txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# Clubhouse ประกาศรับเงินลงทุน Series C เพื่อรองรับการเติบโต
Clubhouse ประกาศรับเงินลงทุนรอบใหม่ซีรี่ส์ C มีผู้ลงทุนหลักคือ Andrew Chen จากกองทุน Andreessen Horowitz, DST Global, Tiger Global และ Elad Gil
ทั้งนี้มูลค่าเงินลงทุนไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่ Reuters บอกว่าจะทำให้มูลค่ากิจการของ Clubhouse อยู่ที่ราว 4,000 ล้านดอลลาร์ ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ และเป็นตัวเลขเดียวกับที่ Twitter เคยเสนอซื้อกิจการ
Clubhouse ระบุว่าจะนำเงินลงทุนใหม่นี้มาใช้ขยายกิจการ เจาะตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ไปจนถึงทำโครงการสำหรับสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์ พัฒนาระบบค้นหาห้องที่น่าสนใจให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนขยายทีมงานฝ่ายสนับสนุน
ที่มา: Reuters และ Clubhouse |
# รู้จักจอ MBUX Hyperscreen ขนาดใหญ่ 55 นิ้วในรถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz EQS
สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวที่น่าสนใจในวงการรถยนต์คือการเปิดตัว Mercedes-Benz EQS รถยนต์ไฟฟ้าเกรดพรีเมียม เทียบเท่ารถรุ่น S-Class (ข่าวรถรุ่นต้นแบบ Vision EQS ในปี 2019)
ฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจคือคอนโซลหน้ามีจอภาพขนาดใหญ่ 55 นิ้ว (นับจากซ้ายสุดไปขวาสุด) ที่เรียกว่า MBUX Hyperscreen ที่พัฒนาร่วมกับ NVIDIA
NVIDIA มีบทความอธิบายการทำงานของจอภาพนี้ โดยระบบคอมพิวเตอร์เบื้องหลังคือ NVIDIA Drive ไม่ระบุรุ่น ซีพียู 8 คอร์ แรม 24GB ใช้ประมวลผลกราฟิกและ AI ไปพร้อมกัน (รถรุ่น EQS รองรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติ level 3)
หมายเหตุ: พิจารณาจากสเปกแล้วน่าจะเป็น NVIDIA Drive Xavier ที่เปิดตัวในปี 2017 โดยใช้จีพียูเป็น Volta แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ (แพลตฟอร์ม Drive ตัวล่าสุดคือ Orin)
คอมพิวเตอร์ตัวนี้จะคำนวณข้อมูลต่างๆ พิกัดของรถ อุณหภูมิในห้องโดยสาร ช่วงเวลาในแต่ละวัน เพื่อนำเสนอข้อมูลให้เหมาะกับคนขับตั้งแต่แรก ลดความจำเป็นของการกดปุ่มหรือสั่งงานด้วยเสียงลง แนวคิดนี้เรียกว่า zero-layer UI คือแสดงข้อมูลให้ครบไปเลย ไม่ต้องซ้อนทับกันหลายชั้นให้สับสน
ที่มา - NVIDIA, VentureBeat |
# Snowden ประมูลภาพการกุศลเป็น NFT ระดมทุนได้ 150 ล้านบาท
Edward Snowden จัดประมูลภาพ Stay Free โดยนำภาพของเขาเองมาซ้อนเข้ากับคำพิพากษาว่าการดักฟังโทรศัพท์โดย NSA นั้นผิดกฎหมาย รายได้จากการประมูลจะบริจาคเข้า Freedom of the Press Foundation
การประมูลเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ที่ราคาเริ่มต้น 2 ETH หรือประมาณ 130,000 บาท และถูกไล่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆ จนจบที่ 2,224 ETH หรือประมาณ 150 ล้านบาท โดยผู้ชนะคือ @PleasrDAO
ภาพ Stay Free อยู่บน Foundation NFT
ที่มา - @Snowden, @withFND |
# Cloudflare เปิด Cloudflare Tunnel ให้ผู้ใช้ทั่วไป เปิดเว็บได้โดยไม่ต้องมี public IP
Cloudflare เปิดบริการ Cloudflare Tunnel ให้ผู้ใช้ทั่วไป ทำให้สามารถตั้งเซิร์ฟเวอร์เว็บออกสู่อินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องมี public IP แต่อาศัย โปรแกรม cloudflared เปิดการเชื่อมต่อจากในเครื่องออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Cloudflare
ก่อนหน้านี้เว็บต่างๆ แม้จะอยู่หลัง CDN ที่ให้บริการทั้งแคชข้อมูลและทำหน้าที่ไฟร์วอลล์ป้องกันการโจมตี ตัวเว็บเองก็จำเป็นต้องมี public IP ที่เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ตได้อยู่ดี และหากจะไม่ให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าไปยัง public IP โดยตรงก็ต้องคอนฟิก IP ที่อนุญาตให้เชื่อมต่อเข้ามา การใช้ cloudflared เชื่อมต่อออกอย่างเดียว ทำให้เซิร์ฟเวอร์อยู่หลัง CDN ตลอดเวลา แฮกเกอร์ไม่สามารถเชื่อมต่อเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ผ่าน CDN และไฟร์วอลล์ได้
บริการ Cloudflare Tunnel เคยเป็นส่วนหนึ่งของ Argo Smart Routing ที่คิดค่าบริการแยก และเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2018 หลังจากเปิดบริการฟรีแล้วผู้ใช้สามารถซื้อ Argo Smart Routing ได้เช่นเดิม
ที่มา - Cloudflare |
# Google ปล่อยฟีเจอร์สร้างลิงก์ไปยังข้อความที่ไฮไลต์บน Chrome 90
Google เริ่มปล่อยฟีเจอร์สร้างลิงก์ไปยังข้อความที่ไฮไลต์สำหรับ Chrome 90 แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ Google ปล่อยฟีเจอร์ออกมาเป็นส่วนขยายบน Chrome ที่จะต้องไปติดตั้งใช้งานเอง
วิธีใช้ฟีเจอร์นี้ เพียงไฮไลต์ข้อความที่ต้องการแชร์ให้คนอื่นในหน้าเว็บ จากนั้นคลิกขวาและเลือก Copy link to highlight และส่งเป็น URL ไปให้ผู้ที่ต้องการ ส่วนฝั่งผู้รับเพียงคลิกและหน้าเว็บโหลดเสร็จ ก็จะนำไปยังส่วนที่แสดงข้อความนั้นของเว็บทันที
สำหรับฟีเจอร์นำผู้ใช้ไปยังข้อความที่ไฮไลต์นี้อยู่ระหว่างทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ Chrome 90 บนเดสก์ท็อปและ Android ใช้งาน ส่วนผู้ใช้ iOS จะเปิดให้ใช้งานในอนาคต
ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจใน Chrome 90 เช่น
เครื่องมือเปิดไฟล์ PDF อัพเดตใหม่ อัพเดต toolbar, เพิ่มมุมมองแบบสองหน้า และรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสาร ตอนนี้ฟีเจอร์ PDF แบบใหม่ทยอยปล่อยให้ใช้งานแล้ว
ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดชั่วคราวขณะกำลังนำเสนอหรือแชร์หน้าจอ Chrome บน Windows
ตั้งชื่อหน้าต่างบน Chrome
ปรับปรุงประสิทธิภาพ ให้ใช้พลังงานลดลงและประหยัดแบตเตอรี่
ที่มา - Engadget, Google
ภาพจาก Google |
# Charles Geschke ผู้ร่วมก่อตั้ง Adobe และภาษา PostScript เสียชีวิตด้วยวัย 81 ปี
Charles Geschke ผู้ร่วมก่อตั้ง Adobe เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 81 ปี
แม้เป็นหนึ่งในบริษัทใหญ่ระดับตำนานของวงการไอที แต่เรากลับไม่ค่อยได้ยินประวัติการก่อตั้ง Adobe กันสักเท่าไรนัก บริษัท Adobe ก่อตั้งโดย John Warnock และ Charles Geschke ซึ่งเป็นอดีตพนักงานของ Xerox PARC ศูนย์วิจัยที่เป็นจุดเริ่มต้นของระบบ GUI และคอมพิวเตอร์กราฟิก ผลงานสำคัญของเขาคือภาษา Interpress สำหรับจัดหน้าเอกสาร ที่ภายหลังพัฒนามาเป็น PostScript
ทั้งสองคนลาออกมาร่วมก่อตั้ง Adobe ในปี 1982 โดยตั้งชื่อตามลำธาร Adobe Creek ที่อยู่หลังบ้านของ Warnock หลังจากนั้น Geschke รับบทเป็นซีโอโอของบริษัทมาจนถึงปี 2000 และเกษียณอายุ เขายังเป็นประธานบอร์ดร่วมของ Adobe ต่อมาจนถึงปี 2017
ที่มา - Adobe |
# Firefox 88 Beta รองรับ HTTP/3 เป็นค่าดีฟอลต์
Firefox 88 Beta เริ่มเปิดใช้ HTTP/3 เป็นค่าดีฟอลต์ โดยจะเปิดให้ทุกคนใช้งานในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2021
HTTP/3 เป็นโพรโทคอลใหม่ล่าสุดที่ออกเป็นมาตรฐานในปี 2018 (HTTP/3 เกิดที่กรุงเทพ) โดยพัฒนามาจากข้อเสนอ QUIC ของ Chrome ทำให้เบราว์เซอร์ตระกูล Chrome/Chromium ทั้งหมดรองรับ HTTP/3 มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2020
การรองรับ HTTP/3 ของ Firefox ทำให้ตอนนี้เหลือแต่ Safari เป็นเบราว์เซอร์รายใหญ่รายเดียวที่ยังไม่รองรับแบบดีฟอลต์ (รองรับแล้วในเวอร์ชัน Safari Technology Preview)
บทความอ่านประกอบ: อธิบายโพรโทคอล HTTP/3 แตกต่างจาก HTTP/1, HTTP/2, SPDY, QUIC อย่างไร
ที่มา - Mozilla |
# Amazon เลิกทำเกม The Lord of the Rings แนว MMORPG หลังเจรจา Tencent ไม่ลงตัว
Amazon Games Studios ยกเลิกการพัฒนาเกม The Lord of the Rings แนว MMORPG ที่เคยประกาศไว้ในปี 2019
Amazon ได้สิทธิการผลิตซีรีส์ The Lord of the Rings (สิทธิจากเวอร์ชันหนังสือ ไม่เกี่ยวกับภาพยนตร์) มาตั้งแต่ปี 2017 และตัวซีรีส์ยังเดินหน้าสร้างต่อไป ส่วนเกมที่ประกาศทำในปี 2019 เป็นความร่วมมือกับบริษัทเกมจีน Leyou Technologies Holdings Limited บริษัทแม่ของสตูดิโอที่สร้างเกม Warframe
เหตุผลที่เกมนี้ถูกยกเลิกเป็นเพราะ Leyou ถูก Tencent ซื้อกิจการไปเมื่อเดือนธันวาคม 2020 ทำให้ Amazon ต้องมาเจรจากับ Tencent ใหม่ เมื่อหาข้อตกลงกันไม่ได้จึงต้องพับแผนการพัฒนาเกมนี้ไป โดยโฆษกของ Amazon แสดงความผิดหวังในเรื่องนี้
เกม The Lord of the Rings ระบุแค่ว่าเป็นแนว MMORPG แบบ free-to-play ลงพีซีและคอนโซล โดยยังไม่เปิดเผยวันเปิดบริการ และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีภาพของตัวเกมออกมาให้ดูกัน
ช่วงหลัง Amazon Games ประสบปัญหามากมาย เกมใหญ่อย่าง Crucible ถูกยกเลิกหลังเปิดให้เล่นเพียง 2 เดือน ตอนนี้บริษัทเหลือโครงการอยู่เกมเดียวคือ New World
ที่มา - IGN |
# Twitter มีปัญหาแถบเอเชีย บางคนล็อกอินหลุด
ทวิตเตอร์พบปัญหาตั้งแต่ช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ โดยระบบไม่ได้ล่มไปทั้งหมด แต่จะเกิดปัญหากับผู้ใช้บางส่วนเท่านั้น
ผมตรวจสอบจากเว็บ Down Detector พบว่าแม้ปัญหาจะมีต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนเที่ยง แต่หลังหนึ่งทุ่มที่ผ่านมา รายงานจากแถบเอเชียก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตัวผมเองล็อกอินไว้ทั้งในโทรศัพท์และเบราว์เซอร์ พบว่าบนเบราว์เซอร์นั้นล็อกอินหลุดและไม่สามารถล็อกอินกลับเข้าไปได้อีก ขณะที่บนโทรศัพท์ใช้งานต่อเนื่องไม่มีปัญหาอะไร |
# ไมโครซอฟท์ปล่อยอัพเดตเคอร์เนลลินุกซ์สำหรับ WSL อ่านไฟล์จากดิสก์เข้ารหัสได้
ไมโครซอฟท์ปล่อยอัพเดตเคอร์เนลลินุกซ์เป็นเวอร์ชั่น 5.10.16.3 สำหรับผู้ใช้ Windows Insider นอกจากจะได้รับฟีเจอร์เคอร์เนลตามปกติแล้วยังมีฟีเจอร์สำคัญคือการอ่านดิสก์เข้ารหัส LUKS ที่นิยมใช้งานกันในลินุกซ์
ฟีเจอร์นี้ทำให้วินโดวส์สามารถอ่านไฟล์จากดิสก์เข้ารหัสไปได้ด้วยผ่านทางฟีเจอร์ wsl --mount ที่เปิดตัวปีที่แล้ว คำสั่งที่ใช้ถอดรหัสนั้นเป็น cryptsetup เหมือนบนลินุกซ์ปกติ
สำหรับผู้ใช้ WSL ปัจจุบัน เคอร์เนลเวอร์ชั่นนี้ยังแก้บั๊กการซิงก์นาฬิกาที่ทำให้เวลาบน WSL ไม่ตรงกับเวลาจริงอีกด้วย
สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้เข้าโครงการ Windows Insider ทีมงานระบุว่าต้องรอให้ทดสอบจนมั่นใจก่อนจึงปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไป
ที่มา - Windows Dev Blog |
# Mario Kart 8 ยอดขายในสหรัฐแซง Mario Kart Wii ขึ้นเป็นเกมแข่งรถที่ขายดีที่สุดของสหรัฐ
IGN รายงานข่าวโดยอ้างอิงตัวเลขจากบริษัทวิจัย NPD Group ว่า Mario Kart 8 ทำยอดขายรวมในสหรัฐอเมริกาแซงหน้า Mario Kart Wii (นับเป็นภาค 6) ได้แล้ว ทำให้ Mario Kart 8 กลายเป็นเกมแข่งรถที่มียอดขายสูงที่สุดของตลาดเกมสหรัฐอเมริกา
Mario Kart 8 วางขายครั้งแรกบน Wii U ในปี 2014 ทำยอดขายได้แค่ 8.45 ล้านชุด (นับเฉพาะในสหรัฐ) แต่พอมาออกภาค Mario Kart 8 Deluxe บน Switch กลับมียอดขายถึง 33.41 ล้านชุด รวมกันได้ 41.86 ล้านชุด ทำลายสถิติเดิมของ Mario Kart Wii ที่ทำไว้ 37.38 ล้านชุด
ที่มา - IGN |
# NASA เลือก SpaceX Starship เป็นยานลงจอด พามนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์อีกรอบ
NASA ประกาศเลือก SpaceX เป็นบริษัทผู้พัฒนายานอวกาศส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์ ภายใต้โครงการ Artemis ที่ตั้งเป้าส่งมนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์อีกรอบ (เลือกตั้งชื่อ Artemis ให้สอดคล้องกับโครงการ Apollo ในอดีต)
โครงการ Artemis จะพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศใหม่หมดเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การไปดาวอังคาร ตั้งแต่ฐานยิงจรวด จรวด ยานอวกาศ ไปจนถึงชุดอวกาศ ตามแผนของ NASA จะแบ่งออกเป็น 3 เฟสคือ Artemis I ทดสอบยิงจรวดที่ไม่มีมนุษย์ ภายในปี 2021, Artemis II ยิงจรวดที่มีมนุษย์ภายในปี 2023 และ Artemis III ส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์จริงๆ ในปี 2024 โดยกำหนดว่าจะมีผู้หญิงไปเหยียบดวงจันทร์เป็นครั้งแรกด้วย
ข่าวนี้คือ NASA เลือก SpaceX เป็นผู้พัฒนายานลงจอดดวงจันทร์ (human landing system หรือ HLS) มูลค่าโครงการ 2.89 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุเหตุผลว่าเลือก SpaceX เพราะทำงานด้วยกันมานาน ยานของ SpaceX ชื่อว่า Starship พัฒนาต่อมาจากยาน Falcon และ Dragon ที่เราเห็นข่าวกันมาสักระยะแล้ว
บริษัทอื่นที่เสนอตัวชิงโครงการ HLS แต่ไม่ได้รับคัดเลือก ได้แก่ Boeing, Vivace, Dynetics และกลุ่มบริษัทที่นำโดย Blue Origin ของ Jeff Bezos
ส่วนอื่นๆ ของโครงการคือ จรวด Space Launch System, ยานอวกาศ Orion และสถานีอวกาศขนาดเล็กที่จะโคจรรอบดวงจันทร์ Gateway ซึ่งมีทั้งส่วนที่ NASA พัฒนาเอง และให้บริษัทเอกชนรายอื่นๆ เข้ามาช่วยกันพัฒนา
ภาพเรนเดอร์ SpaceX Starship ลงจอดบนดวงจันทร์
ที่มา - NASA |
# Apple อัพเดตแอปเก่าใน App Store ชุดใหญ่ แก้ไขใบรับรองให้เป็นปัจจุบันสำหรับ iOS 14.5
App Store ได้ออกอัพเดตแอปเก่าที่ไม่มีอัพเดตมานานในวันนี้ ซึ่งไม่ใช่การอัพเดตฟีเจอร์หรือแก้ไขบั๊กจากฝั่งผู้พัฒนา แต่แอปเปิลได้อัพเดตแอปเหล่านี้ให้เอง ระบุรายละเอียดว่าเป็นการปรับปรุงการลงชื่อในใบรับรอง (Signing Certificate) ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพื่อรองรับ iOS 14.5
ทั้งนี้ฝั่งผู้พัฒนาแอปไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมแต่อย่างใด โดยแอปเปิลได้ส่งอีเมลแจ้งนักพัฒนาถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วย
การออกอัพเดตนี้อาจบอกใบ้ได้ว่า iOS 14.5 น่าจะออกมาให้อัพเดตสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปเร็ว ๆ นี้
ที่มา: MacRumors |
# Opera, Firefox, Edge ยังไม่มีแผนจะรองรับเทคนิคตามรอย FLoC แบบ Chrome
ต่อเนื่องจากข่าว Vivaldi, Brave ประกาศไม่ใช้วิธีตามรอยแบบ FLoC ที่กูเกิลใช้ใน Chrome เว็บไซต์ The Verge จึงสอบถามไปยังเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ว่าจะพัฒนาเทคนิคตามรอย FLoC ด้วยหรือไม่
Opera บอกว่ายังไม่มีแผนจะเปิดใช้ฟีเจอร์ FLoC ที่มีโค้ดอยู่ใน Chromium แต่ก็บอกว่าเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้
Firefox บอกว่ายังไม่มีแผนจะใช้ฟีเจอร์ตามรอยใดๆ สำหรับการโฆษณาในตอนนี้ และคิดว่าไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้เยอะขนาดนี้เพื่อมายิงโฆษณา
กรณีของ Microsoft Edge น่าสนใจ เพราะไมโครซอฟท์เองก็มีธุรกิจโฆษณาออนไลน์ อีกทั้งมีส่วนแบ่งตลาดสูง คำตอบของไมโครซอฟท์ยังเป็นการแบ่งรับแบ่งสู้ โดยบอกว่าดูทางเลือกเอาไว้หลายทาง แต่สนับสนุนแนวทางของไมโครซอฟท์เองที่เรียกว่า PARAKEET มากกว่า (เบราว์เซอร์กับ ad network ร่วมกันลบข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ก่อนยิงโฆษณา)
ภาพจาก Vivaldi
ที่มา - The Verge |
# Firefox 88 จะปิดการรองรับ FTP และถอดออกถาวรใน Firefox 90
Mozilla ประกาศเตรียมถอดการรองรับ FTP ในเบราว์เซอร์ Firefox โดยจะเริ่มปิดการทำงานตั้งแต่ Firefox 88 ที่กำหนดออกเวอร์ชันสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป 19 เมษายนนี้ และจะถอดการรองรับ FTP ใน Firefox 90
ผลที่เกิดขึ้นคือ Firefox จะเรียกหาแอพพลิเคชันภายนอกอื่น เมื่อมีการเรียกลิงก์ FTP
Mozilla เคยประกาศแผนถอด FTP ออกตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ได้เลื่อนกำหนดออกไปเนื่องจากการระบาดของโควิด-19
ที่มา: Mozilla ผ่าน ZDNet |
# Project Zero ใจดี ขยายระยะเวลาเปิดเผยข้อมูลช่องโหว่อีก 30 วัน ให้เวลาคนอัพเดตแพตช์
Project Zero โครงการหาช่องโหว่ความปลอดภัยของกูเกิล ประกาศนโยบายการเผยแพร่ข้อมูลช่องโหว่ของปี 2021 ที่เปลี่ยนจากของเดิม โดย Project Zero ใจดีกว่าเดิม เพิ่มเวลาให้อีก 30 วันก่อนเผยแพร่ข้อมูลช่องโหว่ต่อสาธารณะ
ที่ผ่านมา นโยบายของ Project Zero คือให้เวลาผู้พัฒนาซอฟต์แวร์พัฒนาแพตช์ภายใน 90 วัน (ถ้าช่องโหว่ถูกใช้โจมตีแล้ว จะให้เวลา 7 วันแทน) ก่อนเปิดเผยข้อมูลช่องโหว่ต่อสาธารณะ เพื่อบีบให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ต้องรีบออกแพตช์ภายในระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้น แฮ็กเกอร์จะได้ข้อมูลช่องโหว่ไปใช้โจมตี
นโยบายใหม่ของ Project Zero จะขยับเลขเป็น 90+30 และ 7+30 ด้วยเหตุผลว่าเพิ่มเวลาอีก 30 วัน เพื่อให้ผู้ใช้ทยอยติดตั้งแพตช์เป็นจำนวนมากๆ ก่อนเปิดเผยข้อมูลแพตช์
ทีมงาน Project Zero ระบุว่าเหตุผลที่ต้องปรับ เป็นเพราะพบว่าฝั่งผู้ใช้งานมีระยะเวลาหน่วงของการอัพเดตแพตช์อยู่พอสมควร (กว่าจะอัพเดตแพตช์กันเยอะๆ ใช้เวลานาน) จึงขยายเวลาตรงนี้ให้เพิ่มเติม แต่ก็บอกว่าอาจปรับเปลี่ยนสูตรนี้ในอนาคต เช่น จาก 90+30 กลายเป็น 84+28 แทนในปี 2022
ที่มา - Project Zero |
# Deno ออกรุ่น 1.9 เตรียมย้าย HTTP Server ไปยัง Rust, ขอสิทธิ์เพิ่มระหว่างรันได้
Deno รันไทม์สำหรับรันจาวาสคริปต์บนเซิร์ฟเวอร์ คู่แข่ง NodeJS ออกเวอร์ชั่น 1.9 โดยมีฟีเจอร์ใหญ่คือการเตรียมเปลี่ยน HTTP Server ในตัว จากเดิมที่เป็นเซิร์ฟเวอร์เขียนด้วย TypeScript มาเป็นโครงการ Hyper ที่เป็นภาษา Rust (ตัว Deno เองเป็น Rust อยู่แล้ว)
การเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ใหม่ทำให้ Deno จะรองรับ HTTP/2 ไปด้วย และประสิทธิภาพยังดีขึ้นถึง 48% จากการทดสอบตอบกลับด้วยข้อความ Hello World อย่างเดียว แต่ตอนนี้ฟีเจอร์นี้ยังปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น ต้องเปิดด้วยออปชั่น --unstable เท่านั้น
ฟีเจอร์อื่นๆ เช่น
ปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียกโค้ดภาษา Rust
รองรับ Blob URL
จำกัดสิทธิการอ่านตัวแปร environment ให้อ่านได้บางตัวแปร และจำกัดสิทธิการรันโปรแกรมภายนอกให้รันเฉพาะโปรแกรมที่กำหนด
ขอสิทธิเพิ่มเติมระหว่างการรันได้ ใช้สำหรับการรันสคริปต์ต่างๆ เช่น สคริปต์ติดตั้งโปรแกรม
ที่มา - Deno Blog |
# ปุ่มลัดใหม่ Google Search บนเดสก์ทอป กด / เพื่อพิมพ์คำที่กล่องค้นหา ไม่ต้องเลื่อนเมาส์
เว็บไซต์ 9to5Google สังเกตเห็นปุ่มลัดใหม่ Google Search คือกด / ที่แป้นคีย์บอร์ดเพื่อพิมพ์คำค้นหาในช่อง Search ได้ทันทีโดยไม่ต้องเลื่อนเมาส์ไปจ่อ
ในตอนที่ผู้ใช้พิมพ์ค้นหา แล้วปรากฏผลลัพธ์การค้นหา ตรงด้านซ้ายล่างของหน้าจอ กูเกิลจะแสดงป้ายบอกว่าสามารถกด / เพื่อพิมพ์ค้นหาอีกครั้งได้ เมื่อกดแล้ว เคอร์เซอร์จะปรากฏที่ช่องค้นหาให้ทันที
ปุ่มลัดใหม่คล้ายกับฟีเจอร์เพื่อการเข้าถึง หรือ Accessibility คือใช้การกด Tab แทนการเลื่อนเมาส์ในการใช้งาน Google Search
ภาพจาก Google Blog
ที่มา - 9to5Google |
# Microsoft Edge เปิดตัว Kids Mode แบ่งช่วงอายุสองขั้น เด็กเล็กและเด็กโต
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ทดสอบใช้งาน Kids Mode ในบราวเซอร์ Microsoft Edge ล่าสุดเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ในการเปิดใช้งานให้คลิปที่โปรไฟล์ จะมองเห็นเมนู Browse in Kids Mode สามารถเลือกอายุได้สองระดับคือ 5-8 ปี หรือ 9-12 ปี
ใน Kids Mode ใช้เทคโนโลยี Bing SafeSearch ข้อความ รูปภาพและวิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ จะถูกบล็อกจากการค้นหาออนไลน์ไม่ว่าจะช่วงอายุใดก็ตาม เบื้องต้นมีเว็บไซต์ที่เด็กๆ เข้าถึงได้ 70 เว็บไซต์ หากเด็กต้องการดูเว็บไซต์ที่อยู่นอกเหนือจากรายการที่กำหนด จะต้องกดเพื่อให้ผู้ปกครองอนุมัติ
เด็กๆ สามารถตกแต่งหน้าโฮมของตัวเองได้ด้วย โดยมีธีมแอนิเมชั่นจากดิสนีย์ เช่นเรื่อง Frozen, The Little Mermaid และจาก Pixar อย่าง Finding Nemo, Cars, Toy Story และ Coco
ที่มา - ไมโครซอฟท์ |
# ศาลออสเตรเลียชี้ กูเกิลทำผู้ใช้แอนดรอยด์บางส่วนเข้าใจผิดว่าปิด Location History แล้วข้อมูลจะไม่ถูกเก็บ
ศาลออสเตรเลียตัดสินกูเกิลทำให้ผู้ใช้งานแอนดรอยด์บางส่วนเข้าใจผิดว่า การตั้งค่า Location History เป็นวิธีเดียวที่ผู้ใช้จัดการกับข้อมูลสถานที่ที่ตัวเองไปมาได้ แต่จริงๆ แล้วยังมี Web & App Activity ที่รวบรวมข้อมูลพิกัดผู้ใช้งานด้วย ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานเป็นค่าตั้งต้น และจะเก็บข้อมูลเรื่อยๆ ถ้าผู้ใช้งานไม่เข้าไปปิดการเก็บข้อมูลด้วยตัวเอง
กรณีนี้ ACCC หรือ คณะกรรมการการแข่งขันและคุ้มครองผู้บริโภคของออสเตรเลีย ส่งฟ้องศาลตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งจากคำตัดสินศาลล่าสุด แสดงให้เห็นว่าศาลเห็นด้วยกับคำส่งฟ้องดังกล่าว ด้านกูเกิลปฏิเสธคำฟ้อง และจะอุทธรณ์ต่อ และยืนบันว่าทางแพลตฟอร์มมีทางเลือกให้ผู้ใช้งานตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของข้อมูลตัวเอง
ในปี 2019 กูเกิลเสนอ Activity controls ช่องทางจัดการข้อมูลที่รวมเอาข้อมูลทั้งกิจกรรมเว็บ สถานที่ และการค้นหาบนยูทูบเข้าไว้ด้วยกัน แต่ ACCC ยืนกรานว่า กูเกิลไม่ได้สื่อสารผู้ใช้งานให้ชัดเจน จนทำให้ผู้ใช้งานบางส่วนเข้าใจผิดว่าปิดแค่ Location History ก็สามารถปิดกั้นการเก็บข้อมูลได้
ที่มา - CNET |
# Docker Desktop M1 ออกรุ่น GA ซื้อซัพพอร์ตได้แล้ว
Docker Inc ปล่อย Docker Desktop สำหรับชิป Apple M1 อย่างเป็นทางการหลังจากปล่อยรุ่นทดสอบมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และมีการรายงานบั๊ก 140 รายการ จากการดาวน์โหลดเวอร์ชั่นทดสอบ 45,000 ครั้ง
สำหรับผู้ใช้ทั่วไปคงไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงจากรุ่นทดสอบนักนอกจากบั๊กที่ถูกแก้ไปเรื่อยๆ แต่สำหรับลูกค้าองค์กรหรือผู้ที่สมัครแพ็กเกจ Pro ขึ้นไปจะสามารถขอซัพพอร์ตจากทาง Docker ได้เต็มรูปแบบ
Docker Desktop สามารถรันคอนเทนเนอร์ได้ทั้ง x86-64 และ arm64 การใช้งานบน Apple M1 จึงสามารถสร้างอิมเมจสำหรับเซิร์ฟเวอร์ x86 ได้ด้วย หรือจะใช้กับเซิร์ฟเวอร์ Arm เช่น Graviton 2 บน AWS ก็ได้
ที่มา - Docker |
# Capcom ประกาศทำ Resident Evil 4 VR เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ Oculus Quest 2
Capcom ประกาศนำเกม Resident Evil 4 มาทำเป็นเกม VR ลงแพลตฟอร์ม Oculus โดยจะเป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะแว่น Oculus Quest 2 เท่านั้นด้วย
Resident Evil 4 VR จะกลายเป็นเกมมุมมองบุคคลที่หนึ่งแทน ตอนนี้ยังมีแค่วิดีโอเกมเพลย์สั้นๆ ออกมาให้ดูกัน (ดูในลิงก์ของ IGN) โดย Oculus จะเปิดเผยรายละเอียดในงานวันที่ 21 เมษายนนี้
Resident Evil 4 ออกครั้งแรกในปี 2005 บนเครื่อง GameCube และได้เสียงวิจารณ์ในเชิงบวก (คะแนนรีวิวเฉลี่ย 96/100) ภายหลังเกมถูกพอร์ตลงอีกหลายแพลตฟอร์ม เช่น PC, PS2, PS3, Wii, Xbox 360 และมีรีมาสเตอร์กราฟิกเป็น HD ด้วย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เกมเพลย์จะถูกปรับ เปลี่ยนมุมมองมาเป็น VR
สตูดิโอที่รับผิดชอบการพัฒนาคือ Armature Studio สตูดิโอในเท็กซัสที่ก่อตั้งโดยอดีตทีม Metroid Prime 3 และมีชื่อเสียงด้านการรับพอร์ตเกมลงแพลตฟอร์มต่างๆ ผลงานก่อนหน้านี้คือ Injustice: Gods Among Us ลง PS Vita, Borderlands: The Pre-Sequel ลง PS4/Xbox One และล่าสุดคือ Bayonetta & Vanquish เวอร์ชันฉลองครบ 10 ปี
Capcom เคยทำเกม Resident Evil 7: Biohazard ให้รองรับ PlayStation VR ซึ่งก็ประสบความสำเร็จพอสมควร
ที่มา - Oculus, IGN |
# Walmart เข้าลงทุนใน Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ GM
Walmart ยักษ์ใหญ่ของวงการค้าปลีกสหรัฐ ประกาศเข้าลงทุนใน Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ GM ที่ไมโครซอฟท์เพิ่งเข้าลงทุนเมื่อเดือนมกราคม 2021 และก่อนหน้านั้นคือ Honda ในเดือนตุลาคม 2020
Walmart บอกว่าร่วมทดสอบรถยนต์ไร้คนขับกับ Cruise เพื่อส่งสินค้าจากห้างของตัวเองมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 และเห็นศักยภาพของ Cruise ในการเติบโตต่อไป อย่างไรก็ตาม Walmart ก็พาร์ทเนอร์กับบริษัทรถยนต์ไร้คนขับหลายราย เช่น Waymo ของกูเกิล, Ford, Nuro เป็นต้น
Cruise เป็นบริษัทรถยนต์ไร้คนขับอีกรายที่ถูกจับตามองอย่างมาก เพราะมีบริษัทยักษ์ใหญ่สนับสนุนมากมาก ทั้ง GM, Honda, Microsoft, SoftBank และบริษัทเพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไร้คนขับ Origin ที่ไม่มีพวงมาลัยเลยไปไม่นานนี้
ที่มา - Walmart |
# Google Earth ออกฟีเจอร์ Timelapse ให้ดูภาพถ่ายดาวเทียมทั่วโลก ย้อนหลัง 37 ปี
Google Earth ออกฟีเจอร์ใหม่ Timelapse เป็นการรวมภาพถ่ายดาวเทียมในอดีตจนถึงปัจจุบัน 37 ปี (1984-2020) มาให้ดูการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่จุดใดๆ ก็ได้บนโลกใบนี้
กูเกิลบอกว่าใช้ภาพถ่ายดาวเทียมทั้งหมดกว่า 24 ล้านภาพ คิดเป็นขนาด 20 petabyte แล้วใช้พลังประมวลผลของ Google Cloud ประมาณ 2 ล้านชั่วโมง มาแปลงเป็นไฟล์วิดีโอโมเสกไฟล์เดียวครอบคลุมทั้งโลก มีขนาด 4.4 ล้าน terapixel ถือเป็นไฟล์วิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
คนที่สนใจกดเข้าไปลองเล่นกันได้ที่ g.co/Timelapse หรือดูคลิปวิดีโอที่มีคนรวบรวมไว้เฉพาะจุดได้ที่ Earth Timelapse video
ภาพถ่ายดาวเทียมของกรุงเทพในปี 1984 ในยุคที่ยังไม่มีสนามบินสุวรรณภูมิ
ที่มา - Google |
# สหรัฐประกาศชัด หน่วยข่าวกรองรัสเซียแฮ็ก SolarWinds, แบน 6 บริษัทรัสเซียที่เกี่ยวข้อง
นอกจากสงครามการค้ากับบริษัทจีนแล้ว ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐประกาศมาตรการตอบโต้รัสเซียหลายข้อ จากกรณีการแฮ็ก SolarWinds และการโจมตีไซเบอร์อื่นๆ
กรณีการแฮ็ก SolarWinds ครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานจำนวนมาก ถูกพูดกันมานานแล้วว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย แต่วันนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศอย่างเป็นทางการว่า หน่วยงานข่าวกรองของรัสเซีย 3 หน่วยคือ Federal Security Service (FSB), Russia’s Main Intelligence Directorate (GRU), Foreign Intelligence Service (SVR) อยู่เบื้องการโจมตีไซเบอร์ต่อสหรัฐหลายครั้ง
สหรัฐชี้ว่า SVR คือหน่วยงานที่แฮ็กระบบ SolarWinds และยังขโมยซอฟต์แวร์ตรวจสอบการโจมตีไซเบอร์ไปจากบริษัทความปลอดภัยของสหรัฐอีกแห่งที่ไม่ระบุชื่อ
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐยังเผยชื่อหน่วยงาน-บริษัทเทคโนโลยีรัสเซีย 6 ราย ที่สนับสนุนงานข่าวกรองของรัสเซีย ได้แก่
ERA Technopolis ศูนย์วิจัยที่ได้เงินสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ทำงานให้ GRU
Pasit, AO (Pasit) บริษัทเอกชนที่ทำงานให้ SVR
Federal State Autonomous Scientific Establishment Scientific Research Institute Specialized Security Computing Devices and Automation (SVA) สถาบันวิจัยของรัฐบาลรัสเซีย ทำงานให้ SVR
Neobit, OOO (Neobit) บริษัทเอกชน ทำงานให้ FSB, GRU, SVR
Advanced System Technology, AO (AST) บริษัทเอกชน ทำงานให้ FSB, GRU, SVR
Pozitiv Teknolodzhiz, AO (Positive Technologies) บริษัทเอกชน ทำงานให้ FSB
มาตรการของรัฐบาลสหรัฐคือ ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของหน่วยงานข้างต้นที่อยู่ในสหรัฐ และแบนการทำธุรกรรมใดๆ ระหว่างบริษัทหรือบุคคลในสหรัฐกับหน่วยงานเหล่านี้
ที่มา - U.S. Department of the Treasury |
# เว็บไซต์ Reuters เตรียมเก็บค่าอ่านข่าวเดือนละประมาณ 1,000 บาท หลังทำเว็บเวอร์ชั่นใหม่
เว็บไซต์ Reuters เป็นเว็บข่าวรายใหญ่อีกรายที่เก็บเงินค่าอ่านแบบ The New York Times, The Wall Street Journal, Bloomberg เก็บเดือนละ 34.99 เหรียญ หรือราวเดือนละ 1,000 บาท คนอ่านยังอ่านได้ฟรี 5 ข่าวในช่วงพรีวิว หลังจากนั้นระบบจะให้ลงทะเบียนเพื่อจ่าย ซึ่งยังไม่ระบุว่าจะเริ่มเก็บเงินเมื่อไร
ทาง Reuters ระบุว่า ปัจจุบันมีคนอ่านข่าวบนเว็บแอคทีฟรายเดือนถึง 41 ล้านราย มีรายได้ครึ่งหนึ่งจากลูกค้ารายใหญ่คือ Refinitiv บริษัทการเงิน และรายได้อีกส่วนจากโฆษณาออนไลน์ หลังจากนี้มีแผนจะลงทุนในเนื้อหาข่าวกฎหมาย และทำช่องทางสตรีมอีเว้นท์ออนไลน์
ราคารายเดือนของ Reuters ถือว่าสูงกว่า The New York Times (18.42 เหรียญ) และถูกกว่า The Wall Street Journal (38.99) ซึ่ง WSJ เริ่มให้คนจ่ายเพื่ออ่านมาตั้งแต่ปี 1996 แล้ว ส่วน Bloomberg ราคา 34.99 เหรียญ เริ่มให้จ่ายตั้งแต่ปี 2018
Reuters ถือเป็นหนึ่งในแหล่งข่าวใหญ่ที่นำข่าวลง Google News Showcase ด้วย
ภาพอาคาร Reuters ที่ New York
ภาพจาก วิกิพีเดีย
ที่มา - The Verge, Reuters |
# Kindle ให้ตั้งรูปปกหนังสือกำลังอ่านอยู่เป็นหน้าจอล็อกสกรีนได้ ใช้ได้เฉพาะผู้ใช้พรีเมี่ยม
ผู้ใช้งาน Kindle ที่ใช้แพ็กเกจไม่มีโฆษณา ได้ฟีเจอร์ใหม่คือ Display Cover ตั้งรูปปกหนังสือกำลังอ่านอยู่เป็นหน้าจอล็อกสกรีนได้ โดย Amazon ระบุว่า ฟีเจอร์นี้รองรับชื่อหนังสือ นิตยสาร และมังงะในจำนวนมาก Display Cover ใช้งานได้ใน Kindle รุ่นที่ 8 และ 10, Paperwhite รุ่นที่ 7 และ 10, Oasis รุ่นที่ 8 และ 9, Voyage รุ่นที่ 7
ในการใช้งาน ให้เข้าไปที่แท็บ Settings เลือก Device Options เปิดโหมด Show Cover สำหรับผู้ใช้งานแพ็กเกจมีโฆษณารองรับ สามารถปลดล็อกเข้าใช้ Display Cover ได้ด้วยการจ่ายเพิ่ม 20 เหรียญ
ที่มา - Engadget, Amazon |
# จากประเด็นข้อมูล 533 ล้านบัญชีถูกเผย Facebook ตั้งทีมตรวจจับการดูดข้อมูล (Scraping)
จากประเด็นข้อมูลผู้ใช้งาน Facebook 533 ล้านบัญชีถูกเผยบนเว็บบอร์ดแฮกเกอร์ มีทั้งข้อมูล ชื่อ, หมายเลขโทรศัพท์, เพศ, อาชีพ, เมืองและประเทศ, วันเกิด, และบางส่วนมีอีเมลนั้น Facebook ออกมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าส่วนหนึ่งมาจากการ Scraping
โดย Facebook ตั้งทีม External Data Misuse (EDM) ดูแลเรื่องนี้ขึ้นมากว่า 100 คน ประกอบด้วย นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล, นักวิเคราะห์และวิศวกรที่มุ่งเน้นการตรวจจับ, บล็อกและยับยั้งการ Scraping
Facebook ระบุว่า Scraping คือการคัดลอกข้อมูลโดยอัตโนมัติจากเว็บไซต์หรือแอป เป็นวิธีปกติที่ทำให้ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถค้นหาได้ หรือ Searchable ซึ่งมีทั้งการคัดลอกแบบที่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับอนุญาต ความท้าทายอยู่ตรงที่ คนที่เข้ามาทำ Scraping นั้นเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์ม Facebook ตามปกติ ทำให้การป้องกันการ Scraping นั้นทำได้ยาก
นอกจากตั้งทีมดูแลแล้ว ในระยะแรก Facebook จะพยายามทำให้การ Scraping ทำได้ยากขึ้น คือสร้างขีดจำกัดข้อมูลในช่วงเวลานั้น ทำให้คนที่เข้ามา Scraping ไม่สามารถได้ข้อมูลไปเท่าที่ตัวเองต้องการ ต่อมาทีมงานจะศึกษารูปแบบการ Scraping ของผู้ไม่หวังดีและตรวจจับได้ทัน
ในบรรดาข้อมูลสำคัญที่ถูกเผย คือเบอร์โทรศัพท์และอีเมล ผู้ใช้งาน Facebook สามารถตั้งค่าการมองเห็นเบอร์โทรศัพท์และอีเมลไม่ให้ถูกมองเห็นเป็นสาธารณะได้ตามวิธีนี้
ที่มา - Facebook |
# เกมเมอร์ต้องแย่งกับเหมืองกันต่อไป TSMC คาดชิปจะขาดแคลนถึงปี 2023
วิกฤติชิปขาดตลาดกระทบหลายอุตสาหกรรม ที่ผู้อ่าน Blognone เห็นได้ชัดน่าจะเป็นชิปกราฟิกที่หาซื้อแทบไม่ได้ในช่วงหลัง ในงานแถลงข่าวกับนักวิเคราะห์ C.C. Wei ซีอีโอของ TSMC ก็คาดว่าความต้องการสินค้าจะสูงต่อไป และเขาหวังว่า TSMC จะเพิ่มกำลังผลิตให้ทันความต้องการได้ในปี 2023
Wei ระบุว่าตอนนี้โรงงานของ TSMC เดินหน้าผลิตเกิน 100% ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ก่อนหน้านี้ TSMC เคยประกาศลงทุนแสนล้านดอลลาร์เพื่อตั้งโรงงานเพิ่ม แม้จะยังไม่ระบุว่าจะตั้งโรงงานที่ใดบ้าง แต่ในการแถลงครั้งนี้ Wei ก็ระบุว่ากำลังผลิตหลักและส่วนวิจัยและพัฒนาจะยังคงอยู่ในไต้หวัน ส่วนโรงงานในสหรัฐฯ นั้นจะเริ่มก่อสร้างปีหน้า
ที่มา - Bloomberg |
# Ford เปิดตัว BlueCruise ระบบช่วยขับแบบไม่ต้องจับพวงมาลัย ใช้ได้เฉพาะบนไฮเวย์สหรัฐ
Ford เปิดตัวระบบช่วยขับขี่แบบไม่ต้องใช้มือจับพวงมาลัยในชื่อ BlueCruise โดยยังจำกัดเฉพาะการขับบนไฮเวย์เท่านั้น (hands-free highway driving system)
Ford ระบุว่าทดสอบระบบ BlueCruise กับถนนจริงในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเป็นระยะทาง 110,000 ไมล์ ผ่านสภาพอากาศ สภาพถนน สภาพจราจรที่หลากหลาย และพิสูจน์แล้วว่าใช้งานได้จริง
ระบบ BlueCruise ของ Ford เป็นการผสมผสานระหว่างระบบช่วยขับขี่ (driver-assist นับเป็น level 2 เทียบเท่า Autopilot ของ Tesla และ Super Cruise ของ GM) และกล้องตรงพวงมาลัยรถยนต์ที่จับภาพคนขับ ดูว่าง่วงหรือตั้งใจมองถนนหรือไม่ ระบบ BlueCruise จะใช้งานได้เฉพาะไฮเวย์ที่ทดสอบแล้วประมาณ 100,000 ไมล์ในสหรัฐ โดยจะแสดงเป็นแผนที่เส้นทางสีฟ้าในระบบ GPS ของ Ford
ฟีเจอร์ BlueCruise จะอัพเดตแบบ OTA ให้กับรถกระบะ Ford F-150 รุ่นปี 2021 และ Mustang Mach-E รุ่นปี 2021 ภายในปีนี้ ส่วนรถยนต์รุ่นอื่นๆ จะประกาศแผนการอัพเดตในอนาคต
ที่มา - Ford, Ars Technica |
# Chrome 90 มาแล้ว ใช้ HTTPS เป็น default
กูเกิลออกอัพเดต Chrome 90 บนเดสก์ท็อปทั้ง Windows, Mac และ Linux มีของใหม่ที่สำคัญดังนี้
รองรับตัวเข้ารหัสวิดีโอ AV1 ซึ่งใช้แบนด์วิธน้อยลง แต่ยังคงคุณภาพได้ดี (เพิ่มเติม)
เปลี่ยนมาใช้โปรโตคอล HTTPS เป็นค่าเริ่มต้น หากไม่มีการระบุ กรณีเว็บไม่รองรับ HTTPS จึงเปลี่ยนมาใช้ HTTP แทน
ซ่อน Reading List ได้ (ฟีเจอร์นี้เพิ่งใส่มาใน Chrome 89)
ที่มา: 9to5Google |
# IBM ซื้อกิจการ myInvenio บริษัทซอฟต์แวร์ด้าน Process Mining
ไอบีเอ็มประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ myInvenio บริษัทซอฟต์แวร์ด้าน Process Mining จากอิตาลี โดยไม่เปิดเผยมูลค่าของดีล ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ myInvenio จะนำมาเสริมกับบริการตามกลยุทธ์ด้านไฮบริดคลาวด์ และเอไอ ของไอบีเอ็ม
Dinesh Nirmal ผู้จัดการทั่วไปของ IBM Automation กล่าวว่าการเปลี่ยนผ่านองค์กรไปสู่ดิจิทัลที่เกิดขึ้นตอนนี้ ทำให้หลายบริษัทพบความท้าทายในการจัดการระบบด้านไอทีที่สำคัญ ควบคู่ไปกับแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจที่ซับซ้อน ซึ่งถูกขยายไปใช้งานบนไฮบริดคลาวด์มากขึ้น การซื้อกิจการ myInvenio เข้ามา ทำให้ธุรกิจสามารถนำเอไอมาใช้ในงานที่เป็น Automation ได้สะดวกขึ้น
ที่มา: ไอบีเอ็ม |
# Kubernetes กลบมิด Apache Mesos ใกล้ตาย ทีมพัฒนาหารือว่าควรเลิกพัฒนาต่อหรือไม่
โครงการ Apache Mesos ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงของ Kubernetes เงียบเหงาลงไปมากในช่วงหลัง โดยปี 2020 มีการออกรุ่นใหม่เพียงครั้งเดียว (ปี 2019 ออก 2 รุ่นใหญ่ 5 รุ่นย่อย) จนล่าสุดทีมพัฒนา Mesos เริ่มหารือกันว่าจะยุติการพัฒนาโครงการนี้แล้ว
Apache Mesos เป็นโครงการที่เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดยทีมพัฒนาชุดแรกได้ก่อตั้งบริษัท Mesosphere มาหารายได้ในเชิงพาณิชย์ แต่ช่วงหลังกลับทานกระแส Kubernetes ไม่ไหว จนบริษัท Mesosphere ต้องเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น D2iQ และหันมาทำธุรกิจกับ Kubernetes แทน ความสนใจพัฒนา Mesos จึงลดลงไปมาก
Mesos เป็นโครงการในสังกัด Apache Software Foundation (ASF) ซึ่งมีจำนวนมาก แนวทางของ ASF คือโครงการไหนที่ไม่มีคนสนใจพัฒนาต่อแล้ว จะถูกเก็บเข้าห้องใต้หลังคา (Attic) เพื่อลดภาระในการดูแล ตัวซอร์สโค้ดยังเปิดเป็นโอเพนซอร์ส หากในอนาคตมีนักพัฒนาสนใจก็สามารถ fork โครงการไปทำต่อเองได้
อย่างไรก็ตาม จากการหารือในชุมชนนักพัฒนา Mesos ได้ข้อยุติว่ายังมีนักพัฒนาบางคนสนใจทำต่อ ซึ่งจะเข้ากระบวนการคัดเลือกทีมงานหลักกันใหม่ เท่ากับว่า Mesos ยังรอดตายไปอีกสักพักหนึ่ง ส่วนในอนาคตจะกลับมาได้อีกรอบหรือไม่คงต้องติดตามกัน
ที่มา - The New Stack |
# [ลือ] iPhone 14 กล้องหลัง 48MP ส่วน iPhone 15 มี Face ID ทำงานใต้หน้าจอ ไม่มีรอยบากแล้ว
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สายซัพพลายเชน ที่มีผลงานให้ข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลได้แม่นยำที่สุด ออกรายงานข้อมูล iPhone รุ่นใหม่ที่เตรียมวางขายของแอปเปิล โดยคราวนี้ไม่ได้พูดถึง iPhone รุ่นที่จะออกในปีนี้ 2021 หรือ iPhone 13 แต่ Kuo ให้ข้อมูลข้ามไปปี 2022 และ 2023 เลย
เริ่มที่ iPhone ปี 2022 หรือเรียกตอนนี้ว่า iPhone 14 จะมาพร้อมกล้องหลัง 48MP หน้าจอแสดงผลที่ละเอียดมากกว่ารุ่น iPhone 12 และอาจรองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 8K โดย iPhone ปี 2022 จะออกมาทั้งหมด 4 รุ่น แต่แบ่งเป็นรุ่นจอ 6.7 นิ้ว และ 6.1 นิ้ว ในสเป็กระดับบน และระดับทั่วไป ซึ่งมีข้อสังเกตว่าขนาดหน้าของรุ่นที่เป็น mini หายไป
มาถึงข้อมูล iPhone ปี 2023 โดยหน้าจอแสดงผลเต็มพื้นที่ ใช้ Face ID แบบใต้หน้าจอ ทำให้ไม่มีรอยบากแหว่ง อย่างไรก็ตาม Kuo ไม่ได้ให้ข้อมูลว่า iPhone ปี 2023 จะมี Touch ID ใต้หน้าจอแบบที่หลายคนคาดการณ์กันหรือไม่แต่อย่างใด
ที่มา: MacRumors [1], [2], [3] |
# Dell Technologies ประกาศแยกหุ้น VMware ที่บริษัทถืออยู่ คาดแล้วเสร็จ Q4
Dell Technologies ประกาศแผนแยกหุ้น 80.6% ของ VMware ซึ่งบริษัทถืออยู่ออกไป (spin-off) ซึ่งจะทำให้ทั้ง Dell และ VMware แยกการทำงานกันเป็นสองบริษัท จากเดิมที่ VMware มีสถานะเป็นบริษัทลูกของ Dell โดยคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ปี 2021
สำหรับขั้นตอนนั้น ผู้ถือหุ้น Dell จะได้รับหุ้น VMware ในอัตราส่วน 1 หุ้น Dell ต่อ 0.44 หุ้น VMware โดยประมาณ และ VMware จะจ่ายเงินปันผลพิเศษให้ผู้ถือหุ้นรวมทั้ง Dell อีกด้วย
Michael Dell ซีอีโอ Dell Technologies อธิบายว่าทั้งการแยกหุ้นนี้ ทำให้สองบริษัทสามารถพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันตามกลยุทธ์และแนวทางของตน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีมากขึ้น รวมทั้งเป็นการปรับโครงการสร้างทางการเงินของ Dell
ส่วน Zane Rowe ซีเอฟโอ VMware ที่ตอนนี้รักษาการณ์ซีอีโอด้วย บอกว่าจากนี้ VMware จะมีโอกาสที่มากขึ้นในการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกของ Dell ซึ่งสร้างข้อจำกัดบางอย่าง
ที่มา: Dell Technologies และ CNBC |
# "กูเกิล มือถืออยู่ไหน" Google Assistant ตามหามือถือหายได้แล้ว ใช้กับ iPhone ได้ด้วย
กูเกิลประกาศฟีเจอร์ใหม่ให้ Google Assistant สามารถตามหามือถือที่วางลืมทิ้งไว้ได้แล้ว ที่สำคัญคือใช้กับอุปกรณ์ iPhone/iPad ได้ด้วย
กรณีที่ใช้ Android และเปิดใช้ฟีเจอร์ Find My Device อยู่แล้ว สามารถพูด "Hey Google, find my phone" หรือ “ring my phone” ได้ทันที โทรศัพท์จะส่งเสียงดังแม้เปิดโหมด do not disturb ไว้ก็ตาม
ส่วนกรณีที่เป็น iOS ผู้ใช้ต้องตั้งค่าแอพ Google Home อนุญาตให้แสดงข้อความแจ้งเตือน และเปิดค่า critical alert ในหน้า Settings ของ iOS ก่อนถึงใช้งานได้ - วิธีการอย่างละเอียด
ที่มา - Google |
# Amazon เปิดตัวหูฟัง Echo Buds รุ่นที่สอง ขนาดเล็กลง 20% ใช้ระบบตัดเสียง ANC ของตัวเอง
Amazon เปิดตัวหูฟังไร้สาย Echo Buds รุ่นที่สอง (รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2019) ปรับปรุงให้ขนาดเล็กลง 20% น้ำหนักเบาขึ้น เสียงดีขึ้น
Echo Buds รุ่นแรกใช้ระบบตัดเสียง Active Noise Cancellation จาก Bose แต่รุ่นที่สองนี้เลิกใช้ Bose หันมาใช้เทคโนโลยี ANC ของตัวเองที่บอกว่าตัดเสียงได้ดีกว่าเดิม 2 เท่า ฟีเจอร์อื่นคือกันน้ำ IPX4 เหมือนรุ่นแรก รองรับคำสั่งเสียง Alexa (เช่น Alexa, turn on Passthrough) และตั้งค่าให้ใช้กับ Siri/Google Assistant ได้
Echo Buds 2nd Gen มีให้เลือกสองสีคือ ขาวกับดำ แยกเป็นรุ่นเคสชาร์จผ่าน USB-C ราคา 119.99 ดอลลาร์ และรุ่นเคสชาร์จไร้สาย 139.99 ดอลลาร์ (ในช่วงแรกมีราคาโปรโมชั่นที่ 99.99 ดอลลาร์ และ 119.99 ดอลลาร์ตามลำดับ) ผู้ซื้อยังได้ของแถมเป็น Amazon Music Unlimited กับ Audible Plus ฟรี 6 เดือน
ที่มา - Amazon |
# Coinbase เข้าตลาดหุ้นวันแรก ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 31% มูลค่ากิจการ 8.58 หมื่นล้านดอลลาร์
Coinbase แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโตรายใหญ่ในอเมริกา นำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นแนสแดคเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยวิธี Direct Listing นั่นคือไม่มีการออกหุ้นไอพีโอเพิ่มเติม ปิดการซื้อขายวันแรกที่ 328.28 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 31.31% จากราคาเริ่มต้นที่ 250 ดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการของ Coinbase อยู่ที่ 8.58 หมื่นล้านดอลลาร์
ช่วงที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง ก็ใช้วิธี Direct Listing ในการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น อาทิ Spotify, Slack, Palantir และ Roblox
Coinbase มีจำนวนผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม 56 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเมื่อสิ้นปี 2020 ที่มี 43 ล้านคน รายได้ประเมินเบื้องต้นของไตรมาสที่ 1 ปี 2021 อยู่ราว 1,800 ล้านดอลลาร์ และคาดมีกำไรสุทธิ 730-800 ล้านดอลลาร์
Brian Armstrong ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Coinbase กล่าวว่านอกจากต้องขอบคุณพนักงานและลูกค้าทุกคน ที่ร่วมกันสร้างระบบการเงินใหม่ให้ทุกคนเข้าถึงได้ เขายังขอบคุณ Satoshi Nakamoto ผู้ทำให้โลกรู้จักบิตคอยน์ตั้งแต่ปี 2008 การเข้าตลาดหุ้นของ Coinbase เป็นก้าวที่สำคัญในการสร้างแพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
ที่มา: CNBC และ Coinbase |
# Parallels Desktop 16.5 ออกแล้ว รองรับ Windows 10 และ Linux เวอร์ชัน ARM บนแมค M1
Parallels Desktop ซอฟต์แวร์ Virtualization ยอดนิยมบนแมค ออกเวอร์ชัน 16.5 นับเป็นรุ่นแรกที่รองรับทั้งแมคที่ใช้ชิป Apple M1 และ Intel ช่วยให้ผู้ใช้เครื่องแมคที่ใช้ชิป Apple M1 สามารถใช้งาน Windows 10 on ARM และ Linux เวอร์ชัน ARM64 รวมถึงโปรแกรมและเกมแบบ 32 บิตบน Windows ได้อย่างสมบูรณ์
ผลการทดสอบบนเครื่องที่ใช้ชิป Apple M1 พบว่าการใช้พลังงานลดลงสูงสุด 250% เมื่อเทียบกับ MacBook Air 2020 ประสิทธิภาพกราฟิค (DirectX 11) ดีขึ้น 60% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้ Radeon Pro 555X และประสิทธิภาพการรัน VM Windows ดีขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้ซีพียู Intel Core i9
นอกจากนี้ Parallels Desktop 16.5 for Mac ยังรองรับการรัน Linux หลากหลายตัวอาทิ Ubuntu 20.04, Kali Linux 2021.1, Debian 10.7 และ Fedora Workstation 33-1.2
ผู้ใช้ที่มีไลเซนส์ของ Parallels Desktop 16 สามารถอัพเดทได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ สำหรับผู้ถือไลเซนส์รุ่นเก่าอัพเกรดได้ในราคา 49.99 ดอลลาร์ จากราคาเต็มเริ่มต้นที่ 79.99 ดอลลาร์
ที่มา - Parallels Blog |
# [ไม่ยืนยัน] พบบริษัทที่ขายช่องโหว่ปลดล็อกไอโฟนให้ FBI เมื่อปี 2016
เมื่อปี 2016 แอปเปิลและเอฟบีไอมีคดีระหว่างกันจนเป็นเป้าความสนใจของคนทั่วโลก เนื่องจากเอฟบีไอต้องการให้แอปเปิลสร้างเฟิร์มแวร์พิเศษที่ช่วยให้เอฟบีไอปลดล็อกโทรศัพท์ของคนร้ายในคดีกราดยิงเมือง San Bernardino แอปเปิลต่อสู้กับเอฟบีไอทั้งในศาลและในสื่อด้วยการออกจดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณะ แต่คดีกลับจบไปง่ายๆ เพราะเอฟบีไอหาทางปลดล็อกไอโฟนเครื่องดังกล่าวได้เองทำให้ถอนคดีไป และไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนปลดล็อกไอโฟนเครื่องดังกล่าวให้เอฟบีไอ
ทางหนังสือพิมพ์ Washington Post อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวระบุะว่าบริษัทที่ขายช่องโหว่นี้คือ บริษัทออสเตรเลียชื่อว่า Azimuth Security มีแฮกเกอร์สำคัญสองคนคือ Mark Dawd ผู้ก่อตั้งบริษัท อดีตนักวิจัยความปลอดภัยในทีม IBM X-Force และ David Wang ผู้ชนะรายการแฮกใหญ่ๆ มาแล้วหลายครั้ง
แหล่งข่าวระบุว่า Dawd พบช่องโหว่ในโค้ดโอเพนซอร์สของ Mozilla ที่แอปเปิลนำไปใช้งาน เปิดทางให้แฮกเกอร์แฮกไอโฟนผ่านพอร์ต lightning ได้ (Mozilla แก้ช่องโหว่นี้ไปแล้ว และระบุว่าไม่เคยรับรู้ว่าช่องโหว่ถูกนำไปใช้แฮกไอโฟนในคดีนี้) ทั้งสองสร้างซอฟต์แวร์เจาะช่องโหว่หลายตัวจนสามารถสั่งทดสอบ passcode ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ชื่อว่า Condor จากนั้นนำไปทดสอบกับ iPhone 5C นับโหลจนมั่นใจว่าใช้งานได้ แล้วนำไปสาธิตให้เอฟบีไอดู เมื่อเอฟบีไอทดสอบแล้วว่าปลดล็อกไอโฟนได้จริงจึงจ่ายค่าใช้งานไป 900,000 ดอลลาร์ และปิดคดีกับแอปเปิลไป
บริษัท Azimuth นั้นไม่มีข่าวอะไรออกมามากนัก และนอกจากเอฟบีไอแล้วไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนเจาะไอโฟนในครั้งนั้น แต่ในปี 2017 Wang ก็ออกมาเปิดบริษัทชื่อ Corellium ให้บริการไอโฟนจำลองสำหรับทดสอบความปลอดภัยจนแอปเปิลฟ้องร้อง ดูเหมือนแอปเปิลจะสงสัยทั้ง Corellium และ Azimuth อยู่แล้วเพราะระหว่างการสอบสวนแอปเปิลพยายามขอรายชื่อลูกค้าของ Azimuth และขอรายการช่องโหว่ iOS ที่ Corellium มีทั้งหมด
ที่มา - Washington Post
ภาพโดย janeb13 |
# Xperia 10 III เปิดตัว Snapdragon 690 5G, แบต 4500 mAh, กันน้ำ, ช่องหูฟัง 3.5mm
ถัดจาก Xperia 1 III และ Xperia 5 III ยังมีน้องเล็กในซีรีส์ที่เปิดตัววันนี้คือ Xperia 10 III ที่สืบทอดตำแหน่งต่อมาจาก Xperia 10 II รุ่นของปีที่แล้ว
ในขณะที่ Xperia 1 III และ Xperia 5 III มีสเปกไล่เลี่ยกัน ต่างกันที่ขนาดหน้าจอ กรณีของ Xperia 10 III ขยับลงมาเล่นในตลาดที่ต่ำกว่า ใช้หน้าจอขนาด 6" 21:9 OLED FHD+ 60Hz (จอเล็กกว่า ไม่มี 120Hz) หน่วยประมวลผลเป็น Snapdragon 690 5G, แรม 6GB, สตอเรจ 128GB UFS + microSD, แบตเตอรี่ 4,500 mAh เท่ากับรุ่นพี่ทั้งสองรุ่น และใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อน
กล้องหลัง 3 ตัวคือ กล้องหลัก 12MP 27mm เซ็นเซอร์ 1/2.8" Exmor R, กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP 16mm, กล้องเทเล 8MP 54mm กล้องหน้า 8MP
สเปกอย่างอื่นคือยังกันน้ำกันฝุ่น IP65/68, ใช้กระจกจอ Gorilla Glass 6, ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm, DSEE Ultimate ฟีเจอร์ใช้ AI upscale เสียงเพลง ให้เสียงคุณภาพสูง
Xperia 10 III มีให้เลือก 3 สีคือ ดำ ขาว น้ำเงิน ยังไม่ประกาศราคา วันวางขายระบุแค่ early summer 2021
ที่มา - Sony (1), Sony (2) |
# Xperia 5 III สเปกเหมือนเรือธง Snapdragon 888 กล้องหลังตัวเดียวกัน แต่ขนาดเล็กลง
นอกจากเรือธง Xperia 1 III วันนี้โซนี่ยังออกมือถือระดับรองลงมาอีก 2 ตัวคือ Xperia 5 III และ Xperia 10 III
Xperia 5 III เป็นรุ่นต่อจาก Xperia 5 II ของปีที่แล้ว ยังคงแนวทางเดิมคือสเปกเรือธง เป็นรองจาก Xperia 1 เล็กน้อย แต่ขนาดเล็กลงให้ถือเหมาะมือมากขึ้น หน้าจอยังเป็น 6.1" FHD HDR OLED สัดส่วน 21:9 อัตรารีเฟรช 120Hz เหมือนเดิม แต่อัพเกรดหน่วยประมวลผลเป็น Snapdragon 888 รุ่นล่าสุดเท่าเรือธง แบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 30 วัตต์เหมือนกัน (แต่ไม่มีชาร์จไร้สาย เรือธงมี) ให้แรม 8GB น้อยกว่ารุ่นเรือธงที่แรม 12GB
กล้องหลังเป็นชุดกล้อง 3 ตัวเหมือนกับ Xperia 1 III ทุกอย่าง รวมถึงเลนส์เทเล 2 ระยะ 70-105mm ด้วย ที่ถูกตัดออกไปคือเซ็นเซอร์วัดระยะลึก 3D ToF อย่างเดียวเท่านั้น ฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์กล้องอื่นๆ เหมือนกันทั้งหมด
สเปกอื่นก็เหมือนเรือธง Xperia 1 III คือกันน้ำ IP68, ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm มีให้เลือกสองสีคือ ดำและเขียว ตอนนี้ยังไม่มีราคาและวันวางจำหน่าย
ที่มา - Sony |
# AWS ร่วมมือ NVIDIA เปิดให้ใช้จีพียูบนเซิร์ฟเวอร์ชิป Graviton2
AWS และ NVIDIA ประกาศเปิดตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถใช้งานชิปกราฟิกบนเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นซีพียู Graviton2 ของ AWS โดยไม่ระบุว่าจะใช้ชิปกราฟิกรุ่นใด
Graviton2 เป็นซีพียูสถาปัตยกรรม Arm ที่มีจุดขายว่าประสิทธิภาพต่อราคาดีกว่าเซิร์ฟเวอร์ x86 (ยังแก้อยู่บ้างในงานบางประเภท) แต่สำหรับการใช้งานคู่กับชิปกราฟิกเช่นนี้นอกจากงานกลุ่มปัญญาประดิษฐ์แล้ว ยังสามารถใช้รันเกมแอนดรอยด์เพื่อสตรีมภาพไปยังเครื่องปลายทางได้เลย โดย Graviton ได้เปรียบเพราะโค้ดเกมบนโทรศัพท์จำนวนมากเป็นโค้ด Arm อยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องแปลงโค้ดอีกชั้น
เซิร์ฟเวอร์ Graviton2 พร้อมชิปกราฟิก NVIDIA จะเปิดให้ใช้งานได้ภายในครึ่งหลังของปี 2021
ที่มา - AWS |
# Bukalapak อีคอมเมิร์ซรายใหญ่อินโดนีเซีย รับเงินเพิ่มทุนอีก 234 ล้านดอลลาร์ นำโดย Microsoft
สำนักข่าว Reuters รายงานข้อมูลว่า Bukalapak อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในอินโดนีเซีย ได้รับเงินเพิ่มทุนอีก 234 ล้านดอลลาร์ จากหลายนักลงทุน นำโดยไมโครซอฟท์, กองทุน GIC ของสิงคโปร์ และกลุ่มบริษัท Emtek ของอินโดนีเซีย
เมื่อปลายปีที่แล้วไมโครซอฟท์ประกาศลงทุนใน Bukalapak ราว 100 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการที่มีการรายงานอยู่ที่ 2,500 ล้านดอลลาร์
การแข่งขันของอีคอมเมิร์ซและธุรกิจด้านเทคโนโลยีในอินโดนีเซียมีอยู่สูง ทั้งจากคู่แข่งสำคัญอย่าง Tokopedia ที่มีข่าวจะควบรวมกิจการกับ Gojek และ Shopee ของกลุ่ม Sea ไปจนถึง Grab ที่ล่าสุดเตรียมเข้าตลาดหุ้นอเมริกาผ่านวิธีการ SPAC
ที่มา: Reuters ผ่าน KrAsia |
# Xperia 1 III เปิดตัว หน้าตาเหมือนเดิม เพิ่มกล้องเทเล 2 ระยะ, Snapdragon 888, จอ 120Hz
โซนี่เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงประจำปี Xperia 1 III (อ่านว่า มาร์คทรี) ตามกำหนด โดยยังคงหน้าตาและดีไซน์คล้ายรุ่นก่อน Xperia 1 II ชนิดว่าดูเผินๆ คงแยกไม่ออก
หน้าจอ 6.5" 4K HDR OLED สัดส่วน 21:9 เท่าเดิม เพิ่มเติมคืออัตรารีเฟรช 120Hz, หน่วยประมวลผลอัพเกรดมาเป็น Snapdragon 888 ชิปเรือธงของปีนี้, แรม 12GB (ของเดิม 8GB), แบตเตอรี่เพิ่มจาก 4,000 mAh มาเป็น 4,500 mAh ชาร์จเร็ว 30 วัตต์, กันน้ำกันฝุ่น IP65/68 เท่าเดิม, หูฟัง 3.5mm, รองรับ microSD, ระบบปฏิบัติการ Android 11
จุดเด่นเรื่องกล้องหลังที่พัฒนาร่วมกับทีม Alpha ยังคงชุดเลนส์ 4 ตัวแปะป้าย ZEISS เหมือนเดิม สเปกเท่าเดิมเกือบหมด สิ่งที่ต่างคือกล้องเทเลเพิ่มระยะ 105mm เข้ามานอกเหนือจากของเดิม 70mm
กล้องหลัก 12MP ระยะโฟกัส 24mm f/1.7 Dual-PDAF OIS เซ็นเซอร์ 1/1.7" Exmor RS
กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP ระยะโฟกัส 16mm f/2.2 Dual-PDAF
กล้องเทเล 12MP มีสองระยะโฟกัส 70mm f/2.3 และ 105mm f/2.8 Dual-PDAF OIS
กล้อง 3D ToF
ฟีเจอร์ด้านถ่ายภาพที่เป็นของใหม่คือ Real-Time Tracking ตรวจจับวัตถุแบบเรียลไทม์, Real-Time Eye AF ตรวจจับดวงตาได้ทั้งคนและสัตว์แบบเรียลไทม์, ใช้มือถือควบคุมกล้อง Sony Alpha, แอพถ่ายภาพ-ถ่ายวิดีโอ Photography Pro และ Cinematography Pro สำหรับผู้ใช้กลุ่มโปร
ตอนนี้ Xperia 1 III ยังไม่เปิดเผยราคา บอกแค่ว่าจะเริ่มวางขายช่วง "ต้นฤดูร้อน" (Early Summer) ซึ่งน่าจะตรงกับราวๆ เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน นอกจากสีดำตามมาตรฐานแล้ว ปีนี้ยังมีสีใหม่คือม่วง Frosted Purple เพิ่มมาด้วย
ที่มา - Sony |
# Canon เปิดตัวเลนส์เมาท์ RF 3 รุ่น: มาโคร 100mm, เทเล 400mm และ 600mm
Canon เปิดตัวเลนส์ใหม่สำหรับกล้องเมาท์ RF ทั้งหมด 3 รุ่น โดยแบ่งเป็นเลนส์มาโคร 1 รุ่น และเลนส์เทเลโฟโต้ 2 รุ่น
สำหรับเลนส์รุ่นแรกคือ RF 100mm F2.8L Macro IS USM เป็นเลนส์เน้นการถ่ายภาพระยะใกล้หรือมาโครตัวแรกของเมาท์เลนส์แบบ RF ระยะโฟกัสใกล้สุดอยู่ที่ 26 เซนติเมตร ให้กำลังขยายสูงสุดถึง 1.4 เท่า พร้อมระบบกันสั่นที่ปรับเป็นไฮบริดได้เมื่อระยะโฟกัสสั้น แต่ถ้าเป็นโหมดปกติ ระบบกันสั่นจะกันสั่นได้สูงสุด 5 สต็อปในตัวเลนส์ และสูงสุดถึง 8 สต็อปเมื่อใช้กับกล้องที่มาพร้อมระบบกันสั่น
ตัวเลนส์มีชิ้นเลนส์ทั้งหมด 17 ชิ้น แบ่งเป็น 13 กลุ่ม ใช้โค้ตติ้งแบบ Super Spectra เพื่อลดแฟลร์และโกสท์ ระบบออโต้โฟกัสใช้ Dual Nano USM เป็น Nano USM linear สองตัวเพื่อให้โฟกัสได้เร็วและเงียบ มีวงแหวนปรับการตั้งค่าอย่าง ISO และ Exposure Compensation
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของเลนส์มาโครรุ่นใหม่คือระบบปรับ spherical abberration หรือ SA (เหมือน Defocus Control ของ Nikon) ที่ปรับวงแหวนเพื่อควบคุมโบเก้รวมถึงความซอฟต์ของภาพ
Canon จะวางจำหน่ายเลนส์ RF 100mm F2.8L Macro IS USM ที่ราคา 1,399 ดอลลาร์ หรือราว 44,000 บาท คาดว่าจะวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมนี้
RF 100mm F2.8L Macro IS USM
ถัดไปคือเลนส์ RF 400mm F2.8L IS USM และ 600mm F4L IS USM ทั้งสองตัวเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ มีชิ้นเลนส์ภายในเหมือนกัน คือ 17 ชิ้นใน 13 กลุ่ม มีเลนส์ Super UD หนึ่งชิ้น และฟลูออไรด์อีก 2 ชิ้น พร้อมโค้ตติ้ง Super Spectra และ Air Sphere โดย Canon เคลมว่าระบบกันสั่นในตัวเลนส์สามารถกันสั่นได้สูงสุดถึง 5.5 สต็อป
ระยะโฟกัสใกล้สุดของเลนส์ 400mm F2.8 อยู่ที่ 2.5 เมตร ส่วน 600mm F4 อยู่ที่ 4.2 เมตร กำลังขยายสูงสุดอยู่ที่ 0.17 และ 0.15 ตามลำดับ โดยเลนส์ทั้งสองตัวซีลกันสภาพอากาศ และมีโต้ตติ้งฟลูออรีนในชิ้นเลนส์หน้าสุดเพื่อลดการเกาะของน้ำและน้ำมัน
สำหรับเลนส์ RF 400mm F2.8L IS USM จะวางจำหน่ายที่ราคา 11,999 ดอลลาร์ หรือราว 378,000 บาท และ 600mm F4L IS USM จะวางจำหน่ายที่ราคา 12,999 ดอลลาร์ หรือราว 410,000 บาท โดยคาดว่าจะวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมนี้
ที่มา - dpreview (1, 2)
RF 400mm F2.8L IS USM
RF 600mm F4L IS USM |
# ราคาบิตคอยน์ทำสถิติใหม่สูงสุด มากกว่า 64,000 ดอลลาร์ ก่อน Coinbase เข้าตลาดหุ้นคืนนี้
ราคาบิตคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำสถิติใหม่สูงสุด โดยราคาล่าสุดจาก Coinmarketcap อยู่ที่ราว $64,500 ดอลลาร์ รวมทั้งเงินคริปโตสกุลสำคัญต่างมีแนวโน้มราคาปรับเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ETH, BNB และ XRP
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลบวกต่อราคาบิตคอยน์ในช่วงนี้ คือการเข้าตลาดหุ้นของ Coinbase แบบ Direct Listing (ไม่มีการออกหุ้นไอพีโอเพิ่มเติม) ในคืนวันพุธนี้ตามเวลาไทย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโตรายใหญ่ในอเมริกา
Coinbase รายงานตัวเลขประเมินรายได้ของไตรมาสแรกปี 2021 อยู่ที่ราว 1,800 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9 เท่าจากปีก่อน และกำไรสุทธิอยู่ในช่วง 730-800 ล้านดอลลาร์
ที่มา: CNBC |
# Canon เผยข้อมูลชุดแรกของ EOS R3: ดีไซน์เหมือน 1D, เซนเซอร์ Stacked CMOS ถ่ายภาพรัวได้เร็วกว่าเดิม
Canon เผยข้อมูลครั้งแรกของ EOS R3 กล้อง Mirrorless เซนเซอร์ฟูลเฟรมรุ่นใหม่ โดยมาในดีไซน์แบบเดียวกล้องซีรีส์ EOS 1D ซึ่งเป็นกล้อง DSLR ระดับท็อปของ Canon พร้อมทั้งจัดเต็มสเปคสมกับเป็น Mirrorless ที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับโปร
ฟีเจอร์คร่าว ๆ ที่ Canon เผยออกมา คือ EOS R3 จะใช้เซนเซอร์ Stacked CMOS พร้อม back-illuminated เป็นครั้งแรก ซึ่ง Canon ระบุว่าจะช่วยลดระยะเวลาอ่านข้อมูลออกจากเซนเซอร์ ทำให้ได้ประสิทธิภาพการถ่ายภาพรัวที่ดีขึ้น และลดอาการ rolling shutter เมื่อใช้โหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ด้วย ทำให้ตัวกล้องสามารถถ่ายภาพนิ่งรัวได้สูงสุดถึง 30 ภาพต่อวินาทีในโหมดเปิดใช้งาน Dual Pixel CMOS AF และ Auto Exposure
นอกจากนี้ EOS R3 ยังมี Eye Control AF ที่จะใช้ตำแหน่งตาของผู้ถ่ายภาพเพื่อเลือกตำแหน่งเริ่มต้นของออโต้โฟกัสหรือระบบติดตามวัตถุ ซึ่ง Canon เคลมว่าระบบตรวจจับวัตถุของ EOS R3 ที่ใช้เทคโนโลยี Deep Learning จะสามารถตรวจจับวัตถุได้ดีกว่า R5 และ R6 ทั้งการถ่ายภาพแบบ portrait หรือ action
ในด้านดีไซน์ของตัวกล้อง Canon ออกแบบให้ EOS R3 เป็นรูปแบบ dual-grip พร้อมซีลกันฝุ่นและสภาพอากาศในระดับเดียวกับกล้องซีรีส์ 1D
ตอนนี้ Canon ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายของ EOS R3 แต่คาดกันว่าตัวกล้องน่าจะออกมาทันก่อนโตเกียวโอลิมปิกในฤดูร้อนปีนี้
ที่มา - dpreview |
# ศาลสหรัฐฯ อนุมัติให้ FBI ปฏิบัติการลบ backdoor ออกจากเซิร์ฟเวอร์ Exchange ที่โดนโจมตีแล้ว
ศาลใน Houston ได้อนุมัติให้ FBI ปฏิบัติการคัดลอกและลบ backdoor จากเซิร์ฟเวอร์ Microsoft Exchange นับร้อยในสหรัฐฯ ซึ่งเป็น backdoor ที่ติดตั้งโดยใช้ช่องโหว่ภายในซอฟต์แวร์ Exchange ที่ Microsoft เพิ่งออกแพทซ์ไป
อย่างไรก็ดี แม้ Microsoft จะออกแพทซ์มาแล้ว ตัวแพทซ์จะอุดเฉพาะช่องโหว่ของ Exchange เท่านั้น ไม่ได้ช่วยลบ backdoor ออกจากเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกโจมตีไปแล้ว และ backdoor ก็ไม่ได้ค้นหาหรือกำจัดได้ง่าย ๆ โดยในคำแถลงของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า FBI จะสั่งลบด้วยการใช้คอมมานด์ผ่าน web shell ไปยังเซิร์ฟเวอร์ โดยคอมมานด์นี้จะทำการลบเฉพาะ web shell ที่หลงเหลือไว้เป็น backdoor และจะรายงานให้เจ้าของเซิร์ฟเวอร์รับทราบผ่านอีเมลหลังปฏิบัติการลบ backdoor เสร็จสิ้น
กระทรวงยุติธรรมระบุว่า ปฏิบัติการครั้งนี้จะทำเฉพาะสั่งลบ backdoor เท่านั้น แต่ไม่ได้แพทซ์ช่องโหว่ของ Exchange ที่แฮกเกอร์ใช้โจมตี รวมถึงไม่ได้ลบมัลแวร์หรือเครื่องมือที่ใช้เจาะระบบอื่น ๆ ที่ติดตั้งผ่าน backdoor นี้
ที่มา - United States Department of Justice, TechCrunch
ภาพจาก Dave Newman/Flickr (CC BY 2.0) |
# Vivaldi, Brave ประกาศไม่ใช้วิธีตามรอยแบบ FLoC ที่กูเกิลใช้ใน Chrome
เว็บเบราว์เซอร์ที่ต่อยอดจาก Chromium สองตัวคือ Vivaldi (ทีม Opera เดิม) และ Brave (ทีม Firefox เดิม) พร้อมใจกันประกาศไม่ใช้งานฟีเจอร์ตามรอยผู้ใช้ Federated Learning of Cohorts (FLoC) ของ Chrome ที่กูเกิลเพิ่งเริ่มใช้งาน
FLoC เกิดจากกระแสต่อต้านการตามรอยด้วยคุกกี้ และ AdID/IDFA ในช่วงหลังๆ ทำให้กูเกิลประกาศแนวทางเลิกตามรอยแบบเจาะตัวบุคคล เปลี่ยนมาใช้วิธีตามรอยจากพฤติกรรมผู้ใช้ที่ตัวเบราว์เซอร์แทน (ดูจาก history) แต่กูเกิลชูว่า FLoC มีข้อดีตรงที่ไม่เจาะจงตัวบุคคล ใช้วิธีนิยามผู้ใช้เป็นกลุ่มแทน ผู้โฆษณาสามารถเลือกยิงโฆษณาตาม "กลุ่มผู้ใช้" แทนการเจาะรายคน
แนวทาง FLoC ถูกคัดค้านจากหน่วยงานอย่าง EFF ว่าเป็นวิธีการตามรอยที่แย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะกูเกิลเข้าถึงประวัติการท่องเว็บของผู้ใช้โดยตรง
ล่าสุดทั้ง Vivaldi และ Brave ประกาศว่าปิดการทำงานของ FLoC ในโค้ดของ Chromium ที่กูเกิลใส่เข้ามาแล้ว และจะไม่รองรับ FLoC API ใดๆ ในอนาคต
สำหรับคนที่ใช้ Chrome และต้องการปิดการทำงานของ FLoC ก็ยังมี DuckDuckGo ที่อาสาทำให้ ผ่านส่วนขยาย DuckDuckGo (แต่ส่วนขยายนี้จะเปลี่ยน search engine เป็น DuckDuckGo ให้ด้วยเช่นกัน)
เบราว์เซอร์ยุคใหม่นิยมใช้ Chromium เป็นฐาน และยังมีเบราว์เซอร์อีกมากที่ยังไม่ประกาศท่าทีเรื่อง FLoC เช่น Opera และ Microsoft Edge
ที่มา - Vivaldi, Brave, DuckDuckGo |
# 1Password เปิดตัวบริการใหม่สำหรับลูกค้าองค์กร Secrets Automation
1Password เปิดตัวบริการใหม่ Secrets Automation เครื่องมือสำหรับจัดการรหัสผ่านและสิทธิการเข้าถึง สำหรับลูกค้าระดับองค์กร ผ่านการซื้อกิจการ SecretHub โดยไม่เปิดเผยมูลค่าของดีลนี้ ทำให้บริการของ 1Password ขยายมาสู่ตลาดลูกค้าระดับองค์กรมากขึ้น
ทีมงานของ SecretHub รวมทั้ง Marc Mackenbach จะเข้ามาร่วมทีมกับ 1Password มีผลทันที ทั้งนี้ SecretHub ให้ข้อมูลว่ามีลูกค้าองค์กรเก็บข้อมูลสำคัญผ่านบริการมากกว่า 5 ล้านชุดต่อเดือน
Jeff Shiner ซีอีโอ 1Password กล่าวว่าปัจจุบันองค์กรต่างต้องการป้องกันรหัสผ่านและการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานระบบ ในระดับเดียวกับรหัสผ่านข้อมูลของพนักงาน ด้วยเครื่องมืออย่าง Secrets Automation ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการข้อมูลสำคัญนี้ได้ในที่เดียว ใช้งานง่าย และควบคุมการเข้าถึงได้ทุกจุด
ในประกาศนี้ 1Password ยังประกาศความร่วมมือกับ GitHub เพื่อนำบริการ Secrets Automation มาใช้งานอีกด้วย
ที่มา: 1Password |
# Facebook ทดสอบ Sparked แอปหาคู่แบบวิดีโอคอลสั้นๆ ถ้าถูกใจจะให้คุยต่ออีกรอบ
ทีม New Product Experimentation (NPE) หรือทีมบ่มเพาะนวัตกรรมใน Facebook เปิดตัวของใหม่ แอป Sparked เป็นแอปหาคู่ในรูปแบบวิดีโอในแบบสปีดเดท ยังอยู่ในขั้นทดลอง ตัวแอปมีแค่เวอร์ชั่นเว็บบนบราวเซอร์ และต้องใช้โปรไฟล์ Facebook ในการเช้าใช้งาน
วิธีเล่นคล้ายๆ เกมโชว์ คือ ได้คุยกับคนอื่นในแบบวิดีโอคอลแค่ 4 นาที ซึ่งตัวแอประบุว่าหากคุณทั้งสองมีช่วงเวลาที่ดีต่อกัน ก็จะจัดให้มีการคอลอีกเป็นครั้งที่สองเพื่อแชร์ข้อมูลระหว่างกันเพิ่มเติมผ่าน Instagram, iMessage หรืออีเมล
จากหน้าจอแอป ระบุว่า Sparked พยายามสร้างจุดขายการเดทด้วย "kind" หรือความใจดี นุ่มนวล และปลอดภัย ผู้ใช้ไม่ต้องสร้างโปรไฟล์ที่เผยรูปภาพแบบสาธารณะ ไม่ต้องปัดซ้ายหรือขวา และไม่มีระบบแชทส่วนตัว เมื่อผู้ใช้สร้างโปรไฟล์ สามารถระบุได้ว่าอยากเดทกับเพศไหน โดยมีคนใน Sparked คอยอนุมัติให้เข้าใช้งาน
ที่มา - The Verge |
# CD Projekt ยืนยัน จะแก้ไข Cyberpunk 2077 ให้กลับมาดี เป็นเกมที่บริษัทภูมิใจ
Adam Kicinski ซีอีโอร่วมของ CD Projekt ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ยืนยันว่าบริษัทจะแก้ไขเกม Cyberpunk 2077 จนกว่าจะมีคุณภาพกลับมาดี "ในระดับที่เราภูมิใจ" และไม่มีแผนการเลิกทำเกมนี้
สถานะปัจจุบันของ Cyberpunk 2077 คือออกแพตช์เวอร์ชัน 1.2 แล้ว โดย Kicinski ยืนยันว่าหารือกับโซนี่อยู่ตลอด และเตรียมนำเกมกลับมาขายบน PlayStation Store หลังถูกถอดเกมออกไปตั้งแต่เดือนธันวาคม
บริษัทยังยกเลิกการออกเกมมัลติเพลเยอร์ หันมาโฟกัสที่เกมแบบเล่นคนเดียวอย่างเดียว โดยจะออก DLC ตัวแรก และออกเกมเวอร์ชันคอนโซลยุคใหม่ที่สัญญามานานด้วย
CD Projekt เพิ่งโดนแฮ็กไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ส่งผลให้กระบวนการพัฒนา Cyberpunk 2077 ต้องล่าช้าออกไปอีกหลายสัปดาห์ เพราะพนักงานต้องหยุดพักการทำงานชั่วคราว
ที่มา - Reuters |
# Apple ประกาศจัดงาน Spring Loaded วันที่ 20 เมษายนนี้
หลังจาก Siri หลุดข้อมูลออกมาก่อนหน้านี้ แอปเปิลก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะจัดงานอีเวนต์ในวันที่ 20 เมษายน เวลา 10.00น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลาเที่ยงคืนเข้าสู่วันที่ 21 เมษายน ตามเวลาในไทย โดยงานจะจัดขึ้นที่ Steve Jobs Theater ใน Apple Park สำนักงานใหญ่ของแอปเปิลที่ Cupertino ในรูปแบบออนไลน์เท่านั้น ไม่มีการเชิญสื่อไปยังสถานที่จัดงาน
หัวข้องานครั้งนี้คือ Spring Loaded
สินค้าที่คาดว่าจะเปิดตัวในงานนี้มีทั้ง iPad Pro รุ่นใหม่, iPad รุ่นราคาถูกตัวใหม่, iMac รุ่นใหม่ ไปจนถึงสินค้าใหม่อย่าง AirTags
ที่มา: MacRumors |
# ซัมซุงจัดงาน The Most Powerful Galaxy 28 เม.ย. คาดเป็นโน้ตบุ๊ก Galaxy Book
ซัมซุงประกาศจัดงาน Galaxy Unpacked 2021 อีกรอบในวันที่ 28 เมษายนนี้ โดยใช้พาดหัวว่า The most powerful Galaxy is coming
จากพาดหัว The most powerful Galaxy และภาพในคลิปทีเซอร์ที่เป็นกล่องขนาดใหญ่ และฉากจบที่เปิดจอขึ้นเหมือนฝาพับโน้ตบุ๊ก คาดว่าสินค้ารอบนี้น่าจะเป็นโน้ตบุ๊กตระกูล Galaxy Book มากกว่าอุปกรณ์พกพาที่เปิดตัวไปเยอะแล้วในปีนี้
ที่มา - Samsung |
# Epic Games รับเงินทุนใหม่อีก 1 พันล้านดอลลาร์ มูลค่ากิจการ 2.87 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว
Epic Games ประกาศรับเงินลงทุนรอบใหม่ครบ 1,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 28,700 ล้านดอลลาร์แล้ว
กลุ่มนักลงทุนรอบนี้ประกอบด้วยโซนี่ ซึ่งถือเป็นผู้ลงทุนหลักในความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ลงทุนเพิ่มเติมอีก 200 ล้านดอลลาร์ (ก่อนหน้านี้ 250 ล้านดอลลาร์) ส่วนนักลงทุนรายอื่นได้แก่ Appaloosa, Baillie Gifford, Fidelity, GIC, KKR, AllianceBernstein และนักลงทุนอีกหลายราย โดยหลังการเพิ่มทุนรอบนี้ Tim Sweeney ซีอีโอ Epic Games ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทต่อไป
Sweeney บอกว่าเงินลงทุนรอบนี้จะนำมาใช้ขยายงานปัจจุบันทั้ง Fortnite, Rocket League และ Fall Guys รวมทั้งนำมาพัฒนาสินค้าและบริการอย่าง Unreal Engine และ Epic Games Store
ที่มา: Epic Games |
# Spotify ออกอุปกรณ์เสริมในรถ Car Thing ตอนนี้จำกัดเฉพาะผู้ใช้ในอเมริกา
Spotify เปิดตัวฮาร์ดแวร์ Car Thing อุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับเล่นเพลง-พอดคาสต์ เชื่อมต่อกับเครื่องเสียงในรถยนต์ด้วยบลูทูธ โดยสามารถควบคุมการใช้งานได้ผ่านเสียง หน้าจอสัมผัส และตัวปุ่มบนอุปกรณ์ ทั้งนี้ Car Thing สามารถทำงานได้ในตัว ไม่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมเพลงเพิ่มเติม (แต่ต้องการอินเทอร์เน็ต) ซึ่ง Spotify บอกว่าเป็นคุณสมบัติที่ผู้ใช้งานเรียกร้องเข้ามามาก
ก่อนหน้านี้ Spotify เคยออก Car Thing รุ่นทดสอบมาก่อน
Car Thing ในตอนนี้ผลิตมาจำนวนจำกัด มีให้เฉพาะลูกค้าในอเมริกาเท่านั้น และต้องได้ invite จาก Spotify ด้วย ตัวฮาร์ดแวร์ยังไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มนี้ แต่ต้องออกค่าจัดส่งสินค้าเอง
ที่มา: Spotify |
# ไมโครซอฟท์ออกชุดหูฟัง ลำโพง เว็บแคม ใช้ประชุมออนไลน์ยุค Microsoft Teams ครองเมือง
ปกติแล้วไมโครซอฟท์มักเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตระกูล Surface ปีละประมาณ 2 รอบ โดยแต่ละรอบจะออกของใหม่หลายอย่าง แต่รอบนี้เรากลับเห็น Surface Laptop 4 เพียงรุ่นเดียว (ตอนต้นปีมี Surface Pro 7+ รุ่นอัพเดตย่อยไปแล้ว ส่วน Surface Pro 8 คาดว่าต้องรอปลายปีเลย)
แต่ไมโครซอฟท์ยังมีของใหม่เป็นอุปกรณ์เสริมชุดใหญ่ ที่ดูก็รู้ว่าออกแบบมาเพื่อยุคการประชุมออนไลน์ผ่าน Microsoft Teams ครองเมือง อุปกรณ์เสริมชุดนี้ใช้แบรนด์ย่อยใหม่ว่า Microsoft Modern ประกอบด้วยชุดหูฟัง ลำโพง และกล้องเว็บแคม
Microsoft Modern USB-C Speaker ลำโพงพร้อมไมโครโฟนคู่ในตัว และปุ่มรับสายวางสาย ราคาทั้งชุด 99 ดอลลาร์
Microsoft Modern Webcam เว็บแคมแบรนด์ไมโครซอฟท์ ความละเอียด 1080p HDR มุมกว้าง 78 องศา มีที่ปิดกล้อง privacy shutter และไฟบอกการทำงานของกล้อง ราคา 69 ดอลลาร์
Microsoft Modern USB Headset ชุดหูฟังพร้อมไมโครโฟนในตัว รุ่นมีสายราคา 49 ดอลลาร์ ส่วนรุ่นไร้สายยังไม่ประกาศราคา
สินค้าแบรนด์ Microsoft Modern เน้นจับกลุ่มลูกค้าองค์กร ที่ต้องการอุปกรณ์เสริมราคาไม่แพงมาก แต่ถ้าต้องการของเกรดพรีเมียมจริงๆ ก็ยังมีหูฟัง Surface Headphones 2+ for Business ที่ปรับเปลี่ยนจากรุ่นคอนซูเมอร์เล็กน้อย เพิ่มปุ่ม Microsoft Teams เข้ามาด้วย ราคาพุ่งไปเป็น 299 ดอลลาร์ (รุ่นคอนซูเมอร์ตัวละ 249 ดอลลาร์)
ที่มา - Microsoft |
# Surface Laptop 4 เปิดตัว สองขนาดหน้าจอ 13.5 และ 15, เลือกซีพียูได้ทั้ง Intel/AMD
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Laptop 4 โน้ตบุ๊กรูปทรงฝาพับแบบดั้งเดิม โดยยังคงแนวทาง 2 ขนาดหน้าจอคือ 13.5" และ 15" สัดส่วน 3:2 เหมือนกับ Surface Laptop 3
Surface Laptop 4 สามารถเลือกซีพียูได้ทั้งค่ายอินเทล (11th Gen Tiger Lake) และเอเอ็มดี (Ryzen 4000) โดยกรณีของเอเอ็มดีจะเป็นซีพียูรุ่นพิเศษ Microsoft Surface Edition ที่เพิ่มจำนวนคอร์จีพียู Radeon จากปกติ (มีสองรุ่นย่อยคือ Ryzen 5 4680U จีพียู 7 คอร์ และ Ryzen 7 4980U จีพียู 8 คอร์)
ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ กล้องเว็บแคมแบบ HD ทำงานได้ในสภาพแสงน้อย และชุดไมโครโฟนในตัว ออกแบบมาเพื่อยุคประชุมออนไลน์, ลำโพงคู่ Dolby Atmos Omnisonic, ตัวเลือกสีใหม่ น้ำเงิน Ice Blue
ในแง่วัสดุของเครื่องใช้โลหะเป็นหลัก แต่ลูกค้าสามารถเลือกวัสดุตรงคีย์บอร์ดได้เองว่าจะเป็นผ้า Alcantara หรือโลหะได้เช่นกัน (ขึ้นกับสีและขนาดหน้าจอที่ต้องการด้วย รุ่นจอ 15" มีเฉพาะโลหะ) ราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์สำหรับรุ่นจอ 13.5" และ 1,299 ดอลลาร์สำหรับรุ่น 15"
ที่มา - Microsoft |
# Siri บอกเอง Apple เตรียมจัดงานอีเวนต์ผลิตภัณฑ์ใหม่ 20 เมษายนนี้
แอปเปิลเตรียมจัดงานอีเวนต์ในวันที่ 20 เมษายนนี้ ที่สำนักงานใหญ่ Apple Park ใน Cupertino ซึ่งข้อมูลคราวนี้ไม่ได้มาจากแหล่งข่าวใด แต่เป็น Siri เองที่ให้ข้อมูล เมื่อถามว่าแอปเปิลจะจัดงานอีเวนต์อีกครั้งเมื่อใด อย่างไรก็ตามคาดว่างานดังกล่าวจะนำเสนอเฉพาะช่องทางออนไลน์ และบันทึกเทปล่วงหน้า เหมือนงานช่วงที่ผ่านมา
ตามปกติแอปเปิลจะส่งคำเชิญสื่อเป็นเวลา 1 สัปดาห์ล่วงหน้า ซึ่งแปลว่าแอปเปิลน่าจะมีประกาศทางการภายในวันนี้
คาดว่าในงานนี้แอปเปิลจะเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่หน้าจอ 12.9 นิ้ว ที่ใช้เทคโนโลยี mini-LED และอาจเปิดตัวสินค้าที่มีข่าวลือมานานอย่างแท็กติดอุปกรณ์ AirTags
ที่มา: MacRumors |
# NVIDIA ลงทุน 1.5 ล้านดอลลาร์เข้าโครงการ Mozilla Common Voice
NVIDIA ประกาศลงทุน 1.5 ล้านดอลลาร์เข้าโครงการ Mozilla Common Voice ใช้สำหรับสนับสนุนชุมชนและอาสาสมัครที่ร่วมกันทำงานในโครงการ และจ้างพนักงานมาทำงานในโครงการเพิ่มขึ้น
Mozilla Common Voice เป็นโครงการให้อาสาสมัครเข้าไปบริจาคเสียงพูดตามภาษาที่ใช้งาน เพื่อสร้างชุดข้อมูลให้กลุ่มต่างๆ ไปสร้างปัญญาประดิษฐ์ได้ ปัจจุบันโครงการมีเสียงพูด 9,000 ชั่วโมง จาก 60 ภาษา
Kari Briski ผู้อำนวยการของทาง NVIDIA ระบุว่าแชตบอทสำคัญมากขึ้นในช่วงหลัง การมีชุดข้อมูลให้ทุกคนใช้งาน ทำให้ NVIDIA สามารถสร้างโมเดลที่ฝึกไว้แล้วและแชร์ให้ชุมชุนใช้งานได้ฟรี
ที่มา - Mozilla |
# Grab ประกาศเข้าตลาดหุ้น NASDAQ ด้วยวิธี SPAC มูลค่ากิจการ 39.6 พันล้านดอลลาร์
หลังจากลือกันมาสักระยะ วันนี้ Grab Holdings ประกาศแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ด้วยวิธีการ SPAC แทนการขายหุ้น IPO ตามปกติ
SPAC หรือ Special Purpose Acquisition Companies เป็นวิธีการเข้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐที่กำลังได้รับความนิยมในรอบปีที่ผ่านมา รูปแบบคือตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาโดยระบุเป้าหมายเพื่อการนี้โดยเฉพาะ จากนั้นนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ก่อน และค่อยไปซื้อกิจการของบริษัทเป้าหมายอีกรอบ สุดท้ายจึงเปลี่ยนชื่อบริษัท SPAC เป็นชื่อบริษัทเป้าหมายในภายหลัง ข้อดีของวิธีนี้คือช่วยลดระยะเวลาของการนำบริษัทเข้าตลาดลง เมื่อเทียบกับวิธี IPO (อ่านรายละเอียดเรื่อง SPAC)
กรณีของ Grab จะใช้บริษัท SPAC ชื่อว่า Altimeter Growth Corp. ที่อยู่ในตลาด NASDAQ อยู่แล้ว (ตัวย่อ AGC) มูลค่าการซื้อกิจการ (หลังควบรวมแล้ว) จะอยู่ที่ 39.6 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นบริษัทจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใหญ่ที่สุดที่เข้าขายหุ้นในสหรัฐอเมริกา เมื่อเสร็จกระบวนการแล้วจะเปลี่ยนตัวย่อบริษัทเป็น "GRAB"
Grab รายงานว่ามีตัวเลขธุรกรรมรวม (gross merchandise value หรือ GMV) ตลอดปี 2020 อยู่ที่ราว 12.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเติบโตขึ้นจากช่วงก่อน COVID-19 ระบาดด้วย
ตอนนี้บอร์ดของ Grab และ Altimeter อนุมัติดีลแล้ว ขั้นถัดไปคือผู้ถือหุ้นต้องอนุมัติ และกระบวนการทางเอกสารอื่นๆ ซึ่งจะใช้เวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเสร็จสิ้น
disclaimer: LINE MAN Wongnai บริษัทแม่ของ Blognone เป็นคู่แข่งธุรกิจของ Grab ในประเทศไทย
ที่มา - Grab |
# ได้เวลากลับออฟฟิศ Salesforce ประกาศเปิดสำนักงาน ให้พนักงานที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาก่อน
สถานการณ์ COVID-19 ทำให้บริษัทไอทีจำนวนมากปิดสำนักงาน ให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน 100% และบางบริษัท เช่น Twitter ประกาศให้พนักงานทำงานได้จากที่บ้านตลอดไป
ในทางกลับกัน การฉีดวัคซีนในสหรัฐอเมริกาที่คืบหน้าไปมากพอสมควร ก็ทำให้บริษัทบางแห่งเริ่มกลับมาใช้นโยบายเปิดสำนักงานแล้ว บริษัทไอทีรายแรกๆ ที่นำเทรนด์นี้คือ Salesforce ที่ประกาศว่าจะเปิดสำนักงานใหญ่กลางเมืองซานฟรานซิสโกกลับมาในเดือนพฤษภาคมนี้ และสำนักงานที่เมืองอื่นๆ ในระยะถัดไป
แนวทางของ Salesforce คือในระยะแรก พนักงานที่ฉีดวัคซีนครบเรียบร้อยแล้ว สามารถเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศได้ตามความสมัครใจ และในระยะแรกจะยังจำกัดจำนวนพนักงานที่เข้าออฟฟิศไม่เกิน 100 คนก่อน บริษัทยังมีนโยบายตรวจ COVID ทุกคนสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ส่วนในระยะถัดไปจะขยายจำนวนพนักงานขึ้นจาก 20% เป็น 75% โดยพนักงานที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนก็สามารถเข้ามาทำงานได้ด้วย
สถานการณ์เรื่องออฟฟิศของ Salesforce ในแต่ละประเทศแตกต่างกันไป อย่างในอิสราเอลก็สามารถกลับมาเปิดทำการได้ตามปกติ 100% แล้ว และหลายประเทศในเอเชียแปซิฟิกก็กลับมาเปิดได้ในเฟสสองแล้วเช่นกัน
Salesforce ยังมีทางเลือกให้พนักงานที่ยังไม่อยากกลับเข้าออฟฟิศ ก็สามารถเลือกทำงานที่บ้านได้จนถึงสิ้นปี 2021
ที่มา - Salesforce |
# Free Software Foundation แถลงยืนยันเลือก Stallman มาเป็นบอร์ด จะปรับปรุงกระบวนการให้โปร่งใสขึ้น
คณะกรรมการ Free Software Foundation (FSF) ออกแถลงการณ์ชี้แจง หลังจากทางคณะกรรมการประกาศเลือก Richard Stallman เข้ามาเป็นกรรมการ โดยไม่ได้แจ้งพนักงานหรือผู้ร่วมจัดการคนอื่นๆ ล่วงหน้า
ทางคณะกรรมการระบุว่า FSF ต้องการ Stallman เพราะเขามีความสามารถทั้งด้านเทคนิคและกฎหมายที่หาคนเทียบเท่าไม่ได้ สำหรับเรื่องพฤติกรรมนั้นเชื่อว่าหลังจากนี้เขาจะควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น
ตัว Stallman ออกแถลงการณ์พร้อมกัน ยอมรับว่าเขามีพฤติกรรมไม่ดี โดยเฉพาะการพูดไม่ดีกับผู้หญิง และการแสดงอาการโมโหต่อคนอื่น เขาชี้แจงประเด็นที่เขาปกป้อง Marvin Minsky ระบุว่าเขารู้จัก Minsky เพียงห่างๆ แต่คิดว่า Minsky ถูกเหมารวมว่ามีความผิดเท่าๆ กับ Jeffrey Epstein นั้นไม่เป็นธรรม
ผลกระทบจากการที่ FSF แต่งตั้ง Stallman กลับมาทำให้องค์กรโอเพนซอร์สหลายแห่งแสดงความไม่พอใจ โดยเฉพาะบริษัทอย่าง Red Hat แสดงท่าทีว่าจะไม่บริจาคเงินเข้า FSF อีก การยืนยันแต่งตั้ง Stallman ครั้งนี้น่าจะส่งแรงกระเพื่อมอีกไม่น้อย
ที่มา - FSF
Richard Stallman ภาพโดย NicoBZH จาก Wikipedia |
# Google Play Movies & TV เตรียมหยุดให้บริการบนแพลตฟอร์มสมาร์ททีวีวันที่ 15 มิถุนายนนี้
Google แจ้งผู้ใช้ Google Play Movies & TV สำหรับแพลตฟอร์มสมาร์ททีวี Roku, Samsung, LG และ Vizio ผ่านทางอีเมลว่าจะหยุดให้บริการแอปตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยให้ผู้ใช้ย้ายไปใช้แอป YouTube แทน
Google ระบุว่า สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรับชมคอนเทนต์ที่เคยซื้อมา ให้ล็อกอินเข้าแอป YouTube และคลิกที่แท็บ Library > Your movies and shows ส่วนเครดิตที่เคยเพิ่มไว้ในบัญชีจะยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่ส่วนที่จะไม่ตามไปที่แอป YouTube คือ Watchlist รวมถึงระบบแชร์ในครอบครัวก็จะมีฟีเจอร์ไม่เหมือนกับแอปเดิม
สำหรับ Google Play Movies & TV นั้น Google จะยังไม่ได้ทิ้งไปเสียทีเดียว (ตอนนี้แอปบน iOS และ Android ยังใช้งานได้ตามปกติ) ก่อนหน้านี้ทางบริษัทประกาศออกมาแล้วว่าจะรีแบรนด์เป็น Google TV โดยนิยามว่าเป็นประสบการณ์ใช้งานทีวีและภาพยนตร์ข้ามแพลตฟอร์ม ซึ่งตอนนี้ Google TV กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบและน่าจะปล่อยออกมาทดแทน Google Play Movies & TV ในอนาคต
ที่มา - Engadget |
# Facebook ในสหรัฐจะแสดงข้อมูลเข้าถึงวัคซีน COVID-19 ในเมืองที่รับฉีดให้คนทั่วไปแล้ว
สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่ประชาชนเข้าถึงวัคซีน COVID-19 ได้ทั่วถึง และเริ่มเปิดให้ผู้ใหญ่เข้ามาฉีดวัคซีนได้ ล่าสุด Facebook เตรียมเพิ่มการแจ้งเตือนและระบุข้อมูลว่าประชาชนจะสามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างไร แต่ละรัฐจะแสดงข้อมูลไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับหน่วยงานสุขภาพในแต่ละพื้นที่ เหมือนอย่างที่เคยทำเมื่อตอนเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020
เมื่อข้อมูลทางการจากรัฐแจ้งว่าประชาชนทั่วไปมีสิทธิ์ได้รับวัคซีน COVID-19 Facebook จะแสดงการแจ้งเตือนให้คนในรัฐนั้น และเชื่อมโยงกับหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐ โดยสามารถคลิกปุ่ม Find a Vaccine เพื่อดูว่าสถานที่ไหนรับฉีดบ้าง ซึ่งเริ่มทำการแจ้งเตือนแล้วใน อลาสก้า, มิสซิสซิปปี, เท็กซัสและยูทาห์
Facebook มีศูนย์ข้อมูล COVID-19 บนแพลตฟอร์มให้คนเข้าไปหาข้อมูลอยู่แล้ว ทางบริษัทบอกด้วยว่า ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม มีผู้คนมากกว่า 3 ล้านคนในสหรัฐ คลิกที่แบนเนอร์แจ้งเตือน เพื่อเข้าถึงข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ของตัวเอง
ที่มา - Engadget, Facebook |
# Digital Wellbeing ของกูเกิลเตรียมเพิ่ม Heads Up เตือนให้หยุดใช้มือถือตอนกำลังเดิน
แอป Digital Wellbeing โดยกูเกิล ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้เปิดดาวน์โหลดในไทย อัพเดตเวอร์ชั่น 1.0.342229637 เป็นเบต้า และเว็บไซต์ XDA ไปสังเกตเจอโค้ดหนึ่งที่กำลังจะเป็นฟีเจอร์ใหม่ในอนาคตคือ Heads Up ช่วยแจ้งเตือนผู้ใช้ให้หยุดใช้มือถือขณะกำลังเดิน
ในหน้าตั้งค่า Reduce Interruptions จะมองเห็นเมนู Heads Up เพิ่มขึ้นมา ในการใช้งาน ตัวแอปจะขอเข้าถึง Physical Activity และพิกัดเป็นทางเลือก เพื่อให้สามารถจับความเคลื่อนไหวได้
ที่มา - XDA Developers |
# NVIDIA เปิดตัวชิป Atlan สำหรับรถยนต์ เสนอรวมคอมพิวเตอร์ในรถเข้าด้วยกัน
NVIDIA เปิดตัว Atlan ชิปรุ่นต่อไปสำหรับรถยนต์ เป็นการอัพเกรดจากชิป Orin ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2020 แต่ยังต้องรออีกหลายปีจึงมีรถยนต์ใช้งานจริง
Atlan มีพลังประมวลผล 1,000TOPS หรือประมาณ 100 คะแนนจากการทดสอบ SPEC 2017 Integer Rate (เทียบกับซีพียู EPYC รุ่นล่าสุดได้ประมาณ 424-452 คะแนน) ภายในชิป ตัวซีพียูเป็น Grace และส่วนกราฟิกเป็น Ampere และมีส่วน BlueField สำหรับรักษาความปลอดภัย
ชิป Orin ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้จะเริ่มใช้งานใน Volvo XC90 ที่จะเปิดตัวปี 2022 ส่วน Atlan จะเริ่มส่งมอบตัวอย่างได้ในปี 2023 และน่าจะมีรถยนต์ใช้งานจริงในปี 2025
ในงานเดียวกัน Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ยังระบุว่าพลังประมวลของชิปสำหรับรถยนต์ทุกวันนี้เพียงพอสำหรับการรวมฟังก์ชั่นงานหลายด้านเข้าด้วยกัน เชน ระบบรถอัตโนมัติ, ระบบความบันเทิงในรถ, การติดตามความพร้อมของคนขับ โดยแยกแต่ละแอปพลิเคชั่นออกจากกัน โดยชิป Orin นั้นรองรับระบบปฎิบัติการทั้ง QNX, ลินุกซ์, และแอนดรอยด์อยู่แล้ว และการรันโหลดงานคนละประเภทก็สามารถแยกส่วนออกจากกันเพื่อความปลอดภัย สามารถอัพเดตแยกทีละส่วนได้โดยไม่ต้องบูตทั้งระบบ
ที่มา - NVIDIA |
# ลาก่อน Quadro, NVIDIA เปิดตัวจีพียูเวิร์คสเตชัน RTX Ampere ทั้งเดสก์ท็อป-โน้ตบุ๊ก
ปีที่แล้ว NVIDIA เปิดตัวจีพียูเกมมิ่ง GeForce สถาปัตยกรรม Ampere จนครบทุกไลน์แล้ว ระยะถัดมาจึงเป็นคิวของจีพียูเวิร์คสเตชั่นที่เราเคยรู้จักกันในชื่อ Quadro บ้าง
NVIDIA เริ่มเลิกใช้ชื่อ Quadro ทำตลาดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ของเดิมในยุค Turing ใช้ชื่อแบรนด์ NVIDIA Quadro RTX แต่พอมาเป็นยุค Ampere เหลือแต่คำว่า NVIDIA RTX เฉยๆ โดยเริ่มจาก NVIDIA RTX A6000 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2020
วันนี้ NVIDIA ออกจีพียู RTX Ampere มารวดเดียว 8 รุ่นย่อย ดังนี้
เดสก์ท็อป รองรับ PCIe Gen 4
NVIDIA RTX A5000 แรม 24GB GDDR6
NVIDIA RTX A4000 แรม 16GB GDDR6
โน้ตบุ๊ก ใช้เทคโนโลยี Max-Q รุ่นที่สาม แบบเดียวกับ GeForce RTX ซีรีส์ 30, รองรับแรมสูงสุด 16GB
NVIDIA RTX A2000
NVIDIA RTX A3000
NVIDIA RTX A4000
NVIDIA RTX A5000
เซิร์ฟเวอร์ (ไม่มีคำว่า RTX กลุ่มนี้คือแบรนด์ NVIDIA Tesla เดิมที่ตัดคำว่า Tesla ออก) เป็นรุ่นรองลงมาจาก NVIDIA A100 ที่เปิดตัวไปก่อนแล้ว
NVIDIA A10
NVIDIA A16
ที่มา - NVIDIA |
# IBM ประกาศชื่อบริษัทใหม่ Kyndryl ธุรกิจบริการ Infrastructure ที่แยกตัวเป็นอิสระ
ปีที่แล้ว IBM ประกาศแยกธุรกิจบริการ infrastructure ตั้งเป็นบริษัทใหม่ (บทวิเคราะห์ว่าทำไมจึงต้องแยก) เวลาผ่านมาประมาณครึ่งปี ในที่สุด IBM ก็ประกาศชื่อบริษัทใหม่ว่า Kyndryl
ชื่อ Kyndryl อ่านว่า "คินดริล" มาจากการผสมคำว่า "kinship" (ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน) กับ "tendril" (กิ่งก้านของไม้เลื้อย) มีความหมายว่าเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจบริการไอที
Kyndryl จะมีสถานะเป็นอิสระจาก IBM และสามารถเป็นพาร์ทเนอร์กับคู่แข่งของ IBM ได้ มีพนักงานประมาณ 90,000 คนทั่วโลก
ตามแผนคือ Kyndryl จะแยกบริษัทเสร็จสิ้นในช่วงปลายปี 2021 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครนิวยอร์ก ซีอีโอของบริษัทคือ Martin Schroeter ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นซีเอฟโอของ IBM
ที่มา - IBM |
# อินเทลยุคใหม่ เปิดรับจ้างผลิตชิปให้บริษัทอื่น กำลังคุยกับบริษัทผลิตชิปรถยนต์ที่ขาดตลาด
ต่อเนื่องจากข่าว อินเทลยุคใหม่ IDM 2.0 เปิดโรงงานรับจ้างผลิตชิปจากบริษัทข้างนอก ล่าสุด Pat Gelsinger ซีอีโออินเทลให้สัมภาษณ์ว่ากำลังเจรจากับบริษัทออกแบบชิปสำหรับรถยนต์หลายราย เพื่อนำชิปเหล่านี้มาผลิตที่โรงงานของอินเทลแล้ว
ตอนนี้ชิปสำหรับรถยนต์กำลังขาดตลาดอย่างหนัก แต่ตัวชิปเองไม่ได้ต้องการเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยสุดๆ จึงสามารถนำโรงงานเดิมมาปรับใช้ได้เร็ว โดย Gelsinger ไม่ได้ระบุว่าคุยกับบริษัทใดบ้าง แต่ตั้งเป้าว่าจะผลิตชิปสำหรับรถยนต์ให้ได้ภายใน 6-9 เดือน
แผนการ IDM 2.0 ของอินเทล สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลโจ ไบเดน ที่ต้องการนำโรงงานผลิตชิปกลับสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและการจ้างงาน ซึ่งอินเทลมีโรงงานเก่าอยู่ในอเมริกาเป็นจำนวนมาก และสามารถใช้แก้ปัญหาชิปบางประเภท (เช่น รถยนต์ในกรณีนี้) ขาดตลาดได้ไม่ยากนัก
ที่มา - Reuters, ภาพ Pat Gelsinger จาก Intel |
# AWS เปิดตัวโครงการ OpenSearch แยกจาก Elasticsearch อย่างเป็นทางการ
AWS เปิดตัวโครงการ OpenSearch โครงการแยกจาก Elasticsearch ที่เปลี่ยนสัญญาอนุญาตเพื่อจำกัดการใช้งานแบบให้บริการคลาวด์ พร้อมกับยุบรวมโครงการ Open Distro for Elasticsearch (ODfE) เข้ามารวมกัน
โครงการ OpenSearch ใช้ซอร์สโค้ด Elasticsearch 7.10.2 เป็นฐาน และ OpenSearch Dashboard ใช้ Kibana 7.10.2 เป็นฐาน
แนวทางของ Elastic (ชื่อบริษัท) ที่พยายามทำรายได้จาก Elasticsearch ทำให้ขัดแย้งกับบริษัทอื่นๆ ที่นำ Elasticsearch ไปเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าหรือบริการมานาน โดย Elastic เลือกเก็บฟีเจอร์สำคัญๆ เช่น การเข้ารหัสข้อมูลเอาไว้เป็นฟีเจอร์ส่วนปิดซอร์ส ทำให้ก่อนหน้านี้ AWS แก้เกมด้วยการเปิดโครงการ ODfE รวมเอาปลั๊กอินที่เพิ่มฟีเจอร์ที่ Elastic เคยเก็บไว้ขายให้ใช้งานได้ฟรีจนกระทั่ง Elastic ตัดสินใจเปลี่ยนสัญญาอนุญาต Elasticsearch ไปทั้งโครงการ
นอกจาก AWS แล้ว Logz.io ที่เคยประกาศพัฒนาโครงการ Elasticsearch แยกก็ประกาศร่วมมือกับ AWS พร้อมๆ กับ Red Hat, SAP, Capital One
ตอนนี้โครงการ OpenSearch และ OpenSearch Dashboard ชุดเริ่มต้นอยู่บน GitHub แล้ว โดยชุดแรกเป็นเพียงการตัดฟีเจอร์ปิดซอร์สของ Elasticsearch ออกไป และลบชื่อการค้าของ Elastic ออก (แพ็กเกจเปลี่ยนชื่อเป็น org.opensearch.* แล้ว) แต่กระบวนการทดสอบยังไม่เรียบร้อย คาดว่าจะออกเวอร์ชั่นเบต้าได้ในอีกไม่นานนัก และออกเวอร์ชั่นพร้อมใช้งานในกลางปีนี้
สำหรับบริการ Amazon Elasticsearch Service จะเปลี่ยนชื่อเป็น Amazon OpenSearch Service และจะซัพพอร์ต Elasticsearch ต่อไปจนถึง 7.10 และเปลี่ยนไปซัพพอร์ต OpenSearch หลังจากนั้น
ที่มา - AWS Blog, Logz.io |
# ลาก่อน x86, NVIDIA เปิดตัวซีพียู Grace เร่งความเร็วซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้สิบเท่า
NVIDIA เปิดตัวซีพียู Grace เป็นซีพียู Arm Neoverse ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับชิปกราฟิกอย่างแนบแน่นเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดย NVIDIA ระบุว่าสถาปัตยกรรมของ Grace จะทำให้รันงานด้านปัญญาประดิษฐ์เร็วกว่าเดิมถึงสิบเท่า
Grace เชื่อมต่อกับชิปกราฟิกผ่าน NVLink รุ่นที่ 4 มีแบนวิดท์ระหว่างสองชิป 900GB/s และใช้แรม LPDDR5x สถาปัตยกรรมใหม่ใช่หน่วยความจำเป็น address space ร่วมกันกับกราฟิก
Swiss National Computing Center (CSCS) กำลังสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ALPS โดยใช้ซีพียู Grace สร้างโดย HPE คาดว่าเปิดใช้งานปี 2023 และ Los Alamos National Laboratory ศูนย์วิจัยกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ผู้ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับต้นๆ ของโลกก็วางแผนสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่โดยใช้ Grace เช่นกัน
ที่มา - NVIDIA |
# NVIDIA เปิดตัว cuQuantum SDK ชุดจำลองการทำงานคอมพิวเตอร์ควันตัม
NVIDIA เปิดตัว cuQuantum SDK ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับจำลองการทำงานคอมพิวเตอร์ควันตัมบนชิปกราฟิก
ตัว SDK มีตัวเลือกแนวทางการจำลองคอมพิวเตอร์ควันตัม เช่น แบบ state vector จะได้ผลที่แม่นยำแต่เปลืองหน่วยความจำมาก ทำให้จำลองคอมพิวเตอร์ควันตัมได้ประมาณ 50 qubit บนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ และแบบ tensor network simulations ที่ใช้หน่วยความจำน้อยกว่าแต่อาศัยการประมวลผลมากกว่า แนวทางนี้ทำให้ทำให้ NVIDIA สามารถจำลองชิป Google Sycamore ชิปตัวแรกที่ผ่านระดับ Quantum Supremacy บนคอมพิวเตอร์ Selene ที่วงจรความลึก 20 ชั้น ได้ในเวลาไม่ถึงสิบนาที
cuQuantum SDK เปิดให้นักวิจัยแสดงความสนใจนำไปใช้งานได้แล้ววันนี้ (ลิงก์ขณะเขียนข่าวยังใช้ไม่ได้)
ที่มา - NVIDIA
ชิป Google Sycamore ที่ NVIDIA จำลองการทำงาน |
# NVIDIA เปิดตัว Omniverse Enterprise เซิร์ฟเวอร์โลกเสมือนสำหรับองค์กร
ที่งาน GTC2021 วันนี้ NVIDIA เปิดตัว NVIDIA Omniverse Enterprise แพลตฟอร์มจำลองโลกความเป็นจริง หลังจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา NVIDIA ปล่อยแพลตฟอร์มนี้ให้นักพัฒนาทดสอบไปก่อนแล้ว
องค์กรขนาดใหญ่ใช้ Omniverse สำหรับการจำลอง (digital twin) เพื่อปรับแต่งการทำงาน ลูกค้าที่ทดลองใช้ Omniverse แล้วเช่น BMW Group สร้างโรงงานจำลองจากโรงงานจริง 31 แห่ง เพื่อปรับแต่งโรงงาน, ฝึกหุ่นยนต์สำหรับใช้งานในโรงงาน, และการทำนายการซ่อมบำรุงล่วงหน้า หรือ Ericsson ใช้ Omniverse จำลองโครงสร้าง 5G
NVIDIA เปิดให้องค์กรที่สนใจสมัครสมาชิกใช้งาน NVIDIA Omniverse Enterprise ได้แล้ว
ที่มา - NVIDIA |
# Uber เผย ยอดเรียกรถในสหรัฐฯ กลับมาสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 ระบาดแล้ว
Uber เผยว่าตอนนี้ธุรกิจการเดินทาง (mobility) ของบริษัทในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาสู่จุดสูงสุดอีกครั้งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางการทยอยฉีดวัคซีนและผ่อนคลายกิจการต่าง ๆ ภายในประเทศเพื่อพยายามกลับสู่สถานการณ์ปกติของสหรัฐฯ
Uber เผยกับสำนักข่าว WSJ ว่า ตอนนี้ยอดเรียกรถในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาถือว่ากลับมาสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้จุดสูงสุดคือเดือนมีนาคมปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในสหรัฐฯ จนต้องล็อกดาวน์ในหลายเมือง เป็นสัญญาณว่าการเดินทางในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาแล้ว หลังจากที่รัฐบาลกลางเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนในหลายรัฐ
ในขณะที่ฝั่งธุรกิจส่งอาหารของ Uber ก็ยังคงทำผลงานได้ดี โดยทางบริษัทเผยกับ WSJ ว่าดีมานด์ของ Uber Eats ยังคงมีสูงกว่าจำนวนผู้ให้บริการบนแพลตฟอร์ม
Uber มีกำหนดออกรายงานประจำไตรมาสในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่การเผยข้อมูลก่อนส่วนหนึ่งคาดว่าเพื่อดึงดูดคนขับรถบนแพลตฟอร์มให้กลับมาทำงาน เนื่องจากช่วงการระบาดที่ผ่านมาทำให้คนขับรถบนแพลตฟอร์มทั้ง Uber และ Lyft หายไปจนต้องจูงใจด้วยการอัดฉีดเงิน เพราะทั้งสองแพลตฟอร์มต่างก็ประสบปัญหาคนต้องการใช้บริการจำนวนมากกว่าคนขับที่พร้อมให้บริการบนแพลตฟอร์ม
ที่มา - Engadget, WSJ
ภาพจาก Uber |
# [แก้ไขแล้ว] Google Drive พบปัญหาการใช้งานบางส่วน อาจสร้างเอกสารใหม่ใน Docs, Sheets, Slides ไม่ได้
กูเกิลรายงานปัญหาใน Google Drive ที่ส่งผลต่อการใช้งานบางส่วน โดยส่วนที่กระทบหลักคือบริการ Google Docs, Google Sheets และ Google Slides ไม่สามารถสร้างเอกสารใหม่ได้ แต่ยังสามารถเข้าถึงและดูเอกสารได้ตามปกติ
ในหน้ารายงานสถานะของบริการกูเกิล ระบุว่าผู้ใช้งานทั้ง 4 บริการดังกล่าว อาจพบข้อความ error หรือใช้เวลาในการตอบสนองนาน หรืออาจพบการทำงานที่ไม่คาดหมายอื่น ๆ
ปัญหาดังกล่าวกูเกิลเริ่มรายงานตั้งแต่เวลา 20.36น.
อัพเดต: ปัญหาทั้งหมดได้รับการแก้ไขตั้งแต่เวลา 23.20น.
ที่มา: 9to5Google |
# Microsoft ประกาศเข้าซื้อกิจการ Nuance อย่างเป็นทางการ มูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์
เป็นไปตามข่าวที่ออกมาในตอนเช้า ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศอย่างเป็นทางการ ว่าได้บรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการทั้งหมดของ Nuance Communications ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาซอฟต์แวร์สั่งงานด้วยเสียง ที่ราคา 56 ดอลลาร์ต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 23% จากราคาหุ้น Nuance เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าดีลรวมทั้งหมด 19,700 ล้านดอลลาร์ (รวมหนี้สินของ Nuance ด้วย) โดยดีลนี้ไมโครซอฟท์จะชำระเป็นเงินสดทั้งหมด
Satya Nadella ซีอีโอของไมโครซอฟท์กล่าวถึงดีลดังกล่าวว่า Nuance เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI สำหรับวงการสุขภาพ และเป็นผู้นำใน API เทคโนโลยีดังกล่าวสำหรับลูกค้าองค์กร ในเวลานี้ AI เป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญลำดับต้น ๆ ขณะที่วงการสุขภาพต่างต้องการแอพพลิเคชันใหม่อย่างเร่งด่วน เมื่อรวมสิ่งเหล่านี้ เราสามารถนำเสนอโซลูชัน AI ให้กับผู้เชี่ยวชาญในทุกแห่ง เพื่อสร้างเครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจ และเชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น สร้างการเติบโตให้ Microsoft Cloud สำหรับวงการสุขภาพและ Nuance
Mark Benjamin ซีอีโอของ Nuance จะยังเป็นซีอีโอต่อไป โดย Nuance จะเป็นแผนภายใต้กลุ่มธุรกิจคลาวด์และ AI ของไมโครซอฟท์
ที่มา: ไมโครซอฟท์ |
# [ลือ] แอปเปิลยังเปิดตัว iPad Pro พร้อมกันสองขนาด เดือนเมษายนนี้ แต่อาจขายรุ่น 12.9 นิ้ว จอ MiniLED ช้ากว่ารุ่น 11 นิ้ว
หลัง Bloomberg รายงานเมื่อเดือนก่อนว่า Apple เตรียมเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่สองขนาดพร้อมกันคือ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้วภายในเดือนเมษายน ล่าสุดมีข้อมูลอัพเดตว่า Apple กำลังประสบปัญหาการผลิตจอ MiniLED ที่จะนำมาใช้บนรุ่น 12.9 นิ้ว ทำให้น่าสงสัยว่าแอปเปิลจะยังเดินหน้าเปิดตัวตามกำหนดเดิมหรือไม่ แต่แหล่งข่าวก็ยืนยันกับ Bloomberg ว่าแอปเปิลจะยังเดินหน้างานเปิดตัวต่อไป แค่อาจเลื่อนการจำหน่ายรุ่น 12.9 นิ้วออกไปก่อน (คล้ายตอน iPhone 12 Mini และ 12 Pro Max)
แหล่งข่าวไม่เปิดเผยที่มาของ Bloomberg ระบุว่าผู้ผลิต MiniLED ให้ Apple เช่น Ennostar Inc., General Interface Solution Holding Ltd. และ Taiwan Surface Mounting Technology Corp. กำลังประสบปัญหาผลิตหน้าจอได้น้อย (poor manufacturing yields) จนทำให้ผู้ผลิตอย่างน้อยหนึ่งรายต้องหยุดการผลิตให้กับ Apple ชั่วคราว
หน้าจอ MiniLED ที่ Apple เตรียมนำมาใช้กับ iPad Pro ขนาด 12.9 นิ้วรุ่นใหม่นี้ เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ได้ใช้เม็ดพิกเซลส่องแสงได้เองแบบ OLED หรือ AMOLED แต่เป็นการลดขนาดไฟ LED ที่ให้ความสว่างกับแผง LCD ให้เหลือขนาดเล็กกว่า 0.2 มิลลิเมตร และมีจำนวนมากขึ้น ทำให้การลดแสงเฉพาะบางบริเวณ (local dimming) และลดอาการแสงรั่ว (bleed) ทำได้ดีขึ้น ภาพที่ได้จึงมีสีดำที่ดำสนิทขึ้น และสีขาวสว่างได้มากกว่าเดิม
ที่มา - Bloomberg |
# กูเกิลและแอปเปิลบล็อคอัพเดตแอปติดตามโควิดของอังกฤษ หลังพยายามให้ผู้ใช้เช็คอินก่อนเข้าร้านค้า
กูเกิลและแอปเปิลร่วมกันบล็อคการอัพเดตแอป NHS COVID-19 ที่ใช้สอบสวนโรค (contact tracing) COVID-19 หลังจากทาง NHS เพิ่มฟีเจอร์สแกน QR หน้าร้านค้าต่างๆ เข้าไปในแอป ทำให้แอปทำผิดข้อตกลงการใช้งานฟีเจอร์ Exposure Notification API
แอปเปิลและกูเกิลเปิดฟีเจอร์ Exposure Notification API ให้รัฐบาลหลายชาติใช้งาน โดยมีจุดเด่นสำคัญคือ API นี้จะเปิดทางให้แอปสามารถแลกเปลี่ยนแพ็กเก็ต Bluetooth กับโทรศัพท์ที่อยู่ใกล้กันได้แม้จะไม่ได้เปิดแอปทำงานบนหน้าจอ (foreground) ก็ตาม อย่างไรก็ดีทั้งสองบริษัทห้ามไม่ให้หน่วยงานที่ใช้งาน API นี้เก็บข้อมูลพิกัดผู้ใช้จากช่องทางอื่นๆ ลงในแอปอีก เมื่อแอป NHS COVID-19 พยายามเพิ่มฟีเจอร์นี้จึงกลายเป็นการละเมิดข้อตกลงไป
ตอนนี้ NHS COVID-19 ใช้งานในอังกฤษและเวลส์ ส่วนสก็อตแลนด์นั้นใช้แอปของตัวเอง และเมื่อต้องการให้ประชาชนเช็คอินจุดที่ใช้บริการก็แยกแอป Check In Scotland ออกจากแอป Protect Scotland เพื่อไม่ให้ละเมิดข้อตกลงกับกูเกิลและแอปเปิล
NHS เคยพยายามพัฒนาแอปสอบสวนโรคโดยไม่พึ่ง Exposure Notification API มาก่อน แต่กลับพบว่าได้ข้อมูลจำกัดมากจนใช้งานจริงไม่ได้ และต้องเปลี่ยนแนวทางในที่สุด
ที่มา - BBC
ภาพโดย JESHOOTS-com |
# Espressif เปิดตัวชิป ESP32-C6 ซีพียู RISC-V พร้อม Wi-Fi 6 2.4GHz
Espressif เปิดตัวชิปอุปกรณ์ IoT รุ่นใหม่ในชื่อรุ่น ESP32-C6 จุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้คือการรองรับ Wi-Fi 6 หรือ 802.11ax ที่มีประสิทธิภาพการใช้แถบความถี่ต่อแบนวิดท์สูงมาก แต่ยังรองรับเฉพาะย่าน 2.4GHz เท่านั้น
ตัวซีพียูภายในเป็น RISC-V 32 บิตคอร์เดี่ยว สัญญาณนาฬิกา 160MHz พร้อมแรม 400KB และรอม 384KB ขา GPIO 22 ขา, ชุดวงจรเข้ารหัส เร่งความเร็วได้ทั้ง SHA, AES, HMAC, และ RSA รวมถึงการสร้างค่าสุ่ม
ฟีเจอร์สำคัญของ 802.11ax คือการตั้งเวลาตื่นมารับส่งข้อมูลล่วงหน้า (Target Wake Time - TWT) ทำให้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานลงมาก หาก access point รองรับฟีเจอร์นี้เหมือนกัน ตัวอุปกรณ์ IoT ก็สามารถทำงานด้วยแบตเตอรี่นานนับปี
ที่มา - Espressif |
# รัฐบาลไบเดน ของบผลักดันโรงงานผลิตชิปในอเมริกา แก้ปัญหาชิปขาดตลาด
รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยื่นของบประมาณปี 2022 ต่อรัฐสภา โดยส่วนหนึ่งในแผนมีงบประมาณเพื่อศึกษาการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกา แก้ปัญหาชิปขาดตลาดและปัญหาเรื่องความมั่นคงด้วย
งบประมาณส่วนนี้ 150 ล้านดอลลาร์ อยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ (Department of Commerce) เพื่อย้ายฐานการผลิตกลับอเมริกา (a Future Made in America) โดยจะตั้งสถาบันนวัตกรรมการผลิต (Manufacturing Innovation Institutes หรือ MII) ขึ้นมาใหม่ 2 แห่ง ในแผนระบุว่า MII หนึ่งแห่งจะโฟกัสที่เรื่องการทำให้สหรัฐกลับมาเป็นผู้นำด้านการออกแบบและผลิตเซมิคอนดักเตอร์อีกครั้ง
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าสถาบัน MII แห่งนี้จะทำอะไรบ้าง และต้องรอรัฐสภาเห็นชอบแผนงบประมาณนี้ก่อนด้วย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังนัดประชุมกับบรรดาซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยี เพื่อหารือเรื่องการแก้ปัญหาชิปขาดตลาด ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตหลากหลายประเภท รวมถึงรถยนต์ด้วย
ที่มา - Whitehouse (PDF), The Verge, ภาพจาก @whitehouse |
# SIE รับสมัคร Head of Mobile คาดเตรียมนำแฟรนไชส์ดังจาก PlayStation ลงมือถือ
Sony Interactive Entertainment บริษัทพัฒนาเกมฝั่ง PlayStation ประกาศรับสมัครงานตำแหน่ง Head of Mobile หรือหัวหน้าทีมเกมมือถือ โดยในคำอธิบายหน้าที่ มีระบุไว้ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนี้จะได้ดูแลการขยายขอบเขตการพัฒนาเกมจากคอนโซลและพีซี มายังมือถือและบริการแบบ Live Service และโฟกัสที่การนำแฟรนไชส์โด่งดังที่สุดของ PlayStation มาอยู่บนมือถือ ภายในช่วง 3-5 ปีนี้ แปลว่าเราอาจเห็นเกมตระกูล Horizon, God of War, Uncharted หรือแม้แต่ The Last of Us บนมือถือได้มากขึ้นในอนาคต
ปัจจุบัน Sony มีบริษัทลูกชื่อ PlayStation Mobile, Inc. อยู่แล้ว โดยเป็นผู้ดูแลการนำแอพ PlayStation, PS Remote Play และเคยวางจำหน่ายเกมเล็กๆ อย่าง Run Sackboy! Run! แนววิ่งเก็บเหรียญหรือ Uncharted: Fortune Hunter แนว puzzle บนมือถือมาก่อนแล้ว
นอกจากนี้ PlayStation Mobile, Inc. ยังถูกระบุเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายของเกมจากสตูดิโอในสังกัด PlayStation ที่ถูกพอร์ตไปลง PC เช่น Horizon Zero Dawn และ Days Gone อีกด้วย
ไม่น่าแปลกใจหาก Sony จะสนใจตลาดเกมมือถือ เพราะมีความเป็นไปได้ที่หนึ่งครัวเรือนจะมีมือถือหลายเครื่อง ในขณะที่มีคอนโซลหรือเกมมิ่งพีซีแค่เครื่องเดียว ทำให้ตลาดเกมมือถือมีขนาดใหญ่กว่าคอนโซล และล่าสุดผลประกอบการของบริษัท TiMi ผู้สร้างเกม RoV และ Call of Duty: Mobile ที่เป็นเกมมือถือล้วนๆ ยังทำเงินได้ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2020 แซงหน้า Activision Blizzard ไปแล้วอีกด้วย
ที่มา - Sony Job Application via Eurogamer |
# [ใช้งานได้แล้ว] LINE ล่ม ส่งข้อความไม่ได้ ตั้งแต่หลังเที่ยงครึ่ง
ตอนนี้ผู้ใช้งานแอปพลิกเคชั่น LINE ไม่สามารถส่งข้อความได้ตั้งแต่หลังเที่ยงครึ่ง พร้อมมีแฮชแท็ก #ไลน์ล่ม ขึ้นเทรนด์ โดยทวิตเตอร์ Thairath_News พบรายงานจากผู้ใช้ว่าล่มตั้งแต่ช่วง 12.32 น. ส่วนทวิตเตอร์ จส.100 (@JS100) พบปัญหาตั้งแต่ช่วง 13.21 น. ปัจจุบันยังไม่สามารถส่งข้อความได้ และยังไม่มีข้อชี้แจงจากทีมงาน LINE Thailand
[อัพเดต] ปัจจุบันเวลา 14.10 ใช้งานได้แล้ว
[อัพเดต 2] 14.49 น. ทวิตเตอร์ LINE Thailand ชี้แจงว่าเป็นเหตุขัดข้องบนเน็ตเวิร์ค |
# ยอดขายพีซีไตรมาส 1/2021 เติบโตถึง 55% แม้ชิปขาดตลาด แชมป์ยังเป็น Lenovo
IDC เผยสถิติยอดขายพีซีประจำไตรมาส 1/2021 จำนวนรวม 83.9 ล้านเครื่อง เติบโตถึง 55.2% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2020 แต่ถ้าเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (4/2020) ลดลงเล็กน้อยราว 8%
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายพีซีเติบโต มาจากความต้องการใช้งานพีซีที่เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง แม้ต้องเจอกับภาวะชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขาดแคลนก็ตาม ผลคือพีซียังขายดี และราคาเฉลี่ย (average selling price) เพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะตลาดเกมมิ่ง
ผู้ผลิตพีซีทุกรายล้วนมียอดขายเติบโตกันถ้วนหน้า อันดับหนึ่งยังเป็นของ Lenovo ที่ส่วนแบ่ง 24.3% อันดับสองตามมาติดๆ ด้วย HP ที่ 22.9% ส่วนอันดับที่เหลือคือ Dell, Apple, Acer ตามลำดับ
ที่มา - IDC |
# iPhone 11 Pro ที่โลโก้ด้านหลังเบี้ยว แต่หลุดคิวซีถึงมือลูกค้า ถูกขายต่อด้วยราคาสูงถึง 2,700 ดอลลาร์
Internal Archive แอคเคาท์ทวิตเตอร์ที่คอยรวบรวมภาพอุปกรณ์ต้นแบบจาก Apple ทวิตรูปภาพ iPhone 11 Pro ที่รูปโลโก้ Apple ด้านหลัง เอียงไปทางขวามากกว่าปกติจากข้อผิดพลาดในการผลิต แต่หลุดไปถึงมือลูกค้า ซึ่งเกิดขึ้นได้ยากมาก ราว 1 ใน 100 ล้านเครื่อง หรือยากกว่านั้น
Internal Archive ยังระบุว่าเครื่องที่ผลิตผิดพลาดเครื่องนี้ถูกขายต่อไปด้วยราคา 2,700 เหรียญ หรือราว 85,100 บาท เนื่องจากเป็น iPhone รุ่นหายากอีกด้วย แต่ไม่มีข้อมูลว่าใครเป็นเจ้าของ iPhone เครื่องนี้และใครเป็นผู้ซื้อไป
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อุปกรณ์ Apple ที่มีข้อผิดพลาดในการผลิต หลุดออกไปจนถึงมือลูกค้า เพราะเมื่อปี 2015 ก็มี iPad Pro สีเงิน ที่ได้วงแหวน Touch ID สีทอง ที่ปกติจะอยู่บนเครื่องสีทองไปด้วย แต่ข้อผิดพลาดเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้ยากมาก อีกทั้งยังอาจจะสามารถทำเงินมหาศาลให้กับผู้ที่นำไปขายต่อใน eBay หรือที่อื่นได้อีกด้วย เพราะถือเป็นของหายาก
ที่มา - Internal Archive via 9to5Mac |
# แรงงานแพ้ผลโหวต ไม่สามารถจัดตั้งสหภาพแรงงาน Amazon ในแอละบามาได้
สัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญในวงการแรงงานบริษัทเทคโนโลยี คือการโหวตตั้งสหภาพแรงงาน Amazon ในแอละบามา ซึ่งจะถือเป็นสหภาพแห่งแรกของ Amazon ในสหรัฐฯ แต่ปรากฏว่าผลโหวตนั้นไม่สามารถจัดตั้งสหภาพได้ โดยผลโหวตค้านจัดตั้งมี 1,798 คะแนน ส่วนคะแนนโหวตที่สนับสนุนให้จัดตั้งมี 1,608 คะแนน ด้าน Amazon ออกมาบอกว่ามีพนักงานน้อยกว่า 16% ที่โหวตสนับสนุน
สหภาพการค้าปลีกค้าส่งและห้างสรรพสินค้า หรือ The Retail, Wholesale and Department Store Union (RWDSU) ซึ่งอยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนของสหภาพแรงงานในครั้งนี้ ประกาศจะยื่นคำร้องคัดค้านและตั้งข้อหาการปฏิบัติด้านแรงงานที่ไม่เป็นธรรมของ Amazon
ตั้งแต่ช่วงโรคระบาด Amazon โดนตั้งคำถามหนักขึ้นถึงสภาวะความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานด่านหน้า สภาวะปลอดเชื้อ (Amazon เผยตัวเลขมีพนักงานติดเชื้อ COVID-19 20,000 คน) และระยะเวลาการพักผ่อนระหว่างงานที่เพียงพอ นอกจากนี้ยังมีข่าวเรื่องพนักงานต้องปัสสาวะใส่ขวดเพราะไม่มีเวลาพักมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ
ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงตึงเครียดระหว่าง Amazon และกลุ่มเคลื่อนไหวแรงงาน มีรายงานข่าวว่า Amazon พยายามกดดันพนักงานไม่ให้โหวตตั้งสหภาพแรงงาน เช่น แปะข้อความชี้นำในห้องน้ำพนักงาน ตามส่วนต่างๆ ของโกดัง ติดตั้งกล่องไปรษณีย์ที่ไม่ระบุชื่อไว้ในระหว่างการโหวต (การโหวตครั้งนี้ทำผ่านไปรษณีย์) ซึ่งจะทำให้พนักงานเข้าใจว่า Amazon จะนับผลโหวตในกล่องนี้ด้วย และมีเว็บไซต์ที่ส่งถึงพนักงานระบุว่า พนักงานต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้รัฐแอละบามา
Amazon บอกว่ากล่องจดหมายเป็นวิธีที่สะดวกสำหรับพนักงานในการลงคะแนน และเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์เพื่อการศึกษาที่ช่วยให้พนักงานเข้าใจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเข้าร่วมสหภาพแรงงาน
ภาพตู้ขนสินค้า Amazon
หลังผลโหวตออกมา Amazon ก็แถลงการณ์ว่าที่ผ่านมา Amazon ช่วยสร้างงานใหม่ 500,000 ตำแหน่งตั้งแต่ COVID-19 เริ่มต้นขึ้น มีชาวอเมริกัน 40 ล้านคนที่ทำรายได้น้อยกว่าค่าจ้างเริ่มต้นที่ Amazon นอกจากนี้ Amazon ก็เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงแล้ว
การโหวตครั้งนี้ ดึงดูดความสนใจนักการเมือง ดารา และแม้แต่ประธานาธิบดี โจ ไบเดนเอง โดยเขาประกาศสนับสนุนการต่อสู้ของแรงงานในครั้งนี้ด้วย เขาไม่ได้พูดถึงชื่อบริษัทโดยตรง แต่พูดถึงการขับเคลื่อนในแอละบามา ว่าสิทธิ์ในการเข้าร่วมและจัดตั้งสหภาพแรงงาน เป็นของแรงงาน ไม่ใช่ของบริษัท
ที่มา - Washington Post, Amazon |
# ข้อมูลผู้ใช้ Clubhouse ราว 1.3 ล้านราย ถูกเผยบนฟอรั่มแฮกเกอร์ เช่น ชื่อ ลิงค์โซเชียล
Cyber News รายงานเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ข้อมูลส่วนบุคคลใน Clubhouse ราว 1.3 ล้านคน ถูกเผยให้เห็นบนฟอรั่มของแฮ็กเกอร์ ข้อมูลได้แก่ ชื่อ ลิงค์บัญชีโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับผู้ใช้ และชื่อผู้ใช้ที่ได้รับเชิญให้เข้ามาเล่น Clubhouse
ด้าน Clubhouse แจงว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด และชี้ว่าที่สื่อนำเสนอข่าวนั้นทำให้เข้าใจผิด Clubhouse ไม่ได้ถูกละเมิดหรือถูกแฮ็ก ข้อมูลที่สื่ออ้างถึงเป็นข้อมูลโปรไฟล์สาธารณะ ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปหรือ API
อย่างไรก็ตาม ยังต้องตั้งคำถามว่า แม้ในทางเทคนิค สิ่งที่ Clubhouse ชี้แจงนั้นถูกต้อง แต่ข้อมูลชื่อ และ username ต่างๆ กลายเป็นข้อมูลที่ค้นหาได้ (Searchable) ไปแล้ว และยังทำให้เกิดคำถามว่า เหตุใดข้อมูลทั้งหมดจึงรวมอยู่ใน API ของ Clubhouse ได้ ทั้งที่ข้อมูลชื่อจริงน่าจะเป็นข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัยกว่านี้
อ่านบทความย้อนหลัง 4 ประเด็นความเป็นส่วนตัวควรรู้กับการเล่นแอป Clubhouse
ที่มา - Mashable |
# กูเกิลหยุดให้บริการแอป Google Shopping เพราะทุกอย่างทำได้หมดแล้วบนแท็บ Shopping
กูเกิลมีแอปพลิเคชั่นเพื่อการช็อปปิ้งบนมือถือด้วยคือ Google Shopping ซึ่งรีแบรนด์มาจาก Google Express บริการส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน แต่ล่าสุด กูเกิลจะหยุดให้บริการแอปพลิเคชั่นนี้แล้ว เพราะประสบการณ์การซื้อของหาสินค้า ผู้ใช้งานสามารถทำได้บนแท็บ Shopping จาก Google Search อยู่แล้ว
ผู้ใช้งานบางส่วนสังเกตเห็นข้อความหลังอัพเดตแอป ระบุว่า แอปไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้ แต่คุณสามารถซื้อสินค้าต่อได้ที่ shopping.google.com
Google ระบุเพิ่มด้วยว่า ที่หยุดให้บริการเพราะกูเกิลได้ขยายฟังก์ชันการช็อปปิ้งใน Search, Image Search และ YouTube และจะขยายความสามารถเรื่องการช็อปปิ้งในแท็บ Shopping และส่วนอื่นๆ ของกูเกิลต่อไป เพื่อให้ผู้ใช้งานเจอสินค้าง่ายขึ้น
ที่มา - 9to5Google |
# [ลือ] Microsoft เตรียมซื้อกิจการ Nuance ที่มูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์
มีรายงานว่าไมโครซอฟท์ใกล้ปิดการเจรจา เพื่อเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ Nuance หรือ Nuance Communications บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สั่งงานด้วยเสียง ด้วยมูลค่าดีล 16,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งดีลอาจประกาศเป็นทางการภายในวันนี้
ทั้งนี้ Nuance เป็นบริษัทอยู่ในตลาดหุ้น และราคาที่มีรายงานว่าไมโครซอฟท์เสนอซื้อคือ 56 ดอลลาร์ต่อหุ้น จึงเป็นที่มาของตัวเลข 16,000 ล้านดอลลาร์นั่นเอง
Nuance เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สั่งงานด้วยเสียง ซึ่งมีส่วนร่วมสนับสนุนเทคโนโลยีใน Siri ช่วงเปิดตัว ขณะที่บริการสั่งงานด้วยเสียงของบริษัทมีฐานลูกค้าในหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่กลุ่มสุขภาพ ไปจนถึงยานยนต์
หากดีลนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ จะเป็นดีลซื้อกิจการขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของไมโครซอฟท์ รองจาก LinkedIn (26,200 ล้านดอลลาร์)
ที่มา: CNBC |
# ไมโครซอฟท์โชว์ความคืบหน้า Age of Empires IV ก่อนขายจริงปลายปี 2021
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Age of Empires IV มาตั้งแต่ปี 2017 หลังพัฒนาเกมมานาน 4 ปี เกมมีกำหนดวางขายช่วงฤดูใบไม้ร่วงปลายปี 2021 นี้
การพัฒนา Age of Empires IV เป็นความรับผิดชอบของ Relic Entertainment ที่สร้างชื่อมาจากซีรีส์ Homeworld, Warhammer Dawn of War และ Company of Heroes ล่าสุดทีมของ Relic และไมโครซอฟท์ออกมาอัพเดตความคืบหน้าของเกมหลายอย่าง
เริ่มจากคลิปโชว์เกมเพลย์ของจริง ที่แสดงให้เห็นภาพจากเอนจินเกมจริงๆ ในแต่ละยุคของอารยธรรม จากคลิปเราจะเห็นว่ารายละเอียดของเกมภาค IV โดยเฉพาะสิ่งปลูกสร้างมีเยอะขึ้นกว่าเกมภาคก่อนๆ มาก (แม้รูปแบบเกมเพลย์ยังคงเหมือนเดิม)
นอกจากสงครามทางบกแล้วยังมีสงครามทางน้ำ ที่มีทีเซอร์ของสงครามกองเรือให้ดูสั้นๆ
โหมดแคมเปญ (เนื้อเรื่อง) ที่นำมาโชว์คือ Norman Campaign ที่จับประวัติศาสตร์ยุคกษัตริย์ William the Conqueror ที่ข้ามทะเลจากฝรั่งเศสไปบุกยึดเกาะอังกฤษ แสดงให้เห็นการรบขนาดใหญ่ในยุคกลาง ที่เน้นการบุกตีปราสาทด้วย (เกมมีแคมเปญทั้งหมด 4 เรื่อง)
สุดท้ายเป็นตัวอย่างชนเผ่าใหม่อีก 2 เผ่าคือ Delhi Sultanate (อินเดีย) และจีน
ที่มา - Xbox |
# PowerToys ได้รับอัพเดต เพิ่มคีย์ลัดสลับเลย์เอาต์ FancyZones, ประกาศปรับ Windows 10 ขั้นต่ำเป็น v1903
ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตเวอร์ชัน 0.35 ให้กับ PowerToys ชุดโปรแกรมอรรถประโยชน์บน Windows 10 มาพร้อมกับของใหม่ที่น่าสนใจอย่างการปรับปรุง FancyZones ฟีเจอร์ที่เปิดให้ผู้ใช้งาน Windows สามารถแบ่งโซนบนหน้าจอได้ตามใจชอบ ให้รองรับการสลับเลย์เอาต์อย่างรวดเร็วผ่านการกดคีย์ลัด
ทำให้ผู้ใช้ที่ตั้งค่าแบ่งโซนหน้าจอไว้ล่วงหน้าหลายๆ แบบ สามารถผูกเลย์เอาต์ที่ใช้บ่อยเข้ากับคีย์ "Ctrl + Win + Alt + หมายเลข" เพื่อความสะดวกในการปรับเปลี่ยนการแบ่งโซนหน้าจอตามการใช้งานในขณะนั้น ไม่ต้องคอยเข้า PowerToys เพื่อตั้งค่าใหม่อย่างแต่ก่อน
ภาพตัวอย่างการตั้งค่าผูกคีย์ลัดกับเลย์เอาต์ของ FancyZones จากเว็บ Microsoft Docs
การปรับปรุงในส่วนอื่นๆ นอกเหนือจาการแก้ไขบั๊กพอสรุปได้ดังนี้
PowerToys Run
เพิ่มตัวเลือกตั้งค่ามอนิเตอร์ที่ต้องการให้แสดงผล (เช่นเลือกแสดงผลที่มอนิเตอร์หลักเสมอ หรือ เลือกมอนิเตอร์ที่ผู้ใช้วางเมาส์เคอร์เซอร์ไว้)
เพิ่มปลั๊กอินรองรับการค้นหา/เปิด workspace ของ Visual Studio Code ที่ผู้ใช้เคยเรียกใช้งาน (ปลั๊กอินจะถูกปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น หากเปิดใช้งานแล้วผู้ใช้จะสามารถพิมพ์เครื่องหมาย { เพื่อเรียกดูประวัติการใช้ workspace ได้)
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังได้ประกาศปรับเวอร์ชัน Windows 10 ขั้นต่ำที่สามารถรัน PowerToys เป็น v1903 โดยจะเริ่มบังคับใช้ใน PowerToys เวอร์ชันที่ใหม่กว่า 0.35.x (หมายความว่านี่อาจจะเป็น PowerToys อัพเดตสุดท้ายที่ Windows 10 เวอร์ชันเก่าใช้งานได้)
โดยยังมีความเป็นไปได้ว่าจะกลับมารองรับการใช้งานบน Windows 10 เวอร์ชันเก่าอีกครั้งในอนาคต เมื่อทีมพัฒนาได้ปรับ UI ของ PowerToys ไปใช้ WinUI 3.0 เป็นที่เรียบร้อย
ท่านใดสนใจเข้าไปดาวน์โหลดตัวติดตั้ง PowerToys (ยังเป็นเวอร์ชันทดลอง) ได้จากหน้า Release ของโปรเจ็กต์บน GitHub ครับ
ที่มา - หน้า GitHub ของ PowerToys via MSPoweruser |
# เผย Epic Games จ่ายค่าเอ็กซ์คลูซีฟ 444 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 และยังขาดทุนอยู่มาก
คดีระหว่าง Apple และ Epic Games ทำให้เราเห็นข้อมูลภายในหลายอย่างปรากฏในเอกสารคำฟ้อง เช่น เหตุผลที่ไม่มี iMessage บน Android คราวนี้เป็นข้อมูลของฝั่ง Epic Games บ้าง
ตัวเลขล่าสุดที่เปิดเผยคือ Epic Games จ่ายเงินค่าเอ็กซ์คลูซีฟให้บริษัทเกมเป็นเงินรวม 444 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 โดยตัวเลขนี้คือการันตีรายได้ขั้นต่ำให้บริษัทเกม หากยอมแลกกับการไม่นำเกมลงขายบน Steam เป็นเวลา 1 ปี (ก่อนหน้านี้เคยมีตัวเลขของเกม Control ที่ 10.45 ล้านดอลลาร์)
หากเรานำเลข 444 ล้านดอลลาร์ มาคำนวณจากรายได้ประจำปี 2020 ของ Epic Games Store ระบุว่า Epic มีรายได้จากเกม third party ที่ 265 ล้านดอลลาร์ เท่ากับว่า Epic ขาดทุนจากส่วนนี้อยู่ 179 ล้านดอลลาร์ แต่ในคำฟ้องของ Apple ก็ระบุว่าถ้ารวมตัวเลขของปี 2019 ด้วย ตัวเลขขาดทุนจะอยู่ราว 330 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
ที่มา - PCGamer, IGN |
# Salesforce ลงทุน 40 ล้านดอลลาร์ ใน Community แพลตฟอร์มทำการตลาดผ่าน Text Message
The Wall Street Journal รายงานว่า Salesforce ได้เข้าลงทุนด้วยเงิน 40 ล้านดอลลาร์ ในสตาร์ทอัพชื่อ Community ผ่านกองทุน Salesforce Ventures ทำให้สตาร์ทอัพนี้ได้เงินลงทุนรวมแล้วราว 90 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนักลงทุนเดิมมีนักแสดงที่ช่วงหลังผันตัวมาเป็น VC อย่าง Ashton Kutcher รวมอยู่ด้วย
Community เป็นสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งในปี 2019 ให้บริการแอปสำหรับให้คนมีชื่อเสียงส่งข้อความ Text Message ตรงไปยังสมาร์ทโฟนของแฟนคลับหรือผู้ติดตาม โดยดาราศิลปินช่วงแรกที่มาใช้บริการมีทั้ง Paul McCartney, Jake Paul, Ellen Degeneres, และ Jennifer Lopez ผ่านเบอร์โทรศัพท์ที่เรียกว่า Community Number บริการกำลังขยายเพิ่มเติมไปสู่แบรนด์สินค้า และธุรกิจขนาดเล็ก
มีคำอธิบายบริการของ Community ว่า ก็คือ Mailchimp แต่เปลี่ยนจากการทำการตลาดผ่านอีเมล มาเป็นการตลาดผ่าน Text Message ซึ่งตรงกับอุปกรณ์ของลูกค้าตอนนี้มากกว่า
ที่มา: Business Insider |
# Didi Chuxing ยื่นไฟลิ่งเตรียม IPO เข้าตลาดหุ้นนิวยอร์ก ที่มูลค่ากิจการ 1 แสนล้านดอลลาร์
Didi Chuxing แอปเรียกรถโดยสารรายใหญ่ของจีน ได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งแบบ confidential เพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์กแล้ว ซึ่งวิธีการยื่นเอกสาร confidential มีความแตกต่างคือจะมีระยะเวลาเปิดเผยข้อมูลทางการเงินและการดำเนินงานสั้นลง ก่อนบริษัทเข้าตลาดหุ้น ด้วยเหตุผลป้องกันคู่แข่งทางธุรกิจรับรู้ข้อมูล
มูลค่ากิจการที่ Didi ประเมินในไอพีโอคือราว 1 แสนล้านดอลลาร์ โดยคาดว่ามีการขายหุ้นเพิ่มทุนประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 10% ของหุ้นทั้งหมด ทำให้เป็นไอพีโอหุ้นบริษัทจีนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ Alibaba ในปี 2014
Didi ควบรวมกิจการกับคู่แข่งรายสำคัญในจีน Kuaidi เมื่อปี 2015 มีมูลค่ากิจการเมื่อปี 2017 ที่ 56,000 ล้านดอลลาร์ และปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์
Didi มีผู้ลงทุนรายสำคัญ อาทิ SoftBank, Alibaba, Tencent และแอปเปิล
ที่มา: Reuters |
# รัฐบาลจีนสั่งปรับ Alibaba ข้อหาผูกขาดอีคอมเมิร์ซ 1.8 หมื่นล้านหยวน บริษัทบอกน้อมรับ
หน่วยงานกำกับดูแลตลาดของประเทศจีน (State Administration for Market Regulation ตัวย่อ SAMR) สั่งปรับเงิน Alibaba ในข้อหาผูกขาด เป็นเงินสูงถึง 1.8 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 8.7 หมื่นล้านบาท)
SAMR เริ่มสอบสวน Alibaba ในข้อหาผูกขาดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 หลังรัฐบาลจีนสั่งเบรกแผนการ IPO ของ Ant Group บริษัทในเครือเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020 และได้ข้อสรุปว่า Alibaba ใช้อำนาจเหนือตลาด (market dominance) ในทางมิชอบ กีดกันไม่ให้ผู้ค้ารายย่อยไปขายของบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายอื่น ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย และพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2015
Alibaba ระบุว่ายอมรับคำตัดสินของ SAMR และยินดีปฏิบัติตามทุกประการ
ที่มา - Reuters, Alibaba |
# VMware เปิดไลเซนส์แบบ VMware Cloud Universal ย้ายไลเซนส์ไปใช้บนคลาวด์ได้
VMware เพิ่มไลเซนส์แบบ subscription แบบใหม่ในชื่อ VMware Cloud Universal เปิดทางให้ลูกค้าสามารถย้ายไปใช้งานคลาวด์ได้โดยไม่ต้องซื้อไลเซนส์ในแต่ที่แยกกัน
ไลเซนส์รูปแบบใหม่ลูกค้าจะซื้อเป็นเครดิตใช้งานไว้ และสามารถใช้เครดิตสำหรับไลเซนส์ VMware Cloud Foundation ในศูนย์ข้อมูลของตัวเอง หรือแปลงไลเซนส์ไปใช้กับ VMware Cloud on AWS หรือ VMware Cloud on Dell EMC ก็ได้ นอกจากนี้ยังมี VMware Cloud Console ช่วยให้ลูกค้าจัดการคลัสเตอร์ทั้งในศูนย์ข้อมูลและบนคลาวด์ตลอดจนจัดการเครดิต
การย้ายไลเซนส์ขึ้นไปยังคลาวด์ได้ มีประโยชน์สำหรับลูกค้า 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ องค์กรที่ต้องการทำไฮบริดคลาวด์และใช้ VMware ทั้งบนคลาวด์และในศูนย์ข้อมูล, องค์กรที่กำลังย้ายแอปพลิเคชั่นขึ้นคลาวด์แต่ใช้เวลานานหลายเดือนหรือหลายปี โดยกำหนดระยะเวลาชัดเจนไม่ได้, และองค์กรที่ต้องการขยายโครงสร้างขึ้นไปบนคลาวด์เป็นช่วงสั้นๆ (bursting)
ที่มา - VMware |
# ร่วมบริจาคเสียงพูดภาษาไทยด้วย Mozilla Common Voice
เทคโนโลยีการรู้จำเสียง (Speech Recognition) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราสื่อสารหรือสั่งงานกับคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นที่นิยมกันอย่างเผยแพร่ ตัวอย่างเช่น ใช้งานในระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ, ใช้สร้างคำบรรยายในวิดีโอ และใช้พิมพ์ข้อความตามเสียง เป็นต้น อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีการรู้จำเสียงทุกภาษาต้องการชุดข้อมูลเสียงขนาดใหญ่สำหรับมาทำเทคโนโลยีดังกล่าว ยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไร ความแม่นยำยิ่งสูงขึ้น แต่ชุดข้อมูลเสียงขนาดใหญ่จำนวนมากที่ถูกสร้างโดยบริษัทใหญ่ ๆ เราไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากราคาที่แพงหรือติดลิขสิทธิ์ จึงทำให้บริษัทเล็ก ๆ หรือนักพัฒนาไม่สามารถเข้าถึงชุดข้อมูลดังกล่าวได้
Mozilla ในฐานะองค์กรที่ไม่หวังผลกำไรจึงได้ทำโครงการ Common Voice ขึ้นมา เพื่อสร้างชุดข้อมูลเสียงสำหรับสร้างเทคโนโลยีการรู้จำเสียง ให้ทุกคนสามารถร่วมบริจาคเสียง ตรวจสอบเสียง และเพิ่มประโยคเข้าไปในระบบได้ โดยชุดข้อมูลเป็นสาธารณะประโยชน์ที่ทุกคนบนโลกสามารถใช้งานได้ นอกจากนั้น Mozilla ยังสร้างเครื่องมือสำหรับเทคโนโลยีการรู้จำเสียง ชื่อว่า Deep Speech
สำหรับภาษาไทย ทาง Mozilla ได้เปิดรับบริจาคเสียงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีจำนวน 17 ชั่วโมง และชั่วโมงที่ตรวจสอบแล้ว 12 ชั่วโมง โดยเป้าหมายคือ 10,000 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ชุดข้อมูลเสียงที่นำไปใช้งานกับเทคโนโลยีการรู้จำเสียงได้จริง
ร่วมบริจาค/ตรวจสอบเสียงภาษาไทยอย่างไร?
เข้าไปที่ commonvoice.mozilla.org/th โดยไม่จำเป็นต้อง Login (แต่ Login ได้เพื่อให้ข้อมูลพวกอายุหรือเพศและจัดอันดับผู้บริจาค) จากนั้นคลิกที่รูปไมค์ เพื่อบริจาคเสียง โดยกดปุ่มไมค์เพื่อบริจาคเสียง แล้วกดหยุด จากนั้นคลิกส่ง ทำจนครบแล้วส่งเสียงได้ โดยพยายามพูดให้ครบตามที่ประโยคกำหนด ไม่ขาดหรือเกิน
หากพบประโยคที่มี "ๆ", ภาษาอังกฤษ หรือ ตัวเลข ปนมา อย่าลืมกดปุ่ม รายงาน
หรือ คลิกปุ่ม > เพื่อตรวจสอบเสียงโดยการฟัง จากนั้นกดปุ่ม > เพื่อฟัง ฟังจบแล้วกด ใช่ หรือ ไม่ ทำจนครบแล้วส่งได้เลย
สำหรับเกณฑ์ในการฟัง ง่าย ๆ คือ เสียงพูดครบตามที่ประโยคกำหนด ฟังรู้เรื่อง
เพิ่ม/ตรวจสอบประโยคก่อนนำไปรับบริจาค
ต่อมาเป็นส่วนในการเพิ่ม/ตรวจสอบประโยคก่อนนำประโยคไปรับบริจาคเสียง โดยเข้าไปที่ commonvoice.mozilla.org/sentence-collector ให้ Login จากนั้นไป Profile เลือก Thai แล้วไปที่ REVIEW กด ?ถูกใจ สำหรับประโยคที่ถูกตามเกณฑ์ หรือ ?ไม่ถูกใจ สำหรับประโยคที่ไม่ถูกต้องตามเกณฑ์
สำหรับเกณฑ์ประโยคมีดังนี้
ไม่เอาประโยคที่มีการสะกดผิด
ไม่เอาประโยคผิดไวยากรณ์ ประโยคขาด ไม่สมบูรณ์ มีคำขาด ๆ เกิน ๆ หรือคำแปลกที่คนไทยไม่พูดกัน อ่านแล้วงง
ประโยคต้องอ่านได้ภายใน 10 วินาที (ประมาณ 100 ตัวอักษร)
ไม่เอาตัวย่อ เช่น สศช. กทม.
ไม่เอา ๆ / ฯลฯ/ ฯ / ()
ตัวเลขต้องเป็นคำอ่านเท่านั้น เช่น สองพันห้าร้อยหกสิบสาม
ไม่เอาประโยคที่มีภาษาอังกฤษ
ที่มา: งานที่พวกเรามาช่วยกันรีวิวประโยค Mozilla Common Voice
สำหรับการเพิ่มประโยค กดไปที่ ADD แล้วพิมพ์ประโยคเข้าไป โดยประโยคดังกล่าวต้องเป็นสาธารณะประโยชน์
ผมขอเชิญชวนชาว Blognone มาร่วมกันบริจาคเสียงพูดภาษาไทยให้กับทาง Mozilla Common Voice กันครับ
หากมีข้อสงสัย สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ commonvoice.mozilla.org/th/faq และสามารถเข้าไปอ่านเอกสาร ? ? Mozilla Voice Community Playbook V1.1 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม |
# เปลี่ยนใจแม้มีโรงงานผลิต AstraZeneca ในประเทศ ออสเตรเลียสั่งวัคซีน Pfizer เพิ่ม
ออสเตรเลียเปลี่ยนแผนการฉีดวัคซีนในประเทศ โดยแนะนำให้ประชาชนอายุต่ำกว่า 50 ปีฉีดวัคซีนจาก Pfizer แทน แม้เดิมจะสั่งซื้อวัคซีน ChAdOx1 ของ AstraZeneca ไปถึง 50 ล้านโดส เพียงพอสำหรับประชากรทั้งประเทศแล้วก็ตาม
ออสเตรเลียมีบริษัท CSL Behring รับผลิตวัคซีนให้ AstraZeneca กำลังผลิตถึง 53.8 ล้านโดสต่อปี โดยออสเตรเลียเองสั่งซื้อไปแล้ว 50 ล้านโดสเพียงพอสำหรับประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน แต่หลังจากมีรายงานความเชื่อมโยงระหว่างการเกิดลิ่มเลือดและวัคซีน ทางออสเตรเลียก็เปลี่ยนคำแนะนำให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี ใช้วัคซีน Pfizer แทนพร้อมกับประกาศซื้อวัคซีนจาก Pfizer เพิ่ม
ตามแผนของรัฐบาลออสเตรเลีย เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาควรฉีดวัคซีนได้ 4 ล้านโดส แต่กลับฉีดจริงได้เพียง 6 แสนโดส
ภาพรวมตอนนี้ออสเตรเลียสั่งวัคซีนจาก AstraZeneca 50 ล้านโดส, Pfizer 40 ล้านโดส, Novavax 51 ล้านโดส, และยังจองวัคซีนผ่านโครงการ COVAX ไปอีก 25 ล้านโดส
ที่มา - CNBC, health.gov.au
ภาพวัคซีน BNT162b2 จาก BioNTech |
# [ลือ] มาอีกราย Reddit สนใจทำฟีเจอร์คุยเสียงแบบ Clubhouse
Reddit เป็นบริษัทโซเชียลรายล่าสุดที่มีข่าวว่าจะทำห้องสนทนาเสียงแบบ Clubhouse
เว็บไซต์ Mashable รายงานข่าวลือว่า Reddit กำลังพิจารณาเปิดฟีเจอร์ voice chat แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและเป็นความลับ แนวทางที่เป็นไปได้คือการเปิดให้สมาชิก subreddit (ห้องย่อยของ Reddit) แบบเสียเงินพรีเมียม (ชื่อของ Reddit เรียกว่า power up) สามารถเปิดห้องสนทนาเฉพาะกลุ่มได้ นอกเหนือจากฟีเจอร์พรีเมียมอื่นๆ อย่างการคอมเมนต์ด้วย GIF, การอัพโหลดวิดีโอคุณภาพ HD
การสนทนาด้วยเสียงกลายเป็นตลาดที่ร้อนแรงมากในปี 2021 และบริการโซเชียลแทบทุกตัวต่างมีข่าวว่าทำฟีเจอร์แบบเดียวกันนี้ ได้แก่ Twitter Spaces, Facebook, LinkedIn, Spotify, TikTok, Discord
ที่มา - Mashable |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.