txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# Netflix ไตรมาส 1/2020 สมาชิกใหม่เพิ่มถึง 15.8 ล้านคน อานิสงส์จากคนอยู่บ้าน
Netflix รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2020 รายได้รวม 5,768 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 27.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 709 ล้านดอลลาร์
บริการของ Netflix ถูกอ้างถึงบ่อยครั้งจากมาตรการให้ผู้คนอยู่บ้าน ลดการระบาดของ COVID-19 ซึ่งจำนวนสมาชิกใหม่ที่เพิ่มขึ้นก็สอดคล้อง โดยเพิ่มมา 15.77 ล้านคนทั่วโลก จากไตรมาสก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 8.76 ล้านคน ทำให้สมาชิกรวมมี 182.86 ล้านคน อย่างไรก็ตาม Netflix มองตัวเลขสมาชิกใหม่ในไตรมาสที่ 2-3 จะกลับมาที่อัตราเดิม เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
คอนเทนต์ที่มีผู้ชมสูงในไตรมาส 1/2020 อาทิ Tiger King, Love is Blind และ Spenser Confidential
Netflix ระบุผลกระทบจาก COVID-19 โดยบริษัทได้ลดการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ มาเน้นการรักษาคุณภาพบริการ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็ได้ลดการใช้ทราฟิกลง 25% ส่วนการผลิตคอนเทนต์ต่าง ๆ สามารถออกได้ตามแผนสำหรับไตรมาสที่ 2 เนื่องจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการผลิตแล้ว อย่างไรก็ตามงานโปรดักชันส่วนใหญ่ถูกระงับการถ่ายทำทั่วโลก ยกเว้นบางแห่งเช่น เกาหลี และไอซ์แลนด์ จึงยังต้องประเมินผลกระทบต่อไป
ที่มา: Netflix และ CNBC |
# Death Stranding เวอร์ชันพีซี เลื่อนขายเป็นเดือน ก.ค. เพราะสตูดิโอต้องปิดชั่วคราว
Kojima Production ประกาศเลื่อนวันวางขายเกม Death Stranding เวอร์ชันพีซี จากเดิม 2 มิถุนายน เป็น 14 กรกฎาคม 2020
เหตุผลคือสตูดิโอ Kojima Production ต้องปิดชั่วคราวจากสถานการณ์ไวรัส ทำให้พนักงานต้องทำงานจากที่บ้าน และต้องใช้เวลาพัฒนาเกมเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย |
# Huawei ไตรมาส 1/2020 รายได้เติบโตเล็กน้อย ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19
Huawei รายงานผลประกอบการของไตรมาสแรก ปี 2020 มีรายได้รวม 1.822 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 1.4% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีอัตรากำไรสุทธิที่ 7.3%
การเติบโตในรายได้ของ Huawei ปีนี้ลดลงจากปีก่อนที่เติบโต 39%
Huawei ระบุว่าการระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลก บริษัทเองก็ได้รับผลกระทบทั้งจากซัพพลายเออร์ และการผลิต อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่ออก เป็นไปตามที่บริษัทคาดหวังไว้ ขณะเดียวกันช่วงการระบาดที่ผ่านมา Huawei และพาร์ทเนอร์ก็ได้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับ 5G และ AI มากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการแพทย์เพื่อประเมินอาการได้เร็วขึ้น รวมทั้งสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางไกล ตลอดจนจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหน้ากาก และชุดทดสอบโรค ผ่านไปให้กับประเทศและองค์กรต่าง ๆ
ที่มา: Huawei |
# บริษัทยาญี่ปุ่น Takara Bio บอกถ้าทดสอบวัคซีน COVID-19 ผ่าน ก็พร้อมผลิตภายในปีนี้
Takara Bio บริษัทยาสัญชาติญี่ปุ่น (ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัทเกม Tomy Takara) ระบุว่าพร้อมผลิตวัคซีนต่อต้านไวรัส SARS-CoV-2 ที่เป็นสาเหตุของโรค COVID-19 ภายในปีนี้ หากได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น
Takara Bio ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทยาทั่วโลกที่พยายามพัฒนาวัคซีน SARS-CoV-2 อย่างเร่งด่วน โดย Takara Bio ร่วมมือกับบริษัท AnGes ของญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญด้านวัคซีน DNA และมหาวิทยาลัยโอซาก้า
Koichi Nakao ซีอีโอของ Takara Bio ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei ว่าวัคซีนจะเริ่มทดสอบทางคลินิคในช่วงกลางปีนี้ และถ้ากระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นอนุมัติให้ผลิต บริษัทก็จะสามารถผลิตวัคซีนให้คน 2 แสนคนภายในปี 2020 จากโรงงานที่เมือง Kusatsu ที่มีสายการผลิตทุกอย่างพร้อมแล้ว
AnGes ระบุว่าเริ่มพัฒนาวัคซีนร่วมกับมหาวิทยาลัยโอซาก้ามาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2020 โดยเลือกใช้เทคนิคการผลิตวัคซีน DNA ที่ใช้กระบวนการผลิตสั้นกว่าวัคซีนประเภทอื่น ส่วน Takara จะทำหน้าที่ผลิตเป็นจำนวนมากให้ จากโรงงานของ Takara ที่รับผลิตวัคซีนอยู่แล้ว
ที่มา - Nikkei, Takara Bio, AnGes ภาพจาก Takara Bio USA |
# แอป K PLUS ล่มเป็นช่วง เว็บ K-Cyber และ ATM ยังใช้งานได้
แอป K PLUS ของธนาคารกสิกรไทยมีปัญหาสองช่วง คือช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (11:23-11:54) และช่วงบ่ายสาม (15:13-15:43) ไม่สามารถล็อกอินเข้าแอปได้ โดยทางธนาคารระบุว่าเกิดจากผู้ใช้งานจำนวนมาก และแนะนำให้เว้นช่วงทำรายการ
อย่างไรก็ดี ทางธนาคารระบุว่าบริการ ATM ยังคงใช้งานได้ และผมเองทดลองใช้งานบริการเว็บ K-Cyber ก็พบว่าไม่มีปัญหาอะไร ทั้งการตรวจสอบยอดเงินและการโอนเงิน
note: เวอร์ชั่นแรกของบทความนี้ระบุว่าแอปมีปัญหาตั้งแต่ช่วงเที่ยง ทางธนาคารได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่าเป็นการล่มคนละครั้ง
ที่มา - @KBank_Live 1, 2 |
# [ลือ] Surface Go 2 อาจมีหน้าจอ 10.5 นิ้ว ขอบบางลง ตัวเครื่องขนาดเดิม
แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน ให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ Windows Central ว่า Microsoft Surface Go 2 จะมีหน้าจอใหญ่จาก 10 นิ้ว เป็น 10.5 นิ้ว และเพิ่มความละเอียดจากเดิม 1800x1200 เป็น 1920x1280 แต่ตัวเครื่องจะมีขนาดเท่าเดิม มีพอร์ตเชื่อมต่อแบบเดิม ทำให้สามารถใช้อุปกรณ์เสริมของ Surface Go รุ่นแรกได้ แต่ขอบจอจะบางลงเล็กน้อย คล้ายกับจอของ Surface Laptop 3
Surface Go 2 คาดว่าจะเริ่มต้นที่ราคา 399 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 13,000 บาท) จะใช้ชิป Intel Pentium GOLD 4425Y พร้อมแรม 4GB และหน่วยความจำภายใน 64GB และอาจรองรับ Wi-Fi 6 แต่จะมีรุ่นสูงกว่าที่ราคาประมาณ 500 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16,300 บาท) ใช้ชิป Intel Core m3-8100Y มาพร้อมแรม 8GB หน่วยความจำภายใน 128GB และมีตัวเลือกแบบใส่ซิม LTE 4G ได้ และทั้งสองรุ่นรองรับ การ์ด microSD
นักวิเคราะห์คาดว่า Microsoft Surface Go 2 น่าจะเปิดตัวภายในเดือนพฤษภาคมนี้
ที่มา - Windows Central
Surface Go รุ่นแรก |
# Libra 2.0 ปรับแผนใหม่ จากสกุลเงินเดียว เป็นแยกสกุลตามเงินจริงแต่ละประเทศ
โครงการเงินดิจิทัล Libra ออกเอกสารทางเทคนิคเวอร์ชันปรับปรุงใหม่ (เรียกกันเล่นๆ ว่า Libra 2.0) หลังเดินสายรับฟังความเห็นจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของประเทศต่างๆ ที่รุมค้าน Libra อย่างหนัก
ประเด็นสำคัญที่เปลี่ยนแปลงใน Libra 2.0 มี 2 เรื่องคือ
เปลี่ยนจากค่าเงินสกุลเดียว มาเป็นสกุลย่อยหลายสกุล
แนวคิดเดิมของ Libra คือสร้างค่าเงินสกุลเดียว (≋LBR) ที่อิงกับตะกร้าของค่าเงินในโลกจริงหลายสกุล (multi-currency stablcoins) ที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการสร้างค่าเงินสกุลใหม่ของตัวเอง ทางโครงการแก้ปัญหานี้โดยปรับมาเป็นการออกสกุลเงิน Libra ย่อยๆ โดยอิงกับเงินสกุลเดียว (single-currency stablecoins) เช่น ≋USD, ≋EUR, ≋GBP เพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลของแต่ละประเทศ มีขอบเขตการทำงานชัดเจนขึ้น
ส่วนเงินสกุล ≋LBR เดิมก็ยังอยู่ แต่จะอิงจากการคำนวณเงินสกุลย่อยอีกที โดยสูตรคำนวณที่แน่ชัดจะประกาศเพิ่มเติมในอนาคต (ตัวอย่างที่นำมาโชว์คือ 1 ≋LBR มาจาก ≋USD 0.50, ≋EUR 0.18, ≋GBP 0.11 เป็นต้น) และโครงการ Libra จะเชิญหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของประเทศต่างๆ เข้ามาช่วยบริหารสูตรการคำนวณด้วย
แนวทางนี้ตรงกับที่ David Marcus หัวหน้าโครงการ Libra ออกมาพูดตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว
Libra ยอมรับว่าการแตกเป็นสกุลเงินย่อยๆ หลายสกุล จะสร้างความซับซ้อนในการใช้งานมากขึ้น เพราะการจ่ายเงิน การแลกเงิน การโอนเงินจะต้องอิงกับทรัพย์สินจริงในสกุลเงินต่างๆ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องต้องถือเงินหลายสกุลมาค้ำประกันเงินดิจิทัล แทนที่จะเป็นเงินสกุลเดียว
เพิ่ม "ผู้ให้บริการ" ที่กำกับดูแลโดยรัฐ
เครือข่าย Libra จะเพิ่มหมวดของผู้ให้บริการแบบใหม่ที่เรียกว่า Virtual Asset Service Providers (VASPs) ซึ่งหมายถึง ตัวแทนให้แลกเงิน (exchanges) หรือผู้ให้บริการกระเป๋าเงิน (custodial wallets) ซึ่งแยกเป็น 2 ประเภทย่อยคือ
Regulated VASPs ที่ต้องถูกกำกับดูแลโดยหน่วยงานรัฐ
Certified VASPs ที่รับรองโดยสมาคม Libra
การเปิดเครือข่าย Libra ในช่วงแรกจะเปิดรับเฉพาะ Regulated VASPs เท่านั้น ส่วนตัวแทนประเภทอื่นๆ ที่ไม่ถูกกำกับดูแลโดยรัฐจะเพิ่มเข้ามาในอนาคต โดยยังไม่ระบุช่วงเวลา และจะเพิ่มเข้ามาหลังได้รับความเห็นจากหน่วยงานภาครัฐแล้ว
ในภาพรวมแล้ว Libra 2.0 ลดระดับความยิ่งใหญ่ของแผนการลงเพื่อให้ไม่ขัดแย้งกับหน่วยงานภาครัฐ แต่ก็ทำให้เสียคุณสมบัติเด่นหลายๆ อย่างตามแผนเดิมไปเช่นกัน ทำให้สื่อบางราย เช่น Financial Times เรียกการปรับแผนครั้งนี้ว่า Libra กลายเป็นแค่ PayPal ตัวใหม่เท่านั้น
ที่มา - Libra |
# SCB ประกาศ iOS ต่ำกว่า 10.3.4 และ Android ต่ำกว่า 6.0 จะใช้ SCB Easy ไม่ได้
ธนาคารไทยพาณิชย์ออกมาประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป อุปกรณ์ที่รัน iOS เวอร์ชันที่ต่ำกว่า 10.3.4 และ Android ที่ต่ำกว่า 6.0 Marshmallow ลงไป รวมถึงเครื่องที่ผ่านการ Root และ Jailbreak จะไม่สามารถใช้งาน SCB Easy ได้แล้ว
นอกจากนี้แม้จะไม่สามารถใช้งานแอปได้ หากกรณีที่มีการทำรายการล่วงหน้าเอาไว้ในแอป คำสั่งดังกล่าวจะยังถูกดำเนินการต่อไปด้วย ขณะที่ประกาศนี้สอดคล้องกับประกาศของแบงค์ชาติเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แอปโมบายล์ แบงค์กิ้ง
ที่มา - SCB |
# Nubia Play เตรียมเปิดตัว อาจเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางเครื่องแรกที่มีหน้าจอ 144Hz
Nubia ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีน เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Nubia Play ในวันนี้ ซึ่งจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นแรกที่มีหน้าจอ AMOLED 144Hz หลัง Red Magic 5G จาก ZTE เจ้าของแบรนด์ Nubia เช่นเดียวกัน เปิดตัวใช้หน้าจอ 144 Hz ไปก่อนแล้ว แต่เป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งรุ่นเรือธงที่มาพร้อมกับ Snapdragon 865
Nubia Play มาพร้อมชิป Snapdragon 765G รองรับ 5G และจะเปิดตัวในวันที่ 21 เมษายนนี้ ตัดหน้า iQOO Neo3 ที่จะใช้หน้าจอแบบ 144Hz เช่นเดียวกันไป 2 วัน จึงสามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นแรกที่ใช้หน้าจอ 144Hz และมีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz
ภาพจาก Weibo Nubia
นอกจากนี้ Nubia Play ยังเลือกใช้ดีไซน์แบบมีขอบด้านบนสำหรับวางกล้องหน้า แทนที่จะมีรอยแหว่งหรือมีกล้องแบบเจาะรู อาจจะดูย้อนยุคไปบ้าง แต่ก็ทำให้หน้าจอดูเนียนตา ไม่มีอะไรไม่สมมาตรมากวนใจ
Nubia Play จะเปิดตัวในประเทศจีนผ่านไลฟ์สดภายในคืนนี้
ที่มา - NotebookCheck |
# รัฐบาลฝรั่งเศสเรียกร้องแอปเปิลปลดล็อก BLE ให้ทำงาน background ได้ หลังแอปติดตาม COVID-19 ทำงานได้จำกัด
รัฐบาลฝรั่งเศสเรียกร้องให้แอปเปิลปลดล็อกการทำงานของ Bluetooth Low Energy บน iOS ให้ทำงานได้แม้แอปรันเป็น background เพื่อให้แอปติดตามการเข้าใกล้ระหว่างกัน (contact tracing) ของรัฐบาลสามารถทำงานได้แม้ผู้ใช้ไม่ได้เปิดแอปตลอดเวลา
รัฐบาลฝรั่งเศสมีแผนจะปล่อยแอป contact tracing ของตัวเองในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ แต่เช่นเดียวกับแอปกลุ่มเดียวกัน ทั้ง TraceTogether ของสิงคโปร์และหมอชนะของไทย แอปเหล่านี้ล้วนทำงานได้จำกัดบน iOS โดยผู้ใช้ต้องเปิดแอปให้ทำงานเบื้องหน้าเท่านั้น หากปิดแอปอยู่จะไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล BLE กับโทรศัพท์รอบตัวได้
แอปเปิลมีแนวทางจำกัดการทำงานของ API สำหรับ BLE เช่นนี้มาโดยตลอด ต่างจากแอนดรอยด์ที่อนุญาตให้ API ทำงานในเบื้องหลังได้ โดยความร่วมมือระหว่างแอปเปิลและกูเกิลในการสร้าง Contact Tracing API ร่วมกันจะทำให้อุปกรณ์ iOS สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล BLE กับโทรศัพท์แอนดรอยด์ได้ แม้ไม่ได้เปิดแอปให้ทำงานบนหน้าจอก็ตาม แต่แอปต้องใช้โปรโตคอลที่แอปเปิลตกลงร่วมกับกูเกิลเท่านั้น ไม่สามารถใช้โปรโตคอลอื่นได้ รวมถึงกระบวนการแจ้งเตือนก็ต้องอาศัยการดึงข้อมูลหมายเลขประจำตัวผู้ติดเชื้อมาเทียบกับรายการในโทรศัพท์เท่านั้น
แอป contact tracing แต่ละชาติมีการเก็บข้อมูลแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น หมอชนะของไทยนั้นหมายเลขประจำตัวโทรศัพท์ที่แลกเปลี่ยนกันเป็นหมายเลขประจำตัวตายตัวไม่เปลี่ยนตลอดการใช้งาน และรายการเข้าใกล้กันจะถูกอัพโหลดขึ้นเซิร์ฟเวอร์ตลอดเวลา ขณะที่ TraceTogether หมายเลขประจำตัวที่แลกเปลี่ยนกันจะเปลี่ยนทุก 15 นาที (เพื่อไม่ให้คนนอกติดตามตัวได้) แต่หมายเลขที่เปลี่ยนไปทุก 15 นาทีนั้นก็ส่งมาจากเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด แม้ไม่ได้เก็บรายการเข้าใกล้กันบนเซิร์ฟเวอร์ตลอดเวลาแต่เมื่อผู้ติดเชื้ออัพโหลดรายการเข้าใกล้กัน เซิร์ฟเวอร์ก็จะแสดงรายชื่อผู้ใช้ที่ผู้ติดเชื้อเคยเข้าใกล้ได้ทันที
Contact Tracing API ของแอปเปิลและกูเกิลกำหนดโปรโตคอลแน่นหนากว่าแอปรัฐบาลต่างๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยหมายเลขประจำตัวที่สร้างขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนระหว่างโทรศัพท์จะสร้างขึ้นในโทรศัพท์เอง การตรวจสอบว่าเคยเข้าใกล้ผู้ติดเชื้อหรือไม่จึงต้องทำในโทรศัพท์ด้วยการดาวน์โหลดกุญแจที่ผู้ติดเชื้ออัพโหลดขึ้นไปยังเซิร์ฟเวอร์ลงมาตรวจสอบ
ปัญหาใหญ่คือ Contact Tracing API นั้นต้องรอ API จริงภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ทำให้หลายชาติเลือกที่จะไม่รอทั้งสองบริษัทอัพเดตระบบปฎิบัติการ
ที่มา - Bloomberg |
# Twitch ได้คนดูแลงานฝ่ายวิศวกรรมดนตรีคนใหม่ ดึงตัวมาจาก Spotify
Twitch ได้ว่าจ้าง Tracy Chan มาเป็นหัวหน้าผลิตภัณฑ์และดูแลงานวิศวกรรมดนตรี โดย Chan เคยทำงานที่ Spotify มาก่อน 4 ปีในตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบวิเคราะห์หลังบ้านสำหรับศิลปิน
สำหรับบทบาทใหม่ของ Chan ใน Twitch เขาจะเน้นไปที่การพัฒนาประสบการณ์ไลฟ์ของศิลปินอิสระบนแพลตฟอร์ม รวมถึงพัฒนาประสบการณ์การมีส่วนร่วมกันระหว่างศิลปินและแฟนๆ แบบเรียลไทม์
ในช่วงโรคระบาดนี้ Twitch ถือเป็นอีกแพลตฟอร์มที่นักดนตรีและศิลปินอิสระมาไลฟ์เพื่อเชื่อมต่อกับแฟนๆ เปิดคอนเสิร์ตขนาดย่อม รวมถึงหารายได้จากการ donate ของแฟนๆ ได้ และ Twitch ยังยกระดับด้วยการร่วมมือกับ SoundCloud ให้ครีเอเตอร์บน SoundCloud สามารถทำเงินจาก Twitch ได้ด้วย
ที่มา - TechCrunch |
# Jennifer Morgan ซีอีโอร่วม SAP ลาออก หลังทำงานเพียงครึ่งปี, Christian Klein เป็นซีอีโอเต็มตัว
SAP ประกาศปรับตำแหน่งผู้บริหาร ให้ Christian Klein เป็นซีอีโอเต็มตัว หลังจากเขารับตำแหน่งร่วมกับ Jennifer Morgan เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วในฐานะซีอีโอร่วม
ทั้งสองคนมาแทนที่ Bill McDermott ที่เป็นซีอีโอมาตั้งแต่ปี 2014 และตัดสินใจไม่ต่อสัญญา โดยก่อนหน้านี้ Morgan รับผิดชอบ SAP Cloud และ Klein มีตำแหน่ง COO และดูแลการพัฒนา S/4 HANA มาก่อน
จดหมายข่าวของ SAP ไม่ได้ระบุเหตุผลที่ Morgan ลาออก แต่ระบุว่าเป็นความตกลงร่วมกันระหว่างตัว Morgan เองและบอร์ดบริหาร และการเปลี่ยนแปลงนี้มาเร็วกว่าที่วางแผนไว้เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทมีการคุมทิศทางที่ชัดเจนในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้
ที่มา - SAP, The Register
Bill McDermott, Jennifer Morgan, และ Christian Klein ภาพจาก SAP |
# รีวิว AIS 4G Home WiFi เร้าเตอร์ 4G แก้ปัญหาบ้านไม่มีเน็ต แต่ยังขาดคลื่น Wi-Fi 5 Ghz
ช่วงโควิดระบาด หลายๆ คนต้อง work from home ประชุมงานผ่านวิดีโอคอล หรือส่งงานผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอด แต่ถ้าอยู่หอ คอนโด อพาร์ตเมนท์ และไม่ได้ใช้เน็ตรายเดือน Wi-Fi ของส่วนกลางก็อาจจะไม่เสถียรเหมือนอยู่ออฟฟิศ จะต่อจากมือถือก็ไม่ได้ใช้โปรอินเทอร์เน็ตเยอะ กลัวเกินลิมิตแล้วค่าเน็ตบานปลาย เราเตอร์พร้อมซิม 4G ลักษณะนี้อาจช่วยตอบโจทย์
วันนี้ผู้เขียนก็มีเราเตอร์ AIS 4G Home WiFi ที่มาพร้อมซิมเน็ตมาราธอน ของ AIS มารีวิวให้เห็นข้อดีข้อเสีย และความคุ้มของตัวเราเตอร์ที่มาพร้อมเน็ต 1 ปี ในราคาซื้อขาด 2,990 บาท ไม่ต้องจ่ายรายเดือนตัวนี้กัน
รายละเอียดโปรโมชั่นในกล่อง
ซิมเน็ต มาราธอน ที่มาพร้อมกับเราเตอร์ เป็นซิมราคา 2,500 บาท สามารถใช้งาน 4G ได้ที่ความเร็ว 4Mbps ปริมาณ 20 GB ต่อเดือน ถ้าเกินก็ยังใช้เน็ตต่อได้ที่ความเร็ว 128 Kbps ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม และถ้าใช้งานเกิน 12 เดือน ก็สามารถเติมเงิน เปลี่ยนไปใช้โปรอื่นได้เหมือนปกติ
แกะกล่อง เปิดใช้งาน
นอกจากซิมเน็ต มาราธอน ที่แปะอยู่ภายนอกกล่องแล้ว ภายในกล่องจะมีตัวเราเตอร์ สายชาร์จ 12V1A สายแลน และคู่มือสองภาษามาให้ บนตัวเป็นสไตล์มินิมอล ไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากนัก แต่ลงรายละเอียดเรื่องข้อมูลการรับสัญญาณต่างๆ ไว้ ว่ารองรับ 4G และ 3G ที่ความเร็วดาวน์โหลด/อัพโหลดสูงสุด 150Mbps/50Mbps เชื่อมต่อได้ 32 อุปกรณ์พร้อมกัน และมีช่องต่อสาย LAN 2 ช่อง
ซิมเน็ตมาราธอนนี้ ต้องลงทะเบียนกับบัตรประชาชนก่อนใช้งาน จากที่เมื่อก่อนที่ต้องลงทะเบียนด้วยตัวเองที่ AIS Shop หรือ Telewiz แต่ล่าสุดช่วง COVID-19 ระบาด AIS ก็อำนวยความสะดวก เพิ่มฟังก์ชั่นลงทะเบียนซิมด้วยตัวเองผ่านแอป my AIS ให้ทำเองจากที่บ้านได้เลย
แกะกล่องแล้ว ยังไม่ต้องเสียบปลั๊กเราเตอร์ ให้แกะซิม 4G ใส่มือถือก่อน (ถ้ามือถือใช้นาโนซิม อย่าลืมเก็บตัวอแดปเตอร์พลาสติกของซิมไว้ใช้ต่อ เพราะตัวเราเตอร์ใช้ขนาดไมโครซิม คือใหญ่กว่านาโนซิมขึ้นมาอีกขั้น) ดาวน์โหลดแอป my AIS แล้วลงทะเบียนผ่านเมนู “เปิดใช้งานซิมเติมเงิน” ทำการถ่ายรูปบัตรประชาชน และใบหน้า ตามขั้นตอนในแอปได้
ลงทะเบียนเสร็จแล้วค่อยแกะซิมกลับมาใส่ในช่องด้านหลังเราเตอร์โดยใช้ซิมกดตัวล็อกไว้ ก่อนสไลด์เข้าไปเบาๆ ปิดฝา แล้วเสียบปลั๊ก อย่าใส่หรือถอดซิมตอนเสียบปลั๊กอยู่ เพราะอาจทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ ตัว AIS 4G Home Wifi ตัวนี้จะไม่มีการล็อกซิมเฉพาะของ AIS สามารถใช้ไมโครซิมค่ายอื่น หรือโปรอื่นได้ตามปกติ
หลังจากใส่ซิมที่ลงทะเบียน เสียบปลั้กเรียบร้อยแล้ว รอสักครู่ให้สัญญาณไฟตัว e ขึ้นเป็นสีฟ้าตามภาพก็จะสามารถต่อ Wi-Fi กับเราเตอร์โดยดูรหัสที่ใต้เครื่อง หรือเสียบสาย LAN เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันที
หากต้องการเข้าไปตั้งค่าก็สามารถทำได้โดยการเปิดเบราว์เซอร์ เข้าไปที่ 192.168.1.1 ดูรหัสล็อกอินได้ที่ใต้ตัวเครื่องเช่นกัน แต่คนที่ไม่ได้มีความรู้หรือไม่อยากตั้งค่าเราเตอร์ แค่เสียบปลั๊ก ก็จะสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม
หน้าตาการตั้งค่าและแสดงสถานะต่างๆ ของเราเตอร์
ประสิทธิภาพ และความเร็ว
ข้อเสียของเราเตอร์ตัวนี้ คือมี W-iFi ความถี่ 2.4GHz เท่านั้น ไม่มี 5GHz แต่อย่างใด ทำให้ท่านที่อยู่คอนโด หรืออยู่หอที่มีการใช้ Wi-Fi เยอะ อาจเกิดปัญหาสัญญาณกวน ทำให้ความเร็วตกได้
หากเกิดปัญหานี้ แนะนำว่าให้ต่อสาย LAN เข้าเครื่องโดยตรง ก็จะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่
แม้ซิมระบุมาว่าใช้งาน 4G ได้ที่ความเร็ว 4 Mbps แต่จากการทดสอบ (คอนโดในเขตจตุจักร) ความเร็วเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 10-20 Mbps แล้วแต่ช่วงวัน เยอะกว่าที่โฆษณาไว้
ทดสอบความเร็วโดยใช้ WiFi 2.4GHz
ทดสอบความเร็วโดยการเสียบสาย LAN
สรุป
เราเตอร์พร้อมซิมราคา 2,990 บาท แต่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วประมาณ 10-20 Mbps ได้ถึง 12 เดือน ตกประมาณเดือนละไม่ถึง 250 บาท ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าพอสมควร
แม้เราเตอร์มีข้อเสียคือไม่มี Wi-Fi 5GHz ที่อาจจะทำให้ความเร็วตกไปเล็กน้อย แต่ด้วยความเร็วประมาณนี้ ก็สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันและทำงานจากบ้าน ประชุมผ่านวิดีโอคอล หรือดู YouTube, Netflix แบบความละเอียด Full HD ในเวลาว่าง ได้อย่างสะดวกสบายแน่นอน ใครที่อยู่คอนโดเก่า ไม่มีเน็ตไฟเบอร์ หรืออยู่หอที่ติดเน็ตเองไม่ได้ เราเตอร์ตัวนี้น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ |
# ไมโครซอฟท์ทำแชทบ็อท ไว้ถามคัดกรองคนที่หายจาก COVID-19 และอยากบริจาคพลาสมาเพื่อทดลองวิธีรักษา
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Plasma Bot แชทบ็อทไว้ถามคำถาม เพื่อรับอาสาสมัครผู้ที่หายป่วยจากโรค COVID-19 ที่อยากบริจาคพลาสมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่การรักษาและการป้องกันโรคต่อไป
โดย Plasma Bot หรือบ็อทตัวนี้จะเสนอคำถามง่ายๆ เกี่ยวกับอาการที่ผู้ที่หายป่วยเป็นในช่วงที่เป็นโรค ความสามารถในการฟื้นตัว ไปจนถึงสอบถามความตั้งใจที่อยากจะบริจาคพลาสมา รวมถึงเป็นการประเมินเบื้องต้นว่า อาสาสมัครมีความสามารถในการบริจาคพลาสมาได้หรือไม่ และจะให้คำแนะนำเพื่อให้ไปบริจาคพลาสมาที่ศูนย์บริจาคที่ใกล้ที่สุด โดยอาสาสมัครสามารถเข้าไปลองใช้งาน Plasma Bot ได้ที่เว็บไซต์ CoVIg-19 Plasma Alliance
ไมโครซอฟท์ระบุด้วยว่า อนาคตจะเปิดใช้งาน Plasma Bot ในช่องทางค้นหา และโซเชียลอื่นนอกเหนือจากเว็บไซต์ CoVIg-19 Plasma Alliance ด้วย
Plasma Bot เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือ CoVIg-19 Plasma Alliance ซึ่งมูลนิธิ Bill และ Melinda Gates มีส่วนช่วยในการสนับสนุน เป้าหมายของ CoVIg-19 Plasma Alliance คือ เร่งการพัฒนาการรักษา COVID-19 ภารกิจในเฟสแรกคือคือการรวบรวมพลาสมาที่ศูนย์เก็บพลาสมาที่มีใบอนุญาตทั่วสหรัฐอเมริกาจากบุคคลที่ฟื้นตัวจาก COVID-19 ซึ่งมีแอนติบอดี้สำคัญนำไปทดลองต่อได้
ที่มา - ไมโครซอฟท์ |
# Nintendo สั่งเพิ่มการผลิต Nintendo Switch ปีนี้เป็น 22 ล้านเครื่อง
Nintendo Switch เครื่องเกมคอนโซลของนินเทนโด ที่ประสบปัญหาการผลิตจากเหตุ COVID-19 แต่เนื่องจากกระแสการอยู่บ้าน ทำให้สินค้าขายดีจนขาดตลาดแม้ราคาจะเพิ่มขึ้นสูง ล่าสุดมีรายงานว่านินเทนโดยังสั่งเพิ่มการผลิตจากแผนเดิมอีก 20% โดยปีนี้ตั้งเป้าจะผลิตให้ได้ 22 ล้านเครื่อง
นินเทนโดรายงานยอดขายสะสม Switch อย่างเป็นทางการเมื่อไตรมาสที่ผ่านมาคือ 52 ล้านเครื่อง
ตัวแทนของนินเทนโดยืนยันว่าบริษัทได้สั่งเพิ่มกำลังการผลิตจริง แต่สิ่งที่ท้าทายคือปัญหาซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนต่าง ๆ ซึ่งยังไม่แน่นอนว่าจะกลับมาเป็นปกติเมื่อใด แต่คาดว่าอย่างเร็วที่สุดคือเดือนมิถุนายน
ที่มา: Business Insider |
# ฝันร้ายยังดำเนินต่อ Kickstarter มีโปรเจกต์ใหม่ๆ น้อยลง 35% เตรียมปลดพนักงาน
Kickstarter แพลตฟอร์มระดมทุนส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ ส่งข้อความภายในถึงพนักงานว่าจะมีการปลดพนักงาน เนื่องจากโรคระบาดส่งผลกระทบทางตรงต่อรายได้ และโครงการใหม่ๆในแพลตฟอร์มก็น้อยลงถึง 35% โดยตอนนี้อยู่ระหว่างปรึกษากับกลุ่มสหภาพแรงงานหรือ Office and Professional Employees International Union (OPEIU)
ในจดหมายข้อความที่ Aziz Hasan ซีอีโอเขียนยังระบุด้วยว่า ทางบริษัทยังมองหาความเป็นไปได้ที่จะลดต้นทุนอื่นๆ เช่น งดจ้างงาน, ลดเงินเดือนผู้บริหารอาวุโส รวมถึงตัวเองด้วย ด้านรายได้บริษัทหลังหักภาษีในปีที่ผ่านมามี 1.27 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเม็ดเงินดังกล่าวได้นำไปลงทุนในธุรกิจแล้ว
ในช่วงโรคระบาดนั้น Kickstarter ได้พยายามสนับสนุนให้ผู้สร้างโพสต์โครงการใหม่ๆ ด้วยการเปิดตัวโปรแกรมขนาดเล็กกระตุ้นให้คนสร้างคิดโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่เริ่มทำจากที่บ้านได้ ในขณะเดียวกันก็กลั่นกรองโปรเจกต์แปลกปลอมเกี่ยวกับ COVID-19 ไปด้วย
ภาพจาก Kickstarter
ที่มา - The Verge |
# วันนี้วันสุดท้าย คนที่ซื้อ Minecraft Java Edition กดรับ Bedrock Edition ฟรี
คนที่อยู่ในวงการ Minecraft คงพอทราบกันว่าเกม Minecraft มีด้วยกัน 2 เวอร์ชันหลักๆ คือ Java Edition รุ่นดั้งเดิม และเวอร์ชันยกเครื่องใหม่ที่เรียกว่า Bedrock Edition ที่ใช้บนแพลตฟอร์มใหม่ๆ
ถึงแม้ทิศทางของ Minecraft ชัดเจนว่าหมุนไปทาง Bedrock Edition แต่ก็ยังสนับสนุน Java Edition ต่อไป หากเล่นบน Windows ก็ยังมีให้เลือกซื้อทั้งสองเวอร์ชัน (วางขายแยกกัน)
เพื่อสนับสนุนให้คนย้ายมา Bedrock กันมากขึ้น เมื่อต้นปี Mojang จึงประกาศว่าคนที่ซื้อ Java Edition ก่อนวันที่ 19 ตุลาคม 2018 (เท่ากับเป็นแฟน Minecraft มาพอสมควร) สามารถเคลม Bedrock Edition บน Windows 10 ได้ฟรี ถึงวันที่ 21 เมษายน 2020 (วันนี้เป็นวันสุดท้าย)
วิธีการคือเข้าเว็บ minecraft.net แล้วล็อกอินด้วยบัญชี Minecraft ที่มีอยู่ เข้าไปกดปุ่ม Redeem เพื่อรับสิทธิ จากนั้นไปกดรับ Minecraft: Bedrock Edition จาก Microsoft Store ได้เลย
ที่มา - Windows Central |
# GeForce Now ได้ผู้สนับสนุนเกมเพิ่ม Ubisoft, Bungie, Bandai Namco
NVIDIA ประสบปัญหาค่ายเกมใหญ่ๆ ทยอยถอนตัวจาก GeForce Now เช่น Activision, Bethesda, 2K เพราะเจรจาผลประโยชน์กันไม่ลงตัว ตอนนั้นคำตอบของ NVIDIA คือ "ขอให้รอ" ว่าจะมีอัพเดตอย่างไร
ล่าสุด NVIDIA ออกมาเปิดรายชื่อค่ายเกมที่ร่วมสนับสนุน GeForce Now ได้แก่ Ubisoft ที่ประกาศขน Assassin’s Creed กับ Far Cry ทุกภาคมาให้, Epic Games ที่ประกาศสนับสนุนอยู่ก่อนแล้ว, Bungie (Destiny 2), Bandai Namco (Dark Souls III, Tekken 7) และจะมีเกมอีกชุดใหญ่เพิ่มเข้ามาอีกก่อน การเปิดบริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน
NVIDIA ยังประกาศว่ากำลังเจรจากับร้านขายเกมดิจิทัลหลายราย (เช่น Steam) เพื่อให้บริษัทเกมสามารถแปะป้าย "Game Ready on GeForce NOW" ให้ลูกค้ารับทราบตั้งแต่ก่อนซื้อเกมได้เลย
อย่างไรก็ตาม ในอีกทาง NVIDIA ก็ยอมรับว่ามีค่ายเกมที่ถอนตัวเพิ่มอีก 4 รายคือ Warner Bros. Interactive Entertainment, XBOX Game Studios, Codemasters, Klei Entertainment ซึ่งจะมีผลในวันที่ 24 เมษายนนี้
ที่มา - NVIDIA |
# Facebook เริ่มทำการลบภาพและโพสต์ที่ประท้วงต่อต้านการกักตัวในสหรัฐฯ
ที่สหรัฐฯมีการประท้วงต่อต้านการกักตัวเนื่องจากการระบาดของโรค COVID-19 โดยการประท้วงเกิดขึ้นที่แคลิฟอร์เนีย, นิวเจอร์ซีย์, เนบราสกา ล่าสุด Facebook ได้ปรึกษากับหน่วยงานกำกับดูแลเมือง และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้เริ่มทำการลบโพสต์และรูปภาพ รวมถึงการประท้วงจากการสร้าง Event ใน Facebook ด้วย
โฆษก Facebook ระบุว่า ไม่ใช่แค่ Event ประท้วงต่อต้านการปิดเมืองที่จะถูกลบ แต่ยังรวมถึง Event อื่นๆ ที่กระตุ้นให้ประชาชนออกไปรวมตัวกันข้างนอกก็เป็นเรื่องผิดบนแพลตฟอร์มตอนนี้ด้วย นอกจากนี้ Facebook ยังได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ว่าการรัฐต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจขอบเขตคำสั่งอำนาจที่ใช้ในแต่ละพื้นที่ด้วย
ภาพจาก Getty Images
ที่มา - Engadget |
# Uber ปรับตัวสู้ COVID-19 เปลี่ยนมาส่งของให้ร้านค้า ซื้อยา ส่งพัสดุ
Uber ปรับตัวสู้วิกฤต COVID-19 ที่ทำให้ผู้โดยสารลดลง ด้วยบริการใหม่ 2 ตัวคือ
Uber Direct ต่อยอดมาจากบริการส่งอาหาร Uber Eats โดยขยายมาเป็นการส่งสินค้าจากร้านค้ามายังผู้ซื้อ และครอบคลุมถึงการซื้อยาจากร้านยาด้วย
Uber Connect เป็นการส่งพัสดุจากผู้ใช้ไปยังผู้ใช้ โดย Uber Connect จะเป็นอีกโหมดของการขนส่งในหน้าเรียกรถ Uber ด้วย (พูดง่ายๆ คือกดเรียกรถตามปกติ แต่เลือกชนิดของการโดยสารเป็นการส่งพัสดุแทน)
บริการ 2 ตัวนี้เริ่มเปิดแล้วในบางเมืองของสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เม็กซิโก โปรตุเกส เป็นต้น
ที่มา - Uber |
# Twitter for Mac ออกอัพเดต เพิ่มฟีเจอร์สตรีมทวีตล่าสุดบนไทม์ไลน์โดยไม่ต้องกดอัพเดตเอง
Twitter ออกอัพเดตแอป Twitter for Mac แอปสำหรับใช้งานทวิตเตอร์บน Mac โดยรอบนี้มาพร้อมฟีเจอร์ที่หายไปนานคือสตรีมทวีตล่าสุดโดยไม่ต้องอัพเดตไทม์ไลน์เอง
Twitter for Mac เคยมีฟีเจอร์สตรีมมิ่งมานานแล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นแอปเวอร์ชันเก่า และก่อนหน้านี้ Twitter ก็เคยเปิด API สตรีมมิ่งให้ไคลเอนท์ใช้ ซึ่ง API นี้ยกเลิกตั้งแต่ปี 2018 รวมถึงแอป Twitter เองช่วงหลังก็ถอดฟีเจอร์นี้ออกไป ซึ่งการนำฟีเจอร์กลับมาใส่อีกครั้งในแอปก็ถือเป็นข่าวดีสำหรับคนใช้ Twitter บน Mac เพราะไม่ต้องคอยไปรีเฟรชไทม์ไลน์เพื่อดูทวีตใหม่อีกต่อไป
สำหรับวิธีเปิดสตรีมมิ่งทวีต เมื่ออัพเดตแอป Twitter for Mac เรียบร้อยแล้ว เพียงกดปุ่มดาวมุมบนขวา และเปิดตัวเลือก Pin to top ตัวแอปก็จะสตรีมมิ่งไทม์ไลน์ให้อัตโนมัติ
ที่มา - 9to5Mac
ภาพจากข่าวเก่า |
# IBM ไตรมาส 1/2020 รายได้รวมลดลงเล็กน้อย ผลกระทบเดือนมีนาคมจาก COVID-19
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2020 รายได้รวม 17,571 ล้านดอลลาร์ ลดลง 3.4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 1,175 ล้านดอลลาร์ โดยหากดูเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคลาวด์ ไอบีเอ็มบอกว่ารายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้น 19%
สำหรับรายได้แบบแยกตามกลุ่มธุรกิจ กลุ่ม Cloud & Cognitive Software (รวม Red Hat) เป็นกลุ่มที่เติบโต รายได้เพิ่มขึ้น 5% เป็น 5,238 ล้านดอลลาร์ กลุ่ม Systems รายได้เพิ่มขึ้น 3% กลุ่ม Global Business Services รายได้คงที่ และกลุ่ม Global Technology Services ซึ่งเป็นรายได้ส่วนใหญ่ รายได้ลดลง 6%
Jim Kavanaugh ซีเอฟโอ ไอบีเอ็ม กล่าวว่าการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามที่คาดไว้ ตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่เมื่อเข้าสู่เดือนมีนาคมซึ่งการระบาดของ COVID-19 เพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้าเริ่มหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งไอบีเอ็มก็ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะงานสำคัญส่วนมากจะปิดในสองสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสนั่นเอง ซึ่งที่ไอบีเอ็มจะทำจากนี้ คือการโฟกัสไปที่ไฮบริดคลาวด์และเอไอ ขณะเดียวกันก็ลงทุนเพื่อกระจายธุรกิจไปยังหมวดอื่นด้วย
ที่มา: CNBC และ ไอบีเอ็ม |
# Cloudflare เปิดเว็บทดสอบการตรวจสอบ BGP เรียกร้องให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอิมพลีเมนต์ให้ถูกต้อง
Cloudflare เปิดเว็บ Is BGP Safe Yet? ให้คนทั่วไปทดสอบการทำงานของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตว่าหาเส้นทางอินเทอร์เน็ตโดยตรวจสอบข้อมูล RPKI ที่เข้ารหัสถูกต้องก่อนใช้เส้นทางในอินเทอร์เน็ตหรือไม่
RPKI เป็นกระบวนการที่เปิดให้เจ้าของเครือข่ายวงไอพีสามารถประกาศตัวได้ว่าเราท์เตอร์อื่นๆ ในอินเทอร์เน็ตควรใช้เส้นทางไปยัง Autonomous System (AS) ใดในอินเทอร์เน็ต หรือ ROA (Route Origin Authorization) ที่ผ่านมาอินเทอร์เน็ตอาศัยความเชื่อใจกันในหมู่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตว่าจะไม่ประกาศเส้นทางมั่วๆ หรือมักอาศัยการตั้ง filter โดยผู้ดูแลระบบกันเอง แต่ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นเสมอ ทำให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบางรายสามารถ "ดูด" ทราฟิกจากเว็บสำคัญๆ ให้วิ่งผ่านตนเองได้ (ข่าวเก่า 1, 2) การตรวจสอบ ROA ทำให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตมั่นใจว่า
การทดสอบครั้งนี้ Cloudflare ประกาศวง 103.21.244.0/24 และ 2606:4700:7000::/48 โดยตั้งใจประกาศผิดไปจาก ROA ของเครือข่าย หาก ISP ตรวจสอบ ROA ตามโปรโตคอล RPKI แล้วเปิดเว็บ invalid.rpki.cloudflare.com โดยใช้ไอพีในวงที่ประกาศผิดไปนั้น หากผู้ใช้เข้าถึงเว็บได้แสดงว่า ISP ไม่ได้ตรวจสอบ ROA อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ดี การตรวจสอบ RPKI ยังเป็นเรื่องที่ ISP ส่วนน้อยทำ Cloudflare แสดงแผนที่หมายเลขไอพีที่ตรวจสอบ RPKI โดยเครือข่ายที่ตรวจสอบแล้วเป็นสีเหลือง และเครือข่ายที่ยังไม่ตรวจสอบเป็นสีน้ำเงิน
ที่มา - Cloudflare |
# เบื้องหลังการออกแบบฮาร์ดแวร์ Xbox Series X ทำไมต้องแนวตั้ง, ระบายลมได้ดีขึ้น 70%
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดของ Xbox Series X คือการดีไซน์ฮาร์ดแวร์คอนโซลใหม่เป็นแนวตั้ง ด้วยเหตุผลเรื่องการระบายความร้อนเป็นสำคัญ
เรื่องนี้ Chris Kujawski หัวหน้าทีมออกแบบฮาร์ดแวร์ของ Xbox ให้สัมภาษณ์กับเซคชั่น Digital Foundry ในเครือ Eurogamer ไว้ค่อนข้างละเอียดเมื่อต้นเดือนนี้
แนวทางออกแบบของ Xbox Series X ชัดเจนว่าทุกอย่างพัฒนาขึ้นบนหลักการว่า จีพียูต้องแรงขึ้น 2 เท่าเป็น 12 teraflops โดยที่รักษาระดับเสียงดังเท่ากับ Xbox One X ให้ได้ เมื่อเจอข้อจำกัดขนาดนี้ สิ่งที่ต้องเปลี่ยนคือดีไซน์ของตัวคอนโซลจากแนวนอนเป็นแนวตั้ง
ฮาร์ดแวร์ต้นแบบช่วงแรกที่ไมโครซอฟท์ใช้แค่ภายใน ยังใช้ดีไซน์ทรงแนวนอน และต้องใช้พาวเวอร์ซัพพลายขนาดใหญ่ถึง 315 วัตต์ แนวทางเดิมจึงไม่ตอบโจทย์ ภายหลังไมโครซอฟท์จึงตัดสินใจปรับดีไซน์เป็นแนวตั้ง
ประเด็นที่น่าสนใจในแง่เทคนิคคือ พอเครื่องเป็นแนวตั้งแล้วมีปัญหาเรื่องขนาดของเมนบอร์ดยัดไม่ลง ทางออกของไมโครซอฟท์คือแบ่งบอร์ดออกเป็น 2 ซีก ซีกแรกเน้นอุปกรณ์สมรรถนะสูง อีกซีกเป็นชิป southbridge ที่เชื่อมต่อกับ I/O
Kujawski ยังชี้ว่า ฮาร์ดแวร์คอนโซลยุคก่อนใช้วิธีให้โครงของเครื่องอยู่ภายนอก ชิ้นส่วนยัดกันอยู่ข้างใน แต่พอมาเป็น Xbox Series X กลับทิศกันคือ โครงหลักอยู่ข้างในตรงกลาง แล้วค่อยๆ นำชิ้นส่วนต่างๆ มาล้อมไว้ทีละชั้น (เขาใช้คำว่าเหมือน 3D Tetris)
ข้อดีของแนวทางนี้คือจัดส่วนที่ร้อนๆ ไว้กลุ่มเดียวกัน จัดการเรื่องระบายความร้อนได้ง่ายกว่า และมีช่องให้ระบายอากาศได้หลายทางด้วย เมื่อบวกกับการปรับปรุงพัดลมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (ใช้พัดลมตัวใหญ่ตัวเดียวที่ฝาด้านบน) ผลคือ Xbox Series X มีลมไหลเข้าได้มากขึ้นกว่าเดิม 70% เมื่อเทียบกับ Xbox One X จึงแก้ปัญหาเรื่องความร้อนไปได้มาก
ส่วนการหุ้ม (shielding) ชิ้นส่วนเพื่อป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ของเดิมใช้วิธีมีแผ่นเหล็กใหญ่ๆ หุ้มที่ชั้นนอกสุด ก็เปลี่ยนมาเป็นการหุ้มแยกทีละชิ้นแทน
ในบทความของ Eurogamer ยังมีประเด็นอื่นๆ เช่น การระบายความร้อนของ SSD, ไดรฟ์อ่านแผ่น optical disk รวมถึงประเด็นเรื่องการเลือกใช้ถ่าน AA ของคอนโทรลเลอร์ ที่คนในไมโครซอฟท์เองก็เสียงแตกแบบ 50:50
ที่มา - Eurogamer |
# รัฐบาลออก พ.ร.ก. ประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 2563 ให้ประชุมออนไลน์ชอบด้วยกฎหมาย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 เป็นกฎหมายระดับพระราชกำหนด (รัฐบาลออกโดยไม่ผ่านสภา) มาเพื่อยกเว้นให้การประชุมบางประเภทที่กฎหมายเดิมกำหนดให้ต้องประชุมแบบพบหน้า สามารถประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนได้ และยังมีผลตามกฎหมาย
กฎหมายฉบับนี้ออกมาช่วยแก้ปัญหาที่ว่า การประชุมบางประเภท (เช่น การประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท) ต้องมาประชุมแบบพบเจอหน้า หรือผู้ประชุมต้องอยู่ในประเทศไทย จึงจะมีผลโดยชอบทางกฎหมาย ซึ่งอาจทำได้ยากในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีปัญหา COVID-19
อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ยังมีข้อยกเว้นให้การประชุมบางประเภท เช่น ประชุมสภา, ประชุมของศาล, ประชุมเพื่อการจัดซื้อของหน่วยราชการ ยังต้องประชุมแบบพบหน้าอยู่
พระราชกำหนดนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2563
ที่มา - ราชกิจจานุเบกษา, @ETDA_thailand |
# Microsoft Word เพิ่มฟีเจอร์ Rewrite Suggestions ใช้ AI เขียนใหม่ให้ทั้งประโยค
Microsoft Word มีฟีเจอร์ช่วยแนะนำการเขียน (Rewrite Suggestions) มาได้สักระยะแล้ว แต่ยังจำกัดเฉพาะ Word เวอร์ชันเว็บเท่านั้น และยังจำกัดการแก้ไขในระดับวลี (phrase)
ล่าสุดไมโครซอฟท์โชว์ Rewrite Suggestions เวอร์ชันอัพเกรด โดยสามารถแก้ได้ระดับประโยค (sentence) และมาครบตั้งแต่การตรวจสะกด, ตรวจไวยากรณ์, เรียงคำในประโยคใหม่, แนะนำคำอื่นที่มีความหมายคล้ายกัน หรืออาจใช้คำที่สั้นกว่าเดิมให้ประโยคกระชับขึ้น ขึ้นกับรูปแบบการใช้งานที่ผู้ใช้ต้องการ
วิธีการใช้งานเพียงแค่คลิกขวาประโยคที่ต้องการ แล้วเลือก Rewrite Suggestions ระบบจะแนะนำวิธีการเขียนประโยคใหม่มา 3 แบบที่แตกต่างกัน
ฟีเจอร์นี้ใช้ได้แล้วกับ Word for Web โดยต้องมีสมาชิก Office 365 แบบจ่ายเงินด้วย
ที่มา - Microsoft |
# โควิดทำพิษ Samsung Galaxy S20 อาจทำยอดขายได้เพียง 80% ของตระกูล Galaxy S10
หลังจากที่ Galaxy S20. S20+ และ S20 Ultra เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และวางจำหน่ายไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาในหลายๆ ประเทศ ล่าสุดสำนักข่าว Yonhap News ของเกาหลี รายงานว่ายอดขายของมือถือตระกูล Galaxy S20 น้อยกว่าเป้าหมายที่ Samsung คาดการณ์ไว้ แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนจากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือในประเทศเกาหลีใต้ ระบุกับสำนักข่าว Yonhap ว่า S20 ทำยอดขายได้เพียง 60 เปอร์เซ็นต์ของตระกูล S10 เท่านั้นในเวลาวางจำหน่ายที่เท่ากัน
สาเหตุหลักของยอดขายที่ต่ำลงนี้ มาจากอุปสงค์ของตลาดที่ลดลงมากเนื่องจากวิกฤต COVID-19 โดย Samsung ยังไม่เปิดเผยยอดขายอย่างเป็นทางการของมือถือตระกูล Galaxy S20 แต่ก็ประมาณยอดขายว่าอยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ของตระกูล Galaxy S10
กำไรของแผนกไอทีและมือถือของ Samsung อยู่ที่ 2.9 ล้านล้านวอน (ประมาณ 77,100 ล้านบาท)ในไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว ก่อนจะลดลงไปอยู่ที่ 2.5 ล้านล้านวอน (ประมาณ 66,100 ล้านบาท) ในไตรมาสที่สี่ และคาดว่าไตรมาสแรกของปีนี้จะเท่าไตรมาสที่แล้วหรือต่ำลง
อย่างไรก็ตาม Samsung ยังประเมินรายได้โดยรวมในไตรมาสแรกของปี 2020 ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 5% และจะมีการแถลงตัวเลขรายได้อย่างเป็นทางการ ภายในสิ้นเดือนนี้
ที่มา - Yonhap News Agency |
# Alibaba เตรียมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์เพิ่มอีกเกือบล้านล้านบาท
Alibaba ประกาศเตรียมลงทุนในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์เพิ่มอีกว่า 2 แสนล้านหยวนหรือเกือบ 1 ล้านล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า หลังกระแสการใช้คลาวด์ในจีนเพิ่มขึ้นสูงเพราะโรคระบาด
ที่ Alibaba จะลงทุนคืออุปกรณ์กึ่งตัวนำ (semiconductor), ระบบปฏิบัติการและโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล โดยในช่วงการทำงานที่บ้านที่ผ่านมาในจีน Alibaba ออกมายอมรับถึงความหนาแน่นของทราฟิคจนส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ใช้งานผู้ใช้งาน โดยเฉพาะบนแอป Dingtalk ที่ใช้ประชุม นัดหมายและวิดีโอคอล
ที่มา - Reuters
ภาพจาก Shutterstock |
# ออสเตรเลียเตรียมวางกฎบังคับให้ Facebook และ Google แบ่งรายได้ให้สำนักข่าวด้วย
รัฐบาลออสเตรเลียสั่งให้ Competition and Consumer Commission (ACCC) หรือหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคในออสเตรเลีย ร่างกฎที่จะบังคับให้แพลตฟอร์มขนาดใหญ่อย่าง Google, Facebook ต้องจ่ายเงินให้สำนักข่าวในกรณีที่มีการใช้เนื้อหาข่าวบนแพลตฟอร์ม แนวคิดของกฎหมายใหม่นี้ นอกจากจะแบ่งรายได้จากข่าวให้กับสำนักข่าวแล้ว ยังต้องเปิดเผยข้อมูลให้สำนักข่าวเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลลำดับของข่าวที่แสดงผล คาดว่าร่างแรกของกฎนี้จะเสร็จในเดือนกรกฎาคมนี้
โดยไอเดียของ ACCC คือ สำนักข่าวผู้ผลิตเนื้อหาต้องได้รายได้จากการผลิตข่าวสาร ก่อนหน้านี้ ACCC เคยแจ้งรัฐบาลว่าการสร้างระบบจ่ายค่าตอบแทนแบบสมัครใจนั้นไม่น่าจะประสบความสำเร็จ แต่พอมีโรคระบาดจนส่งผลกระทบทางตรงต่อรายได้โฆษณา ทำให้มีการพิจารณาจากการสมัครใจ เป็นข้อบังคับตามกฎหมาย
Facebook และ Google ยังไม่ตอบข้อซักถามใดๆ ต่อกรณีนี้ โดยก่อนหน้านี้ ทั้งสองบริษัทได้ตั้งโครงการสนับสนุนเงินทุนแก่สำนักข่าวที่ได้รับผลกระทบทางรายได้เพราะโรคระบาดแล้ว
ที่มา - ABC |
# Twitch มียอดสตรีมเกมช่วงไวรัสระบาดรวมกันถึง 2 พันล้านชั่วโมงแล้ว
ช่วงไวรัสระบาด หลายๆ คนอาจจะอยู่บ้าน ประชุมงานผ่านกล้อง จนเกือบผันตัวเองเป็นสตรีมเมอร์ไปแล้ว ซึ่งชาว Twitch ก็กำลังทำแบบนั้นจริงๆ เพราะตั้งแต่สิ้นเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา คนกว่า 5 ล้านคน สตรีมเกมไปแล้วกว่า 2 พันล้านชั่วโมง หรือคิดเป็น 230,000 ปีเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยอดผู้ชมในช่วงเดียวก็เพิ่มขึ้นจาก 1.1 ล้านคนในปีที่แล้ว เป็น 2.8 ล้านคนในปีนี้ และเป็นผู้ชมที่ดูเกมหลากหลาย ทั้งดุเดือดเลือดพล่านอย่าง Doom: Eternal ไปจนถึงเกมฟุตบอลอย่าง FIFA 20 และ เกมน่ารักๆ อย่าง Animal Crossing: New Horizons
ปีที่แล้ว Tiwtch พยายามเจาะกลุ่มคนดูกีฬา เพราะสำรวจกลุ่มคนดูแล้วพบว่าคนที่ชอบดูเกม ส่วนใหญ่ชอบดูกีฬาเช่นกัน และเมื่อมีวิกฤต COVID-19 ที่ทำให้การแข่งขันกีฬาถูกยกเลิก คนดูเลยหันมาดูกีฬาอีสปอร์ตกันมากขึ้น แม้แต่ช่องกีฬากระแสหลักในสหรัฐอย่าง ESPN2 ก็หันมาถ่ายทอดกีฬาอีสปอร์ตเช่นกัน
นอกจากนี้ฐานคนดูเกมของ Twitch ก็ยังเหนียวแน่น ล่าสุด Riot Games ผู้สร้าง League of Legends เปิดตัวเบต้าของเกม FPS แนวฮีโร่ชู้ตเตอร์เกมใหม่ Valorant ก็มียอดคนดูสตรีมเมอร์ทุกคนรวมกันถึง 34 ล้านชั่วโมงภายในวันเดียว และมีจำนวนคนดูสตรีมกว่าครึ่งล้านคนต่อวัน กลายเป็นเกมยอดนิยมบนแพลตฟอร์มไปโดยปริยาย
คงต้องมาติดตามกันต่อไปว่าหลังสถานการณ์กลับเป็นปกติ ช่องทางสตรีมมิ่งจะมีความนิยมเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน หรือจะเป็นเพียงกระแสที่เพิ่มขึ้นมาชั่วคราวเพราะกีฬาถูกงด และผู้คนไม่มีอะไรทำเท่านั้น
ที่มา - Quartz |
# Bill Gates ตกเป็นเหยื่อทฤษฎีสมคบคิด ว่าเป็นต้นเหตุของ COVID-19
ที่ผ่านมาเราเห็นแต่ข่าวปลอมทฤษฎีสมคบคิดในยุโรปว่าเสา 5G เป็นสื่อกลางกระจาย COVID-19 อย่างในอังกฤษและเนเธอร์แลนด์
ทว่าข้อมูลล่าสุดที่ The New York Times รายงานอ้างอิงข้อมูลที่บริษัทวิจัยสื่อ Zignal Labs รวบรวมซึ่งชี้ว่า Bill Gates กลายเป็นเหยื่อเบอร์ 1 ของทฤษฎีสมคบคิดแซงหน้ากรณีของเสา 5G โดยโจมตีว่าผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์เป็นต้นตอและเป็นคนปล่อยเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จากจำนวนเฟซบุ๊กโพสต์กว่า 16,000 โพสต์, ได้ไลค์และคอมเมนท์ 900,000 ครั้งและคลิป YouTube 10 อันดับแรกที่ปล่อยข่าวปลอมเกี่ยวกับ Gates มียอดวิวรวมกันกว่า 5 ล้านครั้ง
แน่นอนว่าสาเหตุก็หนีไม่พ้นการที่ Bill Gates ไปพูดในงาน TED Talk เมื่อปี 2015 ที่เตือนเรื่องการระบาดของไวรัสที่ถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่ง The New York Times ระบุว่ากลุ่ม anti-vaxxers (กลุ่มต่อต้านวัคซีน), ฝ่ายขวาจัดและกลุ่ม QANon กลุ่มทฤษฎีสมคบคิดอ้างว่าคลิป TED Talk ดังกล่าวคือหลักฐานว่า Gates เป็นต้นเหตุของไวรัสและต้องการควบคุมระบบสาธารณสุขโลก
ที่มา - The New York Times |
# เฟซบุ๊กเตรียมเปิดตัวแอป Facebook Gaming แพลตฟอร์มสตรีมเกมบนสมาร์ทโฟน
The New York Times รายงานว่าได้ข้อมูลมาจากเฟซบุ๊กว่าบริษัทเตรียมจะเปิดตัวแอป Facebook Gaming ในวันจันทร์นี้ตามเวลาในสหรัฐ (คืนนี้หรือพรุ่งนี้บ้านเรา) บนแอนดรอยด์และ iOS
ตัวแอปจะออกมาลักษณะเดียวกับ YouTube Gaming ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ ทั้งการสร้างคอนเทนท์และรับชมการสตรีมเกม รวมถึงมีเกมง่าย ๆ ขนาดเล็กให้เล่นและคอมมิวนิตี้เกมภายในตัว โดยแผนเดิมของเฟซบุ๊กคือจะออกแอปนี้ในช่วงเดือนมิถุนายน แต่โรคระบาดที่ทำให้คนอยู่บ้านกันหมดกลายเป็นตัวเร่งให้เฟซบุ๊กรีบออกแอปมาตอบโจทย์กลุ่มคนเหล่านี้
ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเฟซบุ๊กค่อนข้างจริงจังกับการเป็นแพลตฟอร์มสตรีมเกม เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งจาก Twitch และ YouTube โดยเฟซบุ๊กยืนยันว่า Facebook Gaming จะไม่มีโฆษณา จุดประสงค์คือต้องการสร้างการรับรู้และดึงคนมาใช้งานก่อน แล้วค่อยหาทางทำเงินอีกที
ที่มา - The New Yorkt Times |
# Raspberry Pi 4 ขายดีช่วงคนอยู่บ้าน ผู้ดูแลโครงการชี้คนซื้อไปใช้เป็นพีซีจริงๆ
Raspberry Pi Foundation มูลนิธิผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์ Raspberry Pi รายงานยอดขายรวมเดือนมีนาคม ว่าอยู่ที่ 640,000 เครื่อง นับเป็นยอดขายรายเดือนสูงสุดอันดับสองนับแต่เริ่มโครงการมา โดย Eben Upton ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการระบุว่าคนซื้อนั้นนำไปใช้เป็นคอมพิวเตอร์ประจำวันจริงๆ
เขาระบุว่าช่วงเวลาที่หลายคนทำงานที่บ้านทำให้คอมพิวเตอร์ในบ้านไม่เพียงพอ จากเดิมที่หลายบ้านอาจจะมีคอมพิวเตอร์กลางบ้านไว้แบ่งกัน แต่เมื่อทุกคนต้องใช้งานพร้อมกันก็ต้องหาทางออกให้มีคอมพิวเตอร์พอใช้งาน
Upton ระบุว่ายอดขาย Raspberry Pi ฝั่งอุตสาหกรรมนั่นค่อนข้างคงที่ ขณะที่ Raspberry Pi เติบโตขึ้นจนต้องเร่งกำลังผลิตเต็มอัตรา (เขาเทียบว่าเหมือนบิดเร่งจากเบอร์ 4 ไปเบอร์ 10) และระบุว่ายอดขายนี้แสดงให้เห็นว่า Raspberry Pi เป็นคอมพิวเตอร์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่แม้จะเล่นเกมแรงๆ ไม่ได้แต่ก็เพียงพอสำหรับการเช็คอีเมลหรือทำงานเอกสาร
ที่มา - Tech Republic |
# Rt.live ผลงานใหม่สองผู้ก่อตั้ง Instagram เว็บไซต์รายงานสถิติการกระจาย COVID-19
Kevin Systrom และ Mike Krieger สองผู้ก่อตั้ง Instagram ที่ลาออกจากบริษัทไปเมื่อปี 2018 เปิดตัวผลงานใหม่ Rt.live เว็บไซต์เฉพาะกิจสำหรับรายงานสถิติ COVID-19 ในสหรัฐอเมริกา
เว็บไซต์ Rt.live เป็นการรายงานค่า Rt ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยว่าคนที่ติดไวรัส 1 คนจะแพร่กระจายไปยังคนอื่นๆ ได้อีกกี่คน (ค่าน้อยกว่า 1 แปลว่ากระจายช้า มากกว่า 1 แปลว่ากระจายเร็ว) โดยเว็บไซต์นี้รายงานค่า Rt แยกตามแต่ละรัฐของสหรัฐ โดยแสดงกราฟการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวันด้วย
ข้อมูลล่าสุดขณะที่เขียน รัฐที่มีค่า Rt มากที่สุดคือ North Dakota (1.7) ส่วนรัฐที่มีค่าน้อยที่สุดคือ Connecticut (0.42) โดยแนวโน้มของทุกรัฐมีค่า Rt ลดลงในภาพรวม แต่ก็มีบางรัฐที่ค่าดีดกลับขึ้นมาบ้าง
เครดิตท้ายหน้าเว็บ Rt.live ระบุว่า Kevin Systrom เป็นคนวิเคราะห์ข้อมูล ส่วน Mike Krieger เป็นคนเขียนโค้ด ส่วนวิธีการคำนวณค่า Rt เปิดให้ดาวน์โหลดไปลองทำตามกันได้
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Kevin Systrom โพสต์เปิดตัวเว็บไซต์นี้บน Twitter ไม่ใช่ทั้งบน Instagram และ Facebook
ที่มา - TechCrunch |
# ความรักชนะทุกอย่าง นิวยอร์กออกกฎขอใบอนุญาตแต่งงานและจัดงานผ่านแอปประชุมได้
นิวยอร์ก หนึ่งในเมืองที่ได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19 ระบาดหนักที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนกิจกรรมและสถานที่ต่างๆ ต้องหยุดชะงัก ล่าสุด ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก Andrew Cuomo เผยว่านิวยอร์กได้ออกกฎใหม่ให้สามารถยื่นขอใบอนุญาตแต่งงานและจัดพิธีแต่งงานผ่านแอปประชุมได้
การจัดงานแต่งงานผ่าน Zoom หรือ #ZoomWeddings เชิญญาติและเพื่อนๆ เข้ามาเป็นสักขีพยาน กำลังเป็นที่นิยมในช่วงโรคระบาดนี้ ซึ่งนิวยอร์กได้ออกกฎให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยไม่ได้ระบุว่าต้องใช้แอปประชุมแอปใดแอปหนึ่งในการยื่นขอและส่งเอกสารแต่งงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ภาพโดย Jeremy Wong จาก Stocksnap.io
ที่มา - The Verge, governor.ny.go |
# Windows Notepad เปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Microsoft Store แล้ว แต่ยังจำกัดเฉพาะ Insider
ไมโครซอฟท์ประกาศนำ Notepad ขึ้น Microsoft Store ตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วเงียบหายไปนาน ตอนนี้แอพเปิดให้ดาวน์โหลดแล้วในชื่อ Windows Notepad (มาพร้อมไอคอนใหม่ด้วย)
Windows Notepad เวอร์ชันนี้จำเป็นต้องใช้กับ Windows 10 Insider Build 19541 ขึ้นไป (เป็นกลุ่ม Fast Ring ที่ไม่ใช่ Windows 10 v2004 ที่จะออกในเร็วๆ นี้ด้วย) ส่วนของใหม่ก็คือฟีเจอร์ที่ประกาศไปแล้ว เช่น ปุ่มลัดขยายฟอนต์, ปุ่มลัดเปิดหน้าต่างใหม่ เป็นต้น
แนวทางช่วงหลังของไมโครซอฟท์คือผลักดันแอพหลายตัวขึ้น Store เพื่อให้อัพเดตเวอร์ชันใหม่ได้ง่าย กรณีก่อนหน้านี้คือ Windows Calculator
ที่มา - MSpoweruser |
# SpaceX เตรียมส่งนักบินอวกาศ 2 คนไปกับยาน Crew Dragon ครั้งแรก 27 พฤษภาคม นี้
หลังจากที่ SpaceX ได้ทดสอบส่งแคปซูล Crew Dragon เป็นขั้นสุดท้ายก่อนที่จะส่งนักบินอวกาศจริงขึ้นไป ทาง NASA ได้กำหนดวันให้ SpaceX เตรียมส่งนักบินอวกาศ 2 คนไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ในวันที่ 27 พฤษภาคม นี้ ซึ่งจะนับเป็นครั้งแรกที่ได้ส่งนักบินอวกาศจากผืนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา หลังจากที่โครงการกระสวยอากาศยุติลงไปเมื่อปี 2011
ตั้งแต่ที่ NASA ได้เลือก SpaceX ให้เป็นเป็นผู้พัฒนายานอวกาศสำหรับเชิงพานิชย์ เพื่อต้องการลดค่าใช้จ่ายในการส่งลูกเรือไปสถานีอวกาศนานาชาติให้น้อยลง SpaceX ได้ทำการส่งยาน Dragon ที่ขนส่งไปแต่สัมภาระเท่านั้น และพัฒนามาเรื่อย ๆ จนสามารถสร้างความมั่นใจได้ว่าการส่งลูกเรือจะไม่มีปัญหา
ภาพจาก SpaceX - Bob Behnken กับ Doug Hurley จากซ้ายไปขวา
สองนักบินอวกาศ NASA ที่ได้รับเลือกให้บินไปกับ Crew Dragon ครั้งแรกนี้คือ Bob Behnken เป็นผู้บัญชาการและ Doug Hurley โดยยาน Crew Dragon จะขับเคลื่อนด้วยจรวด Falcon 9 ที่ฐานปล่อยประวัติศาสตร์ Complex 39A ที่ศูนย์อวกาศเคเนดี้
ที่มา - The Verge |
# แนะนำ Netflix Party ส่วนขยายบน Chrome ชวนเพื่อนดูหนัง/ซีรีส์พร้อมกันแบบออนไลน์
Netflix Party เป็นส่วนขยายของเบราว์เซอร์ Chrome บนพีซี ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถชวนเพื่อนมารับชมหนังและซีรีส์ไปพร้อมๆ กันแบบออนไลน์ เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้านเป็นอย่างมาก
โดย Netflix Party จะเป็นตัวช่วยซิงก์การเล่นวิดีโอ Netflix ของทุกคนที่เข้าร่วมกลุ่มให้ตรงกัน การหยุดหรือการกรอวิดีโอจะมีผลกับทุกๆ คนในกลุ่ม ดังนั้นภาพที่แสดงอยู่บนคอมพิวเตอร์ของแต่ละคนจึงจะเป็นภาพเดียวกันเสมอ เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนนั่งดูอยู่ด้วยกัน ไม่เพียงแค่นั้น Netflix Party ยังมาพร้อมกับช่องแชทให้คุยกันระหว่างกำลังรับชมหนังอีกด้วย
ภาพตัวอย่างการใช้งาน Netflix Party
วิธีการใช้งานสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าภาพ (host)
ดาวน์โหลดส่วนขยาย Netflix Party บน Chrome
เปิด Netflix บน Chrome แล้วเปิดเล่นวิดีโอ
ไอคอนส่วนขยาย Netflix Party (อยู่ด้านขวาบนข้างแถบ address bar) จะเปลี่ยนจากสีเทาเป็นสีแดง ให้คลิกที่ไอคอน
หน้าต่าง "Create a Netflix Party" จะปรากฏขึ้นผู้ใช้จะสามารถเลือกให้ตัวเองสามารถควบคุมการเล่นวิดีโอได้คนเดียว (Only I have control) หรือจะปล่อยให้ทุกๆ คนควบคุมได้ จากนั้นให้คลิกที่ "Start the party"
หน้าต่างใหม่จะปรากฏขึ้นพร้อมกับลิงก์ ให้ผู้ใช้ "Copy URL" เพื่อส่งต่อให้กับเพื่อน
วิธีการใช้งานสำหรับผู้เข้าร่วม
ดาวน์โหลดส่วนขยาย Netflix Party บน Chrome
คลิกเปิดลิงก์ที่ได้รับมา
คลิกที่ไอคอน Netflix Party
ทั้งนี้เนื่องจากส่วนขยาย Netflix Party ทำหน้าที่เป็นแค่ตัวช่วยซิงก์การเล่นวิดีโอเท่านั้น ดังนั้นทุกคนในกลุ่ม Netflix Party ยังคงต้องมี account Netflix ของตัวเองต่างหากนะครับ
ที่มา - The Verge, MSPoweruser |
# HP อัพเกรดโน้ตบุ๊ก Envy รุ่นปี 2020 ขอบจอบางแบบ Spectre มีทั้งรุ่น Intel/Ryzen
สัปดาห์ที่แล้ว HP อัพเดตโน้ตบุ๊กคอนซูเมอร์ระดับกลางแบรนด์ Envy ทั้งซีรีส์ โดยใช้ดีไซน์ขอบจอบางแบบใหม่ ตามแนวทางของโน้ตบุ๊กเกรดพรีเมียม HP Spectre เวอร์ชันปี 2020 ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี
HP Envy โน้ตบุ๊กกลุ่มฝาพับมาตรฐาน มี 3 ขนาดหน้าจอคือ Envy 13, Envy 15, Envy 17 ทั้งสามรุ่นใช้ดีไซน์ขอบจอบาง (หน้าจอคิดเป็นสัดส่วน 88% ของบอดี้), ซีพียู Intel Core 10th Gen, จีพียูเลือกใส่ NVIDIA GeForce MX330 ได้, หน้าจอเลือกสเปกได้สูงสุดเป็น 4K UHD, รองรับ Wi-Fi 6
กรณีของ HP Envy 15 ที่เป็นพระเอกของซีรีส์ ยังสามารถอัพเกรดเป็นจอ 4K OLED 100% DCI-P3, ซีพียูสูงสุด Core i9 10th Gen Series H ตัวใหม่ล่าสุด, จีพียู GeForce RTX 2060 Max-Q และแรมสูงสุด 32GB ด้วย
HP Envy 13 เริ่มขายต้นเดือนพฤษภาคม ราคาเริ่มต้น 999.99 ดอลลาร์
HP Envy 15 เริ่มขายเดือนมิถุนายน ราคาเริ่มต้น 1,349.99 ดอลลาร์
HP Envy 17 เริ่มวางขายแล้ว ราคาเริ่มต้น 1,099.99 ดอลลาร์
HP Envy 15
HP Envy 13
โน้ตบุ๊กสายพับจอได้ HP Envy x360 มีสองขนาดหน้าจอคือ HP Envy x360 13 และ HP Envy x360 15 ใช้ดีไซน์แบบใหม่เช่นกัน จุดต่างคือมีซีพียู AMD Ryzen Mobile 4000 ด้วย (รุ่นฝาพับปกติมีแต่อินเทล)
HP Envy x360 13 มีเฉพาะซีพียู Ryzen และจีพียู Radeon ออนบอร์ด ราคาเริ่มต้น 699.99 ดอลลาร์ มีสีดำสีเดียว
HP Envy x360 15 เลือกได้ระหว่างคู่ Intel Core 10th Gen + GeForce MX330 (ราคาเริ่มต้น 849.99 ดอลลาร์) หรือ Ryzen + Radeon (ราคาเริ่มต้น 699.99 ดอลลาร์) มีสีดำและสีเงิน
ที่มา - HP |
# Apple แจกข้อมูลวิธีผลิต Face Shield ที่ออกแบบไว้ ให้โรงงานไปใช้ต่อได้เลย
ก่อนหน้านี้แอปเปิลประกาศว่าได้ผลิตและแจกเฟซชิลด์ให้บุคลากรทางการแพทย์ สัปดาห์ละ 1 ล้านชิ้น พร้อมเพิ่มข้อมูลหน้าเว็บของแอปเปิลสำหรับขั้นตอนการใช้งาน คราวนี้แอปเปิลแจกวิธีการผลิตให้เลยสำหรับโรงงาน
โดยแอปเปิลได้เพิ่มข้อมูลในเว็บ รายละเอียดการผลิตเฟซชิลด์ แบบเดียวกับที่แอปเปิลผลิตแจก ซึ่งข้อมูลมีทั้งวัสดุ ขนาด เครื่องจักรที่ต้องใช้ ขั้นตอนการผลิต การตรวจสอบ และไฟล์การออกแบบที่จำเป็นทั้งหมด
แอปเปิลระบุในตอนต้นของเนื้อหาว่าการผลิตนี้ ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ และโรงงานที่มีประสบการณ์เท่านั้น รายละเอียดทั้งหมดดูได้ที่นี่
ที่มา: MacRumors |
# ก้าวข้ามกำแพงแพลตฟอร์ม Netflix เปิดสารคดี 34 ตอนให้ดูบน YouTube ฟรี
Netflix อัพโหลดสารคดี 34 ตอนจากหลายซีรีส์ เช่น Our Planet, 13TH, Explained ให้ดูบน YouTube ได้ฟรี โดยเป็นมาตรการเพื่อให้ครูที่เคยเปิดสารคดีให้นักเรียนดูในห้องเรียน ได้ส่งลิงก์ให้นักเรียนไปดูแทน
ก่อนหน้านี้ Netflix เคยประกาศอนุญาตให้สถาบันการศึกษาสามารถฉายสารคดีในห้องเรียนได้โดยไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า โดยมีข้อจำกัดว่าต้องฉายไม่เกินเทอมละครั้ง และต้องไม่เป็นการหาทุนหรือเงินบริจาคใดๆ แต่ช่วง COVID-19 นี้ทำให้ครูสั่งให้นักเรียนหาสารคดีมาดูได้เองลำบากขึ้น การเปิดให้ชมบน YouTube จึงทำให้นักเรียนทุกคนดูสารคดีเรื่องเดียวกันได้ง่ายกว่า
นอกจากการอัพโหลดสารคดีขึ้น YouTube แล้ว ทาง Netflix ยังเพิ่มเอกสารประกอบการเรียน ตัวอย่างคำถามสำหรับการพูดคุยในห้องเรียน และเอกสารเพิ่มเติมจากแหล่งอื่น ไว้บนเว็บ Netflix เอง
ที่มา - Netflix |
# OnePlus ออกคลิปโฆษณา OnePlus 8 ที่เล่นโดย Robert Downey Jr.
OnePlus ออกคลิปโฆษณามือถือรุ่นใหม่ OnePlus 8 Series ที่ได้นักแสดงชื่อดัง Robert Downey Jr. มาแสดงนำ
คลิปนี้ชูจุดเด่นของ OnePlus 8 สีเขียว Glacial Green (และสูทของ Robert ที่เข้าชุดกัน), กันน้ำ IP68, หน้าจอ 120Hz และการเชื่อมต่อ 5G
อย่างไรก็ตาม คลิปนี้โฆษณาเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น (Robert เองก็ไม่ได้โพสต์คลิปนี้ผ่านโซเชียลของเขาด้วย) คลิปเวอร์ชันที่ดูได้บน YouTube เป็นเวอร์ชันที่มีคนอัพโหลดมาอีกที ภาพอาจไม่ชัดเท่าที่ควร
Robert Downey Jr. เป็นพรีเซนเตอร์ให้ OnePlus มาตั้งแต่ OnePlus 7
ที่มา - 9to5google |
# ไมโครซอฟท์ออกแอพ Bing Wallpaper ให้เปลี่ยนภาพพื้นหลังเดสก์ท็อปตาม Bing
Bing มีชื่อเสียงมานานเรื่องภาพถ่ายสวยๆ ที่เปลี่ยนใหม่ทุกวัน แต่ในอดีตการนำภาพจาก Bing มาใช้งานก็ไม่ง่ายนัก ถ้าไม่เซฟด้วยมือเอาเอง ก็อาจต้องใช้ผ่านฟีเจอร์ของ Windows 10 อย่าง Windows Spotlight (ที่เปลี่ยนได้เฉพาะพื้นหลังหน้า lockscreen) เท่านั้น
ไม่รู้ว่าจู่ๆ ไมโครซอฟท์เกิดคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงออกแอพชื่อ Bing Wallpaper อย่างเป็นทางการมาให้เราใช้กันสักที
แอพตัวนี้ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งด้วยไฟล์ .exe แบบดั้งเดิม (ทำไมไม่ขึ้น Microsoft Store ก็ยังเป็นปริศนาเช่นกัน) จากนั้นเราจะได้ภาพพื้นหลังของเดสก์ท็อปที่เปลี่ยนใหม่ทุกวัน พร้อมปุ่มกดแสดงดูข้อมูลของภาพว่าถ่ายที่ไหน แบบเดียวกับ Bing เวอร์ชันเว็บด้วย
ที่มา - Microsoft via MSpoweruser |
# ซีพียู Ryzen รุ่นที่ 4 แกน Zen 3 บนเดสก์ท็อปจะยังรองรับซ็อกเก็ต AM4 ชิปเซ็ต B450
XMG แบรนด์เกมมิ่งสัญชาติเยอรมนีโพสต์กระทู้บน Reddit เกี่ยวกับ XMG Apex 15 เกมมิ่งแล็บท็อปตัวใหม่ ซึ่งที่น่าสนใจคือ XMG ยืนยันว่าซีพียู Ryzen 4000 หรือ Ryzen รุ่นที่ 4 ที่ใช้แกน Zen 3 บนเดสก์ท็อป จะยังคงรองรับซ็อกเก็ต AM4 และชิปเซ็ต B450 อยู่เหมือนเดิม
ด้วยความที่ XMG Apex 15 ใช้ Ryzen 3000 บนเมนบอร์ดชิปเซ็ต B450 และสามารถเปลี่ยนซีพียูได้ XMG เลยเสริมด้วยว่าเมนบอร์ดชิปเซ็ต B450 จะรองรับ Ryzen 4000 ได้ด้วยแค่อัพเดต microcode เท่านั้น และหาก B450 รองรับ X470 และ X570 ก็น่าจะรองรับด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนตัวค่อนข้างเซอร์ไพร์ส เพราะตอนแรกคาดว่า AMD จะออกซ็อกเก็ตใหม่สำหรับ Ryzen 4000 หลัง AM4 ถูกเปิดตัวและใช้งานมาตั้งแต่ปี 2017 ที่ออกซีพียูแกน Zen รุ่นแรก
ที่มา - Reddit via Notebookcheck
ภาพจาก AMD |
# หลุดภาพ Google Card บัตรเดบิตจาก Google ใช้ผูกบัญชีธนาคาร จัดการทุกอย่างผ่านแอป
เว็บไซต์ TechCrunch ได้รับข้อมูลหลุดภาพ Google Card ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บัตรเดบิตจาก Google พร้อมรายละเอียดส่วนหนึ่งเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกหลายประการ ซึ่งตอนนี้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
แหล่งข่าวของ TechCrunch ระบุว่า บัตรเดบิตของ Google หรือ Google Card จะมีให้ทั้งบัตรจริงและบัตรเสมือนสำหรับใช้งานในแอป ตัวบัตรจะผูกกับบัญชีเงินฝากและใช้ซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือหรือออนไลน์ พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับแอปที่ให้ผู้ใช้ทำรายการเบื้องต้น เช่น ตรวจสอบธุรกรรมย้อนหลัง, เช็คยอดเงินคงเหลือ หรือล็อกบัญชีได้
สำหรับในสหรัฐฯ มีรายงานว่า Google จะร่วมมือกับสถาบันการเงินหลายแห่ง โดยรายชื่อที่ออกมาคร่าว ๆ ก็มี Citi และ Stanford Federal Credit Union รวมอยู่ด้วย
สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้า Google ออกบัตรเดบิตมาจริง ทางบริษัทก็จะปลดล็อกโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินอีกจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจนำไปใช้ในการปรับปรุงแคมเปญโฆษณาได้ (ขึ้นกับนโยบายความเป็นส่วนตัวที่จะออกมาในอนาคตด้วย)
ที่มา - TechCrunch |
# Xbox One X ออกเครื่องลายพิเศษ Cyberpunk 2077 Limited Edition
มีคลิป Xbox One X ลายพิเศษ Cyberpunk 2077 Limited Edition ออกมาก่อนกำหนด ฮาร์ดแวร์รุ่นนี้ตกแต่งด้วยโทนสีเหลืองตามเกม Cyberpunk 2077 พร้อมตัวหนังสือ "No Future" ที่จะมองเห็นในที่มืดเท่านั้น ตัวคอนโทรลเลอร์ยังใช้โทนสีขาวดำให้เข้าชุดกันด้วย
Xbox One X Cyberpunk 2077 Limited Edition จะวางขายช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนเกม Cyberpunk 2077 ที่จะวางขาย 17 กันยายน เป็นเวลานาน 3 เดือน ตัวเครื่องจะแถมเกม Cyberpunk 2077 แบบดิจิทัลมาให้ดาวน์โหลดเมื่อเกมออกด้วย
ก่อนหน้านี้ CD Projekt Red ต้นสังกัดเคยออกจีพียูรุ่นพิเศษกับ NVIDIA มาก่อนแล้ว และเคยประกาศเอาไว้ว่าคนที่ซื้อเกมเวอร์ชัน Xbox One X จะได้เกมเวอร์ชัน Xbox Series X ด้วยเลย
ที่มา - IGN |
# 5 จุดเด่นของ HUAWEI P40 Series ที่เก่งเหนือใคร
เปิดตัวกันไปแล้วอย่างเป็นทางการในประเทศไทย กับสมาร์ทโฟนเรือธงของหัวเว่ย HUAWEI P40 Series ที่มาบุกตลาดด้วยกัน 2 รุ่น คือ HUAWEI P40 Pro และ HUAWEI P40
สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากตระกูล P กลับมาเขย่าวงการถ่ายภาพเหมือนเช่นเคย ด้วยกล้องสมาร์ทโฟนสุดล้ำเทียบชั้นกล้อง DSLR พร้อมพัฒนาฟังก์ชันและฟีเจอร์หลัก 5 อย่าง ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้อย่างครบถ้วนทุกมิติ ภายใต้คอนเซ็ปท์ Visionary
ยืนหนึ่งเรื่องกล้องสมาร์ทโฟน รั้งตำแหน่งแชมป์จากการจัดอันดับของ DXOMark
เว็บไซต์รีวิวกล้องสมาร์ทโฟนและกล้องดิจิทัลชื่อดังของอังกฤษ DXOMark ที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือจากคนในวงการถ่ายภาพทั่วโลก ได้เผยผลการจัดอันดับกล้องสมาร์ทโฟนล่าสุด ซึ่ง HUAWEI P40 Pro ได้รับคะแนนสูงในทุกด้าน ทั้งการถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ไปจนถึงการถ่ายภาพและวิดีโอเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า ทั้งยังโดดเด่นด้านการเก็บภาพระยะไกล ด้วยฟีเจอร์การซูมที่ยังคงรายละเอียดต่างๆ ในภาพได้อย่างครบถ้วน โฟกัสแม่นยำ และให้ค่าแสงที่เป๊ะ ช่วยให้ภาพสวยเสมือนตาเห็น
ขณะที่ HUAWEI P40 ก็ได้รับคะแนนในระดับที่สูงไล่เลี่ยกัน การันตีความเหนือชั้นด้านการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนแบบฉบับหัวเว่ย บุกเบิกยุค Visionary Photography
ระบบ AI ที่ชาญฉลาด ให้ทุกภาพถ่ายสมบูรณ์แบบ
HUAWEI P40 Series มาพร้อมระบบปฎิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด EMUI 10.1 ที่อัปเกรดการทำงานของ AI ให้อัจฉริยะมากยิ่งขึ้น แนะนำฟีเจอร์ใหม่ HUAWEI Golden Snap ที่จะช่วยจัดการปัญหาการถ่ายภาพที่พบเจอได้บ่อย ไม่ว่าจะการถ่ายภาพหมู่ หรือเมื่อร่วมเฟรมกับเด็กเล็ก ที่มักจะหาจังหวะที่ดีสำหรับทุกคนในภาพยาก
AI Best Moment จะเข้ามาแก้ปัญหานี้ ด้วยการเก็บภาพแบบเคลื่อนไหวก่อนและระหว่างถ่าย เพื่อนำเฟ้นหาช็อตที่ดีที่สุดมานำเสนอให้ผู้ใช้แบบเรียลไทม์ หรือการลบคนที่บังเอิญเดินผ่านมาติดเฟรมได้ด้วย AI Remove Passerby และ AI Remove Reflection ที่จะช่วยตัดแสงสะท้อนที่รบกวนออกจากภาพได้ เช่น เวลาไปพิพิธภัณฑ์ หรือ Windows Shopping ก็สามารถตัดแสงสะท้อนบนกระจกได้ทันทีแบบไม่ต้องพึ่งแอปใดๆ ให้เสียง
ทั้งหมดนี้ไม่ต้องพึ่งพาแอปใดๆ ทั้งยังผสานการทำงานของ AI กับฟังก์ชันต่างๆ ของกล้อง รวมถึงการปรับค่าแสงที่เป็น AI Auto White Balance ให้แสงในภาพสวยโดยไม่ต้องปรับการตั้งค่าหรือแต่งภาพภายหลัง
รองรับการใช้งาน 5G อย่างเต็มรูปแบบทันที
นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง เมื่อ HUAWEI P40 Series มาพร้อมความสามารถในการรองรับคลื่นสัญญาณ 5G ครบถ้วนทุกย่านความถี่และพร้อมให้ใช้งานได้ทันทีหลังแกะกล่อง
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้สมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Series โดดเด่นคือการที่ใช้ชิปเซ็ตทรงพลัง Kirin 990 5G ที่รวมเอาโปรเซสเซอร์และโมเด็มเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การประมวลผล รวมถึงการตอบสนองของเครื่องรวดเร็วฉับไวสอดประสานกับสัญญาณได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ HUAWEI P40 Series 5G ยังเป็นรุ่นแรกที่มีหน้าจอ 90Hz ที่คมชัดระดับ 4K ซึ่งควบคุมการทำงานด้วย AI ที่ใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด
สำหรับสายบันเทิง HUAWEI P40 Series ยังรองรับการแสดงผลกราฟิกขั้นสูง มอบสุดยอดประสบการณ์เกมออนไลน์ ที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟน 4G ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เพราะ 5G มีความเร็วมากกว่าถึง 20 เท่า ให้เหล่าเกมเมอร์สตรีมเกมได้แบบไม่มีสะดุด ทั้งยังสามารถดาวน์โหลดวีดีโอขนาด 4K ลงบนมือถือภายในเวลาไม่กี่วินาที ให้เล่นเกมหรือดูซีรีส์อย่างต่อเนื่องทุกที่ ทุกเวลา
ขณะที่ชาวออฟฟิศที่ต่างต้อง Work From Home กันในช่วงนี้ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่าง HUAWEI P40 Pro และ HUAWEI P40 พลิกเกมด้วยความสามารถรับส่งไฟล์งานได้อย่างรวดเร็ว รองรับการแสดงผลภาพและวิดีโอในระดับ Ultra HD ให้การประชุมหรือทำงานผ่านสมาร์ทดีไวซ์เป็นไปได้
MeeTime เปิดประสบการณ์ video call แบบ Full HD
นอกเหนือจากฟีเจอร์ HUAWEI Golden Snap ที่กล่าวไปข้างต้น ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่แกะกล่องที่มีเฉพาะหัวเว่ยเท่านั้น MeeTime ฟีเจอร์ video call ที่จะมอบประสบการณ์การสื่อสารระดับ Full HD ที่ใช้ประโยชน์จากเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดของ 5G ทำให้พูดคุยผ่านวิดีโอด้วยภาพและเสียงที่คมชัด แม้ในที่แสงสลัวหรือจุดอับสัญญาณ ทั้งยังสามารถแชร์จอ หรือโน๊ตให้อีกฝ่ายระหว่างคุยงานได้เลย
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ HUAWEI Share ที่อำนวยความสะดวกในการแชร์ไฟล์หรือหน้าจอจากสมาร์ทโฟนสู่แล็ปท็อป หรือดีไวซ์ต่างๆ ของหัวเว่ยที่รองรับได้อย่างรวดเร็ว ให้ผู้ใช้สามารถใช้โปแกรมแล็ปท็อปทำงานบนหน้าจอสมาร์ทโฟนได้ รวมถึงการรับสายและวิดีโอคอล
สะท้อนอัตลักษณ์ผู้ใช้ด้วยการออกแบบดีไซน์เฉพาะตัว
HUAWEI P40 Series 5G สะท้อนตัวตนของผู้ใช้ผ่านดีไซน์อันชาญฉลาด ที่ไม่เพียงสวยงาม แต่ตอบโจทย์ด้านความต้องการและประโยชน์ใช้สอย เช่น หน้าจอ Quad Curve Overflow Display ที่นอกจากจะสวยแล้วยังให้ประสบการณ์ภาพที่ดียิ่งขึ้นและจับได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น
การใช้วัสดุ Refractive Matte ที่ให้เอฟเฟ็คท์แบบเงาสะท้อน แต่มีผิวสัมผัสด้าน ป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ เป็นต้น
นอกจากนี้ HUAWEI P40 Series 5G ครบถ้วนด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน และรองรับ HUAWEI Wireless SuperCharge ที่ให้ชาร์จแบบไร้สายได้อย่างรวดเร็วที่กำลังไฟสูงสุด 40 วัตต์
HUAWEI P40 Pro 5G ราคา 31,990 บาท และ HUAWEI P40 5G ราคา 22,990 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ Silver Frost, Blush Gold และ Deep Sea Blue
เปิดจองสั่งซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 พร้อมโปรโมชันและสิทธิพิเศษมากมายในช่วงเปิดจอง ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 โดยราคาพิเศษพร้อมแพ็คเกจจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ เริ่มต้นที่ 5,490 บาท สำหรับ HUAWEI P40 และ 7,990 บาท สำหรับ HUAWEI P40 Pro
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมหรือพรีออเดอร์ได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/campaign/p40/ หากต้องการทดลองผลิตภัณฑ์ สามารถดูรายชื่อร้านค้าที่มีผลิตภัณฑ์ทดลองได้จากลิงค์นี้: ร้านค้าทีมีสมาร์ทโฟน HUAWEI P40 Series ให้ทดลอง |
# Google Meet อัพเดตใหม่เปิดประชุมได้จาก Gmail โดยตรง, เตรียมเพิ่มแสดงหน้าจอคนคุยสูงสุด 16 คน
Google Meet อัพเดตใหม่ มีปุ่มเปิดการประชุมบนหน้า Gmail อยู่ตรงด้านซ้ายของหน้าจอ ผู้ใช้สามารถกด Start a meeting เพื่อเข้าแอป Google Meet ได้ทันที โดย ปุ่ม Start a meeting จะเริ่มเปิดใช้งานบน Gmail เวอร์ชั่นเว็บไซต์ก่อนจะขยายไปยังแอปมือถือต่อไป
Google Meet ยังระบุด้วยว่า จะอัพเดตให้แสดงหน้าจอคนประชุมพร้อมกันสูงสุด 16 คน และจะเพิ่มคุณภาพวิดีโอในที่แสงน้อย พร้อมทั้งฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนไม่ว่าจะเป็นเสียงจากแป้นพิมพ์ หรือเสียงอื่นๆ เช่น เสียงเปิด-ปิดประตู
ที่มา - 9to5Google, Google |
# Apple Music เวอร์ชันฟังผ่านเว็บ พ้นสถานะเบต้าแล้ว
แอปเปิลอัพเดตบริการ Apple Music เวอร์ชันบนเว็บ โดยออกจากสถานะเบต้าแล้ว หลังจากเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
เมื่อผู้ใช้งานล็อกอินด้วย Apple ID จะแสดงเพลงในไลบรารี่ เพลย์ลิสต์ และเพลงที่แนะนำ เหมือนกับเวลาใช้งานผ่านแอป iOS, Android หรือแอปบน Mac นั่นเอง
Apple Music เวอร์ชันบนเว็บ เหมาะสำหรับผู้สมัครใช้บริการ แต่ต้องการฟังเพลงผ่านระบบปฏิบัติการซึ่งตอนนี้ไม่มีแอปรองรับโดยเฉพาะ อาทิ Windows 10, Linux และ Chrome OS
ไปใช้งานได้ที่ music.apple.com
ที่มา: MacRumors |
# Beats ได้ประธานคนใหม่ Oliver Schusser จาก Apple Music
แอปเปิลมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารส่วนของธุรกิจฮาร์ดแวร์ Beats โดย Luke Wood ประธานคนปัจจุบัน จะลาออกในสิ้นเดือนเมษายนนี้ โดยให้ Oliver Schusser หัวหน้าฝ่าย Apple Music มาขยายความรับผิดชอบเพิ่มเติม
แอปเปิลไม่ได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานว่า Eddy Cue หัวหน้ากลุ่มธุรกิจบริการของแอปเปิล ได้อีเมลแจ้งทีมถึงการเปลี่ยนแปลงนี้
ถึงแม้หัวหน้าฝ่าย Apple Music จะเข้ามาดูแลฮาร์ดแวร์ Beats แต่ Cue ยืนยันว่าแนวทางของแอปเปิล คือให้ Beats ดำเนินธุรกิจเป็นแบรนด์แยกต่อไป
ที่มา: MacRumors |
# Facebook เปิดตัวไอคอน Reaction ตัวใหม่ "Care" ใช้กดแสดงความห่วงใยในยุค COVID-19
Facebook เปิดตัวปุ่ม "reaction" ตัวใหม่ชื่อว่า "Care" ทั้งบนบริการโซเชียลหลัก และ Messenger เพื่อให้คนแสดงความห่วงใยให้กันในยุควิกฤต COVID-19
ตัวบริการโซเชียล Facebook จะได้ไอคอนรูปหน้ายิ้มกอดหัวใจ ส่วน Messenger จะได้ไอคอนหัวใจตามภาพ ไอคอนทั้งสองจะเพิ่มมาเป็นไอคอนตัวที่ 7 จาก reaction เดิมทั้ง 6 แบบที่มีอยู่แล้ว
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Alexandru Voica ผู้บริหารของ Facebook เลือกประกาศข่าวนี้ทางทวิตเตอร์เป็นที่แรก (ขณะที่เขียนข่าวยังไม่เห็นประกาศเรื่องนี้บนช่องทางของ Facebook เอง) |
# แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopify เผยทราฟฟิกพุ่งสูงระดับ Black Friday ทุกวัน ผลจากคนช้อปออนไลน์เยอะขึ้น
Shopify ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับเปิดร้านค้าออนไลน์และหน้าร้านประกาศว่าตอนนี้ทราฟฟิกของแพลตฟอร์มพุ่งสูงมากระดับ Black Friday ในทุก ๆ วัน
Jean Michael Lemieux ซีทีโอของ Shopify โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ว่า หลังจากที่เราได้ช่วยให้ธุรกิจหลายพันแห่งย้ายร้านค้าไปไว้ออนไลน์ แพลตฟอร์มของเราก็มีทราฟฟิกระดับ Black Friday (เทศกาลช้อปปิ้งของตะวันตก) ในทุก ๆ วัน
เหตุผลที่ทราฟฟิกของแพลตฟอร์ม Shopify พุ่งสูงขึ้นมาก เนื่องจากเป็นโซลูชั่นที่นิยมสำหรับร้านค้าในการทำอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะในโซนอเมริกาเหนือ และด้วยสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ประชาชนพยายามหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านและหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเติบโตของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซึ่งแม้ว่าทราฟฟิกจะไม่ได้เป็นบ่งบอกถึงรายได้ทั้งหมด แต่ก็ถือเป็นตัวแปรสำคัญมากของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
การเติบโตของทราฟฟิกนั้นส่งผลบวกต่อราคาหุ้นอย่างชัดเจน โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา หุ้น Shopify พุ่งขึ้นไปแล้วราว 50%
ที่มา - Bloomberg
ภาพประกอบจาก Shopify |
# บริษัทปัญญาประดิษฐ์ Landing.ai สร้างซอฟต์แวร์ตรวจสอบการเว้นระยะห่างทางสังคม, แชร์ขั้นตอนการทำงาน
Landing.ai บริษัทปัญญาประดิษฐ์ของ Andrew Ng ที่เน้นทำงานร่วมกับภาคการผลิต เล่าประสบการณ์ที่ได้จากการสร้างซอฟต์แวร์บังคับมาตรการเว้นระยะห่าง โดยอาศัยภาพจากกล้องวงจรปิด
ซอฟต์แวร์ตัวนี้สร้างขึ้นสำหรับลูกค้าของ Landing.ai ที่มักเป็นโรงงานที่ยังต้องเปิดทำการในช่วงนี้ และพนักงานก็มาทำงานในโรงงานตามปกติ แต่บริษัทก็วางมาตรการเว้นระยะห่างในโรงงาน ทาง Landing.ai เข้าไปช่วยสร้างซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ที่ตรวจสอบผู้ฝ่าฝืนมาตรการเว้นระยะห่างนี้
กระบวนการทำงานของซอฟต์แวร์แบ่งออกเป็นสามขั้น คือ
Calibration เป็นการปรับภาพที่อาจจะวางกล้องมุมใดๆ ก็ได้ ให้เสมือนว่าเป็นภาพที่ได้จากมุมมองเหนือหัว (bird's eye view) แทน พร้อมกับประมาณระยะห่างระหว่างจุดต่างๆ ในภาพ จุดนี้ทาง Landing.ai สร้างเครื่องมือให้ผู้ใช้ปรับภาพได้เองโดยง่าย
Detection ตรวจจับคนที่เดินไปมาในภาพ โดยใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์โอเพนซอร์สที่เป็นสถาปัตยกรม Faster R-CNN และปรับแต่งพารามิเตอร์เพิ่มเติม
Measurement ซอฟต์แวร์จะถือว่าจุดกึ่งกลางของขอบล่างกรอบที่พบคนเดินถนนจะเป็นจุดที่คนยืนอยู่ เมื่อทำมาคำนวณจากภาพมุมมองเหนือหัวที่ได้จากขั้นตอนแรกก็จะบอกได้ว่าแต่ละคนในภาพยืนห่างกันเพียงใด
โครงการนี้ไม่ใช่โครงการโอเพนซอร์ส แต่ขั้นตอนนอกเหนือจากขั้นตอน Detection ก็ไม่ได้ซับซ้อนเกินไป และโมเดลจับคนเดินถนนก็มีแจกโอเพนซอร์สอยู่จำนวนมาก ทำให้การทำเลียนแบบขั้นตอนเหล่านี้น่าจะไม่ซับซ้อนเกินไปนัก
ทาง Landing.ai ส่งท้ายด้วยการตระหนักว่าการใช้ปัญญาประดิษฐ์ตรวจจับคนเดินเช่นนี้สร้างคำถามต่อการเคารพความเป็นส่วนตัว โดยทาง Landing.ai เตือนให้คนที่จะใช้ระบบแบบเดียวกันทำอย่างโปร่งใสและขออนุญาตโดยให้ข้อมูลครบถ้วน (informed consent)
ที่มา - Landing.ai |
# Uber แจ้งนักลงทุน ยกเลิกตัวเลขประเมินผลประกอบการที่บอกก่อนหน้านี้ เนื่องจากมี COVID-19 มากระทบ
Uber แจ้งข่าวต่อผู้ลงทุน ว่าบริษัทขอยกเลิกตัวเลขประเมินการดำเนินงานตลอดปี 2020 ที่เคยแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมด ด้วยเหตุผลจาก COVID-19
โดย Uber บอกว่าภาวะโรคระบาดนี้ กระทบต่อทุกอุตสาหกรรมในทุกส่วนทั่วโลก จึงเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ที่จะประเมินผลกระทบต่อตัวเลขทางการเงินบริษัทออกมา
ที่น่าสนใจคือ Uber บอกว่าอาจต้องบันทึกขาดทุนจากการด้อยมูลค่าของสินทรัพย์ลงทุน (Impairment Charge) โดย Uber นั้นมีการลงทุนที่สำคัญได้แก่ Didi, Grab, Yandex Taxi ซึ่งเป็นบริการรถโดยสารในภูมิภาคต่าง ๆ และ Zomato ที่เป็นบริการส่งอาหารในอินเดีย
ที่มา: TechCrunch |
# คณะกรรมาธิการยุโรปออกแนวทางการใช้แอปติดตามผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย COVID-19: เคารพความเป็นส่วนตัว, ไม่บังคับ, ทำงานข้ามประเทศได้
คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission - EC) ออกแนวทางการสร้างระบบติดตามผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย COVID-19 หรือ contact tracing ที่ประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงกูเกิลและแอปเปิลที่กำลังออก API กลางให้ทุกประเทศใช้งานได้
แนวทางการใช้งานแอป contact tracing มีดังนี้
ทำตามกฎหมายปกป้องข้อมูลส่วนบุคคของสหภาพยุโรป
การอิมพลีเมนต์แอปควรเป็นการทำงานร่วมกับองค์กรสาธารณสุข หรือได้รับอนุญาตจากองค์กร
การติดตั้งเป็นไปตามสมัครใจ และแอปยกเลิกการทำงานไปเมื่อหมดความจำเป็น
แอปควรใช้เทคโนโลยีที่รักษาความเป็นส่วนตัว เช่น การติดตามจาก Bluetooth แทนที่จะติดตามจากพิกัด
การติดตามอาศัยข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน และสามารถแจ้งเตือนผู้ที่เข้าใกล้ผู้ป่วยได้ โดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้ติดเชื้อ
แอปควรทำงานได้ทั่วพื้นที่สหภาพยุโรปรวมถึงผู้ที่เดินทางข้ามพรมแดน
ควรยึดแนวปฎิบัติทางระบาดวิทยา, ทำตามแนวทางที่ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และการเข้าถึงได้ (accessibility)
ตัวแอปปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
หลังจากนี้หน่วยงานสาธารณสุขชาติสมาชิกจะประเมินว่าแอปกลุ่มนี้มีประโยชน์ในระดับชาติ และประโยชน์ในการใช้ข้ามพรมแดนมากน้อยเพียงใด และจะเปิดเผยผลสำรวจให้ชาติสมาชิกภายในเดือนพฤษภาคมนี้
ที่มา - European Commission
ภาพจาก PIRO4D/Pixabay |
# Lenovo เปิดตัวเกมมิ่งพีซีแบบทาวเวอร์ Legion Tower 5i และ IdeaCentre Gaming 5i
วันนี้ Lenovo เปิดตัวเกมมิ่งพีซีแบบทาวเวอร์ประกอบสำเร็จอีกสองรุ่น Legion Tower 5i และ IdeaCentre Gaming 5i ที่จัดสเปกได้แบบเน้นๆ
Lenovo Legion Tower 5i ตัวเลือกซีพียู Intel Core และจะมีตัวเลือกซีพียูแบบ AMD ตามมาในอนาคต พร้อมระบบทำความเย็นแบบ Lenovo Legion Coldfront 2.0 ตัวเลือกการ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2080 SUPER
ไฟ LED โทนฟ้าพร้อมตัวเลือกระบบสีแบบ RGB ฝาเครื่องสี Phantom Black มีแผงแบบใสด้านข้างเพื่อโชว์ภายในตัวเครื่อง Lenovo Legion Tower 5i ราคาเริ่มต้นที่ 899.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 29,300 บาท) ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
อีกรุ่นคือ IdeaCentre Gaming 5i ตัวเลือกซีพียู Intel Core และจะมีตัวเลือก AMD Ryzen ช่วงปลายปีนี้มาพร้อมตัวเลือกการ์ดจอสูงสุดที่ NVIDIA GeForce RTX 2060 GPU และรองรับระบบเสียง Dolby Audio
IdeaCentre Gaming 5i ราคาเริ่มต้นที่ 799.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 26,100 บาท) ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์ |
# Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งตระกูล Legion ชุดใหญ่และ Lenovo IdeaPad Gaming 3i
Lenovo เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของโน้ตบุ๊ก Legion 7i และ Legion 5i ที่ใช้ซีพียู Intel 10th Gen รหัส H พร้อมเปิดตัวโน้ตบุ๊กในตระกูล Legion อีก 3 รุ่น และ โน้ตบุ๊ก IdeaPad Gaming 3i
Lenovo Legion 7i สี Slate Grey หน้าจอ Full HD IPS ขนาด 15.6 นิ้ว ความสว่าง 500 nits มาตรฐานสี 100% Adobe sRGB มาตรฐานภาพ VESA DisplayHDR 400 รีเฟรชเรตสูงสุดถึง 240Hz มีตัวเลือกหน้าจอรีเฟรชเรต 144Hz และตัวเลือก NVIDIA G-SYNC รองรับระบบภาพ HDR แบบ Dolby Vision
ซีพียูอัพได้ถึง Intel 10th Gen Core i9 รหัส H ฮาร์ดดิสก์ SSD NVMe อัพได้ถึง 1TB x2 แรม DDR4 อัพได้ถึง 32GB การ์ดจอสูงสุดที่ NVIDIA GeForce RTX 2080 SUPER Max-Q คีย์บอร์ด Lenovo Legion TrueStrike และระบบเสียง Dolby Atmos Speaker
แบตเตอรี่ 80WHr ใช้งานได้ประมาณ 8 ชั่วโมง มีระบบ Rapid Charge Pro ชาร์จได้ 50% ภายในครึ่งชั่วโมง มีระบบระบายความร้อน Lenovo Legion Coldfront 2.0 แบบ Vapor Chamber พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนในตัวเครื่อง 6 ตัว น้ำหนักตัวเครื่องประมาณ 2.2 กิโลกรัม
ราคาเริ่มต้นที่ 1,799 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 58,600 บาท) ยังไม่เปิดเผยราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
Legion 7i
Lenovo Legion 5Pi สี Iron Grey หน้าจอ Full HD IPS ขนาด 15.6 นิ้ว ความสว่าง 500 nits ตัวเลือกรีเฟรชเรตสูงสุด 240Hz มาตรฐานสี 100% Adobe sRGB มาตรฐานภาพ VESA DisplayHDR 400 รองรับระบบภาพ HDR แบบ Dolby Vision
ซีพียู Intel 10th Gen Core รหัส H ฮาร์ดดิสก์ SSD NVMe อัพได้ถึง 1TB x2 แรม DDR4 อัพได้ถึง 32GB ตัวเลือกการ์ดจอสูงสุดที่ NVIDIA GeForce RTX 2060 มาพร้อมคีย์บอร์ด Lenovo Legion TrueStrike และมีระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมลำโพง Harman Kardon
แบตเตอรี่ 80WHr ใช้งานได้ประมาณ 8 ชั่วโมง มีระบบ Rapid Charge Pro ชาร์จได้ 50% ภายในครึ่งชั่วโมง มีระบบระบายความร้อน Lenovo Legion Coldfront 2.0
ราคาเริ่มต้นที่ 1,299.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 42,300 บาท) ยังไม่เปิดเผยราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
Legion 5Pi
Legion 5i ตัวเครื่องสี Phantom Black ใช้ซีพียู 10th Gen Intel Core H-Series ฮาร์ดดิสก์ SSD NVMe อัพได้ถึง 1TB x2 แรม DDR4 อัพได้ถึง 16GB และตัวเลือกการ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2060 หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ IPS 1080 ตัวเลือกรีเฟรชเรทสูงสุดถึง 240Hz มาตรฐานสี 100% sRGB มาตรฐานภาพ VESA DisplayHDR 400 รองรับ Wi-Fi 6 และ Dolby Atmos
เแบตเตอรี่ใช้ได้นาน 8 ชั่วโมง มีเทคโนโลยี Advanced Optimus และ Hybrid Mode เพื่อเปิดปิดการ์ดจอแยก มีระบบชาร์จเร็ว Rapid Charge Pro และระบบระบายความร้อน Lenovo Legion Coldfront 2.0
Lenovo Legion 5i ขนาด 15 นิ้ว เริ่มต้นที่ 849.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 27,650 บาท) และขนาด 17 นิ้ว เริ่มต้นที่ 1,129.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 36,800 บาท) ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ
Legion 5i
Lenovo Legion 5 หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว IPS 1080p ตัวเลือกรีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz มาตรฐาน VESA DisplayHDR 400 มาตรฐานสี 100% sRGB และรองรับภาพ HDR แบบ Dolby Vision
ซีพียู AMD Ryzen 7 4000 H-Series แบบ 8 คอร์ ฮาร์ดดิสก์ SSD NVMe อัพได้ถึง 1TB x2 แรม DDR4 อัพได้ถึง 16GB ตัวเลือกการ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2060
Lenovo Legion 5 ขนาด 15 นิ้ว เริ่มต้นที่ 849.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 27,700 บาท) ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ
Legion 5
Lenovo Legion Y740Si ตัวเลือกหน้าจอสูงสุด 15.6 นิ้ว แบบ IPS 4K (3840 x 2160) มาตรฐาน VESA DisplayHDR 400 รองรับ Dolby Vision และมาตรฐานสี RGB 100% ตัวเลือกซีพียูสูงสุดถึง Intel 10th Gen Intel Core i9 รหัส H ฮาร์ดดิสก์ SSD NVMe อัพได้ถึง 1TB x2 แรม DDR4 อัพได้ถึง 32GB น้ำหนัก 1.7 กิโลกรัม ไม่มีการ์ดจอในตัว แต่สามารถซื้อคู่กับ Lenovo Legion BoostStation เพื่อต่อ eGPU ได้
Legion Y740Si
Lenovo Legion Y740Si ราคาเริ่มต้น 1,199.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 39,100 บาท) และ Lenovo Legion BoostStation ราคา 249.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8,150 บาท) ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ
Legion BoostStation
Lenovo IdeaPad Gaming 3i หน้าจอ 15.6 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz ซีพียู 10th Gen Intel Core i7 H-Series การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti ระบบเสียง Dolby Audio แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมง พร้อมระบบชาร์จเร็ว และ Lenovo Q-Control 3.0 ปรับประสิทธิภาพและความเร็วพัดลมเพื่อยืดเวลาการใช้งาน น้ำหนักตัวเครื่อง 2.2 กิโลกรัม
มี 2 สี คือสีฟ้า Chameleon Blue และ สีดำ Onyx Black เริ่มต้นที่ 729.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 23,800 บาท) ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ
IdeaPad Gaming 3i สี Onyx Black
IdeaPad Gaming 3i สี Chameleon Blue
ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์ |
# ทีมอีสปอร์ต SKT T1 เป็นทีมกีฬาทีมแรกของเกาหลีใต้ที่ได้เซ็นสัญญาสปอนเซอร์กับ BMW
SK Telecom T1 หรือ T1 ทีม esports ชื่อดังของประเทศเกาหลีที่แข่งเกม League of Legends เป็นหลัก เคยได้แชมป์ LCK หรือ League Champions Korea มาถึง 8 ฤดูกาล และปัจจุบันเป็นทีมอันดับ 1 ของ LCK Spring 2020 ตอนนี้กลายเป็นทีมกีฬาทีมแรกในประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้เซ็นสัญญาสปอนเซอร์กับ BMW เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ T1 ยังมีทีมแข่งเกม Fortnite, Apex Legends, PUBG, DOTA, Super Smash Bros. เกมใหม่ที่กำลังจะออกอย่าง Valorant รวมไปถึงเกมการ์ดอย่าง Hearthstone ด้วย
BMW จะมอบรถยนต์รุ่นใหม่เช่น BMW X7 ให้กับสมาชิกในทีม ทั้งในประเทศเกาหลีและนักแข่งต่างประเทศที่สังกัดทีม โดยสมาชิกทีมจะได้ใส่ชุดยูนิฟอร์มที่มีโลโก้ BMW เพื่อเป็นการโปรโมต ทีมงาน SKT T1 กล่าวว่า “BMW จะร่วมพัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีของบริษัทเพื่อส่งเสริมการเติบโตระยะยาวของวงการ esports”
ปีนี้ทีม SKT T1 เซ็นสัญญากับแบรนด์ระดับโลกมากมาย ทั้งบริษัทที่ทำอุปกรณ์เกมมิ่งเช่น Logitech G บริษัทผลิตแรม เช่น Klevv ไปจนถึงบริษัทอุปกรณ์กีฬาอย่าง Nike มียอดสปอนเซอร์ในเดือนเมษาปีนี้ เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ที่มา - The Korea Herald
ภาพจาก BMW Korea |
# ยืนยันแล้ว Crysis: Remastered มาแน่หน้าร้อนนี้ บน PC, PS4, XBOX ONE และ Switch
หลังมีข่าวหลุด เมื่อวานนี้จากทวิตเตอร์ วันนี้เว็บไซต์ Crysis ก็ปรับเป็นเวอร์ชั่น Remastered แล้ว และมีข้อมูลว่าจะลงให้กับเครื่อง PC, PS4, XBOX ONE และครั้งแรกที่ลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch
ตัวเกมจะมี textures แบบ 4K และ HD รันบน Cryengine 5.6,จะเพิ่มเอฟเฟกต์ใหม่ๆ เช่น SSDO (Screen Space Direction Occlusion แสดงการตกกระทบของแสงเงาบนวัตถุแบบสมจริง) แสงและหมอกแบบ volumetric, ray-tracing ในระดับซอฟต์แวร์ parallax occlusion mapping (แสดงรายละเอียดนูนหรือเว้าแหว่งของวัตถุ) particle effects แบบใหม่ และ depth of field ที่ดีขึ้น
Crysis: Remastered วางจำหน่ายช่วงหน้าร้อนของอเมริกา หรือช่วงปลายเดือนมิถุนายน ถึงปลายเดือนกันยายนนี้
ที่มา - Eurogamer |
# กูเกิลเปิดตัว gRPC สำหรับภาษา Kotlin
กูเกิลเปิดตัว gRPC ซึ่งเป็นระบบ remote procedure call (RPC) สำหรับเรียกสั่งงานข้ามเครื่องมาตั้งแต่ปี 2015 และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในสายงานพัฒนาแบบ microservice
gRPC รองรับการใช้งานกับภาษาโปรแกรมยอดนิยมหลายตัว เช่น C#, C++, Java, PHP, Python และล่าสุดกูเกิลก็เปิดตัว gRPC Kotlin/JVM สำหรับภาษา Kotlin ที่กูเกิลกำลังดันสุดตัวเช่นกัน
และในเมื่อกูเกิลทำเองทั้งที ก็ต้องมาแบบครบๆ กูเกิลยังประกาศว่าเราสามารถใช้ gRPC Kotlin กับ Google Cloud Run บริการคลาวด์ serverless ของ Google Cloud Platform ได้ด้วย
ที่มา - GitHub, Google
PanCakes มาสค็อตหมาของโครงการ gRPC (Golden Retriever PanCakes) |
# TikTok ออกฟีเจอร์ให้ผู้ปกครองจำกัดเวลาลูกใช้งาน, ปิด Direct Message ในผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปี
TikTok เตรียมออกฟีเจอร์ Family Pairing ให้ใช้งานทั่วโลก สามารถเชื่อมบัญชี TikTok ของผู้ปกครองและเด็กเข้าไว้ด้วยกัน จำกัดเวลาการเล่น TikTok ของเด็กๆ ได้ไม่ให้เล่นนานเกินไป, จำกัดคอนเทนต์ที่เด็กๆ เข้าดู เพราะไม่ใช่ทุกคลิปที่เหมาะกับเด็ก, จำกัดคนที่จะสามารถส่งข้อความผ่าน Direct Message มาหาเด็กๆ ได้ หรือเลือกจะปิดโหมดนี้ไปเลยก็ได้
TikTok ยังระบุด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน เป็นต้นไป ระบบจะปิดช่องทาง Direct Message สำหรับผู้ใช้งานอายุต่ำกว่า 16 ปี และจะเปิดใช้งานทั่วโลก หลังเปิดให้ใช้งานก่อนหน้านี้ในอังกฤษ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎคุ้มครองข้อมูลในยุโรป
TikTok ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างล้นหลามในช่วงโรคระบาด ล่าสุดมียอดดาวน์โหลดผ่าน Play Store มากกว่า 1,000 ล้านครั้งแล้ว
ที่มา - TikTok, TechCrunch |
# เฟซบุ๊กเตรียมแจ้งเตือนผู้ใช้ที่เคยคลิกข่าวปลอมเกี่ยวกับ COVID-19
เฟซบุ๊กเตรียมส่งการแจ้งเตือนในหน้า News Feed ผู้ใช้ทั้งหมดที่เคยคลิก, ไลค์, หรือคอมเมนต์ในข่าวปลอมที่เกี่ยวกับโรค COVID-19 นับเป็นความพยายามล่าสุดของเฟซบุ๊กที่จะลดข่าวปลอมเกี่ยวกับ COVID-19 ลง
Mark Zuckerberg โพสถึงมาตรการต่างๆ ของเฟซบุ๊กต่อ COVID-19 ว่าการแสดงลิงก์ไปยังหน่วยงานทางการของประเทศต่างๆ ที่ให้ข้อมูลโรค ทำให้คน 350 ล้านคนคลิกเข้าไปอ่านข้อมูลทางการ และกระบวนการตรวจข่าวปลอมผ่านทางหน่วยงานอิสระทำให้เฟซบุ๊กแจ้งเตือนโพสประมาณ 40 ล้านโพส โดยเมื่อโพสใดถูกเฟซบุ๊กแจ้งเตือน 95% ของผู้ที่เห็นโพสจะไม่คลิกเข้าไปอ่าน
โพสที่ถูกพิจารณาว่าเป็นข้อมูลเท็จ (misinformation) จะถูกลดการเผยแพร่ลง อย่างไรก็ดีรายงานการศึกษาข่าวปลอมยังพบบางข่าวหลุดรอดไป กลุ่มศึกษาข้อมูลเท็จออนไลน์ Avaaz รายงานตัวอย่างข่าวว่าไวรัสถูก chlorine dioxide ฆ่าได้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กมองเห็นกว่าสองแสนคน และข่าวบางชิ้นแม้จะถูกแปะป้ายว่ามีข้อมูลเท็จแล้ว ก็ยังมีคนมองเห็นโพสอีกนับล้านครั้ง
ที่มา - Facebook: Mark Zuckerberg, South China Morning Post
ภาพจาก PIRO4D/Pixabay |
# [ลือ] โซนี่จะผลิต PlayStation 5 จำนวนไม่เยอะในช่วงปีแรก คาดดีมานด์จะต่ำ
Bloomberg รายงานอ้างอิงคนวงในเผยว่า PlayStation 5 หลังเปิดตัว จะถูกผลิตในจำนวนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับหลัง PlayStation 4 เปิดตัว เพราะโซนี่คาดว่าดีมานด์จะต่ำ ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากทั้งราคาที่สูงขึ้นและปัญหาโรคระบาด
หลังเปิดตัว PlayStation 4 โซนี่สามารถทำยอดขายได้ 7.5 ล้านเครื่องภายใน 2 ไตรมาสแรก แต่แหล่งข่าวของ Bloomberg ที่อยู่ในสายการผลิตระบุว่า โซนี่สั่งผลิต PlayStation 5 ที่ราว 5-6 ล้านเครื่องเท่านั้น ในช่วงปีงบประมาณ (ที่สิ้นสุดเดือนมีนาคมปีนี้)
แผนการณ์ของโซนี่ในช่วงหลังเปิดตัว PlayStation 5 คือยังคงโปรโมท PlayStation 4 ต่อไปในฐานะตัวเปลี่ยนผ่าน รวมถึงเป็นตัวขายแพลตฟอร์ม PlayStation อย่าง PSN และ PlayStation Now
ที่มา - Bloomberg |
# Nest ลดคุณภาพวิดีโอและลดแบนด์วิธอินเทอร์เน็ตโดยดีฟอลต์
Nest ประกาศลดคุณภาพวิดีโอเพื่อลดปริมาณการใช้แบนด์วิธโดยดีฟอลต์ หลังจากก่อนหน้านี้บริการของ Nest ล่ม ทำให้คาดว่าการลดคุณภาพนี้น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง อย่างไรก็ตามผู้ใช้สามารถปรับคุณภาพวิดีโอให้กลับมาเหมือนได้ด้วยตัวเอง
ที่มา - Android Police |
# Your Phone เพิ่มฟีเจอร์ Drag and Drop ลากไฟล์ข้ามไปมาระหว่างมือถือ-พีซี
ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ให้แอพ Your Phone โดยเราสามารถลากไฟล์จาก Windows ไปใส่หน้าจอ Your Phone เพื่อโอนถ่ายไปยังสมาร์ทโฟน Android ได้ทันที (รวมถึงลากกลับจากสมาร์ทโฟนมายังพีซี)
ฟีเจอร์นี้ยังใช้ได้กับสมาร์ทโฟนของซัมซุง ที่รองรับฟีเจอร์แสดงหน้าจอมือถือ (Phone Screen) ได้แก่ Galaxy S9/Note 9 ขึ้นไป รวมถึงซีรีส์ Galaxy A รุ่นใหม่ๆ สักหน่อยด้วย (รายชื่อทั้งหมด) ส่วนฝั่งพีซีต้องเป็น Windows 10 October 2018 Update ขึ้นไป
ไมโครซอฟท์บอกว่าทยอยเปิดฟีเจอร์กับผู้ใช้ Your Phone ทีละกลุ่ม อาจต้องรอกันสักนิดถึงจะได้ใช้งานกัน
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังประกาศขยายฟีเจอร์ Copy/Paste ข้ามอุปกรณ์ จากเดิมที่ใช้ได้เฉพาะ S20/Z Flip มาสู่ Galaxy S10/Note 10/Fold เพิ่มด้วย
ที่มา - Microsoft |
# Cloudflare ซัพพอร์ต COBOL บนบริการ Workers นำโค้ดขึ้นคลาวด์
หลังจากรัฐนิวเจอร์ซีย์พบปัญหาระบบสวัสดิการรัฐที่ใช้งานมานานไม่สามารถรองรับโหลดที่เพิ่มขึ้นได้ไหวและหาคนมาแก้ไขปัญหายากเพราะโค้ดเป็น COBOL จนกลุ่ม Open Mainframe Project ออกมาเปิดคอร์สสอนโปรแกรมเมอร์ ตอนนี้ฝั่ง Cloudflare ก็ออกมาประกาศซัพพอร์ตการรัน COBOL บนแพลตฟอร์ม Workers
กระบวนการซัพพอร์ต COBOL บน Workers นั้นอาศัยการคอมไพล์ COBOL เป็น WebAssembly ที่ Cloudflare ซัพพอร์ตอยู่แล้ว โดยใช้ GnuCOBOL คอมไพล์โค้ด COBOL เป็น C แล้วค่อยใช้ Emscripten คอมไพล์เป็น WebAssembly อีกครั้ง
ปัญหาระหว่างการซัพพอร์ต เช่น GnuCOBOL นั้นต้องไลบรารี libcob ที่มีขนาดใหญ่เพราะลากเอาไลบรารี GMP (GNU Multiple Precision Arithmetic Library) มาด้วยจนไบนารีใหญ่เกินไป แต่ทาง Cloudflare ก็ใช้ไลบรารี gmp.js ที่มีคนอิมพลีเมนต์ไว้ก่อนแล้วมาแทนที่ได้ โดยตัวคอมไพลเลอร์อยู่บน GitHub
ที่มา - Cloudflare |
# Google Cloud ออกฟีเจอร์อัพเดตแพตช์ให้ VM อัตโนมัติ ใช้ได้ทั้งวินโดวส์-ลินุกซ์
ภาระการอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยของ OS เป็นเรื่องน่าปวดหัวของแอดมินทุกสมัย แม้ย้ายขึ้นมาบนคลาวด์แล้วก็ตาม ล่าสุด Google Cloud เปิดตัวบริการอัพเดตแพตช์ของ OS ใน VM ให้อัตโนมัติ ใช้ได้ทั้ง VM ที่เป็นวินโดวส์และลินุกซ์
ฟีเจอร์นี้มีชื่อเรียกว่า OS patch management service ตอนนี้ใช้ได้กับ Google Compute Engine โดยแอดมินจะเห็นหน้าแดชบอร์ดรายงานสถานะแพตช์ความปลอดภัยของ VM ทั้งหมด และสามารถตั้งค่าการอัพเดตแตช์อัตโนมัติได้ กำหนดเวลาล่วงหน้าได้ด้วย
กูเกิลเปิดให้ใช้ฟีเจอร์นี้ฟรีจนถึงสิ้นปี 2020
ที่มา - Google |
# ไมโครซอฟท์ประกาศ Windows 10 May 2020 Update (v2004) เข้าสถานะ Release Preview
ไมโครซอฟท์ประกาศชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของ Windows 10 v2004 (20H1) ที่ไม่ผิดจากความคาดหมายนักคือ Windows 10 May 2020 Update
ไมโครซอฟท์เพิ่งปล่อย Build 19041.207 เข้ากลุ่มทดสอบ Release Preview และถ้าไม่พบปัญหาใดๆ ก็จะใช้ build นี้ออกเป็นรุ่นเสถียร
ของใหม่ใน May 2020 Update รอบนี้มีมากมาย เช่น Cortana ตัวใหม่, WSL2, DirectX 12 Ultimate, โหมดแท็บเล็ตแบบใหม่, Cloud Reset เป็นต้น (รายการของใหม่ทั้งหมด)
ไมโครซอฟท์ยังไม่ระบุช่วงเวลาที่จะออก May 2020 Update แต่ก็น่าจะเป็นภายในเดือนพฤษภาคมนี้ตามชื่อรุ่น
ที่มา - Microsoft |
# เซ่นไวรัส GoPro ปลดพนักงานออก 200 ราย, ซีอีโอประกาศไม่รับเงินเดือนที่เหลือในปีนี้
GoPro ประกาศว่าเลิกจ้างพนักงาน 200 คนหรือประมาณ 20% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดเนื่องจากพิษโรคระบาด กระทบยอดขาย นอกจากนี้ Nicholas Woodman ซีอีโอก็ประกาศจะไม่รับเงินเดือนในปีนี้
โดย GoPro มีวัตถุประสงค์จะลดค่าใช้จ่าย 100 ล้านเหรียญในปี 2020 ปรับเปลี่ยนธุรกิจเป็นโมเดล direct-to-consumer ลดค่าใช้จ่ายการดำเนินการที่ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักงานและพนักงานในสังกัดให้ได้ 250 ล้านเหรียญภายในปี 2021 แต่ทางบริษัทก็บอกว่าจะเดินหน้าขายสินค้าในร้านที่มีตลาดใหญ่ ที่คนชอบการซื้อออฟไลน์มากกว่า
GoPro บอกด้วยว่า รายได้ไตรมาส 1 ในปีนี้จะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่เคยทำได้ในปี 2019
ที่มา - Engadget |
# Waze แอปนำทางแสดงข้อมูลปิดถนน, จุดแจกจ่ายอาหาร, ร้านอาหารที่ drive-thru เข้าไปได้
Waze บริการแผนที่และนำทางของ Google เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับ COVID-19 ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ เช่น เส้นทางไหนปิด ร้านอาหารไหนเปิดและมีทางเลือกให้ drive-thru เพื่อซื้ออาหารได้ไม่ต้องลงจากรถ หรือเปิดให้คนมาซื้อนำกลับบ้านได้
นอกจากนี้ Waze ยังได้ร่วมมือกับองค์กร WhyHunger และ No Kid Hungry เพื่อระบุจุดแจกจ่ายอาหารในสหรัฐฯกว่า 30,000 จุด และสร้างหน้าเพจให้องค์กร หน่วยงานรัฐที่มีข้อมูลสำคัญหรือมีของอยากจะแจกจ่าย หรือมีจุดตรวจโรค ให้เข้ามาอัพโหลดโลเคชั่นได้ เพื่อที่จะได้แสดงในแอปแผนที่ Waze ต่อไป
ทั้ง Google Maps และ Apple Maps ก็ออกรายงานความหนาแน่นของผู้คนและการสัญจรออกมาเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดการวิกฤต COVID - 19 ซึ่ง Waze ก็ออกรายงานมาด้วยเช่นกัน พบว่าผู้ใช้งาน Waze ขับรถในระยะทางลดลง 60% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ที่มา - Medium, Engadget |
# Google Play เพิ่ม Kids Tab รวมแอปความบันเทิงและการเรียนรู้สำหรับเด็กไว้เรียนที่บ้าน
Google Play เพิ่มหมวดใหม่ในการค้นหาแอปคือ Kids Tab รวมแอปพลิเคชั่นเพื่อความบันเทิงและการเรียนรู้สำหรับเด็กโดยเฉพาะเข้าไว้ด้วยกัน โดยแต่ละแอปจะมีเครื่องหมาย Teacher approved ซึ่งกูเกิลระบุว่าได้ทำงานกับนักการศึกษาเพื่อรวมแอปที่เหมาะกับการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ในแต่ละช่วงวัย
กูเกิลระบุว่า เปิดให้ใช้งาน Kids Tab เร็วกว่าที่ตั้งใจไว้ เพราะเด็กๆ ก็ต้องอยู่บ้านกันในช่วงนี้จึงเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม และจะเพิ่มแอปพลิเคชั่นที่เหมาะกับการเรียนรู้เข้ามาอีกเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังได้รับฟีดแบคจากผู้ปกครองก่อนหน้านี้ว่า เป็นการยากที่จะค้นหาแอปเรียนรู้ให้เด็กใน Google Play การรวมเข้าไว้ในที่เดียวช่วยให้ค้นหาง่ายขึ้น
ที่มา - กูเกิล |
# Facebook ยกเลิกการจัดงานที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากทั้งหมด ถึงมิถุนายนปีหน้า มีผลถึง F8 2021
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Facebook ประกาศว่า Facebook จะยกเลิกการจัดอีเวนต์ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 50 คนทุกงาน มีผลไปจนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า 2021 โดยบางงานจะเปลี่ยนมาจัดแบบออนไลน์แทน ซึ่งงานสำคัญที่จะถูกปรับรูปแบบด้วยก็คือ F8 ในปีหน้า และ Oculus Connect
ก่อนหน้านี้ Facebook ประกาศยกเลิกงาน F8 ของปีนี้ และเปลี่ยนมาเป็นแบบออนไลน์แทน
นอกจากนี้ Mark ยังอัพเดตสถานการณ์ว่า พนักงานส่วนใหญ่ของ Facebook สามารถทำงานจากที่บ้านได้ มีเพียงบางส่วนที่ยังต้องไปสำนักงาน เช่น ผู้ตรวจสอบเนื้อหา, ทีมวิศวกรที่พัฒนาฮาร์ดแวร์
ที่มา: Engadget |
# Verizon ซื้อกิจการ BlueJeans ผู้ให้บริการระบบ Video Conference
Verizon ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมรายใหญ่ในอเมริกา ประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อกิจการ BlueJeans Network บริษัทที่ให้บริการระบบประชุมผ่านวิดีโอ สำหรับลูกค้าองค์กร ซึ่งกลายเป็นบริการที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เพราะคนต้องทำงานจากที่บ้านมากขึ้น
ดีลดังกล่าวไม่มีการเปิดเผยมูลค่า แต่เว็บ ZDNet ระบุว่าอยู่ราว 400 ล้านดอลลาร์
จุดเด่นของบริการ BlueJeans Meetings คือเน้นไปที่ลูกค้าระดับองค์กรอย่างเดียว สามารถเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ เช่น ระบบห้องประชุม ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft Teams, Slack และ Facebook Workplace ลูกค้าของ BlueJeans มีกว่า 15,000 ราย รวมทั้ง Facebook, LinkedIn และ Red Hat
ทั้งนี้ Verizon บอกว่าบริการของ BlueJeans จะนำมาเป็นส่วนหนึ่งในแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบริการ 5G อาทิ การให้คำปรึกษาทางการแพทย์ผ่านวิดีโอคอล, การเรียนทางไกล และงานภาคสนาม
ที่มา: Verizon และ ZDNet |
# หลุดข้อมูล Crysis Remastered ลง PC, PlayStation, Xbox, และ Switch
ไม่กี่วันก่อน บัญชี Twitter และ Facebook ของเกม Crysis มีการเคลื่อนไหวครั้งแรกในรอบหลายปี ก็มีผู้คาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าเกมกำลังจะมีภาคใหม่ ที่เป็นไปได้ที่สุดคือภาค 1 Remastered เนื่องจากมีบางข้อความทวีตตรงกับบทสนทนาในเกมภาคแรก
ไม่ต้องเดากันนาน เมื่อตัวเว็บหลักของ Crysis แม้ยังไม่มีประกาศอะไร แต่มีผู้ไปพบว่าในหน้านโยบายเรื่องการใช้ Cookie ดันหลุดข้อมูลสำคัญของตัวเกมทั้งโลโก้ และใน metadata ก็มีรายละเอียดของการ Remastered ที่มาพร้อมการรองรับ ray tracing และลงทั้ง PC, PlayStation, Xbox, และ Nintendo Switch
Crysis (ภาคแรก) ถือเป็นเกม FPS ชื่อดังที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเกมเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นเกมที่ทำให้เกิดการผลักดันเทคโนโลยีกราฟิกในยุคนั้นให้ไปสุดทางเกินกว่าที่ฮาร์ดแวร์ในสมัยนั้นรับไหว จนมีวลียอดฮิตอย่าง "but can it run Crysis?"
ที่มา - @RobotBrush |
# AIS สร้างหุ่นยนต์ควบคุมผ่าน 5G ลดความเสี่ยงแพทย์ผู้รับมือ COVID-19 ใช้คัดกรอง, สื่อสารกับคนไข้, และจ่ายยา
ก่อนหน้านี้ AIS ออกแคมเปญ AIS 5G สู้ภัย COVID-19 ที่จะนำเทคโนโลยีของตัวเองมาช่วยเหลือและดูแลภาคส่วนต่าง ๆ ในช่วงวิกฤติ หนึ่งในนั้นคือการนำเทคโนโลยี 5G มาช่วยเหลือบุคลากรด้านสาธารณสุข
วันนี้คุณวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศของ AIS และคุณอราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายงานขับเคลื่อนนวัตกรรม AIS ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง Video Conference เกี่ยวกับบทบาทของ AIS Robotic Lab ที่นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ร่วมกับเครือข่าย 5G มาช่วยเหลือแพทย์ในการรับมือและจัดการกับผู้ป่วย COVID-19 โดยมีการใช้งานจริงแล้ว
AIS Robotic Lab ถูกตั้งขึ้น เพื่อวิจัยและพัฒนาการใช้งานเทคโนโลยี 5G ร่วมกับหุ่นยนต์ในหลายรูปแบบ ผลงานก่อนหน้านี้ของแล็บคือ หุ่นยนต์ผู้ช่วย Alex ที่ร้าน AIS Flagship Store Central World, หุ่นยนต์ Lisa ที่ร้าน AIS Store ภูเก็ต, และ Hugo แขนหุ่นยนต์อัจฉริยะ ทำหน้าที่ตักและหยิบจับป็อปคอร์นที่ภูเก็ตเช่นกัน
บทบาทของ AIS Robotic Lab ครั้งนี้คือการนำเอาหุ่นยนต์ ROC (Robot fOr Care) มีต้นแบบเป็นหุ่น TEMI หุ่นผู้ช่วยอัจฉริยะจากสหรัฐอเมริกามาดัดแปลงติดกล้องอินฟราเรดจับความร้อน โดยซอฟต์แวร์ในหุ่น TEMI สามารถจดจำลักษณะของใบหน้าของผู้คนที่มันพบได้ ทำให้รับรู้ว่าคนที่กำลังหุ่นเดินผ่านหรือเข้ามากดหน้าจอแต่ละครั้งเป็นคนเดิมที่เคยเข้ามาใช้งานหรือไม่ และเมื่อใช้งานร่วมกับกล้องจับความร้อนก็ทำให้รู้ว่าคนที่กำลังสอบถามข้อมูลนี้หุ่นยนต์เคยวัดอุณหภูมิได้ระดับใด
หุ่นยนต์ ROC ตัวนี้ยังมีซอฟต์แวร์ให้แพทย์สามารถปรับแต่งเส้นทางการเดินของหุ่นและ calibrate กล้องจับอุณหภูมิได้ด้วยตนเอง แพทย์สามารถสื่อสารผ่านวิดีโอคอลเพื่อสอบถามอาการหรือให้คำแนะนำกับผู้ป่วย รวมถึงสื่อสารกับช่างเทคนิคของ AIS ได้หากเกิดปัญหาการในใช้งาน
ROC สามารถเคลื่อนที่ด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุได้ด้วยตัวเอง และแพทย์หรือทีมงานยังสามารถมาร์คจุดเพื่อให้ ROC เคลื่อนที่ไปได้ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์สแกนสถานที่แบบสามมิติเพื่อสร้างแผนผังให้หุ่นเดินเพิ่มความสะดวกให้กับการใช้งานในโรงพยาบาล
นอกจากกล้องจับความร้อนแล้ว บนตัวหุ่นยังติดตั้งเครื่องจ่ายเจลแอลกอฮอล์อัตโนมัติ มีพื้นที่สำหรับวางชุดยาที่แพทย์จัดให้กับผู้ป่วยในห้องความดันลบ (Negative Pressure Room) โดยที่บุคคลากรทางการแพทย์ไม่จำเป็นต้องเข้าไปด้วยตัวเอง แต่สามารถสื่อสารผ่านแท็บเล็ตบนเครือข่าย 5G ได้
ปัจจุบัน AIS ติดตั้งเครือข่าย 5G ไปแล้วในโรงพยาบาล 20 แห่งที่รับรักษา COVID-19 โดยเป็นเครือข่ายแยกเฉพาะ ที่มี latency ต่ำและแบนวิดท์สูงสำหรับการใช้งานหุ่น ROC เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาความล่าช้า การใช้เครือข่าย 5G ทำให้การเชื่อมต่อกับหุ่นยนต์มีเสถียรภาพที่ดี ต่างจากการใช้ Wi-Fi ของโรงพยาบาลที่อาจจะมีช่วงเวลาที่ช่องสัญญาณเต็มโดยควบคุมไม่ได้ ในอนาคตอันใกล้ AIS ยังจะติดตั้งเครือข่าย 5G ให้อีกกว่า 130 โรงพยาบาลในกรุงเทพ และอีก 8 โรงพยาบาลในต่างจังหวัด รวมเป็นโครงข่าย 5G ในโรงพยาบาลกว่า 158 แห่ง
AIS Robotic Lab สร้าง ROC ขึ้นมาแล้ว 23 ตัว เพื่อส่งมอบให้โรงพยาบาล 22 แห่ง ตอนนี้ส่งมอบให้กับโรงพยาบาลไปแล้ว 7 แห่ง และจะทยอยส่งมอบเรื่อยๆ ให้ครบ 23 ตัว ในโรงพยาบาล 22 แห่งภายในเดือนพฤษภาคมนี้
จากการทดลองใช้งาน พบว่า ROC ผลตอบรับที่ดีจากคณะแพทย์ ว่าช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบุคลากร และเพิ่มความสะดวกให้กับการตรวจรักษาคนไข้เป็นอย่างมาก และจากความเห็นของแพทย์ ทีม AIS Robotic ได้ติดตั้งถาดวาง สำหรับเครื่องวัดความดันเลือด และความเข้มข้นของออกซิเจนในกระแสเลือด ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการตรวจอาการของผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มไปด้วย
ในอนาคต AIS อาจพัฒนา ROC ให้รองรับ gesture หรือ voice control เพื่อลดการสัมผัส หรือการใช้ machine learning เข้ามาช่วยประมวลผลกล้องวัดอุณหภูมิ เพื่อลดความจำเป็นในการ calibrate ตัวกล้องโดยแพทย์เอง |
# ทีมวิจัยร่วมด้านการแพทย์ของ Mark Zuckerberg ประกาศพัฒนาเครื่องช่วยหายใจ
Chan Zuckerberg Biohub ทีมวิจัยด้านการแพทย์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยชีวะการแพทย์ของมหาวิทยาลัย UC Berkeley, Stanford และ UCSF โดยมีเงินทุนสนับสนุนจาก Mark Zuckerberg และภรรยา Priscilla Chan
ล่าสุด Mark Zuckerberg เปิดเผยว่า CZBiohub ได้พัฒนาและออกแบบเครื่องช่วยหายใจของตัวเอง เพื่อช่วยแก้ปัญหาเครื่องช่วยหายใจขาดแคลน โดยการพัฒนาเริ่มต้นมาได้ 2-3 สัปดาห์แล้วและจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้
ที่มา - Mark Zuckerberg |
# ซัมซุงเปิดตัวไลน์อัพทีวี QLED 8K ปี 2020 พร้อมแตกไลน์ทีวีไลฟ์สไตล์ไฮเอนด์ใหม่
ซัมซุงเปิดตัวไลน์อัพทีวีรุ่นไฮเอนด์ QLED 8K ประจำปี 2020 ทั้งหมด 3 รุ่นคือ QT800, QT900S และ QT950S ขนาดมีตั้งแต่ 65 นิ้ว ไปจนถึง 98 นิ้ว มาพร้อมความสามารถในการอัพสเกลตั้งภาพไฟล์ความละเอียด FHD ให้ขึ้นมาได้ที่ความละเอียด 8K ในระดับพิกเซล
เทคโนโลยีเสียงก็ได้รับการปรับปรุง โดยไลน์อัพ QLED 8K จะมาพร้อมฟีเจอร์ Active Voice Amplifier ช่วยบูสต์เสียงย่างต่าง ๆ ให้ดีและมีมิติมากขึ้น และ Object Tracking Sound+ (OTS+) ที่ช่วยปรับเสียงสนทนาของภาพยนตร์ให้ดังขึ้น เมื่อมีเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม
นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผลภาพหรือวิดีโอจากสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตทับซ้อนกันบนทีวี (แบบ Picture-in-Picture) รวมถึงรองรับผู้ช่วยอัจฉริยะแทบทุกเจ้าทั้ง Bixby, Google Assistant และ Alexa ด้วย
นอกจาก QLED 8K แล้วซัมซุงยังออกทีวีไลฟ์สไตล์ The Frame รุ่นใหม่ รวมถึงแตกไลน์ใหม่อย่าง The Serif ทีวีที่ยังคงการออกแบบคล้ายกรอบรูปในแบบ The Frame แต่ด้านสันบนและล่างมีความหนามากขึ้นและรองรับการวางด้านขาตั้งพื้น และอีกรุ่นคือ The Sero ทีวีที่รองรับการหมุนตัวและแสดงผลในแนวตั้ง
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
The Frame
The Serif
The Sero |
# กูเกิลยังกระทบ เอกสารภายในระบุ กูเกิลชะลอการรับพนักงานใหม่ตลอดปี 2020
Bloomberg ได้เอกสารภายในของกูเกิล ที่ซีอีโอ Sundar Pichai เขียนบันทึกถึงพนักงาน อธิบายผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 ต่อธุรกิจของกูเกิล โดยระบุว่ากูเกิลจะ "ชะลอการจ้างงานใหม่" ตลอดทั้งปี 2020 หรือพูดง่ายๆ คือจ้างเฉพาะพนักงานในฝ่ายที่สำคัญจริงๆ เท่านั้น
Pichai ระบุว่ากูเกิลจะรอดผ่านปี 2020 โดยมีขนาดที่ "เหมาะสม" กว่าเดิม (more appropriate size)
เดิมทีกูเกิลมีแผนจ้างพนักงานใหม่ 20,000 คนในปีนี้ และที่ผ่านมาจ้างไปแล้ว 4,000 คน บวกกับพนักงานใหม่ที่รอเริ่มงานอีกจำนวนหนึ่ง การประกาศครั้งนี้เท่ากับว่าตำแหน่งงานที่เหลือจะถูกชะลอไม่รับเพิ่มนั่นเอง
ที่มา - Bloomberg, 9to5google
ภาพจาก @LifeatGoogle |
# แพทเทิร์นคุ้นๆ, ก.กลาโหมสหรัฐตรวจสอบโครงการ JEDI Cloud ของตัวเอง ไม่พบความผิดปกติ
ตั้งแต่ที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศให้ไมโครซอฟท์เป็นผู้ชนะโครงการ JEDI Cloud เมื่อปีที่แล้ว สื่อหลายเจ้ารวมถึง AWS เองต่างออกมาโวยวายว่าดีลนี้ประเด็นการเมืองจากทำเนียบขาวมาเกี่ยวข้อง
ล่าสุดคณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงกลาโหม (Inspector General) ออกรายงานความยาว 317 หน้าเกี่ยวกับกระบวนการคัดสรรผู้ให้บริการคลาวด์ (ไม่ได้สนใจตัวดีลว่าเจ้าไหนดีกว่ากัน แค่ตรวจสอบกระบวนการคัดสรร) และระบุว่าแม้ในรายละเอียดยิบย่อยของกระบวนการจะมีปัญหาหรือความขัดแย้งอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมคือไม่พบความผิดปกติ กระบวนการจัดสรรนั้นยุติธรรมและเป็นไปตามกฎหมายแล้ว ขณะทำเนียบขาวหรือแม้แต่ตัวประธานาธิบดีก็ไม่ได้เข้ามามีอิทธิพลใด ๆ ในกระบวนการ
แม้รายงานจะระบุว่าทำเนียบขาวไม่ให้ความร่วมมือในกระบวนการตรวจสอบครั้งนี้ แต่คณะกรรมการก็อ้างว่าได้พูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพียงพอที่จะได้ข้อสรุปว่าทำเนียบขาวไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้รายงานยังกล่าวโทษสื่อด้วยว่ามีส่วนเผยแพร่เรื่องอิทธิพลทำเนียบขาว
ที่มา - DoD via ArsTechnica
ภาพจาก Getty Images |
# UN อาจหยุดร่วมมือกับ Tencent เพื่อส่งสารถึงคนหมู่มาก เพราะข้อกังวลสิทธิมนุษยชนและนโยบายสอดส่องของจีน
เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ หรือ UN ประกาศร่วมกับ Tencent ใช้แพลตฟอร์มเป็นสื่อในการส่งสารให้เข้าถึงคนหมู่มากโดยเฉพาะคนจีน รวมถึงจะส่งสารเรื่องความร่วมมือระดับนานาชาติในการจัดการวิกฤตโรคระบาดด้วย โดย UN ประกาศความร่วมมือนี้ผ่านทาง video conference ซึ่งเป็นโอกาสครบรอบ 75 ปี
แต่ความร่วมมือดังกล่าวสร้างความกังวลในประเด็นความเป็นส่วนตัว ทั้งความปลอดภัยของข้อมูลในการใช้งานแพลตฟอร์ม Tencent ที่ไม่ได้เข้ารหัส และนโยบายการเซนเซอร์คำอ่อนไหวตามแนวทางรัฐบาลจีน รวมถึงนโยบายจีนในการสอดส่องประชาชนโดยใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ซึ่งล่าสุด UN เปลี่ยนท่าที และมีความเป็นไปได้ที่จะหยุดความร่วมมือกับ Tencent
ภาพประกอบจาก UN
Financial Times ยังรายงานด้วยว่า ช่วงแรกๆที่โรค COVID-19 ระบาดในจีน Tencent ได้เซนเซอร์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับไวรัสบน WeChat รวมถึงเนื้อหาวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลจีน ถือเป็นการปิดช่องทางการรับรู้ของสังคมที่จะเข้าถึงวิธีปกป้องตัวเองจากโรคระบาด
Louis Charbonneau ผู้อำนวยการสหประชาชาติแห่ง Human Rights Watch แสดงความเห็นว่า หวังว่าการหยุดความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ UN ตระหนักได้ว่า Tencent ไม่ใช่พาร์ทเนอร์ที่เหมาะสม จีนพยายามใช้ UN เป็นเครื่องมืออำพรางข้อเท็จจริงที่จีนละเมิดสิทธิมนุษยชน และ UN ก็ไม่ควรพาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมกับการอำพรางนี้ และหวังว่า UN จะหาช่องทางอื่นในการส่งสารถึงคนจีนในวิธีที่จะไม่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการกดขี่ของรัฐบาลจีน
ที่มา - Foreign Policy, Financial Times |
# [ลือ] Rockstar เริ่มพัฒนา GTA ภาคใหม่แล้ว ลดขนาดเกมลงให้บริหารจัดการง่ายขึ้น
เว็บเกม IGN รายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า Rockstar Games เริ่มพัฒนาเกม Grand Theft Auto ภาคใหม่แล้ว แต่คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าเราจะเห็น GTA ภาคใหม่เปิดตัว
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า GTA ภาคใหม่จะเรียกว่า GTA 6 หรือใช้ชื่อภาคแบบอื่น รวมถึงสถานที่ ตัวละคร และเนื้อเรื่องของเกมด้วย
อีกประเด็นที่น่าสนใจมาจาก Kotaku ที่บอกว่า Rockstar ปรับกระบวนการภายใน-วัฒนธรรมองค์กรใหม่ เพื่อให้กระบวนการพัฒนาเกมราบรื่นขึ้น เลี่ยงปัญหาการเร่งงาน (crunch time) ในช่วงท้ายๆ ก่อนเกมออก ลดปัญหาพนักงานต้องทำงานหนักเกินไปลง (ปัญหานี้เกิดกับ Red Dead Redemption 2 ทำให้ถูกวิจารณ์หนัก)
หนึ่งในแนวทางแก้ปัญหา crunch time ของ Rockstar รอบนี้คือ ลดขนาดเนื้อหาของตัวเกมลง (แต่ก็ยังถือว่าใหญ่อยู่ดีเมื่อเทียบกับเกมทั่วไป) แล้วเปลี่ยนมาอัพเดตเนื้อหาหลังเกมออกแล้วแทน เพื่อให้โครงการมีขนาดเล็กลงจนสามารถบริหารจัดการได้ดีขึ้น
GTA ภาคใหม่จะไม่มี Dan Houser ผู้ร่วมต่อตั้ง Rockstar และผู้เขียนบท GTA ภาคหลักทุกภาค ที่เพิ่งลาออกจากบริษัทไป
ที่มา - IGN, Kotaku |
# กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ใน Wear OS เตือนให้ล้างมือทุก 3 ชั่วโมง
การล้างมือบ่อยๆ เป็นหนึ่งในวิธีป้องกันเชื้อไวรัสเข้าร่างกายที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ กูเกิลจึงอัพเดตเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Wear OS v5.4.0 เตือนให้ล้างมือพร้อมสบู่ทุกๆ 3 ชั่วโมง
ทันทีที่ระบบแจ้งเตือนให้ล้างมือ หน้าจอจะแสดงเวลานับถอยหลัง 40 วินาที เพื่อกระตุ้นให้คนลุกไปล้างมือ โดยจากข้อมูล CDC ระบุว่าควรล้างอย่างน้อย 20 วินาทีเพื่อความเหมาะสม
ภาพจาก กูเกิล
ที่มา - Android Police |
# ไมโครซอฟท์ยืนยัน ไม่ต่ออายุ Office 2010 หมดระยะซัพพอร์ตตุลาคม 2020 เหมือนเดิม
เราเห็นข่าว ไมโครซอฟท์ต่ออายุซัพพอร์ต Windows 10 บางรุ่นให้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อลดภาระแอดมินองค์กรไม่ให้ต้องมาอัพเกรดเครื่องในยุค work from home
แต่พอถึงคิวของ Office 2010 และ Office 2016 for Mac ที่จะหมดระยะซัพพอร์ตในเดือนตุลาคม 2020 ไมโครซอฟท์ยังยืนยันวันหมดอายุเดิม ไม่ขยายต่อให้ ผู้ใช้ยังสามารถใช้ Office ทั้งสองเวอร์ชันได้ตามปกติ แต่จะไม่มีแพตช์ความปลอดภัย แพตช์แก้บั๊ก และบริการซัพพอร์ตทางเทคนิคให้อีกแล้ว
ไมโครซอฟท์แนะนำให้ลูกค้าอัพเกรดไปใช้ Office 2016, Office 2019 หรือ Office 365 ProPlus แทน หากยังจำเป็นต้องใช้ไลเซนส์แบบซื้อขาดเหมือนของเดิม
ที่มา - Microsoft via Computerworld |
# ยุคข้าวยาก OnePlus แพง จากสมาร์ทโฟนราคาหมื่นต้น ถึงเริ่มต้นสองหมื่นห้าในวันนี้
OnePlus 8 และ 8 Pro เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อคืนนี้ ทั้งสองรุ่นมีราคาเปิดตัว เริ่มต้นที่ 699 กับ 899 ดอลลาร์ ตามลำดับ (คาดการณ์ราคาไทย ประมาณ 24,900 กับ 31,900 บาท) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นราคาที่แรงพอๆ กับ “เรือธง” หลายๆ รุ่นของปีนี้ และเพิ่มขึ้นจาก One Plus 7T และ 7T Pro ที่มีราคาเริ่มต้นในไทย ที่ 17,990 กับ 26,990 บาท โดยที่มาของราคาในซีรีส์ 8 ที่พุ่งขึ้นสูงนี้ คาดว่ามาจากชิป Qualcomm Snapdragon 865 ที่บังคับว่าผู้ผลิตต้องพ่วงชิปโมเด็ม X55 ที่รองรับ 5G มาด้วย
แรกเริ่มเดิมที OnePlus เริ่มต้นด้วยการเป็นแบรนด์มือถือแอนดรอยด์ที่มีราคาย่อมเยา แต่มีสเปกที่เรียกได้ว่า “สูสี” กับเรือธงของฝั่งแอนดรอยด์ในปีนั้นๆ เสมอ จนมือถือของ OnePlus ได้ฉายาว่าเป็น “นักฆ่าเรือธง” อยู่บ่อยๆ แต่ราคาของ OnePlus ก็ขยับขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีเช่นกัน
OnePlus 6 เป็นมือถือรุ่นแรกของบริษัท ที่มีราคาเกิน 500 ดอลลาร์ (จำหน่ายในไทย เริ่มต้นที่ 17,999 บาท) มาพร้อมกับชิป Snapdragon 845 ซึ่งเป็นชิประดับท็อปในปี 2018 และมีฟังก์ชั่นที่ครบถ้วนในระดับเรือธง มีกล้องคู่ มีกันสั่น OIS และ Oxygen OS ที่ครอบอยู่บน Android 8.1 ก็ได้รับคำชมว่าเป็น UI ของ Android ที่สะอาดสะอ้าน ปรับแต่งได้ดี ไร้ bloatware กวนใจ และได้รับอัปเดตไว เทียบชั้นได้กับ Pure Android บน Pixel เลยทีเดียว
ก่อนที่ One Plus 7 Pro จะทำลายกำแพงราคาแบบก้าวกระโดดจาก OnePlus 6T ที่มีราคา 549 ดอลลาร์ (ประมาณ 18,990 บาท) ขึ้นไปเป็น 669 ดอลลาร์ (ประมาณ 26,990 บาท) เลยทีเดียว เพราะเปลี่ยนโมเดลวางจำหน่ายเป็นการออกปีละสองรุ่น คือรุ่น 7 Pro ที่มีราคาแพงกว่า กับรุ่นธรรมดา ที่มีราคา 630 ดอลลาร์ (ประมาณ 21,990 บาท) แต่ฟีเจอร์น้อยกว่าแทน ก่อนจะมาจบที่รุ่นล่าสุด คือ OnePlus 8 Pro ที่มีราคาพุ่งไปถึง 899 ดอลลาร์และราคาในไทยก็คงเกินสามหมื่นบาทไปแล้ว
ถ้าดูจากกราฟจะเห็นได้ว่าราคาค่อยๆ ขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากราคาดอลลาร์ที่เทียบเป็นเงินไทยได้หมื่นต้นๆ ถึงหมื่นกลาง จนมาถึง OnePlus 8 ในปีนี้ ที่ถึงจะเป็นรุ่นราคาถูกกว่า ที่ 699 ดอลลาร์ แต่เมื่อเข้าไทย อาจจะมีราคาถึงประมาณ 24,900 บาท ซึ่งก็ไม่ได้มี “ราคาถูก” อีกต่อไปแล้ว
เอกลักษณ์ของ “นักฆ่าเรือธง” ที่สู้ด้วยราคาที่ถูกกว่ามาตลอดดูเหมือนจะหายไปแล้ว แบบนี้การกลายเป็นเรือธงเต็มตัวของ OnePlus จะทำให้ฐานลูกค้า หรือแฟนคลับกลุ่มเดิมของ OnePlus เริ่มมองหามือถือค่ายอื่นที่ถูกกว่าหรือเปล่า
ยิ่งยอดขายของสมาร์ทโฟนระดับราคาเรือธงมีทีท่าไม่สู้ดีนัก ในสภาวะเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลงจากวิกฤต COVID-19 แบบนี้ แต่สมาร์ทโฟนของ OnePlus กลับยอมแลกให้ได้ชิปที่มีความเร็วสูงที่สุด แม้ราคาจะพุ่งสูงขึ้นอีกจากการบังคับขายพ่วงชิปโมเด็ม 5G ของ Qualcomm ก็ต้องรอดูต่อไปว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะคุ้มค่าหรือไม่
อีกจุดที่ OnePlus แตกต่างจากแบรนด์อื่น คือทั้ง Samsung, Oppo หรือ Vivo มีสมาร์ทโฟนระดับกลางไปถึงล่างอยู่ในมือ แต่ OnePlus ไม่มี จึงต้องหวังพึ่งยอดขายจากรุ่นธรรมดา ที่มีราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับกลางเช่น Samsung A series, Vivo หรือ Oppo รุ่นกลางลงไปอยู่ดี เรียกได้ว่าเป็นยุคข้าวยาก OnePlus แพง และอาจจะเป็นช่วงเข็นสมาร์ทโฟนขึ้นภูเขาของ OnePlus อย่างแท้จริง |
# Apple ขายแยก จุกหูฟังสำหรับ AirPods Pro ราคา 2 คู่ 280 บาท
วันนี้แอปเปิลก็จะมีสินค้าใหม่มาขายเพิ่มเยอะหน่อย ซึ่งนอกจาก iPhone SE รุ่นใหม่, ชุดอัพเกรดล้อ Mac Pro และ Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro ตัวใหม่ คราวนี้เป็นจุกหูฟังซิลิโคนสำหรับ AirPods Pro สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยน เนื่องจากชิ้นเดิมชำรุดหรือหาย
ปกติเมื่อซื้อ AirPods Pro แอปเปิลจะให้จุกหูฟังมา 3 คู่ 3 ขนาดคือ เล็ก กลาง ใหญ่ ก่อนหน้านี้หากต้องการซื้อจุกหูฟังอันใหม่ ต้องติดต่อซื้อผ่าน Apple Support เท่านั้น การขายตรงผ่านช่องทางออนไลน์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
ราคาขายจุกหูฟังอยู่ที่ 2 คู่ ราคา 280 บาท มีทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ และเนื่องจากต้องซื้อคราวเดียว 2 คู่ การติดต่อ Apple Support จึงยังอาจเป็นตัวเลือกกรณีต้องการซื้อเพียงคู่เดียว
ที่มา: MacRumors |
# Instagram เพิ่มสติกเกอร์ใน Stories ร้านอาหาร สามารถกดเพื่อสั่งอาหารได้
Instagram เพิ่มฟีเจอร์เพิ่มช่องทางขายอาหารแก่ร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยร้านอาหารสามารถใส่สติกเกอร์ลงใน Stories ของตัวเองเพื่อให้ผู้ใช้งานที่เข้ามาดู สามารถกดที่สติกเกอร์นั้นเพื่อสั่งอาหารมาส่งที่บ้านได้ โดยจะเชื่อมไปยังเว็บไซต์ร้านอาหารโดยตรง
นอกจากสติกเกอร์สั่งอาหารแล้ว Instagram ยังเพิ่มปุ่ม gift cards ที่หน้าโปรไฟล์ร้านอาหารด้วย ผู้ใช้งานที่อยากจะอุดหนุน หรือสนับสนุนร้านอาหารที่ชอบก็สามารถกดที่ปุ่ม gift cards เพื่อทำการอุดหนุนได้เลย
ฟีเจอร์ใหม่ของ Instagram เริ่มเปิดใช้งานที่สหรัฐฯและแคนาดาก่อน และจะขยายให้ใช้ทั่วโลกในสัปดาห์ต่อๆไป
ที่มา - Instagram |
# Mac Pro เพิ่มตัวเลือกการ์ดจอ Radeon Pro W5700X แล้ว จ่ายเพิ่ม 21,000 บาท
นอกจากขายชุดล้อแยกแล้ว แอปเปิลยังอัพเดตรายละเอียด Mac Pro โดยสามารถเลือกการ์ดจอเป็น Radeon Pro W5700X ได้แล้ว จากเดิมที่มีตัวเลือกคือ Radeon Pro 580X (ค่าเริ่มต้น) และ Radeon Pro Vega II ที่ราคาค่อนข้างสูง ทำให้ W5700X เป็นตัวเลือกตรงกลาง
ราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มหากเลือกเป็น Radeon Pro W5700X พร้อมแรม GDDR6 16GB อยู่ที่ 21,000 บาท หากเลือกสองตัวจะจ่ายเพิ่ม 56,000 บาท
แอปเปิลยังขายโมดูล MPX แยกของ Radeon Pro W5700X ด้วย ในราคาชุดละ 35,000 บาท
ที่มา: MacRumors |
# Apple เริ่มขาย Magic Keyboard ใหม่ สำหรับ iPad Pro แล้ว สินค้าพร้อมส่งมอบสัปดาห์หน้า
แอปเปิลประกาศว่า Magic Keyboard รุ่นใหม่ สำหรับ iPad Pro ที่มาพร้อมกับ Trackpad เริ่มเปิดให้สั่งซื้อแล้ววันนี้ในช่องทางออนไลน์ผ่าน apple.com/th สินค้ามีพร้อมจัดส่งทันทีใน 2-4 วัน ซึ่งเร็วกว่าที่แอปเปิลบอกก่อนหน้านี้ว่าสินค้าจะเริ่มจำหน่ายเดือนพฤษภาคม
ราคาขายของ Magic Keyboard ใหม่ อยู่ที่ 9,990 บาท สำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ 11,690 บาท สำหรับ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว การใช้งานรองรับทั้ง iPad Pro รุ่นที่วางจำหน่ายในปีนี้ และรุ่นเก่าของปี 2018 โดยระบบปฏิบัติการต้องอัพเดตอย่างน้อยเป็น iPadOS 13.4
ที่มา: แอปเปิล |
# เผื่อใครจะเปลี่ยนใจ แอปเปิลขายชุดอัพเกรดล้อให้ Mac Pro ราคา 22,900 บาท ขาตั้งสแตนเลส 8,900 บาท
เมื่อปลายปีที่แล้วแอปเปิลเปิดขาย Mac Pro โดยมีตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือล้อเพื่อให้เครื่องเข็นไปมาได้นั้นราคาสูงถึง 16,000 บาท และต้องเลือกตอนสั่งประกอบ วันนี้แอปเปิลก็เปิดขายชุดล้อแยกสำหรับคนที่อยากได้ภายหลังแล้ว โดยราคาสี่ล้อสูงถึง 22,900 บาททีเดียว
นอกจากผู้ที่สั่งรุ่นขาตั้งจะอัพเกรดเป็นล้อได้แล้ว แอปเปิลยังขายขาตั้งสแตนเลสสี่ชิ้น 8,900 บาท สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนกลับจากล้อ
ชุดขาตั้งทั้งสองแบบมาพร้อมไขควงแบบ 4 มิลลิเมตรให้ด้วย
ที่มา - Apple 1, 2 |
# Apple หยุดจำหน่าย iPhone 8, iPhone 8 Plus แล้ว สิ้นสุดยุค 3D Touch
เมื่อแอปเปิลเปิดตัว iPhone SE รุ่นใหม่เมื่อคืนนี้ ก็ต้องมี iPhone รุ่นที่หยุดการจำหน่าย นั่นคือ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus โดยรายละเอียดสินค้าได้ถูกถอดออกจากเว็บไซต์แอปเปิลไปเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ iPhone 8 มีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว เท่ากับ iPhone SE รุ่นใหม่ จึงอาจบอกได้ว่า iPhone SE เป็นรุ่นที่มาแทนที่ พร้อมกับสเปกที่แรงกว่าด้วยชิปรุ่นใหม่ A13 ส่วน iPhone 8 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว ไม่มีรุ่นมาแทนที่ (หรือจะมี iPhone SE Plus?)
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือการสิ้นสุดของเทคโนโลยี 3D Touch แยกแยะระดับการกดหน้าจอ ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 กับ iPhone 6s โดยแอปเปิลเปลี่ยนมาใช้ Haptic Touch แยกการกดสั้น-ยาว ตั้งแต่ iPhone XR ซึ่งเวลาผ่านไปก็เหลือเพียง iPhone 8 ที่ยังใช้ 3D Touch ซึ่งสุดท้าย iPhone SE ตัวใหม่ก็เปลี่ยนมาเป็น Haptic Touch เช่นกัน
แม้ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะหยุดจำหน่ายแล้วผ่านเว็บของแอปเปิล แต่อาจยังพอหาซื้อได้จากร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายบางรายครับ
ที่มา: MacRumors |
# เปิดตัว iPhone SE รุ่นใหม่ จอเล็ก 4.7" มี Touch ID แต่สเปกแรง A13 ราคาเริ่ม 14,900 บาท
ลือกันมานานหลายรอบ ในที่สุดแอปเปิลก็เปิดตัว iPhone SE เวอร์ชันใหม่ ที่จุดขายคือราคาเริ่มต้น 399 ดอลลาร์ หรือราคาอย่างเป็นทางการในไทยคือ 14,990 บาท
iPhone SE รุ่นที่สองเป็น iPhone จอเล็กขนาด 4.7" (ที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน) ใช้จอ LCD ความละเอียด HD (1334x750) ใช้ดีไซน์แบบ iPhone ยุคก่อนหน้านี้ที่จอภาพไม่ต้องเต็มด้านหน้าก็ได้ ขอบไม่ต้องบาง แต่ก็แลกมาด้วยการไม่ต้องมีติ่งที่จอ แถมจุดเด่นสำหรับใครหลายคนที่คิดถึงคือ ปุ่มโฮม Touch ID สแกนลายนิ้วมือถูกนำกลับคืนมาอีกครั้ง
จุดที่น่าสนใจคือ iPhone SE รุ่นปี 2020 ใช้หน่วยประมวลผล Apple A13 Bionic ตัวเดียวกับ iPhone 11 ส่วนกล้องของ iPhone SE ใช้กล้องหลังเดี่ยว 12MP f/1.8 พร้อม OIS รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง QuickTake, ส่วนกล้องหน้า 7MP f/2.2
ฟีเจอร์อย่างอื่นคือ รองรับการกันน้ำ IP67 (แช่น้ำลึก 1 เมตรไม่เกิน 30 นาที), แบตเตอรี่ยังไม่ระบุความจุ แต่บอกว่าใกล้เคียงกับ iPhone 8 และรองรับ fast charge 18 วัตต์ (แต่ที่ชาร์จขายแยก), รองรับการชาร์จไร้สาย wireless charging มาตรฐาน Qi
iPhone SE มีให้เลือก 3 สีคือ ดำ ขาว แดง Product Red ราคาแยกตามความจุ
64GB ราคา 14,900 บาท
128GB ราคา 16,900 บาท
256GB ราคา 20,900 บาท
ที่มา - Apple |
# Old World เกมใหม่แนว Civilization โดยหัวหน้าทีมออกแบบ Civilization IV
แฟนๆ เกมตระกูล Civilization อาจสนใจเกมแนวเดียวกันชื่อ Old World ที่ดูเผินๆ แล้วอาจแยกจาก Civilization ไม่ออกเลย
เรื่องนี้ไม่ใช่ความบังเอิญ เพราะผู้ออกแบบเกมนี้ Soren Johnson คือหัวหน้าทีมออกแบบเกม Civilization IV ที่ลาออกมาเปิดสตูดิโอเกมของตัวเอง Mohawk Games ตั้งแต่ปี 2013 โดยมีผลงานเกมแรกคือ Offworld Trading Company และผลงานเกมใหม่ล่าสุด Old World
ความแตกต่างของ Old Worlds กับ Civilization คือจำกัดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เฉพาะ "โลกยุคเก่า" (พวกกรีก โรมัน อียิปต์ เปอร์เซีย) เท่านั้น แถมคอนเซปต์ของตัวผู้นำที่อยู่ค้ำฟ้าตลอดประวัติศาสตร์ของ Civilization จะเปลี่ยนเป็นผู้นำที่มีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกเทิร์น และตายจากไป โดยจะให้ทายาทมาสืบทอดราชวงศ์แทนไปเรื่อยๆ ทำให้มีระบบแต่งงานและเครือญาติเพิ่มเข้ามา
นอกจากนี้ ระบบการสร้างเมืองของ Old Worlds ยังจำกัดจำนวนเมืองในแผนที่ และมีระบบเคลมเป็นเจ้าของเมืองโดยชนชาติต่างๆ, ระบบเผ่า (tribe) ที่เป็นมากกว่าชาวป่าไร้อารยธรรม (barbarian) สามารถเจรจาการทูตหรือจ่ายส่วยได้
เกมมีกำหนดออกภายในปี 2020 และแน่นอนว่าเกมดีๆ แบบนี้ คาดเดาไม่ยากว่าเป็นเอ็กซ์คลูซีฟบน Epic Games Store
ที่มา - Old World, IGN |
# Minecraft with RTX เปิดทดสอบ Beta ยกระดับกราฟิกด้วย Ray Tracing และ DLSS
Minecraft ประกาศรองรับฟีเจอร์ Ray Tracing มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2019 เวลาผ่านมาเกินครึ่งปี ในที่สุดก็ได้เวลาเปิดทดสอบ Beta กันในวันพรุ่งนี้ 16 เมษายน 2020
Minecraft with RTX รองรับเฉพาะจีพียู GeForce RTX เท่านั้น ตอนนี้ยังมีเฉพาะเวอร์ชัน Windows 10 โดยนอกจาก Ray Tracing แล้วยังรองรับฟีเจอร์ DLSS 2.0 ที่ใช้ AI ช่วยประเมินการเรนเดอร์ด้วย
เวอร์ชันทดสอบ Beta ยังเปิด RTX ให้กับ Creator Worlds จำนวน 6 world เท่านั้น สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจาก Minecraft Marketplace
ที่มา - NVIDIA |
# Huawei Nova 7i และ Watch GT 2e เปิดตัวในไทยราคา 8,990 บาท และ 4,990 บาท
Huawei เปิดตัว Nova 7i ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 1080x2310 พิกเซล กล้องหน้าแบบเจาะรู ความละเอียด 16MP ที่ f/2.0 กล้องหลัง 4 กล้องสเปกดังนี้
กล้องหลัก 48MP f/1.8 เซ็นเซอร์ CMOS ½ นิ้ว
กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP มุมมอง 120 องศา f/2.4 เซ็นเซอร์ CMOS 1/4 นิ้ว
เลนส์โบเก้ 2MP f/2.4
เลนส์มาโคร 2MP f/2.4
สเปกภายใน ใช้ชิป Kirin 810 จีพียู Mali-G52 แรม 8GB หน่วยความจำภายใน 128GB รองรับ NM Card การ์ดหน่วยความจำนาโนของ Huawei ความจุสูงสุด 256GB แบตเตอรี่ 4200mAh มีชาร์จไว Huawei Supercharge 40W ชาร์จได้ 70% ภายใน 30 นาที มีสองสี คือสีดำ Midnight Black และชมพูแกมฟ้า Sakura Pink
ราคา 8,990 บาท สั่งจองวันนี้ ถึง 30 เมษายนนี้ แถม Huawei Band 4 Pro มูลค่า 2,490 บาท และ Huawei Nova 7i VIP Service มูลค่า 2,200 บาท เพิ่มประกันเป็นสองปี ประกันจอแตก 90 วัน บริการทำความสะอาดเครื่องสูงสุด 2 ครั้งภายใน 12 เดือน ติดฟิล์มกันรอยฟรี 1 ครั้ง ภายใน 12 เดือน วางจำหน่ายวันที่ 1 พฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ยังมี Watch GT 2e สมาร์ทวอทช์ตัวล่าสุดที่เพิ่มความสามารถในการวัดออกซิเจนในเลือด วัดการเต้นหัวใจ รองรับออกกำลังกายกว่า 100 รูปแบบ ใช้งานได้ต่อเนื่อง 14 วัน กันน้ำ 5ATM ราคา 4,990 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ |
# เปิดราคา Huawei P40 และ P40 Pro ในไทย ราคา 22,990 บาทและ 31,990 บาท
Huawei P40 ซีรีส์ เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ หลังเปิดตัวแบบทั่วโลกไปเมื่อเดือนที่แล้ว โดยในไทยจะมีขายเพียงรุ่น P40 และ P40 Pro ไม่มี P40 Pro+
Huawei P40 เปิดตัวในราคา 22,990 บาท สั่งจองวันนี้ ถึง 30 เมษายน รับ Huawei Freebuds 3 มูลค่า 4,990 บาทฟรี ราคาสั่งจองกับค่ายมือถือแบบติดโปร อยู่ที่ 5,490 บาท
Huawei P40 Pro เปิดตัวที่ราคา 31,990 บาท สั่งจองวันนี้ถึง 30 เมษายน รับ Huawei Freebuds มูลค่า 4,990 บาท และ Huawei Wireless Car Charger มูลค่า 1,790 บาท ฟรี ราคาสั่งจองกับค่ายมือถือแบบติดโปร อยู่ที่ 7,990 บาท
ช่วงเวลาสั่งจองคือวันนี้ถึง 30 เมษายน ทั้งสองรุ่นจะได้รับประกันเพิ่มเป็น 2 ปี ประกันจอแตก 90 วัน ได้พื้นที่ Huawei Cloud 50GB ฟรี 12 เดือน และ 5GB ฟรีแบบถาวร บริการทำความสะอาดเครื่องฟรี 2 ครั้งต่อปี แปะฟิล์มด้านหลังฟรีหนึ่งครั้ง และมีบริการ door-to-door service รับเครื่องซ่อมและส่งคืนถึงบ้าน รวมมูลค่า 7,520 บาท
ทั้งสองรุ่น จะไม่มี Google Mobile Service แต่จะใช้ Huawei Mobile Service สำหรับการดาวน์โหลดแอป สั่งจองได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายนนี้ และรับเครื่องได้ในวันที่ 1 พฤษภาคม
ที่มา - Huawei Mobile Thailand Live |
# Huawei ไทยเปิดตัว MatePad Pro แท็บเล็ตตัวท็อป ราคาเริ่ม 16,990 บาท
Huawei เปิดตัว MatePad Pro แท็บเล็ตตัวท็อปในไทย มาพร้อมหน้าจอขนาด 10.8 นิ้ว ความละเอียด 2560x1600 พิกเซล (2K QHD) พื้นที่หน้าจอ 90% สว่าง 540nit รองรับการแสดงผลสีมาตรฐาน DCI-P3
ชิปเซ็ตใช้ตัวท็อป Kirin 990 5G แรม 6GB ความจุ 128GB มีลำโพง 4 ตัว ไมโครโฟน 5 ตัว กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 7,250mAh รองรับชาร์จเร็ว 40W ชาร์จไร้สาย 27W และมี Reverse Charging ในตัว รัน EMUI 10.1 ไม่มี GMS รองรับปากกา Huawei M-Pencil ที่แยกแยะแรงกดได้ 4,096 ระดับ เขียนเอียง ๆ ได้และเปลี่ยนวัสดุที่หัวได้
MatePad Pro มี 2 รุ่นคือ Wi-Fi ราคา 16,990 บาทและ 4G ราคา 19,990 บาท พรีออเดอร์ 15-30 เมษายนนี้ แถมคีย์บอร์ดมูลค่า 4,590 บาท, M-Pencil มูลค่า 2,990 บาท และของแถมอื่น ๆ อีกมูลค่ารวมราว 9,000 บาท รับของวางขายจริง 1 พฤษภาคมนี้ |
# Ubisoft แจก Assassin’s Creed 2 ฟรี บน Uplay ถึง 17 เมษายนนี้
หลังจากที่แจก Child of Light ไปเมื่อเดือนที่แล้ว คราวนี้ Ubisoft แจกเกม Assassin’s Creed 2 เกมจากซีรีส์นักฆ่าที่เป็นหนึ่งในซีรีส์เกมชูโรงของค่าย ในภาคนี้จะเป็นเนื้อเรื่องของ Ezio Auditore Da Firenze หนุ่มน้อยผู้ดีจากเมืองฟลอเรนซ์ที่ชีวิตผลิกผันกลายไปเป็นนักฆ่า
Assassin’s Creed 2 วางจำหน่ายในปี 2009 และเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของซีรีส์ Assassin’s Creed ซึ่งได้คะแนนเฉลี่ยจากนักวิจารณ์บน Metacritic ไปถึง 91 คะแนน และได้คะแนนจากผู้เล่นถึง 8.6 เต็ม 10 คะแนน
สามารถกดรับ Assassin’s Creed 2 ได้บน Uplay ตั้งแต่ 14-17 เมษายนนี้ และเก็บเกมไว้เล่นในบัญชี Uplay ได้ตลอดไป
ที่มา - Ubisoft |
# ไมโครซอฟท์ต่ออายุ Windows 10 v1809 ให้อีก 6 เดือน จากปัญหา COVID-19
ไมโครซอฟท์ประกาศต่ออายุ Windows 10 October 2018 Update (v1809) ที่ออกช่วงปลายปี 2018 และเดิมทีมีกำหนดหมดอายุ (end of service) ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2020 ให้อีก 6 เดือน เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้แอดมินองค์กรอาจไม่สามารถอัพเดตระบบปฏิบัติการได้ทัน
Windows 10 v1809 จะได้อัพเดตแพตช์ความปลอดภัยไปจนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2020 โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ครอบคลุมทุกรุ่นย่อยคือ Home, Pro, Pro Education, Pro for Workstations, IoT Core
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ เพิ่งต่ออายุ Windows 10 v1709 Enterprise ให้ 6 เดือนเช่นกัน จากหมดระยะซัพพอร์ตเดือนเมษายน 2020 เป็นเดือนตุลาคม 2020
ที่มา - Microsoft via MSPoweruser |
# แอปเปิล/กูเกิลระบุ API ติดตามผู้ป่วย COVID-19 ใช้เวลาออกแบบสองสัปดาห์, ถ้าหน่วยงานรัฐตั้งเซิร์ฟเวอร์เองไม่ไหวจะทำให้
Contact Tracing API ของแอปเปิลและกูเกิลกำลังจะเปิดให้ใช้งานในเดือนหน้า ล่าสุดทั้งสองบริษัทก็แถลงข่าวในฝั่งเอเชียอีกครั้งวันนี้
โฆษกทั้งสองบริษัทระบุว่า API นี้เริ่มออกแบบกันตั้งแต่ช่วงสองสัปดาห์ก่อน หรือประมาณสองสัปดาห์เท่านั้น โดยทีมงานจากทั้งสองบริษัททำงานกันอย่างหนักให้ API นี้ออกมาให้เร็วที่สุด เพราะตระหนักว่าต้องเปิดบริการนี้ให้เร็ว
โครงสร้างพื้นฐานของ Contact Tracing API นั้นต้องเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์แจ้งเตือน ที่รับเอากุญแจประจำตัวของโทรศัพท์ผู้ป่วยมากระจายข้อมูลไปยังโทรศัพท์ทุกเครื่อง เพื่อให้ผู้ใช้คนอื่นๆ ในประเทศไปตรวจว่าตนเองได้เข้าใกล้ผู้ป่วยหรือไม่ เซิร์ฟเวอร์นี้หน่วยงานสาธารณสุขแต่ละประเทศสามารถตั้งเซิร์ฟเวอร์ได้เอง และสร้างกระบวนการยืนยันผู้ป่วยเอง เช่นบางประเทศอาจจะออก QR ให้ผู้ป่วยไปสแกนผ่านแอป หากหน่วยงานของประเทศใดไม่พร้อมตั้งเซิร์ฟเวอร์ ทั้งสองบริษัทก็ยินดีตั้งให้
ทั้งสองบริษัทเชื่อว่าหน่วยงานสาธารณสุขที่สร้างแอปติดตามตัวไปก่อนแล้ว เช่น TraceTogether ของสิงคโปร์ก็สามารถใช้ API ใหม่ได้ เพื่อขยายความครอบคลุมในการติดตามตัว
เอกสาร API ของ Contact Tracing API เวอร์ชั่นล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแอปของหน่วยงานสาธารณสุขไม่สามารถดึงรายการการพบปะ (contact) ออกจากฐานข้อมูลได้ แต่สามารถใส่กุญแจประจำวันของผู้ป่วย (daily tracing key) เพื่อให้ API แจ้งกลับออกมาว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นๆ เข้าใกล้ผู้ป่วยในวันใด และเข้าใกล้เป็นเวลานานเท่าใด
ที่มา - งานแถลงข่าวแอปเปิลและกูเกิลผ่านทางโทรศัพท์ |
# Airbnb ประกาศรับเงินทุนเพิ่มเติมอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นเงินกู้
Airbnb ประกาศรับเงินทุนเพิ่มอีก 1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมจากเงินทุน 1 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่บริษัทประกาศไป ทำให้เดือนนี้บริษัทได้เงินทุนเพิ่มมาอีกรวม 2 พันล้านดอลลาร์
โดย Airbnb ระบุว่าเงินทุนนี้เป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินหลายแห่ง และจะนำไปใช้ลงทุนทั้งในบริษัท และเพื่อการพัฒนาชุมชนโฮสต์ที่เกี่ยวข้องทั่วโลกต่อไป
ข้อมูลจาก Axios ระบุว่าเงินกู้นี้มีอัตราดอกเบี้ยที่ 7.5% ส่วนรายชื่อสถาบันการเงินอาทิ Apollo Global Management, Benefit Street Partners, Blackstone Group, Glade Brook Capital Partners, Oaktree Capital และ Owl Rock Capital
ที่มา: Airbnb และ Axios |
Subsets and Splits
No saved queries yet
Save your SQL queries to embed, download, and access them later. Queries will appear here once saved.