txt
stringlengths
202
53.1k
# เสี่ยหนูตัวจริง โปรแกรมเมอร์ให้แฮมสเตอร์เทรดคริปโตโดยการวิ่งในกล่อง ได้กำไรชนะตลาดหุ้น Mr Goxx เป็นหนูแฮมสเตอร์เทรดคริปโต สัตว์เลี้ยงของอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบโปรโตไทป์ท่านหนึ่ง กับเพื่อนโปรแกรมเมอร์ที่ไม่เปิดเผยตัวตน ซึ่งร่วมกันสร้างและโปรแกรมกรงของ Mr Goxx ให้การวิ่งในกรงกลายเป็นการเทรดคริปโตได้ ทั้งสองคนตั้งบริษัทกองทุนสมมุติขึ้นมาเล่นๆ ชื่อ Goxx Capital แถมชื่อหนู Mr Goxx ก็ตั้งล้อบริษัทกระดานเทรดคริปโตรายใหญ่รายแรกๆ อย่าง Mt. Gox ที่ถูกแฮ็กสูญเงินกว่า 850,000 btc ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014 ภาพเจ้าก้อนนุ่มฟูจากทวิตเตอร์ mrgoxx หลังจากนั้นก็ออกแบบออฟฟิศของ Mr Goxx เป็นส่วนเสริมของกรง ที่ Mr Goxx เข้าออกได้ตลอดเวลา ภายในมีอุโมงค์สองด้าน คือ “ขาย” และ “ซื้อ” และใช้ที่วิ่งวงล้อเป็นตัวเลือกว่าจะเทรดเหรียญคริปโตชนิดไหน และติดกล้องคอยรายงานผลไปด้วย ออฟฟิศของ Mr Goxx ประกอบขึ้นด้วยการออกแบบโดยคอมพิวเตอร์ แล้วใช้เครื่องพิมพ์สามมิติ เครื่องตัดด้วยเลเซอร์ และมีดแกะสลัก นำชิ้นส่วนมาเดินสาย ประกอบกับคอมพิวเตอร์แบบซิงเกิ้ลบอร์ด และไมโครคอนโทรลเลอร์ ทั้งสองคนโปรแกรมให้ระบบเทรดทั้งหมดทำงานอัตโนมัติ เมื่อ Mr Goxx วิ่งบนวงล้อ และวิ่งผ่านอุโมงค์ด้านใดด้านหนึ่ง แถมยังโปรแกรมให้ทวิตอัพเดตข้อมูลบนทวิตเตอร์ Mr Goxx โดยอัตโนมัติเมื่อเกิดการเทรด และแกะสลักไม้ให้เหมือนมีอุปกรณ์ออฟฟิศย่อมๆ ภาพออฟฟิศ Mr Goxx Mr Goxx เริ่มเทรดวันที่ 12 มิถุนายน โดยการซื้อเหรียญ Stellar (XLM) แต่ในเดือนแรกก็ดูเหมือนยังเทรดได้ไม่เข้ามือ (เท้า?) นัก เพราะเทรดไป 95 คำสั่ง ทำเงินเริ่มต้น 326 ยูโร (ราว 12,800 บาท) ลดไป 7% แต่หลังจากนั้นทำผลงานดีขึ้น เมื่อวันที่ 27 เงินเพิ่มมา 63.27 ยูโร (ราว 2,490 บาท) หรือ +19.41% แล้ว ซึ่งเว็บไซต์คริปโต Protos.com คำนวณว่า Mr Goxx ทำผลตอบแทนได้สูงกว่าดัชนี FTSE 100 และ Dow Jones ในช่วงเดียวกัน รวมถึงชนะบริษัท Berkshire Hathaway ของปู่ Warren Buffett อีกด้วย แม้ปัจจุบันจะเหลือแค่ +54.18 ยูโร (ราว 2133 บาท) หรือเพิ่มขึ้นราว +16.62% อย่างไรก็ตาม ทั้งเจ้าของ Mr Goxx และเพื่อนโปรแกรมเมอร์ ต่างก็ยืนยันว่าการเทรดนี้เป็นโปรเจ็กต์ที่เขาทำกันเล่นกับเพื่อนช่วงโควิดเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการลงทุน และ Goxx Capital ก็เป็นบริษัทสมมุติ ไม่ได้มีอะไรจริงจัง ที่มา - BBC, Protos.com
# นักวิจัยโวยแอปเปิลไม่แพตช์ช่องโหว่ iOS แม้รายงานไปแล้วครึ่งปี Denis Tokarev นักวิจัยความปลอดภัยเปิดเผยช่องโหว่ช่อง 3 รายการของ iOS กระทบถึง iOS 15.0 ทำให้แอปในเครื่องสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเขาส่งรายงานไปยังแอปเปิลในช่วง 10 มีนาคม ถึง 29 เมษายนที่ผ่านมา แต่แอปเปิลกลับไม่แพตช์ช่องโหว่เหล่านี้ แอปเปิลตอบกลับ Tokarev ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา และเขายื่นคำขาดว่าจะเปิดเผยช่องโหว่ในวันที่ 13 กันยายน (เขาเปิดเผยซอร์สโค้ดในวันที่ 24 กันยายน) หลังจากช่องโหว่ถูกเปิดเผยแล้วทางแอปเปิลจึงติดต่อกลับ พร้อมกับขออภัยที่ตอบล่าช้าและระบุว่ากำลังสอบสวนช่องโหว่นี้อยู่ ที่ผ่านมาแม้แอปเปิลจะมีโครงการรายงานช่องโหว่ได้รางวัล (bug bounty) แต่ก็มีนักวิจัยบ่นถึงความล่าช้าในการประสานงานอยู่เรื่อยๆ รวมถึงแนวทางการดึงเวลาการรายงานช่องโหว่ และอาศัยการกดดันระหว่างบริษัทเพื่อให้มีเวลาแพตช์นานขึ้น ชุดช่องโหว่ทั้ง 3 รายการ ได้แก่ 1) Gamed 0-day ทำให้แอปรู้อีเมลและชื่อผู้ใช้, เข้าบริการแอปเปิลแทนผู้ใช้, อ่านฐานข้อมูลรายชื่อติดต่อในเครื่อง 2) Nehelper Wifi Info ทำให้แอปอ่านข้อมูล Wi-Fi ได้โดยไม่ได้รับอนุญาต 3) nehelper enumerate ทำให้แอปสามารถตรวจสอบได้ว่ามีแอปใดติดตั้งอยู่ในเครื่องบ้าง ที่มา - 9to5mac
# คนส่งของ Amazon บอกกล้อง AI บนรถจับพฤติกรรม และตัดสินผิดๆ ทำให้เขาไม่ได้โบนัส เป็นเวลาระยะหนึ่งแล้วที่ Amazon ติดตั้งกล้องในรถส่งของโดยใช้เหตุผลเรื่องความปลอดภัย ไม่ใช่เพื่อจับตามองคนขับรถ ล่าสุดมีประเด็นดราม่าเกิดขึ้น เมื่อคนขับรถส่งของ Amazon รายหนึ่ง ไม่ระบุชื่ออ้างว่าเขาไม่ได้เงินโบนัสพิเศษ เพราะกล้อง AI เข้าใจพฤติกรรมการขับรถของเขาผิดไป คนขับรถบอกว่าเขาถูกรถคัดอื่นขับตัดหน้า และกล้องก็ส่งเสียงเตือนว่าให้รักษาระยะห่างจากรถคันอื่น ซึ่งบันทึกเสียงและภาพจากกล้อง AI ถูกส่งไปยัง Amazon อยู่แล้ว และมันก็ตัดสินใจโดยอัตโนมัติเลยว่าเขามีพฤติกรรมการขับรถที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เขาไม่ได้เงินโบนัสพิเศษ ยังมีคนขับรายอื่นบอกด้วยว่าระบบกล้อง AI ตัดสินไม่เป็นธรรมจากพฤติกรรมปกติ อย่างเช่นเพิ่มเบาเสียงวิทยุ มองกระจกมองข้าง เป็นต้น ที่มา - The Register
# Veeam เตรียมเลิกขายไลไซนส์แบบคิดตามซีพียู เป็นคิดราคาตามจำนวนเครื่องที่สำรองข้อมูล Veeam ผู้ผลิตซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลประกาศตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่ามีแผนจะเลิกขายไลเซนส์แบบคิดราคาตามซีพียู (per socket) แล้วหันไปคิดราคาตามจำนวนเครื่องที่สำรองข้อมูลแทน Anton Gostev รองประธานอาวุโสฝ่าย product management ระบุว่าลูกค้าเดิมยังคงซื้อไลเซนส์แบบคิดราคาต่อซีพียูได้ต่อไป แต่จะอาศัยแรงจูงใจให้ลูกค้าหันไปใช้ Veeam Universal License (VUL) ที่นับจำนวนเครื่องที่สำรองข้อมูลแทน แต่ยังยืนยันว่าบริษัทจะยังขายไลเซนส์แบบถาวร (perpetual license) ต่อไป แม้จะมีแบบสมัครสมาชิกให้เลือก VUL ขายเป็นแพ็กทีละ 10 ไลเซนส์ โดยหนึ่งไลเซนส์สามารถใช้สำรองข้อมูล 1 VM ไม่ว่าในศูนย์ข้อมูลหรือบนคลาวด์, สำรอง workstation ได้ 3 เครื่อง, และ NAS ได้ 500GB อย่างใดอย่างหนึ่ง แนวทางการคิดราคาซอฟต์แวร์ตามโหลดงานนับเป็นแนวทางที่ผู้ผลิตซอฟต์แวร์เริ่มหันมาใช้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นซอฟต์แวร์เก็บ log ก็อาจจะคิดราคาตามปริมาณข้อมูลที่ส่งเข้าไปในแต่ละวัน Gostev ระบุว่ายังไม่ได้กำหนดวันเปลี่ยนนโยบายไลเซนส์นี้ แต่สัญญาว่าจะประกาศล่วงหน้าให้ลูกค้ามีเวลาซื้อไลเซนส์แบบคิดราคาต่อซีพียูไปอีกนับปี ที่มา - The Register
# Bethesda ใจป้ำ ส่ง PS5 ให้นักพากย์ในเกม Deathloop แม้เป็นบริษัทในเครือ Microsoft Jason Kelley ผู้พากย์เสียงเป็น Colt ในเกม Deathloop ของ Arkane Studios เพิ่งอัดวิดีโอโปรโมตในทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของเกมไปเมื่อช่วงกลางเดือนก่อนเกมออก พร้อมระบุว่าถ้าใครหาเครื่องและ PS5 มาให้ได้ก็จะขอบคุณมาก เพราะ Deathloop ลงแค่ PS5 (ในช่วงแรก) และพีซีเท่านั้น ตอนหลัง Pete Hines รองประธานบริหารฝั่งโกลบอลมาร์เก็ตติ้งของ Bethesda เข้ามาตอบโพสต์ว่าอาจจะช่วยหาได้ และล่าสุดเมื่อวานนี้ Kelly ก็อัพเดตในการสัมภาษณ์กับแชนแนลยูทูบ Jumpcut Play ว่า Bethesda เตรียมส่งเครื่อง PS5 ให้เขาแล้ว และเขาตื่นเต้นที่จะได้เล่นเกมนี้สักที น่าสนใจที่ Bethesda สตูดิโอ เป็นบริษัทที่ถูก Microsoft ควบรวมไปเมื่อปีก่อน แต่ก็ยังใจดี ซื้อเครื่อง PS5 ของฝั่ง Sony ให้ Kelly ได้เล่นเกมของตัวเอง คงไม่ใช่แค่ Kelly แต่ยังมีเกมเมอร์อีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถซื้อเครื่อง PS5 ได้ จากปัญหาชิปที่ขาดแคลน ทำให้เครื่องที่เปิดขายมีจำนวนจำกัด และเหล่าเกมเมอร์ก็ต้องไปแย่งชิงกับบอทที่อาจจะเข้ามากดจองเครื่องได้ไวกว่า คงต้องดูกันต่อไปว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และเครื่อง PS5 จะมีให้ซื้อได้ตามปกติเมื่อไร ที่มา - Kotaku
# ไมโครซอฟท์บอก Skype ยังไม่ตาย ปรับหน้าตาใหม่ ฟีเจอร์ TwinCam ใช้มือถือเป็นกล้องสอง ช่วงหลังไมโครซอฟท์เลิกสนใจ Skype หันไปโฟกัส Microsoft Teams แทน สังเกตได้จาก Windows 10 มีฟีเจอร์ประชุมออนไลน์ผ่าน Skype ในตัว แต่พอเป็น Windows 11 เราได้ Teams มาแทน ไมโครซอฟท์เคยยืนยันว่าไม่ทิ้ง Skype แน่ แต่ไม่มีอะไรดีกว่าการแสดงให้เห็นว่าทำจริงๆ ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศแผนการอัพเดต Skype ชุดใหญ่เพื่อแสดงให้เห็นว่ายังไม่ปล่อยให้ตายไป การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ ปรับ UI ใหม่ (อีกแล้ว) ให้สีสันสดใส สวยงามมากขึ้น หน้าจอตอนวิดีโอคอลล์จะเห็นวิดีโอขนาดใหญ่ขึ้น เห็นตัวเราเองเสมอ แม้ไม่ได้เปิดกล้องก็ตาม (สามารถสั่งปิดการแสดงวิดีโอได้ ถ้ามีปัญหาแบนด์วิธ) เพื่อนร่วมคอลล์ที่ไม่มีกล้อง ก็จะแสดงไอคอนพร้อมภาพพื้นหลังสวยงาม เปลี่ยนเองได้ ไม่ดูสีเทาๆ จืดๆ แบบที่ผ่านมา ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจชื่อ TwinCam เป็นการใช้กล้องจากมือถือเป็นกล้องตัวที่สองของเราในระหว่างคอลล์ ช่วยให้เห็นมุมมองเพิ่มเติม โดยเพื่อนร่วมประชุมจะเห็นภาพของเราแบ่งเป็น 2 ส่วน แสดงผลทั้งสองกล้องพร้อมกัน หน้าจอฝั่งแชทก็ปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นเช่นกัน เปลี่ยนธีมได้ สีสันสดใสขึ้น ตัวไคลเอนต์ของ Skype ก็ถูกปรับปรุงให้ประสิทธิภาพดีขึ้น 30% บนเดสก์ท็อป และ 200% บน Android, ไคลเอนต์เวอร์ชันเว็บตอนนี้รองรับเบราว์เซอร์ทุกตัวแล้ว (ก่อนหน้านี้รองรับ Edge/Chrome ล่าสุดเพิ่ม Safari/Opera เข้ามา แต่ยังไม่มีไอคอน Firefox) ที่มา - Skype Blog
# Google Docs รองรับการใส่ภาพเป็นลายน้ำในเอกสารแล้ว, กล่องคอมเมนต์กว้างขึ้น Google Docs ประกาศฟีเจอร์ที่หลายๆ คนรอคอยกันมานาน นั่นคือ background watermark หรือใส่ภาพลายน้ำที่พื้นหลักของเอกสารทุกฉบับ วิธีการใช้งานง่ายๆ คือมีเมนู Insert > Watermark เพิ่มเข้ามา เลือกรูปภาพที่ต้องการใช้เป็นลายน้ำ เท่านั้นก็เรียบร้อย กูเกิลบอกว่ากำลังทยอยปล่อยฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้ทุกคนภายในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ของใหม่อีกอย่างที่ออกมาพร้อมกันคือ ขยายช่องคอมเมนต์ในเอกสาร Google Docs ให้กว้างขึ้น จากของเดิมกว้าง 35 ตัวอักษร มาเป็น 50 ตัวอักษร (เพิ่มขึ้น 43%) ช่วยให้การอ่านคอมเมนต์ยาวๆ สะดวกขึ้น ที่มา - Google (Watermark), Google (Comments) via 9to5google
# AIS เพิ่มเสียง Beep แจ้งลูกค้าว่ากำลังโทรออกเบอร์นอกเครือข่าย AIS ประกาศเพิ่มวิธีการสื่อสารให้ผู้ใช้โทรศัพท์ทราบ เวลาโทรไปยังเบอร์นอกเครือข่าย AIS จะมีเสียงสัญญาณ Beep สั้นๆ หนึ่งทีก่อนเข้าสู่เสียงรอสายตามปกติ AIS ระบุว่าเพิ่มเสียง Beep เพื่อให้ผู้ใช้ทราบด้วยว่าเป็นเบอร์ในเครือข่าย (on net) หรือเบอร์นอกเครือข่าย (off net) เพราะโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจของผู้ใช้มีหลากหลาย ทั้งแบบราคาเท่ากันหมด หรือแบบที่ราคา on net/off net ต่างกัน บริการนี้เริ่มใช้งานในวันนี้ 28 กันยายน 2564 โดยเปิดใช้กับผู้ใช้ AIS ทุกคน ไม่ต้องสมัคร และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ AIS
# รองประธานกูเกิลเล่าถึงศูนย์ข้อมูลแห่งแรก ขนาดเพียง 2.5 ตารางเมตร กินไฟ 5 kW Urs Hölzle รองประธานอาวุโสฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานของกูเกิลทวีตเล่าถึงการเช่าศูนย์ข้อมูลครั้งแรกเมื่อปี 1999 ซึ่งไม่ค่อยมีใครพูดถึงนัก เพราะหลายคนจะรู้จักเซิร์ฟเวอร์กูเกิลที่ใช้พีซีมาติดตั้งในมหาวิทยาลัย และการออกตู้คอมพิวเตอร์ที่อัดแน่นๆ มากกว่า การเช่าศูนย์ข้อมูลครั้งแรกของกูเกิลใช้ศูนย์ข้อมูล Exodus บริษัทในยุค dotcom ที่ตอนนี้หายไปแล้ว โดยซื้อพื้นที่ขนาด 7x4 ตารางฟุต หรือประมาณ 2.5 ตารางเมตรเป็นกรงแยกจากผู้เช่ารายอื่น ภายในเป็นชั้นสำหรับวางพีซี โดย Larry Page ขอใช้ไฟฟ้าเพิ่มเป็นพิเศษ เป็นสาย 20A 3 เส้น โดยรวมแล้วทั้งชุดใช้ไฟฟ้า 5 กิโลวัตต์ ทาง Exodus ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยรวมภายในมีคอมพิวเตอร์ 28 ตัว แบ่งเป็นคอมพิวเตอร์สำหรับให้บริการ 24 ตัว และคอมพิวเตอร์สำหรับดูดเว็บ 4 ตัว ค่าเช่าพื้นที่ศูนย์ข้อมูลนี้อยู่ที่ 4,000 ดอลลาร์ต่อเดือน ลิงก์ที่เชื่อมต่อเป็นอีเธอร์เน็ต 100Mbps แต่ขออินเทอร์เน็ตเอาไว้ 2 Mbps ราคาเดือนละ 2,400 ดอลลาร์ และหากใช้เกินจะเสียค่าใช้จ่าย 1,400 ดอลลาร์ต่อ 1 Mbps ซึ่งกูเกิลก็ใช้เกินภายในปีเดียวกัน และหลังจากนั้นกูเกิลก็เช่าตู้เพิ่มอีกสามเท่าตัว ที่มา - @uhoelzle
# Activision Blizzard จ่าย 18 ล้านเหรียญ ชดใช้ความเสียหายจากวัฒนธรรมองค์กรเป็นพิษ จากดราม่าวัฒนธรรมองค์กรใน Activision Blizzard เป็นพิษและมีปัญหาการคุกคามทางเพศจนถูกคณะกรรมการโอกาสการจ้างงานที่เท่าเทียมกันของสหรัฐอเมริกา (EEOC) ฟ้องบริษัท ล่าสุด Activision Blizzard ยอมจ่าย 18 ล้านดอลลาร์เพื่อชดเชยให้แก่พนักงานที่ได้รับผลกระทบ EEOC ทำการฟ้องร้องโดยอิงจากหลักฐานการสอบสวนภายในองค์กร 3 ปี ซึ่งทางบริษัทก็ให้ความร่วมมือในการสอบสวนด้วยและบอกด้วยว่ายริษัทให้ความร่วมมือและพูดคุยกับ EEOC มาโดยตลอด นอกจากจ่ายเงินเพื่อตั้งกองทุนชดใช้ค่าเสียหายแล้ว ทางบริษัทให้คำมั่นสัญญาจะยุติการเลือกปฏิบัติใดๆ ก็ตามในองค์กร สำหรับเงินส่วนต่างที่เกินจากการชดใช้ค่าเสียหาย ทางบริษัทจะนำเข้าองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีเป้าหมายสนับสนุนผู้หญิงในวงการเกม หรือสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศและความหลากหลายในวงการนี้ EEOC เป็นแค่หน่วยงานหนึ่งที่มาฟ้องร้อง ยังมีกรมการจ้างงานและการเคหะแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย, นักลงทุนของบริษัท, Campaign to Organize Digital Employees หน่วยงานรณรงค์เพื่อพนักงานในสายเทค นอกจากนี้ SEC หรือสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐก็เข้าสอบสวนบริษัทเกม Activision Blizzard จากปัญหาการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน ที่มา - The Verge
# Netflix เผย 10 หนังและซีรีส์ยอดนิยม วัดจากชั่วโมงที่ดู แชมป์คือ Bridgerton และ Bird Box Netflix เผย 10 อันดับหนังและซีรีส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเป็นครั้งแรกที่นับยอดความนิยมจากชั่วโมงที่ดูเนื้อหาในช่วง 28 วันแรกของการเปิดตัว พบว่าแชมป์ฝั่งซีรีส์คือ Bridgerton คิดเป็น 625 ล้านชั่วโมง และแชมป์ฝั่งหนังคือ Bird Box คิดเป็น 282 ล้านชั่วโมง ที่ผ่านมา Netflix ใช้เกณฑ์วัดการดูผ่านการดู 2 นาทีแรกของเนื้อหา ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าไม่สะท้อนความเป็นจริง ซึ่งเกณฑ์ใหม่สะท้อนได้มากกว่าเพราะนับจำนวนชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่น Stranger Things ซีซั่นสาม เมื่อนับตามจำนวนบัญชีที่ดูอย่างน้อย 2 นาทีแรกของเนื้อหาพบว่าอยู่ในลำดับที่ 5 แต่ถ้านับตามจำนวนชั่วโมง พบว่าขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 3 อย่างไรก็ตาม การนับจำนวนชั่วโมงก็อาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเนื้อหาที่ยาว อย่างเช่นหนังเรื่อง The Irishman ที่ยาวกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง ซีรีส์ 10 อันดับแรกของ Netflix ตามชั่วโมงการรับชมทั้งหมดใน 28 วันแรก Bridgerton ซีซั่น 1 : 625 ล้านชั่วโมง Money Heist ซีซั่น 4 : 619 ล้านชั่วโมง Stranger Things 3 : 582 ล้านชั่วโมง The Witcher, season 1 : 541 ล้านชั่วโมง 13 Reasons Why ซีซั่น 2 : 496 ล้านชั่วโมง 13 Reasons Why ซีซั่น 1 : 476 ล้านชั่วโมง You ซีซั่น 2 : 457 ล้านชั่วโมง Stranger Things 2 : 427 ล้านชั่วโมง Money Heist ซีซั่น 3 : 426 ล้านชั่วโมง Ginny & Georgia ซีซั่น 1 : 381 ล้านชั่วโมง ภาพยนตร์ 10 อันดับแรกของ Netflix ตามชั่วโมงการรับชมทั้งหมดใน 28 วันแรก Bird Box : 282 ล้านชั่วโมง Extraction : 231 ล้านชั่วโมง The Irishman : 215 ล้านชั่วโมง The Kissing Booth 2 : 209 ล้านชั่วโมง 6 Underground : 205 ล้านชั่วโมง Spenser Confidential : 197 ล้านชั่วโมง Enola Holmes : 190 ล้านชั่วโมง Army of the Dead : 187 ล้านชั่วโมง The Old Guard : 186 ล้านชั่วโมง Murder Mystery : 170 ล้านชั่วโมง ที่มา - CNET
# ซีอีโอ Netflix ยังบอก Squid Game อาจขึ้นแท่นเป็นซีรีส์ที่ดังที่สุดตลอดกาล อ่านได้ ไม่มีสปอยล์ Squid Game ซีรีส์เกาหลีแนวเขย่าขวัญได้รับความนิยมไปทั่วโลก จนแม้แต่ Ted Sarandos ซีอีโอร่วมของ Netflix ยังบอกว่านี่อาจเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงเวลานี้ เขาบอกด้วยว่า Squid Game จะเป็นซีรีส์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่ดังที่สุดในโลกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ระบุมาตรวัดที่ใช้วัดความนิยมของตัวซีรีส์ ซึ่งตามปกติแล้ว Netflix จะเผยตัวเลขความนิยมโดยนับจำนวนผู้ที่รับชมเนื้อหาอย่างน้อยสองนาทีในช่วง 28 วันแรกของการเปิดตัว แต่ Squid Game เพิ่งลงฉายได้เพียง 10 วันเท่านั้น ซึ่งหาก Netflix ทำสถิติ 28 วันออกมา Squid Game อาจโค่นแชมป์ตอนนี้อย่าง Bridgerton ได้ และอาจโค่น Lupin ซีรีส์ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาหลักได้ ที่มา - CNET
# Apple ขึ้นราคาหูฟัง Beats Flex จาก 1,900 เป็น 2,500 บาท แอปเปิลขึ้นราคาหูฟัง Beats Flex จากเดิม 1,900 บาท ราคาใหม่เป็น 2,500 บาท มีผลทันทีสำหรับการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนในช่องทางอื่นอาจยังคงราคาเดิมอยู่ ราคาขายใหม่นี้ปรับขึ้นในอเมริกาด้วยเช่นกัน (จาก 50 เป็น 70 ดอลลาร์) จึงไม่ใช่สาเหตุจากค่าเงิน แต่คาดว่ามาจากต้นทุนชิปอย่าง W1 ที่สูงขึ้น หูฟัง Beats Flex เริ่มขายตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว เป็นหูฟังอินเอียร์ไร้สาย ที่มีสายคล้องระหว่างหูฟังซ้าย-ขวา มีตัวเลือก 4 สี คือ ฟ้าเฟลมบลู ดำ เทาสโมคเกรย์ และเหลืองยูซุ สเป็กระบุว่าฟังเพลงได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง และสามารถชาร์จเร็วใช้เวลา 10 นาที ทำให้ฟังเพลงต่อได้ถึง 1.5 ชั่วโมง ที่มา: MacRumors
# ผู้ใช้ Spotify บน iOS ทั้ง 14.8 และ 15 พบปัญหากินแบตเตอรี่มากกว่าปกติ - Spotify กำลังแก้ไข มีรายงานจากผู้ใช้ Spotify บน iOS พบว่าแอปใช้แบตเตอรี่มากกว่าปกติ โดยตัวอย่างที่พูดถึงใน Reddit บอกว่าปกติฟังเพลงตอนออกกำลังกาย จะใช้แบตเตอรี่ราว 10-15% แต่ตอนนี้เป็น 40-60% ทั้งยังพบว่าเครื่องร้อนขึ้นด้วย อีกกรณีก็บอกว่าลองลบแอปและลงใหม่ก็ยังไม่ดีขึ้น ปัญหานี้พบทั้งในผู้ใช้งาน Spotify บน iOS เวอร์ชัน 14.8 และเวอร์ชันล่าสุด 15 โดย Spotify ชี้แจงว่าได้รับทราบปัญหา และแจ้งไปยังทีมที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบแล้ว ที่มา: 9to5Mac
# TikTok มีจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลก มากกว่า 1,000 ล้านคน ต่อเดือนแล้ว TikTok ประกาศว่า แพลตฟอร์มมีจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 1,000 ล้านคน ที่ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนแล้ว (MAUs - Monthly Active Users) TikTok เคยรายงานจำนวนผู้ใช้งานที่ 55 ล้านคนในต้นปี 2018 เพิ่มขึ้นมาเป็น 271 ล้านคน ช่วงปลายปี และมี 507 ล้านคน ช่วงปลายปี 2019 ในปีที่แล้วจำนวนผู้ใช้งานได้ก้าวกระโดดเป็น 700 ล้านคน ซึ่งมีตัวเร่งสำคัญคือโควิด-19 คลิปวิดีโอสั้นยังคงเป็นแม่เหล็กสำคัญของ TikTok ซึ่งแพลตฟอร์มรายใหญ่ต่างทำเลียนแบบ ไม่ว่าจะเป็น Reels ของ Instagram หรือ Shorts ใน YouTube ที่มา: TikTok และ CNBC
# Polestar บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้ Volvo และ Geely เตรียมเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ​ ด้วยวิธี SPAC Polestar ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติสวีเดนเตรียมเข้าตลาดหุ้นด้วยวิธี SPAC โดยคาดว่าหลังจากดีลเสร็จสิ้นจะทำให้บริษัทมีมูลค่าราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์ (อ่านรายละเอียดวิธีการควบกิจการแบบ SPAC) สำหรับบริษัท Polestar เป็นแบรนด์เน้นพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าภายใต้ Volvo และ Zhejiang Geely Holding (ซึ่ง Geely เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Volvo อีกทีหนึ่ง) ซึ่งปัจจุบัน Polestar มีรถยนต์ชูโรงคือรถซีดาน Polestar 2 และยังมีรถเอสยูวี Polestar 3 อยู่ในแผนที่คาดว่าจะเริ่มขึ้นไลน์การผลิตในปีหน้า จุดเด่นของ Polestar คือบริษัทสามารถใช้ไลน์การผลิตของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง Volvo และ Geely ได้ ทำให้บริษัทไม่ต้องระดมทุนเพื่อไปสร้างโรงงาน ดังนั้นเงินทุนที่ได้รับมาจะทำให้บริษัทนำไปโฟกัสที่งานวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าได้เต็มที่ การเข้าตลาดด้วยวิธี SPAC ของ Polestar จะให้บริษัท SPAC ชื่อ Gores Guggenheim Inc. (ก่อตั้งโดย The Gores Group และ Guggenheim Capital, LLC ปัจจุบันเทรดในตลาด Nasdaq อยู่แล้วด้วยสัญลักษณ์ GGPI, GGPIW และ GGPIU) เข้ามาซื้อกิจการของ Polestar Performance AB โดยจะชำระเงิน 800 ล้านดอลลาร์ที่ได้จากการระดมทุนของ Gores Guggenheim รวมกับ 250 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนสถาบัน และหลังจากปิดดีลแล้ว บริษัทใหม่จะใช้ชื่อว่า Polestar Automotive Holding UK Limited หุ้นของบริษัทจะเทรดในตลาดหุ้น Nasdaq โดยใช้สัญลักษณ์การซื้อขายว่า PSNY ที่มา - Polestar, TechCrunch, Reuters, Electrek ภาพจาก Polestar
# Ninja Van รับเงินทุนซีรี่ส์ E อีก 578 ล้านดอลลาร์ มี Alibaba ร่วมลงทุนด้วย Ninja Van สตาร์ทอัพให้บริการขนส่งพัสดุจากสิงคโปร์ ประกาศรับเงินทุนซีรี่ส์ E 578 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มนักลงทุนอาทิ Geopost/DPDgroup, B Capital Group, Monk’s Hill Ventures, Zamrud และ Alibaba บริษัทบอกว่าเงินทุนใหม่รอบนี้ จะนำไปใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการบริหารต้นทุนในระยะยาว รวมถึงใช้ในการบริหารจัดการทั่วไป Lai Chang Wen ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Ninja Van กล่าวว่ารายชื่อนักลงทุนที่ร่วมลงทุนในรอบนี้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจน ว่าธุรกิจขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีโอกาสเติบโตอีกมาก ปัจจุบัน Ninja Van ดำเนินงานในสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม จัดส่งพัสดุมากกว่า 2 ล้านชิ้นต่อวันในภูมิภาค เมื่อปีที่แล้ว Ninja Van รับเงินทุนซีรี่ส์ D ไป 279 ล้านดอลลาร์ ที่มา: Ninja Van
# Instagram ประกาศพักโครงการ Instagram Kids ก่อน หลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก Instagram ประกาศ "หยุดพัก" (pause) การพัฒนาโครงการ Instagram สำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 13 ปี หรือ Instagram Kids ที่บริษัทเคยประกาศเมื่อต้นปี โดย Adam Mosseri หัวหน้าฝ่าย Instagram ยืนยันว่าโครงการนี้เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ตอนนี้เลือกหยุดพักโครงการนี้ไปก่อน Mosseri ระบุว่ามีผู้วิจารณ์จำนวนมากว่าโครงการนี้ไม่เหมาะสม แต่เขาบอกว่าความจริงคือเด็กสมัยนี้อยู่ในโลกออนไลน์กันตั้งแต่อายุยังน้อย การพัฒนาแอปสำหรับช่วงอายุให้พ่อแม่ดูแลจึงดีกว่าวิธีที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เขายังยืนยันว่า Instagram สำหรับเด็กในความคิด คือทำมาให้เด็กวัย Tween (อายุ 10-12 ปี) ใช้งาน และไม่ได้มองไปยังกลุ่มเด็กอายุน้อยกว่านั้น โดยมีพ่อแม่ร่วมควบคุม แอปนี้จะไม่มีโฆษณา และคอนเทนต์ในนั้นก็ถูกคัดกรองแล้ว เขายังบอกว่าคนวิจารณ์มักมองไปที่กรณีเลวร้ายที่สุด ซึ่งบริษัทมีแนวทางสำหรับเรื่องเหล่านั้นแล้ว แต่มองว่าต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับสังคมอีกระยะหนึ่งก่อน ระหว่างนี้ Instagram จะเปลี่ยนมาพัฒนาเครื่องมือสำหรับผู้ปกครองในการดูแลการใช้งานของเด็กวัยรุ่น (13 ปีขึ้นไป) ซึ่งจะเปิดตัวในภายหลัง ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่ออย่าง The Wall Street Journal ได้เผยแพร่งานวิจัยโดยระบุว่าเป็นการศึกษาของ Instagram เอง ซึ่งพูดถึงข้อเสียของ Instagram หลายอย่าง โดยเฉพาะกับผู้ใช้งานที่อายุน้อย ซึ่งเป็นเหตุผลให้ Instagram ออกมาประกาศข้างต้นนั่นเอง ที่มา: Instagram ผ่าน The Verge
# Resident Evil 4 VR วางจำหน่าย 21 ตุลาคมนี้ ลงให้กับ Oculus Quest 2 เท่านั้น Capcom ปล่อยตัวอย่างใหม่ Resident Evil 4 VR ที่จะนำ Resident Evil ภาคคลาสสิกที่ผ่านการรีเมคมาหลายครั้ง แม้ชินจิ มิคามิ ผู้สร้าง จะเคยลั่นไว้ในครั้งแรกว่าถ้าลงเครื่องอื่นนอกจาก Gamecube ให้มาตัดหัวเขาได้เลย แต่แล้วก็เป็นดั่งนรกชังหรือ Capcom แกล้ง เกม Resident Evil 4 ถูกนำมารีเมคลงแทบจะครบทุกเครื่อง ทุกค่าย ตั้งแต่ PlayStation 2, 3, 4, PC, Xbox 360, Nintendo Wii, Nintendo Switch ไปยันมือถือ และล่าสุด บนแว่น Oculus Quest 2 ตัวเกมภาคนี้มีการปรับปรุงระบบการเล่นให้เข้ากับแว่น VR ปรับการกดปุ่ม Quick Time Event เป็นการขยับก้านบังคับในมือแทน และนำพลังชีวิตมาไว้บนนาฬิกาข้อมือที่ผู้เล่นต้องคอยเหลือบดู แทนที่จะเป็น UI อยู่บนจอ การแก้ปริศนาก็ปรับให้ทำด้วยการใช้มือขยับจริงๆ ได้ง่ายมากขึ้น Resident Evil 4 VR วางจำหน่ายวันที่ 21 ตุลาคมนี้ รองรับ Oculus Quest 2 เท่านั้น ไม่รองรับ Oculus Quest รุ่นแรกหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่มา - Capcom, The Verge
# เมื่อนินเทนโดนำจอย Mega Drive มาขายใหม่ แต่จอยแบบ 6 ปุ่มมีเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ข่าวน่าสนใจวงการเกมย้อนยุคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นินเทนโดประกาศนำเกม Nintendo 64 และ Mega Drive มาลง Nintendo Switch Online โดยมีจอยไร้สายของทั้ง Nintendo 64 และ Mega Drive แบบหน้าตาย้อนยุคมาขายแฟนรุ่นเก่าๆ ด้วย ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่เครื่อง Mega Drive ที่ใช้ชื่อทำตลาดต่างกันในแต่ละภูมิภาค โดยฝั่งญี่ปุ่น (ที่คนไทยคุ้นเคย) คือ Mega Drive ส่วนฝั่งอเมริกาเป็น Sega Genesis แต่ความต่างไม่ได้มีแค่ชื่อเครื่องกับดีไซน์เท่านั้น เพราะปุ่มบนจอยก็ไม่เท่ากันด้วย โดย Mega Drive มีทั้งหมด 6 ปุ่ม (A, B, C, X, Y, Z) ในขณะที่ Genesis มีแค่ 3 ปุ่ม (A, B, C) ซึ่งภายหลัง Sega ได้ออกจอยแบบ 6 ปุ่มตามมา จากกระแสเกมไฟติ้งบูมในยุค 90s ทำให้ต้องใช้จอยที่มีปุ่มควบคุมเยอะขึ้น การนำจอยกลับมาขายของนินเทนโดรอบนี้จึงเกิดคำถามว่า จะใช้จอยแบบไหนกันแน่ คำตอบคือมีจอย 2 เวอร์ชันตามคอนโซลต้นฉบับ จอยที่ขายในญี่ปุ่นจะเป็นแบบ 6 ปุ่ม ส่วนจอยฝั่งอเมริกาและภูมิภาคอื่นๆ เป็น 3 ปุ่ม ตรงนี้ทำให้นินเทนโดถูกวิจารณ์ว่าไหนๆ ผลิตแบบ 6 ปุ่มอยู่แล้ว ก็น่าจะนำมาขายทั้งโลกให้เหมือนๆ กันไปเลยจะดีกว่า เพราะการขายจอยแบบ 6 ปุ่มก็ไม่น่ามีผลเสียอะไรอยู่แล้ว ที่มา - Nintendo Japan, Nintendo US, Polygon
# Ascend Money ทีมพัฒนา TrueMoney ประกาศรับเงินลงทุน Series C มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ Ascend Money ทีมพัฒนาแอป TrueMoney ในเครือ Ascend Group ที่แยกออกมาจาก True ประกาศรับเงินลงทุน Series C มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ ประเมินมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ปัจจุบันให้บริการในประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม พม่า กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ผู้ร่วมลงทุนรอบนี้คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Ascend Money อยู่ก่อนแล้ว ร่วมกับ Bow Wave Capital Management และ Ant Group ของอาลีบาบา ที่เคยลงทุนในรอบก่อนหน้านี้ด้วย คุณธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Ascend Money ระบุกับเว็บไซต์ TechCrunch ว่าปัจจัยการระบาดของ COVID-19 ทำให้ยอดผู้ใช้แอป TrueMoney เพิ่มขึ้นจาก 17 ล้านในช่วงต้นปี 2021 เป็น 20 ล้านคนในปัจจุบัน และการทำธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 75% โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็น SME และผู้ใช้กลุ่มผู้ที่มีอัตราการเข้าถึงเงินทุนจากธนาคารต่ำ (unbanked and underbanked population) จุดประสงค์ของการระดมเงินลงทุนครั้งนี้ Ascend Money ระบุว่าเตรียมนำไปพัฒนา และเสริมการเติบโตให้แอป TrueMoney รวมถึงจะนำไปขยายบริการทางการเงินดิจิทัล เช่น Digital lending และ Digital Investment รวมถึงการโอนเงินข้ามประเทศ เริ่มต้นในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มา - TechCrunch
# ไม่ต้องบินไปเอง ค่ายมือถือรัสเซีย ซื้อลิขสิทธิ์ DeepFake หน้า Bruce Willis ไปเล่นโฆษณา ค่ายมือถือรัสเซีย MegaFon เตรียมทำโฆษณาโดยมี Bruce Willis นำแสดง แต่คราวนี้ Bruce Willis ไม่ต้องบินไปเล่นเองไกลถึงรัสเซีย เพราะบริษัทใช้นักแสดงคนอื่นเล่น แล้วซื้อลิขสิทธิ์ใบหน้าไปทำ DeepFake ใส่เป็นหน้า Bruce Willis แทน Megafon ไม่เปิดเผยว่าค่าลิขสิทธิ์ที่ต้องจ่ายมีมูลค่าเท่าไร แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการคาดว่าน่าจะราวๆ 1-2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย Megafon จ้างบริษัท Deepcake บริษัทเทคนิคพิเศษที่เชี่ยวชาญด้านการทำ DeepFake ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (neural network) ประมวลผลคอนเทนต์ใบหน้า Bruce Willis กว่า 34,000 ชิ้น (อาจจะเป็นภาพหรือวิดีโอ) มาสร้างโมเดลใบหน้าที่แสดงสีหน้าได้สมจริงในทุกอิริยาบถ มาทาบลงไปบนหน้านักแสดงที่แสดงท่าทางอีกที โฆษณาชุดนี้จะมี 15 ตอน ตอนแรกกำกับโดย Ilya Naishuller ผู้กำกับภาพยนตร์ Nobody ที่นำแสดงโดย Bob Odenkirk จาก Better Call Saul ที่มา - IGN
# JupyterLab ออกแอปเดสก์ทอป แพ็กซอฟต์แวร์พร้อมใช้งานในตัว JupyterLab ออก JupyterLab App แอปเดสก์ทอปที่รวมเอาทั้งเบราว์เซอร์และระบบหลังบ้านไว้ในตัว ทำให้นักพัฒนาเริ่มพัฒนาโน้ตบุ๊กได้ง่ายขึ้นอีกขั้น ที่จริงแล้วโครงการนี้พัฒนามาหลายปีตั้งแต่ปี 2017 แต่ก็ไม่มี release ใหม่ๆ และไม่มีการพัฒนาเพิ่มเติมมานาน จนกระทั่งปีนี้ Mehmet Bektas จาก Splunk เข้ามาช่วยพัฒนาจนออกเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด JupyterLab App มาพร้อมกับไลบรารีสำคัญอย่าง numpy, scipy, pandas, ipywidgets, และ matplotlib ในตัว และหลังจากออกเวอร์ชั่นล่าสุดชุมชนก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง ที่มา - Jupyter Blog
# AIS เยียวยาเน็ตล่ม ลดค่าใช้ AIS Fibre 3 วัน ให้เน็ตมือถือ 10 GB ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง จากประเด็นอินเทอร์เน็ตของ AIS Fibre มีปัญหาทำให้เข้าบางเว็บไม่ได้ ล่าสุด AIS ออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้ว คือลดค่าใช้บริการให้แก่ลูกค้า AIS FIbre ที่ได้รับผลกระทบ เป็นเวลา 3 วัน (จากทุกแพคเกจ) และลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ มอบสิทธิ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตฟรี จำนวน 10 GB นานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง โดยบริษัทฯจะทยอยส่ง SMS เรียนแจ้งลูกค้าที่ได้รับผลกระทบต่อไป โดยปัญหาใช้งานอินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายของ AIS Fibre และ เครือข่าย มือถือบางส่วน เกิดขึ้นในช่วงเวลาระหว่าง 22.00 น. วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2564 ถึง 24.00 น. ของเช้าวันที่ 27 กันยายน ซึ่งล่าสุดทางเอไอเอสระบุว่าแก้ไขปัญหาแล้ว ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
# Chrome จะเลิกใช้ API ส่วนขยายตัวเก่า Manifest V2 ในเดือนมกราคม 2023 การเปลี่ยนแปลงสำคัญในเบราว์เซอร์ตระกูล Chromium คือเมื่อปลายปี 2020 Chrome เริ่มใช้ API ส่วนขยายแบบใหม่ที่เรียก Manifest V3 ที่ส่งผลกระทบต่อส่วนขยายกลุ่มบล็อคโฆษณาทั้งหลาย ทำให้เกิดการถกเถียงกันมายาวนาน (ประเด็นถกเถียงสำคัญคือกูเกิล "ตั้งใจ" เปลี่ยน API เพื่อไม่ให้บล็อคโฆษณาได้เยอะเหมือนเดิมหรือไม่) Chrome 88 เป็นเวอร์ชันแรกที่รองรับ Manifest V3 แต่ก็ยังรองรับ Manifest V2 รุ่นเดิมควบคู่กันไปอยู่ โดยกูเกิลบอกว่าจะให้เวลาเปลี่ยนผ่านประมาณ 1 ปี ล่าสุดกูเกิลออกมาประกาศแผนที่แน่ชัดแล้ว 17 มกราคม 2022 หยุดรับส่วนขยายใหม่ที่สร้างบน Manifest V2 ขึ้นสู่ Chrome Web Store (ส่วนขยายเดิมที่เป็น V2 ยังออกอัพเดตได้อยู่) มกราคม 2023 Chrome จะไม่สามารถรันส่วนขยาย Manifest V2 ได้อีกต่อไป และปิดรับอัพเดต V2 บน Chrome Web Store กูเกิลยืนยันว่ารับฟังความเห็นจากนักพัฒนาส่วนขยาย และปรับปรุง Manifest V3 ให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่มา - Chrome Developer
# แก้ปัญหาประชุมไป ดูหน้าตัวเองไป Microsoft Teams จะให้ไม่ต้องเห็นวิดีโอตัวเอง ไมโครซอฟท์เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ให้ Microsoft Teams สามารถซ่อนรูปภาพของเราตอนประชุมออนไลน์ได้ (hide your own video) แก้ปัญหาที่หลายๆ คนเจอคือมักดูแต่หน้าตัวเองระหว่างการประชุม จนอาจเสียสมาธิกับเนื้อหาการประชุมไป ในทางกลับกัน ไมโครซอฟท์ก็จะเปิดให้ปัก (Pin) วิดีโอของเราเองเพื่อเป็นจอใหญ่เหมือนกับผู้ร่วมประชุมคนอื่นๆ ได้ด้วย (pin your own video) ทั้งสองฟีเจอร์จะเปิดให้ใช้งานในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่มา - MSpoweruser
# HBO เผยภาพแรกซีรีส์ The Last of Us คาดฉายภายในปี 2022 HBO และ Naughty Dog ทวิตเผยภาพแรกของซีรีส์ The Last of Us ที่กำลังอยู่ในช่วงโปรดักชั่นซีรีส์ดัดแปลงจากเกมที่จะมี Neil Druckmann นักเขียนและครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ของเกมต้นฉบับ มากำกับบางตอนด้วย ในภาพเป็นภาพด้านหลังที่น่าจะเป็นโจเอลกับแอลลี่ แต่งกายด้วยชุดที่มีสีคล้ายกับชุดตัวละครในเกมภาคแรก คือโจเอลสีเขียวเทาหม่นๆ แอลสี่สีแดงชมพู และซากเครื่องบินที่ตกบนทุ่งหญ้า แต่ยังไม่เห็นรายละเอียดอื่นมากนัก ตัวซีรีส์ยังไม่มีกำหนดวันฉาย แต่มีเบาะแสจาก Instagram ของ Kantamir Balagov หนึ่งในผู้กำกับ ที่อัพเดตโปรไฟล์ไว้ว่า The Last of Us (2022) ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าเราจะเห็นซีรีส์เรื่องนี้บน HBO ในปีหน้า ที่มา - HBO
# แว่น Oculus Go จะได้ OS เวอร์ชันปลดล็อค เข้าถึง Root เต็มที่ อัพเดตเองได้แม้ตกรุ่นไปแล้ว John Carmack ซึ่งปัจจุบันเป็น CTO แบบไม่ประจำของ Oculus โพสต์ข้อมูลในทวิตเตอร์ว่า เขาผลักดันให้ Facebook ออกระบบปฏิบัติการของแว่น Oculus Go แบบอันล็อค นักพัฒนาสามารถเข้าถึง root access เพื่อนำแว่นไปดัดแปลงทำสิ่งต่างๆ ได้ Carmack บอกว่าการออก OS แบบอันล็อคจะช่วยเปิดโอกาสให้เราเห็นแว่น Oculus Go ถูกใช้งานในด้านต่างๆ ได้อีกมาก แถมอายุการใช้งานของแว่นก็จะยาวนานขึ้นอีก เพราะมีคนช่วยกันพัฒนา OS อยู่ตลอด อัพเดตเองได้เสมอ แม้ตัวเซิร์ฟเวอร์ OTA จะถูกปิดไปในอนาคตก็ตาม Carmack ไม่ได้ระบุชัดว่าเราจะเห็น OS ตัวนี้ถูกเผยแพร่เมื่อไร และตัวแว่น Oculus Go ก็เลิกขายไปแล้ว หลังการมาถึงของ Oculus Quest 2 ที่สเปกดีกว่ามาก ที่มา - Android Central
# Virtual Influencer คนแรกในไทยมาแล้ว ไอรีน วัย 21 ตั้งเป้ารับงานรีวิว พรีเซนเตอร์ ถ่ายแบบ SIA Bangkok เอเจนซี่รายใหม่ในไทย เปิดตัว ไอ-ไอรีน Metaverse Human Virtual Influencer คนแรกในไทย เป็นหญิงสาววัย 21 ปี ตั้งเป้าเป็นเป็นพรีเซนเตอร์ ถ่ายแบบโฆษณา มิวสิควิดีโอ รีวิวสินค้า ถือเป็นกรณีที่น่าสนใจ โดยก่อนหน้านี้ Sidus Studio X บริษัทจากเกาหลีสร้าง Rozy อินฟลูเอนเซอร์สาวเกาหลี สร้างโดย AI มีงานโฆษณาเข้าแล้วกว่า 100 ชิ้น อาจเป็นช่องทางใหม่สำหรับแบรนด์ในการโปรโมทสินค้าของตัวเองผ่าน Virtual Influencer คาแรคเตอร์ที่วางไว้คือ ชื่อจริงว่า ไอรีน (Ailynn), ชื่อเล่น ไอ (Ai), วันเกิด วันอาทิตย์ ที่ 1 ตุลาคม 2543, อายุ 21 ปี, อาชีพ Creative / Freelance / Influencer, ส่วนสูง 165 ซม., น้ำหนัก 52 กิโลกรัม, กรุ๊ปเลือด AB, ความสามารถพิเศษ ดนตรี เต้น และถ่ายภาพ ข้อมูลจาก สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ชี้ให้เห็นว่าเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าเม็ดเงินในปี 2020 อยู่ที่ 21,058 ล้านบาท เติบโต 8% และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2021 จะเติบโตที่ 11% มีมูลค่าอยู่ที่ 23,315 ล้านบาท โดยหากแยกสัดส่วนของเม็ดเงินจากมูลค่ารวมตามรูปแบบของสื่อดิจิทัลพบว่า สัดส่วนช่องทาง Social Media ที่เกี่ยวข้องกับ Influencer อยู่ที่ 9% หรือคิดเป็นประมาณ 2,113 ล้านบาท เป็นรอง Facebook และ YouTube เทรนด์ Virtual Influencer เริ่มมีให้ได้ยินมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์ที่คนถูกจำกัดกิจกรรมการใช้ชีวิตข้างนอก แต่ Virtual Influencer สามารถสร้างเนื้อหาปลดล็อกข้อจำกัดการล็อกดาวน์ได้ ปัจจุบันมี Virtual Influencer ดังๆ หลายรายแล้ว เช่น Lil Miquela ผู้ติดตาม 1.6 ล้านราย เคยร่วมงานกับ Samsung ในแคมเปญ #teamgalaxy, Shudu ผู้ติดตามเกือบสองแสนราย เคยร่วมงานกับ Fenty Beauty แบรนด์ความงามจากนักร้องสาว Rihanna, Bermuda ผู้ติดตาม 150,000 ราย เป็นต้น ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์, Influencer Matchmaker
# ยูทูเบอร์รายหนึ่ง พบ Face ID บน iPhone 13 ไม่ทำงาน หากเปลี่ยนจอเอง หรือเปลี่ยนที่ศูนย์ซ่อมภายนอก ช่อง YouTube ช่องหนึ่งชื่อว่า Phone Repair Guru มีผู้ติดตาม 1.78 ล้าน ทำการทดลองบางอย่างกับ iPhone 13 ด้วยการเปลี่ยนส่วนประกอบภายในเพื่อสมมติสถานการณ์ว่าต้องซ่อมแซม พบว่า มื่อเปลี่ยนไมโครโฟน, เซนเซอร์วัดแสงของ iPhone 13 ผลคือการทำงานยังปกติ แต่ถ้าเปลี่ยนจอจะไม่สามารถใช้ Face ID ได้ Phone Repair Guru ทำการเปลี่ยนจอให้ดู และพบว่าโทรศัพท์ขึ้นข้อความเตือนว่า Unable to verify this iPhone has a genuine Apple display หรือไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า iPhone เครื่องนี้ใช้จอแสดงผล Apple ของแท้ และยังพบด้วยว่า Face ID ใช้งานไม่ได้ แม้จะทำการตั้งค่าใหม่ภายหลัง Apple ถูกวิจารณ์เรื่องไม่เปิดโอกาสให้ลูกค้านำโทรศัพท์ไปซ่อมเองที่ศูนย์ซ่อมภายนอกได้ และไม่นานมานี้ โจ ไบเดน ได้สั่ง FTC ร่างกฎ Right-to-Repair เพื่อแก้ปัญหานี้ เดือนที่แล้วนี้เองที่ Joanna Stern นักข่าวจาก WSJ เผยว่าเธอต้องการซ่อมแซม MacBook สองเครื่องที่เสียหายจากการโดนน้ำ แต่ Apple แนะนำให้เธอซื้อใหม่เนื่องจากค่าซ่อมแพงเกินไป เธอจึงลองนำไปซ่อมที่ร้านซ่อมอิสระ พบว่าสามารถซ่อมเครื่องหนึ่งให้ได้ในราคาที่เหมาะสม ที่มา - 9to5Mac
# Surface Duo 2 ได้อัพเดต OS นาน 3 ปี แต่ Duo รุ่นแรกยังไม่ได้ Android 11 เลย ไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลยืนยันว่า Surface Duo 2 จะได้อัพเดตระบบปฏิบัติการและแพตช์ความปลอดภัยนาน 3 ปี เท่ากับ Surface Duo รุ่นแรก อย่างไรก็ตาม Surface Duo เปิดตัวในปี 2020 โดยใช้ Android 10 ที่ตกรุ่นไปแล้วหนึ่งปี แล้วเวลาผ่านมาหนึ่งปีแล้วก็ยังไม่ได้อัพเกรดเป็น Android 11 แต่อย่างใด (ไมโครซอฟท์สัญญาว่าจะออกอัพเดตภายในปี 2021 นี้) เหตุผลหนึ่งที่อาจมีส่วนให้ Surface Duo อัพเกรดระบบปฏิบัติการได้ช้า เป็นเพราะตอนแรกไมโครซอฟท์จ้างทีมเอาท์ซอร์สพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Duo เพิ่งมาตั้งทีม Android ของตัวเองในช่วงหลังแล้ว ที่มา - MSpoweruser
# Apple ยอมรับปัญหา iPhone 13 อาจใช้ฟีเจอร์ปลดล็อกด้วย Apple Watch ไม่ได้ เตรียมออกอัพเดตแก้ไข แอปเปิลเพิ่มข้อมูลในหน้า Support ระบุว่าผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งพบปัญหาการใช้ฟีเจอร์ปลดล็อกหน้าจอด้วย Apple Watch ไม่สามารถใช้งานได้กับ iPhone 13 โดยบอกว่าจะมีการแก้ไขในอัพเดตซอฟต์แวร์ แต่ไม่ได้ระบุว่าเวอร์ชันใด หรือจะออกมาเมื่อใด ลักษณะปัญหานั้น จะมีข้อความเตือนใน iPhone ว่า ไม่สามารถติดต่อกับ Apple Watch ได้ เมื่อพยายามปลดล็อกขณะที่กำลังใส่มาสก์อยู่ ฟีเจอร์ปลดล็อกหน้าจอด้วย Apple Watch เป็นคุณสมบัติที่แอปเปิลเพิ่มเข้ามา ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปลดล็อก iPhone ได้ แม้สวมใส่มาสก์ที่ปิดใบหน้าบางส่วน ซึ่งต้องอาศัยการเชื่อมต่อกับ Apple Watch ที่ใส่ในการยืนยันตัวตนเพิ่มเติม ที่มา: MacRumors
# AIS Fibre ล่มบางส่วน เข้าทวิตเตอร์ และเว็บจำนวนมากไม่ได้ ตั้งแต่ช่วงสี่ทุ่มครึ่งที่ผ่านมาอินเทอร์เน็ตของ AIS Fibre มีปัญหาทำให้เข้าบางเว็บไม่ได้ โดยเฉพาะทวิตเตอร์ ปัญหาครั้งนี้ไม่ได้เกิดกับทุกบริการ บริการจำนวนหนึ่ง เช่น เฟซบุ๊ก, กูเกิล (พร้อมกับบริการ เช่น YouTube, Workspace อื่นๆ) ยังคงใช้งานได้ คาดว่าคงเป็นเส้นทางสำหรับการเชื่อมต่อบริการเหล่านี้ ตอนนี้ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนหนึ่งร้องเรียนผ่านแท็ก #aisล่ม บนทวิตเตอร์จนขึ้นอันดับหนึ่ง และโพสเฟซบุ๊กของ AIS มีผู้ใช้ไปร้องเรียนจำนวนหนึ่ง
# Edge 94 ออกแล้ว เปลี่ยนมาออกทุก 4 สัปดาห์ตาม Chrome, มีรุ่น 8 สัปดาห์ให้เลือก ไมโครซอฟท์ออก Edge 94 ที่ไม่มีฟีเจอร์ใหญ่ๆ มากนัก แต่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ หันมาใช้การออกทุก 4 สัปดาห์แบบเดียวกับ Chrome สำหรับผู้ใช้ฝั่งองค์กรที่ไม่ต้องการอัพเดตเบราว์เซอร์บ่อยขนาดนั้น ไมโครซอฟท์ก็มีตัวเลือกคือ Extended Stable ที่จะออกรุ่นเว้นรุ่น (ทุกรุ่นที่เป็นเลขคู่ คือ 94, 96, 98 ไปเรื่อยๆ) ทำให้อัพเดตเบราว์เซอร์ทุก 8 สัปดาห์แทน แอดมินองค์กรสามารถเลือกใช้ Extended Stable ได้จากการตั้งค่า Group Policy (รายละเอียด) ที่มา - Microsoft, OnMSFT
# ฮีโร่ของชาติ ซีเอฟโอ Huawei กลับถึงจีนแล้ว มีขบวนและพรมแดงต้อนรับหลังลงเครื่องบิน ต่อเนื่องจากข่าว สหรัฐยุติคดี Meng Wanzhou ลูกสาวของผู้ก่อตั้ง Huawei ยอมให้เดินทางกลับจีนแล้ว การพ้นคดีของ Meng Wanzhou กลายเป็นประเด็นใหญ่ในประเทศจีน โดยเที่ยวบินที่เธอโดยสารกลับจีนมีพรมแดงและขบวนมาต้อนรับ ทันทีที่ก้าวลงเหยียบแผ่นดินจีน เธอก็แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทันที นอกจากนี้ สำนักข่าวในจีนยังรายงานว่าคนจีนแห่ไปซื้อสินค้าของ Huawei ทั้งผ่านออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อแสดงการสนับสนุนบริษัทจีนด้วยกัน ที่มา - HuaweiCentral, Huawei Central ภาพจาก Xinhua
# [ลือ] ByteDance เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหม่เดือนหน้า เน้นส่งออกแบบ AliExpress มีรายงานว่า ByteDance เจ้าของ TikTok กำลังทดสอบแอปแยก ที่เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับขายสินค้าส่งออกจากผู้ผลิตในจีน โดยเตรียมเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งรูปแบบของแพลตฟอร์มจะคล้ายกับ AliExpress ของ Alibaba ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของ ByteDance เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ต้องการใส่ฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซเข้าไปในแอป Douyin หรือ TikTok เวอร์ชันจีนโดยตรง แต่มองว่าน่าจะทำแอปแยกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ByteDance ได้พัฒนาโครงการริเริ่มธุรกิจใหม่ในชื่อ Magellan XYZ โดยมองไปที่สามโอกาสคือ อีคอมเมิร์ซที่เน้นการส่งออกสินค้าจากจีนไปต่างประเทศ, บริการสำหรับลูกค้าองค์กร และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สำนักงาน แนวทางของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนี้ จะเป็นการเชื่อมต่อโดยเริ่มจากคอนเทนต์ใน TikTok และสร้างลิงก์ไปยังอีคอมเมิร์ซให้เกิดการซื้อขาย ที่มา: Pandaily ภาพ Pixabay
# Zoom ออกสุดยอดฟีเจอร์ สั่งปิดเพื่อไม่ดูวิดีโอของคนอื่นในห้องประชุมได้แล้ว Zoom ประกาศฟีเจอร์สำคัญยิ่งสำหรับนักประชุมออนไลน์ นั่นคือเราสามารถปิดเพื่อไม่ดูวิดีโอของคนอื่นๆ ในห้องประชุมได้ (stop incoming video) ซึ่งมีผลเฉพาะเครื่องเราเองเท่านั้น Zoom บอกว่าฟีเจอร์นี้จะถูกใช้ใน 2 กรณีคือ แบนด์วิธอินเทอร์เน็ตไม่ดี เลยอยากปิดวิดีโอของคนอื่นเพื่อไม่ให้การประชุมกระตุก หรือ ประชุมจนเหนื่อย (avoid mental fatigue) เลยขอปิดวิดีโอเพื่อนั่งฟังเฉยๆ แทน โดยผู้ร่วมประชุมคนอื่นจะไม่ทราบด้วยว่าเราปิดวิดีโอ ฟีเจอร์นี้ทยอยปล่อยแล้วใน Zoom ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ Android/iOS ต้องเป็นเวอร์ชัน 5.8.0 ขึ้นไป ที่มา - Zoom
# Tencent ประกาศซื้อกิจการเสิร์ชเบอร์ 2 ของจีน Sogou หลังทางการอนุมัติดีลแล้ว Sogou เว็บค้นหาของจีน ประกาศว่า Tencent จะเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท และ Sogou จะออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก (ตัวย่อ SOGO) ซึ่งเป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้ ว่าหน่วยงานกำกับดูแลของจีน ได้อนุมัติดีลดังกล่าวแล้ว มูลค่าของดีลรวม 3,500 ล้านดอลลาร์ Tencent ระบุว่าตัวธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของ Sogou ในการบริหารจัดการ จะย้ายมาอยู่ในแผนกด้านแพลตฟอร์มของ Tencent แต่ตัวบริการเสิร์ช Sogou จะยังคงดำเนินงานแบบแยกแบรนด์ต่อไป ทั้งนี้ Tencent ต้องการนำเทคโนโลยีเสิร์ชมาเสริมใน WeChat เพื่อสร้างทราฟิกระหว่างกันได้ดียิ่งขึ้น Tencent เข้าถือหุ้นใน Sogou ตั้งแต่ปี 2013 ต่อมาบริษัทมีแผนซื้อกิจการทั้งหมดตั้งแต่กลางปี 2020 แต่อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบของหน่วยงานกำกับดูแล ข้อมูลจาก Statcounter ระบุว่าในจีน Baidu ยังเป็นเสิร์ชที่มีส่วนแบ่งมากที่สุด 76.7% ส่วน Sogou อยู่ในอันดับ 2 ที่ 14.3% ที่มา: KrAsia และ Sogou
# Android 12 จะบังคับผู้ผลิตใช้เคอร์เนลเดียวกันหมด โมดูลของผู้ผลิตต้องแยกออกไป ปัญหาโทรศัพท์แอนดรอยด์ไม่ได้อัพเกรด หรืออัพเกรดช้าเป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน และกูเกิลพยายามแก้ปัญหานี้อย่างต่อเนื่องในปีหลังๆ ที่งาน Linux Plumber ปีนี้ Todd Kjos ก็แถลงความคืบหน้าว่าโทรศัพท์ที่ใช้ Android 12 จะใช้เคอร์เนลแกนกลางเป็นอันเดียวกันทั้งหมดแล้ว ที่ผ่านมาเคอร์เนลแอนดรอยด์นั้นถูกแพตช์จากเคอร์เนลลินุกซ์อย่างหนัก และเมื่อแอนดรอยด์ออกรุ่นใหม่ก็จะส่งเคอร์เนลนี้ไปให้ผู้ผลิตเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ตามต้องการอีกครั้ง ทำให้เคอร์เนลที่รันอยู่ในโทรศัพท์จริงๆ ต่างจากเคอร์เนลในโครงการลินุกซ์อย่างมาก ทางแอนดรอยด์พยายามผลักดัน Generic Kernel Image (GKI( ที่เป็นไบนารีเคอร์เนลของกูเกิลเองมาตั้งแต่ Android 11 โดยบังคับว่าผู้ผลิตโทรศัพท์ที่ใช้ Android 11 ตั้งแต่แรกต้องทดสอบโทรศัพท์กับ GKI ก่อน ทำให้โทรศัพท์ใหม่ๆ ควรจะรันกับแอนดรอยด์ของกูเกิลได้แต่แรก ใน Android 12 นั้นกระบวนการรับรองจะบังคับว่าต้องใช้ GKI เท่านั้น การใช้ GKI จะบังคับให้ผู้ผลิตโทรศัพท์ที่ต้องการใช้โมดูลเฉพาะต้องแยกโมดูลของตัวเองออกไป และเชื่อมต่อกับเคอร์เนลหลักทาง Kernel Module Interface (KMI) ไม่สามารถแพตช์เพิ่มฟีเจอร์เคอร์เนลได้เองตามใจชอบ กูเกิลดึงให้ผู้ผลิตใช้ KMI โดยยอมเพิ่ม hook ที่ผู้ผลิตทำกันเองเข้ามาอยู่ใน GKI กว่า 300 รายการ แนวทางหลังจากนี้กูเกิลจะพยายามผลักดันแพตช์ใหม่ เข้าไปยังโครงการเคอร์เนลหลัก (upstream) ก่อนเสมอ และค่อยๆ ดันแพตช์เดิมตามไป ทำให้เคอร์เนลแอนดรอยด์ใกล้เคียงกับโครงการลินุกซ์หลักในที่สุด ที่มา - ArsTechnica, YouTube: Linux Plumber 2021
# Huawei เปิดตัว OpenEuler ดิสโทรลินุกซ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ พัฒนาต่อจาก CentOS Huawei ใช้เวทีงานสัมมนา Huawei Connect เปิดตัวระบบปฏิบัติการสำหรับเซิร์ฟเวอร์ชื่อ OpenEuler OpenEuler ไม่ใช่โครงการใหม่หมด เพราะเป็นการนำดิสโทรลินุกซ์ EulerOS ของ Huawei เอง (ตัวมันดัดแปลงมาจาก CentOS) มาโอเพนซอร์สบน GitHub ได้สักระยะหนึ่งแล้ว (ออกปีละสองครั้ง ใช้เลขเวอร์ชันเป็น 21.09 แบบเดียวกับ Ubuntu) แต่เพิ่งได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการบนเวทีใหญ่ของบริษัท Huawei ระบุว่า OpenEuler เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับ digital infrastructure ใช้ได้ตั้งแต่คลาวด์ ศูนย์ข้อมูล และ edge computing แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักว่าต่างจากลินุกซ์อื่นๆ อย่างไรบ้าง นอกจาก OpenEuler แล้ว Huawei ยังประกาศทำภาษาโปรแกรมของตัวเองชื่อ CJ ด้วย แต่ยังไม่มีรายละเอียดด้วยเช่นกัน การหยิบ OpenEuler มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงนี้ น่าจะสอดคล้องกับการผลักดัน HarmonyOS ที่มีเวอร์ชันโอเพนซอร์สชื่อ OpenHarmony เพื่อแสดงให้เห็นว่า Huawei ต้องการมีระบบปฏิบัติการของตัวเอง ท่ามกลางกระแสกดดันจากโลกตะวันตกนั่นเอง ที่มา - Huawei Central
# โปรแกรมต้านโกงเกม Easy Anti-Cheat รองรับ Steam Deck แล้ว BattlEye กำลังตามมา จากประเด็นจุดอ่อนของ Steam Deck คือไม่รองรับเกมยอดนิยมหลายๆ ตัวโดยเฉพาะเกม FPS ชื่อดังทั้งหลาย ด้วยเหตุผลหลักว่าระบบต้านโกง anti-cheat ยังไม่สามารถทำงานได้บนลินุกซ์ ล่าสุด เราเริ่มเห็นพัฒนาการเรื่องนี้แล้ว โดย Epic Games ในฐานะเจ้าของเอนจินและเครื่องมือพัฒนาเกม ประกาศว่าระบบต้านโกง Easy Anti-Cheat (EAC) ของตัวเอง (ซื้อกิจการมาในปี 2018) รองรับลินุกซ์และแมคแล้ว แถมยังทดสอบความเข้ากันได้กับเลเยอร์ช่วยรันเกมวินโดวส์ทั้ง Wine และ Proton ด้วย เปิดทางให้เราได้เห็นเกมที่ใช้ EAC บนลินุกซ์ได้อีกมาก ตัวอย่างเกมที่ใช้ EAC ได้แก่ Apex Legends, Dead by Daylight, Fall Guys เป็นต้น ส่วนระบบต้านโกงอีกตัวคือ BattlEye ก็ยืนยันข้อมูลกับ The Verge ว่ากำลังพัฒนาให้รองรับ Steam Deck อยู่เช่นกัน ตัวอย่างเกมที่ใช้ BattlEye ได้แก่ PUBG, DayZ, Rainbow Six Siege เป็นต้น ที่มา - Epic Games, The Verge
# ธนาคารกรุงเทพยังไม่สามารถโอนข้ามธนาคารได้ หลังประกาศปิดปรับปรุงถึงสิบโมงครึ่งเช้านี้ บริการของธนาคารกรุงเทพ โดยเฉพาะบริการโอนเงินข้ามธนาคารยังไม่สามารถใช้งานได้ หลังจากเมื่อคืนนี้ทางธนาคารประกาศปิดปรับปรุงระบบ 12 ชั่วโมงเต็ม ตั้งแต่นี่ทุ่มครึ่งถึงสิบโมงครึ่งที่ผ่านมา ผมทดสอบล่าสุดพบว่าแม้บริการออนไลน์จะเข้าตรวจสอบธุรกรรมได้แต่ไม่สามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ แม้ว่าทางธนาคารจะระบุว่าใช้งานได้แล้วเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ตอนนี้ในทวิตเตอร์ยังคงมีผู้ใช้แจ้งปัญหากันจำนวนมาก ภาพประกาศก่อนปิดระบบของธนาคารกรุงเทพ
# เผย Apple TV+ มีจำนวนสมาชิกในอเมริกาและแคนาดา น้อยกว่า 20 ล้านคน บริการสตรีมมิ่ง Apple TV+ เปิดตัวตั้งแต่ปี 2019 อย่างไรก็ตามแอปเปิลไม่เคยพูดถึงจำนวนสมาชิกที่สมัครรับชมเลยว่ามีมากน้อยแค่ไหน ล่าสุดได้มีข้อมูลส่วนนี้ออกมา โดย International Alliance of Theatrical Stage Employees (IATSE) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานฝ่ายงานผลิตด้านกล้องและฉาก ของรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ เปิดเผยข้อมูลหลังการเจรจาปรับค่าแรงที่มีขึ้นทุกปี ว่าแอปเปิลได้ระบุว่ามีสมาชิก Apple TV+ ในอเมริกาและแคนาดา น้อยกว่า 20 ล้านคน ทำให้สามารถเจรจาขอจ่ายค่าแรง ในอัตราที่ต่ำกว่าสตรีมมิ่งรายอื่นที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่านั้น โดยข้อมูลนี้แจ้งในวันที่ 1 กรกฎาคม 2021 โฆษกของแอปเปิลปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อตัวเลขดังกล่าว แต่บอกว่าบริษัทจ่ายเงินในอัตราที่เหมือนกับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งชั้นนำรายอื่น สำหรับตัวเลขสมาชิกของบริการสตรีมมิ่งรายอื่นนั้น Netflix มีสมาชิกทั่วโลก 209 ล้านคน, Disney+ 116 ล้านคน ส่วนสตรีมมิ่งอื่นในอเมริกาอย่าง Peacock ของ NBCUniversal และ Paramount+ ของ ViacomCBS นั้น IATSE ก็ระบุว่าแจ้งตัวเลขว่าต่ำกว่า 20 ล้านคน เช่นกัน ที่มา: CNBC
# Konami ออก Castlevania Advance Collection รวมเกมภาคเก่า 4 ภาค ยุคสมัยแห่งการนำเกมเก่ามามัดรวมขายอีกครั้ง เมื่อวานนี้ Konami เปิดตัว Castlevania Advance Collection รวมเกม Castlevania ทั้งหมด 4 ภาคคือ ไตรภาคยุคต้นปี 2000s ที่เคยออกบน Game Boy Advance และแถมด้วย Dracula X อีกหนึ่งภาค Castlevania: Circle of the Moon (2001) Castlevania: Harmony of Dissonance (2002) Castlevania: Aria of Sorrow (2003) Castlevania: Dracula X (1995) เกมทั้ง 4 ภาคจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Save/Load, Rewind, Replay รวมถึงของแถมอย่างภาพสเกตช์ อาร์ตเวิร์คของเกม Castlevania Advance Collection มีขายทั้งบน Switch, PS4/PS5, Xbox และพีซี ราคาขายบน Steam คือ 690 บาท ที่มา - Konami
# สหรัฐยุติคดี Meng Wanzhou ลูกสาวของผู้ก่อตั้ง Huawei ยอมให้เดินทางกลับจีนแล้ว Meng Wanzhou ซีเอฟโอของ Huawei และลูกสาวของผู้ก่อตั้งบริษัท ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศจีนแล้ว หลังถูกจับในแคนาดาตั้งแต่ปลายปี 2018 ตามคำขอของรัฐบาลสหรัฐ ตามข่าวบอกว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐทำข้อตกลงกับ Meng Wanzhou และยอมถอนคำข้อควบคุมตัวในแคนาดา รายละเอียดของข้อตกลงคือ Wanzhou จะยอมรับข้อกล่าวหาบางอย่าง แลกกับการพ้นข้อกล่าวหาบางอย่าง และได้รับอิสระให้เดินทางกลับจีนได้ หากเธอปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดที่ศาลแคนาดาสั่ง คดีนี้จะสิ้นสุดลง Meng Wanzhou ให้สัมภาษณ์ว่าชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา แต่หลังเมฆฝนผ่าน ฟ้าย่อมสดใสเสมอ เธอยังขอขอบคุณทุกกำลังใจและความช่วยเหลือที่ได้รับในช่วงเกือบ 3 ปีนี้ ล่าสุดเธอเดินทางกลับถึงเมืองเซินเจิ้นแล้ว การยุติคดีครั้งนี้มีผลเฉพาะคดีของตัว Wanzhou เท่านั้น กระทรวงยุติธรรมสหรัฐบอกว่าคดีของบริษัท Huawei จะยังเดินหน้าต่อไป ที่มา - BBC
# กูเกิลขยายฟีเจอร์ Pixel ให้มือถือ Android อื่น: โฟลเดอร์ส่วนตัวใน Photos, เดาคำใน Gboard กูเกิลประกาศนำฟีเจอร์หลายอย่างที่เคยมีเฉพาะ Google Pixel มาสู่ Android ยี่ห้ออื่นๆ ด้วย ได้แก่ ควบคุมมือถือด้วยใบหน้า (เน้นสำหรับผู้พิการ) คือ Camera Switches ที่เป็นส่วนหนึ่งของตัว OS เลย และ Project Activate แอพที่ช่วยให้ผู้พิการสามารถสื่อสารกับบุคคลรอบตัวได้ง่ายขึ้น เช่น ขยับปากแล้วให้มือถืออ่านใบหน้า แล้วออกเสียงพูดให้แทนเรา แอพ Lookout ที่ช่วยคนพิการทางสายตาอ่านข้อความรอบตัวแล้วออกเสียงให้ฟัง รองรับการอ่านข้อความที่เป็นลายมือแล้ว Google Assistant รองรับการจดสิ่งที่ต้องจำ (Reminders) เช่น สั่ง “Hey Google, remind me to water the plants every morning.” Google Photos รองรับ Locked Folder พื้นที่เก็บภาพและวิดีโอแบบต้องใส่รหัสผ่าน เดิมมีเฉพาะใน Pixel เท่านั้น Gboard เพิ่มฟีเจอร์ paste ข้อความแยกตามประเภทให้อัตโนมัติ (Smart Clipboard) เช่น คัดลอกข้อความที่มีทั้งที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ แต่พอสั่ง paste ในฟอร์มช่องเบอร์โทรศัพท์ Gboard จะแยกข้อความส่วนที่อยู่กับเบอร์โทรมาให้เราเลือกว่าจะเอาอันไหน, เพิ่มตัวเลือก paste ภาพหน้าจอล่าสุดที่เพิ่งแคปมาให้ด้วย Gboard จะช่วยเดาประโยคที่เราน่าจะอยากพิมพ์ให้เลย (Smart Compose) ลาก swipe ที่ปุ่ม spacebar เพื่อยืนยัน เดิมมีเฉพาะ Pixel ตอนนี้จะใช้ได้กับมือถือ Android 11 รุ่นอื่นๆ ด้วย Nearby Share เพิ่มตัวเลือกว่าจะให้ใครเห็นมือถือของเราบ้าง เลือกได้ everyone, contacts, no one Heads up ฟีเจอร์ในกลุ่ม Digital Wellbeing เตือนให้มองทางขณะเดิน ไม่ใช่มองแต่จอมือถือ ที่มา - Google, Android
# Twitter ระบุ ได้ปรับปรุงระบบวิดีโอ ทำให้ภาพแตกน้อยลง Twitter ทวีตผ่านบัญชี Twitter Support แจ้งข่าวดีว่า Twitter ได้ปรับปรุงคุณภาพวิดีโอแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ วิดีโอที่อัปโหลดเข้ามาใน Twitter จะเห็นภาพที่แตกน้อยลง (less pixelated) Twitter ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้ตัดขั้นตอนประมวลผลวิดีโอบางส่วนออกไป เวลามีผู้อัปโหลดวิดีโอใหม่เข้ามา ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นการแยกส่วนวิดีโอ ส่งผลต่อคุณภาพวิดีโอหลังการประมวลผลส่วนนี้เสร็จสิ้น Jane Manchun Wong นักแกะแอปชื่อดังได้อัปโหลดวิดีโอ เพื่อทดสอบวิดีโอหลัง Twitter ประกาศนี้ไว้แล้ว ลองดูผลลัพธ์ได้ท้ายข่าว (เตือน - วิดีโอมีเสียงค่อนข้างดัง) ที่มา: The Verge
# Elon Musk เลิกกับนักร้อง Grimes แล้ว คบกัน 3 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน หลังคบหากันมาสามปี และมีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่อ X Æ A-12 Musk วันนี้ Elon Musk ยอมรับว่าแยกทางกับแฟนสาวนักร้อง Grimes (ชื่อจริงคือ Claire Elise Boucher) แล้ว Elon ใช้คำว่า semi-separated บอกว่าแยกกันด้วยดีไม่ฟ้องร้อง ยังรักกันอยู่ เจอกันบ่อยๆ และช่วยกันเลี้ยงลูก (เขาเรียกว่า Baby X) กันต่อไป เขาบอกว่าด้วยงานของเขาที่ Tesla และ SpaceX ทำให้เขาต้องไปอยู่ที่เท็กซัสหรือไปต่างประเทศบ่อยๆ ในขณะที่ Grimes อาศัยอยู่ในแอลเอเป็นหลัก เพราะงานของเธออยู่ที่นี่ Elon เคยแต่งงานมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกกับภรรยาคนแรก Justine Wilson ระหว่างปี 2000-2008 มีลูกด้วยกัน 5 คน (เป็นแฝด 2 และแฝด 3) จากนั้นแต่งงานกับนักแสดง Talulah Riley ระหว่างปี 2008-2016 แต่ไม่มีลูกด้วยกัน ส่วนกรณีของ Grimes มีลูกด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนแต่งงาน บทความอ่านประกอบ วิธีจีบสาวสไตล์ Elon Musk จีบนักร้องสาว Grimes ผ่านทวิตเตอร์ด้วยมุก Roko’s Basilisk ที่มา - Page Six ภาพโดย Getty Images
# Apple ระบุ ไม่ได้กั๊กรีเฟรชหน้าจอ 120Hz กับแอปทั่วไป แต่จะให้นักพัฒนาแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากแอปเปิลเริ่มส่งมอบ iPhone 13 Pro และ Pro Max ซึ่งมีจุดขายคือหน้าจอที่อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz อย่างไรก็ตามนักพัฒนาพบว่าส่วนของแอนิเมชันในแอปนั้น กลับไม่ได้อัตรารีเฟรชสูงสุดที่ 120Hz แต่ถูกจำกัดไว้ที่ 60Hz เท่าเดิม แอปเปิลได้ชี้แจงปัญหาดังกล่าวว่า นักพัฒนาจะสามารถใช้ประสิทธิภาพการรีเฟรชจอได้เต็มที่ถึง 120Hz แต่ต้องระบุรายละเอียดไว้ใน plist entry ของแอป ซึ่งแอปเปิลชี้แจงรายละเอียดกับนักพัฒนาในภายหลัง ทั้งนี้เพื่อควบคุมการใช้แบตเตอรี่ของ iPhone นอกจากนี้มีปัญหาการแสดงผลแอนิเมชันที่สร้างด้วย Core Animation แอปเปิลบอกว่าจะแก้ไขในอัพเดตซอฟต์แวร์ถัดไป ในตอนนี้ผู้ใช้ iPhone 13 Pro จะได้อัตรารีเฟรช 120Hz จากหน้าจอ ProMotion เมื่อปัดเลื่อนหน้าจอ หรือเวลาปิดเปิดแอป แต่ยังไม่รองรับการแสดงแอนิเมชันในแอปของนักพัฒนาภายนอก ที่มา: MacRumors
# พบบั๊ก Apple Music ใน iPhone 13 และ iPad รุ่นใหม่ วิธีแก้ไขคืออัพเดต iOS 15 แอปเปิลเริ่มส่งมอบ iPhone 13 ให้กับลูกค้าในกลุ่มประเทศแรกที่จองแล้ววันนี้ ซึ่งทันทีก็มีรายงานปัญหาการใช้งานออกมา และแอปเปิลก็ออกแนวทางแก้ไขเบื้องต้นทันที สำหรับการใช้ Apple Music โดยปัญหานั้น พบในผู้ใช้งาน iPhone 13 และ iPad รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ใช้วิธีกู้คืนข้อมูลจาก backup ในการตั้งค่าเครื่องใหม่ อาจไม่สามารถเข้าถึงแคตตาล็อก Apple Music, Settings ของ Apple Music หรือ Sync Library ได้ สำหรับวิธีการแก้ไขนั้น แอปเปิลระบุว่าให้อัพเดต iOS 15 ก่อนแบบ OTA โดยไปที่ Settings > General > Software Update โดยในรายละเอียดระบุว่าเป็นอัพเดตย่อยที่แก้ไขปัญหาความปลอดภัยและแก้ไขบั๊ก อุปกรณ์รุ่นที่เจอปัญหานี้คือ iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max, iPad (รุ่นที่ 9) และ iPad mini (รุ่นที่ 6) ซึ่งทั้งหมดยังไม่มีขายในไทยอย่างเป็นทางการตอนนี้ ที่มา: MacRumors
# แบงค์ชาติจีนระบุชัด ธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโตทั้งหมดเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จีนยังคงเดินหน้ากำจัดธุรกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับสกุลเงินคริปโตอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารกลางของจีน People’s Bank of China ระบุว่าธุรกรรมคริปโตผิดกฎหมายและจะต้องมีการแบนอย่างเป็นรูปธรรม PBOC ระบุว่าทั้งบริษัทการเงินและบริษัทอินเทอร์เน็ตจะต้องหยุดให้บริการเทรดคริปโตบนแพลตฟอร์ม รวมถึงผู้ให้บริการแลกเงินต่างประเทศจะต้องหยุดให้บริการที่เกี่ยวข้องกับคริปโตกับประชาชนจีนด้วย นอกจาก PBOC แล้ว National Development and Reform Commission ของจีนก็ออกมาระบุว่าการปราบปรามการขุดคริปโตเป็นนโยบายสำคัญที่เลี่ยงไม่ได้ การประกาศครั้งนี้ทำบิตคอยน์ร่วงไปอีก 8% อยู่ที่ราว 41,000 ดอลลาร์ในเวลา 9 โมงเช้าตามเวลาของนิวยอร์ก ที่มา - Engadget, TechCrunch, Bloomberg, BBC
# กูเกิลปล่อยอัพเดตมือถือ Android ใช้เป็นรีโมท Google TV ได้แล้ว ใช้พิมพ์รหัสผ่านบนทีวีได้ กูเกิลปล่อยฟีเจอร์ให้สมาร์ทโฟน Android ใช้เป็นรีโมทควบคุม Android TV/Google TV ได้ (ประกาศตอน Google I/O 2021 แต่เพิ่งปล่อย) ฟีเจอร์นี้จะถูกฝังมาในตัว OS ใช้ได้โดยไม่ต้องลงแอพรีโมท วิธีใช้งานคือเพิ่มปุ่มรีโมทใน Quick Settings หรือจะเรียกผ่านแอพ Google TV ก็ได้เช่นกัน นอกจากการควบคุมปุ่มบนหน้าจอแล้ว ยังสามารถพิมพ์ข้อความในมือถือ เช่น ค้นหาชื่อหนังหรือกรอกรหัสผ่าน ซึ่งสะดวกกว่าการเลือกข้อความบนทีวีได้ด้วย กูเกิลบอกว่าจะทยอยปล่อยฟีเจอร์นี้ในเร็วๆ นี้ ที่มา - Google
# Android Auto ได้ฟีเจอร์เล่นเกมในรถตอนจอดนิ่ง, สั่งด้วยเสียงเข้าโหมด Driving ไม่ต้องแตะจอ กูเกิลอัพเดตหน้าตาของ Android Auto เวอร์ชันบนหน้าจอรถยนต์ให้ใช้งานสะดวกขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่คือเล่นเกมง่ายๆ จาก GameSnacks ได้ด้วย (เฉพาะตอนที่รถจอดนิ่งเข้าเกียร์ P เท่านั้น) ฟีเจอร์อื่นของ Android Auto รองรับ work profile ของ Android แล้ว ถ้าเป็นมือถือสองซิม ตั้งค่าได้ว่าจะให้โทรออกจากซิมไหน หากสั่งโทรในรถ สั่งจ่ายเงินค่าน้ำมันด้วยเสียงได้ เช่น “Hey Google, pay for gas” จะเป็นการจ่ายด้วย Google Pay ในปั๊มน้ำมันที่รองรับในสหรัฐ ส่วนคนใช้รถที่ยังไม่รองรับ Android Auto สามารถใช้ Google Assistant driving mode บนมือถือ ที่ได้ฟีเจอร์ใหม่เช่นกัน เน้นที่การสั่งงานด้วยเสียงคือ เข้าโหมด driving ด้วยการสั่ง “Hey Google, let’s drive” หรือต่อเชื่อมกับ Bluetooth ของรถยนต์ โดยไม่ต้องแตะมือถือเลย ปรับอินเทอร์เฟซใหม่ ให้เห็นแอพและคำสั่งสำคัญๆ จากหน้าจอเดียว ไม่ต้องเลื่อนจอ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุ อ่านข้อความ SMS ออกเสียง ด้วยการสั่ง “​​Hey Google, turn on auto read” และตอบข้อความด้วยเสียงพูดได้ ที่มา - Google
# Honda เซ็นสัญญากูเกิล ใช้ Android Automotive ในรถ เริ่มครึ่งหลังปี 2022 กูเกิลเซ็นสัญญา Honda เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดที่จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive ในรถยนต์ ผลคือรถยนต์ของ Honda รุ่นที่ขายในอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2022 เป็นต้นไป (ยังไม่ระบุชื่อรุ่น) จะมี Android Automotive ฝังมาให้ตั้งแต่โรงงาน ใช้งานแอพอย่าง Google Maps, Google Assistant, Google Play ได้ในตัวโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเลย Android Automotive เป็นระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันที่ใช้งานในรถยนต์โดยตรง (ต่างจาก Android Auto ที่เป็นการรันจากมือถือ) ก่อนหน้านี้ กูเกิลเซ็นสัญญากับบริษัทรถยนต์บางแห่งเพื่อใช้งานแล้ว เช่น Volvo Polestar 2, Ford, GM/GMC Hummer และ Renault-Nissan-Mitsubishi ที่มา - Honda, Google ภาพจาก Honda
# พร้อมร่วมทัวร์หรือไม่ ทวิตเตอร์ทดสอบฟีเจอร์เตือนเมื่อเรากำลังร่วมวงดราม่า, ถอนตัวจาก thread ได้ ทวิตเตอร์เพิ่มฟีเจอร์สำหรับควบคุมดราม่าออนไลน์ในทวิตเตอร์ โดยเปิดให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการสนทนาได้มากขึ้นด้วยฟีเจอร์ดังนี้ ฟีเจอร์ Head Up เตือนผู้ใช้เมื่อบทสนทนาใน thread กำลังร้อนแรงกลายเป็นดราม่า โดยหน้าจอที่ทวิตเตอร์จะขึ้นข้อความเตือนว่าบทสนทนากำลังร้อนแรง และขอให้ผู้ใช้ตระหนักว่าควรสื่อสารอย่างเคารพกัน, ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน, และมองในมุมมองที่กว้างขึ้น (diverse) ฟีเจอร์กรองคำที่ไม่ต้องการเห็นยังเพิ่มฟีเจอร์กรองเนื้อหาไม่เหมาะสมตามประเภท เช่น คำแสดงความเกลียดชัง, ข้อความลามก, แสปม, เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ และตัวกรองคำเองก็สามารถกรองอีโมจิได้แล้ว เปิดให้ถอนตัวออกจาก thread ที่กำลังพูดคุยกัน ทำให้ทวิตเตอร์ไม่แจ้งเตือนแม้ผู้ใช้ใน thread นั้นจะเมนชั่นเราก็ตาม แก้ไขผู้ที่ reply ได้ตลอดเวลา จากเดิมที่ทวิตเตอร์เปิดให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าใครจะ reply ข้อความได้ก่อนทวีต หลังจากนี้สามารถแก้ไขได้แม้ทวีตไปแล้ว Safety Mode สามารถบล็อคบัญชีที่คล้ายกับบัญชีที่เราเคยบล็อคไปแล้วโดยอัตโนมัติ ลบผู้ใช้ออกจาก follower มีปุ่มให้กดเฉพาะ ไม่ต้อง block/unblock เหมือนเดิม ทวิตเตอร์ระบุว่าการจำกัดคน reply ทำให้มีรายงานการล่วงละเมิด (abuse) น้อยลง เนื่องจากผู้ใช้สามารถจัดการปัญหาได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มนักกิจกรรม, ผู้หญิงในวงการเทคโนโลยี, หรือนักข่าว ที่มา - งานแถลงข่าวออนไลน์ Twitter
# Chrome 94 ออกแล้ว เปลี่ยนมาออกรุ่นใหม่ทุก 4 สัปดาห์แทน 6 สัปดาห์ กูเกิลออก Chrome 94 ซึ่งเป็นเวอร์ชันแรกที่เปลี่ยนมาใช้รอบการออกรุ่นใหม่ทุก 4 สัปดาห์แทน 6 สัปดาห์ ตามที่ประกาศไว้เมื่อต้นปี (เหมือน Firefox แล้วตอนนี้) ของใหม่ได้แก่ Chrome จะพยายามโหลดเว็บเพจผ่าน HTTPS ก่อนเสมอ (HTTPS-First) Sharing Hub ปุ่มแชร์ตรง URL Bar ของเว็บไซต์ สำหรับแชร์ลิงก์ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงทาง QR ปรับวิธีแสดงผลหน้าตั้งค่า (Settings) ให้แสดงเฉพาะการตั้งค่าของหมวดนั้นๆ แทนของเดิมที่แสดงเป็นหน้ายาวๆ แต่ละหมวดต่อกันไป รองรับ WebCodecs API สำหรับนักพัฒนาในการเรียกใช้ video codec ของตัวเบราว์เซอร์ รองรับ WebGPU API เป็น API กลางของเบราว์เซอร์ในการเรียก GPU ของ OS อีกที (เช่น DirectX, Vulkan, Metal) Chrome for Android รองรับระบบธีม Material You ตัวใหม่ของ Android 12 ที่มา - Chrome Developer, 9to5google, Android Police
# ทวิตเตอร์เตรียมให้อัดเสียง Spaces ไว้ฟังภายหลังได้, ค้น Spaces ที่น่าสนใจได้ง่ายขึ้น Twitter เตรียมเพิ่มฟีเจอร์อัดเสียงใน Spaces ในผู้ฟังสามารถเข้าไปฟังภายหลังจบรายการได้ ทำให้รูปแบบเป็นเหมือนพอดแคสมากขึ้น ตรงตามโค้ดที่มีรายงานมาก่อนหน้านี้ นอกจากการอัดเสียงแล้วทวิตเตอร์ยังเพิ่มแท็บแนะนำ Spaces ที่น่าจะตรงความสนใจของเราเข้ามาจากเดิมที่เราจะเห็นเฉพาะ Spaces ที่เรากำลังติดตามอยู่เท่านั้น ทวิตเตอร์ลงทุนกับบริการเสียงอย่างมากในช่วงหลัง แถมยังมีแนวทางทำธุรกิจกับบริการนี้เต็มที่ด้วยการเปิดบริการแบบเก็บค่าเข้าฟัง ทำให้บริการเกิดใหม่อย่าง Clubhouse ต้องหาจุดต่างที่ชัดเจนกว่าเดิม ที่มา - งานแถลงข่าวออนไลน์ Twitter
# Apple ออกอัพเดต iOS 12.5.5 สำหรับ iPhone และ iPad รุ่นเก่า แก้ไขช่องโหว่ Zero-Day แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 12.5.5 สำหรับ iPhone และ iPad รุ่นเก่า ที่ไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS เวอร์ชันล่าสุด iOS 15 ได้ ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ที่ Settings > General > Software Update แอปเปิลระบุว่าอัพเดตนี้เป็นการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย ทั้ง CoreGraphics, WebKit และ XNU ซึ่งมีรายงานการโจมตีแล้ว จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดตทันที อุปกรณ์รุ่นเก่าที่สามารถอัพเดต iOS 12.5.5 นี้ได้ ได้แก่ iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPad Air, iPad mini 2, iPad mini 3 และ iPod touch (6th Gen) แอปเปิลยังออกอัพเดตความปลอดภัยเดียวกันนี้ 2021-006 สำหรับ macOS Catalina ด้วย ที่มา: MacRumors
# Twitter เปิดใช้งาน Tips กับผู้ใช้ทุกคนแล้ว พร้อมรองรับการเปย์เป็น Bitcoin ผ่าน Strike ด้วย Twitter ประกาศว่าฟีเจอร์ Tips ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถจ่ายทิปให้เจ้าของบัญชีทวีตที่ถูกใจ ซึ่งทดสอบในวงจำกัดมาหลายเดือนก่อนหน้านี้ จะทยอยเปิดให้ใช้งานกับผู้ใช้ทั่วไปแล้ว โดยเริ่มที่ iOS ก่อน ส่วน Android จะเริ่มในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้งานที่จะเปิด Tips ได้ ต้องมีอายุ 18 ปี ขึ้นไป แพลตฟอร์มการจ่ายเงินที่รองรับตอนนี้ได้แก่ Bandcamp, Cash App, Chipper, Patreon, Razorpay, Wealthsimple Cash, Venmo โดยมีที่เพิ่งเพิ่มเติมคือ GoFundMe และ PicPay แพลตฟอร์มของบราซิล กระบวนการจ่ายเงินทั้งหมดจะเกิดขึ้นที่ฝั่งแอปชำระเงิน Twitter จึงไม่ได้หักส่วนแบ่งใด ๆ ไฮไลท์สำคัญของประกาศนี้คือการรองรับ Strike แพลตฟอร์มจ่ายเงินบิตคอยน์บน Lightning Network จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถจ่ายทิปเป็นบิตคอยน์ได้ด้วย นอกจากนี้ Twitter ยังเปิดให้ผู้ใช้งานเพิ่มที่อยู่ (Address) ของบิตคอยน์ในหน้าโปรไฟล์ สำหรับการโอนเงินโดยตรงอีกด้วย ในงานแถลงข่าว Twitter ยังพูดถึงแผนการรองรับการยืนยันความเป็นเจ้าของ NFT ในอนาคตบน Twitter โดยอาจแสดงในเป็นแบดจ์ หรือแสดงกำกับในหน้าโปรไฟล์ ที่มา: Twitter และ The Verge
# Bayonetta 3 ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่ พร้อมประกาศวางขายในปี 2022 ในงานแถลงข่าว Nintendo Direct ล่าสุด นินเทนโดได้อัพเดตความคืบหน้าของ Bayonetta 3 ของ PlatinumGames พร้อมเทรลเลอร์ที่มาพร้อมการร่ายเวทมนตร์ โดยบอกว่าเกมมีกำหนดวางขายปี 2022 นินเทนโดเปิดตัว Bayonetta 3 ครั้งแรกเมื่อปี 2017 โดยเป็นเอกซ์คลูซีฟลงเฉพาะใน Nintendo Switch แต่จากนั้นมาก็ไม่มีข่าวคราวใด ๆ ของเกมออกมาเลย ชมเทรลเลอร์ได้ท้ายข่าว ที่มา: Nintendo Life
# Nintendo Switch Online เตรียมเพิ่มเกม Nintendo 64 และ Mega Drive แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ในงานแถลงข่าว Nintendo Direct นินเทนโดประกาศเพิ่มเกมชุดใหม่ในบริการเสริม Nintendo Switch Online โดยนำเกมจาก Nintendo 64 และ Mega Drive (SEGA Genesis ตามชื่อในอเมริกา) มาเพิ่มในแคตาล็อก อย่างไรก็ตามสมาชิกปัจจุบันจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อเข้าถึงเกมชุดนี้ ซึ่งนินเทนโดจะประกาศรายละเอียดราคา รูปแบบแผนสมาชิก ในภายหลัง มีกำหนดให้บริการปลายเดือนตุลาคม นินเทนโดบอกว่าจะทยอยเพิ่มเกมเข้ามาในอนาคต เหมือนกับเกม Famicom และ Super Famicom โดยเกมชุดแรกที่มีให้เล่นมีดังนี้ Nintendo 64: Super Mario 64, The Legend of Zelda: Ocarina of Time, Mario Kart 64, Star Fox 64, Sin and Punishment, Dr. Mario 64, Mario Tennis 64, WinBack, Yoshi’s Story Mega Drive: Sonic the Hedgehog 2, Streets of Rage 2, Ecco the Dolphin, Castlevania: Bloodlines, Contra: Hard Corps, Dr. Robotnik’s Mean Bean Machine, Golden Axe, Gunstar Heroes, M.U.S.H.A., Phantasy Star IV, Ristar, Shining Force, Shinobi III: Return of the Ninja Master, Strider นอกจากนี้นินเทนโดยังเตรียมขายจอยเกมไร้สายทั้งของ Nintendo 64 และ Mega Drive ราคาในอเมริกา 49.99 ดอลลาร์ ที่มา: The Verge
# Kirby and the Forgotten Land ครั้งแรกของ Kirby ในแบบ 3D วางขายต้นปี 2022 นินเทนโดประกาศเกมในซีรี่ส์ Kirby ภาคใหม่บน Nintendo Switch ชื่อ Kirby and the Forgotten Land กำหนดวางขายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2022 หรือช่วงต้นปีหน้า ไฮไลท์ของ Kirby ภาคนี้คือตัวเกมแบบ 3D เป็นครั้งแรก โดยในเทรลเลอร์มีรายละเอียดของหลายฉากที่ต้องผจญภัยในเมืองร้าง ศัตรู และการเพิ่มความสามารถในแบบเกม Kirby เกม Kirby ภาคล่าสุดที่ออกมาคือ Kirby Star Allies ในปี 2018 ซึ่งเป็นรูปแบบ 2D ที่มา: Polygon
# ข้อมูลเพิ่มเติมแอนิเมชัน Super Mario ได้ Chris Pratt พากย์เสียงมาริโอ้ ฉายปลายปี 2022 ในงานแถลงข่าว Nintendo Direct ซึ่งเป็นวันครบรอบ 132 ปี การก่อตั้งนินเทนโด Shigeru Miyamoto ผู้สร้างเกมมาริโอ้ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมของภาพยนตร์แอนิเมชัน Super Mario ที่ผลิตโดยสตูดิโอ Illumination เพิ่มเติม โดยภาพยนตร์มีกำหนดฉายช่วงปลายปี 2022 ในอเมริกากำหนดวันไว้แล้วคือ 21 ธันวาคม 2022 รายชื่อผู้ให้เสียงพากย์มี Chris Pratt เป็นมาริโอ้, Anya Taylor-Joy เป็นเจ้าหญิงพีช, Charlie Day เป็น Luigi, Jack Black เป็น Bowser, Seth Rogen เป็น Donkey Kong ส่วน Charles Martinet ผู้ให้เสียงมาริโอ้ในเกมมาริโอ้ทุกภาคตั้งแต่ Super Mario 64 นั้น Miyamoto บอกว่าจะมาปรากฏตัวแบบเซอร์ไพรส์คนดู ที่มา: CNET
# ยุโรปเสนอกฎสายชาร์จ USB-C ใช้กับทุกอย่าง, ออกมาตรฐานกลางชาร์จเร็ว ใช้ข้ามค่ายได้ คณะกรรมการยุโรป (European Commission) ซึ่งเทียบได้กับหน่วยงานรัฐบาลของสหภาพยุโรป ออกข้อเสนอเรื่องการบังคับใช้พอร์ต USB-C กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท เพื่อลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ กฎข้อนี้มีชื่อเรียกว่า Radio Equipment Directive ตอนนี้ยังมีสถานะเป็นข้อเสนอจาก EC ที่ต้องรอไปโหวตรับรองในรัฐสภายุโรปก่อน หากโหวตผ่านแล้วจะมีเวลาเตรียมตัวก่อนบังคับใช้จริงอีก 24 เดือน รายละเอียดของกฎมีทั้งหมด 4 ข้อคือ ใช้พอร์ต USB-C สำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้อง หูฟัง ลำโพงพกพา ออกมาตรฐานกลางเรื่องการชาร์จเร็ว เพื่อให้สายชาร์จสามารถใช้ร่วมกันชาร์จเร็วได้ แยกการขายตัวสินค้าและสายชาร์จ ผู้บริโภคต้องสามารถซื้อสินค้าแบบไม่เอาสายชาร์จได้เสมอ เพื่อลดจำนวนการผลิตสายชาร์จลง ผู้ผลิตสินค้าต้องประกาศข้อมูลการชาร์จให้ชัดเจน เช่น กำลังไฟฟ้า การรองรับระบบชาร์จเร็ว เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจได้ว่าต้องซื้อสายชาร์จใหม่ หรือใช้สายชาร์จเดิมที่มีอยู่แล้วได้ EC บอกว่าก่อนหน้านี้ใช้มาตรการ "สมัครใจ" เพื่อรวมสายชาร์จให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง ลดประเภทของสายชาร์จจาก 30 แบบเหลือ 3 แบบ แต่ก็ยังไม่พอ จึงเดินหน้าลดสายชาร์จให้เหลือเพียงแบบเดียวต่อไป ที่มา - European Commission
# Xiaomi ประกาศราคาสินค้าชุดใหม่ในไทย 11T Pro เริ่มต้น 16,990 บาท, Pad 5 เริ่มต้น 10,990 บาท Xiaomi ประกาศราคาขายในไทยของ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และสินค้ากลุ่ม AIoT กับแกดเจ็ตที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีรายละเอียดดังนี้ Xiaomi 11T Pro 5G แรม 8GB ความจุ 128GB ราคา 16,990 บาท, 8+256 ราคา 18,990 บาท และ 12+256 20,990 บาท Xiaomi 11T 5G แรม 8GB ความจุ 128GB 13,990 บาท, 8+256 ราคา 14,990 บาท สมาร์ทโฟนจะเริ่มขาย 9 ตุลาคม เป็นต้นไป ลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าจะได้ของแถม (มีจำนวนจำกัด) คือ Mi Watch Xiaomi 11 Lite 5G NE แรม 6GB ความจุ 128GB ราคา 10,990 บาท, 8+128 ราคา 11,990 บาท และ 8+256 ราคา 13,990 บาท เริ่มวางจำหน่าย 2 ตุลาคม เป็นต้นไป สั่งจองล่วงหน้าจะได้ Special Gift Box มูลค่า 2,990 บาท Xiaomi Pad 5 แรม 6GB ความจุ 128GB ราคา 10,990 บาท และ 6+256 ราคา 12,990 บาท ปากกา ราคา 2,499 บาท เริ่มขาย 2 ตุลาคม เป็นต้นไป สั่งจองล่วงหน้าจะได้เคสและฟิล์มหน้าจอ ส่วนสินค้า AIoT และแกดเจ็ต ที่น่าสนใจมีดังนี้ หูฟัง Xiaomi FlipBuds Pro 5,699 บาท เริ่มขาย 23 กันยายน Mi Smart Projector 2 16,990 บาท เริ่มขาย 2 ตุลาคม ที่มา: Xiaomi Thailand
# เปิดตัว HP 11 แท็บเล็ต Windows 11 ขาตั้งใช้ได้ทั้งแนวตั้ง-นอน กล้องหมุนได้ 13MP HP เปิดตัวแท็บเล็ต Windows 11 รุ่นแรกของบริษัทในชื่อว่า HP 11 inch Tablet PC เป็นแท็บเล็ตหน้าจอ 11" IPS 2160x1440 พิกเซล ใช้กล้อง 13MP ที่หมุนเป็นได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง HP 11 ยังมีขาตั้ง kickstand ที่วางเครื่องได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง มีอุปกรณ์เสริมเป็นคีย์บอร์ดแม่เหล็กที่ใช้ได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้งเช่นกัน และใช้กับปากกา HP Rechargeable Tilt Pen ได้ สเปกคร่าวๆ คือซีพียู Pentium Silver N6000, แรม 4GB, สตอเรจ 128GB SSD, น้ำหนัก 660 กรัม กำหนดวางขายต้องรอนานถึงเดือนธันวาคม ราคาเริ่มต้นที่ 499 ดอลลาร์ไม่รวมคีย์บอร์ด และ 599 ดอลลาร์รวมคีย์บอร์ดแล้ว จากสเปกและราคาถือว่าค่อนข้างใกล้เคียงกับ Surface Go 3 ที่ราคาเริ่มต้น 399 ดอลลาร์ ที่มา - HP, Windows Central
# รีวิว Xiaomi 11T Pro เรือธงทรงเดิม เพิ่มเติมคือชาร์จเร็ว 120W (และปรับชื่อใหม่) ช่วงปีที่ผ่านมานี้ ไม่แน่ใจว่าเพราะวิกฤตขาดแคลนชิป หรือปัญหาในด้านการผลิตที่มีสาเหตุจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้เทคโนโลยีมือถือดูจะไม่ค่อยมีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ ออกมาให้ว้าวกันมากนัก นอกจากมือถือจอพับที่ราคาเริ่มถูกลงจนคนทั่วไปเริ่มซื้อหาได้ หรือ Mi 11 Ultra ที่มีหน้าจอเล็กด้านหลัง แต่ก็ทำให้โมดูลกล้องยื่นออกมาเยอะ และมีน้ำหนักมาก Xiaomi 11T Pro ก็ดูจะเป็นมือถือเรือธงอีกรุ่นที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก เพราะแม้ตามชื่อรุ่นแล้ว จะเป็นรุ่นต่อจาก Xiaomi Mi 10T Pro แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าช่วงต้นปีมี Mi 11 และ Mi 11 Pro ที่ใช้ชิป Snapdragon 888 ไปแล้ว ส่วนรุ่น 11T Pro ก็จะต่างจากรุ่นต้นปีแค่กล้องหลังที่อัพเกรดขึ้นมา ขนาดหน้าจอที่จะเล็กกว่า (จาก 6.81 นิ้ว เหลือ 6.67 นิ้ว) ซึ่งก็จะตอบโจทย์ในระดับราคาต่างกัน กับจุดเปลี่ยนอีกอย่างคือคราวนี้ Xiaomi เลิกใส่คำว่า Mi ในชื่อรุ่นแล้ว ใช้แค่ Xiaomi 11T Pro เท่านั้น สเปคฮาร์ดแวร์ หน้าจอ AMOLED 6.67 นิ้ว แบบ 10bit ความละเอียด 1080x2400 รีเฟรชเรต 120Hz แบบ Adaptive ครอบด้วยกระจก Gorilla Glass Victus ชิปประมวลผล Snapdragon 888 แรม 8 GB หน่วยความจำภายใน 256GB รองรับ WiFi-6, Bluetooth 5.2 แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W (แถมมาในกล่อง) รัน Android 11 ครอบด้วย MIUI 12.5 สัมผัสแรก ตัวเครื่องที่ผู้เขียนรีวิว เป็นสี Meteorite Gray ยังมีความหนาและน้ำหนักใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้า โมดูลกล้องมีความนูนน้อยกว่า Mi 10T Pro มาพร้อมที่ชาร์จแบบ 120W ผ่านพอร์ต USB-C ซึ่งเร็วมากๆ ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงก็สามารถชาร์จจาก 0 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ได้ เซ็นเซอร์ลายนิ้วมืออยู่ที่ปุ่มเปิดปิดด้านข้าง ทำงานได้เร็วมาก ผู้เขียนที่เปลี่ยนมาใช้หลังจากใช้ iPhone 12 Pro รู้สึกว่าสะดวกขึ้นมาก เวลาใส่หน้ากากอนามัย ส่วนแบตเตอรี่ 5,000 mAh ก็ทำให้ใช้งานได้แบบเต็มวันแบบหายห่วง หรืออาจได้ถึงวันครึ่งถ้าไม่ได้ใช้งานหนักมากนัก การใช้งาน แม้จะแตกต่างจากรุ่นเมื่อต้นปีไม่มากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าในช่วงหลัง หน้าจอของ Xiaomi คุณภาพดีขึ้นมาก หลังจากที่หันมาใช้จอ AMOLED แทน ซึ่งในรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับการรองรับ HDR แบบ Dolby Vision รีเฟรชเรต 120Hz แบบ Adaptive และความละเอียด FullHD+ ซึ่งก็ใช้งานได้ไม่มีที่ติ และสว่างสู้แดดได้แม้อยู่กลางแจ้ง รวมถึงลื่นไหลเพลินตามากๆ (ผู้เขียนใช้ iPhone12 Pro ซึ่งยังเป็น 60Hz อยู่) การดูวิดีโอ เล่นโซเชียล เล่น TikTok เพลินตา คมชัดตามมาตรฐานจอ เสียงเป็นลำโพงคู่บนล่าง ดังมากเมื่อเปิดจนสุด แต่รายละเอียดเสียงอาจเสียไปเล็กน้อย แนะนำว่าลดลงมานิดหน่อย กำลังอยู่ในระดับพอดี ส่วนการรองรับหูฟังเป็นแบบ Bluetooth 5.2 โคเด็ค A2DP, LE, aptX HD และ aptX Adaptive ไม่มีรูหูฟัง ชิป Snapdragon 888 แม้จะเป็นของเดิมจากต้นปี แต่ก็ยังเป็นชิปประสิทธิภาพเรือธง ใช้งานทั่วไปไม่สะดุด เล่นเกมก็สบายๆ ติดแค่เรื่องความร้อน ที่หากเล่นเกมติดต่อกันเกินราวหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป ก็จะเริ่มอุ่นจนรู้สึกได้ และเกมก็เริ่มมีกระตุกมากขึ้น ซึ่งน่าจะมาจากการ throttle ของชิป จุดที่น่าเสียดายคือ Xiaomi 11T Pro แม้จะเพิ่ม IP rating กันน้ำกันฝุ่นมา จากที่ Mi 10T Pro ไม่มี แต่ก็อยู่ที่ IP53 เท่านั้น คือกันฝุ่นได้เล็กน้อย และกันน้ำกระเซ็นใส่ได้ แต่ไม่สามารถกันน้ำแรงดันสูง เช่นสายฉีดน้ำและสระว่ายน้ำ หรือกันฝุ่นละอองปริมาณมากได้ ผู้ใช้ที่เปลี่ยนจากมือถือ IP68 มาอาจต้องระมัดระวังมากกว่าเดิม คุณภาพกล้อง Xiaomi 11T Pro มาพร้อมกล้องหลังหลัก 108MP f/1.8 กล้องอัลตร้าไวด์ f/2.2 กล้องเทเลมาโคร 5MP f/2.4 และกล้องหน้าแบบเจาะรูกลางจอ 16MP f/2.5 คุณภาพกล้องพอใช้ รายละเอียดครบ แต่อาจมีสีสันสดเกินจริงเล็กน้อย ชมตัวอย่างภาพได้ด้านล่าง ภาพจากกล้องหลังหลัก ภาพจากกล้องอัลตร้าไวด์ ภาพจากกล้องเทเลมาโคร ซูม 2x ภาพจากกล้องหลังหลัก ภาพจากกล้องหลังหลัก ภาพจากกล้องหลังหลัก ภาพจากกล้องหลังหลัก ภาพถ่ายกลางคืน และกล้องหน้า กล้องสามารถตรวจจับการถ่ายภาพตอนกลางคืนได้แบบอัตโนมัติ และแสดงตัวอักษรว่า “Night” โดยจะช่วยทำให้ภาพสว่างขึ้นได้พอประมาณ แต่ถ้าต้องการใช้งานในที่มืดมากๆ ก็สามารถเปิด Night Mode ด้วยตัวเองได้ ซึ่งก็จะทำให้ภาพสว่างมากขึ้น แค่ต้องถือมือถือนิ่งๆ นานขึ้นหน่อย ส่วนกล้องเซลฟี่ คุณภาพดีตามมาตรฐานปกติของ Xiaomi ภาพจากโหมดถ่ายภาพกลางคืนอัตโนมัติ ภาพจากการเปิด Night Mode ในการตั้งค่า ภาพจากกล้องหน้า สรุป นอกจากชื่อใหม่ กับที่ชาร์จ 120W ที่ชาร์จได้เร็วมากๆ แล้ว ส่วนอื่นของ Xiaomi 11T Pro ยังไม่มีอะไรที่ก้าวกระโดดจากรุ่นก่อนๆ มากนัก การกันน้ำกันฝุ่น IP53 ที่เพิ่มมาก็เป็นเรื่องดี แต่น่าจะยังไม่ดีพอ ถ้าคำนึงถึง Samsung Galaxy A52s 5G ราคา 13,999 บาท ที่กันน้ำกันฝุ่น IP67 กับ Xiaomi 11T Pro ที่ราคาเริ่มต้น 16,990 บาท ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่า Xiaomi 11T Pro เป็นมือถือที่ไม่ดี เพราะก็ยังเป็นมือถือเรือธงประสิทธิภาพสูง จอสว่าง สีสวย ลื่นไหล ใช้งานได้ครบครันเหมือนเดิม แค่ฟีเจอร์ใหม่ยังไม่มีอะไรให้ว้าวมากนัก และยังเป็นเพียงการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ประจำปี
# ไมโครซอฟท์ประกาศราคาไทย Surface Go 3 เริ่มที่ 14,990 บาท, เมาส์รักษ์โลก 780 บาท ไมโครซอฟท์ประเทศไทย ประกาศราคาขายของ Surface Go 3 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อคืนนี้ แยกตามสเปกดังนี้ Pentium Gold 6500Y, 4GB RAM, 64GB eMMC ราคา 14,999 บาท Pentium Gold 6500Y, 8GB RAM, 128GB SSD ราคา 20,499 บาท Core i3-10100Y, 8GB RAM, 128GB SSD ราคา 22,499 บาท นอกจากนี้ยังมีเมาส์รักษ์โลก Ocean Plastic Mouse ที่วัสดุส่วนหนึ่งทำจากพลาสติกรีไซเคิล ราคา 780 บาท Surface Go 3 เปิดให้พรีออเดอร์แล้ววันนี้ (23 ก.ย.) ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Banana IT, JIB, DKAN, IT City, Power Buy และ Shopee ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ ไมโครซอฟท์ประเทศไทย
# แอปเปิลประกาศ iOS 15, macOS 12 และ OS ใหม่ทุกตัว เลิกใช้ TLS 1.0 และ 1.1 แอปเปิลประกาศนโยบายระบบปฏิบัติการใหม่ของปี 2021 ทุกตัวคือ iOS 15, iPadOS 15, macOS 12 Monterey, watchOS 8, tvOS 15 เตรียมเลิกใช้โปรโตคอล TLS เวอร์ชันเก่าคือ 1.0 และ 1.1 แล้ว (deprecated) และจะถอดออกถาวรในอนาคต จากนี้ไปจะรองรับเฉพาะ TLS 1.2 ขึ้นไปเท่านั้น คณะทำงาน Internet Engineering Task Force (IETF) ประกาศเลิกใช้ TLS 1.0 และ 1.1 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 และมีโปรแกรมหลายตัวที่ประกาศหยุดรองรับแล้ว เช่น Firefox หรือ Edge TLS 1.2 เริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี 2008 และถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย จากการสำรวจของ SSL Pulse พบว่าเว็บไซต์ 99.5% รองรับ TLS 1.2 แล้ว ส่วน TLS 1.3 เวอร์ชันล่าสุดออกเป็นมาตรฐานในปี 2018 นอกจากนี้ แอปเปิลยังประกาศว่าคนที่ใช้งาน macOS 12 Monterey จะต้องใช้งาน Xcode 13 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดเท่านั้น ไม่สามารถใช้ Xcode เวอร์ชันเก่ากว่านี้ได้ ที่มา - Apple Developer, Apple (Xcode)
# บอสใหญ่ Epic เดือด หลัง Apple แบน Fortnite ต่อยาว จนกว่าคดีในชั้นศาลทั้งหมดจะสิ้นสุด หลังคดี Epic v Apple มีคำตัดสินจากศาลชั้นต้น ซึ่งมีแง่มุมที่ทั้ง Apple และ Epic มองได้ว่าตนเองเป็นฝ่ายชนะ แต่ Apple ก็มีคำตัดสินที่ได้เปรียบกว่าหลายแง่มุม ศาลยืนยันว่า Apple ไม่ได้เป็นผู้ผูกขาด (monopolist) และยืนยันว่าแอปเปิลทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ทั้งผู้ใช้และนักพัฒนา รวมถึง Epic ละเมิดสัญญาของ Apple ที่มีผลบังคับใช้ได้ตามกฎหมาย ส่วน Epic ก็ยื่นอุทธรณ์ให้ศาลพิจารณาคดีในชั้นต่อไป ก่อนหน้านี้ Apple หลังมีคำตัดสิน Epic มีท่าทางอ่อนลง และในจดหมายถึง Apple ก็ดูพร้อมจะ “เล่นตามกฎ” มากขึ้น โดยยอมจ่ายเงิน 6 ล้านดอลลาร์ตามที่ศาลสั่ง ยอมปิดระบบจ่ายเงินจากฝั่งเซิฟเวอร์ของ Epic เอง และยืนยันจะทำตามกฎ เพื่อให้ได้สิทธิ์ developer กลับคืนมา และให้ Fortnite กลับไปอยู่บนทั้ง Mac และ iOS ได้ตามเดิม แต่ Apple กลับปฏิเสธ ไม่ยอมให้ Developer Account กับ Epic พร้อมอ้างเหตุผลว่า Apple ชนะคดี, Epic จงใจละเมิดสัญญา และเป็นเพราะ Tim Sweeney ออกมาโพสต์เป็นสาธารณะหลังศาลตัดสิน ว่า “จะ [ไม่ยอมแลกวิธีการจ่ายเงินอื่น] เพื่อให้ Fortnite กลับไปอยู่บน iOS” จึงจะแบน developer account ของ Epic ต่อ จนกว่าคดีในชั้นศาลจะสิ้นสุด และไม่สามารถอุทธรณ์ต่อได้อีก ซึ่งอาจกินเวลาถึง 5 ปี คำปฎิเสธนี้ทำให้ Tim Sweeney เดือด ทวิตยาว สาธยายถึงคำโกหก และพฤติกรรมผูกขาดของ Apple โดย Tim บอกว่า Apple โกหก ในเรื่องที่เคยบอกว่ายินดีรับ Epic กลับเข้าสู่ระบบ หากเล่นตามกฎเหมือนคนอื่น ซึ่ง Epic ก็ยอมแล้ว แต่ Apple ก็ยังมีพฤติกรรมที่ทำให้ความสามารถในการแข่งขันในวงการ metaverse ของ Fortnite ต่ำลงไปอีก Tim บอกอีกว่าเหตุผลที่ Apple อ้างมาไม่มีน้ำหนัก เพราะเรื่องที่เปลี่ยนไปหลังศาลตัดสินเมื่อ 10 กันยายนก็มีแค่ Epic ยื่นอุทธรณ์ และทวิตที่เขาออกมาโพสต์ ซึ่งเขาบอกว่า Apple จงใจตีความทวิตเขาผิด เพราะทวิตของเขาพูดถึงเรื่องอนาคตของวงการแพลตฟอร์มและ metaverse เท่านั้น และบอกว่าจะไม่ยอมแลกอิสระภาพกับการให้ Fortnite กลับไปอยู่บน iOS ต่างหาก ไม่เกี่ยวกับช่องทางจ่ายเงินอื่น เขาทิ้งท้ายว่า Fortnite ไม่ควรถูกแบล็กลิสต์เพราะต่อต้านพฤติกรรมที่ศาลยังเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจะสู้ต่อไป อย่างไรก็ตาม คำตัดสินของศาลชั้นต้นเมื่อ 10 กันยายน ระบุให้สิทธิ์ Apple ในการกระทำนี้เต็มที่ โดยมีข้อความระบุว่า "การยกเลิก DPLA (Developer Program License Agreement - ข้อตกลงการใช้งานสำหรับนักพัฒนา) และข้อตกลงที่เกี่ยวข้องระหว่าง Epic Games กับ Apple นั้น ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย และบังคับใช้ได้" และระบุว่า Apple สามารถยกเลิกข้อตกลงกับ Epic และบริษัทในเครือ "เมื่อไรก็ได้ตามดุลพินิจของ Apple" และ Fortnite ก็คงถูกกีดกันจากระบบของ Apple ไปอีกนาน ที่มา - PC Gamer
# Facebook ในยุโรปให้ผู้ใช้ควบคุมได้ว่า อนุญาตให้ใช้คุกกี้จากเว็บและแอปภายนอกหรือไม่ Facebook อัพเดตเมนูตั้งค่าใหม่เกี่ยวกับการยินยอมให้ใช้คุกกี้ในยุโรป เพื่อให้สอดคล้องกับกฎคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวยุโรปหรือ GDPR สร้างเมนูการตั้งค่าใหม่บน Facebook และ Instagram โดยผู้ใช้งานในยุโรปสามารถเข้ามาควบคุมการยอมรับคุกกี้ของตัวเองได้ตลอดเวลา Facebook ระบุว่าประสบการณ์ใหม่นี้รวมถึง ข้อความขอความยินยอมใหม่ ให้ตัวเลือกการยินยอมคุกกี้ที่ละเอียดยิ่งขึ้น สามารถควบคุมได้ว่า Facebook สามารถใช้คุกกี้เพื่อบันทึกและใช้ข้อมูลที่ได้รับจากเว็บไซต์และแอปของบุคคลที่สามผ่านเครื่องมือทางธุรกิจได้หรือไม่ Facebook สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานได้ แม้จะไม่ได้ใช้ Facebook เลยก็ตาม เนื่องจากมีซอฟต์แวร์ของ Facebook อยู่ในเว็บไซต์และแอปต่างๆ อยู่แล้ว ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าฟีเจอร์ใหม่ในยุโรปจะช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลในลักษณะนี้ได้หรือไม่ ที่มา - Facebook
# รอมาชาติกว่า Microsoft Teams ในคอมมีฟีเจอร์ Reply ข้อความแชทแล้ว ในโลกยุค Work from Home หลายองค์กรได้หันมาใช้ Microsoft Teams ในการทำงานร่วมกัน ซึ่งทุกคนก็พบว่ามันขาดฟีเจอร์สำคัญไปหนึ่งอย่าง คือการ "ตอบกลับ" หรือ Reply ข้อความแชท ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีคนร้องขอกันมากเป็นอันดับหนึ่งมานานหลายปี ล่าสุด Microsoft ได้เริ่มปล่อยฟีเจอร์นี้แบบ public preview แล้ว หลังถูกเพิ่มเข้ามาในโร้ดแมพตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และอยู่ในขั้นตอนการทดสอบภายในตั้งแต่เดือนสิงหาคม โดยการใช้งานคือเอาเมาส์ไปชี้บนข้อความที่ต้องการตอบกลับ กดปุ่ม "..." แล้วกด Reply สามารถใช้ได้ทั้งในห้องแชท 1:1 และห้องแชทกลุ่ม อย่างไรก็ตาม แม้ Microsoft จะบอกว่าเป็น public preview และต้องกดเข้าร่วมโครงการก่อน แต่เช็คในคอมพิวเตอร์ของผู้เขียนเองก็ได้รับฟีเจอร์ดังกล่าวแล้วแม้จะไม่ได้ร่วมโครงการก็ตาม (โปรแกรมเวอร์ชัน 1.4.00.22976 บน Windows 10) เดิมทีฟีเจอร์นี้มีเฉพาะบนอุปกรณ์พกพา คือ iOS และ Android แต่ขณะนี้จะรองรับบนแอพในคอมพิวเตอร์แล้ว ทั้ง Windows, macOS และ Linux โดยแพลตฟอร์มสุดท้ายที่ยังไม่มีฟีเจอร์นี้คือบนเว็บ ซึ่งจะตามมาในอนาคต ที่มา - Microsoft
# HP Envy 34 พีซี All-in-One จอกว้าง 34" พร้อมกล้องเว็บแคมแม่เหล็ก ย้ายตำแหน่งได้เอง HP เปิดตัวพีซีออลอินวัน HP ENVY 34 All-in-One Desktop PC จอใหญ่ 34" เป็นจอกว้างสัดส่วน 21:9 ความละเอียด 5K ที่บอกว่าออกแบบมาเพื่อรองรับฟีเจอร์จัดหน้าต่าง Snap Layouts ของ Windows 11 จุดเด่นอีกอย่างคือกล้องเว็บแคม 16MP แบบแม่เหล็ก ย้ายตำแหน่งไปมาตามขอบจอ เปลี่ยนมุมกล้องได้เอง (กล้องมีตัวเดียวแต่ในภาพคือโชว์ว่าย้ายไปตรงไหนก็ได้) สเปกเครื่องที่เปิดเผยคร่าวๆ คือซีพียู Intel Core 11th Gen ใส่ได้สูงสุด Core i9, จีพียูสูงสุด GeForce RTX 3080, ตัวขาตั้งจอเป็นที่ชาร์จไร้สายได้, รองรับ Thunderbolt 4, ราคาเริ่มต้น 1,999 ดอลลาร์ เริ่มวางขายเดือนตุลาคม 2021 ที่มา - HP, HP
# Apple แจก Apple Music ฟรี 6 เดือน สำหรับผู้สมัครใหม่ที่ใช้ iOS 15 กับหูฟังตระกูล AirPods และ Beats Apple ออกแคมเปญ แจกอายุสมาชิก Apple Music ฟรี 6 เดือน สำหรับผู้สมัครใหม่ที่ใช้ iOS 15 หรือ iPadOS 15 คู่กับหูฟัง AirPods หรือ Beats รุ่นต่อไปนี้ AirPods Pro ทุกรุ่น, AirPods พร้อมเคสชาร์จ, AirPods พร้อมเคสชาร์จไร้สาย, AirPods Max ฝั่ง Beats รองรับ Beats Studio Buds, Powerbeats, Powerbeats Pro, หรือ Beats Solo Pro ไม่รองรับ AirPods เจ็นแรก, Beats Solo3 Wireless, Beats Studio 3 Wireless, Beats EP และ Beats Flex วิธีใช้ แค่อัพเกรด iOS เป็น iOS 15 จากนั้นเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ เข้าไปที่แอป Apple Music ล็อกอินด้วย Apple ID จะมีป็อปอัพขึ้นมาให้ ถ้าไม่มีให้ไปหน้า Listen Now จากนั้นกดรับสิทธิ์ “Get 6 months free” เงื่อนไขเพิ่มเติมคือผู้ที่ซื้อหูฟังรุ่นที่รองรับด้านบน จะมีเวลา 90 วันหลังเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ครั้งแรก เพื่อกดรับสิทธิ์นี้ ส่วนผู้ที่มีหูฟังอยู่ก่อนแล้ว มีเวลา 90 วันหลังอัพเกรดรุ่น iOS หรือ iPadOS ล่าสุด เพื่อรับสิทธิ์ อ่านวิธีรับสิทธิ์แบบเต็มได้ที่ Apple Music ที่มา - Apple
# HP เปิดตัวโน้ตบุ๊ก Spectre x360 รุ่นจอใหญ่ 16 นิ้ว มาพร้อมกล้องหน้าบิวตี้ HP เปิดตัวพีซี Windows 11 ชุดแรกของบริษัท เริ่มจาก HP Spectre x360 16 inch 2-in-1 Laptop PC (ชื่อเป็นทางการเขียนแบบนี้จริงๆ) โน้ตบุ๊ก 2-in-1 พับจอได้ขนาดหน้าจอ 16" ตัวแรกของบริษัท (เดิมมีแต่รุ่น 13", 14" และ 15") หน้าจอขนาด 16" สัดส่วน 16:10 เลือกใส่ได้สูงสุดเป็นจอ OLED ความละเอียด UHD+ ซีพียู Intel Core 11th Gen แรม 16GB, เลือกใส่จีพียู GeForce RTX 3050 ได้ ลำโพง 4 ตัว พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียง AI Nose Removal สำหรับประชุมออนไลน์ แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 17 ชั่วโมง กล้องหน้า 5MP สำหรับยุควิดีโอคอลล์, รองรับ Windows Hello, มีปุ่มปิดกล้องแยกเฉพาะ, มีฟีเจอร์แต่งภาพให้หน้าตาดูดีชื่อ HP GlamGlam ให้ด้วย วัสดุทำจากอะลูมิเนียมและพลาสติกรีไซเคิล มีให้เลือกสองสีคือน้ำเงิน nocturne blue และดำ nightfall black ราคาเริ่มต้นที่ 1,639 ดอลลาร์ วางขายในเดือนตุลาคมนี้ ที่มา - HP, HP, CNET
# Xiaomi แถลงยืนยันไม่เซ็นเซอร์ข้อความผู้ใช้ เคารพสิทธิ์ตามกฎหมายของทุกคน หลังศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์กระทรวงกลาโหมลิทัวเนียออกรายงานความปลอดภัยโทรศัพท์มือถือ โดยระบุถึงฟีเจอร์กรองคำต้องห้ามของโทรศัพท์ Xiaomi ทาง Xiaomi ก็ออกแถลงไปยังสำนักข่าวรอยส์เตอร์ระบุปฎิเสธว่าไม่ได้เซ็นเซอร์เนื้อหา แต่ไม่พูดถึงโค้ดของฟีเจอร์นี้ในโทรศัพท์แต่อย่างใด แถลงระบุว่า อุปกรณ์ของ Xiaomi ไม่เซ็นเซอร์การสื่อสารของผู้ใช้ และจะไม่จำกัดหรือบล็อคผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหา, การเข้าชมเว็บ, หรือการสื่อสารผ่านแอปภายนอกใดๆ ทาง Xiaomi เคารพสิทธิ์ตามกฎหมายของผู้ใช้ทุกคน และบริษัททำตามกฎหมาย GDPR ของสหภาพยุโรป รายงานของลิทัวเนียยืนยันแต่แรกว่าฟีเจอร์เซ็นเซอร์คำต้องห้ามของโทรศัพท์ Xiaomi Mi 10T นั้นไม่เปิดใช้ในสหภาพยุโรป แต่ไม่ได้ระบุว่าเปิดใช้ในภูมิภาคใดบ้าง (ซึ่งน่าจะเป็นภูมิภาคที่ผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมายตามแถลงของ Xiaomi) ที่มา - Reuters
# กสทช. กำชับทุกเครือข่าย หากเจอ SMS หลอกลวง, เว็บพนันออนไลน์ ต้องบล็อกทันที จากประเด็นผู้บริโภคร้องเรียนเรื่อง SMS หลอกให้กด SMS จากเว็บพนันออนไลน์ ล่าสุด ทาง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้เชิญโอเปอเรเตอร์ AIS TRUE DTAC NT และ 3BB มาประชุมหาทางแก้ปัญหา พร้อมทั้งกำชับโอเปอเรเตอร์ให้บล็อก SMS ที่มีเนื้อหาชัดเจนว่าเป็นการหลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ หรือลามกอนาจาร ทันที และระหว่างโอเปอเรเตอร์ จะกำหนดให้มีการแชร์ข้อมูล SMS หลอกลวงระหว่างกัน สร้างเป็น Blacklist เพื่อให้ทุกค่ายดำเนินการบล็อก SMS จากผู้ส่งรายเดียวกันได้ สำหรับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ให้บริการขายต่อ SMS กับผู้ให้บริการด้านเนื้อหา (Content Provider) หากกสทช. ได้รับแจ้งจากโอเปอเรเตอร์ พบว่าบริษัทใดเป็นผู้ส่ง SMS หลอกลวง จะพิจารณาลงโทษทางปกครอง ตั้งแต่เตือน ปรับ พักใช้ใบอนุญาตกับบริษัทนั้นๆ โทษสูงสุดคือการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ และจะดำเนินคดีตามกฎหมายควบคู่ไปด้วย ภาพจาก กสทช. ที่มา - Ch3Plus
# ไม่ว่างจริงๆ หรือว่ามีเกมอื่น ทีมงาน Respawn บอกยังไม่ว่างทำ Titanfall 3 เพราะเกมในมือเยอะ Respawn ทีมพัฒนาสังกัด EA ผู้สร้างเกม Titanfall ทั้งสองภาค Apex Legends และ Star Wars: Jedi Fallen Order ส่ง Jason Garza ฝ่ายสื่อสารกับชุมชนของทีม มาตอบคำถามชาวเน็ตในไลฟ์สดเมื่อวานนี้ และตอบคำถามหนึ่งที่ตัวเขาและทีมงานคนอื่นน่าจะพบเจอได้บ่อยๆ เป็นคำถามปิดท้าย คำถามนั้นเกี่ยวกับภาคต่อของ Titanfall ที่แฟนๆ ยังคงรอคอย แม้ผ่านมาหลายปีตั้งแต่ Titanfall 2 ในปี 2016 ซึ่ง Jason ตอบแบบตรงๆ ว่า “อย่าไปหวังเยอะ” ตอนนี้ทีมงานไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับ Titanfall เลย แถมมีเกมอื่นที่ต้องทำเต็มไม้เต็มมือไปหมด (เช่นดูแลและปรับปรุง Apex Legends) แล้วก็ตัดจบไปด้วยบรรยากาศเศร้าๆ เกม Titanfall 2 เป็นอีกหนึ่งเกมยิงบุคคลที่หนึ่งที่มีแฟนๆ ชื่นชอบมากมาย ได้เฉลี่ย 86 คะแนนจาก Metacritics และยังมีผู้กลับมาเล่นเพียบ แม้ในปี 2021 แต่จังหวะเปิดตัวกลับไม่บูมนัก เพราะเปิดตัวคั่นกลางระหว่าง Battlefield 1 กับ Call of Duty: Infinite Warfare ที่มา - Morning tea with Jason
# ไมโครซอฟท์ทำ Surface Adaptive Kit สติกเกอร์นูน ติดตามอุปกรณ์ให้ผู้พิการใช้งานง่ายขึ้น ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Adaptive Kit เป็นแผ่นสติกเกอร์มีสัญลักษณ์นูน นำไปแปะตามอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ เช่นหูฟัง แป้นพิมพ์ เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาใช้งานอุปกรณ์ไอทีง่ายขึ้น โดยจะเปิดให้ซื้อได้ภายในปีนี้ Surface Adaptive Kit มาพร้อมสติกเกอร์ 4 รูปแบบ คือ Bump labels เป็นเครื่องหมายสี่ตัวสี่สี คือวงกลม กากบาท จุด และเส้นประ มีสีเขียว ส้ม น้ำเงิน และเทา นำไปแปะตามอุปกรณ์เพื่อระบุการใช้งาน ใช้สัญลักษณ์ตามความเข้าใจของตัวเองได้เลย เช่น แปะใกล้ๆ พอร์ตหูฟัง แปะสัญลักษณ์บวกลบไว้ที่ปุ่มเพิ่มเสียงเบาเสียงโน้ตบุ๊กบนคีย์บอร์ด เป็นต้น เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องใช้มือควานหานานเกินไป Keycap labels เป็นสติกเกอร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณระบุคีย์บนแป้นพิมพ์ มีทั้งหมด 12 ป้าย ประกอบด้วยสัญลักษณ์เส้นวางในมุมแตกต่างกัน วงกลม หัวลูกศร นำไปวางตามปุ่มสำคัญบนแป้นพิมพ์เพื่อกดคีย์ลัดได้ง่ายขึ้น และสติกเกอร์เกือกม้า Port labels เป็นสติกเกอร์แถบยาวสี่แบบ มาพร้อมสัญลักษณ์นูน ที่สามารถแปะตามสายเชื่อมต่อ และแปะใกล้ๆ พอร์ตเชื่อมต่อ เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจง่าย และทำให้แน่ใจว่าเราไม่ได้หยิบสายเชื่อมต่อผิดประเภทมาใช้งาน Opener support ออกแบบมาเพื่อช่วยในการเปิดฝาแล็ปท็อป มีห่วงเพื่อเอาเชือกห้อยช่วยดึงฝาแล็ปท็อปให้เปิดออกได้ ที่มา - ไมโครซอฟท์
# Google Calendar เพิ่มฟีเจอร์แชทจาก Google Chat คุยกับผู้ร่วมประชุมได้ง่ายขึ้น กูเกิลผนวกฟีเจอร์แชทจาก Google Chat เข้าไปยังปฏิทิน Google Calendar ทำให้เราสามารถแชทกับผู้ร่วมประชุมในนัดหมายได้ล่วงหน้า เช่น มีคนส่งปฏิทินนัดประชุม แล้วคนในองค์กรสามารถกดปุ่มแชทเพื่อคุยกันเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนประชุมได้ (หรือแชทระหว่างการประชุมก็ได้ เช่น บอกว่าขอมาประชุมสาย) แทนการคุยกันผ่านอีเมลอย่างเดียวแบบเดิม ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้เป็นค่าดีฟอลต์ใน Google Workspace ใช้ได้ทั้งบนเว็บและบนแอพมือถือ ตอนนี้กูเกิลทยอยปล่อยให้องค์กรบางส่วนแล้ว และจะปล่อยครบภายในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ที่มา - Google Workspace
# เมาส์รักโลกก็มา ไมโครซอฟท์เปิดตัว Ocean Plastic Mouse ส่วนหนึ่งทำจากพลาสติกรีไซเคิล นอกจากไลน์ผลิตภัณฑ์ชุดใหญ่แล้ว ไมโครซอฟต์ยังเปิดตัว Ocean Plastic Mouse เมาส์รักโลก ที่ส่วนหนึ่งทำจากเรซิน ผลิตจากขยะพลาสติกในทะเล ที่นำมารีไซเคิลใหม่ 20% ตัวเมาส์เชื่อมต่อได้ด้วย Bluetooth® 5.0 LE ใช้ถ่าน AA อยู่ได้ 12 เดือน แพ็กเกจเป็นกล่องขนาดเล็กปลอดพลาสติก และทำจากไม้รีไซเคิลและเส้นใยธรรมชาติจากอ้อยพรีออเดอร์ได้แล้วในราคา 24.99 ดอลลาร์ หรือราว 840 บาท เริ่มขายเฉพาะในสหรัฐและแคนาดาก่อน และจะเปิดขายทั่วโลกในวันที่ 10 ตุลาคม ที่มา - ไมโครซอฟท์
# สองปีแล้วยังไม่อัพเกรด Surface Pro X ออกรุ่น Wi-Fi ราคาถูกลง 100 ดอลลาร์ ซีพียูตัวเดิม ปีนี้ไมโครซอฟท์ออก Surface Pro 8 ที่ใช้ดีไซน์เดียวกับ Surface Pro X ตามความคาดหมาย ในฝั่งของ Surface Pro X รุ่นต้นฉบับก็ยังไม่ตายไปไหน แต่ก็ไม่มีการอัพเกรดใหญ่เช่นกัน (ชวนให้ตั้งคำถามว่าไมโครซอฟท์จะยังทำ Arm ต่อแค่ไหน) ปีนี้มีแค่การออกรุ่นย่อยเป็นรุ่น Wi-Fi เพิ่มมาจากเดิมที่มีแต่รุ่น LTE โดยราคาเริ่มต้นถูกลง 100 ดอลลาร์ (899 ดอลลาร์ Wi-Fi vs 999 ดอลลาร์ LTE) Surface Pro X ยังเลือกซีพียูได้ 2 ระดับเหมือนเดิมคือ Microsoft SQ1 ตัวที่ออกในปี 2019 และ Microsoft SQ2 ของปี 2020 (ทั้งสองซีพียูจะซอยเป็น Wi-Fi และ LTE อีก) ทั้งหมดยังถือเป็น Surface Pro X รุ่นที่หนึ่ง ไม่นับเป็นรุ่นที่สอง Surface Pro X ทุกรุ่นในตอนนี้จะขายพร้อม Windows 11 ที่พร้อมรองรับ 64-bit emulation แล้ว ที่มา - Microsoft
# นักวิจัยไล่จดโดเมน Autodiscover พบไคลเอนต์อีเมลส่งรหัสผ่าน Exchange เข้ามาจำนวนมาก Amit Serper จากบริษัทความปลอดภัย Guardicore รายงานถึงปัญหาของโปรโตคอล Autodiscover ที่ใช้เชื่อมต่อเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ Exchange เนื่องจากไคลเอนต์พยายามคาดเดาโดเมนที่ใช้ล็อกอิน ตัวอย่างเช่นเมื่อผู้ใช้ที่ใช้อีเมล [email protected] อีเมลไคลเอนต์จะพยายามล็อกอินทางโดเมน autodiscover.example.com แล้วถอยไปยัง example.com จากนั้นจะถอยไปยัง autodiscover.com อีกครั้ง ทำให้ผู้ที่ถือโดเมน autodiscover.com ได้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านไป Guardicore จดโดเมน autodiscover ในหลาย TLD ทั้ง .br, .com.cn, .com.co, .es, .fr, .in, .it, .sg, .uk, .xyz, .online จากนั้นตั้งเซิร์ฟเวอร์ปลอมตัวเป็นเหมือนเซิร์ฟเวอร์ Exchange เพื่อหลอกให้ไคลเอนต์ส่งข้อมูลล็อกอินเข้ามา พบว่ามีความพยายามล็อกอินเข้ามาถึง 372,072 ครั้งในช่วงเวลาสี่เดือนที่เปิดเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้รอไว้ โดยรวมเป็นรหัสผ่านสำหรับผู้ใช้รวม 96,671 บัญชี ไมโครซอฟท์ระบุว่า Guardicore ไม่ได้แจ้งผลการทดลองล่วงหน้าทำให้ไม่สามารถจัดการปัญหาได้ทันที และตอนนี้กำลังสอบสวนช่องโหว่นี้ ที่มา - Guardicore, The Record กระบวนการล็อกอินผ่านทาง Autodiscover ของ Exchange ภาพจาก Guardicore
# เปิดตัว Surface Go 3 บอดี้ตัวเดิม อัพเกรดซีพียูเป็น Pentium 6500Y, Core i3-10100Y ไมโครซอฟท์เปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นเล็ก Surface Go 3 เป็นการอัพเดตเฉพาะสเปกตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้ บอดี้ยังใช้ตัวเดียวกับ Surface Go 2 หน้าจอ 10.5" PixelSense 1920x1280 กระจก Gorilla Glass 3 ซีพียู Pentium Gold 6500Y หรือ Core 10th Gen i3-10100Y (รุ่นเดิมคือ Pentium 4425Y Amber หรือ Core m3 8th Gen) จีพียู Intel UHD 615 แรม 4GB/8GB สตอเรจ 64GB eMMC หรือ 128GB SSD มีรุ่น LTE Advanced ให้เลือก แบตเตอรี่ไม่ระบุความจุ แต่บอกว่าใช้ได้นาน 11 ชั่วโมง ระบบปฏิบัติการเป็น Windows 11 มาตั้งแต่แรก ราคาเริ่มต้นที่ 399 ดอลลาร์เท่าเดิม ใช้กับอุปกรณ์เสริมของ Surface Go ย้อนไปได้ตั้งแต่รุ่นแรก (คีย์บอร์ดราคาเริ่มต้น 99 ดอลลาร์) ที่มา - Microsoft (PDF)
# แอปเทรดหุ้น Robinhood เตรียมเพิ่มฟีเจอร์กระเป๋าเงินคริปโต รับและโอนเหรียญได้ในแอปเดียว แอปเทรดหุ้น Robinhood เตรียมเพิ่มฟีเจอร์กระเป๋าเงินคริปโตสำหรับผู้ใช้งาน โดยจะเริ่มทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในเดือนหน้า เป็นการขยายความสามารถในโลกคริปโตเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ Robinhood สามารถเทรดคริปโตได้ภายใต้ความสามารถและจำนวนเหรียญที่ค่อนข้างจำกัด ฟีเจอร์กระเป๋าเงินคริปโตของ Robinhood จะเป็นการเปิดตัวแอปสู่โลกคริปโตมากขึ้น จากปัจจุบันที่เปิดให้เทรดเพียงอย่างเดียว ซึ่งการเปิดกระเป๋าเงินก็ทำให้ผู้ใช้โอนหรือรับโอนเหรียญคริปโตของตัวเองจาก Robinhood เข้าออกได้เหมือนกับคู่แข่งอย่าง Coinbase ในช่วงที่ผ่านมาคริปโตกำลังเติบโตสูงมาก โดย Robinhood รายงานในไตรมาสที่ผ่านมาว่าลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่เริ่มเทรดคริปโตเป็นอย่างแรกมากกว่าเทรดหุ้น, รายได้จากคริปโตเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัท และรายได้ของคริปโตส่วนใหญ่ก็มาจากการเทรดเหรียญ Dogecoin ที่มา - TechCrunch
# YouTube Premium ทดสอบโหลดวิดีโอดูออฟไลน์จากเว็บได้ จากเดิมที่ทำได้แค่ในมือถือ ปัจจุบัน YouTube Premium บนมือถือสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาเพื่อดูออฟไลน์ได้ แต่ฟังก์ชันนี้อาจไม่มีประโยชน์เท่าไรเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันที่คนยังใช้งานอินเทอร์เน็ตที่บ้าน ยังไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ แต่ล่าสุด YouTube กำลังทดสอบฟังชันนี้บนเว็บไซต์ สามารถดาวน์โหลดไว้ดูออฟไลน์แบบจอใหญ่ในคอมพิวเตอร์ได้ สำหรับผู้ใช้งานที่ได้รับการทดสอบ จะมองเห็นปุ่มดาวน์โหลดล่างคลิป ตามคำอธิบายในหน้าแนะนำฟีเจอร์ระบุว่า รองรับการใช้งานใน Windows, MacOS และ Chrome OS โดยการทดสอบจะจบที่วันที่ 19 ตุลาคม และยังไม่มีรายละเอียดว่า YouTube จะเปิดให้ใช้งานโดยทั่วถึงเมื่อไร สามารถเลือกดาวน์โหลดในคุณภาพต่างๆ ได้สูงสุด 1080p หรือสามารถลบการดาวน์โหลดในเครื่องทั้งหมดออกจากแคชของเบราว์เซอร์ ที่มา - Android Police
# เปิดตัว Surface Laptop Studio โน้ตบุ๊กโปร พับจอเป็นแท็บเล็ตได้ มาแทน Surface Book สินค้าใหม่จริงๆ ของงานเปิดตัว Surface เมื่อคืนนี้คือ โน้ตบุ๊กระดับโปร Surface Laptop Studio ซึ่งเป็นสินค้าที่จะมาแทนตระกูล Surface Book ตามที่ลือกัน เดิมที Surface Book เป็นโน้ตบุ๊กกลุ่มโปรที่ "ถอด" จอเป็นแท็บเล็ตได้ (ชิ้นส่วนสำคัญอยู่ในซีกจอด้านบน) แต่ Surface Laptop Studio เป็นโน้ตบุ๊กที่ "พับ" จอมาด้านหน้าเพื่อเป็นแท็บเล็ตได้ (คีย์บอร์ดยังติดอยู่เหมือนเดิม แต่โดนจอพับมาทับแทน) ดีไซน์คล้าย HP Elite Folio ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี Surface Laptop Studio แบ่งการทำงานเป็น 3 โหมดคือ Laptop Mode เป็นโน้ตบุ๊กปกติ Stage Mode ยกหน้าจอดันมาด้านหน้าบังคีย์บอร์ด ใช้ดูหนัง เล่นเกม พรีเซนต์งาน Studio Mode วางหน้าจอทับบนคีย์บอร์ด เอาไว้เขียน วาด ออกแบบ Surface Laptop Studio สามารถใช้ร่วมกับปากกา Surface Slim Pen 2 มีช่องเก็บปากกาใต้คีย์บอร์ด แปะติดกันด้วยแม่เหล็ก และชาร์จปากกาตอนแปะติดได้ สเปกของ Surface Laptop Studio เน้นพลังแรงสูงสำหรับผู้ใช้กลุ่มโปร ซีพียูเป็น 11th Gen แบบ 35 วัตต์ และจีพียูใส่ RTX 3050 Ti ได้ หน้าจอ 14.4" PixelSense Flow อัตรารีเฟรช 120Hz (เหมือน Surface Pro 8) ซีพียู Intel 11th Gen Core H35 (35 วัตต์) มีสองรุ่นคือ i5-11300H และ 11370H จีพียู Iris Xe (รุ่น Core i5) หรือ GeForce RTX 3050 Ti (i7) ในกรณีรุ่นตลาดองค์กร สามารถใส่ได้ถึง NVIDIA RTX A2000 (Quadro เดิม) แรม 16GB/32GB LPDDR4x SSD ถอดเปลี่ยนเองได้ ขนาด 256GB, 512GB, 1TB, 2TB พอร์ต USBx2 รองรับ Thunderbolt 4 ทัชแพด Precision Haptic ตัวแรกของไมโครซอฟท์ ราคาเริ่มต้นที่ 1,599 ดอลลาร์ (Core i5, 16GB, 256GB) ไปจนถึง 3,099 ดอลลาร์ (Core i7, 32GB, 2TB, RTX) ที่มา - Microsoft (PDF)
# ผู้ใช้ iPhone บางส่วน เจอบั๊กคำเตือนพื้นที่หน่วยความจำใกล้เต็ม หลังอัพเดต iOS 15 แต่จริง ๆ เหลือเยอะ มีรายงานปัญหาจากผู้ใช้ iPhone จำนวนหนึ่ง หลังอัพเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด iOS 15 ที่ออกมาเมื่อคืนวันจันทร์ โดยพบคำเตือนแสดงขึ้นมาว่า "iPhone storage almost full" หรือพื้นที่หน่วยความจำใกล้เต็ม ปัญหาก็คือตัวเลขที่แสดงพื้นที่หน่วยความจำที่ใช้อยู่คู่กับคำเตือนนั้น ไม่ใกล้เคียงคำว่าเต็มเลย ผู้ใช้งานหลายคนก็เจอลักษณะปัญหาแบบนี้แบบเดียวกันนี้ จึงไม่ชัดเจนว่าตรงไหนกันแน่ที่แสดงค่าไม่ถูกต้อง เพราะในบางรายที่ไม่เจอข้อความเตือน ก็พบว่าตัวเลขพื้นที่ใช้งานคำนวณไม่ถูกต้อง เมื่อบวกเลขในรายละเอียดของแต่ละแอป แอปเปิลยังไม่มีคำแนะนำในการแก้ปัญหาเบื้องต้น แต่ผู้ใช้งานก็ไม่ควรลบแอปใด ๆ หากยังสามารถใช้งานได้ ที่มา: ZDNet และ MacRumors
# Surface Duo 2 เปิดตัว มีจอเล็กตรงบานพับ, กล้องหลัง 3 ตัว, Snapdragon 888 5G ไมโครซอฟท์เปิดตัวมือถือจอพับ Surface Duo 2 ที่ยังคงดีไซน์สองจอพับเข้าหากันเหมือนเดิม (ไม่ใช่จอเดียวกันแบบ Galaxy Z Fold) แต่อัพเกรดสเปก ฟีเจอร์ ปิดจุดอ่อนหลายอย่างของ Surface Duo รุ่นแรก Surface Duo 2 ใช้หน้าจอ Pixel Sense Fusion เป็น AMOLED ขนาดข้างละ 5.8" (1344x1892) ถ้าคลี่ออกมาเป็นแท็บเล็ตจะมีขนาด 8.3" (2688x1892) อัตรารีเฟรช 90Hz แบบ adaptive rate, ความสว่าง 800 nits, รองรับสี 100% SRGB, DCI-P3 (ใหญ่ขึ้นจากรุ่นแรกที่จอข้างละ 5.6") การอัพเกรดที่สำคัญอีกอย่าง คือตรงบานพับด้านนอกมีจอ Glance Bar สำหรับแสดงข้อความแจ้งเตือนและสถานะต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเปิดฝาพับออกมาเสมอไป Surface Duo 2 ยังแก้ปัญหาเรื่องกล้องของ Surface Duo รุ่นแรกที่มีกล้องแค่ตัวเดียวแปะมาที่จอด้านใน โดยเพิ่มกล้องหลังเซ็ตใหญ่ 3 ตัวเหมือนกับมือถือสมัยนี้ (wide 12MP, tele 12MP, ultrawide 16MP) กล้องหน้าอัพเกรดขึ้นเล็กน้อยเป็น 12MP หน่วยประมวลผลเป็น Snapdragon 888 รุ่นเรือธงประจำปีนี้ (ของเดิมเป็น Snapdragon 855 ที่ตกรุ่นไปแล้วหนึ่งปี), แรม 8GB (ของเดิม 6GB), รองรับ 5G/NFC ในตัว (ของเดิมไม่มีทั้งคู่), Bluetooth 5.1, Wi-Fi 6 802.11ax, ซิมการ์ด 2 ตัว ทั้ง Nano SIM และ eSIM แบตเตอรี่ 4449mAh, เล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ 15.5 ชั่วโมง, รองรับชาร์จเร็ว 23W แต่สายชาร์จเร็วขายแยก, ใช้ร่วมกับปากกา Surface Slim Pen 2 รวมถึงปากการุ่นก่อนๆ ของ Surface ได้ด้วย, ระบบปฏิบัติการเป็น Android 11 Surface Duo 2 มีให้เลือก 2 สีคือ ขาว Glacier และดำ Obsidian ราคาเริ่มต้นที่ 1,499 ดอลลาร์ (8GB/128GB) แพงขึ้นจากรุ่นที่แล้ว 100 ดอลลาร์ เริ่มวางขาย 21 ตุลาคม 2021 หากเทียบรุ่นที่ความจุเท่ากับ Galaxy Z Fold 3 ที่เป็นคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน ต้องเทียบกันที่ Surface Duo 2 (8GB/256GB) ราคา 1,599 ดอลลาร์ ในขณะที่ Galaxy Z Fold 3 รุ่นความจุ 256GB ราคา 1,799 ดอลลาร์ ถูกกว่า 200 ดอลลาร์ (ถ้าเป็นรุ่น 512GB จะราคา 1,799 vs 1,899 ดอลลาร์ตามลำดับ) แต่ต้องไม่ลืมว่า Galaxy Z Fold 3 จะมีจอด้านหน้าด้วย ที่มา - Microsoft (PDF)
# CTO ของ Facebook ประกาศลงจากตำแหน่ง ได้หัวหน้าฝ่ายฮาร์ดแวร์รับตำแหน่งต่อ Mike Schroepfer ซีทีโอ (Chief Technology Officer) ของ Facebook ประกาศลงจากตำแหน่ง หลังจากทำงานกับ Facebook มา 13 ปี โดยให้เหตุผลเพื่อมีเวลากับครอบครัวมากขึ้น ซึ่งจะมีผลภายในปี 2022 โดยเขาจะรับตำแหน่งใหม่พาร์ทไทม์ เป็นนักวิชาการอาวุโส (Senior Fellow) คนแรกของ Facebook เพื่อให้คำปรึกษาพัฒนาบุคลากรและกระบวนการทำงาน Schroepfer ทำงานที่ Facebook ตั้งแต่ปี 2008 ในตำแหน่งรองประธานด้านวิศวกรรม และรับตำแหน่ง CTO ในปี 2013 ต่อจาก Bret Taylor Andrew Bosworth หัวหน้าฝ่ายฮาร์ดแวร์ จะมารับตำแหน่ง CTO คนใหม่ โดยยังคงรับผิดชอบ Facebook Reality Labs และงานด้าน AR, VR ต่อไปด้วย ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าเขาขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณ Schroepfer สำหรับทุกอย่างที่มอบให้กับบริษัทตลอด 13 ปี ที่ผ่านมา เขามีบทบาทสำคัญกับแทบทุกผลิตภัณฑ์ของ Facebook ตั้งแต่การตั้งทีมจากเริ่มต้น จนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI และ VR ส่วนตัวสำหรับเขากับ Schroepfer ก็เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากด้วย ที่มา: Facebook ผ่าน CNBC ภาพ Mike Schroepfer
# เปิดตัว Surface Pro 8 ซีพียู Gen 11, จอ 120Hz, คีย์บอร์ดเก็บปากกาได้, รองรับ Thunderbolt ไมโครซอฟท์เปิดตัวสินค้า Surface ชุดใหญ่เมื่อคืนนี้ สินค้ารุ่นหลักย่อมเป็น Surface Pro 8 ที่ตรงกับข้อมูลหลุดออกมาก่อนหน้า การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Surface Pro 8 คือปรับดีไซน์ใหม่ มาใช้ดีไซน์ขอบบางแบบ Surface Pro X แทนดีไซน์เดิมที่ใช้มาตั้งแต่ Surface Pro 3, ใช้หน้าจอ PixelSense Flow ที่อัตรารีเฟรช 120Hz, อัพเกรดซีพียูเป็น Gen 11, และรองรับ Thunderbolt 4 แล้วสักที สเปกของ Surface Pro 8 มีดังนี้ หน้าจอ 13" PixelSense Flow อัตรารีเฟรช 120Hz ความละเอียด 2880x1920 รองรับ Dolby Vision ซีพียู Intel 11th Gen Core รองรับ Intel Evo รุ่นคอนซูเมอร์มีให้เลือก 2 ตัวคือ Core i5-1135G7 และ Core i7-1185G7 ส่วนรุ่นองค์กรมี Core i3-1115G4 เพิ่มอีกตัว จีพียู Iris Xe (i5/i7) หรือ Intel UHD (i3) แรม 8GB/16GB/32GB LPDDR4x สตอเรจ SSD แบบถอดเปลี่ยนเองได้ 128GB/256GB หรือแบบถอดเปลี่ยนไม่ได้ 512GB/1TB แบตเตอรี่ อยู่ได้ 16 ชั่วโมง กล้องหน้า 5MP กล้องหลัง 10MP พอร์ต USB-C x2 รองรับ Thunderbolt 4 ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Surface Pro 8 ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมตัวใหม่คือ Surface Pro Signature Keyboard ที่มีช่องเก็บปากกา (แบบเดียวกับ Surface Pro X) และปากกา Surface Slim Pen 2 ที่ปรับปรุงให้ลื่นกว่าเดิม ชาร์จได้ในตัวคีย์บอร์ด (ปากกาย้อนกลับไปใช้กับ Surface รุ่นเก่าๆ ได้ด้วย) Surface Pro 8 มีให้เลือก 2 สีคือ เงิน Platinum และเทา Graphite ราคาเริ่มต้นที่ 1,099 ดอลลาร์ (Core i5, 8GB, 128GB SSD) ไปจนถึงตัวท็อปสุด 2,599 ดอลลาร์ (Core i7, 32GB, 1TB SSD) คีย์บอร์ดต้องซื้อแยกเหมือนเดิมในราคา 179.99 ดอลลาร์ ปากกาอีก 129.99 ดอลลาร์ และมีชุดคีย์บอร์ด+ปากการาคา 279.99 ดอลลาร์ ที่มา - Microsoft (PDF)
# ลิทัวเนียพบโทรศัพท์ Xiaomi 10T มีฟีเจอร์กรองคำต้องห้าม แนะนำให้อย่าซื้อ ถ้าใช้อยู่ให้เลิกใช้ ศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์กระทรวงกลาโหมลิทัวเนียออกรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือจากผู้ผลิตจีน 3 ราย คือ Huawei P40 4G, Xiaomi Mi 10T 5G, และ OnePlus 8T 5G ถึงความเสี่ยงความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยรายงานระบุถึงความเสี่ยงของโทรศัพท์จาก Huawei ที่ใช้ AppGallery แทน Google Play Store และความเสี่ยงของโทรศัพท์ Xiaomi ที่ส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์, มีฟีเจอร์กรองคำในรายการคำต้องห้ามของจีน, และกระบวนการลงทะเบียนเครื่องที่ส่ง SMS ออกจากเครื่องโดยไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น ฟีเจอร์ที่เป็นปัญหาที่สุดคือฟีเจอร์กรองคำ โดยโทรศัพท์จะดาวน์โหลดรายการคำต้องห้ามจากเซิร์ฟเวอร์ในสิงคโปร์ จากนั้นแอปของ Xiaomi 7 แอปที่อยู่ในเครื่อง (Security, Mi Browser, Downloads, Music, Themes, MIUI Package Installer, Cleaner) จะเรียกรายการคำเหล่านี้มาตรวจสอบ และแบนเนื้อหาที่มีคำเหล่านี้ ฟีเจอร์นี้ไม่เปิดใช้งานในยุโรป แต่เนื่องจากโค้ดอยู่ในเครื่องทาง Xiaomi จะเปิดใช้งานเมื่อใดก็ได้ รายการคำต้องห้ามที่ทางศูนย์ดาวน์โหลดมาได้มีทั้งหมด 449 คำ คำบางส่วนเป็นคำทางการเมือง เช่น เอกราชไต้หวันจงเจริญ, ปลดปล่อยธิเบต, หรือแม้แต่สำนักข่าว Voice of America แนวทางการกรองคำสำคัญที่รัฐบาลจีนไม่ชอบนั้นเป็นแนวทางที่บริษัทเทคโนโลยีจีนใช้งานกันมายาวนาน เมื่อปี 2013 LINE เวอร์ชั่นจีนก็รายการคำต้องห้ามรูปแบบเดียวกัน update: แถลงจาก Xiaomi ที่มา - South China Morning Post, NKSC.LT
# ธนาคารไทยพาณิชย์จับมือเครือซีพี ตั้ง Venture Capital มูลค่า 20,000-27,000 ล้านบาท ลุยธุรกิจ DeFi ธนาคารไทยพาณิชย์ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารมีมติให้ บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร ตกลงร่วมมือกับกับบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (CPG) จัดตั้งกองทุน Venture Capital มูลค่า 600-800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 20,000-27,000 ล้านบาท วัตถุประสงค์ของกองทุนเป็นไปเพื่อการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน เช่น เทคโนโลยีบล็อกเชน, Decentralized Finance (DeFi) และเทคโนโลยีที่เกิดใหม่อื่นๆ โดยนอกเหนือจากการบริหารกองทุนร่วมกันแล้ว กลุ่มธนาคารและกลุ่มซีพีจีจะร่วมลงทุนในกองทุนนี้ร่วมกับผู้ลงทุนที่ไม่ใช่ผู้ลงทุนรายย่อย (accredited investor) ในช่วงหลังธนาคารไทยพาณิชย์ เอาจริงเอาจังกับเทคโนโลยีด้านการเงินเช่นบล็อกเชน และ Decentralized Finance มากพอสมควร โดยก่อนหน้านี้ SCB 10X เคยจัดแข่งขัน Bangkok Blockathon 2021 เพื่อเฟ้นหายอดฝีมือนักพัฒนาบล็อกเชน และไอเดียใหม่ๆ บนระบบ Decentralized Finance มาก่อน และการร่วมทุนครั้งนี้ ยิ่งเน้นย้ำการเอาจริงเอาจังในด้านธุรกิจ DeFi ของธนาคารไทยพาณิชย์อีกครั้ง ที่มา - ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
# ตามล่ากระเป๋าเงิน สหรัฐฯ เตรียมคว่ำบาตรทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเงินคริปโตของกลุ่ม Ransomware สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตร (sanction) บุคคลใดๆ, บริการแลกเปลี่ยนเงินคริปโต, หรือผู้ให้บริการกระเป๋าเงินคริปโต ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ นับเป็นมาตรการล่าสุดที่สหรัฐฯ ใช้จัดการกับกลุ่มมัลแวร์เหล่านี้หลังจัดความร้ายแรงของปัญหามัลแวร์เรียกค่าไถ่ว่าเทียบเท่าการก่อการร้าย แม้ว่าทุกวันนี้จะมีเงินคริปโตบางสกุลที่เน้นฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว เช่น Monero ที่ปกปิดประวัติการจ่ายเงินของแต่ละบัญชี แต่การจ่ายเงินส่วนมากยังคงจ่ายในสกุลบิตคอยน์ที่สามารถติดตามเงินได้ เมื่อปีที่แล้วสรรพากรสหรัฐฯ ก็จัดหาเครื่องมื่อเพื่อติดตามรายการจ่ายเงิน Monero หรือการโอนบิตคอยน์ผ่านเครือข่ายนอกเชน เช่น Lightning เป้าหมายแรกของมาตรการนี้คือ SUEX OTC, S.R.O. (SUEX) บริการแลกเปลี่ยนเงินคริปโตออนไลน์ ที่สหรัฐฯ จัดว่าเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ทรัพย์สินของ SUEX ที่อยู่ในเขตอำนาจของสหรัฐฯ ทั้งหมดจะถูกอายัดไม่ให้โยกย้ายได้ ที่มา - Bleeping Computer, Treasury.gov ภาพโดย iAmMrRob note: เวอร์ชั่นแรกของบทความนี้อ้างอิงจาก Wall Street Journal เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่สหรัฐฯ ใช้มาตรการนี้เมื่อคืนที่ผ่านมาจึงอัพเดตเนื้อหาตาม
# VMware แจ้งเตือนช่องโหว่ อัพโหลดโค้ดเข้ามารันได้เพียงแค่เข้าถึงพอร์ต 443 VMware แจ้งเตือนช่องโหว่ชุดใหญ่ในซอฟต์แวร์ vCenter Server แต่ช่องโหว่ที่กระทบรุนแรงที่สุดคือ CVE-2021-22005 ที่ทำให้คนร้ายสามารถอัพโหลดไฟล์เข้ามารันโค้ดในเซิร์ฟเวอร์ได้เพียงแค่เข้าถึงพอร์ต 443 ของเซิร์ฟเวอร์ ช่องโหว่นี้กระทบ vSphere 6.7 และ 7.0 ความร้ายแรงตามคะแนน CVSSv3 อยู่ที่ 9.8 ทาง VMware จัดให้เป็นช่องโหว่ระดับวิกฤติควรอัพเดตโดยเร็ว อย่างไรก็ดีสำหรับช่องโหว่นี้ทาง VMware ออกสคริปต์สำหรับบรรเทาช่องโหว่สำหรับผู้ที่ไม่พร้อมอัพเดตไว้ด้วย แต่ก็ย้ำว่าควรใช้ชั่วคราวเท่านั้น ช่องโหว่ส่วนมากรายงานโดย George Noseevich และ Sergey Gerasimov จาก SolidLab ที่มา - VMware ภาพหน้าจอ vCenter จาก VMware
# Pokémon UNITE เกมโปเกมอนแนว MOBA เปิดให้โหลดเล่นบนมือถือแล้ว Pokémon UNITE เกมโปเกมอนวางแผน และต่อสู้ 5v5 เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วบน iOS และ Android โดย Pokémon UNITE พัฒนาโดย The Pokemon Company และ TiMi Studios หลังจากปล่อยเวอร์ชัน Nintendo Switch มาให้เล่นก่อนหน้านี้ก็เปิดให้เล่นบนมือถือเพิ่มด้วย ผู้เล่นยังสามารถเล่นครอสแพลตฟอร์มกับ Nintendo Switch รวมถึงเล่นแบบเวิลด์ไวด์ได้ รายละเอียดเกม โปเกมอนแบ่งออกเป็น 5 สาย ได้แก่ สายโจมตี (Attacker) สายแทงค์ (Defender) สายสมดุล (All-rounder) สายบุกความเร็วสูง (Speedster) และสายสนับสนุนที่คอยฮีลให้กับทีม (Supporter) โปเกมอนสามารถพัฒนาร่างระหว่างแข่งได้ ทำได้ 3 ร่างคือ Beginner Medium และ Advanced เมื่อเริ่มเล่นจะมีโปเกมอนให้เลือกเล่น 5 ตัว 5 สาย ได้แก่ พิคาจู (Pikachu) คาบิก้อน (Snorlax) ลิซาร์ดอน (Charizard) ไฟร์แอโรว์ (Talonflame) วาตาชิรากะ (Eldegoss) โดยผู้เล่นสามารถซื้อโปเกมอนคู่หูได้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น เก็คโคกะ (Greninja) แอบโซล (Absol) เก็งกา (Gengar) ลูคาริโอ (Lucario) ฟูชิงิบานะ(Venusaur) คิวคอน (Alolan Ninetales) ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
# แล้วไงใครแคร์ ปธน. เอลซัลวาดอร์ ประชดคนค้านนโยบาย Bitcoin ตั้งโปรไฟล์ทวิตเตอร์เป็น “เผด็จการที่เท่ที่สุดในโลก” Nayib Bukele ประธานาธิบดีประเทศเอลซัลวาดอร์ ซึ่งประเทศแรกในโลกที่ผ่านกฎหมายรับรอง Bitcoin เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีประชาชนหลายส่วนไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ และออกมาประท้วงบนท้องถนน เพราะเกรงว่าความผันผวนของ Bitcoin จะสร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจในประเทศ และกล่าวหาว่า Bukele เป็นผู้นำเผด็จการ แต่ Bukele เองก็ไม่สนใจการคัดค้าน แถมล่าสุดยังเปลี่ยนโปรไฟล์บนทวิตเตอร์เป็นภาษาสเปน เขียนว่าตัวเองเป็น “ผู้นำเผด็จการที่เท่ที่สุดในโลก” (El Dictador más cool del mundo mundial) เพื่อประชดประชัน รวมถึงใช้ทวิตเตอร์ตอบโต้ผู้ชุมนุม และรีทวีตเกี่ยวกับบิตคอยน์อยู่เรื่อยๆ คงต้องติดตามต่อไปว่าสถานการณ์ในประเทศเอลซัลวาดอร์จะเป็นอย่างไรต่อ และการที่ราคาบิตคอยน์ปรับลดอีกครั้งในช่วงนี้เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนในวิกฤตบริษัทอสังหา Evergrande ของประเทศจีน จะส่งผลอย่างไรต่อเอลซัลวาดอร์หรือไม่ ที่มา - Twitter @nayibbukele
# โอกาสครั้งสำคัญของ New Generation กับโครงการ MSpire Academy พัฒนาศักยภาพด้าน Big Data & Data Analytics ให้กลายเป็นสุดยอดผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลตัวจริง MSyne เปิดโครงการ MSpire Academy เพื่อรับน้องใหม่ไฟแรงที่สนใจเรื่อง Big Data & Data Analytics เข้ามาร่วม Workshop เรียนรู้เนื้อหาภาคทฤษฎีที่สำคัญ เพื่อปูพื้นฐานให้แน่น และฝึกภาคปฏิบัติกับข้อมูลที่หลากหลาย สัมผัสกับเคสที่ต้องพบในการทำงานจริง เพื่อพัฒนาศักยภาพด้าน Data อย่างเข้มข้น ด้วยหลักสูตร 2 เดือนเต็ม เตรียมความพร้อมให้คุณก้าวเข้าสู่สายงาน Data ได้อย่างมั่นใจ และทำงานร่วมกับลูกค้าระดับ Enterprise ในหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมกับทีม Mentor ที่จะคอยให้คำแนะนำในการทำงานอย่างใกล้ชิด "เทรนฟรี มีงานทำ" "โปรแกรมระยะสั้น เสริมศักยภาพด้าน Big Data & Data Analytics ฝึกปฏิบัติจริงผ่านการอบรมเข้มข้นระยะเวลา 2 เดือน โดยผู้คร่ำหวอดแห่งวงการ Data" อบรมเข้มข้น 2 เดือน เน้นเนื้อหาหลัก 3 Module สำคัญ! Basic Big Data & Data Analytics, Technical Skill and Soft Skill Basic : Big Data & Data Analytics - ปูความรู้เกี่ยวกับ Big Data, Data Analytic และ Data Lakehouse เพื่อเป็นพื้นฐานนำไปสู่ความเข้าใจในกระบวนการทำงานด้านข้อมูล แนวทางการทำงานในแต่ละหน้าที่ของสายงาน Data อาทิ Data Engineer, Data Scientist, Data Analyst, System Engineer เพื่อค้นหาความชอบของตัวเอง - ความสำคัญของข้อมูลกับประเภทธุรกิจ : อธิบายข้อมูลประเภทต่างๆ ที่มักจะถูกนำมาวิเคราะห์ให้ตอบโจทย์ทางธุรกิจ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการเกิดความเข้าใจ และสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานในอนาคตต่อไป - How to Success Project : เรียนรู้กระบวนการทำงานในโครงการ ก่อนที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม แชร์เคล็ดลับ และปัจจัยในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ให้คุณได้กลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในการทำโครงการให้สำเร็จลุล่วง Technical Skill - Language : Python, R Studio ภาษาที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ และสอนการวิเคราะห์ประเภทของข้อมูล Basic Syntax การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นพื้นฐาน และการเขียนโปรแกรมแบบเป็นขั้นเป็นตอน (Step By Step) พร้อมกับการลงมือทำแบบฝึกหัดจริง เพื่อพัฒนาทักษะการทำงานของ Data Science - Bash Shell : ภาษาที่ใช้ในการ Interface กับระบบปฏิบัติการ Unix - Database : สอนทฤษฎีพื้นฐานเรื่อง Database เรียนรู้และสัมผัสกับงานของ DBA - Hadoop Ecosystem : เรียนรู้หนึ่งในเครื่องมือของ Big Data เพื่อบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ลงรายละเอียดแต่ละ Components : Hdfs, Hive, Yarn, Spark, Sqoop, Kafka - Application : เน้น Data integration tool based on ETL architecture เครื่องมือสำคัญสำหรับ Data Engineer - Cloud : เจาะลึกถึงรายละเอียด Cloud ทำงานอย่างไร และทำไม Cloud จึงเริ่มมีความสำคัญมากในเวลาอันรวดเร็ว Soft Skill - Analytical Thinking : ส่งเสริมให้คุณมีทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ ช่วยให้สามารถย่อยข้อมูลจำนวนมากได้เป็นอย่างดี รู้จักตั้งคำถามเชิงวิเคราะห์ ระบุปัญหา ประมวลข้อมูล ตีความ ประเมินทางเลือก และตัดสินใจได้ด้วยตนเอง - จิตวิทยาในการทำงาน : ส่งเสริมทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม การปรับตัว การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดการเวลา เพื่อให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข บุคคลที่เหมาะสมเข้าร่วมโครงการ - นักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 ที่มีความสนใจในสายงานด้าน Big Data & Data Analytics อยากจะเรียนรู้พื้นฐาน และพัฒนาศักยภาพของตัวเองเพื่อต่อยอดสู่การทำงานในอนาคต - เด็กจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ หรือกลุ่มคนมีประสบการณ์ที่พร้อมร่วมงานกับ MSyne ทันทีตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ MSpire Academy คำถามที่พบบ่อย Q : ระยะเวลาในการจัดโครงการ A : 18/10/21 - 18/12/21 (ระยะเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม) Q : เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการไหม? A : ไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ Q : เข้าร่วมโครงการมีโอกาสร่วมงานต่อกับ MSyne เลยไหม? A : 1. กลุ่มเด็กจบใหม่ หรือกลุ่มคนมีประสบการณ์ที่พร้อมร่วมงานกับบริษัท MSyne เมื่อผ่านการทดสอบ และการสัมภาษณ์จนได้เข้าร่วมโครงการจะได้ร่วมงานกับบริษัท MSyne ทันทีที่เข้าร่วมโครงการ 2. นักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 ที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการจะมีโอกาสในการกลับมาร่วมงานกับบริษัท MSyne ทันทีหลังจากที่เรียนจบ โดยการกลับเข้ามาร่วมงานกับบริษัท MSyne ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละบุคคล Q : รูปแบบการจัดโครงการ A : จัดกิจกรรม Boot Camp บนแพลตฟอร์มออนไลน์ตลอดทั้งโครงการ โอกาสเติบโตของคุณมาถึงแล้ว MSpire Academy พร้อมส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุนให้คุณประสบความสำเร็จในสายอาชีพ หากคุณพร้อมออกจากกรอบ เข้ามาติดปีกความรู้ และยกระดับความสามารถไปกับเรา Register Now >> https://form.jotform.com/212410874002442
# ลาออกอีกแล้วหนึ่ง Claire Hart หัวหน้าฝ่ายกฎหมายประกาศลาออกจาก Blizzard ไม่ระบุสาเหตุ เรียกได้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีสำหรับบริษัท Blizzard Entertainment ที่ผู้บริหารและพนักงานบทบาทสำคัญสำคัญลาออกหลายราย ตั้งแต่ Chacko Sonny โปรดิวเซอร์ของเกม Overwatch รวมถึงพนักงานสามคนก่อนหน้า ล่าสุดมีมาอีกรายแล้วเป็น Claire Hart หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย Claire Hart โพสต์ประกาศใน LinkedIn ว่า หลังจากผ่านไปกว่าสามปีที่ Blizzard Entertainment ฉันตัดสินใจที่จะก้าวไปสู่การผจญภัยครั้งต่อไปของฉัน วันศุกร์เป็นวันสุดท้ายของฉันที่ Blizzard สามปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยประสบการณ์ไม่คาดคิด แต่ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับผู้คนที่ยอดเยี่ยมที่ Blizzard แม้ Hart จะไม่บอกเหตุผลว่าลาออกเพราะอะไร แต่ก็ไม่สามารถตัดเหตุผลเรื่องปัญหาภายในองค์กรที่ Blizzard เจออยู่ในตอนนี้ได้ โดย Blizzard มีปัญหาเรื่องเหยียดเพศ คุกคามเพศจนพนักงานหลุดงานประท้วง และถูกฟ้องดำเนินคดี ภาพจาก Claire Hart ใน LinkedIn ที่มา - Kotaku
# ล่าผีคนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ เกม Phasmophobia เล่นคนเดียวแบบออฟไลน์ได้แล้ว Phasmophobia เป็นเกมล่าผีในบ้านร้าง ที่ผู้เล่นต้องเก็บเบาะแสเพื่อพิสูจน์ว่าผีเป็นผีชนิดใด โดยสามารถเล่นกับเพื่อนได้สูงสุด 4 คน และรองรับแว่น VR ก่อนหน้านี้ถึงแม้จะเล่นคนเดียวได้แต่ก็ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา แต่ในอัพเดตล่าสุดที่ตัวเกมมีอายุครบ 1 ปี ผู้เล่นจะสามารถล่าผีคนเดียวแบบไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงอื่นๆ เช่นสมุดโน้ต ที่ให้ผู้เล่นสามารถขีดฆ่าเบาะแสที่มั่นใจว่าไม่พบในบ้านได้, เพิ่มเงินที่ได้หากผู้เล่นตาย ปรับปรุงพฤติกรรมของ Ghost Orb ให้เดาได้ยากขึ้น และปรับปรุงบั๊กเช่นการที่ผู้เล่นสามารถเอาหัวทะลุเข้าไปในตู้เพื่อหลบผีได้ และอื่นๆ สามารถดู patch notes แบบเต็มได้ ที่นี่ ที่มา - Kotaku