text
stringlengths 11
12.4k
| meta
dict |
---|---|
ชื่อไทย: เทวดาหินอ่อน
ชื่อสามัญ: Marble angelfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pterophyllum scalare
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำอเมซอน โอริโนโค ในประเทศบราซิล และเวเนซูเอล่า ทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: เป็นปลาที่สามารถเลี้ยงเป็นฝูงรวมกันหลายสายพันธุ์ในตู้ที่มีพรรณไม้น้ำ ว่ายน้ำช้า ๆ อุปนิสัยรักสงบ สามารถเลี้ยงและผสมพันธุ์วางไข่ในตู้ได้ เลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นได้
ในทุกสายพันธุ์มีลักษณะตัวแบนมาก ครีบและหางยื่นยาวออกมาจากลำตัว ครีบท้องเรียวเล็กและปลายชี้แหลม สีลำตัวและลวดลายได้รับการพัฒนาให้มีหลายสายพันธุ์ เจริญเติบโตเต็มที่ขนาดความยาวประมาณ 12 ซม. ในชนิดนี้มีลักษณะเด่น คือ ลำตัวมีสีเงินและมีแถบสีดำกระจายตลอดลำตัว คล้ายลวดลายของหินอ่อน ครีบมีลวดลายเหมือนลำตัว ครีบอกสีขาว
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เทวดาบลู, เทวดาม้าลาย
ชื่อสามัญ: Blue angelfish, Zebra angelfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pterophyllum scalare
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำอเมซอน โอริโนโค ในประเทศบราซิล และเวเนซูเอล่า ทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: มีลักษณะเด่นคือ ลำตัวมีสีเงินอมเขียวหรือฟ้า และมีแถบสีดำขวางลำตัวเป็นระเบียบ 3-4 แถบ แถบแรกพาดผ่านตา แถบสุดท้ายอยู่โคนครีบหาง มีแถบใหญ่พาดตั้งแต่ปลายครีบหางถึงปลายครีบท้อง ครีบอกมีสีฟ้า ครีบทุกครีบมีลวดลายเหมือนลำตัว มีดวงตาสีแดง
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เทวดาเงิน, เทวดาแพลทตินั่ม (สีขาว)
ชื่อสามัญ: Silver angelfish, Platinum angelfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pterophyllum scalare
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำอเมซอน โอริโนโค ในประเทศบราซิล และเวเนซูเอล่า ทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: มีลักษณะเด่นคือ ลำตัวมีสีเงินแวววาวทั้งลำตัว ครีบทุกครีบมีสีเงิน มีแถบสีเหลืองอ่อนจาง ๆ บริเวณครีบหลัง ครีบท้อง และครีบหาง เทวดาแพลทตินั่ม ลำตัวมีสีเงินวาวสะท้อนแสงทั้งลำตัว ครีบทุกครีบใส มีสีเงินวาว เงิน มีแถบขาวจาง ๆ บริเวณครีบหลังและครีบหาง ได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ทำให้มีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย และจากการเพาะเลี้ยงและคัดพันธุ์ทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ๆและมีการตั้งชื่อต่างๆอีกหลายชื่อ เช่น ปลาเทวดาเงิน (Silver Angelfish) ปลาเทวดาดำ (Black Angelfish) ปลาเทวดาลายม้าลาย (Zebra Angelfish) ปลาเทวดาลายหินอ่อน (Marble Angelfish) ปลาเทวดาสีเทา (Gray Angelfish) ปลาเทวดาสีชอกโกเลต (Chocolate Angelfish) ปลาเทวดาลายดำครึ่งตัว(Half Black Angelfish) ปลาเทวดาขาว (White or Ghost Angelfish) ปลาเทวดาทอง (Gold Angelfish) ปลาเทวดาลายจุด (Spotled Angelfish) และ Koi Angelfish ถึงแม้ปลาเทวดาจะเป็นปลาจากต่างประเทศ แต่นักเพาะเลี้ยงปลาสวยงามในบ้านเราก็สามารถดำเนินการเพาะพันธุ์ และผลิตลูกปลาเทวดาชนิดต่างๆภายในประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก ลักษณะการกิน กินได้ทั้ง ตัวอ่อนแมลงน้ำ ลูกน้ำ ไรน้ำ และแพลงตอนสัตว์ และอาหารเม็ด
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เทวดาสามสี
ชื่อสามัญ: Tricolour angelfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pterophyllum scalare
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำอเมซอน โอริโนโค ในประเทศบราซิล และเวเนซูเอล่า ทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: มีลักษณะเด่นคือ มีลำตัวมีสีเงิน เหลือง และดำ ครีบอกมีสีเงิน มีจุดสีดำขนาดไม่สม่ำเสมอกระจายทั่วลำตัว โดยเฉพาะบริเวณส่วนท้ายของลำตัว
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เทวดาทอง
ชื่อสามัญ: Gold angelfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pterophyllum scalare
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำอเมซอน โอริโนโค ในประเทศบราซิล และเวเนซูเอล่า ทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: มีลักษณะเด่นคือ ลำตัวมีสีทองทั้งตัว ครีบหลังมีแถบสีดำจาง ๆ ครีบอกสีทอง ครีบท้องและครีบหางใสและมีสีทองจาง ๆ
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปอมปาดัวร์สายพันธุ์บราวน์ดีซเคิซ, ปอมสีน้ำตาล, ปอมห้าสี
ชื่อสามัญ: Brown discus
ชื่อวิทยาศาสตร์: Symphysodon aequifasciata var.
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศบราซิล
รายละเอียด: มีลักษณะเด่นคือ สีพื้นลำตัวมีตั้งแต่เหลืองจนถึงน้ำตาลเข้ม มีแถบสีดำเข้มขวางลำตัวจำนวน 9 แถบ แถบสีดำแถบแรกที่พาดผ่านนัยน์ตาจะเป็นสีดำเข้ม และแถบที่เก้าที่อยู่โคนหางสีจะดำเข้มกว่าแถบแรก ซึ่งทั่วไปปอมสีน้ำตาลจะมีสีพื้นลำตัวหลากหลายตั้งแต่เหลืองจาง ๆ เหลืองถึงน้ำตาลปนดำและเกือบแดง และมีลายเทอร์คอยส์เล็กน้อยเฉพาะที่หัวหน้าผากและครีบก้น เป็นปอมชนิดแรกที่มีการส่งออกและซื้อขายกันแพร่กระจายไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และเป็นปลาป่าชนิดแรกที่สามรถเพาะพันธุ์ได้สำเร็จในบ่อเลี้ยง สามารถเลี้ยงเป็นฝูงรวมกันหลายสายพันธุ์ในตู้ที่มีพรรณไม้น้ำ ว่ายน้ำช้า ๆ อุปนิสัยรักสงบ สามารถเลี้ยงและผสมพันธุ์วางไข่ในตู้ได้ เลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นได้
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปอมปาดัวร์สายพันธุ์ บลูไดมอนด์, บลูดีซเคิซ, ปอมฟ้า
ชื่อสามัญ: Blue discus
ชื่อวิทยาศาสตร์: Symphysodon aequifasciata
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ตอนเหนือของลุ่มน้ำอเมซอน
รายละเอียด: ลำตัวจะมีสีฟ้าอมเขียวสะท้อนแสงสวยงาม ไม่มีลวดลายเหมือนปลาปอมปาดัวร์สายพันธุ์อื่นๆ สามารถเลี้ยงเป็นฝูงรวมกันหลายสายพันธุ์ในตู้ที่มีพรรณไม้น้ำ ว่ายน้ำช้า ๆ อุปนิสัยรักสงบ สามารถเลี้ยงและผสมพันธุ์วางไข่ในตู้ได้ เลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นได้
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปอมปาดัวร์สายพันธุ์จุดแดง, ปอมเสือดาว
ชื่อสามัญ: Leopard discus
ชื่อวิทยาศาสตร์: Symphysodon aequifasciata var.
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศเยอรมนี
รายละเอียด: มีลักษณะเด่นคือ มีจุดแดงบนลำตัว อาจมีแถบดำที่เป็นเอกลักษณ์ของปลาป่าปรากฏให้เห็นที่พาดผ่านนัยน์ตา ลำตัว และโคนหาง
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปอมปาดัวร์สายพันธุ์ฝุ่น
ชื่อสามัญ: Pegeon blood discus
ชื่อวิทยาศาสตร์: Symphysodon aequifasciata var.
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศเยอรมนี
รายละเอียด: เป็นปลาลูกผสมที่ได้จากการคัดพันธุ์ของนักเลี้ยงปลาชาวไทย ปอมฝุ่นเกิดจากพ่อแม่ปลาเจ็ดสีหรือสไทร์พเทอร์คอยส์ มีลักษณะที่แตกต่างจากปอมเจ็ดสีคือลำตัวมีสีพื้นเหลืองปนน้ำตาลถึงแดงปนน้ำตาล ลายเป็นสีขาวเกือบขาวเงินผสมเทอร์คอยส์ ลักษณะเด่นคือมีจุดดำหรือเขม่ากระจายอยู่มากบ้างน้อยบ้างเกือบทั้งตัวและไม่มีแถบดำขวางลำตัว
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปอมปาดัวร์สายพันธุ์สเนคสกิน, ปอมงู
ชื่อสามัญ: Snakeskin discus
ชื่อวิทยาศาสตร์: Symphysodon aequifasciata var.
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำอเมซอน
รายละเอียด: ปอมสายพันธุ์นี้กลายพันธุ์มาจากพวกสไทร์พเทอร์คอยส์ ปลาพวกนี้มีอายุ 1.5 เดือนจะมีแถบดำที่ขวางลำตัว 14 แถบ และจะค่อย ๆ จางไปเมื่อปลาเติบโตขึ้น จะปรากฏลวดลายเส้นเล็ก ๆ ยาวตามลำตัว หรือเป็นจุดสีเทาปนเขียวหรือบางตัวเป็นสีขาวเงิน บางตัวจุดสีเล็กละเอียดแบบลายข้าวตอกดูคล้ายหนังงู จึงได้ชื่อตามลักษณะดังกล่าว สีพื้นที่หัวและแก้มเป็นลวดลายเล็ก ๆ เป็นสีส้มปนน้ำตาล บางตัวมีสีแดงหรือเทอร์คอยส์ ปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์โดยนำมาผสมข้ามพันธุ์กับปอมลูกผสมของปอมเขียว ให้ลูกผสมมีลวดลายและจุดสีแดงเพิ่มมากขึ้น และผสมข้ามพันธุ์กับปอมฝุ่น
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปอมปาดัวร์สายพันธุ์สไทร์พเทอร์คอยส์, ปอมเจ็ดสี
ชื่อสามัญ: Striped turquoise discus
ชื่อวิทยาศาสตร์: Symphysodon aequifasciata var.
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศเยอรมนี
รายละเอียด: มีลายขวางลำตัวที่เป็นสีดำ ซึ่งลักษณะของปลาป่าปรากฏให้เห็นเด่นชัด โดยเฉพาะลายที่นัยน์ตาและโคนหาง มีลายเล็กสีน้ำตาล ลายสีฟ้าเป็นลายและไม่ชัดเจน ในปลาที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นใหม่ ปรากฎลวดลายสวยงามคล้ายปอมลายงู แต่ลวดลายมีขนาดใหญ่กว่า และไม่ละเอียดเท่า ทำให้เห็นสีพื้นลำตัวที่มีสีเขียวหรือฟ้าแวววาวมากกว่า
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ออสการ์
ชื่อสามัญ: Oscar
ชื่อวิทยาศาสตร์: Astronotus ocellatus
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำโอริโนโก แม่น้ำอเมซอน และแม่น้ำ La Plata ในทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: เป็นปลาที่มีนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว มีอาณาเขตเป็นของตัวเอง สามารถเลี้ยงเดี่ยว หรือเป็นฝูงในตู้ที่ตกแต่งด้วยก้อนหิน ขอนไม้ มีลักษณะ ลำตัวแบนข้างและลำตัวค่อนข้างลึก มีลายสีแถบแดงที่ด้านข้างลำตัว สีของปลาขนาดเล็กพบว่ามีสีแดงสลับกับสีดำ เมื่อโตขึ้นสีจะเปลี่ยนไปเป็นสีเทาและสีส้มแดง ส่วนครีบมีสีดำหรือทองมีรูปร่างแบน ปากใหญ่ ปากล่างยาวกว่าปากบน ปากเชิดขึ้น เจริญเติบโตเร็ว ตัวโตเต็มวัยมีขนาดความยาว 12-14 นิ้ว ถ้าเลี้ยงดูอย่างดีสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 10 ปี
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ออสการ์เผือก
ชื่อสามัญ: Albino oscar
ชื่อวิทยาศาสตร์: Astronotus ocellatus
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำโอริโนโก แม่น้ำอเมซอน และแม่น้ำ La Plata ในทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: เป็นปลาที่มีนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว มีอาณาเขตเป็นของตัวเอง สามารถเลี้ยงเดี่ยว หรือเป็นฝูงในตู้ที่ตกแต่งด้วยก้อนหิน ขอนไม้ มีลักษณะ ลำตัวแบนข้าง และมีความลึกของลำตัวมาก พื้นลำตัวมีสีขาวเงิน มีจุดสีแดงที่ด้านข้างลำตัว นัยน์ตาสีแดง ปากใหญ่ เจริญเติบโตเร็ว ตัวโตเต็มวัยมีขนาดความยาว 12-14 นิ้ว
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ออสการ์ลายเสือ
ชื่อสามัญ: Tiger oscar
ชื่อวิทยาศาสตร์: Astronotus ocellatus
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำโอริโนโก แม่น้ำอเมซอน และแม่น้ำ La Plata ในทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: เป็นปลาที่มีนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว มีอาณาเขตเป็นของตัวเอง สามารถเลี้ยงเดี่ยว หรือเป็นฝูงในตู้ที่ตกแต่งด้วยก้อนหิน ขอนไม้ ลำตัวแบนข้างและมีความลึกของลำตัวค่อนข้างมาก พื้นลำตัวมีสีคล้ำ ส่วนหัวและหลังสีเขียวอมน้ำตาล มีลายเส้นสีแดงคล้ายลายเสือ มีจุดดำขอบสีแกงขนาดใหญ่อยู่บริเวณโคนครีบหาง ปากใหญ่ ปากล่างยาวกว่าปากบน
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ออสการ์ลายเสือเผือก
ชื่อสามัญ: Albino tiger oscar
ชื่อวิทยาศาสตร์: Astronotus ocellatus
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำโอริโนโก แม่น้ำอเมซอน และแม่น้ำ La Plata ในทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: เป็นปลาที่มีนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว มีอาณาเขตเป็นของตัวเอง สามารถเลี้ยงเดี่ยว หรือเป็นฝูงในตู้ที่ตกแต่งด้วยก้อนหิน ขอนไม้ มีรูปร่างและลวดลายเหมือนออสการ์ลายเสือ แต่พื้นลำตัวมีส้ม มีลายเส้นสีขาวทั่วลำตัวและครีบ ปากใหญ่ ปากล่างยาวกว่าปากบน
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปลาหมอบัตเตอร์
ชื่อสามัญ: Tilapia zebra
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tilapia buttikoferi
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ทางตะวันตกของแอฟริกา
รายละเอียด: เป็นปลาหมอที่มีนิสัยค่อนข้างดุร้าย ควรแยกเลี้ยงเดี่ยว หรือสามารถเลี้ยงรวมกันหลายๆตัว หรือเลี้ยงรวมกับปลาหมอสายพันธุ์อื่นๆได้ แต่ต้องมีขนาดใกล้เคียงกัน เป็นปลาหมอที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 30-40 ซม. จึงควรเลี้ยงในตู้ที่มีขนาดใหญ่ มีลำตัวค่อนข้างหนาล่ำสันดูแข็งแรง มีพื้นสีลำตัวเป็นฟ้าเทาอมเหลือง มีลายพาดลำตัว 7-8 แถบ เป็นปลาหมอที่เลี้ยงง่าย กินอาหารสดหรืออาหารสำเร็จรูปเป็นอาหาร ซึ่งจะกินเก่ง โตเร็ว และเชื่องกับคน มักขึ้นมากินอาหารกับมือคนได้
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ออสเซราลิส
ชื่อสามัญ: Peacock bass
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cichla ocellaris
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: ปลาในสกุล Cichla เป็นปลาหมอนักล่าที่มีความใหญ่ เจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ได้เร็วในแหล่งน้ำธรรมชาติ มีรายงานว่าแพร่พันธุ์ในอ่างเก็บน้ำ Tri An ประเทศเวียดนาม จนเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายของชนิดปลาพื้นเมือง ในประเทศไทยพบแพร่พันธุ์ในอ่างเก็บน้ำพุหวาย จังหวัดเพชรบุรี ไม่ควรปล่อยหรือทำให้หลุดลงไปในแหล่งน้ำธรรมชาติ ปลาในสกุล Cichla เป็นปลาหมอที่มีความใหญ่โตที่สุดในอเมริกาใต้ ในแม่น้ำอะเมซอนมีหลายสายพันธุ์ ครีบหางมีลวดลายคล้ายลายบนขนของนกยูง จึงมีชื่อเรียกว่า Peacock bass มีขนาดใหญ่ที่สุดประมาณ 100 ซม. ปลาขนาดเล็กจะมีแถบดำขนานกับลำตัวตั้งแต่แก้มไปจนถึงหาง เมื่อโตลายดังกล่าวจะหายไป
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เทเมนลิส
ชื่อสามัญ: Peacock bass
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cichla tamensis
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: มีลักษณะคล้ายกับ ออสเซราลิส แต่มีสีสันสะดุดตามากกว่า ลำตัวมีแถบดำพาดตามความยาวลำตัว 1 แถบ และพาดตามแนวขวางห่าง ๆ 4 แถบ โคนครีบหางมีจุดดำขอบเหลืองขนาดใหญ่ 1 จุด ครีบหลังและครีบหางมีจุดประสีขาว ครีบอกและครีบก้นมีสีส้มแดง ครีบหางมีลวดลายคล้ายลายบนขนของนกยูง สามารถเลี้ยงเป็นฝูงร่วมกับปลาในตระกูลเดียวกันในตู้ปลาขนาดใหญ่
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอแรมแดง
ชื่อสามัญ: Jewel cichlid, Jewelfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Hemichromis bimaculatus
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำในทวีปแอฟริกาฝั่งตะวันตก
รายละเอียด: สามารถเลี้ยงเป็นฝูงร่วมกับปลาในตระกูลเดียวกันในตู้ปลาขนาดใหญ่ ค่อนข้างดุร้ายกับปลาหมอชนิดอื่น
มีลักษณะรูปร่างเรียวยาว แบนข้างเล็กน้อย พื้นลำตัวสีแดงมีจุดสีฟ้าแวววาวตลอดลำตัว หัวเล็ก ตาเล็ก ครีบทุกครีบมีสีแดง มีแถบและลายจุดสีฟ้า ครีบหลังและครีบหางแดงปลายครีบสีแดง มีจุดดำขนาดใหญ่ 2 จุด คือ บริเวณกระพุ้งแก้มและกลางลำตัว โคนครีบหางมีจุดดำขนาดเล็กหรือไม่มี เพศผู้มีสีสดใสกว่าเพศเมีย ขนาดเฉลี่ย 10-13 ซม.
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอแรม 7 สี, หมอรามิเรซ
ชื่อสามัญ: Ramirez’s dwarf cichlid, Butterfly dwarf cichlid, Ram cichlid
ชื่อวิทยาศาสตร์: Microgeophagus ramirezi
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ทวีปอเมริกาใต้ แถบประเทศโคลัมเบีย และเวเนซูเอล่า
รายละเอียด: เป็นปลาหมอขนาดเล็กสามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยก้อนหิน ขอนไม้ และพรรณไม้น้ำ มีรูปร่างแบนข้าง ลำตัวกว้าง ส่วนหัวค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบสัดส่วนกับลำตัว ครีบหางสั้นเป็นรูปสามเหลี่ยม ครีบหลังเชื่อมยาวต่อกันตั้งสูงชันคล้ายกำแพง ก้านครีบแข็ง 3-4 ก้านแรกของครีบหลังมีสีดำตั้งสูงชันขึ้นมา ขอบตามีสีแดง มีเส้นดำพาดตาจากบนหัวลงมาเกือบถึงใต้คอ มีจุดดำขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่บริเวณปลายตัวเห็นเด่นชัด สีสันของปลาชนิดนี้สดใส เหลือบพราย มีจุดเขียวอมฟ้าสะท้อนแสงเคลือบบนเกล็ดเต็มลำตัว ยกเว้นส่วนท้องที่จะมีสีออกเหลือง เพศผู้มีความยาวของครีบต่าง ๆ และขนาดลำตัวยาวกว่าและใหญ่กว่าเพศเมียอย่างเห็นได้ชัด ปลาเพศผู้เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวประมาณ 7 ซม. ส่วนเพศเมีย 4-5 ซม.
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอแรมทอง
ชื่อสามัญ: Golden Ram cichlid
ชื่อวิทยาศาสตร์: Microgeophagus ramirezi var.
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ทวีปอเมริกาใต้ แถบประเทศโคลัมเบีย และเวเนซูเอล่า
รายละเอียด: รูปร่างเหมือนแรม 7 สี พื้นลำตัวสีเหลืองทอง มีจุดประสีขาวหรือฟ้าอ่อนตั้งแต่ช่วงกลางลำตัวไปจนถึงครีบหาง ครีบท้องสรแดง ขอบครีบสีฟ้า สามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยก้อนหิน ขอนไม้ และพรรณไม้น้ำ ได้เช่นกัน
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอบลูนีออนแรม, หมอแรมเยอรมัน
ชื่อสามัญ: Blue neon ram, German ram cichlid
ชื่อวิทยาศาสตร์: Microgeophagus ramirezi var.
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ทวีปอเมริกาใต้ แถบประเทศโคลัมเบีย และเวเนซูเอล่า
รายละเอียด: รูปร่างแบนข้าง ลำตัวยาวกว่าแรม 7 สี ส่วนหัวค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบสัดส่วนกับลำตัว ครีบหางสั้นเป็นรูปสามเหลี่ยมเว้าตื้น ครีบหลังยกสูงและยาว ขอบตามีสีแดงพื้นลำตัวสีฟ้าสะท้อนแสงสวยงามเป็นจุดเด่น ส่วนหัวมีสีเหลือง ปนกับสีฟ้าสะท้อนแสง
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอแคระเวียจิต้า
ชื่อสามัญ: Veijita dwarf cichlid
ชื่อวิทยาศาสตร์: Apistogramma viejita
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศโคลัมเบีย ทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: เป็นปลาหมอขนาดเล็กมีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 3-4.6 ซม. มีนิสัยรักสงบ สามารถเลี้ยงรวมระหว่างเพศผู้ 1 ตัว และเพศเมียหลาย ๆ ตัว ตู้เลี้ยงควรประกอบด้วยก้อนหิน ขอนไม้ และพรรณไม้น้ำ เพื่อเป็นที่กำบัง และควรจะมืด มีแสงสลัว เพื่อที่จะช่วยขับสีของปลาให้เด่นชัดสวยงาม มีลักษณะคือ ลำตัวยาวและแบนข้างเล็กน้อย ลำตัวมีสีเหลืองแถบสีส้มกระจายทั่ว ส่วนของครีบหลัง ครีบท้อง และครีบก้น มีปลายครีบเป็นกระโดงยาว ครีบหางส่วนขอบปลายด้านบนและด้านล่างมีส่วนปลายยื่นยาวออกมา
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอแคระไตรฟาส
ชื่อสามัญ: Trifasiata dwarf cichlid
ชื่อวิทยาศาสตร์: Apistogramma trifasiata
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศโคลัมเบีย ทวีปอเมริกาใต้
รายละเอียด: เป็นปลาหมอขนาดเล็ก โตเต็มที่ประมาณ3-4.6 ซม. มีนิสัยรักสงบ สามารถเลี้ยงรวมระหว่างเพศผู้ 1 ตัว และเพศเมียหลาย ๆ ตัว ตู้เลี้ยงควรประกอบด้วยก้อนหิน ขอนไม้ และพรรณไม้น้ำ เพื่อเป็นที่กำบัง และควรจะมืด มีแสงสลัว เพื่อที่จะช่วยขับสีของปลาให้เด่นชัดสวยงาม มีลักษณะลำตัวยาวและแบนข้างเล็กน้อย ลำตัวมีสีขาวเงิน มีแถบสีดำขนาดใหญาพาดยาวตามลำตัว ตั้งแต่ขอบหลังตาจรดโคนครีบหาง และมีแถบสีดำบริเวณโคนครีบหางด้านหลังและส่วนท้อง ครีบหลัง ครีบท้อง และครีบก้น ส่วนปลายเป็นกระโดงยาว ครีบหางคล้ายรูปพัด
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: มาลาวีเหลือง (สีเหลือง)
ชื่อสามัญ: Yellow peacock, Nkhomo-Benga Peacock
ชื่อวิทยาศาสตร์: Aulonocara baenschi
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบมาลาวี ทวีปแอฟริกาใต้ บริเวณชายฝั่งของประเทศแทนซาเนียบริเวณที่เป็นพื้นทราย
รายละเอียด: ลักษณะเด่นของมาลาวีเหลืองคือพื้นลำตัวมีสีเหลือง และแถบสีน้ำเงินขวางลำตัว 5-7 แถบ หรือไม่มีเพราะถูกสีเหลืองกลบหมด แก้มสีน้ำเงิน กระโดงสีเหลือง ขนาดเฉลี่ย 10-12 ซม. เพศผู้มีสีสันสดใสกว่าเพศเมีย ซึ่งเพศเมียแทบจะไม่มีสีสันเลย ลักษณะทั่วไปมีลำตัวเพรียวยาว หัวมีขนาดปานกลางได้สัดส่วนกับลำตัว ตาโตและโปน ช่วงตาห่างปากเฉียงขึ้นเล็กน้อย คอดหางยาวเรียว ครีบหลังมีปลายเรียวยาว ส่วนปลายสุดของครีบหลังยาวเกือบจรดปลายหาง ครีบหางเว้า ครีบก้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่โดยเฉพาะเพศผู้ จะมีจุดสีเหลืองปรากฎเพื่อช่วยกระตุ้นให้เพศเมียวางไข่เวลาผสมพันธุ์ มีครีบท้องใหญ่กว่าครีบอกและปลายครีบท้องยาวเลยจุดเริ่มของครีบหาง สามารถเลี้ยงเป็นฝูงร่วมกับปลาหมอสีจากทะเลสาบมาลาวีชนิดอื่น ๆ ในตู้ที่ปูพื้นด้วยกรวดเล็กละเอียด ตกแต่งด้วยก้อนหินหลายขนาดเพื่อเป็นที่หลบซ่อน อุปนิสัยชอบขุดทรายขึ้นมา และหวงที่อยู่อาศัย หากปล่อยปลาเพิ่มในตู้ จะไล่ปลาตัวใหม่เพราะหวงที่ ต้องนำปลาเก่าขึ้นมาแล้วจัดตู้ใหม่ จากนั้นจึงปล่อยปลาเก่าและปลาใหม่ลงพร้อมกัน
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: มาลาวีห้าสี
ชื่อสามัญ: Ob Peacock
ชื่อวิทยาศาสตร์: Aulonocara sp.
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ถูกพัฒนาสายพันธุ์ในประเทศไทย
รายละเอียด: เป็นปลาลูกผสมที่เกิดจากนักเลี้ยงปลาในประเทศไทย รูปร่างคล้ายกับมาลาวีน้ำเงิน แต่มีหัวโตกว่า จะงอยปากทู่ นัยน์ตาโต คอดหางสั้น ครีบหลังมีส่วนปลายยาวเกือบถึงปลายครีบหาง ครีบอกมีขนาดเล็กกว่าครีบอื่น ครีบท้องมีขนาดใหญ่และมีส่วนปลายยาวเลยจุดเริ่มต้นของครีบ ก้น มีจุดสีส้มอยู่ที่บริเวณหัวและตามครีบเกือบทุกครีบ ลำตัวมีพื้นสีขาว มีจุดปะสีส้มที่ส่วนบนของครีบหลังและต้นคอ มีลายสีน้ำเงินกระจายอยู่ทั่ว ครีบหลังสีขาวและเหลือง ครีบท้องสีส้มและมีก้านครีบสีน้ำเงิน ขอบครีบท้องมีสีขาว ครีบหางมีสีขาวแซมแถบสีน้ำเงิน ครีบอกขาว ขนาดเฉลี่ย 10-12 ซม. สามารถเลี้ยงเป็นฝูงร่วมกับปลาหมอสีจากทะเลสาบมาลาวีชนิดอื่น ๆ
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: มาลาวีคอแดง
ชื่อสามัญ: Redside peacock
ชื่อวิทยาศาสตร์: Aulonocara hansbaenschi
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบมาลาวี ทวีปแอฟริกาใต้
รายละเอียด: มีลักษณะเด่นคือมีสีน้ำเงินสดตลอดทั้งตัว ยกเว้นส่วนคอบริเวณหลังแผ่นปิดเหงือกลงมาถึงครีบอก จะเป็นสีส้มถึงสีแดงซึ่งจะตัดกับสีน้ำเงินบริเวณลำตัวและหัว มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 10 ซม. เพศผู้มีสีสันสดใสและมีขนาดใหญ่กว่าเพศเมีย มีครีบหลังที่ยกสูงสีน้ำเงินสวยงาม ที่ขอบด้านบนของครีบหลังมีสีขาวเป็นทางยาว และปลายครีบส่วนท้ายออกสีส้ม รวมถึงครีบหาง ครีบก้น ก็ปรากฎสีส้มที่ส่วนท้ายของครีบเช่นกัน ครีบท้องมีขนาดใหญ่สีแดงบริเวณก้านครีบไม่แตกแขนงขอบนอกสุดเป็นสีขาวอมน้ำเงินและมีส่วนปลายที่ยาวยื่นออกมาเล้กน้อย ลำตัวมีพื้นสีน้ำเงิน มีแถบสีน้ำเงินเข้มพาดขวางลำตัว 8-10 แถบ สามารถเลี้ยงรวมเป็นฝูงกับปลาหมอมาลาวีชนิดอื่นๆได้
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมออัฟราคาจินโด
ชื่อสามัญ: Afra kajindo
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cynotilapia afra
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบมาลาวี ทวีปแอฟริกาใต้
รายละเอียด: เลี้ยงเป็นฝูงร่วมกับปลาในตระกูลเดียวกันหรือปลาหมอมาลาวีอื่นๆในตู้ปลาขนาดใหญ่ มีลักษณะลำตัวยาวและแบนข้าง นัยน์ตาเล็ก ปากเฉียงขึ้นเล็กน้อย จงอยปากสั้น สีที่ลำตัวแยกเป็น 2 สี ส่วนหัวและลำตัวด้านบนมีสีเหลือง ด้านล่างสีฟ้า มีแถบสีดำพาดขวางลำตัวประมาณ 7 แถบ ระหว่างนัยน์ตาทั้งสองข้างมีแถบสีดำคาด ครีบหลังสีดำมีขอบสีขาวปลายครีบสีฟ้า ครีบก้นมีจุดไข่สีเหลือง
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอลาโบรซัส
ชื่อสามัญ: nan
ชื่อวิทยาศาสตร์: Eclectochromis labrosus
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบมาลาวี ทวีปแอฟริกาใต้
รายละเอียด: สามารถเลี้ยงเป็นฝูงร่วมกับปลาในตระกูลเดียวกันหรือปลาหมอมาลาวีอื่นๆในตู้ปลาขนาดใหญ่ มีลักษณะลำตัวยาวและแบนข้าง นัยน์ตาเล็ก หัวมีขนาดปานกลาง ปากแคบ ริมฝีปากหนา ครีบหลังและครีบก้นส่วนที่เป็นก้านครีบอ่อนมีขนาดใกล้เคียงกัน ครีบอกมีขนาดเล็ก ครีบท้องใหญ่และส่วนปลายยาวเลยจุดเริ่มต้นของครีบก้น พื้นลำตัวสีเหลือง ส่วนหัวสีฟ้าอมน้ำเงิน ครีบหลังสีเหลืองปนดำขอบขาว และปลายครีบหลังมีจุดสีส้มบริเวณก้านครีบอ่อน ครีบก้นและครีบอกสีน้ำตาลขอบขาว
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอกล้วยหอม
ชื่อสามัญ: lemon yellow lab, the blue streak hap
ชื่อวิทยาศาสตร์: Labidochromis yellow
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบมาลาวี ทวีปแอฟริกาใต้
รายละเอียด: เป็นปลาหมอสีที่มีเลี้ยงในประเทศไทยมานานแล้ว นิยิมเลี้ยงกันทั้งมือเก่าและมือใหม่เพราะมีสีเหลืองสวยงามสะดุดตาและยังมีราคาถูก นิสัยไม่ดุร้ายมากสามารถเลี้ยงรวมกับปลาอื่นๆที่มีขนาดเล็กได้ จุดเด่นคือมีสีเหลืองสดสวยสะดุดตา ตัดกับขลิบสีดำบนแนวครีบหลังและครีบหาง มีขนาดโตเต็มที่ไม่เกิน 9 ซม. ปลาหมอกล้วยหอมสามารถเลี้ยงเป็นฝูงกับปลาชนิดเดียวกัน หรือกับปลาหมอมาลาวีชนิดอื่นๆได้ เพราะมีขนาดเล็กและนิสัยไม่ก้าวร้าว ชอบว่ายน้ำเป็นฝูงทำให้ตู้ดูสวยงาม เพศผู้เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์จะเปล่งสีออกมาจัดมาก และปรากฎจุดไข่ปลาสีเหลืองบริเวณครีบก้น ซึ่งตัวที่มีสีสันสวยสะดุดตาที่สุดจะเป็นที่หมายตาของเพศเมีย ซึ่งในปลาหนึ่งฝูงอาจมีเพศผู้ที่สีสวยสดมากๆเพียงตัวเดียวหรือสองตัวเท่านั้นในช่วงผสมพันธุ์ การกินอาหารกินได้ทั้งอาหารสดและสำเร็จรูป เป็นปลาที่กินอาหารเก่งและโตเร็วมาก
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอสีอีสเทิร์นบลู
ชื่อสามัญ: Johanni eastern, Bluegray mbuna
ชื่อวิทยาศาสตร์: Melanochromis johannii
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบมาลาวี ทวีปแอฟริกาใต้
รายละเอียด: สามารถเลี้ยงเป็นฝูงร่วมกับปลาหมอสีจากทะเลสาบมาลาวีชนิดอื่น ๆ มีลักษณะลำตัวยาวแบนข้าง หัวเล็ก จะงอยปากสั้นทู่ ปากเล็กและอยู่ปลายสุดของส่วนหัว นัยน์ตาเล็ก ลำตัวมีสีฟ้ามีแถบดำพาดตามลำตัวสองแถบ แถบแรกอยู่เริ่มต้นจากเหนือนัยน์ตาไปสิ้นสุดที่โคนหางส่วนบน แถบที่สองเริ่มต้นจากใต้ขอบตาล่างไปสิ้นสุดที่โคนหางส่วนล่าง ครีบหลังสีฟ้าขอบน้ำเงิน ครีบหูดำ ครีบหางสีน้ำเงินขอบขาว ครีบท้องดำขอบขาว ครีบก้นสีดำและมีจุดประกลมสีเหลือง
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอสีซีบราเผือก
ชื่อสามัญ: Zebra albino
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pseudotropheus sp.
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: ถูกพัฒนาสายพันธุ์ในประเทศไทย
รายละเอียด: เป็นปลาเผือกที่เกิดจากการคัดพันธุ์ของนักเลี้ยงปลาในประเทศไทย มีนัยน์ตาสีแดง ลำตัวสีขาวลายชมพู ครีบหลังขาวและปลายเหลือง ครีบอกสีขาว ครีบท้องสีขาวเหลือง ครีบก้นสีขาว และจุดไข่สีเหลือง ครีบหางมีขอบสีเหลืองใส สามารถเลี้ยงเป็นฝูงร่วมกับปลาหมอสีจากทะเลสาบมาลาวีชนิดอื่น ๆ
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: มาลาวีชมพู, มาลาวีพิ๊งค์ (สีชมพู)
ชื่อสามัญ: Pink Peacock
ชื่อวิทยาศาสตร์: Aulonocara sp.
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: เป็นปลาหมอมาลาวีที่เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์
รายละเอียด: เป็นปลาที่เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์จากปลาหมอมาลาวีเรดพีค็อก และกลุ่มใกล้เคียง ซึ่งทำให้ปลามีลักษณะเด่นคือ ลำตัวทั้งตัวมีสีชมพูทั้งส่วนหัว ลำตัว และครีบทุกครีบ หรืออาจเป็นสีชมพูเข้มจนถึงแดง ยังคงเอกลักษณ์ตระกูลมาลาวีPeacock คือมีลวดลายที่ครีบหลังครีบก้นและครีบหางชัดเจน โดยเป็นลวดลายเส้นสีขาวชัดเจน หรือในบางตัวครีบหลังครีบก้น และครีบหางจะเป็นสีขาว รวมถึงบริเวณแก้ม ลวดลายที่ครีบจะเป็นสีชมพูหรือแดง และลำตัวสีชมพูปรากฎลวดลายสีขาว เป็นปลาที่หาซื้อง่าย ราคาถูก ในตลาดมักจะขายรวมกับปลาหมอมาลาวีชนิดอื่นๆในถุงเดียวกัน และเลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงเป็นฝูงกับปลาหมอมาลาวีชนิดอื่นๆได้
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: มาลาวีน้ำเงิน, บลูพีค็อก (สีฟ้า)
ชื่อสามัญ: Blue peacock, Mbenji Peacock
ชื่อวิทยาศาสตร์: Aulonocara stuartgranti
วงศ์ (Family): Cichlidae
ถิ่นกำเนิด: เกาะมเบนจิ ทะเลสาบมาลาวี ในทวีปแอฟริกา ตามแนวชายฝั่งที่เป็นพื้นทรายระหว่างหมู่บ้านชิชีจนถึงเอ็นการา
รายละเอียด: เป็นปลาหมอมาลาวีสายพันธุ์ดั้งเดิมที่เป็นที่รู้จักของนักเลี้ยงปลามาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นสายพันธุ์แรกๆของปลาหมอมาลาวีที่ถูกนำมาจำหน่ายทั่วโลก และในเมืองไทย ปัจจุบันมักใช้ชื่อทางการค้า คือบลูพีค็อก ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ มีสีน้ำเงินตลอดทั้งตัว ทั้งส่วนหัว ลำตัว และครีบทุกครีบ โดยที่ขอบนอกสุดของครีบหลังมีสีขาว ครีบหางมีลายเส้นสีเหลือง หรือบางตัวไม่ปรากฎ ปัจจุบันสายพันธุ์แท้ที่เป็นสีน้ำเงินล้วนนั้นหาได้ยาก เพราะถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์ จนมีสีน้ำเงินท้องเหลือง หรือ สีอื่นๆปน สามารถเลี้ยงรวมเป็นฝูงกับปลาหมอมาลาวีสายพันธุ์อื่นๆได้
ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กดอัพไซด์ดาวน์, กดกลับหัว
ชื่อสามัญ: Upside down catfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mystus leucophasis
วงศ์ (Family): Bagridae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศพม่า
รายละเอียด: มีลักษณะการว่ายน้ำที่แปลกจากปลาทั่วไป โดยจะว่ายเอาท้องหงายขึ้นข้างบน เป็นเพราะพฤติกรรมการดำรงชีพ คือมันจะใช้ ครีบอกและท้องแนบกับวัตถุที่ลอยน้ำ ไล่จับสัตว์ที่อาศัยอยู่กับวัตถุดังกล่าวเพื่อกินเป็นอาหาร มีลำตัวมีสีม่วงเข้มหรือดำทั้งลำตัวและครีบ สามารถเลี้ยงเป็นฝูงหรือเดี่ยวในตู้ขนาดกลาง ตกแต่งตู้ด้วยก้อนหินและขอนไม้ขนาดใหญ่
ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ช่อนเจ็ดสี, ช่อนเรนโบว์
ชื่อสามัญ: Rainbow snakehead
ชื่อวิทยาศาสตร์: Channa bleheri
วงศ์ (Family): Channidae
ถิ่นกำเนิด: รัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย
รายละเอียด: เป็นปลาช่อนขนาดเล็กที่มีสีสันลวดลายสวยงามสะดุดตา รูปร่างที่เรียวยาว ส่วนหัวเรียวแหลม ขนาดลำตัวไม่ใหญ่มาก พื้นลำตัวสีขาวมีจุดประสีแดงและฟ้าตลอดลำตัวรวมไปถึงครีบหาง ครีบหลังมีขอบครีบสีแดง ขนาดโตเต็มที่ไม่เกิน 15 ซม. สมารถเลี้ยงในตู้ที่ตกแต่งด้วยก้อนหินและขอนไม้ ให้มีโพรงสำหรับหลบซ่อน การเลี้ยงรวมกันหลาย ๆ ตัวจะช่วยทำให้ปลาเชื่อง และปรับตัวได้ง่าย ปิดฝาให้มิดชิดป้องกันการกระโดด กินอาหารได้หลากหลาย เช่น อาหารเม็ด หนอนแดง ไส้เดือนน้ำ กุ้งตาย ลูกปลาเล็ก ๆ เป็นต้น สิ่งสำคัญในการเลี้ยงคือ ไม่ควรเปลี่ยนน้ำครั้งละมาก ๆ ตู้ปลาควรมีระบบกรองที่ดี ถ้าใช้น้ำเก่าที่หมักขอนไม้ไว้ให้เป็นสีชาอ่อน จะทำให้ปลาขับสีได้สวย
ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ช่อนจุดอินโดนีเซีย
ชื่อสามัญ: Ocellated snakehead
ชื่อวิทยาศาสตร์: Channa pleurophthalmus
วงศ์ (Family): Channidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศอินโดนีเซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ Sumatra และแถบตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ Borneo
รายละเอียด: เป็นปลาช่อนที่มีรูปร่างที่เรียวยาว ส่วนหัวเรียวแหลม ขนาดลำตัวไม่ใหญ่มาก โตเต็มที่มีความยาว 40-50 ซม. ลักษณะเด่นคือ มีจุดคล้ายดวงตาขนาดใหญ่เรียงกันบริเวณข้างลำตัว เป็นจุดสีดำล้อมรอบด้วยวงแหวนสีส้มหรือสีแดงสดใส จุดแรกจะอยู่บนแก้มหรือกระดูกปิดเหงือกและจุดสุดท้ายจะอยู่บริเวณคอดหาง ส่วนจุดบริเวณลำตัวจะพบ 1-7 จุด ลำตัวสองข้างอาจจะมีจุดจำนวนไม่เท่ากัน
ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมูอินโด
ชื่อสามัญ: Clown loach
ชื่อวิทยาศาสตร์: Chromobotia macracanthus
วงศ์ (Family): Cobitidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศอินโดนีเซีย บริเวณเกาะสุมาตรา และบอร์เนียว
รายละเอียด: มีลักษณะเด่นคือ พื้นลำตัวสีเหลือง หรือเหลืองอมขาว ครีบอก ครีบท้อง และครีบหางสีแดง มีแถบขนาดใหญ่สีดำ 3 แถบ พาดขวางลำตัว แถบแรกพาดผ่านตา แถบที่สองพาดตั้งแต่โคนครีบหลังถึงครีบท้อง แถบที่สามพาดตั้งแต่ปลายครีบหลังจนเกือบถึงโคนครีบหาง มีอุปนิสัยชอบคุ้ยเขี่ยพื้นตู้ จึงควรจัดตู้ด้วยก้อนหินหรือขอนไม้ และพรรณไม้น้ำที่ค่อนข้างมีลำต้นและใบแข็งแรงเพื่อใช้เป็นที่กำบัง อุปนิสัยมักหลบซ่อนตัวตามซอกหินหรือพรรณไม้น้ำ เลี้ยงรวมกับปลาอื่น ๆได้ นิยมเลี้ยงให้หากินตามพื้นในตู้ปลาที่ทีพรรณไม้น้ำ ตู้ละ 1-2 ตัว
ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมูอินเดีย
ชื่อสามัญ: Zebra loach
ชื่อวิทยาศาสตร์: Botia striata
วงศ์ (Family): Cobitidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศอินเดียตอนใต้
รายละเอียด: พื้นลำตัวสีเหลือง หรือเหลืองอมขาว มีแถบขนาดเล็กสีดำพาดขวางตลอดลำตัวจนถึงครีบหาง มีอุปนิสัยชอบตื่นตกใจ มักหลบซ่อนตัวตามซอกหินหรือพรรณไม้น้ำ เลี้ยงรวมกับปลาอื่น ๆได้ นิยมเลี้ยงให้หากินตามพื้นในตู้ปลาที่ทีพรรณไม้น้ำ เวลาตกใจอาจมีนิสัยก้าวร้าวไล่กัดปลาตัวอื่น
ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมูลายจุดไซบีเรียน
ชื่อสามัญ: Siberian spiny loach
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cobitis sinensis
วงศ์ (Family): Cobitidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศจีน
รายละเอียด: ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อน มีลายเรียงเป็นแถวบริเวณข้างลำตัว บริเวณด้านท้องมีสีเหลืองอ่อน ครีบหลังและครีบหางมีแถบสีดำพาดขวาง 3-4 แถบ มีจุดสีดำบริเวณโคนหาง สมารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็ก อุปนิสัยชอบคุ้ยเขี่ยพื้นตู้ จึงควรจัดตู้ด้วยก้อนหินหรือขอนไม้
ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: อามาทัส
ชื่อสามัญ: Saber toothed fish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Hydrolycus armatus
วงศ์ (Family): Cynodontidae
ถิ่นกำเนิด: พบกระจายพันธุ์ในแม่น้ำอเมซอนและสาขา, ลุ่มแม่น้ำโอริโนโค รวมถึงแม่น้ำกายอานา
รายละเอียด: เป็นปลาที่มีนิสัยดุร้าย เป็นปลานักล่าที่กินปลาเป็นอาหาร ในการเลี้ยงในตู้ควรแยกเลี้ยงเดี่ยว หรือเลี้ยงกับปลาที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ให้อาหารลูกปลาขนาดเล็กกินเป็นอาหาร จัดเป็นปลาสวยงามที่มีราคาสูง และหายากในท้องตลาดเมืองไทย มีลักษณะเด่นคือ ลำตัวแบนข้างมาก ส่วนท้องเป็นสันคม เรียวยาว ส่วนหัวใหญ่และเชิดขึ้น ตาโต ครีบท้องเรียวยาว ครีบหางแผ่เป็นแผ่นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ปากกว้างและเฉียงลง มีปากมีฟันแหลมคมเป็นซี่ ๆ เห็นชัดเจน โดยเฉพาะฟันคู่ล่างที่เรียวยาวมาก เห็นได้ชัดเจน ฟันคู่นี้เมื่อหักไปแล้วสามารถงอกขึ้นใหม่ได้ เกล็ดเล็กละเอียดมาก พื้นลำตัวส่วนมากเป็นสีเงินแวววาว ในธรรมชาตินั้น อยู่ในที่น้ำไหลแรงและจับเหยื่อที่ว่ายตามน้ำมา โดยล็อคเหยื่อด้วยฟันคู่ล่างที่ยื่นออกมาก่อนจะกินเข้าไป
ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ไทเกอร์โชวาโนส, กดลายเสือ
ชื่อสามัญ: Tiger shovel-nosed catfish, Barred sorubim
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pseudoplatystoma fasciatum
วงศ์ (Family): Pimelodidae
ถิ่นกำเนิด: ทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้
รายละเอียด: เป็นปลาขนาดใหญ่ที่โตเต็มที่มีขนาดยาวกว่า 1 เมตร ควรมีพื้นที่ในการเลี้ยงด้วย เช่น เลี้ยงในตู้ขนาดใหญ่ หรือบ่อขนาดใหญ่ ควรเป็นตู้โล่ง ๆ ปูพื้นด้วยกรวด ตกแต่งด้วยก้อนหิน กิน ปลา หรือกุ้งมีชีวิต หรือเนื้อ หมู เนื้อกุ้ง ปลาสด เป็นอาหาร ไม่ควรเลี้ยงรวมกับปลาที่มีขนาดเล็กกว่าเพราะอาจโดนกินได้ เป็นปลากดที่พบได้ทั่วไปในแม่น้ำอเมซอน มีลักษณะลำตัวยาวค่อนข้างกลม หัวแบนยาว เหมือนปลากดหัวเสียมบ้านเรา มีหนวด 3 คู่ มีลายดำและจุดดำบนลำตัว ครีบหลัง ครีบท้อง ครีบก้น ครีบหาง และครีบไขมัน ดูคล้ายเสือโคร่ง เมื่อปลาเริ่มโตได้ประมาณ 8 นิ้วขึ้นไป เวลาช้อนปลา หรือจับตัวปลาควรระวังเงี่ยงที่ครีบอก เพราะมีพิษ เมื่อถูกแทงเข้าทำให้เจ็บปวดได้
ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: มะไฟ มุงหมาย
ชื่อสามัญ: Stoliczkae's barb
ชื่อวิทยาศาสตร์: Puntius stoliczkanus
วงศ์ (Family): Cyprinidae
ถิ่นกำเนิด: ลำธาร น้ำตก พบตั้งแต่แม่น้ำสาละวิน ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำโขงตอนกลาง ในภาคเหนือของไทย
รายละเอียด: เป็นปลาขนาดเล็ก มีขนาดใหญ่สุดยาวประมาณ 5 ซม. สามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาขนาดเล็กที่มีพรรณไม้น้ำ เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ปรับตัวอยู่ในตู้และผสมพันธุ์วางไข่จนลูกปลาเจริญเติบโตอยู่ในตู้ปลาขนาดเล็กได้ในธรรมชาติกิน แพลงก์ตอนสัตว์ ตัวอ่อนแมลงน้ำ เป็นอาหาร นำมาเลี้ยงในตู้ปลาสามารถฝึกให้กินอาหารเม็ดได้ มีรูปร่างลำตัวคล้ายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน และป้อมเล็กน้อย หัวสั้นตาเล็ก ปากเล็ก ไม่มีหนวด เกล็ดค่อนข้างใหญ่ ครีบหลังสั้น ครีบหางเว้าลึก ลำตัวสีเงิน มีแต้มสีคล้ำที่เหนือครีบอกและโคนครีบหาง ในตัวผู้และฤดูผสมพันธุ์จะมีแดงเหลือบบนลำตัว ครีบใสมีสีแดงแต้มและมีแถบสีคล้ำเล็กน้อย
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ซิวควาย
ชื่อสามัญ: nan
ชื่อวิทยาศาสตร์: Rasbora myersi
วงศ์ (Family): Cyprinidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำและลำธารเกือบทุกภาคของไทย ในลุ่มน้ำโขง เจ้าพระยา ภาคตะวันออกและภาคใต้ถึงบอร์เนียว
รายละเอียด: เป็นปลาซิวที่โตเต็มที่มีขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 10 ซม.สามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาขนาดกลาง อุปนิสัยปราดเปรียวชอบว่ายอยู่บริเวณผิวน้ำ เลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นๆได้ ในธรรมชาติกินแพลงก์ตอนสัตว์ ตัวอ่อนแมลงน้ำ นำมาเลี้ยงในตู้สามารถฝึกให้กินอาหารเม็ดแบบลอยได้ ซึ่งจะกินเก่งมาก มีลักษณะคือ ลำตัวยาว เส้นข้างลำตัวอยู่ค่อนไปทางกลางลำตัวโดยมีแถวเกล็ดจากด้านท้องไปถึงเกล็ดเส้นข้างลำตัว 3 แถว ตัวและหัวมีสีเทาเงิน ด้านหลังสีเหลืองอ่อน ด้านท้องสีจาง มีแถบสีเหลืองและสีดำพาดกลางตามความยาวลำตัว ครีบหลังมีสีเหลืองอ่อน ครีบอื่น ๆ สีจาง ครีบหางมีสีเหลืองอ่อนอมเทา ขอบมีสีคล้ำ
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ซิวหางกรรไกร
ชื่อสามัญ: Scissortail rasbora, Three-lined rasbora
ชื่อวิทยาศาสตร์: Rasbora trilineata
วงศ์ (Family): Cyprinidae
ถิ่นกำเนิด: อาศัยเป็นฝูงใหญ่ในแหล่งน้ำนิ่งและแม่น้ำ ตั้งแต่ลุ่มน้ำแม่กลอง แม่น้ำโขง และภาคใต้ และภาคตะวันออก
รายละเอียด: เป็นปลาซิวที่ขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 13 ซม. ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 6 ซม. สามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาขนาดเล็กที่มีพรรณไม้น้ำ มีอุปนิสัยว่องไว ปลาดเปรียว เป็นที่ได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ ลักษณะมีลำตัวยาวเรียวและแบนข้างเล็กน้อย ส่วนหัวและปากมีขนาดเล็ก ไม่มีหนวดลำตัวมีสีเขียวอ่อน ส่วนล่างของลำตัวมีสีซีดกว่าบริเวณด้านข้างและด้านหลังของลำตัว กลางลำตัวมีแถบสีดำพาดจากหัวถึงโคนหาง และยาวเลยไปถึงส่วนของก้านครีบหางด้วย เหนือแถบสีดำมีแถบสีเงินเล็ก ๆ ข้างละ 1 แถบ พาดขนานไปกับแถบสีดำนี้ เหนือฐานครีบก้นมีแถบสีดำเล็ก ๆ ข้างละแถบ ตอนปลายของแถบทั้งสองนี้จะไปชนกันบริเวณปลายฐานครีบก้นแล้วยาวเลยไปถึงโคนครีบหาง ปลาชนิดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ครีบหาง เนื่องจากมีแถบสีดำพาดขวางแพนหางทั้งบนและล่าง ซึ่งแถบสีดำนี้อยู่ค่อนไปทางส่วนปลายของแพนหาง ขอบในและขอบนอกของแถบสีดำนี้มีแถบสีขาวพาดขนานคู่กันไปอีกด้วย สีดำและสีขาวนี้จะตัดกับสีเหลืองอ่อน ซึ่งเป็นสีพื้นของครีบหางสวยสะดุดตามาก ครีบหลังมีก้านครีบเป็นสีเหลืองอ่อน ส่วนครีบก้น ครีบท้องและครีบอกใสไม่มีสี
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ซิวข้างขวานเล็ก
ชื่อสามัญ: Lambchop rasbora
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trigonostigma espei
วงศ์ (Family): Cyprinidae
ถิ่นกำเนิด: ป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส และบริเวณน้ำตกในภาคตะวันออกของไทย
รายละเอียด: เป็นปลาซิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในตลาดไทยและต่างประเทศ เพราะมีสีสันสีแดงส้มตัดกับแถบสีดำคล้ายรูปขวานบนลำตัว นิยมเลี้ยงเป็นฝูงในตู้พรรณไม้น้ำได้อย่างสวยงามมาก เป็นปลาซิวที่เลี้ยงง่ายและมีราคาถูก ในธรรมชาติกินแพลงก์ตอน พืชน้ำ และตัวอ่อนแมลงน้ำ เมื่อนำมาเลี้ยงในตู้ปลาสามารถให้กินอาหารเม็ดได้อย่างดี เป็นปลาขนาดเล็ก พื้นลำตัวสีเทาเงิน กลางลำตัวเป็นสีน้ำตาล อมแดง และกึ่งกลางลำตัวถึงโคนครีบหางมีแถบสามเหลี่ยมสีดำ โดยฐานสามเหลี่ยมอยู่ที่กึ่งกลางลำตัว ปลายสามเหลี่ยมเรียวเล็กไปทางโคนหาง ลักษณะคล้ายขวาน ครีบหลัง ครีบก้น และครีบหางมีก้านครีบบางส่วนเป็นสีแดงอ่อนหรือสีส้มโคนครีบหางก็มีสีแดงอ่อนหรือสีส้ม ปลาตัวผู้จะมีสีเข้มกว่าตัวเมียและขนาดลำตัวเล็กกว่าตัวเมีย ขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 2.5 ซม. อุปนิสัย ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงและว่ายน้ำตลอดเวลา
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ซิวข้างขวานใหญ่
ชื่อสามัญ: Red rasbora, Harlequin rasbora
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trigonostigma heteromorpha
วงศ์ (Family): Cyprinidae
ถิ่นกำเนิด: พบมากในภาคใต้และภาคตะวันออกของไทย บริเวณแหล่งน้ำไหล และน้ำตก
รายละเอียด: เป็นปลาสวยงามที่ได้รับความนิยมสูงทั้งในตลาดภายในประเทศ และตลาดต่างประเทศ เช่นเดียวกับปลาซิวข้างขวานเล็ก เพราะนิยมเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำเป็นฝูง ซึ่งมีสีสันสีแดงส้มโดดเด่น ตัดกับสีเขียวของพรรณไม้น้ำ แต่หาซื้อได้ยากและมีราคาแพงกว่าปลาซิวข้างขวานเล็กในตลาดบ้านเรา มีลักษณะเด่นคือ พื้นลำตัวสีเทาเงิน แต่กลางลำตัวเป็นสีน้ำตาล อมแดง และกึ่งกลางลำตัวถึงโคนครีบหางมีแถบสามเหลี่ยมสีดำ โดยฐานสามเหลี่ยมอยู่ที่กึ่งกลางลำตัว ปลายสามเหลี่ยมเรียวเล็กไปทางโคนหาง ลักษณะคล้ายขวาน ซึ่งลักษณะขวานจะใหญ่และหนากว่าซิวข้างขวานเล็ก Trigonostigma espei ครีบหลัง ครีบก้น และครีบหางมีก้านครีบบางส่วนเป็นสีแดงอ่อนหรือสีส้มโคนครีบหางก็มีสีแดงอ่อนหรือสีส้ม ปลาตัวผู้จะมีสีเข้มกว่าตัวเมียและขนาดลำตัวเล็กกว่าตัวเมีย ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 2.5 ซม.
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กัดหัวโม่ง
ชื่อสามัญ: Mouthbrooder betta
ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta prima
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยู่ตามกอหญ้าริมน้ำตกหรือธารน้ำไหล ในแถบภาคตะวันออกของไทย
รายละเอียด: ปลากัดชนิดนี้เป็นปลาที่มาจากเขตน้ำไหล ต้องการออกซิเจนสูงจึงต้องใส่หัวทราย หรือเครื่องพ่นน้ำเพื่อให้ปลาได้รับออกซิเจนเพียงพอ เป็นปลาที่ชอบกระโดด จึงควรปลูกไม้น้ำทึบเข้าไว้ หรือต้องมีฝาปิดเสมอ ไม่มีพฤติกรรมดุร้าย ก้าวร้าวเหมือนปลากัดจำพวกก่อหวอด จึงสามารถเลี้ยงรวมกันได้หลายตัว กินไรน้ำ ลูกน้ำ ตัวอ่อนแมลงน้ำเป็นอาหาร มีลักษณะเป็นปลากัดประเภทอมไข่ ปลากัดหัวโม่งมีตัวโต ปลายปากแหลม ครีบทุกครีบใสโปร่งแสง ลำตัวสีเขียวอ่อน มีแถบสีดำพาดตามความยาวลำตัว 3 แถบ ตากลมโตสีเหลือง มีใหญ่สุดความยาวประมาณ 10 ซม. ปลาตัวผู้เครื่องครีบทุกครีบและแหลมยาวกว่าตัวเมีย ตัวเมียไม่มีจุดไข่นำเหมือนปลากัดประเภทก่อหวอด ปัจจุบัน สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้แล้วในที่เลี้ยง
ประเภท (Catalogy): ปลากัด | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กัดอีสาน
ชื่อสามัญ: Blue betta
ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta smaragdina
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: พบในแหล่งน้ำตื้นที่นิ่ง และที่น้ำไหลเอื่อย ๆ ในพื้นที่ภาคอีสานของประเทศไทย
รายละเอียด: เป็นปลากัดที่นิยมเลี้ยงเฉพาะตัวผู้ เนื่องจากลำตัวและครีบต่าง ๆ มีสีสันสวยงาม เลี้ยงในโหลขนาดเล็ก โหลละตัว หากวางโหลใกล้กันจะแผ่กางครีบเพราะเป็นปลาที่มีนิสัยชอบการต่อสู้ ซึ่งเป็นปลากัดประเภทก่อหวอด มีรูปร่างและพฤติกรรมคล้ายปลากัดภาคกลาง
(Betta splendens) แต่มีรูปร่างที่เพรียวยาวกว่า เกล็ดมีสีเขียวมากกว่าทั้งที่ข้างแก้มและลำตัว ในบางตัวอาจมีเหลือบสีฟ้า ครีบมีสีเขียวหรือฟ้าและมีลายประสีดำ ขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 5 ซม.
ประเภท (Catalogy): ปลากัด | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปลากัด กัดภาคกลาง ปลาลูกหม้อ ปลาสังกะสี
ชื่อสามัญ: Siamese fighting fish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta splendens
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: พบทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งกระจายทั่วไปในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้จากการพัฒนาสายพันธุ์
รายละเอียด: เป็นปลากัดที่นิยมเลี้ยงเฉพาะตัวผู้ เนื่องจากลำตัวและครีบต่าง ๆ มีสีสันสวยงาม เลี้ยงในโหลขนาดเล็ก โหลละตัว หากวางโหลใกล้กันจะแผ่กางครีบเพราะเป็นปลาที่มีนิสัยชอบการต่อสู้ เป็นปลาสวยงามที่มูลค่าสูงและมีชื่อเสียงของประเทศไทย มีลักษณะลำตัวทรงกระบอกและแบนข้างเล็กน้อย หัวสั้น ปากเล็ก ครีบหางใหญ่และปลายกลม ครีบท้องเป็นเส้นยาว ลำตัวสีน้ำตาลอ่อนเหลือบแดง น้ำเงิน หรือเขียว ครีบสีแดงมีแถบสีเหลืองประ ตัวผู้สีสันสดใสกว่าตัวเมีย ปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์จนมีลักษณะครีบ และสีที่หลากหลาย ได้รับความนิยมสูงในตลาดต่างประเทศ เช่น ประเภทสองหาง (Double – tailed) หางมงกุฎ (Crown-tailed) หางพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว (Halfmoon-tailed) หรือประเภทสองสี (Butterfly) หลายสี (Fancy) ในที่นี่จะอธิบายถึงสายพันธุ์ปลาลูกหม้อหรือปลาหม้อนั้น
เป็นปลากัดที่ถูกนำมาคัดสายพันธุ์
โดยนักพันธุศาสตร์สมัครเล่นชาวไทย
ที่มุ่งหวังจะได้ปลาที่กัดเก่ง จากบันทึก
คำบอกเล่าของนักเลงปลาเก่าอย่าง
หลวงอัมรินทร์สมบัติ (ครอบ สุวรรณนคร)
คาดว่า ปลาลูกหม้อน่าจะถูกพัฒนา
ขึ้นมาในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2430 ซึ่งท่านจำได้ว่า ก่อนหน้านั้นยังต้องจับปลาป่า
มากัดพนันกันอยู่ ต่อมานักเลงปลาบางคนก็เริ่มใช้วิธีไปขุดล้วงเอาปลาป่าที่อาศัยอยู่
ตามรูปูในหน้าแล้งมาขังไว้ในโอ่ง มาเลี้ยงดูให้อาหาร พอถึงฤดูฝนก็นำมากัดพนัน
กับปลาปา่ ซึ่งสว่ นใหญจ่ ะสูป้ ลาขุดที่เลี้ยงมาไมไ่ ด ้ การเลน่ ปลาขุดนี้ยังนิยมเลน่ กัน
มาถึงประมาณปี พ.ศ. 2496 หลังจากนั้นก็มีการเก็บปลาที่กัดเก่งเลี้ยงไว้ข้ามปี
และหาปลาป่าตัวเมียมาผสม ลูกปลาที่ได้จากการผสมในชุดแรกจะเรียกว่า “ปลา
สังกะสี” ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะได้ชื่อมาจากผิวหนังที่หนาแกร่ง ไม่ถูกกัดขาดง่าย
เหมือนปลาป่าและปลาขุด ปลาสังกะสีมักจะตัวใหญ่ สีสันลักษณะต่างจากปลาป่า
และปลาขุด นักเลงปลาป่าจึงมักไม่ยอมกัดพนันด้วย จึงต้องกัดแข่งขันระหว่าง
ปลาสังกะสีด้วยกันเอง ปลาสังกะสีที่เก่ง อดทน สวยงามก็จะถูกคัดไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์
เมื่อผสมออกมาก็จะได้ปลาลักษณะรูปพรรณสีสันที่สวยงามแปลกออกไป
ตามอัธยาศัยของผู้ผสม พร้อมความเก่ง และอดทนในการกัด จะว่าไปแล้ว
พันธุศาสตร์สัตว์น้ำของเมืองไทยนับได้ว่าเริ่มมาตั้งแต่ยุคนั้น
คำว่า “ลูกหม้อ” นั้นมาจากการใช้หม้อดินในการเพาะและอนุบาลปลากัด
ในระยะแรกๆ ปลาลูกหม้อจึงเป็นปลาสายพันธุ์ที่สร้างมาแท้ๆ กับมือของ
นักเลงปลาทั้งหลาย เพื่อให้ได้ลักษณะที่ดีสำหรับการต่อสู้และให้มีสีสันที่สวยงาม
ตามความพอใจของเจ้าของ ปลากัดลูกหม้อจึงมีรูปร่างหนาใหญ่กว่าปลากัดชนิดอื่น
สีสันสวยงามดูแล้วน่าเกรงขามกว่าพันธุ์อื่นๆ สีส่วนมากจะเป็นสีน้ำเงิน แดง เทา
เขียว คราม หรือแดงปนน้ำเงิน ในการเล่นปลากัดในยุคก่อนนั้นปลาลูกหม้อจะมี
สองประเภทคือ “ลูกแท้” และ “ลูกสับ” ลูกแท้ หมายถึง ลูกปลาที่เกิดจากพ่อแม่
ที่มาจากครอกเดียวกัน และลูกสับ หมายถึง ลูกปลาที่เกิดจากพ่อแม่ที่มาจาก
คนละครอก ปลากัดลูกหม้อนี้ถ้าเอาไปผสมกลับกับปลาป่า ลูกปลาก็จะเรียกว่า
“สังกะสี” เช่นเดียวกัน ซึ่งปลาสังกะสีซึ่งเกิดจากการผสมกลับแบบนี้ส่วนมากก็จะ
มีชั้นเชิงและน้ำอดน้ำทนในการกัดสู้ลูกหม้อไม่ได้ “ลูกหม้อ” จึงเป็นสุดยอด
ของปลากัดสำหรับนักเลงปลาทั้งหลาย ในระยะหลังๆ ก็อาจมีการพูดถึงสายพันธุ์
“มาเลย์” หรือ “สิงคโปร์” ซึ่งว่ากันว่ากัดเก่งหนังเหนียวแต่โดยแท้จริงก็คือ
ปลาลูกหม้อนั่นเอง เพียงแต่ว่าในระยะต่อมามีการประยุกต์ใช้กลวิธีการหมักปลา
ด้วยสมุนไพร ใบไม้ ว่าน ดินจอมปลวก และอื่นๆ เพื่อช่วยเคลือบเกล็ดปลา
ที่เชื่อกันว่า จะทำให้เกล็ดแข็งกัดเข้าได้ยาก ควบคู่ไปกับการคัดเลือกพันธุ์
ถึงอย่างไร ลูกหม้อก็คือลูกหม้อที่เราชาวไทยพัฒนามาแต่โบราณแม้จะถูกนำไป
พัฒนาสายพันธุ์ในที่อื่นก็ยังคงเป็นลูกหม้อไทยตัวเดิมนั่นเอง
ประเภท (Catalogy): ปลากัด | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: บู่หมาจู
ชื่อสามัญ: Bumblebee fish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Brachygobius doriae
วงศ์ (Family): Gobiidae
ถิ่นกำเนิด: ปากแม่น้ำใกล้ทะเล พบในประเทศไทย อินเดีย พม่า มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
รายละเอียด: เป็นปลาสวยงามขนาดเล็กมาก มีรูปร่างและลวดลายสีสันที่แปลกตา ลำตัวมีสีดำสลับเหลืองคล้ายแมลงภู่ ซึ่งจะมีลักษณะเด่น ๆคือ นอกจากจะมีครีบหนาม อยู่ด้านหน้าครีบหลังแล้ว และมีการพัฒนาครีบหน้าไปเป็น Suction cup เอาไว้ยึดเกาะกับผิวหน้าของของแข็งที่เจ้าปลาบู่เกาะ อย่างเช่น หิน ไม้ เป็นต้น ขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 5 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ปลาขนาดเล็กที่มีพรรณไม้น้ำ สามารถเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่น ๆ ที่มีนิสัยไม่ก้าวร้าว เป็นปลาสวยงามขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดต่างประเทศ
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: บู่กล้วย
ชื่อสามัญ: nan
ชื่อวิทยาศาสตร์: Stigmatogobius sadanundio
วงศ์ (Family): Gobiidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศไทย อินเดีย ศรีลังกา สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
รายละเอียด: ลำตัวค่อนข้างกลม หางแบน หัวโต นัยน์ตามีขนาดใหญ่ ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง ลำตัวมีจุดแต้มสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม มีจุดประสีเข้มขนาดเล็กกระจายอย่างไม่เป็นระเบียบทั่วทั้งลำตัว ครีบหลังยาวแบ่งเป็นสองตอน ตอนหน้าเป็นเส้นยาว ตอนหลังแผ่กางมีจุดประสีดำกระจายทั่วอย่างเป็นระเบียบ ครีบหางใหญ่ปลายมนมีจุดประสีเข้มกระจายทั่ว ครีบท้องมีจุดประ ครีบอกใส อุปนิสัยชอบนอนนิ่ง ๆ แผ่ครีบกางออกอวดสีสันสวยงาม ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 6 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ปลาขนาดเล็กที่มีพรรณไม้น้ำ เป็นปลาสวยงามที่หายากในปัจจุบัน
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: น้ำผึ้ง ลูกผึ้ง อีดูด
ชื่อสามัญ: Chinese algae-eater
ชื่อวิทยาศาสตร์: Gyrinocheilus aymonieri
วงศ์ (Family): Gyrinocheilidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำ อ่างเก็บน้ำทั่วทุกภาคของประเทศไทย
รายละเอียด: เลี้ยงในตู้ปลาที่ตกแต่งด้วยพรรณไม้น้ำหรือตู้พรรณไม้น้ำ อุปนิสัยการชอบใช้ปากดูดกินตะไคร่น้ำที่เกาะตามตู้ปลา ปัจจุบันมีการคัดสายพันธุ์เป็นปลาเผือกซึ่งได้รับความนิยมมากเรียกว่า "น้ำผึ้งเผือก" เป็นปลาสวยงามที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดต่างประเทศ ลักษณะมีลำตัวยาวเรียวรูปร่างทรงกระบอก ลำตัวมีสีน้ำตาล บริเวณหลังมีจุดแต้มสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม ส่วนหัวสั้น ด้านล่างของส่วนหัวและส่วนท้องแบนราบ ไม่มีหนวด ตาอยู่ค่อนไปทางด้านบนของส่วนหัว จะงอยปากค่อนข้างยาวและกว้าง บริเวณจะงอยปากมีตุ่มเล็ก ๆ กระจายทั่วไป ปากดัดแปลงเป็นอวัยวะสำหรับเกาะติดกับสิ่งอื่นได้ ครีบทุกครีบไม่มีก้านครีบแข็งครีบมีสีเหลืองอมน้ำตาลและมีจุดดำเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วไปครีบหางเว้าเล็กน้อย ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 13 ซม. ขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 20 ซม.
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ก้างพระร่วง
ชื่อสามัญ: Glass catfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Kryptopterus bicirrhis
วงศ์ (Family): Siluridae
ถิ่นกำเนิด: จังหวัดนครนายก จันทบุรีและตราด และทางภาคใต้พบแถบจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล พัทลุง สงขลา
รายละเอียด: นิยมเลี้ยงเป็นฝูงในตู้พรรณไม้น้ำได้อย่างสวยงาม เป็นปลาสวยงามที่ได้รับความนิยม ตลาดต่างประเทศมีความต้องการสูง ปัจจุบันการส่งออกยังมีการรวบรวมจากธรรมชาติ เนื่องจากไม่สามารถเพาะพันธุ์ให้ได้ในปริมาณมาก ลักษณะลำตัวยาวแบนข้าง มีหนวด 2 คู่ หนวดคู่แรกอยู่บนขากรรไกรบน มีขนาดยาวและชี้ไปด้านหน้า ส่วนหนวดคู่ที่ 2 มีขนาดสั้น อยู่บนขากรรไกรล่าง ครีบหลังมีขนาดเล็กและสั้นมากแทบมองไม่เห็น ครีบก้นยาวตลอดจนถึงครีบหาง หัวมีขนาดเล็ก จะงอยปากสั้น ตากลมโต เนื้อปลาจะมีลักษณะโปร่งแสง ทำให้มองเห็นก้างภายในตัวได้อย่างชัดเจน เฉพาะส่วนของหัวและกระเพาะอาหารเท่านั้นที่ทึบแสง ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 8 ซม. ขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 15 ซม.
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ขาไก่
ชื่อสามัญ: nan
ชื่อวิทยาศาสตร์: Kryptopterus cryptopterus
วงศ์ (Family): Siluridae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำของทุกภาคของไทย ยกเว้นแม่น้ำสาละวิน
รายละเอียด: เป็นปลาไม่มีเกล็ดขนาดเล็ก มีรูปร่างเพรียว ลำตัวแบนข้าง ส่วนหัวสั้น ปากเล็ก ตาโตอยู่ต่ำกว่ามุมปาก ส่วนหลังไม่ยกสูง มีหนวดยาว 2 คู่ หนวดที่ริมฝีปากยาวถึงบริเวณขอบแผ่นปิดเหงือก หนวดใต้คางสั้น ครีบหลังเล็กมากเห็นเป็นเส้นสั้น ๆ ครีบอกใหญ่มีก้านแข็งที่ยาวเกือบเท่าความยาวของครีบ ครีบก้นยาว มีหางเว้าตื้น ตัวมีสีเหลืองอ่อนเหลือบเขียว ตัวค่อนข้างใส ครีบสีจาง ขอบครีบก้นมีสีคล้ำเช่นเดียวกับครีบหาง ครีบอกในตัวผู้ที่โตเต็มวัยมีสีคล้ำ ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 10 ซม.
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หัวตะกั่ว
ชื่อสามัญ: Blue panchax
ชื่อวิทยาศาสตร์: Aplocheilus panchax
วงศ์ (Family): Aplocheilidae
ถิ่นกำเนิด: พบทั้งในแหล่งน้ำตื้นและแหล่งน้ำไหลที่มีพรรณไม้ปกคลุม ทั้งในน้ำกร่อยและน้ำจืด
รายละเอียด: เป็นปลาขนาดเล็ก ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 4 ซม. สมารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กที่มีพรรณไม้น้ำ ลักาณะลำตัวค่อนข้างกลม ยาวเรียว ลำตัวด้านหลัง สีน้ำตาลอ่อน ขอบนอกของเกล็ด มีสีน้ำตาลเข้ม บริเวณกลางหัวมีจุดสีขาวเงินขนาดใหญ่ 1 จุด
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: Tetraodontidae
ชื่อสามัญ: Palembang puffer, Figure-eight puffer, Eyespot pufferfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tetraodon biocellatus
วงศ์ (Family): ชายทะเลและปากแม่น้ำในเขตน้ำกร่อย
ถิ่นกำเนิด: ชายทะเลและปากแม่น้ำในเขตน้ำกร่อย
รายละเอียด: เป็นปลาปักเป้าขนาดเล็กสามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยก้อนหินและพรรณไม้น้ำ นิยมนำมาเลี้ยงเพื่อให้กินหอยที่ติดมากับพรรณไม้น้ำและแพร่พันธุ์ในตู้ปลา หรือเลี้ยงเพื่อให้กินหอยในบ่อชำน้ำของพรรณไม้น้ำ มีรูปร่างหน้าตาจะคล้ายกับปักเป้าเขียวจุดมากแต่มีขนาดเล็กกว่า พื้นลำตัวสีดำหรือน้ำเงินปนดำ บนหลังมีลายเหลืองเป็นรูปเลข 8 ใต้ครีบหลังมีวงกลมเหลือง มุมปากและโคนหางมีจุดดำแห่งละ 1 จุด ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 15 ซม.
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปักเป้าเขียวจุด
ชื่อสามัญ: Green blow fish, Spotted green pufferfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tetraodon nigroviridis
วงศ์ (Family): Tetraodontidae
ถิ่นกำเนิด: พบทั่วไปตามแม่น้ำ ลำคลอง
รายละเอียด: เป็นปลาปักเป้าขนาดเล็กขนาดเฉลี่ย 6 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยก้อนหินและพรรณไม้น้ำ นิยมนำมาเลี้ยงเพื่อให้กินหอยที่ติดมากับพรรณไม้น้ำและแพร่พันธุ์ในตู้ปลา หรือเลี้ยงเพื่อให้กินหอยในบ่อชำน้ำของพรรณไม้น้ำ นิสัยค่อนข้างดุร้าย มีสารพิษในอวัยวะสืบพันธุ์และระบบย่อยอาหาร ไม่นิยมบริโภค ลำตัวค่อนข้างกลม หัวโต ตาเล็ก ลำตัวสีเขียวมะกอก ท้องสีขาวจาง มีจุดประสีดำอยู่ตอนบนของลำตัว
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปักเป้าดำ ปักเป้าตาแดง
ชื่อสามัญ: nan
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tetraodon leiurus
วงศ์ (Family): Tetraodontidae
ถิ่นกำเนิด: พบปักเป้าชนิดนี้ได้ตามริมน้ำ หนอง บึง เขื่อน เกือบทั่วประเทศ
รายละเอียด: เป็นปลาปักเป้าที่มีขนาดใหญ่สุด 13 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยก้อนหินและพรรณไม้น้ำ มีรูปร่างกลมป้อม หัวท้ายเรียว ปากเล็ก ตาโต ด้านหลังและด้านท้องมีผิวสากเป็นหนามเล็กละเอียด ด้านท้องนิ่มขยายตัวได้มาก ครีบหลังเล็กเช่นเดียวกับครีบก้น ลำตัวสีเขียวอมเทาคล้ำหรือสีน้ำตาลเข้ม มีดวงหรือลายสีดำประทั่วตัว บางตัวอาจมีสีจางที่ด้านท้อง ตาแดง ครีบสีจาง
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปักเป้าสมพงษ์
ชื่อสามัญ: Redeye puffer
ชื่อวิทยาศาสตร์: Carinotetraodon lorteti
วงศ์ (Family): Tetraodontidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำลำคลองทั่วประเทศ หรือในบริเวณน้ำกร่อยตามชายฝั่งของทวีปเอเชีย
รายละเอียด: เป็นปลาปักเป้าขนาดเล็ก มีขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 7.5 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยก้อนหินและพรรณไม้น้ำ ลักษณะมีพื้นลำตัวสีเทาอมเขียว ใต้ท้องสีขาว มีลวดลายสีเทาเข้มขนาดใหญ่พาดบนแผ่นหลังและข้างลำตัว สามารถปรับเปลี่ยนสีลำตัวให้เข้มหรือจางได้ตามสภาพแวดล้อม ตามีสีแดงสามารถกรอกกลิ้งไปมาได้ ปลาตัวผู้จะมีขนาดลำตัวที่ใหญ่กว่าตัวเมีย ลำตัวสีแดง ตัวเมียมีขนาดเล็ก ลำตัวสีเขียวมีลายพาดตามลำตัว
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: แก้มช้ำ
ชื่อสามัญ: Red-cheek barb, Javaen barb
ชื่อวิทยาศาสตร์: Puntius orphoides
วงศ์ (Family): Cyprinidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำ สาขาของแม่น้ำและอ่างเก็บน้ำที่มีทางน้ำติดต่อกับแม่น้ำทุกภาคของประเทศไทย และประเทศอินโดนีเซีย
รายละเอียด: เป็นปลาขนาดกลาง ขนาดใหญ่สุดมีความยาวประมาณ 25 ซม. สามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาที่ตกแต่งด้วยขอนไม้ ไม่ใส่พรรณไม้น้ำเพราะเป็นปลาที่ชอบกินพืชน้ำ เลี้ยงรวมกับปลาอื่นได้ ลักษณะมีลำตัวยาวรีแบนข้างเล็กน้อย เกล็ดบริเวณด้านข้างลำตัวและท้องมีสีขาวเงิน ด้านหลังสีน้ำตาลหรือสีน้ำเงิน ขอบหลังของกระพุ้งแก้มมีรอยสีแดงเรื่อ ๆ หลังช่องเหงือกมีแถบหรือแต้มสีดำด้านละ 1 แถบ มีหนวด 2 คู่ ครีบหลัง ครีบท้อง และครีบก้นสีแดงเข้ม ครีบอกสีส้มอ่อนหรือสีเหลืองอมส้ม ครีบหางสีแดง ขอบบนและขอบล่างของแพนหางมีแถบสีดำ มีจุดสีดำที่โคนหางข้างละ 1 จุด
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หลด หลดจุด
ชื่อสามัญ: Spotted spiny eel
ชื่อวิทยาศาสตร์: Macrognathus siamensis
วงศ์ (Family): Mastacembelidae
ถิ่นกำเนิด: nan
รายละเอียด: นิยมเลี้ยงในตู้ปลาขนาดเล็ก ตกแต่งด้วยกรวดแม่น้ำและก้อนหินเพื่อให้เป็นที่หลบซ่อนตัว ในธรรมชาติกินไส้เดือน หนอน กุ้ง แมลงน้ำ ตัวอ่อนแมลงน้ำ ลูกปลาขนาดเล็กที่อยู่ตามหน้าดินและพื้นทราย ปลาหลดชอบออกหากินในเวลากลางคืน ลักษณะลำตัวยาวเรียวแบนข้างเล็กน้อย สีลำตัวเป็นสีน้ำตาลหรือน้ำตาลอมเทา ลักษณะเด่นของปลาชนิดนี้คือ ไม่มีหนามแหลมที่กระดูกใต้นัยน์ตา บริเวณฐานของครีบหลังและฐานครีบก้นมีจุดดำขอบขาว แต่จำนวนจุดนี้จะไม่เท่ากันทุกตัว บริเวณฐานครีบหลัง จุดดำนี้จะอยู่เรียงกันเป็นแถวประมาณ 1-5 จุด ส่วนฐานครีบก้น อาจมี 1-2 บนฐานครีบหลังระหว่างจุดดำมีจุดขาวเล็ก ๆ อยู่กระจายเรียงกันเป็นระเบียบคั่นสลับ เป็นปลาที่ชอบอาศัยอยู่ในที่กำบัง จะออกจากที่กำบังเมื่อไม่มีแสงสว่างหรือออกมาเพื่อกินอาหารเท่านั้น โดยปกติจะมุดลงไปฝังตัวอยู่ตามพื้นโคลนหรือพื้นทรายและโผล่ปลายจะงอยปากขึ้นมาหายใจ ขนาดใหย่สุดความยาวประมาณ 35 ซม. ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 15 ซม.
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หลดลาย หลดภูเขา
ชื่อสามัญ: Zizzag eel
ชื่อวิทยาศาสตร์: Macrognathus taeniagaster
วงศ์ (Family): Mastacembelidae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง
รายละเอียด: นิยมเลี้ยงในตู้ปลาที่ตกแต่งด้วยก้อนหินเพื่อให้เป็นที่หลบซ่อนตัว เป็นปลาหลดมีขนาดขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 16 ซม. ลักษณะมีลำตัวยาวเรียวแบนข้าง สีลำตัวเป็นสีน้ำตาลหรือน้ำตาลอมเหลือง ครีบหลัง ครีบหาง และครีบก้นติดต่อรวมกัน ปลายครีบหางกลม บนหลังมีก้านครีบแข็งปลายแหลมอยู่หลายอัน ครีบอกใหญ่ ตาเล็ก ปากเล็ก ปลายจมูกเป็นงวงสั้น ๆ มีลายดำพาดขวางลำตัว ชอบอาศัยอยู่ในที่กำบัง
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กระทิงไฟ
ชื่อสามัญ: Fire eel
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mastacembelus erythrotaenia
วงศ์ (Family): Mastacembelidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำในภาคกลางและภาคใต้ของประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย
รายละเอียด: เป็นปลากระทิงขนาดใหญ่ ลักษณะคล้างูและปลาไหล เมื่อโตเต็มที่มีขนาดใหญ่สุดยาวประมาณ 1 เมตร ซึ่งต้องเลี้ยงในตู้ปลาขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยก้อนหินหรือขอนไม้ หรือท่อpvc เพื่อให้เป็นที่หลบซ่อนตัว ในธรรมชาติกิน กุ้งและสัตว์น้ำขนาดเล็ก เป็นอาหาร ลักษณะมีลำตัวยาวคล้ายงู แบนข้างเล็กน้อย ลำตัวมีสีดำและแถบสีแดงประมาณ 4-5 แถบ พาดตามความยาวลำตัว ยกเว้นส่วนท้ายลำตัว ซึ่งแถบสีแดงจะไม่ค่อยติดต่อกันตลอดทำให้ดูมีลักษณะคล้ายจุดสีแดง ครีบหลัง ครีบหาง ครีบอก และครีบก้น มีสีดำ จะงอยปากยื่นยาว ที่ปลายของจะงอยปากมีจมูกลักษณะคล้ายท่อและมีช่องเปิดตรงปลาย
****ความเชื่อสายมูเตลู: “ปลากระทิงไฟ” เปรียบเสมือนการเผชิญหน้า
กับทุกปัญหาอย่างเชื่อมั่น พร้อมเคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างมีเป้าหมาย เป็นบุคลิกของเถ้าแก่ยุคแรกเริ่มในการทำธุรกิจอีกทั้งกระทิงยังสื่อถึงการเป็นเจ้าแห่งชัยชนะ
รักความยุติธรรม มีความมุ่งมั่น ท้าทาย มีความกล้าเสี่ยง ดุดัน เผชิญหน้า
กับทุกปัญหาอย่างเชื่อมั่น
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เฉี่ยวหิน, บอเนียว
ชื่อสามัญ: Moon fish, Silver moony
ชื่อวิทยาศาสตร์: Monodactylus argenteus
วงศ์ (Family): Monodactylidae
ถิ่นกำเนิด: ปากแม่น้ำที่เป็นน้ำกร่อย
รายละเอียด: ปลาเฉี่ยวหินเป็นปลาสองน้ำ เมื่อยังเล็กสามารถเลี้ยงในน้ำจืดเติมเกลือเล็กน้อย แต่ปลาที่โตขึ้นจะต้องการน้ำที่มีความเค็มมากขึ้น และจะสามารถแพร่พันธุ์ได้ในน้ำที่มีความเค็มใกล้เคียงกับน้ำทะเล มีขนาดโตเต็มที่เฉลี่ยความยาวประมาณ 22 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ปลาขนาดกลาง ตกแต่งด้วยก้อนหินและขอนไม้ ลักษณะทั่วไปมีรูปร่างแบนเหมือนจาน ลำตัวแบนข้างมาก หัวเล็ก ปากเฉียงขึ้น ฟันเล็กละเอียด นัยน์ตาโต ครีบหลังและครีบก้นตั้งอยู่ในแนวเดียวกัน พื้นลำตัวสีขาวเงิน ด้านหลังมีสีเขียวแกมเหลือง มีแถบดำพาดผ่านตา ครีบหลังเหลืองหรือส้ม ขอบคล้ำ ครีบก้นมีแถบดำ ครีบหางมีสีเหลืองจาง ๆ
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เสือดำ
ชื่อสามัญ: Bornean leaffish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Nandus nebulosus
วงศ์ (Family): Nandidae
ถิ่นกำเนิด: น้ำตก ลำธารมี่มีพรรณไม้หนาแน่นและในพรุ พบตั้งแต่ลุ่มน้ำเพชรบุรี ภาคตะวันออกและภาคใต้ถึงบอร์เนียว
รายละเอียด: เป็นปลาขนาดเล็กความยาวประมาณ 10 ซม. ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 7 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ปลาขนาดเล็ก ตกแต่งด้วยก้อนหิน อุปนิสัยชอบอยู่นิ่ง ๆ หลบซ่อนตัวอยู่ตามก้อนหิน กิน ไรน้ำ สัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร ลักษณะมีลำตัวแบนข้าง หัวโต ตาโต จะงอยปากมน บนแผ่นปิดเหงือกมีหนามเล็ก ๆ 1 อัน เกล็ดใหญ่ตัวมีสีน้ำตาลแดง มีลายบั้งและประสีคล้ำพาดขวางลำตัว 5-6 บั้ง มีแถบสีดำพาดตั้งแต่ปลายปากถึงท้ายทอย ครีบหลังตอนแรกสีเหมือนลำตัว ตอนหลังใส มีจุดสีคล้ำ กระจายเช่นเดียวกับครีบหางและครีบก้นตอนท้าย ครีบอกใส ครีบท้องและครีบก้นตอนหน้าสีคล้ายของลำตัว
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เสือตอลายเล็ก
ชื่อสามัญ: Mekong tiger perch
ชื่อวิทยาศาสตร์: Datnioides undecimradiatus
วงศ์ (Family): Datnioididae
ถิ่นกำเนิด: พบในแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา
รายละเอียด: ปลาเสือตอลายเล็กมีขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 30 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ปลาที่ตกแต่งด้วยก้อนหินและขอนไม้ มีจำหน่ายทั่วไปในตลาดปลาบ้านเรา และมีราคาไม่แพงมาก ลักษณะมีรูปร่างคล้ายและพฤติกรรมคล้ายเสือตอลายใหญ่ซึ่ง แต่มีขนาดเล็กกว่า หัวมีส่วนลาดกว่า มีลายเส้นที่เล็กกว่ามาก เกล็ดมีขนาดใหญ่กว่า พื้นลำตัวค่อนข้างไปทางสีเหลืองอ่อนหรือขาว
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เสือตอลายใหญ่
ชื่อสามัญ: Siamese tiger perch
ชื่อวิทยาศาสตร์: Datnioides pulcher
วงศ์ (Family): Datnioididae
ถิ่นกำเนิด: ตงเลสาบ ประเทศกัมพูชา ปัจจุบันสูญพันธุ์จากธรรมชาติแล้วในประเทศไทย
รายละเอียด: เป็นปลาที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทย ซึ่งสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยแล้ว ปัจจุบันนำเข้าจากประเทศกัมพูชา ซึ่งมีราคาสูงมาก ในตลาดส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซียซึ่งมีสีสันไม่สวยงามเท่าของประเทศกัมพูชา ปลาเสือตอมีขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 40 ซม. ต้องเลี้ยงในตู้ที่มีขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยก้อนหินและขอนไม้ ลักษณะรูปร่างแบนข้าง ปากยาวสามารถยืดได้ ครีบก้นเล็กมีก้านครีบแข็ง 3 ชิ้น ครีบหลังแบ่งเป็น 2 ตอน ตอนแรกเป็นก้านครีบแข็งมีเงี่ยง 13 ชิ้น ตอนหลังเป็นครีบอ่อน พื้นลำตัวสีเหลืองน้ำตาลจนถึงสีส้มอมดำ มีแถบสีดำคาดขวางลำตัวในแนวเฉียงรวมทั้งสิ้นประมาณ 5 - 6 แถบ ส่วนหัวมีลักษณะลาดเอียงมาก เกล็ดเป็นแบบสาก (Ctenoid) มีลักษณะนิสัยอยู่เป็นฝูงเล็ก ๆ ใต้น้ำ โดยมักจะอาศัยบริเวณใกล้ตอไม้หรือโพรงหินด้วยการอยู่ลอยตัวอยู่นิ่ง ๆ หัวทิ่มลงเล็กน้อย หากินในเวลากลางคืน โดยกินอาหารแบบฉกงับ (Snap)
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เสือพ่นน้ำ, เสือ
ชื่อสามัญ: Archer fish, Largescale archerfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Toxotes chatareus
วงศ์ (Family): Toxotidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำและแหล่งน้ำที่มีทางติดต่อกับทะเล อ่างเก็บน้ำ บริเวณที่เป็นน้ำกร่อยแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายละเอียด: สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดกลางตกแต่งด้วยก้อนหินและพรรณไม้น้ำ สามารถเลี้ยงและให้พ่นน้ำจับแมลงในบ่อแบบ touch pool หรือในตู้ได้ ในธรรมชาติกินแมลงน้ำ แพลงก์ตอน ตัวอ่อนแมลงน้ำ สามารถฝึกให้กินอาหารเม็ดได้ในที่เลี้ยง ลำตัวสั้นป้อม แบนข้างมาก แนวสันหลังจากจะงอยปากถึงหน้าครีบหลังเกือบเป็นเส้นตรง ปากเฉียงขึ้นข้างบน ตาอยู่ใกล้แนวสันหลัง มีรอยประสีดำบริเวณส่วนครึ่งบนลำตัว 5-6 แต้ม ขอบครีบหลังและครีบก้นมีสีดำ ขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 25 ซม. เป็นปลาที่ชอบว่ายอยู่ผิวน้ำ มีความสามารถพ่นน้ำไปได้ไกล ๆ เพื่อล่าแมลงต่าง ๆ มาเป็นอาหาร การพ่นน้ำทำได้โดยแรงกดดันอย่างรวดเร็วของแผ่นปิดเหงือกและร่องแคบ ๆ ใต้เพดานปาก เมื่อพ่นน้ำโดนแมลงจนตกลงไปในน้ำจึงจะว่ายไปกินอย่างรวดเร็ว
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปีกไก่
ชื่อสามัญ: Shealfish, Isolasimonni
ชื่อวิทยาศาสตร์: Kryptopterus cheveyi
วงศ์ (Family): Siluridae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำแม่กลอง เจ้าพระยา แม่น้ำโขง และแม่น้ำในภาคใต้
รายละเอียด: เป็นปลาตระกูลปลาเนื้ออ่อนที่สามารถเลี้ยงในตู้ที่ตกแต่งด้วยก้อนหิน ขอนไม้ และพรรณไม้น้ำ ขนาดความยาวเฉลี่ยประมาณ 20 ซม. ลักษณะมีลำตัวแบนข้างและเรียวยาวไปทางด้านท้าย หัวเล็ก ปากเล็ก ตาค่อนข้างโต มีหนวด 2 คู่ หนวดที่ขากรรไกรบนยาวเลยขอบเหงือกเล็กน้อยไม่มีครีบหลัง ครีบท้องเล็ก ครีบก้นยาวไม่เชื่อมต่อกับครีบหางซึ่งมีลักษณะเว้าลึก พื้นลำตัวมีสีเทาเงิน ด้านท้องสีจาง ในธรรมชาติกิน ลูกน้ำ กุ้ง แมลง เป็นอาหาร
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: น้ำเงิน
ชื่อสามัญ: Common sheathfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Phalacronotus apogon
วงศ์ (Family): Siluridae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำสายใหญ่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง
รายละเอียด: เป็นปลาตระกูลปลาเนื้ออ่อนที่สามารถเลี้ยงในตู้ที่ตกแต่งด้วยก้อนหิน ขอนไม้ และพรรณไม้น้ำ มีขนาดใหญ่สุดความประมาณ 1.5 เมตร มักพบอยู่รวมกันเป็นฝูงในระดับกลางน้ำ ลักษณะเป็นปลาไม่มีเกล็ดขนาดกลาง ลำตัวเรียวยาว แบนข้างและเพรียวยาวไปทางด้านท้าย พื้นลำตัวสีขาวเงิน ส่วนหลังมีสีดำอมเขียว หัวแบนสั้นและตาเล็ก ปากค่อนข้างกว้าง มีฟันแหลมคมอยู่บนขากรรไกรทั้งสองข้าง ครีบหูใหญ่ปลายมน ครีบท้องมีขนาดเล็ก ครีบก้นเป็นแผงยาว แต่ไม่มีครีบหลัง สันหลังบริเวณต้นคอสูงและลาดต่ำลงไปทางปลายหาง ครีบหางยาวเป็นแฉกเว้าลึก
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ปล้องอ้อย
ชื่อสามัญ: Coolie loach
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pangio kuhlii
วงศ์ (Family): Cobitidae
ถิ่นกำเนิด: ลำธารที่มีพื้นเป็นทราย พบในภาคกลางและภาคใต้ของประเทศ
รายละเอียด: เป็นปลาขนาดเล็กขนาดเฉลี่ยประมาณ 5 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กร่วมกับปลาชนิดอื่นที่ไม่ก้าวร้าว ตกแต่งตู้ด้วยก้อนหินหรือขอนไม้ อุปนิสัยมักหลบตามที่หลบซ่อน ลักษณะมีลำตัวกลมยาว ขนาดเล็กคล้ายหนอน สีลำตัวเป็นสีน้ำตาลหรือเทาดำ มีสีเหลืองทองพาดขวางอยู่ตามลำตัวเป็นปล้อง ๆ คล้ายงู ครีบใส โคนครีบหางและครีบก้นมีสีดำ
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ค้อหางแดง
ชื่อสามัญ: loach
ชื่อวิทยาศาสตร์: Schistura nicholsi
วงศ์ (Family): Balitoridae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำโขงในประเทศไทย และลาว
รายละเอียด: เป็นปลาค้อสวยงามที่มีขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 10 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กร่วมกับปลาชนิดอื่น ตกแต่งตู้ด้วยกรวดแม่น้ำและก้อนหิน อุปนิสัยชอบนอนนิ่ง ๆ บนพื้นกรวด ลักษณะมีลำตัวเพรียวยาว พื้นลำตัวขาวขุ่น มีแถบสีดำตามขวางของลำตัว 8-10 แถบ ส่วนหัวด้านบนมีจุดประสีเข้มกระจายทั่ว ครีบหางเว้าตื้นสีแดง ครีบหลังสีเหลืองอ่อนมีจุดแดงใต้ครีบ ครีบอื่น ๆ สีเหลืองอ่อน
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: เข็ม เข็มเผือก
ชื่อสามัญ: Freshwater halfbeak, Werstling halfbeak
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dermogenys pusilla
วงศ์ (Family): Hemiramphidae
ถิ่นกำเนิด: แหล่งน้ำทั่ว ๆ ไปของประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย
รายละเอียด: สามารถเลี้ยงในตู้ปลาที่ตกแต่งด้วยพรรณไม้น้ำ หรืออ่างบัวขนาดเล็ก อุปนิสัยชอบว่ายลอยตัวบนผิวน้ำ มีรูปร่างเรียวยาว ลำตัวเกือบกลมมีส่วนแบนตรงโคนหาง ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อน หางสีเหลือง ท้องสีขาวเหลืองฟ้า หัวเล็ก มีจะงอยปากแหลมยื่นยาวออกไป ครีบหลังและครีบก้นมีสีเหลืองอยู่ค่อนไปทางด้านหาง ครีบหางกลมมนมีขนาดใหญ่ ขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 4 ซม. ปัจจุบันมีการคัดสายพันธุ์เป็นปลาเผือกซึ่งได้รับความนิยมมากเรียกว่า "เข็มเผือก"
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ช่อนเข็ม
ชื่อสามัญ: Pikehead
ชื่อวิทยาศาสตร์: Luciocephalus pulcher
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: พบเฉพาะในถิ่นอาศัยแบบพรุดั้งเดิม ตั้งแต่พรุโต๊ะแดงถึงสุมาตราและบอร์เนียว
รายละเอียด: สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็ก ตกแต่งด้วยขอนไม้และพรรณไม้น้ำ เป็นปลาที่เลี้ยงค่อนข้างยาก ถูกรวบรวมเพื่อส่งออกเป็นจำนวนมากเช่นกันจากพรุโต๊ะแดง รูปร่างคล้ายปลาช่อน แต่ส่วนหัวและจะงอยปากแหลมยื่น จะงอยปากล่างยาวกว่าปากบน ตาโต เกล็ดใหญ่ ครีบหลังอันเล็กมีฐานสั้น อยู่ค่อนไปทางด้านท้ายใกล้กับคอดหาง ครีบหางมีปลายมน ครีบก้นมีฐานยาวแบ่งออกเป็นสองตอนโดยเว้าที่ตอนกลาง ครีบท้องเล็กมีก้านครีบอันแรกยาวเป็นเส้น ครีบอกเล็ก ตัวมีสีน้ำตาลไหม้หรือน้ำตาลอมเขียว ด้านหลังมีสีจางกว่าตอนกลางมีแถบใหญ่สีคล้ำขอบสีจางพาดจากจะงอยปากไปถึงโคนครีบหางและมีแถบสีจางพาดบริเวณด้านท้อง โคนครีบหางมีจุดจางสีดำขอบขาว ด้านท้องสีจาง ครีบหลังมีสีคล้ำ ครีบหางมีลายสีคล้ำประ ครีบด้านล่างใส ว่ายอยู่ใกล้ผิวน้ำเป็นกลุ่มเล็ก ๆ 5-10 ตัว หรือลอยอยู่เหนือใบไม้เพื่อนรอเหยื่อ ขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 20 ซม.
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กระดี่มุก
ชื่อสามัญ: Pearl gourami, leeri, Mosaic gourami
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trichogaster leerii
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: หนอง บึง ลำห้วย ซึ่งมีพืชพรรณไม้น้ำหนาแน่น พบเฉพาะภาคกลางและภาคใต้
รายละเอียด: เป็นปลากระดี่สวยงามที่มีขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 12 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ที่มีพรรณไม้น้ำ เป็นปลาสวยงามที่ได้รับความนิยมสูงเพราะมีสีสันสวยงาม มีการจัดประกวดทั้งในประเทศ (งานประมงน้อมเกล้าฯ) และต่างประเทศ เช่นในงาน Aquarama ประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบันมีการคัดพันธุ์ให้มีลักษณะลำตัวสั้น หรือ shortbody ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในวงการปลาสวยงาม ลักษณะมีลำตัวเพรียวยาวและแบนข้างมาก พื้นลำตัวมีสีน้ำตาล ตามตัวมีจุดสีขาวประกระจายอยู่ทั่วไป ที่กลางลำตัวจากปากจรดโคนหางมีแถบสีดำคาดตามความยาวลำตัว โคนหางมีจุดดำข้างละ 1 จุด ครีบมีลักษณะเรียวยาวคล้ายหนวด เกล็ดมีขนาดเล็กละเอียด
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กระดี่นาง กระเดิด
ชื่อสามัญ: Moonlight gourami
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trichogaster microlepis
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: แหล่งน้ำทั่วไป ทุกภาคของประเทศไทยและในประเทศแถบอินโดจีน
รายละเอียด: มีรูปร่างคล้ายคลึงกับปลากระดี่หม้อ แต่ขนาดโดยเฉลี่ยจะใหญ่กว่า ขนาดเฉลี่ยประมาณ 13 ซม. บริเวณลำตัวและครีบเรียบไม่มีลาย เกล็ดบริเวณลำตัวเป็นสีขาวเงิน หรือสีฟ้าอ่อน ครีบสีขาว เกล็ดด้านข้างลำตัวมีขนาดเล็ก ครีบท้องมีก้านครีบอันแรกเปลี่ยนเป็นเส้นยาว ครีบก้นยาว ครีบหางเว้าตื้น ความแตกต่างระหว่างเพศ ปลาตัวผู้สังเกตได้จากขอบครีบท้องและขอบครีบก้นจะมีสีส้ม
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กระดี่ กระดี่หม้อ
ชื่อสามัญ: Blue gourami, Three-spot gourami
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trichogaster trichopterus
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: แหล่งน้ำทั่วไปในภาคของประเทศไทย และประเทศอื่นในแถบอินโดจีน
รายละเอียด: สามารถเลี้ยงในตู้ที่มีพรรณไม้น้ำหรือตู้ปลาทั่วๆไปได้อย่างสวยงาม ปัจจุบันมีการคัดพันธุ์ให้ได้สายพันธุ์เผือกเรียก “กระดี่เผือก” มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 10 ซม. ลักษณะมีลำตัวเพรียวยาวและแบนข้างมาก พื้นลำตัวมีสีเทาอ่อน มีแถบสีน้ำตาลอมเทาพาดเฉียงตลอดลำตัว ด้านข้างลำตัวมีจุดสีส้มอมน้ำตาลหรือสีดำขนาดใหญ่ 2 จุด อยู่บริเวณกึ่งกลางลำตัว 1 จุด บริเวณโคนครีบหางอีก 1 จุด แต่เหตุที่มีชื่อเรียกเรียก Three spot gourami เนื่องจากนับรวมตาเข้าไปอีก 1 จุด บริเวณครีบหลัง ครีบก้นและครีบหางมีจุดสีเหลืองกระจายทั่วไป ในปลาตัวผู้ สีจะเข้มจนเป็นสีส้ม ปากมีขนาดเล็กยื่นเฉียงขึ้นด้านบน ตาโตตั้งอยู่ในระดับเดียวกับปาก
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กระดี่นางฟ้า
ชื่อสามัญ: Blue gourami, Cosby strain
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trichogaster trichopterus
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: พบได้ในแหล่งน้ำนิ่งทุกภาคของประเทศไทย
รายละเอียด: เป็นปลาที่มีความปราดเปรียวและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามเพราะมีสีสวยงาม มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 12 ซม. ลักษณะมีลำตัวแบนข้างมาก เกล็ดมีขนาดเล็กละเอียด พื้นลำตัวมีสีฟ้าสลับด้วยลวดลายสีฟ้าอมน้ำเงินจนถึงดำ ครีบอกมีลักษณะเรียวยาวคล้ายหนวด ครีบหลังและครีบทวารมีก้านครีบที่แหลมคม
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กริมสี
ชื่อสามัญ: Pygmy gourami
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trichopsis pumila
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: ตั้งแต่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาจนถึงแม่น้ำบางปะกง และแม่น้ำโขงตอนล่าง และบริเวณพรุในภาคตะวันออก
รายละเอียด: เป็นปลากริมในบ้านเราที่สามารถนำมาเลี้ยงในตู้ปลาขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยพรรณไม้น้ำ ได้อย่างสวยงามมีขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 4.5 ซม. ความยาวเฉลี่ยประมาณ 3 ซม. ลักษณะมีลำตัวแบนข้าง ส่วนหัวเรียว ปากเล็ก ตาโต เกล็ดเล็ก ครีบหลังเรียว ครีบหางปลายแหลมมีก้านครีบเป็นเส้นเรียว ครีบก้นมีฐานครีบยาว ครีบท้องเป็นเส้นยาว ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อน มีแถบสีคล้ำพาดตามยาวตั้งแต่ปลายปากถึงโคนหาง มีจุดประสีแดงส้ม หรือน้ำตาลแดงบนครีบต่าง ๆ และลำตัว และมีจุดเหลือบสีฟ้าสดหรือเขียวอ่อนบนลำตัว ขอบตามีสีฟ้าวาว ด้านท้องสีจาง
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กริมควาย
ชื่อสามัญ: Croaking gourami
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trichopsis vittata
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: แหล่งน้ำนิ่งทั่วไป ตั้งแต่แม่น้ำสาละวินถึงแม่น้ำโขง และบอร์เนียว
รายละเอียด: เป็นปลากริมที่พบบได้ทั่วไปในน้ำนิ่งประเทศไทย สามารถนำมาเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำได้อย่างสวยงาม โตเต็มที่มีความยาวประมาณ 7 ซม. ลักษณะมีส่วนหัวค่อนข้างเรียว ปากเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อย ลำตัวรูปไข่ทรงเรียวแบนข้างเล็กน้อย ครีบหลังอยู่ตอนกึ่งกลาง ครีบหางปลายแหลมยาวในตัวผู้ครีบก้นยาว ครีบท้องเล็กมีปลายเรียวยาว เกล็ดใหญ่ ไม่มีเส้นข้างตัว ลำตัวมีสีคล้ำอมน้ำตาลหรือน้ำตาลแดง มีแต้มกลมสีคล้ำที่เหนือครีบอก มีเหลือบสีเขียวอ่อน และมีจุดประสีแดงที่ครีบ ครีบก้นมีขอบสีแดงคล้ำ มีเหลือบสีเขียวอ่อนหรือฟ้าตามครีบในตัวผู้ ตามีสีฟ้าที่ม่านตา
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กระดี่โคบอลท์
ชื่อสามัญ: Cobalt dwarf gourami
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trichogaster lalia
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: เป็นปลาที่ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์ จากการเพาะเลี้ยง
รายละเอียด: เป็นปลากระดี่ที่ถูกปรับปรุงสายพันธุ์ สามารถเลี้ยงในตู้ที่มีพรรณไม้น้ำ ตู้ธรรมดาที่ตกแต่งอย่างสวยงามและยังเลี้ยงร่วมปลาชนิดอื่นได้ ลักาณะมีลำตัวแบนข้างมาก ครีบหน้าอกยาว 2 ส้น ลำตัวสีฟ้า (โคบอลท์) ทั่งตัวรวมทั้งครีบทุกครีบ ครีบหางและ ครีบท้องขอบครีบมีสีดำ
ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กระดี่แดง
ชื่อสามัญ: Red Dwarf gourami, Honey gourami
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trichogaster chuna
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศอินเดียและบังคลาเทศ
รายละเอียด: เป้นปลากระดี่สวยงามต่างประเทศที่สามารถเลี้ยงในตู้ที่มีพรรณไม้น้ำ ตู้ธรรมดาที่ตกแต่งอย่างสวยงามและยังเลี้ยงร่วมปลาชนิดอื่นได้ มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 5-6 ซม. ลักษณะมีลำตัวสีส้มออกแดงไม่มีลายตามลำตัว ช่วงท้องสีจะจางกว่า ครีบท้องทั้งสองด้านมีลักษณะยาวคล้ายหนวด ลักษณะนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว ชอบอยู่รวมฝูงกันเอง แต่ไม่ชอบรวมกลุ่มกับปลาชนิดอื่น ๆ หากเป็นฤดูผสมพันธุ์ปลาจะยิ่งทวีความก้าวร้าวมากขึ้น
ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กระดี่แคระ
ชื่อสามัญ: Dwarf gourami
ชื่อวิทยาศาสตร์: Trichogaster lalia
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศอินเดียบัง คลาเทศ และปากีสถาน
รายละเอียด: เป็นปลากระดี่สวยงามต่างประะเทศที่สามารถเลี้ยงในตู้ที่มีพรรณไม้น้ำ ตู้ธรรมดาที่ตกแต่งอย่างสวยงามและยังเลี้ยงร่วมปลาชนิดอื่นได้ ลักษณะมีลำตัวเพรียวแบนข้าง พื้นลำตัวมีสีน้ำตาล แดง อมเขียว มีแถบลายแดงคาดอย่างเป็นระเบียบ เกล็ดเล็กละเอียด ครีบอกเรียวยาวคล้ายหนวด ชอบลอยตัวอยู่นิ่ง ๆ อยู่ที่ระดับผิวน้ำ มีอวัยวะพิเศษช่วยหายใจ โดยใช้วิธีฮุบอากาศ เหนือผิวน้ำเพื่อหายใจ ไม่ต้องผ่านช่องเหงือก จึงสามารถดำรงชีวิตได้ เมื่ออยู่ในที่แคบ ๆ หรือที่ที่มีปริมาณ ออกซิเจนต่ำ
ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมอจำปะ, หมอจำปา
ชื่อสามัญ: Malay combtail
ชื่อวิทยาศาสตร์: Belontia hasselti
วงศ์ (Family): Osphronemidae
ถิ่นกำเนิด: พบเฉพาะในถิ่นอาศัยแบบพรุดั้งเดิม ตั้งแต่พรุโต๊ะแดงถึงสุมาตราและบอร์เนียว
รายละเอียด: สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดกลางที่ตกแต่งด้วยก้อนหิน ขอนไม้และพรรณไม้น้ำ เลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกันได้ มีขนาดใหญ่สุดที่พบความยาวประมาณ 20 ซม. ในธรรมชาติกิน กุ้ง แมลง แพลงก์ตอนสัตว์ เป็นอาหาร มีรูปร่างเป็นรูปไข่ค่อนข้างทรงเหลี่ยมคล้ายปลาหมอแต่กว้างกว่า ลำตัวแบนข้างมาก หัวโต ตาโต ปากเล็ก มีเกล็ดใหญ่ เส้นข้างตัวไม่ต่อเนื่องกัน ครีบหลังและครีบก้นมีฐานยาว มีก้านครีบแข็งที่ครีบหลัง 12-13 อัน ที่ครีบก้น 16 อัน ปลายครีบหลังและครีบก้นเรียวแหลม โดยเฉพาะในตัวผู้จะมีครีบยาวใหญ่กว่าตัวเมีย ครีบหางมีปลายมน ครีบท้องเล็กมีปลายของก้านครีบเรียวเป็นเส้นยาว 2 เส้น ตัวมีสีเหลืองทองหรือเหลืองคล้ำ ถึงน้ำตาลแดง ขอบเกล็ดมีสีคล้ำและที่ฐานครีบหลังตอนท้ายมีจุดสีดำ ครีบหลังและครีบก้นตอนหน้าสีคล้ำ ตอนท้ายรวมถึงครีบหางมีลายเส้นเป็นตาข่าย
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมูลายเสือ
ชื่อสามัญ: Tiger spiny loach, Tiger botia, Chameleon botia
ชื่อวิทยาศาสตร์: Botia beauforti
วงศ์ (Family): Cobitidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำเจ้าพระยาและสาขา แม่น้ำท่าดี จังหวัดนครศรีธรรมราช
รายละเอียด: เป็นปลาหมูสวยงามที่สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กร่วมกับปลาชนิดอื่นได้ ตกแต่งตู้ด้วยก้อนหินหรือขอนไม้ อุปนิสัยมักหลบตามที่หลบซ่อน วัสดุตกแต่งไม่ควรมีรูขนาดเล็ก เมื่อปลาตกใจจะมุดเข้าไปติดแล้วออกไม่ได้ มีความยาวเฉลี่ยน 7 ซม. ลักษณะมีรูปร่างป้อม ลำตัวแบนข้าง หัวเรียวแหลม ปากแหลม ลำตัวเป็นสีเทาปนเหลือง หรืออมเขียว มีแถบคาดตามลำตัวคล้ายลายเสือ และมีจุดดำเรียงเป็นแถวตลอดลำตัว ครีบทุกครีบมีสีเหลืองอมส้ม ครีบหลังและครีบหางมีสีส้มและมีแถบดำและจุดดำกระจายทั่ว หากินตามพื้นท้องน้ำตามโขดหินและก้อนหิน
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมูข้างลาย
ชื่อสามัญ: Tiger loach
ชื่อวิทยาศาสตร์: Botia hymenophysa
วงศ์ (Family): Cobitidae
ถิ่นกำเนิด: แหล่งน้ำไหล แม่น้ำ ลำคลอง ชอบซุกซ่อนตามตอไม้ ซอกหิน และพื้นดินโคลน
รายละเอียด: เป็นปลาหมูที่สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กร่วมกับปลาชนิดอื่นได้ ตกแต่งตู้ด้วยก้อนหินหรือขอนไม้ อุปนิสัยมักหลบตามที่หลบซ่อน วัสดุตกแต่งไม่ควรมีรูขนาดเล็ก เมื่อปลาตกใจจะมุดเข้าไปติดแล้วออกไม่ได้ หากินตามพื้นท้องน้ำตามโขดหินและก้อนหิน มีขนาดความยาวเฉลี่ย 10-15 ซม. ลำตัวเรียวแบนทางด้านข้าง ปากแหลมสีชมพู ลำตัวเป็นสีเทาปนเหลือง มีสีน้ำเงินแกมเขียวประเป็นจุด ๆ และมีแถบคาดตามลำตัว 11-14 แถบ คล้ายลายเสือ ครีบทุกครีบมีสีส้มเหลือง
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมูขาว, หมูเหลือง, หมูมัน
ชื่อสามัญ: Yellow-tail, Orange-fin loach
ชื่อวิทยาศาสตร์: Botia modesta
วงศ์ (Family): Cobitidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำและอ่างเก็บน้ำในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
รายละเอียด: เป็นปลาหมูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสกุลปลาหมูที่พบในประเทศไทย ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสำรวจพบมีความยาวถึง 23.5 ซม. ขนาดความยาวเฉลี่ยประมาณ 12 ซม. ตู้ที่ใช้เลี้ยงควรมีขนาดใหญ่ให้พอเหมาะกับอัตราการเจริญเติบโตของปลา ลักษณะมีลำตัวแบนข้างเล็กน้อยและค่อนข้างป้อมกว่าปลาหมูชนิดอื่น ๆ สีลำตัวเป็นสีเทาหรือเทาอมเขียว บริเวณด้านหลังสีเข้มกว่าด้านข้างลำตัว ท้องสีเหลืองอ่อนหรือขาว บริเวณโคนหางมีจุดสีดำ สำหรับปลาวัยอ่อนที่ยังไม่โตเต็มที่ จนมีแถบสีดำเล็ก ๆ พาดขวางลำตัว 4-5 แถบ และเมื่อปลามีอายุมากขึ้นแถบเหล่านี้จะหายไป จะงอยปากค่อนข้างยาว ปลายจะงอยปากมีหนวด 2 คู่ และมุมปากมีหนวดอีก 1 คู่ ปากอยู่ปลายสุดและอยู่ในระดับต่ำ บริเวณหน้าตามีหนามแหลมปลายแยกเป็น 2 แฉก ขนาดใหญ่และแข็งแรง ครีบทุกครีบไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบหลังครีบก้น และครีบหางมีสีเหลืองจนถึงสีส้มหรือแดง โดยเฉพาะครีบหางจะมีสีสดกว่าครีบอื่น ๆ ครีบอกและครีบท้องสีเหลืองจาง ๆ
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมูค้อ, หมูคอก
ชื่อสามัญ: Skunk botia
ชื่อวิทยาศาสตร์: Botia morleti
วงศ์ (Family): Cobitidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำแม่กลอง เจ้าพระยาและแม่น้ำโขง
รายละเอียด: เป็นปลาหมูขนาดกลาง ขนาดความยาวเฉลี่ยประมาณ 9 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กร่วมกับปลาชนิดอื่นได้ ตกแต่งตู้ด้วยก้อนหินหรือขอนไม้ อุปนิสัยมักหลบตามที่หลบซ่อน วัสดุตกแต่งไม่ควรมีรูขนาดเล็ก เมื่อปลาตกใจจะมุดเข้าไปติดแล้วออกไม่ได้ มีรูปร่างป้อมสั้น ลำตัวแบนข้าง หลังโค้ง ครีบหลังอยู่ตรงข้ามครีบท้อง พื้นลำตัวสีเขียวแกมเหลือง ท้องสีขาวซีด มีแถบดำพาดตามแนวหลังจากปลายจะงอยปากจรดโคนหาง มีแถบดำขนาดใหญ่พาดขวางคอดหาง ครีบหางสีเหลืองจาง ๆ มีจุดดำเล็ก ๆ ประปราย
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมูน่าน
ชื่อสามัญ: Mekong clawn loach
ชื่อวิทยาศาสตร์: Botia nigrolineata
วงศ์ (Family): Cobitidae
ถิ่นกำเนิด: พบที่แม่น้ำว้า อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน
รายละเอียด: เป็นปลาหมูขนาดกลาง ขนาดความยาวเฉลี่ยประมาณ 10 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กร่วมกับปลาชนิดอื่นได้ ตกแต่งตู้ด้วยก้อนหินหรือขอนไม้ อุปนิสัยมักหลบตามที่หลบซ่อน วัสดุตกแต่งไม่ควรมีรูขนาดเล็ก เมื่อปลาตกใจจะมุดเข้าไปติดแล้วออกไม่ได้ มีรูปร่างและสีสันคล้ายคลึงปลาหมูอารีย์ (Botia sidthimunki) ซึ่งเป็นปลาที่อยู่ในสกุลเดียว กัน แต่ปลาหมูน่านลายจะเป็นแถบยาว เมื่อปลามีขนาดใหญ่ขึ้น ลายตามยาวจะขาดเป็นท่อน ๆ และจะเกิดลายขวางเพิ่มมากขึ้น โดยที่ลายแถบของปลาหมูน่านจะมีราว 8-10 แถบ ในขณะที่ปลาหมูอารีย์ ซึ่งจะมีแค่ 5-8 แถบ ดังนั้นเมื่อมองด้วยตาเปล่าแล้วจะพบว่า ลายเส้นของปลาหมูน่านจะใหญ่และหนากว่าของปลาหมูอารีย์ อีกทั้งเมื่อโตเต็มที่แล้วจะมีขนาดลำตัวใหญ่กว่าปลาหมูอารีย์
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หมูอารีย์
ชื่อสามัญ: Dwarf botia, Dwarf loach, Chain botia
ชื่อวิทยาศาสตร์: Botia sidthimunki
วงศ์ (Family): Cobitidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำโขง และสาขา
รายละเอียด: เป็นหนึ่งในปลาที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทยที่อนุญาติให้เพาะพันธุ์ในที่เลี้ยงได้ เป็นปลาที่ถูกค้นพบโดยคุณดำริ สุขอร่าม เมื่อปี พ.ศ. 2502 บริเวณลุ่มน้ำแม่กลอง ระหว่างเขตจังหวัดราชบุรีและกาญจนบุรี ถูกตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่คุณอารีย์ สิทธิมังค์ รองอธิบดีกรมประมงในขณะนั้น จึงมีชื่อสามัญว่าปลาหมูอารีย์ เป็นปลาได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม เพราะมีสีสันสวยงามและหายากที่สุดในสกุลปลาหมูนี้เพราะใกล้จะสูญพันธุ์ไปจากแหล่งน้ำธรรมชาติของประเทศไทย เป็นปลาหมูขนาดเล็กขนาดใหญ่สุดมีความยาวประมาณ 6 ซม. ลักษณะลำตัวแบนข้างเล็กน้อย ค่อนข้างยาวเรียว สีลำตัวเหลืองนวลหรือขาว ถ้ามองจากด้านบนจะเห็นแถบสีดำพาดไปตามความยาวลำตัวตามแนวสันหลังจากหัวไปถึงโคนหาง 2 แถบ ขนานไปกับแนวครีบหลังและระหว่างแถบทั้ง 2 นี้ จะมีแถบสำดำเล็ก ๆ เชื่อมติดต่อกันเป็นระยะ ๆ ทำให้เห็นเป็นจุดสีขาวหรือสีเหลืองนวลขอบดำ บริเวณด้านข้างตัวมีแถบสีดำพาดไปตามความยาวลำตัวจากปลายจะงอยปากผ่านตาไปถึงโคนครีบหางอีก 1 แถบ ระหว่างแถบสีดำด้านข้างลำตัวกับแถบที่อยู่แนวสันหลังจะมีแถบสีดำเล็ก ๆ เชื่อมติดต่อกันเป็นระยะ ๆ เช่นเดียวกัน และจะทำให้เห็นเป็นจุดสีขาวหรือเหลืองนวลขอบดำประมาณ 6 จุด อยู่ในแนวเหนือเส้นข้างตัว ปากขนาดเล็กอยู่ปลายสุด มีหนวดสั้น ๆ 3 คู่ บริเวณหน้าตามีหนามแหลมปลายแยกเป็น 2 แฉก ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของปลาในสกุลนี้ ครีบทุกครีบใสโปร่งแสงยกเว้นครีบหางจะมีจุดสีดำบนแพนหางบนและล่าง
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: หางไหม้, หางเหยี่ยว, หนามหลังหางดำ
ชื่อสามัญ: Silver shark, Bala shark, Tricolor sharkminnow
ชื่อวิทยาศาสตร์: Balantiocheilos melanopterus
วงศ์ (Family): Cyprinidae
ถิ่นกำเนิด: ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเขมร ในประเทศไทยปัจจุบันหายากมาก
รายละเอียด: เป็นปลาที่สามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาขนาดใหญ่ ร่วมกับปลาชนิดอื่นๆ ตกแต่งตู้โดยใช้ก้อนหินหรือขอนไม้ ไม่นำพรรณไม้นำมาตกแต่ง เพราะเป็นปลาที่ชอบกินพืช เป็นปลาสวยงามที่ได้รับความนิยมสูง มีรูปร่างปราดเปรียวสวยงาม ว่ายน้ำรวดเร็วจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ฉลามหางไหม้” ปัจจุบันปลาที่มีจำหน่ายในประเทศไทยเป็นปลาที่นำพ่อแม่พันธุ์มาจากประเทศอินโดนีเซียแล้วนำมาเพาะพันธุ์โดยวิธีผสมเทียม ปลาหางไหม้ขนาดใหญ่สุดมีความยาวประมาณ 25 ซม. ลำตัวสีเงิน ครีบสีเหลืองอ่อน ขอบนอกของครีบทุกครีบยกเว้นครีบอกมีขอบสีดำค่อนข้างหนา บริเวณโคนหางและโคนหลังมีสีดำจาง ๆ ปากเล็กไม่มีฟัน ปากยึดหดได้ ริมฝีปากบนยื่นยาวกว่าริมฝีปากล่าง
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: ยี่สกไทย
ชื่อสามัญ: Seven-stripped carp, Isok barb
ชื่อวิทยาศาสตร์: Probarbus jullieni
วงศ์ (Family): Cyprinidae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำสายใหญ่ เช่น แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสักและแม่น้ำโขง
รายละเอียด: เป็นปลาไทยที่หาได้ยากแล้วในแหล่งน้ำธรรมชาติ มีขนาดความยาวเฉลี่ยประมาณ 80 ซม. น้ำหนักเฉลี่ย 6-18 กก. ขนาดใหญ่สุดพบมีความยาวประมาณ 120 ซม. ในธรรมชาติกิน หอย ปู พืชน้ำ และตะไคร่น้ำ สามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาขนาดใหญ่ อุปนิสัยชอบอมกรวดขนาดเล็กตามพื้นตู้แล้วพ่นออกมา และชอบยืดหดริมฝีปากบ่อยๆ ลักษณะมีลำตัวยาวเรียว แบนข้างเพียงเล็กน้อย เกล็ดบริเวณลำตัวจะมีสีเหลืองนวลหรือเหลืองทองและมีแถบสีน้ำตาลดำพาดไปตามความยาวลำตัว 6-8 แถบ สีบริเวณหัวเป็นสีเหลืองแกมเขียว ปากอยู่ต่ำ ริมฝีปากยืดหดได้ มีฟันในคอหอย มีหนวดสั้นที่ขากรรไกรบน 1 คู่ ครีบอก ครีบท้องและครีบก้นเป็นสีชมพู ครีบหางสีดำ เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่รองลงมาจากปลากระโห้
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กดหม้อ, กดดำ, สิงห์ดำ
ชื่อสามัญ: Black catfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Hemibagrus wyckii
วงศ์ (Family): Bagridae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในภาคกลาง ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
รายละเอียด: เป็นปลาขนาดใหญ่ขนาดโตเต็มที่มีความยาวประมาณ 80 ซม. เลี้ยงในตู้ขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยกรวดและก้อนหิน กินปลาขนาดเล็ก ซากสัตว์ เป็นปลาชอบหากินในเวลากลางคืน กลางวันมักจะหลบซ่อนที่กำบังเป็นอาหารควรเลี้ยงกับปลาที่มีขนาดใกล้เคียงกันเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนกิน ลักษณะลำตัวเพรียว หัวแบนและกว้าง สีลำตัวบริเวณด้านหลังและด้านข้างลำตัวเป็นสีม่วงดำหรือดำ บริเวณท้องสีขาว ครีบหลังมี 2 อัน ครีบหลังอันแรกมีก้านครีบหยักเป็นฟันซี่เลื่อย ส่วนครีบหลังอันที่ 2 เป็นครีบไขมัน ครีบหางเว้าลึก ขอบบนและขอบล่างของครีบหางมีสีขาวหรือสีครีม ส่วนหน้าของครีบและครีบก้นก็มีสีขาวหรือสีครีมเช่นเดียวกัน ปากกว้างมาก จะงอยปากป้าน มีหนวด 4 คู่
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: แขยงธง, แขยงธงเผือก
ชื่อสามัญ: Bocourt’s river catfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mystus bocourti
วงศ์ (Family): Bagridae
ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำโขง
รายละเอียด: เป็นปลาขนาดกลางขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 15 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ร่วมกับปลาไม่มีเกล็ดชนิดอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกัน จัดตู้ โดยวางวัสดุตกแต่งประเภทก้อนหินหรือขอนไม้ เพื่อให้มีที่หลบซ่อน ลักษณะมีรูปร่างยาว ลำตัวแบนข้างมาก หัวเล็กแหลม หนวดที่มุมปากยาวถึงหาง กระโดงหลังยาวไม่มีหยัก ครีบไขมันยาวอยู่ชิดกับครีบหลัง ตาค่อนข้างโต ครีบหางเป็นแฉกเว้าลึก แฉกบนยาวกว่าแฉกล่าง พื้นลำตัวมีสีเหลืองอมเขียว ครีบหลังและครีบท้องสีเขียว บริเวณฐานของครีบมีสีแดง ครีบไขมันและครีบหางสีเขียว
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: แขยงใบข้าว
ชื่อสามัญ: Long-fatty finned mystus
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mystus singaringan
วงศ์ (Family): Bagridae
ถิ่นกำเนิด: แหล่งน้ำไหล เช่น แม่น้ำ ลำคลอง และลำธาร ทุกภาคของประเทศไทย
รายละเอียด: เป็นปลาแขยงขนาดกลางมีความยาวเฉลี่ยประมาณ 20 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ร่วมกับปลาไม่มีเกล็ดชนิดอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกัน จัดตู้โดยวางวัสดุตกแต่งประเภทก้อนหินหรือขอนไม้ เพื่อให้มีที่หลบซ่อน ลักษณะมีลำตัวค่อนข้างกลมและยาวแบนข้างเล็กน้อย หลังโค้ง หัวค่อนข้างเล็ก ปากทู่ มีหนวด 4 คู่ เฉพาะคู่ที่ริมฝีปากยาวจรดโคนหาง ครีบไขมันยาวถึงโคนครีบหลัง หางเป็นแฉกลึก แฉกบนยาวกว่าแฉกล่าง พื้นลำตัวสีเหลืองอ่อนอมเทาหรือเขียวมะกอก ส่วนท้องสีจาง
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: แขยงข้างลาย
ชื่อสามัญ: Blue-stripped catfish, Striped dwarf catfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mystus vittatus
วงศ์ (Family): Bagridae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำ อ่างเก็บน้ำทั่วทุกภาคของไทย และในประเทศอินเดีย พม่า ศรีลังกา
รายละเอียด: เป็นปลาแขยงขนาดกลาง มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 13 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ร่วมกับปลาไม่มีเกล็ดชนิดอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกัน จัดตู้โดยวางวัสดุตกแต่งประเภทก้อนหินหรือขอนไม้ เพื่อให้มีที่หลบซ่อน กินปลาขนาดเล็ก ลูกกุ้ง แมลงน้ำ ซากสัตว์ และพืชที่เน่าเปื่อย เป้นอาหาร ลักษณะพื้นลำตัวสีเทาเงินหรือสีน้ำตาลเทา ส่วนหัวและแผ่นหลังมีสีคล้ำกว่าข้างลำตัว ใต้ท้องสีขาว ข้างลำตัวมีแถบลายเส้นสีน้ำตาลเทา 2 แถบ คาดตามยาวจากหลังเหงือกจรดโคนหาง หลังช่องเหงือกมีจุดสีดำล้อมรอบด้วยวงแหวนสีขาว ส่วนหัวใหญ่ ครีบแต่ละครีบลักษณะโปร่งใสมีสีดำแซมประปราย
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: แขยงนวล
ชื่อสามัญ: nan
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mystus wolffi
วงศ์ (Family): Bagridae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำตาปี และในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายละเอียด: เป็นปลาแขยงขนาดกลาง โตเต็มที่มีขนาดประมาณ 20 ซม. มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 12 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ร่วมกับปลาไม่มีเกล็ดชนิดอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกัน จัดตู้โดยวางวัสดุตกแต่งประเภทก้อนหินหรือขอนไม้ เพื่อให้มีที่หลบซ่อน ลักษณะมีรูปร่างค่อนข้างสั้น ส่วนหัวโตปากเล็กมีหนวด 4 คู่ ครีบอกและครีบหลังเป็นก้านแข็ง ครีบไขมันค่อนข้างสั้น ครีบหางเว้าลึก ลำตัวมีสีเทาเขียวมะกอกหรือเหลืองทอง ด้านท้องสีเขียวอ่อน
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: แขยงหิน, กดหิน
ชื่อสามัญ: Asian bumblebee catfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pseudomystus siamensis
วงศ์ (Family): Bagridae
ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำในทุกภาคของประเทศไทย
รายละเอียด: เป็นปลาที่มีสีสันและลวดลายสวยงามมากชนิดหนึ่ง นิยมนำมาเลี้ยงในตู้ปลาและส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ขนาดใหญ่สุดที่พบมีความยาวประมาณ 20 ซม. มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 10 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ร่วมกับปลาไม่มีเกล็ดชนิดอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกัน จัดตู้โดยวางวัสดุตกแต่งประเภทก้อนหินหรือขอนไม้ เพื่อให้มีที่หลบซ่อน ลักษณะมีลำตัวเรียวยาวแบนข้างเล็กน้อย หัวแบนลงเล็กน้อย ลำตัวสีเหลืองอ่อนหรือสีน้ำตาลอ่อน มีแถบสีดำขนาดใหญ่พาดขวางลำตัว 4 แถบ แถบที่ 1 พาดขวางส่วนหัวทั้งหมด แถบที่ 2 พาดจากบริเวณครีบหลังและแผ่นกว้างไปคลุมด้านล่างของลำตัว ตั้งแต่ครีบอกจนถึงครีบท้อง แถบที่ 3 เริ่มจากบริเวณครีบไขมันพาดผ่านลำตัวไปยังครีบ ส่วนแถบที่ 4 พาดคลุมบริเวณโคนหางทั้งหมด ปากขนาดเล็กอยู่ค่อนข้างต่ำ มีหนวด 4 คู่ หนวดที่ขากรรไกรบนยาวที่สุดยาวจนถึงครีบอก ส่วนหนวดคู่อื่น ๆ ยาวไม่ถึงครีบอก ครีบทุกครีบยกเว้นครีบอกสีเหลืองอ่อน มีแถบสีดำพาดขวางครีบประมาณ 1-2 แถบ ครีบอกสีเหลืองอ่อนมีจุดประสีดำ มีก้านครีบแข็งใหญ่แข็งแรงเป็นซี่ฟันเลื่อย ครีบหลังมี 2 อัน ครีบหางเว้าลึก
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
ชื่อไทย: กดหัวเสียม
ชื่อสามัญ: Giant river-catfish
ชื่อวิทยาศาสตร์: Sperata seenghala
วงศ์ (Family): Bagridae
ถิ่นกำเนิด: แหล่งน้ำสาละวินและสาขา แม่น้ำตะนาวศรีในพม่า
รายละเอียด: เป็นปลาไม่มีเกล็ดขนาดค่อนข้างใหญ่ มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 70 ซม. ควรเลี้ยงในตู้หรือบ่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ และเลี้ยงร่วมกับปลาที่มีขนาดใกล้เคียงกันเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกิน ลักษณะเด่นมี หัวและจะงอยปากยื่นยาวมากที่สุดในกลุ่มปลากด หัวแบนราบเล็กน้อย ลำตัวทรงกระบอก แต่ด้านหลังอกสูง เพรียวไปทางด้านท้าย ตาเล็กอยู่ด้านบนของหัว ริมฝีปากตัดตรงอยู่ปลายของจะงอยปาก หนวดที่ริมฝีปากยาวมาก ครีบหลังไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบไขมันยาวมาก ครีบหางใหญ่เข้าลึก ตัวมีสีเทาอมฟ้าอมเขียวอ่อน ด้านท้องสีจาง ครีบสีจาง ครีบไขมันมันดวงสีดำ ขอบขาวที่ตอนปลายสุด ครีบหางมีสีแดงเรื่อ
ประเภท (Catalogy): ปลาไทย | {
"domain": "articles",
"license": "CC BY",
"source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib",
"title": "Thai aqualib"
} |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.