txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# ไมโครซอฟท์เข้าซื้อโดเมน Corp.com มูลค่า 50 ล้านบาทเพื่อปกป้องผู้ใช้วินโดวส์
ไมโครซอฟท์เข้าถึงโดเมน Corp.com ด้วยเงิน 1.7 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อปกป้ององค์กรจำนวนมากจากปัญหาชื่อโดเมนชน หรือ namespace collision
ปัญหานี้เกิดจาก Active Directory ของไมโครซอฟท์ในรุ่นก่อนๆ หากไม่ได้ตั้งโดเมนบริษัทเอาไว้ ซอฟต์แวร์จะกำหนดชื่อโดเมนเป็น corp ทันที แนวทางนี้ทำให้เมื่อโน้ตบุ๊กพนักงานไปใช้งานนอกองค์กร เมื่อวินโดวส์พยายามหาทรัพยากรในองค์กร เช่น เซิร์ฟเวอร์แชร์ไฟล์ วินโดวส์จะหาชื่อเครื่องไล่จากชื่อตัวเซิร์ฟเวอร์ ขึ้นไปจนชื่อ corp และถึง corp.com ในที่สุด
มีรายงานจาก U.S. Department of Homeland Security พบว่าทุกวันนี้คอมพิวเตอร์นับแสนเครื่องยังคงพยายามเชื่อมต่อเข้าโดเมน corp.com อยู่ ผู้ใดได้โดเมนนี้ไปจะสามารถดักฟังการเชื่อมต่อจำนวนมากได้
ที่มา - Krebs on Security |
# อยู่บ้านเล่นเกม กูเกิลปล่อย Stadia Pro ให้ใช้ฟรีสองเดือน (ไทยยังไม่เปิด)
กูเกิลประกาศปล่อย Stadia Pro ให้ทุกคนใช้งานฟรี 2 เดือน จากปกติราคา 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดย Stadia Pro นี้จะมาพร้อมกับเกม 9 เกม
บริการนี้จะเริ่มเก็บเงินหลังครบ 2 เดือน แต่สามารถยกเลิกการสมัครสมาชิกได้ทันที และยังเล่นต่อได้จนหมดอายุ และเนื่องจากช่วงนี้โรค COVID-19 ระบาด กูเกิลเตือนว่าจะปรับค่าเริ่มต้นความละเอียดภาพให้เหลือ 1080p จาก 4k ตามปกติ แต่สามารถปรับกลับเองได้
บริการ Stadia ให้บริการแล้วใน 14 ประเทศแต่ยังไม่มีประเทศไทย
ที่มา - Google |
# คล้ายจะแซะใคร Google Meet โชว์มาตรการความปลอดภัย: ควบคุมการประชุมได้มากกว่า, ทำงานในเบราว์เซอร์, เลือกศูนย์ข้อมูลได้
กูเกิลเปลี่ยนชื่อ Google Hangouts Meet เป็น Google Meet อย่างเงียบๆ โดยบล็อกล่าสุดกูเกิลอ้างอิงถึงชื่อนี้ทั้งหมด พร้อมกับรายงานมาตรฐานความปลอดภัยว่า Google Meet นั้นมีความปลอดภัยสูง
เริ่มต้นจากที่ระดับการใช้ควบคุมห้องประชุม ชื่อห้องประชุมของ Google Meet ยาว 10 ตัวอักษร และเข้าห้องก่อนเวลานัดได้ไม่เกิน 15 นาที ทำให้การคาดเดาชื่อห้องนั้นทำได้ยากมาก
สำหรับการใช้ในโรงเรียน กูเกิลระบุว่า Google Meet กำลังเพิ่มฟีเจอรืให้เฉพาะผู้จัดประชุมสามารถควบคุมได้ว่าปิดไมค์ใครบ้าง และเจ้าของห้องจะเป็นผู้อนุมัติให้ใครเข้าร่วม แม้จะได้รับคำเชิญจากผู้ร่วมประชุมก็ตาม ทำให้ครูสามารถควบคุมนักเรียนในห้องไม่ให้เชิญคนภายนอกเข้ามา
ความปลอดภัยในการล็อกอิน Google Meet รองรับกุญแจ FIDO สำหรับการเข้าโครงการ Advanced Protection ส่วนความปลอดภัยในซอฟต์แวร์นั้น Google Meet บนเดสก์ทอปใช้เบราว์เซอร์ทั้งหมด ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่ม
กระบวนการเชื่อมต่อเข้ารหัสจากเบราว์เซอร์ถึงเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดผ่านทางโปรโตคอล DTLS และ SRTP กุญแจเข้ารหัสใช้ครั้งเดียวในแต่ละการประชุมเท่านั้น
มาตรฐานความปลอดภัยอื่น เช่น มาตรฐานศูนย์ข้อมูลที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสูงหลายตัว หรือฟีเจอร์สำหรับลูกค้าองค์กรและการศึกษาที่สามารถเลือกศูนย์ข้อมูลตามภูมิภาคได้ด้วย
แม้บล็อกนี้ไม่ระบุชื่อคู่แข่งใดๆ แต่ผู้ให้บริการประชุมวิดีโออย่าง Zoom ก็กำลังประสบปัญหา เช่น การควบคุมห้องได้ลำบากทำให้มีคนโจมตีห้องประชุมด้วยการพยายามบุกเข้าห้องประชุมแล้วเปิดวิดีโอโป๊ เรียกว่า ZoomBombing และการควบคุมศูนย์ข้อมูลไม่ได้ทำให้การประชุมบางส่วนถูกโยกข้อมูลผ่านทางประเทศจีน โดยทาง Zoom เองก็พยายามแก้ปัญหาด้วยการยกเครื่องความปลอดภัย และดึงผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้าไปช่วยตรวจสอบ
ที่มา - Google Cloud Blog |
# Zoom ยกเครื่องความปลอดภัย ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจาก VMware, Netflix, Uber, EA ฯลฯ
หลังจากมีข่าวเกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ Zoom แอพประชุมทางไกลที่โด่งดังขึ้นมาในช่วงนี้ ทำให้ Zoom ประกาศหยุดออกฟีเจอร์ใหม่ 90 วันเพื่อมาโฟกัสกับการยกเครื่องและสะสางประเด็นด้านความปลอดภัยของแพลตฟอร์มตัวเอง
ผ่านมา 1 สัปดาห์หลังจากการประกาศดังกล่าว วันนี้ Eric S. Yuan ซีอีโอของ Zoom ได้โพสต์ถึงความคืบหน้าในประเด็นนี้ โดยเขาบอกว่า Zoom ได้จัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย (CISO Council) ที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลายธุรกิจ เช่น ธนาคาร HSBC, NTT Data, Procore และ Ellie Mae โดยจะเข้ามาดูแลด้านความเป็นส่วนตัว, ความปลอดภัย และประเด็นด้านเทคโนโลยีต่างๆ
นอกจากนี้ยังประกาศตั้งคณะที่ปรึกษา (Advisory Board) ที่เป็นส่วนหนึ่งของ CISO Council ด้วย โดยมีคนจาก VMware, Netflix, Uber และ Electronic Arts เข้ามานั่งเป็นที่ปรึกษาให้กับ Eric โดยตรง
ยิ่งไปกว่านั้น Zoom ยังประกาศจ้าง Alex Stamos ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยที่มีชื่อเสียงมาเป็นที่ปรึกษาภายนอกให้ด้วย โดยปัจจุบัน Alex เป็นศาสตราจารย์วุฒิคุณ (Adjunct Professor) ให้กับสถาบัน Freeman-Spogli ของมหาวิทยาลัย Stanford และก่อนหน้านั้นเคยดำรงตำแหน่ง Chief Security Officer ที่ Facebook ด้วย
เมื่อ Zoom มีท่าทีเอาจริงกับการแก้ไขปัญหาแบบนี้ ก็ต้องคอยดูว่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากบริษัทและหน่วยงานต่างๆ กลับมาได้หรือไม่ เช่นล่าสุดรัฐบาลไต้หวันสั่งห้ามหน่วยงานรัฐใช้ Zoom แล้ว
ที่มา - Zoom Blog
ภาพโดย Zoom |
# Verizon ยกเลิกบริการติดตั้งและซ่อมบำรุงอินเทอร์เน็ตในอเมริกา ช่วงไวรัสระบาด
Verizon ผู้ให้บริการ Fios อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เริ่มงดให้บริการติดตั้งหรือซ่อมบำรุงอินเทอร์เน็ตถึงบ้าน ในช่วงไวรัสระบาดแล้ว แม้จะมีผู้ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อการทำงานหรือการเรียนจากบ้านเพิ่มขึ้น และมีลูกค้าเดิมที่อินเทอร์เน็ตมีปัญหาเป็นจำนวนมากในช่วงนี้
Verizon ชี้แจงในหน้า FAQ ช่วง COVID-19 ระบาด ในช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมาว่า “ช่างเทคนิคจะไม่สามารถเข้าไปให้บริการติดตั้งในบ้านของท่านได้” ก่อนจะเปลี่ยนคำชี้แจงเป็น “บริษัทจะลดการติดตั้งตามบ้านให้เหลือเท่าที่จำเป็น เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน และลดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19”
Verizon กล่าวว่า บริษัทจะให้บริการเฉพาะใน “กรณีฉุกเฉินทางการแพทย์” หรือ “การติดตั้งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด” เท่านั้น และจะมีตัวเลือกแบบติดตั้งเองให้กับบางรายการที่รองรับ
Verizon ให้ข้อมูลกับ The Verge ที่มีพนักงานได้รับผลกระทบจากการงดให้บริการครั้งนี้ ว่าทางบริษัท กำลังจะเปิดโครงการนำร่องที่ให้ช่างเทคนิคสื่อสารกับลูกค้าผ่านวิดีโอแชทได้ แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะมีลูกค้าได้รับบริการนี้มากแค่ไหน หรือบริการนี้จะใช้งานได้ในวงกว้างเมื่อไร
ที่มา The Verge, Business Insider |
# สถาบันนวัตกรรมองค์กร Rise ระดมทุน 8 ล้านดอลลาร์ เตรียมขยายตลาดไปอาเซียน
Rise สถาบันด้านนวัตกรรมองค์กร ที่เคยมีโครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพให้กับหลายหน่วยงานในไทย (เช่น Krungsri Rise) ประกาศระดมทุนรอบ Seed เป็นเงิน 8 ล้านดอลลาร์ (ราว 260 ล้านบาท)
นักลงทุนที่ร่วมระดมทุนในรอบนี้คือ กลุ่มบริษัท ศรีกรุงวัฒนา บริษัท ดีทูซี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท จันวาณิชย์ จำกัด โดยถือเป็นการระดมทุนจากหน่วยงานภายนอกเป็นครั้งแรกของ Rise ด้วย
ธุรกิจของ Rise มีตั้งแต่ศูนย์เร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร (corporate accelerator), มหาวิทยาลัยผู้ประกอบการในองค์กร (Intrapreneur University), บริการสร้างธุรกิจใหม่ (Venture Building Services) และงานสัมมนาด้านนวัตกรรมองค์กร (Corporate Innovation Summit : CIS)
นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง RISE ระบุว่าจะนำเงินทุนไปขยายธุรกิจในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพราะมองว่าตลาดด้านนวัตกรรมองค์กรในเอเชียมีขนาดใหญ่มาก ประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์
ที่มา - Rise |
# AIS ตั้ง Robotic Lab พัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ ให้โรงพยาบาลไทยใช้งาน
AIS ประกาศตั้งศูนย์เฉพาะกิจ AIS Robotic Lab ดึงนักวิจัยมาพัฒนาหุ่นยนต์ด้านการแพทย์, ระบบ 5G Telemedicine, โซลูชันงานบริการทางการแพทย์ ร่วมกับโรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทย
ผลลัพธ์ของ AIS Robotic Lab จะขึ้นกับความต้องการของแต่ละโรงพยาบาล ตัวอย่างผลงานที่เสร็จแล้วคือ
หุ่นยนต์ Telemedicine ชื่อ Robot for Care ช่วยคัดกรองคนไข้ด้วยการวัดอุณหภูมิ thermoscan ตอนนี้พัฒนาเสร็จแล้ว 21 ตัว จะนำส่งให้โรงพยาบาล 20 แห่งใช้งาน
ระบบปรึกษาทางไกลด้วย video call
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ AIS |
# Android 11 จะบังคับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รองรับ Seamless Update อัพเดตแล้วสลับพาร์ทิชัน
Android มีฟีเจอร์ Seamless Update ที่เป็นการอัพเดต OS ในอีกพาร์ทิชัน รีบูตแล้วสลับพาร์ทิชันทันทีเพื่อความรวดเร็ว มาตั้งแต่ Android 7.0 ที่ออกในปี 2016 และเริ่มใช้กับมือถือตระกูล Pixel มาหลายปีแล้ว
เนื่องจากกูเกิลไม่ได้บังคับให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ต้องใช้ฟีเจอร์นี้ ทำให้สมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่น (แม้แต่ซัมซุงรุ่นเรือธง) ก็ไม่ได้งานตามไปด้วย แต่ล่าสุดสถานการณ์เปลี่ยนไป เพราะ Android 11 จะเริ่มบังคับแล้ว
กูเกิลยังไม่ประกาศเรื่องนี้ออกมาตรงๆ แต่มีคนตาดีไปเจอโค้ดใน Android Open Source Project ว่าบังคับทำ Virtual A/B ตอน Android 11 (Android R) เปิดตัวแล้ว
โค้ดส่วนนี้อยู่ใน Vendor Test Suite (VTS) ที่ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ต้องรันให้ผ่าน มิฉะนั้นจะไม่สามารถพ่วง Google Mobile Services ไปกับเครื่องได้
ที่มา - Android Open Source Project via xda |
# AIS ติดตั้ง 5G ในโรงพยาบาล 20 แห่งที่รักษา COVID-19 เพื่อใช้กับระบบการแพทย์ 5G
AIS ประกาศติดตั้งเครือข่าย 5G ในโรงพยาบาล 20 แห่งที่ตรวจรักษาผู้ป่วย COVID-19 เพื่อเตรียมนำระบบการแพทย์ทางไกล 5G เข้าไปใช้ในโรงพยาบาลเหล่านี้
โรงพยาบาลที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ รพ. จุฬาลงกรณ์, รพ. ราชวิถี, รพ. ศิริราช, รพ. รามาธิบดี, รพ. วิชัยยุทธ, รพ. ศิริราชปิยมหาราชการุณย์, รพ. แพทย์รังสิต, รพ. พญาไท 1, รพ. พญาไท 2, รพ. พญาไท 3, รพ. พญาไทนวมินทร์, รพ. กรุงเทพคริสเตียน, รพ. พระราม 9, รพ. เปาโลเมโมเรียลพหลโยธิน (สะพานควาย), รพ. เปาโลเมโมเรียลโชคชัย 4, รพ. เปาโลเมโมเรียลสมุทรปราการ, รพ. เปาโลเมโมเรียลรังสิต, รพ. เปาโลเมโมเรียลเกษตร,กรมแพทย์ทหารเรือ และสถาบันบำราศนราดูร
AIS คาดว่าจะติดตั้งเครือข่าย 5G ให้โรงพยาบาลกลุ่มนี้เสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ และเตรียมขยาย 5G ให้ครอบคลุมพื้นที่ รพ. ในกรุงเทพ-ปริมณฑลอีก 130 แห่ง และในต่างจังหวัดอีก 8 แห่งด้วย |
# Godfall เกมแรกที่ลง PS5 เผยเนื้อเรื่อง เกมเพลย์ คล้าย Monster Hunter + Dark Souls
หลังจากที่เปิดตัวแบบเซอร์ไพรส์ไปในงาน Game Awards ปีที่แล้ว Godfall เกม Looter-Slasher เกมแรกที่ประกาศลง PS5 ก็เปิดเผยเนื้อเรื่องและแนวการเล่นออกมาแล้ว
เนื้อเรื่องของ Godfall จะได้รับแรงบันดาลใจมากจากหนังสือนิยายแนวไฮแฟนตาซี ซีรีส์ The Stormlight Archive โดยคุณจะได้เล่นเป็นหนึ่งใน Knight’s Order คนสุดท้าย ที่ต้องหยุดภัยพิบัติร้ายแรงที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโลกแฟนตาซีนี้
ตัวละครจะมี 3 คลาสที่ยังไม่เปิดเผย มีโหมด co-op การต่อสู้จะเป็นสไตล์แนวเกม Dark Souls ที่เน้นเรื่องจังหวะโจมตี โยกหลบและโต้กลับ และเน้นการเก็บของ loot ต่างๆ แบบคล้ายคลึงกับเกมในซีรีส์ Monster Hunter รวมถึงจะมีเรื่องธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นองค์ประกอบสำคัญของเกม
Godfall สร้างโดย Counterplay Games จัดจำหน่ายโดย Gearbox และจะเป็นหนึ่งในเกมที่เปิดตัวพร้อมกับเครื่อง Playstation 5 มีกำหนดวางขายในช่วงวันหยุดคริสต์มาสปีนี้
ที่มา - Gamingbolt |
# Nintendo ในญี่ปุ่นหยุดขายเครื่อง Switch ให้ร้านค้าชั่วคราว เพราะผลิตไม่ทัน
บริษัท Nintendo ในญี่ปุ่น หยุดขายเครื่อง Switch ให้ร้านค้าชั่วคราวแล้ว หลังซัพพลายเชนถูกรบกวนด้วยวิกฤตโรค COVID-19 ทำให้ผลิตเครื่องไม่ทันกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการกักตัวอยู่บ้านของประชาชน แต่ในประเทศอื่นๆ เช่นสหรัฐอเมริกา หรือยุโรป จะยังมีการจัดส่งอยู่ เนื่องจากยังมีของคงค้างอยู่ในสต๊อก
เครื่อง Nintendo Switch มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศจีนและเวียดนาม ซึ่งกำลังผลิตปัจจุบัน “ฟื้นกลับมาแล้วบางส่วน” แต่ก็ยังไม่เท่ากำลังผลิตเดิม และ Nintendo ก็ยังไม่ได้ให้ข้อมูลว่าจะกลับมาขายเครื่อง Switch ได้ตามปกติเมื่อไร
นิตยสาร Famitsu รายงานว่าเครื่อง Nintendo Switch และ Switch Lite มียอดขายรวมกันถึง 830,000 ภายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จนถึง 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ยอดจำหน่ายรวมตอนนี้ ถึง 13 ล้านเครื่องแล้ว
ส่วนราคาบนแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ต่างๆ ในต่างประเทศ ตอนนี้เครื่อง Switch ราคาพุ่งไปถึง 500-700 ดอลลาร์แล้ว (ประมาณ 16,000-23,000 บาท) ใครที่อยากเล่น อาจจะต้องอดใจรอหลังจบวิกฤต COVID-19 ไปก่อน
ที่มา - Nikkei |
# WeWork ฟ้อง SoftBank เหตุไม่ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นมูลค่า 3 พันล้านเหรียญตามตกลง
หลัง SoftBank ไม่ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้น WeWork มูลค่ากว่า 3 พันล้านเหรียญ ตามที่เคยตกลงกันไว้ ล่าสุด WeWork ยื่นฟ้อง SoftBank แล้วฐานละเมิดสัญญาและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
คณะกรรมการพิเศษของ WeWork ระบุว่าผิดหวังที่ SoftBank มองประโยชน์ตัวเองมาก่อนผู้ถือหุ้น WeWork ที่เป็นส่วนน้อย ขณะที่ SoftBank ก็ได้ประโยชน์ไปแล้วจากสัญญาที่เซ็นกันไป อาทิ การเข้ามาควบคุมบอร์ด พร้อมเรียกร้องให้ SoftBank ทำตามสัญญาหรือให้เงินสดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายที่ยกเลิกดีล
ขณะที่ SoftBank แถลงว่าการฟ้องครั้งนี้ของ WeWork ไม่ได้ทำให้ SoftBank เปลี่ยนใจจากการถอนดีล โดยอ้างว่ามีเงื่อนไขหลายข้อไม่ได้รับการบรรลุก่อนวันที่ 1 เมษายนตามที่เคยตกลงกันไว้ โดยก่อนหน้านี้ SoftBank ระบุด้วยว่า WeWork ไม่สามารถแสดงศักยภาพได้ดีเท่าไหร่นัก ขณะที่การถอนดีลครั้งนี้ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมของ SoftBank
ที่มา - TechCrunch |
# OmniVirt สตาร์ตอัพคนไทยในซิลิคอนวัลเลย์ ขายกิจการให้ Facebook
OmniVirt สตาร์ตอัพคนไทยในซิลิคอนวัลเลย์ (ข่าวเก่า) ขายกิจการให้ Facebook โดยไม่เปิดเผยมูลค่า และทีมงานบางส่วนของ OmniVirt จะเข้าไปเป็นพนักงานของ Facebook ต่อไป
OmniVirt เป็นบริษัทที่ทำด้านโฆษณา 3D/360/VR ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจด้าน VR ของ Facebook ที่เป็นหนึ่งในขาใหญ่ด้าน VR ของโลก จากสายผลิตภัณฑ์ด้าน Oculus
ที่มา - Facebook ของคุณ Brad Phaisan ซีอีโอ OmniVirt |
# Netflix ปรับปรุงระบบ Parental Control: เพิ่ม PIN, เลือกระดับอายุ, บล็อกหนัง/ซีรีส์เป็นเรื่องๆ
เดิมระบบ Parental Control ของ Netflix นอกจากแค่โปรไฟล์ kids แยกแล้วก็ไม่ได้มีเครื่องมือสำหรับจัดการควบคุมอะไรเท่าไหร่นัก ล่าสุดบริษัทประกาศเพิ่มฟีเจอร์ด้านนี้อีกชุดใหญ่ โดย Netflix ระบุว่าอิงจากฟีดแบ็คของสมาชิกเป็นหลัก ดังนี้
เพิ่มรหัส PIN สำหรับเข้าโปรไฟล์ kids เพื่อจำกัดการใช้งานและป้องกันไม่ให้เด็กเปิดเข้าไปชมเอง
จำกัดระดับอายุได้หลากหลาย อาทิ 7 ปี, 13 ปี, 15 ปี เป็นต้น โดยระดับอายุจะแตกต่างกันไปตามข้อกำหนดแต่ละประเทศ
เลือกบล็อกหนังหรือซีรีย์เป็นเรื่อง ๆ ได้
ผู้ปกครองสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ใน Setting > Profile and Parental Controls รวมถึงดูประวัติการรับชมก็ได้เช่นกัน
ที่มา - Netflix |
# เราทิ้งโปรแกรมเมอร์ โครงการเงินช่วยเหลือรัฐบาลตัดสิทธิ์โปรแกรมเมอร์ ชี้ไม่ได้รับผลกระทบ COVID-19 โดยตรง
เว็บไซต์ เราไม่ทิ้งกัน.com เผยแพร่เอกสารทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิ์เงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อเดือน โดยเอกสารมีหลายฉบับ ทั้งอาชีพที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นชุดแรก และอาชีพที่หมดสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือ
สำหรับอาชีพที่หมดสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือ ได้แก่ ข้าราชการ, เกษตรกร, ผู้ค้าขายออนไลน์, โปรแกรมเมอร์, และคนงานก่อสร้าง โดยมีเงื่อนไขอื่นที่ไม่ใช่อาชีพโดยตรงและไม่ได้สิทธิ์เช่นกัน เช่น เป็นคนว่างงานก่อนเกิด COVID-19, อายุไม่ถึงเกณฑ์ , หรือได้รับชดเชยทางอื่น เช่น เกษตรกร
ข้อมูลระบุว่าโปรแกรมเมอร์ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเป็นอาชีพที่ยังมีความยืดหยุ่น ทำงานที่ใดก็ได้ ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจาก COVID-19
ถ้าใครได้รับผลกระทบแล้วบ้าง โดยเฉพาะถึงระดับหยุดงาน มาเล่าสู่กันฟังได้ครับ
ที่มา - wedonotleave.appprompt.com ผ่านทาง เราไม่ทิ้งกัน.com |
# Jack Dorsey ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์บริจาคทรัพย์สินเป็นหุ้นมูลค่าพันล้านดอลลาร์ สู้ภัย COVID-19
Jack Dorsey ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์และบริษัทรับจ่ายเงิน Square ประกาศโอนหุ้นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์เข้า Start Small LLC บริษัทตั้งมาเพื่อบริจาคเงินเข้าไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อต่อสู้ COVID-19 และหลังจากนั้นจะหันไปทำกิจกรรมด้านสุขภาพและการศึกษาของเด็กผู้หญิง
ตัวหุ้นตอนนี้อยู่ในบริษัทจำกัด และจะจ่ายเงินลงไปยังหน่วยงานต่างๆ ผ่านทาง Start Small Foundation หรือตัวบริษัทโดยตรงแล้วแต่กรณี โดยการจ่ายแต่ละครั้งจะเปิดเผยต่อสาธารณะ โดยตอนนี้บัญชีล่าสุดอยู่ใน Google Docs และเพิ่งจ่ายเงินไปแสนดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
Jack ระบุเหตุผลที่โอนหุ้นเฉพาะ Square ว่าเขามีหุ้นในบริษัทจำนวนมากและตั้งใจจะขายออกไปอยู่แล้ว
หุ้น Square ล่าสุดอยู่ที่ 50 ดอลลาร์ต่อหุ้น และเคยทำราคาได้ถึง 99 ดอลลาร์ หากในอนาคตเศรษฐกิจกลับมาดีก็น่าจะมีมูลค่าสูงกว่าพันล้านดอลลาร์มาก โดยเงินพันล้านดอลลาร์คิดเป็น 28% ของทรัพย์สินทั้งหมดของ Jack Dorsey
ที่มา - @jack
Jack Dorsey ในงาน TechCrunch เมื่อปี 2009 |
# Consumer Reports ทดสอบซื้อโฆษณาบน Facebook ปล่อยข่าวปลอมเกี่ยวกับ COVID-19 และได้รับอนุมัติให้ปล่อยโฆษณา
นิตยสาร Consumer Reports ออกรายงานเกี่ยวกับการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Facebook ว่าตอนนี้ทางบริษัทได้ทดสอบซื้อโฆษณาเพื่อโปรโมตข้อมูลปลอมบนแพลตฟอร์ม Facebook
Consumer Reports รายงานว่า ทางบริษัทสามารถซื้อโฆษณาที่ฝ่าฝืนกฎของแพลตฟอร์ม Facebook ซึ่งเป็นข้อมูลปลอมเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส เช่น ปล่อยข่าวว่าให้ดื่มสารฟอกข่าวเล็กน้อยเพื่อกำจัดไวรัส, โคโรนาไวรัสเป็นเรื่องหลอกลวง อย่าเชื่อ propaganda ให้ดำเนินชีวิตตามปกติ เป็นต้น ซึ่งทาง Consumer Reports ถอดโฆษณาออกไปก่อนที่จะรันจริง และอีกไม่นาน Facebook ก็แบนบัญชี
โฆษก Facebook ระบุว่า ทางบริษัทยังคงมีระบบอัตโนมัติที่คอยจัดการโฆษณาแม้ว่าจะซื้อไปแล้วและกำลังรันอยู่ก็ตาม ซึ่งทางบริษัทได้นำโฆษณาที่ฝ่าฝืนกฎออกจากแพลตฟอร์มไปแล้วนับล้านรายการ
อย่างไรก็ดี การจัดการกับบัญชีคาดว่าน่าจะเป็นสัญญาณง่าย ๆ ที่ Facebook ตรวจพบ เพราะโพสต์นั้นระบุถึงองค์กรที่ไม่มีอยู่จริง รวมถึงบัญชีก็สร้างขึ้นมาก่อนจะซื้อโฆษณาเพียงไม่กี่วัน แต่ถ้า Facebook นำข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาก่อนจะปล่อยโฆษณาก็คงไม่ต้องมาตามจัดการบัญชีในภายหลัง
ที่มา - Consumer Reports, Engadget
ภาพจาก PIRO4D/Pixabay |
# Sony เปิดตัวจอย DualSense ของ PS5 ใช้สีขาว-ดำทูโทน มีไมโครโฟนในตัว
โซนี่เปิดตัวคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense ของคอนโซล PS5 ที่มาแทนซีรีส์ DualShock ที่เราคุ้นเคยกันดี
สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดคือ สีของ DualSense เปลี่ยนมาเน้นโทนสีขาวเป็นหลัก แซมด้วยสีดำ แทนสีดำล้วนของ DualShock, ทัชแพดที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และปุ่ม Share ที่หายไป กลายเป็นปุ่ม Create ที่มาแทน (ยังไม่มีคำอธิบายว่า Create ต่างจาก Share อย่างไร โซนี่บอกว่าจะอธิบายเพิ่มเติมในภายหลัง)
ฟีเจอร์ใหม่ของ DualSense ยังมี
ปุ่ม L2/R2 ที่เป็น adaptive trigger กดได้หลายระดับ
haptic feedback สั่นได้หลายรูปแบบ ให้ผู้เล่นสัมผัสอารมณ์ในเกมได้หลากหลายขึ้น
มีไมโครโฟนในตัว คุยได้โดยไม่ต้องใส่หูฟัง
โซนี่บอกว่าด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา จึงต้องออกแบบคอนโทรลเลอร์ DualSense ให้ยังมีขนาดเหมาะมือ และไม่หนักจนเกินไป ทำให้ปรับองศาการเอียงของที่จับใหม่ ส่วนแบตเตอรี่ยังเป็นแบตเตอรี่แบบชาร์จได้เหมือนเดิม (เลือกแนวทางต่างกันชัดเจนกับ จอยของ Xbox Series X ที่ยังใช้ถ่าน AA)
ส่วนเรื่องดีไซน์ โซนี่ตัดสินใจใช้สีแบบทูโทนแทนการใช้สีเดียวแบบเดิม และปรับตำแหน่งของแถบสี (light bar) ให้มาอยู่ด้านข้างของทัชแพดแทน
การเปิดตัวจอย DualSense สีขาวดำ (ที่เน้นขาวมากกว่า) ทำให้เป็นไปได้สูงที่ตัวเครื่อง PS5 จะใช้สีขาวเป็นหลักให้เข้าชุดกัน ซึ่งถือว่าฉีกจากดีไซน์ของ PlayStation ที่ใช้สีดำมาตลอดนับตั้งแต่ PS2
ที่มา - PlayStation |
# Apple ออกอัพเดต iOS และ iPadOS 13.4.1 แก้ไขบั๊ก FaceTime คุยกับอุปกรณ์รุ่นเก่าไม่ได้
แอปเปิลออกอัพเดตย่อย สำหรับ iOS 13.4.1 และ iPadOS 13.4.1 ซึ่งอัพเดตนี้ออกมาเพื่อแก้ปัญหาบั๊ก FaceTime ที่มีรายงานก่อนหน้านี้ ว่าอุปกรณ์ที่อัพเดตเป็น 13.4 ไม่สามารถ FaceTime หาอุปกรณ์รุ่นเก่ากว่าตั้งแต่ iOS 9.3.6 และที่เก่ากว่า OS X El Capitan 10.11.6 ได้
ในอัพเดตนี้แอปเปิลยังระบุว่าได้แก้ไขบั๊กการตั้งค่าบลูทูธ กรณีเลือกจาก Control Center ในหน้าโฮม อาจไม่สำเร็จ
ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตผ่าน OTA ได้โดยไปที่แอป Settings > General > Software Update
ที่มา: MacRumors |
# Facebook ออกแอปทดลองตลาดตัวใหม่ Tuned ให้คู่รักใช้คุยกันแบบส่วนตัวแค่ 2 คน
ทีม NPE ซึ่งเป็นหน่วยงานสำหรับพัฒนาแอปทดลองตลาดของ Facebook ได้ออกแอปทดลองล่าสุดชื่อว่า Tuned สำหรับคู่รักไว้ติดต่อพูดคุยกันเพียงสองคน
คำอธิบายของแอปนั้นบอกว่า เมื่อเป็นแอปไว้คุยกันเพียงสองคน จึงเป็นพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งคุณสามารถเป็นตัวของตัวเองอย่างไรก็ได้ ตัวแอปสามารถแชร์ข้อความ เนื้อหาและการสนทนาในหลากหลายแบบ เช่น เชื่อมต่อ Spotify เพื่อแชร์เพลง แชร์ความรู้สึกตอนนั้น ไปจนถึงรูปภาพ การ์ด ข้อความเสียง ฯลฯ
เนื่องจากเป็นแอปโครงการทดลอง Facebook จึงอาจไม่ได้นำมาพัฒนาต่อเป็นแอปสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ตอนนี้มีให้ดาวน์โหลดเฉพาะบน iOS ใน App Store อเมริกา
ที่มา: The Verge |
# กูเกิลปล่อย Chrome 81: แสดงจำนวนการแจ้งเตือน, Web NFC, WebXR (VR/AR)
กูเกิลกลับมาปล่อย Chrome 81 ตามที่ประกาศไว้ และเป็นเวอร์ชั่นก่อนข้ามเวอร์ชั่น 82 ไปเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีฟีเจอร์หลัก 3 รายการ ได้แก่
WebXR Hit testing: รองรับการวางวัตถุเสมือนให้ติดกับวัตถุในโลกจริง
App icon badging: แสดงจำนวนการแจ้งเตือนในแอปว่ามีข้อความรออ่านจำนวนเท่าใด
Web NFC: มี API จริงให้ทดลองใช้งานครั้งแรก นักพัฒนาสามารถอ่านแท็ก NFC จากในเว็บได้ด้วยโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด
เวอร์ชั่นนี้ Pete LePage เจ้าหน้าที่ Developer Advocate ของ Chrome ยังต้องบรรยายสาธิตฟีเจอร์ใหม่ๆ จากที่บ้านของเขาในนิวยอร์กอีกด้วย
ที่มา - Google Developer |
# หน้าซัพพอร์ต Face Shield ของแอปเปิลขึ้นเว็บแล้ว, ปรับระยะห่างจากใบหน้าได้ด้วย
เมื่อวานนี้ Tim Cook เปิดตัวหน้ากาก Face Shield ที่ออกแบบโดยวิศวกรแอปเปิลเอง และเตรียมผลิตเพื่อแจกจ่ายให้ได้สัปดาห์ละ 1 ล้านชิ้น วันนี้หน้าเว็บของแอปเปิลเองก็นำวิธีใช้งานหน้ากากขึ้นเว็บแล้ว
วิธีใช้แสดงให้เห็นว่า Face Shield สามารถปรับได้ทั้งความแน่นในการครอบหัว และระยะห่างระหว่างตัวหน้ากากถึงใบหน้า โดยวิธีใช้บนเว็บนี้พิมพ์แนบไปในกล่องที่ส่งมอบแล้ว
การล้าง Face Shield ใช้น้ำยาได้ 4 แบบ ได้แก่ 70% Ethanol, 70% Isopropyl Alcohol, 6% Bleach (อาจทำให้เกิดคราบบนหน้ากาก), และ 3% Hydrogen Peroxide
ที่มา - Apple |
# Docker เปิดมาตรฐานไฟล์ Compose หวังให้รันบน Kubernetes ได้โดยตรง
Docker Inc ผู้พัฒนา Docker ประกาศเปิดมาตรฐาน Compose ไฟล์ที่รันด้วยคำสั่ง docker-compose ที่หลายคนที่ใช้สำหรับการพัฒนาระบบที่ต้องใช้หลายคอนเทนเนอร์ทำงานร่วมกันเป็นอย่างแรกก่อนจะใช้งาน orchestration แบบอื่นๆ เช่น Kubernetes
ทาง Docker ระบุว่าการเปิดเสปกครั้งนี้จะทำงานร่วมกับ AWS และไมโครซอฟท์ เพื่อขยายไฟล์ Compose ให้รองรับระบบ orchestration แบบอื่นๆ เช่น Amazon Elastic Container Service (Amazon ECS) และ Kubernetes กระบวนการพัฒนามาตรฐานจะทำอย่างเปิดเผย (open governance) ให้ทำงานร่วมกันกับชุมชน
ไฟล์ Compose เองนับว่าเรียนรู้ง่ายกว่าการเขียนคอนฟิก Kubernetes หรือ orchestration อื่นมาก ความซับซ้อนเช่น Service นั้นไม่มีอยู่ใน Compose แต่อย่างใด และคอนฟิกทั้งหมดก็อยู่ในไฟล์เดียว ที่ผ่านมามีความพยายามนำ Compose ไปรันบน Kubernetes อยู่ เช่นโครงการ Kompose ที่ได้รับความนิยมพอสมควร
ตัวมาตรฐานนั้นอยู่บน GitHub และเสปก Compose มีเว็บ compose-spec.io แยกออกมาเฉพาะ
ที่มา - Docker |
# Chrome ทดสอบซ่อนไอคอนส่วนเสริมทั้งหมดเป็นค่าเริ่มต้น ต้องกด Pin เพื่อแสดงไอคอน
ทีมพัฒนา Chrome เสนอการทดสอบ UI แบบใหม่สำหรับส่วนเสริมของเบราว์เซอร์ (extension) โดยระบุเหตุผลว่าเป็นการแสดงให้ผู้ใช้เห็นชัดเจนขึ้นว่าส่วนเสริมใดเข้าถึงข้อมูลอะไรบ้าง อย่างไรก็ดีหน้าจอที่เสนอมาระบุถึงกระบวนการติดตั้งส่วนเสริมว่าไอคอนที่มุมขวาบนนั้นจะถูกซ่อนทันทีหลังจากติดตั้ง และผู้ใช้ต้องกด pin กลับมาเองอีกครั้งเพื่อแสดงไอคอน
นักพัฒนาที่มาตอบโพสข้อเสนอนี้ไม่พอใจนัก โดยหลายความเห็นระบุว่ากูเกิลผูกเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวผู้ใช้เข้ากับการแสดงไอคอนที่จะทำให้ส่วนเสริมถูกเรียกใช้งานยากขึ้นทั้งๆ ที่ผู้ใช้เป็นติดตั้งเองแต่แรก
ฟีเจอร์นี้ยังเป็นการทดลอง โดยต้องเปิดตัวเลือก chrome://flags/#extensions-toolbar-menu ด้วยตัวเองเท่านั้น เป็นไปได้ว่าฟีเจอร์นี้ก่อนจะออกเวอร์ชั่นจริงจะมีการปรับแต่งอีกมาก
ที่มา - chromium-extension |
# Firefox 75 ออกแล้ว ปรับหน้าตาของ Address Bar เล็กน้อย ค้นหาง่ายขึ้น
Mozilla ออก Firefox 75 เวอร์ชันเสถียร การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือแถบ address bar ที่ปรับโฉมให้ช่องใหญ่ขึ้นตอนค้นหา, แนะนำคำค้นที่เกี่ยวข้อง และแสดงรายชื่อเว็บไซต์ที่เข้าบ่อย (Top Site) เพิ่มเติมในรายการด้วย
ของใหม่อย่างอื่นได้แก่ รองรับแพ็กเกจแบบ Flatpak บนลินุกซ์แล้ว ทำให้ติดตั้ง Firefox บนดิสโทรรุ่นใหม่ๆ (โดยเฉพาะสาย Red Hat/Fedora) ได้ง่ายขึ้น
ที่มา - Mozilla, Mozilla |
# ไมโครซอฟท์เปิดทดสอบ Project xCloud ในยุโรป จำนวนประเทศใกล้เคียง Stadia แล้ว
ไมโครซอฟท์ยังเดินหน้าขยายบริการคลาวด์เกมมิ่ง Project xCloud ต่อไป (ปัจจุบันยังมีสถานะเป็นพรีวิว) โดยจะเปิดในยุโรปตะวันตก 11 ประเทศ
การขยายพื้นที่บริการ xCloud มายังยุโรป ทำให้ xCloud ทัดเทียมกับ Google Stadia ที่ให้บริการใน 14 ประเทศ (อเมริกาเหนือและยุโรป) โดย Stadia เป็นบริการแบบคิดเงินแล้ว แต่ xCloud ยังเปิดให้เล่นฟรีอยู่
ไมโครซอฟท์ยังอธิบายว่าจะทยอยเปิดให้ผู้เล่นเข้ามาลองใช้งาน xCloud ทีละนิด เพื่อป้องกันปัญหาทราฟฟิกมากจนเกินควรในช่วงนี้ด้วย
ที่มา - Microsoft |
# Windows Terminal ออกเวอร์ชัน 0.10 รองรับการใช้เมาส์เป็นอินพุต
เมื่อประมาณกลางเดือนที่แล้ว ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตเวอร์ชัน 0.10 ให้ Windows Terminal แอพจำลองหน้าจอเทอร์มินัลที่ถูกสร้างมาเพื่อเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ให้กับการใช้งาน shell บนระบบปฏิบัติการ Windows 10
ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่างแรก คือการรองรับอินพุตจากเมาส์เมื่อใช้งาน Windows Terminal กับแอพพลิเคชั่นที่รันอยู่บน Windows Subsystem for Linux (WSL) หรือแอพพลิเคชั่นบน Windows ที่รับอินพุตแบบ virtual terminal
ซึ่งทำให้การใช้งานแอพพลิเคชั่นอย่าง tmux และ Midnight Commander ผ่าน Windows Terminal ตอบสนองต่อการคลิกเมาส์อย่างที่ควรจะเป็น (และหากต้องใช้เมาส์ลากเพื่อเลือกข้อความแทนการส่งอินพุตก็ยังสามารถทำได้ด้วยการกดแป้น Shift ค้างไว้)
อย่างที่สองเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับการเปิดเทอร์ทินัล pane ใหม่ ด้วยการเพิ่มการตั้งค่าให้สามารถกำหนดคีย์ลัด เพื่อสั่ง duplicate โปรไฟล์เทอร์ทินัลที่กำลังใช้งานอยู่ออกมาเป็นเทอร์ทินัล pane ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างการตั้งค่าดังกล่าวเพื่อใช้กับคีย์ลัด ctrl+shift+d
ไม่เพียงแค่นั้นอัพเดตนี้ยังมาพร้อมกับการปรับปรุง UI, แก้ไขบั๊กหลายรายการ และยังได้ปรับปรุงให้ใช้งานกับ Azure Cloud Shell ได้ดีขึ้นอีกด้วย
ท่านใดสนใจลอง Windows Terminal รุ่นทดสอบ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ Microsoft Store ทั้งนี้จำเป็นจะต้องใช้กับ Windows 10 v1903 ขึ้นไปครับ
ที่มา - Microsoft via MSPoweruser |
# LEGO เผยรายละเอียดเพิ่มเติมชุดตัวต่อ Super Mario วางขาย 1 สิงหาคมนี้
เลโก้และนินเทนโด เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของตัวต่อชุด Super Mario โดยตัวเลโก้มาริโอ จะมีจอ LCD อยู่ที่ดวงตา ปาก และส่วนท้อง เพื่อแสดงอารมณ์และรีแอคชั่น เมื่อผ่านด่านตัวต่อต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีลำโพงให้เสียงที่มาจากในเกมมาริโอด้วย
ผู้เล่นต้องซื้อชุดเริ่มต้น (Starter Course) ราคา 59.99 ดอลลาร์ เป็นพื้นฐานก่อน โดยจะได้มาริโอ้ และอุปกรณ์สร้างฉากพื้นฐาน อาทิ ท่อ บล็อกโหม่ง ตัว Goomba และบอส Bowser Jr. นอกจากนี้เลโก้ยังมีชุดส่วนขยาย (Expansion Set) เพื่อสร้างฉากเพิ่มเติม โดยที่เปิดเผยตอนนี้มี Piranha Plant Power Slide (29.99 ดอลลาร์) และ Bowser’s Castle Boss Battle (99.99 ดอลลาร์) รวมทั้งมีแอปสำหรับแชร์ข้อมูลกับเพื่อนได้อีกด้วย
สินค้าจะเริ่มวางจำหน่าย 1 สิงหาคม 2020 เป็นต้นไป ในอเมริกา สามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันนี้ สำหรับ Starter Course
ที่มา: เลโก้ |
# Apple ประกาศบริจาคเงิน 10 ล้านดอลลาร์ ให้ WHO ผ่านโครงการระดมทุนของ Lady Gaga
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ได้เข้าร่วม FaceTime ระหว่างรายการ The Tonight Show Starring Jimmy Fallon ซึ่งพิธีกร Jimmy Fallon กำลังสนทนากับ Lady Gaga โดยแอปเปิลจะบริจาคเงิน 10 ล้านดอลลาร์ให้กับองค์การอนามัยโลก หรือ WHO
ทั้งนี้ Lady Gaga ได้ประกาศร่วมมือกับ WHO และองค์กร Global Citizen จัดกิจกรรมพิเศษ One World: Together At Home เพื่อระดมทุนให้กองทุนสู้ภัย COVID-19 ของ WHO โดยรายการดังกล่าวจะออกอากาศตรงกับเวลา 7 โมงเช้า ของวันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน 2020 ตามเวลาในประเทศไทย ช่องทางรับชมนั้นมีทั้ง Apple, Amazon, Facebook และ YouTube
รายการศิลปินที่จะปรากฏตัวและแสดงดนตรีมีเยอะมาก ตัวอย่างส่วนหนึ่งได้แก่ Alanis Morissette, Billie Eilish, Chris Martin, David Beckham, Elton John, John Legend, Paul McCartney และ Stevie Wonder
ที่มา: MacRumors |
# รัฐบาลไต้หวันสั่งห้ามหน่วยงานรัฐใช้ Zoom
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไต้หวันสั่งห้ามหน่วยงานรัฐทั้งหมดใช้ Zoom ในการประชุมระยะไกล นับเป็นหน่วยงานรัฐล่าสุดที่แบนหลังจากรัฐนิวยอร์คเพิ่งแบนไปก่อนหน้านี้
ประกาศของรัฐบาลระบุคำสั่งแบนว่า "ห้ามหน่วยงานรัฐใช้บริการที่มีข้อกังวลด้านความมั่นคงปลอดภัย เช่น Zoom" โดยไม่ได้ระบุว่าช่องโหว่ใดทำให้ Zoom ถูกแบนโดยตรง
Zoom มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 20 เท่าตัวภายในไม่กี่เดือนหลังการทำงานที่บ้านเพิ่มขึ้นสูงจากการรับมือโรค COVID-19 แต่หลังจากได้รับความนิยม รายงานช่องโหว่ความปลอดภัยก็มีออกมาต่อเนื่องจนบริษัทต้องประกาศหยุดพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ หันไปปรับปรุงความปลอดภัย
ที่มา - Strait Times |
# WhatsApp จำกัดการส่งต่อข้อความที่ถูกส่งต่อกันมาเยอะๆ ให้ส่งต่อได้แค่คนเดียว
WhatsApp เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ประสบปัญหาเผยแพร่ข้อมูลผิดหรือข่าวปลอม โดยเฉพาะเกี่ยวกับ COVID-19 ในช่วงนี้ ล่าสุด WhatsApp ออกมาตรการใหม่ สำหรับข้อความถูกที่ส่งต่อกันมาเยอะ ๆ ครั้งละเกิน 5 คนระบบจะแท็กข้อความนั้นเป็น "highly forwarded" และจะจำกัดการส่งต่อข้อความนั้นเหลือแค่คนเดียว
ก่อนหน้านี้ปี 2018 WhatsApp เคยจำกัดการส่งต่อข้อความได้คราวละ 20 คน เพื่อลดปัญหาการส่งต่อข่าวปลอมมาแล้ว โดย WhatsApp บอกว่าช่วยลดการส่งต่อข้อความทั่วโลกลงได้ 25%
ที่มา - The Verge |
# blockdit แอปโซเชียลเน้นความรู้ ตามหาทีมมาร่วมสร้างแพลตฟอร์มที่คนไทยไม่เคยทำมาก่อน
โซเชียลมีเดียเปลี่ยนวิถีการรับข่าวสารของคนไปโดยสิ้นเชิง จากการอ่านหนังสือพิมพ์หรือดูรายการข่าวในทีวี มาสู่การเสพข่าวผ่านการไลฟ์สดหน้าเหตุการณ์จริง, การรายงานสั้น และการใช้แฮชแท็กในการขุดเจาะเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้น
แต่การเสพข่าวผ่านโซเชียลมีเดียก็มีข้อเสียตรงที่ ปริมาณเนื้อหาล่อลวงให้คลิกเยอะขึ้น นอกจากนี้โซเชียลมีเดียก็ไม่ได้สร้างมาให้เป็นแพลตฟอร์มข่าวสารแต่แรก แต่สร้างมาให้เป็นพื้นที่เชื่อมคนเข้าหากันผ่านการโพสต์รูปไปเที่ยว แชร์ช่วงเวลาประทับใจ แชร์อาหารอร่อย เป็นต้น
ดังนั้นเทรนด์ที่เกิดขึ้นแล้วคือเมื่อคนต้องการเสพเนื้อหาที่มีความเฉพาะเจาะจง พวกเขาจึงหันไปหาแพลตฟอร์มอื่นที่เล็กกว่า แต่มีเนื้อหาที่ตรงตามความสนใจมากกว่า
ผู้ใช้งานคนไทยหลายคนคงคุ้นเคยกับ blockdit (บล็อกดิต) แอปโซเชียลแนวใหม่ ที่เริ่มเป็นที่นิยมในกลุ่มของคนที่ต้องการเนื้อหาคุณภาพ หน้าตาแอปเหมือนโซเชียลมีเดียที่เราคุ้นเคยกันดี แต่เนื้อหาต่างออกไป คือจะมีแต่เนื้อหาที่เป็นสาระอิงกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่มีรายละเอียดและการวิเคราะห์มากกว่าการอ่านข่าวท่วไป และเนื้อหาก็ผลิตโดยอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ด้าน จนถึงตอนนี้ blockdit มียอดผู้ใช้งานเติบโตขึ้นมาก และกำลังรับสมัครนักพัฒนาที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ และพร้อมที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่คนไทยไม่เคยทำมาก่อนมาเข้าร่วมทีม
เป้าหมายของ blockdit คือเชื่อมคนด้วยความรู้
ผู้บริหารเล่าวิสัยทัศน์ของแพลตฟอร์ม blockdit ว่าต้องการเชื่อมคนเข้าหากันผ่านสาระความรู้ เพราะทีมงานมีความเชื่อว่า ประเทศดีขึ้นได้ ด้วยความรู้ และใน DNA ของทุกคนต้องการ Wisdom หรือภูมิความรู้ให้เก่งขึ้น เพื่อเอาตัวรอดได้ในสังคม
ดังนั้นจะเห็นว่าบนแพลตฟอร์ม blockdit จะไม่เจอเนื้อหาดราม่า แต่จะเจอเนื้อหาหลากหลายเช่น ธุรกิจ การลงทุน วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ กีฬา ศิลปะ ข่าวสาร ไลฟ์สไตล์ แต่เป็นเนื้อหาที่ลึกและรอบด้านมากขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ blockdit มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีผู้ใช้งานที่ Active 3 แสนราย จนทำให้ตอนนี้ blockdit เป็นแอปหมวดข่าวที่มีคนดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศไทย รองจากทวิตเตอร์
ยิ่งคนใช้งานเพิ่มขึ้น ก็ยิ่งมีฟีดแบ็คและความต้องการของผู้ใช้งานมากขึ้นด้วย blockdit จึงต้องขยายทีม tech เพื่อพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ต่อไป
blockdit ตามหาคนร่วมทีม ต้องการคนที่อยากเก่ง
ปัจจุบัน blockdit แบ่งทีมทำงานออกเป็น ทีม Core, Front, BA, Design
ทีม Core สร้างระบบส่วนกลาง รองรับคนเข้ามาใช้งานจากทุกส่วน ทั้งมือถือ เว็บไซต์ และระบบภายนอก ส่วนนี้ต้องแข็งแรงมาก มี downtime ไม่ได้เลย ต้องผิดพลาดน้อยที่สุด และต้องสามารถขึ้นโปรดักชันได้ไวที่สุด
ทีมอื่นๆ ก็มีความท้ายทายในการทำงานต่างกันไป ตัวแอปมีการแสดงข้อมูลหลายรูปแบบ ภาพ วีดีโอ พอดคาสต์ มีระบบย่อยมากมาย คอมเม้นต์ รีแอกชั่น ค้นหา บูสต์ สิ่งที่มีอยู่แล้วเราก็ค้นหาวิธีที่ทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก Blockdit จึงต้องการคนทำงานเพิ่ม เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณงานในอนาคต
Blockdit กำลังทำแพลตฟอร์มยิ่งใหญ่ ซึ่งหลายคนอาจไม่กล้าทำ เป้าหมายยิ่งใหญ่นี้ ไม่ใช่งานโครงการที่ทำแล้วจบ แต่เป็นโครงการระยะยาวที่ต้องการทำไปเรื่อยๆ และโตไปอีกเรื่อยๆ
Blockdit ต้องการคนที่อยากเก่ง ต้องการสร้างครอบครัว และสภาพแวดล้อมที่ทำให้คนเก่งขึ้นได้ไว ทางบริษัทเน้นงานที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ ไม่เน้นให้ทำงานหนัก แต่เน้นให้คนทำงานเก่งขึ้น เพราะสุดท้ายเมื่อคนเก่งขึ้น งานจะออกมาได้ดีเองโดยธรรมชาติแบบไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
ทักษะที่ต้องการ
Blockdit เปิดรับคนรุ่นใหม่ เพราะผู้บริหารเชื่อว่า คนรุ่นใหม่และคนจบใหม่ จะมีแนวคิดที่สดใหม่ และมีความหลากหลายที่แม้แต่ผู้บริหารก็อาจคิดไม่ถึง
ด้านทักษะ hard skill ที่ทางบริษัทต้องการนั้น ทางผู้บริหารระบุว่า ตอนนี้ทีม Core ใช้
Node.js จึงมีความคาดหวังว่าคนที่เข้ามาร่วมงานทีม tech จะสามารถเขียน JavaScript ได้ ส่วนทีม Mobile ฝั่ง iOS ต้องการคนที่เขียน Swift ได้ ส่วนฝั่งแอนดรอยด์ ใช้ Kotlin เป็นภาษาหลัก ด้านฝั่งเว็บไซต์ใช้การเขียน React
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวผู้บริหารมีความเชื่อว่า การเขียนโปรแกรมไม่ว่าภาษาใดก็สามารถเรียนรู้เพิ่มได้ บริษัทให้ความสนใจกับเทคโนโลยีใหม่ตลอดเวลา ซึ่งมีโครงการขนาดเล็กมาเรื่อยๆ สำหรับ pilot ให้คนทำงานลองเล่น ลองใช้อะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา
สวัสดิการ
ผู้บริหารยืนยันกับ Blognone ว่า เรื่องรายได้ สวัสดิการ ไม่แพ้ใคร มีอาหารของว่างเต็มตู้เย็น มีบัตรสวัสดิการให้กินข้าวเที่ยง มีประกันสุขภาพที่ดี ด้วยความที่เป็นบริษัทเทคโนโลยี จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสวัสดิการและวัฒนธรรมการทำงาน เพราะเราต้องแข่งกับบริษัทอื่นด้วยเหมือนกัน
ความรู้สึกของทีมงาน
"การเขียนโค้ดมันสนุก ท้าทาย ชอบความรู้สึกตอนที่เราแก้ปัญหายากๆ ได้" คือความรู้สึกที่ได้ทำงาน blockdit จาก กฤตยา ไตรทิพย์ชวลิต (เกด) พัฒนาแอปพลิเคชั่น blockdit ฝั่งแอนดรอยด์
เกด ทำงานที่นี่มาราวปีกว่า และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำงานที่นี่คือเจอความท้าทายตลอดเวลา เพราะแอป blockdit มีผู้ใช้งานเยอะขึ้นทุกวัน เราต้องมาคิดว่าจะเขียนโค้ดอย่างไรให้ไม่เกิดบั๊ก ให้คนอื่นอ่านเข้าใจได้ไว ให้ต่อเติมและปรับแก้ไขง่าย นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้เทคนิคเขียนโค้ดใหม่ๆ และยังได้ลองใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย
บรรยากาศการทำงานที่นี่เอื้อให้เราสามารถคิดอะไรใหม่โดยไม่ต้องเกรงใจคนที่ทำงานมาก่อน ถ้าคิดว่ามีวิธีการทำงานที่ดีกว่า ก็สามารถเสนอได้ นอกจากนี้ยังชอบบรรยากาศการทำงานที่ทำให้เราเก่งขึ้น เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่ได้ก็คือตัวเรา
เรื่องสวัสดิการก็เป็นอีกสิ่งที่ชอบ ขนม นม เนย ไม่ขาด มีเซสชั่นให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ เช่นเซสชั่นการลงทุน ทำให้เรามีความรู้มากขึ้นและยังนำไปใช้เองด้วย
เตชินท์ ศุภผล หรือไตเติ้ล ทำหน้าที่ Front-End Developper ดูแลการใช้งาน Blockdit ผ่านเว็บไซต์ บอกความรู้สึกที่ได้ทำงาน Blockdit ให้ฟังว่า ทำงานที่นี่เป็นที่แรก และการที่เลือก Blockdit เป็นที่แรกเพราะมีวิสัยทัศน์ที่ตอบโจทย์ตัวเอง คือ Impact Social with Knowledge ช่วยให้เราคาดหวังว่า เราจะสามารถทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับสังคมได้ และส่วนตัวก็เป็นคนชอบหาอ่านและชอบแชร์ความรู้อยู่แล้วด้วย
ไตเติ้ล ยังเล่าความประทับใจอีกว่า ผู้ใช้งาน blockdit เพิ่มขึ้นเร็วมากในระยะเวลาสั้นๆ และในระยะเวลา 7 เดือนที่ทำงาน blockdit มานั้น ช่วยให้เห็นพัฒนาการของตัวเองชัดเจน ถ้าเทียบโค้ดที่เขียนวันนี้ กับโค้ดที่เขียนไว้เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว พบว่ามีความแตกต่างกันมาก
การทำงานที่นี่ ยังผลักดันให้ได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่นอกเหนือจากสายงานตัวเอง ทั้งเรื่องสังคม ประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ การลงทุน นอกจากนี้ยังมีเวลาการทำงานยืดหยุ่น ทำให้เราสามารถบาลานซ์ชีวิตตัวเองได้
ดูตำแหน่งงานได้ที่ Blognone Jobs |
# ซูเปอร์มาร์เก็ตออสเตรเลียขยายวงเงินจ่ายแบบ contactless ชั่วคราว ลดความเสี่ยงติดโรค COVID-19
Woolworths และ Coles ซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของออสเตรเลียประกาศเพิ่มวงเงินการจ่ายแบบ contactless ที่ไม่ต้องกดรหัสผ่าน จากเดิม 100 ดอลลาร์ออสเตรเลียเป็น 200 ดอลลาร์ โดยเป็นมาตรการชั่วคราวในช่วงโรค COVID-19 ระบาด
การจ่ายแบบ contactless หรือในออสเตรเลียเรียกว่า tap-and-go แม้จะใช้ได้เฉพาะบัตรชิปที่มีความปลอดภัยสูง แต่กระบวนการจ่ายไม่มีการยืนยันด้วยรหัส PIN อีกครั้ง ทำให้ต้องมีการจำกัดวงเงินต่อวันเพื่อจำกัดความเสียหาย เช่นเดียวกับในประเทศไทยที่ร้านค้าหลายแห่งเริ่มอนุญาตให้ไม่ต้องเซ็นสลิปในกรณีที่ยอดชำระไม่สูงนัก
สำหรับออสเตรเลีย ปัญหาของการจ่ายแบบ contactless คือรายการจ่ายจะวิ่งผ่าน Mastercard และ Visa แทนที่จะเป็นเครือข่ายชำระในประเทศ ทำให้ค่าธรรมเนียมที่ร้านค้าต้องแบกรับสูงขึ้น และร้านค้าขนาดเล็กอาจจะไม่พร้อมปรับเครื่องรับบัตรให้รับบัตร contactless ได้เร็วพอ ทำให้ลูกค้าที่อยากลดการสัมผัสยิ่งหนีไปร้านค้าขนาดใหญ่แทน
สำหร้บร้านค้าในไทยหลายแห่งอาจจะให้กดคีย์บอร์ดของร้านเพื่อใช้สิทธิสมาชิกก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยงด้วยการบอกปากเปล่าแทนกันครับ
ที่มา - IT News
ภาพจาก Woolworths |
# อย่าเผาเลยครับพี่น้อง ผู้ให้บริการ 5G ในอังกฤษ ขอประชาชนอย่าเผาเสาสัญญาณ ชี้ไม่เกี่ยวกับการแพร่ COVID-19
หลังจากมีการปล่อยข่าวปลอมในอังกฤษว่าสัญญาณ 5G เป็นตัวเร่งให้โรค COVID-19 ระบาดได้ไวขึ้น จนมีประชาชนออกมาเผาเสาสัญญาณ 5G ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ 4 อันดับต้นๆ ของอังกฤษ คือค่าย EE, o2, Three และ Vodafone ถึงกับต้องออกแถลงการร่วม ขอร้องให้ประชาชนหยุดเผาเสาสัญญาณ เนื่องจาก “เป็นอันตรายต่อผู้คนและบริการที่ต้องพึ่งพาความต่อเนื่องของบริการของเรา รวมทั้งยังก่อให้เกิดอันตรายกับวิศวกรของบริษัท และเป็นอุปสรรคต่อการดูแลเครือข่ายสัญญาณอีกด้วย”
Vodafone ยืนยันกับ The Verge ว่ามีเสาสัญญาณ 4 เสาถูกเผา ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และบริษัท EE ก็บอกว่าเสาที่เบอร์มิ่งแฮม ไม่ได้เป็นเสาสัญญาณ 5G ด้วยซ้ำ แต่ก็โดนเผาอยู่ดี
เครือข่ายสัญญาณมือถือของอังกฤษถูกจัดเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศอังกฤษ และการเผาเสาสัญญาณก็เกิดขึ้นในช่วงที่อังกฤษกำลังจัดการปัญหา COVID-19 ได้อย่างยากลำบาก โดยซีอีโอของ Vodafone ออกแถลงการว่าการเผาเสาสัญญาณนั้น เป็นอันตรายต่อ “ความมั่นคงของประเทศ” และขอให้ประชาชนหยุดแชร์ข่าวปลอม
ล่าสุดหนังสือพิมพ์ The Guardian รายงานว่า Youtube จะทำการลบวิดีโอแนวทฤษฎีสมคบคิดที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี 5G เข้ากับการระบาดของโรค COVID-19 ออกจากระบบ เพราะทำผิดกฎด้านการให้ข้อมูลทางการแพทย์ปลอม ส่วนวิดีโอทฤษฎีสมคบคิดอื่นเกี่ยวกับ 5G ที่ไม่เอ่ยถึงโรคนี้ ก็จะถูกลดการมองเห็น หรือซ่อนจากผลการค้นหา
ที่มา The Verge, Business Insider, The Guardian |
# อดีตหัวหน้าทีมวิศวกร Apple เข้าร่วมงานกับ Microsoft ทีมโปรเจกต์ HoloLens
Rubén Caballero อดีต Vice President of Engineering ด้านเทคโนโลยีไร้สายของ Apple เข้าร่วมงานกับ Microsoft ในตำแหน่ง Corporate Vice President of Engineering ดูแลแผนก Mixed Reality และ AI และดูแลโปรเจกต์อุปกรณ์ เช่น HoloLens กับ “โปรเจกต์พิเศษ” อื่นๆ
Caballero ลาออกจาก Apple ไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว หลัง Apple ได้ข้อสรุปในคดีฟ้องร้องกับ Qualcomm และ Qualcomm จะเป็นผู้ผลิตชิปโมเด็มสำหรับ iPhone รุ่นปี 2020 และหลังจากที่แผนกของ Caballero ถูกยุบรวมเข้ากับทีมสร้างคัสตอมชิปใหม่ของ Apple ที่นำทีมโดย Johny Srouji
Microsoft's HoloLens (คนในภาพไม่ใช่ Rubén Caballero)
Rubén Caballero เริ่มงานกับ Apple เมื่อปี 2005 ในทีมวิศวกรออกแบบเสาสัญญาณ และมีชื่อของเขาอยู่บนสิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีตัวรับสัญญาณแบบไร้สายของ Apple หลายร้อยใบ นอกจากนี้เขายังโด่งดังมาจากความเกี่ยวข้องในกรณี “Antennagate” หรือปัญหาเสาสัญญาณใน iPhone 4 โดยแหล่งข่าวระบุว่าเขาเป็นคน เตือนสตีฟ จ็อบส์ ถึงปัญหานี้ก่อนแล้ว
ที่มา - Macrumors |
# Google ปล่อยอัพเดต Pixel 4 ปลดล็อคใบหน้าบังคับต้องลืมตา
Google ปล่อยอัพเดตให้ Pixel 4 เพิ่มความปลอดภัยในการปลดล็อคใบหน้าด้วยการบังคับให้ต้องลืมตาแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของอัปเดตเดือนเมษายน โดยผู้ใช้งานสามารถปิดบังคับลืมตาได้ในตัวเลือกปลดล็อกใบหน้า
ตอน Google เปิดตัว Pixel 4 บอกว่าจะปล่อยฟีเจอร์นี้ให้หลังเปิดตัวในไม่กี่เดือน
ที่มา - The Verge |
# Google ปล่อย Local Home SDK ตัวจริง ย้ายการประมวลผลคำสั่งมาไว้ที่ Google Home
Google ปล่อย Local Home SDK v1.0 ตัวเต็มออกมาแล้วหลังเปิดตัวใน Google I/O และปล่อยพรีวิวตั้งแต่ปีที่แล้ว
ตัว SDK จะช่วยให้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่เชื่อมต่อ Google Assistant ย้ายการประมวลผลคำสั่งจากคลาวด์มาเป็นบนอุปกรณ์ Google Home (Nest) อย่างลำโพงอัจฉริยะหรือ Smart Display แทน ขณะที่ตัวแอปของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อจะเป็น JavaScript โดยอุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับ Google Home ด้วยโปรโตคอล mDNS, UDP หรือ UPnP ก่อนจะรับส่งข้อมูลบน TCP, UDP, หรือ HTTP
Local Home SDK เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Smart Home ของ Google เป็นวิธีคิดที่ Google เรียกว่า local fulfilment ที่ช่วยลดความหน่วงเวลาสั่งงานและเพิ่มประสบการณ์ใช้งาน
ที่มา - Google Developer |
# Google Fit ออกอัพเดต นำระบบนับก้าวเดินขึ้นมาแสดงคู่กับ Heart Points
Google Fit ออกอัพเดตใหม่ โดยรอบนี้ Google ปรับ UI ใหม่ให้ Google Fit โฟกัสที่ระบบนับก้าวเดินควบคู่กับ Heart Points
สำหรับหน้าหลักของ Google Fit นั้น แต่เดิมจะมี Move Minutes กับ Heart Points ตอนนี้ Google ได้ย้าย Move Minutes เพื่อหลีกทางให้กับ “ก้าวเดิน” ที่ Google ปรับให้เป็นจุดเด่นในอัพเดตรอบนี้ เนื่องจาก Google เห็นว่าการนับก้าวเป็นข้อมูลสุขภาพที่ผู้ใช้งานเข้าดูบ่อย ดังนั้น Google จึงจับรวมกับ Heart Points ให้อยู่ตรงกลางในมุมที่เด่นที่สุดของตัวแอปเพื่อให้ใช้งานส่วนนี้ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ Google Fit เวอร์ชันใหม่ยังเพิ่ม Heart Points Tile บน Wear OS และเพิ่ม progress card ในหน้าโฮมของ Google Fit เพื่อให้เห็นความคืบหน้าในกรณีที่กิจกรรมเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายแล้ว
ตอนนี้ Google Fit เวอร์ชันใหม่เริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ iOS แล้ว และจะทยอยปล่อยให้ Android กับ Wear OS ต่อไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ที่มา - Google Support, Engadget |
# Samsung ประเมินรายได้ Q1/2020 โตราว 5% แม้มีสถานการณ์ COVID-19
ซัมซุงออกมาคาดการณ์ผลประกอบการเบื้องต้นของไตรมาสที่ 1 ปี 2020 รายได้รวมอยู่ในช่วง 54-56 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นประมาณ 5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน กำไรจากการดำเนินงานอยู่ในช่วง 6.3-6.5 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 3%
ตัวเลขนี้เป็นผลประกอบการเบื้องต้น ซึ่งซัมซุงจะรายงานตัวเลขโดยละเอียดอีกครั้งในช่วงปลายเดือน อย่างไรก็ตามรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณที่ดี จากก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าการระบาดของ COVID-19 จะกระทบต่อยอดขาย
นักวิเคราะห์จาก Daiwa Securities มองว่าเงินวอนที่อ่อนค่า อีกทั้งความต้องการชิปหน่วยความจำที่สูงขึ้นมากในช่วงที่คนต้องทำงานอยู่ที่บ้าน ทำให้ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลเพิ่มคำสั่งซื้อขึ้นอีก จึงทำให้ซัมซุงยังได้ประโยชน์ และแนวโน้มราคาก็จะเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสปัจจุบัน ถึงแม้รายได้จากสมาร์ทโฟนจะลดลง
ที่มา: CNBC และ ซัมซุง |
# Google Play ออกฟีเจอร์ Play Together เพิ่มเพื่อนและแชร์สถิติเกมกับเพื่อนได้
Google Play ออกฟีเจอร์ Play Together เป็นฟีเจอร์โซเชียล ผู้ใช้จะมองเห็นรายชื่อเพื่อนและสามารถเพิ่มเพื่อนเข้ามาในลิสต์ได้ แชร์สถิติเกมด้วยกันเพื่อทำการแข่งขันกันได้ เบื้องต้นยังเปิดใช้งานเฉพาะผู้ใช้งานบางกลุ่ม
สำหรับผู้ใช้ที่ได้ฟีเจอร์ใหม่ จะมองเห็นแท็บใหม่คือ Social tab กดเข้าไปจะได้รับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเบื้องต้น เช่นต้องการให้เกมเข้าถึงรายชื่อเพื่อนหรือไม่ เพื่อจะได้เล่นเกมด้วยกันง่ายขึ้น จากนั้นระบบก็จะแนะนำรายชื่อเพื่อนที่อิงกับรายชื่อผู้ติดต่อของผู้ใช้งาน หรือแชร์ลิงค์ของเราไปให้เพื่อนโดยตรงได้
อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้แชร์สถิติการเล่นเกมของตัวเอง หรือคะแนนที่ทำได้กับกลุ่มเพื่อนเท่านั้น ไม่ได้เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้เล่นเกมร่วมกันเรียลไทม์ สามารถดูรูปหน้าตาฟีเจอร์ได้ที่แหล่งข่าวต้นทาง
ที่มา - XDA Developer |
# Airbnb รับเงินลงทุนอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ นักลงทุนมองการท่องเที่ยวเป็นพื้นฐานและยังคงอยู่
Airbnb ประกาศรับเงินทุนอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอยู่ในรูปของหุ้นและเงินกู้รวมกัน จากนักลงทุน Silver Lake และ Sixth Street Partners โดย Airbnb ระบุว่าจะนำเงินทุนนี้มาลงทุนระยะยาว เพื่อพัฒนาชุมชนโฮสต์ ตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
แหล่งข่าวระบุว่า Airbnb ได้ปรับลดมูลค่ากิจการลงสำหรับเงินลงทุนนี้ จากเดิมมูลค่ากิจการอยู่ราว 31,000 ล้านดอลลาร์ มาเป็น 26,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้บริษัทต้องจ่ายเงินชดเชย ทั้งโฮสต์และผู้จองที่พัก อย่างไรก็ตามเงินลงทุนนี้ไม่ได้มีข้อกำหนดว่าบริษัทจะต้องไอพีโอให้ได้ภายในปีนี้ ตามที่มีแผนงานก่อนหน้า
Egon Durban ซีอีโอร่วมของ Silver Lake กล่าวว่าแม้สถานการณ์โลกตอนนี้จะดูยากลำบากสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยว แต่การออกเดินทางหาประสบการณ์ใหม่ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ยังคงอยู่ต่อไป จึงเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ Airbnb จะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและพร้อมที่สุด
ที่มา: Airbnb และ CNBC |
# Foursquare ประกาศรวมกิจการกับ Factual ผู้ให้บริการข้อมูลพิกัด สำหรับลูกค้าแบรนด์ใหญ่
Foursquare บริการเช็กอินและข้อมูลสถานที่ ซึ่งตอนนี้ปรับกลยุทธ์มาเน้นให้บริการระบบข้อมูลพิกัด เน้นลูกค้าองค์กรมากขึ้น (ส่วนแอปเช็กอิน ไปเน้นที่ Swarm) ล่าสุดได้ประกาศควบรวมกิจการกับ Factual ผู้ให้บริการข้อมูลพิกัดสำหรับแบรนด์ โฆษณา เอเจนซี โดยดีลดังกล่าวไม่มีการเปิดเผยมูลค่า
David Shim ซีอีโอ Foursquare คนใหม่ ซึ่งมาจาก Placed บริษัทที่ Foursquare ซื้อกิจการเมื่อปีที่แล้ว กล่าวว่าการรวม 2 บริษัทนี้เข้าด้วยกัน ทำให้รายได้รวมจะเพิ่มเป็นมากกว่า 150 ล้านดอลลาร์ มีฐานลูกค้าใน 20 ประเทศหลักทั่วโลก พร้อมลูกค้าอีกหลายพันร้าย รวมทั้งบริษัทใหญ่ อาทิ ไมโครซอฟท์, อูเบอร์, ซัมซุง และมากกว่าครึ่งหนึ่งใน Fortune 100
Foursquare บอกว่าการรวมกิจการครั้งนี้ ทำให้บริษัทเป็นหนึ่งในผู้มีฐานข้อมูลพิกัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีอุปกรณ์ที่รองรับกว่า 500 ล้านชิ้น มีผู้ใช้งานที่ตั้งเปิดให้เก็บข้อมูลพิกัดกว่า 25 ล้านคน มีเช็กอินมากกว่า 14,000 ล้านครั้ง และข้อมูลสถานที่น่าสนใจทั่วโลกกว่า 105 ล้านแห่ง ใน 190 ประเทศ
ที่มา: Foursquare |
# รีวิว FF7 Remake ออกมาดี คะแนนรีวิวเฉลี่ย 87/100 บางเว็บให้คะแนนเต็ม
Final Fantasy VII Remake มีกำหนดวางขาย 10 เมษายนนี้ วันนี้สื่อต่างประเทศหลายเจ้าก็ปล่อยรีวิวเกมกัน ซึ่งภาพรวมถือว่าออกมาเป็นบวกอย่างมาก คะแนนรีวิวเฉลี่ยจาก Metacritic ตอนนี้อยู่ที่ 87/100
Gamespot ให้ 10/10
IGN ให้ 8/10
Game Informer ให้ 8.75/10
DualShockers ให้ 8.5/10
VG247 ให้ 4/5 ดาว
Games Radar+ ให้ 4.5/5 ดาว
Destructoid ให้ 9/10
นอกจากนี้ยังมีรีวิวที่ไม่ตัดสินคะแนนเป็นตัวเลข เช่น Polygon, Eurogamer, Kotaku ที่ภาพรวมเป็นบวกเช่นกัน
รีวิวส่วนใหญ่ชื่นชมการยกเครื่องเกม FF7 ให้สดใหม่ เกมเพลย์แตกต่างจากของเดิมทำให้รู้สึกสดใหม่ กราฟิกสวยงาม เนื้อเรื่องมีรายละเอียดมากมาย ส่วนจุดที่โดนวิจารณ์มีเรื่องมุมกล้อง และ side-quest ที่อาจทำให้เสียโฟกัสจากเนื้อเรื่องหลักไปบ้าง |
# Red Hat ตั้งซีอีโอคนใหม่ Paul Cormier แทนคนเดิมที่ขึ้นไปเป็นประธาน IBM
Red Hat ประกาศตั้งซีอีโอคนใหม่ Paul Cormier ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของบริษัท ขึ้นมาทำหน้าที่แทนซีอีโอคนเดิม Jim Whitehurst ที่โปรโมทไปเป็นประธานบริษัทของ IBM บริษัทแม่
Paul Cormier อยู่กับ Red Hat มาตั้งแต่ปี 2001 โดยเป็นผู้บุกเบิกโมเดลธุรกิจเก็บค่าสมาชิก (subscription) ที่ทำให้ Red Hat ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้จนทุกวันนี้ ช่วงหลังเขายังมีบทบาทผลักดัน OpenShift ที่ทำให้ Red Hat เป็นหนึ่งในผู้นำของวงการ Kubernetes ด้วยเช่นกัน
ที่มา - Red Hat |
# CF (Confirm) วนไป, COVID-19 ทำให้การ Live ขายสินค้าในจีน เติบโตกว่าเท่าตัว
เว็บ Abacus มีรายงานพิเศษ ว่าด้วยการเติบโตของการขายสินค้าผ่านไลฟ์ในจีน ซึ่งแม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้คนต้องเก็บตัวอยู่บ้าน ก็มีการประเมินว่าการขายสินค้าผ่านไลฟ์ จะเติบโตสูง จากปี 2019 มูลค่าตลาดราว 4.33 แสนล้านหยวน เป็น 9.16 แสนล้านหยวนในปีนี้
ผู้เล่นหน้าใหม่ ที่เข้ามาขายของผ่านไลฟ์ช่วงที่ผ่านมา คือบรรดาห้างสรรพสินค้าที่ปิดให้บริการชั่วคราว ผลสำรวจพบว่าลูกค้าที่ชอบการเลือกสินค้าผ่านวิธีการนี้ มากกว่าการเลือกผ่านหน้าเว็บอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากมีการโต้ตอบ และทำให้เข้าใจรายละเอียดสินค้าได้ดีกว่า
แพลตฟอร์มที่ให้บริการไลฟ์ต่างมีปริมาณการสตรีมเพิ่มขึ้น Douyin (TikTok ชื่อจีน) มีทราฟิกเพิ่ม 28% ในเดือนกุมภาพันธ์เทียบกับเดือนมกราคม, Bilibili เพิ่มขึ้น 12.4% และ Taobao ของ Alibaba ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ทราฟิกนั้นเพิ่มถึง 719% เลยทีเดียว
ที่มา: Abacus ภาพ Alizila
หมายเหตุ: CF เป็นคำย่อจาก Confirm เพื่อยืนยันการซื้อสินค้า ซึ่งนิยมใช้กันเวลาซื้อของทางไลฟ์ |
# Nintendo ถอดเกม Cooking Mama ภาคใหม่บน Nintendo Switch ออกจาก eShop อเมริกาและยุโรป
เกมในซีรี่ส์ Cooking Mama ภาคใหม่ Cooking Mama: Cookstar ได้เริ่มวางจำหน่ายบน Nintendo Switch ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามใน eShop ของอเมริกาและยุโรป เกมเริ่มขายเพียงไม่นาน ก็ถูกถอดออกไปอย่างเป็นปริศนา เหลือเฉพาะการจัดจำหน่ายแบบตลับ
Planet Entertainment ผู้พัฒนาเกม ได้ระบุในทวิตเตอร์ @CookstarMama ว่ามีการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับตัวเกม ว่าฝังสคริปต์ขุดเงินคริปโต โดยผู้เล่นพบว่าเครื่องเกมร้อนกว่าปกติ ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง บริษัทกำลังชี้แจงเพื่อให้เกมกลับมาจำหน่ายทาง eShop ได้ตามเดิม
ทั้งนี้ผู้พัฒนาเกมเคยให้ข้อมูลของ Cooking Mama: Cookstar ว่าใช้เทคโนโลยี blockchain เป็นสกุลเงินดิจิทัลซื้อขายในเกม อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวเป็นแค่ไอเดียของเกมเท่านั้น ไม่ได้มีการใช้เงินคริปโตจริง เพราะแพลตฟอร์ม Switch ไม่เปิดให้ทำได้
ที่มา: Nintendo Life |
# [ไม่ยืนยัน] ทีมพัฒนาชิป Exynos อับอาย ที่ซัมซุงเลือกขาย S20 Snapdragon ในเกาหลีใต้
ประเด็นเรื่องมือถือเรือธงของซัมซุง ที่มีเวอร์ชัน Exynos/Snapdragon แยกกัน เป็นเรื่องที่ถูกถกเถียงและวิจารณ์มาโดยตลอด แต่ในรอบของ Galaxy S20 เริ่มเห็นความแตกต่างระหว่าง Exynos 990 และ Snapdragon 865 ที่ฝั่ง Exynos เริ่มตามไม่ทัน
เดิมทีซัมซุงวางขาย Galaxy S เวอร์ชัน Snapdragon เฉพาะในอเมริกาเหนือเท่านั้น แต่รอบของ S20 ซัมซุงกลับเลือกขายเวอร์ชัน Snapdragon ในประเทศแม่อย่างเกาหลีใต้ด้วย ทำให้มีรายงานว่าทีมพัฒนาชิป Exynos (Samsung LSI) ในเกาหลีใต้รู้สึกอับอายมาก และพยายามประท้วงฝ่ายธุรกิจสมาร์ทโฟนแต่ก็ไม่เป็นผล
หลังเรื่องนี้เป็นข่าว ตัวแทนของซัมซุงก็ชี้แจงสั้นๆ แค่ว่า Galaxy S20 เวอร์ชัน Exynos และ Snapdragon ผ่านการทดสอบมาอย่างดี เพื่อการันตีว่าประสิทธิภาพทัดเทียมกัน (consistent performance)
เมื่อปลายปีที่แล้ว ซัมซุงเพิ่งปลดพนักงานฝ่ายออกแบบซีพียูในเท็กซัสไป 290 คน ท่ามกลางข่าวลือว่าซัมซุงจะไม่ทำ Exynos ต่อแล้ว และจะเปลี่ยนมาเป็นการซื้อไลเซนส์ซีพียูจาก ARM โดยตรงแทน
ที่มา - SamMobile (1), SamMobile (2) |
# ผู้ออกแบบฮาร์ดแวร์ Atari VCS ฟ้องบริษัทไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้าง
ถ้ายังจำกันได้ ปี 2017 เราเห็นโครงการ เกมคอนโซลย้อนยุค Atari VCS ที่ใช้โมเดลระดมทุนผ่าน IndieGogo โดยมีกำหนดส่งมอบเครื่องตอนแรกคือปี 2018 แต่ก็เลื่อนมาหลายครั้ง จนล่าสุดคือกำหนดเดือนมีนาคม 2020 ก็ต้องเลื่อนอีกเพราะปัญหาไวรัสระบาด
หนึ่งในผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ Atari VCS คือ Rob Wyatt ซึ่งเคยมีผลงานออกแบบฮาร์ดแวร์ Xbox รุ่นแรกสุด (ผ่านบริษัทของเขาคือ Tin Giant ที่ได้รับการว่าจ้างจาก Atari)
ล่าสุด Rob Wyatt ยื่นฟ้องบริษัท Atari ด้วยข้อหาไม่จ่ายเงินค่าจ้าง 262,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 8.6 ล้านบาท) ตามที่ตกลงไว้ และฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ Atari อ้างว่าเครื่อง VCS ต้องล่าช้าเพราะการทำงานของ Tin Giant ล่าช้า
บริษัท Atari ในปัจจุบัน (Atari SA) เป็นบริษัทเกมสัญชาติฝรั่งเศส ที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบริษัท Atari Corporation ในอดีต (ล้มละลายไปเมื่อปี 1996) ส่วนแบรนด์ Atari ก็ขายเปลี่ยนมือกันมาหลายทอด จนมาอยู่กับบริษัท Infogrames ของฝรั่งเศส ที่เปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น Atari ในปี 2009
โครงการ Atari VCS ต้องการพัฒนาเกมคอนโซลที่ใช้ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ ใช้ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ โดยสัญญาว่าจะมีเกมคลาสสิคจาก Atari ในอดีตให้เล่นกว่า 100 เกม แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีเกมจากนักพัฒนารายอื่นให้เล่นด้วยหรือไม่
โครงการระดมทุนผ่าน IndieGogo ได้เงินไป 3 ล้านดอลลาร์ และยังมีอัพเดตความคืบหน้าผ่านหน้าเว็บ Indiegogo และเว็บไซต์โครงการอยู่เรื่อยๆ ส่วนตัวผลิตภัณฑ์จะส่งมอบได้จริงๆ หรือไม่ ต้องคอยติดตามกันต่อไป
ที่มา - Ars Technica |
# คอนเทนเนอร์ LXD ออกเวอร์ชัน 4.0 LTS ซัพพอร์ตระยะยาว 5 ปี
เมื่อพูดถึงคอนเทนเนอร์ เรามักนึกถึง Docker แต่ในตลาดก็ยังมีเทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ตัวอื่นๆ เช่น LXC (Linux Containers) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ Docker ใช้ในช่วงแรกๆ ด้วย
โครงการ LXC พัฒนาต่อมาเป็น LXD ที่เพิ่มเครื่องมือและ API จัดการคอนเทนเนอร์แบบ LXC เข้ามา โครงการ LXC/LXD เป็นโอเพนซอร์ส ที่มีสปอนเซอร์หลักคือ Canonical บริษัทแม่ของ Ubuntu (LXD เป็นส่วนหนึ่งของ Ubuntu เวอร์ชัน LTS ทุกตัว)
ล่าสุด Canonical ประกาศออก LXD เวอร์ชัน 4.0 ที่เป็นรุ่น LTS ซัพพอร์ตนาน 5 ปีไปจนถึงปี 2025 โดยฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือการรันได้ทั้งคอนเทนเนอร์และ VM, แนวคิด project ที่สร้างกลุ่มของ instance/image/volume เพื่อจำกัดการเข้าถึง เป็นต้น
ที่มา - LXD, Ubuntu |
# Tesla ปล่อยวิดีโอโชว์ตัวอย่างเครื่องช่วยหายใจประกอบจากชิ้นส่วนรถยนต์
Tesla ปล่อยวิดีโอโชว์ตัวอย่างเครื่องช่วยหายใจเพื่อช่วยวิกฤต COVID-19 โดยวิศวกรได้ปรับปรุงให้เครื่องมือและชิ้นส่วนที่ใช้สำหรับผลิตรถยนต์มาผลิตเครื่องช่วยหายใจ
วิศวกรของ Tesla ได้พัฒนาเครื่องช่วยหายใจขึ้นมาจากชิ้นส่วนที่ใช้ผลิตรถยนต์ เพราะเป็นชิ้นส่วนที่สามารถใช้ได้ทันทีเนื่องจากมีสต็อกไว้แล้ว โดยวิศวกรของ Tesla ระบุว่าจะใช้ชิ้นส่วนรถยนต์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ยกตัวอย่างเช่น ระบบควบคุมอินโฟเทนเมนต์บนรถยนต์ Tesla Model 3 นำมาใช้ควบคุมการไหลของอากาศ, suspension air tank นำมาใช้ผสมออกซิเจน รวมถึงจอสัมผัสของ Model 3 ก็นำมาใช้ควบคุมและแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องช่วยหายใจชิ้นใหม่นี้
Tesla เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตรถยนต์อเมริกันที่นำกำลังการผลิตของบริษัทมาใช้ผลิตเครื่องช่วยหายใจชั่วคราว ซึ่งนอกจาก Tesla แล้วก็มีผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่าง Ford กับ GM ที่นำสายการผลิตรถยนต์มาใช้ทำอุปกรณ์การแพทย์เพื่อสนับสนุนงานด้านสาธารณสุขในช่วงการระบาดของ COVID-19 ด้วย
ที่มา - TechCrunch
ภาพจาก Tesla |
# Doom 64 พอร์ตมาลงพีซี-คอนโซลยุคใหม่ หลังเกมออกมานาน 23 ปี
Doom 64 เป็นเกมในซีรีส์ Doom ที่มักถูกลืม เหตุเพราะมีให้เล่นแค่บนเครื่อง Nintendo 64 เท่านั้น (ออกปี 1997 และผู้พัฒนาคือ Midway Games ไม่ใช่ id Software โดยตรง)
เวลาผ่านมา 23 ปี Doom 64 ถูกนำมาพอร์ตลงพีซีและคอนโซลยุคปัจจุบัน (Xbox One, PS4, Switch) ตามกระแสนิยมของการนำเกมเก่ามาพอร์ตหรือรีมาสเตอร์ในยุคนี้
Doom 64 เวอร์ชันใหม่เป็นฝีมือของ Nightdive Studios สตูดิโอที่เชี่ยวชาญด้านการพอร์ตเกมเก่าๆ ยุค 90s มาแล้วนับไม่ถ้วน (เช่น Turok หรือ System Shock) แถม Sam Villarreal หนึ่งในทีมงานของ Nightdive ยังเคยพอร์ต Doom 64 อย่างไม่เป็นทางการมาแล้ว
การพอร์ตเกม Doom 64 จำเป็นต้องใช้เอนจิน NEX ของ Nightdive เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมของ Nintendo 64 ขึ้นมาใหม่ รวมถึงปรับภาพให้ความละเอียดสูงขึ้น (1080p บนคอนโซล, 720p บน Switch) และรองรับเฟรมเรตถึง 60fps ตามแบบเกมยุคใหม่ด้วย (เกมต้นฉบับทำได้ที่ 30 fps)
Doom 64 เป็นของแถมให้คนที่พรีออเดอร์ Doom Ethernal ภาคหลักภาคล่าสุด แต่ก็สามารถซื้อแยกเฉพาะ Doom 64 ได้ ราคาบน Steam อยู่ที่ 150 บาท
ที่มา - Eurogamer |
# ทางการนิวยอร์กแนะโรงเรียนหยุดใช้ Zoom ในการสอน เพราะข้อกังวลความปลอดภัย
Zoom แอปประชุมวิดีโอคอลที่กำลังมาแรงขณะนี้ ประสบปัญหาข้อกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว และมีบางบริษัทเริ่มแบนไม่ใช้ Zoom ในการทำงานล่าสุด นิวยอร์กออกมาประกาศแนะนำโรงเรียนเลิกใช้ Zoom ในการเรียนการสอน
Danielle Filson โฆษกของหน่วยงานการศึกษาของนิวยอร์ก NYC Department of Education เผยว่า การให้ประสบการณ์การศึกษาระยะไกลที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แนะนำโรงเรียนควรเลิกใช้ Zoom โดยเร็วที่สุด แนะนำด้วยว่าให้ใช้ Microsoft Teams แทน
สำหรับมาตรการใหม่นี้จะครอบคลุมนักเรียน 1.1 ล้านคน โรงเรียน 1,800 แห่ง ทั่วทั้ง 5 เขตของนิวยอร์ก
เนื่องจากปัญหาความปลอดภัยมากมายใน Zoom ทางบริษัทก็ได้ออกมาขอโทษ ยอมรับข้อผิดพลาด ทั้งปัญหาไม่เข้ารหัส, ส่งผ่านข้อมูลผ่านจีน พร้อมระบุจะแก้ไขปัญหาความปลอดภัย
ที่มา - TechCrunch |
# Google Maps นำปุ่มกรองร้านอาหารที่มีเดลิเวอรี่และนำกลับบ้านให้มาอยู่ในหน้าแรก
Google Maps ทำฟีเจอร์ใหม่ตอบรับสถานการณ์โรคระบาด ทำปุ่มกรองร้านอาหารที่มีบริการรับส่งเดลิเวอรี่ และนำกลับบ้านให้ด้วย เมื่อผู้ใช้งานเข้าแอปเพื่อหาร้านอาหาร จะเห็นปุ่ม shortcut คือ “Takeout” และ “Delivery” เพิ่มขึ้นมาในหน้าจอแรก ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ Google Maps ทำมาก่อนแล้ว แต่คราวนี้ดันปุ่มขึ้นมาใหนหน้าแรกให้เห็นชัดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีปุ่มที่ integrate กับแอปส่งอาหารอื่น ให้สามารถกดสั่งอาหารได้โดยตรง แต่สามารถใช้ Google Asistant พูดสั่งได้ และระบบจะเชื่อมไปยังแอปส่งอาหารเช่น DoorDash ให้
ฟังก์ชั่นใหม่นี้ (การเอาปุ่มกรองขึ้นมาในหน้าแรก) เบื้องต้นใช้งานได้แล้วในสหรัฐฯ ฝรั่งเศส แคนาดา
ที่มา - 9to5Google |
# Skype ปล่อยฟีเจอร์ Meet Now สร้างลิงก์ห้องประชุม คนเข้าร่วมไม่ต้องมีบัญชี Skype
ฟีเจอร์เด่นอย่างหนึ่งของ Zoom คือการสร้างห้องประชุมออนไลน์ แล้วส่งลิงก์ให้คนอื่นเข้าร่วมผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชี Zoom หรือติดตั้งแอพ Zoom ไว้เลย
ก่อนหน้านี้ไม่นาน แอพวิดีโอคอลล์ชื่อดังอย่าง Skype ก็เปิดตัวฟีเจอร์แบบเดียวกันชื่อ Meet Now และตอนนี้เริ่มทยอยปล่อยให้ใช้งานกันแล้ว (ทำไมต้องใช้เวลานานขนาดนั้นก็ไม่ทราบได้)
วิธีการใช้งานก็ตรงไปตรงมา คือ กดปุ่มใหม่ Meet Now ที่อยู่เหนือรายชื่อเพื่อน จะเป็นการเริ่มเปิดห้องประชุมออนไลน์ พร้อมลิงก์ที่เราสามารถส่งให้เพื่อนกดเข้าร่วมได้เลย
ผมลองกับ Skype ของตัวเองก็พบว่าใช้งานได้แล้ว |
# Apple เผย ได้ออกแบบ Face Shield เตรียมผลิตสัปดาห์ละ 1 ล้านชิ้น เพื่อบริจาค
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล อัพเดตข้อมูลการบริจาคหน้ากากอนามัย โดยบอกว่าตอนนี้แอปเปิลจัดหาหน้ากากได้แล้วมากกว่า 20 ล้านชิ้น (ตัวเลขก่อนหน้าคือ 10 ล้าน) โดยอยู่ในขั้นตอนการส่งมอบไปยังผู้ที่จำเป็นต้องใช้งานทั่วโลก
นอกจากนี้ Tim Cook ยังเผยว่าทีมงานทั้งฝ่ายออกแบบ วิศวกรรมจัดการ ฝ่ายแพ็คเกจ และซัพพลายเออร์ ได้ร่วมมือกัน ออกแบบ ผลิต และจัดส่ง เฟซชิลด์ ให้บุคลากรทางการแพทย์ โดยเฟซชิลด์ชุดแรกได้จัดส่งไปที่โรงพยาบาลใน Santa Clara Valley และได้ผลตอบรับที่ดี แอปเปิลจึงเตรียมจัดส่งอีก 1 ล้านชิ้น ในสัปดาห์นี้ และวางแผนผลิตให้ได้สัปดาห์ละ 1 ล้านชิ้น เบื้องต้นจะส่งในอเมริกาก่อน และเตรียมจัดส่งต่อไปอีกหลายประเทศ
Tim Cook บอกว่า เฟซชิลด์ที่แอปเปิลผลิตขึ้นนั้น ใช้เวลาประกอบน้อยกว่า 2 นาทีต่อชิ้น สามารถปรับขนาดเวลาใช้งานได้ และตอนแพ็คจัดส่งก็ใช้พื้นที่น้อย บรรจุได้ถึง 100 ชิ้นต่อกล่อง วัสดุและโรงงานผลิตมาจากในอเมริกาและจีน
ที่มา: 9to5Mac |
# iflix เริ่มประสบปัญหาทางการเงิน หนี้สะสมเยอะ ต้องปลดพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย
เว็บไซต์การเงิน DealStreetAsia รายงานข่าวว่า iflix บริการดูหนังสตรีมมิ่งสัญชาติมาเลเซีย เริ่มประสบปัญหาทางการเงิน และต้องปลดพนักงานออกจำนวนหนึ่ง
iflix ยืนยันข่าวการปลดพนักงานกับ DealStreetAsia แต่ไม่ระบุจำนวนที่ชัดเจน บอกเพียงว่าต้องการลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้บริษัทอยู่รอดได้จากวิกฤต COVID-19 และยังตั้งเป้าว่าจะทำเงินเท่าทุน (break even) ได้ในปี 2021 ตามแผนเดิม
DealStreetAsia รายงานว่า iflix มีหนี้สะสมอยู่จำนวนหนึ่ง และต้องชำระหนี้ก้อนนี้ในเดือนกรกฎาคม 2020 หลังจากบริษัทเลื่อนแผนการขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คู่แข่งของ iflix คือ HOOQ จากสิงคโปร์ (ในเครือ Singtel) เพิ่งขอเลิกกิจการ สะท้อนให้เห็นการแข่งขันที่รุนแรงมากในตลาดสตรีมมิ่ง
ที่มา - DealStreetAsia ผ่าน Nikkei |
# รัฐนิวเจอร์ซีย์ขอโปรแกรมเมอร์ COBOL เข้าไปช่วยแก้ระบบสวัสดิการ หลังรับโหลดจาก COVID-19 ไม่ไหว
Phil Murphy ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์แถลงการรับมือโรค COVID-19 โดยมีประเด็นหนึ่งคือระบบสวัสดิการสังคมของรัฐ ที่กำลังรับโหลดสูงกว่าปกติ 16 เท่าตัวกำลังมีปัญหารับโหลดไม่ไหว ทำให้การจ่ายเงินชดเชยตามสิทธิ์ทำได้ช้ากว่าปกติ โดยระบบสวัสดิการรัฐนี้เก่ากว่า 40 ปีและพัฒนาด้วยภาษา COBOL โดยระบุว่าทางรัฐจะเพิ่มตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ COBOL เข้าไปในรายการอาสาสมัคร
ตัวผู้ว่ายอมรับว่าการที่ระบบเก่าที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อความต้องการยังทำงานอยู่เช่นนี้เป็นความผิดพลาด เขาระบุว่าหลังจบเหตุการณ์จะมีการหาสาเหตุว่าทำไมจึงมีระบบเก่าขนาดนี้อยู่ในระบบ
การปลดพนักงานจำนวนมากในสหรัฐฯ ทำให้สองสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐได้รับคำขอค่าชดเชยแล้ว 362,000 รายการ ตัวผู้ว่าขออภัยที่การจ่ายเงินอาจล่าช้าแต่สัญญาว่าจะได้เงินครบทุกคน
ที่มา - The Register |
# Microsoft Editor ส่วนขยายใช้ตรวจสะกด-ไวยากรณ์ เปิดใช้บน Edge/Chrome แล้ว
Microsoft Editor เอนจินแก้ไขข้อความของไมโครซอฟท์ ที่มีฟีเจอร์ด้านการตรวจสะกด-ตรวจไวยากรณ์ขั้นสูง (แบบเดียวกับ Grammarly) เปิดให้ใช้งานบน Microsoft Edge และ Google Chrome แล้ว
ผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้งส่วนขยาย Microsoft Editor ก่อน (ลิงก์ดาวน์โหลด Edge และ Chrome) จากนั้นล็อกอินด้วยบัญชี Microsoft Account จึงจะใช้งานได้ ผู้ใช้ทั่วไปจะได้ฟีเจอร์ตรวจไวยากรณ์พื้นฐาน ส่วนคนที่เป็นสมาชิก Office 365/Microsoft 365 จะได้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมเพิ่ม
Microsoft Editor จะมาตรวจข้อความทั้งหมดใน text box บนหน้าเว็บ (รองรับ 80 ภาษาแต่ไม่มีภาษาไทย) เมื่อเราสะกดผิดจะเห็นขีดเส้นใต้สีน้ำเงิน แทนเส้นหยักสีแดงแบบที่คุ้นเคย
หมายเหตุ: ผมลองกับ Edge บนหน้าเขียนข่าวของ Blognone แล้วใช้งานได้ปกติ แต่บน Chrome พบว่ายังไม่สามารถใช้งานได้
ตัวเอนจิน Microsoft Editor ยังจะถูกใช้งานกับโปรแกรมอื่นๆ ของไมโครซอฟท์คือ Microsoft Word และ Outlook ด้วย ซึ่งตอนนี้ยังทดสอบในวงจำกัดอยู่
ที่มา - MSPoweruser |
# คินเดิลออกอัปเดต 5.12.4 - ปรับเมนู Display Settings
อันนี้เป็นข่าวเก่านะครับ รอจนเมนูมันเปลี่ยนแล้วถึงเอามาลง คือเมื่อวันที่ 20 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางอเมซอนออกอัปเดตซอฟต์แวร์รุ่น 5.12.4 สำหรับเครื่องรุ่นที่เจ็ดขึ้นไป อันได้แก่ Kindle Oasis 1/2/3, Voyage, Kindle 8/10 และ Paperwhite 2/3/4 ครับ
ส่วนตัวอัปเดตย่อยใหม่ครั้งนี้มีอะไรที่ปรับปรุงไปบ้างนั้น นอกจากคำอธิบายกว้างๆ ว่า ปรับปรุงประสิทธิภาพ (performance improvements) และแก้บั๊กแล้ว แล้วยังมีการปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่อีกเล็กน้อย ดังนี้ครับ
ปรับเปลี่ยนตัวเมนู Aa: มีการจัดเมนู Display Settings (Aa) ใหม่ให้ดูสวยขึ้น ดึงเอาออปชันต่างๆ เกี่ยวกับการอ่านมารวมไว้ตรงนี้ ทำให้สะดวกขึ้นในการปรับ โดยไม่ต้องออกไปหน้า Settings ก่อน
(ส่วนที่ลือกันว่าจะให้เอาปกหนังสือที่อ่านอยู่เอาไปเป็นหน้า screensaver นั้นก็ยังคงเป็นแค่ข่าวลือกันต่อไปครับ)
ตัวอัปเดตมีขนาดประมาณ 200-270 MB ซึ่งจะถูกโหลดและติดตั้งผ่าน OTA หรือถ้าไม่อยากรอสามารถโหลดตัวอัปเดตมาจากเว็บไซต์มาติดตั้งเองโดยแยกตามรุ่นดังนี้ครับ
Kindle Oasis 10th Gen (KOA3 - 2019)
Kindle Oasis 9th Gen (KOA2 -2017)
Kindle Oasis 8th Gen (KOA - 2016)
Kindle Voyage 7th Gen - (KV - 2014)
Kindle Paperwhite 10th Gen (PW4 - 2018)
Kindle Paperwhite 7th Gen (PW3 - 2016)
Kindle 10th Gen (KT4 - 2019)
Kindle 8th Gen (KT3 - 2016)
ที่มา: The eBook Reader Blog |
# [ไม่ยืนยัน] Apple เตรียมซื้อกิจการ NextVR ผู้ให้บริการ VR สำหรับกีฬาและความบันเทิง
เว็บ 9to5Mac อ้างแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ระบุว่าแอปเปิลอยู่ในขั้นตอนการซื้อกิจการทั้งหมดของ NextVR บริษัทผู้ให้บริการระบบ VR สำหรับการแข่งกีฬา และงานด้านบันเทิง
บริการของ NextVR ให้ผู้ชมสามารถรับชมรายการสด เช่น การแข่งกีฬา ในรูปแบบ VR ผ่านอุปกรณ์สวมใส่ ซึ่งตอนนี้รองรับ PlayStation, Oculus, HTC, ไมโครซอฟท์ และ Lenovo บริษัทยังถือสิทธิบัตรในการถ่ายทอดสดรายการต่าง ๆ แบบ VR ที่ความละเอียดสูง รวมทั้งเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง บริษัทมีพาร์ทเนอร์รายสำคัญ อาทิ NBA, Fox Sports และ Wimbledon
มูลค่ากิจการในการเข้าซื้อคาดว่าอยู่ราว 100 ล้านดอลลาร์ เนื่องจาก NextVR เอง ก็ประสบปัญหาการเพิ่มทุน และการขยายฐานตลาด คาดว่าแอปเปิลน่าจะซื้อกิจการ NextVR เพื่อให้ได้ทีมงานมากกว่าตัวเทคโนโลยี เพราะบริษัทมีโฟกัสหลักที่ AR ตอนนี้
ที่มา: 9to5Mac |
# E3 ประกาศวันจัดงานในปี 2021 แล้ว หลังยกเลิกงานปีนี้ไป
สมาคม ESA (Entertainment Software Association) ผู้จัดงาน E3 ประกาศกำหนดวันจัดงาน E3 ในปีหน้า E3 2021 วันที่ 15-17 มิถุนายน 2021 หลังจากที่งานในปีนี้ประกาศยกเลิกไป จากการระบาดของ COVID-19 และผู้จัดงานก็ยืนยันว่าจะมีงานในปี 2021 ตามกำหนดเดิม โดยรูปแบบงานน่าจะเหมือนกับของปี 2020 ที่ยกเลิกไป
สำหรับงานของปี 2020 นั้น ESA เคยบอกว่าจะหาวิธีการจัดงานในรูปแบบออนไลน์ ในช่วงเดียวกันคือเดือนมิถุนายน 2020 แทน ขณะเดียวกันเว็บไซต์ IGN ก็ประกาศจัดงานออนไลน์ Summer of Gaming ในช่วงมิถุนายนปีนี้เช่นกัน โดยระบุว่ามีพาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วม อาทิ Square Enix, Bandai Namco, 2K Games และ Sega ซึ่งเนื้อหาจะเป็นเกมที่กำลังพัฒนาอยู่จากค่ายต่าง ๆ นั่นเอง
ที่มา: Polygon |
# Google Cloud, Oracle, SAP เปิดวิชาเรียนออนไลน์เตรียมสอบใบรับรองให้เรียนฟรี
ช่วงโรค COVID-19 ระบาดทำให้หลายหน่วยงานตัดสินใจแจกหนังสือ และวิชาเรียนออนไลน์ต่างๆ สัปดาห์ให้ฝั่งผู้ให้บริการคลาวด์และซอฟต์แวร์ระดับองค์กรก็เริ่มออกมาเปิดให้บทเรียนฟรีกันแล้ว
SAP เปิดโครงการ openSAP และ SAP Young Thinkers Program ที่เป็นบทเรียนสำหรับเด็ก เช่น วิชาโปรแกรมมิ่งเบื้องต้น, และวิชาเรียนบางส่วนที่ SAP เคยเปิดให้เฉพาะมหาวิทยาลัยเข้าเรียนฟรีก็จะเปิดให้ทุกคนที่อายุเกิน 16 ปีเข้าเรียนได้ทั้งหมด
Oracle เปิดวิชาเรียนด้านคลาวด์และระบบฐานข้อมูล สำหรับเตรียมสอบใบรับรอง 6 ใบพร้อมกับสอบออนไลน์ได้ฟรี
Google Cloud เปิดวิชาเรียนกว่า 60 รายการบน 3 แพลตฟอร์ม Pluralsight, Coursera, และ Qwiklabs ที่เป็นบทเรียนแบบลงมือทำ โดยต้องลงทะเบียนก่อน
ทั้งสามรายการน่าจะทำให้คนดูแลระบบที่กำลังเรียนรู้ตลาวด์เข้าถึงบทเรียนที่เคยเสียเงินกันได้ง่ายขึ้นมาก ใครสำรวจแพลตฟอร์มไหนแล้วมีวิชาอะไรน่าเรียนเป็นพิเศษมาเล่ากันได้ครับ |
# นักวิจัยเผย Zoom ส่งทราฟฟิกวิดีโอคอลผ่านจีน ฝั่ง Zoom แจงเป็นศูนย์ข้อมูลสำรอง
นักวิจัยจาก Citizen Lab ออกรายงานข้อมูลว่าบริการวิดีโอคอล Zoom ได้ส่งข้อมูลการโทรศัพท์จากอเมริกาเหนือผ่านประเทศจีนโดยไม่แจ้งให้ผู้ใช้ทราบก่อน รวมถึงกุญแจเข้ารหัสที่ใช้กับข้อมูลเหล่านั้นด้วย
ต้องอธิบายก่อนว่า Zoom ไม่ได้เข้ารหัสแบบ end-to-end แต่เป็น end to end (ไม่มีขีด) หมายความว่า Zoom ยังถือกุญแจเข้ารหัสข้อมูลลูกค้า ซึ่งแน่นอนว่าตามกฎหมายจีนทางการสามารถสั่งให้ Zoom ส่งกุญแจเพื่อถอดรหัสข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่ต้องการได้
Zoom โดยซีอีโอ Eric Yuan ได้ออกมายอมรับเรื่องนี้ โดยระบุว่าตามปกติแล้ว Zoom จะพยายามเชื่อมต่อกับศูนย์ข้อมูลที่อยู่ในหรือใกล้กับบริเวณที่ผู้ใช้อยู่ แต่ถ้าหากมีปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ไคลเอนท์ก็จะส่งไปเชื่อมต่อที่ศูนย์ข้อมูลสำรองตามที่ระบุไว้ในรายการ
อธิบายง่าย ๆ คือ Zoom จะพยายามเชื่อมต่อผ่านศูนย์ข้อมูลที่ใกล้ที่สุดก่อน แต่ถ้าทราฟฟิกพุ่งสูงหรือเชื่อมต่อไม่ได้ Zoom ก็จะย้ายไปต่อศูนย์ข้อมูลที่ใกล้ที่สุดที่เหลือปริมาณการรองรับทราฟฟิกสูงสุด ซึ่งหมายความว่าอาจจะไปต่อศูนย์ข้อมูลจีนได้ในกรณีที่ศูนย์ข้อมูลแห่งอื่น ๆ เต็มหมดแล้ว แต่ Zoom ก็ระบุว่าโอกาสเกิดเหตุการณ์แบบนี้น้อยมาก (extremely limited) และลูกค้าภายใต้ government plan จะไม่ได้รับผลกระทบจาก routing ลักษณะนี้
อย่างไรก็ดี Citizen Lab ยังให้ข้อสังเกตอีกว่า Zoom ใช้ระบบเข้ารหัสทำเอง ซึ่งโดยปกติแล้ววงการเข้ารหัสจะไม่ยอมรับเนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งได้เหมือนกับมาตรฐานหลัก แต่ Zoom ระบุว่าทางบริษัทได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญนอกบริษัทแล้ว (แต่ไม่เปิดเผยว่าปรึกษากับใคร)
ที่มา - TechCrunch, Citizen Lab |
# พบไวรัสคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ชื่อ COVID-19 หลายตัว มุ่งแก้ไข MBR ดิสก์, ขโมยข้อมูลผู้ใช้
นักวิจัยด้านความปลอดภัยจากหลายแห่งเริ่มรายงานว่าขณะนี้มีมัลแวร์ที่ตั้งชื่อว่า COVID-19 หรือ Coronavirus หลายตัวกำลังระบาด โดยมีพฤติกรรมแตกต่างกันไป ดังนี้
กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่แก้ไข MBR (Master Boot Record) ของฮาร์ดดิสก์ โดยมัลแวร์ตัวนี้จะแสดงผลรูป coronavirus (ของจริง) ขึ้นมาบนหน้าจอซึ่งไม่ให้ผู้ใช้กดปิด และเปิด Task Manager ไม่ได้ ระหว่างนั้นมันจะเข้าไปแก้ไข MBR แล้วรีบูทเครื่อง ทำให้ผู้ใช้บูทเครื่องไม่ได้ สามารถแก้ไขโดยใช้ซอฟต์แวร์พิเศษที่ช่วยแก้ไข MBR ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
ภาพโดย SonicWall
กลุ่มต่อมามีพฤติกรรมหนักกว่า ใช้ชื่อว่า "CoronaVirus ransomware" โดยเบื้องหน้าจะแสดงตนว่าเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่แต่จริงๆ แล้วเบื้องหลังมันจะขโมยรหัสผ่านที่เก็บไว้ในเครื่องผู้ใช้ หลังจากนั้นก็แก้ไข MBR ซ้ำอีกที
ภาพโดย Bleeping Computer
กลุ่มสุดท้ายก็ใช้ชื่อล้อกับ Coronavirus เช่นกัน กลุ่มนี้มีพฤติกรรมลบไฟล์ในเครื่องผู้ใช้ โดยนักวิจัยตรวจพบสองตัว ตัวหนึ่งแพร่ในจีนกับอีกตัวมาจากอิตาลี
ที่มา - ZDNet |
# ไมโครซอฟท์-กูเกิล ร่วมออกแบบหน้าตาฟอร์มบนเว็บใหม่ ใช้ได้ทั้ง Edge และ Chrome
โครงการ Chromium ประกาศปรับดีไซน์ของ "ฟอร์ม" บนหน้าเว็บ (ปุ่ม ตัวเลือก แถบเลื่อน ฯลฯ) ที่เดิมสไตล์ต่างกันคนละทิศทาง ให้ดูเป็นไปในแนวทางเดียวกันมากขึ้น
โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างทีม Google Chrome และ Microsoft Edge มาช่วยกันออกแบบ โดยตั้งใจให้ดีไซน์ใหม่เป็นสากลมากขึ้น ใช้ได้กับทุกระบบปฏิบัติการ มีความแบนราบ (flat) ตามสมัยนิยม ลดการไล่สี (gradient) จากโลกยุคก่อนลงมา
ซ้าย: ของเดิม, ขวา: ของใหม่
นอกจากความสวยงามแล้ว ทีมงานยังปรับปรุงเรื่อง accessibility ให้ผู้ใช้เห็นชัดขึ้นว่ากำลังเลือกคอนโทรลปุ่มไหน (หากใช้คีย์บอร์ดเลื่อน) และปรับปรุงเรื่องพื้นที่ของคอนโทรลให้ใหญ่ขึ้น สำหรับคนที่ต้องใช้นิ้วแตะหน้าจอด้วย
ฟอร์มและคอนโทรลชุดใหม่เริ่มใช้แล้วใน Microsoft Edge ส่วน Chrome จะเริ่มตามมาในเวอร์ชัน 83
ที่มา - Chromium |
# [Counterpoint] ตลาด Music Streaming ปีที่ผ่านมา เติบโต 32% Spotify ยังครองส่วนแบ่งอันดับ 1
บริษัท Counterpoint Research ออกรายงานภาพรวมตลาดเพลงสตรีมมิ่งออนไลน์ ของปี 2019 จำนวนผู้สมัครใช้งานมี 358 ล้านบัญชี เติบโต 32% จากปีก่อนหน้า ส่วนตัวเลขของปี 2020 นั้น ประเมินว่าจะเติบโตมากกว่า 25% มีผู้สมัครใช้งานมากกว่า 450 ล้านบัญชี
ปัจจัยที่กระตุ้นให้คนสมัครบริการฟังเพลงสตรีมมิ่งมากขึ้น มาทั้งจากการมีคอนเทนต์เฉพาะลูกค้าพรีเมียม นอกจากนี้โปรโมชันลดราคา หรือแพ็กเกจพ่วงไปกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ เหล่านี้ช่วยให้มีคนสมัครใช้งานเพิ่มขึ้น
เมื่อวัดส่วนแบ่งเฉพาะจำนวนผู้ใช้งานที่เสียเงิน Spotify เป็นอันดับ 1 ที่ 35% ตามด้วย Apple Music 19% และ Amazon Music 15%
ที่มา: Counterpoint Research |
# Amazon เตรียมบุกตลาดคลาวด์เกมมิ่ง เล่นเกมจากไลฟ์ Twitch ได้เหมือน Stadia
เป็นที่รู้กันดีว่า Amazon เล็งบุกเข้าตลาดเกมมานานแล้ว ทั้งจากการตั้งสตูดิโอพัฒนาเกม Amazon Game Studios และการซื้อกิจการ Twitch
ความนิยมของ Twitch ในฐานะแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิ่ง ทำให้เราคาดเดาได้ไม่ยากว่า Amazon จะต่อยอดจากการชมไลฟ์อย่างเดียว มาสู่การเล่นเกมไปด้วยกัน (แบบที่ Google Stadia กำลังพยายามทำกับ YouTube) ล่าสุด The New York Times รายงานข่าวว่า Amazon กำลังพัฒนาโครงการนี้อยู่ในชื่อโค้ดเนม Project Tempo มีกำหนดเปิดตัวช่วงกลางปีนี้ แต่อาจเลื่อนไปเป็นปี 2021 จากสถานการณ์ไวรัสระบาด
ฝั่งสตูดิโอเกม Amazon Game Studios ที่ก่อนหน้านี้ยังเข็นไม่ขึ้น ก็เตรียมเปิดตัวเกมใหญ่ 2 เกมในเดือนหน้า คือ Crucible เกมแนวแบทเทิลรอยัล และ New World เกมแนว MMO ย้อนยุคไปศตวรรษที่ 17
ที่มา - The New York Times
ภาพจากเกม Crucible
คลิปเทรลเลอร์เกม New World |
# [ไม่ยืนยัน] Amazon อาจต้องเลื่อนวัน Prime Day 2020 เพราะไวรัส กระทบสินค้าในสต๊อก
ปกติแล้ว Amazon มีเทศกาลช็อปปิ้งออนไลน์ครั้งใหญ่ประจำปีคือ Amazon Prime Day ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมของทุกปี (ข่าวของปี 2019)
แต่สถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งสินค้าของ Amazon อาจทำให้บริษัทต้องเลื่อนวัน Prime Day ในปี 2020 ออกไป
สำนักข่าว Reuters อ้างข้อมูลจากเอกสารภายในของ Amazon ว่า Prime Day อาจต้องเลื่อนออกไปเป็นเดือนสิงหาคม "เป็นอย่างเร็ว"
ผลกระทบของการเลื่อน Prime Day คือ Amazon มีสต๊อกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จำนวนหนึ่งรอไว้แล้ว (เช่น พวกลำโพง Echo) และต้องนำมาลดราคาขายก่อนกำหนด เพื่อแก้ปัญหาต้นทุนจมในสต๊อก แต่การที่ออเดอร์ของ Amazon เองช่วงนี้ก็มีมากเพราะคนกักตัวอยู่บ้าน ก็อาจทำให้การเร่งขายสินค้าเหล่านี้ทำได้ไม่ง่ายนัก
ที่มา - Reuters |
# Node.js ปรับแผนการออกรุ่นใหม่ให้ช้าลงเล็กน้อย เพราะผลกระทบจาก COVID-19
เราเห็นโครงการซอฟต์แวร์หลายตัว ปรับแผนการออกรุ่นหลังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 (เช่น Chrome, Firefox) ล่าสุด Node.js ออกมาปรับแผนการออกรุ่นเช่นกัน
ปกติแล้ว Node.js มีรอบการออกรุ่นใหม่ (Current) ทุก 6 เดือน จากนั้นรุ่นที่เป็นเลขคี่จะเลิกซัพพอร์ตไป และรุ่นที่เป็นเลขคู่จะเข้าสถานะพร้อมใช้งานจริง (Active LTS) เป็นเวลา 12 เดือน หมดแล้วจะเป็นสถานะ Maintenance LTS อีก 18 เดือน (รวมเป็น 30 เดือน)
ปัจจุบัน Node.js มีรุ่นที่อยู่ในสถานะ Active LTS สองตัวคือ v10 และ v12 ส่วน v13 เพิ่งหมดระยะ Current ไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน และรอออก v14 เป็น Current ในเร็วๆ นี้
แผนการออกรุ่นที่ปรับใหม่ของ Node.js คือ
v10 เดิมจะออกรุ่นย่อยใหม่ 7 เมษายน จะเลื่อนเป็น 19 พฤษภาคม
v12 ซึ่งเป็นรุ่นเสถียรตัวล่าสุด (และมีผลกระทบเยอะที่สุด) จะออกรุ่นย่อยในวันที่ 7 เมษายน และจะเลื่อนออกรุ่นย่อยถัดไป รวมถึงอาจเลื่อนระยะการเป็น Maintenace ด้วย
v13 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผน เพราะเป็นเวอร์ชันเลขคี่ที่จะเลิกใช้ตามกำหนดในเดือนมิถุนายน 2020
v14 จะเข้าสถานะ Current ตามแผนในวันที่ 21 เมษายน แต่อาจเลื่อนการเข้าสถานะ Active LTS ให้ช้าลงได้
ที่มา - Node.js |
# Apple ซื้อกิจการ Voysis สตาร์ทอัพเทคโนโลยีรู้จำเสียง เน้นรองรับการ Shopping
มีรายงานว่าแอปเปิลได้เข้าซื้อกิจการ Voysis สตาร์ทอัพที่พัฒนาด้าน AI จากการสั่งงานด้วยเสียง ด้วยมูลค่าที่ไม่เปิดเผย
Voysis ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับการสั่งงานด้วยเสียง เน้นไปที่แอปช้อปปิ้ง โดยมีจุดขายคือการใช้ฐานข้อมูลลูกค้าทำงานร่วมกับ AI เพื่อให้เข้าใจรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่สั่งซื้อ หรือบริการที่ต้องการได้เชิงลึก เป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้กับลูกค้า ซึ่งคาดว่าแอปเปิลจะนำเทคโนโลยีของ Voysis มาผนวกกับ Siri
แอปเปิลยืนยันการซื้อกิจการนี้ด้วยคำตอบมาตรฐานว่าบริษัทมีการซื้อกิจการขนาดเล็กอยู่ตลอด
ที่มา: MacRumors |
# Chrome ยกเลิกบังคับใช้คุกกี้ SameSite ชั่วคราว ป้องกันเว็บพังในช่วง COVID-19
Chrome ออกเวอร์ชัน 80 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจุดสำคัญอย่างหนึ่งคือเตรียมพร้อมบังคับใช้ค่า SameSite สำหรับคุกกี้ และจะทยอยเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้ทีละกลุ่ม
ล่าสุด Chrome ประกาศหยุดบังคับใช้ค่าคุกกี้ SameSite ชั่วคราว โดยทางทีมพัฒนาให้เหตุผลว่าเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 เพื่อป้องกันเหตุการณ์เว็บไซต์ไม่เสถียร
คุกกี้ SameSite เกิดขึ้นเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ป้องกันระบบติดตามข้ามไซต์ แต่ก็มีผลข้างเคียงคือทำให้เว็บบางเว็บไม่เสถียรหรืออาจพังได้โดยเฉพาะเว็บที่ใช้คุกกี้จากบุคคลที่สามกับระบบล็อกอิน ดังนั้นการยกเลิกกฎนี้ชั่วคราวจะช่วยให้เว็บไซต์ที่ยังไม่พร้อมและไม่มีทรัพยากรพอที่จะแก้ระบบสามารถให้บริการผู้ใช้ได้ต่อไปโดยไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ดี การยกเลิกนี้เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเท่านั้น แต่ในระยะยาว Chrome จะบังคับใช้คุกกี้ SameSite แน่นอน
ที่มา - The Verge, Chromium Blog |
# Binance ซื้อกิจการเว็บรายงานราคาเงินคริปโต CoinMarketCap
Binance ตลาดซื้อขายเงินคริปโตรายใหญ่ ประกาศเข้าซื้อกิจการ CoinMarketCap เว็บรายงานราคาเงินคริปโต ที่ได้รับความนิยมในการอ้างอิง
เว็บ The Block รายงานมูลค่าของดีลนี้อยู่ราว 300 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการให้ผลตอบแทนในรูปของหุ้น Binance และเงินคริปโต BNB
Changpeng Zhao (CZ) ซีอีโอ Binance ระบุว่าการบริหารของ CoinMarketCap จะยังเป็นอิสระจาก Binance ไม่มีการแทรกแซงกัน เนื่องจาก CoinMarketCap ก็มีการรายงานข้อมูลราคาของ BNB ด้วย อย่างไรก็ตาม The Block ระบุว่า CoinMarketCap อาจเปลี่ยนรูปแบบบริการ จากที่หารายได้ด้วยโฆษณา มาเป็นระบบ subscription เพื่อซื้อฟีเจอร์ดูข้อมูลราคาเพิ่มเติมแทน
ที่มา: The Block และ Binance |
# Microsoft Edge มีส่วนแบ่งตลาดแซงหน้า Firefox ขึ้นเป็นเบราว์เซอร์อันดับ 2 แล้ว
Net Applications รายงานสถิติเว็บเบราว์เซอร์ประจำเดือนมีนาคม 2020 มีจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจคือ ส่วนแบ่งตลาดของ Microsoft Edge สามารถแซงหน้า Firefox ได้แล้ว ขึ้นมาเป็นเบราว์เซอร์อันดับสองของโลกเดสก์ท็อปแล้ว
เดือนกุมภาพันธ์ 2020 แชมป์เป็น Chrome แบบทิ้งห่างที่ 67.27% ตามด้วย Firefox 7.57% และ Edge 7.38%
เดือนมีนาคม 2020 Chrome ส่วนแบ่งเพิ่มอีกเล็กน้อยเป็น 68.50%, Edge แซงขึ้นมาที่ 7.59%, Firefox ตกลงไปเหลือ 7.19%
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Edge มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นคือ Edge ตัวใหม่พลัง Chromium ออกรุ่นเสถียร และไมโครซอฟท์ก็ทยอยปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ Windows 10 กัน
ส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์พกพา Chrome ก็ทิ้งห่างที่ 63.67% อันดับสองคือ Safari 26.46%, Samsung Browser 4.23% ส่วน Firefox บนมือถือมีส่วนแบ่งแค่ 0.57% เท่านั้น
ที่มา - Net Marketshare, Computerworld |
# SAP Business Application Studio เครื่องมือพัฒนาแอพตัวใหม่ของ SAP เข้าสู่สถานะใช้งานจริง
ข่าวเก่านิดนึงนะครับ แต่หลังจากที่ SAP Business Application Studio ได้เปิดทดสอบเวอร์ชันเบต้ามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา SAP Business Application Studio ก็ได้ประกาศออกรุ่นใช้งานจริง (Generally Available) บนแพลตฟอร์มคลาวด์ของ SAP (Cloud Foundry) เป็นที่เรียบร้อย
SAP Business Application Studio เป็นเครื่องมือพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนแพลตฟอร์ม SAP ตัวใหม่ที่สามารถเรียกใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ นับเป็น IDE รุ่นต่อจาก SAP Web IDE ของบริษัท SAP เดิม
ทาง SAP กล่าวว่าการเปลี่ยนมาใช้ SAP Business Application Studio ก็เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยฟีเจอร์ของ IDE ที่ได้รับการพัฒนา โดยใช้ประโยชน์จากดีไซน์และมาตรฐานที่ Visual Studio Code ตัวแก้ไขโค้ดโอเพ่นซอร์สของไมโครซอฟท์ได้วางไว้
SAP Business Application Studio (ซึ่งพัฒนาต่อจาก Eclipse Theia) จึงมีหน้าตาและวิธีใช้งานที่คล้ายกับ VS Code เป็นอย่างมาก แถมยังสามารถนำส่วนขยายของ VS Code มาใช้งานได้อีกด้วย
ภาพ SAP Business Application Studio จากยูทูบ SAP Technology
ไม่เพียงแค่นั้น SAP Business Application Studio ยังมาพร้อมกับแนวคิด Dev Space หรือพื้นที่ทำงานเสมือนบนคลาวด์ ที่เบื้องหลังคือการแบ่งเครื่อง virtual machine ซึ่งได้จัดชุดเครื่องมือ, รันไทม์ รวมถึงการตั้งค่า environment สำหรับงานพัฒนารูปแบบต่างๆ (เช่น SAP Fiori หรือ SAP S/4HANA Extension) ไว้ให้พร้อม ช่วยทำให้การเริ่มต้นพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนแพลตฟอร์ม SAP ทำได้ง่ายสะดวกและรวดเร็วขึ้น
นักพัฒนาสาย SAP สามารถเข้าไปติดตามข่าวคราวของ SAP Business Application Studio ได้บนหน้าเว็บ SAP Community สำหรับโร้ดแมปของการพัฒนาและการขยายการใช้งานไปยังเทคโนโลยีอื่นของ SAP ทางบริษัทกล่าวว่าจะปล่อยออกมาในเร็วๆ นี้ครับ
ที่มา - SAP Community Blog |
# NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX 2080 และ 2070 SUPER รุ่นสำหรับโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง
รอบวันนี้เราเห็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งเปิดตัวใหม่หลายรุ่น ตามการเปิดตัวซีพียู Core 10th Gen "Comet Lake-H" ของอินเทล เช่น ASUS, Acer, Lenovo, Razer
ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์สำคัญที่เปิดตัวมาวันเดียวกันคือ จีพียู GeForce RTX SUPER เวอร์ชันโน้ตบุ๊กที่รอกันมานาน โดย NVIDIA เปิดตัวมาพร้อมกันสองรุ่นคือ GeForce RTX 2080 SUPER รุ่นท็อปสุด และ GeForce RTX 2070 SUPER รุ่นรอง
ในแง่ฟีเจอร์คงไม่มีอะไรต่างจาก GeForce RTX SUPER รุ่นเดสก์ท็อป ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ฟีเจอร์สำคัญที่ NVIDIA นำมาชูเป็นจุดขายคือ NVIDIA DLSS 2.0 ที่ใช้ Tensor Cores ประมวลผล AI เพื่อช่วยปรับประสิทธิภาพการเรนเดอร์กราฟิก เมื่อบวกกับฟีเจอร์ BatteryBoost ที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ ก็ช่วยให้แบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊กเหล่านี้ใช้ได้นานขึ้นสูงสุด 20%
จีพียูใหม่ทั้งสองตัวยังมีเวอร์ชัน Max-Q ให้เลือก (ขึ้นกับผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก) สำหรับโน้ตบุ๊กสายบางเบา แต่ยังต้องการพลังเกมมิ่งที่สูงอยู่ เทคโนโลยีสำคัญคือ Max-Q Dynamic Boost ที่ช่วยปรับการใช้พลังงานระหว่างซีพียู-จีพียู ตามรูปแบบการใช้งาน ทำให้ไม่ต้องกำหนดค่าพลังงานของซีพียู-จีพียูคงที่ ช่วยให้การใช้พลังงานรวมลดลงได้
NVIDIA บอกว่าในช่วงนี้จะมีโน้ตบุ๊กที่ใช้ GeForce (นับรวมรุ่น GeForce GTX ตัวล่างด้วย) ออกสู่ตลาดกว่า 100 รุ่น โดยกลุ่ม RTX SUPER นอกจากสายเกมมิ่งแล้ว ยังมีโน้ตบุ๊กกลุ่ม Studio สำหรับงานสายกราฟิก-วิดีโอด้วย
ที่มา - NVIDIA, NVIDIA |
# [App Annie] ตลาดเกมมือถือ ไตรมาส 1/2020 โตสูง จากการที่คนต้องอยู่บ้าน
บริษัทวิจัยตลาดแอป App Annie รายงานข้อมูลแอปเกมของไตรมาส 1 ปี 2020 ซึ่งด้วยสถานการณ์ COVID-19 ทำให้คนต้องอยู่บ้านมากกว่า ตลาดเกมมือถือจึงโตสูงทั้งจำนวนดาวน์โหลด และการจ่ายเงินในเกม
จำนวนการดาวน์โหลดแอปบน Google Play เพิ่มขึ้น 25% เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2019 มากกว่า 1 หมื่นล้านครั้ง คิดเป็นเกม 45% ส่วนบน iOS จำนวนการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 25% เป็นมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ โดยเกมคิดเป็น 35% ส่วนตัวเลขการจ่ายเงินคิดมูลค่ารวมกว่า 1.67 หมื่นล้านดอลลาร์
เกมที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดเป็นหมวดพัซเซิล โดยเกม Brain Out อยู่ในอันดับ 1 (Android, iOS) ส่วนเกมที่มีการจ่ายเงินสูงสุดคือ Game For Peace (เกมที่มาแทน PUBG Mobile ในจีน) และเกมที่มีผู้เล่นมากที่สุดคือ PUBG Mobile
ที่มา: App Annie |
# ยอมได้ไง Razer Blade 15 มาพร้อมซีพียู Intel Gen 10th รหัส H จอ 300 Hz การ์ดจอ RTX SUPER
Razer เปิดตัว Razer Blade 15 รุ่นใหม่ มาพร้อมกับซีพียู Intel 10th Gen Core รหัส H ที่จะอัปเกรดได้ถึงรุ่น i7-10875H และเป็น Razer Blade รุ่นแรกที่มีซีพียู 8 แกน 16 เธรด โดยจะแยกเป็น 2 รุ่น คือ Base Model และ Advance Model มีสเปกดังนี้
Base Model
ซีพียู Intel Core i7-10750H 2.6GHz up to 5.0GHz (6 แกน 12 เธรด)
แรม 16 GB dual-channel DDR4 2933MHz
ฮาร์ดดิสก์ SSD NVMe 256GB/512GB มี M.2 PCIe 3.0 อีก 4 ช่อง ใส่ SSD เพิ่มได้จนถึง 4TB
การ์ดจอ Nvidia Geforce GTX 1660 Ti/ RTX 2060 Max-Q / RTX 2070 Max-Q
หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD 144Hz 100% sRGB และ 4K OLED 100% DCI-P3
ตัวรับสัญญาณ Intel Wireless-AX201 (802.11a/b/g/n/ac/ax) + Bluetooth 5.0
พอร์ตเชื่อมต่อ Thunderbolt 3, USB 3.1 Gen 1 (USB-A) x2, USB-C 3.2 Gen 2 x1, HDMI 2.0b x1, - Gigabit Ethernet x1
แบตเตอรี่ 65Wh
Advanced Model
ซีพียู Intel Core i7-10850H 2.3GHz up to 5.1GHz (8 แกน 12 เธรด)
แรม 16 GB dual-channel DDR4 2933MHz
ฮาร์ดดิสก์ SSD NVMe 512GB/1TB มี M.2 PCIe 3.0 อีก 4 ช่อง ใส่ SSD เพิ่มได้จนถึง 4TB
การ์ดจอ Nvidia Geforce RTX 2070 Super Max-Q / RTX 2080 Super Max-Q
หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD 300Hz 100% sRGB และ 4K OLED แบบ touch screen 100% DCI-P3 พร้อม Gorilla Glass
ตัวรับสัญญาณ Intel Wireless-AX201 (802.11a/b/g/n/ac/ax) + Bluetooth 5.0
พอร์ตเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 รองรับที่ชาร์จ USB-C แบบ 20V และรองรับ PD 3.0, SD Card Reader รองรับ UHS III, USB 3.1 Gen 1 (USB-A) x2, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับที่ชาร์จ USB-C แบบ 20V และรองรับ PD 3.0 x1, HDMI 2.0b x1
แบตเตอรี่ 85Wh
ราคาเริ่มต้นที่ 1,599.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 52,760 บาท วางจำหน่าย เดือนพฤษภาคมนี้
ที่มา - Razer via MSPoweruser |
# [COVID-19] Google ออกรายงานความหนาแน่นของคนในสถานที่สำคัญ เป็นข้อมูลไม่ระบุตัวตน
โรค COVID-19 ระบาดส่งผลให้หลายประเทศออกมาตรการปิดเมือง เคอร์ฟิว เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโรค และเพื่อให้หน่วยงานสาธารณสุขในประเทศนั้นๆ ได้เห็นข้อมูลมากขึ้น Google จึงทำรายงาน Community Mobility Reports แสดงชาร์ตความหนาแน่นของแต่ละสถานที่เพื่อประเมินความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค และดูว่าจากมาตรการปิดเมืองสามารถลดความหนาแน่นของสถานที่ต่างๆ ได้มากแค่ไหน
ข้อมูลที่แสดงประกอบด้วยความหนาแน่นของคนในร้านค้าปลีก ร้านขายยา ร้านขายของชำ สวนสาธารณะ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ เป็นต้น โดยใช้ข้อมูลไม่ระบุตัวตน ซึ่ง Google ระบุแค่เปอร์เซนต์ความหนาแน่นเท่านั้น ไม่ได้ระบุเป็นจำนวนคนที่แน่นอนเพื่อไม่ให้กระทบความเป็นส่วนตัว โดยจะมีข้อมูลจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาไปจนถึง 48 - 72 ชั่วโมงล่าสุด
Google ระบุในบล็อกว่า ข้อมูลที่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google เช่น Google Maps และหวังว่ารายงานฉบับนี้ จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือรัฐบาลสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีจัดการ COVID-19 เช่นถ้าพบว่ามีความหนาแน่นในสถานีรถไฟ อาจต้องพิจารณาเพิ่มเที่ยวรถ เป็นต้น
รายงาน Community Mobility Reports ครอบคลุม 131 ประเทศ มีไทยด้วย และจะมีข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ ออกมาอีกในระยะเวลาอันใกล้ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาดูกันได้
ที่มา - Google Blog |
# Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง Legion 5i และ Legion 7i ซีพียู Intel 10th Gen รหัส H
หลังจาก Asus กับ Acer เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่ใช้ซีพียู Intel Core 10th Gen สถาปัตยกรรม Comet Lake-H ไปแล้ว ก็ถึงตา Lenovo บ้าง กับโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง Legion 7i และ Legion 5i
Legion 7i จะมาพร้อมกับตัวเลือกการ์ดจอสูงสุดถึงรุ่น RTX 2080 Super Max-Q ส่วน Legion 5i จะอัปเกรดได้ถึง RTX 2060 ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับ NVIDIA G-sync ช่วยซิงค์เฟรมกับรีเฟรชเรตของหน้าจอเพื่อลด screen tearing และ NVIDIA Advanced Optimus ที่จะช่วยสลับการใช้งานการ์ดจอแยกกับการ์ดจอออนบอร์ดเพื่อประหยัดพลังงาน
ทั้งสองรุ่นยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าใช้ซีพียูรุ่นไหน แต่คาดว่า Legion 5i จะมาพร้อม Core i5 10th Gen รหัส H ส่วน Legion 7i จะมาพร้อมกับ Core i7 10th Gen รหัส H ส่วนราคามีเปิดเผยมาสองรุ่น คือ
Legion 5i (RTX 2060) เริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ (ประมาณ 32,900 บาท)
Legion 7i (RTX 2070) เริ่มต้นที่ 1,199 ดอลลาร์ (ประมาณ 39,500 บาท)
ทั้งสองรุ่นยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายที่แน่นอน
ที่มา - Lenovo
Legion 5i
Legion 7i |
# กลุ่มบริษัทยุโรปร่วมมือพัฒนาแอปติดตามผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย COVID-19, เน้นรักษาความเป็นส่วนตัว
กลุ่มบริษัทยุโรปและสถาบันการศึกษา ร่วมกันตั้งหน่วยงานไม่หวังผลกำไรชื่อว่า Pan-European Privacy-Preserving Proximity Tracing
(PEPP-PT) โดยเป็นองค์กรจดทะเบียนในสวิสเซอร์แลนด์ กำลังพัฒนาแอปติดตามการเข้าใกล้ชิดระหว่างกันเพื่อเปิดทางให้องค์กรด้านสาธารณสุขสามารถติดตามตัวผู้ใกล้ชิดผู้ได้รับเชื้อ SARS-CoV-2 หรือเป็นสาเหตุของโรค COVID-19
แนวทางของ PEPP-PT นั้นแทบไม่เก็บข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์เลยหากไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ โดยแอปจะกระจายหมายเลขประจำตัวแบบไม่เปิดเผยตัวตน (anonymous ID) ให้กับโทรศัพท์รอบข้าง พร้อมกับเก็บประวัติการเข้าใกล้โทรศัพท์รอบข้างไว้ในตัวโทรศัพท์เอง ไม่มีการส่งกลับเซิร์ฟเวอร์ และจะเก็บประวัติไว้เท่าที่จำเป็นพร้อมกับลบข้อมูลเก่าออก
เมื่อผู้ใช้เข้ารับการตรวจและพบว่าติดเชื้อ SARS-CoV-2 แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะส่งโค้ดอัพโหลดให้กรอกในแอปเพื่อให้อัพโหลดประวัติการเข้าใกล้บุคคลอื่นขึ้นไปยังเซิร์ฟเวอร์ เซิร์ฟเวอร์จึงแจ้งเตือนไปยังผู้ที่เข้าใกล้ผู้ป่วย ส่วนเมื่อแจ้งเตือนแล้วผู้ได้รับแจ้งจะทำอย่างไรต่อไป (เข้ารับการตรวจ, กักตัวอยู่ในบ้าน ฯลฯ) เป็นการตัดสินใจของหน่วยงานสาธารณสุขแต่ละประเทศเอง
อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ตอบรับข้อเสนอของ PEPP-PT ว่าหลังจากการทดสอบหากพบว่าแอปนี้ช่วยให้การติดตามผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อทำได้ง่ายเธอจะแนะนำให้ประชาชนดาวน์โหลดมาใช้งาน พร้อมกับสัญญาว่าเธอเองก็จะติดตั้งแอปนี้เช่นกัน
แนวทางของ PEPP-PT คล้ายกับแนวทาง TraceTogether ของรัฐบาลสิงคโปร์ อย่างไรก็ดี TraceTogether นั้นบังคับล็อกอินด้วยหมายเลขโทรศัพท์ก่อนใช้งาน และยังเก็บข้อมูลหมายเลขประจำตัวกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ ทำให้เซิร์ฟเวอร์ TraceTogether สามารถถือข้อมูลส่วนบุคคลมากกว่า PEPP-PT มาก
ที่มา - PEPP-PT, Spiegel |
# Airbus ปรับโรงงานในสเปน มาผลิตหน้ากาก Face Shield ให้แพทย์ ด้วย 3D Printer
เราเห็นข่าวผู้ผลิตรถยนต์หลายราย ปรับโรงงานมาผลิตเครื่องช่วยหายใจ (เช่น Ford, GM)
ล่าสุด Airbus บริษัทผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของยุโรป ก็ประกาศนำโรงงานของบริษัทที่สเปน มาผลิตโครงหน้ากากชนิดปกป้องทั้งใบหน้า (ตามภาพก็คือ face shield) ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ โดยใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติจำนวน 20 ตัว ด้วยส่วนผสมวัตถุทางธรรมชาติ ที่เรียกว่า PLA (Polylactic-acid)
Airbus ต้องหยุดโรงงานในสเปนเกือบทั้งหมด แต่พนักงานก็ได้รับอนุญาตพิเศษให้เข้ามายังโรงงานแห่งนี้ เพื่อผลิตโครงหน้ากากให้บุคลากรทางการแพทย์
ที่มา - Airbus |
# หลุดชื่อ iPhone SE ตัวใหม่ จอ 4.7 นิ้ว บนหน้าเว็บ Apple Store
หลังจากมีข่าวมานานว่า Apple จะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ที่มีรูปทรงคล้าย iPhone 7 และ 8 และหลายสำนักข่าวเดาชื่อกันไปต่างๆ นาๆ ว่าจะเป็น iPhone 9 หรือ iPhone SE 2 แต่ตอนนี้มีความเป็นไปได้สูง ว่า iPhone รุ่นใหม่นี้จะใช้ชื่อ iPhone SE เหมือนรุ่นที่วางจำหน่ายในปี 2016
ข้อมูลนี้มาจากหน้าอุปกรณ์เสริม Belkin InvisiGlass Ultra บนเว็บไซต์ Apple เองเอง ที่ระบุว่าเป็นฟิล์มกระจกขนาด 4.7 นิ้ว สำหรับ iPhone SE/8/7 แต่ iPhone SE รุ่นปี 2016 มีขนาดหน้าจอ 4 นิ้วเท่านั้น ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า iPhone SE ที่ระบุนี้ จะเป็นรุ่นใหม่ที่มีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้วนั่นเอง
นอกจากนี้ยังตรงกับข่าวของ 9to5Mac ที่รายงานว่า iPhone หน้าจอ 4.7 นิ้ว รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว มีชื่อว่า iPhone SE ที่ใช้เลขปี 2020 เป็นตัวระบุว่าเป็นรุ่นใหม่แทนและยังระบุอีกว่าจะมีสามสี คือ ขาว ดำ และ PRODUCT (Red) แบบความจุ 64GB, 128GB และ 256GB
iPhone SE รุ่นแรก เปิดตัวในเดือนมีนาคม ปี 2016 เป็นการนำสเปกของ iPhone 6S มาใส่ในตัวเครื่องรูปทรงเดียวกับ iPhone 5 ส่วน iPhone SE รุ่นใหม่ ยังไม่มีข้อมูลว่าจะเปิดตัวเมื่อไร แต่คาดว่าน่าจะเป็นเร็วๆ นี้
ที่มา The Verge, 9to5Mac |
# AIS, dtac, True กลับมาเปิดศูนย์บริการในห้างตามปกติ หลัง ก.มหาดไทย อนุญาตให้เปิด
จากที่มีประกาศของกรุงเทพมหานครให้ปิดห้างสรรพสินค้า ทำให้ร้านของโอเปอเรเตอร์ต้องปิดตามไปด้วย และอาจกระทบกับการให้บริการของโอเปอเรเตอร์ เช่น การยืนยันตัวตนก่อนเปิดซิม
ภายหลัง กระทรวงมหาดไทยมีประกาศอนุญาตให้ธุรกิจโทรคมนาคมสามารถเปิดศูนย์บริการได้ตามปกติ ด้วยเหตุผลด้านความจำเป็นของการสื่อสาร ทำให้โอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 รายใหญ่กลับมาเปิดศูนย์เช่นกัน รายละเอียดของแต่ละรายคือ
AIS เปิดศูนย์บริการ AIS Shop ตามปกติ 314 สาขา โดยเริ่มติดตั้งแผงกั้นอะคริลิคใส ในบางสาขาด้วย
dtac เปิดศูนย์บริการ 80 สาขา (ยังมีปิดอยู่อีก 175 สาขา) โดยปรับเวลาปิดเป็น 18.00 น. และปิดวันเสาร์-อาทิตย์ ค้นหาศูนย์บริการได้จาก dtac
True เปิดศูนย์บริการ True Shop กว่า 300 สาขาตามปกติ |
# Asus เปิดตัว ROG Zephyrus Duo 15 โน้ตบุ๊กสองจอ ซีพียู Intel Core 10th Gen รหัส H
Asus เปิดตัว ROG Zephyrus Duo 15 โน้ตบุ๊กเกมมิ่ง 15.6 นิ้ว ที่มีจอสัมผัสขนาด 14.09 นิ้วเป็นจอที่สอง อยู่เหนือแถวคีย์บอร์ด ใช้ซีพียู Intel Core 10th Gen Comet Lake-H ตัวใหม่ รุ่น i7-10875H และ i9-10980HK และมีรายละเอียดสเปกดังนี้
ซีพียู Intel Core 10th Gen i7-10875H/i9-10980HK
หน้าจอหลักขนาด 15.6 นิ้ว มีสองตัวเลือก แบบ 4K UHD IPS 60 Hz รองรับมาตรฐานการแสดงผลสีแบบ Adobe 100% กับ FHD IPS 300 Hz มาตรฐานสี sRGB 100% 3 ms
จอสัมผัส ขนาด 14.09 UHD แบบ IPS รีเฟรชเรต 60 Hz ความละเอียด (3840 x 1100) รองรับมาตรฐานการแสดงผลสีแบบ NTSC 72%
การ์ดจอ RTX 2070 Super/RTX 2080 Super
แรม 16 GB DDR4 3200Hz ออนบอร์ด พร้อมช่องเสียบ SODIMM 1 ช่อง ใส่เพิ่มได้อีก 32 GB รวมเป็น 48 GB
รองรับ WiFi 6 (802.11ax), Bluetooth 5.0
พอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.2 Gen 2 Type-C 1x, DisplayPort 1.4 1x, USB 3.2 Gen 1 Type-A 2x (ด้านขวา) USB 3.2 Gen 2 Type-A 1x (หลังเครื่อง) HDMI (รองรับ HDMI 2.0b) 1x รูหูฟังและไมค์แยกกัน ขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต LAN 1x
ROG Zephyrus Duo 15 วางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนราคาต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา ROG |
# Acer เปิดตัว Predator Triton 500 และ Nitro 5 รุ่นรีเฟรช ใช้ซีพียู 10th Gen รหัส H ตัวใหม่ของ Intel
Acer เปิดตัว Predator Triton 500 และ Nitro 5 รุ่นรีเฟรช ใช้ซีพียู Intel Core 10th Gen สถาปัตยกรรม Comet Lake-H ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้
Triton 500 จะมาพร้อมกับ Comet Lake-H ที่มีรายละเอียดเพียงรุ่น Core i7 10750H เพียงรุ่นเดียว แต่คาดว่าน่าจะอัปเกรดได้ถึงรุ่น Core i9 มาพร้อมแรม DDR4 สูงสุด 32 GB ฮาร์ดดิสก์แบบ SDD NVMe ความจุสูงสุดถึง 2 TB กับการ์ดจอสูงสุดถึงรุ่น RTX 2080 Super Max-Q หน้าจอแบบ 300 Hz มาตรฐานสี 100% sRGB พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C 1x และ USB-A 3x
ส่วนรุ่นรองลงมา Nitro 5 มาพร้อมกับ Comet Lake-H รุ่น i5 และ i7 แรม DDR4 32 GB ฮาร์ดดิสก์ SDD NVMe แบบ 512 GB หรือ 1 TB การ์ดจอสูงสุดที่ RTX 2060 และหน้าจอ 120 Hz และ 144 Hz พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C 1x และ USB-A 3x เหมือน Triton 500 แต่มี miniDisplayPort มาให้ด้วย
ทั้งสองรุ่นวางจำหน่ายเดือนพฤษภาคมนี้ ในสหรัฐอเมริกา ราคาดังนี้
Nitro 5 เริ่มต้นที่ 649.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 21,400 บาท (Core i5-10300H + GTX 1650)
Predator Triton 500 เริ่มต้นที่ 2,199.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 72,500 บาท (Core i7-10750H + RTX 2070 Super Max-Q)
ที่มา - Notebookcheck
Predator Triton 500
Predator Triton 500
Nitro 5
Nitro 5 |
# Amazon เพิ่มอุปกรณ์ป้องกันเชื้อให้พนักงาน หลังคนทำงานประท้วงเพราะชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยง
ช่วงที่ผ่านมา พนักงานส่งของจาก Instacart, Whole Foods รวมถึง Amazon ไม่พอใจบริษัท และนัดประท้วงหยุดงานที่บริษัทไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์ป้องกันเชื้ออย่างพวกหน้ากาก เจลล้างมือได้อย่างครอบคลุม ทั้งๆ ที่พวกเขาต้องทำงานในช่วงโรคระบาดนี้ เสี่ยงอันตรายมากกว่าคนอื่น
ล่าสุด Amazon หามาตรการป้องกันให้พนักงาน เพิ่มการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หน้ากากอนามัย ผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อให้คนทำงานทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป โดยอุปกรณ์จะเพิ่มให้เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ถัดไป
มีรายงานข่าวว่า พนักงาน Amazon ในสหรัฐฯ ติดเชื้อโรค COVID-19 แล้วอย่างน้อย 19 คน ซึ่ง Amazon ระบุว่ามีการตรวจวัดไข้พนักงานที่ซีแอตเทิลและนิวยอร์กเป็นรายวันรวมแล้วกว่า 1 แสนราย รวมถึงพนักงาน Whole Foods ด้วย ซึ่งถ้าใครมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 100.4F หรือ 38 องศา จะต้องกลับไปดูอาการที่บ้านจนกว่าไข้จะลดลงถึงจะกลับมาทำงานได้
ภาพจาก Amazon
ที่มา - Engadget |
# โซนีประกาศเลื่อนจำหน่าย The Last of Us Part II, Iron Man VR ออกไปไม่มีกำหนด
โซนีออกมาประกาศเลื่อนการวางจำหน่าย The Last of Us Part II จากเดิมที่มีกำหนดวันที่ 29 พฤษภาคมและ Iron Man VR ที่กำหนดเดิมคือ 14 พฤษภาคม ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
แม้โซนีจะไม่ได้พูดถึงโรคระบาดโดยตรง แต่การใช้คำว่าวิกฤติระดับโลกก็หนีไม่พ้นปัญหาจาก COVID-19 ที่ทำให้สตูดิโอไม่สามารถทำงานต่อได้ ขณะที่ Naughty Dog ที่พัฒนา The Last of Us Part II ระบุว่าตัวเกมเกือบจะเสร็จแล้ว เหลือแค่เก็บรายละเอียดและแก้บั๊ก โดยปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อโลจิสติกส์ ทำให้ไม่สามารถส่งมอบเกมได้พร้อมกันทั่วโลก
ที่มา - @PlayStation, @Naughty_Dog |
# Zoom ถูกผู้ใช้งานฟ้อง เหตุส่งข้อมูลผู้ใช้ไปให้ผู้ให้บริการรายอื่น
พร้อม ๆ กับการมียอดผู้ใช้พุ่งขึ้นมหาศาล Zoom กำลังถูกมรสุมรุมล้อมเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย หนึ่งในนั้นคือการใช้ Facebook SDK ที่ทำให้ตัว SDK แอบส่งข้อมูลผู้ใช้กลับไปให้ Facebook ซึ่งถึงแม้ Zoom จะประกาศเลิกใช้งานไปแล้ว แต่ก็ไม่แคล้วถูกฟ้องร้องจนได้
Robert Cullen ผู้ใช้งาน Zoom จาก Sacramento แคลิฟอร์เนียเสนอตัวเป็นตัวแทนกลุ่มผู้ใช้งานฟ้องร้อง Zoom ว่าแอบเก็บข้อมูลผู้ใช้และส่งให้ผู้ให้บริการภายนอก (third party) อย่าง Facebook และน่าจะ (potentially) รายอื่น ๆ ด้วย โดยฟ้อง Zoom ศาลแขวงแคลิฟอร์เนียเหนือ กล่าวหาว่า Zoom ละเมิดกฎหมายแคลิฟอร์เนียว่าด้วยความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค
ที่มา - Bloomberg |
# Zoom เผยมียอดผู้ใช้งานรายวันแตะ 200 ล้านคนแล้วจาก 10 ล้านคนเมื่อปลายปี
แม้กำลังถูกรุมเร้าด้วยข่าวเชิงลบจากประเด็นความเป็นส่วนตัวที่กำลังแก้ไขอยู่ แต่อย่างน้อยก็ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้างเมื่อ Eric Yuan ซีอีโอ Zoom เปิดว่ามีผู้ใช้งานรายวันทั้งแบบฟรีและเสียเงินแตะ 200 ล้านคนแล้ว จากราว 10 ล้านคนเมื่อสิ้นปีที่แล้ว
นอกจากนี้ Zoom ยังเข้าไปเป็นสื่อกลางในการเรียนการสอนออนไลน์ในกว่า 9 หมื่นโรงเรียนในกว่า 20 ประเทศ
ด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่พุ่งทะยานขนาดนี้จึงไม่แปลกใจหาก Zoom พุ่งเพ่งเล็งเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวขนาดนี้
ที่มา - Zoom |
# Amazon Prime Video เตรียมสตรีมหนังที่ไม่ได้ฉายในงาน SXSW ฟรี 10 วัน
SXSW (South by Southwest) งานสัมมนาใหญ่ประจำปีด้านสื่ออินเทอร์แอคทีฟ, ภาพยนตร์ และดนตรี ยกเลิกการจัดงานเนื่องจากโรคระบาด ล่าสุดทางผู้จัดงานร่วมกับ Amazon นำหนังที่ตั้งเป้าจะฉายในงานมาฉายให้ดูฟรีทาง Amazon Prime Video เป็นเวลา 10 วัน เฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้น ทาง Amazon ระบุว่า คนทำหนังที่นำหนังมาลงฉายจะได้ค่าธรรมเนียมการฉายหนังด้วย ส่วนเวลาที่เปิดให้ฉายวางไว้เป็นช่วงปลายเดือนเมษายนนี้
เหตุจากงานอีเว้นท์ยกเลิกจัด คนทำหนังก็เสียโอกาสที่ได้ฉายหนัง รวมถึงดีลต่างๆ ที่จะมาถึงในอนาคต Amazon ได้เปิดโอกาสให้คนทำหนังได้เผยแพร่ผลงานของตัวเอง และ Amazon ก็จะได้โปรโมทช่องทาง Amazon Prime Video ด้วย
ผู้อ่านสามารถเข้าไปดูไลน์อัพหนังทั้งหมดได้ ที่นี่
ที่มา - Amazon |
# Google เผยวิธีเพิ่มคุณภาพเสียงสนทนาใน Duo ใช้เทคโนโลยี WaveNetEQ ที่เบื้องหลังเป็น DeepMind
Google เผยข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพิ่มคุณภาพเสียงสำหรับการสนทนาในบริการวิดีโอคอล Duo ในชื่อว่า WaveNetEQ โดยเบื้องหลังใช้เทคโนโลยี DeepMind ที่ช่วยให้ระบบจัดการกับเสียงขาด ๆ หาย ๆ ได้โดยที่ทำให้เสียงสนทนายังดูเป็นธรรมชาติ
สำหรับวิธีเพิ่มคุณภาพเสียงของ Duo คือระบบจะตรวจสอบว่าเสียงตรงไหนขาด ๆ หาย ๆ และจะแทนที่ส่วนนั้นด้วยเสียงสังเคราะห์ที่คล้ายกับคำพูดของคนที่สร้างจาก machine learning เพื่อทำให้ดูเหมือนจริง
Google ระบุว่า ปัจจุบันการโทรผ่าน Duo จะมี packet loss ถึง 99% โดย 20% ของทั้งหมดนี้จะมี packet loss มากกว่า 3% และ 10% ของทั้งหมดจะมี packet loss มากกว่า 8%
การส่ง packet ไปไม่ถึงปลายทางเป็นเรื่องปกติของการโทรผ่านอินเทอร์เน็ตเพราะ packet ที่ส่งไปอาจจะไปช้าหรือส่งไปผิดลำดับ ดังนั้นผู้ให้บริการโทรผ่านอินเทอร์เน็ตจึงมีวิธีแก้ไข packet loss ที่แตกต่างกัน โดย Google ระบุว่าวิธี packet loss concealment หรือ PLC ทั่ว ๆ ไปจะทดแทนเสียงส่วนที่ขาดหายไปได้ไม่มาก ถ้าถึง 60 มิลลิวินาทีหรือมากกว่านั้นจะเริ่มสังเกตได้ว่าเสียงจะไม่เป็นธรรมชาติ ในขณะที่ WaveNetEQ ที่ใช้ DeepMind และผ่านการเทรนกับผู้พูดกว่า 100 คนใน 48 ภาษาจะแทนที่เสียงขาด ๆ หาย ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า
อย่างไรก็ดี WaveNetEQ ก็ยังมีข้อจำกัดในการแทนเสียงอยู่บ้าง เพราะเทคนิคนี้ถูกออกแบบมาให้ทดแทนเสียงสั้น ๆ เท่านั้น ไม่สามารถทดแทนคำได้ทั้งคำ ดังนั้นหากเสียงที่หายไปยาวกว่า 120 มิลลิวินาทีจะเริ่มเกิดอาการเสียงเงียบขึ้น และ Google ระบุว่าเหตุผลที่ใช้ WaveNetEQ เนื่องจากไม่ต้องการสร้างเสียงใหม่ที่มีนัยสำคัญต่อการสนทนา รวมถึงการประมวลผลทั้งหมดจะต้องเกิดขึ้นบนเครื่องที่สนทนาเท่านั้น เนื่องจาก Duo เป็นระบบการสนทนาแบบ end-to-end
ทดลองฟังเสียงตัวอย่างหรืออ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ผ่าน Google AI Blog
ที่มา - The Verge, Google AI Blog
ภาพจาก Google Duo |
# ฟีเจอร์ใหม่ Google Arts & Culture เปลี่ยนรูปถ่ายธรรมดาให้เป็นศิลปะคลาสสิค
Google Arts & Culture ออกฟีเจอร์ใหม่เล่นสนุก Art Transfer สามารถเปลี่ยนรูปถ่ายธรรมดาให้เป็นภาพศิลปะที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่า อยากให้ภาพออกมาโดยอิงกับศิลปะแบบไหน โดยมีรูปแบบจากศิลปินระดับมาสเตอร์พีซให้เลือก เช่น แวน โก๊ะ, Frida Kahlo
เมื่อเข้าแอปแล้ว ให้กดไอคอนกล้องถ่ายรูปล่างหน้าจอ และกดถ่ายรูป หรือเลือกรูปจากอัลบั้มที่เราอยากเปลี่ยนให้เป็นงานอาร์ตได้ มีทั้งไฟล์รูปภาพนิ่ง และภาพ GIF แสดงความเคลื่อนไหวจากรูปภาพธรรมดาก่อนมาเป็นงานอาร์ต สามารถใช้กรรไกรตัดเฉพาะบางส่วนในรูปที่อยากให้เป็นงานอาร์ตได้ด้วย
Google ระบุว่า ฟีเจอร์ Art Transfer ใช้โมเดลอัลกอริทึมที่สร้างโดย Google AI สร้างภาพซ้อนทับกันระหว่างงานศิลป์ต้นฉบับกับรูปภ่าย ช่วยให้ได้ภาพใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ที่มา - Google Blog |
# HBO ปลดล็อกหนังและซีรีส์ให้ดูฟรีบางส่วนในเวลาจำกัด แต่ไม่มี Game of Thrones
HBO ปลดล็อกซีรีส์และหนังให้ดูฟรีในช่วงกักตัว ทั้งซีรีส์ออริจินัล หนัง และสารคดี แต่เป็นการเปิดให้ดูฟรีในเวลาจำกัด ผ่าน HBO GO และ HBO Now เริ่มวันที่ 3 เมษายนนี้
ตัวอย่างคอนเทนต์ที่เปิดให้ดูฟรีคือ ซีรีส์ออริจินัลของ HBO เช่น The Sopranos, Veep, Succession, Six Feet Under, The Wire, Ballers, Barry, Silicon Valley, True Blood หนังจาก Warner Bros เช่น Pokémon Detective Pikachu, The Lego Movie 2: The Second Part Crazy, Stupid, Love สารคดี McMillion$ และ The Case Against Adnan Syed
แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่เปิดให้ดูฟรี ไม่มี Game of Thrones และ Westworld ซีรีส์เรือธงของ HBO นอกจากนี้ยังใช้งานดูฟรีได้เฉพาะ HBO GO และ HBO Now ฝั่งสหรัฐฯ ไม่รวม HBO GO ที่ให้บริการในไทย
ภาพจาก Facebook HBO
ที่มา - Variety |
# กูเกิลเปิดตัว kpt คำสั่งแปลงคอนฟิก Kubernetes ให้พร้อมสำหรับคลัสเตอร์แต่ละชุด
การติดตั้งซอฟต์แวร์ลง Kubernetes ใช้การคอนฟิก yaml เป็นมาตรฐาน และซอฟต์แวร์ลหลายตัวก็อาจจะมีคอนฟิกสำหรับ Kubernetes มาให้อยู่แล้ว แต่การใช้งานอาจจะไม่สามารถใช้งานได้ตรงๆ เนื่องจากต้องปรับแต่งค่าคอนฟิกบางส่วนก่อนรันคอนฟิกจริงๆ ล่าสุดกูเกิลปล่อยคำสั่ง kpt ที่เป็นคำสั่งสำหรับการแปลงไฟล์คอนฟิก yaml ให้พร้อมใช้งาน
kpt จะมองไฟล์คอนฟิกเดิมเป็นแพ็กเกจสามารถดึงไฟล์คอนฟิกผ่าน git ได้โดยตรง จากนั้นสั่งแปลงค่าให้ เช่น เปลี่ยนจำนวน replica หรือค่าคอนฟิกอื่นๆ แล้วเอาท์พุตออกมาเป็นไฟล์คอนฟิกที่แปลงค่าแล้ว สามารถนำไปรันบนคลัสเตอร์ด้วยคำสั่ง kubectl apply ต่อไป
นอกจากการแปลงค่าคอนฟิกในตัว kpt ยังรองรับการเขียนฟังก์ชั่นเพิ่มเติมด้วย
กูเกิลระบุว่าจะขยายความถึงการใช้ kpt กับกระบวนการแบบ GitOps ต่อไป
ที่มา - Google Open Source Blog |
# Facebook Messenger เปิดให้ดาวน์โหลดแอพเดสก์ท็อป ทั้งบน Windows และ Mac
Facebook เปิดตัวแอพเดสก์ท็อปของ Messenger มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2019 และเปิดทดสอบแบบเบต้ามาสักพักใหญ่ๆ ตอนนี้เวลาผ่านมาเกือบ 1 ปีพอดี ก็ถึงเวลาเปิดให้ทุกคนใช้งานกัน
Messenger Desktop มีให้ใช้งานทั้งบน Windows และ MacOS มีฟีเจอร์ของ Messenger ครบครัน ตั้งแต่แชท, วิดีโอคอลล์, ซิงก์ข้อความข้ามอุปกรณ์, รองรับ Dark Mode, รองรับ Notification ของ OS
ผู้ที่สนใจใช้งานสามารถดาวน์โหลดได้จาก Microsoft Store และ Mac App Store
ที่มา - Facebook |
# SpaceX และ NASA ห้ามพนักงานใช้ Zoom เพื่อประชุม หลังมีความกังวลด้านความปลอดภัย
แอพลิเคชัน Zoom ได้รับความนิยมมากขึ้นหลายเท่าตัวหลังโรค COVID-19 ระบาด รวมถึงในประเทศไทยที่ทั้งองค์กรและสถาบันการศึกษาต่างก็เริ่มใช้กันแล้ว แต่เมื่อคนใช้มากขึ้นก็มีรายงานเกี่ยวกับความปลอดภัยของแอพตัวนี้ เช่น Facebook SDK ที่ส่งข้อมูลผู้ใช้ออกไป รวมถึงการเข้ารหัสวิดีโอแบบ end to end ทำให้ล่าสุด SpaceX และ NASA สั่งห้ามพนักงานของตนใช้ Zoom แล้ว
ด้าน SpaceX ส่งจดหมายภายในถึงพนักงานมากกว่า 6,000 คนว่าบริษัทเข้าใจว่าพนักงานจำนวนมากเริ่มใช้ Zoom เพื่อประชุมทางไกล แต่บริษัทมีความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย จึงได้ปิดการเชื่อมต่อไปยัง Zoom แล้วโดยมีผลทันที โดย SpaceX แนะนำให้พนักงานใช้อีเมล, ส่งข้อความ หรือโทรศัพท์แทนเพื่อติดต่อสื่อสาร
ส่วน NASA ก็ได้สั่งห้ามพนักงานตัวเองใช้ Zoom เช่นกัน นอกจากนี้ FBI ยังได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการใช้งาน Zoom โดยระบุว่าผู้ใช้ไม่ควรแชร์ลิงค์สำหรับการเข้าร่วมประชุมออกไปสู่สาธารณะ เพราะมีรายงานว่ามีคนแอบเข้าไปในห้อง Zoom ที่ใช้จัดการเรียนการสอน และเรียกการกระทำดังกล่าวว่า zoombombing
หลังจากเหตุการณ์เหล่านี้ ฝั่ง Zoom ก็ได้ประกาศหยุดพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ 90 วันเพื่อสะสางปัญหาและความกังวลของผู้ใช้เกี่ยวกับความปลอดภัย
ที่มา - Reuters
ภาพโดย Zoom |
# LineageOS ออกเวอร์ชัน 17.1 รุ่นเสถียรแรกที่พัฒนาบน Android 10
LineageOS โครงการรอมโมที่สืบทอดมาจากยุค Cyanogen ประกาศออกเวอร์ชัน 17.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชันเสถียรตัวแรกที่พัฒนาบน Android 10
ทีมงาน LineageOS บอกว่าตั้งใจใช้เลขเวอร์ชัน 17.1 ไม่ใช่ 17.0 เพราะไม่ได้พัฒนาจาก Android 10 ตัวแรก แต่เป็น Android 10 เวอร์ชันอัพเดตแพตช์รอบเดือนธันวาคม ทำให้ขยับเลขเวอร์ชันมาเป็น 17.1 แทนเพื่อสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลง
ตอนนี้มีอุปกรณ์ที่ได้รอม LineageOS 17.1 อย่างเป็นทางการแล้วหลายตัว สามารถอัพเกรดมาจาก LineageOS 16.0 ได้ตรงๆ เลย เช็ครายชื่อได้จากที่มา
ที่มา - LineageOS, xda |
# กระทรวงดีอี จับมือหัวเว่ย นำ AI เสริมประสิทธิภาพโรงพยาบาลรามาธิบดีในการวินิจฉัย COVID-19
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมสนับสนุนนำเทคโนโลยีเสริมประสิทธิภาพการรักษาโควิด-19 ให้แก่วงการแพทย์ไทย จับมือหัวเว่ย ประเทศไทย ส่งมอบโซลูชัน AI ให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพิ่มขีดความสามารถในการวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เชิงปริมาณ เพื่อรายงานผลตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ในผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ลดระยะเวลาในการวิเคราะห์ผลที่จะเป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยเวลาเพียง 25 วินาทีต่อหนึ่งเคส
การนำนวัตกรรม AI ของ HUAWEI CLOUD ในด้านคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision) มาใช้เพื่อยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ไทยในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำประสิทธิภาพการใช้งานของบริการ HUAWEI CLOUD ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะระดับโลกรายแรกในประเทศไทยเพื่อลดความเสี่ยงและลดการใช้ทรัพยากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของไทยในการรับมือสถานการณ์โควิด-19
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงความร่วมมือในการมอบเทคโนโลยี AI ให้แก่โรงพยาบาลชั้นนำของรัฐครั้งนี้ว่า “การตรวจวินิจฉัยทาง CT เป็นหนึ่งในวิธีมาตรฐานของการตรวจโควิด-19 แต่การตรวจด้วยวิธีดังกล่าวต้องทำซ้ำและอ่านภาพหลายครั้ง เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ในไทยซึ่งกำลังรับมือกับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ กระทรวงฯ จึงได้ร่วมกับหัวเว่ย นำโซลูชัน AI จาก HUAWEI CLOUD สำหรับการวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เชิงปริมาณ ด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์วิทัศน์และการวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์ มาช่วยลดภาระงานของบุคลากร ในฝ่ายรังสีวิทยา ทั้งยังสามารถส่งมอบผลตรวจแบบ CT quantification โดยอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ”
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ปัญญาประดิษฐ์นี้ช่วยให้แพทย์นำมาใช้วินิจฉัยผลตรวจ CT ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยสามารถวิเคราะห์ความผิดปกติของปอด โดยนำข้อมูล CT ของคนไข้ส่งไปบนระบบ CLOUD เพื่อวินิจฉัยโรคและยังสามารถระบุได้ว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในระยะเริ่มต้น ระยะลุกลาม หรือระยะรุนแรง โดยใช้เวลาประมวลผลเพียง 25 วินาทีต่อ 1 เคส นับว่าเป็นเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคลากรทางการแพทย์ไทยในการรับมือสถานการณ์ในขณะนี้ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่คนไข้เข้ามาด้วยอาการหอบเหนื่อยในตอนต้น เพื่อช่วยในการวินิจฉัยได้อย่างทันท่วงที โดยไม่รอการตรวจในขั้นตอนอื่นๆ”
การตรวจแบบ CT เป็นหนึ่งในวิธีวินิจฉัยและรักษาโควิด-19 แต่การตรวจด้วยวิธีดังกล่าวต้องทำซ้ำและอ่านภาพหลายครั้ง เพื่อหารอยในปอดที่มีจำนวนมากและยังเกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นการเพิ่มงานให้กับรังสีแพทย์ในไทยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ จำนวนบุคลากรรังสีแพทย์ที่สามารถวิเคราะห์และวินิจฉัยโควิด-19 ได้อย่างแม่นยำยังมีจำกัด
เทคโนโลยี AI จาก HUAWEI CLOUD นี้จะทำหน้าที่วิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เชิงปริมาณจากการตรวจวินิจฉัยทางเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ปอดของผู้ป่วย เพื่อวิเคราะห์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Novel coronavirus, SARS หรือ COV) และผู้ป่วยโควิด-19 โดยโรงพยาบาลในประเทศจีนกว่า 20 แห่งได้นำโซลูชันนี้ปรับใช้เพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งหลังจากได้รับการปรับแต่งระบบและฝึกอบรมบุคลากรเพิ่มเติม ส่งผลให้โซลูชัน AI จาก HUAWEI CLOUD นี้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีอัตราความแม่นยำในการวินิจฉัยสูงถึง 96% และได้รับคะแนน DICE score สูงกว่า 85 คะแนน การนำนวัตกรรม AI ของ HUAWEI CLOUD มาใช้เพื่อยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ไทยในครั้งนี้ จึงช่วยลดช่วยตอนการตรวจ ช่วยลดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ได้ดียิ่งขึ้น
ที่ผ่านมา บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ได้ส่งมอบระบบนวัตกรรมสื่อสารทางไกลเพื่อการแพทย์ Huawei Telemedicine Video Conference Solution ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยระบบดังกล่าวเป็นระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์แบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบที่สามารถช่วยให้การดำเนินงานของบุคลากรแพทย์ในประเทศไทยมีความคล่องตัว สามารถตรวจวินิจฉัยได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านอุปกรณ์มือถือของตน และที่สำคัญคือยังช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อให้แก่ทีมแพทย์ในไทยด้วยเช่นกัน
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ 5G เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญของ Huawei โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาด นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 180,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่นี่
ติดตามหัวเว่ยได้ที่
http://www.linkedin.com/company/Huawei
http://www.twitter.com/Huawei
http://www.facebook.com/HuaweiTechTH
http://www.youtube.com/Huawei |
# ได้ยินแล้ว Zoom ประกาศหยุดพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ 90 วัน แก้ไขความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเท่านั้น
Zoom ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังปรับตัวมาทำงานและเรียนที่บ้าน แต่กลับถูกวิจารณ์ถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เช่น การใช้ Facebook SDK จนส่งข้อมูลออกไปยังเฟซบุ๊ก, การอ้างว่าวิดีโอเข้ารหัสแบบ end to end, หรือช่องโหว่ที่พบอยู่เรื่อยๆ ในช่วงหลัง จนตอนนี้บริษัทก็ออกมาตอบรับว่าประเด็นต่างๆ ได้แก้ไขไปแล้ว และจะแก้ไขความกังวลอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง
แนวทางของ Zoom คือประกาศหยุดพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ไปอีก 90 วัน ทุ่มวิศวกรทั้งหมดแก้ไขความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเท่านั้น โดยเตรียมทำงานร่วมกับหน่วยงานภายนอกหรือตัวแทนผู้ใช้ให้เข้ามาตรวจสอบการทำงาน พร้อมกับเตรียมออกรายงานความโปร่งใสแจ้งภาพรวมการส่งข้อมูลให้หน่วยงานภายนอก
ทาง Zoom จะจัด webinar ทุกวันพุธเพื่อรายงานความคืบหน้าต่อชุมชนต่อไป
ที่มา - Zoom |
# ไมโครซอฟท์ยกเลิกงานสัมมนาทั้งหมดตลอดปี 2020 เปลี่ยนเป็นดิจิทัลแทน
ไมโครซอฟท์ยืนยันกับ ZDNet ว่ายกเลิกงานประชุม-สัมมนา-แถลงข่าวแบบออฟไลน์ทั้งหมดตลอดปี 2020 แล้ว โดยจะเปลี่ยนมาจัดงานรูปแบบดิจิทัลแทน
ปกติแล้วไมโครซอฟท์มีงานสัมมนาใหญ่ๆ หลายงาน เช่น Build, Ignite, Inspire, MVP Summit จับกลุ่มผู้ร่วมงานที่แตกต่างกัน (โปรแกรมเมอร์, ไอที, ธุรกิจ ฯลฯ) ซึ่งหลายงานมีผู้เข้าร่วมหลักหลายหมื่นคน
ที่มา - ZDNet
ภาพงาน Build 2019 จากไมโครซอฟท์ |
Subsets and Splits
No saved queries yet
Save your SQL queries to embed, download, and access them later. Queries will appear here once saved.