้นนำไปแขวนไว้บนตึกสูงในกรุงโซล เพื่อโชว์ศักยภาพของเซ็นเซอร์ให้เห็นกันชัดๆ
ที่มา - Samsung via Android Police |
# โซนี่ประกาศทำซีรีส์ Horizon ลง Netflix, God of War ลง Amazon, Gran Turismo ฉายทีวี
Jim Ryan ประธานของ Sony Interactive Entertainment เปิดเผยในงานประชุมกับผู้ถือหุ้นว่า โซนี่กำลังนำเกมแฟรนไชส์ดัง 3 เกมพัฒนาเป็นซีรีส์ฉายทางสตรีมมิ่งและทีวี ได้แก่
Horizon (Netflix)
God of War (Amazon)
Gran Turismo
ที่ผ่านมาเราเห็นโซนี่ใช้ยุทธศาสตร์นี้กับเกมดังอื่นๆ ของตัวเองมาก่อนแล้ว เช่น ภาพยนตร์ Uncharted, ซีรีส์ The Last of Us ที่จะฉายทาง HBO และล่าสุดคือ ซีรีส์จากเกม Twisted Metal ที่จะฉายทาง Peacock ของค่าย NBC
ยุทธศาสตร์ด้านสตรีมมิ่งของโซนี่นั้นแสดงจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่ทำบริการสตรีมมิ่งของตัวเอง แต่จะนำคอนเทนต์ของตัวเองไปลงแพลตฟอร์มต่างๆ แทน ซึ่งตอนนี้มีไป Netflix, HBO, Amazon, Peacock แล้ว ยังเหลือ Disney+, Apple+ และ Paramount+ ที่ยังไม่ได้ไป
ที่มา - IGN |
# Epic Games แจกฟรี BioShock The Collection รวมเกมทั้ง 3 ภาค
เกมฟรีลำดับที่สองของ Epic Games Store ในรอบนี้ ต่อจาก Borderlands 3 คือ BioShock The Collection รวมเกมตระกูล BioShock ทั้งสามภาค ได้แก่ 1, 2, Infinite มูลค่ารวม 1,150.00 บาท
สำหรับแฟนๆ เกม BioShock คงไม่ต้องอธิบายสรรพคุณกันให้มาก ใครที่ยังไม่เคยเล่น มีเวลากดรับสิทธิกันถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2022
เมื่อปี 2019 2K Games ประกาศทำภาคต่อของ BioShock โดยสตูดิโอใหม่ชื่อ Cloud Chamber แต่ผ่านมาหลายปีแล้วยังไม่มีข้อมูลของเกมภาคใหม่มากนัก แม้กระทั่งชื่อภาคก็ตาม
ที่มา - Kotaku |
# [ลือ] Apple สั่งผลิต iPhone 14 รวม 220 ล้านเครื่อง ใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากปัญหาซัพพลายเชน
มีรายงานจาก Bloomberg ระบุว่าแอปเปิลได้แจ้งซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้อง ว่า iPhone รุ่นที่จะวางขายในปี 2022 ซึ่งคาดว่าใช้ชื่อ iPhone 14 มีจำนวนผลิตตลอดปีราว 220 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับคำสั่งผลิตของปี 2021
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ประเมินว่าแอปเปิลจะสั่งผลิต iPhone ราว 240 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2021
เหตุผลหลักที่แอปเปิลออกคำสั่งผลิตใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากปัญหาซัพพลายเชนที่เป็นผลจากการล็อกดาวน์ ก่อนหน้านี้ปัญหาซัพพลายเชนก็กระทบการผลิต Mac ทำให้การจัดส่งล่าช้าไประดับเดือน แต่ตอนนี้เริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว
ที่มา: MacRumors |
# Dell Technologies รายได้ทำสถิติสูงสุดของไตรมาส เติบโตทุกกลุ่มธุรกิจ
Dell Technologies รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดเดือนเมษายน รายได้รวมทำสถิติใหม่ของไตรมาสที่ 26,116 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,069 ล้านดอลลาร์
กลุ่ม Infrastructure Solutions มีรายได้ทำสถิติสูงสุดเช่นกันที่ 9,285 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% แบ่งเป็นสตอเรจเพิ่มขึ้น 9% เซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เครือข่าย เพิ่มขึ้น 22% เช่นเดียวกับกลุ่ม Client Solutions ที่รายได้ทำสถิติสูงสุดที่ 15,587 ล้านดอลลาร์ รายได้ส่วนใหญ่มาจากพีซีองค์กรที่เพิ่มขึ้น 22% ส่วนตลาดลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น 3%
Jeff Clarke รองประธานและซีโอโอร่วมของ Dell กล่าวว่าการเติบโตเกิดขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัท เป็นผลจากการที่บริษัทลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกด้าน เมื่อลูกค้าลงทุนด้านดิจิทัล จึงเลือก Dell เป็นพาร์ตเนอร์
ที่มา: Dell Technologies |
# Alibaba ไตรมาสล่าสุด รายได้เติบโต 9% จำนวนผู้ใช้ในจีนมากกว่า 1 พันล้านคน
Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนมีนาคม 2022 รายได้รวม 32,188 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 2,896 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Alibaba บอกว่าสาเหตุหลักมาจากขาดทุนในการลงทุนบริษัทต่าง ๆ ในตลาดหุ้น เนื่องจากราคาหุ้นปรับลดลงมาก แต่หากเป็นบัญชี Non-GAAP จะมีกำไร 3,123 ล้านดอลลาร์
รายได้ของ Alibaba ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซในจีน เพิ่มขึ้น 8% เป็น 22,137 ล้านดอลลาร์ บริการต่าง ๆ ในท้องถิ่น O2O เพิ่มขึ้น 29% เป็น 1,647 ล้านดอลลาร์ และคลาวด์เพิ่มขึ้น 12% เป็น 2,993 ล้านดอลลาร์
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในต่างประเทศ ระบุว่ามีจำนวนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 7% ทั้งจาก Lazada และ Trendyol ที่เติบโตสูง ขณะที่ AliExpress มีคำสั่งซื้อลดลง เนื่องจากผลกระทบในยุโรปและปัญหาสงครามในยูเครน
ไฮไลท์สำคัญในไตรมาสนี้คือจำนวนลูกค้าที่ใช้งานเป็นประจำในจีน เพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านคน และต่างประเทศเพิ่มเป็น 305 ล้านคน
Daniel Zhang ซีอีโอ Alibaba กล่าวว่าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชน และการซื้อของลูกค้า บริษัทยังคงโฟกัสที่การส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าต่อไป
ที่มา: Alibaba |
# Broadcom ประกาศซื้อกิจการ VMware มูลค่าดีลกว่า 2 ล้านล้านบาท
Broadcom ประกาศซื้อกิจการ VMware โดยจ่ายเป็นเงินสดและหุ้นของบริษัท ที่มูลค่ารวม 61,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2 ล้านล้านบาท ทำให้เป็นดีลซื้อกิจการในบริษัทเทคโนโลยีมูลค่าสูงสุดตลอดกาล อันดับที่ 3 รองจาก Dell ซื้อ EMC (67,000 ล้านดอลลาร์) และ Microsoft ซื้อ Activision Blizzard (68,700 ล้านดอลลาร์) ซึ่งดีลนี้มีข่าวลือมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์
ผลจากดีลดังกล่าว แผนกซอฟต์แวร์ของ Broadcom จะรีแบรนด์และย้ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดไปอยู่ภายใต้กลุ่ม VMware
ช่วงที่ผ่านมา Broadcom ซื้อกิจการบริษัทหลายราย ตามกลยุทธ์กระจายธุรกิจออกจากเซมิคอนดักเตอร์ ไปสู่ธุรกิจซอฟต์แวร์ที่เน้นลูกค้าองค์กรมากขึ้น และดีลล่าสุดก็คือ VMware นั่นเอง
ก่อนหน้านี้ Broadcom เคยประกาศดีลซื้อ Qualcomm ที่มูลค่าถึง 117,000 ล้านดอลลาร์ แต่จบที่ล้มดีลนี้ตามคำสั่งของประธานาธิบดี Trump ส่วน VMware เพิ่งแยกธุรกิจออกมาจาก Dell เมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อปรับโครงสร้างการเงินของ Dell
ที่มา: Broadcom และ CNBC |
# Gigabyte และ MSI เปิดตัวเมนบอร์ดซ่อนสาย ตอบโจทย์นักประกอบคอมสายคลีน
Gigabyte และ MSI สองยักษ์ใหญ่ในธุรกิจชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ต่างนัดกันเปิดตัวเมนบอร์ดรูปแบบใหม่ที่สามารถซ่อนสายไฟ และสายเชื่อมต่อต่าง ๆ ไว้ด้านหลังเครื่อง ทำให้เมื่อมองจากด้านที่โชว์เมนบอร์ดจะเห็นแค่การ์ดจอ, แรม, และชุดระบายความร้อนด้วยของเหลว หรืออากาศของตัวเครื่องเท่านั้น
เริ่มต้นกับ Gigabyte ที่ร่วมมือกับ Maingear เปิดตัว AORUS Project Stealth ชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ประกอบด้วยเมนบอร์ด, การ์ดจอ และเคสคอมพิวเตอร์ โดดเด่นเรื่องการเก็บสายไฟ และสายเชื่อมต่อ แก้ปัญหาคอมประกอบสเปกสูงที่มักจะมีสายเกะกะ และไม่ถูกใจเจ้าของที่ต้องการคอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บสายไฟอย่างเรียบร้อย
ชื่อรุ่นของสินค้าตระกูล AORUS Project Stealth มีดังนี้
เมนบอร์ด Z690 AORUS ELITE STEALTH
การ์ดจอ RTX 3070 GAMING OC STEALTH
เคส AORUS C300G STEALTH
หากเจาะไปที่รายละเอียดจะพบว่า เมนบอร์ด Gigabyte รุ่นนี้จะเก็บพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ ไว้ด้านหลังทั้งหมด ส่วนการ์ดจอรุ่น Stealth จะสลับพอร์ตสายไฟจากเดิมที่อยู่ด้านตรงข้ามกับตัวเสียบการ์ดเข้าเมนบอร์ด มาเป็นอยู่ด้านเดียวกับตัวเสียบการ์ดเข้าเมนบอร์ดแทน แต่สินค้าตระกูลนี้ยังไม่ประกาศวันวางจำหน่าย และราคา
ต่อด้วย MSI ที่เปิดตัว Project Zero เมนบอร์ดตระกูลใหม่ที่โดดเด่นเรื่องการเก็บสายไฟ และสายเชื่อมต่อผ่านการย้ายพอร์จ่ายไฟ และรับส่งข้อมูลไปไว้ด้านหลังทั้งหมด ยังไม่มีรายละเอียดมีเพียงรองรับซีพียูสล็อต LGA1700 นอกจากนี้ MSI ยังเปิดตัวแค่เมนบอร์ดเท่านั้น ไม่มีการ์ดจอ และเคส ทำให้การใช้งานอาจซ่อนสายได้ไม่เต็มที่
จุดที่น่าสนใจคือ MSI ปั๊มนูนบริเวณด้านล่างของเมนบอร์ดรุ่นนี้ไว้ว่า Warning Professionals Only อาจเพราะปรับใช้ และติดตั้งได้ยากกับเคสคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ถูกผลิตมาเฉพาะ ส่วนราคา และวันวางจำหน่าย MSI ยังไม่เปิดเผยออกมาเช่นกัน
อ้างอิง // Gigabyte, Extremetech |
# Google Docs เพิ่มฟีเจอร์ Multiple Text Selections เลือกข้อความหลายจุดได้พร้อมกัน
Google Docs เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ multiple text selections สามารถลากไฮไลท์ข้อความหลายจุดที่ไม่ต่อกันได้ ทำให้เราจัดสไตล์ของข้อความหลายๆ จุดได้พร้อมกันภายในครั้งเดียว ไม่ต้องมานั่งสั่งทำแบบเดิมซ้ำๆ หลายรอบ
วิธีการใช้งานคือ ไฮไลท์ข้อความจุดแรกก่อน แล้วกด Ctrl + Alt + Shift + Left/Right arrow เพื่อเลื่อนไปเลือกข้อความตำแหน่งถัดไป
ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้งานเป็นดีฟอลต์ และเริ่มทยอยเปิดให้ผู้ใช้ทีละกลุ่มแล้ว
ที่มา - Google Workspace via 9to5google |
# Heroku เปิดการเชื่อมต่อ GitHub กลับมาแล้ว หลังฐานข้อมูลรั่วจนต้องปิดไปเดือนกว่า
Heroku ประกาศเปิดการเชื่อมต่อเข้ากับ GitHub ดังเดิม หลังจากปิดให้บริการไปตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน เมื่อทาง GitHub พบว่าโทเค็นรั่วไหล นับเป็นการปิดเคสใหญ่ที่ทำให้บริการทำงานได้ไม่สมบูรณ์นานกว่าหนึ่งเดือน
ทาง Heroku ระบุว่าจะทำงานร่วมกับ GitHub เพื่อให้สามารถออกโทเค็นที่ได้สิทธิ์เท่าที่จำเป็นสำหรับการทำงานร่วมกันเท่านั้น จากเดิมที่เป็นการขอสิทธิ์ repo ซึ่งได้สิทธิ์มาเกินที่ใช้งาน พร้อมกับเตรียมเปิดใช้มาตรฐาน RFC8705 สำหรับการล็อกโทเค็นเข้ากับใบรับรองเข้ารหัส
จนตอนนี้ทาง Heroku ยังไม่รายงานว่าพบช่องโหว่ที่แฮกเกอร์เข้าถึงฐานข้อมูลแล้วหรือยัง แต่แจ้งเพียงว่าพบว่าแฮกเกอร์ดาวน์โหลดฐานข้อมูล pipline-config ออกไป
ที่มา - Heroku |
# Microsoft Flight Simulator และ Ace Combat 7 ออกส่วนขยาย Top Gun: Maverick
เกมจำลองการบิน Microsoft Flight Simulator และ Ace Combat 7 ออกส่วนขยาย Top Gun: Maverick เพื่อรับกับภาพยนตร์เรื่องเดียวกันที่กำลังออกฉายในสัปดาห์นี้
Top Gun: Maverick เป็นภาคต่อของภาพยนตร์ Top Gun ฉบับปี 1986 โดยได้ Tom Cruise มารับบทเป็นตัวเอกเช่นเดิม เนื่องจากมันเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่มีแฟนๆ จำนวนมหาศาลมายาวนาน ทำให้บริษัทผู้สร้างหนังจับมือกับผู้สร้างเกมขับเครื่องบินหลายเกม ทั้ง Microsoft Flight Simulator และ Ace Combat 7 ออกส่วนขยายที่เป็นเครื่องบินจากหนังมาให้เล่นกันจริงๆ
กรณีของ Microsoft Flight Simulator มาเป็นส่วนขยาย (expansion) เลย มีทั้งลวดลายตกแต่งเครื่องบิน F/A-18E Super Hornet ที่ใช้ในเรื่อง และภารกิจให้ผู้เล่นอีกหลายอย่าง ส่วนขยายนี้เปิดให้เล่นฟรี ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
ส่วน Ace Combat 7 มีรูปแบบการเล่นคล้ายๆ กันคือมีทั้งเครื่องบินและภารกิจ เกมเรียกเป็น DLC ว่า Top Gun Maverick Aircraft Set ต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่ม มีทั้งแบบซื้อแยก และขายเป็นชุดมัดรวมกับเกมหลักด้วย
ที่มา - Flight Simulator, Eurogamer |
# [ข่าวลือ] สมาร์ตโฟนพับได้ของ Google อาจเลื่อนไปเปิดตัวช่วงไตรมาส 2 ปี 2023
The Elec สำนักข่าวด้านชิ้นส่วนเทคโนโลยีจากเกาหลี รายงานว่า สมาร์ตโฟนพับได้ของ Google ที่ตอนนี้มีชื่อตามข่าวลือว่า Pixel Notepad จำเป็นต้องเลื่อนเวลาออกไปจากกำหนดเดิมในช่วงปลายปี 2022 โดย Ross Young นักวิเคราะห์ด้าน Supply Chain เสริมว่า สมาร์ตโฟนรุ่นดังกล่าวอาจเปิดตัวไตรมาส 2 ปี 2023
ก่อนหน้านี้หลายสำนักข่าวเทคโนโลยีรายงานว่า Google เตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนพับได้ตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งสุดท้ายเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกิดขึ้น ก่อนที่จะมีรายงานอีกครั้งว่าสมาร์โฟนพับได้รุ่นนี้จะเปิดตัวปลายปี 2022 แทน และอาจมีการเผยโฉมเบื้องต้นในงาน Google I/O 2022
เบื้องต้นตามรายงานจากสำนักข่าว และนักวิเคราะห์ Pixel Notepad จะใช้หน้าจอของ Samsung โดยมีจอหลักขนาด 7.57 นิ้ว และจอที่สองขนาด 5.78 นิ้ว ส่วนเหตุผลที่ต้องเลื่อนเนื่องจากสมาร์ตโฟนพับได้รุ่นนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ตามเวลาที่ Google คาดหวัง
อ้างอิง // The Elec, The Verge
Samsung Galaxy Fold 3 ภาพจาก Samsung |
# Amazon.com เปิด Amazon Style ร้านเสื้อผ้าแห่งแรกของเครือ เน้นแก้ปัญหาการซื้อเสื้อผ้า
Amazon.com ประกาศเปิดตัว Amazon Style ร้านเสื้อผ้าสาขาแรกของบริษัท มาพร้อมเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น การชำระเงินแบบ Just Walk Out ผ่านบัญชี Amazon.com และในห้องลองมีการติดตั้งหน้าจอทัชสกรีนสามารถสั่งการเกี่ยวกับการเลือกซื้อเสื้อผ้าได้ โดยร้านนี้สร้างเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ของการซื้อเสื้อผ้า
Amazon Style ตั้งอยู่ที่ Los Angeles ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเปิดสาขาอื่น ๆ เพิ่มหรือไม่ โดยการเปิดร้านเสื้อผ้าแห่งนี้ต่อยอกกลยุทธ์บุกตลาดค้าปลีกดั้งเดิมของ Amazon.com ที่ก่อนหน้านี้เป็นเจ้าของค้าปลีกขนาดใหญ่ Whole Foods และค้าปลีกที่มาพร้อมนวัตกรรมของบริษัท Amazon Go และ Amaon Fresh
สำหรับการบริการภายในร้าน Amazon Style เมื่อเดินเข้าไปจะมีพนักงานคอยให้บริการเพื่อหยิบเสื้อผ้าไปส่งที่ห้องลอง หรือช่องชำระเงิน แต่หากเชี่ยวชาญเทคโนโลยี ผู้ใช้บริการสามารถสแกน QR Code ที่เสื้อผ้าเพื่อให้เสื้อผ้าที่ต้องการไปส่งที่ห้องลอง หรือช่องชำระเงินได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องแบกเสื้อผ้าจำนวนมากอีกต่อไป
ภายในร้าน Amazon Style จะจำหน่ายเสื้อผ้าของแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Levi's และ Champion เป็นต้น อีกจุดน่าสนใจคือในห้องลองเสื้อจะมีหน้าจอทัชสกรีนเพื่อกดสั่งให้นำเสื้อผ้าไซส์อื่นมาลองเพิ่มได้ นอกจากนี้ผู้ใช้บริการสามารถสั่งซื้อเสื้อผ้าจาก Amazon.com ให้มาส่งที่ร้านเพื่อลองก่อนได้เช่นกัน
อ้างอิง // The Verge, Amazon.com |
Subsets and Splits
No saved queries yet
Save your SQL queries to embed, download, and access them later. Queries will appear here once saved.