title
stringlengths
2
223
body
stringlengths
496
195k
summary
stringlengths
34
1.83k
type
stringlengths
4
98
tags
stringlengths
2
1.52k
url
stringlengths
27
112
เปิดความงามและความหมายแห่ง ‘พระที่นั่งภัทรบิฐ’
ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระมหากษัตริย์ไทยแต่อดีตนั้น พระที่นั่งภัทรบิฐ เป็นอีกพระที่นั่งองค์สำคัญที่มีบันทึกมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา โดยเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสถาปนาราชวงศ์จักรี พระองค์ได้ทรงเลือกแบบแผนการพระราชพิธีราชาภิเษกครั้งสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร (กรมขุนพรพินิต) มาเป็นแบบอย่างในการราชาภิเษกสมโภช พร้อมทั้งทรงสร้างพระที่นั่งภัทรบิฐขึ้นมาอย่างในราชวงศ์บ้านพลูหลวง แต่ก็ไม่ได้มีการสร้างเป็นการถาวร กระทั่งมาถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ซึ่งตรงกับช่วงที่สหราชอาณาจักรเริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศตะวันออก พระองค์จึงทรงให้มีการปรับเปลี่ยนสยามให้มีความเป็นสากลมากขึ้น และหนึ่งในนั้นคือความหมายที่ซ่อนไว้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างพระที่นั่งภัทรบิฐองค์ถาวร ซึ่งประดิษฐาน ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณมาจนถึงปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) Photo: หนังสือพระราชพิธีบรมราชาภิเษก(บน) ภายในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ (ล่าง) พระที่นั่งภัทรบิฐ Photo: หนังสือพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่า พระที่นั่งภัทรบิฐนั้น เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อยกลาง) สร้างถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ก็ยังมีข้อถกเถียงในแวดวงประวัติศาสตร์ว่า เจ้าพระยานครศรีธรรมราชอาจจะสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวก็เป็นไปได้ ครั้นพอมาถึงในรัชกาลถัดมา เมื่อทรงมีการจัดสร้างพระที่นั่งภัทรบิฐ จึงได้เลือกนำพระเก้าอี้องค์นี้มาปรับปรุงโครงสร้าง จากพระเก้าอี้ทรงกงในแบบจีน ให้เป็นพระเก้าอี้บรมราชาภิเษกในลักษณะของบัลลังก์ตามแบบธรรมเนียมราชสำนักยุโรป ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าในขณะนั้นธรรมเนียมอังกฤษและยุโรปได้กลายมาเป็นธรรมเนียม สากล ที่หลายประเทศทั่วโลกให้การยอมรับลักษณะพิเศษอย่างแรกของพระที่นั่งภัทรบิฐนั้นเห็นจะเป็นเรื่องของพนักที่สร้างจากไม้ดัดให้เป็นรูปโค้งที่เรียกว่า ทรงกง ซึ่งเป็นทรงเก้าอี้เฉพาะสำหรับราชวงศ์และชนชั้นสูงในเมืองจีน ทว่า เมื่อพระเก้าอี้องค์นี้สร้างในเมืองนครศรีธรรมราช เอกลักษณ์ที่จะขาดไม่ได้คือ งานถมตะทอง งานประณีตศิลป์ชั้นสูงที่ต้องช่างเมืองนครศรีธรรมราชเท่านั้น จึงจะทำออกมาได้อย่างประณีตหาที่ติไม่ได้ น่าแปลกที่งานถมตะทองแบบนี้บังเอิญให้เหมือนงานการทำลวดลายทองบนพื้นดำที่ประดับอยู่บน Coronation Chair หรือพระเก้าอี้บรมราชาภิเษกของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งสหราชอาณาจักร ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันพระเก้าอี้บรมราชาภิเษกองค์นี้ถูกเก็บรักษาไว้ในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งหากไปชมใกล้ๆ จะได้เห็นลวดลายนก ดอกไม้ และเถาไม้กระหวัดรอบพระเก้าอี้บรมราชาภิเษกองค์นี้ละเอียดมากCoronation Chair หรือพระเก้าอี้บรมราชาภิเษกของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งสหราชอาณาจักร ใช้เทคนิคคล้ายคลึงกับเครื่องถมไทย Photo: www.westminster-abbey.orgรายละเอียดของพระที่นั่งภัทรบิฐยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ครั้นมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เพราะทรงให้มีการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้น 2 ครั้ง ได้แก่ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียร และพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช โดยในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช ซึ่งเป็นการจัดงานอย่างโบราณราชประเพณีครบทุกขั้นตอน ได้โปรดให้มีการสร้างพระที่นั่งภัทรบิฐองค์ใหม่ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พร้อมกันนั้นก็ทรงนำพระแท่นมนังคศิลาบาตรมาเป็นฐานของบัลลังก์ ปูราดด้วยหนังราชสีห์ทั้งตัวตั้งแต่หัวไปจรดหาง แทนการใช้แผ่นทองคำเขียนรูปราชสีห์ปูลาดบนพระที่นั่งอย่างในราชการก่อน มีนามเฉพาะว่า พระที่นั่งภัทรบิฐมนังคศิลารามราชอาสน์เป็นรัตนสิงหาสน์รัชกาลที่ 6 Photo: หนังสือพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสำหรับพระแท่นมนังคศิลาบาตรเป็นแท่นหินโบราณที่เชื่อกันว่า พ่อขุนรามคำแหงแห่งกรุงสุโขทัย ได้เสด็จฯ ออกราชการบนพระแท่นนี้ การที่รัชกาลที่ 6 ทรงนำพระแท่นมนังคศิลาบาตรมาเป็นฐานพระที่นั่งภัทรบิฐก็น่าจะมีนัยไปถึงหินแห่งสโคน (Stone of Scone)หรือหินราชาภิเษก (Stone of Coronation) แท่นหินทรายที่ใช้ในบัลลังก์กษัตริย์สกอตแลนด์ ทว่า ในกาลต่อมาถูกครอบครองโดยกษัตริย์อังกฤษ และถูกวางไว้ใต้พระเก้าอี้บรมราชาภิเษกของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 พร้อมกับใช้ในพิธีราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรสืบต่อมา คล้ายกับเป็นการบอกเป็นนัยว่า อังกฤษประทับอยู่เหนือดินแดนสกอตแลนด์ (ปัจจุบันทางการสกอตแลนด์ได้ขอหินแห่งสโคนกลับไปอนุรักษ์ยังสกอตแลนด์แล้ว) และถ้าเทียบกับไทยก็อาจจะเป็นนัยที่คล้ายกับ Stone of Scone ก็เป็นได้Stone of Scone แท่นหินทรายที่ใช้ในบัลลังก์กษัตริย์สกอตแลนด์ Photo: www.westminster-abbey.orgอย่างที่กล่าวไว้ว่า เหตุที่รัชกาลที่ 4 ทรงเริ่มปรับปรุงรายละเอียดพระราชพิธีก็เพื่อความเป็นสากล เพื่อให้ชาวต่างชาติได้เห็นความเป็นอารยะ เห็นความเป็นสากลของสยามในยุคนั้น และอีกเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นบนพระที่นั่งภัทรบิฐ และมีการปฏิบัติสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันคือ การที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเปลี่ยนจากการรับ พระมหาพิชัยมงกุฎ หนึ่งในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ มาเป็นทรงสวมพระมหาพิชัยมงกุฎบนราชบัลลังก์เช่นเดียวกับราชวงศ์ต่างๆ ในยุโรป พร้อมกันนั้นก็ได้เชิญหมอบรัดเลย์เข้ามาบันทึกเหตุการณ์เป็นภาษาอังกฤษ เผยแพร่ขั้นเหตุการณ์สำคัญเช่นนี้ไปยังฝั่งยุโรป ให้ชาติตะวันตกได้เห็นว่า สยามมิใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน แต่เป็นชาติที่มีอารยธรรมอันดีสืบต่อกันมารัชกาลที่ 9 ประทับพระที่นั่งภัทรบิฐ Photo: หนังสือพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพิสูจน์อักษร: อ้างอิง:
พระที่นั่งภัทรบิฐประดิษฐานอยู่ด้านทิศตะวันตกของพระที่นั่งไพศาลทักษิณ มีพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งเป็นฉัตร 9 ชั้น กางกั้นเหนือพระที่นั่งเมื่อองค์พระมหากษัตริย์ทรงรับน้ำอภิเษกที่พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์แล้วจะเสด็จพระราชดำเนินประทับ ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ เพื่อทรงรับการถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระแสงอัษฎาวุธ เครื่องราชูปโภค และราชสมบัติพระที่นั่งภัทรบิฐองค์ปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นเก้าอี้ทรงกงอย่างจีน ประดับงานเครื่องถมเมืองนครศรีธรรมราช และปรับให้มีความเป็นสากลคล้ายคลึงกับ พระเก้าอี้บรมราชาภิเษก หรือ The Coronation Chair แห่งสหราชอาณาจักร
null
null
https://thestandard.co/royalcoronation101-3/
ระทึก พายุพัดถล่มศรีราชา ฟ้าผ่าเสาไฟฟ้าหักสองท่อน ไฟลุก ระดมจนท.ดับ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 พฤษภาคม 2561 ศูนย์บรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีเหตุเพลิงไหม้สายไฟฟ้าที่ติดอยู่กับเสาไฟหักสองท่อน อยู่หน้าบ้าน หลังจากที่ถูกฟ้าผ่าลงมาในช่วงที่ฝนตกหนัก เหตุเกิดบริเวณ ปากซอยชุมชนวังหินซอย 3 หมู่ 1 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้ง จึงจัดรถดับเพลิงและกำลังอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ตรวจสอบในที่เกิดเหตุอีกทั้งยังได้ประสานไปที่การไฟฟ้าอำเภอศรีราชาเพื่อส่งเจ้าที่มาตัดไฟ,ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่า เพลิงกำลังลุกไหม้สายไฟอย่างรุนแรง โดยเสาไฟฟ้าที่ยึดสายไฟเหล่านี้ ได้หักลงมาเป็นสองท่อน ซึ่งเสาไฟดังกล่าวอยู่ติดกับบ้านเลขที่ 23/6 เลขที่หมู่ 1 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยเจ้าหน้าที่ต้องนำรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำเพื่อทำการควบคุมเพลิงโดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสามารถทำการควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งหลังจากเพลิงสงบลงแล้วทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบโดยพบว่า มีสายไฟสายเคเบิล สายอินเตอร์เน็ตต่างๆ เสียหาย จากการถูกไฟไหม้เป็นจำนวนมาก,จากการสอบถาม น.ส ภิรมย์ฤดี เจริญสุข อายุ 36 ปี เจ้าของบ้าน ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นในพื้นที่อำเภอศรีราชา มีพายุฝนพัดเข้าถล่มอย่างหนัก โดยได้มีฟ้าผ่าลงมาที่เสาไฟต้นดังกล่าวจำนวนหนึ่งครั้ง และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีเสียงช็อตของหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่สองรอบ โดยรอบที่สามนั้นหม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าวได้เกิดระเบิดจนมีเสียง ดังสนั่นหวั่นไหว โดยในตอนนั้นตนจึงรีบวิ่งออกมาดูก็พบว่า มีเพลิงกำลังลุกไหม้สายฟ้าอยู่ตนจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เดินทางมาในที่เกิดเหตุ เพื่อทำการควบคุมเพลิงที่เกิดขึ้นดังตามที่กล่าวมา
ระทึก! พายุถล่ม อ.ศรีราชา ฟ้าผ่าเสาไฟฟ้าหักสองท่อน ไฟลุกไหม้สายไฟ สายเคเบิล สายอินเตอร์เน็ต หน้าบ้านชาวบ้าน จนท.ต้องระดมกำลังช่วยกันดับเพลิงเอาไว้ได้
ข่าว,ทั่วไทย
ฟ้าผ่า,เสาไฟฟ้าหัก 2 ท่อน,ศรีราชา,พายุถล่ม,ไฟลุกไหม้สายไฟ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/east/1292317
ปิกอัพเร่งเครื่องแซงรถบรรทุกอ้อยไม่พ้น ชนประสานงา จยย.ดับสยอง
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 2 ก.พ. 2560 พ.ต.ท.ชาญณรงค์ พรหมมา รองผกก.(สอบสวน) สภ.ด่านขุนทด ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ บนถนนสุรนารายณ์ ระหว่างหลักกม.ที่ 174 – 175 บ้านโคกสามัคคีหมู่ที่ 1 ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด มีผู้เสียชีวิต 1ราย จึงไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยปริสุทฺโธ(ฮุก 31จุดด่านขุนทด) ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซุซุ ดีเเม็ค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บธ 1483 ชัยภูมิ จอดอยู่บนถนนเลนขวา มุ่งหน้าไปทางจ.นครราชสีมา สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ด้านหน้ารถกระบะมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินคาดดำ ทะเบียน 1กญ 896 ชัยภูมิ พลิกคว่ำพังยับเช่นกัน พบร่างนายธรากร แขขุนทด อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 1 ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด นอนเสียชีวิตในสภาพคอหักกะโหลกศีรษะแตก เพราะไม่สวมหมวกนิรภัย จึงให้หน่วยกู้ภัยนำศพส่งพิสูจน์ที่ รพ.ด่านขุนทด,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสุนันท์ เสวียงวาด อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 142 หมู่ 5 ต.โปร่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ คนขับรถปิกอัพ มีญาตินั่งมาด้วย 3 คน มุ่งหน้าไปทาง จ.นครราชสีมา มาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางลาดชันจึงได้ขับแซงรถบรรทุกอ้อยด้านซ้ายขึ้นไป แต่ยังไม่ทันพ้นรถจักรยานยนต์ของผู้ตายขับสวนมาด้วยความเร็ว เกิดชนประสานงาเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว,ส่วนนายสุนันท์และญาติ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง กล่าวว่า ผู้ตายเพิ่งจะออกจากปั๊มน้ำมันมาประมาณ 300 เมตรเกือบจะถึงทางแยกเข้าหมู่บ้านเล็กน้อยก็เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน ซึ่งจะได้สอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.,ภาพจาก ศูนย์วิทยุปริสุทฺโธ สภ.ด่านขุนทด
หนุ่มซิ่ง จยย. ออกจากปั๊มน้ำมันได้ 300 เมตร เกิดชนประสานงากับปิกอัพที่เร่งเครื่องแซงรถบรรทุกอ้อย ทำให้เสียชีวิตคาที่ ระหว่างหลักกม.ที่ 174–175 บ้านโคกสามัคคี หมู่ที่ 1 ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
null
ประสานงา,จยย.ชนปิกอัพ,อุบัติเหตุรถชน,ธรากร แขขุนทด,ด่านขุนทด
https://www.thairath.co.th/content/850048
กกท.เตรียมหาหน่วยงานดูแลสนาม
นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า จากการหารือกับคณะอนุกรรมาธิการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศในคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา เรื่องพิจารณาติดตามโครงการก่อสร้างสนามกีฬา 7 จังหวัด พบว่าล่าช้านั้น กกท.จะรีบแก้ไขด้วยการประสานงานกับแต่ละจังหวัดมากขึ้น และที่สำคัญกว่านั้นจะมีแผนรองรับ เพื่อหาหน่วยงานที่จะเข้าไปดูแลสนาม เพื่อไม่ให้เกิดการปล่อยให้สนามร้างเหมือนในอดีตโครงการสร้างสนามกีฬา 7 จังหวัด ผ่านมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 20 เมษายน 2553 สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และนายชุมพล ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในวงเงิน 1750 ล้านบาทในงวดแรกได้จังหวัดละ 250 ล้านบาท ก่อนจะมาเพิ่มให้ 2 จังหวัด คือ สมุทรปราการ เป็น 1274 ล้านบาท และนราธิวาส 1496 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบผูกพันตั้งแต่ปี 2553-2557 โดยมีนโยบายว่าหลังจากที่สนามสร้างเสร็จแล้ว รัฐบาล และ กกท.จะส่งมอบสนามกีฬาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแล พร้อมทั้งให้แต่ละจังหวัดมีแผนบริหารจัดการสนามให้ชัดเจนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้สนามเหล่านี้
รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยยืนยันว่า กกท.เตรียมประสานกับผู้แทนสนามกีฬาทั้ง 7 จังหวัด เพื่อให้การก่อสร้างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังมีแผนตั้งงบประมาณเพิ่มเพื่อให้มีหน่วยงานดูแลสนามในระยะยาว
กีฬา
กกท.,ดูแล,สนาม,หน่วยงาน
https://news.thaipbs.or.th/content/149929
มหัศจรรย์ที่สุด สมุดภาพรัชกาลที่ 9 ศักดิ์ชัย กาย ร่ำไห้ทำประวัติศาสตร์ (ชมคลิป)
ผมมายืนที่ โรงแรม สวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ,, เดินตามทาง ไม่นานก็ถึงจุดนัดหมาย เรายืนอยู่ตรงหน้าห้องแห่งแรงบันดาลใจ ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ งดงาม ถูกประดับประดาเต็มฝาผนังห้องสี่เหลี่ยมไม่เล็ก ไม่ใหญ่ แต่ทว่ากลับอบอุ่นอย่างประหลาดใจ,ผมทำห้องนี้และเรียกว่า ห้องแห่งแรงบันดาลใจ ด้วยการนำพระบรมฉายาลักษณ์ที่สะสม ภาพที่ถูกตีพิมพ์ในนิตยสารมาประทับไว้ ทุกคนที่ผมเจอทางตัน ทุกๆ ปัญหาเราต้องการแรงบันดาลใจ งานนี้ก็เช่นกันเหมือนจะมีทางตัน แต่ก็มีปาฏิหาริย์ให้มันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ,ผมไม่ได้ทำแค่สมุดภาพ เขาเล่าเสียงสั่นแทบทุกประโยค แต่กำลังรวมประวัติศาสตร์ครั้งสุดท้ายด้วยความตั้งใจที่สุดในชีวิต เพื่อแสดงความอาลัยถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจ เป็นศูนย์รวมของคนไทยทั้งชาติ,ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสเปิดห้องแห่งแรงบันดาลใจ คุยกับ ,ศักดิ์ชัย กาย, บรรณาธิการนิตยสาร ,LIPS, ชื่อดัง ผู้ผลิตสมุดภาพรัชกาลที่ 9 ที่สุดความงดงาม หายาก ขนาด A 2 พิมพ์ด้วยกระดาษชั้นดี และเรื่องราวรายละเอียดมากมาย มีทั้งรอยยิ้ม น้ำตา ปาฏิหาริย์ กว่าจะได้มาซึ่งสมุดทรงคุณค่า ที่มีคนพูดถึงในเวลานี้มากที่สุด,Q : จุดเร่ิมของสมุดภาพรัชกาลที่ 9 เกิดขึ้นจากอะไร,ผมต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้หลายคนบอกว่าสิ่งพิมพ์กำลังจะตาย แต่หลังวันที่ 13 ต.ค.เป็นต้นมา ทั้งๆ ที่มีออนไลน์ตั้งมากมาย แต่หนังสือมันจะไม่ได้หายไปไหนแบบที่หลายคนคิด เพราะสิ่งพิมพ์มันจับต้องได้ เราพลิกดูได้ เป็นสื่อที่สามารถสื่อสารได้ดีที่สุด นี่คือสิ่งที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานให้พวกเราครั้งสุดท้าย หลายสำนักพิมพ์ก้าวขึ้นมาจากวิกฤติ มีออกซิเจนต่อลมหายใจ แบบเหลือเชื่อ หากมองออกไปหลายอุตสาหกรรมยังฟื้นคืนชีพตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.มากมาย,หลายๆ อุตสาหกรรมเป็นลูกโซ่ ทำให้ลืมตาอ้าปากได้ เพียงข้ามคืน โดยเฉพาะสิ่งพิมพ์ ตอนนี้กระดาษยิ่งกว่าราคาทองคำ สำนักพิมพ์กว้านหาซื้อกระดาษไม่ได้ เพราะไม่มีใครคิดว่ามันจะกลับมา นอกจากความโศกเศร้าที่มีในคนไทยทุกคน แต่ชีวิตเราต้องเดินต่อไปให้ได้ ผมในฐานะที่ทำธุรกิจสิ่งพิมพ์เล็กๆ อยู่ เราก็มาคิดว่าต้องทำสิ่งที่เราอยู่ทำต่อไปให้ได้ดีให้ได้ สนองงานที่พระองค์พระราชทานแนวพระราชดำริ เอาไว้ว่า ทุกๆ คน ทำหน้าที่ที่ตัวเองมีอยู่ให้ดีที่สุด,เรามามองว่า เราทำยังไงต่อดี เรามีเรื่อง มีพระบรมฉายาลักษณ์ที่สมบูรณ์ ซึ่งทุกคนก็พิมพ์แจกกัน ทุกคนที่มาสนามหลวงอยากจะมาใกล้ชิดพระองค์ท่าน อยากมาแสดงความเคารพ ทุกคนก็มีภาพมาด้วยทำในกำลังที่ทำได้ เราก็อยากทำสมุดภาพออกมาสักเล่ม เพราะว่าสิ้นรัชสมัยพระองค์ท่านแล้ว เราจะทำสมุดภาพอย่างที่เราอยากทำได้สักกี่เล่ม กี่ครั้ง เราถามตัวเอง เราไม่มีโอกาสไหนที่เราจะตอบแทนพระองค์ได้เลย นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจ เราต้องทำสิ่งนี้เพราะเราจะไม่เสียชาติเกิดเลย เราต้องทำให้ดีที่สุด นี่คือปณิธานของผม ถ้าผมจะทำ ผมจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ,Q : หลังจากนั้นมันเดินต่ออย่างไร เพราะไม่ใช่ง่ายๆ ด้วยปณิธานว่าต้องทำให้ออกมา ดีที่สุด,เราต้องตามหาสิ่งที่ดีสุด เราดูภาพว่าเป็นอย่างไร พระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง รัชกาลที่ 9 แพร่หลายอยู่หลายแห่ง เกิดเป็นปรากฏการณ์พระบรมฉายาลักษณ์ออกมาสู่สื่อดิจิตอล ถล่มทลาย,เกิดเป็นวลีที่ ไม่ใช่แค่ภาพที่มีอยู่ทุกบ้าน แต่เป็นภาพที่มีอยู่ทุกเครื่อง สามารถดาวน์โหลดได้เลยทันที ข้อเสียไฟล์เล็ก-ไม่ชัด แม้ว่าจะมีภาพพระองค์ที่เราไม่เคยเห็นมากมาย ซึ่งพอเราตามไปหารูป ทุกคนก็มีต้นฉบับที่เล็ก ไฟล์ก็ก๊อบต่อๆ กันมา ไปหอจดหมายเหตุก็มีภาพที่เราเคยเห็นกัน แต่แปลกที่ทุกปัญหาเรามีตัวช่วยเสมอๆ วันหนึ่งเราสืบจนได้เจอนักสะสม หลายคน 2 คนที่สำคัญมาก คุณโจ (คุณณรัฐ นภาวรรณ เจ้าของร้านหนังสือออนไลน์ ลุงโจ ) เป็นนักสะสมหนังสือเก่าพระบรมฉายาลักษณ์ หรือเรียกว่าภาพเจ้านาย เขาเก็บทุกอย่างที่เป็นพระบรมวงศานุวงศ์ เขามีคลังที่มหาศาลมาก ตึก 3-4 ชั้นบรรจุไปด้วยกรอบรูปดั้งเดิม ที่หามาใหม่ เก็บมาแบบไม่เคยจำหน่ายจ่ายแจก เราไปรื้ออยู่เป็นวันๆ เราเจอภาพที่เราอยากได้,บางภาพก็ไม่เคยเห็น ภาพที่พระองค์ทรงพระผนวช เจอแบบไม่เคยเห็นมากมาย หนังสือเล่มนี้ที่เราทำ มันหนักมาก ไล่มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เป็นช่วงเวลา จนถึงวันที่ 13 ตุลาคม ได้จากคุณโจเยอะมาก อีกท่านที่ต้องขอบคุณคือคุณเค (ฐานธิษณ์ ชินกฤตกุล นักสะสมภาพเจ้านายที่ดีที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย) เป็นอีกหนึ่งที่สะสมพระบรมฉายาลักษณ์ เรารู้จักผ่านเพื่อนแรกๆ เหมือนจะหมดหนทาง แต่ก็พบแสงนำทางไปตลอด,Q : เป็นความมหัศจรรย์ เหมือนจะมีทางตัน แต่ก็มีทางต่อ,เรามีตัวช่วยตลอด จริงๆ ไม่คิดว่ามันจะมีขนาดนั้น ซึ่งเราก็ต้องแสดงเจตนารมณ์ให้เจ้าของภาพเห็นว่า เราจะเอาภาพไปทำอะไร อย่างแรกไม่อยากให้มีความรู้สึกว่าเราไปขอถ่ายสำเนาแล้วเอาหนังสือมาขายเอง เราต้องทำให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้ทำเพื่อขายโปรดักต์ , เช่น มีภาพหนึ่งที่พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาอยู่ แล้วมีการลงพระราชหัตถเลขา พระปรมาภิไธยเป็นภาษาไทยว่า ภูมิพล ผมไม่เคยเห็นเลย เป็นภาพที่เจ้าของประมูลมาด้วยราคาแพงมาก เราก็ขออนุญาตได้ไหม ซึ่งเขาก็ใส่กรอบเอาไว้บูชาบนบ้านเขา ซึ่งเมื่อผมบอกจะพิมพ์ใบนี้แจก เขาไม่คิดมาก แกะออกมาให้ผมถ่ายสำเนา ซึ่งผมจะพิมพ์ใบนี้ในกระดาษแข็งอย่างดี เพื่อแจกจริงๆ,ซีรีส์สำคัญของคุณเคที่มีก็คือ พระบรมฉายาลักษณ์ที่มีพระราชหัตถเลขา ลงพระปรมาภิไธยอยู่ในรูป ผมก็ไม่เคยเห็นว่าใครมีมากเท่านี้ แม้กระทั่งของคุณโจ มีซีรีส์ที่พิเศษมากๆ คนที่เก็บภาพค่อนข้างจะหวง ผมก็รู้สึก ซาบซึ้งมากทั้ง 2 ท่าน ที่ให้เรา นอกจากจะเข้าไปชื่นชมแล้วถ่ายสำเนา เอามาพิมพ์เผยแพร่ด้วย,โดยส่วนตัวผมเก็บอยู่ด้วย แต่เชื่อไหมผมเข้าไป เราไม่เคยเห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่มากมายบรรจุอยู่ในห้อง บางภาพเราไม่เคยเห็นต้นฉบับ นี่เห็นต้นฉบับแล้ว ไม่ใช่ภาพเดียว เป็นหมื่นๆ ภาพ เป็นอาคาร 3 ชั้น บรรจุด้วยภาพเจ้านายทั้งตึก บนห้องแต่ละห้อง ที่ฝาบ้านแทบไม่มีที่ว่าง เป็นภาพที่เห็นตอนเด็กๆ ตามร้านกาแฟ ตามร้านขายของ เราเคยเห็นมา แต่มารวมอยู่ที่เดียว และภาพอีกมากมายที่เราไม่เคยเห็น มันตื้นตันใจ สิ่งที่เราเห็นก็อยากให้คุณเห็น อย่างคุณเคก็เหมือนกัน เขาไม่เคยเปิดให้ใครไปสัมภาษณ์เลย เขาก็เปิดให้เรา อย่างคุณโจ อยากได้ภาพไหนเลือกเอาเลย ให้เราเอาไปถ่ายสำเนาแล้วเอาไปให้คนบูชา,Q : ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย,ไม่คิดเลยครับ ผมถามก่อน อย่างแรก ก่อนที่จะทำงาน เราบอกว่าจุดประสงค์ของเรา เราขายจริง แต่การขายเราขายด้วยต้นทุนเพื่อที่จะจัดทำในห้องสมุดทั่วประเทศ เราคิดว่าโรงเรียนเหล่านั้นบางแห่งอยู่ในพื้นที่กันดาร เราไม่สามารถมาสนามหลวงได้หรอก สิ่งที่เราทำเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ภาพเหล่านี้ก็ไม่ได้สูญหายไปไหน ได้อยู่กับคนไทย ไม่มีแม้แต่หนึ่งคำเลยว่าจะคิดค่าลิขสิทธิ์ ต้องขอบคุณ 2 ท่านจริงๆ สิ่งที่ผมได้มาเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับทุกคนทั่วโลก อย่างของคุณเค มีภาพในหลวง ร.9 อยู่ 3 แสนกว่าภาพ เขาเก็บมาตั้งแต่เขาเป็นนักเรียนอัสสัมชัญ เป็นเล่มๆ เป็นห้องๆ ขนาดผมไปหา ผมยังไม่มีปัญญาดูทั้งหมดเลยเพราะเราค่อนข้างมีเวลาจำกัด เขาไม่เคยใครเข้าไปดู ไม่เคยพิมพ์ออกมาขาย เรามีบุญได้รับเกียรติ ได้รับความไว้วางใจ มันจะดีที่สุด,Q : คุณไม่ได้ทำสมุดภาพ แต่คุณกำลังทำประวัติศาสตร์,ใช่ครับ เราถ่ายทอดในสิ่งที่เราเห็นในฐานะของสื่อสารมวลชน สมุดเล่มนี้ไม่ได้ใช้อ่าน แต่ผมมั่นใจทุกคนสามารถสืบอ่านข้อมูลจากสื่อต่างๆ ได้อย่างมากมายอยู่แล้ว แต่ภาพนี่ซิ มันเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก ต้นฉบับที่ใหญ่มากที่สุดที่ไม่เคยมีใครพิมพ์ขนาดนี้ ,พอเราตั้งใจจะทำ เอาเข้าจริงๆ ไม่มีใครอยากฉีกหรอก สมุดเล่มนี้ไม่ต้องฉีก ผมเลยคิดวิธีการเข้าเล่ม นอกจากไซส์พิเศษแล้วขนาด A 2 ไม่พับ ไม่เข้าเล่ม ไม่มีการเย็บ ไม่มีการไสกาว ในทุกแผ่นสามารถเคลื่อนออกไปใส่กรอบบูชาได้ สามารถเป็นภาพประจำที่มีทุกบ้านได้ ทั้งหมดเราจัดดัมมี่ 96 ภาพ ทุกภาพจะไม่เย็บ พิมพ์บนกระดาษนิวเอจ 160 แกรมอย่างดี อยู่ไปได้เป็น 100 ปี ข้างหลังภาพเป็นลายเทพพนม เร่ิมตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ตอนเป็นสมเด็จพระอนุชา ครองราชย์ บรมราชาภิเษก ทรงพระผนวช พระราชกรณียกิจ จนถึงภาพปลายรัชสมัยของพระองค์ ,Q : 96 ภาพ คุณตามหาสิ่งเหล่านี้นานแค่ไหน,ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. ผมตั้งหลักช้า มั่วแต่นั่งร้องไห้ คิดได้คนอื่นก็เดินไปก่อนแล้ว ผมเป็นคนหาแรงบันดาลใจยากกว่าชาวบ้าน ผมต้องการสมาธิ คราวนี้เลยคิดว่า วันๆ เราจะมีสารพัดสิ่งวิ่งมาหาเรา เราก็ต้องการหาห้องที่ทำเรื่องนี้ โดยเฉพาะผมเรียกห้องที่เราคุยนี้ว่า ห้องแห่งแรงบันดาลใจ ด้วยการนำพระบรมฉายาลักษณ์ที่สะสม และที่ตีพิมพ์ในนิตยสารมาประทับไว้แบบนี้ ห้องนี้ทำให้เรามีสมาธิกับงานในทุกๆ ทางตัน ทุกปัญหาเราต้องการแรงบันดาลใจ ,แต่อย่างที่บอกวิธีการทำ และตามหาไม่ได้ง่าย เพราะภาพที่พวกเราร่วมสืบค้นได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 เป็นต้นมา เป็นภาพต้นฉบับที่เล็กมาก ฟิล์ม-ขนาดอัดภาพมีข้อจำกัดมาก ยกเว้นคุณโชคดีที่ได้ฟิลม์กระจก เชื่อไหมว่า ภาพที่เรานำมาเป็นปก เป็นภาพที่มีลายพระหัตถ์ คุณเคมีฟิล์มกระจก ขนาด 5x7 อัดภาพออกมาเป็นเมตรก็ยังชัดเจนเลย ซึ่งหนึ่งฟิล์มกระจกที่คุณเคมีเขาประมูลกันเป็นล้านๆ แล้วคุณเคมีอยู่มากมาย 30 เพลท,คุณภาพของรูปชัดจะตกใจมาก จะมีซีรีส์ที่เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่พระองค์ท่านยังเป็นพระอนุชา ที่ถ่ายตรงระเบียงพระที่นั่งอัมพรสถาน หาดูยากมาก แถมถ่ายบนฟิล์มกระจก หรือภาพที่เราเห็นพระองค์ทรงถ่ายแบบนี้ มีสีแบบนี้ ในยุคนั้นไม่มีฟิล์มสี เขาจะมีช่างจีนที่จะระบายสีลงบนภาพขาวดำ ตามจินตนาการของตัวเอง เป็นการระบายสีลงภาพขาวดำ ช่างจีนมีฝีมือหน่อย ทำการบ้านเขาก็จะระบายสีออกมาเหมือนภาพจริงได้ถูกต้อง แต่ช่างบางคนไม่เคยเห็นก็ระบายสีผิดเพี้ยนไปบ้าง เราต้องทำการบ้านเยอะ บางภาพที่ระบายสีมา สายสะพายไม่ถูกต้อง เราก็ต้องหาที่ถูกต้องให้ได้  ,Q : ต้องทำการบ้านหนักหนามาก,เพราะว่าเรากำลังทำสิ่งที่เป็นประวัติศาสตร์ สิ่งที่เราทำต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด บางภาพที่เราเห็นกลับข้างก็มี การก๊อบปี้ไปมาบางทีมันรีเวิร์สกลับข้าง เราต้องทำให้ถูก บางทีเราก็ต้องปรับให้ใกล้เคียง ทั้งหมดมันไม่ได้คมชัดอย่างเดียว หรืออย่างต้นฉบับที่เราได้ใหญ่สุดมัน 4x6 เท่าโปสการ์ดเอง เราขยายตั้ง 17 นิ้ว มีเบลอไปบ้าง แต่งดงาม บางภาพที่หายากจริงๆ คุณภาพได้เท่านั้นเราก็ต้องพยายาม เช่น สมัยพระเยาว์ไม่มีภาพใหญ่ ส่วนมากเป็นก๊อบปี้มาหลายเจเนอเรชั่น เราก็ต้องหาทางออก ต้องคิดต่อ เราต้องนำภาพสมัยก่อน สมัยทรงพระเยาว์มาจัดวางเพื่อให้คมชัดทุกภาพ ต้องให้เห็นความสวยงาม ที่เห็น 1 หน้ามีภาพทรงพระเยาว์กว่า 50 ภาพ ยากมาก,Q : ภาพที่หายากและภูมิใจมากสุด,จริงๆ ก็ภูมิใจทั้งหมด ไม่มีภาพหนึ่งภาพใด อย่างทรงพระผนวช ก็มีภาพดีๆ ที่เราไม่เคยเห็นหลายภาพ หรือตอนที่พระองค์ทรงเป็นพระอนุชา มีภาพเสด็จฯ เยือนต่างประเทศงดงามมากหลายๆ ภาพ ในรถไฟฟ้าใต้ดิน เราไม่เคยเห็น พวกเราก็อยากให้คนได้เห็น เราเชื่อว่าคนที่ได้ไป หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย จะสร้างแรงบันดาลใจ ความสูญเสียเหล่านั้นมันจะกลายเป็นพลังบวกให้ได้ เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้เห็น 70 ปี ครองราชย์ ขอให้ได้สัก 1-2 อย่าง มันก็ประสบความสำเร็จแล้ว นี่คือสิ่งที่เราต้องการ ,Q : มารู้สึกตัวอีกทีสมุดภาพประวัติศาสตร์เล่มนี้ก็ใหญ่และหนักถึง 5 กิโลกรัม,เพราะมันมาจากกระดาษล้วนๆ ที่จริงก่อนหน้าไม่มีคนทำเพราะมันยาก ผมหาโรงงาน 10 กว่าแห่ง ไปพูดให้เขาฟังซ้ำๆ กันว่าเราไม่อยากทำอะไรยากๆ แล้วมีความหมายต่อชีวิตเราบ้างเหรอ ผมบอกกับเขา โชคดีมีคนเห็นเจตนารมณ์แม้จะใช้เวลาก็ตาม,ภาพหน้าปกผมใช้การโหวตของกองบรรณาธิการ ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก แต่ที่เลือกเพราะคลาสสิกมากๆ ทุกๆ คนจำพระพักตร์ของพระองค์ได้อย่างดี เพราะภาพปลายรัชสมัยภาพที่คมชัดหาได้ยาก ภาพนี้คุณภาพภาพชัดมากและโบนัสที่ตามมาคือมีพระปรมาภิไธยของพระองค์อยู่ มันเป็นของมงคล ภาพนี้เขาประมูลหลายแสนเลยนะครับ,Q: ย้อนกลับไปวันที่ 13 ต.ค.คุณอยู่ที่ไหน,วันที่ 12 ผมไปศิริราชเพราะมีธุระ และวันนั้นมีข่าวลือมากมายโดยเฉพาะในโซเชียล ไม่จริงหรอก ผมบอกตัวเองแบบนั้น ข้อมูลข่าวสารเข้ามาทุกด้าน เราก็คิดว่าโซเชียลมันเป็นแบบนี้ ทุกคนเป็นรีพอร์ตเตอร์ไปหมด ได้อะไรไม่วิเคราะห์ รวมๆ วันที่ 12 ต.ค.เป็นวันที่ข่าวสารป่วนเมืองมาก วันที่ 13 ต.ค.เร่ิมมีสัญญาณไม่ดีแต่เช้า ก็พยายามหาข้อมูล ปลอบตัวเองว่าไม่จริงหรอก สิ่งเหล่านี้ต้องไม่เกิดวันนี้ บอกตัวเองตลอดเวลา กระทั่งเวลาที่เกิดขึ้นจริงเรานั่งประชุมกับเพื่อนอยู่ 2-3 คน (ร้องไห้) ว่าตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้วนะ หัวใจเราแตกสลาย เราเกิดมาเราก็เห็นในหลวงหลายๆ อย่างที่เราทำเราก็ได้พระบารมีของท่านมาใช้ทำงาน เราได้เห็นโครงการมากมายที่เราไปถ่าย ได้คุยกับชาวบ้าน เราได้อยู่ใต้พระบารมีของพระองค์ท่าน,จนมาถึงวันนี้แล้ว ,มันช็อกความรู้สึกของคนที่รักพระองค์ท่านจริงๆ แล้วเราไม่ใช่คนเดียว มันก็ต้องทำใจยากอยู่ ผู้ใหญ่ที่เราได้ดูแล ศาสตราจารย์ระพี สาคริก ไม่อยากบอกว่าเกิดอะไรขึ้นที่ศิริราช พอบอกไปแล้ว เขาร้องไห้หนักกว่าผมอีก (ร้องไห้) หลายๆ คนในวันนั้น รู้สึกเดียวกัน มันเหมือนแสงไฟแห่งชีวิตดับพรึบ เราจะทำอย่างไร จะเดินต่อ ต้องใช้สติมาก ต้องพยายามคิดบวกให้ได้ ตอนนี้พระองค์ทรงจากเราไปแล้ว พระองค์ท่านทรงมอบอะไรแล้วเราจะไปต่อ สิ่งที่เราอยากปรับปรุงตัวเองได้บ้าง จากพระราชดำรัส นับเป็นพันๆ หมื่นๆ แต่ละบรรทัด เราเป็น บก. (บรรณาธิการ) อ่านงานมากมาย ไม่มีอะไรที่หลุดไปจากสายตาเราไป เราก็นำสิ่งเหล่านี้มาใช้กับชีวิตตัวเอง นับตั้งแต่ที่เหลือในชีวิต เราต้องเอามาทำได้ดีที่สุด,เราเป็นประชาชนเล็กๆ เราก็สามารถเอามาถวายเป็นพระราชกุศลได้ อย่างหนังสือที่เราทำ มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่คุณพิมพ์ขึ้นมา แต่เราทำจริงๆ ทำด้วยความรู้สึกว่า นี่คือจิตวิญญาณทั้งหมดที่เรามีมาทั้งหมด เราทำในสิ่งที่เราทำได้ เราไม่ได้เสียชาติเกิดจริงๆ ,Q : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในคนไทยรัชกาลที่ 9 สำหรับคุณ ,พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ของคนไทยรัชกาลที่ 9 คือหัวใจ เราเกิดมา ไม่มีใครสอนให้รักท่าน เราเกิดมาก็เห็น เราเกิดมาก็อยู่ใต้พระบารมีของพระองค์ท่าน ทุกสิ่งที่เราทำ อาชีพที่เราทำ อยู่ในทุกช่วงวิกฤติของชีวิตเรา ช่วงชีวิตของคนไทย ใครเล่าเป็นคนที่ยื่นพระหัตถ์มาช่วย เราคิดว่าท่านทรงเป็นหัวใจของคนไทยทุกๆ คน จะอยู่ที่ไหนแห่งใดในโลก ในหลวงคือศูนย์รวมดวงใจคนไทยทุกคนเข้าด้วยกัน หัวใจของเราแตกสลายไปแล้ว จะมีชีวิตอยู่อย่างไร ตอบตัวเองอย่างนี้หลายหน เราต้องมีชีวิตอยู่ ในเมื่อหัวใจเราเต้นอยู่ เราต้องสืบสานสิ่งที่พระองค์ท่านได้พระราชทานไว้กับคนไทย,ผมเชื่อว่าทุกคน อาชีพทุกอาชีพมันต้องเดินต่อ ทำในสิ่งที่เราทำให้ดีที่สุด เราไม่ต้องคิดเกินตัว สิ่งหนึ่งที่ท่านพระราชทานคือความพอเพียง เราเข้าใจคำนี้แค่ไหน มันไม่ได้หมายถึงปริมาณอย่างเดียว เราต้องตีความคำนี้ไว้สร้างสรรค์มากมาย ยังไงเราก็ต้องทำ เราบอกตัวเองทุกวัน ชีวิตที่เหลืออยู่เราต้องทำในสิ่งที่พระองค์ท่านทรงเคยทำต่อไป,Q : สุดท้ายอยากจะบอกอะไรกับคนที่เศร้า,ผมจะบอกกับเขายังไง เรารู้ว่า ทุกคนจมอยู่ในทะเลน้ำตาได้ไม่นาน ประเทศชาติต้องเดินต่อ มีชีวิตต่อ เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้ เราต้องเอาเหตุการณ์ทั้งหมดมาประมวล เรียบเรียงโดยใช้สติให้ได้ ว่าเราต้องทำอย่างไรต่อ แต่เราต้องมีชีวิตอยู่ หากเราเสียใจ นั่งเสียใจ ไม่ตั้งสติทำอะไรต่อ ความเสียใจของเราก็จะเป็นภาระให้กับสังคมและอีกหลายคน เราอยากจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า เราต้องตั้งสติให้ได้ คิดว่าจะทำอะไรต่อ ความเศร้าโศกก็จะหายไปวันละนิด เราต้องดูสิ่งที่พระองค์ทรงทำ ท่านทรงทำแบบมนุษย์ปกติที่สุด ท่านไม่ได้ทรงทำด้วยปาฏิหาริย์อะไรเลย ท่านทรงทำแบบที่มนุษย์ทุกคนทำจริงๆ กี่โครงการที่ท่านทรงทำ เอาง่ายๆ ไปดูอ่างขาง 50 ปีที่แล้วยังหัวโล้นอยู่เลย ตอนนี้เป็นอย่างไร ผมมีภาพที่ในหลวงทรงปลูกต้นท้อ 54 ปีให้หลัง ต้นท้อเล็กๆ มันเป็นต้นที่มหัศจรรย์ไปแล้ว เก็บลูกท้อได้ทุกๆ ปี อันนี้ไม่ต้องอาศัยความมหัศจรรย์เลย เราแค่เอาต้นไม้ลงไปในดิน แล้วมันก็มีรากแตกใบออกดอกออกผล ในหลวงท่านทรงพยายามบอกทุกคนว่าต้องใช้ชีวิตให้เป็น,ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป เราจะมีพระองค์ประทับในดวงใจตราบนานเท่านาน เราคิดถึงเรื่องบวก เราก็ทำแต่เรื่องบวก ถ้าเราคิดถึงแต่เรื่องลบเราก็จะทำแต่เรื่องลบ มัวแต่เศร้าโศกเสียใจเราก็กลายเป็นภาระของคนอื่นๆ ,ติดตาม 3 เรื่องเล่า ที่สุดชีวิตที่ได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาท ของศักดิ์ชัย กาย เร็วๆ นี้ ที่นี่ที่เดียว.,เรื่อง : ,raydo_trnews
ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสเปิดห้องแห่งแรงบันดาลใจ คุยกับ ศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการนิตยสารชื่อดัง ผู้ผลิตสมุดภาพรัชกาลที่ 9 ที่สุดความงดงาม และเรื่องราวรายละเอียดมากมาย มีทั้งรอยยิ้ม น้ำตา ปาฏิหาริย์ กว่าจะได้มาซึ่งสมุดทรงคุณค่า
null
สมุดภาพรัชกาลที่ 9,ศักดิ์ชัย กาย,นิตยสารลิปส์,ในหลวงสวรรคต,พระเจ้าอยู่หัวสวรรคต
https://www.thairath.co.th/content/794447
ทหารเชิญแม่แกนนำประชาธิปไตยศึกษาพูดคุย
หลังจากที่กลุ่มประชาธิปไตยศึกษาเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า ได้จัดกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์เพื่อร่วมตรวจสอบความโปร่งใสเช้าในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.2558) เจ้าหน้าที่ได้เชิญมารดาของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษาไปพูดคุยที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์และช่วยเหลือประชาชน กองบังคับการควบคุม กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ตั้งอยู่ที่วัดสุทธิสะอาด เขตมีนบุรีพร้อมยืนยันกับมารดาของนายสิรวิชญ์ว่า ต้องการพบกับนายสิรวิชญ์ เพื่อถามถึงสาเหตุที่จัดกิจกรรม เนื่องจากนายสิรวิชญ์เคยขึ้นศาลทหารและมีข้อตกลงร่วมกันแล้ว โดยจะไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือห้ามไปอุทยานราชภักดิ์ เว้นแต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะที่นายสิรวิชญ์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์มาหา พร้อมขอให้ไปพบกับทหารยศพันเอกนายหนึ่ง แต่ได้ปฏิเสธ เพราะเกรงว่าจะไม่ได้เดินทางไปจัดกิจกรรมอย่างที่ตั้งใจ พร้อมยืนยันว่ากิจกรรมครั้งนี้ไม่ใช่การปลุกระดมทางการเมือง แต่เป็นการร่วมตรวจสอบปัญหาทุจริตตามนโยบายรัฐบาลพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุไม่สามารถห้ามการจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้ เพราะถือเป็นเสรีภาพ แต่เชื่อว่าคนทั่วไปทราบถึงเจตนาในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ พร้อมเตือนหากมีพฤติกรรมฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินการตามกฏหมาย ส่วนใครที่มีข้อมูลโครงการอุทยานราชภักดิ์ที่เป็นประโยชน์สามารถมอบให้กระทรวงกลาโหม หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรง
โฆษกรัฐบาลยืนยันการจัดกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ของกลุ่มประชาธิปไตยศึกษาวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.2558) เป็นเสรีภาพที่ทำได้ หากไม่ฝ่าฝืนกฏหมาย ขณะที่เจ้าหน้าที่เชิญมารดาแกนนำกลุ่มฯ ไปพูดคุย ยืนยันไม่ห้ามไปอุทยานราชภักดิ์ แต่ต้องไม่เคลื่อนไหวหรือแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง
การเมือง
กลุ่มประชาธิปไตยศึกษา,สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์,อุทยานราชภักดิ์
https://news.thaipbs.or.th/content/6554
เชื้อเก่าปมเสี่ยงใหม่
ประโยคคำถามนี้กลับมาอื้ออึงอีกครั้งในหมู่นักวิเคราะห์การเมืองหรือแม้แต่ในวงของนักเลือกตั้งอาชีพระดับอ๋อง ชั้นเซียนของแต่ละป้อมค่าย,ประเมินจากอาการที่ยิ่งกว่า จะตายห่ากันให้ได้,ตามเงื่อนไขสถานการณ์เครียดๆบรรยากาศโคตรซีเรียสแบบที่คนยี่ห้อประชาธิปัตย์ แท็กทีมลูกข่าย ทักษิณ ชินวัตร 2 ค่ายการเมืองเจ้าถิ่นขาใหญ่รวมพลังกับ เฟรชชี่ น้องใหม่ทีม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,ดาหน้าถล่มปมบัตรเลือกตั้งไม่ติดแบรนด์ยี่ห้อพรรค,ชี้หน้าด่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับงาน คสช.ฝ่ายคุมเกมอำนาจ จงใจทำให้เกิดความสับสนในหมู่ผู้ใช้สิทธิกาบัตรผิดกาบัตรถูก เพื่อให้ผลคะแนนเพี้ยน สกัด แบรนด์ขายดี ยี่ห้อดัง,ตามจังหวะลูกติดพันมาจากรายการอาละวาดใส่ คสช.และ กกต. กรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งแบบพิสดาร เอื้อประโยชน์ให้พรรคพลังประชารัฐ,จี้จุดเดือด บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. นอตหลุดไปแล้ว,โดยแนวโน้มสถานการณ์ที่ นักการเมืองอาชีพพันธุ์เก่า แท็กทีม เฟรชชี่พันธุ์ใหม่ ยกระดับอาการ พยศ เดินเกมรุกคืบกดดัน คสช. แบบได้คืบเอาศอก ได้ศอกเอาวา,จากเริ่มโหมกระแสตีปี๊บให้เลือกตั้ง ประจานเลื่อนเลือกตั้ง ตามด้วยการโหมประเด็นปลดล็อกกฎเหล็ก ต่อเนื่องมาตั้งแง่เรื่องรัฐบาลใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้พรรคหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ลามไม่หยุดมาถึงการอาละวาดเรื่องแบ่งเขตและโวยวายปมบัตรเลือกตั้ง,ยื้อผลประโยชน์ของตัวเองแบบสุดกำลัง ตามฟอร์มเดิมๆ,แต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือมุมของมวยจมูกไวอย่าง นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โคตรเซียนยี่ห้อประชาธิปัตย์ ที่รีบออกมากระตุกขานักการเมืองอาชีพเชิงดักคอ ตีกัน ให้ระวังเข้าทางเกม ล้มกระดาน ของฝ่ายคุมเกมอำนาจ,ป่วนกันมาก ทหารจะหาเหตุไม่ให้เลือกตั้ง,แต่ถึงนาทีนี้ ไม่รู้บรรดามวยห้าว มวยบู๊ รุ่นเก๋า รุ่นฟันน้ำนม จะฟังกันหรือไม่ เพราะกำลังอยู่ในอารมณ์เมามัน โชว์ฟอร์มปั่นราคากันเต็มที่ เวทีเปิดต้องรีบชิงแจ้งเกิด ขืนช้ามีหวังดับ,และโดยรูปการณ์มันก็วนกลับไปติดล็อก หลุมดำ จับอาการที่นักการเมืองทั้งหน้าเก่า พันธุ์ใหม่ สะท้อนพฤติกรรมเดิมๆออกมา มันบ่งชัดเลยว่า เชื้อร้าย ต้นตอวิกฤติความแตกแยกในชาติที่ถูกอำนาจพิเศษกดทับไว้ 4-5 ปี ไม่ได้หายไปไหน,ไม่ทันปล่อยผี ก็แหกป่าช้าออกมาโชว์ฤทธิ์เดชท้าทายกระบองยักษ์,แถมแนวโน้ม ดื้อยา อำนาจพิเศษส่อกดอาการไม่อยู่,เหนืออื่นใด ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ที่แฝงไปด้วยความ อ่อนไหว ในจังหวะที่ พล.อ.ประยุทธ์แจ้งกับประชาชนคนไทย ถึงห้วงเวลาพิเศษ กระบวนการเปลี่ยนผ่านขั้นตอนสำคัญ,ซึ่งนั่นหมายถึงการเมืองต้องนิ่งที่สุด,แต่โดยฉากสถานการณ์ที่ประเมินได้ด้วยสายตา อาการกระเพื่อมแรงๆจากเกมรุกหนักของนักการเมืองอาชีพที่ไล่บีบไล่กดดัน คสช.,ตามเกมที่เดาได้ นับจากวันปลดล็อกกฎเหล็กการเมือง ประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ปล่อยให้นักการเมืองหาเสียงกันได้เต็มที่ จนถึงวันเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ปีหน้า โดยกระบวนการต่อเนื่องกับการเลือกตั้ง ส.ว. การประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.รอบสุดท้าย,กว่าจะตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ราวเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2562,เกือบครึ่งปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ ครม.จะต้องผจญกับแรงกระแทก นักการเมือง ขบวนการต่อต้านทหารจะดาหน้าปฏิบัติการเตะตัดขา ดิสเครดิต ทำลายน้ำหนักของรัฐบาล,มีสถานะแค่ รักษาการ จนทำอะไรได้ไม่เต็มไม้เต็มมือ,ในอารมณ์ที่บรรดารัฐมนตรีก็จะพากันออกอาการ เกร็ง กลัวโดนสาวไส้ ปล่อยเกียร์ว่าง,แต่ที่ปล่อยมือไม่ได้เลยก็คือคิวของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ที่ต้องแบกหินไว้บนบ่า สถานการณ์ภายในประเทศต้องประคองภาวะปากท้อง ท่ามกลางแรงถาโถมของ social disruption การค้าออนไลน์ที่กลายเป็นคลื่นซัดธุรกิจดั้งเดิมล้มระเนนระนาด,ขณะที่ภายนอกก็ต้องสู้กับความผันผวนเศรษฐกิจโลก จากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ไหนจะเหตุรุนแรงในประเทศฝรั่งเศสที่ม็อบอาละวาดรัฐบาลขึ้นภาษีน้ำมันลุกลามบานปลาย,เศรษฐกิจเหนื่อยหนัก เจอโจทย์ยากลำบาก,หากหลังเลือกตั้งยังไม่เห็นแสงสว่างการเมืองพ้นอุโมงค์ ก็เอวัง.,ทีมข่าวการเมือง
จะได้เลือกตั้งกันหรือเปล่า ประโยคคำถามนี้กลับมาอื้ออึงอีกครั้งในหมู่นักวิเคราะห์การเมืองหรือแม้แต่ในวงของนักเลือกตั้งอาชีพระดับอ๋อง ชั้นเซียนของแต่ละป้อมค่าย
เลือกตั้ง
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,เลือกตั้ง,วิเคราะห์การเมือง,ทีมข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1441756
สระจิ๋ว จิ๋วแบบแจ๋ว สร้างความมั่นคงของเกษตรกรไทย
กรมพัฒนาที่ดิน เร่งการก่อสร้างสระน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน สระจิ๋ว ให้ทันเก็บน้ำปีนี้ โดยปี 62 สนับสนุนให้เกษตรกรจำนวน 46,523 ราย ได้ใช้น้ำปลูกพืช และเตรียมรองรับและบรรเทาภัยแล้ง โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างโปร่งใส เป็นธรรม ครอบคลุมพื้นที่และทั่วถึงเกษตรกรที่ต้องการใช้น้ำ,นางสาว เบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยถึงความคืบหน้าที่กรมพัฒนาที่ดินได้ดำเนินการขุดสระน้ำในไร่นา ขนาด 1,260 ลูกบาศก์เมตร โดยให้เกษตรกรเจ้าของที่ดิน มีส่วนร่วมในการออกค่าใช้จ่ายในการขุดสระ จำนวน 2,500 บาท เพื่อเก็บน้ำในช่วงมีฝนตก สำรองน้ำใช้ยามฝนทิ้งช่วง รวมทั้งสนับสนุนการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้ง เป็นการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ตลอดจนช่วยเพิ่มผลผลิตและรายได้ให้แก่เกษตรกรว่า ขณะนี้การก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้วกว่าร้อยละ 90 คาดว่าเกษตรกรทุกรายจะเก็บกักน้ำได้ในฤดูฝนนี้ และสามารถใช้น้ำได้ถึงปลายปีนี้อย่างแน่นอน,เกษตรกรที่มีความประสงค์ขอรับการสนับสนุนสระน้ำไว้ใช้ในการทำนาหรือการเกษตรอื่นๆ แจ้งความจำนงและขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้จากหมอดินอาสา เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด โดยกรมพัฒนาที่ดิน ได้จัดลำดับบัญชีรายชื่อเกษตรกรที่มีความพร้อมของพื้นที่ มีเอกสารเป็นเจ้าของที่ดิน มีแผนการใช้น้ำเพื่อการเกษตร โดยเจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่สำรวจตรวจสอบความเดือดร้อนพื้นที่เกษตรกรรมนอกเขตชลประทานที่ขาดแคลนน้ำ ประการสำคัญที่สุดการขุดสระ จะไม่ดำเนินการในพื้นที่ดินทราย มีหินกรวดปน รวมทั้งพื้นที่ดินเค็ม ดินเปรี้ยว ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการกักเก็บและคุณภาพของน้ำ,เกษตรกรจำนวนมากทำการเกษตรแบบใช้น้ำฝน ยังขาดแหล่งน้ำสำรอง การที่กรมพัฒนาที่ดิน ดำเนินโครงการสระน้ำในไร่นา จะช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ กรณีเกิดภัยแล้ง และช่วยให้การใช้ที่ดินเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นมากขึ้น ช่วยเกษตรกรในการตัดสินใจเลือกชนิดพืช วางแผนการใช้ที่ดินได้ในระยะยาวและต่อเนื่อง,อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ขอฝากถึงเกษตรกรผู้ที่ได้รับการสนับสนุนสระน้ำในไร่นา ให้มีการบริหารจัดการน้ำ ที่สอดคล้องและสมดุลกับการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อความมั่นคงในอาชีพ และคุณภาพชีวิต ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน โดยผลิตอาหารปลอดภัย เพิ่มมูลค่าของผลผลิตโดยการแปรรูป หรือจำหน่ายตลาดท้องถิ่น เพิ่มความเข้มแข็งของชุมชน,ด้านนายบุญมา คำจันทร์ หมอดินอาสา ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เป็นเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเข้าร่วมโครงการสระน้ำในไร่นาของกรมพัฒนาที่ดิน ก่อนหน้านี้ ปลูกข้าวฤดูกาลเดียว น้ำสำหรับทำการเกษตรไม่เพียงพอ ส่งผลให้ผลผลิตไม่แน่นอน รายได้ต่ำ แต่หลังจากได้รับการสนับสนุนสระน้ำในไร่นาของกรมพัฒนาที่ดิน เกษตรกรได้เริ่มวางแผนการเกษตร โดยปลูกพืชผักสวนครัวรอบสระ เลี้ยงปลา ทำให้มีรายได้หมุนเวียนตลอดปี มีอาหารบริโภค ดั่งคำโบราณที่ว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ให้อาชีพ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น.
กรมพัฒนาที่ดิน เร่งการก่อสร้างสระน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน สระจิ๋ว ให้ทันเก็บน้ำปีนี้ โดยปี 62 สนับสนุนให้เกษตรกรจำนวน 46,523 ราย ได้ใช้น้ำปลูกพืช และเตรียมรองรับและบรรเทาภัยแล้ง โดยเฉพาะใน
ข่าว,ทั่วไทย
กรมพัฒนาที่ดิน,สระจิ๋ว,ขุดสระน้ำ,เกษตรกรไทย,บรรเทาภัยแล้ง,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1602745
ลุยวิจัยพื้นที่ทับซ้อนอุทยานแห่งชาติ ชี้เป็นภัยแทรกซ้อน ถูกบดบังด้วยความรุนแรง
ศอ.บต.หนุนตั้งกองทุนยุติธรรมสู้คดี แนะใช้ประวัติชุมชนเป็นหลักฐาน พิสูจน์สิทธิใครมาก่อนเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 พฤษภาคม 2555 คณะทำงานโครงการวิจัยการพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการลุ่มน้ำสายบุรี ระยะที่ 2 จัดเสวนา ทบทวนปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดินจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมมะเดื่อ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ คณะวิจัยโครงการ กล่าวว่า ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ได้บดบังปัญหาอื่นๆ ในพื้นที่ อย่างความขัดแย้งเรื่องที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อน เช่น นายทุนไล่ที่ อุทยานทับที่ทำกิน ชาวบ้านถูกยึดเอกสารสิทธิ และปัญหาการย้ายออกจากพื้นที่เนื่องจากไม่มีที่ดินทำกินดร.เพิ่มศักดิ์ กล่าวอีกว่า การทำโครงการวิจัยดังกล่าว เพื่อค้นหาที่ดินที่มีปัญหาทับซ้อนกับอุทยานแห่งชาติ โดยดึงชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ โดยใช้เครื่องมือวัดพิกัดทางภูมิศาสตร์ (GPS) ประกอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินและข้อมูลจากแผนที่ทางอากาศการเรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกินของคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมด้วย ไม่อย่างนั้นปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข เพราะปัญหาที่นี่มีเงื่อนไขมากมายทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ดร.เพิ่มศักดิ์ กล่าวพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวระหว่างเปิดประชุมว่า ปัญหาที่ดินทำกินเป็นปัญหาระดับชาติ แต่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีเหตุความไม่สงบมามาผสมโรงด้วย ซึ่งการแก้ปัญหาอย่าพึ่งการแก้กฎหมายอย่างเดียว เนื่องจากใช้เวลานาน อาจจะไม่ทันกาลพ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ที่ดินของประเทศมีประมาณ 300 ล้านไร่ โดย 120 ล้านไร่เป็นป่า และเกือบ 100 ล้านไร่ เป็นที่รกร้างว่างเปล่าของนายทุน และอีก 100 ล้านไร่เป็นพื้นที่เกษตร เมื่อจะจัดสรรที่ดินให้ชาวบ้านต้องไปบุกรุกป่า ทั้งๆ ที่ยังมีพื้นที่อยู่ในมือนายทุนอีกประมาณ 100 ล้านไร่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทำให้ชาวบ้านถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติจำนวนมากพ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าคดีบุกรุกที่ดินไม่ควรเป็นคดีอาญา ขอเสนอให้ปรับกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับคดีที่ดินใหม่ โดยนำประวัติศาสตร์ชุมชนมาเป็นหลักฐานในการพิจารณาคดี ควบคู่แผนที่ทางอากาศของกรมทรัพยากร หรือประกาศของรัฐบาล ที่สำคัญต้องให้ชุมชนนำหลักฐานที่สามารถอ้างได้ว่า ระหว่างอุทยานแห่งชาติกับพื้นที่ทำกินของชาวบ้านอะไรมาก่อนพ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า อำนาจในการแก้ปัญหาที่ดินทำกินใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมา อยู่ในมือคนกลุ่มเดียวคือเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีดุลพินิจที่อาจอาจจะเอื้อต่อนายทุน จึงควรเพิ่มภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาที่ดินด้วยพ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนขอเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนยุติธรรมเพื่อต่อสู้เรื่องการจัดการที่ดิน เช่น การออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ทับซ้อนกับอุทยานแห่งชาติ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ว่า ระหว่างอุทยานแห่งชาติกับที่ดินทำกินของชาวบ้านอันไหนมาก่อน ซึ่งต้องมีนักกฎหมายและตัวแทนชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเรียกร้องขอคืนสิทธิในการคุรอบครองที่ดินดังกล่าวด้วย โดยศอ.บต.ยินดีสนับสนุน
ศอ.บต.หนุนตั้งกองทุนยุติธรรมสู้คดี แนะใช้ประวัติชุมชนเป็นหลักฐาน พิสูจน์สิทธิใครมาก่อน เมื่อเวลา 09.30 น.
สิทธิมนุษยชน,สิ่งแวดล้อม
ชายแดนใต้,ที่ดิน,ที่ดินทำกิน,อุทยานทับที่,โฉนดชุมชน
https://prachatai.com/journal/2012/05/40696
วราวุธ ลงลุยน้ำท่วมอุบลราชธานี 15 ก.ย.นี้
วันนี้ (14 ก.ย. 2562) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม (ทส.) กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) เพื่อตรวจเยี่ยมพบปะและให้กำลังใจ รวมถึงมอบถุงยังชีพ มอบน้ำดื่มของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานีโดยได้กำชับการดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จัดเตรียมให้รถบรรทุกน้ำ สำหรับอุปโภคบริ โภครวมทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยาน ระดมสรรพกำลังออกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการยกข้าวของ ขนย้ายสิ่งจำเป็นต่างๆนายวราวุธ กล่าวว่า หัวใจสำคัญคือแผนการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยมอบนโยบายผ่านทางกรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ส่งเสริมให้มีการกักเก็บน้ำทั้งแบบบนดินและใต้ดิน หรือที่รู้จักกันในนามของธนาคารน้ำใต้ดิน โดยจะแนะนำ ให้ความรู้กับพี่น้องประชาชนถึงแนวทางการเก็บน้ำใต้ดินอย่างถูกต้อง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างนิ่งหากมีพื้นที่ใดที่อยู่ในเขตป่าไม้หรืออุทยานเราจะเข้าไปฟื้นฟูดูแลความสมบูรณ์ของป่าให้กลับมามีความเขียวขจีดังเดิมผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) นายวราวุธ และคณะเดินทางถึงจ.อุบลราชธานี และจะรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยจาก นายนิรันดร์ สุรัสวดี ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจ.อุบลราชธานี รวมถึงรับฟังการบรรยายสรุปผลการปฎิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงจากนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9จากนั้นเดินทางไปยังบ้านไร่ใต้ หมู่ 14 ต.ไร่ใต้ อ.พิบูลมังสาหาร ลงเรือเข้าเยี่ยมประชาชน และมอบถุงยังชีพ ในพื้นที่บ้านไร่ใต้ บ้านไร่โดม บ้านไร่กลาง บ้านไร่เหนือ บ้านโนนค้อ บ้านคุลุ ส่วนในช่วงบ่ายที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านไร่ใต้ รมว.ทส.และคณะจะพบปะพี่น้องประชาชนเพื่อมอบถุงยังชีพพร้อมกับน้ำดื่มของกระทรวงทรัพยากรน้ำบาดาล ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อีกด้วย
วราวุธ เตรียมนำทีม ทส.ลุยช่วยน้ำท่วมอุบลราชธานี พรุ่งนี้ (15 ก.ย.) มอบถุงยังชีพ-น้ำดื่มกรมน้ำบาดาล ระดมทีมเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้-กรมอุทยานฯ เข้าช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่
การเมือง
น้ำท่วม,วราวุธ ศิลปอาชา,อุบลราชธานี,กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช
https://news.thaipbs.or.th/content/284199
ป้องกันล้วงข้อมูล เปิดวิธีลับ ตั้งค่ารักษาความปลอดภัยบน เฟซบุ๊ก
นอกเหนือจากโพสต์การประกาศของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เกี่ยวกับการป้องกันการใช้งานแพลตฟอร์ม Facebook ในทางที่ผิด จึงมีการปรับนโยบายให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และการช่วยให้ผู้ใช้งานเรียกคืนข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาจากการอนุญาตให้แอปพลิเคชันต่างๆ นำข้อมูลไปใช้,นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังวางแผนจะเพิ่มมาตรการอื่นๆ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมความเป็นส่วนตัวของตนเองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการอัพเดตส่วนใหญ่นี้ถูกพัฒนามาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว,เครื่องมือและการตั้งค่าข้อมูลจะสามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น,เฟซบุ๊กได้ออกแบบเมนูการตั้งค่าบนโทรศัพท์ขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาเมนูการตั้งค่าได้ง่ายยิ่งขึ้น แทนที่จะกระจายอยู่ตามหน้าจอต่างๆ เกือบ 20 หน้าจอ ในขณะนี้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการตั้งค่าทั้งหมดจากหน้าจอเดียวได้ และเรายังได้ปรับปรุงการตั้งค่าที่ไม่อัพเดตเพื่อแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าข้อมูลใดสามารถแชร์ได้หรือไม่ได้ร่วมกับแอปต่างๆ,เมนูทางลัดสู่ความเป็นส่วนตัวรูปแบบใหม่ หรือ Privacy Shortcuts,นอกจากการปรับเมนูการตั้งค่าให้ใช้งานง่ายขึ้นแล้ว ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และโฆษณาต่างๆ ถูกปรับให้ค้นหาได้ง่ายยิ่งขึ้น ทางลัดสู่ความเป็นส่วนตัวแบบใหม่ หรือ Privacy Shortcuts คือเมนูที่จะช่วยให้คุณควบคุมข้อมูลผ่านการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง พร้อมคำอธิบายที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานด้านการควบคุม ได้แก่,เครื่องมือเพื่อค้นหา ดาวน์โหลด และลบข้อมูลบน Facebook ของคุณ,ฟังก์ชั่นใหม่ในการเข้าถึงข้อมูลของคุณ หรือ Access Your Information ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและจัดการข้อมูลของพวกเขาได้อย่างปลอดภัย เช่น โพสต์ การแสดงความรู้สึกต่อโพสต์ การแสดงความคิดเห็น และสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาได้ค้นหาบน Facebook,คุณสามารถใช้บริการนี้เพื่อลบข้อมูลใดก็ตามที่คุณไม่ต้องการให้แสดงอยู่บน Facebook ออกจากไทม์ไลน์หรือโปรไฟล์ของคุณได้อีกด้วย โดยคุณสามารถดาวน์โหลดสำเนาข้อมูลเอาไว้ได้อย่างปลอดภัย  หรือแม้กระทั่งย้ายข้อมูลนั้นไปยังช่องทางบริการอื่น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ได้แก่ รูปภาพที่คุณเคยอัพโหลด ข้อมูลการติดต่อที่คุณเลือกให้แสดงอยู่ในบัญชีผู้ใช้ รวมถึงโพสต์บนไทม์ไลน์ของคุณ.
ประมาณสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนกำลังตระหนักถึงความปลอดภัยของตัวเองบนเฟซบุ๊ก โดยกลัวว่าจะถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางมิชอบ
ข่าว,ไอที
ข่าวไอที,เฟซบุ๊ก,มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เฟซบุ๊ก,ความปลอดภัย เฟซบุ๊ก,ข้อมูลส่วนตัว เฟซบุ๊ก
https://www.thairath.co.th/news/tech/1252957
ตามรอยเศรษฐี คนรักเลข แห่ไหว้หลวงพ่อโต หลังชาวนาถูกรางวัลรับ 6 ล.
จากกรณี สาวชาวนามากราบขอพรและบนหลวงพ่อโตพระเก่า อายุกว่า 300 ปี ที่ประดิษฐานภายในโบสถ์ วัดเถรพลาย (หลวงพ่อสีชมพู) ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี และโชคดีถูกรางวัลที่ 1 รับเงิน 6 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (,บนหลวงพ่อดำ ขอรางวัลที่1 ถูกจริง ได้6ล. ป้าสุพรรณฯถวาย5แสน วัดเถรพลาย,)  ,เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจำนวนมากจากทั่วสารทิศได้เดินทางมากราบขอพรหลวงพ่อโต ด้วยการนำเทียนหอมสีประจำวันเกิดมากราบไหว้ขอพร้อม พร้อมเขย่าติ้วเพื่อขอเลขเด็ดไปเสี่ยงโชค,พร้อมกันนี้ ทางวัดได้นำพระพุทธรูปหลวงพ่อโต ปางมารวิชัยหน้าตัก 5 นิ้ว จำนวน 200 องค์สุดท้าย ที่ทางเจ้าอาวาสเก็บไว้ ซึ่งจัดสร้างในวาระฉลองอุโบสถ และทำพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2535 โดยพระเกจิดังสมัยนั้นจำนวน 108 รูปมานั่กปรก นำมาแจกฟรีให้กับคนที่มีชื่อคำว่าโต ในบัตรประชาชน เพื่อนำไปบูชาเป็นพระประจำตัว ปรากฏว่ามีคนที่ชื่อมาคำว่า โต ทยอยมารับไปบูชาเป็นจำนวนมากอีกด้วย,พระครูพิสุทธิรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัถเถรพลาย เผยว่า ตั้งแต่มีข่าวเรื่องญาติโยมที่มาขอพรและบนหลวงพ่อโต แล้วถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ก็ปรากฏว่ามีสาธุชนหลั่งไหลมาขอพรหลวงพ่อโตกันเป็นจำนวนมากทุกวัน ,สำหรับ พระพุทธรูปเก่าหลวงพ่อโต ก็มีญาติโยมที่ชื่อโต ตามบัตรประชาชน จากจังหวัดต่างๆ เดินทางทยอยมารับกันอย่างต่อเนื่อง เช่น นายโต สิงห์โต สินโต นายปานโต เป็นต้น ขณะนี้ได้แจกไปเกือบ 100 องค์แล้ว ซึ่งทางวัดจัดเปิดแจกทุกวันจนกว่าจะหมด ส่วนญาติโยมที่มากราบไหว้ปกติ ทางวัดก็ได้นำพระสมเด็จเนื้อผงหลวงพ่อโต ที่เก็บไว้ใต้ฐานพระหลวงพ่อโต จัดสร้างตั้งแต่ปี 57 จำนวน 84,400 องค์ มาแจกฟรีให้กับญาติโยม
อยากมีโชคแบบเขาบ้าง! ชาวบ้านแห่สักการะหลวงพ่อโต วัดเถรพลาย หลังชาวนามาบนไว้ถูกรางวัลที่ 1 รับ 6 ล้านไปก่อนหน้า ขณะที่เจ้าอาวาสวัด ใจดี แจกพระพุทธรูปหลวงพ่อโต ปางมารวิชัย ให้กับคนที่มีคำว่า โต ในชื่อหรือนามสกุล
ข่าว,ทั่วไทย
หลวงพ่อโต,หวย,วัดเถรพราย,อ.ศรีประจันต์,สุพรรณบุรี
https://www.thairath.co.th/news/local/central/955193
ผี-ปืน หูผึ่ง อิกัวอิน ปัดต่อสัญญาใหม่นาโปลี
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 4 ส.ค. ว่า เอเย่นต์ส่วนตัวของ กอนซาโล อิกัวอิน กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา ออกมายืนยันกับสื่อในบ้านเกิดว่า น้องชายได้ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัด และพร้อมเปิดหมวกลาทีมในเร็ววันนี้,หัวหอกวัย 27 ปี ชาวอาร์เจนไตน์ สามารถยึดตำแหน่งตัวหลักของทีมชาติได้อย่างต่อเนื่องในศึกฟุตบอลโคปา อเมริกา ที่ผ่านมา และพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ จนทำให้สองทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซนอล ให้ความสนใจดึงตัวไปร่วมทีม,แต่ล่าสุด นิโคลัส อิกัวอิน พี่ชายและเอเย่นต์ส่วนตัวของกองหน้าชาวฟ้าขาว ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ Radio Crc. ในอาร์เจนตินา ว่าได้ปิดฉากการเจรจาสัญญาใหม่กับต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว,ผมไม่คิดว่าเราจะยอมรับในข้อเสนอใหม่ที่ประธานสโมสรยื่นเข้ามาได้ เพราะในสัญญาฉบับใหม่ไม่ได้มีความแตกต่างจากของเดิมเท่าไรนัก มันไม่ใกล้เคียงกับความต้องการของเราเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามในตอนนี้ กอนซาโล ยังคงอยู่กับนาโปลี เพราะตอนนี้ยังไม่มีข้อเสนอจากทีมใหญ่อื่นเข้ามา แต่เรายังเปิดรับข้อเสนอและความเป็นไปทั้งหมดต่อไป ,ทั้งนี้ อิกัวอิน ย้ายมาร่วมทีมนาโปลี เมื่อปี 2013 และลงรับใช้ต้นสังกัดไปแล้ว 102 นัด ทำไปได้ทั้งหมด 53 ประตู จากทุกรายการที่ลงสนาม
พี่ชายและเอเย่นต์ส่วนตัวของ กอนซาโล อิกัวอิน ยืนยัน ได้ยุติการเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ นาโปลี หลังไม่ได้รับข้อเสนอที่น่าพอใจ และพร้อมเปิดรับฟังเงื่อนไขจากทีมบิ๊กเนมในยุโรป
null
กอนซาโล อิกัวอิน,นาโปลี,สัญญาใหม่,ต่อสัญญา,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,อาร์เซนอล,ทีมชาติอาร์เจนตินา,นิโคลัส อิกัวอิน,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/516160
ได้เวลา Glossier เครื่องสำอางแบรนด์ดังในโลกโซเชียล เปิดแฟลกชิปสโตร์ในนิวยอร์ก
หากใครชอบเล่นอินสตาแกรมบ่อยๆ น่าจะเคยเห็นรูปภาพสวยๆ ของเครื่องสำอางจากแบรนด์ Glossier ซึ่งบอกเลยว่าเป็นแบรนด์ที่โด่งดังมากในโลกโซเชียลจากแนวคิด Youre the beauty editor. เพราะไม่ว่าใครที่ใช้เครื่องสำอางแบรนด์นี้ก็สามารถเป็นบิวตี้เอดิเตอร์ได้ด้วยผ่านการบอกเล่าประสบการณ์หลังใช้งานผลิตภัณฑ์ผ่านรูปที่โพสต์ลงโซเชียล อันเป็นหัวใจหลักที่ทำให้แบรนด์เครื่องสำอางที่เกิดจากการระดมทุนนี้ประสบความสำเร็จและเข้าถึงความต้องการของผู้หญิงทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ล่าสุดแบรนด์ สร้างความฮือฮาในสเกลที่ใหญ่ขึ้นด้วยการเปิดแฟลกชิปสโตร์ในนิวยอร์กเป็นครั้งแรก โดยที่นี่รวบรวมสินค้าของแบรนด์ไว้ครบครัน แถมยังออกแบบมู้ดแอนด์โทนของร้านเพื่อให้เหมาะแก่การเซลฟีโดยเฉพาะแฟลกชิปสโตร์แห่งนี้มีที่ตั้งอยู่ที่ถนนลาฟาแยตต์ ใจกลางนิวยอร์ก บรรยากาศภายในร้านถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการถ่ายรูปลงอินสตาแกรมโดยเฉพาะ นับจากพื้นจรดเพดาน การตกแต่งร้านแทบทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยสีชมพูอ่อนทั้งหมด ซึ่งถือเป็นสีซิกเนเจอร์ของ Glossier ความพิเศษของร้านใหม่แห่งนี้คือการเพิ่มอ่างล้างมือคู่ไว้คอยบริการลูกค้าที่อยากทดลองสัมผัสผลิตภัณฑ์ มีตัวอย่างการดูแลฟรี มีห้องสำหรับทดสอบผิว และเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดลองผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายอย่างจุใจนอกจากจะสร้างความว้าวด้วยการเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่แล้ว Glossier ยังเพิ่มเติมประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบใหม่ให้สาวกของแบรนด์ได้เลือกซื้อสินค้าที่ตรงใจมากขึ้นด้วยการซื้อสินค้าแบบออฟไลน์เชื่อมต่อกับการซื้อสินค้าออนไลน์ ลูกค้าสามารถเลือกชมสินค้าภายในร้านก่อนแล้วค่อยไปกดซื้อแบบออนไลน์ที่บ้านก็ได้ ส่วนไอเท็มยอดฮิตของแบรนด์ที่ขายดีอย่างต่อเนื่องคือ Glossier Boy Brow เจลปัดคิ้วเนื้อครีมมี่แว็กซ์ที่ใช้ปัดคิ้วให้เป๊ะและดูเป็นธรรมชาติ Glossier Cloud Paint บลัชเจลสำหรับตกแต่งบนพวงแก้มให้ดูชมพูระเรื่อสุขภาพดี ตัวนี้ดังที่ส่วนผสมของ Blurring Powder และคอลลาเจน ทำให้พวงแก้มดูมีชีวิตชีวา ส่วน Glossier Haloscope ไฮไลต์ที่เป็นทั้งสกินแคร์และเครื่องสำอางยังช่วยแก้ไขอำพรางจุดด้อยของผิวให้โดดเด่น เพิ่มความโกลวให้ผิวได้อย่างง่ายดาย อ่านเรื่องGlossier แบรนด์บิวตี้มาแรงที่เรียนรู้และเติบโตจากพลังโซเชียลมีเดีย ได้ภาพ: พิสูจน์อักษร: อ้างอิง:
Glossier แบรนด์เครื่องสำอางที่ดังในโลกโซเชียล เปิดแฟลกชิปสโตร์ในนิวยอร์กเป็นครั้งแรก มู้ดแอนด์โทนภายในร้านเป็นโทนสีชมพูอ่อน ซึ่งเป็นสีซิกเนเจอร์ของแบรนด์ เหมาะแก่การเซลฟีเป็นที่สุดภายในร้านมีการเพิ่มอ่างล้างมือคู่ไว้คอยบริการลูกค้าที่อยากทดลองสัมผัสผลิตภัณฑ์ มีตัวอย่างการดูแลฟรี มีห้องสำหรับทดสอบผิว และเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดลองผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายอย่างจุใจ
null
null
https://thestandard.co/glossier-flagship-nyc/
แนะนำผลิตภัณฑ์การเกษตรศิลปาชีพใน งานช้อนรัก
ขึ้นทั่วทุกภาคของประเทศ เพื่อให้ความรู้ในการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และ สร้างอาชีพ โดยมี มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รับสนองพระราโชบาย ในการส่งเสริมอาชีพแก่ราษฎรทั่วทุกหนแห่ง ผ่านโครงการตามพระราชดำริฯ และเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 7 รอบ 12 ส.ค.2559 มูลนิธิฯจึงจัดงาน A Spoonful of Love : ช้อนรัก เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากโครงการตามพระราชดำริฯ ซึ่งจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อ ศิลปาชีพ โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท สยามสินธร จำกัด นำมาจำหน่ายที่คาเฟ่ ปารีเซียง เดอะ กลาสเฮ้าส์แอทสินธร ถนนวิทยุ,โอกาสนี้ ดร.จรัลธาดา กรรณสูต ที่ปรึกษาสำนักราชเลขาธิการ กล่าวว่า จากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีความห่วงใยสถานการณ์ชายแดนภาคเหนือสุดในปี 2545 พระองค์ได้เสด็จฯไปยังจุดสูงสุดของยอดดอยดำ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ และทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 161,850 ไร่ บริเวณนี้มีอากาศหนาวเย็น จึงรับสั่งให้หาพันธุ์ปลาที่เหมาะสมมาทดลองเลี้ยง คณะทำงานได้นำพันธุ์ปลาเรนโบว์เทราต์จากแคนาดา ที่ทนอากาศร้อนได้ดีที่สุดมาทดลองเลี้ยง ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างดี แต่ด้วยต้นทุนการผลิตที่สูง จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีให้ชาวบ้าน เลี้ยง มาส่งขายเป็นรายได้ จากนั้นเราได้ไข่ปลาไซบีเรียน สเตอร์เจียน จากรัสเซีย มาทดลองเลี้ยงที่โครงการนี้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซียมาให้คำแนะนำ ทำให้สามารถเพาะพันธุ์ปลา สเตอร์เจียนได้สำเร็จเป็นแห่งแรกในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากใช้เวลาเพาะเลี้ยงกว่า 8 ปี จึงได้ผลผลิตที่สำคัญคือ คาเวียร์ จากปลาสเตอร์เจียน ซึ่งได้ทำเป็นเครื่องเสวยถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้ง 3 พระองค์รับสั่งว่า เหมือนแล้ว เราจึงได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของโครงการตามพระราชดำริฯ ได้แก่ ห่านหัวสิงห์ ปลาเทราต์ ปลาสเตอร์เจียน รวมถึง คาเวียร์จากปลาสเตอร์เจียนออกจำหน่าย,ด้าน ดร.สมชาย ธรณิศร ผอ.สำนักโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กล่าวว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ทูลเกล้าฯ ถวายไข่ห่านหัวสิงห์ จำนวน 100 ฟอง เพื่อทรงใช้ในโครงการตามพระราชดำริฯ ซึ่งได้พระราชทานให้กรมปศุสัตว์นำไปดำเนินการฟักไข่ และทดลองเลี้ยงในโครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านยางกลาง จ.อ่างทอง จนสามารถเพาะพันธุ์ ห่านหัวสิงห์ ได้เอง โดยเป็นห่านพันธุ์หนึ่งที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลก นำมาประกอบอาหาร ได้ทั้งแบบตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่ออื่นๆ อีก อาทิ ดอกเกลือและเกลือแกง จากโครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างตามพระราชดำริฯ, กาแฟอาราบิก้า จากสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง บ้านปางขอน จ.เชียงราย และสถานีการเกษตรที่สูงฯ ดอยม่อนล้าน จ.เชียงราย, ผักเมืองหนาวปลอดสารพิษ จากสถานีการเกษตร ที่สูงฯต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นต้น สนใจดูรายละเอียดได้ทาง www.facebook.com/Support FoundationOfHmq
ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยความเป็นอยู่ของราษฎรมาโดยตลอด จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโครงการตามพระราชดำริฯ
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
โครงการตามพระราชดำริ,มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ,ส่งเสริมอาชีพ,ผลิตภัณฑ์จากโครงการตามพระราชดำริ,ดอยดำ,โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่,ข่าวสตรี,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์,ไทยรัฐ,ข่าว
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/625947
ตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์สำแดงสินค้าเป็นรองเท้า-ยึดไอซ์เกือบ 1 ตัน
วันนี้ (16 มิ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 (บก.ปส.3) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นำกำลังเข้าตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ ภายในลานรับฝากตู้สินค้าแห่งหนึ่งใน ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาชาวจีน และเจ้าของบริษัทขนส่งสินค้าคนไทยเตรียมเข้ามาตรวจสอบตู้สินค้าดังกล่าวพล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 เปิดเผยว่า หลังชุดสืบสวนตรวจพบว่าตู้สินค้าดังกล่าว ถูกฝากวางไว้ในลานรับฝากแห่งนี้ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และพบว่ามีสิ่งของต้องสงสัยอยู่ภายในตู้ จึงสืบสวนพบว่า ตู้สินค้าดังกล่าวถูกส่งมาจากบริษัทขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งในเขตลาดกระบัง กทม. โดยมีชาวจีนเป็นผู้นำส่งสินค้าที่สำแดงว่าเป็นรองเท้าผ้าใบ และจะให้ส่งต่อไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ผ่านทางท่าเรือใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2562 แต่สินค้าถูกตีกลับมาและนำมาฝากไว้ที่ลานแห่งนี้ เมื่อตำรวจเข้าตรวจสอบภายในตู้ก็พบว่ามีลังกระดาษจำนวนมาก ทั้งลังที่ใส่รองเท้าอยู่กว่า 30000 คู่ และลังกระดาษที่มีข้อความข้างกล่องว่า ตะเกียบอนามัย จำนวน 34 ลัง ซึ่งเมื่อเปิดตรวจสอบก็พบไอซ์บรรจุในถุงชาถุงละ 1 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 985 กิโลกรัม จึงยึดไว้ตรวจสอบ ส่วนผู้สั่งการคาดว่าเป็นชาวจีน ที่ให้เครือข่ายเข้ามาติดต่อประสานงานและดำเนินการขนส่งออกจากไทยไป ซึ่งกำลังขยายผลถึงต้นทางของยาเสพติด และเครือข่ายที่ลำเลียงเข้ามาในไทยส่วนนายสุบรรณ มหาชนนท์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองหนึ่งใน จ.ลำปาง ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานกับผู้ต้องหาชาวจีน ในการพาไปซื้อรองเท้าจากบริษัทแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 มาส่งที่บริษัทขนส่งแห่งนี้ และประสานกับเจ้าของบริษัท ในการให้ช่วยขนส่งสินค้าทั้งหมด 1.8 ตู้ โดยบอกว่าเป็นรองเท้าทั้งหมด และอ้างว่าไม่รู้ว่ากลุ่มผู้ต้องหานำยาเสพติดขึ้นมาปะปนกับสินค้าเมื่อไร และอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งหมดขณะที่นายจ้อยว่า แซ่โฟ้ง เจ้าของบริษัทรับขนส่งสินค้า ให้การว่าไม่รู้ว่ายาเสพติดทั้งหมดขึ้นมาปะปนกับสินค้าได้อย่างไร เนื่องจากวันที่นำสินค้าขึ้นในตู้คอนเทนเนอร์ ตัวเองไม่ได้อยู่ที่บริษัท มีเพียงลูกน้องช่วยขนสินค้าในช่วงประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 15 พ.ค.2562 โดยทราบเพียงว่าขณะที่กำลังขนสินค้าขึ้นชาวจีนที่เป็นเจ้าของสินค้า ได้นำรถตู้อีกคันนำกล่องดังกล่าวมาใส่เพิ่มโดยอ้างว่าเป็นบุหรี่ ที่จะลักลอบนำออกนอกประเทศไปด้วย ซึ่งในช่วงแรกจะไม่ยอมให้นำสินค้าดังกล่าวใส่ไป แต่นายสุบรรณอ้างว่าสามารถเคลียร์ของดังกล่าวได้ ตู้ดังกล่าวจึงถูกส่งมาที่ อ.ศรีราชาหลังตรวจสอบที่ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวแล้ว ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบภายในบริษัทรับส่งสินค้าย่านลาดกระบัง ที่เป็นต้นทางของตู้สินค้าดังกล่าว และยังพบกล่องสินค้าอีกจำนวนหนึ่งของผู้ต้องหาชาวจีนนำมาฝากไว้เพื่อรอการขนส่งในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งภายในกล่องเป็นรองเท้าเช่นเดียวกับที่พบในตู้ดังกล่าว แต่ไม่พบยาเสพติดเพิ่มเติมพ.ต.ท.เทียนชัย ปรารมภ์ สว.กก.3 บก.ปส.3 กล่าวว่า จากการตรวจสอบผู้ต้องหาชาวจีนเบื้องต้น พบว่าเข้ามาในไทยในฐานะนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะมาหาคนไทยที่สามารถพาไปซื้อสินค้าอื่นๆ เช่น รองเท้าจำนวนมากได้ เพื่อนำส่งไปทางตู้คอนเทนเนอร์ จากนั้นก็จะให้หาบริษัทขนส่งที่สามารถพูดภาษาจีนได้ เนื่องจากจะได้ประสานงานกันได้สะดวกมากขึ้นเป็นผู้ขนส่งสินค้า ที่ผ่านมาก็พบชาวจีน และคนสัญชาติอื่นเข้ามาก่อเหตุในลักษณะนี้ และใช้ช่องทางเรือเป็นที่ขนส่งยาเสพติดมากขึ้น เนื่องจากการตรวจจับค่อนข้างยาก เพราะเรือแต่ละลำจะบรรทุกสินค้าจำนวนมาก และการเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์ยังไม่มีประสิทธิภาพในการตรวจหายาเสพติดมากนัก เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวทั้ง 4 คน ไปสอบสวนอย่างละเอียด และเตรียมแจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) เพื่อจำหน่าย และขยายผลถึงกลุ่มขบวนการ รวมทั้งเครือข่ายที่นำยาเสพติดดังกล่าวเข้ามาในไทย
ตำรวจปราบปรามยาเสพติดยึดไอซ์ 985 กิโลกรัม จากผู้ต้องหาชาวจีนที่จ้างบริษัทขนส่ง ขนยาเสพติดใส่ตู้คอนเทนเนอร์ส่งไปประเทศฟิลิปปินส์ผ่านทางเรือ โดยสำแดงสินค้าเป็นรองเท้าผ้าใบ และพบผู้สมัคร ส.ส. จ.ลำปาง เป็นผู้ประสานกับบริษัทขนส่งด้วย
อาชญากรรม
ไอซ์,ตู้คอนเทนเนอร์,ยาเสพติด,รองเท้าผ้าใบ,ผู้สมัคร ส.ส.,ลำปาง,ชลบุรี,ThaiPBSnews
https://news.thaipbs.or.th/content/280910
จี้อลงกรณ์ เปิดเผยแผนปฏิบัติการเอาใจสหรัฐฯ เตือนอย่าหากินบนชีวิตคนไทย
ตามที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อพบปะหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐ หรือ USTR เกี่ยวกับประเด็นการค้าระหว่างประเทศระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 31 มกราคม-5 กุมภาพันธ์นี้นายนิมิตร เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ พร้อมด้วยภาคประชาสังคมอีก 13 กลุ่มได้ร่วมกันทำหนังสือถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ขอให้เปิดเผยการเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐต่อสาธารณะพวกเรามีความกังวลอย่างยิ่งว่า การหารือระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ในการที่จะขอร้องต่อสหรัฐฯให้ถอดประเทศไทยจากการเป็นประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) และการเชิญชวนให้สหรัฐฯเริ่มเจรจาการค้าทวิภาคี จะนำไปสู่การตกลงทำแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) อย่างลับๆ จนได้รับการชื่นชมจากผู้แทนการค้าสหรัฐตามที่ปรากฏในรายงาน 301 พิเศษประจำปี 2552 แต่มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงยาและการเข้าถึงความรู้ของคนไทย และยังอาจจะเป็นการนำงบประมาณแผ่นดินของประเทศที่ควรใช้เพื่อประโยชน์ของสังคมไทยไปปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินเอกชนจนเกินกว่ากฎหมายไทยในปัจจุบันกำหนด ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์กล่าวเนื้อความในจดหมาย ระบุว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจา ต้องตระหนัก แม้การหารือเพื่อขอให้สหรัฐปลดไทยออกจากประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษจะเป็นเรื่องสำคัญและควรกระทำ แต่ต้องเป็นการเจรจาที่สมศักดิ์ศรีอย่างประเทศที่มีอธิปไตยทางการเมืองและเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์ จะต้องไม่เป็นการเอาวิถีชีวิตและการผลิตของเกษตรกรรายย่อย ผู้ค้ารายเล็กรายน้อย รวมทั้งผู้ป่วยไปแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่อาจจะมีผลได้กับนักธุรกิจที่สัมพันธ์กับการเมืองบางกลุ่มเท่านั้น และเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศและการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศที่อาจจะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่และสวัสดิภาพของประชาชนไทย ด้วยการเปิดเผยร่างแผนปฏิบัติการและเนื้อหาการหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯทั้งหมดอย่างโปร่งใสทันที และระลึกในใจเสมอว่า การเจรจาใดๆจะต้องไม่ทำการค้าบนชีวิตคนไทยสำหรับภาคประชาสังคมที่ร่วมลงนามประกอบไปด้วย มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ชมรมเพื่อนโรคไต เครือข่ายเพื่อนมะเร็ง มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิเภสัชชนบท มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ คณะกรรมการองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ กลุ่มศึกษาปัญหายา มูลนิธิชีววิถี มูลนิธิบูรณะนิเวศ มูลนิธิสุขภาพไทย และกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch)
(กรุงเทพฯ/ 29 ม.ค.53) มูลนิธิเข้าถึงเอดส์พร้อมเครือข่ายภาคประชาสังคม 13 กลุ่มทำหนังสือถึงรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ เตือนสติเจรจากับผู้แทนสหรัฐฯอย่างมีศักดิ์ศรี เปิดเผย โปร่งใส ต้องไม่ทำการค้าบนชีวิตคนไทย
การเมือง,ต่างประเทศ,เศรษฐกิจ
กระทรวงพาณิชย์,นิมิตร เทียนอุดม,ประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ,อลงกรณ์ พลบุตร
https://prachatai.com/journal/2010/01/27530
พมจ.รุดช่วยเด็กสาว 16 ป่วยล่ามโซ่ พบเหตุเสพยา ตายายยันไม่มีเจตนาทำร้าย
เป็นวิธีการดูแลรักษาชั่วคราว ช่วงเด็กขาดสติ ล่าสุดอาการดีขึ้น มีโอกาสหาย วอนช่วยหลานห่วงอนาคต ,เมื่อวันที่ 29 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด กรณีเพื่อนเด็กสาววัย 16 ปี ในพื้นที่ ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้ส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือยังมูลนิธิปวีณา กรณีมีเพื่อนถูกตายายล่ามโซ่ไว้ในบ้าน จนกระทั่งมีการเผยแพร่ข้อมูลไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง พร้อมมีการประสานไปยังหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม รวมถึงบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือ,ล่าสุด นางอาภาวดี พรหมจอม อายุ 55 ปี รักษาราชการแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครพนม ได้ประสานงานร่วมกับ น.ส.พัทธ์ธีรา ขุนชะ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวนครพนม พร้อมด้วย น.ส.ชนารดี เบ้าลี นักจิตวิทยา ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ตรวจสอบให้การช่วยเหลือเร่งด่วน โดยจากการตรวจสอบพบเด็กสาววัย 16 ปี อาศัยอยู่กับตาและยาย ส่วนแม่เด็กไปทำงานมีครอบครัวต่างจังหวัด จึงเรียนหนังสืออาศัยอยู่กับตายายเพียงลำพัง ส่วนค่าใช้จ่ายแม่เด็กเป็นคนส่งเสียดูแล ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ ทำประวัติ หาทางแนวทางการช่วยเหลือ เบื้องต้นพบว่า เด็กมีปัญหาจากต้นเหตุการณ์ใช้ยาเสพติด ทำให้เกิดปราสาทหลอน ขาดสติ บางครั้งโวยวายทำร้ายคนอื่น จึงได้มีการปรึกษาเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และมีการล่ามโซ่ให้สงบสติอารมณ์เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีเจตนาจะทำร้ายหรือกักขัง ตามข้อมูลที่แพร่ออกไป ซึ่งทางตายายวอนหน่วยงานเกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือ เพราะห่วงอนาคตหลานสาว อยากให้เรียนหนังสือมีอนาคต,โดย นางอาภาวดี กล่าวว่า หลังได้รับทราบข้อมูลได้ประสานเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน นักจิตวิทยา ผู้นำชุมชนท้องถิ่นเข้าไปดูแลช่วยเหลือ เบื้องต้น สาเหตุหลักมาจากเด็กติดเพื่อนและมีการทดลองเสพยา จนมีปัญหาทางประสาท เมื่อประมาณ 4-5 เดือนผ่านมา จนกระทั่งมีอาการโวยวายขาดสติ และทำร้ายร่างกายตายาย จากนั้นทางผู้นำชุมชนได้เข้าไปดูแลช่วยเหลือ พร้อมปรึกษาหน่วยงานเกี่ยวข้อง ปรึกษาแพทย์ จนได้คำแนะนำให้มีการกักบริเวณในช่วงรับทานยา เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเด็กที่ป่วยไม่มีการรับประทานยารักษาต่อเนื่อง จนเกิดปัญหาทำให้ตายายจำเป็นต้องล่ามโซ่ไว้ชั่วคราวในช่วงมีอาการขาดสติ เกรงว่าจะได้รับอันตราย ทำให้มีการนำภาพล่ามโซ่เผยแพร่ออกไป ซึ่งทางตายายไม่มีเจตนาทำร้ายหลาน โดยทาง พมจ.ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้เข้าไปตรวจสอบดูแลให้คำแนะนำ นำตัวเด็กไปตรวจรักษา และได้รับประทานยาตามหมอสั่ง คาดว่าหากรับประทานยาตามแพทย์สั่งสักระยะจะหายขาด และทาง พมจ.ได้ดูแลสนับสนุนการดูแลรักษาและเงินสวัสดิการตามระเบียบ ล่าสุดเด็กมีอาการปกติแล้ว สามารถอยู่ในการดูแลของผู้ปกครองได้,ส่วน นายธวัช บานอินทร์ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านหนองบาท้าว ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับเด็กวัย 16 ปีที่เกิดปัญหา ปกติอาศัยอยู่กับตายายตั้งแต่อายุประมาณ 1 ขวบ เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน แม่จึงต้องดิ้นรนไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด และมีครอบครัวใหม่ แต่ยังมีการติดต่อดูแลเอาใจใส่มาตลอด รวมถึงแม่เป็นคนส่งค่าใช้จ่ายมาดูแล ให้อาศัยอยู่ดูแลตายายที่อายุมากด้วย จนกระทั่ง เกิดปัญหา เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา น้องกับติดเพื่อนและหลงผิด อาจไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด จนเกิดอาการป่วยทางจิต บางครั้งโวยวายขาดสติ ไม่ไปเรียนหนังสือ ซึ่งทางผู้นำชุมชนท้องถิ่นได้รับทราบปัญหา จากตายายและเข้าไปตรวจสอบดูแล เคยนำตัวไปรักษาปรึกษาแพทย์ นำยามารับประทาน แต่ก่อนนี้อาจขาดยาไม่รับประทานตามกำหนด จึงเกิดปัญหา จึงแนะนำให้ตายายกักบริเวณช่วงขาดยา มีอาการขาดสติไม่กี่ชั่วโมง หลังทานยาก็ปกติ และมีการดูแลใกล้ชิดตลอด ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจนเป็นข่าวออกไป เพราะตัวน้องส่งภาพถูกล่ามโซ่ไปให้เพื่อน และมีการส่งไปขอความช่วยเหลือยังมูลนิธิปวีณา ภายหลังมีหลายหน่วยงานมาดูแลช่วยเหลือแนะนำแล้ว ซึ่งปัจจุบันน้องที่ป่วยเริ่มปกติ สามารถอาศัยอยู่กับครอบครัว ตายาย และคนในสังคมได้ปกติ เชื่อว่าหากรับประทานยาตามแพทย์สั่งจะหายขาด แต่ต้องมีการดูแลเอาใจใส่ สำคัญอยากให้หลายหน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลเรื่องการเรียน เพราะห่วงอนาคต รวมถึงทุนการศึกษา เนื่องจากยังมีปัญหารายได้ของครอบครัว หากมีการดูแลที่ดีเชื่อว่าจะมีอนาคตที่ดี และทางชุมชนพร้อมที่จะดูแลสุดความสามารถ
พมจ.นำเจ้าหน้าที่ รุดตรวจเยี่ยมช่วยเด็กสาว วัย 16 ปี หลังเพื่อนส่งข้อมูลร้องมูลนิธิปวีณา ขอความช่วยเหลือ ถูกล่ามโซ่ พบป่วยทางจิตขาดยา ต้นเหตุเสพยาเสพติด ด้าน ตายายยันไม่มีเจตนาทำร้ายหลาน
ข่าว,ทั่วไทย
เด็กสาววัย 16,เด็กสาวถูกล่ามโซ่,มูลนิธิปวีณา,ยาเสพติด,ช่วยเด็กสาว,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1579838
เตรียมประชุมแนวทางพิมพ์สลากฯ ชุดแก้ปัญหาขายเกินราคา
แม้สลากกินแบ่งรัฐบาลแบบรวมชุดจะมีราคาสูงเกินกว่าที่สำนักงานสลากฯ กำหนดไว้ที่ใบละ 80 บาท แต่ก็ยังมีประชาชนให้ความสนใจซื้อ ซึ่ง ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า ขณะนี้ตรวจพบการจำหน่ายสลากชุดราคาสูงถึงใบละ 100-120 บาท เนื่องจากความต้องการสูงในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนโดยในเดือนมีนาคม 2561 สำนักงานสลากฯ จะประชุมคณะกรรมการ เพื่อทบทวนมาตรการดูแลราคาและพิจารณาแนวทางการออกสลากชุดจำหน่าย แก้ปัญหาขายสลากฯ เกินราคาผศ.ธนวรรธน์ ยังยอมรับว่า แม้จะมีมาตรการดูแลราคาสลากฯ ทั้งการกระจายสลากฯ ไปยังผู้ค้าตัวจริงมากขึ้น และกำหนดระยะเวลาให้ผู้ค้ารับสลากฯ สั้นลงจาก 10-12 วัน เหลือ 8-9 วัน เพื่อให้การรวมชุดทำได้ยากขึ้น แต่ก็พบว่าผู้ค้าปรับมาเป็นการรวมชุด 2-5 ใบ จากเดิมชุดละ 10 ใบและราคายังสูงกว่าที่กำหนด จึงเห็นว่ามาตรการดังกล่าวไม่เพียงพอดังนั้น จึงต้องออกมาตรการเสริมเพิ่มเติม โดยจำหน่ายสลากฯ ชุด ซึ่งหากบอร์ดสลากฯ เห็นชอบ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการพิมพ์สลากฯ ชุดได้ในช่วงครึ่งปีหลัง และต้องทำความเข้าใจกับผู้ซื้อและผู้ขายด้วยสำหรับสัดส่วนในการออกสลากฯ ชุดนั้น อนุกรรมการบริหารจัดการสลากฯ ได้ศึกษาไว้ตั้งแต่การออกสลากฯ ร้อยละ 20-100 ของจำนวนสลากฯ ทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการสลากฯ จะเป็นผู้พิจารณาตัวเลขที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันพบว่าประชาชนนิยมซื้อสลากฯ ชุดละ 5 ใบ และการพิมพ์สลากฯ จำหน่ายงวดละ 71 ล้านฉบับ
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะประชุมทบทวนมาตรการดูแลราคาและแนวทางพิมพ์สลากฯ ภายในเดือน มี.ค.นี้ หลังยังไม่สามารถแก้ปัญหาสลากชุดเกินราคาได้
เศรษฐกิจ
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล,หวย,ลอตเตอรี,ออกสลากชุด,หวยชุด,ขายสลากเกินราคา,ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/270549
ทีนิวส์โต้นักวิชาการ มช. กรณีปฏิกษัตริย์นิยม ยัน คนที่ปกป้องเท่ากับไม่ปฏิเสธ
ทีนิวส์แถลงตอบโต้กรณีอาจารย์ มช. กรณีบทความ ปฏิกษัตริย์นิยมแจง ปฏิกษัตริย์นิยมไม่ได้แปลว่าล้มเจ้า ยืนยันธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ มุ่งลดทอนอำนาจสถาบันกษัตริย์ทั้งในกฎหมายและวัฒนธรรม คนที่สนับสนุนและปกป้องแปลว่าไม่ได้ปฏิเสธ สื่อและสังคมมีสิทธิตั้งคำถามได้ ขอให้นักวิชาการเปิดเผยจุดยืนให้ชัดเจน19 มิ.ย. 2562 เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (14 มิ.ย. 2562) เผยแพร่บทความตอบโต้ สืบเนื่องจากอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกอบด้วยดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล นัทมน คงเจริญ รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุลและสงกรานต์ ป้องบุญจันทร์ ลงชื่อในแถลงการณ์เรื่อง หยุดพฤติกรรมสำนักข่าวทีนิวส์ก่อนกลายเป็นดาวสยาม 2562 เพราะทีนิวส์เผยแพร่บทความเรื่อง เบ้าหลอมความคิด ปฏิกษัตริย์นิยม ที่มีการออกชื่อและที่ทำงานของนักวิชาการจำนวนมากทีนิวส์ให้เหตุผลว่าสื่อและสังคมมีสิทธิ์ตรวจสอบอาจารย์มหาลัยฯที่สนับสนุนอนาคตใหม่ที่มีความคิดปฏิกษัตริย์นิยม และสิ่งที่ทีนิวส์เขียนนั้นเป็นข้อเท็จจริง มีใจความโดยสังเขป ดังนี้สำนักข่าวทีนิวส์ถือว่าแถลงการณ์ หยุดพฤติกรรมสำนักข่าวทีนิวส์ก่อนกลายเป็นดาวสยาม 2562 เป็นพฤติกรรมปรักปรำสำนักข่าวทีนิวส์โดยปราศจากข้อมูลความจริง และเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อว่าบุคคลระดับปัญญาชน เป็นครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัย จะมีพฤติกรรมที่เยี่ยงนี้ เพราะ นสพ. ดาวสยาม เป็นสื่อที่สร้างข่าวเท็จ สร้างข้อมูลเท็จเพื่อกระตุ้นเร้ามวลชนฝ่ายขวาจัดให้โกรธแค้นนักศึกษาและฝ่ายซ้ายในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯแต่ สิ่งที่สำนักข่าวทีนิวส์นำเสนอนั้นไม่ใช่ข่าวเท็จ หรือข้อมูลเท็จ แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ต่อสังคมแล้วทั้งสิ้นข้อเท็จจริงที่ว่านั้นก็คือและใช่หรือไม่ที่จะมีการสอน และปลูกฝัง ความคิดเหล่านี้ในมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง โดยที่สังคมภายนอกไม่ได้รับรู้รับทราบโดยอ้างเสรีภาพทางวิชาการเพื่อปกปิดการตรวจสอบจากสื่อและสังคมสำนักข่าวทีนิวส์ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนแล้วว่า พรรคอนาคตใหม่และธนาธรมีความคิดและทัศนะที่เป็นอันตราย ทั้งนี้ เป็นความชัดเจนว่าสำนักข่าวทีนิวส์แยกกลุ่มความคิดแบบปฏิกษัตริย์นิยม(ของอนาคตใหม่) ออกจากขบวนการล้มเจ้า เพราะตามข้อเท็จจริงที่ประจักษ์สู่ภายนอก ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้แสดงท่าทีล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์แบบพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(ที่มีอาจารย์มหาวิทยาลัยหลายคนเคยเข้าป่า ร่วมเป็นสมาชิก)และสำนักข่าวทีนิวส์ได้เรียกร้องเสมอมาว่า ถ้าเชื่อมั่นว่ามีอุดมการณ์ และอุดมการณ์ของตนถูกต้อง ก็ให้ประกาศให้สังคมรับทราบไปเลยโดยเปิดเผย เพื่อที่ผู้คนจะได้ตัดสินใจ อย่าปิดบัง ซ่อนเร้น อำพราง โกหกประชาชน คนทั่วไปได้เข้าใจเพียงในด้านเดียว หรือเข้าใจเป็นอื่น
ทีนิวส์แถลงตอบโต้กรณีอาจารย์ มช. กรณีบทความ ปฏิกษัตริย์นิยม แจง ปฏิกษัตริย์นิยมไม่ได้แปลว่าล้มเจ้า ยืนยัน ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ มุ่งลดทอนอำนาจสถาบันกษัตริย์ทั้งในกฎหมายและวัฒนธรรม
การเมือง,ไอซีที
ทีนิวส์,มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
https://prachatai.com/journal/2019/06/83032
จนมุม หนุ่มอ้างสนิท บิ๊กทหาร ตุ๋นลงทุนโครงการรัฐ หมายจับเพียบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท. ผบก.ป., พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.๒ บก.ป., พ.ต.ท.บุญลือ ผดุงถิ่น พร้อมด้วย พ.ต.ต.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.๒ บก.ป. ร่วมกันสืบสวนจับกุม นายมังกร สมทรัพย์ อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ตามข้อกล่าวหา ร่วมกันฉ้อโกง,พ.ต.ต.เอกพล ปัญจมานนท์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเข้าไปทำความรู้จักกับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นข้าราชการทหาร และตำรวจ ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยผู้ต้องหาใช้ชื่อเฟชบุ๊กว่า หนุ่ม ภาสกร สมทรพย์ นายทหารพระราชา ปัจจุบันใช้เฟซบุ๊กชื่อ พระมังกร ปิยธรรมโม มักแอบอ้างกับคู่สนทนาว่า เป็นนายทหารติดตาม บิ๊กทหารและรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการ,ต่อมา ผู้ต้องหาอ้างว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ มีโครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ งบประมาณ 55 ล้านบาท จึงได้ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน จนผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนด้วย นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังอ้างว่า เป็นญาติกับ ส.ส. จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งทาง อบต.ในจังหวัดร้อยเอ็ด กำลังมีโครงการจัดซื้อเครื่องเล่นสนามเด็กเล่นให้กับโรงเรียน และมีโครงการขุดลอกคลองสาธารณะเพื่อป้องกันน้ำท่วม ซึ่งผู้ต้องหาสามารถติดต่อให้ผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนในโครงการได้ และจะมีผลกำไรตอบแทนเป็นจำนวนเท่าตัว ,พ.ต.ต.เอกพล กล่าวต่อว่า เหตุนี้เอง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ผู้ต้องหาเป็นจำนวนกว่าล้านบาท ต่อมาผู้เสียหายติดต่อผู้ต้องหาเพื่อขอไปดูสถานที่ทำโครงการต่างๆ ตามที่ได้กล่าวอ้าง แต่ผู้ต้องหาได้บ่ายเบี่ยงจนเมื่อผู้เสียหายรบเร้ามากหน่อยจึงบอกว่ายกเลิกโครงการแล้ว และจะโอนเงินคืนให้ แต่เมื่อถึงกำหนดการโอนเงินคืน ผู้ต้องหากลับไม่โอนเงินคืนให้แต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงทราบว่าถูกหลอก,พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.๒ บก.ป. กล่าวว่า ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำกลางจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อปี พ.ศ. 2555 ในคดีฉ้อโกง โดยผู้ต้องหามีประวัติคดีฉ้อโกงในลักษณะอื่นๆ พ.ร.บ.เช็ค และลักทรัพย์ด้วย ผู้ต้องหายังมีประวัติถูกออกหมายจับมาแล้วจำนวน  9 หมายจับ รวมถึงประวัติคดีอาญารวม 19 คดี ,นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กองปราบ รวบหนุ่มนักตุ๋น สร้างเฟชบุ๊กตีสนิท ข้าราชการ-ตำรวจ แอบอ้างตัวเป็นนายทหารติดตามบิ๊กทหาร คุยโม้รู้จักผู้ใหญ่ในกระทรวง หลอกเหยื่อสูญเงินล้านจัดซื้อโครงการรัฐบาล มีประวัติคดีอาญา 19 คดี
ข่าว,อาชญากรรม
แอบอ้าง,ติดตามบิ๊กป้อม,ต้มตุ๋น,หลอกลงทุน,กองปราบปราม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1088364
นิโคลัส วิเคราะห์ก่อนเกม อัลค์มาร์-แมนฯยู พร้อมฟันธงผลแข่ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 3 ต.ค. ว่า ชาร์ลี นิโคลัส กูรูของค่าย สกาย สปอร์ตส์ ออกมาวิเคราะห์ก่อนเกมที่ อาแซด อัลค์มาร์ จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก ยูโรปาลีก 2019-20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มแอล นัดที่สอง ค่ำคืนนี้ 23.55 น. ตามเวลาประเทศไทย,เป็นที่เข้าใจกันว่า อาแซด อัลค์มาร์ บุกไปเสมอกับ ปาร์ติซาน เบลเกรด 2-2 ขณะที่ลูกทีม โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ นำทีมเปิดรังเชือด อัสตานา 1-0,ล่าสุด ชาร์ลี นิโคลัส ออกมากล่าวว่า สถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวลานี้คือต้องลุ้นเกมต่อเกม จากบทสัมภาษณ์บางช่วงบางตอนดูเหมือนว่า โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ จะไม่พอใจในบางสิ่งบางอย่าง ทั้งสภาพสนามที่เป็นหญ้าเทียมหรือตัวผู้เล่นที่มีให้เลือกใช้งานอย่างจำกัด ทีมจากลีกดัตช์ช่ำชองในเรื่องขเทคนิค จริงอยู่ที่ทีมแชมป์ลีกผู้ดี 20 สมัยไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีแต่ผมคิดว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะบุกไปเอาชนะพร้อมเก็บสามคะแนนเต็มกลับบ้าน ซึ่งสกอร์น่าจะอยู่ที่ 1-0
ชาร์ลี นิโคลัส กูรูของค่าย สกาย สปอร์ตส์ ออกมาวิเคราะห์ก่อนเกมที่ อาแซด อัลค์มาร์ จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,อาแซด อัลค์มาร์,ยูโรปาลีก
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/1674400
ครอบครองสื่อโป๊เด็ก ผิดกฎหมายใหม่ คำถามจากนักกฎหมาย หรือใครๆ ก็โดนได้?
และปัญหาเทคโนโลยีจำพวกแคชไฟล์ที่กฎหมายไม่พูดถึงวานนี้ (8 ก.ย.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ โดยให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนด 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเหตุผลในการเพิ่มความผิดมาตรานี้ระบุไว้ว่า เนื่องจากการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของเด็ก ประกอบกับความผิดเกี่ยวกับการค้าหรือทําให้แพร่หลายซึ่งวัตถุหรือสิ่งลามกไม่ได้แยกประเภทระหว่างสื่อลามกอนาจารผู้ใหญ่กับสื่อลามกอนาจารเด็กไว้ทั้งที่ลักษณะความผิดมีความร้ายแรงแตกต่างกัน ดังนั้น เพื่อให้เด็กได้รับการคุ้มครองและป้องกันจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศมากขึ้นจึงสมควรกําหนดให้ความผิดเกี่ยวกับการค้าหรือทําให้แพร่หลายซึ่งวัตถุหรือสิ่งลามกที่เป็นสื่อลามกอนาจารเด็กเป็นความผิดที่ผู้กระทําต้องได้รับโทษหนักขึ้น รวมทั้งกําหนดให้การครอบครองและส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กเป็นความผิดกฎหมายนี้ กำหนดโทษ-ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก มีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ-ส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็ก ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ-มีเพื่อการค้า ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 60000-2000000 บาทประชาไท คุยกับ จอมพล พิทักษ์สันตโยธิน อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งมีข้อวิจารณ์การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้หลายประการนิยาม สื่อลามกอนาจารเด็ก ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 เดิม คำนี้ถูกแยกเป็นสองคำ คือ ฐานความผิดเรื่องของการกระทำอนาจารอย่างหนึ่ง สื่อลามกอีกอย่างหนึ่ง โดยคำว่า ลามก เป็นคำขยายสิ่งจำพวกวัตถุลามก รูปลามก ส่วนคำว่า อนาจาร คือการกระทำที่ลามก ไม่ได้ขยายตัวสื่อหรือตัววัตถุ ปัญหาคือกฎหมายใหม่นำเอาทั้งสองอย่างนี้มารวมกันเป็นคำเดียว ทั้งที่จริงๆ คงต้องการหมายความถึงสื่อลามกอย่างเดียว เพราะแค่เพียงคำนี้คำเดียวก็ได้ความหมายแล้ว มันจึงเหมือนการบัญญัติกฎหมายที่ไม่ได้ดูที่รากศัพท์ที่แท้จริงในกฎหมายใหม่มีการระบุอายุเด็กว่า ซึ่งมีอายุไม่เกินสิบแปดปี เรื่องนี้ค่อนข้างพิสูจน์ยากแม้แต่ในต่างประเทศเองก็ลำบาก เท่าที่ได้ศึกษากรณีในต่างประเทศ พบว่าคนที่ถูกดำเนินคดีส่วนใหญ่คือคนที่ครอบครองสื่อลามกเด็กเล็ก อายุ 12 ขวบ 6 ขวบ 7 ขวบหรือแม้กระทั่งเด็กทารก ซึ่งภาพสามารถบอกได้ชัดเจนว่าเป็นเด็ก แต่หากเด็กอายุ 15 – 18 จะแบ่งยากขึ้นมาก โดยเฉพาะเมื่อดูจากภาพเพียงอย่างเดียวด้วย ไม่แน่ใจว่าผู้เชี่ยวชาญด้านสรีระศาสตร์จะสามารถแบ่งอายุเด็กได้แม่นยำเพียงไหน แต่ในต่างประเทศยังไม่มีการนำผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาใช้อย่างไรก็ตาม หลายประเทศก็มักใช้อายุ 18 ปีเป็นส่วนใหญ่ และพยายามแก้ปัญหาความลักลั่นของกฎหมายอื่นๆ แต่ของไทยดูเหมือนจะไม่ใช่เช่นนั้น เช่น ในอังกฤษ เด็กอายุ 16 ปีสามารถแต่งงานอยู่กินแบบสามี-ภรรยากันได้ อังกฤษจึงเขียนยกเว้นไว้ว่า กรณีที่อายุ 16-17 ปีแต่เป็นสามี-ภรรยากัน ต่อให้มีภาพถ่ายทางเพศ โดยไม่มีเจตนาจะประสงค์เผยแพร่ (ถ่ายเก็บไว้ดูเอง)ไม่ผิดกฎหมาย ขณะที่ของสหรัฐอเมริกายังถือว่าผิดกฎหมายอยู่ส่วนของไทยนั้นไม่มีข้อยกเว้นเขียนไว้ แม้ว่ากฎหมายไทยจะอนุญาตให้เด็กอายุ 17 ปีบรรลุนิติภาวะโดยการแต่งงานได้ก็ตาม ตามกฎหมายใหม่นี้ หากพวกเขาถ่ายเก็บไว้ดูเองก็ยังจะเป็นความผิดโดยอัตโนมัติปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอีกคือการตีความเจตนาในการครอบครอง เพราะในกรณีของอุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์นั้นจะมี cache file หรือ temporary file เวลาเปิดเว็บดูข้อมูลจะถูกดึงมาเก็บไว้อยู่ในเครื่องด้วย บางคนแม้จะใช้คอมพิวเตอร์แต่ก็ไม่รู้ว่าแคชไฟล์คืออะไร อย่างนี้จะถือว่าเจตนาครอบครองหรือไม่อีกกรณีหนึ่งหากบุคคลไม่ได้ตั้งใจจะเกี่ยวข้องอะไรกับสื่อโป๊เด็กเลย เช่น ดูเว็บโป๊ผู้ใหญ่แต่บังเอิญมีป็อปอัพโฆษณาโป๊เด็กขึ้นมา เช่นนี้จะถือว่าครอบครองด้วยหรือไม่ เรื่องเหล่านี้แม้จะพิสูจน์ในชั้นศาลได้ก็จริง แต่ก็จะเป็นประเด็นที่สร้างความยุ่งยากมากต่อไปอีกประการหนึ่ง หากมีบุคคลบางจำพวกมีภาพเหล่านี้ไว้เพื่อใช้ทำประโยชน์อย่างอื่น เช่น ทำวิจัย หรือการที่ตำรวจมีไว้ครอบครองเพื่อสืบสวนสอบสวน กฎหมายก็ไม่ได้เขียนให้ชัดเจนว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ กรณีของอังกฤษนั้นมีการเขียนข้อยกเว้นสำหรับเจ้าหน้าที่ที่มีไว้เพื่อดำเนินคดีท้าย พ.ร.บ. แก้ไข ระบุว่า กฎหมายนี้ต้องการที่จะปกป้องเด็กจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ หากมีการใช้เด็กจริงในการผลิตสื่อลามกพวกนี้ก็ย่อมเป็นการล่วงละเมิดทางเพศอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ หากใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกหรือแม้กระทั่งรูปวาดไม่มีเด็กจริงๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการผลิตสื่อลามกเด็กนั้น จะเป็นอย่างไรในต่างประเทศเรื่องนี้แบ่งเป็น 2 แนวคิดฝั่งอเมริกาซึ่งยึดถือเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก ยืนยันว่า virtual child porn ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย ไม่เข้าข่ายเป็นสื่อลามกตามกฎหมายอเมริกา แต่ฝั่งอังกฤษเพิ่งออกกฎหมายเมื่อ 1-2 ปีนี้ระบุว่าถึงแม้เป็นภาพวาด คอมพิวเตอร์กราฟิก ก็ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย เพราะอยู่บนแนวคิดว่า แม้ไม่มีเด็กจริงๆ ถูกล่วงละเมิดในกระบวนการผลิตสื่อลามก แต่สื่อลามกลักษณะนี้สามารถถูกใช้ไปเป็นเครื่องมือในการล่อลวงเด็กจริงๆ เพื่อมากระทำการล่วงละเมิดทางเพศได้ในภายหลังนอกจากนี้ยังมีข้อถกเถียงอีกประการหนึ่งว่า หากเปิดให้มีการผลิต virtual child pornography ออกสู่ตลาด ก็จะทำให้ไม่มีการใช้เด็กจริงๆ ในการผลิต แต่อาศัยคอมพิวเตอร์กราฟิกผลิตขึ้นมา นับเป็นการที่ดีกว่าหรือไม่อีกข้อถกเถียงหนึ่งในฝั่งอเมริกาคือ virtual child pornography ถูกพัฒนาจนเป็นการสร้างภาพลามกที่แทบดูไม่ออกเลยว่าเป็นเด็กจริงๆ หรือไม่ หากให้นับเป็นความผิดจะยิ่งเป็นภาระให้ต้องพิสูจน์ ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการพิสูจน์อีกด้วยส่วนคำถามว่าการเปิดให้ใช้ภาพปลอมก็ยังจะกระตุ้นให้คนเกิดอารมณ์และเสี่ยงที่เด็กจริงๆ จะถูกละเมิดทางเพศหรือไม่นั้น ก็มีข้อถกเถียงที่ว่ายังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และทางสถิติอย่างแน่ชัดที่ยืนยันได้ว่าคนที่ดูสื่อลามกเด็กแล้วจะไปล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กเรื่องรูปแบบของสื่อลามกในกฎหมายไม่ได้ระบุเฉพาะภาพหรือภาพเคลื่อนไหว แต่ยังรวมถึง เอกสาร และ แถบบันทึกเสียง อันเป็นการเขียนที่ค่อนข้างประหลาดและน่าจะเป็นการยกเอามาจากมาตรา 287 เดิมกรณีของ แถบบันทึกเสียง เช่น การอัดเสียงเด็กซึ่งเหมือนถูกกระทำล่วงละเมิดทางเพศนั้นจะพิสูจน์ทราบได้อย่างไร กรณีนี้ก็เช่นเดียวกับ virtual child porn เป็นสิ่งที่สร้างปลอมๆ ขึ้นมาได้ และสร้างภาระในการพิสูจน์กรณีของเอกสารเป็นเรื่องของตัวหนังสือ หมายความว่าต่อไปนี้เราจะไม่สามารถเขียนนวนิยายที่เกี่ยวกับเพศของเด็กได้แล้ว หากมีการเขียนด้วยจินตนาการเช่นนั้นก็เข้าข่ายความผิดในทางต่างประเทศจะเน้นเรื่องของภาพ ภาพถ่าย ไม่ว่าจะเป็นภาพดิจิทัลหรือภาพปกติ รวมถึงคลิปวิดีโอ ภาพเคลื่อนไหว แต่หากเป็นตัวหนังสือหรือเสียงก็จะไม่นับรวมหรือนำมาข้องเกี่ยว โดยเหตุที่ต่างประเทศให้ความสำคัญที่ภาพเคลื่อนไหวมากกว่าเสียงและตัวอักษรเพราะเป็นสิ่งที่แน่ชัดว่าจะมีการล่วงละเมิดต่อเด็กจริงๆ
ไม่กี่วันที่ผ่านมามีการแก้ไขกฎหมายอาญา เพิ่มเติมความผิดสื่อลามกอนาจารเด็ก ซึ่งจะมีผลใน ธ.ค.นี้จอมพล พิทักษ์สันตโยธิน จากนิติศาสตร์ ม.หอการค้า ตั้งคำถามถึงความไม่ชัดเจนของนิยาม การพิสูจน์เจตนา
สิทธิมนุษยชน,ไอซีที
ความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก,จอมพล พิทักษ์สันตโยธิน,สื่อลามกเด็ก,โป๊เด็ก
https://prachatai.com/journal/2015/09/61328
สอบเข้มลูกศิษย์ฆ่าเจ้าอาวาส รับขอเงินไม่ได้ ชักมีดฟันแทง ส่งสถานพินิจ
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 60 พ.ต.ต.วิชิต วรรณพฤกษ์ พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของคดีคนร้ายฆ่าโหด พระสุรนาถ ยิ่งดี หรือหลวงพี่เฟส อายุ 35 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าภูหินกอง ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ (,ฆ่าโหดเจ้าอาวาสวัดป่า มีดกรีดหน้าตายทรมาน โยมไปถวายภัตตาหารเจอศพในกุฏิ,, ,จับลูกศิษย์วัดขี้ขโมย ติดยาบ้างอมแงม ฆ่าเจ้าอาวาสวัดป่าภูหินกอง,) โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่สายตรวจนำตัว นายแม็ก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้ต้องหา เข้ามาสอบปากคำที่สำนักงานอัยการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางมีดปลายแหลมยาว 30 ซม. ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งการสอบปากคำมีพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ ที่ปรึกษากฎหมายหรือทนายความ บุคคลที่เด็กไว้วางใจหรือผู้ปกครองร่วมด้วย เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน ก่อนที่จะนำตัวส่งไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ด้าน พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน กระทั่งนำกำลังบุกไปควบคุมตัว นายแม็ก ได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีพยานหลายปากยืนยันว่าเห็น นายแม็ก อยู่ในกุฏิเป็นคนสุดท้าย จากการตรวจสอบยังพบว่าประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นลูกศิษย์ของ พระสุรนาถ ด้วย มักจะเข้ามาขอเงินและข่มขู่ พระสุรนาถ บ่อยครั้ง คุมตัวมาเค้นสอบรับสารภาพว่าเป็นคงลงมือฆ่าจริง,นายแม็ก รับสารภาพว่า เข้าไปในกฏิ ขอเงิน พระสุรนาถ แต่พระไม่ให้ ประกอบกับทะเลาะกันเรื่องส่วนตัว เกิดการลงไม้ลงมือกัน จึงนำมีดที่พกติดตัวมาแทงและฟัน พระสุรนาถ หลายครั้งจนล้มลง ไม่ได้กรีดหน้า แต่มีดอาจจะฟันไปถูกใบหน้าก็ได้ จากนั้นนำเงิน 40 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องของ พระสุรนาถ ไปขาย ส่วนมีดทิ้งไว้ในป่าข้างวัด และเข้าไปหลบหนีอยู่ที่รีสอร์ตจนถูกจับกุม.
ตร.สภ.กุฉินารายณ์ นำหนุ่มวัย 17 ปี ลูกศิษย์ตัวแสบ ชักมีดแทง-ฟันเจ้าอาวาสเสียชีวิต สอบละเอียดอีกครั้ง สารภาพขอเงินไม่ได้ และทะเลาะกันจึงก่อเหตุ ก่อนคุมตัวส่งสถานพินิจ
ข่าว,อาชญากรรม
ฆ่าพระ,ฆ่าเจ้าอาวาส,แทงพระ,ลูกศิษย์ฆ่าพระ,กาฬสินธุ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/975857
เหนือ-อีสานยังโดนฤทธิ์บารีจัตตกหนัก กทม.ยังเสี่ยงตกร้อยละ 70
คาดว่าจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน ในวันนี้ (13 ก.ย. 61) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรง ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น,พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ,สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 18 กันยายน 2561 ,ส่วนผู้ที่จะเดินทางไปเกาะฮ่องกงในช่วงวันที่ 13-14 ก.ย. 61 และเกาะลูซอนประเทศฟิลิปปินส์และตอนใต้ของเกาะไต้หวันในช่วงวันที่ 14-15 ก.ย. 61 ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วยเนื่องจากมีพายุอยู่บริเวณดังกล่าว ,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้,ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ,ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.  ,ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. , ,ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร,ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร     ,ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร,กรุงเทพมหานคร มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ,อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2561 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศลักษณะทั่วไป ระบุ พายุโซนร้อน บารีจัต (BARIJAT) บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก
ข่าว,ทั่วไทย
กรมอุตุนิยมวิทยา,พยากรณ์อากาศ,อากาศวันนี้,อุณหภูมิวันนี้,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/1375123
ไทยสมายล์ แจ้งยกเลิกเที่ยวบินไปจีน 3 เส้นทาง
วันนี้ (30 ม.ค. 2563) นางชาริตา ลีลายุทธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งผลให้ขณะนี้ปริมาณผู้โดยสารในเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองต่างๆ ในสาธารณรัฐประชาชนจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการยกเลิกการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนทั้งหมดเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สายการบินไทยสมายล์มีความจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้ง 3 เส้นทางบิน ได้แก่ กรุงเทพ-ฉงชิ่ง กรุงเทพ-ฉางซา และกรุงเทพ-เจิ้งโจว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 29 กุมภาพันธ์ 2563 นี้สำหรับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกเที่ยวบินในวันดังกล่าว ทางสายการบินได้อำนวยความสะดวกโดยการคืนเงินเต็มจำนวน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากผู้โดยสารยังคงมีความประสงค์ที่จะเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว สายการบินฯ จะดำเนินการโอนย้ายท่านไปในเที่ยวบินของสายการบินพันธมิตร ผู้โดยสารสามารถติดต่อสอบถามและทำรายการได้ที่ Call Center โทร 1181 หรือ +662-118-8888 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ อีเมล [email protected]
ไทยสมายล์ แจ้งยกเลิกเที่ยวบินเข้า-ออกประเทศจีนชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1-29 ก.พ. 2563
สังคม
ไทยสมายล์,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
https://news.thaipbs.or.th/content/288492
ตรีทศ นำถกติดตามแก้บกพร่องการบินพลเรือน ขอบคุณทุกฝ่ายช่วยชาติ
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 58 พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ผบ.ศบปพ.) เป็นประธานในการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขสถานการณ์ด้านการบินของประเทศไทย เมื่อวานที่ผ่านมา ตามผลการตรวจสอบตามโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากลจากคณะผู้ตรวจสอบขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และการตรวจสอบของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (FAA) ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยมีคณะกรรมการและผู้ที่เกี่ยวข้องจากส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมประชุม,ผบ.ศบปพ. กล่าวว่า การประชุมนี้เพื่อตรวจดูความพร้อมของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กทพ.) หรือกรมการบินพลเรือนเดิม ในการเตรียมชี้แจงต่อผู้แทน FAA ซึ่งจะเดินทางมาติดตามผลการแก้ไขข้อบกพร่องตามที่ FAA แจ้งมา เกี่ยวกับเรื่องความไม่เป็นมาตรฐานทางด้านคุณสมบัติของบุคลากร การออกใบรับรอง ขั้นตอนการตรวจสอบการปฏิบัติการของอากาศยานแบบต่างๆ และการตรวจสอบตามมาตรฐานของ ICAO ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนการบิน หน่วยซ่อม และสายการบินต่างชาติที่บินเข้ามาประเทศไทย,ทั้งนี้ ผู้แทนสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ชี้แจงถึงการแก้ไขข้อบกพร่อง ซึ่งครอบคลุมทางด้านต่างๆ ได้แก่ การออกกฎหมาย กฎระเบียบ คู่มือ หลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติ รวมถึงการจัดหาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเพิ่มเติมตามจำนวนของขนาดอุตสาหกรรมการบิน และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะรับการตรวจสอบ และชี้แจงต่อผู้แทน FAA ในวันที่ 26-28 ต.ค. นี้,นอกจากนี้ การเดินทางมาของผู้แทน FAA มีความสำคัญต่อการแก้ไขสถานการณ์ด้านการบินของไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากข้อบกพร่องมีความเกี่ยวเนื่องกับองค์การทางด้านการบินของประเทศต่างๆ ที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะหากสามารถผ่านการตรวจสอบของ FAA ได้ จะส่งผลดีถึงการเข้ามาตรวจสอบของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) ซึ่งจะเดินทางมาในเดือน พ.ย. นี้ และจะส่งผลดีต่อการตรวจสอบของ ICAO ด้วย,ผบ.ศบปพ. กล่าวในตอนท้ายว่า ขอให้ กทพ. ตรวจสอบข้อมูล และเอกสารประกอบการชี้แจงให้เรียบร้อยและถูกต้องตามที่ได้รับแจ้งมา หากยังมีสิ่งใดบกพร่องและไม่สมบูรณ์ ขอให้รีบแก้ไขหรือแจ้งมายัง ศบปพ. เพื่อจะได้ช่วยกันดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านกำลังคนในการจัดทำเอกสารต่างๆ ซึ่งกองทัพอากาศ พร้อมที่จะส่งบุคลากรเข้าไปให้การสนับสนุนเพิ่มเติมตลอดเวลา พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณส่วนราชการต่างๆ และสายการบิน ที่ได้ร่วมมือร่วมใจส่งบุคลากรเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหาทางด้านการบินของชาติในครั้งนี้ด้วย.
ตรีทศ​ นั่งหัวโต๊ะ ฐานะ ผบ.ศบปพ. ประชุมติดตามแก้ไขสถานการณ์การบินของไทย ยัน กทพ. พร้อมแจงผู้แทน FAA เดินทางมาตรวจสอบ 26-28 ต.ค. นี้ พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหา
null
ตรีทศ สนแจ้ง,ผบ.ทอ.,แก้ปัญหาการบิน,การบินพลเรือน,ประชุมการบินพลเรือน,ผู้แทน FAA,แก้ไขปัญหาการบินพลเรือน,แก้ไขข้อบกพร่องการบิน,แจงผู้แทน FAA,กองทัพอากาศ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวการเมือง
https://www.thairath.co.th/content/533854
SACICT ดันไทยฮับเกษตรอินทรีย์สากล ยกระดับผู้ประกอบการสู่ตลาดโลก
, ,เมื่อวันที่ 13 ก.ค.62 น.ส.แสงระวี สิงหวิบูลย์ รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT (คนกลาง) ร่วมด้วยสมาชิกผู้ประกอบการด้านหัตกรรมอินทรีย์และธรรมชาติจำนวน 15 ราย เข้าร่วมงาน BIOFACH Southeast Asia 2019 และ NATURAL EXPO Southeast Asia 2019 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเจรจาธุรกิจระหว่างลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานของสมาชิกไปสู่ความเป็นสากลมากขึ้น,ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT ได้เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมอินทรีย์และธรรมชาติ ในงาน Organic & Natural Expo จัดขึ้นโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่องานแสดงสินค้า BIOFACH Southeast Asia 2019 และ NATURAL EXPO Southeast Asia 2019 งาน BIOFACH Southeast Asia 2019 และ NATURAL EXPO Southeast Asia 2019 เป็นงานแสดงสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตรอินทรีย์ (Organic) และสินค้าธรรมชาติ (Natural) ที่มีเป้าหมาย เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าเกษตรอินทรีย์ให้เป็นที่รู้จักและกระตุ้นการบริโภคสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น ตลอดจนเป็นการขยายช่องทางในการจำหน่ายสินค้า ซึ่งจะสามารถยกระดับผู้ประกอบการไทยไปสู่ตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น SACICT ได้เล็งเห็นความสำคัญของกระแสความต้องการสินค้าหัตถกรรมอินทรีย์และธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อขยายโอกาสให้กับสมาชิกผู้ประกอบการงานหัตถกรรมอินทรีย์และธรรมชาติ ได้เข้าร่วมพบปะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเจรจาธุรกิจกับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และเพื่อยกระดับมาตรฐานของสมาชิกไปสู่ความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น,ทั้งนี้เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด สร้างรายได้จากสินค้าหัตถกรรมอินทรีย์และธรรมชาติของสมาชิก ศ.ศ.ป. และเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้และเห็นคุณค่าของการผลิตสินค้าหัตถกรรมอินทรีย์และธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม.
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ นำผู้ประกอบการหัตถกรรมอินทรีย์และธรรมชาติ ร่วมงาน BIOFACH Southeast Asia 2019 และ NATURAL EXPO Southeast Asia 2019 ยกระดับสมาชิกสู่สากล
ข่าว,เศรษฐกิจ
สินค้าไทย,สินค้าเกษตรอินทรีย์,งานหัตถกรรม,งานแสดงสินค้า,SACICT,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1614788
อ่วม รับปีใหม่จ่อใช้ไฟแพง ต้นทุนน้ำมัน-ก๊าซพุ่ง กกพ.เคาะขึ้น เอฟที
ชี้ถ้าอิงตามราคาจริงต้องขึ้นเอฟทีสูงถึง 24 สต.แต่ที่ขึ้นแค่นี้เพราะรัฐอุดหนุนเงินกว่าหมื่นล้านบาท,น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ.เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้เรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) สำหรับบิลค่าไฟที่เรียกเก็บกับประชาชนเดือน ม.ค.-เม.ย.2562 ปรับเพิ่มขึ้น 4.30 สตางค์ (สต.) ต่อหน่วย จากที่เรียกเก็บปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค.2561) ติดลบ15.90 สต.ต่อหน่วยขึ้นเป็น ติดลบ 11.60 สต.ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเมื่อรวมค่าไฟฐานจะอยู่ที่ 3.6396 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากเดิมอยู่ที่จาก 3.5966 บาทต่อหน่วยซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 16เดือน,อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริงแล้ว ค่าเอฟทีงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.ปีหน้า จะต้องปรับขึ้นถึง 24 สต.ต่อหน่วยหรือค่าเอฟทีต้องขึ้นมาอยู่ที่ 8.10 สต.ต่อหน่วย เนื่องจากปัจจัยราคาเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้าในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2562 เทียบกับงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ ได้แก่ราคาก๊าซธรรมชาติ ปรับเพิ่มขึ้น 12.67 บาทต่อล้านบีทียูมาเป็น 299.50 บาทต่อล้านบีทียู ราคาน้ำมันเตาปรับขึ้น 1.17 บาทต่อลิตร เป็น 16.86 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลได้ปรับเพิ่มขึ้น 3.48 บาทต่อลิตรเป็น 23.16 บาทต่อลิตร ราคาถ่านหินนำเข้าปรับเพิ่มขึ้น 114.36 บาทต่อตันเป็น 2,697.40 บาทต่อตันส่วนการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ได้ปรับเพิ่มขึ้น 0.08 บาทต่อหน่วยเป็น 1.81 บาทต่อหน่วย,ดังนั้น เพื่อไม่ให้ค่าไฟฟ้าที่จะปรับขึ้นมากจนกระทบกับภาระค่าครองชีพของประชาชนทั่วไป และภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ กกพ.จึงได้ใช้มาตรการทางการเงินที่ได้ถูกสะสมไว้ 10,367 ล้านบาทเข้ามาดูแล โดย กกพ.มีมติให้นำเงินสะสมจากการเรียกเก็บค่าเอฟที ที่ผ่านๆมา จำนวน 3,298 ล้านบาท รวมกับเงินบริหารค่าเอฟที ซึ่งมีที่มาจากส่วนลดและค่าปรับจากผู้ประกอบการ 5,547 ล้านบาท และเรียกเม็ดเงินลงทุน (Clawback) จากการไฟฟ้าที่ไม่ได้ลงทุนตามแผนอีก 1,522 ล้านบาท เพื่อนำมาชดเชยต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและลดความผันผวนค่าเอฟที,นอกจากนั้น ยังมีการดำเนินการมาตรการด้านการบริหารอื่นๆ เพื่อให้การปรับขึ้นของค่าไฟฟ้าลดต่ำลงเหลือเพียงการปรับขึ้นเพียง 4.30 สต.ต่อหน่วยในครั้งนี้ ประกอบด้วย การเสริมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงที่จำเป็นสำหรับการผลิต ได้แก่ ประสานกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ศึกษาวิเคราะห์การลดนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) และประสานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณาแหล่งผลิตไฟฟ้าที่มีความเหมาะสม ได้แก่ การเพิ่มปริมาณการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน และผลิตไฟด้วยเชื้อเพลิงต้นทุน พร้อมกันนี้ กกพ. ยังได้ปรับประมาณการค่าเอฟทีให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อ่อนค่าลง และพิจารณาอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงให้สอดคล้องกับภาวการณ์ปัจจุบัน,นางสาวนฤภัทร กล่าวต่อ ว่า ค่าเอฟทีที่เรียกเก็บดังกล่าว ทางสำนักงาน กกพ.จะเผยแพร่รายละเอียดทั้งหมดผ่าน ,www.erc.or.th, เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อไป โดยเงินที่สะสมไว้เพื่อนำมาดูแลบริหารจัดการค่าไฟครั้งนี้ก็นำมาใช้จนหมดไม่ได้เหลือไว้สำหรับดูแลงวดต่อไป อย่างไรก็ตามแนวโน้มค่าไฟในงวด พ.ค.-ส.ค.2562 ยอมรับว่าทิศทางจะยังคงเป็น ขาขึ้นเพราะราคาน้ำมันที่จะสะท้อนไปยังราคาก๊าซฯ ย้อนหลังยังคงอยู่ช่วงขาขึ้น แต่ทั้งนี้ กกพ.ก็จะติดตามปัจจัยต่างๆ เพื่อที่จะบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและให้กระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด.
กกพ. เบรกไม่อยู่เคาะขึ้นค่าไฟงวดใหม่ 4.30 สต.ต่อหน่วย หลังต้นทุนน้ำมันก๊าซฯพุ่ง ส่งผลค่าไฟปรับสูงรับปีใหม่ 24 สต.ต่อหน่วย แถมบอกใบ้ให้คนเริ่มทำใจรับเทรนด์ค่าไฟขาขึ้น
ข่าว,เศรษฐกิจ
ขึ้นค่าไฟ,ค่าไฟแพง,ค่าเอฟที,ค่าไฟฟ้า,น้ำมันแพง
https://www.thairath.co.th/news/business/1416448
เฝ้าระวังดาวเรือง
แต่ด้วยสภาพอากาศระยะนี้เอื้อให้เกิดการระบาดของโรคแมลงศัตรูพืช กรมวิชาการเกษตร มีเกร็ดความรู้มาฝากให้พี่น้องเฝ้าระวังต้นดาวเรือง,ระวัง หนอนกระทู้ผัก เกิดจากผีเสื้อกลางคืนมาวางไข่เป็นกลุ่มๆบนใบ เมื่อหนอนฟักตัวออกจากไข่จะแทะกัดกินใบ หนอนยิ่งโตจะกัดกินเร็วมาก จนทำให้ดาวเรืองไม่ให้ดอก เพราะมีใบสังเคราะห์แสงได้น้อย,วิธีแก้ปัญหาในแปลงขนาดเล็ก พบไข่เป็นกลุ่ม หรือหนอนตรงไหน ให้เก็บไปทำลายนอกแปลงแต่ถ้าปลูกมากใช้แรงงานคนไม่ไหว ให้ฉีดพ่นด้วยเชื้อจุลินทรีย์ Bacillus thuringinesis อัตรา 60 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และถ้าระบาดรุนแรง ให้ใช้ คลอฟูร์อาซูรอน 5% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ เมททอกซีฟีโนไซด์ 24% เอสซี อัตรา 8 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ แลมบ์ดา–ไซฮา-โลทริน 2.5% อีซี อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร,หนอนชอนใบ สังเกตได้ที่ใบจะมีรอยทางคดเคี้ยวไปมา เมื่อนำใบมาส่องดูจะพบเห็นหนอนตัวเล็กอยู่ภายใน หากระบาดรุนแรงจะทำให้ใบร่วงหล่น ไม่ให้ดอกและตายไปในที่สุดพื้นที่ปลูกไม่มาก ให้เก็บใบมีรอยคดเคี้ยว ใบตามพื้นดิน และรังดักแด้ไปทำลายนอกแปลง,ถ้าปลูกมาก ให้ฉีดพ่นด้วย ฟิโพรนิล 5% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อิมิดาโคลพริด 10% เอสแอล อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อีมาเมกตินเบนโซเอต 1.92% อีซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร,โรคดอกเน่า มักจะระบาดในระยะที่มีฝนตกและดอกกำลังตูม อาการเริ่มแรกกลีบดอกจะฉ่ำน้ำ แล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลจากปลายกลีบดอกไปหาโคนดอก ก่อนจะลุกลามเน่าทั้งดอก ทำให้ดอกไม่บานได้ ต้นเน่าตายในที่สุดระยะนี้ให้หมั่นสำรวจตรวจดูสม่ำเสมอ หากพบอาการของโรคให้ตัดดอกที่เป็นโรคไปทำลายแปลงปลูกกำจัดวัชพืชในแปลงปลูก และตัดแต่งใบแก่ออก เพื่อให้ต้นโปร่งอากาศถ่ายเทสะดวก,ถ้าเป็นแปลงใหญ่ หลังตัดทำลายดอกเป็นโรค ให้พ่นด้วย ไดฟีโนโคนาโซล 25% อีซี อัตรา 15 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ แมนโคเซบ 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คลอโรทาโลนิล 50% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 5-7 วัน.,สะ–เล–เต
ดาวเรืองที่คนไทยร่วมใจปลูกน้อมถวายฯ หลายพื้นที่เริ่มมีดอกให้เห็นบ้างแล้ว แต่ด้วยสภาพอากาศระยะนี้เอื้อให้เกิดการระบาดของโรคแมลงศัตรูพืช กรมวิชาการเกษตร มีเกร็ดความรู้มาฝากให้พี่น้องเฝ้าระวังต้นดาวเรือง
null
หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน,สะ-เล-เต,ดาวเรือง,หนอนกระทู้ผัก,ปลูกดาวเรือง,เกษตร
https://www.thairath.co.th/news/local/1068554
หมอฝรั่งเศสผงะ ผลข้างเคียงโควิดลิ่มเลือดคั่ง พามังกรค้ำฟ้านานถึง 4 ชม.
วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวDailymail รายงานว่า ทีมแพทย์เผยเคสผู้ป่วยสุดตะลึง หลังพบชายชาวฝรั่งเศส วัย 62 ปี ป่วยเป็นโรคติดเชื้อโควิด-19 แต่กลับมีอาการข้างเคียง อวัยวะเพศชายแข็งนานถึง 4 ชั่วโมงคณะแพทย์โรงพยาบาลซ็องเทร โอปิตอลิเยร์ เดอ แวร์ซาย (Centre Hospitalier de Versailles) ในเขตเลอเชเนย์ ใกล้กรุงปารีส เผยว่า ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยชายคนดังกล่าว มีอาการป่วย มีไข้สูง ไอแห้งๆ หายใจติดขัด และท้องเสียนาน 2 วันก่อนถูกส่งมาที่โรงพยาบาล เมื่อแพทย์ตรวจหาเชื้อก็พบว่าป่วยเป็นโรคโควิด-19 และเกิดมีภาวะวิกฤติทางระบบหายใจ (ARDS) ขณะเข้ารับการรักษา จึงต้องแอดมิทเข้าแผนกไอซียู แต่ผลปรากฏว่าในระหว่างการรักษาผู้ป่วยชายคนนี้มีอาการอวัยวะเพศแข็งตัวต่อเนื่องนานผิดปกติเบื้องต้นทางทีมแพทย์วินิจฉัยว่า การแข็งตัวของอวัยวะเพศที่นานผิดปกติของชายคนนี้ มีสาเหตุมาจากลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดในองคชาต ทำให้แพทย์ต้องทำการระบายเลือดที่คั่งอยู่ภายในออกมา ปกติแล้วลิ่มเลือดเป็นสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อห้ามเลือดในเนื้อเยื่อที่ฉีกขาดหรือได้รับบาดเจ็บ ทว่าลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นอาจไปอุดตันหลอดเลือดในอวัยวะต่าง ๆ อย่างแขน ขา ปอด ไต สมอง ลำไส้ หรือหัวใจ จนอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจนถึงชีวิตได้ และในบางครั้ง กระบวนการนี้อาจเกิดขึ้นผิดเวลา เมื่อลิ่มเลือดปรากฏในหลอดเลือดอาจนำไปสู่ภาวะโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวายเฉียบพลัน และอาจก่อให้เกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ในบางกรณีนอกจากนี้แพทย์ยังระบุว่า อาการลักษณะนี้เป็น 1 ใน 3 อาการภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายในผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งนี้เคสนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่การแข็งตัวของอวัยวะเพศถูกมองว่าเป็นผลข้างเคียงอันตรายสุดพิสดารจากไวรัสมรณะสายพันธุ์ใหม่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานความคืบหน้าอาการของผู้ป่วยชายคนดังกล่าวว่า หลังจากที่เข้ารับการรักษา โดยใช้เครื่องช่วยหายใจ และอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ตอนนี้เขาเริ่มฟื้นตัวจากอาการป่วยแล้ว และมีอาการดีขึ้นตามลำดับ.แหล่งที่มาhttps://www.dailymail.co.uk/news/article-8478299/Covid-19-cause-PRIAPISM-62-year-old-infected-man-suffers-four-hour-erection.htmlhttps://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0735675720305143
ทีมแพทย์ฝรั่งเศสเผย พบอาการแทรกซ้อนพิสดารสุดอันตรายจากโควิด-19 ทำอวัยวะเพศแข็งตัวนานหลายชั่วโมง เหตุจากลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดในองคชาต จนต้องรีบระบายเลือดที่คั่งออกมา
ข่าว,ต่างประเทศ
โควิด-19,ไวรัสโคโรน่า,COVID-19,โควิดวันนี้,พิสดาร,อวัยวะเพศแข็งตัว 4 ชม.,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1881780
How to : แต่งหน้าโทนน้ำตาลทอง เรียบหรูดูแพง
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มายกลับมาพร้อมกับฮาวทูแต่งหน้าสีน้ำตาลทอง เป็นลุคคลาสสิคที่แต่งได้ในทุกๆโอกาส เหมาะกับทุกสีผิว วิธีการก็ง่ายๆมาดูกันค่ะ ,ในคลิปมีแนะนำของใหม่ๆ ที่มายชอบใช้อยู่ตอนนี้ด้วยนะคะ แต่ถ้าใครชอบดูภาพนิ่งอ่านต่อกันได้เลยค่ะงานผิวในวันนี้มายเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Sungrace เป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น และเป็นแบรนด์น้องสาวของ Covermark ที่มีแนวคิดว่า ความงามจากดวงอาทิตย์ หมายความว่าผลิตภัณฑ์ของเขาถูกพัฒนามาเพื่อสาวเอเชียที่ต้องเผชิญกับแสงแดดในทุกๆวันแบบเราโดยเฉพาะ ซึ่งเขามีความโดดเด่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์รองพื้น โดยเน้นความทนน้ำ ทนเหงื่อ ควบคุมความมัน และยังใส่สารบำรุงผิวจากธรรมชาติมาให้อีกด้วย ทำให้ผิวได้รับการบำรุงระหว่างแต่งหน้า,เริ่มแรกมายจะใช้ Sungrace White UV Protector SPF42 PA++ ทาให้ทั่วหน้าเลยค่ะ เป็นเมคอัพเบสเนื้อน้ำนม ช่วยให้เครื่องสำอางติดทน ทนน้ำ ทนเหงื่อมากขึ้น มีส่วนผสมของมารีนคอลลาเจนและวิตามินซี,รองพื้น Sungrace White UV Liquid Foundation เบอร์ N3 เป็นรองพื้นที่ควบคุมความมันได้ดีมากๆ ติดทนสุดๆ แต่จะค่อนข้างแห้ง เหมาะกับคนผิวมัน-ผิวผสม เนื้อรองพื้นบางเบาสบายผิวสุดๆ สามารถกดย้ำเพื่อเพิ่มการปกปิดได้ค่ะ,เสร็จแล้วจ้าเนียนมาก ปกปิดได้ดี ไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์เลยจ้า,เห่อพัฟอันนี้มากค่ะ ผิวสัมผัสนุ่มฟินมากๆ ใช้แล้วไม่เปลืองเนื้อแป้ง,ทาแป้งฝุ่นให้ทั่วใบหน้า,วันนี้มายจะเฉดดิ้งด้วยแป้งตัวนี้เลยค่ะ สีสวยให้เงาที่ดูเป็นธรรมชาติ,เฉดดิ้งบริเวณจมูก,เฉดดิ้งที่กรอบหน้าอีกสักหน่อย,สุดท้ายที่ร่องแก้มค่ะ,เขียนคิ้วด้วย Naked Basics สีน้ำตาล,ทาอายแชโดว์สีที่ 1 Honey Pot เต็มเปลือกตาด้านบนและหัวตาด้านล่างทาอายแชโดว์สีที่ 2 Chocolate Martini บริเวณหางตาทั้งบนและล่างเติมกลิตเตอร์บริเวณหัวตาอีกเล็กน้อยกรีดอายไลน์เนอร์ให้คมสวย,ดัดขนตา ด้วยที่ดัดขนตา mapepe ของญี่ปุ่นใช้ดีมากๆค้า ดัดง่าย ดัดได้ถึงโคนขนตาเลย ปัดมาสคาร่าด้วย FAIRYDROPS Platinum Mascara Waterproofติดขนตาปลอม 3D เบอร์ 327,ปัดแก้มเบาๆด้วย 4U2 Love me more #I Fancy You,เพิ่มไฮไลท์บริเวณโหนกแก้ม สันคิ้ว สันจมูก และหยักปากค่ะ,สุดท้ายทาลิปสติกให้ทั่วริมฝีปาก เสร็จแล้วค้า,ขอบคุณทุกคนที่รับชมค่า , รีวิวจาก คอมมูนิตี้จีบัน : ZmileMarrymy , ที่มาของเนื้อหา Jeban.com,เตรียมเครื่องสำอางแล้วเริ่มแต่งหน้าโทนคลาสสิค หรู ดูแพงแบบนี้ได้ง่ายๆ ช้อปโลดที่ ,Konvy, เค้าขนเครื่องสำอางหลากหลายแบรนด์ทั่วโลกไว้ที่นี่ที่เดียว
ฮาวทูแต่งหน้าสีน้ำตาลทอง!! เป็นลุคคลาสสิคที่แต่งได้ในทุกๆโอกาส เหมาะกับทุกสีผิว วิธีการก็ง่ายๆมาดูกันค่ะ
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
jeban,ความงาม,แต่งหน้า,บิ้วตี้,น้ำตาลทอง
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/beauty/1508483
ครม.ดันสุดติ่ง เศรษฐกิจดิจิตอล
ผ่านกฎหมายเพิ่ม 8 ฉบับรวด-สั่งยุบ กทค.-กสท.,ครม.เห็นชอบร่างกฎหมายอีก 8 ฉบับรวมของเดิม 2 เป็น 10 ฉบับ ผลักดัน เศรษฐกิจดิจิตอล เต็มสูตร ยุบคณะกรรมการ กทค.-กสท. ตั้งกองทุนพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ใช้เงินนำส่งเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตจากกสทช. 50%,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลจำนวน 8 ฉบับ ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเร่งผลักดันการก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิตอลให้เสร็จภายในปี 2558 ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวถือเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้ใคร แต่ทำเพื่อประโยชน์ของชาติ ขณะเดียวกัน ยังปรับปรุงการทำงานของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อเตรียมความพร้อมการประมูลคลื่นความถี่ 4 จี,ด้าน ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ร่างกฎหมายที่ ครม.เห็นชอบในครั้งนี้มี 8 ฉบับ ซึ่งเมื่อรวมกับก่อนหน้านี้เห็นชอบไปแล้ว 2 ฉบับแล้ว คือ ร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรมจะรวมเป็น 10 ฉบับ โดย 8 ฉบับล่าสุด คือ 1.ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งกองทุนพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับการให้การอุดหนุนงานวิจัยและพัฒนา โดยให้กู้ยืมหรือช่วยเหลือและจัดสรรงบให้หน่วยงานรัฐ เอกชนและประชาชน,2.ร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม โดยกำหนดบทบาทของคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้จัดทำนโยบายในแต่ละภาคส่วนของการใช้ความถี่วิทยุในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนการพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามที่คณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้กำหนด เพื่อให้งานมีความสอดคล้องกันในภาพรวม,ขณะเดียวกัน กำหนดให้การบริหารงานด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ดำเนินการโดยคณะกรรมการชุดเดียว คือ กสทช.เพื่อให้สอดคล้องกับยุคเทคโนโลยีหลอมรวม นอกจากนี้ มีข้อกำหนดให้ส่งเงินค่า ธรรมเนียมจากใบอนุญาตของ กสทช.เข้ากองทุนพัฒนาดิจิตอลฯ 50% ด้วย,3.ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มีเนื้อหาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ มีสถานะเป็นนิติบุคคล เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์,4.ร่าง พ.ร.ฎ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. ให้ทำงานร่วมกับภาคเอกชน ในงานด้านการพัฒนาระบบการให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน,5.ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยตั้งสำนักงานคณะกรรมการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ เป็นหน่วยงานกลางในการตรวจสอบ พร้อมทั้งปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย ครอบคลุมความผิดที่เกิดจากคอมพิวเตอร์โดยตรง,6.ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยตั้งคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เพื่อวางแผนการจัดการปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีการทำสงคราม การโจมตีโดยใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการกระทำความผิด,7.ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยตั้งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และรวบรวมข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน และ,8.ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล โดยมีคณะกรรมการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอลแห่งชาติ และตั้งสำนักงานขึ้นมาดูแล ในรูปแบบองค์การมหาชน เพื่อรับผิดชอบและผลักดันงานต่างๆให้สำเร็จ,ด้านนายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยถึงร่างกฎหมายเพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลของประเทศ รวม 8 ฉบับ ว่า ในส่วนการแก้ไข พ.ร.บ.กสทช. นั้น ไม่ได้ยกเลิก กสทช.เพียงยกเลิกอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เพื่อให้เหลืออำนาจหน้าที่บอร์ด กสทช.เพียงชุดเดียวเท่านั้น ส่วนประเด็นการจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อนำไปประมูลนั้นจะต้องนำหารือคณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานก่อน เพื่อให้มีการใช้คลื่นความถี่อย่างมีประสิทธิภาพ.
ครม.เห็นชอบร่างกฎหมายอีก 8 ฉบับรวมของเดิม 2 เป็น 10 ฉบับ ผลักดัน เศรษฐกิจดิจิตอล เต็มสูตร ยุบคณะกรรมการ กทค.-กสท. ตั้งกองทุนพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
null
เศรษฐกิจดิจิตอล,ประยุทธ์ จันทร์โอชา,ยงยุทธ มัยลาภ,ทีโอที,กสทช.,ร่าง พ.ร.บ.,พรชัย รุจิประภา
https://www.thairath.co.th/content/473171
ผอ.ไทยพีบีเอส ชี้แจงกรณีเสนอข่าวกระทบนศ.ใต้ ย้ำเปิดพื้นที่ฟังความเห็นปชช.
นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ไทยพีบีเอส เปิดเผยว่า ไทบพีบีเอส นำเสนอข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ภาคใต้อย่างรอบด้านมาโดยตลอด มีอิสระ มีแหล่งข้อมูลชัดเจน ส่วนกรณีการนำเสนอข่าวสถานการณ์ภาคใต้ในข่าวภาคค่ำเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556 นำไปสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน พร้อมทั้งเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงผลการพิจารณาเมื่อวันที่ 7 มีนาคม คณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่า การนำเสนอข่าวขาดความรอบคอบ ไม่มีการอ้างที่มาของข้อมูล ไม่สมดุล แม้พยายามไปสัมภาษณ์บุคคลอื่น แต่ไม่สัมภาษณ์บุคคลที่ถูดพาดพิงในเนื้อข่าว ควรให้มีการเยียวยาเปิดพื้นที่การนำเสนอเรื่องราวใหม่ที่รอบด้าน และให้ฝ่ายบริหารเข้มงวดในการทำหน้าที่ของกองบรรณาธิการข่าว โดยเฉพาะตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นมา ไทยพีบีเอส ได้เปิดพื้นที่เยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการนำเสนอข่าวผู้อำนวยการการไทยพีบีเอสย้ำว่า ไทยพีบีเอส ยังคงยืนยันการทำหน้าที่สื่อสาธารณะที่เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างรอบด้าน เช่น การทำหน้าที่ตามกรอบจริยธรรม ซึ่งเป็นกลไกตามกฏหมาย
กรณีไทยพีบีเอสนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ภาคใต้ ในข่าวภาคค่ำวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนมีข้อเรียกร้องจากผู้ได้รับผลกระทบจากการนำเสนอรายงานข่าวชิ้นนี้ โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่ถูกพาดพิง เรื่องนี้นำไปสู่การตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบตามกรอบจริยธรรม โดยคณะอนุกรรมการสรุปว่า การนำเสนอข่าวขาดความรอบคอบ และให้เยียวยาเปิดพื้นที่การนำเสนอใหม่ที่รอบด้าน
สังคม
นักศึกษาใต้,รายงานข่าว,เสนอข่าว,ไทยพีบีเอส
https://news.thaipbs.or.th/content/153262
ปภ. เตือน ชาวนครพนมริมฝั่งโขง 4 อำเภอ รับมือน้ำท่วมฉับพลัน
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ระดับน้ำโขงยังเพิ่มระดับต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว หลังจากมีมวลน้ำไหลมาจากทางภาคเหนือ ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 9 เมตร เพิ่มขึ้นวันละประมาณ 30–50 เซนติเมตร ห่างจากจุดวิกฤติประมาณ 4 เมตร คือที่ประมาณ 13 เมตร เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาน้ำโขงหนุนเอ่อท่วม หากระดับน้ำโขงใกล้ถึงจุดวิกฤติ จะทำให้ลำน้ำสาขาเริ่มไหลระบายลงน้ำโขงช้า,ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม ยังคงประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ที่อาศัยอยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขง รวม 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอธาตุพนม อำเภอบ้านแพง อำเภอท่าอุเทน และอำเภอเมือง เฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วมฉับพลันจากปัญหาน้ำโขงหนุน หากมีฝนตกต่อเนื่อง เพราะจะทำให้น้ำจากลำน้ำสาขาต่างๆ ไม่สามารถไหลระบายลงสู่น้ำโขงได้,ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีหมู่บ้านที่ติดกับลำน้ำสาขาสายหลัก คือ แม่น้ำสงคราม ที่ยังต้องเฝ้าระวังปัญหาน้ำเอ่อท่วม หลังระดับน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นลำน้ำสาขาที่รองรับน้ำมาจากพื้นที่หลายจังหวัด ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง แต่หากระดับน้ำโขงสูงใกล้จุดวิกฤติจะส่งผลให้เอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร และชุมชนหมู่บ้านที่ติดกับริมน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ บ้านท่าบ่อ ต.ท่าบ่อสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พบว่ามีบ้านเรือนของชาวบ้าน เกือบ 500 หลังคาเรือน ที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากปัญหา เพราะเป็นพื้นที่ติดกับลำน้ำสงคราม ตั้งอยู่ในลักษณะแอ่งกระทะ ทำให้ในช่วงนี้ชาวบ้าน ต่างเตรียมพร้อม เฝ้าระวัง จัดเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง จัดเตรียมเรือไว้สัญจร และเตรียมอพยพสัตว์เลี้ยงการเกษตร วัว ควาย ขึ้นที่สูง หากเกิดปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังทุกปี
ปภ.จังหวัดนครพนม เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำโขง โดยเฉพาะหมู่บ้านประชาชน รวมถึงประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำสงคราม ที่เป็นจุดแรกในการรับน้ำ
null
แม่น้ำโขงเออ,น้ำโขงท่วม,น้ำโขงเข้าท่วมบ้านเรือน,น้ำโขงเออล้นตลิ่ง,แม่น้ำสงคราม,นครพนม,ข่าว,ทั่วไทย,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/692872
เป็นเรื่องเฉย ชาเปฯทุ่มโคตรไกลโขกเข้าด้วย แต่ประตูนี้อาจซวย (ชมคลิป)
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 18 พ.ค. ว่า ทีมชาเปโคเอนเซ บุกไปเอาชนะ ลานุส ทีมจากอาร์เจนตินา 2-1 ในศึกโกปา ลิเบอร์ตาดอเรส รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม 7 แต่ทว่าประตูชัยของพวกเขากำลังมีประเด็นอยู่ในเวลานี้,หลุยส์ โอตาวิโอ แข้งของชาเปโคเอนเซ โขกประตูจากลูกทุ่มไกลเป็นประตูชัยพาทีมชาเปโคเอนเซบุกไปคว้าสามแต้มสำคัญจากทีมลานุส ทำให้พวกเขามี 7 แต้มจาก 5 เกมอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม 7 เท่ากับ ลานุส อันดับ 2 ที่ 7 แต้มแต่ ลานุส ต้องไปตัดแต้มกับ นาซิอองนาล จ่าฝูงกลุ่มที่มี 8 แต้มในนัดสุดท้าย ส่งผลให้ ชาเปโคเอนเซ จะการันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายหากเกมนัดหน้าเอาชนะ ทีมซูเลีย จากเวเนซูเอลาทีมบ๊วยของกลุ่ม,แต่ทว่าประตูนี้กลับมีประเด็นเกิดขึ้นเนื่องจาก โอตาวิโอ ควรที่จะติดโทษแบน หลังโดนใบแดงช่วงต้นทัวร์นาเมนต์ แต่เจ้าตัวกลับไม่ติดโทษแบนเลยจนถึงตอนนี้ โดยทีมชาเปโคเอนเซ อ้างว่าพวกเขาไม่ได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่และคำเรียกร้องใดๆอย่างเป็นทางการ ดังนั้นพวกเขาสมควรได้ 3 แต้มในนัดนี้,อย่างไรก็ตามหากมีการเรียกร้องใดๆจากทีม ลานุส รวมถึงทีม นาซิอองนาล สองทีมร่วมกลุ่ม ก็ไม่แน่ว่าทีมชาเปโคเอนเซ อาจถูกริบ 3 แต้มคืนก็เป็นได้,>>> ,คลิกชมคลิปทีมชาเปโคเอนเซ โขกประตูจากลูกทุ่ม, <<<
ชาเปโคเอนเซ ฉลองชัยชนะสุดบ้าคลั่งหลังทุ่มไกลแล้วโขกประตูชัยเหนือ ลานุส 2-1 แต่ประตูนี้อาจทำให้เขาโดนหักคะแนนก็เป็นได้
กีฬา,ฟุตบอลยุโรป
null
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/945665
บิ๊กน้อย เร่งขับเคลื่อนการศึกษาชายแดนใต้ ยึด เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา
วันที่ 7 ต.ค. พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ลงพื้นที่เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้านการศึกษา ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม กลุ่มภารกิจงานที่ 4 ภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) พร้อมด้วย พลเอกจำลอง คุณสงค์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ หอประชุมโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา,การประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนนโยบาย แนวทางการดำเนินงาน วัตถุประสงค์ เป้าหมาย กลยุทธ์ ผลลัพธ์ที่ต้องการ ดัชนีชี้วัดในการพัฒนาการศึกษา ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ 2560 ของคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มภารกิจงานที่ 4 รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2560 เพื่อนำไปสู่การบูรณาการงานที่เข้มแข็ง ประกอบด้วย กระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี) กระทรวงวัฒนธรรม ได้แก่ กรมการศาสนา กรมศิลปากร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมด้วย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้,นอกจากนี้ ได้มีการพิจารณา หารือแนวทางการดำเนินงานร่วมกันในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้านการศึกษา ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ 2560 ภายใต้ 7 เป้าหมาย 15 กลยุทธ์ โดยบูรณาการร่วมกับกรอบแนวทางการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ 2560 ใน 7 จุดเน้น ได้แก่,1) ด้านการรักษาความปลอดภัย 2) ด้านการพัฒนาคุณภาพการศึกษา 3) ด้านการพัฒนาคนให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่ 4) ด้านการจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง 5) ด้านการเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา 6) ด้านการเสริมสร้างความเข้าใจในการศึกษา และ 7) ด้านประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา พร้อมทั้งได้จัดทำกรอบวงเงินงบประมาณ แผนงาน โครงการ ตามแนวทางการบูรณาการให้สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางที่คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) กำหนดไว้,,รมช.ศธ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้จัดให้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มภารกิจงานที่ 4 การศึกษา ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม ของ คปต. ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมาย โดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน สำหรับการประชุมครั้งนี้เพื่อให้เกิดการเริ่มต้นที่ดีในการขับเคลื่อนงานปีงบประมาณ 2560 ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยง การประสานงานที่แน่นแฟ้น และการบูรณาการที่เข้มแข็งตามเป้าหมายของรัฐบาล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ข้อมูลของการทำงาน ซึ่งจะมีการประสานงานกันในเรื่องของเป้าหมายและกลยุทธ์ รวมถึงแผนงาน โครงการ กิจกรรม และงบประมาณ ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด,ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายต้องสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นในแต่ละหน่วยงานด้วย เพื่อให้บุคลากรได้เข้าใจข้อมูลการทำงานร่วมกัน มีการวางแผนที่ดีและการปฏิบัติที่ดี ก็จะเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา มาเป็นหลักในการปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณต้องใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ด้วยความมุ่งหวังให้ทุกฝ่ายทำงานได้ประสบผลสำเร็จ นำสันติสุขมาสู่ภาคใต้ได้อย่างยั่งยืน
พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศธ. ลงพื้นที่ขับเคลื่อนการศึกษาชายแดนใต้ ยึดหลัก เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เน้นทุกฝ่ายบูรณาการอย่างเข้มแข็ง ย้ำแผนดี ปฏิบัติดี มีผลเป็นรูปธรรม
null
สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์,รมช.ศธ.,การศึกษาชายแดนใต้,หาดใหญ่,สงขลา,ประชุมขับเคลื่อน,แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้,รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
https://www.thairath.co.th/content/747507
คำรณวิทย์ยันดูแลกปท.ชุมนุมได้ ไม่ต้องใช้พ.ร.บ.มั่นคงฯ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยืนยันว่า สามารถควบคุมดูแลสถานการณ์การชุมนุมได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ขณะที่แกนนำกปท.กล่าวย้ำ การชุมนุมเป็นไปโดยปราศจากการเมืองแอบแฝง แต่เป้าหมายคือการคัดค้านการบริหารของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยการประชุมครม. โดยมีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นประธานการประชุมแทนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ยังคงติดภารกิจต่างประเทศ ในวันนี้เต็มไปด้วยแผนรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม โดยเฉพาะกำลังตำรวจชุดปราบจราจล 15 กองร้อย 2000 นายจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าประจำที่ตั้งบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ซึ่งพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท.กรณีชุมนุมปิดถนนบริเวณโดยรอบทำเนียบฯกับพล.ต.อ.ประชาแล้ว และหลังการหารือผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวยืนยันว่า สามารถควบคุมดูแลสถานการณได้ โดยไม่จำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯขณะที่ก่อนการประชุมครม. นายสุภรณ์ อัตถาวง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง แสดงความพร้อมที่จะพบแกนนำเพื่อรับข้อเรียกร้อง และยืนยันที่จะประสานให้กลับไปชุมนุมที่สวนลุมพินี เพื่อขอคืนพื้นผิวการจราจร และเตรียมต้อนรับการเยือนของนายกรัฐมนตรีจีน ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตั้งข้อสังเกตการเคลื่อนไหวชุมนุมครั้งนี้ อาจเชื่อมโยงกับกระแสข่าวอุบัติเหตุทางการเมืองในวันที่ 8 ตุลาคม แต่กล่าวย้ำไม่มีเหตุใดที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลได้ ด้านแกนนำกลุ่มกปท. นำโดย พล.ร.อ. ชัย สุวรรณภาพ และพล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ แถลงแสดงจุดยืนการชุมนุมปักหลักยืดเยื้อที่ทำเนียบ โดยปฏิเสธที่จะกลับไปยังสวนลุมพินี พร้อมยืนยันว่าการเคลื่อนไหวเป็นไปโดยอิสระไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองกลุ่มใด และไม่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวกรณีการล้มรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในวันนี้สำหรับการประชุมครม.นั้น กระทรวงการคลังเตรียมเสนอให้ครม.รับทราบและอนุมัติการบริหารโครงการลงทุน เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะรายงานผลการดำเนินงานมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ การแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกผลทางการเมืองในวันที่ถูกจับตามองว่า อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองนั้น ไม่เพียงแค่การชุมนุมของกลุ่มกปท. แต่ยังต้องติดตามการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดแรกวันนี้ด้วย
การประชุมครม.วันนี้ (8 ต.ค.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระเพื่อทราบ 3 เรื่องสำคัญ คือ ผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว การแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำและการพิจารณาแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขณะเดียวกันการประชุมวันนี้ ยังเต็มไปด้วยแผนรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดกำลังชุดปราบจราจลร่วม 2000 นายควบคุมดูแลรอบทำเนียบรัฐบาล
การเมือง
กปท.,คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง,ทำเนียบรัฐบาล,พ.ร.บ.มั่นคงฯ,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,รัฐบาล
https://news.thaipbs.or.th/content/200263
หนุ่มเมืองคอน หลับในชนต้นไม้ตกคูน้ำ ดับพร้อมวิศวกรญี่ปุ่นโรงไฟฟ้าขนอม
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 27 ต.ค. 58 ร.ต.ท.ศักดิ์ชัย มีพูล พงส.สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุเกิดรถพลิกคว่ำ ถนนสายสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช บริเวณหน้า รพ.กาญจนดิษฐ์ ภายในรถมีผู้เสียชีวิต จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลศรัทธา ที่เกิดเหตุขาล่องใต้ ก่อนถึง รพ.กาญจนดิษฐ์ 200 เมตร ในคูน้ำริมถนน พบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน กย8405 สงขลา สภาพตัวรถพังยับ มีต้นไม้ขนาดใหญ่พาดอยู่บนตัวรถ ภายในรถพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายโยชิ ฟูมิโฮตะ อายุ 37 ปี ชาวญี่ปุ่น สภาพศพกระเด็นไปอยู่โซนหลังของตัวรถ โดยมีเบาะทับร่างกาย นอกจากนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายภาคิน แซ่ลาย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 1 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช คนขับ ได้รับบาดเจ็บบอบช้ำภายใน ติดอยู่ภายในตัวรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำออกจากตัวรถส่ง รพ.กาญจนดิษฐ์ ส่งต่อ รพ.สุราษฎร์ธานี ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา,สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายโยชิ เป็นวิศวกรโรงไฟฟ้าขนอม จ.นครศรีธรรมราช ก่อนเกิดเหตุอยู่ระหว่างเดินทางกลับจาก กรุงเทพมหานคร โดยมี นายภาคิน เป็นคนขับรถ และเมื่อถึงที่เกิดเหตุ คาดว่าคนขับจะหลับใน ประกอบกับสภาพฝนตกในพื้นที่ ทำให้รถหมุนฟาดกับต้นไม้บ่นไหล่ทางจนหักและตกในคูน้ำ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป.
หนุ่มเมืองคอนวัย 36 ปี ขับรถกลับจากเมืองกรุงพร้อมวิศวกรโรงไฟฟ้าขนอมชาวญี่ปุ่น เสียหลักรถหมุนช่วงฝนตกชนต้นไม้ริมถนนสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช หัก ก่อนพุ่งลงคูน้ำข้างทาง ส่งผลเสียชีวิตทั้งคู่ คาดหลับใน
ข่าว,ทั่วไทย
รถชน,หลับใน,ฝนตกถนนลื่น,เสียหลัก,ศักดิ์ชัย มีพูล,ตกคูน้ำ,รถชนต้นไม้,รถตกน้ำ,อุบัติเหตุ,อ.กาญจนดิษฐ์,สุราษฎร์ธานี,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/535100
OTOP Midyear กระหึ่มอิมแพ็คฯ ผ่าน 3 วัน โกยยอดขาย 300 ล้าน
OTOP ชวนชิม ของอร่อยทุกภูมิภาค ผ่านมา 3 วัน โกยยอดขายแล้ว 300 ล้าน,เมื่อวันที่ 21 พ.ค.60 งาน OTOP Midyear 2017 BEST LOCAL TO GLOBAL : ภูมิใจ ภูมิปัญญาไทย ระดับโลก ระหว่างวันที่ 18 - 25 พ.ค.60 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็คเมืองทองธานี ผ่านมา 3 วัน (18 – 20 พ.ค.) สามารถสร้างยอดขายได้ 299,835,364 บาท คนเข้าชมงาน 138,838 คน ช่วยให้ประชาชนได้สินค้าคุณภาพดีแต่ราคาย่อมเยา ขณะเดียวกันช่วยสร้างงานสร้างรายได้ลงสู่ชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ,นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวชวนเชิญประชาชนคนกรุงเทพฯ และจังหวัดข้างเคียงมาร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์โอทอป ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนได้รวบรวมผลิตภัณฑ์เด่นจากฝีมือคนไทยทุกจังหวัดทั่วประเทศมาให้จำหน่ายในราคาย่อมเยา ซึ่งปีนี้มีกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP นำสุดยอดสินค้า OTOP คุณภาพดีมานำเสนอมากกว่า 10,000 รายการ 3,000 ร้านค้า,นอกจากจะมีสินค้าราคาพิเศษสุดๆ มานำเสนอแล้ว ยังมีช่วงนาทีทองให้ช็อปอย่างจุใจ วันละ 2 ครั้ง แถมด้วยโปรโมชั่นพิเศษที่จัดกันเต็มๆ คือ ซื้อสินค้าภายในงานครบทุก 1,000 บาท สามารถนำใบเสร็จมาแลกรับคูปองชิงโชค เพื่อลุ้นรับสร้อยคอทองคำ 1 สลึง วันละ 2 เส้นทุกวัน พร้อมร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ สร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท โทรศัพท์ Samsung S8, โทรทัศน์ Samsung LED 55 นิ้ว และจักรยานพับได้ ฯลฯ ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไปร่วมสนับสนุน และให้กำลังใจกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ได้ช็อป ได้โชค แถมมาที่เดียวเหมือนเที่ยวทั่วไทย งานครั้งนี้เป็นงานที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ นายอภิชาติ กล่าว,ภายในงานครั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชน ได้ยกทัพสุดยอดอาหารเลิศรสจาก 76 จังหวัดทั่วฟ้าเมืองไทย จากเหนือจดใต้ มาเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมทานในโซน OTOP ชวนชิม อาทิ นงลักษณ์ขนมหวาน จ.เพชรบุรี ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ลูกชุบ ของดีเมืองเพชร, น้ำปลาหวานต้นหอม จ.สมุทรปราการ เครื่องแน่น กุ้งตัวโตๆ อร่อยจนหยุดไม่ได้, ข้าวซอยกะลา จ.ลำปาง หอมเครื่องแกงแท้ๆ ส่งตรงจากจังหวัดลำปาง ลำแต๊ๆ  จ้าววว, ข้าวมันไก่เบตง จ.ยะลา ไก่นุ่มเนื้อแน่น น้ำจิ้มรสเด็ด จานเดียวไม่เคยพอ,นอกจากนี้ได้จัดโซนเอาใจคนรักสุขภาพ&ความงาม จัดบริการนวดผ่อนคลายมากกว่า 100 เตียง ภายในโซน Health & Spa อาทิ มูลนิธิโพธิรังสี ตอกเส้น 2,600 ปี ขึ้นชื่อด้านการตอกเส้นบำบัด รักษาโรคเกี่ยวกับกระดูกกล้ามเนื้อ ด้านสมุนไพรกุสุมา บริการนวดหน้าขัดหน้าด้วยครีมนวดหน้าผงทองคำ ผงไข่มุก เซรั่มน้ำนม ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพและรักความงาม,ทั้งนี้ งาน OTOP Midyear 2017 BEST LOCAL TO GLOBAL : ภูมิใจ ภูมิปัญญาไทย ระดับโลก ครั้งนี้เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์, เพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้เพิ่มขึ้น, เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีความรู้ ความเข้าใจในกลุ่มประเทศประชาคมอาเซียน ซึ่งรอบปีที่ผ่านมามีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มาลงทะเบียนจำนวนมากถึง 40,694 ราย รวม 83,538 ผลิตภัณฑ์ ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างกว้างขวาง.
โอทอปมิดเยียร์กระหึ่มอิมแพ็คเมืองทองฯ กรมพัฒนาชุมชน จัดหนักอัดโปรโมชั่น นาทีทอง ทุกวัน แฟนโอทอปแห่ช็อปของดีราคาถูก แถมได้ลุ้นโชคกลับบ้าน จัดใหญ่บูธ 3 พันร้านค้า สินค้ากว่า 1 หมื่นรายการ เอาใจแฟนโอทอปสุดๆ ห้ามพลาด
ข่าว,ทั่วไทย
OTOP,สินค้า,โอทอปมิดเยียร์,โอทอป,กรมพัฒนาชุมชน
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/947797
คุณควบคุมความมั่นคงไม่ได้หรอก ในระบอบเจ้าที่ดินของอินเทอร์เน็ต
เฟซบุ๊กละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อยู่บ่อยๆ กูเกิลเลิกสนับสนุนโปรแกรมอ่านข่าว RSS ยอดนิยม แอปเปิลห้ามไม่ให้มีแอพพลิเคชันที่มีเนื้อหาทางการเมืองหรือทางเพศบนไอโฟน ไมโครซอฟท์อาจร่วมมือกับรัฐบาลบางประเทศดักฟังสไกป์ เพียงแต่เราไม่รู้ว่าประเทศไหน ส่วนทวิตเตอร์และลิงก์อิน (LinkedIn) ก็เพิ่งพ้นเรื่องปวดหัวจากการถูกเจาะระบบรักษาความปลอดภัยซึ่งกระทบกับข้อมูลของผู้ใช้หลายแสนรายหากคุณเริ่มคิดว่าตัวเองเป็นชาวนาเคราะห์ร้ายในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจ อย่างในละครชุดคุณมาถูกทางแล้วล่ะ บริษัทเหล่านี้ไม่ใช่บริษัทแบบเดิม และเราก็ไม่ใช่ลูกค้าแบบเดิมอีกต่อไป พวกเขาคือเจ้าที่ดิน (feudal lord) และเราต่างเป็นข้า ชาวนา และทาสติดที่ดิน (vassal peasant and serf)อำนาจนั้นได้เปลี่ยนมือไปในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ในทิศทางที่เป็นประโยชน์กับผู้ให้บริการกลุ่มเมฆคอมพิวเตอร์ (cloud-service provider) และผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม (vendor platforms) การเปลี่ยนมือของอำนาจนี้ส่งผลกระทบหลายอย่าง และกระทบต่อความปลอดภัยอย่างมากในยุคดั้งเดิม ความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้เอง ผู้ใช้ซื้อโปรแกรมป้องกันไวรัสและติดตั้งระบบไฟร์วอลล์เอง และความผิดพลาดใดๆ ที่เกิดขึ้นถือว่ามาจากความไม่กระตือรือร้นของผู้ใช้ มันเป็นรูปแบบทางธุรกิจที่บ้าทีเดียว เพราะปกติแล้ว เราคาดหวังว่าผลิตภัณฑ์และบริการที่เราซื้อจะปลอดภัย แต่ในโลกไอทีเราอดทนกับผลิตภัณฑ์ที่น่ารังเกียจ และสนับสนุนตลาดความปลอดภัยหลังการขาย (aftermarket) ที่ใหญ่มากตอนนี้อุตสาหกรรมไอทีมีวุฒิภาวะมากขึ้น เราคาดหวังความปลอดภัย ตั้งแต่แกะกล่อง กันมากขึ้น มันเป็นไปได้เพราะแนวโน้มเทคโนโลยีสองอย่าง คือ การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (cloud computing) และ แพลตฟอร์มที่ผู้ผลิตเป็นผู้ควบคุมเอง (vendor-controlled platforms) อย่างแรกหมายความว่าข้อมูลทั้งหมดของเราถูกเก็บอยู่ในเครือข่ายอื่น เช่น กูเกิลด็อกส์ เซลส์ฟอร์ซ.คอม เฟซบุ๊ก จีเมล ส่วนอย่างหลังหมายถึงการที่อุปกรณ์อินเทอร์เน็ตของเราถูกควบคุมโดยผู้ผลิต เช่น ไอโฟนของแอปเปิล โครมบุ๊กส์ของกูเกิล เครื่องอ่านหนังสือคินเดิลของอเมซอนแอมะซอน โทรศัพท์แบล็คเบอร์รี ความสัมพันธ์ของเรากับเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป เราเคยใช้คอมพิวเตอร์ ทำ สิ่งต่างๆ ทุกวันนี้เราใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ควบคุมโดยผู้ผลิต ไป ยังสถานที่ต่างๆ และสถานที่เหล่านี้ทั้งหมดเป็นของใครสักคนรูปแบบความปลอดภัยใหม่คือ การที่ใครบางคนดูแลมันโดยไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรแก่เราเลย เราไม่สามารถควบคุมความปลอดภัยของเราในการใช้จีเมลของตัวเอง หรือรูปภาพของเราเองในเว็บฟลิกเกอร์ (Flickr) เราขอความปลอดภัยที่มากขึ้นให้กับไฟล์นำเสนองานของเราบนเพรซซี (Prezi) หรือบันทึกกันลืมในเทรลโล (Trello) ไม่ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นความลับมากแค่ไหนก็ตาม เราไม่สามารถตรวจสอบบริการคลาวด์เหล่านี้ได้เลย เราลบข้อมูลคุกกี้ (cookies) ในไอแพดของเราไม่ได้ หรือกระทั่งไม่แน่ใจว่าไฟล์ของเราถูกลบอย่างปลอดภัยแล้ว คินเดิลของเราอัปเดตอัตโนมัติโดยไม่เคยถามเรา เรารู้น้อยมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของเฟซบุ๊ก เราไม่รู้เลยว่ามันใช้ระบบปฏิบัติการอะไรมีเหตุผลมากมายที่อธิบายว่าทำไมเราจึงแห่กันมาใช้ระบบคลาวด์และแพลตฟอร์มที่ควบคุมโดยผู้ผลิต มันมีประโยชน์มหาศาล ตั้งแต่เรื่องต้นทุนไปจนถึงความสะดวกสบาย ไปจนถึงความไว้ใจได้ ไปจนถึงความมั่นคงปลอดภัยของมัน แต่นี่เป็นความสัมพันธ์แบบศักดินาโดยแท้ เรามอบสิทธิในการควบคุมข้อมูลของเราให้กับบริษัทต่างๆ และไว้ใจว่าพวกเขาจะดูแลเราเป็นอย่างดี ปกป้องเราจากอันตรายต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเรายังสัญญาด้วยว่าจะจงรักภักดีต่อพวกเขา ปล่อยให้พวกเขาควบคุมอีเมล ปฏิทิน สมุดบันทึกที่อยู่ ภาพถ่าย และทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราก็จะยิ่งได้รับประโยชน์มากขึ้น เรากลายเป็นข้ารับใช้ และในวันที่แย่หน่อยก็คือทาสติดที่ดินของพวกเขามีเจ้าที่ดินอยู่มากมาย กูเกิลและแอปเปิลเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด แต่ไมโครซอฟท์ก็พยายามที่จะควบคุมทั้งข้อมูลผู้ใช้และทั้งแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน เฟซบุ๊กก็ถือเป็นเจ้าที่ดินอีกลักษณะหนึ่งซึ่งควบคุมกิจกรรมทางสังคมที่เราทำบนอินเทอร์เน็ต เจ้าที่ดินคนอื่นๆ มีขนาดเล็กกว่าและจำเพาะเจาะจงมากกว่า เช่น อเมซอน ยาฮู เวอริซอน แต่ก็มีลักษณะแบบเดียวกันแน่นอนว่าระบบความปลอดภัยแบบเจ้าที่ดินมีข้อดีของมัน บริษัทเหล่านี้มีระบบความปลอดภัยที่ดีกว่าผู้ใช้โดยทั่วไป มีระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติที่ช่วยรักษาข้อมูลจำนวนมาก หากฮาร์ดแวร์ใช้การไม่ได้จากความผิดพลาดโดยผู้ใช้หรือจากการจู่โจมของมัลแวร์ต่างๆ การอัปเดตแบบอัตโนมัติเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น และเป็นความจริงที่ว่าสำหรับองค์กรขนาดเล็กแล้ว วิธีนี้มีความปลอดภัยมากกว่าการทำระบบเอง ส่วนองค์กรขนาดใหญ่ที่มีแผนกไอทีโดยเฉพาะ ข้อดีของระบบแบบนี้ก็ชัดเจนน้อยลง แน่นอนว่า แม้บริษัทใหญ่ต่างจ้างบริษัทภายนอก ให้ทำงานสำคัญอย่างเรื่องภาษีและบริการทำความสะอาด แต่พวกเขาก็มีความต้องการที่เฉพาะเจาะจงในเรื่องความปลอดภัย การเก็บรักษาข้อมูล การตรวจสอบความปลอดภัย ฯลฯ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ สำหรับเจ้าที่ดินเกือบทั้งหมดระบบความปลอดภัยของเจ้าที่ดินก็มีความเสี่ยงของมันเอง ผู้ให้บริการทำความผิดพลาดซึ่งกระทบต่อคนหลายแสนคนได้ ผู้ให้บริการจำกัดความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ ด้วยการทำให้ผู้ใช้บริการเอาข้อมูลของตัวเองออกมาได้ยากขึ้น หรือกระทั่งออกจากความสัมพันธ์ก็ตาม ผู้ให้บริการเป็นผู้กำหนดและต่อต้านผลประโยชน์ของพวกเรา เฟซบุ๊กทำแบบนี้อยู่บ่อยๆ ในการตั้งค่าพื้นฐานหรือค่าปริยาย (default) ของผู้ใช้ให้เข้ากับบริการรูปแบบใหม่ หรือปรับเปลี่ยนนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ มีผู้ให้บริการจำนวนมากมอบข้อมูลของเราให้กับรัฐบาลโดยที่ไม่แจ้งให้เราทราบ หรือไม่ได้รับความยินยอมจากเรา พวกเขาเกือบทั้งหมดแสวงหากำไรจากขายข้อมูลของเรา นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจ ในความเป็นจริงก็คือบริษัทต่างๆ ถูกคาดหวังให้กระทำเฉพาะสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ของพวกเขาเอง ไม่ใช่ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของผู้ใช้บริการความสัมพันธ์แบบศักดินานี้ตั้งอยู่บนฐานของช่วงยุคกลางของยุโรป ผู้คนสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อเจ้าที่ดินเพื่อแลกกับการคุ้มครอง การจัดการในลักษณะนี้เปลี่ยนแปลงเมื่อเจ้าที่ดินตระหนักว่าพวกเขามีอำนาจเต็มที่ และสามารถทำอะไรก็ได้ที่ตนเองต้องการ ทาสถูกขูดรีดข่มเหง ชาวนาถูกผูกติดกับที่ดินและกลายเป็นทาสติดที่ดินในที่สุดสิ่งที่ทำให้เจ้าที่ดินอินเทอร์เน็ตทำกำไรได้ ก็คือความนิยมและความแพร่หลายของพวกเขา กฎหมายและความสัมพันธ์กับรัฐบาลทำให้พวกเขารักษาอำนาจได้ง่ายขึ้น เจ้าที่ดินอินเทอร์เน็ตต่างแข่งขันกันสร้างกำไรและอำนาจ โดยการที่พวกเราใช้เวลาและให้ข้อมูลส่วนตัวของเราแก่เว็บไซต์ของพวกเขา — ไม่ว่าจะผ่านการค้นหาข้อมูล การส่งอีเมล การอัปเดตสถานะ การกดไลก์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือลักษณะทางพฤติกรรมของพวกเรา — เรากำลังมอบวัตถุดิบสำหรับการต่อสู้ดังกล่าว เมื่อพิจารณาเช่นนี้ เราจึงเหมือนกับทาสติดที่ดิน ซึ่งตรากตรำทำงานหนักบนผืนดินเพื่อเจ้าที่ดินของเรา ถ้าคุณไม่เชื่อ ให้ลองเอาข้อมูลของคุณเองติดตัวออกมาด้วยตอนที่คุณจะเลิกใช้เฟซบุ๊ก และเมื่อช้างสารอย่างเจ้าที่ดินชนกันหญ้าแพรกอย่างพวกเราก็แหลกราญอย่างช่วยไม่ได้ดังนั้น เราจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร นับวันเรายิ่งมีทางเลือกน้อยลงในการไว้เนื้อเชื่อใจใครสิ่งที่เราต้องตัดสินใจก็คือและใครที่เราไว้ใจไม่ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เจ้าที่ดินของเรามีวิธีการทำงานที่ไม่โปร่งใส ทั้งการกระทำ ความปลอดภัยของพวกเขา หรืออีกหลายสิ่งหลายอย่าง จงใช้อำนาจอะไรก็ตามที่คุณมี (ในฐานะปัจเจกชน คุณไม่มีอำนาจเลย ในฐานะองค์กรขนาดใหญ่ คุณมีมากขึ้น) ต่อรองกับเจ้าที่ดินของพวกคุณ และท้ายที่สุด อย่าสุดขอบมากนักในประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเมือง สังคม และวัฒนธรรม ใช่ ระบบของคุณอาจจะถูกปิดโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ แต่บ่อยครั้งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับคนที่อยู่ตรงขอบ ผมเห็นด้วยว่า มันอาจช่วยได้ไม่มากนัก แต่มันก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลยในทางนโยบาย เราควรมีแผนการทำงานที่เป็นรูปธรรม โดยในระยะสั้น เราจำเป็นต้องรักษาความสามารถในการหลบเลี่ยง (circumvention) ซึ่งคือความสามารถในการปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และไฟล์ข้อมูลของเราเอง ปกป้องให้เรื่องดังกล่าวยังเป็นเรื่องถูกกฎหมาย และรักษาความเป็นกลางของเครือข่าย (net neutrality) สองสิ่งนี้จะช่วยกำหนดขอบเขตว่าเจ้าที่ดินจะสามารถหาประโยชน์จากเราได้มากแค่ไหน และช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ที่ตลาดจะบังคับให้พวกเขาเมตตาพวกเรามากขึ้น สิ่งที่พวกเราไม่ต้องการที่สุดก็คือ การที่รัฐบาล (ซึ่งก็คือพวกเรา) ใช้ทรัพยากรต่างๆ ทำให้วิธีทำธุรกิจแบบหนึ่งอยู่เหนือวิธีทำธุรกิจอีกแบบหนึ่ง โดยปราศจากการแข่งขันในระยะยาว เราทั้งหมดต้องหาทางลดสภาวะไม่สมดุลทางอำนาจ ระบบเจ้าที่ดินในยุคกลางพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์ที่สมดุลมากขึ้น เจ้าที่ดินมีความรับผิดชอบควบคู่กับสิทธิที่ได้รับ ทุกวันนี้ระบบเจ้าที่ดินในอินเทอร์เน็ตเป็นแบบผลประโยชน์ฝ่ายเดียว เราไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อใจเจ้าที่ดินของเรา ทั้งที่เราได้รับหลักประกันกลับมาน้อยมาก เจ้าที่ดินมีสิทธิมากมาย แต่มีความรับผิดชอบอันน้อยนิด เราต้องการความสัมพันธ์ที่สมดุล และการแทรกแซงจากรัฐบาลเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยเราได้ ในยุคกลางของยุโรป การเติบโตของรัฐแบบรวมศูนย์และหลักนิติรัฐ มอบเสถียรภาพที่ระบบศักดินาไม่มีให้ การเกิดขึ้นของนับเป็นครั้งแรกที่มีการบังคับให้รัฐบาลต้องมีความรับผิดชอบ และทำให้มนุษย์ได้ก้าวไปบนหนทางสู่รัฐบาลที่มาจากประชาชนและเพื่อประชาชนเราต้องการกระบวนการคล้ายกันนี้เพื่อควบคุมเจ้าที่ดินของเรา และกลไกตลาดไม่น่าจะทำให้เกิดกระบวนการดังกล่าวได้ คำจำกัดความของอำนาจกำลังเปลี่ยนแปลง และประเด็นเหล่านี้ใหญ่เกินกว่าเพียงเรื่องอินเทอร์เน็ตและความสัมพันธ์ของเรากับผู้ให้บริการไอทีของเรา
การเปิดโปงโครงการดักฟังข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตหรือโครงการ ปริซึม (PRISM)ของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NSA) นำมาสู่การถกเถียงอย่างกว้างขวางทั่วโลก ทั้งในหมู่ประชาชน รัฐบาล และบริษัทเอกชน
ไอซีที
Cloud,cloud-service provider,Facebook,google,ธิติมา อุรพีพัฒนพงศ์,สิทธิส่วนบุคคล,อินเทอร์เน็ต,เจ้าที่ดิน,เสรีภาพอินเทอร์เน็ต
https://prachatai.com/journal/2013/07/47488
ธีรวัฒน์ แย้งมติผู้ตรวจฯ อ้างรวบรัด ฟังความข้างเดียว เข้าข่ายปกปิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 59 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมภพ ระงับทุกข์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ได้ส่งหนังสือโต้แย้งมติผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติว่า นายธีรวัฒน์ มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจริยธรรม ไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมกับขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 ขอสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาพิจารณาในการยื่นอุทธรณ์มติของผู้ตรวจการแผ่นดิน,โดย นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า มติของผู้ตรวจการฯ เป็นไปโดยรวบรัด ปกปิดการดำเนินการ และรับฟังข้อมูลของผู้ร้องเพียงด้านเดียว ไม่เปิดโอกาสให้ตนในฐานะผู้ถูกร้องทราบข้อร้องเรียน ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานที่ผู้ร้องอ้างว่าตนกระทำผิด ทำให้ไม่สามารถโต้แย้งแสดงหลักฐานได้ถูกต้องตรงประเด็น เมื่อยื่นคำชี้แจงไปก็อ้างว่าส่งมาล่าช้า และรีบสรุปความมีมติว่าตนมีพฤติกรรมผิดจริงตามที่ร้อง ทั้งที่กระบวนการรับฟังข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ และไม่ควรยุติโดยการฟังความข้างเดียว เท่ากับว่าผู้ตรวจการฯ กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 31 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2552 การดำเนินการของผู้ตรวจการฯ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและจริยธรรมการตรวจสอบที่มีการดำเนินการไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตนอย่างร้ายแรง จึงขอโต้แย้งมติและขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร คัดสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง,ทั้งนี้เอกสารที่ นายธีรวัฒน์ ขอตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ประกอบด้วย หนังสือร้องเรียนของผู้ร้องเรียนทุกฉบับ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง พยานหลักฐานประกอบคำร้องทุกชิ้น, หนังสือที่ประธานสภาพัฒนาการเมืองได้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบ พร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง, บันทึกข้อเท็จจริงและความเห็นของเจ้าหน้าที่ที่ใช้ประกอบการพิจารณาของผู้ตรวจการฯ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง, บันทึกความเห็นของผู้ตรวจการฯ แต่ละท่าน รายงานการประชุมที่เกี่ยวเนื่องกับการพิจารณาและมีมติในเรื่องนี้ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง และเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่มีในสำนวนนอกเหนือจากที่ขอมา โดยขอให้จัดส่งสำเนาเอกสารทั้งหมดภายใน 7 วัน หรืออนุญาตให้ไปตรวจเอกสารสำนวนดังกล่าวและถ่ายเอกสารได้ และหากผู้ตรวจการฯ ไม่ให้ข้อมูลข่าวสารตามที่ นายธีรวัฒน์ ร้องขอ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ นายธีรวัฒน์ มากขึ้น และยังเป็นการตอกย้ำถึงการดำเนินการที่ปกปิดซ่อนเร้น ไม่โปร่งใส มุ่งร้ายต่อนายธีรวัฒน์โดยตรง เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) จะมีการประชุม กกต. ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังจากที่ นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ได้รับหนังสือแจ้งมติเรื่องดังกล่าวจากผู้ตรวจการฯ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ซึ่งตามระเบียบวาระการประชุมไม่มีวาระเรื่องดังกล่าวอยู่ในการพิจารณา แต่ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้ว่า ประธาน กกต.จะเสนอเรื่องเข้าพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน และเป็นการประชุมลับ.
ธีรวัฒน์ ส่งหนังสือแย้งมติผู้ตรวจการฯ อ้างรวบรัดฟังความด้านเดียว ขีดเส้นขอเอกสารทั้งหมดใน 7 วัน เพื่อยื่นอุทธรณ์ ชี้หากไม่ให้เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
null
ธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์,สอบจริยธรรม,ผู้ตรวจฯ,มติผู้ตรวจฯ,กกต.,อุทธรณ์มติผู้ตรวจฯ,ข้อเท็จจริง,พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร,ประชุม กกต.
https://www.thairath.co.th/content/727679
หนังคนละม้วน จียอน เลิกขาด แฉโอ๊ปป้า อาร์ ซุกกิ๊ก ฉะกล้าทำต้องกล้ารับ
หลังจากข่าวรักง่อนแง่นจนสาวเกาหลีหัวใจไทย จียอน ลุกขึ้นมาลบภาพคู่หวานใจอย่าง อาร์-อาณัตพล ศิริชุมแสง ในอินสตาแกรมทิ้งเกลี้ยง โดนฝ่ายชายออกมาให้ข่าวว่าแค่งอนกันเพราะตนติดเที่ยว ตอนนี้กำลังง้ออยู่ แต่ล่าสุดหนังคนละม้วนเมื่อ จียอน ออกมาฉะแหลก อาร์ มีผู้หญิงอื่น ประกาศเลิกขาดเพราะตาสว่างแล้ว โดย จียอน เปิดใจว่า,คือก่อนหน้าที่พี่อาร์จะออกมาให้สัมภาษณ์คือวันที่จียอนจับได้ว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นๆ เข้ามาอีกหลายคน ก็เลยบอกพี่อาร์ไปตรงๆ ว่าถ้าเจอพี่นักข่าวก็ให้บอกไปว่าความจริงคืออะไร แต่เขากลับออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่เลิกกันเพราะจียอนงอนที่เขาติดงาน ติดเพื่อน ติดเที่ยวไม่มีเวลาให้ จนทำจียอนดูเป็นผู้หญิงงี่เง่า เรื่องพวกนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลิกกันของเราเลย เพราะเราทั้งคู่เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เรื่องพวกนี้มันคุยกันได้ จียอนเองก็ทำงานตรงนี้เข้าใจได้ ซึ่งจียอนรู้สึกไม่เห็นด้วยที่เขาตอบแบบนั้นเลยโพสต์ไอจี ไม่เข้าใจว่ากล้าทำแต่ทำไมไม่กล้ายอมรับ เราต้องการแค่ความจริง ถ้าสมมติว่าจียอนทำอะไรผิดก็พร้อมที่จะเดินเข้าไปขอโทษเขา ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุย พี่อาร์มาง้อ จียอนก็ให้อภัย แต่สุดท้ายพี่อาร์ก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม และเขายอมรับเองว่าหยุดพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ จียอนก็ตัดสินใจว่าพอแล้ว แค่นี้ก็เจ็บมากแล้ว,แล้วเขาบอกว่าเดินหน้าง้อ แต่มันไม่มีการง้อเกิดขึ้นเลย ยอมรับว่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว ทุกคนรอบข้างให้กำลังใจดีมาก จียอนกับพี่อาร์ก็ยังสามารถร่วมงานกันได้เหมือนเดิม เป็นเพื่อนกันก็ได้ แต่ถ้าให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมคงไม่แล้ว จบกันครั้งนี้ถือซะว่าเราใช้กรรมให้เขา เราก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รักเขามาก ใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยคนเดียว ไม่ได้มีสังคมเยอะ ก็มีแค่พี่เขา เราทำได้ก็คือเชื่อใจพี่อาร์คนเดียว ส่วนยังรักเขาอยู่หรือเปล่าไม่ขอตอบดีกว่าค่ะ โชคดีแล้วที่พอหลังจากที่คุยกัน 3 วันเราก็ได้เห็นว่าเขาทำแบบเดิมอีก ขอเดินออกมาเพื่อก้าวไปข้างหน้า ตาสว่างแล้ว เชื่อว่าสักวันหนึ่งเราจะเจอคนที่ดี จริงใจ ไม่เจ้าชู้ เข้ามา ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนในชีวิตที่ทำให้เราแข็งแรงขึ้น สำหรับประเด็นข่าวที่บอกว่า เมย์ เป็นมือที่สาม อันนี้พอได้ยินข่าวมาบ้างแต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันคืออะไร ถามพี่อาร์เองดีกว่า
หลังมีประเด็นข่าวรักสั่นคลอน อาร์ เดอะสตาร์ ก็เผยว่าแค่งอนกันเพราะตนติดเที่ยว ตอนนี้กำลังง้ออยู่ แต่ล่าสุดหนังคนละม้วนเมื่อ จียอน ออกมาฉะแหลก อาร์ มีผู้หญิงอื่น! ประกาศเลิกขาดเพราะตาสว่างแล้ว!
null
จียอน อาร์,จียอน อาร์ เดอะสตาร์,จียอนแฉอาร์,จียอนเลิกอาร์,อาร์เจ้าชู้,จียอนแฟนอาร์,อาร์ เดอะสตาร์,อาร์-อาณัตพล ศิริชุมแสง,อาณัตพล ศิริชุมแสง,อาร์ไม่แมน,ข่าว,ข่าวบันเทิง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/513636
ฎีกา2คดีหมิ่นทักษิณ : ปราโมทย์รอลงอาญา 2 ปี - สนธิรอดชี้ติชมด้วยความเป็นธรรม
ฎีกาหมิ่นทักษิณ 2 คดี ปมปฏิญญาฟินแลนด์ พิพากษา คุก 1 ปี ปรับ 1 แสน ปราโมทย์ นาครทรรพ โดยโทษจำคุก ให้รอลงอาญา 2 ปี ปมหมกมุ่นไสยศาสตร์ สนธิ รอดชี้ติชมด้วยความเป็นธรรม21 ต.ค. 2558 รายงานว่า ถึงคดีที่พรรคไทยรักไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระและคอลัมนิสต์ บริษัทแมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นางสาวเสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ ผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.แมเนเจอร์ นายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และนายปัญจภัทร อังคสุวรรณ ผู้ดูแลเว็บไซต์ผู้จัดการ ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและดูหมิ่นด้วยการโฆษณาทั้งนี้นายปราโมทย์ยื่นฎีกาสู้คดีซึ่งศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฎีกาของนายปราโมทย์ เป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์จำคุก นายปราโมทย์ 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท แต่โทษจำคุกให้รอรอลงอาญา 2 ปีจากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 17 ถึง 25 พฤษภาคม 2549 จำเลยทั้งห้าคนได้ ร่วมกันตีพิมพ์และเผยแพร่บทความ ยุทธศาสตร์ฟินแลนด์ : แผนการเปลี่ยนแปลงการปกครองไทย? ของนายปราโมทย์ จำเลยที่ 1 ลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และเว็บไซต์ ซึ่งใส่ร้ายโจทก์ทั้งสองให้เสื่อมเสียชื่อเสียงซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจึงให้จำคุกนายปราโมทย์ จำเลยที่ 1 และ นายขุนทอง จำเลยที่ 4 คนละ 1 ปี และปรับคนละ 1 แสนบาท แต่โทษจำคุก ให้รอลงอาญา 2 ปี ต่อมา นายปราโมทย์ และนายขุนทอง ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องนายขุนทองวันเดียวกัน เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 703 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีหมายเลขดำ อ.1062/2549 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้นายชาตรี ถริปภัสสโร เป็นโจทก์ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ผู้จัดการ เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.328 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. พ.ศ. 2541กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 6-24 มี.ค. 2549 จำเลยที่ 1 กล่าวปราศรัยทำนองว่า โจทก์ใช้เงินซื้อประชาชนให้รักตนเอง และสร้างภาพให้ลูกน้องไปเผาเวทีของพันธมิตรกู้ชาติที่ จ.ภูเก็ต และกล่าวหาว่าโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีบ้า ต้องไล่ให้ไปประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่า โจทก์หมกมุ่นในเรื่องไสยศาสตร์ ให้หมอเขมรไปทำพิธีที่ทำเนียบรัฐบาล ทำพิธีฝังรูปฝังรอยที่ศาลพระพรหมหน้าโรงแรมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ และอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ เหตุเกิดที่เขตดุสิต กทม.และทั่วราชอาณาจักรคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา (เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2550) ว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 328 จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 328 ประกอบ พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 จำคุกจำเลยที่ 1 รวม 3 ปี และจำคุกจำเลยที่ 2 รวม 2 ปี และปรับจำเลยที่ 2 จำนวน 4 หมื่นบาท จำเลยที่ 2 ไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้นับโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 5 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.1241/2550 ของศาลนี้ ให้จำเลยที่ 2 โฆษณาคำพิพากษาโดยย่อใน นสพ.ผู้จัดการ ไทยรัฐ เดลินิวส์ และมติชนรายวัน รวม 4 ฉบับ เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์สู้คดีศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้วเห็นว่า โจทก์จัดการปราศรัยโดยมีประชาชนมานั่งฟังจำนวนมาก จึงต้องใช้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและใช้อุปกรณ์ในการจัดเวทีปราศรัย ติดป้าย แขวนบัตรจำนวนมากตามไปด้วย ข้อเท็จจริงทำให้จำเลยที่ 1 และคนทั่วไปเข้าใจได้ว่า การจัดปราศรัยของโจทก์ต้องใช้เงินจำนวนมาก การปราศรัยของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เป็นธรรม ส่วนกรณีที่จำเลยที่ 1 ปราศรัยว่าได้ข้อมูลลับจากนายทหารระดับนายพลว่า มีการสั่งทีมสังหารจากภาคใต้-ภาคอีสาน ให้จัดการลอบสังหารตนเอง และถูกลูกน้องของนายหน้าเหลี่ยมเผาเวทีพันธมิตรกู้ชาติที่ จ.ภูเก็ตโดยจำเลยนำสืบว่า ขณะรณรงค์ต่อต้านให้โจทก์ลาออกนั้น บ้านจำเลยถูกลอบยิง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถหาคนร้ายมาลงโทษได้ ประกอบกับเห็นคนแต่งกายคล้ายตำรวจมาซุ่มอยู่แถวบ้าน และเวทีพันธมิตรที่ภูเก็ตก็ถูกเผา ประเด็นนี้โจทก์ไม่ได้นำสืบหักล้าง จึงฟังได้ว่าขณะจำเลยที่ 1 รณรงค์ต่อต้านโจทก์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีขณะนั้น ตามพฤติการณ์เชื่อได้ว่าเป็นเรื่องจริง จำเลยจึงมีความชอบธรรมที่ป้องกันตัวเอง ส่วนกรณีกล่าวหาว่าโจทก์เป็นบ้านั้น คนทั่วไปยังเห็นว่าโจทก์เป็นคนปกติ โจทก์จึงไม่ได้รับความเสียหาย แต่กรณีที่กล่าวหาว่าชาติกำลังวิบัติ เพราะมีนายกฯ ที่หมกมุ่นกับไสยศาสตร์นั้น ไม่ปรากฏว่าโจทก์ทำตามที่จำเลยที่ 1 ปราศรัย และการที่โจทก์จะเชื่อไสยศาสตร์ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับประชาชน การกล่าวหาดังกล่าวของจำเลยในส่วนนี้ย่อมทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงอุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 หนึ่งกระทง ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 1 ปี โดยให้รอลงอาญา 2 ปี อนึ่ง เพื่อให้หลาบจำให้ปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 2 หมื่นบาท และให้จำเลยที่ 1 โฆษณาคำพิพากษาโดยย่อใน นสพ.ผู้จัดการเป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน ส่วนจำเลยที่ 2 พิพากษายกฟ้อง (อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2554) ต่อมาโจทก์ได้ยื่นฎีกาและจำเลยที่ 1 ก็ได้ยื่นฎีกาในประเด็นข้อเท็จจริงศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยข้อฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่กล่าวปราศรัยว่า ชาติบ้านเมืองกำลังจะวิบัติเพราะเรามีนายกฯ ที่หมกมุ่นเรื่องไสยศาสตร์ มีความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า โจทก์เป็นผู้สมัครใจและลงสมัครรับเลือกตั้งโดยมีเป้าหมายเพื่อจะบริหารประเทศในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สามารถกำหนดนโยบายและมีผลโดยตรงต่อความเจริญก้าวหน้าชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งประเทศ และยังได้บริหารเงินงบประมาณของแผ่นดินอันมีผลตามกฎหมาย การกระทำความเชื่อ อุปนิสัยต่างๆ แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวก็อาจมีผลต่อความไว้วางใจตามศรัทธาความเชื่อ ความสง่างามและศักดิ์ศรีของประเทศด้วย ซึ่งประชาชนทุกคนย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ที่จะสามารถวิจารณ์ให้ความเห็นในทางปกป้องส่วนได้เสียของตนเองรวมทั้งผลประโยชน์ของประเทศชาติได้ถ้อยคำที่จำเลยที่ 1 ปราศรัยนั้นก็มีพฤติกรรมต่างๆ ของโจทก์เห็นว่าโจทก์มีความเชื่อทางไสยศาสตร์ค่อนข้างมาก โดยที่โจทก์มิได้นำสืบโต้แย้งว่าไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว แต่จำเลยที่ 1 นำสืบว่าพฤติกรรมของโจทก์ในหลายเรื่องมุ่งไปทางไสยศาสตร์ เช่น การตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ในทำเนียบรัฐบาล โดยผู้ทำพิธีเป็นชาวกัมพูชา และมีคนร้ายทุบพระพรหมที่โรงแรมเอราวัณ ต่อมามีการประดิษฐานพระพรหมขึ้นมาใหม่ โดยเป็นหน้าที่ของมูลนิธิท้าวมหาพรหม ซึ่งโจทก์ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องด้วย แต่รีบเดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อร่วมพิธี โดยห้ามบุคคลอื่นไม่ให้เข้าร่วมพิธีกรรมด้วย เว้นแต่คนใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีการใช้พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเพื่อทำบุญประเทศ อีกทั้งมีการนำคณะรัฐมนตรีไปประชุมที่ปราสาทหินพนมรุ้ง อ้างว่าส่งเสริมการท่องเที่ยว ความจริงเป็นการแก้เคล็ด เพื่อให้โจทก์ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งอย่างยั่งยืน และสถานที่ดังกล่าวใช้ทำพิธีกรรมของกษัตริย์ ที่คนสมัยก่อนเชื่อว่าเป็นสถานที่ชุมนุมของเทพและเทวดา จึงน่าเชื่อว่าโจทก์มีพฤติกรรรมตามที่จำเลยที่ 1 นำสืบ ประชาชนและคนทั่วไปจึงสามารถแสดงความคิดเห็น ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยที่คนทั่วไปสามารถกระทำได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (3) ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1
ฎีกาหมิ่นทักษิณ 2 คดี ปมปฏิญญาฟินแลนด์ พิพากษา คุก 1 ปี ปรับ 1 แสน ปราโมทย์ นาครทรรพ โดยโทษจำคุก ให้รอลงอาญา 2 ปี ปมหมกมุ่นไสยศาสตร์ สนธิ รอดชี้ติชมด้วยความเป็นธรรม 21 ต.ค.
การเมือง
ทักษิณ ชินวัตร,ปฏิญญาฟินแลนด์,สนธิ ลิ้มทองกุล,หมกมุ่นไสยศาสตร์,หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
https://prachatai.com/journal/2015/10/62051
คนไปแน่หย่อนบัตรลงคะแนน ดูนโยบายพรรค ยังสับสนระบบเลือกตั้งใหม่
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน อายุ 18 ปี ขึ้นไป จำนวน 1,261 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง ความเข้าใจของคนไทยต่อการเลือกตั้งแบบใหม่ 2562 ตามรัฐธรรมนูญ 60 โดยเมื่อถามถึงการรับทราบของประชาชนเกี่ยวกับการ กาบัตรลงคะแนน คนละกี่ใบ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.80 ระบุว่า ไม่ทราบ ว่าจะต้อง กาบัตรลงคะแนน คนละกี่ใบ และร้อยละ 22.20 ระบุว่า ทราบ ว่าจะต้อง กาบัตรลงคะแนน เพียง 1 ใบ , ,ด้านการรับทราบของประชาชนเกี่ยวกับหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ของแต่ละพรรคในต่างเขตเลือกตั้ง จะมีหมายเลขเดียวกันหมด หรือ ต่างเขตเลือกตั้งต่างหมายเลข พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 82.79 ระบุว่า ไม่ทราบ ว่าหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ของแต่ละพรรคในต่างเขตเลือกตั้ง จะมีหมายเลขเดียวกันหมด หรือ ต่างเขตเลือกตั้งต่างหมายเลข และร้อยละ 17.21 ระบุว่า ทราบ ว่าหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ของแต่ละพรรคจะเป็น ต่างเขตเลือกตั้งต่างหมายเลข, ,สำหรับการรับทราบของประชาชนเกี่ยวกับช่วงเวลาการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 73.51 ระบุว่า ไม่ทราบ รองลงมา ร้อยละ 20.30 ระบุว่า ทราบ ว่าเป็นช่วงเวลา 08.00 – 17.00 น. และร้อยละ 6.19 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ซึ่งในจำนวนของผู้ที่ระบุว่า ไม่ทราบ พบว่า ร้อยละ 75.73 ระบุว่า เป็นช่วงเวลา 08.00 – 15.00 น. และร้อยละ 24.27 ระบุว่า เป็นช่วงเวลา 08.00 – 16.00 น.,ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงการไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชน ในการเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 62 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 95.80 ระบุว่า ไปแน่นอน รองลงมา ร้อยละ 2.22 ระบุว่า ไม่ไปแน่นอน เพราะ เลือกไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่สะดวกในการเดินทางไปลงคะแนนเสียง และร้อยละ 1.98 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ,เมื่อสอบถามผู้ที่ระบุว่า จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 62 อย่างแน่นอน ว่าจะเลือกผู้สมัคร เลือกพรรค เลือกว่าที่นายกรัฐมนตรีที่พรรคสนับสนุน หรือเลือกนโยบายพรรค พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 47.02 ระบุว่า เลือกนโยบายพรรค รองลงมา ร้อยละ 19.62 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ ร้อยละ 14.15 ระบุว่า เลือกพรรค ร้อยละ 13.91 ระบุว่า เลือกผู้สมัคร และร้อยละ 5.30 ระบุว่า เลือกว่าที่นายกรัฐมนตรีที่พรรคสนับสนุน.
นิด้าโพล เผยคนส่วนใหญ่ระบุไปเลือกตั้ง 24 ก.พ.แน่นอน ยึดนโยบายพรรคเป็นหลัก แต่ยังไม่เข้าใจระบบแบบใหม่ สับสนบัตรลงคะแนน-หมายเลขผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และไม่ทราบเวลาลงคะแนน
เลือกตั้ง
คนสับสนเลือกตั้งแบบใหม่,เลือกตั้งแบบใหม่,24 ก.พ.เลือกตั้ง,ส.ส.แบ่งเขต,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1417960
ชาวตรังขอรับความช่วยเหลือ หลังผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย
ทหารจากหน่วยฝึกรบพิเศษ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซ่อมสะพานข้ามคลอง ระหว่างบ้านเขาพับผ้า และบ้านบ่อน้ำร้อน ตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล แล้วเสร็จเมื่อเช้านี้ เช่นเดียวกับระดับน้ำตามลำคลองสาขา และลำคลองสายหลักเริ่มลดระดับลงต่อเนื่อง คาดว่าระดับน้ำจะกลับสู่ภาวะปกติเร็วๆ นี้ส่วนเกษตรกร 4 หมู่บ้าน ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง เข้าแจ้งรายชื่อกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อขอรับความช่วยเหลือ หลังผลผลิตทางการเกษตรเสียหายไปกว่า 200 ไร่ เช่นเดียวกับระบบไฟฟ้าภายในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ได้เร่งแก้ไขให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว แต่ชาวบ้านในพื้นที่ยังต้องติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดที่จังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่ศูนย์บำรุงทางหลวงชนบท อำเภอนาทวี เร่งซ่อมแซมถนนเลียบชายทะเล สายอำเภอเมือง ถึง อำเภอจะนะ โดยใช้รถแบ็คโฮเกลี่ยหินขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของถนน หลังถนนสายนี้ถูกคลื่นกัดเซาะเสียหายหลายสิบเมตรส่วนที่จังหวัดยะลา ยังคงมีฝนตกอย่างหนักเกือบตลอดทั้งวัน หลายหมู่บ้านในอำเภอรามัน เริ่มมีน้ำท่วมขังเฉลี่ย 50 เซนติเมตร เช่นเดียวกับพื้นที่การเกษตรได้ความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรียังเพิ่มสูงต่อเนื่องเช่นกัน
เกษตรกรในอำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ลงชื่อขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ หลังผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย ขณะที่ระดับน้ำตามลำคลองในจังหวัดนครศรีธรรมราช เริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง
ภูมิภาค
ช่วยเหลือ,ตรัง,นครศรีธรรมราช,น้ำท่วม,ผลผลิต,ฝน,ยะลา,สงขลา,เกษตร
https://news.thaipbs.or.th/content/135484
อนุทิน ผลักดันกัญชาทางการแพทย์รักษาผู้ป่วย ชี้ บรรจุนโยบายรัฐบาลแล้ว
วันที่ 12 ก.ค. 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ กัญชาเสรี เพื่อการแพทย์ พร้อมกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ได้ให้สัญญากับประชาชนในการผลักดันกัญชาเพื่อรักษาผู้ป่วยและใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ยืนยันว่านโยบายนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยการสัมมนาวันนี้ รู้สึกตื่นเต้นที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และพลังของพี่น้องประชาชนจะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันกัญชาให้ถูกกฎหมาย,พร้อมกันนี้ ขอบคุณปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่นำทีมบุคลากรข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุขมาร่วมงานสัมมนาในวันนี้ จึงขอให้มั่นใจได้ว่า นโยบายนี้จะเป็นกัญชาของประชาชน ที่ไม่ได้ทำเพื่อบันเทิงหรือสันทนาการ แต่จะมุ่งเน้นเรื่องการรักษาโรค ดูแลสุขภาพคนไทย พัฒนาการแพทย์เป็นหลัก ซึ่งกัญชาต้องเป็นยารักษาโรคที่ถูกกฎหมาย เป็นประโยชน์กับคนไทยอย่างเท่าเทียม ถูกบรรจุไว้ในสิทธิ์บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรคและประกันสังคม เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรักษา และไม่ใช่การดูแลผลประโยชน์ของบริษัทผลิตยา ซึ่งนโยบายกัญชาได้ถูกบรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว ขอให้รอนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการในไม่ช้านี้ ทั้งนี้ หากทำได้สำเร็จ กัญชาจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับประชาชนด้วยความมั่นคงและแข็งแรง แต่หากทำไม่ได้ พรรคก็ต้องสูญพันธ์ุ,ส่วนบรรยากาศในงานสัมมนา มีทั้งประชาชนที่ลงทะเบียนมาร่วมฟัง หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุข อาทิ กรมอนามัย กรมการแพทย์แผนไทย โดยมีกลุ่มสนับสนุนนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทยมาร่วมเป็นจำนวนมาก พร้อมชูป้ายข้อความสนับสนุน ตลอดจนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองมาร่วมงานด้วย,ขณะเดียวกัน 12 องค์กร อาทิ มูลนิธิขวัญข้าว มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิสุขภาพไทย มหาวิทยาลัยรังสิต และเครือข่ายผู้ป่วย ยังได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน สนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อให้หมอพื้นบ้านเดชา ศิริภัทร ใช้รักษาผู้ป่วยกรณีจำเป็นเฉพาะรายได้อย่างต่อเนื่องและทันต่อความต้องการของผู้ป่วย พร้อมเรียกร้องต่อ นายอนุทิน ให้ใช้อำนาจบริหารระหว่างที่ยังไม่ได้แก้ไขกฎหมาย เพื่อเปิดทางให้แพทย์แผนไทยและหมอพื้นบ้านที่ผ่านการอบรมความรู้กัญชาจากกรมแพทย์แผนไทยฯ แล้ว ให้สามารถปลูกและผลิตยากัญชาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยตามหลักธรรมจรรยาได้ โดยไม่ชักช้า,จากนั้น นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวปาฐกถาหัวข้อ กัญชา เปลี่ยนโลก โดยชี้ให้เห็นถึงรากเหง้าสารเคมีที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ทั้งสารเคมี และจากการตรวจสอบผัก ผลไม้ พบสารตกค้างเกินมาตรฐานถึง 41% โดยเฉพาะผักในห้างสรรพสินค้า แย่กว่าผักตลาดสดที่พบสารห้ามใช้ในประเทศไทยตกค้างถึง 12 ชนิด ทำให้คนไทยวนเวียนอยู่กับสารเคมีอันตราย จนทำให้คนเป็นโรคป่วยตายเพิ่มมากขึ้นทุกปี อีกทั้งเปรียบเทียบว่า ยาที่ผลิตโดยบริษัทเอกชน คนไข้ต้องจ่ายในราคาสูง 30,000-40,000 บาทต่อคนต่อเดือน แต่น้ำมันกัญชาขวดนี้ มีราคา 400-500 บาท ดังนั้นเจตนารมณ์ก็คือ การทำกัญชาเสรีเพื่อคนยากไร้ที่สุดและเป็นสมบัติของคนไทยทุกคน.
อนุทิน เปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ กัญชาเสรี เพื่อการแพทย์ เร่งผลักดันตามที่เคยหาเสียง ยันเกิดขึ้นจริงแน่ ชี้ ถูกบรรจุเป็นนโยบายรัฐบาลแล้ว
ข่าว,การเมือง
อนุทิน ชาญวีรกูล,ภูมิใจไทย,กัญชา,กัญชาเสรี,กัญชาทางการแพทย์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1613536
ศิษย์กว่า 2 หมื่นคน แห่ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อแช่ม
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 ก.พ. 61 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานเพลิงศพ พระครูวิภัชธรรมสาร (แช่ม กิตติสาโร) เป็นกรณีพิเศษ ที่เมรุชั่วคราว วัดสำนักตะคร้อ ต.สำนักตะคร้อ อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา โดยมี นายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระธรรมเจดีย์ เจ้าคณะภาค 11 วัดทองนพคุณ กรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระครูสุมนสราธิคุณ เจ้าคณะอำเภอเทพารักษ์ เป็นประธานดำเนินการ,โดยมี พระภิกษุ-สามเณร กว่า 500 รูป และมี นายเดชฤทธิ์ ถิตย์ฉาย นอภ.เทพารักษ์ พ.ต.อ.ไพบูลย์ วาสนาม ผกก.สภ.เทพารักษ์ อดีต นอภ. อดีต ผกก.เทพารักษ์ อีกหลายคน รวมทั้ง นอภ.และ ผกก.เขตใกล้เคียงอีกหลายคน หน.ส่วนราชการ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ผู้นำท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา ในอำเภอเทพารักษ์พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถือ ที่หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศทั่วประเทศ กว่า 2 หมื่นคน มาร่วมพิธีครั้งนี้อย่างคับคั่ง จนไม่มีที่จอดรถ ต้องไปจอดไกลหลาย กม. สภ.เทพารักษ์ และวัดสำนักตะคร้อ ต้องหารถตู้ 2 คัน ให้บริการกับคนที่จอดรถไกล โดยสารเดินทางไป วัดสำนักตะคร้อ,สำหรับประวัติของ พระครูวิภัชธรรมสาร (แช่ม กิตติสาโร) มีนามเดิมว่า แช่ม พิขุนทด เกิดเมื่อ 4 ก.พ. 2488 ที่บ้านสำนักตะคร้อ เป็นบุตรคนที่ 9 ในจำนวน 10 คน ของนายถึก-นางเล็ก พิขุนทด เมื่ออายุ 20 ปี ได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2508 ที่วัดสำนักตะคร้อ ได้ฉายาว่า กิตฺติสาโร โดยได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของเจ้าอธิการผ่องมหินธโร เจ้าอาวาสวัดสำนักตะคร้อ ในขณะนั้น ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องตะกรุดโทน ยันต์หัวใจ 108 ยันต์หัวใจเศรษฐี,จากนั้นไปฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อแดง ชินปุตโต และ หลวงพ่อคง พุทธสโร ที่มีชื่อเสียงทางด้านเดียวกัน และทั้งสองท่านยังเป็นอาจารย์ของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณปริสุทฺโธ) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 และอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ท่านจึงเป็นศิษย์รุ่นน้องของหลวงพ่อคูณ อีกทั้ง หลวงพ่อแช่ม ยังเคยไปสนทนาธรรม และช่วยงานกับหลวงพ่อคูณ ที่วัดบ้านไร่เป็นประจำ,พระครูวิภัชธรรมสาร (แช่ม กิตติสาโร) มรณภาพ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 59 ขณะนั้นศิษยานุศิษย์ต้องการจะเก็บสรีระสังขารของท่านไว้เคารพบูชาก่อน 1 ปี นายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระธรรมเจดีย์ เจ้าคณะภาค 11 วัดทองนพคุณ กรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ จึงร่วมกันเป็นประธานบรรจุสรีระสังขารของหลวงพ่อแช่มลงในโลงแก้ว ไว้บนศาลาการเปรียญวัดสำนักตะคร้อ เมื่อครบ 1 ปีแล้วจึงได้ดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพในวันนี้นั่นเอง โดยของชำร่วยที่แจกในวันนี้ ได้แก่ พระหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อแช่ม รุ่นเสาร์ห้ามหาเศรษฐี และรุ่นอื่นๆ รวมเกือบ 3 หมื่นองค์
ศิษยานุศิษย์ แห่ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระครูวิภัชธรรมสาร หรือ หลวงพ่อแช่ม อดีตเจ้าคณะอำเภอเทพารักษ์ จ.นครราชสีมา ซึ่งเข้มขลังเรื่องเมตตามหานิยม คาถาอาคม เครื่องรางของขลัง ศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกับ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
ข่าว,ทั่วไทย
หลวงพ่อแช่ม,พระครูวิภัชธรรมสาร,พระราชทานเพลิงศพ,วัดสำนักตะคร้อ,อดีตเจ้าคณะอำเภอเทพารักษ์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1201643
อนุทิน ยันไร้ดีลการเมือง บิ๊กตู่ ฮึ่มใครดูดเด็ก ภท.ระวังติดคอตาย
เมื่อวันที่ 7 พ.ค.61 ที่สนามช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ประชาชนที่เดินทางมาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.พร้อมคณะ น่าจะเกินความจุของสนามกว่า 3 หมื่นคน ซึ่งไม่ได้เป็นการเกณฑ์มาแต่อย่างใด ต่างคนต่างมา ตามที่ได้รับการประชาสัมพันธ์ เพราะ จ.บุรีรัมย์ ต้องไม่ธรรมดา เมื่อ ครม.เดินทางมาถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ที่ต้องให้การต้อนรับ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องต้อนรับตามความเหมาะสม และการที่ตนเดินทางมาวันนี้ไม่มีเรื่องการเมือง แต่มาอำนวยความสะดวกในฐานะคนที่อยู่ในพื้นที่นี้ และตนยังไม่ได้พูดคุยหรือพบเจอใครทั้งสิ้น แม้แต่นายกฯ,เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ ครั้งนี้ อาจมีเรื่องของการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ไม่มีใครเอาเรื่องการเมืองมาในสนามแห่งนี้ ใครเอามาก็สลบ เพราะยังเร็วเกินไปที่จะคิดเรื่องการเมือง วันนี้เป็นเรื่องของประชาชน ตนก็เดินทางมาดู เผื่อจะต้องหาเสียงหรือปราศรัยใหญ่แล้วมาจัดที่สนามแห่งนี้ก็ไม่เลว ถือว่ามาสังเกตการณ์,เมื่อถามว่า การประชาสัมพันธ์ให้คนมาร่วมได้กว่าหมื่นคน เป็นฐานเสียงที่จะสนับสนุนรัฐบาลได้ต่อไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องฐานเสียงไม่ใช่เพิ่งมาวันนี้หรือเมื่อวาน ฐานเสียงเรื่องบุรีรัมย์มีตั้งนานแล้ว และหลายจังหวัดที่พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.ก็มีฐานเสียงอยู่แล้ว และวันนี้พรรคก็มีนโยบายหลักที่จะเป็นโมเดลใช้หาเสียง ทั้งการช่วยเหลือชาวบ้านให้ลืมตาอ้าปาก เศรษฐกิจดีขึ้น,เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่า ชาวบุรีรัมย์สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลแล้ว ต่อไปจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องถามประชาชนแต่ละคน,เมื่อถามว่า จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และคนของพรรค ตอนนี้เร็วเกินไปที่จะพูดอะไร เพราะยังไม่รู้ว่าจะมี ส.ส.กี่คน และสมาชิกจะทนพลังดูดได้แค่ไหนก็ไม่รู้ และตนจะไม่มีวันพูด ไม่มีวันคิด ไม่มีวันทำอะไรโดยที่ยังไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋าบ้าง ทุกอย่างจะชัดเจนเมื่อเห็นจำนวน ส.ส.อยู่ในมือ ต้องรอให้มีการเลือกตั้งให้เรียบร้อยก่อน ไปตกลงในตอนนี้โดยที่เราไม่รู้เรื่องทำไม่ได้ ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยต้องขายนโยบาย ไม่ใช่ขายทิศทาง,เมื่อถามถึงกระแสข่าว คสช.ดูดสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวิน ให้ไปร่วมงานกับรัฐบาลเช่นเดียวกับ นายสนธยา คุณปลื้ม นายอนุทิน กล่าวย้อนว่า ใครดูด จะไปคิดอย่างนั้นไม่ได้ วันนี้เราต้อนรับ ครม.ในฐานะที่อยู่ในพื้นที่ และพรรคภูมิใจไทยเพิ่งมีอายุ 10 ปี ตนเป็นหัวหน้าพรรคมา 5 ปี จะให้ใครมาดูดใครง่ายๆ ได้อย่างไร ใครดูดติดคอตายแน่นอน ขอย้ำว่าอย่าเพิ่งไปพูดอะไร,ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมภาษณ์นายอนุทิน นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ได้เดินผ่านมาพอดี ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามความคืบหน้าการตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัยหลังเลือกตั้ง โดย นายอุตตม ได้กล่าวปฏิเสธในทันทีว่า ไม่รู้ๆ
อนุทิน ปัดเกณฑ์คนมาต้อนรับ บิ๊กตู่ ยันไร้คุยการเมือง บอกเร็วเกินไปที่จะคิด ย้อนใครดูด ส.ส.ภท.ระวังติดคอตาย ย้ำรอเลือกตั้งเสร็จก่อน ยันพรรคขายนโยบาย ไม่ขายทิศทาง
ข่าว,การเมือง
อนุทิน ชาญวีรกูล,ภูมิใจไทย,ภท.,เสี่ยหนู,จ.บุรีรัมย์,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1275277
โดดเด่น ทะลุโซเชียล 5 สาวฮอต สวัสดีแคมปัส ที่สุดแห่งปี 2559
ที่ผ่านมาทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้นำเสนอเรื่องราวของวัยเรียน วัยรุ่น วัยทีน เน็ตไอดอลที่อยู่ในกระแสสังคมอยู่หลายคน วันนี้เลยขอรีรันอีกรอบ รวมสาวฮอตทะลุโซเชียล 5 คนจากคอลัมน์นี้มาให้อ่านกันพร้อมจัดอันดับ เผื่อใครที่พลาดไปในบางสัปดาห์,อันดับ 5 : ,เห็นหน้าพร้อมตกหลุมรัก อนาคตเจ้าแม่โฆษณา พรอยมน ทะเล้นทะลุชัตเตอร์ (ชมคลิป),บังเอิ๊ญ บังเอิญ พี่แคมปัสเลื่อนหน้าฟีดเฟซบุ๊กเจอกับคลิปโฆษณาชิ้นหนึ่ง น่ารักมากๆ  คนแชร์กันกระจาย จนเราต้องตามหาตัวนางเอกโฆษณามาคุยกับเราก่อน เธอคือ พรอยมน มนสภรณ์ ชาญเฉลิม น่ารัก สดใส เฟรนด์ลี่ ทะเล้น ร่าเริงไม่ต่างจากโฆษณาที่เราชม นี่คือเสน่ห์ของเธอ ทำให้เธอได้รับบทบาทต่างๆ ในหลายโฆษณา เรียกได้ว่าอนาคตไม่ไกล เธออาจจะเป็นเจ้าแม่โฆษณาก็ได้,อันดับ 4 : ,กระหึ่มโซเชียล แฝดคิมเบอร์ลี่ เปิดตัว แทน ธนัชชา สวยใสดาวสตรีอ่างทอง,สวย หน้าหวาน โลกสดใส เราเลื่อนฟีดเฟซบุ๊กเรื่อยๆ สะดุดเข้ากับสาวสวยวัยใสอยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลาย งานนี้โลกโซเชียลแชร์กระจาย พี่แคมปัสไม่แปลกใจที่ใครๆ  ต่างชื่นชอบเธอ เพราะเราเองก็ขอสารภาพว่าแค่เห็นรูปถ่ายก็หลงรักเข้าอย่างจัง เธอชื่อว่า น้องแทน - ธนัชชา จันทร์งาม สวัสดีแคมปัส ไทยรัฐออนไลน์ เจอตัวเธอจนได้ เรานัดกันในวันที่เธอกำลังถ่ายทำภาพโฆษณาอยู่ เจอกันแล้วเราไม่พลาดขอล้วงลึกทุกสิ่งอย่างของเธอ ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ การเรียน ผลงาน ความรัก มาให้ทุกคนได้รู้จักเธอกันมากขึ้น บอกเลยว่ายิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ,อันดับ 3 : ,รูปเดียวเปรี้ยง พริตตี้ไม่พิมพ์นิยม ไม่โป๊ ไม่เซ็กซี่ เส้นด้าย พิมพ์ลดา,
เธอสวยปัง ธรรมชาติ ไม่เหมือนพริตตี้ทั่วไปในชุดสีน้ำเงินเรียบหรู สวัสดีแคมปัส ไทยรัฐออนไลน์ มีนัดคุยกันชิลๆ บรรยากาศสบายๆ ภายในสวนกับเธอคนนี้ พี่แคมปัสขออาสาพาไปล้วงลึกที่มาที่ไปของ เส้นด้าย เส้นนี้ ทั้งเรื่องความโด่งดัง ครอบครัว ไลฟ์สไตล์ ความรัก และการเรียน ทุกเรื่องในชีวิตเธอที่คุณต้องรู้ เราถามมาหมดแล้ว ,อันดับ 2 : ,บ้านไม่เบี้ยวแล้วนะ เน็ตไอดอลหน้าใส เอื้อย พรสวรรค์ หนูเป็นสาวแล้วค่ะ,เรามีนัดคุยกันสบายๆ กับ เอื้อย พรสวรรค์ ภู่เสือ เอ่ยชื่อนี้ไปหลายคนอาจไม่คุ้นชื่อนัก แต่ถ้าบอกว่า น้องเอื้อย บ้านเบี้ยว พี่แคมปัสเชื่อว่าต้องมีไม่มากก็น้อยที่รู้จักสาวน้อยคนนี้ หลังจากเห็นรูปเธอมาเนิ่นนานครั้งยังเป็นแค่เด็กมัธยมต้นผมติ่งหู วันนี้พบกับเธอครั้งแรก สาวน้อยคนนี้โตเป็นสาวแล้ว เธอมีความสดใส น่ารัก ตัวเล็ก สเปกใครไม่รู้ แต่พี่แคมปัสปื้มปลื้ม เราพาไปอัพเดตชีวิตของน้องเอื้อยในทุกๆ เรื่องมาให้ได้อ่านกัน ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน ความรัก และฉายาบ้านเบี้ยว อยากรู้ต้องอ่าน,อันดับ 1 : ,เน็ตไอดอลนางฟ้า นาทัชชา ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน สาวน้อยหน้าคม Full HD,ฉายแววสวยมาแต่ไกล เรียกเธอว่า นางฟ้าตัวน้อย เรียกแบบนี้คงไม่ผิดนัก สำหรับสาวน้อยวัย 11 ขวบ ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ที่ใครได้เห็นก็ต้องหลงรักอย่างแน่นอนกับ น้องนาทัชชา ไอศวรรย์ ควิทเชา พี่แคมปัส มีโอกาสได้นัดเจอพูดคุยทำความรู้จักกับ น้องนาทัชชา และ คุณแม่บี สรัญญา ควิทเชา กันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ บอกตรงๆ ว่าน้องสวยจริงอะไรจริง จนเราเอ่ยปากถามกับคุณแม่ว่าทำไมน้องถึงสวยขนาดนี้? แม่บีหัวเราะและเอ่ยปากขอบคุณกับพี่แคมปัส หลายคนอยากรู้จักสาวน้อยลูกครึ่งคนนี้กันแล้ว อย่ารอช้า.
สิ้นปีแบบนี้คอลัมน์ สวัสดีแคมปัส ได้มาเจอกับผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ทุกวันเสาร์ ซึ่งที่ผ่านมาทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้นำเสนอเรื่องราวของวัยเรียน วัยรุ่น วัยทีน เน็ตไอดอลที่อยู่ในกระแสสังคมอยู่หลายคน วันนี้เลยขอรีรันอีกรอบ
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
สวัสดีแคมปัส,รวมสวัสดีแคมปัส,เน็ตไอดอล,สาวสวย,สาวฮอต
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/825042
5 บริษัทต่างชาติสนใจสร้างหนัง 13 หมูป่า เตรียมดัน ครม.ตั้งบอร์ดคุม
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 ก.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะรองประธานคณะกรรมการฯ แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมจึงมีมติว่าควรมีบอร์ดระดับชาติเพื่อดูแลกรณีที่จะจัดทำภาพยนตร์เกี่ยวกับ 13 ทีมหมูป่า ใครจะสร้างภาพยนตร์ต้องผ่านบอร์ดชุดนี้ โดยคณะกรรมการจะมีประมาณ 10-20 คน ดูแลเรื่องนี้จะมีระดับรองนายกฯ ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการด้วย เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีหน่วยงานหลักคือกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงท่องเที่ยวฯและกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์มาอยู่ในบอร์ดนี้ด้วย โดยกระทรวงวัฒนธรรมจะเสนอตั้งคณะกรรมการระดับชาติดังกล่าว ในที่ประชุมครม.วันอังคารที่จะถึงนี้ 
,นายวีระ กล่าวอีกว่า เรื่องหลักที่คณะกรรมการชุดนี้จะดูแล คือการผลิตภาพยนตร์ สารคดี วีดิทัศน์ การดูแลลิขสิทธิ์เกี่ยวกับเนื้อหา เรื่องราวเหตุการณ์ ดูแลเรื่องการคุ้มครองข้อมูลข่าวสารของเด็กและโค้ช ซึ่งเป็นเรื่องความเหมาะสมว่า สามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องและภาพลักษณ์ประเทศไทย ส่วนบทภาพยนตร์จะต้องมีการตรวจสอบอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีบริษัทต่างประเทศสนใจที่จะทำภาพยนตร์ดังกล่าวรวมแล้ว 5 ราย มีบางรายลงสำรวจพื้นที่แล้ว ขณะที่บริษัททำหนังของไทยก็มีสนใจบ้างแต่ยังไม่มาลงรายละเอียด เมื่อถามว่ารัฐบาลจะทำภาพยนตร์เองด้วยหรือไม่ นายวีระกล่าวว่า บอร์ดที่จะตั้งขึ้นคงจะพิจารณาเรื่องนี้ด้วย.
รมว.วัฒนธรรม เผยเตรียมชง ครม.ตั้งบอร์ดระดับชาติคุมสร้างหนัง 13หมูป่า โว 5 บริษัทต่างชาติสนใจ ส่งทีมสำรวจพื้นที่แล้ว 

ข่าว,การเมือง
13หมูป่า,หมูป่าอะคาเดมี,ภาพยนต์หมูป่า,สร้างหนังหมูป่า,รมว.วัฒนธรรม,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1337858
28 ก.ย. ถึง 7 ต.ค.เทศกาลเจเยาวราช
ถวายราชสดุดีปีมหามงคลฯ–อนุรักษ์ประเพณีสร้างกุศลครั้งใหญ่,เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายประสิทธิ์ องค์วัฒนา ประธานการ จัดงาน ประเพณีงานเจ เยาวราช 2562 แถลงว่า ประเพณีงานเจ เยาวราช 2562 จะกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 ก.ย.-7 ต.ค.62 ณ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ถนนเยาวราช ภายใต้แนวคิด บรมกษัตริย์ บริบูรณ์สวัสดิ์ ทั่วฟ้าธานี ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยการจัดงานแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ งานด้านพิธีกรรม อาทิ พิธีรวมผงธูปจาก 22 ศาลเจ้าในเยาวราช มาประดิษฐานที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯเยาวราช ตลอดงานกินเจ 10 วัน และขบวนแห่อัญเชิญเทพเจ้า กิวอ๋องฮุกโจ้ว เต้าบ้อเนี้ย น่ำซิ้งปั๊กเต้าแชกุง เพื่อมาประดิษฐานที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯเยาวราช ตลอดงานกินเจ 10 วัน และให้ประชาชนได้สักการบูชา เป็นต้น,ส่วนงานด้านพิธีการ คณะกรรมการได้จัดให้มีการทำอาหารเจมงคลกระทะใหญ่ ผัดหมี่ 10 มังกรทองคำ โดยได้รับเกียรติจากโรงแรมแกรนด์ไชน่า เยาวราช มาเป็นมาสเตอร์เชฟในการปรุงอาหาร พร้อมแจกฟรีให้ผู้ร่วมงาน จำนวน 1,110 จาน ในพิธีเปิดงานวันที่ 29 ก.ย.62 และในวันเดียวกันจะมีขบวนแห่รถบุปผชาติองค์สมมติพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม และขบวนอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งการจำหน่ายอาหารเจเลิศรสจากผู้ประกอบการกว่า 100 ร้านค้า เรียงรายเต็มพื้นที่ 2 ฟากฝั่งเยาวราช ตลอดระยะเวลา 10 วัน 10 คืน และที่พิเศษกว่าทุกปีคือ การประกวดขบวนแห่ผู้สนับสนุนการจัดงาน ชิงโล่รางวัลจากผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นปีแรกที่คณะกรรมการจัดทำขึ้น โดยกติกาคือความสวยงาม เป็นระเบียบ แปลก มีกิมมิก หรือถูกใจคณะกรรมการก็จะเป็นผู้ชนะได้รับโล่รางวัลไปครอง จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกๆท่านร่วมกันอนุรักษ์ สืบสานประเพณีการถือศีลกินเจที่ได้อิ่มบุญและสร้างกุศลครั้งสำคัญ.
นายประสิทธิ์ องค์วัฒนา ประธานการ จัดงาน ประเพณีงานเจ เยาวราช 2562 แถลงว่า ประเพณีงานเจ เยาวราช 2562 จะกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 ก.ย.-7 ต.ค.62 ณ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ
ข่าว,ทั่วไทย
ประสิทธิ์ องค์วัฒนา,ประเพณีงานเจ เยาวราช 2562,เทศกาลกินเจ,ผัดหมี่ 10 มังกรทองคำ,เยาวราช,สร้างกุศล,อนุรักษ์ประเพณี,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1667405
เกือบ 8 ปีที่ว่างเว้นเลือกตั้ง
ซ้ำยังเชิญดาราทั้งหลายเข้าร่วม และนายกรัฐมนตรีสามารถสื่อสารกับประชาชนได้ทุกเรื่อง ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม,คราวนี้เป็นการเลือกตั้งใหญ่เป็นเรื่องจริง แต่ต่างจากการเลือกตั้งใหญ่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นกรณียุบสภา หรือเมื่อสภาครบวาระ เนื่องจากครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกหลังจากที่ประเทศไทยมีเลือกตั้งครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2554 นับถึงวันที่คาดว่าจะเลือกตั้งใหม่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 จะนานเกือบ 8 ปีที่ประเทศว่างเว้นเลือกตั้ง,ในช่วงเวลาที่ว่างเว้นการเลือกตั้งยาวนานนี้ ประเทศไทยยังว่างเว้นการเมืองและนักการเมืองด้วย แม้พรรคจะไม่โดนยุบเหมือนคณะรัฐประหารบางคณะ แต่ก็อยู่แบบซังกะตายไม่มีบทบาทใดๆ คงเหลือแต่ชื่อเช่นเดียวกับนักการเมือง เกือบทั้งหมดต้องเก็บตัวเก็บปากเงียบ มีเพียงไม่กี่คนที่แก้เซ็งด้วยการให้สัมภาษณ์สื่อ หรือแสดงความเห็นผ่านทางสื่อสังคมหรือโซเชียล,นานถึง 7 ปีที่พรรคและนักการเมืองต้องห่างเหินประชาชน เพราะมีคำสั่งค้ำคออยู่ เช่นคำสั่งห้ามพรรคทำกิจกรรมการเมือง ห้ามประชาชนทั่วไปชุมนุมเกิน 5 คน จึงต้องการเวลาที่จะติดต่อสื่อสารกันมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพื่อหาเสียงอย่างเดียว หาเสียงเป็นทางการ 60 วันก็พอ แต่ก่อนถึงช่วงนั้น ประเทศต้องการบรรยากาศประชาธิปไตย,ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าจะมีการปลดล็อกให้พรรคการเมืองหาเสียงได้ในเดือนธันวาคม ต้องรอไปอีกประมาณ 4 เดือน รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายชี้แจงว่า มีเวลาให้หาเสียงอย่างเหลือเฟือถึง 60 วัน เพราะเป็นการเลือกตั้งใหญ่ ต่างจากครั้งที่ผ่านมา เมื่อยุบสภาจะให้เลือกตั้งภายใน 45 วัน หรือ 60 วัน แต่มีเวลาหาเสียงจริงเพียง 40 วัน,ขณะที่ยังใช้กฎเหล็กห้ามหาเสียงอย่างเข้มงวด แม้แต่การติดต่อกับประชาชนผ่านทางไลน์ก็ถือว่าหาเสียง แต่มีกลุ่มการเมืองเจ้าเก่าขึ้นขบวนแห่ปราศรัยกับประชาชนใน 5 หมู่บ้าน ในบางพื้นที่ของจังหวัดชัยภูมิ แต่แกนนำกลุ่มปฏิเสธว่าไม่มีการปราศรัย ไม่มีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. เพียงแต่ไปรับฟังปัญหาราคาอ้อยตกต่ำ เพื่อนำเสนอรัฐบาลให้แก้ไข,ส่วน ครม.สัญจรที่ทำมาแล้วหลายจังหวัด ก็ยังเดินหน้าต่อไป โดยอ้างว่าไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นการออกไปรับฟังปัญหาของประชาชน บางจังหวัดพบนักการเมืองปราศรัยกับประชาชนนับหมื่นๆ และคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการพัฒนาของจังหวัดต่างๆ เป็นวงเงินนับหมื่นนับแสนล้าน ยืนยันว่าไม่ใช่หาเสียงเพราะไม่มีพรรค.
อะไรคือการหาเสียง? เช่นเดียวกับรายการเดินหน้าประเทศไทยและรายการปราศรัยของนายกรัฐมนตรี ที่ถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์ทุกช่องในทุกเย็น ทั้งสองรายการสามารถโฆษณาผลงานรัฐบาลได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
null
เลือกตั้ง,เดินหน้าประเทศไทย,หาเสียง,พรรคการเมือง,บทบรรณาธิการ
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1371073
ผม ปลื้ม ครับ 3 คำ สุรบถ หลีกภัย การเมืองยุคใหม่ ไม่อิงเงาพ่อ (คลิป)
นี่คือความคิดของเด็กรุ่นใหม่ ที่เห็นม็อบการเมือง การประท้วง ความขัดแย้ง การต่อสู้กันทางความคิด จนถึงขั้นติดอาวุธประหัตประหารกันมาแล้ว เขาอยากตะโกนบอกเลยว่า,การเมือง The Series คอลัมน์การเมืองสุดเข้มข้นของ ,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์, ได้สัมภาษณ์นักการเมืองสุดเก๋ามาหลายท่านแล้ว วันนี้ขอเสนอ เลือดใหม่ สไตล์ 3 คำ กับกลุ่ม NEW DEM กับลูกนักการเมืองที่มีดีกรีอดีตนายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย อันได้แก่ สุรบถ หลีกภัย หรือ ปลื้ม VRZO,ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย, ที่เริ่มต้นจากการจับงานด้านบันเทิงจนช่ำชอง ซึ่งวันนี้เขาพร้อมแล้วที่จะขออาสาทำงานการเมืองอย่างเต็มตัว,สุรบถ หลีกภัย มีความเชื่อว่า ตอนนี้คือโอกาสของคนรุ่นใหม่ เพราะเห็นสัญญาณจากพรรคการเมืองทุกพรรคก็ชูคนรุ่นใหม่ขึ้นมา,ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ชวน หลีกภัย ยังได้เน้นย้ำว่า หากความขัดแย้งมันหยั่งลึกไปนานกว่านี้ เด็กออกมานอกบ้านกันมาเล่นกันไม่ได้ เพียงเพราะว่าบ้านชอบการเมืองคนละฝ่าย ไม่รู้ว่าเกลียดกันเพราะอะไร เมื่อถึงจุดนั้น คือ ความน่ากลัว ดังนั้น มันควรจะหยุดแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ คือ การร่วมมือ ไม่ใช่แค่นักการเมือง แต่ทุกคนต้องลดอคติในใจ,เป็นลูก ชวน หลีกภัย มันกดดัน เคยไม่เข้าใจ,ปลื้ม สุรบถ เผยความในใจว่า ตอนเด็กๆ นั้น ยอมรับเลยว่าเป็นลูกนายชวน หลีกภัย มันเหนื่อยมาก กดดันมาก เครียด ทำอะไรก็ผิด เช่น วิ่งแข่ง เข้าที่ 1 ก็จะโดนตรา 1 เพราะ,เคยบอกคนอื่นมั้ยว่าเราเป็นลูกใคร , สุรบถ ตอบสวนก่อนยิ้มกว้างและอุทานว่า ,วันแรกที่เข้ามาบอกพ่อ ว่าอยากเป็นนักการเมือง อุดมการณ์ของปลื้มคือ,สุรบถ หลักภัย เลือดใหม่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เวลาคุยกับคุณพ่อ ผมจะไม่คุยเพื่อเอาคำตอบจากพ่อแบบเป๊ะๆ ถึงแม้จะเป็นเรื่องการเมือง พ่อก็ไม่ได้คุยแบบจริงจัง เพราะพ่อรู้สึกว่ามันคือความตั้งใจและอุดมการณ์ของแต่ละคน เขาเลยไม่บอกว่า ,แต่การพูดคุยจะพูดกับแบบกว้างๆ เพื่อให้เราไปตกผลึกเอง เพื่อหาแนวทางของตนเอง สิ่งที่ตั้งใจในการทำงานการเมือง ผมไม่อยากเรียกว่าเป็นอุดมการณ์ เพราะไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองพิเศษ เป็นนักการเมือง ทายาทนักการเมือง แค่ลองมองคุยกับตัวเอง อยากได้แบบนี้จะดีกว่ามั้ย ซึ่งเราก็ได้พูดขึ้นมา ปรากฏว่ามีคนคิดเหมือนเรา ก็เลยมาช่วยกันตกผลึก,พ่อเป็นไอดอล สอนให้เป็นคนซื่อสัตย์ แต่ไม่ยัดเยียดสไตล์การเมือง,เมื่อถามว่า มองอย่างไร ที่ปลื้มเองก็ยังหนีไม่พ้นเงาพ่อ นายสุรบถ กล่าวว่า สิ่งที่พ่อย้ำเสมอ คือ เราต้องเป็นคนดี เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต มันเป็นหัวใจของคนในสังคมที่เราต้องทำ ถ้าเราหลุดออกไปสร้างความเดือดร้อน,คิดว่าตัวเองจะเป็นนักการเมืองแบบไหน เหมือนหรือแตกต่างกับ คุณชวน ยังไง นายสุรบถ กล่าวว่า ส่วนที่เหมือนกับพ่อ คือ อยากทำอะไรเพื่อสังคม อยากจะช่วยคนให้ได้มากที่สุด ไม่เบียดเบียน โกง หรือ ทำร้ายใคร ทำงานด้วยความเสียสละ แต่ส่วนความต่าง มันคือ บุคลิก ผมก็เป็นผม บวกกับว่า ผมเป็นคนรุ่นใหม่ ดังนั้นการทำงาน ก็อาจจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เพราะเราเติบโตมาช่วงที่เทคโนโลยีกำลังมา ทำให้เราเข้าใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ และจะทำหน้าที่ประสานกับคนรุ่นเก่า,สังคมไทยเหลื่อมล้ำ รักเด็กไม่เท่ากัน ให้ความสำคัญเด็กเก่ง แต่มองข้ามความแตกต่าง,นายสุรบถ สะท้อนมุมมองสังคมว่า ตอนนี้สิ่งที่เห็นคือ สังคมเรารักเด็กไม่เท่ากันผู้ใหญ่บางคน อาจชอบเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ยต้อง 4.00 อาชีพต้องเป็นหมอ ทนาย หรือ ข้าราชการ แต่รู้ไหม ว่าตอนนี้มีอาชีพใหม่ๆ ผุดขึ้นมามากมายบนโลก แต่ละอาชีพล้วนเป็นอาชีพที่มีเกียรติและสุจริต แต่เรากลับไม่ให้เกียรติความแตกต่างของเด็กในตอนนี้ เช่น บางคนชอบสายภาพยนตร์ โฆษณา หรือ ครีเอเตอร์ ยูทูบเบอร์ แคสเตอร์ เด็กพวกนี้จะมีมุมมองไม่เหมือนเด็กเรียนเก่ง แต่เราควรจะให้เกียรติและสนับสนุนเขา แต่พอไม่ชอบเขาก็หาเหตุผลมาว่าเขา,ความตั้งใจของผม คือ อยากจะทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่ และที่สำคัญคือเราจะ ,ปลื้ม สุรบถ ยกคำพูดหนึ่งที่เป็นสัจธรรมของโลกใบนี้ว่า ,คำพูดนี้ถูกแค่เพียงครึ่งเดียว ปลื้มกล่าวอย่างมาดมั่น ส่วนตัวแล้วผมไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ เพราะหากเราทิ้งใครไว้ ไม่ว่าจะเด็ก คนแก่ ผู้ชาย ผู้หญิง หรือจะเพศเดียวกัน แบบนี้จะเป็นสังคมได้อย่างไร สังคมคือการรวมตัวของคนหลายๆ แบบ เราควรจะช่วยกันนำคนทุกคนไปสู่อนาคต พูดแล้วเหมือนอุดมคติ แต่ผมคิดแบบนี้จริงๆ,พรรคเก่าแก่ เก๋าประสบการณ์การเมือง ผสานรุ่นใหม่ ภาพลักษณ์ใหม่,สุรบถ หลีกภัย บอกว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า พรรคจะให้ลง ส.ส.หรือไม่ ส่วนจะเป็นอะไรนั้นคงขึ้นอยู่กับพรรค แต่สิ่งที่เราทำอยู่คือ การทำงานกับคนรุ่นใหม่ แม้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นองค์กรที่เก่าแก่ แต่เก่า ใช่ว่าไม่ดี เพราะประชาธิปัตย์มีประสบการณ์การบริหารประเทศชาติ มีความเข้าใจในนโยบาย สิ่งที่มีคือความรู้และประสบการณ์,การที่เราคุยกับคนรุ่นใหม่พรรคอื่น ก็มาจากพวกเรา พวกเรารู้จักคนรุ่นใหม่กับพรรคอื่น เราเชื่อว่าทุกคนเบื่อกับความขัดแย้ง เราต้องเริ่มเปลี่ยนจากพวกเราทุกคน ในเมื่อพวกเราเป็นนักการเมือง เราต้องแสดงให้ทุกคนเห็นว่า แต่ละพรรคการเมืองสามารถคุยกันได้ ไม่ใช่ว่าคุยกันไม่ได้ ทำกิจกรรมร่วมกันไม่ได้ ผมเชื่อว่ามันไม่ใช่ และกำลังพิสูจน์ กลุ่ม NEW DEM และทุกๆ คนควรหันหน้ามาหารือกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ หาโมเดลที่ดีต่อทุกคน ทุกกลุ่ม,มีมั้ย ที่ถูกผู้ใหญ่ในการเมืองบางคนมองว่าทำไม่ได้จริง คัดค้าน ปลื้ม ยอมรับว่ามีจริงๆ แต่เราก็ต้องหนักแน่น เรายืนยันว่า NEW DEM เราจะไม่ให้ใครมาแทรกแซง เรามองว่าการที่มีใครสักคนต้องการความช่วยเหลือในเรื่องนั้นๆ มันก็มีเหตุผลเพียงพอที่เราจะทำให้ดีต่อสังคม,อยากทำงาน กระทรวงศึกษาฯ,สิ่งที่อยากทำในอนาคต เป็นไปได้อยากทำอะไร กระทรวงไหน นายสุรบถ กล่าวว่า ผมไม่เคยมองว่าต้องเป็นอะไร ตำแหน่งอะไร ทำงานส่วนไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องจดจำผมก็ได้ แต่ถ้าทำให้ประเทศชาติดีขึ้นจริงได้นี่แหละ คือ หัวใจที่ผมอยากจะเข้ามาทำงานการเมือง,หากให้เลือกทำงานได้ ก็อยากทำงานที่กระทรวงศึกษาฯ เพราะคือรากฐานของทุกอย่าง รู้ว่าทุกคนพูดเรื่องนี้มาเยอะมาก แต่มันคือเรื่องจริงที่ยังทำไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย ที่การศึกษาประเทศเรา รักเด็กแค่ประเภทเดียว คือ เด็กที่เรียนดี เท่านั้นหรือ แต่เด็กที่มีความแตกต่าง กลับถูกแกมดูถูก,ขอ 3 คำ ปลื้ม สุรบถ อนาคตของประเทศอยากเห็น,ถ้าหากจะขอ 3 คำ สำหรับ ปลื้ม สุรบถ อยากพูดอะไร โอ้โหพอโดนถามเองรู้สึกยากนะคงเป็นอะไรง่ายๆ ,ผม ปลื้ม ครับ, สวัสดีครับ ผมไม่ใช่สายที่ต้องมาขายตัวเองได้ แต่อยากให้คนศึกษาเรา เปิดใจกับเรา แล้วจะได้เห็นความตั้งใจของเรา,อนาคตข้างหน้าอยากเห็นอะไร นายปลื้ม กล่าวว่า ผมไม่สนใจว่าประชาชนจะเลือกใคร หรือ ใครจะชนะการเลือกตั้ง แต่ผมอยากเห็นทุกคนมาสนใจการเมือง ผมไม่อยากให้ทุกคนมองว่า การเมืองคือเรื่องของนักการเมือง หรือ เรื่องไกลตัว แต่การเมืองคือเรื่องใกล้ตัวมากๆ สิ่งที่คุณเหยียบอยู่ตอนนี้ ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศชาติ นี่เป็นสิทธิ์ที่คุณมี คุณสามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้ แล้วเชื่อว่าจะมีคนมาเห็นด้วยกับคุณหรือแตกต่าง,ผมอยากบอกว่า ให้รอดูผลงานที่จะทำ สิ่งที่ตั้งใจ หากเป็นรูปธรรม คุณจะเห็นเอง ว่านี่คือตัวผม มีความตั้งใจของตัวเอง มีความคิดที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้ปีกเงาของคุณพ่อชวน หลีกภัย ถ้าสิ่งไหนมันคือตัวผม อุดมการณ์ แล้วไม่ตรงกับคุณพ่อ ผมก็ต้องยึดมั่นความเป็นตัวผมเอาไว้ก่อน ไม่ใช่ว่าผมเป็นลูกชวน หลีกภัย จะต้องเหมือนพ่อเป๊ะ ผมคือ ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 
ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย ที่เริ่มต้นจากการจับงานด้านบันเทิงจนช่ำชอง ซึ่งวันนี้เขาพร้อมแล้วที่จะขออาสาทำงานการเมืองอย่างเต็มตัว
เลือกตั้ง
ปลื้ม vrzo,ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย,การเมือง The Series,ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์,เลือกตั้ง
https://www.thairath.co.th/news/politic/1427233
เด็กระเบิด เหลี่ยมเด็ด กำราบ โดโด้ อยู่หมัด ในศึกเดอะ ฮีโรฯ
การแข่งขันมวยไทยในศึก เดอะ ฮีโร แชมเปียน แชลเลนจ์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2561 จากแม็กซ์ มวยไทย สเตเดียม เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยคู่เอกเป็นการปะทะกันระหว่าง เด็กระเบิด ลูกอ่างตานนท์ มุมแดง พบกับ โดโด้ แดงเขาทราย มุมน้ำเงิน,เปิดฉากช่วงแรก โดโด้ เป็นฝ่ายเดินเข้าหาชวนทะเลาะก่อนทันที ขณะที่ เด็กระเบิด ไม่ปะทะแลก พยายามหาจังหวะชิงเหลี่ยมออกอาวุธจากวงนอกเท่านั้น,จากนั้นตั้งแต่ยกที่ 3 เกมเริ่มระอุขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ โดโด้ เร่งเกมให้เร็วขึ้น พร้อมกับชวนคลุกวงในเปิดสงครามเข่าอย่างดุเดือด แต่เป็น เด็กระเบิด ในมุมแดงที่ดูเหนือกว่าเล็กน้อย,กระทั่งครบ 5 ยก กรรมการรวมคะแนนก่อนชูมือให้กับ เด็กระเบิด ลูกอ่างตานนท์ เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปในที่สุด.,ผลการแข่งขันในคู่อื่น,สิงห์พยัคฆ์ สิงห์นวอาวุธ แพ้คะแนน ยอดพยัคฆ์ ก.อดิศร,เพชรริมน่าน ศิษย์สารวัตรอ๊อฟ เสมอกับ มณเทียร ศิษย์มนต์ชัย,เคน ม.อันดามัน แพ้ทีเคโอ พยัคฆ์อินทรี เมืองกล้วยตาก,เพชรศิลา ชาร์กีบ็อกซิ่งยิม แพ้คะแนน ฟ้าคำราม ท.ต.จานแสนชัย
เด็กระเบิด ลูกอ่างตานนท์ อาศัยการออกอาวุธแบบเนื้อๆ เน้นๆ เอาชนะคะแนน โดโด้ แดงเขาทราย ไปอย่างสุดมัน ในมวยคู่เอกเดอะ ฮีโรฯ
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
มวยไทย,มวยไทยรัฐ,เดอะ ฮีโร แชมเปียน แชลเลนจ์,เด็กระเบิด ลูกอ่างตานนท์,โดโด้ แดงเขาทราย
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1339523
9 พ.ย.นี้ ตรึงเข้มด่านชายแดนไทย-กัมพูชา สกัด สม รังสี
วันนี้ (8 พ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่อ.อรัญประ เทศ จ.สระแก้ว ยังคงมีชาวกัมพูชา และชาวไทยเดินทางข้ามแดนเป็นปกติ แต่ปริมาณลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากอยู่ในช่วงกัมพูชาเข้มงวดการเดินทางข้ามแดนอย่างมาก เพื่อสกัดกั้นกลุ่มของนายสม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา จะเข้าร่วมวันเอกราชกัมพูชา 9 พ.ย.นี้ทำให้มีการตรึงกำลังของเจ้าหน้าที่กัมพูชาในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชาทุกจุด ตั้งแต่ อ.ตาพระยาถึง อ.คลองหาด โดยปิดไม่ให้มีแรงงานข้ามแดนแบบมาเช้า-เย็นกลับ ในช่องทางอนุโลมเกือบ 20 จุด โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตชด.ของกัมพูชา ตรึงชายแดนตลอดแนวโดยเฉพาะพื้นที่ จ.สระแก้วก่อนหน้านี้มีเผยแพร่ทางเพจ CBN Politics ของกัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชา ได้นำลวดหนามมาวางกั้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณสะพานข้ามทางรถไฟกลางดึก ฝั่งกรุงปอยเปต ตรงข้ามสถานีรถไฟด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก เพื่อป้องกันไม่ให้แรงงานหรือแกนนำชาวกัมพูชาที่เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเดินทางเข้าประเทศได้อ่านนอกจากนี้ นายอุม เรียแตร็ย ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย พร้อมทหาร และคณะเข้าพบนายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าฯ สระแก้ว หารือ และขอความร่วมมือเพื่อป้องกันไม่ให้มีการชุมนุมต่อต้านขับไล่รัฐบาลกัมพูชา รวมทั้งประสานเพื่อขอให้ปิดด่านตามแนวชายแดน หากเกิดเหตุการณ์ที่นายสม รังสี พร้อมแกนนำ สมาชิกและประชาชนที่สนับสนุนเคลื่อนขบวนมาที่จุดผ่านแดนต่างๆ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อจะเดินทางข้ามแดนเข้าไปในประเทศกัมพูชาในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย.62นอกจากนี้ ขอให้ไทยแจ้งข่าวแกนนำ สมาชิกพรรคสงเคราะห์ชาติ (CNRP) ที่ถูกออกหมายจับ และเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ในไทย และที่กำลังจะเดินทางจากต่างประเทศเข้าไทยผ่านเข้าไปในกัมพูชาให้ฝ่ายกัมพูชาทราบด้วยทั้งนี้ กัมพูชาได้มอบแผ่นป้ายภาพที่ตำรวจ จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ติดประกาศหมายจับกุม ตัวนายสม รังสี และแกนนำที่มีหมายจับและเคลื่อนไหวอยู่ที่ต่างประเทศ จำนวน 21 คน
ทหารกัมพูชา ตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน ขึงลวดหนามกั้นสะพานข้ามทางรถไฟไทย-กัมพูชา สกัด สม รังสี กลับบ้านเกิด 9 พ.ย.นี้ ผวจ.บันเตียเมียนเจย ถกผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอความร่วมมือปิดด่านทันที หากพบความเคลื่อนไหวตามแนวชายแดน
ภูมิภาค
กัมพูชา,สม รังสี,ชายแดนไทย-กัมพูชา,สระแก้ว
https://news.thaipbs.or.th/content/285907
รวบทันควัน หนุ่มวิ่งราวทอง อ้าง หาเงินซื้อนมให้ลูก
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 58 ร.ต.ท.วิวัฒน์ เหลืองวัฒวิไล ร้อยเวร สภ.สองพี่น้อง รับแจ้งมีคนร้ายวิ่งราวทอง เหตุเกิดที่ห้างทองไพบูลย์ ในตลาดสดเทศบาลเมืองสองพี่น้อง เลขที่ 45 ถ.ราษฎร์นิยม ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวิทย์ ชาวศรีทอง รอง ผบก.จว.สุพรรณบุรี รักษาการ ผกก.สภ.สองพี่น้อง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน,ที่เกิดเหตุ ชาวบ้านมุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก พบคนร้ายเป็นชาย 1 คน ถูก ร.ต.ท.อนุพจน์ อินทรเสนี สายตรวจรถยนต์จับกุมตัวไว้ พร้อมรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสปาร์ค 115 ไอ สีขาวแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทราบชื่อต่อมา นายสุนัน มาพันธุ์ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 113/3 หมู่ 1 ต.หนองแวง อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางเป็นแหวนทองคำน้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 วง,จากการสอบถาม นางชลดา คูณวัฒนา อายุ 50 ปี เจ้าของร้านทอง เผยว่า ระหว่างที่ตนกับลูกๆ ขายทองอยู่ ได้มีคนร้ายทำทีมาขอดูแหวนทองน้ำหนัก 1 สลึง ตนจึงหยิบให้ดูพอคนร้ายดูแล้วฉวยโอกาสวิ่งหนีออกจากร้านไป ตนจึงตะโกนให้ชาวบ้านช่วยกันไล่ติดตามจับตัวไว้ได้ทัน,ทางด้าน พ.ต.อ.สุวิทย์ เผยว่า จากการสอบสวน นายสุนัน ให้การว่า เคยทำงานอยู่ที่โรงงานไก่ ใน จ.กาญจนบุรี และตกงานมา 4-5 เดือนแล้ว จึงได้มาเช่าบ้านอยู่ที่ บ้านดอนกลาง หมู่ 1 ต.เนินพระปรางค์ อ.สองพี่น้อง พร้อมกับภรรยาและลูก ตอนนี้ลูกสาววัย 3 เดือน ไม่สบายอีก แล้วไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปรักษาจึงมาก่อเหตุ ส่วนเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เพราะจากการตรวจสอบประวัติเคยต้องโทษในลักษณะนี้มาแล้วในท้องที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาได้เพียง 3 ปี แล้วมาก่อเหตุขึ้นอีกดังกล่าว
รวบทันควัน หนุ่มคิดสั้นวิ่งราวทอง ในตลาดสดเทศบาลเมืองสองพี่น้อง แต่ไปไม่รอด ถูกสายตรวจและชาวบ้านตะครุบได้ทัน สารภาพ อ้างตกงาน หาเงินซื้อนมให้ลูก ตร.ไม่ปักใจเชื่อ แฉประวัติเพิ่งพ้นโทษ
ข่าว,ทั่วไทย
สภ.สองพี่น้อง,วิ่งราวทอง,วิ่งราว,สุพรรณบุรี,เมืองสองพี่น้อง,ลักทรัพย์,วิ่งราวทรัพย์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/479501
องค์ภา พระราชทานรางวัล แม่ดีเด่นแห่งชาติ-ลูกกตัญญู ประจำปี 62
เมื่อวันที่ 12 ส.ค.62 ที่โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ต.หญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการเปิดงาน วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2562 และพระราชทานโล่รางวัลแก่ผู้ได้รับคัดเลือกให้เป็น แม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2562 และ ลูกที่มีความกตัญญูอย่างสูงต่อแม่ ประจำปี 2562 โดย พล.อ.สิงหา เสาวภาพ ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ พล.ต.หญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช รองประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ พร้อมคณะกรรมการฯ เฝ้ารับเสด็จ,ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช รองประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ กล่าวว่า สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดทำดอกมะลิ และผลิตภัณฑ์ดอกมะลิ เผยแพร่และจำหน่ายเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อเทิดทูนและเผยแพร่พระเกียรติคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายดอกมะลิ จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปสมทบเข้ากองทุนร่วมใจสงเคราะห์ชุมชน เพื่อนำไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน และมอบเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาส จึงขอเชิญชวนและประชาสัมพันธ์ไปยังหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ให้ช่วยกันสนับสนุนผลิตภัณฑ์ เพื่อนำไปมอบแก่คุณแม่ ผู้มีพระคุณ หรือผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ เพื่อร่วมทำบุญน้อมเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศลต่อไป,น.ส.หทัยรัตน์ อุดมลาภธรรม (น้องแอร์) ผู้จัดการต่างประเทศ บริษัท อาร์เอ็กซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด หนึ่งในผู้ได้รับรางวัล ลูกที่มีความกตัญญูอย่างสูงต่อแม่ ประจำปี 2562 กล่าวว่า ขอขอบพระคุณ ศูนย์ หนึ่งใจช่วยเหลือเกษตรกร มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ สมาคมลูกกตัญญูแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และ เภสัชกร ศักดา เสมา ที่ได้เสนอชื่อตนเข้ารับการพิจารณา ขอขอบพระคุณการพิจารณาให้ได้รับรางวัล จากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดิฉันมีความภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ขอมอบรางวัลนี้ให้แก่ คุณพ่อ ชาญชัย และ คุณแม่ ศรีวรรณ อุดมลาภธรรม ที่ท่านทั้งสองได้อบรมสั่งสอนและปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งการตั้งใจเล่าเรียน การศึกษาหาความรู้ การเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิต การปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนา จนถึงช่วงเข้าสู่วัยทำงานก็ยังได้สอนให้รู้จักการวางตัว การทำงานร่วมกับผู้อื่น การเสียสละและการมีจิตอาสาในการทำงานเพื่อส่วนรวมและสังคม ซึ่งตนจะได้ใช้คำสั่งสอนเหล่านี้ในการดำเนินชีวิตต่อไป.
หทัยรัตน์ อุดมลาภธรรม สุดปลื้ม รับพระราชทานรางวัล ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ประจำปี 2562 จากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีฯ
ข่าว,ทั่วไทย
วันแม่,วันแม่แห่งชาติ,วันแม่12สิงหา,แม่ดีเด่น,ลูกกตัญญู,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1635796
ต่าย ซีซั่นเชนจ์ ร้องตำรวจหลังติดต่อสามี เพื่อจะมารับลูกไม่ได้
ด้แยกทางกัน เพราะปกติจะสามารถติดต่อได้ตลอด จึงเกรงว่าจะเกิดไรขึ้น,เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่ สน.ปทุมวัน นางชุติมา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือต่าย ซีซั่นเชนจ์ อายุ 32 ปี ดารานักแสดงสาวชื่อดัง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณัฎฐ์ธิพงศ์ สีดา รอง สว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังจากที่นัดหมายกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สามี เพื่อรับบุตรไปดูแลตามข้อตกลงกันหลังจากที่แยกกันอยู่แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้,นางชุติมา เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น. ตนเองได้นัดกับสามีบริเวณห้างเซนทรัลเวิร์ด ชั้น 6 (โซนเด็กเล่น) เพื่อรับลูกไปเลี้ยงดู หลังจากที่ตนทั้งสองได้แยกกันอยู่และมีข้อตกลงกันว่าจะสลับเลี้ยงดูลูกกันคนละ 5 วัน ซึ่งในวันนี้ครบกำหนดเลี้ยงดูของฝั่งสามีแล้ว จึงทำการนัดกันที่บริเวณดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อทนายความ คนขับรถและตัวสามีได้ โดยปกติแล้วก่อนหน้านี้ก็ยังสามารถติดต่อกันได้และสลับกันเลี้ยงดูลูกอยู่ตลอด ทั้งนี้ตนมีความเป็นห่วงทั้งตัวสามีและลูกที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ จึงเดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน.
ต่าย ซีซั่นเชนจ์ ดาราดังเข้าพบ ตร.สน.ปทุมวัน เพื่อลงบันทึกประจำวันเนื่องจากติดต่อสามีและลูกไม่ได้ไว้เป็นหลักฐาน หลังจะเดินทางมารับลูกไปเลี้ยงตามข้อตกลงที่จะสลับกันไปดูคนละ 5 วัน เนื่องจากไ
ข่าว,ทั่วไทย
ต่าย ซีซั่นเชนจ์,รับลูก,ติดต่อสามี,พบตำรวจ,สน.ปทุมวัน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1531210
ออกสตาร์ต ตูน บอดี้สแลมเริ่มวิ่ง ก้าวคนละก้าว จากเบตงวันแรก 50.9 กม.
เมื่อเวลา 06.09 น. วันที่ 1 พ.ย.60 ที่ป้ายใต้สุดแดนสยาม ปากอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อ.เบตง จ.ยะลา นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ได้เริ่มออกสตาร์ตวิ่งตามโครงการ ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยมี พล.ท. ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายดำรงค์ ดีสกูล นายอำเภอเบตง หัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชนจำนวนมาก ในพื้นที่อำเภอเบตง มาร่วมวิ่งและให้กำลังใจ พร้อมรับมอบเงินที่ได้รับบริจาคร่วมโครงการในพื้นที่อำเภอเบตงจากนายอำเภอเบตงเป็นเงินจำนวนกว่า 3 แสนบาท ซึ่งก่อนออกสตาร์ตวิ่ง ทีมงานก้าวคนละก้าวได้เปิดเผยว่าขณะนี้มียอดเงินบริจาคเข้าร่วมโครงการกว่า 40 ล้านบาทแล้ว,ขณะที่ ตูน วิ่งผ่านเขตเทศบาลเมืองเบตง ตามสองข้างทาง มีประชาชนมายืนคอยให้กำลังใจและมอบเงินบริจาคจำนวนมาก โดยวันแรก ตูน บอดี้สแลม เมื่อวิ่งออกจากจุดสตาร์ตไปแล้ว จะวิ่งไปตามเส้นทางถนนสาย 410 ยะลา-เบตง ผ่าน กม.13 แวะทำกิจกรรมบริจาคทุนให้แก่โรงเรียนบ้านด่านสันติราษฎร์ กม. 18 ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จากนั้นจะวิ่งต่อไปผ่านวัดพุทธมงคล กม.29 ผ่านบ้าน กม.40 จนถึงสะพานโต๊ะกูแซ ต.แม่หวาด อ.ธารโต ซึ่งรวมระยะทางในการวิ่งวันแรก 50.9 กม. ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ตลอดเส้นทาง,สำหรับโครงการ ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ จากสุดเขตแดนใต้ สู่สูงสุดแดนสยาม ตูน บอดี้สแลม เริ่มต้นวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา และสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมระยะทาง 2,191 กิโลเมตร รวมระยะเวลา 55 วัน จะวิ่งติดต่อกัน 4 วัน พัก 1 วัน และจะสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันที่ 25 ธ.ค.2560 โดยหวังให้คนบริจาคเพียงคนละ 10 บาท หรือจะมากกว่านั้นก็ได้ การวิ่งครั้งนี้ ตูน ตั้งเป้าหมายยอดเงินบริจาคประมาณ 700 ล้านบาท,สำหรับเงินทั้งหมดที่ได้จากการรับบริจาคในครั้งนี้จะนำไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ 11 โรงพยาบาล ได้แก่ 1. โรงพยาบาลยะลา, 2. โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี, 3. โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี, 4. โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี, 5. โรงพยาบาลสระบุรี, 6. โรงพยาบาลขอนแก่น, 7. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี, 8. โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่, 9. โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์, 10. โรงพยาบาลน่าน ที่ไม่ใช่โรงพยาบาลศูนย์ แต่อยู่ในพื้นที่พิเศษห่างไกลจากตัวเมือง และ 11. โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า,นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการร่วมบริจาคกับโครงการก้าวคนละก้าวในครั้งนี้สามารถเริ่มบริจาคแล้วได้ตั้งแต่วันนี้ สำหรับช่องทางการบริจาค ดังนี้ 1. บัญชีรับบริจาค : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน ชื่อบัญชี มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ (โครงการก้าวคนละก้าว) เลขที่บัญชี 111-393-5263 (กระแสรายวัน) และทาง SMS : บริจาคครั้งละ 10 บาท พิมพ์ T แล้วกดส่งมาที่ 4545099 (เฉพาะเครือข่าย AIS, DTAC และ True Move H ไม่หักค่าใช้จ่าย) สำหรับยอดเงินบริจาคสามารถตรวจสอบได้ที่ เว็บไซต์ ,ก้าวคนละก้าว,.
ตูน บอดี้สแลม เริ่มวิ่งจากอำเภอเบตงแล้ว ตามโครงการ ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ วันแรกจะวิ่งระยะทาง 50.9 กม. ท่ามกลางการรปภ.โดย จนท.ผู้คนแห่ให้กำลังใจตลอดทาง
ข่าว,ทั่วไทย
ตูน บอดี้สแลม,ตูน วิ่งจากใต้ไปเหนือสุด,อ.เบตง,ยะลา,ก้าวคนละก้าว,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/south/1113472
ชาวอินโดนีเซียยังกินค้างคาวแม้ไวรัสโคโรนาระบาด
วันนี้ (12 ก.พ.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดสดในเมืองมานาโด บนเกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย ยังคงนำค้างคาวออกมาจำหน่ายตามปกติ พร้อมทั้งอ้างว่ายอดขายค้างคาวเพื่อนำไปประกอบอาหารไม่ได้รับผลกระทบ แม้ว่าสื่อท้องถิ่นจะออกมาระบุว่าร้านอาหารจำนวนมากเตรียมยกเลิกจำหน่ายอาหารที่ใช้ค้างคาวเป็นส่วนประกอบขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากยังคงบริโภคปานีกี อาหารพื้นเมืองที่นำค้างคาวไปตุ๋นกับกะทิและเครื่องเทศ พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะไม่แพร่ระบาดในพื้นที่และไม่กังวลกับสถานการณ์การระบาดที่กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศนักวิจัยชี้อินโดฯ อาจมีผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ถูกตรวจพบขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยังเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาด แม้ว่าจะยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ในประเทศก็ตาม หลังจากหลายประเทศในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย เวียดนามและฟิลิปปินส์ พบผู้ติดเชื้อแล้วหลายสิบคนและมีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์ไปแล้ว 1 คนก่อนหน้านี้ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา ออกมาเตือนให้อินโดนีเซียเร่งยกระดับการติดตาม เฝ้าระวังและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด พร้อมทั้งระบุว่า การที่อินโดนีเซียยังไม่พบผู้ติดเชื้อ อาจหมายความว่ามีผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ถูกตรวจพบ เนื่องจากอินโดนีเซียมีเที่ยวบินตรงจากเมืองอู่ฮั่นของจีน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินโดนีเซียเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หลังนักวิจัยในสหรัฐอเมริกาเตือนว่า อินโดนีเซียอาจมีผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ถูกตรวจพบ ขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งไม่กังวลต่อการแพร่ระบาดและยืนยันที่จะบริโภคค้างคาวเป็นอาหาร
ต่างประเทศ
อินโดนีเซีย,ค้างคาว,ไวรัสโคโรนา,ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่,COVID-19
https://news.thaipbs.or.th/content/288879
หลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือครอบครัวหนุ่มขาขาด อาศัยบ้านร้างซุกหัวนอน
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (กอ.รมน.จว.ประจวบคีรีขันธ์) และค่ายธนะรัชต์ เดินทางไปเยี่ยมและมอบสิ่งของช่วยเหลือครอบครัว นายคมสัน คำปลิว อายุ 31 ปี ชาวกาญจนบุรี ซึ่งขาขาดทั้งสองข้างจากอุบัติเหตุทางรถมากว่า 10 ปี โดยพักอาศัยภายในบ้านร้าง ซอยหัวหิน 3 ถ.เพชรเกษม เขตเทศบาลเมืองหัวหิน กับภรรยา น.ส.มารีแย บ่อเตย อายุ 31 ปี และบุตรชายอีกสองคน คนโตอายุ 1 ปี 9 เดือน ส่วนคนเล็กอายุ 5 เดือน ทุกวันภรรยาต้องออกไปทำงานเป็นลูกจ้างร้านรีดผ้าในเมืองหัวหิน ตั้งแต่ช่วงเช้าจรดค่ำ ได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท ส่วน นายคมสัน นั่งรถเข็นเลี้ยงลูกชายอีก 2 คนที่บ้าน ซึ่งบ้านที่อาศัยอยู่ก็เป็นของผู้ใจบุญที่เสียชีวิตไปนานแล้วปล่อยร้างไว้ จึงใช้เป็นที่ซุกหัวนอน ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ อาศัยเพียงแสงจากตะเกียงมานานหลายเดือน ต้องอยู่อย่างลำบาก รายได้ไม่เพียงพอค่าใช้จ่ายในครอบครัว นอกจากนี้ จากประวัติในอดีต ทั้งคู่เคยเป็นจิตอาสาอุทิศตนช่วยเหลือสังคม โดยเป็นอาสาสมัครกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ก่อนประสบอุบัติเหตุ,ล่าสุดวันที่ 17 ก.พ. 2562 นายปอเว้ง แซ่ก๊วย ประธานมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน พร้อมคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ ได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำปลา น้ำดื่ม พร้อมเงินสด 4,000 บาท ไปช่วยเหลือครอบครัวนายคมสัน เป็นการเบื้องต้น พร้อมกันนี้ จ.ส.อ.สมพร หงษ์ทอง มว.รส.ที่ 2 จ.ส.อ.นิติเทพ จิตประสงค์ เจ้าหน้าที่ส่วนประสานงาน กกล.รส.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ อ.หัวหิน ได้ประสานไปยัง นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ให้เจ้าหน้าที่ช่วยต่อน้ำประปาจากบ้านข้างเคียง เป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ทางด้านผู้ใจบุญที่ทราบข่าว ต่างนำสิ่งอุปโภคบริโภคมาช่วยเหลือครอบครัวนายคมสัน ตลอดทั้งวัน.
มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้ามอบข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม พร้อมเงินสดแก่ครอบครัวอดีตอาสาสมัครกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ หลังประสบอุบัติเหตุขาขาด 2 ข้าง
ข่าว,สังคม
ขาขาด,ยากจน,หัวหิน,ประจวบคีรีขันธ์,ธารใจไทยรัฐ,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/society/1498290
ย้อนอดีตประกายแห่งดวงดาว MERCEDES BENZ 190SL
หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง บริษัท Mercedes Benz พยายามกอบกู้สถานะที่เคยมั่นคงตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามให้ฟื้นกลับคืนมาอีกครั้ง การกอบกู้ฟื้นคืนสถานภาพของบริษัทเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากโรงงานและโชว์รูมของ Mercedes ในเยอรมนีถูกทำลายลงอย่างย่อยยับในช่วงท้ายของสงคราม แนวคิดผลิตรถสปอร์ตสองที่นั่งแบบเปิดหลังคาได้โดยเหนี่ยวนำเอาความงามของรูปโฉมในแบบสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดประทุนด้วยราคาขายที่ไม่แพงเสียบแทนที่รถสปอร์ตที่มีราคาสูงอย่าง 300SL ผู้บริหารของแบรนด์ตราดาวมอบหมายงานสร้างรถเล็กเปิดหลังคา โดยนำเอาเรือนร่างที่ลงตัวสุดๆ ของรถแข่งโมเดล 300 SLR มาเป็นต้นแบบแล้วทำการผสมผสานความลงตัวของ Mercedes Benz 300SL Roadster เพื่อคงความงดงามตามสไตล์และแบบฉบับผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วของค่ายดาวสามแฉกเอาไว้อย่างเหนียวแน่น,Mercedes Benz 300SLR ,Mercedes Benz 300SLR Roadster คือรถแข่งที่กลายมาเป็นสปอร์ตคาร์สมรรถนะสูง 300SL โดยสามารถกวาดแชมป์การแข่งขันรถยนต์ในทวีปยุโรปเป็นว่าเล่น ,Mercedes Benz 300SL Gullwing,หลังจากความสำเร็จของ 300SLR รถสปอร์ตรุ่น 300SL ซึ่งเป็น DNA ที่ถ่ายทอดมาจาก SLR ก็ถูกผลิตออกมาวางขายในช่วงปี ค.ศ. 1954 นับเป็นรถสปอร์ตจากค่ายตราดาวที่มีประสิทธิภาพสูงในยุคนั้น ด้วยโครงสร้างและเทคโนโลยีใหม่หมด ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ fuel injection เป็นครั้งแรกในวงการยนตรกรรม รวมถึงการออกแบบประตูแบบปีกนกนางนวลหรือ Gullwing กับเรือนร่างที่ปราดเปรียวเพรียวลมในแบบเปิดประทุนโรดสเตอร์สองที่นั่ง หรือ Roadster ทำให้ Mercedes Benz 300SL ที่แปลงร่างมาจาก 300SLR ทั้งแบบ Coupe และ Roadster ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงกลางยุค 50,Mercedes Benz 190SL R121,แม้จะไปได้ดีในตลาดรถสปอร์ตระดับสูงของโลกแห่งยานยนต์ในยุคนั้น แต่ราคาที่แพงมหาโหดของ Mercedes Benz 300SL ทำให้ผู้บริหารของแบรนด์ตราดาวเกิดความคิดที่จะทำรถสปอร์ตเปิดประทุนราคาถูกสำหรับคนทั่วไป นักออกแบบและวิศวกรตราดาวจึงทำการปรับโมเดลของรถสปอร์ตในตระกูล SL เพื่อทำให้รถรุ่นนี้มีราคาที่ถูกลงและทำให้คนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้ 190SL จึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อกดราคาไม่ให้แพงมากจนเกินไป ราคาที่ต่ำลงทำให้มันสามารถแข่งขันกับรถสปอร์ตจากอิตาลีและอเมริกาได้อย่างไม่เคอะเขิน นักออกแบบและทีมวิศวกรของ Mercedes Benz พัฒนาโครงสร้างแบบ Ponton วางรูปแบบของแชสซี welded platform-type ทำการแยกซับเฟรมด้านหน้าให้รวมกับระบบกันสะเทือนเพื่อเพิ่มเติมประสิทธิภาพในการทรงตัว แม้ระยะห่างของฐานล้อจะเท่ากับรุ่น 300SL แต่ขนาดความยาวของตัวถังใน รุ่น 190SL กลับสั้นกว่าเล็กน้อย รูปแบบคูเป้หลังคาแข็งและประตูแบบปีกนกของ 300SL เมื่อถูกปรับแก้ให้กลายเป็นรถที่มีขนาดเล็กกว่า โดยใช้รูปแบบโรดสเตอร์เปิดประทุนสองที่นั่งพร้อมกับหลังคาอ่อนซึ่งเป็นหลังคาผ้าใบแบบพับเก็บได้,ขุมกำลังของ Mercedes Benz 190SL วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง รหัส R121 ซึ่งในยุค 1955 นั้น เครื่อง M121 เป็นขุมกำลังที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ 300SL โดยลดจำนวนกระบอกสูบจาก 6 สูบมาเหลือแค่ 4 สูบ ความกว้างของกระบอกสูบ 85 มิลลิเมตร กับช่วงชักที่สั้นกว่าบนตัวเลข 86.3 มิลลิเมตร ทำให้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบตัวนี้เป็นเครื่องแบบชักสั้นดันเร็ว ปริมาตรความจุ 1,897 ซีซี ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ปใช้แคมแท่งเดี่ยวหรือ SOHC (ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป) ขับเพลาราวลิ้นเดี่ยวด้วยโซ่คู่ที่ทนทานแบบ Duplex chain driven overhead camshaft ระบบจ่ายเชื้อเพลิงใช้คาร์บูเรเตอร์คู่แบบทวินโช้คลิ้นคู่ของ Solex Caburator มีอัตราส่วนกำลังอัด 8.5:1 ซึ่งในยุค 50 นับว่าเป็นเครื่องยนต์เบนซินที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงมาก เครื่องยนต์ของ Mercedes Benz 190SL สร้างเรี่ยวแรงได้ 105 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,200 รอบต่อนาที แม้จะมีกำลังพอตัว แต่เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีความจุเพียงแค่ 1.9 ลิตรนั้นก็ไม่สามารถทำให้ 190 SL ที่มีน้ำหนักตัวถึง 1.2 ตัน ทะยานขึ้นสู่ทำเนียบรถแรงในยุคนั้นได้,ระบบส่งกำลังหรือเกียร์ของ Mercedes Benz 190SL เป็นเกียร์ธรรมดาแบบ 4 สปีด fully synchronized อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 14.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 172 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 12.5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร จุดเด่นของ Mercedes Benz 190 SL Roadster อยู่ตรงย่านของกำลังซึ่งแปรเป็นแรงบิดในระดับ 105 ปอนด์-ฟุต หรือ 142 นิวตันเมตรที่ 3,200 รอบต่อนาที รอบของการหมุนปานกลางที่ค่อนข้างสูงแสดงออกอย่างชัดแจ้งว่า 190SL เป็นรถสปอร์ตที่ขับขี่ได้ดี ให้อารมณ์รถโรดสเตอร์เปิดหลังคาจนกลายเป็นรถยอดนิยม น้ำหนักของคันเกียร์และแป้นคลัตช์ให้ความรู้สึกหนักหน่วงราวกับรถแข่ง เป็นเรื่องปกติในปี ค.ศ. 1955 จากเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวไกลเท่าที่ควร อารมณ์การขับแบบรถเปิดหลังคากลายเป็นจุดดึงดูดลูกค้าของแบรนด์ตราดาวที่ต้องการรถสปอร์ตซึ่งให้ความแตกต่างทางด้านอารมณ์ของการควบคุม,รูปลักษณ์ที่แตกต่างจาก Mercedes Benz 300SL ตรงประตูทรงปกติที่เข้า-ออกจากรถได้สะดวกกว่าแม้จะไม่หล่อเหลาเท่าประตูทรงปีกนกนางนวลของ 300SL Coupe รวมถึงไม่มีช่องระบายความร้อนแบบเหงือกปลาฉลามใน 300SL Roadster แต่ฐานล้อกว้าง ตัวถังแบนและความต่ำเตี้ยทำให้ Mercedes Benz 190SL R121 มีมุมมองที่ปราดเปรียวเพรียวลมอยู่พอสมควร แม้ค่ายตราดาวจะบอกว่ามันเป็นสปอร์ตคาร์ที่คล่องแคล่วว่องไวซึ่งจะทำให้เจ้าของสามารถสนุกไปกับมันทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัยของ Mercedes Benz 190SL แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วโรดสเตอร์จากแบรนด์ตราดาวคันนี้กลับวิ่งได้ดีและขับได้สบายๆ ในสไตล์ GT เมื่อขับออกทางไกล จุดประสงค์ของหลังคาผ้าใบแบบเปิดประทุนเพื่อเปิดรับสายลมและแสงแดดอันสดชื่นในช่วงต้นฤดูหนาว สมรรถนะของเครื่องยนต์เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวทำได้แค่รถที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน เอาไปแข่งไปไล่กับรถสปอร์ตจากอิตาเลี่ยนในยุคนั้นคงลำบาก รถ Mercedes Benz 190SL ถูกเปิดผ้าคลุมในงาน New York Sport Car Show เมื่อปี 1954 หลังจากนั้นได้ย้ายวิกมาโชว์ตัวเป็นๆ ที่งาน Geneva Motor Show ในช่วงปลายปี 1954 ตามด้วยการวางขายในตลาดรถสปอร์ตทั่วโลก (รวมถึงประเทศไทยโดยธนบุรีประกอบยนต์) นับเป็นยนตรกรรมแบบเปิดหลังคาที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับรถ Mercedes Benz 190SL สภาพสมบูรณ์มีราคาค่าตัวในปี 2016 ประมาณ 6-8 ล้านบาท แพงกว่ารถใหม่อย่าง SLC300 AMG Dynamic R172 ซึ่งมีราคาแค่ 3.9 ล้านบาทไปไกลลิบ ความคลาสสิกของตัวรถทำให้หา Mercedes Benz 190SL มือสองได้ยากเต็มทน เนื่องจากเจ้าของที่ครอบครองรถรุ่นนี้ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ แม้จะมีเงินมากองอยู่ตรงหน้าก็ตาม.,1955 MERCEDES BENZ 190SL R121 SPECIFICATIONS,Produced:.1955-1963,Engine:4-cylinder-inline engine (four-stroke), front-mounted,Bore x Stroke:85mm x 83.6mm,Displacement:1897 cc,Max. Power @ rpm:105PS (77kW; 104hp) @ 5700,Max. Torque @ rpm:142Nm (105lbft) @ 3200,Compression Ratio:.8.5: 1, from 09/59 8.8:1,Fuel feed:.twin two barrel sidedraft carburetors - Solex 44 PHH,Fuel tank capacity:65L (17.2USgal; 14.3impgal),Valve train:SOHC, duplex chain,Cooling:Water,Gearbox:4-speed manual, lever between seats rear-wheel drive, standard axle ratio 3.90:1,Electrical system:12-volt,Front suspension:Double wishbones, coil springs, stabilizing bar,Rear suspension::Swing axle, coil springs,Brakes:.Drum brakes ( 230mm), power assisted,Steering:Recirculating ball steering,Body structure:.Sheet steel, uni-body construction,Dry weight:1,160kg (2,560lb) (Hardtop: + 20kg (44lb)),Loaded weight:1,400kg (3,100lb), from 1961 1,440kg (3,170lb),Track front/rear:.1,430mm (56.3in) 1,475mm (58.1in),Wheelbase:2,400 mm (94.5in),Length:4,290mm (168.9in),Width:1,740mm (68.5in),Height:.1,320mm (52.0in),Tyre/Tire sizes:6.40-13 Sport,Top speed:171km/h (106mph),Fuel Consumption (estimate):12.5 litres per 100 kilometres (22.6mpg-imp; 18.8mpg-US),อาคม รวมสุวรรณ,E-Mail ,[email protected],Facebook ,https://www.facebook.com/chang.arcom,https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
Mercedes Benz 190SL ความงดงามที่ข้ามผ่านกาลเวลาในเรือนร่างโรดสเตอร์เปิดหลังคาสองที่นั่ง
null
Mercedes Benz Thailand,Mercedes Benz 190SL,Roadster 190SL,Roadster,รถเปิดประทุน,รถสปอร์ตเปิดประทุน,เปิดหลังคาได้,Mercedes Benz,รถยนต์,อาคม รวมสุวรรณ
https://www.thairath.co.th/content/776341
จะตายมั้ย ออสซี่ยื่นคำขาดต้องฆ่าน้องหมา จอห์นนี เดปป์
เมื่อ 14 พ.ค. สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า  จอห์นนี เดปป์ นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง ชาวอเมริกัน จากภาพยนตร์ ไพเรทส์ ออฟ เดอะ แคริบเบียน กำลังเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เมื่อทางการออสเตรเลียได้ยื่นคำขาด ให้เวลานักแสดงชายคนดังแค่วันเสาร์ที่ 16 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ในการรีบนำสุนัขแสนรัก 2 ตัว พันธุ์ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย ออกไปจากรัฐควีนสแลนด์ ในประเทศออสเตรเลียโดยด่วน มิเช่นนั้น ทางการจำเป็นต้องปลิดชีวิตสุนัขน่ารักทั้งสองตัวทิ้ง,ส่วนสาเหตุที่ทำให้สุนัขน่ารักทั้งสองตัว ซึ่งมีชื่อว่า เจ้า พิสตอล และ บู ต้องมาเผชิญหน้ากับความตายเช่นนี้ เนื่องจาก จอห์นนี เดปป์ และแอมเบอร์ เฮิร์ด ภรรยาของเขา ไม่ได้สำแดงตามพิธีการศุลกากรที่สนามบินนานาชาติในรัฐควีนสแลนด์ ว่าเขาได้นำสุนัขพันธุ์ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย 2 ตัว นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวมาด้วยเมื่อเดือนก่อน,ขณะที่ ทางการออสเตรเลียได้มีกฎหมายที่เข้มงวดมากเกี่ยวกับการป้องกันเชื้อโรค และโรคติดต่อในการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในรัฐควีนสแลนด์ โดยนอกจากจะต้องสำแดงทางพิธีการศุลกากรแล้ว สัตว์ที่นำมาด้วยจะต้องถูกกักกันเป็นเวลาถึง 10 วัน ,ด้านบาร์นาบี จอยซ์ รมต.เกษตรของออสเตรเลีย กล่าวว่า กฎหมายต้องบังคับใช้กับทุกคน จอห์นนี เดปป์ มีเวลาเหลือไม่ถึง 50 ชม.ที่จะพาสุนัขสองตัวนี้ออจากออสเตรเลีย กลับไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย ในสหรัฐฯ มิเช่นนั้น ทางการออสเตรเลียก็ต้องฆ่าสุนัขทั้งสองตัว,อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องนี้แพร่สะพัดอออกไป ปรากฏว่า ได้มีคนร่วมลงชื่อทางออนไลน์ กว่า 1,300 ราย เรียกร้องให้ทางการออสเตรเลียอย่าฆ่าสุนัขของจอห์นนี เดปป์ คุณมีหัวใจหรือเปล่าบาร์นาบี อย่าฆ่าสุนัขน่ารักทั้งสองตัวนี้เลย ผู้ร่วมลงนามโพสต์ข้อความ เรียกร้อง รมต.เกษตรฯออสเตรเลีย.
จะโดนฆ่าทิ้งหรือเปล่าสุนัขสุดน่ารัก 2 ตัวของจอห์นนี เดปป์ ดาราดัง เผชิญหน้ากับการถูกทางการออสเตรเลียฆ่า หากเจ้าของไม่รีบพาพวกมันออกจากรัฐควีนสแลนด์ หลังดาราดังทำผิดกฎหมาย ไม่ยอมแจ้งนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในประเทศ
null
สุนัข,จอห์นนี เดปป์,ทางการออสเตรเลีย,ประเทศออสเตรเลีย,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ,ฆ่าตาย,ฆ่าทิ้ง,ผิดกฎหมาย,ควีนสแลนด์,ฆ่าสุนัข,ฆ่าหมา,สัตว์เลี้ยงดารา,ทารุณสัตว์,ดาราฮอลลีวูด,ซูเปอร์สตาร์
https://www.thairath.co.th/content/498816
ผีแดง ขอควบ ล่า โด้-เบล ซัมเมอร์หน้า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรแกร่งประจำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวว่าได้วางแผนใหญ่ล่าตัว แกเร็ธ เบล และ คริสเตียโน โรนัลโด 2 ปีกซูเปอร์สตาร์ของ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ทีมในลีก ลาลีกา สเปน ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะปีหน้า,ตามรายงานของ เดอะ มิร์เรอร์ ระบุว่าทาง ปิศาจแดง ยังคงให้ความสนใจปีกชาวเวลส์และพร้อมจะยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการในฤดูกาลหน้า ถึงแม้จะโดน มาดริด ปฏิเสธข้อเสนอมาแล้วถึง 2 ครั้งตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคมครั้งก่อน,ไม่เพียงเท่านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังพร้อมวางข้อเสนอดึงตัว โรนัลโด กลับมาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด อีกครั้ง หากว่าความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะกับ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือคนใหม่ของ มาดริด มีทีท่าไม่ดีขึ้น,อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทั้งสองสโมสรจะยังคงโต้ตอบกันผ่านสื่อในกรณีที่ ดาบิด เด เคอา มือกาวชาวสเปน อดย้ายไปค้าแข้งกับ ราชันชุดขาว เนื่องจากส่งเอกสารไม่ทันในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ แต่ทางสื่อดังก็เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการเจรจาธุรกิจของทั้งสองทีม.
สื่อดังอังกฤษ เผย ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วางบิ๊กโปรเจ็คล่า คริสเตียโน โรนัลโด กับ แกเร็ธ เบล สองปีก ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด …
null
พรีเมียร์ลีก,อังกฤษ,ปิศาจแดง,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ราชันชุดขาว,เรอัล มาดริด,คริสเตียโน โรนัลโด,แกเร็ธ เบล,ข่าวกีฬา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/523386
แบ่งพื้นที่ 4 โซนท่อสายสื่อสารใต้ดิน
รายงานพิเศษ-กรุงเทพธนาคมลุย-เมืองสวยไม่รกสายตา,ขณะนี้ กทม.มีโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินในเขตกรุงเทพมหานครภายในปี 2564 เพื่อจัดระเบียบ ปรับปรุงทัศนียภาพของเมืองให้ดูสะอาด ไม่มีสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ สายสื่อสารรกรุงรัง ในส่วนนี้ กทม.ได้มอบหมาย ให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) วิสาหกิจ ของ กทม.เป็นผู้ดำเนินโครงการ,ขั้นตอนการดำเนินการล่าสุด อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลความต้องการใช้ท่อร้อยสายแต่ละเส้นทางของผู้ประกอบการ ที่ได้ยื่นความประสงค์ใช้ท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดินจำนวน 13 ราย เพื่อประเมินต้นทุนการก่อสร้าง ซึ่งจะสะท้อนออกมาเป็นอัตราอ้างอิงค่าเช่าท่อร้อยสายจริง ที่ทางบริษัทฯ จะเสนอไปยังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พิจารณากำหนดอัตราค่าเช่าท่อร้อยสายต่อไป,สำหรับพื้นที่ที่จะเริ่มก่อสร้างท่อร้อยสายซึ่งแบ่งเป็น 4 โซน ดังนี้ พื้นที่ที่ 1 กรุงเทพเหนือ ระยะทางรวมประมาณ 620 กม. ตามระยะทางเท้า (หรือประมาณ 335 กม. ตามระยะถนน) ครอบคลุมถนนสายหลัก ถนนสายรอง ถนนโครงข่าย และซอยในบริเวณพื้นที่เขตดุสิต เขตพญาไท เขตบางซื่อ เขตลาดพร้าว เขตบางเขน เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว รวมถึงพื้นที่บางส่วนของเขตราชเทวี เขตจตุจักร เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตมีนบุรี และเขตคลองสามวา เช่น ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนรามอินทรา ถนนเทพรักษ์ ถนนสุวินทวงศ์ ถนนพหลโยธิน ซอยอารีย์ ถนนพระราม 6 ถนนวงศ์สว่าง ถนนกรุงเทพฯ นนท์ ถนนประชาชื่น,พื้นที่ที่ 2 กรุงเทพตะวันออก ระยะทางประมาณ 605 กม.ตามระยะทางเท้า หรือประมาณ 315 กม.ตามระยะถนน ครอบคลุมถนนสายหลัก ถนนสายรอง ถนนโครงข่าย และซอยในบริเวณพื้นที่เขตดินแดง เขตวัฒนา เขตห้วยขวาง เขตสะพานสูง เขตหนองจอก รวมถึง พื้นที่บางส่วนของเขตสวนหลวง เขตมีนบุรี เขตลาดกระบัง เขตราชเทวี เขตคลองเตย เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตประเวศ และเขตคลองสามวา เช่น ถนนสุขุมวิท ซอยเอกมัย ถนนพัฒนาการ ถนนกรุงเทพกรีฑา ถนนร่มเกล้า ถนนสุวินทวงศ์ ถนนรามคำแหง ถนนลาดพร้าว ถนนเทียนร่วมมิตร พระราม 9 ดินแดง มิตรไมตรี,พื้นที่ที่ 3 กรุงธนเหนือ ระยะทางรวมประมาณ 605 กม. ตามระยะทางเท้า (หรือประมาณ 315 กม. ตามระยะถนน) ครอบคลุมถนนสายหลัก ถนนสายรอง ถนนโครงข่าย และซอยในบริเวณพื้นที่เขตบางรัก เขตสาทร เขตยานนาวา เขตบางคอแหลม เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ เขตบางขุนเทียน เขตพระโขนง เขตบางนา รวมถึงพื้นที่,บางส่วนของเขตคลองเตย เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตลาดกระบัง เขตจอมทอง และเขตบางบอน เช่น ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนจอมทอง พระราม 3 ถนนมหาพฤฒาราม ถนนจันทน์ ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ถนนสาธุประดิษฐ์ นางลิ้นจี่ สาทรเหนือ/ใต้ สุนทรโกษา ถนนพระราม 4 ถนนบางนา-ตราด ถนนอ่อนนุช ถนนลาดกระบัง,พื้นที่ที่ 4 กรุงธนใต้ ระยะทางรวมประมาณ 620 กม. ตามระยะทางเท้า (หรือประมาณ 330 กม. ตามระยะถนน) ครอบคลุมถนนสายหลัก ถนนสายรอง ถนนโครงข่าย และซอยในบริเวณพื้นที่เขตพระนคร เขตสัมพันธวงศ์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตปทุมวัน เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ เขตตลิ่งชัน เขตทวีวัฒนา เขตภาษีเจริญ เขตบางแค เขตหนองแขม รวมถึงพื้นที่บางส่วนของเขตดุสิต เขตราชเทวี เขตจอมทอง และเขตบางบอน อาทิ ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนจอมทอง พระราม 3 ถนนมหาพฤฒาราม ถนนจันทน์ ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ถนนสาธุประดิษฐ์ นางลิ้นจี่ สาทรเหนือ/ใต้ สุนทรโกษา ถนนพระราม 4 ถนนบางนา-ตราด ถนนอ่อนนุช ถนนลาดกระบัง,ส่วนผู้ประกอบการที่ยื่นความประสงค์ใช้ท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดินของบริษัทฯ จำนวน 13 รายนั้น ประกอบด้วย 1.บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด 2.บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด 3.บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวิร์ค จำกัด 4.บริษัท แอมเน็กซ์ จำกัด 5.บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) 6.บริษัท เคเบิลคอนเนค จำกัด 7.บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด 8.บริษัท อินฟอเมชั่น ไฮเวย์ จำกัด 9.บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) 10.บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) 11.บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเล-คอม จำกัด (มหาชน) 12.บริษัท ซิมโฟนี่คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และ 13.บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน)
ขณะนี้ กทม.มีโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินในเขตกรุงเทพมหานครภายในปี 2564 เพื่อจัดระเบียบ ปรับปรุงทัศนียภาพของเมืองให้ดูสะอาด ไม่มีสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ สายสื่อสารรกรุงรัง
ข่าว,ทั่วไทย
รายงานพิเศษ,สายสื่อสาร,ใต้ดิน,ท่อร้อยสาย,กรุงเทพธนาคม,พื้นที่ก่อสร้าง,แบ่งโซน
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1700305
ค้นหาผู้ป่วย COVID-19 เชิงรุก เก็บตัวอย่างกลุ่มเสี่ยง ชุมชนคลองเตย
วันนี้ (6 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันแรกที่สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่สุ่มตรวจประชาชนในชุมชนเขตคลองเตย โดยดำเนินการเก็บสารคัดหลั่งจากโพรงจมูกและลำคอของผู้ป่วยติดเตียง เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ผลหาเชื้อในห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นหนึ่งในการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก พร้อมกับการนำผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนและเฝ้าระวังโรค หรือ PUI กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อจากการทำงานและแรงงานข้ามชาติ เกือบ 300 คน ที่อาสาสมัครชุมชน และเครือข่ายทางสังคมในพื้นที่ ได้ร่วมสำรวจและคัดกรองในชุมชนเขตคลองเตย ตัั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อค้นหาผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการให้เข้าสู่ระบบรักษาได้เร็ว และช่วยจำกัดการแพร่กระจายของโรคนพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าสภาพความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างหนาแน่น ประชากรในพื้นที่กว่าแสนคน มีหลายปัญหาทับซ้อน และการป้องกันโรคทำได้จำกัด ทำให้เขตคลองเตย เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายในค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกถึงในชุมชนหลังจากนี้เครือข่ายคลองเตยดีจัง มูลนิธิดวงประทีป และอาสาสมัครชุมชน ยังต้องเดินหน้าสำรวจเก็บข้อมูลชุมชนที่เหลือ พร้อมคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยง รวบรวมเข้าสู่กระบวนการตรวจเชิงรุกอีกครั้งผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อในชุมชน จะถูกแยกตัวออกมารักษาทันที ขณะที่กลุ่มที่สัมผัสใกล้ชิดจะได้รับการดูแล และจัดสถานที่รองรับเพื่อกักตัว พร้อมกับกระบวนการดูแล และสร้างความเข้าใจในชุมชน ป้องกันการตีตราผู้ป่วยและครอบครัว
แม้ว่าขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง แต่ประเทศไทยก็ยังประมาทกับสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะพื้นที่แหล่งชุมชนแออัดที่มีความเปราะบาง และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนสูง วันนี้กรมควบคุมโรคเข้าตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกภายในชุมชนเขตคลองเตย
สังคม
กรมควบคุมโรค,ชุมชนคลองเตย,ค้นหาเชิงรุก,ผู้ป่วยติดเตียง,กลุ่มเสี่ยง,โควิด-19,COVID-19
https://news.thaipbs.or.th/content/292146
ชอบการเมือง ย้อนวันวาน ประชันสวย แม่หน่อย VS จินนี่ เส้นทางตามรอยแม่
จินนี่, หรือ ,นางสาวยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ บุตรสาวคนเดียวของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ,ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) สาวน้อยที่ตกเป็นที่พูดถึงในสังคมเพียงชั่วข้ามคืน ภายหลังจากที่เธอลงพื้นที่ห้างแพลททินัม แยกประตูน้ำ พร้อมกับผู้เป็นแม่,ทีมข่าวเจาะประเด็น, ไล่เรียงเรื่องราวของเธอ ไปพร้อมๆ กับความสวยสะดุดตาของ คุณหญิงสุดารัตน์ และลูกสาวที่กลายเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์เพียงชั่วข้ามคืน,เมื่อถามว่าแม่ดุและหวงไหม น้องจินนี่บอก ,แม่ใจดี ไม่ดุเลย ไปไหนก็ไม่หวง เพียงแต่จะไปไหนมาไหนหรือทำอะไรต้องบอกก่อน,อย่างไรก็ดี จินนี่ ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2542 โดยจบการศึกษาระดับมัธยมฯ จากรั้วสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามรอยผู้เป็นแม่,ในขณะที่เธอร่ำเรียนอยู่ที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เธอเคยเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน Junior Achievement International Trade Challenge Asia Pacific ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเสนอแผนธุรกิจผลิตที่กรองน้ำพกพา,นอกจากนี้ ครอบครัวลีลาปัญญาเลิศและเกยุราพันธุ์ ชอบท่องเที่ยวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ทุกครั้งที่มีโอกาส เราจะได้เห็นภาพของครอบครัวนี้ครบ 5 คน คุณพ่อจิ้น คุณแม่หน่อย และลูกทั้งสาม บอส เบสท์ จินนี่ ไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว.
ทีมข่าวเจาะประเด็น ไล่เรียงเรื่องราวของเธอไปพร้อมๆ กับความสวยสะดุดตาของ คุณหญิงสุดารัตน์ และลูกสาวที่กลายเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์เพียงชั่วข้ามคืน
ข่าว,การเมือง
จินนี่ หญิงหน่อย,ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ,ลูกสาวสุดารัตน์,ลูกสาว นักการเมือง,ข่าวร้อน,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/politic/1419336
รวบแก๊งกะเทย ถนนข้าวสาร ฉกบัตรเครดิต นทท. รูดซื้อสินค้า
ก่อเหตุลักษณะนี้มาไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งแล้ว เนื่องจากตกงาน พร้อมยอมรับผิด ขอโทษที่ทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์สาวประเภทสอง,เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 59 ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 พล.ต.ต.ภานุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.รัฐชยุตม์ วัชรโกมลมาศ รอง ผกก.สายตรวจ รรท.สว.งานสายตรวจ 1 และเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 1 ร่วมกันแถลงการจับกุม นายทิตยาภรณ์ หรือ น้ำ ชายทวีป อายุ 20 ปี นายประทัย หรือ ออน ใจศิริ อายุ 28 ปี และนายเบญจรงค์ หรือ แบม อุบล อายุ 24 ปี โดยสามารถจับกุม นายทิตยาภรณ์ และนายประทัย ได้บริเวณปากซอยพหลโยธิน 34/2 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. และจับกุมนายเบญจรงค์ ได้บริเวณหน้าโรงแรม ทีเจ การ์เด้น อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ,โดยแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด ปลอมแปลงเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม,พ.ต.อ.จักรเพชร กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเป็นสาวประเภทสอง มีพฤติกรรม ตระเวนขายบริการให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ บริเวณถนนข้าวสารและแยกบางลำพู ซึ่งเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาได้พบกับนายมิคาล มิโรสลาฟ ยาสซิค อายุ 25 ปี สัญชาติโปแลนด์ ผู้เสียหาย บริเวณแยกบางลำพู ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จึงได้เข้าไปทำทีตีสนิท และเชิญชวนผู้เสียหายให้ไปร่วมประเวณี แต่ผู้เสียหายปฏิเสธ กลุ่มผู้ต้องหาเลยไม่พอใจจึงแกล้งทะเลาะ พร้อมทั้งรุมดึงฉุดผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายเผลอจึงแอบเอากระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายไป แล้วนำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปใช้รูดเติมเงินเข้าบัตรซื้อสินค้าของห้างสรรพสินค้าโลตัส ที่ห้างโลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาเสนานิคม ถนนพหลโยธิน รวมเป็นเงิน 35,000 บาท แล้วนำบัตรซื้อสินค้าของห้างดังกล่าวไปใช้ซื้อสินค้า,พ.ต.อ.จักรเพชร กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบ พบ นายทิตยาภรณ์ มีหมายจับในข้อหาชิงทรัพย์ ในพื้นที่ สน.ชนะสงคราม นอกจากนี้ สาเหตุที่กลุ่มผู้ต้องหาเลือกชาวต่างชาติ เพราะเนื่องจากชาวต่างชาติไม่คุ้นเคยกับประเทศไทย เมื่อเกิดเหตุก็จะไม่มาแจ้งความ หรือเมื่อมาแจ้งความพอเรื่องถึงชั้นศาลมีการสอบผู้เสียหาย ปรากฏว่าผู้เสียหายเดินทางกลับประเทศไปแล้ว ไม่สามารถเดินทางมาขึ้นศาลได้ เป็นเหตุให้ศาลอาจจะทำการยกฟ้องได้,สอบสวน นายทิตยาภรณ์ ให้การยอมรับสารภาพว่า สาเหตุที่ก่อเหตุเนื่องจากตกงาน จึงตัดสินใจมาค้าประเวณีบริเวณถนนข้าวสารโดยทำมาระยะเวลา 2 เดือน ค่าบริการ 1,000-2,000 บาท ภายหลังการค้าประเวณียากขึ้น ไม่ค่อยมีลูกค้าจึงตัดสินใจก่อเหตุ ทำมาแล้ว 5 ครั้ง แต่มีการรูดบัตรไปแล้วจำนวน 9 ครั้ง สำหรับเคส นายมิคาล ชาวโปแลนด์นั้น ตนได้ชักชวนให้มาใช้บริการ แต่ นายมิคาล ปฏิเสธ ซึ่งในมือนายมิคาลถือกระเป๋าอยู่ เกิดความโลภเพราะต้องการใช้เงิน จึงได้พยายามชักชวนอีกครั้ง จนเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทและมีการลงไม้ลงมือก่อนที่จะลักทรัพย์และหนีไป และสาเหตุที่เลือกถนนข้าวสาร เนื่องจากมีชาวต่างชาติจำนวนมาก จะเลือกชาวโปแลนด์และชาวจีนในการให้บริการ โดยภายหลังให้บริการแล้วตนจะขอเงิน หรือขอให้ผู้ใช้บริการซื้อของใช้ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ให้กับตน ซึ่งผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ก็จะซื้อให้หรือให้บัตรเครดิตมารูดใช้,ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ตนได้ประกอบอาชีพขายเครื่องสำอาง และรู้จักกับนายประทัยและนายเบญจรงค์ จึงได้ชักชวนมาร่วมค้าประเวณี และอยากขอโทษในสิ่งที่กระทำลงไปเกิดจากความโลภ ทำไปโดยไม่คิด และอยากฝากถึงคนที่กระทำดังกล่าวนั้นไม่ให้กระทำอย่างตน แม้จะตกงานแต่ก็ควรจะทำอาชีพทีสุจริต ขอโทษที่ทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของสาวประเภทสอง.
ตำรวจ 191 แถลงจับแก๊งกะเทยแสบย่านถนนข้าวสาร และแยกบางลำพู ทำทีตีสนิทหลอกขายบริการทางเพศให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่เหยื่อปฏิเสธ ก่อนแกล้งทะเลาะอาศัยจังหวะเผลอลักเอาบัตรเครดิตไปกดเงินสด หรือรูดซื้อสินค้า รับสารภาพ
null
จับแก๊งกะเทยแสบ,จับสาวประเภทสาว,กระเทย ถนนข้าวสาร,ตำรวจ 191,หลอกขายบริการทางเพศ,นักท่องเที่ยว,ชาวต่างชาติ,ฉกบัตรเครดิต,ลักทรัพย์,แก๊งสาวประเภทสอง,อาชญากรรม,ข่าง,ข่าวทั่วไทย,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/692222
เทศบาลอุบลฯสั่งระงับใช้อาคาร รร.ปทุมรัตน์ รอผลเพลิงไหม้
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ แสงจันทร์ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี น.ส.สมปราถนา วิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี นายชัยศักดิ์ ปิยะประสิทธิ์ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจ.อุบลราชธานี เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุไฟไหม้ภายในโรงแรมปทุมรัตน์ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (13 ธ.ค.) ,จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ต้นเพลิงอยู่ที่ห้องเก็บของ ชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ติดตั้งเครื่องควบคุมระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ของทางโรงแรม และยังเก็บของเก่าไว้เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังคงมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากกองกระดาษ หนังสือพิมพ์เก่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ใช้น้ำฉีดน้ำดับในทันที จากการตรวจสอบพบเพลิงได้ลุกลามสร้างความเสียหายบริเวณ ชั้น 1 ชั้น 2 ของโรงแรมส่วนหน้า ซึ่งเป็นบริเวณต้อนรับลูกค้าเท่านั้น ส่วนชั้น 3 ที่มีนักท่องเที่ยวเปิดห้องพักไว้ไม่ได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันได้มีนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมในช่วงคืนเกิดเหตุ ได้ทยอยมารับกระเป๋า สัมภาระ เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา,นายมิตร ติลลักษณ์ อายุ 72 ปี ผู้จัดการโรงแรม เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยว เปิดห้องพัก จำนวน 8 ห้อง และมีผู้อยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 12 คน มีอาการสำลักควัน จำนวน 3 ราย ต้องนำส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และนอนรอดูอาการ 1 คืน ซึ่งในวันนี้แพทย์อนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ ส่วนนักท่องเที่ยวอีกส่วนหนึ่งที่เปิดห้องพักไว้ได้ออกไปรับประทานอาหารข้างนอก จำนวน 3 คน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสัญชาติอเมริกัน 2 ราย เดินทางมาตรวจสอบรับสัมภาระคืนไปเรียบร้อยแล้ว และทางโรงแรมก็คืนเงินให้ลูกค้าทั้งหมด สำหรับการประเมินความเสียหาย เบื้องต้น คาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสำรวจความเสียหายอย่างชัดเจนก่อนจะทำการปรับปรุง และดำเนินการซ่อมแซมเพื่อเปิดให้บริการต่อไป ในส่วนของการทำประกันโรงแรมนั้น ไม่มีการทำประกันไว้แต่อย่างไร,ด้านนายชัยศักดิ์ ปิยะประสิทธิ์ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักงานโยธาธิการและฝังเมือง จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตนได้นำเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและฝังเมือง จ.อุบลราชธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลนครอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบความเสียหายภายในโรงแรมพบว่า เพลิงได้เผาไหม้ภายในโรงแรมได้รับความเสียหายบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วนต้อนรับ ห้องประชุม และห้องอาหาร ส่วนห้องพักตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด,เบื้องต้นเทศบาลนครอุบลราชธานีได้สั่งระงับการใช้อาคารแล้ว เพื่อความปลอดภัย และหากเจ้าของโรงแรมต้องการดำเนินกิจการต่อต้องให้วุฒิวิศวกรเข้ามาตรวจสอบรับรองการใช้งานก่อนจึงจะสามารถเปิดใช้งานได้ ซึ่งคาดว่าฐานรากของโรงแรมน่าจะไม่ได้รับกระทบมากนักเพราะเพลิงลุกไหม้ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่หากไหม้เกิน 2 ชั่วโมงต้องระงับการใช้งานถาวร อย่างไรก็ตามต้องให้วุฒิวิศวกรมาตรวจรับรองอีกครั้ง,ผู้สื่อข่าวรายงานต่ออีกว่า ในวันนี้ โรงแรมที่เกิดเหตุยังมีกำหนดการอบรมครู Dare รุ่นที่ 195 ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 โดยจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14-24 ธ.ค.2558 มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 48 คน และวิทยากรอีก 10 คน เมื่อเกิดเหตุดังกล่าว จำเป็นต้องเลื่อนการอบรมไปอย่างไม่มีกำหนด.
เทศบาลนครอุบลฯ สั่งระงับการใช้อาคารโรงแรมปทุมรัตน์ หลังเกิดเหตุไฟไหม้ จนได้รับความเสียหายในชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 โดยมองถึงเพื่อความปลอดภัย จึงจะต้องให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบรับรองการใช้งานก่อน
null
ไฟไหม้โรงแรม,ไฟไหม้ รร.ปทุมรัตน์,โรงแรมปทุมรัตน์ อุบล,สิทธิศักดิ์ แสงจันทร์,ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี,สมปราถนา วิกรัยเจิดเจริญ,นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี,ชัยศักดิ์ ปิยะประสิทธิ์,มิตร ติลลักษณ์,ผู้จัดการโรงแรมปทุมรัตน์,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย
https://www.thairath.co.th/content/548825
มทภ.4 เผย รู้ตัวผู้ก่อเหตุระเบิด รร.ซีเอสปัตตานีแล้ว
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ตอนนี้พอทราบกลุ่มก่อเหตุระเบิดในรถยนต์ หรือ คาร์บอมที่ โรงแรมซีเอสปัตตานีแล้ว แต่หลังได้สำรวจดูตั้งแต่ช่วงรอมฎอนที่ผ่านมา พบว่าเป็นกลุ่มที่มีความคิดสุดโต่ง คิดว่าถ้าทำแล้วจะได้บุญ ซึ่งปีก่อนๆก็มีการทำลักษณะนี้ แต่น้อยลดลงมาก เพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานกันอย่างเข้มงวด และทางโรงแรมซีเอสปัตตานีมีการดูแลความปลอดภัยตนเองอย่างเข้มงวดเช่นกัน จนคนร้ายไม่สามารถก่อเหตุด้านหน้าได้ ต้องไปด้านหลังแทน จุดเซฟตี้โซนคนร้ายไม่สามารถเข้าได้อยู่แล้ว ส่วนช่องว่างทั้งหลายที่อาจเป็นช่องโหว่ให้คนร้ายก่อเหตุ จะมีการปรับต่อไปส่วนรถที่นำมาประกอบระเบิด ตรวจสอบทราบว่าเป็นรถที่ถูกชิงมา และฆ่าเจ้าของรถยนต์เสียชีวิตไป 3 คน และทราบว่ามีการเตรียมระเบิดรถยนต์อีก 5 คัน กำลังเร่งตรวจสอบ แต่เนื่องจากรถมีความคล้ายคลึงกัน และอาจกระทบกับประชาชน จึงต้องขอความร่วมมือกับประชาชนด้วย โดยประชาชนสามารถโทรแจ้งเบาะแสได้ที่ 1341 ตลอดเวลาหากพบรถต้องสงสัย ส่วนรถที่สูญหายหรือมีการปล้นชิงกันในพื้นที่ ตอนนี้มีแผนจัดการและสามารถยึดคืนได้บางส่วน แต่ขอไม่แจ้งยอดจำนวนทั้งหมดอย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้(31 ก.ค.) นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง พร้อมทั้งให้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นในกรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์ถาวรที่ตั้งขึ้นจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพื่อเป็นจุดบัญชาการการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นการรวมหน่วยงานทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมไปถึงกระทรวงทั้ง 17 กระทรวง โดยมี 2 รองนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยดูแล โดยมีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. เป็นฐานในการจัดศูนย์ฯและคอยทำหน้าที่เลขาของศูนย์ฯ
แม่ทัพภาคที่ 4 เผยว่า ทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุ ระเบิดในรถยนต์ที่ โรงแรมซีเอสปัตตานีแล้ว หลังตรวจสอบตั้งแต่ช่วงเดือนรอมฎอน
ภูมิภาค
คาร์บอม,ซีเอสปัตตานี,รอมฎอน,ระเบิด,แม่ทัพภาค 4,โรงแรม
https://news.thaipbs.or.th/content/102023
ทนายดังหวิดดับ ขับเก๋งตกถนน กระแทกต้นไม้
เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2558 พ.ต.ท.อารินทร์ เทพพรหมวงศ์ พงส.ผนพ.สภ.เมืองพะเยา รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งพลิกคว่ำตกข้างถนนซุปเปอร์ไฮเวย์สายพะเยา-เชียงราย ขาขึ้น ใกล้สี่แยกประตูชัย หน้าโรงเรียนพะเยาพิทยาคม มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยกลางพะเยารวมใจ และรถยกประตูชัย 4,ที่เกิดเหตุพบ รถยนต์เก๋งโตโยต้าสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค 3747 พะเยาในสภาพตะแคงขวาเบียดกับต้นไม้ ด้านล่างของรถเสียหายทั้งแถบ ยางล้อหน้า และหลังด้านขวาแตก กระจกหน้าแตก มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ในรถ หน่วยกู้ภัยรีบช่วยเหลือช่วยนำร่างออกมา,ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ คือ นายทองคำ ไชยลังกา อายุ 55 ปี อาชีพทนายความ เป็นทนายชื่ิดังคนหนึ่งใน จ.พะเยา ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกและบริเวณลำตัวกระแทกกับตัวรถ หน่วยกู้ภัยนำส่งรพ.พะเยา,จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ถนนบริเวณดังกล่าวนั้นมีการปรับปรุงก่อสร้างถนนใหม่ ทำให้ถนนจาก4เลน เหลือให้รถวิ่งได้เพียง 1เลน นอกจากนั้นถนนยังมีการขุดเพื่อเตรียมบดอัดและเทคอนกรีต ซึ่งมีการติดตั้งแสงไฟกระพริบทั้งแดง ขาว แต่ติดเพียงด้านเดียว คือด้านที่ขุดถนน แต่อีกด้านคือด้านซ้ายของถนนซึ่งมีขอบถนนลึกลงไปกว่า2 เมตร ไม่มีแสงไฟ คาดว่ารถเก๋งของทนายความขับมาแล้วพลัดตกลงไปข้างทาง ทำให้พลิกคว่ำไปติดกับต้นไม้ จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งตำรวจจะสอบสวนผู้รับผิดชอบต่อไป.
ทนายความชื่อดังเมืองพะเยา ขับรถเก๋งผ่านถนนที่มีการสร้างตอนกลางคืน มองไม่เห็นข้างทางที่เป็นร่องลึกเพราะไม่มีไฟแสงสว่าง ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถตกลงไปพลิกกระแทกกับต้นไม้ได้รับบาดเจ็บ ตร.เตรียมเรียกสอบผู้รับผิดชอบ
ข่าว,ทั่วไทย
อุบัติเหตุ,รถเก๋งตกถนน,ทนายความ,ทนายดัง,ทนายหวิดดับ,ทองคำ ไชยลังกา,แพร่,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค
https://www.thairath.co.th/news/local/484327
บุรีรัมย์ เด็ดท้ายเกม บุกดับ แบงค็อก คาบ้าน 1-0
การแข่งขันศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2562 โดยคู่ที่น่าสนใจ แข้งเทพ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อันดับ 3 เปิดบ้านมือแชมป์เก่า ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 ของตาราง ,เริ่มเกมในครึ่งแรกนาทีที่ 25 บุรีรัมย์ได้ลุ้นก่อน เปโดร จูเนียร์ กระชากบอลถึงเส้นหลังก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ศุภชัย ใจเด็ด ยิงหลุดเสาสองออกหลังไป,ถัดมานาทีที่ 33 ทีมเยือนมีลุ้นอีกครั้ง จากการปั่นด้วยขวาของ เปโดร จูเนียร์ แต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0,ครึ่งหลังนาทีที่ 49 สรรวัชญ์ เดชมิตร วางบอลตัดแนวรับบุรีรัมย์ให้กับ ทริสตอง โด หลุดเข้าไปยิงมุมแคบ แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังทุบทิ้งออกไปได้ทัน,เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่ในนาทีที่ 84 บุรีรัมย์ ก็มาได้ประตูปลดล็อกขึ้นนำ 1-0 ศศลักษณ์ ไหประโคน วางบอลข้ามฟากมาให้ เปโดร จูเนียร์ ลากบอลหลบแนวรับเจ้าถิ่น ก่อนกดด้วยขวาเต็มข้อตุงตาข่าย,นาทีที่ 86 แข้งเทพเกือบตีเสมอได้ ไมค์ ฮาร์ฟนาร์ โหม่งชงให้ เนลสัน โบนีญา ซัดมุมแคบเต็มแรง แต่นายทวารบุรีรัมย์ยังโชว์ซุปเปอร์เซฟอีกครั้ง,ทำให้จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาเฉือนเอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่น 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 8 แต้มจาก 4 นัด ขณะที่แข้งเทพยังหยุดอยู่ที่ 7 แต้มเท่าเดิม.,ผลการแข่งขันในคู่อื่น,การท่าเรือ เสมอ พีทีที ระยอง 1-1,สมุทรปราการ ซิตี้ เสมอ สุโขทัย 0-0
เปโดร จูเนียร์ สังหารประตูชัยในช่วงท้ายเกม ช่วยให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมากำชัยเหนือ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปแบบเจ็บแสบ 1-0 ในศึกไทยลีก
กีฬา,ฟุตบอลไทย
ผลบอล,ไทยลีก,ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
https://www.thairath.co.th/sport/thaifootball/1521746
ปีกว่ายังไม่ทุเลา อัยการมิชิแกนสั่งสอบ วิกฤติน้ำประปาปนเปื้อนสารตะกั่ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (15 ม.ค.) สำนักงานอัยการรัฐมิชิแกนเริ่มการสอบสวนในเหตุ วิกฤติน้ำประปาปนเปื้อนสารตะกั่วที่เมืองฟลินต์ ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2014 ส่วนผู้ว่าการรัฐมิชิแกนเรียกร้องให้ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติ ในขณะที่ทหารของกองกำลังป้องกันชาติกระจายกำลังออกไปทั่วเมืองฟลินต์ เพื่อแจกจ่ายน้ำดื่มบรรจุขวด, เครื่องกรองน้ำ และอุปกรณ์ทดสอบคุณภาพน้ำ,วิกฤติน้ำปนเปื้อนสารตะกั่วในเมืองฟลินต์เกิดขึ้นในช่วงเดือนเม.ย. 2014 โดยรัฐบาลท้องถิ่นของเมืองฟลินต์ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในการควบคุมของนาย ดาร์เนลล์ เออร์ลีย์ ผู้จัดการฉุกเฉิน ตัดสินใจเปลี่ยนแหล่งน้ำประปาใหม่จากทะเลสาป ฮิวรอน เป็นแม่น้ำฟลินต์เพื่อลดงบประมาณเนื่องจากปัญหาทางการเงิน และมีเสียงบ่นจากประชาชนแทบจะในทันทีว่า พบน้ำเปลี่ยนสี, มีกลิ่นและมีรส จากนั้นมีการตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย จึงเริ่มมีการตัวสอบน้ำด้วยวิธีการทางเคมี เพื่อหาการปนเปื้อนหลายๆแบบ แต่ทางการรัฐมิชิแกนยังยืนยันว่า ปัญหานี้ถูกจัดการแล้ว และน้ำประปาปลอดภัย,จนกระทั่งเดือนก.ย. 2015 หน่วยงาน เวอร์จิเนีย เทค ออกมาเปิดเผยหลักฐานว่าน้ำปกเปือนสารตะกั่ว โดยผลการตรวจสอบพบว่าน้ำในแม่น้ำฟลินต์มีฤทธิ์เป็นกรดทำให้สารตะกั่วละลายจากท่อประปาที่มีอายุมากปนเปื้อนแหล่งน้ำในระดับสูงมาก ขณะที่ทางการเมืองฟลินต์เปลี่ยนแถลงน้ำประปากลับไปใช้ทะเลสาปฮิวรอนตามเดิมในเดือนต.ค. และยอมรับว่าน้ำปนเปือนสารตะกั่วเป็นครั้งในเดือนพ.ย. 2015,เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา นายบิล ชูตี อัยการสูงสุดรัฐมิชิแกนประกาศว่า สำนักงานของเขาจะดำเนินการสืบสวนว่า มีการละเมิดกำหมายของรัฐอันส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์น้ำประปาปนเปื้อนครั้งนี้หรือไม่ ขณะที่สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและกระทรวงยุติธรรมก็กำลังสืบสวนในเรื่องเดียวกัน,อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถเปิดเผยไก้ว่ากำลังใครหรือหน่วยงานใดตกเป็นเป้าหมายของการสืบสวน แต่รายงานจากหน่วยงานเฉพาะกิจ ซึ่งแต่งตั้งโดย ริค สไนเดอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ที่เพิ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้กล่าวโทษสำนักงานคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นต้นเหตุทำให้น้ำปนเปือน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และตอบสนองต่อความกังวลเรื่องการปนเปื้อนในแม่น้ำฟลินต์ด้วยการปลดและพยายามดิสเครดิตผู้ที่เกี่ยวข้อง,ทั้งนี้ วิกฤตการณ์น้ำประปาป้นเปื้อนที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวเมืองฟลินต์ที่มีประมาณ 99,000 คน ไม่สามารถใช้น้ำประปาเพื่อดื่ม, ประกอบอาหา หรืออาบน้ำได้ ขณะที่ทางการรัฐมิชิแกนจะพบประชาชน 43 คน ล้มป่วยจากอาการระดับสารตะกั่วในเลือดสูง โดยสารตะกั่วเป็นพิษต่อระบบประสาทและส่งผลต่อการพัฒนาสมองของเด็ก ไม่เพียงเท่านั้น ทางการเพิ่งเปิดเผยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ในปี 2014-2015 มีผู้ป่วยโรคปอดอักเสบลีเจียนแนร์ (Legionnaires disease) ในเขต เจเนซี ในเมืองฟลินต์เพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับปัญหาน้ำประปาปนเปื้อนหรือไม่
สำนักงานอัยการรัฐมิชิแกนเริ่มการสอบสวนในเหตุ วิกฤติน้ำประปาปนเปื้อนสารตะกั่วที่เมืองฟลินต์ ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2014 เพื่อหาว่ามีการละเมิดกฎหมายจนทำให้เกิดวิกฤติครั้งนี้หรือไม่
null
อัยการ,รัฐมิชิแกน,สอบสวน,วิกฤติน้ำประปาปนเปื้อน,น้ำประปา,น้ำปนเปื้อน,สารตะกั่ว,เมืองฟลินต์,ประธานาธิบดี,บารัค โอบามา,สถานการณ์ภัยพิบัติ,กองกำลังป้องกันชาติ,น้ำดื่มบรรจุขวด,เครื่องกรองน้ำ,คุณภาพน้ำ,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/563831
อัพเดต 6 ของใหม่จาก Apple ทั้ง iOS 11 MacBook HomePod
มาต่อแถวรออัพเดตให้สายไอทีอย่างเราๆ ได้เกิดกิเลสกันอีกแล้ว โดยในงานมีทั้งการอัพเดตเรื่องราวของ iOS เวอร์ชั่นใหม่ / MacBook / Apple TV และอื่นๆ อีกมากมาย (แต่ iPhone รุ่นใหม่ยังไม่มานะคะ รอไปก่อน น่าจะกันยายนเลย) วันนี้เฟื่องจะพาทุกคนมาดูไฮไลต์เด็ดของงานกันค่ะ ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง,1. iMac Pro,Apple ได้เปิดตัว iMac Pro ตัวใหม่ มาพร้อมกับหน้าจอเรตินาที่แสดงผลได้ดีกว่าเดิม ทั้งในเรื่องของกราฟิกและรองรับการเล่นของวิดีโอ VR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมตัว Xeon Processor ถึง 8 core (สามารถอัพเกรดได้ถึง 18 core) ความจุ SSD ถึง 4TB พอร์ต แถม Thunderbolt 3 ก็มีมาให้ถึง 4 พอร์ตแน่ะ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $4,999 (ประมาณ 174,965 บาท) และเริ่มส่งมอบในเดือนธันวาคมปีนี้นั่นเอง รุ่นนี้น่าจะเหมาะกับคนทำงานสายกราฟิกหนักๆ น่าจะฟิน แต่ราคาก็แรงอยู่ทีเดียว (อนาคตน่าจะมาแทน MacPro หรือไอ้ถังๆ ประสิทธิภาพสูง ราคากระฉูดนั่นแหละค่ะ),2. iOS 11,ตื่นเต้นกันใหญ่สำหรับสายไอโฟน เพราะ iOS 11 นี้มีการปรับเปลี่ยนปรับปรุงมากมาย เพื่อตอบสนองผู้ใช้ไอโฟนทุกท่าน เริ่มด้วยการอัพเดต Siri ที่มีการพัฒนาในด้านของการตอบโต้ และการแปลภาษาให้ถูกต้องและแม่นยำ หรือจะเป็นการที่ iMessage ย้ายไปอยู่ใน iCloud เราก็จะสามารถลบบทสนทนาจากอุปกรณ์เครื่องไหนก็ได้ที่ใช้ Account เดียวกัน,ที่น่าสนใจก็คือระบบความปลอดภัยระหว่างที่เราขับรถ เจ้าระบบ iOS จะสามารถตรวจจับและเปิดโหมด Do Not Disturb เพื่อลดการรบกวนได้อีกด้วย เรียกได้ว่าอัจฉริยะจริงๆ เลยค่ะ สุดท้ายอีกสิ่งที่ลืมไม่ได้คือ App Store มีการอัพเดตให้ค้นหาง่ายขึ้น แถมยังนำ App of the day กลับมาอีกด้วย,3. iOS for iPad,iOS 11 สำหรับ iPad นี้พิเศษตรงที่ว่า ผู้ใช้สามารถที่จะดึงแอปพลิเคชันขึ้นมา แล้วทำเป็นหน้าจอแยกสองฝั่งได้ คล้ายๆ กับ MacBook เราสามารถที่จะดึงไฟล์ รูป หรือโฟลเดอร์จากแอปนึงไปใส่อีกแอปนึงได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว เวลาส่ง Mail หรือ iMessage ก็จะได้ไม่ต้องกด insert ให้ยุ่งยากอีกต่อไปแล้วค่ะ (แต่เอ๊ ยังมีใครใช้ iPad อยู่ไหมน๊า),4. iPad Pro 10.5 นิ้ว, ใครจะถอย iPad Pro มีไซส์ใหม่มาแล้วนะคะ คือ 10.5 นิ้ว กับ 12.9 นิ้ว (9.7 นิ้ว ไม่มีแล้วจ้า จะเป็น iPad ธรรมดาแทน) โดยภายในงานได้มีการแนะนำเจ้าตัวโมเดล 10.5 นิ้ว ที่มาพร้อมกับกล้อง 12 megapixel แบบเดียวกับ iPhone 7 รองรับ USB 3.0 และแบตเตอรี่ที่อึดทนนาน 10 ชั่วโมง,แถมยังมี Feature ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาชื่อว่า ProMotion ที่สามารถรับรอง Apple Pencil ได้ไวและแม่นยำมากขึ้น โดย iPad Pro ใหม่ตัวนี้จะมีความจุเริ่มที่ 64GB ด้วยราคา $649 (ประมาณ 22,715 บาท) สั่งซื้อออนไลน์ได้แล้ววันนี้ ส่งมอบของอาทิตย์หน้าเป็นต้นไป ใครสนใจก็ไปจับไปจองกันเลยค่ะ,5. New MacOS High Sierra,เวอร์ชั่นใหม่ของ MacOS ที่กำลังจะมา จะใช้ชื่อว่า High Sierra สิ่งที่มาพร้อมกับเจ้า MacOS ตัวใหม่นี่ก็คือ Safari ที่จะช่วยบล็อก site tracker แล้วก็พวก Autovideo Playing แถมสายแต่งรูปเตรียมเฮ ถึงใช้ Photoshop ไม่เป็น แต่เขาก็มีเครื่องมือแบบ Curves มาให้ในการ Edit รูป อีกทั้งยังค้นหารูปด้วยการ detect ด้วยใบหน้าได้อย่างแม่นยำอีกด้วย,และที่เฟื่องว่าน่าสนใจคือ เรื่อง VR และ AR ที่กำลังมาแรง ซึ่งในส่วนนี้ Apple ก็ไม่พลาดที่จะจับมาเป็นจุดขาย โดย Apple ได้พัฒนาให้ MacOS นี้ มีกราฟิกที่รองรับกับเทคโนโลยี VR และประกาศกร้าวว่าจะจริงจังกับการเปิดพื้นที่ให้นักพัฒนามาแตะต่อยอดเทคโนโลยี AR แบบเต็มสตรีมอีกด้วย เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่เบาเลยล่ะค่ะ,6. HomePod,ไอเทมใหม่ล่าสุดจาก Apple เป็นลำโพงอัจฉริยะที่มีไมโครโฟน ใช้ตอบโต้พูดคุยกับ Siri ได้ และที่เจ๋งคือ เขารองรับการทำงานของ HomeKit สั่งให้ Siri ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ (รองรับเทรนด์ Smart Home ที่มาชัวร์ๆ) หน้าตาดี มีฟังก์ชั่นเด็ด แต่เสียใจด้วยนะคะ ยังไม่เข้าไทยจ้า สาวกคนไหนอยากจับจองก่อน ไปหาซื้อได้ วางขายในอเมริกา / อังกฤษ / ออสเตรเลีย เดือนธันวาคมนี้ค่า,เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเทคโนโลยีใหม่ๆ จาก Apple ที่เฟื่องนำมาเสนอวันนี้ คิดว่าน่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่เราต้องติดตามไปเรื่อยๆ เพราะว่า Apple เขาพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาให้เราได้ร้องว้าวตลอด ยังไงก็รอติดตาม WWDC ครั้งหน้าด้วยนะคะว่าจะตื่นตาตื่นใจขนาดไหน,ที่มาภาพ - ,apple.com,เจอกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ,ABOUT ME,Instagram: ,http://www.instagram.com/faunglada, ,Facebook: ,http://www.facebook.com/faunglada, ,Youtube: ,http://www.youtube.com/faunglada, ,Twitter: ,http://twitter.com/faunglada, ,Blog: ,http://www.faunglada.com, 
เพิ่งจบกันไปกับงาน WWDC 2017 (World Wide Developers Conference) จากแบรนด์ดังแห่งยุค Apple ที่งานนี้เรียกได้ว่ารวมมันสมองของนักพัฒนาและเทคโนโลยีใหม่ๆ
คนดังนั่งเขียน,ข่าว
คนดังนั่งเขียน,เฟื่องลดา,Apple,งาน WWDC 2017,iMAC PRO ตัวใหม่,ข่าวไอที
https://www.thairath.co.th/news/tech/966257
Enemies of the People ฉันอยู่นี่ศัตรูที่รัก
เกิดขึ้นจากคำถามในใจของผู้กำกับร่วม เต็ต สมบัติ (Thet Sambath) ซึ่งเป็นคำถามเดียวกับคำถามที่คนทั้งโลกเฝ้าสงสัยมาเป็นเวลากว่าสามสิบปีว่า ทำไมจึงมีผู้คนเสียชีวิตมากมายกว่าสองล้านคนในระยะเวลาเพียง 4 ปี (1975-1979) ที่เขมรแดง (Khmer Rouge) ปกครองกัมพูชา เต็ต สมบัติในฐานะเหยื่อคนหนึ่งของระบอบเขมรแดง -เนื่องจากพ่อของเขาถูกทหารเขมรแดงฆ่าตาย แม่ถูกบังคับให้แต่งงานกับทหารเขมรแดงและตายเนื่องจากคลอดลูก อีกทั้งพี่ชายก็หายสาบสูญไปช่วงนั้น- เฝ้าเก็บความสงสัยและความเจ็บปวดไว้ในใจมาตลอดชีวิต จนเมื่อเขามีโอกาสใกล้ชิดกับนวน เจีย ผู้เป็นที่รู้จักกันดีในนามพี่ชายหมายเลขสองของระบอบเขมรแดง (พี่ชายหมายเลขหนึ่งคือพอล พต) เต็ต สมบัติ ตัดสินใจว่า เขาต้องทำสารคดีเพื่อหาคำตอบให้กับคำถามนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ และส่วนหนึ่งเพื่อปลดปล่อยและเยียวยาบาดแผลในจิตใจของตัวเขาเอง [3] เช่นที่มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ภาพยนตร์สารคดีคือความจริงในสายตาผู้เล่าเรื่อง เต็ต สมบัติพาคนดูติดตามระยะเวลากว่าสิบปีที่เขาร่วมงานกับนวน เจีย ในฐานะคนทำหนังสารคดีและบุคคลที่เป็นประเด็นของหนัง (Subject) พาไปดูกระบวนการทำงานและความยากลำบากที่เขาต้องเผชิญในฐานะคนทำหนังเมื่อบุคคลที่เป็นประเด็นของหนังอย่าง นวน เจีย ที่แม้จะสูงวัย แต่ยังคงมีลักษณะของนักการเมืองผู้ผ่านสนามมาอย่างโชกโชน เต็ต สมบัติ พาคนดูไปสัมผัสกับชีวิตของเขาหลังจากสูญเสียพ่อแม่และความรู้สึกของครอบครัวที่แม้จะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่เคยคัดค้านตลอดเวลากว่าสิบปีที่เขาทุ่มเทให้กับการค้นหาความจริงมากกว่าสิ่งอื่นใด เต็ต สมบัติพาคนดูไปพบไปพูดคุยกับอดีตนักฆ่าแห่งทุ่งสังหารผู้เคยปลิดชีวิตประชาชนชาวกัมพูชาศพแล้วศพเล่าในยุคเขมรแดงเรืองอำนาจ เหนือสิ่งอื่นใด คือคำบอกเล่าของนวน เจีย เกี่ยวกับการปกครองและอุดมการณ์ทางการเมืองของเขมรแดง ซึ่งอาจจะถือได้ว่าเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่หลังการเสียชีวิตของพอล พต ในแง่ของกลวิธีการเล่าเรื่อง Enemies of the People อาจจะไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก เมื่อเทียบกับสารคดียุคใหม่ แม้กระทั่งสารคดีเกี่ยวกับเขมรแดงอย่าง S-21: The Khmer Rouge Killing Machine ของผู้กำกับฤทธี ปาน (Rithy Panh) ที่นำผู้รอดชีวิต 2 คนจากคุกตวลสแลงหรือ Security Prison 21 มาเผชิญหน้ากับผู้คุม ผู้ทำประวัติ แพทย์ และช่างภาพที่เคยทำงานในคุกตวลสแลงภายใต้ระบอบเขมรแดง การเล่าเรื่องของ Enemies of the People นั้นเรียบง่ายตรงไปตรงมา ผ่านมุมมองของเต็ต สมบัติ ในฐานะเหยื่อของระบอบเขมรแดง แต่สิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ในสารคดีเรื่องนี้คือข้อมูลทางประวัติศาสตร์จากปากของผู้นำเขมรแดงระดับสูงอย่างนวน เจีย เพราะหลังจากยุคเรืองอำนาจของเขมรแดงสิ้นสุดลง มีหนังสือและตำราวิชาการมากมายที่เขียนและวิเคราะห์ถึงความโหดร้ายและความเป็นมาเป็นไปของระบอบเขมรแดง แต่ข้อมูลทั้งหมดล้วนแล้วแต่มาจากสองฝ่ายคือ 1) เหยื่อของระบอบเขมรแดงชาวกัมพูชา 2) นักวิชาการและนักเขียนต่างชาติ แต่ไม่เคยมีใครได้รับรู้ถึงอุดมการณ์เบื้องหลังและวิธีคิดของเหล่าผู้นำระดับสูงอันเป็นที่มาของปรากฏการณ์ทุ่งสังหาร ข้อสังเกตที่น่าสนใจประการหนึ่ง คือการปฏิวัติในสังคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ว่าจะเป็นลาว กัมพูชา หรือเวียดนามมักจะไม่ใช่การปฏิวัติตามอุดมการณ์ชนชั้นแบบมาร์กซ์หรือเลนิน แต่อาศัยประโยชน์จากลัทธิชาตินิยมมาเป็นฐานในการปฏิวัติ ในกรณีเขมรแดงก็เช่นกัน นอกจากการปลดปล่อยประชาชาติกัมพูชาจากจักรวรรดินิยมอเมริกาแล้ว หลังจากปฏิวัติกัมพูชาสำเร็จ นวน เจีย เล่าให้เต็ต สมบัติ ฟังว่า หลังจากปฏิวัติกัมพูชาสำเร็จ ตัวเขาและพอล พต พยายามสร้างสังคมที่เท่าเทียม ก้าวหน้า และสงบสุข แต่เขมรแดงทำพลาดเมื่อปล่อยให้ศัตรูแทรกซึมเข้ามาทำลาย ดังนั้นเขาจึงยืนยันว่าสิ่งที่เขาและพอล พต ทำลงไปนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะคนเหล่านั้นเป็น ศัตรูของประชาชน นอกจากนวน เจีย แล้ว การติดตามไปสัมภาษณ์มือสังหารระดับหมู่บ้านและผู้นำระดับแขวงในยุคเขมรแดงก็เป็นส่วนที่น่าสนใจมากเช่นกัน มือสังหารในระดับหมู่บ้านอย่างลุงสูนและลุงคูนอาจจะฆ่าคนเพียงเพื่อเอาตัวรอดในยุคเขมรแดง แต่สิ่งที่น่าสนใจคืออุดมการณ์เบื้องหลังความคิดของผู้นำระดับแขวงอย่างป้าเอมที่กล่าวกับเต็ต สมบัติว่า เธอเสียใจเสมอเมื่อนึกว่าตัวเองอาจจะเคยออกคำสั่งสังหารผู้บริสุทธิ์ แต่ไม่เคยเสียใจที่ออกคำสั่งสังหารผู้ทรยศชาติทรยศแผ่นดิน และแม้กระทั่งวันที่เต็ต สมบัติ พามือสังหารระดับหมู่บ้านทั้งสองคนไปพบกับนวน เจีย นวน เจียยังบอกกับมือสังหารทั้งสองคนว่า พวกเธอจงภูมิใจที่ได้มีโอกาสทำเพื่อชาติ ความหมายของชาติในสายตาของป้าเอมและนวน เจีย นั้นน่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเทียบเคียงกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงในเวลานี้ แม้ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบต่างยุคต่างสมัยก็ตาม เพราะในยุคสมัยของเขมรแดง เป็นช่วงที่สงครามเย็นส่งผลกระทบไปทั่วภูมิภาคเอเชีย และเป็นช่วงใกล้เคียงกับเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 (1973) และ 6 ตุลาคม 2519 (1976) ในประเทศไทย ความหวาดระแวงการล้มครืนของโดมิโนและการปะทะกันของสองขั้วอำนาจคอมมิวนิสต์อย่างจีนและโซเวียตได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนคนธรรมดาในกัมพูชาอย่างมหาศาล แต่ในยุคโพสต์โมเดิร์น-ในศตวรรษที่ 21-ในประเทศเพื่อนบ้านของกัมพูชา ไม่น่าเชื่อว่าอุดมการณ์ชนิดและรูปแบบเดียวกันยังสามารถทำงานรับใช้ผู้กำหนดนิยามคำว่า ชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้อุดมการณ์ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ (อุดมการณ์หลักของชาติ) เราสามารถมองดูเพื่อนร่วมชาติตายไปโดยไม่รู้สึกอะไรเพราะเขาและเธอเหล่านั้นเป็นศัตรูของชาติ ภายใต้อุดมการณ์ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ เราต้องไล่ล่าและทำลายล้างผู้คนที่มีความคิดเห็นแตกต่างเพราะเขาและเธอเหล่านั้นเป็นภัยต่อสถาบันหลัก ภายใต้อุดมการณ์ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ เราสนับสนุนให้กองทัพทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้อุดมการณ์ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ หลายคนเชื่อว่า ตนเองกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องในการปกป้องความเป็นชาติไทย ไม่ต่างกับที่นวน เจีย ยืนยันว่าเขาและพอล พตได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้กัมพูชาสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน . หมายเหตุ Enemies of the People เข้าฉายที่โรงเอสเอฟซีนีม่า เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2554 ในโครงการ Directors Screen Project ของบริษัทเอ็กซ์ตร้า เวอร์จิ้น http://www.extravirginco.com/enemiesofthepeople อ้างอิง ชื่อหนังสือรวมเรื่องสั้นของ ส. เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ชมตัวอย่างภาพยนตร์ Enemies of the People และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://enemiesofthepeoplemovie.com/ อ่านความคิดเห็นของผู้กำกับ เสวนา : Enemies of the people ว่าด้วยเบื้องหลังการฆ่าล้างศัตรูประชาชน http://www.prachatai3.info/journal/2011/05/34678
Enemies of the People ฉันอยู่นี่ศัตรูที่รัก [1] (บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์) ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Enemies of the People [2] หรือชื่อไทยว่า ศัตรูประชาชน
การเมือง,วัฒนธรรม
Enemies of the people,Truffaut Francois said,ภาพยนตร์,เขมรแดง
https://prachatai.com/journal/2011/05/34823
My Body My Weapon นิทรรศการร่างกาย คือ อาวุธ
อาวุธไม่อาจทำลายจิตใจ และวิญญาณในร่างกายที่โดนทำร้ายรังแก ความหมายของบทกวี ที่อยู่เหนือภาพสีอะคริลิครูปหญิงสาวร่างเปลือยเปล่าถูกกักขังไว้ภายในกรง ซึ่ง ทราย วรรณพร ฉิมบรรจง ตั้งใจสื่อพลังของเพศหญิงที่สู้กับความอยุติธรรม มีเพียงร่างกายเป็นอาวุธ ในงานศิลปะชุด My Body My Weapon โดยได้แรงบันดาลใจจาก อิรอม ชาร์มีลา ชานุ สตรีอินเดียที่มีบทบาทต่อสู้ทางการเมืองโดยใช้สันติวิธิ เช่น การอดอาหาร ประท้วงการใช้กฎหมายคุกคามประชาชนต่างชาติพันธุ์ ในรัฐมณีปูร์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ผู้หญิงในภาพทั้ง 8 ยังสะท้อนถึงสถานการณ์ผู้หญิงในอินเดีย และเชื่อมโยงกับผู้หญิวทั่วทุกมุมโลก วรรณพร ฉิมบรรจง ศิลปิน กล่าวว่า งานนี้ก็เป็นบทกวีนี้แต่งให้ อิรอม ชามีล่า ซึ่งจะแบ่งเป็นวรรคๆ แล้วนำมาเขียนภาพ อยากให้ได้รับรู้ว่าบนโลกนี้ยังมีคนแบบนี้อยู่ ยังคนที่กล้าออกมาต่อสู้ กล้าออกมาเรียกร้องสิทธิ และพูดความจริงให้สังคม กล้าที่จะพูด ไม่ใช่กลัวจนไม่สามารถทำอะไรได้ก่อนหน้าแสดงผลงาน ศิลปะชุด My Body My Weapon ในเมืองไทย วรรณพร นำเสนอผลงานชุดคล้ายกันนี้ในเทศกาลศิลปะประจำปี ที่มหาวิทยาลัยวิศวภารตี เมืองศานตินิเกตัน ประเทศอินเดีย ซึ่งเธอใช้เวลา 2 ปีในการเรียนศิลปะ โดยสะท้อนภาพผู้หญิงผ่านสัญลักษณ์ เช่น ส่าหรี ไม่บ่อยนักที่ศิลปินใช้ศิลปะเรียกร้องให้เพศหญิงในอินเดีย โดยเฉพาะเชื่อมโยงกับเรื่องเพศ และการเมือง จึงมีเสียงตอบรับมาไม่น้อย ส่วนหนึ่งของผลงานจากอินเดีย นำมาให้ชมในรูปแบบวีดิโอ และสร้างสรรค์งานใหม่ในแบบงานเพนท์ติ้ง 8 ปี ที่ทราย วรรณพร ฉิมบรรจง หันหลังให้วงการบันเทิง และเอาจริงเอาจังกับการทำงานศิลปะ นิทรรศการแสดงเดี่ยวที่ผ่านมาแล้ว 7 ครั้ง บอกถึงความตั้งใจที่เลือกเดินบนเส้นทางนี้ นิทรรศการ My Body My Weapon ร่างกายคืออาวุธ จัดแสดงที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
มีคนวงการบันเทิงไม่น้อยที่ค้นพบในสิ่งที่ชอบนอกเหนือไปจากการแสดง และตั้งใจทำในความฝันครั้งใหม่ เช่นเดียวกับ ทราย วรรณพร ฉิมบรรจง หันมาเอาจริงเอาจังกับงานศิลปะมา 8 ปี และ My Body My Weapon ร่างกายคืออาวุธ คือนิทรรศการชุดล่าสุดของเธอ สะท้อนการต่อสู้ของผู้หญิง
ศิลปะ-บันเทิง
My Body My Weapo,ทราย วรรณพร ฉิมบรรจง,นิทรรศการ,ร่างกาย,อาวุธ
https://news.thaipbs.or.th/content/144111
มะกัน-รัสเซีย ประกาศแผนหยุดยิงในซีเรีย เริ่ม 27 ก.พ.นี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐฯ และรัสเซียออกมาประกาศในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. ว่า การหยุดยิงในซีเรีย ในแผนยุติความเป็นศัตรูในซีเรีย ซึ่งชาติมหาอำนาจตกลงกันเมื่อ 12 ก.พ. จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ ท่ามกลางความกังขาจากหลายฝ่ายว่าการหยุดยิงจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่,แถลงการณ์ร่วมระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ระบุว่า การหยุดยิงมีผลกับกลุ่มที่มีส่วนร่วมในความขัดแย้งในซีเรียที่ได้ให้คำมั่นสัญญาและยอมรับในเงื่อนไขของพวกเขา โดยฝ่ายต่อต้านติดอาวุธที่จะร่วมหยุดยิงจะต้องยืนยันการเข้าร่วมของพวกเขาภายในช่วงเที่ยงวันที่ 26 ก.พ.,อย่างไรก็ตาม การหยุดยิงครั้งนี้ไม่รวมกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) และกลุ่มอัล-นุสรา และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ที่สหประชาชาติขึ้นบัญชีเอาไว้ และการโจมตีทางอากาศของซีเรีย, รัสเซีย และกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ต่อกลุ่มเหล่านี้จะดำเนินต่อไป ขณะที่รัฐบาลซีเรียและรัสเซียจะระงับการโจมตีฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลที่ร่วมหยุดยิง,นอกจากนี้ สหรัฐฯ และรัสเซียจะทำงานร่วมกันเพื่อวาดโครงร่างขอบเขตที่แต่ละกลุ่มเคลื่อนไหวอยู่ รวมทั้งตั้งสายด่วน หรือฮอตไลน์ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลุ่มสังเกตการณ์การหยุดยิงด้วย,ด้าน นาย จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาแสดงการต้อนรับข้อตกลงนี้โดยระบุว่า หากข้อตกลงนี้สามารถบังคับใช้และปฏิบัติตามได้ การยุติความเป็นศัตรูจะไม่เพียงนำไปสู่การลดลงของความรุนแรง แต่จะรวมถึงการขยายขอบเขตการแจกเสบียงช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ที่ต้องการเร่งด่วนในพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมอีกด้วย,ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในประเทศซีเรียดำเนินมานานกว่า 5 ปีแล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 250,000 ราย และมีผู้พลัดถิ่นทั้งในและนอกประเทศจำนวนหลายล้านคน ขณะที่สหรัฐฯ และรัสเซียสนับสนุนตัวละครคนละฝ่าย โดยสหรัฐฯ สนับสนุนฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ส่วนรัสเซียสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
สหรัฐฯ-รัสเซีย ประกาศ เริ่มหยุดยิงตามสัญญาของชาติมหาอำนาจในวันที่ 27 ก.พ. นี้ ท่ามกลางความสงสัยว่าการหยุดยิงนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่
null
หยุดยิง,โจมตีทางอากาศ,รัฐอิสลาม,บาชาร์ อัล อัสซาด,ซีเรีย,สหรัฐ,รัสเซีย,ข้อตกลงยุติความเป็นศัตรู,ข่าว,ข่าวต่างประเทศ,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/580984
รักเธอตลอดกาล ฮีโร่ของฉัน ข้อความจากใจภรรยาจ่าแซม
วันนี้ (15 ก.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ น.ต.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม ที่บ้านเกิด จ.ร้อยเอ็ด มีการแจกของที่ระลึกให้ผู้ที่มาร่วมงาน โดยหนึ่งในนั้น คือหนังสือที่ระลึกที่บันทึกเรื่องราวและภาพประทับใจตลอดช่วงชีวิตของ น.ต.สมานไว้ รวมทั้งเป็นหนังสือถ่ายทอดความรู้สึกจากใจคนใกล้ชิด น.ต.สมานในวันที่ฮีโร่ถ้ำหลวงอยู่บนฟ้าความรู้สึกที่มีต่อ จ่าแซม ฮีโร่ถ้ำหลวง ของนางวลีพร กุนัน ภรรยาของ น.ต.สมาน ได้ถูกบันทึกไว้ในหน้าหนึ่งของหนังสือที่ระลึก โดยระบุว่าจากวันแรกที่พบกัน เธอคือผู้ชายเธอเป็นกบที่ใจดี แต่หน้าดุเป็นเหมือนตั้งแต่คบกันมา เธอเป็นคนบอกไม่ฟัง หรือดื้อเงียบ แต่เวลาได้รับมอบหมายให้ทำอะไร เป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น และพี่อั๋นเป็นคนที่น่ารัก เป็นคนรักพี่รักน้องให้ความจริงใจกับทุกคนกับคนรอบข้าง และเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนกับทุกคนที่รู้จัก พี่อั๋นเป็นเพื่อนเข้ากับคนได้ง่าย เป็นคนโรแมนติก ครั้งนี้ก็เป็นพูดไม่รู้เรื่องบ้าง แต่กับคนที่ได้รู้จักรักกันทุกคน ญาติรักพี่อั๋นทุกคนแม้การเสียชีวิตของ น.ต.สมานจะผ่านมานานเกือบ 10 วัน แต่ความอาลัยและคิดถึงของทุกคนยังคงไม่จางหาย และจะคงอยู่ต่อไปตลอดกาลทั้งนี้ นางวลีพร และครอบครัว จะช่วยกันเก็บอัฐิ น.ต.สมาน ก่อนนำเถ้ากระดูกไปลอยอังคารที่แม่น้ำชีในวันนี้ และหลังครบ100 วัน จะนำอัฐิไปลอยอังคาร ที่แม่น้ำโขง จ.นครพนม โดยจะแบ่งอัฐิไว้อีกส่วนเพื่อเก็บไว้ที่วัด ให้ครอบครัวและประชาชนที่ศรัทธาใน น.ต.สมานได้มาแสดงความไว้อาลัย
นางวลีพร กุนัน ภรรยา น.ต.สมาน หรือจ่าแซม บอกเล่าความรู้สึกผ่านหนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ เผยจ่าแซมเป็นคนโรแมนติก เป็นกบใจดีที่ทุกคนรัก พร้อมลงท้าย คิดถึงเสมอ แม้ไม่ได้เจออีก แต่จะอยู่เสมอในใจตลอด ฮีโร่ของฉัน
สังคม
จ่าแซม,น.ต.สมาน กุนัน,ถ้ำหลวง,เชียงราย,ทีมหมูป่า,ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน,ไทยพีบีเอส,ข่าวไทยพีบีเอส,ThaiPBSnews,ThaiPBS
https://news.thaipbs.or.th/content/273381
ชายาลับ อดีตกษัตริย์ซาอุฯ ชนะคดี ได้เงินค่าเลี้ยงดูกว่าพันล้าน
ศาลสูงอังกฤษ ตัดสิน ชายาลับ อดีตกษัตริย์ฟาฮัดแห่งซาอุฯเป็นฝ่ายชนะคดี ได้รับเงินค่าเลี้ยงดูและอพาร์ตเมนต์หรูในลอนดอน รวมมูลค่ากว่าพันล้าน หลังยื่นฟ้อง ต่อสู้คดีมานานนับ 12 ปี ,เมื่อวันที่ 4 พ.ย.58 สื่อต่างประเทศรายงานครึกโครม ศาลสูงกรุงลอนดอน ในอังกฤษตัดสินให้ นางจานาน ฮาร์บ ซึ่งบอกว่า เธอคือ ชายาลับ ของอดีตกษัตริย์ฟาฮัดแห่งซาอุดีอาระเบีย ผู้ล่วงลับ เป็นฝ่ายชนะคดี ได้รับเงินค่าเลี้ยงดูเป็นจำนวนเงินถึง 20 ล้านปอนด์ หรือราว 1,100 ล้านบาท หลังจากผู้พิพากษาศาลสูงได้รับคำร้องของนางจานาน ฮาร์บ ที่อ้างว่าเจ้าชายอับดุล อาซิส พระโอรสในอดีตกษัตริย์ฟาฮัดกับพระชายาอีกองค์หนึ่ง ทรงรับปากกับเธอว่าจะมอบเงินค่าเลี้ยงดูให้แก่เธอเป็นเงิน กว่า 15 ล้านปอนด์ รวมทั้งอพาร์ตเมนต์หรู 2 แห่ง ในกรุงลอนดอน มูลค่ากว่า 5 ล้านปอนด์ ระหว่างที่ทั้งสองได้พบกันที่โรงแรมดอร์เชสเตอร์เมื่อปี 2546 ขณะที่อดีตกษัตริย์ฟาฮัดกำลังประชวรหนัก,ผู้พิพากษาคนหนึ่งประจำศาลสูงลอนดอน กล่าวว่า นางจานาน ฮาร์บ ซึ่งปัจจุบันอายุ 68 ปี และถือกำเนิดในปาเลสไตน์ ถึงแม้จะเป็นคนใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย มีไลฟ์สไตล์ชอบของแพงหรูหรา และที่ผ่านมา ได้รับเงินค่าเลี้ยงดู เพื่อแลกกับการที่เธอยอมเงียบ ไม่แพร่งพรายความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอดีตกษัตริย์ฟาฮัด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พฤติกรรมของนางจานาน ฮาร์บ จะไม่ได้น่าประทับใจเท่าใดนัก แต่ผู้พิพากษาศาลสูงตัดสินว่า เธอพูดความจริง ในเรื่องที่เจ้าชายอับดุล อาซิสทรงให้คำมั่นสัญญาว่าจะมอบเงินค่าเลี้ยงดูแก่เธอรวมแล้วกว่า 20 ล้านปอนด์,ข่าวแจ้งว่า นางจานาน ฮาร์บ บอกต่อศาลว่าเธอได้แต่งงานกับอดีตกษัตริย์ฟาฮัด ในปี 2511 ขณะที่เธออายุ 19 ปี และตอนนั้น พระองค์ทรงยังเป็นเจ้าชายและดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย โดยระหว่างการไต่สวนมูลฟ้อง นางจานาน ยังบอกต่อผู้พิพากษาศาลสูงว่า บรรดาสมาชิกในครอบครัวของอดีตกษัตริย์ฟาฮัด ได้คัดค้านความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับกษัตริย์ฟาฮัด ซึ่งสวรรคตเมื่อปี 2548 เนื่องจากเธอเกิดในครอบครัวชาวคริสเตียน ในปาเลสไตน์ และเธอได้ยื่นฟ้องต่อสู้คดีนี้มานานถึง 12 ปี จนกระทั่งชนะคดีในที่สุด
ศาลสูงอังกฤษ ตัดสินให้ ชายาลับ อดีตกษัตริย์ฟาฮัดแห่งซาอุฯ ชนะคดี ได้รับเงินค่าเลี้ยงดู และอพาร์ตเมนต์หรูในลอนดอน รวมมูลค่ากว่าพันล้าน หลังยื่นฟ้อง ต่อสู้คดีมานานนับ 12 ปี
null
ชายาลับ,กษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย,จานาน ฮาร์บ,อดีตกษัตริย์ฟาฮัด,ยื่นฟ้อง,เงินค่าเลี้ยงดู,ศาลสูง,อังกฤษ,ชนะคดี,ตัดสิน,พิพากษา,เจ้าชาย,โอรส,โจทก์,จำเลย,ชายา,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/537069
โสดโปรดทราบ แม่ไมค์ โต้ ลูกให้เงิน 20 ล้าน
ต้องตามติดต่อไปว่าสุดหล่อ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล จะมีงานใหญ่ระดับโลกอะไรออกมาให้เปรี้ยงปร้างกันบ้าง หลังจากที่ไมค์ได้ไปเข้าสังกัดใหญ่ระดับโลกของแท้กับทาง เอเจนซี่ดัง ซีเอเอ ครีเอทีฟ อาร์ทติส เอเจนซี่ CAA (Creative Artists Agency) เอเจนซี่นี้ดูแลซุปตาร์ระดับโลกมากมาย รอลุ้นๆ ว่าจะหางานให้ไมค์ ได้ดังกระหึ่มโลกได้หรือไม่?,บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยเบาๆ กับคุณแม่ยังสวยพร้ิงของ ไมค์ พิรัชต์ กันหน่อย ตอนนี้ไมค์มีแฟนแล้ว ใช่มั้ยคะคุณแม่? ไม่มีหรอก (ยิ้ม) จริงเหรอคะ ลูกชายหล่อเด็ดขนาดนั้น น่าจะมีแฟนใหม่แล้วนะ? ,ไม่หรอก จะให้อยู่กับแม่ (หัวเราะสดใส) ไม่หรอกๆ แล้วแต่เขา เราไม่มีปัญหาหรอก เขารักใครเราก็รักด้วย เราไม่ได้ยุ่งด้วยอยู่แล้ว,คุณแม่สายบุญไปทำบุญทั้งในและต่างประเทศ แล้วก็ชอบขอพรจากศักดิ์สิทธิ์ให้ลูกๆ ดังเด่นกว่านี้? ไม่หรอก แม่ก็ขอพรให้ปกติ อย่างไมค์ตอนนี้ไปทำงานที่เมืองนอกแล้ว ก็จะขอให้เป็นพิเศษหน่อย เห็นว่ามีงานที่จีนอีกนะ กำลังๆ ดูกันอยู่จะเล่นเรื่องอะไรดีอยู่,ไมค์ให้เงินคุณแม่หลายล้านเลย คาดว่ากว่า 20 ล้านบาท และจะให้อีกถ้าได้งานใหม่ที่ใหญ่ๆ อีกครั้ง? (รีบพูด) อ๋อ ไม่ๆ เปล่าๆ เขาบอกว่าถ้าเขาได้งานใหญ่ที่อเมริกา เขาจะโอนเงินให้แม่ แหม ตอนนี้จะไปเอาได้ไง ใครจะอยากไปเอาเงินของลูก เขาทำงานเหนื่อยจะตาย (ยิ้มกว้างๆ) ไมค์ได้เข้าสังกัดใหญ่มากที่อเมริกา น่าจะมีงานดีๆ ออกมาให้เราได้ดูกัน? ก็โอเค ถือว่าเป็นบุญของเขาค่ะ เราก็ได้แต่ทำบุญต่อไป (ยิ้ม).
ต้องตามติดต่อไปว่าสุดหล่อ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล จะมีงานใหญ่ระดับโลกอะไรออกมาให้ชื่นชมกันบ้าง หลังจากที่ไมค์ได้ไป
บันเทิง,ข่าวบันเทิง
ตุ๊ก ปราศรัย นิธิไพศาลกุล,แม่กอล์ฟ ไมค์,กอล์ฟ พิชญะ,ไมค์ พิรัชต์,กอสซิป
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1238426
รวบแล้วไอ้อ้วน โจ๋ 17 จอมวิปริต บีบคอ ด.ช.อมนกเขา อ้าง แค่อยากลอง
แล้วอยากลองบ้าง  , ,เวลา 17.30 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ห้องปฏิบัติการสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.อัครบุตร อัครสุขบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.วงศกร วันชัย พ.ต.ต.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.นิธิศ โชคบัณฑิต รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน แถลงข่าวจับกุม นายอ้วน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาว ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ในข้อกล่าวหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเดินไปก่อเหตุ,จากนั้นได้มี นางเตือนใจ อภิวิมลลักษณ์ อายุ 58 ปี ประธานชุมชนหนองตุ 3 นำผู้เสียหายและยายของเด็กชายมาชี้ยืนยันตัวคนร้าย และขอบคุณตำรวจที่ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลา 4 วัน หลังคนร้ายก่อเหตุ ก่อนที่ตำรวจจะมอบรางวัลนำจับคนร้ายให้แก่ประธานชุมชนหนองตุ 3 ที่แจ้งเบาะแสคนร้ายจนสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลางเป็นเงิน 5,000 บาท,พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากค่ำวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งจากยายของเด็กชายวัย 13 ปี ชาวชุมชนหนองตุ ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ว่าขณะหลานชายขี่รถจักรยานอยู่ที่หน้าบ้านพัก ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นบีบคอบังคับให้อมนกเขาในป่าละเมาะข้างทาง ด้านหลังวัดวิเวกบุรพาชัย ซึ่งห่างจากบ้านราว 400 เมตร เป็นเวลานาน 30 นาที ก่อนปล่อยตัวออกมา พร้อมกับขู่ว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะกลับมาฆ่าให้ตาย หลังเกิดเหตุทำให้ชาวบ้านที่มีบุตรหลานในวัยเดียวกันกับผู้เสียหายต่างพากันหวาดกลัว ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อความสงบสุขความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่ชุมชนแห่งนี้ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน,ต่อมา ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนในชุมชนที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสานเจ้าของหอพัก และชาวบ้านที่มีกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้เดินเท้ามาก่อเหตุและหลบหนีไป ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ก่อนประสานประธานชุมชนหนองตุ 3 จนเป็นที่แน่ใจว่าคนร้ายไม่ใช่คนในชุมชน เพราะไม่มีใครรู้จัก จึงนำรูปภาพจากกล้องวงจรปิด ตำหนิรูปพรรณคนร้าย พร้อมกับตั้งรางวัลนำจับ และมอบหมายให้ประธานชุมชนประสานชาวบ้านให้ช่วยแจ้งเบาะแส จนสามารถตามจับกุมคนร้ายได้ที่ ถ.โพศรี ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะกำลังขนสินค้าลงจากรถบรรทุกบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ควบคุมตัวไปตรวจยึดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุที่บ้านพักคนงานของบริษัทขนส่งดังกล่าว นำตัวมาสอบสวน,จากการสอบสวนคนร้ายให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้เรียนหนังสือ พ่อแม่แยกทางกัน จึงออกจากบ้านมาหางานทำที่บริษัทขนส่งฯ ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนก่อเหตุเลิกงานเดินไปเติมเงินโทรศัพท์ ขากลับผ่านมาเห็นผู้เสียหายกำลังปั่นจักรยานอยู่หน้าบ้านตามลำพัง จึงเดินเข้าไปบีบคอบังคับขืนใจให้อมนกเขาในป่าละเมาะข้างทาง แต่ไม่สำเร็จความใคร่ เนื่องจากช่วงเย็นในป่ามียุงชุมมาก สาเหตุเนื่องจากเปิดดูเว็บไซต์หนังโป๊ในโทรศัพท์ ที่มีผู้ชายกำลังร่วมเพศกับเพศเดียวกัน จึงอยากลองของจริงว่าจะเป็นอย่างไร หลังก่อเหตุก็มาทำงานตามปกติ และไม่ได้ดูข่าว กระทั่งมาถูกตำรวจแกะรอยจับกุมตัวได้ในที่สุด.
ไอ้อ้วน วัยรุ่นชายสุดอันตราย สร้างความหวาดผวาให้ผู้ปกครองที่อุดรธานี หลังก่อเหตุสุดวิปริต บีบคอบังคับด.ช.วัย 13 ปี อมนกเขา โดนจับคาบริษัทขนส่งที่ทำงาน สารภาพไม่ได้หนี ดูหนังโป๊ชายรักชาย
ข่าว,อาชญากรรม
อมนกเขา,บังคับอมนกเขา,บีบคออมนกเขา,ไอ้อ้วนมหาภัย,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/crime/1704528
มาดามแป้ง แฮปปี้ เยาวชนหญิงกว่า 150 ชีวิต ร่วมคัดบอลหญิง ยู-19
วันที่ 16 ก.พ.61 เวลา 09.00 น. ที่สนาม 1 การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก การคัดตัวเฟ้นหานักฟุตบอลหญิงทีมชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี สำหรับการเดินทางไปร่วมแคมป์และอุ่นเครื่องกับทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติออสเตรเลีย ในเดือนมีนาคม โดยบรรยากาศสุดคึกคัก มีเยาวชนหญิงจากทั่วประเทศตบเท้าเข้าคัดเลือกกว่า 150 คน ,ด้าน มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม กล่าวว่า ถือว่าประสบความสำเร็จมากเนื่องจากมีน้องๆ ให้ความสนใจมากกว่าที่คาดไว้ ชี้ให้เห็นว่า ประเทศเรามีทรัพยากรเยาวชนหญิงอีกมาก แต่เวทีและโอกาสอาจจะมีน้อยกว่าเด็กผู้ชาย ครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสสำคัญให้ทุกคนได้แสดงความสามารถ เราหวังว่าจะได้คนที่ดีที่สุดสำหรับแคมป์ของเรา,ด้านโค้ชหนึ่งฤทัย สระทองเวียน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดใหญ่ กรรมการในการคัดเลือกนักกีฬา กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเราเปิดโอกาสให้น้องๆ ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เราก็ได้เห็นนักฟุตบอลหญิงทั้งในระบบ และคนที่ชื่นชอบฟุตบอล ซึ่งก็เห็นว่าเด็กมีความสามารถมากขึ้น รวมถึงมีปริมาณคนเล่นมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี เนื่องจากมีคนสนใจร่วมคัดเลือกจำนวนมาก เราคงใช้เวลาพิจารณามากขึ้น โดยจะรีบประกาศผลให้ทุกคนได้ทราบ ก่อนจะมีการเก็บตัวในวันจันทร์ที่จะถึงนี้,สำหรับทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี มีกำหนดการเดินทางไปร่วมแคมป์เก็บตัวและอุ่นเครื่องกับทีมชาติออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 10-16 มีนาคม 2561 ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิง แฮปปี้หลังเยาวชนหญิงไทยกว่า 150 คน เข้ามาร่วมคัดฝีเท้าเพื่อหวังติดทีมชาติไทย ชุดรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
กีฬา,ไทยรัฐเชียร์ไทยแลนด์
มาดามแป้ง,นวลพรรณ ล่ำซำ,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย,ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1205878
3 มือพระกาฬร่วมชิงชัย สอยคิว 6 แดงชิงแชมป์ประเทศไทย
วันที่ 22 ก.ค.62 การแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย แสงโสม 6 เรด ไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ 2019 เตรียมระเบิดความมันระหว่างวันทื่ 23-27 กรกฎาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ รามอินทรา โดยมีมือพระกาฬทั่วฟ้าเมืองไทยเข้าร่วมแข่งขัน นำโดย 3 นักสอยคิวมืออาชีพโลก ต๋อง ศิษย์ฉ่อย รัชพล ภู่โอบอ้อม, หมู ปากน้ำ นพพล แสงคำ และ ซันนี่ อาร์แบค อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์,สำหรับการชิงชัยในวันแรก อังคารที่ 23 กรกฎาคมนี้ เป็นการแข่งขันรอบแรก แข่งแบบแบ่งสายทั้งหมด 8 สาย แข่งแบบพบกันหมด เพื่อหานักกีฬาแชมป์กับรองแชมป์สาย เข้าสู่รอบน็อกเอาต์ต่อไป ดวลคิววันละ 4 รอบ ประกอบด้วย รอบ 11.30 น., 13.30 น., 15.30 น. และรอบ 17.30 น. รอบละ 6 คู่ บัตรผ่านประตูเพียง 50 บาท สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งวัน,คู่บิ๊กแมตช์วันแรก อยู่ในสายเอ ในรอบ 15.30 น. คู่ระหว่าง แมน นครปฐม ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ แชมป์เก่าปีที่แล้ว จะเจอศึกหนักร่วมสายเอ พบกับ หมู ปากน้ำ นพพล แสงคำ จอมคิวมือ 38 ของโลก ซึ่งเกมนี้ตากกฎของสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย มืออาชีพโลกจะต้องต่อให้มือสมัครเล่น 7 แต้มทุกเฟรม,ขณะที่อีกคู่ที่น่าชม อยู่ในสายเอช รอบ 17.30 น. ระหว่าง นุ้ก สากล กฤษณัส เลิศสัตยาทร เจ้าของแชมป์ ไทยแลนด์ แร็งกิ้ง เซอร์กิต สดๆร้อนๆ ที่ขอนแก่น จะดวลกับ ซันนี่ อาร์แบค อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ มืออันดับ 52 ของโลก,ทางด้าน บิ๊กฮง นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันครั้งนี้สนุกและตื่นเต้นในสไตล์ของ 6 แดงอย่างแน่นอน ยิ่งได้มือระดับโลกมาร่วมแข่งขันด้วย จะสร้างสีสันและความสนุกยิ่งๆ ขึ้นไปอีก ,ส่วนเรตติ้งผู้ชมผ่านทางทรูวิชั่นส์ ถือว่าดีมากๆ สำหรับวงการสนุกเกอร์ รวมถึงคนที่เข้ามาชมในสนามที่ไปแข่ง 15 แดงยังต่างจังหวัดคนก็เยอะ ดังนั้นเชื่อมั่นว่าเมื่อมาแข่งในกรุงเทพฯ และในห้างแบบนี้ จะมีแฟนๆ เข้ามาชมแน่นขนัดเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา,สำหรับการแข่งขันสนุกเกอร์ แสงโสม 6 เรด ไทยแลนด์แชมเปียนชิพในทุกวัน จะมีการถ่ายทอดสดทาง ทรูวิชั่นส์ วันละ 3 รอบ ตั้งแต่รอบเวลา 13.30 น., 15.30 น. และ 17.30 น.
ดาวดังระดับโลกของไทย พร้อมดวลคิวกันอย่างสุดมัน ในศึก 6 แดงชิงแชมป์ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 23-27 กรกฎาคมนี้ ถ่ายทอดสดให้ชมอย่างจุใจทางหน้าจอทรูวิชั่นส์
กีฬา,กีฬาอื่นๆ
แสงโสม 6 เรด ไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ 2019,สนุกเกอร์ 6 แดง,บิ๊กฮง,สุนทร จารุมนต์
https://www.thairath.co.th/sport/others/1620545
คาดเป็นฉลาม สาวออสซี่นุ่งบิกินี่เล่นน้ำภูเก็ต ถูกสัตว์ปริศนากัดเท้าเหวอะ
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 58 ร.ต.ท.หญิงชไมพร สุภาคม พนักงานสอบสวน สภ.กะรน รับแจ้งว่า มีเหตุนักท่องเที่ยวถูกสัตว์ร้ายในทะเลกัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่หาดกะรน ตรงข้าม สภ.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จึงพร้อมด้วย นายศุภชัย จันทร์เพ็ชร หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเทศบาลตำบลกะรน หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลหาดกะรน (ทหารเรือทัพเรือภาคที่ 3) และเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลกะรน (ศูนย์แหลมไทร) รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงของ จ.ภูเก็ต ความยาวของประมาณ 3 กิโลเมตร พบประชาชนและนักท่องเที่ยวแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ,บริเวณกลางทะเลเห็นเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล (ไลฟ์การ์ด) อุ้มนักท่องเที่ยวขึ้นมาบนฝั่ง ทราบชื่อคือ นางสาวเจน เนียมี (Jane Neame) อายุ 37 ปี สัญชาติออสเตรเลีย สภาพหลังเท้าด้านซ้ายถูกสัตว์ร้ายในทะเลไม่ทราบชนิดกัด มีเลือดไหลโชกเป็นแผลฉกรรจ์ นอกจากนั้นที่บริเวณฝ่าเท้าด้านซ้าย ลักษณะถูกสัตว์ร้ายกัดจนเป็นแผลฉกรรจ์เช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลป่าตอง อ.กะทู้ เป็นการด่วน จากนั้นได้ส่งตัวเข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลดีบุก ต.วิชิต อ.เมือง ต่อไป,จากการสอบสวนทราบว่า ผู้บาดเจ็บเดินทางมาเที่ยวที่พร้อมแฟนหนุ่ม ก่อนเกิดเหตุได้ลงเล่นน้ำทะเลหาดกะรน ในระหว่างที่เล่นน้ำอยู่มีสัตว์ร้ายไม่ทราบชนิดกัดที่บริเวณหลังเท้า 2 ครั้ง อย่างรวดเร็ว จึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนฝั่ง โดยแผลที่ถูกกัดเป็นแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่ยังไม่ระบุว่าเป็นสัตว์ร้ายชนิดใด ต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบลักษณะบาดแผลต่อไป,ด้าน นายศุภชัย จันทร์เพ็ชร หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล เทศบาลตำบลกะรน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าสัตว์ร้ายในทะเลที่กัดนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเป็นสัตว์ชนิดใด ต้องรอการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดจึงสามารถระบุชนิดของสัตว์ที่แน่ชัดได้ เพราะลักษณะเช่นนี้ไม่เคยเกิดใน จ.ภูเก็ต,ด้าน ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน กล่าวว่า ได้ดูรูปภาพรอยแผลที่ถูกกัด ลักษณะฟันน่าจะเป็นฉลาม โดยกัดที่บริเวณบนหลังเท้าด้านซ้าย 1 แผล และฝ่าเท้าอีก 1 แผล ลักษณะเป็นการกัด 2 ครั้งติดกัน แต่ในเบื้องต้น จะส่งรูปรอยแผลดังกล่าวไปให้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่กรุงเทพมหานคร ตรวจอีกครั้ง เพื่อความชัดเจนว่าเป็นฉลามหรือไม่,ทั้งนี้ หากเป็นฉลามจริง ทางกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก จะส่งทำหนังสือไปยัง จ.ภูเก็ต เพื่อให้มีการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวระมัดระวังในการลงเล่นน้ำต่อไป.
สาวออสเตรเลีย นุ่งบิกินี่ลงเล่นน้ำหาดกะรน ภูเก็ต แต่โชคร้ายถูกสัตว์ร้ายในทะเลกัดเท้าซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ ด้าน หน.กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก คาดปลาฉลามกัด ส่งต่อผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยอีกครั้ง หากใช่ เร่งแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวระมัดระวัง
ข่าว,ทั่วไทย
สัตว์ร้ายกัด,ชไมพร สุภาคม,พนักงานสอบสวน สภ.กะรน,ศุภชัย จันทร์เพ็ชร,ศูนย์แหลมไทร,เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล,ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์,หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,ข่าวภูมิภาค,ฉลาม,นักท่องเที่ยวถูกสัตว์กัด,Miss Jane Neame,ป่าตอง,กะทู้,แจ้งเตือนนักท่องเที่ยว,นักท่องเที่ยวออสเตรเลีย
https://www.thairath.co.th/news/local/522217
กลับแล้ว 7 นักดำน้ำอังกฤษชุดสุดท้าย เป็นเกียรติที่ได้ช่วยเด็ก
เมื่อเวลา 22.45 น.วันที่ 12 ก.ค.61 ที่อาคารรับรองพิเศษ VIP ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม มิสเตอร์ ไบรอัน จอห์น เดวิดสัน เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย นางฉฎาณิศา ชำนาญเวช รองผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(สายปฏิบัติการ2) นางมนัสนันท์ สิทธิจรสิน กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) พร้อมตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บก.ตม.2 ให้การต้อนรับ 7 ผู้เชี่ยวชาญดำน้ำในถ้ำจาก British Cave Rescue Council (BCRC) ของสหราชอาณาจักร หลังจากทั้งหมดได้เดินทางกลับจากเชียงราย เมื่อเสร็จสิ้นจากภารกิจร่วมค้นหาและช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี ทั้ง 13 ราย ที่ติดค้างอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ให้ออกมาได้อย่างปลอดภัย,โดยมากับเที่ยวบิน WE137 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 22.35 น.และทำการบินต่อกลับไปยังอังกฤษ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี910 ออกจากสุวรรณภูมิเวลา 00.55 น. ของวันที่ 13 ก.ค.61 พร้อมทั้งมอบการ์ดแสดงความขอบคุณ และของที่ระลึกให้แก่ทั้ง 7 คนประกอบไปด้วย นายริชาร์ด วิลเลียม สแตนตัน (Mr. Richard William Stanton) นายคริสโตเฟอร์ จิวล์(Mr. Christopher Jewell) นายไมเคิล จอห์น เคลย์ตัน (Mr. Michael John Clayton) นายแกรี่ มิทเชล (Mr. Gary Mitchell) นายคอนเนอร์ สจ๊วต โรล (Mr. Connor Stuart Roe) นายโจชัวร์ ไบรอัน แบรทชลีย์ (Mr. Joshua Brian Bratchley) ทั้ง 6 คนเป็นชาวอังกฤษ และ นายจิม วอร์นี่ (Mr. Jim Warny) ชาวเบลเยียม,นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า วันนี้ผมพร้อมด้วย รมว.คมนาคม และทุกคนได้มารับและส่งนักดำน้ำในถ้ำจาก British Cave Rescue Council (BCRC) ซึ่งเป็นชุดสุดท้ายที่กลับช้ากว่าคนอื่น โดยวันนี้ทั้งหมดได้ไปเที่ยวที่วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย ก็ไปพบกับ อ.เฉลิมชัย และได้รับภาพวาดจาก อ.เฉลิมชัย มาเป็นทีระลึก คนละ 1 ใบ สร้างความประทับใจให้แก่พวกเขามาก และวันนี้ได้นำของที่ระลึกจากท่านนายกรัฐมนตรี มอบให้กับทั้ง 7 คนด้วยเช่นกัน คือเหรียญ ซึ่งมีโลโก้ของสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมเสื้อโปโลที่ได้จัดทำขึ้นมา และกล่องใส่ของซึ่งเป็นหีบไม้ มีโลโก้สำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนตนได้มอบใบประกาศนียบัตรขอบคุณ เพื่อแสดงความซาบซึ้งใจ ส่วนกระทรวงคมนาคมและการบินไทยหน่วยงานต่างๆ ก็ได้มอบการ์ดขอบคุณ และภาพวาด เป็นของที่ระลึกอีกด้วย,นอกจากนี้ยังได้กล่าวขอบคุณ Million of thanks ในความช่วยเหลือที่ทีมเค้ามีให้กับทางรัฐบาลไทย เมื่อประสานไปแล้วทั้งหมดก็เสียสละมาในทันที ซึ่งทางทีมนักดำน้ำก็บอกว่า ทางทีมเค้ารู้สึกเป็นเกียรติมากกว่าที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเด็กๆ หลังจากนี้ก็จะเดินทางมาท่องเที่ยวอีก,นอกจากนี้ในเวลา 18.20 น. คณะพนักงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในนาม AOT Special Team ทั้ง 9 คนซึ่งเป็นทีมเดียวกับ จ.อ.สมาน กุนันท์ ที่เดินทางไปปฎิบัติภารกิจ ในการสนับสนุนหน่วยซีล ค้นหาผู้ประสบภัยทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ที่ผลัดหลงในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย จนเสร็จสิ้นภารกิจออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย ได้เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว โดยมี นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รอง ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ1) พร้อมผู้บริหาร ทสภ. และพนักงาน ทสภ. ได้ให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึกแก่พนักงาน ทสภ. จำนวน 9 คน,โดยพนักงาน ทสภ. ที่เดินทางไปปฎิบัติภารกิจในครั้งนี้นั้น เป็นบุคคลที่ได้รับการฝึกอบรม และผ่านการฝึกอบรมจากกองทัพไทย เคยปฎิบัติงานในหน่วยปฎิบัติการสงครามพิเศษทางเรือ กองทัพเรือ (สำหรับผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม – Navy Seal) เคยปฎิบัติงานในหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ (สำหรับผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการปฎิบัติการพิเศษ – Commando) ก่อนที่จะมาปฎิบัติงาน ณ ทสภ. จึงถือได้ว่าพนักงานทั้งหมด เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และเสียสละ อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างสุดความสามารถ ซึ่งบรรยากาศการต้อนรับเป็นไปด้วยความอบอุ่น และเป็นกันเองโดยมีชาวต่างชาติที่ทราบเรื่องมาร่วมแสดงความยินดีด้วย บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ.
7 นักดำน้ำอังกฤษชุดสุดท้าย บินกลับประเทศแล้ว หลังไปเที่ยวที่วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย รับภาพวาดจาก อ.เฉลิมชัย ด้าน รมว.ท่องเที่ยวฯ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่มีให้รัฐบาลไทย พร้อมมอบของที่ระลึก
ข่าว,ทั่วไทย
ถ้ำหลวง,นักดำน้ำ,นักดำน้ำอังกฤษ,ทีมหมูป่า,ช่วยเด็ก,ข่าวทั่วไป
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1333454
พบรถกระบะถูกปล้น จอดล่อ จนท.ในป่าละเมาะปัตตานี ก่อนจุดระเบิด จนท.เจ็บ 2
ความคืบหน้าเหตุลอบยิงนายยะโกะ ฮะมะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านควนหรัน ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เสียชีวิต วานนี้ (13 พ.ย.) ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะปล้นรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บต-664 ปัตตานี ของผู้เสียชีวิตหลบหนีไปวันนี้ (14 พ.ย.2559) เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจความมั่นคงบ้านควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา เพิ่มการตรวจสอบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทั้งขาเข้าและขาออก โดยเน้นยานพาหนะที่ได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวกรอง นอกจากนี้ยังจัดส่งภาพรถต้องสงสัยไปยัง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ร่วมกันเฝ้าระวัง ที่จ.ยะลา ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ยะลา จัดกำลังชุดปฏิบัติพิเศษตั้งด่านตามเส้นทางสายรองเข้าตัวเมืองยะลาเพื่อค้นหารถยนต์กระบะคันดังกล่าวที่อาจถูกนำเข้ามาในพื้นที่ล่าสุด มีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุนำรถยนต์กระบะคันนี้ไปจอดไว้ในป่าละเมาะ พื้นที่ หมู่ 6 บ้านทุ่งยาว ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบผู้ก่อเหตุได้กดชนวนระเบิดที่ลอบวางไว้ใกล้ตัวรถ ทำให้ให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะที่ถูกปล้นหลังยิงเจ้าของรถที่ จ.สงขลา วานนี้ พบถูกนำไปจอดในป่าละเมาะ จ.ปัตตานี เพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไป ก่อนจุดชนวนระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
ภูมิภาค
ปล้นรถ,ชายแดนใต้,สะบ้าย้อย,ปัตตานี,ความไม่สงบ,ข่าวจังหวัดชายแดนใต้
https://news.thaipbs.or.th/content/257729
งูใหญ่ตอบแทน ปาลาซิโอ จับต่อสัญญาถึงปี 2017
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 ม.ค.ว่า สโมสร อินเตอร์ มิลาน ทีมจ่าฝูงแห่งศึกกัลโซ เซเรีย อา ของอิตาลี ประกาศต่อสัญญาฉบับใหม่กับ โรดริโก ปาลาซิโอ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมเก๋าชาวอาร์เจนไตน์ออกไปอีก 1 ปี ซึ่งจะทำให้เจ้าตัวอยู่ค้าแข้งกับต้นสังกัดไปจนถึงช่วยซัมเมอร์ของปี 2017 เลยทีเดียว,โดยปราการหลังตัวกลางวัย 33 ปี ย้ายจากสโมสรเจนัว มาปักหลักเฝ้าแนวรับให้กับทีมงูใหญ่ตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งถึงแม้จะไม่สามารถพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ใดๆ มาครองได้เลย แต่ก็ยังเป็นที่ไว้วางใจให้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอจนผ่านเข้าสู่ 100 นัดไปแล้วในขณะนี้,แต่ล่าสุด โรแบร์โต มันชินี กุนซือใหญ่ได้ตอบแทนความไว้วางใจด้วยการขยายสัญญาฉบับใหม่ ให้กับอดีตปราการหลังทีมชาติอาร์เจนตินาออกไปจนถึงปี 2017 เพื่อช่วยกันไล่ล่าความสำเร็จ,ซึ่งการจรดปากกา ดาวเตะจอมเก๋าเผยความรู้สึกว่า ไม่มีอะไรที่เหมือนกับการได้เล่นให้กับสโมสรแห่งนี้ ผมรู้สึกยินดีและไม่สามารถที่จะรอเป็นหนึ่งในส่วนร่วมของการไล่ล่าความสำเร็จ ให้กับในฤดูกาลนี้ได้อีกแล้ว ผมอยากจะขอบคุณสโมสรอินเตอร์ มิลาน และแฟนบอลอย่างสุดซึ้งจากใจ,สำหรับพลพรรคงูใหญ่ มีคิวลงสนามในเกมนัดถัดไปด้วยการเปิดรังรับการมาเยือนของ ซัสซูโอโล ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้.
ทีมงูใหญ่จับปราการหลังคนสำคัญอย่าง โรดริโก ปาลาซิโอ ต่อสัญญาฉบับใหม่ไปจนถึงปี 2017 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการไล่ล่าความสำเร็จในฤดูกาลนี้
null
อินเตอร์ มิลาน,กัลโช เซเรีย อา,โรดริโก ปาลาซิโอ,ต่อสัญญา,ข่าว,ข่าวกีฬา,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/560200
สภาพัฒน์ อนุมัติแล้ว สร้างรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ว่า ล่าสุดคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้อนุมัติรถไฟทางคู่เส้นทางชุมทางจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 26,007 ล้านบาทแล้ว โดยหลังจากนี้จะเตรียมเสนอคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และครม.ต่อไป,ส่วนรถไฟทางคู่เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,293 ล้านบาท เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 20,038 ล้านบาท เส้นทางมาบกะเบา-โคราช ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,855 ล้านบาท เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 24,842 ล้านบาท อยู่ในขั้นตอนขออนุมัติผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยทั้งหมดมีเป้าหมายเปิดประกวดราคาภายในปีนี้,พร้อมกันนี้ ได้เร่งรัดให้รวบรวมข้อมูลผลการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮ สปีดเทรน) 2 เส้นทางที่รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่าจะลงทุน คือ กรุงเทพฯ-พัทยา ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ทำการศึกษาเบื้องต้นแล้วและอยู่ในขั้นตอนการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และการออกแบบรวมถึงศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) ซึ่งทั้ง ร.ฟ.ท.และ สนข.จะสรุปข้อมูลเบื้องต้นรายงานกระทรวงคมนาคมภายใน 2 สัปดาห์.
สภาพัฒน์ ไฟเขียวรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น คมนาคมจ่อชงซุปเปอร์บอร์ด ก่อนเข้า ครม. พร้อมเร่งศึกษาข้อมูลรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นกรุงเทพฯ-พัทยา และกรุงเทพฯ-หัวหิน คาดสรุปใน 2 สัปดาห์…
null
รถไฟทางคู่,จิระ,ขอนแก่น,อนุมัติรถไฟทางคู่,รถไฟความเร็วสูง,คมนาคม,ขนส่ง,ขนส่งระบบราง,กรุงเทพ-หัวหิน,ไฮ สปีดเทรน,คืบหน้ารถไฟทางคู่,การรถไฟ,สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/487917
เดอะ ฮิสทรี ออฟ ฮูว์ ศาสตร์ความงามระดับจักรพรรดินี
แบรนด์เครื่องสำอางอันดับหนึ่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากประเทศเกาหลี ได้เปิดตัว 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ปรนนิบัติผิวใหม่ล่าสุด ได้แก่ กลุ่ม BiChup Royal AntiAging Collection ผลิตภัณฑ์ต่อต้านการเกิดริ้วรอย และกลุ่ม GongJinHyang: Seol Royal Whitening Collection ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อให้ผิวสว่าง กระจ่างใส โดยจัดงาน Chateau de Empress-The history of Whoo Royal High Tea ขึ้น ณ นายเลิศ ปาร์ค เฮอริเทจ โฮม,ในฐานะกูรูแห่งวงการเครื่องสำอางเกาหลี ชัญญาพัชญ์ กล่าวว่า เดอะ ฮิสทรี ออฟ ฮูว์ คือแบรนด์เครื่องสำอางจากประเทศเกาหลีแบรนด์แรกและแบรนด์เดียว ที่นำศาสตร์ความงามแห่งองค์จักรพรรดินีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 800 ปีมารังสรรค์ โดยเน้นผสมผสาน 3 หลักปรัชญาแห่งความสมดุลที่รวมเป็นหนึ่ง ประกอบด้วย ซูซึงฮวากัง (Mind) หลักการควบคุมความร้อน ชี่ฮยอนซุนฮวัน (Body) หลัก การถ่ายเทพลังงานของร่างกาย และ หยินหยางโจฮวา (Soul) หลักการปรับสมดุลแห่งธาตุภายใน ด้วยสูตรสมุนไพรตะวันออก อันเป็นส่วนผสมหลักของแบรนด์เรียกว่า GONGINBIDAN ช่วยยกกระชับผิว, Kyunggokbidan ช่วยลดขนาดของรูขุมขน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และ Cheonsimbidan ช่วยลดริ้วรอยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยสมุนไพรได้อ้างอิงมาจากตำรา Donguibogam ตำรายาโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางภูมิปัญญาโดยองค์การยูเนสโก,สัมผัสประสบการณ์ความงามเหนือระดับ จาก เดอะ ฮิสทรี ออฟ ฮูว์ เครื่องสำอางอันดับหนึ่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากประเทศเกาหลีได้ที่บูทีคเคาน์เตอร์ ชั้น M บิวตี้ฮอลล์ ห้างฯสยามพารากอน และ บิวตี้ แกลอเรีย ชั้น 1 เซ็นทรัล ลาดพร้าว หรือทางช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊ก ,www.facebook.com/thehistoryofwhooTHofficial, และทาง Instagram@thehistoryofwhoothailand
ผู้นำเทรนด์ความงามเกาหลีระดับพรีเมียมมาเผยแพร่ในเมืองไทยหลายสิบปีแล้ว ล่าสุด ชัญญาพัชญ์ ณัฐจีราวัฒน์ ประธานกรรมการบริษัท มิลเล่ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าแบรนด์ The history of Whoo (เดอะ ฮิสทรี ออฟ ฮูว์)
ไลฟ์สไตล์,ผู้หญิง
มิลเล่,เดอะ ฮิสทรี ออฟ ฮูว์,เครื่องสำอาง,เครื่องสำอางเกาหลี,ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม,ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว,ดูแลผิว,เสริมความงาม,ผู้หญิง,ข่าวสตรี,ข่าวไทยรัฐ,ไทยรัฐฉบับพิมพ์,ข่าว
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/597321
เครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน ค้าน ขึ้นราคาแอลพีจี ระบุ รัฐฯ ผลักภาระให้ปชช.
เครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จัดกิจกรรม นัดประชาชนเคาะกะทะ ย่านถนนสีลม เพื่อแสดงสัญลักษณ์คัดค้านกระทรวงพลังงานที่เตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มหรือ แอลพีจี ภาคครัวเรือนและภาคยานยนต์ อย่างไม่เป็นธรรมและก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนในวงกว้าง โดยตัวแทนเครือข่ายมูลนิธิผู้บริโภคกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลพยายามสื่อสารไปยังประชาชนว่ามีปัญหาด้านต้นทุนราคาก๊าซแอลพีจี จึงจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น โดยให้เป็นราคาเดียวกับตลาดโลก ทั้ง ๆ ที่ก๊าซแอลพีจี เป็นพลังงานที่มีแหล่งผลิตอยู่ในประเทศไทย กว่าร้อยละ 80 ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ของประชาชนทั้งภาคครัวเรือนและภาคยานยนต์ แต่รัฐบาลพยายามผลักภาระให้คนไทย ซื้อก๊าซแอลพีจีในราคาที่แพงกว่าภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่นำก๊าซแอลพีจีมาเป็นวัตถุดิบ ซึ่งปัจจุบันซื้อในราคาที่ต่ำกว่าประชาชนครึ่งหนึ่งดังนั้น เครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จึงเรียกร้องให้รัฐบาล ยุติการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ โดยเสนอให้ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี นำเข้าก๊าซแอลพีจีจากต่างประเทศแทนการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือนกับภาคยานยนต์ในต้นปีหน้า พร้อมกันนี้ ยังเสนอให้รัฐบาลจัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นจากประเทศทุกภูมิภาค พร้อมให้ข้อมูลที่ถูกต้องว่าประชาชนเห็นด้วยกับการปรับขึ้นราคาแอลพีจีหรือไม่ เพื่อการเข้าถึงการใช้พลังงานของประชาชนอย่างเป็นธรรมนอกจากนี้ เครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน ยังได้แจกจ่ายเอกสาร ตีแผ่ความจริงก๊าสหุงต้ม ใครปล้นคนไทย โดยมีเนื้อหาแจกแจงรายละเอียดการเปรียบเทียบราคาก๊าซแอลพีจี ทั้งภาคครัวเรือน ภาคยานยนต์ และภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และสัดส่วนการใช้แอลพีจี และราคาในปี 2554 รวมถึงข้อเสนอในการกำหนดราคาแอลพีจีอย่างเป็นธรรมทั้งนี้ ในช่วงบ่ายเครือข่ายการเมืองภาคพลเมืองสภาธรรมาภิบาล จะยื่นฟ้องคดีอาญากับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในข้อหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การกระทำที่ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม เนื่องจากนโยบายการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีในต้นปีหน้าเป็นการผลักภาระให้กับประชาชน และยังขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 3
เครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ค้านรัฐบาลและกระทรวงพลังงาน ที่เตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หรือ แอลพีจี ในปีหน้า โดยผลักภาระให้ภาคครัวเรือนและภาคยานยนต์ แบกรับภาระแทนภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
เศรษฐกิจ
คัดค้านขึ้นราคา,ปิโตเคมี,ปิโตเลียม,ราคาแอลพีจี,เครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน,แอลพีจี
https://news.thaipbs.or.th/content/133328
ตะลึงซากจระเข้ แผ่หรากลางทุ่งนา
,เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 26 ต.ค. จึงประสาน นายวีระชัย นาถมาศ นายอำเภอบางปะอิน รุดไปตรวจสอบ พบซากจระเข้ขนาดความยาวประมาณ 2 เมตรน้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัมนอนตายอยู่กลางทุ่งนาส่งกลิ่นเหม็น ตรวจสอบไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายตายมาแล้วประมาณ 2-3 วัน,นายอภินันท์ บุญยะพันธุ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 1 ต.บางประแดง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านที่มาพบซากจระเข้ กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นได้เข้ามาสูบน้ำในคลองชลประทานเข้าในที่นาต้องตกใจเห็นจระเข้นอนอยู่ในทุ่งนาจึงรีบวิ่งไปบอกเพื่อนบ้านแต่ไม่มีใครเชื่อจึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยพุทไธสวรรย์มาตรวจสอบจึงพบว่าจระเข้ตายแล้ว,นายวีระชัย นาคมาศ นายอำเภอบางปะอิน สันนิษฐานเบื้องต้นว่าจระเข้ตัวนี้อาจจะหลุดมาจากฟาร์มในช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 มาอาศัยอยู่ตามหนองน้ำ บ่อน้ำหรือลำคลองที่อยู่กลางทุ่งนา ที่ไม่มีใครพบเห็น และเป็นไปได้ที่จระเข้ตัวนี้ขึ้นมาหาอาหารตามจับหนูนาที่ชาวนาได้วางยาเบื่อไล่หนูแล้วกินเข้าไปจนตายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะให้เจ้าหน้าที่ประมงมาผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง และเตือนชาวบ้านหากพบจระเข้ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที.
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ว่ามีชาวบ้านพบซากจระเข้อยู่กลางทุ่งนา ติดคลองชลประทาน ใกล้วัดบ้านกลิ้ง หมู่ 1 ต.บางประแดง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
ข่าว,ทั่วไทย
จระเข้ตาย,ซากจระเข้,กลางทุ่งนา,วัดบ้านกลิ้ง,จระเข้,ทุ่งนา,บางปะอิน,พระนครศรีอยุธยา,อภินันท์ บุญยะพันธุ์,คลองชลประทาน,ข่าว
https://www.thairath.co.th/news/local/535301
บิ๊กตู่ ชี้เหตุบึมใต้ไม่ชัด โยง การเมือง-ไฟใต้ เผยยังสอบอยู่
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 59 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด 3 จุดในพื้นที่ จ.ปัตตานี ว่า หน่วยงานในพื้นที่ ทั้งกองอำนวยการรักษาความสงบภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทหาร ตำรวจ ดูแลอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังสอบสวนอยู่ ก็เหมือนเหตุการณ์ระเบิดหลายครั้งที่เคยเกิดขึ้น,เมื่อถามว่า สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อ้างคำพูด ผบ.ตร.ว่า เหตุระเบิด 7 จังหวัด ในพื้นที่ภาคใต้ เป็นแนวร่วมผู้ก่อความสงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ที่ไม่ใช่ชาวไทยพุทธ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หน้าที่ของสื่อต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ รวมถึงที่เผยแพร่ในโลกโซเชียลไปช่วยทำความเข้าใจด้วย จะให้นายกฯ พูดเองตลอดเลยหรืออย่างไร,เมื่อถามว่า เหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ เชื่อมโยงกับการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่พูดถึงปัญหาการเมือง เพราะปัญหาเดิมมีอยู่แล้ว แต่เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเขาพยายามสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นแก่รัฐ แล้วจะขยายความให้เขาทำไม ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ที่ผ่านมาทำงานแทบตาย และตายไปกี่ร้อยศพแล้ว ตายมากกว่าประชาชนอีก ไม่นึกถึงครอบครัวเขาบ้างหรืออย่างไร เมื่อถามต่อว่า แล้วเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในจังหวัดภาคใต้หรือไม่,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ยังไม่เชื่อมโยง เขาสอบอยู่ ขยายพื้นที่ขึ้นมาหรือเปล่า หลักการและการต่อสู้ที่ผ่านมาของเขาเป็นอย่างนั้นหรือไม่ วันหลังก็ไปถามโจรเขาบ้าง เดี๋ยวรวมให้ ที่ไหนเลือกเอา คุยโดยตรงเลยว่าต้องการอะไร แล้วมาบอกด้วย,พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ ขออย่ากดดันเจ้าหน้าที่ เพราะไม่มีปัญหาใดพูดคุยจบได้ภายใน 1-2 ปี บางประเทศในอาเซียนพูดคุยปัญหาลักษณะเดียวกันนี้มา 50 ปี ก็ยังไม่จบ แล้วจะให้เราทำได้เร็ว มันอะไรนักหนา แตะอะไรไม่ได้สักอย่าง กฎหมายก็ใช้ไม่ได้ คนที่เรียกร้องรับผิดชอบได้หรือไม่ เพราะการพูดคุย ไม่ใช่การเจรจา ตนไม่ได้รบกับเขา เขาผิดกฎหมายอาญา ใช้อาวุธสงคราม รัฐบาลมองเขาด้วยความเมตตา วันนี้ถ้าใช้มาตรการทางทหาร ไปล้อมทุกหมู่บ้านก็ทำได้ ปิดถนนบางเส้น เคอร์ฟิวบางพื้นที่จะได้สู้กับโจร แล้วยอมอะไรสักอย่างหรือไม่ ขอตรวจยังไม่ได้เลย ประเทศไทยอย่าหวังว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ายังเป็นอย่างนี้อยู่ วันหน้าตนไม่อยู่ดูแล้ว เมื่อท่านยังอยู่ ก็รับความลำบากต่อไป,นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่เจ้าของกิจการรีสอร์ตที่ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ร้องเรียนไม่ให้รื้นถอนว่า ให้เวลารื้อเองแล้วแต่ไม่รื้อเอง เจ้าหน้าที่ก็ต้องรื้อ มันไม่มีอย่างอื่น กฎหมายเขาเขียนเอาไว้ หากคุยกันรู้เรื่องก็ไปพิจารณากันดูว่า จะดูแลในมาตรการไหนได้บ้าง เพราะเขาอ้างว่าไปกู้เงินมา เพื่อสร้างอาคารสร้างตึก เป็นหนี้อยู่ 100-300 ล้านบาท แต่ไม่เข้าใจจะลงทุนทำไม เมื่อรู้ว่าผิดกฎหมาย แล้วใครปล่อยปละละเลย รัฐบาลไหน รัฐบาลนี้พยายามเอาทุกอย่างกลับคืนมาให้เป็นของหลวง แล้วมาแบ่งปันให้ประชาชนที่ขาดแคลนมีกี่ล้านราย ที่ดินสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ก็ผิดหมด พอออกให้ก็เอาไปขายคนอื่น มีแต่ที่ ไม่มีการบริหารจัดการให้ชาวบ้าน เขาจะเอาอะไรไปขาย ตอนนี้กำลังแก้ทั้งระบบ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กำลังทำอยู่ ส.ป.ก.พื้นที่ผืนป่ารื้อใหม่หมด ที่ไม่ได้เอามาให้ปลูกบ้านตัวเองหรือเอาไว้ให้เลี้ยงวัว เอาคืนมาแบ่งปัน ใจเย็นๆ ถ้าตนทำไม่ทันก็ไปไล่รัฐบาลหน้าให้ทำอย่างที่ตนทำ
นายกฯ ไม่ชี้ชัดเหตุระเบิดหลายพื้นที่ภาคใต้โยงการเมือง-ไฟใต้ บอกยังสอบอยู่ ขออย่ากดดัน ปล่อย จนท.ได้ทำงานก่อน ย้ำต้องรื้อรีสอร์ตภูทับเบิกเมื่อผิดกฎหมาย แต่ขอใจเย็นนั่งพูดคุย หากคุยรู้เรื่องมีมาตรการช่วยเหลือ
null
เหตุระเบิดภาคใต้,คาร์บอมบ์ภาคใต้,เหตุระเบิดปัตตานี,เหตุระเบิด 7 จว.ใต้,ไฟใต้,สถานการณ์ จชต.,ความคืบหน้าเหตุระเบิดใต้,ศอ.บต.,กอ.รมน.,ชายแดนใต้,สันติสุข,ภูทับเบิก,รีสอร์ต,รื้อรีสอร์ต,รื้อรีสอร์ท,กฎหมาย,บุกรุกพื้นที่อุทยาน,ข่าว,ข่าวการเมือง,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/700820
อีหรอบเดิม ผีแดง บุกโดน แมวดำ ขย้ำดับอนาถ 2-1
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015/16 ประจำวันที่ 13 ก.พ. เป็นการแข่งขันในคู่ระหว่าง แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ทีมรองบ๊วย เปิดสนาม สเตเดียม ออฟไลต์ ต้อนรับการมาเยือนของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 ของตาราง,เกมนี้เจ้าถิ่นมีปัญหาเล็กน้อยในแนวรุกเมื่อพวกเขาเพิ่งยกเลิกสัญญากับ อดัม จอห์นสัน ปีกตัวจริงของทีม ทำให้แนวรุกต้องหันไปใช้ ดาเม เอ็นดอย ผนึกกำลังร่วมกับ วาห์บี คาซรี และ เจอร์แมน เดโฟ ขณะที่ ทีมเยือน ผลงานกำลังดีตั้งแต่เริ่มปีนี้ โดยคู่หน้ายังเป็น เวย์น รูนีย์ จับคู่กับ อองโธนีย์ มาร์เชียล เหมือนเดิม,เปิดฉากเริ่มเกมขึ้นมา ตดยังไม่หายเหม็น แมวดำได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 นาทีที่ 3 เท่านั้น จากลูกฟรีคิกของ วาห์บี้ คาซรี ปั่นโค้งผ่านมือ ดาบิด เดเคอา เข้าไป,พอโดนประตูขึ้นนำ ปิศาจแดง ก็ครองบอลบุกได้มากกว่า แต่โอกาสยิงเข้ากรอบหนแรกต้องปาไปถึงนาทีที่ 31 จากลูกยิงของ ฮวน มาตา แต่ วิคตอร์ มานโนเน ยังรับเข้าซองสบาย,แต่ทว่านาทีที่ 38  ปิศาจแดง ก็มาได้ประตูตีเสมอ สำเร็จ 1-1 จากลูกปั่นโค้งของ มาตา บอลติดเซฟ มานโนเน แต่ยังมาเข้าทาง มาร์เชียล จัดการยิงชิพเข้าไปอย่างเหนือชั้น และครึ่งแรกก็จบลงด้วยสกอร์นี้,เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 54 เจ้าถิ่นไม่ได้ประตูขึ้นนำเหลือเชื่อ จากลูกแทงทะลุช่องของ ลี คัตเติลมอร์ บอลหลุดถึง ฟาน อาลโฮล์ท ก่อนตบเข้ากลางให้กับ เดโฟ ชาร์จจ่อๆ แต่ บลินด์ ตามมาบล็อกออกหลังหวุดหวิด,นาทีที่ 62 เจ้าถิ่นไม่ได้ประตูขึ้นนำอีกแล้ว และก็เป็น คัตเติลมอร์ คนเดิมแทงทะลุช่องบอลหลุดมาถึง เอ็นดอย ยิงกะเสียบเสาสอง แต่ เดเคอา ยิงเหยียดขาเซฟไว้ได้เหลือเชื่อ,จนกระทั่งนาทีที่ 82 ความพยายามของเจ้าบ้านก็ส่งผลขึ้นนำจนได้ 2-1 จากลูกเตะมุม คาซรี เปิดโค้งเข้ากลางให้กับ ลามีน โคเน ขึ้นขวิดบอลทำท่าจะตรงตัว เดเคอา แต่ดันรับบอลปลิ้นเข้าประตูตัวเอง,หลังจากนั้น ปิศาจแดง พยายามเร่งเกมบุก แต่ก็สายไปเสียแล้ว จบเกมการแข่งขัน ซันเดอร์แลนด์ เปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 18 ตามหลังโซนปลอดภัยแต้มเดียวแล้ว ขณะที่ ปิศาจแดง รั้งอันดับ 5 ตามเดิมและมีแต้มตามหลังท็อปโฟร์ 6 แต้ม แถมยังแข่งมากกว่าอีก 1 นัดด้วย,สรุปผลคู่อื่นมีดังนี้,บอร์นมัธ แพ้ สโต๊ก ซิตี้ 1-3,คริสตัล พาเลซ แพ้ วัตฟอร์ต 1-2,เอฟเวอร์ตัน แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0-1,นอริช ซิตี้ เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2,สวอนซี ซิตี้ แพ้ เซาแธมป์ตัน 0-1
ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเหมือนจะเครื่องติดแต่ก็วกเข้าอีหรอบเดิม เมื่อบุกไปโดนทีมรองบ๊วยอย่าง แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ทุบเอาชนะ 2-1 ทำให้โอกาสติดท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ยากขึ้นไปอีก
null
พรีเมียร์ลีก,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ซันเดอร์แลนด์,ข่าวกีฬา,ข่าว,ผลบอล,ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/content/577118
โลกถล่ม แผ่นดินทลาย นาทีธรณีพิโรธเขย่าเอกวาดอร์ ตายพุ่ง 272 (ชมคลิป)
นาทีสุดระทึก แผ่นดินไหวเขย่าเอกวาดอร์เสียหายยับยอดเหยื่อพุ่งพรวดอย่างน้อย 272 รายแล้ว บาดเจ็บกว่า2,500 คน เมืองเปเดอร์นาเลส ได้รับความเสียหายหนักสุด ทั้งเมืองพังราบเป็นหน้ากลอง ด้านทางการเร่งส่งทหารนับหมื่นมาช่วยทีมกู้ภัย ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยธรณีพิโรธ,เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.8 เขย่าพื้นที่ชายฝั่งริมมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตอนกลางของเอกวาดอร์ ประเทศในอเมริกาใต้ เมื่อเย็นวันที่ 16 เม.ย.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเช้าวันที่ 17 เม.ย.ตามเวลาในไทย จนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างหนัก จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 272 ราย บาดเจ็บกว่า 2,527 รายแล้ว,สำนักข่าวรอยเตอร์ แจ้งว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด อยู่ที่จังหวัดริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยเฉพาะที่เมืองเปเดอร์นาเลส ซึ่งถือเป็นเมืองชนบทที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว ที่เมืองทั้งเมืองพังราบเสียหายยับ มีผู้เสียชีวิตที่เมืองนี้แล้วประมาณ 91 คน,ขณะที่เมืองอื่นๆ ในจังหวัดมานาบี ทั้งเมืองมานต้า ปอร์โตวีโฮ ได้รับความเสียหายหนัก ระบบสาธารณูปโภค อาคารบ้านเรือน ถนนหนทางพังเสียหายย่อยยับจากเหตุธรณีพิโรธที่ถือว่ารุนแรงที่สุดในเอกวาดอร์ในรอบหลายสิบปี ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองเปเดอร์นาเลสซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ที่มีความลึกเพียง 19.3กม. กล่าวด้วยความเสียใจว่า เมืองเปเดอร์นาเลสทั้งเมืองพังเสียหายยับจนราบเป็นหน้ากลอง,ด้านทางการเอกวาดอร์ได้ระดมส่งกำลังทหารนับ 10,000 นาย และตำรวจ 3,500 นาย มาช่วยทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยในการเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ขณะที่ คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงมากกว่านี้ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของเอกวาดอร์ อาทิ เวเนซุเอลลา และเม็กซิโกได้ส่งความช่วยเหลือ ทั้งอาหาร และสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตชุดแรกมาถึงเอกวาดอร์แล้ว ขณะที่ รัฐบาลโคลอมเบียประกาศจะส่งทีมสุนัขตำรวจ และทหารเรือนำน้ำดื่มมาช่วยเหลือชาวเอกวาดอร์ที่ประสบภัย,ชมคลิป ,ที่นี่,,ตายพุ่ง41 เสียหายยับ เอกวาดอร์เผชิญแผ่นดินไหวแรงสุดในรอบหลายสิบปี,ช็อกอีก แผ่นดินไหวแรงมาก ขนาด 7.8 เขย่าเอกวาดอร์ ตายแล้ว 28
นาทีสุดระทึก แผ่นดินไหวเขย่าเอกวาดอร์เสียหายยับยอดเหยื่อพุ่งพรวดอย่างน้อย 272 รายแล้ว บาดเจ็บกว่า2,500 คน เมืองเปเดอร์นาเลส ได้รับความเสียหายหนักสุด เมืองพังราบเป็นหน้ากลอง ด้านทางการเร่งส่งทหารนับหมื่นช่วยเหลือผู้ประสบภัย
null
แผ่นดินไหวเอกวาดอร์,แผ่นดินไหว,เอกวาดอร์,ธรณีพิโรธ,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวต่างประเทศ
https://www.thairath.co.th/content/607176
สามเณรน้อย อินเตอร์ อีกก้าวของเรียลลิตี้ธรรมะ
สามเณรปลูกปัญญาธรรม, ของเคเบิลทีวี ทรูวิชั่นส์ ที่เรียกได้ว่าเหนียวแน่นมากคนหนึ่ง เพราะติดตามดูมาตลอดตั้งแต่ปีที่ 1 จนถึงปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 7 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา,แม้จะไม่ถึงขนาดที่ว่าตื่นนอนมาก็เปิดดู และก่อนจะเข้านอนก็ต้องเปิดดู จึงจะหลับได้ อย่างเมื่อตอนที่เขาออกอากาศปีแรกๆ,แต่ผมก็ยังดูอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ถ้าอยู่บ้านไม่ออกไปไหน ก็จะเปิดดูอยู่เสมอๆ,อย่างปีนี้ที่กลุ่มทรูและเครือเจริญโภคภัณฑ์ในฐานะสปอนเซอร์ใหญ่ไปจัดที่ วัดป่าไทรงาม จ.อุบลราชธานี ผมก็ดูอยู่หลายครั้ง,รวมทั้งเขียนแนะนำให้ด้วย 1 ครั้ง ก่อนที่รายการปีนี้จะออกอากาศสัก 2-3 วัน ถ้าจำไม่ผิด,เท่าที่ผมสังเกตเอาเองโดยไม่ได้ไปให้บริษัทไหนมาสำรวจเรตติ้งผมมั่นใจได้เลยว่ายอดคนดูรายการนี้น่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ,ขออนุญาตใช้สำนวนของนักสถิติที่เวลาเขาใช้คำว่า มีนัยสำคัญ ก็แปลว่ามันลดลงอย่างจะต้องจับตาดูเป็นพิเศษอะไรทำนองนั้น,ที่ผมมั่นใจเช่นนี้เพราะผมแทบไม่ได้ยินใครพูดถึงรายการนี้เลย ในแวดวงของผู้คนที่ผมพบปะสนทนาด้วย ซึ่งในเดือนหนึ่งออกจะมากโขอยู่,ยิ่งในสื่อสารมวลชนต่างๆ ซึ่งผมก็อ่านเยอะ ดูเยอะพอสมควร ก็ไม่ค่อยเห็นใครเขียนถึงหรือกล่าวถึง,ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกับรายการ สามเณรปลูกปัญญาธรรม ในขณะนี้ ก็เป็นไปตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนานั่นเอง,คือไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไป,รายการสามเณรเรียลลิตี้ ซึ่งฮิตมากในช่วง 2-3 ปีแรก ก็ค่อยๆลดความฮิตลง จนมาถึงปีที่ 7 ซึ่งแทบจะไม่ได้ยินเสียงกล่าวขวัญถึงเลยอย่างที่ว่า,แต่ที่น่ายินดีหรือควรจะใช้คำว่า อนุโมทนา อย่างยิ่งก็คือ กลุ่มทรูและเครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังมิได้ถอดใจแต่ประการใด,ยังคงนำเสนอรายการนี้อย่างต่อเนื่อง และขณะเดียวกันก็พยายามค้นหารูปแบบและวิธีนำเสนอใหม่ๆ เพื่อสร้างความสนใจให้แก่รายการนี้อยู่ตลอด,เริ่มตั้งแต่การหมุนเวียนไปจัดตามภาคต่างๆและเปลี่ยนวัดไปเรื่อยๆ ดังเช่นปีนี้ที่ไปไกลถึง วัดป่าไทรงาม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ดังกล่าว,ขณะเดียวกันก็ยังมีภาค 2 ต่ออีกที่วัดเดียวกันนี้ และกำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้,จะเรียกเสียว่า สามเณรน้อยปลูกปัญญาธรรม ภาค อินเตอร์ ก็คงจะได้ เพราะสามเณรชุดใหม่ที่มาบรรพชา และจะอยู่ศึกษาพระธรรมวินัยประมาณ 1 เดือน จากนี้ไปล้วนเป็นสามเณร อินเตอร์ ทั้งสิ้น,ผมนั่งดูมา 3-4 วันแล้วครับ เยาวชนชุดนี้น่ารักมาก มาจากอังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน เนปาล แล้วก็เคนยา รวมทั้งสิ้น 12 คน จากผู้สมัครเข้ามารับการคัดเลือกกว่า 500 คน,ส่วนใหญ่จะเป็นลูกครึ่งน่ะครับ คือมีบิดาหรือมารดาเป็นคนไทย ยกเว้นเนปาลกับเคนยาที่น่าจะเป็นลูกเต็มไม่มีเชื้อไทยปนด้วย,ด้วยเหตุที่เป็นเยาวชนอินเตอร์ บรรดาพระอาจารย์ทั้งหลายจึงต้องพูดจาและเทศนาเป็นภาษาอังกฤษไปด้วย ยกเว้นเวลาสวดมนต์ที่จะใช้ภาษาบาลี ซึ่งเด็กๆทั้งหลายก็สวดได้อย่างคล่องแคล่วทีเดียว,ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ก่อนจะถึงพิธีบรรพชา แต่กว่าต้นฉบับจะลงตีพิมพ์คงเข้าพิธีเรียบร้อยเป็นสามเณรโดยสมบูรณ์ทั้ง 12 รูป,สามเณรน้อยนานาชาติชุดนี้จะอยู่ศึกษาปฏิบัติธรรม ณ วัดป่าไทรงาม อ.เดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ไปจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม จึงจะลาสิกขา,ขอเชิญท่านที่สนใจใคร่รู้ใคร่ทราบว่ารายการธรรมะเรียลลิตี้ภาคภาษาอังกฤษ (ครั้งแรกในโลก) รายการนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง โปรดติดตามได้ที่ทรูวิชั่นส์ 60, 99, 119 หรือ 333 และทรู 37 นะครับ,ขอขอบคุณ คุณ ศุภชัย เจียรวนนท์ ไว้ ณ ที่นี้อีกครั้ง ที่ยังคงมุ่งมั่นให้มีรายการนี้โดยไม่ห่วงเรตติ้งแต่ประการใด,อย่างที่ผมเคยเสนอไว้แหละครับ ยังไงๆก็ขอให้ออกอากาศไปเรื่อยๆ อย่าให้แพ้รายการ AF (ประกวดนักร้อง) เด็ดขาดAF จบในครั้งที่เท่าไหร่ผมจำไม่ได้แล้ว แต่รายการ สามเณรน้อย จะต้องอยู่ให้นานกว่า AFฝากไว้ด้วยนะครับ เจ้าสัวศุภชัย.,ซูม
ผมเป็นแฟนรายการ สามเณรปลูกปัญญาธรรม ของเคเบิลทีวี ทรูวิชั่นส์ ที่เรียกได้ว่าเหนียวแน่นมากคนหนึ่ง
null
สามเณรปลูกปัญญาธรรม,ทรูวิชั่นส์,เครือเจริญโภคภัณฑ์,เหะหะพาที,ซูม
https://www.thairath.co.th/newspaper/columns/1325007
เปิดจดหมายเรียกคืนเงิน เราไม่ทิ้งกัน ต้องคืนภายใน 7 วัน เฉพาะ 7666 ราย
คลังแจง จดหมายเรียกคืนเงิน เราไม่ทิ้งกัน ภายใน 7 วัน จะถูกส่งถึงบ้าน เฉพาะกลุ่มคนที่ สละสิทธิ์ เท่านั้น พร้อมเปิดเนื้อหาจดหมายเรียกคืนเงินจากกรณีมีผู้ที่ได้รับหนังสือจาก สศค. โดยในหนังสือระบุว่า ตามที่กระทรวงการคลังมีมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบอื่นๆ ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวน 5000 บาท 3 เดือน และท่านได้แสดงความประสงค์สละสิทธิ์การได้รับเงินชดเชย เพื่อให้การดำเนินการสละสิทธิ์เป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ขอให้ท่านดำเนินการคืนเงินชดเชยรายได้ที่ท่านได้รับแล้วทั้งหมด ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ และให้ชำระเงินผ่านช่องทาง โมบาย แบงก์กิ้ง และเอทีเอ็มของธนาคารใดก็ได้นั้นล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผยว่า เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2563 มีผู้สละสิทธิ์ 10121 ราย มีผู้คืนเงินให้กระทรวงการคลังครบถ้วนแล้ว 2455 ราย คงเหลือผู้ที่ยังไม่คืนเงิน 7666 ราย โดยกระทรวงการคลังจึงได้มีหนังสือแจ้งให้กลุ่มผู้สละสิทธิ์มาตรการเยียวยา 5000 บาท ดังกล่าว คืนเงินเยียวยาที่ได้รับไปแล้วทั้งหมดต่อกระทรวงการคลัง ซึ่งหลังจากมีหนังสือออกไปแล้ว ณ วันที่ 7 ก.ค. 2563 มีผู้คืนเงินเพิ่มเติม 84 รายดังนั้น เพื่อให้การสละสิทธิ์เสร็จสมบูรณ์ จึงขอความร่วมมือจากผู้แสดงความประสงค์สละสิทธิ์มาตรการเยียวยา 5000 บาท คืนเงินที่ได้รับไปเต็มจำนวนให้แก่กระทรวงการคลัง โดยสามารถดำเนินการผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.comผ่าน Mobile Banking Internet Banking หรือ ATM ของธนาคารใดก็ได้ หรือนำหนังสือที่ได้รับไปติดต่อที่สาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทั่วประเทศสำหรับหนังสือเรียกเงินคืน ระบุดังนี้ ตามที่กระทรวงการคลังได้มีมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบอื่นๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) หรือมาตรการเยียวยา 5000 บาท (3 เดือน) และท่านได้แสดงความประสงค์สละสิทธิ์การได้รับเงินชดเชยตามมาตรการฯ นั้นสำนักงานเศรษฐกิจการคลังพิจารณาแล้วขอเรียนว่า เพื่อให้การดำเนินการสละสิทธิ์ดังกล่าวเป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ จึงขอความร่วมมือให้ท่านดำเนินการคืนเงินชดเชยรายได้ที่ท่านได้รับไปแล้วทั้งหมดให้กระทรวงการคลัง ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ โดยสามารถคืนเงินได้ผ่านช่างทางต่างๆ ดังนี้1. ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เลือกปุ่มสละสิทธิ์ (สีชมพู) และดำเนินการชำระเงินผ่านช่องทางที่กำหนด2. ชำระคืนผ่าน Mobile Banking/ Internet Banking/ ATM ของธนาคารใดก็ได้ โดยดำเนินการดังนี้2.1 เลือกระบบการจ่ายเงินหรือชำระเงิน (Bill Payment)2.2 เลือกหมวดหมู่หน่วยงานราชการ และเลือกหัวข้อ รับชำระเงินจากผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 (97612) หรือ เลือกค้นหาจากชื่อผู้รับเงิน รับชำระเงินจากผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 หรือเลือกค้นหาจาก Company Code หมายเลข 97612 หรือเลือกค้นหาจาก Biller ID หมายเลข 1994000160224082.3 ระบุ รหัสอ้างอิง 1 (ช่องแรก) = เลขบัตรประจำตัวประชาชน และ รหัสอ้างอิง 2 (ช่องที่ 2) = หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียน2.4 ระบบจะดำเนินการตรวจสอบยอดเงินทั้งหมดที่ท่านต้องชำระคืน และขอให้ท่านยืนยันการทำรายการ3. ติดต่อสาขาธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทั่วประเทศ โดยแจ้งคืนเงินตามมาตรการเยียวยา 5000 บาท (3 เดือน) พร้อมแจ้งเลขบัตรประจำตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนอนึ่ง หากท่านได้ชำระคืนเงินชดเชยรายได้ตามมาตรการฯ แล้ว ก่อนได้รับหนังสือฉบับนี้ ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการคืนเงินชดเชยตามมาตรการฯ ด้วย จะยิ่งขอบคุณยิ่ง.(ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊กทนายตัวแสบ:Badass Attorney)
คลังแจง จดหมายเรียกคืนเงิน เราไม่ทิ้งกัน ภายใน 7 วัน จะถูกส่งถึงบ้าน เฉพาะกลุ่มคนที่ สละสิทธิ์ เท่านั้น พร้อมเปิดเนื้อหาจดหมายเรียกคืนเงิน
ข่าว,เศรษฐกิจ
เราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน,ลงทะเบียนรับเงิน 5000,www.เราไม่ทิ้งกัน.com,วิธีรับเงิน5000,เงินเยียวยา 5000 บาท,โควิด-19
https://www.thairath.co.th/news/business/1884747
รายงานเสวนา: ปัญหาพรมแดนไทยกับเพื่อนบ้าน
มล. พินิตพันธุ์ บริพัตร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มธ. ระบุปัญหาพรมแดนไทย-เพื่อนบ้านเป็นผลจากปัญหาการลากเส้นเขตแดนและการใช้แผนที่ กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคม และลักษณะรัฐข้าราชการของไทยเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา หม่อมหลวงพินิตพันธุ์ บริพัตร นักศึกษาปริญญาเอกมหาวิทยาลัยนอร์ทเธิร์นอิลลินอยส์และอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำเสนองานวิจัยระดับปริญญาเอกในงาน Bangkok Research Seminar ในหัวข้อ ลักษณะของชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านหลังยุคสงครามเย็น โดยได้ใช้ศึกษาเปรียบเทียบความสัมพันธ์ชายแดนไทยกับพม่าและกัมพูชาที่ยังคงมีความขัดแย้งทางการทหาร กับความสัมพันธ์ของพรมแดนไทยกับลาวและมาเลเซียที่มีความขัดแย้งน้อยกว่า และพบว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้านนั้นเป็นผลมาจากปัจจัยหลักสามด้าน คือ ปัญหาการลากเส้นเขตแดนและการใช้แผนที่ กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคม และลักษณะรัฐข้าราชการของไทย อนึ่ง ปัญหาชายแดนในที่นี้ ผู้วิจัยเจาะจงหมายถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศในความหมายดั้งเดิม คือการเผชิญหน้าระหว่างรัฐกับรัฐซึ่งอาจกระทบกับอำนาจอธิปไตย การเกิดปัญหาอาชญากรรมและการก่อความไม่สงบบริเวณชายแดนการปกครองของอังกฤษและฝรั่งเศสในช่วงอาณานิคมได้ทิ้งมรดกปัญหาของการใช้แผนที่ในเอเชียอาคเนย์ รวมทั้งสภาวะสงครามเย็นก็ได้ทำให้การปักปันเขตแดนระหว่างเพื่อนบ้านนั้นเกิดความลักลั่น ดังในเหตุการณ์เขาพระวิหารที่อาจมองได้ว่าสาเหตุหนึ่งของปัญหานั้นเกิดมาจากการตีความจากแผนที่คนละฉบับ นอกจากนี้ ในแง่ของกระบวนการกล่อมเกล่าทางสังคม การหล่อหลอมของสังคมไทยในเรื่องชาตินิยม ความเป็นเอกราช ความยิ่งใหญ่และความรู้สึกเหนือกว่าต่อเพื่อนบ้านรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตซ้ำเรื่องพระนเรศวรที่ไทยสามารถปลดแอกจากพม่า หรือการชูนโยบายชาตินิยมในสมัยรัฐบาลพิบูลสงคราม ต่างตอกย้ำจินตนาการความยิ่งใหญ่ของกองทัพไทย และนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรัฐชาติไทยในระยะสมัยใหม่ด้วย พม่าและกัมพูชาจึงกลายเป็นเหยื่อของกระแสชาตินิยมไทยไปโดยปริยาย ในขณะที่ลาวและมาเลเซียไม่ได้รับผลกระทบเท่าใดนักเนื่องจากอาจมองได้ว่าลาวเป็นรัฐที่มีการเมืองภายในค่อนข้างนิ่งและดำเนินนโยบายต่างประเทศไม่ก้าวร้าว ส่วนมาเลเซียนั้นเป็นเพราะอยู่ไกลจากศูนย์กลางอำนาจของรัฐไทย นอกจากนี้ การเกิดอาชญากรรมในบริเวณชายแดนและการก่อความไม่สงบโดยกลุ่มต่างๆ ยังส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงของอำนาจอธิปไตยของรัฐอีกด้วยพินิตพันธ์มองว่า ปัญหาชายแดนไทยและเพื่อนบ้าน มีต้นตอที่สำคัญมาจากกลุ่มชนชั้นนำ ซึ่งเป็นผู้ที่ตัดสินใจและดำเนินนโยบายต่างประเทศ โดยปัญหานี้แยกไม่ออกจากลักษณะของรัฐไทยที่มีข้าราชการเป็นใหญ่ หรือตามทฤษฎีรัฐข้าราชการ (Bureaucratic Polity) ของเฟรด ริกส์ (Fred Riggs) ซึ่งละเลยความสำคัญของกลุ่มพลังอื่นๆนอกรัฐในการกำหนดนโยบาย การมีส่วนร่วมของกลุ่มอื่นๆนอกข้าราชการในการกำหนดนโยบายจึงเป็นไปได้น้อย ประกอบกับเมื่อมีรัฐสภาที่อ่อนแอ ทำให้ระบบประชาธิปไตยของไทยไม่ทำงาน การกำหนดนโยบายระหว่างประเทศจึงขึ้นอยู่กับมุมมองและท่าทีของผู้นำประเทศในแต่ล่ะยุคเป็นหลัก เขายกตัวอย่างสมัยของเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ที่การร่วมมือระหว่างไทยกับลาวและพม่าเป็นไปได้อย่างราบรื่นและกว้างขวาง เนื่องจากเกรียงศักดิ์ไม่ได้มองอินโดจีนในขณะนั้นในฐานะศัตรูจากภัยคอมมิวนิสต์ จึงส่งผลให้นโยบายระหว่างประเทศในช่วงนั้นเฟื่องฟูจนไทยสามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทยกับลาวได้สำเร็จในปีพ.ศ. 2530 ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังเห็นได้จากการที่ผู้นำประเทศของไทย ไม่ว่าจะเป็นสมัยชาติชาย ชุณหะวัน ชวลิต ยงใจยุทธ และเชษฐา ฐานะจาโร เข้าเยี่ยมและพบปะโดยส่วนตัวกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ผ่านหน่วยงานทางการทูตเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่อรัฐ ดังนั้น ความสัมพันธ์ชายแดนระหว่างไทยและเพื่อนบ้าน จึงขึ้นอยู่กับท่าทีและมุมมองส่วนตัวต่อนโยบายต่างประเทศของผู้นำในแต่ละยุคสมัยด้วยเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม มิใช่ว่าการดำเนินนโยบายต่างประเทศของชนชั้นนำจะเป็นไปอย่างเป็นเอกภาพทั้งหมด ดังจะเห็นในสมัยทักษิณ ชินวัตรที่กองทัพไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในนโยบายที่ว่าด้วยการปราบปรามยาเสพติดในพม่า ซึ่งส่งผลให้เกิดความขัดแย้งในหมู่ผู้นำไทยในท่าทีความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับพม่า เป็นต้นกลุ่มเสวนา Bangkok Research Seminar เป็นกลุ่มที่ดำเนินการโดยรองศาสตราจารย์แดนนี่ อังเงอร์ (Danny Unger) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองไทยและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศประจำมหาวิทยาลัยนอร์ทเธิร์นอิลลินอยส์ จุดประสงค์ของการเสวนาเป็นไปเพื่อสร้างพื้นที่ที่แลกเปลี่ยนและถกเถียงทางด้านวิชาการในประเด็นต่างๆ โดยมีกลุ่มผู้สนใจเข้าร่วมอย่างหลากหลาย ทั้งนักวิจัย นักศึกษา คนทำงานด้านสื่อมวลชน และผู้สนใจในประเด็นสังคมและการเมืองทั่วไป
มล. พินิตพันธุ์ บริพัตร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มธ. ระบุปัญหาพรมแดนไทย-เพื่อนบ้านเป็นผลจากปัญหาการลากเส้นเขตแดนและการใช้แผนที่ กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคม และลักษณะรัฐข้าราชการของไทย เมื่อวันที่ 19
การเมือง,ต่างประเทศ,วัฒนธรรม,การศึกษา,ความมั่นคง
กรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา,ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ,ชายแดนไทย-มาเลเซีย,ประเทศเพื่อนบ้าน,พินิจพันธุ์ บริพัตร,เสวนา
https://prachatai.com/journal/2011/04/34169
ข้อเสนอกำกับดูแล เนื้อหาต้องห้าม โดยรัฐ: การสร้างสมดุลระหว่าง เสรีภาพสื่อ และ การคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ
หลักเกณฑ์การกำกับดูแลเนื้อหารายการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 ประกาศฉบับนี้เป็นการใช้อำนาจตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่บัญญัติว่า ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง โดย กสทช. อ้างว่าประกาศฉบับดังกล่าวจะช่วยอธิบายเพิ่มเติมว่าเนื้อหารายการในลักษณะใดที่เป็นการต้องห้ามมิให้มีการออกอากาศในวิทยุและโทรทัศน์ร่างประกาศดังกล่าวถูกวิพากษ์จากองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนและภาคประชาชนสังคมว่า กสทช. กำลังทำตัวเป็น กบว. (คณะกรรมการบริการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์) ซึ่งทำหน้าที่เซ็นเซอร์เนื้อหาในสื่อ และถูกยกเลิกไปแล้วกว่า 20 ปี เนื่องจากการเซ็นเซอร์สื่อถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักประชาธิปไตยสากล รวมถึงข้อวิจารณ์ว่าประกาศดังกล่าวสร้างความคลุมเครือในการตีความมาตรา 37 มากยิ่งขึ้น เปิดโอกาสให้ กสทช. ใช้ดุลยพินิจมากเกินไป และเป็นการใช้อำนาจมากเกินกว่าที่กำหนดไว้ในมาตรา 37 ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการคุกคามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชนนอกจากนั้น กรณีที่ กสทช. โดย พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ เชิญผู้ผลิตละคร เข้าพบ ด้วยเหตุผลว่าเนื้อหาของละครอาจละเมิดมาตรา 37 (กระทบกับศีลธรรมอันดี เข้าข่ายลามกอนาจาร หรือส่งผลก่อให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชน) ก็ทำให้สังคมทวงถามถึงการใช้ ดุลยพินิจ ของ กสทช. และการใช้อำนาจที่มากเกินควร โดยไม่สนใจกระบวนการกำกับดูแลกันเองของภาควิชาชีพอย่างไรก็ดี แม้ว่าข้อโต้แย้งของฝ่ายไม่เห็นด้วยต่อร่างประกาศฯ จะสมเหตุผลก็ตาม ทว่าก็มีความเห็นที่สื่อให้เข้าใจผิดว่า กสทช. ไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการกำกับดูแลเนื้อหา เพราะอันที่จริงไม่ว่าจะดูในข้อกฎหมายของไทยหรือหลักการสากล (เกือบทุกประเทศในโลกมีการกำกับดูแลเนื้อหาโดยภาครัฐ แม้จะมีความแตกต่างกันในเรื่องเนื้อหาและวิธีการกำกับดูแล) องค์กรกำกับดูแลอย่าง กสทช. มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลเนื้อหาบางประเภทเพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะและคุ้มครองสังคม เช่น การคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากภาพลามกอนาจาร หรือการคุ้มครองผู้บริโภคจากโฆษณาหลอกลวง ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ รายงานฉบับนี้มุ่งวิเคราะห์ร่างประกาศฉบับดังกล่าว พร้อมจัดทำข้อเสนอสำหรับการกำกับดูแลเนื้อหาใน 3 ประเด็นหลัก คือ หนึ่ง การกำกับดูแลเนื้อหาโดยรักษาสมดุลระหว่างเสรีภาพในการแสดงความเห็นและการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ สอง การออกแบบวิธีการแทรกแซงและลงโทษที่เหมาะสม และสาม การนำกลไกการกำกับดูแลกันเอง (self-regulation) และกำกับดูแลร่วม (co-regulation) มาใช้ควบคู่กับการกำกับดูแลโดยรัฐ (state regulation)แม้ กสทช. จะมีอำนาจตามมาตรา 37 ในการกำกับดูแลเนื้อหา แต่ เอาไว้ ด้วยเหตุนี้ การออกประกาศเนื้อหาต้องห้ามตามมาตรา 37 ซึ่งถือเป็นข้อยกเว้นไม่ใช้หลักการใหญ่ในเรื่องสิทธิเสรีภาพ จึงต้องมีความชัดเจนและคำนึงถึงการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง เพื่อป้องกันการใช้อำนาจที่ลิดรอนเสรีภาพมากเกินไปตามหลักการสากลแล้ว การกำกับดูแลเนื้อหาโดยรัฐนั้นจะเป็นการบังคับเนื้อหาในเชิงบวก (positive content obligations) เป็นหลัก เช่น การกำหนดให้มีรายการเด็ก รายการข่าวสาร หรือละครที่ผลิตเองในประเทศ ฯลฯ ส่วนในกรณีการกำกับดูแลเนื้อหาต้องห้ามนั้น รัฐมีสิ่งต้องคำนึงถึงดังนี้:ในกรณีของร่างประกาศ เนื้อหาต้องห้าม ของ กสทช. ในหมวดที่ 1 ซึ่งเป็นการขยายความจากมาตรา 37 การวิเคราะห์พบว่า:(ดูการวิเคราะห์เนื้อหาประกาศฯ เพิ่มเติมได้ที่ภาคผนวก 1 หรือโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน http://ilaw.or.th/node/2860)นอกจากปัญหาในเรื่องการเขียนเนื้อหาที่ไม่ชัดเจน ไม่คำนึงถึงประเด็นเสรีภาพในการแสดงความเห็น และอาจไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง ในหมวดที่ 2 ของประกาศฯ ซึ่งว่าด้วยมาตรการในการออกอากาศรายการ โดยหลักใจความของหมวดนี้เป็นการก้าวล้ำเข้าไปสู่ วิธีการทำงาน ของผู้ผลิตเนื้อหาและกองบรรณาธิการที่จะต้องนำเสนอข้อมูลที่ ถูกต้อง รอบด้านและสมดุล มีความเป็นกลาง ไม่แสดงความเห็นส่วนตน ไม่ฝักฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะการนำเสนอเนื้อหาทางการเมืองหรือประเด็นที่มีความเห็นต่างหรือความขัดแย้งสูงแม้ในเชิงหลักการแล้ว ข้อกำหนดดังกล่าวจะถือเป็นหลักการสากลที่กำหนดไว้ในจริยธรรมวิชาชีพ แต่ในการปฏิบัติงานจริง กฎบางข้ออาจไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง หรืออาจถูกนำไปบังคับใช้ในทางที่ผิดจนส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการทำงานของสื่อได้ การตัดสินจึงต้องพิจารณาเหตุผลและความจำเป็นของผู้ผลิตหรือกองบรรณาธิการด้วย ตัวอย่างเช่น กฎการแบนหรือลงโทษการเผยแพร่ข่าวที่มีเนื้อหาไม่ถูกต้องอาจถูกนำไปใช้เพื่อปิดกั้นการนำเสนอข้อมูลหรือความคิดเห็นที่มีความสำคัญต่อสาธารณะ แต่อาจจะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ (ซึ่งความจริงแท้คืออะไรก็เป็นแนวคิดที่โต้เถียงกันได้) นอกจากนั้น เนื้อหาที่อาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอาจไม่ได้นำไปสู่ความเสียหายกับสังคมมากเท่ากับประโยชน์ที่สังคมได้รับจากการรายงานข่าว โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นจริงขึ้นมา รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นก็สามารถจัดการได้ด้วยการลงชี้แจงขอโทษหรือให้พื้นที่กับผู้เสียหายในการแก้ต่าง หรือผู้เสียหายสามารถใช้กฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับ ผลกระทบ ที่เกิดขึ้นเฉพาะ เช่น กฎหมายหมิ่นประมาทอีกตัวอย่างหนึ่งคือ การห้ามสถานีแสดงความเห็น มีความเป็นกลาง และต้องเปิดให้มีการแสดงความเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการปฏิบัติงานจริง สถานีอาจไม่สามารถเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่มีความเห็นต่างมาได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่สามารถนำเสนอประเด็นดังกล่าวได้หากมีการบังคับใช้กฎอย่างตายตัว ดังนั้น สิ่งที่สถานีทำได้คือการให้สิทธิกับฝ่ายที่เห็นต่างชี้แจงได้หากมีการร้องขอมา หรือผู้ดำเนินรายการอาจต้องเล่นบทบาท ฝ่ายตรงข้าม เพื่อถามความเห็นแย้งกับอีกฝ่าย ซึ่งช่วยเพิ่มสมดุลให้กับรายการมากขึ้น (แม้ว่าอาจทำให้พิธีกรดูขาดความเห็นกลาง และอาจถูกตีความว่าเป็นการแสดงความเห็นของผู้ดำเนินรายการ) ตัวอย่างข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ความพยายามในการกำกับ กระบวนการผลิตเนื้อหา ถือเป็นการใช้อำนาจที่กว้างและคลุมเครือเกินไป รวมถึงไม่อาจทำได้แบบแข็งตัวโดยมิได้พิจารณาเหตุผลหรือความจำเป็นของกองบรรณาธิการประกอบ ด้วยเหตุนี้ โดยหลักการสากลแล้ว การใช้อำนาจกำกับดูแลเนื้อหาสื่อโดยรัฐจะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิทธิเสรีภาพสื่อ ดังนี้เมื่อนำหลักการข้างต้นมาวิเคราะห์ประกาศฯ โดยเฉพาะในหมวดที่ 3 ว่าด้วยการกำกับดูแล จะพบว่าโจทย์สำคัญในการออกแบบวิธีการกำกับดูแลเนื้อหาเพื่อรักษาสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม คือ การสร้างกลไกที่ทำให้สื่อรักษามาตรฐานทางวิชาชีพในระดับสูงโดยที่รัฐไม่ต้องเข้าแทรกแซงมากเกินไปจนอาจเป็นการคุกคามเสรีภาพของสื่อ (เพราะโดยธรรมชาติแล้ว สื่อต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐ จึงต้องระวังการใช้อำนาจที่มากเกินไปของภาครัฐ) ด้วยเหตุนี้ การกำกับดูแลกันเองเป็นการรวมตัวกันเองของภาควิชาชีพเพื่อหาแนวทางการกำกับดูแลเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ โดยปราศจากการแทรกแซงขององค์กรกำกับดูแลโดยรัฐ และไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับจรรยาบรรณที่ถูกร่างขึ้นกันเองในภาควิชาชีพ ส่วนการกำกับดูแลร่วมคือการผสมผสานองค์ประกอบของการกำกับดูแลโดยรัฐและการกำกับดูแลกันเองในภาควิชาชีพเข้าด้วยกัน โดยภาครัฐจะทำหน้าที่สนับสนุนหรือสร้างแรงจูงใจ ไม่ว่าจะผ่านอำนาจทางกฎหมายหรือการสนับสนุนเงินทุน เพื่อให้การกำกับดูแลกันเองทำงานเพื่อปกป้องผลประโยชน์สาธารณะได้ดีขึ้น หากต้องการสนับสนุนกลไกการกำกับดูแลกันเองและการกำกับดูแลร่วมควบคู่กับการกำกับดูแลโดยรัฐ องค์กรกำกับดูแลของรัฐควรออกแบบวิธีการกำกับดูแลเนื้อหาโดยคำนึงถึงถึงหลักปฏิบัติดังนี้เมื่อวิเคราะห์ประกาศเนื้อหาต้องห้ามจะเห็นว่า ประกาศฯ ดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงกลไกการกำกับดูแลกันเองหรือกำกับดูแลร่วม มีเพียงแต่การใช้อำนาจรัฐในการกำกับดูแลทางเดียว กล่าวคือ นอกจากนั้น (แม้จะมีการเรียกองค์กรวิชาชีพสื่อเข้าไปให้ความเห็น แต่ก็มิได้นำความเห็นเหล่านั้นไปปรับแก้ประกาศเนื้อห้าต้องห้าม) ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่า กสทช. ออกประกาศดังกล่าวบนฐานคิดการกำกับดูแลโดยรัฐเท่านั้นอันที่จริง มาตรา 39 และ 40 แห่ง พรบ. การประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 กำหนดให้ กสทช. ส่งเสริมการจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมและการกำกับดูแลกันเองในภาควิชาชีพ ซึ่งที่ผ่านมา กสทช. ก็ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมการกำกับดูแลกันเอง โดยมี กสทช. สุภิญญา กลางณรงค์ เป็นประธาน ทว่าประกาศเนื้อหาต้องห้ามที่มอบอำนาจให้กับ กสทช. มากเกินไป กลับเดินสวนทางกับทิศทางดังกล่าว ซึ่งชวนให้ตั้งคำถามถึงวิสัยทัศน์ในการกำกับดูแลเนื้อหาในภาพรวมของ กสทช. เองกล่าวโดยสรุป ปัญหาหลักของประกาศเนื้อหาต้องห้ามสะท้อนให้เห็นผ่าน 1) การพัฒนาประกาศเนื้อหาต้องห้ามโดยปราศจากการมีส่วนร่วมของสมาคมวิชาชีพ องค์กรสื่อ และภาคประชาสังคม 2) การนิยามเนื้อหาต้องห้ามอย่างคลุมเครือเกินไป และข้อห้ามบางประการก็อาจไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง 3) การก้าวล่วงเข้าไปกำกับดูแลกระบวนการทำงานของสื่อ ซึ่งเกินเลยกว่าข้อกำหนดตามกฎหมาย 4) การขาดกลไกการรับและตัดสินเรื่องร้องเรียนที่ชัดเจนและโปร่งใส 5) การขาดกระบวนการแทรกแซงและลงโทษที่เหมาะสมและค่อยเป็นค่อยไป และ 6) การไม่ให้ความสำคัญกับกลไกการกำกับดูแลกันเองและการกำกับดูแลร่วมควบคู่ไปกับการกำกับดูแลโดยรัฐปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากวิธีคิดของหน่วยงานรัฐที่พยายามใช้อำนาจกำกับเนื้อหาโดยไม่คำนึงหลักการรักษาสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพของสื่อและการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ รวมถึงไม่ตระหนักถึงความสำคัญของกลไกการกำกับดูแลกันเองและการกำกับดูแลร่วมในการจัดการประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนอย่างการกำกับเนื้อหา ซึ่งเป็นแนวทางที่นานาอารยประเทศพยายามส่งเสริมให้ไปในทิศทางนั้นหากไม่ต้องการให้สังคมตีตรา กสทช. ว่าทำตัวเป็น กบว. อวตารเสียแล้ว กสทช. คงต้องปรับวิธีคิด รวมถึงศึกษาหลักการสากลและกลไกการกำกับดูแลเนื้อหาสื่อที่เข้ากับยุคสมัยให้มากขึ้นหมายเหตุตีพิมพ์ครั้งแรกที่ ภาคผนวก 1: ตัวอย่างบทวิเคราะห์ปัญหาของประกาศเนื้อหาต้องห้ามบนหลักการสากล
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ภายใต้ความรับผิดชอบของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้ให้ความเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง
คุณภาพชีวิต
กสทช.,การกำกับสื่อ,วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง,โครงการติดตามนโยบายสื่อและโทรคมนาคม
https://prachatai.com/journal/2013/08/48347
เชื่อ หญิงไก่ อาจจิตไม่ปกติ ผบช.ก.เปิดประเด็นใหม่ ยันไม่กระทบคดี
วันที่ 8 ก.ค. ภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนางมณตรา หยกรัตนกาญ หรือไก่ หรือหญิงไก่ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาในคดีแจ้งความเท็จ พยายามค้ามนุษย์ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง หลังจากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว (,นอนคุก ศาลไม่ให้ประกัน หญิงไก่ ชี้โทษสูง ส่งฝากขังทัณฑสถานหญิงกลาง,),พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้เข้าพบ มอบหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับการหายตัวไปของบุคคลสองคนที่เกี่ยวข้องกับหญิงไก่ ซึ่งวันจันทร์ที่ 11 ก.ค.นี้ ครอบครัวผู้เสียหายจะเข้าให้ข้อมูล เพื่อเป็นหลักฐานดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้มีกว่า 10 คดี ที่หญิงไก่จะตกเป็นผู้ต้องหา รวมทั้งพฤติกรรมเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ที่ตำรวจ ปคม. และตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกันลงพื้นที่ไปพบกับชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ คาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง,ส่วนที่ทนายสงกรานต์ระบุว่า ตำรวจนครบาลประชาชื่นอาจมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับหญิงไก่ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าวว่า จะต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ยังตอบไม่ได้ว่า ร้อยตำรวจโทคนดังกล่าวจะตกเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ โดยต้องเรียกตัวมาสอบปากคำ เนื่องจากบางครั้งหญิงไก่มีพฤติกรรมสร้างตัวละครขึ้นมา เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง เช่น อ้างว่า มีทหารยศนายพลติดตามไปที่สถานีตำรวจ แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นทหารจริงหรือไม่ ทั้งนี้ให้ความมั่นใจว่า แม้มีกระแสข่าวว่า หญิงไก่มีนายตำรวจหลายนายแวดล้อมตัว แต่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย,พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวด้วยว่า ข้อมูลสำคัญที่พบอีกอย่าง คือ จากการติดตามดูพฤติกรรมของหญิงไก่มาต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนตกเป็นผู้ต้องหา เชื่อว่าหญิงไก่อาจมีอาการจิตไม่ปกติ หรือ อาจไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ แต่หญิงไก่ไม่รู้ตัว และจากการตรวจสอบประวัติการรักษา ไม่พบข้อมูลการรักษาตัว หรือ ยาที่ใช้รับประทานระงับอาการ โดยอาการจิตไม่ปกติของหญิงไก่ ผู้ต้องหาหรือจำเลย อาจถูกนำมาใช้ต่อสู้ในคดีได้.
ผบช.ก.เปิดประเด็นใหม่ เชื่อตัว หญิงไก่ อาจมีอาการจิตไม่ปกติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ยืนยันไม่มีผลกระทบกับรูปคดี แม้ผู้ต้องหายกเป็นข้อต่อสู้ได้ ส่วน ร.ต.ท.สังกัด สน.ประชาชื่น ความผิดยังไม่ชัด
null
หญิงไก่,คดีหญิงไก่,มณตรา หยกรัตนกาญ,หญิงไก่จิตไม่ปกติ,ฐิติราช หนองหารพิทักษ์,ผบช.ก.,ค้ามนุษย์,แจ้งความเท็จ,มาตรา 112,อาชญากรรม,ข่าว,ไทยรัฐออนไลน์,ข่าวทั่วไทย,กทม.
https://www.thairath.co.th/content/658452