text
stringlengths
11
12.4k
meta
dict
ชื่อไทย: ช่อนงูเห่า, ช่อนดอกจันทร์ ชื่อสามัญ: Great snakehead ชื่อวิทยาศาสตร์: Channa marulia วงศ์ (Family): Channidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำสายใหญ่ ๆ ของประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ ตั้งแต่ประเทศอินเดียจนถึงประเทศจีน รายละเอียด: มีขนาดความยาวเฉลี่ยประมาณ 35 ซม. ควรเลี้ยงในตู้ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยก้อนหินขอนไม้ และควรแยกเลี้ยงเดี่ยว เพราะอุปนิสัยค่อนข้างดุร้าย กินสัตว์น้ำอื่นๆ รวมถึงปลาที่มีขนาดเล็กกว่าเป้นอาหาร ลักษณะมีลำตัวยาวเรียวรูปทรงกระบอก ส่วนหัวจะเรียวแหลมกว่าปลาช่อน สีลำตัวจะแตกต่างกันออกไปตามอายุและสภาพแวดล้อมที่ปลาอาศัยอยู่ โดยทั่วไปมักมีสีคล้ำ เช่น ดำ น้ำตาลอมเทาหรือเทาอมเขียว ในขณะปลาอายุจะมีแถบสีส้มสดพาดไปตามความยาวลำตัวถึงโคนหาง เมื่อปลาเจริญขึ้นอีกระยะหนึ่งจะมีแถบสีดำ 5-6 แถบอยู่บริเวณใต้เส้นข้างตัว บริเวณท้องจะมีส้มบริเวณฐานะเกล็ดจะมีสีคล้ำ บริเวณส่วนท้ายของลำตัว ครีบหางและครีบก้นจะมีจุดสีขาว บริเวณโคนครีบหางหรือส่วนต้นของครีบหางมีจุดสีดำที่มีขอบขาวขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของปลาชนิดนี้ และทำให้ได้ชื่อว่า “ช่อนดอกจันทร์” ครีบหลังและครีบก้นมีฐานครีบยาว ครีบหางกลมเป็นรูปพัด ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ชะโด, แมลงภู่ ชื่อสามัญ: Giant snakehead fish, Red snakehead fish ชื่อวิทยาศาสตร์: Channa micropeltes วงศ์ (Family): Channidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทุกภาคของประเทศไทย มาเลเซีย อินเดีย หมู่เกาะอินเดียตะวันออก รายละเอียด: เป็นปลาขนาดใหญ่มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 1 เมตร ในตลาดนิยมนำปลาขนาดเล็กมาขายเป็นปลาสวยงามเนื่องจากมีสีสันที่สวยงามสะดุดตา ควรเลี้ยงในตู้ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยก้อนหินขอนไม้หรือบ่อซีเมนต์ และควรแยกเลี้ยงเดี่ยว เพราะอุปนิสัยดุร้ายมากโดยเฉพาะช่วงฤดูผสมพันธุ์ กินสัตว์น้ำอื่นๆ รวมถึงปลาที่มีขนาดเล็กกว่าเป้นอาหาร ลักษณะมีลำตัวยาวเรียวรูปทรงกระบอก ส่วนหัวจะเรียวแหลมกว่าปลาช่อน สีลำตัวจะแตกต่างกันออกไปตามอายุและสภาพแวดล้อมที่ปลาอาศัยอยู่ โดยทั่วไปมักมีสีคล้ำ เช่น ดำ น้ำตาลอมเทาหรือเทาอมเขียว ในขณะปลาอายุจะมีแถบสีส้มสดพาดไปตามความยาวลำตัวถึงโคนหาง เมื่อปลาเจริญขึ้นอีกระยะหนึ่งจะมีแถบสีดำ 5-6 แถบอยู่บริเวณใต้เส้นข้างตัว บริเวณท้องจะมีส้มบริเวณฐานะเกล็ดจะมีสีคล้ำ บริเวณส่วนท้ายของลำตัว ครีบหางและครีบก้นจะมีจุดสีขาว บริเวณโคนครีบหางหรือส่วนต้นของครีบหางมีจุดสีดำที่มีขอบขาวขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของปลาชนิดนี้ และทำให้ได้ชื่อว่า “ช่อนดอกจันทร์” ครีบหลังและครีบก้นมีฐานครีบยาว ครีบหางกลม ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ช่อนทอง, ช่อนเผือก, ช่อน ชื่อสามัญ: Snakehead fish ชื่อวิทยาศาสตร์: Channa striata วงศ์ (Family): Channidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทุกภาคของประเทศไทย รายละเอียด: เป็นปลาช่อนสวยงามที่คัดสายพันธุ์มาจากปลาช่อนพื้นเมืองของไทย มีความยาวเฉลี่ยความยาวประมาณ 35 ซม. ควรเลี้ยงในตู้ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยก้อนหินขอนไม้ และควรแยกเลี้ยงเดี่ยว เพราะอุปนิสัยค่อนข้างดุร้าย กินสัตว์น้ำอื่นๆ รวมถึงปลาที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร ลักษณะมีลำตัวกลมยาวเรียว ท่อนหางแบนข้าง หัวแบนลง เกล็ดมีขนาดใหญ่ ปากกว้าง ครีบทุกครีบไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบหลังและครีบก้นยาวไปจนเกือบติดครีบหาง ครีบหางกลม พื้นลำตัวสีทอง ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ตะเพียนทอง, ตะเพียนทองเผือก ชื่อสามัญ: Red tinfoil barb, Goldfoil barb, Red tailed tinfoil ชื่อวิทยาศาสตร์: Barbonymus altus วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำและอ่างเก็บน้ำทุกภาคของประเทศไทย รายละเอียด: เป้นปลาตะเพียนที่ขนาดใหญ่สุดมีความยาวประมาณ 25 ซม. ความยาวเฉลี่ยประมาณ 15 ซม. นิยมเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาขนาดใหญ่ร่วมกับปลาชนิดอื่นๆ ตกแต่งตู้โดยใช้ก้อนหินหรือขอนไม้ ไม่นำพรรณไม้นำมาตกแต่ง เพราะเป็นปลาที่ชอบกินพืช ปัจจุบันมีการคัดพันธุ์จนได้พันธุ์เผือกสีทองทั้งตัว เรียกชื่อทางการค้าว่า “ตะเพียนทองเผือก” ได้รับความนิยมสูง ลักษณะโดยทั่วไปคล้ายกับปลากระแหมาก ลักษณะลำตัวแบนข้างและกว้าง บริเวณกระพุ้งแก้มและบริเวณลำตัวโดยเฉพาะบริเวณท้องจะมีสีเหลืองเห็นได้ชัดเจน มีหนวด 2 คู่ ครีบหลังบริเวณโคนครีบมีสีเทา ส่วนปลายเป็นสีเทาอมดำไม่ดำเข้มเช่นปลากระแห ครีบท้องและครีบก้นสีแดงสด ครีบอกสีเหลือง ครีบหางสีแดงอ่อน บริเวณขอบบนและขอบล่างของครีบหางมีสีเทา ไม่เห็นเป็นขอบสีดำชัดเจนเช่นปลากระแห ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: กระแห ชื่อสามัญ: Tinfoil barb, Schwanenfeld’s barb ชื่อวิทยาศาสตร์: Barbonymus schwanenfeldii วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำและอ่างเก็บน้ำทั่วไปทุกภาคของประเทศ ประเทศมาเลเซีย ประเทศอินโดนีเซียที่เกาะสุมาตราและบอร์เนียว รายละเอียด: มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 25 ซม. นิยมเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาขนาดใหญ่ ร่วมกับปลาชนิดอื่น ๆ ตกแต่งตู้โดยใช้ก้อนหินหรือขอนไม้ ไม่นำพรรณไม้น้ำมาตกแต่ง เพราะเป็นปลาที่ชอบกินพืช ลักษณะมีลำตัวค่อนข้างกว้าง ความลาดจากส่วนหัวถึงหลังชันมาก โดยเฉพาะในปลาที่มีอายุมาก เกล็ดตามลำตัวมีสีเงิน บริเวณกระพุ้งแก้มมีสีเหลืองจาง ๆ มีหนวด 2 คู่ ที่ขากรรไกรบน 1 คู่ และที่จะงอยปาก 1 คู่ ครีบหลังมีสีแดงอมส้มและมีจุดสีดำเข้มตรงปลาย ครีบท้องและครีบก้นสีแดง ครีบอกสีเหลืองอมส้ม ครีบหางสีแดงอมส้ม เช่นเดียวกับครีบหลัง ขอบบนและขอบล่างของครีบหางมีแถบสีดำข้างละ 1 แถบ ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: กระสูบขีด, กระสูบ, สูด ชื่อสามัญ: Banded shark, Transverse-bar barb, Hampala barb ชื่อวิทยาศาสตร์: Hampala macrolepidota วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำ หนอง บึง ในประเทศแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ รายละเอียด: ปลากระสูบขีดสามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาขนาดกลาง ว่ายน้ำรวดเร็ว มีสีสันสวยงาม อุปนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว เลี้ยงรวมกับพันธุ์ปลาชนิดอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกันได้ ลักษณะมีรูปร่างกลมเพรียวยาว แบนข้างเล็กน้อย ด้านข้างลำตัวมีแถบขวางบริเวณใต้ครีบหลังลงมาถึงท้อง ลำตัวสีขาวเงินส่วนหลังมีสีคล้ำ ครีบมีสีแดงเรื่อ ขอบบนและขอบล่างของครีบหางมีแถบสีคล้ำขนาดความยาว ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 25 ซม. ในปลาขนาดเล็กมีแถบ 2 แถบที่กลางลำตัวและโคนหาง และมีแถบใต้ตาด้วย ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: เทพา ชื่อสามัญ: Chao-phya giant catfish, Giant pangasius ชื่อวิทยาศาสตร์: Pangasius sanitwongsei วงศ์ (Family): Pangasiidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำโขง รายละเอียด: เป็นปลาน้ำจืดมขนาดใหญ่ของประเทศไทย ขนาดใหญ่สุดมีความยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักมากกว่า 100 กก. สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยก้อนหิน หรือบ่อซีเมนต์ นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รูปร่างปราดเปรียวว่ายน้ำไปมาอย่างรวดเร็ว ลักษณะเป็นปลาไม่มีเกล็ดขนาดใหญ่ ลำตัวยาวและค่อนข้างป้อม แบนข้างเล็กน้อย พื้นลำตัวมีสีเทาเงินส่วนหลังสีคล้ำ ส่วนท้องสีขาว บริเวณข้างตัวเหนือฐานของครีบอก มีจุดสีขาวขนาดใหญ่ มีหนวดที่มุมปาก 1 คู่ และที่ใต้คางอีก 1 คู่ ที่ครีบอก ครีบท้องและครีบหลังก้านครีบเดี่ยวจะยื่นยาวออกไปกว่าก้านครีบอื่น ๆ มาก ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: หนวดพราหมณ์ ชื่อสามัญ: Paradise threadfin ชื่อวิทยาศาสตร์: Polynemus paradiseus วงศ์ (Family): Polynemidae ถิ่นกำเนิด: พบมากในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำโขงตอนล่าง รายละเอียด: มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 12 ซม. ขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 20 ซม. ต้องเลี้ยงในตู้ขนาดใหญ่เพราะต้องการพื้นที่ในการว่ายน้ำมาก เป็นปลาสวยงามที่มีความโดดเด่นบริเวณครีบอกที่เป็นเส้นยาวออกมา ตลาดต่างประเทศมีความต้องการแต่ยังมีปัญหาเรื่องการขนส่งที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและความระมัดระวังในการส่งออก ลักษณะมีส่วนหัวขนาดเล็ก ตามีขนาดเล็กอยู่เกือบสุดปลายส่วนหัวและมีเยื่อไขมันคลุม ปากกว้างมีฟันซี่เล็กละเอียดบนขากรรไกร ลำตัวแบนข้าง ครีบอกยาว ส่วนที่เป็นเส้นยาวมีความยาวมากกว่าลำตัวถึง 2 เท่า โดยเฉพาะเส้นบนมีทั้งหมดข้างละ 10 เส้น ครีบหางเว้าลึกปลายแหลม เกล็ดเล็กละเอียดมีลักษณะเป็นปากฉลาม ตัวมีสีเงินวาวอมชมพูหรือสีเนื้อ หัวสีจางอมชมพูหรือสีเนื้อ ครีบสีจาง ด้านท้องสีจาง ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: หมอหอยสิมิลิส ชื่อสามัญ: Breitstreifen-Tanganjikasee-Buntbarsch, Valekotiloahven ชื่อวิทยาศาสตร์: Neolamprologus similis วงศ์ (Family): Cichlidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบแทงแกนยิกา ทวีปแอฟริกา รายละเอียด: ปลาหมอสีชนิดนี้จะอาศัยเปลือกหอยเป็นที่อยู่อาศัย โดยเป็นทั้งที่หลบซ่อนภัยและดูแลตัวอ่อน โดยสามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กหรือปานกลางกับปลาหมอสีในทะเลสาบแทงแกนยิกาชนิดอื่นๆได้ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน โดยปูพื้นด้วยทราย หรือกรวดละเอียด และต้องใส่เปลือกหอยให้เป็นที่หลบซ่อนของปลาด้วย โดยทางร้านมักแถมมากับตัวปลาอยู่แล้ว อาหารที่ใช้เลี้ยงเล่น อาร์ทีเมียร์ หรืออาหารสำเร็จรูป ลักษณะ มีลวดลายตามขวางทั้งตัวขึ้นมาถึงส่วนหัว ลำตัวยาว เกล็ดมีขอบเป็นจักร เกล็ดบริเวณต้นคอและส่วนหน้าของสันหลังมีขนาดเล็กกว่าบริเวณอื่นอย่างเด่นชัด ฟันเป็นแบบเขี้ยวแหลม และแบบเป็นซี่เล็กละเอียดเรียงติดกันเป็นแถว ปลายกระดูกขากรรไกรบนทั้งสองข้างแบนและมีขนาดใหญ่กว่าส่วนอื่น ๆ ครีบหลังมีก้านครีบเดี่ยว 16-21 ก้าน และครีบก้นมีก้านเดี่ยว 4-10 ก้าน ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: หมอหอยคูโดพังเตตัส ชื่อสามัญ: Shell cwelling cichlids, Kapampa ชื่อวิทยาศาสตร์: Neolamprologus caudopunctatus วงศ์ (Family): Cichlidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบแทงแกนยิกา ทวีปแอฟริกา รายละเอียด: มีอุปนิสัยชอบจับคู่และอาศัยอยู่ในเปลือกหอยขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับปลาหมอหอยทั่วไป ลักษณะมีลำตัวยาว เกล็ดมีขอบเป็นจักร เกล็ดบริเวณต้นคอและส่วนหน้าของสันหลังมีขนาดเล็กกว่าบริเวณอื่นอย่างเด่นชัด มีเส้นข้างตัวที่ไม่สมบูรณ์ 2 เส้น ฟันมีหลายรูปแบบ เป็นแบบเขี้ยวแหลม แบบเป็นซี่เล็กละเอียดเรียงติดกันเป็นแถว ปลายกระดูกขากรรไกรบนทั้งสองข้างแบนและมีขนาดใหญ่กว่าส่วนอื่น ๆ ครีบหลังมีก้านครีบเดี่ยว 16-21 ก้าน และครีบก้นมีก้านเดี่ยว 4-10 ก้าน ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: หมอหอยเมลากรีส ชื่อสามัญ: Shell dwelling cichlids ชื่อวิทยาศาสตร์: Lamprologus meleagris วงศ์ (Family): Cichlidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบแทงแกนยิกา ทวีปแอฟริกา รายละเอียด: มีอุปนิสัยชอบจับคู่อยู่และอาศัยในเปลือกหอยขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับปลาหมอหอยทั่วไป ลักษณะมีลำตัวยาว หัวมีขนาดใหญ่ มีริมฝีปากค่อนข้างหนา พื้นลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อนมีจุดดำขนาดใหญ่เรียงบริเวณกึ่งกลางลำตัวจนถึงฐานของครีบหาง ฐานครีบหลังยาง ขอบด้านนอกเป็นสีเหลืองมีจุดสีดำขนาดใหญ่บริเวณกึ่งกลางของครีบหลัง โดยทั่วไปเพสผู้มักมีขนาดใหญ่กว่าเพสเมียในปลาหมอชนิดนี้ ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: คอมเพรสสิเซ็ปส์ ชื่อสามัญ: Shell dwelling cichlids ชื่อวิทยาศาสตร์: Altolamprologus compressiceps วงศ์ (Family): Cichlidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบแทงแกนยิกา ทวีปแอฟริกา รายละเอียด: เป็นปลาหมอสีที่ได้รับความนิยมสูงในบรรดานักสะสมปลาหมอสี เนื่องด้วยเอกลักษณ์ของรูปร่างลำตัวที่เพรียว และแบนข้างมาก ซึ่งสามารถหลบอยู่ในซอกหินแคบๆ เพื่อรอเหยื่อได้ มีริมฝีปากหนาค่อนไปทางด้านบน อีกทั้งยังมีสีสันแตกต่างกันไปตามลักษณะภูมิประเทศ เช่น โกลเด้นเฮด, โกลด์เฟส, ออเรนจ์, แบล็คซาอีร์, เรดฟิน, เรด ซึ่งโดยทั่วไปมีพื้นลำตัวสีเหลืองอมน้ำตาล มีจุดสีขาวกระจายทั่วลำตัว รวมถึงบริเวณครีบทุกครีบ มีแถบสีดำพาดขวาลำตัวจางๆ ลักษณะนิสัยค่อนข้างนิ่งและรักสงบแต่มีความอดทนมากสามารถเลี้ยงรวมกับปลาที่ใหญ่กว่าได้ ชอบหลบตามซอกหินหรือเปลือกหอย สามารถกินได้ทั้งอาหารสดและอาหารสำเร็จรูป ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาหมอคาลวัส ชื่อสามัญ: Shell dwelling cichlids ชื่อวิทยาศาสตร์: Altolamprologus calvus วงศ์ (Family): Cichlidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบแทงแกนยิกา ทวีปแอฟริกา รายละเอียด: มีลักษณะรูปร่างคล้ายกับปลาหมอคอมเพรสสิเซ็ปส์มากจนดูเหมือนชนิดเดียวกัน มีความโดดเด่นมากคือพื้นลำตัวมีสีดำสนิท ในขณะที่ปลาหมอคอมเพรสสิเซ็ปส์มีสีพื้นลำตัวเหลืองอมน้ำตาล มีจุดสีขาวกระจายเต็มตัวรวมถึงบริเวณครีบทุกครีบด้วยดูราวกับดวงดาวบนฟากฟ้ายามราตรี มีความหลากหลายเรื่องสีสันตามลักษณะภูมิประเทศ อุปนิสัยชอบจับคู่อยู่ในเปลือกหอยขนาดใหญ่ เลี้ยงในตู้ที่ปูพื้นด้วยกรวดเล็กละเอียด วางเปลือกหอยขนาดใหญ่ไว้ตามพื้น โดยให้จำนวนเปลือกหอยสัมพันธ์กับจำนวนปลาที่เป็นคู่ ๆ ปลาแต่ละคู่จะว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ หอยหรือบ้านของตนเอง คอยเฝ้าระวังไม่ให้คู่อื่นมาใกล้ ๆ ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: กระเบนกิติพงษ์ ชื่อสามัญ: nan ชื่อวิทยาศาสตร์: Himantura kittipongi วงศ์ (Family): Dasyatidae ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำแม่กลอง จังหวัดกาญจนบุรี รายละเอียด: เป็นปลากระเบนที่มีขนาดใหญ่สุดมีความยาวประมาณ 60 ซม. สามารถเลี้ยงในตู้ปลาขนาดใหญ่โล่ง ๆ ปูพื้นด้วยกรวดขนาดเล็ก หรือบ่อซีเมนต์ อุปนิสัยชอบว่ายไปมาตามพื้นกรวด และฝังตัวอยู่ตามพื้นกรวด สามารถปรับตัวอยู่ในตู้ได้ดีจนสามารถผสมพันธุ์ออกลูกในตู้ปลาได้ โดยกิน ปู ปลา กุ้ง หอยและสัตว์น้ำซึ่งอยู่ตามหน้าดินเป็นอาหาร โดยปลากระเบนกิติพงษ์จะแทรกตัวอยู่ใต้ผิวดินท้องน้ำโผล่ขึ้นมาเพียงช่องหายใจกับลูกตา แล้วใช้จะงอยตรงปากจับเหยื่อและกดทับไว้ก่อนกินเป็นอาหาร มีลักษณะที่แตกต่างจากปลากระเบนชนิดอื่น ๆ ก็คือ ด้านหลังจะมีสีน้ำตาลเข้มอมเหลือง รอบวงของลำตัว หาง ช่องหายใจ ช่องเหงือกและขอบด้านล่างของตัวเป็นสีคล้ำ จำนวนของฟันซึ่งมีลักษณะเป็นซี่เล็ก ๆ บริเวณขากรรไกรล่างมีจำนวนมากถึง 14-15 แถว ประเภท (Catalogy): ปลากระเบน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: กระเบนโมโตโร ชื่อสามัญ: Motoro stingray ชื่อวิทยาศาสตร์: Potamotrygon motoro วงศ์ (Family): Potamotrygonidae ถิ่นกำเนิด: แหล่งน้ำธรรมชาติของทวีปอเมริกาใต้ เช่น เปรู, อุรุกวัย, โคลัมเบีย, โบลิเวีย, อาร์เจนตินา, บราซิล รายละเอียด: ลักษณะตัวกลมคล้ายจานข้าวหรือแผ่นซีดี ผิวลำตัวสีน้ำตาลอ่อนหรือเข้ม มีจุดกลมสีส้มอมเหลืองวงรอบด้วยสีน้ำตาลเข้มกระจายไปจนถึงโคนหาง มีเงี่ยงแหลมคม 2 ชิ้นที่โคนหาง ที่ปลายหางมีริ้วหนังบาง ๆ โดยที่จุดกลมเหล่านี้จะแตกต่างและมีปริมาณมากน้อยไม่เท่ากันในแต่ละตัวขนาดเมื่อโตเต็มที่ในธรรมชาติจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางลำตัวราว 1 เมตร น้ำหนัก 15 กิโลกรัม เป็นกระเบนสายพันธุ์ที่มีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับสายพันธ์อื่นเป็นที่นิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเลี้ยง โดยมีสีสันและลวดลายค่อนข้างหลากหลายตามสภาพแวดล้อมที่จับจากลุ่มน้ำอเมซอนในแต่ละประเทศ สามารถเพาะพันธุ์ในที่เลี้ยงได้ง่าย และในเมืองไทยมีผู้เพาะพันธุ์ปลากระเบนชนิดป้อนตลาดได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งออกลูกมากคราวละประมาณ 2-5 ตัวแล้วแต่ความสมบูรณ์ของพ่อแม่พันธุ์ ลักษณะเด่น มีรูปล่างกลมเหมือนจาน ส่วนของหางมีความความยาวสั้นเมื่อเทียบกับปลากระบนในวงศ์อื่น บริเวณโคนหางมีเงียงแข็งอยู่ 2 ชิ้นสำหรับป้องกันตัว ซึ่งมีพิษในการทำลายเนื้อเยื่อ ซึ่งต้องระวังให้มาก เพราะเมื่อถูกแทงจะเจ็บปวด และบางครั้งเสียเลือดมาก ในการเลี้ยงนิยมนำสายยางมาหุ้มเงี่ยงพิษไว้ มีสีพื้นลำตัวเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีจุดสีน้ำตาลเข้มขอบสีดำกระจายอยู่ทั่วบริเวณลำตัว ในการเลี้ยงควรปูทรายในตู้หรือบ่อซีเมนต์ เพราะอุปนิสัยชอบหมกฝังตัวในทราย กินได้ทั้งอาหารที่มีชีวิตและอาหารสด เช่น ไส้เดือนน้ำ หนอนแดง กุ้งฝอยขนาดเล็ก กุ้งฝอยตาย ปลาหั่นชิ้น กุ้งแกะเปลือก ประเภท (Catalogy): ปลากระเบน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: กระเบนโพลคาดอทจุดเล็ก ชื่อสามัญ: Small polkadot stingray ชื่อวิทยาศาสตร์: Potamotrygon itaituba วงศ์ (Family): Potamotrygonidae ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ รายละเอียด: เป็นสายพันธุ์ที่มีราคาสูงและหายาก ดูผิวเผินคล้ายกับกระเบนโพลคาดอท แต่จุดสีขาวที่กระจายทั่วลำตัวมีขนาดเล็กกว่า เพาะพันธุ์ได้ยากเพราะออกลูกค่อนข้างน้อยประมาณครั้งละ 1-2 ตัว ลักษณะเด่น มีรูปล่างกลมเหมือนจาน ส่วนของหางมีความความยาวสั้นเมื่อเทียบกับปลากระบนในวงศ์อื่น บริเวณโคนหางมีเงียงแข็งอยู่ 2 ชิ้นสำหรับป้องกันตัว ซึ่งมีพิษในการทำลายเนื้อเยื่อ ซึ่งต้องระวังให้มาก เพราะเมื่อถูกแทงจะเจ็บปวด และบางครั้งเสียเลือดมาก ในการเลี้ยงนิยมนำสายยางมาหุ้มเงี่ยงพิษไว้ มีพื้นลำตัวเป็นสีดำสนิท มีจุดกลมสีขาวขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วบริเวณลำตัว ในการเลี้ยงควรปูทรายในตู้หรือบ่อซีเมนต์ เพราะอุปนิสัยชอบหมกฝังตัวในทราย กินได้ทั้งอาหารสด และอาหารมีชีวิต ประเภท (Catalogy): ปลากระเบน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: กระเบนโพลคาดอท ชื่อสามัญ: Polkadot stingray ชื่อวิทยาศาสตร์: Potamotrygon leopoldi วงศ์ (Family): Potamotrygonidae ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ รายละเอียด: เป็นสายพันธุ์ที่มีราคาสูงและเป็นที่นิยมอย่างมาก มีความโดดเด่นมากคือมีพื้นลำตัวเป็นสีดำสนิท มีจุดกลมสีขาวขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วบริเวณลำตัว เจริญพันธ์ได้ช้าทำให้เพาะพันธุ์ได้ยาก ออกลูกค่อนข้างน้อยประมาณครั้งละ 1-2 ตัว ต้องเลี้ยงน้ำสะอาดเป็นพิเศษและการดูแลเป้นอย่างดี ลักษณะเด่น มีรูปล่างกลมเหมือนจาน ส่วนของหางมีความความยาวสั้นเมื่อเทียบกับปลากระบนในวงศ์อื่น บริเวณโคนหางมีเงียงแข็งอยู่ 2 ชิ้นสำหรับป้องกันตัว ซึ่งมีพิษในการทำลายเนื้อเยื่อ ซึ่งต้องระวังให้มาก เพราะเมื่อถูกแทงจะเจ็บปวด และบางครั้งเสียเลือดมาก ในการเลี้ยงนิยมนำสายยางมาหุ้มเงี่ยงพิษไว้ ในการเลี้ยงควรปูทรายในตู้หรือบ่อซีเมนต์ เพราะอุปนิสัยชอบหมกฝังตัวในทราย กินได้ทั้งอาหารสด และอาหารมีชีวิต ประเภท (Catalogy): ปลากระเบน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: กระเบนจากัวร์ ชื่อสามัญ: Jaguar Stingray ชื่อวิทยาศาสตร์: Potamotrygon castexi วงศ์ (Family): Potamotrygonidae ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ รายละเอียด: เป็นสายพันธุ์ที่มีราคาปานกลางเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ เป็นปลากระเบนขนาดใหญ่เมื่อโตเต็มที่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ในที่เลี้ยงจึงต้องเป็นตู้ หรือบ่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ไว้รองรับอนาคตที่ปลาจะโตด้วย เป็นปลาเลี้ยงง่ายและกินเก่งโตเร็ว มีพื้นลำตัวเป็นสีเหลืองคล้ำถึงน้ำตาลอ่อน มีจุดสีเหลืองขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วบริเวณลำตัว มีความหลากหลายของสีสันและลวดลายมากตามสภาพแวดล้อมที่จับปลามาหรือได้จากการเพาะเลี้ยง มีรูปล่างกลมเหมือนจาน ส่วนของหางมีความความยาวสั้นเมื่อเทียบกับปลากระบนในวงศ์อื่น บริเวณโคนหางมีเงียงแข็งอยู่ 2 ชิ้นสำหรับป้องกันตัว ซึ่งมีพิษในการทำลายเนื้อเยื่อ ซึ่งต้องระวังให้มาก เพราะเมื่อถูกแทงจะเจ็บปวด และบางครั้งเสียเลือดมาก ในการเลี้ยงนิยมนำสายยางมาหุ้มเงี่ยงพิษไว้ ในการเลี้ยงควรปูทรายในตู้หรือบ่อซีเมนต์ เพราะอุปนิสัยชอบหมกฝังตัวในทราย กินได้ทั้งอาหารสด และอาหารมีชีวิต ประเภท (Catalogy): ปลากระเบน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: กระเบนเพิร์ลเรย์ ชื่อสามัญ: Pearl ray ชื่อวิทยาศาสตร์: Potamotrygon jabuti วงศ์ (Family): Potamotrygonidae ถิ่นกำเนิด: ประเทศเวเนซุเอลา, กายอานา, ซูรินาม, เฟรนช์เกียนา และตอนเหนือของบราซิล รายละเอียด: จัดเป็นปลากระเบนที่มีราคาสูงมาก พึ่งนำเข้ามาในประเทศไทยไม่นาน แต่สามารถเพาะพันธุ์ได้แล้วในประเทศเรา เป็นที่นิยมและใฝ่ฝันสำหรับนักเลี้ยงปลากระเบนด้วยลวดลายที่แปลกสะดุดตา และมีความหลากหลายสูง คือมีลายเป็นดวงกลม ด้านในเป็นสีดำ มีจุดตรงกลางสีเดียวกับพื้นลำตัว กระจายติดกันทั่วทั้งลำตัว ซึ่งดวงกลมอาจเชื่อมกันจนดูมีลักษณะคล้ายเป็นตัวเลข ประเภท (Catalogy): ปลากระเบน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: โคฮากุ ชื่อสามัญ: Kohaku Carp ชื่อวิทยาศาสตร์: cyprinus carpio วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียด: โคฮากุ (Kohaku) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีขาวและสีแดง มีชื่อเรียกดังนี้ คือ อิปปง-ฮิ (Ippon Hi) คือปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงตั้งแต่หัวถึงหาง โดยไม่มีความเว้ามากนัก หรือเรียกว่าโคฮากุหนึ่งตอน อินะซึมะ (Inazuma) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดง ที่มีรูปร่าง เหมือนสายฟ้า หรือเรียกว่าลายสายฟ้าซึ่งหาได้ยากมาก นิดัง-ฮิ (Nidan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีอแดงเป็นสองตอน หรือเรียกว่าโคฮากุสองตอน ซันดัง-ฮิ (Sandan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงเป็นสามตอน หรือเรียกว่าโคฮากุสามตอน ยนดัง-ฮิ (Yondan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงเป็นสี่ตอน หรือเรียกว่าโคฮากุสี่ตอน คุจิเบนิ (Kuchibeni) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีสีแดงติดที่ริมปาก คล้ายทาลิปสติก หรือเรียกว่า โดฮากุลิปสติก มารุเท็น (Maruten) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีสีแดง เป็นวงกลมอยู่ที่หัว และมีลายสีแดงตามลำตัว หรือเรียกว่าโคฮากุมารุเท็น ดอยท์ซุ-โคฮากุ (Doitsu-Kohaku) คือ โคฮากุที่มีเกล็ดใหญ่ข้างตัว เรียงเป็นแนวทั้งสองข้างหรือไม่มีเกล็ดที่ตัว ประเภท (Catalogy): ปลาคาร์ฟ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ซูซุย ชื่อสามัญ: Shusui Carp ชื่อวิทยาศาสตร์: cyprinus carpio วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียด: ชูซุย (Shusui) คือ ปลาแฟนซีคาร์ที่เป็นดอยท์ซุ (Doitsu) สีฟ้ามีเกล็ด ที่แนวสันหลังใหญ่เรียงยาวตลอดแนว ส่วนครีบอกหาง และข้างลำตัวมีสีแดง ประเภท (Catalogy): ปลาคาร์ฟ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ไทโช ซันโชกุ ชื่อสามัญ: Taisho Sanshoku Carp ชื่อวิทยาศาสตร์: cyprinus carpio วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียด: ไทโช-ซันโชกุ หรือซันเก้ (Taisho Sanshoku or Sanke) คือ ปลาแฟนซีคาร์พ ที่มีสีขาว สีแดง และดำ มีชื่อเรียกดังนี้คือ นิดัง-ฮิ (Nidan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงและดำเป็นสองตอน หรือเรียกว่า ไทโช-ซันโชกุสองตอน ซันดัง-ฮิ (Sandan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงเป็นสามตอน หรือเรียกว่า ไทโช-ซันโชกุสามตอน ยนดัง-ฮิ (Yondan Hi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีลายสีแดงเป็นสี่ตอน หรือเรียกว่า ไทโช-ซันโชกุสี่ตอน คุจิเบนิ (Kuchibeni) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาว ที่มีสีแดงติดที่ริมปาก คล้ายทาลิปสติก หรือเรียกว่า ไทโชซันโชกุ ลิปติก มารุเท็น (Maruten) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาวที่มีสีแดงเป็นวงกลมอยู่ที่หัวและมีลายสีแดงตามลำตัว หรือเรียกว่า ไทโช-ซันโชกุ-มารุเท็น ดอยท์ซุ-ซันโชกุ (Doitsu-Sanshoku) คือ ไทโช-ซันโชกุที่มีเกล็ดใหญ่ ข้างตัว เรียงเป็นแนว ทั้งสองข้าง หรือไม่มีเกล็ดที่ตัว ประเภท (Catalogy): ปลาคาร์ฟ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: คาวาริโมโน ชื่อสามัญ: Kawarimono Carp ชื่อวิทยาศาสตร์: cyprinus carpio วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียด: คาวาริโมโน (Kawarimono) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่แยกออกมาจาก สายพันธ์หลักที่มีลักษณะแปลกออกไป กว่าสายพันธ์เดิม มีชื่อเรียกดังนี้ คือ คาราซึ-กอย (Karasu-goi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีดำทั้งตัว ฮายิโระ (Hajiro) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีดำแต่ที่ขอบของครีบอก และขอบของ หางเป็นสีขาว ฮาเงะชิโร่ (Hageshiro) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีดำแต่ที่หัว และขอบของครีบอก เป็นสีขาว ยดจึชิโร่ (Yotsujiro) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีดำแต่ที่หัวขอบของครีบอก และขอบของหาง เป็นสีขาว คุมงริว (Kumonryu) คือ ปลาแฟนซีคาร์พทีมีเกล็ดใหญ่ข้างตัวเรียงเป็นแนวทั้งสองข้าง หรือไม่มีเกล็ดที่ตัว ส่วนที่ตัวเป็นสีขาว และมีสีดำเป็นลายที่ตัว มัตจึบะ-กอย (Matsuba-goi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีดำ แทรกอยู่ในเกล็ด แต่ละเกล็ดตลอดตัว คาเงะ-อุจึริ (Kage Utsuri) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ อุจึริโมโน แต่สีดำที่เป็นลายจะมีส่วนที่จางๆ ไม่ชัดเจนหมดเหมือนเป็นเงา คาเงะ-โชวา (Kage Showa) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ โชวา-ซันโชกุ แต่สีดำที่เป็นลายจะมีส่วนที่จางๆ ไม่ชัดเจนหมดเหมือนเป็นเงา โงชิกิ (Goshiki) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่ผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง อาซากิ กับ อะกะ-เบคโกะ หรือ อาซากิ ผสมพันธุ์กับ ไทโช-ซันโชกุ จึงเป็นปลาที่มีสี 5 สี คือ เทา แดง ดำ ขาว ฟ้า เกล็ดจะเรียงเป็นตาข่ายแบบ อาซากิ มีลายสีแดงแบบ ไทโช-ซันโชกุ คาโนะโกะ-โคฮากุ (Kanoko Kahaku) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ โคฮากุ แต่สายสีแดงที่เกล็ด จะเป็นจุดๆไม่เป็นแถบ เรียงกันแบบลายของโคฮากุ คิ-กอย (Ki-goi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีเหลืองอ่อนที่ไม่เป็นเงา ในบางตัว จะมีตาสีแดงเรียกว่า Akame ซึ่งหาได้ยาก จา-กอย (Cha-goi) คือปลาแฟนซีคาร์พสีส้มแกมน้ำตาลเกร็ดเรียงเป็นตาข่าย โอชิบะ-ชิกุเระ (Ochiba-shigure) คือปลาแฟนซีคาร์พที่มีรูปแบบของ สีเขียว และเทาแต่จะมีลายที่ดัว และมาจากสายของ จา-กอย ซึ่งมาจาก โอกอน อีกที มิโดริ-กอย ( Midori-goi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่ผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง ชูซุย เพศเมียกับ ยามาบูกิ-โอกอน เพศผู้ จะได้ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีเขียวสด ประเภท (Catalogy): ปลาคาร์ฟ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: อุสซุริโมโน และเบคโกะ ชื่อสามัญ: Utsurimono & Bekko Carp ชื่อวิทยาศาสตร์: cyprinus carpio วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียด: อุจึริโมโน (Utsurimono) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีลายสีดำมากกว่า เบตโกะ (Bekko) และลายคำเข้มชัดเจน มีชื่อเรียกดังนี้คือ ชิโร่-อุจึริ (Shiro-Utsuri) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีขาว ที่มีสีดำเป็นลายอยู่ที่ตัว ที่หางและครีบอกต้องมีแถบสีดำ ที่เรียกว่า โมโตกุโร (Motoguro) ส่วนหัว จะต้องมีลายสีดำพาดผ่านจนถึงปากเหมือน โชวา-ซันโชกุ (Showa Sanshoku) ฮิ-อุจึริ (Hi-Utsuri) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีแคง ที่มีสีดำเป็นลายอยู่ที่ตัว ที่หางและครีบอกต้องมีแถบสีดำ ที่เรียกว่า โมโตกุโร (Motoguro) ส่วนหัว จะต้องมีลายสีดำพาดผ่านจนถึงปากเหมือน โชวา-ซันโชกุ (Showa Sanshoku) คิ-อุจึริ (Ki-Utsuri) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีเหลือง ที่มีสีดำเป็นลายอยู่ที่ตัว ที่หางและครีบอกต้องมีแถบสีดำ ที่เรียกว่า โมโตกุโร (Motoguro) ส่วนหัว จะต้องมีลายสีดำพาดผ่านจนถึงปากเหมือน โชวา-ซันโชกุ (Showa Sanshoku) ประเภท (Catalogy): ปลาคาร์ฟ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: อาซากิ ชื่อสามัญ: Asaki Carp ชื่อวิทยาศาสตร์: cyprinus carpio วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียด: อาซากิ (Asagi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีเทา มีเกล็ดเรียง เหมือนตาข่าย ทั่วตัว ส่วนครีบอก ท้อง และหางมีสีแดง ฮิ-อาซากิ (Hi-Asagi) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีตาข่ายสีเทา และพื้นเป็นสีแดงตลอดตัว ประเภท (Catalogy): ปลาคาร์ฟ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: โอกอน ชื่อสามัญ: Ogon Carp ชื่อวิทยาศาสตร์: cyprinus carpio วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียด: โอกอน (Ogon) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีเหมือนทองและผิวมันทั้งตัว มีชื่อเรียกดังนี้ ยามาบูกิ-โอกอน (Yamabuki Ogon) คือ ปลาแฟนซีคาร์พทีมีสีเหลือง ผิวมันทั้งตัว ออเร้นจ์-โอกอน (Orange Ogon) คือ ปลาแฟนซีคาร์พทีมีสีส้มผิวมันทั้งตัว ฮิ-โอกอน (Hi Ogon) คือ ปลาแฟนซีคาร์พทีมีสีแดงผิวมันทั้งตัว แพลตทินัม-โอกอน (Platinum Ogonw) คือ ปลาแฟนซีคาร์พทีมีสีขาว ผิวมันทั้งตัว มัตจึบะ-โอกอน (Matsuba Ogon) คือ ปลาแฟนซีคาร์พผิวมันที่มีสีดำ แทรกอยู่ในเกล็ด แต่ละเกล็ดตลอดตัว ดอยท์ซุ-มัตจึบะ-โอกอน (Doitsu Matsuba Ogon) คือ โอกอนที่มี เกล็ดใหญ ่ที่สันหลังยาวตลอดและข้างตัวเรียงเป็นแนวทั้งสองข้าง และสีดำ แทรกอยู่ในเกล็ดแต่ละเกล็ด ดอยท์ซุ-โอกอน (Doitsu Ogon) คือ โอกอนทีมีเกล็ดใหญ่ที่สันหลัง ยาวตลอด และข้างตัว เรียงเป็นแนวทั้งสองข้างหรือไม่มีเกล็ดที่ตัว ประเภท (Catalogy): ปลาคาร์ฟ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: โชวา ซันโชกุ ชื่อสามัญ: Showa sanshoku ชื่อวิทยาศาสตร์: cyprinus carpio วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียด: โชวา-ซันโชกุ (Showa Sanshoku) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีขาว สีแดง และมีสีดำ เป็นลายอยู่ที่ตัวแต่สีดำจะมากกว่า ไทโช-ซันโชกุ ที่หางและครีบอก ต้องมีแถบสีดำ ที่เรียกว่า โมโตกุโร (Motoguro) ส่วนหัว จะต้องมีลายสีดำพาดผ่าน จนถึงปากและลายคำเข้มชัดเจน ดอยท์ซุ-โชวา (Doitsu-Showa) คือ โชวา-ซันโชกุ ที่มีเกล็ดใหญ่ข้างตัวเรียงเป็นแนวทั้งสองข้างหรือไม่มีเกล็ดที่ตัว ประเภท (Catalogy): ปลาคาร์ฟ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ตันโจ ชื่อสามัญ: Tancho Carp ชื่อวิทยาศาสตร์: cyprinus carpio วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียด: tancho ตันโจ (Tancho) คือคาร์พมีทีสีแดงเป็นวงกลมอยู่ที่หัว มีชื่อเรียกดังนี้ ตันโจ-โคฮากุ (Tancho Kohaku) คือปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ โคฮากุ ที่มีสีแดงเป็นวงกลมอยู่ที่หัว แต่ที่ตัวไม่มีลาย ตันโจ-ซันโชกุ (Tancho Sanshoku) คือปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ ชิโร่-เบคโกะ ที่มีสีแดงเป็นวงกลมอยู่ที่หัว ตันโจ-โชวา ( Tancho Showa) คือปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ โชวา-ซันโชกุ หรือ ชิโร่-อุจึริ ที่มีสีแดงเป็นวงกลมอยู่ที่หัว ตันโจ-กินริน (Tancho Ginrin) คือปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ คินกินริน ที่มีสีแดงเป็นวงกลมอยู่ที่หัว ตันโจ-โงชิกิ (Tancho Goshiki) คือปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ โงชิกิ ที่มีสีแดงเป็นวงกลมอยู่ที่หัว คุโร-ตันโจ (Kuro Tancho) คือปลาแฟนซีคาร์พมีทีสีดำเป็นวงกลมอยู่ที่หัว ประเภท (Catalogy): ปลาคาร์ฟ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ฮิการิ โมโยโมโน ชื่อสามัญ: Hikari Moyomono Carp ชื่อวิทยาศาสตร์: cyprinus carpio วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียด: ฮิการิ โมโยโมโน (Hikari moyomono) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสีพื้นเป็นสีมันเงา ที่มีรูปแบบของสี 2 สีหรือมากกว่า มีชื่อเรียกดังนี้คือ ยามาโตะ-นิชิกิ (Yamato-nishiki) คือ ปลาแฟนซีคาร์พสายพันธุ์ ไทโช-ซันโชกุ มีสีพื้นเป็นสีมันเงา คุจากุ- โอกอน (Kujaku Ogon) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นตาข่ายสีเงิน ทีมีลายสี ส้ม หรือ น้ำตาล ซากุระ-โอกอน (Sakura Ogon) <คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นสีขาว มันเงา มีสายสีแดงเรียงแบบผลองุ่น กิน-เบคโกะ (Gin Bekko) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้นเป็นสีขาวมันเงา มีลายจุดดำแบบ เบคโกะ โตรา-โอกอน (Tora Ogon) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นสีเหลืองมันเงา มีลายจุดดำแบบ เบคโกะ ยามาบุกิ-ฮาริวาเก้ (Yamabuki Hariwake) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นสีเหลืองมันเงา แต่ครีบอกจะออกสีขาวมัน ออเร้นจ์-ฮาริวาเก้ (Orange Hariwake) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นสีส้มมันเงา แต่ครีบอกจะออกสีขาวมัน ฮาริวาเก้- มัตจึบะ (Hariwake Matsuba) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นสีเหลืองมันเงา แต่ครีบอกจะออกสีขาวมันและเกล็ดเป็นแบบมัตจึบะทั้งตัว ฮาริวาเก้-ดอยท์ซุ (Hariwake Doitsu) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นสีขาวมันเงา มีลายสีเหลืองมีเกล็ดใหญ่ที่สันหลังยาวตลอด และข้างตัว เรียงเป็นแนวทั้งสองข้างหรือไม่มีเกล็ดที่ตัว ยามาบุกิ-ฮาริวาเก้-ดอยท์ซุ (Yamabuki Hariwake Doitsu) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นสีเหลืองมันเงา แต่ครีบอกจะออกสีขาวมัน มีเกล็ดใหญ่ที่สันหลังยาวตลอด และข้างตัวเรียงเป็นแนวทั้งสองข้าง หรือ ไม่มีเกล็ดที่ตัว ออเร้นจ์-ฮาริวาเก้-ดอยท์ซุ (Orange Hariwake Doitsu) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นสีส้มมันเงา แต่ครีบอกจะออกสีขาวมัน มีเกล็ดใหญ่ ที่สันหลังยาวตลอด และข้างตัวเรียงเป็นแนวทั้งสองข้างหรือไม่มีเกล็ดที่ตัว ฮาริวาเก้-มัตจึบะ-ดอยท์ซุ (Hariwake Matsuba Doitsu) คือ ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นสีเหลืองมันเงา แต่ครีบอกจะออกสีขาวมัน และ มีเกล็ดใหญ่ ที่สันหลังยาวตลอด แบบมัตจึบะ คุจากุ-ดอยท์ซุ (Kujaku Doitsu) ปลาแฟนซีคาร์พที่มีสีพื้น เป็นสีเงินมันเงา มีลายที่ตัว สีส้ม หรือ น้ำตาล และมีเกล็ดใหญ่ที่สันหลังยาวตลอด และข้างตัว เรียง เป็นแนวทั้งสองข้างหรือไม่มีเกล็ดที่ตัว ประเภท (Catalogy): ปลาคาร์ฟ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาช่อนอเมซอน, อะราไพม่า, พิรารูคู ชื่อสามัญ: Giant pirarucu ชื่อวิทยาศาสตร์: Arapaima gigas วงศ์ (Family): Osteoglossidae ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ รายละเอียด: ปลาอะราไพม่า (Giant Arapaima or pirarucu) หรือ พิรารูคู Pirarucu (ชื่อพื้นเมืองของชาวบราซิล) และ Paiche (ชื่อพื้นเมืองของชาวเปรู) ส่วนคนไทยรู้จักกันในนาม “ปลาช่อนอเมซอน” จัดเป็นปลาที่อยู่ในครอบครัวเดียวกับปลาตะพัดหรืออะโรวาน่า ปลาอะราไพม่า จัดเป็นยักษ์ใหญ่ของสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำของโลก และสำหรับนักเลี้ยงปลาทุกคน มันถูกจัดให้เป็นปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถโตได้เร็วมาก เป็นปลาเนื้อดี กินอร่อย ของชาวบ้านในประเทศบราซิล เปรู และโคลัมเบีย ปลาอะราไพม่า เจริญเติบโตได้รวดเร็วที่สุดในบรรดาปลาอะโรวาน่าทั้งหมด ปลาอะราไพม่า เป็นปลาอะโรวาน่าอีกชนิดหนึ่งที่พบอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ แถบลุ่มน้ำอะเมซอน แม่น้ำโอริโนโค ประเทศบราซิล เปรูและโคลัมเบีย ปลาชนิดนี้จัดว่าเป็นปลาในตระมึงลอะโรวาน่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ขนาดโตเต็มที่มีความยาวถึง 4.5 เมตร น้ำหนักราว 400 กิโลกรัม ซึ่งปลาชนิดนี้รู้จักกันดีในหมู่ชาวพื้นเมืองแถบลุ่มน้ำอะเมซอน ซึ่งคนพื้นเมืองนิยมบริโภคปลาชนิดนี้ เช่นเดียวกับการนิยมบริโภคปลาช่อนในบ้านเรา ปลาอะราไพม่า เป็นปลาที่มีรูปร่างผิดแผกแตกต่างไปจากปลาอะโรวาน่าชนิดอื่นๆ โดยสิ้นเชิงจนแทบไม่น่าเชื่อว่าปลาชนิดนี้จะถูกจัดรวมไว้ในตระมึงลเดียวกันในปลาอะโรวาน่าด้วยซ้ำ เพราะปลาชนิดนี้ มีลำตัวค่อนข้างกลมและเรียวยาว ไม่แบนข้างมากเหมือนปลาอะโรวาน่า โดยทั่วไปลักษณะ รูปร่างของปลาชนิดนี้ จะมีลักษณะคล้ายปลาช่อนของบ้านเรามาก เพียงแต่มีขนาดลำตัวที่ใหญ่กว่าและ เกล็ดขนาดใหญ่กว่ามากๆ รอบตัวของมันปกคลุมด้วยเกล็ดสีเขียวเหลือบขนาดใหญ่ ท้องเป็นสีขาว โคนหางมีเกล็ด ส่วนหัวมีลักษณะแข็ง ส่วนลำตัวด้านท้ายมีลักษณะแบนกว้าง ในขณะที่ปลายังเล็ก พื้นลำตัวจะมีสีเขียวเข้มลำตัว ส่วนที่ค่อนไปทางหางจะเป็นสีดำ เมื่อปลาตัวโตขึ้น บริเวณลำตัว และส่วนที่ค่อนไปทางหาง ครีบและหางจะปรากฏสีชมพูปนแดง หรือสีบานเย็นประแต้ม กระจายอยู่ทั่วไปแลดูสวยงามมาก คนไทยส่วนใหญ่ นิยมเรียกว่า กุหลาบไฟ ประเภท (Catalogy): ปลาอโรวาน่า
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: เรดเทล, กดหางแดง ชื่อสามัญ: Redtail catfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Phractocephalus hemioliopterus วงศ์ (Family): Pimelodidae ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ รายละเอียด: เป็นปลาแคทฟิชขนาดใหญ่พบแพร่กระจายในลุ่มน้ำอเมซอน โอริโนโค และเอสเซคิวโบ มีชื่อเรียกในภาษาถิ่นว่า Cajaro และ Pirarara เป็นปลาสวยงามขนาดใหญ่ที่เป็นที่นิยมในบ้านเรามาเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งเป็นปลามีอุปนิสัยเชื่องกับคนได้ง่าย สามารถฝึกให้กินอาหารกับมือคนได้ ซึ่งในการเลี้ยงควรมีพื้นที่บ่อหรือตู้ขนาดใหญ่ เพราะเป็นปลาที่เจริญเติบโตได้รวดเร็ว และหนักพอสมควร ในปัจจุบันยังมีการผสมข้ามพันธุ์กับปลาในวงศ์เดียวกัน เช่น ปลาไทเกอร์โชวเวลโนส (Pseudoplatystoma fasciatum) เกิดเป็นลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ หรือมีสีสันที่แตกต่างไปจากปลาดั้งเดิมอีกด้วย เช่น สีขาวล้วน หรือสีดำทั้งลำตัว หรือปลาเผือก ซึ่งปลาที่มีสีสันแปลกเช่นนี้จะมีราคาซื้อขายที่แพงกว่าปลาปกติมาก เรดเทลนั้นเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่สุดประมาณ 1 - 1.5 เมตร และมีน้ำหนักกว่า 51.5 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักส่วนใหญ่มาจากบริเวณส่วนหัว ลักษณะมีส่วนหัวแบนกว้างขนาดใหญ่ มีรูปร่างส่วนหัวแบนกว้างและใหญ่ ปากมีขนาดใหญ่ และเปิดปากได้กว้าง ภายในช่องปากจะมีฟันละเอียด ช่วยในการดูดกลืนอาหารเข้าไปได้ทั้งตัว บริเวณส่วนหัวมีจุดกระสีน้ำตาลหรือดำกระจายอยู่ทั่ว ลำตัวด้านบนสีน้ำตาลแดง ส่วนท้องและด้านข้างลำตัวสีขาวหรือสีเหลือง ปลายหางและครีบหลังมีสีแดงสด อันเป็นที่มาของชื่อเรดเทล มีหนวดทั้งหมดสี่คู่ คู่แรกยาวที่สุดอยู่บริเวณมุมปาก หนวดอื่น อยู่บริเวณใต้คาง ครีบอกมีก้านครีบเดี่ยวก้านแรกเป็นหนามแข็งต้องระมัดระวังในการจับเพราะถ้าถูกทิ่ม จะถูกพิษทำให้เจ็บปวดมาก ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: อัลลิเกเตอร์ ชื่อสามัญ: Alligator gar ชื่อวิทยาศาสตร์: Atractosteus spatula วงศ์ (Family): Lepisosteidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำ หรือทะเลสาบ ของสหรัฐอเมริกาทางตอนใต้ เช่น รัฐฟลอริดา และหลุยส์เซียนา รายละเอียด: เป็นกลุ่มปลาน้ำจืดโบราณ ซึ่งปลาอัลลิเกเตอร์ชนิดนี้เป็นชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดขนาดโตเต็มที่ในที่เลี้ยงมีขนาดใหญ่ถึง 1-2 เมตร เคยมีรายงานการจับปลาชนิดนี้ได้มีขนาดถึง 4 เมตรที่รัฐมิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีการบันทึกไว้ว่าเป็นหนึ่งในปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกชนิดหนึ่งด้วย ปลาอัลลิเกเตอร์เป็นที่นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามในบ้านเรามาอย่างยาวนาน บ่อยครั้งที่มีการออกข่าวว่าพบเจอ"ปลาแปลกที่ปากเป็นจระเข้ลำตัวเป็นปลา" ซึ่งก็มาจากนักเลี้ยงปลาในประเทศเราซึ่งเมื่อเลี้ยงโตขนาดใหญ่แล้ว อาจจะเบื่อหรือเลี้ยงไม่ไหวทำให้ขนาดจิตสำนึกนำไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติทำให้เป็นปัญหาในระบบนิเวศน้ำจืดของประเทศไทยเรานั่นเอง ปลาอัลลิเกเตอร์เป็นปลาที่ไม่ดุร้าย ไม่ทำร้ายหรือกินมนุษย์เป็นอาหาร แต่จะกินปลาต่าง ๆ เป็นอาหาร รวมถึงสัตว์ปีกเช่น นกเป็ดน้ำ ได้ด้วย แต่จะกินอาหารชิ้นที่พอที่จะกลืนลงไปได้เท่านั้น เมื่อจับเหยื่อได้แล้วกรามจะล็อกแน่นเพื่อไม่ให้เหยื่อดิ้นหลุด เนื่องจากส่วนหัวมีเนื้อที่ยึดติดกับแผ่นเกล็ดที่แข็งเหมือนเกราะติดกับข้อต่อส่วนคอทำให้แลดูส่วนลำคอลาดโค้ง ทำให้มีแรงงับจำนวนมาก ก่อนที่จะกลืนเหยื่อลงไปในคอ หากจับได้แล้วเหยื่อยังไม่ตาย ก็จะรอให้ตายเสียก่อน ลักษณะของปลาชนิดนื้อคือ มีลักษณะเด่น คือ มีส่วนปากยาวคล้ายกับจระเข้ มีฟันเรียงตัวกันเป็นจำนวนมาก ลำตัวรูปร่างทรงกระบอกยาว มีตั้งแต่สีเหลืองทองถึงน้ำตาลคล้ำมีจุดประสีดำกระจายทั่วบริเวณลำตัวซึ่งปกคลุมด้วยเกล็ดที่มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน(Ganoid scales)หุ้มลำตัวเหมือนกับเกราะ ตากลมสีดำ ใต้ท้องสีขาว บริเวณปลายหาง ใกล้หางมีครีบใหญ่อีก 2 ครีบ ซึ่งโคนหางด้านบนมีขนาดใหญ่กว่าโคนหางด้านล่างอย่างเห็นได้ชัดเจน ครีบหางป็นรูปพัด ครีบทุกครีบมีสีเหลืองและมีจุดประดำขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไป ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: หมอแคระแม่น้ำแคว ชื่อสามัญ: Khwae badis ชื่อวิทยาศาสตร์: Badis khwae วงศ์ (Family): Badidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี รายละเอียด: ลักษณะลำตัวเพรียวยาว แบนข้าง หัวเล็ก นัยน์ตาเล็ก พื้นลำตัวสีน้ำตาลอมขาว มีแถบสีน้ำตาลเข้มพาดขวางลำตัว ครีบหลังและครีบก้นยาวเลยโคนหาง ครีบทุกครีบมีสีเหลืองอมส้ม ครีบหลังมีแถบสีดำตามความยาวครีบ และมีแต้มสีดำบริเวณโคนครีบ ขอบครีบขาว ครีบก้นมีลักษณะคล้ายครีบหลังแต่ไม่มีแต้มสีดำ ครีบหางกลมปลายตัด มีแถบสีดำพาดขวาง โคนครีบหางมีจุดสีดำขนาดใหญ่ 1 จุด ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 3 ซม. ในธรรมชาติกินสัตว์น้ำขนาดเล็กและแมลงน้ำเป็นอาหาร ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ซิวสมพงษ์ ชื่อสามัญ: nan ชื่อวิทยาศาสตร์: Trigonostigma somphongsi วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำแม่กลอง จังหวัดกาญจนบุรี รายละเอียด: เป็นปลาขนาดเล็กสามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาขนาดเล็กที่มีพรรณไม้น้ำ เป็นปลาสวยงามที่หายาก พบน้อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ ในธรรมชาติกิน แพลงก์ตอน พืชน้ำ เป็นอาหาร ลักษณะเพศผู้มีรูปร่างลักษณะรูปร่างเรียวยาวและมีขนาดเล็กว่าปลาเพศเมีย บริเวณลำตัวมีสีเหลืองส้มและลวดลายข้าง ลำตัวจะเข้มชัดเจนเมื่อใกล้ฤดูผสมพันธุ์ เพศเมียมีลักษณะรูปร่างป้อมมีสีซีดจางและลวดลายข้างลำตัวไม่ชัดเจน อุปนิสัยชอบว่ายไปมาตลอดเวลา ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ง่าย ขนาดเฉลี่ยความยาวประมาณ 3 ซม. ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ซิวแถบเหลือง ชื่อสามัญ: Redstripe rasbora ชื่อวิทยาศาสตร์: Rasbora pauciperforata วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พบที่พรุคันธุลี จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพรุโต๊ะแดง จนถึงประเทศมาเลเซีย รายละเอียด: เป็นปลาซิวที่มีขนาดใหญ่สุดความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร สามารถเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ปลาขนาดเล็กที่มีพรรณไม้น้ำ เป็นปลาที่พบน้อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ มีรูปร่างลำตัวคล้ายกับปลาซิวผอมแต่ป้อมสั้นกว่า เกล็ดใหญ่ ครีบหลังและครีบก้นสั้นกว่าของปลาซิวผอม หัวและลำตัวมีสีเหลืองและมีแถบสีทองกับสีดำพาดตั้งแต่ส่วนท้ายของหัวด้านบนโดยแถบสีทองอยู่ด้านบน พาดกลางลำตัวมาจนถึงโคนครีบหาง ท้องและแก้มสีเงินวาว ด้านล่างลำตัวสีจาง ครีบใส ครีบหลังและครีบหางมีสีเหลืองทอง ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ฟรอนโตซ่าบูรุนดี ชื่อสามัญ: Frontosa Burundi ชื่อวิทยาศาสตร์: Cyphotilapia frontosa "Burundi" วงศ์ (Family): Cichlidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบแทงแกนยิกา ทวีปแอฟริกา รายละเอียด: ปลาหมอฟรอนโตซ่านับเป็นปลาหมอสีที่มีความสวยโดดเด่น สง่างาม เป็นที่กล่าวขวัญกันได้ว่าเป็น"ราชาแห่งปลาหมอสี" ซึ่งมีหลากหลายของเฉดสีฟ้าจนถึงสีน้ำเงินตามสถานที่ที่พบในแต่ละระดับความลึกในทะเลสาบแทงแกนยิกา ในส่วนของฟรอนโตซ่าบูรุนดี เป็นสายพันธ์ฟรอนโตซ่าที่มีจำหน่ายมากในตลาดและมีราคาถูกที่สุดในบรรดาฟรอนโตซ่า เพราะสามารถเพาะขยายพันธุ์ได้มานานแล้วในประเทศ เหมาะสำหรับนักเลี้ยงปลาหมอสีมือใหม่ ปลาชนิดนี้พบในทะเลสาบแทงแกนยิกา ในเขตของประเทศบูรุนดี เป็นฟรอนโตซ่าที่อยู่ในระดับน้ำตื้นของทะเลสาบ ลักษณะเด่น มีหัวโหนกและขนาดลำตัวใหญ่ที่สุดในบรรดาฟรอนโตซ่า ขนาดโตเต็มที่มีขนาดประมาณ 30 ซม. มีลายแถบสีดำพาดผ่านลำตัวจำนวน 5 แถบตัดกับพื้นสีขาวอมเหลืองของลำตัว บริเวณส่วนหัวมี1แถบสีดำพาดผ่านจากด้านบนสุดลงมาถึงช่องเปิดเหงือก เกล็ดขึ้นมาไม่ถึงบริเวณด้านหน้าหัว ครีบทุกครีบมีสีฟ้าอมเหลืองจนถึงสีฟ้าอ่อนๆ ปลายครีบหลัง ครีบท้อง และครีบก้นสามารถยาวเป็นเส้นได้อย่างสง่างาม ยามว่ายในตู้จะค่อนข้างเชื่องช้า แต่เปี่ยมไปด้วยความทรงพลัง สามารถกินได้ทั้งอาหารเม็ด ถ้าเป็นอาหารมีชีวิตปลาจะชอบมาก เช่น อาร์ทีเมีย กุ้งขนาดเล็ก ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ฟรอนโตซ่าบลูเอ็มพิมเว ชื่อสามัญ: Frontosa blue mpimbwe ชื่อวิทยาศาสตร์: Cyphotilapia gibberosa "Blue Mpimbwe" วงศ์ (Family): Cichlidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบแทงแกนยิกา ทวีปแอฟริกา รายละเอียด: เป็นฟรอนโตซ่าที่พบบริเวณ แหลมเอ็มพิมเว ซึ่งทั่วโลกต้องการปลาชนิดนี้เป็นอยากมาก จากจุดเด่นของปลาชนิดนี้คือ มีสีฟ้าจัดตลอดทั้งตัว หรือสีน้ำเงินอมฟ้า บริเวณหัวมีแถบดำพาดขนานผ่านตา คล้ายกับใส่หน้ากาก เกล็ดขึ้นมาถึงบริเวณหน้าผากมีสีฟ้าประกาย บริเวณลำตัวมีแถบสีดำเข้มพาดผ่านบริเวณลำตัวสีขาวอมฟ้าจำนวน 5 แถบ ครีบทุกครีบมีสีฟ้าเป็นประกายสวยงาม อุปนิสัยเป็นฟรอนโตซ่าที่เชื่องกับคนได้ง่าย เลี้ยงง่ายและกินเก่งมาก สามารถขึ้นมากินอาหารกับมือคนได้ สามารถเลี้ยงด้วย อาหารเม็ด อาร์ทีเมีย หรือกุ้งปลอกเปลือกได้ ปลาชนิดนี้มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 20-30 ซม. ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ฟรอนโตซ่าบลูแซร์ ชื่อสามัญ: Frontosa Blue Zaire ชื่อวิทยาศาสตร์: Cyphotilapia gibberosa "Blue Zaire" วงศ์ (Family): Cichlidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบแทงแกนยิกา ทวีปแอฟริกา รายละเอียด: เป็นฟรอนโตซ่าสายพันธุ์ที่หายากและมีราคาสูงที่สุด จุดเด่นมีสีน้ำเงินอมม่วงทั้งตัวทั้งเพศผู้และเพศเมีย มีลำตัวกว้าง มีแถบสีดำพาดผ่านบริเวณตาจนถึงหน้าผากเป็นรูปสามเหลี่ยมเด่นชัด เกล็ดขึ้นมาถึงหน้าผาก เป็นฟรอนโตซ่าที่พบในระดับความลึกที่สุดกว่า 40 เมตรอันเป็นระดับที่ลึกที่สุดของฟรอนโตซ่า ทำให้จับขึ้นมาได้ยากต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางเพื่อปรับแรงกดดันของอากาศ และเพาะพันธุ์ได้ค่อนข้างยาก พบในทะเลสาบแทงแกนยิกาบริเวณเขตน้ำลึกของประเทศแซร์ ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: อโรวาน่าออสเตรเลียจุด ชื่อสามัญ: Spotted Barramundi Arowana ชื่อวิทยาศาสตร์: Scleropages leichardti วงศ์ (Family): Osteoglossidae ถิ่นกำเนิด: ตอนเหนือของทวีปออสเตรเลีย บริเวณหมู่เกาะควีนแลนด์ แถบแม่น้ำโตรอนและแม่น้ำมารี รายละเอียด: ปลาอโรวาน่าออสเตรเลียจุดจะมีขนาดที่เล็กกว่าอโรวาน่าออสเตรเลียธรรมดา รูปร่างค่อนข้างเพรียว ลำตัวจะออกไปทางด้านยาวมากกว่าด้านกว้าง ข้างลำตัวจะเป็นสีเงินแกมน้ำตาลบางตัวจะออกสีเหลืองสว่าง บริเวณเกล็ดแต่ละเกล็ดมีสีจุดส้มแดง 1-3 จุด ครีบหลัง ครีบท้องและหางมีสีน้ำตาลและก็จะมีจุดสีส้มแดงแต้มอยู่ด้วย กินอาหารพวกแมลงที่มีเปลือกแข็ง ปลาตัวเล็กๆเป็นต้น ประเภท (Catalogy): ปลาอโรวาน่า
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: อโรวาน่าออสเตรเลีย ชื่อสามัญ: Northern Barramundi ชื่อวิทยาศาสตร์: Scleropages jardini วงศ์ (Family): Osteoglossidae ถิ่นกำเนิด: พบทางตอนเหนือของทวีปออสเตรเลีย เช่นแม่น้ำฟราย แม่น้ำเท็กคอล รายละเอียด: เป็นอโรวาน่าที่อยู่ในGenus เดียวกับ อโรวาน่าเอเชีย(Scleropages formosus) จึงมีรูปร่างใกล้เคียงกันมาก แต่เปรียบเทียบกันแล้วจะมีทรงหัวที่แหลมกว่า มีครีบท้องที่เล็กกว่า จำนวนของเกล็ดจะเล็กกว่าแต่ก็จะมีจำนวนที่มากกว่าอโรวาน่าจากเอเชีย สีสันมีช่วงหลังมีสีเขียวแกมน้ำเงินคล้ำ ลำตัวจะมีสีน้ำตาลออกทอง เกล็ดแต่ละเกล็ดจะมีสีน้ำเงินและแดงคาดอยู่บริเวณขอบของเกล็ด ครีบหลัง ครีบก้น และครีบท้องไม่ค่อยยาวมากและเป็นสีน้ำเงินคล้ำๆ ซึ่งสีของปลาชนิดนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับน้ำที่เลี้ยงและอาหารที่ให้ ประเภท (Catalogy): ปลาอโรวาน่า
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: อโรวาน่าเงิน ชื่อสามัญ: Silver Arowana ชื่อวิทยาศาสตร์: Osteoglossum bicirrhosum วงศ์ (Family): Osteoglossidae ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ รายละเอียด: เป็นปลาอโรวาน่าที่มีขายกันอย่างแพร่หลาย มีราคาถูก เลี้ยงง่าย เป็นที่นิยมของนักเลี้ยงปลามือใหม่ โดยปลาชนิดนี้มีรูปร่างเรียวยาวตั้งแต่หัว ถึงหาง ปากจะอยู่ทางด้านบนของหัวริมฝีปากล่างยื่นออกมาเล็กน้อย มีหนวด 1 คู่อยู่ที่ปลายริมฝีปากล่าง ฟันล่างหรือกระดูกฟันล่างมีความแข็งแรง ฟันบนจะเรียงตัวกันเป็นแนวโค้งเป้นแถว แต่ละซี่จะเรียงชิดกันมาก เนื่องจากฟันของปลาชนิดนี้มีความแข็งแรงมากจึงสามารถกัดแมลงเปลือกแข็งได้ และเป็นปลาที่มีสายตาดีมาก ครีบหลังจะเป็นแถวสั้นอยู่ค่อนไปทางด้านท้ายของลำตัวและสั้นกว่าครีบท้อง ครีบอกจะยาวเป็นพิเศษ ในเรื่องสีสันจะมีสีเงินแวววาวทั้งตัว ในปลาขนาดเล็กจะมีสีเขียวแต้มอยู่บริเวณด้านท้ายของแผ่นปิดเหงือก ตามลำตัวจะมีสีแดงประปรายตลอดจนส่วนหางและครีบต่างๆ เมื่อโตขึ้นสีแดงจะจางลง และสีขาวเงินจะค่อยๆเข้มขึ้น จนเป็นสีเงินทั่วทั้งตัว ประเภท (Catalogy): ปลาอโรวาน่า
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: อโรวาน่าดำ ชื่อสามัญ: Black Arowana ชื่อวิทยาศาสตร์: Osteoglossum ferreirai วงศ์ (Family): Osteoglossidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำในทวีปอเมริกาใต้ เช่น แม่น้ำเนคูโร แม่น้ำปูแรงโก เนโกร บรานโก รายละเอียด: เป็นปลาอโรวาน่าที่หาซื้อได้ค่อนข้างยากในตลาด มีอุปนิสัยขี้ตกใจง่าย การนำเข้าปลามานั้นมักจะยังมีถุงไข่แดงติดอยู่ เพราะมีสีสันที่สวยงามแปลกตา ปลาชนิดนี้มีรูปร่างเหมือนกับอโรวาน่าเงิน แต่ในเรื่องสีสันนั้น จะมีสีสันที่แปลกตา เมื่อปลาตอนเล็กๆจะเป็นสีดำทั้งตัวตั้งแต่หนวดจนถึงหาง มีสีเหลืองทองคาดตั้งแต่ปลายหนวดจรดปลายหาง และคาดตามแนวขวางที่บริเวณคอ โคนครีบท้องเป็นสีทอง ครีบอกเป็นสีเหลืองทองด้วย เมื่อปลาโตขึ้นจนมีความยาวประมาณ 12 ซม. สีของลำตัวจะค่อยๆเปลี่ยนไป จากสีดำเปลี่ยนเป็นสีเทา ครีบท้องและครีบหลังจะเป็นสีน้ำตาล ส่วนของครีบหลังจะเป็นสีน้ำเงินเข้มและมีสีแดงเป็นจุดๆเกิดขึ้น สีเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งความยาวถึง 20 ซม. จึงจะเป็นสีที่ใกล้เคียงกับปลาที่โตเต็มวัยที่สุด ประเภท (Catalogy): ปลาอโรวาน่า
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: หมอฟูซิเฟอร์ ชื่อสามัญ: furcifer ชื่อวิทยาศาสตร์: Cyathopharynx furcifer วงศ์ (Family): Cichlidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบแทงแกนยิกา ทวีปแอฟริกา รายละเอียด: เป็นปลาหมอจากทะเลสาบแทงแกนยิกที่มีมีครีบท้องและปลายครีบหางที่ยาวสลวย ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงที่ระดับความลึก 9-12 เมตร มีลักษณะสีสันที่แตกต่างกันไปตามแหล่งที่อยู่อาศัย สีพื้นลำตัวเป็นสีน้ำเงินเงางามแวววาว ครีบทั้งหมดมีสีน้ำเงินเข้ม นอกจากนี้ยังพบนอกทะเลสาบด้วยเช่นโมลิโรและเกาะคาวัลลา ประเทศคองโกจะมีสีสันแตกต่างออกไป ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: เลปโตโซมา ชื่อสามัญ: Leptosoma ชื่อวิทยาศาสตร์: Cyprichromis Leptosoma วงศ์ (Family): Cichlidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบแทงแกนยิกา ทวีปแอฟริกา รายละเอียด: ปลาหมอเป็นปลาขนาดเล็กนิยมเลี้ยงเป็นฝูงในตู้ร่วมกับปลาอื่นๆในทะเลสาบแทงแกนยิกา มีรูปร่างเรียวยาวทรงกระบอกส่วนหัวแหลมปากมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีจะงอยปากแหลมที่สามารถยื่นออกไปกินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กได้ มีพฤติกกรรมชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ฝูงหนึ่งอาจมีหลายพันตัว ในธรรมชาติจะหากินโดยว่ายทวนน้ำเพื่อกินแพลงก์ตอนที่ลอยเข้ามาตามน้ำ ผสมพันธุ์ในระดับผิวน้ำลงมาเล็กน้อย ทันทีที่ไข่พ้นออกจากช่องท้องของเพศเมียจะรีบหมุนตัวมาอมไข่ไว้ในปาก ประเภท (Catalogy): ปลาหมอสี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากัดฮาร์ฟมูน ปลากัดหางพระจันทร์ครึ่งซีก ชื่อสามัญ: Siamese fighting fish (Halfmoon) ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta splendens วงศ์ (Family): Osphronemidae ถิ่นกำเนิด: ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์ในประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศส รายละเอียด: เป็นปลากัดที่มีหางแผ่เป็นรูปครึ่งวงกลม โดยขอบครีบหางจะแผ่เป็นแนวเส้นตรงเดียวกันเป็นมุม 180 องศา ซึ่งได้มีแนวคิดและความพยายาม ในการที่จะพัฒนาปลากัดสายพันธุ์นี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 ในประเทศเยอรมนี แต่เพิ่งประสบผลสำเร็จเมื่อราว พ.ศ. 2543 โดยนักเพาะเลี้ยงปลากัด ชาวฝรั่งเศสและชาวเยอรมัน ปลากัดหางพระจันทร์ครึ่งซีกมีลักษณะที่สำคัญ คือ ครีบหางแผ่เป็นรูปครึ่งวงกลม โดยขอบครีบด้านหน้าจะแผ่เป็นแนวเส้นตรงเดียวกันเป็นมุม 180 องศา ครีบด้านนอกเป็นขอบเส้นโค้งของครึ่งวงกลม ก้านครีบหางแตกแขนง 2 ครั้ง เป็น 4 แขนง หรือมากกว่า ปลาที่สมบูรณ์จะต้องมีลำตัว และครีบสมส่วนกัน โดยลำตัวต้องไม่เล็กเกินไป ครีบหางแผ่ต่อเนื่องหรือซ้อนทับกับครีบหลังและครีบก้น จนเห็นเป็นเนื้อเดียวกัน ขอบครีบหลังโค้งมนเป็นส่วนหนึ่งของวงกลม เส้นขอบครีบทุกครีบโค้งรับเป็นเส้นเดียวกัน (ยกเว้นครีบอก) ปลายหางคู่ที่แยกเป็น 2 แฉก จะต้องซ้อนทับและโค้งมนสวยงาม ปลากัดหางพระจันทร์ครึ่งซีกที่แท้จริงจะต้องมีขอบครีบหางแผ่ทำมุม 180 องศา ได้ตลอดไป ถึงแม้ปลาจะมีอายุมากขึ้นก็ตาม ประเภท (Catalogy): ปลากัด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากัดจีน ชื่อสามัญ: Siamese fighting fish ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta splendens วงศ์ (Family): Osphronemidae ถิ่นกำเนิด: ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์จากปลากัดลูกหม้อ รายละเอียด: เป็นชื่อที่ใช้เรียกปลากัดครีบยาวมาช้านาน เข้าใจว่าอาจมาจากลักษณะครีบที่ยาวรุ่ยร่ายสีฉูดฉาดเหมือนงิ้วจีน ปลากัดจีน เป็นปลาที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากปลาลูกหม้อ โดยผสมคัดพันธุ์ให้ได้ลักษณะที่มีครีบและหางยาวขึ้น ความยาวของครีบหางส่วนใหญ่จะยาวเท่ากับ หรือมากกว่าความยาวของลำตัวและหัวรวมกัน และมีการพัฒนาให้ได้สีใหม่ๆ และสวยงาม โดยนักเพาะเลี้ยงปลากัดชาวไทย ซึ่งได้พัฒนาสายพันธุ์สำเร็จมาช้านาน ก่อนที่ปลากัดจะถูกนำไปเลี้ยงในต่างประเทศ แต่ไม่มีการบันทึกไว้ว่า การพัฒนาปลากัดสายพันธุ์นี้ เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด ปลากัดชนิดนี้เป็นชนิดที่นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามแพร่หลายไปทั่วโลก และได้มีการนำไปพัฒนาสายพันธุ์ต่อเนื่อง จนได้สายพันธุ์ที่มีลักษณะใหม่ๆ ออกมาอีกมากมาย ประเภท (Catalogy): ปลากัด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากัดคราวน์เทล ปลากัดหางมงกุฎ ชื่อสามัญ: Siamese fighting fish (Crowntail) ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta splendens วงศ์ (Family): Osphronemidae ถิ่นกำเนิด: ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์ในประเทศสิงคโปร์ รายละเอียด: เป็นปลากัดที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นใน พ.ศ. 2543 โดยนักเพาะเลี้ยงปลากัดชาวสิงคโปร์ เป็นปลากัดสายพันธุ์ใหม่ ที่มีหางจักเป็นหนาม เหมือนมงกุฎ และเป็นสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมเลี้ยงกันมากในปัจจุบัน ลักษณะสำคัญของปลากัดชนิดนี้คือ ก้านครีบจะโผล่ยาวออกไปจากปลายหาง ลักษณะดูเหมือนหนาม ซึ่งอาจยาวหรือสั้นแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับลักษณะการแยกของปลายหนาม และการแยกการเว้าโคนหนามก็มีหลายรูปแบบ ปลากัดหางมงกุฎที่สมบูรณ์จะมีครีบหางแผ่เต็ม ซ้อนทับได้แนวกับครีบอื่นๆ และส่วนของหนามมีการจัดเรียงในรูปแบบที่สวยงามสม่ำเสมอ ประเภท (Catalogy): ปลากัด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากัดฮาร์ฟมูน หางคู่ ปลากัดหางพระจันทร์ครึ่งซีก หางคู่ ชื่อสามัญ: Siamese fighting fish (Double-Tail Halfmoon) ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta splendens วงศ์ (Family): Osphronemidae ถิ่นกำเนิด: ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์จากปลากัดฮาร์ฟมูน รายละเอียด: เป็นปลากัดฮาร์ฟมูนที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์โดยมีรูปทรงหางเป็น 2 หาง กางได้กว้างเหมือนพระจันทร์ ครึ่งดวง ขอบหางเรียบ เมื่อมองภาพรวม ทั้งหาง กระโดง ชายน้ำ จะคลา้ ยพระจันทร์ เต็มดวง ก้านหางจะต้องแตก ไม่น้อยกว่า 4 ก้าน ต้องกางได้ไม่น้อยกว่า 180 องศา ประเภท (Catalogy): ปลากัด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากัดดับเบิ้ลเทล ปลากัดหางคู่ ชื่อสามัญ: Siamese fighting fish (Double-Tail) ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta splendens วงศ์ (Family): Osphronemidae ถิ่นกำเนิด: ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์ รายละเอียด: เป็นปลากัดที่ได้จากการพัฒนาลักษณะของหางให้มีสองแฉกแยกออกจากกัน หรือเรียกว่า หางคู่ ซึ่งเกิดจาก การกลายพันธุ์ของปลากัดจีนในอเมริกา ซึ่งดูคล้ายจะมี หาง เป็น 2 แฉกจึงนำเอาปลากัดที่กลายพันธุ์ที่ลักษณะของหางคล้าย 2 แฉก มาเป็นพ่อแม่พันธุ์ผสมพันธุ์กันใหม่ และเอาลูกที่ได้ใหม่คัดเลือกเอาแต่ที่มีหางคล้าย 2 แฉกมากที่สุดมาผสม กับปลากัดจีนที่กลาย พันธุ์จากแหล่งอื่นๆที่มีลักษณะคล้ายหาง 2 แฉกมากที่สุดมาผสมกันจนได้ปลากัดจนได้ลูกรุ่นใหม่ที่มีความนิ่ง แล้วจึง ได้ปลากัดสาย พันธุ์ใหม่ที่ชื่อปลากัด หางคู่ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความจงใจ แต่เกิดจากปลากลายพันธุ์มาผสมพันธุ์กันจนได้ปลาที่มีลักษณะเป็นปลาหาง 2 แฉก ประเภท (Catalogy): ปลากัด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากัดหูช้าง ชื่อสามัญ: Siamese fighting fish (Big Ear) ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta splendens วงศ์ (Family): Osphronemidae ถิ่นกำเนิด: ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์จากปลากัดลูกหม้อ รายละเอียด: เป็นปลากัดที่ได้จากการพัฒนาลักษณะของครีบหู ให้มีรูปร่างเป็นสีขาวเเละใหญ่กว่าเดิมหรือเรียกว่า หูช้าง ซึ่งเกิดจาก การกลายพันธุ์ของปลากัดในอเมริกา ซึ่งดูคล้ายจะมีครีบหูเป็นสีขาวใหญ่ จึงนำเอาปลากัดที่กลายพันธุ์ที่ลักษณะของครีบมีสีขาว มาเป็นพ่อแม่พันธุ์ผสมพันธุ์กันใหม่ และเอาลูกที่ได้ใหม่คัดเลือกเอาแต่ที่มีครีบคล้าย มากที่สุดมาผสมกับปลากัดที่กลายพันธุ์จากแหล่งอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายหูใหญ่มากที่สุดมาผสมกันจนได้ปลากัดจนได้ลูกรุ่นใหม่ที่มีความนิ่ง แล้วจึง ได้ปลากัดสาย พันธุ์ใหม่ที่ชื่อปลากัด หูช้าง(Big Ear) ซึ่งไม่ได้เกิดจากความจงใจ แต่เกิดจากปลากลายพันธุ์มาผสมพันธุ์กันจนได้ปลาที่มีลักษณะเป็นปลาครีบใหญ่ ประเภท (Catalogy): ปลากัด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: สเตอร์เจียนไซบีเรีย, สเตอร์เจียนเบลลูก้า ชื่อสามัญ: Huso huso, Siberian sturgeon ชื่อวิทยาศาสตร์: Acipenser baerii วงศ์ (Family): Acipenseridae ถิ่นกำเนิด: อาศัยได้อยู่ทั้งน้ำจืด และสามารถอพยพไปอยู่ในน้ำกร่อยหรือทะเลได้ในเขตอบอุ่นของทวีปยุโรป รายละเอียด: ปลาสเตอร์เจียน เป็นปลาที่มนุษย์ใช้เป็นอาหารมานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไข่ปลา ที่เรียกว่า "คาเวียร์" ซึ่งนับเป็นอาหารราคาแพงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ปลาสเตอร์เจียน มีรูปร่างคล้ายปลาฉลาม มีหนามแหลมสั้น ๆ บริเวณหลัง หัว และเส้นข้างลำตัวไว้เพื่อป้องกันตัว มีหนวดทั้งหมด 2 คู่อยู่บริเวณปลายจมูก ปลายหัวแหลม ปากอยู่ใต้ลำตัว ลำตัวไม่มีเกล็ด ภายในปากไม่มีฟัน ตามีขนาดเล็ก ซึ่งหนวดของปลาสเตอร์เจียนนี้มีหน้าที่สัมผัสและรับคลื่นกระแสไฟฟ้าขณะที่ว่ายน้ำ เนื่องจากไม่สามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ด้านใต้ของลำตัว เพราะฉะนั้นหนวดเหล่านี้มีหน้าที่เหมือนมือที่คอยสัมผัสกับสิ่งของที่อยู่ข้างใต้ของตัวเอง หากินตามพื้นน้ำโดยอาหารได้แก่ สัตว์น้ำขนาดเล็กต่าง ๆ สเตอร์เจียนจะพบแต่เฉพาะซีกโลกทางเหนือซึ่งเป็นเขตหนาวเท่านั้น ได้แก่ ทวีปเอเชียตอนเหนือและตะวันออก, ทวีปยุโรปตอนเหนือ และทวีปอเมริกาเหนือตอนบน เช่น อะแลสกา, แคนาดา และบางส่วนในสหรัฐอเมริกา สถานะปัจจุบันของปลาชนิดนี้ในธรรมชาติใกล้สูญพันธุ์เต็มที แต่ปัจจุบันสามารถเพาะขยายพันธุ์ได้แล้วในบางชนิด ปลาสเตอร์เจียน มีทั้งหมด 27 ชนิด ใน 3 สกุล โดยชนิดที่ใหญ่ที่สุดคือ ปลาฮูโซ่ (Huso huso) พบในรัสเซีย สามารถโตเต็มที่ได้ถึง 5 เมตร หนักกว่า 900 กิโลกรัม และมีอายุยืนยาวถึง 210 ปี นับเป็นปลาที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก เท่าที่มีการบันทึกมา และเป็นชนิดที่ให้ไข่รสชาติดีที่สุดและแพงที่สุดด้วย ส่วนชนิดที่เล็กที่สุดคือ ปลาสเตอร์เจียนแคระ (Pseudoscaphirhynchus hermanni) ที่โตเต็มที่มีขนาดไม่ถึง 1 ฟุตเสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้แล้ว ปลาสเตอร์เจียนยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามอีกด้วยในประเทศไทย ปลาสเตอร์เจียนชนิด ปลาสเตอร์เจียนไซบีเรีย (Acipenser baerii) ได้มีการทดลองเลี้ยงในโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ดอยคำ อันเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อำเภอเวียงแหง ที่หน่วยวิจัยประมงบนพื้นที่สูงดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง และศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเชียงใหม่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผลการทดลองเป็นไปได้อย่างดี ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาปักเป้าแคระ ชื่อสามัญ: Dwarf pufferfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Carinotetraodon travancoricus วงศ์ (Family): Tetraodontidae ถิ่นกำเนิด: แม่น้ำแพมบา ในรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย รายละเอียด: เป็นปลาปักเป้าขนาดเล็กที่นิยมเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ ใช้กำจัดหอยตัวเล็กๆที่เกิดในตู้พรรณไม้น้ำ เป็นปลาที่มีมีอุปนิสัยไม่ดุร้าย สามารถเลี้ยงรวมกันหลายๆตัว หรือเลี้ยงกับปลาอื่นได้ โดยปลาปักเป้าแคระนี้เป็นปลาปักเป้าที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาปลาปักเป้าทั้งหมด เมื่อโตเต็มที่มีขนาดเฉลี่ยไม่เกิน 3.5 ซม. โดยเพศผู้มีขนาดใหญ่กว่าเพศเมีย ลักษณะเด่น มีพื้นลำตัวสีเหลืองทองปนเขียวอ่อน มีดวงสีดำขนาดใหญ่มีขอบสีเหลืองทองกระจายทั่วลำตัว ด้านท้องมีสีขาวจนถึงเหลือง ตามีลักษณะกลมโต ครีบหลังและครีบก้นอยู่ตรงข้ามและขนานกันพอดี สามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำกร่อยและน้ำจืด และเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย สามารถกินอาหารเม็ด หรือหอยที่เกิดในตู้ และเป็นปลาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดปลาบ้านเรา ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ไบเคอร์ ชื่อสามัญ: Bichir ชื่อวิทยาศาสตร์: polypterus senegalus วงศ์ (Family): Polypteridae ถิ่นกำเนิด: ลุ่มน้ำต่าง ๆ ในแอฟริกากลาง รายละเอียด: เป็นตระกูลปลาโบราฯมีรูปร่างเรียวยาวคล้ายงูหรือปลาไหล มีความยาวโตเต็มที่เฉลี่ย 30 ซม. มีส่วนหัวที่เล็ก ขากรรไกรเล็ก กรามบนยื่นยาวกว่ากรามล่าง ตามีขนาดเล็ก โดยปลาไบเคอร์ชนิดนี้เป็นปลาไบเคอร์ชนิดที่นิยมเลี้ยงกันเป็นปลาสวยงามมากที่สุด และแพร่หลายมากที่สุด สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้เป็นสีต่าง ๆ หลากหลายออกไปจากสีดั้งเดิมที่เป็นอยู่ คือ สีเขียวมะกอก ทั้งสีทองหรือสีเผือกตาแดง หรือแม้กระทั่งสีแพลทินัม รวมถึงเป็นปลาที่มีลำตัวสั้นกว่าปกติ หรือมีครีบหลังที่ยาวกว่าปกติด้วย ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ซิวกาแล็กซี่ ชื่อสามัญ: Galaxy rasbora, Celestial pearl danio ชื่อวิทยาศาสตร์: Danio margaritatus วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: ทะเลสาบอินเล ในประเทศพม่า รายละเอียด: เป็นปลาซิวขนาดเล็กและมีราคาต่อตัวค่อนข้างสูง มีขนาดเฉลี่ยประมาณ 1.5 - 2 ซม. นิยมเลี้ยงเป็นฝูงในตู้พรรณไม้น้ำ มีสีสันสวยงามมาก โดยบริเวณลำตัวจะมีสีน้ำตาลถึงดำเข้ม และมีลายจุดสีเหลืองถึงสีทองกระจายอยู่ทั่วลำตัวคล้ายกับหมู่ดาวยามค่ำคืน เป็นที่มาของชื่อ ครีบทุกครีบยกเว้นครีบหู มีลายแถบสีแดงส้ม ขอบดำตัดกับสีขาวใสของครีบอย่างสวยงาม ปลาซิวชนิดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2006 ในพื้นที่กำจัดใกล้กับทะเลสาบอินเล ในประเทศพม่า ภายหลังจากมีการค้นพบแล้ว ความต้องการที่จะนำมาเป็นปลาสวยงามนั้นได้พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้มีปริมาณปลาถูกจับจากแหล่งน้ำในธรรมชาติมากขึ้น ทำให้ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 ทางรัฐบาลพม่าจึงห้ามมีการส่งออกปลาชนิดนี้ ด้วยเกรงว่าจะสูญพันธุ์ ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ซิวหนู ชื่อสามัญ: Least rasbora, Exclamation-point rasbora ชื่อวิทยาศาสตร์: Boraras urophthalmoides วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: พื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งทะเลใกล้ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ในที่ราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทย และในภูมิภาคอินโดจีน รายละเอียด: เป็นปลาซิวขนาดเล็ก มีขนาดเฉลี่ยประมาณ 1.5-2 ซม.นิยมเลี้ยงเป็นฝูงในตู้พรรณไม้น้ำ ลำตัวมีสีส้มจนถึงส้มอมแดง มีแถบสีดำพาดผ่านบริเวณกลางลำตัว บริเวณโคนหางมีจุดสีดำ ในธรรมชาติเป็นปลาที่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงบริเวณผิวน้ำ ในสภาพน้ำเป็นกรดเล็กน้อย เช่นในป่าพลุ ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ซิวเพชรน้อย ชื่อสามัญ: Dwarf rasbora ชื่อวิทยาศาสตร์: Boraras maculatus วงศ์ (Family): cyprinidae ถิ่นกำเนิด: ป่าพรุ บางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ของประเทศไทย รายละเอียด: เป็นปลาซิวขนาดเล็ก มีขนาดเฉลี่ยประมาณ 2 ซม. ถูกพบครั้งแรกที่ป่าพรุในอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี และยังพบที่ป่าพรุทางตอนใต้ของไทยอีกด้วย ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง นิยมเลี้ยงเป็นฝูงในตู้พรรณไม้น้ำได้อย่างสวยงาม ลักษณะลำตัวเพรียวยาวมีสีน้ำตาอ่อนถึงแดงส้ม มีจุดแต้มสีดำขนาดใหญ่บริเวณเกือบกึ่งกลางลำตัว รวมถึงโคนครีบก้นและครีบหาง ครีบหลังมีสีแดงสด ที่โคนเป็นสีดำคล้ำ มีเกล็ดขนาดใหญ่ ส่วนหัวมีขนาดเล็ก ตาโต และปากเล็ก ในการเลี้ยงควรเลี้ยงในน้ำที่เป็นกรดเล็กน้อย ในช่วงpH 5-6 ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ตะเพียนแคระ ชื่อสามัญ: Pygmy barb ชื่อวิทยาศาสตร์: Oreichthys parvus วงศ์ (Family): cyprinidae ถิ่นกำเนิด: แหล่งน้ำที่มีพืชน้ำขึ้นอย่างหนาแน่นในป่าที่ราบต่ำหรือป่าพรุในภาคตะวันออก และภาคใต้ไทย รายละเอียด: เป็นปลาน้ำจืดในวงศ์ปลาตะเพียนที่มีขนาดเล็กมีขนาดเฉลี่ย 3-4 ซม. สามารถนำมาเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำได้ มีลำตัวเพรียวยาวกว่าปลาตะเพียนทั่วไป ลักษณะลำตัวมีสีเหลืองจนถึงสีน้ำตาลอ่อน เกล็ดมีขนาดใหญ่มีสีดำที่โคนของเกล็ด ส่วนปลายครีบหลังมีสีดำคล้ำ ตัวผู้มีครีบหลังใหญ่กว่าตัวเมีย ครีบก้นมีแต้มสีดำ ด้านหลังมีสีจาง ๆ มีตาที่โต ปากขนาดเล็ก และไม่มีหนวด ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ตะกรับหน้าแดง ชื่อสามัญ: Spotted scat, Green scat, Common scat, Argusfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Scatophagus argus วงศ์ (Family): Scatophagidae ถิ่นกำเนิด: น้ำเค็ม จนถึงน้ำกร่อย รายละเอียด: เป็นปลาสองน้ำ ซึ่งสามารถนำมาปรับสภาพเลี้ยงในน้ำจืดได้ นิยมเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำเพื่อกำจัดตะใคร่น้ำ เพราะเป็นปลาที่สามารถกินตะใคร่ได้เก่งมาก มีลักษณะลำตัวสั้นแบนข้างและกว้างมาก มีสีพื้นลำตัวแตกต่างกันไปตามลักษณะแหล่งอาศัยที่พบ มีตั้งแต่สีเขียว, เทา จนถึงสีน้ำตาล หรือเหลือบส้มๆที่บริเวณหัว และหลัง จึงเป็นชื่อเรียกของตะกรับหน้าแดง มีจุดสีดำแต้มทั่วบริเวณลำตัว ในปลาเล็กมักมีแถบดำคาดทั่วบริเวณลำตัวคล้ายเสือ ครีบทุกครีบมีสีเหลืองอมเทา ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: พริสเทลล่า ชื่อสามัญ: Pristella, X-ray tetra ชื่อวิทยาศาสตร์: Pristella Maxillaris วงศ์ (Family): characidae ถิ่นกำเนิด: ประเทศเวเนซุเอลา, กายอานา, ซูรินาม, เฟรนช์เกียนา และตอนเหนือของบราซิล รายละเอียด: เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็กขนาดโตเต็มที่ 4 ซม. นิยมเลี้ยงรวมกันเป็นฝูงในตู้พรรณไม้น้ำ เป็นปลาที่มีลำตัวโปร่งแสงเห็นถึงอวัยวะภายใน ครีบหลังและครีบก้นมีจุดแต้มสีดำตัดกับเหลือง ครีบหางมีสีแดงใส ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาหงส์, อินซีเน็ต ชื่อสามัญ: Flagtail prochilodus, Silver prochilodus, Flagtail characin ชื่อวิทยาศาสตร์: Semaprochilodus taeniurus วงศ์ (Family): characidae ถิ่นกำเนิด: ลุ่มแม่น้ำอเมซอนในประเทศบราซิล ทวีปอเมริกาใต้ รายละเอียด: มีรูปร่างทั่วไปคล้ายปลาในวงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae) มาก ดวงตากลมโต ริมฝีปากหนาและใหญ่ และปากขยับไปมาตลอดเวลา เกล็ดมีขนาดเล็กมีสีเงินแวววาว เมื่อยังเล็กจะมีลายแถบและจุดสีดำกระจายอยู่บริเวณลำตัวค่อนไปทางโคนหาง มีเกล็ดบริเวณเส้นข้างลำตัวประมาณ 48 เกล็ด โคนหางคอดเล็ก ครีบท้องมีสีแดงสด ครีบหลังมีขนาดใหญ่และตั้งชี้ขึ้น ซึ่งครีบเหล่านี้เมื่อปลาโตขึ้นจะยิ่งชี้แหลมและสีสดยิ่งขึ้น ในบางตัวปลายครีบหลังอาจแหลมยาวคล้ายปลายผืนธง ครีบหางเป็น 2 แฉก มีขนาดใหญ่ ครีบหางและครีบก้นมีลายแถบสีดำเป็นทางตรงบนพื้นสีแดง มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 30 เซนติเมตร อาจใหญ่ได้ถึง 35 เซนติเมตร เป็นปลาที่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ กินอาหารได้ทั้งพืชและสัตว์ พบกระจายพันธุ์ในลุ่มแม่น้ำอเมซอน ในทวีปอเมริกาใต้ โดยใช้ปากที่ขยับไปมาตลอดนั้นตอดอาหารจำพวกอินทรีย์วัตถุหากินตามพื้นน้ำหรือตะไคร่น้ำที่เกาะตามแก่งหินต่าง ๆ มีพฤติกรรมผสมพันธุ์หมู่และวางไข่ได้ครั้งละประมาณ 100,000 ฟอง เป็นปลาที่ใช้บริโภคกันในท้องถิ่น และมีความสำคัญต่อมนุษย์ในแง่ของการเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม โดยจะนิยมเลี้ยงไว้เพื่อทำความสะอาดภายในตู้เลี้ยง เพราะเป็นปลาที่เก็บเศษอาหารกินทำให้ตู้เลี้ยงสะอาดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความเชื่ออีกว่า เมื่อเลี้ยงคู่กับปลาอะโรวาน่าหรือปลามังกรด้วยแล้ว จะถือเป็นมงคล เหมือนหงส์คู่มังกร ซึ่งในราวปี พ.ศ. 2546-พ.ศ. 2547 ได้มีการบอกกล่าวกันเป็นทอด ๆ ในอินเทอร์เน็ตถึงคุณสมบัติของปลาชนิดนี้ ทำให้มีราคาขายพุ่งขึ้นไปเกือบตัวละ 1,000 บาท ในปลาขนาดเล็กขนาดไม่เกิน 5 นิ้ว ประเภท (Catalogy): ปลาต่างประเทศขนาดใหญ่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: แพะสเตอร์ไบ ชื่อสามัญ: Sterba's corydoras ชื่อวิทยาศาสตร์: Corydoras sterbai วงศ์ (Family): Callichthyidae ถิ่นกำเนิด: ประเทศโบลิเวีย และประเทศบราซิล รายละเอียด: เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็ก โตเต็มที่ขนาดประมาณ 6-7 ซม. เป็นปลาที่เลี้ยงง่ายมีนิสัยน่ารัก นิยมเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ ไว้เก็บกินเศษอาหารหรือตะใคร่ ลักษณะลำตัวป้อมสั้นแบนข้างเล้กน้อย ปกคลุมด้วยเกล็ดขนาดเล็กซ้อนกัน มีลายพื้นสีลำตัวคล้ายงู โดยสีพื้นเป็นสีครีมอมเขียว มีลวดลายสีน้ำตาลกระจายทั่วลำตัวคล้ายเขาวงกต ปากอยู่ทางด้านใต้มี หนวดเล็ก ๆ 2 คู่ ก้านครีบ เดี่ยวก้านแรกของครีบอกมีเงี่ยงแข็ง ครีบทุกครีบมีครีมเช่นเดียวกับสีพื้นลำตัวมีแถบสีน้ำตาลคาดตามยาวหลายๆแถว ประเภท (Catalogy): ปลาสวยงามเลี้ยงในตู้พรรณไม้น้ำ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: พลวงชมพู ชื่อสามัญ: Khela mahseer, Semah mahseer, River carp ชื่อวิทยาศาสตร์: Tor douronensis วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: จังหวัดยะลาและนราธิวาส รายละเอียด: ปลาพลวงชมพู เป็นปลาน้ำจืดประจำท้องถิ่นจังหวัดยะลา นราธิวาส มีชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นภาคใต้ว่า ปลากือเลาะห์ หรือ อีแกกือเลาะห์ เป็นปลาที่มีเนื้อรสชาติดี สามารถรับประทานได้ทั้งเกล็ด ในปัจจุบันตลาดการเลี้ยงปลาสวยงามก็กำลังเป็นที่ต้องการอย่างสูง เนื่องจากเป็นปลาที่มีความโดดเด่นในสีของเกล็ดที่มีลักษณะเป็นสีชมพู บริเวณครีบหลังและครีบหางเป็นสีแดง ลักษณะทั่วไปมีรูปร่างคล้ายปลาเวียน (Tor tambroides) ซึ่งเป็นปลาในสกุลเดียวกัน แต่ลำตัวเพรียวและเป็นทรงกระบอกมากกว่า ส่วนหัวค่อนข้างมน ริมฝีปากหนา ปากกว้างเล็กน้อย ใต้คางมีติ่งเนื้อสั้น ๆ มีหนวด 2 คู่เห็นชัดเจน ตาอยู่ค่อนไปทางด้านบนหัว เกล็ดมีขนาดใหญ่ ครีบหลังมีก้านแข็ง 1 อัน ครีบหางเว้าลึก ครีบก้นสั้น ลำตัวด้านบนมีสีคล้ำอมน้ำตาล ด้านข้างลำตัวสีเงินเหลือบชมพูหรือทอง ครีบสีคล้ำ ด้านท้องสีขาว โดยลักษณะนิสัยและความเป็นอยู่ของปลาชนิดนี้ จะเป็นปลาที่ชอบอาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งน้ำที่น้ำไหลผ่าน มีน้ำค่อนข้างเย็น มีปริมาณออกซิเจนสูง เช่น น้ำตก หรือบริเวณต้นแม่น้ำสายหลักในพื้นที่จังหวัดยะลาและนราธิวาส โดยเฉพาะแม่น้ำปัตตานี และป่าฮาลา –บาลา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ปลาพลวงชมพูได้รับการประกาศให้เป็นปลาประจำจังหวัดยะลาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2558 ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากัดโรสเทล ปลากัดฮาร์ฟมูนหางกุหลาบ ชื่อสามัญ: Siamese fighting fish (Rosetail) ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta splendens วงศ์ (Family): Osphronemidae ถิ่นกำเนิด: เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ รายละเอียด: เป็นปลากัดฮาร์ฟมูนที่เกิดจากการพัฒนาของ Halfmoon ที่ทำให้ปลามีลักษณะหางนั้นมีลักษณะเฉพาะ (การผ่าเหล่า) โดยครีบหาง มีลักษณะพิเศษคือ มีการทับซ้อนกันเหมือนกลีบดอกกุหลาบและมีราคาต่อตัวค่อนข้างสูงในต่างประเทศ ประเภท (Catalogy): ปลากัด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากัดหางขนนก ชื่อสามัญ: Siamese fighting fish (Feather-tailed/Apache) ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta splendens วงศ์ (Family): Osphronemidae ถิ่นกำเนิด: ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์ รายละเอียด: เป็นปลากัดฮาร์ฟมูนที่เกิดจากการพัฒนาของ Halfmoon ที่ทำให้ปลามีลักษณะของหางปลานั้น มีลักษณะเฉพาะ (การผ่าเหล่า) โดยครีบหางมีลักษณะพิเศษคือคล้ายกับขนนก แตกเป็นแฉกๆอย่างสวยงาม ประเภท (Catalogy): ปลากัด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาเวียน ปลายาด ชื่อสามัญ: Thai mahseer, Greater brook carp ชื่อวิทยาศาสตร์: Tor tambroides วงศ์ (Family): Cyprinidae ถิ่นกำเนิด: จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดอื่นๆในแถบภาคกลางและภาคตะวันตกและภาคใต รายละเอียด: ปลาเวียน จัดเป็นปลาน้ำจืดของไทยที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ มีขนาดโดยเฉลี่ยประมาณ 40-50 เซนติเมตร นอกจากจะเป็นปลาที่มีรสชาติอร่อย ปลาเวียน ยังจัดเป็นปลาสวยงามที่หายากและมีราคาแพง ปัจจุบัน พบว่า ปลาชนิดนี้มีจำนวนลดน้อยลงมาก สาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลง ไม่เอื้ออำนวยต่อการขยายพันธุ์ปลาเวียนในธรรมชาติ หรือการจับปลาเวียนขึ้นมาใช้ประโยชน์จำนวนมาก จนส่งผลให้ธรรมชาติไม่สามารถผลิตลูกพันธุ์ได้ทันต่อความต้องการ ลักษณะลำตัวจะมีสีฟ้าอมเขียว บริเวณส่วนหลังจะมีสีเขียวเข้ม หัวมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับลำตัว มีหนวดยาวอยู่ตรงบริเวณจะงอยปากและมุมปาก มีแผ่นปิดใต้คาง (medien lope) ซึ่งในปลาพลวงจะไม่มี ปลาเวียนอาศัยอยู่ในบริเวณน้ำตกห้วย และแหล่งน้ำที่ใสสะอาด เช่น ในต้นแม่น้ำเพชรบุรีอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี แม่น้ำไทรโยกน้อย จังหวัดกาญจนบุรีแม่น้ำปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชประภาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปกติปลาชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่บริเวณต้นน้ำบนเทือกเขาเมื่อถึงฤดูฝนถึงจะอพยพย้ายถิ่นลงมาทางปากน้ำ ซึ่งหลังจากการสำรวจแล้วพบว่าจำนวนปลาเวียนในธรรมชาติลดน้อยลงจนใกล้สูญพันธุ์ กรมประมงโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเพชรบุรี จึงได้ดำเนินการศึกษาวิจัยเพาะขยายพันธุ์ปลาโดยเริ่มตั้งแต่การรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลาเวียนจากธรรมชาติ วิธีการเพาะขยายพันธุ์การอนุบาลรวมถึงรูปแบบการเลี้ยงเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาให้เป็นการเลี้ยงเชิงเศรษฐกิจ ประเภท (Catalogy): ปลาไทย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากัดป่ามหาชัย ชื่อสามัญ: Mahachai betta ชื่อวิทยาศาสตร์: Betta mahachaiensis วงศ์ (Family): Osphronemidae ถิ่นกำเนิด: เขตจังหวัดสมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, สมุทรปราการ และในเขตบางขุนเทียน ของกรุงเทพมหานคร รายละเอียด: มีลักษณะและรูปร่างคล้ายคลึงกับปลากัดภาคกลาง (B. splendens) มาก อีกทั้งยังมีที่อยู่อาศัยทับซ้อนกัน แต่มีความแตกต่างกันที่สีและรายละเอียดบางประการ เช่น สีของเกล็ดเป็นสีฟ้าอมเขียวหรือสีเขียวอย่างเดียวแวววาวทั้งตัว ลักษณะเกล็ดไล่เรียงตัวกันเหมือนฝักข้าวโพด บนพื้นลำตัวที่มีสีเข้มตั้งแต่น้ำตาลจนถึงดำสนิท บริเวณแก้มหรือแผ่นปิดเหงือกเป็นขีดสีฟ้า 2 ขีด ครีบอกคู่แรกที่เรียกว่า "ตะเกียบ" เส้นหน้ามีสีฟ้า ครีบหางมีทั้งกลมและปลายแหลมเหมือนใบโพมีสีฟ้า ขนาดเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 4-5 เซนติเมตร อีกทั้งยังเป็นปลากัดในกลุ่มก่อหวอดเพียงชนิดเดียวที่พบในประเทศไทย ที่เยื่อใต้แผ่นปิดเหงือกเป็นสีดำสนิทโดยไม่มีขีดหรือแถบสีแดงมาแซมเหมือนปลากัดในกลุ่มก่อหวอดชนิดอื่น ๆ ประเภท (Catalogy): ปลากัด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: กระเบนแบล็คไดมอนด์ (สัตว์น้ำเสริมพลัง) ชื่อสามัญ: Black diamond ray ชื่อวิทยาศาสตร์: Potamotrygon leopoldi "Black diamond" วงศ์ (Family): Potamotrygonidae ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยู่เฉพาะแม่น้ำซิงกู ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำอเมซอน ในประเทศบราซิลเท่านั้นและมีสถานะใกล้สูญพันธุ์จ รายละเอียด: เป็นปลากระเบนที่มีจุดสีขาวมากกว่าปกติ ลำตัวรูปร่างทรงกลม พื้นลำตัวสีดำสนิท มีจุดกลมสีขาวกระจายไปทั่วลำตัวด้านบน ด้านล่างสีขาว ปลายหางมีริ้วหนังบาง ๆ ซึ่งจุดกลมเหล่านี้มีจำนวนและขนาดแตกต่างกันออกไปในปลาแต่ละตัวโดยมีจุดรอบขอบครีบถึง 3 แถว ลักษณะตัวโตเต็มที่มีขนาดประมาณ 60 เซนติเมตร และจะเป็นปลาที่มีลวดลายที่สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ ตรงโคนหางจะมีหนาม เรียกว่า "เงี่ยง" มีความแหลม ด้านข้างมีลักษณะเป็นหยักแบนคล้าย ฟันเลื่อย และมักจะมีต่อมพิษที่โคนหาง ***ความเชื่อสายมูเตลู: ปลาที่มีท่าทางการว่ายน้ำพลิ้วไหวสง่างาม มีความเชื่อว่าเป็น “ปลาแห่งความโชคดี” ปัจจุบันถูกนิยมนำมาเลี้ยงเพื่อเสริมเรื่องโชคลาภ นำพาความโชคดี เงินทองมีใช้ไม่ขัดสน เสริมความร่ำรวยให้กับผู้ที่ได้ครอบครอง ประเภท (Catalogy): ปลากระเบน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: กระเบนเพิร์ลเรย์เผือก ชื่อสามัญ: Albino Pearl ray ชื่อวิทยาศาสตร์: Potamotrygon jabuti. "Albino pearl" วงศ์ (Family): Potamotrygonidae ถิ่นกำเนิด: ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์ รายละเอียด: ลักษณะพื้นลำตัวสีเหลืองอ่อนหรือขาว มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ คือมีลายคล้ายโซ่สลับซับซ้อน สีเหลืองสวยงามตัดกับสีพื้นขาว เป็นปลาที่ค่อนข้างอ่อนแอและบอบบางเลี้ยงยากปรับตัวยากต้องการน้ำที่มีคุณภาพดี และปัจจุบันสามารถเพาะพันธุ์ได้ในประเทศไทยได้ส่วนหนึ่ง ประเภท (Catalogy): ปลากระเบน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาการ์ตูนส้มขาว , ปลาการ์ตูนส้ม ชื่อสามัญ: clown anemonefish ชื่อวิทยาศาสตร์: Amphiprion ocellaris วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: มีการกระจายพันธุ์ในแถบอินโด-แปซิฟิก, มหาสมุทรอินเดีย, หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์, ทะเลฟิลิปปิน รายละเอียด: บริเวณลำตัวมีสีส้มเข้ม มีแถบสีขาว 3 แถบ พาดบริเวณส่วนหัว ลำตัวและบริเวณหาง ได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ในปัจจุบันสามารถเพาะขยายพันธุ์ ได้แล้วในสถานที่เลี้ยง ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาการ์ตูนอินเดียนแดงชมพู ชื่อสามัญ: Pink Anemonefish ชื่อวิทยาศาสตร์: Amphiprion perideraion วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยู่ตามแนวปะการังทั่วไป ประเทศไทยพบได้เฉพาะในอ่าวไทย รายละเอียด: ลำตัวตัวมีสีชมพูอมเหลือง มีแถบสีขาวพาดบริเวณโคนครีบหลังตามความยาวลำตัวตั้งแต่หัวจรดหาง และมีแถบสีขาวอีก 1 แถบพาดขวางลำตัวบริเวณหลังตา ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 10 เซนติเมตร พบอยู่ตามแนวปะการังทั่วไป อาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลได้หลายชนิด ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาการ์ตูนแดง หรือ ปลาการ์ตูนแก้มหนาม ชื่อสามัญ: Spinecheek anemonefish ชื่อวิทยาศาสตร์: Premnas biaculeatus วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: พบได้ตามรอบนอกของแนวปะการัง และส่วนที่เป็นแนวปะการังลาดชันมักอาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลชนิด Entacmaea qu รายละเอียด: ลำตัวตัวมีสีส้มแดง เมื่ออายุมากขึ้นสีจะแดงมากขึ้นจนเป็นสีแดงเข้มอมดำ ลำตัวมีแถบพาดขวางลำตัว 3 แถบ บริเวณหลังตา กลางลำตัว และโคนหาง ลักษณะเด่นของปลาชนิดนี้คือมีหนามแหลมบริเวณใต้ตา ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 16 เซนติเมตร ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ ชื่อสามัญ: Tomato anemonefish ชื่อวิทยาศาสตร์: Amphiprion frenatus วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยู่ตามลากูน หรือรอบนอกของแนวปะการัง มักอาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลชนิด Entacmaea quadricolor เคยมีร รายละเอียด: ลำตัวตัวมีสีดำอมแดงเมื่อโตเต็มวัย ครีบทุกครีบมีสีแดง มีแถบสีขาว 1 แถบพาดขวางบริเวณหลังตา ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 12 เซนติเมตร ในปลาขนาดเล็กจะ มีแถบสีขาวพาดขวางลำตัว 3 แถบ ที่บริเวณหลังตา ตอนกลางของลำตัว และโคนหาง และจะหายไปเมื่อโตขึ้นเหลือเพียงลายเพียงบริเวณหลังตา ปัจจุบันปลาที่ซื้อขายในตลาดประเทศไทยเป็นปลาที่นำเขาจากประเทศอินโดนเซีย ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาการ์ตูนลายปล้อง ชื่อสามัญ: Clark's anemonefish ชื่อวิทยาศาสตร์: Amphiprion clarkii วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลหลายชนิด บางครั้งเป็นชนิดที่พบตามพื้นทราย พบได้ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน รายละเอียด: ลำตัวมีสีดำเข้ม ส่วนหน้าครีบอกและหางมีสีเหลือง มีแถบขาว 3 แถบ ตรงส่วนหัว ลำตัวและโคนหาง มีความผันแปรของสีสูง มีไม่ต่ำกว่า 8 รูปแบบ (ธรณ์ ,2544) จัดเป็นปลาการ์ตูนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ขนาดโตสูงสุดประมาณ 15 เซนติเมตร ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาการ์ตูนลายปล้องหางเหลือง ชื่อสามัญ: sebae anemonefish ชื่อวิทยาศาสตร์: Amphiprion sebae วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: พบเฉพาะฝั่งอันดามันในที่ความลึกตั่งแต่ 2-25 เมตร อาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลที่ฝั่งอยู่ในชนิดที่ฝั่งทราย รายละเอียด: ลำตัวมีสีดำ ส่วนหางมีสีเหลือง มีแถบขาว 2 แถบ แถบแรกพาดอยู่บริเวณหลังตา อีกแถบพาดผ่านท้องขึ้นมายังครีบหลัง เป็นชนิดที่หายาก มักอยู่กันเป็นคู่กับลูกเล็ก ๆ 3-4 ตัว มีนิสัยดุร้ายกับปลาอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัว ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาการ์ตูนอานม้า ชื่อสามัญ: saddleback anemonefish ชื่อวิทยาศาสตร์: Amphiprion polymnus วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: ในน่านน้ำไทยพบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน รายละเอียด: ลำตัวมีสีน้ำตาลอมดำ มีแถบขาว 2 แถบ แถบแรกอยู่ที่หลังตา อีกแถบอยู่บริเวณกลางลำตัวเป็นแถบโค้งพาดเฉียงขึ้นไปที่ครีบหลัง ลักษณะคล้ายอานม้า ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาการ์ตูนอินเดีย ชื่อสามัญ: yellow skunk anemonefish ชื่อวิทยาศาสตร์: Amphiprion akallopisos วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: พบได้บ่อยทางฝั่งอันดามัน ฝั่งอ่าวไทยพบได้ที่เกาะโลซิน รายละเอียด: ลำตัวมีสีเนื้ออมเหลืองทองอมชมพู มีแถบขาวเล็ก ๆ พาดผ่านบริเวณหลังตั้งแต่ปลายจมูกจนจรดครีบหาง อาศัยในที่ลึกตั้งแต่ 3 -25 เมตร ขนาดโตที่สุดประมาณ 10 – 11 เซนติเมตร อาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลชนิด Heteractis magnifica และ Stichodactyla mertensii อยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาการ์ตูนแดงดำ ชื่อสามัญ: red saddleback anemonefish ชื่อวิทยาศาสตร์: Amphiprion ephippium วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยู่ตามแนวปะการังอ่าวไทย และทะเลอันดามัน รายละเอียด: ปลาเต็มวัยลำตัวมีสีส้มแดงและมีปื้นสีดำขนาดใหญ่บริเวณหลัง ส่วนในวัยรุ่นจะยังไม่มีปื้นสีดำ ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 12 เซนติเมตร อาศัยตามแนวปะการังชายฝั่งที่เป็นพื้นทราย หรือตามส่วนลาดชันของแนวปะการัง มักอาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลชนิด Entacmaea quadricolor หรือ Heteractis crispa ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาการ์ตูนเพอร์คูล่า ชื่อสามัญ: percula anemonefish ชื่อวิทยาศาสตร์: Amphiprion percula วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: คล้ายปลาการ์ตูนส้มขาวแต่ไม่พบในน่านน้ำไทย รายละเอียด: ปลาการ์ตูนเพอร์คูลา มีลักษณะคล้ายกับปลาการ์ตูนส้มขาวอย่างมาก ลำตัวสีส้มแต่จะเข้มจัดกว่าปลาการ์ตูนส้มขาว และ มีแถบสีขาวพาดขวางลำตัว 3 แถบ บริเวณ หลังตา กลางลำตัว และคอดหาง สิ่งที่เด่นกว่าปลาการ์ตูนส้มขาวคือระหว่างแถบสีขาวกับสีส้มพื้นตัวจะมีสีดำคั้น แถบเส้นสีดำนจะกว้างกว่า ปัจจุบันมีการปรับปรุงสายพันธ์ให้มีลวดลายแปลกตา และสามารถเพราะพันธ์ได้แล้วทั้งในไทยและต่างประเทศ ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาสินสมุทรบั้ง ชื่อสามัญ: Six - banded angelfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Pomacanthus sexstriatus วงศ์ (Family): Pomacanthidae ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยุ่ตามกองหินใต้น้ำเกาะแก่ง แนวปะการังในอ่าวไทย และฝั่งมหาสมุทรอินเดีย รายละเอียด: ลำตัวแบน ครีบหลังทั้งสองตอนติดต่อกันตลอด พื้นผิวลำตัวสีไพลอ่อน บริเวณกลางตัวมีคาดสีดำจำนวน 6 แถบ ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาขี้ตังใบเรือ ชื่อสามัญ: sailfin tang ชื่อวิทยาศาสตร์: zebrasoma veliferum วงศ์ (Family): Acanthuridae ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยุ่ตามแนวปะการังฝั่งมหาสมุทรอินเดีย รายละเอียด: ลำตัวแบนมากและค่อนข้างกลม ปากเล็กยื่นไปข้างหน้า ครีบหลังและครีบทวารแผ่ขยายออกใหญ่มากตั้งขึ้นเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมมน ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาวัวหางสีชมพู ชื่อสามัญ: Pinktail triggerfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Melichthys vidua (J. Richardson, 1845) วงศ์ (Family): Balistidae ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยุ่ตามแนวปะการังที่มีสาหร่ายชุกชุม ตั่งแต่ระดับความลึก 5 - 60 เมตร รายละเอียด: ลำตัวเขียวอมน้ำตาล ครีบหลังและครีบทวารสีน้ำตาลเงินขอบดำ ครีบหางช่วงแรกสีขาวและช่วงท้ายสีชมพู ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาสลิดหินนีออน ชื่อสามัญ: Blue Velvet Damselfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Neoglyphidodon oxyodon วงศ์ (Family): Pomacentridae ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยุ่ตามแนวปะการังฝั่งมหาสมุทรอินเดีย รายละเอียด: พื้นลำตัวสีฟ้าอมม่วง บริเวณหัวมีเส้นสีฟ้าคาดอยู่เหนือตาและใต้ตา ตรงกลางลำตัวมีแถบสีเหลืองคาดอยู่ 1 แถบ ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาไหลมอเรย์ปานดำ ชื่อสามัญ: Reticulated morey ชื่อวิทยาศาสตร์: Gymnothorax tessellata วงศ์ (Family): Muraenidae ถิ่นกำเนิด: อาศัยซ่อนตัวอยู่ตามซอกหินในแนวปะการังทางฝั่งทะเลอันดามัน รายละเอียด: ลำตัวเรียวยาวคล้ายงู ไม่มีเกล็ดหุ้มและไม่มีครีบหู พื้นลำตัวสีดำแต้มด้วยลายตาข่ายสีขาวอมเหลืองอ่อน ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาวัวปิกาโซ ชื่อสามัญ: Lagoon triggerfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Rhinecanthus aculeatus (Linnaeus, 1758) วงศ์ (Family): Balistidae ถิ่นกำเนิด: พบได้ในแถบอินโด-แปซิฟิก ในน่านน้ำไทยพบได้ทางฝั่งทะเลอันดามัน รายละเอียด: รูปร่างกลมรีคล้ายรูปไข่ ปากมีขนาดเล็กแต่มีฟันแหลมคมส่วนหน้าและจะงอยปากยาว มีลักษณะเฉพาะ คือลวดลายบนลำตัวเป็นแถบสีสดขีดไปมา ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาวัวครีบดำ ชื่อสามัญ: Black-fined triggerfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Melichthys ringens วงศ์ (Family): Balistidae ถิ่นกำเนิด: พบตามแนวปะการังทางฝั่งทะเลอันดามัน รายละเอียด: ลำตัวแบนทางด้านข้าง แนวสันหลังและแนวทางด้านท้องโค้งเข้าหากันเป็นรูปไข่มุมมน ตาเล็ก ปากเล็ก ครีบหางตัด ลำตัวสีเขียวอมเหลือง ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาตะคองเหลือง ทูทอง ชื่อสามัญ: Golden Toothless Trevally ชื่อวิทยาศาสตร์: Gnathanodon speciosus (Forssk?l, 1775) วงศ์ (Family): Carangidae ถิ่นกำเนิด: พบกระจายพันธ์ตามชายฝั่งทั่วไปบริเวณอ่าวไทยและอันดามัน รายละเอียด: อาศัยรวมกันเป็นฝูง หากินตามแนวชายฝั่งทั่วไป มีลำตัวแบนทางด้านข้าง ขนาดโตเต็มที่ยาวประมาร 70 เซนติเมตร พื้นลำตัวมีสีเหลืองทองคาดด้วยบั้งสีดำตามขวางเป็นแถบใหญ่สลับแถบเล็กจำนวน 9 -10 เส้น ทั่วไป ในปลาวัยอ่อนจะมีลําตัวสีเหลืองเข้มตัดกับบั้งสีดําชัดเจน แต่เมื่อโตขึ้นสีก็จะซีดจางลงไปตามวัย ปลาชนิดนี้กินปลาและสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร ตัวเต็มวัยมีขนาดใหญ่หลายฟุต และเป็นปลาเศรษฐกิจที่คนนิยมนํามาประกอบอาหารชนิดหนึ่ง แต่นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามเพราะมีสีสันสดใส มีการแพร่กระจายอยู่ทั่วไปในเขตอินโดแปซิฟิก ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาสลิดทะเลเหลืองปากยาว ชื่อสามัญ: Long nosed coral rabbit fish ชื่อวิทยาศาสตร์: Siganus vulpinus วงศ์ (Family): Siganidae ถิ่นกำเนิด: อยู่ตามแนวปะการังทางฝั่งทะเลอันดามัน รายละเอียด: ปากยื่นยาว ด้านหน้ามีแถบสีดำพาดจากตอนต้นของครีบหลังผ่านตาไปยังจะงอยปากและบริเวณคอ ด้านหลังมีสีเหลืองสดตลอดลำตัว ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากระเบนจุดฟ้า ชื่อสามัญ: Blue-spotted fantail ray ชื่อวิทยาศาสตร์: Taeniura lymma วงศ์ (Family): Dasyatidae ถิ่นกำเนิด: อยู่ตามแนวปะการังและซอกหินใกล้ชายฝั่ง รายละเอียด: ลำตัวแบนค่อนข้างกลม ตาโปนโตมีช่องจมูกขนาดใหญ่ ด้านล่างมีปากเว้าโค้ง และมีช่องเหงือก 5 คู่ โคนหางมีเงี่ยงแหลมยาว 2 อัน ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาดอกหมาก ชื่อสามัญ: Whipfin silver-biddy ชื่อวิทยาศาสตร์: Gerres Filamentosus วงศ์ (Family): Gerreidae ถิ่นกำเนิด: พบกระจายพันธ์ตามชายฝั่งทะเลตื้นๆ รายละเอียด: รูปร่างลำตัวป้อมดูคล้ายรูปไข่หรือสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนแบนข้าง หัวเล็กสั้น นัยน์ตาโต จะงอยปากแหลม ปากยืดหดได้ เกล็ดเล็กหลุดง่ายมีความแวววาวเงางาม ตัวโตเต็มวัยก้านครีบแข็งอันที่สองของครีบหลังจะเจริญยาวเป็นเส้นเดี่ยว ครีบอกยาว ครีบหางเว้ารูปส้อม สีลำตัวอมเทามีสีดำแต้มเป็นจุดประปรายท้องสีขาวเงิน ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาหมูสี ชื่อสามัญ: Pink ear emperor ชื่อวิทยาศาสตร์: Lethrinus lentjan วงศ์ (Family): Lethrinidae ถิ่นกำเนิด: พบได้ทั่วไปทั้งสองชายฝั่งทะเล รายละเอียด: ลำตัวค่อนข้างสั้นแบนทางด้านข้าง ปากกว้างผิวปากหนา ส่วนหัวไม่มีเกล็ด และลาดลงมาจากด้านหลัง ครีบหลังตอนหน้ามีหนามจำนวน 10 อัน และครีบหลังตอนท้ายมีหนาม 9 อัน ครีบหางใหญ่ตัดตรงและเว้าตรงกลางเพียงเล็กน้อย พื้นผิวลำตัวสีไพลอมเหลืองอ่อน บนเกล็ดมีจุดขาวอยู่ทุกเกล็ด บริเวณฐานของครีบหูมีสีแดง ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากล้วยหางเหลือง ชื่อสามัญ: Red-bellied fusilier ชื่อวิทยาศาสตร์: Caesio cuning วงศ์ (Family): Caesionidae ถิ่นกำเนิด: แนวปะการังและเกาะแก่งริมชายฝั่ง รายละเอียด: พื้นลำตัวด้านหลังสีเขียวอมฟ้าด้านท้องสีขาวอมชมพู แนวสันหลังและหางสีเหลือง ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาโฉมงาม ชื่อสามัญ: Threadfinned trevally ชื่อวิทยาศาสตร์: Alectis indica วงศ์ (Family): Carangidae ถิ่นกำเนิด: อาศัยใกล้พื้นทะเลบริเวณริมชายฝั่ง รายละเอียด: ลำตัวแบนด้านข้างเป็นรูปห้าเหลี่ยม ตาโต ปากกว้าง ครีบหลังและครีบก้นมีสายยาวคล้ายเส้นผม ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาจุ้ยจิ้น ชื่อสามัญ: Trevally ชื่อวิทยาศาสตร์: Carangoides spp. วงศ์ (Family): Carangidae ถิ่นกำเนิด: อาศัยใกล้พื้นทะเลบริเวณริมชายฝั่งอ่าวไทย รายละเอียด: ลำตัวแบนด้านข้าง ตาโต พื้นลำตัวด้านหลังสีเขียวฌพล และมีแถบคาดตามขวางเรื่อ ๆ ประมาณ 6 แถบ ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาสิงโต สิงโตแดง ชื่อสามัญ: Red lionfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Pterois volitans วงศ์ (Family): Scorpaenidae ถิ่นกำเนิด: พบตามซอกหินและแนวปะการัง ทางฝั่งอันดามัน รายละเอียด: พื้นลําตัวสีน้ำตาล มีแถบสีน้ำตาลเข้ม พาดขวางทั่วลําตัวไปจนถึงหาง ครีบอกมีขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยครีบแข็งและพิษ มักอาศัยตามแนวปะการัง กองหินใต้น้ำหรือเรือจม อยู่รวมกันเป็นกลุ่มย่อยๆ ออกล่าปลา ปู กุ้ง หรือสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กชนิดต่างๆ เป็นอาหาร ชอบน้ำเย็นและสะอาด เลี้ยงได้ไม่ยากนัก นิยมนํามาเลี้ยงเป็นปลาสวยงามกันทั่วไป โดยเฉพาะลูกปลาที่มีขนาดเล็ก ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: สลิดหินแขก ชื่อสามัญ: STREAKED SPINEFOOT ชื่อวิทยาศาสตร์: Siganus javus วงศ์ (Family): Siganidae ถิ่นกำเนิด: สลิดหินแขกพื้นท้องทะเลและกองหิน แพร่กระจายในอ่าวไทย และทะเลอันดามัน รายละเอียด: ลักษณะของสลิดหินแขก รูปร่างป้อมสั้น ความยาวลำตัวเท่ากับ 1.8-2.3 เท่าของความกว้างลำตัว หัวค่อนข้างเล็ก ปากเล็กยืดหดไม่ได้ ตอนหน้าของครีบหลังมีหนามแหลมยื่นชี้ออกจำนวน 13 อัน อันแรกสั้นที่สุด และต่อด้วยก้านครีบอ่อน ครีบท้องอยู่ใกล้กับครีบหูและมีขนาดใกล้เคียงกัน ฐานครีบก้นยาวมีก้านครีบแข็ง 7 อัน คอดหางเล็กเรียว ลำตัวสีน้ำตาลปนดำ ส่วนท้องมีสีจาง ลำตัวด้านบนมีจุดประและมีแถบเล็กยาวกว่าทางด้านล่าง ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: สลิดทะเลจุดเหลือง ชื่อสามัญ: Golden – lined spinefoot ชื่อวิทยาศาสตร์: Siganus guttatus วงศ์ (Family): Siganidae ถิ่นกำเนิด: ตามเกาะแก่งและกองหินใต้น้ำตามพื้นทะเลทั่วไป รายละเอียด: รูปร่างแบนเป็นรูปไข่ ผิวเรียบ ครีบหางมีปลายตัดตรง ลำตัวมีสีเทา มีจุดประสีเหลืองหรือสีส้มแดงกระจายอยู่ทั่วตัว รวมทั้งที่เป็นลายที่หน้าฐานครีบหลังส่วนปลายมีแต้มสีเหลือง ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาข้าวเม่าแก้มดำ ชื่อสามัญ: Pinecone soldierfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Myripristis murdjan วงศ์ (Family): Holocentridae ถิ่นกำเนิด: ตามซอกหินและแนวปะการังใต้น้ำ รายละเอียด: ลำตัวแบนทางด้านข้าง ตาโต เกล็ดหยาบ พื้นผิวลำตัวมีสีแดง บริเวรแก้มมีคาดสีแดงอมดำตามขวาง ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลากะรังหัวโขน ชื่อสามัญ: Stone fish ชื่อวิทยาศาสตร์: Synanceia horrida วงศ์ (Family): Synanceiidae ถิ่นกำเนิด: พบทั่วไปในน่านน้ำไทย รายละเอียด: ลำตัวป้อมสั้น ปากกว้างเป็นรอยโค้งอยุ่ทางด้านบน ตากลมเล็กกลอกกลิ้งได้ ลำตัวสีน้ำตาลแดง ครีบแข็ง ตามลำตัวมีพิษ ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาตาเหลือก ชื่อสามัญ: Line silver Grunt ชื่อวิทยาศาสตร์: Megalops cyprinoides วงศ์ (Family): Megalopidae ถิ่นกำเนิด: อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลและยังสามารถปรับตัวให้อยู่น้ำจืดหรือน้ำกร่อยได้ด้วย รายละเอียด: มีรูปร่างป้อม ปากกว้าง ที่ใต้คางระหว่างกระดูกกรามล่างมีแผ่นกระดูกแข็ง 1 ชิ้น และมีก้านครีบหลังอันสุดท้ายยื่นยาวเป็นเส้น เกล็ดเป็นสีเงินแวววาวตลอดลำตัว ตามีขนาดโต จึงเป็นที่มาของชื่อ ขนาดโตเต็มที่ได้ถึง 1.5 เมตร น้ำหนักเต็มที่ประมาณ 15 กิโลกรัม ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }
ชื่อไทย: ปลาดุกทะเล ชื่อสามัญ: Black eeltail catfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Plotosus canius วงศ์ (Family): Plotosidae ถิ่นกำเนิด: เป็นปลาหน้าดิน หากินตามที่น้ำตื้นหรือปากแม่น้ำ รายละเอียด: เป็นปลาไม่มีเกล็ด ลำตัวปกคลุมด้วยเมือกลื่น รูปร่างเรียวยาว ด้านข้างแบน มีหนวด 4 คู่ เงี่ยงพิษอยู่บริเวณครีบหลังและอก หากโดนพิษอาจมีอาการเจ็บปวดนานประมาณ 30-60 นาที หรืออาจนานถึง 48 ชั่วโมงหากได้รับพิษจากปลาขนาดใหญ่ บาดแผลบวม อักเสบ เป็นไข้ การปฐมพยาบาล ควรแช่บาดแผลในน้ำอุ่นประมาณ 30-60 นาที อาการจะทุเลา ทานยาแก้อักเสบ หากมีอาการแพ้มากควรรีบพบแพทย์ ประเภท (Catalogy): ปลาทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/aqualib", "title": "Thai aqualib" }