txt
stringlengths
202
53.1k
# ฝันร้ายพ่อค้า Resale! Sony ประกาศเพิ่มกำลังผลิต PlayStation 5 ในระดับที่ไม่เคยทำได้มาก่อน Jim Ryan ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sony Interactive Entertainment (SIE) แจ้งระหว่างการประชุมกับนักลงทุนว่า บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิต PlayStation 5 ในระดับที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เพื่อเพิ่มยอดขาย PlayStation 5 ให้ใกล้เคียงกับที่ PlayStation 4 เคยทำได้ ปัจจัยหลักที่ทำให้ PlayStation 5 ทำยอดขายได้น้อยเพราะปัญหาชิปขาดแคลนที่เกิดขึ้นทั้งตลาด หากนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือน พ.ย. 2020 เครื่องเกมดังกล่าวจำหน่ายได้รวม 19.3 ล้านเครื่อง ส่วน PlayStation 4 ทำได้กว่า 20.2 ล้านเครื่อง หากนับตั้งแต่เปิดตัวเดือน พ.ย. 2013 จนถึงต้นเดือน มี.ค. 2015 การเพิ่มกำลังการผลิตครั้งนี้ Sony ยืนยันว่า จะช่วยให้ยอดขาย PlayStation 5 ค่อย ๆ ใกล้เคียงกับ PlayStation 4 ภายในปีที่ 3 ของการทำตลาด และสามารถมียอดขายได้มากกว่า PlayStation 4 ได้ในปีถัดจากนั้น อ้างอิง // Reuters, Sony หน้า 10 ภากจาก Sony
# ชุมชน Terra โหวตอนุมัติให้รีเซ็ตบล็อคเชน เตรียมพบกับ Terra 2.0 และ Luna 2.0 ชุมชนผู้ถือเหรียญ Terra โหวตลงมติเห็นชอบข้อเสนอของ Do Kwon ที่ให้รีเซ็ตบล็อคเชนใหม่ ข้อเสนอนี้จะเรียกบล็อคเชนเดิมว่า Terra Classic และเหรียญ Luna Classic (LUNC) ส่วนบล็อคเชนใหม่จะเรียกว่า Terra และเหรียญ Luna (LUNA) เหมือนเดิม ความแตกต่างระหว่างเชนเก่าและเชนใหม่คือ เชนใหม่ไม่มีเหรียญ UST อีกแล้ว โดยจะแจกเหรียญ Luna ใหม่ให้กับผู้ถือ Luna Classic และ UST เดิมตามที่เคยประกาศไว้ ข้อเสนอนี้ผ่านการลงมติเห็นชอบ 65.50%, ไม่เห็นด้วย 13.53% และงดออกเสียง 20.98% ที่มา - Terra, The Block
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว Power Pages เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ธุรกิจง่ายๆ แบบ Low-Code ไมโครซอฟท์คลอดบริการใหม่ในตระกูล Power Platform ที่เป็นการสร้างแอพพลิเคชันทางธุรกิจแบบ low-code บริการตัวใหม่ชื่อว่า Power Pages เป็นการสร้างเว็บไซต์ธุรกิจแบบง่ายๆ (เช่น เว็บให้ลูกค้ากรอกฟอร์ม) ด้วยเครื่องมือแบบลากแล้ววาง มีเทมเพลตพื้นฐานให้พร้อม และสามารถเชื่อมต่อข้อมูลหลังบ้านกับแพลตฟอร์ม Microsoft Dataverse ได้ หากต้องการแก้ไขโค้ดเบื้องหลังเว็บไซต์ ไมโครซอฟท์ก็มี Visual Studio Code ฝังมาให้แก้โค้ดได้เองเลย การมาถึงของ Power Pages จะเป็นคู่แข่งกับบริการฝากเว็บไซต์อย่าง Squarespace, Wix, WordPress.com รวมถึง Google Sites ของฝั่งกูเกิล (แม้ไม่เหมือนกันซะทีเดียว) จุดเด่นของ Power Pages คือการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม Power ที่มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์มีบริการชื่อ Power Apps สำหรับสร้างแอพง่ายๆ ในองค์กร และแตกไลน์มาเป็น Power Pages สำหรับสร้างเว็บโดยเฉพาะ ส่วนบริการอื่นในเครือ Power Platform คือ Power Automate, Power Virtual Agents และ Power BI ที่มา - Microsoft
# DuckDuckGo โดนแฉ ไม่บล็อคการตามรอยจากไมโครซอฟท์ เพราะมีสัญญาระหว่างกัน Zach Edwards นักวิจัยความปลอดภัย ค้นพบว่าเบราว์เซอร์ของ DuckDuckGo ที่โฆษณาว่าไม่เก็บข้อมูลใดๆ ของผู้ใช้งาน โดยบล็อคการตามรอย (tracker) ของเว็บไซต์ต่างๆ ให้ด้วย กลับอนุญาตให้ตัวตามรอยของไมโครซอฟท์ทำงานได้ตามปกติ Edwards ทดสอบกับเบราว์เซอร์ DuckDuckGo ทั้งบน iOS/Android พบว่ามันบล็อคตัวตามรอยของ Google/Facebook ได้จริงๆ แต่ไม่บล็อคตัวตามรอยของ Bing หรือ LinkedIn ที่ปัจจุบันอยู่ในเครือไมโครซอฟท์ หลังจาก Edwards โพสต์เรื่องนี้แล้ว ทาง Gabriel Weinberg ผู้ก่อตั้ง DuckDuckGo เข้ามาตอบใต้โพสต์ และยอมรับว่าบริษัทมีข้อตกลงเชิงพาณิชย์กับไมโครซอฟท์ ทำให้บริษัทไม่สามารถบล็อคการตามรอยของไมโครซอฟท์ในเบราว์เซอร์ของตัวเองได้ ส่วนบริการ search engine ของ DuckDuckGo เองยังการันตีว่าไม่ตามรอยใดๆ การเปิดเผยข้อมูลของ Weinberg ทำให้ DuckDuckGo ถูกวิจารณ์ว่าไม่โปร่งใส เพราะไม่เคยประกาศเรื่องสัญญากับไมโครซอฟท์ต่อสาธารณะมาก่อน ซึ่งบริษัทก็ออกแถลงการณ์ตามหลังว่า ไม่เคยสัญญาว่าการใช้ DuckDuckGo จะทำให้นิรนามอย่างสมบูรณ์ เพียงแต่บอกว่าการใช้ DuckDuckGo ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่าเบราว์เซอร์อื่นเท่านั้น ที่มา - Bleeping Computer
# Apple ออกอัพเดตย่อย tvOS 15.5.1 และ HomePod 15.5.1 แก้ปัญหาเพลงหยุดเล่น แอปเปิลออกอัพเดตย่อย tvOS 15.5.1 ระบบปฏิบัติการของ Apple TV และซอฟต์แวร์ HomePod เวอร์ชัน 15.5.1 สิบวันหลังจากมีอัพเดตเวอร์ชัน 15.5 ออกมา ในอัพเดตนี้ แอปเปิลระบุว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่มีรายงานออกมา โดยปัญหาของ HomePod เป็นการแก้ไขปัญหาเพลงหยุดเล่นชั่วขณะ ส่วน tvOS แอปเปิลไม่ได้ระบุปัญหา แต่เนื่องจากเลข build ของสองระบบปฏิบัติการนี้จะเหมือนกันตลอด จึงคาดว่าแอปเปิลเลยอัพเดตไปพร้อมกันทั้งคู่เลย ผู้ใช้งานสามารถสั่งอัพเดตได้โดยไปที่ Settings ของ tvOS หรือไปที่แอป Home สำหรับ HomePod ที่มา: Apple Insider
# Elon Musk รายงาน SEC เพิ่มเงินทุนส่วนตัวสำหรับซื้อ Twitter เป็น 33,500 ล้านดอลลาร์ Elon Musk ส่งเอกสารรายงานต่อ SEC ล่าสุด ระบุว่าเขาได้แหล่งเงินทุนสำหรับการซื้อ Twitter เพิ่มเติม ทำให้วงเงินส่วนที่เป็นของเขาเองเพิ่มเป็น 33,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเงินแบบ Margin Loan จำนวนสองครั้ง ๆ ละ 6,250 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากวงเงินแรกที่เขาชี้แจง 21,000 ล้านดอลลาร์ มูลค่าดีลที่ Elon Musk เสนอซื้อกิจการ Twitter นั้น อยู่ที่ 43,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาได้ชี้แจงตอนแรกว่าเตรียมเงินทุนไว้รวมที่ 46,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงิน และส่วนที่เหลือมาจากเงินทุนของ Elon Musk เอง ที่ตอนนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นแล้ว ในเอกสารชี้แจง Musk ยังระบุว่าได้หารือกับผู้ถือหุ้นเดิมหลายราย รวมทั้ง Jack Dorsey เพื่อทำการแลกหุ้นจำนวนหนึ่งกับบริษัทใหม่ที่เขาตั้งเพื่อซื้อกิจการ ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนการซื้อ Twitter ครั้งนี้ลดลงด้วย ราคาหุ้น Twitter ปรับเพิ่มขึ้น 5.6% เป็น 39.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น หลังมีรายงานข่าวนี้ ที่มา: ZDNet
# หัวหน้าฝ่าย Apple Car คนล่าสุด ลาออกจากบริษัท หลังร่วมงานได้เพียง 6 เดือน CJ Moore หัวหน้าทีมโครงการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของแอปเปิล ลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังร่วมงานกับแอปเปิลได้เพียง 6 เดือน ซึ่งข้อมูลนี้ถูกยืนยันโดยประกาศของ Luminar บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยี Lidar Luminar ประกาศว่าบริษัทได้ผู้บริหารระดับสูงมาร่วมงานสองคน คือ Taner Ozcelik ผู้ก่อตั้งฝ่ายธุรกิจรถยนต์ของ NVIDIA โดยจะมารับผิดชอบงาน R&D กับธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของ Luminar และ CJ Moore อดีตหัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ Autopilot ของ Tesla และยานยนต์อัตโนมัติของแอปเปิล โดยจะมาดูแลฝ่ายซอฟต์แวร์ของ Luminar ข้อมูลจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg บอกว่า CJ Moore ลาออกจาก Tesla และไปทำงานที่แอปเปิลในเดือนพฤศจิกายน 2021 แปลว่าเขาร่วมงานกับแอปเปิลประมาณ 6 เดือนเท่านั้น ที่ผ่านมาโครงการพัฒนารถยนต์ของแอปเปิล ที่รับรู้กันในชื่อ Project Titan มีประเด็นผู้บริหารลาออกมาโดยตลอด ซึ่งคาดว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โครงการนี้ไม่คืบหน้าตามแผน ที่มา: iMore
# Jack Dorsey ออกจากบอร์ดบริหารของ Twitter แล้ว Jack Dorsey อดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ได้ออกจากตำแหน่งบอร์ดบริหารของ Twitter แล้ว ซึ่งมีผลหลังการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท เนื่องจากเขาไม่ประสงค์รับตำแหน่งนี้ต่อ ซึ่งได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ตอนลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ ว่าจะอยู่ในบอร์ดจนถึงการประชุมผู้ถือหุ้นในปี 2022 การออกจากตำแหน่งของ Dorsey ถือเป็นการสิ้นสุดความเกี่ยวข้องในการบริหารของเขากับ Twitter อย่างเป็นทางการ จากที่ผ่านมาเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทมาโดยตลอดตั้งแต่บริษัทก่อตั้ง ปัจจุบัน Dorsey เป็นซีอีโอของ Block บริษัทแพลตฟอร์มการเงินที่เขาก่อตั้งขึ้น ซึ่งมีชื่อเดิมคือ Square สถานการณ์ของ Twitter ต่อจากนี้ คือรอยืนยันการซื้อกิจการโดย Elon Musk ซึ่งประกาศว่าต้องการนำ Twitter ออกจากตลาดหุ้นเพื่อให้บริหารงานคล่องตัวขึ้น ที่มา: TechCrunch
# NVIDIA ไตรมาสล่าสุด รายได้รวมโต 46% ทำสถิติใหม่ แม้มีผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจภาพรวม NVIDIA รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดวันที่ 1 พฤษภาคม 2022 มีรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดของบริษัทอีกไตรมาสที่ 8,288 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,618 ล้านดอลลาร์ กลุ่มธุรกิจ Gaming และ Data Center ก็เติบโตเป็นสถิติใหม่เช่นกัน โดยมีรายได้ 3,620 ล้านดอลลาร์ และ 3,750 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ซึ่งซีอีโอ Jensen Huang บอกว่าเป็นการเติบโตที่สวนทางกับภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากความต้องการงาน Deep Learning และระบบ Automate ที่สูงขึ้นในทุกอุตสาหกรรม ซีเอฟโอ Colette Kress ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า NVIDIA จะควบคุมค่าใช้จ่ายและการรับพนักงานเพิ่ม เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโดยรวม และประเมินว่ารายได้ในไตรมาสปัจจุบันอาจได้รับผลกระทบบ้าง จากปัญหาในยูเครนและการล็อคดาวน์ในจีน ส่วนปัญหาสินค้าขาดตลาดนั้นเริ่มดีขึ้น ที่มา: NVIDIA และ CNBC
# นักวิจัยกองทัพจีนระบุกองทัพจีนควรมีอาวุธทำลายระบบดาวเทียมแบบ Starlink Beijing Institute of Tracking and Telecommunications สถาบันวิจัยภายใต้กองทัพจีนออกรายงานถึงความเสี่ยงของระบบดาวเทียมที่มีดาวเทียมจำนวนมหาศาลอย่าง Starlink ว่าจะทำให้กองทัพจีนไม่สามารถหยุดการทำงานของระบบดาวเทียมเหล่านี้ได้เมื่อเกิดเหตุ แม้ว่าทุกวันนี้ Starlink จะใช้งานด้านพลเรือนเป็นหลัก แต่รายงานก็ระบุความเสี่ยงว่าในภาวะสงคราม กองทัพสหรัฐฯ สามารถใช้ Starlink เป็นช่องทางส่งข้อมูลควบคุมโดรน หรือสื่อสารกับเครื่องบินรบได้ ที่ผ่านมากองทัพจีนมีจรวดทำลายดาวเทียมประจำการอยู่แล้ว และเคยทดสอบในอวกาศจริงเมื่อปี 2007 แต่ในกรณี Starlink ที่ตอนนี้มีดาวเทียมโคจรอยู่ถึง 2,300 ดวงและกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้กองทัพจีนจะทำลายดาวเทียมไปบางดวงระบบก็ยังคงทำงานได้อยู่ และต้นทุนของขีปนาวุธทำลายดาวเทียมก็แพงเกินไป เมื่อเทียบกับต้นทุนของ Starlink ที่ยิงดาวเทียมเพิ่มได้เรื่อยๆ ในราคาไม่แพงนัก รายงานตีพิมพ์ในวารสาร Modern Defence Technology ของจีนเอง ไม่แน่ชัดนักว่ารายงานนี้แสดงจุดยืนของกองทัพจีนมากน้อยเพียงใด ที่มา - South China Morning Post
# Walmart ขยายบริการส่งสินค้าผ่านโดรน ครอบคลุมประชากร 4 ล้านคน ในปีนี้ Walmart ร้านค้าปลีกรายใหญ่ในอเมริกา ประกาศขยายการให้บริการ DroneUp ซึ่งเป็นการจัดส่งสินค้าผ่านโดรน หลังจากทดสอบในเมืองเล็ก ๆ ก่อนหน้านี้ โดยเพิ่มเป็น 34 พื้นที่ ใน 6 รัฐ ครอบคลุมประชากรราว 4 ล้านคน ภายในปีนี้ บริการจัดส่งสินค้าด้วยโดรนของ Walmart จะให้บริการตั้งแต่เวลา 8 นาฬิกาถึง 20 นาฬิกา รายการสินค้าที่สามารถสั่งซื้อได้มีมากกว่า 1 แสนรายการ แต่น้ำหนักรวมต้องไม่เกิน 10 ปอนด์ (4.5 กิโลกรัม) มีค่าบริการเพิ่ม 3.99 ดอลลาร์ ทั้งนี้ Walmart คาดว่าจะมีการจัดส่งสินค้าผ่านโดรนมากกว่า 1 ล้านครั้งต่อปี ปัจจุบัน Walmart มีบริการจัดส่งสินค้าด่วนอยู่แล้ว 2 รูปแบบคือ การจัดส่งแบบ Express รับประกันภายใน 2 ชั่วโมง และ InHome ที่พนักงานจัดส่งจะนำสินค้าไปใส่ถึงในตู้เย็นในบ้าน มีประเด็นเล็ก ๆ ที่ Walmart นำเสนอจากช่วงทดสอบบริการ นั่นคือสินค้าที่ได้รับความนิยมในการส่งทางโดรน เดิมที Walmart คาดว่าจะเป็นสินค้าที่ใช้แก้ปัญหาเร่งด่วน แต่ผลออกมาเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่ได้รับความนิยมมากกว่า ที่มา: Walmart
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว Dev Box นักพัฒนาไม่ต้องมีคอมเองแล้ว ล็อกอินเข้าไปใช้บน VM แทน ไมโครซอฟท์ออกบริการใหม่ในเครือ Azure เรียกว่า Microsoft Dev Box มันคือการสร้าง VM ของเดสก์ท็อปเสมือน แต่เน้นสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยองค์กรสามารถเซ็ตเครื่องมือ และกำหนดเวอร์ชันของซอฟต์แวร์ ไลบรารี แพ็กเกจที่จำเป็นต้องใช้งานไว้ให้พร้อมเลย ไมโครซอฟท์เรียก Microsoft Dev Box ว่าเป็น ready-to-code developer workstations นักพัฒนาสามารถใช้อุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ (รวมถึงมือถือและแท็บเล็ต) ล็อกอินเข้ามาผ่านเบราว์เซอร์ แล้วได้เครื่องมือที่จำเป็นพร้อมใช้งานทันที (แถมแยก VM ตามโปรเจคต์ได้ด้วย) แก้ปัญหาการซื้อคอมแรงๆ ให้นักพัฒนาใช้ แต่มีปัญหาเรื่องการจัดการและคอนฟิกซอฟต์แวร์ เบื้องหลังของ Microsoft Dev Box คือ Azure Virtual Desktop ที่ให้บริการ VM สำหรับเดสก์ท็อปวินโดวส์อยู่แล้ว ไมโครซอฟท์แค่แตกไลน์มาจับกลุ่มนักพัฒนาอย่างเจาะจงมากขึ้น สามารถติดตั้ง IDE, SDK, ซอฟต์แวร์ใดๆ ก็ได้ที่ทำงานบนวินโดวส์ แถมการอยู่บน Azure อยู่แล้วก็จะได้ฟีเจอร์อย่าง Azure Active Directory และ Azure Global Network อัตโนมัติ ตอนนี้ Microsoft Dev Box ยังทดสอบในวงจำกัด และยังไม่ประกาศราคา แต่คาดว่ารูปแบบน่าจะคล้าย Azure Virtual Desktop ที่สามารถเลือกสเปกเครื่องของ VM เองได้ และคิดเงินเท่าที่รันเครื่องใช้งาน ก่อนหน้านี้ บริษัทในเครือไมโครซอฟท์คือ GitHub ก็ออกบริการคล้ายๆ กันคือ GitHub Codespaces ที่ใช้หลักการ VM เหมือนกัน แต่ยังจำกัดเครื่องมือพัฒนาเป็น VS Code และเน้นการใช้คู่กับ Git เป็นหลัก ในขณะที่ Dev Box เปิดกว้างเรื่องซอฟต์แวร์ที่ใช้งานมากกว่า ตัวอย่างหน้าจอ Dev Box มีเครื่องให้ใช้งาน 3 แบบ ที่มา - Microsoft, Devclass
# Do Kwon จากผู้นำลัทธิ Terra/Luna ตอนนี้เป็นชายผู้ถูกเกลียดมากที่สุดในเกาหลีใต้ Financial Times มีบทความสอบถามคนในแวดวงคริปโตของเกาหลีใต้ บ้านเกิดของ Do Kwon และ Daniel Shin สองผู้ก่อตั้ง Terraform Labs ที่ออกเหรียญ Luna/UST สถานการณ์ในเกาหลีใต้ยุค Luna รุ่งเรือง และแนวทางการที่เจ้าของเหรียญ Luna สามารถนำเหรียญไปปล่อยกู้ แลกกับผลตอบแทนถึง 20% ทำให้คนเกาหลีใต้จำนวนมากแห่เข้ามาลงทุน ตัวอย่างคือแม่ลูกสามคนหนึ่งที่นำเงินเก็บทั้งหมดมาซื้อ Luna โดยเชื่อมั่นในตัวของ Daniel Shin ที่เคยเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ Ticket Monster และประสบความสำเร็จมาก่อน เธอยอมรับว่าผิดพลาดที่ไม่พิจารณาให้ดีก่อนลงทุน และตอนนี้เงินทั้งหมดสูญสลายไปแล้ว ความเสียหายของ Luna ยังส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนรายย่อยๆ ที่อาจหมดตัวและตัดสินใจฆ่าตัวตาย ตอนนี้ตำรวจเกาหลีใต้ยังเพิ่มการลาดตระเวณที่สะพาน Mapo Bridge ในกรุงโซล ซึ่งเป็นจุดฆ่าตัวตายยอดนิยมด้วย ล่าสุดมีนักลงทุนคริปโตเกาหลีใต้ 5 ราย รวมตัวกันฟ้อง Terraform Labs ในข้อหาฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายการเงิน มีค่าเสียหายรวมกัน 1.4 พันล้านวอน (ประมาณ 38 ล้านบาท) และหน่วยงานภาครัฐของเกาหลีใต้ก็เริ่มเข้ามาสอบสวนแล้ว Donghwan Kim ผู้ก่อตั้งบริษัทให้คำปรึกษาคริปโต Blitz Labs ให้สัมภาษณ์ว่า Do Kwon เคยมีสถานะเป็น "ผู้นำลัทธิ" (cult leader) แต่ตอนนี้เขาคือคนที่ถูกเกลียดมากที่สุดในเกาหลีใต้ไปแล้ว ภาพ Do Kwon ผู้ก่อตั้งเครือข่าย Terra จาก @terra_money Financial Times ยังสัมภาษณ์อดีตพนักงานของ Terraform Labs ที่ระบุว่านักลงทุนทั่วโลกถูก Kwon สะกดจิต เขาสามารถดึงดูดนักลงทุนชื่อดังๆ ด้วยปรัชญาเรื่องการกระจายศูนย์ (decentralized finance หรือ DeFi) ที่คนเหล่านี้เชื่ออยู่แล้ว ส่วนโมเดลของเหรียญ UST ที่ใช้อัลกอริทึมตรึงมูลค่าก็ดูแปลกใหม่ เมื่อรวมเข้ากับบุคลิกของ Kwon ที่ฝีปากกล้า ตอบโต้กับผู้ที่มาวิจารณ์เสมอ (เขาเคยโพสต์ว่า I don’t debate the poor on Twitter) ทำให้มีแฟนๆ จำนวนมากที่เรียกตัวเองว่า Lunatic Kang Hyung-suk อดีตพนักงานอีกคนใน Terraform Labs ยังระบุว่าวิศวกรในบริษัททุกคนรู้ว่าการให้ผลตอบแทน 20% นั้นเสี่ยงมาก ไม่ยั่งยืน เพราะบริษัทมีเงินทุนไม่มากพอในการค้ำมูลค่า แต่ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้กับ Kwon เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ฟังความเห็นที่ขัดแย้งกับเขา Kim Hyoung-joong หัวหน้าศูนย์วิจัยคริปโตที่มหาวิทยาลัย Korea University บอกว่า Kwon เรียกร้องให้โลกมี decentralized finance แต่ก็ย้อนแย้งตรงที่ เขาเป็นผู้ตัดสินใจทุกเรื่องเพียงคนเดียว ที่มา - Financial Times
# Windows 11 จะเปิดให้นักพัฒนาสร้าง Widgets เองเร็วๆ นี้ เขียนด้วย JSON Windows 11 มีฟีเจอร์ Widgets ที่เวอร์ชันแรกยังทำงานได้ค่อนข้างจำกัด เลือกใช้ได้เฉพาะ Widget ที่ไมโครซอฟท์เตรียมมาให้เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น (เช่น สภาพอากาศ หุ้น ข่าว) ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศแล้วว่าจะเปิดให้นักพัฒนาสร้าง Widget เข้ามาเองได้แล้ว (รายละเอียดจะตามมาภายในปีนี้) เบื้องต้นคือเราต้องสร้าง Widget ที่เป็นส่วนเสริมของแอพแบบ Win32 หรือ PWA อีกทีหนึ่ง (สร้าง Widget เดี่ยวๆ ไม่ได้) ส่วนวิธีการสร้างจะต้องใช้ฟอร์แมต Adaptive Cards ที่เป็น JSON สำหรับใช้สร้าง UI ลักษณะแบบ Widget แต่สามารถฝังในแอพอื่นๆ อย่าง แชท, Teams, Outlook ได้ด้วย ที่มา - Microsoft
# Microsoft Teams โชว์ฟีเจอร์ Live Share ประชุมไป แก้เอกสารด้วยกันไป ปั้นโมเดล 3D ด้วยกันได้ ไมโครซอฟท์โชว์ฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft Teams ชื่อ Live Share ช่วยเราสามารถประชุมออนไลน์กันไป แก้เอกสารไปพร้อมๆ กันด้วย ไม่จำเป็นต้องฟังใครคนใดคนหนึ่งพรีเซนต์อย่างเดียว Live Share ใช้เบื้องหลังเป็น Fluid Framework ที่ไมโครซอฟท์ใช้สำหรับแก้เอกสาร Office ร่วมกัน แต่เปิดให้แอพอื่นๆ เข้ามาใช้งานได้ด้วย แอพที่ระบุชื่อแล้วคือ Frame.io (ปัจจุบันเป็นของ Adobe), Hexagon, Skillsoft, MakeCode, Accenture, Parabol, Breakthru ในเดโมของไมโครซอฟท์โชว์การปั้นโมเดล 3D ในแอพ Hexagon ร่วมกันผ่าน Teams ตอนนี้ Live Share เปิด SDK ให้นักพัฒนาแอพรายอื่นๆ เข้ามาทดสอบการเชื่อมต่อแล้ว ตัว SDK เป็นโอเพนซอร์สบน GitHub ด้วย ที่มา - Microsoft
# Dyson เปิดตัวแผนกพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับงานในบ้าน ตั้งเป้าจ้างวิศวกรเฉพาะทางเพิ่ม 700 คน ใน 5 ปี Dyson เปิดตัวแผนกพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ โดยการนำเสนอนี้เพื่อบอกว่าบริษัทเตรียมจ้างงานวิศวกรอีกหลายร้อยอัตราภายใน 5 ปี เป้าหมายคือการสร้างหุ่นยนต์สารพัดประโยชน์สำหรับงานในบ้าน ซึ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาตอนนี้ยังอยู่ในขั้นความลับ ปัจจุบัน Dyson มีวิศวกรหุ่นยนต์ในฝ่ายดังกล่าวราว 250 คน ที่เชี่ยวชาญทั้งด้าน Computer Visions, Machine Learning, Sensors และ Mechatronics บริษัทวางแผนเพิ่มวิศวกรฝ่ายนี้อีกประมาณ 700 คน ใน 5 ปีข้างหน้า ในวิดีโอที่นำเสนอแผนกดังกล่าว Dyson พูดถึงความสามารถของหุ่นยนต์คร่าว ๆ เช่น การจัดจาน, ทำความสะอาดโซฟา, เก็บของในบ้าน และบางส่วนก็ไม่เปิดเผย ที่มา: The Verge
# สายการบิน ANA เลิกให้บริการตู้ check-in ด้วยตัวเองกับเที่ยวบินในประเทศ เน้นใช้แอปเป็นหลัก สายการบิน ANA ประกาศเลิกให้บริการตู้ kiosk สำหรับเช็คอินด้วยตัวเองกับเที่ยวบินในประเทศตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2023 เป็นต้นไป โดยผู้โดยสารสามารถเช็คอินด้วยตัวเองผ่านแอปหรือจะเช็คอินที่เคาน์เตอร์ตามปกติก็ได้ แอป ANA มียอดดาวน์โหลดบน Google Play มากกว่า 1 ล้านครั้ง โดยสามารถจองตั๋ว, เช็คอิน, แสดง boarding pass แบบ barcode, และให้บริการความบันเทิงทั้งภาพยนต์หรือหนังสือและนิตยสารระหว่างบินได้ด้วย แม้จะมีฟีเจอร์มากมายแต่รีวิวแอปก็ค่อนข้างแย่มีผู้รีวิว 1 ดาวจำนวนมาก โดยพบปัญหาบั๊กต่างๆ ทำให้ใช้งานไม่ได้แม้จะมีฟีเจอร์เยอะ ทาง ANA ระบุว่าทุกวันนี้มีผู้โดยสารติดตั้งแอปอยู่แล้วประมาณ 50% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 90% ภายในปี 2026 ตอนนี้มีตู้เช็คอินด้วยตัวเองของ ANA ในญี่ปุ่นอยู่ 437 ตู้ การลดภาระดูแลตู้เหล่านี้ไปจะช่วยลดต้นทุนของสายการบินลงไปได้ ที่มา - Japan Times
# ProtonMail รีแบรนด์เป็น Proton และเพิ่มฟีเจอร์กับแผนใช้งานแบบใหม่ ProtonMail บริการอีเมลแบบเข้ารหัส ประกาศปรับปรุงแผนการใช้งาน และรีแบรนด์ใหม่เหลือแค่คำว่า Proton เพื่อสะท้อนบริการอื่น ๆ นอกจากบริการอีเมล เช่น VPN, พื้นที่บนคลาวด์ และปฏิทิน โดยบริการอีเมลยังคงใช้ชื่อเดิม @protonmail.com ได้ต่อไป แต่เพิ่มชื่อใหม่ @proton.me เข้ามา แผนการใช้งานจะเปลี่ยนใหม่ มี 3 รูปคือ Free, Mail Plus และ Unlimited โดย Free เพิ่มพื้นที่เป็น 1GB ส่งได้ 150 ข้อความต่อวัน และเข้าถึงฟีเจอร์อื่นแบบพื้นฐาน, Mail Plus คิดราคา 5 ยูโรต่อเดือน ใช้ได้ 15GB และ Unlimited ราคา 12 ยูโรต่อเดือน ได้พื้นที่ 500GB การเปลี่ยนแปลงจะมีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า ส่วนลูกค้าที่สมัครใช้งานแผนเดิมจะไม่มีการปรับราคา แต่ได้ฟีเจอร์เพิ่มตามแผนแบบใหม่ ที่มา: Engadget และ Proton
# Amazon ขายลำโพง Echo International และ Echo Dot International ในไทย ราคาเริ่ม 1,700 บาท Amazon.com ประกาศจำหน่ายลำโพงอัจฉริยะ Echo International และ Echo Dot International จัดส่งจากเว็บไซต์ Amazon.com โดยรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย Alexa ผู้ช่วยอัจฉริยะจะถูกพัฒนาให้เข้าถึง Spotify, รายการข่าว และสถานีวิทยุของไทย รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ในไทย ราคาเริ่มต้น 49.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,700 บาท (ไม่รวมภาษี และค่าจัดส่ง) สำหรับฟีเจอร์ใหม่ และเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยที่เพิ่มเข้ามาเพื่อลูกค้าในประเทศไทยโดยเฉพาะมีดังนี้ รายงานข้อมูลจากสถานีข่าวในไทยรวมทั้งช่อง Thai PBS สามารถฟังเพลงจากคลื่นวิทยุของไทย เช่น COOL Fahrenheit และ Happy Time 93.5 อย่างไรก็ตามการสั่งให้ Alexa ช่วยเหลือ ยังต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และนอกจากฟีเจอร์ไทยที่เพิ่มเข้ามา ฟีเจอร์ดั้งเดิมของ Echo และ Echo Dot ยังใช้งานได้เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นการบอกเวลา รายงานสภาพอากาศ ตั้งเวลาและตั้งนาฬิกาปลุก เล่นเพลง ควบคุมไฟที่อยู่ภายในบ้าน เป็นต้น สำหรับราคาของทั้งสองรุ่นมีดังนี้ Echo International จำหน่ายในราคา 99.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,400 บาท Echo Dot International จำหน่ายในราคา 49.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,700 บาท ทั้งหมดนี้เป็นราคาไม่รวมภาษี และค่าขนส่ง มีให้เลือกแค่สี Charcoal โดยทั้งคู่สามารถกดซื้อได้ที่ Amazon.com ตามลิงก์ที่ฝังไว้ในชื่อแต่ละรุ่น อ้างอิง // เนื้อหา และภาพจากข่าวประชาสัมพันธ์ Amazon.com
# ราชกิจจาประกาศ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มการโอนสกุลเงินดิจิทัล หรือโทเคนดิจิทัล ถึงสิ้นปี 66 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 744) พ.ศ. 2565 ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนคริปโทเคอร์เรนซี หรือโทเคนดิจิทัล ที่กระทำในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2565 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 อ้างอิง // เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
# พบแฮกเกอร์แทรกโค้ดเข้าแพ็กเกจ ctx ในภาษา Python และ phpass ใน PHP เพื่อขโมยกุญแจ AWS สัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานถึงการอัพเดตแพ็กเกจโอเพนซอร์สที่ไม่ได้อัพเดตมานานหลายปีแล้ว สองแพ็กเกจ คือ ctx ในภาษา Python และ phpass ในภาษา PHP กลับถูกอัพเดตขึ้นมา และแทรกโค้ดขโมยกุญแจ AWS เข้ามาด้วย เวอร์ชั่นมุ่งร้ายของแพ็กเกจทั้งสองจะหา environment variable สองตัว คือ AWS_ACCESS_KEY และ AWS_SECRET_KEY เพื่อส่งกลับไปยังแอป Heroku ของคนร้าย ตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีเหยื่อถูกโจมตี AWS ด้วยแนวทางนี้มากน้อยแค่ไหน การโจมตีผ่านไลบรารีโดยตรง หรือ supply-chain attack มีการโจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้คนร้ายอาจจะตั้งชื่อแพ็กเกจให้คล้ายกับแพ็กเกจยอดนิยม แต่ช่วงหลังก็เริ่มมีการแฮกบัญชีของนักพัฒนาโดยตรง (1, 2) ทำให้นักพัฒนาอื่นๆ ที่ดาวน์โหลดแพ็กเกจไปกลายเป็นเหยื่อไปด้วย ที่มา - Bleeping Computer
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว OneNote โฉมใหม่ ปรับหน้าตาให้สวยขึ้น เพิ่มฟีเจอร์ด้านจดด้วยปากกา ไมโครซอฟท์โชว์หน้าตาของ OneNote โฉมใหม่ ตามสัญญาที่เคยบอกไว้เมื่อปีที่แล้ว ว่าจะรวม OneNote Win32 และ OneNote UWP เข้าด้วยกัน โดยเวอร์ชัน Win32 จะเป็นเวอร์ชันที่เหลือรอดอยู่ โดยอัพเกรดหน้าตาและฟีเจอร์บางส่วนมาจากเวอร์ชัน UWP ด้วย หน้าตาใหม่ของ OneNote Win32 ไปในทางเดียวกับ Office สีพาสเทล และ Outlook ตัวใหม่ที่เพิ่งโชว์มาก่อนหน้านี้ ใช้แถบ Ribbon เหมือนเดิม แต่เลือกปรับขนาดให้เล็กลงได้ ดีไซน์โดยรวมเป็นไปตาม Fluent Design แบบใหม่ของไมโครซอฟท์ พื้นหลังโปร่งแสง ขอบมุมโค้ง ใช้สีขาวเป็นหลัก และไฮไลท์สีพาสเทลโทนอ่อน ในแง่ของฟีเจอร์ OneNote Win32 จะได้ฟีเจอร์ฝั่งการใช้ปากกา (Ink), เสียง (Voice), กล้อง (Camera) หลายอย่างมาจาก Office ตัวใหญ่และ OneNote UWP มาด้วย เช่น ink to text, ink to shape, ink replay, dictate, insert from camera เป็นต้น ตอนนี้ OneNote Win32 จะเริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ บางส่วนก่อน และทยอยเพิ่มฟีเจอร์เพิ่มเติมเข้ามาในอนาคตต่อไป OneNote แบบทูลบาร์ใหญ่ (Ribbon) OneNote แบบทูลบาร์เล็ก ที่มา - Microsoft
# Xiaomi เปิดตัวโน้ตบุ๊ก Ryzen Edition รุ่น RedmiBook Pro 14 และ RedmiBook Pro 15 Xiaomi เปิดตัวโน้ตบุ๊กสองรุ่นใหม่ประกอบด้วย RedmiBook Pro 14 Ryzen Edition และ RedmiBook Pro 15 Ryzen Edition ทั้งคู่มาพร้อมกับซีพียู AMD Ryzen หน้าจอ 14 กับ 15.6 นิ้วตามลำดับ ตอบโจทย์การทำงานด้านกราฟฟิก และเล่นเกม ราคาเริ่มต้น 5,299 หยวน หรือราว 27,100 บาท RedmiBook Pro 14 Ryzen Edition มากับซีพียู Ryzen 5 6600H กับ Ryzen 7 6800H มี 6 และ 8 แกนสมอง ส่วนการ์ดจอใช้ Radeon 660M กับ 680M ตามลำดับ มาพร้อมแรม 16 GB และ SSD PCIe 4.0 ความจุ 512 GB น้ำหนักเครื่อง 1.45 กก. หน้าจอ 120 Hz ความละเอียด 2,560 x 1,600 พิกเซล ส่วน RedmiBook Pro 15 Ryzen Edition มากับซีพียู Ryzen 5 6600H และ Ryzen 7 6800H จับคู่กับการ์ดจอ Radeon 660M, Radeon 680M และ NVIDIA RTX 2050 ใช้หน้าจอ 90Hz ความละเอียด 3,200 x 2,000 พิกเซล บนอัตราส่วน 16:10 แรม 16 GB และ SSD 512 GB เหมือนรุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว สำหรับราคาของ RedmiBook Pro 14 Ryzen Edition เริ่มต้นที่ 5,299 หยวน หรือราว 27,100 บาท ส่วน RedmiBook Pro 15 Ryzen Edition ราคาเริ่มต้น 5,499 หยวน หรือราว 28,100 บาท ในรุ่นการ์ดจอ Radeon 660M และ 6,699 หยวน หรือราว 34,300 บาท ในรุ่นการ์ดจอ RTX 2050 ทั้งสองรุ่นจะจำหน่ายในประเทศจีนก่อน และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะนำไปขายในพื้นที่อื่น ๆ เมื่อใด อ้างอิง // Notebookcheck 1, 2, ภาพจาก Xiaomi 1, 2
# Wordpress 6.0 Arturo ออกแล้ว Wordpress 6.0 Codename "Arturo" โดยมีที่มาจาก Arturo O'Farrill นักดนตรีแจ๊สชื่อดัง มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้ Style Switcher - สามารถสร้างแพทเทิร์นเซฟเก็บไว้ และกดเปลี่ยนในรูปแบบ shortcut ได้ทันที Flex-based container blocks - บล็อคจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับหน้าจอแต่ละขนาด สามารถควบคุมรูปแบบตำแหน่งการแสดงผลแต่ละอุปกรณ์ได้หลากหลายขึ้น Block Locking Controls - สามารถล็อคการแก้ไขในแต่ละบล็อคได้แล้ว เพื่อป้องกันความผิดพลาดในระหว่างการปรับแต่ง พร้อมกับการแก้ไขบั๊กต่างๆ อีกกว่า 600 รายการ ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ สามารถรับชมได้จากวิดีโอด้านล่าง ที่มา: Wordpess
# ไมโครซอฟท์ประกาศทำ Visual Studio, VS Code, .NET, Java เวอร์ชัน Arm แบบเนทีฟ ไมโครซอฟท์ประกาศในงาน Build 2022 เมื่อคืนนี้ ว่าจะทยอยออกเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาบน Windows ให้รันบนสถาปัตยกรรม Arm แบบเนทีฟ ที่ระบุชื่อมีดังนี้ Visual Studio 2022 & VS Code Visual C++ Modern .NET 6 และ Java Classic .NET Framework Windows Terminal WSL และ WSA นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังจะร่วมมือกับโครงการโอเพนซอร์สอื่นๆ ที่ระบุชื่อคือ Python, Node, git, LLVM ให้ทำงานบน Windows Arm แบบเนทีฟด้วยเช่นกัน ไมโครซอฟท์บอกว่าจะออกซอฟต์แวร์บางตัว เช่น Visual Studio 2022 ที่เป็นเวอร์ชัน Arm แบบพรีวิวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ท่าทีของไมโครซอฟท์ต่อ Arm เห็นได้ชัดว่าให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ (แม้ช้ากว่าฝั่งแอปเปิลก็ตาม) และในงาน Build รอบนี้ก็มีประกาศ Project Volterra ที่เป็นคอมพิวเตอร์ Arm สำหรับนักพัฒนา ที่มา - Microsoft
# [ข่าวลือ] ยอดจอง Sony Xperia 1 IV บนช่องทาง JD.com ในจีน ทำได้แค่ 1 ใน 3 จากรุ่นก่อนหน้า ZACKBUKS หนึ่งในผู้รายงานข่าววงในเทคโนโลยีของจีน โพสต์ว่า ยอดจองซื้อ (Pre-Sale) Xperia 1 IV สมาร์โฟนรุ่นเรือธงของ Sony บนช่องทาง JD.com ทำได้แค่ 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับ Xperia 1 III รุ่นก่อนหน้านี้ แม้จะมีผู้ใช้สั่งจอง 32,000 ราย (นับถึงวันที่ 23 พ.ค. 2022) เหตุผลหลักที่ทำให้ Xperia 1 IV ทำยอดจองได้ไม่ดี เพราะตัวราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ไม่จูงใจผู้บริโภค หากเทียบกับ Xiaomi Mi 11 ที่ราคาใกล้เคียงกัน ยอดจองก่อนเปิดจำหน่ายจริงมีถึง 4 แสนเครื่องในช่องทางเดียวกัน ยิ่งในเวลานี้การระบาดของโรค COVID-19 ในจีน ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการจับจ่าย และบริษัทสำรวจ Canalys รายงานว่า ภาพรวมตลาดสมาร์ดโฟนระดับเริ่มต้นในจีนยังหดตัว ขณะเดียวกัน การสำรวจข้อมูลบนเว็บไซต์ GSMArena ยังพบว่า ผู้ใช้งานต่างตอบแบบสำรวจไปในเชิง Xperia 1 IV มีราคาค่อนข้างสูง แม้ตัวเครื่อง และการออกแบบจะค่อนข้างดีก็ตาม โดยราคาเปิดตัวของ Xperia 1 IV อยู่ที่ 1,599.99 ดอลลาร์สหรัฐ มีราคาในประเทศไทยที่ 48,990 บาท อ้างอิง // Notebookcheck ภาพจากอีเมลข่าวประชาสัมพันธ์ Sony ประเทศไทย
# Apple ระบุ ทุกแอปที่สร้างบัญชีใหม่ในแอปได้ ต้องลบบัญชีได้เช่นกัน มีผล 30 มิถุนายน 2022 แอปเปิลประกาศแนวทางการรีวิวแอปบน App Store (App Store Review Guideline) ในประเด็นหากแอปมีบริการสร้างบัญชีใหม่ในตัวแอป แอปนั้นจะต้องรองรับการลบบัญชีภายในแอปนั้นเช่นกัน โดยแอปทั้งหมดที่เข้าเงื่อนไขนี้จะต้องรองรับการลบบัญชีภายใน 30 มิถุนายน 2022 (รายละเอียดอยู่ในข้อ 5.1.1(v)) แอปเปิลประกาศเกณฑ์ดังกล่าวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็เลื่อนวันกำหนดให้มีผลมาสองครั้ง แต่ครั้งนี้แอปเปิลบอกว่าไม่เลื่อนแล้ว แอปเปิลยังระบุข้อกำหนดกว้าง ๆ เพิ่มเติม ว่าขั้นตอนการลบบัญชีในแอปนั้น ผู้ใช้งานควรจะหาได้ง่าย กรณีแอปใช้ Sign in with Apple ตัวแอปก็ต้องถอนโทเค็นของผู้ใช้งานเมื่อบัญชีแจ้งลบแล้วด้วย นอกจากนี้ยังระบุว่าการลบก็คือข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานต้องถูกลบออกไปทั้งหมดเช่นกัน ที่มา: 9to5Mac
# Google เปิดตัว Imagen งานวิจัยใช้ AI สร้างรูปภาพเสมือนจริงจากข้อความบรรยาย กูเกิลเปิดตัว Imagen งานวิจัย AI สร้างรูปภาพเสมือนจริงที่ใช้ input เป็นคำบรรยาย แบบเดียวกับ DALL·E ของ OpenAI โดยมีขั้นตอนการทำงานคือแปลงข้อมูล text ออกมาเป็นภาพความละเอียดต่ำ จากนั้นใช้เครื่องมือแปลงให้เป็นภาพที่มีความละเอียดมากขึ้น จุดเด่นที่กูเกิลระบุว่า Imagen เหนือกว่าเครื่องมือประเภทเดียวกัน คือการพัฒนาเครื่องมือวัดผลที่ชื่อ DrawBench ซึ่งใช้การเทียบข้อมูล text แบบเดียวกัน สร้างรูปภาพจากเครื่องมือหรือโมเดลอื่นมาเปรียบเทียบได้แก่ VQ-GAN+CLIP, Latent Diffusion Models และ DALL-E 2 ซึ่งประเมินคุณภาพของรูปโดยใช้คนตัดสิน พบว่า Imagen มีคะแนนที่ดีกว่า อย่างไรก็ตามงานวิจัยและเครื่องมือนี้ กูเกิลบอกว่ายังไม่เหมาะสมที่จะเปิดรายละเอียดทั้งหมดต่อสาธารณะ (เช่นเดียวกับ DALL·E) เนื่องจากชุดข้อมูลรูปภาพตั้งต้นที่ใช้ ต้องประมวลผลและตรวจสอบอีกมาก ว่าไม่มีความลำเอียงของข้อมูล หรือประเด็นที่อ่อนไหว ที่มา: Imagen ผ่าน The Verge
# Azure Container Apps เข้าสถานะ GA มีให้ใช้งานทั่วโลกแล้ว ไมโครซอฟท์เปิดบริการ Azure Container Apps บริการรันแอปที่แพ็กเป็นคอนเทนเนอร์โดยไม่ต้องดูแลโครงสร้างอื่นๆ อีกมาตั้งแต่ปลายปี 2021 ตอนนี้บริการเข้าสู่สถานะ GA เปิดให้ใช้งานได้ทั่วโลก ฟีเจอร์สำคัญของบริการนี้คือมี Dapr มาในตัวทำให้เชื่อมต่อกับแอปอื่นๆ ผ่านทาง pub/sub ได้เลย, ทำ tracing แอปได้ในตัวผ่าน Application Insights, ตัวแอปรองรับการทำ revisions เพื่อกระจายโหลดระหว่างเวอร์ชั่น, ยืนยันตัวตนผู้ใช้ทาง Azure AD ที่มา - Apps on Azure Blog
# Microsoft Store เปิดให้ทุกคนอัพแอป Win32 ส่งแอปขึ้นอัตโนมัติได้ Microsoft Store หน้าร้านดาวน์โหลดแอปบน Windows ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ชุดใหญ่ในงาน Build 2022 สำหรับนักพัฒนาความเปลี่ยนแปลงใหญ่คือการเปิดรับแอปแบบ Win32 ทั้งหมดแล้ว จากเดิมที่เป็นโครงการวงปิดต้องรอคิว แนวทางนี้ทำให้แอป Win32 รวมถึง .NET, C++, Electron, Flutter, Qt ทั้งหลายสามารถส่งแอปเข้าไปยัง Microsoft Store ได้ ตัวแอป Microsoft Store เองจะแสดงผลแอปใน Windows Search ให้เอง, สามารถลงแอปเดิมที่เคยลงมาก่อนหน้า (Restore Apps), และทำโลโก้ Get it from Microsoft ได้ง่ายๆ สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการโฆษณาแอปของตัวเอง สามารถสร้างแคมเปญโฆษณาใน Microsoft Store Ads เพื่อโฆษณาแอปของตัวเองได้ด้วย โดยตอนนี้ยังเป็นการใช้งานแบบวงปิดอยู่ ฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนาเพิ่มขึ้นหลายอย่าง เช่น การส่งแอปขึ้นหน้าร้านอัตโนมัติผ่าน REST API หรือ GitHub Action ทำให้สามารถส่งเวอร์ชั่นใหม่ขึ้นสโตร์หลังคอมไพล์และทดสอบเสร็จได้ทันที, ซ่อนแอปไม่ให้ค้นหาเจอเพื่อทดสอบกลุ่มเล็ก, ข้อมูล analytics รายงานอัตราการใช้งาน/อัตราการติดตั้งสำเร็จ, ตอบการรีวิวในสโตร์ ที่มา - Windows Blog
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว Project Volterra คอมพิวเตอร์สำหรับพัฒนาบน Arm พร้อมซอฟต์แวร์พัฒนาครบชุด ไมโครซอฟท์เตรียมสนับสนุนการพัฒนาบนสถาปัตยกรรม Arm เต็มรูปแบบ โดยเปิดตัว Project Volterra คอมพิวเตอร์เดสก์ทอปใช้ชิป Snapdragon ไม่ระบุรุ่น จุดเด่นของ Project Volterra คือมันมีหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ ซึ่งทาง Qualcomm ก็ประกาศชุดพัฒนา Qualcomm Neural Processing SDK for Windows ออกมาพร้อมกัน การประกาศครั้งนี้มาพร้อมกับชุดซอฟต์แวร์ที่รันบน Arm แบบเนทีฟ ได้แก่ Visual Studio 2022, VSCode, Visual C++, .NET 6, .NET Framework ตัวเดิม, Windows Terminal, WSL, WSA สำหรับแอนดรอยด์ ไมโครซอฟท์ยังไม่ระบุว่าจะขาย Project Volterra ในราคาเท่าใดและไม่ระบุวันที่แน่นอน แต่ระหว่างนี้จะเริ่มปล่อยพรีวิวเวอร์ชั่น Arm สำหรับเครื่องมือที่ระบุออกมาก่อน พร้อมกับระบุว่ากำลังช่วยเหลือโครงการโอเพนซอร์สอื่นๆ เช่น Python, node, git, LLVM ให้รันบน Windows บน Arm ได้ด้วย ที่มา - Windows Blog
# Tesla จดทะเบียน "บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด" แล้ว ระบุจำหน่ายรถยนต์ ไม่มีประกอบ วันนี้มีผู้พบว่าในเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ได้มีข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทของ "บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด" หรือก็คือ Tesla บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกาที่หลายคนกำลังรอให้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกันอยู่ จากข้อมูลบนเว็บไซต์ระบุว่าบริษัทจดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท ส่วนกรรมการบริษัทมี 3 คน คือ David Jon Feinstein ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงฝ่ายบุกเบิกตลาดใหม่ รวมถึงเป็นผู้บริหารระดับสูงของ Tesla อินเดียด้วย Vaibhav Taneja ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชี (Chief Accounting Officer) Yaron Klein ผู้บริหารทรัพย์สิน (Treasurer) ของ Tesla และซีเอฟโอของ Tesla Energy Operations (เป็นบริษัทลูกของ Tesla รับผิดชอบผลิตภัณฑ์ด้านโซลาร์, Powerwall แบตเตอรี่สำหรับบ้านและโรงงาน) วัตถุประสงค์ของบริษัทระบุไว้ว่าประกอบกิจการขายรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้ง ระบบผลิตพลังงาน แปลว่าหาก Tesla เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจริง น่าจะเป็นการนำเข้ารถยนต์ทั้งคัน ไม่มีการประกอบในประเทศ รวมถึงมีโอกาสที่จะทำตลาดด้านแผงโซลาร์สำหรับบ้านเรือนและ Powerwall ด้วย ส่วนที่อยู่สำนักงานคือชั้น 23 อาคารเอ็มไทย ทาวเวอร์ ออล ซีซั่นส์ เพลส ส่วนอีเมลติดต่อเป็นโดเมน tilleke.com ซึ่งเป็นของ Tilleke & Gibbins บริษัทกฏหมายชื่อดัง น่าจะรับงานจดทะเบียนบริษัทและดำเนินการอื่นๆ สำหรับการเข้ามาในประเทศไทย อย่างไรก็ตามการจดทะเบียนบริษัทไม่ได้แปลว่า Tesla จะเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเสมอไป เพราะอาจเป็นการจดทะเบียนบริษัทไว้เฉยๆ ก่อนก็ได้ ตัวอย่างเช่น Tesla Motors Singapore จดทะเบียนในสิงคโปร์ตั้งแต่กลางปี 2010 แต่กว่าจะเริ่มขายรถจริงๆ ก็เมื่อต้นปี 2021 นี่เอง ใช้เวลาเกือบ 11 ปีกว่าจะเริ่มขายรถ แต่นี่ก็เป็นขั้นแรกที่เห็นว่า Tesla อาจสนใจเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยแล้ว ที่มา - กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ต้องใส่ CAPTCHA ก่อน แล้วค้นด้วยเลขทะเบียนนิติบุคคล 0105565069229)
# Canon เปิดตัว EOS R7 กล้อง Mirrorless เซนเซอร์​ APS-C เมาท์ RF Canon เปิดตัวกล้อง EOS R7 เป็นกล้องเซนเซอร์ APS-C ขนาดกลางเมาท์ RF โดยถือเป็นกล้องเมาท์ RF แบบ crop sensor (กล้องตัวคูณ) ตัวแรกของค่าย คู่กับ EOS R10 สเปคของ EOS R7 ใช้เซนเซอร์ CMOS ขนาด APS-C 32.5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Dual Pixel AF สามารถถ่ายภาพรัวได้มากสุดถึง 15 ภาพต่อวินาทีในโหมดชัตเตอร์กลไก หรือ 30 ภาพต่อวินาทีในโหมด e-shutter และถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ซึ่งจะตัวกล้องจะ oversample วิดีโอให้ และมีตัวเลือกถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาทีแบบเต็มความกว้าง (แต่มีข้ามบางเส้น) หรือครอปที่ 1.81x พร้อมระบบออโต้โฟกัสแบบ subject detection ที่นำต้นแบบมาจาก EOS R3 และระบบกันสั่น Coordinated Image Stabilization ที่กันสั่นได้สูงสุดถึง 7 สต็อป หลังกล้องมีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED 2.36 ล้านจุด พร้อมหน้าจอ 3 นิ้ว 1.62 ล้านจุดแบบปรับหมุนได้ ส่วนช่องเสียบการ์ดมี 2 ช่อง รองรับถึง SD UHS-II มีพอร์ต USB-C ช่องเสียบไมโครโฟน 3.5 มิลลิเมตร และ micro HDMI ส่วนแบตเตอรี่ใช้ LP-E6NH ถ่ายภาพได้สูงสุด 770 ภาพต่อชาร์จหากใช้ LCD ในโหมดประหยัดพลังงาน พร้อมซีลกันสภาพอากาศ Canon EOS R7 วางจำหน่ายเฉพาะตัวบอดี้อย่างเดียว 1,499 ดอลลาร์หรือราว 51,000 บาท, ตัวกล้องพร้อมเลนส์คิท 18-150mm F3.5-6.3 IS STM อยู่ที่ 1,899 ดอลลาร์ หรือราว 65,000 บาท ที่มา - dpreview
# Logitech เปิดตัวคีย์บอร์ด MX Mechanical และเมาส์ MX Master 3S Logitech มีเมาส์และคีย์บอร์ดสายทำงานอยู่ในซีรีส์ MX โดยล่าสุดได้เปิดตัวเมาส์และคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ในชื่อ MX Master 3S และ MX Mechanical MX Mechanical เป็นคีย์บอร์ด mechanical ไร้สายแบบเตี้ย (low-profile) ตัวสวิตช์ใช้ Kailh Choc V2 มีระยะกด 3.2 มม. เริ่มทำงานที่ 1.3 มม. และใช้แรงกด 55 กรัม มีปุ่มให้เลือกสามแบบคือ tactile (เงียบ), linear และ clicky เคสด้านบนของคีย์บอร์ดทำจากอะลูมิเนียม ส่วนปุ่ม keycaps ทำจากพลาสติก ABS ตัวคีย์บอร์ดรองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบเสียบ USB dongle และบลูทูธ เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 3 เครื่อง รองรับการปรับแต่งและ remap ปุ่มผ่านโปรแกรม Logi Options แบตเตอรี่อยู่ได้ 15 วันหากเปิดไฟส่องใต้ปุ่ม หรือ 10 เดือนหากปิดไฟ โดยไฟส่องใต้ปุ่มนี้จะสว่างขึ้นเองเมื่อผู้ใช้นำมือเข้ามาใกล้คีย์บอร์ด รวมถึงปรับความสว่างอัตโนมัติตามความสว่างของห้อง นอกจากนี้ยังมีรุ่น MX Mechanical Mini ที่เปิดตัวพร้อมกัน สเปกทุกอย่างเหมือนกันแต่ตัด numpad ออก MX Master 3S ภาคต่อของเมาส์ซีรีส์ MX Master ที่ออกมาแล้วหลายรุ่น โดยดีไซน์ยังคล้ายกับ MX Master 3 อยู่ แต่ไฮไลท์คือเสียงคลิกเงียบลงมากถึง 90% รวมถึงอัพเกรดเซ็นเซอร์เป็น 8000 DPI (เดิม 4000 DPI) อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เมาส์ที่ทำมาเพื่อการเล่นเกม เพราะอัตราความถี่การส่งข้อมูล (polling rate) อยู่ที่ 125Hz เท่านั้น เมาส์มีอายุแบตเตอรี่ 70 วัน ชาร์จ 1 นาทีใช้งานได้ 3 ชั่วโมง รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 3 เครื่องผ่าน USB dongle และบลูทูธเช่นกัน คีย์บอร์ด MX Mechanical ราคา 169.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,800 บาท), MX Mechanical Mini ราคา 149.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,100 บาท) และเมาส์ MX Master 3S ราคา 99.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,400 บาท) เริ่มวางจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว ส่วนในไทยน่าจะตามมาเร็วๆ นี้ ลิงก์รูปใหญ่ เห็นปุ่มชัดๆ ที่มา - The Verge, Ars Technica ภาพโดย Logitech
# Take-Two ซื้อกิจการ Zynga เสร็จแล้ว ถือเป็นดีลใหญ่อันดับสองของอุตสาหกรรมเกม Take-Two Interactive ประกาศเสร็จสิ้นกระบวนการซื้อ Zynga มูลค่า 12.7 พันล้านดอลลาร์ ที่ประกาศไว้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 ถือเป็นดีลใหญ่อันดับสองของอุตสาหกรรมเกม เป็นรองแค่ดีล Microsoft ซื้อ Activision Blizzard เท่านั้น การซื้อ Zynga ทำให้ Take-Two ได้เป็นเจ้าของค่ายเกมมือถือขนาดใหญ่ มีเกมยอดนิยมอย่าง Farmville, Golf Rival, Merge Dragons และ CSR Racing ช่วงหลัง Take-Two ไล่ขยายธุรกิจด้านเกมมือถือมาเรื่อยๆ ผ่านการซื้อกิจการสตูดิโอรายย่อยๆ เช่น Playdots (เจ้าของเกม Two Dots), Nordeus (เจ้าของเกม Top Eleven), Socialpoint (เจ้าของเกม Dragon City) แต่การได้ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่แบบ Zynga เข้ามาเพิ่ม น่าจะทำให้เราเห็นการขยายไลน์เกมมือถืออีกมาก โดยเฉพาะการทำแฟรนไชส์ชื่อดังของ Take-Two ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น GTA, Red Dead, XCOM, Civilization, BioShock, NBA2K มาออกเป็นเกมมือถือในอนาคต ที่มา - Take-Two (PDF)
# Canon เปิดตัว EOS R10 กล้อง Mirrorless แบบ APS-C เมาท์ RF ขนาดกลาง Canon เปิดตัวกล้อง EOS R10 เป็นกล้อง Mirrorless เซนเซอร์ APS-C ขนาดกลางเมาท์ RF โดยถือเป็นกล้องเมาท์ RF แบบ crop sensor (กล้องตัวคูณ) ตัวแรกของค่าย คู่กับ EOS R7 สเปคของ EOS R10 ใช้เซนเซอร์ CMOS ขนาด APS-C 24 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Dual Pixel AF สามารถถ่ายภาพรัวได้มากสุดถึง 15 ภาพต่อวินาทีในโหมดชัตเตอร์กลไก หรือ 23 ภาพต่อวินาทีในโหมด e-shutter และถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ซึ่งจะตัวกล้องจะ oversample วิดีโอเต็มความกว้างของตัวเซนเซอร์ และมีตัวเลือกถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาทีแบบครอป 1.56 เท่าด้วย พร้อมระบบออโต้โฟกัสแบบ subject detection ที่นำต้นแบบมาจาก EOS R3 และระบบกันสั่น Coordinated Image Stabilization ที่กันสั่นได้สูงสุดถึง 7 สต็อป หลังกล้องมีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED 2.36 ล้านจุด พร้อมหน้าจอ 3 นิ้ว 1.04 ล้านจุดแบบปรับหมุนได้ ส่วนช่องเสียบการ์ดมี 1 ช่อง รองรับถึง SD UHS-II มีพอร์ต USB-C ช่องเสียบไมโครโฟน 3.5 มิลลิเมตร และ micro HDMI ส่วนแบตเตอรี่ใช้ LP-E17 ถ่ายภาพได้สูงสุด 430 ภาพต่อชาร์จหากใช้ LCD ในโหมดประหยัดพลังงาน Canon EOS R10 วางจำหน่ายเฉพาะตัวบอดี้อย่างเดียว 979 ดอลลาร์หรือราว 33,000 บาท, ตัวกล้องพร้อมเลนส์คิท 18-45mm F4.5-6.3 IS STM อยู่ที่ 1,099 ดอลลาร์ หรือราว 38,000 บาท และตัวกล้องพร้อมเลนส์คิท 18-150mm F3.5-6.3 IS STM ที่ราคา 1,379 ดอลลาร์ หรือราว 47,000 บาท ที่มา - dpreview
# Asus เปิดตัวมอนิเตอร์ ROG Swift 500Hz ขยับอัตรารีเฟรชเป็น 500Hz Asus เปิดตัวมอนิเตอร์เกมมิ่งรุ่น ROG Swift ที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 500Hz มากสุดในท้องตลาดตอนนี้ ทำลายสถิติเดิมของ Asus เมื่อปี 2020 ที่ทำไว้ 360Hz Asus ROG Swift 500Hz เป็นมอนิเตอร์ขนาด 24.1" ความละเอียด Full HD (1920x1080) เพื่อให้จีพียูไม่ต้องประมวลผลภาพละเอียดเกินไป และเอาพลังไปอัดที่เฟรมเรตให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ตัวพาเนลเป็นแบบใหม่ Esports TN (E-TN) ที่ตอบสนองเร็วกว่าพาเนล TN แบบปกติถึง 60% ฟีเจอร์อย่างอื่นคือรองรับ NVIDIA G-Sync และ NVIDIA Reflex Analyzer ช่วยให้เกมเมอร์ปรับแต่งความหน่วงของอินพุตที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางขาย แต่ด้วยฟีเจอร์ที่เน้นกลุ่มอีสปอร์ตก็น่าจะไม่ถูกสักเท่าไร (รุ่น 360Hz ในปัจจุบันขายอยู่ราว 30,000 บาท) ที่มา - Asus
# AWS เริ่มให้บริการเซิร์ฟเวอร์ชิป Graviton 3 มีเครื่องขนาดกลางเดือนละ 26 ดอลลาร์ AWS เริ่มให้บริการเซิร์ฟเวอร์ EC2 ในตระกูล C7g ที่เป็นซีพียู Graviton 3 ที่เปิดให้บริการวงปิดไปเมื่อปลายปี 2021 โดยยังคงชูความคุ้มค่าเมื่อเทียบพลังประมวลผลกับซีพียู x86 ฟีเจอร์ความปลอดภัยของ Graviton 3 ได้แก่ การแยกแคชแต่ละเครื่องเสมือนออกจากกัน, เข้ารหัสหน่วยความจำตลอดเวลา, และยืนยันตำแหน่ง pointer ราคาเครื่อง C7g พอๆ กับเครื่อง C6a ที่เป็นซีพียู AMD EPYC รุ่นที่ 3 แต่มีเครื่องเล็กสุดคือ c7g.medium ซีพียู 1 vCPU แรม 1GB ราคาประมาณ 26 ดอลลาร์ต่อเดือน (C6a เริ่มที่ 2 vCPU) ตอนนี้เครื่อง C7g ยังมีให้บริการแค่สองเขตในสหรัฐฯ ตะวันตกและตะวันออก และเตรียมขยายเพิ่มเติมต่อไปภายหลัง ที่มา - AWS
# กูเกิลฉลองครบรอบ 15 ปี Street View เตรียมใช้กล้องรุ่นใหม่เบาเพียง 7 กิโลกรัม กูเกิลฉลองครบรอบ 15 ปี Street View (ถ้านับเฉพาะประเทศไทยก็ 11 ปีแล้ว) ด้วยการเปิดตัวกล้อง Street View รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กลง กล้องรุ่นใหม่นี้มีน้ำหนักเพียง 15 ปอนด์ หรือประมาณ 7 กิโลกรัม สามารถถอดเปลี่ยนโมดูลได้ตามต้องการ เช่น เซ็นเซอร์ LIDAR สำหรับเก็บภาพสามมิติ และสามารถติดตั้งบนหลังคารถที่มีแร็กขนสัมภาระอยู่แล้วได้ทันที ทำให้กูเกิลไม่ต้องใช้รถดัดแปลงมาเฉพาะเช่นเดิม สามารถส่งกล้องไปถ่ายภาพ Street View ในพื้นที่ใหม่ๆ ได้มากขึ้น นอกจากการปรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ ตัวแอปก็จะเปิดให้ดูภาพย้อนเวลาได้จากลิงก์ "See more dates" สำหรับเมืองที่มีการถ่ายภาพ Street View มาอัพเดตแล้วหลายครั้ง ที่มา - Google Blog
# NVIDIA เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ซีพียู Grace และจีพียู Hopper วางขายจริงปี 2023 NVIDIA มีซีพียู Arm สำหรับเซิร์ฟเวอร์ชื่อ Grace ที่จะออกช่วงครึ่งแรกของปี 2023 โดยแบ่งเป็น 2 เวอร์ชันย่อยคือ Grace CPU SuperChip ที่มีซีพียู 2 ตัวรวม 144 คอร์ กับ Grace Hopper SuperChip ที่เป็นซีพียู Grace + จีพียู Hopper รุ่นใหม่ สำหรับงานที่ต้องใช้จีพียูประมวลผลด้วย ตอนนี้ Grace และ Hopper ยังไม่ออกวางขายจริง แต่ NVIDIA ก็จับมือกับพาร์ทเนอร์เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์พลัง Grace มาแล้ว แบรนด์พาร์ทเนอร์ที่ร่วมเปิดตัวคือ Asus, Foxconn Industrial Internet, GIGABYTE, QCT, Supermicro, Wiwynn กำหนดขายจริงปี 2023 NVIDIA ยังจัดระดับชั้นของเซิร์ฟเวอร์ Grace ทั้งหมด 4 รุ่น สำหรับงานแต่ละประเภท ดังนี้ NVIDIA HGX Grace Hopper ใช้ชิป Grace Hopper + BlueField DPU สำหรับงาน AI และ HPC NVIDIA HGX Grace ใช้ชิป Grace CPU มีแต่ซีพียูล้วนๆ + BlueField DPU สำหรับงาน HPC NVIDIA OVX ใช้ชิป Grace CPU + BlueField + จีพียูรุ่นอื่นของบริษัท ไว้สำหรับงาน digital twins NVIDIA CGX ใช้ชิป Grace CPU + BlueField + NVIDIA A16 GPU สำหรับงานประมวลผลกราฟิกและเกมมิ่งบนคลาวด์ หน้าตาของ Grace CPU SuperChip (ชิปซีพียู 2 ตัวในชุดเดียวรวม 144 คอร์ เชื่อมด้วย NVLink-C2C) หน้าตาของ Grace Hopper SuperChip (ชิปซีพียู 1 ตัว + จีพียู Hopper เชื่อมด้วย NVLink-C2C) ที่มา - NVIDIA
# รถยนต์ไฟฟ้าล้วน Mercedes-Benz EQS เปิดราคาไทยเริ่มต้น 8.57 ล้านบาท บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Mercedes-Benz ประเทศไทย ประกาศเปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทยของ Mercedes-Benz EQS รถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกที่ขายในไทย มี 2 รุ่นย่อย ราคา 8.57 และ 8.87 ล้านบาท มีดีลเลอร์แค่ 4 รายมีสิทธิ์จำหน่าย Mercedes-Benz EQS เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนแบบเก๋ง 4 ประตูขนาดใหญ่ หรือ Full-Size Luxury Sedan ที่ทางแบรนด์นำมาจัดแสดงในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 ถือเป็นหนึ่งในแผนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การจำหน่ายแต่รถยนต์ไฟฟ้าล้วนเท่านั้นภายในปี 2030 สำหรับ Mercedes-Benz EQS ที่จำหน่ายในประเทศไทยมี 2 รุ่นย่อยคือ EQS 450+ AMG Premium วางจำหน่ายในราคา 8,570,000 บาท EQS 450+ Edition 1 วางจำหน่ายในราคา 8,870,000 บาท เบื้องต้น Mercedes-Benz ประเทศไทยได้ส่งมอบ Mercedes-Benz EQS ที่มีอยู่ 4 คันให้กับ ตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 รายประกอบด้วย บริษัท เบนซ์บีเคเค กรุ๊ป จำกัด, บริษัท เบนซ์ พระราม 3 จำกัด, บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด และบริษัท ทีทีซี มอเตอร์ จำกัด เพื่อช่วยทำตลาดหลังจากนี้ หากเทียบกับกลุ่มรถหรูในประเทศไทย Mercedes-Benz ช้าที่สุดในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วน เพราะ Audi และ BMW คู่แข่งจากเยอรมนีต่างเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรวมกันเกือบ 10 รุ่นย่อย โดย Mercedes-Benz เคยเกือบได้ขาย EQC รถยนต์ไฟฟ้าล้วนในไทยตั้งแต่ปี 2020 แต่สุดท้ายการเจรจาสนับสนุนการลงทุนกับรัฐไทยกลับล่ม และต้องพับแผนเอาไว้ก่อน อ้างอิง // ภาพ และเนื้อหาจากข่าวประชาสัมพันธ์ Mercedes-Benz ประเทศไทย
# NVIDIA เปิดตัวการ์ดจอสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการใช้ของเหลวระบายความร้อน NVIDIA เปิดตัวการ์ดจอสำหรับใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์โดยเฉพาะรุ่น A100 80GB PCIe มาพร้อมจุดเด่นการระบายความร้อนด้วยของเหลว จากปกติใช้อากาศ โดยการ์ดจอรุ่นใหม่นี้ทำมาเพื่อองค์กรที่ต้องการการประมวลผลขั้นสูง เช่น การใช้งานคลาวด์คอมพิวติง และเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ปลายปี 2022 หากเจาะไปที่คุณสมบัติของการใช้ของเหลวระบายความร้อนจะพบว่า เมื่อทำงานในความหนักที่เท่ากัน การ์ดจอที่ใช้ของเหลวระบายความร้อนจะใช้พลังงานน้อยกว่า 30% เทียบกับการ์ดจอที่ใช้อากาศในการระบายความร้อน นอกจากนี้การใช้ของเหลวระบายความร้อนยังช่วยประหยัดการใช้ช่อง PCIe เหลือ 1 ช่อง จากเดิมใช้ 2 ช่อง ถือเป็นสัญญาณดีของตลาดการ์ดจอ เพราเมื่อ NVIDIA ทำการ์ดจอที่ติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวออกมาจากโรงงาน แม้ตอนนี้จะทำมาเพื่อขายลูกค้าองค์กร แต่ในอนาคตอาจมีการทำเพื่อตลาดผู้บริโภคทั่วไปก็ได้ ซึ่งตอนนี้มีบางแบรนด์ผู้ผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ทำตลาดแล้ว เช่น EVGA เป็นต้น อ้างอิง // Engadget, เนื้อหา และภาพจาก NVIDIA
# Airbnb ยุติธุรกิจในประเทศจีนภายในไตรมาส 3 ปี 2022 เหตุต้นทุนสูง ต้องแข่งกับผู้เล่นท้องถิ่น สำนักข่าว CNBC รายงานว่า Airbnb เตรียมยุติธุรกิจในประเทศจีนภายในไตรมาส 3 ปี 2022 ทั้งฝั่งให้เช่าที่พักอาศัยระยะสั้น และบริการนำเที่ยว เนื่องจากต้นทุนการทำธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น และต้องแข่งขันกับผู้เล่นท้องถิ่นอย่างหนัก ถือเป็นการปิดฉากของ Airbnb ในตลาดนี้ที่เริ่มต้นธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2016 โดยรายงานนี้อ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่เผยนาม ในการทำธุรกิจที่จีน Airbnb ถูกทางการจีนบังคับให้เซ็นบันทึกข้อตกลงกับทางการของแต่ละเมือง รวมถึงตั้งส่งข้อมูลไปเก็บไว้ที่เซอร์เวอร์ของทางการจีน ยิ่งทางการจีนกลับมาปิดเมืองเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวลำบาก และคงไม่ดีหากต้องแบกต้นทุนธุรกิจต่อไป ไม่ใช่แค่ Airbnb ที่ถอดใจจากตลาดจีน บริษัทเทคโนโลยีต่างชาติมักเจอปัญหาความเข้มงวดของทางการจีน และการแข่งขันกับผู้เล่นท้องถิ่นอย่างดุเดือดเล่นงานเช่นกัน อาทิ Uber ที่สุดท้ายต้องขายกิจการในประเทศจีนในปี 2016 ให้กับ Didi Chuxing ผู้ให้บริการร่วมเดินทางของจีน อ้างอิง // Engadget ภาพจาก Airbnb
# Starlink เปิดบริการ RV ไม่ล็อกพื้นที่ เปิดปิดได้รายเดือน Starlink เปิดบริการ RV สำหรับลูกค้าที่เดินทางไปมา ทำให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมโดยไม่ต้องระบุพื้นที่ใช้บริกรล่วงหน้า พร้อมกับฟีเจอร์เปิดปิดบริการได้ตามการใช้งานจริง ขั้นต่ำครั้งละ 1 เดือน ข้อจำกัดคือค่าบริการรายเดือนจะแพงขึ้นอีก 25 ดอลลาร์ เป็น 135 ดอลลาร์ต่อเดือน ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือผู้ที่สั่งแพ็กเกจ RV จะได้จานดาวเทียมทันที ไม่ต้องรอคิวเป็นปีเหมือนแพ็กเกจปกติ ทาง Starlink เตือนว่าบริการ RV จะถูกลดความสำคัญทราฟิกลง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ถูกระบุว่าเป็น Waitlist ในแผนที่ แนวทางการใช้งาน Starlink RV เช่น การเดินทางเป็นครั้งคราว, ใช้งานในบ้านพักตากอากาศ ที่มา - Starlink
# .NET MAUI ชุดสร้าง UI ข้ามแพลตฟอร์มออกตัวจริง เขียน C# ลง Windows, Mac, iOS, Android หลังจากพัฒนามายาวนานตั้งแต่ปี 2020 และเลื่อนกำหนดออกมาหนึ่งรอบ วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศ .NET MAUI ออกเวอร์ชันสมบูรณ์ (GA) พร้อมใช้งานจริง .NET MAUI (ย่อมาจาก Multi-platform App UI อ่านว่า "เมาอิ" ให้ดูเป็นภาษาฮาวายเท่ๆ) เป็นชุดเครื่องมือเขียน UI ของแอพพลิเคชัน .NET ข้ามแพลตฟอร์ม สามารถทำงานได้ทั้งบนวินโดวส์ แมค Android iOS การมาถึงของ MAUI จะช่วยให้ .NET เป็นชุดเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยภาษา C# แบบข้ามแพลตฟอร์มอย่างเต็มที่ (ก่อนหน้านี้ .NET ยุคโอเพนซอร์สรองรับแมคและลินุกซ์ แต่ยังจำกัดเฉพาะคอมมานด์ไลน์ ไม่มี UI) ตัวของ .NET MAUI พัฒนาต่อมาจาก Xamarin.Forms ที่ไมโครซอฟท์ซื้อมาตั้งแต่ปี 2016 โดยเดิมที Xamarin.Forms ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็น UI สำหรับแอพมือถือ (Android, iOS) แต่พอมาเป็น .NET MAUI ก็ขยายให้ครอบคลุมแอพแบบเดสก์ท็อปด้วย (นอกจาก 4 แพลตฟอร์มหลักแล้ว ไมโครซอฟท์ยังรองรับลินุกซ์ และ Tizen อย่างไม่เป็นทางการ) การทำงานของ MAUI จะแปลงโค้ดของเราให้เป็น UI แบบเนทีฟของแต่ละแพลตฟอร์ม โดยกรณีของวินโดวส์จะอยู่บน WinUI ของไมโครซอฟท์ และบนแมคจะเรียกใช้ผ่าน Mac Catalyst ที่แอปเปิลใช้แปลงแอพ iOS มาเป็น macOS ไมโครซอฟท์ยังร่วมกับผู้สร้าง UI controls สาย .NET หลายเจ้า เช่น SyncFusion, DevExpress, Progress, Grial ให้พัฒนา controls ของ .NET MAUI ออกมาให้ใช้กัน รวมถึงจับมือกับกูเกิลให้ปรับแต่ง AndroidX, Google Play Services, Google APIs ให้ทำงานร่วมกับ .NET MAUI ด้วยเช่นกัน ผู้ที่สนใจลอง .NET MAUI ต้องใช้ Visual Studio 2022 version 17.3 Preview 1.1 จะเห็นเวิร์คโหลดประเภท MAUI เพิ่มขึ้นมา ที่มา - .NET Blog
# แรงบันดาลใจมาเต็ม! BYD เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่น Seal วางตัวเป็นคู่แข่ง Tesla Model 3 BYD เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ใช้ชื่อรุ่นว่า Seal เป็นหนึ่งในรถยนต์ตระกูล Ocean มาในรูปแบบ Sedan 4 ประตู มี 4 รุ่นย่อย เริ่มต้นวิ่งได้ไกลสุดหลังชาร์จเต็ม 550 กม. ราคา 2.12-2.89 แสนหยวน หรือราว 1.08-1.48 ล้านบาท มีหน้าตาคล้ายคลึง และเป็นคู่แข่งของ Tesla Model 3 ตรง ๆ เปิดจองในจีนตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2022 เป็นต้นไป หากเจาะไปที่ 4 รุ่นย่อย ของ Seal จะมีรายละเอียดดังนี้ Standard Range (Elite) ขับเคลื่อนล้อหลัง วิ่งได้ไกล 550 กม. Standard Range (Premium) ขับเคลื่อนล้อหลัง วิ่งได้ไกล 550 กม. Long Range ขับเคลื่อนล้อหลัง วิ่งได้ไกล 700 กม. Performance ขับเคลื่อน 4 ล้อ วิ่งได้ไกล 650 กม. Seal มากับโครงสร้างรถยนต์แบบใหม่ที่ชื่อว่า CTB หรือ Cell-to-Body ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดวางชุดแบตเตอรี่อีก 66% และเพิ่มความปลอดภัยจากการชนด้านหน้า 50% โดย Seal ถือเป็นรุ่นที่ 2 ที่ใช้โครงสร้างนี้ เพราะรุ่นแรกที่ใช้คือ Dolphin รถยนต์ไฟฟ้าล้วนแบบ Subcompact ทั้งนี้ Seal ยังไม่เปิดเผยวันส่งมอบ แต่เปิดให้จองซื้อได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2022 และหากเปรียบเทียบราคา กับคุณสมบัติต่าง ๆ Seal คือคู่แข่งสำคัญของ Tesla Model 3 เพราะระยะทางกับราคาแทบไม่ต่างกันนัก ส่วนในปี 2021 BYD ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วนกว่า 3.2 แสนคัน เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศจีน อ้างอิง // Electric, ภาพจาก Weibo ของ BYD
# AMD เปิดตัวชิป Mendocino สำหรับโน้ตบุ๊กราคาถูก ซีพียูแกน Zen 2, จีพียู RDNA 2 อีกข่าวเล็กๆ ของ AMD นอกจากซีพียูใหม่ Ryzen 7000 และซ็อคเก็ต AM5 ยังมีชิปใหม่สำหรับโน้ตบุ๊กราคาถูก ที่รียูสแกน Zen 2 มาจับตลาดล่างด้วย ตอนนี้เรายังไม่มีชื่อชิปอย่างเป็นทางการ แต่ AMD ใช้โค้ดเนมว่า Mendocino มีซีพียู 4 คอร์ 8 เธร็ด แกน Zen 2, ใช้กระบวนการผลิต 6nm TSMC, จีพียูค่อนข้างใหม่หน่อยคือ RDNA 2 เน้นจับตลาดพีซีราคา 399-699 ดอลลาร์ ทั้งที่เป็นวินโดวส์และ Chromebook พีซีรุ่นที่ประกาศใช้ชิปตัวนี้แล้วคือ Lenovo Ideapad 1 โดยจะเปิดตัวสินค้าจริงในไตรมาส 4 ของปีนี้ ในอดีต AMD เคยออกซีพียูราคาถูกที่ใช้แกนตกรุ่นลักษณะเดียวกัน เช่น Ryzen 3000C ที่ใช้แกน Zen 1 ก็เป็นไปได้สูงที่จะใช้ชื่อ Ryzen 4000C หรือ 5000C ทำตลาด ที่มา - AMD, AnandTech
# ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio 2022 for Mac เปลี่ยนมาใช้ UI เนทีฟ, รองรับ Apple Silicon ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio 2022 for Mac เวอร์ชันสมบูรณ์ มีสถานะ general availability (GA) และนับเป็นเวอร์ชัน 17.0 ของใหม่ที่สำคัญของ Visual Studio 2022 for Mac คือการเขียน UI ใหม่ที่เป็น native macOS ทั้งหมดแล้ว รองรับฟีเจอร์ของระบบปฏิบัติการอย่าง VoiceOver และ Voice Control, รองรับ Apple Silicon (ARM64) แบบเนทีฟ ไมโครซอฟท์บอกว่าเปิดโซลูชันใหญ่ๆ เร็วขึ้น 50% เมื่อเทียบกับ Visual Studio 2019 for Mac ในแง่ฟีเจอร์ใหม่คือรองรับ .NET 6, C# 10, Azure Functions v4 รวมถึงได้ฟีเจอร์จาก Visual Studio 2022 ฝั่งวินโดวส์ เช่น หน้าต่าง Git Changes, ลากเพื่อย้ายตำแหน่งของโซลูชัน ไมโครซอฟท์ยังประกาศทดสอบ Visual Studio 2022 for Mac v17.3 Preview 1 ต่อทันที โดยเวอร์ชันนี้จะรองรับ .NET 7 Preview และ .NET MAUI ชุดเขียน UI ข้ามแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ ที่มา - Visual Studio Blog
# Zoom รายงานผลประกอบการไตรมาส รายได้โต 12% ลูกค้าองค์กรเพิ่มเป็นเกือบ 2 แสนราย Zoom รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดเดือนเมษายน รายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 1,073.8 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 113.6 ล้านดอลลาร์ Zoom มีจำนวนลูกค้าระดับองค์กร 198,900 ราย เพิ่มขึ้น 24% และมีลูกค้าที่สร้างรายได้ย้อนหลัง 12 เดือนในระดับมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ จำนวน 2,916 ราย เพิ่มขึ้น 46% Eric S. Yuan ซีอีโอ Zoom กล่าวว่าบริษัทยังเติบโตมีรายได้ระดับเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ ทั้งจากการเจาะตลาดลูกค้าองค์กร ไปจนถึงบริการอย่าง Zoom Rooms และ Zoom Phone ซึ่งตอนนี้มีผู้ใช้งานกว่า 3 ล้านคน ที่มา: Zoom
# Instagram ประกาศรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ เพิ่มฟอนต์ Instagram Sans Instagram ประกาศรีเฟรชแบรนด์ โดยปรับทั้งสีโลโก้ ที่มีคนสังเกตเห็นก่อนหน้านี้ ตลอดจน visual identity ในด้านอื่น ซึ่ง Instagram บอกว่าการปรับปรุงนี้เพื่อให้สะท้อนแบรนด์และชุมชนผู้ใช้งานมากขึ้น เริ่มจากสีพื้นของโลโก้ใหม่ Instagram ที่ทำให้สว่างขึ้น ตัวเฉดสีจัดเรียงผ่านกระบวนการ 3D Modeling ทำให้มีมิติด้านลึกด้วย เฉดสีใหม่นี้จะถูกนำไปใช้สำหรับงานประชาสัมพันธ์แบรนด์ทั้งหมด อีกการเปลี่ยนแปลงคือฟอนต์ โดย Instagram ออกแบบฟอนต์ใหม่ชื่อ Instagram Sans เป็นการออกแบบใช้งานรวมกันมากกว่า 40 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย รูปแบบฟอนต์ระบุว่าสะท้อนจากโลโก้ของ Instagram อีกที มีเน้นองค์ประกอบที่เป็นลูปและเส้นตรง เฉพาะอักษรไทย จะเน้นลูปให้ชัดขึ้นในหัวของตัวอักษร และออกแบบให้บีบข้อความเข้ามา เพื่อให้ใช้พื้นที่น้อยลง ฟอนต์นี้จะเพิ่มเป็นตัวเลือกใช้งานใน Stories และ Reels ที่มา: Instagram
# ซีอีโอ Snap เผยปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบรายได้เร็วและมากกว่าที่คิด ราคาหุ้นร่วง 30% Evan Spiegel ซีอีโอ Snap เจ้าของ Snapchat ออกอีเมลแจ้งพนักงานบริษัท รวมทั้งส่งเอกสารต่อ SEC ระบุว่าผลประกอบการไตรมาสปัจจุบัน จะมีตัวเลขออกมาน้อยกว่าตัวเลขที่เคยประเมินก่อนหน้านี้ทั้งรายได้และกำไร ระบุสาเหตุจากปัญหาเศรษฐกิจภาพใหญ่ที่ส่งผลกระทบรุนแรงและเร็วกว่าที่คิด เขายังบอกว่าบริษัทจะยังคงรับพนักงานใหม่ต่อไป แต่จะไม่รีบเร่งเท่าก่อนหน้านี้ โดยแนวทางนี้จะมีผลไปจนถึงสิ้นปี รวมทั้งให้ผู้จัดการแต่ละฝ่ายตรวจสอบและควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น ผลจากประกาศดังกล่าวทำให้ราคาหุ้น Snap ปรับลดลงทันที 30% ในช่วงหลังปิดตลาดหุ้น ที่มา: CNBC
# งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา คินเดิลรุ่นเก่าๆ จะเข้าใช้งานสโตร์ไม่ได้หลัง 17 สิงหาคม วันนี้ทางอเมซอนร่อนจดหมายถึงผู้ใช้งานในสหรัฐ ระบุว่าหลังวันที่ 17 สิงหาคมนี้ อุปกรณ์คินเดิลรุ่นเก่าๆ จะเข้าใช้งานสโตร์บนเครื่องไม่ได้ มีผลให้ไม่สามารถเข้าไปเลือกดู ซื้อ หรือยืม หนังสือใหม่จากในสโตร์ไม่ได้อีก เครื่องที่กระทบคือ Kindle 2, Kindle DX/DXG, Kindle Keyboard, Kindle 4 และ Kindle 5 Amazon ยังให้ส่วนลด 30% ในการซื้อเครื่องใหม่พร้อมกับเครดิตหนังสือ 40 เหรียญเพื่อเป็นการปลอบใจ แต่ช้าก่อน อ่านมาถึงตรงนี้ก็อย่าเพิ่งรีบโยนเครื่องที่มีอยู่ในมือทิ้งครับ อ่านให้จบก่อน ประกาศนี้ไม่กระทบกับหนังสือที่เรา "ซื้อ" มาแล้ว เรายังสามารถเปิดอ่านในเครื่องได้ และยังเข้าไปดูรายการจาก Archived Items/Library ของเราได้ตามปกติ (ผู้แปล: รวมถึง sideload ก็น่าจะไม่มีผลกระทบ) ที่มา: จดหมายที่ได้รับด้วยตัวเอง
# GitLab ออกเวอร์ชั่น 15 เพิ่มฟีเจอร์สแกนความปลอดภัยคอนเทนเนอร์, Wiki เป็น WYSIWYG GitLab ซอฟต์แวร์จัดการการพัฒนาซอฟต์แวร์ประกาศออกเวอร์ชั่น 15 เพิ่มฟีเจอร์ทั้งเวอร์ชั่นฟรี และเวอร์ชั่นเสียเงิน โดยของเวอร์ชั่นฟรี ได้แก่ การสแกนความปลอดภัยคอนเทนเนอร์ด้วย Trivy หรือ Grype การแก้ไขเอกสาร Wiki แบบ WYSIWYG พร้อม syntax highlight นับร้อยภาษา เพิ่มคอมเมนต์สำหรับวงปิดแม้ issue จะเป็นสาธารณะ เชื่อมองค์กรภายนอก ส่วนฟีเจอร์สำหรับเวอร์ชั่นจ่ายเงินสำคัญคือการรองรับ OpenSearch ที่ AWS แยกโครงการจาก Elasticsearch ออกมา ทำให้รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ OpenSearch ที่มา - GitLab
# สหราชอาณาจักรปรับ Clearview AI เป็นเงิน 320 ล้านบาท ฐานใช้ภาพประชาชนให้บริการค้นหา Information Commissioner's Office (ICO) หน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของสหราชอาณาจักรประกาศปรับบริษัท Clearview AI ฐานใช้ภาพประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสั่งปรับ 7.5 ล้านปอนด์หรือ 320 ล้านบาท พร้อมกับสั่งให้หยุดดาวน์โหลดข้อมูลส่วนบุคคล และลบข้อมูลที่ดาวน์โหลดไปแล้วออกทั้งหมด Clearview AI ดำเนินธุรกิจเก็บภาพใบหน้าจำนวนมากจากอินเทอร์เน็ตแล้วเปิดให้ลูกค้าค้นหาภาพใบหน้าได้ ลูกค้าของบริษัทมักเป็นหน่วยงานรัฐ ทาง ICO ระบุว่าความผิดของ Clearview AI มีหลายประเด็น ได้แก่ ไม่แจ้งประชาชนถึงการใช้งานข้อมูลอย่างเปิดเผย ทำให้เจ้าของข้อมูลไม่ตระหนักว่าข้อมูลอาจถูกใช้งานไปค้นหาใบหน้า ไม่มีเหตุจำเป็นตามกฎหมายในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ไม่มีกระบวนการขอให้หยุดเก็บข้อมูล เมื่อเจ้าของข้อมูลขอตรวจสอบข้อมูลก็ยิ่งขอข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม ตอนนี้ Clearview AI เก็บภาพบุคคลไปแล้วกว่าสองหมื่นล้านภาพจากทั่วโลก ทาง ICO ระบุว่าข้อมูลเช่นนี้ไม่ใช่แค่การค้นหาตัวตนแต่ยังสามารถตรวจสอบพฤติกรรมบุคคลในภาพด้วย ที่มา - ICO ภาพตัวอย่างหน้าจอค้นหาใบหน้าของ Clearview AI
# Tether แถลงถึงเหตุคนไถ่ถอน USDT หมื่นล้านแสดงความแข็งแกร่ง มีเงินหนุนค่าจริง หลังจากมีข่าวถึงการไถ่ถอนเงิน USDT ออกจากตลาดถึงหมื่นล้านดอลลาร์ ตอนนี้ทาง Tether ก็ออกมาอธิบายถึงการทำงานของ USDT ว่าต่างจาก stablecoin อื่นๆ เนื่องจาก USDT มีสินทรัพย์หนุนค่าเต็มจำนวน ทำให้ทุก USDT สามารถไถ่ถอนได้เต็มมูลค่า ทำให้ 1 USD₮ = 1$ เสมอ แม้ว่าตอนนี้หลายตลาดจะซื้อขาย USDT ในราคาต่ำกว่า 1 ดอลลาร์เล็กน้อย ทาง Tether ก็ระบุว่าเป็นเพียงเพราะความอ่อนไหวของตลาดในช่วงนี้เอง และบางครั้ง USDT ก็ซื้อขายในราคาเกิน 1 ดอลลาร์ และราคาอาจจะต่างกันไปแต่ละตลาด ทาง Tether ยืนยันว่าการไถ่ถอน USDT ถึงหมื่นล้านดอลลาร์ในไม่กี่วันไม่ได้แปลว่า USDT อ่อนแอ แต่กลับแสดงว่ากองทุนหนุนค่าแข็งแกร่ง สามารถไถ่ถอนเงินได้เต็มมูลค่าตามที่คนมาไถ่ถอนจริงภายในเวลาไม่กี่วัน ไม่มีธนาคารใดในโลกสามารถเปิดให้ถอนสินทรัพย์ออกจากธนาคารได้เกิน 10% ภายในไม่กี่วันเหมือน USDT อีกประเด็นที่ USDT ถูกตั้งคำถามคือประเภทของสินทรัพย์ในกองทุนว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยง ทาง Tether ระบุว่าตอนนี้กองทุนเป็นพันธบัตรสหรัฐฯ (ซึ่งซื้อขายได้ง่าย) สูงถึง 55% แล้ว ขณะที่ตราสารอื่นๆ (commercial paper) ลดลงเหลือต่ำกว่า 29% พร้อมกับเตรียมจะปรับมาถือพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีกในอนาคตเพื่อคงสภาพคล่องให้พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง ที่มา - Tether
# เริ่มยุคสมัยใหม่ AMD เปิดตัวซ็อคเก็ต AM5 อย่างเป็นทางการ พร้อมชิปเซ็ต 3 รุ่นแรก AMD เปิดตัวซ็อคเก็ตใหม่ AM5 อย่างเป็นทางการ ถือเป็นจุดสิ้นสุดของซ็อคเก็ต AM4 ที่ใช้กันมายาวนาน ซ็อคเก็ต AM5 เป็นแบบ 1718 พิน, รองรับค่า TDP สูงสุด 170W, แรม DD5 แบบดูอัลแชนเนล, สล็อต PCIe 5.0 สูงสุด 24 เลน, รองรับ SuperSpeed USB สูงสุด 14 พอร์ต, HDMI 2.1 และ DisplayPort 2 รวมสูงสุด 4 พอร์ต, Wi-Fi 6E และ Bluetooth LE 5.2 ชิปเซ็ต AM5 เจเนเรชันแรกที่เปิดตัวมี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ X670 Extreme ชิปเซ็ตตัวบนสุด โอเวอร์คล็อคได้เยอะที่สุด, PCIe 5.0 รองรับจีพียู 2 สล็อต และสตอเรจ 1 สล็อต X670 ชิปเซ็ตตัวรองลงมา โอเวอร์คล็อตได้, PCIe 5.0 รองรับสตอเรจ 1 สล็อต และอาจใส่จีพียูเพิ่มได้ B650 ชิปเซ็ตใช้งานทั่วไป เน้นประสิทธิภาพสูง PCIe 5.0 รองรับสตอเรจ 1 สล็อต เบื้องต้นมีพาร์ทเนอร์ร่วมเปิดตัวบอร์ด AM5 แล้ว 5 รายคือ ASRock, ASUS, Biostar, Gigabyte, MSI นอกจากนี้ AMD ยังร่วมกับพาร์ทเนอร์คือ Crucial, Micron, Phison เปิดตัวสตอเรจความเร็วสูงที่เป็น PCIe 5.0 มีอัตราการอ่านแบบต่อเนื่อง (seq. read) เพิ่มขึ้นกว่า 60% ที่มา - AMD
# AMD โชว์ซีพียู Ryzen 7000 ใช้แกน Zen 4, ผลิตที่ 5nm, รองรับ DDR5 และ PCIe 5.0 AMD ประกาศข้อมูลเพิ่มเติมของซีพียู Ryzen 7000 ที่หลายคนรอคอย ใช้แกน Zen 4 และการผลิตที่ 5 นาโนเมตร ถือเป็นซีพียูรุ่นแรกที่ใช้การผลิตระดับนี้ ตัวสถาปัตยกรรม Zen 4 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ เพิ่มจำนวนแคช L2 ต่อคอร์เป็น 1MB (มากกว่าเดิมเท่าตัว), บูสต์คล็อคสูงสุดเพิ่มเป็น 5GHz+, มีประสิทธิภาพเธร็ดเดี่ยวเพิ่มขึ้น 15% ตัวแกนซีพียูใช้การผลิตระดับ 5nm แล้วนำมาประกบคู่กับ I/O die ที่ใช้การผลิตระดับ 6 nm ซึ่งมีจีพียูใหม่ที่เป็นสถาปัตยกรรม RDNA 2 (ยังไม่ระบุรายละเอียด) รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง DDR5 และ PCIe 5.0 ที่ฝั่งอินเทลรองรับไปก่อนแล้วตั้งแต่ต้นปี ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลรุ่นย่อยและวันวางจำหน่ายของ Ryzen 7000 แต่ซีอีโอ Lisa Su ก็หยิบชิปตัวจริงขึ้นมาโชว์ในงาน และระบุขึ้นว่ามีประสิทธิภาพในการรัน Blender แบบมัลติเธร็ดสูงกว่า Core i9-12900K ราว 30% ซีพียู Ryzen 7000 จะต้องใช้คู่กับซ็อคเก็ตใหม่ AM5 ซึ่ง AMD เปิดตัวชิปเซ็ตชุดใหม่ออกมาพร้อมกับเมนบอร์ด AM5 จากผู้ผลิตหลายราย ที่มา - AMD
# Xiaomi ร่วมมือกับ Leica พัฒนาสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ รอเปิดตัวเดือน ก.ค. 2022 Xiaomi ประกาศอย่างเป็นทางการว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพาร์ตเนอร์เชิงกลยุทธ์ระยะยาวกับ Leica แบรนด์กล้องถ่ายรูปชื่อดังจากเยอรมนี และอยู่ระหว่างพัฒนาสมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงที่จะเปิดตัวในเดือน ก.ค. 2022 ถือเป็นหนึ่งในความร่วมมือที่จะช่วยให้ Xiaomi แข็งแกร่งในเรื่องกล้องบนสมาร์ตโฟนมากขึ้น เบื้องต้นทีมงานทั้งสองแบรนด์จะทำงานร่วมกันที่ปักกิ่ง เพื่อวิจัย และพัฒนากล้องถ่ายภาพ และระบบประมวลผลเกี่ยวกับภาพในสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่เตรียมเปิดตัว ส่วนรายละเอียดของสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ เช่น คุณสมบัติอื่น ๆ และราคา รวมถึงชื่อรุ่น ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา อย่างไรก็ตาม Xiaomi ไม่ใช่สมาร์ตโฟนแบรนด์จีนรายเดียวในตอนนี้ที่ประกาศความร่วมมือกับแบรนด์เกี่ยวกับกล้องถ่ายรูป เพราะ Vivo มีการทำความร่วมมือกับ Zeiss เพื่อพัฒนาสมาร์ตโฟนรุ่น X80 ส่วน Oppo และ OnePlus มีการร่วมมือกับ Hasselblad เพื่อทำตลาดสมาร์ตโฟนรุ่น Find X5 และ OnePlus 10 Pro อ้างอิง // Engadget, ภาพจาก Twitter ของ Xiaomi
# Corsair เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิง Voyager a1600 AMD Advantage Edition ราคาเริ่ม 92,000 บาท Corsair เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิงรุ่นแรกของแบรนด์ ใช้ชื่อว่า Corsair Voyager a1600 AMD Advantage Edition ใช้ซีพียู และการ์ดจอของ AMD รองรับการใช้งานเล่นเกม และสตรีมมิงเต็มรูปแบบ มีหน้าจอขนาดเล็กด้านบนที่ใช้เป็นปุ่มควบคุมการทำงานต่าง ๆ ได้ (คล้ายที่เคยมีใน MacBook Pro) ราคาเริ่ม 92,000 บาท การเปิดตัวโน้ตบุ๊กของ Corsair ถือเป็นครั้งแรกของแบรนด์ เพราะปกติจะทำตลาดชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น แรม, อุปกรณ์ระบายความร้อน และเคส เป็นต้น ถือเป็นการก้าวตาม Razer แบรนด์อุปกรณ์เกมมิงที่ภายหลังเริ่มทำตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิงเช่นกัน Corsair Voyager a1600 AMD Advantage Edition มีสองรุ่น คือรุ่นที่ใช้ซีพียู AMD Ryzen 7 6800HS กับรุ่นที่ใช้ซีพียู AMD Ryzen 9 6900HS ทั้งคู่ใช้การ์ดจอ Radeon RX 6800M แต่รุ่นเริ่มต้นจะมาพร้อมกับแรม 32 GB และ NVMe SSD ความจุ 1 TB ส่วนรุ่นท๊อปมากับแรม 64 GB และ NVMe SSD ความจุ 2 TB ส่วนหน้าจอของทั้งสองรุ่นจะมีขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 2,560 x 1,600 พิกเซล 240 Hz อัตราส่วน 16:10 นอกจากนี้ยังตอบโจทย์เกมเมอร์ด้วยคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานที่มากับ Switch แบบ Cherry MX Ultra-low Profile และเว็บแคมความละเอียด 1080p ไฮไลต์ของรุ่นนี้คือหน้าจอขนาดเล็กแต่ยาวบริเวณด้านบนคีย์บอร์ดที่มี 10 ปุ่มย่อยให้กดใช้งาน และสามารถตั้งค่าปุ่มเหล่านั้นให้ทำงานต่าง ๆ ได้ เช่น การเปลี่ยนฉากระหว่างสตรีมเกม เป็นต้น พอร์ตเชื่อมต่อมีทั้ง Thunderbolt 3, USB-A, SDXC Card และช่องหูฟัง 3.5 มม. รองรับ WiFi 6E และ Bluetooth 5.2 จุดบางที่สุดของตัวเครื่องอยู่ที่ 19.9 มม. น้ำหนักรวม 2.4 กก. โดยราคาของรุ่นซีพียู Ryzen 7 อยู่ที่ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 92,000 บาท และรุ่นที่ใช้ซีพียู Ryzen 9 อยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์ หรือราว 102,000 บาท แต่ทาง Corsair ยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ อ้างอิง // Engadget, ภาพจาก Corsair
# Mastercard เปิดบริการจ่ายเงินด้วยใบหน้าหรือลายนิ้วมือ Mastercard เปิดโครงการ Biometric Checkout เป็นเฟรมเวิร์คสำหรับบริษัทพันธมิตรเข้ามาให้บริการจ่ายเงินแบบใช้เพียงใบหน้าหรือลายนิ้วมือ โดยการทดสอบครั้งแรกจะเริ่มในบราซิล พันธมิตรที่ร่วมทดสอบกลุ่มแรก ได้แก่ NEC, Payface, Aurus, PaybyFace, PopID, และ Fujitsu Limited ในบราซิลจะเป็นการทดสอบกับบริษัท Payface ก่อน โดยเฟรมเวิร์คจะกำหนดแนวทางการรักษาความปลอดภัย, ประสิทธิภาพของระบบ biometric ที่ใช้งาน, และการเก็บรักษาข้อมูล biometric ผู้ใช้ที่ร่วมทดสอบกับ Payface จะต้องลงทะเบียนใบหน้าผ่านแอป Payface ก่อน จากนั้นเมื่อเข้าคิวจ่ายค่าสินค้า ก็สามารถจ่ายได้ทันทีเพียงแค่ยิ้มให้กับกล้อง ประโยชน์สำหรับผู้จ่ายคือไม่ต้องหาบัตร ขณะที่ร้านค้าเองก็น่าจะทำให้คิวจ่ายเงินใช้เวลาน้อยลง การยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติ (biometric) นั้นมีข้อจำกัดที่ความแม่นยำจะต่ำกว่าการยืนยันด้วยกระบวนการเข้ารหัสลับ เช่น ในชิปบัตรเครดิตทุกวันนี้ ที่ผ่านมา Mastercard เองก็ใช้เทคโนโลยีกลุ่มนี้ร่วมกับการยืนยันด้วยบัตรเครดิตที่มีตัวอ่านลายนิ้วมือ หรือยืนยันตัวตนกับโทรศัพท์มือถือผ่านโปรโตคอล FIDO อีกชั้น น่าสนใจว่าการใช้ใบหน้าหรือลายนิ้วมือเพียงอย่างเดียวจะมีความแม่นยำเพียงพอหรือไม่ ตลอดจนทนทานต่อความพยายามปลอมแปลงตัวหรือเปล่า ที่มา - Mastercard
# Twisted Metal เตรียมกลายเป็นซีรีส์ตอนละ 30 นาที และมีอดีตนางเอกหนัง Scream ร่วมแสดง Twisted Metal เกมระดับตำนานจากเครื่อง PlayStation เตรียมกลายเป็นซีรีส์เรื่องยาวตอนละ 30 นาที และมีนักแสดงชั้นนำรับงานแสดงเรื่องนี้ เช่น Anthony Mackie ผู้แสดงเป็น Falcon ในภาพยนตร์ของ Marvel Studios ล่าสุด Neve Campbell นักแสดงนำจากเรื่อง Scream ตอบรับเป็นนักแสดงรับเชิญของเรื่องนี้เช่นกัน Neve Campbell จะแสดงเป็น Raven หนึ่งในตัวละครของเกม Twisted Metal มีการแต่งกายเป็นสีดำหม่น ๆ ขับรถชื่อ Shadow ปรากฎตัวครั้งแรกในเกม Twisted Metal: Black ที่เปิดตัวเมื่อปี 2001 บนเครื่อง PlayStation 2 พัฒนาโดย Incognito Entertainment สำหรับซีรีส์ Twisted Metal ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องกำหนดฉาย แต่ตัวเนื้อเรื่องจะมาในแนว Action Comedy ดำเนินเนื่องเรื่องผ่านตัวละคร John Doe (นำแสดงโดย Anthony Mackie) ตัวละครจริงของเกมนี้ที่ต้องการขับรถข้ามดินแดนล่มสลายในยุค Post-Apocalyptic เขามี Quiet (นำแสดงโดย Stephanie Beatriz) เป็นผู้ช่วยในการดำเนินภารกิจดังกล่าว โดยทั้งคู่ต้องเผชิญกับตัวละครดั้งเดิมจากเกม Twisted Metal และก่อนหน้าเป็นซีรีส์ เกมดังกล่าวเคยเกือบจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2012 แต่สุดท้ายโปรเจคดังกล่าวล่ม และกลายเป็นซีรีส์แทน อ้างอิง // Gizmodo ภาพจาก PlayStation Blog
# ASML โชว์เครื่องผลิตชิป รุ่น High-NA เริ่มส่งมอบปี 2024 จองเต็มไปถึงปี 2025 แล้ว ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับโรงงานผลิตชิปเปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่าเครื่องจักรรุ่นต่อไปมีความก้าวหน้าตามกำหนด คาดว่าเครื่องทดสอบจะสำเร็จภายในครึ่งแรกของปี 2023 และสามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ในช่วงปี 2024-2025 เครื่องรุ่นต่อไปเป็นเทคโนโลยีการผลิต High-NA EUV ที่น่าจะช่วยย่อความละเอียดวงจรลงไปได้ถึงระดับ 2nm หรือเล็กกว่านั้น ตัวเครื่องมีราคาประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท ตัวเครื่องใหญ่กว่าเครื่องรุ่นก่อนหน้า 30% การขนย้ายจะต้องใช้เครื่อง 747 ถึง 3 เที่ยวบิน ตอนนี้มีผู้ผลิตชิปสั่งจองเครื่องรุ่นทดสอบ (pilot machine) มาแล้ว 5 เครื่องที่จะส่งมอบภายในปี 2024 และมากกว่า 5 เครื่องที่เป็นรุ่นปกติจะส่งมอบปี 2025 เป็นต้นไป ทาง ASML ไม่ได้ระบุว่าลูกค้าเป็นใครบ้าง แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยประกาศว่าอินเทลเป็นผู้ซื้อรายแรก เช่นเดียวกับผู้ผลิตชิปที่ติดปัญหาซัพพลายเชนจนไม่มีสินค้าขาย ตัว ASML เองก็ติดปัญหาเดียวกัน ช่วงปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่ดียิ่งของ ASML บริษัทมียอดขาย 18.6 พันล้านยูโร กำไรขั้นต้น 52.7% และมีงบลงทุนปีละ 2.5 พันล้านยูโร ที่มา - Reuters ภาพเครื่อง ASML EXE:5000 High-NA EUV โดย ASML
# Xbox Series X|S มียอดขายแซง PlayStation 5 ในประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 9-15 พ.ค. สำนักข่าว Famitsu รายงานว่า ระหว่างวันที่ 9-15 พ.ค. 2022 ยอดขาย Xbox Series X|S ในประเทศญี่ปุ่นมีมากกว่า PlayStation 5 ทั้งแบบมี และไม่มีช่องใส่แผ่น ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของ Microsoft ที่พยายามทำตลาด Xbox ในประเทศญี่ปุ่นมาครบ 20 ปี เมื่อเดือน มี.ค. 2022 หากเจาะไปที่ยอดขายของ Xbox Series X|S ในช่วงเวลาดังกล่าวพบว่า Xbox Series S มียอดขาย 6,120 เครื่อง ส่วน Xbox Series X มียอดขาย 105 เครื่อง ส่วน PlayStation 5 แบบมีช่องใส่แผ่น มียอดขาย 2,240 เครื่อง และแบบไม่มีช่องใส่แผ่น 453 เครื่อง อย่างไรก็ตามยอดขายของ Xbox Series X|S และ PlayStation 5 เทียบไม่ได้กับ Nintendo Switch ที่ช่วงเวลาดังกล่าวจำหน่ายได้รวมกว่า 65,000 เครื่อง แบ่งเป็นรุ่น OLED 35,868 เครื่อง, รุ่นปกติกล่องแดง 20,443 เครื่อง และรุ่น Lite 9,011 เครื่อง Xbox เริ่มทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ Xbox รุ่นแรก หากนับถึงเดือน มี.ค. 2022 จะเป็นเวลา 20 ปีพอดี โดย Famitsu รายงานว่า Microsoft สามารถจำหน่าย Xbox ในประเทศญี่ปุ่นได้แค่ 2.3 ล้านเครื่อง โดยรุ่นที่จำหน่ายได้ดีที่สุดคือ Xbox 360 ที่ทำได้ถึง 1.6 ล้านเครื่อง อ้างอิง // TechRedar ภาพจาก Xbox
# Tesla เตรียมสร้างโรงหนังแบบ Drive-in พร้อมร้านอาหาร และตู้ Supercharger ที่ Hollywood Tesla อยู่ระหว่างยื่นแบบเพื่ออนุญาตสร้างโรงภาพยนตร์ที่ขับรถเข้าไปชมได้ หรือ Drive-in Theater ที่ภายในนั้นมีร้านอาหาร และตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูง Supercharger ในย่าน Hollywood สหรัฐอเมริกา ให้บริการ 24 ชม. พร้อมตั้งชื่อโครงการนี้ว่า Supercharger Diner & Drive-in โครงการดังกล่าวกินพื้นที่ 0.565 เอเคอร์ หรือราว 1.37 ไร่ โดยจะแบ่งเป็น 2 โซนคือ โซนภายในอาคาร กับโซนนอกอาคาร มี 34 ช่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดย 29 ช่องใช้ตู้ชาร์จ Supercharger ส่วนที่เหลือเป็นตู้ชาร์จแบบ Level 2 (เทียบเท่ากับตู้ชาร์จที่ติดตั้งในบ้าน) จุดเด่นของโครงการนี้คือมีหน้าจอฉายภาพยนตร์ 2 หน้าจอ ติดตั้งไว้ทางเหนือ และตะวันตกของโครงการ โดยจะฉายภาพยนตร์ หรือรายการต่าง ๆ ความยาวประมาณ 30 นาที เทียบเท่ากับการชาร์จเต็มด้วยตู้ Supercharger และหน้าจอนี้รับชมได้ทั้งจากในรถยนต์ และจากร้านอาหารของโครงการ อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างขออนุญาตหน่วยงานราชการของพื้นที่นี้ ดังนั้นรายละเอียดต่าง ๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้เมื่อไร แต่ถือเป็นมิติใหม่ของบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ในที่สุดก็มีคอมเพล็กซ์แบบย่อม ๆ มาให้ใช้บริการระหว่างรอแบตเตอรี่เต็ม อ้างอิง // Electrek ภาพจาก Tesla
# ผู้ใช้ยังไถ่ถอนเหรียญ USDT ต่อเนื่อง ล่าสุดครบหมื่นล้านดอลลาร์แล้ว หลังเหตุการณ์ราคาเหรียญ UST หลุดราคาที่ผูกค่าไว้กับดอลลาร์ เหรียญที่ผูกค่าไว้กับดอลลาร์อื่นๆ ก็กระทบไปตามๆ กัน โดยเหรียญที่ใหญ่ที่สุดคือ USDT นั้นก็ยังคงมีมูลค่าต่ำกว่า 1 ดอลลาร์เล็กน้อย USDT มีสินทรัพย์หนุนค่าเต็มจำนวน ทำให้ผู้ถือสามารถนำเหรียญไปไถ่ถอนจากทาง Tether ผู้ออกเหรียญได้ ผลคือเมื่อราคา USDT ในตลาดมีราคาต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ก็จะมีคนซื้อออกไปไถ่ถอนอย่างต่อเนื่อง ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้มีการไถ่ถอนไปแล้วถึงหมื่นล้านดอลลาร์ รายงานตรวจสอบบัญชีเงินสำรองของ Tether เมื่อสิ้นเดือนมีนาคม มีสินทรัพย์หนุนค่า USDT ทั้งหมดกว่า 82,424 ล้านดอลลาร์ แต่เป็นเงินสดหรือเงินฝากจริงๆ เพียง 4,100 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ที่เหลือเป็นตราสารอื่นๆ การที่ USDT ถูกไถ่ถอนไปมากขนาดนี้แสดงว่าทาง Tether เริ่มต้องขายตราสารต่างๆ ออกมาเป็นเงินสดโอนให้ผู่ไถ่ถอนแล้ว และความน่ากังวลบางส่วนคือการนำกองทุนสำรองนี้ไปลงทุนเสี่ยงสูง เช่นการลงทุนใน Celsius network ที่ตอนนี้เหรียญมูลค่าลดไปมาก แต่หากเทียบกับขนาดกองทุนรวมของ Tether แล้วก็ยังมีการลงทุนไม่มาก ที่มา - The Guardian ราคา USDT ช่วงเดือนพฤษภาคม 2022 จาก Coinmarketcap
# MultiVersus เกมต่อสู้จาก Warner Bros. ที่มาท้าชิงบัลลังก์จาก Super Smash Bros. เกมต่อสู้ใหม่ที่น่าจับตาของปี 2022 คือ MultiVersus ซึ่งเป็นการครอสโอเวอร์ของตัวละครในอาณาจักร Warner Bros. อย่าง DC Comics, Scooby Doo, Looney Tunes, Game of Thrones, Tom and Jerry และ Adventure Time MultiVersus เป็นเกมต่อสู้แบบ 2v2 บนฉากที่ตกขอบได้ ลักษณะเดียวกับ Super Smash Bros. ทุกประการ (มีโหมด 1v1 และ 4-Player ด้วย) แต่เป็นเกมแบบ free-to-play ลงทั้ง PS4/PS5, Xbox One, Xbox Series X|S และพีซี แถมยังรองรับการเล่นแบบ cross-play ข้ามแพลตฟอร์มด้วย ในแง่ของการเข้าถึงจึงน่าจะกว้างกว่า Super Smash Bros. มาก (แถม Warner Bros. ยังนำเกมไปร่วมจัดทัวร์นาเมนต์ไฟติ้ง Evo ที่นินเทนโดไม่ยอมไปด้วย) เกม MultiVersus พัฒนาโดยสตูดิโอ Player First Games ซึ่งเป็นสตูดิโอตั้งใหม่จากแอลเอ แต่ทีมก่อตั้งเคยอยู่ใน Riot Games, ทีมสร้าง God of Wars และ Disney Infinity มาก่อน โดยมี Warner Bros. Entertainment Inc. เป็นผู้จัดจำหน่าย เกมเริ่มเปิดทดสอบแบบ closed beta แล้ว และจะเปิดให้เล่นอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2022 มีตัวละครชุดแรก 16 ตัว บางตัวอย่าง Batman, Superman, Wonder Woman, Arya Stark จำเป็นต้องใช้เหรียญในเกมซื้อถึงเล่นได้ Batman (DC) Superman (DC) Wonder Woman (DC) Harley Quinn (DC) Bugs Bunny (Looney Tunes) Arya Stark (Game of Thrones) Jake the Dog (Adventure Time) Finn the Human (Adventure Time) Steven Universe Garnet (Steven Universe) Tom and Jerry Reindog (New character) Velma (Scooby Doo) Shaggy (Scooby Doo) The Iron Giant Taz (Looney Tunes) ที่มา - MultiVersus, Eurogamer
# รีวิวฮาร์ดดิสก์ Seagate รุ่น Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox ในยุคที่เกมระดับ AAA จนถึงเกมอินดี้มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขนาดบางเกมกินเนื้อที่หลายร้อย GB จึงไม่แปลกที่คนเล่นเครื่องคอนโซลจะมีปัญหากับการบริหารพื้นที่เก็บข้อมูลเกม และต้องหาอุปกรณ์สำรองข้อมูลมาช่วยจัดการ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสก์จานหมุนขนาดใหญ่ หรือ SSD ที่รวดเร็วในการรับส่งข้อมูล วันนี้ทีมงาน Blognone มีโอกาสทดสอบใช้งาน Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox จาก Seagate อุปกรณ์สำรองข้อมูลภายนอกแบบฮาร์ดดิสก์จานหมุนความจุ 2 TB ที่แตกต่างกับอุปกรณ์สำรองข้อมูลภายนอกอื่น ๆ เพราะออกแบบมาให้รองรับ Xbox Series X|S และ Xbox One โดยเฉพาะ ความแตกต่างดังกล่าวจะดีกว่าอุปกรณ์สำรองข้อมูลภายนอกแบบฮาร์ดดิสก์จานหมุนรุ่นอื่น ๆ แค่ไหน การรับส่งข้อมูลของ Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox ที่ช้ากว่า SSD เก็บข้อมูลในเครื่อง จะลดอรรถรสการเล่นเกมหรือไม่ และมันคุ้มค่าที่จะจ่ายหรือไม่ ทีมงาน Blognone อยากชวนมาร่วมหาคำตอบด้วยกันครับ ดึงดูดใจด้วยสีเขียว และ Master Chief แม้จะเป็นสีเขียวตุ่น ๆ แต่หากวางไว้ในร้านจำหน่ายสินค้าไอที Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox น่าจะสร้างแรงดึงดูดให้ผู้หาซื้ออุปกรณ์สำรองข้อมูลภายนอกได้ไม่น้อย เพราะด้วยสีเขียวที่ดูแปลกตา แถมมี Master Chief ตัวละครเอกจากแฟรนไชส์เกม Halo อยู่บนกล่อง นอกจากสีเขียว และ Master Chief ยังมีโลโก้ Xbox ที่สื่อให้เห็นว่า อุปกรณ์สำรองข้อมูลตัวนี้รองรับการใช้งานกับเครื่องเกม Xbox รุ่นต่าง ๆ แน่นอน แถมยังมีสติ๊กเกอร์ RGB บนกล่อง ช่วยบอกว่า ผลิตมาเพื่อเกมเมอร์ที่ชอบไฟซิ่ง และคำระบุเล็ก ๆ ด้านล่างว่า ผลิตภัณฑ์นี้แถม Halo Sticker Pack เพิ่มความประทับใจให้แฟนเกมนี้อีกระดับ ส่วนภายในกล่องเมื่อเปิดมาจะพบ Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox ที่ออกแบบเหมือนกับอกด้านซ้ายของ Master Chief ส่วนด้านหลังก็เหมือนด้านหลังของ Master Chief เช่นกัน มีขนาดของอุปกรณ์นี้ที่ 14.5×80×122.5 มม. หนักเพียง 253 ก. พร้อมสายเชื่อมต่อข้อมูล USB 3.0 ความยาว 45.72 ซม. และคู่มือ กับใบรับประกัน ใช้งานง่าย แต่ต้องทำใจเรื่องความช้า สำหรับการใช้งาน Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox ตามคู่มือแจ้งว่า ผู้ใช้เพียงเสียบสาย USB 3.0 เข้าไปที่ตัวอุปกรณ์นี้ และเสียบสายอีกด้านเข้าไปที่ตัวเครื่อง Xbox หลังจากนั้น Xbox จะทำการ Format เพื่อให้อุปกรณ์นี้พร้อมใช้งาน หลังจากนั้นผู้ใช้สามารถโอนย้ายข้อมูลต่าง ๆ ในเครื่อง Xbox ได้ทันที ซึ่งหลังจากทดสอบทีมงานก็พบว่าเป็นจริงอย่างที่แจ้งไว้ แต่เรื่องโอนย้ายข้อมูล อาจไม่ทันใจคนที่ใช้เครื่อง Xbox Series X|S เพราะความเร็วในการรับส่งข้อมูลนั้นเทียบไม่ได้กับ NVME SSD ภายในเครื่อง ซึ่งอยู่ที่ว่าตัวเกมที่ผู้ใช้อยากเอาไปเก็บมีขนาดใหญ่แค่ไหน โดยการทดสอบย้ายเกมขนาด 50 GB จากที่เก็บข้อมูลในเครื่องไปที่ Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox ใช้เวลากว่า 20 นาทีเทียบไม่ได้กับการติดตั้งเกมลงบนที่เก็บข้อมูลในเครื่องที่ขนาดเดียวกันใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ส่วนการเล่นเกมก็ต้องยอมรับว่าการโหลดฉากต่าง ๆ ทำได้ช้ากว่าการเล่นด้วยที่เก็บข้อมูลในเครื่องหลายเท่า โดยเฉพาะกับเกมยุคเครื่อง Xbox One ที่บางครั้งก็ดูช้ากว่าที่ควรจะเป็นพอสมควร เล่นเอาประสบการณ์การเล่นเกมแย่ไปเลยในบางครั้ง เล่นเกม Optimized for Xbox Series X|S ไม่ได้ ที่สำคัญ Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox ถึงจะสามารถย้ายเกม Optimized for Xbox Series X|S ที่ส่วนใหญ่มีขนาดกว่า 50 GB จากที่เก็บข้อมูลในเครื่องไปไว้ได้ แต่เกมเหล่านั้นไม่สามารถเล่นได้จากอุปกรณ์สำรองข้อมูลตัวนี้ เพราะ Xbox มองว่า ความเร็วในการรับส่งข้อมูลช้าไป จึงอนุญาตแค่ให้เก็บข้อมูลเกมกลุ่มดังกล่าวเท่านั้น เรียกว่าสร้างประโยชน์ได้ไม่เต็มที่เท่าไรนัก เพราะทำได้แค่เป็นตัวเก็บข้อมูลเท่านั้น หากอยากเพิ่มความจุให้เครื่อง และสามารถเล่นเกมจากอุปกรณ์สำรองข้อมูลได้จริง ต้องไปซื้อ Seagate Storage Expansion Card for Xbox Series X|S ที่ใช้ช่องพิเศษ และมีเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลตัวเดียวกับตัวเครื่อง แต่ด้วยราคาเริ่มต้นในประเทศไทยที่ 5,990 บาทในรุ่นความจุ 512 GB ก็คงต้องทำใจกันหน่อยตอนซื้อ นอกจากนี้หาก Format เพื่อใช้กับ Xbox แล้ว Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox จะไม่สามารถใช้เชื่อมต่อเพื่อเก็บ หรือโอนถ่ายข้อมูลให้กับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ Xbox ได้ ทำให้อุปกรณ์สำรองข้อมูลชิ้นนี้ทำได้เพียงเก็บเกมใหม่ที่ Optimized for Xbox Series X|S กับใช้เก็บและเล่นเกมเก่าเพื่อไม่ให้กินที่ตัวเก็บข้อมูลในเครื่อง Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox เหมาะกับใคร ถ้าให้สรุปว่า Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox เหมาะกับใคร ก็คงต้องเหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่ม ไม่อยากลบเกมทิ้ง และดาวน์โหลดมาใหม่ โดยเฉพาะผู้ใช้ Xbox Series S ที่มีที่เก็บข้อมูลในเครื่องเพียง 512 GB ลงเกม AAA ไม่กี่เกมก็เต็มแล้ว แต่มีงบประมาณจำกัด และชื่นชอบ Halo เป็นชีวิตจิตใจ เพราะอุปกรณ์สำรองข้อมูลแบบฮาร์ดดิสก์จานหมุนอาจไม่เหมาะกับผู้เล่นเกมยุคนี้ที่คุ้นชินกับความเร็วในการโหลดแต่ละฉาก และมันคงทำได้แค่สำรองข้อมูลตามหน้าที่มันจริง ๆ หากต้องการเล่นเกมในนั้น ส่วนตัวอยากแนะนำให้ย้ายกลับมาไว้ในเครื่องก่อน ซึ่งระยะเวลาในการย้ายส่วนใหญ่จะเร็วกว่าการดาวน์โหลดลงมาใหม่ หรือยอมเพิ่มเงินอีกนิด เพื่อแลกกับอุปกรณ์สำรองข้อมูลแบบ SSD และไม่มีลวดลาย Halo สำหรับ Halo Infinite Special Edition Game Drive for Xbox เริ่มต้นที่ 2,990 บาท ในรุ่นความจุ 2 TB และ 4,990 บาท ในรุ่นความจุ 5 TB สามารถหาซื้อได้จากช่องทางออนไลน์ของ Seagate และร้านพาร์ตเนอร์ของ Seagete ที่มีทั้งร้านค้าจำหน่ายสินค้าไอที และร้านจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับเกม อ้างอิง // seagate
# [ลือ] Broadcom เจรจาซื้อกิจการ VMware สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง เผยว่า Broadcom บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ กำลังเจรจาเพื่อซื้อกิจการ VMware โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาตกลงมูลค่า มูลค่ากิจการของ VMware ล่าสุดตามราคาในตลาดหุ้นอยู่ที่ 4.03 หมื่นล้านดอลลาร์ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดคือ Michael Dell ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Dell Technologies ซึ่งเป็นผลจากแยก VMware ออกมาจาก Dell Technologies เมื่อปีที่แล้ว ที่ผ่านมา Broadcom กระจายการลงทุนไปในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับการผลิตชิปมีหลายปีแล้ว โดยเน้นลงทุนในซอฟต์แวร์สำหรับลูกค้าองค์กร ตั้งแต่ดีล CA Technologies ในปี 2018 และ Symantec ส่วนลูกค้าองค์กร ในปี 2019 ที่มา: Reuters
# Valve ประกาศจัดงาน The International 2022 ที่สิงคโปร์ Valve ประกาศจัดงานแข่ง The International 2022 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ (ยังไม่ระบุวันที่ชัดเจน) โดยจัดที่สนาม Singapore Indoor Stadium งานแข่งขัน Dota 2 ชิงแชมป์โลกรายการ The International ต้องหยุดชะงักจากสถานการณ์ COVID-19 โดยหยุดจัดงานในปี 2020 ไปเลย ส่วน งานปี 2021 ที่ประเทศโรมาเนีย สุดท้ายต้องจัดแบบออฟไลน์เฉพาะผู้เข้าแข่งขันเท่านั้น (ผู้ชมดูออนไลน์อย่างเดียว) การจัดงาน The International ที่สิงคโปร์ ช่วยให้แฟนเกมบ้านเราเดินทางไปดูกันได้ง่ายขึ้นมาก งานที่เคยจัดในทวีปเอเชียก่อนหน้านี้คือ The International 2019 จัดที่เซี่ยงไฮ้
# HP ขยายไลน์โน้ตบุ๊กเกมมิ่ง Victus 15 เพิ่มรุ่น 15.6", อัพเกรดสเปก HP Omen 16 Laptop HP มีแบรนด์เกมมิ่ง Omen มานานพอสมควร และเมื่อปีที่แล้วออกแบรนด์ Victus มาทำตลาดพีซีเกมมิ่งที่ถูกลงกว่า Omen โดยเริ่มจากโน้ตบุ๊ก HP Victus 16 รุ่นหน้าจอ 16" ปีนี้ HP ขยายไลน์โน้ตบุ๊ก Victus เพิ่มรุ่น 15.6" เข้ามาด้วย สเปกคร่าวๆ คือหน้าจอความละเอียด FHD 144Hz, ซีพียูเลือกได้ทั้ง Intel (สูงสุด Core i7-12700H) และ AMD (สูงสุด Ryzen 7 5800H), จีพียูเลือกได้ GeForce RTX 3050 Ti หรือ Radeon RX 6500M, ใส่สตอเรจ SSD PCIe สูงสุด 1 TB HP Victus 15 มีให้เลือก 3 สีคือ เงิน น้ำเงิน ขาว ราคาเริ่มต้น 799.99 ดอลลาร์ เริ่มขายช่วงกลางปีนี้ สินค้าแบรนด์ Omen ก็มีอัพเดตสเปกของปี 2022 ด้วยเช่นกันคือ HP Omen 16 Laptop ใช้หน้าจอ IPS ขนาด 16" ความละเอียด QHD อัตรารีเฟรช 165Hz อัตราตอบสนอง 3ms, ซีพียูสูงสุด Core i9-12900H หรือ Ryzen 9 6900HX, จีพียูสูงสุด GeForce RTX 3070 Ti หรือ Ryzen RX 6650M, แรมสูงสุด 32GB DDR5 4800MHz, สตอเรจสูงสุด 2TB PCIe 4 HP บอกว่าปรับปรุงระบบระบายความร้อนของ Omen 16 ใหม่ เพิ่มฮีทไปป์ตัวที่ 5 และช่องระบายอากาศที่ 4 เข้ามาอีก ลดอุณหภูมิด้านใต้ SSD ลงได้ 14% และเสียงเงียบลง 5% นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ความร้อนช่วยวัดอุณหภูมิซีพียูและจีพียูได้แบบเรียลไทม์ HP Omen 16 Laptop มีราคาเริ่มต้นที่ 1199.99 ดอลลาร์ เริ่มวางขายช่วงกลางปี ที่มา - HP
# Google Chat จะเพิ่มแบนเนอร์แจ้งเตือนผู้ใช้หากรับข้อความที่อาจเป็นฟิชชิ่ง Google Chat (บริการใหม่ที่มาแทน Hangouts) จะเริ่มแสดงแบนเนอร์เตือนผู้ใช้เกี่ยวกับฟิชชิ่งและมัลแวร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีของ Google ที่จะป้องกันอันตรายต่อผู้ใช้ระบบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่ Google เพิ่มฟีเจอร์นี้ไว้แล้วทั้งใน Gmail และ Google Drive ข้อความเตือนของ Google Chat จะแจ้งเมื่อพบสิ่งผิดปกติ เช่น ผู้ที่ไม่เคยคุยมาก่อนและใช้บัญชี Google แบบบัญชีส่วนตัวส่งลิงก์มา โดยจะแจ้งว่าลิงก์นี้อาจมีฟิชชิ่งหรืออาจขโมยข้อมูลสำคัญได้เพื่อให้ผู้ใช้ตระหนักก่อน และมีตัวเลือกให้บล็อคหรือจะยอมรับก็ได้ Google จะเริ่มทยอยปล่อยฟีเจอร์นี้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งฟีเจอร์นี้ใช้งานได้ทั้งบัญชี Google ส่วนตัว และบัญชี Google Workspace ที่มา - Google Workspace Updates ตัวอย่างแบนเนอร์แจ้งเตือนบน Google Chat
# กระดานแลกเปลี่ยนคริปโต FTX เตรียมเปิดบริการเทรดหุ้น ให้แลก stablecoin เป็นเงินมาซื้อขายหุ้นได้ FTX ผู้ให้บริการกระดานแลกเปลี่ยนซื้อขายคริปโตและ NFT เตรียมเพิ่มระบบเทรดหุ้นสำหรับผู้ใช้งานในชื่อว่า FTX Stocks โดยตอนนี้ฟีเจอร์ใหม่กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบในกลุ่มเทรดเดอร์จำนวนหนึ่งในสหรัฐฯ และทยอยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า FTX จะให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลิสต์ในตลาดสหรัฐฯ ทั้งหุ้นสามัญและ ETF และมีบริการให้ซื้อเศษหุ้นสำหรับหุ้นบางตัว โดย FTX Stocks จะส่งออร์เดอร์ทั้งหมดผ่าน Nasdaq และจะไม่รับชำระเงินในออร์เดอร์เพื่อความโปร่งใส บริการเทรดหุ้นของ FTX Stocks จะให้บริการโดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมและคอมมิชชั่น รวมถึงจะบริการข้อมูลการตลาดและข้อมูลเกี่ยวกับตัวบริษัทให้ลูกค้า โดยลูกค้าจะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีซื้อขายได้ทั้งผ่าน wire transfer, ACH transfer, บัตรเครดิต ไปจนถึงการแลก stablecoin ที่มีเงินจริงหนุนหลังอย่าง USDC ในบัญชีคริปโตไปเป็นเงินในบัญชีหลักทรัพย์ก็ได้เช่นกัน ที่มา - PR Newswire, The Verge
# Lenovo ออกเวิร์คสเตชัน ThinkPad P16 ยุบรวม P15 กับ P17, ซีพียู Intel HX 55 วัตต์ ที่ผ่านมา Lenovo มี ThinkPad ซีรีส์ P ที่เป็นโน้ตบุ๊กเวิร์คสเตชัน แยกเป็น 2 ขนาดหน้าจอคือ P15 และ P17 แต่ปีนี้ Lenovo ประกาศยุบสองขนาดหน้าจอเข้ามารวมกันเป็น ThinkPad P16 ที่อยู่ตรงกลางแทน Lenovo ให้เหตุผลว่า P16 เป็นขนาดที่กำลังพอดีระหว่างโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงกับความสะดวกในการพกพา มันคือการนำสเปก P17 มาย่อส่วนใส่ในบอดี้ที่เล็กลง ซึ่งสามารถทำได้เพราะปรับปรุงระบบระบายความร้อนของเครื่องใหม่หมด ใช้ทั้งเทคนิค dual fans, heat pipes, a dual vapor chamber, keyboard air intake ผสมผสานกันให้อากาศไหลเวียนผ่านเครื่องมากขึ้น สเปกของ ThinkPad P16 หน้าจอ 16" สัดส่วน 16:10 เลือกใส่เป็นจอ OLED Touch ได้ถ้าต้องการ ซีพียู Intel Core 12th Gen รหัส HX พลังแรง 55 วัตต์ สำหรับเวิร์คสเตชันที่เพิ่งเปิดตัว จีพียู ใส่ได้สูงสุด NVIDIA RTX A5500 แรม 16GB แรมสูงสุด 128GB DDR5 สตอเรจสูงสุด 8TB กล้องหน้า FHD, รองรับ Wi-Fi 6E, ตัวสแกนนิ้วที่ปุ่มพาวเวอร์, เพิ่ม 4G LTE ราคาเริ่มต้นที่ 1,979 ดอลลาร์ เริ่มวางขายเดือนพฤษภาคม 2022 นี้ ที่มา - Lenovo
# สถิติเวอร์ชัน Android ยอดนิยม: Android 11 แซงหน้า Android 10 ได้แล้ว ช่วงหลังๆ กูเกิลเลิกเผยสถิติเวอร์ชันของ Android ยอดนิยมบนหน้าเว็บ ย้ายมาอยู่ใน Android Studio แทน และอัพเดตทุกประมาณ 6 เดือน สถิติรอบล่าสุดเพิ่งอัพเดตในเดือนพฤษภาคม 2022 นี้ มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ Android 11 กลายเป็นเวอร์ชันยอดนิยม ที่ส่วนแบ่ง 28.3% แซงหน้า Android 10 ที่ลดลงเหลือ 23.9% ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม Android 12 เวอร์ชันล่าสุดยังไม่ได้เข้ามาในชาร์ทของรอบนี้ ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะกูเกิลตั้งใจไม่ใส่สถิติของเวอร์ชันล่าสุดเข้ามา เนื่องจากสถิตินี้เอาไว้ช่วยนักพัฒนาตัดสินใจว่าควรซัพพอร์ต Android API ขั้นต่ำถึงเวอร์ชันไหนเป็นหลัก ที่มา - 9to5google, Android Police
# ไมโครซอฟท์อัพเดต Windows Subsystem for Android เป็น Android 12L ไมโครซอฟท์อัพเดต Windows Subsystem for Android ของ Windows 11 Dev Channel เปลี่ยนมาใช้ Android 12.1 หรือ Android 12L ที่รองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์จอใหญ่ให้ดีขึ้น นอกจากการอัพเดตตัวแกนของระบบแล้ว ไมโครซอฟท์ยังปรับปรุงการรันแอพ Android บน Windows 11 อีกหลายจุด เช่น การแสดง badge บอกสถานะว่าแอพเรียกใช้ไมโครโฟน-กล้องของพีซีหรือไม่ บนไอคอนของแอพที่รันอยู่บน Taskbar เลย, การส่งต่อข้อความแจ้งเตือนแบบ toast ของ Android มายังแถบแจ้งเตือนของ Windows 11 เป็นต้น ที่มา - Microsoft
# Starliner เชื่อมต่อสถานีอวกาศนานาชาติสำเร็จ ยาน CST-100 Starliner ของโบอิ้งจอดเทียบกับสถานีอวกาศสำเร็จหลังขึ้นสู่วงโคจรมาแล้ว 26 ชั่วโมง พร้อมกับเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าและข้อมูลเข้ากับสถานีเป็นที่เรียบร้อย ทีมงานจะรออีกหนึ่งวันก่อนจะเปิดประดูยาน และให้นักบินอวกาศเข้าไปใช้งาน ระหว่างนี้อุปกรณ์ใน Starliner เกือบทั้งหมดจะปิดไว้จนกว่าจะเตรียมกลับสู่โลก หากภารกิจ OFT-2 ครั้งนี้ประสบความสำเร็จครบถ้วน ทางนาซ่าเตรียมทดสอบยานพร้อมนักบินอวกาศภายในปีนี้ ด้วยภารกิจ CFT (crew flight test) ต่อไป หากสำเร็จสหรัฐฯ ก็จะมีบริษัทให้บริการนำส่งนักบินอวกาศขึ้นสู่วงโคจรเป็นบริษัทที่สองต่อจาก SpaceX ที่มา - Starliner Updates
# Coinbase หยุดจ้างพนักงานชั่วคราว ชะลอโปรเจคใหม่ เหตุตลาดเงินดิจิทัลร่วงหนัก สำนักข่าว The Information รายงานว่า Coinbase เตรียมหยุดจ้างงานพนักงานใหม่ชั่วคราวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และชะลอการขึ้นโปรเจคใหม่ต่าง ๆ เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย เนื่องจากภาพรวมตลาดสกุลเงินดิจิทัลหดตัวอย่างหนักตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. 2022 เป็นต้นมา อ้างอิงจากข้อมูลในอีเมลที่บริษัทดังกล่าวส่งให้กับพนักงาน Coinbase จะหันไปให้ความสำคัญกับธุรกิจหลักมากขึ้น เช่น การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลของบุคคลทั่วไป และกลุ่มสถาบันการเงิน ผ่านการเพิ่มสกุลเงินดิจิทัลที่ซื้อขายในกระดานตัวเอง รวมถึงขยายบริการไปมากกว่าแค่ในสหรัฐอเมริกา Coinbase พึ่งรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2022 ว่ามีรายได้รวม 1,160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 27% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มูลค่าการซื้อขายคริปโตโดยรวมลดลง และราคาหุ้นของ Coinbase ลดลงมาแล้ว 75% ในรอบ 6 เดือนล่าสุด นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน Coinbase ขยายการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง จนมีพนักงานใหม่กว่า 1,200 คน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์ จุดนี้เองทำให้ Coinbase ขาดทุนสุทธิ 430 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 1 ปี 2022 ไม่ใช่แค่ Coinbase ที่ชะลอการจ้างงาน บริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Meta และ Uber ต่างเดินหน้าแผนดังกล่าวเช่นกัน เพราะต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย อ้างอิง // Engadget ภาพจาก Coinbase
# โซนี่อัพเดต Syphon Filter เกมเก่ายุค PS1 เพิ่มระบบถ้วยรางวัลบน PlayStation Plus โซนี่กำลังปลุกชีพเกมเก่ายุค PS1 กลับมาอีกครั้ง ภายใต้บริการ PlayStation Plus แบบใหม่ ที่แพ็กเกจ Deluxe/Premium สามารถเล่นเกมเก่าๆ ได้บน PS4/PS5 สิ่งที่น่าสนใจคือ การนำเกมเก่ากลับมาให้เล่นใหม่รอบนี้ โซนี่ยังอัพเกรดเกมเก่าให้รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างระบบถ้วยรางวัล (trophies) ด้วย เกมแรกที่ประกาศว่ารองรับแล้วคือ Syphon Filter เกมยิงแนวสายลับยุค PS1 (ออกปี 1999) ที่พัฒนาโดยสตูดิโอภายใน Bend Studio ของโซนี่เอง เว็บไซต์ Polygon ระบุว่าโซนี่เคยจดสิทธิบัตรการนำเกมเก่าๆ มารันบนอีมูเลเตอร์ และใช้ซอฟต์แวร์ช่วยดักจับเหตุการณ์ในเกมเพื่อแจกถ้วยรางวัล โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปแก้โค้ดของเกมเก่าที่อาจสูญหายไปแล้ว ที่มา - Polygon
# เกมอวกาศ Kerbal Space Program 2 เลื่อนขายเป็นปี 2023 นับเป็นการเลื่อนรอบที่สี่ เกมจำลองอวกาศ Kerbal Space Program 2 ประกาศเลื่อนวันขายอีกครั้งเป็นปี 2023 นับเป็นการเลื่อนรอบที่ 4 แล้วหลังเปิดตัวภาค 2 ครั้งแรกในปี 2019 ที่ตั้งเป้าวางขายในปี 2020 สิทธิความเป็นเจ้าของเกม Kerbal Space Program ในปัจจุบันเป็นของ Take-Two ที่ซื้อสิทธิมาในปี 2017 โดย Take-Two ตั้งสตูดิโอใหม่ Intercept Games มารับผิดชอบการพัฒนาเกมภาค 2 และดึงทีมงานบางส่วนของสตูดิโอ Star Theory ที่ทำเกมภาคแรกเข้ามาทำงานด้วย (ปัจจุบัน Star Theory ปิดกิจการไปแล้ว และเกมภาคแรกหยุดพัฒนาเพิ่มแล้ว) ที่มา - PC Gamer
# ไปจับโปเกมอนกันเถอะ ซัมซุงออกเคสชั้นนอกสำหรับหูฟัง Galaxy Buds 2 ลาย Pokeball ซัมซุงออกเคสของหูฟังไร้สาย Galaxy Buds 2 รุ่นพิเศษ เป็นเคสชั้นนอกลายลูกบอล Pokeball จากซีรีส์ Pokemon ให้แฟนๆ ได้สะสมกัน เคสรุ่นพิเศษนี้เป็นตลับสำหรับใส่เคสหูฟัง Galaxy Buds 2 อีกชั้น (คือซื้อหูฟังปกติ มาเก็บใส่ลูกบอลสวยๆ) สามารถใช้กับ Galaxy Buds 2 ได้ทุกรุ่น ในแพ็กเกจยังแถมสติ๊กเกอร์โปเกมอนอีกจำนวนหนึ่งสำหรับแฟนๆ ด้วย เคสลายพิเศษนี้มีขายเฉพาะในเกาหลีใต้ ราคา 130,400 วอน (ราว 3,600 บาท) ก่อนหน้านี้ซัมซุงเพิ่งขาย Galaxy Z Flip 3 รุ่น Pokemon Edition เฉพาะในเกาหลีใต้เช่นกัน ที่มา - Samsung
# โซนี่เริ่มขาย PS5 บันเดิลครั้งแรก เป็นเครื่องสีขาวมาตรฐาน + เกม Horizon Forbidden West โซนี่เริ่มวางขายชุดบันเดิลของ PS5 เป็นครั้งแรกที่สหราชอาณาจักร โดยเป็นชุด PlayStation 5 ลายสีขาวมาตรฐาน ขายพ่วงกับเกม Horizon Forbidden West ในราคา 499.99 ปอนด์ (ถูกกว่าซื้อเครื่อง + เกมแยกกัน 20 ปอนด์) การขายบันเดิลที่เป็นเครื่องลายปกติ (ไม่ใช่ลายพิเศษ) พ่วงเกมดังในช่วงนั้นอาจไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นนัก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ PS5 ทำแบบนี้ จึงอาจเป็นสัญญาณว่าจำนวนเครื่องที่มีซัพพลาย กับปริมาณความต้องการเริ่มกลับมาอยู่ในสภาวะปกติมากขึ้น จนโซนี่เริ่มมีเครื่องเหลือมาจัดเป็นชุดบันเดิลได้นั่นเอง ที่มา - IGN
# [ลือ] EA กำลังเจรจาขายหรือควบรวมกิจการ ผู้ซื้ออาจเป็น NBCUniversal อุตสาหกรรมวิดีโอเกมอาจเข้าสู่การควบรวมกิจการมากขึ้นอีก ล่าสุดมีรายงานว่า EA หรือ Electronic Arts ได้เริ่มเจรจากับบริษัทรายใหญ่หลายแห่ง เพื่อขายกิจการให้หรือควบรวมกิจการ โดยบริษัทที่ระบุชื่อคือ NBCUniversal นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า EA ก็เจรจากับอีกหลายบริษัทรวมทั้ง Disney, Apple และ Amazon รายงานระบุว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทสื่อขนาดใหญ่มีความสนใจจะเข้าสู่ธุรกิจวิดีโอเกม จึงทำให้เกิดการเจรจาซื้อ-ขายกิจการ พอเกิดดีลไมโครซอฟท์ซื้อ Activision Blizzard ก็ยิ่งกระตุ้นให้การเจรจาเกิดมากขึ้น ข้อมูลเพิ่มเติมบอกว่า NBCUniversal อาจใช้วิธีร่วมลงทุนเป็นบริษัทใหม่ที่ลงทุนใน EA โดยให้ Andrew Wilson ซีอีโอปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งต่อไป แต่การเจรจายังหาข้อสรุปเรื่องราคาไม่ได้ ทั้งนี้ตัวแทนของ EA ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว ช่วงที่ผ่านมาเกิดดีลซื้อกิจการกันในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมหลายครั้ง นอกจากไมโครซอฟท์กับ Activision Blizzard ก็มีทั้ง Take-Two ซื้อ Zynga, Sony ซื้อสตูดิโอ Bungie ที่มา: Kotaku
# Zilingo ประกาศปลดซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Ankiti Bose หลังพบความผิดปกติทางบัญชี Zilingo สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มแฟชั่น B2B จากสิงคโปร์ ประกาศปลด Ankiti Bose ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งออกจากตำแหน่ง หลังก่อนหน้านี้ให้พักงานชั่วคราว เนื่องจากพบความผิดปกติทางบัญชี ด้านอดีตซีอีโอ Bose ชี้แจงต่อประเด็นดังกล่าวว่า ตนถูกพักงานเป็นเวลา 51 วัน จากข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย แล้วมาวันนี้ก็ถูกไล่ออก ผ่านการสอบสวนทั้งหมดทำขึ้น โดยตนเองไม่ถูกร้องขอเอกสารหรือมีโอกาสให้ข้อมูลใด ๆ การสอบสวนความผิดปกติทางบัญชีของ Zilingo เกิดขึ้นในช่วงการเตรียมเพิ่มทุนรอบใหม่ ที่จะทำให้บริษัทมีมูลค่ากิจการราว 1,200 ล้านดอลลาร์ และขึ้นเป็นยูนิคอร์น ซึ่งผู้ลงทุนระบุว่าพบความผิดปกติทางบัญชี จนนำมาสู่การตัดสินใจไล่ซีอีโอออกนั่นเอง ที่มา: The Economic Times
# Qualcomm เปิดตัวชิปใหม่ Snapdragon 8+ Gen 1 และ Snapdragon 7 Gen 1 Qualcomm เปิดตัวหน่วยประมวลผล Snapdragon 8+ Gen 1 รอบอัพเดตย่อยช่วงกลางปี และ Snapdragon 7 Gen 1 ชิปตัวแรกของซีรีส์รองท็อป (ซีรีส์ 7) ภายใต้ระบบชื่อแบบใหม่ Snapdragon 8+ Gen 1 คงไม่มีใครแปลกใจนัก เพราะช่วงหลัง Qualcomm ก็ออกชิปเรือธงรุ่นพลัสมาตลอดอยู่แล้ว กรณีของ Snapdragon 8+ Gen 1 เป็นการบูสต์คล็อคแบบที่แล้วๆ มา โดยเพิ่มทั้งคล็อคซีพียูและจีพียู กรณีของซีพียูบอกว่าเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 10% ส่วนจีพียูเพิ่มคล็อค 10% และลดพลังงานลง 30% อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Snapdragon 8+ Gen 1 เปลี่ยนมาใช้โรงงาน TSMC 4nm (Snapdragon 8 Gen 1 รุ่นเดิมเป็นซัมซุง 4nm) ช่วยให้ประหยัดพลังงานขึ้นด้วย Qualcomm ระบุชื่อแบรนด์ที่จะใช้ Snapdragon 8+ Gen 1 คือ Asus ROG, Black Shark, Honor, iQoo, Lenovo, Motorola, Nubia, OnePlus, Oppo, OSOM, Realme, RedMagic, Redmi, Vivo, Xiaomi, ZTE โดยจะเริ่มวางขายสินค้าในไตรมาส 3/2022 Snapdragon 7 Gen 1 เป็นชิปตัวแรกในซีรีส์ 7 แบบใหม่ ตัวซีพียูเป็นสูตร 1+3+4 โดยคอร์ใหญ่เป็น Cortex-A710 รันที่คล็อคสูงกว่าปกติเล็กน้อย (2.4GHz) ตามด้วย Cortex-A710 เหมือนกัน แต่คล็อคต่ำกว่าเล็กน้อย (2.36GHz) จำนวนสามตัว ส่วนสุดท้ายเป็น Cortex-A510 สี่ตัวที่ 1.8GHz ส่วนจีพียูระบุคร่าวๆ แค่เป็น Adreno ไม่ระบุเลขรุ่น (ตามธรรมเนียม Qualcomm ช่วงหลัง Adreno ไม่มีเลขบอกแล้ว) ประสิทธิภาพดีขึ้น 20% จากรุ่นก่อน (Snapdragon 778G 5G) ของใหม่อย่างอื่นคือเปลี่ยนมาใช้โมเด็ม Snapdragon X62 5G ตัวใหม่ เพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 4.4 Gbps จากรุ่นก่อนที่ทำได้ 3.7 Gbps แบรนด์ที่ระบุชื่อแล้วคือ Honor, Oppo, Xiaomi สินค้าจะเปิดตัวและวางขายภายในไตรมาส 2/2022 ที่มา - Qualcomm, AnandTech
# Elon Musk ปฏิเสธข้อกล่าวหาขอมีเซ็กซ์กับพนักงาน บอกว่านี่เป็นการโจมตีทางการเมือง Elon Musk ออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่าขอมีอะไรกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของ SpaceX โดยบอกว่าข้อกล่าวหาที่โจมตีเขา ควรต้องมองเป็นเรื่องการเมือง เขาบอกว่าการกล่าวหาแบบนี้เป็นท่ามาตรฐานของการโจมตีทางการเมือง แต่เขาก็ยืนยันว่าจะต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการแสดงความเห็น (free speech) ของทุกคนต่อไป ก่อนปิดท้ายด้วยการแซวข้อความของตัวเองในปี 2021 ว่านี่แหละคือ "Elongate" ภาพจาก Shutterstock
# Jaymart ไตรมาส 1 ปี 2022 รายได้ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทะลุ 2,500 ล้านบาท โต 25.5% บมจ. เจ มาร์ท หรือ Jaymart รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2022 หากเจาะไปที่ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ หรือ Jaymart Mobile พบว่า มีรายได้รวม 2,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 110 ล้านบาท เติบโต 167% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือของ Jaymart ในไตรมาส 1 ปี 2022 มี 6 ช่องทางรายได้ประกอบด้วย Jaymart Shop 1,473 ล้านบาท ให้เช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ 123.7 ล้านบาท ออนไลน์ 116 ล้านบาท ซิงเกอร์ 412 ล้านบาท IT Junction 138 ล้านบาท Synergy Shop 39 ล้านบาท นอกจากจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ หน่วยธุรกิจนี้ของ Jaymart ยังปรับตัวเป็นศูนย์กลางของสินค้า และบริการอื่น ๆ เช่น สินค้าแก็ดเจ็ต และโน้ตบุ๊ก กับบริการทางการเงิน ทั้งยังเดินหน้ารุกช่องทางออนไลน์ผ่านหน้าร้านตัวเอง และเปิดร้านบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมถึงทำตลาดร่วมกับบริษัทอื่น ๆ ในเครือมากขึ้น สิ้นครึ่งแรกของปี 2022 ทาง Jaymart ตั้งเป้าว่า ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือจะมีหน้าร้านจำหน่ายสินค้ารวมทุกช่องทางที่ 303 สาขา ผ่านการเปิดเพิ่ม 52 สาขาในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนสิ้นปี 2022 จะมีทั้งหมด 405 สาขา ผ่านการเปิดเพิ่มอีก 102 สาขา Jayamart คาดการณ์ว่า รายได้ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ที่ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกของปี 2021 ที่ทำได้ 3,821 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิต้องการเติบโตมากกว่า 200 ล้านบาทที่ทำได้ทั้งปี 2021 อ้างอิง // Jaymart ไฟล์ PDF ภาพจากข่าวประชาสัมพันธ์ Jaymart
# Bill Gates ตอบคำถามทาง Reddit: ตอนนี้ใช้มือถือ Galaxy Z Fold3 อยู่, ไม่ถือคริปโตเลย เมื่อคืน Bill Gates ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ที่อุทิศตนให้กับงานการกุศลมาเกือบ 15 ปี ได้ตั้งกระทู้ Ask Me Anything หรือถามอะไรก็ได้ บนเว็บบอร์ด Reddit ซึ่งนี่เป็นครั้งที่ 10 แล้วที่เขาทำกิจกรรมนี้ ระหว่างการถามตอบดังกล่าว ได้มีผู้ใช้คนหนึ่งถามว่าขณะนี้ Gates ใช้โทรศัพท์มือถืออะไรอยู่ โดย Gates ตอบว่าเขาใช้มือถือแอนดรอยด์จอพับ Samsung Galaxy Z Fold3 อยู่ พร้อมระบุว่าเขาชอบทดลองใช้หลายๆ รุ่น แต่หน้าจอของ Z Fold ทำให้คล้ายกับการใช้คอมพิวเตอร์ PC ขนาดพกพาที่โทรศัพท์ได้ด้วยเลยทีเดียว อีกคำถามคือ Gates คิดอย่างไรกับบิทคอยน์และคริปโต ซึ่งเขาตอบชัดเจนว่าเขาไม่ถือคริปโตเลยแม้แต่สกุลเดียว เขาชอบลงทุนกับสิ่งที่ให้ผลตอบแทนที่มีมูลค่า เช่นมูลค่าของบริษัทก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทนั้นมีผลิตภัณฑ์ที่เยี่ยมยอดหรือไม่ แต่มูลค่าของคริปโตคือการที่มีคนไปให้ค่าและยอมจ่ายเงินให้โดยที่ไม่ได้มีอะไรกลับสู่สังคมเหมือนการลงทุนอื่นๆ ยังมีผู้ใช้อีกคนถามว่าเขาเคยจ่ายเงินซื้ออะไรที่นำความสุขมาให้เขามากที่สุด โดย Gates ตอบว่าหากขจัดโรคโปลิโอให้หมดไปสำเร็จเขาจะมีความสุขอย่างมาก (พูดอีกนัยหนึ่งคือเขาบริจาคเงินไปเยอะมากกับเรื่องนี้) แต่หากเป็นสิ่งของ เขาก็บอกว่าชอบกินเบอร์เกอร์, ซื้อไม้เทนนิสดีๆ และจ่ายเงินเป็นสมาชิกบริการสตรีมมิงดีๆ คำถามสุดท้ายที่น่าสนใจคือมีคนถามว่า Gates คิดว่าประเทศกำลังพัฒนาประเทศใดบ้างที่เขาคิดว่ามีอนาคตที่สดใส ซึ่งเขาตอบว่าเวียดนาม, อินเดีย, ปากีสถาน และอินโดนีเซีย (ไม่มีไทย) และหากเป็นประเทศในทวีปแอฟริกา เขาให้ชื่อเคนยา, ไนจีเรีย และเอธิโอเปีย นอกจากนี้ยังมีคำถามเกี่ยวกับ COVID-19, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเรื่องการทำฟาร์มด้วย หากสนใจสามารถอ่านได้จากที่มา ที่มา - GeekWire, กระทู้ Reddit
# [ไม่ยืนยัน] Apple กำลังพัฒนารถยนต์ไร้คนขับที่ไม่มีหน้าต่าง เข้าใจว่าเกลียด Windows แต่ไม่มีหน้าต่างเนี่ยนะ? เว็บไซต์ VR Scout รายงานว่า Apple ได้ยื่นจดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 3 พ.ค. เกี่ยวกับระบบความบันเทิงในรถยนต์ที่จะช่วยสร้างภาพเสมือนภายในรถยนต์ แทนที่ผู้โดยสารในรถยนต์จะเห็นบรรยากาศปกตินอกตัวรถเวลามองออกไปนอกกระจก ทั้งยังระบุว่า รถยนต์ไร้คนขับดังกล่าวอาจไม่มี หรือมีหน้าต่างในจำนวนจำกัด Apple มีการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ และรถยนต์ไฟฟ้ามาระยะหนึ่งแล้วตามข่าวที่ถูกเผยแพร่มาก่อนหน้านี้ เช่น การร่วมมือกับ Toyota, Hyundai และอื่น ๆ แต่ทั้งหมดยังไม่มีความชัดเจน และยังไม่มีเอกสารทางการใด ๆ ที่ระบุว่า Apple อยู่ระหว่างพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับ ภาพรวมตลาดรถยนต์ไร้คนขับในปัจจุบันพัฒนาจนเริ่มให้บริการจริงในบางพื้นที่ เช่น Waymo บริการแท็กซี่ไร้คนขับของ Alphabet บริษัทแม่ Google ที่ให้บริการในซานฟรานซิสโก และ Pony.ai ที่มี Toyota เป็นหนึ่งในผู้ลงทุนหลัก เริ่มให้บริการในย่านชานเมืองของปักกิ่ง อ้างอิง // HuffPost ภาพจาก Apple
# สร้างคลาวด์ส่วนตัวด้วย Synology NAS ไม่ต้องมีค่าบริการรายเดือน รวมเก็บไฟล์ด้วย NASคลาวด์ส่วนตัวประจำบ้านของคุณ รายละเอียดคลิก ทุกคนสามารถมีคลาวด์ส่วนตัวเป็นของตัวเองได้ มีความปลอดภัย เก็บข้อมูลได้อย่างมั่นใจ และไม่มีค่าบริการรายเดือน หรือรายปี เพียงลงทุนเซิร์ฟเวอร์ NAS เครื่องเดียว สามารถใช้งานแอป Synology Photos แทน Google Photos เก็บภาพถ่ายและวิดีโอ แชร์ให้กันได้อย่างสบายใจ แน่นอนว่า Google Photos เป็นบริการที่มีคุณภาพ มีคนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกใช้ในการเก็บรูปภาพและวิดีโอคุณภาพสูงแบบไม่จำกัด แต่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายตั้งแต่ มิถุนายน 2021 บริการของ Google Photos จะไม่ฟรีอีกต่อไป โดยผู้ใช้ต้องซื้อแผนบริการ Google One แบบรายเดือนมาใช้งานแทน ดูรายละเอียดที่นี่ การเช่าคลาวด์สาธารณะอาจไม่ใช่คำตอบ ขณะที่พฤติกรรมของผู้บริโภค เวลาผ่านไปมีแต่รูปและวิดีโอเพิ่มมากขึ้น แนวโน้มค่าบริการคลาวด์จัดเก็บจึงมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการใช้บริการคลาวด์สาธารณะ เช่น Google Photos, OneDrive, Dropbox หรือ Amazon Photos จึงอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ทำให้การสร้าง “คลาวด์ส่วนตัว” เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น ด้วยการลงทุนเซิร์ฟเวอร์ Synology NAS (Network-attached Storage) เครื่องเดียว มีพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลและสามารถขยายพื้นที่ในภายหลังได้ จัดการควบคุมการเข้าถึงและสำรองข้อมูลได้อย่างอิสระ รวมถึงแพ็กเกจแอปพลิเคชันการใช้งานฟรีในตัวมากมาย เช่น การจัดการรูปภาพและวิดีโอแบบออล-อิน-วัน อย่าง Synology Photos นั้น จะช่วยทวงคืนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของข้อมูลของคุณ และถือได้ว่าเป็นทางเลือกใหม่ทดแทนบริการเช่าคลาวด์ที่คุ้มค่าและปลอดภัยกว่าในระยะยาว ลงทุน NAS ครั้งเดียวจบ ใช้งานระยะยาว ไม่มีค่าบริการรายเดือน NAS เป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตบ้านของคุณ และมาพร้อมแพ็กเกจแอปพลิเคชันฟรีในตัวที่หลากหลายที่ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้งาน ช่วยให้สามารถรวมศูนย์การจัดการ เข้าถึง แชร์และสำรองข้อมูลของผู้ใช้งานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร รูปภาพ วิดีโอ หรือเพลงได้ทุกที่ทุกเวลา นั่นคือเป็น ‘คลาวด์ส่วนตัวของผู้ใช้ทุกคน’ โดยปริมาณพื้นที่จัดเก็บจะขึ้นอยู่กับความจุของ HDD Bay ที่คุณติดตั้งเข้ากับตัวเครื่อง ทำให้คุณสามารถปรับขยายความจุจัดเก็บและโอนย้ายข้อมูลได้ตามต้องการ ตั้งแต่ 1TB ไปจนถึง 16TB ต่อ HDD 1 ลูก ซึ่งราคาของ NAS (ไม่รวม HDD) เริ่มต้นเพียง 4,000 - 5,000 บาท หากคำนวนราคาพื้นที่จัดเก็บ 2TB ราคา 350 บาทต่อเดือน หรือ 3,500 บาทต่อปี ของ Google One แล้ว หากจ่ายค่าบริการเป็นเวลา 2 ปีแล้ว การซื้อ NAS ก็อาจถือได้ว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนและใช้งานร่วมกันทั้งครอบครัวในระยะยาว นอกจากนี้ หน้าตาของ Interface ของ NAS ในยุคสมัยนี้ อย่าง DiskStation Manager 7 ของ Synology ยังถูกพัฒนาให้มีความสวยงาม มี Wizard วิธีการติดตั้ง ทำให้ง่ายต่อการตั้งค่าการใช้งานและให้สิทธิ์การเข้าถึงของแต่ละผู้ใช้ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานที่ไม่ถนัดเรื่อง IT มากนัก ➤ หน้าตา Interface ระบบปฏิบัติการ DSM7 ของ Synology NAS ➤ หน้าตา Interface ของ Synology Photos บนเว็บเบราว์เซอร์ เป็นเจ้าของแบบ 100% ด้วยการจัดเก็บข้อมูลบน NAS ผ่าน Synology Photos ด้วยฟังก์ชันที่คล้ายคลึงกัน คุณสามารถเปรียบ Synology Photos ได้ว่าเป็น Google Photos ที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัยกว่า เพราะข้อมูลรูปภาพและวิดีโอทั้งหมดนั้นถูกจัดเก็บและโฮสต์ภายในบ้านของคุณ และยังสามารถเข้าถึงได้จากคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็น Android หรือ iOS ผู้ใช้งาน Synology NAS มีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของข้อมูลที่ถูกจัดเก็บใน HDD อย่าง 100% คุณสามารถเลือกตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึง และการแชร์ได้อย่างละเอียดเพื่อความเป็นส่วนตัวของคุณ ทำให้ลดความเสี่ยงของการแทรกแซงและสูญเสียข้อมูลของคุณจากภัยทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งบนบริการคลาวด์สาธารณะ แถมยังมีแพ็กเกจการสำรองข้อมูลฟรีในตัว อย่าง Hyper Backup ช่วยให้ผู้ใช้เลือกทำการสำรองไฟล์และการตั้งค่าทั้งหมดไปยังปลายทางที่หลากหลายแบบอัตโนมัติ เช่น ไดร์ฟภายนอก, NAS อีกเครื่อง, บริการคลาวด์อื่น ๆ และอีกมากมาย เพื่อการป้องกันอีกชั้น ➤ แพ็กเกจ Cloud Sync รองรับการซิงค์ข้อมูลระหว่าง Synology NAS และบริการคลาวด์อื่น ๆ การติดตั้งและสำรองรูปภาพและวิดีโออัตโนมัติ เริ่มต้นใช้งาน Synology Photos ด้วยการดาวน์โหลดแอปจาก Package Center บนระบบปฏิบัติการ DSM และโอนย้ายไฟล์หรือโฟลเดอร์ของคุณเข้าไปยังโฟลเดอร์ ‘photo’ หรือ Root ในไดเรคทอรีของ Synology (ที่แชร์กับผู้ใช้งานทุกคน) หรือโฟลเดอร์ผู้ใช้ส่วนตัวของคุณ (มีแค่คุณที่เข้าถึงได้) ด้วยฟังก์ชันที่คล้ายคลึงกัน นอกจากนี้ คุณสามารถโอนย้ายรูปภาพและวิดีโอโดยตรงจาก USB drive หรือไดร์ฟภายนอกอื่นๆ หรือจาก Google Photos ของคุณผ่าน Google Takeouts (https://takeout.google.com/) ได้เช่นกัน ➤ ต้องใช้งาน root โฟลเดอร์ photo หลัก หรือ 1 ในโฟลเดอร์ภายใต้โฟลเดอร์ “home” อ้างอิงรูปภาพจาก androidpolice.com เมื่อคุณมีการตั้งค่า ‘ผู้ใช้งาน’ ทาง Control Panel ให้กับสมาชิกในครอบครัวแต่ละคน และเปิดใช้งาน QuickConnect (เปรียบเสมือน username และ password ของแต่ละผู้ใช้งาน Synology NAS) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลบน NAS จากทุกที่ ทุกเวลาแล้ว เราขอแนะนำให้คุณติดตั้งแอปพลิเคชัน Synology Photos หรือ DS File บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ เพื่อการสำรองข้อมูลอัตโนมัติอย่างง่ายดาย ไม่ว่าคุณจะใช้งานแอปใด เมื่อเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์คเดียวกัน รูปภาพและวิดีโอของคุณจะถูกบันทึกไปยังเซิร์ฟเวอร์ NAS ที่บ้านของคุณ และความพิเศษ คือ ผู้ใช้งานทุกคนก็จะสามารถทำการสำรองข้อมูลนี้แต่ผ่านบัญชีผู้ใช้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของพวกเขาลงบน Synology NAS ที่บ้านนี้ รวมศูนย์การจัดเก็บทุกอย่างในเครื่องเดียว! ➤ ซ้าย: การสำรองข้อมูลอัตโนมัติจากแอป Synology Photos ขวา: (หรือ)จาก DS File ที่มีตัวเลือกการตั้งค่าน้อยกว่าเล็กน้อย อ้างอิงรูปภาพจาก androidpolice.com ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Synology Photos การตั้งค่าอัลบั้มรูปภาพ/วิดีโอที่ยืดหยุ่น (พื้นที่ส่วนบุคคล/ใช้ร่วมกัน) เพื่อความเป็นส่วนตัวของแต่ละผู้ใช้งาน การตั้งค่า “ลิงก์แชร์” ที่มาพร้อมกับการตั้งค่าการเข้าถึงที่ปลอดภัย ➤ ตัวเลือกการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวมีให้เลือกแบบ Private (เฉพาะผู้ใช้งาน Synology NAS ของคุณที่ถูกเชิญเท่านั้น) และ Public (ทุกคนที่มีลิงก์) ที่จะสามารถเข้าดู (view) และ/หรือดาวน์โหลด Facial Recognition (การจำแนกรูปภาพด้วยหน้าตา) ช่วยให้จัดกลุ่มรูปภาพลงในอัลบั้ม “People (บุคคล)” ตามหน้าตาได้โดยอัตโมมัติ ➤ Synology Photos ปัจจุบันยังไม่มีฟีเจอร์การจำแนก Objects (สิ่งของ) หรือ Theme (ธีม) บนรูปภาพ หรือ Location (สถานที่) อย่างอัตโนมัติ แต่ผู้ใช้งานสามารถจำแนกรูปภาพเหล่านั้นด้วยการตั้งค่า Tag แบบ manual ตัวเลือกมุมมองการดู (ตามโฟลเดอร์/ตามเวลา) ช่วยให้คุณเรียกดูรูปภาพได้อย่างง่ายดาย ฟิลเตอร์การค้นหาอัจฉริยะ (Quick Filter) ช่วยให้คุณค้นหาไฟล์ได้จากตัวเลือกโฟลเดอร์ ประเภทไฟล์ ช่วงเวลา คน สถานที่ แท็ก กล้อง/เลนส์ที่ใช้ หรือแม้กระทั่งการภาพถ่ายอย่าง Exposure, ISO, Focal length และ Aperture สรุป ถ้าคุณมีความกังวลเรื่องบริการคลาวด์สาธารณะที่มีค่าใช้จ่ายและกำลังมองหาทางเลือกอื่นที่จะมาทดแทนในระยะยาว มีความเป็นส่วนตัว มีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของข้อมูลและมีความปลอดภัย การลงทุน Synology NAS เพื่อสร้าง “คลาวด์ส่วนตัว” ถือว่ามีความคุ้มค่า ด้วยแอป Synology Photos ที่เป็นตัวแทน Google Photos ได้เป็นอย่างดี การใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก และเก็บข้อมูลได้หลากหลาย เช่น เพลง เอกสาร และยังใช้งานแพ็กเกจฟรีในตัวอื่นๆ อย่าง การสำรองข้อมูล การสตรีมไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและร่วมกรอกแบบสอบถาม ลุ้นรับ NAS ฟรีได้ที่นี่:https://sy.to/fbpni หมายเหตุ: แอปพลิเคชันฟรี ‘Synology Photos’ พร้อมใช้งานแล้วบน iOS: 12.0 หรือใหม่กว่า และ Android: 7.0 หรือใหม่กว่า
# The Witcher 3: Wild Hunt เตรียมวางจำหน่ายบนเครื่อง PlayStation 5 และ Xbox Series S|X CD Projekt ออกมายืนยันว่า The Witcher 3: Wild Hunt - Complete Edition ภาคสำหรับเครื่องเจ็นปัจจุบัน หรือ PlayStation 5 และ Xbox Series S|X จะวางจำหน่ายภายในสิ้นปี 2022 หลังจากล่าช้าจากกำหนดเดิมที่วางไว้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 สำหรับ The Witcher 3: Wild Hunt - Complete Edition จะเป็นเกมที่รวมภาคเสริม และ DLC ต่าง ๆ ของเกมนี้ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 รวมไว้ทั้งหมด ส่วนเกม The Witcher 3: Wild Hunt ที่จำหน่ายอยู่ในสโตร์ของเครื่องเจ็นปัจจุบันจะเป็นตัวเกมสำหรับเครื่องเจ็นก่อนหน้านี้ เช่น Xbox One เป็นต้น สาเหตุที่ตัวเกม The Witcher 3: Wild Hunt - Complete Edition ล่าช้าจากกำหนดเดิมมาจากการที่ CD Projekt ดึงการพัฒนาเกมนี้จาก Saber Interactive กลับมาเมื่อเดือน เม.ย. 2022 โดยบริษัทนี้เคยพัฒนาเกมดังกล่าวเพื่อลงในเครื่อง Nintendo Switch และจำหน่ายในปี 2019 มาก่อน ในทางกลับกัน CD Projekt แจ้งว่า บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนา The Witcher ภาคใหม่ โดยะจะใช้ Unreal Engine 5 ในการพัฒนา เนื่องจากเซ็นสัญญาเป็นพาร์ตเนอร์ระยะยาวกับทาง Epic Games ไว้ ส่วนวันวางจำหน่ายเกมภาคใหม่นี้ยังไม่มีการเปิดเผย อ้างอิง // Polygon
# Insider แฉ Elon Musk ขอมีอะไรกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของ SpaceX สำนักข่าว Insider เปิดเผยข้อมูลว่า ปี 2016 Elon Musk มีการล่วงละเมิดทางเพศพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเพศหญิงของ SpaceX โดย Elon Musk เรียกเธอให้มานวดในขณะที่เขาร่างกายเปลือยเปล่า ทั้งเสนอว่าจะซื้อม้าให้ถ้าเธอยินยอมที่จะทำอะไรมากกว่านั้น แต่สุดท้ายเธอปฏิเสธ และถูก SpaceX ให้ค่าปิดปาก 2.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ ข้อมูลนี้ Insider ได้รับจากเพื่อนของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนดังกล่าว มีทั้งเอกสารการฟ้องร้อง, ข้อมูลอีเมลติดต่อระหว่างฝ่ายบุคคลกับเธอ และอื่น ๆ ถือเป็นอีกกรณีอื้อฉาวของ Elon Musk และบริษัทในเครือ เพราะเดือน ธ.ค. 2021 มีพนักงานหญิงของ SpaceX 4 คนออกมาเปิดเผยว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศจากพนักงานชาย เช่นเดียวกับพนักงานหญิงของ Tesla 6 คน ที่ฟ้องเรื่องนี้เช่นกัน เพื่อนของเธอเล่าให้ฟังว่า ผู้บริหารระดับสูงของ SpaceX มีสวัสดิการนวดบนเครื่องบิน แต่คนที่นวดต้องได้รับใบอนุญาตก่อน ซึ่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินถูกส่งไปเรียนเพื่อสอบใบอนุญาตนวด และเธอคนนั้นถูก Elon Musk เรียกไปนวด และเขาทำการลวนลามเธอด้วยการจับต้นขา และส่วนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จนเธอรู้สึกไม่สบายใจ และถามตัวเองว่าสรุปจ้างมาเป็นพนักงานบริการบนเครื่องบิน หรือพนักงานนวด ทั้งนี้ Insider มีการอีเมลสอบถามไปยัง Elon Musk เกี่ยวกับเรื่องนี้ และได้คำตอบกลับมาว่า ขอเวลาในการตอบกลับ พร้อมบอกว่าเรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งสุดท้าย Insider กลับไม่ได้รับคำตอบใด ๆ เพิ่มเติมจาก Elon Musk ส่วนฝั่ง SpaceX เองชี้แจงว่า จะไม่มีการตอบกลับอีเมลทั่วไปที่สื่อส่งมาหา อ้างอิง // Insider *ภาพจาก Shutterstock
# [Canalys] กูเกิลขึ้น Top 5 สมาร์ทโฟนสหรัฐ ยอดขายโต 380%, ส่วนแบ่งแอปเปิล 51% แล้ว Canalys รายงานยอดขายสมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกา ประจำไตรมาส 1/2022 ภาพรวมขายได้ 39.0 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้น 3.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ประเด็นที่น่าสนใจมี 2 เรื่อง อย่างแรกคือ แอปเปิลมียอดขาย 16.9 ล้านเครื่องเพิ่ม 3 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วน 19% และครองตลาดสมาร์ทโฟนได้เกินครึ่งคือ 51% แล้ว แต่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นของแอปเปิลไม่ได้มาจากซัมซุง (ที่ยังขายได้เท่าๆ เดิมคือ 10.4-10.5 ล้านเครื่อง) แต่มาจากแบรนด์ย่อยๆ อื่นแทน อันดับสามเป็นของ Lenovo/Motorola ที่ทำยอดขายได้ 4 ล้านเครื่อง เติบโต 56% ประเด็นที่สองคือ กูเกิลเริ่มประสบความสำเร็จในตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐบ้างแล้ว กลยุทธ์การดัน Pixel 6 ประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยให้กูเกิลมียอดขายโต 380% จาก 0.2 ล้านเครื่องเป็น 1.2 ล้านเครื่อง ขึ้นมาติดอันดับ 5 ของแบรนด์สมาร์ทโฟนสหรัฐได้แล้ว และ Canalys มองว่ากูเกิลจะใช้โมเมนตัมนี้ดัน Pixel 6a และ Pixel 7 ทำตลาดต่อไปในปีนี้ ที่มา - Canalys
# โซนี่เปิดราคาไทย Xperia 1 IV ที่ 48,990 บาท เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 6,000 บาท บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดราคาขายของ Xperia 1 IV มือถือเรือธงของปี 2022 ที่ 48,990 บาท (แพงขึ้นจาก Xperia 1 III ที่ตั้งราคา 42,990 บาท) มีให้เลือก 2 สีคือม่วงกับดำ เริ่มเปิดจอง 20-31 พฤษภาคมนี้ ผู้สั่งจองจะได้ของแถมเป็นหูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 เช่นเดียวกับ Xperia 1 III จุดขายของ Xperia 1 IV คือเป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่มีเลนส์ซูม True Optical 85-125 mm เน้นการถ่ายภาพและวิดีโอที่หลากหลายมากขึ้น ฟีเจอร์อื่นที่น่าสนใจคือใช้เป็นมอนิเตอร์เสริมของกล้อง Sony Alpha ได้ด้วย สเปกอย่างอื่นคือหน้าจอ 6.5" OLED สัดส่วน 21:9, หน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1, แรม 12GB, แบตเตอรี่ 5000 mAh ย้อนราคาของซีรีส์ Xperia 1 ที่ขายในประเทศไทย Xperia 1 ราคา 31,990 บาท Xperia 1 II ราคา 35,990 บาท Xperia 1 III ราคา 42,990 บาท Xperia 1 IV ราคา 48,990 บาท ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ Sony Thai
# Framework โน้ตบุ๊กซ่อมง่าย เปิดตัวบอร์ดอัพเกรด Intel Core รุ่นที่ 12 Framework โน้ตบุ๊กที่เน้นการซ่อมบำรุงได้ง่ายจนได้คะแนน iFixit 10 เต็ม เปิดตัวเมนบอร์ดอัพเกรดซีพียูเป็น Intel Core รุ่นที่ 12 ให้ลูกค้าที่ซื้อไปก่อนหน้านี้สามารถซื้อเฉพาะบอร์ตไปอัพเกรดได้ ตัวโน้ตบุ๊ก Framework รุ่นแรกตอนนี้ขายอยู่ที่เริ่มต้น 899 ดอลลาร์ และรุ่น Intel Core รุ่นที่ 12 ราคาเริ่มต้น 1,049 ดอลลาร์ ตัวบอร์ดอัพเกรดเริ่มต้นที่ 539 ดอลลาร์ โดยตัวบอร์ดมาพร้อมกับฝาปิดเครื่อง เพราะทาง Framework เปลี่ยนจากอลูมิเนียมขึ้นรูปมาเป็น CNC เพื่อเสริมความแข็งแรง สำหรับเมนบอร์ดเดิม Framework เปิดพิมพ์เขียวและสเปคไฟฟ้าให้ใช้งานได้แบบ creative commons เพื่อให้นำไปดัดแปลง เช่นใช้งานกับทีวี ที่มา - Framework
# WhatsApp เปิดตัว Cloud API ให้นักพัฒนาภายนอกใช้งาน ไม่ต้องตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง WhatsApp เปิดตัว Cloud API ให้ธุรกิจและนักพัฒนาสามารถเชื่อมระบบเข้ากับแพลตฟอร์มแชทได้แล้ว WhatsApp ถือเป็นบริการแชทยอดนิยมที่เข้ามายังตลาดธุรกิจค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ ก่อนหน้านี้ WhatsApp เคยเปิด Business API มาก่อน แต่จำกัดวิธีการใช้งานว่าผู้ใช้ต้องมีเซิร์ฟเวอร์เอง หรือใช้ผ่านเซิร์ฟเวอร์ของคู่ค้าที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น มีวิธีคิดเงินตามจำนวนข้อความที่ส่ง ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น Cloud API เป็นการเปิด API ที่รันบนคลาวด์ของ Meta เอง ไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์เอง แถมยังใช้งานได้ฟรี เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กมากขึ้น นอกจาก API แล้ว บริษัท Meta ยังอัพเดตแอพ WhatsApp Business App สำหรับคนที่ต้องการใช้งานผ่านแอพ (ไม่ต้องเชื่อมต่อ API เอง) เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น ระบบหลังบ้านจัดการแชท สามารถใช้อุปกรณ์เข้ามาใช้งานได้สูงสุด 10 เครื่อง สำหรับให้พนักงานเข้ามาช่วยกันตอบแชท, เพิ่มลิงก์ click-to-chat สำหรับฝังบนหน้าเว็บ ที่ปรับแต่งได้มากขึ้น เป็นต้น ที่มา - Meta for Developers, TechCrunch, ภาพจาก Mark Zuckerberg
# Epic Games Store จัดเทศกาลลดราคาปี 2022 ลดสูงสุด 75%, แจกเกมฟรี Borderlands 3 Epic Games Store จัดเทศกาลลดราคารอบใหม่ Mega Sale 2022 ลดราคาสูงสุด 75% และมีแจกเกมฟรีเรียกลูกค้าด้วย เกมแรกคือ Borderlands 3 เกมยิงแนวไซไฟอวกาศของค่าย Gearbox Software โดยจะมีเกมอื่นๆ ทยอยตามมาที่ยังไม่เปิดเผยชื่อในตอนนี้ ตัวอย่างเกมใหญ่ที่ลดราคา ได้แก่ Far Cry 6 ลด 50% เหลือ 800 บาท Ghostwire Tokyo ลด 34% เหลือ 890 บาท Tiny Tina's Wonderland ลด 20% เหลือ 1,192 บาท Final Fantasy VII Remake Intergrade ลด 29% เหลือ 1,739.50 บาท Red Dead Redemption 2 ลด 50% เหลือ 799.50 บาท Horizon Zero Dawn Complete Edition ลด 50% เหลือ 645 บาท Assassin's Creed Valhalla ลด 50% เหลือ 640 บาท Mafia: Trilogy ลด 50% เหลือ 745 บาท Hitman 3 ลด 50% เหลือ 785 บาท Disco Elysium ลด 65% เหลือ 161 บาท นอกจากส่วนลดเกมแบบขายขาดแล้ว ในกลุ่มเกมเล่นฟรีอย่าง Rocket League, Fortnite, Smite, Eve Online, Warframe ยังมีของแถมแจกฟรี และส่วนลดแพ็กเกจไอเทมด้วยเช่นกัน ที่มา - Epic Games
# แคนาดา แบนอุปกรณ์ 5G ของ Huawei และ ZTE สั่งทุกบริษัทถอดออกภายในปี 2024 แคนาดาประกาศแบนการใช้อุปกรณ์ 5G ของ Huawei และ ZTE โดยอ้างเรื่องมาตรการความปลอดภัยของประเทศ องค์กรใด ๆ ที่ติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคมของ 2 แบรนด์นี้จะต้องถอดการติดตั้ง อุปกรณ์ 5G ต้องถอดการติดตั้งภายในเดือน มิ.ย. 2024 ส่วนอุปกรณ์ 4G ต้องถอดการติดตั้งภายในปี 2027 แคนาดานับเป็นประเทศที่ 5 ที่ประกาศแบนอุปกรณ์โทรคมนาคมของประเทศจีน ตามหลังสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่สำคัญแคนาดาเคยให้ความร่วมมือกับทางการสหรัฐอเมริกาในการจับกุม Meng Wanzhou ประธานเจ้าหน้าที่การเงินของ Huawei และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเริ่มมีปัญหา Alykhan Velshi ผู้อำนวยการกิจการองค์กร Huawei แคนาดา แจ้งว่าถึงจะมีการแบนเกิดขึ้น แต่ Huawei ยังมีพนักงานอยู่ในแคนาดากว่า 1,500 คน และส่วนใหญ่รับผิดชอบหน้าที่วิจัย และพัฒนา รวมถึงการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือจะยังดำเนินต่อไปเช่นเดิม การแบนอุปกรณ์ 5G ของ Huawei และ ZTE ถือเป็นโอกาสธุรกิจของผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายอื่น ซึ่งค่ายมือถือในประเทศแคนาดาก็เริ่มเจรจากับพาร์ตเนอร์รายใหม่บ้างแล้ว เช่นในปี 2020 Bell Canada และ Telus สองค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ที่นั่น ร่วมมือกับ Ericson และ Nokia ในการติดตั้งอุปกรณ์ 5G มาก่อนแล้ว อ้างอิง // Reuters ภาพจาก Huawei
# ULA ส่งยาน Starliner ขึ้นวงโคจรสำเร็จ เตรียมเข้าเทียบสถานีอวกาศนานาชาติ United Launch Alliance (ULA) นำส่งยาน Starliner ของ Boeing ขึ้นสู่วงโคจรด้วยจรวด Atlas V สำเร็จ เตรียมเทียบท่าเข้ากับสถานีอวกาศนานาชาติเป็นครั้งแรก หลังจากกำหนดการเดิมยาน Starliner ต้องทดสอบเทียบท่าแบบไม่มีผู้โดยสารตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2019 โครงการ Starliner เป็นโครงการคู่ขนานที่ถูกเลือกภายใต้โครงการ Commercial Crew ของนาซ่าคู่กับโครงการยาน Dragon ของ SpaceX แต่ Starliner ประสบปัญหาล่าช้าหลายครั้ง ความล่าช้าสำคัญคือภารกิจ OFT อันแรกไม่สามารถขึ้นสู่วงโคจร ที่มา - ULA
# Xiaomi ไตรมาส 1/2022 ยอดขายสมาร์ทโฟนกระทบจากปัญหาซัพพลายเชน Xiaomi รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2022 รายได้รวม 73,351.5 ล้านหยวน ลดลง 4.6% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,858.6 ล้านหยวน รายได้แยกตามส่วนธุรกิจ สมาร์ทโฟน 45,762.7 ล้านหยวน ลดลง 11.1% จำนวนส่งมอบ 38.5 ล้านเครื่อง สาเหตุจากปัญหาชิ้นส่วนในการผลิตขาดแคลน ที่เป็นผลจากสถานการณ์โควิด 19 กลุ่มธุรกิจ IoT และไลฟ์สไตล์ 19,477.4 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6.8% ปัจจัยหลักจาก Xiaomi Pad 5 ตลอดจนเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ และธุรกิจ Internet Services เพิ่มขึ้น 8.2% จากรายได้โฆษณาที่เพิ่มขึ้น Xiaomi ระบุว่าบริษัทมีการลงทุนวิจัยและพัฒนาต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้น 16% เป็น 3,494.5 ล้านหยวน มีสิทธิบัตรที่อนุมัติแล้วกว่า 26,000 รายการ ที่มา: Xiaomi
# Grab รายงานผลประกอบการไตรมาส เติบโตทั้งธุรกิจเดินทางและเดลิเวอรี Grab Holdings รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2022 มีรายรับสุทธิ (GMV) 4,805 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน แบ่งเป็นธุรกิจเดินทาง 834 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% เดลิเวอรี 2,562 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 50% และธุรกิจการเงิน 1,357 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23% มีจำนวนผู้ใช้งานรวม (MTU) 30.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10% รายได้ส่วนของ Grab คิดเป็น 228 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% ขาดทุนลดลงเป็น 435 ล้านดอลลาร์ Anthony Tan ซีอีโอ Grab กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่ออกมาสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมองว่าแนวโน้มจะดีขึ้นต่อเนื่อง จากมาตรการผ่อนคลายของแต่ละประเทศ ที่มา: Grab