txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# DigitalOcean เข้าซื้อ CSS-Tricks
DigitalOcean ประกาศเข้าซื้อ CSS-Tricks เว็บไซต์แนะนำการพัฒนา front-end รายใหญ่ ที่มีบทความและวิดีโอแนะนำมากถึง 6,500 ชุด โดยไม่ได้ระบุมูลค่าของการซื้อขายครั้งนี้
แม้ DigitalOcean จะเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ แต่ก็ลงทุนกับการสร้างคอนเทนต์เพื่อทำตลาดมานาน มีบทความแนะนำโดยเฉพาะการใช้งานลินุกซ์เป็นจำนวนมาก ก่อนการเข้าซื้อครั้งนี้ DigitalOcean ก็มีบทความบนเว็บไซต์มากกว่า 6,000 บทความ และคำถามตอบจากชุมชนอีกประมาณ 30,000 รายการ
CSS-Tricks จะให้บริการแยกจากเว็บไซต์ DigitalOcean ต่อไป และผู้ก่อตั้งจะทำงานในฐานะผู้ให้คำแนะนำ ผู้เขียนบน CSS-Tricks จะได้เข้าโครงการ Write for DOnations ที่จ่ายค่าบทความไปด้วย ส่วนตอนนี้โฆษณาตามจุดต่างๆบนเว็บไซต์ CSS-Tricks ก็กลายเป็น DigitalOcean ไปหมดแล้ว
ที่มา - DigitalOcean |
# Spotify เซ็นสัญญาสปอนเซอร์สโมสร Barcelona, เปลี่ยนชื่อสนามแข่งเป็น Spotify Camp Nou
บริษัทเพลงสตรีมมิ่ง Spotify เซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์หลักของสโมสรฟุตบอล FC Barcelona ในสเปน เป็นระยะเวลานาน 5 ปี
ภายใต้ข้อตกลงนี้ Spotify จะกลายเป็นโลโก้สปอนเซอร์บนเสื้อแข่งของสโมสรในฤดูกาลแข่งขันหน้า 2022-23 (สปอนเซอร์ปัจจุบันคือ Rakuten) และสนามแข่ง Camp Nou จะเปลี่ยนชื่อเป็น Spotify Camp Nou ตลอดอายุสปอนเซอร์
Spotify บอกว่าสัญญาสปอนเซอร์นี้เป็นการเชื่อมโลกดนตรีกับฟุตบอลเข้าด้วยกัน โดยจะนำศิลปินจากทั่วโลกไปทำกิจกรรมที่สนามแข่งด้วย เช่น ขึ้นป้ายบิลบอร์ดของศิลปินในสนามแข่งหรือพื้นที่สื่อของสโมสร ซึ่งศิลปินที่โชว์อาจมองเห็นแตกต่างกันไปตามผู้ชมแต่ละประเทศ
Spotify มีจุดกำเนิดจากยุโรป ซึ่งใกล้ชิดกับวัฒนธรรมกีฬาฟุตบอลอย่างมาก ตัวผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Daniel Ek ก็เคยเสนอซื้อสโมสรฟุตบอล Arsenal ที่เขาเป็นแฟนมานาน แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะเจ้าของปัจจุบันยังไม่สนใจขาย
ที่มา - Spotify |
# Google Domains ประกาศออกจากสถานะเบต้าแล้ว หลังให้บริการมา 7 ปี
Google Domains บริการรับจดโดเมนของกูเกิล ประกาศว่าบริการได้ออกจากสถานะเบต้าแล้ว หลังเปิดตัวแบบสาธารณะเมื่อ 7 ปีที่แล้ว พร้อมรองรับผู้ใช้งานเพิ่มเป็น 26 ประเทศ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยที่ใช้งานได้มาระยะหนึ่งแล้ว
บริการของ Google Domains มีจุดเด่น คือเพิ่มความสะดวกโดยเฉพาะกับองค์กรธุรกิจ ในการใช้งานร่วมกับบริการอื่นของกูเกิล เช่น เสิร์ช หรือ Maps รวมทั้งสร้างหน้าเว็บผ่าน Google Sites หรือผ่านพาร์ตเนอร์เช่น Wix, Shopify, Squarespace, Weebly และ Bluehost ตลอดจนระบบจัดการความปลอดภัยต่าง ๆ ตามมาตรฐาน
กูเกิลยังให้ส่วนลดทั้งผู้ใช้งานใหม่และลูกค้าเดิมในช่วงนี้ถึง 15 เมษายน โดยใช้โค้ด DOMAINS20
ที่มา: กูเกิล |
# Tencent เข้าถือหุ้นใหญ่ใน Tequila Works ผู้พัฒนาเกม RiME และ Song of Nunu
Tencent ประกาศเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Tequila Works สตูดิโอพัฒนาเกมจากสเปน ที่มีผลงานเด่นอย่างเกมพัซเซิล RiME ดีลดังกล่าวไม่มีการเปิดเผยมูลค่า แต่ Tequila Works จะช่วยให้เกมของบริษัทเติบโตไปสู่อีกระดับหนึ่งได้
ปัจจุบัน Tequila Works มีโปรเจกต์พัฒนาเกม Song of Nunu: A League of Legends Story ร่วมกับ Riot Games ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Tencent
ในปีที่ผ่านมา Tencent เข้าลงทุนในบริษัทพัฒนาเกมจำนวนมาก หนึ่งในดีลสำคัญคือ Turtle Rock Studios ผู้พัฒนาเกม Back 4 Blood |
# ConsenSys ผู้พัฒนา MetaMask รับเงินทุน Series D ที่มูลค่ากิจการ 7,000 ล้านดอลลาร์
ConsenSys สตาร์ทอัพที่เน้นพัฒนาบริการบนบล็อกเชน Ethereum ประกาศรับเงินทุนซีรี่ส์ D รวม 450 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการสูงกว่า 7 พันล้านดอลลาร์แล้ว โดยผู้ลงทุนหลักในรอบนี้คือ ParaFi Capital ซึ่งเคยลงทุนในซีรี่ส์ C มาแล้ว ส่วนผู้ลงทุนรายอื่นที่คุ้นชื่อ เช่น Temasek, SoftBank Vision Fund 2, Microsoft, Anthos Capital เป็นต้น
บริการของ ConsenSys มีหลายอย่าง แต่ที่สายคริปโตน่าจะคุ้นกันดีคือกระเป๋าเงิน MetaMask ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นได้แก่ Infura เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา, Quorum แพลตฟอร์มบล็อกเชนโอเพนซอร์ส และ Codefi
ConsenSys ให้ตัวเลขว่า MetaMask ตอนนี้มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มากกว่า 30 ล้านบัญชีแล้ว เพิ่มขึ้นกว่า 42% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีตลาดผู้ใช้งานหลักในอเมริกา ฟิลิปปินส์ บราซิล
เงินลงทุนรอบนี้จะถูกแปลงเป็น ETH เพื่อบริหารบัญชีเงินทุนสำรองของบริษัท และนำไปใช้ขยายธุรกิจกับพนักงาน
ที่มา: Consensys |
# GoTo เตรียมขายหุ้นไอพีโอกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท เข้าตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย
GoTo บริษัทที่มาจากการรวมกิจการของสองบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในอินโดนีเซีย Gojek และ Tokopedia ประกาศเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นอินโดนีเซีย โดยขายหุ้นเพิ่มทุนอย่างน้อย 15.2 ล้านล้านรูเปียห์ หรือราว 3.6 หมื่นล้านบาท เป็นไอพีโอขนาดใหญ่รายการหนึ่งของประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย
เมื่อปลายปีที่แล้ว GoTo ประกาศรับเงินจากนักลงทุนรอบสุดท้ายรวม 1.3 พันล้านดอลลาร์
GoTo แบ่งโครงสร้างบริษัทปัจจุบันเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ธุรกิจออนดีมานด์ Gojek, อีคอมเมิร์ซ Tokopedia และฟินเทค GoTo Financial ซึ่ง GoTo ก็อธิบายความยิ่งใหญ่ของธุรกิจว่ามีมูลค่าคิดเป็น 2% ของ GDP ประเทศอินโดนีเซียในปี 2020 และบริการก็เข้าถึงประชากร 2 ใน 3 ของประเทศ
ที่มา: GoTo |
# Xiaomi เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะ Watch S1 และ S1 Active ราคา 6,990 และ 4,990 บาท
พร้อมๆ กับ Xiaomi 12 Series ทาง Xiaomi ยังเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะในไทย 2 รุ่นคือ Watch S1 และ Watch S1 Active
ในแง่สเปค 2 รุ่นไม่แตกต่างกันมากคือหน้าจอ AMOLED 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล แบตเตอรี่ 470mAh ที่ Xiaomi เคลมว่าใช้ได้ต่อเนื่องสูงสุด 12 วัน กันน้ำระดับ 5ATM มีเซ็นเซอร์วัดการเต้นหัวใจ , gyroscope, accelerometer, barometer, Ambient light sensor และ capacitive proximity sensor มี GPS ในตัว รองรับ Alexa, Bluetooth 5.2 และ Wi-Fi 4
ส่วนจุดแตกต่างคือ Watch S1 มาในดีไซน์เรียบหรู บอดี้เป็นสแตนเลส กระจกซัฟไฟร์ มีตัวเลือกสายหนังและยาง ตัวเรือนหนัก 52 กรัม ขณะที่ Watch S1 Active ออกแนวสปอร์ต ตัวเลือกสายมีพลาสติก TPU และซิลิโคน
ราคาของ Watch S1 อยู่ที่ 6,990 บาท ส่วน Watch S1 Active 4,990 บาท วางจำหน่าย 16 มีนาคมนี้
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ |
# MongoDB ประกาศตัดบริการลูกค้าจากรัสเซียและเบลารุส แนะนำให้รีบขนข้อมูลออก
MongoDB ผู้พัฒนาระบบฐานข้อมูลแบบ NoSQL ยอดนิยมเตรียมตัดบริการ MongoDB Atlas ที่เป็นบริการคลาวด์สำหรับบัญชีผู้ใช้จากรัสเซียและเบลารุส และอีเมลแจ้งเตือนให้ลูกค้ากลุ่มนี้รีบสำรองข้อมูลออกจาก MongoDB ทันทีไม่เช่นนั้นข้อมูลจะหาย
แนวทางนี้ของ MongoDB นับว่าร้ายแรงที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น AWS ที่ประหยุดรับลูกค้าใหม่เพิ่มเติมเท่านั้น (ไมโครซอฟท์ระบุว่าจะหยุดขายเพิ่ม แต่ไม่ชี้แจงว่าจะทำอย่างไรกับลูกค้า Azure)
แนวทางการปรับทุกอย่างเป็นบริการ เช่น IaaS, PaaS, และ SaaS เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงสิบปีที่ผ่านมา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็แสดงให้เห็นว่าการใช้โครงสร้างพื้นฐานเป็นบริการก็หมายถึงว่าบริษัทต้องพึ่งองค์กรภายนอกที่อาจจะตัดบริการได้หากเงื่อนไขเพียงพอ
ที่มา - The Register |
# เปิดตัว Xiaomi 12 และ 12 Pro ในไทย ราคาเริ่ม 24,990 บาท, พรีออเดอร์รับ Watch S1 Active
Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว (สเปคดูได้จากข่าวเก่า)
ทั้ง 2 รุ่นจะวางจำหน่ายวันที่ 2 เมษายนนี้ ส่วนราคาและความจุมีดังนี้
Xiaomi 12 Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB ราคา 31,990 บาท ขายที่ Xiaomi Store ทุกสาขาและร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
Xiaomi 12 รุ่นความจุ 12GB+256GB ราคา 26,990 บาท ขายที่ JD Central, Lazada และ Shopee
Xiaomi 12 รุ่นความจุ 8GB+256GB วราคา 24,990 บาท ขายที่ Xiaomi Store ทุกสาขาและออนไลน์แพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ยังมีโปรโมชัน ผู้ที่พรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 16-27 มีนาคมนี้ รับฟรี นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 4,990 บาท รวมถึงผู้ที่พรีออเดอร์กับโอเปอเรเตอร์ จะได้สิทธิราคาพิเศษ Xiaomi 12 Pro ราคาเริ่มต้น 17,490 บาท และ Xiaomi 12 ราคาเริ่มต้น 12,990 บาท (น่าจะขึ้นกับโปรโมชัน)
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ |
# Arm ปลดพนักงานออก 12-15% ลดค่าใช้จ่ายหลังดีลควบรวม NVIDIA ล่ม
Arm ประกาศปลดพนักงานออกราว 12-15% หรือประมาณ 780-975 คนจากพนักงานทั่วโลก 6,500 คน ด้วยเหตุผลว่าต้องการลดค่าใช้จ่ายของบริษัทลง
ถึงแม้ Arm ไม่ได้พูดชัดเจน แต่การปลดพนักงานรอบนี้เกิดขึ้นหลังดีล NVIDIA ล่มเพียงเดือนเดียว โดย SoftBank เจ้าของปัจจุบันของ Arm ระบุว่าจะนำบริษัทไปขายหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์แทน จึงเป็นไปได้สูงว่าปลดพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย ให้ตัวเลขผลประกอบการดูดีขึ้นพร้อมเข้าขายหุ้น
ที่มา - Neowin, Guardian, ภาพจาก Arm |
# AMD เปิดตัว Ryzen 7 5800X3D ใช้แคช 3D แบบใหม่ ประสิทธิภาพเล่นเกมดีขึ้น 15%
AMD เปิดตัวซีพียู Ryzen สำหรับเดสก์ท็อปรุ่นใหม่อีกชุดใหญ่ พระเอกของรอบนี้คือ Ryzen 7 5800X3D ที่ใช้เทคโนโลยี AMD 3D V-Cache แบบใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านเกมมิ่งขึ้นอีก 15% เมื่อเทียบกับ 5800X รุ่นปกติ
Ryzen 7 5800X3D เปิดตัวมาก่อนแล้วในงาน CES 2022 รอบต้นปี โดยสเปกของมันยังเป็น Ryzen 7 5800X มี 8 คอร์ 16 เธร็ด คล็อคสูงสุด 4.5GHz จุดเด่นของมันคือระบบแคช L3 แบบใหม่ 3D V-Cache ขนาด 64MB เพิ่มเข้ามาจากแคช 2D แบบเดิมอีก 32MB (รวมเป็น 96MB เทียบกับ 5800X มีแคช L3 แค่ 32MB)
3D V-Cache เป็นวิธีวางแพ็กเกจชิปแบบใหม่ที่วางแคชทับกันเป็นเลเยอร์ 3D เพื่อให้ได้แคชจำนวนมากขึ้น (บนพื้นที่แผ่นซีพียูเท่าเดิม ดูคลิปประกอบ) AMD ระบุว่า 5800X3D ถือเป็นซีพียูสำหรับเล่นเกมที่แรงที่สุดในตอนนี้ ราคาขายที่ 449 ดอลลาร์ (เท่ากับ 5800X ตอนเปิดตัว) เริ่มวางขาย 20 เมษายน 2022
นอกจาก 5800X3D แล้ว AMD ยังมีซีพียู Ryzen ใหม่อีก 6 รุ่น แยกเป็นรุ่นแกน Zen 3 และแกน Zen 2 ? อย่างละ 3 รุ่น ได้แก่
Zen 3
Ryzen 7 5700X 8 คอร์ 16 เธร็ด ราคา 299 ดอลลาร์
Ryzen 5 5600 6 คอร์ 12 เธร็ด ราคา 199 ดอลลาร์
Ryzen 5 5500 6 คอร์ 12 เธร็ด ราคา 159 ดอลลาร์
Zen 2
Ryzen 5 4600G 6 คอร์ 12 เธร็ด มีจีพียู Radeon ราคา 154 ดอลลาร์
Ryzen 5 4500 6 คอร์ 12 เธร็ด ราคา 129 ดอลลาร์
Ryzen 3 4100 4 คอร์ 8 เธร็ด ราคา 99 ดอลลาร์
ที่มา - AMD |
# อินเทลประกาศลงทุนสายการผลิตชิปในยุโรปชุดใหญ่ มูลค่ารวม 3 ล้านล้านบาท
อินเทลประกาศลงทุนชุดใหญ่ในสหภาพยุโรป โดยแผนสิบปีจะมีการลงทุน 80,000 ล้านยูโร หรือเกือบ 3 ล้านล้านบาท นับรวมการลงทุนทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา, โรงงานในสายการผลิตต่างๆ, ศูนย์ออกแบบชิป, และโรงงานผลิตชิป
แต่ในบรรดาแผนที่ประกาศมาทั้งหมดนั้น ส่วนที่ชัดเจนที่สุดคือโรงงานผลิตชิปที่ระบุว่าทันสมัยที่สุด (first-of-their-kind) สองโรงงานในเมือง Magdeburg ประเทศเยอรมัน โรงงานทั้งสองแห่งนี้จะผลิตชิปในระดับอังสตรอมที่อินเทลประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้โครงการอยู่ระหว่างการวางแผนและคาดว่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างได้ภายในครึ่งแรกของปี 2023 คาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตจริงปี 2027 มูลค่า 17,000 ล้านยูโร หรือกว่า 6 แสนล้านบาท
สำหรับการผลิตระยะสั้นกว่านั้น อินเทลจะลงทุน 12,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 440,000 ล้านบาท อัพเกรดโรงงานในไอร์แลนด์เพื่อเปิดสายการผลิตสำหรับเทคโนโลยี Intel 4 และการเปิดสายการผลิตปลายทาง (back-end manufacturing - โรงงานผลิตชิปหลังจากมีวงจรในเวเฟอร์แล้ว เช่น การทดสอบ, ตัดแยกชิป, ต่อสายสัญญาณ) ในอิตาลี มูลค่า 4,500 ล้านยูโร คาดว่าเปิดสายการผลิตระหว่างปี 2025 และ 2027
นอกจากโรงงานผลิตแล้ว ยังมีศูนย์วิจัยในฝรั่งเศสแห่งใหม่ ขยายพื้นที่ศูนย์วิจัยในโปแลนด์
ที่มา - Intel |
# อดีตประธานนินเทนโดอเมริกา บอกไม่เชื่อใน Metaverse ตามนิยามของ Meta
Reggie Fils-Aimé อดีตประธานของนินเทนโดอเมริกาที่เกษียณอายุไปเมื่อปี 2019 ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg พูดถึงวงการเกมในภาพรวม
Reggie พูดถึงประเด็นร้อนแห่งยุคอย่าง metaverse ว่าเขาไม่เชื่อในนิยาม metaverse ของบริษัท Meta/Facebook เลย เพราะบริษัทนี้ไม่มีนวัตกรรม ทำได้แต่การซื้อกิจการบริษัทอื่น (เช่น Oculus/Instagram) หรือลอกไอเดียของคนอื่น ซึ่งเขาไม่คิดว่าแนวทาง metaverse ของ Meta จะประสบความสำเร็จ
Reggie บอกว่าเขาลองแว่น VR มาทุกรุ่นในตลาดแล้ว เขาไม่คิดว่า VR พร้อมสำหรับการใช้งานเป็นวงกว้างในตอนนี้ เรายังไม่เข้าสู่ยุคที่เราเสพความบันเทิงในโลก VR ทั้งหมด 100% และเขายังให้ข้อมูลว่าแว่น VR มียอดขายรวมประมาณ 20 ล้านชุด ซึ่งเทียบได้กับยอดขายเครื่องเกมของนินเทนโดเพียงหนึ่งปี
แต่ Reggie บอกว่าเขาเชื่อในแนวทางของบริษัทเล็กกว่าแต่มีนวัตกรรมมากกว่า เช่น Epic Games หรือ Roblox ที่สามารถทำสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ ได้ เขามองว่าเกมแบบ Fortnite ที่ใส่การเล่นแบบ AR เพิ่มเข้ามาย่อมให้ประสบการณ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม
Reggie ยังพูดถึงกระแสการซื้อสตูดิโอเกม หลังจากไมโครซอฟท์ซื้อ Activision Blizzard ว่าอุตสาหกรรมเกมมีขนาดใหญ่มาก มีมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ครอบคลุมเกมเมอร์ 3 พันล้านคนทั่วโลก ดังนั้นเราจะได้เห็นการซื้อกิจการสตูดิโอเกมเพิ่มขึ้นอีกมาก
ที่มา - Bloomberg, IGN, The Verge |
# Kawasaki สร้างหุ่นยนต์แพะภูเขา Bex ขี่ได้จริง มีโหมดเดิน และโหมดวิ่งด้วยล้อ
Kawasaki สร้างหุ่นยนต์เดินสี่ขารุ่นใหม่ ชื่อ Bex ออกแบบตามแพะภูเขา Ibex เป้าหมายคือเป็นหุ่นที่สามารถเคลื่อนที่ได้ทั้งบนทางเรียบและทางขรุขระ โดยใช้การปรับโหมด โหมดแรกเป็นโหมดเดิน ใช้เคลื่อนที่ในทางขรุขระ แต่ความเร็วต่ำ
ส่วนอีกโหมดเป็นโหมดใช้ล้อวิ่ง โดยจะมีล้ออยู่ที่หัวเข่าและใต้ท้อง สามารถพับขาลงไป แล้วยืดล้อที่ท้องลงมาเพื่อวิ่งบนพื้นเรียบเพื่อให้เคลื่อนที่เร็วกว่าโหมดเดินได้ (แต่ก็ยังไม่เร็วมากนัก) ซึ่งข้อนี้น่าจะได้เปรียบหุ่นยนต์ Spot ของ Boston Dynamics ที่มีแค่โหมดเดิน
Bex บรรทุกน้ำหนักได้ราว 220 ปอนด์ หรือราว 100 กิโลกรัม โครงสร้างด้านบนเป็นแบบ modular สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นโครงรูปแพะภูเขาที่มีที่ให้คนขี่แบบที่นำมาโชว์ หรือปรับให้ใช้งานอื่นเช่นขนวัสดุก่อสร้าง หรืออุปกรณ์อื่นได้
ที่มา - Engadget |
# HBO Max และ Discovery+ จะรวมกันเป็นบริการเดียว หลังบริษัทแม่ควบรวมกันเสร็จ
บริการสตรีมมิ่งสองตัวคือ HBO Max และ Discovery+ ประกาศควบรวมกันเป็นบริการเดียวในอนาคต
เหตุผลเป็นเพราะบริษัทแม่ของทั้งสองกำลังจะควบรวมกัน นั่นคือ WarnerMedia (แม่ของ HBO) และ Discovery Inc. (แม่ของ Discovery+) เป็นบริษัทใหม่ชื่อ Warner Bros. Discovery ซึ่งกระบวนการจะเสร็จสิ้นในช่วงกลางปี 2022 นี้
หลังควบรวมเสร็จ เราจะเห็นบริการสตรีมมิ่งทั้งสองตัวจะขายพ่วงกันไปก่อน ใช้บัญชีล็อกอินเดียวกันได้ (เหมือนชุดบันเดิล Disney+, Hulu, ESPN+ ที่ซื้อรวมกันถูกกว่า) จากนั้นในระยะยาวจะควบรวม HBO Max กับ Discovery+ เป็นตัวเดียวกัน โดยยังไม่บอกว่าจะใช้ชื่ออะไร
ที่มา - The Hollywood Reporter |
# ไมโครซอฟท์ออก DirectStorage API บนวินโดวส์ เพิ่มประสิทธิภาพการโหลดไฟล์เกมจาก SSD
ไมโครซอฟท์เปิดตัว DirectStorage API บนพีซีอย่างเป็นทางการ ทั้งบน Windows 10 และ 11
DirectStorage API เป็น API ตัวใหม่ที่เริ่มใช้กับ Xbox Series X|S ก่อน ไอเดียของมันคือใช้ประโยชน์จาก NVMe SSD ที่ใช้งานกันแพร่หลายแล้วในยุคนี้ เกมสามารถสั่งดึงข้อมูลจากดิสก์เป็นชิ้นเล็กๆ (64kb) แต่ทำงานขนานกันมากๆ โดยไม่เปลืองแรงของซีพียูมากนัก เพราะกระจายงานโหลดและแตกไฟล์ไปอยู่ที่ตัว NVMe แทน
ไมโครซอฟท์ประกาศข่าวนี้มาตั้งแต่ปี 2020 และเริ่มทดสอบในปี 2021 ตอนนี้ตัว SDK ออกเวอร์ชัน 1.0 เรียบร้อยแล้ว เอกสารและไฟล์ตัวอย่างอ่านได้จาก GitHub
ไมโครซอฟท์ระบุว่าการมาถึงของ DirectStorage ที่เป็น API ชุดเดียวกันทั้งบน Xbox Series X|S และพีซี จะทำให้นักพัฒนาเกมยุคใหม่ทำงานง่ายขึ้น และเปลี่ยนวิธีเขียน I/O ของเกมเป็นโมเดลใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เกมแรกที่จะใช้งาน DirectStorage บนพีซีคือ Forspoken ของ Square Enix (กำหนดออกเดือนตุลาคม 2022) ซึ่งน่าสนใจตรงที่ลงเฉพาะคอนโซล PS5 (ซึ่งไม่มี DirectStorage) กับพีซีเท่านั้น ไม่มีเวอร์ชัน Xbox Series X|S ด้วย
ที่มา - Microsoft |
# RIAA ออกรายงานอุตสาหกรรมเพลงสหรัฐฯ ปี 2021: สตรีมมิ่งยังโต, ซีดีโตครั้งแรกในรอบ 17 ปี, ดาวน์โหลดลดลง
สมาคมอุตสาหกรรมเพลงของอเมริกาหรือ RIAA ออกรายงานอุตสาหกรรมเพลงในสหรัฐฯ ออกรายงานประจำปี 2021 โดยรายงานในปีที่แล้วยังคงระบุชัดว่าสตรีมมิ่งคือรายได้หลักของอุตสาหกรรม
ในรายงานระบุว่า รายได้จากสตรีมมิ่งอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โตขึ้น 23.8% ส่วน physical โดยรวมอยู่ที่ 1.16 พันล้านดอลลาร์ โตขึ้น 42.3% ส่วนดิจิทัลดาวน์โหลดอยู่ที่ 587 ล้านดอลลาร์ ลดลง 12%
หากแจกแจงในหมวด physical จะพบว่าปีนี้เป็นปีแรกที่ซีดีเติบโตขึ้นในรอบ 17 ปี โดยเติบโตสูงถึง 20.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 584 ล้านดอลลาร์ ปัจจัยหลักมาจากการผ่อนคลายมาตรการโควิดที่ทำให้ร้านขายซีดีกลับมาเปิดอีกครั้ง และศิลปินได้จัดงานแสดง ส่วนยอดขายแผ่นไวนิลก็เติบโตมาต่อเนื่องแล้ว 15 ปี ซึ่งปี 2021 รายได้จากแผนไวนิลอยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์ โตขึ้น 61.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ส่วนฝั่งสตรีมมิ่ง รายได้ส่วนใหญ่ยังคงมาจากสมาชิกแบบเสียเงินที่โตขึ้น 23% มาอยู่ที่ 9.5 พันล้านดอลลาร์ และในด้านจำนวนสมาชิกก็ยังเติบโตถึง 11% มาอยู่ที่ 84 ล้านราย รายได้เฉพาะส่วนนี้คิดเป็น 76% ของสตรีมมิ่งทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะเป็นบริการวิทยุดิจิทัล หรือระบบสมาชิกแบบฟรีมีโฆษณา
ที่มา - Engadget, RIAA
ภาพจาก Shutterstock โดย Antonio Guillem |
# Twitter ยอมถอยแล้ว กลับมาตั้งไทม์ไลน์ เรียงตามลำดับเวลาเป็นค่าเริ่มต้นได้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Twitter ประกาศแสดงฟีดหน้าแรกแบบตามอัลกอริทึมเป็นค่าเริ่มต้นเสมอ หากผู้ใช้ต้องการดูแบบตามลำดับเวลา ต้องเข้าไปเลือกแท็บ Latest Tweets อีกขั้นตอน จากเดิมที่กำหนดเป็นค่าเริ่มต้นได้เลย ผลลัพธ์คือเสียงบ่นตามมาจำนวนมาก แม้จะเริ่มต้นที่ iOS ระบบเดียว
ล่าสุด Twitter ประกาศถอยแล้ว โดยใช้คำว่าเรารับฟัง (We heard you) ผลคือไทม์ไลน์จะกลับมาเป็นรูปแบบเดิม ยกเลิกแท็บแยก และผู้ใช้งานสามารถเลือกดูฟีดเรียงตามลำดับเวลาเป็นค่าเริ่มต้นได้
Shaokyi Amdo โฆษกของ Twitter ชี้แจงเพิ่มเติมกับ The Verge ว่า ผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งบอกว่าไทม์ไลน์แบบใหม่ ทำให้พวกเขาควบคุมเนื้อหาที่จะแสดงไม่ได้อย่างที่ต้องการ เราจึงพิจารณาความเห็นนี้และนำมาปรับปรุง
ที่มา: The Verge |
# มาแล้ว iOS 15.4 ปลดล็อก Face ID ได้แม้ใส่มาสก์ - iPadOS 15.4 รองรับ Universal Control
แอปเปิลออกอัพเดต iOS 15.4 และ iPadOS 15.4 ตามที่ประกาศก่อนหน้านี้ มีฟีเจอร์เด่นคือ สามารถปลดล็อก Face ID ได้แม้ใส่มาสก์อยู่ โดยไม่ได้ต้องมี Apple Watch อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะ iPhone 12 ขึ้นไปเท่านั้น
ส่วนของใหม่อื่นใน iOS 15.4 ได้แก่ อีโมจิใหม่ 37 รายการ, Siri บอกวัน-เวลาได้แบบออฟไลน์ (iPhone XS, XR, 11 ขึ้นไป), Siri เพิ่มตัวเลือกเสียงใหม่ และอื่น ๆ
นอกจากนี้แอปเปิลยังออกอัพเดต macOS Monterey 12.3 ซึ่งมีฟีเจอร์ร่วมกับ iPadOS 15.4 นั่นคือ Universal Control ที่ผู้ใช้งานสามารถควบคุมเครื่องข้าม iPad, Mac และ MacBook ได้ อย่างไรก็ตามสถานะของฟีเจอร์นี้ยังเป็นเบต้าอยู่ นอกจากนี้ยังรองรับทิศทางเสียง dynamic head tracking สำหรับผู้ใช้ Mac ที่เป็น Apple Silicon ฟังผ่านแอป Music โหมด Spatial Audio ด้วยหูฟัง AirPods ที่รองรับ
ระบบปฏิบัติการอื่นที่มีอัพเดตเช่นกันมีดังนี้
watchOS 8.5 อัพเดตการเตือนหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบ AF
HomePod 15.4 รองรับการเชื่อมต่อกับ Captive WiFi
tvOS 15.4 รองรับการเชื่อมต่อกับ Captive WiFi
ที่มา: MacRumors [1], [2], [3], [4], [5] |
# Python ประกาศถอดไลบรารีมาตรฐานชุดใหญ่ เริ่มมีผลใน Python 3.12
Python เป็นภาษาโปรแกรมที่มีแนวคิดสำคัญคือการรวมเอาไลบรารีมาตรฐานชุดใหญ่ (battery included) ทำให้มีไลบรารีที่อยู่ในชุดมาตรฐานมานานนับสิบปีอยู่ในโครงการจำนวนมาก ตอนนี้ทาง Python Steering Council ก็ประกาศยอมรับ PEP-594 ข้อเสนอสำหรับการถอดไลบรารีจำนวน 21 ตัวออกจากไลบรารีมาตรฐาน
ไลบรารีบางตัวเริ่มใส่มาในโครงการ Python ตั้งแต่ปี 1992 เช่น audioop, nntplib, pipes และบางตัวก็มีประกาศเตือนให้หยุดใช้งาน (deprecated) มานานแล้ว เช่น asynchat, asyncore, smtpd โดยโมดูลส่วนใหญ่ไม่มีผู้ดูแลรับผิดชอบโดยตรงแล้ว
แม้จะยอมรับข้อเสนอ แต่โมดูลทั้งหมดจะเริ่มถูกถอดออกจริงๆ บางส่วนใน Python 3.12 เฉพาะที่มีการประกาศล่วงหน้ามานานแล้ว โดยคาดว่า Python 3.11 จะมีซัพพอร์ตไปจนถึงประมาณปี 2026 ส่วนโมดูลที่เหลือจะถอดออกใน Python 3.13 ซึ่งหากใช้ Python 3.12 ก็จะใช้งานได้ถึงปี 2028
ที่มา - Python Discuss |
# Google Cloud ประกาศปรับราคาชุดใหญ่ ขึ้นราคา Coldline คิดค่าเน็ตเวิร์คเพิ่ม
Google Cloud ประกาศปรับราคาบริการหลายอย่างเป็นชุดพร้อมกัน แต่จุดสำคัญคือบริการหลายตัวขึ้นราคาถึงเท่าตัว และบางบริการที่เคยฟรีก็เริ่มหันมาคิดเงิน แม้จะมีบริการบางส่วนที่ลดราคาลงก็ตาม
บริการที่ปรับราคาแล้วกระทบผู้ใช้ทั่วไปที่สุดคงเป็นบริการ Cloud Storage ที่มีทั้งปรับราคาขึ้นและลง
? เพิ่มโควต้า egress ออกอินเทอร์เน็ตฟรีจาก 1GB ต่อเดือนเป็น 100GB ต่อเดือน
? Archive Storage ที่ปรับลดลง
? ค่าสตอเรจปรับเพิ่มขึ้นหลายภูมิภาค
? ค่าส่งคำสั่ง (operation) ไปยังสตอเรจแบบ Coldline เพิ่มขึ้นเท่าตัว
? ค่าเน็ตเวิร์คจาก Cloud Storage ไปยังบริการอื่นใน Google Cloud ทวีปเดียวกันไม่ฟรีอีกต่อไป
กูเกิลยังปรับราคาบริการอื่นๆ ได้แก่
? ขึ้นค่าสตอเรจ snapshot ดิสก์เกือบเท่าตัว แม้จะเตรียมเปิดบริการ archive snapshot ที่ถูกลง แต่ก็บังคับคิดค่าบริการ 90 วัน จากปกติที่ snapshot คิดค่าบริการรายชั่วโมง
? Cloud Load Balancing คิดค่าประมวลผลข้อมูลขาออก (outbound data processed) จากเดิมคิดแต่ค่าประมวลผลข้อมูลขาเข้า
กูเกิลระบุว่าผลสุดท้ายราคาที่ลูกค้าจ่ายอาจจะแพงขึ้นหรือถูกลงขึ้นกับการใช้งาน แต่โดยทั่วไปแล้วหากต้องการลดค่าใช้จ่ายลงก็คงต้องปรับกระบวนการทำงาน เช่น เปลี่ยนประเภทสตอเรจ แต่สำหรับลูกค้ารายเล็กๆ จำนวนมากก็น่าจะได้ประโยชน์จากโควต้าเน็ตเวิร์คฟรีที่เพิ่มขึ้น
ราคาใหม่มีผลวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และหากเป็นลูกค้าที่เซ็นสัญญาการใช้งานไว้ล่วงหน้าจะได้ราคาเดิมจนกว่าจะหมดสัญญา
ที่มา - Google Cloud |
# [Counterpoint] ตลาด Smartwatch ปี 2021 โต 24% ตลาดอินเดียเติบโตสูง
บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint รายงานข้อมูลตลาดสมาร์ทวอทช์ทั่วโลกของปี 2021 ยอดขายรวมยังคงเติบโต 24% แม้ว่าปี 2020 ตัวเลขจะเติบโตสูงอยู่แล้วจากผลกระทบของโควิด 19 ตัวเลขในไตรมาสที่ 4 ไตรมาสเดียว มียอดส่งมอบมากกว่า 40 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในไตรมาสที่เคยบันทึก
นักวิจัยของ Counterpoint ให้ความเห็นว่าแนวโน้มตลาดสมาร์ทวอทช์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะฟีเจอร์ตรวจจับใหม่ ๆ เช่น ความดันเลือด, ECG และ SPO2 เป็นที่นิยมมากขึ้น อีกทั้งแนวโน้มจะมีสมาร์ทวอทช์ที่ทำงานได้อิสระ เชื่อมต่อเครือข่ายมือถือโดยตรง ก็จะเพิ่มการเติบโตมากขึ้นอีก
แอปเปิลยังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ที่ 30% ซึ่งลดลง 3% จากปีก่อน เนื่องจากคู่แข่งที่มากขึ้น ตามด้วย ซัมซุง หัวเหว่ย imoo Amazfit ในลำดับที่ 2-5
การเติบโตของสมาร์ทวอทช์รวมทั่วโลก มีปัจจัยสำคัญหนึ่งคือตลาดอินเดีย ซึ่งประเทศเดียวคิดเป็น 10% ของตลาดรวม เทียบกับปี 2020 ซึ่งอินเดียมียอดขาย 3% มีแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศคือ Noise (ส่วนแบ่งรวมทั่วโลกอันดับ 9)
ที่มา: Counterpoint |
# Vlog ยังไงให้ปังด้วยสมาร์ทโฟน “HUAWEI nova 9 SE” ราคาต่ำกว่าหมื่น!
เดี๋ยวนี้แค่ถ่ายรูปเอามาโพสต์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์กมันเอาท์ไปแล้ว ถ้าจะให้ขึ้นท็อปเทรนด์ ปั่นยอดไลก์ ยอดผู้ติดตามเยอะๆ มันต้องโพสต์เป็นคลิปสั้นๆ ปังๆ ให้ชาวโลกดู หรือที่เรียกว่าการทำ “Vlog” นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าอุปกรณ์คู่ใจของการทำ Vlog ในยุคนี้ก็คือ “สมาร์ทโฟน” ในมือคุณนั่นแหละ
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการจะทำ Vlog ระดับคุณภาพที่เรียกยอดคนดูได้เยอะๆ ปั่นยอดดูขึ้นรัวๆ ก็จำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนระดับคุณภาพที่ออกแบบมาเพื่อสาย Vlog ด้วย อย่าง “HUAWEI nova 9 SE” ที่หัวเว่ยเขาออกแบบมาเพื่อสายถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ ด้วยเลนส์กล้องหลากชนิดทั้งเลนส์ไวด์ เลนส์มาโคร และยังมาพร้อมกับแอปฯ ตัดต่อฉลาดๆ ที่แถม AI มาช่วยเจ้าของเครื่องเลือกฟุตเทจได้อย่างรวดเร็วทันใจ วันนี้ เราเลยอยากจะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆ ให้สาย Vlog ชาวไทยสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์เด่นของ HUAWEI nova 9 SE ในการสร้างสรรค์คลิปออกมาแบบเป๊ะปังที่สุดในสามโลก (โดยไม่ต้องอดหลับอดนอนตัดคลิปตลอดสัปดาห์) ซึ่งเอาจริงๆ ทำไม่ยากเลย แค่ทำตามนี้
อัดวิดีโออย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ด้วย Continuous Front/Rear Recording ผ่านความละเอียดกล้อง 108MP!
ถ้าหากอยากให้คลิป Vlog ที่คุณถ่ายมียอดคนดูเยอะๆ จะได้มีกำลังใจทำคอนเทนต์ดีๆ ต่อไป แนะนำว่าเวลาที่คุณถ่ายคลิป Vlog ก็ควรใช้การถ่ายแบบลองเทค (Long Take) เป็นหลัก ซึ่งการจะถ่ายช็อตลองเทคให้ออกมาง่ายดายโดยไม่ต้องตัดต่อคลิปไปมานั้นทำได้ง่ายมาก เพียงเรามีสมาร์ทโฟนอย่าง HUAWEI nova 9 SE ที่มาพร้อมกับลูกเล่นในการถ่ายวิดีโอแบบ Continuous Front/Rear Recording ที่สามารถถ่ายวิดีโอกล้องหน้าและกล้องหลังสลับไปมาได้อย่างต่อเนื่อง! ทำให้การถ่ายวิดีโอเป็นไปอย่างลื่นไหลและได้มุมมองที่แตกต่างกัน เช่น คลิปพาเที่ยวหรือรีวิวร้านอาหาร เราสามารถถ่ายภาพที่เห็นตรงหน้า ถ่ายบรรยากาศ อาหาร และสลับกลับมาเป็นวิดีโอกล้องหน้า 16MP ให้ได้เห็นฟีลของคนทำคอนเทนต์กันแบบชัดๆ ช่วยย่นระยะเวลาในการตัดต่อคลิปไปได้เยอะ อีกทั้ง HUAWEI nova 9 SE ยังพกเลนส์กล้องระดับคุณภาพความละเอียดสูงสุดถึง 108 เมกะพิกเซล! ซึ่งบอกเลยว่าสาย Vlog ไม่ต้องกังวลสามารถถ่ายยาวแบบไม่ต้องกลัวแบตฯ หมด ด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000 mAh แถมยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ HUAWEI Supercharge 66W ให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่มือถือจนเต็มในเวลาแค่ประมาณ 40 นาทีเท่านั้น1 เพื่อให้พร้อมหยิบมือถือไปถ่ายคลิปต่อโดยไม่ต้องเสียเวลารอ
ถ่ายวิดีโอแบบ Dual View สำหรับการเก็บทุกอารมณ์ลง Vlog
เดี๋ยวนี้ชาวเน็ตเค้าฮิตดูคลิปแนว Reaction จากเจ้าของ Vlog มากขึ้น เพราะให้อารมณ์สนุกเหมือนว่าเราได้ดูคลิปนั้นๆ กับเพื่อน จะดีสุดๆ หากคุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนที่มีฟังก์ชันอัดวิดีโอทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังไปพร้อมกันเพื่อถ่ายคลิปแนว Reaction อย่างโหมด Dual-View ใน HUAWEI nova 9 SE ในโหมดนี้คุณสามารถถ่ายวิดีโอมุมมองกล้องหน้าและกล้องหลังไปพร้อมกันได้เลย ซึ่งหน้าจอจะแบ่งการแสดงผลออกเป็น 2 มุมมอง แถมยังสามารถเปลี่ยนมุมกล้องเป็นภาพซูม ภาพมุมกว้าง หรือภาพโคลสอัพในระหว่างการถ่ายได้เพียงปลายนิ้ว เหมาะสำหรับ Vlog ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Vlog เซอร์ไพรส์ให้ของขวัญคนพิเศษที่สามารถเก็บ Reaction ของทั้งผู้ให้และผู้รับ หรือ Vlog รีวิวพาทัวร์ร้านคาเฟ่ชิกๆ ก็ทำได้ง่ายๆ บอกเลยว่าโหมดนี้เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการสร้างสรรค์ Vlog ให้คุณมีมุมมองภาพที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน
ตัดต่อให้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ด้วยการใช้ฟีเจอร์ AI อัจฉริยะและ AppGallery
นอกจากฟีเจอร์ด้านฮาร์ดแวร์ ฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์ก็สามารถช่วยให้ชีวิตสาย Vlog ของคุณสบายขึ้นได้หลายเท่า หากคุณรู้จักใช้แอปฯ ตัดต่อและฟีเจอร์ล้ำๆ อย่างชาญฉลาด (โดยเฉพาะในตอนตัดต่อ) ซึ่งสมาร์ทโฟน HUAWEI nova 9 SE ได้พกฟีเจอร์อัจฉริยะอย่างฟีเจอร์ Hybrid Video and Image Search ที่จะช่วยให้การค้นหาภาพนิ่งและคลิปวิดีโอในมือถือเป็นไปอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องมาไล่ดูเองทีละภาพ โดย HUAWEI nova 9 SE จะรองรับการให้ผู้ใช้ค้นหาไฟล์มีเดียที่ต้องการด้วยคำแท็กจากภาพถึง 280 คำ เช่น ค้นหาโดยใช้คำว่า “Sky” “Building” หรือ “People” ภาพและวิดีโอก็จะขึ้นมาเป็นลิสต์ให้เราได้เลือก ช่วยให้คุณสามารถถ่ายวันนั้น ตัดวันนั้น แล้วอัพโหลดคลิปอวดชาวเน็ตได้เลยตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกดิน นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้แอปพลิเคชันตัดต่อ “Petal Clip” ที่แถมมากับเครื่องเพื่อตัดแต่งฟุตเทจภาพ และใส่เพลงประกอบจาก HUAWEI Music ลงใน Vlog ของคุณได้แบบครบจบในแอปฯ เดียว หากนั่นยังไม่พอ HUAWEI nova 9 SE ยังมาพร้อมกับสารพัดแอปพลิเคชันสำหรับการแต่งภาพและการตัดต่อให้เลือกดาวน์โหลดได้ใน AppGallery แต่งเสร็จเมื่อไหร่ก็เอาไปแชร์ต่อในแอปฯ โซเชียลยอดฮิตกันได้เลย
เตรียมพบกับสมาร์ทโฟนสำหรับ Vlogger พันธุ์แท้ในเร็วๆ นี้
อ่านกันมาถึงตรงนี้เชื่อว่าสาย Vlog หลายคนคงจะอดเหลียวมองสมาร์ทโฟนน้องใหม่อย่าง HUAWEI nova 9 SE ไม่ไหว ข่าวดีสำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของก็คือคุณไม่ต้องรอนาน เพราะเดี๋ยวหัวเว่ยเค้าจะเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย รวมถึงโปรโมชันเอ็กซ์คลูซีฟก่อนใคร ในวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 นี้แล้ว เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป ที่ Facebook Huawei Mobile TH และ YouTube Huawei Mobile TH โดยคุณยังสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่นี่ หรือผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซได้แก่ HUAWEI Online Store และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของหัวเว่ยใน Shopee, Lazada และ JD Central
1 ข้อมูลจากห้องทดลองของหัวเว่ย
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ได้ที่:
Website: http://consumer.huawei.com/th
Facebook: http://www.facebook.com/HuaweiMobileTH
LINE: HuaweiMobileThailand, IG: Huawei.TH |
# KBTG ร่วมเป็นสมาชิก MIT Media Lab ทำวิจัยบริการทางการเงินยุคใหม่ พัฒนาประเทศในระดับภูมิภาคอย่างเต็มรูปแบบ
KBTG เข้าร่วมเป็นสมาชิก MIT Media Lab ห้องปฏิบัติการวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ สหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ เป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่จะส่งนักวิจัยไปที่ห้องปฏิบัติการงานวิจัยของ MIT เพื่อทำงานร่วมกันในด้านการวิจัยเทคโนโลยีระดับแนวหน้าสำหรับบริการทางการเงินยุคใหม่ พร้อมแก้ไขปัญหาสำคัญระดับประเทศในมิติต่าง ๆ ให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า KBTG ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกห้องปฏิบัติการวิจัยของ MIT (MIT Media Lab) หนึ่งในห้องปฏิบัติการวิจัยที่ทันสมัยที่สุดในโลกของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology : MIT) สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก เพื่อดำเนินการวิจัยเทคโนโลยีล้ำยุคที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน แลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการระหว่างกัน และยังทำให้นักวิจัยของทั้งสองฝ่ายได้ร่วมทำงานวิจัยที่ก้าวหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่สำคัญต่าง ๆ ในระดับประเทศ ทั้งในด้านการเงิน ความเสมอภาค ความยั่งยืน และด้านการศึกษา โดย KBTG เป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่จะส่งนักวิจัยไปที่ห้องปฏิบัติการวิจัยของ MIT
คุณเรืองโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า KBTG มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ MIT Media Lab ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ KBTG ในการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยี รวมทั้งการค้นคว้าวิจัยเพื่อต่อยอดในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดประโยชนสูงสุด โดยความร่วมมือนี้ได้ริเริ่มจากการพูดคุยกับ คุณพัทน์ ภัทรนุธาพร นักศึกษาปริญญาเอกของไทยคนแรกในสาขา Fluid Interfaces ที่ MIT Media Lab และเจ้าของงานวิจัยด้านปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ AI รวมไปถึงการศึกษาส่วนบุคคล
คุณมิเรย์ รียู ผู้อำนวยการด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศของ MIT Media Lab เปิดเผยว่า MIT Media Lab ยินดีที่ความร่วมมือนี้เกิดขึ้น ซึ่งทั้ง KBTG และ MIT Media Lab ต่างก็เชื่อมั่นในการวิจัยแบบพหุวิทยาการและมีเป้าหมายร่วมกันที่จะแก้ไขปัญหาด้านเทคโนโลยี สังคม และความท้าทายต่าง ๆ ของโลกในหลายระดับ ภายใต้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้เปิดกว้างที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงต่อสังคม โดยความร่วมมือนี้จะช่วยขยายขอบเขตการวิจัยของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งทำให้ MIT Media Lab สามารถเข้าไปสำรวจและแก้ไขปัญหาสังคมในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ |
# MFEC เปิดตัว CSOC ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้กลุ่มลูกค้าองค์กร
ในภาวะที่ผู้คนต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ย่อมมีโอกาสที่พนักงานหรือองค์กรจะถูกโจมตีทางไซเบอร์จากผู้ไม่ประสงค์ดีได้ง่ายขึ้นหากไม่ได้รับการป้องกัน และเพื่อไม่ให้องค์กรของคุณเป็นเป้านิ่งของเหล่าแฮกเกอร์ MFEC มีโซลูชันเพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัย หรือ Cyber Security Operation Center (CSOC) เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC เป็นบริษัทให้คำปรึกษาและพัฒนาโซลูชันด้านไอทีอย่างครบวงจร เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างรากฐานด้านไอทีให้กับลูกค้าชั้นนำในภาคธุรกิจต่าง ๆ ผสานความแข็งแกร่งในการให้บริการด้าน Cyber Security และโซลูชันไอทีให้กับลูกค้าในกลุ่มองค์กรมากกว่า 20 ปี อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการร่วมออกแบบระบบความปลอดภัยให้ดาต้าเซ็นเตอร์หลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร การเงิน บริการสาธารณูปโภค และพลังงาน เป็นต้น
คุณก่อกนก ภัทรเมธาวรกุล Senior Information Security Director กล่าวว่า “MFEC มีความตั้งใจที่จะส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Enterprise ที่ความสำคัญกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้องค์กร ยิ่งในช่วงที่ทุกคน Work from Home กัน การจับตาตรวจสอบภัยคุกคามนั้นอาจทำได้ยากกว่าเดิม เพราะฉะนั้นการใช้บริการ CSOC ถือเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ เพราะสามารถช่วยดูแลความปลอดภัยของมูลได้แบบ Real Time ตลอด 24 ชั่วโมง”
CSOC as a service โดยที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จาก MFEC
คุณไชยศิริ เซ่งตระกูล Information Security Director และคุณเสฏฐวุฒิ แสนนาม Information Security Consultant ได้เสริมถึงรูปแบบการทำงานเพิ่มเติมไว้ว่า CSOC หรือ Cyber Security Operation Center คือ ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งหน้าที่ในการ "เฝ้าระวัง" ไม่ได้หมายความว่าทำเพียงการ Monitor เท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงการวิเคราะห์ที่แม่นยำ ตลอดจนการ Response ที่ถูกต้องและทันท่วงทีอีกด้วย ซึ่งโดยทั่วไป CSOC จะเป็นห้องที่มีเจ้าหน้าที่คอยติดตามสถานการณ์ผ่าน Dashboard ซึ่งจะรายงานภาพรวมเหตุการณ์และความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระบบ แต่ MFEC CSOC เรานำทีมที่เข้าใจในการทำงานของ IT Infrastructure เข้ามาร่วมทำงานด้วย และนี่คือจุดแตกต่างที่ทำให้ MFEC CSOC ตอบโจทย์ ทุกธุรกิจที่ต้องการเน้นทั้งความปลอดภัย และความราบรื่นในการทำงานของระบบ Application โดยหัวใจสำคัญของ CSOC หลัก ๆ จะแบ่งเป็น 3 เรื่อง ได้แก่ Process, Technology และ People
Process คือ กระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของ CSOC เช่น การตรวจสอบความผิดปกติของระบบ การแจ้งประสานเหตุการณ์ผิดปกติ การติดตามและแก้ไขปัญหา
Technology คือ เครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น การรวบรวมเหตุการณ์จากแหล่งต่างๆ การจัดการเคส การติดต่อสื่อสารภายในทีม เป็นต้น
People คือ คนที่จะเข้ามาทำงานใน CSOC โดยพื้นฐานแล้วจะแบ่งเป็นออก 2 ทีม ประกอบไปด้วย ทีมพัฒนาระบบ และทีมเฝ้าระวัง ที่ต้องทำงานประสานกันได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ตรงกับความต้องการทางธุรกิจมากที่สุด
นอกจากนี้ MFEC ยังมีทีม Infosec ซึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน IT Security Solutions แบบครบวงจร (End-to-End) และพร้อมที่จะให้คำแนะนำทั้งในเรื่องของ Technology ใหม่ๆ ที่เข้ามาเสริมความปลอดภัยให้กับธุรกิจ หรือ การ Optimized ให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับลูกค้าองค์กรและภาคธุรกิจที่สนใจใช้บริการ CSOC as service หรือบริการด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Cyber Security สามารถติดต่อได้ที่ email : [email protected] |
# เซ็นเซอร์แล้วไง คนนอกประเทศส่งข่าวสงครามให้คนรัสเซียผ่าน Tinder, รีวิวร้านอาหาร, อีเมล
สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้เราเห็นทั้งการถอนตัวของธุรกิจตะวันตกจากรัสเซีย และการเซ็นเซอร์สื่ออินเทอร์เน็ตของรัฐบาลรัสเซีย (Facebook, Instagram, Wikipedia)
ถึงแม้สื่อออนไลน์จากชาติตะวันตกเริ่มถูกบล็อคในรัสเซีย ควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมข่าวสารในประเทศ แต่คนนอกรัสเซียก็ยังหาพยายามหาวิธีสื่อสารกับคนรัสเซีย เพื่อให้เข้าใจข้อมูลสงครามที่ถูกรัฐบาลรัสเซียเซ็นเซอร์ไว้
วิธีการสื่อสารมีตั้งแต่การใช้ Tinder โดยเปลี่ยนพิกัดไปเป็นเมืองในรัสเซีย และกดแชทคุยกับคู่เดท โดยเล่าเรื่องสงครามให้ฟัง (มีคนเตรียมข้อความเป็นภาษารัสเซียไว้ให้ ซึ่งกลายเป็นไวรัล) แม้ภายหลังรัฐบาลรัสเซียดักทางได้ แล้วแบน Tinder ตามมา
อีกแนวทางหนึ่งคือการใช้อีเมลลักษณะเดียวกับการส่ง spam หรือโฆษณา ใช้ฐานข้อมูลอีเมลคนรัสเซียที่มีอยู่แล้ว มีข้อความอธิบายสถานการณ์สงครามให้พร้อม แล้วเชิญชวนอาสาสมัครจากทั่วโลกมาช่วยกันส่งอีเมลหาคนรัสเซียเหล่านี้ ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็ส่งได้ 22 ล้านข้อความ ข้อดีของวิธีนี้คือ อีเมลที่ส่งมาจากคนจริงๆ จึงมีโอกาสไม่ติดฟิลเตอร์กรองสแปมเท่ากับอีเมลอัตโนมัติที่ส่งครั้งละมากๆ
ก่อนหน้านี้ยังมีคนใช้ Google Maps รีวิวสถานที่ ร้านอาหารในรัสเซีย โดยเนื้อหาเป็นข้อความต่อต้านสงคราม ภายหลังกูเกิลปิดระบบรีวิวตรงนี้ไป แต่มีคนไปทำแบบเดียวกันกับแผนที่ Yandex แทน
ที่มา - Ars Technica, BBC, Financial Times |
# Vanced แอพดู YouTube ทางเลือกที่บล็อคโฆษณาได้ ประกาศหยุดพัฒนาแล้ว
Vanced แอพทางเลือกสำหรับดูวิดีโอบน YouTube บน Android ประกาศยุติการพัฒนาแล้ว ถึงแม้ไม่ประกาศเหตุผลชัดเจน แต่ก็คาดกันได้ว่าเกิดจากมาตรการทางกฎหมายจากกูเกิล
Vanced เป็นแอพที่ดัดแปลงจากแอพ YouTube อย่างเป็นทางการอีกที โดยเพิ่มฟีเจอร์บล็อคโฆษณา, เล่นวิดีโอเบื้องหลัง ฯลฯ ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้พรีเมียม แอพตัวนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้ที่ติดตั้งด้วยวิธี sideloading
ทีมพัฒนา Vanced บอกว่าจะปิดการดาวน์โหลดแอพในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ถ้าใครมีแอพเวอร์ชันล่าสุดอยู่แล้วจะยังใช้งานต่อได้ แต่น่าจะล้าสมัยในอีกประมาณ 2 ปี
ที่มา - Android Police |
# Fujifilm หยุดการทดลองยาฟาวิพิราเวียร์ ระบุ Omicron ทำให้สรุปประสิทธิภาพได้ยาก
Fujifilm (บริษัทโดยตรงคือ FUJIFILM Toyama Chemical) ผู้ผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ หรือชื่อการค้า Avigan ประกาศหยุดการทดลองเฟส 3 เพื่อหาประสิทธิภาพในการลดอัตราการป่วยหนักของผู้ติด COVID-19
การทดลองเฟส 3 ของยาฟาวิพิราเวียร์เริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2021 โดยเป็นการทดลองแบบ double-blind เพื่อหาประสิทธิภาพของยาเทียบกับคนไข้ที่ได้ยาหลอก ทาง Fujifilm ระบุว่าเชื้อสายพันธุ์ Omicron มีอัตราผู้ป่วยมีอาการหนักต่ำกว่าเชื้อดั้งเดิม ทำให้ยืนยันประสิทธิภาพได้ยาก
ทางบริษัทระบุว่าตอนนี้ยังไม่มีรายงานผลข้างเคียงรุนแรง และจะทำข้อมูลการทดลองที่ทดลองไปแล้วมาวิเคราะห์ต่อไป
ทุกวันนี้มีหลายชาติที่รับรองการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์แบบฉุกเฉิน โดยดูผลทดลองเบื้องต้นที่ระบุว่ายาสามารถลดการนอนโรงพยาบาลได้ แต่ทุกวันนี้มียา COVID-19 ตัวอื่นๆ ที่ผลทดลองชัดเจนกว่าฟาวิพิราเวียร์ เช่น Paxlovid ของ Pfizer ที่ผลเบื้องต้นพบประสิทธิภาพการลดอาการหนักค่อนข้างดี
ที่มา - Fujifilm |
# อะไรจะขาดตลาดอีก จีนประกาศล็อกดาวน์เซินเจิ้น โรงงาน Foxconn ต้องหยุดผลิต
เมืองเซินเจิ้นประกาศล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ (ถึงวันที่ 20 มีนาคม) หลังพบผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มขึ้น เป็น 60 ราย จากประชากร 17 ล้านคน ส่งผลให้โรงงานสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากต้องหยุดสายการผลิตไปด้วย
การล็อกดาวน์ครั้งนี้เป็นการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ทางการปิดบริการขนส่งมวลชนแทบทั้งหมด และห้ามคนเดินทางเข้าออกจากเมือง
โรงงานที่กระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีที่เป็นที่รู้จัก เช่นโรงงาน Foxconn ใน Longhua Science & Technology Park พื้นที่ 3 ตารางกิโลเมตร และมีพนักงานมากกว่าสองแสนคน (Foxconn ใช้ชื่อในจีนว่า Hon Hai Precision)
ที่มา - Japan Times
ภาพโรงงาน Foxconn เมื่อปี 2011 โดย Nadkachna |
# ประเทศฟิจิคอนฟิก DNSSEC พลาด ทำโดเมน .fj ดับ
เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา คนจำนวนหนึ่งพบว่าไม่สามารถเข้าเว็บใดๆ ที่เป็นโดเมนของประเทศฟิจิ หรือ TLD ว่า .fj ได้ ทาง Cloudflare รายงานและพบว่าเกิดจากการเปลี่ยนกุญแจเซ็น DNSSEC ผิดพลาด จนทำให้ resolver หลายตัวที่ตรวจสอบ DNSSEC ก่อนไม่สามารถยืนยันความถูกต้องได้
DNSSEC เป็นกระบวนการยืนยันว่า ค่า DNS ที่ตอบจากเซิร์ฟเวอร์ DNS นั้นถูกต้องจริง โดยผู้ที่ถือโดเมนต้องนำค่าแฮชของกุญแจสาธารณะไปวางไว้ผู้ให้บริการระดับสูงขึ้นไป การตรวจสอบโดเมนจึงสามารถตรวจสอบเป็นชั้นๆ ตั้งแต่ root DNS ลงมายัง TLD ต่างๆ (เช่น .fj ของฟิจิ หรือ .th ของไทย) และจบด้วยการตรวจสอบโดเมนในที่สุด
กรณีนี้เกิดจากทาง registrar ของ .fj เปลี่ยนกุญแจเซ็นโดเมน แล้วเปลี่ยนไปใช้กุญแจใหม่ทันทีโดยไม่รอว่า root zone เริ่มประกาศกุญแจใหม่หรือยัง ทำให้ resolver เมื่อเห็นลายเซ็นที่เซ็นด้วยกุญแจใหม่จึงไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ ปัญหากินเวลานานประมาณ 14 ชั่วโมง เมื่อ root zone ประกาศกุญแจใหม่แล้ว โดเมน .fj ก็กลับมาใช้งานได้
เหตุการณ์คอนฟิก DNSSEC ผิดพลาดจนทำ TLD ดับนั้นยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2021 ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันถึง 5 ครั้ง และปีนี้โดเมน .fj ก็เป็นโดเมนที่สองแล้ว และเหตุการณ์แบบเดียวกันที่เกิดระดับโดเมน ไม่ใช่ระดับ TLD ก็บ่อยกว่านั้นอีก
ที่มา - Cloudflare |
# ไมโครซอฟท์เสนอแก้สเปก JavaScript ให้เข้ากันได้กับ TypeScript อ่านชนิดตัวแปรแล้วมองข้ามไป
ข้อจำกัดประการสำคัญของ JavaScript คือการไม่กำหนดชนิดของตัวแปร (type) แบบตายตัว (static typing) เมื่อ JavaScript ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงมีคนพยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการประดิษฐ์ภาษาหรือเครื่องมือใหม่ๆ ที่เป็น JavaScript แบบมี type เข้ามา (เช่น TypeScript, Closure Compiler หรือ Flow) เพื่อจัดระเบียบการเขียนโค้ดให้มีโครงสร้างมากขึ้น
แนวทางของภาษาแบบ TypeScript คือให้มนุษย์เขียนโค้ดด้วยภาษาใหม่ที่มีระเบียบขึ้น จากนั้นใช้เครื่องมือ "แปลง" (ในที่นี้คือ transpiler) ภาษาใหม่กลับมาเป็น JavaScript อีกทีหนึ่ง
กรณีของ TypeScript ที่มีตัวแปรแบบ static type จึงต้องแปลงมาเป็น JavaScript ที่ไม่มี type ซึ่งวิธีการแปลงมักอยู่ในรูปการเปลี่ยนชนิดตัวแปรเป็นคอมเมนต์
ถึงแม้แนวทางนี้ในปัจจุบันมีเครื่องมือรองรับมากมาย แต่ก็ยังมีความไม่สะดวกของการแปลงโค้ด และความไม่ตรงไปตรงมาของการเขียนโค้ดอยู่บ้าง
ไมโครซอฟท์ในฐานะผู้สร้างภาษา TypeScript จึงมีไอเดียใหม่ เสนอแก้สเปกของ JavaScript ให้ "มองข้าม" การกำหนดชนิดของตัวแปรของ TypeScript เพื่อจะได้ไม่ต้องมีกระบวนการแปลงโค้ดอีกต่อไป!
ตัวอย่างการแปลง TypeScript เป็น JavaScript ในปัจจุบัน ที่นำข้อมูลชนิดตัวแปรมาใส่ไว้ในคอมเมนต์ (ภาพบน) และข้อเสนอใหม่คือ เราสามารถระบุ type ลงไปใน JavaScript ได้เลย (ภาพล่าง)
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ โปรแกรมเมอร์สามารถเขียนโค้ดด้วย syntax แบบ TypeScript เหมือนเดิม รันด้วยคอมไพเลอร์ TypeScript ก็ทำงานได้เหมือนเดิม แต่สามารถนำโค้ดเดียวกันไปคอมไพล์ด้วยรันไทม์/คอมไพเลอร์ของ JavaScript (เช่น เบราว์เซอร์หรือ V8 engine) ได้ทันที โดยรันไทม์ JavaScript จะมองข้าม syntax เหล่านี้ไป
ข้อเสนอนี้จำเป็นต้องปรับแก้ syntax ของ JavaScript เล็กน้อย เช่น เพิ่ม modifier ตัว "?" เข้ามาด้วย (รายละเอียดข้อเสนอ) ซึ่งทีมของไมโครซอฟท์จะต้องเสนอไปยังคณะกรรมการ ECMAScript ในฐานะผู้กำหนดสเปกของ JavaScript ในที่ประชุมกรรมการเดือนมีนาคมนี้
ข้อเสนอของไมโครซอฟท์สร้างการถกเถียงอย่างมากในโลก JavaScript (รายละเอียด) มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน และตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าคณะกรรมการ ECMAScript มีแนวโน้มจะตอบรับแค่ไหน
ที่มา - Microsoft |
# บริษัทสแกนหน้า Clearview AI ให้ยูเครนตรวจสอบตัวตนทหารรัสเซียฟรี บอกได้ข้อมูลหน้าจาก VK
Clearview AI เป็นบริษัทเทคโนโลยีสแกนใบหน้าจากสหรัฐ ที่ขายโซลูชันให้หน่วยตำรวจของเมืองต่างๆ ซึ่งมีประเด็นขัดแย้งเรื่องความเป็นส่วนตัว และจริยธรรมของ AI มาแล้วหลายครั้ง
ล่าสุด Clearview AI ออกมาเปิดเผยว่า ได้เปิดระบบสแกนใบหน้าให้กระทรวงกลาโหมของยูเครนใช้งานฟรี เพื่อตรวจสอบตัวตนของทหารหรือสายลับจากรัสเซียที่แฝงตัวเข้ามา รวมถึงตรวจสอบใบหน้าของผู้อพยพชาวยูเครนที่อาจพลัดหลงกับครอบครัว
Hoan Ton-That ซีอีโอของ Clearview AI ระบุว่าเป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าไปช่วยรัฐบาลยูเครนเอง เนื่องจาก Clearview มีฐานข้อมูลใบหน้าของชาวรัสเซียกว่า 2 พันล้านภาพจากโซเชียล VK (VKontakte) ของรัสเซีย (ไม่บอกว่าได้มาอย่างไร แต่ก็น่าจะดูดมา) เครื่องมือนี้จะช่วยให้ยูเครนตรวจสอบทหารที่เสียชีวิตได้ง่ายกว่าการตรวจลายนิ้วมือ
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ทางการยูเครนนำเทคโนโลยีของ Clearview AI ไปใช้งานอย่างไรบ้าง
ภาพตัวอย่างหน้าจอค้นหาใบหน้าของ Clearview AI
ที่มา - Reuters |
# Instagram Live สามารถเพิ่ม Moderator ช่วยดูแลความเรียบร้อยได้แล้ว
Instagram ประกาศเพิ่มฟังก์ชันใหม่ในการไลฟ์ โดยผู้ที่กำลังไลฟ์อยู่สามารถเพิ่มผู้ดูแลหรือ moderator ได้ ซึ่ง moderator สามารถช่วยดูแลความเรียบร้อยระหว่างการไลฟ์ ได้แก่ กดรายงานคอมเมนต์ นำคนดูออกจากไลฟ์ และปิดการแสดงความเห็นจากคนดูแบบระบุคนได้
ครีเอเตอร์หรือผู้ที่ไลฟ์อยู่ สามารถกดเพิ่ม moderator โดยกดปุ่ม 3 จุด ในแถบคอมเมนต์ระหว่างไลฟ์ ซึ่งจะมีรายชื่อบัญชีที่เราสามารถกดเพิ่มมาเป็น moderator
การเพิ่ม moderator ช่วยดูแลระหว่างไลฟ์ เป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่มีในแอปไลฟ์แทบทุกตัว และ Instagram ก็เพิ่งเพิ่มเข้ามานั่นเอง
ที่มา: The Verge |
# [ลือ] iPhone 14 เฉพาะรุ่น Pro ได้ซีพียูใหม่ A16 ส่วนรุ่นทั่วไปได้ A15 ตัวเดิม
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ที่รายงานข่าวสินค้าใหม่แอปเปิลขาประจำ คราวนี้เขาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone รุ่นเรือธงที่จะออกในปีนี้ทางทวิตเตอร์ รายละเอียดดังนี้
ข้อมูลแรกคือการตั้งชื่อและขนาดจอ โดย iPhone ปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้ชื่อ iPhone 14 มีออกมา 4 รุ่น แต่ยกเลิกรุ่น mini ไป เปลี่ยนเป็นรุ่นจอ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว สองระดับคือรุ่นทั่วไป iPhone 14 (เฉย ๆ) 6.1 นิ้ว กับ iPhone 14 Max 6.7 นิ้ว และรุ่นบนคือ iPhone 14 Pro 6.1 นิ้ว และ iPhone 14 Pro Max 6.7 นิ้ว
ความแตกต่างของสองรุ่นคือซีพียู โดย iPhone 14 กับ iPhone 14 Max จะเป็น A15 แบบเดียวกับใน iPhone 13 ส่วน iPhone 14 Pro กับ iPhone 14 Pro Max ได้ซีพียูตัวใหม่ A16
ข้อมูลสุดท้ายจาก Kuo คือแรม โดยทั้งรุ่นทั่วไปและรุ่น Pro ได้แรม 6GB เหมือนกัน แต่ต่างกันที่รุ่นทั่วไปเป็น LPDDR 4X ส่วน Pro ได้ LPDDR 5
ที่มา: MacRumors |
# ทีม Google Play เล่าประสบการณ์เปลี่ยนมาใช้ Jetpack Compose ลดจำนวนโค้ดลง 50%
กูเกิลมีแนวทางพัฒนาแอพบน Android ยุคใหม่ที่เรียกว่า Modern Android Development (MAD) มาได้สักระยะแล้ว ประกอบด้วยภาษา Kotlin, เครื่องมือ Android Studio, ชุด API Jetpack, และชุดเขียน UI Jetpack Compose
กรณีของ Jetpack Compose เป็นชุดเครื่องมือสร้าง UI แบบเนทีฟสำหรับ Kotlin ที่ออกเวอร์ชัน 1.0 ในปี 2021 และเริ่มมีแอพดังๆ หลายตัวนำมาใช้แล้ว เช่น Twitter, Airbnb, Pinterest
ส่วนแอพของกูเกิลเองที่ใช้งานแล้วคือ Google Play Store โดยล่าสุดกูเกิลออกมาเล่าเบื้องหลังและบทเรียนการเปลี่ยนมาใช้ Jetpack Compose
กูเกิลเล่าว่า Google Play Store ถูกเขียนขึ้นมานาน 10 ปีแล้ว มีหนี้ทางเทคนิค (tech debt) สั่งสมมานาน จึงต้องการเฟรมเวิร์คใหม่ๆ ที่ให้นักพัฒนาหลายร้อยคนทำงานร่วมกันได้ โดยไม่กระทบคุณภาพหรือประสิทธิภาพของแอพ
เมื่อปี 2020 ทีมงาน Google Play Store ตัดสินใจย้ายไปใช้ Jetpack Compose ซึ่งตอนนั้นยังมีสถานะ pre-Alpha แต่เนื่องจากเป็นพนักงานกูเกิลเหมือนกัน ทั้งสองทีมจึงทำงานร่วมกันตั้งแต่ช่วงพัฒนา Jetpack Compose ให้ตอบโจทย์ของฝั่ง Google Play Store ด้วย
ผลการเปลี่ยนมาใช้ Jetpack Compose พบว่า
จำนวนโค้ดลดลง บางกรณีอาจลดลงถึง 50% แถมเขียนเป็น Kotlin ล้วนๆ ไม่ต้องผสม Java + XML
ประสิทธิภาพดีขึ้น ระยะเวลาการเรนเดอร์เพจครั้งแรกลดลง 50% และการกระตุก (jank) ลดลง 10-15%
ที่มา - Google |
# รัสเซียประกาศบล็อค Instagram ตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป
Roskomnadzor หรือกสทช. รัสเซีย ประกาศบล็อค Instagram ตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์เป็นต้นไป หลังจากทาง Meta ประกาศนโยบายให้ผู้ใช้ในประเทศที่เกี่ยวข้องสามารถแสดงความเกลียดชังทหารและผู้นำรัสเซียได้
ทาง Roskomnadzor ชี้แจงเหตุผลที่บล็อค Instagram ว่าต้องการดูแลสุขภาพจิตของผู้ใช้ชาวรัสเซียที่จะถูกเหยียดหยามในแพลตฟอร์ม พร้อมกับแนะนำให้เข้าไปดาวน์โหลดภาพที่อัพโหลดไว้ออกมาและหันไปใช้แพลตฟอร์มอื่นที่ของรัสเซียเอง
สำหรับบริการ Facebook นั้นถูกรัสเซียแบนตั้งแต่วันแรกๆ หลังรัสเซียส่งทหารเข้าบุกยูเครน
ที่มา - Strait Times |
# อังกฤษแบนการใช้งานตู้ ATM คริปโต หากฝ่าฝืนจะผิดกฎหมายฟอกเงิน
Financial Conduct Authority (FCA) หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสหราชอาณาจักร ออกมาประกาศห้ามติดตั้งตู้ ATM ถอนเงิน-ฝากเงินซื้อคริปโต (Crypto ATM) ก่อนได้รับอนุญาตจาก FCA ตามกฎหมายฟอกเงิน
ก่อนหน้านี้มีบริษัทชื่อ Gidiplus พยายามให้บริการตู้ ATM คริปโตในสหราชอาณาจักรมาก่อน ซึ่ง FCA ยื่นฟ้องศาล และคณะลูกขุนก็ตัดสินเข้าข้างฝ่ายของ FCA มาแล้ว
FCA ยังเผยแพร่รายชื่อบริษัทที่อาจให้บริการตุ้ ATM คริปโต ซึ่งปัจจุบันพบว่าบริษัทจำนวนมากปิดตัวหรือหยุดทำธุรกิจไปแล้ว
ที่มา - FCA
ตัวอย่าง Bitcoin ATM จาก @gidicoins |
# ไมโครซอฟท์ประกาศหยุดให้บริการ Xbox บน Windows Phone ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้
แม้ว่าไมโครซอฟท์จะหยุดซัพพอร์ต Windows Phone / Windows 10 Mobile ทั้งอัพเดตของระบบปฏิบัติการและแอพ Office มาได้ปีกว่าแล้ว แต่ฟีเจอร์ออนไลน์อื่นๆ เช่นบริการสำหรับเล่นเกมอย่าง Xbox ก็ยังใช้งานได้จนถึงทุกวันนี้
แต่อย่างไรก็ตามประกาศจากบนแอพ Xbox เมื่อไม่นานมานี้ ไมโครซอฟท์ได้ระบุว่าฟีเจอร์ Xbox บน Windows Phone จะหยุดให้บริการในวันที่ 16 พ.ค. 2022 และแม้ว่าเกมบน Windows Phone บางเกมจะสามารถเล่นต่อได้โดยไม่ต้องอาศัยบริการออนไลน์จาก Xbox แต่ฟีเจอร์อย่างระบบโปรไฟล์ของผู้เล่น, เซฟเกมบนคลาวด์ รวมถึง achievement บันทึกความสำเร็จในเกมจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
ภาพอุปกรณ์ Windows Phone จาก Windows Blog
ปัจจุบันผู้ยังใช้งาน Windows Phone คงมีจำนวนไม่เยอะแล้ว แต่สำหรับเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการไล่เก็บ achievement (ซึ่งบางท่านอาจถึงขั้นตั้งเป้าว่าจะต้องเก็บให้ได้ครบ 100% บนทุกเกมที่เล่น) การประกาศหยุดให้บริการ Xbox ทำให้เวลาที่เหลืออีกไม่กี่เดือนเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะเล่นเกมเพื่อปลดล็อค achievement ที่ยังทำไม่สำเร็จบน Windows Phone ครับ
ที่มา - Reddit via Windows Central |
# ฟินแลนด์เตือนสัญญาณ GPS ถูกรบกวนบ่อยขึ้น เริ่มมีเที่ยวบินถูกยกเลิก
องค์การการบินพลเรือนฟินแลนด์ หรือ Traficom ออกประกาศแจ้งเตือนว่าเริ่มพบสัญญาณรบกวน GPS บ่อยขึ้นในช่วงหลังจนกระทบต่อการบิน และตอนนี้ยังไม่พบต้นตอสัญญาณนี้ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีเที่ยวบินบางเที่ยวต้องยกเลิกเนื่องจากนักบินตัดสินใจบินกลับ
ทาง Traficom ระบุว่าการบินยังคงปลอดภัยดี นักบินสามารถใช้ระบบอื่นๆ เพื่อนำทาง และการลงจอดนั้นไม่ได้ต้องการสัญญาณ GPS ส่วนการตัดสินใจว่าจะบินผ่านพื้นที่ที่พบสัญญาณรบกวน GPS หรือไม่เป็นการตัดสินใจของทางสายการบินเอง
ตอนนี้ยังไม่พบต้นตอสัญญาณที่แท้จริงเนื่องจากสัญญาณรบกวนอาจจะถูกปล่อยเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น และแหล่งกำเนิดสัญญาณอาจจะอยู่ไกลจากตำแหน่งของเครื่องบินไปมาก
แม้รายงานทางการจะออกมาจากฟินแลนด์เท่านั้น แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีรายงานถึงสัญญาณรบกวนเป็นวงกว้าง ทั้งแถบ โปแลนด์, ลิทัวเนีย, ลัตเวีย
สัญญาณดาวเทียมนำทางอย่าง GPS หรือ Galileo ตลอดจนระบบอื่นๆ ของรัสเซีย, จีน, อินเดีย, และญี่ปุ่น กลายเป็นระบบที่คนจำนวนมากพึ่งพาในการดำเนินธุรกิจ เมื่อปี 2018 สหราชอาณาจักรเคยออกรายงานว่าหากระบบดาวเทียมเหล่านี้ถูกโจมตีจนใช้งานไม่ได้ก็จะเกิดความเสียหายมหาศาล
ที่มา - Bleeping Computer
ภาพระบบนำทาง Garmin G1000 NXi โดย Garmin |
# Navi ฟินเทคสตาร์ทอัพอินเดียจากผู้ร่วมก่อตั้ง Flipkart ยื่นไฟลิ่งเตรียมเข้าตลาดหุ้นแล้ว
Navi Technology บริษัทฟินเทคสตาร์ทอัพจากประเทศอินเดียได้ยื่นไฟลิ่งเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นอินเดียอย่างเป็นทางการแล้ว
Navi ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดย Sachin Bansal ผู้ร่วมก่อตั้ง Flipkart (Bansal ออกจาก Flipkart ก่อนขายให้ Walmart) ธุรกิจของ Navi จะเน้นไปที่สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล, สินเชื่อบ้าน, ประกันสุขภาพ และบริการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเน้นที่กองทุนประเภท passive
จุดเด่นของ Navi คือใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการการฉ้อโกงและการผิดนัดชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเทรนอัลกอริทึมในการปล่อยกู้เพื่อให้ข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจ ทำให้บริษัทปล่อยสินเชื่อได้รวดเร็ว และปล่อยกู้บ้านด้วยดอกเบี้ยต่ำ ซึ่ง Navi ชูว่ากระบวนการสินเชื่อส่วนบุคคลสามารถลงทะเบียนจบได้ภายใน 4.5 นาที ส่วนประกันลงทะเบียนจบได้ใน 2.5 นาที ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลกว่า 481,000 คนในพื้นที่ 84% ของประเทศอินเดียตามรหัสไปรษณีย์ ส่วนกรมธรรม์ประกันสุขภาพก็อนุมัติได้โดยไม่ต้องมีคนเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการได้ถึง 61.17% ของกรมธรรม์ทั้งหมด
ผลประกอบการของ Navi มีรายได้ 7.8 พันล้านรูปีในปีงบประมาณ 2021 และบริษัทมีผลกำไร 712 ล้านรูปี ถือว่าเติบโตขึ้นมากเนื่องจากปีก่อนหน้า Navi มีรายได้ 2.07 พันล้านรูปี และมีผลประกอบการขาดทุน 81 ล้านรูปี
สำหรับการไอพีโอของ Navi จะออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุน 3.35 หมื่นล้านรูปี ซึ่งทางบริษัทคาดว่าอาจจะมีการระดมทุนรอบสุดท้ายก่อนไอพีโอด้วยมูลค่า 6.7 พันล้านรูปีด้วย (และจะลดขนาดไอพีโอหากระดมทุนได้) โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน Navi จะนำไปลงทุนใน Navi Finserv (NFPL) 2.37 หมื่นล้านรูปี และ Navi General Insurance Limited (NGIL) 1.5 พันล้านรูปี ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท
ที่มา - TechCrunch, INC42 |
# [ลือ] Apple ไม่มีแผนออก iMac รุ่นจอ 27 นิ้ว ตัวใหม่ในปีนี้
หลังการเปิดตัว Mac Studio และ Studio Display แอปเปิลได้หยุดขาย iMac รุ่นหน้าจอ 27 นิ้ว ที่ใช้ซีพียูอินเทลไปด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามในงาน Peek Performance ที่ผ่านมา แอปเปิลไม่ได้เปิดตัว iMac รุ่นใหม่อย่างที่มีข่าวลือ และดูเหมือนจะไม่มีออกมาเร็ว ๆ นี้ ด้วย
เว็บ 9to5Mac อ้างแหล่งข่าวเดียวกับที่ให้ข่าว Mac Studio บอกว่าแอปเปิลยังไม่มีแผนจะออก iMac รุ่นหน้าจอใหญ่ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งรวมทั้งแผนการออก Mac รุ่นซีพียู M2 ก็ไม่มี iMac รวมอยู่ด้วย
ข้อมูลที่ 9to5Mac มี ระบุว่า iMac รุ่นใหม่น่าจะออกมาในปี 2023 ไม่ได้ใช้ซีพียูสเป็กรุ่นใหม่ที่สุดเวลานั้น (วิธีการเดียวกับ MacBook Air) และเป็นรุ่นหน้าจอ 24 นิ้ว ซึ่งปัจจุบัน iMac มีจำหน่ายเฉพาะรุ่นหน้าจอนี้ขนาดเดียว
ที่มา: 9to5Mac |
# Airbnb เผยมีคนจองที่พักในยูเครน 4.3 แสนคืน ระดมทุนช่วยคนยูเครนได้ 15 ล้านดอลลาร์
Brian Chesky ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb ออกมาเปิดเผยสถิติว่ามีคนใช้วิธี "จองลม" ที่พักในยูเครนจำนวน 434,000 คืนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนเงินให้โฮสต์เจ้าของบ้านชาวยูเครนที่ประสบภัยสงคราม คิดเป็นยอดเงินรวม 15 ล้านดอลลาร์
ไอเดียการจองที่พักใน Airbnb เป็นสิ่งที่ลูกค้าของ Airbnb คิดขึ้นกันเอง ส่วนโครงการที่เป็น CSR ของบริษัทคือการจ่ายค่าที่พักระยะสั้นให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนในประเทศต่างๆ
Chesky ยังโพสต์จดหมายของเจ้าของบ้านในยูเครนที่ต้องลี้ภัยไปเยอรมนี แต่ยังได้รับเงินค่าจองที่พักจากคนทั่วโลก |
# DeepMind สร้างปัญญาประดิษฐ์ช่วยนักโบราณคดีเติมข้อความในบันทึกภาษากรีก พร้อมทำนายต้นกำเนิดและอายุ
DeedMind สร้างปัญญาประดิษฐ์ Ithaca สำหรับอ่านบันทึกภาษากรีกจากศิลาจารึกที่มักมีส่วนที่ขาดหายไป แล้วเติมข้อความที่ขาดหาย, ทำนายแหล่งกำเนิดของบันทึก, และทำนายช่วงเวลาบันทึก
การสร้างปัญญาประดิษฐ์อาศัยชุดข้อมูล Packard Humanities Institute (PHI) ที่บันทึกข้อความจากจารึกต่างๆ ถึง 178,551 ชุด โดยมีหมายเลขประจำข้อความ, ช่วงเวลา, และสถานที่ที่บันทึก โดยมีข้อความที่ใช้ฝึกปัญญาประดิษฐ์ได้ 78,608 ชุด
Ithaca แบ่งออกเป็นสองชั้น คือส่วนลำตัว (torso) สำหรับอ่านข้อความ โดยภายในเป็นสถาปัตยกรรมแบบ transformer ที่มักใช้ในการประมวลผลภาษา ในชั้นที่สองจะมีหัวสามหัวเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์สำหรับทำนายค่าต่างๆ ทั้งข้อความที่หายไป, พื้นที่ที่บันทึกข้อความ, และช่วงเวลาที่บันทึก
ตัว Ithaca ถูกออกแบบให้ช่วยเหลือนักโบราณคดี การทำนายจึงแจกแจงความมั่นใจของค่าต่างๆ ที่เป็นไปได้ หากดูการทำนายข้อความหายจาก Ithaca จะให้ความแม่นยำ 62% แต่หากทำงานร่วมกับนักโบราณคดีจะได้ความแม่นยำถึง 72% ขณะที่ การทำนายแหล่งที่มาแม่นยำ 71% และการทำนายช่วงเวลาได้ช่วงเวลาใกล้เคียงข้อมูลห่างกันน้อยกว่า 30 ปี
ทาง DeepMind หวังว่าจะมีการทำ Ithaca ไปใช้กับงานวิจัยหรือพิพิธภัณฑ์ต่อไปในอนาคต โดยตอนนี้เปิดปัญญาประดิษฐ์ให้ใช้งานฟรี และมีเวอร์ชั่นโอเพนซอร์สให้ไปพัฒนาต่อ
ที่มา - DeepMind |
# สหรัฐฯ ออกมาตรฐานความปลอดภัยรถยนต์ใหม่ เปิดทางรถไร้คนขับเต็มรูปแบบไม่ต้องมีพวงมาลัยและแป้นเหยียบ
NHTSA หน่วยงานด้านความปลอดภัยบท้องถนนของสหรัฐฯ ได้ออกมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์ฉบับใหม่สำหรับสหรัฐฯ ที่เป็นมาตรฐานสำหรับกำหนดรถยนต์ที่ผลิตใช้งานจริง โดยจุดสำคัญในรอบนี้คือการเปิดทางให้รถยนต์ไร้คนขับไม่ต้องมีอุปกรณ์บังคับรถอย่างพวงมาลัยหรือแป้นเบรคและคันเร่งอีกต่อไป
ในอดีต มาตรฐานรถยนต์กำหนดว่าจะต้องมีที่นั่งคนขับ, พวงมาลัย, คอพวงมาลัย และแป้นเยียบ ซึ่งตอนนี้ NHTSA ได้ออกมาตรฐานมาเพื่อรองรับรถยนต์แบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Level 5) ที่ผู้ผลิตรถยนต์กำลังเร่งพัฒนาอยู่ คือถ้ารถยนต์รองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบก็ไม่จำเป็นต้องมีระบบควบคุมแบบแมนนวล แต่กฎใหม่ก็ยังคงกำหนดมาตรฐานของรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถที่ไม่มีระบบควบคุมสำหรับมนุษย์ ตั้งแต่ตำแหน่งที่นั่ง, ถุงลมนิรภัย ไปจนถึงรถแบบไม่มีคนนั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ผลิตรถลดต้นทุนหรือลดน้ำหนักโดยตัดอุปกรณ์ความปลอดภัยของตัวรถ
Pete Buttigieg เลขานุการกรมขนส่งสหรัฐฯ ระบุว่าเป้าหมายสำคัญของปี 2020 ของกรมการขนส่งสหรัฐฯ คือการออกมาตรฐานที่ให้ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยตามการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่าง ๆ กฎฉบับใหม่นี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สร้างมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มตัว
ที่มา - NHTSA, CNET Roadshow, Engadget, Automotive News
รถยนต์ไร้พวงมาลัยของ GM ภาพจากข่าวเก่า |
# Meta ปรับสวัสดิการที่ออฟฟิศ ยกเลิกบริการซักรีด ปรับเวลาอาหารเย็น เตรียมรับ hybrid work
Meta บริษัทแม่ของ Facebook ออกกำหนดให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศได้ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ แต่ทางบริษัทก็เริ่มปรับสวัสดิการบางอย่างแล้วโดยระบุว่าเพื่อให้เหมาะสมกับการทำงานในรูปแบบไฮบริด
New York Times รายงานว่า Meta จะปรับบริการอาหารเย็นใหม่ โดยทางบริษัทจะเสิร์ฟอาหารเย็นในเวลา 18:30 นาฬิกาตามเวลาแปซิฟิก เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงหลังจากที่รถชัตเติลวิ่งออกจากบริษัท หมายความว่าพนักงานจะต้องเลือกว่าจะทานอาหารเย็นฟรีหรือจะใช้บริการรถฟรี พนักงานบางคนให้สัมภาษณ์กับ NYT ว่าไม่ค่อยชอบนโยบายนี้ ส่วนบางคนมองว่าเป็นนโยบายที่ต้องการดึงพนักงานให้ทำงานเป็นระยะเวลานานขึ้น
นอกจากนี้ บริการบางอย่างที่ Meta ให้เป็นสวัสดิการฟรีก็ถูกยกเลิก เช่น บริการซักรีดหรือซักแห้งฟรี โดย Meta ระบุว่าการปรับสวัสดิการบางอย่างที่สำนักงาน Facebook เพื่อให้สะท้อนความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป บริการหลายอย่างที่สำนักงานใหญ่จะไม่กลับมาในปีนี้ตามนโยบายที่บริษัทจะเปลี่ยนผ่านไปสู่การทำงานแบบไฮบริด ซึ่งบริษัทจะชดเชยด้วยการให้เงินสวัสดิการส่วนนี้เพิ่มจาก 700 ดอลลาร์เป็น 3,000 ดอลลาร์
ที่มา - New York Times, CNET, Engadget |
# iPadOS 15.4 จะมีฟีเจอร์ ปุ่มปรับระดับเสียง เปลี่ยนตามทิศทางการหมุนแบบ iPad mini 6
iPad mini 6 ซึ่งเป็น iPad mini รุ่นล่าสุด มีคุณสมบัติหนึ่งที่แตกต่างจาก iPad รุ่นอื่น คือปุ่มควบคุมระดับเสียง จะเปลี่ยนไปตามทิศทางการหมุนของ iPad เพื่อให้ปุ่มลดอยู่ด้านล่างหรือซ้ายมือ และปุ่มเพิ่มอยู่ด้านบนหรือขวามือเสมอ ไม่ว่า iPad จะหมุนไปทางใด (รายละเอียด - หรือดูรูปท้ายข่าว)
ล่าสุดมีผู้พบว่าใน iPadOS 15.4 ที่จะออกมาให้อัพเดตสัปดาห์หน้า แอปเปิลจะเพิ่มคุณสมบัตินี้ให้กับ iPad รุ่นไม่มีปุ่ม Home ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้มี iPad Pro และ iPad Air
ฟีเจอร์ดังกล่าวจะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น แต่ผู้ใช้สามารถปิดการทำงานได้ถ้าหากทำให้สับสน โดยไปที่ Settings > Sounds
ที่มา: iMore |
# Rivian เผยผลประกอบการปี 2021 ขาดทุนค่อนข้างหนัก คาดปีนี้จะผลิตรถได้น้อย ส่งผลหุ้นร่วง 13%
Rivian บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่งไอพีโอเข้าตลาดหุ้นไปได้ประกาศผลประกอบการประจำปี 2021 ออกมาแล้ว
สำหรับผลประกอบการ Rivian ในปีที่ผ่านมา ทางบริษัทมีรายได้ 55 ล้านดอลลาร์ตลอดปี และมีผลประกอบการขาดทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสี่ ซึ่งเมื่อรวมแล้วทั้งปีบริษัทมีผลขาดทุน 4.5 พันล้านดอลลาร์
ในด้านการผลิตรถยนต์ RJ Scaringe ซีอีโอ Rivian ประกาศว่าตั้งแต่เริ่มผลิตรถยนต์มาจนถึงวันที่ 8 มีนาคม ทางบริษัทประกอบรถยนต์ได้กว่า 2,425 คัน ส่วนจำนวนผู้จองรถยนต์ตอนนี้อยู่ที่ 83,000 คน แสดงให้เห็นว่ายังมีลูกค้าที่ต้องการรถอีวีจาก Rivian อยู่จำนวนมาก ซึ่งตามแผนของ Rivian คือทางบริษัทจะผลิตรถยนต์ได้เพียง 25,000 คันในปี 2022 (รวมรถกระบะ R1T และรถตู้ส่งของจาก Amazon แล้ว) เนื่องจากปัญหาซัพพลายเชนโดยเฉพาะชิปที่พบกันทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ถ้าซัพพลายเชนไม่มีปัญหาทางบริษัทคาดว่าจะผลิตได้ราว 50,000 คัน
เมื่อสัปดาห์ก่อน Riviain ได้ประกาศขึ้นราคากระบะ R1T และเอสยูวี R1S มาแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องกลับลำตรึงราคารถสำหรับลูกค้าที่จองไว้แล้วและขอโทษลูกค้าที่จองรถไป โดยทาง Rivian ระบุว่าตอนประกาศขึ้นราคามีอัตราคนยกเลิกจองรถเพิ่มขึ้น แต่มากกว่าครึ่งก็กลับมาจองใหม่หลังบริษัทกลับลำ
หลังจากผลประกอบการออกมาไม่ดีและการออกทิศทางของบริษัทประจำปี 2022 มาว่าน่าจะผลิตรถยังไม่ได้มากนัก ทำให้ราคาหุ้น Rivian ร่วงลงมากกว่า 13% หลัง after-hour
ที่มา - The Verge, TechCrunch
ภาพจาก Rivian |
# [ไม่ยืนยัน] LG อาจตั้งบริษัทใหม่ เพื่อขายไลเซนส์สิทธิบัตร 5G และเทคโนโลยีมือถือในมือ
LG ประกาศถอนตัวจากธุรกิจสมาร์ทโฟนไปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่บริษัทยังมีสิทธิบัตรในมืออีกจำนวนมาก ที่เกี่ยวข้องเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สาย 4G และ 5G ซึ่ง LG กำลังหาทางทำเงินจากส่วนนี้
มีรายงานจาก The Elec ว่า LG ประเมินค่าใช้จ่ายในการรักษาสิทธิบัตรเหล่านี้ ที่มีจำนวนมากกว่า 20,000 รายการ ซึ่งรวมทั้งพนักงานที่เกี่ยวข้อง สูงถึงกว่า 2 หมื่นล้านวอนต่อปี (ประมาณ 540 ล้านบาท) จึงจำเป็นต้องหารายได้มาสำหรับส่วนนี้ โดยแนวทางคือการขายไลเซนส์สิทธิบัตรนั่นเอง
โดย LG มีแผนจะตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่เพื่อดูแลสิทธิบัตรเหล่านี้โดยเฉพาะ ซึ่งการดำเนินงานอาจเป็นได้ทั้งขายไลเซนส์กับบริษัทที่สนใจ ไปจนถึงอาจขายทั้งบริษัทไปเลย อย่างไรก็ตามสิทธิบัตรจำนวนหนึ่ง LG ก็ยังต้องการเข้าถึง เพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์อื่นของบริษัท โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับ IoT
ที่มา Digital Trends |
# ร่วมด้วยช่วยกัน ไมโครซอฟท์ทำรายชื่อเกมของตัวเองที่เล่นบน Steam Deck ให้เลย
ความสัมพันธ์ระหว่าง Valve กับไมโครซอฟท์ดีขึ้นมากในช่วงหลังจากไมโครซอฟท์นำเกมไปขายบน Steam เป็นต้นมา ส่วนช่วงการเปิดตัว Steam Deck เราก็เห็นข่าวชื่นมื่น ทั้ง Gabe Newell บอกยินดีช่วยนำ Game Pass ลง Steam Deck, Valve ออกไดรเวอร์สำหรับ Windows 10
ล่าสุดฝั่งไมโครซอฟท์ก็ออกมาช่วยสนับสนุนด้วยการเปิดรายชื่อเกมของ Xbox Game Studios ที่ทดสอบแล้วว่าเล่นได้หรือไม่ได้บน Steam Deck ทำมาเป็นหน้าเว็บอย่างดีบน Steam
เกมที่ทดสอบแล้วว่าเล่นได้สมบูรณ์ (Verified)
Psychonauts 2
Hellblade: Senua’s Sacrifice
Battletoads
Max: The Curse of Brotherhood
เกมที่เล่นได้แต่อาจไม่สมบูรณ์ (Playable)
Sea of Thieves
Forza Horizon 4
Forza Horizon 5
Quantum Break
State of Decay: YOSE
เกมที่ไม่ซัพพอร์ต เพราะติด anti-cheat
Gears 5
Halo MCC
Halo Infinite
Microsoft Flight Simulator X
ที่มา - Steam (Microsoft) via The Verge |
# Volkswagen เปิดตัว ID.Buzz รถไมโครบัสทรงคลาสสิคพลังงานไฟฟ้า
Volkswagen เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าทรงรถตู้คลาสสิค ID.Buzz อย่างเป็นทางการ เป็นการคืนชีพรถตู้ทรงคลาสสิคของแบรนด์ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งโดยใช้ขุมพลังไฟฟ้า
สมรรถนะของตัวรถ Volkswagen ID.Buzz จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 150 กิโลวัตต์ 201 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตัน-เมตร วางที่เพลาคู่ล้อหลัง ทำความเร็วได้สูงสุด 145 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนแบตเตอรี่ใช้เป็นแบบ 81 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (ใช้ได้จริง 77 กิโลวัตต์-ชั่วโมง) ซึ่งตอนนี้ Volkswagen ยังไม่ได้เผยข้อมูลระยะวิ่งของตัวรถ แต่จากข้อมูลสเปคคาดว่าน่าจะวิ่งได้ราว 300 ไมล์หรือ 483 กิโลเมตร โดยโมเดลที่วางจำหน่ายในยุโรป Volkswagen เผยว่าจะใส่เซนเซอร์และซอฟต์แวร์เพื่อรองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเข้ามาในรุ่นคาร์โก้ด้วย
ระบบชาร์จไฟของตัวรถ ID.Buzz รองรับทั้งกระแสสลับ 11 กิโลวัตต์ หรือระบบชาร์จเร็วกระแสตรง 170 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 5-80% ให้เต็มได้ในระยะเวลาเพียง 30 นาที พร้อมรองรับระบบชาร์จไฟแบบสองทางที่ตัวรถสามารถให้พลังงานกับบ้านได้เช่นกัน
ด้านในตัวรถ Volkswagen ID.Buzz แบบมาตรฐานมี 5 ที่นั่ง สามารถออร์เดอร์ 6 ที่นั่งได้ และยังมีให้เลือกหลายรุ่นย่อยอย่างรุ่นย่อยฐานล้อยาวที่ออร์เดอร์ 7 ที่นั่งได้ หรือรุ่นย่อยคาร์โก้ที่สั่งทำเฉพาะที่นั่งคนขับแล้วทำพาร์ทิชั่นกั้นระหว่างพื้นที่คนขับกับพื้นที่เก็บของ
Volkswagen ระบุว่าตัวรถทำมาจากวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อม การตกแต่งภายในไม่มีหนัง ใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุทอที่ทำจากพลาสติกจากทะเล 10% และพลาสติกรีไซเคิลจากขวด PET อีก 90%
ตอนนี้ Volkswagen ยังไม่เปิดเผยราคาของ ID.Buzz อย่างเป็นทางการ แต่ระบุวันจำหน่ายคร่าว ๆ แล้วว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปก่อนในช่วงปลายปีนี้
ที่มา - The Verge, Engadget |
# Pokémon Go ประกาศหยุดให้บริการในรัสเซียและเบลารุส
Pokémon Go เป็นเกมล่าสุดที่ประกาศหยุดให้บริการในรัสเซีย โดย Niantic บอกว่าทั้งการดาวน์โหลด และการเล่นเกมในพื้นที่ จะหยุดให้บริการชั่วคราวมีผลทันที ในประเทศรัสเซียและเบลารุส เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนต่อสันติภาพในยูเครน
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ให้บริการเกมหลายรายต่างทยอยประกาศหยุดให้บริการในรัสเซีย ตั้งแต่ CD Projekt, EA, Activision Blizzard, นินเทนโด, Epic Games และ Sony
ที่มา: Engadget |
# ผู้สร้าง Bored Apes Yacht Club ซื้อสิทธิในแบรนด์ CryptoPunks และ Meebits
Yuga Labs ผู้สร้างผลงาน NFT คอลเลกชันดัง Bored Apes Yacht Club ประกาศซื้อสิทธิในคอลเลกชัน NFT ของ CryptoPunks และ Meebits จาก Larva Labs ที่เป็นผู้สร้าง ซึ่งทำให้ Yuga Labs จะเป็นเจ้าของแบรนด์เหล่านี้ทั้งหมด
ดีลดังกล่าวไม่มีการเปิดเผยมูลค่าอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้คอลเลกชัน NFT ของทั้ง Bored Apes Yacht Club และ CryptoPunks เป็น NFT ที่มีมูลค่ารวมสูงที่สุดในสองอันดับแรกมากกว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์
Yuga Labs บอกว่าแผนงานถัดไปคือการให้สิทธิสำหรับเจ้าของผลงานใน CryptoPunks และ Meebits แบบเดียวกับของ Bored Apes แต่จะไม่ใช้วิธีการแบบ club ที่ Bored Apes ใช้อยู่
ที่มา: TechCrunch และ Yuga Labs |
# Google ชนะคดีที่เว็บรวมเนื้อเพลง Genius ฟ้อง ว่าคัดลอกเนื้อเพลงไปแสดงผลในเสิร์ช
ความคืบหน้าคดีที่ Genius เว็บไซต์รวบรวมเนื้อเพลง ฟ้องกูเกิลว่าลอกเนื้อเพลงไปแสดงผลโดยตรงในหน้าเสิร์ช ซึ่งตอนนั้นกูเกิลชี้แจงว่าเนื้อเพลงที่แสดง นำมาจากพาร์ทเนอร์อื่นที่ไม่ใช่ Genius โดยกูเกิลเป็นฝ่ายชนะคดีในศาลอุทธรณ์ ซึ่งให้คำตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น
ในการฟ้องร้องนั้น Genius ได้แสดงหลักฐานหลายอย่างเพื่อพิสูจน์ว่ากูเกิล นำเนื้อเพลงไปจาก Genius จริง ๆ เช่นการใส่รหัสเอาไว้ในเนื้อเพลงซึ่งตรงกับผลเสิร์ชของกูเกิล ส่วนฝ่ายกูเกิลยืนยันว่าไม่ได้ทำ และนำเสนอพยานเช่นเว็บ LyricFind ที่ให้สิทธิเข้าถึงคลังเนื้อเพลงกับกูเกิล
ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น ด้วยเหตุผลเดียวกันคือ Genius ไม่ได้มีความเป็นเจ้าของเนื้อเพลงที่แสดงผลในเว็บไซต์แต่เพียงผู้เดียว เพราะเนื้อเพลงจริง ๆ เป็นของผู้แต่งเพลงและศิลปิน ถึงแม้ Genius จะได้สิทธิในการใช้งานเนื้อเพลงนั้นก็ตาม
ที่มา: The Verge |
# Telegram อัพเดต เพิ่มหน้ารายการดาวน์โหลด, ปรับปรุงเมนูตอนส่งไฟล์
Telegram ประกาศอัพเดตโดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ มีรายละเอียดดังนี้
Download Manager เพิ่มหน้ารายการกำลังไฟล์ที่กำลังดาวน์โหลด
เมนูการส่งไฟล์แบบใหม่ สามารถกดพรีวิว จัดเรียงลำดับไฟล์ได้ง่ายขึ้น
Android Night Mode ปรับการแสดงผลใหม่ เป็นกึ่งโปร่งแสง
Live Streaming รองรับการสตรีมจากเครื่องมือเข้ามาที่ Telegram
ที่มา: Telegram |
# Superlist แอพจดรายการตัวใหม่จากผู้สร้าง Wunderlist ที่ไม่พอใจการขายให้ไมโครซอฟท์
ปี 2015 ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ Wunderlist แอพจดรายการ To-Do จากนั้นเปลี่ยนมาทำแอพใหม่ชื่อ Microsoft To Do และเลิกทำ Wunderlist ในปี 2020
อย่างไรก็ตาม Christian Reber ผู้สร้าง Wunderlist ชาวเยอรมนี กลับไม่มีความสุขกับการขายกิจการครั้งนั้น (ไม่เปิดเผยมูลค่า แต่คาดว่า 100-200 ล้านดอลลาร์) เขาเล่าว่าเหตุผลสำคัญที่ขายในตอนนั้นเป็นเพราะภรรยา (ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Wunderlist ด้วย) กำลังตั้งครรภ์ เขาจึงอยากหาหลักประกันที่มั่นคงให้ครอบครัว ชีวิตของผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพย่อมประสบปัญหาเรื่องการเงิน เต็มไปด้วยความเครียดและเบิร์นเอาท์ การขายกิจการน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
หลังขายกิจการแล้ว Reber พบว่าสถานะการเงินของเขามั่นคงขึ้นจริง พนักงานของบริษัทได้ทำงานที่มั่นคงกับไมโครซอฟท์ แต่ในแง่จิตใจเขากลับรู้สึกว่าเหมือนเสียลูกไป เขาไม่ได้ฉลองใดๆ กับการขายในครั้งนั้นเลย ไม่อยากพูดหรือคิดถึงมัน และรู้สึกตัดขาดจากทีมงานที่ร่วมสร้างกันมา
เมื่อเขาทราบข่าวไมโครซอฟท์จะปิด Wunderlist ในปี 2019 เขาก็เสนอตัวซื้อ Wunderlist กลับมาทำต่อ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
สุดท้ายในปี 2021 เขาจึงเปิดบริษัทใหม่ชื่อ Superlist สร้างผู้สืบทอดของ Wunderlist ขึ้นมา เขาบอกว่าวิสัยทัศน์ของเขาตั้งแต่ยุค Wunderlist คือสร้างแอพจดรายการงานที่เชื่อมต่อระหว่างโลกองค์กร (Asana, Trello) กับงานส่วนตัว (Things, To Do) เน้นอินเทอร์เฟซที่ใช้ง่าย แต่สามารถประสานงานภายในทีมขนาด 100-200 คนได้ ปัจจุบัน Superlist ยังไม่เปิดให้บริการ
นอกจากนี้ Reber ยังมีอีกบริษัทที่เปิดมาก่อนแล้วคือ Pitch ที่เป็นลูกผสมระหว่าง PowerPoint กับ Slideshare และ Google Docs ด้วย
ที่มา - CNBC |
# Minecraft Java Edition บังคับใช้บัญชี Microsoft Account แล้ว
Minecraft Java Edition เริ่มบังคับล็อกอินด้วย Microsoft Account มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2022 ที่ผ่านมา
เดิมที Minecraft Java Edition ใช้บัญชีของ Minecraft.net เอง ที่มีมาตั้งแต่ยุคแรก ก่อนโดนไมโครซอฟท์ซื้อ ส่วน Minecraft เวอร์ชันอื่นๆ เช่น Bedrock ต้องใช้บัญชี Microsoft Account อยู่แล้ว
Mojang ประกาศนโยบายนี้มาตั้งแต่ปี 2020 โดยตอนแรกระบุว่าจะบังคับภายในปี 2021 แต่สุดท้ายก็เลื่อนมาเป็นต้นปี 2022
ที่มา - Minecraft, Windows Central |
# เตรียมแยกตัว LINX ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตระดับชาติ ตัด ISP รัสเซียออกจากระบบ
LINX หรือ London Internet Exchange ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตระดับศูนย์กลาง (IX - Internet exchange) ที่เชื่อมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเข้าด้วยกันรายใหญ่ในอังกฤษ ประกาศตัด ISP รัสเซียสองราย ได้แก่ Megafon (AS 31133) และ Rostelecom (AS 12389) ออกจากระบบ
ทาง LINX ระบุว่าตัดบริการเพราะความกังวลทางกฎหมายว่าจะเป็นการทำธุรกิจกับบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร
Megafon นั้นเชื่อมต่อกับ LINX ด้วยลิงก์ขนาด 10Gbps ส่วน Rostelecom เชื่อมกับ LINX ด้วยลิงก์ขนาด 100Gbps ผู้ให้บริการทั้งสองรายยังต่อกับ IX อื่นๆ อีกหลายราย เช่น Rostelecom นั้นเชื่อมต่อเข้าเยอรมันและเนเธอร์แลนด์ด้วยลิงก์ขนาดใหญ่หลายร้อยกิกะบิตต่อวินาที
ไม่แน่ชัดว่า IX อื่นๆ โดยเฉพาะในยุโรปจะมีแนวทางเหมือนกันหรือไม่ เพราะลิงก์หลักของ ISP ทั้งสองรายนั้นออกไปยังชาติร่วมคว่ำบาตรเป็นส่วนใหญ่ หากมีการตัดลิงก์ทั้งหมดในที่สุด การเชื่อมต่อเข้าและออกจากรัสเซียก็น่าจะลำบากขึ้นมาก
ที่มา - @woodyatpch
ภาพโดย Bru-nO |
# CNN+ บริการสตรีมมิ่งจาก CNN เตรียมเปิดให้บริการ 29 มีนาคมนี้
CNN เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของตัวเองในชื่อ CNN+ และเผยรายละเอียดเบื้องต้นออกมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และวันนี้ CNN+ ก็เตรียมเปิดให้บริการผู้ใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มีนาคมนี้
บริการ CNN+ จะมีค่าใช้จ่ายที่ 5.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 59.99 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งถ้าผู้ใช้สมัครใน 4 สัปดาห์แรก CNN+ จะคิดค่าสมาชิกที่ราคาพิเศษเพียง 2.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดย CNN สัญญาว่าจะคงราคานี้ให้ผู้ใช้ตราบใดที่ยังคงสมัครสมาชิกอยู่เรื่อย ๆ
คอนเทนต์ของ CNN+ จะเน้นที่รายการสด, ข่าว หรือออนดีมานด์ รวมถึงซีรีส์และภาพยนตร์ออริจินัลของ CNN เอง บางรายการมีเปิดให้สนทนาแบบเรียลไทม์กับผู้ดำเนินรายการด้วย ซึ่งสมาชิกจะสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านแอป CNN แอปเดียวกับที่ผู้ใช้ pay TV เข้าใช้งาน โดยจะมีแยกส่วน CNN+ สำหรับเข้าดูคอนเทนต์ของฝั่งสตรีมมิ่ง
ที่มา - The Verge
ภาพจาก CNN |
# Twitter ปรับดีไซน์ใหม่ ผู้ใช้ไม่สามารถเลือกไทม์ไลน์เรียงตามเวลาเป็นค่าเริ่มต้นได้แล้ว
Twitter เริ่มปรับดีไซน์ใหม่เล็กน้อย โดยจะแสดงเป็นแท็บ Home (ฟีดที่เรียงทวีตตามอัลกอริทึม) แยกกับ Latest Tweets (ฟีดที่เรียงทวีตตามเวลา) ลักษณะคล้ายกับ Pinned Lists
จุดสำคัญของการเปลี่ยนระบบใหม่ของ Twitter คือผู้ใช้ไม่สามารถเลือกฟีดตามเวลาเป็นค่าเริ่มต้นได้แล้ว โดยโฆษก Twitter ยืนยันชัดเจนว่าตอนนี้หน้า Home จะปักหมุดไว้หน้าแรกเป็นค่าเริ่มต้น (เปิดเข้าแอปครั้งแรกจะเจอเลย) และยืนยันว่าไม่สามารถปรับ Latest Tweets เป็นค่าเริ่มต้นได้ แปลว่าถ้าผู้ใช้เปิดแอปมาจะพบกับ Home ก่อน และต้องกดเลือกแท็บ Latest Tweets หากต้องการดูทวีตตามเวลา
ตอนนี้ Twitter เริ่มปล่อยฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้งานบน iOS แล้ว และจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ Android และเว็บต่อไป
ที่มา - The Verge |
# Activision เริ่มทำเกม Call of Duty: Warzone เวอร์ชันมือถือแล้ว เปิดรับพนักงานด้วย
Activision เปิดเผยว่าตอนนี้กำลังเริ่มรับสมัครนักพัฒนามาทำเกม Call of Duty: Warzone เวอร์ชันมือถือแล้ว
ปกติแล้วบริษัทเกมมักประกาศรับนักพัฒนามาทำโปรเจคที่คลุมเครือ ไม่ประกาศชัดเจน แล้วค่อยเปิดตัวเกมเมื่อพร้อม แต่รอบนี้ถือว่า Activision มาแปลกที่บอกเลยว่าจะทำเกมอะไร แม้ไม่ใช่เกมใหม่ทั้งหมด 100% ก็ตาม
ก่อนหน้านี้ Activision มีเกม Call of Duty: Mobile ที่พัฒนาโดย Tencent มีผู้เล่นประมาณ 500 ล้านคน ส่วน Call of Duty: Warzone ที่เป็นเกมแนว Battle Royale มีผู้เล่นประมาณ 100 ล้านคน
ที่มา - VentureBeat |
# Oracle ไตรมาสล่าสุด รายได้รวมโตเล็กน้อย ธุรกิจคลาวด์โต 24%
ออราเคิลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2022 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 10,513 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 2,319 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจที่เป็นไฮไลท์มีดังนี้ รายได้จากธุรกิจคลาวด์ทั้งหมดได้แก่ IaaS และ SaaS เพิ่มขึ้น 24% เป็น 2.8 พันล้านดอลลาร์ ส่วน Fusion ERP Cloud รายได้เพิ่มขึ้น 33% และ NetSuite ERP Cloud มีรายได้เพิ่มขึ้น 27%
Larry Ellison ซีทีโอและประธานบอร์ดออราเคิล กล่าวว่าในไตรมาสที่ผ่านมา ออราเคิลได้พัฒนาฐานข้อมูลดอเพนซอร์ส MySQL HeatWave เวอร์ชันที่ทำงานแบบมัลติคลาวด์ ซึ่งตอนนี้ทำงานอยู่บน Oracle Gen2 Cloud แล้ว จากนั้นจะเพิ่มเติมไปยังคลาวด์ของ Amazon และ Microsoft ต่อไป ซึ่งเขาบอกว่า HeatWave ทำงานได้รวมเร็วมากกว่าฐานข้อมูล MySQL ปรับแต่งอื่นอย่าง Aurora หรือ Snowflake
ที่มา: ออราเคิล |
# DuckDuckGo ประกาศลด Rank ผลการค้นหาที่เป็นข่าวปลอมของรัสเซีย
Gabriel Weinberg ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเสิร์ชเอนจินที่เน้นความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งาน DuckDuckGo เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ระบบเสิร์ชจะลดอันดับเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลไม่ถูกต้องของรัสเซีย
เมื่อต้นเดือน DuckDuckGo ก็ประกาศว่าได้ระงับความร่วมมือกับ Yandex เสิร์ชเอนจินรายใหญ่ของรัสเซียชั่วคราว
ที่ผ่านมาทิศทางของ DuckDuckGo ไม่เคยเพิ่มเงื่อนไขเฉพาะในการจัดอันดับผลลัพธ์การค้นหามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หรือวัคซีนโควิด 19 ขณะที่กูเกิลหรือแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ จะมีตัวคัดกรองเนื้อหานี้
ที่มา: Engadget |
# Valve ออกไดรเวอร์ให้ Steam Deck ติดตั้ง Windows 10 ได้แต่ยังไม่สมบูรณ์
Valve ออกไดรเวอร์ Windows ของฮาร์ดแวร์ Steam Deck ให้ตามสัญญา แต่ยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ทั้งหมด
Valve เคยประกาศเอาไว้ว่าจะเปิดให้ Steam Deck รัน Windows ได้ โดยเบื้องต้นออกไดรเวอร์จีพียู, Wi-Fi, Bluetooth แต่ยังขาดไดรเวอร์เสียงที่ยังทำไม่เสร็จ ตอนนี้ยังรองรับเฉพาะการติดตั้ง Windows 10 แบบ OS เดียวเท่านั้น ยังไม่รองรับการทำ Dual Boot และ Windows 11 ที่จะตามมาในอนาคต
คนที่มี Steam Deck สามารถลองเปลี่ยนมาเป็น Windows 10 ได้เองแล้ว (ถ้าต้องการลอง) หากไม่ประสบความสำเร็จ ก็สามารถ recovery กลับเป็น Steam OS คืนได้ โดยต้องดาวน์โหลดอิมเมจเพื่อบูตใส่ USB key อีกที
ที่มา - Steam |
# ซัมซุงเริ่มปล่อยอัพเดต Galaxy S22 ในเกาหลีใต้ ปิดการทำงานของ GOS ได้เองแล้ว
จากประเด็นซัมซุงปรับลดประสิทธิภาพแอพขณะเล่นเกม และออกมาบอกว่าจะอัพเดตให้ปิดการทำงานของ Game Optimizing Service (GOS) ได้
วันนี้มีผู้ใช้ Galaxy S22 ในประเทศเกาหลีใต้ ระบุว่าเริ่มได้อัพเดตที่เพิ่มตัวเลือกปิดการทำงานของ GOS แล้ว ส่วนจะมาถึงผู้ใช้นอกเกาหลีกันเมื่อไรคงต้องรอดูกันต่อไป
กรณีการบีบประสิทธิภาพ GOS เป็นเรื่องใหญ่ในเกาหลีใต้ และมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งฟ้องซัมซุงไปทางคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (FTC) ของเกาหลีใต้ด้วย
ที่มา - SamMobile |
# Meta อนุโลมให้โพสต์ด่าหรือแช่งปูตินได้ไม่ถูกแบน แต่เฉพาะประเทศที่เกี่ยวข้อง
Meta ประกาศผ่อนคลายกฎเรื่องความรุนแรงและการยั่วยุบน Facebook และ Instagram ให้ผู้ใช้งานสามารถโพสต์โจมตี ด่าท่อที่เกี่ยวกับสงคราม ณ ตอนนี้ได้ เช่น โพสต์ด่า Vladimir Putin หรือ Alexander Lukashenko ประธานาธิบดีเบลารุส หรือกระทั่งไล่ให้ไปตายก็ไม่โดนลงโทษ
อย่างไรก็ตามกฎนี้ผ่อนคลายเฉพาะพื้นที่ที่เกี่ยวข้องอย่างรัสเซีย, ยูเครน, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, โปแลนด์, สโลวาเกีย, ฮังการี และโรมาเนีย แต่ก็ถึงแม้จะให้โพสต์ข้อความที่มีความรุนแรง ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ เช่น หากมีการระบุหรือเจาะจงสถานที่ วิธีการที่นำไปสู่การใช้ความรุนแรง รวมถึงหากเป็นการโจมตีบุคคลอื่น จะยังไม่สามารถทำได้
ที่มา - The Independent |
# รัสเซียสร้าง CA เองป้องกันกรณีโดนคว่ำบาตร ธนาคารเริ่มใช้งาน
บริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์รัสเซีย หรือ Gosuslugi เปิดให้บริการออกใบรับรองดิจิทัล เพียงไม่กี่วันหลังจากรัสเซียบุกยูเครน ป้องกันกรณีที่บริษัทออกใบรับรองหยุดให้บริการในรัสเซียและทำให้บริการสำคัญๆ เข้าผ่านเบราว์เซอร์ไม่ได้
ใบรับรอง Russian Trusted Root CA (หมายเลข serial E1:D1:81:E5:CE:5A:5F:04:AA:D2:E9:B6:9D:66:B1:C5:FA:AC:2C:87) เพิ่งสร้างเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา และตอนนี้เบราว์เซอร์รัสเซีย เช่น Yandex และ Atom (ของค่าย Vk) ก็ยอมรับไว้ในเบราว์เซอร์แล้ว กระบวนการออกใบรับรองยังเป็นการตรวจเอกสารทำให้การออกใบรับรองอาจใช้เวลาถึง 5 วัน หน่วยงานที่ออกใบรับรองไปแล้ว เช่น ธนาคาร Sberbank, ธนาคาร VTB, และธนาคารกลางรัสเซีย ตอนนี้การใช้งานใบรับรองของรัสเซียยังเป็นไปตามสมัครใจ
ตอนนี้ยังไม่มีข่าวผู้ให้บริการ CA รายใดประกาศแบนเว็บไซต์รัสเซียอย่างชัดเจน แต่ก่อนหน้านี้บริการจดโดเมนอย่าง Namecheap ก็ประกาศไม่ให้บริการลูกค้ารัสเซียมาแล้ว และรัฐบาลยูเครนก็พยายามกดดันหน่วยงานต่างๆ ให้แบนรัสเซียอย่างต่อเนื่อง เช่น การขอให้ ICANN ตัดโดเมนของรัสเซียออกจากระบบ แต่ทาง ICANN ปฎิเสธ
ที่มา - Bleeping Computer
ภาพโดย Bru-nO |
# โอกาสของคนหางานไอที สรุปงาน Accenture Career Talk แชร์ประสบการณ์จริงจากคนทำงาน Data Analytics อาชีพไอทีมาแรง
เอคเซนเชอร์ บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจและไอทีชั้นนำระดับโลก จัดงาน Accenture Career Talk: Road to Technology Experts เมื่อวันเสาร์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อบอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์จริงจากพนักงาน เอคเซนเชอร์ ทั้งเรื่องรูปแบบการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร ไปจนถึงสวัสดิการที่เป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังหางานสายไอที โดยเฉพาะอาชีพไอทีมาแรงอย่าง Data Analytics พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ซักถามข้อสงสัยต่างๆ อีกด้วย
สำหรับงาน Accenture Career Talk ในครั้งนี้ จะมีการแบ่งงานออกเป็น 2 Session หลักๆ ด้วยกัน โดยใน Session แรก จะเป็นการเจาะลึกถึง เอคเซนเชอร์ ในแง่มุมต่างๆ ตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน อย่างการทำความรู้จักกับบริษัท วัฒนธรรมองค์กร และสวัสดิการต่างๆ ที่พนักงานจะได้รับ ส่วนของ Session ที่ 2 จะเป็นกิจกรรมพูดคุยแบบเจาะลึกในการทำงานจาก Expert ของแต่ละสายงานในเอคเซนเชอร์
คุณนิธินันท์ สมบูรณ์วิทย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า เอคเซนเชอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ และไอทีชั้นนำ ปัจจุบันมีสำนักงานกว่า 200 แห่ง มีพนักงานเกือบ 700,000 คน ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่องค์กรกว่า 7,000 แห่งทั่วโลก ผ่านการให้บริการใน 4 รูปแบบหลักๆ ได้แก่
1. Strategy & Consulting หรือทีมให้คำปรึกษาและวางแผนกลยุทธ์ การทำ Digital Transformation รวมถึงการวางแผนนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจของลูกค้า
2. Interactive หรือทีมที่ออกแบบและดูแลประสบการณ์ของลูกค้า โดยจะเน้นไปที่ Customer Journey และ Customer Experience Design
3. Technology หรือทีมที่สร้างและนำเทคโนโลยีเข้าไปปรับใช้ ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า เพื่อแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจของลูกค้า
4. Operations ให้บริการด้าน Operations แก่ธุรกิจของลูกค้า เช่น การให้บริการระบบ Call Center หรือ Outsourcing ต่างๆ
ส่วนลูกค้าที่ เอคเซนเชอร์ ให้บริการ โดยรวมแล้วจะอยู่ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมด้วยกัน ได้แก่
- Communications, Media & Technology หรือ ธุรกิจโทรคมนาคม การสื่อสาร-สื่อ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่
- Financial Services หรือ ธุรกิจการเงิน การธนาคาร และประกันภัย
- Health & Public Services หรือ ธุรกิจโรงพยาบาล และหน่วยงานภาครัฐ
- Products หรือ ธุรกิจค้าปลีก การท่องเที่ยว และสินค้าอุปโภคบริโภค
- Resources หรือ ธุรกิจพลังงาน น้ำมัน และสาธารณูปโภค
หากเจาะลึงลงไปที่ลูกค้าของเอคเซนเชอร์ จะพบว่า กว่า 89 ใน 100 บริษัท ของการจัดอันดับ Fortune 100 เป็นลูกค้าของ เอคเซนเชอร์ ในขณะที่ 75% ของบริษัทใน Fortune 500 ก็เป็นลูกค้าของเอคเซนเชอร์เช่นกัน
ส่วนเอคเซนเชอร์ ในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1978 หรือ 44 ปีที่ผ่านมา มีการปรับเปลี่ยนการให้บริการ ให้ตอบรับกับการทำธุรกิจ และอุตสาหกรรม รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ นับได้ว่า เอคเซนเชอร์ ในประเทศไทย เป็นส่วนธุรกิจที่มีความสำคัญในระดับภูมิภาค ด้วยจำนวนพนักงานที่มีมากกว่า 1,000 คน และยังมี Advanced Technology Center Thailand หรือ ATCT เพื่อพัฒนา Solutions จากเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน ให้มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ผ่านเครือข่ายของ Advanced Technology Center ที่มีอยู่ทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
Life at Accenture Thailand
สำหรับ Working Culture จากประสบการณ์การทำงานจริงใน เอคเซนเชอร์ ของคุณเกรียงจิตร์ เลิศสิทธิกุล Human Resorces Lead ของเอคเซนเชอร์ ประเทศไทย ได้บอกเล่าประสบการณ์การทำงานว่า เป็นการทำงานที่มีพื้นฐานเริ่มจากความสนุกในการทำโปรเจกต์ต่างๆ รวมถึงการได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากความสนุกในการทำงานเช่นเดียวกัน
รูปแบบการทำงานของ เอคเซนเชอร์ ไม่ได้พูดเพียงเรื่อง Work-Life Balance เท่านั้น แต่เป็นการพูดถึง Flexible Work-Life Integration ที่ผสมผสานกันระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว เพราะที่เอคเซนเชอร์ ไม่มีการตอกบัตร ไม่นับเวลาเข้างาน แต่พนักงานสามารถออกแบบชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของตัวเองได้
การทำงานที่เอคเซนเชอร์ ยังเน้นไปที่การ Collaboration หรือการทำงานเป็นทีม ด้วยความที่เอคเซนเชอร์ เป็นองค์กรระดับโลก ดังนั้นพนักงานจึงมีโอกาสในการทำงานร่วมกับคนเก่งๆ ที่อาจไม่ได้อยู่แค่ในประเทศไทย ทำให้เกิดการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยนทั้งทักษะและประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้การเป็นตัวของตัวเอง กล้าที่จะแสดงออกทางความคิดต่อเรื่องต่างๆ ทั้งสิ่งที่ชอบ และสิ่งที่อาจจะเป็นปัญหา ยังเป็นอีกหนึ่ง Working Culture ของเอคเซนเชอร์ ด้วยเช่นกัน
ในด้านสวัสดิการที่พนักงานจะได้รับ ซึ่งช่วยดึงดูดคนที่กำลังหางานไอที แบ่งออกเป็น 3 ด้านหลักๆ ได้แก่
1. Good Career Prospect โอกาสในการเติบโตในสายงานจากความสามารถ และเป้าหมายที่กำหนดเอง โดยไม่ได้นำข้อจำกัดต่างๆ เช่น อายุ เพศ จำนวนปีที่ทำงาน มาปิดกั้น หรือหากต้องการเปลี่ยนสายงาน (Rotation) ก็สามารถทำได้ เมื่อรู้สึกว่ามีความสนใจที่เปลี่ยนไปจากเดิม
2. Learning Development เอคเซนเชอร์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะของพนักงาน โดยมีคอร์สเรียนออนไลน์จัดให้แบบฟรีๆ จากทั่วโลกกว่า 8,500 คอร์ส ตามความสนใจ พร้อมมีระบบ AI ที่ช่วยแนะนำคอร์สเรียนออนไลน์ตามความต้องการของพนักงานแต่ละคนได้อีกด้วย
3. Reward and Benefits พนักงานของเอคเซนเชอร์ จะได้รับวันลาพักร้อน (Vacation / Annual Leave) เริ่มต้นที่ 15-20 วัน ซึ่งแตกต่างกันไปตาม Level ของตำแหน่ง, ได้รับวันลากิจ (Personal Leave) เพิ่มเติมอีก 8 วัน สำหรับจัดการธุระส่วนตัวต่างๆ, มีประกันชีวิตแบบกลุ่ม ที่ครอบคลุมถึงสมาชิกในครอบครัวและ Life Partner ของพนักงาน, มี Performance Bonus และ Hot Skill Bonus, มี Flexible Benefits ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนรายปีให้กับพนักงานแต่ละคน เพื่อใช้จ่ายในสิ่งต่างๆ ที่ตอบโจทย์ lifestyle ของตัวเอง รวมถึงโอกาสในการเป็นเจ้าของบริษัทร่วมกัน ผ่านการซื้อหุ้นเอคเซนเชอร์ โดยได้ราคาลดที่ 15% หรือก็คือได้กำไรตั้งแต่วันแรกที่ซื้อหุ้นนั่นเอง
ในส่วนของ Session ที่ 2 จะเป็นการพาไปพูดคุยแบบเจาะลึกในการทำงานจาก Expert ของแต่ละสายงานใน เอคเซนเชอร์ ทั้งในด้าน SAP, Data Analytics และ Strategy & Industry knowledge แต่ในบทความนี้เราจะพาไปเจาะลึกการทำงานของ Expert ในด้าน Data Analytics
คุณทัศนัย ชุติกานนท์ Data Engineering Associate Director ของเอคเซนเชอร์ ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า งานสาย Data Analytics ของเอคเซนเชอร์ จะเรียกรวมๆ ว่า Applied Intelligence ซึ่งไม่ได้มีเพียงเรื่อง Data Analytics และ AI (Artificial Intelligence) เท่านั้น แต่เป็นจุดสำคัญที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของลูกค้า
การทำงานของ Applied Intelligence จะเข้าไปดูแล Value Chain ของบริษัท หรือหน่วยงานที่เป็นลูกค้าทั้งหมด ทั้งกระบวนการทำงาน เทคโนโลยี รวมถึงพนักงานภายในองค์กรนั้นๆ โดยใช้ Data และ AI ในการหาวิธี Transformation ให้ลูกค้ามีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น
การที่บริษัทหรือองค์กรต่างๆ จะสามารถทำการ Transformation เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันได้นั้น จำเป็นที่จะต้องอาศัยเครื่องมือ หรือเทคโนโลยีหลายรูปแบบ แต่เทคโนโลยีที่มีความสำคัญมากที่สุดในยุคนี้ คือระบบ Cloud ที่ช่วยให้การทำงานของ Data Analytics และ AI ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของการใช้ Cloud คือช่วย Scale Up ในการทำงาน เพราะใน 1 ปี Data ที่จำเป็นต้องใช้อาจเติบโตถึง 10 เท่า หากไม่มี Cloud เข้ามาช่วย ก็อาจไม่สามารถรองรับการทำงานกับ Data ปริมาณมหาศาลขนาดนี้ได้
นอกจากนี้คุณทัศนัย ยังระบุด้วยว่า การให้บริการของเอคเซนเชอร์ ไม่ได้เน้นไปที่ปัญหา หรือโจทย์เพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นไปที่การวางรากฐานให้กับลูกค้า ให้สามารถนำระบบไปใช้งานได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวด้วย
ตัวอย่างการทำงานด้าน Data Analytics ของเอคเซนเชอร์ มีทั้งการทำงานในประเทศไทยและต่างประเทศ
สำหรับตัวอย่างการทำงานจริงของเอคเซนเชอร์ในต่างประเทศ คุณทัศนัย ยกตัวอย่างโปรเจกต์ Flying High with Digital ของสนามบินชางงี ประเทศสิงค์โปร์ ว่ามีโจทย์ในการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้า เพื่อเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยภายในสนามบิน ผ่านการทำ Personalized Marketing ตั้งแต่เริ่มจองตั๋วเครื่องบิน ระหว่างรอเดินทาง และหลังจากการเดินทางไปแล้ว
เอคเซนเชอร์ ได้ดูแลเรื่อง Data ต่างๆ ทั้งการจับจ่ายใช้สอย ข้อมูลประวัติการเดินทาง เพื่อนำมาทำ Micro Segment ให้เห็นพฤติกรรมเฉพาะบุคคลมากขึ้น รวมถึงวางระบบ Virtual Assistant และ Chatbot ที่ให้การสนับสนุนแก่ผู้โดยสารตั้งแต่ก่อนการเดินทาง
ผลที่ได้รับจากโปรเจกต์นี้ ทำให้ผู้โดยสารในสนามบินมีการจับจ่ายใช้สอยที่มากขึ้น ได้รับประสบการณ์การเดินทางที่ดี มีความพึงพอใจในการใช้บริการสนามบิน ซึ่งหลังจากนั้นสนามบินชางงี ก็ได้รับรางวัลสนามบินที่ดีที่สุดในโลกไปครอง
ส่วนในประเทศไทยเอง เอคเซนเชอร์ ได้พาร์ทเนอร์กับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในกระบวนการ Transformation ผ่านการทำ Data-Driven โดยเอคเซนเชอร์ได้เข้าไปวางแผนกลยุทธ์ ตั้งแต่รากฐาน กระบวนการในการทำงานและเทคโนโลยี รวมถึงการวางแผนในส่วนของพนักงานของลูกค้า ให้มีความเข้าใจในด้าน Data มากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ เอคเซนเชอร์ ยังมีการนำเทคโนโลยี Cloud เข้ามาใช้ในงาน Data Analytics ซึ่งช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น เช่น การใช้เทคโนโลยี Machine Learning เพื่อคาดการณ์ปริมาณเงินสด ที่สำรองไว้ในตู้ ATM ให้แม่นยำขึ้น ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว หรือการวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยให้ธนาคาร สามารถคาดการณ์ลูกค้าที่สมัครสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อคาดเดาโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติ หรือปฎิเสธสินเชื่อ รวมถึงให้บริการลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ผ่านระบบ Digital Marketing
เอคเซนเชอร์ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่การเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุดให้กับกับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับพนักงานด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ทำงานในอาชีพไอทีมาแรงอย่าง Data Analytics เพราะเอคเซนเชอร์ มีเป้าหมายที่จะสร้างพนักงานให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้ง Data Analytics และ AI ผ่านการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเครือข่ายของผู้เชี่ยวชาญด้าน Data Analytics ทั่วโลก ที่รวบรวม Case Study จากการทำงานจริงในทุกแวดวงอุตสาหกรรม รวมถึงมี Asset ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพนักงาน ทั้ง ebook, งานวิจัย, คอร์สเรียนออนไลน์ที่น่าสนใจ รวมทั้งการสอบใบรับรอง (Certificate) ต่างๆ แบบฟรีๆ ทั้ง Azure, AWS และ GCP อีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังหางานไอที หรือต้องการร่วมงานกับแอคเซนเชอร์ สามารถเข้าไปดูตำแหน่งที่เปิดรับสมัครได้ที่ https://accntu.re/3IW37Di |
# Niantic ซื้อกิจการ 8th Wall ผู้พัฒนาเครื่องมือสร้างสรรค์ WebAR
Niantic ประกาศซื้อกิจการ 8th Wall บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเครื่องมือแสดงผล AR บนเว็บหรือ WebAR ที่ทำให้สามารถใช้งาน AR ได้ โดยไม่ต้องลงแอปเพิ่มเติม ซึ่งทีมงาน 8th Wall จะมาร่วมทีมกับ Niantic เพื่อมาเสริมเครื่องมือให้กับนักพัฒนาและผู้เกี่ยวข้องที่มากขึ้น
ดีลดังกล่าวไม่มีการเปิดเผยมูลค่า แต่ Niantic บอกว่าเป็นการซื้อกิจการที่มีมูลค่าสูงที่สุดของบริษัทที่ผ่านมา
แพลตฟอร์ม WebAR ของ 8th Wall ถูกนำไปสร้างเป็นผลงานต่าง ๆ แล้ว มากกว่า 5 หมื่นผลงาน ซึ่งรวมทั้งการใช้งานของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ Pepsi, Microsoft, Nike, Porsche, Netflix, LEGO และ Dior
ที่มา: Niantic |
# กูเกิลเพิ่มระบบเตือนภัยการโจมตีทางอากาศ ให้กับผู้ใช้ Android ในยูเครน
กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนการโจมตีทางอากาศ (Air Raid Alerts) ให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android ในยูเครน
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน และไม่มีหน้าจอการเตือนภัยให้เห็น แต่รูปแบบน่าจะคล้ายระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวของ Android โดยกูเกิลบอกว่าใช้ข้อมูลการเตือนภัยทางอากาศของรัฐบาลยูเครน
ก่อนหน้านี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ยูเครน สร้างแอพเตือนภัยทางอากาศบน Android มาก่อนแล้ว โดยกูเกิลนำมาโชว์ให้ผู้ใช้ Android ดาวน์โหลดกัน แต่รอบนี้คือกูเกิลทำเอง
ที่มา - Google |
# [Counterpoint] Apple ยังครองตลาดหูฟังไร้สายเบอร์ 1 แต่ส่วนแบ่งลดลง
บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint ออกรายงานภาพรวมตลาดหูฟังบลูทูธไร้สายสมบูรณ์ (True Wireless) ปี 2021 จำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้น 24% เป็นราว 300 ล้านชิ้น และคิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 25%
แอปเปิลยังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 โดยจำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้น 5% แต่ส่วนแบ่งการตลาดลดลงจาก 30.2% เป็น 25.6% โดยมีแบรนด์ที่ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นสูงสุดคือซัมซุง จาก 6.7% เป็น 7.2% ส่วนแบรนด์อื่นส่วนแบ่งเพิ่มเล็กน้อย อาทิ JBL, Skullcandy และ boAt
นักวิเคราะห์ของ Counterpoint ให้ข้อมูลว่าตลาดหูฟังราคา 50-100 ดอลลาร์ (1,600-3,300 บาท) มีการเติบโตสูงที่สุด โดยเฉพาะ Xiaomi ที่พยายามทำตลาดนี้เป็นหลัก ขณะเดียวกันผู้ผลิตสมาร์ทหลายรายก็มาเล่นตลาดนี้ด้วยเช่นกัน
ที่มา: Counterpoint |
# Apple ยืนยันจอ Studio Display ต่อกับพีซี Windows ได้ แม้ไม่ระบุในสเป็ก
ยังอยู่ที่เรื่องราวของจอภาพ Studio Display จากแอปเปิล ถึงแม้ในรายละเอียดสเป็กจะบอกว่าใช้งานได้กับ Mac และ iPad แต่หลักการแล้วก็น่าจะใช้กับ Windows ได้เช่นกัน เพียงแต่แอปเปิลไม่ได้บอกไว้
The Verge จึงสอบถามไปยังแอปเปิลว่า Studio Display ต่อกับพีซี Windows ได้หรือไม่ และคำตอบก็คือควรจะทำงานได้ตามปกติ แต่ฟีเจอร์พิเศษหลายอย่างไม่รองรับ ทำให้เมื่อต่อกับพีซีแล้ว Studio Display จะทำงานเหมือนหน้าจอเสริมธรรมดาเท่านั้น และคุณภาพการแสดงผลก็จะขึ้นอยู่กับความละเอียดของสัญญาณจากต้นทาง
ส่วนกล้องเว็บแคมนั้นทำงานแบบกล้องปกติ ไม่สามารถใช้คุณสมบัติ Center Stage ได้ เช่นเดียวกับคุณสมบัติอื่นที่ใช้ได้เฉพาะกับ macOS ก็จะใช้งานไม่ได้บน Windows รวมถึงการอัพเดตเฟิร์มแวร์ก็ต้องทำผ่าน macOS เท่านั้น
ที่มา: The Verge |
# Google Play หยุดขายแอพในรัสเซีย แต่แอพฟรียังดาวน์โหลดได้ตามปกติ
กูเกิลส่งเมลแจ้งพัฒนาว่า Google Play Store ในรัสเซียจะไม่สามารถขายแอพ รวมถึงทำธุรกรรมแบบ in-app purchase หรือ subscription ได้อีกแล้ว แต่แอพฟรียังสามารถดาวน์โหลดได้ตามปกติ
กรณีที่ผู้ใช้สมัครสมาชิกไว้แล้ว ยังสามารถใช้งานได้จนถึงสิ้นสุดอายุสมาชิก แต่จะไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อต่ออายุสมาชิกใหม่ได้
เหตุผลของกูเกิลมาจากระบบจ่ายเงินในรัสเซียหยุดให้บริการ ทำให้การซื้อสินค้าดิจิทัลถูกกระทบไปด้วย รูปแบบคล้ายกรณี Nintendo ปิด eShop ในรัสเซีย
ที่มา - Google, 9to5google |
# ไม่ต้องฝากร้าน Twitter เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Shops แสดงรายการสินค้าในโพรไฟล์เลย
Twitter เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Shops เป็นปุ่ม View shop ในหน้าโพรไฟล์ ที่กดแล้วเห็นรายการสินค้าที่บัญชีนั้นขายได้ทันที ช่วยให้ผู้ที่ติดตามบัญชีนั้นสามารถดูได้ว่ามีสินค้าอะไรขายบ้าง
ฟีเจอร์ Shops สามารถใส่รายการสินค้าได้สูงสุด 50 รายการ เปิดให้ใช้ฟรีโดยไม่คิดเงิน แต่ยังเปิดทดสอบแบบ Beta เฉพาะแอพบน iPhone และเฉพาะกับผู้ใช้ในสหรัฐเท่านั้น
ช่วงหลังเราเริ่มเห็นฟีเจอร์ด้านอีคอมเมิร์ซจาก Twitter ก่อนหน้านี้เป็นฟีเจอร์ไลฟ์ขายของ
ที่มา - Twitter |
# พนักงาน PlayStation หญิงยื่นฟ้องบริษัทกรณีเหยียดเพศ ได้พยานเพิ่มอีก 8 คน
Emma Majo อดีตนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยฝ่ายไอทีของ Sony Interactive Entertainment (SIE) หรือ PlayStation ยื่นฟ้องบริษัท ในนามพนักงานหญิงของทั้งองค์กร เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา ว่า SIE มีการปฏิบัติไม่เป็นธรรมกับพนักงานหญิง เช่นการจ่ายเงินเดือนไม่เท่าเทียม การเลือกปฏิบัติ การที่ผู้หญิงไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งเท่าผู้ชาย หลังตัวเธอเองถูกไล่ออกเพราะเขียนคำร้องเรื่องการเลือกปฏิบัติทางเพศในที่ทำงาน
หลังจากนั้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฝั่ง SIE ยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ไม่รับฟ้องกรณีนี้ โดยระบุว่า Majo ไม่มีหลักฐานว่ามีนโยบายหรือการปฏิบัติใดของบริษัทที่มีผลในการเลือกปฏิบัติต่อสตรี และคำกล่าวหาเรื่องการกลั่นแกล้งของ Majo เป็นเพียงการกล่าวหาลอยๆ ต่อพฤติกรรมทั่วไปของพนักงานในบริษัท
ล่าสุดทนายของ Majo จึงได้หาพยานเพิ่มเติมที่เป็นทั้งอดีตพนักงานและพนักงานปัจจุบันของ Sony มาประกอบคำฟ้องของเธออีก 8 คน เช่น Marie Harrington พนักงาน Sony Online Entertainment และ Sony PlayStation ที่ทำงานกับบริษัทมานานกว่า 16 ปี ให้การไปทางเดียวกันกับ Majo ว่าพนักงานหญิงมักไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งเท่าพนักงานชาย
พยานอีกคนคือ Kara Johnson อดีตผู้จัดการโปรแกรมที่ SIE ที่บอกว่าเธอเชื่อว่า SIE ไม่น่าจะสามารถแก้ปัญหาสภาพแวดล้อมเป็นพิษในที่ทำงานได้ และบอกว่าในช่วง 4 เดือนหลังเธอลาออกจากงานที่ออฟฟิศในแคลิฟอร์เนีย ก็มีพนักงานหญิงลาออกอีก 10 คน สื่อให้เห็นถึงปัญหาของระบบในที่ทำงานของ SIE
ส่วนขั้นตอนต่อไปศาลจะเปิดไต่สวนคำร้องอีกครั้งในเดือนหน้า ซึ่งคงต้องติดตามผลกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร หลังก่อนหน้านี้ Activision Blizzard ก็มีปัญหาเรื่องการคุกคามทางเพศในที่ทำงานมายาวนาน จนสภาพบริษัทย่ำแย่ และถูก Microsoft ซื้อไปในที่สุด
ที่มา - Axios |
# AIS เปิดบริการ Public IDP ยืนยันตัวตนด้วยแอป myAIS ผ่านเครือข่าย NDID
วันนี้ในงาน NDID Day ทาง AIS ประกาศเปิดบริการ Public IDP (identity provider) ให้บริการยืนยันตัวตนแก่บริการอื่นๆ เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร, การสมัครกองทุน, หรือการใช้บริการประกันภัย
ที่ผ่านมาทาง AIS ใช้จุดบริการของตัวเองกว่า 16,277 จุดให้บริการ IDP Agent เป็นบริการแสดงตัวตนที่ลูกค้าจะต้องไปแสดงตัวเพื่อพิสูจน์ตัวตน การขยายบริการเป็น Public IDP จะทำให้ผู้ใช้บริการ myAIS สามารถแสดงตัวได้ทันที จากเดิมที่ผู้ให้บริการ IDP มักเป็นธนาคารเป็นหลัก
ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดว่าบริการ Public IDP จะเปิดให้บริการจริงช่วงใด แต่ทาง AIS ระบุว่าจะเปิดเร็วๆ นี้
ที่มา - จดหมายข่าว AIS, งาน NDID Day |
# โจ ไบเดน ออกคำสั่งให้หน่วยงานภาครัฐศึกษาเงินดิจิทัล ผลักดัน CBDC ของธนาคารกลาง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เซ็นคำสั่งบริหาร (Executive Order) ให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐเร่งพัฒนาเงินดิจิทัล ซึ่งในที่นี้คือเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (central bank digital currencies หรือ CBDC)
คำสั่งนี้มีเนื้อหากว้างๆ คือต้องการพัฒนา CBDC เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค มีความปลอดภัย ช่วยเสถียรภาพทางการเงิน นำไปใช้ในทางที่ผิดยาก คำสั่งนี้ระบุชื่อหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง ให้ทำแผนการพัฒนาและวิจัย CBDC แบบต่างๆ แล้วกลับมารายงานประธานาธิบดีใน 180-210 วัน (ระยะเวลาขึ้นกับว่าหน่วยไหน)
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางสหรัฐก็เริ่มวิจัยรูปแบบของ CBDC ที่ควรจะเป็นไว้บ้างแล้ว ข้อเสนอเบื้องต้น OpenCBDC เป็นระบบการเงินแบบรวมศูนย์ที่ธนาคารกลางดูแลทั้งหมด แต่กระจายเซิร์ฟเวอร์เพื่อไม่ให้ล่มง่าย (ไม่ใช่บล็อกเชน)
ที่มา - White House |
# เกม Returnal เตรียมปล่อยฟรีอัพเดต เพิ่มโหมด Co-Op พร้อมโหมดเล่นแบบไม่มีจุดจบ
Returnal เกมเอ็กคลูซีฟบน PlayStation 5 แบบ roguelike ที่ด่านต่างๆ จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เล่น ประกาศปล่อยอัพเดต Ascension ฟรีในเดือนมีนาคมนี้ โดยเพิ่มสองโหมดใหญ่ ได้แก่ โหมด Co-Op และโหมดไม่รู้จบ
โหมด Co-Op จะเข้าผ่าน Chronosis ช่วงเริ่มเกมหรือจุดอื่นๆ ให้ผู้เล่นเปิดรับผู้เล่นคนอื่นหรือเข้าไปร่วมเกมกับคนอื่นได้ ระหว่างเล่น จะเล่นเหมือนปกติแต่ผู้เล่นสองคนไม่สามารถออกห่างจากกันจนเกินไป เมื่อผู้เล่นคนใดคนหนึ่งตายอีกคนก็จะชุบชีวิตกลับขึ้นมาได้ เนื่องจาก Returnal เป็นเกมที่หลายคนบ่นว่ายาก โหมดนี้ยังสามารถใช้เพื่อให้เราเข้าไปช่วยเพื่อนที่ติดบางด่านให้ผ่านไปได้ โดยความก้าวหน้าในเกมจะผูกกับโฮสต์ที่เป็นคนเปิดรับคนอื่นเข้ามา
ฉาก Tower of Sisyphus เป็นเนื้อเรื่องเสริมจากฉากปกติ โดยเป็นโหมดไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนเกมตู้ที่ยากขึ้นไปเรื่อยๆ ให้ทดสอบตัวเองว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ในฉากนี้จะมีเนื้อเรื่องเพิ่ม, บอสใหม่, และไอเท็มใหม่
อัพเดต Ascension จะปล่อยภายในเดือนมีนาคมนี้
ที่มา - PlayStation Blog |
# Square Enix เปิดแชนแนล YouTube ให้ฟังเพลงประกอบเกมจากแฟรนไชส์ดังของค่าย ฟรี
Square Enix เปิดแชนแนล YouTube ชื่อ Square Enix Music ทำเพลงจากเกมแนว Chill Beats ความยาวกว่าสองชั่วโมงมาให้ได้เปิดกันระหว่างทำงาน พร้อมทั้งรวมเพลงประกอบจากเกมดังๆ ของค่าย เช่น Final Fantasy ทุกภาค รวมถึงเกมตระกูล Mana, ตระกูล CHRONO, ตระกูล Saga ไปจนถึง NieR, Octopath Traveler และอีกมากมายมาใส่เป็นเพลย์ลิสต์ให้ได้ฟังกันอย่างถูกลิขสิทธิ์ เรียกได้ว่าพร้อมให้เปิดฟังระลึกความหลังกันทุกช่วงวัย
นอกจาก YouTube แล้ว Square Enix Music ยังสามารถรับฟังได้บนแอปฟังเพลงอย่าง Spotify เช่นกัน แต่ก็จะมีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ใช้แอป Spotify แบบฟรีบนมือถือ เช่นเลือกเล่นเรียงเพลงไม่ได้ แตกต่างจากบน YouTube ที่จัดเพลย์ลิสต์แยกเป็นเกมและซีรีส์ให้ชัดเจน
ที่มา - YouTube via PushSquare |
# เข็นไม่ขึ้น Xbox ทำตลาดในญี่ปุ่นไม่ได้สักที 20 ปี ขายได้ 2.3 ล้านเครื่อง แต่ยังไม่ยอมแพ้
Microsoft พยายามใช้ Xbox ตีตลาดเครื่องเกมในญี่ปุ่นมาแล้วตั้งแต่ปี 2002 แต่ปัจจุบันเครื่อง Xbox ทุกรุ่นกลับขายได้เพียง 2.3 ล้านเครื่อง ซึ่งดูห่างไกลเมื่อเทียบกับเครื่องเกมที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น คือ Nintendo DS ที่ขายได้ 32 ล้านเครื่อง หรือ PlayStation 2 ที่ขายได้ 24 ล้านเครื่อง แต่ถึงจะใจดีเอาไปเทียบกับ Dreamcast เครื่องเกมที่เรียกได้ว่า “ไม่ประสบความสำเร็จ” ในญี่ปุ่น Xbox ก็ยังมียอดขายน้อยกว่าอยู่ดี เพราะ Dreamcast ทำยอดขายในญี่ปุ่นได้ถึง 2.5 ล้านเครื่อง
Microsoft พยายามตีตลาดประเทศญี่ปุ่นอยู่นานแล้ว ในยุค Xbox 360 ถึงกับซื้อเวลาออนแอร์โฆษณาทางทีวี ที่จ้างดาราญี่ปุ่นชั้นนำมาออกอากาศ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดย Xbox แต่ละรุ่น วางขายในญี่ปุ่นได้จำนวนเครื่องดังนี้
Xbox: 472,992 เครื่อง
Xbox 360: 1,616,128 เครื่อง
Xbox One: 114,831 เครื่อง
Xbox Series X/S: 142,024 เครื่อง
ถือว่าเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดขาย Xbox ทั่วโลก โดย Xbox รุ่นแรกขายได้ 24 ล้านเครื่องทั่วโลก Xbox 360 ขายได้ 84 ล้านเครื่องทั่วโลก ส่วน Xbox One ขายได้ราว 51 ล้านเครื่อง
ไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะความนิยมเครื่องเกมที่ผลิตด้วยคนญี่ปุ่นด้วยกันเองมากกว่าอย่างของ Sony และ Nintendo เพราะภาพลักษณ์บริษัท หรือเพราะดีไซน์เครื่องไม่ถูกใจคนญี่ปุ่นกันแน่ หรืออาจเป็นทั้งสามปัจจัยนี้รวมกัน แต่อย่างไรก็ตาม Phil Spencer หัวหน้า Xbox คนปัจจุบัน ยังมองว่า Xbox มีโอกาสในญี่ปุ่นอยู่ และระบุว่าบริษัทเรียนรู้จากอดีตแล้ว
ล่าสุด Xbox เพิ่งเปิด Blog สำหรับเผยแพร่ข่าวสารเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก หลังวางจำหน่ายในญี่ปุ่นมาแล้วกว่า 20 ปี แม้จะช้าไปหน่อย แต่อาจแปลว่าเรากำลังจะได้เห็น Xbox กลับมามุ่งทำตลาดญี่ปุ่นอย่างจริงจังอีกครั้งก็เป็นได้
ที่มา - Kotaku |
# Windows 11 มีแอพตัดต่อวิดีโอแล้วคือ Clipchamp รองรับการตัดแบบมี Timeline
Windows 11 Insider Preview Build 22572 ผนวกเอาแอพตัดต่อวิดีโอ Clipchamp ที่ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการมาช่วงกลางปี 2021 เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแอพที่มากับ Windows แล้ว
Clipchamp เป็นเว็บแอพสัญชาติออสเตรเลีย เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 โดยเป็นแอพตัดต่อวิดีโอแบบ non-linear มี timeline เหมือนแอพกลุ่มโปร แต่ปรับฟีเจอร์อื่นๆ ให้ใช้ง่ายสำหรับคอนซูเมอร์ และมีคลิปสต๊อก ฟุตเตจ ไฟล์เสียง เทมเพลตให้ใช้เป็นจำนวนมาก
โมเดลธุรกิจของ Clipchamp คือ freemium โดยเวอร์ชันฟรีจำกัดการ export ไฟล์ความละเอียดสูงสุด 480p (อยากได้ 720p หรือ 1080p HD ต้องจ่ายซื้อแพ็กเกจเพิ่ม) ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า Clipchamp เวอร์ชันที่ผนวกมาใน Windows 11 มีข้อจำกัดการใช้งานแค่ไหน
ไมโครซอฟท์บอกว่า Clipchamp ของ Windows 11 สามารถเชื่อมต่อกับ OneDrive เพื่อดึงไฟล์วิดีโอมาใช้ผ่านคลาวด์ได้เลย และรองรับการทำ text-to-speech ในภาษาต่างๆ โดยใช้เอนจินของ Azure ด้วย
ใน Build 22572 ยังมีของใหม่คือ
ผนวกแอพ Microsoft Family จัดการคนในครอบครัว และทำ parental control เข้ามา (เฉพาะ Home Edition)
ปรับหน้า Search ของ Windows 11 ให้สวยขึ้น แสดงข้อมูลหลากหลายขึ้น
ปรับดีไซน์หน้าจอ Print Queue ให้เป็นไปตามแนวทาง Fluent Design รองรับ Dark Mode
ที่มา - Microsoft |
# Capcom เปิดตัวเกม Exoprimal สวมเกราะยิงฝูงไดโนเสาร์ ตัวเอกเป็นผู้หญิงผมแดง
Capcom เปิดตัวเกมใหม่ Exoprimal เกมยิงฝูงไดโนเสาร์ที่มีตัวละครเป็นผู้หญิงผมแดง!
Exoprimal เป็นเกมใหม่ของ Capcom ที่ไม่เกี่ยวกับเกมใดเลย (รวมถึง Dino Crisis) เหตุการณ์เป็นโลกอนาคตปี 2043 ที่ไดโนเสาร์สามารถข้ามประตูมิติมาได้ ตัวละครในเรื่องต้องใส่ชุดเกราะ Exosuits (คล้ายเกม Anthem ของ Bioware) เพื่อออกไปสู้กับฝูงไดโนเสาร์จำนวนมหาศาล (จำนวนศัตรูเหมือน Serious Sam)
เกมเพลย์เป็น multiplayer co-op แบบทีม 5 คน ที่ผู้เล่นแต่ละคนมีบทบาทต่างกัน เช่น โจมตี ป้องกัน รักษา สไตล์คล้าย Overwatch (แถมมีโล่แสงหน้าตาแบบเดียวกันด้วย)
Exoprimal มีกำหนดขายปี 2023 ลงเครื่อง PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X|S, Xbox One, Steam
ที่มา - Capcom |
# The DioField Chronicle เกมวางแผนการรบเรียลไทม์ สไตล์อัศวินแฟนตาซีจาก Square Enix
นอกจาก Triangle Strategy ที่เปรียบได้กับผู้สืบทอดเกม Final Fantasy Tactics แล้ว Square Enix ยังมีเกมวางแผนการรบสไตล์คล้ายๆ กันเปิดตัวอีกเกมคือ The DioField Chronicle
The DioField Chronicle เป็นเกมวางแผนการรบที่ใช้บรรยากาศอัศวินยุคกลาง-แฟนตาซี (เหมือน FF Tactics แถมมีบาฮามุทด้วย) ความต่างคือกราฟิกเป็น 3D เต็มรูปแบบ (สไตล์ภาพพยายามให้เหมือนฉากจำลอง diorama) และเกมเพลย์ไม่ใช่เทิร์นเบส แต่เป็นเรียลไทม์ที่เรียกว่า Real-Time Tactical Battle (RTTB) สามารถหยุดเกมเพื่อใส่คำสั่งได้ แต่ศัตรูจะไม่รอเรา
เนื้อเรื่องของเกมเป็นอาณาจักร Kingdom of Alletain ตั้งอยู่บนเกาะชื่อ DioField Island ที่ถูกรุกรานโดยจักรวรรดิจากพื้นทวีป เพื่อแย่งชิงทรัพยากร Jade อัญมณีที่ใช้ทำเวทย์มนตร์ เราจะได้เป็นนักรบรับจ้างหน่วย Blue Fox ที่ต้องต่อสู้กับผู้รุกราน
เกมพัฒนาโดย Lancarse Ltd สตูดิโอญี่ปุ่นที่เก่งเรื่องเกมวางแผน ก่อนหน้านี้เคยทำเกม Persona Q2 และล่าสุดคือ Monark โดยได้ทีมออกแบบจาก FFXII/XIII และ Fire Emblem Awakening มาช่วย ส่วนเพลงประกอบคือ Ramin Djawadi ที่ทำเพลงให้ Game of Thrones
The DioField Chronicle มีกำหนดออกในปี 2022 ลงทุกเครื่องคือ PS5, PS4, Xbox Series X|S, Xbox One, Nintendo Switch, Steam
ที่มา - Square Enix |
# Square Enix เปิดตัว Valkyrie Elysium ภาคใหม่ในซีรีส์เกม Valkyrie Profile
Square Enix เปิดตัวเกม Valkyrie Elysium ภาคใหม่ในซีรีส์เกม Valkyrie Profile นักรบสาวจากตำนานเทพนอร์ส (คนละเกมกับ Valkyria Chronicles ของ Sega แม้ชื่อคล้ายๆ กัน
เกม Valkyrie Elysium ใช้กราฟิกลูกผสมระหว่าง 3D กับ cell-shade ตีเส้นรอบตัวละคร เกมเพลย์เป็น action RPG เน้นจังหวะการต่อสู้ที่รวดเร็ว มีระบบ Einherjar ที่เรียกนักรบคนอื่นมาช่วยสู้ได้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้
เนื้อเรื่องของภาค Elysium เกิดในจักรวาลเดียวกับ Valkyrie Profile แต่เหตุการณ์เกิดในอดีตอันไกลโพ้น ตัวเอกเป็นนักรบ Valkyrie คนใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยชื่อในตอนนี้
ซีรีส์ Valkyrie Profile ออกภาคแรกบน PlayStation เมื่อปี 1999 เป็นผลงานของสตูดิโอ tri-Ace (ที่ทำซีรีส์ StarOcean) และจัดจำหน่ายโดย Enix (ก่อนควบรวมกับ Square) ส่วนเกมภาคนี้พัฒนาโดย Soleil Ltd. สตูดิโอญี่ปุ่นที่เคยทำเกม Samurai Jack และ Naruto to Boruto แต่ยังได้ Motoi Sakuraba คนแต่งเพลงประจำซีรีส์ Valkyrie มาทำเพลงให้อยู่
เกมมีกำหนดวางขายคร่าวๆ ในปี 2022 โดยจะลง PS4, PS5, Steam
ที่มา - Square Enix |
# Sony หยุดขาย PlayStation ในรัสเซีย ปิด PlayStation Store ด้วย
Sony ประกาศหยุดขายฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ PlayStation ทั้งหมดในรัสเซียแล้ว โดยหยุดให้บริการร้านขายเกมดิจิทัล PlayStation Store ในรัสเซียด้วย
ประกาศนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะก่อนหน้านี้ Sony ไม่ได้วางขาย Gran Turismo 7 ในรัสเซีย มาก่อนแล้ว
ที่มา - CNBC |
# Akamai เตือนซอฟต์แวร์ PBX คอนฟิกผิดจำนวนมากกำลังกลายเป็นแหล่งยิง DDoS
Akamai เตือนถึงซอฟต์แวร์ Mitel MiCollab และ MiVoice Business Express ที่เป็นเกตเวย์สำหรับเชื่อมต่อตู้ PBX เข้ากับอินเทอร์เน็ต ถูกคอนฟิกผิดพลาด เปิดทางให้แฮกเกอร์ส่งข้อความไปกระตุ้นให้ซอฟต์แวร์เหล่านี้ยิงทราฟิกไปหาเหยื่อ
ซอฟต์แวร์ทั้งสองตัวเปิดพอร์ต UDP/10074 สู่อินเทอร์เน็ต แต่ปรากฎว่าตัวซอฟต์แวร์รองรับคำสั่งทดสอบประสิทธิภาพระบบ โดยหากยิงคำสั่งนี้เข้าไป ตัวซอฟต์แวร์จะยิงข้อมูลกลับออกมาจำนวนมาก การยิงคำสั่งเข้าไปครั้งเดียวอาจจะทำให้เซิร์ฟเวอร์ปล่อยแพ็กเก็ต UDP ออกมาถึงกว่า 4 พันล้านแพ็กเก็ต ขนาดรวม 2.5TB
ช่องโหว่ที่เปิดให้เซิร์ฟเวอร์กลายเป็นแหล่งยิง DDoS เช่นนี้มักวัดระดับความร้ายแรงด้วย amplification ratio หรืออัตราข้อมูลที่เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ยิงไปหาเหยื่อเทียบกับข้อมูลที่แฮกเกอร์ต้องยิงเข้าเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ ช่องโหว่ในรายงานนี้มีอัตราถึง 4,294,967,296:1
ตอนนี้มีเซิร์ฟเวอร์ที่รันซอฟต์แวร์ทั้งสองตัวและเปิดพอร์ตสู่อินเทอร์เน็ตกว่า 2,600 เครื่อง และทาง Akamai ก็พบแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้โจมตีแล้ว โดยแฮกเกอร์ระดมยิงทราฟิกได้ถึง 23Gbps
ตอนนี้ Mitel ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสองตัวออกแพตช์แก้ช่องโหว่นี้แล้ว องค์กรที่ใช้งานควรรีบติดตั้งโดยเร็ว
ที่มา - Akamai
ภาพโดย Bru-nO |
# นักวิจัยรายงานช่องโหว่ Spectre ในซีพียูรุ่นใหม่ ผู้ผลิตซีพียูต้องเตรียมแก้สถาปัตยกรรมกันอีกรอบ
เมื่อปลายปี 2017 Project Zero ของกูเกิลเคยรายงานถึงช่องโหว่ Meltdown และ Spectre ที่โจมตีการพยายามทำงานล่วงหน้าของซีพียู ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความเร็วซีพียูยุคใหม่ แต่ปรากฎว่ากลับเปิดทางให้แฮกเกอร์อ่านข้อมูลที่ไม่มีสิทธิ์ได้ หลายปีผ่านไป กระบวนการแก้ไขมีทั้งการอัพเดตคอมไพล์เลอร์ และแก้ไขสถาปัตยกรรมซีพียูไปหลายอย่าง แต่ตอนนี้นักวิจัยจาก Vrije Universiteit Amsterdam ก็รายงานถึงช่องโหว่ Spectre-BHB ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์อ่านข้อมูลในเคอร์เนลได้อีกครั้ง
ช่องโหว่ใหม่นี้เรียกว่า Branch History Injection อาศัยการเก็บประวัติของ branch (จุดเลือกรันโค้ด เช่น if-else) สำหรับการทำนายว่าควรรันโค้ดชุดใดไว้ล่วงหน้า ทีมวิจัยพบว่าแม้ซีพียูรุ่นใหม่ๆ หลังรายงานของ Project Zero จะป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเก็บประวัติ branch ในเคอร์เนลโดยตรงแล้ว แต่ปรากฎว่าซีพียูยุคใหม่ มักมีการเก็บประวัติแบบ global อยู่ด้วย
หากแฮกเกอร์รันโค้ดเพื่อสร้างประวัติของ branch ได้อย่างที่ต้องการแม้จะเป็นประวัติแบบ global ไม่ใช่ของเคอร์เนลโดยตรง แต่ก็สามารถเหนี่ยวนำให้การทำงานของเคอร์เนลเปลี่ยนไปจนกระทั่งรู้ข้อมูลในเคอร์เนลได้
ซีพียูที่ได้รับผลกระทบจาก Spectre-BHB มีเป็นจำนวนมาก เช่น Arm เองกระทบตั้งแต่ Cortex-A15 ไล่ขึ้นมาจนถึง Cortex-A710 หรือ Neoverse-V1 ส่วนอินเทลนั้นกระทบแทบทุกตัว ทีมวิจัยระบุว่าซีพียู AMD ดูจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ทาง Arm ระบุว่าจะเพิ่มคำสั่ง ClearBHB เพื่อล้างประวัติของ branch ทั้งหมดในอนาคตต่อไป
ที่มา - VUSec, Arm
ภาพโดย blickpixel |
# Drupal 6 หมดช่วงซัพพอร์ตโดยสมบูรณ์ หลังจากเปิดตัวเมื่อปี 2008
โครงการ Drupal ประกาศปิดโครงการซัพพอร์ต Drupal 6 อย่างสมบูรณ์ หลังจากออกรุ่น 6.0 ตั้งแต่ปี 2008 และออกรุ่นย่อยซัพพอร์ตมา 38 เวอร์ชั่นหมดซัพพอร์ตแบบโอเพนซอร์สเมื่อมี 2016
แม้จะหมดอายุซัพพอร์ตแบบโอเพนซอร์สไปนานแล้ว แต่ก็ยังมีบริษัทขายซัพพอร์ตระยะยาวต่อมาอีก 3 บริษัท ได้แก่ Tag1, Acquia, และ myDropWizard โดยมีการปล่อยแพตช์ให้ลูกค้ากลุ่มนี้อยู่เรื่อยๆ
การปิดโครงการซัพพอร์ตระยะยาว แปลว่าผู้ให้บริการทั้งหมดจะเลิกพัฒนาแพตช์ให้แล้ว ไม่มีระบบการนัดแนะเพื่อเปิดเผยแพตช์อีกต่อไป ทำให้หากมีนักวิจัยพบช่องโหว่ใหม่ก็จะรายงานต่อสาธารณะทันที รวมถึงหลังจากนี้เว็บไซต์ Drupal เองก็อาจจะปิดไม่ให้ดาวน์โหลดไฟล์และโมดูลต่างๆ อีกแล้วหากมีการอัพเกรดเว็บในอนาคต
สำหรับ Drupal 7 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2011 ตอนนี้ยังการซัพพอร์ต จากเดิมที่มีกำหนดหยุดซัพพอร์ตเดือนพฤศจิกายน 2022 ก็เลื่อนไปเป็นพฤศจิกายน 2023 พร้อมกับระบุว่าอาจจะเลื่อนต่อไปอีก หากยังมีการใช้งานเป็นวงกว้างและยังมีนักพัฒนาพร้อมช่วยดูแลอยู่
ที่มา - Drupal |
# ไมโครซอฟท์อัพเดต Windows Subsystem for Android เพิ่มการถอดรหัสวิดีโอ H.264
ไมโครซอฟท์ประกาศอัพเดต Windows Subsystem for Android (WSA) ที่ทำให้ Windows 11 สามารถรันแอพ Android ได้
Windows Subsystem for Android จะสามารถเข้าถึงตัวถอดรหัสวิดีโอ H.264 ที่ระดับฮาร์ดแวร์แล้ว ช่วยให้การเล่นวิดีโอในแอพ Android ที่รันบน Windows ราบรื่นขึ้น
ทำงานร่วมกับแอพอีเมลของ Windows ได้ดีขึ้น เช่น คลิกปุ่มส่งเมลในแอพ Android แล้วเปิดแอพอีเมลใน Windows
การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับผู้ทดสอบกลุ่ม Windows Insider เท่านั้น โดยอัพเดตจะปล่อยผ่าน Microsoft Store ที่ไม่ขึ้นกับตัว OS ด้วย แสดงให้เห็นแนวทางของไมโครซอฟท์ว่าจะแยกอัพเดตตัว Subsystem ให้มีประสิทธิภาพดี หรือมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา - Microsoft |
# GTA V ประกาศราคาเวอร์ชัน Next-gen บน PS5 ถูกกว่า Xbox Series X|S อยู่ 10 ดอลลาร์
Rockstar ประกาศราคาขายของเกมหากินแห่งทศวรรษ Grand Theft Auto V เวอร์ชัน next-gen update ที่จะวางขาย 15 มีนาคมนี้บน PS5 และ Xbox Series X|S
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ราคาขายของ GTA V บนคอนโซลทั้งสองเครื่องกลับแตกต่างกัน โดยบน PS5 ราคาถูกกว่า 10 ดอลลาร์ แต่เรื่องนี้มีความซับซ้อนพอสมควร เพราะ GTA V ในปัจจุบันถูกแยกออกเป็นโหมดเนื้อเรื่อง (Story Mode) และโหมดการเล่นออนไลน์ (GTA Online) ซึ่งผู้เล่นสามารถซื้อแยกหรือซื้อรวมกันก็ได้
ตัวเกม GTA V ตัวเต็ม (Story Mode + Online) ตั้งขายราคาเต็มเท่ากันที่ 39.99 ดอลลาร์เท่ากันบนทั้งสองแพลตฟอร์ม แต่นี่เป็นราคาเต็มที่ตั้งไว้เพื่อลด เพราะ Rockstar มีโปรโมชั่นลดราคาช่วง 3 เดือนแรก
GTA Online
PS5 ให้เล่นฟรี (ต้องมีสมาชิก PS Plus)
Xbox Series X|S ขาย 9.99 ดอลลาร์ (ต้องมีสมาชิก Xbox Live Gold)
GTA V Story Mode + GTA Online
PS5 ขาย 9.99 ดอลลาร์
Xbox Series X|S ขาย 19.99 ดอลลาร์
จะเห็นว่าราคาที่แตกต่างกัน มาจากการที่ GTA Online แจกฟรีบน PS5 (คาดว่ามาจากงบการตลาดของโซนี่ด้วย)
ที่มา - Rockstar, VGC, Kotaku |
# Studio Display รองรับ iPad Air 5th Gen แต่ไม่รองรับ 4th Gen - iPad mini ก็ไม่รองรับ
มีข้อมูลเพิ่มเติมของจอภาพ Studio Display ที่แอปเปิลเปิดตัวเมื่อคืนนี้ ซึ่งแม้จะโปรโมตคู่กับ Mac Studio แต่ก็สามารถเชื่อมต่อกับ Mac และ iPad รุ่นอื่นได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามรายละเอียดรุ่นของ Mac และ iPad ที่รองรับนั้น มีข้อจำกัดที่น่าสนใจ โดย Mac นั้นรองรับการเชื่อมต่อไปจนถึง MacBook Pro รุ่นปี 2016 แต่เมื่อเป็น iPad รายละเอียดบอกว่ารองรับ iPad Pro 12.9 นิ้ว 3rd Gen ขึ้นไป, iPad Pro 11 นิ้ว และ iPad Air 5th Gen ขึ้นไปเท่านั้น ส่วน iPad รุ่นอื่นนอกจากนี้ไม่รองรับ ซึ่งรวมทั้ง iPad และ iPad mini ทุกรุ่น
แม้อาจสรุปได้ว่าเป็นเพราะ iPad รุ่นใหม่ ๆ เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C จึงทำงานร่วมกับจอ Studio Display ได้ แต่ iPad Air 4th Gen และ iPad mini 6 ก็เป็น USB-C เช่นกัน กลับไม่รองรับการทำงาน คาดว่าเพราะ throughput การแสดงผลต่ำกว่ามาตรฐานจอ ฉะนั้นคนที่จะซื้อเฉพาะจอ Studio Display ก็ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่จะใช้รองรับหรือไม่ก่อนด้วย
ที่มา: MacRumors |
# มาแปลก Ming-Chi Kuo คาด MacBook Air รุ่นปี 2022 ดีไซน์ใหม่ แต่ยังใช้ชิป M1
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ซัพพลายเชนที่ให้ข่าวเกี่ยวกับ Apple อย่างแม่นยำหลายครั้ง โพสต์ทวิตเตอร์ ระบุคาดเดาข้อมูล MacBook Air รุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะเริ่มผลิตจำนวนมาก ช่วงท้ายของไตรมาส 2/2022 หรือไตรมาส 3/2022
Kuo ระบุว่า MacBook Air รุ่นใหม่จะมาในดีไซน์ใหม่ มีสีใหม่ และไม่มีจอ mini-LED ซึ่งเป็นข้อมูลที่คาดการณ์ได้อยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจคือ Kuo ระบุชิปประมวลผลที่ใช้ว่าเป็นชิป M1 โดยไม่มีรุ่น Pro, Pro Max หรืออื่นๆ ระบุต่อท้าย
ยังไม่แน่ชัดว่า Kuo จะหมายถึง Apple จะใช้ชิป M1 เหมือนเดิมใน MacBook Air รุ่นใหม่ ใช้รุ่นอัพเกรดต่อท้าย เช่น M1 Pro หรือเป็นแค่การพิมพ์ผิดกันแน่ เพราะสื่อหลายสำนักคาดการณ์กันไว้ว่า MacBook Air รุ่นใหม่น่าจะเปิดตัวมาพร้อมกับชิป M2
ภาพเรนเดอร์ MacBook Air รุ่นใหม่ จาก Jon Prosser x Renders by Ian
ที่มา - Ming-Chi Kuo via Macrumors |
# curl 7.82.0 รองรับ JSON ในตัวเป็นทางการ
โครงการ curl ไคลเอนต์ HTTP แบบ command line ยอดนิยม ออกรุ่น 7.82.0 มีฟีเจอร์สำคัญคือการรองรับ JSON ในตัว ตามที่ Daniel Stenberg ผู้ดูแลโครงการได้ประกาศไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ออปชั่น --json จะเป็นการประกาศ header ว่ากำลังส่ง JSON โดยอัตโนมัติพร้อมๆ กับ header ว่าต้องการข้อมูลแบบ JSON สามารถใช้งานได้ทั้งการอ่านจากไฟล์, เขียน JSON โดยตรงในอาร์กิวเมนต์, และการอ่านจาก STDIN
การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ เป็นการเปลี่ยนแปลงย่อย เช่น เลิกซัพพอร์ตไลบรารี MesaLink ที่เลิกพัฒนาไปนานแล้ว หรือการแก้ไขบั๊กอื่นๆ
ที่มา - haxx.se |
# Firefox 98 ออกแล้ว เลิกถามตอนดาวน์โหลดไฟล์แล้วว่าจะทำอะไร
Mozilla ออก Firefox 98 การเปลี่ยนแปลงสำคัญของเวอร์ชันนี้คือพฤติกรรมการดาวน์โหลดไฟล์ โดย Firefox จะเลิกถามแล้วว่าเราต้องการทำอะไรกับไฟล์นั้น
สิ่งที่เปลี่ยนคือ Firefox เลิกขึ้นหน้าต่างมาถามแล้ว แต่จะทำตามค่าดีฟอลต์ที่เราตั้งไว้สำหรับไฟล์นั้น (เช่น เปิดด้วย Firefox, เปิดด้วยโปรแกรมอื่น, เซฟลงดิสก์) ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนค่าได้เองใน Settings/Preferences
อีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาคือ หลังจากไฟล์ดาวน์โหลดแล้ว เราสามารถคลิกขวาในรายชื่อไฟล์ดาวน์โหลด เพื่อเลือกสิ่งที่ต้องการทำต่อได้ เช่น สั่งให้เปิดไฟล์แบบเดียวกัน, สั่งให้โชว์ไฟล์ในโฟลเดอร์, คัดลอกลิงก์ หรือสั่งลบไฟล์จากดิสก์เลย
ที่มา - Mozilla |
# ผล Geekbench ชิป Apple M1 Ultra คะแนนดีกว่า Intel Xeon รุ่น 28 คอร์ ใน Mac Pro
หลัง Apple เปิดตัวชิป M1 Ultra ในงานเมื่อเช้านี้ ตอนนี้มีผลทดสอบที่คาดว่าเป็นชิป M1 Ultra ในแอป Geekbench หลุดออกมาแล้ว โดยได้คะแนนการทดสอบคอร์เดี่ยว 1793 คะแนน และรวมทุกคอร์ได้ 24055 คะแนน
คะแนนที่ M1 Ultra ได้มากกว่า Mac Pro ปี 2019 รุ่น Intel Xeon W-3275M ที่มี 28 คอร์ และได้คะแนนแบบคอร์เดี่ยวไป 1152 คะแนน และรวมทุกคอร์ 19951 คะแนน
ส่วนสำคัญอีกส่วนคือชิป M1 Ultra กินไฟช่วงประสิทธิภาพสูงสุดแค่ราว 60W เท่านั้น เรียกได้ว่าน่าจะหาชิปอื่นมาสู้ได้ยาก ทั้งในด้านประสิทธิภาพและด้านการประหยัดพลังงานในช่วงนี้
ที่มา - 9to5Mac |
# เนื้อที่ไม่พอ ไม่ต้องลบแอพ กูเกิลเพิ่มวิธีบีบอัดไฟล์ APK ที่ไม่ใช้ ลดขนาดลงได้ 60%
ปํญหาคลาสสิคอย่างหนึ่งของวงการสมาร์ทโฟนคือ ใช้งานสตอเรจเต็มจนต้องลบแอพบางตัวที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ซึ่งจะเกิดความยุ่งยากตามมาหากต้องใช้งานใหม่ เพราะต้องดาวน์โหลด ติดตั้ง ล็อกอินอีกรอบ แถมข้อมูลการใช้งานอาจหายไปด้วย
ล่าสุดกูเกิลกำลังเปลี่ยนวิธีการแก้ปัญหานี้ โดยให้ "บีบอัดไฟล์แอพ" แทนการลบทิ้ง กูเกิลบอกว่าสามารถลดเนื้อที่ลงได้ 60% โดยที่ตัวไฟล์แอพ (APK) และข้อมูลแอพยังอยู่ในสตอเรจเหมือนเดิม สามารถนำกลับคืนมาทำงานได้ตามปกติหากต้องการ
เทคนิคนี้มาคู่กับไฟล์ชนิดใหม่ที่เรียกว่า Archived APK โดยจะเริ่มเปิดใช้งานภายในปีนี้ ฝั่งนักพัฒนาต้องอัพเดต Android Gradle Plugin เป็นเวอร์ชัน 7.3 ขึ้นไป แล้วฝั่งกูเกิลจะทยอยสร้างไฟล์ Archived APK ที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์รอไว้ให้ และแจกจ่ายไปยังเครื่องของผู้ใช้ผ่านระบบ Android App Bundle ของ Play Store
ที่มา - Android Developers Blog |
# AMD ยืนยันปัญหา Ryzen บางรุ่นเมื่อใช้กับ fTPM บนเฟิร์มแวร์ ต้องอัพเดต BIOS เมนบอร์ด
AMD ยืนยันปัญหาประสิทธิภาพซีพียูตระกูล Ryzen บางรุ่น หากใช้คู่กับ Firmware Trusted Platform Module (fTPM) ซึ่งมีผู้ใช้จำนวนหนึ่งรายงานเข้ามาว่าพบปัญหาทั้งบน Windows 10/11 (ดูคลิปตัวอย่างได้ท้ายข่าว จะเห็นการกระตุกระหว่างเล่นเกม)
เราอาจคุ้นชื่อของ TPM จากข้อกำหนดของ Windows 11 ที่บังคับว่าพีซีต้องมี TPM ด้วย โดย Firmware Trusted Platform Module (fTPM) เป็นรูปแบบหนึ่งของ TPM ที่ใช้ระบบของเฟิร์มแวร์ ต่างจากการใช้ชิปแยกเฉพาะ (Discrete TPM หรือตัวย่อ dTPM)
AMD บอกว่ากำลังทำงานกับผู้ผลิตเมนบอร์ดออกไฟล์ system BIOS (sBIOS) มาแก้ไข ซึ่งจะเริ่มออกได้ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2022 ระหว่างนี้ขอให้เปลี่ยนไปใช้ dTPM แทน (ถ้ามี) หรือปิดการทำงานของ fTPM ไปเลยถ้าไม่จำเป็นต้องใช้งาน
ที่มา - AMD, The Register |
# แอปเปิลขายแยก Magic Mouse, Magic Keyboard, Magic Touchpad รุ่นสีดำ แพงขึ้น 20 ดอลลาร์
อีกประกาศเล็กๆ ในงานของแอปเปิลเมื่อคืนนี้คือ แอปเปิลนำ Magic Mouse, Magic Keyboard, Magic Trackpad รุ่นสีดำมาแยกขายต่างหาก (ปกติแถมมากับ iMac เท่านั้นไม่มีขายแยก) โดยตั้งราคาแพงขึ้นจากรุ่นสีขาว 20 ดอลลาร์
Magic Mouse 99 ดอลลาร์ (สีขาว 79 ดอลลาร์) ราคาไทย 3,190 บาท
Magic Keyboard 199 ดอลลาร์ (สีขาว 179 ดอลลาร์) ราคาไทย 6,590 บาท
Magic Trackpad 149 ดอลลาร์ (สีขาว 129 ดอลลาร์) ราคาไทย 4,890 บาท
ที่มา - xda |
# Apple เตรียมออกอัพเดต iOS 15.4 สัปดาห์หน้า ปลดล็อกจอแม้ใส่มาสก์ได้ ไม่ต้องใช้ Apple Watch
แอปเปิลระบุในหน้าข้อมูลของ iPhone 13 สีเขียวอัลไพน์ ว่าจะส่งมอบพร้อมกับ iOS เวอร์ชันใหม่ iOS 15.4 ซึ่งบอกว่าอัพเดตนี้ จะเปิดให้กับผู้ใช้งานทุกคนในสัปดาห์หน้าด้วย แต่ไม่ได้ระบุวันที่ชัดเจน
iOS 15.4 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ที่สำคัญ คือการใช้ปลดล็อกหน้าจอ Face ID ขณะสวมใส่มาสก์ได้ จากที่ก่อนหน้านี้ผู้ใช้งานต้องมี Apple Watch เท่านั้น
ส่วนฟีเจอร์อื่นที่เพิ่มมาในเวอร์ชันนี้ ได้แก่ Siri เสียงใหม่, อีโมจิใหม่, ระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมของ AirTag และอื่น ๆ
ที่มา: The Verge |
# NVIDIA เข้าลงทุน 10 ล้านดอลลาร์ ในบริษัทหุ่นยนต์ส่งของ Serve Robotics
NVIDIA ประกาศลงทุน 10 ล้านดอลลาร์ ในบริษัท Serve Robotics สตาร์ทอัพผู้พัฒนาหุ่นยนต์เดินส่งของตามบ้าน ซึ่งแยกบริษัทออกมาจาก Uber เมื่อปีที่แล้ว
โดยผู้บริหาร NVIDIA บอกว่าทั้ง NVIDIA และ Serve Robotics เป็นพาร์ตเนอร์ด้านเทคโนโลยีกันมานานแล้ว ระบบหุ่นยนต์ใช้เทคโนโลยีของ NVIDIA ทั้งระดับฮาร์ดแวร์หน่วยประมวลผล ไปจนถึงแพลตฟอร์มคลาวด์
หุ่นยนต์ส่งของของ Serve Robotics มีจุดเด่นคือการเคลื่อนที่เองอัตโนมัติ ซึ่งต้องอาศัยการประมวลผลเรียลไทม์ ตามสภาพแวดล้อมที่เป็นอุปสรรค ณ เวลานั้น
Serve Robotics มีผู้ลงทุนก่อนหน้า อาทิ DX Ventures (กองทุนของ Delivery Hero), 7-Ventures (กองทุนของ 7-Eleven) และ Uber
ที่มา: TechCrunch |
# AWS หยุดรับลูกค้าใหม่จากรัสเซียและเบลารุส ช่วยยูเครนป้องกันโจมตีไซเบอร์
AWS ประกาศหยุดรับลูกค้าใหม่จากรัสเซียและเบลารุส
AWS บอกว่าไม่มีสำนักงานและศูนย์ข้อมูลในรัสเซียตั้งแต่แรก และมีนโยบายไม่ทำธุรกิจกับรัฐบาลรัสเซียอยู่แล้ว โดยลูกค้าส่วนใหญ่คือบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่นอกรัสเซีย แต่มีทีมพัฒนาซอฟต์แวร์อยู่ในรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์บอกว่าหยุดทำธุรกิจในรัสเซีย แต่ไม่ได้บอกชัดๆ ว่าหยุดให้บริการ Azure หรือหยุดรับลูกค้าใหม่ในรัสเซียหรือไม่
AWS ยังบอกว่าเข้าไปช่วยลูกค้าคลาวด์ในยูเครนยกระดับความปลอดภัยของระบบ เพื่อป้องกันการโจมตีไซเบอร์ด้วย โดยบอกว่าเห็นความพยายามใช้มัลแวร์โจมตีหน่วยงานการกุศล หน่วยงานช่วยเหลือทางมนุษยธรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นแล้ว
ที่มา - AWS
ภาพจาก AWS |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.