txt
stringlengths
202
53.1k
# Amazon เปิดตัว Redshift Serverless บริการ Data Warehouse คิดตามจำนวนการใช้งาน นับจากการเปิดตัว AWS Lambda ในปี 2014 เราก็เห็น AWS ทยอยปรับบริการเดิมของตัวเองจากการเช่าเครื่องตามระยะเวลา มาเป็นการจ่ายตามการใช้งานรายครั้ง (Serverless) มากขึ้นเรื่อยๆ (ตัวก่อนหน้านี้คือฐานข้อมูล Aurora Serverless) ปี 2021 เป็นคิวของ Amazon Redshift บริการ data warehouse ที่ออกเวอร์ชัน Serverless แล้ว ใช้ชื่อตรงไปตรงมาว่า Amazon Redshift Serverless Amazon Redshift Serverless มีฟีเจอร์เหมือนกับ Redshift รุ่นปกติทุกประการ เปลี่ยนแค่วิธีคิดเงิน โดยนับหน่วยการใช้งานเป็น Redshift Processing Units (RPU) ในราคา 0.45 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (นับหน่วยย่อยเป็นวินาทีตามการรันจริง เริ่มขั้นต่ำ 60 วินาที) ยังไม่รวมค่าสตอเรจที่คิดแยกต่างหาก AWS บอกว่าการเปลี่ยนโมเดลมาคิดเงินแบบ Serverless จะช่วยลูกค้าที่พยากรณ์โหลดงานได้ยาก มีระยะ idle ที่ไม่ต้องประมวลผลเป็นเวลานานๆ แต่เวลางานมาทีก็มีโหลดหนัก (spike) จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้มาก ที่มา - AWS Blog
# NASA ให้ทุนบริษัทพัฒนาสถานีอวกาศเอกชน 3 แห่งใช้แทน ISS, Blue Origin ได้งานแล้ว NASA เซ็นสัญญากับบริษัทอเมริกัน 3 แห่งคือ Blue Origin, Nanoracks, Northrop Grumman ออกแบบสถานีอวกาศในอนาคต ที่จะใช้แทนสถานีอวกาศนานาชาติ สถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station หรือ ISS) ถูกยิงขึ้นวงโคจรโลกมาตั้งแต่ปี 1998 และมีอายุการใช้งานไปจนถึงปี 2030 เป็นอย่างน้อย NASA ระบุว่าตอนนี้ได้เวลาเตรียมสถานีอวกาศใหม่ๆ ในระดับวงโคจรต่ำ (low-Earth orbit) มาทดแทน ISS โดยแนวทางของ NASA คือกระตุ้นให้บริษัทเอกชนสร้างสถานีอวกาศเชิงพาณิชย์ขึ้นมารองรับลูกค้าทั้งรัฐบาลและเอกชน ผ่านการให้ทุนสนับสนุนในครั้งนี้ มูลค่ารวม 415.6 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนตุลาคม Blue Origin เปิดตัวสถานีอวกาศ Orbital Reef มาก่อนแล้ว ส่วนบริษัทอื่นคือ Nanoracks มีสถานีอวกาศชื่อ Starlab พัฒนาร่วมกับ Voyager Space และ Lockheed Martin มีกำหนดยิงขึ้นวงโคจรในปี 2027 และ Northrop Grumman มีโครงการดีไซน์สถานีอวกาศของตัวเองเช่นกัน ภาพดีไซน์สถานีอวกาศของ Northrop Grumman ภาพดีไซน์สถานีอวกาศ Starlab ของ Nanoracks การให้ทุนของ NASA แบ่งออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกเป็นการดีไซน์สถานีอวกาศ เสร็จสิ้นในปี 2025 ส่วนเฟสที่สองจะรับรองนักบินอวกาศของ NASA ให้สามารถใช้งานสถานีอวกาศเอกชนเหล่านี้ได้ และเป้าหมายสุดท้ายคือ NASA จะซื้อบริการใช้สถานีอวกาศของเอกชน ที่มา - NASA via The Register
# วิศวกรการบินเสนอจุดตกใหม่ของเที่ยวบิน MH370 จากการคำนวณสัญญาณวิทยุ Richard Godfrey วิศวกรการบินชาวอังกฤษ สมาชิกของกลุ่ม MH370 Independent Group กลุ่มอิสระที่ค้นหาจุดตกของเครื่องบิน Malaysian Airlines เที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายไปเมื่อปี 2014 ได้เสนอผลการวิเคราะห์หาจุดตกของ MH370 ที่เชื่อว่าแม่นยำกว่าเดิม และสอดคล้องกับหลักฐานบ่งชี้อื่นๆ การวิเคราะห์ของ Godfrey ใช้ข้อมูล 4 ชุดประกอบกัน ได้แก่ ข้อมูลจากดาวเทียม Inmarsat ข้อมูลคลื่นวิทยุสัญญาณอ่อน (Weak Signal Propagation Reporter) ที่เป็นข้อมูลสาธารณะจากเว็บไซต์ WSPR.net ข้อมูลการทำงานของเครื่องบินจาก Boeing ข้อมูลการเดินทางของเศษซาก (debris) ในมหาสมุทร แหล่งข้อมูลสำคัญของ Godfrey คือฐานข้อมูลคลื่นวิทยุ WSPR ที่บันทึกการรับและส่งคลื่นวิทยุในชั้นบรรยากาศทุก 2 นาที เขานำฐานข้อมูลนี้มาพัฒนาเป็นซอฟต์แวร์ชื่อ Global Detection and Tracking of Any Aircraft Anywhere (GDTAAA) เพื่อหาพิกัดของเครื่องบินในแต่ละช่วงเวลาโดยเฉพาะ Godfrey บอกว่าตามปกติแล้ว การเทียบสัญญาณกับเครื่องบินเป็นเรื่องยาก เพราะอาจมีเครื่องบินหลายลำที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน มีความเป็นไปได้หลายทาง แต่ในกรณีของ MH370 บินไปตกในบริเวณทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งแทบไม่มีเครื่องบินอยู่เลย จึงเจาะจงเครื่องบินได้ง่ายขึ้น ภาพแสดงข้อมูลสัญญาณวิทยุจาก WSPR.net ในวันและเวลาที่คาดว่า MH370 ตกลงในทะเล จากการคำนวณของ Godfrey ประเมินว่า MH370 ตกอยู่บริเวณพิกัด 33 องศาใต้ 95 องศาตะวันออก ซึ่งสอดคล้องกับพิกัดสุดท้ายจากดาวเทียม Inmarsat และการประเมินแหล่งที่มาของชิ้นส่วนเครื่องบินที่ลอยไปติดชายฝั่งแอฟริกา ว่าอยู่ระหว่างเส้นละติจูดที่ 32-33 องศาใต้ Godfrey ระบุว่าพื้นที่แถบนี้เป็นจุดที่มีหุบเหวและหน้าผาใต้น้ำอยู่มาก (อยู่ทางใต้ของพื้นที่ที่เรียกว่า Broken Ridge) ทำให้การค้นหาทำได้ยาก จากการประเมินคาดว่าความลึกของก้นทะเลคือ 4,000 เมตร ในการค้นหาซากเครื่องบินปี 2015 โดยหน่วยงานความปลอดภัยของออสเตรเลีย Australian Transport Safety Bureau (ATSB) ไม่ได้ค้นหาในจุดนี้ แต่เรือค้นหาของออสเตรเลียและจีนในปี 2016 เคยแล่นผ่าน แต่ไม่ได้เจาะจงค้นหาที่บริเวณนี้โดยตรง ส่วนการค้นหาในปี 2018 เฉียดผ่านบริเวณนี้ไป เพราะถือว่าเคยมีเรือผ่านในปี 2016 แล้วแต่ไม่พบ เลยไม่ได้ค้นหาซ้ำ ภาพแสดงพื้นที่การค้นหาในอดีต จุดตกใหม่ที่ Godfrey เสนอคือจุดตัดของเส้นประสีดำ ตัวของ Godfrey นั้นถือเป็น "ผู้สนใจ" ค้นหาเครื่องบินในรูปอาสาสมัคร เหตุเพราะเขาเคยเกือบเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบิน Air France 447 ตกในมหาสมุทรแอตแลนติกปี 2009 แต่รอดมาได้เพราะมีเหตุต้องยกเลิกการเดินทาง เหตุการณ์นี้ทำให้เขากลายมาเป็นผู้สนใจในการค้นหาเครื่องบินที่สูญหายในทะเล เว็บไซต์ BBC ชี้ว่าถึงแม้มีพิกัดที่ชัดเจนขึ้น แต่การออกค้นหาจริงๆ จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นกับว่าใครออกค่าใช้จ่ายในการสำรวจด้วยหรือไม่ โดย BBC สอบถามไปทาง ATSB และได้รับคำตอบว่า ATSB จะไม่ออกปฏิบัติการค้นหาอีกแล้ว การค้นหาถัดจากนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลมาเลเซียเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลจีนจะสนใจช่วยค้นหาด้วย เพราะมีผู้โดยสารชาวจีนมากถึง 122 คนในเครื่องบินลำนี้ (รัฐบาลจีนเคยส่งเรือมาช่วยค้นหาในปี 2016) ที่มา - MH370 Search, BBC
# คุ้นๆ นะ Microsoft Edge เปลี่ยนธีมเกมแก้เบื่อยามไม่มีเน็ตจากเซิร์ฟเป็นสกีต้อนรับฤดูหนาว, เล่นบนมือถือได้แล้ว ผู้ใช้ Microsoft Edge น่าจะเคยเล่นหรือผ่านตากันมาบ้างกับเกมเซิร์ฟเล่นแก้เบื่อเวลาเน็ตใช้งานไม่ได้ในตัวเบราว์เซอร์ ล่าสุดเพื่อเป็นการต้อนรับฤดูหนาวไมโครซอฟท์ได้เปลี่ยนธีมของเกมจากกระดานโต้คลื่นมาเป็นเล่นสกีแทนแล้ว ภาพโปรโมทเกมจากทวิตเตอร์ @MasterDevwi ผู้จัดการอาวุโสโปรแกรม Microsoft Edge แม้ว่ากลไกการเล่นจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สำหรับท่านที่เห็นธีมใหม่แล้วรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ถึงไมโครซอฟท์จะไม่ได้บอกตรงๆ แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นนำ SkiFree เกมสกีเก่าของไมโครซอฟท์ตั้งแต่สมัย Windows 3.1 มาทำใหม่นั่นเอง (ที่ชัดที่สุดคือเยติ มอนสเตอร์เอกลักษณ์ประจำเกม ได้กลับมาวิ่งไล่ผู้เล่นในเกมเซิร์ฟธีมฤดูหนาวนี้ด้วย) เกมเซิร์ฟพร้อมธีมฤดูหนาวเล่นได้แล้วบน Edge เวอร์ชัน 96 เป็นต้นไป ซึ่งนั่นก็รวมถึง Edge บนอุปกรณ์พกพาทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ด้วย เข้าได้ผ่านการพิมพ์ edge://surf ลงในแถบ URL โดยไมโครซอฟท์ยังได้ระบุว่าเปิดให้เล่นเป็นเวลาจำกัด ใครอยากเล่นรำลึกความหลังก็คงต้องรีบกันหน่อยครับ ที่มา - Windows Central, ทวิตเตอร์ @MSEdgeDev (Android, iOS)
# Kotlin ออก Compose Multiplatform เฟรมเวิร์คเขียน UI ข้ามแพลตฟอร์ม แปลงจาก Android ได้ JetBrains เปิดตัว Compose Multiplatform เฟรมเวิร์คสำหรับเขียน UI ของภาษา Kotlin เวอร์ชันเสถียร 1.0 พร้อมแล้วสำหรับงานโปรดักชัน Compose Multiplatform เป็นการเขียน UI ของ Kotlin ด้วยภาษาแบบ declarative ตามสมัยนิยม โดยทำงานได้ข้าม 2 แพลตฟอร์มคือ แอพเดสก์ท็อปและเว็บแอพ ส่วน Kotlin บน Android ใช้เฟรมเวิร์ค Jetpack Compose ของกูเกิล ที่ JetBrains ระบุว่าเป็นพี่น้องกัน มี API ส่วนใหญ่เหมือนกัน สามารถแชร์คอมโพเนนต์ข้ามกันได้ และหากมีแอพ Android ที่เขียนด้วย Jetpack Compose อยู่แล้วก็สามารถนำมารันบนเดสก์ท็อปได้ง่ายมาก JetBrains บอกว่าหากเคยเขียน Jetpack Compose หรือ React มาก่อน แนวคิดของ Compose Multiplatform คล้ายกัน เรียนรู้ได้เร็ว และตัวเฟรมเวิร์คยังปรับแต่งเรื่องประสิทธิภาพมาดี การแสดงผลกราฟิกใช้ฮาร์ดแวร์ช่วยเร่งการประมวลผลได้ (เฟรมเวิร์คกราฟิกข้างใต้เป็น Skia ของกูเกิล ซึ่งใช้ทั้งใน Android/Chrome) ตอนนี้ Jetpack Compose สามารถใช้งานได้แล้วบน IntelliJ IDEA 2021.1+ ตอนนี้แอพที่นำไปใช้งานจริงแล้วคือ Jetbrains Toolbox App ของ JetBrains เอง ซึ่งแปลงมาจากของเดิมที่เขียนด้วย C++/Electron ที่มา - Kotlin Blog
# กลุ่มขวาจัดรุมรีพอร์ตนักข่าวบน Twitter จนโดนปิดหลายบัญชี จากนโยบายห้ามแชร์ภาพและวิดีโอส่วนตัว Twitter เพิ่งออกกฎแชร์ภาพวิดีโอส่วนตัวต้องได้รับอนุญาตก่อน และหลังจากบังคับใช้กฎนี้ก็เริ่มพบปัญหาแล้ว โดยสำนักข่าว Washington Post ได้รายงานว่ามีนักข่าวและนักวิจัยกลุ่มหนึ่งที่รายงานข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มขวาจัดโดนปิดบัญชี Twitter จากการมีผู้รายงานโดยอ้างกฎข้อนี้เข้ามาเป็นจำนวนมาก ในรายงานระบุว่า หลังจากที่กฎโดยซีอีโอคนใหม่ของ Twitter ประกาศใช้งาน กลุ่มขวาจัดและกลุ่มนิยมคนขาวสุดโต่งได้ทวีตให้ผู้ติดตามช่วยรายงานบัญชีที่ระบุนีโอนาซี, รายงานกลุ่มหัวรุนแรง และเผยแพร่เอกสารผู้เข้าร่วมกิจกรรมปลุกระดมสร้างความเกลียดชัง พร้อมแนบขั้นตอนรายงานบัญชีเหล่านี้ให้ผู้ติดตามช่วยกัน ทำให้บัญชีบางส่วนที่โดนถล่มรายงานถูกระงับโดย Twitter จึงเกิดความกังวลว่านโยบายใหม่จะขัดขวางการรายงานกิจกรรมเกี่ยวกับผู้นิยมขวาจัดและผู้นิยมความรุนแรง ทำให้คนกลุ่มนี้ได้เปรียบเนื่องจากสามารถปกปิดตัวตนได้ Trenton Kennedy โฆษกของ Twitter รายงานว่า ทางบริษัทได้รับรายงานประสงค์ร้ายจำนวนมาก และทีมงานของ Twitter ทำงานพลาดไปหลายครั้ง ซึ่งเขาเองไม่ได้ระบุว่ามีรายงานเข้ามากี่ครั้ง แต่ Twitter ได้ระงับบัญชีผิดพลาดไป 12 บัญชี และจะออกรายงานการตรวจสอบในภายหลัง Twitter ระบุว่ากฎเรื่องภาพส่วนตัวตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันการใช้สื่อข่มขู่คุกคามตัวบุคคล พร้อมทั้งยกตัวอย่างกรณีภาพที่ไม่เข้าข่ายเป็นภาพส่วนตัว ได้แก่ ภาพที่เป็นสาธารณะอยู่แล้ว หรือเผยแพร่โดยสื่อกระแสหลัก, ภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการถกเถียง การพูดคุยกันของสาธารณะ, ภาพเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น รายงานจากสถานที่จริง และภาพที่บุคคลในภาพเป็นบุคคลสาธารณะ แต่หลายบัญชีที่ถูกระงับในครั้งนี้รายงานภาพสาธารณะซึ่งเป็นภาพของบุคคลสาธารณะ ถือเป็นการกระทำที่ไม่เข้าข่ายต้องระงับบัญชี ที่มา - Washington Post (1, 2)
# Android TV 12 ออกตัวจริง, ยังไม่ประกาศแผนปล่อยอัพเดตให้สินค้าของกูเกิลเอง กูเกิลออก Android TV 12 ตัวจริงมาแบบเงียบๆ ของใหม่ใน Android TV 12 ได้แก่ ระบบจัดการสิทธิเข้าถึงไมโครโฟนและกล้องจาก Android 12 (ถ้าไมโครโฟนหรือกล้องกำลังทำงาน จะมีสัญลักษณ์บอก), รองรับการวาดหน้า UI แบบ 4K, แอพบนทีวีรองรับ text scaling ตามการตั้งค่าของผู้ใช้, รองรับมาตรฐาน HDMI CEC 2.0 เป็นต้น ตอนนี้ Android TV 12 ยังมีให้ใช้เฉพาะบนกล่องสำหรับนักพัฒนา ADT-3 เท่านั้น และยังไม่ชัดเจนว่ากูเกิลจะนำไปใช้กับ Google TV ที่เป็น UI ครอบในเวอร์ชันของตัวเอง เมื่อไร โดยเว็บไซต์ 9to5google ให้ข้อมูลว่า Chromecast with Google TV ยังใช้ฐานเป็น Android TV 10 และยังไม่ได้อัพเกรดเป็น Android TV 11 ด้วยซ้ำ ที่มา - Google, 9to5google
# Google Play Store ประเทศไทย ประกาศสุดยอดแอปและเกมแห่งปี 2021 Google Play Store ประเทศไทย ประกาศอันดับสุดยอดแห่งปี 2021 โดยประเภทแอปแห่งปี 2021 ไม่ได้ประกาศให้แอปใดแอปหนึ่งโดยเฉพาะ แต่มีทั้งหมด 24 แอป เรียงตามลำดับตัวอักษรดังนี้ AmazingTalker Balance: Meditation & Sleep Blossom - Plant Identification BoldVoice Clementine Clubhouse Colorize DailyBean Meditation for Sleep and Calm | Down Dog Focus Quest Moises Moonbeam Moonly Noobly find gamers meet friends PhotoRoom Studio Photo Editor Rabit Rock Identifier Speechify To-Do List - Schedule Planner & To Do Reminders Uptime Videoleap Editor by Lightricks Voilà AI Artist Whatifi Wix Owner ส่วนกลุ่มสุดยอดเกมแห่งปี มีสาขาต่าง ๆ ดังนี้ เกมที่ดีที่สุด Ragnarok X: Next Generation เกมขวัญใจประชาชน Garena Free Fire MAX สุดยอดเกมดุเดือดแห่งปี มี 5 เกม ได้แก่ Cookie Run: Kingdom, Counter:Side, MARVEL Future Revolution, Ragnarok X: Next Generation และ SLAM DUNK สุดยอดเกมผู้เปลี่ยนแปลงวงการแห่งปี ได้แก่ Alchemy Stars, JanKenUP!, Pokémon UNITE, Sixit และ The Ants: Underground Kingdom สุดยอดเกมเล่นง่ายแห่งปี ได้แก่ Claw Stars, Crash Bandicoot: On the Run!, Kawaii Mansion: Hidden Objects, Play Together และ Towers: Relaxing Puzzle สุดยอดเกมอินดี้ ได้แก่ Huntdown, My Friend Pedro: Ripe for Revenge, Psychofunk, Puzzling Peaks EXE และ Ronin: The Last Samurai สุดยอดเกมบนแท็บเล็ตแห่งปี ได้แก่ Crash Bandicoot: On the Run!, League of Legends: Wild Rift, MARVEL Future Revolution, My Friend Pedro: Ripe for Revenge และ Ragnarok X: Next Generation ที่มา: Google Play
# กสทช. เปิดตัว Mobile ID ใช้เบอร์มือถือยืนยันตัวตนแทนบัตรประชาชน ใช้เปิดบัญชีธนาคารได้แล้ว กสทช. เปิดตัว Mobile ID การใช้เบอร์มือถือเป็นการยืนยันตัวตนแทนบัตรประชาชน โดยใช้หลักการที่ว่าประชาชนยืนยันตัวตนตอนลงทะเบียนซิมการ์ดอยู่แล้ว จึงสามารถใช้เบอร์มือถือเพื่อยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ ขั้นตอนคือ ผู้ใช้บริการต้องสมัคร Mobile ID ที่ศูนย์บริการของเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้งาน (ใช้ได้ทั้ง AIS, dtac, True, NT) โดยแสดงบัตรประชาชนแต่เจ้าหน้าที่ และถ่ายภาพใบหน้าเพื่อเปรียบเทียบพิสูจน์ตัวตนก่อน เมื่อสมัคร Mobile ID แล้ว ก็สามารถใช้งานกับหน่วยงานต่างๆ ได้ ซึ่งหน่วยงานแรกที่รองรับคือธนาคากรุงเทพ สามารถใช้ Mobile ID เพื่อเปิดบัญชีธนาคารได้ (สาขานำร่อง 9 แห่งในกรุงเทพ ได้แก่ สำนักงานใหญ่สีลม เซ็นทรัลเอ็มบาสซี เซ็นทรัลลาดพร้าว เซ็นทรัลวิลเลจ ดิเอ็มควอเทียร์ จามจุรีสแควร์ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน เดอะคริสตัล 2 และฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 2) ตอนนี้เครือข่ายที่ใช้ได้แล้วคือ AIS และเครือข่ายที่สองคือ NT จะตามมาในเดือนธันวาคม จากนั้นในไตรมาส 1/2565 โครงการ Mobile ID จะสามารถใช้งานกับหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง เช่น กรมการขนส่งทางบก สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร ไปรษณีย์ไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สถาบันคุ้มครองเงินฝาก และเครดิตบูโร ที่มา - กสทช.
# Amazon เปิดตัว SageMaker Canvas เครื่องมือสร้างโมเดล Machine Learning แบบไม่ต้องเขียนโค้ด AWS เปิดตัว Amazon SageMaker Canvas เครื่องมือสร้างโมเดล machine learning (ML) แบบลากแล้ววาง ไม่ต้องเขียนโค้ดเอง (no-code) เพื่อให้นักวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจสามารถสร้างโมเดลการพยากรณ์ได้ง่ายขึ้น SageMaker Canvas ใช้ฐานมาจาก Amazon SageMaker เครื่องมือสร้างโมเดล ML ที่ออกมาได้นานพอสมควร และใช้งานกันอย่างแพร่หลาย วิธีการใช้งาน SageMaker Canvas คือนำเข้าข้อมูล (เช่น ไฟล์ CSV หรือเชื่อมต่อฐานข้อมูล) นำข้อมูลมาเชื่อมต่อกันเป็นชุดเดียว (join dataset) แล้วสร้างโมเดลจากตารางข้อมูลที่มี ก่อนเริ่มเทรนโมเดลจากข้อมูลจริง จุดเด่นของ SageMaker Canvas คือการเชื่อมต่อกับเครื่องมือในชุด SageMaker อื่นๆ เช่น นำไปทำต่อใน SageMaker Studio ที่เป็น IDE ตัวเต็ม ทำให้นักวิเคราะห์ข้อมูลสามารถลองสร้างโมเดลใน Canvas ได้ก่อน ถ้าอยากขยับไปอีกขั้นก็ให้นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลช่วยทำต่อใน Studio ได้ เป็นต้น ที่มา - AWS Blog
# Google Anthos รองรับคลาวด์ครบ 3 ค่าย รันบน Azure ได้แล้ว Google Cloud มี Anthos ชุดจัดการคอนเทนเนอร์ Kubernetes แบบมัลติคลาวด์ ออกมาสักระยะ ใช้งานได้กับทั้งคลาวด์กูเกิลเอง และคลาวด์ค่ายอื่นๆ โดยเริ่มจาก AWS เมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดกูเกิลออก Anthos Multi-Cloud API เวอร์ชันใช้งานจริง (general availability) ทำให้รองรับคลาวด์ Azure แบบ GA ตามมาด้วยเช่นกัน เมื่อ Anthos รองรับคลาวด์รายใหญ่ครบ 3 ค่ายแล้ว ทำให้เราสามารถสั่งสร้างคลัสเตอร์บนคลาวด์ทั้ง 3 ค่ายได้ง่ายๆ ผ่านคอมมานด์ไลน์แบบเดียวกัน ตามภาพ (กูเกิลบอกว่าจะรองรับการคอนฟิกผ่าน Terraform ตามมา) หน้าตาของคอนโซล เวลาสร้างคลัสเตอร์บนคลาวด์แต่ละค่าย แผนผังแสดงสถาปัตยกรรมของ Anthos ที่มา - Google Cloud Blog
# Facebook ขยายโครงการ Protect ให้คนดัง-นักการเมือง ล็อกอิน 2FA ป้องกันโดนแฮ็กบัญชี Facebook มีโครงการ Facebook Protect บังคับการล็อกอินแบบ 2FA หากเป็นนักการเมือง คนดัง นักสิทธิมนุษยชน นักข่าว ฯลฯ เพื่อความปลอดภัยจากการโดนแฮ็กบัญชี แต่ก่อนหน้านี้ยังจำกัดการใช้งานเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น สัปดาห์ที่แล้ว Facebook ประกาศว่าจะขยายโครงการนี้เพิ่มในอีกกว่า 50 ประเทศภายในปีนี้ แม้ไม่ได้ระบุรายชื่อประเทศทั้งหมด แต่ Facebook ประเทศไทยก็แจ้งข่าวนี้เป็นภาษาไทยด้วย จึงมีโอกาสสูงที่ประเทศไทยจะเข้าข่าย Facebook ระบุว่าบัญชีของนักการเมือง นักกิจกรรม เจ้าหน้าที่รัฐ สื่อมวลชน ที่มีความเสี่ยงจะได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมโครงการ สิ่งที่ต้องทำคือเพิ่มการล็อกอินแบบ 2FA และ Facebook จะคอยตรวจสอบว่าบัญชีโดนแฮ็กหรือไม่ให้ด้วย (แต่หากต้องการเปิด 2FA ใช้เองก่อนเลยก็ทำได้อยู่แล้ว) สถิติของ Facebook บอกว่ามีบัญชีที่เข้าร่วม Facebook Protect แล้วกว่า 1.5 ล้านบัญชี ในจำนวนนี้มี 9.5 แสนบัญชีที่เพิ่งเปิด 2FA เป็นครั้งแรก ที่มา - Facebook
# Twitter ปรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เปลี่ยนตัวหัวหน้าฝ่าย Engineering และ Design Twitter ประกาศปรับโครงสร้างตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงหลังมีการเปลี่ยนตัวซีอีโอคนใหม่คือ Parag Agrawal อดีตซีทีโอ Twitter โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะมี 3 ฝ่ายหลัก คือฝ่าย Consumer ได้ Kayvon Beykpour จากฝ่ายผลิตภัณฑ์ มาเป็นผู้จัดการทั่วไป, ฝ่าย Revenue ให้ Bruce Falk เป็นผู้จัดการทั่วไป และฝ่าย Core Tech ได้ Nick Caldwell ซึ่งเดิมเป็นรองประธานฝ่ายวิศวกรรมมารับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายนี้ ผลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ Michael Montano หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม และ Dantley Davis หัวหน้าฝ่ายออกแบบและวิจัย จะลงจากตำแหน่ง ทั้งหมดมีผลในสิ้นปี โดยทั้งสองคนจะรับตำแหน่งที่ปรึกษาต่อไปอีกไตรมาส Twitter ระบุในเอกสารชี้แจงการปรับโครงสร้างบริหารนี้ว่า เพื่อให้กระบวนการทำงานคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น การแบ่งเป็น 3 ฝ่ายใหม่ เป็นการส่งเสริมการทำงานข้ามทีมทั้งวิศวกรรม ผลิตภัณฑ์ ออกแบบ วิจัย ที่มา: CNBC
# [ลือ] โซนี่ซุ่มทำ Spartacus บริการเกมเหมาจ่าย คู่แข่ง Xbox Game Pass Bloomberg รายงานข่าวลือของโครงการ "Spartacus" ที่โซนี่ใช้ตอบโต้บริการเล่นเกมเหมาจ่าย Xbox Game Pass ของฝั่งไมโครซอฟท์ ตามข่าวบอกว่า Spartacus จะเป็นการรวม PlayStation Plus และ PlayStation Now เข้าด้วยกัน สมาชิกมี 3 ระดับราคาคือ ระดับเริ่มต้น เหมือน PlayStation Plus ในปัจจุบัน ระดับกลาง เพิ่มสิทธิเล่นเกมแบบเหมาจ่ายเหมือน Xbox Game Pass ระดับสูง เพิ่มการเล่นเกมสตรีมมิ่ง และคลังเกมเก่าย้อนไปถึง PS1 และ PSP Spartacus จะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2022 โดยคาดว่าจะยังใช้ชื่อแบรนด์ PlayStation Plus ต่อไป ส่วนแบรนด์ PlayStation Now จะถูกถอดออกแล้ว ปัจจุบัน Xbox Game Pass มียอดสมาชิกล่าสุด 18 ล้านคน (สถิติเมื่อเดือนมกราคม 2021) ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก และเป็นปัจจัยจูงใจให้คนซื้อคอนโซลรุ่นเล็ก Xbox Series S ที่เล่นเกมแผ่นไม่ได้อีกด้วย เมื่อปลายปีที่แล้ว Jim Ryan ซีอีโอของ Sony Interactive Entertainment เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่ามีแผนการรับมือ Game Pass อยู่แล้ว แต่เวลาผ่านมาหนึ่งปี โซนี่ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ที่มา - Bloomberg via IGN
# Epic Games แจกเกมฟรี Dead by Daylight ตามด้วย Godfall Challenger Edition สัปดาห์หน้า Epic Games แจกเกมฟรี โดยรอบนี้เป็นเกมใหญ่อย่าง Dead by Daylight เกมมัลติเพลเยอร์เอาตัวรอดแนวสยองขวัญ ที่มีตัวละครจากหนังดังมาร่วมแจมมากมาย มูลค่า 369 บาท พ่วงด้วย while True: learn () เกมพัซเซิลเพื่อการศึกษา สอนต่อวงจร machine learning ทั้งสองเกมแจกถึงวันที่ 9 ธันวาคม สัปดาห์ถัดไปจะเป็นคิวของ Godfall เกมแอคชั่นแนว loot and slash ที่เคยเป็นเกมเอ็กซ์คลูซีฟวางขายพร้อม PlayStation 5 ในวันแรกที่เปิดตัว แต่เป็นเวอร์ชัน Challenger Edition ที่ตัดทอนความสามารถหลายอย่างลง เช่น ไม่มีโหมดเนื้อเรื่อง มีแต่มัลติเพลเยอร์ และผู้เล่นสามารถจ่ายเงินอัพเกรดเพื่อไปเล่นเกมตัวเต็มได้ (ราคาขายที่ 14.99 ดอลลาร์ จากเกมเต็ม 59.99 ดอลลาร์) เกมฟรีอีกเกมที่จะแจกในสัปดาห์หน้าคือ Prison Architect เกมซิมที่ให้เราเป็นผู้คุมเรือนจำ จัดการทรัพยากรและดูแลนักโทษไม่ให้แหกคุก
# Zoom เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ตรวจสอบว่าคนที่ตอบรับการประชุม เข้าร่วมหรือยัง นอกจากเพิ่มอัพเดตอัตโนมัติแล้ว Zoom ยังประกาศฟีเจอร์ใหม่อีกหลายรายการดังนี้ ควบคุมสไลด์ สามารถกำหนดให้ผู้มีใช้หลายคน ที่มีสิทธิควบคุมสไลด์ได้ในเวลาเดียวกัน ระบบคำถาม เพิ่มตัวเลือกใหม่ ในการตั้งคำถาม เช่น คนตอบเร็วที่สุด กำหนดคำตอบที่ต้องตรงกัน สำหรับสร้างกิจกรรมระหว่างการประชุม ปรับปรุงลายน้ำ สามารถกำหนดขนาดลายน้ำ ตำแหน่งในวิดีโอ โดยต้องตั้งค่าผ่านเว็บก่อนเริ่มการประชุม นอกจากนี้ Zoom ยังเพิ่มฟีเจอร์ตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วมมากันครบหรือไม่ โดยเชื่อมต่อกับปฏิทิน Google หรือ Outlook และดูว่าคนที่ตอบรับจะเข้าร่วม ตอนนี้มาเข้าร่วมครบหรือไม่ ที่มา: Zoom
# Facebook Messenger เพิ่มฟีเจอร์หารบิลในแชท, แชร์เอฟเฟคร่วมกันระหว่างวิดีโอคอล Meta เผยฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Facebook Messenger คือฟีเจอร์หารบิลในชื่อว่า Split Payments โดยจะเริ่มทดสอบในสหรัฐฯ สัปดาห์หน้า ฟีเจอร์หารบิลมีประโยชน์ในหลายสถานการณ์ ตั้งแต่ทานอาหารเป็นกลุ่ม, หารค่าใช้จ่ายรายเดือน และอื่น ๆ วิธีใช้งานเพียงแค่กดปุ่ม Split Payments ในห้องแชทกลุ่มหรือ Payments Hub ก็ได้ กด Get Started หลังจากนั้นให้กรอกจำนวนเงิน และกำหนดได้ว่าจะหารเท่ากำหนดค่าใช้จ่ายเป็นรายคนก็ได้ จากนั้นยืนยันรายละเอียด Facebook Pay ก็จะส่งเข้าห้องแชทเรียบร้อย นอกจาก Split Payments แล้ว Messenger ยังมีฟีเจอร์ใหม่คือ Group Effects ที่ให้ผู้ใช้ Messenger และ Instagram วิดีโอคอลหากันโดยใช้เอฟเฟค AR ร่วมกันได้ ที่มา - Messenger, The Verge
# Twitter ลบบัญชีและคอนเทนต์จากปฏิบัติการไอโอโดยภาครัฐของ 6 ประเทศ ทั้งหมด 3,465 บัญชี Twitter ได้ทำการปิดหรือลบบัญชีที่สร้างขึ้นเพื่อการทำปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของประเทศต่าง ๆ รวมแล้วกว่า 3,465 บัญชี ทั้งเม็กซิโก, สาธารณรัฐประชาชนจีน, รัสเซีย, แทนซาเนีย, อูกันดา และเวเนซุเอลา Twitter ระบุว่าบัญชีเหล่านี้ถูกระงับเนื่องจากผิดข้อกำหนดของแพลตฟอร์ม และคอนเทนต์ทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับปฏิบัติการทั้งหมดนี้ได้ถูกลบออกจาก Twitter ถาวร โดย Twitter แจงรายละเอียดตามประเทศดังนี้ เม็กซิโก: ลบบัญชีสร้างคอนเทนต์สนับสนุนรัฐบาลในเรื่องสาธารณสุข รวมถึงเรื่องพรรคการเมือง จีน: ลบเครือข่ายบัญชีที่เผยแพร่ข้อมูลของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ในซินเจียง และบัญชีที่เชื่อมโยงกับ Changyu Culture บริษัทเอกชนที่ให้การสนับสนุนโดยรัฐบาลท้องถิ่นซินเจียง รัสเซีย: ลบบัญชีที่เชื่อมโยงกับ IRA ที่มีปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง, ปฏิบัติการนำเสนอแนวคิดโปรรัสเซียในแอฟริกากลาง, โจมตีรัฐบาลลิเบียรวมถึงผู้สนับสนุน และคอยสนับสนุนภูมิรัฐศาสตร์ของรัสเซียในลิเบียและซีเรีย แทนซาเนีย: ลบบัญชีที่ใช้รายงานโพสต์บน Twitter โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สนับสนุน FichuaTanzania, บัญชีที่ทวีตคอนเทนต์สนับสนุนรัฐบาล อูกันดา: ลบบัญชีปลอมที่สนับสนุนประธานาธิบดี Museveni และพรรค เวเนซุเอลา: ลบบัญชีที่คอนปั่นคอนเทนต์สนับสนุนรัฐบาล, ลบแอป Twitter Patria และแอปที่มีจุดประสงค์ลักษณะเดียวกัน ที่กลุ่มบัญชีใช้เพื่อบริหารจัดการบัญชีกลุ่มนี้ ที่มา - Twitter
# แอปแชท Signal เพิ่มฟีเจอร์รับบริจาคเงินจากผู้ใช้งาน รับโล่ติดโปรไฟล์ตามยอดบริจาค Signal แอปแชทความปลอดภัยสูงเพิ่มฟีเจอร์รับบริจาคจากผู้ใช้งานแอป เนื่องจากโมเดลความปลอดภัยทำให้องค์กรที่ดูแล Signal เลือกไม่แชร์ข้อมูล, ขายโฆษณา หรือระดมทุนจากนักลงทุน และจะอยู่ด้วยเงินบริจาคเป็นหลัก โปรแกรมบริจาคให้ Signal เรียกว่า Signal Sustainer เปิดให้ผู้ใช้ที่สนใจเลือกบริจาคได้ทั้งรูปแบบรายเดือนหรือครั้งเดียว ตอนนี้ยังชำระได้ผ่าน Apple Pay หรือ Google Pay เท่านั้น แต่ทางแอปจะเปิดระบบชำระเงินช่องทางอื่นต่อไปในอนาคต โดย Signal ยืนยันว่าข้อมูลการชำระเงินจะไม่ผูกกับบัญชี Signal ฝั่งเซิร์ฟเวอร์จะรู้แค่ว่าไคลเอนท์ไหนบริจาคเงิน แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของรายการไหน วิธีที่ใช้รักษาความเป็นส่วนตัวนี้ Signal ระบุว่าเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในฟีเจอร์ private group ผู้ใช้สามารถเลือกบริจาคให้ Signal ได้ตั้งแต่ 5, 10 และ 20 ดอลลาร์ ผู้บริจาคแต่ละระดับจะได้โล่สำหรับติดโปรไฟล์แตกต่างกันไป และการบริจาคเป็นรายเดือนจะต่ออายุก็ต่อเมื่อผู้ใช้มีการใช้งาน Signal ในเดือนนั้น ๆ ถ้าเลิกใช้หรือลบแอปทิ้ง Signal จะไม่เรียกเก็บเงินในรอบต่อไป ที่มา - Signal, The Verge
# ร้านเหล้า/งานอาร์ต/คอนเสิร์ต/บอร์ดเกม/บล็อกเชน ส่อง Event เด็ดที่รันวงการ Metaverse ไทย หลายๆ คนตั้งคำถามว่า Metaverse จะเกิดขึ้นจริง หรือเป็นแค่ Buzz Word ชั่วคราว ดังนั้นลองไปดูกันว่ามี Metaverse Event อะไรบ้างที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี ผ่าน Gather.town แพลตฟอร์มที่กำลังมาแรงในช่วง 2 ปีหลัง โดยนี่เป็นส่วนหนึ่งของ Metaverse Event ที่เกิดขึ้นโดย Platform เดียวอย่าง Gather ในรอบไม่กี่เดือน Bangkok Music City 2021 Conference & Music Show Case ของคนวงการเพลง ใครจะรู้ว่างานเทศกาลดนตรีสามารถจัดบนโลก Metaverse ได้ แถมเจ๋งด้วย! เพราะในโลกเสมือนนี้ผู้ชมจะได้บรรยากาศที่ใกล้ชิดแบบไม่มีเวทีกั้น มีบูธศิลปินที่มาเล่นสด พูดคุยและเต้นไปพร้อมกับแฟน ๆ หรือเลือกไปฟังแบบ Live Interaction พร้อม ๆ กันก็ได้ ไม่ว่าจะตามดูวงไหนก็สามารถดู Lineup แบบ Real Time แล้ววาร์ปไปยืนดูแบบติดขอบเวทีที่ชอบได้ทันทีทั้ง 3 Stages หลัก แถมยังมีบรรยายเกี่ยวกับทิศทางการเติบโตของวงการเพลงด้วย งานนี้มีผู้เข้าร่วมตลอด 3 วันจำนวนมาก ทั้ง Speakers, Delegates, Artists, Records, Fanclub จากไทยและต่างประเทศ เป็นงานที่ครึกครื้นจนเรานึกว่าอยู่ใน Concert จริง! จัดโดย FUNGJAI ที่เรารู้จักกันดี ในแวดวงดนตรีนอกกระแสร่วมกับทีม NYLON Thailand และทีม Creative ไอเดียเจ๋งๆจาก Strike! ยืนเดี่ยวLAUGH BAR Event ในค่ำคืนวันเสาร์ที่คนส่วนใหญ่ อยู่กันยันสว่าง เพราะสนุกต่อเนื่องกับบาร์ Virtual ตั้งแต่ต้นงานที่มี DJ เปิดแผ่น/ดนตรีสด และจบที่ Comedian Show สนุก ๆ ที่ Curate มาทุกสัปดาห์ จัดโดย ยืนเดี่ยว Stand Up Comedy ที่มีผู้ติดตามผลงานผ่านนักแสดงในกลุ่มรวมหลักล้าน Followers The Absolute Paradox นิทรรศการรวมงานศิลปะทดลอง ที่จับเอาเรื่องราวทางสังคมจากการสังเกตของคนรุ่นใหม่มาเล่าผ่านศิลปะแบบ Performing Arts, Filmography, Motion graphic, Experimental Music ใน Theme แบบหลอนๆ พิศวงบน Metaverse แบบเต็มที่ ทั้งการออกแบบ Ambience ในงานการจัด Route การเดิน หรือการสร้าง Avatar ที่กำหนดตัวตนเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสโลกของ The Absolute Paradox ไปด้วยกัน จัดโดยกลุ่ม Toxiphilia ที่รวบรวมศิลปินศิลปินหัวก้าวหน้าหลากหลายแขนงมาไว้ด้วยกัน Thailand Board Game Show อีก Event ที่น่าสนใจคืองานใหญ่ของกลุ่มบอร์ดเกม ที่ใช้ประโยชน์จาก Metaverse ผสมเข้ากับการเล่นบอร์ดเกมเป็น Play Anywhere ที่ให้บรรยากาศเสมือนจริง พร้อมคนในแวดวง อย่างนักออกแบบเกม/ร้านค้า/สถาบัน/สื่อต่างๆ ที่อยู่ในวงการและงานนี้ถือเป็นงานบอร์ดเกมออนไลน์ครั้งแรกของประเทศไทยอีกด้วย จัดโดยทีม TVMunk ผู้ผลิตรายการบอร์ดเกมไนท์ ที่ตั้งใจสร้าง Community บอร์ดเกมของเมืองไทย Blockchain Thailand Genesis 2021 Event Blockchain ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ซึ่งบัตร Sold out เร็วมาก! จัดผ่าน Metaverse Platform อย่าง Gather.town เข้ากับธีม ‘The Era of Metaverse and Digital Asset’ ในปีนี้มาก ๆ มีทั้ง Conference / Workshop และการออกบูธจากคนในวงการ Blockchain Technology / Exchange Platform / ศิลปิน NFT และ Tech Media เรียกว่างานปีนี้เปิดเข้าสู่ยุค Metaverse อย่างแท้จริง จัดโดย Cryptomind บริษัทที่ปรึกษาการบริหารการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล สรุป ข้อสังเกตที่น่าสนใจ ข้อแรกคือ Event ที่ประสบความสำเร็จ มักจะเป็นงานที่มี Community ของ Sub Culture แข็งแรง มีกลุ่มก้อนเป็นแฟนที่สามารถ adopt เข้าสู่โลก Metaverse และพร้อมที่จะลองอะไรใหม่ๆ จากกลุ่มที่ตัวเองสนใจได้ทันที ข้อที่สอง ทั้ง 5 งานมี Partner หลักคือ อย่าง www.gather.yellbkk.com ในการสร้างประสบการณ์ รวมถึงช่วย Facilitate งานในด้านเทคนิคให้ราบรื่น ตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะการจัดงานในระดับ ที่มีความคาดหวังให้ Smooth ต้องมี Gather Official Service Partner เข้ามาช่วย ข้อสุดท้าย อาชีพ Metaverse Architect คือคนสำคัญเหมือนผู้กำกับในภาพยนตร์ เหมือนนักออกแบบเสื้อผ้า เหมือนผู้กำหนดทิศทาง สร้างประสบการณ์ของ Technology ให้มากกว่าขีดจำกัด และสอดคล้องไปกับความคาดหวังของผู้เข้าร่วม ซึ่งในปัจจุบันที่โดดเด่นคือ คุณตฤณ นิลกรณ์ และ คุณชินธิป แต้มแก้ว อดีตสถาปนิก เจ้าของ Tech Startup ที่ Pivot ธุรกิจมาเล่นในตลาด Metaverse ผ่านการสนับสนุนจาก Yell Advertising Bangkok บริษัท Digital Agency ที่ขยาย Port การลงทุนในด้าน Technology อย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง
# Cities: Skylines ออกเกม VR ในชื่อ Cities: VR สำหรับแว่น Quest 2 เกมสร้างเมืองยอดนิยม Cities: Skylines กำลังจะออกเวอร์ชัน VR ในชื่อ Cities: VR สำหรับแว่น Meta Quest 2 (แบรนด์ Oculus เดิมจะเลิกใช้แล้ว) เกมจะเปิดให้เล่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2022 เกม Cities: VR พัฒนาโดยสตูดิโอ Fast Travel Games จากสวีเดน ที่เชี่ยวชาญเรื่องเกม VR และเคยมีผลงานอย่างเกม Wraith: The Oblivion - Afterlife, The Curious Tale of the Stolen Pets, Apex Construct มาก่อน ส่วนเกม Cities: Skylines ภาคหลักเป็นผลงานของสตูดิโอ Colossal Order จากฟินแลนด์ รูปแบบเกมเพลย์ของ Cities: VR ยังเป็นเกมสร้างเมืองเหมือนเดิม ที่เพิ่มเข้ามาคือการเข้าไปสัมผัสบรรยากาศในมุมของคนในเมืองโดยตรง และการปรับคอนโทรลให้เหมาะสมกับการควบคุมแบบ VR ที่มา - Oculus Blog
# ราชบัณฑิตยสภา มีมติบัญญัติคำว่า Metaverse ว่า "จักรวาลนฤมิต" ทับศัพท์ว่า "เมตาเวิร์ส" ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อมูลใน Facebook ส่วนตัว ระบุว่าคณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์นิเทศศาสตร์ร่วมสมัย ราชบัณฑิตยสภา มีมติบัญญัติคำว่า Metaverse ว่า "จักรวาลนฤมิต" หรือเขียนทับศัพท์ว่า "เมตาเวิร์ส" ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา คาดว่าการบัญญัติคำศัพท์นี้มีไว้เพื่อใช้สำหรับการแปลอย่างเป็นทางการ ส่วนในการใช้งานทั่วไป การเขียนแบบทับศัพท์ว่า “เมตาเวิร์ส” หรือใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Metaverse น่าจะได้รับความนิยมมากกว่า ภาพ: Facebook สำนักงานราชบัณฑิตยสภา ที่มา - Facebook ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต (Warat Karuchit)
# โซนี่ไทยเปิดจอง Xperia Pro-I ราคา 56,990 บาท, Xperia 5 III ราคา 34,990 บาท 6 ธันวาคมนี้ โซนี่ไทยเตรียมเปิดจองมือถือสองรุ่น ทั้งรุ่นเรือธงกล้องเทพเซ็นเซอร์ 1 นิ้ว Xperia Pro-I (อ่านว่าเอ็กซ์พีเรีย โปร ไอ) และรุ่นรองลงมา Xperia 5 III (อ่านว่าเอ็กซ์พีเรีย ห้า มาร์คทรี) ที่ใช้ชิป Snapdragon 888 และกล้องคล้ายกับ Xperia 1 III แต่ตัด ToF Sensor ออก และมีขนาดตัวเครื่องเล็กกว่า ทั้งสองรุ่นเริ่มสั่งจองได้วันที่ 6 ธันวาคม ถึง 19 ธันวาคม ราคาช่วงจองและของแถมดังนี้ Sony Xperia Pro-I ราคา 56,990 บาท แถมเคสหนังแท้ XQZ-CLBE, กริ๊ปถ่ายภาพไร้สาย GP-VPT2BT และรหัสส่วนลดซื้อ Vlog Monitor ของโซนี่รุ่น XQZ-IV01/HKCX ในราคา 7,490 บาท (ปกติ 8,990บาท) ผ่าน Sony Store Online Sony Xperia 5 III ราคา 34,990 บาท แถมหูฟังไร้สาย WF-SP800N สีดำหรือสีขาว มูลค่า 5,990 บาท ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์
# เหมืองแตก ไฟไหม้อาคารพาณิชย์เชียงใหม่ เช่าไว้ขุดบิตคอยน์ เสียหายกว่า 2 ล้านบาท เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ให้เช่า 3 ชั้นครึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมเพลิงได้ พบความเสียหายเป็นเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับขุดบิตคอยน์กว่า 72 เครื่อง มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท เว็บไซต์ข่าวเชียงใหม่นิวส์ สอบถามผู้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงพบว่ามีผู้เช่าอาคารไว้โดยไม่ได้อยู่อาศัย แต่มีการใช้ไฟฟ้าและเปิดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไว้ตลอด ก่อนจะเกิดเหตุมีควันพวยพุ่งออกมาจนผู้อยู่อาศัยละแวกข้างเคียงแจ้งเจ้าหน้าที่ในวันนี้ ตัวข่าวยังไม่มีระบุสาเหตุของการเกิดเพลงไหม้ แต่การขุดบิตคอยน์โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับขุดโดยเฉพาะจำนวนมาก ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูงเป็นเรื่องปกติ นอกจากต้องใช้ไฟสำหรับเครื่องขุดแล้ว ยังมีการใช้ไฟสำหรับระบบทำความเย็นและระบบเครือข่าย ทำให้มีหลายปัจจัยที่อาจเสี่ยงทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ ที่มา - Chiangmai News
# Didi ประกาศถอนตัวออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง Didi ประกาศเริ่มกระบวนถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค และเตรียมนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงแทน โดยตอนนี้กรรมการบริษัทได้อนุมัติแนวทางนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ Bloomberg อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวระบุว่าทางการจีนเป็นผู้สั่งให้ Didi ถอนหุ้นออกจากตลาดสหรัฐฯ หลังจากเพิ่งเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ที่มา - CNN
# AWS เปิดบริการซัพพอร์ต FreeRTOS ต่อจากช่วง LTS เพิ่มอีก 10 ปี AWS เปิดบริการ FreeRTOS Extended Maintenance Plan (EMP) บริการแพตช์ความปลอดภัยให้กับ FreeRTOS รุ่น LTS ต่อเนื่องหลังหมดอายุซัพพอร์ตไปอีก 10 ปี ปกติแล้ว FreeRTOS รุ่น LTS มีอายุซัพพอร์ตเพียง 2 ปีเท่านั้น แต่อายุการใช้งานอุปกรณ์ IoT มักยาวนานนับสิบปี และผู้พัฒนาหลายรายก็ไม่พร้อมพอร์ตแอปพลิเคชั่นข้ามเวอร์ชั่นบ่อยๆ รวมถึงตัว API ของระบบปฎิบัติการก็อาจจะมีความเปลี่ยนแปลง รุ่น LTS ที่มีการใช้งานอยู่ตอนนี้เช่น FreeRTOS 202012.01 LTS จะหมดอายุซัพพอร์ตปี 2023 หากซื้อบริการ EMP ก็จะใช้งานได้ถึงปี 2033 เลยทีเดียว บริการนี้ไม่ฟรีแต่ทาง AWS ยังไม่เปิดเผยค่าบริการ ผู้ใช้ต้องสมัครเข้าบริการ EMP แบบรายปี และต้องยอมรับข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล จากนั้นจะได้รับซอร์สโค้ดที่อุดช่องโหว่ของ FreeRTOS จาก repository ส่วนตัว และหากมีปัญหาในการใช้งานก็ต้องซื้อบริการซัพพอร์ตแยกออกไป ที่มา - AWS
# สัญญาณชี้ ไมโครซอฟท์อาจทำ Xbox แบบพกพา ใช้ชิป Snapdragon G3x Gen 1 เมื่อวานนี้ Qualcomm เปิดตัวชิป Snapdragon G3x Gen 1 สำหรับเครื่องเกมพกพาพลัง Android ที่ได้ Razer ทำเครื่องต้นแบบ Developer Kit สำหรับนักพัฒนา หน้าตาคล้าย Nintendo Switch มาให้ดูกัน เครื่องต้นแบบของ Razer ทำให้หลายๆ คนตั้งคำถามว่าเราจะได้เห็นเครื่องเกมพกพานี้ออกทำตลาดจริงๆ หรือไม่ และโดยแบรนด์ใดบ้าง เว็บไซต์ข่าวสายไมโครซอฟท์ Windows Central ตั้งข้อสังเกตว่า เครื่องต้นแบบของ Razer ใช้การเรียงปุ่ม ABXY แบบเดียวกับคอนโทรลเลอร์ Xbox (สีปุ่มก็เหมือน) และในพรีเซนต์ของ Qualcomm ได้ยกตัวอย่างการเชื่อมต่อบริการคลาวด์เกมมิ่ง พร้อมขึ้นโลโก้ Xbox Cloud Gaming (xCloud) ด้วยเลยเสร็จสรรพ นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าวของ Qualcomm ยังได้ Panos Panay หัวหน้าทีม Windows และ Surface วิดีโอคอลล์มาร่วมพูดคุย แต่ก็พูดถึงเรื่อง Snapdragon 8cx Gen 3 สำหรับพีซี เป็นหลัก Windows Central บอกว่าได้ยินข่าวลือเรื่องไมโครซอฟท์ทำเครื่องต้นแบบ Xbox แบบพกพาอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมากนัก แต่การมาถึงของชิป Qualcomm G3x Gen 1 ทำให้เราน่าจะได้เห็นเครื่องเล่นเกม Android ที่เชื่อมต่อ xCloud ได้ เพียงแต่จะเป็นเครื่องแบรนด์ไมโครซอฟท์ทำเอง หรือทำเป็นแพลตฟอร์มให้บริษัทฮาร์ดแวร์อย่าง Razer ผลิตขายอีกที เป็นสิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไป ที่มา - Windows Central
# EA โยก Vince Zampella ซีอีโอทีมสร้าง Apex Legends มานั่งแท่นคุมซีรีส์ Battlefield หลัง Battlefield 2042 เปิดตัวได้แบบไม่น่าประทับใจ EA เลยเริ่มมีทีท่าจะปรับทีมบริหาร และปรับโครงสร้างเกมซะใหม่ โดยเว็บไซต์ Gamespot รายงานว่า EA เตรียมโยก Vince Zampella มาคุมซีรีส์เกม Battlefield แทน หลัง Oskar Gabrielson ผู้จัดการทั่วไปของ DICE เตรียมลาออกจากบริษัท Vince Zampella เคยเป็นอดีตซีอีโอของ Infinity Ward ทีมสร้าง Call of Duty ตระกูล Modern Warfare ก่อนจะแยกทางกับ Activision มาเป็นซีอีโอของ Respawn Entertainment เพื่อสร้าง Titanfall ก่อนจะถูก EA ซื้อไป และพัฒนาเกม Apex Legends ที่ฮิตติดลมบน รวมไปถึง Star Wars: Jedi Fallen Order ที่ได้เสียงตอบรับในทางบวก นอกจากนี้ Gamespot ยังรายงานว่า EA เตรียมขยายจักรวาล Battlefield โดยตั้งทีมในเมืองซีแอตเทิลที่นำทีมโดย Marcus Lehto อดีตทีมงานเกม Halo เพื่อสร้างเกม Battlefield แนวเนื้อเรื่อง ส่วนสตูดิโอ Ripple Effect ผู้สร้างเกม Medal of Honor ภาครีบูตปี 2010 ของ EA และโหมด Portal ใน Battlefield 2042 ก็กำลังทำเกมใหม่ที่จะอิงจากจักรวาลเกม Battlefield 2042 เช่นกัน ภาพจาก Twitter: Vince Zampella ที่มา - Gamespot
# AWS เปิดตัว Amplify Studio แปลงดีไซน์จาก Figma เป็นโค้ด React แบบไม่ต้องโค้ดเอง AWS Amplify เป็นบริการ backend สำหรับเว็บแอพและแอพมือถือ (ลักษณะเดียวกับ Firebase) ที่ช่วยจัดการระบบล็อกอิน, การเก็บข้อมูลแอพ (DataStore/Storage), การแจ้งเตือน-ส่งข้อความ (push notification/PubSub) ในงาน AWS re:Invent 2021 รอบล่าสุด Amazon เปิดตัว AWS Amplify Studio ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟซแบบวิชวลสำหรับจัดการ UI แบบลากแล้ววาง ไม่ต้องเขียนโค้ด เท่านั้นยังไม่พอ Amplify Studio ยังรองรับการแปลงดีไซน์จากโปรแกรมออกแบบยอดนิยม Figma มาเป็นโค้ด React UI เพื่อนำไปใช้ต่อบนเว็บ-แอพให้อัตโนมัติด้วย วิธีการใช้งานคือเชื่อมบัญชี Figma เข้ากับ Amplify แล้วสามารถดึงไฟล์จาก Figma มาใช้ได้โดยตรง ชิ้นส่วนคอมโพเนนต์จาก Figma จะโผล่เข้ามาใน UI Library ของ Amplify และผู้ใช้สามารถเลือกเชื่อมชิ้นส่วน UI เข้ากับแหล่งข้อมูลที่ต้องการได้ เมื่อปรับแต่งจนเป็นที่พอใจแล้วก็สั่ง gen code ออกมาเป็น React ได้เลย ที่มา - AWS Blog
# Amazon CodeGuru เพิ่มฟีเจอร์ Secrets Detector สแกนรหัสผ่านและคีย์ที่เผลอฝังไว้ในโค้ด Amazon CodeGuru Reviewer บริการบน AWS ที่ใช้รีวิวคุณภาพของโค้ดที่เขียน เพิ่มฟีเจอร์ Secrets Detector ช่วยตรวจหาว่าโปรแกรมเมอร์เผลอฝังรหัสผ่านหรือคีย์ API/SSH ลงไปในโค้ดหรือไม่ ฟีเจอร์นี้เชื่อมต่อกับ AWS Secrets Manager ซึ่งเป็นบริการจัดการรหัสผ่านและคีย์ของ AWS ที่สามารถช่วยหมุนสลับคีย์ (rotate) ให้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ได้ Amazon บอกว่าฟีเจอร์สแกนคีย์ รู้จักประเภทคีย์ยอดนิยม เช่น Atlassian, GitHub, Mailchimp, Salesforce, SendGrid, Shopify, Slack, Stripe, Tableau, Telegram, Twilio รวมถึงอ่านค่าไฟล์คอนฟิกหลากหลายประเภท เช่น .json, .yml, .yaml, .conf, .ini เป็นต้น เมื่อค้นพบคีย์ที่ฝังในโค้ดแล้ว CodeGuru จะแนะนำให้โปรแกรมเมอร์เปลี่ยนมาเก็บคีย์ด้วย Secrets Manager แทน พร้อมแนะนำโค้ดตัวอย่างให้ด้วย บริการสแกนคีย์เปิดให้ใช้งานฟรีสำหรับคนที่ใช้ CodeGuru Reviewer อยู่แล้ว ส่วนตัว CodeGuru เองเป็นบริการคิดเงินตามปริมาณโค้ดที่ต้องการตรวจสอบ บริการลักษณะนี้ไม่ใช่ของใหม่ โดยก่อนหน้านี้ GitHub มีบริการลักษณะเดียวกันชื่อ Secret Scanning ไว้สแกนรหัสผ่านและคีย์ในโค้ดเช่นกัน ที่มา - AWS Blog
# BadgerDAO ถูกแฮก คนฝากเงินโดดดูดออกจาก DeFi เกือบ 4,000 ล้านบาท BadgerDAO บริการ DeFi สำหรับฟาร์มเงิน รายงานว่าเงินผู้ใช้ถูกถอนโดยไม่ได้รับอนุญาต และตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าคนร้ายถอนเงินออกไปได้อย่างไร หรือมูลค่าเงินที่ถูกขโมยเงินออกไปเป็นมูลค่าเท่าใด แต่บริษัทวิเคราะห์บล็อคเชน PeckShield ออกมารายงานว่ามูลค่ารวมน่าจะอยู่ที่ 2,100 BTC กับอีก 151 ETH รวมมูลค่าประมาณ 120 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท ตอนนี้ทาง BadgerDAO ยังไม่ระบุว่าช่องโหว่ที่คนร้ายโจมตีนั้นใช่ช่องทางใด แต่ทีมงานก็บอกกับผู้ใช้ว่ากำลังสงสัยว่าคนร้ายแฮกมาทางหน้าเว็บ ไม่ใช่ตัว smart contract โดยตรง และตอนนี้กำลังทำงานร่วมกับ Chainslysis เพื่อสอบสวนเหตุการณ์ ระหว่างนี้ BadgerDAO หยุดการทำงานของ smart contract ไปทั้งหมดเพื่อสอบสวนปัญหา หน้าเว็บของ Badger ระบุว่ามีทรัพย์สินอยู่รวมกว่าพันล้านดอลลาร์ ที่มา - The Verge
# [ลือ] กูเกิลเดินหน้าออกนาฬิกา Pixel Watch ในปี 2022 พัฒนาโดยทีม Pixel เอง Business Insider รายงานข่าวลือนาฬิกา Pixel Watch รอบใหม่ว่า คราวนี้กูเกิลตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้จริงจัง และมีแผนเปิดตัวสินค้าในปี 2022 แต่ไม่ระบุช่วงเวลา นาฬิกา Pixel Watch ที่กำลังพัฒนาอยู่ใช้โค้ดเนมว่า "Rohan" พัฒนาโดยทีม Pixel เอง ไม่ใช่ทีม Fitbit ที่ซื้อกิจการมา ส่วนเว็บไซต์ The Verge อ้างข้อมูลอีกแหล่งว่านาฬิกาจะราคาแพงกว่า Fitbit และมีตลาดใกล้เคียงกับ Apple Watch มากกว่า ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่ากูเกิลจะใช้ชื่อไหนทำตลาด ระหว่าง Pixel Watch หรือ Android Watch นอกจากนี้ กูเกิลยังพัฒนาระบบการเชื่อมต่อ Fitbit กับระบบปฏิบัติการ Wear OS อีกทาง โดยใช้โค้ดเนมว่า "Nightlight" ภาพนาฬิกาจากเว็บไซต์ Wear OS (ไม่ใช่ Pixel Watch) ที่มา - The Verge
# เป๋าตัง เป็นแอปยอดนิยมปี 2021 ของ App Store ประเทศไทย นอกจากแอปยอดเยี่ยมแห่งปี App Store Awards 2021 แล้ว แอปเปิลก็ประกาศอันดับแอปยอดนิยมที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดของปี 2021 ด้วยเช่นกัน โดยอันดับของ App Store ประเทศไทยนั้น แอป iPhone ฟรีที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดคือ เป๋าตัง แอปที่คนไทยทั่วประเทศน่าจะคุ้นเคยกันดี ส่วนแอปเสียเงินที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดคือ Forest แอปสำหรับลดการติดสมาร์ทโฟน ผ่านการปลูกต้นไม้ดิจิทัล ส่วนอันดับเกมนั้น RoV ยังคงเป็นเกมยอดฮิตทั้งบน iPhone และ iPad ขณะที่ Minecraft ก็ครองที่หนึ่งในหมวดเกมเสียเงิน รายชื่อแอปที่ติดอันดับจำนวนดาวน์โหลดสูงสุดทั้งหมดมีดังนี้ แอป iPhone ฟรี ยอดนิยม เป๋าตัง หมอพร้อม TikTok Instagram Facebook แอป iPhone เสียเงิน ยอดนิยม Forest GoodNotes 5 MOODA TouchReTouch Human Anatomy Atlas 2021 เกม iPhone ฟรี ยอดนิยม RoV Free Fire PUBG MOBILE Subway Surfers Among Us! เกม iPhone เสียเงิน ยอดนิยม Minecraft Football Manager 2021 Small Farm Plus Grand Theft Auto: San Andreas Hitman Sniper แอป iPad ฟรี ยอดนิยม Zoom YouTube TikTok LINE Facebook แอป iPad เสียเงิน ยอดนิยม GoodNotes 5 Procreate Notability Human Anatomy Atlas 2021 iFontMaker เกม iPad ฟรี ยอดนิยม RoV ROBLOX Among Us! Subway Surfers PUBG MOBILE เกม iPad เสียเงิน ยอดนิยม Minecraft Stardew Valley Pocket Build Football Manager 2021 Hitman Sniper เกม Apple Arcade ยอดนิยม Oceanhorn 2 NBA 2K21 Arcade Edition Skate City Sonic Racing Sneaky Sasquatch ที่มา: Today ใน App Store ผ่าน MacRumors
# FTC ขวางดีล NVIDIA ซื้อ Arm บอกว่าปิดกั้นการแข่งขัน มีโอกาสกีดกันคู่แข่งสูง คณะกรรมการการค้าของสหรัฐ (Federal Trade Commission หรือ FTC) ลงมติ 4-0 ขวางดีล NVIDIA ซื้อกิจการ Arm มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามความคาดหมาย ด้วยเหตุผลว่าการซื้อกิจการจะทำให้เกิดการกีดกันคู่แข่ง ปิดกั้นการแข่งขันและนวัตกรรม FTC ให้เหตุผลว่าโมเดลธุรกิจของ Arm คือการขายไลเซนส์และเทคโนโลยีให้ผู้ผลิตชิปรายต่างๆ ซึ่งเป็นคู่แข่งของ NVIDIA ด้วย และบริษัทเหล่านี้ก็แชร์ความลับทางการค้ากลับไปให้ Arm เช่นกัน ดังนั้น Arm ต้องรักษาความเป็นกลาง หาก NVIDIA กลายเป็นเจ้าของ Arm ย่อมทำให้สภาวะนี้เสียไป และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมจำนวนมาก เช่น ระบบรถยนต์ไร้คนขับ, การ์ดเครือข่ายรุ่นใหม่ที่เป็น DPU SmartNIC และซีพียู Arm สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ขั้นถัดไป คณะกรรมการ FTC จะส่งเรื่องไปยังศาลชอง FTC เอง (FTC มีอำนาจตัดสินคดีเอง) โดยมีกำหนดไต่สวนในวันที่ 9 สิงหาคม 2022 นอกจาก FTC ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกาแล้ว ดีล NVIDIA-Arm ยังมีแนวโน้มที่จะถูกสกัดกั้นในอีกหลายประเทศ เช่น CMA ของสหราชอาณาจักรก็แสดงความกังวลต่อดีลนี้ แม้กระบวนการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นก็ตาม นอกจากนี้ FTC ยังระบุว่าพูดคุยกับหน่วยงานแบบเดียวกันของ EU, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ด้วย ที่มา - FTC
# ดีใจน้ำตาไหล ? ยังครองแชมป์ Emoji ยอดนิยมแห่งปี 2021 Unicode Consortium หน่วยงานที่รับรองมาตรฐานการออกอีโมจิ รายงานสถิติอีโมจิยอดนิยมของปี 2021 โดยใบหน้าดีใจพร้อมน้ำตาไหล หรือ tears of joy (?) เป็นอีโมจิที่คนนิยมส่งหากันมากที่สุด ตามด้วยหัวใจสีแดง (❤️) อยู่ในอันดับที่ 2 ข้อมูลน่าสนใจจากการจัดอันดับนี้พบว่าอีโมจิยอดนิยมใน 10 อันดับแรกนั้น ของปี 2021 เทียบกับปี 2019 ซึ่งมีการจัดอันดับเช่นกัน คล้ายกันมาก โดยมีอีโมจิที่ต่างกันเพียง 1 รายการ รวมทั้งอันดับ 1-2 ก็เหมือนเดิม เมื่อจัดกลุ่มดูว่าอีโมจิประเภทไหนที่คนนิยมส่ง พบว่าใบหน้ายิ้มในแบบต่าง ๆ เป็นกลุ่มอีโมจิที่คนส่งหากันมากที่สุด ตามด้วยหัวใจในรูปแบบต่าง ๆ และกลุ่มใบหน้าที่แสดงความกังวล ดูรายละเอียดอันดับอีโมจิยอดนิยมแบบแยกรายหมวดได้จากที่มา ที่มา: Unicode Consortium
# Uber อินเดีย เพิ่มบริการจองรถผ่านการแชตใน WhatsApp Uber ในอินเดียประกาศเพิ่มบริการจองรถโดยสาร ผ่าน WhatsApp ซึ่งเป็นแอพแชตที่คนอินเดียนิยมใช้กันมากที่สุด และเป็นครั้งแรกที่ Uber ให้บริการจองรถผ่านระบบแชตแบบนี้เช่นกัน ขั้นตอนการจองรถโดยสารนั้น ผู้ใช้งานต้องทำผ่านบัญชีทางการของ Uber ใน WhatsApp ซึ่งเป็นแชตบอต โดยไม่ต้องโหลดแอพ Uber เพิ่มเติม ข้อมูลที่ต้องแจ้งได้แก่จุดรับ จุดส่ง และระบบจะแจ้งราคาค่าโดยสารเบื้องต้น พร้อมบอกระยะเวลาที่คนขับจะเดินทางมาถึง ส่วนฝั่งคนขับนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทุกอย่างยังทำงานผ่านแอป Uber แบบเดิม บริการนี้ Uber จะเริ่มทดสอบที่เมือง Lucknow เป็นที่แรก และจะขยายไป New Delhi และเมืองอื่น ๆ ทั่วประเทศอินเดียต่อไป ที่มา: Uber India
# Google แจ้งพนักงาน เลื่อนการกลับมาทำงานในสำนักงาน 10 มกราคม ออกไปก่อน กูเกิลส่งอีเมลแจ้งพนักงานในอเมริกา ว่าได้เลื่อนข้อกำหนดที่พนักงานจะต้องกลับเข้ามาทำงานในสำนักงานวันที่ 10 มกราคมปีหน้า ออกไปก่อน โดยจะแจ้งวันอีกครั้งเมื่อสถานการณ์ลงตัวมากขึ้น ก่อนหน้านี้กูเกิลแจ้งพนักงานถึงการกลับเข้ามาทำงานในสำนักงาน โดยกำหนดให้เข้ามาในสำนักงาน 3 วันต่อสัปดาห์ ส่วนเงื่อนไขการได้รับวัคซีนนั้นให้เป็นไปตามข้อกำหนดของแต่ละพื้นที่ ในอีเมลนั้นกูเกิลบอกว่าแม้จะไม่บังคับให้เข้าสำนักงานในตอนนี้ แต่กูเกิลก็ยังสนับสนุนให้พนักงานกลับเข้ามา เพราะการทำงานแบบพบปะกัน ในสภาพแวดล้อมที่ทำงานนั้นดีกับทุกฝ่ายมากกว่า ที่มา: CNBC
# App Store Awards 2021 - Toca Life World และ LumaFusion ได้รางวัลแอปแห่งปี แอปเปิลประกาศรางวัล App Store Awards 2021 ให้กับแอปและเกมที่ดีที่สุดประจำปี โดยปีนี้มีทั้งหมด 15 รายการ ผ่านการคัดเลือกโดยทีมบรรณาธิการของ App Store ทั่วโลก ผู้ชนะจะได้รางวัลเป็นสัญลักษณ์ App Store สีฟ้า ผลิตจากอลูมิเนียมรีไซเคิล 100% พร้อมสลักชื่อผู้ชนะเอาไว้ด้านหลัง รายชื่อแอปที่ได้รางวัลทั้งหมดมีดังนี้ แอป iPhone แห่งปี - Toca Life World แอปออกแบบสำหรับเด็ก แอป iPad แห่งปี - LumaFusion แอปตัดต่อแก้ไขวิดีโอ แอป Mac แห่งปี - Craft แอป Apple TV แห่งปี - DAZN แอป Apple Watch แห่งปี - Carrot Weather เกม iPhone แห่งปี - League of Legends: Wild Rift เกม iPad แห่งปี - MARVEL Future Revolution เกม Mac แห่งปี - Myst เกม Apple TV แห่งปี - Space Marshals 3​ เกม Apple Arcade แห่งปี - Fantasian และกลุ่มสุดท้ายเทรนด์แห่งปี 2021 ซึ่งทีมบรรณาธิการให้ "การติดต่อถึงกัน" หรือ Connection เป็นเทรนด์ โดยแอปที่ทำให้คนติดต่อถึงกันในรูปแบบต่าง ๆ ที่ได้รางวัลทั้งหมด 5 แอปมีดังนี้ Among Us! Bumble Canva EatOkra Peanut ที่มา: แอปเปิล
# Vivaldi ออกเวอร์ชัน 5.0 เพิ่ม Theme Editor ปรับแต่งธีมได้ละเอียด แชร์ธีมขึ้นเว็บได้ เบราว์เซอร์ Vivaldi ออกเวอร์ชัน 5.0 มีของใหม่ที่น่าสนใจดังนี้ Theme Editor ที่เปิดให้ปรับแต่งธีมได้ละเอียด ถึงขั้นกำหนดความโค้งของมุม และความเบลอของพื้นหลัง ทำธีมเสร็จแล้วนะไปแชร์ลง vivaldi.net แจกจ่ายให้คนอื่นใช้งานได้ Translate Panel แถบด้านข้าง (panel) สำหรับแปลภาษา ไม่ต้องเปิดหน้าเว็บแยกต่างหาก ใช้เอนจินของบริษัท Lingvanex ที่รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ Download pop-out หน้ารายการไฟล์ดาวน์โหลด สามารถเลือกได้ว่าให้แสดงเป็นแถบข้าง (panel) แบบเดิม หรือกดแล้วเป็นหน้าต่างใหม่ขึ้นมาทับ (pop-out) ส่วน Vivaldi 5.0 for Android เพิ่มฟีเจอร์แท็บ 2 แถว สำหรับคนที่ต้องจัดการแท็บมากๆ จะได้สลับแท็บได้รวดเร็ว, เลือกกำหนด Dark Theme เฉพาะบางเว็บเพจได้, การใช้งานบนแท็บเล็ต เพิ่มอินเทอร์เฟซ panel เหมือนกับเวอร์ชันเดสก์ท็อปแล้ว ที่มา - Vivaldi, Vivaldi (Android)
# Grab ปิดดีล SPAC นำหุ้นเข้าเทรดในตลาด Nasdaq แล้ว Grab Holdings ได้นำบริษัทเข้าตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐฯ ได้แล้วอย่างเป็นทางการด้วยวิธี SPAC ภายใต้สัญลักษณ์การซื้อขาย GRAB โดยวันนี้ราคาเปิดของหุ้นอยู่ที่ 13.06 ดอลลาร์ Grab นำบริษัทเข้าตลาดหุ้น Nasdaq ด้วยวิธี SPAC ผ่านการควบรวมกับบริษัท Altimeter Growth Corp. โดยดีลของ Grab ครั้งนี้ทำให้บริษัทมูลค่ารวมเกือบ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน Grab ดำเนินธุรกิจหลากหลายบนแพลตฟอร์มดิจิทัลผ่านซุปเปอร์แอปของตัวเอง ตั้งแต่เรียกรถ, ส่งอาหาร, จองโรงแรม, ไปจนถึงฟินเทค มีผู้ใช้งานร่วมกว่า 187 ล้านคน โดยข้อมูลจากรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ Grab ยังบันทึกผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 652 ล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ เซ็นทรัลรีเทล (CRC) เพิ่งจะประกาศเข้าซื้อหุ้น Porto Worldwide ที่เป็นผู้ถือหุ้น Grab ประเทศไทยอีกที ทำให้ CRC ถือหุ้นทางอ้อมใน Grab ไทย 40% และ Porto Worldwide มีสิทธิ์จะแลกหุ้น Grab ไทยเป็น Grab Holdings ที่เพิ่งเข้าตลาด Nasdaq นี้ด้วย ที่มา - CNBC, Financial Times disclaimer: LINE MAN Wongnai บริษัทแม่ของ Blognone เป็นคู่แข่งธุรกิจของ Grab ในประเทศไทย
# American Express ร่วมมือกับ Opy ให้บริการ Buy Now, Pay Later สำหรับสินเชื่อก้อนใหญ่ American Express ผู้ให้บริการบัตรเครดิตของสหรัฐฯ ประกาศร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Opy ผู้ให้บริการด้าน buy now, pay later (BNPL) อย่างเป็นทางการ เพื่อให้บริการสมาชิกบัตร Amex ในการผ่อนชำระสินค้า โดยเน้นในกลุ่มสุขภาพและยานยนต์ Opy เป็นบริษัทลูกของในสหรัฐฯ Openpay บริษัทฟินเทคจากออสเตรเลีย โดย Opy เรียกตัวเองว่า buy now, pay smarter ซึ่งเป็น BNPL ที่พัฒนาขึ้นมาอีกขั้น Opy จะให้สินเชื่อสูงสุดถึง 20,000 ดอลลาร์ต่อครั้ง, คิดค่าธรรมเนียมคงที่, อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 9.99% และให้ผ่อนชำระได้นานสุดถึง 24 เดือน ต่างกับ Affirm หรือ Klarna ที่มีระยะผ่อนชำระสั้นกว่า และกลุ่มลูกค้าของ Opy จะมีอายุราว 40 ปี ในขณะที่ BNPL ส่วนมากจะเป็นลูกค้าอายุราว 20 ต้น ๆ แม้ปัจจุบัน Amex จะมีบริการ BNPL อยู่แล้วในชื่อ Pay it Plan it ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2017 ส่วนการร่วมมือกับ Opy จะเน้นสินเชื่อก้อนใหญ่และระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น ที่มา - TechCrunch ภาพจาก American Express
# Tesla เปิดตัว Cybersquad รถ ATV ไฟฟ้าสำหรับเด็ก ดีไซน์คล้าย Cybertruck ราคา 65,000 บาท Tesla เปิดตัวสินค้าใหม่ (อีกแล้ว) ชื่อ Cybersquad for Kids เป็นรถ ATV 4 ล้อสำหรับเด็ก ที่ใช้ดีไซน์หลงเหลี่ยมแบบเดียวกับรถกระบะ Cybertruck ขายในราคา 1,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 65,000 บาท) ในหน้าเว็บของ Tesla ระบุว่าตัวถังใช้วัสดุเป็นเหล็ก มีดิสก์เบรกด้านหลัง แถบไฟ LED ใช้แบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน วิ่งได้ไกล 15 ไมล์ ความเร็วสูงสุด 10 ไมล์ต่อชั่วโมง เหมาะสำหรับเด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไป ที่มา - Tesla, Electrek
# KBank เปิดตัวแอพ K PLUS เวอร์ชันเวียดนาม, เปิดบริษัท KBTG Vietnam แล้ว นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย แถลงความคืบหน้าของการขยายธุรกิจในประเทศเวียดนาม โดยใช้แนวทางการมีสาขาจำนวนไม่มาก แต่ช่องทางดิจิทัลให้บริการลูกค้าแทน ด้วยแอพ K PLUS ที่พัฒนาโดย KBTG และคนไทยคุ้นเคยอยู่แล้ว นายภัทรพงศ์ ยังให้ข้อมูลว่าปัจจุบัน KBank ในประเทศลาว มีผู้ใช้งานแอพของธนาคารแล้ว 2 แสนราย ด้านนายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KASIKORN Business-Technology Group (KBTG) ระบุว่าตอนนี้เปิด KBTG Vietnam แล้วเพื่อดึงดูดนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากประเทศเวียดนามมาทำงานด้วย สำนักงานตั้งอยู่ที่เขต 12 ในเมืองโฮจิมิห์นซิตี้ ตั้งเป้ามีพนักงาน 80 คนในปี 2022 และขยายเป็น 350 คนในปี 2026 ที่มา - งานแถลงข่าว Regional Business Townhall > The Metamorphosis ของธนาคารกสิกรไทย
# นักการเมืองสหรัฐเสนอกฎหมาย ห้ามบ็อตกว้านซื้อสินค้าออนไลน์เพื่อทำกำไรต่อ นักการเมืองสหรัฐจากพรรคเดโมแครต นำโดย ส.ส. Paul Tonko ออกมาเสนอร่างกฎหมาย Stopping Grinch Bots Act เอาผิดบ็อตช็อปปิ้งที่มาไล่กวาดซื้อสินค้าออนไลน์บางอย่าง กฎหมายฉบับนี้ใช้คำว่า "cyber Grinch" นิยามพฤติกรรมของบ็อตที่กว้านซื้อของเล่นยอดนิยมในช่วงเทศกาล แล้วนำมาขายต่อในราคาที่แพงขึ้น (คำว่า Grinch หมายถึงตัวละครในนิทานเด็กของ Dr. Seuss ที่ขโมยของขวัญของเด็กๆ, เรื่องเดียวที่ดัดแปลงเป็นหนัง How the Grinch Stole Christmas!) Paul Tonko บอกว่าบ็อตเหล่านี้ทำลายความฝันของเด็กๆ และโอกาสที่ครอบครัวจะมีความสุข จากการได้อยู่พร้อมหน้าในช่วงเทศกาล แกะของขวัญร่วมกัน บ็อตเหล่านี้ไม่ได้แค่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค แต่ยังสร้างปัญหาต่อธุรกิจขนาดเล็ก ที่ต้องการหาสินค้ามาขายในช่วงเทศกาลด้วย กลุ่มของ Tonko ไม่ได้ขายฝันอย่างเดียว เพราะเคยเสนอร่างกฎหมาย Better Online Ticket Sales Act (BOTS Act) ที่แบนการใช้บ็อตซื้อตั๋วคอนเสิร์ตหรืออีเวนต์ยอดนิยม แล้วนำมาขายต่อทำกำไรจากแฟนๆ จนผ่านเป็นกฎหมายสำเร็จมาแล้วเมื่อปี 2016 รอบนี้ทางกลุ่มระบุว่าจะนำแนวทางของ BOTS Act มาใช้กับกฎหมายฉบับใหม่ด้วยเช่นกัน ที่มา - Paul Tonko, Eurogamer
# Qualcomm เปิดตัวชิป Snapdragon 8cx Gen 3 และ 7c+ Gen 3 สำหรับพีซีพลัง Arm ของใหม่ของ Qualcomm ในปีนี้ นอกจาก Snapdragon 8 Gen 1 สำหรับมือถือ และ Snapdragon G3x สำหรับเครื่องเกมพกพา ยังมีชิป SoC สำหรับพีซีอีกสองตัวคือ Snapdragon 8cx Gen 3 และ Snapdragon 7c+ Gen 3 Snapdragon 8cx Gen 3 เป็นภาคต่อของ Snapdragon 8cx Gen 2 5G ที่ออกช่วงกลางปี 2020 ที่ใช้ในโน้ตบุ๊กสายบางเบาบางรุ่น เช่น HP Elite Folio, Lenovo IdeaPad 5G, Galaxy Book Go รวมถึงใช้เป็นฐานของ Microsoft SQ2 ที่ใช้ใน Surface Pro X ด้วย รอบนี้ Qualcomm ฉีกธรรมเนียมเดิม ไม่มีเลขรุ่นย่อยของซีพียูและจีพียูแล้ว บอกแค่ใช้ชื่อ Kryo/Adreno เหมือนเดิม ฝั่งซีพียูมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือใช้คอร์ใหญ่ "Prime" เป็น Cortex-X1 จำนวน 4 คอร์ ร่วมกับคอร์กลาง Cortex-A78 อีก 4 คอร์ ประสิทธิภาพซีพียูดีขึ้นสูงสุด 40% สำหรับงานเธร็ดเดียว และ 85% สำหรับงานมัลติเธร็ด ฝั่งจีพียูแทบไม่มีรายละเอียดบอก ยกเว้นประสิทธิภาพดีขึ้นสูงสุด 60%, ประสิทธิภาพ AI ที่ 29 TOPS ดีขึ้นจากเดิม 3 เท่า, รองรับชิปโมเด็มหลายตัว เช่น Snapdragon X62/X55,X65 ซึ่งทุกตัวรองรับ 5G, ชิป Wi-Fi FastConnect 6900, ใช้การผลิตที่ 5nm ซึ่งจะถือเป็นซีพียูสำหรับพีซีตัวแรก Snapdragon 7c+ Gen 3 เป็นการอัพเกรดจาก Snapdragon 7c Gen 2 ชิปสำหรับพีซีที่ราคาถูกลงมาอีกระดับ ซีพียูเป็น Kryo 8 คอร์ เป็น Cortex-A73 4 คอร์ + Cortex-A55 4 คอร์ มีประสิทธิภาพดีขึ้น 30% เธร็ดเดี่ยว, 60% มัลติเธร็ด, จีพียู Adreno ไม่ระบุรุ่น ประสิทธิภาพดีขึ้น 70%, รองรับชิปโมเด็ม Snapdragon X53 5G, ชิปไร้สาย FastConnect 6700, ผลิตที่ 6 นาโนเมตร โน้ตบุ๊กที่ใช้ชิปทั้งสองรุ่นจะเริ่มวางขายช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ที่มา - Qualcomm, Notebookcheck
# สายปั่นงานเข้า ผู้เล่น Forza Horizon 5 แต่งรถเป็นรูปคิม จอง อึน คู่โลโก้ KFC โดนแบนเกือบ 8,000 ปี ผู้เล่นเกม Forza Horizon 5 งานเข้า หลังแต่งรถด้วยรูปหน้าคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ คู่กับโลโก้ KFC ที่น่าจะล้อ Kim Jong Un Fried Chicken รวมถึงสัญลักษณ์แบรนด์อื่นๆ ที่เอามาแปลงล้อเลียน เช่น Nike ที่เปลี่ยนเป็น Nuke พร้อมแฮชแท็ก #SendNukes แต่หลังจากนั้นก็ถูกแบนโดยระบุปลดแบนในปี ค.ศ. 9999 รวมเวลาเกือบ 8,000 ปี การแบนครั้งนี้ไม่ได้เป็นการลงดาบโดย Playground Games ทีมพัฒนาของ Forza Horizon 5 แต่เป็นการแบนโดย Turn 10 Studios ทีมอื่นที่พัฒนาเกมในแฟรนไชส์ Forza เช่นกัน โดยคาดว่านอกจากคอนเทนต์เสี่ยงจากเกาหลีเหนือแล้ว เรื่องความเสี่ยงที่จะถูกแบรนด์ต่างๆ ฟ้องร้อง ก็เป็นอีกประเด็นที่ทำให้ผู้เล่นรายนี้ถูกแบน ที่มา - Geekculture
# เซ็นทรัลรีเทล ประกาศซื้อหุ้น Grab ประเทศไทย 40% มูลค่าดีล 4,500 ล้านบาท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า Hillborough Group ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CRC จะเข้าซื้อหุ้นของ Porto Worldwide (Porto WW) คิดเป็น 67% ของหุ้นทั้งหมด มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 4,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงของสัญญาซื้อขายหุ้นเมื่อปี 2562 ที่ผู้ถือหุ้นเดิม OAL Holding ใช้สิทธิขายหุ้นได้ ผลจากดีลดังกล่าวทำให้ CRC จะถือหุ้นใน แกร็บแท็กซี่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ผ่านการถือหุ้น Porto WW คิดเป็นสัดส่วน 40% โดย CRC มองว่าดีลนี้จะทำให้ Grab มาเสริมกับธุรกิจหลักสู่การเป็น Digital Retail ที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ CRC บอกว่าดีลดังกล่าวอาจได้ประโยชน์เพิ่มอีกทาง เนื่องจาก Porto WW ยังมีสิทธิหนึ่งครั้ง ที่จะแลกหุ้น Grab ประเทศไทย เป็นหุ้นของ Grab Holdings ซึ่งจะนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นแนสแดคคืนนี้วันแรก โดยมีเวลาใช้สิทธิ 60 วัน หลังจากหุ้นของ Grab เข้าตลาดหุ้นแล้ว 6 เดือน ที่มา: Central Retail disclaimer: LINE MAN Wongnai บริษัทแม่ของ Blognone เป็นคู่แข่งธุรกิจของ Grab ในประเทศไทย
# ใครห้าม แต่เราให้ - Facebook ผ่อนปรนเงื่อนไขโฆษณาคริปโตบนแพลตฟอร์ม Facebook ประกาศปรับข้อกำหนดการลงโฆษณาเกี่ยวกับเงินคริปโต จากก่อนหน้านี้ท่าทีของ Facebook คือไม่อนุญาตให้โฆษณาทุกกรณี จากนั้นก็ปรับมาเป็นผู้ลงโฆษณาต้องให้ Facebook ตรวจสอบข้อมูลความน่าเชื่อถือ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการแสดงข้อมูลใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล จากเดิมกำหนดเพียง 3 หน่วยงานเท่านั้น ได้เพิ่มเป็น 27 หน่วยงาน ซึ่งรวมทั้ง ใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ของ ก.ล.ต. ประเทศไทย ด้วย ซึ่งช่วยให้การตรวจสอบของ Facebook ทำได้สะดวกและแม่นยำมากขึ้น Facebook บอกว่าเงินคริปโตเริ่มมีบทบาทในหลายส่วนมากขึ้น Facebook จึงอาจปรับแก้ไขกฎได้อีกในอนาคตเมื่ออุตสาหกรรมรวมมีการเปลี่ยนแปลง ดูรายละเอียดเงื่อนไขการลงโฆษณาเงินคริปโตบน Facebook ที่ปรับปรุงใหม่ได้ที่นี่ ที่มา: Facebook
# Google เริ่มปล่อยฟีเจอร์กุญแจรถดิจิทัลให้ Pixel 6, Pixel 6 Pro และ Galaxy S21 ในบางประเทศ Google โฆษณาไว้ก่อนหน้านี้ว่า Android 12 จะมีฟีเจอร์กุญแจรถดิจิทัล (digital car key) ให้ใช้ปลดล็อกรถยนต์รุ่นที่รองรับได้ และวันนี้ก็เริ่มปล่อยอัพเดตฟีเจอร์นี้ให้ Pixel 6, Pixel 6 Pro และ Galaxy S21 ในบางประเทศแล้ว เบื้องต้นใช้ได้กับรถ BMW รุ่นที่รองรับ (ไม่ได้ระบุว่ารุ่นใดบ้าง) นอกจากนี้ยังเพิ่มฟีเจอร์ auto launch ให้รัน Android Auto อัตโนมัติเมื่อต่อมือถือเข้ากับรถที่รองรับ ปรับปรุง UI ของ Android Auto ให้เปิดเพลงและทำการค้นหาด้วยเสียงได้ง่ายขึ้น และในอนาคตจะปล่อยฟีเจอร์ Smart Reply ให้ตอบข้อความได้โดยใช้ Google Assistant ผู้ที่สนใจสามารถดูอัพเดตใหม่ทั้งหมดแบบเต็ม ได้ที่บล็อกของ Google ที่มา - Google
# แบงค์ชาติย้ำ ไม่สนับสนุนใช้เงินคริปโตชำระค่าสินค้าและบริการ เพราะผันผวนสูง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ย้ำจุดยืนท่าทีไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ เนื่องจากราคาสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนสูง ความเสี่ยงสูง อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน ที่จะส่งผลต่อร้านค้า ต่อเสถียรภาพของระบบการชำระเงิน เสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ และสร้างความเสียหายแก่คนทั่วไปได้ หลังก่อนหน้านี้เคยออกแถลงการณ์ว่าเงินคริปโตไม่เหมาะใช้แทนเงินสดมาก่อนแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม ธปท. ระบุว่ากำลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณารูปแบบการกำกับดูแลการให้บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อจำกัดความเสี่ยงข้างต้นอยู่ และยังให้ความสำคัญกับการนำพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และรักษาเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าการออกมาเน้นย้ำครั้งนี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่บริษัท Bitkub เริ่มเดินหน้าดีลชำระค่าสินค้าและบริการด้วยคริปโตมากขึ้น โดยจับมือกับ The Mall เปิดชำระเงินด้วยคริปโต นอกจากนี้ยังมีอีกหลายบริษัทเช่นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Ananda และบริษัทอื่นๆ ที่เริ่มให้ชำระค่าอสังหาริมทรัพย์ด้วยเงินคริปโตได้ ที่มา - ธนาคารแห่งประเทศไทย
# Qualcomm เปิดตัวชิป Snapdragon G3x สำหรับเครื่องเกมพกพา ได้ Razer ผลิตรุ่นต้นแบบ Qualcomm เปิดตัวชิป Snapdragon G3x ชิปที่ออกแบบมาเพื่อเครื่องเกมแบบพกพา ใส่ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ชาร์จเร็ว ต่อจอนอก รองรับ AR/VR รองรับคอนโทรลเลอร์ รองรับ 5G และ Wi-Fi 6E ได้ Razer บริษัทผลิตอุปกรณ์เกมชื่อดัง มาผลิตเครื่องเกมมือถือรุ่นต้นแบบสำหรับนักพัฒนา (Developer Kit) ให้ แต่ยังไม่มีแผนขายเครื่องนี้ให้คนทั่วไป ตัวเครื่องที่ Razer ผลิตให้ มาพร้อมหน้าจอ 120 Hz HDR OLED และจีพียู Adreno รุ่นพิเศษ เป้าหมายเล่นเกมอยู่ที่การรัน ความละเอียด 1080p ที่เฟรมเรต 120fps มาพร้อมพัดลม Active Cooling แบตเตอรี่ 6,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว และรัน Android ฟีเจอร์การเล่นเกมคือปรับแต่งปุ่มคอนโทรลเลอร์มาโดยเฉพาะ มีระบบสั่นแบบ Stereo Haptic สั่นสองข้าง รองรับการเล่นเกม Xbox Cloud Gaming และ Steam Remote Play ผ่าน Wi-Fi 6E เพื่อลดความหน่วง ด้านหน้ามีเว็บแคม 1080p มาให้ เพื่อให้สตรีมเมอร์สามารถเล่นไปและโชว์รีแอ็กชันไปด้วยได้ สำหรับผู้ใช้ทั่วไปคงต้องไปลุ้นกันอีกครั้งว่านอกจากเครื่องต้นแบบแล้ว Razer จะมีแผนนำไปพัฒนาเป็นเครื่องเล่นเกมมือถือเพื่อขายให้คนทั่วไปหรือไม่ หรือจะมี OEM เจ้าอื่นทำขายเมื่อไร ที่มา - GSM Arena, Qualcomm
# ปรับกลยุทธ์และพัฒนานวัตกรรม ฝ่าวิกฤติ Digital Disruption รับมือทุกกระแสการเปลี่ยนแปลง ด้วยการสร้างระบบไอทีที่แข็งแกร่ง รวดเร็ว และคุ้มค่า Leverage modernization technology to drive the business growth โลกดิจิทัลกำลังพลิกโฉมรูปแบบธุรกิจ ทางองค์กรจึงต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เกี่ยวกับการบริการลูกค้าและประสบการณ์ (Customer Experience) โดยใช้ข้อมูลเป็นตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง โดยสถาปัตยกรรมข้อมูลเดิม (Legacy architecture) อาจจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านความเร็ว ความยืดหยุ่น และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและในอนาคตได้ Challenge State: The difficult state to build cloud-native and microservices infrastructure. การปรับปรุงโครงสร้าง architecture บนระบบโครงสร้างพื้นฐาน ให้รองรับงาน innovation และงาน development ต่าง ๆ ในรูปแบบของ microservice หรือ cloud-native นั้น จึงอาจจะมีความซับซ้อนและยุ่งยากอยู่มาก ทั้งเรื่องการจัดหาอุปกรณ์ (Hardware compatibility) การติดตั้งระบบ และการจัดการข้อมูลในเวลาเดียวกัน เพื่อให้รองรับการขยายตัวของข้อมูลที่มีประมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และรองรับการขยายตัวของ service ที่จะต้องสามารถทำงานในรูปแบบของ automatic scaling และ CI/CD pipeline ได้ และยังต้องมีความปลอดภัยสูงสุดในการป้องกันข้อมูล ป้องกันการเข้าถึงระบบ และรองรับการสำรองข้อมูลด้วย IBM Spectrum Fusion – HCI เข้ามาตอบโจทย์ในความท้าทายนี้ให้กับลูกค้าที่มุ่งเน้นทางด้านการพัฒนานวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนองค์กร หรือพัฒนาระบบเพื่อเพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้น โดยโครงสร้างจะประกอบไปด้วย Compute/Storage/High Speed Network 100GbE, Rack 42U, Top of Rack switch Red Hat OpenShift System deploy on bare-metal ทำให้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และใช้งานได้ทั้ง container และ VMs ภายใต้ระบบเดียวกัน single management platform Software Defined Storage ช่วยจัดการเรื่องของ Global data access และการทำ data tiering ไปยัง disk, tape หรือ cloud ได้ สามารถเชื่อมต่อ External storage แบบ NFS กับ Storage เดิมทั้ง Dell-EMC/NetApp/Spectrum Scale หรือ S3 protocol ได้ Backup software bundled สามารถใช้งานสำรองข้อมูลผ่าน IBM Spectrum Protect Plus ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รองรับการทำงานแบบ Hybrid cloud เช่น IBM Cloud Satellite, Red Hat ACM เริ่มต้นการใช้งานระบบด้วย ระบบขนาดเล็กได้ตั้งแต่ 56TB usable เป็นต้นไป IBM Spectrum Fusion – HCI มาในรูปแบบของ Hyper-converged “Ready Infrastructure for container technology” อ่านข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.ibm.com/blogs/systems/ibm-rolls-out-spectrum-fusion-hci-all-in-one-cloud-native-storage/ รองรับ workload แบบ container, cloud-native หรือ microservices technology รองรับการทำงาน virtual machine (VMs) และ container สามารถนำมาใช้งานภายใต้ single platform เดียวกัน ผ่าน “Red Hat OpenShift” ซึ่งทำการ deploy อยู่ในระบบ HCI แบบ on bare-metal โดยไม่มี Hypervisor layer เข้ามากั้น ทำให้ workload ที่ทำงานอยู่บนระบบนี้ สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับทั้งงาน Opensource และ Enterprise software ลดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนเรื่องของ virtualize license ลงไปได้ เนื่องจากรูปแบบของ Infrastructure deploy on bare-metal จะไม่เสีย Hypervisor และ Management license ลดค่าใช้จ่าย Operating Systems (OS) license เมื่อ deploy ในรูปแบบของ container จะเป็นลักษณะของการ share OS และ Bin/Lib จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายลงไปได้อย่างมาก Single point support เมื่อเกิดปัญหา ลูกค้าสามารถเปิด ticket case จากทาง IBM จุดเดียวเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและติดต่อประสานงาน ลดความซับซ้อนยุ่งยาก ทำให้แก้ปัญหาได้รวดเร็ว Business use case: Digital Insurance – Digital Claim Processing System ธุรกิจทางด้านประกันภัย (Insurance) ทั้งระบบ Car insurance หรือ Health Insurance ก็ตาม เริ่มหันมามุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาระบบให้รองรับการพัฒนานวัตกรรมมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องที่ปรึกษาทางด้านสุขภาพหรือจะเป็นการพัฒนาระบบซื้อขายประกันแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความพึงพอใจ ความถูกต้องให้กับลูกค้า ระบบหนึ่งที่น่าสนใจคือ Digital Car Claim Processing System ถูกพัฒนาเพื่อตอบโจทย์เรื่องของการลด process และ ลดเวลาของการยื่นเคลมเอกสารจนถึง payment และ approve process จะต้องเกิดความถูกต้องโปร่งใส โดยระบบดังกล่าวนี้ช่วยให้การทำเคลม process ของลูกค้าลดเวลาไปได้ จากเป็นเดือนเหลือเพียง 5.5วัน เท่านั้น (รวมเวลาการตัดสินใจจากบุคคลที่ 3 ใน manual process รวมอยู่ประมาณ 3-5 วันแล้ว) โดยลูกค้าสามารถทำ claim process เสร็จสิ้นภายใน 1 สัปดาห์ (Business day) การพัฒนาระบบนี้นั้น อยู่บนพื้นฐานของโครงสร้างแบบ microservices และ cloud-native เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนา application/API process และการทำงานสามารถนำเอา IBM Business Automation เข้ามาช่วยทำเรื่องของ RPA process สามารถจำลองข้อมูล เพื่อแสดงข้อมูลของลูกค้าในการประเมินผล, การรีวิวราคาประเมินและคำนวณเวลาเบื้องต้นในการเคลมระบบ โดยใช้พื้นฐานของข้อมูลเดิมมาทำ analytic และดึงข้อมูลเก่ามาใช้งานผ่าน Global data access, การทำ Reporting claim, Internal evaluate claim และ Notification สามารถแจ้งเตือนเมื่อถึง process ต่างๆ ให้กับลูกค้าและทีมได้ ทั้งนี้ application ทั้งหมดยังรองรับการเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าอย่างปลอดภัยผ่าน policy ข้อกำหนดต่างๆ ผ่านทางระบบโครงสร้างที่มีความปลอดภัยสูง มีการ identify ตัวตน ก่อนเข้าถึงระบบ และสามารถเข้าถึง สืบค้น(Discovery) ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้เป็นเวลานานผ่านการทำ data archiving หรือ backup เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท คอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน จำกัด โทร 02 311 6881 # 7151, 7156 email : [email protected]
# Respawn ประกาศหยุดขาย Titanfall ภาคแรก แต่เซิร์ฟเวอร์ยังเล่นต่อได้ Respawn Entertainment ประกาศแผนการหยุดขายเกม Titanfall ภาคแรก โดยจะถอดออกจากหน้าร้านออนไลน์ มีผลทันทีในวันนี้ และถอดจากบริการ subscription อย่าง EA Play ในวันที่ 1 มีนาคม 2022 อย่างไรก็ตาม ตัวเซิร์ฟเวอร์จะยังให้บริการต่อไปตามปกติ Respawn บอกว่าจะยังโฟกัสที่เกมในปัจจุบันคือ Titanfall 2 และ Apex Legends ซึ่งเนื้อเรื่องอยู่ในจักรวาลเดียวกันหมด Titanfall ภาคแรกเป็นผลงานชิ้นแรกของ Respawn Entertainment ซึ่งเป็นทีมงานจากค่าย Infinity Ward แยกตัวออกมาตั้งค่ายเองในปี 2010 (EA ซื้อในปี 2017) แนวคิดของเกม Titanfall เป็นเกม FPS ลูกผสมที่มีทั้งคนและหุ่นยนต์ มีการเดินไต่กำแพงที่เป็นเอกลักษณ์ของเกมซีรีส์นี้ โดยเกมภาคแรกเป็นมัลติเพลเยอร์ล้วนๆ ไม่มีโหมดเนื้อเรื่องเลย (ภาคสองถึงมีโหมดเนื้อเรื่องเพิ่มเข้ามา) ที่มา - Kotaku
# Reddit เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ แสดงตัวเลขโหวต-คอมเมนต์ แบบเรียลไทม์ Reddit ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ เพื่อทำให้การใช้งานได้ประสบการณ์ที่ทันสถานการณ์เป็นปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ของใหม่ได้แก่อนิเมชันแสดงเวลามีโหวตที่กดเพิ่มเข้ามา เช่นเดียวกับตัวเลขแสดงว่าตอนนี้มีผู้อ่านหัวข้อดังกล่าวกี่คน และแสดงข้อมูลว่ามีกี่คนกำลังพิมพ์คอมเมนต์อยู่ในตอนนี้ นอกจากนี้เวลามีคอมเมนต์ใหม่ ก็แสดงกล่องเตือนขึ้นมาด้วย ฟีเจอร์ใหม่นี้มีผลกับผู้ใช้ Reddit ทุกคนตั้งแต่วันนี้ ทั้งบนเว็บ, iOS และ Android ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถปิดการแสดงดังกล่าวได้ (opt-out) ใน Settings ที่มา: Reddit
# Square ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Block - เป้าหมายเป็นมากกว่าแพลตฟอร์มรับจ่ายเงินของร้านค้า แพลตฟอร์มรับจ่ายเงิน Square ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Block มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม เป็นต้นไป โดยบริษัทให้เหตุผลว่าตอนนี้โครงสร้างธุรกิจมีมากกว่าเครื่องมืออ่านบัตรเครดิต Square ที่เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรก โดย Block จะยังใช้ตัวย่อเดิมในการซื้อขายหุ้นที่ตลาดนิวยอร์กคือ SQ Jack Dorsey ซีอีโอ Square ที่กำลังเปลี่ยนชื่อเป็น Block (และเขาเพิ่งลงจากตำแหน่งที่ Twitter) อธิบายว่า Square เป็นแบรนด์สำหรับให้บริการร้านค้า ขณะที่ Block มีเป้าหมายองค์กรที่กว้างกว่าคือสร้างเครื่องมือให้คนเข้าถึงโอกาสธุรกิจ ซึ่งชื่อ Block ก็มีความหมายในหลายแง่มุม ทั้งการก่อร่างสร้างสิ่งใหม่ บล็อกในการเรียกสถานที่ตั้งธุรกิจ ไปจนถึงการสร้างชุมชนเชื่อมต่อสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ธุรกิจในเครือของ Block ประกอบด้วย บริการรับเงินจ่ายเงิน Square, แอปจ่ายเงิน Cash App, บริการสตรีมมิ่งเพลง TIDAL, ส่วนธุรกิจบิตคอยน์ TBD54566975 ซึ่งทั้งหมดจะใช้แบรนด์เดิมต่อไป ส่วน Square Crypto จะเปลี่ยนเป็น Spiral ที่มา: Block และ CNBC
# อันดับ Spotify 2021 Wrapped คนไทยสตรีมเพลง BTS, Three Man Down มากที่สุด ติดต่อกันเป็นปีที่สอง Spotify ประกาศอันดับเพลงและคอนเทนต์ยอดนิยมของปี Spotify 2021 Wrapped โดย Bad Bunny เป็นศิลปินที่มียอดสตรีมสูงสุดของโลกติดต่อกันเป็นปีที่สอง จำนวนการถูกสตรีม 9.1 พันล้านครั้ง (รายละเอียดอันดับปี 2020) ตามด้วย Taylor Swift ในอันดับที่ 2 และ BTS ในอันดับที่ 3 อันดับส่วนของศิลปินไทย Three Man Down เป็นอันดับที่ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่สอง ตามด้วย Billkin ในอันดับที่ 2 และ Tilly Birds ในอันดับที่ 3 Spotify ให้เกร็ดข้อมูลจากการจัดอันดับ ว่าเพลย์ลิสต์ Music for Plants กลายเป็นกระแสตามเทรนด์ปลูกต้นไม้ มีจำนวนผู้ฟังเพิ่มขึ้นมากกว่า 1400% นอกจากนี้การฉีดวัคซีนก็ทำให้มีเพลย์ลิสต์ที่สร้างด้วยธีมการฉีดวัคซีนถูกสตรีมกว่า 42 ล้านครั้ง รายละเอียดอันดับแยกตามประเภทต่าง ๆ เป็นดังนี้ ศิลปินที่มียอดสตรีมสูงสุดของประเทศไทย BTS Three Man Down Justin Bieber Billkin Tilly Birds ศิลปินหญิงที่มียอดสตรีมสูงสุดของประเทศไทย Ariana Grande Taylor Swift Ink Waruntorn IU LISA ศิลปินชายที่มียอดสตรีมสูงสุดของประเทศไทย Justin Bieber Billkin The Weeknd F.HERO UrboyTJ ศิลปินกลุ่มที่มียอดสตรีมสูงสุดของประเทศไทย BTS Three Man Down Tilly Birds BLACKPINK SERIOUS BACON เพลงที่มียอดสตรีมสูงสุดของประเทศไทย "ถ้าเธอรักฉันจริง" จาก Three Man Down "จำเลยรัก - Defendant Of Love" จาก F.HERO feat. Txrbo "เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน" จาก Tilly Birds feat. MILLI "แปะหัวใจ (14th Feb)" จาก เจ้านาย feat. Juné "Leave The Door Open" จาก Bruno Mars feat. Anderson .Paak, Silk Sonic ศิลปินไทยที่มียอดสตรีมสูงสุด Three Man Down Billkin Tilly Birds Ink Waruntorn SERIOUS BACON อันดับยอดนิยมต่าง ๆ ของโลกใน Spotify 2021 Wrapped ศิลปินที่มียอดสตรีมสูงสุดของโลก Bad Bunny Taylor Swift BTS Drake Justin Bieber ศิลปินหญิงที่มียอดสตรีมสูงสุดของโลก Taylor Swift Ariana Grande Olivia Rodrigo Dua Lipa Doja Cat ศิลปินชายที่มียอดสตรีมสูงสุดของโลก Bad Bunny Drake Justin Bieber The Weeknd J Balvin ศิลปินกลุ่มที่มียอดสตรีมสูงสุดของโลก BTS Maroon 5 Imagine Dragons One Direction Queen อัลบัมที่มียอดสตรีมสูงสุดของโลก SOUR ของ Olivia Rodrigo Future Nostalgia ของ Dua Lipa Justice ของ Justin Bieber = ของ Ed Sheeran Planet Her ของ Doja Cat เพลงที่มียอดสตรีมสูงสุดของโลก “drivers license” ของ Olivia Rodrigo “MONTERO (Call Me By Your Name) ของ Lil Nas X “STAY (with Justin Bieber)” ของ The Kid LAROI “good 4 u” ของ Olivia Rodrigo “Levitating (feat. DaBaby)” ของ Dua Lipa พอดแคสต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก The Joe Rogan Experience Call Her Daddy Crime Junkie TED Talks Daily The Daily ที่มา: Spotify ภาพ Three Man Down
# Windows 11 เริ่มแก้ปัญหา Start Menu ตั้งค่าไม่ค่อยได้, Taskbar ได้นาฬิกาคืนมาตอนต่อจอนอก ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 22509 เริ่มเพิ่มตัวเลือกการปรับแต่ง Start Menu และ Taskbar ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของ Windows 11 รุ่น GA กลับเข้ามาบ้างแล้ว Start Menu ได้ตัวเลือกเพิ่มเล็กน้อย สามารถคลิกขวาแล้วตั้งค่าได้ว่าจะแสดงไอคอนที่ปักหมุด (Pins) หรือรายการไฟล์แนะนำ (Recommendations) มากกว่ากัน ซึ่งเลือกได้ 3 แบบตามภาพ ส่วน Taskbar เมื่อต่อออกจอภาพที่สอง ได้นาฬิกาและวันที่กลับคืนมาแล้ว โดยก่อนหน้านี้ได้ Taskbar เปล่าๆ ที่ไม่มีนาฬิกาและวันที่เลย การเปลี่ยนแปลงชุดนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหา Start Menu และ Taskbar ที่ถูกวิจารณ์หนัก และเรียกร้องกันมานานตั้งแต่ช่วงทดสอบ Windows 11 ของใหม่อย่างอื่นได้แก่ เพิ่มตัวเลือกใหม่ๆ ใน Settings เช่น Advanced Sharing Settings ที่ยกมาจาก Control Panel เดิม หน้ารายการแอพใน Settings สามารถเรียงตามชื่อแบบย้อนกลับ (Z to A) ได้แล้ว ก่อนหน้านี้ทำได้แค่ A to Z จดจำว่าปิดหรือเปิด Bluetooth/Wi-Fi ในโหมด Airplane Microsoft Edge ทำงานกับตัวอ่านหน้าจอ Narrator ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการกรอกข้อความบนหน้าเว็บ ที่มา - Microsoft
# Project Zero รายงานช่องโหว่ในไลบรารีเข้ารหัสของ Mozilla พบช่องโหว่ง่ายๆ แต่กลับรอดการตรวจสอบมาหลายปี Tavis Ormandy จาก Project Zero ของกูเกิลรายงานถึงช่องโหว่ CVE-2021-43527 ในไลบรารี NSS (Network Security Services) สำหรับการเข้ารหัสและตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัล ที่ใช้งานในซอฟต์แวร์จำนวนมากโดยเฉพาะ Firefox และ Thunderbird โดยพบช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์สามารถสร้างใบรับรองที่มุ่งร้ายจนรันโค้ดในเครื่องของเหยื่อได้เพียงแค่เปิดอ่านใบรับรอง ช่องโหว่นี้เกิดจาก struct ที่ชื่อว่า VFYContext ที่เป็นโครงสร้างข้อมูลสำหรับการตรวจสอบใบรับรอง แต่กลับประกาศขนาดของลายเซ็นดิจิทัลไว้จำกัด ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างใบรับรองที่มีลายเซ็นขนาดใหญ่มากจนล้นหน่วยความจำที่จองไว้ กลายเป็นการโจมตี heap overflow ปัญหาของช่องโหว่นี้ไม่ใช่การโจมตีง่ายเป็นพิเศษแต่โครงการ NSS นั้นเป็นโครงการที่ถูกวงการความมั่นคงปลอดภัยสอดส่องอย่างหนัก ตัว Mozilla เองมีโครงการรายงานช่องโหว่ได้รางวัลมายาวนาน บริการตรวจความปลอดภัยโค้ดจำนวนมากสแกนความปลอดภัยของ NSS ตลอดเวลา แถมโครงการ NSS เองก็อยู่ในโครงการ oss-fuzz ที่สุ่มยิงข้อมูลหาจุดโหว่ของกูเกิลตั้งแต่แรก แต่บั๊กก็เล็ดลอดการตรวจสอบเหล่านั้นมาได้ทั้งหมด โค้ดที่มีบั๊กนี้อยู่ในโครงการมาตั้งแต่ปี 2003 และถูก refactor จนถูกโจมตีได้ในปี 2012 Ormandy ระบุว่าแม้ Mozilla จะมีแนวทางรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม แต่ก็ยังพลาดหลายจุดจนเกิดบั๊กนี้ เช่น การแยกส่วนทดสอบโค้ดจนกระทั่งไม่พบบั๊ก, ตัวยิงข้อมูลขยะ (Fuzzer) มักจำกัดขนาดข้อมูลที่จะยิงเข้าไป ทำให้หากตัวโค้ดจองหน่วยความจำไว้ใหญ่กว่าก็จะไม่พบบั๊ก แม้ NSS จะใช้งานใน Firefox และ Thunderbird แต่ทั้งสองโครงการอาศัยไลบรารี mozilla::pkix ตรวจสอบใบรับรองอีกชั้นทำให้ไม่มีช่องโหว่นี้ แต่กับซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่ใช้เฉพาะ NSS นั้นควรรีบอัพเดตโดยเร็ว เป็นเวอร์ชั่น 3.73.1 ขึ้นไป ที่มา - Project Zero
# Supabase ซอฟต์แวร์เลียนแบบ Firebase แบบโอเพนซอร์ส เปิดโครงการ Supabase Studio หน้าจอจัดการฐานข้อมูล Supabase บริการระบบหลังบ้านแอปพลิเคชั่นที่เลียนแบบมาจาก Firebase แต่พัฒนาแบบโอเพนซอร์สประกาศโครงการ Supabase Studio หน้าจอ UI ที่เคยให้บริการเฉพาะบริการคลาวด์ของ Supabase เอง ฟังก์ชั่นของ Supabase Studio ใช้สำหรับจัดการฐานข้อมูลใน Supabase เอง เช่นการจัดการตาราง, กำหนดนโยบาย, คิวรีข้อมูลออกมาดู ตัวโครงการ Studio พัฒนาโดยใช้ Next.js, Tailwind CSS, Supabase UI, และ MobX แนวทางการพัฒนา ส่วน Studio นั้นจะฝังโค้ดเข้าไปอยู่ใน repository เดียวกับ Supabase โดยตรง ทีมงานระบุว่าทดลองแนวทางแยกโครงการออกจากกัน, ซิงก์โค้ดข้ามโครงการผ่าน git submodule มาแล้ว แต่พบว่าทำงานลำบาก จึงเลือกรวมอยู่ใน repository เดียวกันในที่สุด ที่มา - Supabase
# Microsoft เปิดตัว Teams Essentials ขายเป็นแอปแยก เน้นวิดีโอคอล ราคา 2 ดอลลาร์ต่อเดือน ไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft Teams Essentials ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไมโครซอฟท์ขาย Microsoft Teams แบบแอปแยกโดยเฉพาะ จากที่ก่อนหน้านี้ต้องซื้อแผน Microsoft 365 จึงจะใช้งาน Teams ได้ โดยคิดราคาไว้ที่ 4 ดอลลาร์ต่อบัญชีผู้ใช้ต่อเดือนในอเมริกา (2 ดอลลาร์ สำหรับการสมัครในไทย) Jared Spataro รองประธานฝ่าย Modern Work ของไมโครซอฟท์กล่าวว่า Teams Essentials ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าองค์กรขนาดเล็ก โดยฟีเจอร์การใช้งานจะจำกัดไว้เป็น Teams ที่ไม่มี Office หรือฟีเจอร์เสริม เช่น บันทึกการประชุม หรือการตั้งห้องประชุมย่อย บริการตัวนี้จะเน้นไปที่วิดีโอคอลและการสนทนากลุ่ม Teams Essentials สามารถตั้งห้องสนทนาต่อเนื่องได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง, ตั้งห้องประชุมมีผู้เข้าร่วมได้สูงสุด 300 คน และได้พื้นที่ OneDrive 10GB ต่อผู้ใช้งาน ซึ่งสูงกว่าเวอร์ชันฟรี ที่ประชุมต่อเนื่องสูงสุด 60 นาที คุยกลุ่มได้สูงสุด 100 คน ขณะเดียวกันไมโครซอฟท์ก็บอกว่าราคาที่ตั้งไว้นี้ เป็นราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งที่ให้บริการเครื่องมือประชุมออนไลน์แบบเดียวกัน ลูกค้าที่ต้องการสมัครใช้งาน สามารถสมัครได้โดยตรงผ่านเว็บของไมโครซอฟท์ ที่มา: ไมโครซอฟท์
# ถ้าเธอรักฉันจริง เป็นเพลงยอดนิยม Apple Music ประเทศไทย ปี 2021 - Dynamite เป็นอันดับ 1 ทั่วโลก เข้าสู่ช่วงส่งท้ายปี ก็จะมีรายงานการจัดอันดับต่าง ๆ ทยอยกันออกมา ข่าวนี้เป็นของ Apple Music ที่ประกาศอันดับเพลงประจำปี 2021 โดยมีการจัดอันดับในหลายหัวข้อ ทั้งเพลงยอดนิยมประจำปี, เพลงที่มีการเรียกดูเนื้อเพลงมากที่สุด, เพลงที่นิยมฟังเวลาออกกำลังกาย และเพลงที่ถูกค้นหาด้วย Shazam มากที่สุด เพลงยอดนิยมของปี 2021 ทั่วโลก อันดับ 1 คือ Dynamite ของ BTS ตามด้วย drivers licenes ของ Olivia Rodrigo, positions ของ Ariana Grande, For the Night ของ Pop Smoke และ Blinding Lights ของ The Weeknd ในอันดับ 2-5 ส่วนเพลงยอดนิยมปี 2021 เฉพาะประเทศไทย อันดับ 1 คือ ถ้าเธอรักฉันจริง ของ Three Man Down ตามด้วย Leave The Door Open ของ Bruno Mars, แฟนใหม่หน้าคุ้น ของ Maiyarap, กีดกัน ของ Billkin และ positions ของ Ariana Grande ในอันดับ 2-5 ส่วนเพลงที่ถูกเรียกดูเนื้อเพลงมากที่สุดคือ drivers licenes ของ Olivia Rodrigo เพลงออกกำลังกายยอดนิยมคือ Head & Heart ของ Joel Corry และเพลงที่ถูกค้นหาด้วย Shazam มากที่สุดคือ Astronaut in the Ocean ของ Masked Wolf ที่มา: MacRumors ต่อไปเชิญชม MV และฟังเพลงติดอันดับกัน
# Azure เปิดตัว Load Testing สำหรับทดสอบแอพเมื่อมีโหลดหนักๆ เพื่อรับมือเมื่อมีโหลดจริง ช่วงนี้ Azure เปิดตัวเครื่องมือสำหรับทดสอบระบบหลายตัว ก่อนหน้านี้เป็น Chaos Studio ที่ใช้จำลองเหตุการณ์ระบบล่มเพื่อให้ผู้ดูแลระบบซ้อมรับมือได้ก่อน ล่าสุดได้เปิดตัว Azure Load Testing ใช้จำลองโหลดหนักๆ เข้ามาที่แอพหรือระบบเราเพื่อดูว่ายังทำงานได้ตามปกติหรือไม่ การใช้งาน Azure Load Testing ต้องเขียนสคริปต์ Apache JMeter ขึ้นมาแล้วอัพโหลดเข้าไปที่ Azure จากนั้นมันจะรันการทดสอบให้เราตามสคริปต์ที่เขียนไว้ โดยกำหนดได้ว่าจะให้มี test engine รันขนานกันกี่ตัว ยิ่งมากก็ยิ่งส่งโหลดเข้าไปที่ระบบเรามากขึ้น เมื่อเริ่มรันแล้ว Azure จะรายงานผลต่างๆ เช่นจำนวน users ที่จำลองขึ้นมา, response time ของระบบ, จำนวนรีเควสต่อวินาที และ errors ต่างๆ ที่เจอ นอกจากนี้ Azure Load Testing ยังทำงานร่วมกับ Azure Monitor ที่ฝั่งระบบที่เราทดสอบ พร้อมรายงานค่าต่างๆ จากตัวระบบ เช่นอัตราการใช้ซีพียู, อัตราการอ่านฐานข้อมูล เป็นต้น ทำให้เราเห็นภาพรวมว่าฝั่งไคลเอนท์เจออะไร และฝั่งระบบเจออะไร ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างคือมันสามารถฝังอยู่ใน CI/CD pipeline อย่าง GitHub Actions และ Azure Pipelines ได้ด้วย แปลว่าเรารันการทดสอบโหลดได้อัตโนมัติตั้งแต่ก่อนปล่อยออกโปรดักชันเลย ส่วนราคาใช้โมเดล Virtual Users Hours (VUH) คือคิดตามจำนวนยูสเซอร์จำลองต่อชั่วโมงที่เราใช้ยิงโหลดเข้าไปโดยยืนพื้นที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน มีโควต้าให้ 50 VUH กล่าวคือสามารถจำลองยูสเซอร์ขึ้นมา 50 คนแล้วยิงยาว 1 ชั่วโมง หรือกลับกันคือจำลอง 1 ยูสเซอร์แล้วยิงโหลด 50 ชั่วโมง หรือตัวเลขที่อยู่ระหว่างช่วงนี้ก็ได้ เกินจากนี้คิดเงินที่ 0.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง และหากใช้เกิน 9,950 ชั่วโมงก็คิดที่ 0.075 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง ทั้งนี้ Azure Load Testing ไม่ใช่ของใหม่สักทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้เคยมีบริการ load testing บน Azure มาก่อนที่ใช้งานได้ในระดับหนึ่ง แต่ Microsoft ก็ปิดบริการนี้ไปตั้งแต่ต้นปี 2020 ที่มา - Azure Blog
# DSCC รายงาน ไตรมาส 3/2021 สมาร์ทโฟนจอพับได้ ขายได้เกินล้านเครื่องเป็นครั้งแรก DSCC บริษัทวิจัยซัพพลายเชนการผลิตชิ้นส่วนหน้าจอ ออกรายงานตลาดสมาร์ทโฟนแบบหน้าจอพับได้ของไตรมาสที่ 3 ปี 2021 มีประเด็นคือสำคัญคือยอดขายรวมในไตรมาสสูงกว่าล้านเครื่องเป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้น 215% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2021 เป็น 2.6 ล้านเครื่อง และมีแนวโน้มจะเพิ่มเป็น 4 ล้านเครื่อง ในไตรมาสที่ 4/2021 ซัมซุงครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด จากสองรุ่นยอดนิยม Galaxy Z Fold 3 และ Z Flip 3 คิดเป็นส่วนแบ่ง 93% ตามด้วยอันดับที่ 2 หัวเหว่ย ประมาณ 6% ส่วนแบ่งแยกตามรุ่น Galaxy Z Flip 3 มากที่สุด คิดเป็น 60% ตามด้วย Z Fold 3 ที่ 23% และ Z Flip 5G ที่ 7% DSCC ประเมินตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ในปี 2022 จะมียอดขายรวม 17.5 ล้านเครื่อง โดยมีความท้าทายคือปัญหาชิ้นส่วนขาดแคลน ที่มา: DSCC
# สู่ยุครถยนต์พลัง 5G ซัมซุงเปิดตัวชิป Exynos Auto ที่เชื่อมต่อ 5G ในรถยนต์ได้ ซัมซุงมีชิป Exynos Auto สำหรับตลาดอุปกรณ์แสดงข้อมูลในรถยนต์ (in-vehicle infotainment หรือ IVI) มาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว ล่าสุดซัมซุงออกชิปใหม่ตระกูล Exynos Auto มาอีก 2 ตัวคือ Exynos Auto T5123 ไม่ได้เป็นชิปประมวลผลหลัก แต่เป็นชิปส่งข้อมูล (telematics control unit) ที่รองรับ 5G เป็นตัวแรกทั้งแบบ SA และ NSA (ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 5.1 Gbps) ตัวมันเองมีซีพียู Cortex-A55 สองคอร์, ชิปนำทาง Global Navigation Satellite System (GNSS) การมาถึงของ Exynos Auto T5123 จะทำให้เราเริ่มเห็นรถยนต์ติด 5G ออกสู่ตลาดกันในไม่ช้า Exynos Auto V7 เป็นชิปประมวลผล IVI สำหรับรถยนต์ระดับกลาง (mid to high-end) ใช้ซีพียู Cortex-A76 จำนวน 8 คอร์, จีพียู Mali G76 จำนวน 11 คอร์ แบ่งเป็น 3+8 คอร์แยกจัดการระบบแสดงผลคนละส่วนกันชัดเจน ไม่ดึงพลังระหว่างกัน, มีชิป NPU สำหรับช่วยประมวลผล virtual assistant เช่น ระบบสั่งงานด้วยเสียง Exynos Auto V7 ถือเป็นชิปตัวรองจาก Exynos Auto V9 ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 ตอนนี้ระบุชื่อลูกค้าแล้วคือ LG จะนำชิปตัวนี้ไปใส่ในระบบความบันเทิงในรถ ที่ผลิตให้ Volkswagen ที่มา - Samsung
# Tesla ขายนกหวีดลาย Cybertruck - Elon Musk การันตี ดีกว่าซื้อผ้าเช็ดจอ Apple Elon Musk ซีอีโอ Tesla ทวีตว่า Tesla ได้ขายสินค้าที่ระลึกใหม่ Cyberwhistle นกหวีดวัสดุสแตนเลสสตีล ที่ทำรูปทรงเลียนแบบรถกระบะ Cybertruck สินค้าผลิตมาในจำนวนจำกัด ราคาขาย 50 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามสถานะสินค้าในเว็บไซต์ตอนนี้ระบุว่า สินค้าหมดแล้ว Musk ยังทวีตเสริมอีกว่าแม้นกหวีดนี้จะมีราคา 50 ดอลลาร์ แต่ก็ดีกว่าไปเสียเงินซื้อผ้าเช็ดจอของแอปเปิลราคา 19 ดอลลาร์ ที่มา: MacRumors
# Huawei บุกตลาดสมาร์ททีวีในไทย เปิดตัว Vision S สมาร์ททีวี 4K 120Hz มีเว็บแคมให้ด้วย Huawei ขยับมาทำตลาดสมาร์ททีวีในไทยเป็นครั้งแรก ด้วยสมาร์ททีวี/สมาร์ทมอนิเตอร์ รุ่น Huawei Vision S ความละเอียด 4K ในชุดมาพร้อมกล้องเว็บแคม 13MP สำหรับวิดีโอคอลล์ผ่านทีวี Huawei Vision S มี 2 ขนาดหน้าจอคือ 55 นิ้วและ 65 นิ้ว นอกจากขนาดแล้วสเปกเท่ากันหมด ประเภทหน้าจอเป็น LCD ความละเอียด 4K แสดงผลสี 92% DCI-P3 อัตรารีเฟรช 120Hz อัตราคอนทราสต์ 5000:1, ซีพียูไม่ระบุรุ่น แรม 3GB สตอเรจ 32GB ระบบเสียงมีลำโพง 4 ตัว, ไมโครโฟนแบบ far field 6 ตัว, ระบบปฏิบัติการเป็น Harmony OS ที่มีฟีเจอร์หลายอย่างใช้ร่วมกับมือถือของ Huawei ได้ อย่างไรก็ตาม Huawei Vision S ต่างจากทีวีทั่วๆ ไปตรงที่ไม่มีตัวจูนเนอร์สัญญาณทีวีแบบดั้งเดิม (DTMB DVB ATSC และ ISDB) จึงเหมาะสำหรับการใช้ดูคอนเทนต์ผ่านระบบ IPTV หรือต้องต่อกล่องทีวีเพิ่มเท่านั้น ตัวกล้องเว็บแคมระบุว่ามีความละเอียด 13MP เป็นแบบแม่เหล็ก ย้ายจุดได้เอง รองรับวิดีโอคอลล์ 1920x1080 แต่ในสเปกของ Huawei บอกว่าใช้ได้กับแอพ MeeTime ของ Huawei เองเท่านั้น ยังไม่ชัดเจนว่าใช้กับแอพวิดีโอคอลล์ยอดนิยมตัวอื่นๆ ได้หรือไม่ ราคาของ Huawei Vision S อยู่ที่ 22,990 บาท (55 นิ้ว) และ 29,990 บาท (65 นิ้ว) โดยช่วงเปิดตัวมีของแถมเป็นแท็บเล็ต Huawei MatePad T8 (รุ่น 55 นิ้ว) และ Huawei MatePad 10.4 WiFi (รุ่น 65 นิ้ว) และกล่อง True ID Box ที่แถมกับทีวีทั้งสองรุ่นด้วย ที่มา - Huawei
# YouTube ประกาศวิดีโอและครีเอเตอร์ยอดนิยมประจำปี 2021 รายการขำขันและละครสั้นมาแรง YouTube ประเทศไทย ประกาศผลวิดีโอที่ได้รับความนิยมสูงสุดและครีเอเตอร์ยอดนิยมแห่งปี 2564 โดยแบ่งเป็นหมวดคลิปทั่วไป มิวสิควิดีโอ ครีเอเตอร์ยอดนิยม และครีเอเตอร์ดาวรุ่ง แต่คราวนี้มีหมวดครีเอเตอร์ยอดนิยมของ YouTube Shorts ฟีเจอร์คลิปสั้นใหม่ของ YouTube ด้วย และจัดอันดับในเดือนพฤศจิกายน คลิปยอดนิยมในหมวดทั่วไป ได้แก่คลิป ตำนานแมลงปอSkizztv (OPZTV fan animation) ของแชนแนลอนิเมชั่นสุดฮา PASULOL คลิปยอดนิยมในหมวดมิวสิควิดีโอได้แก่คลิป SPRITE x GUYGEEGEE - ทน (Prod. by MOSSHU) OFFICIAL MV ฝั่งครีเอเตอร์ยอดนิยมได้แก่แชนแนล SpriteDer SPD สโลแกน SPD NO. 1 ผู้ให้ตลอดกาล ทำคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์วาไรตี้สนุกสนาน ส่วนครีเอเตอร์ดาวรุ่ง ได้แก่แชนแนล พี่น้องไทย คอนเทนต์ละครสั้น และครีเอเตอร์ Shorts ยอดนิยมได้แก่ Taiyang Media แชนแนลละครสั้นและไลฟ์สไตล์ต่างๆ กระแสคอนเทนต์แนวไลฟ์สไตล์ขำขันและละครสั้น น่าจะเป็นคอนเทนต์ที่มาแรงในช่วงนี้ นอกจากลำดับในครั้งนี้ ยังสังเกตได้จากมุก “ฉันเป็นประธานบริษัท” ซึ่งมาจากละครสั้นคุณธรรมที่เริ่มต้นใน TikTok น่าสนใจว่าในปีหน้า คอนเทนต์บ้านเราจะมุ่งไปทางไหนต่อ ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์
# Realme GT 2 Pro ประกาศตัวเป็นมือถือรุ่นแรกที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 1 Realme ประกาศเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายแรกที่จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 1 รุ่นใหม่ล่าสุดของ Qualcomm โดยระบุว่าจะใช้กับ Realme GT 2 Pro ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลาแน่ชัด ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดของ Realme GT 2 Pro ออกมาจากนักปล่อยข้อมูลหลุดสายมือถือบ้างแล้ว ตามปกติแล้ว Qualcomm จะเปิดตัวชิปใหม่ในช่วงต้นเดือนธันวาคมของทุกปี และรอค่ายมือถือทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ในเดือนมกราคมของปีถัดไป หรืออาจเร็วกว่านั้น เช่น ปีที่แล้ว Xiaomi เปิดตัว Mi 11 ที่ใช้ Snapdragon 888 ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2020 ที่มา - @Realme
# Twitter เพิ่มกฎใหม่ ห้ามแชร์ภาพ-วิดีโอที่เป็นส่วนตัว โดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน Twitter ปรับกฎการใช้งานแพลตฟอร์มใหม่ ห้ามแชร์ภาพหรือวิดีโอที่เป็นส่วนตัว (private media) โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หากพบการละเมิดกฎ Twitter มีสิทธิลบภาพเหล่านี้ออกได้ คำว่าภาพส่วนตัว ไม่ได้หมายถึงภาพนู้ดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาพถ่ายทั่วไปของบุคคล ที่ต้องได้รับอนุญาตจากบุคคลในภาพให้แชร์ก่อนด้วย Twitter บอกว่าออกกฎนี้มาเพื่อแก้ปัญหาการกลั่นแกล้ง นำภาพส่วนบุคคลของผู้อื่นมาเผยแพร่ หรือถ้ามีการเผยแพร่ภาพที่เจ้าตัวไม่ต้องการให้เผยแพร่ บริษัทสามารถลบออกได้ทันที กฎใหม่นี้จะเห็นได้ชัดเจนตอนกด Report ที่จะเพิ่มหมวด "ภาพที่ไม่ได้รับอนุญาต" (an unauthorized photo or video) เข้ามาให้เลือก Twitter ยกตัวอย่างภาพกรณีที่ไม่เข้าข่ายภาพส่วนตัว ได้แก่ ภาพที่เป็นสาธารณะอยู่แล้ว หรือเผยแพร่โดยสื่อกระแสหลัก ภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการถกเถียง การพูดคุยกันของสาธารณะ ภาพเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น รายงานจากสถานที่จริง ภาพที่บุคคลในภาพเป็นบุคคลสาธารณะ กฎนี้เป็นส่วนขยายเพิ่มเติมจากกฎห้ามแชร์ข้อมูลส่วนตัว (private information) ที่มีอยู่ก่อนแล้ว โดย Twitter ยกตัวอย่างข้อมูลส่วนตัวที่ไม่อนุญาให้แชร์ ได้แก่ ที่อยู่บ้าน รวมถึงพิกัด GPS เอกสารที่ใช้ระบุตัวตน เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ พาสปอร์ต หมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลที่ไม่ได้เป็นสาธารณะ ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต ข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เช่น ลายนิ้วมือ ข้อมูลสุขภาพ ที่มา - Twitter Blog
# งงไปตามๆ กัน Nokia PureView 9 อัพเดต Android 11 ไม่ได้ แจกส่วนลดซื้อมือถือรุ่นล่างปลอบใจ Nokia PureView 9 มือถือเรือธงที่มีกล้องหลังถึง 5 กล้อง ดูท่าจะไปต่อลำบาก เพราะหลังจากได้อัพเดตเป็น Android 10 ช่วงเดือนธันวาคมปี 2019 ปัจจุบันก็ยังไม่ได้อัพเดตเป็น Android 11 เลย และน่าจะไม่ได้อัพเดตแล้ว Nokia ระบุบนเว็บไซต์ว่าซอฟต์แวร์ Android 11 กับกล้องไม่สามารถเข้ากันได้ และยื่นข้อเสนอให้ผู้ใช้รับส่วนลดมือถือรุ่นล่าง Nokia XR20 ที่ใช้ชิป Snapdragon 480 และอัพเดต Android 11 ได้แทน ซึ่งก็ทำให้ทวิตเตอร์แฟนคลับ Nokia PureView งง จนต้องออกมาโพสต์ว่าคนใช้มือถือเรือธง จะเอาส่วนลดมือถือรุ่นล่างไปทำไม ทำไมไม่แจกส่วนลด 50% ที่มีอายุสัก 1-2 ปีให้นำไปใช้ซื้อมือถือรุ่นไหนของ Nokia ก็ได้แทน ช่วงหลังๆ การจัดการกับมือถือ Nokia ของ HMD Global ในด้านการอัพเดตเวอร์ชั่นแอนดรอยด์ดูจะไม่ค่อยโอเคเท่าไร เพราะนอกจากจะออกอัพเดตช้า และเลื่อนแผนอัพเดตทั้ง Android 10 และ Android 11 แนวทางการเยียวยาผู้ใช้ก็ดูไม่ค่อยจะสมเหตุสมผล Nokia เคยทำตลาดโทรศัพท์แอนดรอยด์โดยโฆษณาว่ามีการอัพเดตที่ยาวนาน และใช้แอนดรอยด์ที่ปรับแต่งค่อนข้างน้อย แม้ว่าจะปล่อยอัพเดตเวอร์ชั่นใหญ่ไม่ได้ แต่ตลอดอายุของ Nokia 9 PureView ก็ได้รับแพตช์ความปลอดภัยค่อนข้างเร็ว ตรงรอบแพตช์ตลอดมา ตัวแพตช์ความปลอดภัยเองจะหมดอายุเดือนมีนาคม 2022 ที่มา - Nokia
# รีวิว Huawei MateBook 14s โน้ตบุ๊กทำงานที่โดดเด่นด้วยจอ 2.5K อัตรารีเฟรช 90Hz Huawei ทำโน้ตบุ๊กตระกูล MateBook มาแล้วหลายรุ่น จุดเด่นคือสเปกและการทำงานที่เข้ากันได้กับอีโคซิสเท็มของ Huawei แม้ช่วงแรกๆ ที่ออกมาจะดีไซน์คล้ายตระกูล MacBook ไปบ้างแต่ปัจจุบันดีไซน์ก็แยกออกมาเป็น Huawei อย่างชัดเจน และสเปกเครื่องก็ไม่ได้น้อยหน้าแบรนด์โน้ตบุ๊ก Windows ตระกูลอื่นๆ Huawei MateBook 14s เป็นโน้ตบุ๊กอีกรุ่นของ Huawei ที่จัดเต็มไม่ใช่เล่นๆ สเปกให้มาทั้ง Core i5-11300H และ Core i7-11370H ที่เป็นซีพียู Intel เจ็นเนอเรชั่นล่าสุด พร้อมจอสัมผัส เป็น LCD แบบขอบบาง ความละเอียด 2520x1680 พิกเซล และให้อัตรารีเฟรชมาถึง 90Hz แทนที่จะเป็น 60Hz เหมือนโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป สเปก Huawei MateBook 14s จอสัมผัส 14.2 นิ้ว ความละเอียด 2.5K อัตรารีเฟรช 90Hz/60Hz ซีพียู Core i7-11370H แรม LPDDR4x 16GB SSD NVMe PCIe 1TB กล้องหน้า 720P รองรับ Windows Hello แสกนลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิด พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C x 2 (รองรับการชาร์จแบบ PD, เป็น Thunderbolt 4 x1), USB3.2 Gen 1 x 1, HDMI x 1, พอร์ตหูฟัง 3.5 มม. แบบคอมโบ แบตเตอรี่ 60Wh ชาร์จเร็ว 65W น้ำหนัก 1.45 กิโลกรัม (1.65 กิโลกรัม รวมสายและอแดปเตอร์) ตัวเครื่องภายนอก สีเมทัลลิก Space Gray จะออกเรียบหรู เหมาะกับวัยทำงาน สำหรับคนสดใสจะมีอีกสีคือ Spruce Green เป็นตัวเลือก โลโก้ HUAWEI ด้านหลังเป็นตัวหนังสือล้วน ตัวเครื่องหนาประมาณ 16.7 มิลลิเมตร ไม่ได้บางเฉียบ แต่ก็ไม่ได้เทอะทะจนเกินไป ความหนาประมาณโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป น้ำหนักอยู่ที่ 1.45 กิโลกรัม และ 1.65 กิโลกรัมเมื่อรวมอแดปเตอร์และสาย หน้าจอสัมผัส 90Hz อัตราส่วนจอต่อตัวเครื่อง 90% จุดเด่นแรก ที่เห็นตั้งแต่เปิดเครื่องมา จะเป็นหน้าจอที่ขอบบางมากๆ อัตราส่วนจอต่อตัวเครื่อง 90% และยังเป็นจอสัมผัสแบบ LTPS LCD ความละเอียด 2520x1680 พิกเซล ซึ่งกำลังดี เพราะหน้าจอโน้ตบุ๊กขนาด 14.2 นิ้วนี่หน้าจอ 4K อาจจะเกินพอไปหน่อย และถ้าใส่มาอาจจะทำให้กินแบตเตอรี่มากขึ้นด้วย ด้วยความที่ Huawei ให้จอให้มาแบบ 90Hz หน้าจอรองรับมาตรฐานสี sRGB 100% สว่างสูงสุด 400 nits อาจจะดูต่ำเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ได้ทำงานในที่มีแสงจากด้านนอกเข้ามาเยอะมากก็ยังพอไหว ผู้เขียนเอามาลองเทสต์ด้วยการทำงานริมหน้าต่างก็ยังทำงานได้อยู่ตามปกติ คีย์บอร์ดและทัชแพด คีย์บอร์ดเครื่องทดสอบยังไม่มีภาษาไทย ทาง Huawei ให้เป็นแผ่นซิลิโคนมาสำหรับใช้งาน แต่สอบถามแล้วเครื่องที่วางจำหน่ายจริงจะมีสกรีนภาษาไทยมาด้วย ระยะปุ่มกดอยู่ที่ประมาณ 1.5 มม. ซึ่งทดลองใช้พิมพ์งานแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ตัว Windows Hello ทำงานได้ว่องไวเหมือนเดิม แต่ใครที่ต้องทำงานแล้วใส่แมสก์ไปด้วย ก็มีตัวสแกนลายนิ้วมือมาให้ในปุ่มพาวเวอร์เลย สะดวกมากๆ พอร์ตเชื่อมต่อ พอร์ตเชื่อมต่อด้านขวาให้มาเป็น USB-A สำหรับเม้าส์ทั้งไร้สายและมีสาย หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ยังใช้ USB-A อยู่ ส่วนพอร์ตด้านซ้ายจะเป็น USB Type-C หนึ่งพอร์ตที่รองรับทั้งการชาร์จ การส่งข้อมูล และการต่อจอนอก และสำหรับรุ่น Core i7 จะมี USB Type-C อีกหนึ่งพอร์ตเป็นแบบ Thunderbolt 4 มาให้ด้วย และยังมีพอร์ต HDMI ช่วยให้ต่อหน้าจอนอก หรือทีวีทั่วไปได้สะดวก ถ้าต้องไปใช้งานนอกสถานที่ รวมถึงมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. แบบคอมโบอยู่ สเปกกับการใช้งาน รุ่น Core i7-11370H ให้สเปกมาค่อนข้างจัดเต็ม คือให้ SSD แบบ NVMe PCIe มาถึง 1TB และให้พอร์ต Thunderbolt 4 มาด้วย เสียดายตัวเลือกแรมมีแค่ 8GB และ 16GB สำหรับการทำงานทั่วไปยังเหลือๆ ใช้อยู่ แต่งานที่ต้องใช้แรมปริมาณมากอาจไม่พอ ตัวการ์ดจอเป็นออนบอร์ด Intel Iris Xe เพียงพอตัดรูปเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่พอเล่นเกมบนความละเอียด 2.5K แน่ๆ ถ้าไม่เล่นเกมเก่าๆ ที่ปรับต่ำสุด หรือลดความละเอียดลง ผลทดสอบความเร็ว Geekbench ฝั่ง Single-Core ทำได้ 1224 คะแนน ส่วน Multi-Core ทำได้ 5006 คะแนน ซึ่งก็เป็นความเร็วปกติของ Core-i7 11370H ที่ใช้งานทั่วไปได้เหลือแหล่ ส่วนความเร็ว SSD แบบ Sequential Read อยู่ในระดับเกิน 3000 MB/s ส่วน Sequential Write ก็อยู่ในระดับ เกิน 2000 MB/s ถือว่าเร็วปรู้ดปร้าด แบตเตอรี่ 60Wh ใช้งานได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมงก่อนต้องชาร์จ แต่อแดปเตอร์ชาร์จที่แถมมาให้เป็นแบบชาร์จเร็ว 65W ใช้เวลาชาร์จไม่นานก็พอใช้งานได้ยาวๆ แล้ว สรุป Huawei MateBook มีจุดเด่นที่หน้าจอ 2.5K แบบ 90Hz ที่ขอบบาง น่าจะเหมาะสำหรับการทำงานและดูคอนเทนต์ต่างๆ หรือแต่งภาพเล็กๆ น้อยๆ ด้านประสิทธิภาพอาจจะมีข้อด้อยอยู่บ้างที่มีตัวเลือกแรมสูงสุดแค่ 16GB แต่โดยรวมด้านอื่นก็ไม่ได้มีปัญหา ตัวเครื่องพกพาสะดวกคุณภาพประกอบดี ไม่ได้หนักหรือหนาเกินไป ฟีเจอร์อื่นๆ อาจจะสามารถหาได้ในโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป แต่สุดท้ายแล้วปัจจัยที่น่าจะตัดสินกันจริงๆ น่าจะอยู่ที่หน้าจอ ซึ่งถ้าใครต้องการหน้าจอ 2.5K แบบ 90Hz แล้ว Huawei MateBook 14s ก็จะเป็นโน้ตบุ๊กสายทำงานเพียงหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่มีฟีเจอร์นี้ สำหรับราคา รุ่น Core i5-11300H กับแรม 8GB และ SSD 512GB ราคาจะอยู่ที่ 40,990 บาท ส่วน Core-i7 กับแรม 16GB และ SSD 1TB ราคาจะอยู่ที่ 55,990 บาท ซึ่งก็ถือว่าไม่เบา แต่ถ้าอยากได้หน้าจอคุณภาพดีๆ รีเฟรชเรตสูง โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่หน้าสนใจ
# Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 1 ใช้ซีพียู Cortex-X2, จีพียูแรงขึ้น 25% Qualcomm เปิดตัวชิปเรือธงประจำปี Snapdragon 8 Gen 1 ตามระบบการเรียกชื่อรุ่นแบบใหม่ ใช้การผลิต 4nm ของโรงงานซัมซุง ของใหม่ในรุ่นนี้มีหลายอย่างดังนี้ ซีพียู เปลี่ยนมาใช้แกนซีพียูรุ่นใหม่ของ Arm ได้แก่ คอร์ใหญ่ Cortex-X2, คอร์กลาง Cortex-A710, คอร์เล็ก Cortex-A510 ใช้สูตร 1+3+4 ซึ่งเหมือนกับ MediaTek Dimensity 9000 ที่เพิ่งเปิดตัวไป ในรอบนี้ Qualcomm เรียกซีพียูตัวเองว่า Kryo แต่ไม่มีเลขรุ่นแล้ว จีพียู ใช้ Adreno รุ่นใหม่ที่ไม่มีเลขรุ่นแล้วเช่นกัน บอกว่าประสิทธิภาพดีขึ้นจากรุ่นก่อน 25%, ปรับปรุงมาพร้อมรับ Unreal Engine 5 ชิป AI เป็น AI Engine รุ่นที่ 7 มีหน่วยความจำขนาดใหญ่ขึ้น 2 เท่า และประสิทธิภาพการประมวลผล tensor เร็วขึ้น 2 เท่า ชิปประมวลผลภาพ (ISP) ตัวใหม่ชื่อแบรนด์ใหม่ Snapdragon Sight รองรับการประมวลผลภาพ 18-bit สูงกว่าชิป 14-bit ในปัจจุัน รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K HDR ชิปโมเด็ม เป็น X65 5G ที่เปิดตัวมาก่อนแล้ว แต่รอบนี้เป็น integrate มาในตัว SoC เลย อัตราดาวน์โหลดสูงสุด 10 Gbps ชิปสื่อสาร Qualcomm FastConnect 6900 รองรับ Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.2 เว็บไซต์ AnandTech ชี้ว่า Snapdragon 8 Gen 1 มีการเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมเยอะพอสมควร แต่รอบนี้ Qualcomm กลับไม่ค่อยเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคมากนัก (โดยเฉพาะจีพียู Adreno ตัวใหม่ที่ไม่มีชื่อรุ่นแล้ว) นอกจากนี้ Snapdragon 8 Gen 1 ยังไม่มีตัวถอดรหัสวิดีโอ AV1 ที่กูเกิลและหลายๆ บริษัทพยายามผลักดัน ยังมีเฉพาะ H.264 (AVC), H.265 (HEVC), VP8, VP9 เท่านั้น ที่มา - Qualcomm, AnandTech
# พาไปดู Mercedes-Benz EQS นิยามรถหรู S-Class ในแบบ EV เป็นอย่างไร งาน Motor Expo 2021 กำลังจะเริ่มขึ้น โดย Mercedes-Benz ประเทศไทยได้นำรถยนต์ไฟฟ้า EQS มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และเป็นการโชว์ตัวแก่บุคคลทั่วไปเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยผมได้มีโอกาสไปร่วมงานในวันสื่อมวลชนจึงได้เก็บภาพมาแชร์ประสบการณ์ให้อ่านกันครับ เท้าความก่อนว่า Mercedes-Benz EQ เป็นซีรีส์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยก่อนหน้านี้มี EQC ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของค่าย และเคยมีข่าวว่าจะนำมาจำหน่ายในประเทศไทยแต่เจรจาไม่ลงตัวจึงยกเลิกแผนไป เวลาผ่านมาได้ฤกษ์นำรถซีรีส์ EQ เข้ามาจำหน่ายในไทยเสียที กับรุ่น EQS ที่ได้ชื่อว่าเป็น S-Class ในแบบรถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz EQS รุ่นที่เปิดตัวในไทย คือ EQS 450+ มาพร้อมมอเตอร์ตัวเดียวที่เพลาหลัง (แปลว่าขับเคลื่อนล้อหลัง) แบตเตอรี่อยู่ที่พื้น ความจุ 107.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง โฆษณาว่าแล่นได้ 560 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มีกำลัง 329 แรงม้า โดยในต่างประเทศมีรุ่น EQS 580 4MATIC มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อด้วย ทำให้คาดเดาได้ว่า Mercedes-Benz ประเทศไทยอาจนำเข้ามาทำตลาดในอนาคต EQS รุ่นที่นำมาโชว์ในงานเป็นสีน้ำเงิน Nautical Blue ด้านหน้ายังคงการออกแบบที่มีกลิ่นอายของ EQC อยู่ โดยกระจังหน้าเป็นแบบทึบมีลวดลายฝังอยู่ด้านในและยังเป็นที่อยู่ของเซ็นเซอร์ต่างๆ มากมาย ไฟหน้าเรียกว่า Digital Light ที่ทำงานร่วมกับระบบนำทาง คือเมื่อถึงเวลาเลี้ยว ไฟหน้าจะฉายลูกศรเลี้ยวลงบนพื้นถนนได้ด้วย มาที่ด้านข้างซึ่งมีกิมมิคเล็กๆ อยู่ตรงแก้มด้านซ้าย จะมีช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าแคบๆ เมื่อกดเข้าไปจะเด้งออกมา และมันคือ ช่องเติมน้ำฉีดกระจก!! สาเหตุที่มาเติมน้ำตรงนี้เพราะฝากระโปรงหน้านั้น "ไม่ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้เปิดเลย" สิ่งเดียวที่เจ้าของรถต้องเซอร์วิสคือเติมน้ำฉีดกระจกเท่านั้น ข้อยืนยันว่าผู้ใช้รถไม่ควรจะเปิดฝากระโปรง คือเมื่อเปิดมาแล้วไม่มีโช็คยกฝากระโปรงหรือก้านเหล็กค้ำด้วยซ้ำ ในส่วนของมือจับประตูก็เป็นแบบฟลัชเก็บเข้ากับตัวรถ เพื่อลดแรงเสียดทานอากาศให้มากที่สุด วนมาด้านท้าย ไฟท้ายของ EQS มีชื่อว่า 3D Helix โดยด้านในจะเป็นเกล็ดๆ รวมถึงไฟด้านซ้ายและขวาก็เชื่อมกันเป็นเส้นเดียวพาดผ่านฝากระโปรงท้ายอีกด้วย ฝากระโปรงท้ายเป็นแบบยกขึ้นทั้งบานกระจก (fastback) เมื่อเปิดแล้วเผยให้เห็นส่วนเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 610 ลิตร โดยฝาท้ายเป็นแบบเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ช่องชาร์จไฟอยู่ที่ด้านหลังขวาของรถ ในตำแหน่งเดียวกับฝาถังน้ำมันของรถยุโรปทั่วไป ตัวช่องชาร์จเป็นแบบ CCS Type 2 ตามมาตรฐาน โดยชาร์จไฟกระแสตรงได้สูงสุดที่ 200 กิโลวัตต์ (ตั้งโหมด Eco ให้จำกัดที่ 100 กิโลวัตต์ได้หากต้องการถนอมแบตเตอรี่) มาดูด้านในกันบ้าง สิ่งแรกที่ผู้ใช้จะมองเห็นคือแผงแดชบอร์ดขนาดยักษ์ที่ยาวจากซ้ายไปขวาเป็นกระจกแผ่นเดียวกัน ด้านใต้ฝังจอไว้ 3 จอ คือหน้าปัดของผู้ขับ, หน้าจอกลางสำหรับควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์, ระบบนำทาง, ระบบปรับอากาศ และหน้าจอซ้ายสุดคือจอของผู้โดยสารตอนหน้า ผมลองกดหน้าจอเล่นๆ ดู พบว่าทำงานได้รวดเร็ว ไม่มีกระตุก หน้าจอมีความละเอียดสูง คมชัด และที่สำคัญคือรองรับภาษาไทยเต็มระบบ ทั้งเมนูต่างๆ ไปจนถึงภาษาของแผนที่ (ทุกวันนี้ Tesla ยังอ่านไทยไม่ได้เลย) คอนโซลกลางก็เรียบหรู มีช่องเก็บของขนาดใหญ่ที่ฝาปิดเป็นไม้จริง ในช่องเก็บของมีพอร์ต USB Type C สำหรับชาร์จโทรศัพท์ 2 ช่อง, ที่วางแก้วน้ำที่ตัวล็อคจะหมุนออกมารับแก้วเมื่อวางแก้วน้ำลง ไม่เกะกะหากไม่ได้ใช้งาน ปุ่มสตาร์ทรถอยู่ถัดลงมาจากช่องเก็บของ พร้อมแป้นควบคุมแบบรูดซ้ายขวาที่สามารถสแกนนิ้วได้ด้วย (Mercedes-Benz ซื้อเทคโนโลยีนี้มาจาก BlackBerry) นอกจากนี้ก็เป็นปุ่มปรับเสียง, โหมดการขับขี่ และไฟฉุกเฉิน โดยส่วนตัวผมชอบชุดปุ่มควบคุมตรงนี้มาก เพราะมีขนาดเล็ก ไม่ต้องใหญ่โตเกะกะ ทำให้ดีไซน์โดยรวมดูเรียบร้อย หน้าจอบอกระดับแบตเตอรี่อยู่ที่ 52% ประเมินว่าจะแล่นได้อีก 289 กิโลเมตร ชุดเครื่องเสียงระดับหรูจาก Burmester สัญชาติเยอรมัน อย่างไรก็ตาม เบาะนั่งของผู้โดยสารตอนหลังนั้นนั่งไม่สบายเท่าที่ควร (เมื่อเทียบกับ S 580e ที่จอดอยู่ข้างๆ) เบาะหลังไม่สามารถปรับเอนได้เลย รวมถึงไม่มีที่พักแข้ง/พักเท้าให้ด้วย (นี่ S-Class จริงหรือเปล่า) ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่อยู่ใต้พื้น ทำให้พื้นสูงกว่าปกติ นั่นแปลว่าเข่าของผู้โดยสารจะชันกว่ารถปกติ โดยผมรู้สึกว่าเข่าผมชันกว่าตอนนั่ง Tesla Model S และ Model 3 เสียอีก คิดว่านั่งนานๆ น่าจะเมื่อยแน่ๆ ผู้โดยสารตอนหลังปรับแอร์แยกโซนซ้ายขวาได้อิสระ ด้านใต้เปิดมามีพอร์ต USB Type C ให้อีก 2 พอร์ต หลังคาเป็นซันรูฟแบ่งสองบานระหว่างผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง ทั้งนี้ Mercedes-Benz เลือกใช้วัสดุภายในรถได้หลากหลายและลงตัวอย่างมาก ให้ความรู้สึกหรูหราได้ดี มีตั้งแต่หนังแท้ที่เบาะ, คอนโซลเป็นการผสมผสานระหว่างผ้า Alcantara และผ้าอีกชนิดที่ผมไม่ทราบชื่อแต่เนื้อมีความละเอียดนุ่มมืออย่างยิ่ง รวมถึงมีไม้จริงอย่างที่เขียนไปตอนต้น Mercedes-Benz EQS จะจัดแสดงอยู่ที่งาน Motor Expo 2021 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2021 ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ แต่พนักงานภายในบูธแจ้งว่า 7-8 ล้านบาท โดยจะเป็นรุ่นนำเข้าทั้งคันก่อน และจะเริ่มประกอบรวมถึงผลิตแบตเตอรี่ภายในประเทศไทยในอนาคต
# David Marcus ผู้สร้างสกุลเงิน Libra ประกาศลาออกจาก Meta (Facebook) สิ้นปีนี้ David Marcus หัวหน้าทีมส่วนธุรกิจเงินคริปโตของ Meta บริษัทแม่ Facebook ประกาศว่าเขาจะลาออกจากบริษัทสิ้นปีนี้ โดยไม่ได้บอกชัดเจนว่าจะไปทำอะไร แต่น่าจะกลับไปเริ่มต้นในฐานะผู้ประกอบการอีกครั้ง Marcus เดิมเป็นประธานอยู่ที่ PayPal ต่อมาได้ย้ายมารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย Messenger ของ Facebook และย้ายไปอยู่ฝ่ายบล็อกเชนช่วงปี 2018 ซึ่งจากนั้น 1 ปี Facebook ก็เปิดตัว Diem (ตอนแรกชื่อ Libra) สกุลเงินดิจิทัลที่ Facebook อธิบายว่าทำให้การรับส่งเงิน ง่ายเหมือนกับการส่งข้อความใน Messenger อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวถูกจับตามองและตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐทั่วโลก ทำให้ Facebook ต้องปรับรูปแบบของโครงการจนเปลี่ยนไปจากช่วงแรกอยู่มาก โดยที่มีประกาศออกมาล่าสุดคือกระเป๋าเงินดิจิทัล Novi (ที่ตอนแรกชื่อ Calibra) แต่ก็เลือกใช้ stablecoin USDP ในการรับส่งเงิน แทนที่จะเป็น Diem ของ Facebook เอง โฆษกของ Meta ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Stephane Kasriel ซึ่งก็เคยทำงาน PayPal เหมือนกับ Marcus จะมาเป็นหัวหน้าฝ่าย Novi คนใหม่ ที่มา: Coindesk
# HPE ไตรมาสล่าสุด รายได้รวมโตเล็กน้อย - Subscription ยังเติบโตสูง HPE (Hewlett Packard Enterprise) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2021 รายได้ 7,354 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ มีกำไรสุทธิ 2,553 ล้านดอลลาร์ รายได้เฉพาะกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายรับต่อเนื่องในช่วง 12 เดือน (ARR) แบบ subscription มีรายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้น 36% เป็น 796 ล้านดอลลาร์ สะท้อนการเติบโตจากธุรกิจกลุ่มนี้ โดย HPE มองว่าจะรักษาระดับการเติบโตที่อัตรานี้ไปได้อย่างน้อยถึงปีการเงิน 2024 รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจของ HPE เป็นดังนี้ Intelligent Edge เพิ่มขึ้น 4% เป็น 815 ล้านดอลลาร์ โดย Aruba Services เติบโตสูง HPC & AI เพิ่มขึ้น 1% เป็น 1,000 ล้านดอลลาร์ Compute ที่เป็นรายได้ส่วนใหญ่ของ HPE เพิ่มขึ้น 1% เป็น 3,226 ล้านดอลลาร์ Storage เพิ่มขึ้น 3% เป็น 1,257 ล้านดอลลาร์ มีการเติบโตสูงในกลุ่ม software-defined ที่มา: HPE (pdf)
# Salesforce รายงานผลประกอบการไตรมาสโต 27% - แต่งตั้ง Bret Taylor เป็น CEO ร่วม Salesforce รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดเดือนตุลาคม 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 27% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 6,863 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 468 ล้านดอลลาร์ รายได้หลักของ Salesforce มาจากส่วนของ Subscription และ support ซึ่งเพิ่มขึ้น 25% เป็น 6,379 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้จาก Professional services และอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 45% เป็น 484 ล้านดอลลาร์ Marc Benioff ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Salesforce กล่าวว่า ไม่มีบริษัทซอฟต์แวร์ไหนในขนาดหรือสเกลเท่ากับเราที่สร้างผลงานได้ในระดับนี้ และเหตุผลที่เขารู้เพราะเขาได้พูดคุยกับซีอีโอบริษัทคลาวด์อื่นอยู่เป็นประจำ Salesforce ยังประกาศแต่งตั้งซีโอโอ Bret Taylor ให้เป็นซีอีโอร่วมกับ Benioff โดยระบุว่า Taylor จะมีบทบาทสำคัญในการพาบริษัทไปสู่บทถัดไป (Next Chapter) ที่มา: Salesforce และ CNBC
# AWS เปิดบริการ AWS Private 5G เครือข่ายส่วนตัว จ่ายตามแบนด์วิทด์ที่ใช้งาน AWS เปิดบริการ AWS Private 5G เปิดให้ลูกค้าสั่งเสาสัญญาณโทรศัพท์ไปติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการ พร้อมกับเซิร์ฟเวอร์ และซิมการ์ด โดยมีจุดเด่นคือไม่มีค่าแรกเข้าหรือค่าบริการตามจำนวนอุปกรณ์ แต่คิดค่าบริการตามแบนด์วิดท์เน็ตเวิร์คที่ขอไว้ และพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน การใช้งานสามารถเครือข่าย 5G ส่วนตัว สามารถใช้งานในงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง เช่น ระบบควบคุมการเข้าออกพื้นที่ (access control), กล้องวงจรปิด, ระบบควบคุมเครื่องจักร, หรืออุปกรณ์ IoT อื่นๆ แม้ว่าจะเป็นเสาสัญญาณ 5G ส่วนตัว แต่คลื่นความถี่นั้นจะแชร์กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือปกติ โดย AWS ไม่ได้ระบุว่าใช้คลื่นของผู้ให้บริการรายใดมาให้บริการนี้ AWS ระบุว่าโมเดลราคาของเครือข่ายส่วนตัวทุกวันนี้มักคิดตามจำนวนอุปกรณ์ทำให้ใช้งานจริงได้ยาก (เพราะมีค่าบริการรายเดือนทุกตัวแม้จะเป็นอุปกรณ์เล็กๆ ส่งข้อมูลเพียงเล็กน้อย) รวมถึงกระบวนการติดตั้งก็ใช้เวลานับเดือน แต่ในบริการนี้ AWS ระบุว่าจะใช้เวลาระดับวันเท่านั้น โดยลูกค้าสามารถสั่งเสามาติดตั้งได้จาก AWS console AWS ยังไม่เปิดเผยราคาบริการนี้และยังอยู่ในช่วงทดสอบวงปิดเท่านั้น ที่มา - AWS
# AWS เปิดตัวชิป Graviton3 ใช้แรม DDR5 ประสิทธิภาพดีขึ้น 25%, ตรวจสอบการเขียนแรมแปลกปลอม AWS เปิดตัวซีพียู Graviton3 ซีพียูที่ AWS ออกแบบเพื่อใช้งานในคลาวด์ของตัวเอง ระบุว่าประสิทธิภาพสูงขึ้น 25% แต่เฉพาะการประมวลผลเลขทศนิยมและการเข้ารหัสจะมีประสิทธิภาพดีขึ้นมาก สูงสุดถึงเท่าตัว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น รองรับ bfloat16: เลขทศนิยมความละเอียดต่ำสำหรับงานด้านปัญญาประดิษฐ์ ทำให้การประมวลผลข้อมูล bfloat16 เร็วขึ้นสามเท่าตัว ระบบตรวจสอบ pointer: ป้องกันการเขียนทับ pointer ในหน่วยความจำ โดย pointer ต้องมีลายเซ็นดิจิทัลกำกับว่าเป็นตำแหน่งที่ต้องการจริงๆ ป้องกันแฮกเกอร์มาเขียนข้อมูลทับตำแหน่ง pointer ฟีเจอร์นี้ต้องปรับระบบปฎิบัติการให้รองรับ และทาง AWS กำลังทำงานร่วมกับผู้พัฒนาระบบปฎิบัติการอยู่ ใช้แรม DDR5: กินพลังงานน้อยลงและแบนด์วิดท์แรมมากขึ้น 50% ซีพียู Graviton3 ใช้งานในเครื่อง C7g ตอนนี้เปิดให้ลงทะเบียนทดสอบแบบวงปิดเท่านั้น ที่มา - AWS
# AWS เปิดตัว EC2 ใช้ซีพียู AMD EPYC รุ่นที่ 3 และซีพียู Graviton2 กับกราฟิก NVIDIA T4G AWS เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ EC2 สองรุ่น คือ M6a ที่ใช้ซีพียู AMD EPYC รุ่นที่ 3 และ G5g ใช้ซีพียู Graviton2 ของ AWS เองพร้อมกับชิปกราฟิก NVIDIA T4G เครื่อง M6a สามารถเลือกเครื่องขนาดใหญ่กว่าเดิม เครื่องใหญ่สุดคือ m6a.48xlarge ขนาดถึง 192 vCPU พร้อมแรม 768 GiB แบนด์วิดท์เน็ตเวิร์คสูงสุด 50 Gbps และเชื่อมต่อสตอเรจ EBS แบนด์วิดท์สูงสุด 40 Gbps ตอนนี้ยังใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐฯ ทาง AWS ระบุว่าประสิทธิภาพต่อราคาของเครื่อง M6a ดีกว่า M5a ถึง 35% ที่มา - AWS ส่วนเครื่อง G5g นั้น เป็นซีพียู Graviton2 เชื่อมต่อกับ NVIDIA T4G สำหรับงานหลายประเภทที่ต้องการซีพียู Arm พร้อมกับชิปกราฟิก เช่น การสตรีมเกมที่พัฒนาสำหรับแอนดรอยด์, งานจำลองรถไร้คนขับ หรืองานเดิมที่ใช้ชิปกราฟิกอย่างการเรนเดอร์ภาพสามมิติและการรันโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โดยต้องใช้ชิป NVIDIA แต่ต้องการประหยัดต้นทุนด้วยชิป Graviton2 เครื่อง G5g เปิดให้ใช้งานทั้งสหรัฐฯ และเอเชีย รวมถึงสิงคโปร์ ที่มา - AWS
# Huobi บริษัทซื้อขายคริปโตจากจีน ย้ายสำนักงานใหญ่ไปสิงคโปร์ Houbi บริษัทซื้อขายคริปโตรายใหญ่จากจีนที่ต้องปิดบริการในจีนไปเมื่อปี 2017 ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังสิงคโปร์ พร้อมกับเตรียมเปิดสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคยุโรปเพิ่มเติมในปี 2023 ตัว Houbi แม้จะหยุดกิจการตลาดซื้อขายเงินคริปโตไปหลายปีแล้ว แต่ในจีนก็ยังให้บริการรวมกลุ่มขุดเงินคริปโต (mining pool) ในจีนเรื่อยมา เพิ่งมาหยุดกิจการเมื่อกลางปีที่ผ่านมาหลังรัฐบาลจีนประกาศ "กำจัด" เงินคริปโต ปีนี้ Houbi ตั้งบริษัทสองบริษัทในสิงคโปร์ คือ Huobi International ที่ถือหุ้นโดยผู้ก่อตั้ง Houbi จากจีนเดิม และ Huobi Singapore ที่ถือหุ้นโดย Huobi Technology Holdings บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เตรียมขอใบอนุญาตให้บริการจากธนาคารกลางสิงคโปร์ ที่มา - Strait Times ภาพโดย rebcenter-moscow
# หน่วยงานอังกฤษออกคำสั่งให้ Facebook ขายกิจการ Giphy เนื่องจากผูกขาดโซเชียลมีเดีย หน่วยงานด้านการแข่งขันและตลาดของอังกฤษ (Competition and Markets Authotiry - CMA) ออกคำสั่งให้ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ต้องขายกิจการ Giphy แพลตฟอร์ม GIF ที่ Facebook ซื้อกิจการมาเมื่อปีที่แล้ว ออกไปเป็นบริษัทอิสระ ตามที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ CMA ให้เหตุผลว่าการที่ Facebook ซื้อ Giphy ทำให้เกิดการผูกขาดในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เป็นการปิดโอกาสทำเงินจากโฆษณาของ Giphy ซึ่งจะสร้างการแข่งขัน อีกทั้ง Giphy ยังทำให้คู่แข่งที่ต้องการเข้าถึงข้อมูล GIF บนแพลตฟอร์ม อาจต้องแชร์ข้อมูลให้ Facebook อีกด้วย ทั้งนี้ผลจากคำสั่งดังกล่าว Facebook ยังมีสิทธิอุทธรณ์ โดยตัวแทนของ Meta ชี้แจงว่า บริษัทไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินนี้ โดยยืนยันว่าการรวมกิจการกันเป็นแนวทางที่ดีที่สุดทั้งกับผู้ใช้งาน และบริษัท Giphy เอง ในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร และทรัพยากรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่มา: Gov.UK ผ่าน Engadget
# ใช้สติป้องกันสตางค์ พร้อมวิธีป้องกันโจรกรรมออนไลน์ที่เริ่มได้ด้วยตัวเอง ทุกวันนี้แทบทุกคนใช้ชีวิตผูกติดกับโลกออนไลน์ เราจะได้เห็นข่าวเคสโดนหลอก โดนโกงเงินจากบรรดามิจฉาชีพและแฮกเกอร์ที่ขยันสรรหาวิธีคิดมาล่อลวงเอาข้อมูลการเงินไปจากเรา และหากไม่นับเรื่องแฮกเกอร์โจมตีระบบบริษัทเพื่อขโมยข้อมูลแล้วนั้น ภัยไซเบอร์ก็อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิดมาก ๆ ที่ผ่านมาเราเห็นเหตุการณ์ที่บัญชี Facebook และ Instagram ของเพื่อนๆ เราถูกแฮ็กหรือถูกสวมรอยเพื่อมาขอยืมเงิน เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่บานปลายไม่จบไม่สิ้น หรือแม้แต่เหตุการณ์ข้อความจากเว็บไซต์พนันบอลและเว็บเถื่อนกู้เงินออนไลน์ มาหลอกให้เราคลิกลิงก์ที่ไม่ปลอดภัย ฝังสแปมไว้เพื่อขโมยข้อมูลเราตั้งแต่ข้อมูลโซเชียลมีเดีย หรือที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และรหัสผ่านต่าง ๆ ซึ่งการป้องกันหลาย ๆ อย่างสามารถเริ่มได้ที่ตัวเราเอง เราจึงอยากมาแชร์วิธีป้องกันข้อมูลตัวเองเบื้องต้นแบบง่ายที่สุด และเริ่มต้นจาก “ตัวเอง” ก่อน #ใช้สติป้องกันสตางค์ เพื่อให้รอดปลอดภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ที่กำลังสร้างความเสียหายอย่างมากมายในทุกวันนี้ หวงมือถือยิ่งชีพ หลาย ๆ ครั้ง เราใช้งานมือถือ และวางมือถือทิ้งไว้โดยไม่เฉลียวใจว่าอาจมีผู้ไม่หวังดีขโมยมือถือของเราไปใช้ทำอะไรบางอย่าง หรือที่แย่กว่านั้น คือล็อกอินมือถือทิ้งไว้ และมิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลเราได้ทุกอย่าง มือถือกลายเป็นปัจจัยหลักไม่เพียงติดต่อสื่อสารกับคนอื่น แต่มันยังทำหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนตัว และยังใช้เป็นช่องทางหลักในการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร ดังนั้น มือถือควรเป็นสิ่งที่คนต้องหวงไว้ยิ่งชีพ หรือหากมีความจำเป็นต้องนำมือถือเข้าศูนย์ซ่อม ต้องทำการ Backup ข้อมูล รีเซตเครื่องใหม่เป็นเครื่องเปล่า (Factory Reset) และต้องไม่ลืมนำ Sim Card, SD Card ออกจากเครื่อง ทันทีที่ได้มือถือกลับมาจากศูนย์ซ่อม ควรทำการล้างเครื่องหรือ Factory Reset อีกครั้ง ป้องกันการฝังมัลแวร์ หรือแอปพลิเชันแปลกปลอมโดยที่เราไม่รู้ตัว ภาพจาก Shutterstock ข้อมูลบัตรเครดิตถูกขโมยได้ ห้ามบอกเลขหน้าบัตรและหลังบัตรกับใครเด็ดขาด จากข่าวใหญ่โตในช่วงที่ผ่านมา เราได้เห็นแล้วว่า เลขบัตรเครดิตสามารถถูกขโมยได้ ดังนั้น เราจึงต้องปกปิดข้อมูลเลขบัตรเครดิต รวมถึงเลข CVV หลังบัตรให้มิดชิดที่สุด ไม่เปิดเผยข้อมูลการใช้งานให้คนอื่นนอกจากธนาคาร ในการใช้บัตรเครดิต หรือเดบิตในการซื้อสินค้าและบริการตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็เช่นกัน ควรเลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ และต้องลบข้อมูลบัตรเครดิตออกจากทุกบริการที่เลิกใช้งานแล้ว รวมถึงถอดการเชื่อมแอปธนาคารเมื่อไม่ใช้งานแพลตฟอร์มซื้อของนั้นๆ ด้วย อันนี้สำคัญมากและคนทั่วไปมักมองข้าม ภาพจาก Shutterstock ตั้งค่าวงเงินออกให้ต่ำๆ เข้าไว้ ทั้งแอปพลิเคชันธนาคาร และบัตรเครดิต แอปพลิเคชันธนาคาร และบัตรเครดิตสามารถตั้งค่าวงเงินโอนออกได้ ป้องกันการขโมยเงินออกจากบัญชีได้ระดับหนึ่ง อีกทางเลือกที่ดีคือ ตั้งการแจ้งเตือนโอนออกผ่านอีเมลเสมอ เพื่อที่เราจะได้รู้ทุกความเคลื่อนไหวของธุรกรรมในบัญชีของเรา หากเกิดเหตุร้ายขึ้นมาจริง ๆ เราจะไหวตัวทัน และทำการอายัดบัตรได้เร็ว การตั้งค่าวงเงินโอนออก มีคามสำคัญมาก เราจึงควรตั้งวงเงินให้ต่ำพอที่หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้วยังจัดการปัญหาได้ทัน บัตรเครดิตที่ธนาคารให้วงเงินมาสูง เราก็สามารถโทรแจ้งธนาคารเพื่อขอปรับลดวงเงินให้เหลือตามที่เราสะดวกใจได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคนที่มายืมเงิน คือคนที่เรารู้จักจริงๆ หนึ่งในเหตุการณ์ที่พบเจอได้บ่อยคือ บัญชีโซเชียลมีเดียของเพื่อน ๆ โดยสวมรอย และอาศัยความเห็นอกเห็นใจของเรามาแชตขอยืมเงิน หรือใช้วิธีกดดันเราให้โอนเงินให้ด่วนที่สุด เช่น รถเสีย ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน พ่อแม่ป่วย เป็นต้น วิธีทดสอบง่าย ๆ คือ กดโทรออกเพื่อคุยกับเจ้าตัวโดยตรง หรือแชทคุยถามข้อมูลรอบด้านอื่น ๆ เพื่อจะได้รู้ว่า คน ๆ นี้คือเพื่อนของเราตัวจริง ภาพจาก Shutterstock ห้ามคลิกลิงก์ ข้อความ SMS แปลกปลอม ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ คนเราอาจหวั่นไหวได้ง่ายกับวิธีที่มิจฉาชีพใช้เพื่อล่อลวงให้เราตกหลุมพราง ไม่ว่าจะเป็น SMS แปลก ๆ หรืออีเมลแปลกๆ อย่างเช่น “คุณได้รับเงินกู้”, “คุณได้รับสิทธิ์เติมเงินฟรี”, “คุณได้รับอนุมัติสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ” “คุณได้รางวัลจาก...” เป็นต้น ซึ่ง SMS และอีเมลเหล่านี้มักแทรกลิงก์หน้าตาแปลกๆ เข้ามา วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าข้อความเหล่านี้เป็นข้อความหลอกลวงคือ มักใช้ภาษาไม่เป็นทางการ และกระตุ้นให้กด ทำราวกับว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนจนเกินจริง และมาพร้อม URL หน้าตาแปลก ๆ ดังนั้น ทางที่ดีคือ หากคุณเป็นคนที่ต้องการเงินกู้จริง ๆ ควรติดต่อผ่านธนาคารโดยตรงเท่านั้น และห้ามกดลิงก์จาก SMS หรืออีเมลที่เชิญชวนให้กดเป็นอันขาด ไม่หลงกล Call Center เบอร์แปลก ห้ามให้ข้อมูลคนแปลกหน้า มิจฉาชีพมักใช้วิธีการสุ่มเบอร์โทรศัพท์ และใช้ข้อความอัตโนมัติสร้างความตื่นเต้นหรือตกใจให้กับเหยื่อ บางครั้งก็แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ โทรมาหลอกเอาข้อมูลสำคัญ หรือหลอกให้เหยื่อไปทำรายการที่ตู้ ATM โดยใช้ข้ออ้างว่า ทำไปเพื่อล้างหนี้สิน หรืออาจหลอกให้เหยื่อไปโอนเงินให้หน่วยงานภาครัฐเพื่อตรวจสอบ ซึ่งมิจฉาชีพเหล่านี้จะอาศัยความกลัว ความโลภ และความรู้ไม่เท่าทันของเหยื่อ โดยข้ออ้างที่มิจฉาชีพมักใช้หลอกเหยื่อ เช่น บัญชีเงินฝาก / บัตรเครดิตถูกอายัติ / โอนเงินผิด ต้องทำการโอนคืนด่วน ไม่เช่นนั้นจะมีผลทางกฎหมาย บัญชีเงินฝากผัวพันกับการฟอกเงินหรือเรื่องผิดกฎหมาย ได้รับเงินคืนภาษี โชคดีได้รับรางวัลเป็นเงินก้อนใหญ่ ทางที่ดี หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ ต้องรีบพูดตัดบท และโทรสอบถามไปยังธนาคารที่มิจฉาชีพอ้างมาทันที เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง อ่านข้อมูลมาจนจบถึงตอนนี้ ถ้าใครเห็นว่าเป็นประโยชน์อยากเอาไปแชร์ต่อ ธนาคารกสิกรไทยที่ร่วมรณรงค์แคมเปญ สติ ยินดีที่จะให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน หรือคนทั่วไป สามารถนำคลิป ข้อมูล ต่าง ๆ ไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นการร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้พวกเราทุกคนปลอดภัยจากภัยไซเบอร์ที่แพร่ระบาดหนัก โดยสามารถติดต่อได้ที่ kbank.co พร้อมรับชมและกดแชร์หนังโฆษณาสติได้ที่ YouTube ใช้สติป้องกันสตางค์ หากพบภัยไซเบอร์ที่เกี่ยวกับธนาคารกสิกรไทย ติดต่อแจ้งข้อมูลได้ที่ KBank Live ผ่าน Line หรือ Facebook Messenger หรือแจ้งทางอีเมล [email protected] หรือติดต่อ K-Contact Center ได้ที่ 02-888-8888
# eBay เข้าซื้อ Sneaker Con ผู้ทำระบบตรวจสอบรองเท้าสนีกเกอร์ว่าเป็นของแท้หรือไม่ eBay แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ เข้าซื้อ Sneaker Con ผู้พัฒนาระบบตรวจสอบรองเท้าสนีกเกอร์ว่าเป็นของแท้หรือไม่ ซึ่งทั้งสองบริษัทต่างมีบริการร่วมกันมาก่อนแล้ว โดยผู้ที่ซื้อรองเท้าในราคา 100 เหรียญขึ้นไป Sneaker Con ช่วยตรวจสอบให้อีกชั้นหนึ่งก่อนจะถึงมือลูกค้า เมื่อรองเท้าได้รับการตรวจสอบแล้ว จะมีป้ายกำกับว่าตรวจสอบเรียบร้อยแล้วไปกับสินค้าด้วย eBay บอกด้วยว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการนี้ มีการตรวจสอบรองเท้าผ้าใบไปแล้ว 1.55 ล้านใบบน eBay บนแพลตฟอร์ม eBay มีโครงการรับประกันสินค้าของแท้ ไม่เพียงแต่รองเท้าผ้าใบแต่ยังมีนาฬิกาหรูและกระเป๋าถือด้วย ที่มา - The Verge
# Statista เผยผลสำรวจสัดส่วนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เล่นเกมด้วย ไทยติดอันดับ 3 ของโลก Statista เว็บไซต์วิจัยและเก็บสถิติชั้นนำ เปิดเผยผลสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตช่วงอายุ 16 ถึง 64 ปี ที่เล่นเกมบนอุปกรณ์อย่างน้อยหนึ่งอุปกรณ์ด้วย จัดทำช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่าไทยติดอันดับ 3 ของประเทศที่มีสัดส่วนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เล่นเกมมากที่สุด คิดเป็น 94.2% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในกลุ่มนี้ ประเทศที่ครองแชมป์คือฟิลิปปินส์ ที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เล่นเกมด้วยถึง 97% รองลงมาเป็นอินโดนีเซีย ที่ 94.3% ส่วนประเทศที่มีประชากรใช้อินเทอร์เน็ตที่เล่นเกมน้อยที่สุดสามอันดับสุดท้ายคือ ญี่ปุ่น ไอร์แลนด์ และเบลเยี่ยม ที่ 74.5%, 73.2% และ 71.6% ตามลำดับ ส่วนค่าเฉลี่ยประชากรอินเทอร์เน็ตในโลกที่เล่นเกมด้วย อยู่ที่ 85% แม้สถิติของบ้านเราจะไม่น่าแปลกใจ แต่แปลกที่ประเทศญี่ปุ่นที่ดูเหมือนว่าจะมีประชากรที่เล่นอินเทอร์เน็ตและเล่นเกมด้วยอยู่มาก กลับติดอยู่ใน 3 อันดับสุดท้าย แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ประชากรอินเทอร์เน็ตญี่ปุ่นในช่วงวัยสูงอายุจะมีมากกว่า จึงทำให้สัดส่วนออกมาเป็นดังนี้ ภาพจาก Statista ที่มา - Statista
# Nissan เผยแผน เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 23 รุ่น และผลิตแบตเตอรี่ Solid State ภายในปี 2030 Nissan เผยแผน Ambition 2030 ลงทุนกว่า 2 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 6 แสนล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ใช้ไฟฟ้าให้ได้ 23 รุ่น ภายในปี 2030 โดยแบ่งเป็นรถยนต์ Hybrid 8 รุ่น และ BEV (Battery Electric Vehicle) หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่เต็มรูปแบบ อีก 15 รุ่นด้วยกัน นอกจากนี้ Nissan ยังมีแผนเตรียมผลิตแบตเตอรี่แบบ All-Solid-State Battery หรือ ASSB แบตเตอรี่แบบ Solid State ที่มีความปลอดภัยและจุพลังงานต่อน้ำหนักได้มากขึ้น โดยจะตั้งโรงงานแรกภายในปี 2024 และใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2028 Nissan ยังมีแผนเพิ่มการผลิตแบตเตอรี่แพ็คโดยรวมให้ได้ถึง 130 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง (130 GWh) ภายในปี 2030 เทียบกับ Tesla ที่เคยมีงานสำรวจการผลิตจาก Statista ว่าจะผลิตได้ถึง 135 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมงในปี 2028 ถือได้ว่าเป็นแผนที่น่าติดตามของ Nissan ในอนาคตของวงการยานยนต์ไฟฟ้า ที่มา - Nissan
# เพิ่งจะมา Zoom เตรียมเพิ่มระบบอัพเดตอัตโนมัติให้แอปบน Windows และ macOS ก่อนหน้านี้แม้แอป Zoom บน Windows และ macOS จะมีระบบแจ้งเตือนให้ผู้ใช้กดยอมรับเพื่ออัพเดตแอป แต่ในหลายๆ ครั้ง ผู้ใช้อาจไม่ได้กดยอมให้อัพเดต เพราะกำลังจะต้องเข้าประชุมด่วน หรือมีงานที่ติดค้างอยู่ ทำให้ช่องโหว่ความปลอดภัยหรือบั๊กต่างๆ ไม่ได้รับการแก้ไข ตอนนี้ Zoom กำลังจะแก้ปัญหานี้ โดยการทยอยเพิ่มฟีเจอร์อัพเดตอัตโนมัติให้ผู้ใช้แล้ว หลังจากนี้ผู้ใช้จะสามารถเข้าไปที่ Settings > General และคลิกเลือก “Automatically keep my Zoom up to date.” เพื่อเปิดการอัพเดตอัตโนมัติ โดยอาจจะต้องใช้รหัสใช้งานของ Admin เพื่อเปิดใช้ โดยจะมีตัวเลือก “Slow” ที่จะรอให้เวอร์ชั่นล่าสุดมีความสเถียรเต็มที่ก่อนทำการอัพเดต และ “Fast” คืออัพเดตทันทีเมื่อมีเวอร์ชั่นใหม่ออก ไม่ต้องแปลกใจถ้าใน Settings ของคุณยังไม่มีตัวเลือกนี้ เพราะ Zoom กำลังทยอยเพิ่มให้ผู้ใช้เป็นกลุ่มๆ ไป ให้ลองเข้ามาเช็คเพื่อกดอัพเดตใหม่เองไปเรื่อยๆ เป็นระยะๆ ก่อน ที่มา - Tech Radar
# Synology Surveillance ครบจบทุกความต้องการเรื่องระบบเฝ้าระวังธุรกิจ เทรนด์ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า องค์กรต่าง ๆ เริ่มปรับใช้ระบบเฝ้าระวัง (Surveillance) ที่มีความซับซ้อน เพื่อเสริมกำลังให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของตน แต่การเลือกระบบที่เหมาะสมและเข้ากันได้กับความต้องการนั้นกลับเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับธุรกิจ มีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้ของตัวอุปกรณ์ พื้นที่จัดเก็บฟุตเทจ ความสามารถในการจัดการระบบจากที่เดียว ในกรณีที่มีห้างร้านหลายสาขา เป็นต้น Markets and Markets ผู้วิเคราะห์ตลาดของระบบรักษาความปลอดภัยเชิงพาณิชย์ คาดการณ์ว่าขนาดของตลาดจะสูงถึง 342.6 พันล้านในปี 2026 ซึ่งเติบโตขึ้นถึง 50% อย่างมีนัยสำคัญจากปี 2021 โดยสาเหตุส่วนใหญ่นั้นมาจากอาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้น และความพยายามตามให้ทันกฎหมายกำกับดูแลข้อมูลและความปลอดภัยที่หลาย ๆ ประเทศเริ่มให้ความสำคัญและเสนอเป็นกฎหมายคุ้มครองข้อมูล แรงจูงใจเหล่านี้ส่งผลให้องค์กรต่าง ๆ เริ่มปรับใช้ระบบเฝ้าระวัง (Surveillance) ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เพื่อเสริมกำลังให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของตน แต่การเลือกระบบที่เหมาะสมและเข้ากันได้กับความต้องการนั้นกลับเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับธรุกิจ โดยมีความท้าทายหลัก ๆ 3 อย่างที่องค์กรพึงตระหนัก 3 ความท้าทายที่ธุรกิจมักเผชิญเมื่อเลือกโซลูชันระบบเฝ้าระวัง (Surveillance) 1. ข้อจำกัดด้านความยืดหยุ่นในการเลือกกล้องและอุปกรณ์ ปัจจุบันมีผู้จำหน่าย NVR (Network Video Recorder) จำนวนมากที่รองรับประเภทกล้องและอุปกรณ์ในจำนวนที่จำกัดเนื่องจากเหตุผลทางธุรกิจ ซึ่งอาจมีความผูกขาดอยู่หน่อย ๆ ดังนั้น บ่อยครั้งที่ธุรกิจต่างต้องตัดสินใจและยอมปรับใช้กล้องที่ไม่ใช่รุ่นที่พวกเขาต้องการ นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการตั้งค่าของระบบเฝ้าระวังเดิมให้รองรับอุปกรณ์ที่ต้องการนั้นยังมีความซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง 2. ข้อจำกัดด้านพื้นที่จัดเก็บและความสามารถในการปรับขยายที่ไม่เพียงพอ ผู้จำหน่าย NVR แบบดั้งเดิมนำเสนอพื้นที่จัดเก็บที่จำกัด และมีความยืดหยุ่นในการปรับขยายที่ต่ำ ในขณะที่โลกเปลี่ยนไปทางดิจิทัลมากขึ้น นวัตกรรมทางเทคโนโลยีก็ขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว องค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ความละเอียดและคุณภาพของวิดีโอหรือปริมาณของข้อมูลสำรองที่กำหนดค่าไว้ถือเป็นด่านทดสอบที่ท้าทายสำหรับผู้จำหน่าย NVR แบบเดิมเมื่อต้องรับมือกับการเติบโตของปริมาณข้อมูลของลูกค้า และต้องปรับเปลี่ยนตามความต้องการลูกค้าที่อยากได้พื้นที่จัดเก็บและความสามารถในการควบคุมเพื่อทลายข้อจำกัดได้ นอกจากนี้ การเติบโตของความต้องการและการปรับใช้กล้อง IP รวมถึงการเร่งดำเนินการตามกฏระเบียบความปลอดภัยในองค์กร เช่น การปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเก็บรักษาวิดีโอบันทึกให้ยาวนานขึ้น ล้วนขับเคลื่อนให้ธุรกิจต้องไตร่ตรองเกี่ยวกับกลยุทธ์ของระบบการเฝ้าระวัง รวมถึงพื้นที่เก็บข้อมูลที่จำเป็นใหม่อีกครั้ง หรือสามารถสรุปง่าย ๆ ได้ว่า ผู้จำหน่าย NVR นั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องนำเสนอความสามารถในการปรับขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลระบบเฝ้าระวังให้มากขึ้น 3. ต้นทุนรวมสูงกว่าที่คาดไว้ ที่ต้นทุนรวมเมื่อคำนวณออกมาแล้วสูงกว่าที่คาดไว้ เป็นเพราะในหลาย ๆ ครั้ง ผู้ใช้มักมองข้ามค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากต้นทุนด้านฮาร์ดแวร์ ในความเป็นจริง โซลูชันระบบเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพนั้นอาจมีการเชื่อมต่อจากหลายสถานที่ และอาจรวมถึงส่วนประกอบมากมายของบุคคลที่สาม (Third-party) ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลถึงความต้องการในการบำรุงรักษาและการสนับสนุนจากผู้ขายที่แตกต่างกัน ผลที่ตามมาคือ ค่าธรรมเนียมการสมัครซอฟต์แวร์ VMS สำหรับการปรับใช้งานหลายสาขา ค่าใช้จ่ายในการผนวกรวมฮาร์ดแวร์ของบุคคลที่สาม นอกจากค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดอย่างที่กล่าวไปแล้ว ยังมีเรื่องของอุปสรรคในการติดต่อผู้ขายหลายรายเพื่อการบำรุงรักษาส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบเฝ้าระวังอีกด้วย สิ่งที่ต้องธุรกิจต้องพิจารณาและระวังเมื่อเลือกใช้โซลูชันระบบเฝ้าระวัง มาถึงตรงนี้ ผู้อ่านคงมีคำถามผุดขึ้นมาในใจแล้วว่า แล้วเราควรเลือกใช้โซลูชันระบบเฝ้าระวังแบบไหน ที่ไม่เพียงแข็งแกร่งเท่านั้นแต่ต้องทันสมัย และสามารถทลายข้อจำกัดที่เป็นปัญหาอย่างที่เล่ามาข้างต้น ทั้งในแง่การรองรับการผนวกรวมอุปกรณ์และกล้อง ความสามารถในการปรับขนาดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ 1. ระวังกับดักล็อกอินของผู้จำหน่ายกล้อง (Vendor Lock-in) ดังที่กล่าวไปแล้วว่า ผู้จำหน่ายจำนวนมากมีกฏการรองรับอุปกรณ์และกล้องที่เข้มงวด ทำให้ธุรกิจมีทางเลือกที่จำกัดในการเลือกส่วนประกอบระบบเฝ้าระวัง ธุรกิจจึงควรปรับใช้โซลูชันระบบเฝ้าระวังที่ทันสมัย ที่มาพร้อมการรองรับกล้องและอุปกรณ์หลายประเภท ทั้งเลนส์ฟิชอาย (Fisheye), PTZ หรือแบบหลายเลนส์ และโปรโตคอล ONVIF ที่เข้ากันได้ รวมไปถึงโมดูล I/O เช่น ตัวควบคุมประตู, ระบบ POS, อินเตอร์คอม และลำโพง IP ซึ่งถูกรวมเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของโครงสร้างระบบด้วย เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้ตรงกับความต้องการเฉพาะด้านความปลอดภัยขององค์กร 2. คำนึงถึงความสามารถในการปรับขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการจัดเก็บบันทึกวิดีโอถาวรที่เพิ่มขึ้น โซลูชันที่จัดเก็บข้อมูลจึงควรรองรับการปรับขยายหรืออุปกรณ์ส่วนต่อขยายได้ เพื่อเพิ่มความจุในการจัดเก็บข้อมูลและช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บวิดีโอบันทึกขนาดใหญ่ที่มีอัตราเฟรมที่สูงขึ้นได้ยาวขึ้น และระยะเวลาที่จัดเก็บนานขึ้น ซึ่งหากความสามารถในการปรับขนาดที่ยืดหยุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์การจัดการขั้นสูงด้วยแล้วนั้นจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บได้อย่างมาก 3. พิจารณารูปแบบของใบอนุญาต (License) ฟีเจอร์ขั้นสูงและฟังก์ชันการทำงานของซอฟต์แวร์ VMS เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ค่าใช้จ่ายของระบบเฝ้าระวังธุรกิจเพิ่มขึ้น วิธีการแก้ปัญหา คือ การปรับใช้งานโซลูชันระบบเฝ้าระวังที่มีต้นทุนฮาร์ดแวร์เพียงครั้งเดียวที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การจัดการขั้นสูงในตัว ให้ผู้ใช้สามารถเลือกปรับใช้งาน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของได้อย่างมาก 4. คำนึงถึงภาพรวมในการจัดการระบบขนาดใหญ่ และเมื่อพูดถึงฟีเจอร์การจัดการขั้นสูง ระบบเฝ้าระวังที่ทันสมัยควรมีการจัดการแบบรวมศูนย์ หรือ Centralized Management System: CMS ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการเซิร์ฟเวอร์การบันทึกหลายเซิร์ฟเวอร์ในสถานที่ต่าง ๆ พร้อมกลไกการเฟลโอเวอร์เฉพาะ (Failover N+M) ที่ยืดหยุ่น หรือรวมถึงฟีเจอร์การวิเคราะห์วิดีโอเชิงลึกด้านความปลอดภัย (Deep Video Analytic) เช่น การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของวัตถุและบุคคล เป็นต้น ทำไมธุรกิจถึงควรเลือกใช้โซลูชัน Surveillance Station ของ Synology ธุรกิจส่วนใหญ่มักไม่ให้ความสำคัญกับโซลูชันระบบเฝ้าระวังและความปลอดภัย และเมื่อถึงคราวที่ต้องปรับใช้และก้าวให้ทันกับความต้องการในด้านความปลอดภัยนี้ ธุรกิจอาจไม่มีงบประมาณและเวลาเพียงพอที่จะลองผิดลองถูกกับโซลูชันจากผู้จัดจำหน่ายที่หลากหลาย Surveillance Station ของ Synology คือโซลูชันระบบการเฝ้าระวังที่นอกจากจะครบวงจรแล้ว ยังมีความทันสมัยและความสามารถที่หลากหลาย ตั้งแต่มีฟีเจอร์การควบคุมและจัดการหลายสาขาจากส่วนกลาง ความยืดหยุ่นในการจัดเก็บข้อมูลสูง การรองรับอุปกรณ์ที่หลากหลาย และที่สำคัญที่สุด คือมีฟีเจอร์ฟรีมากมายที่พร้อมใช้งานเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของธุรกิจนั้น ๆ ช่วยธุรกิจลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของด้วยการลงทุนฮาร์ดแวร์และใบอนุญาตแบบถาวรเพียงครั้งเดียว รวมถึงยังช่วยลดเวลาการเรียนรู้และผนวกรวมการใช้งานกับระบบและอุปกรณ์เดิมอีกด้วย และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันเพื่อความปลอดภัย Surveillance Station ทาง Synology จัดงานสัมมนาออนไลน์ Business Surveillance Webinar ในหัวข้อ “ครบจบทุกความต้องการด้านระบบเฝ้าระวังธุรกิจในหนึ่งเดียว” เข้าร่วมฟังฟรี ลงทะเบียนได้ที่นี่ ภายในงานอัดแน่นด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับการปรับใช้งานและการจัดการระบบเฝ้าระวัง (Surveillance) ของ Synology โดยงานจัดขึ้นในวันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 เวลา 14:00 - 15:00 น. พร้อมลุ้นรับ Synology NAS รุ่น DiskStation DS220+ ที่มาพร้อมกับสิทธิ์การใช้งานกล้อง 2 สิทธิ์ในตัว จำนวน 1 เครื่องไปฟรี ๆ ดังนั้น นี่จึงเป็นงานที่คนสายเทค และธุรกิจไม่ควรพลาดด้วยประการใด ๆ ทั้งปวง หรือผู้ที่สนใจระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยครบวงจร Surveillance Station สามารถเข้าไปดาวน์โหลดเอกสารรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ได้ที่นี่
# Rocket League Sideswipe เกมรถเตะฟุตบอลเวอร์ชันมือถือ เปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการแล้ว Rocket League Sideswipe เกมรถเตะฟุตบอลเวอร์ชันมือถือของ Psyonix (ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ Epic) เปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการแล้วทั้งบน iOS/Android Rocket League Sideswipe เป็นการอัพเดตเกมเพลย์ของ Rocket League เวอร์ชันพีซีให้เหมาะกับมือถือ โดยหลักคือปรับมุมมองหลักเป็นด้านข้าง ปรับเวลาเกมให้สั้นลงเหลือ 2 นาที จบแมตช์เร็วขึ้น และปรับจำนวนผู้เล่นเป็นสูงสุด 2v2 (เวอร์ชันพีซีเล่นได้สูงสุด 4v4) ช่วงหลังเราเห็นแฟรนไชส์เกมออนไลน์ดังๆ บนพีซี หันมาออกเวอร์ชันเฉพาะมือถือกันมากขึ้น เช่น League of Legends: Wild Rifts และ Call of Duty: Mobile ที่มา - 9to5google
# รู้จัก Parag Agrawal ซีอีโอคนใหม่ของทวิตเตอร์ ผู้เป็นมือขวาสำคัญของ Jack Dorsey มายาวนาน Jack Dorsey ประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอทวิตเตอร์ บริษัทที่ตัวเองเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมาจนกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือโซเชียลทรงพลังของโลก โดยปผู้มาดำรงตำแหน่งเป็นซีอีโอแทนคือ Parag Agrawal ผู้ที่เป็นซีทีโอดูแลเทคโนโลยีของทวิตเตอร์มาอย่างยาวนาน ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีข้อมูลข่าวสารของ Agrawal ปรากฏตามหน้าสื่อมากนัก แต่เขาเป็นหนึ่งในมือขวาสำคัญของ Dorsey เลยทีเดียว โดย Agrawal เป็นซีทีโอตั้งแต่ปี 2017 ปัจจุบันอายุ 37 ปี เชื้อชาติอินเดีย มีบทบาทสำคัญในการสร้างแมชชีนเลิร์นนิงและปัญญาประดิษฐ์ของทวิตเตอร์ รวมถึงปรับโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท นอกจากนี้ ในปี 2019 Dorsey เผยทิศทางอนาคตของโซเชียลมีเดียแบบกระจายศูนย์ หรือโปรเจกต์ Bluesky อย่างเช่นเทคโนโลยีบล็อกเชน เขาก็ดึงตัว Agrawal มาดูแลเรื่องนี้ด้วย ซึ่ง Dorsey เขียนถึง Agrawal ในโพสต์แถลงลาออกว่า Agrawal เป็นตัวเลือกของฉันมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากเขาเข้าใจบริษัทและความต้องการของบริษัทอย่างลึกซึ้ง Agrawal สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และปริญญาตรีสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดีย (Indian Institute of Technology) ช่วงที่กำลังเรียนเขาได้เข้าร่วมกลุ่มวิจัยฐานข้อมูลและเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่โดดเด่นแม้อยู่ท่ามกลางนักศึกษาสแตนฟอร์ด และได้เข้าทำงานที่ทวิตเตอร์ในปี 2011 ระหว่างทำงานที่ทวิตเตอร์ Agrawal เข้ามาอยู่ในกลุ่ม Twitter Architecture Group หรือ T.A.G. ซึ่งเป็นทีมวิศวกรชั้นนำที่ตรวจสอบและปรับปรุงโครงการของบริษัท จนกระทั่ง Dorsey กลับมาเป็นซีอีโอที่ทวิตเตอร์อีกครั้งในปี 2015 Agrawal ก็พยายามผลักดันไทม์ไลน์ หรือเนื้อหาที่ฟีดเข้าแอปทวิตเตอร์ จนเข้าได้โปรโมทเป็นซีทีโอในปี 2017 Agrawal ยังมีส่วนช่วยผลักดันการเชื่อมต่อระบบคริปโตเข้ากับแพลตฟอร์ม จ่ายทิปด้วยบิทคอยน์ สนับสนุนการแสดงความโปร่งใสของอัลกอริทึมที่ทำพลาดได้ เช่นระบบครอปรูปอัตโนมัตินั้นมีปัญหาและมีอคติ ตามเอกสารรายงานของบริษัทระบุว่า Agrawal จะได้รับเงินเดือนประจำปี 1 ล้านดอลลาร์พร้อมโบนัส ที่มา - The New York Times
# CD Projekt ยืนยัน อัพเดต Cyberpunk 2077 เดินหน้าตามแผน ออกไตรมาส 1/2022 CD Projekt ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2021 รายได้เพิ่มขึ้น 40% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรลดลง เพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการพัฒนา Cyberpunk และโครงการเกมอื่นๆ ในการแถลงผลประกอบการ ยังมีอัพเดตสิ่งที่เกมเมอร์อยากรู้ คือ อัพเดตสำหรับคอนโซล next-gen ของ Cyberpunk 2077 ยังเป็นไปตามแผน และจะออกภายในไตรมาส 1/2022 ส่วนอัพเดต next-gen ของ The Witcher III จะตามมาในไตรมาส 2/2022 โครงการอื่นๆ ที่ CD Projekt กำลังทำอยู่คือ Gwent การ์ดเกมในจักรวาล The Witcher ยังไปได้เรื่อยๆ, เกมมือถือ The Witcher: Monster Slayer ที่พัฒนาโดยสตูดิโอลูก Spokko และมีโครงการเกมใหม่ที่ยังไม่เปิดเผย แต่ระบุว่ากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นกระบวนการ CD Projekt ยังแสดงชาร์ทสัดส่วนการทำงานของบริษัท ว่าตอนนี้เริ่มขยับกำลังคนจากการอัพเดต next-gen ให้ Cyberpunk 2077 มาทำภาคเสริมของ Cyberpunk แล้ว นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าซื้อกิจการสตูดิโอเกมมาอยู่ในเครือ 2 แห่ง ได้แก่ Digital Scapes (เปลี่ยนชื่อเป็น CD Projekt Red Vancouver) มาช่วยงานเกมที่กำลังสร้างอยู่ และ The Molasses Flood ในบอสตัน มาทำเกมใหม่ ที่มา - CD Projekt, IGN
# Amazon เปิดเทคโนโลยีจัดการฝูงหุ่นยนต์ในโกดังสินค้าให้ใช้ผ่าน AWS IoT RoboRunner AWS เปิดตัว AWS IoT RoboRunner บริการจัดการฝูงหุ่นยนต์ (fleets of robots) ที่ใช้หุ่นจำนวนมากๆ ช่วยกันทำงานบางประเภท โดยถอดระบบมาจากศูนย์กระจายสินค้าของ Amazon ที่ใช้หุ่นยนต์ขนาดเล็กๆ จัดการพัสดุในคลัง RoboRunner ทำหน้าที่เป็นแดชบอร์ดกลางสำหรับจัดการฝูงหุ่นยนต์ในโกดัง โดยมีแนวคิดของหุ่นแต่ละตัว (robot) ประกอบกันเป็นฝูง (fleet) ภายในโรงงานหรือโกดัง (facility) แล้วเขียนแอพพลิเคชันควบคุมหุ่นยนต์แต่ละฝูงอีกทีหนึ่ง ตัวระบบสามารถเชื่อมกับบริการอื่นของ AWS เช่น AWS Lambda หรือ AWS IoT Greengrass ตอนนี้ AWS IoT RoboRunner ยังมีสถานะพรีวิว และยังไม่คิดเงินค่าใช้งาน ที่มา - AWS Blog
# [ลือ] Apple ไม่ถอย ยังพัฒนาแท่นชาร์จไร้สายพร้อมกันหลายอุปกรณ์ แบบ AirPower จดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลล่าสุด ว่าแอปเปิลยังคงพัฒนาแท่นชาร์จไร้สาย แบบชาร์จได้พร้อมกันหลายอุปกรณ์ ซึ่งอาจมาแทนที่ AirPower ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวแต่ไม่มีออกมาจำหน่ายจริง แต่ Gurman ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าจะเป็นอย่างไร ปัจจุบันแท่นชาร์จไร้สายได้พร้อมกันหลายอุปกรณ์ ที่แอปเปิลทำออกมาขายคือ MagSafe Duo ที่ชาร์จพร้อมกันได้ทั้ง iPhone และ Apple Watch แต่ก็ทำงานแยกส่วนกันชัดเจน Gurman ยังให้ข้อมูลว่าแผนพัฒนาระบบชาร์จไร้สายของแอปเปิลนั้น ยังมองไปถึงการชาร์จแบบระยะไกล ไปจนถึงการให้อุปกรณ์ของแอปเปิลสามารถชาร์จไฟไร้สายข้ามอุปกรณ์กันเองได้อีกด้วย แต่ทั้งหมดก็คือข่าวลือที่ไม่รู้จะมาจริงเมื่อใด ที่มา: 9to5Mac
# Booking Holdings ซื้อกิจการ Etraveli Group ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจองตั๋วเครื่องบิน Booking Holdings ประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ Etraveli Group ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการจองเที่ยวบินโดยสาร โดยได้รับเงินทุนจาก CVC Capital Partners มูลค่าดีลราว 1,630 ล้านยูโร ปัจจุบัน Etraveli เป็นพาร์ทเนอร์ด้านระบบจองเที่ยวบินโดยสาร บนแพลตฟอร์มของ Booking อยู่แล้ว ผู้บริหารระบุว่าหลังสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ Booking มองเห็นโอกาสเติบโตในธุรกิจนี้ หลังดีลนี้สิ้นสุดแบรนด์ต่าง ๆ ในเครือของ Etraveli จะยังคงดำเนินงานอิสระต่อไปภายใต้แบรนด์เดิม Booking Holdings เป็นเจ้าของแบรนด์ด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ ได้แก่ Booking.com, Priceline, Agoda, Rentalcars.com, KAYAK และ OpenTable ส่วน Etraveli Group เป็นเจ้าของแบรนด์จองเที่ยวบินโดยสารอย่าง Gotogate, Mytrip, Flightnetwork รวมทั้งเป็นพาร์ทเนอร์ด้านการหาเที่ยวบินให้ Google Flights, Skyscanner, Kayak และ Booking.com ที่มา: Booking Holdings ภาพ Pixabay
# Clearlake Capital ประกาศซื้อกิจการ Quest Software ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับลูกค้าองค์กร Quest Software บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บริหารจัดการด้านความปลอดภัยองค์กร, คลาวด์ และฐานข้อมูล สำหรับลูกค้าองค์กร ประกาศบรรลุข้อตกลง ให้กลุ่มทุน Clearlake Capital เข้ามาซื้อกิจการต่อจาก Francisco Partners เจ้าของปัจจุบัน (ซึ่งซื้อต่อจาก Dell เมื่อปี 2016) ดีลดังกล่าวไม่มีการเปิดเผยมูลค่า แต่ The Wall Street Jounal อ้างตัวเลขที่ราว 5,400 ล้านดอลลาร์ Quest Software ก่อตั้งเมื่อปี 1987 เน้นพัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชันสำหรับลูกค้าองค์กร มีผลิตภัณฑ์เด่น อาทิ OneLogin, Platform Management for Microsoft, Toad, Foglight, erwin และ NetVault ที่มา: Quest และ TechCrunch
# JetBrains เปิดตัว Fleet โปรแกรมแก้โค้ดแบบเล็กเร็ว เปิดโหมด IDE ได้ภายหลัง JetBrains เปิดตัวโปรแกรมแก้ไขโค้ด (editor) ในชื่อ Fleet ที่เน้นการนำงานง่ายๆ ได้อย่างรวดเร็วไม่กินเครื่อง แต่เปิดโหมดสมาร์ตได้ภายหลังเพื่อให้มันทำงานเป็น IDE เต็มรูปแบบ ในโหมด editor นั้น Fleet สามารถไฮไลต์โค้ดได้, มีระบบเติมโค้ดอย่างง่ายๆ แต่เมื่อกดเปิดโหมดสมาร์ต จะวิเคราะห์โค้ดได้อย่างละเอียด เพิ่มตัวเติมโค้ดแบบฉลาด, ตัวช่วย refactor โค้ด, รองรับการดีบั๊กโค้ด ตอนนี้รองรับภาษา Java, Kotlin, Python, Go, JavaScript, Rust, TypeScript, และ JSON ในอนาคตเตรียมรองรับ PHP, C++, C#, และ HTML เพิ่มเติม JetBrains พบว่าหลังจากพัฒนา IDE มา 20 ปี โปรแกรมเมอร์จำนวนมากต้องการฟีเจอร์มากบ้างน้อยบ้างตามโอกาส บางทีก็ต้องการแก้โค้ดเร็วๆ บางทีก็ต้องการ IDE เต็มรูปแบบ จึงเกิดเป็น Fleet ออกมา ตอนนี้ Fleet ยังอยู่ในช่วงทดสอบวงปิด ที่มา - JetBrains
# ตำรวจอิตาลีจับแก๊งปลอมใบรับรองฉีดวัคซีน พบ QR ใช้งานจริงไม่ได้ ตำรวจอิตาลีรายงานความร่วมมือกับบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ Group-IB ตามล่าแก๊งขายใบรับรองการรับวัคซีนปลอม ในกลุ่มแชต Telegram รวม 35 กลุ่ม มีสมาชิกในกลุ่มรวมกว่าแสนราย แต่ไม่มีข้อมูลว่ามีการขายใบรับรองปลอมไปมากน้อยเพียงใด ใบรับรองวัคซีนของสหภาพยุโรปนั้นเป็น QR ที่มีลายเซ็นดิจิทัลไว้ในตัวทำให้กระบวนการปลอมแปลงโดยคนภายนอกทำได้ยากอย่างยิ่ง แก๊งเหล่านี้มักหลอกเหยื่อว่ามีคนในช่วยกรอกข้อมูลปลอมให้ ทำให้ได้รับ QR จริงที่ตรวจสอบผ่าน แต่หลังจากเหยื่อจ่ายเงินแล้วคนร้ายก็มักหายตัวไปหรือไม่ก็ส่งใบรับรองปลอมที่ใช้งานจริงไม่ได้ โดยทั่วไปแล้วคนร้ายมักเรียกค่าปลอมใบรับรองคนละ 100 ยูโร หรือประมาณ 3,800 บาท นอกจากเงินแล้ว เหยื่อยังส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้คนร้ายอย่างละเอียด ทั้งชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, วันเกิด, หมายเลขผู้เสียภาษี, หรือบางครั้งก็ถ่ายภาพบัตรประจำตัวส่งให้คนร้ายไป เปิดทางให้คนร้ายนำข้อมูลไปก่ออาชญากรรมอื่นๆ ที่มา - Group-IB, Gov.it
# เป็นทางการแล้ว Jack Dorsey ซีอีโอทวิตเตอร์สละตำแหน่ง ซีทีโอขึ้นมารับตำแหน่งแทน CNBC รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า Jack Dorsey ซีอีโอทวิตเตอร์เตรียมลงจากตำแหน่ง ล่าสุด มีแถลงการณ์ออกมาเป็นทางการว่าเป็นเรื่องจริง โดย Parag Agrawal ผู้ดำรงตำแหน่งซีทีโอจะขึ้นมาเป็นซีอีโอแทน โดย Dorsey จะยังคงเป็นสมาชิกของคณะกรรมการจนกว่าวาระจะสิ้นสุดลงในการประชุมผู้ถือหุ้นปี 2022 Dorsey กล่าวในการแถลงการณ์ว่า ตัดสินใจออกจากทวิตเตอร์ เพราะเชื่อว่าบริษัทพร้อมที่จะก้าวออกจากผู้ก่อตั้ง เขามีความไว้วางใจใน Parag อย่างลึกซึ้งจากการทำงานมาอย่างหนักในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และถึงเวลาของเขาที่จะก้าวเข้ามาเป็นผู้นำแล้ว Parag Agrawal เข้ามาทำงานที่ทวิตเตอร์ในปี 2011 และดำรงตำแหน่ง Chief Technology Officer ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2017 เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และปริญญาตรีสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดีย (Indian Institute of Technolog) ปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์หนึ่ง คือ Elliott Management บริษัทร่วมลงทุนซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทวิตเตอร์ พยายามหาคนมาแทนที่ Jack Dorsey เนื่องจาก Paul Singer ผู้ก่อตั้ง Elliott Management มีความสงสัยว่า Dorsey สมควรคุมตำแหน่งซีอีโอในบริษัทมหาชนพร้อมกันสองแห่งหรือไม่ Dorsey อายุ 45 ปี นอกจากเป็นซีอีโอทวิตเตอร์แล้ว ยังเป็นซีอีโอบริษัท Square ที่ทำด้าน payment อีกด้วย โดยเขาดำรงตำแหน่งซีอีโอทวิตเตอร์จนถึงปี 2008 ก่อนถูกบีบออกไป และกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งในปี 2015 ภาพ Flickr: JD Lasica ที่มา - CNBC, CNBC, PR Newswire
# Steam ทำลายสถิติอีกครั้ง มีผู้ใช้งานพร้อมกัน 27 ล้านคน เติบโต 10 ล้านคนช่วง COVID-19 เว็บไซต์รวบรวมสถิติ SteamDB (ไม่ได้เป็นของ Valve) รายงานสถิติผู้ใช้งาน Steam ที่แตะ new high อีกรอบที่ 27.38 ล้านคนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (ประมาณ 3 ทุ่มของคืนวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน ตามเวลาประเทศไทย) ในจำนวนนี้มีผู้เล่นที่อยู่ในเกมจริงๆ ประมาณ 7.8 ล้านคน ที่เหลือคือเปิดแอพ Steam แต่ไม่ได้เข้ามาเล่นเกมช่วงนั้น การที่ Steam มีสถิติผู้ใช้งานสูงมาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องเทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐอเมริกา, เทศกาลลดราคา Steam Autumn Sale และเกมออกใหม่ในช่วงนี้อย่าง Halo Infinite Multiplayer ที่มีสถิติผู้เล่นพร้อมกันสูงสุด 2.7 แสนคน หากดูสถิติย้อนหลังของ Steam มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นมากนับจาก COVID-19 ระบาดเป็นต้นมา โดยช่วงต้นปี 2020 มีผู้ใช้พร้อมกันสูงสุดประมาณ 17-18 ล้านคน (ในเกม 5.9 ล้านคน) เท่ากับว่ามีผู้ใช้เติบโตสูงขึ้นถึง 10 ล้านคนภายในเวลาประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ที่มา - SteamDB, IGN
# Line Webtoon เตรียมปรับราคาจากภาษี e-Service และอัตราแลกเปลี่ยน มีผล 6 ธันวาคมนี้ Facebook เพจ Line Webtoon โพสต์ประกาศ ระบุเตรียมปรับราคาตามการเก็บภาษี VAT ของบริการ e-Service และปรับราคาเพื่อให้สะท้อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของแต่ละระบบชำระเงินออนไลน์ ปัจจุบัน Line Webtoon ยังจำหน่ายเหรียญที่ใช้ในบริการ เริ่มต้นที่ 35 บาท ได้รับ 100 เหรียญ และแพงสุด 1,050 บาท ได้ 3,380 เหรียญอยู่ ยังไม่แน่ชัดว่าราคาใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็นกี่บาท แต่จะเริ่มปรับใช้ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ที่มา - LINE WEBTOON
# โปรเจกต์รวมเงินคริปโตเพื่อประมูลรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ล่ม ประมูลแพ้ คืนเงินยากเพราะค่าแก๊สแพง ConstitutionDAO กลุ่มชาวคริปโตที่รวมตัวกันเฉพาะกิจ และระดมเงินบนเชน Ethereum ได้กว่า 40 ล้านดอลลาร์ เพื่อประมูลหนึ่งในกระดาษพิมพ์ต้นฉบับของรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกากับ Sotheby’s เกิดปัญหาหลังแพ้การประมูลจนต้องเตรียมปิดตัวลง แต่การจัดคืนเงินทำได้ลำบาก เนื่องจากค่าแก๊ส หรือค่าบริการที่ผู้ใช้ต้องจ่ายเพื่อโอนเงินบนเชน Ethereum นั้นแพงมาก ConstitutionDAO ก่อตั้งขึ้นก่อนมีการประมูลเพียงไม่นาน และระหว่างที่รวมเงินก็มีการแก้ไขรายละเอียดต่างๆ หลายครั้ง โดยสุดท้ายผู้บริจาค ETH สามารถแลกรับโทเคน PEOPLE ได้ในอัตรา 1 ETH ต่อ 1,000,000 PEOPLE โดยระบุว่าผู้ถือเหรียญ PEOPLE และนำมาฝากไว้บนเว็บ จะมีสิทธิ์ในการโหวตด้านการจัดการการดูแลรักษาต้นฉบับรัฐธรรมนูญที่ประมูลมาได้ ปัญหาเกิดเมื่อ ConsitutionDAO ประมูลแพ้ Ken Griffin เจ้าของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ประมูลไปได้ในราคา 43.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และต้องปิดโปรเจกต์โดยให้ทางเลือกผู้ใช้สองทางเพื่อรับเงินคืน หนึ่งคือการรับเหรียญ PEOPLE ที่ฝากไว้บนเว็บกลับเข้าวอลเล็ต (ซึ่งก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรต่อ) กับการแลกเหรียญ PEOPLE กลับเข้ากระเป๋าเป็น ETH แต่ทั้งสองทางก็ต้องจ่ายค่าแก๊สเหมือนกัน สำนักข่าว BBC รายงานว่าผู้ใช้ใน Discord ของกลุ่ม ระบุว่าการแลกเงินคืนราว 400 ดอลลาร์ (ราว 13,600 บาท) อาจต้องเสียค่าแก๊สถึง 168 ดอลลาร์ (ราว 5,700 บาท) หรือมากน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับมูลค่าเหรียญ ETH ขณะนั้น โดยทีมงาน ConstitutionDAO เองก็จนปัญญา และบอกว่าไม่มีวิธีแก้ให้ แม้จะพยายามคิดกันอย่างหนักก็ตาม สาเหตุของปัญหาอาจเกิดจาก ConstitutionDAO ไม่มีการเตรียมการที่ดีพอในกรณีแพ้ประมูล และไม่ได้ศึกษาการทำงานของบล็อกเชนสำหรับการระดมทุนจากคนจำนวนมากไว้มากพอ เช่น อาจไปใช้เชนอื่นนอกจากเชน Ethereum ที่มีค่าแก๊สถูกกว่าแทน หลังจากนี้คงต้องติดตามดูว่า ConstitutionDAO จะมีการชดเชยเงินให้กับผู้ร่วมระดมทุนทางอื่นหรือไม่ และโปรเจกต์ระดมทุน DAO อื่นๆ ที่อยู่บนบล็อกเชน จะมีวิธีแก้ไขปัญหานี้กันอย่างไร ที่มา - BBC, Vice, Vice, ConstitutionDAO