txt
stringlengths
202
53.1k
# ผู้ก่อตั้ง Bethesda สนับสนุนดีลไมโครซอฟท์ เปรียบเหมือนซื้อ Bungie แล้วปั้น Halo ดัง ประเด็นเรื่องไมโครซอฟท์ซื้อ Bethesda ถือเป็นข่าวใหญ่ของวงการไอทีในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และคงไม่มีใครที่จะแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ได้ดีกว่า Christopher Weaver ผู้ก่อตั้ง Bethesda Softworks ตั้งแต่ปี 1989 และถือเป็นหนึ่งในผู้สร้างเกมซีรีส์ The Elder Scrolls Weaver ก่อตั้ง Bethesda ในปี 1986 จากนั้นขยับขยายมาตั้ง ZeniMax Media บริษัทแม่ของ Bethesda ในปี 1999 ร่วมกับ Robert A. Altman หุ้นส่วนอีกคนที่รับบทเป็นซีอีโอของ ZeniMax อย่างไรก็ตาม ภายหลังทั้งสองคนทะเลาะกัน ทำให้ Weaver ลาออกจากบริษัทในปี 2002 แต่ก็ยังคงถือหุ้นจำนวนมากเอาไว้ ปัจจุบัน Weaver เป็นอาจารย์และนักวิจัยด้านเกมคอมพิวเตอร์ในองค์กรหลายแห่ง เช่น MIT และ Smithsonian เขาระบุว่าเหลือหุ้นของ ZeniMax น้อยมากแล้ว Christopher Weaver ผู้ก่อตั้ง Bethesda ภาพจาก @csweaver เว็บไซต์ Inverse สัมภาษณ์ Weaver หลังข่าว Bethesda โดนซื้อ มีประเด็นสำคัญดังนี้ เขามองว่าไมโครซอฟท์ได้ประโยชน์จากแฟรนไชส์เกมของ Bethesda แต่ในทางกลับกัน Bethesda ก็ได้ประโยชน์ตรงที่ไม่ต้องสนใจเรื่องช่องทางการขาย สามารถหันไปโฟกัสที่งานครีเอทีฟ สร้างเกมเพื่อมาปล่อยในช่องทางของไมโครซอฟท์ก็พอ ประเด็นเรื่องราคา 7.5 พันล้านดอลลาร์ว่าถูกหรือแพง คุ้มไม่คุ้ม Weaver บอกว่า Bethesda รักษาความลับทางธุรกิจเป็นอย่างดี จึงหาข้อมูลเรื่องนี้ได้ยาก แต่เขามั่นใจว่าไมโครซอฟท์ตรวจสอบสถานะธุรกิจของ Bethesda อย่างดีแล้วระหว่างเจรจาซื้อ เขามองว่าถึงแม้เครื่องมือพัฒนาเกมมีราคาถูกลงมาก ค่าใช้จ่ายหลักจึงไปอยู่ที่ตัวบุคคลผู้สร้างเกม และในวงการเกม มีบริษัทที่พิสูจน์ตัวเองว่าสามารถทำเกมระดับ AAA ได้ไม่เยอะนัก อะไรที่ไมโครซอฟท์เป็นเจ้าของไปแล้ว โซนี่ก็ไม่มีทางได้มา (What Microsoft owns, Sony cannot get. ) เขามั่นใจว่าไมโครซอฟท์จะเคารพแนวทางของ Bethesda ที่ทำมาแล้ว 34 ปี โดยไม่เข้าไปเปลี่ยนแปลงมัน เขาเล่าถึงความสัมพันธ์ของ Bethesda กับไมโครซอฟท์ในยุค Xbox รุ่นแรก ว่าตัวเขาเองให้ความเห็นหลายอย่างกับทีมฮาร์ดแวร์ไมโครซอฟท์ และเปรียบเทียบว่าการซื้อ Bethesda รอบนี้ใกล้เคียงกับการซื้อ Bungie ในยุคนั้น ที่ไมโครซอฟท์ประสบความสำเร็จในการปั้น Halo มาเป็นจุดขายของ Xbox ในตอนนั้น ภาพจาก The Elder Scrolls Online ที่มา - Inverse
# Amazon ประกาศวัน Prime Day 13-14 ตุลาคม 2020 หลังต้องเลื่อนเพราะ COVID-19 Amazon จัดเทศกาลลดแหลก Prime Day มาตั้งแต่ปี 2015 และจัดต่อเนื่องในช่วงเดือนกลางเดือนกรกฎาคมของทุกปี แต่ปีนี้ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ Prime Day ต้องเลื่อนมาเรื่อยๆ จนหลายคนคิดว่าอาจไม่มีซะแล้ว วันนี้ Amazon ประกาศวันเทศกาล Prime Day ประจำปี 2020 เป็นวันที่ 13-14 ตุลาคม โดยระบุว่ามีสินค้าลดราคามากกว่า 1 ล้านรายการ ตัวอย่างดีลที่ประกาศมาแล้วคือ ลำโพง Echo Dot 3rd Gen (ที่เพิ่งตกรุ่น) จะขาย 2 ชิ้นในราคา 39 ดอลลาร์ (ตอนนี้เพิ่งลดราคาเหลือชิ้นละ 39 ดอลลาร์) สิ่งที่พิเศษหน่อยของปีนี้คือ Amazon จะช่วยสนับสนุนร้านค้าขนาดเล็กให้มียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ด้วยการออกโปรโมชั่นว่าลูกค้าที่สั่งของจากร้านขนาดเล็กที่ร่วมรายการเกิน 10 ดอลลาร์ ก่อนวันงาน Prime Day จะได้เครดิตพิเศษ 10 ดอลลาร์สำหรับใช้ตอน Prime Day ด้วย ที่มา - Amazon
# เกมปลูกผัก Farmville ภาคแรก ประกาศปิดตัวสิ้นปี 2020 เพราะ Flash เลิกซัพพอร์ต เกมปลูกผัก Farmville ที่เคยเป็นเกมยอดฮิตบนโลกโซเชียล ประกาศปิดบริการเวอร์ชัน Facebook ในวันสิ้นปีนี้ 31 ธันวาคม 2020 ด้วยเหตุผลว่า Adobe Flash หยุดซัพพอร์ตในวันสิ้นปี ทำให้ Facebook หยุดซัพพอร์ตเกม Flash ตามไปด้วย ต้นสังกัด Zynga ประกาศว่าหลังจากเริ่มเปิดบริการในปี 2009 มาเป็นเวลา 11 ปี ก็ถึงเวลาที่ต้องยุติลงด้วยข้อจำกัดทางเทคนิค หากผู้เล่นซื้อเครดิตในเกมไว้ก็ยังสามารถใช้งานได้จนถึงวันสิ้นปี อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ใช่จุดอวสานของเกมซีรีส์ Farmville เพราะยังมี Farmville 2 ให้เล่นทั้งบนมือถือและ Facebook (เขียนเป็น HTML5 ทำให้ไม่มีปัญหา Flash หมดอายุ) และ Farmville 3 ที่เป็นเกมมือถือด้วยเช่นกัน ที่มา - Zynga, Eurogamer
# ลอนดอนอนุญาตให้ Uber ให้บริการต่อได้ ภายใต้เงื่อนไขส่งรายงานความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ปีที่แล้ว Transport for London หรือ TfL หน่วยงานผู้ดูแลการคมนาคมในกรุงลอนดอน ปฏิเสธการต่อใบอนุญาตกิจการของบริษัท Uber เนื่องจากพวว่าระบบของบริษัทปล่อยให้ผู้ขับรถที่ไม่ได้รับอนุญาตอัพโหลดภาพผ่านบัญชีของผู้ขับรถคนอื่น ล่าสุด ศาลมีคำตัดสินอนุญาตให้ Uber ให้บริการต่อในลอนดอนได้เป็นเวลา 18 เดือน ถือเป็นชัยชนะของบริษัท เพราะลอนดอนเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของ Uber มาตลอด และมีคนขับในระบบถึง 45,000 คน Tan Ikram รองผู้พิพากษากล่าวว่า Uber มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานที่เหมาะสมเพื่อรับใบอนุญาตเป็นเวลา 18 เดือน แม้ไม่มีสถิติที่สมบูรณ์แบบแต่ก็เห็นการพัฒนาที่ดีขึ้นของ Uber ตอนที่เกิดเหตุระงับใบอนุญาตในอดีต Uber ได้ขอโทษสำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและอ้างว่าได้แก้ปัญหาแล้ว เพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัยรวมถึงการตรวจสอบข้อมูลประจำตัวสำหรับผู้ขับขี่ด้วย ด้าน TFL ยอมรับคำตัดสินของศาล และมีเงื่อนไขให้ Uber ส่งรายงานด้านความปลอดภัยเป็นระยะ Uber เผชิญวิกฤตหลายด้าน ทั้งผู้โดยสารลดลงในช่วงโรคระบาด จนต้องปลดพนักงาน และการต่อสู้ทางกฎหมายแรงงานในแคลิฟอร์เนียจนนำไปสู่การระงับบริการ ภาพจาก Uber ที่มา - New York Times
# กลับมาทวงบัลลังก์ ผลทดสอบ GeForce MX450 บน 3DMark แรงกว่า Intel Iris Xe หลัง MX250 มีประสิทธิภาพเพิ่มจาก MX150 เพียงเล็กน้อย (แถมในผลทดสอบเดียวกัน โน้ตบุ๊กบางรุ่นที่ใช้ MX150 ยังแซงได้อยู่ด้วยซ้ำ) และ MX350 ก็ยังแพ้ให้กับ Intel Iris Xe ที่เป็นการ์ดจอออนบอร์ด (Iris Xe ก็ชนะ RX Vega จากฝั่ง Radeon เช่นกัน) ล่าสุด เว็บไซต์ Notebookcheck เปิดผลทดสอบเบื้องต้นในโปรแกรม 3D Mark ของ GeForce MX450 รุ่นใหม่พบว่าตอนนี้แรงกว่า Intel Iris Xe แล้ว โดยได้คะแนน Time Spy Graphics บนความละเอียด 2560x1440 ไป 1,680 คะแนน ชนะคะแนนเฉลี่ยของ Intel Iris Xe Graphics G7 ที่ได้ไป 1,435 คะแนน แต่แพ้ GTX 1050 ที่ทำได้ 2,130 คะแนน ในอีกการทดสอบ บน 3D Mark 11 ที่ความละเอียด 1280x720, MX450 ทำได้ 8,950 คะแนน ชนะ Intel Iris Xe Graphics G7 ที่ได้ 6,758 คะแนน และชนะ GTX 1050 ที่ทำได้ 8,903 คะแนนด้วย GeForce MX450 เปลี่ยนจากสถาปัตยกรรม Pascal ในรุ่น MX150/250/350 มาใช้สถาปัตยกรรม Turing แล้ว และถ้าผลการทดสอบตรงกับการใช้งานจริง ก็จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า Iris Xe โดยมี TDP อยู่ที่ประมาณ 25W พอๆ กับรุ่นก่อนหน้า และคาดว่าจะวางขายในช่วงปลายปีนี้ ที่มา - Notebookcheck ภาพจาก NVIDIA ตัวอย่างผลทดสอบจาก Notebookcheck
# SCB จับมือ Guavapay เปิดตัวบริการรับโอนเงินจากยุโรปมาไทยแบบเรียลไทม์ 24 ชม. ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมมือกับ Guavapay ผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศจากอังกฤษเปิดตัวบริการ "รับโอนเงิน" ข้ามประเทศจากอังกฤษ/ยุโรปมายังประเทศไทย ไทยพาณิชย์ระบุว่าต้นทางสามารถโอนเงินและติดตามสถานะการโอนได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางของ Guavapay ซึ่งเชื่อมกับไทยพาณิชย์ด้วย Ripplenet ทำให้สามารถโอนเงินได้ตลอด 24 ชม. ขณะที่ทางไทพาณิชย์จะเป็นหน้าด่านในประเทศไทยในการกระจายเงินสู่ผู้รับปลายทางผ่านพร้อมเพย์เป็นเงินบาทแบบเรียลไทม์ ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ ภาพจาก Shutterstock
# Musk โวยดีลไมโครซอฟท์ไลเซนส์ GPT-3 แบบเอ็กคลูซีฟจาก OpenAI ว่ามันไม่โอเพน สัปดาห์ที่แล้ว ไมโครซอฟท์ประกาศไลเซนส์ GPT-3 โมเดลภาษาธรรมชาติของ OpenAI แบบเอ็กคลูซีฟ ซึ่งก็ทำให้ Elon Musk ที่มีส่วนร่วมก่อตั้ง OpenAI (ทุกวันนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว) ออกมาแซะว่ามันตรงข้ามกับคำว่า "open" เลยและ OpenAI เหมือนถูกไมโครซอฟท์ยึดไปแล้ว โฆษกไมโครซอฟท์เปิดเผยกับ The Verge ว่าความเอ็กคลูซีฟคือได้สิทธิเข้าถึงโค้ดของ GPT-3 ขณะที่ Kevin Scott ซีทีโอของไมโครซอฟท์ยืนยันเหมือนกับ OpenAI ว่ายังเปิดให้ผู​้ใช้งานที่ใช้อยู​่แล้วและผู้ใช้ใหม่ในอนาคตเข้าถึง GPT-3 ผ่าน API ได้เช่นเดิม ที่มา - @elonmusk
# ซัมซุงยืนยัน จะออกมือถือเรือธงราคาถูกแบบ Galaxy S20 FE เป็นประจำทุกปี เก็บตกประเด็นที่น่าสนใจจากงานเปิดตัว Galaxy S20 FE เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยซัมซุงระบุว่าจะออก "เรือธง FE" ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ทำให้เราพอสรุปได้ว่าเราจะได้เห็น Galaxy S FE เปิดตัวช่วงกลางปี ส่วนจะมี Galaxy Note รุ่น FE หรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไป หากมองในแง่สายผลิตภัณฑ์ของซัมซุงเอง การออกเรือธงรุ่นราคาถูก ที่ซัมซุงใช้ชื่อว่า FE (Fan Edition) เป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซัมซุงพูดอย่างชัดเจนในงานเปิดตัว Galaxy S20 FE ว่าจุดขายหลักคือ "Fan Favorite Features at an Accessible Price Point" หรือคัดฟีเจอร์บางส่วนที่สำคัญๆ เช่น สเปกซีพียูตัวท็อปหรือจอ 120Hz มาขายในราคาจับต้องได้ (699 ดอลลาร์ เทียบกับ S20 ที่เริ่มต้นราคา 999 ดอลลาร์) จุดเริ่มต้นของยุทธศาสตร์ FE ในปีนี้ เริ่มมาจากการเปิดตัว S10 Lite และ Note 10 Lite ทันทีหลังปีใหม่ 2020 ซึ่งมองได้ว่าเป็นการทิ้งช่วงหลัง S10 รุ่นปกติประมาณเกือบหนึ่งปี และ Note 10 ประมาณเกือบครึ่งปี แต่เมื่อซัมซุงเข็น S20 FE (ที่เทียบได้กับ S20 Lite) ออกมาเร็วขึ้นคือประมาณครึ่งปีหลัง S20 และสัญญาว่าจะออกรุ่น FE ใหม่ทุกปี จึงเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ายอดขายมือถือระดับเรือธง (ที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นเยอะในช่วงหลัง) เริ่มลดลง บวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ทำให้คนใช้จ่ายน้อยลง รวมๆ กันแล้วบีบให้ซัมซุงต้องปรับยุทธศาสตร์เรือธงของตัวเองเช่นกัน ที่มา - SamMobile
# ผู้ก่อตั้ง Nikola ถูกแฉซื้อดีไซน์หัวรถบรรทุกมาจากดีไซนเนอร์ หลังฟ้อง Tesla ลอกดีไซน์เมื่อ 2018 Nikola Motor ที่กำลังอยู่ภายใต้สปอตไลท์ของการถูกแฉว่าปาหี่ ไม่ได้ครอบครองเทคโนโลยีเชื้อเพลิงไฮโดรเจนอย่างที่กล่าวอ้าง รวมถึงทำคลิปโปรโมทหลอกนักลงทุน จนทำให้ Trevor Milton ผู้ก่อตั้งลาออกจากประธานบริษัทแล้ว ล่าสุด Milton และ Nikola กำลังถูกแฉอีกประเด็นว่า Milton ซื้อดีไซน์ของ Nikola One มาจาก Adriano Mudri ดีไซน์เนอร์ชาวโครเอเชียของบริษัทรถ Rimac หลังจากปี 2018 Nikola ได้ยื่นฟ้อง Tesla ฐานละเมิดสิทธิบัตรดีไซน์หัวรถบรรทุก และอ้างว่าดีไซน์ของ Nikola One ถูกออกแบบโดย Milton ที่ห้องใต้ดินตัวเอง Financial Times อ้างอิงแหล่งข้อมูล 2 คนที่รู้เรื่องนี้ โดยระบุว่า Milton ซื้อดีไซน์มาในปี 2015 ซึ่ง Tesla ก็ได้ยื่นข้อมูลตรงนี้โต้แย้งในชั้นศาลแล้วว่า Nikola ไม่สามารถฟ้องร้องได้เพราะไม่ได้เป็นเจ้าของดีไซน์ที่แท้จริง ด้าน Nikola แย้งว่าแม้จะซื้อดีไซน์มาจริง แต่ทีมงานก็มีการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างไปจากดีไซน์ที่ซื้อมาและการซื้อดีไซน์มาจาก third-party ในระหว่างการพัฒนารถยนต์นั้นก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่มา - FT
# ก้าวข้ามโซนี่ ดีลไมโครซอฟท์ซื้อ Bethesda ช่วยให้ได้เปรียบ Stadia และ Amazon Luna Paul Tassi คอลัมนิสต์ของ Forbes วิเคราะห์ดีลไมโครซอฟท์ซื้อ Bethesda ว่าเป็นการซื้อเกม exclusive สำหรับ Xbox จริง แต่ไม่ได้ซื้อเพื่อต่อสู้กับโซนี่เพียงอย่างเดียว ในระยะสั้น เราอาจมองการแข่งขันในวงการเกมที่ Xbox vs PlayStation เป็นหลัก ซึ่งไมโครซอฟท์ยังอ่อนแอกว่าในแง่เกม exclusive ที่เป็นจุดขายของแพลตฟอร์ม การควักเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.4 แสนล้านบาท) เพื่อแก้ปัญหานี้จึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผล แต่ในระยะยาว ตลาดคลาวด์เกมมิ่งจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่แทนคอนโซล โดยเฉพาะล่าสุดหลังการเปิดตัว Amazon Luna ยิ่งทำให้ภาพอนาคตยิ่งเด่นชัด รูปแบบของ Amazon Luna คือการจ่ายรายเดือนเพื่อสมัครสมาชิก "ช่อง" ของค่ายเกม (ตอนนี้มี 2 ช่องคือ Luna Plus ของ Amazon เอง และ Ubisoft) การซื้อ Bethesda รวมถึงข้อตกลงของไมโครซอฟท์กับ EA ก่อนหน้านี้ จึงถือเป็นการการันตีว่าบริการคู่แข่งอย่าง Luna หรือ Stadia จะไม่มีเกมเด่นๆ ที่เป็นจุดขายของแพลตฟอร์ม และช่วยให้ไมโครซอฟท์ได้เปรียบอย่างมาก ถือเป็นการเดินหมากที่สำคัญของไมโครซอฟท์ ก่อนที่ Luna จะเริ่มก้าวขาออกเดินด้วยซ้ำ ที่มา - Forbes
# หลุดราคา Pixel 5 จาก Google ญี่ปุ่นที่ราคา 74,800 เยน เรื่องหลุดจนแทบไม่มีอะไรเหลือก่อนเปิดตัวต้องยกให้เขา หลังจากหลุดมาทั้งสเปค ดีไซน์ สีและราคาในยุโรป ล่าสุดเป็น Google ญี่ปุ่นเองที่เผลอทวีตคลิปวิดีโอโปรโมท Pixel 5 พร้อมราคาในญี่ปุ่น ราคาที่หลุดออกมาคือ 74,800 เยนหรือราว 710 เหรียญสหรัฐ แต่ราคาที่ขายในญี่ปุ่นที่ผ่านมามักจะแพงกว่าในสหรัฐอยู่แล้ว ขณะที่ evleaks ก็เพิ่งปล่อยราคาหลุดของ Pixel 5 ในแคนาดาอยู่ที่ 799 เหรียญแคนาดาหรือราว ๆ 599 เหรียญสหรัฐ ที่มา - 9to5Google
# สรุปรีวิว Crysis Remastered กราฟิกดีขึ้น แต่เอนจินล้าสมัย ดึงพลังฮาร์ดแวร์ยุคใหม่ไม่ได้ เกมเด่นอีกเกมที่น่าจับตาช่วงนี้คือ Crysis Remastered ที่ออกขายในจังหวะที่ตลาดจีพียูกลับมาร้อนแรงอีกครั้งพอดี แถมมีโหมด Can It Run Crysis ที่สร้างกระแสท้าทายประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ด้วย ตอนนี้เริ่มมีรีวิวออกมาจากสื่อหลายสำนัก ที่น่าสนใจคือ Digital Foundry เจ้าพ่อแห่งการรีวิวกราฟิกเชิงลึก ที่ออกรีวิวด้านเทคนิคของ Crysis Remastered เวอร์ชันพีซีมาโดยเฉพาะ (เกมมีเวอร์ชัน Switch, Xbox One, PS4 ด้วย) Digital Foundry ชมฟีเจอร์ sparse voxel octree global illumination (SVOGI) ของ CryEngine ที่จำลองการฟุ้งกระจายและการสะท้อนของลำแสงด้วยซอฟต์แวร์ ทำให้คุณภาพของภาพในเกมดีขึ้นมาก และเป็นสิ่งที่เกมพัฒนาขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับเกมต้นฉบับ Crysis Remastered ยังรองรับ ray tracing ทั้งระดับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ และก้าวหน้าถึงขั้นรองรับ ray tracing ด้วยฮาร์ดแวร์บน DirectX 11 ซึ่งไม่เคยมีเกมไหนทำได้มาก่อน (วิธีการคือรองรับบน Vulkan API อีกทีหนึ่ง) เกมยังเพิ่มคุณภาพของเท็กซ์เจอร์ระดับ 8K ในบางจุด โดยเฉพาะชุดสูท Nanosuit ที่ตัวเอกในเกมสวมใส่ ทำให้เห็นรายละเอียดของชุดได้อย่างชัดเจนมาก เอนจินเกมยังปรับปรุงเรื่องระยะลึกของภาพ (depth of field) จากเดิมใช้อัลกอริทึมแบบ guassian มาเป็นแบบ bokeh ทำให้ภาพสมจริงยิ่งขึ้น ส่วนโหมด Can it Run Crysis Mode เป็นการแสดงผลวัตถุทุกอย่างในเกมแบบเต็มความละเอียด โดยไม่สนใจระยะความใกล้ไกลของซีนภาพในตอนนั้น ซึ่ง Digital Foundry มองว่าเกินความจำเป็นในการใช้งานจริงๆ ไปมาก (to a point of excess) และเน้นใช้ทดสอบ มากกว่าใช้เล่นเกมจริงๆ ในฝั่งของข้อด้อย เกมเวอร์ชัน Remastered พัฒนาจากเวอร์ชันที่พอร์ตไปลง PS3/Xbox 360 ไม่ใช่เวอร์ชันพีซีต้นฉบับจริงๆ ทำให้สูญเสียฟีเจอร์หรือเนื้อหาบางส่วน (เช่น ฉาก Ascension ที่โดนตัดไป) ที่หายไปตั้งแต่การพอร์ตครั้งแรก ซึ่งน่าเสียดายเพราะ Crysis สร้างชื่อมาจากการเป็นเกมพีซี นอกจากนี้ Digital Foundry ยังวิจารณ์งานออกแบบในเกมว่าไม่สวยเท่าไรนัก และบางครั้งภาพจากเกมต้นฉบับสวยกว่าด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาจริงๆ ของ Crysis Remastered คือ เอนจินของเกมที่เริ่มล้าสมัยแล้ว และอิงกับพลังของการประมวลผลแบบคอร์เดียวเป็นหลัก ทำให้แม้แต่ซีพียูเกมมิ่งที่แรงที่สุดในปัจจุบันอย่าง Core i9 10900K ยังไม่สามารถรันได้เต็มประสิทธิภาพ แถมยิ่งเวอร์ชัน Remastered ยกระดับกราฟิกให้ละเอียดขึ้นกว่าเดิม ปัญหาคอขวดที่ซีพียูยิ่งเห็นได้ชัดเจนขึ้นกว่าเวอร์ชันต้นฉบับ ตรงนี้ถือเป็นข้อจำกัดของตัวเกมเองแล้ว ไม่ใช่ข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ยุคปัจจุบัน เว็บไซต์ Techradar ให้คะแนนรีวิว 3/5 โดยชี้ประเด็นคล้ายๆ กันว่าภาครีมาสเตอร์เป็นการยกระดับกราฟิกขึ้นจากเดิม ปรับคุณภาพด้านแสงในเกมเป็นหลัก แต่มีปัญหาเรื่องฉาก Ascension หายไป, เกมไม่มีโหมดมัลติเพลเยอร์หรือเนื้อหาจากภาคเสริม (Wars/Warhead) รวมมาด้วย และเกมปรับแต่งมาไม่ดีพอสำหรับฮาร์ดแวร์ยุคปัจจุบัน คะแนนรีวิวเฉลี่ยของเวอร์ชันพีซี อยู่ที่ 72/100 - Metacritic ส่วนเวอร์ชันอื่นๆ ได้แก่ PS4 (59), Xbox One (62), Switch (66) ที่มา - Eurogamer, Techradar
# กูเกิลเสนอโมเดลปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์ข้อความ ย่อโมเดลเหลือเพียง 1.3MB กูเกิลนำเสนอโมเดลปัญญาประดิษฐ์ pQRNN สำหรับงานประมวลผลข้อความ (natural language processing - NLP) ที่ตอนนี้นิยมใช้โมเดล BERT เป็นมาตรฐาน แต่โมเดล BERT มีขนาดใหญ่ถึง 400MB และมักใช้ในเซิร์ฟเวอร์มากกว่าอุปกรณ์ขนาดเล็กเช่นโทรศัพท์มือถือ pQRNN ปรับปรุงมาจากโมเดล PRADO ที่กูเกิลนำเสนอตั้งแต่ปีที่แล้ว ความต่างจากโมเดลอื่นๆ คือการรับอินพุตเป็นคำแทนที่จะเป็นตัวอักษรทำให้โมเดลโดยรวมลดความซับซ้อนลงมาก แต่ปรับขั้นปลายๆ ของโมเดลให้เป็นชั้นแบบ QRNN และใช้ทำงานที่ความซับซ้อนต่ำ เช่น การจับอารมณ์ของข้อความ, การตรวจหาคำลามก, การจับชื่อและคำสำคัญ, ไปจนถึงเนื้อหาด้านลบ (toxic content) โดยยังให้ระดับความแม่นยำใกล้เคียงกับโมเดล BERT ที่ขนาดใหญ่กว่ามาก ทีมวิจัยของกูเกิลทดสอบ pQRNN ด้วยชุดข้อมูล civil_coments ที่หาข้อความมุ่งร้าย, ลามก, หรือโจมตีตัวบุคคล สามารถทำความแม่นยำ 0.963 AUC โดยโมเดลมีขนาดเพียง 1.3 ล้านพารามิเตอร์แบบ quantized ให้แต่ละพารามิเตอร์มีขนาด 1 ไบต์เท่านั้น เทียบกับโมเดล BERT ที่เคยมีการฝึกได้ผลดีที่สุดยังทำได้ 0.976 AUC แม้จะมีพารามิเตอร์ถึง 110 ล้านพารามิเตอร์แบบ FP32 ก็ตาม ที่มา - Google AI Blog สถาปัตยกรรมโมเดล pQRNN
# กูเกิลโอเพนซอร์สโมเดลปัญญาประดิษฐ์ค้นหาภาพความแม่นยำสูง กูเกิลนำเสนอโมเดลปัญญาประดิษฐ์ใหม่ DELG (DEep Local and Global Features) สำหรับแก้ปัญหาค้นหาภาพด้วยภาพ (Instance-Level Recognition - ILR) เช่นการค้นหาแบบ Google Images ที่ผู้ใช้สามารถใส่ภาพสถานที่ท่องเที่ยวเข้าไปแล้วบริการค้นหาจะคืนภาพสถานที่เดียวกันออกมาให้ จุดเด่นของ DELG คือการใช้โมเดลเดียวตลอดการทำงาน โดยตัวโมเดลใช้ ResNet เป็นฐาน จากนั้นแยกส่วน global feature สำหรับค้นหาภาพที่ใกล้เคียงจากฐานข้อมูล และ local feature เพื่อเทียบความคล้ายแล้วเรียงลำดับผลการค้นหา ทีมงานทดสอบ DELG กับชุดข้อมูล Google Landmarks Dataset v2 (GLDv2) ที่เป็นภาพสถานที่ 5 ล้านภาพจากสถานที่ 200,000 แห่ง ได้ความแม่นยำถึง 61.2% แม้จะไม่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับการแข่งขันจดจำสถานที่เมื่อปี 2019 แต่โมเดลจากการแข่งขันนั้นซับซ้อนหลายขั้นตอน ส่วนโมเดลของกูเกิลนั้นฝึกได้รวดเดียวจากภาพอินพุตไปจนถึงผลลัพธ์ (end-to-end) กูเกิลใส่ซอร์สโค้ดของ DELG ไว้ในโครงการ Tensorflow แล้ว และค่าพามิเตอร์ที่เทรนโมเดลมาได้ก็แจกไว้พร้อมกัน ที่มา - Google AI Blog โมเดล DELG ที่ใช้ส่วนเริ่มต้นของโมเดลร่วมกันระหว่าง global feature และ local feature ลดระยะเวลาเทรนโมเดลโดยรวม
# เฟซบุ๊กพยายามล็อบบี้แอปเปิลให้ Messenger เป็นตัวเลือกแอปดีฟอลต์ใน iPhone หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงบน iOS คือผู้ใช้สามารถเลือกแอปอีเมลและเบราว์เซอร์แบบดีฟอลต์เป็นแอปอื่นนอกจาก Mail และ Safari ของแอปเปิลได้ ทำให้เฟซบุ๊กกำลังพยายามล็อบบี้แอปเปิล เพื่อให้ Facebook Messenger เป็นตัวเลือกแอปดีฟอลต์บน iOS ด้วย Stan Chudnovsky รองประธานบริษัทที่ดูแลแอป Messenger บอกว่าผู้ใช้งานสมควรจะต้องมีตัวเลือกสำหรับแอปส่งข้อความดีฟอลต์ในเครื่อง และสำหรับนักพัฒนาแอปส่งข้อความบน iOS แล้วมันไม่ได้เป็นการแข่งขันที่เท่าเทียมเลย และหากแอปเปิลเลือกใช้วิธีเดียวกับแอนดรอยด์ การแข่งขันบน iOS ก็น่าจะเป็นธรรมมากขึ้น นอกจากนี้ Chudnovsky ถูก The Information ถามด้วยว่า คิดว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้แอปเปิลไม่ยอมเปลี่ยนท่าทีให้ปรับแอปส่งข้อความดีฟอลต์ได้ ซึ่งเจ้าตัวก็คาดว่าเป็นเพราะแอปส่งข้อความ (iMessage) เป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายฮาร์ดแวร์ (iPhone/iPad) อย่างไรก็ตามหากแอปเปิลยอม จะมีเรื่องของการเปลี่ยนแอปที่รับ SMS ในเครื่องด้วย ซึ่งหากมองในแง่ความปลอดภัย การเปลี่ยนให้แอปอื่นในเครื่องเข้าถึง SMS ที่เป็นตัวเลือกในการส่งข้อมูลยืนยันตัวตน ก็อาจทำให้แอปเปิลเลือกจะไม่ยอมก็เป็นได้ ที่มา - The Information via MacRumors
# Cisco เพิ่มฟีเจอร์ Webex แม้เน็ตช้าหรือสัญญาณแย่ ก็ยังประชุมได้ราบรื่น Cisco ประกาศเพิ่มฟีเจอร์หลายอย่างให้ Webex โดยเฉพาะในยุค work from home ที่เน็ตบ้านอาจไม่ดีเท่าที่ทำงาน Cisco บอกว่าแอพประชุมทางวิดีโอหลายตัวอาจใช้งานไม่ได้ หากแพ็กเกตข้อมูลสูญหายถึงระดับ 50% แต่ Webex ยังสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยเทคนิคหลายอย่าง เช่น เลือกส่งเฉพาะแพ็กเกตของส่วนสำคัญในวิดีโอ (ใบหน้า แทนที่จะเป็นพื้นหลัง) หรือ ปิดโหมด grid view ชั่วคราวหากพบว่าแบนด์วิดท์ต่ำ แทนที่จะแสดงหน้าของเพื่อนร่วมประชุมเข้าๆ ออกๆ ตามสัญญาณเน็ต ก็ปรับวิธีการแสดงผล ลดจำนวนสตรีมวิดีโอที่แสดง เพื่อให้การพูดคุยราบรื่นขึ้น Webex ยังเลือกลดเฟรมเรตของวิดีโอ แทนการลดความละเอียดลง (เช่น จาก 720p เหลือ 360p) เพราะมองว่าในการประชุมออนไลน์ที่ไม่ค่อยมีอะไรเคลื่อนไหว เฟรมเรตมีความสำคัญน้อยกว่าความละเอียด และจะลดความละเอียดถ้าเน็ตแย่ต่อเนื่องจริงๆ เท่านั้น ที่มา - Cisco
# Azure Communication Services ไมโครซอฟท์เปิดฟีเจอร์สื่อสารของ Teams ให้เรียกใช้ผ่าน API สัปดาห์ที่แล้วในงาน Ignite 2020 มีบริการตัวใหม่ในสังกัด Azure ที่น่าสนใจเปิดตัวคือ Azure Communication Services Azure Communication Services เป็นการนำแพลตฟอร์มสื่อสาร Microsoft Teams ที่รองรับทั้งแชท เสียง วิดีโอ โทรศัพท์แบบดั้งเดิม และข้อความ SMS มาแยกร่างออกเป็นส่วนๆ ให้องค์กรอื่นสามารถเรียกใช้ได้ผ่าน API และคิดค่าใช้งานตามปริมาณ นั่นแปลว่าเราสามารถสร้างแอพคล้ายๆ Microsoft Teams ขึ้นมาเองได้ทันที จุดเด่นของบริการตัวนี้คือใช้โครงสร้างพื้นฐานตัวเดียวกับ Teams จึงรองรับผู้ใช้จำนวนมากที่กระจายทั่วโลก, รองรับการทำงานบนหลากหลายแพลตฟอร์ม (ที่ประกาศแล้วคือ iOS, Android, Web, .NET, JavaScript), รองรับมาตรฐานระดับองค์กร (เช่น HIPAA, GDPR, ความปลอดภัย) จึงไม่ต้องลงทุนสร้างใหม่ให้เหนื่อย นอกจากนี้มันยังสามารถนำไปเชื่อมกับบริการอื่นๆ ในตระกูล Azure อย่างการสร้างแชตบ็อต หรือ AI ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างการใช้งานที่ไมโครซอฟท์โชว์ให้ดู ได้แก่ การฝังระบบแชทลงในแอพหรือหน้าเว็บ, ทำให้แอพสามารถรับส่ง SMS ได้, เพิ่มระบบวิดีโอคอลล์คุยกับฝ่ายบริการลูกค้าในตัวแอพเลย เป็นต้น เว็บไซต์ TechCrunch เปรียบเทียบ Azure Communication Services กับบริการของ Twilio ที่เป็นเจ้าตลาดด้านนี้อยู่แล้ว และมองว่ามันเป็นการต่อยอดจากโครงสร้างพื้นฐานของ Teams ที่มีอยู่แล้ว โดยที่ไมโครซอฟท์เองก็ไม่ต้องลงทุนเพิ่มมากนัก ที่มา - Azure Blog, TechCrunch
# Serious Sam 4 วางขายแล้ว ทิ้งช่วงนาน 9 ปีจากภาคก่อน คะแนนรีวิวเฉลี่ย 68/100 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเกมที่น่าสนใจวางขายหลายเกม หนึ่งในนั้นคือ Serious Sam 4 ภาคต่อของเกมยิงที่เน้นศัตรูจำนวนมหาศาล วางขายเวอร์ชันพีซีทั้งการขายแบบปกติ (Steam/GOG) และแบบสตรีมมิ่งบน Stadia Serious Sam 4 ทิ้งช่วงห่างจากเกมภาค 3 ที่ออกในปี 2011 นานถึง 9 ปี เกมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2018 แต่เพิ่งวางขายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมพัฒนายังเป็น Croteam สตูดิโอเกมจากประเทศโครเอเชียเหมือนทุกภาคที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เกมภาคนี้ได้คะแนนรีวิวไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับภาคก่อนๆ โดยคะแนนเฉลี่ยจาก Metacritic ขณะที่เขียนข่าวนี้อยู่ที่ 68/100 (ภาคแรกทำไว้ที่ 87 ส่วนภาคถัดๆ มาอยู่หลัก 70) สื่อเกมใหญ่บางเจ้า เช่น IGN ให้คะแนนที่ 5/10 โดยข้อวิจารณ์หลักคือ การถล่มศัตรูจำนวนมากๆ ยังเป็นเอกลักษณ์ แต่เมื่อเล่นซ้ำไปนานๆ ก็เริ่มน่าเบื่อ และอาวุธไม่หลากหลายพอในการสร้างรูปแบบเกมเพลย์ใหม่ๆ ให้แตกต่างจากภาคก่อนๆ ส่วน Gamespot ยังให้คะแนนระดับ "ดี" (7/10) โดยชมเรื่องเกมเพลย์ที่เป็นเอกลักษณ์เรื่องจำนวนศัตรู (ที่เพิ่มขึ้นอีกเพราะประสิทธิภาพของพีซีดีขึ้นจากเดิมมาก) การเล่นจำเป็นต้องวางแผนการเล่นให้มีกลยุทธ์-ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว แต่ก็วิจารณ์เรื่องเกมเพลย์ที่ซ้ำๆ และบั๊กบางอย่างของเกม ที่มา - IGN, Gamespot
# Capcom เปิดตัวซีรีย์ Resident Evil: Infinite Darkness แบบ CG ฉายบน Netflix แอคเคาท์ทวิตเตอร์ Netflix Portugal เผลอปล่อยคลิปตัวอย่างของ Resident Evil: Infinite Darkness ออกมา (ล่าสุดลบไปแล้ว) ซึ่งเป็นภาพยนตร์แบบ CG และจะฉายบน Netflix ในปี 2021 จากตัวอย่างที่หลุดออกมาเผยให้เห็นตัวละครที่เราคุ้นหน้ากันจาก Resident Evil 2 อย่าง Claire Redfield และ Leon S. Kennedy โดยตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากเรื่องนี้แล้ว Netflix ยังมีกำหนดฉายซีรีส์ Resident Evil อีกเรื่องเป็นแบบไลฟ์แอ็คชันด้วย แต่ยังไม่กำหนดช่วงเวลาฉาย อัพเดต ล่าสุด Capcom เปิดตัว Resident Evil: Infinite Darkmess อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะเป็นซีรีย์ฉายบน Netflix ปี 2021 ที่มา - GameSpot
# Michel Ancel ผู้สร้าง Rayman และ Beyond Good & Evil เกษียณอายุ ลาออกจาก Ubisoft Michel Ancel นักออกแบบเกมชาวฝรั่งเศสของ Ubisoft ผู้สร้างซีรีส์ Rayman และ Beyond Good & Evil ประกาศเกษียณอายุจากวงการเกมด้วยวัย 48 ปี โดยระบุว่าจะไปทำเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่าแทน Ubisoft ยืนยันว่าการลาออกของ Ancel ไม่กระทบกับการพัฒนา Beyond Good & Evil 2 เพราะเขาไม่ได้ยุ่งกับการพัฒนาเกมมาระยะหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม สื่อฝรั่งเศส Libération รายงานว่า Ancel ลาออกจาก Ubisoft ขณะที่ถูกสอบสวนเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่ง Ubisoft ก็ยืนยันข่าวนี้ แต่ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการว่า Ancel มีปัญหาด้านใด Libération รายงานว่า Ancel ถูกพนักงานร้องเรียนเรื่องสไตล์การทำงาน ที่ทำงานด้วยยาก เปลี่ยนแปลงเนื้องานบ่อย ทำให้ทีมงานต้องทำงานหนักและหมดกำลังใจในการทำงาน ส่งผลให้เกม Beyond Good & Evil 2 ล่าช้าไปมาก เพราะพัฒนามานาน 7 ปีแล้วก็ยังไม่เสร็จสักที ฝั่งของ Ancel ตอบโต้ผ่าน Instagram ว่ารายงานของ Libération เป็นข่าวปลอม และเขาพร้อมจะพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ ที่มา - Ubisoft
# สรุปรีวิว RTX 3090 แรงกว่า 3080 ราว 15% รันเกม 4K เปิด ray-tracing ได้เกิน 60FPS แล้ว วันนี้สื่อไอทีเมืองนอกหลายราย เริ่มลงผลทดสอบ GeForce RTX 3090 Founder Edition การ์ดจอ Ampere ตัวแรงที่สุดของ NVIDIA ที่มีราคาสูงถึงประมาณสองเท่าของ RTX 3080 (สเปกคร่าวๆ คือ CUDA cores ถึง 10496 แกน และวีแรม GDDR6X ขนาด 24GB) แม้ผลทดสอบที่ได้จะไม่ได้เพิ่มเป็นสองเท่าตามราคา แต่ GeForce RTX 3090 ก็ครองตำแหน่งเจ้าแห่งการ์ดจอเล่นเกมในตอนนี้ไปเรียบร้อย สื่อหลายสำนักพูดตรงกันว่า GeForce RTX 3090 ถือเป็นการ์ดจอตระกูล Titan รุ่นใหม่ แม้ไม่มีคำว่า Titan ในชื่อรุ่นก็ตาม แต่เพราะเป็นการ์ดจอแสดงพลังขั้นสุดของ NVIDIA ในเจ็นนี้ โดยออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการการ์ดจอรุ่นที่แรงที่สุดโดยไม่เกี่ยงราคา และต้องการเล่นเกมแบบ 4K พร้อม ray-tracing ได้แบบเต็มที่ ซึ่งการ์ดจอรุ่นนี้ก็ทำได้แบบ 60fps แล้วในหลายๆ เกม เห็นผลชัดเจนเมื่อเล่นที่ 4K Tom’s Hardware ระบุว่าประสิทธิภาพของ RTX 3090 ชนะ 3080 ไปประมาณ 10-15% ในการเล่นเกมบนความละเอียด 4K แต่ไม่ถึง 10% บนการเล่นเกมแบบ 1440p จึงเห็นได้ชัดว่า RTX 3090 ถูกสร้างมาเพื่อโชว์พลังการเล่นเกมแบบ 4K หรือละเอียดกว่านั้น เพราะเป็นความละเอียดในระดับที่ใช้ประโยชน์จากวีแรมขนาดใหญ่ถึง 24GB ได้อย่างเต็มที่ และเป็นคำอธิบายว่าทำไมการเล่นเกมแบบ 1440p จึงไม่เห็นความแตกต่างมากนัก เฟรมเรต เฉลี่ย 9 เกม บนความละเอียด 4K จาก Tom’s Hardware ส่วนเว็บ guru3d.com ทดสอบการเล่นเกม Battlefield V แบบเปิด ray-tracing ที่ความละเอียด 4K พบว่า GeForce RTX 3090 เป็นการ์ดจอใบเดียวเท่านั้นที่สามารถทำเฟรมเรตเฉลี่ยได้ถึง 60 เฟรมต่อวินาที ในขณะที่ระดับ RTX 3080 ทำได้ 55 เฟรมต่อวินาที และ RTX 2080 Ti ทำได้เพียง 38 เฟรมต่อวินาที ปัญหาเฟรมเรตตก สามารถแก้ได้ด้วยการเปิด DLSS (เทคโนโลยีอัพสเกลภาพด้วย deep learning ของ NVIDIA) ซึ่งได้เฟรมเรตอยู่ที่ 55, 73 และ 86 เฟรมต่อวินาที (2080 Ti, 3080, 3090 ตามลำดับ) Battlefield V แบบ 4K เปิด RT ไม่เปิด DLSS Battlefield V แบบ 4k เปิด RT+DLSS ยังพิชิตโหมด Can It Run Crysis? ที่ 60fps ไม่ได้ หาก GeForce RTX 3090 มีปัญหาอยู่บ้าง ก็คงเป็นการเล่นเกม Crysis: Rematered ในโหมด Can it run Crysis? ที่เว็บไซต์ Tom’s Hardware ลองทดสอบบนความละเอียดแบบ 4K แบบเปิด ray-tracing พบว่า RTX 3090 ยังทำเฟรมเรตได้เพียง 41 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น (เกมยังไม่รองรับ DLSS ทำให้ไม่มีตัวช่วย) แต่หากปิด ray-tracing ก็สามารถทำเฟรมเรตได้เฉลี่ย 64.9 เฟรมต่อวินาที ผลทดสอบ Crysis:Remastered จาก Tom’s Hardware คะแนนจากการทดสอบแบบสังเคราะห์เช่น 3DMark Fire Strike Ultra ที่ IGN ทำการทดสอบ ทำได้ถึง 12055 คะแนน เทียบกับ RTX 3080 ที่ 10744 คะแนน เพิ่มขึ้นประมาณ 12.2%% และถ้าเทียบกับ RTX 2080 Ti ที่ได้ 8426 คะแนน ก็เพิ่มขึ้นมาถึงเกือบ 4000 คะแนน ผลทดสอบจาก IGN ไม่ร้อนมาก แต่กินไฟมาก ในด้านพลังงานและความร้อน จากการทดสอบพบว่า RTX 3090 ระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม ในการทดสอบเล่นเกม Metro Exodus บนความละเอียด 1440p อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 64.6 องศาสเซลเซียสเท่านั้น แต่ในด้านการใช้พลังงาน RTX 3090 กินไฟมากพอสมควร โดยต้องใช้ไฟถึง 361.3 วัตต์ในการทดสอบ Metro Exodus เทียบกับ Titan RTX ในรุ่นก่อน ที่ใช้ไฟ 287.5 วัตต์ ผลทดสอบด้านพลังงานจาก Tom’s Hardware พอเล่นเกม 8K ได้เป็นบางเกม สำหรับการเล่นเกมที่ความละเอียดสูงระดับ 8K เว็บ Tehcspot ลองทดสอบการเล่นเกมแบบ 8K พบว่าพอจะรองรับการเล่นเกมแบบ 8K ได้บ้าง แต่ยังมีเพียงเกม Doom: Eternal เท่านั้น ที่เล่นได้บนความละเอียด 8K จริงๆ ที่เฟรมเรต 60fps ส่วนเกม Control ยังต้องใช้ DLSS ในการอัพสเกลจาก 1440p เพื่อให้ได้เฟรมเรตที่ 60fps อยู่ (และได้เพียง 5fps เมื่อไม่ใช้ DLSS เพราะต้องเรนเดอร์ 8K เต็มความละเอียด) สรุป NVIDIA Geforce RTX 3090 น่าจะเป็นการ์ดจอที่แรงที่สุดในตลาดปัจจุบัน แต่มีข้อเสียที่ขนาดใหญ่ ราคาแพง และค่อนข้างกินไฟ แต่ถ้าคุณเป็นผู้เล่นที่ไม่เกี่ยงเรื่องเงิน และต้องการการ์ดจอที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมแบบ 4K เปิด ray-tracing แบบจัดเต็ม ณ ตอนนี้ ไม่มีการ์ดจอตัวไหนเอาชนะ RTX 3090 ได้ ถ้าคุณมีเงินเหลือเฟือ และคิดว่าประสิทธิภาพที่มากขึ้นประมาณ 15% จาก RTX 3080 และการรองรับการเล่นเกมความละเอียดสูงในอนาคต คุ้มแล้วสำหรับราคาประมาณสองเท่า RTX 3090 ก็น่าจะเป็นพี่ใหญ่บิ๊กเบิ้มที่เหมาะกับคุณ ที่มา - Tom’s Hardware, guru3d, TechSpot
# เปิดตัว FM 2021 วางขาย 24 พ.ย.นี้, ไม่ลง PlayStation เพราะโซนี่ไม่ส่ง dev kit มาให้ Sport Interactive ประกาศเปิดตัว Football Manager 2021 ภาคใหม่ ที่จะวางขายวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้บน Steam และ Epic Games Store ทั้งพีซีและ macOS ในราคา 1,099 บาท โดยคนที่พรีออเดอร์จะได้รับส่วนลด 10% พร้อมสิทธิเล่นเวอร์ชัน Early Access ก่อนวันวางขายจริง นอกจากนี้คนที่ซื้อผ่าน Steam / Epic Games Store จะได้ตัวเกม Football Manager 2021 Touch (เวอร์ชันระบบสัมผัส) ไปฟรี ๆ ด้วย ขณะที่เวอร์ชัน Touch และ Mobile ทั้งบน iOS และ Android จะตามมาในภ่ายหลัง ส่วน Touch บน Switch จะวางขายภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ Football Manager 2021 จะกลับไปให้เล่นบนคอนโซล Xbox แล้วหลังหายไปตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งจะลงทั้ง Xbox One, Xbox Series X และ Series S โดยซื้อครั้งเดียวสามารถเล่นข้ามเจนได้เลย อย่างไรก็ตามตัวเกมภาคนี้กลับไม่ได้ลง PlayStation ด้วย ซึ่ง Miles Jacobson ผู้กำกับเกมเปิดเผยว่าทีมงานติดต่อไปยังโซนี่ แต่ไม่ได้เครื่อง dev kit มา ทำให้ไม่สามารถทำเกมลงแพลตฟอร์ม PlayStation ได้ ตรงกันข้่ามกับไมโครซอฟท์ที่ทีมงานส่งเครื่องสำหรับนักพัฒนามาให้ ที่มา - FM, @milesSI
# Naughty Dog ประกาศออกบอร์ดเกม The Last of Us Naughty Dog ประกาศฉลองวัน The Last of Us Day ทุกวันที่ 26 กันยายนของทุกปี (ปีนี้เป็นปีแรก) โดยมีทั้งการลดราคาเกมภาคเก่าๆ, แจกฟรีธีม PS4 และออกสินค้าที่ระลึกร่วมกับแบรนด์สินค้าต่างๆ ของที่น่าสนใจคือ The Last of Us Board Game ที่ตอนนี้ยังไม่มีภาพเกมออกมาให้เห็น สินค้าผลิตโดย CMON ที่เคยร่วมงานกับโซนี่ ทำ Bloodborne: The Board Game และ God of War: The Card Game มาขายก่อนหน้านี้ ตอนนี้ยังไม่ระบุทั้งวันวางขายและราคา (ชุด God of War: The Card Game ขาย 39.99 ดอลลาร์) บอร์ดเกม Bloodbourne เผื่อไว้ดูเป็นตัวอย่าง สินค้าที่ระลึก ฟิกเกอร์ The Last of Us ธีม The Last of Us Part II แจกฟรี ที่มา - PlayStation Blog
# Facebook บรรลุข้อตกลงกับ Apple งดหักค่าธรรมเนียมเมื่อจ่ายเงินค่าอีเว้นท์จนถึงสิ้นปีนี้ เมื่อเดือนที่แล้วมีประเด็นร้อนเรื่อง Facebook เปิดตัวระบบจัดอีเว้นท์แบบจ่ายเงิน แต่โดน Apple เก็บค่าธรรมเนียม 30% แม้จะร้องขอแล้วก็ตาม ซึ่งการออกมาเผยเรื่องนี้เป็นการบีบกลาย ๆ จาก Facebook ให้ Apple เลิกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนนี้ วันนี้ Facebook ออกประกาศใหม่ระบุว่า Apple จะยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการจัดอีเว้นท์ออนไลน์บน Facebook จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ แต่จะมีข้อยกเว้นคือไม่รวม creator ฝั่งเกมมิ่งที่จะยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมตามปกติ เมื่อสอบถามไปทางฝั่ง Apple ทางบริษัทตอบกลับมาโดยมีใจความสำคัญว่าทางบริษัทจะให้เวลา Facebook จนถึงสิ้นปีนี้ในการอิมพลีเมนต์ระบบจ่ายเงินในแอปสำหรับอีเว้นท์ คาดว่า Facebook กับ Apple น่าจะบรรลุข้อตกลงบางอย่างที่ทำให้ Apple งดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียม 30% ได้ แต่อย่างไรก็ดี ประเด็นค่าธรรมเนียม 30% ของ Apple (หรือที่มักเรียกกันว่า Apple Tax) ที่ยังคงมีข้อพิพาทกับหลาย ๆ บริษัทก็ยังไม่ลงตัว อย่างเช่นกรณีของ Epic เป็นต้น และหน่วยงานที่ดูแลด้านการผูกขาดหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มเข้ามาตรวจสอบในประเด็นนี้แล้ว ที่มา - TechCrunch ภาพจากข่าวเก่า
# Lenovo เริ่มวางขาย ThinkPad รุ่นที่พรีโหลด Fedora แล้ว Lenovo เริ่มวางขายโน้ตบุ๊ก ThinkPad บางรุ่นที่พรีโหลด Fedora ตามที่เคยประกาศไว้ในเดือนเมษายน ThinkPad ที่สามารถเลือก Fedora ได้มี 3 รุ่นคือ ThinkPad P1 Gen 2, ThinkPad P53, ThinkPad X1 Gen 8 โดยสามารถสั่งได้จากหน้าเว็บ Lenovo.com เมื่อวันก่อน Lenovo เพิ่งประกาศว่า ThinkPad เกือบทุกรุ่นจะมีเวอร์ชัน Ubuntu ให้เลือก ถือเป็นการสนับสนุนลินุกซ์อย่างเต็มรูปแบบ แม้ค่าย Fedora มีรุ่นให้เลือกน้อยกว่าก็ตาม แต่ถ้ารุ่นไหนที่รองรับทั้ง Ubuntu และ Fedora ก็จะมีให้เลือกว่าเป็นดิสโทรใดตอนกดซื้อ ตามภาพ ที่มา - Fedora
# Xbox One เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ สามารถสั่งโหลดเกมมาในเครื่องไว้ก่อนตัดสินใจซื้อ ไมโครซอฟต์ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้ Xbox One Insider สามารถดาวน์โหลดเกมมาไว้ที่เครื่อง Xbox One ก่อนได้ โดยยังไม่ต้องซื้อเกมเลยด้วยซ้ำ ผู้ใช้ Xbox One Insider คนหนึ่งพบว่าสามารถใช้แอพ Xbox เวอร์ชั่นเบต้าบนเครื่องแอนดรอยด์ ค้นหาเกมที่ต้องการแล้วสั่งดาวน์โหลด ณ ตอนนั้นเลย แม้ยังไม่ได้ซื้อเกมก็ตาม ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับทุกเกมของ Xbox One ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์หลายอย่าง ตั้งแต่เราสั่งแผ่นเกมไว้ แต่สามารถดาวน์โหลดเกมได้เสร็จก่อนแผ่นมาถึง ทำให้ได้เล่นพร้อมกับคนที่ซื้อเกมแบบ digital, ดาวน์โหลดเกมไว้วันนี้แล้วค่อยซื้อพรุ่งนี้ รวมถึงการดาวน์โหลดล่วงหน้าแบบนี้จะรวมแพตช์มาด้วย (ถ้ามี) ช่วยแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดจากการแย่งกันดาวน์โหลดแพตช์ในวันแรกที่เปิดขาย ไมโครซอฟต์ยังไม่แสดงความเห็นในตอนนี้ เพราะระบุว่าฟีเจอร์นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของฟังก์ชันใหญ่กว่านี้ ซึ่งจะประกาศในภายหลัง ที่มา - Twisted Voxel, Lords of Gaming
# ShopBack ถูกแฮก อาจมีข้อมูลเลขบัญชีธนาคารหลุด ShopBack (ที่เพิ่งได้รับเงินเพิ่มทุน 45 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว) ได้แจ้งผู้ใช้งานผ่านทางอีเมลว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2020 ได้ตรวจพบว่ามีการเข้าระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต จากประกาศของ ShopBack ข้อมูลที่ผู้ใช้ที่อาจจะหลุดออกไปได้แก่ อีเมล, ชื่อผู้ใช้งาน, ข้อมูลการติดต่อ, เพศ, วันเดือนปีเกิด และข้อมูลเลขบัญชีธนาคาร (สำหรับผู้ที่เคยทำการโอนเงินออกจาก ShopBack เข้าสู่บัญชีธนาคาร) รวมถึงข้อมูลการเข้าระบบในทางเลือกอื่นๆ ซึ่งจากที่ตรวจสอบผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วย Facebook และ Apple ID โดยทาง ShopBack ได้กล่าวว่าปัจจุบัน (ณ เวลาที่เขียนข่าว) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเข้าถึงนั้นยังไม่ได้ถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ จุดที่น่าสนใจคือ ShopBack ได้กล่าวว่า ไม่แน่ชัดว่าการเข้ารหัสของ Shopback นั้นหมายถึงการแฮชรหัสผ่านหรือไม่ ทั้งนี้ ShopBack แนะนำให้ผู้ใช้บริการเปลี่ยนรหัสผ่าน และติดต่อที่อีเมล [email protected] หากพบสิ่งผิดปกติในบัญชี ShopBack หรือมีคำถามเพิ่มเติม ที่มา: อีเมลประชาสัมพันธ์, ShopBack (ภาษาไทย), ShopBack สิงคโปร์ (ภาษาอังกฤษ)
# [ไม่ยืนยัน] FF16 พัฒนามาแล้ว 4 ปี เกมอาจวางขายเร็วกว่าที่คาด Jason Schreier นักข่าวสายวิดีโอเกมของ Bloomberg ให้ข้อมูลเบื้องลึกที่ไม่เป็นทางการของเกม Final Fantasy XVI ว่า Square Enix ซุ่มเงียบพัฒนาเกมนี้มานานเกือบ 4 ปีแล้ว จนถึงระดับที่เกมพัฒนาไปมากสมควรจึงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เขายังบอกว่าเราน่าจะได้เห็น FF16 วางขายเร็วกว่าที่คาดกันด้วย Square Enix ประสบปัญหาในการพัฒนาเกม FF15 ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2006 ในชื่อ Final Fantasy Versus XIII แล้วประสบปัญหามากมายระหว่างทาง จนต้องใช้เวลาถึง 10 ปีกว่าจะวางขายได้จริงในช่วงปลายปี 2016 จึงอาจเป็นเหตุผลที่บริษัทเปลี่ยนแนวทาง มาเป็นการรอจนให้มั่นใจถึงระดับหนึ่งก่อนค่อยเปิดตัว เพื่อลดความคาดหวังของแฟนๆ ลง Square Enix เพิ่งปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ในปี 2019 โดยยุบทีม Business Division จำนวน 11 ทีมเดิม มาเป็น Creative Business Unit จำนวน 4 ทีมแทน โดยทีม I รับผิดชอบงานพัฒนา Final Fantasy ภาคหลัก (ผลงานล่าสุดคือ FF7 Remake) ในขณะที่ทีม III เดิมรับผิดชอบเกมออนไลน์ (FF11, FF14) แต่ก็ได้รับหน้าที่พัฒนา FF16 ด้วย ในแง่กระบวนการหรือวัฒนธรรมการทำงานจึงอาจต่างออกไปจากทีม 1 เดิม ที่มา - Dual Shockers
# Nier Replicant เวอร์ชันรีมาสเตอร์ ประกาศวันวางขาย 23 เมษายน 2021 Square Enix ประกาศวันวางขายเกม Nier Replicant ภาคแรกของเกม Nier Automata ที่ประกาศรีมาสเตอร์เมื่อต้นปี โดยจะเปิดขายวันที่ 23 เมษายน 2021 พร้อมกันบน PS4, Xbox One, PC (Steam) Nier Replicant ออกครั้งแรกในปี 2010 โดยเป็นซีรีส์แยกย่อยของเกมตระกูล Drakengard เกมมีสองเวอร์ชันย่อยที่แตกต่างกันเล็กน้อย คือ Nier Gestalt (บน Xbox 360 ที่ตัวเอกเป็นชายวัยกลางคน) และ Nier Replicant (บน PS3 ที่ตัวเอกเป็นชายวัยรุ่น) โดยเกมเวอร์ชัน Replicant วางขายเฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่เคยออกมาขายในโซนตะวันตกเลย ส่วนเกมเวอร์ชันรีมาสเตอร์ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า NieR Replicant ver. 1.22474487139… (ของแท้ต้องมี 3 จุด) เป็นการอัพเกรดกราฟิกใหม่ วาดคาแรกเตอร์ตัวละครใหม่ และบันทึกเสียงเพลงประกอบใหม่ เกมยังมีเวอร์ชันพิเศษ White Snow Edition สำหรับนักสะสมด้วย Square Enix ยังประกาศว่า NieR Re[in]carnation อีกเกมของซีรีส์ Nier ที่เป็นเกมมือถือบน Android/iOS จะทำตลาดในอเมริกาเหนือและยุโรปด้วย แต่ก็ยังไม่ให้รายละเอียดอื่นๆ ของเกมมากกว่านี้ ที่มา - Square Enix
# เกิดเพลิงไหม้อาคารศูนย์วิจัย Huawei ในจีน มีผู้เสียชีวิตสามราย อัปเดต: Reuters แก้ไขข่าวเพิ่มเติมว่าหน่วยดับเพลิงตงก่วนพบผู้เสียชีวิตสามราย เป็นเจ้าหน้าที่บริษัทจัดการทรัพย์สินของศูนย์ฯ ด้านล่างเป็นเนื้อหาข่าวเก่า เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารของ Huawei ในเมืองตงก่วน (Dongguan) ทางตอนใต้ของจีน ซึ่ง Reuters รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตงก่วน ระบุว่าเป็นอาคารโครงสร้างเหล็กที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ และวัสดุหลักของอาคารเป็นใยฝ้ายดูดซับเสียงในอาคาร สื่อในท้องถิ่นของตงก่วนรายงานว่าจุดที่เกิดไฟไหม้เป็นศูนย์วิจัยของ Huawei ภายในแคมปัสทะเลสาบซงชาน ที่มีพนักงานรวมกว่า 25,000 คน โดยเป็นศูนย์วิจัยเกี่ยวกับวัสดุศาสตร์และเครือข่าย 4G/5G ปัจจุบันหน่วยดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่มา - Reuters, Gizmodo
# ตามจีนไป รัสเซียเตรียมแบนโปรโตคอลเพิ่มความเป็นส่วนตัว กระทบ DoT, DoH, ESNI รัฐบาลรัสเซียเตรียมแก้ไขกฎหมายควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยมีใจความสำคัญคือการแบนโปรโตคอลใหม่ๆ ที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ได้แก่ DoT, DoH, และ ESNI (เอกสารระบุ TLS 1.3 ด้วยแต่น่าจะต้องการแบน ESNI เป็นหลัก) แนวทางการแบน ESNI นี้สอดคล้องกับทางฝั่งจีนที่บล็อค ESNI ไปก่อนแล้ว แต่รัฐบาลรัสเซียไม่ได้มีระบบบล็อคเว็บขนาดใหญ่ของตัวเองเหมือนกับรัฐบาลจีน รัสเซียอาศัยการแจ้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแต่ละรายให้บล็อคเว็บตามคำสั่งแบบเดียวกับรัฐบาลไทย หากผู้ใช้เปิดทั้ง DoT/DoH พร้อมกับ ESNI แล้วผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก็ไม่สามารถบล็อคเว็บเป็นรายโดเมนอีกต่อไป ตอนนี้กฎหมายยังเป็นร่างรับฟังความคิดเห็นถึงวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ที่มา - ZDNet
# ยังแกว่ง ผลทดสอบผู้ใช้ Starlink จากภายนอกพบดาวน์โหลด 11-114Mbps อัพโหลด 4-42Mbps ค่า ping 18-94ms Starlink เพิ่งรายงานผลการทดสอบแก่ FCC ว่าดาวน์โหลดสูงถึง 100Mbps และอัพโหลดสูงถึง 40Mbps ก็เริ่มมีผู้ใช้ไปสแกนเว็บ speedtest.net เพื่อกวาดดูว่ามีการทดสอบผ่าน Starlink จากคนอื่นๆ อีกหรือไม่ และพบว่าแม้ผลทดสอบจะอยู่ในช่วงที่บริษัทระบุแต่ก็มีผลกว้างมาก ผลที่ผู้ใช้รวบรวมกันมาเองค่าดาวน์โหลดนั้นเริ่มตั้งแต่ 11Mbps ไปจนถึง 114Mbps และอัพโหลดนั้นบางครั้งก็ทดสอบไม่สำเร็จ หรือไปเริ่มที่ 4.5Mbps ไปจนถึง 42Mbps ตามที่บริษัทอ้าง และค่า ping แกว่งอยู่ระหว่าง 18-94ms อย่างไรก็ดี Starlink นั้นยังอยู่ระหว่างการทดสอบเบต้าและบริษัทอาจจะต้องปรับปรุงอีกมาก เว็บ testmy.net เก็บสถิติรายวันพบว่าบางวันอัพโหลดก็แย่มาก และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นอัตราดาวน์โหลดดีขึ้นอย่างชัดเจน โดย Starlink ไม่เคยเปิดเผยว่าดาวเทียมที่ยิงขึ้นไปนั้นเริ่มให้บริการอินเทอร์เน็ตจริงแล้วกี่ดวง แต่ไม่ว่าเทคโนโลยีของ Starlink จะทำได้ดีเพียงใด แต่การสื่อสารไร้สายนั้นก็มีข้อจำกัดที่เลี่ยงไม่ได้ทั้งสัญญาณรบกวนและสภาพอากาศ เมื่อถึงเวลาให้บริการจริงแม้ Starlink จะมีคุณภาพบริการโดยเฉลี่ยดีเพียงใดแต่เราก็คาดได้ว่าจะมีผลทดสอบแย่ๆ ผสมมาเรื่อยๆ ที่มา - Reddit r/Starlink
# OnePlus เผยข้อมูล Warp Charge 65W มาพร้อม 8T ชาร์จได้ 58% ใน 15 นาที OnePlus เผยข้อมูลของ Warp Charge 65W ระบบชาร์จที่จะมาพร้อมกับ OnePlus 8T ที่ใช้แบตเตอรี่ 4,500 mAh สามารถชาร์จได้ถึง 58% ภายใน 15 นาที ซึ่ง OnePlus ระบุว่า 58% คือใช้ได้เป็นวันแล้ว (A Day's Power in 15 minutes.) และชาร์จเต็มได้ภายใน 39 นาที ตัวสายจะเป็นแบบ USB C-to-C ตัวที่ชาร์จรองรับการชาร์จหลายแบบ รวมถึงชาร์จแบบ PD 45W ด้วย ทำให้ชาร์จอุปกรณ์ได้หลายรูปแบบไปจนถึงโน้ตบุ๊กที่รองรับการชาร์จแบบ PD ผ่าน USB Type-C ตัวที่ชาร์จมี encryption chip เพื่อป้องกันการล้วงข้อมูล และบน OnePlus 8T จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิถึง 12 จุด ทำงานควบคู่กับระบบระบายความร้อนแบบใหม่ เพื่อลดอุณหภูมิแบตเตอรี่ขณะชาร์จ ที่มา - OnePlus
# LinkedIn ปรับโฉมหน้าเว็บและแอปใหม่ เพิ่มพื้นที่สีขาวดูเป็นโซเชียลมีเดีย LinkedIn ปรับโฉมหน้าเว็บและแอปพลิเคชั่นใหม่ในรอบ 5 ปี เพิ่มพื้นที่สีขาวสะอาดตามากขึ้น ลดพื้นที่สีน้ำเงินซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ของ LinkedIn ลง นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรูปโปรไฟล์และปุ่มนำทางต่างๆ ให้เป็นวงกลม กรอบพื้นที่ต่างๆ โค้งมน ไม่เหลี่ยม ให้อารมณ์เป็นโซเชียลมีเดียมากขึ้น แถบเมนูด้านบนสุดเป็นสีขาวล้วน การเปลี่ยนแปลงมีผลทั้งในเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่นมือถือ โดยจะเปิดใช้งานภายใน 2-3 เดือนถัดไป พร้อมทางเลือก dark mode นอกจากนี้ LinkedIn ยังเพิ่มฟีเจอร์ Stories บอกเล่าเรื่องราวของตัวเองผ่านคลิปสั้น เริ่มใช้งานในสหรัฐฯ และแคนาดา และอัพเดทการแชทให้สามารถคุยวิดีโอแชทได้ ที่มา - LinkedIn, TechCrunch
# ไมโครซอฟท์เปิดให้โหลด Xbox Family Sharing App พ่อแม่จำกัดเวลาการเล่นเกมของลูกได้ ไมโครซอฟท์เปิดตัว Xbox Family Sharing App จัดการเวลาเล่นเกมของลูก ตัวแอปให้พ่อแม่หรือผู้ดูแลสามารถสร้างบัญชีการใช้งานของลูก และตั้งเวลาจำกัดการเล่นเกมได้ หากเด็กๆ ต้องการเวลาเล่นเกมเพิ่ม ก็สามารถส่งรีเควสต์ไปยังพ่อแม่เพื่อขอเวลาเพิ่มผ่านแอป พ่อแม่ยังสามารถจำกัดเนื้อหาหรือเกมที่ไม่เหมาะกับเด็กได้ โดยระบบจะใช้อายุของเด็กเป็นตัวกรองเนื้อหามาให้ เช่น ถ้าผู้เล่นอายุ 8 ปี จะสามารถเล่นเกม Rate E ได้เท่านั้น ตัวแอปยังมาพร้อมฟังก์ชั่นโซเชียล เพิ่มเป็นเพื่อนกับบัญชีผู้ใช้งานคนอื่นๆ ได้ด้วย และส่งรายงานเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือนเพื่อดูภาพรวมการเล่นเกมของเด็กๆ ได้ว่าใช้เวลามากเกินไปหรือไม่ ตัวแอปทำงานร่วมกับ Windows และ Xbox One และ Xbox Series X และ Xbox Series S ตัวใหม่ด้วย ดาวน์โหลดฟรีทั้ง iOS และแอนดรอยด์ ที่มา - Xbox
# Apple Watch รุ่น Edition กับ Hermès ไม่ให้หัวชาร์จไฟมาในกล่องแล้ว เหมือนกับรุ่นอื่น ๆ จากข่าวก่อนหน้านี้ ที่แอปเปิลประกาศว่าจะหยุดให้อะแดปเตอร์ 5W มาในกล่อง สำหรับผู้ซื้อ Apple Watch เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพราะคนส่วนใหญ่มีอะแดปเตอร์กันอยู่แล้ว แต่ก็พบว่าแอปเปิลยังคงให้อะแดปเตอร์ ใน Apple Watch รุ่น Edition กับ Hermès ที่เป็นรุ่นระดับบนราคาสูง ล่าสุดแอปเปิลก็เลิกให้แล้วเช่นกัน โดยในหน้าสั่งซื้อสินค้าล่าสุด ทั้ง Apple Watch รุ่น Edition และ Hermès ไม่พบว่าอุปกรณ์ที่มีมาในกล่องมีอะแดปเตอร์ 5W รวมอยู่ด้วย จากที่ก่อนหน้านี้มี นอกจากนี้แอปเปิลยังเพิ่มข้อความอธิบายเหตุผลที่ไม่มีอะแดปเตอร์ว่า เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ใช้อะแดปเตอร์ที่มีอยู่แล้ว หรือกดซื้ออะแดปเตอร์ใหม่เพิ่มก่อนชำระเงินแทน ทั้งนี้ MacRumors ให้ข้อมูลว่าผู้ซื้อ Apple Watch Series 6 รุ่น Edition เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังได้อะแดปเตอร์มาในกล่อง ที่มา: MacRumors
# มาเรื่อยๆ หลุดภาพ Google Pixel 5 สีเขียว พร้อมข้อมูลใหม่ก่อนวันเปิดตัว หลังมีข่าวหลุดว่า Google 5 จะมีสองสี คือดำและเขียว วันนี้มีภาพหลุดเพิ่มเติมจากทวิตเตอร์ @evleaks แสดงภาพตัวเครื่องทั้งสองสีแบบชัดเจน และแสดงให้เห็นว่าที่แสกนลายนิ้วมือด้านหลังที่หายไปจาก Pixel 4 กลับมาแล้ว และจะไม่น่ามีเรดาร์จากโปรเจกต์ Soli ที่ใช้ในการปลดล็อกด้วยใบหน้าอีกต่อไป ก่อนหน้านี้ก็มีข้อมูลหลุดว่า Google Pixel 5 จะใช้ชิป Snapdragon 765 หน้าจอ OLED 6 นิ้ว แบบ 90Hz และมีกล้องอัลตร้าไวด์แล้ว รวมทั้งมีข้อมูลใหม่จาก 9to5Google ว่า Pixel 5 มีแรม 8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB หน้าจอจะมีจำนวนพิกเซลต่อนิ้วที่ 432 PPI ครอบด้วย Gorilla Glass 6 กล้องหลัก 12.2MP ถ่ายวิดิโอ 4K60fps และ 1080p 240FPS ได้ กล้องอัลตร้าไวด์ 18MP f/2.2 มุมมอง 107 องศา กล้องหน้า 8MP แต่มุมมองแคบลง จาก 90 องศา เหลือ 83 องศา ตัวเครื่องผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิล กันน้ำ IP68 มีแบตเตอรี่ 4,080 mAh ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม ต้องติดตามในงานเปิดตัว 30 กันยายนนี้ หรือวันที่ 1 ตุลาคม เวลาตีหนึ่ง ตามเวลาประเทศไทย ที่มา @evleaks via XDA Developers, 9to5Google
# Krungthai NEXT ล่ม ช่องทางอื่นยังใช้งานได้ Krungthai NEXT ของธนาคารกรุงไทยล่มตั้งแต่ช่วงสิบโมงที่ผ่านมา โดยธนาคารแจ้งว่าช่องทางสาขาและ ATM/ADM ยังใช้งานได้ ขณะที่ผู้ใช้บางส่วนระบุว่าเว็บ KTB netbank เองก็ยังใช้งานได้เช่นกัน ที่มา - Facebook: Krungthai Care
# Amazon เปิดตัว Echo Show 10 ใช้กล้องและเสียงสะท้อนตรวจหาคนแล้วหมุนจอตาม Amazon Echo Show ไลน์สินค้าประเภทหน้าจออัจฉริยะที่เปิดตัว Echo Show 5 รุ่นเล็ก จอ 5 นิ้วไปเมื่อปีที่แล้ว วันนี้กลับมาอัปเกรดรุ่นใหญ่ Echo Show 10 ที่มีหน้าจอ HD ขนาด 10 นิ้วพร้อมฐานแบบมีมอเตอร์ ตัวหน้าจอสามารถใช้กล้อง (computer vision) ร่วมกับเสียงสะท้อน (echolocation) เพื่อระบุตำแหน่งคนที่ใช้งานในห้อง และหมุนหน้าจอตามคนได้ และจะขยับตอนมีคนใช้งานเท่านั้น Amazon ระบุว่ามอเตอร์ที่ใช้จะไม่มีเสียงรบกวน รวมถึงเวลาวิดีโอคอล หรือประชุมทางวิดิโอ ก็จะใช้การแพนของหน้าจอ ร่วมกับการซูมแบบดิจิทัล ขยับกล้องตามคนพูดได้เช่นกัน Amazon Echo Show 10 ใช้ชิป AZ1 ที่ Amazon ผลิตร่วมกับ MediaTek และจะประมวลผลคำสั่งเสียงในตัวเครื่องโดยไม่ต้องส่งขึ้นไปในคลาวด์ ทำให้ตอบสนองเร็วขึ้น (ยังส่งไปให้ Amazon ทีหลังอยู่ดี แต่สามารถลบได้) สามารถคอลผ่าน Alexa, Zoom, และ Amazon Chime ได้ รวมทั้งมีโหมดรักษาความปลอดภัย Alexa Guard ที่ Echo Show 10 จะคอยขยับกล้องตรวจหาบุคคลและส่งแจ้งเตือนให้ได้หากมีผู้บุกรุก Echo Show 10 ผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิล เช่นผ้ารีไซเคิลแบบ 100 % (ที่หุ้มฐาน) อะลูมิเนียมไดแคสต์รีไซเคิล 100% และพลาสติกรีไซเคิล 30 เปอร์เซ็นต์ สั่งจองได้ตั้งแต่วันนี้ ในสหรัฐอเมริกา ราคา 249.99 เหรียญ (ราว 7,900 บาท) และจะจัดส่งภายในก่อนช่วงวันหยุดยาวปลายปีในสหรัฐ ที่มา - The Verge
# Ring เปิดตัว Ring Car Alarm, Ring Car Cam และ Ring Car Connect เพิ่มความปลอดภัยรถ Ring บริษัทสมาร์ทโฮมของ Amazon เปิดตัวฮาร์ดแวร์เพิ่มความปลอดภัยในรถยนต์ได้แก่ Ring Car Alarm และ Ring Car Cam เพื่อตรวจจับและเพิ่มความปลอดภัยในรถยนต์ Ring Car Alarm จะเชื่อมผ่านพอร์ท OBD (on-board diagnostics) เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวภายในรถเมื่อดับเครื่อง เช่นเดียวกับ Ring Car Cam ที่จะบันทึกภาพภายในรถและแจ้งเตือนพร้อมแสดงภาพไปยังแอป Ring ของเจ้าของ นอกจากนี้ Ring ยังเปิดตัวระบบ Ring Car Connect ที่เชื่อมระบบกล้องที่ติดมากับตัวรถเข้ากับแพลตฟอร์ม Ring ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูกล้องรถผ่านแอป Ring ได้ โดย Tesla เป็นพาร์ทเนอร์เจ้าแรก ทำให้เจ้าของรถสามารถเปิดและดูกล้องใน Sentry Mode ผ่านแอป Ring ได้เลย Ring Car Alarm ราคา 60 เหรียญ ส่วน Ring Car Cam ราคา 80 เหรียญ ที่มา - Ring
# Amazon เปิดตัว Fire TV Stick Lite 29.99 ดอลลาร์, อัพเกรด Fire TV Stick ใหม่ 39.99 ดอลลาร์ Amazon เปิดตัว Fire TV Stick Lite ราคา 29.99 ดอลลาร์ หรือราว 944 บาท โดย Amazon ระบุว่าให้ประสิทธิภาพมากกว่า Fire TV Stick รุ่นก่อนหน้าถึง 50% และมีพลังการประมวลผลมากที่สุดในบรรดาอุปกรณ์สตรีมมิ่งที่ราคาต่ำกว่า 30 ดอลลาร์ สตรีมแบบ HD ได้ เปิดขาย 30 กันยายนนี้ นอกจากนี้ Amazon ยังอัพเกรด Fire TV Stick ใหม่ รองรับ HDR และ Dolby Atmos ขายในราคา 39.99 ดอลลาร์ หรือราว 1,260 บาท Amazon ระบุว่าได้ปรับปรุงการประมวลผล Quad-Core ให้มีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อนหน้าและใช้พลังงานน้อยกว่า 50% รองรับการสตรีม HD, HDR, Dolby Atmos (แต่ไม่มี Dolby Vision) และรองรับ 802.11ac WiFi แบบดูอัลแบนด์ และจ่ายเพิ่ม 10 ดอลลาร์ เพื่อซื้อ Alexa Voice Remote รีโมทควบคุมการใช้งานที่มีความสามารถเปิด-ปิด, เพิ่ม-ลดเสียงได้ Amazon ประกาศปรับปรุงหน้าโฮม Fire TV ใหม่ด้วย Amazon บอกว่ามีการแสดงเมนูที่ทำให้เข้าถึงคอนเทนต์ที่เราชอบดูได้ง่าย, ตั้งค่ารูปโปรไฟล์ได้, ดันเมนูแอปพลิเคชั่นมาไว้แถวเดียวกับรูปโปรไฟล์ ที่มา - Engadget, Amazon
# Amazon เปิดตัว Eero 6 และ Eero 6 Pro Mesh Router รองรับ Wi-Fi 6 Amazon เปิดตัว Mesh Router รุ่น Eero 6 และ Eero 6 Pro หลังซื้อกิจการ Eero มาเมื่อปีที่แล้ว ตัว Eero 6 สำหรับการใช้งานพื้น ๆ รองรับความเร็วสูงสุด 500 Mbps เป็นเราท์เตอร์แบบดูอัลแบนด์ ใช้เทคโนโลยี TrueMesh มีพอร์ท ethernet 2 พอร์ท รองรับ Zigbee และ Wi-Fi 6 ครอบคลุมพื้นที่ตัวละ 1,500 ตารางฟุต ส่วน Eero 6 Pro จุดแตกต่างคือรองรับความเร็วระดับ Gigabit และเป็นเราท์เตอร์แบบไทรแบนด์ ครอบคลุมพื้นที่ราว 2,000 ตารางฟุต Eero 6 ราคา $129 (one-pack), $199 (two-pack) และ $279 (three-pack) ส่วน Eero 6 Pro อยู่ที่ $229 (one-pack), $399 (two-pack), $599 (three-pack) ทั้งสองตัวมีบริการความปลอดภัยเสริมคือ Eero Secure และ Eero Secure+ จ่ายเดือนละ $2.99 และ $9.99 ต่อเดือนตามลำดับ ที่มา - Amazon
# ทวิตเตอร์เตรียมเปิดใช้ฟีเจอร์แจ้งเตือนให้อ่านก่อนรีทวีต ชี้คนกดอ่านมากขึ้นช่วงทดสอบ ทวิตเตอร์ทดสอบฟีเจอร์ ขึ้นเตือนให้อ่านบทความก่อนจะรีทวีตในอุปกรณ์แอนดรอยด์มาได้สักระยะแล้ว ล่าสุด ทวิตเตอร์บอกว่าฟีเจอร์นี้ได้ผล คนกดอ่านบทความต้นทางมากขึ้น และจะเปิดใช้งานในวงกว้างต่อไป ทวิตเตอร์บอกว่า ผู้คนเปิดบทความบ่อยขึ้น 40% หลังจากเห็นข้อความแจ้ง, คนอ่านบทความก่อนจะรีทวีตมากขึ้น 33% โดยหน้าตาการแจ้งเตือนใหม่ที่จะเปิดใช้งานทั่วโลกนั้นจะมีขนาดเล็กลง อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ไม่ได้บอกว่าจะเปิดใช้งานทั่วโลกเมื่อไร ที่มา - ทวิตเตอร์
# คณะกรรมการอิสระของ Facebook หรือ Oversight Board ยืนยันจะเปิดตัวช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯนี้ Facebook Oversight Board หรือคณะกรรมการอิสระ ตรวจสอบอำนาจการใช้นโยบายของ Facebook ยืนยันแล้วว่าจะเปิดตัวในช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะถึงในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังมีข่าวว่าเลื่อนเปิดตัวไปเป็นปลายปี คณะกรรมการ Facebook Oversight Board มีอำนาจตรวจสอบคำอุทธรณ์ของผู้ใช้งาน Facebook และ Instagram ที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจในการกลั่นกรองเนื้อหาที่ถูกลบออกหรือระบุว่าเป็นข้อมูลที่ผิด คณะกรรมการมีอำนาจในการลบล้างการตัดสินใจของผู้ดูแลและผู้บริหารของ Facebook รวมถึง Mark Zuckerberg ด้วย โฆษกคณะกรรมการเผยว่า ตอนนี้กำลังทดสอบระบบที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการโดยตรงเพื่อตรวจสอบกรณีต่างๆ หากการทดสอบเป็นไปตามแผน ก็คาดว่าจะสามารถเปิดอุทธรณ์ให้ผู้ใช้ได้ในช่วงกลางถึงปลายเดือนตุลาคม ตั้งเป้าว่ากระบวนการอุทธรณ์ทั้งหมดจะไม่เกิน 90 วัน สมาชิกส่วนหนึ่งของคณะกรรมการ Facebook Oversight Board ได้แก่ Alan Rusbridger อดีตบรรณาธิการหัวหน้าหนังสือพิมพ์ The Guardian และ Andras Sajo อดีตผู้พิพากษาและรองประธานศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป การมีคณะกรรมการอิสระช่วยลดแรงวิจารณ์ Facebook เรื่องมีอคติและลดอำนาจการควบคุม Facebook ที่มีอิทธิพลต่อคนทั่วโลกทั้งด้านสังคม การเมือง ที่มา - CNBC
# Google Pay สิงคโปร์อัพเดต ขยายการใช้งาน PayNow, จัดระเบียบการใช้จ่ายได้ในแอป Google Pay ในสิงคโปร์อัพเดตใหม่ ขยายการใช้งาน PayNow หรือการจ่ายโดยใช้เบอร์โทรศัพท์ไปยังลูกค้าธนาคารอื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจาก OCBC คือ DBS Paylah! และ Standard Chartered Bank สามารถโอนเงินไปยังปลายทางโดยใช้เบอร์โทรศัพท์ได้ โดยที่ปลายทางไม่จำเป็นต้องมีแอป Google Pay และยังสามารถใช้ Google Pay สแกนจ่ายตามจุดรับจ่ายที่มีป้าย PayNow QR ด้วย นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถจัดกลุ่มการใช้จ่าย เช่น กลุ่มคนที่โอนเงินให้, กลุ่มธุรกิจที่โอนเงินซื้อของให้บ่อยๆ จัดระเบียบการชำระเงินได้จากในแอป โดยสิงคโปร์เป็นที่แรกที่ Google Pay เปิดใช้งานนี้ ที่มา - Google
# เปิดตัวลำโพงรุ่นเล็ก Amazon Echo Dot 4th Gen ใช้ดีไซน์ทรงกลม มีนาฬิกาในตัว นอกจาก Amazon Echo 4th Gen ดีไซน์ทรงกลม ยังมีลำโพงรุ่นเล็ก Echo Dot 4h Gen ที่ใช้ดีไซน์ทรงกลมเหมือนกัน หน้าตาเหมือนกันเกือบทุกประการแค่ย่อขนาดลงมา Echo Dot 4th Gen ใช้ลำโพงคู่หน้าขนาด 1.6" ไม่มีวูฟเฟอร์และไม่มีฟีเจอร์ ZigBee รุ่นปกติขายราคา 49.99 ดอลลาร์ มีรุ่นแสดงนาฬิกา LED ขายราคา 59.99 ดอลลาร์ เท่ากับราคาของ Echo Dot 3rd Gen โดย Amazon ยังลดราคาของ 3rd Gen ลงมาเล็กน้อยเหลือ 39.99 ดอลลาร์เพื่อระบายสต๊อกเก่าด้วย รุ่นปกติไม่มีนาฬิกา มีให้เลือก 3 สีคือ เทา ขาว ฟ้า ส่วนรุ่นมีนาฬิกามี 2 สีคือขาวกับฟ้า นอกจากนี้ Amazon ยังมี Echo Dot 4th Gen Kids Edition รุ่นสำหรับเด็ก ใช้ลายหน้าหมีแพนด้าและเสือ ขายราคา 59.99 ดอลลาร์ มาพร้อมคอนเทนต์พรีเมียม Amazon Kids+ (หนังสือเสียง เกม) เป็นเวลานาน 1 ปีด้วย ที่มา - Amazon
# Amazon เปิดตัวลำโพง Echo 4th Gen ดีไซน์ทรงกลม เพิ่มฟีเจอร์ควบคุมบ้านผ่าน ZigBee Amazon เปิดตัวลำโพงอัจฉริยะ Echo รุ่นใหม่ (นับเป็น 4th Gen) ด้วยดีไซน์ใหม่เป็นรูปทรงกลม แทนของเดิมที่เป็นทรงกระบอก Echo รุ่นที่สี่เป็นการรวมฟีเจอร์ของ Echo รุ่นปกติ (99 ดอลลาร์) และ Echo Plus ที่มีฟีเจอร์ควบคุมบ้านผ่าน ZigBee (149 ดอลลาร์) มาเหลือรุ่นเดียวในราคา 99 ดอลลาร์เท่าเดิม (เท่ากับตัดรุ่น Plus แล้วนำฟีเจอร์ของ Plus มาไว้ในรุ่นปกติ) ในแง่ฟีเจอร์ด้านเสียง Echo รุ่นที่สี่ปรับคุณภาพเสียงขึ้นจากเดิม ใช้วูฟเฟอร์ขนาด 3" และลำโพงคู่ด้านหน้า รองรับระบบเสียงของ Dolby (แต่ไม่มี Atmos) มีให้เลือก 3 สีคือ เทา ขาว ฟ้า ที่มา - Amazon, Amazon
# รวดเร็วทันใจ Bethesda ส่ง Doom Eternal ลง Xbox Game Pass แล้ว รวดเร็วทันใจหลังข่าวซื้อกิจการ ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Doom Eternal เกมเด่นของ Bethesda ประจำปี 2020 มีกำหนดลง Xbox Game Pass ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ (Xbox Game Pass for PC จะตามมาในภายหลัง) นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังประกาศว่า The Ancient Gods – Part One ภาคเสริมภาคแรกของ Doom Eternal มีกำหนดเปิดตัว 20 ตุลาคม 2020 ด้วยเช่นกัน ที่มา - Xbox
# Ring เปิดตัว Always Home Cam โดรนสำหรับบินตรวจดูความปลอดภัยภายในบ้าน Ring บริษัทผลิตสินค้าสมาร์ทโฮมในเครือ Amazon เปิดตัวกล้องตรวจดูความปลอดภัยในบ้าน Always Home Cam โดรนทำงานอัตโนมัติที่สามารถเก็บภาพตามจุดต่าง ๆ ในบ้านได้ เมื่อเสร็จการทำงานก็จะบินกลับมาที่แท่นชาร์จ วิธีการทำงานของ Always Home Cam ผู้ใช้งานจะต้องกำหนดแผนที่ภายในบ้าน เพื่อสร้างเส้นทางให้โดรนบินเก็บภาพตามจุดต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ รวมทั้งกำหนดชื่อห้องหากเราต้องการสั่งให้โดรนไปบางจุดโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำงานผ่านระบบของ Ring Alarm ทั้งนี้กล้องจะทำงานเฉพาะเมื่อโดรนบินออกจากแท่นชาร์จเท่านั้น และตัวโดรนก็มีเสียงที่สามารถรับรู้ได้เมื่อบิน รวมทั้งมีตัวตรวจจับวัตถุเพื่อหลบหลีกการบินชนสิ่งกีดขวาง Ring ระบุว่า Always Home Cam ถือเป็นสินค้าที่ท้าทายขีดจำกัดของสินค้าสมาร์ทโฮมไปอีกขั้น ราคาขาย 249.99 ดอลลาร์ (ประมาณ 8,000 บาท) เริ่มจำหน่ายปีหน้า แต่ยังไม่ระบุวัน ที่มา: The Verge
# Apple ออกอัพเดต iOS 14.0.1 แก้ปัญหารีเซ็ตค่าแอป default เมื่อรีสตาร์ทเครื่องแล้ว แอปเปิลออกอัพเดต iOS 14.0.1 และ iPadOS 14.0.1 ซึ่งเป็นอัพเดตย่อยต่อจาก iOS 14 ที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แอปเปิลระบุในภาพรวมว่าอัพเดตนี้มีการแก้ไขปัญหาทั่วไป โดยมีรายการที่สำคัญดังนี้ แก้ไขปัญหาแอปเบราว์เซอร์และอีเมลอื่นที่ตั้งค่าเป็น default ถูกแก้ไขค่าคืนเมื่อรีสตาร์ทเครื่อง แก้ไขปัญหาหน้าจอแสดงภาพ เมื่อใช้งานแอปกล้องไม่ทำงานใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ iPhone ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ส่งอีเมลกับผู้ให้บริการบางรายไม่ได้ แก้ไขปัญหาที่ทำให้รูปภาพไม่แสดงใน widget News ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update นอกจาก iOS 14.0.1 และ iPadOS 14.0.1 แล้ว แอปเปิลก็ออกอัพเดต tvOS 14.0.1 และ watchOS 7.0.1 มาด้วยเช่นกัน ซึ่ง watchOS 7.0.1 นั้น เป็นการแก้ปัญหาการจ่ายเงินใน Wallet ของผู้ใช้งานบางส่วน ที่มา: BGR
# Amazon เปิดตัว Luna บริการสตรีมเกมราคาแนะนำ 5.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ทำงานผ่านเว็บ เล่นได้ทุกที่แม้แต่ iOS Amazon เปิดบริการสตรีมเกมในชื่อ Luna ช่วงนี้เป็นการทดสอบวงปิด รองรับการเล่นเกมความละเอียด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที และจะรองรับ 4K ในอนาคต จุดเด่นของ Luna คือให้บริการผ่านเว็บแอปได้ ทำให้ใช้งานบน iOS ได้ด้วย (มีแอปเฉพาะบนพีซี, แมค, และ FireTV) โดยผู้ใช้ต้องมีอินเทอร์เน็ตระดับ 10Mbps สำหรับการเล่นเกม 1080p และ 35Mbps สำหรับ 4K บริการ Luna รองรับไลบรารีเกมสองแบบ คือ Luna+ ที่ราคาเริ่มต้น 5.99 ดอลลาร์ต่อเดือน และเริ่มมีเกม เช่น Resident Evil 7, Control, Panzer Dragoon, A Plague Tale: Innocence, The Surge 2, Yooka-Laylee, GRID, Abzu, และBrothers: A Tale of Two Sons อีกไลบรารีคือ Ubisoft ที่จะใส่เกมบางเกมในระดับ Ultimate โดยเกมจาก Luna+ จะเล่นได้สองเครื่องพร้อมกับแค่ Ubisoft เล่นได้ทีละเครื่องเท่านั้น สำหรับฮาร์ดแวร์ Luna รองรับทั้งคอนโทรลเลอร์ของตัวเอง, Xbox One, Dualshock 4, และเมาส์/คีย์บอร์ด ที่มา - Amazon
# PostgreSQL ออกเวอร์ชั่น 13: ขนาด index ลดลง, มีโปรแกรมตรวจสอบไฟล์ backup, สร้าง uuid ได้ในตัว PostgreSQL ออกเวอร์ชั่น 13 หลังจากเวอร์ชั่น 12 เกือบหนึ่งปี ปรับปรุงทั้งประสิทธิภาพ, ขนาดฐานข้อมูล, และการออปติไมซ์การคิวรีจากระบบสถิติที่ดีขึ้น โดยฟีเจอร์แยกย่อยได้แก่ สำหรับนักพัฒนาที่ชัดเจนที่สุดคือการรองรับฟังก์ชั่น gen_random_uuid() โดยไม่ต้องเปิดใช้งานปลั๊กอินใดๆ จากก่อนหน้านี้ต้องใช้ uuid-ossp, มีฟังก์ชั่น datetime() สำหรับแปลงวันที่ที่อยู่ในฟอร์แมตมาตรฐาน, และการคิวรีรองรับคำสำคัญ WITH TIES คืนค่าชุดข้อมูลที่เรียงแล้วได้ค่าเท่ากับชุดข้อมูลก่อนหน้า เช่นกรณีต้องการ 10 อันดับแรกที่อันดับที่ 10 และ 11 มีค่าเท่ากันก็จะคืนให้ 11 ชุด ด้านประสิทธิภาพ ระบบลดข้อมูลซ้ำใน B-tree index ทำให้ index มีขนาดลดลงมากแต่ได้ความเร็วเพิ่มขึ้น, ข้อมูลที่เคยถูก sort ในขั้นก่อนหน้าจะนำผลไปใช้ซ้ำในขั้นต่อไปได้, และการคิวรี aggregate/grouping set จะใช้ฟีเจอร์แฮชแบบใหม่ที่ประสิทธิภาพดีขึ้น ระบบการ vacuum รองรับการทำงานแบบขนาน และการใส่ข้อมูลลงตารางจะทำให้เรียก autovacuum ได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีคำสั่ง pg_verifybackup เพิ่มขึ้นมาสำหรับการตรวจสอบว่าไฟล์สำรองฐานข้อมูลนั้นยังใช้งานได้อยู่ ที่มา - PostgreSQL
# Epic, Spotify, Tinder ตั้งกลุ่ม Coalition for App Fairness รณรงค์เรื่องสโตร์ผูกขาด Epic Games ร่วมกับพันธมิตรผู้ได้รับผลกระทบจากแอปเปิลอีกหลายราย เช่น Basecamp, Spotify, Deezer และ Match Group (บริษัทแม่ของ Tinder) ประกาศตั้งกลุ่มพันธมิตร Coalition for App Fairness (CAF) เพื่อผลักดันกฎหมายและกฎระเบียบด้านการผูกขาดสโตร์ กลุ่ม CAF บอกว่าจะเป็นตัวแทนของนักพัฒนาแอพและเกมทั่วโลก ที่ต้องการสร้างความเป็นธรรมในสนามแข่งขัน และรักษาสิทธิของผู้บริโภคในการมีตัวเลือกที่หลากหลาย สมาชิกก่อตั้งทั้งหมดใกลุ่ม CAF ได้แก่ Basecamp, Blix, Blockchain.com, Deezer, Epic Games, the European Publishers Council, Match Group, News Media Europe, Prepear, Protonmail, SkyDemon, Spotify, Tile และยังเปิดรับสมาชิกเพิ่มเติมอีกเรื่อยๆ ภาพจาก @ProtonMail ในการเปิดตัว CAF CAF เสนอหลักการ 10 ข้อที่สโตร์จัดจำหน่ายแอพควรมี เช่น ไม่ควรมีข้อกำหนด exclusive, การแบนแอพควรโปร่งใส, เจ้าของสโตร์ไม่ควรโปรโมทแอพของตัวเองหรือกำหนดค่าดีฟอลต์ให้ผู้ใช้, ห้ามเจ้าของสโตร์แบนแอพที่เป็นคู่แข่งกับตัวเอง ฯลฯ สิ่งที่น่าสนใจคือ พื้นที่ทำการของ CAF อยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซี เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา และกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภายุโรป ในระยะถัดไปเราคงเห็น CAF เข้าไปล็อบบี้นักการเมืองเพื่อกระตุ้นให้เข้ามาจัดการประเด็นเหล่านี้ ที่มา - Coalition for App Fairness
# React Native รองรับการสร้างแอพ macOS แล้ว ไมโครซอฟท์เป็นคนทำให้ เก็บตกข่าวความเคลื่อนไหวฝั่ง React Native นะครับ ตัวโครงการ React Native ที่พัฒนาโดย Facebook รองรับเพียงแค่ 2 แพลตฟอร์มมือถือคือ Android และ iOS แต่เมื่อปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์อาสาเข้ามาทำ React Native for Windows โดยรองรับทั้งการสร้างแอพแบบ WPF และ UWP และในงาน Build 2020 เมื่อเดือนพฤษภาคม ไมโครซอฟท์ก็ช็อควงการด้วยการประกาศทำ React Native for macOS เพิ่มให้ด้วย (อ่านไม่ผิดครับ เฟรมเวิร์คสำหรับเขียนแอพแมคที่พัฒนาโดยไมโครซอฟท์!) หลังจากทดสอบแบบพรีวิวมาหลายเดือน ไมโครซอฟท์ก็เปิดตัว React Native for macOS เวอร์ชัน 0.62 รุ่นเสถียร (ส่วนเวอร์ชันวินโดวส์ ตัวเลขเป็น 0.63 คือใหม่กว่าหนึ่งรุ่นย่อย และเท่ากับ React Native ของ iOS/Android) ของใหม่ใน React Native for Windows 0.63 คือ LogBox ระบบจัดการล็อกแบบใหม่ของ React Native ที่เริ่มใช้เป็นดีฟอลต์, การรองรับธีมสีของ OS และการรองรับเอนจินจาวาสคริปต์ตัวใหม่ Hermes ส่วน React Native for macOS ที่เวอร์ชันยังตามหลังเป็น 0.62 มีฟีเจอร์ใหม่คือ fast refresh แก้โค้ดแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงเลย แต่สิ่งสำคัญกว่าคือเป็นรุ่นเสถียรตัวแรกของ React Native for macOS ทำให้สามารถเขียนแอพบนแมคด้วย React Native ได้อย่างจริงจัง ที่มา - React Native for macOS (0.62), React Native for Windows (0.63)
# พุทธิพงษ์ แจ้งความ Facebook, Twitter, Instagram ไม่ปิดเนื้อหาตามคำสั่ง พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าแจ้งความกับแพลตฟอร์มสามแพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, และอินสตาแกรม หลังจากทั้งสามแพลตฟอร์มไม่ปิดกั้น URL ต่างๆ ที่ทางกระทรวงดีอีได้แจ้งให้ปิดกั้นไปแล้วเกิน 15 วัน ขณะที่ยูทูปนั้นได้ปิดกั้นแล้วจนครบ ก่อนหน้านี้ พุทธิพงษ์ เคยระบุว่าการที่แพลตฟอร์มไม่ทำตามคำสั่งปิดกั้นอาจผิด มาตรา 27 ของ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่มีค่าปรับไม่เกิน 200,000 บาทต่อ URL และค่าปรับรายวันอีก 5,000 บาทต่อ URL โดยรายการที่แพลตฟอร์มยังไม่ได้ปิดกั้น ได้แก่ เฟซบุ๊ก 436 รายการ, ทวิตเตอร์ 64 รายการ, และอินสตาแกรม 1 รายการ การดำเนินคดีครั้งนี้จะเป็นการดำเนินคดีกับบริษัทแม่ที่สหรัฐฯ โดย พุทธิพงษ์ ระบุว่าการเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นเช่นบริษัทลูกในไทยหรือไม่เป็นเรื่องของกระบวนการต่อไป นอกจากนี้วันนี้ยังมีการยื่นปิดเว็บเพิ่มเติมอีกกว่าสามพันรายการ ที่มา - Facebook: BeePunnakanta
# นักวิจัยพบแอป Microsoft Bing เผลอเปิดฐานข้อมูล Elasticsearch ทำข้อมูลการค้นเว็บรั่ว ทีมนักวิจัยจากบริษัท WizCase พบฐานข้อมูล Elasticsearch ของแอป Microsoft Bing เข้าถึงได้จากอินเทอร์เน็ต เปิดเผยข้อมูลขนาด 6.5TB โดยขณะพบตัวฐานข้อมูลยังมีข้อมูลใหม่ยิงเข้าไปตลอดเวลา ประมาณวันละ 200GB ที่น่าสนใจคือเซิร์ฟเวอร์ตัวนี้ของไมโครซอฟท์ถูกสแกนมาก่อนแล้ว แต่พบว่าล็อกรหัสผ่านไว้ถูกต้องทำให้ข้อมูลไม่รั่วไหล แต่เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมาก็ปลดรหัสออก ทำให้คนภายนอกสามารถเข้าดูข้อมูลได้ จากนั้นทีมวิจัยของ WizCase ก็ไปพบในวันที่ 12 กันยายนและแจ้งไมโครซอฟท์ทันที ทางไมโครซอฟท์ปิดฐานข้อมูลนี้ในวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ตัวฐานข้อมูลเป็นข้อมูลคำค้น (search terms), พิกัดอย่างหยาบของผู้ใช้, ข้อมูลการคลิกเข้าเว็บหลังค้นหา, รุ่นอุปกรณ์/ระบบปฎิบัติการ, หมายเลขประจำบัญชีผู้ใช้ (ADID), หมายเลขประจำเครื่อง (deviceID) แม้จะไม่มีข้อมูลผู้ใช้โดยตรง เช่น อีเมลหรือชื่อนามสกุล แต่หากคนร้ายสามารถหา ADID หรือ deviceID ของเหยื่อได้ก็จะรู้ได้ว่าเหยื่อเคยค้นคำอะไรบ้าง คำค้นบางอย่างอาจเป็นส่วนตัวเช่นการค้นภาพโป๊ และทีมงานก็พบบางรายการเป็นการค้นหาภาพโป๊เด็ก ที่มา - WizCase ภาพคำค้นของผู้ใช้ที่หาปืน, การฆ่าคอมมิวนิสต์ ข้อมูลแสดงลิงก์ที่คลิกไป
# Xbox Series X, Series S และ PlayStation 5 ล็อตแรกถูกสั่งพรีออเดอร์หมดสต๊อก หลัง Xbox Series X และ Series S เปิดให้พรีออเดอร์เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมาและใช้เวลาไม่ถึง 1 วัน ทวิตเตอร์ Xbox ได้ทวีตว่ายอดสั่งจองทั้ง Series X และ Series S ถล่มทลายทำลายสถิติใหม่ และหากใครไม่สามารถจองได้ ให้ลงทะเบียนกับร้านค้าปลีกและรอวันขายจริงที่ 10 พฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตามด้วยกระแสของ Xbox Series X ทำให้หลายคนเข้าใจผิดและสั่งซื้อ Xbox One X บน Amazon เสียแทนจนทำให้ยอดขาย Xbox One X เพิ่มขึ้นถึง 747% นอกจากฝั่ง Xbox แล้ว PlayStation 5 ก็เผชิญสถานการณ์เดียวกัน หลังจากเปิดพรีออเดอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยแอคเคาท์ PlayStation ทวีตเมื่อวันที่ 20 ที่ผ่านมาขอโทษที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้ขึ้น และยืนยันว่าจะเพิ่มจำนวนเครื่องให้พรีออเดอร์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ที่มา - GameIndustry.biz
# มีทีวี ต้องมีพลัส รู้จัก Samsung TV Plus บริการดูทีวีออนไลน์ของซัมซุง Samsung TV Plus (ใช้คำว่า Plus ไม่ใช่ + เดี๋ยวจะซ้ำ) เป็นแอปดูทีวีฟรีบนสมาร์ททีวีของ Samsung ในสหรัฐ ที่เปิดให้ใช้งานบนมือถือ Samsung บางรุ่นแล้ว โดยจะมีรายการต่างๆ ให้ดูแบบสตรีมมิ่ง (ทั้งแบบดูสดและดูย้อนหลัง) มีช่องทีวีในสหรัฐอเมริกาให้เลือกรับชมทั้งหมด 135 ช่อง เช่น CBSN, Bloomberg TV+ UHD, ช่องทำอาหาร Tastemade, ช่องเกม IGN, และช่องสำหรับเด็ก 9 ช่อง (รูปแบบโดยรวมคล้ายคลึงกับแอป AIS Play หรือ TrueID ในบ้านเรา) บริษัทต่างๆ ที่ตั้งใจจะขายสมาร์ททีวี หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงทีวีประเภท box ต่างๆ ในยุคนี้ ทำแค่ฮาร์ดแวร์น่าจะไม่เพียงพออีกต่อไป หลังพฤติกรรมผู้บริโภคหันมาดูทีวีผ่านสตรีมมิ่งมากกว่า (แม้ดูผ่านทีวีจอใหญ่ก็ตาม) การรวมฟรีทีวีไว้ในแอปเดียวกับที่ดูสตรีมมิ่งได้ น่าจะเป็นอีกกลยุทธ์ดึงดูดผู้บริโภคที่น่าสนใจ Samsung TV Plus ใช้งานได้บนสมาร์ททีวี Samsung รุ่นปี 2016 เป็นต้นไป และเพิ่งเปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Google Play Store และ Samsung Store บนมือถือ ตระกูล Galaxy S10, S20, Note10 และ Note 20 ขึ้นไป เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา แต่ยังใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่มา - Samsung
# AMD เปิดตัวซีพียู Ryzen ซีรีส์ C สำหรับ Chromebook อย่างเดียว ยังเป็นแกน Zen 1 AMD เปิดตัวซีพียู Ryzen Mobile และ Athlon Mobile แยกเฉพาะสำหรับโน้ตบุ๊กกลุ่ม Chromebook โดยใช้รหัส C ห้อยท้ายให้เห็นความแตกต่างจากรุ่นปกติ ซีพียูที่เปิดตัวมีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย เลขเวอร์ชันยังเป็นรหัส 3000 แปลว่ายังใช้แกน Zen 1 ชุดเดียวกับ Ryzen 3000 ที่เปิดตัวในปี 2019 (ยังไม่ใช่ Zen 2 ของปี 2020 ที่รหัส 4000) ทุกตัวมีค่า TDP 15 วัตต์เท่ากันทั้งหมด Ryzen 7 3700C 4 คอร์ 8 เธร็ด, คล็อค 2.3/4.0GHz, จีพียู 10 คอร์ Ryzen 5 3500C 4 คอร์ 8 เธร็ด, คล็อค 2.1/3.7GHz, จีพียู 8 คอร์ Ryzen 3 3250C 2 คอร์ 4 เธร็ด, คล็อค 2.6/3.5GHz, จีพียู 3 คอร์ Athlon Gold 3150C 2 คอร์ 4 เธร็ด, คล็อค 2.4/3.3GHz, จีพียู 3 คอร์ Athlon Silver 3050C 2 คอร์ 2 เธร็ด, คล็อค 2.3/3.2GHz, จีพียู 2 คอร์ Chromebook ส่วนใหญ่เน้นซีพียูที่ไม่ได้แรงมากนัก การที่ใช้ Ryzen รุ่นเก่าหน่อยอาจไม่ใช่ปัญหาสักเท่าไร (แถมถือเป็นพัฒนาการขึ้นจากซีพียูเดิมที่เป็น AMD A6) แต่การที่ AMD ต้องแยกซีรีส์ C ออกมาจับตลาด Chromebook อย่างจริงๆ จังๆ ก็น่าจะสะท้อนความนิยมของ Chromebook ที่สูงขึ้นมากนั่นเอง ผู้ผลิตพีซีที่ประกาศใช้งานซีพียูชุดนี้แล้วได้แก่ Acer, ASUS, HP, Lenovo โดยสินค้าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 ที่มา - AMD
# เปิดตัว SSD เสริมของ Xbox Series X ความจุ 1TB ขนาดเล็ก ราคา 219.99 เหรียญ ไมโครซอฟท์เปิดตัวสตอเรจ SSD NVMe เสริมสำหรับ Xbox Series X และ Series S ขนาด 1TB ในขนาดใหญ่กว่า SD การ์ดเล็กน้อย สำหรับใส่ในช่องสตอเรจเสริมด้านหลังของตัวเครื่อง อินเทอร์เฟสเป็น PCIe 4.0 x2 และมีความเร็วในการเขียนอ่านเท่ากับ SSD ที่ติดมากับตัวเครื่อง ราคาอยู่ที่ 219.99 เหรียญหรือราว 6,900 บาท โดย Seagate เป็นผู้ผลิต SSD เสริมตัวนี้ (ตอนนี้มีรายเดียวที่ได้สิทธิ) ขณะที่ไมโครซอฟท์ระบุว่าในอนาคตจะมีผู้ผลิตรายอื่นและขนาดอื่นเพิ่มเข้ามา ที่มา - The Verge, Seagate
# Arm เปิดตัวซีพียู Neoverse รุ่นที่สอง V1 และ N2 พร้อมชุดคำสั่งใหม่ SVE ปกติแล้วเมื่อพูดถึงสินค้าของ Arm เรามักนึกถึงซีพียูตระกูล Cortex แต่จริงๆ แล้ว Arm ยังมีซีพียูแบรนด์อื่นๆ สำหรับงานเฉพาะทาง เช่น SecurCore สำหรับงานด้านความปลอดภัย, Ethos สำหรับงานประมวลผล AI เป็นต้น เมื่อต้นปี 2019 Arm พยายามบุกตลาดซีพียูสำหรับเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เครือข่ายด้วยแบรนด์ใหม่ Neoverse โดยเปิดตัวซีพียูมาสองรุ่นคือ Neoverse N1 และ E1 เมื่อวานนี้ Arm ประกาศแผนอัพเดตแพลตฟอร์ม Neoverse ในระยะอีก 2 ปีข้างหน้าคือ 2021-2022 โดยจะออกซีพียูใหม่อีก 2 รุ่นดังนี้ Arm Neoverse V1 (โค้ดเนม Zeus) เป็นซีพียูซีรีส์ใหม่ V ที่แรงขึ้นกว่าซีรีส์ N ประมาณ 50% (single-thread) และรองรับชุดคำสั่งใหม่ Scalable Vector Extensions (SVE) สำหรับงานประมวลผลสมรรถนะสูง Arm Neoverse N2 (โค้ดเนม Perseus) เป็นตัวอัพเกรดต่อจาก N1 มีประสิทธิภาพดีขึ้น 40% โดยกินพลังงานเท่าเดิม ในปี 2022 เป็นต้นไป Neoverse จะมีสถาปัตยกรรมใหม่ โค้ดเนม Poseidon ที่ใช้ได้กับทั้ง 3 ซีรีส์คือ V, N, E ด้วย ชุดคำสั่ง SVE เป็นส่วนต่อขยายของสถาปัตยกรรม Armv8 ที่ตั้งเป้าบุกตลาด high performance computing ตัวมันเองแท้จริงแล้วเป็นชุดคำสั่งแบบ SIMD (single instruction, multiple data) แบบเดียวกับที่เราคุ้นเคยในชื่อ AVX ของฝั่ง x86 หรือ NEON ของฝั่ง ARM ความแตกต่างของ SVE คือขนาดความกว้างของเวกเตอร์ไม่ถูกฮาร์ดโค้ดในตัวสถาปัตยกรรม แต่สามารถขยับความกว้างได้ตั้งแต่ 128 บิตไปจนถึง 2048 บิต (ขยับขึ้นทีละ 128 บิต) ทำให้การใช้งานจริงมีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์มากกว่า โดยชิป Neoverse V1 จะมีชุดคำสั่ง SVE ที่ความกว้าง 2x256 ตอนนี้ลูกค้าของ Arm รายแรกที่ทำ SVE ไปใช้งานแล้วคือ Fujitsu ที่เปิดเผยว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku ที่ครองอันดับ 1 ของโลกในปัจจุบัน (และเป็นซูเปอร์คอมพลัง ARM) ใช้หน่วยประมวลผล A64FX ที่ Fujitsu ออกแบบเอง และมีชุดคำสั่ง SVE อยู่ด้วยตั้งแต่แรก ที่มา - Arm (1), Arm (2)
# Arlo เปิดตัวกล้องวงจรปิดไร้สาย Essentials XL Spotlight แบตอยู่ได้ 1 ปี ถ่ายกลางคืนแบบสี Arlo เปิดตัวกล้องวงจรปิดไร้สาย Arlo Essentials XL Spotlight แบตเตอรี่ชาร์จครั้งเดียวใช้งานได้สูงสุด 1 ปี กล้องมุมมอง 130 องศา ความละเอียด 1080p มี color night vision ถ่ายกลางคืนแบบสีได้ด้วยไฟสปอตไลท์ มีสัญญาณไซเรน ไมค์และลำโพงในตัว เชื่อมต่อกล้องผ่าน Wi-Fi ได้ทันที ไม่ต้องมีฮับแยก ตัวกล้องมีเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว สามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนในแอป เปิดไฟ หรือส่งเสียงไซเรนเมื่อเซ็นเซอร์พบความเคลื่อนไหวได้ หรือจะสั่งเปิดปิดเสียงและไฟด้วยตัวเองผ่านแอป Arlo บนมือถือก็ได้ ทนร้อน หนาว ฝน ติดตั้งภายนอกหรือภายในก็ได้ Arlo Essentials XL Spotlight รองรับทั้ง Amazon Alexa, Google Assistant และ IFTTT เปิดให้สั่งจองบนเว็บไซต์ Arlo.com แล้ว วางจำหน่ายช่วงวันหยุดยาวปลายปีในสหรัฐอเมริกา ราคา 149.99 เหรียญ หรือราว 4,800 บาท นอกจากนี้ยังมีรุ่นเล็ก Arlo Essential Camera ขนาดเล็กกว่า กล้อง 1080p มุมมอง 130 องศา มีไมค์ ลำโพง ไซเรน และเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว และฟีเจอร์เช่นแจ้งเตือน และรองรับระบบ Amazon Alexa, Google Assistant และ IFTTT เช่นกัน แต่ไม่มีไฟสปอตไลท์ และแบตเตอรี่อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน วางจำหน่ายในช่วงเดียวกัน ราคา 99.99 เหรียญ หรือราว 3,200 บาท ที่มา - Android Community, PR Newswire
# อินเทลเปิดตัว Atom x6000E สำหรับงาน IoT มีชิป ARM เสริมในตัว ช่วยทำงานกินไฟต่ำ อินเทลเปิดตัวซีพียูสำหรับงานสาย IoT โดยมาพร้อมหน้าทุกระดับแบรนด์ ตั้งแต่ Core 11th Gen (Tiger Lake), Atom, Pentium, Celeron โดยใช้รหัสรุ่นห้อยท้ายตัว E ให้เห็นความแตกต่างจากรุ่นปกติ ซีพียูทั้งสามรุ่นคือ Atom x6000E, Pentium, Celeron มีฟีเจอร์ใหม่ Programmable Services Engine (Intel PSE) มันคือไมโครคอนโทรลเลอร์ ARM Cortex-M7 ที่ช่วยแบ่งโหลดงานบางอย่าง (โดยเฉพาะงานกินพลังงานต่ำ) ออกจากซีพียูเพื่อประหยัดพลังงาน การที่มีหน่วยประมวลผลแยกอีกตัวยังรองรับการรีโมทเข้ามาจัดการ โดยไม่ต้องยุ่งกับซีพียูหลักได้ด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์หาก OS ที่รันบนซีพียูหลักค้างหรือไม่ตอบสนอง พระเอกของงานคือ Atom x6000E ที่มีทั้งหมด 8 รุ่นย่อย ทั้งแบบ 2 คอร์และ 4 คอร์ อัตรา TDP มีให้เลือกตั้งแต่ 4.5-12 วัตต์ โดยมีฟีเจอร์สำคัญคือ In-Band ECC ฟังก์ชันแก้ความผิดพลาดของหน่วยความจำ โดยใช้กับแรมแบบปกติได้ (ไม่ต้องเป็นแรม ECC) มีรุ่นย่อยรหัส RE สำหรับงานประมวลผลเรียลไทม์ (ชื่อทางการค้าคือ Intel Time Coordinated Computing) มีรุ่นย่อยรหัส FE ความปลอดภัยพิเศษสำหรับงาน Functional Safety แยกส่วนฮาร์ดแวร์เฉพาะเพื่อเก็บข้อมูลสำคัญๆ แทนในหน่วยความจำหรือซีพียู (Safety Island หรือบ้างก็เรียก Hardware Isolation) คนที่ไม่ต้องการฟีเจอร์ In-band ECC, Functional Safety และเรียลไทม์ สามารถเลือกใช้เป็น Pentium และ Celeron ที่เป็นซีรีส์ N (TDP 6.5 วัตต์) และ J (TDP 10 วัตต์) อีกอย่างละตัว รวม 4 รุ่นย่อย รายละเอียดเพิ่มเติม (PDF) ส่วน 11th Generation Intel Core Processor คือ Tiger Lake ชุดสำหรับโน้ตบุ๊กที่เปิดตัวไปแล้ว แต่เป็นเกรดสำหรับงาน IoT (ห้อยท้ายตัว E) และมีรุ่นที่เพิ่มฟังก์ชัน In-Band ECC, Functional Safety, เรียลไทม์ เหมือน Atom ตัวข้างบน ตัวซีพียูแกนหลักมีให้เลือก 3 ระดับคือ Core i7-1185G7E, i5-1145G7E, i3-1115G4E (รุ่นที่เป็น G7 คือใช้จีพียู Iris Xe ตัวใหม่) ที่มา - Intel
# เปิดราคาไทย Galaxy S20 FE รุ่น 4G เริ่ม 20,900 บาท รุ่น 5G เริ่ม 23,900 บาท Samsung Galaxy S20 FE เปิดราคาไทยแล้ว ทั้ง 6 สี คือ Cloud Navy, Cloud Lavender, Cloud Mint, Cloud Red, Cloud Orange และ Cloud White และมี 3 รุ่น 3 ราคาดังนี้ รุ่น 4G แรม 8GB หน่วยความจำภายใน 128GB ราคา 20,900 บาท รุ่น 5G แรม 8GB หน่วยความจำภายใน 128GB ราคา 23,900 บาท รุ่น 5G แรม 8GB หน่วยความจำภายใน 256GB ราคา 25,900 บาท เปิดให้จอง 24 กันยายนนี้ เวลา 10.00 น. ถึง 11 ตุลาคม 2563 เวลา 18.00 น. ที่ Samsung Experience Store หรือร้านที่ร่วมรายการ ถ้าสั่งจองล่วงหน้า รุ่น 4G ได้อัพเป็น 5G / 128GB ฟรี รุ่น 5G / 256GB เหลือราคา 22,900 บาท และได้ Samsung Care+ 1 ปี ฟรี YouTube Premium ฟรี 4 เดือนทุกรุ่น ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์
# Samsung เปิดตัว SSD 980 Pro อินเทอร์เฟส PCIe 4.0 ตัวแรกของบริษัท ราคาเริ่ม 89.99 เหรียญ Samsung เปิดตัว SSD 980 Pro ฮาร์ดดิสก์ SSD แบบ M.2 ที่เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เฟส PCIe 4.0 ตัวแรกของบริษัท มี 3 ความจุ คือ 250GB, 500GB และ 1TB ความเร็วอ่านเขียนแบบลำดับอยู่ที่สูงสุด 7,000/5,000 MB/s แบบสุ่มอยู่ที่ 1,000K/1,000K IOPS ประกัน 5 ปี ค่า TBW อยู่ที่ 600TB (1TB), 300TB (500GB), 150TB (250GB) เริ่มขายแล้วที่ราคา 89.99 (ราว 2,850 บาท) ในรุ่น 250GB และจะมีขนาด 2TB วางจำหน่ายเพิ่มเติม ภายในสิ้นปีนี้ ที่มา - Samsung
# ทวิตเตอร์ทดสอบส่งข้อความเสียงได้ 20 วินาทีผ่านช่องแชทส่วนตัว หลังจากทวิตเตอร์เปิดใช้งานโพสต์ทวีตด้วยข้อความเสียง ล่าสุดก็กำลังทดสอบการส่งข้อความเสียงยาวสูงสุด 20 วินาทีไปยัง DM หรือช่องแชทส่วนตัวได้ด้วย โดยจะเริ่มการทดสอบที่บราซิลก่อน การส่งข้อความเสียงไปยังช่องแชท ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะโซเชียลมีเดียหลักๆ อบ่าง Facebook Messenger, LINE, Instagram ก็สามารถใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ แต่ส่วนที่ทวิตเตอร์โดนวิพากษ์วิจารณ์คือ การโพสต์ข้อความเสียงบนไทม์ไลน์นั้น ยังเข้าไม่ถึงผู้พิการ เพราะไม่มี closed captions หรือคำบรรยาย ซึ่งล่าสุดทวิตเตอร์ก็ตั้งทีมมาดูแลเรื่องนี้แล้ว ที่มา - The Verge
# Google Maps เพิ่มเลเยอร์ COVID-19 บนแผนที่ ใช้สีแสดงแนวโน้มคนติดเชื้อ Google Maps ปรับปรุงการเดินทาง เพิ่มเลเยอร์ COVID-19 บนแผนที่ โดยผู้ใช้จะมองเห็นปุ่มเลเยอร์ COVID-19 info เพิ่มขึ้นมาในช่องเลเยอร์อื่นๆ เช่น เลเยอร์การจราจร, เลเยอร์ขนส่งสาธารณะ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รู้ข้อมูล COVID-19 เมื่อต้องเดินทางไปยังพื้นที่นั้นๆ เมื่อกดเลเยอร์ COVID-19 info แผนที่จะแสดงในรูปแบบ color code ใช้ความเข้ม-อ่อน ของสีแสดงให้รู้ว่าพื้่นที่นั้นมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อสูงมากน้อยอย่างไร พื้นที่สีเข้มคือมีผู้ติดเชื้อสูง ให้ระมัดระวังเวลาเดินทาง โดยจะเปิดใช้งานเลเยอร์ใหม่ทั่วโลก ทั้งบน iOS และแอนดรอยด์ Google ระบุว่าใช้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลสาธารณะภายนอก เช่น Johns Hopkins, New York Times, WHO, หน่วยงานสาธารณสุขและ Wikipedia และก่อนหน้านี้ Google Maps ก็เพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลโรค COVID-19 เช่น แจ้งเตือนใส่หน้ากากอนามัย, แสดงความหนาแน่นตามจุดรถสาธารณะ ที่มา - Google
# วิกิพีเดียเตรียมเปลี่ยนโฉมหน้าเว็บ ยกเครื่องฟีเจอร์ใหม่ในรอบสิบปี ลดการแสดงข้อมูล ให้อ่านง่ายขึ้น วิกิพีเดียเตรียมจะปรับปรุงหน้าเว็บ ยกเครื่องใหม่ในรอบสิบปี และยังเผยโปรโตไทป์หน้าตาใหม่ในบล็อกด้วย มีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง ที่ตั้งเป้าจะเปิดให้ใช้งานแบบครบถ้วนภายในปี 2021 ดังนี้ ภาพจาก Diff, Wikimedia collapsible sidebar รวบเมนูด้านข้างไว้ ถ้าจะดูค่อยกดให้ sidebar เมนูเผยออกมา เพื่อให้คนอ่านโฟกัสกับเนื้อหาที่กำลังอ่านอยู่ ไม่รู้สึกว่ามีข้อมูลบนหน้าจอมากเกินไป จำกัดพื้นที่เนื้อหา จากเดิมที่เนื้อหากินพื้นที่เต็มหน้าจอ ก็ปรับให้มาอยู่ ตรงกลางและมีที่ว่างด้านข้างมากขึ้น ช่องค้นหา เมื่อเลื่อนหน้าจอลงไปอ่านข้างล่าง ช่องค้นหาจะตามไปด้วยเสมอ ไม่ต้องเลื่อนขึ้นไปค้นหาใหม่ นอกจากนี้ยังปรับปรุงผลการต้นหาให้สามารถแนะนำคีย์เวิร์ดมาให้ด้วย สารบัญเนื้อหา เช่นเดียวกันกับช่องค้นหาที่จะเลื่อนตามลงมาด้วยเมื่อคนอ่านเลื่อนอ่าน โลโก้ แสดงขนาดเล็กลง ที่มา - The Verge
# Adobe เพิ่มคุณสมบัติใหม่ Liquid Mode แปลงไฟล์ PDF ให้เหมาะกับการอ่านบนจอมือถือ Adobe ประกาศฟีเจอร์ใหม่ Liquid Mode ซึ่งใช้ Sensei เครื่องมือ AI ของ Adobe ในการวิเคราะห์ไฟล์ PDF จากนั้นทำการแปลงเนื้อหา ให้การแสดงผลมีความเหมาะสมกับการอ่านผ่านหน้าจอมือถือที่มีพื้นที่จำกัด ข้อมูลที่น่าสนใจจาก Adobe นั้นบอกว่า PDF เป็นไฟล์ที่มีการใช้งานมานานตั้งแต่ยุคก่อนมือถือ ขณะที่ปัจจุบันคนอ่านเนื้อหาผ่านมือถือกันมากขึ้น แต่ไฟล์ PDF เป็นอุปสรรคสำคัญ ผลสำรวจพบว่าคนอเมริกา 65% มองว่าการอ่าน PDF บนมือถือนั้นลำบาก 45% บอกว่าถ้าตัวหนังสือเยอะก็เลือกไม่อ่านไปเลย Liquid Mode จะแปลงเนื้อหาใน PDF แล้วแสดงผลใหม่ให้มีขนาดตัวอักษรที่เหมาะสม รวมทั้งรูปภาพ ตาราง หัวข้อ และจัดหน้าให้ใหม่เพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน แอป Adobe Acrobat Reader บน iOS และ Android รวมทั้ง Chromebook ที่รองรับ Play Store จะได้ใช้งาน Liquid Mode ก่อน จากนั้น Adobe จะนำมาใส่ในเวอร์ชันเดสก์ท็อปและเบราว์เซอร์ต่อไป ที่มา: Adobe
# Lenovo ประกาศ ThinkPad และ ThinkStation เกือบทุกรุ่นจะมีเวอร์ชัน Ubuntu ก่อนหน้านี้ Lenovo ประกาศว่าโน้ตบุ๊ก ThinkPad ซีรีส์ P และเดสก์ท็อป ThinkStation รองรับลินุกซ์ (เลือกได้เป็น RHEL/Ubuntu) แต่ยังจำกัดช่องทางการขายเฉพาะผ่านการสั่งซื้อแบบองค์กรเท่านั้น ล่าสุด Lenovo ประกาศขยายรุ่นของสินค้าที่รองรับลินุกซ์ ให้ครอบคลุม ThinkPad เกือบทุกรุ่น ซึ่งรวมถึงซีรีส์ขวัญใจมหาชนทั้ง T, X, L และตัวแพงแบบ X1 ด้วย โดยเกือบทุกรุ่นสามารถสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บ Lenovo.com แบบพรีโหลด Ubuntu 20.04 LTS มาได้เลย (ยกเว้นซีรีส์ L จะได้เป็น 18.04) ThinkPad ที่พรีโหลด Ubuntu จะเริ่มวางขายทั่วโลก (global expansion) ในเดือนกันยายน และทยอยขยายให้ครบทุกรุ่นที่ประกาศไว้ตลอดปี 2021 ชื่อรุ่นทั้งหมดประกาศที่รองรับ Ubuntu ThinkPad T14 (Intel and AMD) ThinkPad T14s (Intel and AMD) ThinkPad T15p ThinkPad T15 ThinkPad X13 (Intel and AMD) ThinkPad X13 Yoga ThinkPad X1 Extreme Gen 3 ThinkPad X1 Carbon Gen 8 ThinkPad X1 Yoga Gen 5 ThinkPad L14 ThinkPad L15 ThinkPad P15s ThinkPad P15v ThinkPad P15 ThinkPad P17 ThinkPad P14s ThinkPad P1 Gen 3 ThinkStation P340 ThinkStation P340 Tiny ThinkStation P520c ThinkStation P520 ThinkStation P720 ThinkStation P920 ThinkStation P620 ที่มา - Lenovo
# OneDrive Web แก้ปัญหาเว็บโหลดช้า, เวอร์ชัน iOS รองรับแก้ไฟล์ Office ออฟไลน์ OneDrive ประกาศของใหม่ชุดใหญ่ในงาน Microsoft Ignite 2020 โดยหลายอย่างเป็นฟีเจอร์ที่ประกาศไปแล้วรอบเดือนกรกฎาคม สิ่งที่เป็นของใหม่และน่าสนใจในรอบนี้ได้แก่ OneDrive for Web แก้ปัญหาเว็บโหลดช้า เว็บเวอร์ชันใหม่ใช้เวลาโหลดน้อยกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง เปิดใช้ช่วงปลายเดือนนี้ OneDrive for iOS/Android ปรับดีไซน์ใหม่เล็กน้อย เพิ่มหน้า Home เข้ามาแทนหน้า Recent โดยแสดงรายการเอกสารล่าสุด ผสมกับไลบรารีที่คนอื่นแชร์ไฟล์มาให้ OneDrive for iOS เพิ่มฟีเจอร์แก้ไขเอกสาร Office แบบออฟไลน์ เหมาะสำหรับคนใช้ iPad ที่ต้องแก้เอกสาร Office บ่อยๆ และอาจไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้งานตลอดเวลา ฟีเจอร์นี้มาปลายปีนี้ OneDrive for Android รองรับอุปกรณ์หน้าจอคู่แบบ Surface Duo OneDrive สำหรับลูกค้าองค์กร สามารถกำหนดค่าการแชร์ไฟล์ให้คนนอก แบบลิงก์หมดอายุเสมอ เพื่อกันปัญหาข้อมูลรั่วไหล หน้าจอแก้เอกสารแบบออฟไลน์ของ OneDrive บน iPad และฝั่งขวาคือหน้า Home แบบใหม่ ที่มา - Microsoft
# RCS บริการส่งข้อความบน Android สามารถใช้บริการในไทยได้แล้ว วันนี้ เทคโนโลยี RCS ถูกกูเกิลผลักดันมาสักระยะหนึ่งแล้ว (ตั้งแต่ปี ค.ศ.2015) หลังกูเกิลเข้าซื้อ Jibe Mobile เพื่อผลักดันการส่งข้อความแบบ RCS บน Android โดยตั้งเป้าหมายจะมาแทน SMS และ MMS พร้อมเพิ่มฟีเจอร์แชทสมัยใหม่เข้าไป Rich Communication Services (RCS) เป็นมาตรฐานการส่งข้อความแบบใหม่ที่มาแทน SMS โดยมีฟีเจอร์สมัยใหม่อย่างแชทกลุ่ม วิดีโอคอลล์ แชร์ไฟล์ ฯลฯ ความแตกต่างของ RCS กับแอพแชทในปัจจุบันคือ RCS สามารถคุยได้ข้ามโอเปอเรเตอร์-ข้ามค่าย (ถ้าหากโอเปอเรเตอร์รองรับ) ผู้ใช้ในไทย สามารถใช้บริการ RCS ผ่านการติดตั้งแอป Messages for Android ได้แล้ววันนี้ อัพเดต by mk ผมลองแล้วบนเครือข่าย AIS โดยพบว่าเมื่อใช้แอป Android Messages จะขึ้นข้อความถามว่าต้องการเปิดใช้ Chat Feature หรือไม่ ถ้าตกลงต้องยืนยันเบอร์ที่จะใช้งาน จากนั้นแอปจะขึ้นสถานะว่า Chat connected ในหน้า Settings ตามภาพ
# Flutter รองรับการเขียนแอพบนวินโดวส์แล้ว อนาคตจะรองรับ Xbox ด้วย Flutter เฟรมเวิร์คสำหรับเขียน UI ของกูเกิลที่ใช้ภาษา Dart เริ่มต้นจากมือถือ Android/iOS แต่เมื่อได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ประกาศรองรับแพลตฟอร์มมากขึ้น เริ่มจากเว็บ, แมค, ลินุกซ์ และล่าสุดมาถึงวินโดวส์แล้ว ทีมงาน Flutter บอกว่าวินโดวส์เป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์เกิน 1 พันล้านชิ้น และจากสถิติก็พบว่านักพัฒนา Flutter เกินครึ่งใช้วินโดวส์อยู่แล้ว การรองรับวินโดวส์จึงเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างมาก แต่การขยายมายังแพลตฟอร์มใหม่ๆ ก็มีความซับซ้อน เพราะต้องปรับสถาปัตยกรรมของ Flutter ให้เข้ากับแพลตฟอร์มนั้นๆ เช่น กรณีของวินโดวส์ต้องใช้เอนจินกราฟิก Skia เรนเดอร์บน DirectX อีกทีให้มีประสิทธิภาพดี, แอพแต่ละตัวต้องมีโปรแกรมเป็น Win32/C++ ที่คอยโหลดโค้ด Flutter มาอีกที เป็นต้น ตอนนี้ Flutter รองรับวินโดวส์ด้วยสถานะแบบอัลฟ่า (ต้องเปิดแชนเนล dev และ enable-windows-desktop) รองรับ Windows 7 ขึ้นไป แอพที่เขียนยังมีเฉพาะแบบ Win32 แต่ทีมงานก็ประกาศจะรองรับแอพแบบ UWP ด้วยในอนาคต เพื่อให้ใช้กับอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่ใช้แกนของวินโดวส์ (เช่น Xbox หรือ Windows 10X) ได้ด้วย เดโมการรัน Flutter บน Xbox เดโมการรัน Flutter บนอีมูเลเตอร์ Windows 10X ที่มา - Flutter
# เปิดตัว Outlook for Mac เวอร์ชันใหม่ ดีไซน์ใหม่แบบ Big Sur, ซิงก์ข้อมูลเร็วขึ้น ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook for Mac เวอร์ชันใหม่ ปรับโฉมหน้าใหม่ รองรับธีมแบบใหม่ของ macOS Big Sur และเพิ่มฟีเจอร์หลายอย่างที่เวอร์ชันแมคเคยล้าหลังเวอร์ชันอื่นๆ โดยเฉพาะจากพีซี สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ Outlook for Mac ตัวนี้ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องดีไซน์ ที่ไมโครซอฟท์ระบุว่าตั้งใจทำมาอย่างดี โดยผสมแนวทางของ Big Sur เพื่อให้เข้าถึงความเป็นแมคจริงๆ เข้ากับชุดไอคอน Fluent ของไมโครซอฟท์เองเพื่อสร้างอัตลักษณ์ที่โดดเด่น แถมยังรองรับ Dark Mode ตามสมัยนิยมครบถ้วน ในแง่การใช้งาน Outlook for Mac ตัวใหม่เปลี่ยนมาใช้เอนจินการซิงก์ข้อมูลตัวใหม่ ที่ทำงานได้เร็วกว่าเดิม ทั้งการโหลดเมล ซิงก์เมล ค้นหาอีเมล ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มมาคือแถบ My Day แสดงรายการที่ต้องทำในหน้าหลักของ Outlook ที่แสดงอีเมล, Unified Inbox รวมเมลจากทุกบัญชีในกล่องเดียว และระบบค้นหาแบบใหม่ที่ค้นเมลจากทุกบัญชี, Calendar ปรับปรุงใหม่ จัดกลุ่มปฏิทินแยกตามบัญชีได้ง่ายขึ้น Outlook for Mac เวอร์ชันใหม่จะเปิดให้ทุกคนใช้งานในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ที่มา - Microsoft
# ผู้ก่อตั้ง Blizzard เปิดตัวบริษัทเกมใหม่ Dreamhaven ดึงพนักงาน Blizzard มาเพียบ Mike Morhaime ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Blizzard Entertainment ที่ลาออกในปี 2018 ประกาศตั้งบริษัทเกมใหม่ชื่อ Dreamhaven โดยดึงมือเก๋าๆ จาก Blizzard มาร่วมงานหลายราย Dreamhaven มีบทบาทเป็นบริษัทแม่ ดูแลงานบริหารและการจัดจำหน่าย ส่วนงานพัฒนาเกมใช้แนวทางแยกสตูดิโอหลายแห่งทำงานขนานกันไป ตอนนี้มีสตูดิโอในสังกัด 2 แห่งคือ Moonshot Games นำโดย Jason Chayes (โปรดิวเซอร์ Hearthstone), Dustin Browder (ผู้กำกับ StarCraft II), Ben Thompson (ครีเอทีฟ Hearthstone) Secret Door นำโดย Chris Sigaty (โปรดิวเซอร์ Hearthstone, Starcraft II), Alan Dabiri (เคยอยู่ในทีม Warcraft III, StarCraft II), Eric Dodds (ผู้กำกับ Hearthstone) ตอนนี้ Dreamhaven ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่ากำลังพัฒนาเกมใดอยู่บ้าง บริษัทมีสำนักงานอยู่ที่เมือง Irvine ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นเมืองเดียวกับสำนักงานของ Blizzard และเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีดังๆ หลายราย เช่น Broadcom, Western Digital รวมถึงบริษัทเกม Obsidian Entertainment ที่ขายให้ไมโครซอฟท์ไปแล้ว ที่มา - Dreamhaven, VentureBeat
# ไมโครซอฟท์ยังไม่ทิ้ง Office แบบซื้อขาด จะออกเวอร์ชันใหม่ปลายปี 2021 ช่วงหลังเราเห็นไมโครซอฟท์ทุ่มให้กับ Office 365 แบบสมัครสมาชิก (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 แล้ว) จนหลายคนเริ่มเกิดคำถามว่า Office แบบไลเซนส์ซื้อขาด (perpetual) ของเดิมจะยังทำต่อหรือไม่ หรือหยุดที่ Office 2019 แค่นั้น ในงาน Ignite 2020 ไมโครซอฟท์ยืนยันว่าจะยังออก Office แบบไลเซนส์ซื้อขาดต่อไปทั้งบนพีซีและแมค โดยเวอร์ชันหน้าจะออกช่วงครึ่งหลังของปี 2021 (ซึ่งก็คาดเดาได้ว่า น่าจะใช้ชื่อ Office 2022 แม้ยังไม่ประกาศชื่ออย่างเป็นทางการในตอนนี้) นอกจาก Office รุ่นใหม่แล้ว ซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์อย่าง Exchange Server, SharePoint Server, Skype for Business Server, Project Server ก็จะออกรุ่นใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 เช่นกัน (ตามรอบการออกรุ่นใหญ่ทุก 3 ปี) แต่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ไม่มีไลเซนส์แบบซื้อขาดแล้ว ต้องซื้อแบบ subscription เท่านั้น ที่มา - Microsoft
# เปิดตัว Galaxy S20 FE 5G สเปคเรือธงในราคาเป็นมิตรมากขึ้น เริ่มที่ 699 เหรียญ ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S20 FE สมาร์ทโฟนสเปคระดับเรือธงที่เข้าถึงได้มากขึ้น ด้วยหน้าจอ Super AMOLED 6.5 นิ้ว (ใหญ่กว่า S20 และเล็กกว่า S20 Plus) Infinity-O ความละเอียด FHD+ รองรับ HDR10+ รีเฟรชเรท 120Hz บอดี้เป็นพลาสติก ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 865 (รุ่น Exynos ไม่ระบุแต่คาดว่าน่าจะ 990) แรม 6GB/8GB ความจุ 128GB/256GB กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล f/2.2 กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลักเลนส์ไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล Dual-Pixel AF f/2.4, เลนส์อัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/2.2 และเลนส์ซูม 8 ล้านพิกเซล f/2.4 ทำออพติคัลซูมได้ x3 และ Space Zoom ได้ x30 รองรับ 5G แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ USB-PD 3.0 รัน Android 10 กันน้ำ IP68 ราคาเริ่มต้น 699 เหรียญ (ราว 22,000 บาท) มี 6 สี Cloud Red, Cloud Orange, Cloud Lavender, Cloud Mint, Cloud Navy และ Cloud White ที่มา - Samsung
# ไมโครซอฟท์รีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยใหม่เป็น Microsoft 365 Defender และ Azure Defender ในงาน Microsoft Ignite 2020 เมื่อคืนนี้ ไมโครซอฟท์ประกาศรีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย (แบบเสียเงิน) ที่กระจัดกระจายใหม่หมด โดยจุดกลุ่มให้เหลือ 2 แบรนด์คือ Microsoft 365 Defender สำหรับฝั่งไคลเอนต์ และ Azure Defender สำหรับฝั่งเซิร์ฟเวอร์ โดยใช้ร่วมกับบริการเก็บข้อมูลความปลอดภัย Azure Sentinel ที่เปิดตัวไปก่อนแล้ว Microsoft 365 Defender เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มตรวจจับภัยคุกคาม หรือที่มีชื่อเรียกรวมๆ ว่า Extended Detection and Response (XDR) ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ย่อยทั้งหมด 4 ตัว Microsoft 365 Defender (เดิมคือ Microsoft Threat Protection) Microsoft Defender for Endpoint (เดิมคือ Microsoft Defender Advanced Threat Protection) Microsoft Defender for Office 365 (เดิมคือ Office 365 Advanced Threat Protection) Microsoft Defender for Identity (เดิมคือ Azure Advanced Threat Protection) การใช้แบรนด์ Microsoft Defender ที่อยู่บนไคลเอนต์มายาวนาน (มีเฉพาะบนวินโดวส์ที่ยังเรียก Windows Defender) คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก ของใหม่ที่ประกาศมาพร้อมกันคือ Microsoft Defender for Endpoint ตอนนี้รองรับ Android, iOS และอัพเกรดฟีเจอร์ให้เวอร์ชัน macOS เพิ่มเติม หน้าตาแดชบอร์ดของ Microsoft 365 Defender Azure Defender เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่ม XDR ของฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ที่ใช้แบรนด์ Azure เพื่อให้สื่อถึงความเป็นเซิร์ฟเวอร์ เดิมทีไมโครซอฟท์ใช้ชื่อว่า Azure Security Center แต่ล่าสุดเปลี่ยนมาใช้คำว่า "Defender" ให้เหมือนกันทั้งหมด Azure Defender มีผลิตภัณฑ์ย่อยในเครือ 3 ตัว Azure Defender for Servers (เดิมคือ Azure Security Center Standard Edition) Azure Defender for IoT (เดิมคือ Azure Security Center for IoT) Azure Defender for SQL (เดิมคือ Advanced Threat Protection for SQL) หน้าตาแดชบอร์ดของ Azure Defender Azure Sentinel นอกจากผลิตภัณฑ์กลุ่ม XDR ที่ใช้แบรนด์ Defender แล้ว ไมโครซอฟท์ยังมีผลิตภัณฑ์สายความปลอดภัยอีกกลุ่ม ที่เน้นเรื่องการจัดการข้อมูลความปลอดภัย ซึ่งเรียกรวมๆ ว่า Security Information and Event Management (SIEM) ในชื่อแบรนด์ Azure Sentinel เปิดตัวเมื่อกลางปี 2019 Azure Sentinel ไม่ได้ถูกรีแบรนด์ใหม่ในรอบนี้ แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในชุดความปลอดภัยที่ใช้คู่กับ Microsoft Defender อย่างแนบแน่นเช่นกัน หน้าตาแดชบอร์ดของ Azure Sentinel คลิปอธิบายแบรนด์ใหม่ของสายความปลอดภัยไมโครซอฟท์ ที่มา - Microsoft Security
# Netflix, GitHub แซง Google ขึ้นเป็นบริษัทที่คนทำงานเทคโนโลยีอยากทำงานด้วยที่สุด Hired บริษัทจัดหางานออกรายงานสำรวจแบรนด์ของที่คนหางานอยากทำงานด้วยมากที่สุด หรือ Global Brand Health Report เป็นรายงานต่อเนื่องฉบับที่ 4 ความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ Google ตกจากอันดับหนึ่งไปอยู่อันดับสาม และ GitHub ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับสอง ส่วน Netflix นั้นอยู่อันดับหนึ่ง ตามผลสำรวจของ Hired ก่อนหน้านี้ Netflix และ Google สลับกันครองอันดับหนึ่งมาก่อนแล้ว และค่าดัชนีความนิยมก็เกาะกันเสมอมา แต่ GitHub นั้นเคยอยู่อันดับ 15 ในปี 2018 และขึ้นมาเป็นอันดับ 8 ในปี 2019 จนปีนี้ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 แสดงให้เห็นความนิยมเพิ่มขึ้นชัดเจน แม้ว่าแบรนด์ของ Netflix และ GitHub จะดีมาก แต่เมื่อนับเป็นท้องที่ (ซึ่งมีผลต่อการเลือกงานมาก) Google ยังคงครองพื้นที่ซานฟรานซิสโกอยู่ ขณะที่ลอสแอนเจลิสก็ยังครองโดย Hulu ตามมาด้วย SpaceX ไม่ใช่ Netflix แต่อย่างใด ที่มา - IEEE Spectrum, Hired
# Xiaomi เปิดตัว POCO X3 NFC ในไทยอย่างเป็นทางการ ราคาเริ่มต้น 6,999 บาท Xiaomi ประเทศไทย เปิดตัวมือถือรุ่นกลาง POCO X3 NFC ชิป Snapdragon 732G จอ 120Hz สี่กล้องหลัง สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง กันน้ำ IP53 มีสองรุ่น คือรุ่น แรม 6GB หน่วยความจำภายใน 64GB และ แรม 6GB หน่วยความจำ 128GB ราคาดังนี้ รุ่น 6GB + 64GB ราคา 6,999 บาท รุ่น 6GB + 128GB ราคา 7,999 บาท สั่งจองได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 กันยายนนี้ บน JD Central จะได้ราคาพิเศษ เหลือ 6,499 และ 7,199 บาท วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 28 กันยายนนี้ ที่มา - งานแถลงข่าว POCO X3 NFC
# Bethesda ยังไม่พอ Satya ตอบเอง ไมโครซอฟท์ยังสนใจซื้อสตูดิโอเกมเพิ่มอีก Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ และ Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ให้สัมภาษณ์กับ CNET หลังข่าวซื้อกิจการ ZeniMax/Bethesda มูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ ประเด็นที่น่าสนใจคือ Nadella ระบุว่าไมโครซอฟท์สนใจซื้อสตูดิโอเกมเพิ่มอีกในอนาคต เขาบอกว่าพวกเรามองหาบริษัทที่น่าสนใจอยู่ตลอดเวลา และพร้อมซื้อกิจการเมื่อคิดว่าสมเหตุสมผล Nadella สนับสนุนการซื้อสตูดิโอเกมมาตั้งแต่ Mojang ในปี 2014 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เขาอธิบายเหตุผลว่าการทุ่มเงินซื้อสตูดิโอเกม เกิดจากความเชื่อว่าความบันเทิงแบบ interactive จะกลายเป็นสิ่งสำคัญมากในอีก 10 ปีข้างหน้า และการสร้างสตูดิโอเกมไม่สามารถทำได้ทันทีทันใด จึงต้องค่อยๆ สะสมไว้ ส่วน Spencer กล่าวถึงผลของการซื้อ Bethesda ว่าจะทำให้เกมในคลังของ Xbox Game Pass แตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด Nadella ยังพูดถึงดีลซื้อ TikTok ที่ล่มไปว่าทาง ByteDance เป็นฝ่ายเข้ามาเสนอก่อน เขายังพูดถึงโครงสร้างดีลที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลาโดย Donald Trump ว่าดีลในปัจจุบันแตกต่างจากที่เขาเคยเจรจาไปมากแล้ว ที่มา - CNET
# Firefox 81 เพิ่มธีมใหม่ Alpenglow Firefox ออกเวอร์ชัน 81 มีของใหม่อยู่หลายรายการ ซึ่งเน้นไปที่ส่วนติดต่อกับผู้ใช้งาน สามารถควบคุมการเล่นเพลงหรือวิดีโอ ผ่านคีย์บอร์ดหรือเฮดเซตได้โดยตรง ธีมใหม่ Alpenglow รองรับ AcroForm ใน PDF ที่มา: Mozilla
# YouTube ขยายการใช้ machine learning ให้ระบุวิดีโอไม่เหมาะกับเยาวชนได้ YouTube ใช้ระบบอัตโนมัติและ ML ในการระบุวิดีโอไม่เหมาะสมอยู่แล้ว ล่าสุดประกาศจะขยายการใช้งาน ML ให้ช่วยเพิ่มการจำกัดอายุบนวิดีโอที่อาจไม่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชนได้อัตโนมัติ หากผู้อัปโหลดคลิปพบว่าคลิปตัวเองถูกระบุอย่างไม่ถูกต้องก็สามารถร้องเรียนได้ นอกจากนี้ YouTube ยังบอกว่าจะเพิ่มความสามารถป้องกันไม่ให้เด็กๆ ดูวิดีโอที่ไม่เหมาะสมกับช่วงวัยได้ง่ายจนเกินไป เช่นหากเป็นวิดีโอที่ถูกฝังอยู่บนเว็บไซต์อื่น Google จะเปลี่ยนเส้นทางไปยัง YouTube ที่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้เพื่อพิสูจน์ว่าผู้ใช้มีอายุเกิน 18 ปี ด้านมาตรการป้องกันในยุโรป YouTube ระบุว่าจะแนะนำขั้นตอนการยืนยันอายุใหม่ในเดือนถัดไป ผู้ใช้ในยุโรปบางรายอาจถูกขอให้แสดงหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับอายุเมื่อพยายามรับชมเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ให้ต้องแสดงบัตรประจำตัวหรือบัตรเครดิตที่ถูกต้องเพื่อยืนยันอายุ ที่มา - YouTube
# Google เปิดตัว Tables เครื่องมือติดตามการทำงานของทีม มีทั้งใช้ฟรีและเสียเงิน Area 120 หน่วยงานบ่มเพาะนวัตกรรมใน Google เปิดตัว Tables เครื่องมือติดตามการทำงานทั้งของตัวเองและทีมงาน ตัว Tables ทำงานผ่านบ็อทเป็นหลัก โดยบ็อทจะช่วยรวบรวมตารางงาน, สิ่งที่ต้องทำของคนในทีมเอาไว้เข้าด้วยกัน จัดการคิวงานของคนในทีมและแสดงเป็นแดชบอร์ดในรูปแบบต่างๆ ให้ ตัวระบบสามารถแจ้งเตือนทางอีเมลหากงานเลยวันที่กำหนดไว้, ส่งข้อความไปยังห้องแชทเมื่อได้รับมอบหมายงานชิ้นใหม่ เหมาะกับงานประเภทการจัดการโปรเจกต์, IT operations, การติดตามลูกค้า, CRM เป็นต้น Tables มีทั้งแบบใช้งานฟรีและเสียเงิน แบบใช้งานฟรีสามารถสร้าง Tables ได้ 100 รายการ, สร้างแถวได้ 1,000 แถว, แนบไฟล์ได้ 1GB ส่วนโมเดลเสียเงิน 10 ดอลลาร์ ต่อเดือน ต่อผู้ใช้งาน 1 คน สามารถสร้าง Tables ได้ 1,000 รายการ, สร้างแถวได้ 10,000 แถว, แนบไฟล์ได้ 10GB ผู้ใช้งานสามารถนำเข้าข้อมูลจาก Google Sheets ได้ (หรือ. CSV) แชร์ข้อมูลกับ Google Groups และมอบหมายงานให้กับคนใน Google Contacts ได้ด้วย ที่มา - Google, TechCrunch
# ไมโครซอฟท์บรรลุข้อตกลง OpenAI มีสิทธิ์ใช้งาน GPT-3 แต่เพียงผู้เดียว ไมโครซอฟท์ประกาศข้อตกลงกับ OpenAI ทำให้ได้สิทธิ์ใช้งาน GPT-3 แต่เพียงผู้เดียว (exclusive license) เปิดทางให้ไมโครซอฟท์สามารถสร้างบริการปัญญาประดิษฐ์รูปแบบใหม่ๆ บน Azure GPT-3 เป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดยักษ์มีพารามิเตอร์มากถึง 175,000 ล้านพารามิเตอร์ เทียบกับ GPT-2 ที่มีขนาด 1,500 ล้านพารามิเตอร์ โดยพื้นฐานแล้วปัญญาประดิษฐ์กลุ่ม GPT เป็นการสร้างโมเดล deep learning เพื่อ "ทำนายคำถัดไป" เท่านั้น แต่เมื่อใส่ข้อความเช่น หัวข้อข่าว GPT ก็สามารถเติมคำไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นบทความขึ้นมาได้ หรือแม้แต่การถามตอบก็สามารถทำนายคำตอบจากคำถามได้เช่นกัน ก่อนหน้านี้ OpenAI เคยเปิด API ของ GPT-3 ให้นักพัฒนาไปโปรแกรมการทำงานเพิ่มเติม ผลการเปิด API ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ เช่น เขียนโค้ดจากคำบรรยาย ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างไมโครซอฟท์และ OpenAI นั้นก็แนบแน่นมาก่อนแล้ว เพราะไมโครซอฟท์เคยลงทุนใน OpenAI ถึงพันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ระบุว่าบริการ API ของ OpenAI จะให้บริการต่อไปส่วนไมโครซอฟท์จะพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ด้วย GPT-3 เพิ่มเติม ที่มา - Microsoft
# เปิดตัว Snapdragon 750G 5G อัพเกรดจาก 730G ซีพียูแรงขึ้น 20% จีพียูแรงขึ้น 10% Qualcomm เปิดตัวหน่วยประมวลผล Snapdragon 750G ใช้กระบวนการผลิต 8 นาโนเมตร มาพร้อมโมเด็ม Snapdragon X52 รองรับ 5G ในตัว ซีพียูเป็น Kyro 570 ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz แกนประสิทธิภาพสูงเป็น ARM Cortex-A77 แกนประหยัดพลังงาน เป็น ARM Cortex-A55 ส่วนจีพียูเป็น Adreno 619 Qualcomm ระบุว่าซีพียู Kyro 570 แรงกว่าและจัดการพลังงานได้ดีกว่าซีพียูที่ใช้ใน Snapdragon 730G อยู่ 20% ส่วน Adreno 619 แรงกว่า Adreno 618 ตัวเดิม 10%, มี Qualcomm Hexagon Tensor Accelerator ช่วยในการประมวลผล AI และระบบตัดเสียงรบกวนในไมค์ด้วย AI Snapdragon 750G รองรับ Bluetooth 5.1 และรองรับ Wi-Fi 6 หากผู้ผลิตมือถือใช้คู่กับชิป Qualcomm FastConnect 6200 และรองรับชาร์จเร็วแบบ Quick Charge 4+ ชิปประมวลผลภาพ Spectra 355L ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 720p ที่ 240fps รองรับกล้องคู่สูงสุด 32+16 MP แบบ Zero Shutter Lag (กดชัตเตอร์แล้วถ่ายทันที) รองรับหน้าจอ FHD+ รีเฟรชเรต 120Hz Xiaomi จะเป็นผู้ผลิตมือถือเจ้าแรกที่ได้ใช้ชิปตัวนี้ หลังทวิตว่า Mi 10 รุ่นใหม่ จะใช้ชิปซีรีส์ 7 ที่รองรับ 5G ตัวใหม่ของ Qualcomm และน่าจะเริ่มวางจำหน่ายภายในสิ้นปีนี้ ที่มา - Qualcomm, Twitter: @Xiaomi
# Tesla เตรียมผลิตแบตเตอรี่เซลล์ขนาดใหญ่ กำลังผลิต 100GWh ภายในปี 2022, รีไซเคิลแบตเตอรี่เอง, ใช้แบตเตอรี่เป็นโครงรถ Tesla ประกาศผลิตเซลล์แบตเตอรี่ด้วยตัวเองหลังจากใช้แบตเตอรี่จากผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น Panasonic, LG, หรือ CATL มาโดยตลอด โดยเซลล์ที่ Tesla เรียกว่า 4680 จะผลิตนี้มีขนาดใหญ่มากเทียบกับเซลล์แบตเตอรี่ที่ Tesla ใช้งานอยู่ทุกวันนี้ เซลล์ 4680 (เส้นผ่านศูนย์กลาง 46 มิลลิเมตร สูง 80 มิลลิเมตร) ใหญ่ขึ้นมากเมื่อเทียบกับเซลล์ 2170 (เส้นผ่านศูนย์กลาง 21 มิลลิเมตร สูง 70 มิลลิเมตร) เมื่อนำมาใช้งานจะทำให้รถ Tesla มีพิสัยการขับขี่เพิ่มขึ้น 16% ข้อจำกัดของผู้ผลิตเดิมที่ไม่สามารถทำเซลล์แบตเตอรี่ให้ใหญ่ขึ้นได้คือเมื่อเซลล์ใหญ่ขึ้น แบตเตอรี่จะชาร์จช้าลงเรื่อยๆ ทาง Tesla ระบุว่าบริษัทพัฒนาโครงสร้างใหม่จะทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้นแม้เซลล์มีขนาดใหญ่ก็ตาม นอกจากตัวโครงสร้างเซลล์แบตเตอรี่เองแล้ว Tesla เตรียมจะเปลี่ยนแนววัตถุดิบเสียใหม่ โดยเตรียมมใช้ขั้ว anode แบบซิลิกอน และ cathode แบบนิเกิลสูง หลังจากนี้ Tesla จะเข้าไปผลิตวัตถุดิบพื้นฐานเหล่านี้ ทั้งสายการผลิตแร่ลิเธียมและนิเกิล รวมถึงจะเปิดโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่เองด้วย เพราะโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่เดิมต้องรองรับแบตเตอรี่หลายรูปแบบ แต่โรงงานของ Tesla รองรับเฉพาะแบตเตอรี่ของ Tesla เองทำให้ต้นทุนลดลง นอกจากนี้ทาง Tesla ยังได้สิทธิ์ทำเหมืองแร่ลิเธียมขนาด 10,000 เอเคอร์แล้ว การปรับปรุงสุดท้ายคือการนำชุดแบตเตอรี่ไปเป็นโครงสร้างรถแบบเดียวกับเครื่องบินสมัยใหม่ที่ใช้ปีกเครื่องบินเป็นถังน้ำมัน แนวทางออกแบบใหม่นี้จะทำให้น้ำหนักรถลดลง 10% และชิ้นส่วนรถลดลง 370 ชิ้น โรงงานแบตเตอรี่ของ Tesla กำลังอยู่ระหว่างพัฒนาคาดว่าจะมีกำลังผลิต 10GWh ต่อปีเร็วๆ นี้จากนั้นบริษัทมีเป้าว่าจะผลิตให้ได้ 100GWh ต่อปีภายในปี 2022 และเพิ่มเป็น 3TWh ภายในปี 2030 เซลล์แบตเตอรี่แบบใหม่ สายการผลิตแบตเตอรี่ของ Tesla โครงสร้างเซลล์แบบใหม่ ตัวถังรถแบบฝังเซลล์แบตเตอรี่ไว้ในตัว ที่มา - YouTube: Tesla
# ก็ชื่อมันสับสน Xbox Series X เปิดพรีออเดอร์ แต่หลายคนเผลอไปซื้อ Xbox One X แทน ผลเสียของการตั้งชื่อเครื่องเกมที่ชวนสับสน เริ่มแสดงให้เห็นแล้วเมื่อ Xbox Series X เปิดให้พรีออเดอร์เมื่อคืนนี้ เพราะคนจำนวนมากไปสั่งผิดเป็น Xbox One X รุ่นที่เก่ากว่าแทน ไมโครซอฟท์หยุดขาย Xbox One X ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่ของยังมีขายบนหน้าร้านอื่นๆ เช่น Amazon และเมื่อ Xbox Series X เปิดพรีออเดอร์บน Amazon ด้วย จึงมีคนเข้าใจผิดและสั่ง Xbox One X แทน ผลคือยอดขายของ Xbox One X พุ่งขึ้นถึง 747% และกลายเป็นสินค้าขายดีอันดับ 4 ของ Amazon เมื่อวานนี้ เว็บไซต์ The Verge ชี้ว่านอกจากความสับสนของผู้บริโภคเองแล้ว อัลกอริทึมของ Amazon ก็มีผลอย่างมาก เพราะเมื่อค้นหาคำว่า "Xbox Series X" แล้วจะได้รายการ Xbox One X ติดมาด้วย และเมื่อ Xbox Series X ของหมดแล้ว (ขึ้นว่า unavailable) แต่ Xbox One X ยังมีของอยู่ จึงมีบางคนเผลอไปกดซื้อ Xbox One X แทน (ในทางปฏิบัติแล้วก็ยังสามารถยกเลิกออเดอร์ได้อยู่ หากรู้ตัวเร็ว) ที่มา - Polygon
# ภาษา Swift ออกเวอร์ชัน 5.3 ใช้งานบน Windows ได้แล้ว ภาษา Swift พัฒนาขึ้นโดยแอปเปิล เพื่อใช้บนแพลตฟอร์มของแอปเปิลเองเป็นหลัก (iOS, macOS, watchOS, tvOS) และด้วยโครงสร้างแพลตฟอร์มที่คล้ายกัน ทำให้ Swift รองรับการใช้งานบนลินุกซ์ด้วย (ดิสโทรที่รองรับอย่างเป็นทางการคือ Ubuntu, CentOS, Amazon Linux 2) ล่าสุด Swift ประกาศออกเวอร์ชัน 5.3 ที่มีฟีเจอร์สำคัญคือรองรับแพลตฟอร์ม Windows เต็มรูปแบบ ซึ่งทีมงาน Swift บอกว่าการรองรับ Windows ไม่ได้เป็นแค่การพอร์ตคอมไพเลอร์ แต่รวมถึงไลบรารีและเครื่องมืออื่นๆ ด้วย ในการเขียน Swift บน Windows จำเป็นต้องใช้ Visual Studio 2019, Windows 10 SDK, Windows Universal C Runtime และดาวน์โหลดแพ็กเกจของ Swift เพิ่มเติมได้จากหน้าเว็บไซต์ ที่มา - Swift (5.3), Swift (Windows)
# Facebook แบนบัญชีปลอมจากจีนกว่าร้อย แพร่เนื้อหาเจาะกลุ่มคนฟิลิปปินส์, สหรัฐฯ Facebook เผยว่าได้นำออกบัญชีที่พบว่าละเมิดกฎแพลตฟอร์ม พบว่ามีพฤติกรรมสร้างบัญชีปลอม ละเมิดนโยบายต่อต้านการแทรกแซงจากต่างประเทศ สืบพบว่ามีที่มาจากประเทศจีน และมีการเจาะกลุ่มไปยังฟิลิปปินส์, กลุ่มประเทศในอาเซียน และสหรัฐฯ ด้วย ถือเป็นครั้งแรกที่ Facebook แบนกลุ่มบัญชีปลอมที่มาจากประเทศจีน โดย Facebook ได้แบนบัญชีผู้ใช้ 155 บัญชี, เพจ 11 รายการ, กลุ่ม Facebook 9 กลุ่ม และบัญชี Instagram 6 บัญชี มีผู้ใช้งานประมาณ 133,000 คนติดตามเพจอย่างน้อยหนึ่งเพจในเครือข่าย และผู้ใช้ประมาณ 61,000 คนเข้าร่วมกลุ่มอย่างน้อยหนึ่งกลุ่ม เนื้อหาที่พบว่าเครือข่ายกลุ่มนี้พยายามเผยแพร่คือ ข่าวทั่วโลกและเหตุการณ์ปัจจุบันรวมถึงข่าวสารปักกิ่งในทะเลจีนใต้, ฮ่องกง, มีเนื้อหาที่สนับสนุนประธานาธิบดี Rodrigo Duterte และ Sarah Duterte ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2022 ของฟิลิปปินส์, วิจารณ์ Rappler องค์กรข่าวอิสระในฟิลิปปินส์ และมีเนื้อหาชื่นชมรัฐบาลจีน ด้านเนื้อหาที่เจาะกลุ่มผู้ใช้ในสหรัฐฯ นั้น มีเนื้อหาทั้งในการสนับสนุนและต่อต้านผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ไม่ว่าจะเป็น Pete Buttigieg, Joe Biden และ Donald Trump ซึ่ง Facebook ระบุว่ามีสัดส่วนผู้ติดตามเนื้อหาไม่มาก Facebook บอกด้วยว่าได้ลบกลุ่มบัญชีที่สร้างจากฟิลิปปินส์และพยายามเจาะกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศด้วย โดยนำออกไปแล้ว เป็นบัญชี ผู้ใช้งาน 57 บัญชี, เพจ 31 รายการ และบัญชี Instagram 20 รายการ ตัวเนื้อหาพูดถึงข่าวสารทั่วไป กิจกรรมทางการทหารที่ต่อต้านการก่อการร้าย, การพิจารณาร่างกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย, การวิจารณ์นักเคลื่อนไหว เยาวชน และฝ่ายค้าน ที่มา - Facebook
# Pinterest ทำสถิติดาวน์โหลดต่อวันสูงสุด คาดจากคนหาไอเดียปรับแต่งหน้า Home ใน iOS 14 ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ตลาดแอป Apptopia พบว่า Pinterest มีจำนวนดาวน์โหลดสูงถึง 616,000 ครั้ง ในวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เป็นสถิติสูงสุดที่เคยรวบรวมมา ส่วนอีกบริษัทวิเคราะห์ Sensor Tower ก็ระบุว่าตัวเลขของวันที่ 20 กันยายน Pinterest มีจำนวนดาวน์โหลดถึง 800,000 ครั้ง คำอธิบายความนิยมของ Pinterest นั้น ระบุว่ามาจากการเปิดตัว iOS 14 สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติปรับแต่งหน้า Home ด้วย widget ต่าง ๆ และยังสามารถเปลี่ยนหน้าตาไอคอนของแอปด้วย Shortcuts เกิดกระแสการแบ่งปันหน้า Home ของตน ซึ่ง Pinterest เป็นตัวเลือกต้น ๆ ในการค้นหาไอเดียรูปภาพไอคอนที่สวยงามนั่นเอง กระแสนี้ยังสะท้อนมาถึงอันดับแอปยอดนิยมใน App Store ซึ่งแอปสำหรับออกแบบ widget ต่างมียอดดาวน์โหลดสูง เช่นเดียวกับ App Store ของไทย ที่ตอนนี้อันดับ 1-2-3 เป็นแอป widget ทั้งหมด ส่วน Pinterest ก็อยู่ในอันดับที่ 7 ที่มา: TechCrunch
# Microsoft Teams แสดงหน้าจอเป็นห้องประชุม, สร้างห้องประชุมย่อย, สร้างทีมได้ถึง 25,000 คน, ควบคุม GitHub Microsoft Teams ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ชุดใหม่ในงาน Microsoft Ignite จำนวนมาก โดยฟีเจอร์การประชุมวิดีโอได้แก่ โหมด Together ใหม่ตัดพื้นหลังแล้ววางภาพทุกคนเหมือนนั่งในห้องประชุมร่วมกัน, Custom layouts สามารถวางภาพผู้นำเสนอทับลงไปบนสไลด์ได้ คล้ายการแคสเกม, Breakout ห้องย่อยระหว่างการประชุมใหญ่ ที่อาจมีการแบ่งทีมย่อยระดมสมอง, Meeting recap แสดงข้อมูลสรุปหลังจบการประชุม ทั้งสไดล์, วิดีโอประชุม, และไฟล์ข้อความที่แปลงจากเสียงที่พูดกันขณะประชุม ไมโครซอฟท์ยังเปิดตัวกลุ่มฮาร์ดแวร์ใหม่ Microsoft Teams Panels เป็นป้ายห้องประชุมสำหรับดูว่าห้องใดมีการประชุมใดบ้าง สามารถกดจองห้องประชุมได้จากหน้าจอโดยตรง ตัว Panels จะผลิตโดยพันธมิตรของไมโครซอฟท์ ตอนนี้ประกาศมาแล้วสองรายได้แก่ Crestron และ Yealink การแชตแบบ Team จะขยายเพดานสมาชิกจาก 5,000 คนเป็น 25,000 คน และรองรับ GitHub ผ่านแอปเสริม ทำให้สามารถติดตามการ commit หรือเปิด issue ใหม่ สามารถควบคุมการทำงาน เช่น ปิด issue, คอมเมนต์บน issue ที่มา - Microsoft
# หลุดข้อมูล Pixel 5 และ 4a 5G จากเว็บร้านค้าในยุโรป มีสองสี ราคา 629 และ 499 ยูโรตามลำดับ ข้อมูลของมือถือ Google Pixel 4a 5G และ Pixel 5 หลุดออกมาจากเว็บร้านค้าในยุโรปก่อนวันเปิดตัว โดยมีแอคเคาท์ทวิตเตอร์ @NilsAhrDE แคปภาพไว้ได้ และข้อมูลที่หลุด มีทั้งวันวางจำหน่าย สี ขนาดหน่วยความจำภายในของรุ่นเริ่มต้น และราคาของทั้งสองรุ่น Pixel 4a 5G จะวางจำหน่ายในราคา 499 ยุโร (ราว 18,400 บาท) มีสองสีคือขาวและดำ ความจุเริ่มต้นที่ 128GB ส่วน Pixel 5 จะวางจำหน่ายในราคา 629 ยูโร (ราว 23,200 บาท) มีสองสีคือดำกับเขียว ความจุเริ่มต้นที่ 128GB เช่นกัน และทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่าย วันที่ 15 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม บางครั้งเว็บร้านค้าอาจเอาข้อมูลขึ้นไว้ชั่วคราวก่อน เพื่อให้ปรับราคาในภายหลังได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลและราคาอย่างเป็นทางการจริงๆ คงต้องรอดูในงานเปิดตัว ในวันที่ 30 กันยายนนี้ หรือตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม เวลาตีหนึ่ง ตามเวลาประเทศไทย ที่มา - Twitter: @NilsAhrDE via GSMArena ภาพหลุด Pixel 5
# ไมโครซอฟท์เตรียมปล่อย Microsoft Edge สำหรับลินุกซ์เดือนตุลาคมนี้ ไมโครซอฟท์ประกาศเปิด Microsoft Edge สำหรับลินุกซ์ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเดือนตุลาคมนี้ โดยยังเป็นเวอร์ชั่น Dev preview และจะเปิดให้ดาวน์โหลดจากเว็บ Microsoft Edge Insider แม้ตอนนี้ยังไม่ระบุว่ารองรับดิสโทรอะไรบ้างแต่หน้าจอที่โชว์มาก็เป็น Ubuntu Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ระบุว่า Microsoft Edge บนลินุกซ์จะเปิดทางให้นักพัฒนาสามารถทดสอบบน Edge ได้เหมือนกันไม่ว่าจะอยู่บนแพลตฟอร์มใด โดยนอกจากการปล่อย Edge บนลินุกซ์แล้วไมโครซอฟท์ยังเตรียมปล่อย WebView2 สำหรับการพัฒนาเดสก์ทอปแอป ให้เป็นสถานะ GA ภายในปีนี้ ไมโครซอฟท์ยังยืนยันทำงานร่วมกับชุมชน Chromium ต่อไป จนถึงตอนนี้ทีม Edge ส่งโค้ดเข้าโครงการ Chromium ไปแล้วถึง 3,700 commit ที่มา - Windows Blog
# 1Password ร่วมกับ Privacy.com เปิดตัวฟีเจอร์สร้างบัตรเสมือนกรอกแทนเลขบัตรเครดิตจริง โปรแกรมจัดการรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญ 1Password ออกฟีเจอร์สร้างบัตรเสมือนสำหรับใช้งานกับเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยร่วมมือกับเว็บไซต์ Privacy.com การสร้างบัตรเสมือนของ 1Password จะเป็นการ generate เลขบัตรออกมาใช้งานแทนการกรอกเลขบัตรเครดิตจริง (ลักษณะเหมือนอีเมลสร้างเพื่อใช้ครั้งเดียวกับเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องกรอกอีเมลจริง) เลขบัตรที่ออกใหม่นี้สามารถเลือกได้ว่าจะให้ตัดเงินจากบัญชีหรือบัตรใบอื่น, กำหนดวงเงินได้, ใช้ได้ทั้งแบบครั้งเดียว (ใช้เสร็จแล้วลบทิ้ง) หรือจะบันทึกไว้ใน 1Password โดยตั้งชื่อบัตรไว้แล้วใช้งานหลาย ๆ ครั้งก็ได้ ตอนนี้ฟีเจอร์สร้างเลขบัตรของ 1Password ที่ร่วมมือกับ Privacy.com ยังใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น ที่มา - 1Password
# กูเกิลออก Android TV เวอร์ชัน 11 เน้นฟีเจอร์ด้าน Low Latency สำหรับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ๆ กูเกิลประกาศออก Android TV เวอร์ชัน 11 ตามหลัง Android 11 รุ่นปกติเพียงไม่กี่สัปดาห์ ของใหม่ที่สำคัญคือ การปรับปรุงที่ตัวแกนหลักของ OS ตาม Android 11 เช่น การจัดการหน่วยความจำที่ดีขึ้น, การอนุมัติสิทธิแบบ one-time permission ที่ตามมาใช้กับทีวีด้วย ส่วนฟีเจอร์เฉพาะของทีวี ได้แก่การรองรับ Auto Low Latency Mode (ALLM) ของ HDMI 2.1 ที่ช่วยลดค่า latency เพื่อให้เหมาะกับการเล่นเกมที่ต้องการตอบสนองเร็วๆ, Low Latency Decoding เพื่อถอดรหัสไฟล์วิดีโอแบบ latency ต่ำๆ เช่นกัน (ฮาร์ดแวร์ SoC ต้องซัพพอร์ตด้วย), inattentive sleep ตั้งค่าให้ปิดทีวีอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน เป็นต้น ผู้ใช้ทั่วไปคงต้องรอกันอีกสักพักใหญ่ๆ กว่าเราจะได้เห็นฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ใช้ Android TV 11 ออกสู่ตลาด รวมถึงฮาร์ดแวร์เก่าที่อาจได้อัพเกรดเป็น Android TV 11 ด้วย ที่มา - Android Developers
# Whatsapp กำลังทดสอบฟีเจอร์ส่งรูปและวิดีโอที่จะหายไปเมื่อคู่สนทนาออกจากแชท เว็บไซต์ WABetainfo เปิดเผยฟีเจอร์ใหม่จากแอป Whatsapp เวอร์ชั่นในโครงการ Google Play Beta Program พบว่า Whatsapp กำลังทดสอบฟีเจอร์การตั้งค่าให้รูปภาพ GIF หรือวิดีโอ ที่ถูกส่ง ลบตัวเองหายไปได้ ที่เรียกว่า Expiring Media ฟีเจอร์นี้คล้ายคลึงกับบน Snapchat แต่แตกต่างตรงที่ไม่มีการตั้งเวลาให้ดูได้จำกัด แต่จะลบตัวเองออกไปเหมือนรูปหรือวิดีโอนั้นไม่เคยถูกส่งมาก่อน เมื่อคู่สนทนาออกจากแชท (WABetainfo ไม่ได้ระบุว่าเมื่อผู้รับหรือผู้ส่งออกจากแชท) โดยไม่มีการแจ้งเตือน แต่ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า Whatsapp จะเพิ่มระบบตรวจจับการจับภาพหน้าจอเข้ามาด้วยหรือไม่ หรือฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้ในเวอร์ชั่นปกติเมื่อไร แตะที่สัญลักษณ์เลข 1 เพื่อตั้งค่าให้ภาพ เป็น Expiring Media ภาพ Expiring Media ที่ถูกส่ง ที่มา - WABetainfo
# คนมันรวยช่วยไม่ได้ สตูดิโอสังกัด Xbox Game Studios ทั้ง 23 แห่ง มีที่ไหนบ้าง การซื้อกิจการ ZeniMax ทำให้ตอนนี้ไมโครซอฟท์มีสตูดิโอเกมในมือทั้งหมด 23 สตูดิโอ เริ่มนับกันไม่ไหว จำกันไม่ได้แล้ว บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลมาให้ดูกันว่า สตูดิโอทั้ง 23 รายในสังกัดมีอะไรบ้าง กลุ่ม Xbox Game Studios กลุ่มที่เป็นสตูดิโอในสังกัดไมโครซอฟท์ในปัจจุบัน มีทั้งหมด 15 สตูดิโอ เรียงตามลำดับการซื้อกิจการ/ก่อตั้ง ดังนี้ Turn 10 ก่อตั้งปี 2001 (สหรัฐอเมริกา) เกมเด่น: ซีรีส์ Forza Motorsports Rare ซื้อกิจการปี 2002 (อังกฤษ) เกมเด่น: Battletoads, Killer Instinct, Banjo-Kazooie, Sea of Thieves 343 Industries ก่อตั้งปี 2007 (สหรัฐอเมริกา) เกมเด่น: ซีรีส์ Halo (รับทำต่อจาก Bungie) The Coalition ก่อตั้งปี 2010 (แคนาดา) เกมเด่น: ซีรีส์ Gears of War (รับทำต่อจาก Epic Games) Mojang Studios ซื้อกิจการปี 2014 (สวีเดน) เกมเด่น: ซีรีส์ Minecraft Obsidian Entertainment ซื้อกิจการปี 2018 (สหรัฐอเมริกา) เกมเด่น: The Outer Worlds, Grounded, Avowed InXile Entertainment ซื้อกิจการปี 2018 (สหรัฐอเมริกา) เกมเด่น: Wasteland Compulsion Games ซื้อกิจการปี 2018 (แคนาดา) เกมเด่น: We Happy Few Ninja Theory ซื้อกิจการปี 2018 (อังกฤษ) เกมเด่น: DmC: Devil May Cry, Hellblade: Senua's Sacrifice Playground Games ซื้อกิจการปี 2018 (อังกฤษ) เกมเด่น: Forza Horizon, กำลังทำ Fable ภาคใหม่ Undead Labs ซื้อกิจการปี 2018 (สหรัฐอเมริกา) เกมเด่น: ซีรีส์ State of Decay The Initiative ก่อตั้งปี 2019 (สหรัฐอเมริกา) เกมเด่น: - World's Edge ก่อตั้งปี 2019 (สหรัฐอเมริกา) เกมเด่น: ซีรีส์ Age of Empires Double Fine Productions ซื้อกิจการปี 2019 (สหรัฐอเมริกา) เกมเด่น: Psychonauts, เกมผจญภัยเก่าๆ ของ LucasArts Xbox Game Studios Publishing ไม่ใช่สตูดิโอพัฒนาเกม แต่รับผิดชอบการจัดจำหน่าย กลุ่ม ZeniMax Media มีสตูดิโอในสังกัดอีก 8 สตูดิโอ ดังนี้ Bethesda Game Studios สตูดิโอดั้งเดิมของ Bethesda ก่อตั้งในปี 1986 เกมเด่น: ซีรีส์ The Elder Scrolls และ Fallout ล่าสุดคือ Starfield ZeniMax Online Studios ก่อตั้งปี 2007 เน้นทำเกมออนไลน์ เกมเด่น: The Elder Scrolls Online id Software ต้นกำเนิดของเกม FPS ก่อตั้งปี 1991 ขายกิจการให้ ZeniMax ปี 2009 เกมเด่น: Doom, Quake, Rage Arkane Studios สตูดิโอจากฝรั่งเศส ก่อตั้งปี 1999 ขายกิจการให้ ZeniMax ปี 2010 เกมเด่น: Dishonored, Prey, ล่าสุดคือ Deathloop MachineGames ก่อตั้งปี 2009 ขายกิจการให้ ZeniMax ปี 2010 เกมเด่น: รับช่วงพัฒนาซีรีส์ Wolfenstein ภาคหลังๆ ทั้งหมด Tango Gameworks สตูดิโอของ Shinji Mikami ผู้สร้าง Biohazard ก่อตั้งและขายให้ ZeniMax ปี 2010 เกมเด่น: The Evil Within และล่าสุด Ghostwire: Tokyo Alpha Dog Games ก่อตั้งปี 2012 ขายกิจการให้ ZeniMax ปี 2019 เกมเด่น: เกมมือถือ Wraithborne และ MonstroCity: Rampage Roundhouse Studios สตูดิโอใหม่ล่าสุด เพิ่งก่อตั้งปี 2019 ยังไม่มีผลงานเกมออกมา แต่เป็นทีมงานเดิมของ Human Head Studios ที่พัฒนาเกม Prey ผลของการซื้อ ZeniMax จะมีบทบาทอย่างไรในการแข่งขันระหว่างไมโครซอฟท์และโซนี่ อ่านรายละเอียดในบทความเก่า เทียบสตูดิโอและเกมเอ็กคลูซีฟระหว่าง SIE Worldwide Studio และ Xbox Game Studios ว่าทั้งสองค่ายมีจำนวนสตูดิโอลูกพอๆ กัน (14-15 สตูดิโอ) แต่เมื่อไมโครซอฟท์ได้สตูดิโอเพิ่มมาชุดใหญ่ 8 แห่ง (แถมมีสตูดิโอระดับ Bethesda หรือ id ซะด้วย) ย่อมส่งผลให้ไลน์อัพของไมโครซอฟท์เข้มแข็งขึ้นมาก ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าไมโครซอฟท์จะยังเดินหน้าซื้อกิจการบริษัทเกมต่อไปอีกหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้เราก็เห็นข่าวลือทั้งเรื่องอยากซื้อ Warner Bros. Games และ Bungie ก็น่าจะเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าไมโครซอฟท์ยังอยากซื้ออีก ถ้าดูจากไลน์อัพทั้ง 23 สตูดิโอ จะเห็นว่าจุดอ่อนของไมโครซอฟท์ก็คือสตูดิโอเกมฝั่งญี่ปุ่น (ตอนนี้มีสตูดิโอเดียวคือ Tango) ย่อมเป็นไปได้เช่นกันที่ไมโครซอฟท์อาจเดินหน้าซื้อสตูดิโอญี่ปุ่นในลำดับถัดไป โดยน่าจะเป็นบริษัทขนาดกลางๆ ที่มีเกมฮิตระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ใหญ่ถึงขั้นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์
# Google Takeout ให้เลือกถ่ายข้อมูลเฉพาะบางอัลบั้มบน Google Photos ไปยัง Flickr หรือ Microsoft OneDrive ได้ Google มีบริการ Google Takeout สำหรับดาวน์โหลดข้อมูลของเราที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลมาได้พักใหญ่แล้ว ประโยชน์อย่างหนึ่งคือเป็นที่สำรองข้อมูลทั้งหมดเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ่านอุปกรณ์ใช้งาน และสามารถถ่ายโอนข้อมูลไปยังบริการภายนอกได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดลงเครื่องก่อน ล่าสุด Google Takeout เพิ่มความสามารถใหม่ ให้ผู้ใช้งานเลือกเฉพาะอัลบั้มบน Google Photos เพื่อถ่ายโอนออกไปยัง Flickr หรือ Microsoft OneDrive ได้ โดยระบบจะแสดงบุลเลตอัลบั้มมาให้คลิกเลือกเพื่อถ่ายโอนได้ง่าย หรือสามารถเลือกและถ่ายโอนรูปภาพทั้งหมดเลยก็ได้ Google ยังบอกตัวเลขด้วยว่า ผู้คนใช้ Google Takeout โดยเฉลี่ยมากกว่า 2 ล้านครั้งต่อเดือน มีการส่งออกไฟล์มากกว่า 2 แสนล้านไฟล์ในปี 2019 ที่มา - Google
# SpaceX แสดงความเร็ว Starlink ดาวโหลด 100Mbps อัพโหลด 40Mbps ค่า ping ไม่ถึง 20ms SpaceX เข้าร่วมประมูลโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบของกสทช. สหรัฐฯ (FCC) ที่มีบริษัทร่วมประมูลมากกว่า 500 บริษัท โดยบริษัทแสดงผลทดสอบโครงการ Starlink ว่าสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตที่อัตราดาวน์โหลดสูงกว่า 100Mbps และเวลาหน่วง 40-50ms ใกล้เคียงกับบรอดแบนด์ทั่วไป ขณะที่ภาพทดสอบแสดงการอัพโหลดที่ 40-42Mbps และเวลาหน่วงไม่ถึง 20ms เท่านั้น ทาง SpaceX กำลังพยายามย้ายวงโคจรของดาวเทียมทั้งหมดลงมาที่ระดับต่ำลงในช่วง 540-570 กิโลเมตร ตัวเลขที่น่าสนใจอีกอย่างคือบริษัทระบุว่าการให้บริการในสหรัฐฯ ต้องการเกตเวย์นับร้อยจุดทีเดียว โครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบสหรัฐฯ หรือ Rural Digital Opportunity Fund (RDOF) เป็นโครงการมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 500,000 ล้านบาทระยะเวลาโครงการ 10 ปี บริษัทที่เข้าร่วมประมูลต้องให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ระดับ 25Mbps ไปยังบ้านที่เข้าไม่ถึงบรอดแบนด์ทั้งหมด 6 ล้านครัวเรือน ปัญหาใหญ่ของ Starlink กลายเป็นกำลังผลิตจานรับส่งสัญญาณที่ตอนนี้ SpaceX มีกำลังผลิตระดับ "หลายร้อยชุดต่อเดือน" เท่านั้น แม้ว่าจะขออนุญาต FCC เอาไว้ถึง 5 ล้านชุดก็ตาม และบริษัทกำลังขยายกำลังผลิตไปยังระดับ "หลายพันชุดต่อเดือน" แต่ต่อให้ทำได้จริงก็ยังจำกัดมากอยู่ดี ที่มา - ZDNet