txt
stringlengths
202
53.1k
# ทวิตเตอร์ให้จำกัดคนตอบใต้โพสต์เราได้แล้ว ทั้งบนแอนดรอยด์และเว็บ ทวิตเตอร์ เปิดใช้งานจำกัดคนที่สามารถมาตอบใต้โพสต์เราได้บน iOS ล่าสุด เปิดใช้งานทุกคนแล้ว ทั้งแอปพลิเคชั่นแอนดรอยด์ และบนเว็บไซต์ โดยเราเลือกได้ว่าจะให้ใครมาตอบโพสต์ของเราได้บ้าง มีสามตัวเลือกคือ ทุกคนมาตอบได้, คนที่เราเมนชั่นถึงเท่านั้น และ เฉพาะคนที่เราติดตามเท่านั้น ทวิตเตอร์ทดสอบฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยความคาดหวังว่าผู้ใช้งานจะสามารถใช้งานทวิตเตอร์ด้วยความรู้สึกที่ปลอดภัย สะดวกใจมากขึ้น และให้บทสนทนาไม่หลุดออกจากประเด็น ทวิตเตอร์ยังบอกด้วยว่าช่วงทดสอบ 60% ของผู้ใช้ไม่ต้องพึ่งพาการบล็อกหรือ Mute ใครเลย ที่มา - ทวิตเตอร์
# Google Lens เพิ่มความสามารถสอนการบ้านเลข เอากล้องจ่อโจทย์ให้แสดงขั้นตอนแก้โจทย์ให้ Google Lens เพิ่มความสามารถใหม่ ช่วยทำการบ้านคณิตศาสตร์ได้ เมื่อนักเรียนนำกล้องจ่อโจทย์เลขบนกระดาษ กดที่โจทย์ ระบบจะแสดงขั้นตอนแก้โจทย์ให้ รวมถึงแสดงคำอธิบายหลักการแก้โจทย์เพื่อความเข้าใจที่ครอบคลุมขึ้น ความสามารถใหม่นี้ใช้พลังจาก Socratic แอปค้นหาและช่วยทำการบ้านสำหรับนักเรียนที่กูเกิลเข้าซื้อไปเมื่อปี 2018 ตัวแอปมีความสามารถช่วยนักเรียนแก้โจทย์ด้วยการถ่ายรูปโจทย์ส่งเข้าในแอป ล่าสุดกูเกิลก็ได้เพิ่มความสามารถนี้ลงใน Google Lens ด้วย ที่มา - กูเกิล
# Pinterest แสดงผลโทนสีผิวหลากหลายขึ้น เมื่อค้นหาเกี่ยวกับสไตล์การแต่งหน้า Pinterest อัพเดตใหม่เกี่ยวกับการค้นหาเครื่องสำอางบนแพลตฟอร์ม แสดงสีผิวที่ครอบคลุมและหลากหลาย (Skin tone ranges) เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าโทนสีผิวเมื่อนำมาจับคู่กับเมคอัพสไตล์ต่างๆ แล้วจะเป็นอย่างไร Skin tone ranges ของ Pinterest เปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2018 ล่าสุดคือแสดงสีผิวให้ครอบคลุมและชัดเจนขึ้น ซึ่ง Pinterest บอกว่าครอบคลุมโทนสีผิวมากขึ้น 3 เท่า และยังมีขยายฟีเจอร์นี้ไปนอกสหรัฐฯ คือ อังกฤษ, แคนาดา, ไอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ Pinterest ยังมีฟีเจอร์ลองลิปสติกผ่านกล้องใน Try on หรือการลองลิปสติกเสมือนจริงผ่านกล้องมือถือโดยใช้พลัง AR ซึ่ง มีให้ลองเล่นกว่า 10,000 เฉดสีจากแบรนด์เครื่องสำอางต่างๆ เช่น NARS, Cle de Peau และ Thrive Causemetics โดย Pinterest เผยว่าตั้งแต่มีฟีเจอร์ Try on เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีผู้ใช้ทดลองลิปโดยเฉลี่ย 6 เฉดสี และมีแนวโน้มช่วยตัดสินใจซื้อลิปสติกมากขึ้น ที่มา - Pinterest
# ซีอีโอ Uber บอกอาจต้องระงับบริการชั่วคราวในแคลิฟอร์เนีย จากคำตัดสินศาลให้ดูแลคนขับเหมือนพนักงาน จากประเด็นศาลแคลิฟอร์เนียตัดสินให้ Uber และ Lyft ดูแลผู้ขับรถเหมือนพนักงานประจำภายใน 10 วัน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย AB5 ซึ่งกำหนดให้คนทำงานใน gig economy ต้องได้รับสวัสดิการเทียบเท่าพนักงานประจำ Dara Khosrowshahi ซีอีโอ Uber ออกมาบอกว่า อาจต้องระงับการให้บริการในแคลิฟอร์เนียไปชั่วคราวจนกว่าศาลจะตัดสินใหม่ Khosrowshahi ให้สัมภาษณ์ผ่านช่องข่าว MSNBC ว่ามันเป็นเรื่องยากที่บริษัทจะสามารถเปลี่ยนโมเดลไปเป็นการจ้างงานเต็มเวลาได้อย่างรวดเร็วขนาดนั้น และมันอาจนำไปสู่การระงับให้บริการชั่วคราว ด้านทนายฝั่ง Uber ก็เตรียมยื่นอุทธรณ์ เพราะระยะเวลา 10 วันนั้นเร่งรัดเกินไป ภาพจาก Twitter Dara Khosrowshahi ที่มา - TechCrunch
# Facebook แสดงป๊อบอัพเมื่อแชร์ข่าว COVID-19 ให้รู้ว่าแหล่งข่าวต้นทางจากไหน เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อไร Facebook แสดงป๊อบอัพก่อนผู้ใช้งานแชร์ข่าว COVID-19 แสดงข้อมูลให่รู้ว่าแหล่งข่าวต้นทางมาจากไหน และเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อไร ป้องกันการแชร์ข่าวปลอม และข่าวเก่าเกินไป ก่อนหน้านี้ Facebook ทำฟีเจอร์ในทำนองเดียวกัน คือแสดงป๊อบอัพให้รู้ถ้าผู้ใช้แชร์ข่าวเก่ากว่าสามเดือน Facebook มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องในการต่อสู้กับข่าวปลอมเกี่ยวกับ COVID-19 ทั้งพยายามลบกลุ่มคนที่ต่อต้านการใส่หน้ากากอนามัย, ลบวิดีโอที่บอกว่าโรคระบาดเป็นแผนการที่วางเอาไว้ (Plandemic) เป็นต้น Facebook ยังเผยเมื่อวันอังคารที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมาด้วยว่า ตั้งแต่เดือน เม.ย. - มิ.ย. ที่ผ่านมา มีการลบโพสต์ข้อมูลปลอมเกี่ยวกับ COVID-19 ไปแล้ว 7 ล้านโพสต์ ภาพจาก Facebook ที่มา - Engadget
# ไมโครซอฟท์จ่ายเงินรางวัลการรายงานช่องโหว่รวม 400 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ระบุชื่อนักวิจัยทรงคุณค่า 91 คน ไมโครซอฟท์รายงานถึงโครงการจ่ายเงินรางวัลสำหรับรายงานช่องโหว่ในปีที่ผ่านมา (นับจากเดือนกรกฎาคม 2019 ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2020) โดยจ่ายรางวัลรวม 13.7 ล้านดอลลาร์หรือมากกว่า 400 ล้านบาทเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าตัวจากปีที่แล้ว นักวิจัยที่ส่งรายงานไปยังไมโครซอฟท์และได้รางวัลรวม 327 คน เป็นรายงานจำนวน 1,226 ชิ้น ชิ้นที่ได้รางวัลสูงสุดได้ไป 2 แสนดอลลาร์ โดยความเปลี่ยนแปลงของตัวโครงการเองก็มีหลายส่วน เช่น การเพิ่มโครงการที่ให้รางวัลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ Windows Insider ที่เป็นสถานะพรีวิวก็สามารถรายงานช่องโหว่ได้ ในรอบนี้ไมโครซอฟท์ประกาศรายชื่อนักวิจัยทรงคุณค่า (MSRC’s 2020 Most Valuable Security Researchers) ที่ไมโครซอฟท์มีระบบให้คะแนนนักวิจัยจากปริมาณรายงานที่เป็นช่องโหว่จริง, อัตรารายงานที่เป็นช่องโหว่จริง, และคะแนนของรายงานเองอยู่ในระดับสูง มีนักวิจัยเข้าเงื่อนไขรวม 91 คน จากปีที่แล้วมี 75 คน รายชื่อจำนวนมากยังคงเป็นชื่อจีน และปีนี้มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามติดรายการด้วยถึง 3 ลำดับ ได้แก่ 46, 76, และ 86 ที่มา - Microsoft
# ไมโครซอฟท์ปล่อยแพตช์เดือนสิงหาคม ช่องโหว่รันเจาะทะลุสคริปต์เอนจินของ IE มีการโจมตีแล้ว ไมโครซอฟท์ปล่อยแพตช์ความปลอดภัยรอบเดือนสิงหาคม โดยรอบนี้มีช่องโหว่รวม 120 รายการ แต่จุดร้ายแรงเป็นพิเศษคือช่องโหว่ CVE-2020-1380 ของสคริปต์เอนจินของ Internet Explorer ที่มีช่องโหว่จนคนร้ายสามารถรันโค้ดใดๆ ในเครื่องของเหยื่อได้ เพียงแค่เหยื่อเปิดเว็บดู หรือส่งไฟล์ไปให้เปิดในเครื่องที่อาจจะเป็นไฟล์ HTML หรือ Office ผู้พบช่องโหว่นี้คือ Kaspersky ที่ระบุว่าเทคโนโลยีของตัวเองตรวจจับการโจมตีบริษัทในเกาหลีใต้ได้สำเร็จ และเมื่อตรวจสอบไฟล์ที่ใช้โจมตีจึงพบว่าเป็นช่องโหว่ใหม่ ทำให้ยืนยันได้ว่าช่องโหว่ CVE-2020-1380 มีการโจมตีไปก่อนที่แพตช์จะออกมา โดยตอนนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นแฮกเกอร์กลุ่มใดที่ใช้ช่องโหว่นี้ แต่ทาง Kaspersky ระบุว่ามีส่วนคล้ายกับกลุ่ม DarkHotel ไมโครซอฟท์ให้ความร้ายแรงที่ระดับวิกฤติ คะแนน CVSS 7.5 (CVSS:3.0/AV:N/AC:H/PR:N/UI:R/S:U/C:H/I:H/A:H/E:P/RL:O/RC:C) นอกจากนี้ ช่องโหว่ CVE-2020-1464 ก็เป็นช่องโหว่ที่มีการโจมตีแล้วก่อนมีแพตช์เช่นกัน โดยเป็นช่องโหว่ข้ามการตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลของไฟล์ ทำให้แฮกเกอร์สามารถปลอมไฟล์ที่ควรได้รับการยืนยันที่มาได้ไมโครซอฟท์ให้ความร้ายแรงที่ระดับ "สำคัญ" คะแนน CVSS 5.3 (CVSS:3.0/AV:L/AC:L/PR:N/UI:R/S:U/C:L/I:L/A:L/E:H/RL:O/RC:C) ภาพรวมช่องโหว่อื่นๆ ทั้งหมด 120 รายการเป็นช่องโหว่ระดับวิกฤติ 17 รายการ ในจำนวนนี้มีช่องโหว่ CVE-2020-1472 ที่เป็นช่องโหว่โปรโตคอล Netlogon เปิดทางให้แฮกเกอร์ที่ไม่ได้ยืนยันตัวตน ขโมยบัญชี administrator ของโดเมนได้ ไมโครซอฟท์จัดความร้ายแรงในระดับวิกฤติ คะแนน CVSS 10 (CVSS:3.0/AV:N/AC:L/PR:N/UI:N/S:C/C:H/I:H/A:H/E:P/RL:O/RC:C) ช่องโหว่ CVE-2020-1472 นี้มีความซับซ้อนเนื่องจากต้องเปลี่ยนโปรโตคอล Netlogon ทำให้ไมโครซอฟท์ออกแพตช์สองรอบ รอบแรกคือเดือนนี้จะแพตช์บังคับให้อุปกรณ์วินโดวส์ทั้งหมดปรับไปใช้โปรโตคอลที่แก้ไขแล้ว พร้อมกับแจ้งเตือนว่ามีอุปกรณ์ที่ยังไม่รองรับเชื่อมต่อกับโดเมนหรือไม่ จากนั้นแพตช์เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าจะออกแพตช์บังคับการเชื่อมต่อทั้งหมด ที่มา - ZDNet
# เก็บตก Surface Duo รองรับปากกาแต่ต้องซื้อแยก, ไม่มี NFC, ไม่รองรับ 5G เก็บตกข้อมูลเพิ่มเติมของ Surface Duo อุปกรณ์สองจอของไมโครซอฟท์ ที่ยืนยันว่าไม่ใช่สมาร์ทโฟน ไม่ใช่แท็บเล็ตพับจอได้ แต่เป็นอุปกรณ์ชนิดใหม่ หน้าจอคู่ที่เรียกว่า Dual PixelSense Fusion Displays เป็นจอ AMOLED ที่มี digitizer ในตัว ใช้ร่วมกับปากกา Surface Slim Pen ตัวเดียวกับใน Surface Pro X ได้ เพื่อจดบันทึกหรือวาดภาพได้ (ขายแยกในราคา 145 ดอลลาร์) ไม่มี NFC, ไม่มี wireless charging, ไม่รองรับ 5G, ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm โดยไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่า Surface Duo ถือเป็นอุปกรณ์รุ่นแรก (first-generation) ที่ต้องการทดสอบรูปแบบการใช้งานหลักคือเรื่อง 2 หน้าจอก่อน แล้วจะค่อยๆ เพิ่มฟีเจอร์เสริมเข้ามาในรุ่นถัดๆ ไป กลุ่มเป้าหมายเน้นเรื่องการทำงานเป็นหลัก (mobile productivity) โดยไมโครซอฟท์ปรับแอพของตัวเองให้ทำงานโหมด 2 จอได้ดี เช่น Outlook, Teams, To Do, OneNote, OneDrive, Edge, Office มีแอพ Your Phone ในตัว เชื่อมทุกอย่างเข้ากับพีซี Windows ได้, รองรับการต่อจอยเล่นเกม Xbox Game Pass มีให้เลือกสีเดียวคือขาว Glacier ในกล่องแถมเคสและสายชาร์จเร็ว 18w มาให้พร้อม ไมโครซอฟท์เขียนเฟิร์มแวร์ UEFI เองทั้งหมด เพื่อรับประกันความปลอดภัยของโค้ด ตัวอย่างการใช้งานแอพจอคู่ เช่น ประชุม Teams จอบน + ดูสไลด์จาก PowerPoint ไปพร้อมกัน ตัวอย่างการใช้งาน Outlook แบบจอคู่ เหมือน Outlook บนพีซีที่รายการเมลอยู่ซ้าย เนื้อหาเมลอยู่ขวา ที่มา - Microsoft, Microsoft, Windows Central
# Tencent ไตรมาส 2/2020 รายได้รวมโต 29% จากธุรกิจเกม Tencent รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 29% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 1.15 แสนล้านหยวน และมีกำไรสุทธิ 3.02 หมื่นล้านหยวน รายได้จากธุรกิจเกมเติบโตถึง 40% แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 เนื่องจากคนเริ่มกลับไปทำงานตามปกติ มีเกมเด่นในไตรมาสคือ Honour of Kings และ Peacekeeper Elite (PUBG Mobile เวอร์ชันจีน) กลุ่ม Social Media รายได้เพิ่มขึ้น 29% รายได้หลักมาจาก Huya แพลตฟอร์มไลฟ์ที่ Tencent ถือหุ้นใหญ่ ส่วนรายได้จากโฆษณาลดลง 25% ส่วนใหญ่กระทบจากบริการ Tencent Video ที่มา: Tencent และ CNBC
# Surface Duo วางขาย 10 กันยายน ราคา 1,399 ดอลลาร์ สั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้วในสหรัฐฯ ไมโครซอฟท์ประกาศวันขาย Surface Duo สมาร์ทโฟนสองจอพับได้ รันระบบแอนดรอยด์แล้วเป็นวันที่ 10 กันยายน ตัว 128 GB ราคาเริ่มต้นที่ 1,399 ดอลลาร์ หรือราวกว่า 43,000 บาท และเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในสหรัฐฯ แล้ว ผ่าน AT&T, Microsoft ร้านค้าออนไลน์ และ Best Buy หน้าจอ Surface Duo อยู่ที่ด้านละ 5.6 นิ้ว, หน้าจอ OLED (1800 x 1350), น้ำหนัก 250 กรัม, กระจก Corning Gorilla Glass, ชิป Qualcomm Snapdragon 855, 6GB RAM, เติมความจำได้ถึง 256GB, รันระบบ Android 10, กล้อง 11MP, แบตเตอรี่ 3,577mAh, รองรับ Nano SIM + eSIM, รองรับการสแกนนิ้ว, ชาร์จเร็ว 18W Surface Duo เปิดตัวตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2019 ด้าน Surface Neo แท็บเล็ตสองจอพับได้ที่เปิดตัวมาพร้อมกันยังคงเลื่อนขายออกไปก่อน ที่มา - The Verge, ข้อมูลสเปกจาก Windows Central
# รู้จัก Helen Chiang หัวหน้าทีม Minecraft หญิงเอเชียคนแรกในตำแหน่งหัวหน้าบริษัทเกม ในปี 2018 ไมโครซอฟท์เปลี่ยนตัวหัวหน้าทีม Minecraft ใหม่ ดัน Helen Chiang ขึ้นมาแทน Matt Booty หัวหน้าทีมคนเดิมที่ได้โปรโมทไปคุม Microsoft Studios โดย Chiang ถือเป็นผู้หญิงเอเชียคนแรกในอุตสาหกรรมเกมที่ก้าวขึ้นมาถึงระดับผู้นำบริษัทได้ อุตสาหกรรมเกมยังเป็นวงการที่มีผู้หญิงน้อย บริษัทเกมมีผู้นำส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แถมยังมีประเด็นการคุกคามเพศ-ความไม่เท่าเทียมทางเพศสูงมากด้วย การขึ้นมาถึงระดับนี้ได้ของ Helen จึงไม่ธรรมดา บทความนี้จะพาไปรู้จัก Helen ให้มากขึ้น ตั้งแต่บทบาทในไมโครซอฟท์ (Xbox), มุมมองต่อความหลากหลายในองค์กร และวิสัยทัศน์เรื่องเกมในอนาคต ภาพจาก Getty Images Helen คลุกคลีในวงการเกมมายาวนาน Helen Chiang สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสองสาขา คือ วิศวกรรมชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จาก Johns Hopkins University และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจาก Wharton School ของ University of Pennsylvania Helen ทำงานที่ไมโครซอฟท์มายาวนานตั้งแต่ปี 2005 เริ่มต้นด้วยการเป็นนักศึกษาฝึกงาน และเข้ามาทำงานฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ Xbox ตั้งแต่ปี 2009 โดยใช้เวลาอยู่กับทีม Xbox นานถึง 9 ปี บทบาทของ Helen ในทีม Xbox ช่วงแรกคืองานด้านออนไลน์ ได้แก่ พัฒนาประสบการณ์ลูกค้า Xbox LIVE บริการออนไลน์สำหรับการเล่นมัลติเพลเยอร์, ดันยอดขายดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม Xbox ฯลฯ ต่อมาในปี 2011 เธอขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าสำนักงาน (Chief of Staff) ของ Microsoft Studios ซึ่งเป็นสตูดิโอผลิตเกมสำคัญๆ ของไมโครซอฟท์อย่าง Halo, Gears of War, Kinect Sports, Fable, Age of Empires และ Forza Motorsport หัวหน้าทีม Minecraft ต้องทำอะไรบ้าง หลังไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ Mojang ในปี 2014 เธอได้รับมอบหมายให้ดูแลกลยุทธ์ธุรกิจขอ Minecraft ในตำแหน่ง Senior Director ก่อนขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าทีม Minecraft อย่างเป็นทางการในปี 2018 หน้าที่หลักของ Helen ใน Minecraft คือขับเคลื่อนการเติบโตของ Minecraft ในแง่ฟีเจอร์ใหม่ๆ และการใช้งาน เน้นขยายให้เกมเข้าถึงผู้เล่นได้ในอุปกรณ์ที่หลากหลาย Helen บอกว่าตั้งแต่มารับหน้าที่หัวหน้าทีม Minecraft เธอใช้เวลาไปกับการคิดหาวิธีว่าจะนำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ มาพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ ให้ครีเอเตอร์สร้างสรรค์งานผ่าน Minecraft ได้อย่างไร เธอยังต้องทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์และคนเล่นเกมโดยตรง และรับผิดชอบเกมใหม่ๆ อย่าง Minecraft Earth ที่ผสาน AR กับรูปแบบดั้งเดิมของ Minecraft ไว้ด้วยกัน บทสัมภาษณ์ของ Helen ในเว็บไซต์ Popsugar ตอนต้นปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงที่เธอรับตำแหน่งใหม่ๆ บอกว่า เป้าหมายหลักไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง Minecraft แต่เน้นขยายศักยภาพของเกมให้เข้าถึงผู้เล่นมากขึ้นมากกว่า อย่างแรกคือการขยายฐานผู้เล่น Minecraft เวอร์ชั่น Bedrock ด้วยการออกเวอร์ชัน Nintendo Switch, ออกอัพเดตเสริม Aquatic การสำรวจโลกใต้ทะเล และการพัฒนาเอนจินกราฟิกใหม่ เธอยังพยายามเชื่อมผู้เล่น Minecraft ทั้งหมดบนอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ในชุมชนเดียวกันเพื่อให้สามารถเล่นเกมด้วยกันได้ (cross play), การเปิด Marketplace ให้ผู้เล่นซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งที่สร้างขึ้น และยังมีแผนขยายจำนวนผู้เล่นเกมให้มากที่สุด นับถึงวันนี้ Minecraft มีอายุ 11 ปี ถือเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันมียอดขายแตะ 200 ล้านชุด และตัวเลขผู้เล่นจริงต่อเดือน 126 ล้านคนแล้ว มุมมองต่อความหลากหลายในองค์กร Helen บอกว่าทีมงาน Minecraft มีสัดส่วนผู้หญิงและผู้ชายในระดับเท่าๆ กัน ถือว่ามีความสมดุลทางเพศมากกว่าบริษัทเกมอื่นที่มักมีแต่ผู้ชาย นั่นเป็นเพราะบริษัทให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทางเพศ Helen ยกตัวอย่างตอนที่ออกเลโก้ลาย Minecraft มีข้อสงสัยเกิดขึ้นว่าเลโก้ของ Minecraft เหมาะกับเด็กผู้ชายมากกว่าหรือไม่ ควรจะอยู่ในแผนกของเล่นเด็กผู้ชายรึเปล่า เรื่องนี้ Helen ยืนยันกับพาร์ทเนอร์ร้านขายของเล่นว่าเลโก้ของ Minecraft เหมาะกับคนทุกเพศจริงๆ และเลโก้ควรจะมีแค่เลโก้ ไม่ถูกแบ่งแยกเป็นเลโก้สำหรับผู้หญิง หรือเลโก้สำหรับเด็กผู้ชาย Minecraft เองก็ใช้แนวคิดนี้ในการบริหารงานเช่นกัน นอกจากการเป็นหนึ่งในผู้บริหารหญิงไม่กี่รายในอุตสาหกรรมเกม เธอยังเป็นแม่คนด้วย ซึ่งเธอพบว่าการมีลูกคือหนึ่งในปัจจัยที่ผู้หญิงจำนวนมากไม่สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ ด้วยภาระทั้งการต้องเลี้ยงลูกหรือเป็นแม่บ้าน จากประสบการณ์ของเธอเอง เคยได้พบผู้หญิงที่มีความสามารถที่อยากกลับเข้าไปทำงานอีกครั้งหลังลูกโตแล้ว ตัวเธอเองก็เคยลางานเลี้ยงดูบุตร และเข้าใจเรื่องนี้ดี กลยุทธ์หนึ่งที่เธอใช้ในการรับสมัครพนักงานเข้าร่วมทีมคือ พยายามส่งเสริมฝ่ายสรรหาบุคลากรให้โทรไปคุยกับคนสมัครงานบ้าง อย่าพึ่งพาแต่การอ่านเอกสารสมัครงานอย่างเดียว เพราะในประวัติของผู้สมัครผู้หญิงบางรายมีช่วงที่ไม่ได้ทำงานนานๆ ซึ่งเป็นเพราะหยุดไปเลี้ยงลูก ทำให้ใบสมัครนั้นอาจถูกปัดตกได้ง่าย องค์กรอาจเสียโอกาสในการได้บุคคลเก่งๆ เข้ามาร่วมงาน วิสัยทัศน์ที่มีต่อการพัฒนาเกม Helen เคยเขียนบทความเกี่ยวกับอนาคตของเกมลงในเว็บไซต์ Quartz บอกว่าโลกของเกมในตอนนี้คือเรื่องของการเล่นข้ามแพลตฟอร์ม (cross play) ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เกมวิวัฒนาการจากความบันเทิงส่วนตัว มาเป็นการเล่นด้วยกันหลายๆ คน จากเดิม ผู้เล่นเคยมีปฏิสัมพันธ์กับระบบอัตโนมัติเพียงอย่างเดียว เกมก็ได้วิวัฒนาการมาเป็นการเล่นด้วยกันคนจริงๆ ผ่านคอนโซลรุ่นแรกๆ อย่าง Sega SG-1000, Atari 7800 ที่ผู้เล่นสามารถชวนเพื่อนมาเล่นด้วยกันที่บ้านได้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเกมได้พัฒนาวิธีการเพื่อยกระดับประสบการณ์ทางสังคมอย่างต่อเนื่อง เราสามารถเล่นเกมกับใครก็ได้ผ่านอินเทอร์เน็ต และวิวัฒนาการล่าสุดของเกมในตอนนี้ คือการเล่นเกมเดียวกันด้วยกันข้ามแพลตฟอร์ม ผู้เล่นคาดหวังว่าจะเล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลา เล่นบนอุปกรณ์ที่พวกเขาเลือก ไม่สำคัญว่ากำลังนั่งอยู่บนรถบัสและเล่นเกมบน Nintendo Switch หรือนอนอยู่บนโซฟาที่บ้านและเล่นบน Xbox ดังนั้น การที่เกมสามารถเล่นได้ทุกแพลตฟอร์มจะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ มาตรฐานใหม่นี้จะช่วยลดกำแพงของการพัฒนาเกม จะเกิดความร่วมมืออย่างเปิดเผยภายในชุมชนคนพัฒนาเกม ลดอุปสรรคในการปรับปรุงเกมข้ามแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยเร่งศักยภาพของนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเกมในอนาคต ที่มา - Quartz 1, 2, Popsugar, Magzter
# [ไม่ยืนยัน] Airbnb เตรียมยื่นไฟลิ่งในเดือนนี้ เพื่อเตรียมนำบริษัทไอพีโอเข้าตลาดหุ้น The Wall Street Journal รายงานว่า Airbnb เตรียมยื่นเอกสารไฟลิ่งแบบ confidential สำหรับไอพีโอนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น ภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยบริษัทมีแผนจะเข้าตลาดหุ้นภายในปีนี้ ก่อนหน้านี้ Airbnb เคยประกาศแผนว่าจะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นภายในปี 2020 แต่จากสถานการณ์ของโควิด-19 ที่กระทบจำนวนการจองห้องพัก และภาพรวมของการท่องเที่ยว ทำให้บริษัทอาจเลื่อนแผนนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น แต่ในเดือนที่ผ่านมาซีอีโอ Airbnb ก็ยืนยันว่าบริษัทจะเดินหน้าตามแผน ตัวแทนของ Airbnb ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว ที่มา: Reuters
# Facebook ถอดแอปเวอร์ชัน Lite บน iOS ออก เหตุไม่ค่อยมีคนใช้งาน มีรายงานว่า Facebook Lite แอป Facebook ที่ออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก ใช้งานข้อมูลอินเทอร์เน็ตต่ำ เวอร์ชันบน iOS ได้ถูกถอดออกจาก App Store ไปแล้ว ส่วนผู้ที่ยังใช้งานอยู่ ก็จะได้รับข้อความเตือน ให้ไปใช้แอปเวอร์ชันปกติแทน แอป Facebook Lite บน iOS เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 โดยเริ่มจากผู้ใช้งานในตุรกี ก่อนจะขยายให้ดาวน์โหลดในอีกหลายประเทศรวมทั้งไทย ตัวแทนของ Facebook ยืนยันการปิดการใช้งานนี้โดยบอกว่า เนื่องจากมีผู้ใช้งาน Facebook Lite จำนวนไม่มาก ทำให้ตัดสินใจยุติสนับสนุนแอปดังกล่าว ทั้งนี้ Facebook Messenger Lite ยังมีให้ใช้งานอยู่ต่อไป รวมทั้ง Facebook Lite สำหรับ Android ที่มา: MacRumors
# กูเกิลสร้างเครือข่ายเตือนภัยแผ่นดินไหว ใช้อุปกรณ์ Android ทั่วโลกช่วยวัดการสั่น กูเกิลพัฒนาฟีเจอร์ให้อุปกรณ์ Android ทั่วโลกสามารถกลายเป็นเครื่องวัดการสั่นไหว (seismometer) โดยใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์วัดความเร่ง (accelerometer) ที่มีอยู่แล้ว หากพบสัญญาณที่มีแพทเทิร์นเหมือนกับแผ่นดินไหว ให้แจ้งเตือนตำแหน่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิล เพื่อแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่านระบบ Android Earthquake Alerts System ได้ทันท่วงที กูเกิลบอกว่าข้อมูลจากโทรศัพท์จะวิ่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ด้วยความเร็วแสง แข่งกับความเร็วของแผ่นดินไหวที่ช้ากว่ามาก ทำให้การแจ้งเตือนผู้คนในบริเวณห่างไกลออกไปสามารถเกิดก่อนแผ่นดินไหว และช่วยให้รับมือกับความเสียหายได้ ส่วนในพื้นที่บางแห่งที่มีระบบเซ็นเซอร์แผ่นดินไหวจริงๆ ติดตั้งอยู่แล้ว (เช่น แคลิฟอร์เนีย) กูเกิลก็นำข้อมูลจากเซ็นเซอร์เหล่านี้ไปแจ้งเตือนผู้ใช้ Android ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างหน้าจอแจ้งเตือนแผ่นดินไหว พร้อมคำแนะนำว่าควรทำอย่างไร ที่มา - Google
# WordPress 5.5 รองรับ Lazy Loading, XML Sitemap ในตัว, เลือกปลั๊กอินที่อัพเดตอัตโนมัติได้ WordPress ออกเวอร์ชัน 5.5 โค้ดเนม "Eckstine" มีของใหม่ดังนี้ โหลดรูปภาพแบบ lazy loading เฉพาะเท่าที่ต้องแสดงผลบนหน้าจอตอนนั้น ช่วยให้โหลดทั้งหน้าเว็บเร็วขึ้น และประหยัดปริมาณข้อมูล รองรับ XML Sitemap โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอินช่วย เลือกได้เองว่าต้องการให้ปลั๊กอินหรือธีมตัวไหน อัพเดตเองอัตโนมัติ ตัวไหนไม่ต้องอัพเดต สามารถอัพเดตปลั๊กอินหรือธีม ด้วยการอัพโหลดไฟล์ Zip ได้แล้ว (ก่อนหน้านี้ทำได้เฉพาะตอนติดตั้งครั้งแรก) Block Editor เพิ่มฟีเจอร์ pattern ซึ่งเทียบได้กับชุดของบล็อคหลายๆ ตัวที่สร้างมาให้พร้อมแล้ว ที่มา - WordPress
# Mozilla ปรับโครงสร้าง ปลดพนักงาน 250 คน, ปรับโฟกัส Firefox, เน้นสร้างรายได้มากขึ้น Mozilla Corporation องค์กรผู้รับผิดชอบการพัฒนา Firefox ประกาศปรับโครงสร้าง ปลดพนักงานออก 250 คน (ประมาณ 25% ของพนักงานทั้งหมด) ปิดสำนักงานในไต้หวัน และเปลี่ยนยุทธศาสตร์ขององค์กรใหม่ Mozilla บอกว่าได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนของปี 2020 ใหม่ทั้งหมด Firefox หันมาเน้นเรื่องการใช้งานหลักในฐานะเบราว์เซอร์ ลดโฟกัสเรื่องอื่นๆ เช่น ฟีเจอร์ของตัวแพลตฟอร์ม หรือ developer tools รวมถึงย้ายฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย-ความเป็นส่วนตัวไปอยู่ในผลิตภัณฑ์ใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างทีมใหม่เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นอกเหนือจาก Firefox เพื่อหารายได้ช่องทางใหม่ๆ เช่น Pocket, Hubs (VR), VPN, Web Assembly และผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย-ความเป็นส่วนตัว ปรับวิธีการทำงานกับชุมชนใหม่ เน้นทำงานกับองค์กรพันธมิตรมากขึ้น ปรับวิธีคิดเรื่อง "ทุกอย่างต้องฟรี" มาเป็นการสร้างโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน แต่ยังโปร่งใสและปกป้องผู้คนไปพร้อมกัน ที่มา - Mozilla, Mozilla (PDF) ภาพจาก Mozilla
# Halo Infinite เลื่อนเป็นปี 2021 แต่ Xbox Series X ยังขายตามกำหนด พ.ย. 2020 343 Industries ประกาศเลื่อนวันวางขายเกม Halo Infinite ที่เดิมทีมีกำหนดออกพร้อมเครื่อง Xbox Series X ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ไปเป็นปี 2021 โดยไม่ระบุช่วงเดือน เหตุผลที่ Halo Infinite ต้องเลื่อนคือขอเวลาเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงตัวเกม ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องกราฟิกของเกม ไมโครซอฟท์ยืนยันว่า Xbox Series X ยังวางขายตามกำหนดในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยยังมี "เกมใหม่" รอให้เล่นมากกว่า 50 เกมภายในปีนี้ และเกมเก่าที่ปรับปรุงให้รองรับ Xbox Series X อีกประมาณ 40 เกม อย่างไรก็ตาม การเลื่อน Halo Infinite ทำให้ไมโครซอฟท์ไม่มีเกมใหม่ของตัวเองวางขายพร้อมคอนโซลเลย ต้องพึ่งพาเกมเก่าที่เคยออกมาก่อนแล้ว (เช่น Gears 5 หรือ Forza Horizon 4) หรือเกมใหม่จากสตูดิโออื่น (เช่น Assassin's Creed Valhalla) ไปพลางๆ ก่อน ที่มา - Halo, Xbox
# Tesla ประกาศแตกพาร์หุ้นอัตราส่วน 5:1, ราคาหุ้นพุ่งทันที 8% Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศแตกพาร์หุ้นบริษัทโดยใช้อัตราส่วน 5:1 หลังจากที่ราคาหุ้น Tesla พุ่งขึ้นมาสูงมากในช่วงปีที่ผ่านมา เมื่อปีที่แล้ว หุ้น Tesla ยังขายอยู่ในตลาดที่ราคา 211 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่วันนี้หุ้นของ Tesla มีราคาต่อหุ้นอยู่ที่ 1,485 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าของบริษัทที่ราว 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ตอนนี้ Tesla ติดอันดับบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก การแตกพาร์หุ้น จะทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นที่ราคาต่อหุ้นลดลง โดยหุ้น Tesla จะมีราคาที่ราว 297 ดอลลาร์ต่อหุ้นหลังแตกพาร์ (สมมติว่าราคายังไม่ขึ้นลง) พร้อมจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นกลายเป็น 5 เท่าของหุ้นเดิม ซึ่งผู้ถือหุ้นเดิมจะยังคงถือหุ้นที่มูลค่าเท่าเดิม แต่สภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นจะเพิ่มขึ้น และด้วยราคาต่อหุ้นที่ถูกลงทำให้ผู้ถือหุ้นรายใหม่หรือพนักงานของ Tesla เองสามารถเข้ามาลงทุนได้ง่ายขึ้น หลังประกาศข่าวการแตกพาร์ หุ้น Tesla ในช่วง after-hours trading ก็พุ่งขึ้นทันที 8% ที่มา - TechCrunch ภาพประกอบข่าวจากเว็บไซต์ Tesla
# Scribd เข้าซื้อกิจการ SlideShare จาก LinkedIn Scribd แพลตฟอร์มสำหรับอ่าน PDF และอีบุ๊คออนไลน์ ประกาศเข้าซื้อกิจการ SlideShare ซึ่งปัจจุบันมี LinkedIn เป็นเจ้าของ ด้วยมูลค่าที่ไม่เปิดเผย โดย SlideShare จะอยู่ภายใต้ Scribd มีผลตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน เป็นต้นไป LinkedIn ซื้อกิจการ SlideShare ไปเมื่อปี 2012 และต่อมา LinkedIn ก็ถูกไมโครซอฟท์ซื้อกิจการไปในปี 2016 Trip Adler ซีอีโอ Scribd ให้ความเห็นว่าแม้สองบริษัทนี้จะมีผลิตภัณฑ์คล้ายกัน คือเป็นแพลตฟอร์มอ่านและแชร์เอกสาร แต่ในรายละเอียดก็แตกต่างกัน โดย Scribd เน้นที่ PDF, Word และบทความขนาดยาว (long-form) ขณะที่ SlideShare จะโฟกัสกับ PowerPoint และผู้ใช้งานธุรกิจมากกว่า ที่มา: TechCrunch และ Scribd
# เปิดตัว Xiaomi Mi 10 Ultra กล้องหลังซูม 120 เท่า ชาร์จ 120W ราคาเริ่ม 24,000 บาท Xiaomi ฉลองครบรอบ 10 ปีของบริษัทด้วยการเปิดตัวเรือธงตัวใหม่ในไลน์ Mi 10 ด้วยรุ่น Mi 10 Ultra ด้วยจุดเด่นอย่างกล้องหลัง 4 เลนส์ หนึ่งในนั้นเป็นเลนส์ Periscope เซ็นเซอร์ ใช้เซ็นเซอร์ IMX586 แบบ Quad-Bayer (1 พิกเซลมี 4 พิกเซลย่อย) สามารถซูมได้สูงสุด 120 เท่าที่ Xiaomi เรียกว่า AI super zoom (ทั้งออพติคัล + ดิจิทัล + AI) พร้อม OIS+EIS ส่วนกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มี OIS+EIS พร้อมเทคโนโลยี Dual Native ISO ที่ทำให้รับค่า ISO ได้พร้อมกันทั้งต่ำและสูง ช่วยลด noise เวลาถ่ายในที่แสงน้อย, เลนส์อัลตร้าไวด์ 128 องศา ขนาด 20 ล้านพิกเซลและเลนส์ portrait 12 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 8K ได้คะแนน DxOMark อันดับ 1 ที่ 130 คะแนน หน้าจอ Mi 10 Ultra ขนาด 6.67 นิ้ว OLED ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz ขอบโค้ง ชิปเซ็ต Snapdragon 865 แรม LPDDR5 8GB/12GB/16GB สตอเรจ UFS 3.1 ขนาด 128GB/512GB ลำโพงคู่ สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ แบตเตอรี่ดูอัลเซลล์ขนาด 4,500mAH รองรับการชาร์จไวสูงสุด 120W (ที่ลือก่อนหน้าแค่ 100W) ส่วนชาร์จไร้สายรองรับ 50W Mi 10 Ultra มี 3 สีคือ Obsidian Black, Mercury Silver, Transparent Edition ส่วนราคาแบ่งตาดรุ่นดังนี้ 8GB+128GB ราคา 5,299 หยวนหรือราว 24,000 บาท 8GB+256GB ราคา 5,599 หยวนหรือราว 25,000 บาท 12GB+256GB ราคา 5,999 หยวนหรือราว 27,000 บาท 16GB+512GB ราคา 6,999 หยวนหรือราว 32,000 บาท ที่มา - Xiaomi Blog
# รัสเซียอนุมัติวัคซีน COVID-19 เป็นประเทศแรก ตั้งชื่อว่า Sputnik V ตามชื่อดาวเทียม Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศว่ารัสเซียเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติการใช้วัคซีนรักษา COVID-19 แล้ว วัคซีนตัวนี้ถูกตั้งชื่อว่า Sputnik V ตามชื่อดาวเทียมในยุคสงครามเย็น ด้วยเหตุผลว่าการคิดค้นวัคซีนนี้สำเร็จ ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่าการยิงดาวเทียม Sputnik ได้เป็นประเทศแรกในประวัติศาสตร์ Putin ยืนยันว่าวัคซีนนี้ใช้งานได้จริง ปลอดภัย สร้างภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืน วัคซีนพัฒนาโดยสถาบันวิจัย Gamaleya ในมอสโก ร่วมกับกระทรวงกลาโหมของรัสเซียและหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ เขายังบอกว่าให้วัคซีนนี้กับลูกสาวคนหนึ่งของเขาแล้วด้วย โดยร่างกายมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงแรกที่รับวัคซีน ตัวแทนของทางการรัสเซียบอกว่าจะเริ่มผลิตวัคซีนล็อตใหญ่ในเดือนกันยายน และตอนนี้มี 20 ประเทศเตรียมสั่งซื้อแล้ว อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ในโลกตะวันตกก็ตั้งข้อสงสัยกับวัคซีนตัวนี้ เพราะไม่ได้ผ่านการทดสอบเฟส 3 ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญของการทดสอบวัคซีนว่าไม่มีผลข้างเคียง ที่มา - Russia News Agency, South China Morning Post, Business Insider
# หัวหน้าทีม Android โชว์ภาพใช้งาน Surface Duo อุปกรณ์สองจอของไมโครซอฟท์ Hiroshi Lockheimer หัวหน้าทีมวิศวกรรม Android โพสต์ภาพ Surface Duo ของไมโครซอฟท์ ที่คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ (ไม่เลื่อนเหมือน Surface Neo) ในภาพที่เขาโพสต์ ไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ของ Surface Duo แต่แสดงให้เห็นการใช้งานแอพ 2 ตัวใน 2 หน้าจออย่างชัดเจน การโพสต์ภาพ Surface Duo ของ Hiroshi แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นของไมโครซอฟท์-กูเกิล ที่ประกาศชัดตั้งแต่ตอนเปิดตัว Surface Duo ว่าทั้งสองบริษัททำงานร่วมกัน ที่มา - MSPoweruser
# เผยเทรลเลอร์แรกของ Earthworm Jim 4 บนคอนโซลใหม่ Intellivision Amico วัยรุ่นยุค 90s น่าจะเคยผ่านตาหรือเคยเล่นเกมหนอนอวกาศจอมยิง Earthworm Jim ที่โด่งดังในยุคนั้น เกมออกมา 3 ภาคหลักในช่วงปี 1994-1999 แล้วเงียบหายไป แม้มีความพยายามทำภาคต่อในปี 2008 แต่ก็เงียบหายไปเช่นกัน เมื่อปี 2018 หนึ่งในทีมงาน Earthworm Jim ภาคแรกๆ คือ Tommy Tallarico ผู้แต่งเพลงประกอบเกม ประกาศซื้อแบรนด์ Intellivision เครื่องเล่นเกมยุค 80s มาทำคอนโซลใหม่ชื่อ Intellivision Amico (ไส้ในเป็น Android) และมีเกมเปิดตัวคือ Earthworm Jim 4 โดยดึงทีมงานยุคเก่าๆ มาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้า ล่าสุดทีมงาน Intellivision Entertainment เปิดตัวเทรลเลอร์แรกของ Earthworm Jim 4 (ที่ยังแทบไม่มีอะไรเลย) มาให้ดูกันแล้ว เกมจะออกพร้อมเครื่อง Amico ซึ่งล่าสุดเลื่อนกำหนดจากเดือนตุลาคม 2020 ไปเป็นเดือนเมษายน 2021 แล้ว (และก็ไม่รู้ว่าจะสามารถออกมาขายได้สำเร็จจริงหรือไม่) ที่มา - Kotaku หน้าตาของเครื่อง Amico
# Xiaomi Mi 10 Ultra ได้อันดับ 1 DxOMark หมวดกล้องมือถือที่ 130 คะแนน DxOMark ประกาศผลคะแนนอันดับ 1 ของหมวดกล้องสมาร์ทโฟนรายใหม่ที่ 130 คะแนนจากกล้องของ Xiaomi Mi 10 Ultra ที่น่าจะเป็นรุ่นท็อบรุ่นใหม่แตกออกมาจากไลน์ Mi 10 และ Mi 10 Pro ที่ยังไม่เปิดตัว กล้องหลัง Mi 10 Ultra มี 4 กล้อง กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์แบบ Quad-Bayer (1 พิกเซลมี 4 พิกเซลย่อย), เลนส์เทเลตัวแรก 12 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 50มม. (ซูมออพติคัล 2x)., เลนส์เทเลตัวที่ 2 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Quad-Bayer ระยะโฟกัส 120มม. (ซูมออพติคัล 5x) มี PDAF, OIS และเลนส์อัลตร้าไวด์ 20 ล้านพิกเซล ภาพนิ่งได้ไป 142 คะแนน DxOMark บอกว่าแทบไม่เจอจุดอ่อนอย่างจริง ๆ จัง ๆ (doesn’t show any real weaknesses) และผลที่ออกมาคือระดับท็อปในทุกประเภทการทดสอบ แม้แต่ภาพมุมกว้างและภาพซูมก็น่าประทับใจ ส่วนวิดีโอ 106 คะแนน คุณภาพยอดเยี่ยม ระบบกันสั่นพร้อมกับการถ่าย 4K60fps ทำให้ภาพเคลื่อนไหวและการแพนกล้องออกมาสมูธ เหมาะสำหรับสายคอนเทนท์วิดีโอ ที่มา - DxOMark
# กูเกิลอัพเดต Jib ระบบสร้างคอนเทนเนอร์สำหรับแอปจาวา สร้างปลั๊กอินรองรับเฟรมเวร์คใหม่ได้ รองรับ Spring Boot, Quarkus, GraalVM กูเกิลอัพเดต Jib ซอฟต์แวร์ build คอนเทนเนอร์อิมเมจสำหรับแอปจาวาโดยไม่ต้องใช้ Docker ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2018 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เป็นเฟรมเวิร์คพัฒนาส่วนขยาย เปิดทางให้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ โดยกูเกิลเองก็พัฒนาส่วนขยายของตัวเอง คือการรองรับเฟรมเวิร์ค Spring Boot, Quarkus และรองรับ GraalVM จุดแข็งของ Jib คือการ build คอนเทนเนอร์อิมเมจ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดอิมเมจเริ่มต้น เช่น openjdk:11-jre-slim ซึ่งหลายครั้งมีขนาดใหญ่ และระบบ build อัตโนมัติก็มักไม่ได้แคชอิมเมจเอาไว้ทำให้การ build โดยไม่ต้องดาวน์โหลดใช้เวลาสั้นกว่ามาก Jib นับเป็นหนึ่งในโครงการยอดนิยมของกูเกิล (ดาวบน GitHub 9,300 ดาว) โดยระบบ build คอนเทนเนอร์อิมเมจโดยไม่ต้องใช้ Docker ของกูเกิลยังมีอีกตัวคือ kaniko ที่ใช้ build จาก Dockerfile เน้นการใช้งานจากภายใน Kubernetes ที่มา - Google
# VentureBeat ชี้ Xbox Series S จะเป็นไม้เด็ดของ Microsoft ในสงครามคอนโซลเจ็นนี้ แม้จะมีหลายปัจจัยที่ทำให้ PS4 ชนะ Xbox One ไปในสงครามคอนโซลครั้งที่ผ่านมา แต่หนึ่งในปัจจัยสำคัญน่าจะเป็นราคาของเครื่องในช่วงเปิดตัว ที่ PS4 ถูกกว่าถึงเกือบ 100 เหรียญสหรัฐ สาเหตุมาจากที่ Microsoft พยายามมัด Kinect ขายรวมมาในกล่อง ทำให้ Xbox One มีราคาแพง และทำยอดขายได้ไม่ดีเท่าที่ควร แม้จะปรับลดราคากลับมาตามได้ในช่วงหลัง ก็เหมือนจะไม่ทันซะแล้ว เพราะ PS4 ได้ทั้งฐานผู้เล่น และกลายเป็นเครื่องเกมขายดี ที่ผู้สร้างเกมต้องการทำเกมลงมากกว่า ส่วนในสงครามคอนโซลครั้งนี้ Sony ก็กำลังทุ่มทำเครื่อง PS5 ที่เล่นได้ตั้งแต่ความละเอียด 4K พร้อมรองรับ 8K ในอนาคต และมีฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูงอยู่ แต่ก็มาพร้อมข่าวลือว่าน่าจะมีราคาแพง แม้จะมีรุ่นที่ตัดช่องอ่านแผ่นบลูเรย์ออกไปแล้ว กลับกันมีข่าวหลุดมาว่าฝั่ง Microsoft จะเปิดตัวคอนโซลยุคใหม่รุ่นเล็กในชื่อ Xbox Series S ซึ่งจะเน้นการเล่นเกมเน็กซ์เจ็นบนความละเอียด 1080p เป็นอีกรุ่นในโปรเจกต์ Scarlett หรือคอนโซลเจ็นใหม่นี้ คู่ไปกับ Xbox Series X เพื่อเป็นทางเลือกราคาประหยัด และข่าวนี้ก็เพิ่งได้รับการยืนยันในวันนี้ จากภาพหลุดและคู่มือในกล่องจอย Xbox รุ่นใหม่ ล่าสุดเว็บไซต์ VentureBeat ออกมาวิเคราะห์ว่า Xbox Series S น่าจะเป็นหมัดเด็ดของ Microsoft สำหรับคอนโซลเจนใหม่ ที่อาจจะขายดีกว่า Xbox Series X ด้วยปัจจัยต่อไปนี้ ความละเอียด 1080p ยังเพียงพอต่อการเล่นบนทีวี ที่ยังไงก็ต้องนั่งห่างจากหน้าจอพอสมควร ส่วนความละเอียด 4K จะเห็นผลเมื่อใช้ทีวีหน้าจอใหญ่กว่า 55 นิ้วขึ้นไป และนั่งค่อนข้างใกล้กับทีวีเท่านั้น เทคโนโลยี Machine learning อาจเป็นอนาคตของการยกระดับกราฟฟิก เช่นเทคโนโลยี DLSS (deep-Learning supersampling) ของ Nvidia ที่ช่วยให้ภาพ 1080p มีรอยหยักน้อยลง จนเกือบเทียบได้กับภาพ 4K และ Microsoft เอง ก็อาจใช้เทคโนโลยีคล้ายกัน ช่วยอัพเกรดภาพ 1080p ของ Xbox Series S ได้ โดยไม่ต้องใช้กำลังเครื่องไปเรนเดอร์ภาพแบบ native 4K ยุคนี้ราคาและความคุ้มค่าสำคัญที่สุด การมีตัวเลือกให้ผู้เล่นที่ต้องการประสบการณ์แบบเน็กซ์เจ็น แต่มีงบประมาณจำกัด น่าจะเป็นสิ่งดี จากสาเหตุเหล่านี้ ทำให้ Xbox Series S กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจของเกมเมอร์ที่ต้องการประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังต้องการเล่นเกมใหม่ๆ อยู่ รวมถึงเป็นการตัดราคา PS5 ที่น่าจะยังมีราคาแพงกว่าแม้จะมีรุ่นดิจิทัลอยู่ ซึ่งก็อาจจะเวิร์คได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะต้องการภาพระดับ 4K ขนาดนั้น ดังที่ได้เห็นตัวอย่างมาแล้วจากยอดขายของเครื่องเกมอย่าง Nintendo Switch ในช่วงโควิดระบาด ที่มา - VentureBeat
# Bill Gates ประเมิน โลกจะจัดการ COVID-19 ได้ภายในปี 2022, วัคซีนใกล้มาแต่ช่วงแรกมีน้อย-แพง ในบทสัมภาษณ์ของ Bill Gates กับนิตยสาร Wired มีประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 หลายอย่าง สิ่งที่น่าสนใจคือคำพยากรณ์ของเขาว่า โลกจะสามารถจัดการกับปัญหา COVID-19 ภายในปี 2022 และถ้าเป็นประเทศที่ร่ำรวย ก็จะแก้ปัญหาได้ภายในปี 2021 เหตุผลของ Gates คือเขาเห็นอัตราการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นด้านการตรวจคนเป็นจำนวนมากๆ (diagnosis) การรักษา (therapeutics) หรือการคิดค้นวัคซีน ที่น่าประทับใจมาก อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจะรุนแรงยาวนานกว่านั้น และต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาสู่ระดับช่วงต้นปี 2020 Gates ยังพูดถึงการพัฒนาวัคซีนแบบ RNA ของบริษัทยาต่างๆ ที่จากข้อมูลการทดสอบระยะที่ 1 พบว่ามีศักยภาพสูงในการป้องกันไวรัส แต่เขาก็เตือนว่าช่วงแรกจะเจอปัญหาเรื่องกำลังการผลิตวัคซีนและราคา ที่ยังไม่สามารถสเกลให้ครอบคลุมคนทั้งโลกได้ง่ายนัก เขาบอกว่าเราต้องรอผลการทดสอบวัคซีนเฟส 3 อีกราว 3-4 เดือนเพื่อดูว่าวัคซีนมีผลข้างเคียงหรือไม่ ซึ่งเขาชื่นชม FDA (อย. ของสหรัฐ) ที่ยืนยันว่าต้องรอผลทดสอบเฟส 3 เท่านั้นจึงสามารถอนุมัติการใช้วัคซีนได้ แม้เจอแรงกดดันทางการเมืองให้รีบอนุมัติก็ตาม เขายังมองว่าจะมีบางประเทศที่อาจลัดขั้นตอนเหล่านี้ และเริ่มใช้วัคซีนกับผู้ป่วยเลย ในประเด็นเรื่องการรักษา Gates ตอบคำถามว่าหากเขาป่วย COVID-19 เขาจะขอยาตัวไหน คำตอบคือ Remdesivir ที่มีผลทดสอบแล้วว่าใช้งานได้ดี และ dexamethasone สำหรับผู้ป่วยระยะหลังๆ ที่เป็นยาราคาค่อนข้างถูกด้วย ที่มา - Wired ภาพจาก @BillGates
# Mediatek ร่วมมือกับ Intel เปิดตัว T700 ชิปโมเด็ม 5G สำหรับโน้ตบุ๊ก เริ่มวางจำหน่ายปี 2021 Mediatek เปิดตัวชิปโมเด็ม 5G รุ่น MediaTek T700 ที่เซ็นสัญญาสร้างกับ Intel เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ชิปจะรองรับทั้ง 4G LTE และ 5G แบบ dual-mode (stand alone, non-standalone) ในย่านความถี่ต่ำกว่า 6GHz และใช้ซ็อคเก็ต M.2 ในโน้ตบุ๊ก Mediatek กล่าวว่า T700 ได้อานิสงค์จากประสบการณ์การผลิตโมเด็ม 5G บนมือถือในชิป Dimensity 5G ของบริษัท และพร้อมส่งชิปรุ่นนี้ให้ OEM นำไปปรับใช้งานบนโน้ตบุ๊กที่ใช้แพลตฟอร์มของ Intel เพื่อเชื่อมต่อ 5G แบบ “always connected” แล้ว โน้ตบุ๊กรุ่นแรกที่ใช้งานชิปโมเด็มนี้ จะวางจำหน่ายภายในครึ่งปีแรกของปี 2021 โดยเว็บไซต์ Notebookcheck คาดการณ์เพิ่มเติมว่าอาจเป็นโน้ตบุ๊กจาก Dell และ HP Joe Chen ประธานบริษัท Mediatek ภาพจาก Mediatek ที่มา Mediatek via Notebookcheck
# Netflix ร่วมมือ Hans Zimmer ทำซาวด์ช่วงโลโก้ Netflix ตอนต้นใหม่สำหรับหนังฉายโรง เวลาชมภาพยนตร์ในโรง เราน่าจะคุ้นเคยเสียงเปิดของค่ายหนังอย่าง 20th Century Fox หรือเสียงสิงโตของ MGM ขณะที่ Netflix เองก็มีซาวด์เปิด "Ta-dam" สั้น ๆ มาโดยตลอด และในระยะหลัง Netflix ที่พยายามทำหนังออริจินัลของตัวเองไปฉายในโรง เลยตัดสินใจทำซาวด์ช่วงโลโก้ตอนต้นขึ้นมาใหม่ สำหรับหนังฉายโรงโดยเฉพาะ Tanya Kuma หัวหน้าฝ่ายแบรนด์ดีไซน์ของ Netflix เปิดเผยว่าบริษัทต้องการซาวด์ใหม่ ที่เป็นตัวเปิดอารมณ์แบบในโรงภาพยนตร์ เลยเลือกนักประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Hans Zimmer มาช่วยประพันธ์ให้ ที่สำคัญคือยังคงมีเสียง "Ta-dam" ที่เป็นเอกลักษณ์แทรกอยู่ด้วย ขณะที่แอนิเมชันโลโก้ยังคงคล้ายเดิม แต่ยาวขึ้นเป็น 16 วินาที ที่มา - Twenty Thousand Hertz, @20korg
# E Ink โชว์ต้นแบบแท็บเล็ต e-paper รุ่นใหม่แบบพับได้ จดโน้ตได้ มีไฟส่องหน้าจอ E Ink โชว์ต้นแบบรุ่นใหม่ของแท็บเล็ตที่ใช้จอแสดงผลเทคโนโลยี e-paper ของบริษัท ในรูปแบบพับได้ (foldable) และสามารถจดโน้ต หรือมาร์คข้อความได้ มีปุ่มกด 5 ปุ่ม พัฒนาขึ้นจากรุ่นต้นแบบรุ่นแรก ที่ข้อต่อไม่แข็งแรง และไม่มีปุ่มกด พร้อมกับเพิ่มแถบหลอดไฟ LED เข้ามา เพื่อให้ใช้งานในเวลากลางคืนได้ E Ink เป็นเจ้าของเทคโนโลยี e-paper ที่มีใช้งานบนแท็บเล็ตสำหรับอ่านอีบุ๊กเป็นส่วนใหญ่ เช่นแท็บเล็ตตระกูล Kindle โดยมีข้อดีคือใช้พลังงานต่ำ และคล้ายคลึงกับการอ่านตัวหนังสือบนกระดาษมากกว่าหน้าจอแท็บเล็ตแบบ LCD หรือ OLED และเป็นจอที่สะท้อนแสงภายนอกได้ ทำให้สามารถใช้งานกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องใช้ความสว่างหน้าจอสู้ แต่ข้อเสียคือพิกเซลของหน้าจอชนิดนี้ จะไม่สามารถแสดงผลการเคลื่อนไหวเร็วๆ เช่นวิดีโอได้ ก่อนหน้านี้ E Ink ได้พัฒนาหน้าจอควบคู่กับ Lenovo ในรุ่น ThinkBook Plus เป็นหน้าจอ E Ink ขนาด 10.8 นิ้ว ที่รองรับการจดโน้ตไปแล้ว ส่วนรูปแบบแท็บเล็ตพับได้ ยังอยู่ในขั้นพัฒนา ข้อเสียของต้นแบบรุ่นนี้ที่ยังเห็นได้ชัด คือขอบหน้าจอที่ค่อนข้างหนา ข้อพับที่ดูเทอะทะ และไฟส่องหน้าจอที่ต้องพับลงมาส่อง ก็ยังดูเหมือนอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ยุคเก่าอยู่ (นึกถึงไฟส่อง Gameboy) แต่แท็บเล็ต E Ink แบบพับได้ น่าจะรูปแบบอุปกรณ์ที่น่าสนใจในอนาคต เพราะมีลักษณะการใช้งานคล้ายหนังสือหรือสมุดโน้ตที่ผู้ใช้คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน ที่มา - Good e-Reader
# เฟซบุ๊กตั้งส่วนงานดูแลธุรกิจเพย์เมนท์, ดึงอดีตผู้บริหาร PayPal ดูแล Facebook Pay เฟซบุ๊กประกาศตั้งส่วนงานใหม่ที่มีชื่อเล่นภายในว่า F2 (มาจาก Facebook Financial) เพื่อดูแลและพัฒนาธุรกิจด้านการเงิน เพย์เมนท์ และด้านคอมเมิร์ซ โดยแต่งตั้ง David Marcus หนึ่งในผู้ร่วมพัฒนา Libra และอดีตประธาน PayPal Holdings ให้มาดูแล F2 ภารกิจแรก ๆ ของ Marcus และ F2 ตอนนี้คือผลักดันบริการเพย์เมนท์ของ WhatsApp ในอินเดียและบราซิล นอกจากนี้เฟซบุ๊กยังดึงตัว Stephane Kasriel อดีตผู้บริหาร PayPal มาดูแล Facebook Pay ด้วย หลังจากนี้เฟซบุ๊กน่าจะเริ่มจริงจังกับบริการด้านการเงิน ทำให้เราน่าจะเห็นการยัดเยียดหรือการนำเสนอบริการเหล่านี้จากเฟซบุ๊กมากขึ้น ที่มา - Bloomberg, Reuters
# Google Search ในอินเดียแสดงการ์ดโปรไฟล์งาน ให้คนจ้างงานหาเราเจอง่ายขึ้น เปิดมิติใหม่ของการหาคนทำงาน กูเกิลแสดงการ์ดประวัติการทำงานของผู้ใช้งานแบบย่อหรือที่เรียกว่า people card สามารถหาเจอได้บน Google Search ฟีเจอร์นี้ยังเปิดใช้งานเฉพาะอินเดียและรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ เหมาะกับคนทำงาน, ฟรีแลนซ์, อินฟลูเอนเซอร์ที่อยากให้คนรู้จักเรามากขึ้น และหาเราเจอได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้งานสามารถสร้าง people card ของตัวเองได้ด้วยการลงทะเบียนใช้งานบัญชีกูเกิล กดสร้างผ่านเมนู add me to Search จากนั้นก็ระบุชื่อ ประวัติการทำงาน การศึกษา ช่องทางติดต่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ สามารถฝังลิงค์โซเชียลมีเดียของตัวเองลงไปได้ด้วย กูเกิลระบุว่ามีมาตรการป้องกันคนสร้างสแปม ถ้าผู้ใช้งานเห็นว่า people card มีคุณภาพของข้อมูลต่ำ หรือมีแนวโน้มจะเป็นสแปมก็สามารถกดรายงานได้ หากไม่อยากให้ Google Search แสดง people card ของตัวเองอีกต่อไปก็สามารถลบประวัติของตัวเองออกได้ทุกเมื่อ ที่มา - กูเกิล
# กูเกิลทำแผนที่แสดงตัวเลข COVID-19 แบบทั่วโลก ให้เป็นแหล่งอ้างอิงในการทำข่าว Google News Initiative ร่วมมือกับ Big Local News ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด จัดทำ COVID-19 Global Case Mapper แผนที่ดูตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ทั่วโลก เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงในการทำข่าวโรคระบาด คนทำข่าวสามารถฝังลิงค์แผนที่ของแต่ละประเทศลงในเว็บข่าวของตัวเองได้ ตัวแผนที่ระบุสัดส่วนผู้ป่วยต่อประชากร 1 แสนคน แสดงให้เห็นความรุนแรงของการแพร่ระบาด และแสดงข้อมูลย้อนหลัง 14 วัน ในขณะเดียวกันก็แสดงกราฟผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันย้อนหลังไปตั้งแต่มีผู้ติดเชื้อครั้งแรกในพื้นที่นั้นๆ และสามารถดูอัตราการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ 7 วันที่ผ่านมา เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ในช่วงแรกๆที่ COVID-19 กำลังระบาด กูเกิลก็ออกรายงานความหนาแน่นของคนในสถานที่สำคัญ เพื่อประเมินความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค และดูว่าจากมาตรการปิดเมืองสามารถลดความหนาแน่นของสถานที่ต่างๆ ได้มากแค่ไหน ที่มา - กูเกิล
# กรรมการปกป้องผู้บริโภคออสเตรเลียยืนยันธนาคารมีสิทธิ์เตือนลูกค้า หลังแอป FinTech ขอรหัสผ่านธนาคารเพื่อดูดเว็บ กรรมการการแข่งขันทางการค้าและการปกป้องผู้บริโภคออสเตรเลีย (Australian Competition and Consumer Commission - ACCC) ยืนยันไม่สอบสวนธนาคารที่แจ้งเตือนลูกค้าไม่ให้ใส่รหัสผ่านล็อกอินธนาคารในแอปฟินเทคเพื่อดูดข้อมูลบัญชีออกจากธนาคาร หลังจากมีบริษัทฟินเทคไม่เปิดเผยชื่อได้ร้องเรียนไปยัง ACCC ว่าการที่ธนาคารแจ้งเตือนเช่นนี้เป็นการทำลายการแข่งขัน ธนาคารหลายชาติไม่ได้เปิดช่องทางการดาวน์โหลดข้อมูลออกจากระบบ ทำให้บริการฟินเทคที่ต้องการข้อมูลบัญชีผู้ใช้เพื่อให้บริการจัดการทางการเงินอาศัยการดูดเว็บ (screen scraping) โดยผู้ใช้ต้องมอบชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านให้กับบริการฟินเทคเหล่านั้นไปโดยตรง เพื่อให้บริการฟินเทคไปล็อกอินและดาวน์โหลดข้อมูลออกมา ACCC ยืนยันว่าการแจ้งเตือนความเสี่ยงเช่นนี้ไม่ได้มีเจตนาทำลายการแข่งขัน บริการหนึ่งที่อาศัยเทคนิคนี้คือ Raiz ที่ให้บริการลงทุนสำหรับรายย่อยที่ดูดข้อมูลบัญชีด้วยการขอรหัสผ่านบริการธนาคารผ่านอินเทอร์เน็ต ที่มา - IT News ภาพโดย TBIT
# กูเกิลขยายระยะเวลาซัพพอร์ต Chrome Apps เพิ่มอีก 1 ปี สิ้นสุดกลางปี 2022 เมื่อต้นปีนี้ กูเกิลประกาศหยุดซัพพอร์ต Chrome Apps (ซึ่งเป็นคนละอย่างกับ Extension) ในเดือนมิถุนายน 2020 ล่าสุดกูเกิลประกาศปรับแผน ยืดระยะเวลาซัพพอร์ตไปจนถึงปี 2021 สำหรับแพลตฟอร์มหลัก และปี 2022 สำหรับ Chrome OS (แผนเดิมคือ 2020 และ 2021 ตามลำดับ ยืดจากเดิม 1 ปี) มีนาคม 2020 Chrome Web Store ปิดรับ Chrome App ใหม่ (ยกเว้นผู้ใช้กลุ่มองค์กร) มิถุนายน 2021 Chrome บน Windows, Mac, Linux หยุดซัพพอร์ต Chrome Apps (แผนเดิมคือมิถุนายน 2020) มิถุนายน 2022 Chrome OS และ Chrome สำหรับลูกค้าองค์กร หยุดซัพพอร์ต Chrome Apps เทคโนโลยี Chrome Apps คือเว็บแอพที่เข้าถึง API พิเศษของ Chrome ได้ (เช่น Bluetooth) แต่ตอนนี้สามารถใช้ Progressive Web Apps (PWA) ที่ทำงานแบบข้ามเบราว์เซอร์แทนได้หมดแล้ว ทำให้กูเกิลตัดสินใจหยุดซัพพอร์ต Chrome Apps ไปนั่นเอง ที่มา - Chromium Blog
# NVIDIA บอกใบ้เปิดตัวการ์ดจอ Ampere ตระกูล GeForce 31 สิงหาคมนี้ สถาปัตยกรรมใหม่ของ NVIDIA อย่าง Ampere ถูกเปิดตัวแค่จีพียูเซิร์ฟเวอร์ตัวเดียวเท่านั้น ขณะที่หลายคนยังรอคอยตระกูล GeForce ไม่รวมข้อมูลที่หลุดออกมามาย ล่าสุดทวิตเตอร์ของ NVIDIA GeForce โพสต์บอกใบ้ว่าน่าจะเปิดตัวการ์ดจอใหม่ 31 สิงหาคมนี้ ตัวทวีตไม่ได้ระบุข้อมูลใด ๆ ตรง ๆ เพราะมีแค่คลิปวิดีโอที่เหมือนบิ๊กแบงค์และแฮชแท็ค Ultimate Countdown และเปลี่ยนคัฟเวอร์แอคเคาท์เป็นรูปและแฮชแท็คเดียวกัน พร้อมคำใบ้ 21 Days. 21 Years. เท่านั้น แต่หากนับตั้งแต่วันที่เปลี่ยนคัฟเวอร์ (10 สิงหาคม) บวกไป 21 วันจะเป็นวันที่ 31 สิงหาคมและเป็นวันครบรอบ 21 ปีของ GeForce 256 การ์ดจอในตระกูล GeForce ตัวแรกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับข้อความที่ใบ้เอาไว้พอดี ที่มา - @NVIDIAGeForce via AnandTech
# Sega จะนำเกมทั้งเก่าและใหม่มาลง PC ให้มากขึ้น จากความสำเร็จของ Persona 4 Golden หลังจากที่ Persona 4 Golden ออกเวอร์ชั่น PC ไปเมื่อเดือน มิ.ย ที่ผ่านมา ตัวเกมก็ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายกว่า 5 แสนชุดในเดือนแรกที่วางจำหน่าย ทำให้ Sega พอใจและมีแผนที่จะนำเกมเก่า-ใหม่มาลง PC ให้มากขึ้น Sega ตอบคำถามนักลงทุนว่า Persona 4 Golden มีเสียงวิจารณ์ในทางที่ดีมาก และการขายในราคาต่ำทำให้ยอดขายดีกว่าที่คาด บริษัทจึงตั้งใจนำเกมเก่ามาลง PC ให้มากขึ้น รวมถึงเจรจากับเจ้าของแพลตฟอร์มสำหรับเกมใหม่ในอนาคต โดยคำนึงถึงวิธีขายแต่ละเกมในเงื่อนไขที่ดีที่สุดอีกด้วย หนึ่งในนั้นก็คือการเตรียมเวอร์ชั่น PC ไว้สำหรับเกมที่จะลงแบบมัลติแพลตฟอร์มไว้ตั้งแต่เริ่ม Persona 4 Golden วางขายอยู่ใน Steam ในราคา 559 บาท ที่มา - pcgamer
# Amazon เปลี่ยนชื่อ Twitch Prime เป็น Prime Gaming ให้เข้ากับบริการอื่นๆ ในตระกูล Prime Amazon เปลี่ยนชื่อ Twitch Prime เป็น Prime Gaming แล้ววันนี้ เพื่อให้เข้าชุดกับระบบบริการอื่นในตระกูล Prime ของ Amazon เช่น Prime Video บริการสตรีมมิ่งหนังและซีรีส์ หรือ Prime Music บริการเพลงแบบสตรีมมิ่ง Prime Gaming ยังไม่เปิดให้บริการในไทย ส่วนในอเมริกาจะมาพร้อมกับสมาชิก Amazon Prime (12.99 เหรียญต่อเดือน) หรือ Prime Video (5.99 เหรียญต่อเดือน) และผู้ใช้จะได้รับประโยชน์ต่างๆ เหมือนตอนเป็น Twitch Prime เช่น ไอเท็มพิเศษในเกม เกมแจกฟรี และการกด subscription สตรีมเมอร์บน Twitch ได้ฟรีเดือนละครั้ง Amazon หันมาจริงจังกับตลาดเกมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งเปิดตัว Crucible เกมฟอร์มยักษ์เกมแรกของตัวเองไป แต่ก็เจ๊งไม่เป็นท่า พร้อมโดนก่นด่าจนต้องปิดเกมกลับไปเป็น Closed Beta อีกรอบ เรียกได้ว่าไม่สวยเท่าไร นอกจากนี้เกม MMORPG ที่วางแผนไว้อย่าง New World ก็ถูกเลื่อนจาก 25 สิงหาคมนี้ ไปเป็น 10 กรกฎาคมปีหน้าเลยด้วย คงต้องติดตามอนาคตในวงการเกมของ Amazon กันต่อไป ที่มา - Amazon Blog via The Verge
# Google Maps บน iOS เพิ่มแอปบน Apple Watch อีกครั้ง, รองรับ CarPlay Dashboard กูเกิลประกาศเพิ่มคุณสมบัติใน Google Maps สำหรับผู้ใช้ iOS ประกอบด้วย Apple Watch และ CarPlay มีรายละเอียดดังนี้ เริ่มที่ Apple Watch‌ โดยแอปกลับมารองรับการทำงานบน watchOS อีกครั้ง (ถอดไปเมื่อหลายปีก่อน) ตัวแอปสามารถคำนวณระยะทาง-เวลา ในการเดินทางจากสถานที่ซึ่งบันทึกไว้ โดยสั่งผ่านแอปได้โดยตรง แต่หากเป็นเส้นทางอื่นต้องเริ่มจาก iPhone แอปจะเริ่มรองรับภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติใหม่ใน ‌CarPlay‌ โดยทำงานร่วมกับ CarPlay‌ Dashboard สามารถแสดงผลแบบแยกส่วนหน้าจอ (Split View) ทำให้ใช้งานแผนที่ และควบคุมเพลงได้ในหน้าจอเดียวกัน เริ่มเปิดให้ใช้งานได้ในสัปดาห์นี้ ที่มา: กูเกิล
# อินเดียทำ อินเดียใช้ รัฐบาลอินเดียจัดแข่งสร้างแอปทางเลือก ลดการพึ่งพาไมโครซอฟท์, กูเกิล อินเดียมีท่าทีแข็งกร้าวต่อบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติโดยเฉพาะจีน แบนแอปพลิเคชั่นไปแล้ว 2 ระลอกร่วมกว่าร้อยแอป แอปดังๆ ที่โดนแบนคือ Tik Tok, Bigo Live, WeChat, Meitu, UC Browser และระลอกสามอาจมี PUBG Mobile ของ Tencent, AliExpress ล่าสุดรัฐบาลอินเดียจัดการแข่งขัน App Innovation Challenge ให้สตาร์ทอัพอินเดียร่วมสร้างแอปพลิเคชั่นที่เป็นทางเลือกนอกเหนือจากซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์และกูเกิล เพื่อให้คนอินเดียใช้ รวมถึงเป็นโอกาสการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีโลก แอปที่ได้รับรางวัลคือ Zoho’s Workplace แอปคุยงานแบบ Slack, Cliq และ Invoices เป็นกลุ่มแอปจัดการบัญชี และยังมีแอป MapmyIndia Move: Maps, Navigation & Tracking ที่ได้รางวัลสูงสุดในหมวดแอปนำทางแบบ Google Maps แอป Chingari ชนะหมวดแอปโซเชียล มีการใช้งานคล้าย TikTok แอป Logically.ai ชนะในหมวดข่าวสาร อินเดียมีแนวทางพึ่งพาตัวเองมากขึ้น ไม่เฉพาะในสินค้าเทคโนโลยี แต่รวมถึงยุทโธปกรณ์ทางทหารด้วย มีรายการสินค้ามากมายที่ประเทศอินเดียจะไม่นำเข้าหลังเดือนธันวาคมปี 2020 เช่น อาวุธ, ซอฟต์แวร์ระบบดาวเทียม เป็นต้น ภาพจาก Narendra Modi ที่มา - The Register
# ศาลแคลิฟอร์เนียตัดสินให้ Uber และ Lyft ดูแลผู้ขับรถเหมือนพนักงานประจำภายใน 10 วัน Ethan Schulman ผู้พิพากษา California Superior Court ได้ออกคำสั่งในขั้นต้น ให้ Uber และ Lyft ต้องจัดให้ผู้ขับรถที่อยู่ภายใต้สัญญาของทั้งสองบริษัทถือเป็นพนักงาน และทั้งสองบริษัทจะต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไขสถานะให้ถูกต้องภายใน 10 วัน การตัดสินของศาลแคลิฟอร์เนียครั้งนี้ เป็นไปตามกฎหมาย AB5 ซึ่งกำหนดให้คนทำงานใน gig economy ต้องได้รับสวัสดิการเทียบเท่าพนักงานประจำ โดยผู้พิพากษาระบุว่า ถ้าจำเลยจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย AB5 นั้น ธรรมชาติของการดำเนินธุรกิจจะต้องเปลี่ยนอีกมาก ฝั่ง Uber เตรียมจะยื่นอุทธรณ์ฉุกเฉินแล้ว เนื่องจากไม่สามารถทำตามที่ศาลสั่งได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมยืนยันว่าผู้ขับรถส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์มทำงานแบบอิสระ ซึ่งทาง Uber เองได้ปรับเปลี่ยนแอปของตัวเองให้เป็นไปตามกฎหมายของแคลิฟอร์เนียแล้ว พร้อมทั้งระบุว่าในตอนนี้ที่ชาวแคลิฟอร์เนียกว่า 3 ล้านคนไม่มีงานทำ ผู้นำที่เลือกตั้งมาควรจะโฟกัสที่การสร้างงาน ไม่ใช่สั่งปิดธุรกิจทั้งอุตสาหกรรมในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ส่วน Lyft ระบุว่าผู้ขับรถไม่ได้อยากเป็นพนักงาน ซึ่งทางบริษัทจะอุทธรณ์และต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ซึ่งทั้งสองบริษัทเชื่อมั่นว่าประเด็นนี้จะถูกตัดสินโดยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในแคลิฟอร์เนีย และพวกเขาจะอยู่ข้างกลุ่มคนขับรถ ที่มา - TechCrunch
# Firefox 79 เพิ่มมาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัว ลดการติดตามตัวด้วย redirect Firefox 79 ออกมาตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม แต่ฟีเจอร์สำคัญตัวหนึ่งคือระบบป้องกันการติดตามตัว (Enhanced Tracking Protection - ETP) ที่ก่อนหน้านี้มักป้องกันการใช้คุกกี้กับโดเมนภายนอก (third party cookie) เป็นหลัก ทำให้กระบวนการยิงโฆษณาตรงเป้าหมายจากการติดตามตัวทำได้ยากขึ้น ในเวอร์ชั่นนี้มีการป้องกันเทคนิค redirect tracking เข้ามา redirect tracking หรือการ redirect เข้าโดเมนกลางเป็นการติดตามผู้ใช้โดยการส่งผู้ใช้ข้ามโดเมนสองครั้ง เช่น จากเว็บ source.example.com ส่งไปยัง middle.example.com/from-source-to-dest โดยเว็บจะเปิดขึ้นมาเพียงช่วงเวลาสั้นมากๆ จากนั้นจึงถูกส่งต่อไปยังปลายทาง dest.example.com ในที่สุด กระบวนการนี้ middle.example.com จะสามารถสร้างคุกกี้เพื่อบันทึกผู้ใช้ได้ทั้งหมดว่าได้คลิกเว็บจากที่ใดไปยังที่ใดบ้าง ทำให้โดเมนกลางสามารถบันทึกประวัติการใช้งานเว็บได้อย่างกว้างขวาง โดเมนที่จะถูกจัดว่าเป็นโดเมนติดตามเช่นนี้จะต้องเข้าข่าย 3 เงื่อนไข ได้แก่ 1) เก็บข้อมูลติดตามผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้, localStorage, IndexDB, หรือ Cache API 2) โดเมนอยู่ในรายการโดเมนที่ติดตามผู้ใช้ 3) ผู้ใช้ไม่ได้มีปฎิสัมพันธ์กับโดเมนในกลุ่มโดเมนเดียวกันมาก่อน เมื่อเข้าเงื่อนไขแล้ว Firefox จะล้างข้อมูลที่ติดตามผู้ใช้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแคชภาพ, คุกกี้, การตั้งค่าต่างๆ เพื่อไม่ให้โดเมนสามารถกลับมาติดตามผู้ใช้ได้อีก และจะล้างข้อมูลหากผู้ใช้ไม่ได้ใช้งานโดเมนประมาณทุก 24 ชั่วโมง และจะล้างข้อมูลต่อเมื่อผู้ใช้ไม่ได้ใช้งานอยู่เท่านั้น ที่มา - Mozilla
# Minecraft: Education Edition ลง Chromebook แต่ยังต้องใช้บัญชีไมโครซอฟท์ล็อกอิน Minecraft: Education Edition หรือเกม Minecraft ในเวอร์ชั่นการเรียนการสอนวิชาต่างๆ กำลังจะเปิดให้เล่นได้ผ่าน Chromebook แต่ไม่รวม Minecraft เวอร์ชั่นปกติ ทางทีม Minecraft ระบุว่าได้ร่วมมือกับทีม Google Education นำเกมลงเล่นบน Chromebook สามารถเล่นข้ามแพลตฟอร์มแบบมัลติเพลย์เยอร์ได้ ในตอนนี้เด็กๆ ยังต้องมีบัญชีไมโครซอฟท์เพื่อล็อกอินใช้งาน ส่วนการล็อกอินเกมผ่านบัญชีกูเกิลนั้นเป็นแผนในอนาคต Minecraft: Education Edition เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้สาขาวิชาต่างๆ ทั้งคณิตศาสตร์ การเขียนโค้ดและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ รวมถึงหลักสูตร STEM ที่ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์เกมในสไตล์ Minecraft ซึ่งแม้ตัวเกมจะมีให้ดาวน์โหลดผ่าน Google Play แล้ว แต่ผู้ใช้ต้องมีบัญชี Office 365 Education เพื่อเข้าเล่นเกมอยู่ดี ที่มา - TechCrunch
# Apple ยื่นหมายศาลค้านการใช้โลโก้ลูกแพร์ของแอป Prepear เพราะอาจทำคนเข้าใจผิด Apple ยื่นหมายคัดค้านการใช้โลโก้รูปลูกแพร์ของ Prepear แอปจัดเมนูอาหารและทำรายการซื้อของเพื่อทำอาหารเมนูต่างๆ เพราะโลโก้ของแอป Prepear “ประกอบด้วยรูปผลไม้ในสไตล์มินิมอล พร้อมใบไม้ที่เอียงไปด้านขวา” ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้นึกถึงโลโก้ Apple และเกิดผลทางการค้าได้ นอกจากนี้ยังเป็นโลโก้ที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ และบริการเกี่ยวกับสุขภาพ สารอาหาร การบริโภค และเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งใกล้เคียงกับสินค้าที่ Apple อาจทำ และทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของแอปจาก Apple ล่าสุด Russell Monson ผู้ร่วมก่อตั้งแอป Prepear ได้สร้างแคมเปญล่ารายชื่อ “Save the Pear from Apple!” เพื่อเรียกร้องกับ Apple โดยปัจจุบันมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 14,000 รายชื่อ และเขายังบอกว่าบริษัทเป็นบริษัททำแอปเล็กๆ ที่มีพนักงานแค่ 5 คน คงไปสู้ในกระบวนการทางกฎหมายกับ Apple ไม่ไหว ส่วน Natalie Monson ผู้ร่วมก่อตั้งอีกคน ก็โพสต์ใน Instagram ว่าที่เธอจะสู้เพื่อรักษาสิทธิ์ในการใช้โลโก้นี้และเพื่อยืนยันจุดยืนว่าถึงจะเป็นบริษัทเล็กๆ แต่ก็ใช่ว่าบริษัทใหญ่ๆ จะมารังแกได้ และส่งสารให้สังคมรับรู้ว่าการกระทำแบบนี้ ต้องมีผลสะท้อนกลับบ้าง Apple มีประวัติฟ้องซุเปอร์มาร์เก็ตในออสเตรเลียที่มีโลโก้คล้ายกันมาตั้งแต่ปี 2009 และยังคัดค้านการใช้โลโก้รูปผลแอปเปิ้ลของพรรคการเมืองในนอร์เวย์ รวมไปถึงโลโก้ของเส้นทางจักรยานในเยอรมันด้วย ที่มา - The Verge
# Qualcomm ยื่นเรื่องขอ ก.พาณิชย์ขอขายชิปให้ Huawei อ้างสหรัฐเสียผลประโยชน์ Wall Street Journal รายงานอ้างอิงเอกสารของ Qualcomm ที่ส่งไปให้รัฐบาลสหรัฐ เพื่อล็อบบี้ให้กระทรวงพาณิชย์อนุญาตการขายชิปเซ็ตให้กับ Huawei โดยอ้างเหตุผลว่า การแบนไม่ได้ช่วยป้องกัน Huawei จากการเข้าถึงเทคโนโลยีที่จำเป็น แถมยังเสี่ยงทำให้รายได้ปีละราว 8 พันล้านเหรียญ (ที่ Qualcomm ควรได้จาก Huawei) ไปตกอยู่กับคู่แข่งต่างชาติแทน Qualcomm อ้างว่าผลประโยชน์ดังกล่าวจะไปตกกับ MediaTek ของไต้หวันและซัมซุงของเกาหลีใต้ และอาจส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดชิป 5G ในระดับโลกที่สหรัฐจะสูญเสียไป และส่งผลกระทบต่อการวิจัยและการเป็นผู้นำด้าน 5G ของสหรัฐอีกต่อ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลไม่เป็นผลดีต่อผลประโยชน์สหรัฐเลย ที่มา - WSJ
# หลุดกล่องคอนโทรลเลอร์ Xbox รุ่นใหม่ มีสีขาว ยืนยันชื่อ Xbox Series S รุ่นเล็ก ข่าวลือเรื่อง Xbox Series S คอนโซลยุคใหม่รุ่นเล็กของไมโครซอฟท์โค้ดเนม 'Lockhard' ออกมานาน แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลใด ๆ ล่าสุดมีภาพของกล่องแพ็กเกจคอนโทรลเลอร์ที่ใช้สำหรับคอนโซล Xbox Series X สีขาว ที่มีการระบุข้างกล่องถึงการรองรับ Xbox Series S ซึ่งนับเป็นการยืนยันชื่อรุ่น Xbox Series S อย่างเป็นทางการจากสินค้าออฟฟิเชียล อย่างไรก็ตามยังคงไม่มีข้อมูลราคาคอนโทรลเลอร์ รวมถึงรายละเอียดของ Xbox Series S ที่มา - @TinyRakan via ArsTechnica
# Doom Eternal เปิดตัวภาคเสริมภาคแรก The Ancient Gods, Part One สู้กับเหล่าเทพสวรรค์ Bethesda และ id Software เปิดตัวภาคเสริมตัวแรกของ Doom Eternal ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในแง่เสียงวิจารณ์และยอดขาย ภาคเสริมตัวนี้ชื่อว่า The Ancient Gods, Part One (ชื่อแบบนี้แปลว่าต้องมี Part Two) ข้อมูลที่เปิดเผยคือเปลี่ยนศัตรูใหม่จากเดิมสู้กับปีศาจนรก มาเป็นการสู้กับ "เทพเจ้า" จากสวรรค์แทน พร้อมเทรลเลอร์แบบสั้นๆ ให้พอเห็นภาพ ส่วนเทรลเลอร์ตัวเต็มจะเปิดให้ชมวันที่ 27 สิงหาคมนี้ ตามธรรมเนียมของเกมยุคนี้ คนที่ซื้อ Year One Pass (ไม่ว่าจะซื้อรวมกับ Deluxe Edition หรือซื้อแยกเอง) จะได้ภาคเสริมตัวนี้ฟรี เกมมีกำหนดออกคร่าวๆ ภายในปี 2020 นี้ ที่มา - Bethesda
# โปรดิวเซอร์ Street Fighter ลาออกจาก Capcom แล้ว หลังทำงานมานานกว่า 20 ปี Yoshinori Ono โปรดิวเซอร์เกม Street Fighter ลงจดหมายประกาศลาออกบนทวิตเตอร์ของตัวเองแล้ว หลังร่วมงานกับ Capcom มามากกว่า 20 ปี พร้อมกล่าวว่าขอส่งต่อเกมนี้ให้ “ทีมงาน Capcom รุ่นใหม่” ดูแล และจะหันไปเป็นคนเล่นเกมนี้เต็มตัวแทน Ono ที่มักจะจบการพูดของเขาด้วยการให้คนดูตะโกน “โชริวเคน” ได้จบจดหมายบนทวิตเตอร์นี้ด้วยคำว่า “SHORYUKEN!” ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเขาไม่มีโอกาสได้บอกข่าวนี้กับแฟนๆ โดยตรงในงานของ Capcom เนื่องจากการระบาดของโรค COVID-19 นอกจาก Street Fighter แล้ว Ono ยังมีส่วนร่วมกับเกมอื่นอย่าง Marvel vs. Capcom: Infinite และเกมตระกูล Devil May Cry ด้วย แต่ก็จะทวิตเกี่ยวกับเกม Street Fighter เป็นหลัก เพราะนอกจากพัฒนาเกมนี้แล้ว เขาก็ยังเป็นแฟนเกมนี้ตัวยง และมีส่วนร่วมในการจัดการแข่งทัวร์นาเม้นต์ต่างๆ ของ Capcom บ่อยครั้ง ที่มา - Gamespot Yoshinora Ono (ซ้าย) ภาพจาก ทวิตเตอร์ Yoshinora Ono
# นักวิเคราะห์คาดยอดส่งมอบ iPhone อาจลดถึง 30% หากต้องลบ WeChat ออกจาก App Store Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สายซัพพลายเออร์ฝั่งแอปเปิลชื่อดังออกรายงานการคาดการณ์ว่า ยอดส่งมอบ iPhone จะลดลงแน่ ๆ หากแอปเปิลต้องลบแอป WeChat ออกจาก App Store ตามคำสั่งประธานาธิบดี Kuo คาดการณ์ไว้ 2 แบบคือ best-case และ worst-case scenario กรณีที่ดีที่สุดคือถูกบีบให้ลบ WeChat เฉพาะในสหรัฐ ยอดส่งมอบ iPhone อาจลดลงแค่ราว 3-6% เท่านั้น ส่วนอุปกรณ์เสริมอย่าง AirPods, iPad, Apple Watch อาจลดลงไม่เกิน 3% ภาพจาก Shutterstock แต่เคสที่แย่ที่สุดคือถูกลบจาก App Store ทั่วโลก ยอดส่งมอบ iPhone ทั่วโลกอาจลดลงถึง 25-30% ขณะที่ AirPods, iPad, Apple Watch อาจลดลงถึง 15-25% เนื่องจาก WeChat เป็นแอปหลักของคนจีนทั่วโลก (คล้าย ๆ กับ LINE บ้านเรา) แต่ยิ่งกว่าตรงที่ WeChat ไม่ใช่แค่เอาไว้สื่อสาร แต่มันเป็นแพลตฟอร์มจ่ายเงิน, อีคอมเมิร์ซ, อ่านข่าว, โซเชียลเน็ตเวิร์คและอื่น ๆ อีกมาก (จากความพยายามเป็นซูปเปอร์แอปของ WeChat) แม้แอปเปิลจะไม่เคยรายงานยอดขายตามภูมิภาค แต่นักวิเคราะห์ก็คาดว่ายอดขายในจีนมีสัดส่วนรายได้อยู่ 15% ในไตรมาสล่าสุด ซึ่งตลาดจีนน่าจะจะส่งผลต่อแอปเปิลเต็ม ๆ หาก WeChat ถูกลบออกจากสโตร์ทั่วโลก ที่มา - MacRumors
# Galaxy Note 20 ตัดฟีเจอร์ออกเพียบจากรุ่น Ultra, ใช้กระจก Gorilla Glass รุ่นเก่ากว่า Note 10 แม้ราคาเปิดตัว Galaxy Note 20 ในไทย จะเริ่มต้นที่ 29,990 บาท ถูกกว่า Galaxy Note 10 ที่เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้น 32,900 บาทอยู่พอสมควร แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่ Galaxy Note 20 ดูเหมือนถูกลดฟีเจอร์ไปหลายด้านเพื่อประหยัดต้นทุน และเพื่อให้แตกต่างจาก Note 20 Ultra จนกลายเป็นว่าด้อยกว่าพอสมควรในหลายๆ ด้านเมื่อเปรียบเทียบกัน ในขณะที่ Note 10 กับ 10+ ไม่แตกต่างกันมากนัก Galaxy Note 20 เป็นมือถือตระกูล Note รุ่นแรกนับแต่ปี 2014 ที่มาพร้อมฝาหลังแบบพลาสติก (โพลีคาร์บอเนต) แถมด้านหน้า ที่เพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 6.7 นิ้ว ยังใช้กระจก Gorilla Glass 5 ที่เป็นรุ่นเก่ากว่าNote 10 ที่ใช้ Gorilla Glass 6 ด้วยซ้ำ ในขณะที่ Note 20 Ultra ใช้ Gorilla Glass Victus (Gorilla Glass 7) รุ่นล่าสุด ประกบทั้งหน้าหลัง และมีขอบเครื่องเป็นโลหะ หน้าจอของ Galaxy Note 20 ยังมี Refresh rate อยู่แค่ 60Hz ซึ่งดูจะกั๊กสเปกมากๆ เพราะ Note 20 Ultra ให้มาถึง 120Hz แถมค่าความหน่วงของปากกาบน Note 20 แม้จะลดลงมาเหลือ 26ms ซึ่ง Samsung บอกว่าเป็นครึ่งหนึ่งของ Note 10 แต่ใน Note 20 Ultra ก็ลดลงไปเหลือแค่ 9ms อยู่ดี นอกจากนี้ Galaxy Note 20 ยังไม่ใช้ชิป Snapdragon 865+ แต่ได้แค่ 865 ธรรมดา ไม่รองรับ micro SD card และไม่มีระบบรับส่งไฟล์แบบ Ultra Wideband (UWB) เพื่อเพิ่มความเร็วในการรับส่งไฟล์แบบในรุ่น Note 20 Ultra อีกด้วย เหมือน Samsung จะเล็งเห็นว่าผู้ใช้ตระกูล Note น่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบมือถือแบบพรีเมี่ยม และพยายามผลักให้ซื้อรุ่น Note 20 Ultra เพราะแม้ราคาเริ่มต้นจะต่างกันพอสมควร (Note 20 Ultra เริ่ม 38,990 บาท) แต่ได้ฟีเจอร์ที่ครบครันกว่าเยอะ และผู้ใช้ระดับบนที่ชอบอะไรที่จัดเต็ม น่าจะยังพอมีกำลังซื้ออยู่ ส่วนผู้ใช้ที่ต้องการมือถือรุ่นประหยัด ก็ยังมีตระกูล Galaxy A อยู่ดี ส่วนจะเป็นผลอย่างไรต่อยอดขาย คงต้องติดตามสถานการณ์ในไตรมาสนี้ของ Samsung กันต่อไป ที่มา - Forbes
# Huawei รับชิป Kirin ปีนี้จะเป็นรุ่นสุดท้ายหลังถูกสหรัฐแบน Richard Yu ซีอีโอฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ของ Huawei ออกมายอมรับว่าปีนี้ เราน่าจะได้เห็นชิป Kirin ระดับไฮเอนด์เป็นรุ่นสุดท้าย หลังถูกสหรัฐแบนผ่านซัพพลายเออร์อย่าง TSMC กล่าวอย่างอ้อม ๆ คือ Yu ยอมรับว่าชิป Kirin จะหมดในปีนี้ Yu บอกด้วยว่าจากการแบนรอบล่าสุด TSMC แจ้งว่าจะรับออเดอร์ถึงแค่ 15 พฤษภาคมเท่านั้นและจะผลิตให้ถึงแค่ 15 กันยายน ขณะเดียวกันเจ้าตัวก็ยอมรับว่ายอดขายสมาร์ทโฟนปีนี้น่าจะต่ำกว่าปีที่แล้วที่ทำไว้ 240 ล้านเครื่อง แต่ไม่ได้ระบุจำนวน ทั้งนี้มีรายงานและการวิเคราะห์กันว่า ทางเลือกของ Huawei เดียวตอนนี้คือ MediaTek โดยคำสั่งแบนของทรัมป์ระบุชัดเจนว่าห้ามไม่ให้ Huawei เข้าถึงเทคโนโลยีสหรัฐ ซึ่งทาง TSMC ใช้เทคโนโลยีสหรัฐในการผลิตเลยเข้าข่ายนี้ ส่วน MediaTek แม้จะจ้าง TSMC ผลิตแต่การขายชิปตัวเองให้ Huawei อีกทีถือว่าไม่เข้าข่าย หลังทรัมป์มีคำสั่งแบนปีนี้ออกมา ก็มีรายงานว่ายอดสั่งชิปของ MediaTek จาก Huawei เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนนักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ของ MediaTek ปีนี้จะเพิ่มจากปีที่แล้ว 14% และปีหน้าจะเพิ่ม 29% ขณะที่หุ้นของ MediaTek นับตั้งแต่หลังคำสั่งต่อระยะเวลาแบน Huawei พุ่งขึ้นจากราว 400 เหรียญจนตอนนี้อยู่ที่ราว 700 เหรียญแล้ว ที่มา - AP, Bloomberg
# Microsoft Teams ออกฟีเจอร์ประชุม 20,000 คน เตรียมออกเครื่องโทรศัพท์มีปุ่ม Teams Microsoft Teams ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ระดับสูงที่เรียกว่า Advanced Communications (แปลว่าต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่ม) รองรับการประชุมขนาดใหญ่มากๆ ที่มีผู้เข้าร่วมฟังถึง 20,000 คนพร้อมกัน (เช่น กรณีประชุมบริษัทขนาดใหญ่พร้อมกันทั้งบริษัท) หากเป็นการสื่อสาร 2 ทางคือผู้ฟังมีสิทธิร่วมพูดด้วย จำนวนสูงสุดที่รองรับคือ 1,000 คน (คนที่เหลือจะเข้าเป็นโหมด view only) เพิ่มฟีเจอร์ของหน้าจอแอดมิน เช่น มีล็อบบี้รอเข้าประชุมที่เป็นแบรนด์ของบริษัท, กำหนดค่าการบันทึกเสียง/วิดีโอของการประชุม เป็นต้น ไมโครซอฟท์ยังประกาศความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ฮาร์ดแวร์ ออกเครื่องโทรศัพท์ตั้งโต๊ะที่รองรับการโทรเข้า Microsoft Teams (มีปุ่ม Teams สีม่วงบนแป้นโทรศัพท์เลย) โดยจะเริ่มขายช่วงต้นปี 2021 ส่วนโทรศัพท์รุ่นเดิมๆ ที่รองรับโปรโตคอล Skype for Business (3PIP) จะรองรับไปจนถึงปี 2023 และจะซัพพอร์ตอุปกรณ์ที่ใช้โปรโตคอล SIP ทำให้อุปกรณ์ที่องค์กรใช้อยู่แล้ว สามารถใช้โทรเข้ามาคุยกับ Teams ได้เช่นกัน (เริ่มปีหน้า 2021) ที่มา - Microsoft
# Bill Gates เตือนไมโครซอฟท์ ซื้อกิจการ TikTok ไม่ง่าย เหมือนเป็น "ถ้วยยาพิษ" Bill Gates ให้สัมภาษณ์กับ Wired ในหลายประเด็น หนึ่งในนั้นคือเรื่องไมโครซอฟท์เจรจาซื้อ TikTok ที่เป็นประเด็นร้อนอยู่ในตอนนี้ ตอนนี้ สถานะของ Gates ไม่ได้เป็นบอร์ดของไมโครซอฟท์แล้ว (ลาออกเมื่อเดือนมีนาคม 2020) แต่ยังเหลือตำแหน่งที่ปรึกษาทางเทคโนโลยี (Technology Advisor) อยู่ Gates เตือนการซื้อ TikTok ว่าเปรียบเสมือน "ถ้วยยาพิษ" (poison chalice) เพราะการเป็นเจ้าของโซเชียลเน็ตเวิร์คในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งมี Donald Trump เข้ามาเกี่ยวข้องทำให้การเจรจาครั้งนี้มีความแปลกประหลาด (strange) เป็นอย่างมาก ไมโครซอฟท์จำเป็นต้องตระหนักถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วย ที่มา - Wired ภาพจาก YouTube Bill Gates
# Samsung ไม่แถมหูฟังในกล่อง Galaxy Note 20 ในสหรัฐอเมริกา แต่ยังขอเพิ่มได้ หลังมีกระแสข่าวลือว่า iPhone จะไม่แถมหูฟัง EarPods มาในกล่องแล้ว ซึ่งแม้แหล่งข่าวหลายแหล่งจะยืนยันเป็นเสียงเดียวกันแต่ก็คงต้องรอดูวันวางจำหน่ายจริง แต่ผู้ที่นำเทรนด์ไม่แถมหูฟังในตอนนี้น่าจะเป็น Samsung ที่เริ่มไม่แถมหูฟังมาในมือถือตระกูล Galaxy Note 20 ในสหรัฐอเมริกาแล้ว เพราะตัวโทรศัพท์มีราคาเริ่มต้นถึง 1,000 เหรียญ หรือ 29,990 บาทในไทย ในตอนนี้ Samsung ไม่แถมหูฟังแค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นและผู้ใช้ยังสามารถขอหูฟัง USB-C จากฝ่ายบริการลูกค้าได้ฟรีโดยจะส่งตามไปภายหลัง จากข้อมูล ประเทศในแถบเอเชียเช่นเกาหลีใต้ และนอกทวีปอเมริกาเหนือ ยังได้หูฟัง USB-C แถมมาในกล่องอยู่ ส่วนในบ้านเรา จากข้อมูลหมวด “What’s in the box” บนหน้าเพจของ Samsung ก็ยังมีหูฟัง USB-C แถมมาในกล่องเช่นกัน แต่ในอนาคตก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ต้องติดตามกันต่อไป ที่มา - CNET รูป What’s in the box จากหน้าเว็บไซต์ Samsung ประเทศไทย ยังมีหูฟังอยู่
# ไมโครซอฟท์ออกส่วนขยาย Angular Language Service ให้ Visual Studio ความนิยมของ Visual Studio Code กลายเป็นจุดอ่อนของไมโครซอฟท์ เพราะส่วนขยายของภาษาสำคัญๆ กลับมีใน Visual Studio Code มากกว่า Visual Studio ตัวหลัก ล่าสุดไมโครซอฟท์ทยอยแก้ปัญหานี้ ด้วยการออก Angular Language Service ตามมาให้ Visual Studio แล้ว ทำให้นักพัฒนาบน Visual Studio สามารถใช้ฟีเจอร์ของ editor พวก auto-completion, rename กับภาษา Angular ได้เต็มรูปแบบ ไมโครซอฟท์บอกว่าจากสถิติ นักพัฒนาสาย ASP.NET นิยมเขียน front-end กันด้วย Angular เยอะพอสมควร จึงเข็นส่วนขยายนี้ออกมาให้ใช้กัน การใช้งานจำเป็นต้องมี Visual Studio เวอร์ชัน 16.5 ขึ้นไป ดาวน์โหลดกันได้จาก Visual Studio Marketplace ที่มา - Microsoft
# เฟซบุ๊กเปิดโครงการ Pysa ระบบวิเคราะห์ความปลอดภัยโค้ดภาษาไพธอน เฟซบุ๊กเปิดตัวโครงการ Pysa (Python Static Analyzer, อ่านว่าพิซา แบบเดียวกับ Pisa) เป็นซอฟต์แวร์สำหรับวิเคราะห์ความปลอดภัยของโค้ดภาษาไพธอนโดยมุ่งหาเฉพาะช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงจริง ไม่ใช่การวิเคราะห์โค้ดไปทั้งหมดจนเกิดการรายงานช่องโหว่เกินความเป็นจริง กระบวนการของ Pysa อาศัยการป้ายสีข้อมูล (tainted data) ว่าข้อมูลอินพุตที่มีความเสี่ยงจะสร้างเอาท์พุตที่อันตรายกลับไปยังคนร้ายได้หรือไม่ ตัวอย่างเช่น การดึงค่า cookie จาก HTTP request อาจจะมองเป็นแหล่งอินพุตเสี่ยง (source) หากข้อมูลนี้เข้าไปถึงจุดอันตราย (sink) เช่นฟังก์ชั่น eval หรือ execute สำหรับรัน SQL ได้ก็แสดงว่าโค้ดมีความเสี่ยง แต่หากผ่านจุดคัดกรองก่อน เช่นฟังก์ชั่น escape ก็ถือว่าไม่เสี่ยงอีกต่อไป เฟซบุ๊กใช้ Pysa วิเคราะห์โค้ดของ Instagram เอง และพบว่ามันพบช่องโหว่ 44% ของรายการที่วิศวกรพบเอง และยังมีอัตราการรายงานช่องโหว่ที่ไม่ใช่ช่องโหว่จริง (false positive) อยู่ 45% Pysa โอเพนซอร์สโดยวางโค้ดเป็นส่วนหนึ่งของ Pyre ระบบตรวจสอบชนิดตัวแปรภาษาไพธอนที่เฟซบุ๊กโอเพนซอร์สมาก่อนหน้านี้ แต่ทางเฟซบุ๊กระบุว่า Pysa เป็นแอปพลิเคชั่นแยกต่างหากที่อาศัยฟีเจอร์ของ Pyre อย่างหนักเท่านั้น ที่มา - Facebook ภาพระบบการติดตามข้อมูลจาก source ไปยัง sink ของ Pysa
# Animal Crossing: New Horizons ขึ้นอันดับสอง เกมขายดีตลอดกาลของญี่ปุ่นแล้ว ในรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2020 ของนินเทนโด เกม Animal Crossing: New Horizons ประสบความสำเร็จอย่างสูง สร้างยอดขายรวมทั่วโลก 22.4 ล้านชุดในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ถึงแม้ตัวเลขนี้อาจยังไม่ติดชาร์ทเกมขายดีที่สุดตลอดกาล (Minecraft ครองอันดับหนึ่งแบบทิ้งห่างที่ 200 ล้านชุด) แต่มีคนไปขุดสถิติดูพบว่า ถ้านับเฉพาะยอดขายเกมในญี่ปุ่น ตอนนี้ Animal Crossing: New Horizons ขึ้นมาอยู่อันดับสองของเกมขายดีตลอดกาลแล้ว ยอดขายของ Animal Crossing: New Horizons ในญี่ปุ่นคือ 7.5 ล้านชุด ส่วนแชมป์ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นตำนานเพื่อนร่วมค่ายคือ Pokemon Red/Green/Blue ที่ทำไว้ 10.23 ล้านชุดนั่นเอง ความสำเร็จของ Animal Crossing: New Horizons ถือว่าเอาชนะเกมดังอื่นๆ ของนินเทนโดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Super Mario Bros. บนเครื่อง Famicom ที่ทำไว้ 6.8 ล้านชุด หรือเกมภาคเก่า Animal Crossing: New Leaf ที่ทำไว้ 5.8 ล้านชุดด้วย ที่มา - Nintendolife
# กูเกิลเปิดไลบรารีจับดวงตา จับมุมมองของสายตา วัดระยะทางจากใบหน้าถึงหน้าจอได้ด้วย กูเกิลเปิดไลบรารี MediaPipe Iris ไลบรารีโอเพนซอร์สในชุดเฟรมเวิร์ค MediaPipe สำหรับการจับทิศทางการมองจากดวงตา ทำให้การวิเคราะห์ภาพสามารถแยกจุดของตาตำ (iris) ออกมาได้อย่างชัดเจน เปิดทางให้นักพัฒนาสามารถสร้างภาพแทนตัว (avatar) ที่ส่งสายตาเลียนแบบผู้ใช้ได้ ภาพ avatar เลียนแบบผู้ใช้ที่จับจากใบหน้าอย่างเดียว (กลาง) และภาพที่เลียนแบบมุมมองสายตา (ขวา) ทีมงานอาศัยภาพดวงตา 50,000 ภาพจาก กระจายไปตามสภาพแสง, ท่าทางของคนในภาพ, และเชื้อชาติของคน จากนั้นวาดพื้นที่ของดวงตา (eyelid) ที่รวมทั้งตาขาวและตาดำ และแยกตาดำ (iris) ออกมาเพื่อใช้ฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โมเดลโดยรวมจะรับภาพพื้นที่รอบๆ ดวงตา แล้วส่วนท้ายของโมเดล deep learning จึงแยกการทำนายดวงตาและตาดำออกจากกัน นอกจากการใช้ตรวจจับสายตาของคนในภาพแล้ว พื้นที่ตาดำของคนเรานั้นยังมักใกล้เคียงกันมาก อยู่ที่ 11.7 มิลลิเมตร +- 0.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้หากเราวัดขนาดตาดำในภาพได้ และรู้ระยะโฟกัสของเลนส์ถ่ายภาพ ทีมงานพบว่าหากวัดขนาดตาดำในภาพแล้วก็สามารถบอกระยะทางจากใบหน้าถึงหน้าจอได้โดยความผิดพลาดเฉลี่ย 4.3% เท่านั้น การคำนวณระยะห่างจากใบหน้าถึงหน้าจอด้วยการหาขนาดตาดำ เฟรมเวิร์ค MediaPipe สามารถใช้งานได้ทั้งบนเดสก์ทอป, อุปกรณ์เคลื่อนที่, และบนเว็บ โดยข้อมูลทั้งหมดประมวลผลอยู่ในอุปกรณ์โดยตรง ไม่ได้ส่งข้อมูลขึ้นคลาวด์ใดๆ ที่มา - Google AI Blog
# ไมโครซอฟท์ออกแอพ Remote Desktop ตัวใหม่สำหรับ Android, รองรับ Android TV แล้ว ไมโครซอฟท์ปล่อยแอพ Remote Desktop เวอร์ชั่นใหม่สำหรับอุปกรณ์ Android โดยได้เปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Google Play เป็นแอพตัวใหม่แยกต่างหากจากเวอร์ชันเก่า ตัวแอพสำหรับ Android เวอร์ชันล่าสุด ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่โดยได้เปลี่ยนแกนหลักของ RDP (Remote Desktop Protocol) ไปใช้เอนจินเดียวกันกับแอพ Remote Desktop บน iOS และ macOS ซึ่งก็น่าจะช่วยให้แอพฝั่ง Android ได้รับฟีเจอร์ใหม่พร้อมๆ กันกับระบบปฏิบัติการอื่น (หรืออย่างน้อยก็น่าจะได้อัพเดตฟีเจอร์เร็วขึ้น) ส่วนฟีเจอร์ใหม่ในแอพ Remote Desktop เวอร์ชันล่าสุด นอกเหนือจากการปรับปรุง UI พอสรุปได้ดังนี้ รองรับการใช้บริการ Windows Virtual Desktop เต็มรูปแบบ สามารถใช้งานร่วมกับแอพ Microsoft Authenticator เพื่อตรวจสอบสิทธิเข้าใช้งาน Windows Virtual Desktop รองรับการใช้งานบน Android TV สำหรับผู้ที่เคยใช้งานแอพ Remote Desktop เวอร์ชันเก่า (หรือ Remote Desktop 8 ตามชื่อที่ถูกเปลี่ยนบน Google Play) สามารถนำข้อมูลการเชื่อมต่อที่บันทึกไว้เดิมเข้าแอพ Remote Desktop เวอร์ชันใหม่ได้ผ่านเมนู Settings > General > Transfer settings ครับ ที่มา - Android Police, MSPowersuer
# เดี๋ยวส่องไม่ได้ว่าเข้าเว็บอะไร พบจีนเริ่มบล็อค ESNI ที่ใช้เข้ารหัสโดเมนเมื่อเชื่อมต่อ TLS มาตรฐาน ESNI เป็นส่วนหนึ่งของ TLS 1.3 มาตั้งแต่ปี 2018 และเริ่มมีการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ จากฝั่งเซิร์ฟเวอร์และเบราว์เซอร์ ซึ่งจะทำให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไม่สามารถมองเห็นได้ว่าผู้ใช้กำลังเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์โดเมนอะไร และรายงานล่าสุดก็พบว่าระบบบล็อกเว็บของจีนหรือ The Great Firewall บล็อค ESNI แล้วตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ESNI เข้ารหัสข้อมูล SNI (server name indication) ที่เปิดเผยว่าการเชื่อมต่อเข้ารหัสต้องการเชื่อมต่อกับโดเมนใด ที่ผ่านมา SNI ไม่เข้ารหัสทำให้ไฟร์วอลล์สามารถอ่านค่าโดเมนจากการเชื่อมต่อได้ ESNI ปิดช่องโหว่นี้ด้วยการเข้ารหัสชื่อโดเมนทำให้ไฟร์วอลล์มองไม่เห็นว่าการเชื่อมต่อเป็นการต่อกับโดเมนใด รายงานการบล็อค ESNI พบว่าจีนบล็อค ESNI และการเชื่อมต่อที่ไม่ระบุ SNI เลย โดยบล็อคทุกพอร์ตไม่ได้จำกัดเฉพาะ 443 สำหรับ HTTPS เท่านั้น โดยบล็อคแม้แต่การเชื่อมต่อเข้าไปยังจีนจากภายนอก ตอนนี้ David Fifield ได้เขียนสคริปต์ทดสอบยืนยันว่าสามารถเชื่อมต่อเข้าจีนแบบเปิด ESNI แล้วจะถูกบล็อคไปยังไอพีปลายทางระยะเวลาหนึ่ง ที่มา - ZDNet, IETF
# พบช่องโหว่โค้ดในส่วน DSP ของชิป Qualcomm เปิดทางแฮกเกอร์ฝังโค้ดในโทรศัพท์แอนดรอยด์จำนวนมาก บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ Check Point รายงานถึงช่องโหว่ของซอฟท์แวร์สำหรับใช้วงจร DSP (digital signal processing) ในชิป Qualcomm ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์แฮกอุปกรณ์ที่ใช้ชิปและซอฟต์แวร์เหล่านี้ สามารถฝังโค้ดมุ่งร้ายไว้ภายในโดยมองไม่เห็นจากระบบปฎิบัติการ ส่งผลให้โทรศัพท์แอนดรอยด์จำนวนมากที่ใช้ชิป Qualcomm มีความเสี่ยง DSP เป็นส่วนเร่งความเร็วของซีพียูสำหรับงานเฉพาะทางหลายอย่าง เช่น เร่งความเร็วในการเล่น/บันทึกวิดีโอ, ประมวลผลภาพแบบ augmented reality, หรือการประมวลผลเสียง ผู้ผลิตชิปที่ออกแบบวงจร DSP มาเฉพาะมักให้ซอฟต์แวร์ไลบรารีให้กับผู้ผลิตอุปกรณ์มาพร้อมกัน โดยทั้งชิปและซอฟต์แวร์เป็นความลับของผู้พัฒนาชิปทำให้กระบวนการตรวจสอบค่อนข้างยาก ทาง Check Point ประกาศช่องโหว่นี้ โดยยังไม่ได้ลงรายละเอียดแต่ระบุว่าได้ติดต่อ Qualcomm แล้ว และทาง Qualcomm ก็ได้แจ้งผู้ผลิตโทรศัพท์แล้วเช่นกัน โดย Check Pointจะนำเสนองานวิจัยนี้ในงาน DEFCON ส่วนทางด้าน Qualcomm เองระบุว่าได้ตรวจสอบช่องโหว่ที่ Check Point แจ้งมาและส่งกระบวนการปิดช่องโหว่ให้ผู้ผลิตอุปกรณ์แล้ว และบริษัทแนะนำให้ผู้ใช้รีบติดตั้งแพตช์เมื่อผู้ผลิตโทรศัพท์ออกแพตช์ พร้อมแนะนำให้ติดตั้งแอปจากแหล่งเชื่อถือได้ เช่น Google Play Store ที่มา - Check Point, ArsTechnica
# Azure Repos บริการฝากซอร์สโค้ดของไมโครซอฟท์ เปลี่ยนชื่อ master เป็น main ตาม GitHub Azure Repos บริการโฮสต์ซอร์สโค้ดผ่านระบบ Git ภายใต้ร่ม Azure (เมื่อนับรวมกับ GitHub แปลว่าไมโครซอฟท์มีบริการลักษณะนี้ 2 ตัว) ประกาศเปลี่ยนชื่อดีฟอลต์ของ branch จาก master เป็น main เช่นเดียวกับที่ GitHub ประกาศไปก่อนหน้านี้ การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลเฉพาะ repository สร้างใหม่เท่านั้น ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าดีฟอลต์ของ branch เองได้ (หากไม่ตั้งจะเป็น main) หรืออยากตั้งเป็น master เหมือนเดิมก็ได้ถ้าต้องการ ที่มา - Azure Blog
# Firefox for Android 79 ปล่อยออกมาตามประเทศ ไทยอัพเดตได้ตั้งแต่ 6 สิงหาคม ในที่สุด Firefox for Android รุ่นใหม่ (โค้ดเนม Fenix) ที่พัฒนามาแรมปีก็ถูกปล่อยออกสู่สาธารณชนแล้วผ่าน Play store โดยทีมงานวางแผนปล่อยออกมาตามประเทศ ประเทศไทยสามารถอัพเดตได้ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม การปรับรุ่นครั้งนี้เป็นการปรับรุ่นครั้งใหญ่โดยเปลี่ยนมาใช้เอนจิน GeckoView และปรับหน้าตาใหม่หลายจุด เช่น ย้าย navigation bar มาอยู่ด้านล่าง เพื่อไม่ต้องเลื่อนนิ้วไปกดที่ด้านบนของจอ, เข้าสู่ Private browsing ได้ในการกดครั้งเดียว เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ที่อัพเดตจะต้องผ่านกระบวนการย้ายข้อมูล (migration) หลังจากติดตั้งเสร็จ และจะไม่สามารถ downgrade กลับไปเวอร์ชันเก่าได้อีก อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Upgrade FAQ ที่มา - Bugzilla
# Epic Games ระดมทุนก้อนใหญ่ 1.78 พันล้านดอลลาร์ มูลค่าบริษัท 17.3 พันล้านดอลลาร์แล้ว Epic Games ประกาศข่าวระดมทุนก้อนใหม่ที่ใหญ่ถึง 1.78 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าบริษัทตอนนี้อยู่ที่ 17.3 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.4 แสนล้านบาท) แล้ว เม็ดเงิน 1.78 พันล้านดอลลาร์ก้อนนี้ นับรวมเงินลงทุนจาก Sony มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์แล้ว ส่วนนักลงทุนรายอื่นๆ ได้แก่ Fidelity Management & Research Company, Lightspeed Venture Partners, Baillie Gifford และกองทุนที่จัดการโดยบริษัทชื่อดังเช่น Black Rock รวมถึงนักลงทุนเดิมอย่าง KKR และ Smash Ventures ที่ลงทุนเพิ่มในรอบนี้ด้วย Epic Games ยังเป็นบริษัทที่ไม่ได้ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ จึงไม่มีข้อมูลการเงินเปิดเผย แต่มีข้อมูลหลุดออกมา คาดว่ารายได้ในปี 2020 จะอยู่ที่ 5 พันล้านดอลลาร์ ที่มา - VentureBeat
# มินิรีวิว ฟีเจอร์แคสต์หน้าจอ Android ไปรันบนพีซีผ่านแอป Your Phone ระยะหลังเราเห็นความร่วมมือระหว่างซัมซุงกับไมโครซอฟท์ที่ค่อนข้างแน่นแฟ้น ไม่ว่าจะการพรีโหลดแอปตระกูล Office ของไมโครซอฟท์ลงสมาร์ทโฟนซัมซุง, การฝังฟีเจอร์ Your Phone มากับเครื่อง และเคสล่าสุดก็มีการรองรับ Xbox Game Pass บนสมาร์ทโฟนซัมซุง หรือกระทั่งการปรับการแสดงผลของ Office ให้รองรับ Galaxy Fold ฟีเจอร์ใหม่ของ Your Phone ที่รองรับการรันแอป Android บนพีซีผ่าน Screen Mirror ก็มีเรือธงตัวล่าสุดอย่าง Galaxy Note 20 เป็นรุ่นแรกที่รองรับและโปรโมท ซึ่งผมมี Galaxy Note 20 Ultra อยู่ในมือพอดี แม้จะไม่ได้เป็น Windows Insider แต่ก็พบว่า Your Phone บนพีซีได้ฟีเจอร์นี้แล้ว เลยขอเอามาเล่าสู่กันฟังสั้น ๆ เมื่อเปิดแอป Your Phone และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเสร็จแล้ว แถบเครื่องมือด้านซ้ายจะมีตัวเลือก App เพิ่มเข้ามาจะพบแอปในเครื่องทั้งหมด และเมื่อกดเปิดแอป ตัวสมาร์ทโฟนจะแจ้งเตือนว่า Your Phone ขอสิทธิ cast หน้าจอ โดยการใช้งานบน Your Phone เมื่อมันเป็นการมิร์เรอร์หน้าจอ การใช้งานทุกอย่างและการควบคุมทุกอย่างจะเหมือนกับบนสมาร์ทโฟน แค่เปลี่ยนจากนิ้วเป็น ไม่ว่าจะเปิดปิดแอป เข้าหน้าโฮม โทรออกรับสาย ไปจนถึงเปิดกล้องก็ได้เช่นกัน ขณะที่ความหน่วงก็มีอยู่บ้างประปราย แต่ไม่ได้ถึงกับกระทบการใช้งาน อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้ฟีเจอร์นี้ ตัวสมาร์ทโฟนจะต้องเปิดหน้าจออยู่ตลอด (ไม่ล็อก) และจะขึ้นหน้า Link to Windows แบ็คกราวด์สีดำค้างเอาไว้ ก็อาจช่วยลดการเปลืองแบตเตอรี่ลงได้เล็กน้อย โดยที่เราก็ยังสามารถแตะเพื่อใช้งานสมาร์ทโฟนได้เหมือนเดิม (แค่การแสดงผลจะแคสต์ขึ้นพีซีไปด้วย) สุดท้ายจากที่ลองใช้งานมาไม่นาน ผมพบว่า Your Phone บนพีซีค้างไปรอบหนึ่ง อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงทดสอบด้วย
# Toshiba ถอนตัวจากตลาดโน้ตบุ๊กอย่างสมบูรณ์ ขายหุ้นที่เหลือใน Dynabook ให้ Sharp Toshiba ขายธุรกิจโน้ตบุ๊กให้เพื่อนร่วมชาติ Sharp ในปี 2018 โดย Sharp เลือกใช้แบรนด์ใหม่ Dynabook ทำตลาดแทน แต่ Toshiba ยังมีหุ้นเหลืออยู่ 19.9% ในบริษัท Dynabook Inc. ซึ่งล่าสุด Toshiba ประกาศขายหุ้นก้อนนี้ให้กับ Sharp แล้ว (ตามเงื่อนไขตอนปี 2018 ที่ Sharp มีสิทธิซื้อหุ้นก้อนที่เหลือเพิ่มหรือ call option) ตอนนี้ Dynabook จึงมีสถานะเป็นบริษัทลูกของ Sharp แล้ว 100% และถือว่า Toshiba ถอนตัวออกจากธุรกิจโน้ตบุ๊กอย่างเป็นทางการ ที่มา - Toshiba, The Register
# Facebook Gaming ยอมตัดฟีเจอร์เล่นเกมในแอพ เพื่อให้แอปเปิลอนุมัติขึ้น App Store Facebook สามารถนำแอพ Facebook Gaming เวอร์ชัน iOS ขึ้น App Store ได้สำเร็จ หลังจากต้องยอมตัดฟีเจอร์ instant games ออก เพราะผิดกฎของแอปเปิล ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า Facebook Gaming ไม่สามารถขึ้น App Store ได้เพราะแอปเปิลไม่ยอมให้มี "เกมในแอพ" ซึ่งเป็นข้อห้ามเดียวกับที่เพิ่งเป็นข่าวกรณีห้ามเกมสตรีมมิ่ง xCloud และ Stadia ทีมงาน Facebook Gaming ออกมาแฉเรื่องนี้ (ผ่านทวิตเตอร์) ว่าโดนแอปเปิลปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า จุดประสงค์หลักของ Facebook Gaming คือการเล่นเกม ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะ 95% ของผู้ใช้เวอร์ชัน Android เอาไว้ดูสตรีมเกมต่างหาก แต่แอปเปิลไม่สนใจ และหลังแอปเปิลประกาศในงาน WWDC ว่าปรับกระบวนการรีวิวแอพใหม่ ทาง Facebook ยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้ไปอีกครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ Facebook จึงบอกว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมถอดฟีเจอร์เล่นเกมง่ายๆ ออก เพื่อให้แฟนๆ บน iOS สามารถใช้งาน Facebook Gaming รับชมการสตรีมเกมได้ และแนะนำว่าหากต้องการได้ประสบการณ์เต็มรูปแบบ ก็ไปใช้ Android ดีกว่า
# dtac@HOME เน็ตบ้านแบบใหม่ แชร์ความสุขให้ทุกคนในบ้าน ใช้ไวไฟได้โดยไม่ต้องเดินสาย วันนี้เราขอแนะนำ dtac@HOME เน็ตบ้านแบบใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานของทุกคนในบ้าน ราคาไม่แพง ติดตั้งได้เองง่ายสุดๆ เพียงแค่มีอุปกรณ์ เสียบปลั๊กก็พร้อมใช้งานได้ทันที... ให้ทุกๆกิจกรรมแฮปปี้ ไม่ว่า คุณพ่อจะดูหนัง คุณแม่ฟังเพลง หรือลูกๆ จะเล่นเกมส์ ก็ใช้เน็ตกันได้เต็มที่ dtac@HOME สะดวก ติดตั้งง่าย ใช้ได้ทันทีแค่เสียบปลั๊ก ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเดินสายให้วุ่นวายเพื่อให้ได้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพราะตอนนี้ dtac@HOME มีบริการใหม่ อีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการความสะดวก ใช้งานง่าย ไม่อยากรอคิวติดตั้ง นัดช่างให้วุ่นวาย เพียงแค่มีอุปกรณ์เสียบปลั๊กก็พร้อมเล่นอินเทอร์เน็ตได้ทันที การสมัคร dtac@HOME ก็ง่ายมาก แค่เริ่มจากการตรวจสอบพื้นที่ให้บริการโดยการ ”คลิกเพื่อเช็กพื้นที่ให้บริการ dtac@Home ซึ่งมีให้บริการในทุกจังหวัด ยกเว้นกรุงเทพฯและปริมณฑล หากอยู่ในพื้นที่สามารถสั่งซื้อชุดอุปกรณ์ dtac@HOME ทางช่องทางออนไลน์โดยรออุปกรณ์ไปส่งที่บ้านภายใน 3-5 วัน หรือซื้อจากจุดจำหน่ายอย่างศูนย์บริการ dtac hall สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ลิงค์นี้ https://athome.dtac.co.th/how-to-buy ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าคนในบ้านของคุณจะใช้งานอินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟน ทีวี คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ใด ๆ ที่มีไวไฟ ก็สามารถสนุกกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและเสถียรจาก dtac โดยความแรงครอบคลุมทุกพื้นที่ในบ้าน ไม่ต้องแย่งกันอุปกรณ์ใช้อินเตอร์เน็ต คุ้มค่า เริ่มต้นเพียง 399 บาท ได้อินเทอร์เน็ตที่เร็วและเสถียรได้ไม่อั้น และราคาก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะแพ็กเกจของ dtac@HOME มีสองแบบ เริ่มต้นที่ 399 บาท/เดือนสำหรับความเร็ว 10mbps และ 499 บาท/เดือนสำหรับความเร็ว 20mbps เลือกใช้ได้ตามความต้องการของคนในบ้านคุณ อุ่นใจ รับประกันความพึงพอใจ 7 วัน สามารถคืนอุปกรณ์ภายใน 7 วันนับจากวันซื้อ และรับเงินคืนได้ หากคุณไม่พึงพอใจในการใช้งาน dtac@HOME มิติใหม่ของอินเทอร์เน็ตบ้าน คุ้มค่า สะดวก ติดตั้งง่าย ไม่วุ่นวาย ไม่ต้องเดินสาย แชร์ความสุขให้ทุกคนในบ้านให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลย https://bit.ly/dtacathome_Blognone
# โซนี่ไทยเปิดตัวทีวี 8K รุ่น Z8H แสดงผล 4K 120fps ใช้ DualSense ของ PS5 เปิดทีวีได้ โซนี่ประเทศไทยเปิดตัวทีวี Bravia ระดับเรือธงรุ่น Z8H ความละเอียด 8K ขนาด 85 นิ้ว และสามารถแสดงผลแบบรีเฟรชเรท 120Hz ได้ที่ความละเอียด 4K จอเป็นแพแนล LED แบบ Full Array ชิปประมวลผลภาพ X1 รองรับ HDR10, HLG และ Dolby VIsion รวมถึงมีโหมด Netflix Calibrate เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพและสีใกล้เคียงกับที่สตูดิโอหรือผู้กำกับต้องการมากที่สุด (เฉพาะ Netflix Original) ระบบเสียงรองรับ Dolby Atmos ตัวทีวีเป็น Android TV รัน Android Pie แต่ก็รองรับ Alexa และ AirPlay 2 และ HomeKit ของแอปเปิลด้วย เปิดให้พรีออเดอร์วันที่ 8-18 สิงหาคม ราคา 329,990 บาท พร้อมรับของสมนาคุณเป็นหูฟัง WH-1000XM4 และซาวด์บาร์รุ่นใหม่ HT-G700 มูลค่ารวม 33,980 บาท พร้อมรับประกันเพิ่ม 3 ปี โซนี่โปรโมท Z8H ด้วยแท็กไลน์ Ready for PlayStation 5 ซึ่งจากที่หาข้อมูลก็ยังไม่ค่อยแน่ใจในความพิเศษของทีวีที่มีแท็กไลน์นี้ นอกจากการที่สามารถเปิดทีวีได้ด้วยจอย DualSense ของ PS5 ไปพร้อม ๆ กับการเปิดคอนโซล หรือใช้รีโมททีวีควบคุม PS5 (ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าทีวีบราเวียรุ่นอื่นจะทำได้แค่ไหนอย่างไร ถ้าไม่มีแท็กไลน์นี้) ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
# Trump ออกคำสั่งทางการเตรียมแบน TikTok หากไม่ขายให้สหรัฐฯ, WeChat โดนด้วย Donald Trump ออกคำสั่งฝ่ายบริหารแบน TikTok อย่างเป็นทางการ โดยตัวคำสั่งให้เวลา 45 วันเพื่อให้ทาง ByteDance สามารถขาย TikTok ออกไปให้กับบริษัทสหรัฐฯ ตามที่ไมโครซอฟท์เคยออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ แต่ประกาศนี้ออกมาพร้อมกับประกาศแบบเดียวกันแต่แบน WeChat ของทาง Tencent ไปด้วย เนื้อหาประกาศทั้งสองฉบับคล้ายกัน โดยระบุว่าแอปทั้งสองเก็บข้อมูลของผู้ใช้จำนวนมากจนเปิดทางให้รัฐบาลจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของพลเมืองสหรัฐฯ ได้กว้างขวาง และเซ็นเซอร์เนื้อหาตามความต้องการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ขณะที่คำสั่งแบน WeChat นั้นเพิ่มเนื้อหาว่า WeChat เปิดทางให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนติดตามพลเมืองจีนที่ได้มาเยือนสหรัฐฯ และได้สัมผัสสังคมเสรีเป็นครั้งแรกในชีวิต ทาง TikTok ออกแถลงการณ์ว่าบริษัทช็อคกับคำสั่งที่ไม่ผ่านกระบวนการใด แม้ว่าบริษัทจะพยายามหาทางออกร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ มาตลอด โดยระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อ้างรายงานโดยไม่อ้างอิงว่าเป็นรายงานใด หรือใช้ข้อกล่าวหาหว่านแหว่า TikTok "อาจจะ" ถูกใช้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ที่มา - CNN, The Whitehouse 1, 2, TikTok
# [อัพเดตราคา] โซนี่เปิดตัว WH-1000XM4 หูฟัง ANC ไร้สายตัวท็อป ราคา 13,990 บาท หลังจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง WH-1000XM3 ได้รับคำชมว่าเป็นหูฟังไร้สายแบบ ANC ที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง เมื่อคืนโซนี่ได้เปิดตัว WH-1000XM4 ที่เป็นรุ่นอัพเกรดแล้ว โดยรูปลักษณ์ภายนอกแทบจะไม่แตกต่างจากรุ่นเก่า แต่มีการปรับปรุงเรื่องดีไซน์ยิบย่อย รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ๆ เข้ามา ในแง่ดีไซน์ โซนี่บอกว่าออกแบบที่ครอบหูใหม่ เพื่อให้รู้สึกสบายมากขึ้นเมื่อสวมใส่นาน ๆ ขณะที่ไดร์ฟเวอร์ข้างในยังคงเป็นขนาด 40 มม. เช่นเดิม เสริมด้วยเทคโนโลยีเอนจินเสียง DSEE Extreme ที่อัพเกรดจากรุ่นเก่า ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาก็มี การรองรับการเชื่อมต่อพร้อมกัน 2 เครื่อง Speak-to-Chat ต่อยอดจาก Quick Attention เดิมที่ต้องเอามือไปแตะหูฟังเพื่อเปิดโหมด Ambient คราวนี้ XM4 จะตรวจจับเสียงของคนใช้ให้อัตโนมัติ เมื่อเราพูดหรือมีการสนทนา หูฟังจะเปิดโหมด Ambient ให้อัตโนมัติ Adaptive Sound Control ที่ฉลาดขึ้น ฟีเจอร์ที่คนใช้ XM3 น่าจะอยากได้ที่สุด คือถอดหูฟัง เพลงจะหยุดให้อัตโนมัติ และเมื่อใส่กลับเข้าไปเพลงก็จะเล่นให้เช่นเดิม WH-1000XM4 สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง และหากแบตหมดสามารถชาร์จ 10 นาทีใช้งานต่อได้ราว 5 ชั่วโมง วันวางจำหน่ายยังไม่ออกมา แต่เปิดให้พรีออเดอร์บน Amazon และ Bestbuy ที่ 350 ดอลลาร์เท่า XM3 ตอนเปิดตัว ทำให้ราคาไทยน่าจะไม่ต่างกัน โซนี่ไทยเปิดราคาไทยแล้วที่ 13,990 บาท มีสีดำและสีเงิน วางขาย 17 สิงหาคมนี้ ที่มา - Android Police, Sony
# Google เพิ่มตัวเลือก opt-in ให้ผู้ใช้เก็บเสียงและอนุญาตให้นำไปพัฒนา Google Assistant หลัง Google ปรับนโยบายไม่เก็บข้อมูลเสียงผู้ใช้งาน Google Assistant เป็นค่าดีฟอลต์ตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว ล่าสุด Google เริ่มทยอยส่งอีเมลหาผู้ใช้งาน Google Assistant หรือ Google Home ระบุว่าเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้งาเลือกอนุญาตให้ Google นำเสียงตัวเองไปวิเคราะห์และพัฒนาต่อได้ (opt-in) ด้วยการเข้าไปที่ https://myactivity.google.com/consent/assistant/vaa แล้วเลือก Audio recordings ให้เป็น On พร้อมรายละเอียดว่า Google เอาเสียงไปใช้ทำอะไรบ้าง Google จะนำเสียงไปพัฒนาอัลกอริทึม 2 ส่วนหลัก ๆ ส่วนแรกคือปรับปรุง Voice Match สำหรับการที่เกี่ยวข้องกับบัญชีของผู้ใช้เอง อีกส่วน Google ระบุว่าจะแปลงข้อมูลให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้เพื่อพัฒนา Google Assistant โดยรวม และอาจถูกตรวจสอบ transcription โดยมนุษย์ ที่มา - The Verge
# กูเกิลทำแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ในเมืองใหญ่ของอินเดีย เข้าถึงครูและนักเรียนกว่า 23 ล้านคน ก่อนหน้านี้กูเกิลประกาศลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอินเดียก้อนใหญ่ร่วม 10,000 ล้านดอลลาร์ และหนึ่งในการลงทุนนั้นเน้นให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาด้วย ล่าสุด กูเกิลจับมือกับภาครัฐอินเดีย ทำแพลตฟอร์มสอนและเรียนออนไลน์ในเมืองใหญ่ Maharashtra ซึ่งนักเรียนและครูราว 23 ล้านคนจะได้ใช้งานฟรี กูเกิลบอกว่า ครูมากกว่า 150,000 คนสมัครเข้าร่วมโปรแกรมภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง การสำรวจจากรัฐบาลยังบอกด้วยว่า ครูในรัฐ Maharashtra มีความสนใจการสอนทางเลือกในรูปแบบออนไลน์ Maharashtra ถือเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจาก COVID-19 มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 460,000 ราย และเช่นเดียวกับเมืองอื่น ๆ ในอินเดียที่ปฏิบัติตามคำสั่งล็อกดาวน์ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม กูเกิลเร่งลงทุนและทำโครงการการศึกษาในอินเดียอย่างมากในช่วง 1-2 เดือนมานี้ ก่อนหน้านี้ได้ร่วมมือกับหน่วยงานดูแลโรงเรียนเอกชนและรัฐบาลในอินเดียหรือ Central Board of Secondary Education (CBSE) ที่ดูแลโรงเรียน 22,000 แห่ง ในการสนับสนุนให้โรงเรียนในอินเดียได้ใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อการศึกษา และ Facebook ก็เข้ามาลงทุนทำหลักสูตรการศึกษาด้วยเช่นกัน ภาพจาก กูเกิล ที่มา - TechCrunch
# Uber รายงานผลประกอบการไตรมาส ธุรกิจส่งอาหารเติบโตกว่าเท่าตัว เนื่องจากกลายเป็นสิ่งจำเป็น Uber รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2020 รายได้ 2,241 ล้านดอลลาร์ ลดลง 29% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากบริการรถโดยสารลดลง 67% (790 ล้านดอลลาร์) ส่วนบริการเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้น 103% (1,211 ล้านดอลลาร์) สุทธิแล้วขาดทุน 1,775 ล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากปีก่อน ซีอีโอ Dara Khosrowshahi กล่าวว่าการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรถโดยสารโดยตรง แต่ก็ทำให้ธุรกิจเดลิเวอรี่เติบโตสูง เนื่องจากคนต้องอยู่ที่บ้าน แต่ก็สั่งอาหารมาทานมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยเขาอธิบายเพิ่มเติมในช่วงแถลงผลประกอบการว่า ธุรกิจเดลิเวอรี่ถูกเปลี่ยนมาเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของลูกค้า จากเดิมที่เป็นทางเลือก ที่มา: Uber และ CNBC
# แอปเปิลยืนยัน บล็อคบริการเกมสตรีมมิ่งแบบ xCloud หรือ Stadia เพราะผิดกฎแพลตฟอร์ม ไมโครซอฟท์เพิ่งเปิดตัวบริการเกมสตรีมมิ่ง Project xCloud อย่างเป็นทางการ โดยรองรับเฉพาะอุปกรณ์กลุ่ม Android เท่านั้น จึงเกิดคำถามตามมาว่าฝั่ง iOS จะเป็นอย่างไร เพราะไมโครซอฟท์ยังปิดการทดสอบ xCloud บน iOS ไปพร้อมกันด้วย วันนี้มีคำตอบชัดเจนแล้วจากทางแอปเปิล ว่าบริการเกมสตรีมมิ่งลักษณะนี้ (ทั้ง xCloud หรือ Stadia) ผิดนโยบายของ App Store เนื่องจากแอปเปิลไม่สามารถตรวจสอบเนื้อหาของเกมที่สตรีมมาได้ แอปเปิลระบุว่าเกมใดๆ ที่เปิดให้เล่นบน iOS จำเป็นต้องถูกตรวจสอบบนมาตรฐานเดียวกัน เพื่อปกป้องผู้ใช้ และเพื่อความเป็นธรรมกับนักพัฒนาที่เผยแพร่เกมแบบปกติ (ผ่านการดาวน์โหลด ไม่ใช่สตรีม) แอปเปิลมีบริการเกมเหมาจ่ายของตัวเองคือ Apple Arcade ที่ยังเป็นบริการเกมแบบดาวน์โหลดอย่างเดียว แต่ก็เคยมีข่าวลือว่าแอปเปิลกำลังทำ Apple Arcade เวอร์ชันสตรีมเกมอยู่เช่นกัน ที่มา - Business Insider
# Android 11 ออก Beta 3 รุ่นทดสอบสุดท้ายก่อนตัวจริง กูเกิลออก Android 11 Beta 3 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนออก Android 11 ตัวจริง ตอนนี้เปิดให้ทดสอบแล้วบนมือถือกลุ่ม Pixel คือ 2, 3, 3a, 4 และ 4a ของใหม่ใน Beta 3 แทบไม่มีแล้ว เพราะหยุดพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มมาตั้งแต่ Beta 2 เพื่อเน้นเสถียรภาพและแก้บั๊ก การเปลี่ยนแปลงจริงจังมีเพียง Exposure Notification System ที่เป็น API สำหรับแอพ COVID Tracing ของกูเกิล จะสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเปิดการตั้งค่า device location ซึ่งกูเกิลบอกว่าเป็นข้อยกเว้นพิเศษสำหรับ Exposure Notification เพียงตัวเดียวเท่านั้น ก่อนหน้านี้ กูเกิลเคยหลุดว่าจะปล่อย Android 11 ตัวจริงในวันที่ 8 กันยายน ที่มา - Google
# ยังไม่ทันครบปีเลย กูเกิลประกาศหยุดขาย Pixel 4 แล้ว กูเกิลประกาศหยุดขาย Pixel 4 และ Pixel 4 XL หลังวางขายมาได้เพียง 9 เดือนเท่านั้น (เริ่มขายครั้งแรกเดือนตุลาคม 2019) ตอนนี้ Pixel 4 และ 4 XL ไม่มีขายบนหน้าเว็บ Google Store แล้ว แต่อาจยังมีสต๊อกบนร้านค้าบางแห่งอยู่ และถึงแม้เลิกขายแล้ว ก็จะได้ซัพพอร์ตเป็นระยะเวลานาน 3 ปีตามปกติเหมือน Pixel รุ่นอื่นๆ ปกติแล้ว กูเกิลจะวางขาย Pixel นานประมาณ 18 เดือน หรือวางขายต่ออีก 6 เดือนหลังเปิดตัว Pixel รุ่นใหม่แล้ว การหยุดขาย Pixel 4 ในตอนนี้จึงแปลว่ากูเกิลไม่มีมือถือเรือธงวางขาย อย่างน้อยก็จนกว่า Pixel 5 ที่น่าจะเปิดตัวในเดือนตุลาคม ที่มา - The Verge
# ที่ปรึกษาไอทีชาวสวิสโพสต์เอกสาร/ซอร์สโค้ดหลุดจากอินเทลรวม 20GB โค้ดเฟิร์มแวร์, ไดร์เวอร์หลุดออกสาธารณะ Tillie Kottmann ที่ปรึกษาไอทีชาวสวิสผู้โพสต์ข้อมูลหลุดอยู่เป็นระยะ โพสต์ไฟล์ข้อมูลที่ระบุว่าหลุดจากอินเทลจำนวนมากถึง 20GB โดยส่วนมากเป็นเอกสารออกแบบ, เนื้อหาฝึกสอนภายใน, ซอร์สโค้ด, และชุดพัฒนาสำหรับพันธมิตรต่างๆ ไฟล์ที่หลุดออกมาเช่น เครื่องมือติดตั้ง Intel ME สำหรับจัดการเครื่อง, ซอร์สโค้ด BIOS สำหรับแพลตฟอร์ม Kabylake, ชุดพัฒนา bootloader สำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์, ไดร์เวอร์กล้องสำหรับ SpaceX, ไปจนถึงพิมพ์เขียวออกแบบชิป Xeon ในภาษา Verilog Kottmann ระบุว่าได้ไฟล์เหล่านี้มาจากบุคคลไม่เปิดเผยตัวที่เข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้เพราะการคอนฟิกโครงสร้างองค์กรไว้ไม่ดี (อาจจะเป็นเซิร์ฟเวอร์แชร์ไฟล์ที่หลุดออกสู่อินเทอร์เน็ต หรือการนำไฟล์ขึ้นคลาวด์ที่คอนฟิกผิดพลาด) โดยตัว Kottmann อยากให้ผู้คนรู้ว่าฮาร์ดแวร์ที่กำลังใช้งานอยู่สามารถใช้งานได้เต็มที่ และนักวิจัยสามารถวิเคราะห์ด้านใหม่ๆ ของฮาร์ดแวร์ได้ ที่มา - The Register ภาพชิป Core รุ่นที่ 10 จากอินเทล
# ซัมซุงประกาศ เรือธงนับจาก Galaxy S10 การันตีอัพเดต Android เวอร์ชันใหญ่ 3 รุ่น เก็บตกข้อมูลจากงานแถลงข่าวของซัมซุงเมื่อวานนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือซัมซุงประกาศขยายระยะเวลาอัพเดต OS เวอร์ชันใหญ่ จากของเดิม 2 ปี มาเป็น "3 รุ่นใหญ่" (generations) อย่างไรก็ตาม มีสมาร์ทโฟนเฉพาะบางรุ่นเท่านั้นที่ได้ระยะเวลาอัพเดต OS นาน 3 รุ่น ได้แก่ตระกูลเรือธงทั้ง S, Note และ Z ส่วนมือถือซีรีส์ A ไม่การันตี 3 รุ่น แต่จะได้อัพเดตเท่ากับ "อายุของฮาร์ดแวร์" (until hardware allows) แทน นโยบายใหม่จะมีผลนับจาก Galaxy S10 เป็นต้นไป ซึ่งหมายถึง Galaxy Note 10, S20, Note 20 รวมถึงกลุ่มฝาพับคือ Galaxy Fold, Galaxy Z Flip, Galaxy Z Fold 2 ด้วย ตัวอย่างจาก Galaxy S10 ที่มาพร้อม Android 9 ก็จะได้อัพเดต OS เป็น Android 10, 11, 12 ที่มา - xda, The Verge ภาพจากซัมซุง
# AIS ไตรมาส 2/2020 รายได้มือถือลดจาก COVID-19 แต่ Fibre โตมากเพราะ WFH AIS ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2020 ซึ่งเป็นไตรมาสที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 เข้าเต็มๆ รายได้ 42,256 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 4.1% เพราะนักท่องเที่ยวลดลง และต้องปิดร้าน AIS Shop ชั่วคราว กำไร 7,235 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 6.7% แต่เติบโตขึ้น 3.3% จากไตรมาส 1/2020 เพราะควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น AIS ประเมินผลประกอบการตลอดทั้งปี 2020 ว่าครึ่งหลังมีสัญญาณดีขึ้น แต่โดยรวมแล้วรายได้จะลดลงจากปี 2019 จากสภาพเศรษฐกิจ ที่ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายลง โทรศัพท์มือถือ รายได้ของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ลดลง 7.8% จากปีก่อน และลดลง 2.6% จากไตรมาสก่อน โครงการอินเทอร์เน็ตฟรีของ กสทช. ทำให้รายได้จากการเติมเงินลดลง โดยเงินชดเชยจาก กสทช. จำนวน 870 ล้านบาท สามารถทดแทนรายได้ที่หายไปได้เพียงบางส่วน จำนวนลูกค้ามือถือ 41 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็น ลูกค้ารายเดือน 9.5 ล้านราย เพิ่มขึ้น 395,000 ราย, ลูกค้าเติมเงิน 31.4 ล้านราย ลดลง 531,900 ราย โดยปัจจัยหลักคือลูกค้า Sim2Fly ที่หายไป รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ลดลงเล็กน้อย -2.7% สำหรับลูกค้ารายเดือน และ 14% สำหรับลูกค้าเติมเงิน บรอดแบนด์ ธุรกิจเน็ตบ้าน AIS Fibre ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ Work from Home มีรายได้ 1,683 ล้านบาท เติบโต 22% จำนวนลูกค้าเติบโตในไตรมาสเดียวถึง 112,200 ราย เยอะที่สุดตั้งแต่เปิดบริการมา (ไตรมาสก่อนๆ เพิ่มประมาณ 5-6 หมื่นราย) จำนวนลูกค้ารวมแตะ 1.2 ล้านรายแล้ว ในช่วงไตรมาส 1/2020 ฝั่งบรอดแบนด์ออกแพ็กเกจราคาถูกลงคือ 299/399 บาทมาเจาะตลาดใหม่ๆ และลดราคาแพ็กเกจ 1Gbps ลงเหลือ 590 บาท ช่วยขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น บริการ AIS Play มีลูกค้าใช้งานจริง (active users) 2.3 ล้านราย AIS ระบุว่าแผนการของปี 2563 ทั้งปี ตั้งเป้าขยายเครือข่าย 5G บนคลื่น 2600MHz ให้ครอบคลุม 13% ของประชากรทั่วไทย และ 50% ของประชากรกรุงเทพ ส่วนคลื่น 700MHz และ 26GHz คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตในไตรมาส 1/2564 ที่มา - AIS (PDF), AIS Slide (PDF)
# Uber เข้าซื้อ Autocab บริการทำซอฟต์แวร์เรียกรถในอังกฤษ Uber ประกาศเข้าซื้อ Autocab บริษัทในอังกฤษให้บริการทำ SaaS ให้กับอุตสาหกรรมรถแท็กซี่และรถเช่าส่วนตัว คาดว่าจะส่งผลประโยชน์แก่ Uber เพื่อจะเข้าถึงผู้ใช้งานในตลาดที่ Uber ไม่เป็นที่นิยมมากนัก ทาง Uber ยังไม่เปิดเผยราคาเข้าซื้อ Autocab ก่อตั้งเมื่อ 1989 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ทำบริการในตลาด 20 ประเทศ มีแอปพลิเคชั่นของตัวเองคือ iGo ซึ่งลูกค้าสามารถมาต่อปลั๊กอินเพื่อเข้าถึงบริการการเดินทางได้ โฆษก Uber ระบุว่าทางบริษัทมีแผนที่จะรองรับการขยายตัวของ SaaS และ iGo ในระดับสากล การเข้าซื้อครั้งนี้ คาดว่าคนขับ Uber จะมีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้งานมากขึ้น และอาจรับงานผ่านแอปอื่นนอกเหนือจาก Uber ได้ ภาพจาก Autocab ที่มา - TechCrunch
# ทวิตเตอร์ให้ผู้ใช้ iOS จำกัดคนที่สามารถตอบใต้โพสต์ของเราได้แล้ว เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้งานสามารถจำกัดกลุ่มคนที่สามารถตอบใต้โพสต์ของเราได้ ล่าสุดเปิดให้ใช้งานแล้วในกลุ่มผู้ใช้ iOS ผู้ใช้งานเลือกได้ว่าจะให้ใครมาตอบใต้โพสต์เราได้ มีสามทางเลือกคือ ทุกคน, เฉพาะคนที่เราติดตาม และเฉพาะคนที่เราแท็กถึงในโพสต์นั้นๆ ยังไม่รู้ว่าฟีเจอร์นี้จะมายังผู้ใช้แอนดรอยด์และเวอร์ชั่นเว็บไซต์เมื่อไร ที่มา - The Verge
# โปรแกรมเมอร์ว่างงาน npm ล่มกว่าชั่วโมงแล้ว ติดตั้งแพ็กเกจไม่ได้ วันนี้ตั้งแต่ช่วงก่อนสี่โมงที่ผ่านมาบริการ npmjs มีปัญหาทั้งเว็บไซต์และบริการดาวน์โหลดแพ็กเกจ ส่งผลให้สคริปต์หลายตัวไม่ทำงาน GitHub เพิ่งเข้าซื้อ npm เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้เจ้าของ npm กลายเป็นไมโครซอฟท์ ที่มา - npm status
# TypeScript เปิดตัวโลโก้อย่างเป็นทางการ พัฒนามาจากโลโก้ที่นิยมใช้กันอยู่แล้ว ไมโครซอฟท์เปิดตัวเว็บไซต์ของภาษา TypeScript เวอร์ชันใหม่ พร้อมโลโก้ใหม่อย่างเป็นทางการ เดิมทีโลโก้ของ TypeScript เป็นตัวอักษรล้วนๆ ไม่มีลูกเล่นอะไร (ดีกว่า JavaScript ที่ไม่มีโลโก้อย่างเป็นทางการเลยแม้แต่น้อย) แต่ภาวะขาดแคลนโลโก้สำหรับใช้เป็นสัญลักษณ์ ทำให้ชุมชนโปรแกรมเมอร์ต้องสร้างโลโก้แบบไม่เป็นทางการขึ้นมาใช้กันเอง ผลคือโลโก้ JavaScript ที่เป็น JS ในกรอบสีเหลืองที่เราคุ้นกันดี ส่วน TypeScript ก็มีคนสร้างล้อตามกันเป็นคำว่า TS ในกรอบสีน้ำเงิน ไมโครซอฟท์จึงนำโลโก้ TypeScript ที่นิยมอยู่แล้วมาดัดแปลงเล็กน้อย เปลี่ยนมาใช้ฟอนต์ Segoe UI ของไมโครซอฟท์เอง และปรับมุมของสี่เหลี่ยมให้โค้งแทน ออกมาเป็นโลโก้ตามที่เห็นกัน ส่วนเว็บไซต์ typescriptlang.org ก็ถูกยกเครื่องใหม่หมด หลังจากใช้เวอร์ชันเดิมมานาน 6 ปี หน้าตาสวยงาม ทันสมัยขึ้น เมนูนำทางเข้าใจง่ายขึ้น และมีโปรแกรมทดลองเขียน TypeScript บนหน้าเว็บ (เรียกภายในว่า Playground) เวอร์ชันใหม่ที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นด้วย ที่มา - Microsoft
# Nintendo รายงานผลประกอบการไตรมาส Animal Crossing: New Horizons ขายไปแล้วรวม 22.4 ล้านชุด นินเทนโดรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน 2020 ยอดขาย 3.58 แสนล้านเยน เพิ่มขึ้นถึง 108.1% เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2019 และมีกำไรสุทธิ 1.06 แสนล้านเยน ยอดขายที่เพิ่มระดับเท่าตัวนั้น มาจากทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดย Nintendo Switch ขายได้อีก 5.68 ล้านเครื่อง แบ่งเป็น Switch 3.05 ล้านเครื่อง และ Switch Lite 2.62 ล้านเครื่อง สุทธิขายไปรวม 61.4 ล้านเครื่องนับตั้งแต่เปิดตัว ส่วนเกมขายไปทั้งหมด 50.43 ล้านชุด เกมเด่นในไตรมาสที่ผ่านมาได้แก่ Animal Crossing: New Horizons ขายไปได้อีก 10.63 ล้านชุด (รวม 22.4 ล้านชุด), Xenoblade Chronicles ขายได้ 1.32 ล้านชุด และ Clubhouse Games: 51 Worldwide Classics ขายได้ 1.03 ล้านชุด นินเทนโดอัพเดตสถานการณ์การผลิต Switch ว่าตอนนี้กลับมาเกือบปกติแล้ว แต่ถ้าสถานการณ์โควิด-19 แย่ลง ก็อาจกลับมากระทบการผลิตได้อีกครั้ง นินเทนโดยังรายงานตัวเลขของ Ring Fit Adventure โดยขายไปได้แล้ว 4 ล้านชุด นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งยอดขายเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน เนื่องจากกลับมาผลิตสินค้าได้ตามปกติ ที่มา: นินเทนโด
# Samsung One UI 3 แบบครอบทับ Android 11 ใกล้เข้าสู่ช่วงพรีเบต้าแล้ว Samsung เตรียมทดสอบ One UI 3 แบบรันครอบทับ Android 11 ในรอบพรีเบต้า กับนักพัฒนาและพาร์ทเนอร์ในเกาหลีใต้และอเมริกาที่ผ่านข้อกำหนดของ Samsung แล้ว ซึ่งในรอบพรีเบต้านี้ จะเปิดให้นักพัฒนาที่ต้องการทดสอบความเข้ากันได้ของแอปจากผู้ให้บริการเครือข่ายบางเจ้า บนมือถือตระกูล Galaxy S20 เท่านั้น (S20, S20+, S20 Ultra LTE/5G) ตอนนี้ ตัวซอฟต์แวร์พรีเบต้ายังไม่พร้อมให้ทดสอบอย่างเป็นทางการ แต่ Samsung กำลังเชิญนักพัฒนาที่เกี่ยวข้อง มาเป็นพาร์ทเนอร์ในการทดสอบอยู่ และนักพัฒนาที่เข้าร่วมเหล่านี้จะได้รับซอฟต์แวร์พรีเบต้าสำหรับทดสอบ เมื่อพร้อม และจะมีรอบเบต้าสำหรับคนทั่วไปให้ทดสอบในภายหลัง เมื่อซอฟต์แวร์ค่อนข้างสเถียรแล้ว โดยประเทศที่ผู้ใช้จะสามารถเข้าร่วมโปรแกรมเบต้าของ One UI ได้ ประกอบด้วยประเทศจีน เยอรมัน อินเดีย โปแลนด์ เกาหลีใต้ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา Samsung กำลังเร่งพัฒนานโยบายด้านการซัพพอร์ตและอัพเดตมือถือให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลัง โดยเทียบ Google Pixel ได้แล้ว ในด้านแพทช์ความปลอดภัย และในรุ่น Note 20 ยังการันตีอัพเดตเวอร์ชั่นแอนดรอยด์ขั้นต่ำถึงสามปี เท่ากับ Pixel อีกด้วย ที่มา - Android Police
# รัฐบาลสหรัฐออกโครงการ Clean Network ป้องกันโครงสร้างพื้นฐานไอทีและโทรคมนาคมจากจีน Mike Pompeo รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐประกาศ Clean Network ที่ประกอบไปด้วย 6 มาตรการย่อย เพื่อรับมือและป้องกันโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและโทรคมนาคมของประเทศจากตัวแสดง (ในเวทีระหว่างประเทศ) ที่มุ่งร้าย เช่น พรรคคอมมิวนิสต์จีน Clean Carrier - โอเปอเรเตอร์ของจีนจะต้องไม่มีการเชื่อมต่อกับโอเปอเรเตอร์สหรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทที่เป็นภัยคุกคามกับความมั่นคงให้บริการโทรคมนาคมไม่ว่าจะขาเข้าหรือขาออกสหรัฐ Clean Store - ลบแอปที่ไม่น่าเชื่อถือออกจากแอปสโตร์สหรัฐ โดยเฉพาะแอปจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและองค์กร, เผยแพร่ข้อมูลเท็จ, แพร่ไวรัส Clean Apps - ไม่ให้สมาร์ทโฟนจากจีนที่ไม่น่าเชื่อถือ (เช่น Huawei) ติดตั้งแอปสหรัฐจากโรงงานหรือมีแอปสหรัฐให้ดาวน์โหลดในสโตร์ พร้อมเรียกร้องให้ให้ผู้ให้บริการแอปสหรัฐไม่ให้ความร่วมมือกับประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการลบแอปจากสโตร์ Huawei Clean Cloud - ป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล ไปจนถึงข้อมูลสำคัญและทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ (เช่นงานวิจัยวัคซีนโควิด) ถูกนำไปเก็บหรือประมวลผลจากคลาวด์ของผู้ให้บริการจีน เช่น Alibaba, Baidu, Tencent Clean Cable - ป้องกันไม่ให้เคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับสหรัฐ ถูกแทรกแซงหรือดักข่าวกรองจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน Clean Path - เป็นมาตรการที่ออกมาตั้งแต่เมษายน เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน 5G ที่ปลอดภัย ที่มา - U.S. Department of State, @SecPompeo
# TikTok สร้างศูนย์ข้อมูลในยุโรปแห่งแรกที่ไอร์แลนด์ 500 ล้านดอลลาร์ TikTok แอปวิดีโอสั้นที่ฮิตในกลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังเป็นประเด็นเรื่องความปลอดภัย และการเมืองระหว่างประเทศจีน-สหรัฐฯ ทางบริษัทพยายามจะทำให้ ตัวเองหลุดพ้นจากภาพลักษณ์บริษัทจีน จึงได้ลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลในยุโรปแห่งแรกที่ไอร์แลนด์ บริษัทตั้งเป้าใช้งานศูนย์ข้อมูลในปี 2022 และจะจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ในยุโรปไว้ที่ศูนย์ข้อมูลนี้ TikTok ยังบอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการจัดตั้ง EMEA Trust and Safety Hub ในดับลินเมื่อต้นปีและกล่าวว่าการลงทุนครั้งใหม่นี้เป็นการบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินกิจการระยะยาวในไอร์แลนด์ TikTok ระบุด้วยว่า การขยายการดำเนินงานภายในพรมแดนสหภาพยุโรปเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามทั่วโลกของ TikTok ในการพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นพลเมืองอินเทอร์เน็ตที่มีความรับผิดชอบและเป็นผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ ที่มา - SCMP
# เหมาะกับสายอินดี้ บริษัทหลักทรัพย์ ทรินิตี้ ร่วมมือ Bitkub แนะนำการลงทุนเงินคริปโต เมื่อวานนี้บริษัทหลักทรัพย์ ทรินิตี้ประกาศความร่วมมือกับ Bitkub ในการแนะนำลูกค้าให้เปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับทาง Bitkub และเตรียมร่วมมือในการแนะนำการลงทุนต่อไปในอนาคต ทางทรินิตี้ซึ่งเป็นโบรกเกอร์หลักทรัพย์ปกติอยู่แล้ว ให้ความเห็นถึงสินทรัพย์กลุ่มเงินคริปโตว่ามีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์อื่นต่ำ โดยปีนี้เฉพาะบิตคอยน์นั้นให้ผลตอบแทนสูงถึง 53% ขณะที่หุ้น NASDAQ ให้ผลตอบแทน 19% ขณะที่กองทุนอย่าง Thai REIT นั้นติดลบถึง 20.4% และความผันผวนของเงินคริปโตก็ลดลงมากแล้วในช่วงหลังทำให้เป็นตัวเลือกการลงทุนในสัดส่วน 1-5% ได้ ที่มา - Trinity Security
# Google Assistant เพิ่ม Family Bell แจ้งเตือนให้เรียนออนไลน์, งีบหลับระหว่างวัน Google Assistant เพิ่มความสามารถใหม่ Family Bell ในช่วงที่เด็ก ต้องเรียนที่บ้าน สามารถตั้งค่าให้ผู้ช่วยอัจฉริยะแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเรียนออนไลน์, เวลาพัก, เวลาอ่านหนังสือ ทำการบ้าน ฯลฯ วิธีสั่งงานคือ พูด “Hey Google, create a Family Bell” หรือกดที่ปุ่ม Family Bell ในเมนูตั้งค่าผ่านมือถือทั้ง iOS, แอนดรอยด์ หรือใน Smart Display ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับเราได้ เช่น ถึงเวลาเรียนวิชาคณิตศาสตร์, ถึงเวลานอนพักระหว่างวัน เป็นต้น Family Bell ใช้งานได้ในภาษาอังกฤษ เริ่มที่สหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา อินเดีย ออสเตรเลีย ที่มา - กูเกิล
# เปิดราคา Note 20, Note 20 Ultra เริ่ม 29,990 และ 38,990 บาท, Galaxy Buds Live 6,990 บาท ซัมซุงประเทศไทยประกาศราคาของ Galaxy Note 20 และ Note 20 Ultra แล้ว โดยแต่ละรุ่นแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยคือรุ่น LTE และ 5G ดังนี้ Galaxy Note 20 Ultra มี 2 สีคือ Mystic Bronze และ Mystic Black LTE 8GB/256GB ราคา 38,990 บาท LTE 8GB/512GB ราคา 42,990 บาท 5G 12GB/256GB ราคา 42,900 บาท 5G 12GB/512GB ราคา 46,900 บาท Galaxy Note 20 มี 3 สีคือ Mystic Bronze, Mystic Grey และ Mystic Green LTE 8GB/256GB ราคา 29,900 บาท 5G 8GB/256GB ราคา 33,900 บาท เปิดให้พรีออเดอร์แล้ววันนี้ถึง 18 สิงหาคม พร้อมเลือกรับสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 15,900 บาท (Note 20) เมื่อสมัครแพ็คเกจที่กำหนดผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย หริอ รับโค้ดแลกฟรีหูฟังบลูทูธรุ่นใหม่ล่าสุด Galaxy Buds Live มูลค่า 6,990 บาท เมื่อจอง Galaxy Note20 Ultra หรือ Galaxy Buds+ มูลค่า 4,990 บาท เมื่อจอง Galaxy Note20 ผ่าน Samsung Experience Store, samsung.com และร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือ เลือกอัพเกรดความจุเป็น 512GB เมื่อซื้อ Galaxy Note 20 Ultra หรือ อัพเกรดเป็นรุ่น 5G เมื่อซื้อ Galaxy Note20 ผ่านช่องทาง samsung.com และร้านค้าออนไลน์ที่ร่วมรายการ
# Facebook, Twitter ลบวิดีโอที่ทรัมป์พูดว่าเด็กๆ มีภูมิคุ้มกัน COVID-19 โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ผ่าน Fox เรื่องการเปิดโรงเรียนในช่วงนี้ที่ COVID-19 กำลังระบาดหนักในสหรัฐฯ ทรัมป์สนับสนุนให้เปิดเต็มที่และบอกว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว ล่าสุด Facebook และ Twitter ลบคลิปดังกล่าวออกจากแพลตฟอร์มแล้ว ด้วยเหตุผลให้ข้อมูลที่เป็นอันตรายเกี่ยวกับ COVID-19 โดยถือเป็นการลบเนื้อหาของทรัมป์ออกเป็นครั้งแรกของ Facebook โฆษก Facebook กล่าวว่า วิดีโอนี้มีการอ้างสิทธิ์ผิดอย่างมากว่ามีกลุ่มคนที่ได้รับการยกเว้น ไม่ติดโรค COVID-19 เป็นการบิดเบือนข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ก่อนหน้านี้ Facebook ก็แปะป้ายให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากปากทรัมป์เรื่องการเลือกตั้งผ่านไปรษณีย์ แต่คราวนี้เป็นการแบนทั้งเนื้อหาออกจากแลพตฟอร์มเลย ภาพจาก Getty Images ที่มา - Business Insider
# ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ให้ Your Phone บนพีซี สามารถรันแอป Android จากเครื่องที่เชื่อมอยู่ได้ ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของแอป Your Phone บน Windows 10 Insider Preview Build 20185 ทำให้สามารถรันแอป Android ในเครื่องพีซีแบบสตรีม (screen mirroring) ได้ผ่าน Your Phone โดยไม่ต้องติดตั้งหรือล็อกอินใด ๆ แอปที่ถูกเปิดจะแสดงผลบนหน้าต่างใหม่ และสามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับบนสมาร์ทโฟน และสามารถปักหมุดแอปเอาไว้ที่ Task Bar หรือเมนู Start ได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ Your Phone สามารถเปิดได้ทีละแอปเท่านั้น โดยไมโครซอฟท์ระบุว่าจะอัพเดตให้รันได้พร้อมกันหลายแอปภายในปีนี้ พีซีที่จะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ต้องใช้ Windows 10 เวอร์ชัน October 2018 ขึ้นไปและ Android 9.0 ขึ้นไป ที่มา - Microsoft
# OnePlus ลงเซอร์วิสจาก Facebook ในมือถือใหม่ทุกรุ่น แอปลบได้ เซอร์วิสลบไม่ได้ แต่ปิดได้ OnePlus ที่ใช้ OxygenOS ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่ง UI ที่สะอาดสะอ้านที่สุด เกือบเทียบได้กับ Pure Android แต่ล่าสุด Max Weinbach คนเดียวกับที่เคยเจอโฆษณาบนมือถือ Samsung ก็ต้องทวิตแบบหงุดหงิดอีกครั้ง หลังพบเรื่องให้รำคาญใจ คือมือถือ OnePlus ของเขา อัพเดตแอป Instagram ผ่าน Facebook App Manager แทนที่จะเป็น Google Play Store ตามปกติ เว็บไซต์ Android Police ตรวจสอบไปทาง OnePlus ได้ความว่า OnePlus พรีโหลด Facebook App Installer, Facebook App Manager, Facebook Services รวมถึงแอป Facebook, Messenger, Instagram และ Netflix มาในเครื่องจริง นอกจากนี้ เคยมีผู้ใช้ถามคำถามในฟอรั่ม ว่าทำไมไม่ให้ผู้ใช้เลือกแอปพรีโหลดเอง และ OnePlus มาตอบไว้ ว่าการเลือกพรีโหลดแอปเหล่านี้มาจากความนิยมของผู้ใช้ และการพรีโหลด จะช่วยให้แอป Facebook ใช้งานแบตเตอรี่น้อยลง และช่วยเรื่องการเล่นวิดีโอ HDR บนแอป Netflix ด้วย Max ยังบอกในทวิตเดียวกันอีกว่าเซอร์วิสเหล่านี้มีการใช้งานดาต้าเล็กน้อย ซึ่งค่อนข้างน่ากังวล เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่ากำลังถูกส่งข้อมูลอะไรให้ Facebook บ้าง โชคยังดีที่ผู้ใช้ OnePlus 7T หรือเก่ากว่า จะไม่มีแอปเหล่านี้พรีโหลดมาด้วย และผู้ใช้จะสามารถลบแอป Facebook, Instagram และ Messenger ได้ แต่จะไม่สามารถลบเซอร์วิสของ Facebook ออก ทำได้แค่เข้าไปปิดไว้ในการตั้งค่าเท่านั้น OnePlus กล่าวกับ Android Police อีกว่าจะยังพรีโหลดแอปเหล่านี้ต่อไป ในเครื่องที่วางขายในยุโรป อินเดีย และอเมริกาเหนือ น่าเสียดายที่ความสะอาดสะอ้านไร้ขยะของ OxygenOS กลับต้องมามัวหมองเพราะเซอร์วิสของ Facebook จนได้ ที่มา - Max Weinbach via Android Police
# Google ฝรั่งเศสเผลอระบุวันพรีออเดอร์ Pixel 4a (5G) และ Pixel 5 วันที่ 8 ตุลาคมก่อนลบ ในบล็อกโพสต์เปิดตัว Pixel 4a ของ Google ฝรั่งเศส ทีมงาน Google ได้เผลอระบุว่า Pixel 4a (5G) และ Pixel 5 จะเปิดให้พรีออเดอร์วันที่ 8 ตุลาคมนี้ ก่อนจะลบไป แต่ยังสามารถเข้าถึงได้จากเว็บแคช อันที่จริงช่วงเวลานั้นเป็นกรอบการเปิดตัวมือถือ Pixel อยู่แล้ว ทำให้วันที่ 8 ตุลาคมก็อาจจะเป็นวันเปิดตัว Pixel 5 ก็เป็นได้ ที่มา - Google Blog (cache) via Android Central
# Facebook ทำ Chat Plugin ให้ธุรกิจนำไปใช้บนเว็บไซต์ของตัวเองฟรี Facebook ทำ Chat Plugin หรือประสบการณ์การแชทคุยกับร้านค้าผ่าน Facebook Messenger ให้ธุรกิจนำไปใช้บนเว็บไซต์ของตัวเองฟรี โดยไม่จำเป็นต้องล็อกอินเข้า Facebook กดติดตั้งปลั๊กอินได้ที่นี่ เมื่อติดตั้งแล้ว ธุรกิจสามารถแชทคุยอัตโนมัติกับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ได้เหมือนกับตอนที่ลูกค้าเข้ามาที่เพจ Facebook โดยทาง Facebook ระบุว่าช่วงโรคระบาด ลูกค้ามี engagement กับช่องทางออนไลน์เยอะขึ้น และจากการทดสอบใช้งาน พบว่าร้านค้ามีลูกค้าที่เข้ามาสอบถามผลิตภัณฑ์และบริการมากขึ้น 45% ที่มา - Facebook
# เหมือนใช้โทรศัพท์ ศาลเยอรมันลงโทษคนขับรถ Tesla ที่ชนขณะปรับที่ปัดน้ำฝนบนจอสัมผัส ศาลเมือง Karlsruhe ในเยอรมันตัดสินโทษผู้ขับขี่รายหนึ่งที่ขับรถชนเข้ากับกำแพงข้างทางและต้นไม้ โดยขณะชนชายผู้นี้กำลังปรับความเร็วที่ปัดน้ำฝนบนหน้าจอของรถ Tesla Model 3 โดยศาลลงโทษห้ามขับรถ 1 เดือนและปรับ 200 ยูโร โดยอาศัยกฎหมายห้ามใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขณะขับรถ หรือที่เรามักเข้าใจกันว่าเป็นกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ศาลระบุว่าไม่ว่าหน้าจอจะติดกับตัวรถหรือไม่ก็ไม่สำคัญ โดยตัวกฎหมายนี้ระบุให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เพียงช่วงเวลาชำเลืองมองสั้นๆ (brief glance) และต้องคำนึงถึงสภาพถนน, อากาศ, และการจราจร ขณะที่ Tesla Model 3 นั้นสามารถปรับความเร็วที่ปัดน้ำฝนแบบแมนนวลได้จากการเลือกไอคอนบนหน้าจอเท่านั้น แม้จะเปิด/ปิดที่ปัดน้ำฝนได้จากคันโยกที่พวงมาลัยก็ตาม โดยตัวรถมีฟีเจอร์ปรับความเร็วที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติให้ ที่มา - BBC ภาพจอสัมผัสของรถ Tesla Model S
# 1Password ออกโปรแกรมจัดการรหัสผ่านสำหรับลินุกซ์ ยังอยู่ในขั้นพรีวิว ใช้ Rust+React AgileBits ผู้พัฒนา 1Password โปรแกรมจัดการรหัสผ่านชื่อดังออกโปรแกรมในเวอร์ชั่นลินุกซ์ โดยระบุว่าเป็นเวอร์ชั่นพรีวิวแม้จะมีฟีเจอร์หลักๆ ครบถ้วนแล้วก็ตาม ทาง AgileBits ออกโปรแกรมโดยรองรับแพ็กเกจทั้ง deb และ yum สำหรับดิสโทรตระกูล Red Hat และ Debian, รองรับการปรับธีมมืด/สว่างตามคอนฟิก GTK, สามารถผูกโปรแกรมเข้ากับบัญชีลินุกซ์, และทำงานร่วมกับ clipboard ของ X11 ได้ โดยตัวโปรแกรมพัฒนาด้านหลังด้วยภาษา Rust และหน้าจอด้วย React ทางบริษัทประกาศแจกบัญชีให้ฟรีสำหรับทีมงานโครงการโอเพนซอร์สที่ไม่มีองค์กรธุรกิจหนุนหลัง เพียงแค่เปิด Pull Request กับ repo ของทางบริษัท ที่มา - AgileBits
# Canon ถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่โจมตี กลุ่ม Maze อ้างเป็นผู้กระทำ ระบุขโมยข้อมูลไป 10TB ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคนส่วนมากคงให้ความสนใจกับเหตุแฮก Garmin ที่บริษัทยืนยันว่าเป็นมัลแวร์เข้ารหัสเรียกค่าไถ่ (แม้ไม่ได้บอกตรงๆ แต่บอกว่าถูกโจมตีโดยเข้ารหัสข้อมูล) แต่ช่วงเดียวกันนั้นอีกบริษัทที่ถูกโจมตีเช่นกันคือแคนนอนผู้ผลิตกล้องดิจิทัลและอุปกรณ์สำนักงานรายใหญ่ โดยตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมามีรายงานว่าบริการภายในของบริษัทไม่ทำงาน พร้อมกับบริการฝากภาพ image.canon ก็ใช้การไม่ได้ โดย Bleeping Computer ระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแฮกเกอร์ Maze ทางแคนนอนกู้คือบริการฝากภาพมาได้เมื่อวานนี้แต่ระบุว่าภาพที่เซฟก่อนวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมาในบริการเก็บภาพระยะยาวจะสูญหายไปบางส่วน แต่ยืนยันว่าไม่มีภาพหลุดออกไปจากระบบ ทาง Bleeping Computer ระบุแสดงภาพโน้ตจากมัลแวร์ที่ระบุว่าแสดงในคอมพิวเตอร์ของบริษัทแคนนอน ระบุว่าเป็นมัลแวร์ Maze Ransomware โดยกลุ่ม Maze ยังระบุว่ามัลแวร์ดาวน์โหลดข้อมูลออกไปได้ถึง 10 เทราไบต์ รวมถึงฐานข้อมูลภายใน แต่ไม่ยอมแสดงหลักฐานใดว่าได้ข้อมูลไปจริง และไม่เปิดเผยจำนวนเงินเรียกค่าไถ่ กลุ่ม Maze อ้างความรับผิดชอบในการปล่อยมัลแวร์เรียกค่าไถ่มาแล้วหลายครั้ง โดยนอกจากเข้ารหัสข้อมูลแล้วทางกลุ่มยังมีเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลที่โหลดออกมาได้หากเหยื่อไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มเคยโจมตีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และยังอ้างความรับผิดชอบการแฮกองค์กรอื่นๆ เช่น Xerox, Sogou เว็บค้นหาของจีน, หรือ ThaiBev แม้จะไม่ได้แสดงหลักฐานอื่นนอกจากการโพสไฟล์ zip แบบติดรหัส ที่มา - Bleeping Computer ภาพจากแคนนอน
# LibreOffice 7.0 ออกแล้ว หลังจากดราม่า Personal และ Enterprise Edition ที่สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมถอย ในที่สุดวันนี้ The Document Foundation ก็ได้ประกาศออก LibreOffice เวอร์ชัน 7.0 ซึ่งเป็นการปรับรุ่นรอบใหญ่ในรอบ 2 ปี มีฟีเจอร์ใหม่เช่น รองรับมาตรฐานไฟล์ OpenDocument Format (ODF) เวอร์ชัน 1.3 (รุ่นเก่ารองรับถึงแค่ 1.2) เปลี่ยนกราฟิกเอนจินบนวินโดวส์จาก OpenGL เป็น Skia และ Vulkan ปรับปรุงการอ่านและบันทึกไฟล์ DOCX/XLSX/PPTX ธีมไอคอนใหม่ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบัน LibreOffice ก็ยังไม่มีเวอร์ชันอย่างเป็นทางการสำหรับมือถือหรือแทบเลต ปล่อยให้ Microsoft 365 นำไปไกลแล้ว แต่ก็มีแอปของ Collabora ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ร่วมพัฒนาออกมาให้ใช้ และเช่นเดียวกับการปรับรุ่นรอบใหญ่ทุกครั้ง คำแนะนำคือหากต้องการเสถียรภาพมาก่อนฟีเจอร์ใหม่ๆ ทาง The Document Foundation ยังคงแนะนำให้ใช้รุ่นเก่ากว่าคือตระกูลเวอร์ชัน 6.4.x ต่อไปก่อน ซึ่งจะหมดอายุการสนับสนุนในเดือนพฤศจิกายน 2020 นี้ ที่มา - The Document Foundation