query_id
stringlengths
1
4
query
stringlengths
11
185
positive_passages
listlengths
1
9
negative_passages
listlengths
1
30
3391
ฮ่องกงเป็นเกาะหรือไม่ ?
[ { "docid": "148946#0", "text": "เกาะฮ่องกง (อักษรจีนตัวเต็ม: 香港島; ภาษาอังกฤษ: Hong Kong Island) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน", "title": "เกาะฮ่องกง" }, { "docid": "6032#4", "text": "ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของเกาะฮ่องกง เกาลูนและเขตดินแดนใหม่ จะเป็นแนวเขาทอดตัวยาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือลงสู่ทิศใต้ เป็นแนวเขาที่ต่อเนื่องมาจากมณฑลฝูเจี้ยนและกว่างตงที่อยู่ทางตอนใต้ของจีน แต่เนื่องจากเขตเทือกเขาแต่ครั้งโบราณนั้น ปัจจุบันจมอยู่ใต้น้ำ จึงเกิดเป็นทัศนียภาพเกาะแก่งเล็ก ๆ ที่มีลักษณะลาดชันผุดโพล่ขึ้นมากมาย", "title": "ฮ่องกง" } ]
[ { "docid": "822158#0", "text": "ฮ่องกงของบริเตน (; ) หรือเรียกอย่างง่ายว่า ฮ่องกง เป็นช่วงสมัยที่ฮ่องกงอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี ค.ศ. 1841 ถึง 1997 (ยกเว้นช่วงที่ถูกญี่ปุ่นยึดครองระหว่าง ค.ศ. 1941 ถึง 1945) เมื่อแรกจัดตั้งมีสถานะเป็นอาณานิคมในพระองค์ ก่อนที่ในปี 1981 จะมีสถานะเป็นดินแดนโพ้นทะเลของบริเตน ราชวงศ์ชิงจำยอมต้องยกเกาะฮ่องกงให้แก่บริเตนใหญ่ภายหลังจีนพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่นครั้งที่หนึ่ง และจำยอมต้องยกคาบสมุทรเกาลูนให้อีกเมื่อพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่นครั้งที่สอง ในที่สุดก็มีการทำสนธิสัญญาใหม่ขึ้นในค.ศ. 1898 ซึ่งให้สิทธิการเช่าเกาะฮ่องกงเป็นเวลา 99 ปี ทางสหราชอาณาจักรได้ส่งคืนเกาะฮ่องกงแก่จีนเมื่อสัญญาเป็นอันสิ้นสุดลงในค.ศ. 1997 การส่งมอบเกาะฮ่องกงในครั้งนั้นถูกมองว่าเป็นจุดสิ้นสุดจักรวรรดิบริเตน", "title": "ฮ่องกงของบริเตน" }, { "docid": "425034#42", "text": "อีกทั้งเธอยังได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนของเกาะฮ่องกง และอุทิศตัวให้แก่งานการกุศลด้วย เช่น การเป็นทูตของอ๊อกแฟม (Oxfam) สาขาฮ่องกง ซึ่งเป็นองค์กรเกี่ยวกับการช่วยเหลือในแหล่งยากจนทั่วโลก เป็นหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการต่อต้านโรคมะเร็งแห่งฮ่องกง รวมถึงเป็นประธานสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพด้านสื่อโทรทัศน์แห่งฮ่องกงรางวัลสำคัญที่ได้รับ\nรางวัลทางด้นดนตรี", "title": "วาง หมิงฉวน" }, { "docid": "195763#1", "text": "เกาะลันเตาเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง โดยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 146 ตารางกิโลเมตร บนเกาะมี Lantau Peak ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาะ และเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 2 ของฮ่องกง ", "title": "เกาะลันเตา" }, { "docid": "148946#10", "text": "ฮ่องกง กเฮ่องกง", "title": "เกาะฮ่องกง" }, { "docid": "837606#0", "text": "ยุทธการที่ฮ่องกง(08-25 ธันวาคม 1941)ยังเป็นที่รู้จักคือ การป้องกันฮ่องกงและการยึดครองฮ่องกงเป็นหนึ่งในครั้งแรกของสงครามมหาสมุทรแปซิฟิกในสงครามโลกครั้งที่สอง.เช้าในวันเดียวกันกับการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์,กองทัพของจักรวรรดิญี่ปุ่นได้เข้าโจมตีคราวน์โคโลนีของบริเตนของเกาะฮ่องกง.การโจมตีในการละเมิดกฎหมายต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่นไม่ได้ประกาศสงครามกับจักรวรรดิอังกฤษ.การโจมตีของฝ่ายญี่ปุ่นนั้นก็ต้องพบการต่อต้านจากทหารในฮ่องกงประกอบไปด้วยกองกำลังท้องถิ่นอย่างทหารอังกฤษ,แคนาดาและอินเดีย.ภายในสัปดาห์ กองกำลังฝ่ายป้องกันได้ถูกทอดทิ้งจากแผ่นดินใหญ่และน้อยกว่าสองสัปดาห์ต่อมา,กองกำลังฝ่ายการป้องกันบนเกราะนั้นไม่สามารถป้องกันได้,อาณานิคมจึงได้ยอมจำนนและถูกยึดครองในที่สุด", "title": "ยุทธการที่ฮ่องกง" }, { "docid": "149106#1", "text": "รัฐบาลจีนกำหนดให้มีธงประจำเขตบริหารพิเศษฮ่องกงขึ้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533 ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการเตรียมการส่งมอบเกาะฮ่องกงเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2539 และชักขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ในพิธีส่งมอบอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะฮ่องกงจากสหราชอาณาจักรไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน", "title": "ธงฮ่องกง" }, { "docid": "6032#10", "text": "ผู้สำเร็จราชการคนแรกที่มาประจำยังเกาะฮ่องกง ท่านลอร์ด Palmerston เคยขนานนามเกาะแห่งนี้ไว้ว่า \"หินไร้ค่า\" แต่สหราชอาณาจักรได้ช่วยวางรากฐานการศึกษา การปกครอง และผังเมืองให้ฮ่องกงเป็นอย่างดี เพียง ชั่วพริบตาเดียว ฮ่องกงได้กลับกลายเป็นศูนย์กลางพาณิชย์และยังเป็นประตูเปิดสู่ประเทศจีน", "title": "ฮ่องกง" }, { "docid": "6032#3", "text": "ฮ่องกงมีพื้นที่รวม 1,096.63 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย เกาะฮ่องกง (80.30 ตร.กม.) เกาลูน (46.71 ตร.กม.) เขตดินแดนใหม่ (New Territories) และเกาะอื่น ๆ (969.62 ตร.กม.) หรือขนาดประมาณ 1 ใน 6 ของพื้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้", "title": "ฮ่องกง" }, { "docid": "353462#6", "text": "ใน ค.ศ. 1841 ต้นร่างคร่าว ๆ ของสนธิสัญญาถูกส่งไปเพื่อขอคำชี้แนะจากอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็ม ชาร์ลส์ อีเลียต โดยฉบับร่างดังกล่าวมีข้อความว่า \"การยกเกาะ [islands] _____\" พอตทิงเจอร์ส่งฉบับร่างเก่าของสนธิสัญญาขึ้นฝั่ง โดยมีอักษร s ถูกตัดออกจากคำว่า \"เกาะ\" (เปลี่ยนจากพหูพจน์เป็นเอกพจน์) และคำว่า \"ฮ่องกง\" ได้ถูกเติมลงไปในช่องว่างดังกล่าว โรเบิร์ต มอนต์โกเมรี มาร์ติน เสนาบดีการคลังฮ่องกง ได้เขียนในรายงานอย่างเป็นทางการว่า:", "title": "สนธิสัญญานานกิง" }, { "docid": "148946#7", "text": "เกาะฮ่องกงยังเป็นที่ตั้งของท่าเรือเฟอร์รี่ฮ่องกง-มาเก๊า(Hong Kong-Macau Ferry Pier) ซึ่งให้บริการเรือโดยสารระหว่างเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกับเขตบริหารพิเศษมาเก๊าและเมืองต่างๆในมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน[2][3][4]", "title": "เกาะฮ่องกง" }, { "docid": "148946#6", "text": "เกาะฮ่องกงเชื่อมต่อกับฝั่งเกาลูนด้วยอุโมงค์สำหรับรถยนต์ 2 แห่ง อุโมงค์สำหรับรถไฟฟ้าใต้ดิน(MTR) 2 แห่ง(สาย Tsuen Wan และ Tung Chung) และอุโมงค์สำหรับรถยนต์และรถไฟฟ้าใต้ดินใช้ร่วมกันอีก 1 แห่ง(สาย Tseung Kwan O) เกาะฮ่องกงไม่มีสะพานข้ามไปฝั่งเกาลูน แต่มีสะพานข้ามไปยังเกาะอาเบอร์ดีน ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮ่องกง นอกจากทางบกแล้ว ระหว่างเกาะฮ่องกงและฝั่งเกาลูนยังมีเรือเฟอร์รี่บริการอีกด้วย", "title": "เกาะฮ่องกง" }, { "docid": "6032#18", "text": "ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางด้านสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งตึกสูงระฟ้า อาคารทันสมัย ตลาดขายของพื้นเมือง ตลาดขายของเก่า วัดวาอาราม หรือแม้แต่แปลงปลูกผัก จากความหลากหลายเหล่านี้ จึงทำใหฮ่องกงมีมนต์เสน่ห์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถพบกับสิ่งที่น่าสนใจและหลากหลาย โดยเราสามารถแบ่งเขตท่องเที่ยวสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลักๆ ออกเป็น 3 เขต คือ เกาะฮ่องกง ฝั่งเกาลูน เขตนิวเทอร์ริทอรี่ส์ และหมู่เกาะต่างๆ", "title": "ฮ่องกง" }, { "docid": "84656#3", "text": "ท่าอากาศยานแห่งนี้สร้างขึ้นบนเกาะขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการถมทะเลระหว่างเกาะเช็คแลปก๊กและเกาะ Lam Chau จนกลายเป็นเกาะเดียว เกาะเดิมทั้ง 2 เกาะนี้ถูกปรับพื้นผิวให้ราบเรียบ ครอบครองพื้นที่ประมาณ 25% ของพื้นที่ท่าอากาศยานทั้งหมดซึ่งมีขนาด 12.48 ตารางกิโลเมตร มีทางเชื่อมต่อกับส่วนเหนือของเกาะลันเตา ใกล้กับหมู่บ้านประวัติศาสตร์ Tung Chung ซึ่งปัจจุบันถูกขยายออกเป็นเมืองใหม่ การปรับปรุงพื้นที่สำหรับท่าอากาศยานแห่งนี้ ทำให้เกิดพื้นดินใหม่เป็นพื้นที่ 1% ของพื้นที่ทั้งหมดของฮ่องกง ท่าอากาศยานแห่งนี้เปิดเพื่อใช้งานแทนท่าอากาศยานไคตั๊กที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเกาลูนซิตี ซึ่งจัดว่าไม่ปลอดภัยเนื่องมาจากรันเวย์เดี่ยวที่ยื่นออกไปในอ่าวเกาลูนและพื้นที่ที่ติดกับย่านที่พักอาศัย", "title": "ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง" }, { "docid": "148722#33", "text": "ฮ่องกง คราวน์โคโลนีของอังกฤษ ถูกโจมตีเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม และพ่ายแพ้เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1941 โดยที่กองทัพแคนาดาและอาสาสมัครฮ่องกงมีส่วนสำคัญในการป้องกันดังกล่าว ฐานทัพสหรัฐบนเกาะกวมและเกาะเวกเสียแก่ข้าศึกในเวลาไล่เลี่ยกัน", "title": "สงครามแปซิฟิก" }, { "docid": "6032#11", "text": "สหราชอาณาจักรเช่าฮ่องกงทั้งหมด เป็นเวลา 99 ปี โดยกำหนดวันหมดสัญญาไว้วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2540 โดยได้ทำพิธีส่งคืนเกาะฮ่องกง ให้แก่จีนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ไปเรียบร้อย ทั้งนี้เคยมีการเจรจาระหว่างสหราชอาณาจักรโดย นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กับ นายเติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำฝ่ายจีน เพื่อเจรจาขอเช่าเกาะฮ่องกงต่อ แต่ได้รับการปฏิเสธ และในปีเดียวกันนั้น วันที่ 26 กันยายน ผู้นำทั้งสองจึงเปิดเจรจาอีกครั้งและลงนามในสัญญา โดยมีสาระสำคัญว่า สหราชอาณาจักรจะยอมส่งมอบคืนเกาะฮ่องกงให้กับจีน และจีนได้ให้สัญญาว่าจะยอมให้ฮ่องกง อยู่ในฐานะ \"เขตปกครองตนเอง\" ภายใน 50 ปี", "title": "ฮ่องกง" }, { "docid": "545611#12", "text": "ตามกฎหมายหลักฮ่องกง (Basic Law of Hong Kong) ประชาชนจีนที่เกิดในเกาะฮ่องกงมีสิทธิการอยู่อาศัยในดินแดนเกาะฮ่องกง กล่าวคือ มีสิทธิทั่วไปอย่างชาวฮ่องกง คดีระหว่างอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง กับจวง เฟิงหยวน \"(Director of Immigration v. Chong Fung Yuen)\" ใน ค.ศ. 2001 ยืนยันให้สิทธินี้แก่บุตรของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไม่ใช่ผู้มีสิทธิอาศัยในเกาะฮ่องกง ด้วยเหตุนี้จึงมีหญิงมีครรภ์ชาวจีนแผ่นดินใหญ่เดินทางมาคลอดบุตรในเกาะฮ่องกงเพื่อให้บุตรของตนมีสิทธิอาศัยในเกาะดังกล่าว ใน ค.ศ. 2009 มีทารกถึง 36% ที่เกิดในเกาะฮ่องกงที่มีบิดามารดามาจากจีนแผ่นดินใหญ่ กรณีนี้ได้สร้างกระแสต่อต้านและก่อให้เกิดความกังวลต่อระบบรัฐสวัสดิการรวมถึงการศึกษาของเกาะฮ่องกง ความพยายามที่จะจำกัดสิทธิโดยกำเนิดในกรณีดังกล่าวถึงปฏิเสธโดยศาล ชาวฮ่องกงจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยอย่างมา กระทั่งได้ลุกขึ้นประท้วงต่อต้านเมื่อต้น ค.ศ. 2012", "title": "การท่องเที่ยวเพื่อคลอดบุตร" }, { "docid": "135331#5", "text": "ในวงการภาพยนตร์ หลิว เต๋อหัว เป็นนักแสดงที่ได้รับความนิยมสูงสุด เป็นหนึ่งในราชาภาพยนตร์ หรือ King Boxoffice ของวงการหนังฮ่องกง และวงการภาพยนตร์เอเชีย สมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติฮ่องกงได้รวบรวมสถิติรายได้ภาพยนตร์ในช่วงรุ่งเรืองตั้งแต่ปี 1985 - 1997 ก่อนประเทศอังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่ หลิว เต๋อหัว เป็นนักแสดงชายที่มียอดรายได้ภาพยนตร์ (Box Office) สูงถึง 1,200 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) จากภาพยนตร์ที่เขานำแสดง(Actor) จำนวน 80 เรื่อง สูงสุดเป็นอันดับ 1 แห่งยุคนั้น ต่อมาในปี 2005 มีการประมวลยอดรายได้ภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1985 - 2005 (รอบ 20 ปี) ก่อนที่เกาะฮ่องกงจะเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่โดยสมบูรณ์(หนึ่งประเทศ สองระบบเศรษฐกิจ) หลิว เต๋อหัว เป็นนักแสดงชายที่มียอดรายได้ภาพยนตร์ (Box Office) สูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ 1,733,275,816 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) จากภาพยนตร์ที่เขานำแสดง(Actor) จำนวน 108 เรื่อง อันดับ 2 ได้แก่ โจว ซิงฉือ ราชาตลกคอมมาดี้ จำนวน 1,317,452,311 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) อันดับ 3 คือ เฉินหลง ราชานักบู้ชื่อก้องโลก จำนวน 894,090,962 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) ต่อมาในปี 2007 หลิว เต๋อหัว ได้รับยกย่องให้เป็น ดารายอดนิยมแห่งเอเชีย หรือ Box Office Star of Asia อีกด้วย ", "title": "หลิว เต๋อหัว" }, { "docid": "148946#2", "text": "เกาะฮ่องกงเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ถัดจากเกาะลันเตา โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 80.4 ตารางกิโลเมตร เกาะฮ่องกงอยู่หากจากแผ่นดินใหญ่ไม่มาก โดยมีอ่าววิคตอเรียกั้นอยู่ระหว่างเกาะฮ่องกงกับเกาลูน", "title": "เกาะฮ่องกง" }, { "docid": "148946#3", "text": "เกาะฮ่องกงเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของประชากรมากกว่าส่วนอื่นๆในเขตบริหารพิเศษ โดยมีความหนาแน่นประมาณ 15,915 คนต่อตารางกิโลเมตร และมีประชากรทั้งหมด 1,268,112 คน คิดเป็น 18.5% ของประชากรทั้งหมด[1]", "title": "เกาะฮ่องกง" }, { "docid": "148946#4", "text": "เกาะฮ่องกงและเกาะเล็กน้อยข้างเคียงเป็นที่ตั้งของเขตการปกครองของเขตบริหารพิเศษ 4 เขตด้วยกัน", "title": "เกาะฮ่องกง" }, { "docid": "294743#0", "text": "เกาะเช็คแลปก๊ก (; Jyutping: cek3 laap6 gok3; ) เป็นเกาะทางตะวันตกของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เกาะเช็คแลปก๊กถูกเชื่อมกับเกาะลันเตาด้วยการถมทะเลเพื่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ทำให้ท่าอากาศยานมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า \"ท่าอากาศยานเช็คแลปก๊ก\"", "title": "เกาะเช็กล้าปก๊อก" }, { "docid": "458738#2", "text": "การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแห่งตะวันออกไกล ครั้งที่ 1 จัดขึ้นที่สนามกีฬาคาร์นิวัล (ปัจจุบันคือ ศูนย์กีฬาไรซัลอนุสรณ์ หรือ Rizal Memorial Sports Complex) เขตมาลาเต ในกรุงมะนิลา บนหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในอารักขาของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2456 (ค.ศ. 1913) โดยฟอร์บส์เป็นผู้ประกาศเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีทั้งสิ้น 8 วัน และ 6 ประเทศเข้าร่วม ประกอบด้วย หมู่เกาะฟิลิปปินส์ฯ สาธารณรัฐจีนฯ จักรวรรดิญี่ปุ่น หมู่เกาะอินเดียตะวันออกของบริเตน (British East Indies Islands; ปัจจุบันคือ มาเลเซีย) ราชอาณาจักรสยาม (ชื่อประเทศจนถึง พ.ศ. 2482; ปัจจุบันคือราชอาณาจักรไทย) และ หมู่เกาะฮ่องกงของบริเตน (ปัจจุบันคือ เขตปกครองพิเศษฮ่องกงของสาธารณรัฐประชาชนจีน) ต่อมาในปี พ.ศ. 2458 (ค.ศ. 1915) สมาคมฯ เปลี่ยนชื่อเป็น \"สมาคมกีฬาแห่งตะวันออกไกล\" และเปลี่ยนชื่อการแข่งขันมาเป็น\"กีฬาชิงชนะเลิศแห่งตะวันออกไกล\" โดยเริ่มใช้ครั้งแรกในการแข่งขันครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซียงไฮ ของสาธารณรัฐจีนฯ", "title": "กีฬาตะวันออกไกล" }, { "docid": "746611#0", "text": "วิกตอเรียพีก (, หรือเดิม ) หรือ ภูเขาออสติน (Mount Austin) หรือชื่อท้องถิ่นคือ เดอะพีก (The Peak) เป็นภูเขาที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะฮ่องกง เป็นภูเขาที่สูงที่สุดบนเกาะ มีความสูง 552 เมตร (1,811 ฟุต) และอยู่ในอันดับที่ 31 ของภูเขาที่สูงสุดในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (จุดที่สูงที่สุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงคือ ไทโมชาน สูง 957 เมตร (3,140 ฟุต))", "title": "วิกตอเรียพีก" }, { "docid": "131346#67", "text": "เดือนกันยายน ค.ศ. 1982 นายกรัฐมนตรีมาร์กาเรต แทตเชอร์เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเพื่อเจรจากับรัฐบาลจีนเรื่องอนาคตของฮ่องกงซึ่งเป็นดินแดนโพ้นทะเลใหญ่สุดท้ายและมีประชากรมากที่สุด ภายใต้เงื่อนไขของสนธิสัญญานานกิง ค.ศ. 1842 เกาะฮ่องกงถูกยกให้บริเตนตลอดกาล แต่อาณานิคมส่วนใหญ่ประกอบขึ้นจากนิวเทอร์ริทอรีส์ซึ่งได้มาภายใต้การเช่า 99 ปีใน ค.ศ. 1898 ซึ่งจะหมดอายุใน ค.ศ. 1997 แทตเชอร์ซึ่งมองเห็นความคล้ายกับหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ทีแรกปรารถนาถือครองฮ่องกงและเสนอการปกครองของบริติชโดยอยู่ภายใต้เอกราชของจีน แต่ถูกจีนปฏิเสธ มีการบรรลุข้อตกลงใน ค.ศ. 1984 ภายใต้เงื่อนไขของปฏิญญาร่วมจีน-บริเตน ฮ่องกงจะเป็นเขตบริหารพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยธำรงวิถีชีวิตเป็นเวลาอย่างน้อย 50 ปี มีพิธีส่งมอบใน ค.ศ. 1997 ซึ่งหลายคนซึ่งรวมถึงเจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ ซึ่งทรงร่วมพิธีด้วย ว่า \"จุดจบของจักรวรรดิ\"", "title": "จักรวรรดิบริติช" }, { "docid": "148946#8", "text": "การคมนาคมขนส่งภายในเกาะนั้น จะมีรถไฟฟ้าใต้ดิน 1 สายซึ่งให้บริการอยู่ภายในเกาะโดยเฉพาะ(สาย Island) โดยรถไฟฟ้าใต้ดินสายดังกล่าวจะวิ่งเป็นแนวตะวันออก-ตะวันตกอยู่ทางชายฝั่งด้านเหนือของเกาะเท่านั้น รถรางภายในเกาะมีทั้งรถรางธรรมดาและรถรางที่ขึ้นไปยัง The Peak และก็มีรถโดยสารประจำทางให้บริการเหมือนเมืองใหญ่ทั่วไป เกาะฮ่องกงมีระบบบันไดเลื่อนและทางเดินเลื่อนให้บริการแก่คนเดินเท้า เพราะเนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่มีเนินเขาสูงอยู่มาก", "title": "เกาะฮ่องกง" }, { "docid": "239916#0", "text": "ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ () เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่บนเพนนีส์เบย์ เกาะลันเตา ในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ต เจ้าของคือฮ่องกงอินเตอร์เนชันแนลธีมพาร์ก ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เปิดให้เข้าชมเมื่อ 12 กันยายน พ.ศ. 2548 ดิสนีย์พยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นจากชาวจีน จึงออกแบบให้มีการผสมผสานกับวัฒนธรรมจีน ออกแบบการวางโครงสร้างต่าง ๆ ตามหลักของฮวงจุ้ย", "title": "ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์" }, { "docid": "357519#2", "text": "สะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมย่านธุรกิจในฮ่องกง กับเกาะลันเตา เพื่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงบนเกาะเช็คแลปก๊ก", "title": "สะพานซิงหม่า" }, { "docid": "148946#1", "text": "เกาะฮ่องกงเป็นอาณาบริเวณส่วนแรกที่อังกฤษเข้ามาครอบครอง ก่อนที่จะขยายอาณาบริเวณขึ้นไปตามเกาะต่างๆและบนฝั่งจนกลายเป็นพื้นที่ของเขตบริหารพิเศษอย่างในปัจจุบัน", "title": "เกาะฮ่องกง" } ]
2826
ประเทศบัลแกเรียมีเมืองหลวงชื่ออะไร ?
[ { "docid": "265666#0", "text": "โซเฟีย () เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐบัลแกเรีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเรื่องจำนวนประชากรเป็นอันดับที่ 47 ของสหภาพยุโรป ตั้งอยู่ทางตะวันตกของบัลแกเรีย บริเวณตีนเขาวิโตชา เป็นเมืองศูนย์กลางของการขนส่งสินค้าทางบกที่สำคัญของคาบสมุทรบอลข่าน", "title": "โซเฟีย" } ]
[ { "docid": "3625#18", "text": "บัลแกเรียถือเป็นตลาดส่งออกที่มีลู่ทางที่จะขยายตัวได้อีกมากของไทย และเป็นประเทศที่อยู่ในระหว่างการปฏิรูปและมีลู่ทางที่จะมีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้ รวมทั้งมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมและมีบทบาทสำคัญในเวทีการเมืองระหว่างประเทศของยุโรปต่อไป นอกจากนี้ บัลแกเรียยังเป็นสมาชิกขององค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจทะเลดำ (Black Sea Economic Cooperation) รวมทั้ง บัลแกเรียจะเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในปี พ.ศ. 2550 บัลแกเรียมีทำเลที่ตั้งเป็นเมืองท่าในทะเลดำ และมีพื้นที่ติดกับประเทศในคาบสมุทรบอลข่านที่ไม่มีทางออกทะเล อาทิ มาซิโดเนียและมอนเตเนโกร เป็นต้น อีกทั้งมีทรัพยากรธรรมชาติเป็นจำนวนมาก หากได้รับการพัฒนาและนำมาใช้ให้ได้ประโยชน์ จะเป็นตัวเสริมอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของไทยได้ นอกจากนี้ ยังมีค่าจ้างแรงงานถูก ประชากรมีการศึกษาสูง ปัจจุบันมีนักลงทุนจากเยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศสและสหรัฐฯ เข้าไปลงทุนในบัลแกเรียมากขึ้น", "title": "ประเทศบัลแกเรีย" }, { "docid": "749593#1", "text": "ประเทศบัลแกเรียมีสถานที่ที่ได้รับขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกในอนาคตทั้งสิ้น 15 แห่ง", "title": "รายชื่อแหล่งมรดกโลกในประเทศบัลแกเรีย" }, { "docid": "250237#3", "text": "ชนบัลการ์นำวิธีการก่อสร้างใหม่ๆ และยุทธวิธีในการสงครามมาสู่ยุโรป เมืองบัลแกเรียเมืองแรกๆ สร้างด้วยหินซึ่งต่างจากการสร้างป้อมปราการด้วยอิฐของโรมัน เมืองหลวงพลิสคา (Pliska) ที่มีเนื้อที่ 27 ตารางกิโลเมตรเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป ตัวเมืองมีระบบสาธารณูปโภคและพื้นอุ่นมานานก่อนเมืองเช่นปารีสและลอนดอน หลังจากรับนับถือคริสต์ศาสนาในปี ค.ศ. 864 แล้วบัลแกเรียก็กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของยุโรปสลาฟ วัฒนธรรมยิ่งวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นเมื่อมีการประดิษฐ์อักขระซิริลลิคในเพรสลาฟ ที่บางแหล่งเชื่อกันว่าโดยผู้คงแก่เรียนบัลแกเรียชื่อเคลเมนต์แห่งโอห์ริด (Clement of Ohrid) นักประวัติศาสตร์บางคนกล่าวว่าสถานศึกษาแห่งเพรสลาฟและโอห์ริดเป็นสองมหาวิทยาลัยที่สองที่ก่อตั้งขึ้นในยุโรปหลังจากมหาวิทยาลัยคอนสแตนติโนเปิล", "title": "จักรวรรดิบัลแกเรียที่ 1" }, { "docid": "3625#0", "text": "บัลแกเรีย () หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐบัลแกเรีย () เป็นประเทศทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป มีชายฝั่งบนทะเลดำไปทางตะวันออก มีพรมแดนติดต่อกับประเทศกรีซและประเทศตุรกีทางใต้ ประเทศเซอร์เบียและสาธารณรัฐมาซิโดเนียทางตะวันตก และประเทศโรมาเนียทางเหนือตามแม่น้ำดานูบบัลแกเรียเคยเป็นอาณานิคมของรัสเซีย", "title": "ประเทศบัลแกเรีย" }, { "docid": "431818#0", "text": "ฮาราเร (ก่อน พ.ศ. 2525 ชื่อ ซอลส์บรี) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศซิมบับเว ใน พ.ศ. 2552 มีการประเมินประชากรไว้ที่ 1,606,000 คน โดยมี 2,800,000 คนในเขตปริมณฑล (พ.ศ. 2549) ในทางการปกครอง ฮาราเรเป็นนครอิสระมีฐานะเทียบเท่าจังหวัด เป็นเมืองใหญ่ที่สุดและศูนย์กลางการปกครอง พาณิชย์และการสื่อสารของประเทศซิมบับเว นครนี้เป็นศูนย์กลางการค้ายาสูบ ข้าวโพด ฝ้ายและผลไม้สกุลส้ม การผลิตมีทั้งสิ่งท่อ เหล็กกล้าและเคมีภัณฑ์ ตลอดจนมีการขุดทองในพื้นที่ ฮาราเรตั้งอยู่ที่ความสูง 1,483 เมตรจกระดับน้ำทะเล และภูมิอากาศจัดอยู่ในประเภทอุณหภูมิอบอุ่น", "title": "ฮาราเร" }, { "docid": "3625#2", "text": "เป็นอาณาจักรในยุคกลางของบัลแกเรียที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 632 ในบริเวณใกล้สามเหลี่ยมปากแม่น้ำดานูป (Danube Delta) และสลายตัวลงเมื่อปี ค.ศ. 1018 หลังจากที่ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ในสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดจักรวรรดิบัลแกเรียครอบคลุมบริเวณตั้งแต่บูดาเปสต์ ไปจนถึงทะเลดำ และจากแม่น้ำนีพเพอร์ในยูเครนปัจจุบันไปจนถึงทะเลเอเดรียติค จักรวรรดิบัลแกเรียที่ 1 มาแทนที่ด้วยจักรวรรดิบัลแกเรียที่ 2 ที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1185 ชื่อทางการของประเทศตั้งแต่ตั้งมาคือ “บัลแกเรีย”[1]", "title": "ประเทศบัลแกเรีย" }, { "docid": "3625#11", "text": "ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 บัลแกเรียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 28 จังหวัด (provinces - \"oblasti\") หลังจากที่เดิมแบ่งเป็น 9 จังหวัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 โดยที่แต่ละแห่งตั้งชื่อตามเมืองหลวงของจังหวัด โดยที่เมืองหลวงประจำประเทศเป็นจังหวัดหนึ่งแยกต่างหาก", "title": "ประเทศบัลแกเรีย" }, { "docid": "143577#0", "text": "บัลปาราอิโซ (, \"หุบเขาสวรรค์\") เป็นหนึ่งในเมืองท่าที่สำคัญที่สุดและศูนย์กลางวัฒนธรรมที่เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นเรื่อย ๆ ของประเทศชิลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ เป็นเมืองหลักของแคว้นบัลปาราอิโซ โดยในขณะที่ซานเตียโกเป็นเมืองหลวงของประเทศนั้น บัลปาราอิโซก็มีความสำคัญในฐานะเป็นที่ตั้งรัฐสภา ซึ่งเมืองนี้ก็เช่นเดียวกับเมืองอื่น ๆ ในชิลีที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นล่าสุดในปี ค.ศ. 1906 ได้ทำลายตัวเมืองและคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 20,000 ราย", "title": "บัลปาราอิโซ" }, { "docid": "3625#16", "text": "บัลแกเรียประสบวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2533 ภายหลังที่ COMECON (องค์กรความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก) ล่มสลายลงพร้อมกับการล่มสลายของระบบเศรษฐกิจสังคมนิยมในยุโรปตะวันออกและสหภาพโซเวียต เศรษฐกิจของบัลแกเรียฟื้นตัว เป็นครั้งแรกภายหลังวิกฤตการณ์ในปี พ.ศ. 2537 โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 บัลแกเรียได้ทำความตกลง Stand-by Arrangement กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีระยะเวลา 2 ปี ภายใต้วงเงิน 337 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจนถึงปัจจุบัน บัลแกเรียได้กู้เงินจาก IMF ภายใต้ความตกลงดังกล่าว จำนวน 191 ล้านดอลลาร์สหรัฐ", "title": "ประเทศบัลแกเรีย" }, { "docid": "3625#13", "text": "บัลแกเรียให้ความสำคัญแก่การสร้างเสถียรภาพในคาบสมุทรบอลข่าน ทั้งนี้ บัลแกเรียมองว่า ประเทศของตนเป็น stabilizing force ทางการเมืองในคาบสมุทรบอลข่าน และเป็นประเทศทางผ่านสินค้า (transit) ในภูมิภาค โดยจากกรุงโซเฟีย มีทางรถยนต์เชื่อมกรุงเบลเกรด และกรุงอิสตันบูล และเป็นเส้นทางจากยุโรปเหนือไปกรุงเอเธนส์ ผ่านเมือง Skopje และ Salonica ในกรีซ", "title": "ประเทศบัลแกเรีย" } ]
1620
กองพิสูจน์หลักฐาน สังกัดหน่วยงานใด?
[ { "docid": "647907#5", "text": "กองพิสูจน์หลักฐาน และ กองทะเบียนประวัติอาชญากร เกิดขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการตำรวจ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2503 โดยยุบเลิกกองวิทยาการ และแยกงานด้านการพิสูจน์วัตถุพยาน และงานตรวจสอบพิสูจน์ค้นคว้าในด้านดัวบุคคลออกจากกัน และได้มีการปรับปรุงหน่วยงานทั้งสองให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยยังคงสังกัดอยู่ภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเช่นเดิม", "title": "สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ" }, { "docid": "156242#0", "text": "กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เป็นหน่วยงานในสังกัด สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับงานทางด้านธุรการ งานทางด้านเอกสารสารบรรณ งานประชาสัมพันธ์ รวมถึงงานด้านการช่วยอำนวยการและงานด้านเลขานุการของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ", "title": "กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ" }, { "docid": "647907#0", "text": "สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (Office of Police Forensic Science) หน่วยงานระดับกองบัญชาการ ส่วนงานสนับสนุนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเป็นที่รู้จักในชื่อ กองพิสูจน์หลักฐาน , สำนักงานวิทยาการตำรวจ มีภารกิจในการสนับสนุนงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยใช้วิทยาการสมัยใหม่ในการตรวจหาและเพิ่มน้ำหนักพยานหลักฐานในทางคดีให้มีประสิทธิภาพ", "title": "สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ" }, { "docid": "156283#1", "text": "กองทะเบียนประวัติอาชญากร เป็นหน่วยงานหนึ่งของ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ขึ้นตรงต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2475 แต่เดิมกองทะเบียนประวัติอาชญากรเป็นหน่วยงานทางด้านงานวิทยการตำรวจ ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐานหรือสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจในปัจจุบัน มีสายการบังคับบัญชาขึ้นตรงกับกองบัญชาการตำรวจภูธร ทำให้มีปัญหาในหลาย ๆ ด้านของการปฏิบัติงาน เช่น การสรรหาบุคลากรเข้ามาปฏิบัติงาน การพัฒนาบุคลากร และการรักษาไว้ซึ่งจำนวนบุคลากรที่ขาดแคลน เนื่องจากการปฏิบัติงานทางด้านวิทยาการตำรวจ เป็นการปฏิบัติงานที่ขาดทั้งขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน รวมทั้งความเจริญก้าวหน้าในด้านหน้าที่การงานในชีวิตข้าราชการตำรวจ", "title": "กองทะเบียนประวัติอาชญากร" } ]
[ { "docid": "156242#6", "text": "การแยกหน่วยงานทางด้านการพิสูจน์วัตถุพยานและหลักฐาน รวมทั้งงานทางด้านการตรวจพิสูจน์ค้นคว้าในด้านวัตถุบุคคลออกจากกัน เป็นการปรับปรุงและขยายขอบเขตของหน่วยงานทั้งสองให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ดังนั้นกองพิสูจน์หลักฐานและกองทะเบียนประวัติอาชญากร จึงถือกำเนิดขึ้นเป็นหน่วยงานระดับกองบังคับการ โดยขึ้นตรงต่อกองบัญชาการสอบสวนกลาง ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2503 เป็นต้นมา", "title": "กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ" }, { "docid": "647907#7", "text": "ในปีพ.ศ. 2523 ในสมัยของ พลตำรวจเอก มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น เป็นอธิบดีกรมตำรวจ ได้ไปตรวจราชการในส่วนภูมิภาค ได้พบว่างานด้านวิทยาการขาดประสิทธิภาพ จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานปรับปรุงวิทยาการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานวิทยาการในส่วนภูมิภาคให้สามารถปฏิบัติ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่องจากลักษณะงานของวิทยาการอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย วิทยาการตำรวจในส่วนกลาง คือ กองทะเบียนประวัติอาชญากร และกองพิสูจน์หลักฐาน มีสายการบังคับบัญชาขึ้นตรงกับกองบัญชาการตำรวจภูธร อันเป็นปัญหาทั้งทางด้านการสรรหาคนเข้ามาปฏิบัติงาน การพัฒนาบุคลากร การรักษาไว้ซึ่งบุคลากรที่จะปฏิบัติงาน เนื่องมาจากการขาดขวัญและกำลังใจ ความก้าวหน้าในชีวิตราชการต่ำอันเป็นปัญหาเกี่ยวกับระบบการบริหารงานบุคคล และองค์การโดยตรง จึงได้มีการปรับปรุงโครงสร้าง โดยรวมเอาหน่วยงานวิทยาการตำรวจในส่วนกลางและภูมิภาคไว้ด้วยกัน จัดตั้งเป็น \"สำนักงานวิทยาการตำรวจ\" ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2535 โดยแบ่งส่วนราชการเป็น 7 กองบังคับการ ดังนี้", "title": "สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ" }, { "docid": "647907#3", "text": "ในปี พ.ศ. 2484 จึงได้มีการปรับปรุงและขยายงานของกรมตำรวจโดยจัดตั้ง กองสอบสวนกลาง พร้อมทั้งแยกงานทางด้านวิทยาการจากกองตำรวจสันติบาลมาขึ้นตรงต่อกองสอบสวน กลาง ในปี พ.ศ. 2489 เปลี่ยนชื่อจากกองสอบสวนกลางเป็น กองตำรวจสอบสวนกลาง และในปี พ.ศ. 2491 กิจการของกองตำรวจสอบสวนกลางได้เจริญรุดหน้า จึงยกฐานนะขึ้นเป็นกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางนั้น มีกองกำกับการหรือเรียกว่า \"กองพิเศษ\" \nในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 กองวิทยาการได้ถือกำเนิดขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบราชการกรมตำรวจในกระทรวงมหาดไทย โดยมีฐานะเป็นกองบังคับการ สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มีการปรับปรุงหน่วยงานให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยมีการยุบ \"กองพิเศษ\" ไปรวมกับ \"กองวิทยาการ\" ที่ตั้งขึ้นใหม่ เพื่อต้องการให้ดำเนินงานทางด้าน พิสูจน์วัตถุพยาน ซึ่งเป็นงานของกองพิสูจน์หลักฐาน และการตรวจพิสูจน์ค้นคว้าตัวบุคคล ซึ่งเป็นงานของกองทะเบียนประวัติอาชญากร กองวิทยาการ แบ่งออกเป็น 3 กองกำกับการ คือ", "title": "สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ" }, { "docid": "647907#8", "text": "สำนักงานวิทยาการตำรวจได้รับการปรับปรุงหน่วยงานใหม่อีกครั้งหนึ่งเพื่อรองรับวิทยาการที่ก้าวหน้ามากขึ้น โดยเปลี่ยนชื่อจาก สำนักงานวิทยาการตำรวจ เป็น สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ ในช่วงแรก ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2548 โดยยังคงการแบ่งส่วนราชการภายในกองบัญชาการไว้เช่นเดิม จนกระทั่งวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552 สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตามพระราชกฤษฎีการแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และแบ่งส่วนราชการภายในกองบัญชาการในส่วนกลางดังต่อไปนี้\nในส่วนภูมิภาคได้ยุบเลิกกองวิทยาการภาคทั้งหมด และยกฐานะกองกำกับการวิทยาการเขตต่าง ๆ ให้ขึ้นมาเป็นหน่วยงานระดับกองบังคับการ และเรียกชื่อใหม่ว่า ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค ได้แก่", "title": "สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ" }, { "docid": "617987#3", "text": "ภูมิร่วมกับมูลนิธิไททัศน์ก่อตั้ง ผู้ก่อการดี เพื่อเปิดโปงผู้มีอิทธิพล น้ำเย็นเป็นคนที่ถูกส่งตัวเข้าไปแทรกซึมในบริษัทของ พลพิพัฒน์ แฟรงค์ เรียกประชุมคนในองค์กรฯวางแผนกำจัดขบวนการผู้ก่อการดี โดยวางระเบิดทั่วกรุง ภูมินำทีมคลี่คลายวิกฤติกู้ระเบิดได้เกือบครบทุกที่ องค์กรแฟรงค์ออกประกาศจะระเบิดทำลายทำเนียบรัฐบาลในวันขึ้นปีใหม่ เหยี่ยวสืบรู้ว่าแพรวาเป็นสมาชิกองค์กร แฟรงค์ เหยี่ยว ยื่นคำขาดให้แพรวากลับตัวเป็นคนดี แต่เหยี่ยวก็ถูกลอบยิงตายพร้อมแผ่นซีดีที่กำลังส่งให้แพรวา เมื่อแพรวาเปิดซีดีถึงกับสะเทือนใจ เพราะเหยี่ยวสารภาพรักเธอ", "title": "คมฅน" }, { "docid": "186293#14", "text": "เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ได้เคลื่อนไหวชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ตามแนวชายแดน โดยมีการจัดตั้งเวที่ปราสรัยที่ บริเวณศาลหลักเมืองกันทรลักษณ์ นำโดย นาย อธิวัฒน์ บุญชาติแกนนำเครือข่ายทวงคืนแผ่นดินแม่ และ มีเหตุการณ์ขว้างระเบิดในที่ชุมนุม เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน\n12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 มีการจัดตั้ง ชุมชนบ้านสันปันน้ำเป็นหมู่บ้านเชิงสัญลักษณ์ ที่ชายแดนพนมดงรัก สุรินทร์ - ปัจจุบัน.\nเวทีแนวร่วมเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ จัดเวทีนับสิบครั้งในหลายจังหวัด และมาปิดเวทีสุดท้าย วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ที่เวทีลานหิน ชุมชนบ้านสันปันน้ำ พนมดงรักสุรินทร์ โดยมีการเคลื่อนมวลชนเดินทางไปยังปราสาทตาเมือนธม และ มีการปะทะกันระหว่างชาวบ้านหนองคันนา ก่อนที่ นาย วีระ สมความคิด จะพาคณะเดินทางกลับมาร่วมเวที่ เกาะติดปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ชุมชนบ้านสันปันน้ำ มีการถ่ายทอดสดผ่านทางช่องเอฟเอ็มทีวี ก่อนที่นายวีระ สมความคิด จะถูกทหารกัมพูชาจับในครั้งแรก", "title": "กรณีพิพาทพรมแดนไทย–กัมพูชา" } ]
4081
มหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยคืออะไร?
[ { "docid": "9097#0", "text": "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม[1] (/พระ-เชด-ตุ-พน-วิ-มน-มัง-คะ-ลา-ราม/[2]) หรือ วัดโพธิ์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิด<b data-parsoid='{\"dsr\":[1544,1563,3,3]}'>ราชวรมหาวิหาร[3] และเป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง และทางยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2551[4] และวันที่ 16 มิถุนายน 2554 ทางยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนจารึกวัดโพธิ์จำนวน 1,440 ชิ้น เป็นมรดกความทรงจำโลกในทะเบียนนานาชาติ", "title": "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร" } ]
[ { "docid": "1847#23", "text": "ตามการจัด อันดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย จาก สกอ. ในปี 2549 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ได้รับการจัดอันดับที่โดดเด่น ดังนี้ อันดับ 5 ในประเทศไทยในด้านการเกษตร - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี อันดับ 5 ในประเทศไทยในด้านการเรียนการสอน - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ", "title": "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล" }, { "docid": "191454#8", "text": "องค์กร, หน่วยงานราชการ\nกองทัพบก, กองทัพอากาศ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน, สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงพลังงาน, สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน, สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง, กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ, กรมสุขภาพจิต, สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, กรมประชาสัมพันธ์, สำนักข่าวกรองแห่งชาติ, สถาบันดำรงราชานุภาพ, วิทยาลัยปกครอง, สถาบันการประชาสัมพันธ์, กรมทรัพยากรน้ำบาดาล, กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม, กรมอุตสาหกรรมและการเหมืองแร่, สำนักงานอัยการสูงสุด, สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน, การเคหะแห่งชาติ, สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง(สกย.), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, การทางพิเศษแห่งประเทศไทย, กรุงเทพมหานคร, สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ, ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ, สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ, การไฟฟ้าแห่งผลิตแห่งประเทศไทย, การไฟฟ้านครหลวง, องค์การเภสัชกรรม, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ศูนย์อาเซียนศึกษา, สภากาชาดไทย \nองค์กร, หน่วยงานเอกชน\nกลุ่ม ปตท., บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน), บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด, บริษัท สยามไวเนอรี่ จำกัด, Asia Business Connect Asia Business Forum Asia Dyna Forum (ADF), Business & Manufacturing Network Media (BMN), The Executive Alliance, สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย, สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย, สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย, สมาคมประชาสัมพันธ์ไทย, สมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย, สมาคมบริหารงานจัดซื้อและซัพพลายเชนแห่งประเทศไทย, ชมรมประชาสัมพันธ์ธนาคารไทย \nสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย\nจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหิดล, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยแม่โจ้, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, มหาวิทยาลัยราชมงคลรัตนโกสินทร์, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, มหาวิทยาลัยเกริก, มหาวิทยาลัยรังสิต", "title": "พจน์ ใจชาญสุขกิจ" }, { "docid": "357161#0", "text": "การจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ในการจัดทำอันดับมหาวิทยาลัยรัฐ โดยมีมหาวิทยาลัยเข้าร่วม 50 มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่เข้าร่วมแต่เสนอว่าไม่ต้องการอยู่ในอันดับ และมหาวิทยาลัยเอกชนไม่ได้ร่วมด้วยเนื่องจากสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยแจ้งว่ายังไม่ให้ข้อมูลในปีนั้น", "title": "อันดับสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา" }, { "docid": "86785#0", "text": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย () เป็นการแข่งขันกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยเริ่มต้นจัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2517 ภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย", "title": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย" }, { "docid": "5114#154", "text": "กีฬาระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2541 กีฬาสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15 \"ราชมงคลเกมส์\" ประจำปีการศึกษา 2540 แข่งขันระหว่างวันที่ 24 – 31 มกราคม 2541 ณ สนามกีฬาวิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2548 จัดกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 32 (สุรนารีเกมส์) จัดการแข่งขันวันที่ 8- 15 มกราคม พ.ศ. 2548 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2557 จัดกีฬามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 30 “อีสานเกมส์” ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์กลางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2557 พ.ศ. 2560 จัดกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 44 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ระหว่างวันที่ 21กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2560", "title": "จังหวัดนครราชสีมา" }, { "docid": "295825#0", "text": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 39 เป็นการแข่งกีฬาของนิสิตนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาในประเทศไทย จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 1-11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 (เดิมกำหนดจัดระหว่างวันที่ 14-24 มกราคม แต่ด้วยอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคกลาง ทำให้มหาวิทยาลัยและ กกมท. ตัดสินใจเลื่อนการจัดการแข่งขัน) ในครั้งนี้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นเจ้าภาพ โดยเป็นครั้งที่สองที่มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพ แต่เป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยใช้วิทยาเขตหาดใหญ่เป็นศูนย์แข่งขันหลัก", "title": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 39" }, { "docid": "12121#12", "text": "ในปี พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้ดำเนินการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทยใน \"โครงการฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย\" โดยในภาพรวมด้านการวิจัยนั้น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 26 ของประเทศไทย และภาพรวมในด้านการเรียนการสอน มหาวิทยาแม่ฟ้าหลวงได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 12 ของประเทศ", "title": "มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง" }, { "docid": "5353#18", "text": "ในปี พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้ดำเนินการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทยใน \"โครงการฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย\" โดยในภาพรวมด้านการวิจัยนั้น มหาวิทยาลัยนเรศวรได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยระดับดีเยี่ยมและเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 9 ของประเทศไทย", "title": "มหาวิทยาลัยนเรศวร" }, { "docid": "560194#1", "text": "เนื่องจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีความพร้อมด้านบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการจัดการแข่งขันกีฬาและได้รับเชิญให้เป็นกรรมการกีฬาระดับชาติและนานาชาติหลายครั้ง และมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพในด้านต่าง ๆ ทั้งสนามการแข่งขัน การคมนาคม การบริการ อาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกภายในมหาวิทยาลัย สถานที่พักสำหรับเจ้าหน้าที่และนักกีฬา ดังนั้น คณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยมีมติให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 42 การรับเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ครั้งที่ 2 ของวิทยาเขตกำแพงแสน ก่อนหน้านี้ซึ่งเคยรับเป็นเจ้าภาพมาก่อนแล้วในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20(พ.ศ. 2536) ณ วิทยาเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และครั้งที่ 26 (พ.ศ. 2542) ณ วิทยาเขตกำแพงแสน", "title": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 42" }, { "docid": "28864#2", "text": "สำหรับในต่างประเทศได้มีการจัดทำอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกจากทั้ง นิตยสารไทมส์ไฮเออร์เอดูเคชันซัปพลีเมนต์ นิตยสารเอเชียวีก บริษัท แควกเควเรลลี ไซมอนด์ส จำกัด, CWTS, CWUR ฯลฯ รวมทั้งการจัดอันดับความเป็นอิเล็กทรอนิกส์และการเข้าถึงเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยจากเว็บไซต์เว็บโอเมตริกซ์ โดยมหาวิทยาลัยในประเทศไทยบางส่วนได้ถูกเสนอชื่อเข้าไปในนั้น ในขณะที่บางลำดับเช่นจาก มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวถง ไม่มีรายชื่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทยแต่อย่างใด", "title": "อันดับสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย" }, { "docid": "13543#26", "text": "ผลจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยจาก “Webometrics Ranking of World Universities\" หรือ \"Ranking Web of World Universities\" เว็บไซด์การจัดอันดับชื่อดังของประเทศสเปน ได้ทำการสำรวจมาตรฐานของมหาวิทยาลัยทั่วโลก รวมถึงมหาวิทยาลัยทั้งหมดในประเทศไทย โดยวัตถุประสงค์ในการจัดทำ Ranking นี้ มีกลุ่มเป้าหมายสำคัญอยู่ที่บรรดาผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ในกรณีที่ web performance ของสถาบันการศึกษาใด ได้ลำดับที่ต่ำกว่าความคาดหมาย เมื่อเปรียบเทียบกับความเป็นเลิศทางวิชาการของสถาบันนั้นๆ ผู้บริหารของสถาบันควรมีการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายด้านการจัดทำเว็บไซต์เพื่อเพิ่มจำนวนผลผลิตของสิ่งตีพิมพ์เผยแพร่ทางวิชาการ ในรูปแบบ electronic publications ให้มากยิ่งขึ้น จากผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั้งหมดในประเทศไทย Life on campus ได้ทำการแยกย่อยออกมาเป็นส่วนของ “มหาวิทยาลัยราชภัฏ” โดยเฉพาะ จัดเป็น 10 อันดับมหาวิทยาลัยราชภัฏชั้นนำในประเทศไทย โดยเรียงจากอันดับในประเทศ โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ได้ลำดับที่ 9", "title": "มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์" }, { "docid": "11668#19", "text": "ในปี พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทยใน \"โครงการฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย\"[12]โดยในภาพรวมผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยกลุ่มดัชนีชี้วัดด้านการวิจัยและกลุ่มดัชนีชี้วัดตามด้านการเรียนการสอน ซึ่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 3 ในด้านการเรียนการสอนของประเทศไทยได้คะแนน 47.27% จากคะแนนเต็ม 80% และเป็นอันดับ 5 ในด้านการวิจัยของประเทศไทยได้คะแนน 78.68% จากคะแนนเต็ม 100%[13]", "title": "มหาวิทยาลัยเชียงใหม่" }, { "docid": "73261#29", "text": "กีฬาคณิตศาสตร์สัมพันธ์แห่งประเทศไทย หรือ ยูเนียนเกมส์ เป็นการแข่งขันกีฬาระหว่าง ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ ด้วยความร่วมมือของนิสิตนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่าง ปัจจุบันมีถึง 15 สถาบัน ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี", "title": "กิจกรรมระหว่างมหาวิทยาลัยในประเทศไทย" }, { "docid": "964393#0", "text": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48 โดยมี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน หลังจากที่เคยเป็นเสนอตัวเจ้าภาพมาแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 41 (พ.ศ. 2557) และ ครั้งที่ 46 (พ.ศ. 25ุ62) แต่ติดปัญหาความพร้อมของสนามที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ จึงไม่ได้รับการคัดเลือก จนกระทั่งปี พ.ศ. 2561 สกอ.มีมติให้ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นเจ้าภาพจัดการกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48 พ.ศ. 2564 หลังจากที่พลาดเป็นเจ้าภาพถึง 2 ครั้ง และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ แห่งที่สอง ที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ ต่อจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ", "title": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48" }, { "docid": "73261#32", "text": "ลักษณะกิจกรรม การแข่งขันกีฬาสากล กีฬาพื้นบ้านของไทย และการประกวดกองเชียร์ - ผู้นำเชียร์ เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี และความสัมพันธ์อันดีแก่นิสิตสาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของแต่ละสถาบัน มีสมาชิกทั้งหมด 14 สถาบัน ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยนเรศวร โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า\nงานกีฬา-วิชาการจุลชีววิทยาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย หรือ Colony Games เป็นการแข่งขันกีฬาระหว่าง ภาควิชาจุลชีววิทยา จากสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี และมีการหมุนเวียนการเป็นเจ้าภาพไปยังสถาบันต่าง ๆ", "title": "กิจกรรมระหว่างมหาวิทยาลัยในประเทศไทย" }, { "docid": "11668#1", "text": "มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 3 ในด้านการเรียนการสอนของประเทศไทย และเป็นอันดับ 5 ในด้านการวิจัยของประเทศไทยโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทยใน \"โครงการฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย\" เมื่อปี พ.ศ. 2549[3][4]", "title": "มหาวิทยาลัยเชียงใหม่" }, { "docid": "836846#2", "text": "ตราสัญลักษณ์ประจำการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ ออกแบบโดยธานี เหมือนนุชโดยมีมีองค์ประกอบจากช่อดอกปีบทอง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ผสมผสานกับเลข 44 ๔๔ ที่สามารถมองได้ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย สื่อถึง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 44 คบเพลิงพลิ้วขึ้นสู่เบื้องบน และห่วง 5 ห่วง สื่อถึง พลังแห่งความสามัคคีและมิตรภาพ ที่จะเกิดขึ้นในการแข่งขันครั้งนี้ มากกว่าชัยชนะในเกมส์กีฬาของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ 5 กลุ่ม และ สีแสด-ทอง สื่อถึง สีประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และยังหมายถึง ความรุ่งโรจน์ สำเร็จบรรลุถึงจุดหมาย", "title": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 44" }, { "docid": "465634#0", "text": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 41 โดยมีมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน หลังจากที่เคยเป็นเจ้าภาพมาแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 12 (พ.ศ. 2527) และ ครั้งที่ 17 (พ.ศ. 2532) หลังจากนั้นก็ไม่ได้เป็นเจ้าภาพอีกเลย แต่มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้เสนอชื่อ เพื่อชิงเป็นเจ้าภาพกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 41 หลังจากที่ไม่ได้เป็นเจ้าภาพนานกว่า 25 ปี", "title": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 41" }, { "docid": "295810#4", "text": "เนื่องจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความพร้อมด้านบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการจัดการแข่งขันกีฬาและได้รับเชิญให้เป็นกรรมการกีฬาระดับชาติและนานาชาติหลายครั้ง และมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพในด้านต่าง ๆ ทั้งสนามการแข่งขัน ด้านการแพทย์ การคมนาคม การบริการ อาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกรอบมหาวิทยาลัย สถานที่พักสำหรับเจ้าหน้าที่และนักกีฬา[3] ดังนั้น คณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย โดยมี รองศาสตราจารย์คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ประธานคณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยเป็นประธานในที่ประชุม มีมติให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38 โดยไม่มีมหาวิทยาลัยอื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพแข่งขัน[4] การรับเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งเคยรับเป็นเจ้าภาพมาก่อนแล้วในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2518), ครั้งที่ 11 (พ.ศ. 2527) และครั้งที่ 21 (พ.ศ. 2537)", "title": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38" }, { "docid": "5374#59", "text": "ใน พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทยใน \"โครงการฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย\"[56] โดยในภาพรวมผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยกลุ่มดัชนีชี้วัดด้านการวิจัยและกลุ่มดัชนีชี้วัดตามด้านการเรียนการสอน ซึ่งมหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ในด้านการเรียนการสอนของประเทศไทยได้คะแนน 61.11% จากคะแนนเต็ม 80% และเป็นอันดับ 1 ในด้านการวิจัยของประเทศไทยได้คะแนน 100.00% จากคะแนนเต็ม 100%[57]", "title": "มหาวิทยาลัยมหิดล" }, { "docid": "11994#5", "text": "นอกจากการให้ความสำคัญกับการศึกษาด้านธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเล็งเห็นถึงแนวโน้มและความสำคัญของนวัตกรรมที่จะมาช่วยผลักดันภาคเศรษฐกิจและธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น ดังนั้น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ที่จะส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ เรื่อง วิสาหกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Innovation-Driven Entrepreneurship) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดทางธุรกิจที่กำลังจะกลายเป็นกระแสระดับโลก เพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยความเป็นผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม โดยที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับ สภาหอการค้าไทย เป็นผู้นำและสื่อกลางในการประสานกับทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา และวางรากฐานแนวคิดนี้ในประเทศไทย ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เข้าร่วมโครงการ MIT REAP (Regional Entrepreneurship Acceleration Program) โดยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ MIT เพื่อศึกษาแนวทางกระตุ้นการเติบโตด้านเศรษฐกิจในประเทศไทย โดยอาศัยความเป็นผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม ", "title": "มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย" }, { "docid": "714526#33", "text": "วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2561 มาฮาดีร์ บิน โมฮามัด นายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย และแสดงบรรยายพิเศษ ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย และตอบคำถามอื่น ๆ จากผู้เข้าร่วมงาน โดยอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ. ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ และคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินรายการ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถานที่จัดกิจกรรมครั้งนี้และถือเป็นการทำหน้าที่รับรองผู้นำรัฐบาลต่างประเทศครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[24][25]", "title": "หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" }, { "docid": "292739#2", "text": "ปัญหาที่พบในการจัดการแข่งขัน คือ เรื่องงบประมาณในการจัดการแข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยและศาสตราจารย์อรุณ สรเทศน์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าภาพในการจัดการแข่งขันได้เข้าพบจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี เพื่อของบประมาณสนับสนุน นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติเงินจากรายได้ของกองสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 40,000 บาท เพื่อให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย พร้อมทั้งแนะนำให้คณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยขึ้นตรงกับองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย (การกีฬาแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน) เพื่อจะได้จัดสรรงบประมาณสมทบการจัดการแข่งขันให้เป็นประจำทุกปี", "title": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2" }, { "docid": "5229#112", "text": "ศูนย์บริการประกันคุณภาพอาหาร กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 42 กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 26 กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20", "title": "มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์" }, { "docid": "73261#21", "text": "กีฬาวิทยาศาสตร์สัมพันธ์แห่งประเทศไทย หรือ อะตอมเกมส์ เป็นการแข่งขันกีฬาระหว่างคณะวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นให้มีการตื่นตัวในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ และเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่าง นิสิต-นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ จากสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศในกลุ่มองค์การนิสิตนักศึกษาวิทยาศาสตร์สัมพันธ์แห่งประเทศไทย (กวส.) โดยในปี 2558 จะเป็นการจัดกีฬาวิทยาศาสตร์สัมพันธ์ครั้งที่ 24 ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 22 มหาวิทยาลัยสำหรับ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการแข่งขันกีฬา บาสเกตบอล และ ฟุตบอล เป็นประเพณีด้วย ประกอบไปด้วย 2 งานกีฬาคือ", "title": "กิจกรรมระหว่างมหาวิทยาลัยในประเทศไทย" }, { "docid": "5519#74", "text": "Accounting & Finance (มหาวิทยาลัยในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวที่ติดอันดับโลกในสาขานี้) Architecture / Built Environment Environmental Sciences Geography (มหาวิทยาลัยในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวที่ติดอันดับโลกในสาขานี้) Modern Languages Pharmacy & Pharmacology Politics & International Studies (มหาวิทยาลัยในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวที่ติดอันดับโลกในสาขานี้)", "title": "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" }, { "docid": "669#36", "text": "ใน พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทยใน \"โครงการฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย\"[35]โดยในภาพรวมผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยกลุ่มดัชนีชี้วัดด้านการวิจัยและกลุ่มดัชนีชี้วัดตามด้านการเรียนการสอน ซึ่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 6 ในด้านการเรียนการสอนของประเทศไทย และเป็นอันดับ 8 ในด้านการวิจัยของประเทศไทย[36]", "title": "มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" }, { "docid": "560194#0", "text": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 42 หรือ นนทรีเกมส์ จัดที่จังหวัดนครปฐม โดยมีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเพื่อเฉลิมฉลองวาระที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครบรอบ 72 ปี[1] ระหว่างวันที่ 15 - 24 มกราคม พ.ศ. 2558 โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เคยเป็นเจ้าภาพเดี่ยวมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้ง ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน 1 ครั้ง คือ กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 8 - 15 มกราคม พ.ศ. 2536 และ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน 1 ครั้ง คือ กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 26 นนทรีเกมส์ ระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542[2]", "title": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 42" }, { "docid": "290867#11", "text": "พิธีปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 37 จัดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553 ณ สนามกีฬาหลัก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยจัดการแสดงจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2 ชุด ได้แก่ บ้านเราแสนสุขใจและสามัคคีที่แดนโดม นอกจากนี้ยังมีการจัดการแสดงจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยในครั้งหน้าอีกด้วย", "title": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 37" }, { "docid": "73261#12", "text": "กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย เป็นการแข่งขันกีฬาระหว่างเหล่านิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศไทย โดยเริ่มต้นจัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2513 ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมการแข่งขัน 8 มหาวิทยาลัย มีการจัดการแข่งขันมาแล้วรวม 37 ครั้ง โดยปัจจุบันในครั้งที่ 38 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน", "title": "กิจกรรมระหว่างมหาวิทยาลัยในประเทศไทย" } ]
3826
ใครเป็นผู้ก่อตั้ง สโมสรลิเวอร์พูล?
[ { "docid": "13777#4", "text": "จอห์น โฮลดิง นักธุรกิจชาวเมืองลิเวอร์พูลได้เช่าพื้นที่บริเวณ แอนฟีลด์ โรด เพื่อใช้สร้างสนามฟุตบอล และเมื่อสร้างเสร็จได้ให้เอฟเวอร์ตัน เช่าเป็นสนามแข่งขันฟุตบอล และเมื่อทีมเอฟเวอร์ตันได้เข้าสู่สมาชิกฟุตบอลลีก จอห์น โฮลดิง พยายามจะเข้าไปบริหารงานในทีมเอฟเวอร์ตันและได้เพิ่มค่าเช่าสนามที่ทีมฟุตบอลได้เช่าอยู่ใน ฝ่ายกลุ่มผู้บริหารของเอฟเวอร์ตันจึงยกเลิกสัญญาเช่าสนามฟุตบอล และทีมเอฟเวอร์ตันได้ย้ายสนามไปอีกฝากของสวนสาธารณะสแตนลีย์พาร์ก เพื่อไปสร้างสนามเป็นของตัวเองโดยใช้ชื่อสนามว่า กูดิสันพาร์ค ดังนั้น จอห์น โฮลดิง จึงต้องการสร้างทีมฟุตบอลขึ้นมา และ จอห์น โฮลดิง จึงไปชวนเพื่อนสนิทของเขาชื่อ จอห์น แมคเคนน่า มาทำหน้าที่ประธานสโมสรและได้ตั้งชื่อทีมฟุตบอลนี้ว่า Liverpool Football Club", "title": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" } ]
[ { "docid": "521497#7", "text": "ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-0[13] ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล[14] ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โบลตันวอนเดอเรอส์ ที่มาครอน สเตเดียม 2-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[15] ต่อมา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0[16] ต่อมา ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 2-1[17] ต่อมา ในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบหก นัดรีเพลย์ โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แบล็กเบิร์นโรเวอส์ ที่อีวู้ด ปาร์ค 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[18] [19] ต่อมา ในวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ โกชิญญูได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แอสตันวิลลา 1-0 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุด[20] ต่อมา โกชิญญู ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ รวมถึงเข้าชิงราวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2015 โกชิญญู นักเตะของลิเวอร์พูลคนเดียวที่ได้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ต่อมา ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 2-1[21] ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูคว้า 4 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล, รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ, รางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งปี จากลูกยิงไกล ในเกมกับ เซาแทมป์ตัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และ รางวัลฟอร์มยอดเยี่ยมแห่งปี ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ซิตี จากงานประกาศรางวัล Players' Awards 2015 โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ เอ็คโค่ อารีน่า[22] จบฤดูกาล โกชิญญูยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 5 ประตูจาก 35 นัด", "title": "ฟีลีปี โกชิญญู" }, { "docid": "325892#17", "text": "ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ซัวเรซ ได้ทำแฮตทริกที่ 5 ของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล โดย ซัวเรซ ได้ยิง 4 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี 5-1 ทำให้ ซัวเรซ สร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักเตะคนแรกของสโมสรลิเวอร์พูล ที่ทำแฮตทริกใส่คู่ต่อสู้ทีมเดียวกันได้ถึงสามครั้ง ต่อมา ในวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ซัวเรซ ได้ยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-1 ต่อมา ในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ซัวเรซ ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ลิเวอร์พูล แทน สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ไม่ได้ลงสนามและได้ยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ไวต์ฮาร์ตเลน 5-0 ต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ซัวเรซ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาพันธ์ผู้สนับสนุนกีฬาฟุตบอล หรือ FSF Award โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่เอมิเรตส์ สเตเดียม สนามของอาร์เซนอล ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ซัวเรซ ได้รับการต่อสัญญาจากสโมสรออกไปอีก จนถึง ปี 2018 และรับค่าเหนื่อยเพิ่มเป็น 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่รับค่าเหนื่อยมากที่สุดของประวัติศาสตร์ของสโมสร ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ซัวเรซ ได้ยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 3-1 ทำให้ ซัวเรซ เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ 10 ประตูในเดือนเดียว ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ ซัวเรซ ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนธันวาคม ของ พรีเมียร์ลีก โดยยิงได้ 10 ประตูจาก 7 นัด ", "title": "ลุยส์ ซัวเรซ" }, { "docid": "325892#19", "text": "ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2014 ซัวเรซ ได้ลงสนามนัดที่ 100 ในพรีเมียร์ลีก และทำประตูที่ 24 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 3-0 ต่อมา ในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2014 ซัวเรซ ได้ทำประตูที่ 25 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 3-0 ต่อมา ในวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 2014 ซัวเรซ ได้ทำแฮตทริกที่ 6 ของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล โดย ซัวเรซ ได้ยิง 3 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี ที่คาร์ดิฟฟ์ซิตีสเตเดียม 6-3 ต่อมา ในวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2014 ซัวเรซ ได้ทำประตูที่ 29 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 4-0 ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ ซัวเรซ ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนมีนาคม ของ พรีเมียร์ลีก ร่วมกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด ต่อมา ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2014 ซัวเรซ ได้ทำประตูที่ 30 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่แคร์โรว์โรด 3-2 ทำให้ ซัวเรซ เป็นนักเตะคนแรกของสโมสรลิเวอร์พูล ที่ยิงประตูครบ 30 ประตู ในฤดูกาลเดียว ต่อจาก เอียน รัช ที่ทำได้ในปี 1987 และเป็นนักเตะคนที่ 7 ที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกครบ 30 ประตู ในฤดูกาลเดียว", "title": "ลุยส์ ซัวเรซ" }, { "docid": "370974#1", "text": "ในวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2017 เอฟเอคัพ รอบสาม นัดรีเพลย์ ลูกัสทำประตูแรกให้กับสโมสรนับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2010 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ พลีมัธ อาร์ไกล์ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบสี่ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ จบฤดูกาลทำให้ ลูกัสประสบความสำเร็จเป็นปีที่สิบในฐานะนักเตะลิเวอร์พูล ในการเฉลิมฉลองลูกัสได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา และได้รับรางวัล Recognition Award จาก เคนนี แดลกลีช ตำนานสโมสรลิเวอร์พูล ที่งานพิธีมอบรางวัล Players' Awards 2017 ของลิเวอร์พูล", "title": "ลูกัส เลย์วา" }, { "docid": "324709#0", "text": "สนามฟุตบอลแอนฟีลด์ () เป็นสนามของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ในเขตแอนฟีลด์ เมืองลิเวอร์พูล แอนฟีลด์สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2427 เริ่มแรกเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2435 เอฟเวอร์ตันย้ายสนามไปกูดิสันพาร์ก หลังจากก่อตั้งสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล แอนฟีลด์จึงกลายเป็นสนามเหย้าของลิเวอร์พูลนับแต่นั้นมา", "title": "แอนฟีลด์" }, { "docid": "13777#1", "text": "ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1892 และได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกในปีต่อมา ลิเวอร์พูลใช้สนามแอนฟีลด์ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือช่วงทศวรรษ 1970 - 1980 เมื่อบิลล์ แชงคลีและบ็อบ เพลสลี่ย์พาทีมคว้าแชมป์ลีก 11 ครั้ง และคว้าถ้วยรางวัลยูโรเปียน 7 ใบ", "title": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" }, { "docid": "940891#0", "text": "จอห์น โฮลดิง () เป็นนักธุรกิจ, นักการเมืองชาวอังกฤษจากเมืองลิเวอร์พูล และเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล", "title": "จอห์น โฮลดิง" }, { "docid": "446536#0", "text": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล เป็นสโมสรฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ตั้งอยู่ที่เมืองลิเวอร์พูล มณฑลเมอร์ซีไซด์ โดยมีสนามเหย้าคือ แอนฟิลด์ ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1892", "title": "รายชื่อผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" }, { "docid": "325892#15", "text": "ในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2013 ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์เจอกับ เชลซี โดยในครึ่งหลัง ซัวเรซ ทำแฮนด์บอลและเสียจุดโทษ ก่อนที่ เอแดน อาซาร์ จะยิงจุดโทษให้ เชลซี ขึ้นนำ 2-1 แต่สุดท้าย ซัวเรซ ก็ทำประตูตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ช่วยให้ ลิเวอร์พูล รอดตายหวุดหวิด ก่อนจะจบด้วยผลเสมอกัน 2-2 แต่มีเหตุการณ์อื้อฉาวคือ ซัวเรซ ไปกัดที่แขนของ บรานิสลาฟ อีวานอวิช โชคดีที่ ซัวเรซ รอดพ้นจากการโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่หลังจากนั้น ซัวเรซ ก็ไม่รอดหลังจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) เปิดฉากสอบสวนก่อนจะสั่งลงโทษแบนยาวถึง 10 นัด ทำให้ ซัวเรซ หมดสิทธิ์ลงสนามใน 4 นัดที่เหลือ รวมถึงไม่สามารถลงสนาม 6 นัดแรกในฤดูกาลหน้าได้ จบฤดูกาล ซัวเรซ ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 23 ประตู จาก 33 นัด รวมทุกรายการ ยิงได้ทั้งหมด 30 ประตู จาก 44 นัด ทำให้ ซัวเรซ เป็นนักเตะคนที่ 12 ของ ลิเวอร์พูล ที่ยิงประตูครบ 30 ประตู รวมทุกรายการ ในฤดูกาลเดียว ต่อจาก เฟร์นันโด ตอร์เรส ที่ทำได้ในฤดูกาล 2007-08 ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ ซัวเรซ ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2012-13 ไปครอง ต่อมา ในวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 ลุยส์ ซัวเรซ ได้ออกมาบอกว่าต้องการย้ายออกจากถิ่นแอนฟีลด์ เนื่องจากไม่มีความสุขการค้าแข้งในอังกฤษ และต้องการลงเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2013–14 โดยที่มี อาร์เซนอล และ เรอัลมาดริด สนใจดึงตัวเขาไปร่วมทีม ต่อมา ในวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2013 จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล ได้ออกมายืนยันว่า ซัวเรซ ไม่ได้มีไว้ขายและจะอยู่กับทีมต่อไป หลังจากนั้น ซัวเรซ ถูกทางสโมสรจับแยกซ้อมเดี่ยว แต่สุดท้าย ซัวเรซ ได้กลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมอีกครั้ง หลังจากได้ขอโทษสโมสรและเพื่อนร่วมทีม สุดท้าย ซัวเรซ ได้ตัดสินใจอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อไป", "title": "ลุยส์ ซัวเรซ" }, { "docid": "446536#1", "text": "รายชื่อต่อไปนี้คือ รายชื่อคนที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมคนแรกของลิเวอร์พูลตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1892 โดยจะแสดงระยะเวลาได้ดำรงตำแหน่งและบันทึกการแข่งขันของสโมสรโดยรวม (ในแง่ของการแข่งขันที่ชนะ, เสมอและแพ้), เกียรติประวัติและความสำเร็จที่สำคัญในขณะที่ดำรงตำแหน่ง รวมถึง ผู้จัดการทีมชั่วคราว โดยจะเน้นในตาราง นับตั้งแต่ก่อตั้งถึงฤดูกาล 2008-09, สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลมีผู้จัดการทีม 17 คน ที่ดำรงตำแหน่งได้ครบวาระ", "title": "รายชื่อผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" }, { "docid": "521497#4", "text": "ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งแรก โดยโกชิญญูถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ พ่ายแพ้ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน คาบ้าน 0-2[2] ต่อมา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกและทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สวอนซีซิตี 5-0[3] ต่อมา ในวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วีแกนแอธเลติก ที่ ดีดับเบิลยูสเตเดียม 4-0 ต่อมา ในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ทำประตูตีไข่แตกให้ ลิเวอร์พูล ไล่ เซาแทมป์ตัน มาเป็น 1-2 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1-3 ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 นัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ เอาชนะ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 1-0 จบฤดูกาล โกชิญญูยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 3 ประตู จาก 13 นัด และได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำประตู ได้ถึง 7 ลูก ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ โกชิญญู ได้รางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรลิเวอร์พูลประจำฤดูกาล 2012-13 ไปครอง ทำให้ โกชิญญูได้เป็นขวัญใจของสาวกเดอะค็อปได้อย่างเต็มตัว", "title": "ฟีลีปี โกชิญญู" }, { "docid": "359612#5", "text": "ในช่วงฤดูกาล 1984-85 โจ เฟแกน ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลในช่วงปี 1983-85 ได้ขอลาออกจากสโมสรเพราะเรื่องของการเมืองในประเทศของเขา ประธานสโมสรก็ไม่รู้ว่าจะเอาใครมาเป็นผู้จัดการทีมดี โดยเขาได้จัดตั้งกิจกรรมการเลือกโหวตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลขึ้นให้แฟนเดอะค็อปได้คิดกัน แล้วมีเดอะค็อปกลุ่มหนึ่งได้เสนอ เคนนี แดลกลีช มาเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล โดยประธานของสโมสรก็ได้เห็นด้วยจึงเลยเรียกตัว เคนนี แดลกลีช เข้ามาคุมทีม โดยการคุมครั้งแรกของแดลกลีชนั่นทำผลงานไปได้สวยเมื่อเข้ามาคุมทีมนัดแรกเก็บชัยชนะได้โดยบุกไปเยือน สโมสรฟุตบอลเชลซี โดยลิเวอร์พูลชนะไป 1-0 และคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกดิวิชัน 1 ของอังกฤษมาครองได้เป็นครั้งที่ 15 ในฤดูกาล 1987-88 แดลกลีชได้ซื้อนักฟุตบอลที่ชื่อ ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ มาเล่นในตำแหน่ง กองหน้าจากสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด แล้วแดลกลีชก็หวังจะปั้นเขาให้เก่งเหมือนตน และในปีนี้แดลกลีชนำหงส์แดงคว้าแชมป์ ฟุตบอลลีกดิวิชัน 1 ของอังกฤษ และ เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ มาได้และในช่วงฤดูกาล 1988-89 แดลกลีชได้นำทีมลิเวอร์พูลไปคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จโดยชนะสโมสรคู่เมือง คือ สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ไป 3-2 และในช่วงฤดูกาล 1989-90 และ 1990-91 แดลกลีชได้นำทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ฟุตบอลลีกดิวชั่น 1 ของอังกฤษ และ เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ มาได้ก่อนที่เขาจะลาออกจากผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล โดยในนัดสุดท้ายที่เขานำทีมลิเวอร์พูลไปเยือน สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในรอบชิงคอมมิวนิตีชิลด์ โดยเสมอไป 1-1 แต่คว้าแชมป์ได้ด้วยการยิงจุดโทษชนะไป 6-5", "title": "เคนนี แดลกลีช" }, { "docid": "869143#4", "text": "ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 4-3 ต่อมา ในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2018 เอฟเอคัพ รอบสี่ เศาะลาห์ทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์พ่ายแพ้ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 2-3 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุด ด้วยประตูนี้ทำให้ เศาะลาห์ยิงไป 25 ประตูจาก 32 นัด ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูถึง 25 ประตูเร็วที่สุดในรอบ 102 ปี มีเพียง จอร์จ อัลเลน (1895-96) และเฟร็ด แพ็กแนม (1914-15) ที่ทำได้ด้วยจำนวนเกมน้อยกว่าเขาในประวัติศาสตร์ของสโมสร ต่อมา ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ ที่สนามกีฬาจอห์นสมิท 3-0 ต่อมา ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-2 ต่อมา ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 22 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0 ต่อมา ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 5-0 ด้วยประตูนี้ทำให้ เศาะลาห์ยิงไป 30 ประตูจาก 36 นัด ทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกของลิเวอร์พูลที่ยิงได้ 30 ประตูต่อหนึ่งฤดูกาล หลังจาก ลุยส์ ซัวเรซ เคยทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2013-14 (31 ลูก) และทำให้เขาเป็นนักเตะที่ยิง 30 ประตูได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ 125 ปีของสโมสรเป็นอันดับ 2 มีเพียง จอร์จ อัลเลน (27 เกม) ที่ทำได้ไวกว่าเศาะลาห์ (36 เกม) ตามมาด้วย แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (37), เฟร็ด แพ็คแนม (39) และเฟร์นันโด ตอร์เรส (42) ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 23 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-1 ต่อมา ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 24 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0 ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ของพรีเมียร์ลีก ต่อมา ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล โดย เศาะลาห์ยิง 4 ประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 5-0 ต่อมา ในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 29 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1 ต่อมา ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เศาะลาห์ทำประตูที่ 8 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-0 ต่อมา ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูที่ 9 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 2-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 5-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ เศาะลาห์กลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูล ที่ยิงประตูต่อฤดูกาลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรตั้งแต่เข้าสู่ยุคพรีเมียร์ลีก หลังทำไปแล้ว 39 ประตูในทุกรายการ ทุบสถิติของ ร็อบบี ฟาวเลอร์ เคยทำไว้ 36 ลูก เมื่อฤดูกาล 1995–96 ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนมีนาคมของพรีเมียร์ลีก และทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีกได้ถึงสามครั้งในฤดูกาลเดียวกัน ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 30 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0 ต่อมา ในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 31 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน ที่เดอะฮอว์ทอนส์ 2-2", "title": "มุฮัมมัด เศาะลาห์" }, { "docid": "370848#0", "text": "รอเบอร์ท เบอร์นาร์ด 'ร็อบบี' ฟาวเลอร์ () เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1975 ในท็อกซ์เทท ประเทศอังกฤษ เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ เป็นที่จดจำมากที่สุดในครั้งเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลใน 2 ช่วงเวลา และเขายังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดเป็นอันดับ 6 ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก ฟาวเลอร์ยิงประตูรวม 183 ประตูสำหรับลิเวอร์พูล โดย 128 ประตูในพรีเมียร์ลีกสำหรับลิเวอร์พูล (162 ประตูรวม กับทุกสโมสร) ต่อมาเขาย้ายทีมไปเล่นในสโมสรฟุตบอลลีดส์ยูไนเต็ด และ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีก่อนจะกลับมายังลิเวอร์พูลในเดือนมกราคม ค.ศ. 2006", "title": "ร็อบบี ฟาวเลอร์" }, { "docid": "13777#0", "text": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (English: Liverpool Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ตั้งอยู่ที่เมืองลิเวอร์พูล เทศมณฑลเมอร์ซีไซด์ ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอังกฤษครองแชมป์ดิวิชัน 1 ถึง 18 ครั้ง ครองแชมป์ยูโรเปียนคัพ 5 ครั้ง ยูฟ่าคัพ 3 ครั้ง ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 3 ครั้ง และฟุตบอลลีกคัพซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศอังกฤษ อีก 8 ครั้ง", "title": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" }, { "docid": "13777#33", "text": "เจ้าของ: เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป ผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์: เดวิด มัวร์ส ทูต: เอียน รัช, ร็อบบี ฟาวเลอร์, ไมเคิล โอเวน[66] สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และ แอธเลติก กราวน์ ลิมิตเต็ด[67] เจ้าของ: จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ ประธาน: ทอม เวอร์เนอร์ รองประธาน: เดวิด กินสเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร: ปีเตอร์ มัวร์ ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการพาณิชย์: บิลลี โฮแกน[68] หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน: ฟิลิป แนช สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ผู้อำนวยการ: จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี, ทอม เวอร์เนอร์, เดวิด กินสเบิร์ก, เอียน อายร์, ไมเคิล กอร์ดอน, ไมเคิล อีแกน กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร: เคนนี แดลกลีช[69] กรรมการฝ่ายดำเนินการ: แอนดรูว์ พาร์คินสัน[70] หัวหน้าคนดูแลสนามกีฬา: เดฟ แม็คโคลัช ผู้จัดการสนาม: เก็ด โพอินตัน ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร: ซูซาน แบล็ก[71] ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อ: แมตธิว เบ็กซ์เตอร์[72] หัวหน้าฝ่ายจัดหางาน: เดฟ ฟอลโลวส์[73] หัวหน้าฝ่ายแมวมอง: แบร์รี ฮันเตอร์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์แทคติก: ไมเคิล เอ็ดวอร์ดส ผู้ฝึกสอนและทีมแพทย์[31] ดูเพิ่มเติม รายชื่อผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ผู้จัดการทีม: เยือร์เกิน คล็อพ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่หนึ่ง: เซลจ์โก บูวัค ผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่สอง: ปีเตอร์ คราเวียทซ์ หัวหน้าวิเคราะห์การออกกำลังกายและสภาพนักเตะ: ไรเลนด์ มอร์แกน ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู: จอห์น อาชเตอร์เบิร์ก ผู้ฝึกสอนทีมชุดพัฒนา: เปปิจ์น ลิจ์นเดอร์ส หัวหน้ากายภาพบำบัด: คริส มอแกน ผู้ฝึกสอนกายภาพบำบัด: จอร์แดน มิลซัม นักนวด: พอล สมอล, ซัลแวน ริชาร์ดสัน ประสานงานเกี่ยวกับการจัดการอุปกรณ์: ลี เรดคลิฟฟ์, กราแฮม คาร์เตอร์ ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา: แบร์รั ดรัสท์ ที่ปรึกษาด้านโภชนาการ: เจมส์ มอร์ตัน ผู้ช่วยดูแลการฟื้นฟูสมรรถภาพและความแข็งแรง: เดวิด ไรดิงส์ นักกายภาพบำบัด: แมตต์ โคโนปินสกิ, รูเบ็น ปอนส์ บำบัดโรคกีฬา: เปโดร ฟิลลิปโป นักวิเคราะห์สมรรถภาพ: เจมส์ เฟรนช์", "title": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" }, { "docid": "365712#1", "text": "บิยาร์เรอัล มีฉายาว่า \"El Submarino Amarillo\" หรือในภาษาอังกฤษ คือ \"Yellow Submarine\" ที่แปลได้ว่า \"เรือดำน้ำสีเหลือง\" ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับเพลงที่ได้รับความนิยมของเดอะบีเทิลส์ โดยมีที่มาที่ไปมาจากเมื่อปลายยุคทศวรรษที่ 60 ขณะนั้นสโมสรอยู่ในระดับลีกภูมิภาค และกำลังจะถูกเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในระดับดิวิชัน 3 มีบาทหลวงรูปหนึ่งซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสโมสร คิดจะหาสิ่งเชื่อมโยงระหว่างสโมสรกับบรรดาผู้สนับสนุน ขณะนั้นบิยาร์เรอัลมีกำหนดจะลงเล่นกับลิเวอร์พูล สโมสรระดับใหญ่ของอังกฤษ บาทหลวงรูปนี้จึงได้เปิดเพลง \"Yellow Submarine\" ของเดอะบีเทิลส์ ซึ่งเป็นวงดนตรีที่มีกำเนิดในเมืองลิเวอร์พูล จากตู้เพลงในบาร์ในคืนวันที่มีการแข่งขัน ซึ่งสีเหลืองก็เป็นสีที่ตรงกับชุดแข่งขันของสโมสรด้วย จึงกลายมาเป็นฉายามาจนถึงปัจจุบัน", "title": "สโมสรฟุตบอลบิยาร์เรอัล" }, { "docid": "823498#0", "text": "เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี () เป็นชื่อเรียกการแข่งขันฟุตบอลของสองสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ คือ ลิเวอร์พูล กับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นสโมสรร่วมเมืองเดียวกัน คือ ลิเวอร์พูล ที่มีลุ่มแม่น้ำเมอร์ซีย์ไหลผ่าน โดยชื่อนี้ถูกเรียกขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1955 ขณะที่บรรดาผู้สนับสนุนของสองสโมสรเรียกว่า ดาร์บีมิตรภาพ (The friendly derby) เพราะถือว่าเป็นเพียงการแข่งดาร์บีไม่กี่นัด ที่บรรดาผู้สนับสนุนไม่มีความขัดแย้งหรือแข่งขันกันดุเดือดจนเลยเถิดเกินไป", "title": "เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี" }, { "docid": "851795#0", "text": "ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล (ค.ศ. 1892–1959) () เริ่มต้นเมื่อมีการก่อตั้งสโมสรใน ค.ศ. 1892 จนกระทั่งถึงการแต่งตั้ง บิลล์ แชงคลี เป็นผู้จัดการทีมใน ค.ศ. 1959", "title": "ประวัติสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (ค.ศ. 1892—1959)" }, { "docid": "13777#31", "text": "สำหรับในประเทศไทย ลิเวอร์พูล ถือได้ว่าเป็นสโมสรที่มีผู้สนับสนุนเป็นจำนวนมากสโมสรหนึ่ง โดยในเดือนเมษายน ค.ศ. 2015 มีการสำรวจผ่านการติดตามทางโปรแกรมทวิตเตอร์พบว่า ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีชาวไทยเป็นผู้สนับสนุนมากที่สุดในบรรดาสโมสรฟุตบอลของอังกฤษทั้งหมด[55]", "title": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" }, { "docid": "22564#1", "text": "สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันเป็นสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1878 โดยใช้ชื่อว่า สโมสรฟุตบอลเซนต์โดมิงโกตามชื่อโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล และเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันในปี 1884 และใช้สนามแอนฟีลด์โรดเป็นสนามเหย้า โดยมี จอห์น โฮลดิง ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูลและสมาชิกสภาผู้แทนพรรคอนุรักษนิยมเป็นประธานสโมสร", "title": "สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน" }, { "docid": "13777#21", "text": "ในปี ค.ศ. 2015 มีการสำรวจความนิยมจากแฟนฟุตบอลทั่วโลกผ่านทางโปรแกรมทวิตเตอร์ พบว่าในประเทศไทย มีผู้นิยมลิเวอร์พูลมากที่สุด โดยคิดเป็นร้อยละ 29.6 ในขณะที่สโมสรรองลงไป คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คิดเป็นร้อยละ 19.77 และเชลซี คิดเป็นร้อยละ 18.95 ส่วนในประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล คือสโมสรที่มีผู้นิยมมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 15.21[30]", "title": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" }, { "docid": "788490#1", "text": "เจฟเฟอส์ เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 1981 ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลจากการเป็นผู้เล่นของเอฟเวอร์ตัน สโมสรประจำเมืองลิเวอร์พูล สร้างชื่อขึ้นมาจากการเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่มีความรวดเร็วและสัญชาตญาณการทำประตูของกองหน้าอย่างครบถ้วน จนได้รับฉายาว่า \"\"จิ้งจอกแดนหน้า\"\" (Fox in the Box) และถูกนำไปเปรียบเทียบกับไมเคิล โอเวน กองหน้าของลิเวอร์พูล สโมสรคู่ปรับร่วมเมืองของเอฟเวอร์ตัน ด้วยความเป็นกองหน้าดาวรุ่งเหมือนกัน โดยได้ลงเล่นให้กับเอฟเวอร์ตตันชุดใหญ่ ในวันเปิดกล่องของขวัญ ค.ศ. 1997 พบกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ขณะที่มีอายุเพียง 16 ปี", "title": "ฟรานซิส เจฟเฟอส์" }, { "docid": "940891#2", "text": "และเขาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเป็นผู้ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล สโมสรฟุตบอลที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จที่สุดในอังกฤษ ได้รับการก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2445", "title": "จอห์น โฮลดิง" }, { "docid": "38909#8", "text": "ในปี พ.ศ. 2537 ไทยได้ร่วมก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) กับอีก 9 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน และนอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการเชิญสโมสรชั้นนำจากทั่วโลก มาแข่งขันกับในประเทศไทยหลายครั้ง ได้แก่ เอฟซีปอร์โต (2540) อินเตอร์มิลาน (2540) โบคาจูเนียร์ (2540) ลิเวอร์พูล (2544) นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (2547) เอฟเวอร์ตัน (2548) โบลตันวันเดอร์เรอร์ (2548) แมนเชสเตอร์ซิตี (2548 ที่ไทย และ 2550 ที่อังกฤษ[3]) และสโมสรชั้นนำอื่น ๆ และในปี 2551 ไทยตกรอบฟุตบอลรอบคัดเลือก รอบ 20 ทีมสุดท้าย โดยได้อยู่สายเดียวกับทีมอย่าง ญี่ปุ่น โอมาน บาห์เรน โดยไทยแข่ง 6 นัด ไม่ชนะใครเลย แพ้ 5 เสมอ 1 ทำให้ชาญวิทย์ ผลชีวิน ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากนั้นไม่นาน ปีเตอร์ รีด อดีตนักเตะเอฟเวอร์ตันและทีมชาติอังกฤษก็เข้ามารับตำแหน่งแทนแต่ไทย ก็พลาดแชมป์ อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 2007 โดยการแพ้ทีมชาติเวียดนามรวมผลสองนัด 3-2 และยังพลาดคิงส์คัพอีกรายการหนึ่ง โดยดวลจุดโทษแพ้ ทีมชาติเดนมาร์ก จากเหตุการณ์ดังกล่าว ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 ปีเตอร์ รีด จึงถูกปลดออกจากตำแหน่งรวมทั้งอนาคตที่ไม่แน่นอนในการคุมทีมชาติเพราะรีดมีข่าวว่าจะไปทำงานที่สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี โดยเป็นผู้ช่วยของ โทนี พูลิส ผู้จัดการทีมสโตกซิตี", "title": "ฟุตบอลทีมชาติไทย" }, { "docid": "13777#27", "text": "ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรในปี 1892, ผู้เล่น 45 คน ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมสโมสรลิเวอร์พูล[46] แอนดิว ฮานนาห์ ได้เป็นกัปตันทีมคนแรกหลังจากแยกตัวออกจาก เอฟเวอร์ตัน อเล็กซ์ เรสเบค เป็นกับตันทีมในปี 1899 ถึง 1909 เป็นกัปตันทีมนานที่สุดก่อนที่ สตีเวน เจอร์ราด ซึ่งอยู่กับลิเวอร์พูลถึง 12 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2003–04[46] กัปตันทีมคนปัจจุบันคือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งมาแทนที่เจอร์ราด ในฤดูกาล 2015–16 หลังจากที่เจอร์ราดย้ายไปแอลเอ กาแลคซี[47][48]", "title": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" }, { "docid": "13777#2", "text": "สโมสรได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมที่สำคัญ 2 ครั้ง ครั้งแรกที่โศกนาฏกรรมเฮย์เซลเมื่อปี ค.ศ. 1985 แฟนฟุตบอลทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันส่งผลให้อัฒจันทร์พังลงมา มีผู้เสียชีวิต 39 คน เป็นแฟนบอลยูเวนตุสชาวอิตาลี 32 คน, เบลเยียม 4 คน, ฝรั่งเศส 2 คน, และไอร์แลนด์ 1 คน และส่งผลให้ลิเวอร์พูลถูกสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรปแบนเป็นเวลา 6 ปี ต่อมาในปี ค.ศ. 1989 เกิดโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร แฟนบอลของลิเวอร์พูล 96 คนเสียชีวิต เนื่องจากมีคนแออัดเข้ามาชมเกมมากเกินความจุจึงทำให้อัฒจันทร์ยืนได้พังลงมา", "title": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" }, { "docid": "44018#0", "text": "ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ () มีฉายาว่าเจ้าหลอเล็ก เริ่มค้าแข็งกับ สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ก่อนย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 1.9 ล้านปอนด์ อันเป็นค่าตัวในการย้ายสโมสรภายในเกาะอังกฤษที่สูงที่สุด ช่วงอยู่กับสโมสรลิเวอร์พูล เขาผลึกกำลังกับ จอร์น อัลดริด และจอร์น บาร์น สร้างตำนานสามประสานแห่งแอนฟิลส์ หลังจากยิ่งใหญ่อยู่กับลิเวอร์พูล สโมสรมีการเปลี่ยน แปลง ผู้จัดการทีม จาก เคนนี่ เดกกลิช มาเป็น แกรม ซูเนส ปีเตอร์ เบีร์ดสลีย์ ถูกขายไปให้กับ เอฟเวอร์ตัน สโมสรคู่รักคู่แค้นร่วมเมืองลิเวอร์พูล\nก่อนจบชีวิตการค้าแข้ง กับสโมสรนิวคาสเซิล ทีมที่เขาเริ่มค้าแข้ง", "title": "ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์" }, { "docid": "13777#15", "text": "สนามฟุตบอลแอนฟีลด์สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1884 ติดกับแสตนลีย์ ปาร์ค เริ่มแรกเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ก่อนที่เอฟเวอร์ตันย้ายสนามไปกูดิสันพาร์ค หลังจากขัดแย้งในเรื่องค่าเช่าพื้นที่สนามกับจอห์น โฮลดิง ผู้เป็นเจ้าของแอนฟีลด์ หลังจากนั้นโฮลดิ้งได้ก่อตั้งสโมรสรลิเวอร์พูลขึ้นเมื่อปี 1892 และแอนด์ฟีลด์จึงกลายเป็นสนามเหย้าของลิเวอร์พูลนับแต่นั้นมา ในขณะนั้นมีความจุของสนามทั้งสิ้น 20,000 คน ถึงแม้จะมีเพียงผู้ชม 100 คนเข้าชมการแข่งขันครั้งแรกของลิเวอร์พูลที่แอนฟีลด์", "title": "สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล" }, { "docid": "439806#9", "text": "ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2012 ร็อดเจอส์เซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ในฐานะผู้จัดการทีมเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยมาแทนที่การถูกปลดของ เคนนี ดัลกลิช อดีตตำนานของลิเวอร์พูลที่ทำได้แค่คว้าแชมป์ลีกคัพและจบอันดับ 8 ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011–12 โดยเกมแรกของร็อดเจอส์คือฟุตบอลอุ่นเครื่องกับ สโมสรฟุตบอลโทรอนโต ในอเมริกา ต่อมา ร็อดเจอส์ คุมทีมลิเวอร์พูลนัดแรกใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13 ในนัดที่พ่าย เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 0-3 โดย 5 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เสมอ 2 แพ้ 3 ไม่ชนะใครเลย แต่ในนัดที่ 6 ร็อดเจอส์ ชนะนัดแรกในการคุมทีมลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก โดยชนะ นอริชซิตี 5-2 พร้อมกับแฮตทริก ของ หลุยส์ ซัวเรซ อีกด้วย ต่อมา ในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2012 ร็อดเจอส์ ได้คุมทีมกลับมาเจอทีมเก่า สวอนซีซิตี ที่แอนฟีลด์ ในลีกคัพ รอบที่ 4 แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็พ่ายแพ้ไป 1-3 ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2012 ร็อดเจอส์ ได้พา ลิเวอร์พูล เข้ารอบ 32 ทีมสุดท้าย ในยูฟ่ายูโรปาลีก หลังจากพาทีมเอาชนะ อูดิเนเซ 1-0", "title": "เบรนดัน ร็อดเจอส์" } ]
1980
"ใครเป็นผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ไทยร(...TRUNCATED)
[{"docid":"5708#0","text":"ไทยรัฐ (English: Thai Rath) เป็นหนังสือ(...TRUNCATED)
[{"docid":"5708#9","text":"1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 ไทยรัฐประ(...TRUNCATED)
1671
"พระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย คืออะ(...TRUNCATED)
[{"docid":"60368#0","text":"พระราชพิธีตรียัมพวาย ตรี(...TRUNCATED)
[{"docid":"7747#5","text":"พิธีโล้ชิงช้า เป็นส่วนหนึ(...TRUNCATED)
3772
"เครื่องเป่าลมไม้แบ่งได้อย่างกว้าง(...TRUNCATED)
[{"docid":"290569#1","text":"เครื่องเป่าลมไม้แบ่งได้(...TRUNCATED)
[{"docid":"290569#0","text":"เครื่องเป่าลมไม้ ()เป็นกา(...TRUNCATED)
1410
บริษัทซัมซุง ก่อตั้งโดยใคร ?
[{"docid":"107581#1","text":"ซัมซุงได้ก่อตั้งโดย ลี เบ(...TRUNCATED)
[{"docid":"137039#1","text":"อี ได้ก่อตั้งบริษัทการค้(...TRUNCATED)
3029
"ดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุดคือ(...TRUNCATED)
[{"docid":"3708#42","text":"ดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้โลกที่(...TRUNCATED)
[{"docid":"624419#0","text":"ดาวเวกา () หรือแอลฟาพิณ () เป(...TRUNCATED)

Dataset Card for Dataset Name

this dataset combines miracl/miracl and castorini/mr-tydi together which contain only thai dataset

Downloads last month
35
Edit dataset card