txt
stringlengths
202
53.1k
# อินเทลยืนยัน Core 11th Gen "Rocket Lake" ฝั่งเดสก์ท็อป เปิดตัวไตรมาส 1/2021 อินเทลเปิดตัว Core 11th Gen "Tiger Lake" ซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊กไปเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือซีพียู 11th Gen สำหรับฝั่งเดสก์ท็อปบ้าง ล่าสุดอินเทลยืนยันแล้วว่าจะเปิดตัว Core 11th Gen "Rocket Lake" ในช่วงไตรมาส 1 ของปีหน้า 2021 โดยระบุข้อมูลแค่ว่าจะรองรับ PCIe 4.0 เท่านั้น กลุ่มเป้าหมายหลักของซีพียูชุดนี้คือเกมเมอร์ และอินเทลก็ระบุว่าจะทำงานกับสตูดิโอเกมหลายๆ แห่งอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประสิทธิภาพออกมาดีที่สุดด้วย สิ่งที่น่าจับตาคือ AMD จะเปิดตัว Ryzen 4000 รุ่นเดสก์ท็อปคืนนี้ตามเวลาบ้านเรา ซึ่งจะทำให้ AMD มีแต้มต่อในฝั่งเดสก์ท็อปนำหน้าอินเทลเป็นเวลาหลายเดือน ที่มา - Intel, ภาพ Core 10th Gen จาก Intel
# Azure และ Office 365 ล่มอีกรอบ คราวนี้ล่มนาน 4 ชม. เพราะบั๊กในระบบจัดการทราฟฟิก เมื่อปลายเดือนกันยายน เพิ่งเกิดเหตุ Microsoft Azure และ Office 365 ล่มจากปัญหา Azure AD ไปหมาดๆ เมื่อคืนนี้ก็เกิดเหตุซ้ำอีกรอบกับทั้ง Azure และ Office 365 เหตุการณ์เกิดราวตี 1 ตามเวลาประเทศไทย และไมโครซอฟท์กู้ระบบมาสำเร็จประมาณ 5:30 น. รวมระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง สาเหตุมาจากการเปลี่ยนค่าของ Azure Wide Area Network (WAN) และมีบั๊ก ทำให้การจัดการทราฟฟิกมีปัญหา เกิดภาวะ network congestion และ packet loss ทำให้ลูกค้าบางส่วนเข้าถึงระบบไม่ได้ ปัญหาระบบคลาวด์ล่มอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ แต่การเกิดปัญหาล่ม 2 รอบในระยะเวลาติดๆ กัน คงไม่ใช่เรื่องดีนักสำหรับไมโครซอฟท์ ที่มา - Azure Status History, Office Status The Register ภาพจาก Microsoft
# เกาหลีใต้เตรียมสร้างฟาร์มโซลาร์ลอยน้ำใหญ่ที่สุดในโลก กำลังผลิต 2.1GW หนังสือพิมพ์ The Korea Herald รายงานว่าบริษัท Korea Hydro & Nuclear Power กำลังเดินหน้าเลือกซัพพลายเออร์ในโครงการสร้างโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ พื้นที่ 30 ตารางกิโลเมตร รวมกำลังผลิตไฟฟ้า 2.1 กิกะวัตต์ ทำให้เป็นโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมมูลค่าโครงการ 4.6 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 124,000 ล้านบาท เฟสแรกของโครงการนี้จะมีกำลังผลิต 300 เมกกะวัตต์ มูลค่า 660,000 ล้านวอนหรือประมาณ 18,000 ล้านบาท แหล่งข่าวระบุกับ Korea Herald ว่ามีสามบริษัทเข้าร่วมคือ Hanwha Q Cells, LG Electronics, และ Shinsung E&G โดยในสามบริษัทนี้ LG ไม่มีเทคโนโลยีโมดูลสำหรับติดตั้งในโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ แม้จะมีเทคโนโลยีเพียงพอก็ตามแต่ฟาร์มลอยน้ำไม่ได้นิยมมากนักทำให้การลงทุนอาจจะไม่คุ้มค่า ส่วน Shinsung E&G ระบุว่าการให้คะแนนประมูลมีคะแนนผลประโยชน์ของท้องถิ่นด้วย ทำให้บริษัทเข้าไปตั้งโรงงานในพื้นที่ไว้แล้ว ที่มา - The Korea Herald ภาพจาก Hanwa Q Cells
# VMware เปิดให้ดาวน์โหลด ESXi Arm รองรับ Raspberry Pi VMware เปิดตัว ESXi Arm Edition รองรับการรัน ESXi บนซีพียู Arm เต็มรูปแบบ หลังจากในงาน VMworld เพิ่งประกาศ Project Monterey ที่นำ ESXi ไปรันบน SmartNIC ที่เป็นชิป Arm เช่นกัน แต่เป็นการรันงานบางส่วนเท่านั้น แม้จะถือว่าเป็นการใช้งานครั้งแรกของโครงการ ESXi Arm ที่ยังอยู่ระหว่างการทดสอบกับผู้ผลิต วันนี้ทาง VMware ประกาศปล่อย ESXi Arm ให้คนทั่วไปดาวน์โหลดมาใช้งานในโครงการ Fling ที่เป็นโครงการพิเศษเพื่อให้ชุมชนได้ทดสอบฟีเจอร์หรือโครงการใหม่ๆ และให้ความเห็นกับทาง VMware ESXi Arm รองรับตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ชิป Ampere eMAG จาก Lenovo และ Avantek, บอร์ด SolidRun Honeycomb LX2, บอร์ตในกลุ่ม NXP LayerScape, และ Raspberry Pi 4 (แนะนำรุ่นแรม 8GB แต่รันบนรุ่น 4GB ได้) สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี และเชื่อมต่อกับ vCenter 7.0 ขึ้นไปได้ ที่มา - VMware
# Chrome เริ่มปลด QUIC ของตัวเอง หันไปใช้ HTTP/3 และ IETF QUIC กูเกิลนับเป็นบริษัทที่สนับสนุนแนวทางการสร้างโปรโตคอลใหม่มาทดแทน HTTP บน TCP มายาวนาน นับแต่ SPDY ตั้งแต่ปี 2009 และ QUIC ในปี 2012 แม้ที่ผ่านมา IETF จะมีแนวทางยอมรับ QUIC ให้เป็นส่วนหนึ่งของ HTTP/3 แต่ตัวโปรโตคอลก็มีการแก้ไขหลายส่วน ทำให้ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Google QUIC ที่กูเกิลพัฒนาและใช้งานเองระหว่างเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลและ Chrome ล่าสุดกูเกิลก็ประกาศจะย้ายผู้ใช้ Chrome จำนวน 25% ของทั้งหมด หันมาใช้ IETF QUIC แล้ว ระหว่างนี้ Chrome จะรองรับทั้ง IETF QUIC เวอร์ชั่นดราฟท์ 29 (ดราฟท์ 30 และ 31 ไม่มีจุดที่เข้ากันไม่ได้) ไปพร้อมๆ กับ Google QUIC Q050 (เวอร์ชั่น 50) เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ที่รับ Google QUIC อยู่มีเวลาปรับตัว กูเกิลแนะนำว่าหากมาตรฐาน IETF QUIC ไม่มีการแก้ไขใดจนเข้ากันไม่ได้ เซิร์ฟเวอร์ก็ควรรองรับดราฟท์ 29 ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งออกมาตรฐานจริง การใช้ IETF QUIC ทำให้มีโอกาสเจอเซิร์ฟเวอร์รองรับจำนวนมากกว่ามาก เพราะบริการ CDN อย่าง Cloudflare ก็รองรับ IETF QUIC ที่มา - Chromium Blog ภาพการนำเสนอชื่อ HTTP/3 ในงาน IETF103
# รอไม่ไหว นักบินยาน Starliner ของ Boeing ลาออก หลังโครงการเลื่อนยาวไปจนถึงกลางปีหน้า โครงการ Crew Dragon ของ SpaceX นั้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Commercial Crew ของนาซ่าที่ยังมี Starliner เป็นคู่แข่งกันมา แต่โครงการของ Boeing ก็ประสบเหตุล่าช้าจนกระทั่งล่าสุด Christopher Ferguson นักบินหลักของเที่ยวบินแรกประกาศถอนตัวแล้ว โดยนักบินสำรอง Barry Butch Wilmore จะทำหน้าที่แทนต่อไป Ferguson เป็นนักบินจากโครงการ Space Shuttle มาก่อนและเป็นนักบินในเที่ยวบินสุดท้ายเมื่อปี 2011 เขาเกษียนอายุจากนาซ่าหลังจบภารกิจ จากนั้นเข้าทำงานกับ Boeing ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่าย crew and mission systems จนกระทั่งได้รับมอบหมายให้เป็นนักบินของภารกิจแรกของยาน Starliner ในปี 2018 ถ้าเขาขึ้นบินก็จะเป็นพลเรือนคนแรกที่บินกับยานอวกาศเอกชน โครงการ Starliner เดิมเคยทดสอบด้วยภารกิจไร้มนุษย์ Boe-OFT (Boeing Orbital Flight Test) เมื่อปลายปี 2019 แต่ประสบความล้มเหลวทำให้ต้องทำภารกิจ Boe-OFT 2 ซ้ำ จนภารกิจทดสอบการส่งมนุษย์ขึ้นไปกับยาน Starliner ต้องเลื่อนออกไป ตอนนี้กำหนดการเร็วที่สุดคือกลางปี 2021 Ferguson ระบุว่ามีเหตุผลด้านครอบครัวที่ไม่อาจเลื่อนได้ แต่ตัวเขาเองยังทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่าย mission integration and operations ต่อไป ที่มา - The Verge
# Arlo เปิดตัวกล้องวงจรปิดไร้สาย Pro 4 และ Ultra 2 พร้อมแบตเตอรี่อยู่ได้ 6 เดือน, ไม่ต้องใช้ฮับ Arlo เปิดตัวกล้องวงจรปิดไร้สายใหม่สองรุ่น คือ Pro 4 Wire-Free Spotlight Camera และ Ultra 2 Wire-Free Spotlight Camera System โดยทั้งคู่เป็นกล้องไร้สายที่เชื่อมต่อกับ Wi-Fi ก็สามารถใช้งานได้ทันที สำหรับ Arlo Pro 4 มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน 6 เดือน ถ่ายวิดีโอได้ 2K HDR มีโหมดถ่ายวิดีโอกลางคืนแบบสี พร้อมมุมมองกว้าง 160 องศา, สปอตไลท์ส่องสว่างตอนกลางคืน, ไซเรน และระบบเสียงสองทางที่คุยกับแขกได้ ตัวกล้องรองรับการใช้งานทั้งในและนอกบ้าน และเชื่อมต่อผ่าน Alexa, Google Assistant และ IFTTT ได้ (ยังไม่ซัพพอร์ต HomeKit คาดว่าจะตามมาภายหลัง) Arlo Pro 4 ส่วนตัว Arlo Ultra 2 มาพร้อมสเปคถ่ายวิดีโอได้ 4K HDR พร้อมระบบออโต้โฟกัส และมุมมองกว่าง 180 องศา ส่วนฟีเจอร์อื่นจะเหมือนกับ Arlo Pro 4 แต่ตัว Arlo Ultra 2 ซัพพอร์ต HomeKit ของ Apple แล้ว Arlo Pro 4 วางจำหน่ายที่ราคา 199.99 ดอลลาร์ ส่วน Arlo Ultra 2 วางจำหน่ายที่ราคา 299.99 ดอลลาร์ ที่มา - The Verge Arlo Ultra 2
# Slack เปิดตัวฟีเจอร์ยืนยันตัวตนองค์กร, DM ระหว่างผู้ใช้ข้ามองค์กรแบบไม่ต้องผ่าน channel Slack แอปแชทสำหรับองค์กรจัดงานสัมมนา Slack Frontier โดยทางบริษัทเผยฟีเจอร์ใหม่ของแพลตฟอร์มแชทองค์กรหลายอย่าง ฟีเจอร์แรก Slack Connect Direct Messages หรือ Slack Connect DMs เป็นฟีเจอร์ส่งข้อความแบบ DM ระหว่างผู้ใช้ เปิดให้ใช้งานข้ามองค์กรเป็นครั้งแรก จากก่อนหน้านี้ที่จำเป็นต้องเปิด channel เพื่อส่งข้อความ ฟีเจอร์นี้มีกำหนดให้บริการในต้นปีหน้า ส่วนถัดไปคือระบบการยืนยันองค์กร Slack จะเพิ่มเครื่องหมายติ๊กถูกสำหรับยืนยันว่าเป็นบริษัทพาร์ทเนอร์ตัวจริงใน Slack Connect ให้ความมั่นใจในการส่งข้อมูลสำคัญหรือส่งคำเชิญเข้าการประชุมว่าจะส่งไปถึงคนในองค์กรนั้นจริง ๆ และระบบอนุมัติแบบอัตโนมัติสำหรับแอดมิน ทำให้ผู้ใช้ Slack ระหว่างองค์กรสามารถเชื่อมต่อเข้าด้วยกันระหว่างองค์กรได้โดยไม่ต้องรอแอดมินทำการอนุมัติอีกต่อไป สองฟีเจอร์นี้จะเปิดให้บริการในต้นปีหน้า ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ที่จะเพิ่มเข้ามา เช่น DocuSign eSignature for Slack สำหรับส่งจดหมาย, ใช้เทมเพลต และรับการแจ้งเตือนจาก DocuSign ได้จากใน Slack Workflow Builder อินทิเกรตแอปสำหรับทำงานที่เป็นกิจวัตรให้เป็นงานที่ทำแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องเขียนโค้ด โหมดการใช้งานแบบ socket สำหรับรับอีเว้นท์ผ่าน WebSocket ผ่าน firewall เพื่อให้นักพัฒนาสามารถทำแอปใช้เองในองค์กรและเชื่อมต่อกับ API ได้โดยไม่ต้องเปิด HTTP endpoint เป็นสาธารณะ ระบบดีพลอยแอปสำหรับองค์กร ให้แอดมินสั่งดีพลอยแอปจำเป็นลง Slack โดยผู้ใช้ไม่ต้องลงเอง นอกจากนี้ Slack ยังเปิดตัวฟีเจอร์ asynchronous video เป็นระบบตอบโต้ด้วยวิดีโอโดยไม่จำเป็นต้องเข้าประชุมในเวลาเดียวกัน โดยรูปแบบจะคล้ายกับสตอรี่ของแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ค แต่ตัววิดีโอจะไม่หายไปใน 24 ชั่วโมง ที่มา - Slack (1, 2)
# อดเล่นกันต่อไป ศาลไม่รับคำร้องปลดแบน Fortnite ศาลตัดสินใจไม่รับคำร้องของ Epic Games ที่ต้องการให้ศาลออกคำสั่งคุ้มครองการแบนเกม Fortnite ออกจาก App Store โดยให้เหตุผลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นสิ่งที่ทาง Epic Games เลือกเอง การผิดสัญญาย่อมนำมาสู่การตอบโต้กลับโดยคู่สัญญา และโดยปกติแล้วศาลแขวงแห่งรัฐบาลกลาง (Federal District Court) จะไม่ออกคำสั่งศาลในคดีข้อพิพาทที่เกี่ยวกับการละเมิดสัญญา เว้นเสียแต่จะเป็นกรณีร้ายแรงถึงขั้นทำให้บริษัทที่เกี่ยวข้องต้องเลิกกิจการ อีกทั้งศาลยังเห็นว่า Epic Games สามารถนำ Fortnite กลับขึ้นไปบน App Store ได้เสมอ เพียงแค่กลับไปทำตามข้อตกลงที่เคยทำไว้กับ Apple เท่านั้น อย่างน้อยก็จนกว่ากระบวนการพิจารณาคดีจะถึงที่สุด สัดส่วนผู้เล่นเกมคือตัวเลขที่มีนัยยะ ทาง Epic Games อ้างว่า 63% ของผู้เล่นเกม Fortnite บน iOS เล่นเกมนี้เฉพาะบน iOS เท่านั้น ตัวเลขนี้บ่งชี้ว่าหลายคนอาจจะไม่มีเครื่องเล่นเกมอื่น ๆ ที่สามารถเล่น Fortnite ได้ และในหลาย ๆ สถานการณ์การเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือเป็นเรื่องจำเป็น เช่น บนรถไฟฟ้า เป็นต้น อย่างไรก็ตามทาง Apple โต้แย้งว่าจำนวนผู้เล่นเกม Fortnite ต่อวันบน iOS คิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้นเมื่อเทียบกับจำนวนผู้เล่น Fortnite ต่อวันทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ Apple จะมีอำนาจเหนือตลาดผูกขาดเกมนี้จนถึงขั้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ Epic Games ระบบการซื้อสินค้าภายในแอพ (In-App Purchase System) ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ Epic Games มองว่าการบังคับซื้อสินค้าภายในแอพเป็นการผูกขาดรูปแบบหนึ่ง Apple ควรจะอนุญาตให้นักพัฒนามีโอกาสได้ใช้ระบบของตัวเองในการซื้อขายสินค้าภายในแอพเหล่านี้ ในขณะที่ทาง Apple แย้งว่าสินค้าที่ซื้อภายในแอพนั้นย่อมต้องถือเป็นส่วนหนึ่งของแอพด้วย ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพราะการดูแลความปลอดภัยและการตรวจสอบควบคุมเนื้อหาภายในแอพนั้นเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งกรณีนี้ผู้พิพากษา Yvonne Gonzalez Rogers คล้อยตามกับเหตุผลของทาง Apple มากกว่าและกล่าวว่าทาง Epic Games นั้นพยายามหาทางเลี่ยงที่จะจ่ายเงินค่าส่วนแบ่ง 30% แม้ว่าทาง Epic Games จะยืนยันว่าการที่ Apple มีสิทธิ์ในควบคุม App Store แต่เพียงผู้เดียวนั้นถือเป็นการผูกขาดที่ผิดกฎหมาย แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเรื่องยากที่จะตีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างความเป็นเจ้าของ platform กับการผูกขาด เพราะเมื่อมองในระดับภาพรวมที่กว้างขึ้นแล้ว (ในกรณีนี้คือตลาดเกม) Apple มีคู่แข่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Android, Steam, GOG และอื่น ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เก็บค่าส่วนแบ่ง 30% ทั้งสิ้น จึงอาจมองได้ว่า Apple ก็เป็นเพียงเจ้าของ platform รายหนึ่งเท่านั้น มีอำนาจในขอบเขตของตนเอง แต่ไม่ได้มีอำนาจเหนือตลาดแต่อย่างใด ซึ่งทางผู้พิพากษาเองก็ดูจะเห็นด้วยกับมุมมองลักษณะนี้ เธอได้กล่าวเสริมด้วยว่าระบบปิดนั้นมีมานานหลายสิบปีแล้ว Nintendo, SONY, Microsoft ก็ล้วนแล้วแต่มีระบบปิดเป็นของตัวเอง เธอจึงเห็นว่าสิ่งที่ Apple ทำนั้นไม่ต่างกับสิ่งที่ผู้เล่นรายอื่นในอุตสาหกรรมทำสักเท่าไร ผู้พิพากษา Rogers ได้กล่าวทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจไว้ว่า “คดีความนี้สมควรที่จะถูกตัดสินโดยคณะลุกขุน มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะรับฟังว่าประชาชนทั่วไปคิดเห็นอย่างไร ความรู้ความเชี่ยวชาญและความคิดเห็นที่หลากหลายของคณะลูกขุนจะมีส่วนสำคัญต่อการพิจารณาคดีนี้” อนึ่งการพิจารณาคำร้องครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คดีความระหว่าง Epic Games กับ Apple ยังคงต้องดำเนินต่อไปอีกเป็นระยะเวลานานจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่าแท้จริงแล้ว Apple นั้นผูกขาดตลาดรองภายใต้ platform ของตัวเองที่เรียกว่า App Store หรือไม่ ที่มา - Arstechnica
# เกมจีน Genshin Impact เปิดตัวสวยในตลาดโลก แต่เซ็นเซอร์คำว่า Hong Kong และ Taiwan ช่วงปลายเดือนกันยายน มีเกมออนไลน์ที่น่าสนใจเปิดตัวอย่างเป็นทางการคือ Genshin Impact จากสตูดิโอจีน miHoYo ในเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นเกมจีนที่เปิดตัวยิ่งใหญ่ในระดับโลก (สไตล์การเล่นเป็น open world คล้ายๆ กับ Zelda: Breath of the Wild) เกมเปิดให้เล่นแบบ free-to-play บน 4 แพลตฟอร์มคือ PS4, PC, Android, iOS (เวอร์ชัน Switch จะตามมา) และเปิดตัวอย่างสวยงาม โดย App Annie ประเมินว่ายอดดาวน์โหลดเวอร์ชันมือถือ Android/iOS รวมกัน 17 ล้านครั้งใน 4 วันแรก และนักวิเคราะห์คาดว่าจะทำรายได้ 50 ล้านเหรียญภายในสัปดาห์แรก (แม้ผู้เล่นและรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากในจีน) อย่างไรก็ตาม การเป็นเกมจากสตูดิโอจีนทำให้มีปัญหาเรื่องการเซ็นเซอร์ตามมา โดยมีผู้เล่น (นอกจีน) ค้นพบว่าเกมมีระบบบล็อคคำว่า Hong Kong และ Taiwan ในระบบแชตของเกม ถึงแม้เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจนัก เพราะแอพจีนทุกตัวต้องทำตามกฎข้อนี้ของรัฐบาลจีน แต่การที่ Genshin Impact จับตลาดนอกจีนด้วย ก็เริ่มมีเสียงประท้วงจากผู้เล่นนอกจีนให้แบนเกมนี้กันบ้างแล้ว ที่มา - IGN, Gamespot
# PlayStation ปรับระบบถ้วยรางวัล (Trophy) ใหม่ แบ่งเลเวลละเอียดขึ้นเป็น 1-999 Sony ประกาศปรับระบบถ้วยรางวัล (Trophy) จากเดิมที่แบ่งระดับ (เลเวล) เป็น 1-100 เปลี่ยนมาเป็น 1-999 เพื่อให้มีจำนวนขั้นที่ละเอียดกว่าเดิม Bronze ตั้งแต่ 1-299 แบ่งย่อยภายในอีก 3 ระดับ Silver ตั้งแต่ 300-599 แบ่งย่อยภายในอีก 3 ระดับ Gold ตั้งแต่ 600-998 แบ่งย่อยภายในอีก 3 ระดับ Platinum มีระดับเดียวคือ 999 ส่วนถ้วยเก่าที่มีอยู่แล้วจะถูกปรับมาเป็นเลเวลแบบใหม่ให้อัตโนมัติ เช่น Trophy level 12 จะกลายมาเป็นระดับประมาณ 200 กว่าๆ เป็นต้น Sony บอกว่าระบบ Trophy ถูกเริ่มใช้มาตั้งแต่ยุค PS3 และไม่เคยถูกปรับปรุงเลย จึงถือโอกาสที่ PS5 กำลังมา เตรียมปรับเปลี่ยนโครงสร้างเอาไว้ล่วงหน้า ระบบใหม่จะใช้ได้ทั้งเกมของ PS4 และ PS5 ที่มา - PlayStation Blog
# ตลาดแข่งดุ Red Hat ลดราคา OpenShift Dedicated ลงเฉลี่ย 75%, เพิ่ม SLA เป็น 99.95% Red Hat ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาด Kubernetes สำหรับองค์กรมาก่อนใครเพื่อนด้วย OpenShift แต่ช่วงหลังเราเห็นผู้เล่นใหม่ๆ ในวงการ Kubernetes เริ่มเข้าสู่ตลาด (เช่น VMware Tanzu รวมถึงเจ้าเก่าอย่าง Rancher) ส่งผลให้ล่าสุด Red Hat ออกมาหั่นราคา OpenShift ลงเฉลี่ย 75% และเพิ่ม service-level agreenment (SLA) เป็น 99.95% เพื่อดึงดูดลูกค้า Red Hat มี OpenShift ขายหลายเวอร์ชัน แต่หลักๆ แบ่งได้เป็น Self-Managed (ใช้เครื่องหรือคลาวด์ของลูกค้าเอง), Online (ทุกอย่างอยู่บนระบบ Red Hat), Managed (ผู้บริการคลาวด์อย่าง AWS, IBM, Azure บริหารให้) และ Dedicated (ลูกค้าเช่าเครื่อง AWS หรือ GCP แล้ว Red Hat บริหารให้) สิ่งที่ประกาศลดราคาคือ OpenShift Dedicated โดยอัตราการลดราคาหลากหลาย ขึ้นกับจำนวนโหนด และวิธีการซื้อไลเซนส์ ตัวอย่างที่ Red Hat นำมาโชว์คือลดราคาถึง 79% หากลูกค้าเช่าเครื่องบนคลาวด์เอง เป็นต้น ตัวอย่างตารางเปรียบเทียบ OpenShift แบบต่างๆ ที่มา - Red Hat
# KBTG แถลงยอดผู้ใช้ K PLUS 14 ล้านคน, ตั้งบริษัท K Tech ในจีนเรียบร้อยแล้ว กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธาน KBTG เปิดเผยยอดผู้ใช้งาน K PLUS ล่าสุดที่ 14 ล้านคน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 13 ล้านคนที่แถลงเมื่อเดือน มิ.ย. และคาดว่าปีนี้จะทำได้ตามเป้า 15 ล้านคนได้ไม่ยาก สถิติอื่นที่เปิดเผยคือ ขุนทอง แชทบ็อตทวงเงิน มีคนใช้งานแล้ว 5 แสนราย, ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่าง Make (เมฆ) ตั้งเป้าผู้ใช้ 30,000 บัญชี และ Eatable โซลูชันสำหรับร้านอาหาร ตั้งเป้าผู้ใช้ 10,000 ร้าน กระทิงยังอัพเดตเรื่องการตั้งบริษัทลูกของ KBTG ในจีนที่แถลงไว้เมื่อต้นปี คือตอนนี้บริษัท K Tech เปิดทำการในเมืองเซินเจิ้นแล้ว ทุนจดทะเบียน 300 ล้านหยวน (ราว 1,500 ล้านบาท) และจดทะเบียนเป็นบริษัท FinTech ไม่ใช่ธนาคาร ตอนนี้พนักงานคนแรกบินจากไทยไปประจำการแล้ว และตั้งเป้ามีพนักงานในจีน 300 คนในช่วงอีก 10 ปีข้างหน้า
# โซนี่จัดให้เอง ปล่อยคลิป PS5 Teardown เผยโฉมไส้ในและดีไซน์ตัวเครื่อง โซนี่เผยแพร่คลิป PS5 Teardown ที่เผยให้เห็นฮาร์ดแวร์ของตัวเครื่องทั้งหมด ทั้งพอร์ท ช่องระบายอากาศและภายในของตัวเครื่อง รวมถึงฐานรองเครื่องสำหรับการวางไม่ว่าจะแนวตั้งหรือแนวนอน ฝาสีขาวด้านข้างของเครื่องสามารถถอดออกมาได้ง่าย ๆ ตามที่มีข่าวหลุดออกมาไม่กี่วันก่อน เผยให้เห็นช่องลมระบายอากาศขนาดใหญ่ด้านข้างตัวเครื่อง 2 ช่อง (พัดลมตัวเดียว) พร้อมสล็อต M.2 PCIe 4.0 สำหรับติดตั้งสตอเรจเพิ่มเติม ส่วนฮาร์ดแวร์ภายในทั้งซีพียู, จีพียู, SSD, SSD คอนโทรลเลอร์และเม็ดแรมถูกติดตั้งบนบอร์ดเอาไว้ทั้งหมด ครอบด้วยฮีทซิงค์ขนาดใหญ่และพาวเวอร์ซัพพลายขนาด 350W ที่มา - PlayStation
# Xiaomi เปิดราคา Mi 10T ในไทยอย่างเป็นทางการ เริ่มต้น 12,990 บาท Xiaomi เปิดราคา Mi 10T และ Mi 10T Pro ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทั้งสองรุ่นใช้ชิป Snapdragon 865 เหมือนกัน แต่ Mi 10T Pro มีกล้อง 108MP f/1.69 เซ็นเซอร์ Samsung HX ส่วน Mi 10T ลดกล้องหลักเป็น กล้อง 64MP f/1.89 เซ็นเซอร์ SONY IMX686 รุ่น Mi 10T มีสองสี คือ Lunar Silver และ Cosmic Black วางจำหน่ายวันที่ 25 ตุลาคม มีรุ่นเดียวเท่านั้นคือแรม 8GB หน่วยความจำภายใน 128GB ราคา 12,990 บาท Mi 10T Pro มีสามสี คือ Aurora Blue, Lunar Silver และ Cosmic Black เริ่มจำหน่าย 16 ตุลาคมเป็นต้นไป มีสองความจุ ราคาดังนี้ รุ่น แรม 8GB หน่วยความจำภายใน 128GB ราคา 13,990 บาท รุ่น แรม 8GB หน่วยความจำภายใน 256GB ราคา 15,990 บาท โปรโมชันตอนนี้คือซื้อ Mi 10T ทุกรุ่น แถมประกัน 24 เดือน ประกันจอแตก 1 ครั้ง 6 เดือน ส่วนรุ่น Mi 10T Pro หากจองภายใน 8-15 ตุลาคม รับฟรี Mi True Wireless Earphones Basic 2 ที่มา - งานเปิดตัว Mi 10T Series
# Belkin เปิดตัวหูฟังไร้สาย Soundform True Wireless Earbuds กันน้ำ IPX5 ราคา 2,990 บาท Belkin เปิดตัวหูฟังไร้สาย Soundform True Wireless Earbuds แบตเตอรี่ใช้งานได้ 5 ชั่วโมง ร่วมเคสเป็น 24 ชั่วโมง กันน้ำมาตรฐาน IPX5 มาพร้อมจุกยางหูฟัง 3 ขนาด ชาร์จเคสด้วยสาย microUSB ควบคุมด้วยระบบสัมผัส รองรับ Bluetooth 5.0 เทียบกับ OnePlus Buds ที่ราคาเปิดตัว 2,990 บาทเท่ากัน กันน้ำระดับ IPX4 แปลว่า Belkin ได้ระดับกันน้ำในระดับสูงกว่า แต่ความจุแบตเตอรี่ OnePlus Buds สูงกว่าตรงที่ใช้งานได้ 7 ชั่วโมง ชาร์จรวมเคสได้ 30 ชั่วโมง และรองรับ DolbyAudio ด้วย หรือเทียบกับ Mi True Wireless Earphones 2 ราคา 2,990 บาท ฝั่ง Belkin ยังได้เปรียบในด้านการกันน้ำ IPX5 แต่ Mi True Wireless Earphones 2 จะมี optical sensor ตรวจจับว่าตัวหูฟังอยู่ในหูหรือไม่ เพื่อเล่นและหยุดเพลงอัตโนมัติ Soundform True Wireless Earbuds วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ iStudio by Copperwired, Dotlife, PowerMall, Jaymart, Studio 7, Banana, PowerBuy ราคาช่วงเปิดตัว 1,490 บาท จากราคาเต็ม 2,990 บาท ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์
# สวนสนุก Super Nintendo World ประกาศกำหนดเปิดให้บริการที่ญี่ปุ่นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า โซนเครื่องเล่น Super Nintendo World ที่อยู่ในสวนสนุก Universal Studios Japan (USJ) เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น จากเดิมมีแผนกำหนดเปิดให้บริการช่วงกลางปีนี้เพื่อต้อนรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก แต่จากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดออกไปไม่มีกำหนด ล่าสุดนินเทนโดได้กำหนดช่วงเวลาที่จะเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยระบุว่าเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2021 (มีนาคม-พฤษภาคม) และให้รายละเอียดเครื่องเล่นเพิ่มเติม อาทิ Mario Kart ที่เสมือนจริงมาก ๆ, ขี่ Yoshi ผจญภัยในโลกมาริโอ้, เก็บคะแนนผ่านสายรัดข้อมือ และกิจกรรมโหม่งบล็อก นอกจากนี้ USJ จะเปิดให้บริการ Mario Cafe & Store ในสัปดาห์หน้า (16 ตุลาคม) ซึ่งมีทั้งอาหารในธีมมาริโอ้และสินค้าที่ระลึกจำหน่าย ที่มา: Engadget
# Xiaomi เปิดตัว POCO C3 แข่งกับ Realme C3 ในอินเดีย ราคาเริ่มต้น ราว 3,200 บาท Xiaomi เปิดตัวมือถือ POCO C3 ชื่อรุ่นเหมือนกันกับ Realme C3 (ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Oppo) เป็นมือถือแบรนด์ POCO ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยเปิดตัวมา มีสเปกภายในดังนี้ หน้าจอ IPS LCD ความละเอียด 720 x 1600 ชิป MediaTek Helio G35 แรม 3GB / 4GB หน่วยความจำภายใน 32GB / 64GB พร้อมช่องใส่ micro SD card กล้องหลัง 3 กล้อง กล้องหลัก 13MP f/2.2 กล้องมาโคร 2MP f/2.4 Depth sensor 2MP f/2.4 กล้องหน้า 5MP f/2.2 แบบเจาะรู แบตเตอรี่ 3,000 mAh ชาร์จ 10W ผ่านพอร์ต microUSB รัน Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12 เทียบแล้ว POCO C3 ใช้ชิปรุ่นด้อยกว่า Realme C3 ที่ใช้ Mediatek Helio G70 แต่กล้องหลักของ POCO C3 มีความละเอียดมากกว่ากล้องหลักของ Realme C3 (12MP f/1.8) POCO C3 มี 3 สี ได้แก่ น้ำเงิน Arctic Blue, สีดำ Matte Black และสีเขียว Lime Green วางจำหน่ายวันที่ 16 ตุลาคม บนเว็บไซต์ Flipkart ของอินเดีย ราคาดังนี้ รุ่นแรม 3GB หน่วยความจำภายใน 32GB ราคา 7,499 รูปี (ราว 3,200 บาท) รุ่นแรม 4GB หน่วยความจำภายใน 64GB ราคา 8,999 รูปี (ราว 3,850 บาท) ที่มา - TalkAndroid
# LG เปิดตัวทีวี OLED 4K เน้นตลาดเกมเมอร์ ตอบสนอง 1ms รีเฟรช 120Hz ราคา 49,990 บาท LG เปิดตัวทีวีซีรีส์ CX รุ่น OLED48CX ขนาด 48 นิ้ว เป็นทีวี 4K OLED มุ่งเป้าลูกค้าเกมเมอร์ อัตราตอบสนอง 1ms รีเฟรชเรต 120Hz มีโหมด low input lag มีระบบ Dolby Vision IQ รองรับ NVIDIA G-Sync และ VRR (Variable Refresh Rate) รองรับระบบเสียง Dolby Atmos มีพอร์ต HDMI 2.1 และสั่งการด้วยเสียงได้ผ่าน ThinQ AI ทีวี LG OLED 4K รุ่น OLED48CX ขายที่ราคา 49,990 บาท ซื้อวันนี้ถึง 31 ตุลาคม แถมหูฟัง LG TONE Free รุ่น FL7 ฟรี ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์
# อนุกรรมาธิการของสภาสหรัฐระบุ Apple, Amazon, Facebook และ Google มีพฤติกรรมผูกขาด หลังการสืบสวนกว่า 16 เดือน อนุกรรมาธิการด้านการผูกขาด ของคณะตุลาการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ( House Judiciary subcommittee on antitrust) ได้ออกรายงานสรุปแล้วว่า Apple, Amazon และ Facebook และ Google มีการดำเนินการแบบผูกขาดในด้านต่างๆ ของโลกเทคโนโลยีจริง คณะอนุกรรมการระบุว่า Apple ผูกขาดในด้าน “การเผยแพร่ซอฟต์แวร์ บน iOS” Google ในด้าน “ตลาดการค้นหาแบบออนไลน์” Facebook ในด้าน “ตลาดสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค” และ Amazon ในด้าน “การมีอำนาจเหนือคู่ค้า third-party และซัพพลายเออร์” คณะอนุกรรมการยังแนะนำให้ออกร่างกฎหมาย ป้องกันไม่ให้บริษัทที่ครองตลาดใดตลาดหนึ่ง เข้าซื้อกิจการบริษัทที่ดำเนินงานคล้ายกัน เช่น Facebook ซื้อ Instagram หรือ Google ซื้อ Youtube และแนะนำให้ออกอีกร่าง ที่กำหนดว่าการควบรวมของสองบริษัทใหญ่ จะมีสถานะไม่เอื้อต่อการแข่งขันทันที ทำให้บริษัทที่จะควบรวมหรือซื้อกิจการมีหน้าที่ในการพิสูจน์ว่าการควบรวมนั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน (จากเดิมที่ภาครัฐต้องเป็นคนพิสูจน์) หากร่างกฎหมายนี้ผ่าน อาจะเป็นผลดีต่อ Epic ที่กำลังมีคดีฟ้องเกี่ยวกับการผูกขาดกับ Apple ได้ แต่ร่างกฎหมายนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกฝั่งเดโมแครตเป็นส่วนใหญ่ ยังไม่แน่ว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากฝั่งรีพับลิกันมากน้อยแค่ไหน คงต้องติดตามผลกันต่อไป อ่านรายงานฉบับเต็มที่ได้ที่นี่ ที่มา - Gamespot via CNBC
# โซนี่ประสบปัญหายังขาย PS5 ในอินเดียไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า แม้ว่า PS5 จะประกาศราคาและเริ่มเปิดพรีออเดอร์ในหลายประเทศไปแล้ว แต่ไม่ใช่กับอินเดียที่โซนี่ยังไม่แม้แต่ประกาศราคา ซึ่งปัญหาก็มาจากการที่โซนี่ไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า PS5 ในอินเดีย เว็บไซต์ The Mako Reactor รายงานว่าเครื่องหมายการค้า PS5 ถูกบริษัทที่ชื่อว่า Hitesh Aswani of Delhi ยื่นจดในวันที่ 29 ตุลาคม 2019 ก่อนที่โซนี่จะยื่นในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2020 ขณะที่สถานะของเครื่องหมายการค้า PS5 ในอินเดียตอนนี้อยู่ที่ 'Opposed' หรือถูกคัดค้าน ซึ่งแม้จะไม่มีรายละเอียดใด ๆ ตอนนี้แต่ก็คาดว่าน่าจะอยู่ในกระบวนการทางกฎหมายแล้ว ก่อนหน้านี้ ASUS เจอปัญหาคล้ายกันในอินเดียคือถูก Telecare Network ยื่นฟ้องว่าตนเองถือสิทธิ์ใช้แบรนด์ ZEN และ ZENMOBILE ในอินเดียอยู่ก่อนแล้ว ทำให้สุดท้าย ASUS ต้องทำตลาด Zenfone 6z ในชื่อ ASUS 6z แทน ที่มา - The Mako Reactor
# โซนี่คาดการณ์ยอดขาย PS5 จะมากกว่า PS4 ที่ทำยอดไป 7 ล้านเครื่องภายในเดือนมีนาคม ไม่ว่าจะด้วยการแข่งกันทำมาร์เก็ตติ้งหรือเทคโนโลยีใหม่บน PS5 ที่ทำให้ตัวคอนโซลได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งโซนี่เองก็คาดการณ์เอาไว้ว่ายอดขายของ PS5 ช่วงแรกน่าจะดีกว่า PS4 James Ryan ซีอีโอของ Sony Interactive Entertainment ให้สัมภาษณ์กับสื่อของเกาหลีระบุว่า โซนี่คาดว่าภายในปีงบประมาณนี้ (ปีงบประมาณ 2020 สิ้นสุดมีนาคม 2021) ยอดขาย PS5 จะมากกว่า PS4 ที่เริ่มวางขายในเดือนพฤศจิกายน 2013 และทำยอดขายไว้ราว 7 ล้านเครื่อง ซึ่ง PS5 ก็จะเริ่มวางขายในช่วงระยะเวลาเดียวกัน นอกจากนี้เขายังพูดเรื่องการตั้งราคาเกมบน PS5 ใหม่เป็น 69.99 เหรียญ ด้วยว่าเขาไม่สามารถพูดแทนตลาดเกมหรือคอนโซลรุ่นอื่นได้ แต่สำหรับ PS5 แล้ว เขายืนยันว่าประสบการณ์ที่คอนโซลมอบให้ถือว่าคุ้มค่าแล้วกับราคานี้ ที่มา - Eurogamer _
# Facebook, Twitter ลบและซ่อนโพสต์ทรัมป์ที่บอกว่า COVID-19 ไม่ร้ายแรงเท่าไข้หวัดใหญ่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ติดโรค COVID-19 เข้าจนได้ และอาการของเขามีการฟื้นตัวดีขึ้น จนเขาสามารถมาโพสต์โซเชียลมีเดียได้ถี่เหมือนเดิม แต่มีโพสต์หนึ่งของเขาที่ดูเป็นปัญหา คือโพสต์ว่า COVID-19 นั้นไม่ร้ายแรงเท่าไข้หวัดใหญ่ เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับไข้หวัดใหญ่ เหมือนกับที่เราต้องเรียนรู้ที่อยู่กับ COVID-19 ซึ่งถือว่าร้ายแรงน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่เสียอีก Facebook ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ส่วน Twitter ก็ซ่อนโพสต์ไปแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเป็น "การเผยแพร่ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและอาจเป็นอันตราย" ด้าน Facebook ระบุว่าที่ต้องลบเพราะมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอย่างร้ายแรงเกี่ยวกับ COVID-19 โดยเป็นการลบโพสต์ครั้งที่สองของ Facebook จากครั้งแรกที่ทรัมป์พูดในวิดีโอว่า เด็กๆ มีภูมิคุ้มกัน COVID-19 ทรัมป์ตอบโต้โซเชียลมีเดียที่ลบโพสต์ของเขาว่า "REPEAL SECTION 230!!!" หรือให้ยกเลิกถึงกฎหมายที่ระบุว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาที่โพสต์โดยผู้ใช้ของตน ก่อนโพสต์ที่โดนลบไปนี้ ทรัมป์ยังโพสต์เมื่อวานด้วยว่า อย่าไปกลัว COVID-19 ซึ่งไปกระตุ้นกลุ่มต่อต้านการใส่หน้ากากอนามัยและกลุ่มสนับสนุนทรัมป์ที่กำลังแพร่หลายในสหรัฐฯ ขณะนี้ พวกเขาแชร์ความเห็นกระทั่งว่า COVID-19 ไม่ร้ายแรง, ไม่มีอยู่จริง เชิญชวนคนอื่นให้เพิกเฉยต่อการรักษาสุขภาพตัวเอง โซเชียลมีเดียจึงถูกกดดันอย่างหนักตั้งแต่เมื่อวานให้จัดการอะไรบางอย่างกับโพสต์ของทรัมป์ ภาพจาก Getty Images ที่มา - BBC
# Chrome 86 ออกแล้ว ลดการใช้งานซีพียูหากหน้าต่างถูกบัง กูเกิลออก Chrome 86 รุ่นเสถียร ฝั่งเดสก์ท็อปมีของใหม่ดังนี้ ดักได้ว่าหน้าต่าง Chrome โดนหน้าต่างอื่นบังอยู่ เพื่อหยุดแสดงผลหน้าเพจที่ถูกบัง ลดซีพียูและประหยัดแบตเตอรี่ บีบการใช้งานของซีพียูลงเหลือ 1% หากแท็บนั้นถูกจัดว่าทำงานเบื้องหลัง เตือนผู้ใช้หากกรอกฟอร์มบนเพจ HTTPS แต่ส่งข้อมูลเป็น HTTP แสดงปุ่ม Update ที่มุมขวาบนใหญ่ขึ้น เมื่อมีอัพเดต ส่วน Chrome 86 เวอร์ชันอุปกรณ์พกพา ได้ฟีเจอร์ด้านจัดการรหัสผ่าน ที่ฝั่งเดสก์ท็อปเคยได้ไปก่อนแล้ว ที่มา - Chrome Releases, 9to5google
# Cloudflare เปิดบริการ API Shield ตรวจสอบใบรับรองเข้ารหัส, เช็คฟิลด์ JSON Cloudflare เปิดบริการ API Shied สำหรับปกป้องเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการ API ซึ่งกลายเป็นเป้าการโจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลัง โดยเฉพาะบน Cloudflare เองก็มีปริมาณ request ครึ่งหนึ่งเป็น API request โดยบริการแบ่งออกเป็นสองส่วน คือการออกใบรับรองเข้ารหัสสำหรับไคลเอนต์ และการตรวจสอบ schema ข้อมูล การตรวจสอบใบรับรองเข้ารหัสด้วยการเชื่อมต่อแบบ mutual TLS เป็นการยืนยันตัวตนที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม IoT โดยไคลเอนต์จะมีใบรับรองของตัวเองเพื่อเชื่อมต่อเข้าเซิร์ฟเวอร์ บริการ API Shield ปรับลดกระบวนการขอใบรับรองสำหรับไคลเอนต์จาก Cloudflare ให้เหลือไม่กี่คลิกเท่านั้น อีกส่วนคือการตรวจสอบ schema ข้อมูลล่วงหน้า ป้องกันความพยายามหาช่องโหว่แอปพลิเคชั่นด้วยการใส่ข้อมูลที่นักพัฒนาไม่คาดคิด โดยบริการส่วนนี้จะดักข้อมูลใน HTTP POST แล้วตรวจสอบเนื้อ JSON ว่ามีฟิลด์ตามที่กำหนดไว้หรือไม่ ตอนนี้ยังทดสอบวงปิดและต้องเปิด ticket ขอใช้งานเท่านั้น และทาง Cloudflare เตรียมรองรับ gRPC ในอนาคต ที่มา - Cloudflare
# Facebook Portal เพิ่มการรองรับ Netflix และ Zoom Facebook Portal TV อุปกรณ์เสริมที่ให้คุยวิดีโอคอลบนจอทีวีได้โดยต่อสาย HDMI ประกาศเพิ่มการรองรับแอปสตรีมมิ่ง Netflix โดยสามารถกดรีโมทแบบใหม่ซึ่งกดครั้งเดียวเข้าถึง Netflix ได้เลย จนถึงตอนนี้ Portal TV สามารถรองรับสตรีมมิ่ง Amazon Prime Video, SHOWTIME และ SLING TV ได้ นอกจากนี้ Facebook ยังเพิ่มการรองรับ Zoom บนอุปกรณ์วิดีโอคอล Portal ด้วย ใช้งานได้บน Portal Mini, Portal และ Portal+ Portal มีฟีเจอร์ Story Time หรือฟีเจอร์เล่านิทานผ่านวิดีโอคอลที่จะนำเสนอในรูปแบบ interactive ในนิทานเด็กยอดนิยมหลายๆ เรื่องล่าสุดจะเพิ่มเรื่องใหม่ๆ เข้ามาคือ Thank You, Omu!, A Kids Book About Belonging และ Grandma’s Purse และจะขยายฟิลเตอร์ AR ประกอบการเล่านิทานในนิทานหลายเรื่องอย่าง Hop on Pop, Mr. Brown Can Moo! Can You?, The Foot Book และ There’s a Wocket in my Pocket! ที่มา - Facebook
# Mortal Kombat 11 ทำยอดขายได้ 8 ล้านชุดแล้ว Ed Boon ผู้สร้างซีรีส์ Mortal Kombat และหัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของสตูดิโอ NetherRealm ประกาศว่าเกม Mortal Kombat 11 ที่วางขายเมื่อปีที่แล้ว ทำยอดขายได้แล้ว 8 ล้านชุด ตัวเลขนี้ถือว่าน่าประทับใจ แต่ยังแพ้ Mortal Kombat X ภาคก่อนหน้า ที่วางขายในปี 2015 และทำยอดขายรวมได้ถึง 11 ล้านชุด อย่างไรก็ตาม ภาค 11 ยังเพิ่งวางขายได้ไม่นานนัก และเพิ่งออกภาคเสริม Aftermath พร้อมแผนการออก DLC อีกมากมาย ก็น่าจะสามารถดันยอดขายของภาคนี้ได้อีกพอสมควรตลอดอายุขัยของเกม ที่มา - Eurogamer
# AWS โอเพนซอร์ส Diagram Maker ไลบรารีวาดแผนภาพบนเว็บ เน้นรองรับงาน IoT AWS โอเพนซอร์สโครงการ Diagram Maker ไลบรารีจาวาสคริปต์สำหรับสร้างตัววาดแผนภาพ ที่แอปพลิเคชั่นจำนวนมากก็ต้องใช้งานกันอยู่แล้ว โดย AWS ระบุว่าไลบรารีที่มีอยู่เดิมไม่เหมาะกับงาน IoT เนื่องจากไลบรารีบางตัวก็เป็นระดับล่างเกินไปหรือบางตัวมี API ระดับสูงก็อินทิเกรดกับแอปพลิเคชั่นได้ยาก Diagram Maker ของ AWS มีฟีเจอร์มาให้ในตัวค่อนข้างครบ ได้แก่ ระบบลากวาง node ลากเพื่อวาดเส้น edge ซูมเข้าออก เลื่อนแผนภาพ เมนูตาม context รองรับปุ่มลัดบนคีย์บอร์ด เช่น เลือกทั้งหมด, ลบข้อมูลบางส่วน โหมดห้ามแก้ไข, โหมดอ่านอย่างเดียว, หรือโหมดเลือกหลายออปเจกต์ได้ วาดกราฟอัตโนมัติจากข้อมูลที่ให้มา ทาง AWS เองสร้าง Diagram Maker เพื่องาน IoT ของตัวเองเป็นหลัก โดยใช้งานใน AWS IoT Events Console และ AWS IoT Things Graph Console แต่ทีมงานก็ระบุว่าสามารถใช้กับงานอื่น เช่น การสร้าง workflow หรือการออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากโครงการหลักแล้ว AWS ยังเปิดปลั๊กอินตัวแรกมาพร้อมกันคือ minimap สำหรับการแก้ไขแผนภาพขนาดใหญ่ พร้อมกับแนะนำนักพัฒนาว่าหากขาดฟีเจอร์ใดก็สามารถพัฒนาปลั๊กอินมาเติมได้ ที่มา - AWS Open Source Blog
# GitHub เปิดบริการ Code scanning ให้คนทัวไปใช้งานแล้ว พร้อมประกาศเชื่อมต่อผู้ให้บริการสแกนโค้ดภายนอก GitHub เปิดบริการ Code scanning สำหรับการตรวจสอบความปลอดภัยโค้ดไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ตอนเปิดตัวยังเป็นเบต้าวงปิด และตอนนี้ก็เปิดให้ทุกคนที่มี repository สาธารณะใช้งานแล้ว เอนจินหลักของ Code scanning คือ CodeQL และในการเปิดบริการเป็นทางการครั้งนี้ GitHub ก็เปิดบริการเชื่อมต่อกับบริการสแกนโค้ดภายนอก เนื่องจากองค์กรจำนวนมากต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นโครงการเดิมที่เคยใช้เครื่องมือเดิมมาก่อน, โค้ดเฉพาะด้านมากๆ เช่น โค้ดสำหรับเมนเฟรม, หรือต้องการรายงานเฉพาะด้าน เอนจินภายนอกจะส่งผลการสแกนเข้าไปยัง GitHub ในรูปแบบ Static Analysis Results Interchange Format (SARIF) ที่เป็นมาตรฐานเปิด ทำให้ผู้ใช้ GitHub มองเห็นผลการสแกนในแท็บ Security Alerts ทันที ตอนนี้มีริษัทจำนวนมากร่วมมือกับ GitHub นำเครื่องมือมาวางบน GitHub Marketplace แล้ว ที่มา - GitHub
# กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์จัดการรหัสผ่านใน Chrome เตือนเมื่อใช้รหัสผ่านที่เคยหลุด, Password Manager ยืนยันด้วย Face ID/Touch ID กูเกิลเพิ่มความปลอดภัยรหัสผ่านใน Chrome เวอร์ชั่นโทรศัพท์มือถือ โดยมีฟีเจอร์สำคัญคือการแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อกำลังใช้งานรหัสผ่านที่เคยหลุดออกสู่สาธารณะมาก่อน และยังนำผู้ใช้ไปยังหน้าเปลี่ยนรหัสผ่านโดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์ใหม่บน iOS/Android คือการรองรับ Enhanced Safe Browsing ที่ตัวเบราว์เซอร์จะส่งข้อมูลกลับไปยังบริการ Safe Browsing เพื่อเช็คว่าเว็บที่กำลังเข้ามีความเสี่ยงหรือไม่ ฟีเจอร์นี้มีบน Chrome เวอร์ชั่นเดสก์ทอปมาก่อนแล้ว โดยกูเกิลระบุว่าผู้ใช้ที่เปิดใช้งานมีอัตราการพิมพ์รหัสผ่านลงเว็บฟิชชิ่งลดลง 20% Chrome Password Manager บน iOS เพิ่มฟีเจอร์ให้เทียบเท่าตัวจัดการรหัสผ่านเต็มรูปแบบมากขึ้น โดยรองรับฟีเจอร์ Tap-to-fill ที่ผู้ใช้ต้องยืนยันตัวตนด้วย PIN, Touch ID, หรือ Face ID ก่อนจากนั้น Chrome จึงเติมรหัสผ่านให้ และยังรองรับการเก็บรหัสผ่านให้กับแอปอื่นๆ นอกเบราว์เซอร์ด้วย ฟีเจอร์สุดท้ายคือการแจ้งเตือน mixed form เดือนผู้ใช้ว่ากำลังส่งข้อมูลในฟอร์มบนเว็บผ่านการเชื่อมต่อที่ไม่เข้ารหัส โดยจะแจ้งทั้งขณะกรอก และเมื่อกด Submit แล้วก็จะขึ้นหน้าเตือนเต็มหน้าอีกครั้ง ที่มา - Google Security Blog
# Apple ร่อนบัตรเชิญงานเปิดตัวสินค้าใหม่แบบออนไลน์ 13 ตุลาคมนี้ Apple ส่งบัตรเชิญงานเปิดตัวสินค้าใหม่แบบออนไลน์ 13 ตุลาคมนี้ เวลา 10.00 นาฬิกา เวลาแปซิฟิก หรือตรงกับเที่ยงคืนวันที่ 14 ตุลาคมในบ้านเรา (ช่วงดึกวันอังคาร ก่อนเช้าวันพุธ) ในภาพเป็นวงกลมสามวงซ้อนกันพร้อมโลโก้ Apple ตรงกลาง พร้อมคำเชิญชวนง่ายๆ ว่า “Hi, Speed.” ส่วนจะมีความหมายอย่างไรนั้น คงต้องติดตามต่อไป Apple เพิ่งเปิดตัวสินค้าชุดใหญ่ทั้ง Apple Watch และ iPad ไปเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา รอบนี้ก็น่าจะเป็น iPhone ที่ยังรอเปิดตัวอยู่ ที่มา - MacRumors
# SK hynix เปิดตัวแรม DDR5 รุ่นแรกของโลก เร็วขึ้น 1.8 เท่าจาก DDR4, ขนาดสูงสุด 256GB SK hynix เปิดตัวแรม DDR5 รุ่นแรกของโลก (อย่าสับสนกับแรม GDDR5 ของการ์ดจอ ซึ่งพัฒนาจาก DDR3 และตอนนี้อัพเกรดไปเป็น GDDR6X แล้ว) จากสเปกของแรม DDR5 มีอัตราการส่งข้อมูล 3200-6400 Mbps เพิ่มขึ้น 2 เท่าจาก DDR4 (1600-3200 Mbps) ส่วน SK hynix ระบุว่าแรมของตัวเองทำได้ที่ 4800-5600 Mbps หรือเพิ่มขึ้นราว 1.8 เท่า นอกจากนี้ยังทำงานที่ 1.1V ลดลงจาก 1.2V ของ DDR4 เล็กน้อย ช่วยให้ประหยัดพลังงานลงจากเดิม 20% ฟีเจอร์อื่นของ SK hynix DDR5 คือมีตัวแก้ไขข้อมูลผิดพลาดหรือ Error Correcting Code (ECC) อยู่ในตัวชิปโดยตรง บริษัทระบุว่าสามารถผลิตแรมที่มีขนาดสูงสุด 256GB SK hynix ประเมินว่าเราจะเห็นยอดขายแรม DDR5 คิดเป็นสัดส่วน 10% ของแรมที่ขายในปี 2021 และจะเพิ่มเป็น 43% ในปี 2024 ที่มา - SK hynix
# ซัมซุงเปิดทดสอบ One UI 3 ที่เป็น Android 11 แล้ว เริ่มจาก Galaxy S20 ก่อน ซัมซุงเริ่มเปิดทดสอบ One UI 3 ที่พัฒนาอยู่บน Android 11 แบบ Public Beta ในบางประเทศแล้ว โดยเริ่มจากซีรีส์ Galaxy S20 ในประเทศเกาหลีใต้เป็นลำดับแรก ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ระบุชื่อแล้วได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อินเดีย โปแลนด์ เยอรมนี จีน ในเอกสาร changelog ของ One UI 3 รุ่นทดสอบในวงปิดก่อนหน้านี้ ระบุว่านอกเหนือจากฟีเจอร์มาตรฐานของ Android 11 แล้ว ฟีเจอร์ใหม่ของ One UI 3 มีหลายอย่าง เช่น ปรับปรุงฟีเจอร์ Wireless DeX, ปรับหน้าตาของเบราว์เซอร์ Samsung Internet, ปรับปรุง Parental Controls เป็นต้น ถ้าเทียบจากกำหนดการปีที่แล้ว ซัมซุงเริ่มเปิดทดสอบ One UI 2 ช่วงต้นเดือนตุลาคม และออกรุ่นเสถียรช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือว่าเร็วกว่าสมัยก่อนมาก ที่ต้องรอจนถึงเดือนมีนาคมปีถัดไปโน่นเลย ที่มา - Samsung via SamMobile
# Google Cloud Functions บริการ Serverless รองรับภาษา .NET และ Ruby เพิ่มเติม Google Cloud Functions บริการประมวลผลแบบ serverless ของฝั่งกูเกิล (ที่เทียบได้กับ Amazon Lambda ของฝั่ง AWS) ประกาศรองรับรันไทม์อีก 2 ภาษาคือ .NET Core 3.1 และ Ruby ประกาศนี้ทำให้ตอนนี้ Cloud Functions รองรับภาษาทั้งหมด 6 ภาษาคือ Java 11, Node.js (8/10/12), Python (3.7/3.8) และ Go การเพิ่มจำนวนภาษาที่รองรับในรอบนี้ ทำให้ Cloud Functions ทัดเทียมกับคู่แข่ง Lambda ที่รองรับทั้งหมด 7 ภาษา (6 ภาษาแรกเหมือนกัน เพิ่ม PowerShell มาอีกหนึ่งภาษา) ในขณะที่ Azure Functions ของไมโครซอฟท์รองรับ .NET Core 3.1 (C#/F#), Node.js, Java, Python, PowerShell, TypeScript กูเกิลยังประกาศขยายเขตบริการ Cloud Functions เพิ่มอีก 11 เขต รวมเป็น 19 เขต โดยแถวบ้านเรามีให้บริการที่จาการ์ตาและฮ่องกง แต่ยังไม่มีในเขตที่สิงคโปร์ ที่มา - Google
# Bloomberg รายงาน Apple เริ่มหยุดขายหูฟัง third-party ทั้งบนเว็บไซต์และในร้านค้าแล้ว Bloomberg รายงานว่า Apple เริ่มหยุดขายหูฟัง third-party ยี่ห้อ Sonos, Bose และ Logitech บนเว็บไซต์แล้ว ตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายนเป็นต้นมา นอกจากนี้พนักงานในร้านค้า ยังได้รับคำสั่งให้เตรียมเก็บหูฟังลงจากร้านด้วย โดย Bloomberg คาดว่า Apple อาจเตรียมเปิดตัวหูฟัง over-ear รุ่นใหม่ของตัวเอง ภายในปีนี้ และกำลังพัฒนา HomePod รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่าเดิมอยู่ด้วย ก่อนหน้านี้ Apple เคยหยุดขายนาฬิกาฟิตเนส Fitbit ก่อนจะเปิดตัว Apple Watch มาแล้วในปี 2014 ถอดลำโพงจาก Bowers & Wilkins กับ Bang & Olufsen ออกไปจากร้านเมื่อต้นปีนี้ และ Apple เพิ่งนำลำโพง Sonos One SL ที่ไม่มี Alexa หรือ Google Assistant มาขายเมื่อต้นปี ก่อนการถอดจากร้านเมื่อช่วงสิ้นเดือนจะทำให้หุ้น Sonos ตกถึง 7% ตอนนี้หูฟังที่จำหน่ายในร้านค้าของ Apple เหลือเพียง AirPods, AirPods Pro และ Beats เท่านั้น ส่วนลำโพงบนเว็บไซต์ก็เหลือเพียง HomePod และ Beats Pill+ แต่ยังมีลำโพง third-party ชิ้นเดียวที่เหลือจำหน่ายอยู่ คือลำโพงสำหรับห้องประชุมจาก Pioneer ที่เสียบ iPhone ได้ ซึ่ง Apple ยังไม่มีอุปกรณ์คล้ายกันมาวางจำหน่าย ที่มา - Bloomberg
# G Suite เปลี่ยนชื่อเป็น Google Workspace, เปลี่ยนไอคอน Gmail, Drive, Docs ใหม่หมด กูเกิลประกาศรีแบรนด์ G Suite เป็นชื่อใหม่ Google Workspace พร้อมเปลี่ยนไอคอนแอพในชุดทั้ง 5 ตัวได้แก่ Gmail, Google Calendar, Google Docs, Google Drive, Google Meet ให้เป็นดีไซน์ใหม่ทั้งหมด นอกจากเรื่องการรีแบรนด์และไอคอนชุดใหม่แล้ว ภาพรวมของ Workspace ตัวใหม่เน้นที่การทำงานร่วมกัน (collaboration) ผ่านระบบของ Chat และ Meet เป็นหลัก (ที่กูเกิลเคยโชว์ไปก่อนหน้านี้) เราจะเห็นหน้าจอแชทถูกแทรกซึมเข้าไปในหน้า Gmail, หน้าจอ Meet แบบ picture-in-picture ลอยทับใน Google Docs, รวมถึงการแก้เอกสารผ่าน Google Docs ในหน้า Gmail ได้โดยตรง UI แบบใหม่ของ Google Workspace เปิดให้ใช้งานแล้วสำหรับลูกค้าแบบเสียเงิน ส่วนลูกค้าคอนซูเมอร์ทั่วไปจะทยอยได้ใช้ UI แบบใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ที่มา - Google
# ก้าวแรกหลังซื้อกิจการ NVIDIA ประกาศพอร์ตซอฟต์แวร์ชุดใหญ่ไปรันบน Arm ความเคลื่อนไหวแรกหลัง NVIDIA ซื้อ Arm คือการประกาศพอร์ตซอฟต์แวร์ของตัวเองจำนวนมากไปรันบนสถาปัตยกรรม ARM ฝั่งของฮาร์ดแวร์นั้น NVIDIA มีผลิตภัณฑ์ที่เป็น ARM อยู่ก่อนหน้าแล้วพอสมควร (ตัวล่าสุดคือ BlueField DPU ที่ได้มาจากการซื้อ Mellanox) และคงต้องใช้เวลาสักพักเราถึงจะเริ่มเห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกตามมา แต่ฝั่งซอฟต์แวร์นั้นทำได้เลย นอกจาก CUDA on ARM ที่เคยประกาศไปแล้ว ยังมี NVIDIA AI ชุดซอฟต์แวร์เทรนนิ่ง AI, NVIDIA Rapids สำหรับงาน data science, HPC SDK สำหรับงานคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง, Nsight เครื่องมือสำหรับ visualization เป็นต้น ซอฟต์แวร์เหล่านี้มักใช้กับเซิร์ฟเวอร์ ศูนย์ข้อมูล หรืองานอุปกรณ์ฝังตัว ที่เดิมทียังรองรับเฉพาะการรันบนซีพียู x86 เท่านั้น แต่เมื่อ NVIDIA เป็นเจ้าของ Arm แล้ว และประกาศเอาไว้ชัดว่าต้องการผลักดันซีพียู ARM ในฝั่งเซิร์ฟเวอร์เต็มรูปแบบ บริษัทจึงเดินหน้าพอร์ตซอฟต์แวร์ให้ทำงานบน ARM ทันที ตัวอย่างที่จับต้องได้ที่สุดคือ Fugaku ซูเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับ 1 ของโลกในตอนนี้ ใช้ซีพียู Fujitsu A64FX ที่เป็น ARM และมีชุดคำสั่งใหม่ Scalable Vector Extensions (SVE) ที่ยังใช้งานกันไม่แพร่หลายนัก ในฐานะที่ NVIDIA มีซอฟต์แวร์สาย AI จำนวนมากสำหรับรันบนคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง การพอร์ตซอฟต์แวร์เหล่านี้ให้รันบน Arm และรองรับ SVE จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ที่มา - NVIDIA
# แบงค์ชาติเริ่มขายพันธบัตรผ่านบล็อกเชน 5 หมื่นล้านบาท ใช้ระบบของ IBM IBM ประกาศข่าวในงานสัมมนาด้านการเงิน Sibos ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย เริ่มใช้งานระบบขายพันธบัตรออมทรัพย์ (government savings bonds issuing) ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนของ IBM แล้ว โดยออกขายพันธบัตรผ่านระบบนี้เป็นวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท (1.6 พันล้านดอลลาร์) ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ การนำบล็อกเชนมาใช้งานช่วยให้นักลงทุนได้รับพันธบัตรเร็วขึ้น จากระยะเวลาปกติ 15 วันลดเหลือ 2 วัน เพราะกระบวนการเดิมมีความซับซ้อนสูง มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ตั้งแต่ผู้ออกพันธบัตร (issuer), ผู้จัดจำหน่าย (underwriter), นายทะเบียน (registrar) นักลงทุน (investor) และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ การย้ายมาใช้ระบบบล็อกเชนที่เป็นระบบเดียวสำหรับทุกคน จึงช่วยลดกระบวนการตรวจสอบที่ซ้ำซ้อนลง ช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนลงโดยปริยาย ระบบพันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทย มีหน่วยงานทั้งหมด 8 แห่งเข้าร่วมคือ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และธนาคารตัวแทนจำหน่าย ประกอบด้วยธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ โดยรันอยู่บน IBM Blockchain และ IBM Cloud ที่มา - IBM
# Instagram ทำลูกเล่นในโอกาสครบรอบ 10 ปี เปลี่ยนไอคอนแอปเป็นโลโก้เก่าสีน้ำตาล หรือสีอื่นๆ ได้ Instagram ทำลูกเล่นแฝงไว้ในเมนูตั้งค่าทั้งบนแอป iOS และ Android เมื่อเข้าไปที่เมนูตั้งค่า และเลื่อนหน้าจอลงมา จะมองเห็นโลโก้ไอคอนแอปตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่เป็นรูปกล้องสีน้ำตาล รวมถึงโลโก้ใหม่ในสีอื่นๆ เช่น ขาว ดำ ม่วง เขียว เหลือง สีรุ้ง มาให้ผู้ใช้งานเลือกเปลี่ยนไปคอนแอปได้ตามใจชอบ Instagram ยังทำ Stories Map ที่เป็นเหมือนปฏิทินส่วนตัวแชร์ให้เราเห็นว่าตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมา เราแชร์อะไรไปบ้าง โดยแสดงในรูปแบบปฏิทิน และเส้นทางปักหมุดตามสถานที่ต่างๆ ภาพจาก Instagram Brand Assets ที่มา - TechCrunch
# Facebook ไทยตั้งกองทุนเยียวยา SME ในกรุงเทพฯ หากเข้าเกณฑ์ได้รายละ 89,000 บาท Facebook ประเทศไทย ตั้งโครงการมอบเงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ระบุจะได้รับเงินทุนสนับสนุนมูลค่ารวมโดยประมาณ 89,000 บาทประกอบด้วยเงินสด 55,600 บาท และเครดิตโฆษณา (ad credit) จำนวน 33,400 บาท โดยธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกไม่จำเป็นต้องมีบัญชีหรือเพจบน Facebook เพื่อลงทะเบียนสมัครเข้ารับการสนับสนุนดังกล่าว หลักเกณฑ์การสมัคร ดังนี้ ธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไทยที่ต้องการสมัครเพื่อรับเงินสนับสนุน ต้องผ่านเกณฑ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 มีพนักงานตั้งแต่ 2-50 คน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ประกอบธุรกิจมานานกว่า 1 ปี เป็นองค์กรธุรกิจที่หวังผลกำไร ดำเนินงานอยู่ในเขตกรุงเทพฯ เท่านั้น สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 6-12 ตุลาคม 2563 สามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนสมัครได้ที่ facebook.com/business/small-business/grants ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
# NEC เข้าซื้อกิจการ Avaloq บริษัทโซลูชันด้านการเงิน มูลค่าดีล 7 หมื่นล้านบาท NEC บริษัทด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่น ประกาศเข้าซื้อกิจการทั้งหมดใน Avaloq บริษัทจากสวิตเซอร์แลนด์ผู้พัฒนาโซลูชันดิจิทัล สำหรับกลุ่มลูกค้าการเงินการธนาคาร โดยหลังการเข้าซื้อเสร็จสิ้น Avaloq จะเป็นธุรกิจในเครือของ NEC แต่ยังดำเนินการภายใต้แบรนด์เดิมต่อไป ดีลดังกล่าวมีมูลค่า 2,050 ล้านฟรังก์สวิส หรือคิดเป็นราว 70,000 ล้านบาท ซึ่ง NEC ใช้วิธีซื้อหุ้นทั้งหมดต่อจากผู้ถือหุ้นเดิม โดยมีกองทุน Warburg Pincus เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด Takashi Niino ประธานและซีอีโอ NEC กล่าวว่าการซื้อกิจการ Avaloq นี้ จะทำให้ NEC ได้เทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูงซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญมากขึ้น และสามารถขยายธุรกิจไปสู่บริการของรัฐแบบดิจิทัลและการเงินดิจิทัลที่ครอบคลุมมากขึ้น ที่มา: Avaloq ผ่าน ZDNet
# Need for Speed Hot Pursuit เวอร์ชันปี 2010 ประกาศรีมาสเตอร์ ขายบนพีซี-คอนโซล 6 พ.ย. ยุคสมัยแห่งการรีมาสเตอร์เกมเก่า เกมล่าสุดที่ถูกรีมาสเตอร์มาขายใหม่คือ Need for Speed Hot Pursuit เวอร์ชันปี 2010 เกมภาคนี้พัฒนาโดย Criterion Games สตูดิโอจากอังกฤษ บริษัทลูกของ EA และประสบความสำเร็จทั้งในแง่คำวิจารณ์ (คะแนนรีวิวเฉลี่ยของพีซี 86/100) และยอดขายที่มากกว่า 5 ล้านชุด แต่หลังจากนั้น Criterion ก็ไม่ได้ทำเกมตระกูล Need for Speed อีกมากนัก เพราะถูกโยกไปให้อีกสตูดิโอ EA Gothenburg (ก่อนหน้านี้ชื่อ Ghost Games) ทำแทน ส่วน Criterion ไปช่วยทำเกมเด่นของค่ายทั้ง Star Wars Battlefront และ Battlefield V การรีมาสเตอร์ Need for Speed Hot Pursuit กลับมาเป็นหน้าที่ของ Criterion อีกครั้ง เกมเวอร์ชันรีมาสเตอร์จะรวม DLC ทั้งหมดเข้ามาในชุด เพิ่มตัวเลือกสีและชุดแต่งรถ ยกระดับกราฟิก รองรับสูงสุดที่ 4K/60 FPS (ถ้าพีซีรันไหว) เกมจะลง 4 แพลตฟอร์มคือ PS4, Xbox One, PC, Switch รองรับการเล่นมัลติเพลเยอร์แบบ cross-play เริ่มวางขาย 6 พฤศจิกายนนี้ ในเทรลเลอร์เปิดตัวยังเป็นแนวย้อนยุค เป็นเรื่องของเพื่อนสองคนที่เคยเล่นเกมเวอร์ชันต้นฉบับเมื่อ 10 ปีก่อน และต้องกลับมาต่อสู้กันอีกครั้งในเกมเวอร์ชันรีมาสเตอร์ ที่มา - EA
# Google เตรียมอัพเดต Night Mode และ HDR ให้แอปกล้อง Camera Go บน Android Go Google ประกาศเปิดตัวโหมด Night Mode และ HDR สำหรับกล้อง Camera Go บนสมาร์ทโฟนราคาถูกที่รัน Android Go อย่างไรก็ตาม Night Mode บน Android Go ไม่ใช่ Night Sight ที่อาศัยพลังประมวลผล Machine Learning แต่เป็นการถ่ายหลาย ๆ รูปมาประกอบกันเพื่อเพิ่มแสงเป็นหลักเท่านั้น ที่มา - Android Authority
# Android ออกแพตช์รอบเดือนตุลาคม 2020, มือถือซัมซุงเริ่มได้แพตช์กันแล้ว กูเกิลปล่อยแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำรอบเดือนตุลาคม 2020 อุดช่องโหว่ความปลอดภัยจำนวนมาก โดยมีช่องโหว่ระดับ critical จำนวน 6 ตัว ทั้งหมดเป็นแพตช์ของ Qualcomm มือถือกลุ่ม Pixel ทั้งหมดตั้งแต่ Pixel 2 ขึ้นไปได้อัพเดตกันตามปกติ แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ ซัมซุงที่ช่วงหลังออกแพตช์เร็วขึ้นมากๆ ก็ออกแพตช์ในวันแรกเช่นกัน โดยมือถือระดับเรือธง S10/S20/Note 10/Note 20 เริ่มทยอยได้แพตช์กันแล้วในบางประเทศ และมือถือระดับกลางอย่าง Galaxy A50 ก็ได้แพตช์รอบเดือนตุลาคมเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ที่มา - Android Security, XDA
# Qualcomm ประกาศจัดงาน 1 ธันวาคม คาดเปิดตัว Snapdragon 875 Qualcomm ส่งหมายเชิญไปยังสื่อในสหรัฐถึงการจัดงาน Tech Summit วันที่ 1-2 ธันวาคมนี้ พร้อมพูดถึง "premium-tier mobile performance" ในอีเมล ซึ่งก็หน่าจะหนีไม่พ้นการเปิดตัว Snapdragon 875 ชิปเซ็ตเรือธงสำหรับปีหน้า ปัญหาของ Snapdragon 865 ที่ผ่านมาคือการที่ Qualcomm ขายพวงกับชิป 5G ทำให้ราคาของสมาร์ทโฟนเรือธงในปีที่ผ่านมาพุ่งขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่า Qualcomm จะเปลี่ยนแนวทางเพื่อแก้ปัญหานี้หรือไม่ ที่มา - Android Authority
# ซัมซุงเตรียมเลิกให้บริการฟีเจอร์ AR บน Bixby Vision สิ้นเดือนตุลาคมนี้ ซัมซุงเปิดตัว Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะของตัวเองตั้งแต่ปี 2017 ก่อนจะใส่มาใน Galaxy S8 ครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งซัมซุงวางตัว Bixby เอาไว้เป็นตัวกลางแพลตฟอร์มอัจฉริยะของตัวเอง แต่ผ่านมา 2-3 ปี Bixby กลับเงียบลงไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลการพัฒนาและความนิยมที่ไม่ค่อยมี ล่าสุดมีผู้ใช้งาน Bixby Vision ที่เป็นฟีเจอร์เปิดกล้องคล้าย Google Lens ได้รับการแจ้งเตือนในตัวแอปว่าซัมซุงจะระงับการให้บริการฟีเจอร์ AR บน Bixby Vision ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ เหลือไว้แค่ฟีเจอร์ด้านการแปลหรืออ่านตัวหนังสือเท่านั้น ที่มา - Android Police
# Tencent Cloud บริการคลาวด์ครบวงจรพร้อมศูนย์ข้อมูลในไทยตอบทุกความต้องการ ปัจจัยสำคัญที่หลายๆองค์กรเลือกใช้พิจารณาผู้ให้บริการคลาวด์คือ มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม รวมถึงมีศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยผู้ให้บริการคลาวด์ส่วนใหญ่ยังไม่มีศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในเมืองไทย ทำให้หลายองค์กรต้องเลือกใช้ผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีศูนย์ข้อมูลที่ใกล้ที่สุด อาทิ สิงคโปร์ จีน (ไต้หวัน) และฮ่องกง อย่างไรก็ตามการใช้งานศูนย์ข้อมูลในต่างประเทศจะมีข้อด้อยเรื่องระยะทางในการรับส่งข้อมูล นำมาซึ่งความหน่วงในการเชื่อมต่อที่มากขึ้น การตอบสนองแย่ลง ทำให้การใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร อีกทั้งยังมีข้อด้อยในเรื่องข้อมูลที่ไม่ได้ถูกจัดเก็บเอาไว้ในประเทศไทยอีกด้วย เทนเซ็นต์ คลาวด์ โดยเทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์ที่ครบวงจรที่สุด ด้วยความเชี่ยวชาญจากบริษัทแม่ คือ เทนเซ็นต์ ผู้นำบริการด้านอินเตอร์เน็ตของโลก ในฐานะผู้ให้บริการ WeChat หรือเกมยอดฮิตต่างๆ บนสมาร์ทโฟน อาทิ PUBG MOBILE และต่อยอดบริการเหล่านั้นออกมาเป็นเทนเซ็นต์ คลาวด์ในปี 2013 ก่อนจะเริ่มขยายไปต่างประเทศเมื่อปี 2016 และเข้ามาเปิดตัวในไทยเมื่อปีที่แล้วด้วยบริการที่ครบครัน และมีการตั้งศูนย์ข้อมูลในไทย โดยความร่วมมือกับ True IDC ช่วยตอบโจทย์องค์กรทั้งในแง่ความเร็วในการรับส่งข้อมูล และความมั่นใจว่าข้อมูลองค์กรจะถูกเก็บรักษาไว้ในประเทศไทย บริการของเทนเซ็นต์ คลาวด์ค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผล (Compute) การเก็บข้อมูล (Storage) ระบบเครือข่าย (Networking) ความปลอดภัย (Security) แต่สิ่งที่เทนเซ็นต์ถือว่าเชี่ยวชาญ คือบริการด้านคอนเทนต์ วิดีโอ และเกม จากการให้บริการแอปพลิเคชันดัง ๆ อย่าง JOOX WeTV และเกมบนสมาร์ทโฟน เช่น PUBG MOBILE ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของเทนเซ็นต์ คลาวด์ Tencent Kubernetes Engine ตัวบริการ TKE ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถใช้งานร่วมกับ API มาตรฐานของ Kubernetes และสามารถเพิ่มปลั๊กอิน เช่น CBS และ CLB ได้ทันที บริการเครือข่าย CDN มีแคชที่ประสิทธิภาพสูง ช่วยให้การตอบสนองต่อคำขอได้รวดเร็ว ลดความหน่วงในการเข้าใช้เครือข่าย และเพิ่มความสามารถในการให้บริการ Video-on-Demand ครอบคลุมการอัพโหลดไฟล์วิดีโอ/ไฟล์เสียง บันทึกไลฟ์ การจัดการสื่อ การแปลงไฟล์อัตโนมัติ ปัญญาประดิษฐ์เกี่ยวกับวิดีโอ การเพิ่มความเร็วในการส่งคอนเทนต์ และชุดพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการเล่นไฟล์วิดีโอ/ไฟล์เสียง Live Video Braodcasting ครอบคลุมฟังก์ชันต่างๆ ในที่เดียว เช่น การส่งไฟล์ไลฟ์ที่มีความเสถียร และคุณภาพสูงเพื่อการปฏิบัติงาน การแปลงไฟล์ การถ่ายโอนไฟล์ และการเล่นย้อนหลังตามความต้องการโดยใช้เวลาแฝงต่ำ ให้ภาพละเอียด และประสิทธิภาพสูงเพื่อสามารถให้บริการข้อมูลปริมาณมากเมื่อมีคำขอใช้งานในเวลาเดียวกันจำนวนมาก Interactive Live Video Broadcasting สามารถถ่ายทอดไฟล์วิดีโอ/ไฟล์เสียง สามารถดู และเชื่อมต่อกันผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วยชุด SDK สำหรับเล่นไฟล์วิดีโอ/ไฟล์เสียง รองรับการตอบโต้จากผู้ส่งคอนเทนต์คนเดียวไปสู่ผู้รับหลายคนหรือจากผู้ส่งคอนเทนต์หลายคนไปสู่ผู้รับหลายคนโดยไฟล์วิดีโอ/ไฟล์เสียงยังมีคุณภาพสูง บริการ TStack (OpenStack) บริการไพรเวทคลาวด์ที่รันบนคลัสเตอร์ OpenStack ให้บริการประมวลผลด้วยหน่วยความจำสูงอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย Virtual Private Cloud บริการเชื่อมต่อคลาวด์ตรงเข้าเป็นเน็ตเวิร์คเดียวกับองค์กร ทำให้สามารถกำหนดการจัดประเภทบริการต่างๆ บนเครือข่าย ไอพีแอดเดรส และข้อกำหนดเส้นทางการใช้เครือข่าย สามารถเชื่อมต่อด้วย VPN ผ่านเครือข่ายสาธารณะหรือการเชื่อมต่อโดยตรงเพื่อเชื่อมเครือข่ายส่วนตัวเข้ากับแพลตฟอร์มคลาวด์อื่น ประชุมออนไลน์ผ่าน VooV Meeting เป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารที่เชื่อมการประชุมทางไกล การจัดการปฏิทิน การลบเสียง การเพิ่มความชัดเจนของเสียงพูด และฟังก์ชันอื่นๆ เข้าด้วยกัน บริการต่างๆ ที่เทนเซ็นต์ คลาวด์ให้บริการในไทย เหมาะกับงานหลายประเภท โดยเฉพาะบริการคอนเทนต์ด้านวิดีโอที่หลายองค์การอาจจะไม่ต้องการไปผูกกับแฟลตฟอร์มต่างๆ ที่อาจแทรกโฆษณาลงบนวิดีโอ การใช้บริการจากเทนเซ็นต์ คลาวด์ในการทำไลฟ์หรือเผยแพร่วิดีโอรูปแบบต่างๆ ทำให้องค์กรสามารถควบคุมแบรนด์ขององค์กรได้เอง ควบคุมการเข้าถึงตัววิดีโออย่างละเอียด เช่น คอนเสิร์ตออนไลน์ หรืองานสัมมนาที่มีผู้ชมเกินกว่าแพลตฟอร์มวิดีโอทั่วไปจะรองรับได้ สำหรับผู้พัฒนาแอปพลิเคชันธุรกิจหรือเว็บไซต์อื่นๆ การใช้เทนเซ็นต์ คลาวด์ที่รองรับบริการครบถ้วนทำให้สามารถย้ายแอปพลิเคชันจากศูนย์ข้อมูลตัวเองหรือคลาวด์อื่นๆ มาได้ในเวลาอันสั้น แอปพลิเคชันจะตอบสนองได้เร็วขึ้นทุกส่วน ไม่ใช่เฉพาะส่วนที่แคชได้จาก CDN ที่คลาวด์อื่นๆ อาจจะให้บริการในไทย นอกจากบริการระดับสากลที่ครบครัน และการตั้งศูนย์ข้อมูลในไทย อีกหนึ่งจุดเด่นของเทนเซ็นต์ คลาวด์ คือการมีประสบการณ์จากการให้บริการของเทนเซ็นต์ บริษัทแม่ที่มีทั้งความเชี่ยวชาญและความเข้าใจเชิงลึกในการให้บริการแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ซึ่งพิสูจน์แล้วจากผู้ใช้งานหลักพันล้านคนทั่วโลก ทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ยังสามารถมอบระบบปฏิบัติการคลาวด์ระดับเวิลด์คลาสที่มีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และยืดหยุ่น สามารถปรับได้ตามความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม และที่สำคัญคือมีทีมซัพพอร์ทในประเทศไทย ที่สามารถให้บริการ และคำปรึกษากับลูกค้าคนไทยเพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนสมัครขอรับสิทธิ์ใช้งานแพคเกจ Free Trial และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tencent.co.th
# Firefox เพิ่มป้ายรับรอง Verified ว่าเป็นส่วนขยายที่ปลอดภัย ตรวจสอบแล้ว ประเด็นเรื่องความปลอดภัยจากส่วนขยายของเบราว์เซอร์ เป็นปัญหามายาวนาน และเราก็เห็นข่าวเบราว์เซอร์รายใหญ่ๆ อย่าง Chrome หรือ Firefox ออกมาตรการคุมเข้มส่วนขยายในแพลตฟอร์มตัวเองมาเรื่อยๆ ล่าสุด Firefox เพิ่มมาตรการใหม่คือแปะป้ายหรือ badge เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับส่วนขยายบน Firefox Add-ons ทั้งบนหน้าเว็บและหน้าจัดการส่วนขยายของเบราว์เซอร์ ป้ายรับรองที่เพิ่มเข้ามามี 2 แบบคือ Verified เป็นเครื่องหมายติ๊กถูกสีเขียว เพื่อยืนยันว่าส่วนขยายนี้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือแล้ว By Firefox เป็นโลโก้ Firefox สีส้ม เพื่อยืนยันว่าเป็นส่วนขยายที่พัฒนาโดย Mozilla เอง ก่อนหน้านี้ Mozilla มีป้ายอยู่แล้ว 1 แบบคือ Recommended เป็นรูปถ้วยรางวัลสีส้ม บ่งชี้ว่าเป็นส่วนขยายที่แนะนำให้ใช้งาน ที่มา - Mozilla Blog
# Google ร่วมกับ Samsonite ทำกระเป๋าเป้อัจฉริยะ ลูบที่สายสะพายเพื่อควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในงาน Google I/O ปี 2015 Google เปิดตัว Project Jacquard ทำเสื้อผ้าอัจฉริยะ ใช้เส้นด้ายนำไฟฟ้า (conductive yarn) เย็บลงไปบนผืนผ้าปกติ เพื่อเชื่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่แปะอยู่บนผ้าเข้าด้วยกัน แปะหรือลูบเพื่อควบคุมมือถือได้ ล่าสุด Google ร่วมกับ Samsonite ฝังตัว Jacquard ไว้ที่สายสะพาย ตัว Jacquard เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สร้างขึ้นเพื่อให้สิ่งของในชีวิตประจำวันมีประโยชน์มากขึ้น สามารถตีความอินพุตการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ จากคลิปวิดีโอจะเห็นว่าสามารถเสียบอุปกรณ์ไว้ที่ไหนก็ได้ และใช้การลูบเพื่อสั่งการอุปกรณ์ เช่นรับสาย, วางสาย, ปิดไฟในบ้าน, ตรวจจับการออกกำลังกาย และแสดงผลแดชบอร์ดบนมือถือ โดยก่อนหน้านี้ Google เข้าไปร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ เพื่อนำ Jacquard เข้าไปใช้งานในผลิตภัณฑ์แบรนด์เหล่านั้น เช่น กระเป๋าเป้ Cit-E , Saint Laurent, Adidas, Levi's และ EA เป็นต้น ล่าสุด ร่วมมือกับแบรนด์ Samsonite ผสานรวมเทคโนโลยี Jacquard ไว้ในกระเป๋าเป้ ฝังอุปกรณ์ไว้ที่สายสะพาย มีขายสองคอลเลกชั่นคือ Konnect-I Backpack : Slim (199 ดอลลาร์) และ Standard (219 ดอลลาร์) ผู้ใช้งานตั้งค่าการควบคุมใช้งานผ่านแอป Jacquard ได้เอง ว่าอยากให้ทำอะไรได้บ้าง เช่น สั่งกดถ่ายรูปเซลฟี่ระยะไกล, สั่งให้ Google Assistant อ่านข่าวประจำวัน, เปิด ปิด เพลง เป็นต้น ที่มา - Google
# Zeiss ZX1 กล้องดิจิทัลรัน Android มี Lightroom CC ในตัว เปิดจองแล้ว ราคา 6,000 เหรียญ Zeiss ZX1 กล้องดิจิทัลฟุลเฟรม รันระบบปฏิบัติการ Android เปิดให้จองแล้ว บนเว็บไซต์ B&H Photo Video ในราคา 6,000 เหรียญ (ราว 187,680 บาท) โดย Zeiss ยังไม่เปิดเผยสเปกกล้องโดยละเอียด นอกจากสเปกบนเว็บไซต์ว่ากล้องจะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS แบบฟุลเฟรม ความละเอียด 37.4 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ฟิกซ์ ZEISS Distagon T* ขนาด 35 มม. รูรับแสง f/2.0 นอกจากนี้ Zeiss ยังจับมือกับ Adobe นำ Lightroom CC มาลงไว้ในกล้องโดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพได้ทันทีผ่านหน้าจอ 4.3 นิ้วความละเอียด 1280 x 720 พิกเซลด้านหลัง และมี SSD ขนาด 512GB ในตัว แต่ Zeiss ยังไม่เปิดเผยว่ากล้องจะรัน Android เวอร์ชั่นไหน รวมทั้งวันวางจำหน่ายจริง ก็ยังระบุบนเว็บไซต์ว่า “เร็วๆ นี้” คงต้องติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป ที่มา - 9to5Google
# Pixel 2 หมดระยะซัพพอร์ท จะได้รับอัพเดตเดือนธันวาคมเป็นเดือนสุดท้าย ถือว่ามาค่อนข้างไกลสำหรับ Google Pixel 2 ที่ได้รับอัพเดตระบบปฏิบัติการถึง 3 เวอร์ชันจากตอนแรกที่สัญญาไว้แค่ 2 โดยในหน้าตารางการอัพเดตระบุว่า Pixel 2 จะได้อัพเดตเดือนตุลาคมเป็นเดือนสุดท้าย แต่ Android Police ได้รับการยืนยันจาก Google ว่า Pixel 2 จะได้อัพเดตเดือนธันวาคมปิดท้ายแต่ทว่าจะต้องข้ามเดือนพฤศจิกายนไป 1 เดือน ซึ่ง Google ก็ไม่ได้ระบุเหตุผลตรงนี้ ที่มา - Android Police
# ซีอีโอ NVIDIA ยอมรับ GeForce 3080 และ 3090 ของจะขาดสต๊อกไปจนถึงสิ้นปีนี้ Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ตอบคำถามสื่อในประเด็น GeForce RTX 3080 และ 3090 ขาดตลาด ยอมรับว่าภาวะสินค้าขาดสต๊อกจะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2020 Huang บอกว่า NVIDIA ไม่มีปัญหาเรื่องการผลิต แต่ความต้องการเพิ่มสูงมากจริงๆ แม้บริษัทพยากรณ์คำสั่งซื้อในระดับที่สูงมากแล้ว แต่พอเริ่มวางขายจริงๆ ก็เยอะกว่าที่คิดมากๆ (much much greater than we expected) เขายังบอกว่าไตรมาส 4 ถือเป็นความท้าทายของ NVIDIA เพราะเป็นเทศกาลจับจ่ายช่วงปลายปี ผสมกับปัจจัยความต้องการ Ampere ด้วย เลยกลายเป็น 'Ampere holiday factor' ที่ความต้องการเพิ่มสูงเป็นพิเศษ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ อาจต้องย้อนไปถึงยุค Windows 95 และ Pentium เลยด้วยซ้ำ NVIDIA เพิ่งประกาศเลื่อนวันวางขาย GeForce RTX 3070 ไปอีกสองสัปดาห์ เพื่อเตรียมสต๊อกสินค้าให้พอกับความต้องการ ที่มา - Tom's Hardware
# Instagram เริ่มติดป้ายกำกับบัญชีสื่อที่ควบคุมโดยรัฐแล้ว เช่น สื่อรัสเซีย Instagram เริ่มติดป้ายกำกับบัญชีสื่อที่ควบคุมโดยรัฐแล้ว จะมองเห็นข้อความกำกับใต้ข้อมูลโปรไฟล์ ซึ่งการติดป้ายกำกับเป็นนโยบายของ Facebook ที่กำหนดมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2019 จนถึงตอนนี้ มีบัญชีสื่อบน Instagram ที่ถูกติดป้ายกำกับแล้วคือ Redfish, In the Now และ Soapbox ซึ่งเป็นสื่อที่ควบคุมโดยรัฐบาลรัสเซีย ในภาพหน้าจอยังมองเห็นด้วยว่า ตัวบัญชีสื่อเขียนแคปชั่นไม่เห็นด้วยที่ Instagram ระบุว่าตนเป็นสื่อที่ถูกควบคุมโดยรัฐ แต่ด้วยนโยบายแพลตฟอร์มแล้ว บัญชีสื่อสามารถอุทธรณ์ร้องเรียนได้ เมื่อกดเข้าไปที่ป้ายกำกับ จะเชื่อมไปยังเว็บไซต์อธิบายนโยบายระบุว่า "สื่อที่ควบคุมโดยรัฐ เป็นสื่อมวลชนที่ Instagram เชื่อว่าอาจมีเนื้อหาบางส่วนหรือเนื้อหาทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลในประเทศของตน โดยอิงจากงานวิจัยและการประเมินของเราเทียบกับชุดเกณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้ เรากำหนดให้บัญชีเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความโปร่งใสขั้นสูงกว่าบัญชีอื่นๆ" อย่างไรก็ตาม Instagram เปิดให้ร้องเรียนได้ หากมีการติดป้ายกำกับที่ไม่ถูกต้อง แม้ Facebook จะมีนโยบายเรื่องนี้มาระยะหนึ่ง แต่ Instagram ก็เพิ่งมาใช้งานติดป้ายก่อนการเลือกตั้งใหญ่สหรัฐฯอีกไม่ถึงเดือน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทั้ง Facebook และ Instagram ถือเป็นแพลตฟอร์มหลักในการเผยแพร่ข่าวปลอม โฆษณาชวนเชื่อแทรกแซงการเลือกตั้ง และมีที่มาจากประเทศรัสเซีย เป็นประเด็นที่ Facebook ยังถูกวิจารณ์และถูกเพ่งเล็งอย่างหนักจนถึงทุกวันนี้ ที่มา - Engadget
# Python ออกเวอร์ชัน 3.9 ปรับรอบการออกรุ่นใหม่เป็นปีละ 1 ครั้ง โครงการ Python ออก Python 3.9.0 มีของใหม่หลายอย่าง เปิดให้ดาวน์โหลดไบนารีแล้วบน Windows และ macOS syntax ของภาษา เพิ่ม union operators ใหม่สองตัวในคลาส dict คือ merge (|) และ update (|=) เพิ่ม string method เพื่อลบ prefix และ suffix ของข้อความ str.removeprefix(prefix) และ str.removesuffix(suffix) parser ตัวใหม่ที่ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับของเดิม แต่ออกแบบมาให้ทำงานได้ยืดหยุ่นขึ้น รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ของภาษาได้ง่ายขึ้น เราจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ใน Python เวอร์ชันถัดๆ ไป โมดูลใหม่ zoneinfo สำหรับจัดการเขตเวลา และ graphlib สำหรับช่วยจัดการเรื่องวาดกราฟ Python 3.9 ยังเป็น Python รุ่นแรกปรับมาใช้รอบการออกแบบตายตัวทุก 1 ปี โดย Python รุ่นถัดไปคือ 3.10 จะออกในเดือนตุลาคม 2021 และเราจะเห็น Python 3.11, 3.12 ออกทุกเดือนตุลาคมของทุกปีไปเรื่อยๆ ที่มา - Python, Python Insider
# Spotify เพิ่มคุณสมบัติค้นหาเพลง จากเนื้อเพลง สำหรับผู้ใช้ iOS, Android Spotify เพิ่มคุณสมบัติในการใช้งานสำหรับผู้ใช้บน iOS และ Android โดยสามารถค้นหาเพลง จากเนื้อเพลงได้แล้ว ซึ่งฟีเจอร์นี้น่าจะช่วยแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้หลายคนเจอ จากการจำเนื้อเพลงได้บางท่อนนั่นเอง ทั้งนี้ในผลการค้นหาจะระบุว่าเพลงนี้ถูกค้นเจอจากเนื้อเพลงที่เราป้อนไป คุณสมบัติค้นหาเพลงจากเนื้อเพลงนั้นมีใน Apple Music ตั้งแต่ปี 2018 แต่ก่อนหน้าเชื่อว่าหลายคนก็ใช้วิธีค้นหาผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ ส่วนแอปค้นหาเพลงอย่าง Shazam ก็สามารถค้นหาเพลงได้ผ่านการฟังเพลงนั้น ๆ บางส่วนได้ ที่มา: 9to5Mac
# Netflix เพิ่มแท็บ New & Popular บนแอปทีวี รวมหนัง, ซีรีส์ดังที่จะลงใหม่ภายในปีนี้ ปัญหาหนึ่งของผู้ใช้ Netflix คือ ไม่รู้จะดูอะไรดี หรือกว่าจะเลื่อนหาสิ่งที่อยากดูจนเจอก็ผ่านไปนานแล้ว หรือแม้แต่มีเรื่องที่เราชอบมาลง Netflix แต่เราไม่รู้ เพราะไม่ได้แสดงบนหน้าโฮม ล่าสุด Netflix เพิ่มอีกฟีเจอร์ที่ช่วยให้การหาอะไรดูนั้นง่ายขึ้น เป็นแท็บใหม่ New & Popular รวมเนื้อหาใหม่ซึ่งภาพรวมเป็นหนังและซีรีส์ดังที่จะมาลง Netflix ในอนาคต และรวมเนื้อหาที่ได้รับความนิยมเข้าไว้ด้วยกัน ในแท็บจะมีแนนูแยกย่อยตามประเภทเนื้อหา คือ New on Netflix, Coming Soon, Top 10 (ขึ้นอยู่กับความนิยมแต่ละประเทศ) และ Worth the Wait ให้ดูว่าจะมีอะไรมาใหม่ใน Netflix บ้างภายใน 15-365 วันนี้ Netflix เริ่มทดสอบฟีเจอร์ดังกล่าวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และยังแสดงเฉพาะแอปพลิเคชั่นทีวีเท่านั้น และจะทำลงเว็บไซต์ต่อไปภายในปีนี้ ที่มา - Variety
# John McAfee ถูกจับในข้อหาเลี่ยงภาษี ใช้นอมินีรับเงินจากการโปรโมทคริปโต John McAfee ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนตี้ไวรัส McAfee (ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับบริษัทมานานแล้ว ลาออกตั้งแต่ปี 1994) ถูกจับกุมในประเทศสเปน ด้วยข้อหาการเลี่ยงภาษีในสหรัฐอเมริกา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เป็นผู้ออกหมายจับนี้ ระบุว่าช่วงหลัง John McAfee หาเงินจากการโปรโมทเงินคริปโตสกุลต่างๆ (ICO) ขึ้นเวทีงานพูด และขายเรื่องราวในชีวิตไปทำสารคดี แต่ช่วงปี 2014-2018 เขาเลี่ยงภาษี โดยให้โอนเงินค่าจ้างเข้าบัญชีธนาคารและบัญชีคริปโตของนอมินีแทน รวมถึงซื้อทรัพย์สินอย่างบ้าน รถยนต์ เรือยอชต์ ในชื่อของบุคคลอื่นเช่นกัน จากนี้ไป McAfee จะเข้าสู่กระบวนการศาล และถ้าศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง จะโดนโทษจำคุกสูงสุด 5 ปีต่อข้อหาเลี่ยงภาษีหนึ่งกระทง ที่มา - DOJ, SEC ภาพจาก @officialmcafee
# Apple ออกอัพเดต tvOS 14.0.2 แอปเปิลออกอัพเดตย่อยของ tvOS 14.0.2 ระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์ Apple TV ซึ่งเป็นอัพเดตที่ออกต่อเนื่องจาก tvOS 14.0.1 ที่ออกมาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ผู้ใช้ Apple TV สามารถอัพเดตระบบปฏิบัติการได้โดยไปที่ System > Software Update แอปเปิลไม่ได้ระบุรายละเอียดการแก้ไขของ tvOS เวอร์ชันนี้ โดยบอกเพียงเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานทั่วไป ที่มา: MacRumors
# NVIDIA เปิดตัว Maxine แพลตฟอร์มปรับคุณภาพวิดีโอสำหรับการประชุมด้วย GPU NVIDIA เปิดตัวแพลตฟอร์มของนักพัฒนาสำหรับการประชุมผ่านวิดีโอ (Video Conference) ในชื่อว่า NVIDIA Maxine ซึ่งช่วยปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอระหว่างการประชุม และนำ AI มาแก้ไขปัญหาหลายอย่างที่มักพบเจอ Maxine เป็นแพลตฟอร์มที่ทำงานบนคลาวด์ โดยใช้ GPU ของ NVIDIA ในการประมวลผล ซึ่งมีข้อดีคือผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ได้ โดยไม่ต้องซื้อฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม ฟีเจอร์แก้ไขวิดีโอของ Maxine ที่พูดถึงอาทิ การปรับหน้าผู้สนทนาให้ดูมองกล้องตลอดเวลา, ลดแบนด์วิทธ์ที่ใช้งานลงสูงสุดเหลือ 10% ของมาตรฐาน H.264, อวาตาร์แบบเรียลไทม์, แคปชั่นแปลภาษาเรียลไทม์ และอื่น ๆ ที่มา: NVIDIA ผ่าน The Verge
# NVIDIA ประกาศสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Cambridge-1 เพื่อการวิจัยยา NVIDIA ประกาศสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Cambridge-1 สำหรับการวิจัยยา โดยมีบริษัทยาและหน่วยงานวิจัยต่างๆ ในสหราชอาณาจักรเตรียมเข้าใช้งานหลังเครื่องเปิดใช้งานในปีนี้ โดยเครื่อง Cambridge-1 น่าจะอยู่อันดับ 29 ของรายกา TOP500 และอยู่อันดับ 3 ของรายการ Green500 ในแง่ประสิทธิภาพ เครื่อง Cambridge-1 จะมีพลังประมวลผล 8 เพตาฟลอบเมื่อทดสอบด้วย Linpack และการสร้างเครื่องนี้จะใช้โมดูล DGX SuperPOD เพื่อช่วยให้สร้างได้รวดเร็ว โดยรวมแล้วภายในมีเครื่อง DGX A100 ทั้งหมด 80 เครื่อง เชื่อมต่อกับด้วย InfiniBand อาศัยเงินลงทุนจากบริษัท 40 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,650 ล้านบาท ทาง NVIDIA ไม่ได้บอกค่าใช้จ่ายการเข้าใช้งานโดยตรง แต่ระบุว่าบางโครงการวิจัยจะได้รับบริจาคเวลาใช้งานเครื่อง เมื่อกลางปีที่ผ่านมา NVIDIA เคยสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์จาก DGX A100 มาแล้วคือเครื่อง Selene ที่ได้ถึงอันดับ 7 ของรายการ TOP500 พร้อมกับระบุว่ายังมีซูเปอร์คอมพิวเตอร์กำลังสร้างอีกถึง 6 เครื่อง แต่เครื่อง Cambridge-1 นี้จะเป็นเครื่องแรกที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้นักวิจัยภายนอกได้ใช้งานกัน ที่มา - NVIDIA
# Opera for Android และ Opera Desktop ได้รับอัพเดต, เพิ่มฟีเจอร์ Flow ช่วยซิงก์ข้อมูลระหว่างเดสก์ท็อปและอุปกรณ์แอนดรอยด์ เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา Opera for Android ได้ออกอัพเดตเวอร์ชัน 60 พร้อมๆ กับการอัพเดต Opera ฝั่งเดสก์ท็อป เพื่อปรับปรุงฟีเจอร์ Flow ตัวช่วยซิงก์ข้อมูลระหว่างเดสก์ท็อปและอุปกรณ์พกพา ซึ่งเดิมมีใช้งานเฉพาะบน Opera Touch ให้สามารถใช้งานได้บน Opera for Android ด้วย ในส่วนของการใช้งาน ฟีเจอร์ Flow นั้นก็ไม่ต่างจากบน Opera Touch กล่าวคือ Flow จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกข้อความ, รูปภาพ, ไฟล์, รวมถึงลิงก์ เพื่อเก็บไว้ใช้งานบนอุปกรณ์ตัวอื่นในภายหลัง ผ่านการพิมพ์บน UI ที่ทำงานในลักษณะคล้ายกับแอพแชท ข้อมูลที่ส่งผ่าน Flow จะได้รับการเข้ารหัสและจะซิงก์กับอุปกรณ์ที่จับคู่ผ่านการสแกน QR Code ให้อัตโนมัติ ภาพตัวอย่างฟีเจอร์ Flow จาก Opera press นอกเหนือจากการเพิ่มฟีเจอร์ Flow แล้ว ระบบการซิงก์ข้อมูล บุ๊คมาร์ค, ประวัติเข้าเว็บ หรือพาสเวิร์ด ฯลฯ เดิมบน Opera for Android ก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน โดยได้เพิ่มทางเลือกให้สามารถเปิดใช้ระบบซิงก์ข้อมูลผ่านการสแกน QR Code ภายใต้เว็บ opera.com/connect บน Opera Desktop ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน Opera account ก็ซิงก์ข้อมูลข้ามเครื่องได้ (แต่ถ้าหากต้องการแบ็คอัพข้อมูลด้วยก็ยังคงมีตัวเลือกให้ใช้ Opera account อยู่) ไม่เพียงแค่นั้น Opera Desktop ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Easy Files ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับการอัพโหลด/แนบไฟล์บนหน้าเว็บ ด้วยการช่วยหยิบไฟล์ล่าสุดที่ดาวน์โหลดมาแสดงผลเป็นป็อบอัพขณะคลิกปุ่มอัพโหลดไฟล์ ให้ผู้ใช้สามารถเลือกไฟล์ไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ดาวน์โหลด Opera Desktop เวอร์ชันล่าสุดได้ที่นี่ ส่วน Opera for Android เข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ Google Play ครับ ที่มา - Opera blogs via Windows Central
# [ไม่ยืนยัน] อังกฤษรายงานผู้ป่วย COVID-19 น้อยกว่าความเป็นจริงนับหมื่นเคส จากข้อจำกัดของ Microsoft Excel กระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษหรือ PHE รายงานว่าเนื่องจากข้อผิดพลาดทางด้านไอที ทำให้อังกฤษพลาดการติดตามและแจ้งขอให้กักตัวผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19 กว่า 5 หมื่นคน รวมถึงไม่ได้รายงานจำนวนผู้ป่วย COVID-19 ราว 16,000 เคสในช่วงวันที่ 25 กันยายนถึง 2 ตุลาคม ปัจจุบัน แม้ว่าระบบการรายงานผลของ COVID-19 ตอนนี้จะดีกว่าตอนระบาดใหม่ ๆ มาก แต่เนื่องจากระบบยังต้องพึ่งพาการทำงานแบบ manual มากพอสมควร ดังนั้นแล็ปแต่ละแห่งจะยังคงต้องใส่ผลลงในโปรแกรม spreadsheet ซึ่งโปรแกรมที่นิยมในกลุ่มนี้ก็คือ Microsoft Excel ดังนั้น แม้ว่า PHE จะไม่ได้ระบุว่าเกิดจากอะไร แต่ทาง The Guardian คาดว่าน่าจะเกิดจากข้อจำกัดของซอฟต์แวร์ Excel เอง ในรายงานของ The Guardian ระบุว่า มีแล็ปหนึ่งส่งรายงานผลตรวจรายวันในรูปแบบของ CSV และรายงานนี้จะนำไปเปิดกับ Microsoft Excel ซึ่งแม้ว่า CSV ที่เป็นไฟล์ข้อความจะไม่มีข้อจำกัดเรื่องแถวหรือหลัก แต่ Excel เวอร์ชันปัจจุบันมีข้อจำกัดอยู่ที่ 1,048,576 แถว หรือถ้า PHE ใช้ Excel เวอร์ชันเก่าก็อาจจะถูกจำกัดแถวอยู่ที่ 65,536 แถวเท่านั้น ถ้าเปิดไฟล์ขนาดใหญ่กว่าข้อจำกัดของโปรแกรม แถวที่เหลือจะถูกตัดทิ้ง และ PHE ซึ่งเป็นผู้รวบรวมรายงานจากแล็ปทั่วประเทศจะไม่ทราบว่ามีรายการถูกตัดทิ้งเท่าไรและผลตรวจเป็นอย่างไร แม้ว่า Excel จะเป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่ใช้งานง่ายและได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ถ้านำไปใช้ประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ความน่าเชื่อถือสูงอย่างกรณีนี้ก็อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ เนื่องจาก Excel ไม่มีระบบ audit ที่จะคอยติดตามว่าใครเป็นผู้ใส่ record และมีรายการเข้าออกมากน้อยแค่ไหน ก็อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิดได้เช่นกัน ที่มา - The Guardian (1, 2) ภาพจากข่าวเก่า
# NVIDIA บุกเซิร์ฟเวอร์ในองค์กร เปิดหน่วยประมวลผล DOCA สำหรับจัดการเน็ตเวิร์ค, สตอเรจ เตรียมออกการ์ดมีจีพียูในตัว ที่งาน GTC ออนไลน์ปีนี้ NVIDIA ประกาศเปิดตัวสถาปัตยกรรมหน่วยประมวลผล DOCA สำหรับการรันซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐาน เช่น software-defined networking, software-defined storage, งานกลุ่มความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์, การเก็บข้อมูลมาตรวัด (telemetry), และแอปพลิเคชั่นบนเน็ตเวิร์ครูปแบบใหม่ๆ DOCA เป็นสถาปัตยกรรมที่มามีชุด SDK มาให้ ส่วนฝั่งฮาร์ดแวร์นั้นเป็นชิป BlueField ที่เพิ่งเปิดตัวในงาน VMworld โดย NVIDIA เปิดเผยแผนการพัฒนาชิป BlueField ว่าตอนนี้ BlueField-2 เริ่มส่งมอบตัวอย่างแล้ว ส่วน BlueField-3 กำลังใกล้ออกแบบแล้วเสร็จ ขณะที่ BlueField-4 กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาคาดว่าจะวางตลาดได้ปี 2023 และจะมีพลังประมวลผลสูงกว่า BlueField-2 ถึง 1,000 เท่าตัว นอกจากนี้ยังมีชิป BlueField-2X ที่น่าจะพร้อมภายในปี 2021 เป็น BlueField-2 แล้วใส่ชิปกราฟิก Ampere เข้าไปเพื่อการรันปัญญาประดิษฐ์สำหรับงานโครงสร้างทั้งหลาย เช่นการตรวจจับความปลอดภัยไซเบอร์ หน่วยประมวลผล BlueField วางชุดคำสั่งบนชิปไว้สำหรับการประมวลผลโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะทำให้ชุดคำสั่งเน้นการจัดการเน็ตเวิร์ค BlueField-2 รองรับการประมวลผลทราฟิกเน็ตเวิร์คได้ถึง 200Gbps และเพิ่มไปถึง 400Gbps ใน BlueField-3 พร้อมกับชุดคำสั่งที่จำเป็นเช่นการเข้ารหัส, การบีบอัดข้อมูล, การค้นหาสตริง ที่มักจำเป็นสำหรับการทำไฟร์วอลล์ ที่มา - NVIDIA การ์ด BlueField-2X ที่มีหน่วยประมวลผลพร้อมชิปกราฟิก Ampere แพลตฟอร์ม DOCA สำหรับรันงานกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ชิป BlueField-2 ที่เริ่มส่งมอบตัวอย่างให้ผู้ผลิตแล้ว แผนการพัฒนาสินค้ากลุ่ม BlueField
# NVIDIA เปิดตัวบอร์ด Jetson Nano รุ่นแรม 2GB เน้นตลาดนักเรียน ลดราคาเหลือ 59 ดอลลาร์ NVIDIA เปิดตัวบอร์ด Jetson Nano เมื่อต้นปี 2019 และประสบความสำเร็จไม่น้อย ปีนี้ NVIDIA ออกบอร์ด Jetson Nano 2GB ลดแรมลงเหลือครึ่งหนึ่ง ตัดพอร์ตบางส่วนออก และลดราคาจาก 99 ดอลลาร์ลงมาเหลือ 59 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,900 บาท Jetson Nano 2GB ยังใช้ซีพียูตัวเดิม (Quad-core ARM A57 @ 1.43 GHz) และจีพียูตัวเดิม (Maxwell 128 คอร์) แต่ปรับลดจำนวนและสเปกของพอร์ต USB กับตัวต่อกล้อง (CSI connector) ลง ขายในราคาถูกลงเกือบครึ่ง โดยบริษัทบอกว่าต้องการกระตุ้นตลาดภาคการศึกษา ที่นักเรียนและครูจะเข้าถึงบอร์ดสำหรับสร้างหุ่นยนต์หรือ AI ได้ง่ายกว่าเดิม ที่มา - NVIDIA
# Cyberpunk 2077 พัฒนาเสร็จสิ้น พร้อมลงแผ่นแล้ว คราวนี้ไม่มีเลื่อน เพจเฟสบุ๊กอย่างเป็นทางการของ Cyberpunk 2077 โพสต์ว่าตอนนี้เกม “gone gold” หรือเสร็จสิ้นขั้นตอนการพัฒนา พร้อมเข้าสู่กระบวนการผลิตแผ่นแล้ว พบกัน 19 พฤศจิกายนนี้แน่นอน ถือว่าตัวเกมเสร็จได้ตามกำหนด หลัง CD Projekt Red เพิ่มวันทำงานของทีมงานเป็น 6 วันต่อสัปดาห์ แต่สัญญาจะจ่ายค่าล่วงเวลา และแบ่งกำไรจากผลประกอบการ 10% มาจ่ายเป็นโบนัส แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าวันทำงานจะกลับมาลดเหลือ 5 วันเมื่อไร เพราะด้วยขนาดของเกม ทีมงานอาจต้องทำงานอย่างหนักในช่วงแรก เพื่อเตรียมแก้ไขปัญหาที่ผู้เล่นอาจพบได้ และออกแพทช์อัปเดตต่างๆ ต่อไป ที่มา - Facebook Page: Cyberpunk 2077
# Venmo เปิดตัวบัตรเครดิตใหม่ พร้อมคิวอาร์โค้ดโอนเงินและหารบิลผ่านแอป Venmo บริษัทระบบจ่ายเงินและโอนเงินบนมือถือภายใต้ PayPal เปิดตัวบัตรเครดิตใหม่สำหรับลูกค้าในสหรัฐฯ โดยรวมมือกับ Synchrony และ Visa โดยเป็นบัตรเครดิตที่ให้เงินคืนเมื่อใช้จ่าย และจัดการบัตรเครดิตผ่านแอป Venmo บัตรเครดิต Venmo จะให้เครดิตเงินคืนเป็นรายเดือน โดยหมวดที่ยอดใช้จ่ายสูงสุดจะได้เงินคืน 3%, อันดับสองได้คืน 2% ส่วนที่เหลือได้คืน 1% ซึ่งแม้จะไม่ใช่ทุกหมวดแต่ก็ครอบคลุมหมวดหลัก ๆ ค่อนข้างครบถ้วน และเงินคืนสามารถโอนให้เพื่อน, โอนเข้าบัญชีธนาคาร หรือจะใช้เพื่อลดยอดบิลของบัตรเครดิตก็ได้ ส่วนการจัดการบัตรเครดิตทำได้ผ่านแอป Venmo เช่น ติดตามยอดใช้จ่าย, ถ้าบัตรหายสามารถสั่งล็อกผ่านแอปไม่ให้รูดบัตรได้ในขณะที่ยังคงใช้จ่ายออนไลน์ได้เหมือนเดิม ตัวบัตรมีทั้งหมด 5 สี มีคิวอาร์โค้ดที่ผูกกับบัญชี Venmo ของผู้ถือบัตร เมื่อสแกนแล้วสามารถใช้โอนเงินระหว่างบัญชี Venmo หรือใช้หารบิลผ่านแอปได้ รวมถึงมีชิปเพื่อใช้จ่ายเงินแบบไร้สัมผัสได้เช่นกัน ที่มา - Engadget
# NVIDIA เปิดตัว RTX A6000 จีพียูตระกูล Quadro พลัง Ampere ที่เลิกใช้แบรนด์ Quadro หมดจากจีพียูชุด GeForce ซีรีส์ 30 สถาปัตยกรรม Ampere ไปแล้ว วันนี้ NVIDIA เปิดตัวจีพียูใหม่สำหรับกลุ่มโปร ที่เราคุ้นกันในชื่อแบรนด์ Quadro แต่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ NVIDIA เลิกใช้ชื่อแบรนด์ Quadro ทำตลาดซะแล้ว จีพียูใหม่ที่เปิดตัวใช้ชื่อว่า NVIDIA RTX A6000 ไม่มีคำว่า Quadro แต่อย่างใด ตอนนี้เรายังไม่เห็นสเปกเต็มของ RTX A6000 เพราะยังไม่เปิดเผยจำนวนคอร์ทั้ง 3 ประเภท (CUDA, RT, Tensor) บอกเพียงว่า มีแรม 48GB GDDR6 ECC (เท่ากับ Quadro RTX 8000 รุ่นท็อปสุดของเจนก่อน), รองรับการต่อจีพียูสองตัวด้วย NVLink, รองรับ PCIe Gen 4 (หน้าผลิตภัณฑ์ของ RTX A6000) NVIDIA บอกว่าสมรรถนะของ RTX A6000 เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 2 เท่า (CUDA), 2 เท่า (RT), 5 เท่า (Tensor) แต่ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ สินค้าจะเริ่มวางขายช่วงกลางเดือนธันวาคม โดยยังไม่เปิดเผยราคา นอกจาก RTX A6000 แล้วยังมีจีพียูสำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นฝาแฝดกันคือ NVIDIA A40 ซึ่งเป็นรุ่นรองจาก NVIDIA A100 ที่เป็น Ampere ตัวแรก ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ของสเปก ยกเว้นบอกว่ามีแรม 48GB GDDR6 เหมือนกัน และวางขายในช่วงเดือนธันวาคมพร้อมกัน ที่มา - NVIDIA
# Google Meet เพิ่มฟีเจอร์ Q&A และทำโพลให้ลูกค้า G Suite Google Meet เพิ่มความสามารถ Q&A และทำโพลแสดงความคิดเห็น เฉพาะลูกค้าที่ใช้งานแบบเสียเงินหรือG Suite Essentials, G Suite Business, G Suite Enterprise and G Suite Enterprise for Education เริ่มใช้งานได้ 8 ตุลาคมนี้ ฟีเจอร์ Q&A ช่วยให้ผู้เข้าร่วมประชุม สร้างคำถามได้ในระหว่างประชุม โดยไม่ต้องหยุดการประชุมเพื่อถามคำถาม Google ระบุว่าฟีเจอร์นี้จะเป็นประโยชน์เมื่อใช้ Google Meet เพื่อการเรียนการสอน ส่วนฟีเจอร์ทำโพลก็สามารถสร้างโพลได้ในระหว่างประชุมและแสดงผลโพลได้เรียลไทม์ และเมื่อการประชุมจบลง แอดมินจะได้รับผลโพลอัตโนมัติ ภาพจาก Google ที่มา - Engadget
# ทวิตเตอร์ทดสอบปุ่มใหม่ Birdwatch ให้สังคมช่วยตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา ทวิตเตอร์ทดสอบ Birdwatch เป็นตัวช่วยตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา จะมองเห็นเป็นไอคอนรูปแว่นตาตรงด้านล่างขวาของโพสต์ ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มโพสต์หรือเว็บไซต์เข้าไปที่ Birdwatch ได้ เพื่อให้ตรวจสอบเนื้อหาเพิ่มเติม ความน่าสนใจคือ ผู้ใช้สามารถเขียนโน้ตแจ้งรายละเอียดทิ้งไว้ได้ว่าเนื้อหาต้นทางหรือโพสต์ดังกล่าวมีปัญหาตรงไหน และยังเข้าถึงได้แบบ public ด้วย ซึ่งเป็นการให้สังคมช่วยตรวจสอบเนื้อหา แทนที่จะเป็นอำนาจและสิทธิ์ของทวิตเตอร์ฝ่ายเดียว การใช้ Crowdsourcing ในการกลั่นกรองเนื้อหาไม่ใช่เรื่องใหม่ของทวิตเตอร์ เพราะเคยทำมาก่อนแล้วตอนกลั่นกรองคอมเม้นท์ไลฟ์สดผ่าน Periscope ด้านโฆษกทวิตเตอร์บอกว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดของ Birdwatch เพิ่มเติมในอนาคต ที่มา - TechCrunch
# [WSJ] Facebook ชี้ การแยกบริษัทออกจากกันนั้นทำไม่ได้ เพราะอาจกระทบความปลอดภัยการใช้งาน แนวคิดหนึ่งที่ถูกเสนอมาเพื่อลดอำนาจผูกขาดของ Facebook คือ แยกบริษัทออกเป็นส่วนๆ คือแยก Facebook ออกจาก Instagram และแยกออกจาก WhatsApp ซึ่งขณะนี้ ทางบริษัทกำลังถูกสอบสวนจากรัฐบาลกลางและคาดว่าอนุคณะกรรมการต้านการผูกขาดจะเผยผลการสอบสวนเร็วๆ นี้ ล่าสุด The Wall Street Journal ไปเจอเอกสาร 14 หน้า ที่เขียนโดยทีมทนายความของ Facebook คาดว่าเป็นการเตรียมเอกสารไว้ใช้สู้คดี ระบุว่าการแยกบริษัทออกจากกันนั้นทำไม่ได้ เพราะทำให้บริษัทต้องใช้เงินทุนสูงเป็นพันล้านดอลลาร์เพื่อจะรักษาแต่ละระบบให้คงอยู่ต่อได้ และอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อประสบการณ์และความปลอดภัยในการใช้งาน อีกเหตุผลที่ Facebook อาจเอามาโต้แย้งคือ ตอนที่เข้าซื้อกิจการ FTC หรือ คณะกรรมการการค้าเสรี ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ซึ่ง Tim Wu ศาสตราจารย์กฎหมายที่ ม.โคลัมเบีย ผู้วิจารณ์บริษัทเทคโนโลยีอยู่เรื่อยๆ เคยให้ความเห็นว่าเป็นการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแออย่างน่าประหลาด ทั้ง Facebook และ FTC ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นอะไรต่อเอกสารที่ The Wall Street Journal ไปเจอมา เมื่อเร็วๆ นี้ Facebook ก็เริ่มทำฟีเจอร์รวมแชทและทำช่องทางตั้งค่าการใช้งานระหว่าง Facebook และ Instagram ซึ่งจะทำให้ความพยายามในการแยกบริษัทออกจากกันนั้นยากขึ้นไปอีก ที่มา - The Wall Street Journal
# Google เผยไดอะแกรมฮาร์ดแวร์ Pixel 5 พบลำโพงบนอยู่ใต้หน้าจอ Pixel 5 เปิดตัวมาด้วยหน้าจอเต็มพื้นที่ด้านหน้า ซึ่งตอนแรกผมก็คาดเดาว่าลำโพงบนจะอยู่บริเวณขอบเครื่องด้านบนเหมือนแบรนด์จีน ขณะที่ลำโพงล่างน่าจะอยู่ข้าง USB-C เหมือนเดิม ล่าสุด Google เปิดเผยไดอะแกรมฮาร์ดแวร์ของ Pixel 5 ออกมาพบว่าตำแหน่งของลำโพงด้านบนอยู่ในพื้นที่ที่เป็นหน้าจอด้านบนตรงกลาง เป็นการยืนยันชัดเจนว่าลำโพงจะอยู่ใต้หน้าจอ นับเป็นอีกหนึ่งจุดแตกต่างกับ Pixel 4a 5G ที่ยังมีลำโพงอยู่ที่ขอบบนของเครื่อง นอกจากนี้ YouTuber หลายรายในต่างประเทศที่เริ่มได้ Pixel 5 ไปรีวิว (เช่น totallydubbedHDก็ยืนยันอีกเสียง พร้อมบอกด้วยว่าคุณภาพเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก (ทั้งที่เดิมแล้วคุณภาพเสียงก็แอบเป็นจุดเด่นเล็ก ๆ ของ Pixel มาตลอด) ที่มา - Google Support via Reddit ลำโพงบนคือตำแหน่งเบอร์ 4
# APC เปิดตัว UPS สำหรับเกมเมอร์ มีจอ LCD แสดงสถานะแบต พร้อมไฟ RGB APC แบรนด์ในเครือ Schneider Electric เปิดตัว UPS รุ่น APC Back-UPS Pro Gaming ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ มีหน้าจอ LCD แสดงสถานะ พร้อมไฟ LED RGB 12 ดวงที่ปรับแต่งได้ มีเทคโนโลยี Sinewave และ AVR (Automatic Voltage Regulator) ช่วยปรับความนิ่งให้กระแสไฟ ช่วยรักษาอุปกรณ์เกม หรือเร้าเตอร์ราคาแพงๆ APC Back-UPS Pro Gaming มีช่องจ่ายไฟสำรองพร้อมระบบกันไฟกระชาก 6 ช่อง มีช่องจ่ายไฟ surge-only อีก 4 ช่อง กันไฟกระชาก แต่ไม่ได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่ ใช้สำหรับต่อไฟอุปกรณ์อื่นที่ไม่จำเป็นต้องมีไฟสำรอง แต่อยากได้ระบบป้องกันไฟกระชาก และมีช่องชาร์จ USB สามช่องด้านหน้า เปิดตัวเดือนตุลาคมนี้ ยังไม่เปิดเผยราคา ที่มา - Terminal Gamer
# ร่างแรกของกฎหมาย Digital Services ของ EU บังคับให้บริษัทไอทีรายใหญ่แชร์ข้อมูลกับรายเล็ก หลังสหภาพยุโรปบังคับใช้ GDPR กฎหมายความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูลซึ่งค่อนข้างพลิกโฉมในแง่กฎหมายและการควบคุมเรื่องการรักษาข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยีจากภาครัฐ ตอนนี้สหภาพยุโรปกำลังร่างกฎหมายอีกฉบับชื่อ Digital Services Act ที่จะเน้นเรื่องการแข่งขันและการให้บริการ ตัวกฎหมายคาดว่าน่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้ แต่หนึ่งในรายละเอียดร่างแรกที่หลุดออกมาก็ค่อนข้างเคี่ยวแล้ว เมื่อสหภาพยุโรปพยายามจะบีบไม่ให้บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ผูกขาดกับข้อมูลผู้บริโภคที่ตัวเองเก็บได้ และจะบังคับให้แบ่งปันข้อมูลกับบริษัทเล็กกว่าที่ทำธุรกิจแบบเดียวกัน ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถทำการค้ากับข้อมูลชุดนั้นได้ นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ว่าด้วยการเป็นแพลตฟอร์มที่ร่างกฎหมายเรียกว่าเป็น gatekeeper ของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ คือเป็นแพลตฟอร์มหรือ marketplace ที่ให้คนอื่นมาทำการค้า ซื้อขายบริการต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มอีกที ว่าบริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มเหล่านี้ จะไม่สามารถใช้ข้อมูลที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มได้เลยนอกจากการโฆษณาเท่านั้น ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวร่างกฎหมายของ EU ที่จะบีบให้บริษัทสมาร์ทโฟนไม่สามารถติดตั้งแอปของตัวเองมากับฮาร์ดแวร์ รวมถึงผู้ใช้งานต้องสามารถลบแอปที่ติดตั้งมาจากโรงงานได้ ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ก็อยู่ในร่าง Digital Services Act อย่างไรก็ตามฎหมายฉบับนี้ยังอยู่แค่ในขั้นตอนการร่าง รายละเอียดต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ที่แน่ ๆ คือเราเห็นเจตนาและทิศทางของ EU ในการควบคุมบริษัทเทคยักษ์ใหญ่มากยิ่งขึ้น ให้มีอำนาจเหนือคู่แข่งหรือผู้ใช้งานน้อยลงกว่าทุกวันนี้ ที่มา - FT
# หน่วยงานคมนาคมลอนดอนสั่งแบน Ola พบคนขับไม่มีใบอนุญาตมาขับร่วมพันเที่ยว Transport for London หรือ TfL หน่วยงานผู้ดูแลการคมนาคมในกรุงลอนดอน สั่งแบน Ola บริการเรียกรถจากอินเดีย เนื่องจากข้อกังวัลด้านความปลอดภัย พบมีเที่ยวรถที่ขับโดยคนขับที่ไม่มีอนุญาตถึง 1,000 เที่ยว และ Ola ก็ไม่ยอมรายงานเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม Ola ก็จะยื่นขออุทธรณ์ต่อไป และยังมีเวลา 21 วันที่ยังสามารถให้บริการในลอนดอนได้ ก่อนหน้านี้ TfL มีคำสั่งแบน Uber ไปแล้วด้วยเหตุผลเดียวกัน แต่หลังจากอุทธรณ์ ศาลก็มีคำตัดสินอนุญาตให้ Uber ให้บริการต่อในลอนดอนได้ เพราะมองเห็นพัฒนาการทางนโยบายที่มีความรัดกุมมากขึ้น ด้าน Ola บอกว่าจะทำงานร่วมกับ TfL อย่างใกล้ชิดในช่วงรีวิวนี้ และจะแก้ไขปัญหาอย่างโปร่งใส Ola เริ่มให้บริการในลอนดอนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภาพจาก Ola ที่มา - BBC
# หลุดคะแนน A14 Bionic บน iPad Air แซง Snapdragon 875 แต่ Multi-Core แพ้ Exynos 1000 ทวิตเตอร์ @UniverseIce พบคะแนนที่คาดว่าเป็น iPad Air ปี 2020 หลุดมาบน Geekbench มีเมนบอร์ดโมเดล J308AP รัน iOS 14.0.1 และใช้ซีพียู ARM แบบ 6 แกน ความเร็ว 2.99 GHz ทำคะแนน Single-Core ได้ 1583 คะแนน และ Multi-Core ได้ 4198 คะแนน ก่อนหน้านี้มีคะแนน Snapdragon 875 กับ Exynos 1000 หลุดมาจากเว็บบอร์ดในประเทศเกาหลี โดย GSMArena แปลและรายงานว่าคะแนน Snapdragon 875 แบบ Single-Core อยู่ที่ 1159 ส่วน Multi-Core อยู่ที่ 4090 ส่วน Exynos 1000 อยู่ที่ 1302 และ 4250 คะแนนตามลำดับ ถ้าคะแนนเป็นไปตามที่หลุดจริง แปลว่า Exynos แซง Snapdragon ได้ หลังจากเป็นชิปที่มีประสิทธิภาพด้อยกว่า จนผู้บริโภคเริ่มและบล็อกเกอร์หลายๆ คน เริ่มไม่พอใจที่ Samsung ขายทั้งสองรุ่นในราคาเท่ากัน รวมทั้งยังเอาชนะ A14 Bionic ได้ในด้าน Multi-Core อีกด้วย อย่างไรก็ตาม คงต้องย้ำอีกครั้งว่าคะแนนบน Geekbench ของทุกรุ่นในตอนนี้ยังเป็นเพียงคะแนนหลุดเท่านั้น รวมถึงชิป A14 บน iPad Air อาจทำงานได้ดีกว่าบน iPhone 12 เล็กน้อย เพราะมีพื้นที่มากกว่า ทำให้ระบายความร้อนได้ดีกว่า และยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น การประหยัดพลังงาน ที่ต้องนำมาพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง เมื่อมีผลทดสอบของชิปแต่ละรุ่นบนอุปกรณ์จริงออกมาในอนาคต ที่มา - Geekbench, @UniverseIce, GSMArena
# แอปแชตเกย์ Grindr ทำโทเค็นรีเซ็ตรหัสหลุด เปิดทางคนร้ายล็อกอินเข้าได้ทุกบัญชี Grindr แอปสังคมออนไลน์สำหรับกลุ่ม LGBTQ มีบั๊กความปลอดภัยในระบบรีเซ็ตรหัสผ่าน ทำให้คนร้ายสามารถล็อกอินเข้าได้ทุกบัญชีเพียงแต่รู้อีเมลของเหยื่อเท่านั้น ช่องโหว่นี้รายงานโดย Wassime Bouimadaghene ไปยัง Troy Hunt ผู้ก่อตั้งเว็บ have i been pwned และทาง Hunt ติดต่อ Scott Helme นักวิจัยความปลอดภัยไซเบอร์มาช่วยยืนยัน พบว่าเป็นช่องโหว่จริง ปัญหาอยู่ที่ API ของการขอรีเซ็ตรหัสผ่านของ Grindr จะสร้างโทเค็นเพื่อส่งอีเมลยืนยันตัวตนไปยังเจ้าของบัญชี แต่ API นี้กลับคืนค่าโทเค็นกลับมาใน JSON ด้วยทำให้คนร้ายเพียงกรอกอีเมลก็ได้โทเค็นไปรีเซ็ตรหัสผ่านทันที ตัว Hunt ระบุว่าการติดต่อ Grindr เพื่อรายงานทำได้ค่อนข้างลำบาก ทำให้เขาตัดสินใจโพสลงทวิตเตอร์หาคนรู้จักทีมงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ แต่เมื่อติดต่อได้ถูกคนแล้ว ทาง Grindr ก็แก้ไขปัญหานี้อย่างรวดเร็ว ที่มา - Troy Hunt
# Yamaha เปิดตัวหูฟัง True Wireless ตัดเสียงรบกวน กันน้ำ IPX5 ราคา 230 เหรียญ Yamaha เปิดตัวหูฟังแบบ True Wireless รุ่น TW-E7A มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC มี Ambient Sound ช่วยให้ได้ยินเสียงด้านนอกตอนใส่หูฟัง มี Smart Equalizer และฟีเจอร์ Listening Care ที่จะปรับความถี่เสียงให้ผู้ฟังได้ยินเสียงครบทุกย่าน แม้จะเปิดฟังเพียงเบาๆ TW-E7A ใช้ไดรเวอร์ขนาด 6.2 มิลลิเมตร รองรับ Bluetooth 5 และโคเด็ค AptX กันน้ำ IPX5 แบตเตอรี่ใช้งานได้ 5 ชั่วโมง ชาร์จได้อีกสามรอบในเคส รวมเป็น 20 ชั่วโมง เคสรองรับชาร์จไร้สาย มีสีขาวและดำ ราคา 230 เหรียญสหรัฐ (ราว 7,250 บาท) นอกจากนี้ยังมีรุ่น TW-E5A ที่สเปกคล้ายคลึงกัน แต่ไม่มี ANC แบตเตอรี่ใช้งานได้ 6.5 ชั่วโมง รวมเคสเป็น 26 ชั่วโมง เคสไม่รองรับชาร์จไร้สาย ราคา 160 เหรียญ (ราว 5,100 บาท) และ TW-E3A ลดขนาดไดรเวอร์มาอยู่ 6.0 มิลลิเมตร ไม่มี ANC ไม่มีระบบ Ambient Sound หรือชาร์จไร้สายเช่นกัน ราคา 130 เหรียญ (ราว 4,100 บาท) รุ่นเล็กทั้งสองรุ่นจะมีสีน้ำเงินแกมเขียวและชมพู เพิ่มจากขาวและดำ ทุกรุ่นเริ่มวางจำหน่ายในต่างประเทศกลางเดือนนี้ ส่วนในบ้านเราต้องติดตามต่อไป ที่มา - Android Police TW-E7A TW-E5A TW-E3A
# โซนี่ยืนยัน กดปุ่ม X บนจอย PS5 คือการ "ยืนยัน" ทั่วโลก ไม่มีสลับกับปุ่ม O ในฝั่งเอเชียแล้ว ทุกคนที่เล่น PlayStation คงเคยสับสนระหว่างเกมฝั่งตะวันออกที่ใช้ปุ่ม O ในการยืนยันและปุ่ม X ในการยกเลิก ส่วนเกมสำหรับฝั่งตะวันตกจะสลับกันคือใช้ปุ่ม X เพื่อยืนยันและปุ่ม O เพื่อยกเลิก ซึ่งปัญหานี้มีมาตั้งแต่ PS1 แล้ว แต่หลังๆ ก็น้อยลงเพราะโซนี่ก็พยายามทำให้เป็นมาตรฐานมาตลอด แต่ในญี่ปุ่นเองก็ยังใช้แบบเดิมอยู่ ล่าสุดฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Sony Interactive Entertainment (SIE) ได้ยืนยันกับสื่อญี่ปุ่นแล้วว่าความสับสนนี้จะหมดไปใน PS5 เพราะเกมทั่วโลกจะใช้ปุ่ม X เพื่อยืนยันและปุ่ม O เพื่อยกเลิก ผู้เล่นฝั่งตะวันตกคงไม่มีผลกระทบนัก แต่แน่นอนว่าผู้เล่นในญี่ปุ่นหรือคนที่เล่นเกมญี่ปุ่นต้องปรับตัวกันยกใหญ่ ซึ่งก็มีเสียงบ่นออกมาบ้างแล้วว่าอย่างน้อยก็ควรให้ผู้เล่นเลือกเองได้ ผู้เล่นในไทยมีความเห็นอย่างไร คุยกันในคอมเมนต์ได้ครับ ที่มา - Push Square ภาพโดยโซนี่
# นักวิเคราะห์มอง โซนี่พลาดที่ออก PS5 Digital Edition เพราะขาดทุนแน่ ๆ หลังโซนี่เลือกเดินคนละแนวทางกับไมโครซอฟท์ที่ออก Xbox 2 เวอร์ชัน 2 สเปคในราคาแตกต่างกันด้วย PlayStation 5 ที่เหมือนกัน 2 รุ่น แต่ต่างกันแค่แผ่นใส่ดิสก์ในราคาที่ต่างกัน 100 เหรียญ (499 และ 399 เหรียญ) Michael Pachter นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities มองว่าไพ่นี้ของโซนี่ถือว่าพลาดโดยเฉพาะจากแง่มุมการทำธุรกิจ เพราะต้นทุนของ PlayStation น่าจะอยู่ที่ 450 เหรียญเข้าไปแล้ว ซึ่งรุ่นที่มีแผ่นที่ 499 เหรียญอาจจะแค่คุ้นทุนเมื่อดึงกำไรจากการขายเกม แต่สำหรับ Digital Edition ที่ขาดทุนไป 50 เหรียญ Pachter มองว่าเกมเมอร์ไม่มีทางซื้อเกมเอ็กคลูซีฟ (ที่กำไรแผ่นละราว 6 เหรียญ) มากพอที่จะทำให้ Digital Edition ทำกำไรได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Pachter มองว่าคนส่วนใหญ่จะซื้อเวอร์ชันมีแผ่นมากกว่าเพราะมีตัวเลือกมากกว่า โดยเฉพาะการแบ่งแผ่นเพื่อนเล่นหรือขายต่อ เขาบอกด้วยว่าแม้ตอนนี้จะคาดการณ์ยอดขายทั้ง 2 เวอร์ชันยากก็ตามเพราะถูกพรีออเดอร์ไปเกลี้ยงสต๊อค แต่ในระยะยาว Digital Edition น่าจะขายได้น้อยลงและถูกผลิตน้อยลง ก่อนหน้านี้ ซีอีโอของ SIE ยืนยันว่าโซนี่กำหนดราคา PS5 มาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ตั้งใจให้ไม่ต่างจาก PS4 ที่มา - Gaming Bolt
# Google จะอัพเดต Extreme Battery Saver ของ Pixel 5 ให้ Pixel รุ่นเก่าด้วย หนึ่งในปัญหาของ Pixel ที่ถูกวิจารณ์หนักที่สุดคือเรื่องแบตเตอรี่ (โดยเฉพาะ Pixel 4) ทำให้ใน Pixel 5 Google ออกฟีเจอร์ Extreme Battery Saver มาน่าจะเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ล่าสุด Google บอกว่าจะอัพเดตฟีเจอร์นี้ให้รุ่นเก่าด้วยผ่าน Feature Drop เร็ว ๆ นี้ การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ของ Extreme Battery Saver ที่นอกจากจะลดการทำงานหลาย ๆ ส่วนของมือถือลงแล้ว ยังให้ผู้ใช้งานเลือกแอปที่จะใช้งาน ส่วนแอปที่เหลือจะถูกหยุดการทำงานยกเว้นแอปหลักอย่าง Phone, Messages, Clock และ Settings ที่มา - Android Police
# กูเกิลเปิดโครงการ APVI ช่วยหาช่องโหว่ความปลอดภัย Android ของพาร์ทเนอร์ OEM ปกติแล้ว เราเห็นกูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัยให้กับ Android สายหลัก (AOSP) และรอมเวอร์ชันที่ใช้ในมือถือ Pixel ของตัวเองเท่านั้น ล่าสุดทีมความปลอดภัย Android ประกาศโครงการ Android Partner Vulnerability Initiative (APVI) ช่วยหาช่องโหว่ความปลอดภัยให้กับรอมของพาร์ทเนอร์ OEM ด้วย โดยให้เหตุผลว่าต้องการช่วยปิดช่องโหว่ที่เกิดจากความผิดพลาดของ OEM ให้มากขึ้น APVI มีหน้าเว็บรวมช่องโหว่ของ OEM ที่ค้นพบโดยทีมงานกูเกิล ตอนนี้มีช่องโหว่ของหลายแบรนด์ เช่น Huawei, Oppo, Vivo, Meizu, ZTE, Mediatek ซึ่งเกือบทั้งหมดก็แก้ไขไปหมดแล้ว กูเกิลยังเล่าถึงรูปแบบปัญหาที่พบบ่อยในหมู่ OEM เช่น การส่งอัพเดต OTA ที่รันด้วย system user และมีสิทธิเกินความจำเป็น, เบราว์เซอร์ที่พรีโหลดมากับเครื่อง มีตัวจัดการรหัสผ่านที่มีระบบรักษาความปลอดภัยไม่ดีพอ หรือแอพบางตัวที่มีสิทธิเข้าถึงมากเกินไป เป็นต้น ที่มา - Google
# ไฟล์เกม Call of Duty: Modern Warfare ใหญ่จนใส่ใน SSD 250GB ไม่ได้แล้ว ปัญหาของเกม Call of Duty: Modern Warfare ที่มีขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ (เริ่มจาก 175GB ขยับมาเป็น 185GB) ล่าสุดใหญ่จนไม่สามารถใส่ SSD ขนาด 250GB ลงได้พอแล้ว ช่องยูทูบ Battle(non)sense ที่วิเคราะห์เรื่องการตอบสนองและการแล็กของเกม FPS โพสต์ภาพการใช้ SSD ขนาด 250GB (พื้นที่ใช้งานได้จริง 232GB) เพื่อติดตั้งเกม Call of Duty: Modern Warfare เพียงเกมเดียว และตอนนี้เจอปัญหาดิสก์เต็ม ไม่สามารถอัพเดตใดๆ ได้เลย จึงเรียกร้องให้ Activision ควรแยกส่วนเกมเป็น 3 ส่วนคือ single player, multiplayer และ Warzone ออกจากกันได้แล้ว เพื่อให้ผู้เล่นติดตั้งเฉพาะส่วนที่ต้องการใช้งานจริงๆ ที่มา - DualShockers
# Ubisoft ยอมรับ พนักงาน 1 ใน 4 เคยพบเจอปัญหาในที่ทำงาน, ซีอีโอประกาศเร่งแก้ไข จากปัญหาความขัดแย้งภายใน Ubisoft เรื่องวัฒนธรรมการทำงาน ที่ทำให้ผู้บริหารต้องออกจากบริษัทไปหลายคน ล่าสุด Yves Guillemot ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Ubisoft ส่งอีเมลภายในถึงพนักงาน เพื่อสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหลังตั้งทีมสอบสวนเรื่องนี้เป็นการภายใน เนื้อหาในอีเมลถูกนำมาเผยแพร่ต่อทาง Gamespot มีประเด็นดังนี้ จากการสอบสวนภายในบริษัท มีพนักงานเข้าร่วมให้ข้อมูลกว่า 14,000 คน พบว่ามีพนักงานถึง 25% ที่เคยพบหรือเคยเห็น "การปฏิบัติตัวที่ไม่เหมาะสม" ในรูปแบบต่างๆ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พนักงานหญิงถูกปฏิบัติไม่ดีกว่าพนักงานชาย 30% และพนักงานเพศอื่นๆ โดนมากกว่าถึง 43% บริษัทจะแก้ปัญหา 4 ด้าน ได้แก่ แก้ไขสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ทุกคนรู้สึกปลอดภัย, เพิ่มความหลากหลายในการจ้างงาน เพิ่มจำนวนพนักงานหญิงให้มีสัดส่วนอย่างน้อย 24%, ยกเครื่องฝ่าย HR ใหม่ และจ้างงาน Chief People Officer คนใหม่, เพิ่มการตรวจสอบพนักงานระดับผู้จัดการมากขึ้น เพื่อให้พนักงานกล้าที่จะออกมาพูดถึงปัญหาที่พบเจอ ปัจจุบัน Ubisoft เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานราว 19,000 คน มีออฟฟิศและสตูดิโอกระจายตัวกัน 40 แห่งทั่วโลก ที่มา - Gamespot, ภาพจาก Facebook Ubisoft
# [ลือ] Galaxy S21 Ultra จะรองรับการใช้ปากกา S Pen แม้ไม่แถม S Pen ก็ตาม มีข่าวลือมาเรื่อยๆ หลายรอบว่า ซัมซุงจะรวมซีรีส์เรือธง Galaxy S และ Galaxy Note เข้าด้วยกัน แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้นจริงสักที ข่าวลือรอบล่าสุดมาจากเว็บไซต์ Heraldcorp ของเกาหลีใต้ ว่า Galaxy S21 Ultra รุ่นของปีหน้าจะเพิ่มพาเนลของหน้าจอที่รองรับปากกา S Pen ด้วย (แบบเดียวกับซีรีส์ Note) แม้ตัวเครื่องไม่ได้มาพร้อมปากกาก็ตาม และปีหน้าเรายังจะเห็น Galaxy Note 21 วางขายต่อไปเช่นเดิม คาดว่าซัมซุงเลือกใช้แนวทางนี้เพื่อให้กลุ่มลูกค้า Note ย้ายไปใช้ซีรีส์ S กันง่ายขึ้น ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าการยุบรวมซีรีส์ S+Note ในปีต่อๆ ไป (เช่น ไม่มี Galaxy Note 22) จะทำได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ที่มา - Heraldcorp, Notebookcheck
# แอปเปิลฟ้องบริษัทรีไซเคิล หลังอุปกรณ์ที่ส่งไปทำลายกลับมาออนไลน์ เฉพาะ iPhone กว่าแสนเครื่อง แอปเปิลฟ้องบริษัท GEEP Canada ผู้รับรีไซเคิลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ หลังจากตรวจพบว่ามีอุปกรณ์ที่ส่งไปทำลายกว่าจำนวนหนึ่งกลับมาออนไลน์ได้ แอปเปิลส่งอุปกรณ์ทั้ง iPhone, iPad, และ Apple Watch ไปยัง GEEP กว่าห้าแสนชิ้นในช่วงเวลาสามปี จาก 2015 ถึง 2017 แต่พบว่าอุปกรณ์ที่รองรับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ส่งไปทำลายแล้ว กลับมาออนไลน์ถึง 18% โดยเป็น iPhone อย่างน้อย 103,845 เครื่อง และในบรรดาอุปกรณ์ที่ส่งไปทำลายยังมีอุปกรณ์จำนวนหนึ่งที่ไม่รองรับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทำให้อุปกรณ์ที่ถูกกลับนำมาขายน่าจะสูงกว่านี้มาก ทาง GEEP แจ้งความพนักงาน 3 รายฐานขโมยอุปกรณ์เหล่านี้ไปจากบริษัท แต่ทางแอปเปิลไม่ยอมรับคำอธิบายนี้ ระบุว่าพนักงานทั้งสามคนเป็นผู้จัดการระดับสูง การรีไซเคิลเป็นความรับผิดชอบใหญ่ของบริษัทไอที ที่ต้องระวังทั้งผลระทบต่อสิ่งแวดล้อมและข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ทำให้องค์กรมักจ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาจัดการการทำลายและรีไซเคิลอุปกรณ์ไอทีให้ ปีที่แล้วก็มีคดีพนักงานบริษัท Broadlink ในญี่ปุ่นขโมยฮาร์ดดิสก์ไปขายในตลาดมือสองแม้บริษัทจะมีหน้าที่ทำลายข้อมูลก็ตาม แอปเปิลเองแม้จะลงทุนเทคโนโลยีรีไซเคิลตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยพัฒนาหุ่นยนต์ Daisy แต่แอปเปิลก็ยังต้องพึ่งบริษัทภายนอกในการรีไซเคิลอยู่ ที่มา - The Verge ภาพโรงงานรีไซเคิลของแอปเปิล
# Uber Freight ธุรกิจจับคู่รถบรรทุกขนส่งสินค้าของ Uber รับเงินทุนเพิ่มอีก 500 ล้านดอลลาร์ Uber ประกาศรับเงินทุนซีรี่ส์ A 500 ล้านดอลลาร์ จากกองทุน Greenbriar Equity Group เพื่อลงทุนในธุรกิจขนส่งสินค้า Uber Freight ทำให้มูลค่ากิจการเฉพาะส่วนธุรกิจนี้เพิ่มเป็น 3,300 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ Uber ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดใน Uber Freight โดยจะนำเงินทุนใหม่นี้มาขยายธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการขนส่ง ตัวธุรกิจ Uber Freight นั้น Uber จะเป็นตัวกลางคอยจับคู่คนขับรถบรรทุกกับบริษัทที่ต้องการขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นการลดความลำบากในอดีตระหว่างสองฝ่าย ที่ก่อนหน้านี้ใช้การเจรจาตกลงกันเป็นเวลานาน ที่มา: Uber
# SwiftKey บน Android ได้รับอัพเดต, เพิ่มฟีเจอร์ควบคุมเคอร์เซอร์ เมื่อเดือนที่แล้วแอพคีย์บอร์ด SwiftKey ของไมโครซอฟท์เวอร์ชันสำหรับอุปกรณ์แอนดรอยด์ ได้รับอัพเดตเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ซึ่งได้เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมเคอร์เซอร์ขณะใช้ SwiftKey พิมพ์ข้อความ ผ่านการแตะค้างบนคีย์ spacebar จากนั้นจึงลากนิ้วเพื่อบังคับทิศทางของเคอร์เซอร์ อย่างไรก็ดีฟีเจอร์ดังกล่าวไม่ได้เปิดใช้งานเป็นค่าตั้งต้น ผู้ใช้ที่สนใจจำเป็นจะต้องตั้งค่าผ่านเมนู Setting > Typing > Cursor control เพื่อเปิดใช้งานด้วยตนเอง ดาวน์โหลดแอพ SwiftKey สำหรับ Android ได้ที่ Google Play ครับ ที่มา - MSPoweruser ภาพแอพ SwiftKey จาก Google Play
# ประเมินรายได้ Call of Duty: Mobile ครบรอบปีแรก กวาดเงินไปแล้ว 480 ล้านดอลลาร์ บริษัทวิจัยตลาดแอพมือถือ Sensor Tower ประเมินสถิติของ Call of Duty Mobile ที่เปิดให้เล่นครั้งแรก 1 ตุลาคม 2019 หรือครบ 1 ปีที่ผ่านมา ว่าน่าจะทำรายได้ไปแล้วทั้งหมดราว 480 ล้านดอลลาร์ รายได้ 480 ล้านดอลลาร์นี้แบ่งออกเป็นรายได้ในสหรัฐประมาณ 215 ล้านดอลลาร์ ถ้าเทียบกับเกมมือถือยอดนิยมในสเกลระดับเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน ก็เป็นรองแค่ PUBG Mobile ที่ทำไว้ 274 ล้านดอลลาร์ และ Fortnite 239 ดอลลาร์ เกมมียอดดาวน์โหลดประมาณ 270 ล้านดาวน์โหลด ประเทศหลักคือสหรัฐอเมริกามีฐานผู้เล่นประมาณ 50 ล้าน ตามด้วยบราซิลและอินเดีย (เกมยังไม่เปิดให้เล่นในจีน แม้เป็นเกมที่ Activision ร่วมพัฒนากับ Tencent ก็ตาม) ที่มา - Sensor Tower
# Minecraft ประกาศอัพเดตตัวใหม่ Caves & Cliffs เน้นการสร้างถ้ำและภูเขา Minecraft ประกาศแผนการอัพเดตตัวหน้าชื่อ Caves & Cliffs Update ที่เน้นเรื่องถ้ำและภูเขา-หน้าผา จุดเด่นคืออัลกอริทึมการสร้างถ้ำที่ดีขึ้น และฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น ไม้เลื้อยในถ้ำ (lush caves), บล็อคหินแบบต่างๆ, แพะภูเขา เป็นต้น ส่วนเกม Minecraft Dungeons ที่แตกแขนงออกมา ก็ได้อัพเดตให้เล่น cross-play ข้ามแพลตฟอร์มได้แล้ว และประกาศทำ DLC ตัวใหม่ชื่อ Howling Peaks เปิดให้เล่นในเดือนธันวาคมนี้ ที่มา - Minecraft
# Apple จะเปลี่ยนอีโมจิคนสวมหน้ากาก ให้ดูยิ้มแย้ม สุขภาพดี ตั้งแต่ iOS 14.2 มีข้อมูลน่าสนใจจาก Emojipedia ถึงการเปลี่ยนแปลงของอีโมจิรูปคนสวมหน้ากากปิดปาก เนื่องจากปีที่ผ่านมา การสวมหน้ากากเป็นเรื่องพื้นฐานเพราะการระบาดของโควิด-19 อีโมจิรูปคนสวมหน้ากากก็เลยมีความนิยมใช้งานสูงมากขึ้นด้วย ที่ผ่านมาการสวมหน้ากากมักบ่งบอกอาการป่วย อีโมจิรูปสวมหน้ากากจึงมาพร้อมสายตาที่ดูหมดแรง แต่เมื่อการสวมหน้ากากเป็นเรื่องปกติ แอปเปิลจึงตัดสินใจเปลี่ยนอีโมจิสวมหน้ากาก ให้มีสายตาที่สดชื่น ยิ้มแย้ม ดูสุขภาพดีด้วย โดยจะมีผลตั้งแต่ iOS 14.2 เป็นต้นไป ทั้งนี้ซัมซุงน่าจะเป็นรายแรก ๆ ที่ทำอีโมจิสวมหน้ากาก ด้วยสีหน้าปกติไม่มีอาการป่วย ปัญหาจากนี้ก็คือการส่งอีโมจิข้ามแพลตฟอร์ม อาจถูกตีความหมายเป็นได้ทั้งป่วยในสีหน้าแบบเดิม หรือเตือนให้สวมหน้ากากด้วยในสีหน้าแบบใหม่นั่นเอง ที่มา: Emojipedia
# Super Smash Bros. Ultimate เพิ่มตัวละคร Steve และ Alex จาก Minecraft การเปิดตัวคาแรกเตอร์ใหม่ของ Super Smash Bros. กลายเป็นอีเวนต์สำคัญของวงการเกมไปแล้ว เพราะแฟนๆ ต่างจับตาดูว่ารอบนี้นินเทนโดจะไปจับมือกับค่ายเกมใด (ตัวอย่างก่อนหน้านี้คือ Terry Bogard จาก SNK) เมื่อคืนนี้ นินเทนโดจับมือกับไมโครซอฟท์ ส่ง Alex และ Steve แห่งเกม Minecraft มาร่วมศึกด้วยแบบเป็นคู่ สลับตัวไปมาได้ รวมถึงตัวละครอื่นในเกม Minecraft เช่น Zombie หรือ Enderman รวมเป็น 4 ตัว (ทั้งหมดถือเป็นตัวละครที่ 77 ของ Super Smash Bros. Ultimate) ในเทรลเลอร์เปิดตัว Mario โดนอัดกระเด็นจากเวทีเข้ามาอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง และพบกับ Steve ที่ขุดดินมาเจอพอดี (ซึ่งแน่นอนว่าท่าไม้ตายใน Super Smash Bros. คือการขุดดิน ต่อบล็อค สร้างบ้าน) ตัวละครชุด Minecraft จะเปิดให้เล่นในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ ที่มา - Minecraft
# กูเกิลเผย มีแอพสร้างด้วย Flutter แล้วเกิน 1 แสนตัว เติบโต 4-5 เท่าในรอบปี Tim Sneath หนึ่งในหัวหน้าทีม Flutter ให้สัมภาษณ์กับ The Register ในโอกาสที่ Flutter 1.22 ออกตัวจริง มีประเด็นน่าสนใจดังนี้ ตอนนี้มีแอพที่สร้างด้วย Flutter ในระบบ Google Play แล้ว 1 แสนตัว และมีเพิ่มเดือนละประมาณ 1 หมื่นตัว อัตราการเติบโตในรอบปีที่ผ่านมาคือ 4-5 เท่า จุดเด่นของ Flutter คือการใช้โค้ดเดียวรันแอพข้ามแพลตฟอร์ม ทำให้ภาคธุรกิจชอบ เพราะไม่ต้องแยกทีม iOS/Android ซึ่งอาจมีความสามารถไม่เท่ากัน ออกแอพได้ไม่ทัดเทียมกัน ซึ่งส่งผลเสียต่อแบรนด์ Sneath ยอมรับว่า กูเกิลมีชื่อเสียงไม่ดีเรื่องฆ่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ฮิต ทำให้นักพัฒนาจำนวนหนึ่งยังไม่กล้าใช้ Flutter แต่เขาก็อธิบายว่าเป็นเพราะวัฒนธรรมของกูเกิลที่ "เสี่ยงกับความสำเร็จ" (bet on success) ถ้าโครงการนั้นเติบโต ก็ได้ไปต่อ เขาบอกว่าทีม Flutter ยังไม่มีแผนรองรับภาษาอื่นนอกจาก Dart เพราะ Dart ถือเป็นเคล็ดลับความสำเร็จของ Flutter เนื่องจากเป็นภาษาที่ออกแบบมาดี ใช้ได้ทั้งการคอมไพล์เป็นเนทีฟ และแปลงเป็น JavaScript เพื่อใช้บนเว็บ เขายอมรับว่าวงการที่ Flutter ยังไปไม่ถึงคือการนำมาใช้เขียนเกม แต่ก็ยกตัวอย่างว่ามีแอพสายออกแบบเกมที่เขียนด้วย Flutter แล้ว เช่น Rive ที่ยังทดสอบในวงปิด ที่มา - The Register ภาพจาก @FlutterDev
# เกม Godfall เวอร์ชันพีซี ตั้งราคา 59.99 ดอลลาร์ ถูกกว่า PS5 ที่ราคา 69.99 ดอลลาร์ ประเด็นเรื่องเกมของคอนโซลยุคใหม่ขึ้นราคาเป็น 70 ดอลลาร์ ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในวงการเกม ตัวอย่างล่าสุดคือ Godfall ของ PS5 ที่ขยับราคาเป็น 69.99 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Godfall ยังลงแพลตฟอร์มพีซีด้วย และคิดราคาที่ 59.99 ดอลลาร์เท่าเดิม (ราคาที่ขายผ่าน Epic คือ 56.99 ดอลลาร์แต่น่าจะเป็นการลดจาก Epic เอง) ทำให้ยิ่งมีเสียงวิจารณ์ว่ามีความเหลื่อมล้ำระหว่างสองแพลตฟอร์ม (Godfall เป็นคอนโซลเอ็กซ์คลูซีฟของ PS5 จึงไม่ลง Xbox เลยไม่รู้ว่าจะตั้งราคาเท่าไร) Godfall ไม่ใช่เกมแรกที่ใช้แนวทางนี้ ตัวอย่างก่อนหน้านี้คือ NBA 2K21 ของ 2K Games ที่ลงทุกแพลตฟอร์ม แต่ขายเวอร์ชัน Xbox Series X และ PS5 แพงกว่าใครเพื่อนที่ 69.99 ดอลลาร์ แต่ 2K Games ก็อธิบายว่าเกมเวอร์ชัน Xbox Series X และ PS5 ใช้เอนจินกราฟิกตัวใหม่กว่า ให้ภาพที่ดีกว่า จึงตั้งราคาขายแพงกว่า ในขณะที่ Godfall ทั้งสองแพลตฟอร์มไม่น่าจะมีความแตกต่างกัน ที่มา - GameInformer
# AIS เปิดบริการ Cloud Game สตรีมมิ่งเกมบนมือถือ เดือนละ 299 บาท ใช้ระบบจาก Gameloft AIS เปิดบริการ Cloud Game โดยเป็นการเหมาจ่ายรายเดือนเพื่อเล่นเกมแบบสตรีมมิ่ง (ตอนนี้ยังรองรับเฉพาะบน Android ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ อย่าง iOS และพีซีจะตามมาในภายหลัง) ค่าบริการคิดที่ 299 บาทต่อเดือน จำกัดเฉพาะลูกค้า AIS เท่านั้น ส่วนลูกค้าที่ใช้แพ็กเกจ 5G Max Speed ราคา 699 บาทต่อเดือนขึ้นไป จะได้สิทธิใช้งานฟรี 90 วัน เบื้องหลังของบริการ AIS 5G Cloud Game คือ Blacknut ซึ่งเป็นบริการในเครือ Gameloft บริษัทเกมมือถือยักษ์ใหญ่ การใช้งานจะต้องผ่านแอพ Blacknut เวอร์ชันของ AIS และรองรับการเชื่อมกับคอนโทรลเลอร์ Xbox One ผ่านบลูทูธ Blacknut บอกว่ามีเกมให้บริการประมาณ 400 เกม (ตัวเลขของ AIS คือมากกว่า 300 เกม) มีทั้งเกมของ Gameloft เอง เช่น Asphalt, NOVA หรือ Modern Combat และเกมจากค่ายอื่นๆ เช่น Shadow Tactics, Ryse: Son of Rome, Styx, Extinction, Farming Simulator 19, Hitman Go เป็นต้น (รายชื่อเกมทั้งหมด) ที่มา - AIS, @AIS_Thailand
# Twitter ยืนยัน ทวีตที่แช่งให้คนอื่นตายผิดกฎแพลตฟอร์ม หลังทรัมป์ทวีตว่าติดโควิดและมีคนแช่งจำนวนมาก หลังจากที่ทรัมป์ทวีตว่าเขาและสตรีหมายเลขหนึ่งมีผลทดสอบ COVID-19 เป็นบวกแล้ว ก็มีคนที่ทวีตในทำนองว่าพวกเขาเหมาะสมกับไวรัสแล้ว ซึ่งจุดประเด็นเรื่องกฎการคุกคามบน Twitter อีกครั้ง ทาง Motherboard จึงสอบถามไปยัง Twitter เกี่ยวกับประเด็นนี้ และได้รับคำตอบว่าทวีตที่แช่งให้ตายนั้นผิดกฎเกณฑ์ของแพลตฟอร์ม ตามกฎของ Twitter แล้ว ทางบริษัทระบุว่าการทวีตในแนวแช่งหรือหวังให้คนหรือกลุ่มคนตาย, ถูกทำร้าย และอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่ควรเอามาล้อเล่น ไม่ว่าจะแช่งให้ตายจากโรค, อุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งถูกฆ่าตายนั้นถือว่าเป็นการคุกคามและผิดกฎแพลตฟอร์มทั้งสิ้น ซึ่งหาก Twitter พบเห็นการกระทำผิดจะล็อกบัญชีให้อยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียวจนกว่าจะลบทวีต แต่จะไม่ลบบัญชี รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อ่านได้จากบล็อกโพสต์เรื่องพฤติกรรมการคุกคามที่ Twitter โพสต์ไว้ตั้งแต่เดือนเมษายน ที่มา - Engadget, Motherboard
# วิสัยทัศน์ใหม่ไมโครซอฟท์ "ทุกบ้านต้องมีพีซี" สู่ "ทุกคนต้องมีพีซี" จึงขยายไลน์ Surface เว็บไซต์ VentureBeat ชี้ให้เห็นยุทธศาสตร์ใหม่ของไมโครซอฟท์จากงานแถลงข่าว Surface Laptop Go และ Surface Pro X รุ่นอัพเดต SQ2 ที่นำโดย Panos Panay หัวหน้าทีมฮาร์ดแวร์ Panay ระบุในงานแถลงข่าวว่า เดิมทีวิสัยทัศน์ของไมโครซอฟท์ตั้งแต่ยุคของ Bill Gates คือ "พีซีในทุกบ้าน" (a PC in every single home) ตอนนี้พัฒนามาเป็น "พีซีสำหรับทุกคน" (a PC for every single person) แล้ว โดยเขาระบุว่าสถานการณ์โลกเปลี่ยนไปจากเดิมหลัง COVID-19 และกระแส Work from Home ทำให้ "ทุกคน" จำเป็นต้องมีพีซีของตัวเองเพื่อใช้ทำงาน Panay ไม่ได้บอกว่าทุกคนต้องซื้อ Surface ของไมโครซอฟท์ เพราะเขาพูดถึงพาร์ทเนอร์ฮาร์ดแวร์ของไมโครซอฟท์ด้วย แต่นี่คงเป็นคำอธิบายว่าทำไมช่วงหลัง ไมโครซอฟท์ถึงขยายสายผลิตภัณฑ์ Surface เพิ่มอีกเยอะมาก (ไม่ว่าจะเป็น Surface Go, Surface Laptop, Surface Pro X, Surface Neo/Duo, และล่าสุดคือ Surface Laptop Go) เป้าหมายคงเป็นเพื่อให้ครอบคลุมผู้ใช้ทุกกลุ่มย่อยนั่นเอง ครอบครัว Surface ภาพจากไมโครซอฟท์ ที่มา - VentureBeat
# กูเกิลยืนยัน Android 11 เลิกซัพพอร์ต Daydream VR แล้ว กูเกิลเลิกพูดถึงแพลตฟอร์ม Daydream VR ของตัวเองมานานแล้ว (ตั้งแต่ Pixel 4 เลิกซัพพอร์ต Daydream) ชะตากรรมของ Daydream คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก และคราวนี้กูเกิลยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าแอพ Daydream VR จะไม่ซัพพอร์ตบน Android 11 กูเกิลระบุว่าแอพจาก 3rd party อาจยังใช้งานได้บน Android 11 แต่แอพของกูเกิลเองนั้นไม่มีอัพเดตใดๆ เพิ่มเติม และไม่การันตีว่าจะใช้งานได้บน Android 11 อีกต่อไป ส่วนแว่น Daydream View ของกูเกิลเองที่เคยขายช่วงปี 2016-2017 ยังใช้งานได้ต่อไป แต่ตัวแว่นก็เลิกขายไปนานมากแล้วเช่นกัน เมื่อต้นปีนี้ ซัมซุงประกาศเลิกทำ GearVR ไปก่อนแล้ว ทำให้ตอนนี้แพลตฟอร์ม VR แบบไม่ต้องเชื่อมต่อพีซี น่าจะเหลือเพียง Oculus ที่เพิ่งออกแว่น Quest 2 เพียงรายเดียว ที่มา - Google via Android Police
# Picture-in-Picture ของเว็บ YouTube บน iOS กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ iOS 14 จะพบว่าไม่สามารถใช้งาน Picture-in-Picture (PiP) ฟีเจอร์ใหม่สำหรับเล่นคลิปวิดีโอ และใช้งานแอปอื่นไปพร้อมกันได้บน iPhone ได้ เมื่อรับชมวิดีโอ YouTube ผ่านเบราว์เซอร์ เว้นแต่เป็นผู้ใช้ YouTube Premium ล่าสุดใน iOS 14.0.1 พบว่า YouTube กลับมาใช้งาน PiP ได้แล้ว ทั้งนี้ YouTube จะใช้งาน PiP ได้ผ่านการเล่นวิดีโอบนเบราว์เซอร์เท่านั้น ส่วนแอปรองรับเฉพาะการทำงานเบื้องหลังสำหรับลูกค้า Premium นอกจากนี้เบราว์เซอร์บน iOS ที่รองรับ PiP ก็ไม่จำกัดแค่ Safari โดยพบว่าเมื่อเล่นวิดีโอ YouTube ผ่าน Firefox หรือ Chrome บน iOS ก็ใช้งานได้เช่นกัน YouTube ไม่ได้ออกมาประกาศการเปลี่ยนแปลงเป็นทางการแต่อย่างใด ที่มา: The Verge
# Microsoft Teams แก้ปัญหาทำงานช้า, เปิดแอพเร็วขึ้น 30%, ลดโหลดเครื่องตอนเปิดวิดีโอ ปัญหาอันแสนเจ็บปวดของผู้ใช้ Microsoft Teams คือแอพมีประสิทธิภาพไม่ดีนัก ทำงานช้า โดยเฉพาะแอพเวอร์ชันเดสก์ท็อป ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกมาประกาศแผนการแก้ปัญหาประสิทธิภาพของ Teams บนแพลตฟอร์มต่างๆ ดังนี้ แอพเวอร์ชันเดสก์ท็อป (Windows+macOS) รองรับการทำงานออฟไลน์ เขียนข้อความตอนไม่มีเน็ตได้ และแอพจะส่งข้อความให้อัตโนมัติเมื่อกลับมาต่อเน็ตได้ แอพเดสก์ท็อปจะเปิดเร็วขึ้น 30% หลังปรับปรุงให้โหลดสิ่งที่ไม่สำคัญในภายหลัง และปรับการทำงานฝั่งเซิร์ฟเวอร์ไปพร้อมกัน ลดโหลดเครื่องตอนเปิดวิดีโอ ด้วยการลดแอนิเมชัน และปรับแต่งวิธีการเรนเดอร์วิดีโอ เริ่มใช้งานแล้ว แอพเวอร์ชัน iOS ประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น 40% จากการย้ายงานบางอย่างไปประมวลผลที่เซิร์ฟเวอร์ เริ่มใช้งานแล้ว แอพเวอร์ชัน Android ทำงานได้ดีขึ้นในการต่อเน็ตที่แบนด์วิดท์ต่ำๆ เริ่มใช้งานแล้ว ที่มา - Microsoft
# NVIDIA เลื่อนวันขาย GeForce 3070 สองสัปดาห์เพื่อเตรียมสต๊อก หลังเจอ 3080 ขาดตลาด NVIDIA ประกาศเลื่อนวันวางขาย GeForce RTX 3070 ออกไปราว 2 สัปดาห์ เป็นวันที่ 29 ตุลาคม 2020 ด้วยเหตุผลว่าต้องการเตรียมสต๊อกสินค้าให้เพียงพอ หลังเจอปัญหา GeForce RTX 3080 ของหมดอย่างรวดเร็ว NVIDIA ยอมรับว่าการเลื่อนครั้งนี้ย่อมทำให้ลูกค้าที่เตรียมซื้อต้องผิดหวัง แต่ก็ระบุว่าเร่งผลิต 3070 อย่างเต็มที่ การเลื่อนครั้งนี้จะทำให้วันวางขาย 3070 ไปชนกับงานเปิดตัว Radeon RX 6000 ที่จะเปิดตัววันที่ 28 ตุลาคม แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลว่าของจะวางขายจริงเมื่อใด ที่มา - NVIDIA