txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# Starlink เริ่มขายจานรุ่นใหม่แบบสี่เหลี่ยม ขนาดเล็กลงตัดพอร์ตแลน แต่ราคาเท่าเดิม
Starlink เริ่มวางขายจานดาวเทียมรุ่นใหม่ทรงสี่เหลี่ยมมีขนาดเล็กลงเหลือ 50x30 ตารางเซนติเมตรน้ำหนัก 4.2 กิโลกรัม เทียบกับรุ่นเดิมที่เป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 59 เซนติเมตร หนักถึง 7.3 กิโลกรัม
ตัวเราท์เตอร์ของจานรุ่นใหม่เป็น MIMO 3x3 ดีกว่ารุ่นเดิมที่เป็น 2x2 แต่กลับตัดพอร์ตแลนออก แล้วขายแยกเป็นอุปกรณ์เสริม สเปคที่เปลี่ยนแปลงสำคัญคือจานรุ่นใหม่สามารถทำงานที่อุณหภูมิ -30 องศาเซลเซียสได้ด้วย จากรุ่นเดิมที่สเปคทำงานได้ที่ 0 องศาเท่านั้น นับว่าเป็นจุดสำคัญโดยเฉพาะ Starlink เน้นให้บริการพื้นที่ห่างไกลแถบด้านเหนือของโลกเป็นหลักในตอนนี้
ราคาขายจานยังคงเท่าเดิมที่ 499 ดอลลาร์ แต่คาดว่าต้นทุนของ Starlink สำหรับจานรุ่นใหม่จะถูกลงมาก เพราะแต่เดิมจานรุ่นวงกลมนั้นคาดว่าต้นทุนจะสูงถึง 3,000 ดอลลาร์ หรือประมาณหนึ่งแสนบาทต่อจาน แม้ว่าต้นทุนจะถูกลงเรื่อยๆ หลังจากผลิตเป็นจำนวนมาก
ที่มา - The Verge |
# เละตุ้มเปะ GTA ภาครีมาสเตอร์เวอร์ชั่น PC ได้คะแนนจากผู้เล่น บน Metacritic แค่ 0.5 คะแนน
เกม Grand Theft Auto Trilogy: The Definitive Edition ถูกถล่มรีวิวจากผู้เล่นบน Metacritic กว่า 2,700 รีวิว จนคะแนนอยู่ที่ 0.5 คะแนนจาก 10 คะแนน หลังผู้เล่นเจอบั๊กและกราฟฟิกที่ไม่สมกับคุณภาพ Rockstar Games มากมาย แถมเวอร์ชั่น PC ที่ต้องเล่นผ่าน Rockstar Games Launcher ยังประสบปัญหาเล่นไม่ได้จนต้องหยุดขายชั่วคราวอีกด้วย ด้านคะแนนจากสื่อและนักวิจารณ์ ยังไม่มีสรุปผล เพราะ Rockstar Games ไม่ได้เปิดให้สื่อเล่นเกมก่อนวางจำหน่าย แต่คาดว่าน่าจะตามมาในอีกไม่กี่วัน
Grand Theft Auto Trilogy: The Definitive Edition เป็นเกมที่รวมเอา GTA ภาคเก่าในเจ็นก่อนทั้ง GTA:III, GTA: Vice City และ GTA: San Andreas มารีมาสเตอร์บน Unreal Engine แล้วมัดขายรวมทั้งสามภาคในราคาเต็ม 60 ดอลลาร์ โดย Rockstar Games มอบหมายให้ Grove Street Games ทีมพอร์ต GTA เจ็นเก่าลงมือถือ เป็นผู้รีมาสเตอร์ ซึ่งก็ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง และมีกระแสด้านลบอย่างที่เห็น
ส่วน GTA:VI ภาคใหม่ ก็ยังไม่มีข่าวอย่างเป็นทางการที่น่าเชื่อถือได้ออกมาว่าพัฒนาไปถึงไหน และจะได้เล่นเมื่อไร ยังคงมีเพียงข่าวลือจากสำนักข่าวต่างๆ ที่สลับกันรายงาน และ Snoop Dogg ที่หลุดปากว่า Dr.Dre กำลังทำเพลงให้เกม GTA เท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าทำให้ภาคใหม่ หรือ GTA:Online
ที่มา - Eurogamer |
# Morgan Stanley ระบุ Metaverse จะแมสได้ Apple ต้องมีส่วนร่วม
แม้ Facebook จะเปลี่ยนชื่อเป็น Meta และออกตัวเป็นหัวหอกในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่เมต้าเวิร์ส แต่ล่าสุด Morgan Stanley สรุปในรีเสิร์ชโน้ตว่าบริษัทที่จะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในวงกว้างของเมต้าเวิร์ส คือ Apple
Morgan Stanley ระบุว่าแม้ Facebook และ Google จะลงทุนกับ AR และ VR ไปมากเท่าไร สุดท้ายการใช้งานในวงกว้างจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ Apple เข้ามาร่วมแข่งในสนามนี้ด้วย โดยข้อสรุปนี้อ้างอิงมาจากแบบสำรวจ และการสนทนากับบริษัท AR/VR หลายเจ้า
นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley สรุปปิดท้ายไว้ว่าแม้ Apple จะยังไม่เข้าสู่วงการ AR/VR ในปัจจุบัน แต่การเข้ามาร่วมวงช้า อาจแปลว่าโอกาสประสบความสำเร็จย่อมมีมากขึ้น เพราะเป็นการเข้าสู่วงการแบบมีข้อมูลพร้อมในมือแล้ว และระบุว่าตอนสมาร์ทโฟน Apple ก็ออก iPhone มาทีหลัง Blackberry และ Nokia เช่นกัน
Morgan Stanley ให้ตัวเลขไว้ว่าตลาดแกดเจ็ต AR/VR อาจมีมูลค่าถึง 100 พันล้านดอลลาร์ได้ในปี 2030 และอาจเติบโตได้หลังจากนั้นอีก 5 เท่าภายในปี 2040 ถือว่าเป็นอีกตลาดที่น่าจับตามองในอนาคต
ที่มา - Bloomberg |
# Roblox แยกโครงการ Luau ภาษาโปรแกรมมิ่งที่ใช้ในเกมออกเป็นโครงการโอเพนซอร์ส
Roblox แพลตฟอร์มวิดีโอเกมตัวเหลี่ยมประกาศแยกโครงการภาษาโปรแกรมมิ่ง Luau ที่พัฒนาจากภาษา Lua แต่เขียนใหม่เกือบทั้งหมดออกมาเป็นโครงการแยกจากตัว Roblox เอง ออกมาเป็นภาษาโปรแกรมมิ่งโอเพนซอร์สที่ชุมชนสามารถเสนอความเปลี่ยนแปลงได้เอง
ตัวภาษา Luau ทำงานร่วมกับ Lua 5.1 ได้ แต่จะพัฒนาแยกไปตามแนวทางของตัวเอง โดยความต้องการของ Roblox คือการวิเคราะห์โค้ดอย่างละเอียดก่อนรันเนื่องจากตัว Roblox เป็นแพลตฟอร์มที่ต้องรับโค้ดจากนักพัฒนาภายนอก ทำให้ภาษา Lua มีข้อจำกัดเนื่องจากตัว parser โค้ดนั้นฝังรวมกับคอมไพล์เลอร์ นอกจากนี้ตัวไลบรารีของ Luau จะถูกปรับแต่งให้ทำงานใน sandbox ได้อย่างปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ Luau ก็ใช้พัฒนาอยู่ใน Roblox Studio อยู่ก่อนแล้ว แต่การแยกโครงการออกมาทำให้นำไปใช้ที่อื่นได้ และน่าจะมีเครื่องมือเพิ่มเติมออกมาในอนาคต
ที่มา - Roblox |
# Bitbucket เล่าประสบการณ์ย้ายเซิร์ฟเวอร์ขึ้นคลาวด์ AWS พบระบบเสถียร ประสิทธิภาพดีขึ้น
Atlassian เปิดเผยว่าย้ายบริการฝากซอร์สโค้ด Bitbucket จากศูนย์ข้อมูลของตัวเอง ขึ้นมาอยู่บน AWS ทั้งหมดตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
เดิมที Bitbucket โฮสต์อยู่ในศูนย์ข้อมูลของ Atlassian เองมานานกว่าสิบปี แต่บริษัทก็พบปัญหาในการดูแลศูนย์ข้อมูลของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ (เช่น ปัญหาระบบล่ม ฮาร์ดแวร์พัง) ทำให้บริการถูกจำกัดศักยภาพจากศูนย์ข้อมูลแบบดั้งเดิม จึงตัดสินใจย้ายระบบมาสู่ AWS โดยรันบนแพลตฟอร์มคลาวด์ Micros ของตัวเอง (ที่รันอยู่บนเครื่อง AWS อีกที)
ทีมงาน Atlassian ให้สัมภาษณ์กับ The Register ว่าต้องปรับสถาปัตยกรรมของ Bitbucket พอสมควร เพราะมันออกแบบมาสำหรับการรันในศูนย์ข้อมูล ไม่ใช่สำหรับคลาวด์ กระบวนการทั้งหมดใช้เวลา 18 เดือน เป้าหมายคือ
ย้าย repository จำนวน 50 ล้านอันขึ้นระบบคลาวด์สตอเรจ
กระบวนการย้ายคือ replicate ข้อมูลทั้งหมดที่เขียนลงสตอเรจของ Atlassian ไปยังเครื่อง AWS แบบเรียลไทม์ และการย้ายขั้นตอนสุดท้ายในเดือนสิงหาคม มีเวลาดาวน์ไทม์ 3 ชั่วโมง เพื่อชี้บริการไปยังเครื่องใหม่บน AWS ทีมงานระบุว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ทราบเลยว่าย้ายระบบแล้ว และบริษัทแจ้งให้ลูกค้ารายใหญ่ๆ เพียงไม่กี่รายให้ทราบเท่านั้น
Atlassian สรุปข้อดีของการย้ายระบบขึ้นคลาวด์ว่า
ระบบเสถียรขึ้นมาก รันมา 2 เดือนกว่าแล้วยังไม่เจอปัญหาระบบล่มหรือประสิทธิภาพตกใหญ่ๆ เลย จำนวนคำขอซัพพอร์ตรายสัปดาห์ที่เกี่ยวกับเรื่องเสถียรภาพลดลงจากเดิม 93%
ปลอดภัยขึ้น เพราะใช้มาตรฐานความปลอดภัยของ AWS, ลดโอกาสเข้าถึงเครื่องในทางกายภาพ, เข้ารหัสข้อมูลสตอเรจทั้งหมด
ประสิทธิภาพดีขึ้น อัตราการตอบสนองหน้าเว็บ (response time) เพิ่มขึ้น 55%
ที่มา - Atlassian, The Register |
# NVIDIA ประกาศซูเปอร์คอม Earth-2 เป็นแฝดดิจิทัลของโลก คำนวณการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
NVIDIA ประกาศสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ชื่อ Earth-2 หรือ E-2 เพื่อประมวลผลการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก โดยยังไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ มากนัก ไม่ว่าจะเป็นสเปก กรอบเวลา หรือพาร์ทเนอร์
Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ระบุแค่ว่า Earth-2 เป็นการสร้าง "แฝดดิจิทัล" (digital twin) ของโลกขึ้นมาใน omniverse (metaverse ในภาษาของ NVIDIA) เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมของโลกอย่างละเอียดมากๆ มาสร้างโมเดลการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้ลงลึก (ultra-high-resolution climate modeling) กว่าโมเดลในปัจจุบันที่ทำได้ระดับ 10-100 กิโลเมตร
Huang เปรียบเทียบ Earth-2 กับ Cambridge-1 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สายวิจัยยาและสุขภาพที่เพิ่งเปิดตัว โดยบอกว่าเป็นคู่หูในงานวิจัยสำคัญคนละด้านกัน
ที่มา - NVIDIA, VentureBeat |
# ลูบคม เซิร์ฟเวอร์ FBI ถูกใช้ส่งเมลหลอก แฮกเกอร์อาศัยพอร์ทัลที่มีช่องโหว่
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ดูแลระบบนับพันรายได้รับอีเมลแจ้งเตือนภัยไซเบอร์โดยส่งมาจากโดเมน ic.fbi.gov ว่าระบบถูกแฮก โดยอีเมลนี้ส่งมาจากเซิร์ฟเวอร์ของ FBI จริง ทำให้ผู้รับอีเมลไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่าเมลใดเป็นเมลหลอก
ระบบที่มีช่องโหว่นี้เป็นระบบพอร์ทัลของหน่วยงานบังคับกฎหมายของสหรัฐฯ หรือ Law Enforcement Enterprise Portal (LEEP) สำหรับหน่วยงานต่างๆ มาแชร์ข้อมูลข่าวสารกัน แต่ทาง FBI เปิดให้ใครก็ได้สมัครสมาชิก เมื่อกรอกข้อมูลครบแล้ว ระบบจะส่งอีเมลยืนยันไปยังอีเมลที่ใช้สมัครซึ่งเป็นเรื่องปกติของเว็บจำนวนมาก
ปัญหาคือ LEEP สร้างอีเมลจากฝั่งเบราว์เซอร์และเซิร์ฟเวอร์เชื่อข้อมูลทั้งหัวข้ออีเมล และเนื้อหาในอีเมล ทำให้แฮกเกอร์สามารถสมัครระบบ LEEP แล้วส่งอีเมลหาใครก็ได้ โดยกำหนดทั้งหัวข้ออีเมลและเนื้อหาภายในได้ทั้งหมด
ทาง FBI แถลงระบุว่าเป็นช่องโหว่ "คอนฟิกผิดพลาด" (misconfiguration) และเซิร์ฟเวอร์ตัวนี้ใช้สำหรับส่งอีเมลสำหรับระบบ LEEP เท่านั้น อีเมลระบบอื่นไม่ได้รับผลกระทบและไม่มีข้อมูลรั่วไหล
ที่มา - Krebs On Security, SpamHaus |
# บิดาแห่ง Xbox เล่าความหลัง Xbox รุ่นแรก เกือบได้ใช้ซีพียู AMD แต่เปลี่ยนใจมาใช้อินเทล
Seamus Blackley หนึ่งในทีมผู้สร้าง Xbox รุ่นแรก ที่ได้รับการเรียกขานว่าเป็น "บิดาแห่ง Xbox" (เขาลาออกจากไมโครซอฟท์ปี 2002) ออกมาโพสต์ขอบคุณแฟนๆ ผ่านทวิตเตอร์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีการวางขาย Xbox รุ่นแรก (15 พ.ย. 2001) ว่าเกมเมอร์ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ Xbox ประสบความสำเร็จ ทีมงานถือเป็นองค์ประกอบแค่ 40% เท่านั้น เพราะตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักแบรนด์ Xbox เลย การซื้อเครื่องคอนโซลจากบริษัทที่สร้าง Excel ย่อมต้องใช้พลังในการอธิบายคนรอบตัวเป็นอย่างมาก
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Blackley ยังออกมาเปิดเผยว่า Xbox รุ่นแรกใช้ซีพียู AMD ในเครื่องต้นแบบด้วย แต่ไมโครซอฟท์เปลี่ยนใจมาใช้ซีพียูอินเทลในนาทีสุดท้าย เพราะ Andy Grove ซีอีโอของอินเทลโทรหาบิล เกตส์
การเปลี่ยนใจครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนงานแถลงการณ์ไม่นาน เพราะมีทีมวิศวกรของ AMD มาร่วมงานเปิดตัว นั่งอยู่แถวหน้าด้วย เพื่อมารับฟังว่า Xbox จะใช้ซีพียูอินเทล (เครื่องเดโมบนเวทีใช้ซีพียู AMD) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ Blackley รู้สึกผิดมาก เขาจึงอยากขอโทษทีม AMD ตอนนั้นย้อนหลังในโอกาสครบรอบ 20 ปีด้วย
Xbox 360 รุ่นถัดมาใช้ซีพียู PowerPC ที่พัฒนาโดย IBM แต่ในรุ่นถัดมาคือ Xbox One และ Xbox Series X|S ในปัจจุบัน เป็นชิป SoC ของ AMD ทั้งหมด
ที่มา - Gamespot |
# มีคนขุดโค้ด GTA: San Andreas ภาครีมาสเตอร์ พบโค้ดลับ Hot Coffee ยังคงอยู่
ถ้ายังจำกันได้ สมัยเกม Grand Theft Auto: San Andreas วางขายในปี 2004 มีคนไปพบโค้ดลับในเกมที่ให้ตัวเอกสามารถมีเซ็กซ์กับแฟนสาว (ในเกม) ได้ โค้ดส่วนนี้ถูกปิดการทำงานไว้ แต่ถูกแก้ไขเป็นม็อดชื่อ Hot Coffee ให้เล่นกัน จนเป็นข่าวดังในยุคนั้น
ข้ามเวลามา 17 ปี เกม GTA ภาคเก่า 3 ภาค (รวม San Andreas) ถูกนำมารีมาสเตอร์ขายใหม่ มีคนยังไม่ลืมเรื่องนี้ เลยขุดโค้ดของ San Andreas เวอร์ชันรีมาสเตอร์ดูอีกรอบ สิ่งที่พบคือโค้ดลับที่ใช้สำหรับม็อด Hot Coffee เดิมยังคงอยู่ (ชื่อภายในคือ "GFSEX") อย่างไรก็ตาม ตัวโมเดลแฟนสาวตอนถอดเสื้อ และแอนิเมชันถูกนำออกไปแล้ว การสร้างม็อดแบบ Hot Coffee อีกครั้งน่าจะทำได้ยาก
ส่วนเหตุผลที่ Rockstar ไม่ได้นำโค้ดออกไป อาจเป็นเพราะ "งานมันเร่ง" จนทำให้ GTA ภาครีมาสเตอร์มีปัญหามากมายในช่วงเปิดตัว
ที่มา - Eurogamer |
# ผู้ซื้อรถ Tesla คันใหม่พบพอร์ต USB หายไป, ชาร์จไร้สายใช้ไม่ได้โดยไม่แจ้งก่อน บริษัทระบุเพราะชิปขาดแคลน
แม้ว่า Tesla จะเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ที่เติบโตได้แม้ชิปขาดแคลน แต่กลับกันผลร้ายกลับมาตกที่ผู้ซื้อรถ Tesla โดยตอนนี้มีรายงานว่ารถ Tesla บางคันโดนถอดพอร์ตเสียบ USB-C ในรถ รวมถึงระบบชาร์จไร้สายก็ไม่สามารถใช้งานได้ ผู้ได้รับผลกระทบบางรายระบุว่าพบเอง ไม่มีการแจ้งเตือนจาก Tesla มาก่อน
เว็บไซต์ Electrek รายงานว่า ผู้ซื้อรถ Tesla Model 3 และ Model Y จำนวนหนึ่งรายงานว่า รถยนต์ที่เพิ่งรับมา ตัวพอร์ต USB-C ตรงคอนโซลกลางหายไป และไม่สามารถใช้งานระบบชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายได้ ซึ่ง Electrek สำรวจเบื้องต้นจากข้อมูลผู้ใช้ Tesla บนอินเทอร์เน็ต พบว่าพอร์ต USB-C พบครั้งสุดท้ายในผู้รับรถ Model Y เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ปัญหาชิปขาดแคลนไม่ได้พบเฉพาะ Tesla แต่ส่งผลกระทบกับค่ายรถอื่น ๆ ไปทั่วทั้งอุตสาหกรรม โดยกรณีของ BMW ก็ตัดสินใจถอดฟีเจอร์จอสัมผัสออกจากรถยนต์บางรุ่นและแทนที่ด้วยคอนโทรลเลอร์ (ที่ลักษณะเหมือนทัชแพด) บนคอนโซลกลางแทน ผู้ซื้อรถจะได้รับเครดิต 500 เหรียญเพื่อชดเชยฟีเจอร์ที่หายไป และต้องเซ็นแบบฟอร์มรับทราบกับดีลเลอร์ด้วยว่าฟีเจอร์ถูกถอดออกจากรถที่รับมา
ส่วนกรณีของ Tesla พบว่าแม้จะมีผู้ซื้อบางคนที่ได้รับการแจ้งเตือนก่อนรับรถ แต่บางคนก็รายงานว่าไม่ได้รับทราบข้อมูลนี้และไปพบเองที่บ้านว่าพอร์ตหายไปกับระบบชาร์จไร้สายใช้งานไม่ได้ ส่วนฝั่ง Tesla ยืนยันว่าเป็นปัญหาจากชิปขาดแคลนจริง แต่ฟีเจอร์นี้มีผู้ใช้งานน้อยมากและไม่ได้มีมูลค่ามากมายนัก ซึ่งถ้าชิ้นส่วนนี้มาผู้ซื้อรถก็สามารถเข้ามารับบริการใส่เพิ่มได้ โดยคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนธันวาคมนี้
Electrek ให้ความเห็นว่าชิปขาดแคลนเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าผู้ผลิตรถยนต์ได้รับผลกระทบกันทั้งอุตสาหกรรม แต่การที่ Tesla กระทำลักษณะนี้คือไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนจนลูกค้าไปพบเองตอนรับรถไปแล้วเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ อย่างน้อย Tesla ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อน และต้องมีชดเชยบางอย่างให้ลูกค้าที่เลือกจะรับรถ (เช่น ให้เครดิต Supercharger) หรือให้สัญญาณที่ชัดเจนว่าถ้าชิ้นส่วนมาแล้วจะให้เข้ามาติดตั้งเมื่อไร
ที่มา - Electrek
Tesla Model 3 ภาพจาก Tesla |
# เฟซบุ๊กโชว์ปัญญาประดิษฐ์แปลภาษาแบบหลายภาษา คุณภาพการแปลชนะโมเดลภาษาเดียว
เฟซบุ๊ก (Meta) ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์สำหรับการแปลภาษาหลายภาษา (multilingual translation) ที่ชนะโมเดลปัญญาประดิษฐ์แปลภาษาที่เจาะจงคู่ภาษาถึง 10 คู่ภาษาจาก 14 คู่ภาษา
แนวทางของเฟซบุ๊กสร้างโมเดลแปล 7 ภาษาเป็นภาษาอังกฤษ และโมเดลสำหรับแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาทั้ง 7 นั้นฝึก โดยโมเดลทั้งสองโดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การค้นหาเอกสารที่แปลแล้วในเว็บ, หรือการใช้เอกสารภาษาเดียวเพื่อฝึกจากปัญญาประดิษฐ์แปลภาษาที่มีอยู่แล้ว (back translation), และการปรับแต่งโมเดลด้วยข้อมูลเฉพาะทาง (in-domain finetuning)
โมเดลที่ใช้งานมีขนาดถึง 52,000 ล้านพารามิเตอร์ เฉพาะการฝึกโมเดลต้องใช้เทคนิคแบ่งข้อมูลเพื่อประหยัดแรมในชิปกราฟิก โดยเทคนิคนี้ทีมวิจัยของเฟซบุ๊กก็เคยรายงานเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
ระบบแปลภาษาที่เฟซบุ๊กนำเสนอตอนนี้ยังแปลภาษาไม่กี่ภาษามาเป็นภาษาอังกฤษ และแปลภาษาอังกฤษกลับไปเป็นภาษาเหล่านั้น แต่ทีมวิจัยเชื่อว่าแนวทางการสร้างโมเดลที่แปลได้หลายๆ ภาษาพร้อมกันนี้เป็นอนาคตของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์แปลภาษา และในอนาคตโมเดลเช่นนี้ก็อาจจะสามารถใช้งานแทนโมเดลปัญญาประดิษฐ์แปลภาษานับพันๆ ตัวที่ใช้งานอยู่มาใช้งานโมเดลเดียว
ที่มา - Facebook |
# Costco ถูกวางยาติดตั้งเครื่องขโมยข้อมูลบัตรเครดิต แจ้งเตือนลูกค้าแล้ว
Costco ร้านค้าส่งยอดนิยมในสหรัฐฯ แจ้งเตือนลูกค้าว่ามีข้อมูลรั่วไหล หลังจากตรวจพบว่าเครื่องรับบัตรเครดิตถูกติดตั้งเครื่องขโมยข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิต (skimmer) ทำให้คนร้ายอาจจะได้ข้อมูลบัตรของลูกค้าทุกคนที่เคยรูดจ่ายเงินผ่านเครื่องรับบัตรนั้น
ดูเหมือนว่าทาง Costco ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนร้ายเคยดึงข้อมูลบัตรออกไปจากเครื่องหรือยัง ประกาศแจ้งเตือนจึงเพียงคาดการณ์ผลกระทบว่าหากคนร้ายดึงข้อมูลออกไปแล้ว จะได้ข้อมูล หมายเลขบัตร, ชื่อ-นามสกุล, วันหมดอายุ, และหมายเลข CVV ในแถบแม่เหล็ก
ลูกค้าทุกคนที่ใช้บริการ Costco ต้องสมัครสมาชิกและเสียค่าสมาชิกรายปี ทาง Costco จึงสามารถตรวจสอบจากข้อมูลสมาชิกได้ว่าเครื่องที่รูดผ่านเครื่องรับบัตรที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้มีใครบ้าง และแจ้งเตือนโดยตรงไปยังลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทุกคน พร้อมกับให้บริการตรวจป้องกันการถูกขโมยตัวตนจาก IDX ผู้ได้รับผลกระทบนาน 12 เดือนพร้อมประกันวงเงินอีกหนึ่งล้านดอลลาร์
เครื่องขโมยข้อมูลบัตรเคยระบาดในประเทศไทยหลายปีก่อนเนื่องจากยังมีการใช้งานบัตรแบบแถบแม่เหล็กเป็นวงกว้าง แม้ทาง Visa/Mastercard จะพยายามผลักดันให้ร้านค้าและธนาคารผู้ออกบัตรหันไปใช้บัตรชิปแทนบัตรแม่เหล็ก แต่ในสหรัฐฯ ก็ยังมีการใช้งานจำนวนมาก Mastercard เพิ่งประกาศปีนี้ว่าจะเริ่มออกบัตรที่ไม่มีแถบแม่เหล็กได้ภายในปี 2024
ที่มา - Bleeping Computer
ภาพ Costco Amagasaki ในญี่ปุ่นเมื่อปี 2012 โดย Kirakirameister |
# Toshiba ประกาศแยกบริษัทเป็น 3 ส่วน แยกธุรกิจพลังงาน และเซมิคอนดักเตอร์-ฮาร์ดดิสก์
Toshiba ประกาศแผนการแยกบริษัทออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
บริษัทด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน (ยังไม่มีชื่อทางการ ตอนนี้เรียก Infrastructure Service Co.)
บริษัทด้านไอที ฮาร์ดดิสก์ และเซมิคอนดักเตอร์ (ยังไม่มีชื่อทางการ ตอนนี้เรียก Device Co.)
Toshiba เดิม จะเหลือแค่ความเป็นเจ้าของหุ้นธุรกิจหน่วยความจำ Kioxia (Toshiba Memory เดิม) และ Toshiba Tec บริษัทเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์สำนักงาน
เหตุผลของการแยกบริษัทคือ ธุรกิจหลักฝั่งพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน มีวัฎจักรทางธุรกิจยาวนาน เน้นรับทำโครงการใหญ่ๆ ที่ใช้เวลานาน (ปัจจุบันโรงไฟฟ้าใหญ่ๆ หลายแห่งทั่วโลกใช้เทคโนโลยีของ Toshiba) ส่วนธุรกิจฝั่งฮาร์ดดิสก์และเซมิคอนดักเตอร์ มีวัฏจักรสั้น เน้นขายสินค้า ใช้เงินลงทุนสูงกว่า จึงแยกให้เป็นอิสระจากกันเพื่อการบริหารที่คล่องตัวกว่า ลดความซับซ้อนในการบริหารงานลง
ก่อนหน้านี้ Toshiba ทยอยขายธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์หลายอย่างออกไปแล้ว เช่น ขายธุรกิจทีวีให้ Hisense ในปี 2017, ขายธุรกิจหน่วยความจำ Kioxia ให้ Bain Capital (โดยยังคงหุ้นบางส่วน) ในปี 2017, ขายธุรกิจพีซีให้ Sharp เสร็จสิ้นในปี 2020
Toshiba ประเมินระยะเวลาที่ใช้ปรับโครงสร้างบริษัทที่ประมาณ 2 ปี โดยกระบวนการจะสิ้นสุดในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2023 (ราวต้นปี 2024) ที่บริษัทใหม่ทั้ง 2 แห่งจะเข้าขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งมี GE ประกาศแยกธุรกิจออกเป็น 3 ส่วนในลักษณะคล้ายๆ กัน
ที่มา - Toshiba (PDF), Japan Today |
# จับแล้ว มือแฮกเว็บศาลรัฐธรรมนูญ เจ้าตัวสารภาพ ทำจริง
จากข่าวเว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญโดนแฮก และเปลี่ยนหน้สเว็บไซต์เป็นเพลง Death Grips - Guillotine (It goes Yah) และยังเปลี่ยนชื่อไซต์เป็น Kangaroo Court ล่าสุด กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เข้าสืบค้นบ้านผู้ต้องสงสัยและทำการจับกุมแล้ว ด้านเจ้าตัวให้การสารภาพ
โดยช่วงที่เกิดการแฮก ตำรวจตรวจพบหมายเลขไอพีของผู้ต้องสงสัย สามารถพิสูจน์ทราบยืนยันตัวตนของผู้ต้องสงสัยพร้อมพิกัดที่อยู่ได้ ในวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ขออนุมัติหมายค้นบ้านผู้ต้องสงสัย ภายในบ้านพักแห่งหนึ่งใน ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานี และได้เข้าค้นบ้านในวันที่ 13 พ.ย. จากการเข้าตรวจค้นพบตัวผู้ก่อเหตุจบปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้แฮกเว็บศาลรัฐธรรมนูญจริง จึงสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน พร้อมยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพื่อสืบสวนต่อ
การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ ตามมาตรา 5, 7 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาท
ที่มา - มติชน |
# กลับมาอีกครั้ง กรุงไทยเปิดขายพันธบัตรฯ รุ่นออมไปด้วยกัน บนวอลเล็ต สบม. อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดสูงสุด 4% ต่อปี* จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน มี 100 บาทก็ลงทุนได้
กลับมาอีกครั้ง กรุงไทยเปิดขายพันธบัตรฯ รุ่นออมไปด้วยกัน บนวอลเล็ต สบม. อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดสูงสุด 4% ต่อปี* จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน มี 100 บาทก็ลงทุนได้
คนไทยให้ความสนใจกับการลงทุนมากขึ้น ธนาคารกรุงไทยจึงพัฒนาช่องทางการซื้อขายพันธบัตรด้วยวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง เพื่อให้คนเข้าถึงการลงทุนอย่างเท่าเทียม
ที่ผ่านมา สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะและธนาคารกรุงไทยก็เปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ บนวอลเล็ต สบม. มาแล้วหลายรุ่น และขายหมดในระยะเวลาอันรวดเร็ว ตอกย้ำความสนใจของคนไทยที่อยากเข้าถึงการลงทุน โดยเฉพาะพันธบัตรที่เป็นการลงทุนความเสี่ยงต่ำ ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าการออมในรูปแบบอื่นๆ
ล่าสุด เปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ บนวอลเล็ต สบม. ในรุ่นที่ชื่อว่า ออมไปด้วยกัน สามารถซื้อได้บนแอปฯ เป๋าตัง
พันธบัตรออมทรัพย์รุ่น ออมไปด้วยกัน เปิดขายในวงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท มาพร้อมดอกเบี้ยสูงสุด 4% ต่อปี* เริ่มลงทุนขั้นต่ำที่ 100 บาทเท่านั้น และยังจ่ายดอกเบี้ยจัดเต็ม ปีละ 4 งวด จ่ายทุกวันที่ 15 ของเดือนกุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคม และพฤศจิกายนของทุกปี
พันธบัตรออมทรัพย์รุ่น ออมไปด้วยกัน เปิดขายสองรุ่นย่อยคือ รุ่นอายุ 5 ปี (SBST26NA) และ รุ่นอายุ 10 ปี (SBST31NA) ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเติบโตเป็นขั้นบันได ขึ้นกับระยะเวลาที่ถือครอง ดังนี้
รุ่น 5 ปี
ปีที่ 1 ร้อยละ1.50 ต่อปี
ปีที่ 2-4 ร้อยละ 2.00 ต่อปี
ปีที่ 5 ร้อยละ 3.00 ต่อปี
เฉลี่ยรวมร้อยละ 2.10 ต่อปี
รุ่น 10 ปี
ปีที่ 1-3 ร้อยละ 2.00ต่อปี
ปีที่ 4-5 ร้อยละ 3.00 ต่อปี
ปีที่ 6-9 ร้อยละ 3.50 ต่อปี
ปีที่ 10 ร้อยละ 4.00 ต่อปี
เฉลี่ยรวมร้อยละ 3.00 ต่อปี
วิธีลงทะเบียนและซื้อพันธบัตรผ่าน เป๋าตัง
วิธีลงทะเบียน สำหรับใครที่ยังเคยซื้อพันธบัตรผ่าน วอลเลต สบม. หรือยังไม่เคยดาวน์โหลดแอปเป๋าตังมาก่อน
เริ่มจากดาวน์โหลดแอป เป๋าตัง
ทำการลงทะเบียนแอปเป๋าตังด้วยการถ่ายรูปบัตรประชาชนและสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน
ทำการลงทะเบียนวอลเล็ตโดย เลือกเมนูวอลเล็ต สบม. แล้วถ่ายรูปบัตรประชาชน ยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า และกรอกข้อมูลตามกฎหมายการลงทุน
เมื่อลงทะเบียนวอลเล็ตเรียบร้อยแล้ว สามารถเติมเงินเข้าวอลเล็ตได้ทันที เติมได้ทั้งจากบัญชีธนาคารกรุงไทยเองและบัญชีธนาคารอื่นๆ
ในการซื้อพันธบัตร เข้าที่เมนู วอลเล็ต สบม. เลือกซื้อ/ขาย พันธบัตร กรอกจำนวนเงิน สั่งซื้อพร้อมรับสลิปดิจิทัลได้ทันที
พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นออมไปด้วยกัน บนวอลเล็ต สบม. เปิดขายอย่างเป็นทางการวันที่ 15 พ.ย. นี้ เวลา 08.30 น. ไปจนถึงวันที่ 3 ธ.ค. และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ขายพันธบัตรก่อนครบกำหนดไถ่ถอน บนวอลเล็ต สบม. ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ |
# Microsoft บล็อคแอปบังคับเปิดลิงก์ด้วยเบราว์เซอร์ค่าเริ่มต้นใน Windows 11 ถ้าคลิกลิงก์บางอย่างจะเปิดใน Edge เท่านั้น
ปัจจุบัน แม้ Windows 11 จะสามารถเลือกเบราว์เซอร์ค่าเริ่มต้นสำหรับระบบปฏิบัติการได้ แต่เบราว์เซอร์ค่าเริ่มต้นก็ไม่ได้ใช้งานได้เสมอไป เนื่องจาก Microsoft มักจะใส่ microsoft-edge:// ในบางแอปของ Windows เช่น News เพื่อบังคับให้ต้องเปิดใน Micorsoft Edge เท่านั้น เปรียบเสมือนเป็นการแทรกแซงเบราว์เซอร์ค่าเริ่มต้นที่ผู้ใช้เลือกไว้ จึงมีผู้พัฒนาแอปอย่าง EdgeDeflector ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้ คือกดลิงก์ก็ยังคงไปยังเบราว์เซอร์ค่าเริ่มต้นของ Windows ตามปกติ
ล่าสุด Microsoft เริ่มทดสอบ Windows 11 (build 22494) กับ Insider แล้ว ซึ่งผู้ทดสอบพบว่า Microsoft ปิดฟีเจอร์ไม่ให้แอปอย่าง EdgeDeflector ทำงานได้
Daniel Aleksandersen นักพัฒนา EdgeDeflector ยืนยันชัดเจนว่านี่ไม่ใช่บั๊ก และเขาเองจะไม่อัพเดตแอป EdgeDeflector จนกว่า Microsoft จะกลับลำ เนื่องจากถ้าต้องอิมพลีเมนต์เพิ่มอาจต้องใช้วิธีอื่นที่มีความเสี่ยงจะสร้างปัญหาต่อ Windows ได้ และถ้าเป็นไปได้ Microsoft ต้องเลิกใช้ microsoft-edge:// ทั้งหมด เนื่องจากไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และเป็นการกีดกันคู่แข่งที่หน่วยงานดูแลด้านการผูกขาดยังจับไม่ได้
ที่มา - ctrl.blog, Digital Trends
ภาพจาก @MicrosoftEdge |
# Gucci ขาย Xbox Series X เวอร์ชันพิเศษ ราคาเครื่องละ 10,000 ดอลลาร์
เป็นคู่แบรนด์ที่ไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องกันได้นัก แต่ก็เกิดขึ้นจริงแล้ว เมื่อแบรนด์สินค้าหรู Gucci ประกาศทำ Xbox Series X รุ่นพิเศษลาย Gucci วางขายในราคาชุดละ 10,000 ดอลลาร์ (อ่านไม่ผิดครับ) โดยเป็นสินค้ารุ่นพิเศษที่ทำเพียงแค่ 100 ชุดเท่านั้น
Xbox Series X เวอร์ชัน Gucci ทำลายพิเศษทั้งตัวเครื่องคอนโซล และจอยเกมลายแถบน้ำเงิน-แดงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Gucci บรรจุในกล่องสวยงามน่าสะสม ในชุดยังมี Xbox Game Pass แถมมาให้ด้วย แต่ไม่ระบุว่าเล่นได้นานแค่ไหน
สินค้าจะมีขายเฉพาะในร้าน Gucci บางสาขาเท่านั้น เช่น นิวยอร์ก มิลาน โตเกียว เริ่มขาย 17 พฤศจิกายนนี้
ที่มา - @gucci, Kotaku |
# Rainbow Six Extraction ได้กำหนดขาย 20 ม.ค. 2022, ลดราคาเกมเหลือ 39.99 ดอลลาร์
Ubisoft ประกาศวันวางขายเกม Rainbow Six Extraction เกมยิงแนว co-op ต่อสู้กับเอเลี่ยนจากอวกาศ เป็นวันที่ 20 มกราคม 2022 พร้อมลดราคาเกมลงเหลือ 39.99 ดอลลาร์
Rainbow Six Extraction เป็นเกมใหม่ในจักรวาล Rainbow Six ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 เดิมทีมีกำหนดขายในปี 2020 แต่ต้องเลื่อนมาถึง 3 รอบ เกมพัฒนาโดยสตูดิโอ Ubisoft Montreal ที่แคนาดา
นอกจากการลดราคาเกมเหลือ 39.99 ดอลลาร์ Ubisoft ยังเพิ่มระบบ Buddy Pass ให้คนที่ซื้อเกมสามารถชวนเพื่อน 2 คนมาร่วมเล่นได้ฟรี (เกมภาคนี้เป็นทีม 3 คน) เป็นเวลานาน 14 วัน
ที่มา - @Rainbow Six Extraction |
# ไมโครซอฟท์แจ้งเตือนแฮกเกอร์ซ่อนมัลแวร์ด้วยเทคนิค HTML smuggling หลบไฟร์วอลล์ป้องกันเว็บและอีเมล
ทีมวิจัยความปลอดภัยของไมโครซอฟท์รายงานถึงการโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมายจากกลุ่มแฮกเกอร์หลายกลุ่มว่าเริ่มใช้เทคนิค HTML smuggling เพื่อเจาะเข้าเครื่องของเหยื่อมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอาศัยการหลอกล่อผู้ใช้ให้คลิกหรือเปิดไฟล์หลายครั้งเพื่อหลบหลีกการตรวจสอบของไฟร์วอลล์แบบต่างๆ ที่อาจจะตรวจสอบอีเมลและเนื้อหาในเว็บ
กระบวนการ HTML smuggling อาศัยการส่งอีเมลหาเหยื่อเหมือน phishing ทั่วๆ ไป แต่แทนที่จะหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมัลแวร์โดยตรงก็อาศัยผู้ใช้ให้ดาวน์โหลดไฟล์จาวาสคริปต์ที่อยู่ในไฟล์ zip มารันในเครื่องตัวเอง แล้วค่อยใช้จาวาสคริปต์นั้นดาวน์โหลดมัลแวร์มายังเครื่องผู้ใช้อีกต่อหนึ่ง
เทคนิคนี้ต้องอาศัยการหลอกล่อผู้ใช้ให้ทั้งคลิกเว็บ, เปิดไฟล์, และรันโปรแกรม แม้จะซับซ้อนแต่ก็สามารถหลบตัวกรองเว็บและอีเมลได้หลายครั้ง และไมโครซอฟท์ก็ตรวจพบการโจมตีบ่อยขึ้นในช่วงกลางปีที่ผ่านมา
แนวทางการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง ได้แก่ ตรวจสอบไฟล์ zip ที่มีจาวาคริปต์อยู่ภายใน, ไฟล์แนบที่มีรหัสผ่าน, HTML ที่มีสคริปต์น่าสงสัย, HTML ที่มีการถอดรหัส base64 หรือมีโค้ดจาวาสคริปต์แบบปิดบังการทำงาน (obfuscate)
ที่มา - Microsoft |
# GTA The Trilogy ภาครีมาสเตอร์เจอปัญหาระบบล่ม เล่นไม่ได้บนพีซี ต้องหยุดขายชั่วคราว
Grand Theft Auto: The Trilogy – The Definitive เวอร์ชันรีมาสเตอร์ เริ่มวางขายแล้ว แต่เกิดปัญหากับเวอร์ชันพีซีที่ต้องเล่นผ่าน Rockstar Games Launcher เท่านั้น เพราะตัว Launcher ล่มทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเข้าเกมได้เลย
ณ เวลาที่เขียนข่าว ตัว Launcher ยังล่มอยู่ และ Rockstar หยุดการขายเกม GTA: The Trilogy เวอร์ชันพีซีบนหน้าเว็บของตัวเองชั่วคราวแล้ว
ส่วนเกมเวอร์ชันคอนโซลทั้ง PlayStation, Xbox, Switch สามารถเล่นได้ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องคุณภาพของตัวเกม บั๊ก กราฟิก เฟรมเรต ฯลฯ ซึ่งไม่สมศักดิ์ศรีกับตำนานของ GTA ภาคเก่าๆ ที่เคยสร้างไว้
ที่มา - Eurogamer, Techradar |
# PS5 วางขายมาครบ 1 ปี เผยสถิติเกมยอดนิยมอันดับหนึ่งคือ Fortnite
โซนี่ฉลอง PS5 วางขายครบ 1 ปี เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น
มีเกมวางขายบน PS5 แล้วมากกว่า 360 เกม
ผู้เล่น PS5 รวมกัน 4.6 พันล้านชั่วโมง
ผู้เล่นถ่ายทอดคลิปการเล่นรวมกัน 26 ล้านชั่วโมง
เกมยอดนิยม นับตามระยะเวลาที่เล่น 10 อันดับแรกคือ
Fortnite
Call of Duty: Black Ops Cold War
FIFA 21
NBA 2K21
Assassin’s Creed Valhalla
Destiny 2
MLB The Show 21
Marvel’s Spider-Man: Miles Morales
Demon’s Souls
NBA 2K22
Jim Ryan ซีอีโอของ Sony Interactive Entertainment ยอมรับว่ายังมีปัญหาเรื่องสินค้าขาดแคลน และทำให้ผู้บริโภคไม่พอใจที่ไม่สามารถหาซื้อเครื่องได้ ซึ่งเขาระบุว่าบริษัทพยายามอย่างที่สุด และเป็นภารกิจสำคัญอันดับหนึ่งของเขาด้วย
ที่มา - PlayStation Blog |
# Shang-Chi บน Disney+ Hotstar ได้สัดส่วน IMAX ด้วยเช่นกัน แต่บางอุปกรณ์ก็ยังดูไม่ได้
จากข่าวที่ Disney+ อัพเกรดหนัง Marvel 13 เรื่องให้เป็นสัดส่วน IMAX จนหลายคนสงสัยว่า แล้ว Disney+ Hotstar ที่เปิดใช้งานในไทย จะได้เข้าถึงหนังคุณภาพ IMAX หรือไม่ ล่าสุดมีผู้ใช้งานสามารถดู Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ด้วยคุณภาพ IMAX ได้ แต่ก็มีหลายคนที่ดูไม่ได้ โดยยังคงเป็นสัดส่วนเดิมอยู่
หากตัวหนังมีคุณภาพ IMAX จะปรากฏเป็นโลโก้ IMAX ในหน้าพรีวิวตามรูปภาพด้านล่าง |
# แนะนำโทรศัพท์มือถือ ราคาต่ำกว่า 10,000 บาท รองรับ 5G ปลายปี 2021
ปีนี้โทรศัพท์มือถือที่มีเทคโนโลยี 5G เริ่มแพร่หลายมากขึ้นเยอะแล้วในบ้านเรา ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ แพร่หลายมากขึ้น โดยมีให้ใช้งานกันครบทุกเครือข่าย และในหลายเขตทั้ง กทม. ปริมณฑล และในตัวเมืองต่างจังหวัดหลายจังหวัด
อีกทั้งมือถือที่รองรับ 5G ก็เริ่มราคาถูกลง จนมีมือถือราคาต่ำกว่า 10,000 บาทที่รองรับ 5G หลายรุ่นที่น่าสนใจ อาจถึงเวลาที่หลายๆ คนจะต้องอัพเกรดได้ซะที วันนี้ Blognone จึงนำโทรศัพท์มือถือราคาต่ำกว่า 10,000 บาท ที่รองรับ 5G และมีขายในไทยมา 5 รุ่น และรุ่นที่น่าสนใจ แต่ยังไม่วางจำหน่ายในไทยอีก 1 รุ่น สำหรับผู้ที่ยังพอรอได้อยู่
Samsung Galaxy A32 5G
Galaxy A32 5G น่าจะเป็นมือถืออีกรุ่นที่ใช้ได้ยาวแบบคุ้มๆ มาพร้อมชิป Mediatek Dimensity 7200 กล้องหลัก 48MP และแบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว 15W นอกจากนี้ยังได้การันตีอัพเดต 3 รุ่น Android (ถึง Android 14) แพตช์ความปลอดภัยอัพเดตให้ถึง 4 ปี และยังรองรับ 5G แม้หน้าจอจะเป็น IPS LCD ไม่ใช่ AMOLED แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากในการใช้งาน เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่ต้องการเปลี่ยนมือถือบ่อย อยู่กันได้แบบยาวๆ
สเปก Galaxy A32 5G
หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1600
ชิปประมวลผล Mediatek Dimensity 720
แรม 8GB
หน่วยความจำภายใน 128GB
กล้องหลังหลัก 48MP, กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP, กล้องมาโคร 5MP, depth sensor 2MP
กล้องหน้า 13MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว 15W
รัน Android 11 ครอบด้วย One UI 3.0
ราคาเปิดตัว 9,999 บาท
Vivo Y52 5G
Vivo Y52 5G สเปกค่อนข้างใกล้เคียงกับ A32 5G แต่ใช้ชิปรุ่นเล็กกว่าเล็กน้อย เป็น Dimensity 700 และให้แรมมาแค่ 4GB แต่มีหน้าจอที่ใหญ่กว่า ความละเอียดสูงกว่า โดยเป็นจอ IPS LCD 6.58 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2408 ส่วนกล้องหลัง มีแค่กล้องหลัก กล้องมาโคร และ depth sensor แต่ก็ยังเป็นมือถือที่น่าสนใจ สำหรับคนที่อยากได้หน้าจอใหญ่ขึ้นและราคาถูกลงไปอีกหน่อย
สเปก Vivo Y52 5G
หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2408
ชิปประมวลผล Mediatek Dimensity 700
แรม 4GB
หน่วยความจำภายใน 128GB
กล้องหลังหลัก 48MP, กล้องมาโคร 2MP, depth sensor 2MP
กล้องหน้า 8MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว 18W
รัน Android 11 ครอบด้วย Funtouch OS 11
ราคาเปิดตัว 7,999 บาท
Realme 8 5G
Realme 8 5G สเปกภายในคล้ายคลึงกับ Vivo Y52 5G ใช้ชิปตัวเดียวกัน ให้แรมเพิ่มเป็น 8GB และได้หน้าจอ AMOLED แบบเจาะรูกลางจอ ต่างจาก Y52 5G ที่เป็น LCD แบบหยดน้ำ ส่วนกล้องก็สเปกใกล้เคียงกันคือมีกล้องหลัก กล้องมาโคร และกล้อง B&W (ซึ่งก็คือ depth sensor) แต่เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนอยากได้หน้าจอสีสด สีดำสนิท และรองรับ 5G ในราคาต่ำหมื่น
สเปก Realme 8 5G
หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400
ชิปประมวลผล Mediatek Dimensity 700
แรม 8GB
หน่วยความจำภายใน 128GB
กล้องหลังหลัก 48MP, กล้องมาโคร 2MP, กล้อง B&W 2MP
กล้องหน้า 8MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว 18W
รัน Android 11 ครอบด้วย realme UI 2.0
ราคาเปิดตัว 9,999 บาท
OnePlus Nord N10 5G
OnePlus Nord N10 เป็นมือถือรองรับ 5G ราคาต่ำหมื่นรุ่นแรกๆ เปิดตัวตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 จึงอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตขาดแคลนชิปของปีนี้มากนัก ยังได้ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 690 อยู่ ซึ่งจากเบนช์มาร์คก็มีประสิทธิภาพสูงกว่า Dimensity 720 อยู่เล็กน้อย และยังได้หน้าจอ LCD แบบ 90Hz ด้วย
แบตเตอรี่ให้มา 4300 mAh น้อยกว่ารุ่นอื่นในลิสต์นี้เล็กน้อย แต่รองรับชาร์จเร็ว 30W รวมถึงยังได้กล้องหลัก 64MP กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP และซอฟต์แวร์ OxygenOS ด้วย น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับ แฟนๆ OnePlus ที่ต้องการประหยัดเงินลงมาบ้าง แต่อีกจุดที่ต้องทราบคือ OnePlus Nord N10 มาพร้อม Android 10 และออกในปี 2020 จึงอาจมีระยะอัพเดตน้อยกว่ารุ่นอื่น
สเปก OnePlus Nord N10 5G
หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.49 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 อัตรารีเฟรช 90Hz
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 690
แรม 6GB
หน่วยความจำภายใน 128GB
กล้องหลังหลัก 64MP, กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP, กล้องมาโคร 2MP, depth sensor 2MP
กล้องหน้า 16MP
แบตเตอรี่ 4300 mAh ชาร์จเร็ว 30W
รัน Android 10 ครอบด้วย OxygenOS 10.5
ราคาเปิดตัว 9,990 บาท
Redmi Note 9T
Redmi Note 9T มือถือ 5G อีกรุ่นจากแบรนด์ในเครือเสียวมี่ ที่ใช้ชิป Mediatek Dimensity 800U ที่ในการทดสอบทำคะแนนได้ใกล้เคียงและแซง Snapdragon 690 ในบางด้าน
กล้องหลังสามกล้อง เป็นกล้องหลักและกล้องอัลตร้าไวด์กับ depth sensor แถมราคาเริ่มต้นที่ 6,999 บาท แม้จะได้แรม 4GB และหน่วยความจำภายในแค่ 64GB แต่ก็ถือว่ามีราคาต่ำสุดในลิสต์นี้ อีกประเด็นที่ต้องพูดคือ Redmi Note 9T มาพร้อม Android 10 เหมือน OnePlus Nord N10 ซึ่งถ้าซื้อในปี 2021 อาจจะได้อัพเดตน้อยกว่ารุ่นที่มาพร้อม Android 11
สเปก Redmi Note 9T
หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล
ชิปประมวลผล Mediatek Dimensity 800U
แรม 4GB
หน่วยความจำภายใน 64GB, 128GB
กล้องหลังหลัก 64MP, กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP, กล้องมาโคร 2MP, depth sensor 2MP
กล้องหน้า 13MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว 18W
รัน Android 10 ครอบด้วย MIUI 12
ราคาเปิดตัว 6,999 บาท (รุ่น 64GB), 7999 บาท (รุ่น 128GB)
POCO M4 Pro 5G (ยังไม่วางจำหน่ายในไทย)
อีกรุ่นที่น่าสนใจ แต่ยังไม่วางจำหน่ายในไทย คือ POCO M4 Pro 5G ซึ่งใช้ชิป Mediatek Dimensity 810 และจัดฟีเจอร์มาให้แน่นพอสมควร กล้องหลังหลัก 50MP พร้อมกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP, หน้าจออัตรารีเฟรช 90Hz แบตเตอรี่ 5000 mAh พร้อมชาร์จเร็ว 33W ในราคา 229 ยูโร หรือราว 8,700 บาท (เปิดตัวในไทยน่าจะแพงกว่านี้ แต่คงยังต่ำกว่า 1 หมื่นบาท) ถ้าใครยังไม่รีบอัพเกรดนัก รอลุ้น POCO M4 Pro 5G เปิดตัวในบ้านเราอีกสักพัก ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
สเปก POCO M4 Pro 5G
LCD 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล อัตรารีเฟรช 90Hz
ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 810
แรม 4GB / 6GB
หน่วยความจำภายใน 64GB, 128GB
กล้องหลังหลัก 50MP, กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP
กล้องหน้า 16MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว 33W
รัน Android 10 ครอบด้วย MIUI 12.5
ราคาเปิดตัว 229 ยูโร (ราว 8,700 บาท) |
# รมต. DES ระบุหาตัวคนแฮกเว็บศาล รธน. ได้ แต่กู้น่าจะยากเพราะถูกขโมย user/password
หลังศาลรัฐธรรมนูญถูกแฮกเมื่อวาน วันนี้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) แสดงความเห็นในกรณีนี้ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าการแฮกเป็นเพียงการดิสเครดิต ไม่มีข้อมูลหายและระงับการเข้าถึงเว็บแล้ว
ส่วนระบบหลังบ้านเว็บ ก็เป็นการจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดูแล เจ้าตัวคาดว่าคงไม่มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอ และคาดว่ายูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ด อาจจะหลุดจากแอดมิน หรือแฮกเกอร์เจาะเข้ามาเอง ซึ่งทั้งหมดกำลังสืบสวนกันอยู่ และก็คาดว่าการกู้เว็บคงยาก
เบื้องต้น กระทรวงดิจิทัลฯ จะร่วมมือกับ คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อหาผู้กระทำ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากระบบตรวจสอบการบุกรุก ซึ่งต้องใช้เวลา
นอกจากนี้ รมต. DES ยังกล่าวด้วยว่า ที่หน่วยงานรัฐมักถูกโจมตีบ่อย เป็นเพราะหลายหน่วยงานมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์
ที่มา - มติชน
ภาพจาก Facebook กระทรวง DES |
# Doctor Anywhere แอปการแพทย์สิงคโปร์เข้าซื้อ Raksa สตาร์ทอัพแอปการแพทย์ของไทย
Doctor Anywhere แอปการแพทย์ทางไกล (telemedicine) จากสิงคโปร์ ที่เปิดให้บริการในไทยด้วย เข้าซื้อแอป Doctor Raksa หรือ Raksa สตาร์ทอัพแอปการแพทย์ทางไกลของไทย โดยไม่เปิดเผยจำนวนเงิน
Raksa เป็นแอปการแพทย์ทางไกล ให้บริการในประเทศไทย มีบริการให้คำปรึกษาออนไลน์โดยแพทย์ จัดใบสั่งยาแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวบรวมข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้คำปรึกษาทางออนไลน์โดยเภสัชกร และจัดยาจากใบสั่งยาแบบต่อเนื่อง คล้ายคลึงกับ Doctor Anywhere
*ภาพ: เว็บไซต์ Doctor Anywhere
Lim Wai Mun ซีอีโอของ Doctor Anywhere ระบุว่าแอป Raksa เป็นแอปการแพทย์ทางไกลที่ติดตลาดในประเทศไทย และการเข้าซื้อ Raksa ครั้งนี้ เป็นการดำเนินกลยุทธ์ผสานความแข็งแกร่งของทั้งสองบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการดูแลสุขภาพทางไกล (telehealth) ในไทยให้ได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนคุณสุรังคนา สุรไพฑูรย์ ผู้จัดการทั่วไปของ Doctor Anywhere ประเทศไทย ระบุว่าการเข้าซื้อครั้งนี้จะทำให้ Doctor Anywhere มีความสามารถในการปรับบริการให้เข้ากับท้องถิ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในบ้านเราให้ดีขึ้น
Doctor Anywhere ปัจจุบันให้บริการในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ล่าสุดเพิ่งระดมทุนระดับ Series C มูลค่า 65.7 ล้านดอลลาร์สำเร็จเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในประเทศไทยมีพันธมิตรเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยายาลบำรุงราษฎร์ และมีแผนขยายการให้บริการในไทยเป็น 38 จังหวัด ภายในไตรมาสแรกของปี 2022
ที่มา - The Business Times |
# Raspberry Pi 4 รุ่น 8GB เพิ่มความเร็วโหมดเทอร์โบเมื่อใช้ระบบปฎิบัติการรุ่นใหม่
Raspberry Pi เพิ่งออกระบบปฎิบัติการใหม่ที่พัฒนาต่อจาก Debian Bullseye แต่นอกจากการอัพเดตซอฟต์แวร์ตามปกติแล้ว ความพิเศษของการอัพเดตนี้คือผู้ใช้ RPi 4 รุ่นแรม 8GB จะได้สัญญาณนาฬิกาสูงสุด 1.8GHz แทนที่จะเป็น 1.5GHz เท่าเดิม
ชิปของ Raspberry Pi 4 นั้นรองรับสัญญาณนาฬิกา 1.8GHz อยู่แล้ว และเปิดใช้งานเป็นปกติใน Raspberry Pi 400 โดยนอกจากการออกแบบเพื่อระบายความร้อนแล้ว จุดที่จำกัดการเพิ่มสัญญาณนาฬิกายังมีตัวจ่ายไฟที่อาจจะจ่ายได้ไม่เสถียรพอ แต่ในรุ่นแรม 8GB ทาง Raspberry Pi ได้เปลี่ยนวงจรจ่ายไฟเพื่อให้เพียงพอต่อแรม และเมื่อตรวจสอบซ้ำก็พบว่าจ่ายไฟให้ซีพียูที่ 1.8GHz ได้ด้วย
สำหรับคนใช้รุ่นแรม 2GB หรือ 4GB สามารถเข้าไปคอนฟิกสัญญาณนาฬิกาสูงสุดได้เอง แต่ควรตรวจสอบว่ายังทำงานเสถียรหรือไม่ ถ้าไม่เสถียรก็สามารถค่อยๆ ปรับลดลงมาได้
ที่มา - Raspberry Pi Blog |
# ไบเดนผ่านกฎหมาย กีดกันไม่ให้บริษัทผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมจีน ขอใบอนุญาตในสหรัฐฯ
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เซ็นผ่านร่างกฎหมายใหม่ Secure Equipment Act ห้ามไม่ให้บริษัทผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมที่อยู่ในรายชื่อเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติขอใบอนุญาตจาก FCC หรือหน่วยงาน กสทช. ของสหรัฐฯ ได้
รายชื่อบริษัทที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติถูกจัดทำขึ้นตามคำสั่งของสภาคองเกรสตั้งแต่ปี 2019 และ FCC เป็นผู้จัดทำ โดยบริษัทผลิตอุปกรณ์ที่ถูก FCC จัดว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นบริษัทจีน เช่น ZTE, Huawei และอื่นๆ
แม้ FCC จะเพิ่งออกงบประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ ในโครงการ “rip and replaced” ช่วยบริษัทผู้ให้บริการเครือข่าย ถอดและเปลี่ยนอุปกรณ์ของบริษัทยี่ห้อ Huawei และ ZTE เป็นยี่ห้ออื่นในปีนี้ แต่ก็ยังออกใบอนุญาตให้บริษัทเหล่านี้อยู่จนถึงก่อนกฎหมายใหม่นี้บังคับใช้
กฎหมายนี้ได้รับเสียงโหวตให้ผ่าน 420-4 เสียงในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และผ่านแบบเป็นเอกฉันท์ในวุฒิสภา แสดงให้เห็นถึงความไม่ไว้ใจบริษัทจากประเทศจีนที่แผ่ขยายอย่างกว้างขวางในทั้งสองพรรคหลักและสภาสูงของสหรัฐฯ แถมการผ่านร่างกฎหมายนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังการออกแถลงการร่วมสู้โลกร้อนของสหรัฐฯ และจีน ในงาน COP26 สะท้อนให้เห็นว่าแม้จะมีแถลงการณ์ร่วม แต่สถานการณ์ระหว่างสองประเทศนี้ในปัจจุบัน ก็ไม่ได้ตึงเครียดน้อยลงไปกว่าเดิมเลย
ที่มา - SCMP |
# กูเกิลปรับผัง รวมทีม AR, VR, Starline และ Area 120 ไว้ด้วยกัน ใช้ชื่อว่า Labs
กูเกิลสร้างทีมใหม่ในองค์กร โดยรวมเอาทีมหน้าเดิมที่ปั้นนวัตกรรม วิจัยและพัฒนาของใหม่ๆ อย่างทีม AR, VR, Starline และ Area 120 เข้ามาไว้ใต้หลังคาเดียวกัน โดยใช้ชื่อทีมว่า Labs
ทีมใหม่นำโดย Clay Bavor ผู้มีบทบาทในกูเกิลมานานโดยเฉพาะด้าน AR VR และ Project Starline บูธวิดีโอคอลแห่งอนาคต โดยเขาจะรายงานตรงต่อ Sundar Pichai ซีอีโอกูเกิล
กูเกิลเคยสร้างทีม Google Labs มาก่อนแล้วในช่วงราวๆ ปี 2002-2011 และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Personalized Web Search, Google Web Alerts, Google Docs, Spreadsheets, Google Reader, Google Shopper เป็นต้นซึ่งหลายตัวกลายมาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักของกูเกิลแล้ว
สำหรับ Area 120 นั้น ก่อตั้งครั้งแรกในปี 2016 เป็นหน่วยบ่มเพาะนวัตกรรม ที่มีข้อได้เปรียบคือ สามารถใช้ทรัพยากร และเทคโนโลยีของกูเกิลได้อย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาก็สร้างโปรเจกต์ใหม่ๆ หลายอย่าง
ที่มา - TechCrunch |
# สู่ยุค metaverse เมื่อ Universal Music เปิดตัว KINGSHIP วงดนตรีจากคาร์แรกเตอร์ NFT ชื่อดัง
Universal Music Group เปิดตัว KINGSHIP วงดนตรีหน้าใหม่ เป็นคาร์แรกเตอร์ลิงแบบ virtual ซึ่งเป็นผลงาน NFT ที่โด่งดังจากคอลเลกชันของ Bored Ape Yacht Club ที่มีลักษณะเฉพาะตัวคือเป็นลิงหน้าตาเบื่อๆ
KINGSHIP จะอยู่ในความดูแลของ 10:22PM เป็นค่ายเพลงเจนใหม่ของ Universal Music Group โดย 10:22PM จะทำหน้าที่กำหนเแนวทางในการพัฒนาและเผยแพร่เพลงใหม่ รวมถึงออกแบบการแสดงและการมีส่วนร่วมระหว่างศิลปินและแฟนเพลง
คาร์แรกเตอร์สมาชิกวง KINGSHIP เป็นผลงานของ The Bored Ape Yacht Club สร้างคอลเลกชัน NFT ที่ไม่ซ้ำกันเป็นหมื่นรายการ
ที่มา - Universal Music Group |
# สภาผู้นำศาสนาแห่งชาติอินโดนีเซีย แบนคริปโตเคอเรนซี ระบุผิดหลักศาสนาอิสลาม
สภาผู้นำศาสนาแห่งชาติหรือ The National Ulema Council ของประเทศอินโดนีเซีย ออกมาระบุว่าคริปโตเคอเรนซีเป็นสิ่งฮะรอม (haram) หรือขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม (Sharia) เนื่องจากมีความไม่แน่นอน เข้าข่ายการพนัน และอาจก่อความเสียหาย หลังมีการพิจารณาในที่ประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา
แต่สภายังระบุว่าหากคริปโตเคอเรนซีถูกจัดการให้เป็นสินค้าหรือสินทรัพย์ที่ถูกหลักชารีอะห์ และมีผลประโยชน์อย่างชัดเจน ก็อาจถูกปรับให้มีการซื้อขายได้ ต่างจากท่าทีของรัฐบาลอินโดนีเซียที่อนุญาตให้แลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีได้ แม้ยังไม่ยอมรับเป็นค่าเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย
การตัดสินใจของสภาผู้นำศาสนาแห่งชาติ ไม่ได้แปลว่าประเทศอินโดนีเซียจะแบนคริปโตเคอเรนซีทั้งประเทศ แค่อาจทำให้ชาวมุสลิมที่เคร่งศาสนาซึ่งมีจำนวนพอสมควรในประเทศอินโดนีเซีย งดเว้นจากการลงทุนในสินทรัพย์ชนิดนี้ และอาจทำให้ธนาคารในประเทศอินโดนีเซียต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตคอเรนซี
เว็บไซต์ Bloomberg ระบุว่าใน 5 เดือนแรกของปีนี้ ประเทศอินโดนีเซียมียอดการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีสูงถึง 26 พันล้านดอลลาร์ คงต้องติดตามว่าหลังมีการประกาศนี้ ตัวเลขนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ส่วนประเทศมุสลิมประเทศอื่น เช่นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็ยังอนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนเงินคริปโตได้อยู่ในเขตดูไบ ส่วนบาห์เรนก็อนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนคริปโตได้ แม้จะมีกฎระเบียบที่เข้มงวด
ที่มา - Bloomberg |
# Microsoft Edge เพิ่มฟีเจอร์ Citations แปลงเว็บเป็นรายการอ้างอิง เพื่อเขียนเปเปอร์-วิทยานิพนธ์
Microsoft Edge ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Citations สำหรับนักศึกษาที่ต้องทำวิทยานิพนธ์ หรือนักวิจัยที่ต้องเก็บข้อมูลเพื่อเขียนเปเปอร์ จะได้สะดวกในการบันทึกเว็บไซต์ที่ใช้อ้างอิงได้ในอนาคต (โดยไม่ต้องติดตั้งส่วนขยายอย่าง EndNote หรือ Zotero)
Citations ทำงานอยู่บนฟีเจอร์ Collections ของ Edge ที่ใช้เซฟรายการเว็บอยู่แล้ว สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ Edge จะเรียนรู้ฟอร์แมตของเว็บไซต์สถาบันการศึกษาหรือวารสารวิชาการต่างๆ ที่เราเซฟไว้ แล้วสร้างรายการอ้างอิงในฟอร์แมตที่นิยมใช้ในโลกวิชาการ (เช่น APA, MLA, Chicago) เพื่อนำไปใช้งานต่อได้เลย
ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้แล้วใน Edge 95 โดยไมโครซอฟท์บอกว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้ฟีเจอร์ Citations ดังนั้นฟีเจอร์นี้จะไม่ถูกเปิดใช้เป็นดีฟอลต์ เพื่อทำให้ Edge บวมหรือเปลืองทรัพยากร แต่จะดาวน์โหลดมาติดตั้งในเครื่องครั้งแรกที่ใช้งานแทน
ที่มา - Microsoft |
# Patreon เตรียมสร้างเว็บโฮสต์วิดีโอให้ครีเอเตอร์ใช้งาน ลดการพึ่งพา YouTube, Vimeo
Jack Conte ซีอีโอ Patreon แพลตฟอร์มระดมทุนออนไลน์ และแหล่งโชว์ของสำหรับครีเอเตอร์ เผยว่า Patreon กำลังสร้างเว็บโฮสต์สำหรับงานวิดีโอ
Conte ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดนอกเหนือจากนี้ แต่คาดว่าจะเป็นบริการที่ให้ครีเอเตอร์ อัพโหลดวิดีโอและแชร์ได้ โดยที่ครีเอเตอร์ไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม ซึ่งน่าจะทำให้ครีเอเตอร์บางส่วนไม่ต้องพึ่งพา YouTube
Patreon ยังเชื่อมระบบการใช้งานวิดีโอกับ Vimeo ด้วย วึ่งถ้าผลิตภัณฑ์วิดีโอของ Patreon สำเร็จเมื่อไร ครีเอเตอร์ก็อาจลดการพึ่งพา Vimeo และ YouTube ลงไปได้บ้าง
ที่มา - The Verge |
# Facebook เข้าร่วม GitHub Secret Scanning ช่วยตรวจหา Access Token ที่ฝังในซอร์สโค้ด
ปัญหาการฝังรหัสผ่านหรือคีย์ไว้ในซอร์สโค้ด ถือเป็นช่องโหว่ความปลอดภัยที่มักพลาดกันบ่อยๆ ทำให้บริการฝากซอร์สโค้ดอย่าง GitHub มีฟีเจอร์ชื่อ Secret Scanning คอยไล่ตรวจว่าในโค้ดมีการฝังคีย์ลักษณะนี้หรือไม่ (บังคับเฉพาะโค้ดแบบ public ส่วนโค้ดแบบ private เป็นฟีเจอร์แบบเสียเงิน และต้องเลือกเปิดเอง)
วิธีการคือ GitHub ร่วมกับบริษัทดังๆ หลายเจ้า เช่น AWS, Azure, Google Cloud, Dropbox, Slack, Stripe, Shopify, Twilio (รายชื่อทั้งหมด) เพื่อตรวจสอบแพทเทิร์นคีย์ของบริษัทเหล่านี้ และแจ้งเตือนบริษัทผู้ออกคีย์ให้ถอนคีย์ออก หากพบว่ามีคีย์ถูกเผยแพร่ในที่สาธารณะ
ล่าสุด บริษัทใหญ่อย่าง Meta ประกาศเข้าร่วมกับ GitHub เพื่อสแกนหา Facebook Access Token ในซอร์สโค้ดแล้ว
เนื่องจากแอพหรือเว็บในปัจจุบันมีฟีเจอร์ด้านโซเชียลกันเป็นมาตรฐาน และ Facebook Access Token ถือเป็นคีย์ที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย การเข้าร่วมของ Meta ย่อมทำให้ปัญหาคีย์หลุดในซอร์สโค้ดลดลงได้บ้าง
ที่มา - Meta, GitHub |
# Alibaba สรุปสถิติ 11.11 ปีนี้ ยอดขายสุทธิทำสถิติใหม่ ชูกิจกรรมและสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Alibaba สรุปสถิติตัวเลขของเทศกาลลดราคาวันคนโสดจีน 11.11 ของปี 2021 โดยมียอดขายสุทธิ (GMV - Gross Merchandise Volume) ตลอดช่วงกิจกรรม 5.40 แสนล้านหยวน หรือ 8.45 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 2.78 ล้านล้านบาท เป็นสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งเมื่อเทียบกับปี 2020
กิจกรรม 11.11 ของ Alibaba ซึ่งถือเป็นต้นแบบของเทศกาลลดราคาในจีน ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 13 โดยมีการปรับรูปแบบจากการโหมทำการตลาด มาเป็นรูปแบบที่เน้นความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกำกับดูแลบริษัทเทคโนโลยีของรัฐบาลจีน โดยเน้นการขายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (eco-friendly) โดย Alibaba ยกตัวอย่างว่า Tesla สามารถขายตัวชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ภายใน 1 นาทีแรกของกิจกรรม ได้มากกว่ายอดขายตลอดกิจกรรมลดราคาในปีที่แล้ว, เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ขายได้มากกว่า 1.2 แสนชิ้น, สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ ขายได้มากกว่า 2.5 หมื่นชุด
ส่วนของบริการจัดส่งสินค้า Cainiao Network ก็จัดส่งสินค้าไปมากกว่า 1 พันล้านคำสั่งซื้อใน 17 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าตัวเลขในปีก่อน มีข้อมูลน่าสนใจว่า Cainiao ได้สต็อคสินค้าไว้ในคลังสินค้าล่วงหน้าถึง 300 ล้านชิ้น จาก 87 ประเทศ เพื่อให้จัดส่งได้เร็วขึ้น ขณะที่การจัดส่งปลายทาง Alibaba ก็ใช้หุ่นยนต์ Xiaomanlv 350 ตัว เพื่อจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าในมหาวิทยาลัยและพื้นที่ใกล้เคียง คิดเป็นจำนวนสินค้ามากกว่า 1 ล้านชิ้น ในเทศกาลลดราคา
ที่มา: Alibaba |
# GoTo ประกาศรับเงินเพิ่มทุนรวม 1,300 ล้านดอลลาร์ ก่อนเตรียม IPO
กลุ่ม GoTo (ที่เกิดจาก GoJek + Tokopedia) ประกาศสรุปตัวเลขรับเงินลงทุนเพิ่มรวม 1,300 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มนักลงทุนรวมทั้ง กูเกิล, Tencent, กองทุน Temasek, กองทุน Permodalan Nasional Berhad ของมาเลเซีย และกองทุนของอาบูดาบี ซึ่งเป็นเงินทุนก้อนใหญ่ ก่อนที่บริษัทจะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น
ทั้งนี้ GoTo คาดว่าจะมีนักลงทุนเพิ่มเติมอีกในรอบการเพิ่มทุนก่อนไอพีโอ เงินทุนที่ได้มานี้ GoTo จะนำไปใช้ขยายฐานลูกค้า และลงทุนในบริการเกี่ยวกับฟินเทค
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า GoTo มีแผนนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นในอินโดนีเซีย โดยมูลค่ากิจการอาจสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์
ที่มา: CNBC |
# Spotify ซื้อกิจการ Findaway ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Audiobook
Spotify ประกาศซื้อกิจการ Findaway ผู้ให้บริการและจัดจำหน่าย Audiobook หรือหนังสือเสียง โดยดีลดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยมูลค่า บริการของ Findaway จะจับคู่ผู้แต่งหนังสือกับผู้บรรยาย อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดว่า Spotify จะขาย Audiobook อย่างไร
Gustav Söderström หัวหน้าฝ่าย R&D ของ Spotify กล่าวถึงดีลนี้ว่า Spotify ต้องการเป็นแพลตฟอร์มของทุกรูปแบบเนื้อหาเสียง การซื้อกิจการ Findaway จะทำให้ Spotify เข้าสู่บริการ Audiobook เพิ่มเติม
ช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ Spotify ได้ขยายพื้นที่นอกจากการฟังเพลง มาสู่การฟังสื่ออื่น เช่นพอดคาสต์จากการซื้อกิจการ Gimlet และ Anchor และล่าสุดก็คือ Findaway
ที่มา: Spotify |
# Airbnb ปรับปรุงระบบค้นหาที่พักและกิจกรรมที่รองรับผู้พิการ ฟิลเตอร์ได้ละเอียดและชัดเจนกว่าเดิม
Airbnb อัพเดตระบบใหม่โดยเพิ่มฟีเจอร์ด้าน accessibility สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ซึ่ง Airbnb จะเปิดให้โฮสต์ส่งภาพเพื่อยืนยันว่าที่พักเป็นมิตรต่อผู้พิการ และเพิ่มฟิลเตอร์สำหรับเสิร์ชที่พักที่รองรับฟีเจอร์เหล่านี้ให้ละเอียดมากขึ้น
สำหรับระบบยืนยันว่าที่พักเป็นมิตรต่อผู้พิการ Airbnb จะให้โฮสต์ส่งภาพลักษณะต่าง ๆ ของบ้านในส่วนที่เป็นมิตรต่อผู้พิการ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ Airbnb จะมีทีมพิเศษที่คอยตรวจสอบก่อนที่จะยืนยันว่าบ้านมีลักษณะที่เป็นผู้พิการจริง ๆ โดย Airbnb ยืนยันว่าพนักงานของบริษัทได้อนุมัติที่พักทั้งหมดกว่า 25,000 รายการที่มีฟีเจอร์ด้าน accessibility แล้ว โดยรวมแล้วมีฟีเจอร์ด้าน accessibility ที่อนุมัติไปแล้วกว่าแสนรายการ
ถัดไปคือระบบค้นหา Airbnb ได้ปรับให้ฟิลเตอร์เสิร์ชข้อมูลเกี่ยวกับ accessibility ได้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น ห้องนอนแบบไม่มีบันได, ที่จอดรถที่เอื้อต่อผู้พิการ ส่วนข้อมูลเดิมก็จะปรับปรุงให้ชัดเจนมากขึ้น เช่น “ห้องนอนทางเข้ากว้าง” เปลี่ยนเป็น “ห้องนอนทางเข้ากว้างกว่า 32 นิ้ว”
นอกจากเรื่องที่พักแล้ว Airbnb Experience สำหรับค้นหากิจกรรมต่าง ๆ ก็อัพเดตในด้าน accessibility เช่นกัน โดย Airbnb มีให้เลือก accessibility ทั้งหมด 11 อย่าง เช่น โฮสต์มีกิจกรรมที่รองรับภาษามือ เป็นต้น
ที่มา - Airbnb
ภาพจาก Airbnb |
# Bethesda บอก The Elder Scrolls 6 รอไปก่อน ตอนนี้ต้องทำ Starfield ให้เสร็จก่อน
Todd Howard ผู้กำกับเกม Skyrim ไปออกรายการของเว็บไซต์ IGN เนื่องในโอกาส Skyrim ครบรอบ 10 ปี (และโปรโมทเกม Skyrim เวอร์ชันที่เท่าไรไม่รู้) ตอบคำถามที่แฟนๆ อยากรู้ที่สุดคือ The Elder Scrolls 6 อยู่ไหน
คำตอบของ Howard คือ Bethesda มีโปรเจคต์ในมือหลายตัว จึงต้องจัดลำดับความสำคัญ และตอนนี้โปรเจคต์เกมใหม่อย่าง Starfield มีความสำคัญสูงที่สุด ทำให้ "เกมภาคต่อ" อย่าง The Elder Scrolls 6 ต้องรอไปก่อน เหตุเพราะถ้า Bethesda เลือกทำเกม The Elder Scrolls 6 ก่อน ก็คงไม่มีโอกาสได้ทำเกมแฟรนไชส์ใหม่ๆ แบบ Starfield สักที
Howard บอกว่าเขาตัดสินใจทำ Starfield หลังจบโปรเจคต์ Fallout 4 ในปี 2015 เพราะมองว่าถ้าไม่ทำตอนนั้นแล้วก็คงไม่ได้ทำเกมใหม่อีกเลย
Starfield มีกำหนดออกในปี 2022 ดังนั้นแฟนๆ The Elder Scrolls 6 คงต้องรอกันหลังจากนั้นอีกนาน เพราะ Howard บอกว่าตอนนี้เกมยังอยู่ในสถานะการเริ่มออกแบบเท่านั้น
ที่มา - IGN |
# NASA ปรับแผนส่งคนไปดวงจันทร์ Artemis Program ล่าช้า 1 ปี เพราะ Blue Origin ฟ้อง
NASA ประกาศเลื่อนแผนการส่งยานที่มีมนุษย์ไปดวงจันทร์ ภายใต้ภารกิจ Artemis จากเดิมตั้งเป้าส่งคนไปเหยียบดวงจันทร์ปี 2024 กลายเป็น "อย่างเร็วในปี 2025"
โครงการ Artemis ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่
Artemis I การทดสอบจรวดที่ไม่มีมนุษย์ แผนเดิม 2021 แผนใหม่ 2022
Artemis II การทดสอบจรวดที่มีมนุษย์ไปวนรอบดวงจันทร์ แผนเดิม 2023 แผนใหม่ 2024
Artemis III การยิงจรวดที่มีมนุษย์ไปลงดวงจันทร์ แผนเดิม 2024 แผนใหม่ 2025
NASA ให้เหตุผลของการเลื่อนว่ามาจาก คดีที่ Blue Origin ฟ้องร้อง ว่าการคัดเลือกบริษัทพัฒนายานลงจอดดวงจันทร์ (human landing system หรือ HLS) ไม่โปร่งใส ทำให้กระบวนการชะงักไปหลายเดือน หลังจากศาลเข้ามาตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ทำให้ NASA กลับมาเดินหน้าโครงการต่อได้
ที่มา - NASA |
# บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Rivian ขายหุ้น IPO แล้ว มูลค่าบริษัทแตะ 1 แสนล้านดอลลาร์ แซง Ford, GM
Rivian บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการหนุนหลังจาก Amazon เข้าขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq เมื่อคืนนี้ โดยใช้ตัวย่อ RIVN และตั้งราคาหุ้นไว้ที่ 78 ดอลลาร์
ผลของการขายหุ้นได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ราคาพุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 118.34 ดอลลาร์ต่อหุ้น มูลค่าบริษัทเกิน 1 แสนล้านดอลลาร์ไปเรียบร้อย ก่อนปิดตลาดด้วยราคาที่ลดลงมาเหลือ 100.73 ดอลลาร์ มูลค่าบริษัท 9.8 หมื่นล้านดอลลาร์
Rivian ก่อตั้งในปี 2009 โดยมุ่งเน้นการเป็นรถกระบะและรถ SUV ไฟฟ้า (ยังไม่ทำรถเก๋ง) บริษัทได้รับการสนับสนุนจาก Ford ที่เข้ามาลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2019 และโด่งดังเมื่อ Amazon เข้ามาสั่งรถส่งสินค้าล็อตใหญ่ 1 แสนคันในปี 2019
หากเทียบมูลค่าบริษัทรถยนต์ด้วยกัน ตามราคาหุ้นเมื่อคืนนี้ Tesla มีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์, Ford 7.7 หมื่นล้านดอลลาร์, GM 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ถูกกว่า Rivian!)
ที่มา - Autoblog |
# เมตาเวิร์สมีไว้ทำอะไร HP ตอบ "มีไว้ซ่อมพรินเตอร์"
HP เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ xRServices เป็นการนำแว่น Hololens 2 ของไมโครซอฟท์เข้ามาเพื่อให้การซ่อมบำรุงพรินเตอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมง่ายขึ้น
พรินเตอร์อุตสาหกรรม (Industrial Printers) มีขนาดใหญ่และมีกลไกซับซ้อน การซ่อมบำรุงทำได้ยาก เพราะต้องใช้วิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญสูง หากพรินเตอร์ขัดข้องก็ต้องรอวิศวกรเดินทางไปถึงสถานที่ตั้งก่อน
การใช้แว่น HoloLens เข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ เพราะวิศวกรของ HP สามารถดูกลไกเครื่องจากระยะไกลได้เหมือนอยู่หน้างานจริง ในขณะที่ฝั่งผู้ใช้งานเครื่องพิมพ์ก็สวมแว่น HoloLens แล้วทำการซ่อมตามคำบอกของวิศวกรแบบเรียลไทม์ สะดวกกว่าการสอบถามกันผ่านโทรศัพท์ที่ไม่เห็นชิ้นส่วนของจริง
บริการนี้เริ่มทดสอบแบบ Beta กับลูกค้ารายใหญ่ของ HP บางรายแล้ว
ที่มา - HP, Ars Technica |
# มุ่งสู่เมต้าเวิร์ส Qualcomm เปิดตัว Snapdragon Spaces XR ชุดพัฒนาแอป AR
Qualcomm แถลงเปิดตัว Snapdragon Spaces XR ชุดพัฒนาแอปสำหรับ Augmented Reality (AR) และ Mixed Reality (XR) เพื่ออุปกรณ์แบบสวมหัว เช่นแว่น AR และอื่นๆ ที่จะช่วยให้นักพัฒนาเข้าถึงชุดเครื่องมือและเทคโนโลยีการตรวจจับวัตถุ, ตรวจจับภาพ รวมถึงระบบติดตามศีรษะและมือ ที่จำเป็นในการพัฒนาแอป AR/XR ได้
Snapdragon Spaces เป็นชุดพัฒนาแอป AR/XR ที่ทำงานอยู่บนมาตรฐานสเปกของ OpenXR โดย Qualcomm ระบุว่า Spaces เป็นชุดพัฒนาแอปชุดแรก ที่รองรับการรันแอปมาตรฐาน OpenXR บนแว่น AR ที่เชื่อมต่อกับมือถือ
Spaces ยังมาพร้อมชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDKs) 3D สำหรับ Unreal Engine, รองรับการใช้งานด้านนอกอาคารด้วยแพลตฟอร์ม Lightship ของ Niantic ทีมพัฒนา Pokemon Go, รองรับแพลตฟอร์ม Unity AR Foundation และ Unity Mars
Snapdragon Spaces เริ่มเปิดให้นักพัฒนาบางส่วน เช่น holo|one, Scope AR และ NZXR ใช้งานแล้ว และจะเปิดให้นักพัฒนาทั่วไปใช้ได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-มิถุนายน) ปีหน้า รวมถึงจะจับมือกับ Wikitude เพื่อให้นักพัฒนา AR กว่า 150,000 รายบน Wikitude ได้ใช้งานแพลตฟอร์มนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ Qualcomm ยังระบุว่ากำลังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เช่น Lenovo, Motorola, Oppo และ Xiaomi เพื่อรองรับการพัฒนาแอปบนแพลตฟอร์ม Spaces ในปี 2022 โดยแว่น Lenovo ThinkReality A3 ที่ใช้งานร่วมกับมือถือ Motorola จะเป็นอุปกรณ์ชุดแรกที่รองรับ Snapdragon Spaces ที่มีวางจำหน่าย
ที่มา - Qualcomm |
# เชิญร่วมปลดล็อกศักยภาพทางดิจิทัลช่วงฟื้นตัวจากโควิด-19 ในงาน HUAWEI CLOUD & CONNECT เข้าร่วมฟรี
จากสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิต ความเป็นอยู่และสังคมเป็นอย่างมาก ทำให้การทำงานทางไกล การศึกษาออนไลน์ และการแพทย์ทางไกลกลายเป็นเรื่องธรรมดา เห็นได้ชัดว่า เทคโนโลยีก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก ถือเป็นโอกาสสำคัญของบริษัทเทคโนโลยี ตลอดจนสตาร์ทอัพที่สามารถสร้างบริการดิจิทัลใหม่ๆ ได้
การบริการด้านดิจิทัลใหม่ๆ จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถสร้างมูลค่ามหาศาลจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยจากเชื้อไวรัส ในขณะเดียวกัน การทำงานทางไกลต้องใช้เทคโนโลยีมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในอดีต เพราะกิจกรรมทุกอย่างในวิถีชีวิตใหม่ หรือที่เรียกกันว่า นิวนอร์มัล (New Normal) ต้องขึ้นระบบออนไลน์แทบทั้งหมด
เราจึงเห็นภาวะที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนาเร็วกว่าที่เราจะจินตนาการได้ ทั้งเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น 5G, คลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถูกผลักดันให้พัฒนาไปถึงขีดจำกัดอย่างต่อเนื่อง องค์กรไอทีและสตาร์ทอัพ ต้องทำการเปลี่ยนผ่านและพัฒนาคน รวมถึงการรีสกิลบุคคลากรอย่างต่อเนื่อง
ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีของคนสายเทค ที่ Blogone จะชวนไปร่วมงานสัมมนาประจำปีครั้งใหญ่ของหัวเว่ยในงาน Powering Digital Thailand 2022 – HUAWEI CLOUD & CONNECT in conjunction with Asia-Pacific Innovation Day ที่จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2564 นี้ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิร์ลด์ ชั้น 22 ห้องประชุมคอนเวนชัน เซ็นเตอร์
โดยในงานนี้จะมีการแชร์มุมมองความรู้และเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนความคิดของผู้ที่มาร่วมงานให้หันมาสนใจและให้ความสำคัญในเรื่องเทคโนโลยี ที่จะมาปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจ ตลาดใหม่ รวมไปถึงรูปแบบธุรกิจใหม่ให้แก่ประเทศไทย ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการค้ำจุนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยต่อไป
ความพิเศษของงานสัมมนาในปีนี้คือใช้รูปแบบไฮบริด มีทั้งจัดงานออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงาน โดยทางผู้จัดยังคงมีความเข้มงวดเรื่องมาตรการการฆ่าเชื้อ และการรักษาระยะห่าง
ที่ไม่ใช่ครั้งแรกของหัวเว่ยในการจัดงานประจำปี ปี 2020 ที่ผ่านมา หัวเว่ยประสบความสำเร็จจากการจัดงาน Powering Digital Thailand 2021 – HUAWEI CLOUD & CONNECT ร่วมกับบางกอกโพสต์ ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามโดยมีผู้เข้าร่วม 3,500 คน และมีพันธมิตรร่วมเข้ามาแสดงเทคโนโลยีกว่า 60 ราย
ซึ่ง Blognone ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานในปีที่ผ่านมา โดยได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์ใช้งานจริงไม่ว่าจะเป็นเวิร์กชอป Hands-on Lab สัมผัสระบบปฏิบัติการของหัวเว่ย คลาวด์แบบเรียลไทม์ และ แพลตฟอร์มการพัฒนาแบบครบวงจรสำหรับนักพัฒนาระบบ AI รวมถึงได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญในด้านการนำเทคโนยีของหัวเว่ยไปใช้จริงในอุตสาหกรรมต่างๆ
ซึ่งงานสัมมนาในปีนี้ จะมีการเจาะลึกถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง และครอบคลุมทุกด้านที่เป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวันยุคโควิด-19 ตั้งแต่ การศึกษาออนไลน์, อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์, บริการด้านคลาวด์และเอไอ, ความเสถียรภาพของภาคการเงิน และความปลอดภัย, ธุรกิจค้าปลีก ยุค 4.0, ภาคอุตสาหกรรมโครงข่ายพื้นฐาน ไปจนถึงอุตสาหกรรมด้านพลังงานสะอาด (พลังงานอัจฉริยะ) ที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงในตอนนี้
งาน Powering Digital Thailand 2022 – HUAWEI CLOUD & CONNECT ในปีนี้ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในทุกอุตสาหกรรมเพื่อสำรวจวิธีที่เราจะสามารถเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเพื่อปลดล็อกศักยภาพและโมเดลธุรกิจใหม่ๆ สำหรับองค์กรทุกรูปแบบในช่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังเกิดโรคระบาด
ช่องทางการร่วมงาน สามารถเข้าชมทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์งาน https://activity.huaweicloud.com/intl/en-us/HCCThailand2022.html
ระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2564 และ เปิดให้เข้าชมงานฟรี! และยังสามารถเข้าร่วมงานพร้อมสัมผัสประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีด้วยตัวเองได้ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิร์ลด์ ชั้น 22 ห้องประชุมคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ โดยพร้อมเปิดให้ลงทะเบียนจองสิทธิ์เข้าชมงานล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ https://events02.huawei.com/m/AJJJBb |
# เว็บไซต์ศาล รธน. ถูกแฮ็ค เปลี่ยนชื่อไซต์เป็น Kangaroo Court หน้าเว็บเป็นเพลง Guillotine
ตอนนี้ เว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญ www.constitutionalcourt.or.th ถูกแฮ็ก และเปลี่ยนหน้สเว็บไซต์เป็นเพลง Death Grips - Guillotine (It goes Yah และยังเปลี่ยนชื่อไซต์เป็น Kangaroo Court ซึ่งมีความหมายว่าศาลเตี้ยด้วย
เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 ซึ่งมีนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นผู้ปราศรัย เป็นการกระทำที่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ที่มา - Way Magazine |
# อีลอน มัสก์ ขายหุ้นเทสลา 1.1 พันล้านเหรียญ คาดเป็นเรื่องที่คิดไว้แล้ว ไม่เกี่ยวกับผลโพลล์ทวิตเตอร์
จากการที่ อีลอน มัสก์ สร้างโพลล์บนทวิตเตอร์ให้ร่วมโหวตว่าเขาควรขายหุ้นเทสลา เพื่อจะได้เสียภาษีหรือไม่ และผลโหวตเสียงข้างมากเคาะว่าควรขาย ล่าสุด มัสก์ ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ตามรายงานทางการเงินที่ยื่นต่อ SEC (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ) ระบุว่า มัสก์ กำลังขายหุ้นจำนวน 934,091 หุ้น มูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 36,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เขายังคงถือหุ้นในบริษัทมากกว่า 170 ล้านหุ้น
มีข้อคิดเห็นด้วยว่า ที่เขาขายหุ้น ไม่ได้มาจากผลโพลล์ในทวิตเตอร์ นักวิเคราะห์ Matt Levine ชี้ให้เห็นว่าเอกสารที่เปิดเผยแผนการขายนี้ มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. แล้ว ซึ่ง มัสก์ เพิ่งมาสร้างโพลล์เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมานี้เอง
มัสก์ ส่งสัญญาณจะขายหุ้นมาก่อนแล้ว เขาเคยพูดไว้ในงาน Code Conference ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาด้วยว่า ออปชันที่มีกำลังจะหมดอายุ ส่งผลให้อัตราภาษีส่วนเพิ่มจะพุ่งขึ้นไป 50% เขาจึงต้องทำการขายก่อนหมดอายุ
ที่มา - The Verge, CNBC, TechCrunch |
# Steam Deck เลื่อนวางจำหน่ายจากเดือนธันวาคมนี้ ไปเป็นกุมภาพันธ์ 2022 เพราะปัญหาชิปขาดแคลน
Valve ประกาศขออภัยผู้สั่งจองเครื่อง Steam Deck โดยระบุว่าต้องเลื่อนกำหนดการจัดส่งเครื่องออกไปเพราะปัญหาซัพพลายเชนโลก ทำให้ขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตจนผลิตตัวเครื่องได้ไม่ทันกำหนดเดิม
Valve ระบุกำหนดการจัดส่งเครื่องใหม่เป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ผู้ที่สั่งจองทั้งหมดจะถูกเลื่อนคิวไปเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์โดยเรียงตามคิวเดิม และระบบจะปรับเปลี่ยนกำหนดวันที่คาดว่าจะได้รับของผู้สั่งจองใหม่ตามความเป็นจริง และจะคอยอัพเดตผู้สั่งจองอีกครั้งหากมีอะไรเปลี่ยนแปลง
เรียกได้ว่าปัญหาชิปขาดแคลนส่งแรงกระแทกไปกระทบแทบจะทุกวงการทั้ง Nintendo Switch, Raspberry Pi และแม้แต่ Apple เอง ก็มีข่าวลือว่าไลน์การผลิตได้รับผลกระทบเช่นกัน ส่วน Valve ก็คงเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่โดนปัญหานี้ และยังไม่แน่ชัดว่าปัญหาชิปขาดแคลนครั้งนี้จะคลี่คลายในช่วงไหน
ที่มา - Valve |
# เกม Fortnite เตรียมจัดกิจกรรมครอสโอเวอร์กับ Naruto วันที่ 16 พฤศจิกายนนี้
หลัง Fortnite จัดกิจกรรมร่วมกับ League of Legends เพิ่มสกิน Jinx เข้ามาในเกมก่อนหน้านี้ ล่าสุดทวิตเตอร์ทางการของ Fornite โพสต์ยั่วน้ำลายกิจกรรมครอสโอเวอร์ครั้งต่อไปแล้ว คราวนี้มาแบบค่อนข้างเซอไพรส์ เพราะเป็นการครอสโอเวอร์กับอนิเมะ Naruto Shippuden
ยังไม่มีข้อมูลออกมาว่าจะมีอะไรเกี่ยวกับ Naruto Shippuden เพิ่มเข้ามาในเกมบ้าง แต่ถ้าอิงจากกิจกรรมก่อนๆ น่าจะมีสกินตัวละครใหม่, สเปรย์, ของตกแต่ง Back Bling, ดนตรีประกอบ (music track) และ หน้าจอรอโหลดเกมในตีม Naruto ซึ่งก็น่าจะเรียกแฟนๆ อนิเมะเข้ามาเล่นได้ไม่น้อย และเป็นการครอสโอเวอร์ข้ามวงการที่แหวกแนวกว่าที่เคยมา
ที่มา - Twitter: @Fortnite |
# ผู้กำกับยืนยันเอง Squid Game ซีซัน 2 มาแน่
Associated Press โพสต์คลิปสัมภาษณ์ Hwang Dong-hyuk ผู้กำกับ Squid Game ซีรีส์เอาตัวรอดของเกาหลีที่โด่งดังมากเป็นประวัติการณ์บน Netflix โดยเขายืนยันว่า Squid Game มีซีซั่นสองอย่างแน่นอน และข้างตัวเขามี Lee Jung-jae นักแสดงนำยืนอยู่ด้วยกัน
ซึ่งถือว่าไม่เป็นที่น่าแปลกใจ เพราะตัวซีรีส์ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ตัวเลขคนดู และในแง่การเผยแพร่ soft power ของเกาหลีให้โด่งดังไปทั่วโลก
Hwang Dong-hyuk กล่าวต่อในการสัมภาษณ์ด้วยว่า มีความกดดัน ความต้องการ และความรักมากมายสำหรับตัวซีรีส์ในซีซั่นที่สอง และยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่บอกใบ้เล็กน้อยว่า Gi-hun (ชื่อตัวละครหลัก) จะกลับมา และเขาจะทำอะไรบางอย่างเพื่อโลก
ความสำเร็จของ Hwang Dong-hyuk ทำให้ Netflix เตรียมเพิ่มรายชื่อหนังสามเรื่องที่เขากำกับลง Netflix ด้วยคือ Silenced, The Fortress และ Miss Granny
ภาพจาก trailer Squid Game
ที่มา - The Verge |
# Disney+ ไตรมาสล่าสุดมีผู้ใช้งานเพิ่ม 2 ล้านราย โตช้ากว่าที่คาด รายได้สวนสนุก สินค้าเริ่มกลับมา
ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของดิสนีย์ เผยว่า สตรีมมิ่ง Disney+ มียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านราย ส่งผลให้ตัวเลขรวมเป็น 118.1 ล้านรายทั่วโลก ตัวเลขนี้รวมผู้ใช้งานบริการ Disney+ Hotstar และ Star+ แล้ว ซึ่งถือว่าน้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ได้ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นมา 12 ล้านราย
Bob Chapek ซีอีโอของดิสนีย์กล่าวในจดหมายของบริษัทถึงนักลงทุน ว่าเรายังคงมุ่งเน้นการจัดการบริการ DTC (direct-to-consumer) อย่างเช่น Disney+, ESPN+ และ Hulu ในระยะยาว ไม่ใช่รายไตรมาส
จนถึงตอนนี้ Disney+ เปิดใช้งานใน 60 ประเทศ และเข้าถึงผู้ใช้งานกว่า 20 ภาษาแล้ว ซึ่งไตรมาสถัดไปอาจสร้างตัวเลขที่ดีขึ้นสำหรับ Disney+ ได้ เพราะกำลังจะเปิดตัวในเกาหลีและไต้หวันในวันที่ 12 พ.ย. นี้ และฮ่องกงในวันที่ 16 พ.ย. รวมถึงเปิดฉายหนัง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ในวันที่ 12 พ.ย. นี้ด้วย
ด้านรายได้รวมของดิสนีย์ มีรายได้ 18.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 26% จากปีที่แล้ว ส่วนธุรกิจ Parks, Experiences และ Products ของบริษัทซึ่งครอบคลุมสวนสนุกและสินค้าต่างๆ แสดงให้เห็นว่ามีการฟื้นตัวกลับมาแล้ว มีรายได้เพิ่มเป็น 5.4 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สี่ เพิ่มขึ้น 99% จาก 2.7 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
ที่มา - Digital Trends, CNN |
# รายงาน e-Conomy SEA 2021 ประชากรอินเทอร์เน็ตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มเป็น 75%
กูเกิลร่วมกับ Temasek และ Bain & Company เผยแพร่รายงานการศึกษาวิจัย e-Conomy SEA ประจำปี 2021 ซึ่งนำเสนอภาพรวมอุตสาหกรรมดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใน 6 ประเทศ คือ เวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
ในภาพรวม ประชากรอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคมีจำนวน 440 ล้านคน เพิ่มขึ้น 40 ล้านคน จากปี 2020 ทำให้อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพิ่มเป็น 75% ผลการศึกษาพบว่า 8 ใน 10 คนของประชากรอินเทอร์เน็ต เคยซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์อย่างน้อย 1 ครั้ง (ตัวเลขนี้ของไทยคือ 9 ใน 10) ในกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการช่องทางดิจิทัล ในไทยมีจำนวนถึง 18% ที่เพิ่งเริ่มใช้บริการช่วงปี 2020 ถึงครึ่งแรกปี 2021 ซึ่งเริ่มมีการระบาดของโควิด 19 ผลักดันให้คนมาออนไลน์มากขึ้น
e-Conomy SEA ประเมินว่ามูลค่าตลาดรวมของบริการดิจิทัลในภูมิภาคปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยสำคัญคือบริการอีคอมเมิร์ซ ส่งอาหารเดลิเวอรี และฟินเทค และตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2025 ขณะที่เงินลงทุนในธุรกิจกลุ่มนี้ก็เพิ่มขึ้นเป็น 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ ในครึ่งแรกของปี 2021
รายงานมองว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จึงเรียกได้ว่ากำลังเข้าสู่ทศวรรษแห่งดิจิทัล ซึ่งปี 2030 มูลค่ารวมจะสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์
ข้อมูลตัวเลขอื่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม มีดังนี้
ปี 2020 เฉลี่ยคนใช้บริการออนไลน์ 2 อย่าง เพิ่มมาเป็น 3.7 ในปี 2021
การซื้อของใช้ทั่วไป (Grocery) และสั่งอาหารเดลิเวอรี เป็นบริการที่เริ่มใช้งานกันมากขึ้นตั้งแต่เกิดโควิด
34% ของผู้ประกอบการในไทย บอกว่าธุรกิจรอดได้ในช่วงโควิดเพราะมีดิจิทัลเข้ามา
มูลค่าตลาดรวมดิจิทัลของไทยปีนี้คาดอยู่ที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 50% จากปี 2020 และจะเพิ่มเป็น 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2025
สินค้าใช้ประจำวัน (Grocery) ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะออนไลน์ยังคิดเป็น 2% ของการขายรวม เมื่อเทียบกับสินค้ากลุ่มอื่นที่ตอนนี้อยู่ที่ 25%
ในไทย 59% บอกว่าใช้งานสั่งอาหารเดลิเวอรีบ่อยขึ้นตั้งแต่มีโควิด
รายงานฉบับเต็มดูได้จากที่มา
ที่มา: e-Conomy SEA (pdf) ภาพ Pixabay |
# ทวิตเตอร์กำลังสร้างทีมโฟกัสคริปโต, NFT, เทคโนโลยีกระจายศูนย์ ชี้ถึงเวลาต้องสำรวจจริงจัง
Tess Rinearson วิศวกรซอฟต์แวร์ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อคเชน เผยว่าเธอได้เข้าร่วมงานกับทวิตเตอร์ เพื่อมาดูแลทีมที่กำลังโฟกัสเทคโนโลยีคริปโต, บล็อคเชน และเทคโนโลยีกระจายศูนย์อื่นๆ ที่ไม่จำกัดอยู่เพียง cryptocurrency
ความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของทวิตเตอร์ แสดงให้เห็นชัดเจนมาสักพักแล้วว่า ทวิตเตอร์จะเข้าสู่โลกคริปโตอย่างจริงจัง ตั้งแต่ทดสอบฟังก์ชันเชื่อมต่อระบบการใช้งาน NFT, จ่ายทิปด้วยเงินบิทคอยน์ได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ก็มีวิสัยทัศน์ชัดเจนเรื่องโซเชียลมีเดียแบบกระจายศูนย์ หรือที่รู้จักในโปรเจกต์ BlueSky ที่เชื่อกันว่าเป็นวิธีการใหม่บนโซเชียลมีเดียที่เหมาะกับสังคมในทวิตเตอร์
โฆษกทวิตเตอร์ระบุว่า บล็อคเชน และ คริปโต ช่วยปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับการเดิมพันของบริษัท รวมถึงการสร้างรายได้จากครีเอเตอร์ด้วย จึงถึงเวลาแล้วที่ทวิตเตอร์จะต้องสำรวจเทคโนโลยีเหล่านั้นอย่างจริงจัง และ Tess ซึ่งเป็นผู้นำทีมวิศวกรรมที่ Interchain, Tendermint, Interstellar และ Chain มีประสบการณ์ที่จะเป็นผู้นำทีม
ที่มา - Mashable |
# Instagram ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ Take a Break เตือนให้พักสายตาบ้าง เมื่อเล่น IG ไปนาน ๆ
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ประกาศว่าแอปจะเริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Take a Break ซึ่งผู้ใช้งานสามารถกำหนดการเตือนเมื่อใช้งานแอปต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10, 20 หรือ 30 นาที ตามแต่กำหนด เพื่อพักไปทำอย่างอื่น โดยการเปิดฟีเจอร์นี้เป็น opt-in
เมื่อครบกำหนดเวลา Instagram จะแสดงคำแนะนำว่าควรไปพักทำอะไรแทนในระหว่างที่เล่น Instagram ต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาถูกหน่วยงานรัฐในอเมริกามองว่าแอปเหล่านี้ทำให้คนติดมากเกินไป
ฟีเจอร์ Take a Break จะเริ่มทดสอบกับผู้ใช้จำนวนหนึ่งตั้งแต่สัปดาห์นี้ และหากฟีเจอร์ได้รับการตอบรับที่ดี ก็จะขยายไปยังผู้ใช้ทุกคนต่อไป
ที่มา: TechCrunch |
# Meta เชื่อมระบบ Workplace เข้ากับ Microsoft Teams, โชว์วิดีโอจาก Teams ในกรุ๊ปได้
Meta ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ เชื่อมต่อระบบโซเชียลในองค์กร Workplace (เดิมชื่อ Workplace from Facebook) เข้ากับ Microsoft Teams
แสดงเนื้อหาโพสต์ต่างๆ จาก Workplace ฝังภายในแอพ Microsoft Teams
สตรีมวิดีโอจาก Teams Meetings เข้ามายังกรุ๊ปของ Workplace เพิ่มความสะดวกในการชมสตรีม เริ่มใช้งานในช่วงต้นปี 2022
ก่อนหน้านี้ ทั้งสองบริษัทเพิ่งประกาศความร่วมมือกันโดย หน้าจอ Facebook Portal จะรองรับวิดีโอคอลล์จาก Microsoft Teams ด้วย
ที่มา - Workplace |
# YouTube เริ่มซ่อนตัวเลข Dislike ปุ่มยังกดได้แต่เลขไม่โชว์ให้คนทั่วไปเห็น
YouTube ประกาศนโยบายซ่อนตัวเลข dislike ไม่ให้คนทั่วไปเห็น (ยกเว้นเจ้าของคลิปยังเห็นอยู่) ส่วนปุ่ม dislike ยังคงอยู่เหมือนเดิม
เหตุผลคือป้องกันการกลั่นแกล้ง การระดมกด dislike เพื่อให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นมากๆ YouTube บอกว่าจากการทดลองนำตัวเลขนับจำนวน dislike ออกไปช่วยลดการโจมตีได้จริง การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มทยอยมีผลแล้ววันนี้
ที่มา - YouTube |
# Google Cloud เปิดตัว Spot Pods รันคอนเทนเนอร์ราคาถูกบนเครื่องที่ว่างบนคลาวด์
Google Cloud เปิดบริการ Spot Pods สำหรับใช้งานกับ GKE Autopilot เพื่อการรันบริการที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย และยอมรับได้ที่ pod จะถูกปิดไป
ราคาของ Spot Pods อยู่ถูกกว่า pod ของ GKE Autopilot ปกติ ระหว่าง 60-91% ล้อไปกับ Spot VM และคิดราตามตามแรมและซีพียูที่ใช้งานจริงตามแนวทาง GKE Autopilot ตัว pod รันได้ไม่มีอายุจำกัด แต่กูเกิลสามารถเรียกเครื่องคืนเมื่อใดก็ได้ และจะส่ง SIGTERM ให้โปรเซสในคอนเทนเนอร์รับทราบพร้อมกับให้เวลา 25 วินาทีก่อนจะปิดเครื่องไปจริงๆ
ผู้ใช้ GKE Autopilot สามารถใช้งาน Spod Pods ได้ทันที เพียงกำหนดใน node selector เพิ่มเงื่อนไข cloud.google.com/gke-spot: "true" หากสร้างเป็น Deployment ตัวบริการก็จะกลับขึ้นมาได้เองเมื่อเครื่องว่างอีกครั้ง
เริ่มใช้งานได้แล้ววันนี้ แต่บริการนี้ยังอยู่ในสถานะพรีวิว และต้องการ GKE เวอร์ชั่น 1.21.4 ขึ้นไป
ที่มา - Google Cloud |
# ฝ่ายซัพพอร์ตแอปเทรดหุ้น Robinhood ถูกแฮกเกอร์หลอกเข้าถึงข้อมูล อีเมลลูกค้ารั่วไหล 5 ล้านราย
แอปเทรดหุ้น Robinhood รายงานว่าถูกโจมตีแบบ social engineering กับฝ่ายซัพพอร์ตลูกค้า ทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ได้จำนวนมาก แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่มีข้อมูลเชิงลึกเช่นข้อมูลการจ่ายเงินหรือรายการซื้อขายหุ้นก็ตาม
คนร้ายได้อีเมลลูกค้า Robinhood ไป 5 ล้านรายการ ชื่อ-นามสกุลลูกค้าอีก 2 ล้านรายการ และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เช่น รหัสไปรษณีย์, วันเกิด อีกเล็กน้อย 310 รายการ นอกจากนี้มีข้อมูลของลูกค้าประมาณ 10 ราย ที่ถูกเปิดเผยรายละเอียดในบัญชี
ตอนนี้ทาง Robinhood เรียก Mandiant เข้ามาช่วยสอบสวนกรณีนี้
ที่มา - Robinhood |
# Apple เปิดตัว Apple Business Essentials บริการ Device Management สำหรับลูกค้าองค์กรขนาดเล็ก
แอปเปิลเปิดตัวบริการใหม่สำหรับลูกค้าองค์กร Apple Business Essentials โดยเน้นไปที่องค์กรซึ่งมีพนักงานไม่เกิน 500 คน ในการบริหารจัดการอุปกรณ์ (Device Management), การรับการสนับสนุนจากแอปเปิล 24/7 และบริหารจัดการพื้นที่ iCloud ได้สะดวกมากขึ้น
บริการ Apple Business Essentials เป็นการรวมโซลูชันดูแลจัดการอุปกรณ์ เช่นการควบคุมสิทธิเข้าถึง, VPN, รหัส Wi-Fi, แอปที่ติดตั้งในเครื่อง ไปจนถึงสามารถควบคุมการเข้ารหัสเครื่องผ่าน FileVault หรือสั่งล็อกเครื่องระยะไกลกรณีอุปกรณ์สูญหาย และการใช้งาน iCloud บัญชีเฉพาะสำหรับองค์กร เป็นต้น
บริการนี้ยังสามารถเลือกเพิ่ม AppleCare+ for Business ซึ่งจะซัพพอร์ตทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงแผนในการซ่อมแซมอุปกรณ์อีกด้วย
Apple Business Essentials ตอนนี้อยู่ในสถานะเบต้า เปิดให้ทดลองใช้งานฟรีสำหรับลูกค้าในอเมริกาเริ่มตั้งแต่วันนี้ (รายละเอียด) โดยจะให้บริการเต็มรูปแบบช่วงต้นปี 2022 ค่าบริการเริ่มต้นที่ 2.99 ดอลลาร์ต่ออุปกรณ์ต่อเดือน
ที่มา: แอปเปิล |
# Tencent ไตรมาส 3/2021 รายได้รวมโต 13% นโยบายจำกัดเวลาเกมเยาวชน กระทบเล็กน้อย
Tencent รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2021 รายได้รวม 1.42 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 13.5% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี non-IFRS 3.2 หมื่นล้านหยวน
ข้อมูลรายกลุ่มธุรกิจเด่นเป็นดังนี้
Weixin หรือ WeChat มีผู้ใช้งานรวม 1,263 ล้านบัญชี กลยุทธ์ mini program ยังคงเติบโต มีแอปเพิ่มขึ้น 40%
บริการสมัครชมวิดีโอมีสมาชิกเพิ่มเป็น 129 ล้านบัญชี จากสองซีรีส์ยอดนิยม You Are My Glory และ Crime Crackdown
ธุรกิจเกมในจีน ได้รับผลกระทบจากนโยบายจำกัดเวลาเล่นเกมของเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี โดยรายได้จากผู้เล่นกลุ่มดังกล่าวลดเหลือ 1.1% ของรายได้รวม เทียบกับปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 4.8%
ที่มา: Tencent (pdf) |
# Google Docs เพิ่มฟีเจอร์ Approval อนุมัติเอกสารตาม Workflow ภายในองค์กร
Google Docs, Sheets, Slides เพิ่มฟีเจอร์ Approvals สำหรับการอนุมัติเอกสาร (workflow) ในองค์กร
ผู้ใช้สามารถส่งคำขออนุมัติ (approval request) ไปยังผู้ใช้คนอื่นในองค์กรได้ (อยู่ในเมนู File) และผู้รับคำขอสามารถอนุมัติ ปฏิเสธ แก้ไข คอมเมนต์เอกสารได้ หากมีการแก้ไขเอกสารในภายหลัง ผู้อนุมัติทุกคนจะได้รับอีเมลแจ้งเตือนว่ามีการเปลี่ยนแปลง หรือสามารถตั้งค่าได้ว่าถ้าอนุมัติแล้วให้ล็อคห้ามแก้ไขไฟล์อีก
กูเกิลบอกว่าฟีเจอร์นี้เหมาะกับการตรวจสอบเอกสารสำคัญๆ อย่างสัญญาหรือเอกสารทางกฎหมาย ที่จำเป็นต้องมีคนอนุมัติอย่างเป็นทางการ
ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้เป็นค่าดีฟอลต์ (แอดมินองค์กรสามารถปิดได้) และทยอยเปิดให้ผู้ใช้ Google Workspace บางส่วนแล้ว (บัญชีแบบส่วนตัวจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้)
ที่มา - Google |
# ใจถึงก็ไปถึง วีลแชร์ตีนตะขาบ Ziesel ลุยได้หมด ทั้งภูเขา ทะเล หิมะ ฟุตบาท
ผู้พิการและผู้ป่วยที่นั่งวีลแชร์ ไม่จำเป็นต้องอยู่แค่บนทางเรียบอีกต่อไป เพราะโลกเรามีสิ่งที่เรียกว่ารถวีลแชร์ออฟโร้ดแบบตีนตะขาบอยู่ รถวีลแชร์ออฟโร้ดของแบรนด์ Ziesel ประเทศออสเตรีย ที่ขายมาตั้งแต่ปี 2013 และพัฒนามาเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีสองรุ่น คือรุ่น Sport ที่พร้อมลุยทุกสภาพพื้นผิว และรุ่น Street ที่ปรับแต่งกระจกมองข้าง ล้อสายพาน และไฟสัญญาณ ให้ถูกต้องตามกฎหมายจราจรยุโรป
ทั้งสองรุ่นเป็นยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 8kWh มอเตอร์ทรงพลังจนสามารถต่อพ่วงและลากน้ำหนักได้ถึง 1 ตัน สามารถวิ่งขึ้นเนินชันได้ถึง 30 องศา ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แรงบิด 500 Nm น้ำหนัก 350 กิโลกรัม
ตัววีลแชร์มีระบบกันสะเทือนคู่ ด้านความปลอดภัยมีโรลบาร์ป้องกันอันตรายกรณีพลิกคว่ำและเข็มขัดนิรภัย สามารถบังคับได้ด้วยมือเดียวผ่านจอยสติ้กที่ติดอยู่บนที่วางแขน มีหน้าจอบอกโหมดการขับขี่และแบตเตอรี่
Ziesel ทุกคันเป็นแบบสังประกอบ สามารถเลือกสีวัสดุ ปรับแต่งสี และสายพานล้อตีนตะขาบได้ แต่บอกก่อนว่าถึงตัวรถรุ่น Street จะใช้งานได้บนท้องถนนในยุโรป แต่ก็ไม่แน่ชัดว่าจะถูกกฎจราจรบ้านเราหรือไม่
ส่วนการขับขี่บนฟุตบาทถึงไม่มีทางขึ้น หรือฟุตบาทจะเป็นหลุมเป็นบ่อก็ลุยได้สบาย ติดนิดเดียวคือตัวรถมีความกว้างมากกว่าวีลแชร์ปกติ อาจจะต้องใช้พื้นที่ทางเท้ามาก จะให้ดีคงเหมาะกับการไปเที่ยวต่างจังหวัด ภูเขา ทะเล ทุ่งหญ้ามากกว่า
ในบ้านเรามีบริษัทนำเข้ารถวีลแชร์ตีนตะขาบรุ่นนี้อยู่เหมือนกัน ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของบริษัทนี้ น่าเสียดายที่รถทุกคันเป็นแบบสั่งประกอบ จึงไม่มีราคาแน่นอนระบุมาให้ แต่คาดว่าก็คงแพงพอสมควร
ที่มา - Ziesel, Mobility.fun |
# Microsoft เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Teams: ตั้งเวลาส่งข้อความ, กด Ctrl+Space เปิดไมค์ ฯลฯ
Microsoft ยังคงเดินหน้าเพิ่มฟีเจอร์ให้ Teams อยู่เรื่อยๆ ล่าสุดระบุว่าผู้ใช้จะสามารถตั้งเวลาส่งข้อความแชทได้ เหมาะกับผู้ที่ทำงานนอกเวลางานแล้วเกรงใจผู้รับข้อความหรือผู้ที่ทำงานต่างเขตเวลากันก็จะได้ประโยชน์ (ฟีเจอร์นี้มีบน Slack นานแล้ว) โดยตั้งเป้าว่าจะปล่อยให้ใช้งานได้เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
ฟีเจอร์ถัดมาที่น่าสนใจคือผู้ใช้ Teams จะแชทกับผู้ใช้คนอื่นที่ใช้บัญชี Microsoft ส่วนตัวได้แล้ว จากเดิมที่จำกัดเฉพาะการคุยภายในองค์กรหรือข้ามองค์กร อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้น่าจะต้องขึ้นอยู่กับแอดมินขององค์กรนั้นๆ ด้วยว่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้ของตนสามารถคุยกับคนอื่นได้หรือไม่ ตั้งเป้าว่าจะปล่อยให้ใช้งานได้ภายในเดือนนี้
อีกฟีเจอร์หนึ่งคือ "compact mode" โดยเมื่อใช้งานแล้วหน้าจอจะแสดงจำนวนข้อความได้มากขึ้นถึง 50% เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นข้อความเยอะๆ โดยที่ไม่ต้องเลื่อนหน้าจอขึ้นลงบ่อยๆ ตั้งเป้าว่าจะเข้าสู่สถานะพรีวิวภายในเดือนนี้ และปล่อยให้ใช้งานจริงได้เดือนมกราคมปีหน้า
ต่อมาเป็นการส่งข้อความหาตัวเอง ฟีเจอร์นี้ก็มีใน Slack นานแล้วเช่นกัน โดยผู้ใช้จะสามารถส่งข้อความ, รูปภาพ, ไฟล์ต่างๆ หาตัวเองได้ มีประโยชน์เวลาต้องจดโน้ตเร็วๆ หรือแปะรูปไว้ใช้ที่อื่นต่อ ฟีเจอร์นี้ตั้งเป้าว่าจะปล่อยให้ใช้งานได้เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
สุดท้ายเป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะรออยู่ คือการกดปุ่ม Ctrl + Spacebar เพื่อเปิดไมค์ชั่วคราว ซึ่งฟีเจอร์นี้มีในแอพประชุมออนไลน์กันแทบทุกเจ้าแล้ว ตั้งเป้าว่าจะปล่อยให้ใช้งานได้เดือนธันวาคมนี้
ที่มา - TechRadar |
# Ubuntu รองรับบนแมคสถาปัตยกรรม Apple M1 แล้ว ผ่าน Multipass VM
Canonical ประกาศรองรับ Ubuntu บนชิป Apple M1 ผ่าน Multipass ซึ่งเป็นระบบจัดการ virtualization ของ Canonical เอง
ก่อนหน้านี้ เครื่องแมคที่เป็น Apple M1 ยังไม่รองรับลินุกซ์อย่างเต็มที่นัก และการรันผ่าน virtualization อย่าง VirtualBox/VMware ยังไม่สมบูรณ์มากพอ แนวทางของ Canonical คือสร้าง Multipass ซอฟต์แวร์จัดการ virtualization ที่ใช้ระบบของ OS เอง (KVM บนลินุกซ์, Hyper-V บนวินโดวส์, HyperKit บนแมค) แล้วจัดการเรื่องอิมเมจและการติดตั้งให้อัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่ต้องยุ่งกับการคอนฟิก VM เอง
Multipass เป็นซอฟต์แวร์ที่ Canonical พัฒนามาได้สักระยะแล้ว และเวอร์ชันล่าสุด 1.8.0 รองรับสถาปัตยกรรม M1 และมีฟีเจอร์ใหม่อีกตัวชื่อ aliases ให้สามารถเปิดแอพจากลินุกซ์ในเทอร์มินัลของ host OS ได้
ที่มา - Canonical, Multipass GitHub |
# นักวิจัยประสบความสำเร็จ ใช้ AI ตีความคลื่นสมองคนพิการ ให้สื่อสารออกมาเป็นตัวหนังสือ
นักวิจัยประสบความสำเร็จในการใช้อัลกอริทึม ตีความสัญญาณสมองผู้พิการ และแปลออกมาเป็นตัวหนังสือ เพื่อให้ผู้พิการสามารถสื่อสารผ่านตัวหนังสือได้แบบเรียลไทม์
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการต่อยอดจากระบบเชื่อมสมองเข้ากับคอมพิวเตอร์ (Brain-Computer Interface - BCI) ของ Brown University ที่เรียกว่า BrainGate ฝังเข้าไปในคอร์เท็กซ์สั่งการ (Motor Cortex) ของสมอง ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาด้วยเครือข่ายนิวรอนแบบ RNN (Recurrent Neural Network)
ผู้ป่วยที่เข้าร่วมการทดสอบนี้เป็นอัมพาตจากความเสียหายที่กระดูกสันหลัง โดยตัวผู้ป่วยเพียงแค่นึกภาพในหัวว่าตัวเองกำลังเขียนหนังสือ ก่อนที่ BCI และอัลกอริทึมจะตีความและประมวลผลออกมาเป็นตัวหนังสือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความแม่นยำที่ 94% (ถ้าเปิดระบบ autocorrect ก็แม่นยำถึง 99%) และความเร็วอยู่ที่ 90 ตัวอักษรต่อนาที ซึ่งเร็วกว่างานวิจัยที่ผ่านๆ มา และใกล้เคียงกับความเร็วในการพิมพ์บนสมาร์ทโฟนที่ 115 ตัวอักษรต่อนาที
อย่างไรก็ตามงานวิจัยตัวนี้ยังเป็นแค่ proof-of-concept และเป็นการพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่า การใช้ BCI ตีความคลื่นสมองที่สั่งงานเรื่องการเขียน มีความรวดเร็วในการสื่อสารมากกว่า BCI ก่อนหน้านี้ที่เป็นแบบ point-and-click หรือใช้คลื่นสมองสั่งเลื่อนเม้าส์บนจอคอมพิวเตอร์
ที่มา - Nature via Science Alert |
# นับถอยหลัง 29 วัน ศาลปฎิเสธคำขอทุเลาของแอปเปิล ต้องเปิดให้แอปแสดงปุ่มรับเงินตรงภายในวันที่ 9 ธันวา
ผู้พิพากษา Yvonne Gonzalez จากศาลแคลิฟอร์เนียร์ปฎิเสธคำขอทุเลาคำสั่งศาลที่บังคับให้แอปเปิลต้องเปิดให้แอปแสดงลิงก์หรือปุ่มรับเงินจากภายนอกระบบ In-App Purchase (IAP) ของแอปเปิลเองภายในวันที่ 9 ธันวาคมนี้
คำสั่งนี้เป็นผลมาจากคดี Epic Games v. Apple ที่เริ่มจากทาง Epic ฝ่าทางตันรับเงินโดยตรงผ่านบัตรเครดิตจากในเกม Fortnite ผลจากคดีนี้มีคำสั่งศาลออกมาหลายคำสั่ง และส่วนใหญ่ให้ Epic แพ้คดี แต่คำสั่งหนึ่งคือแอปเปิลต้องเปิดทางให้ผู้ผลิตแอปสามารถแสดงลิงก์เพื่อรับเงินตรงจากในแอปได้ และแอปเปิลก็ยื่นขอทุเลาคำสั่งไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
Gonzalez ระบุในหนังสือปฎิเสธคำขอทุเลาว่าแอปเปิลไม่มีเหตุผลเพียงพอ และการรองรับระบบจ่ายเงินหลายระบบก็เป็นเรื่องทำได้อยู่แล้ว ในแง่ความปลอดภัย การกดลิงก์เข้าเว็บจากแอปก็เป็นเรื่องปกติที่แอปจำนวนมากทำกัน
ที่มา - The Verge |
# ยอมให้นิดนึง Apple เตรียมออกซอฟต์แวร์อัพเดตให้ FaceID ใช้งานได้ หลังเปลี่ยนจอโดยร้านภายนอก
ก่อนหน้านี้ iFixit พบว่ากระบวนการเปลี่ยนหน้าจอ iPhone 13 ให้ FaceID ยังใช้งานได้อยู่ ซับซ้อนขึ้นจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ร้านซ่อมทั่วไปที่ไม่ใช่ Apple และตัวแทนที่ได้รับอนุญาตจะทำได้ เนื่องจากต้องย้ายชิปไมโครคอนโทรลเลอร์จากจอเก่ามาด้วย แต่ล่าสุด Apple ดูเหมือนจะยอมอ่อนข้อให้บ้างแล้ว
Apple ให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ The Verge ว่าเตรียมออกซอฟต์แวร์อัพเดต เพื่อให้ FaceID ยังใช้งานได้อยู่แม้ผู้ใช้จะไม่ได้ย้ายชิปไมโครคอนโทรลเลอร์จากหน้าจอเก่ามาด้วย แม้ Apple จะยังไม่ระบุว่าอัพเดตนี้จะออกเมื่อไร แต่ผู้ใช้ iPhone 13 น่าจะวางใจได้ระดับหนึ่ง ว่าสามารถใช้ร้านซ่อมภายนอกเปลี่ยนหน้าจอ โดยที่ยังสามารถใช้งาน FaceID ได้อยู่ในอนาคต
การย้ายชิปไมโครคอนโทรลเลอร์ ภาพจาก: iFixit
ที่มา - The Verge |
# เปิดตัว POCO M4 Pro 5G จอ 90Hz กล้อง 50MP ชาร์จเร็ว 33W ในราคา 229 ยูโร
POCO เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ POCO M4 Pro 5G มาแบบสเปกกลางๆ แต่จัดฟีเจอร์ที่มักพบในมือถือรุ่นราคาแพงกว่ามาให้หลายฟีเจอร์ เช่นกล้องหลังหลัก 50MP, หน้าจออัตรารีเฟรช 90Hz การรองรับ 5G และชาร์จเร็ว 33W ในราคา 229 ยูโร หรือราว 8,700 บาท มีสี เหลือง, ดำ และฟ้า รายละเอียดสเปกมีดังนี้
ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 810
หน้าจอ LCD 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 90Hz
แรม LPDDR4X ขนาด 4GB / 6GB
หน่วยความจำภายใน UFS 2.2 64GB และ 128GB
กล้องหลังคู่ กล้องหลัก 50MP f/1.8 กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP f/2.2
กล้องหน้า 16MP f/2.5
แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว 33W
รองรับ 5G, WiFi 5GHz และ Bluetooth 5.1
รัน Android 11 ครอบด้วย MIUI 12.5
จุดช่วยคุมต้นทุน อาจเป็นหน้าจอที่ยังเป็น LCD หน่วยความจำภายในที่ยังเป็น UFS 2.2 และกล้องหลังที่มีแค่ 2 กล้อง ไม่มีกล้องมาโครหรือ depth sensor ที่มักให้มาเป็นกล้องที่สาม การวัดระยะชัดลึกเวลาถ่ายภาพบุคคลเพื่อเบลอฉากหลัง อาจด้อยกว่าชุดกล้องที่มี depth sensor เล็กน้อย
ส่วนหน่วยความจำ UFS 2.2 อาจทำให้การโอนย้ายไฟล์หรือรับส่งข้อมูลช้าลงกว่ามือถือที่ใช้หน่วยความจำรุ่นใหม่กว่า ส่วนจะคุ้มหรือไม่ คงอยู่ที่ผู้ใช้ว่ามองฟีเจอร์จอ 90Hz, กล้อง 50MP ชาร์จเร็ว 33W และการรองรับ 5G ว่าจำเป็นแค่ไหน แต่ก็ดูเป็นมือถือที่น่าสนใจ และคงต้องรอดูกันอีกที ว่าจะวางขายในไทยหรือไม่ และราคาเท่าไร
ที่มา - Talkandroid |
# Samsung เปิดตัวแรม LPDDR5X เจ้าแรกของวงการ เร็วกว่า LPDDR5 1.3 เท่า กินไฟน้อยกว่า 20%
Samsung เปิดตัว DRAM ชนิด Low Power Double Data Rate 5X หรือ LPDDR5X แบบ 16Gb เป็นครั้งแรกของวงการชิปความจำ ผลิตด้วยกระบวนการขนาด 14 นาโนเมตร (nm) และออกแบบมาเพื่อใช้งานกับการทำงานที่ต้องใช้หน่วยความจำความเร็วสูง เช่นการทำงานกับข้อมูลที่ส่งผ่าน 5G การทำงานกับปัญญาประดิษฐ์, AR และ metaverse
แรม LPDDR5X ของ Samsung ใส่แรมได้สูงสุด 64GB ต่อหนึ่งแพ็กเกจหน่วยความจำ มีความเร็วประมวลผลอยู่ที่ 8.5 Gbps (กิกะบิตต่อวินาที) เร็วกว่า 6.4 Gbps ของ LPDDR5 ถึง 1.3 เท่าตัว และใช้พลังงานน้อยกว่าราว 20% จากการลดขนาดกระบวนการผลิตไปอยู่ที่ 14 นาโนเมตร
Samsung ระบุว่าเตรียมประสานงานกับผู้ผลิตชิปรายใหญ่หลายเจ้าเพื่อสร้างแผนพัฒนาวงการโลกความจริงแบบดิจิทัล (Digital Reality) ภายในปีนี้ และแรม LPDDR5X จะเป็นหนึ่งที่สำคัญของแผนนั้น ทำให้เราอาจได้เห็นมือถือหรืออุปกรณ์อื่นของ Samsung ที่ใช้งานแรมแบบ LPDDR5X ในเร็วๆ นี้
ภาพ: Samsung
ที่มา - Samsung |
# HP เปิดใช้ WSL2 เป็นดีฟอลต์พร้อมพรีโหลด Ubuntu บนเครื่องเวิร์คสเตชันวินโดวส์
HP ประกาศพรีโหลด Windows Subsystem for Linux 2 (WSL2) และเปิดใช้งานเป็นดีฟอลต์กับเครื่องเวิร์คสเตชันตระกูล Z ของบริษัทบางรุ่น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าพีซีเวิร์คสเตชัน ที่ต้องใช้งานทั้งวินโดวส์และลินุกซ์ โดยไม่ต้องบูตเครื่องสลับไปมา หรือรันลินุกซ์ใน VM ที่ประสิทธิภาพไม่ดีเท่า
HP บอกว่ามีความต้องการใช้งานซอฟต์แวร์จำพวก machine learning และ data science มากขึ้น จึงได้ปรับซอฟต์แวร์ของตัวเองจากลินุกซ์ให้ทำงานร่วมกับ WSL2 ได้ดีขึ้น ตัวดิสโทรที่เลือกใช้คือ Ubuntu
ปัจจุบันการติดตั้ง WSL2 ทำได้ง่ายขึ้นมากๆ แล้ว แต่การเปิดใช้ WSL2 มาเป็นดีฟอลต์เลยก็เป็นสัญญาณว่าการใช้งานลินุกซ์บนวินโดวส์แพร่หลายขึ้นกว่าเดิมมาก
ที่มา - HP |
# เครือข่ายโรงพยาบาลในแคนาดาถูกโจมตีไซเบอร์ ระบบไอทีใช้งานไม่ได้ทั้งจังหวัด
เครือข่ายโรงพยาบาลในจังหวัด Newfoundland and Labrador (ชื่อเป็นสองเขตแต่เป็นจังหวัดเดียวกัน) ถูกโจมตีไซเบอร์จนระบบไอทีใช้งานไม่ได้จำนวนมาก ทั้งอีเมล, ระบบส่งผลแล็บ, ระบบภาพวิเคราะห์โรค ทำให้โรงพยาบาลในเครือข่ายต้องกลับไปใช้เอกสารกระดาษจนติดขัด ตอนนี้มีคนไข้ถูกยกเลิกนัดแล้วนับพันราย
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าการโจมตีเป็นรูปแบบใด แต่คาดว่าน่าจะเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่ โดยเจ้าหน้าที่พบการโจมตีตั้งแต่วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา และเพิ่งกู้ระบบอีเมลได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะเป็นการโจมตีเครือข่ายโรงพยาบาลครั้งที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่ง เนื่องจากกระทบโรงพยาบาลจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ระบบที่กระทบมักเป็นระบบของโรงพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่ง หรือระบบบางส่วนของโรงพยาบาล
ที่มา - Gobal News, CBC
ภาพโดย Parentingupstream |
# Facebook ถอดตัวเลือกโฆษณา Detailed Targeting กำหนดตามรสนิยมทางเพศ ศาสนา การเมือง ไม่ได้แล้ว
Facebook ประกาศถอดตัวเลือกการเจาะจงตัวบุคคลสำหรับโฆษณา (Detailed Targeting) ที่เกี่ยวข้องกับรสนิยมทางเพศ แนวคิดทางศาสนา-การเมือง และความสนใจด้านสุขภาพออก ทำให้นักโฆษณาและแบรนด์ไม่สามารถใส่เงื่อนไขเหล่านี้ในการโฆษณาได้อีก
การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในวันที่ 19 มกราคม 2022 โดย Facebook ยกตัวอย่างตัวเลือกที่ถูกตัดออกดังนี้
Health causes (e.g., “Lung cancer awareness”, “World Diabetes Day”, “Chemotherapy”)
Sexual orientation (e.g., “same-sex marriage” and “LGBT culture”)
Religious practices and groups (e.g., “Catholic Church” and “Jewish holidays”)
Political beliefs, social issues, causes, organizations, and figures
นอกจากนี้ Facebook ยังบอกว่าจะเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้เลือกปิดโฆษณาเป็นบางหมวดได้เอง เช่น การพนันและการลดน้ำหนัก แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลาและรายละเอียดที่ชัดเจน
ที่มา - Facebook |
# Unity ซื้อ Weta Digital บริษัทเอฟเฟคต์ของ Peter Jackson นำซอฟต์แวร์สายเอฟเฟคต์มาใช้งาน
Unity ประกาศซื้อกิจการ Weta Digital บริษัทวิชวลเอฟเฟคต์สัญชาตินิวซีแลนด์ ที่ก่อตั้งโดย Peter Jackson ผู้กำกับภาพยนตร์ The Lord of the Rings ในราคา 1.625 พันล้านดอลลาร์
Weta Digital ก่อตั้งเมื่อปี 1993 มีผลงานทำวิชวลเอฟเฟคต์ (VFX) ให้กับภาพยนตร์ของ Peter Jackson ทุกเรื่อง เช่น The Lord of the Rings, King Kong, The Hobbit แต่ก็รับงานเอฟเฟคต์ให้ภาพยนตร์ค่ายอื่นๆ ด้วย เช่น The Avengers, Justice League, Planet of the Apes, The Hunger Games
การซื้อกิจการครั้งนี้ Unity จะได้เทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ คลังภาพ-โมเดล และทีมงานสายวิศวกรของ Weta Digital จำนวน 275 คน ส่วนทีมสร้างวิชวลเอฟเฟคต์ของ Weta Digital ที่เรียกว่า WetaFX จะยังมี Peter Jackson เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และรับงานสร้างเอฟเฟคต์ต่อไปดังเดิม
สิ่งที่ Unity ต้องการคือเครื่องมือกราฟิกภายในของ Weta Digital จำนวนมาก เช่น Manuka, Lumberjack, Loki, Squid, Barbershop, HighDef, CityBuilder เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Unity สำหรับการสร้างคอนเทนต์ 3D แก่ลูกค้าในวงกว้างต่อไป
ที่มา - Unity, Unity |
# Among Us ออกอัพเดต เพิ่มบทบาทตัวละครใหม่ มีระบบ XP, Achievements, ลิงก์บัญชีข้ามแพลตฟอร์มได้แล้ว
Among Us ออกอัพเดตใหม่ Roles & Cosmicubes เพิ่มบทบาทตัวละครใหม่ 4 บทบาท เพื่อให้เกมการเล่นหลากหลายมากขึ้น โดยอัตราการเกิดของโรลปรับแต่งได้ในการตั้งค่าห้อง และบทบาทที่เพิ่มมาใหม่มีดังนี้
Shapeshifter เป็น Imposter ที่เพิ่มความสามารถ แปลงร่างเป็น Crewmate คนในก็ได้ในแผนที่ มีระยะคูลดาวน์เล็กน้อย เหมาะใช้ใส่ความคนอื่น
Scientist นักวิทยาศาสตร์ที่สามารถใช้เครื่องเช็คชีพจร (Vitals) เช็คว่ามีเพื่อนคนไหนตายหรือไม่ แต่เครื่องนี้แบตหมดได้ การเติมแบตคือต้องไปทำภารกิจให้สำเร็จ 1 ครั้ง
Engineer วิศวกร มุดท่อได้ แม้ไม่ได้เป็น Imposter (ระวังโดนเข้าใจผิด)
Guardian Angel ผู้เล่นที่ตายสามารถกลายเป็นเทพพิทักษ์ กดเปิดโล่ห์ให้เพื่อน เพื่อป้องกันการโดน Imposter ฆ่าได้
นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบอื่นๆ ให้ครบครันมากขึ้น คือ
ให้ค่า XP กับผู้เล่นหลังจากการเล่น ใช้อัพเลเวลเพื่อปลดล็อกของแต่งตัวใหม่
เพิ่มสิ่งที่ได้หลังเล่นเกมคือ Beans และ Pods
Beans เหมือนเป็นเงินในเกม ไว้ใช้ซื้อเครื่องแต่งตัว ส่วน Pods ไว้ใช้เปิด Cosmicubes ที่มีของอยู่ข้างใน โดยเป็นการเปิดและอัพเกรดเป็นสายแบบต่อเนื่อง คล้ายการอัพสกิล
เพิ่ม Stars ค่าเงินที่ต้องแลกมาด้วยเงินจริง ใช้ซื้อของแต่งกายและของอื่นๆ ในเกมเช่นกัน
เชื่อมบัญชีข้ามแพลตฟอร์ม โยกเงินและ XP หากันข้ามเครื่องได้แล้ว (ยกเว้น Nintendo Switch จะตามมาภายหลัง)
มีป้ายชื่อและแถบสีใหม่ แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครให้ชัดเจนขึ้น
มีระบบ Achievements แล้ว
อัพเดตนี้เปิดให้เล่นเรียบร้อยแล้ว ทีมงานยอมรับกันตรงๆ ว่าระบบ Stars และของแต่งใหม่ๆ นี่ทำไปเพื่อหาเงินนั่นแหละ แต่ก็เป็นการหาเงินมาเพื่ออัพเกรดเซิร์ฟเวอร์ เพิ่มเนื้อหา และปรับปรุงตัวเกมให้ดีขึ้น ส่วนระบบอื่นๆ ก็ทำให้เกมทันสมัย และมีระบบที่ครบครันเหมือนเกมออนไลน์สมัยใหม่มากขึ้น ต้องดูกันต่อไปว่าจะดึงดูดผู้เล่นเก่าและใหม่ได้มากแค่ไหน
ที่มา - YouTube: Among Us |
# Firefox เปิดให้ดาวน์โหลดบน Microsoft Store ของ Windows 11 แล้ว
Mozilla นำ Firefox ขึ้นบน Microsoft Store ของ Windows 11 ตามที่ประกาศไว้ ทำให้ตอนนี้ Microsoft Store มีเบราว์เซอร์ชื่อดัง (ไม่นับ Edge) แล้วสองตัวคือ Opera และ Firefox
Mozilla บอกว่าเดิมทีนโยบายของไมโครซอฟท์คือ บังคับให้เบราว์เซอร์ต้องใช้เอนจินแสดงผลที่มากับวินโดวส์เท่านั้น แต่เมื่อไมโครซอฟท์ปรับนโยบายให้เปิดกว้างขึ้น สามารถใช้เอนจินใดๆ ก็ได้ ทำให้ Mozilla ปรับตัวตาม และส่ง Firefox ขึ้น Microsoft Store เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดาวน์โหลด
เท่าที่ผมลองเช็คดู Firefox มีให้ดาวน์โหลดบน Store ของ Windows 11 แล้ว แต่ยังไม่มีของ Windows 10 ซึ่งไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะอัพเกรด Store ให้ตามมา
ที่มา - Mozilla |
# เปิดตัว Surface Laptop SE สำหรับตลาดการศึกษา ราคาถูก 249 ดอลลาร์ (8,200 บาท)
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Laptop SE ตรงตามข่าวลือ เป็นโน้ตบุ๊กราคาถูกสำหรับตลาดภาคการศึกษา ออกมาเพื่อแข่งกับ Chromebook โดยเฉพาะ ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 SE ที่ปรับแต่งมาเพื่อการใช้งานในโรงเรียน
สเปกของ Surface Laptop SE มีดังนี้
หน้าจอ 11.6" TFT LCD 1366 x 768 (135 PPI)
ซีพียู Celeron N4020 หรือ N4120
จีพียู Intel UHD 600
แรม 4GB / 8GB
สตอเรจ 64GB / 128GB eMMC
กล้องหน้า 1MP รองรับวิดีโอ 720p 30 fps
พอร์ต USB-C, USB-A, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm
แบตเตอรี่ใช้งานได้สุงสุด 16 ชั่วโมง
น้ำหนัก 1.11 กิโลกรัม
ราคาเริ่มต้นที่ 249 ดอลลาร์ (ประมาณ 8,200 บาท) ถือเป็นสินค้ากลุ่ม Surface ที่ราคาถูกที่สุดในตอนนี้ (เดิมคือ Surface Go 3 ราคา 449 ดอลลาร์) ไม่มีวางขายปลีกทั่วไป ต้องสั่งซื้อเป็นล็อตสำหรับโรงเรียนเท่านั้น
ในแง่ฟีเจอร์ Surface Laptop SE คงไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ เป้าหมายของไมโครซอฟท์คือเน้นขายเป็นโซลูชันพร้อม Microsoft 365 for Education เพื่อเข้ามาแข่งกับ Chromebook ในตลาดการศึกษาเป็นหลัก ต้องรอดูกันว่าหลังไมโครซอฟท์ล้มเหลวกับตลาดนี้มาหลายรอบ คราวนี้จะเจาะฐานของ Chromebook ได้สำเร็จหรือไม่
ที่มา - Microsoft |
# เปิดตัว Windows 11 SE สำหรับภาคการศึกษา เน้นใช้เว็บ นักเรียนลงแอพเองไม่ได้
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 11 SE ระบบปฏิบัติการรุ่นพิเศษที่จับตลาดการศึกษาโดยเฉพาะ สิ่งที่แตกต่างจาก Windows 11 รุ่นปกติมีด้วยกัน 2 เรื่องใหญ่ๆ
อย่างแรกคือการปรับแต่งมาเพื่อพีซีสเปกต่ำ ราคาถูกระดับ 249 ดอลลาร์ เพื่อแข่งขันกับ Chromebook โดยมีบริษัทพีซีหลายเจ้าประกาศออกสินค้าที่เป็น Windows 11 SE เช่น Acer, ASUS, Dell, Dynabook, Fujitsu, HP, JP-IK, Lenovo, Positivo รวมถึง Surface Laptop SE ของไมโครซอฟท์เอง
อย่างที่สองคือ เน้นการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์เป็นหลัก (ซึ่งงานส่วนใหญ่ของโรงเรียนใช้ผ่านเว็บอยู่แล้ว) นักเรียนไม่สามารถลงแอพใดๆ เพิ่มได้เองเลย และแอดมินของโรงเรียนสามารถติดตั้งแอพเฉพาะที่ไมโครซอฟท์อนุญาตเท่านั้น
แนวทางนี้ต่างจากในอดีตที่ไมโครซอฟท์เคยพยายามทำ Windows 10 S ที่มี S Mode รันได้เฉพาะแอพจาก Microsoft Store เท่านั้น (ซึ่งล้มเหลว) การกลับมารอบนี้ ไมโครซอฟท์ไม่มี Microsoft Store มาให้ แต่อนุญาตให้ติดตั้งแอพแบบเนทีฟ x86 ที่อยู่นอก Microsoft Store ได้ด้วย แต่เฉพาะใน 6 หมวดที่กำหนด ได้แก่
Content-filtering apps
Test-taking solutions
Accessibility apps
Effective classroom communication apps
Essential diagnostics, management, connectivity, and supportability apps
Browsers
ตอนนี้ยังไม่มีรายชื่อแอพเป็นรายตัว แต่แอพที่ไมโครซอฟท์ระบุชื่อแล้วว่าทำได้แน่ๆ คือ Chrome และ Zoom (และยังมี Microsoft Office ติดตั้งมาให้แต่แรก) เพราะมองว่าเป็นแอพที่จำเป็นสำหรับการใช้งานในห้องเรียน กระบวนการติดตั้งแอพและจัดการเครื่องจะต้องทำผ่าน Microsoft Intune for Education (ไมโครซอฟท์ระบุว่าถ้าอยากได้ฟีเจอร์ติดตั้งแอพตามปกติ ก็มี Windows 11 Pro Education ให้อยู่แล้ว)
การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ คือ รองรับการเปิดแอพแบบเต็มหน้าจอ, ไม่มีฟีเจอร์ widget ของ Windows 11 มาให้ด้วย, Microsoft Edge รองรับส่วนขยายของ Chrome (ซึ่งโรงเรียนนิยมใช้กัน) เป็นค่าดีฟอลต์, เปิดใช้การเก็บไฟล์บน OneDrive โดยจะซิงก์ไฟล์ในเครื่องให้ทำงานออฟไลน์ได้
Windows 11 SE เน้นขายตลาดภาคการศึกษา ไม่ขายปลีกสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และไม่สามารถอัพเกรดจาก Windows 10 หรือ Windows 11 รุ่นปกติได้
ที่มา - Microsoft, Microsoft |
# One Piece ฉบับคนแสดงที่จะฉายบน Netflix ประกาศตัว 5 นักแสดงหลักแล้ว
ข่าวใหญ่วงการอนิเมะวันนี้คือ Netflix ประกาศรายชื่อนักแสดงหลักใน One Piece ฉบับไลฟ์แอกชันคนแสดงแล้ว เริ่มที่นักแสดงหลัก 5 คน คือ ลูฟี่, โซโร, นามิ, อุซป และซันจิ
Inaki Godoy รับบทเป็น ลูฟี่
Mackenyu รับบทเป็น โซโร
Emily Rudd รับบทเป็น นามิ
Jacob Romero Gibson รับบทเป็น อุซป
Taz Skylar รับบทเป็น ซันจิ
Netflix ยังเผยแพร่ข้อความจาก Eiichiro Oda ผู้สร้าง One Piece ด้วย แต่ไม่ได้เปิดเผยอะไรมากเกี่ยวกับตัวเนื้อหา ซึ่งมีรายงานมาก่อนหน้านี้วาาจะเป็นซีรีส์ 10 ตอน และยังไม่มีรายละเอียดเรื่องช่วงวันฉาย
Netflix ในระยะหลังๆ ลงทุนหนักในการทำไลฟ์แอกชันจากการ์ตูน และอนิเมะ ก่อนหน้านี้ Netflix ได้เปิดเผยว่ากำลังสร้าง Yu Yu Hakusho ฉายในปี 2023, Avatar: The Last Airbender show, Cowboy Bebop เป็นต้น
ที่มา - The Verge |
# Instagram เตรียมเพิ่ม subscription ให้ครีเอเตอร์เก็บเงินผู้ชมแบบรายเดือน
Instagram เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าอาจเพิ่มทางเลือกให้ผู้สร้างเนื้อหาเพิ่ม subscription เพื่อรับชมคอนเทนต์พิเศษผ่านแพลตฟอร์มได้ โดยล่าสุดในหน้า App Store ของแอป ได้ระบุถึงบริการ subscription ดังกล่างใน In-App Purchase แล้ว
ในหน้าแอปยังไม่ได้อธิบายรายละเอียดเพิ่ม แต่มีสองส่วนคือ Instagram Badge ซึ่งมีอยู่ก่อนหน้าแล้วสำหรับให้ของขวัญครีเอเตอร์ขณะไลฟ์ และ Instagram Subscriptions ที่เป็นของใหม่ราคาเริ่มต้นที่ 35 บาท สำหรับ Store ไทย
มีข้อมูลเพิ่มเติมจากนักแกะแอป Alessandro Paluzzi ก่อนหน้านี้ พบว่ารูปแบบบริการ subscription ของ Instagram อาจคล้ายกับของ Twitter เรียกว่า Fan Subscription ที่สามารถเพิ่มสตอรี่พิเศษหรือโพสต์พิเศษ ที่เฉพาะคนที่สมัคร subscription จะรับชมได้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลว่า Instagram จะเริ่มให้บริการนี้เมื่อใด
ที่มา: TechCrunch |
# NVIDIA สาธิตปัญญาประดิษฐ์ผู้ช่วยในรถ และระบบช่วยขับ
NVIDIA สาธิตปัญญาประดิษฐ์สำหรับรถยนต์ 2 ตัวในงาน GTC ปีนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่ารถในยุคต่อไปจะเป็นอย่างไร
ตัวแรกคือ NVIDIA Concierge ผู้ช่วยในรถยนต์ที่มีปัญญาประดิษฐ์ทั้งการแปลงเสียงเป็นข้อความ, ทำความเข้าใจภาษา, ระบบแนะนำ (recommendation engine) ตัวผู้ช่วยยังแสดงเป็นอวาตาร์จาก Omniverse Avatar
Concierge สามารถพูดคุยกับผู้โดยสารในรถ ให้ความช่วยเหลือ แนะนำตัวเลือกต่างๆ, ช่วยจองร้านอาหาร, หรือแจ้งเตือนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ทำให้ผู้ใช้แทบไม่ต้องหันมาสัมผัสจอด้วยตัวเอง มันยังใช้ตรวจสอบคนขับว่ายังสนใจถนนอยู่หรือไม่
DRIVE Chauffeur เป็นระบบช่วยขับ (AI assist) สร้างจากชุดพัฒนา NVIDIA DRIVE AV SDK แม้จะระบุว่าเป็นตัวช่วย แต่มันก็สามารถบังคับรถได้ทั้งในทางด่วนและในเมือง สามารถรับคำสั่งให้เดินทางจากตามที่อยู่ที่กำหนด
ทาง NVIDIA ไม่ระบุว่าจะทำตลาดปัญญาประดิษฐ์ทั้งสองตัวแต่อย่างใด ตัวปัญญาประดิษฐ์ทั้งสองตัวรันอยู่บนบอร์ด Jetson AGX Orin แสดงให้เห็นว่าบอร์ดมีพลังประมวลผลเพียงพอสำหรับรถอัตโนมัติในยุคต่อไป
ที่มา - NVIDIA |
# NVIDIA เปิดตัวโมดูล Jetson AGX Orin เปลี่ยนสถาปัตยกรรมเป็น Ampere แรงกว่าเดิม 6 เท่า
NVIDIA เปิดตัว Jetson AGX Orin โมดูลประมวลผลปัญญาประดิษฐ์สำหรับงานกลุ่มหุ่นยนต์, IoT, ระบบยานยนต์อัตโนมัติ โดยรอบนี้ความเปลี่ยนสถาปัตยกรรมเป็น Ampere อัพเดตจาก Jetson Xavier ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018 และยังใช้สถาปัตยกรรม Volta อยู่ทำให้โมดูลรุ่นใหม่นี้แรงกว่าเดิมถึง 6 เท่าตัว
ตัวซีพียูเป็น Cortex-A78AE พร้อมแรม 32GB อัตราการส่งข้อมูลเข้าออกแรม 204GB/s พลังประมวลผลโดยรวม 200 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที พลังประมวลผลพียงพอต่อการควบคุมหุ่นยนต์, รันปัญญาประดิษฐ์เช่นโมเดลภาษา, หรือการประมวลข้อมูลเซ็นเซอร์จำนวนมาก
สำหรับรถยนต์ NVIDIA ออกโมดูล DRIVE AGX Orin มาคู่ ทาง NVIDIA ยังไม่บอกราคา แต่ระบุเพียงว่าจะเริ่มขายจริงไตรมาสแรกปี 2022
ที่มา - NVIDIA |
# Tim Cook บอกเอง ว่าถือเงินคริปโตอยู่เช่นกัน (แต่ไม่ได้บอกว่าตัวไหน)
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ได้ร่วมงานสัมมนาออนไลน์ DealBook ของ The New York Times ซึ่งช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าว Andrew Ross Sorkin มีคำถามว่า ตัวเขาเองมีหรือได้ลงทุนในเงินคริปโตอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum หรือไม่?
Cook ตอบว่ามี (แต่ไม่ได้บอกว่ามีอะไร) พร้อมอธิบายเพิ่มว่าการลงทุนในเงินคริปโตนั้นสมเหตุสมผลในแง่กระจายความเสี่ยง ซึ่ง Cook ก็ให้ข้อมูลเพิ่มว่าเขาสนใจในคริปโตมาสักพักหนึ่งแล้ว และได้ศึกษาเพิ่มเติมด้วย แต่ทั้งนี้ Cook บอกว่าทั้งหมดเป็นมุมมองส่วนตัวล้วน ๆ ไม่เกี่ยวกับทิศทางของแอปเปิล
เขายังบอกว่าแอปเปิลไม่มีแนวคิดซื้อเงินคริปโตเพื่อการลงทุนในตอนนี้ แบบที่หลายบริษัทเริ่มบริหารเงินสดด้วยการกระจายการลงทุนมาในคริปโตเพิ่มเติม
ที่มา: CNBC |
# Clubhouse เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Replay ฟังห้องสนทนาย้อนหลัง ในบรรยากาศที่เหมือนฟังสด
Clubhouse ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Replay ซึ่งโฮสต์ของห้องสามารถเลือกให้บันทึกห้องสนทนาสดเอาไว้ และเปิดให้คนมาฟังย้อนหลังได้ ทั้งบน iOS และ Android
แนวคิดของ Replay คือให้การฟังย้อนหลัง ได้ประสบการณ์เหมือนกันการฟังสดในเวลานั้นมากที่สุด โดยลิงก์ที่แสดงในห้องระหว่างการสนทนาก็จะเปลี่ยนตามไปด้วยในเวลานั้น จำนวนคนเข้าออกจากห้องก็แสดงผลตามเช่นกัน ในการฟังยังสามารถกดข้ามได้ แต่เป็นการข้ามผู้พูดแต่ละคน หรือเร่งความเร็วในการฟังเป็น 1.5-2x
สำหรับโฮสต์ของห้อง สามารถดาวน์โหลดไฟล์เสียง เพื่อนำไปใช้งานต่อ เช่นการเผยแพร่ลงสื่ออื่นได้อีกด้วย
ที่มา: Clubhouse |
# Google Wallpapers มีจำนวนดาวน์โหลดมากกว่า 500 ล้านครั้ง ใน Play Store
Google Wallpapers แอปสำหรับค้นหาพื้นหลังไว้ตกแต่งใน Android มีจำนวนการดาวน์โหลดผ่าน Play Store มากกว่า 500 ล้านครั้ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จุดเด่นของแอปนี้คือรายการพื้นหลังคุณภาพที่มีให้เลือกจำนวนพอสมควร และมีการอัพเดตอยู่สม่ำเสมอ ทำให้ผู้ใช้งานที่ต้องการปรับแต่งพื้นหลังเป็นประจำสามารถค้นหาและเลือกรูปได้ตามต้องการ
กูเกิลเปิดตัวแอปนี้เมื่อปี 2016 เดิมทำออกมาให้ใช้เฉพาะใน Pixel แต่ก็ขยายให้ผู้ใช้ Android ทุกคนดาวน์โหลดได้ จนมีตัวเลขถึง 500 ล้านครั้ง
ที่มา: 9to5Google |
# Netflix ทดสอบ Kids Clips ฟีดวิดีโอสั้นแบบ TikTok แต่เป็นแนวนอน รวมคลิปจากหนังเด็ก
Netflix ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ Kids Clips เป็นคลิปสั้นรวมการ์ตูน และช่วงสั้นๆ จากซีรีส์ หนังเด็กมาแสดงเป็นฟีดในสไตล์ TikTok โดยแสดงเป็นแนวนอน มีเป้าหมายเพื่อโปรโมทเนื้อหาให้เด็กๆ เข้ามาดูฉบับเต็ม
Kids Clips มีปุ่ม reaction และปุ่ม Play เพื่อเล่นฉบับเต็ม เปิดใช้งานใน สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ และในละตินอเมริกาที่พูดภาษาสเปน เปิดใช้งานในอุปกรณ์ iOS ก่อน และยังไม่มีรายละเอียดว่าจะเปิดใช้งานใน Android เมื่อไร
ก่อนหน้านี้ Netflix เปิดใช้งานฟีเจอร์คล้ายๆ กันนี้ในชื่อว่า Fast Laughs รวมคลิปตลกๆ จากหนังซีรีส์
ภาพจาก Netflix
ที่มา - The Verge |
# โอกาสมาแล้ว! ร่วมงานกับเอคเซนเชอร์ บริษัทที่ปรึกษาไอทีที่ให้คุณออกแบบ Career Path ได้ด้วยตัวเอง
พูดถึงเอคเซนเชอร์ หลายคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้วในฐานะบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกรายแรกๆ ในไทย ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 1,400 คน ในประเทศไทย และด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทฯ เรายังคงมองหาทีมงานคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถทั้งในด้าน Technology และ Consulting มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับเราอีกด้วย
ความเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก จึงทำให้การทำงานกับ เอคเซนเชอร์ เปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงานในโปรเจกต์ต่างๆ ที่หลากหลาย ท้าทาย และหลายโปรเจกต์ก็เป็นจุดเปลี่ยนของนวัตกรรมใหม่ๆ ในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค หรือระดับโลก ซึ่งโอกาสเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานได้เรียนรู้ กับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ จากหลากหลายภูมิภาค สามารถพัฒนาความสามารถและศักยภาพของตนเองอยู่ตลอดเวลา
และเนื่องจากบริษัทฯ ต้องการส่งเสริมพนักงานทุกคนให้เป็น career owner ของตนเอง ดังนั้นพนักงานจึงสามารถออกแบบความก้าวหน้าในการทำงานของตน (Career Path) เพื่อให้เหมาะสมกับความสามารถ ประสบการณ์และความสนใจส่วนตัว และเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากร (people development) ของตัวเองได้ด้วย วัฒนธรรมองค์กรในเอคเซนเชอร์ จึงเป็นวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญในด้าน empowerment และ inclusiveness เพื่อให้พนักงานได้แสดงศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่โดยไม่มีกรอบใดๆ มาจำกัด
และเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ค่าตอบแทน รวมถึงสวัสดิการต่างๆ จึงถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับเป้าหมายเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการมี Hot Skill Bonus สำหรับผู้ที่มี skill พิเศษที่เป็นที่ต้องการของตลาด หรือ Performance Achievement ที่เป็นการวัดผลงานจากเป้าหมายที่พนักงานเป็นคนกำหนด และตั้งเองให้เหมาะสมกับหน้าที่และความรับผิดชอบของตน รวมถึง real time feedback จากผู้ร่วมงานในโปรเจกต์เพื่อจะได้นำ feedback ไปปรับปรุงได้ทันที
เอคเซนเชอร์ที่ไม่ได้มีดีแค่การเป็นที่ปรึกษาด้านไอที
เอคเซนเชอร์เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและเทคโนโลยี เปิดให้บริการในไทยมามากกว่า 40 ปี และเป็นบริษัทแรกๆ ที่ให้บริการให้คำปรึกษาด้านการจัดการและเทคโนโลยี ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้บริการหลักๆ มี 5 อุตสาหกรรม ได้แก่ โทรคมนาคม สื่อ และนวัตกรรมใหม่ การเงินการธนาคารและประกัน โรงพยาบาล และหน่วยงานภาครัฐ ค้าปลีก ท่องเที่ยว และการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค น้ำมัน สาธารณูปโภคและพลังงานต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้แตกออกได้อีกเป็นมากกว่า 40 อุตสาหกรรมย่อย
ส่วนบริการของเอคเซนเชอร์ ก็แบ่งเป็น 4 กลุ่มหลักๆ คือ Strategy and Consulting, Interactive, Technology และ Operations มีลูกค้าองค์กรมากกว่า 6,000 รายใน 120 กว่าประเทศทั่วโลก โดยลูกค้ากว่า 75% เป็นบริษัทที่อยู่ในกลุ่ม Fortune 500
ในกลุ่มบริการด้านเทคโนโลยี เอคเซนเชอร์เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทไอทีระดับโลกมากมาย อาทิ SAP, Oracle, Microsoft, Google, AWS, Salesforce, IBM และ Adobe เป็นต้น ดังนั้นในแง่การทำงาน นักพัฒนาจะได้โอกาสทำงานกับแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ระดับโลกอย่างแน่นอน
ตัวอย่างผลงาน เอคเซนเชอร์
ตัวอย่างผลงานของเอคเซนเชอร์ ที่สำคัญๆ ได้แก่ โครงการความร่วมมือกับ Digital Ventures บริษัทลูกของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในการออกแบบโซลูชันบล็อคเชนสำหรับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในซัพพลายเชน (procure-to-pay) ให้รวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น
หรือการออกแบบ Loyalty Program ให้กับ The 1 ทั้งในแง่การดีไซน์ การใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีไปให้ The 1 ใช้งานภายในองค์กร เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งาน Loyalty Program ของลูกค้า The 1 ออกมาดีที่สุด
นอกจากนี้เอคเซนเชอร์ ยังมีโปรเจกต์ที่เป็นลักษณะการทำ Corporate Social Responsibility (CSR) เช่น People + Work Connect ที่ร่วมมือกับหอการค้าไทย สร้างแพลตฟอร์มกลางสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก COVID และมีความจำเป็นจะต้องเลย์ออฟหรือพักงานพนักงาน ให้พนักงานที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อพูดคุยกับบริษัทอื่นที่กำลังต้องการพนักงานได้ เพื่อลดผลกระทบกับตัวพนักงานเองอีกทอดหนึ่ง
หรือโปรเจกต์ CAPCOP (CAP Community Outreach Program) ที่นำเอาโปรแกรม Consulting Analyst Program ไปช่วยเหลือโครงการร้อยพลังการศึกษา (Thailand Collaboration of Education) ในการดีไซน์โซลูชันเพื่อจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล
Life at Accenture ออกแบบ career path ได้ด้วยตัวเอง
หนึ่งในความโดดเด่นในการทำงานกับเอคเซนเชอร์ คือการที่พนักงานสามารถออกแบบ Career Path ตามที่ตัวเองต้องการได้เลย ซึ่งพนักงานจะสามารถพูดคุยปรึกษากับ People Lead ของตน ซึ่งทำหน้าที่เสมือน mentor coach และ counselor ในด้าน Career ให้กับพนักงาน ซึ่ง People Lead จะให้คำปรึกษาในเรื่องการวางแผนการเติบโตทางสายงาน ช่วยดูว่าโปรเจกต์ไหนที่เหมาะสมกับสามารถ ความสนใจ รวมถึงเอื้อต่อการเติบโตและการเรียนรู้ของพนักงาน นอกจาก People Lead ซึ่งเป็นเสมือนที่ปรึกษาด้านสายงานของพนักงานแล้ว พนักงานยังสามารถพูดคุยได้โดยตรงกับ Service Group Lead ซึ่งหลายๆ ท่านเป็นผู้บริหารระดับสูงใน เอคเซนเชอร์ เพื่อให้ผู้บริหารได้รับทราบถึงความสนใจของพนักงาน และเข้ามามีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความสามารถและศักยภาพของพนักงาน
เอคเซนเชอร์ ใช้ระบบ Performance Achievement โดยที่พนักงานแต่ละคนจะตั้ง priorities ของตนด้วยตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่า goal นั้นได้ออกแบบมาสำหรับตนเอง (personalize) ซึ่งจะเหมาะสมกับสายงาน และบทบาทที่ตนได้ทำอยู่จริง ในส่วนของการประเมินผลงาน รวมถึงการ promote นั้น เอคเซนเชอร์จะอิงจากผลลัพธ์ของงาน (outputs) เป็นหลัก โดยไม่ได้คำนึงถึงความอาวุโส หรืออายุงาน
ด้วยความที่เอคเซนเชอร์ เป็นบริษัทชั้นนำที่มีพนักงานหลายหมื่นคนทั่วโลก วัฒนธรรมองค์กรของเอคเซนเชอร์ จึงให้ความสำคัญกับ empowerment และ inclusiveness เพื่อให้พนักงานทุกคนเคารพความเป็นตัวตนของตัวเองและเพื่อนร่วมงานทุกคน นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับความคิด ความสามารถและทัศนคติของพนักงานทุกคน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันกับพนักงานจากทุกประเทศได้ (One Accenture) ซึ่งการทำงานในรูปแบบ Project-based นั้น พนักงานจะได้สลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามโปรเจกต์ต่างๆ ทำให้พนักงานหนึ่งคน มีโอกาสได้ทำงานและเจอเพื่อนร่วมงานที่หลากหลายแตกต่างกันออกไปและในบางช่วงก็อาจจะมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานต่างชาติอีกด้วย
นอกจากนี้เอคเซนเชอร์ยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายและการมีส่วนร่วมของผู้หญิงและเพศทางเลือก อย่างเช่น การจัดกิจกรรม International Women’s Day & Diversity Celebration ด้วย ซึ่งการให้ความสำคัญกับผู้หญิงนี้เองก็สะท้อนออกมาในโครงสร้างองค์กร โดยเอคเซนเชอร์ ประเทศไทย มีสัดส่วนพนักงานหญิงสูงถึง 49.4% ส่วนในระดับบริหารก็แทบไม่แตกต่างกันที่ 48.9%
ในแง่สวัสดิการ เอคเซนเชอร์มีงบและแผนการฝึกอบรมที่ออกแบบให้ตามทักษะ สายงานที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงมี flexible benefits ในแต่ละปี ซึ่งเป็นการให้เงินอุดหนุนกับพนักงานแต่ละคนเพื่อใช้จ่ายในสิ่งต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความสนใจหรือความชอบส่วนตัว รวมถึงการเป็นเจ้าของเอคเซนเชอร์ร่วมกันโดยการให้โอกาสซื้อหุ้น เอคเซนเชอร์ในราคาลด 15% หรือก็คือได้กำไรตั้งแต่วันแรกที่ซื้อหุ้น
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีประกันสุขภาพแบบกลุ่มที่ครอบคลุมทั้งการคุ้มครองชีวิตและสุขภาพของพนักงาน ที่สำคัญคือครอบคลุมคู่สมรสด้วย ไม่ว่าจะเป็นคู่สมรสจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียน ซึ่งรวมถึง life partner ที่เป็นเพศเดียวกัน และในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังดูแลครอบคลุมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ดังนั้น sick leave policy ของบริษัทได้มีการอนุญาตให้พนักงานสามารถใช้วันลาได้เนื่องการเจ็บป่วยทางกายรวมถึงความเครียดทางใจ นอกจากนั้นแล้ว บริษัทฯ ยังได้จัดให้มีผู้เชี่ยวชาญทางจิตเวช คอยให้คำปรึกษากับพนักงาน รวมถึงสมาชิกในครอบครัว ในกรณีที่เกิดความเครียดหรือมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตอีกด้วย
เสียงจากพนักงาน
คุณปิ่น นิธินันท์ สมบูรณ์วิทย์ Managing Director - Technology
คุณปิ่นเล่าว่าเข้ามาทำงานกับเอคเซนเชอร์ ตั้งแต่ปี 1999 จบสายบัญชี สถิติมา แต่ได้ทำงานเป็น Analyst ด้าน System Integration และมีการปรับบทบาทเปลี่ยนไปตามโปรเจกต์และเทคโนโลยีในแต่ละช่วง
สิ่งที่คุณปิ่นประทับใจคือกิจกรรมของพนักงานที่บริษัทมีให้ในช่วง COVID อย่างเช่นกิจกรรม Accenture Parlor ซึ่งเป็นเหมือนพื้นที่ให้พูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างพนักงาน ซึ่งบางครั้งอาจมีหัวข้อเฉพาะ เช่น การบริหารเวลา เป็นต้น
คุณอาร์ม ชวกร วิชชุลดา Full Stack Engineering Manager
คุณอาร์มจบด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์เข้ามาทำงานครั้งแรกเป็น Analyst สาย Proof-of-Concept
สิ่งที่ประทับใจคือการได้ทำงานกับหลายๆ ทีม แต่ทุกทีมทุกคนมีบุคลิกคล้ายๆ กันคือคอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ แม้กระทั่งต่างทีมก็ยินดีจะช่วยเหลือหรือให้คำปรึกษาซึ่งกันและกัน
อีกสิ่งที่ประทับใจคือการมีโอกาสได้อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมหลายๆ อย่างในไทย รู้สึกมีส่วนร่วมและได้สร้างผลกระทบในวงกว้าง เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อการดำรงชีวิตของผู้ใช้งานที่เป็น end-user และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม
คุณม่านฟ้า ญาณิน ปาลศรี Business & Integration Architecture Senior Analyst
คุณม่านฟ้าจบเศรษฐศาสตร์อินเตอร์มา แต่ได้เข้ามาทำงานที่เอคเซนเชอร์ ตั้งแต่เป็นเด็กฝึกงานเกี่ยวกับระบบ SAP เป็นคนกลางระหว่างลูกค้า ต้องไปเก็บ requirement และกลับมาคุยกับทีม พร้อมวิเคราะห์ว่าโซลูชันใหม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือผลกระทบกับระบบเก่าของลูกค้าอย่างไร
สิ่งที่ประทับใจคือทุกคนในบริษัทพร้อมยินดีให้ความช่วยเหลือตลอด ที่สำคัญคือเพื่อนร่วมงานมีความเป็นมืออาชีพ และเปิดกว้าง ตอนนี้ก็กำลังทำโปรเจกต์ร่วมกับทีมที่ญี่ปุ่นและอินเดีย ซึ่งวันหยุดแต่ละประเทศไม่ตรงกัน ทุกคนในทีมก็พร้อมจะจัดสรรเวลา สลับวันหยุด เพื่อให้งานสามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งตอนนี้คุณม่านฟ้าเองก็เรียนปริญญาโท ภาคค่ำ หัวหน้าและคนในทีมก็เข้าใจ ไม่นัดประชุมเกินเวลาส่วนตัว
คนที่สนใจสมัคร
สำหรับใครที่สนใจอยากร่วมงานกับเอคเซนเชอร์ สามารถเข้าไปดูตำแหน่งที่เปิดรับสมัครได้ที่ Blognone Jobs หรือ accenture.com/th-en/careers |
# ขุดคลัง HUAWEI AppGallery โหลดแอปฯ สุดฮิปจุใจ ไปกับ HUAWEI nova 9 ใหม่แบบเต็มพิกัด
กว่าหกปีที่ผ่านมาที่หัวเว่ยได้เปิดตัว HUAWEI nova Series สู่สายตาชาวโลก สมาร์ทโฟนซีรี่ส์นี้ก็กลายเป็นโทรศัพท์มือถือที่โดนใจคนรุ่นใหม่วัยมันมาโดยตลอด ด้วยคอนเซ็ปต์ที่แตกต่าง ทำให้แบรนด์ nova กลายเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรม การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานกับราคาที่คุ้มค่าต่อการจับจอง ในปี 2564 นี้หัวเว่ยได้เปิดตัว HUAWEI nova 9 สมาร์ทโฟนที่จัดเต็มด้วยหน้าจอสวยงามคมชัด ที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นกับกล้องหลัก 50MP Ultra Vision AI Quad Camera ภาพคมชัด 4K พ่วงด้วยประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลทันใจกับอัตรารีเฟรชหน้าจอ 120Hz พร้อมฟังก์ชันชาร์จเร็ว ไปจนถึงการเป็นศูนย์รวมแอปพลิเคชันชั้นนำที่ดาวน์โหลดได้ง่ายๆ ผ่าน HUAWEI AppGallery
หัวเว่ยมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันตลาดแอปพลิเคชันของหัวเว่ยอย่าง HUAWEI AppGallery ซึ่งนับเป็นหนึ่งในตลาดแอปฯ ยอดฮิตนั้น พร้อมให้บริการแอปพลิเคชันหลากหลายประเภทที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน สำหรับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ทั้งกล้องฉลาด ชาร์จไว มาพร้อม AI สุดล้ำอย่าง HUAWEI nova 9 โดยสามารถติดตั้งและเริ่มใช้งานได้อย่างง่ายดาย และมีแอปฯ น่าสนใจมากมายให้เลือกสรร
ดาวน์โหลดแอปฯ ยอดฮิตไว้ใช้บนสมาร์ทโฟนง่ายๆ ผ่าน AppGallery ขั้นตอนเป็นยังไง มาดูกัน
เมื่อเปิดใช้งานสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยขึ้นมาครั้งแรก ผู้ใช้ก็จะพบว่า HUAWEI AppGallery ได้ติดตั้งมาให้ในเครื่องอยู่แล้ว โดยก่อนอื่นจะต้องสมัคร HUAWEI ID ก่อนเพื่อเข้าถึงแอปฯ ต่างๆ บน HUAWEI AppGallery ก่อนเริ่มใช้งานสมาร์ทโฟนผู้ใช้จะได้รับคำถามว่าต้องการติดตั้ง Quick Apps หรือไม่ นั่นหมายถึงให้เลือกติดตั้งแอปฯ ยอดฮิตของคนไทย เช่น โซเชียลมีเดีย การเงิน เกม และสตรีมมิ่งยอดฮิต และสามารถกด “ตกลง” เพื่อติดตั้งอัตโนมัติได้เลย ส่วนใครที่อยากเลือกแอปพลิเคชันด้วยตัวเองสามารถเข้าไปที่ HUAWEI AppGallery และดูแอปฯ จากกว่า 18 ประเภทตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง โดยมีกลไกการตรวจความปลอดภัย 4 ชั้น ให้ผู้ใช้เกิดความอุ่นใจสูงสุดในการใช้บริการ ปัจจุบัน HUAWEI AppGallery มีแอปฯ มากกว่า 141,000 แอปฯ เกิดจากการสร้างสรรค์ของนักพัฒนาที่จดทะเบียนกับหัวเว่ยกว่า 4.5 ล้านราย พร้อมผลิตแอปฯ มาตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง
กรณีที่ผู้ใช้งานยังหาแอปพลิเคชันที่ต้องการไม่เจอ หัวเว่ยก็ได้รองรับความต้องการในส่วนนี้ โดยได้คิดค้นฟีเจอร์พิเศษของหัวเว่ยเองที่เรียกว่า Petal Search Widget เพียงพิมพ์ชื่อวิดเจ็ตนี้ลงไปในช่องค้นหาของ HUAWEI AppGallery และกดติดตั้ง จากนั้นไปที่หน้าหลัก และกดปรับแต่งหน้าจอเพื่อเพิ่มช่องค้นหา Petal Search Widget บนหน้าหลักหรือหน้าที่ต้องการ ก็จะสามารถค้นหาแอปฯ อื่นๆ ที่ยังหาไม่เจอได้เลย โดย Petal Search Widget จะรวมแอปฯ ที่สามารถนำมาติดตั้งบนสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยได้จาก HUAWEI AppGallery
มีแอปฯ ทีเด็ดอะไรของคนไทยบ้างที่ห้ามพลาด!
จากวันแรกเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่หัวเว่ยได้พัฒนา HUAWEI AppGallery ขึ้นมา จนถึงวันนี้ที่หัวเว่ยมี HUAWEI nova 9 แอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยส่วนมากก็พร้อมให้ดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว ใครที่อยากทราบว่าแอปฯ อะไรที่ควรมีไว้ติดเครื่องตั้งแต่วันแรกหลังจากเราได้ครอบครอง HUAWEI nova 9 ลองดูแอปฯ ที่หัวเว่ยแนะนำดังนี้
แอปฯ สำหรับตัดต่อวิดีโอระดับ Masterpiece: เหล่า Content Creator ทั้งหลายสามารถวางใจได้ โดยเฉพาะบน HUAWEI nova 9 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องแบบ Super Sensing ระดับพรีเมียมกับกล้องหลัง 50MP Ultra Vision AI Quad Camera รวมไปถึง ระบบถ่ายวิดีโอ 4K แบบ Dual-View ถ่ายวิดีโอกล้องหน้าหลังได้พร้อมกันถูกใจสาย VLOG แน่นอน เพราะหัวเว่ยได้พัฒนาแอปฯ Petal Clip ที่พร้อมช่วยเหลือในการตัดต่อวิดีโอ เพิ่มเอฟเฟกต์ กราฟิก และฟอนต์ต่างๆ ตัดต่อได้ง่ายๆ ในแอปฯ เดียว จากบนสมาร์ทโฟนเลย
แอปฯ สำหรับคอหนังและซีรี่ส์: เจ้าของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยสามารถใช้เวลาว่างให้จุใจไปกับแอปฯ สตรีมมิ่งที่มีทั้งภาพยนตร์ และซีรี่ส์สุดฮิตจากทั่วโลก อย่าง MONOMAX หรือคนที่ชอบคอนเทนต์บันเทิงของไทยเอง หัวเว่ยก็ได้นำเสนอแอปฯ จากช่องบันเทิงหลักของไทยมากมายอย่าง CH3 Plus, Ch7HD, GMM25, one31, MY THAIRATH และ Sanook
แอปฯ สำหรับเกมเมอร์: ถ้าเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนที่มีจออัตราการรีเฟรชที่สูงถึง 120Hz พร้อมด้วย Sampling Rate ถึง 300Hz พลาดไม่ได้กับการทดสอบความลื่นไหลด้วยการดาวน์โหลดเกมมาลงเพื่อคลายเครียด โดยสามารถพิสูจน์ความแม่นยำกันได้ด้วยเกมยอดฮิตอย่าง Free Fire
แอปสำหรับการเดินทาง ติดต่อสื่อสาร พร้อมจับจ่ายสุดมันแต่ยังจัดสรรการเงินได้อย่างดี: หัวเว่ยทราบดีว่าทุกวันนี้ การใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายใช้สอย การทำธุรกิจ หรือการติดต่อสื่อสาร ต้องทำผ่านธุรกรรมออนไลน์ในสังคมไร้เงินสด วันนี้ HUAWEI AppGallery จึงมาพร้อม แอปฯ การเงิน ขนส่ง รวมถึงร้านค้าออนไลน์ต่างๆ เพื่อมอบบริการแบบไร้รอยต่อให้ผู้ใช้งานได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ประเภทธนาคาร: รองรับแอปฯ Mobile Banking จากธนาคาร และแอปฯ ฟินเทคหลักในประเทศไทย อาทิ K PLUS, SCB EASY, Krungthai NEXT, เป๋าตัง, Dolphin Pay เป็นต้น
ประเภทขนส่ง: รองรับแอปส่งอาหารและส่งพัสดุ เพื่อบริการทันใจถึงบ้าน อาทิ LineMan, Kerry, Flash เป็นต้น
ประเภทร้านค้า: รองรับความต้องการซื้อสินค้าออนไลน์จากห้างร้านและเว็บชอปปิงชั้นนำ อาทิ Kaidee และ King Power เป็นต้น
ประเภทติดต่อสื่อสาร: แช็ตทั้งเรื่องงานและส่วนตัวสุดมัน ไปกับ LINE
นอกจากนั้นยังสามารถค้นหาแอปฯโซเชียลมีเดียยอดนิยมเพิ่มเติมได้จาก Petal Search Widget ด้วย
คนที่ตามหาสมาร์ทโฟนทางเลือกใหม่ๆ โดยปัจจัยในการซื้อหลักๆ คือเทคโนโลยีกล้องที่ไม่เหมือนใคร พร้อมราคาที่คุ้มค่าในการจับจอง เพียง 16,990 บาท อย่าง HUEWEI nova 9 โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Starry Blue และสี Black ถ้าสั่งจอง ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ถึง 12 พฤศจิกายน 2564 นี้ รับฟรี! หูฟังไร้สายระดับโปรฯ HUAWEI FreeBuds Pro มูลค่า 5,499 บาท สามารถสั่งซื้อสินค้าทางเว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแฟลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Shopee, Lazada และ JD Central หรือสามารถไปที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ พร้อมรับความคุ้มไปเต็มๆ กับสิทธิประโยชน์พิเศษกับ HUAWEI Mobile Services (รายละเอียดเพิ่มเติมใน QR Code ในภาพ)
สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชันอื่นๆ ได้ทาง Facebook Huawei Mobile TH และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่นี่
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ได้ที่
Website: http://consumer.huawei.com/th
Facebook: http://www.facebook.com/HuaweiMobileTH
Instagram: Huawei.TH
LINE: HuaweiMobileThailand |
# SpaceX นำนักบินอวกาศภารกิจ Crew-2 กลับจาก ISS สำเร็จ, ห้องน้ำใช้ไม่ได้ตลอดทาง
เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา SpaceX ได้ทำภารกิจ Crew-2 พานักบินอวกาศ 4 คนไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ หรือ ISS ผ่านมา 199 วัน ภารกิจได้เสร็จสิ้นและนักบินอวกาศทั้งหมดกลับสู่โลกอย่างปลอดภัยแล้ววันนี้
ยาน Dragon ได้แยกตัวออกจาก ISS เมื่อเวลาราวตีสองวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ก่อนจะพุ่งเข้าสู่โลกและตกลงในอ่าวเม็กซิโก นอกชายฝั่ง Pensacola รัฐ Florida เมื่อเวลาราว 10:36 น. วันนี้
ตัวยาน Dragon ลำนี้เคยใช้ในภารกิจ Demo-2 มาแล้ว ทำให้ยานลำนี้อยู่ในอวกาศรวมแล้วกว่า 260 วัน และการที่ยานของสหรัฐอเมริกาส่งนักบินอวกาศไปอยู่นอกโลก 199 วันยังเป็นสถิติใหม่อีกด้วย (ก่อนหน้านี้ใช้ยานของรัสเซียมาโดยตลอด)
ภาพยาน Dragon ขณะถูกยกขึ้นเรือ หลังตกลงในอ่าวเม็กซิโก | ภาพโดย NASA/Aubrey Gemignani (CC BY-NC-ND 2.0)
นอกจากนี้ห้องน้ำบนยาน Dragon ลำนี้ยังอาจเกิดปัญหาปัสสาวะรั่วซึมเหมือนที่เจอในภารกิจ Inspiration4 ที่ท่อส่งปัสสาวะเข้าถังเก็บหลุดออกมาทำให้ปัสสาวะรั่วลงพื้น ซึ่งห้องน้ำของยาน Dragon ลำนี้ยังเป็นดีไซน์เดียวกับของภารกิจ Inspiration4 และก็ตรวจเจอร่องรอยของปัสสาวะรั่วซึมที่ยานของภารกิจ Crew-2 จริงๆ ทีมงานเลยตัดสินใจสั่งห้ามใช้ห้องน้ำตลอดการเดินทางกลับโลก ซึ่งเป็นการเดินทางสั้นๆ ราว 9 ชั่วโมง ห้องน้ำจึงอาจไม่จำเป็นนัก แต่ถ้านักบินอวกาศปวดปัสสาวะขึ้นมาก็มีผ้าอ้อมใส่ไว้ในชุดอยู่แล้ว ทั้งนี้ SpaceX ได้ออกแบบห้องน้ำใหม่ไว้แล้ว
ภารกิจส่งมนุษย์ไป ISS ครั้งถัดไปคือภารกิจ Crew-3 โดยก่อนหน้านี้ตั้งเป้าว่าจะออกเดินทางวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่สภาพอากาศไม่เป็นใจเลยเลื่อนไปวันที่ 3 พฤศจิกายน แต่นักบินอวกาศคนหนึ่งมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยจึงเลื่อนไปวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งก็ใกล้เคียงกับการที่นักบินภารกิจ Crew-2 จะเดินทางกลับโลกอีก NASA จึงตัดสินใจให้ Crew-2 กลับมาก่อนแล้วค่อยส่ง Crew-3 ขึ้นไป ขณะนี้ตั้งเป้าไว้วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้
ที่มา - Space.com, The New York Times |
# รวมฟีเจอร์ใหม่ C# 10 ลดโค้ดที่ไม่จำเป็น ควบคุมออปเจกต์และสตริงได้มากขึ้น
เมื่อคืนนี้ไมโครซอฟท์ปล่อย .NET 6 ตัวจริง โดยส่วนสำคัญส่วนหนึ่งคือตัวภาษา C# ที่ปรับเป็นเวอร์ชั่น 10 ที่มีการปรับปรุงภาษาหลายส่วน ฟีเจอร์สำคัญๆ ที่ปรับเปลี่ยนมาได้แก่
ประกาศ using แบบ global: แทนที่จะประกาศใช้ namespace ทุกไฟล์ สามารถประกาศครั้งเดียวทั้งโครงการได้
ใช้ namespace อัตโนมัติ (implicit using): สามารถคอนฟิกแต่ละโปรเจคให้เพิ่ม namespace อัตโนมัติได้เอง
ประกาศ namespace ทั้งไฟล์: ในกรณีที่ทั้งไฟล์มี namespace เดียว สามารถประกาศ namespace แบบเดียวกับ using ทำให้ไม่ต้องวางโค้ดในปีกกาลงไปอีกชั้น
คาดเดาชนิดตัวแปรอัตโนมัติ: หากข้อมูลเพียงพอให้คอมไฟล์เลอร์ทำนายชนิดตัวแปรที่ฟังก์ชั่น lambda คืนค่าอัตโนมัติ ในเวอร์ชั่นนี้โปรแกรมเมอร์ไม่ต้องระบุชนิดตัวแปรที่จะคืนค่าแล้ว
รองรับ attribute กับ lambda: สามารถใช้ attribute กับ lambda ได้แบบเดียวกับฟัง์ชั่นปกติ
constructor แบบไม่มีพารามิเตอร์สำหรับ struct: เดิม C# หากสร้าง struct โดยไม่มีพารามิเตอร์ ฟิลด์ต่างๆ จะถูกกำหนดเป็นค่าเริ่มต้นเองโดยไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ในเวอร์ชั่นนี้จะสามารถเขียน constructor แบบไม่มีพารามิเตอร์ได้เองแล้ว
record struct: จาก C# 9 ที่เพิ่ม record classses สำหรับการเปรียบเทียบค่ากัน (value-based equality) ในเวอร์ชั่นนี้สามารถประกาศแบบ struct ได้ด้วย
ควบคุมการเติมค่าในสตริง (interpolarted string): การใช้สตริงที่มีตัวแปรต้องแทนค่าไปภายใน เช่น $"Hello {args[0]}, how are you?" เดิมคอมไพล์เลอร์จะเป็นผู้แปลงโค้ดให้เรียกฟังก์ชั่น string.Format เอง ซึ่งบางกรณีการแทนค่าในสตริงนั้นเปลืองซีพียู และไม่จำเป็นเสมอไป (เช่น การเรียกฟังก์ชั่นดีบั๊ก) ใน C# 10 จะเปิดให้ฟังก์ชั่นควบคุมการแทนค่าในสตริงได้
สำหรับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดอ่านได้ในเอกสาร C# ของไมโครซอฟท์
ที่มา - Microsoft Dev Blog |
# แอป Google Arts & Culture เพิ่มโหมด Pet Portraits จับคู่ภาพสัตว์เลี้ยงกับงานศิลปะ
แอปพลิเคชัน Google Arts & Culture เพิ่มลูกเล่นสนุกๆ พร้อมทั้งเสริมความรู้งานศิลปะด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ Pet Portraits จับคู่รูปภาพสัตว์เลี้ยงของเรา กับสัตว์ที่มีอยู่จริงในผลงานศิลปะ
วิธีการคือ ถ่ายรูปสัตว์เลี้ยงประเภทต่างๆ ผ่านกล้องจากแอป หลังจากนั้นตัวแอปจะใช้ Machine Learning จับคู่รูปกับงานศิลปะ ซึ่งอาจจะไป match กับรูปศิลปะอียิปต์โบราณ หรืองานสตรีทอาร์ตสไตล์เม็กซิกัน และภาพเขียนจีน เป็นต้น
ที่มา - กูเกิล |
# Niantic เปิดแพลตฟอร์ม Lightship AR ให้บริษัทอื่นใช้งาน สร้าง Metaverse ในโลกจริง
Niantic บริษัทผู้สร้างเกม Pokemon Go และล่าสุดคือ Pikmin Bloom เปิดแพลตฟอร์ม Augmented Reality ชื่อว่า Lightship ของตัวเองให้บริษัทอื่นๆ เข้ามาสร้างเกมหรือแอพได้ โดยระบุว่านี่คือการสร้าง Real-World Metaverse ที่ซ้อนทับในโลกจริง
Lightship ถูกนิยามว่าเป็น Augmented Reality Developer Kit (ARDK) โดยหลักแล้วมันคือระบบระบุพิกัด Visual Positioning System (VPS) และการทำ Real-Time Mapping ใช้กล้องมือถือส่องภาพ ประมวลผลสิ่งแวดล้อม เพื่อจัดวางวัตถุเสมือนลงไปในโลกจริง
นอกจากนี้ Lightship ยังมีเครื่องมืออื่นๆ สำหรับการทำเกม AR เช่น ระบบมัลติเพลเยอร์ และการเชื่อมต่อกับเครื่องมือพัฒนาเกมยอดฮิตอย่าง Unity
ในงานเปิดตัว Lightship มีแบรนด์ดังหลายแบรนด์ประกาศเข้าร่วมใช้งานเพื่อสร้างแอพหรือเกม AR ของตัวเอง เช่น เทศกาลดนตรี Coachella, การแข่งขันกอล์ฟ PGA, บริษัทการ์ตูน Shueisha (ทำแอพ AR วันพีช), พิพิธภัณฑ์ Science Museum Group เป็นต้น นอกจากนี้ Niantic ยังประกาศตั้งกองทุน Niantic Ventures มีงบลงทุน 20 ล้านดอลลาร์ เข้าไปลงทุนในแอพ AR ของนักพัฒนารายย่อยด้วย
ค่าใช้งาน Lightship เปิดให้ใช้ฟรีเกือบทุกอย่าง ยกเว้นส่วนมัลติเพลเยอร์ที่คิดเงินตามจำนวนผู้ใช้บริการ โดยแอพที่มีผู้ใช้ไม่เกิน 50,000 รายต่อเดือนจะสามารถใช้งานได้ฟรี
ที่มา - Niantic |
# Disney+ อัพเกรดหนัง Marvel 13 เรื่องให้เป็นสัดส่วน IMAX เพิ่มพื้นที่หนัง ลดแถบจอดำ
ดิสนีย์ และ IMAX ร่วมกันปรับปรุงคุณภาพหนัง Marvel บนแพลตฟอร์ม Disney+ ให้มีคุณภาพระดับ IMAX Expanded Aspect Ratio พื้นที่หน้าจอกว้างขึ้น มีผลในวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งเป็นวัน Disney+ Day
ตัวหนังที่คนดูจะได้รับชมในคุณภาพ IMAX แบบ Expanded Aspect Ratio คือ Ant-Man and the Wasp, Avengers: Endgame, Avengers: Infinity War, Black Panther, Black Widow, Captain America: Civil War, Captain Marvel, Doctor Strange, Iron Man, Guardians of the Galaxy, Guardians of the Galaxy Vol. 2, Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings, Thor: Ragnarok
สัดส่วนจอภาพของ IMAX Expanded Aspect Ratio คือ 1:90:1 ทางบริษัทกล่าวว่าเป็นสัดส่วนที่ให้พื้นที่ภาพเพิ่มขึ้นถึง 26% และยังมีสัดส่วนใกล้เคียงกับทีวี 16:9 ด้วย โดยผู้ชมจะเห็นสัญลักษณ์ IMAX Expanded Aspect Ratio ที่ตัวหนังก่อนที่กดเล่น ทาง Disney+ ระบุด้วยว่า อนาคตจะขยายตัวหนังคุณภาพ IMAX Expanded Aspect Ratio ให้มากขึ้น
ที่มา - TechCrunch, ดิสนีย์ |
# Alphabet มูลค่ากิจการแตะ 2 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรก ก่อนปิดที่ 1.98 ล้านล้านดอลลาร์
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล มีมูลค่ากิจการตามราคาซื้อขายหุ้นในตลาดหรือ Market cap สูงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรก ในระหว่างการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ก่อนจะปิดราคาที่ 2,987.03 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้มูลค่ากิจการลดลงมาที่ 1.98 ล้านล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้มี 2 บริษัทที่มูลค่ากิจการสูงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ คือ แอปเปิล และไมโครซอฟท์ ส่วนบริษัทที่มีมูลค่ากิจการใกล้เคียง 2 ล้านล้านดอลลาร์ ลำดับถัดไป น่าจะเป็น Amazon ที่มูลค่ากิจการ 1.77 ล้านล้านดอลลาร์
ผลประกอบการของ Alphabet ในไตรมาสที่ผ่านมายังคงเติบโตสูง รายได้เพิ่มขึ้น 41% และธุรกิจคลาวด์ก็เติบโตมาก
ที่มา: The Verge |
# Roblox ไตรมาส 3/2021 รายได้รวมโตถึง 102% จำนวนผู้เล่น 47.3 ล้านบัญชี
Roblox แพลตฟอร์มวิดีโอเกมตัวเหลี่ยม รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2021 รายได้รวม 509.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 102% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน สุทธิแล้วขาดทุน 74.0 ล้านดอลลาร์
ในรายงานงบการเงินของ Roblox จะมีรายรับอีกประเภทเรียกว่า Booking ซึ่งจะรวมรายการซื้อไอเท็มที่บันทึกแบบทยอยรับรู้รายได้เป็นงวด โดย Booking ไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นเป็น 637.8 ล้านดอลลาร์
จำนวนผู้เล่นเป็นประจำทุกวัน (DAUs - Daily Active Users) เพิ่มขึ้น 31% เป็น 47.3 ล้านบัญชี จำนวนชั่วโมงที่เล่นรวม 11.2 พันล้านชั่วโมง เพิ่มขึ้น 28%
Roblox กล่าวว่าแม้ตอนนี้ผู้เล่นเกมจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เหมือนกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด แต่ Roblox ก็ยังเป็นส่วนสำคัญในชีวิตพวกเขา ซึ่งสะท้อนได้จากตัวเลขผลการดำเนินงาน
ที่มา: Roblox ผ่าน CNBC
วิธีคำนวณ Booking |
# PayPal ไตรมาส 3/2021 การใช้จ่ายผ่าน Venmo เพิ่มขึ้น 36% - ประกาศความร่วมมือกับ Amazon
PayPal รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2021 มีปริมาณการใช้จ่ายเงินในระบบ (TPV - Total Payment Volume) 309,910 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน คิดเป็นรายได้ 6,182 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% และเป็นกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 1,087 ล้านดอลลาร์
จำนวนผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 13.3 ล้านบัญชี มีจำนวนลูกค้ารวม 416 ล้านบัญชี จำนวนธุรกรรม 4.9 พันล้านครั้ง ข้อมูลในตัวเลข TPV นั้น PayPal บอกว่ามาจากส่วน Merchant เพิ่มขึ้น 31% ซึ่งคิดเป็น 97% ของ TPV รวม ส่วน eBay ซึ่งเป็นเจ้าของ PayPal เดิมนั้น TPV ลดลง 45% จึงคิดเป็นเพียง 3% ของ TPV รวม ขณะที่ TPV ที่เกิดจากการจ่ายผ่านแอป Venmo เพิ่มขึ้น 36% เป็นราว 60 พันล้านดอลลาร์
Dan Schulman ซีอีโอ PayPal กล่าวว่าผลการดำเนินงานสะท้อนความแข็งแกร่งของ PayPal ทั้งสองฝั่งคือร้านค้าและผู้ใช้จ่าย นอกจากนี้ PayPal ยังประกาศความร่วมมือกับ Amazon โดยลูกค้า Venmo จะสามารถใช้เป็นตัวเลือกในการจ่ายเงินผ่านการซื้อสินค้าบน Amazon ได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ที่มา: PayPal (pdf) |
# AMD ประกาศได้ลูกค้าใหม่ Meta สั่งซื้อซีพียู EPYC สำหรับใช้ในศูนย์ข้อมูล
AMD ประกาศข่าวได้ลูกค้ารายสำคัญคือ Meta (Facebook เดิม) สั่งซื้อซีพียู EPYC เพื่อใช้ในศูนย์ข้อมูลของตัวเอง โดยจะเริ่มจาก EPYC Gen 3 (Milan) ที่เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปี 2021 ส่วนรายละเอียดจะแถลงเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้
ที่ผ่านมา AMD ได้บริษัทคลาวด์ขนาดใหญ่ (hyperscale) เป็นลูกค้า EPYC หลายราย เช่น Azure, Google Cloud, Cloudflare ซึ่งกรณีของ Cloudflare เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์เป็นรุ่นใหม่ที่ใช้แต่ EPYC Milan ล้วนๆ ด้วย
ที่มา - AMD |
# เป็นทางการแล้ว! McAfee ขายกิจการให้กลุ่มนักลงทุน มูลค่าดีล 14,000 ล้านดอลลาร์
McAfee ประกาศบรรลุข้อตกลงขายกิจการทั้งหมด ให้กับกลุ่มนักลงทุน ประกอบด้วย Advent, Permira, Crosspoint Capital, CPP Investments กองทุนของประเทศแคนาดา, GIC และ ADIA ที่ราคา 26.00 ดอลลาร์ต่อหุ้น มูลค่าดีลรวมกับหนี้สินของ McAfee คิดเป็นราว 14,000 ล้านดอลลาร์
ตัวเลขนี้สูงกว่าที่มีข่าวลือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าอยู่ราว 10,000 ล้านดอลลาร์
Peter Leav ซีอีโอ McAfee กล่าวว่าดีลนี้เป็นการส่งต่อโซลูชันความปลอดภัยของ McAfee ในฐานะผู้นำตลาด พนักงานที่มีความสามารถ ตลอดจนลูกค้าและพาร์ทเนอร์ให้กับเจ้าของใหม่
เดิม McAfee เคยถูกอินเทลซื้อกิจการ แต่ต่อมาได้ขายหุ้นส่วนหนึ่งให้กองทุน TPG และบริษัทก็กลับเข้าตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งขายธุรกิจฝั่ง enterprise ออกไปเมื่อต้นปี
ที่มา: McAfee |
# Visual Studio 2022 ออกตัวจริง รองรับ 64 บิต, .NET 6, Hot Reload
ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio 2022 ตัวจริง หลังเปิดทดสอบพรีวิวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2021
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Visual Studio 2022 ได้แก่
ตัวโปรแกรมหลักเปลี่ยนเป็น 64 บิต รองรับแรมเกิน 4GB
รองรับ .NET 6 ซึ่งเป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะยาว
ฟีเจอร์ Hot Reload แก้โค้ดแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที ใช้ได้กับ .NET และ C++
ฟีเจอร์ IntelliCode ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์และเติมโค้ดให้ทั้งบรรทัด
ฟีเจอร์ Web Live Preview เขียน ASP.NET แล้วพรีวิวบนเบราว์เซอร์ให้อัตโนมัติ
ปรับ UI ใหม่เล็กน้อย วาดไอคอนใหม่ให้ไปในทิศทางเดียวกัน ปรับค่า contrast สีและสีเน้น (accent color) ใหม่
ในโอกาสเดียวกัน ไมโครซอฟท์ยังออก Visual Studio 2022 for Mac Preview 3 และประกาศรองรับ Apple M1 ในอนาคตต่อไปด้วย
ไอคอนใหม่ (ขวา) vs ไอคอนเก่า (ซ้าย)
สีใหม่ (ขวา) vs สีเก่า (ซ้าย)
ที่มา - Microsoft |
# ไมโครซอฟท์ปล่อย .NET 6 แพลตฟอร์มเดียวใช้ได้ทุกที่ ซัพพอร์ตยาว 3 ปี
ไมโครซอฟท์ปล่อย .NET 6 ตัวจริง นับเป็นตัวที่สองหลังหลอมรวมโครงการ .NET เข้าด้วยกันสำเร็จในเวอร์ชั่น 5 ตอนนี้ .NET 6 เป็นเวอร์ชั่น LTS ที่ไมโครซอฟท์จะอัพเดตให้ยาว 3 ปี
ฟีเจอร์เด่นๆ ในเวอร์ชั่นนี้ เช่น
C# 10 ปรับปรุงฟีเจอร์ lambda ให้คอมไพล์เลอร์ระบุชนิดตัวแปรได้เอง, implicit using ลดการประกาศ namespace ลง, และ record struct คล้าย record class ใน C# 9
เพิ่มฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับ JSON
คอมไพล์แบบไฟล์เดียวรันได้ทันที ใช้งานได้บนลินุกซ์, macOS, และวินโดวส์
ตัวคอมไพล์ WebAssembly ล่วงหน้า
รองรับ HTTP/3
รองรับการเข้ารหัส ChaCha20-Poly1305 ที่ทำงานได้เร็วในซีพียูทุกประเภท
ฟีเจอร์ที่หายไปคือ .NET MAUI ที่ไมโครซอฟท์ทำไม่ทันจนต้องเลื่อนไปปลอ่ยทีหลัง
การใช้งานสามารถติดตั้งโดยตรง หรือใช้งานผ่านคอนเทนเนอร์ ได้ทั้งลินุกซ์, macOS, และวินโดวส์ รองรับทั้ง x86 และ Arm64 โดยแอปเปิลส่งเครื่อง M1 ไปให้ไมโครซอฟท์และช่วยแก้ปัญหาด้วย
ที่มา - Microsoft Dev Blog |
# เอเอ็มดีเปิดข้อมูลซีพียูคอร์ Zen 4 สองรุ่น ใช้แรม DDR5 พร้อม PCIe 5.0 สูงสุด 128 คอร์
เอเอ็มดีรายงานความคืบหน้าการพัฒนาซีพียูสถาปัตยกรรม Zen 4 ตามแผนการพัฒนาที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ซีพียูที่อยู่ระหว่างการพัฒนามี 2 รุ่น ได้แก่
Genoa: ซีพียูสถาปัตยกรรม Zen 4 ที่อยู่ในแผนการพัฒนามาแต่แรก เน้นประสิทธิภาพสูงสุด จำนวนคอร์สูงสุด 96 คอร์ต่อซ็อกเก็ต ใช้แรม DDR5 และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกด้วย PCIe 5.0 พร้อมรองรับมาตรฐาน CXL สำหรับการขยายแรมเพิ่มเติมผ่าน PCIe ตอนนี้เริ่มส่งตัวอย่างให้ผู้ผลิตแล้ว คาดว่าจะวางขายจริงภายในปี 2022
Bergamo: ซีพียูสถาปัตยกรรม Zen 4c ที่มีชุดคำสั่งเดียวกับ Zen 4 แต่การออกแบบภายในเน้นประสิทธิภาพต่อพลังงานเป็นหลัก ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Genoa จำนวนคอร์สูงสุด 128 คอร์ต่อซ็อกเก็ต คาดว่าจะส่งมอบได้ก่อนกลางปี 2023
การเพิ่มสถาปัตยกรรม Zen 4c นับเป็นการตอบสนองต่อตลาดที่เริ่มเน้นประสิทธิภาพต่อพลังงานมากขึ้น หลังผู้ให้บริการคลาวด์เริ่มสนใจประสิทธิภาพในด้านนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น Cloudflare ออกมาวิจารณ์ว่าประสิทธิภาพต่อพลังงานของซีพียู x86 นั้นแพ้ Arm ชัดเจน แม้ว่าซอฟต์แวร์ยังไม่ได้ออปติไมซ์
ที่มา - AMD |
# Europol จับกุมผู้เกี่ยวข้องกับมัลแวร์ REvil รวม 7 คน ผู้ต้องสงสัยคดี Kaseya ถูกจับด้วย
Europol ประกาศความสำเร็จปฎิบัติการ GoldDust ที่จับกุมผู้เกี่ยวข้องกับมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายร่วมมือกัน 17 ชาติ ตามจับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับมัลแวร์ Sodinokibi/REvil
ผู้ถูกจับกุมในปฎิบัติการนี้กระจายอยู่ใน 4 ชาติ ได้แก่
ชาวเกาหลีใต้ 3 คนถูกจับจากการพัวพันกับมัลแวร์ GandCab และ REvil รวมเหยื่อ 1,500 ราย
ชาวยูเครนผู้ต้องสงสัยในคดีแฮกซอฟต์แวร์ระบบจัดการไอที Kaseya เพื่อวางมัลแวร์ REvil ถูกจับที่ชายแดนโปแลนด์ตามหมายจับสหรัฐฯ
ผู้ต้องสงสัย 2 รายถูกจับในโรมาเนีย
ผู้ต้องสงสัย 1 รายถูกจับในคูเวต
Europol เป็นผู้ประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์ทั้งเส้นทางเงินคริปโตและตัวมัลแวร์ ร่วมกับ Eurojust และ INTERPOL รวมผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับเกียวข้องกับการติดมัลแวร์เรียกค่าไถ่ 7,000 ราย มีการเรียกค่าไถ่ 200 ล้านยูโร หรือ 7,600 ล้านบาท
ที่มา - Europol |
# Oracle Cloud เปิดศูนย์ข้อมูลสิงคโปร์
ออราเคิลเปิดศูนย์ข้อมูลคลาวด์ในสิงคโปร์เป็นทางการ หลังจากก่อนหน้านี้ขาดศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคอาเซียนมาโดยตลอด โดยรายการบริการนั้นยังไม่ครบนักเทียบกับศูนย์ข้อมูลอื่นๆ แต่บริการหลักๆ เช่น บริการฐานข้อมูล (Oracle Autonomous Database), บริการเซิร์ฟเวอร์, สตอเรจ (ยกเว้นแบบเก็บข้อมูลระยะยาว), และ Kubernetes ก็มาครบถ้วน
ช่วงเปิดตัวนี้ออราเคิลทำแคมเปญในสิงคโปร์แยกเครดิต 1 ล้านบาท (30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้กับบริษัทสตาร์ตอัพใช้งานได้ในช่วงเวลา 2 ปี จำนวน 100 บริษัท
ที่มา - Strait Times |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.