txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# AMD เปิดตัวการ์ดกราฟิก AMD Instinct MI200 สถาปัตยกรรม CDNA 2 อัดแรม 128GB
เอเอ็มดีเปิดตัวการ์ดกราฟิกตระกูลสำหรับเซิร์ฟเวอร์ AMD Instinct MI200 โดยชุดแรกมีสองรุ่นย่อยได้แก่ MI250 และ MI250X เป็นแบบโมดูล (MI210 แบบการ์ด PCIe จะเปิดตัวภายหลัง) มีจุดเด่นอยู่ที่การรองรับแรม HBM แบบ ECC ความจุถึง 128GB ใหญ่กว่ารุ่นปัจจุบันถึง 4 เท่าตัว
เอเอ็มดีระบุว่าการ์ดตระกูล MI200 มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญ 3 อย่าง ได้แก่
สถาปัตยกรรม CDNA 2 ตัวแรก จุดปรับปรุงสำคัญคือคำสั่งแมทริกซ์แบบ FP64 และ FP32 ประสิทธิภาพสูงขึ้นสูงสุด 4 เท่าตัว
แพ็กเกจแบบ 2.5D Elevated Fanout Bridge (EFB) ใส่คอร์ได้ 1.8 เท่าตัว ส่งข้อมูลไปยังแรมได้แบนด์วิดท์เพิ่มขึ้น 2.7 เท่า เทียบกับการ์ดตระกูล MI100
เชื่อมต่อกับซีพียูผ่านทาง Infinity Fabric จำนวน 8 ชุด ทำให้มองหน่วยความจำในกราฟิกและซีพียูเป็นชุดเดียวกัน
MI250 และ MI250X เป็นโมดูลแบบ OAM ต่างกันที่จำนวนหน่วยประมวลผล MI250x มีหน่วยประมวลผล 220 ชุด คิดเป็น 14,080 หน่วยประมวลสตรีม ส่วน MI250 มี 208 หน่วยประมวลผล คิดเป็น 13,312 หน่วยประมวลสตรีม ทั้งสองรุ่นใส่แรม ECC 128GB เท่ากัน
การทั้งสองรุ่นขายผ่านผู้ลิตเครื่อง ตอนนี้ HPE กำลังสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ด้วยโมดูลเหล่านี้อยู่ และปีหน้าจะมีผู้ผลิตอื่นขายเครื่องด้วย ได้แก่ ASUS, ATOS, Dell, Gigabyte, HPE, Lenovo, Supermicro
ที่มา - AMD |
# AMD เปิดตัวซีพียูเซิร์ฟเวอร์ Milan-X อัดแคชสูงสุด 804MB
เอเอ็มดีเปิดตัวซีพียูตระกูล EPYC สำหรับเซิร์ฟเวอร์ในชื่อรหัส Milan-X ภายในเป็นคอร์ Zen 3 สูงสุด 64 คอร์ แต่ความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือแพ็กเกจแบบใหม่ที่เชื่อมต่อระหว่างชิปได้มากขึ้น ส่งผลให้เอเอ็มดีใส่แคชลงไปได้ใหญ่ขึ้น ทำให้ Milan-X มีแคชสูงสุด ถึง 804MB ต่อซ็อกเก็ต
Milan-X ยังใช้งานกับเมนพอร์ตที่ใช้ซ็อกเก็ต SP3 ได้แต่ต้องอัพเดตเฟิร์มแวร์ใหม่เสียก่อน
เอเอ็มดีระบุว่าจะเริ่มส่งมอบชิป Milan-X ภายในไตรมาสแรกของปี 2022 แต่ตอนนี้ Azure จะเริ่มเปิดเครื่อง HBv3 ให้ทดสอบกันก่อนในวงปิด และคาดว่าจะเปิดให้คนทั่วไปใช้งานเร็วๆ นี้
ที่มา - YouTube: AMD |
# WhatsApp ให้ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้สูงสุด 4 เครื่อง โดยไม่ต้องเปิดมือถือต่อเน็ตได้แล้ว
ก่อนหน้านี้หากผู้ใช้ WhatsApp ต้องการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ จะต้องให้มือถือที่มีแอคเคาท์ WhatsApp แอคเคาท์นั้น เปิดเครื่องและต่ออินเทอร์เน็ตไว้เสมอ แต่ล่าสุดฟีเจอร์ Multi-Device Beta ที่ให้ผู้ใช้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ไว้สูงสุดได้ 4 เครื่อง โดยไม่ต้องเปิดมือถือและต่อเน็ตอีกต่อไป เริ่มเปิดให้ผู้ใช้ทดลองใช้แล้ว ทั้งบน iOS และ Android
วิธีเข้าร่วมทดสอบฟีเจอร์นี้ที่ยังอยู่ในขั้นเบต้า ทำได้โดย เข้าไปที่ Settings > Linked Devices เลือกฟีเจอร์ Multi-Device Beta เลือก Join Beta หลังจากนั้นก็ทำขั้นตอนเชื่อมบัญชีบนคอมพิวเตอร์เข้ากับมือถือตามปกติ เท่านี้ผู้ใช้ก็จะสามารถใช้งาน WhatsApp บนคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องเปิดมือถือต่อเน็ตไว้แล้ว
ฟีเจอร์นี้ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่นสามารถใช้งานบนอุปกรณ์เชื่อมต่อได้สูงสุด 14 วัน ก่อนต้องเปิดมือถือมาต่อเน็ตอีกครั้ง, ผู้ใช้บน iOS ยังไม่สามารถลบแชทหรือเธรดผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้, ผู้ใช้ไม่สามารถส่งข้อความให้ผู้ใช้ที่ใช้ WhatsApp เวอร์ชั่นเก่ากว่าที่ยังไม่รองรับฟีเจอร์นี้ และจะไม่สามารถดู Live Location ผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้
นอกจากนี้ผู้ใช้ก็ยังไม่สามารถใช้งานแท็บเล็ตหรือมือถืออื่นเป็นอุปกรณ์ที่สองได้อยู่ดี แต่การอัพเดตครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการอีกครั้งของแอป จากเมื่อก่อนที่ถ้ามือถือคุณแบตหมด หรือไม่ได้ต่อเน็ต ก็จะไม่สามารถใช้ WhatsApp บนคอมได้
ที่มา - WhatsApp, GSMArena |
# Mastercard ประกาศร่วมมือ Bitkub เปิดทางออกบัตรตัดเงินคริปโต
Mastercard ประกาศความร่วมมือกับผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินคริปโต 3 บริษัท ได้แก่ Amber Group, Bitkub, และ CoinJar เปิดบริการบัตร Mastercard ที่จ่ายเงินเป็นเงินสกุลคริปโต ในประเทศที่ทั้งสามบริษัทให้บริการ ทำให้ตอนนี้บัตรเงินคริปโตของ Mastercard ครอบคลุมประเทศไทยผ่านทาง Bitkub
บัตรคริปโตของ Mastercard เปิดตัวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยร้านค้ายังคงรับเงินเป็นเงินสกุลดั้งเดิมตามปกติ ผู้ถือบัตรสามารถแปลงเงินคริปโตไปจ่ายได้ทันที
การเปิดตัวครั้งนี้เป็นการเปิดตัวบริการของ Mastercard ที่ผู้ออกบัตร (บ้านเรามักเป็นธนาคาร) ไปเลือกใช้บริการมาออกบัตรอีกที โดยผู้ออกบัตรสามารถออกได้ทั้งบัตรเครดิต, บัตรเดบิต, และบัตรเติมเงิน ต้องรอดูต่อไปว่าหลังการประกาศครั้งนี้จะมีหน่วยงานใดออกบัตรมาให้บริการก่อน
ที่มา - จดหมายข่าว Mastercard |
# กูเกิลระบุ Pixel 6 สแกนนิ้วช้าเกิดจากฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
ขณะนี้ Google Pixel 6 วางตลาดแล้วมาเกือบ 2 สัปดาห์ก็มีคำบ่นจากผู้ใช้ว่าฟีเจอร์สแกนนิ้วบนหน้าจอทำงานช้า บางทีสแกนไม่ติดหรือต้องแตะนิ้วหลายรอบ ซึ่งตรงกับที่หลายสำนักรีวิวไว้
ล่าสุดก็มีผู้ใช้ทวีตไปยังบัญชี @madebygoogle ถึงเรื่องดังกล่าว โดยกูเกิลได้ตอบกลับว่าระบบการสแกนนิ้วของ Pixel 6 ใช้งานอัลกอริทึมด้านความปลอดภัยที่ล้ำสมัยหลายตัว การป้องกันหลายชั้นนี้ทำให้บางครั้งอาจสแกนนิ้วช้าหรือผู้ใช้ต้องแตะนิ้วบนหน้าจออย่างตั้งใจ
นอกจากนี้กูเกิลยังมีหน้าซัพพอร์ตสำหรับประเด็นนี้ด้วย โดยระบุว่าหากสแกนนิ้วไม่ติดเมื่ออยู่กลางแดดจ้า ให้บังบริเวณเซ็นเซอร์สแกนนิ้วไว้ก่อนสแกน หรือในบางกรณีฟิล์มกันรอยอาจก่อให้เกิดปัญหานี้ก็ได้ ซึ่งกูเกิลแนะนำให้ใช้ฟิล์มกันรอยที่ได้รับการรับรอง Made for Google และสุดท้ายก็แนะนำว่าหากหน้าจอมีสิ่งสกปรกหรือคราบมันก็ให้ทำความสะอาดจอก่อน
อย่างไรก็ดี การสแกนนิ้วช้าหรือสแกนไม่ติดก็เป็นเรื่องน่ารำคาญได้อย่างมาก ต้องติดตามดูต่อไปว่ากูเกิลจะออกอัพเดตมาแก้ไขเรื่องนี้หรือไม่
ผู้อ่าน Blognone มีใครได้เครื่องกันแล้วบ้าง สแกนนิ้วช้าหรือไม่ เล่าประสบการณ์ในคอมเมนต์ได้ครับ
ที่มา - Android Authority |
# NT รับรางวัลพันธมิตรหน้าใหม่มาแรงแห่งปีของ Amazon Web Services (AWS) สะท้อนตลาดภาครัฐไทยเติบโตแรงในอาเซียน
NT ปลื้มรางวัล AWS Partner of the Year 2021 พันธมิตรมาแรงแห่งปีของ Amazon Web Services (AWS) สาขา New Market Public Sector คู่ค้าตลาดใหม่ภาครัฐของ AWS ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยผลงานสร้างตลาดเติบโตอย่างโดดเด่น สนับสนุนลูกค้าขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัลขององค์กรด้วยสุดยอดโซลูชันที่สร้างบน AWS จากงานประกาศรางวัล AWS Partner Summit Online 2021
ดร.วงกต วิจักขณ์สังสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจดิจิทัล บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) กล่าวว่า รางวัลพันธมิตรแห่งปีของ Amazon Web Services ย้ำความมั่นใจให้บริษัทในฐานะพาร์ทเนอร์ของ AWS และเป็นผู้นำด้านบริการคลาวด์ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นและส่งเสริมการขยายระบบนิเวศของบริการคลาวด์ที่แข็งแกร่งของคู่ค้าภาครัฐและลูกค้าทั่วประเทศ ช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของธุรกิจ ผ่านการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีอย่างสร้างสรรค์ด้วยโซลูชันที่สร้างบน AWS พร้อมการจัดอบรมสัมมนาออนไลน์ให้ความรู้ รวมถึงการบริการสนับสนุนด้านทางเทคนิคต่างๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงระบบงานอย่างราบรื่นและขับเคลื่อนนวัตกรรมบน AWS Cloud นำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ทั้งนี้ NT ได้ร่วมมือกับ AWS เปิดบริการ AWS Outpost รายแรกในอาเซียนเมื่อปลายปี 2563 ให้บริการคลาวด์ของ AWS ด้วยไฮบริดคลาวด์เต็มรูปแบบอย่างแท้จริง โดยที่ตอบสนองลูกค้าหน่วยงานในประเทศด้วยการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลภายในประเทศไทยสอดคล้องกับนโยบายข้อมูลภาครัฐ พร้อมกับได้ใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพบน Public cloud ของ AWS ได้อย่างมั่นใจ
ดร.วงกต กล่าวว่า รางวัลพาร์ทเนอร์แห่งปีจาก AWS บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นที่คู่ค้าระดับโลกมีต่อการทำงานร่วมกับ NT ขณะเดียวกันได้เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับ NT ที่เราจะเดินหน้าขยายบริการคลาวด์เพื่อนำเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมและผลลัพธ์ที่คุ้มค่าสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาที่ได้รับคือรางวัลคู่ค้าภาครัฐตลาดใหม่ของ AWS แห่งปี เป็นสิ่งพิสูจน์ความสำเร็จของ NT จากการร่วมกับ AWS ผลักดันตลาดบริการคลาวด์อย่างต่อเนื่องและสร้างการเติบโตที่โดดเด่นชัดเจนในกลุ่มภาครัฐตลอดปีที่ผ่านมา สะท้อนปริมาณความต้องการคลาวด์ในไทยที่พุ่งสูงเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน โดย NT มีลูกค้าภาครัฐจากโครงการขนาดใหญ่ที่มี Potential เช่น ระบบคลาวด์กลางภาครัฐ “GDCC” ระบบเชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยโรงพยาบาลทั่วประเทศ “Health Link” และโครงการอื่นๆ โครงการเหล่านี้สนับสนุนการพัฒนาประสิทธิภาพบริการดิจิทัลภาครัฐเพื่อประชาชนสอดคล้องตามวิสัยทัศน์ จึงเชื่อว่ามีศักยภาพดำเนินการในระยะยาว ซึ่งสามารถขยายธุรกิจระบบคลาวด์ที่ประสบความสำเร็จได้
“ในปีต่อๆ ไป ความต้องการใช้คลาวด์ในประเทศไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวสูงต่อเนื่อง จากการที่ทุกหน่วยงานรัฐเร่งพัฒนาระบบไอทีสู่เป้าหมายรัฐบาลดิจิทัล NT cloud จะยังคงตอกย้ำความสามารถในด้านการย้ายข้อมูลและการเพิ่มประสิทธิภาพระบบคลาวด์เพื่อรองรับ ควบคู่ไปกับพัฒนาความเชี่ยวชาญเชิงลึกในบริการด้านไอทีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ลูกค้าองค์กรสามารถเริ่มต้นและแก้ปัญหาที่ท้าทายและซับซ้อนได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” ดร.วงกด กล่าว |
# กลุ่ม fail0verflow ประกาศดึงกุญแจเข้ารหัสเฟิร์มแวร์ PS5 สำเร็จ
กลุ่ม fail0verflow ประกาศความสำเร็จในการดึง root key จากเครื่อง PlayStation 5 เปิดทางให้แฮกเกอร์สามารถถอดรหัสเฟิร์มแวร์และข้อมูลอื่นๆ ในเครื่อง
root key ของ PlayStation 5 เป็นกุญแจแบบสมมาตร ใช้สำหรับเข้ารหัสและถอดรหัสเฟิร์มแวร์, ไฟล์เกม, และข้อมูลอื่นๆ ในเครื่อง แต่ตอนนี้ทาง fail0verflow ยังไม่เปิดเผยว่าเข้าถึงกุญแจได้อย่างไร และตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าหลังจากอ่านเฟิร์มแวร์ได้แล้วแฮกเกอร์จะสามารถเจาะระบบได้มากน้อยแค่ไหน (ในความเป็นจริงแฟนๆ อาจจะไม่อยากให้แฮกได้นัก ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกเหมาไปขุดเหมือง)
กลุ่ม fail0verflow เคยเจาะ PlayStation 4 ได้ในปี 2018 โดยอาศัยบั๊กใน HDMI-CEC ยิงโค้ดเข้าไปรันบนชิป south bridge
ที่มา - @fail0verflow, Hacker News |
# หลุดภาพและผลทดสอบ Galaxy Tab A8 จอใหญ่ 10.5 นิ้ว ชิป Unisoc Tiger T618 แรม 3GB
หลัง Galaxy Tab A8 แท็บเล็ตรุ่นประหยัด ต่อยอดจาก Galaxy Tab A7 มีภาพเรนเดอร์หลุดและข้อมูลคร่าวๆ ออกมาก่อนหน้านี้ ว่าเป็นแท็บเล็ตขนาด 10.5 นิ้ว จอ 60Hz ราคาประมาณ 260 ดอลลาร์ (ราว 8,600 บาท ใกล้เคียงกับ A7) ล่าสุดมีผลทดสอบจากแอป Geekbench 4 หลุดออกมาเพิ่มเติม เผยสเปกเบื้องต้นให้ได้รู้กันแล้ว
Galaxy Tab A8 จะใช้ชิป Unisoc Tiger T618 มีแกน Cortex-A75 สัญญาณนาฬิกา 2.0GHz สองแกน Cortex-A55 สัญญาณนาฬิกา 1.8GHz อีก 6 แกน ร่วมกับจีพียู Mali-G52 MP2 แรม 3GB มีทั้งรุ่น WiFi และ LTE (4G)
รุ่น WiFi ได้คะแนน Single-Core 1704 คะแนน Multi-Core 5256 คะแนน ส่วนรุ่น LTE คะแนน Single-Core 1625 คะแนน Multi-Core 5285 คะแนน ซึ่งเทียบกันคร่าวๆ คือราวครึ่งหนึ่งของผลทดสอบ Geekbench 4 ของ Galaxy S10e
นอกจากนี้ยังมีภาพเรนเดอร์จาก @evleaks นักปล่อยข้อมูลชื่อดังในวงการมือถือออกมาเพิ่มเติม ซึ่งทั้งดีไซน์และวอลเปเปอร์ในภาพ คล้ายคลึงกับภาพเรนเดอร์ในบทความก่อนหน้านี้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ภาพจาก @onleaks x 91mobile
ภาพโดย @evleaks
ที่มา - 91mobiles, 91mobile, evleaks |
# Tencent Cloud ประกาศความสำเร็จพัฒนาชิปใช้เอง ทั้งชิปปัญญาประดิษฐ์, เข้ารหัสวิดีโอ, เน็ตเวิร์ค
Tecent Cloud แถลงในงานสัมมนาเทคโนโลยีของตัวเองระบุถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาชิปของตัวเองได้ 3 ตัวแล้ว แม้จะไม่มีข้อมูลสถาปัตยกรรมภายในหรือรายละเอียดการทำงานอื่นๆ ชิปทั้ง 3 ตัวได้แก่
Zixiao: ชิปปัญญาประดิษฐ์ สำหรับการประมวลภาพ, วิดีโอ, ภาษาธรรมชาติ, ไปจนถึงการค้นหาข้อมูล ทาง Tencent ระบุเพียงว่าชิปตัวนี้ผลิตด้วยเทคโนโลยีแพ็กเกจแบบ 2.5D เชื่อมต่อหน่วยความจำเข้ากับคอร์แบบ HBM2e
Canghai: ชิปเข้ารหัสวิดีโอ สามารถเข้ารหัสวิดีโอที่ 1080P 60 เฟรมต่อวินาทีได้แบบเรียลไทม์ พร้อมกับระบุว่าประสิทธิภาพการบีบอัดดีกว่าชิปอื่นในอุตสาหกรรม 30%
Xuanling: ชิปเน็ตเวิร์คแบบ SmartNIC จัดการทั้งระบบ Virtualization, สตอเรจ, และ I/O บนเครื่อง รูปแบบเดียวกับชิปของผู้ให้บริการคลาวด์อื่นๆ ที่มักพัฒนาชิป SmartNIC เพื่อให้บริการเครื่องแบบ bare metal โดยไม่ต้องมีตัวจัดการบนซีพียูหลักอีก
ประกาศครั้งนี้ไม่ระบุชัดเจนว่าชิปเหล่านี้ใช้งานในบริการใดแล้วบ้าง แต่การที่ผู้ให้บริการคลาวด์จีนอย่าง Tencent Cloud หันมาพัฒนาชิปเองก็น่าจะเป็นการลงทุนเพื่อป้องกันเหตุหากเกิดปัญหาทางการเมือง เช่นที่หัวเว่ยมีปัญหากับรัฐบาลสหรัฐฯ จนต้องหันมาลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิปด้วยตัวเอง
ที่มา - The Register |
# ชาวทวิตเตอร์ 3.5 ล้านคนร่วมโหวต เสียงข้างมากให้ Elon Musk ขายหุ้น Tesla 10%
ต่อจากข่าว Elon Musk ทำโพลล์ใน Twitter ว่าเขาควรขายหุ้น Tesla จำนวน 10% ที่ถืออยู่ออกมาหรือไม่? โพลล์ของ Elon Musk สิ้นสุดระยะเวลาโหวตแล้ว มีคนมาร่วมโหวตมากกว่า 3.5 ล้านคน โดยผลโหวตสนับสนุนให้ขายหุ้นออกไป 57.9% และไม่ควรขาย 42.1%
Musk โพสต์เอาไว้ตั้งแต่ต้นว่าเขาจะทำตามเสียงโหวตนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร แต่เขายังไม่ได้แสดงความเห็นหลังโพลล์ปิดโหวตและทราบผลแล้ว |
# ไมโครซอฟท์ออก Visio web app ให้ลูกค้า Microsoft 365 ภาคธุรกิจทั่วโลก, ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ไมโครซอฟท์ประกาศออก Visio web app ให้กับลูกค้า Office 365 และ Microsoft 365 ภาคธุรกิจทั่วโลกใช้งานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยได้เปิดให้ลูกค้าบางกลุ่มเข้าใช้งานได้แล้วเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ และมีแผนจะทยอยปล่อยให้ลูกค้าที่เข้าข่ายทั้งหมดภายในเดือนมกราคมปีหน้า
Visio web app ที่ไมโครซอฟท์เพิ่มให้ใช้งานได้ฟรีๆ ครั้งนี้ เป็นเวอร์ชันใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ตรงตามชื่อ ตัวเว็บแอพสามารถใช้สร้างเอกสารและแก้ไขได้ แม้ว่าจะถูกจำกัดให้วาดได้เพียงไดอะแกรมและโฟลว์ชาร์ทพื้นฐานเท่านั้น แต่ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป
ในส่วนผู้ใช้ที่ต้องการไดอะแกรมเฉพาะทางนั้น ไมโครซอฟท์ได้ระบุว่ายังคงจำเป็นต้องสมัครใช้บริการ Visio Plan 1, 2 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอยู่
ผู้ใช้ที่ได้รับ Visio web app แล้วสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านเมนู All apps บนเว็บไซต์ Office.com หรือผ่านเมนูเพิ่มไฟล์ Visio drawing บน Microsoft Teams ครับ
ที่มา - Microsoft 365 Blog via MSPoweruser |
# Sinovac ยื่นขออนุญาตใช้วัคซีน COVID-19 ในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป ระบุแม้แต่เด็ก 6 เดือนก็ยังปลอดภัย
Gao Yongjun ผู้อำนวยการฝ่าย medical affair ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว South China Morning Post ระบุว่าบริษัทกำลังยื่นขออนุญาตใช้งานวัคซีน COVID-19 ในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปในฮ่องกง และตอนนี้การทดลองในเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปก็ยังไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง
ตอนนี้ฮ่องกงมีวัคซีน Sinovac และ Pfizer/BioNTech ให้ประชาชนเลือก โดย BioNTech นั้นได้รับอนุญาตให้ใช้งานในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว ส่วน Sinovac ยังจำกัดเฉพาะผู้อายุ 18 ปีขึ้นไปอยู่ ทาง Sinovac ยื่นข้อมูลการทดลองในเด็กเพื่อขอให้ทางการฮ่องกงลดอายุผู้รับวัคซีนลง
การทดลองในเด็กเฟส 3 ของวัคซีน Sinovac ทดลองในเด็กอายุ 6 เดือนถึง 17 ปี รวมผู้เข้าร่วมทดลอง 14,000 คน การทดลองจะตรวจสอบทั้งประสิทธิภาพวัคซีน, ผลการกระตุ้นภูมิ, และความปลอดภัย การทดลองเพิ่งเริ่มเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และตอนนี้มีผู้เข้าร่วมแล้ว 2,140 คน การติดตามผลข้างเคียงเบื้องต้นยังไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรง ส่วนผลด้านประสิทธิภาพการป้องกันโรคนั้นต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ คาดว่าจะออกรายงานเบื้องต้นได้ปีหน้า
ที่มา - South China Morning Post |
# วัยรุ่นหญิงในสหรัฐ เอาตัวรอดจากการหน่วงเหนี่ยว จากสัญญาณมือที่สอนกันใน TikTok
มีวัยรุ่นผู้หญิงอายุ 16 ปีจากรัฐ North Carolina สหรัฐอเมริกา สามารถเอาตัวรอดได้จากการกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยใช้สัญญาณมือที่เรียนมาจาก TikTok บอกคนรอบข้างที่ผ่านมาว่าเธอกำลังมีปัญหา
พ่อแม่ของวัยรุ่นคนนี้แจ้งความกับตำรวจว่าเธอหายตัวจากบ้าน หลังจากนั้นไม่กี่วัน พบว่าเธอนั่งอยู่ในรถไปกับ Herbert Brick ชายวัย 61 ปีที่เคยมีประวัติกักขังหน่วงเหนี่ยวเด็กผู้หญิง ระหว่างทางเธอได้ใช้สัญญาณมือขอความช่วยเหลือ ที่กำลังแพร่หลายอยู่ใน TikTok กับรถคันอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้น มีรถคันหนึ่งโทรแจ้งตำรวจ ทำให้ตำรวจตามมาสกัดรถของ Brick ให้หยุด และช่วยเหลือวัยรุ่นคนนี้ออกมาได้
คลิปสอนสัญญาณมือ 3 จังหวะขอความช่วยเหลือกำลังแพร่หลายใน TikTok ของสหรัฐอเมริกา โดยเป็นท่าที่มีความหมายว่า "violence at home", "I need help", "domestic violence" หลายคลิปมียอดชมหลายล้านวิว
ที่มา - Fox News, Business Insider |
# Skyrim Anniversary Edition เปิดราคา 49.99 ดอลลาร์, อัพเกรดจาก Special Edition ได้
Bethesda ประกาศราคาขายของเกม The Elder Scrolls V: Skyrim Anniversary Edition เวอร์ชันฉลองครบ 10 ปี ที่ 49.99 ดอลลาร์ทั้งบนคอนโซลและพีซี เกมวางขาย 11 พ.ย. นี้
Skyrim เคยถูกนำมาจับมัดรวมขายหลายรอบแล้ว เวอร์ชันที่สำคัญคือ Special Edition ในปี 2016 โดยรวมเนื้อหาภาคเสริมทุกอย่างมาให้ครบ จุดแตกต่างของ Anniversary Edition คือการเพิ่ม Creation Club ม็อดแบบเสียเงินที่สร้างโดยผู้เล่นในชุมชนมาให้ด้วย
Bethesda บอกว่าถ้าต้องจ่ายเงินซื้อม็อดเองทั้งหมดใน Creation Club ต้องใช้เงินมากกว่า 100 ดอลลาร์ แต่เรามัดรวมทุกอย่างมาให้แล้วในราคา 50 ดอลลาร์ (เว็บไซต์ Kotaku บอกว่ารอแบบซื้อลดราคากันดีกว่า) และหากผู้เล่นมี Special Edition อยู่แล้ว และอยากได้ Creation Club เพิ่มเติม ก็สามารถอัพเกรดได้ในราคา 20 ดอลลาร์
ทั้งนี้ Skyrim ทุกเวอร์ชันในตอนนี้ยังเป็นเวอร์ชันต้นฉบับ ยังไม่ไช่เวอร์ชันอัพเกรดกราฟิกสำหรับคอนโซลรุ่นใหม่ PS5/Xbox Series X|S ซึ่งยังไม่ออก และ Bethesda สัญญาว่าจะให้อัพเกรดฟรี
ที่มา - Bethesda, Kotaku |
# Fedora 35 ออกแล้ว อัพเกรดมาใช้ GNOME 41
Fedora ออกเวอร์ชัน 35 ตามรอบการออกทุก 6 เดือน ของใหม่ที่สำคัญได้แก่
แพ็กเกจ Python 3.10, Perl 5.34, PHP 8.0
ใช้ firewalld ตัวจัดการไฟร์วอลล์ เวอร์ชัน 1.0
Fedora Workstation ใช้เดสก์ท็อป GNOME 41, และ WirePlumber ตัวจัดการเซสชันเสียงตัวใหม่
Fedora Cloud เปลี่ยนมาใช้ระบบไฟล์ btrfs และรองรับการบูทแบบ BIOS/UEFI
ที่มา - Fedora, Fedora |
# Elon Musk ทำโพลล์ใน Twitter ว่าเขาควรขายหุ้น Tesla จำนวน 10% ที่ถืออยู่ออกมาหรือไม่?
Elon Musk ซีอีโอ Tesla ได้ตั้งโพลล์ใน Twitter ผ่านบัญชีส่วนตัวของเขา ถามว่าเขาควรขายหุ้น Tesla ที่ถืออยู่ออกมา 10% หรือไม่ เพื่อให้เกิดการเสียภาษี หลังจากถูกวิจารณ์ว่าที่ผ่านมาเขาแทบไม่เสียภาษีเลย เนื่องจากไม่มีเงินเดือนและโบนัส การขายหุ้นและมีกำไรจากการขายจะทำให้เขาต้องเสียภาษีนั่นเอง
Musk มีหุ้น Tesla 170.5 ล้านหุ้น จากราคาหุ้น Tesla ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ที่เขาถือครองปรับเพิ่มสูงและล่าสุดเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
โพลล์นี้ตั้งคำถามช่วง ตี 2 เมื่อคืนนี้ ยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงจึงจะมีข้อสรุป โดย ณ ขณะที่รายงานนี้ คำตอบว่าควรขายอยู่ราว 54% ไม่ขาย 46%
ที่มา: CNN |
# OneDrive เวอร์ชันเดสก์ท็อป เตรียมหยุด Support บน Windows 7, 8, 8.1 มีนาคมปีหน้า
ไมโครซอฟท์ประกาศเตรียมหยุดซัพพอร์ต OneDrive ที่เป็นโปรแกรมเวอร์ชันเดสก์ท็อป สำหรับผู้ใช้งาน Windows 7, Windows 8 และ Windows 8.1 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2022 เป็นต้นไป โดยตั้งแต่วันดังกล่าว OneDrive จะหยุดซิงก์ไฟล์ แต่ยังสามารถเข้าถึงไฟล์ได้ผ่านเว็บ
เหตุผลนั้นก็ตรงไปตรงมา คือ Windows ดังกล่าวเป็นเวอร์ชันเก่า และไมโครซอฟท์ต้องการนำทรัพยากรทีมงานไปพัฒนาฟีเจอร์และความปลอดภัย สำหรับ Windows เวอร์ชันใหม่กว่าคือ Windows 10 และ Windows 11
ประกาศนี้มีผลกับผู้ใช้ OneDrive เวอร์ชันส่วนบุคคล สำหรับผู้ใช้ OneDrive Business ตั้งแต่ 1 มกราคม 2022 เป็นต้นไป การซัพพอร์ตโปรแกรมจะเป็นไปตามการซัพพอร์ต Windows สำหรับองค์กร โดย Windows 7 กับ 8.1 ขยายเวลาถึง 10 มกราคม 2023 ส่วน Windows 8 หยุดซัพพอร์ตไปแล้ว
ที่มา: ไมโครซอฟท์ |
# บริษัทผู้จัดจำหน่ายเกมอินดี้ Devolver Digital ขายหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์, Sony มาซื้อด้วย
Devolver Digital บริษัทผู้จัดจำหน่ายเกมอินดี้ชื่อดังหลายๆ เกม (ที่ดังที่สุดคือ Fall Guys และซีรีส์ Serious Sam ทั้งหมด เกมอื่นได้แก่ Shadow Warrior, Minit, Loop Hero, Pikuniku, Ape Out เป็นต้น) ขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ Alternative Investment Market (AIM) ซึ่งเป็นตลาดรองของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (คล้าย MAI ของบ้านเรา) ใช้ตัวย่อว่า "DEVO"
Devolver Digital เป็นบริษัทอเมริกันที่ก่อตั้งในปี 2009 เพื่อจัดจำหน่ายเกมให้นักพัฒนารายย่อย ทีมผู้ก่อตั้งเคยทำบริษัท Gathering of Developers มาก่อน และเปลี่ยนมาตั้งบริษัทใหม่เพื่อจัดจำหน่ายเกมในช่องทางดิจิทัลแทน เกมเด่นในช่วงแรกๆ คือซีรีส์ Serious Sam ซึ่งภายหลัง Devolver ก็ซื้อกิจการ Croteam สตูดิโอจากโครเอเชียผู้สร้างเกม Serious Sam เข้ามาอยู่ภายใต้สังกัดด้วย
การขายหุ้น IPO ของ Devolver Digital ระดมทุนได้ 261 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 950 ล้านดอลลาร์ บริษัทบอกว่าเลือกขายหุ้น IPO เพื่อตอบแทนทีมผู้ก่อตั้งและนักลงทุน (เช่น NetEase) รวมถึงนำเงินที่ระดมทุนไปขยายกิจการเพิ่มเติม สิ่งที่น่าสนใจคือ Sony Interactive Entertainment ก็เข้ามาซื้อหุ้นด้วย 5%
ที่มา - GamesIndustry.biz |
# DJI เปิดตัว Mavic 3 และ Mavic 3 Cine โดรนพร้อมกล้องคู่แบรนด์ Hasselblad และบินได้นานกว่าเดิม
DJI เปิดตัวโดรน Mavic 3 และ Mavic 3 Cine เป็นโดรนรุ่นล่าสุดในไลน์ Mavic โดยรอบนี้มาพร้อมกล้องคู่ และปรับปรุงเวลาบินให้นานกว่าเดิม
สำหรับตัวกล้อง DJI Mavic 3 และ Mavic 3 Cine ใช้กล้อง L2D-20c dual-camera พร้อมเทคโนโลยี Natural Color Solution ของ Hasselblad โดยกล้องตัวหลักใช้เซนเซอร์ Four Third 20 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ 24mm ปรับรูรับแสงได้ตั้งแต่ F2.8-11 ส่วนกล้องตัวรองใช้เซนเซอร์ CMOS 1/2 นิ้วที่ 12 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์เทเลโฟโต้ 162mm ค่ารูรับแสงอยู่ที่ F4.4 ซึ่งเลนส์สองตัวนี้รวมกันแล้วทำให้ได้ฟังก์ชันซูม (ทั้ง optical และ digital) รวมสูงสุดถึง 28 เท่า
สำหรับระบบอัดวิดีโอ ทั้งสองรุ่นรองรับ 5.1K/50p, DCI หรือ UHD 4K/120p และ 1080p/200p ส่วนรุ่น Cine จะเพิ่มฟีเจอร์รองรับ ProRes 422 HQ ที่อัตราข้อมูลสูงสุด 3,772Mbps
ด้านที่เก็บข้อมูลภายใน Mavic 3 มีพื้นที่ 8GB ส่วน Cine มี SSD ขนาด 1TB บรรจุอยุ่ในตัวโดรนเนื่องจากต้องเก็บไฟล์วิดีโอ ProRes 422 HQ ซึ่งรุ่น Cine จะมาพร้อม 10Gbps Lightspeed Data Cable จาก DJI ที่โอนข้อมูลจากโดรนไปยังคอมพิวเตอร์หรือสตอเรจได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับตัวโดรน DJI Mavic 3 หนัก 895 กรัม ส่วน Mavic 3 Cine หนัก 899 กรัม เบากว่ารุ่น 2 เล็กน้อย ตัวขาและบอดี้ยาวขึ้นและบางลง มีแบตเตอรี่ 5000mAh ขนาดกะทัดรัดมากขึ้น ทำให้อากาศพลศาสตร์ของตัวโดรนดีกว่าเดิม ซึ่ง DJI เคลมว่า Mavic 3 มี drag ลดลงจากรุ่นก่อนถึง 35% บินได้นานสุดถึง 46 นาทีในสภาพแวดล้อมอุดมคติ นานกว่ารุ่นก่อนถึง 15 นาที
ข้อมูลอื่น ๆ ของตัวโดรน
DJI Mavic 3 ทั้งคู่สามารถใช้งานผ่านแอป Fly ของ DJI ได้
รีโมท Mavic 3 รุ่นธรรมดาใช้ RC-N1 Remote Controller เหมือนรุ่น Air 2S และ Mini 2 ส่วนรุ่น Mavic 3 Cine มาพร้อมสมาร์ทคอนโทรลเลอร์แบบใหม่ที่ DJI เรียกว่า RC Pro มาพร้อมหน้าจอ 5.5 นิ้ว 1000-nit
Advanced Pilot Assistance Program (APAS) เวอร์ชัน 5.0 รับอินพุตจาก vision sensor แบบฟิชอาย 6 ตัว และ wideangle sensor อีก 2 ตัวเพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวางในทุกทิศทางและใช้วางแผนหลบ
ระบบติดตามวัตถุ ActiveTrack อัพเดตเป็นเวอร์ชัน 5.0 ที่สามารถติดตามวัตถุได้แม้จะหลุดออกจากเฟรมแล้ว และจะดึงวัตถุกลับเข้าเฟรมให้เร็วที่สุด
Return To Home ปรับปรุงใหม่ที่จะวัดความเร็วลมและคำนวณเส้นทางที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุดในการกลับเข้ามาที่จุดเริ่มบิน
มีระบบรับสัญญาณจากดาวเทียมทั้ง GPS, GLONASS, BeiDou ในตัว
ระบบส่งข้อมูล O3+ ควบคุมโดรนได้ไกลสุดถึง 15 กิโลเมตร และในโหมด Sport ตัวโดรนสามารถบินได้ไกลสุดถึง 30 กิโลเมตรที่ความเร็วสูงสุด 21 เมตรต่อวินาที
DJI Mavic 3 มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 2,199 ดอลลาร์ โดยถ้าเป็นชุด Fly More Combo จะอยู่ที่ราคา 2,999 ดอลลาร์ ส่วน Mavic 3 Cine มีจำหน่ายเฉพาะชุด Premium Combo เท่านั้น โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,999 ดอลลาร์
ที่มา - dpreview
RC Pro |
# [ลือ] McAfee เตรียมขายกิจการให้บริษัทการลงทุน Advent มูลค่าดีล 10,000 ล้านดอลลาร์
มีรายงานจากหลายสำนักข่าวว่า McAfee ใกล้ปิดดีลเพื่อขายกิจการให้กับบริษัทการลงทุน Advent International and Permira หลังจากที่บริษัทเพิ่งกลับเข้าตลาดหุ้นเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหากดีลนี้เจรจาสำเร็จ McAfee ก็จะออกจากตลาดหุ้นอีกครั้ง ทั้งนี้คาดว่าดีลจะประกาศเป็นทางการในวันจันทร์
มูลค่าดีลในการซื้อกิจการนั้น รายงานว่าอยู่ที่ราว 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้เป็นดีลซื้อกิจการ cybersecurity ขนาดใหญ่อันดับ 3 รองจากดีล Proofpoint และส่วนธุรกิจ Enterprise ของ Symantec ทั้งนี้เมื่อต้นปี McAfee ได้ปิดดีลขายส่วนธุรกิจลูกค้าองค์กรให้กลุ่ม STG โดยยังมีธุรกิจลูกค้าบุคคลอยู่
McAfee ปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นคลาส A หลักคือกองทุน TPG และมีกองทุน Snowflake กับ Thoma Bravo ถืออีกรายละ 10% ส่วนหุ้นคลาส B มีอินเทลเป็นถือหุ้นส่วนใหญ่
ที่มา: CRN |
# Apple ออกอัพเดตแก้ปัญหา macOS Monterey อัพเกรดแล้วเครื่องเปิดไม่ติด ระบุสาเหตุจากชิป T2
จากปัญหาที่มีผู้ใช้งาน Mac จำนวนหนึ่ง ที่อัพเกรดเป็น macOS 12 Monterey แล้วพบว่าเครื่องใช้งานไม่ได้หรือ brick ไปเลยนั้น ล่าสุดมีคำชี้แจงจากแอปเปิลแล้ว
Rene Ritchie บล็อกเกอร์ที่เน้นรายงานข่าวแอปเปิล ได้ทวีตบอกว่าเขาได้รับรายละเอียดคำชี้แจงจากแอปเปิล ว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากบั๊กในเฟิร์มแวร์ของชิปความปลอดภัย T2 ที่ทำให้เครื่องเปิดไม่ได้ โดยปัญหานี้กระทบกับผู้ใช้ Mac ที่อัพเกรด macOS จำนวนน้อยมาก (very small number) ซึ่งแอปเปิลได้เพิ่มการแก้ไขเฟิร์มแวร์ไปในอัพเดตของ macOS แล้ว ผู้ใช้งาน Mac ที่พบปัญหา สามารถติดต่อ Apple Support เพื่อขอรับการแก้ไขได้
T2 เป็นชิปความปลอดภัยสำหรับงานเข้ารหัสในเครื่อง เช่น Touch ID ซึ่งไม่มีใช้แล้วใน Mac รุ่นซีพียู M1 ปัญหาจึงกระทบเฉพาะ Mac รุ่นเก่าช่วงปี 2017-2020 ที่มีชิป T2 ดังกล่าว
ที่มา: The Verge |
# Uber ไตรมาส 3/2021 รายได้รวมโต 72% จากปีก่อน แต่ขาดทุนมากขึ้นจากการลงทุนใน Didi
Uber รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2021 รายได้รวม 4,845 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 72% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่ขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 2,424 ล้านดอลลาร์ สาเหตุจากมูลค่าการลงทุนที่ลดลงโดนเฉพาะจาก Didi
รายได้ในแต่ละกลุ่มธุรกิจหลักต่างเติบโตสูง โดยธุรกิจรถโดยสารเพิ่มขึ้น 62% เป็น 2,205 ล้านดอลลาร์, ธุรกิจเดลิเวอรี เพิ่มขึ้น 97% เป็น 2,238 ล้านดอลลาร์ และขนส่งสินค้า เพิ่มขึ้น 40% เป็น 402 ล้านดอลลาร์
Uber ให้ข้อมูลตัวเลขรายรับสุทธิที่ยังไม่หักส่วนแบ่ง (Gross Booking) โดยพบว่าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำสถิติรวมสูงสุดของบริษัท และสูงกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด 19 ในอเมริกายังเห็นปริมาณการเรียกรถไปสนามบินเพิ่มขึ้น 20% ขณะที่ธุรกิจเดลิเวอรีมีทิศทางที่ดี ตัวเลขกำไรก่อนหักภาษี-ดอกเบี้ย-ค่าเสื่อม (EBITDA) มีกำไรเล็กน้อยแล้ว
ที่มา: Uber |
# อินเทลซื้อพนักงาน Centaur ทีมออกแบบซีพียู x86 ของ VIA
หลายคนอาจลืมชื่อบริษัทไต้หวัน VIA Technologies ในฐานะผู้สร้างซีพียู x86 อีกค่ายกันไปแล้ว แต่จริงๆ แล้ว VIA ยังอยู่ในตลาดซีพียู x86 แต่เน้นซีพียูประหยัดพลังงานสำหรับอุปกรณ์ฝังตัว เช่น ตระกูล C7, Nano, Eden (ธุรกิจอื่นๆ ของ VIA เน้นไปที่บอร์ด ชุดพัฒนาสำหรับรถยนต์ เครื่องจักร กล้องติดรถยนต์)
รากเหง้าของ VIA ในโลกซีพียู มีที่มาจากการซื้อกิจการบริษัทอเมริกันสองครั้งคือ Cyrix และ Centaur Technology ในปี 1999 เหมือนกัน ปัจจุบัน Centaur ยังเป็นแกนกลางในการพัฒนาซีพียู x86 รุ่นใหม่ๆ ของ VIA
ล่าสุดธุรกิจซีพียูของ VIA เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อ VIA ประกาศว่าจะขายธุรกิจ Centaur ให้กับอินเทลในราคา 125 ล้านดอลลาร์ โดยอินเทลจะได้พนักงานของ Centaur ไปจำนวนหนึ่ง แต่ไม่รวมทรัพย์สินอื่นๆ ของ VIA ไปด้วย (ลักษณะคล้ายๆ กูเกิลซื้อทีมออกแบบมือถือของ HTC ในปี 2017 คือซื้อแต่คน ไม่เอาทรัพย์สิน) แต่ VIA เองก็ยังไม่ได้ประกาศชัดว่าจะทำอย่างไรต่อกับธุรกิจซีพียู จะยังทำต่อหรือออกจากตลาดไปเลย
ฝั่งอินเทลยังไม่แถลงข่าวใดๆ ในเรื่องนี้ แต่ถ้าดูจากทิศทางแล้วก็น่าจะอยากได้วิศวกรไปเสริมทีมพัฒนาซีพียู เพื่อให้กลับมายิ่งใหญ่ในวงการซีพียูได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
ที่มา - AnandTech, ภาพจาก VIA |
# [ลือ] Apple Silicon รุ่นที่ 3 ใช้การผลิตที่ 3 นาโนเมตร ให้ TSMC ผลิต เปิดตัวปี 2023
มีรายงานจาก The Information ว่าแอปเปิลเตรียมแผนงานสำหรับชิป Apple Silicon ที่ใช้ใน Mac โดยมองข้ามไปถึงรุ่นที่ 3 แล้ว
ปัจจุบันแอปเปิลมีชิปที่ใช้ใน Mac ได้แก่ M1, M1 Pro และ M1 Max ทั้งหมดเป็นชิป 5 นาโนเมตร ส่วนในแผนสำหรับรุ่นที่ 2 แอปเปิลยังใช้ชิป 5 นาโนเมตร แต่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และอาจเพิ่มขนาดสำหรับเดสก์ท็อปที่สามารถใส่ชิปที่ใหญ่ขึ้นได้เช่น Mac Pro
ส่วนชิปรุ่นที่ 3 นั้น รายงานบอกว่าแอปเปิลเริ่มเตรียมแผนการผลิตกับ TSMC แล้ว จะเป็นชิป 3 นาโนเมตร สเป็กอาจมีถึง 40 คอร์ซีพียู มีโค้ดเนมภายในคือ Ibiza, Lobos และ Palma กำหนดเปิดตัวเร็วที่สุดในปี 2023
ที่มา: 9to5Mac |
# [ลือ] Meta เตรียมเปิดร้านค้าทั่วโลก เพื่อให้คนเข้าใจประสบการณ์โลก Metaverse มากขึ้น
The New York Times อ้างแหล่งข่าวและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เผยว่า Meta หรือ Facebook เดิม ได้พูดคุยถึงแผนเปิดร้านค้า เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ของแผนก Reality Labs รวมทั้งเฮดเซต VR แว่นตา AR นอกจากนี้ยังอาจขายสินค้าอื่นจาก Facebook เช่น Portal ด้วย
รูปแบบร้านค้านั้น Meta ต้องการให้ผู้คนได้เข้าถึงและเข้าใจโลก Metaverse มากขึ้น ซึ่งวิธีการหนึ่งก็คือนำอุปกรณ์เหล่านี้ไปให้ลูกค้าได้ทดลองประสบการณ์ใช้งานนั่นเอง ชื่อเดิมที่เคยพิจารณาใช้ก่อนประกาศตั้ง Meta มีทั้ง Facebook Hub, Facebook Innovations หรือ Facebook Reality Store
ในเอกสารแผนงานนั้น Meta เตรียมเปิดร้านค้าดังกล่าวทั่วโลก แต่มีโอกาสเช่นกันที่แผนงานทั้งหมดนี้อาจไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้
ที่มา: The New York Times ภาพ Oculus |
# Paypal เตรียมเปิดรับผู้ใช้ใหม่ในไทยอีกครั้ง ผู้ใช้เก่าต้องยืนยันตัวตนก่อน 18 กุมภาพันธ์ 2565
จากที่ PayPal ประกาศปิดรับสมัครผู้ใช้งานใหม่ในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 ผู้ใช้งานเก่ายังคงใช้งานบัญชีได้ตามปกติ ทาง PayPal ประกาศเตรียมตัวกลับมาเปิดบริการในประเทศใหม่อีกครั้ง พร้อมเงื่อนไขที่สอดคล้องกับกฎหมายในประเทศไทยมากขึ้น กระทบถึงผู้ใช้งานเก่าด้วย
ผู้ใช้งานเก่าที่สมัครบัญชีก่อนวันที่ 7 มีนาคม 2564 ต้องดำเนินการยืนยันตัวตน และยอมรับเงื่อนไขใหม่ของทาง PayPal ประเทศไทย และบัญชี PayPal ที่สมัครแบบธุรกิจต้องยืนยันตัวตน Know your Business (KYB) ตามมาตรฐานของ PayPal ที่กำหนด สามารถดูขั้นตอนของบัญชีธุรกิจได้ตามที่มาท้ายข่าวครับ
ทาง PayPal แจ้งสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่มีการเปิดให้บริการใหม่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทั้งผู้ใช้งานฝั่งใช้งานทั่วไป และแบบธุรกิจดังนี้
การเก็บเงินในบัญชี และถอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร
ผู้ใช้งาน PayPal แบบส่วนตัว จะไม่สามารถเก็บเงินในบัญชี PayPal และถอนเงินเข้าบัญชีธนาคารได้อีกต่อไปหลังมีการเปลี่ยนแปลง แต่ผู้ใช้งานแบบธุรกิจที่จดทะเบียนในประเทศไทยที่ผ่านมาตรการยืนยันตัวตน KYB สามารถเก็บยอดเงิน และถอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยที่ผูกไว้เท่านั้น ไม่สามารถถอนเข้าธนาคารในสหรัฐอเมริกา และธนาคารในประเทศอื่นๆได้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ตามข้อกำหนดที่ทางสรรพากรออกกฎหมาย e-Serviceไว้ จะคิดจากค่าธรรมเนียมของ PayPal ทั้งหมด ผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลใบแจ้งหนี้ภาษี และระบุจำนวนภาษีที่มีการเรียกเก็บ
บริการการชำระเงิน และการโอนเงิน
บัญชีแบบส่วนตัวและธุรกิจ ไม่สามารถโอนหรือรับเงินระหว่างประเทศได้ การชำระเงินในประเทศด้วย PayPal ต้องเป็นการชำระด้วยสกุลเงินไทยบาท THB เท่านั้น แต่การชำระเงินแบบพาณิชย์ยังคงชำระสกุลเงินต่างๆได้เหมือนเดิม
บัญชีธุรกิจไม่สามารถใช้บริการ Payouts ในการโอนหรือรับชำระได้อีกต่อไป
บัตรเดบิตออกโดยธนาคารในประเทศที่ผูกกับ PayPal ไม่สามารถชำระเงินในประเทศไทยได้ แต่ชำระกับบริการต่างประเทศได้ ส่วนบัตรเครดิตชำระได้ทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ผลกระทบข้างต้นจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ผู้ใช้งานทั้งส่วนตัวและธุรกิจที่ไม่ดำเนินการยืนยันตัวตนหลังวันดังกล่าว จะถูกจำกัดสิทธิ์การใช้งาน ไม่สามารถชำระหรือโอนไปบัญชี PayPal อื่นได้ หากผูกบัญชีธนาคารไว้ยอดเงินคงเหลือจะถูกโอนเข้าธนาคารอัตโนมัติและบัญชีจะถูกโอนย้ายมาเป็น PayPal ประเทศไทยทันที
ผู้ใช้งานเก่าทุกท่านที่สมัครก่อนวันที่ 7 มีนาคม 2564 จะได้รับอีเมลจากทาง PayPal เพื่อแจ้งข้อมูลดำเนินการในเร็วๆนี้ครับ
ที่มา - PayPal |
# สหรัฐฯ ตั้งค่าหัวกลุ่ม ransomware DarkSide 10 ล้านดอลลาร์ กลุ่มอื่นที่เกี่ยวข้องให้ 5 ล้านดอลลาร์
สหรัฐฯ ประกาศตั้งรางวัลนำจับให้กับผู้ให้เบาะแสไปยังบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลงกลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ DarkSide โดยรางวัลสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์ โดยตัวเลข 10 ล้านนี้เป็นเพดานสูงสุดเท่านั้น ทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้บอกเกณฑ์การให้รางวัลนำจับว่าต้องทำอย่างไรจึงได้รางวัลสูงสุดเช่นนี้ แต่ตัวรางวัลครอบคลุมเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมทั้งผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่ม DarkSide เองและกลุ่มผู้นำมัลแวร์ไปใช้เพื่อแบ่งผลประโยชน์ (affiliate)
ประกาศระบุเหตุผลที่ให้รางวัลสูงเช่นนี้ว่าเกิดจากเหตุการณ์ปิดท่อส่งน้ำมัน Colonial Pipeline ที่กระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นวงกว้างจนต้องประกาศมาตรการฉุกเฉิน
โครงการรางวัลนำจับกลุ่มอาชญากรข้ามชาติของสหรัฐฯ เปิดมาตั้งแต่ปี 1986 และนำไปสู่การจับกุมกลุ่มอาชญากรแล้ว 75 กลุ่ม รวมจ่ายรางวัลไปแล้ว 135 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 4,500 ล้านบาท ประกาศครั้งนี้ยังระบุว่าหากเป็นมัลแวร์ตัวอื่นๆ ที่ดัดแปลงไปจากมัลแวร์ของกลุ่ม DarkSide ก็มีรางวัลให้สูงสุด 5 ล้านดอลลาร์ด้วย
ที่มา - US Department of State |
# ไมโครซอฟท์ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ Snipping Tool, Touch Keyboard, Voice Typing เปิดไม่ได้
ไมโครซอฟท์ออกแพตช์นอกรอบอัพเดตปกติ (ที่จะออกวันอังคารที่สองของเดือน) เป็นแพตช์ # KB5008295 แก้ไขใบรับรองไบนารีของเครื่องมือหลายตัวที่ติดตั้งมากับวินโดวส์ แต่กลับไม่ได้อัพเดตใบรับรองจนใช้งานไม่ได้
สำหรับเครื่องทั่วไปจะติดปัญหาน่ารำคาญและไม่สามารถใช้งานบางอย่างได้ ได้แก่ Snipping Tool, Touch Keyboard, Voice Typing, Emoji Panel, Input Method Editor, และหน้าจอ Getting started แต่ใน S-mode จะถึงขั้นไม่สามารถเปิด Start menu และ Settings ได้เลย
ที่มา - Microsoft |
# Airbnb ไตรมาส 3/2021 รายได้ในไตรมาสทำสถิติสูงสุดใหม่ จากแนวโน้มการเดินทางที่เพิ่มขึ้น
Airbnb รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2021 รายได้ 2,237 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับสองปีที่แล้วในไตรมาส 3 ปี 2019 (ที่เทียบกับ 2019 เพราะเป็นช่วงก่อนโควิด) และเป็นสถิติรายได้ในไตรมาสสูงสุดที่เคยมีมาของบริษัท เช่นเดียวกับกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็น 834 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเช่นกัน
แพลตฟอร์มมีจำนวนคืนที่เข้าพักรวม 79.7 ล้านครั้ง ลดลง 7% เมื่อเทียบกับสองปีก่อน ส่วนมูลค่ารวมจากการจองที่พัก (Gross Booking Value) เพิ่มขึ้น 23% จากสองปีก่อนเป็น 11.9 พันล้านดอลลาร์
Airbnb บอกว่าแนวโน้มการฟื้นตัวมีความแตกต่างกันไปตามข้อกำหนดการเดินทางแต่ละพื้นที่ รวมทั้งอัตราการฉีดวัคซีน แต่บริษัทเชื่อว่าอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นสำหรับรูปแบบการเดินทางที่เปลี่ยนไป
ที่มา: Airbnb (pdf) |
# Pfizer ประกาศยากินรักษาโควิด 19 ลดความเสี่ยงและเสียชีวิตได้ถึง 89%
Pfizer ประกาศความก้าวหน้าของยากินรักษาโควิด 19 PAXLOVID ว่าช่วยลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตได้ 89% ในกลุ่มผู้ใหญ่ความเสี่ยงสูงจากการติดเชื้อ
ทั้งนี้ Pfizer บอกว่าบริษัทเตรียมส่งข้อมูลเพื่อขออนุมัติใช้งานจากคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) โดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นยากินรักษาโควิด 19 ตัวที่สองต่อจาก Molnupiravir ของ Merck
ยากินของ Pfizer ตัวนี้จะยับยั้งการขยายตัวของไวรัสในเซลล์มนุษย์ ซึ่งวิธีการดังกล่าวก็ใช้อยู่ในยารักษา HIV ผลการศึกษาของ Pfizer พบว่ามี 0.8% ของคนไข้ที่รับยาภายใน 3 วันแรก ที่ต้องเข้ารักษาต่อในโรงพยาบาลต่อ เทียบกับตัวเลข 7.0% ของคนไข้ที่รับยาหลอก
ที่มา: CNBC และ Pfizer |
# [DXOMARK] กล้อง Pixel 6 Pro ได้ 135 คะแนน อันดับ 7 ใกล้เคียง iPhone 13 Pro Max
DXOMARK ออกรีวิวกล้อง Pixel 6 Pro ซึ่งเป็นพัฒนาการครั้งใหญ่ของกล้อง Pixel ในรอบหลายปี (ในขณะที่ชาวโลกเขาก้าวกันไปไกลมากแล้ว) คะแนนรวมออกมาที่ 135 คะแนน อยู่อันดับ 7 ในกล้องหลังสมาร์ทโฟน และตามหลัง iPhone 13 Pro Max เพียงแค่ 2 คะแนน (อันดับหนึ่งตอนนี้คือ Huawei P50 Pro ที่ 144 คะแนน)
ถ้าแยกดูคะแนนในแต่ละหมวด Pixel 6 Pro ทำคะแนนภาพนิ่งได้ค่อนข้างดีที่ 143 คะแนน (แชมป์ P50 Pro ได้ 149 คะแนน, iPhone 13 Pro Max ได้ 144 คะแนน) และคะแนนวิดีโอก็ออกมาเกาะกลุ่มผู้นำที่ 115 คะแนน (แชมป์คือ iPhone ได้ 119 คะแนน, P50 Pro ได้ 116 คะแนน) มาได้คะแนนน้อยในหมวดการซูม ที่ 71 คะแนน (P50 Pro ได้ 107 คะแนน, iPhone 13 Pro Max ได้ 76 คะแนน)
ในรายละเอียด DXOMARK ชมคุณภาพของภาพและวิดีโอในสภาพแสงดี สีสันแม่นยำ คะแนน artifact และ stabilization สูงสุดในบรรดาสมาร์ทโฟนทั้งหมด ออโต้โฟกัสทำได้ดี การถ่ายภาพด้วยเลนส์เทเลทำได้ดี แม้ยังไม่เท่า P50 Pro
ส่วนข้อวิจารณ์คือ noise ในสภาพแสงน้อย, กล้อง ultrawide ไม่กว้างเท่ากับคู่แข่ง, พบปัญหาในการวัดระยะลึก และการถ่าย bokeh ที่ไม่คงที่ แถมตอนพรีวิวภาพไม่เบลอให้เห็น เห็นเบลอตอนหลังถ่ายเท่านั้น
DXOMARK บอกว่า Pixel 6 Pro ทำให้กูเกิลกลับมาอยู่ในกลุ่มผู้นำอีกครั้ง คุณภาพของภาพนิ่งและการซูมถือว่าทัดเทียมกับ iPhone 13 Pro Max แค่เด่นคนละสไตล์ แต่การถ่ายวิดีโอยังเป็นรอง iPhone 13 Pro Max อยู่
อันดับกล้อง DXOMARK ในปัจจุบัน
ที่มา - DXOMARK |
# ผลทดสอบ Intel 12th Gen Alder Lake ชนะ AMD แล้วทั้งซิงเกิล-มัลติคอร์ แต่ร้อนกว่าเดิม
วันนี้สื่อหลายเจ้าเผยแพร่รีวิว Intel Core 12th Gen Alder Lake ที่เริ่มวางขาย ผลออกมาค่อนข้างตรงกันว่า Core i9-12900K ซีพียูรุ่นท็อปสุด (8+8 คอร์, ราคาขายปลีก 650 ดอลลาร์) สามารถเอาชนะคู่แข่ง Ryzen 9 5950X (16 คอร์, ราคาขายปลีก 799 ดอลลาร์) ได้ทั้งแบบซิงเกิลคอร์และมัลติคอร์ เป็นสัญญาณว่าอินเทลกลับมาแล้ว (สักที)
สถาปัตยกรรมใหม่ การทดสอบจึงซับซ้อนขึ้น
อย่างไรก็ตาม Alder Lake ถือเป็นการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่ของอินเทลในรอบหลายปี ทำให้มีปัจจัยหลายอย่างในการทดสอบที่ซับซ้อนกว่าเดิมมาก
การผสมผสานคอร์ 2 ขนาดคือ P-core และ E-core ทำให้การวัดผลเบนช์มาร์คซับซ้อนขึ้น
คอร์ไฮบริดต้องมีตัวช่วย Intel Thread Director ที่ระดับฮาร์ดแวร์ แต่ Windows 10 และ Windows 11 รองรับไม่เท่ากัน
Alder Lake รองรับทั้งแรม DDR5-4800 และ DDR4-3200 ในขณะที่คู่แข่งยังรองรับเฉพาะ DDR4
การทดสอบบางของสำนัก เช่น AnandTech จึงต้องแบ่งซีนาริโอในการทดสอบ เช่น คอร์ใหญ่อย่างเดียว vs คอร์เล็กอย่างเดียว vs เปิดใช้ทั้งสองคอร์, วัดผล Windows 10 vs Windows 11, DDR5 vs DDR4 เป็นต้น
ผลการทดสอบเบนช์มาร์ค
ผลการทดสอบที่สำคัญมีดังนี้
การทดสอบเบนช์มาร์คแบบซิงเกลคอร์ 12900K เอาชนะ Ryzen 5950X ได้ในทุกการทดสอบ ที่ราว 6-16% และถ้าเทียบกับซีพียูอินเทลรุ่นก่อนคือ 11900K (Rocket Lake) เอาชนะได้แบบทิ้งห่าง 18-20%
การทดสอบเบนช์มาร์คแบบมัลติคอร์ 12900K เอาชนะ Ryzen 5950X ได้ในการทดสอบส่วนใหญ่ แต่มีข้อแม้ว่า 12900K ต้องใช้กับแรม DDR5 ด้วย ถ้าเป็น DDR4 เท่ากัน Ryzen ยังเหนือกว่า
การทำงานของ P-core ที่ใช้สถาปัตยกรรม Golden Cove ดีขึ้นกว่าสถาปัตยกรรม Cypress Cove (11th Gen)
การทำงานของ E-core ที่ใช้สถาปัตยกรรม Gracemont ได้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ 6th Gen Skylake แล้ว โดยใช้พลังงานต่ำกว่ามาก ถึงแม้รากเหง้ามาจากสาย Atom แต่ประสิทธิภาพไม่ได้แย่เลย
ระบบปฏิบัติการ Windows 10 vs Windows 11 ไม่ต่างกันมากนัก ในทางทฤษฎี ประสิทธิภาพสูงสุดของทั้งสองระบบปฏิบัติการเท่ากัน แต่ Windows 11 จัดการคอร์ที่รันงานได้ดีกว่าเล็กน้อย
แรม DDR5 ให้ผลลัพธ์ดีกว่า DDR4 อย่างเห็นได้ชัดในการรันเบนช์มาร์ค แต่ในการเล่นเกมแทบไม่ต่างกัน
พลังงาน = ร้อนกว่าเดิม
ในประเด็นเรื่องพลังงาน การมีคอร์ 2 แบบทำให้การวัดค่าพลังงานยากขึ้นมาก
เปิดเฉพาะคอร์เล็ก E-core อย่างเดียว 8 คอร์ ใช้พลังงาน 48 วัตต์
เปิดเฉพาะคอร์ใหญ่ P-core อย่างเดียว 8 คอร์ ใช้พลังงาน 239 วัตต์
เปิดคอร์ทุกตัว 8+8 คอร์ ใช้พลังงาน 259 วัตต์ (โหลดจริงสูงสุดที่ 272 วัตต์)
เมื่อเทียบกับ Ryzen 9 5950X (16 คอร์เท่ากัน) ใช้พลังงาน 141 วัตต์ เท่ากับอินเทลใช้พลังงานเยอะกว่ามาก (แต่ 12900K ไม่ได้เยอะกว่า 11900K รุ่นก่อนหน้ามากนัก ใช้ 241 วัตต์)
ประเด็นอื่นๆ
อินเทลบอกว่าปิดชุดคำสั่งเวกเตอร์ AVX-512 ใน P-core เพราะ E-core ไม่มี กลัวระบบปฏิบัติการสับสน แต่ AnandTech พบว่าปิดไม่จริง ยังสั่งเปิดใช้ที่ระดับ BIOS ได้
ยังไม่รองรับการทำงานบนลินุกซ์อย่างเต็มที่ จากปัจจัยเรื่อง Thread Director
บังคับต้องเปลี่ยนบอร์ดใหม่ยกชุด (แถมต้องซื้อแรม DDR5 ด้วยถ้าต้องการประสิทธิภาพสูงสุด)
ที่มา - AnandTech, Ars Technica, PC Gamer |
# Twitter เปิดให้ทุกคนเข้าฟัง Spaces ได้ แม้ไม่มีบัญชี หรือไม่ได้ล็อกอิน
Twitter อัพเดต เปิดให้ทุกคนเข้าฟัง Spaces ได้ แม้ไม่ได้ล็อกอินไว้ ส่วนผู้ใช้งานที่ไม่มีบัญชี Twitter ก็สามารถฟังได้ผ่านเว็บเช่นกัน โดยโฮสต์หรือผู้เข้าฟังสามารถแชร์ลิงค์ให้ใครก็ได้ และสามารถกดเข้าไปฟังได้ทันที
ข้อจำกัดคือจะไม่สามารถขอยกมือพูดได้ แต่ถ้าอยากเข้าห้อง Spaces เพื่อฟังอย่างเดียว ก็ถือว่าเป็นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์มาก
ที่มา - Twitter |
# Hybe ค่ายเพลงที่วง BTS สังกัด ลงทุนแพลตฟอร์มคริปโต เตรียมออกผลงาน NFT ของศิลปิน
Hybe (ชื่อเก่าคือ Big Hit) ค่ายเพลงที่วงบอยแบนด์ BTS สังกัดอยู่ ประกาศลงทุนใน Dunamu แพลตฟอร์ม cryptocurrency รายใหญ่ในเกาหลี นอกจากนี้ทั้งสองยังร่วมมือกันเพื่อจะเปิดตัว NFT หรือผลงานศิลปะบนบล็อกเชนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศิลปินในเครือ รวมถึง BTS ด้วย
ในงานแถลงการณ์ของบริษัท Hybe ยังเปิดตัวเว็บตูนใหม่สามเรื่อง ซึ่งได้แรงบันดาลใจตัวละครมาจากบอยแบนด์ในเครือสามวงคือ BTS (ชื่อเรื่อง 7Fates: Chakho), TXT (ชื่อเรื่อง The Star Seekers) และ Enhypen (ชื่อเรื่อง Dark Moon) โดยเนื้อเรื่องออกแนวแฟนตาซี โดยจะปล่อยผลงานให้อ่านในช่องทาง Webtoon และ Watpad
ภาพจาก BTS Official
ทาง Hybe ระบุด้วยว่า จะรวบแอปพลิเคชัน V Live ช่องทางสื่อสารกันระหว่างศิลปินและแฟนคลับ และ Weverse แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงจะเปิดตัวเกมใหม่เกี่ยวกับวง BTS ด้วย
มีการโต้เถียงกันบนโลกออนไลน์ด้วยว่า จริงๆ แล้วการสร้างผลงาน NFT นั้นไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากใช้พลังไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรม K-POP ก็ผลิตสินค้ามาในปริมาณมาก ส่งผลกระทบเช่นเดียวกัน
ที่มา - SCMP |
# Google Drive ทดสอบใช้ฟิลเตอร์ค้นหาไฟล์ แบบเดียวกับที่มีใน Gmail
การค้นหาไฟล์ แฟ้มเอกสารใน Google Drive อาจเป็นงานที่ใช้เวลามากกว่าที่คิด และการพิมพ์ค้นหาโดยใช้คีย์เวิร์ดอาจได้ผลลัพธ์การค้นหาที่กว้างเกินไป ล่าสุด Google Workspace กำลังทดสอบฟังก์ชั่นช่วยค้นหาแบบใหม่ ใช้ฟิลเตอร์แยกประเภทไฟล์ที่จะค้นหาได้ แบบเดียวกับที่มีใน Gmail ตอนนี้
โดยหน้าตาใหม่นี้ ผู้ใช้จะมองเห็นฟิลเตอร์หลักๆ คือ
- My Drive
- File type หรือประเภทไฟล์ ที่ซึ่งแบ่งประเภทเอกสารย่อยหลายอย่างเช่น PDF, Docs, รูปภาพ, วิดีโอ เป็นต้น
- People ค้นหาโดยใช้ชื่อผู้ที่ส่งเอกสารมา
- Last Modified เวลาที่เอกสารได้รับการแก้ไขล่าสุด
- Tasks
ฟีเจอร์ใหม่ใช้งานได้เฉพาะลูกค้า Google Workspace แบบเสียเงิน
ที่มา - Google |
# รีวิว TCL 20R 5G มือถือสุดคุ้มสำหรับสายประหยัด รองรับ 5G ซิมคู่ ราคา 6,990 บาท
ในปีนี้ราคามือถือที่รองรับ 5G ถูกลงมาก จากในปีก่อนที่มือถือ 5G ส่วนใหญ่จะมีราคาราวๆ หนึ่งหมื่นบาทหรือต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาทไม่มากนัก แต่ปีนี้มือถือรุ่นกลางราคาไม่แพงก็เริ่มรองรับ 5G กันเยอะแล้ว และเพราะดีเลย์ที่ต่ำกว่า เครือข่าย 5G จึงนำไปใช้กับกิจกรรมที่ทำบนมือถือได้หลายอย่าง ทั้งแย่งกดคูปองเว็บช็อปปิ้ง แย่งกดบัตรคอนเสิร์ต และแย่งกัน F ข้าวของเครื่องใช้ในไลฟ์ขายของ แถม 5G ก็เริ่มแพร่หลายมากขึ้นมากแล้วในบ้านเรา
วันนี้ผู้เขียนมีมือถืออีกรุ่นที่รองรับเครือข่าย 5G ในประเทศไทยมารีวิว ซึ่งถึงจะมาพร้อมกับสเปกไม่ได้หวือหวานัก อาจไม่ได้เหมาะกับคนเล่นเกมหรือต้องการมือถือไฮเอนด์ แต่น่าจะพอใช้งานสำหรับคนทำงาน หรือต้องการมือถือราคาประหยัด ที่รองรับ 5G ได้
สเปกเบื้องต้น
หน้าจอ IPS LCD 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตรารีเฟรช 90Hz
ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700
แรม 4GB
หน่วยความจำภายใน 128GB (รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB)
กล้องหลัง 3 กล้อง
กล้องหลัก 13MP f/2.2
กล้องมาโคร 2MP f/2.4
depth sensor 2MP f/2.4
กล้องหน้า 8MP
แบตเตอรี่ 4500 mAh ที่ชาร์จ 10W
สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง
รัน Android 11 ครอบด้วย TCL UI 3.0
รองรับ 5G (Dual Standby), WiFi 5Ghz, Bluetooth 5.1 มีรูหูฟัง
สเปกอาจจะไม่ได้มีอะไรหวือหวานัก ใช้ชิป MediaTek Dimensity 700 ซึ่งก็เป็นชิประดับกลาง การใช้งานทั่วไป เล่นเน็ต ถ่ายภาพ ดูคอนเทนต์ หรือใช้งานแอปต่างๆ ทำได้ปกติไม่มีหน่วง
แต่ Dimensity 700 มีข้อได้เปรียบเรื่องการรองรับ 5G สองซิมแบบ Dual Standby คือใช้สัญญาณ 5G พร้อมกันได้ทั้ง 2 ซิม และรองรับ 5G ทั้งแบบ NSA (Non-Standalone) หรือ 5G ที่ใช้ควบคู่กับ 4G ในปัจจุบัน และแบบ SA (Stand Alone) หรือ 5G แบบใช้สัญญาณบนเครือข่าย 5G ล้วนๆ ที่เริ่มมีให้ใช้งานแล้วบางค่าย แต่
ส่วนกล้องให้มาค่อนข้างแปลก คือแม้จะมี 3 กล้อง แต่ก็ไม่มีเลนส์ซูมหรือเลนส์อัลตร้าไวด์ ให้มาเป็นกล้องมาโครกับ depth sensor แทน ลำโพงมีลำโพงเดียวอยู่ด้านล่าง ปุ่มปรับเสียงและพาวเวอร์อยู่ด้านขวา สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และมีสแกนใบหน้าแบบออปติคัล กับอีกจุดที่น่าสนใจคือยังมีรูหูฟังอยู่
กล้องหลัง กับเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ
ลำโพงและพอร์ตชาร์จ USB-C
UI ของ TCL ก็เป็น UI ครอบของฝั่งแอนดรอยด์ตามที่เคยชิน ไอค่อนใหญ่สบายตา ใช้งานง่ายตามปกติ ภายในให้แรมมา 4GB ความจุ 128GB แต่ใส่ microSD card ได้ถึง 1TB ถ้าใครมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลเยอะจริงๆ
หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD สีจึงไม่สดเท่า OLED หรือ AMOLED และมุมมองอาจไม่กว้างมากนัก ถ้ามองเอียงๆ ก็จะรู้สึกว่ามืดกว่ามองตรงๆ แต่เมื่อเป็นหน้าจอมือถือ จึงไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก ยกเว้นถ้าจะดูคอนเทนต์กับเพื่อนหรือแฟนก็อาจจะลำบากหน่อย
ข้อดีของจอคือให้มาเป็น 90Hz และ touch sampling rate อยู่ที่ 180Hz หน้าจอจึงรู้สึกลื่นไหล ไวต่อการสัมผัส ทำให้ไม่รู้สึกหน่วงเวลาใช้งาน หรือตอนเลื่อนหน้าเว็บหรือแอปไปมา การดูคอนเทนต์เช่น YouTube ทำได้แบบสบายๆ แต่เสียดายที่ลำโพงตัวเดียวที่ให้มา คุณภาพเสียงไม่ดีนัก แนะนำว่าใช้หูฟังน่าจะได้รายละเอียดเสียงที่ครบถ้วนกว่า
กล้อง
กล้องหลังให้มา 3 กล้อง คุณภาพพอใช้ ใช้ถ่ายรูปทั่วๆ ไปได้ ค่อนข้างแปลกที่ไม่มีกล้องอัลตร้าไวด์หรือกล้องซูมแบบมือถือ 3 กล้องรุ่นอื่นๆ แต่ให้กล้องหลัก 13MP มากับกล้องมาโคร และ depth sensor 2MP แทน แต่ก็พอรับได้ในมือถือระดับราคานี้ เพราะน่าจะเป็นส่วนที่ต้องตัดไปเพื่อใช้ชิปที่รองรับ 5G ส่วนกล้องหน้า 8MP คุณภาพพอใช้ตามระดับราคา
ตัวอย่างภาพถ่าย
ภาพจากกล้องหลัก
ภาพจากกล้องหลัก ซูมดิจิทัล 2x
ภาพจากกล้องหลัก
ภาพจากกล้องหลัก
ภาพจากกล้องหลัก ช่วงเย็น
ภาพจากกล้องหลัก ช่วงกลางคืน
ภาพจากกล้องหน้า
สรุป
แม้ TCL 20R 5G จะไม่ได้มีสเปกที่หวือหวามากนัก แต่ก็เป็นมือถือระดับกลางที่มาพร้อมชิปที่รองรับ 5G พร้อมกันสองซิมในราคาที่จับต้องได้ เหมาะจะใช้เป็นมือถือเครื่องที่เน้นใช้งานอินเทอร์เน็ต ปล่อยฮอตสปอต หรือใช้ในการทำงานผ่านแอปต่างๆ วิดีโอคอล หรือใช้เป็นเครื่องสำรองเน้นการใช้เน็ตหรือโทรสำหรับทำงาน
ถ้ามองราคาเต็ม TCL 20R 5G น่าจะมีคู่แข่งสำคัญจาก Xiaomi เช่น Redmi Note 9T หรือรุ่นอื่นที่ราคาใกล้เคียงกัน แต่สเปกโหดกว่า แต่จุดขายของ TCL 20R 5G น่าจะเป็นโปรโมชั่นค่ายมือถือ ที่แบบผูกโปรมีส่วนลดเครื่องจนเหลือต่ำสุดในราคา 990 บาท ซึ่งน่าจะคุ้มไปอีกระดับ |
# ถอยสุดซอย Konami เลื่อนออกเกม eFootball 2022 เป็นฤดูใบไม้ผลิ 2022, คืนเงินค่าแพ็กผู้เล่น
Konami ประกาศถอยหลังสุดซอยจากปัญหาคุณภาพของเกม eFootball ที่มาแทนซีรีส์ PES
เลื่อนการออกเกม eFootball 2022 เวอร์ชัน 1.0.0 บนพีซี-คอนโซล-มือถือ จากกำหนดเดิม 11 พฤศจิกายนนี้ เป็นฤดูใบไม้ผลิ 2022
คืนเงินให้ผู้เล่นที่สั่งซื้อแพ็กนักเตะแบบพรีเมียม eFootball 2022 Premium Player Pack ทั้งหมด (เกมหลักเป็น free-to-play อยู่แล้ว)
จะออกเกมเวอร์ชัน 0.9.1 แก้บั๊กบางส่วนในวันนี้ (5 พ.ย.)
ที่มา - Konami |
# แนะนำเกม No Tyrant เกมยิงต้านเผด็จการ คืนความสุขให้ประชาชนแห่งซาลิมแลนด์
No Tyrant เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS) กราฟฟิกแบบโลว์โพลีกอน สร้างโดยทีมคนไทย ShadowDevour จากเหตุการณ์(ไม่)จริง ผู้เล่นรับบททหารรับจ้างที่ถูกจ้างมาทำภารกิจต่อต้านเผด็จการแห่งซาลิมแลนด์ นำโดยพาเยส จุนทากะ ในคาลาซิตี้
ภารกิจมีทั้งหยุดคนรุกป่าเอาไปทำฟาร์มไก่ ขโมยแมสก์จากมาเฟีย ลอบขนวัคซีนเข้าไปช่วยคน และภารกิจสไนเปอร์เก็บเหล่ามาเฟียและครอบครัวมาเฟีย ทีมพัฒนายืนยันว่าบุคคล และเหตุการณ์ในเกมนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องจริง
ตัวเกมมีทั้งสองภาษาคือไทยและอังกฤษ ขายที่ราคา 119 บาท เป็นเกมสั้นๆ ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากนัก แต่ดูแล้วน่าจะทำไว้เล่นเพื่อระบายอารมณ์ล้วนๆ ใครที่สนใจสามารถเข้าไปกดได้ที่แพลตฟอร์ม Steam
ที่มา - Steam |
# Facebook สร้าง subgroups กลุ่มย่อยในกลุ่มใหญ่ เก็บเงินค่าเข้าร่วมกลุ่มเป็นรายเดือนได้
Facebook เพิ่มฟีเจอร์เพื่อการสร้างรายได้ใน Facebook Groups เพิ่มโอกาสทำเงินของแอดมินกลุ่ม โดยมี 3 ฟีเจอร์หลักคือ community shops และ fundraisers ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่แล้วใน Facebook แต่ขยายขอบเขตไปยัง Facebook Group ด้วย ส่วนฟีเจอร์ที่ 3 ซึ่งเป็นของใหม่คือ paid subgroups
โดย paid subgroups ถือเป็นกลุ่มย่อยใน Groups อีกที โดยสมาชิกจะต้องจ่ายรายเดือนเพื่อเข้าร่วมกลุ่มต่อ เพื่อจะเข้าถึงเนื้อหาเอ็กซคลูซีฟ อย่สงเช่นการโค้ชชิ่ง สร้างเครือข่าย หรือการพูดคุยเจาะลึกในประเด็นต่างๆ โดย subgroups จะใช้มาตรฐานการดูแลเนื้อหาแบบเดียวกับ Facebook Groups เพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด
ฟีเจอร์ paid subgroups แสดงให้เห็นถึงทิศทางใหม่ของ Facebook ที่จะทุ่มเทและลงทุนในครีเอเตอร์มากขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) ประกาศเปิดให้ครีเอเตอร์เก็บเงินผ่านระบบ Subscriptions ได้
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อการบริการกลุ่ม เช่น ความสามารถในการปักหมุดเนื้อหาในรูปแบบการ์ดไว้ด้านบน เป็นเซกชันใหม่ที่มีชื่อว่า Featured และ Community Chats สร้างห้องแชทสำหรับแอดมินและผู้ดูแลเนื้อหาในกลุ่มเพื่อพูดคุยแนวทางและปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มร่วมกัน
ที่มา - Engadget, Facebook |
# HashiCorp บริษัทเจ้าของ Terraform และ Vagrant ยื่นเอกสารเตรียมขายหุ้น IPO
HashiCorp บริษัทซอฟต์แวร์จัดการระบบคลาวด์ เจ้าของซอฟต์แวร์ชื่อดังอย่าง Terraform, Vagrant, Consul, Nomad ยื่นเอกสารเตรียมขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ใช้ตัวย่อว่า "HCP"
HashiCorp ก่อตั้งโดย Mitchell Hashimoto ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกันและเพื่อนอีกคนคือ Armon Dadgar ในปี 2012 โดยเริ่มต้นจาก Vagrant ซอฟต์แวร์จัดการระบบ virtualization ที่ Hashimoto สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2010 โดยมีแนวคิดการใช้คอนฟิกแบบ declarative configuration file เพื่อให้จัดการระบบง่ายขึ้น
ภายหลัง HashiCorp นำแนวคิดเรื่อง automation มาใช้กับซอฟต์แวร์ตัวอื่นๆ ของบริษัทอย่าง Terraform (infrastructure as code), Consul (service mesh), Vault (security management), Nomad (scheduling/deployment) และอื่นๆ อีกหลายตัว
ปัจจุบันบริษัทมีรายได้ 211 ล้านดอลลาร์ต่อปี (นับถึงสิ้น ม.ค. 2021) เติบโต 75% จากปีก่อน มีพนักงาน 1,650 คน
ที่มา - HashiCorp |
# นักการเมืองสหรัฐแข่งกันรับเงินเดือนเป็น Bitcoin นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก vs ไมอามี
Eric Adams ว่าที่นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กคนใหม่ (เพิ่งชนะเลือกตั้งแต่ยังไม่เข้ารับตำแหน่ง) ประกาศว่าจะรับเงินเดือน 3 เดือนแรกเป็น Bitcoin เพื่อกระตุ้นให้นครนิวยอร์กเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเงินคริปโต
นอกจาก Eric Adams แล้ว ยังมีนักการเมืองอีกคนในสหรัฐคือ Francis Suarez นายกเทศมนตรีของเมืองไมอามี ที่ประกาศรับเงินเดือนงวดหน้าเป็น Bitcoin ทั้งหมดด้วยเช่นกัน และทั้งสองคนต่างก็บลัฟกันว่านโยบายเรื่องคริปโตของใครเจ๋งกว่ากัน
ที่มา - CNBC, ภาพจาก @ericadamsfornyc |
# Square ไตรมาส 3/2021 กำไรขั้นต้นโตถึง 43% จากทั้งสองธุรกิจหลัก
Square รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2021 กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 1,133 ล้านดอลลาร์ โดยมาจาก Cash App 512 ล้านดอลลาร์ และจากระบบสำหรับร้านค้า 606 ล้านดอลลาร์ ภาพรวมของรายได้ 3,845 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 84,000 ดอลลาร์
เมื่อเดือนสิงหาคม Square ประกาศซื้อกิจการ Afterpay เพื่อเข้าสู่ธุรกิจแพลตฟอร์ม buy now, pay later ซึ่งกำลังมาแรง ซึ่งคาดว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งระบบจ่ายเงินร้านค้า และกับ Cash App ซึ่งมีทั้งฝั่งของผู้ขายและผู้ซื้อ
รายได้จากบิตคอยน์ของ Square ในไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 1,816 ล้านดอลลาร์
ที่มา: Square (pdf) |
# Pinterest รายงานผลประกอบการไตรมาส รายได้โต 43% แม้ระบุว่านโยบาย iOS มีผลกระทบ
Pinterest รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 632.9 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 94.0 ล้านดอลลาร์ ดีกว่าปีก่อนที่ตัวเลขนี้ขาดทุน
จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนทั่วโลก (MAUs - Monthly Active Users) เพิ่มขึ้น 1% เป็น 444 ล้านบัญชี แบ่งเป็นในอเมริกา 89 ล้านบัญชี และต่างประเทศ 356 ล้านบัญชี
Pinterest ประเมินว่าไตรมาสที่ 4 ปีนี้ รายได้รวมจะยังเติบโตในระดับเกือบ 20% โดยให้เหตุผลว่าสถานการณ์โควิด ทำให้ประเมินการซื้อโฆษณาได้ยาก ส่วนผลกระทบจากนโยบายความเป็นส่วนตัวของ iOS นั้น บริษัทบอกว่ากระทบการแทร็กพฤติกรรมผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม แต่ไม่ได้บอกว่ากระทบต่อรายได้มากแค่ไหน
สุดท้ายประเด็นที่มีข่าวลือว่า PayPal ต้องการซื้อกิจการนั้น บริษัทไม่ได้พูดถึงแต่อย่างใด ส่วน PayPal ปฏิเสธไปแล้วก่อนหน้านี้
ที่มา: Pinterest (pdf) และ CNBC |
# Qualcomm ไตรมาสล่าสุด ธุรกิจชิปรายได้เพิ่มขึ้นถึง 56%
Qualcomm รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 4 ตามมีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 26 กันยายน 2021 รายได้รวมตามบัญชีแบบ GAAP 9,336 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,960 ล้านดอลลาร์
Cristiano Amon ประธานและซีอีโอ Qualcomm กล่าวว่าบริษัทยังอยู่ในกลุ่มผู้นำของตลาดชิปบนมือถือ และมีบทบาทในการเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลของหลายอุตสาหกรรม ผลลัพธ์ที่ออกมาสะท้อนแผนงานด้านเทคโนโลยีของบริษัท และการกระจายธุรกิจไปสู่หมวดต่าง ๆ
กลุ่มธุรกิจ QCT (Qualcomm CDA Technologies) ซึ่งเป็นธุรกิจชิป มีรายได้ส่วนนี้ 7,733 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 56% โดยรายได้หลักที่มาจากมือถือเพิ่มขึ้น 56% เป็น 4,686 ล้านดอลลาร์ ส่วน IoT เพิ่มขึ้น 66% เป็น 1,540 ล้านดอลลาร์ และรายได้ของกลุ่มธุรกิจไลเซนส์ (QTL) 1,558 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3%
ที่มา: Qualcomm (pdf) |
# Alphabet ตั้งบริษัทใหม่ Isomorphic Labs ใช้ AI วิจัยยา ใช้อัลกอริทึมจาก DeepMind
Alphabet ประกาศตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Isomorphic Labs มีเป้าหมายเพื่อปฏิวัติวงการยาด้วย AI โดยใช้ AlphaFold 2 อัลกอริทึมทำนายการพับตัวของโปรตีนจากบริษัท DeepMind
Demis Hassabis ซีอีโอของ DeepMind จะมานั่งเก้าอี้ควบเป็นซีอีโอของ Isomorphic Labs ด้วย เขาบอกว่าที่ผ่านมา DeepMind มีผลงานวิจัยด้าน AI มากมาย ตอนนี้ได้เวลานำมาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ แล้ว ซึ่งเขามองว่าวงการชีววิทยาและการแพทย์เป็นเป้าหมายแรก
ชื่อ Isomorphic Labs หมายถึงการเชื่อมต่อกันระหว่าง biology และ information science เป็นความพยายามใช้คณิตศาสตร์มาแก้ปัญหาชีววิทยาที่ซับซ้อน โดย AlphaFold2 เป็นแค่ตัวอย่างแรก แต่จะมีอย่างอื่นๆ ตามมาอีก
ที่มา - Isomorphic Labs |
# Google Play เกาหลีใต้ เตรียมเปิดให้จ่ายเงินผ่านระบบของบริษัทอื่น ตามกฎหมายเกาหลีใต้
จากกรณีเกาหลีใต้ออกกฎหมายให้ร้านขายแอพต้องมีช่องทางจ่ายเงินแบบอื่น ฝั่งของกูเกิลเคยออกมาประกาศว่าจะปฏิบัติตาม
วันนี้ Google Play Store โชว์วิธีการจ่ายเงินแบบอื่น (in-app billing) แล้ว โดยผู้ใช้จะเห็นตัวเลือกตอนกดจ่ายเงิน (ดังภาพ) ซึ่งกูเกิลจะหารือร่วมกับพาร์ทเนอร์รายอื่น เพื่อแชร์วิธีการเชื่อมระบบกันต่อไป
กูเกิลบอกว่าปัจจุบัน Google Play สามารถจ่ายเงินได้หลายแบบ เช่น ซื้อเป็นบัตรของขวัญ หรือจ่ายด้วยแต้ม Play Point ซึ่งลูกค้าที่เลือกจ่ายเงินด้วยระบบของบริษัทอื่น "อาจ" ไม่มีตัวเลือกเท่าจ่ายผ่านระบบของกูเกิลเอง
ที่มา - Google Korea |
# บัญชี npm ของไลบรารี coa ถูกแฮก ทำแอป React/Vue build ไม่ผ่านทั่วโลก คนร้ายวางมัลแวร์ขโมยรหัสผ่านในเครื่องเหยื่อ
ไลบรารี coa หรือ Command-Option-Argument เป็นไลบรารีสำหรับอ่านคำสั่ง command line ยอดนิยมบน npm ถูกแฮกและคนร้ายสามารถปล่อยเวอร์ชั่นมุ่งร้าย 2.0.3, 2.0.4, 2.1.1, 2.1.3, และ 3.1.3 ให้เหยื่อดาวน์โหลดผ่าน npm ได้สั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมง
อัตราการใช้งาน coa สูงมาก มียอดดาวน์โหลดเกือบ 9 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ ช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็อาจจะถูกดาวน์โหลดไปแล้วนับแสนครั้ง
คนร้ายวางสคริปต์ preinstall ไว้ใน package.json แต่ในเวอร์ชั่น 2.0.3 คนร้ายกลับไม่ได้ใส่สคริปต์ที่อ้างถึงไว้ในแพ็กเกจทำให้กระบวนการ build ล้มเหลวจนกระทบนักพัฒนาจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการ React และ Vue ทั้งหมด ในเวอร์ชั่น 2.0.4 คนร้ายใส่สคริปต์วางมัลแวร์รูปแบบเดียวกับที่แพ็กเกจ ua-parser-js ถูกโจมตีเมื่อเดือนที่ผ่านมา หากเหยื่อรันเวอร์ชั่นนี้ก็จะติดมัลแวร์แล้ว
กรณีที่แย่ที่สุดสำหรับนักพัฒนาที่รันสคริปต์ไปแล้วคือมัลแวร์ติดตั้งสำเร็จ และดูดกุญแจและรหัสผ่านต่างๆ ออกจากเครื่องไปแล้ว หากใครถูกโจมตีจึงควรพิจารณาสร้างกุญแจต่างๆ เสียใหม่
ที่มา - Bleeping Computer |
# พันธมิตรที่น่ากลัว Riot Games เตรียมนำ League of Legends, Valorant และเกมอื่นๆ ลง Epic Games Store
Riot Games นำเกมพีซีที่เคยอยู่แค่บน Riot Launcher มาลงให้ดาวน์โหลดและเล่นผ่าน Epic Games Store ได้แล้ว ทั้ง League of Legends, Valorant, Teamfight Tactics, Legends of Runeterra หลังเริ่มร่วมงานกับทั้ง Epic Games โดยการนำสกิน Jinx ไปปรากฎในเกม Fortnite
นอกจากนี้ Netflix ยังเตรียมฉายซีรีส์ Arcane ซีรีส์จากจักรวาลเกม League of Legends วันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ หลังซีรีส์จากจักรวาล DOTA เกมคู่แข่งอย่าง Dragon’s Blood ลงฉายไปก่อนหน้านี้
งานนี้ Valve อาจจะร้อนๆ หนาวๆ เมื่อ Riot Games ที่มีเกม League of Legends คู่แข่งสำคัญของเกม DOTA 2 และ Epic Games Store ที่เป็นคู่แข่งสำคัญของ Steam เริ่มหันมาจับมือกัน คงต้องติดตามว่า Valve จะรับมืออย่างไรต่อไป
ที่มา - PC Gamer |
# ซีอีโอ EA มองเกม NFT ว่าเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมเกม
EA รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2021 รายได้รวม 1,826 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 1,151 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 294 ล้านดอลลาร์
เกมเด่นของ EA ในไตรมาสที่ผ่านมาได้แก่ Apex Legends ซึ่งยังมีจำนวนผู้เล่นรวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง, The Battlefield 2042 มีผู้เล่น 7.7 ล้านคน โดยเกมอยู่ในสถานะโอเพ่นเบต้า และ Star Wars: Galaxy of Heroes มีผู้เล่นรวมแล้วมากกว่า 100 ล้านคน
มีประเด็นน่าสนใจจากช่วงแถลงผลประกอบการ โดยซีอีโอ Andrew Wilson ตอบคำถามเกี่ยวกับ NFT โดยเขามองว่าเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมเกม แต่ในตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่ากระบวนการต่าง ๆ จะออกมาเป็นอย่างไร
ที่มา: EA และ PC Gamer |
# Windows 11 Insider เพิ่มไอคอนไมโครโฟนที่ Taskbar เปิด-ปิดไมค์จากตรงนี้ได้
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 22494 มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ เพิ่มไอคอนไมโครโฟนที่มุมขวาล่างของ Taskbar โดยจะแสดงขึ้นมาเมื่อใช้งานโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลล์ ผู้ใช้สามารถสั่ง mute/unmute ไมโครโฟนได้จากไอคอนนี้โดยตรง ไม่ต้องควานหาปุ่มในแอพแต่ละตัวที่ต่างกัน
ในเบื้องต้น แอพตัวแรกที่ใช้งานไอคอนไมโคโฟนนี้ได้คือ Microsoft Teams สำหรับธุรกิจ-การศึกษา แล้วจะตามมาด้วย Teams for Home สำหรับผู้ใช้ตามบ้าน
ไมโครซอฟท์บอกว่าจะเปิด API นี้ให้กับแอพตัวอื่นๆ (เช่น Zoom) ด้วย ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้งานกับผู้ใช้ Windows 11 รุ่นเสถียรในอนาคต แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลา
ที่มา - Microsoft |
# Nintendo Switch ขายได้แล้วรวม 92.87 ล้านเครื่อง เหลืออีก 8.8 ล้านเครื่อง จะแซง Wii
นินเทนโดรายงานผลประกอบการ 6 เดือน ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน 2021 ยอดขายรวมลดลง 18.9% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วเป็น 6.24 แสนล้านเยน กำไรสุทธิ 1.72 แสนล้านเยน ซึ่งปัจจัยหลักมาจากปีที่แล้วมีเกม Animal Crossing: New Horizons ที่ประสบความสำเร็จสูงมาก
Nintendo Switch ขายไปในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา 8.28 ล้านเครื่อง แบ่งเป็น Switch 6.45 ล้านเครื่อง และ Switch Lite 1.82 ล้านเครื่อง ยอดขายสะสมตั้งแต่เริ่มวางขายเป็น 92.87 ล้านเครื่อง ทำให้เหลืออีกไม่ถึง 10 ล้านเครื่อง ยอดขายรวมจะแซง Wii ซึ่งเป็นคอนโซลที่ขายได้จำนวนมากที่สุดของนินเทนโด (101.63 ล้านเครื่อง)
เกมเด่นของนินเทนโดในช่วงที่ผ่านมาได้แก่ The Legend of Zelda: Skyward Sword HD ขายได้แล้ว 3.60 ล้านชุด ส่วน New Pokémon Snap ขายได้ 2.19 ล้านชุด
ที่มา: นินเทนโด (pdf) และ Nintendo Life |
# ห้ามขยับ ผู้ซื้อ Starlink พบขยับตำแหน่งบ้านแม้แต่นิดเดียวจะถูกส่งไปต่อคิวใหม่ รอนานนับปี
Starlink เปิดบริการในแถบทวีปอเมริกาเหนือมากขึ้นเรื่อยๆ และมีผู้ใช้กำลังรอคิวได้รับจานจำนวนมาก เมื่อเดือนพฤษภาคมมีผู้จ่ายเงินรอคิวแล้วถึงห้าแสนคน แต่ล่าสุดผู้ลงเงินจองก็พบว่าหากใครขยับหมุดตำแหน่งบ้านแม้แต่นิดเดียวก็จะถูกจับไปรอคิวท้ายแถว ทำให้วันที่ส่งมอบจากภายในปีนี้กลายเป็นกลางปีหน้าหรืออาจจะถึงปี 2023 เลยทีเดียว
ผู้ใช้แต่ละคนขยับหมุดระยะต่างกัน บางคนขยับไปหลายร้อยเมตรเพราะเดิมปักไว้ต้นถนน ขณะที่บางคนขยับไปเพียงไม่กี่เมตรแต่ผลก็ไม่ต่างกันนัก ทุกคนถูกเลื่อนเวลาจัดส่งจานออกไปหลายเดือนเป็นอย่างน้อย
ผู้ที่ได้รับจาน Starlink แล้วระบุว่าหมุดในแผนที่นั้นไม่จำเป็นต้องตรงกับที่อยู่จริงเป๊ะๆ หลายคนปักหมุดห่างจากตำแหน่งจริงหลายกิโลเมตรก็ไม่มีปัญหาอะไร และที่อยู่จัดส่งจานก็ยังสามารถแก้ไขได้ แต่อย่าขยับหมุดก็เพียงพอ
ที่มา - ArsTechnica |
# Huawei เปิดตัว NestOS ดิสโทรลินุกซ์ขนาดเล็กสำหรับคอนเทนเนอร์
Huawei เปิดตัว NestOS ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ขนาดเล็กสำหรับรันบนคลาวด์ โดยอิงอยู่บน OpenEuler/EulerOS ดิสโทรลินุกซ์ของ Huawei (ซึ่งอิงมาจาก CentOS อีกที)
Huawei เรียก NestOS ว่าเป็นระบบปฏิบัติการขนาดเล็ก (minimal) ที่อัพเดตตัวเองอัตโนมัติ เน้นใช้งานบนคอนเทนเนอร์ ลักษณะคล้ายๆ Fedora CoreOS, SUSE Micro, AWS Bottlerocket, VMware Photon OS เป็นต้น
NestOS เป็นโครงการแบบเปิดซอร์สบน Gitee รองรับแพลตฟอร์มคอนเทนเนอร์หลากหลาย ทั้ง Docker, Podman และ iSulad ที่เป็นเดมอนรันคอนเทนเนอร์ของ Huawei เอง
ที่มา - Huawei Central |
# Windows 11 มีบั๊ก Snipping Tools เปิดไม่ขึ้น ไมโครซอฟท์ให้ Print Screen แทนไปก่อน
ไมโครซอฟท์ยืนยันบั๊กของ Windows 11 ที่ผู้ใช้บางคนอาจพบว่าแอพบางตัวเปิดไม่ขึ้น เช่น Snipping Tools, Touch Keyboard, Tips ด้วยเหตุผลว่าใบรับรองดิจิทัลของไมโครซอฟท์หมดอายุเมื่อ 31 ตุลาคม 2021
ไมโครซอฟท์แนะนำให้ใช้ปุ่ม Print Screen จับภาพหน้าจอแทนไปก่อน และจะออกแพตช์แก้ตามมาในภายหลัง ส่วนในฟอรั่มของไมโครซอฟท์ ผู้ใช้บางคนแนะนำให้เปลี่ยนเวลาของเครื่องเป็นวันที่ก่อน 31 ตุลาคมไปก่อน
ที่มา - Microsoft, MSPoweruser |
# Kyndryl ธุรกิจบริการไอทีของ IBM แยกตัวเป็นบริษัทอิสระแล้ว เข้าตลาดหลักทรัพย์วันแรก
วันนี้ (4 พฤศจิกายน ตามเวลาสหรัฐ) IBM ประกาศแยกธุรกิจบริการไอทีออกเป็นบริษัทใหม่ชื่อ Kyndryl (อ่านว่า คินดริล) ตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้
Kyndryl คือธุรกิจรับดูแลเครื่องและระบบ (managed infrastructure services) เดิมของ IBM โดยจะเข้าขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) วันนี้เป็นวันแรก (ใช้ชื่อย่อว่า KD) โครงสร้างผู้ถือหุ้นคือ IBM ยังถือหุ้น 19.9% ในบริษัทใหม่ และผู้ถือหุ้นเดิมของ IBM จะได้รับหุ้นของ Kyndryl ในอัตรา 5 หุ้น IBM ต่อหนึ่งหุ้น Kyndryl
เหตุผลที่ IBM ต้องแยกบริษัท Kyndryl ออกมา เป็นเพราะธุรกิจบริการไอทีมีอัตรากำไรต่ำ มีอัตราเติบโตช้า การแยกออกมาทำให้ IBM ตัวเบาขึ้น และในฝั่งของ Kyndryl เองก็มีข้อดีคือมีอิสระเพิ่มขึ้น สามารถรับงานบริษัทอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ของ IBM อย่างเดียวอีกต่อไป (บทวิเคราะห์ละเอียด)
ชื่อ Kyndryl มาจากการผสมคำว่า "kinship" (ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน) กับ "tendril" (กิ่งก้านของไม้เลื้อย) มีความหมายว่าเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ ใช้โลโก้เป็นสีส้มอมแดง บริษัทมีพนักงานที่โอนมาจาก IBM มากถึง 88,000 คนใน 63 ประเทศ และมีลูกค้าองค์กรมากกว่า 4,000 ราย
ที่มา - IBM |
# ข้อมูลส่วนตัวประชาชนกว่า 1 แสนราย จากฐานข้อมูลคนไข้ในโรงพยาบาลไทย ถูกแจกฟรีบนเว็บบอร์ดแฮกเกอร์
หลังมีข้อมูลหลุดจากโรงพยาบาลในจังหวัดเพชรบูรณ์ ถูกวางขายบนเว็บบอร์ด Raidforums ก่อนหน้านี้ ปัจจุบันยังมีข้อมูลอีกชุดที่คนร้ายอ้างว่ามาจากฐานข้อมูลโรงพยาบาลในประเทศไทยแจกฟรีอยู่ในเว็บบอร์ดเดียวกัน เป็นรายชื่อประชาชนกว่า 1 แสนคน ลงวันที่โพสต์ตั้งแต่ 7 ตุลาคม 2021 หลังข้อมูลโรงพยาบาลเพชบูรณ์หลุดประมาณ 1 เดือน
ผู้เขียนทดลองดาวน์โหลดข้อมูลไฟล์ .txt ขนาดราว 27MB พบว่ามีชื่อภาษาไทย เลขบัตรประชาชน และวันเดือนปีเกิดของประชาชนจริง ตัวฐานข้อมูลระบุหมายเลขรหัสโรงพยาบาลในไทยจำนวน 11 โรงพยาบาล แสดงให้เห็นว่าอาจจะเป็นระบบกลางหรือระบบเชื่อมต่อข้อมูลข้ามโรงพยาบาลมากกว่าเป็นฐานข้อมูลของโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง และปัจจุบันยังไม่มีการชี้แจงหรือแถลงจากหน่วยงานใด
ที่มา - Raidforums |
# สนง. เขตในโตเกียวเตรียมเลิกใช้งาน Floppy Disk ระบุที่ไม่เปลี่ยนเพราะไม่พัง ข้อมูลไม่หาย
สำนักงานเขตในกรุงโตเกียว เตรียมจะยกเลิกใช้งานแผ่น Floppy Disk ที่ใช้เก็บและเคลื่อนย้ายข้อมูลบางส่วนของภาครัฐมานาน หลังจากถูกบีบเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
เขตเมกุโระและชิโยดะ เป็น 2 เขตล่าสุดในกรุงโตเกียวที่ประกาศว่าเตรียมเลิกใช้ Floppy Disk เร็วๆ นี้ หลังเขตมินาโตะยกเลิกไปก่อนเมื่อปี 2019 โดยที่ผ่านมาหลายเขตเลือกจะใช้ Floppy Disk อยู่ ส่วนหนึ่งเพราะมันแทบไม่พังและข้อมูลไม่หาย แถมใช้ซ้ำได้ เลยไม่มีเหตุผลจะเสียเวลาและเงินเพื่ออัพเกรดระบบ โดยเขตเมกุโระใช้ Floppy Disk ในการเก็บข้อมูลการจ่ายเงินของข้าราชการในเขต และนำไปส่งให้ธนาคาร เพื่อทำเรื่องธุรกรรม
สาเหตุที่ต้องยกเลิกก็เพราะค่าใช้จ่ายในการใช้งาน Floppy Disk โดยธนาคาร Mizuho แจ้งทางเขตว่าจะขึ้นค่าธรรมเนียมในการใช้งาน Floppy Disk อยู่ที่ราวเดือนละ 15,000 บาท โดยระบุเหตุผลเรื่องต้นทุนการรักษาอุปกรณ์อ่านแผ่น ไม่รวมความยุ่งยากและความเสี่ยงที่ข้อมูลจะหายได้มากกว่า เมื่อเทียบกับการทำธุรกรรมออนไลน์
การเปลี่ยนระบบจากอนาล็อกเป็นดิจิทัลน่าจะต้องใช้เวลา โดยเขตชิโยดะคาดว่าการเปลี่ยนระบบจะเสร็จสิ้นในปีงบประมาณ 2026
ที่มา - Nikkei
ภาพจาก Shutterstock |
# หัวเว่ยเขย่าตลาดสมาร์ทโฟนเปิดตัว HUAWEI nova 9 พร้อมแก้เกมธุรกิจ ดาวน์โหลดแอปที่ต้องการได้แล้ว
หลังจากเดินหน้านำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และดีไวซ์คุณภาพมากมายจากหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) กลับมาสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้กับตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเต็มรูปแบบอีกครั้ง กับการเผยโฉม HUAWEI nova 9 สมาร์ทโฟนตัวล่าสุดซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีระดับเรือธงและคุณสมบัติอันโดดเด่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลได้อย่างเหนือชั้น จึงเป็นที่น่าจับตามองว่า HUAWEI nova 9 จะมาสร้างความคึกคักให้กับตลาดสมาร์ทโฟนในช่วงปลายปีนี้ และพร้อมเดินเกมปลดล็อคข้อจำกัดของการใช้งานแอปต่างๆ ด้วยการดาวน์โหลดแอปที่หลากหลายและใช้งานได้จริงผ่าน HUAWEI AppGallery และในโอกาสนี้เราจะมาเจาะลึกรายละเอียดความน่าสนใจของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไปพร้อมๆ กัน
เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เข้าใจอินไซท์และเทรนด์การทำงานแบบไฮบริด
กลับมาคราวนี้เรียกว่าไม่ธรรมดา เพราะหัวเว่ยพร้อมจัดเต็มกับกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำความเข้าใจเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายในยุคปัจจุบันที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในโลกออนไลน์ รักการถ่ายภาพ ชอบบันทึกวิดีโอ ใช้งานโซเชียลมีเดียตลอดเวลา พร้อมเสพความบันเทิงทั้งดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมผ่านสมาร์ทโฟนเป็นหลัก หัวเว่ยจึงได้ทำงานร่วมกับศิลปินและคนดังมากมายไม่ว่าจะเป็นการคว้าตัวนักแสดงสาว เก้า สุภัสสรา มาเป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวการใช้ HUAWEI nova 9 ร่วมแชร์ชัดทุกคอนเทนต์ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอระดับโปร พร้อมยกขบวนศิลปินชื่อดังมากความสามารถจากค่าย What The Duck มาร่วมแคมเปญภายใต้คอนเซปต์ “ขายของต้องมาท่าเท่ต้องมี” ที่ออกมาโพสต์รูปท่ายากสุดสร้างสรรค์ในแบบฉบับของตัวเองลงโซเชียลมีเดียให้แฟนๆ ได้ร่วมชาเลนจ์สุดมันต้อนรับการเปิดตัว HUAWEI nova 9 ในแบบไม่ธรรมดา ยิ่งเมื่อรวมกับจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ทั้งกล้องถ่ายภาพอันทรงพลัง หน้าจอที่แสดงผลได้อย่างลื่นไหลไร้ความหน่วง และเทคโนโลยีชาร์จไวที่ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างไม่มีสะดุด ยิ่งช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสานต่อกลยุทธ์ธุรกิจ “1+8+N” ที่จะสร้างวิถีชีวิตอัจฉริยะด้วยแนวคิด “ชีวิตเอไอ ไร้รอยต่อ” (Seamless AI Life) ให้กับทุกๆ คน
ทั้งนี้ ภายใต้กลยุทธ์ “1+8+N” ของหัวเว่ย เลข 1 หมายถึง สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์หลักที่จะเป็นหัวใจในการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของดีไวซ์อื่นๆ ขณะที่ 8 หมายถึงสมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ อีก 8 อย่างที่จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ส่วน N หมายถึง อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง และเครื่องหมาย "+" หมายถึง เครือข่ายการเชื่อมต่อในบริเวณกว้าง และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระยะใกล้ เช่น HUAWEI Share และ HiLink ที่จะผสานเครือข่ายอีโคซิสเต็มของหัวเว่ยให้สมบูรณ์ เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานที่ลื่นไหล เต็มประสิทธิภาพ
เปิดประสบการณ์เหนือระดับของการถ่ายภาพแบบมือโปร
ประเดิมความโดดเด่นแรกของ HUAWEI nova 9 กันที่กล้อง Ultra Vision Camera ที่ให้เลนส์มาแบบไม่มีกั๊กถึง 4 ตัว มอบความถึงใจกับความละเอียด 50MP ช่วยให้คุณบันทึกเรื่องราวด้วยภาพคุณภาพสูงถึง 4K และความคมชัดระดับมือโปร พร้อมด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูง 32MP กับฟีเจอร์สุดล้ำถูกใจสายเซลฟี่และ content creator แบบเต็มๆ อาทิ โหมดถ่ายภาพบุคคลมุมกว้าง 100 องศา (Portrait mode) โหมดถ่ายภาพบุคคลตอนกลางคืน (Night Portrait) และโหมดถ่ายวิดีโอเซลฟี่ระดับ 4K (Selfie Video) ยิ่งไปกว่านั้นยังผสานพลังของนวัตกรรมระดับเรือธงจากหัวเว่ย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย Super Sensing แบบ RYYB มีความไวแสงสูง สามารถดึงปริมาณแสงให้เพิ่มสูงขึ้นได้ 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์ RGGB มาตรฐาน เทคโนโลยี 4-in-1 Light Fusion ที่เพิ่มความคมชัดให้กับภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งความฉลาดล้ำของ AI อย่าง XD Fusion Engine ซึ่งทำให้เลนส์แต่ละตัวทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว จะถ่ายภาพกลางคืน ภาพพาโนรามา ภาพบุคคล หรือโคลสอัพ ก็เก็บภาพความทรงจำได้อย่างสวยงาม และโดดเด่นกับลูกเล่นพิเศษที่ให้ผู้ใช้งานบันทึกวีดีโอคุณภาพสูงแบบ 4K ได้อย่างต่อเนื่องเมื่อสลับระหว่างกล้องหน้าและกล้องหลัง (Back & Front Dual Recording) และรองรับโหมด Dual-View ที่สามารถถ่ายวีดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลัง
ทำงานร่วมกันได้อย่างครบวงจร ตอบโจทย์ชีวิตเอไอไร้รอยต่อในยุคการทำงานแบบไฮบริด
ต่อกันด้วยความสามารถของ HUAWEI nova 9 ในการผสานการทำงานร่วมกับสมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ ของหัวเว่ยได้อย่างราบรื่นไม่ว่าจะเป็น หูฟัง แท็บเล็ต แล็ปท็อป สมาร์ทวอทช์ สมาร์ทวิชัน และแว่นตาของหัวเว่ย เป็นต้น ด้วยระบบปฏิบัติการ EMUI 12.0 ซึ่งครบครันด้วยฟีเจอร์ล้ำๆ มากมายที่หัวเว่ยคัดสรรมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิต AI ไร้รอยต่อให้กับผู้ใช้งานกับความสามารถที่ช่วยให้การจัดการไฟล์ข้ามดีไวซ์กลายเป็นเรื่องง่ายดาย อย่าง Super Device ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อและสั่งการอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ฟังก์ชัน Distributed File System ที่เปลี่ยน HUAWEI nova 9 ให้เป็นเสมือน USB ไดรฟ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลเมื่อเชื่อมต่อกับ HUAWEI MateBook ระบบการล็อคและปลดล็อคหน้าจออัจฉริยะ Smart & Secure Unlock การกดชัตเตอร์ถ่ายภาพระยะไกลด้วยฟังก์ชัน Remote Shutter ในสมาร์ทวอทช์จากหัวเว่ย หรือจะติดต่อกันแบบวิดีโอคอลผ่าน HUAWEI MeeTime อย่างลื่นไหลพร้อมภาพที่คมชัด และยังสามารถแคสหน้าจอสมาร์ทโฟนขึ้นไปแสดงบน HUAWEI Vision S ได้ผ่าน OneHop Projection เพื่อให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินกับการรับชมวิดีโอบนหน้าจอขนาดใหญ่ สบายตา พร้อมกับระบบเสียงที่ชัดขึ้น
ตื่นตาตื่นใจไปกับจอแสดงผลภาพและกราฟิกที่ลื่นไหลไร้ความหน่วง กับอัตรารีเฟรชหน้าจอ 120Hz
อีกหนึ่งคุณสมบัติของ HUAWEI nova 9 ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคืออัตราการรีเฟรชที่สูงถึง 120Hz ช่วยให้การแสดงผลบนหน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว OLED เป็นไปอย่างน่าทึ่งและลื่นไหลแบบไม่ต้องกังวลเรื่องความหน่วงของภาพ ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Touch Turbo ที่มาช่วยเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น กับประสิทธิภาพในการตอบสนองที่รวดเร็วฉับไวและแม่นยำสูงด้วยอัตรา Touch Sampling สูงถึง 300Hz ยังไม่รวมความจัดจ้านสะใจของโทนสีที่กว้างถึง 1.07 พันล้านสี มาตรฐาน DCI-P3 ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับการผลิตภาพยนตร์ดิจิทัล เรียกได้ว่าการแสดงผลภาพมีความคมชัด แม่นยำ สมจริง และสม่ำเสมอในทุกๆ รายละเอียด ผู้ใช้งานจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงหลากหลายรูปแบบได้อย่างเต็มอรรถรสทั้งการรับชมคลิปวิดีโอและการเล่นเกม
ไลฟ์สไตล์แบบไหนก็ไม่มีคำว่าสะดุด ด้วยแบตเตอรี่ความจุเยอะและเทคโนโลยีชาร์จไว
สมาร์ทโฟนเป็นเสมือนอีกหนึ่งปัจจัยที่ขาดไม่ได้แล้วสำหรับการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบัน ซึ่งผู้บริโภคที่ต้องใช้งานโทรศัพท์แบบต่อเนื่องมักประสบปัญหาแบตหมดระหว่างวันจนเกิดความหงุดหงิดรำคาญใจ แต่ปัญหานั้นจะหมดไปเพราะ HUAWEI nova 9 จัดแบตเตอรี่มาให้แบบจุกๆ ถึง 4300mAh พร้อมด้วยเทคโนโลยีชาร์จไว 66W HUAWEI SuperCharge ชาร์จเต็มภายในเวลาเพียง 38 นาทีเท่านั้น ผสานขุมพลังของเทคโนโลยีกระจายความร้อน VC Liquid Cooling และ Graphene จึงมอบอิสรภาพของการใช้งานที่ทั้งยาวนานและต่อเนื่องถึงใจไม่ว่ามีไลฟ์สไตล์แบบไหนก็ไม่มีสะดุด
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ต้องการได้แล้วง่ายๆ ที่ HUAWEI AppGallery
แน่นอนว่าการใช้สมาร์ทโฟน ต้องมาพร้อมการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการทำงาน วันนี้ HUAWEI nova 9 มาพร้อมแอปพลิเคชันที่หลากหลายให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ง่ายๆ จาก HUAWEI AppGallery อาทิ Mobile Banking ต่างๆ ที่รวมถึง KPLUS, SCB EASY, Krungthai Next ไปจนถึงแอปฯ ยอดฮิตตอนนี้ที่สายท่องเที่ยวต้องมีติดไว้ อย่าง เป๋าตัง เพื่อเข้าถึงสิทธิการท่องเที่ยวราคาประหยัดช่วงปลายปีนี้ หรือถ้าหากใครยังต้องการพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ก็สามารถส่งของหรือสั่งอาหารผ่าน LineMan, Kerry หรือ Flash Express รวมไปถึงยังสามารถพิมพ์ชื่อแอปฯ ที่ต้องการค้นหาและดาวน์โหลดได้ ผ่าน Petal Search ได้อย่างง่ายดาย
ประสิทธิภาพคุ้มค่ามาพร้อมราคาโดนใจ เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้
คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหัวเว่ยกลับสู่สังเวียนสมาร์ทโฟนคราวนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะส่งขุนพลตัวเอกอย่าง HUAWEI nova 9 ลงสนามพร้อมพุ่งเข้าชนจริงๆ โดยผู้ที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้ในราคา 16,990 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ Starry Blue และสี Black โดยสามารถสั่งซื้อสินค้าทางเว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน แฟลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Shopee, Lazada และ JD Central รวมถึงหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ
สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชันอื่นๆ ได้ทาง Facebook Huawei Mobile TH และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่นี่
#
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ได้ที่:
Website: http://consumer.huawei.com/th
Facebook: http://www.facebook.com/HuaweiMobileTH
Instagram: Huawei.TH
LINE: HuaweiMobileThailand |
# Red Hat ออก RHEL 9 Beta พัฒนาต่อจาก CentOS Stream ร่างใหม่ของ CentOS
Red Hat เปิดทดสอบ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) 9 Beta ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่รุ่นถัดไปของ RHEL
Red Hat ระบุว่า RHEL 9 ต่างไปจาก RHEL รุ่นใหญ่ในอดีต ตรงที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยลง (แม้ยังมีฟีเจอร์ใหม่บ้าง) เพื่อให้แอดมินลดภาระการเรียนรู้ของใหม่ๆ ลงจากเดิม นอกจากนี้ RHEL 9 ยังเป็นดิสโทรเวอร์ชันแรกที่ดึงแพ็กเกจมาจาก CentOS Stream ตามแนวทางใหม่ของโครงการ CentOS ที่เปลี่ยนทิศทางใหม่ เลิกทำ CentOS ซัพพอร์ตระยะยาว กลายมาเป็นดิสโทรต้นน้ำของ RHEL
เคอร์เนล 5.14, GCC 11, Python 3.9, LLVM 12, Rust 1.5.4
รองรับ kernel live patching ผ่าน web console
ปรับปรุงการทำ image building โดยรองรับทั้งการทำอิมเมจ RHEL 8/9 จาก node เดียวกัน
เปิดใช้ cgroup2 เป็นดีฟอลต์, Podman เวอร์ชันใหม่ สำหรับการทำคอนเทนเนอร์
เพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยหลายอย่าง เช่น OpenSSL 3, รองรับการทำ SSSD logging, การล็อกอินด้วยสมาร์ทการ์ดบน web console, ปิด SSH root password เป็นค่าดีฟอลต์
ที่มา - Red Hat, Red Hat |
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว SQL Server 2022 รุ่นพรีวิว เน้นเชื่อมต่อบริการอื่นของ Azure
ไมโครซอฟท์เปิดตัวฐานข้อมูล SQL Server 2022 รุ่นพรีวิว ฟีเจอร์ใหม่เน้นการใช้งานกับบริการอื่นๆ บน Azure เป็นหลัก
เชื่อมต่อกับ Azure Synapse Link เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อ โดยไม่ต้องใช้ท่า ETL (extract, transform, and load)
เชื่อมต่อกับ Azure Purview สำหรับค้นหาข้อมูลในองค์กร และทำ data governance
เชื่อมต่อกับ Azure SQL Managed Instance เพื่อทำ disaster recovery (DR) แบบไปกลับ (bidirectional)
ฟีเจอร์อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Azure คือ ปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการรันคิวรี, ฟีเจอร์ด้าน Availability แก้ปัญหาเรื่อง write conflict ทำให้งานหยุดชะงัก เพราะต้องรอแอดมินมาเลือก เปลี่ยนมาใช้กฎ last-writer wins แทน
ที่มา - Microsoft |
# Facebook ให้ครีเอเตอร์เก็บค่า Subscriptions ได้แบบไม่เสียค่าธรรมเนียม 30% เหมือน Apple
ตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปี 2020 Facebook เปิดระบบ Subscriptions ให้ครีเอเตอร์ที่ผ่านเกณฑ์ เก็บเงินจากแฟนๆ รายเดือนเพื่อสร้างรายได้สำหรับสร้างเนื้อหาต่อไปได้ (โมเดลคล้าย Patreon) ล่าสุด Facebook ประกาศความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม ครีเอเตอร์ใน 27 ประเทศ รวมไทยด้วย สามารถเปิด Subscriptions ได้ แต่ยังเป็นระบบ invite-only
ครีเอเตอร์สามารถโปรโมทระบบ Subscriptions ในหน้าโปรไฟล์ของตัวเอง และใช้ระบบชำระเงิน Facebook Pay ได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ Facebook ยังจ่ายโบนัสให้กับครีเอเตอร์ $5 - $20 ถ้ามีคนมาติดตามเพิ่ม โดยมีวงเงินกำหนดสูงสุด 10,000 เหรียญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเม็ดเงินลงทุน 1,000 ล้านเหรียญเพื่อครีเอเตอร์ที่ Facebook ประกาศมาก่อนหน้านี้
Mark Zuckerberg โพสต์ Facebook ว่า ในขณะที่บริษัทสร้าง Metaverse และเน้นการทำงานปลดล็อกโอกาสสำหรับครีเอเตอร์ เพื่อสร้างรายได้จากงานของพวกเขา แต่ค่าธรรมเนียม 30% ที่ Apple เก็บไปทำให้ทำได้ยากขึ้น ดังนั้นเราจึงอัปเดต Subscriptions เพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างรายได้ได้มากขึ้น
นโยบายไม่เก็บค่าธรรมเนียมของ Facebook จะดำเนินไปจนถึงเดือนมกราคมปี 2023 ในระบบ Subscriptions ครีเอเตอร์สามารถเข้าถึงหน้ารวมข้อมูลสถิติ ภาพรวม และตัวเลขยอดเงินแบบแบ่งให้เห็นชัดเจน (เตรียมเปิดใช้งานในอนาคต) ผ่าน Creator Studio
ที่มา - Facebook |
# ซ้อมไว้ก่อนดับจริง Azure เปิดตัว Chaos Studio ใช้ทดลองว่าหากระบบพังจะเกิดอะไรขึ้น
หนึ่งในการทดสอบระบบนอกจากการทดสอบการใช้งานแล้วยังต้องมีการทำแผนรับมือหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน (Business Continuity Plan) เช่นเซิร์ฟเวอร์ดาวน์ หรือมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นจะรับมืออย่างไร หากเป็นระบบที่คนใช้น้อยอาจไม่ได้ทำแผนรับมือตรงนี้ไว้ แต่หากเป็นระบบที่สำคัญมากๆ ย่อมขาดแผนรับมือไปไม่ได้
ล่าสุด Microsoft เปิดตัว Azure Chaos Studio ที่ใช้ "แกล้ง" ระบบโดยเฉพาะ โดยเราสามารถทดลองให้ระบบดาวน์เพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง การ fallback ไประบบสำรองทำงานได้ตามที่คาดหรือไม่ ไปจนถึงการทำ stress test หรือ load test เพื่อประเมินว่าบนโปรดักชันควรจะใช้สเปกเท่าใด ซึ่งระหว่างการทดสอบก็จะเก็บข้อมูลต่างๆ ของระบบไปด้วยเพื่อนำมาศึกษาหลังทดลองเสร็จ ทำให้เรามีข้อมูลและรับมือหากเกิดเหตุการณ์จริงได้ดีขึ้น
จุดแข็งของ Chaos Studio คือเราไม่ต้องเขียนสคริปต์เอง เพียงแค่สร้างการทดลองว่าต้องการทำอะไรบ้างแล้วเริ่มได้เลย นอกจากนี้ยังมีไลบรารีที่รวบรวมเคสสำหรับทดสอบให้เรียกใช้งานได้เลย
Microsoft ระบุว่าจุดเริ่มต้นของ Chaos Studio มาจากการทำเครื่องมือทดสอบระบบเพื่อใช้งานเองภายใน เลยนำออกมาเปิดให้ลูกค้าใช้บริการด้วย โดยขณะนี้ยังอยู่ในสถานะพรีวิว ซึ่งจะไม่คิดค่าบริการไปจนถึงเดือนเมษายน 2022 หลังจากนั้นจะคิดเงินตามการใช้งานจริงเป็นนาที
ที่มา - Microsoft, InfoWorld, Azure Chaos Studio Docs |
# Microsoft Teams เพิ่มฟีเจอร์ Shared Channel ให้คนนอกองค์กรมาร่วมแชทได้
Microsoft Teams ประกาศฟีเจอร์ใหม่ Shared Channel เปิดให้คนภายนอกองค์กรเข้ามาแชทในห้องแชทเดียวกันได้ รองรับการแชร์ห้องให้ทีมได้สูงสุด 50 ทีมจากองค์กรจำนวนไม่จำกัด ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้งานช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 (คู่แข่งของ Teams คือ Slack มีฟีเจอร์แบบเดียวกันชื่อ Slack Connect ตั้งแต่กลางปี 2020)
นอกจากนี้ Microsoft Teams ยังประกาศเปิดให้ผู้ใช้ Teams แบบบัญชีส่วนตัว (personal account) เข้ามาแชทร่วมกับคนในองค์กรได้ในช่วงสิ้นปี 2021
ที่มา - Microsoft |
# เลื่อนอีกเกม Marvel’s Midnight Suns เลื่อนวันวางขายเป็นครึ่งหลังปี 2022
โรคเลื่อนยังเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวงการเกมในยุคหลังโรคระบาด ล่าสุด Take-Two ประกาศเลื่อนวางขายเกม Marvel’s Midnight Suns ที่พัฒนาโดยทีมสร้าง XCOM จากเดิมเดือนมีนาคม 2022 เป็นครึ่งหลังของปี 2022
Marvel’s Midnight Suns เป็นเกมแนวเทิร์นเบสที่ใช้ตัวละครจาก Marvel เช่น Wolverine, Blade, Iron Man, Ghost Rider, Dr. Strange มาต่อสู้กับศัตรูในโลกเวทย์มนตร์ รูปแบบเกมเพลย์เป็น tactical RPG ตามแนวทางที่ทีม XCOM ถนัด (รายละเอียดเกมเพลย์)
Firaxis บริษัทลูกของ Take-Two ผู้พัฒนาเกมนี้ ระบุว่าต้องการเวลาเพิ่มเพื่อให้เกมออกมาดีที่สุด และเวลาที่ได้เพิ่มมาจะนำไปเพิ่มเนื้อเรื่อง ภาพยนตร์ในเกม และปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น |
# จู่ๆ ก็กลับมารักกัน Instagram เปิดให้พรีวิวรูปเมื่อแชร์ลิงก์ลง Twitter หลังปิดไปนาน 9 ปี
ผู้ใช้ Twitter และ Instagram ในยุคแรกๆ คงจำกันได้ว่าการโพสต์ลิงก์ Instagram ลง Twitter มีการพรีวิวรูปภาพให้ด้วย แต่เมื่อปี 2012 Instagram ปิดกั้นฟีเจอร์นี้ ด้วยเหตุผลว่าต้องการดึงคนเข้าไปดูใน Instagram โดยตรง
เวลาผ่านมาเกือบ 10 ปี Instagram ก็เปลี่ยนใจ เปิดให้กลับมาพรีวิวรูปภาพบน Twitter อีกครั้ง โดยไม่ได้อธิบายเหตุผลว่าเพราะเหตุใด
การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะสอดคล้องกับทิศทางใหม่ของ Meta หลังเปลี่ยนชื่อบริษัท และเมื่อวานนี้เราก็เห็นข่าวใหญ่ Facebook ยกเลิกระบบ Face Recognition กันไปแล้ว |
# Nat Friedman ซีอีโอ GitHub ลาออกจากตำแหน่ง
GitHub ประกาศเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหาร โดยซีอีโอ Nat Friedman ได้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไปทำงานสนับสนุน ให้คำปรึกษา และลงทุนในสตาร์ทอัพใหม่ ๆ
Thomas Dohmke ซึ่งเดิมเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ (Chief Product Officer) จะขึ้นมาเป็นซีอีโอคนใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน เป็นต้นไป
ปัจจุบัน GitHub เป็นแผนกของไมโครซอฟท์ภายใต้กลุ่มนักพัฒนา หลังจากการเข้าซื้อกิจการเมื่อปี 2018 ซึ่ง Friedman ที่เป็นรองประธานฝ่ายบริการนักพัฒนาตอนนั้น ก็ถูกแต่งตั้งเป็นซีอีโอ ส่วน Chris Wanstrath ผู้ก่อตั้งและซีอีโอในเวลานั้น เป็น Technical Fellow ของบริษัท
ที่มา: ZDNet และ GitHub |
# Azure เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ DCdsv3 ใช้ซีพียู Xeon Scalable รุ่นที่ 3 เตรียมเข้ารหัสแรม
Azure เปิดให้บริการเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในกลุ่ม confidential computing ที่เน้นความน่าเชื่อถือว่าซอฟต์แวร์รันในบนคลาวด์โดยผู้อื่นมาอ่านข้อมูลไปไม่ได้ โดยรอบนี้ใช้ชิป Intel Xeon Scalable รุ่นที่ 3 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน ใช้ชื่อเครื่องว่า DCdsv3
เครื่อง DCdsv3 จะอาศัยฟีเจอร์ของ Xeon Scalable สองตัวคือ Intel SGX ที่เป็นการรันในส่วนที่แยกออกไปจากซีพียูปกติ และ TME-MK ฟีเจอร์เข้ารหัสแรมที่ AMD ใส่มาในซีพียู EPYC ก่อนหน้านี้
ตอนนี้ DCdsv3 เปิดให้ใช้งานแบบพรีวิวแล้วในสหรัฐฯ และยังใช้ได้เฉพาะฟีเจอร์ SGX เท่านั้น ส่วน TME-MK จะเปิดให้ในภายหลัง
ที่มา - Microsoft, Intel |
# สหรัฐฯ แบน NSO Group ระบุมัลแวร์ถูกนำไปใช้ละเมิดสิทธิ์ประชาชน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศเพิ่มรายชื่อ NSO Group และบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ รวม 4 บริษัทเข้าในรายการ Entity List (รายการเดียวกับหัวเว่ย) ส่งผลให้บริษัทสหรัฐฯ ไม่สามารถติดต่อหรือขายสินค้าให้บริษัทเหล่านี้ได้อีก
เฉพาะ NSO Group นั้นเป็นที่รู้จักกันในฐานผู้ผลิตมัลแวร์ Pegasus ที่ขายให้กับรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลก โดย Pegasus มีความสามารถในการฝังมัลแวร์ลงสู้เครื่องโดยเหยื่อไม่ต้องคลิกใดๆ จากนั้นสามารถเก็บข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์รายงานความเคลื่อนไหวของเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง มีรายงานหลายต่อหลายครั้งว่ามัลแวร์ Pegasus ถูกติดตั้งในโทรศัพท์ของนักเคลื่อนไหว, นักข่าว, และนักการเมือง
นอกจาก NSO Group แล้ว ประกาศครั้งนี้ยังแบนบริษัท Candiru ด้วยข้อหาเดียวกัน, บริษัท Positive Technologies จากรัสเซีย (ข่าวเก่า 1, 2, 3) และบริษัท Computer Security Initiative Consultancy PTE. LTD. จากสิงคโปร์ในข้อหาพัฒนาเครื่องมือแฮกระบบที่เป็นภัยต่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของบุคคลและองค์กรทั่วโลก
ที่มา - US Commerce Department |
# ไมโครซอฟท์ส่งโครงการ Dapr เข้า CNCF Incubator
โครงการ Dapr ระบบรันไทม์สำหรับสร้าง microservice เข้าเป็นโครงการของ CNCF Foundation มูลนิธิที่ทำหน้าที่ดูแลโครงการ Kubernetes และโครงการแวดล้อมอื่นๆ โดยเข้าเป็นโครงการระดับ incubating ที่แสดงว่าโครงการเริ่มมีการใช้งานหลากหลาย
แม้โครงการ Dapr จะเริ่มต้นโดยไมโครซอฟท์ แต่ในกรรมการดูแลโครงการตอนนี้ก็มีตัวแทนจาก อาลีบาบา, อินเทล, และไมโครซอฟท์ ดูแลร่วมกัน โดยไมโครซอฟท์เปิดตัวโครงการนี้เมื่อปี 2019 แม้ชื่อโครงการจะบอกว่าเป็น runtime แต่แอปพลิเคชั่นจะเชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ของ Dapr ผ่านทาง HTTP หรือ gRPC เท่านั้น โดยตัวบริการช่วยให้แอปพลิเคชั่นสามารถเรียกใช้บริการต่างๆ เช่น message queue, จัดการสถานะ, ไปจนถึงการทำ tracing
โครงการในระดับ Incubator แสดงความเป็นโครงการกลางที่ไม่ผูกติดกับผู้ผลิตรายใดรายหนึ่งแล้ว โครงการระดับเดียวกันในกลุ่ม เช่น Argo, CNI, Contour, Flux, gRPC, KEDA, Natary เป็นต้น
บริการ Azure Container Apps ของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งเปิดบริการไปเมื่อวานนี้ก็เป็นบริการที่อาศัย Dapr อย่างหนัก
ที่มา - CNCF, Dapr |
# นักพัฒนาจีนเริ่มกังวล หาก GitHub ต้องถอนตัวออกจากจีนตาม LinkedIn
จากข่าวบริษัทเทคโนโลยีชาติตะวันตกหลายราย ทยอยถอนตัวจากจีน ได้แก่ LinkedIn, Fortnite และล่าสุดคือ Yahoo ทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในจีนเริ่มกังวลกันว่า GitHub (ซึ่งปัจจุบันเป็นของไมโครซอฟท์ เหมือนกับ LinkedIn) จะต้องปิดบริการในจีนตามไปด้วย
ปัจจุบัน นักพัฒนาในจีนมีสัดส่วนประมาณ 10% ของนักพัฒนาทั้งหมด 56 ล้านคนบน GitHub และคนจีนเป็นผู้ดูแลโครงการโอเพนซอร์สสำคัญๆ หลายโครงการ แม้ในจีนเองมีแพลตฟอร์ม Gitee แบบเดียวกันเป็นคู่แข่ง แต่ก็มีแค่คนจีนใช้เท่านั้น
ความสำคัญของ GitHub ในแง่เทคโนโลยีทำให้รัฐบาลจีนไม่บล็อคหรือเซ็นเซอร์เนื้อหามากนัก จนนักพัฒนาจีนหลายคนนิยามว่าเป็น "พื้นที่เสรีแห่งสุดท้าย" ในประเทศจีน และเคยถูกใช้เป็นพื้นที่โพสต์เนื้อหาบางอย่างที่ถูกบล็อคในจีน
ตอนนี้ ท่าทีของไมโครซอฟท์ยังไม่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไรต่อกับ GitHub ในจีน และตัวแทนของไมโครซอฟท์ปฏิเสธการแสดงความเห็นในประเด็นนี้
ที่มา - Rest of World, ภาพจาก GitHub |
# แอพตัดต่อวิดีโอ Luma Fusion ประกาศทำเวอร์ชัน Android และ Chrome OS แล้ว
วันที่ 27 ตุลาคม บริษัท LumaTouch ได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ของบริษัทว่า ขณะนี้กำลังพัฒนาแอพ LumaFusion สำหรับ Android และ Chrome OS แล้วหลังจากทำเฉพาะเวอร์ชัน iOS มาอย่างยาวนาน
LumaFusion เป็นแอพตัดต่อวีดีโอระดับมืออาชีพแบบ Non-Linear Video Editing ที่ได้รับความนิยมสูงใน App Store โดย LumaFusion มีลักษณะเป็นแอพแบบเสียเงิน ที่ซื้อครั้งเดียวสามารถใช้งานฟีเจอร์ได้อย่างเต็มความสามารถ ทั้งการใส่เลเยอร์ได้สูงสุดถึง 6 ชั้น การใส่คีย์เฟรม การตัดต่อกรีนสกรีน และ Export ได้สูงสุดที่ 4K 60FPS เป็นต้น
ที่มา Twitter |
# Kakao Pay ไอพีโอเข้าตลาดหุ้นเกาหลีแล้ว ราคาหุ้นวันแรกเพิ่มขึ้นเท่าตัว
Kakao Pay บริการทางการเงินในเครือ Kakao แอปชื่อดังของเกาหลี ได้นำบริษัทไอพีโอเข้าตลาดหุ้นในประเทศ โดยราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวจากราคาไอพีโอที่ 90,000 วอนต่อหุ้น ทั้งนี้บริษัทได้เงินจากการขายหุ้นไอพีโอไปราว 1.5 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท
บริษัทในเอกสารไฟลิ่งว่ามีแผนใช้เงินประมาณ 56% ของเงินที่ได้จากไอพีโอ สำหรับการควบรวมและซื้อกิจการ ส่วนที่เหลือจะใช้ในการพัฒนาแอปซื้อขายหุ้นออนไลน์ และการหาพันธมิตรบริษัทฟินเทคในภูมิภาคต่าง ๆ รวมทั้ง จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป
Kakao Pay มีปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบมากกว่า 67 ล้านล้านวอนในปี 2020 บริษัทมีผู้ลงทุนรายสำคัญคือ Ant Financial
ที่มา: Reuters |
# [ไม่ยืนยัน] ชิป-หายแค่ไหน? Apple ต้องลดอัตราผลิต iPad เพื่อโยกชิ้นส่วนไปให้ iPhone 13
ดูท่าทางวิกฤตชิปขาดแคลนครั้งนี้จะส่งผลกระทบกับ Apple หนักกว่าที่คิด หลังก่อนหน้านี้มีข่าวไม่ยืนยันจาก Bloomberg ช่วงเดือนตุลาคม ระบุว่า Apple ต้องสั่งลดการผลิต iPhone 13 ลงถึง 10 ล้านเครื่อง
ล่าสุดแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนระบุกับ Nikkei Asia ว่า Apple ต้องลดอัตราการผลิตอุปกรณ์ตระกูล iPad ลง แล้วโยกชิ้นส่วนบางชิ้นที่ใช้ร่วมกันได้ เช่นชิปต่างๆ ไปเน้นผลิตโทรศัพท์ตระกูล iPhone 13 แทน
แหล่งข่าวระบุว่าการปรับการผลิตครั้งนี้ ทำให้อัตราการผลิต iPad สองเดือนที่ผ่านมา (กันยายน-ตุลาคม) ต่ำกว่าแผนที่ Apple คาดไว้ถึง 50% และสาเหตุการเลือกปรับการผลิตครั้งนี้ เป็นเพราะ Apple คาดการณ์ว่า iPhone 13 จะมีความต้องการซื้อสูงกว่า iPad หลังยุโรปเริ่มฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด
Luca Maestri ซีเอฟโอของ Apple ระบุในการประชุมผู้ถือหุ้นเช่นกันว่ารายได้จาก iPad ในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมน่าจะลดลงเนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วน ส่วน Tim Cook เองก็ระบุว่ารายได้ไตรมาสเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมของ iPad น้อยกว่าที่คาดถึง 6 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าอาจจะน้อยลงอีกในไตรมาสปัจจุบัน
แม้ iPad จะยังมีความต้องการซื้ออยู่เป็นจำนวนมาก และ Nikkei Asia ก็อ้างอิงข้อมูลจาก IDC ว่ายอดส่งมอบของ 9 เดือนแรกในปีนี้ สูงถึง 40.3 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นถึง 17.83% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน การลดการผลิตลง อาจทำให้ผู้ใช้ต้องรอจัดส่งเครื่องนานขึ้น
แต่ Brady Wang นักวิเคราะห์ด้านเทคจาก Counterpoint Research ก็ระบุว่าที่ Apple เลือกโฟกัส iPhone 13 นั้น เป็นเพราะ Apple ครองตลาดแท็บเล็ตอยู่แล้ว คนที่จะซื้อ iPad มักจะไม่เปลี่ยนใจไปซื้อแท็บเล็ตแอนดรอยด์ง่ายๆ แต่ผู้ที่ต้องการซื้อ iPhone 13 อาจเปลี่ยนใจไปซื้อมือถือแอนดรอยด์ได้ง่ายกว่า หากต้องรอเครื่องนาน
ที่มา - Nikkei Asia |
# Amazon ประกาศออกแพตช์ให้ Fire TV นาน 4 ปี เริ่มนับหลังหยุดขาย
Amazon ประกาศนโยบายการซัพพอร์ตของอุปกรณ์ตระกูล Fire TV ว่าจะออกแพตช์ความปลอดภัยให้นานอย่างน้อย 4 ปี หลังสินค้าหยุดขาย (after the device is last available for purchase)
ส่วนอุปกรณ์ Fire TV ที่วางขายไปก่อนหน้านี้ทั้งหมด จะการันตีอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยอย่างน้อยถึงปี 2025 ประกาศนี้ทำให้อุปกรณ์บางตัวมีระยะซัพพอร์ตยาวนานมาก เช่น Fire TV Stick Gen 2 ที่ออกในปี 2016 จะอยู่ได้นานถึงปี 2025 (ซัพพอร์ต 9 ปี)
ประกาศนี้ของ Amazon ครอบคลุม Fire TV ทุกรุ่น รวมถึงทีวีที่ผลิตโดยบริษัทอื่น (เช่น Toshiba, Pioneer) ยกเว้น Fire TV รุ่นแรกสุดที่ออกในปี 2014-2015 เท่านั้น
ที่มา - Amazon via Android Community |
# PowerPoint เพิ่มฟีเจอร์อัดวิดีโอนำเสนอ หากแก้ไฟล์สไลด์ทีหลัง ไม่ต้องพูดใหม่อีกรอบ
PowerPoint มีฟีเจอร์ Record อัดคลิปการบรรยายสไลด์ พร้อมเสียงจากไมโครโฟนและภาพจากกล้อง (ถ้ามี) มานานแล้ว
ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศยกเครื่องมันใหม่เป็น Recording Studio พร้อมเพิ่มปุ่ม Record ไว้ที่มุมขวาบน มีฟีเจอร์หลายอย่างได้แก่
Teleprompter View เหมือนกับการออกทีวี คือมีหน้าจอแสดงข้อความที่ต้องพูด (teleprompter) ให้ดูพร้อมสไลด์ แก้ปัญหาต้องมีพีซีสองเครื่อง-สองจอ หรือต้องพิมพ์คำพูดมาเตรียมไว้ข้างๆ
Presenter View แสดงสไลด์หลัก สไลด์ถัดไป และโน้ตการพูดไว้ในหน้าจอเดียว
หลังบันทึกคลิปไปแล้ว สามารถแก้ไขสิ่งต่างๆ แบบแยกส่วนได้ เช่น แก้ข้อความหรือหน้าตาสไลด์ ในคลิปจะเปลี่ยนแปลงให้อัตโนมัติโดยไม่ต้องบันทึกใหม่
สั่งอัพโหลดวิดีโอไปพร้อมกับสไลด์บน SharePoint/OneDrive ได้
Recording Studio จะเริ่มเปิดให้ใช้งานช่วงต้นปี 2022
ที่มา - Microsoft |
# [ไม่ยืนยัน] ปัญหาชิปขาดตลาดกระทบ Nintendo Switch ผลิตได้น้อยลง 20% จากเป้า
Nikkei Asia รายงานข่าวว่าปัญหาชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขาดตลาด ส่งผลให้นินเทนโดต้องลดจำนวนการผลิต Nintendo Switch ของปีนี้ลง จากเดิมตั้งเป้า 30 ล้านเครื่อง มาเหลือ 24 ล้านเครื่อง หรือน้อยลง 20%
นินเทนโดขาย Switch ได้ 28.83 ล้านเครื่องในปีการเงินที่แล้ว เดิมทีปีนี้ตั้งเป้าไว้ 25.5 ล้านเครื่อง แต่ก็ต้องปรับลดจำนวนเป้าหมายลงอีก
Shuntaro Furukawa ประธานของนินเทนโดเคยระบุว่า ความต้องการ Switch ยังสูง แต่เมื่อสินค้ามีจำกัด โดยเฉพาะ Switch OLED ก็ต้องแบ่งโควต้าให้ตัวแทนจำหน่ายด้วยวิธีการสุ่มแบบล็อตเตอรี่ไปก่อน
ที่มา - Nikkei Asia |
# นักวิจัย ม.วลัยลักษณ์ออกแบบฟอนต์ Thai Eco font ประหยัดหมึก 30% คงความชัดไว้ได้
เว็บไซต์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และเพจ Urban Creature เผยแพร่ข่าว ทีมนักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ออกแบบชุดตัวอักษรไทยประหยัดพลังงาน Thai Eco font ลดปริมาณพื้นที่ภายในตัวอักษร ประหยัดหมึกพิมพ์ร้อยละ 30 โดยยังคงความคมชัดไว้ได้ไม่แตกต่างจากเดิม พร้อมจดลิขสิทธิ์กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติแล้ว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทนงศักดิ์ อิ่มใจ อาจารย์สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ม.วลัยลักษณ์ (มวล.) เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันหน่วยงานราชการในประเทศไทยใช้ฟอนต์ TH Sarabun กันมาก ซึ่งในแต่ละปีหน่วยงานต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อหมึกพิมพ์จำนวนมาก ทางทีมวิจัยเกิดแนวคิดในการออกแบบชุดตัวอักษรไทยประหยัดพลังงาน (Thai Eco font) ลดการใช้หมึกพิมพ์ให้ได้มากที่สุด แต่ยังคงความคมชัดของตัวอักษรไว้ได้
ทีมวิจัยจึงได้ร่วมกันพัฒนาและออกแบบชุดตัวอักษรไทยประหยัดพลังงาน (TH Imjai-Ecofont) โดยได้นำฟอนต์ TH Sarabun มาพัฒนาและออกแบบพร้อมกับทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดหมึกพิมพ์ ลดขนาดพื้นที่ภายในชิ้นส่วนย่อยๆ ในแต่ละตัวอักษร และทำการวิเคราะห์เพื่อลดปริมาณ Black Pixel ลงให้ได้มากที่สุดโดยวิธีประมวลผลภาพถ่าย แต่ยังความคมชัดที่ขนาดตัวอักษรในงานเอกสารทั่วไป
ผลการทดสอบพบว่า Thai Eco font สามารถประหยัดหมึกพิมพ์ได้ร้อยละ 30 และยังคงความคมชัดโดยที่ผู้อ่านไม่สังเกตเห็นการลดลงของพื้นที่ภายใน คนทั่วไปสามารถเข้าไปดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี 1 รูปแบบ ดาวน์โหลดได้ที่นี่
ที่มา - มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์, Urban Creature |
# macOS Monterey มีบั๊กแรมรั่ว บางแอปกินแรมถึง 20-40GB เตือนอย่าเพิ่งรีบอัพเดต
เว็บไซต์ MacRumors รายงานว่ามีผู้ใช้พบบั๊กแรมรั่ว (memory leak) ใน macOS Monterey ทำให้แอปหลายแอปกินแรมมากผิดปกติ และกินแรมมากจนขึ้นแจ้งเตือน "Your system has run out of application memory." บ่อยครั้ง
ปัญหานี้ส่งผลใน MacBook หลายรุ่น รวม MacBook Pro M1 รุ่น 14 และ 16 นิ้วด้วย โดยผู้ใช้เช่น @GregoryMcFadden พบว่าแอป Control Center กินแรมเครื่องเขาไปถึง 26.5GB จาก 64GB ส่วนผู้ใช้ @Bayek_Auditore พบว่าแอป Firefox กินแรมเครื่องเขาไปถึง 38.72GB
ผู้ใช้ในฟอรั่มของ MacRumors ก็พบปัญหานี้เช่นกัน รวมถึงใน Reddit ก็มีผู้ใช้ Mac Mini M1 เจอปัญหานี้ด้วย แปลว่าอาจจะส่งผลกระทบกับหลากหลายอุปกรณ์พอสมควร
ปัญหานี้ปัจจุบันยังไม่มีวิธีแก้ และ Apple เองก็ยังไม่มีประกาศอะไรเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหานี้ออกมา ผู้ใช้ macOS ที่จำเป็นต้องใช้งานเครื่องอยู่ตลอด และไม่อยากเสี่ยงกับบั๊กนี้ อาจต้องรออัพเดต macOS Monterey เวอร์ชั่นถัดไป ที่แก้ไขปัญหานี้เรียบร้อยซะก่อน
ภาพจาก @GregoryMcFadden
ที่มา - MacRumors |
# Netflix เปิดขายตุ๊กตาจากตัวอวตารในหน้าโปรไฟล์ น้องมีชื่อว่า Chilleez!
Netflix เริ่มเข้าสู่วงการ E-Commerce มาได้สักพักแล้ว เห็นได้จากการเปิดตัวเว็บไซต์ขายของ Netflix.shop เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เปิดตัวเสื้อผ้าที่คอลแลบร่วมกับแบรนด์และศิลปินในการออกแบบโดยใช้แรงบันดาลใจจากหนังและซีรีส์ดัง เช่น Squid Game, The Witcher เป็นต้น
ล่าสุด Netflix เปิดตัวสินค้าอีกชิ้น เป็นตุ๊กตาจากตัวอวตารจากหน้า Who's Watcning น้องมีชื่อด้วยคือ Chilleez! เปิดขาย 4 สี คือ ดำ แดง เหลือง น้ำเงิน เริ่มขายวันที่ 12 พ.ย. นี้ นอกจากนี้ผู้ใช้งาน Netflix ยังสามารถเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ตัวเองเป็นตัวตุ๊กตา Chilleez! ได้ด้วย
ที่มา - Netflix |
# Square Enix ยอมถอดไอเท็มเพิ่ม XP แบบจ่ายเงินจาก Marvel’s Avengers หลังผู้เล่นต่อต้านหนัก
Square Enix ยอมถอดไอเท็ม Hero’s Catalysts ไอเท็มเพิ่ม XP ให้กับฮีโร่ และ Fragment Extractors ไอเท็มเพิ่ม Fragments ที่ได้รับหลังการเล่นภารกิจ จากการเป็นไอเท็มที่ใช้เงินจริงซื้อได้ ไปเป็นรางวัลจากการเล่นเกมแทน หลังผู้เล่นไม่พอใจและมีกระแสต่อต้านสองไอเท็มนี้ว่าเป็นไอเท็มแบบ pay-to-win
ทีมงานโพสต์ทวิตเตอร์ ขออภัยที่ไม่ตอบรับเสียงจากผู้เล่นให้เร็วกว่านี้ และอ้างว่าเพราะไอเท็มนี้ไม่ได้เพิ่มพลังให้ผู้เล่นโดยตรง จึงไม่ได้คิดว่าเป็นไอเท็ม pay-to-win แต่หลังจากฟังเสียงผู้เล่นแล้ว ทีมงานจึงพิจารณาสมควรเอาออกจากร้านค้า แต่จะนำไปใช้เป็นรางวัลจากการเล่นเกมแทน
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้แฟนเกมไม่พอใจ อาจจะเป็นเพราะ Square Enix เอง เคยเขียนบล็อกระบุว่าไอเท็มที่ซื้อได้ด้วยเงินจริงในเกม จะเป็นไอเท็มตกแต่งเท่านั้น (aesthetic-only additions) ซึ่ง Hero’s Catalysts และ Fragment Extractors ก็ไม่ใช่ไอเท็มตกแต่งอย่างที่เคยพูดไว้ และเป็นการทรยศความเชื่อใจของผู้เล่นที่นับวันจะเหลือน้อยลงทุกที
ที่มา - Game Informer |
# Firefox 94 เพิ่มฟีเจอร์ Colorway เปลี่ยนสีเบราว์เซอร์ได้ แต่อย่าเรียกมันว่าธีม
Mozilla ออก Firefox 94 มีฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นนวัตกรรมของวงการเบราว์เซอร์คิอ Colorway เปลี่ยนธีมสีของเบราว์เซอร์ได้ ตอบสนองอารมณ์ (mood) ของผู้ใช้ในแต่ละวัน
Mozilla บอกว่า Firefox มีระบบธีมอยู่แล้ว แต่เลือกใช้คำว่า Colorway เพื่อให้เป็นคำใหม่ สะท้อนถึงชีวิตประจำวันของผู้ใช้ มีความหมายมากกว่าการเปลี่ยนธีมแบบเดิม (เขาพูดแบบนี้จริงๆ นะ)
สำหรับคนที่ไม่สนใจเรื่องสีประจำวัน ของใหม่ใน Firefox 94 ได้แก่
เพิ่มหน้า about:unloads แสดงรายการแท็บที่ถูกโหลดออกเพื่อประหยัดหน่วยความจำ ต่อยอดจาก Firefox 93
การดูวิดีโอแบบเต็มหน้าจอบน macOS จะใช้ low power mode ของ OS เพื่อประหยัดแบต
ลดการเตือนให้อัพเดต Firefox เพื่อไม่ให้ผู้ใช้รำคาญ แต่จะดาวน์โหลดไฟล์และติดตั้งอัพเดตเบื้องหลังแทน
รองรับ Snap Layouts การจัดหน้าต่างแบบใหม่ของ Windows 11
ที่มา - Firefox, Mozilla |
# ไมโครซอฟท์เปิดให้ประกาศ Data Type ใน Excel เปิดทางสู่การเขียนโปรแกรมเต็มรูปแบบ
ไมโครซอฟท์เตรียมเปิดพรีวิวฟีเจอร์ Excel Data Types ใน Excel รุ่นพรีวิวทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างออปเจกต์ที่ซับซ้อนใน Excel ได้เหมือนการเขียนโปรแกรมแบบเต็มรูปแบบในภาษาอื่นๆ
ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Excel JavaScript API ที่ไมโครซอฟท์เปิดตัวมานานแล้ว แต่ใน API ใหม่จะเปิดให้ผู้ใช้ประกาศ schema ของออปเจกต์เป็น JSON เช่น รูปภาพอาจจะมีคำบรรยายภาพประกอบไปด้วย
แนวทางนี้ทำให้ Excel สามารถจัดการกับข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้นโดยไม่ต้องแยกข้อมูลเป็นเซลล์จำนวนมากแบบเดิม ฟังก์ชั่นรับอินพุตและส่งเอาท์พุตเป็นออปเจกต์ที่ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขหรือข้อความ
ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในสถานะพรีวิว และไมโครซอฟท์ระบุว่าจะเปิดให้ทดสอบภายในเดือนนี้ เอกสารของฟีเจอร์เตือนว่าตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา และไม่ควรใช้งานจริงจัง
ที่มา - Microsoft |
# Microsoft Edge for Linux เปิดตัวอย่างเป็นทางการ นำไปลงใน Chrome OS ได้ด้วย
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft Edge for Linux รุ่นเสถียรอย่างเป็นทางการ หลังจากปล่อยไฟล์ผ่าน repository ก่อนหน้านี้ โดยไมโครซอฟท์ระบุว่านี่เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Edge ทำงานได้ครบทุกแพลตฟอร์ม (มี 5 แพลตฟอร์มคือ Windows, macOS, Linux, iOS, Android)
ในแง่ฟีเจอร์ของ Edge for Linux คงไม่ต่างอะไรจากแพลตฟอร์มอื่นๆ สิ่งที่น่าสนใจคือมีคนลองนำแพ็กเกจ Edge for Linux ไปลงใน Chrome OS/Chromebook แล้วสามารถใช้งานได้ปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ โดยต้องเปิดโหมด Linux Development ของ Chrome OS ก่อน และดาวน์โหลดแพ็กเกจ .deb ไปติดตั้งได้เลย
ที่มา - Microsoft, About Chromebooks |
# Oculus Quest ออกอัพเดตใหม่ เพิ่มการตรวจจับวัตถุรอบตัว ไม่ต่อยเด็ก เหยียบหมา เตะขาโต๊ะอีกต่อไป
Facebook กำลังทยอยออกอัพเดตใหม่ v34 ให้กับผู้ใช้ Oculus Quest อัพเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ Space Sense ระบบที่จะทำงานร่วมกับ Guardian System ที่ให้ผู้เล่นตั้งค่าบริเวณที่จะใช้เล่น VR ได้
Space Sense ช่วยไฮไลท์วัตถุที่เข้ามาในบริเวณการเล่น (Guardians bound) ของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก สัตว์เลี้ยง หรือเก้าอี้ที่ถูกเลื่อน โดยจะไฮไลท์เป็นขอบสีชมพูเรืองแสง แม้จะเล่นเกมอยู่ มีระยะการทำงาน 9 ฟุต สามารถเข้าไปเปิดได้ในการตั้งค่าส่วน “Experimental Features” หลังอัพเดตเป็น v34 แล้ว
ที่มา - Oculus |
# Skyller และ AIS ประสานเทคโนโลยี Sensor IoT และโดรนดับเพลิง เพื่อรับมือไฟป่าอย่างทันท่วงที
ปัญหาไฟป่าเป็นปัญหาที่ลุกลามมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคเหนือของไทย ที่มีสภาพอากาศแห้งแล้ง เป็นเหตุให้เกิดประกายไฟและการลุกลามของไฟป่าได้ง่าย ยังรวมถึงกิจกรรมของคนในพื้นที่ที่ก่อให้เกิดไฟลุกลามอยู่บ่อยครั้ง เช่น การจุดไฟเผาพื้นที่ให้โล่งเพื่อเดินทางเข้าไปเก็บของป่า การเผาไร่ก็เพื่อกำจัดวัชพืชหรือเศษซากพืชที่เหลืออยู่ภายหลังการเก็บเกี่ยว
ไฟป่าเมื่อเกิดขึ้นและลุกลามเป็นวงกว้างก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศในพื้นที่ รวมถึงส่งผลให้เกิดหมอกควัน และมลพิษทางอากาศ PM 2.5 ที่รุนแรงเป็นประจำในช่วงปลายปี ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ส่งผลต่อสุขภาพที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางมลพิษ และกระทบต่อการท่องเที่ยว
จากปัญหาเหล่านี้ Skyller หนึ่งในหน่วยธุรกิจภายใต้ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ ARV บริษัทในเครือบริษัท ปตท. สผ. ผู้นำด้านการตรวจสอบอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานด้วยโดรนและระบบ AI ได้ร่วมกับผู้ให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง AIS ทดสอบการใช้งานระบบ Sensor IoT ร่วมกับโดรนดับเพลิง เพื่อตรวจจับสัญญาณไฟและดับไฟป่าในเบื้องต้น ช่วยให้เจ้าหน้าที่รับมือไฟป่าได้เร็วขึ้น ลดปัญหาความรุนแรงของไฟป่าและผลเสียต่างๆที่ตามมา
AIS ได้ลงมือศึกษาหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ให้รับมือไฟป่าได้อย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทีม AIS NEXT ซึ่งเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนนวัตกรรมของเอไอเอส ได้พัฒนาระบบ Sensor IoT ที่สามารถตรวจจับสัญญาณควัน ความร้อน อุณหภูมิและความชื้น และส่งสัญญาณแจ้งเตือนถึงเจ้าหน้าที่ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาที จากปกติต้องใช้เวลา 3 - 6 ชม. ทำให้หลายครั้งการจัดการเรื่องไฟป่าเป็นไปอย่างล่าช้า
ด้วยระบบการทำงานประสานกันของ Sensor IoT ที่ติดตั้งกระจายตามจุดเสี่ยงที่เกิดไฟป่าเป็นประจำ ร่วมกับโดรนดับเพลิงอัจฉริยะ ช่วยให้เจ้าหน้าที่รับมือไฟผ่าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิม การสื่อสารและทำงานที่รวดเร็วนี้ จะช่วยลดปัญหาที่เกิดจากการสื่อสารข้อมูลเชื่องช้า ที่อาจทำให้ไฟลุกลามขยายพื้นที่เป็นวงกว้างโดยที่ไม่อาจควบคุมได้ แต่เมื่อข้อมูลถูกส่งมาโดยเร็ว การรู้เร็ว วางแผนเร็ว เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถจัดกำลังคนและจัดการดับไฟป่าได้อย่างทันท่วงที
หลังจาก Sensor IoT ส่งสัญญาณแจ้งเตือน เจ้าหน้าที่สามารถสั่งการโดรนดับเพลิงที่บินรวมกันเป็นฝูง (Swarm Drone) พร้อมลูกบอลสารเคมีดับเพลิง เพื่อเข้าไปปฏิบัติงาน First Response ป้องกันและควบคุมเพลิงในเบื้องต้นก่อนได้ โดยโดรนจะสามารถตรวจจับจุดความร้อน (Hot Spot) ได้แม่นยำ เพื่อปล่อยลูกบอลดับเพลิงลงจุดที่เกิดไฟไหม้ ลดความรุนแรงของไฟในเบื้องต้น เพื่อชะลอเวลาในการเข้าควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที และสามารถทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลาม
ระบบโดรนดับเพลิงสามารถตั้งค่าและดูผลการทำงานผ่านแพลตฟอร์ม Skyller เจ้าหน้าที่สามารถนำข้อมูลมาวางแผนและวิเคราะห์การทำงานต่อไปได้ เช่น เกิดปัญหาไฟป่าเพลิงไหม้ที่บริเวณใด จุดเกิดเหตุอยู่ตรงไหน มีอาณาเขตกว้างใหญ่เพียงใด เพื่อจะตีกรอบในการสร้างแนวกันไฟเพื่อใช้ดับเพลิง รวมถึงวางแผนการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
Skyller และ AIS ได้ร่วมกันทำการทดสอบครั้งแรกของประเทศไทย เป็นการผสานการทำงานระหว่างระบบ Sensor IoT และ โดรนดับเพลิงพร้อมระบบ AI เข้ามาช่วยจัดการดับเพลิงเบื้องต้นเพื่อไม่ให้ไฟลุกลาม ซึ่งนวัตกรรมนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร หน่วยกู้ภัย เฝ้าระวังในการรับมือ และวางแผนจัดการปฏิบัติภารกิจเมื่อเกิดไฟป่าได้ และจะช่วยลดความรุนแรงของสถานกาณ์ไฟป่าของประเทศไทยหากมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปขยายผลในวงกว้างตามจุดที่เกิดไฟป่าซ้ำเป็นประจำทุกปี
นอกจากฝูงโดรนปล่อยลูกบอลดับเพลิงแล้ว Skyller ยังพัฒนาโดรนดับเพลิงที่สามารถเอาสายของอุปกรณ์ดับเพลิงทั่วไปจากรถดับเพลิงมาต่อเชื่อม และสามารถบินฉีดน้ำหรือโฟมดับเพลิงบนอาคารสูงเพื่อดับไฟในบริเวณที่อาจเข้าถึงยาก หรือ มีอันตรายหากใช้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ดับเพลิงในอาคาร หรือโกดังขนาดใหญ่ที่ต้องการความรวดเร็วในการเข้าถึง และอาจจะเข้าถึงได้ยาก โดยหวังใช้เทคโนโลยีในการรับมือและแก้ปัญหาภัยพิบัติได้อย่างครอบคลุม
ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ที่ Skyller และ AIS ร่วมกันทดสอบ นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในความร่วมมือกันทางเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาในวงกว้าง และส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ เช่น อุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ รวมถึงตึกสูง หรืออาคารขนาดใหญ่ เช่น โรงงาน โรงแรม อุตสาหกรรม หรือแม้แต่บ้านเรือนประชาชน ทุกกลุ่มธุรกิจในพื้นที่ใกล้เคียงก็ได้รับความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินด้วย
หากท่านสนใจ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และติดต่อเราได้ที่ Skyller.co |
# Niantic จะปิดตัวเกม Harry Potter: Wizards Unite หลังเปิดให้เล่นมาได้ 2 ปี
Niantic ประกาศปิดตัวเกม Harry Potter: Wizards Unite เกม AR บนมือถือที่ตั้งเป้าจะเป็นเกมฮิตใหม่หลังประสบความสำเร็จมาแล้วใน Pokemon Go โดยจะปิดตัวอย่างเป็นทางการใน 31 มกราคม 2022 และ Niantic จะนำเกมมือถือออกจากร้านค้าแอปในวันที่ 6 ธันวาคมนี้
ระหว่างนี้ Harry Potter: Wizards Unite จะเพิ่มรางวัลและลดเวลาคูลดาวน์ลง เพื่อให้เล่นเกมง่ายขึ้น ไม่ต้องรอเวลานาน แต่ผู้เล่นจะไม่สามารถรับเงินคืนสำหรับการซื้อที่ผ่านมา
Harry Potter: Wizards Unite เปิดให้เล่นในปี 2019 รูปแบบเป็นเกมเดินเพื่อทำภารกิจแบบเดียวกับ Pokemon Go ผู้เล่นรับบทเป็นพ่อมดแม่มดจากหนึ่งในสี่บ้านของโรงเรียนฮอกวอตส์ ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดและรวบรวมทรัพยากรในเกมด้วยการเดินทำภารกิจ
ภาพจาก Harry Potter: Wizards Unite
ในแง่รายได้เกมเมื่อเทียบกับ Pokemon Go นั้นยังห่างชั้นกันมาก VentureBeat รายงานก่อนหน้านี้ว่า รายได้เกม Harry Potter: Wizards Unite อ้างอิงข้อมูลจาก Sensor Tower สร้างรายได้เพียง 40 ล้านเหรียญ เทียบกับ Pokemon Go ทำรายได้ปีเดียว 1 พันล้านเหรียญ
ที่มา - Kotaku |
# ตาม LinkedIn ไปติดๆ Yahoo ประกาศถอนตัวออกจากจีน
Yahoo! ประกาศถอนตัวออกจากจีน "เนื่องด้วยธุรกิจและสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่ท้าทายมากขึ้นในประเทศจีน บริการของ Yahoo! จะไม่สามารถเข้าถึงได้จากจีนแผ่นดินใหญ่อีกต่อไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน" บริษัทกล่าว
กฎหมายควบคุมบริษัทเทคโนโลยีในจีนที่เข้มงวดขึ้น ไม่ได้มีผลต่อบริษัทในจีนเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อบริษัทเทคนอกจีนด้วย เดือนที่ผ่านมา LinkedIn ประกาศปิดให้บริการ LinkedIn เวอร์ชันในจีนด้วยเหตุผลเดียวกันคือ ข้อกำหนดทางการของรัฐบาลจีน ส่วน Fortnite ก็ประกาศปิดเซิร์ฟเวอร์ในจีน โดยไม่บอกเหตุผลชัดเจน
ที่มา - Slashgear |
# แอพจดโน้ต Notability เปลี่ยนโมเดล เลิกซื้อขาด กลายเป็น subscription รายปี
เมื่อสองวันที่ผ่านมา บริษัท Gingerlabs ผู้พัฒนา Notability แอพสำหรับการจดบันทึกยอดนิยมบน iPad ได้ประกาศสายฟ้าแลบว่าในรุ่น 11.0 ที่เพิ่งออกมาจะยกเลิก pricing model แบบซื้อขาด (one-time purchase) เปลี่ยนมาเป็น annual subscription แทน โดยจะไปกักความสามารถหลายอย่างที่มีอยู่เดิมและที่เคยซื้อฟีเจอร์เพิ่ม ยกตัวอย่างเช่น iCloud sync, Handwriting recognition, auto-backup และ math conversion ไว้ โดยจะอนุญาตให้ใช้ได้สำหรับ subscriber เท่านั้น
ที่ดราม่าคือ ประกาศถอนสิทธิ์ลูกค้าที่ซื้อขาดแต่เดิม โดยจะปลอบใจให้เป็นสิทธิ์ 1-year subscription ในปีแรก ส่วนเมื่อถึงพฤศจิกายนปีหน้าจะต้องจ่าย subscription เพื่อเข้าถึงความสามารถข้างต้น หาไม่จะลดความสามารถเหลือเป็นรุ่นทดลองใช้งาน
ปล. หลังจากโดนรุมกระหน่ำด่ารัวๆ ทาง Notability เลยออกมายอมปรับสิทธิ์ให้ลูกค้าเดิมที่ซื้อไปก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายนจะได้สิทธิ์ lifetime access ไป
ที่มา: Notability Blog |
# Overwatch 2, Diablo 4 เลื่อนวันวางขายไม่มีกำหนด, ประธานร่วม Blizzard ลาออกอีกคน
และแล้วสิ่งที่แฟนๆ Blizzard หลายคนเก็งกันไว้ก็เป็นความจริง โดย Activision Blizzard ประกาศเลื่อนวันวางขาย Overwatch 2 และ Diablo 4 ออกไปจากเดิม ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดการแน่ชัด แต่จากแถลงการณ์ของ Blizzard ก็เขียนแค่ว่าไม่ทันปีหน้า 2022 แน่นอน แปลว่าอย่างเร็วที่สุดคือปี 2023
Activision Blizzard ให้เหตุผลชัดเจนว่า สาเหตุของการเลื่อนคือการเปลี่ยนทีมบริหารของ Blizzard โดยเฉพาะ ผู้กำกับเกม Overwatch 2, โปรดิวเซอร์ Overwatch 2 และ ผู้กำกับเกม Diablo 4 ที่ทยอยลาออกกันในปีนี้ จึงต้องการเวลาเพิ่มเติมให้ทีมงานชุดใหม่
ในโอกาสเดียวกัน Blizzard ยังประกาศว่าผู้บริหารหญิง Jen Oneal ที่นั่งเป็นประธานร่วมของ Blizzard ประกาศลาออกด้วยเช่นกัน ทำให้ Mike Ybarra ประธานร่วมอีกคนกลายเป็นผู้บริหารสูงสุดคนเดียวของ Blizzard โดยทั้งสองคนเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 แทน J. Allen Brack ประธานคนเก่าที่ลาออกไป เท่ากับว่า Oneal นั่งเก้าอี้นี้มาได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
การเลื่อน Overwatch 2 และ Diablo 4 ทำให้ Blizzard ไม่เหลือเกมใหญ่ๆ รอคิวออกในปีหน้ามากนัก เกมที่ยังอยู่ในคิวคือ Diablo Immortal ที่ระบุว่าจะออกในครึ่งแรกของปี 2022 และตามธรรมเนียมจะมีภาคเสริมภาคใหม่ของ World of Warcraft ที่ออกช่วงครึ่งหลังของปี 2022 (ภาคเสริมของ WoW ออกทุก 2 ปี)
ที่มา - Blizzard, Kotaku |
# เปิดตัว Mesh for Microsoft Teams สร้างอวตารของตัวเอง เข้าประชุมในออฟฟิศเสมือน
ในงาน Microsoft Ignite 2021 มีประกาศของใหม่ต้อนรับโลก Metaverse (ที่ไมโครซอฟท์ระบุว่าตัวเองมีมานานแล้ว) ด้วยการเปิดตัว Mesh for Microsoft Teams หรือการผสานการประชุมออนไลน์กับ mixed-reality เข้าไว้ด้วยกัน แปลงร่างตัวเองให้เป็นอวตารระหว่างประชุมได้ ไปในสถานที่หรือออฟฟิศเสมือนจริงได้
ผู้ใช้งานสามารถแปลงร่างตัวเองเป็นอวตาร และเข้าร่วมประชุม Teams ได้โดยที่ตัวเองและคนอื่นไม่ต้องสวมแว่นใดๆ สร้างตัวเองให้เป็นอวตารแบบ 2D หรือ 3D ได้ หลังจากนั้นไมโครซอฟท์จะใช้ AI จับการเคลื่อนไหว ฟังเสียง เพื่อให้การเคลื่อนไหวมีความสมจริงยิ่งขึ้น
ในงาน Ignite ไมโครซอฟท์แสดงตัวอย่างอนาคต Metaverse ด้วยการใช้ Mesh for Microsoft Teams ในการเข้าถึงออฟฟิศเสมือนจริง ที่ร่างอวตารสามมิติของแต่ละคนพูดคุยโต้ตอบกัน ประชุมกันด้วยการเขียนไวท์บอร์ด หรือแม้แต่การแปลสดแม้คุยกันคนละภาษา เป็นต้น ซึ่งฟังก์ชันออฟฟิศเสมือนจริงนี้จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อสวมแว่น VR
ไมโครซอฟท์มี Microsoft Mesh แพลตฟอร์มโลกเสมือนผสมกับโลกจริง เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยไมโครซอฟท์เตรียมนำเอา Microsoft Mesh มาใช้งานร่วมกับ Microsoft Teams ในไตรมาสแรกปี 2022 ที่กำลังจะถึงนี้
จนถึงตอนนี้มีสองบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ที่ลุยงาน Metaverse อย่างเป็นทางการแล้วคือ Meta หรือ Facebook เก่า และไมโครซอฟท์ที่ได้ลงทุนเรื่องนี้มานาน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนสร้างฮาร์ดแวร์ HoloLens และการเข้าซื้อบริษัท AltspaceVR
ที่มา - The Verge, ไมโครซอฟท์ |
# Facebook ประกาศเตรียมปิดระบบ Face Recognition บนแพลตฟอร์ม
Facebook ประกาศเตรียมปิดระบบการจดจำใบหน้า (face recognition) ของแอป Facebook ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งรวมลบเทมเพลตข้อมูลใบหน้ามากกว่า 1 พันล้านคนออกด้วย โดยผู้ใช้งานที่เลือกเปิดโหมดจดจำใบหน้าไว้จะไม่สามารถใช้ฟังก์ชันนี้ได้อีก
Facebook ให้ข้อมูลเพิ่มว่ามากกว่า 1 ใน 3 ของผู้ใช้งาน Facebook เป็นประจำทุกวัน (DAUs - Daily active users) เลือกเปิดโหมดจดจำหน้าเอาไว้
การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกับระบบใส่ข้อมูลบรรยายรูปภาพอัตโนมัติ (automatic alt text) ด้วย ซึ่ง Facebook บอกว่าระบบนี้ช่วยให้คนมีปัญหาทางการมองเห็นสามารถเข้าใจรูปภาพได้ รวมทั้งบุคคลที่อยู่ในภาพ อย่างไรก็ตามรายละเอียดของภาพส่วนอื่นยังทำงานได้ต่อไปตามเดิม
Facebook เริ่มนำเทคโนโลยีจดจำหน้าใบหน้ามาใช้งานบนแพลตฟอร์มตั้งแต่ซื้อกิจการ Face.com เมื่อปี 2012
Facebook เองพบปัญหาทางกฎหมายในเทคโนโลยีจดจำใบหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อปีที่แล้วบริษัทก็จ่ายค่าปรับให้ผู้ใช้งานในรัฐอิลลินอยส์ฐานละเมิดความเป็นส่วนตัว
ที่มา: Meta ผ่าน CNBC |
# SCB 10X ประกาศร่วมทุนกับ Workpoint ตั้งบริษัท T-Pop Incorporation
บริษัท ไทยบรอดคาสติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ร่วมกับ SCB 10X บริษัทโฮลดิ้งด้านเทคโนโลยีในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ คือ บริษัท ทีป๊อป อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท
ทั้งนี้กลุ่มไทยบรอดคาสติ้ง จะถือหุ้น 60% ส่วน SCB 10X จะถือหุ้น 40% ซึ่งบริษัทให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าเป็นธุรกิจบริหารศิลปินและแพลตฟอร์มออนไลน์
ก่อนหน้านี้มีบทสัมภาษณ์จากผู้บริหารของทั้ง 2 บริษัท เกี่ยวกับโปรเจกต์ดังกล่าว ว่าเป็นการสร้างแพลตฟอร์มชุมชนศิลปินไทย และเป็นการลงทุนในธุรกิจดิจิทัลไลฟ์สไตล์
ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (pdf) และ Workpoint Today |
# ข้อมูล Sensor Tower พบ Among Us มีผู้เล่นเพิ่มขึ้น 6% ช่วง Roblox ล่ม ส่วน Minecraft เพิ่ม 2%
จากเหตุการณ์ Roblox ล่มเป็นเวลารวม 3 วัน ก็มีข้อมูลเหมือนกับข่าวเก่าที่บริการต่าง ๆ ขัดข้องเป็นเวลานาน นั่นคือแล้วคนย้ายไปอยู่ที่ไหนในช่วงเวลานั้น?
ข้อมูลจาก Sensor Tower บริษัทวิจัยตลาดแอป ซึ่งเก็บข้อมูลจากแอปและเกมยอดนิยมในช่วงวันที่ 28-31 ตุลาคม 2021 ที่ Roblox มีปัญหา พบว่าในระดับข้อมูลรายสัปดาห์ Minecraft มีผู้เล่นเพิ่มขึ้น 2%, Among Us เพิ่มขึ้น 6% แต่หากเจาะเป็นระดับวัน Among Us มีผู้เล่นในวันที่ 29 ตุลาคม เพิ่มขึ้น 12% เทียบกับวันก่อนหน้า ส่วน Minecraft เพิ่มขึ้น 13% ในวันที่ 30 ตุลาคม เทียบกับหนึ่งวันก่อนหน้าเช่นกัน
นอกจากนี้ Twitch ก็มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเช่นกัน 8% แต่อาจมาจากปัจจัยอื่นด้วยทั้งการแข่งขัน League of Legends รอบรองชนะเลิศ และกิจกรรมฮาโลวีนจากช่องต่าง ๆ
ที่มา: Sensor Tower |
# ไมโครซอฟท์เปิดบริการ Azure Container Apps รันคอนเทนเนอร์แบบ Serverless
ไมโครซอฟท์เปิดบริการ Azure Container Apps บริการรันคอนเทนเนอร์ตามโหลดงานจริงโดยไม่ต้องดูแลโครงสร้างอื่นๆ รูปแบบเดียวกับ Google Cloud Run โดยผู้ใช้ไม่ต้องดูแลตัวเซิร์ฟเวอร์ พร้อมกับบริการเพิ่มจำนวนคอนเทนเนอร์อัตโนมัติเมื่อมีการใช้งานหนัก หรือการรันพร้อมกันหลายเวอร์ชั่นแล้วแยกทราฟิกเพื่อทดสอบ
บริการนี้สร้างจาก KEDA ซอฟต์แวร์จัดการคอนเทนเนอร์ที่เพิ่มโหลดตามปริมาณการใช้งานจริง รองรับ request แบบ HTTP และแบบอื่นๆ เช่น Azure Event Hub, Kafka, RabbitMQ, MongoDB, MySQL, PostgreSQL เป็นต้น การสเกลเลือกได้ต่ำสุดที่ศูนย์คอนเทนเนอร์ ทำให้สามารถวางแอปที่ใช้งานน้อยๆ ทิ้งไว้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ในตัวคอนเทนเนอร์ใช้ Dapr เป็นรันไทม์แบบ sidecar อยู่คู่กับแอป ในบริการ Azure Container Apps นี้ไมโครซอฟท์จะเป็นผู้จัดการ Dapr ให้ทั้งหมด
บริการนี้ใช้งานได้ฟรีเดือนละ 2 ล้านรีเควส, ซีพียู 180,000 ซีพียู-วินาที, แรม 360,000 GiB-วินาที เกินจากนั้นคิดเป็นวินาที ซีพียูคอร์ละ $0.000024 ดอลลาร์ต่อวินาที (62 ดอลลาร์ต่อคอร์ต่อเดือน) แรม $0.000003 กิกะไบต์ต่อวินาที (7.8 ดอลลาร์กิกะไบต์ต่อเดือน) ไมโครซอฟท์ระบุว่าหากเปิดคอนเทนเนอร์เผื่อไว้จะรันในโหมด idle และคิดราคาถูกลง
ที่มา - Azure |
# ไมโครซอฟท์นำ GPT-3 มาให้บริการในชื่อ Azure OpenAI Service
ไมโครซอฟท์เปิดบริการ Azure OpenAI Service บริการปัญญาประดิษฐ์อาศัยโมเดล GPT-3 ที่ OpenAI เคยให้บริการวงปิดมาแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยตัวบริการจริงๆ แล้วเหมือนเดิมแต่ทำงานร่วมกับ Azure ได้แนบแน่นมากขึ้น เช่นอยู่ในศูนย์ข้อมูลของ Azure เอง และกำหนดเงื่อนไขได้แบบเดียวกับบริการคลาวด์อื่นๆ รวมถึงการใช้งานในเน็ตเวิร์คภายในของบริษัท
ไมโครซอฟท์ได้สิทธิ์ใช้งานโมเดล GPT-3 แต่เพียงผู้เดียวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และก่อนหน้านี้ก็นำมาใช้งานกับบริการของไมโครซอฟท์เอง ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ก็เคยนำ GPT-3 มาใช้งานแปลงคำพูดปกติกลายเป็นโค้ด
ตัว GPT-3 นั้นเป็นตัวสร้างเอาท์พุตจากข้อความที่ใส่เข้าไปก่อนหน้า ดังนั้นอาจจะฝึกให้มันทำงานได้หลายแบบ เช่น สรุปข้อความยาวๆ หรือกลับกันคือสร้างเนื้อหายาวๆ จากหัวข้อที่กำหนด ไปจนถึงการโต้ตอบเฉพาะทางจากเนื้อเรื่องที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและฝึกโมเดล GPT-3 เอาไว้
ตอนนี้ลูกค้า Azure ต้องได้รับเชิญเท่านั้นจึงใช้บริการนี้ได้ และไมโครซอฟท์ยังไม่เปิดเผยราคา
ที่มา - Microsoft Blog |
# Zoom ทดสอบแสดงโฆษณาสำหรับผู้ใช้งานแบบฟรี เริ่มต้นในบางประเทศก่อน
Zoom ประกาศทดสอบการแสดงโฆษณา มีผลกับผู้ใช้งานแบบฟรี (Basic Plan) โดยโฆษณาจะปรากฏขึ้นบนเบราว์เซอร์หลังจากการประชุมสิ้นสุด รวมถึงกรณีเข้าร่วมประชุมโดยโฮสต์ที่ใช้ Basic Plan ด้วย
ทั้งนี้ Zoom บอกว่าการแสดงผลโฆษณาอยู่ในการทดสอบกับผู้ใช้งานบางประเทศเท่านั้น ซึ่ง Zoom คาดหวังว่ารายได้ส่วนนี้จะนำมาช่วยลงทุนและปรับปรุงให้แพลตฟอร์มรองรับผู้ใช้งานฟรีต่อไป
Zoom ยังปรับปรุงข้อกำหนดความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน โดยระบุว่าจะไม่ใช้ข้อมูลคอนเทนต์ใด ๆ ในระหว่างการประชุม เพื่อใช้ทำการตลาดหรือทำการแสดงผลโฆษณา แต่ทั้งนี้พาร์ทเนอร์ในการลงโฆษณาอาจใช้คุกกี้เพื่อแทร็กกิจกรรมระหว่างอยู่บนเว็บไซต์ของ Zoom เพื่อเป็นข้อมูลแสดงผลโฆษณา แต่ผู้ใช้งานก็สามารถบล็อกได้ผ่านการตั้งค่าของ Zoom
ที่มา: Zoom |
# Netflix เปิดบริการเกมในไทยแล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เบื้องต้นยังมี 5 เกม เฉพาะบน Android
หลังจาก Netflix ประกาศมาลุยตลาดเกม และเปิดทดสอบการเล่นเกมมือถือในประเทศโปแลนด์เป็นประเทศแรก วันนี้ Netflix ระบุว่าเปิดบริการเกมมือถือให้กับผู้ใช้ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยแล้ว
เบื้องต้นมีเกมให้เล่นเป็นเกมมือถือบน Android (ยังมีเฉพาะ Android) รวมทั้งหมด 5 เกม ได้แก่เกมจากซีรีส์ Stranger Things: 1984 และ Stranger Things 3 กับเกมแคชวลอีก 3 เกมคือ Shooting Hoops, Card Blast และ Teeter Up เกมทั้งหมดเล่นได้ฟรี ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ไม่มีโฆษณา และไม่มี in-app purchase
ผู้เล่นจะเห็นแถวใหม่ที่เรียกว่า "เกมมือถือ" ขึ้นมาแทรกในรายชื่อหนัง-ซีรีส์แนะนำ กดแล้วจะดาวน์โหลดเกมเหล่านี้มาเล่นในเครื่อง และบางเกมสามารถเล่นได้แบบออฟไลน์ได้ด้วย
ผมลองกับบัญชีตัวเอง พบว่าในแอพ Netflix ยังไม่มีแถวเกมมือถือขึ้นมาให้เห็น อาจต้องรอสักระยะกว่า Netflix จะปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ทุกกลุ่ม
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ Netflix ประเทศไทย |
# Microsoft เปิดตัว Loop แอปสำหรับทำงานร่วมกันเป็นทีม ที่ต่อยอดจาก Fluid
ไมโครซอฟท์เปิดตัวแอพพลิเคชันใหม่ในตระกูล Office นั่นคือ Microsoft Loop ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันสำหรับการทำงานร่วมกันเป็นทีม ให้มีความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Loop เป็นการพัฒนาต่อยอดจาก Fluid Framework ที่ไมโครซอฟท์เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ตัวแอพพลิเคชันมี 3 องค์ประกอบหลักคือ Loop components ซึ่งพัฒนามาจาก Fluid, Loop pages เป็น canva สำหรับทีมร่วมกันลาก-จัด เนื้อหาข้อมูลร่วมกัน เหมาะกับการระดมความคิด และ Loop workspaces พื้นที่แชร์สถานะของงาน ให้ทั้งทีมเห็นภาพรวมร่วมกัน
ส่วนของ Loop components จะเริ่มใช้งานได้ผ่านโปรแกรมใน Microsoft 365 เช่น Teams, Outlook และ OneNote เริ่มตั้งแต่เดือนหน้า ส่วน Loop ทั้งหมดจะเปิดให้ใช้งานในครึ่งแรกของปีหน้า 2022
ที่มา: ไมโครซอฟท์ ผ่าน CNBC |
# Huawei Nova 9 เปิดราคาไทย เริ่ม 16,990 บาท ชิป Snapdragon 778G จอ OLED 120Hz
Huawei เปิดราคาไทย Huawei Nova 9 เริ่มต้นที่ 16,990 บาท มาพร้อมหน้าจอ OLED 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz ชิป Snapdragon 778G รันแอนดรอยด์ 11 ครอบด้วย EMUI 12 ไม่รองรับ 5G ไม่มี GMS
เซ็นเซอร์กล้องหลัก 50MP เป็นแบบ RYYB ใช้พิกเซลสี แดง เหลือง เหลือง และน้ำเงินแทน แดงเขียวน้ำเงิน ช่วยให้รับแสงได้มากขึ้น แบบเดียวกับ Huawei P30 และ P30 Pro สเปกภายในอื่นๆ มีดังนี้
ซีพียู Snapdragon 778G 4G
แรม 8GB
หน่วยความจำภายใน 256GB
กล้องหลัง 4 ตัว
กล้องหลักเซนเซอร์ RYYB ความละเอียด 50MP, มีกันสั่น EIS, AIS,
กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP, กล้องมาโคร 2MP, depth sensor 2MP
กล้องหน้า 32MP, กันสั่น AIS
รองรับ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2
สแกนลายนิ้วมือใต้จอ มี NFC
แบตเตอรี่ 4300mAh, รองรับชาร์จไว 66W
ระบบ Android 11 ครอบด้วย EMUI 12 (ไม่รองรับ GMS)
Huawei Nova 9 ให้หน้าจออัตรารีเฟรชเป็น 120Hz ในรุ่นที่ไม่ Pro เป็นครั้งแรกของตระกูล Nova หลังรุ่น Nova 8 ให้จอ 120Hz มาเฉพาะ Nova 8 Pro เท่านั้น แต่ Nova 9 ไม่มีรุ่น 5G ออกมา แม้แต่ Nova 9 Pro ก็รองรับแค่ LTE
Huawei Nova 9 วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายนเป็นต้นไป มีสีสองสีคือ Starry Blue และ Black
ที่มา - งานเปิดตัว Huawei Nova 9 |
# SCBS ซื้อหุ้น Bitkub สัดส่วน 51% มูลค่า 17,850 ล้านบาท ส่ง Bitkub เป็นยูนิคอร์นตัวใหม่ของไทย
ธนาคารไทยพาณิชย์ ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ บริษัท หลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCB Securities (SCBS) ที่เป็นบริษัทในเครือ เข้าทำสัญญาซื้อหุ้น ในบริษัทบิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) จากบริษัทบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ในสัดส่วน 51% คิดเป็นมูลค่า 17,850 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2565
การทำธุรกรรมครั้งนี้ ทำให้บริษัทบิทคับ ออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอเรนซีของประเทศไทย มีมูลค่ากิจการตามการเพิ่มทุนอยู่ที่ 35,000 ล้านบาท หรือเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว กลายเป็นบริษัทยูนิคอร์นรายที่สามของประเทศไทย ถัดจาก Flash Express และ Ascend Money
ที่มา - ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.