txt
stringlengths
202
53.1k
# Meta เตรียมหยุดให้บริการแอปสนทนาระหว่างคู่รัก Tuned Meta เตรียมหยุดให้บริการแอปสำหรับสนทนาระหว่างคู่รัก Tuned หลังจากเปิดทดลองตลาดมาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี Tuned เป็นโครงการภายใต้ทีม New Project Experimentation ของ Meta โดยหน่วยงานนี้จะคอยพัฒนาแอปหลากหลายรูปแบบมาเพื่อทดลองตลาด โดย Tuned เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 ออกแบบแอปมาเน้นให้คู่รักคุยกันสองคน เป็นพื้นที่ส่วนตัวในการแชร์ข้อความ, ลิงก์, เพลงบน Spotify, รูปภาพ, ข้อความเสียง ฯลฯ ระหว่างคู่รัก โดย Craig Chapple จากบริษัทวิเคราะห์ตลาด Sensor Tower ระบุว่าบน App Store และ Google Play รวมกัน แอปนี้มียอดดาวน์โหลดเพียง 909,000 ครั้งเท่านั้น ผู้ใช้งานแอป Tuned จะเริ่มได้รับข้อความแจ้งเตือนการหยุดให้บริการแล้ว โดยในข้อความระบุว่าให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดข้อมูลออกมาก่อนที่ Tuned จะหยุดให้บริการโดยสมบูรณ์ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ที่มา - TechCrunch
# รู้จักร่างกฎหมาย CHIPS ความหวังของสหรัฐอเมริกาที่จะแย่งส่วนแบ่งการผลิตชิปคืนจากจีน จากเหตุการณ์ชิปขาดตลาดที่ดำเนินมายาวนานและไม่มีท่าทีว่าจะกลับไปเป็นเหมือนยุคก่อนการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้ราคาชิปถีบตัวสูงขึ้น รวมถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และธุรกิจอื่นที่ต้องพึ่งพาชิปก็ได้รับผลกระทบกันเป็นวงกว้าง รถยนต์หลายยี่ห้อส่งมอบได้ไม่ทันกำหนด บางยี่ห้อต้องลดสเปกฮาร์ดแวร์ลง ด้านสหรัฐอเมริกาก็รู้สึกว่าต้องพึ่งพาชาติอื่นมากเกินไป เพราะโรงงานผลิตชิปแนวหน้าของโลกก็อยู่ที่จีนและชาติเอเชียอื่นๆ เป็นส่วนใหญ่ ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามออกกฎหมายดึงดูดการตั้งโรงงานและการผลิตชิปกลับเข้ามาในประเทศ โดยสถิติระบุว่าส่วนแบ่งของชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ ลดจาก 37% ในปี 1990 เหลือเพียง 12% ของทั้งโลกในวันนี้ เพราะรัฐบาลหลายประเทศได้ลงทุนด้านนี้ ทำให้ส่วนแบ่งของสหรัฐฯ ลดลงเรื่อยๆ กฎหมายนี้มีชื่อว่า CHIPS for America Act หรือชื่อเต็มคือ Creating Helpful Incentives to Produce Semiconductors for America Act (กฎหมายสร้างแรงจูงใจให้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์เพื่ออเมริกา) ภาพโดย Jeremy Waterhouse โดยรวมแล้วกฎหมายฉบับนี้ก็ตรงไปตรงมา คือรัฐบาลจะตั้งงบประมาณ 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นมา (ราว 1.9 ล้านล้านบาท) เพื่อนำไปอุดหนุนผู้ผลิตชิปต่างๆ ให้เข้ามาวิจัยและตั้งโรงงานผลิตชิปในประเทศ จะได้สร้างงานและดึงส่วนแบ่งการผลิตกลับมา เงื่อนไขของการรับเงินอุดหนุนคือบริษัทที่รับเงินห้ามนำเงินจำนวนดังกล่าวไปซื้อหุ้นคืนหรือนำไปจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น (กล่าวคือให้เอาเงินไปใช้ในการผลิตชิปเป็นหลักเท่านั้น) รวมถึงห้ามไปตั้งโรงงานผลิตชิปในรายการประเทศที่กฎหมายนี้กำหนดไว้ (คงหนีไม่พ้นจีน) หากพบว่าผู้รับเงินอุดหนุนละเมิดข้อตกลง รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถยึดเงินอุดหนุนคืนได้ ด้านซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีและรถยนต์รวมเกือบ 60 ราย เช่น Alphabet, Apple, Microsoft, Dell, HP, Cisco, Ford และ Volkswagen ต่างก็ลงนามในจดหมายสนับสนุนร่างกฎหมาย CHIPS กันเป็นเสียงเดียว พร้อมเรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายนี้โดยเร็ว ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังจะถูกโหวตโดยสภาสูงภายใน 1-2 วันนี้ หากโหวตผ่านก็จะถูกลงนามโดยประธานาธิบดี Biden เพื่อประกาศเป็นกฎหมายต่อไป ที่มา - Voice of America, CNBC, The Washington Post, Semiconductor Industry Association
# Apple อัพเดต iCloud บน Windows รองรับ 2FA ในการจัดการรหัสผ่าน แอปเปิลอัพเดตแอพพลิเคชัน iCloud บน Windows เพิ่มการรองรับ 2FA สำหรับตัวจัดการรหัสผ่าน iCloud‌ Keychain ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่เพิ่มเข้ามาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งนี้โปรแกรม iCloud บน Windows รองรับการทำงานหลายส่วนรวมทั้ง iCloud Drive และ Photos ด้วย การรองรับ 2FA ทำให้ผู้ใช้งานบริการต่าง ๆ ที่ต้องใช้รหัสผ่านสองชั้น สามารถเพิ่มการสร้างรหัส 2FA ผ่านส่วนจัดการรหัสผ่านของ iCloud ได้เลย เหมือนกับโปรแกรมจัดการรหัสผ่านอื่น ทั้งนี้ 2FA ของส่วนจัดการรหัสผ่านของ iCloud บน Windows รองรับเฉพาะเบราว์เซอร์ Edge และ Chrome เท่านั้น ไม่รองรับ Firefox ที่มา: 9to5Mac ภาพจาก Microsoft Store
# แคมเปญ Change แล้วไง? Instagram ย้ำจากนี้ มีวิดีโอมากขึ้น เน้น Recommendations มากขึ้น Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram อัพเดตความเคลื่อนไหวของ Instagram ว่าแพลตฟอร์มจะปรับเปลี่ยนไปในทิศทางจากนี้ โดยมี 3 ประเด็นสำคัญ ประเด็นแรกคือการแสดงผลหน้าฟีดแบบเต็มจอ (เหมือน TikTok) ซึ่งตอนนี้ทดสอบกับผู้ใช้ส่วนน้อยอยู่ แต่ผลลัพธ์ยังไม่ดีนัก ซึ่งเมื่อเข้าที่กว่านี้ก็จะขยายไปยังผู้ใช้ทุกคน ต่อมาคือโพสต์วิดีโอ Mosseri บอกว่า Instagram มีพื้นฐานมาจากภาพถ่าย ทุกคนรักภาพถ่ายใน Instagram เขาก็รักภาพถ่ายเช่นกัน แต่พฤติกรรมผู้คนเปลี่ยนไปมาก คนนิยมอัพโหลดคอนเทนต์แบบวิดีโอมากขึ้น และคนก็ชอบดูวิดีโอกันมากขึ้น Instagram จึงต้องปรับตัว ผลก็คือ Instagram จะมีโพสต์ที่เป็นวิดีโอเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่อจากนี้ ประเด็นสุดท้ายคือระบบ Recommendations ที่แนะนำคอนเทนต์จากผู้ใช้งานที่เราไม่ได้ติดตาม แต่ Instagram คิดว่ามีเนื้อหาที่เราน่าจะสนใจ Instagram ยืนยันจะใช้แนวทางนี้ เพราะยังช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าถึงผู้ชมที่กว้างขึ้น หากเนื้อหาที่แนะนำ ผู้ใช้งานไม่ชอบ ก็ถือว่าเรายังทำได้ไม่ดีพอ ผู้ใช้งานสามารถกด X เพื่อปิดการแสดงคอนเทนต์ Recommendations เป็นเวลา 1 เดือนได้ด้วย หรือเลือกเปลี่ยนมาใช้ฟีดเฉพาะคนที่เราติดตาม ที่แถบด้านบน ประกาศของ Instagram เป็นการยืนยันว่า แม้ผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยจะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงของ Instagram ที่คล้ายกับ TikTok มากขึ้น จนมีการทำแคมเปญรณรงค์ใน Change.org เรียกร้องให้ Instagram กลับมาเป็น Instagram แบบเดิม แต่จากคำอธิบายข้างบน ดูเหมือน Instagram ก็มีเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ที่มา: Digital Trends และ Social Media Today
# บริษัทรถไฟฟ้า Faraday Future เลื่อนวันส่งมอบรถอีกครั้ง บอกเงินหมด กำลังหาเงินเพิ่ม Faraday Future บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ตั้งชื่อแนวเดียวกับ Tesla ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2014 และมีชีวิตลุ่มๆ ดอนๆ ล่าสุดก็ยังมีปัญหารุมเร้า โดยประกาศว่าต้องเลื่อนการส่งมอบรถยนต์รุ่น FF91 SUV คันแรกของบริษัทออกไปเป็นไตรมาส 3 หรือ 4 ของปี 2022 และบอกว่าเงินหมดแล้ว จำเป็นต้องหาเงินเพิ่มเพื่อผลิตรถยนต์ให้ได้ Faraday Future เข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วยวิธี SPAC มาตั้งแต่กลางปี 2021 ซึ่งล่าสุดบริษัทส่งเอกสารชี้แจง ก.ล.ต. สหรัฐว่า กำลังหาเงินเพิ่มเติมเพื่อให้ดำเนินกิจการต่อได้ (ยังไม่รวมการผลิตรถยนต์) ไปจนถึงสิ้นปี 2022 ตอนนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุน เพื่อหาเงินเพิ่มอีก 325 ล้านดอลลาร์ ถึงแม้ Faraday Future เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน แต่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจชาวจีน Jia Yueting ผู้ก่อตั้งบริษัท LeEco ในจีน ซึ่งมีปัญหามากมายเรื่องการฉ้อโกงและคดีการเงินต่างๆ ปัจจุบัน Yueting ไม่ได้เป็นซีอีโอของ Faraday Future แล้ว แต่ก็ยังมีบทบาทในบอร์ด และมีความขัดแย้งกับผู้ถือหุ้นกลุ่มอื่นอยู่เรื่อยๆ ที่มา - TechCrunch, Bloomberg
# ไมโครซอฟท์เผยผู้ใช้ Power Platform 7 ล้านคนต่อเดือน ตลาด No-Code และ Low-Code มาแรง Charles Lamanna ผู้บริหารฝ่าย Power Platform สำหรับการพัฒนาแอพแบบ no-code และ low-code ของไมโครซอฟท์ (เช่น Power BI, Power App, Power Automate) ให้สัมภาษณ์กับ Protocol เปิดเผยว่าตอนนี้ Power Platform มีผู้ใช้งานแล้ว 7 ล้านคนต่อเดือน ทำรายได้เกิน 2 พันล้านดอลลาร์ในรอบ 12 เดือนล่าสุด คิดเป็นอัตราเติบโตของรายได้ 72% ต่อปี Lamanna บอกว่าภายในไมโครซอฟท์เอง แยกการพัฒนาแอพหรือโซลูชันภายในองค์กรเป็น 3 ระดับคือ no-code สำหรับผู้ใช้จากฝั่งธุรกิจ, low-code สำหรับคนทำงานสายไอที (IT professionals ที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์แต่มีความรู้เทคนิค) และ pro-code สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์มืออาชีพ ปัจจุบันโลกธุรกิจมีความต้องการสร้างโซลูชันใช้ในองค์กรเยอะมาก ไม่มีทางที่โปรแกรมเมอร์อาชีพจะตอบสนองได้หมด ทางออกจึงเป็นการสร้างแอพง่ายๆ แบบ no-code หรือ low-code แทน เพื่อให้มีแอพใช้งาน เขายกตัวอย่างว่า Excel คือเครื่องมือ low-code ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง คนจำนวนมากทำสิ่งมหัศจรรย์หลายอย่างด้วย Excel เพียงโปรแกรมเดียว ภาพจาก Microsoft ขั้นถัดมา เมื่อกลุ่ม no-code และ low-code สร้างแอพได้เป็นจำนวนมากแล้ว จะเกิดปัญหาเรื่องการค้นพบว่ามีแอพตัวนั้นอยู่หรือไม่ ตรงนี้การเชื่อมต่อกับ Microsoft Teams ที่เป็นแอพสื่อสารในองค์กรจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ตัวอย่างคือไมโครซอฟท์ทำให้โซลูชัน Power สามารถฝังในหน้าแชทของ Teams ได้เลย ทำให้เพื่อนร่วมงานสามารถส่งโซลูชันให้กันได้โดยตรงจากหน้าแชททันที นอกจากนี้ Power Platform ยังเชื่อมต่อกับ Microsoft Office และ Microsoft Dynamics 365 อย่างแนบแน่น เรียกได้ว่าถ้ารู้จัก Office ใช้สูตร Excel เป็น ก็จะสามารถใช้ Power Platform ได้ไม่ยาก เพราะทีมงานทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันเพื่อให้ต่อยอดความรู้เดิมของผู้ใช้ให้มากที่สุด ที่มา - Protocol
# บันไดสู่การเป็น Tech Company: เมื่อ CP IP Service Center คือจิ๊กซอว์สำคัญสำหรับเครือซีพี หลังจากที่เครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี ได้เปิดวิสัยทัศน์ในการตั้งเป้าองค์กรสู่การเป็น Tech Company ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อยกระดับธุรกิจในเครือฯ ให้ทันต่อการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก การจะนำพาซีพีสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีได้จิ๊กซอว์สำคัญคือการสร้างนวัตกรรมและงานวิจัย ดังนั้นเครือซีพีจึงได้เร่งจัดทัพองค์กรสร้าง Innovation Ecosystem ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ พัฒนานวัตกรรมที่สอดคล้องกับกระบวนการทำงานในธุรกิจที่หลากหลาย โดยได้จัดตั้ง CP IP Service Center หนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญที่จะช่วยทำหน้าที่รวบรวมนวัตกรรมต่างๆ ขององค์กร ในการจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ให้แก่ทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ไปพร้อมกับการสร้างเครือข่ายพันธมิตรด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี CP IP Service Center กับการช่วยผลักดันองค์กรสู่เป้าหมาย Tech Company คำถามคือ แล้วเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา และ CP IP Service Center เป็นจิ๊กซอว์สำคัญของเครือซีพีอย่างไร คุณดวงฤดี เถลิงโชค Head of CP IP Service Center อธิบายว่า ถ้าเราไปย้อนดูบริษัทเทคโนโลยีในระดับโลก สิ่งหนึ่งที่จะพิจารณาสถานะของการเป็นบริษัทเทค คือจำนวนของสิทธิบัตรหรือ IP ที่บริษัทมี และการจะจดสิทธิบัตรได้ นวัตกรรมนั้นต้องเป็นของใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนและล้ำหน้าในระดับโลก อย่างเช่นกรณีของ Amazon ที่เริ่มต้นการเป็นเว็บขายหนังสือออนไลน์ ปัจจุบันแม้จะมีส่วนที่ขายหนังสืออยู่ แต่ภาพลักษณ์และภาพจำของ Amazon คือบริษัทเทค ส่วนหนึ่งก็คือบริษัทมีการวิจัย พัฒนานวัตกรรมและเป็นเจ้าของสิทธิบัตรจำนานมาก ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เครือซีพีมุ่งหวังจะไป คือยังมีธุรกิจดั้งเดิมอย่าง ธุรกิจอาหาร, เมล็ดพันธุ์, ค้าปลีกหรือโทรคมนาคมอยู่ แต่ภาพใหญ่ของเครือซีพี คือบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เพราะฉะนั้นเครือซีพีจึงพยายามสร้างระบบนิเวศทางเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นในกลุ่มธุรกิจตามนโยบายของคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ด้วยการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีอีกหลายแขนง อาทิ Biotech, Foodtech , Robotics & Automation, E-Commerce และ Digital Media โดยการจะเป็น Tech Company ต้องพิจารณาหลายด้าน ทั้งบริษัทมีการลงทุนใน Research & Development (R&D) มากน้อยขนาดไหน มีนักวิจัยจำนวนเท่าไร ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ทั้งซีพีเอฟ, ซีพี ออลล์, ทรู และบริษัทอื่นๆ ในเครือซีพี มีการคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทไปพร้อมกับสร้างประโยชน์ให้สังคมเป็นจำนวนมาก แต่นวัตกรรมเหล่านั้นอาจจะยังไม่ได้นำมารวบรวม และจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ดังนั้น CP IP Service Center จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการเป็นตัวกลางคอยสนับสนุน ให้คำปรึกษาและผลักดันเรื่องสิทธิบัตรในเครือซีพี เพราะปัจจุบันในเครือฯ มีหลากหลายธุรกิจย่อยและบริษัทย่อย ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็จะมีฝ่ายนวัตกรรมหรือวิจัยเป็นของตัวเอง และก็มีการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ออกมาอยู่ตลอด แต่การไปจดสิทธิบัตรค่อนข้างมีรายละเอียดและกระบวนการที่หลายขั้นตอน ซึ่ง CP IP Service Center จะเข้ามาช่วยประสานงานเรื่องการจดสิทธิบัตรตรงนี้ให้กับบริษัทในเครือฯ รวมถึงอนุสิทธิบัตรหรือแม้แต่เรื่องของลิขสิทธิ์ด้วย ปัจจุบันเครือซีพีมีสิทธิบัตรอยู่ในมือรวมกันราว 3,000 สิทธิบัตร และก็มีที่ยังไม่ได้จดอีกเป็นจำนวนมาก โดยเป้าหมายของ CP IP Service Center คือภายในปี 2030 (พ.ศ. 2575) เครือซีพีจะต้องมีสิทธิบัตรในมือไม่ต่ำกว่า 7,500 ฉบับ คุณดวงฤดี เถลิงโชค, Head of CP IP Service Center เครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณดวงฤดี แสดงความเห็นด้วยว่า นวัตกรรมหรืองานวิจัยใหม่ๆ จะไม่ได้แค่สร้างประโยชน์ให้กับองค์กรที่เป็นเจ้าของ แต่มันยังช่วงส่งเสริมเศรษฐกิจทางอ้อมด้วย เนื่องจากนวัตกรรมหรืองานวิจัยใหม่ๆ จะเป็นปัจจัยที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้มาลงทุน หรือเป็นองค์ประกอบให้บริษัทได้ขยายไปยังธุรกิจใหม่ๆ เกิดการจ้างงาน ดึงดูดคนเก่งๆ จากต่างชาติ ให้เข้ามาต่อยอดนวัตกรรมในไทย และทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้น รวมถึงอาจทำให้ประเทศไทยมี S-Curve ใหม่ๆที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นนอกเหนือจากเรื่องการจดสิทธิบัตรทาง CP IP Service Center จึงได้เร่งสร้างพันธมิตรองค์กรด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งระดับโลกทั้ง MIT, Plug and Play Tech Center, Enterprise Singapore ในการส่งเสริมแลกเปลี่ยนงานวิจัยและพัฒนาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างเครือข่ายนวัตกรรม และนำพาองค์กร รวมถึงประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีแห่งอนาคต ผลงานของเครือซีพีที่นำมาจัดแสดงในงาน IP Fair 2022 เครือซีพีได้ไปร่วมงานจัดแสดงนวัตกรรมในงาน IP Fair 2022 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม ที่ผ่านมาโดยกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนวัตกรรมที่เครือซีพีนำไปแสดง เช่น หุ่น True5G Temi Connect & Carebot หุ่นยนต์บริการอัจฉริยะภายใต้ True Robotic Platform ซึ่งเป็นผลงานของฝ่ายวิจัยและพัฒนา True Robotics ของ True ความน่าสนใจของ True Robotic Platform คือเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การพัฒนาต่อยอดหุ่นยนต์สามารถทำได้ง่ายและหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยคุณเจริญศักดิ์ รัตนวราห หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา True Robotics บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เล่าว่า True Robotic Platform ช่วยให้หุ่นยนต์ Temi มีความหลากหลายในแง่การใช้งาน อย่างเช่นในช่วงโควิด True Robotic Platform มีการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับหมอและพยาบาลในการวัดไข้และวัดอุณหภูมิทางไกล ซึ่งก็สามารถต่อยอดเป็นแพลตฟอร์ม telemedicine ได้ในอนาคต โดยเฉพาะสำหรับสังคมไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คุณเจริญศักดิ์ รัตนวราห หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา True Robotics, บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ปัจจุบัน True Robotics มีสิทธิบัตรในมือแล้วราว 20 สิทธิบัตร เช่น สิทธิบัตรเกี่ยวกับ Home Robot ซึ่งก็ได้รับรางวัลจากรัสเซียและกำลังส่งประกวดต่อหรือสิทธิบัตรหุ่นยนต์ที่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเวลาเชื่อมต่อกับ โมดูลที่เป็น accessories เช่น ใส่หู ก็จะแสดงออกเป็นแมว หรือใส่เนคไทด์ก็จะสามารถวัดความดันได้ เป็นต้น คุณเจริญศักดิ์แนะนำเหล่านักนวัตกรที่มีผลงานวิจัยหรือคิดค้นอะไรใหม่ๆ ด้วยว่า อยากชวนให้ทุกคนจดสิทธิบัตรของตัวเอง เพราะคนไทยอาจจะห่างเหินไม่ได้สนใจเรื่องสิทธิบัตรมากนัก แต่จริงๆ มันเป็นเรื่องของความภาคภูมิใจในการประดิษฐ์อะไรสักอย่างหนึ่งแล้วมีคนใช้งานกันเยอะๆ สามารถนำไปขายในต่างประเทศได้ด้วย ไม่ว่าจะในแง่ไลเซนส์สิทธิบัตรหรือตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากแพลตฟอร์มหุ่นยนต์ของ True ก็ยังมี RoboLab และหุ่นยนต์ส่งของ 7-Eleven ของ CP All โดยหุ่นยนต์ส่งของ 7-Eleven ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและทดสอบ ซึ่งคาดหวังว่าจะถูกนำมาใช้ในการส่งสินค้าจากร้านไปยังคอนโดและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อลดภาระของพนักงานประจำร้านลง ขณะที่ RoboLab เป็นสถาบันการศึกษาวิทยาการหุ่นยนต์ของเครือซีพี ที่เปิดหลักสูตรสอนด้าน Coding และ Robotics สำหรับเด็ก ตั้งแต่เด็กราว 5-16 ปี เปิดสาขาแรกซึ่งเป็นสาขา flagship ณ อาคาร Siam Scape ชั้น 9 คุณชูศักดิ์ ทวีกิติกุล Chief Information Technology Officer, ALL WELLNESS COMPANY LIMITED ระบุสาเหตุที่เครือซีพีหันมาให้ความสำคัญด้าน Coding และ Robotics สำหรับเด็ก เพราะเครือซีพีมองว่าสองเรื่องนี้เป็นทักษะแห่งอนาคต โดยทาง RoboLab มีการพัฒนาหลักสูตรสำหรับแต่ละช่วงอายุโดยเฉพาะ อย่างเช่นวัย 5-7 ปี จะเป็นหลักสูตรแบบ Tangible Coding ผ่านตัวต่อ Cubelet ให้เด็กๆ ได้พัฒนาโลจิก วิธีคิดและความสนุกไปพร้อมๆ กัน ซึ่งการฝึกโลจิกตั้งแต่เด็กก็จะสามารถต่อยอดไปยังทักษะอื่นๆ โดยเฉพาะการโค้ดดิ้งที่ซับซ้อนได้ในอนาคต คุณชูศักดิ์ ทวีกิติกุล, Chief Information Technology Officer, ALL WELLNESS COMPANY LIMITED สรุป จะเห็นได้ว่าเบื้องหลังของเครือซีพีในการนำองค์กรสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทเทคโนโลยี เรื่องของการพัฒนา “คน” และ “การจดสิทธิบัตร”หรือทรัพย์สินทางปัญญา รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายด้านนวัตกรรมเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย ดังนั้นการมี CP IP Service Center ถือเป็นจิ๊กซอว์ที่สำคัญที่จะทำให้องค์กรเปลี่ยนผ่านกลายเป็น Tech Company ได้สำเร็จในอนาคต ในขณะเดียวกันยังเป็นการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ สร้าง New S-Curveให้อุตสาหกรรมของไทยทัดเทียมระดับโลก
# Elon Musk โพสต์ภาพคู่ Sergey Brin สยบข่าวลือแตกหักเพราะเป็นชู้กับอดีตภรรยา Elon Musk โพสต์ภาพถ่ายคู่กับ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล เป็นการแก้ข่าวลือก่อนหน้านี้ ที่ Wall Street Journal รายงานว่า Musk ไปมีสัมพันธ์กับ Nicole Shanahan อดีตภรรยาของ Brin ที่เพิ่งหย่ากันเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 โดยทั้ง Musk และ Brin เป็นเพื่อนกันมายาวนาน และ Brin ลงทุนใน Tesla ตั้งแต่ปี 2008 ก่อนหน้านี้ Musk ออกมาตอบโต้ข่าวนี้ว่าไม่เป็นเรื่องจริง ในขณะที่ Sergey Brin ไม่ปรากฏตัวต่อสื่อมานานมากแล้ว และไม่มีบัญชีโซเชียลใดๆ ต่อสาธารณะ Musk ยังโพสต์ต่อเนื่องว่าตอนนี้มีคนสนใจชีวิตของเขามากเกินไปแล้ว และสื่อก็พยายามเรียกความสนใจ เรียกคลิก จากการเขียนประเด็นเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับตัวเขา
# [ไม่ยืนยัน] Coinbase ถูกก.ล.ต.สหรัฐฯ สอบสวนว่าให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต สำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน 3 ราย ระบวุ่า SEC หรือก.ล.ต.สหรัฐฯ กำลังสอบสวนว่า Coinbase ให้บริการกระดานซื้อขายสินทรัพย์ที่เข้าข่ายว่าเป็นหลักทรัพย์และต้องขออนุญาตล่วงหน้าหรือไม่ การสอบสวนนี้ต่อเนื่องมาจากการจับกุม Ishan Wahi ที่ใช้ข้อมูลภายในซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลล่วงหน้าก่อนประกาศเข้าซื้อขายในกระดานของ Coinbase โดยการดำเนินคดีกับ Ishan แสดงให้เห็นว่า SEC มองว่าสินทรัพย์ดิจิทัลในคดีนี้ 9 ตัวเป็นหลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้อำนาจของ SEC และใน 9 ตัวนี้มี 7 ตัวที่ซื้อขายอยู่ในกระดานของ Coinbase ทาง Coinbase ออกมาแสดงความเห็นว่า SEC รีบเร่งตีความหลักทรัพย์ให้ครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมาก และก่อนที่ Coinbase จะนำสินทรัพย์มาซื้อขายในกระดานก็พิจารณาแล้วว่าไม่เข้าข่ายหลักทรัพย์ หาก SEC สอบสวนและยืนยันว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักทรัพย์ที่อยู่ใต้อำนาจของ SEC ผู้ให้บริการกระดานซื้อขาย เช่น Coinbase ก็ต้องไปจดทะเบียนขออนุญาตรูปแบบเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ ที่มา - Bloomberg
# Google Drive, Docs, Keep รองรับ Android จอใหญ่ เปิดแบ่งจอ ลากแล้ววางข้ามหน้าต่าง กูเกิลประกาศปรับปรุงแอพกลุ่ม Google Workspace ของตัวเองบน Android ให้รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์จอใหญ่ได้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะการเปิดหน้าต่างแบบแบ่งครึ่งจอ ลากข้อความหรือรูปภาพข้ามหน้าต่างได้ (ภาพแอนิเมชันแสดงการลากแล้ววางแบบต่างๆ สามารถดูได้จากที่มา) Google Docs, Sheets, Slides รองรับการเปิดคู่แบบครึ่งจอกับแอพอื่น เช่น Chrome และสามารถลากข้อความหรือรูปภาพไปวางได้ทันที Google Drive รองรับการลากไฟล์ไปใส่เพื่ออัพโหลดขึ้นคลาวด์ได้ และถ้าลากไฟล์ออกจาก Google Drive ไปใส่แอพอื่น ก็จะได้ลิงก์ไปยังไฟล์นั้น Google Keep รองรับการลากรูปภาพที่เก็บลง Keep ไปยังแอพอื่น เช่น หน้าจอเขียนเมลของ Gmail Google Drive รองรับการเปิด 2 หน้าต่างคู่กัน โดยคลิปที่ไฟล์แล้วเลือกเมนู Open in new window แอพเหล่านี้ยังรองรับปุ่มลัดคีย์บอร์ดที่คุ้นเคย เช่น cut, copy, paste, undo กดที่คีย์บอร์ดของแท็บเล็ตได้เลย ที่มา - Google
# ไมโครซอฟท์ปรับ Xbox ให้บูตเร็วขึ้น 5 วินาที ด้วยการใช้ไฟล์แอนิเมชันบูตที่สั้นลงกว่าเดิม ไมโครซอฟท์ปรับกระบวนการบูตเครื่อง Xbox Series X|S และ Xbox One ให้เร็วขึ้นประมาณ 5 วินาที ด้วยวิธีการง่ายๆ คือปรับความยาวของแอนิเมชันโลโก้ Xbox ตอนบูตให้เร็วขึ้นกว่าเดิม (จาก 9 เหลือ 4 วินาที) แปลว่าปกติก็บูตเร็วได้อยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาต้องเสียเวลาไปรันแอนิเมชันให้จบไฟล์ก่อน การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลเฉพาะการบูตแบบ cold boot คือสถานะปิดไฟสนิทเท่านั้น หากตั้งเครื่องในโหมด Standby ไว้ก็บูตเร็วอยู่แล้ว โดยตอนนี้ยังเปิดให้ทดสอบเฉพาะกลุ่ม Xbox Insiders ก่อน เว็บไซต์ TechRadar บอกว่าการบูต Xbox ที่เร็วขึ้นช่วยให้ประสบการณ์ตอนบูตดีขึ้นใกล้เคียงกับ PS5 หรือ Nintendo Switch แล้ว ที่มา - The Verge, TechRadar
# OnePlus 10T ถอดฟีเจอร์ Alert Slider ออกเพราะต้องการเพิ่มพื้นที่ภายใน มีระบบชาร์จเร็วคู่ OnePlus ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ OnePlus 10T มือถือเรือธงรุ่นครึ่งหลังของปี 2022 ที่มีกำหนดเปิดตัว 3 สิงหาคมนี้ ประเด็นสำคัญคือ OnePlus 10T จะเป็นมือถือรุ่นแรกของ OnePlus ที่ไม่มี Alert Slider ปุ่มเลื่อนสำหรับปิดการแจ้งเตือนด้านข้างเครื่อง ที่เคยเป็นจุดขายของ OnePlus มาตลอด OnePlus อธิบายเหตุผลที่ถอด Alert Slider ออก ว่าเป็นเพราะต้องการเพิ่มพื้นที่ภายในเครื่อง เพื่อใช้วางชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์อื่นๆ โดยยังคงความบางของเครื่องมือถือไว้ได้ โดยฟีเจอร์ที่ลูกค้าให้ความสำคัญสูงคือ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ การชาร์เร็จไร้สาย และเสาอากาศรับสัญญาณที่ดี จึงต้องตัดสินใจทิ้ง Alert Slider เพื่อสิ่งเหล่านี้ OnePlus 10T จะเพิ่มตัวชาร์จเร็ว 2 จุด (two charging pumps) เพื่อช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้นกว่า OnePlus 10, เพิ่มระบบเสาอากาศ (antenna system) ที่มีเสาทั้งหมด 15 จุดรอบเครื่อง, ขยายพื้นที่การใช้งานเมนบอร์ดให้เยอะขึ้น จากเดิม 74% ของแผ่นบอร์ดเป็น 78% หน้าตาและดีไซน์ของ OnePlus 10T ยังตั้งใจให้คล้าย OnePlus 10 Pro โดยเฉพาะโมดูลกล้องหน้าตาแบบเดียวกัน แต่ปรับจุดเชื่อมต่อของกระจกหลังเครื่องกับโมดูลกล้องให้โค้งต่อกันสนิทขึ้น (ใช้กระจกโค้ง) สีของตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สีคือดำ Moonstone Black และเขียว Jade Green ที่มา - OnePlus
# Dell ประกาศปิดบริการ Dell Mobile Connect ตั้งแต่ 30 พฤศจิกายนนี้ เดลล์ประกาศหยุดให้บริการ Dell Mobile Connect และ Alienware Mobile Connect แอปที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับพีซีของเดลล์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถส่งข้อความหรือโทรศัพท์ผ่านพีซีได้ โดยแอป Dell Mobile Connect จะปิดการดาวน์โหลดตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2022 และปิดบริการตั้งแต่ 30 พฤศจิกายน 2022 ทั้งนี้วันปิดและหยุดให้บริการ จะช้าออกไปสำหรับในอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานคุณสมบัติการสั่งงานผ่านพีซีไปยังสมาร์ทโฟนต่อไป คำตอบตอนนี้น่าจะเป็นแอป Phone Link ของ Windows แต่รองรับเฉพาะ Android เท่านั้น ที่มา: Windows Central
# Apple ยอมไกล่เกลี่ยยุติคดี ที่ Koss ฟ้อง ว่าหูฟัง AirPods ละเมิดสิทธิบัตร แอปเปิลตัดสินใจไกล่เกลี่ยยอมยุติคดีที่ Koss ฟ้อง ว่าหูฟัง AirPods และ Beats ของแอปเปิลละเมิดสิทธิบัตรของบริษัท ซึ่งเดิมศาลนัดไต่สวนคดีวันนี้ แต่ศาลประกาศว่าคู่กรณีได้เจรจาและขอถอนการฟ้อง ทั้งนี้ศาลไม่ได้ให้รายละเอียดการเจรจาไกล่เกลี่ยว่ามีอะไรบ้าง Koss ยื่นฟ้องแอปเปิลเมื่อปี 2020 ระบุว่าบริษัทละเมิดสิทธิบัตรหูฟังไร้สายหลายรายการ ซึ่ง Koss บอกว่าได้ออกแบบและพัฒนา กระบวนการส่งข้อมูลเสียงมายังอุปกรณ์ไร้สาย ตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2000 โดยเรียกค่าเสียหายจากแอปเปิลเป็นส่วนแบ่งจากยอดขาย AirPods และหูฟัง Beats ซึ่งตอนนั้นแอปเปิลไม่เห็นด้วยกับคำฟ้อง และบอกว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตรแต่อย่างใด นอกจากนี้ Koss ยังฟ้องอีกหลายบริษัทผู้ผลิตหูฟังไร้สายด้วยเหตุผลเดียวกัน ซึ่งมีทั้ง Bose และ Skullcandy แต่ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี ที่มา: Reuters
# วิศวกร Meta เสนอไอเดีย ยกเลิก Leap Second เปลี่ยนมาปรับสปีดนาฬิกาแทน Oleg Obleukhov และ Ahmad Byagowi วิศวกรจาก Meta เขียนบล็อกเพื่อสนับสนุนให้ยกเลิก Leap Second หรือ อธิกวินาที ที่หลายบริษัทเทคโนโลยีเคยเสนอก่อนหน้านี้ ซึ่งปัจจุบันถูกใช้เป็นวิธีชดเชยการนับเวลาของโลก ที่ไม่ได้หมุนรอบตัวเท่ากันเป๊ะในทุกปี โดยการบวกชดเชยเวลานั้น จะมีหน่วยงาน IERS เป็นคนกำหนดว่าให้ทำในปีใดวันใด การชดเชยเวลาครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในวันสิ้นปี 2016 และที่ผ่านมาโลกก็ใช้การบวกเวลาเพิ่มไปแล้ว 27 ครั้ง ยังไม่เคยลดเวลาลง ซึ่งย่อมต้องทำในช่วงเวลาหนึ่งหากยังใช้วิธีบวกเวลาเพิ่มแบบนี้ แต่ปัญหาคือยังไม่เคยมีการทดสอบในระดับใหญ่ว่าการลดเวลาจะทำงานอย่างไร โดยวิธีการอาจเป็นการทำเวลาให้หายไป 1 วินาที เช่น 23:59:58 -> 00:00:00 วิศวกรของ Meta อธิบายว่าวิธีเพิ่ม Leap Second ถูกใช้มาตั้งแต่ปี 1972 ซึ่งช่วยแก้ปัญหาของนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ได้ แต่กับฝั่งเทคโนโลยี-อินเทอร์เน็ต ที่อาศัยการซิงก์ของเวลากับอุปกรณ์ต่าง ๆ เรื่องนี้กลายเป็นความยุ่งยาก และเสี่ยงต่อระบบล่มจากปัญหาเวลาไม่ตรงกัน แนวทางที่ Meta เสนอเรียกว่า Smearing โดยใช้การหน่วงหรือเพิ่มความเร็วนาฬิกาเล็กน้อยสำหรับชดเชยเวลา ช่วงเวลาสำหรับการปรับความเร็วนาฬิกาจะกินเวลาประมาณ 17 ชั่วโมง ซึ่งสามารถชดเชยเวลาที่แตกต่างกันช่วงนั้นใน NTP ได้ ทั้งนี้คาดว่าการเพิ่ม Leap Second ครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในปีนี้วันที่ 31 ธันวาคม 2022 อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับ IERS ประเมินการหมุนของโลกอีกครั้ง ที่มา: Meta และ Silicon Angle
# NFL เปิดตัวสตรีมมิ่ง NFL+ คิดค่าบริการ 4.99 ดอลลาร์ต่อเดือน NFL ลีกอเมริกันฟุตบอล เปิดตัวบริการสตรีมมิ่ง NFL+ ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ คิดค่าบริการที่ 4.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือจ่ายรายปี 39.99 ดอลลาร์ ส่วนลูกค้าบริการตัวเดิม NFL Game Pass จะถูกเปลี่ยนมาเป็น NFL+ แทน นอกจากนี้ยังมี NFL+ Premium ที่ราคา 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ไม่มีโฆษณาสำหรับการชมย้อนหลัง และเพิ่มมุมกล้องอื่นเข้ามา อย่างไรก็ตามในช่วงแรกคอนเทนต์ที่รับชมได้ยังจำกัด เฉพาะแมตช์พรีซีซัน โพสต์ซีซัน ไม่รวมแมตช์ปกติที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ช่องปกติ หรือแมตช์สำคัญที่มีผู้ซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้ว และรับชมได้ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเท่านั้น แต่คาดว่าจะมีการปรับรูปแบบในอนาคตต่อไป ทิศทางของ NFL เหมือนกับผู้จัดลีกการแข่งขันกีฬารายใหญ่ทั่วโลก ที่เริ่มมาสร้างบริการสตรีมมิ่งของตนเองสำหรับนำเสนอคอนเทนต์รองรับแฟนกีฬา ที่มา: CNBC
# Rogers ชี้แจงเหตุล่ม คอนฟิกเราท์เตอร์ผิดเปิดรับทราฟิกจากทุกคนจนล่ม Rogers เครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ในแคนาดาชี้แจงเหตุล่มครั้งใหญ่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าเกิดจากการอัพเกรดระบบที่วางแผนมานาน และค่อยๆ ปรับทีละเฟสจากทั้งหมด 7 เฟส และช่วงเวลาที่มีปัญหาคือเฟสที่ 6 เกิดคอนฟิกผิด ทำให้ลบ routing filter ในเราท์เตอร์ออกไปจนระบบล่ม การลบ routing filter ออกจากเราท์เตอร์ทำให้เราท์เตอร์เริ่มรับทราฟิกจากทุกคนเข้ามาวิ่งผ่านเราท์เตอร์ของ Rogers และเมื่อโหลดของเราท์เตอร์เกินรับไหว ก็ทำให้เครือข่ายภายในของ Rogers ล่มไปด้วย เพราะเครือข่ายไอพีภายในนั้นรองรับทราฟิกทั้งหมด ทั้งอินเทอร์เน็ตบ้าน, เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ, และเครือข่ายสำหรับลูกค้าองค์กร โดยแนวทางนี้นับเป็นแนวทางปกติของผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลก การคอนฟิกอัพเกรดครั้งนี้ทำพร้อมกันในเราท์เตอร์ 3 ตัว เนื่องจากเครือข่ายล่มที่แกนกลาง ทำให้พนักงานของ Rogers เองก็เชื่อมต่อระบบภายในไม่ได้ ระบบ VPN ของบริษัทเองก็ล่มตามไป ทาง Rogers ต้องแจกจ่ายซิมของค่ายอื่นให้พนักงานใช้งานระหว่างซ่อมระบบ และพนักงานบางส่วนต้องเข้าไปซ่อมคอนฟิกที่หน้าเราท์เตอร์โดยตรง ที่มา - The Register
# Tesla โดนฟ้องในเยอรมนี ลูกค้าพบ Model 3 มีรอยแตกบนโครงสร้างรถ แถมโดนพ่นสีทับ Tesla โดนฟ้องในเยอรมนีเกี่ยวกับปัญหาคุณภาพการประกอบของรถยนต์ โดยในคำร้องระบุว่าพบรอยแตกในโครงสร้างตัวรถ แถม Tesla พยายามจะซ่อนดังกล่าวด้วยการพ่นสีทับ เว็บไซต์ Blid ของเยอรมนีรายงานว่าลูกค้าที่ซื้อรถ Tesla Model 3 พบรอยแตกบนตัวรถตอนกำลังเปลี่ยนยาง และพบความพยายามปิดรอยดังกล่าวด้วยการทาหรือพ่นสีทับ เจ้าของรถยนต์คันนี้จึงร้องเรียนไปยังศาลท้องถิ่นมิวนิค ซึ่งศาลได้สั่งให้นำผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรอิสระมาตรวจสอบรถ และพบว่ารถคันดังกล่าวมีความเสียหายที่ร้ายแรงมากพอที่จะทำให้ตัวรถไม่ผ่านการตรวจสอบ TÜV ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศเยอรมนี ในรายงานระบุว่า ศาลแห่งเดียวกันได้รับคำร้องเรียนถึง 2 เคส โดยอีกเคสก็มีคำร้องที่คล้ายกัน คือ Tesla ส่งมอบรถใหม่ที่มีรอยแตกและรอยต่อผิดรูปมาให้ลูกค้า ซึ่งศาลก็สั่งให้ตรวจสอบรถยนต์และพบผลคล้ายคันแรก อย่างไรก็ดี ฝั่ง Tesla พยายามบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาความสวยงาม (cosmetic) ในขณะที่ผลตรวจสอบคุณภาพรถยนต์พบว่าไม่ผ่านในหลายประเด็นที่มักจะพบในรถยนต์ที่มีอายุ (บ่งบอกว่าไม่ใช่แค่ปัญหาความสวยงามตามที่ Tesla กล่าวอ้าง) ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถใหม่แบรนด์ Tesla ในลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก โดยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เจ้าของ Tesla Model S รายหนึ่งโพสต์ภาพใน Tesla Motors Club ที่เห็นรอยร้าวบนเสา A ของรถยนต์ และเขายืนยันว่ารถยนต์คันนี้ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ แต่ตัวอะลูมิเนียมเองที่แตกและทำให้เห็นรูข้างใน และยังมีความพยายามพ่นสีรอยแตกนี้ด้วย ตอนนี้คดีในเยอรมนียังคงอยู่ในชั้นศาล ซึ่งจะต้องรอติดตามเคสดังกล่าวกันต่อไป เพราะหากผู้บริโภคฟ้องร้องแล้วชนะ Tesla อาจต้องเรียกคืนรถจำนวนมากเพื่อไปตรวจสภาพอีกครั้ง หรืออาจเกิดการฟ้องร้องจากผู้บริโภครายอื่นต่อไปได้ ที่มา - Carscoops, Road and Track, Driving.ca, dsf.my ภาพจาก Tesla
# Intel ปิดดีล ผลิตชิปให้กับ MediaTek จัดส่งในอเมริกาและยุโรป อินเทล และ MediaTek ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ในการผลิตชิปสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยให้ Intel Foundry Services ส่วนธุรกิจรับจ้า ผลิตชิปเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่ง MediaTek มองว่าจะช่วยให้บริษัทบริหารซัพพลายเชนได้ดีมากขึ้น จากการเพิ่มกำลังผลิตในอเมริกาและยุโรป MediaTek เป็นผู้จัดส่งชิปให้กับสมาร์ทโฟนหลายราย โดยที่ผ่านมาใช้โรงงานของ TSMC ในการผลิตเป็นหลัก ความร่วมมือนี้ เป็นไปตามแผนที่อินเทลประกาศไว้ในยุทธศาสตร์ IDM 2.0 นั่นคือการตั้งหน่วยธุรกิจ Intel Foundry Services หรือ IFS เพื่อรับจ้างผลิตชิปจากลูกค้าภายนอกในทุกสถาปัตยกรรม เนื่องจากมีโรงงานและเทคโนโลยีการผลิตรองรับอยู่แล้ว ที่มา: Engadget และ อินเทล
# Zipmex ชี้แจงเพิ่มเติมวันนี้ เซ็น MOU กับนักลงทุนแล้ว, เร่งตั้งฮอตไลน์ดูแลลูกค้า ในวันนี้ ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Zipmex Thailand ได้แถลงการณ์ผ่านไลฟ์เพื่อรายงานสถานการณ์ล่าสุด ของบริการ ZipUp ที่ตอนนี้ระงับการถอนสินทรัพย์ชั่วคราว โดยมีหลายประเด็นสำคัญ โดย ดร.เอกลาภ พูดถึงการรับการลงทุนเพิ่มเติม ว่าตอนนี้ได้เซ็น MOU กับนักลงทุนหลายรายแล้ว ซึ่งจะมีขั้นตอนอื่นต่อไป ส่วนประเด็นจากหน่วยงานกำกับดูแลนั้น Zipmex ได้รายงานให้ข้อมูลกับทาง ก.ล.ต. แล้ว นอกจากนี้ ดร.เอกลาภ ยังอธิบายรายละเอียดปัญหากับทาง Babel Finance และ Celsius ว่า เป็นการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปฝากไม่ใช่การนำไปลงทุน ซึ่งทำมาตั้งแต่เริ่มให้บริการ ZipUp กรณีของ Celcius ที่ระงับการถอนตั้งแต่เดือนมิถุนายน บริษัทประเมินจากงบดุลเวลานั้นว่าสามารถตั้งขาดทุนทั้งหมดได้ ส่วนของ Barbel เมื่อทราบว่าบริษัทเริ่มมีปัญหา ก็มีการเจรจามาโดยตลอด แต่ในวันที่ 20 กรกฎาคม การเจรจาให้ผลออกมาเชิงลบ Zipmex จึงตัดสินใจออกประกาศระงับการถอนสินทรัพย์ชั่วคราว และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป สุดท้าย Zipmex กำลังเร่งจัดทำศูนย์ฮอตไลน์เพื่อดูแลลูกค้า คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ที่มา: Zipmex
# หมอพร้อม เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ ปรับ UI ทันสมัย เพิ่มฟีเจอร์นัดหมายออนไลน์ ใบรับรองสุขภาพดิจิทัล กระทรวงสาธารณสุข พร้อมพาร์ทเนอร์บริษัทเอกชน ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, INET, สภากาชาดไทย, เอสซีจี โลจิสติกส์ ร่วมกันเปิดตัวแอพ "หมอพร้อม" เวอร์ชันใหม่ที่ปรับปรุง UI ใหม่หมด หน้าตาทันสมัยกว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์เพิ่มมากขึ้น ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าแอพหมอพร้อมเริ่มมาจากการใช้สำหรับวัคซีน COVID-19 ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 32 ล้านคน ในระยะถัดไปตั้งเป้าขยายภารกิจเป็นแอพสุขภาพ Digital Health ของคนไทย ฟีเจอร์ของหมอพร้อม จะมีทั้งหมด 12 อย่าง ได้แก่ ใบรับรองโควิด 19 แสดงประวัติและรายละเอียดการฉีดวัคซีน รองรับการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ผลตรวจหาเชื้อโควิด 19 ทั้ง ATK/RT-PCR ค้นหาหน่วยบริการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ทั้ง ATK/RT-PCR เช็กอินผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยระบบ Beacon โดยเปิดบลูธูทและตำแหน่งที่ตั้งก่อนเข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆ ที่กำหนดให้แสดงสถานะสุขภาพเกี่ยวกับโควิด 19 ใบรับรองสุขภาพดิจิทัล สามารถดาวน์โหลดไฟล์ PDF ไปใช้ประกอบธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ บริจาคออนไลน์ ทั้งบริจาคเงินโดยตรงกับโรงพยาบาล บริจาคอวัยวะ ดวงตา และร่างกาย แชทกับหมอพร้อม ตอบคำถามและสื่อสารความรู้สุขภาพกับประชาชนแบบอัตโนมัติ ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่เกี่ยวกับหมอพร้อม นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ข่าวสารสุขภาพต่างๆ ประวัติสุขภาพ รองรับการตรวจสอบข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล อาทิ ประวัติการรักษาพยาบาล/การส่งต่อการรักษา นัดหมายออนไลน์ล่วงหน้า เพื่อเข้ารับบริการกับโรงพยาบาลและคลินิกที่เข้าร่วม เช็คสิทธิการรักษาภาครัฐและประกันสุขภาพของเอกชน Telemedicine ให้บริการสุขภาพและคำปรึกษาทางการแพทย์แบบทางไกล ฟีเจอร์เหล่านี้จะทยอยเปิดใช้ในแอพหมอพร้อม เดือนสิงหาคม และ LINE OA หมอพร้อม ในเดือนกันยายน ทั้งนี้ พาร์ทเนอร์ภาคเอกชนก็ร่วมสนับสนุนการทำงานของหมอพร้อมในด้านต่างๆ เช่น ธนาคารกสิกรไทย เข้ามาช่วยด้านการวิเคราะห์ข้อมูล สรุปยอดผู้ติดเชื้อรายวัน และการทำ Call Center หมอพร้อม ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ส่วน INET ช่วยสนับสนุน Cloud Computing และการพัฒนา Digital Health Pass และ EU DCC ในการออกใบรับรองประวัติการฉีดวัคซีนเพื่อเข้าประเทศยุโรป รวมถึงการพัฒนาใบรับรองแพทย์ดิจิทัล เป็นต้น ที่มา - Facebook หมอพร้อม
# ผู้บริหาร AWS โวยไมโครซอฟท์อาศัยไลเซนส์ซอฟต์แวร์ดึงลูกค้าเข้า Azure Matt Garman รองประธานอาวุโสฝ่ายขายและการตลาดของ AWS แสดงความเห็นว่าไมโครซอฟท์ยังอาศัยไลเซนส์ซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อกดดันให้ลูกค้าต้องหันไปใช้ Azure เนื่องจากราคาถูกกว่า โดยมองว่าการกระทำแบบนี้เป็นการต่อต้านการแข่งขัน (anti-competitive) และลูกค้าของ AWS บางรายอาจจะต้องจ่ายค่าไลเซนส์แพงขึ้นนับล้านดอลลาร์หากใช้ AWS AWS และไมโครซอฟท์มีการแข่งขันกันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากบริการ Azure ของไมโครซอฟท์เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน AWS ก็พยายามดึงลูกค้าไมโครซอฟท์ให้มาใช้ซอฟต์แวร์ทดแทน เช่น โครงการ Babelfish ที่ทำให้แอปพลิเคชั่นที่รันอยู่บน Microsoft SQL Server สามารถไปรันบน PostgreSQL ได้ ขณะที่ไมโครซอฟท์พยายามดึงลูกค้าไปใช้งาน Azure ด้วยการเปิดให้ลูกค้ารับแพตช์ SQL Server เวอร์ชั่นเก่าที่หมดอายุซัพพอร์ตไปแล้วได้ฟรี หากย้ายงานไปใช้บน Azure แนวทางการผูกซัพพอร์ตซอฟต์แวร์เข้ากับบริการคลาวด์เข้าด้วยกันนับเป็นกลยุทธ์ที่ผู้ให้บริการคลาวด์ทำกันเสมอ ฝั่ง AWS มีซอฟต์แวร์ยอดนิยมคือ Amazon Linux ที่สามารถซื้อซัพพอร์ตพ่วงไปกับการซัพพอร์ต AWS โดยรวมได้ แต่ไม่มีช่องทางซื้อซัพพอร์ตสำหรับใช้งานนอก AWS เลย ที่มา - The Register
# หยวนดิจิทัล (e-CNY) ของแบงค์ชาติจีน ครอบคลุมประชากร 20% แต่คนยังใช้ไม่เยอะ หมายเหตุ: หยวนดิจิทัลของรัฐบาลจีน ไม่ได้เป็นคริปโต และไม่ได้รันบนบล็อกเชน แต่เป็นโครงการจ่ายเงินออนไลน์แบบผูกกับบัญชีธนาคาร ลักษณะเหมือนพร้อมเพย์ของบ้านเรา Nikkei Asia มีบทความติตดามความคืบหน้าของโครงการ "หยวนดิจิทัล" (e-CNY) สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (central bank digital currency หรือ CBDC) ที่ออกโดยธนาคารกลางของจีน (People's Bank of China) โครงการหยวนดิจิทัล เริ่มศึกษามาตั้งแต่ปี 2014 และทดลองใช้งานจริงในปี 2020 ที่เมืองเซินเจิ้น จากนั้นขยายผลมาเป็น 23 เมืองในปัจจุบัน ครอบคลุมประชากรจีน 216 ล้านคน หรือคิดเป็น 20% ของประชากรจีนทั้งหมด รูปแบบการใช้งานหยวนดิจิทัล สามารถใช้แอพบนสมาร์ทโฟน (หน้าตาแอพบน iPhone) จ่ายกับร้านค้าต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม (ตรงนี้เหมือนกับพร้อมเพย์ของบ้านเรา) และจ่ายได้โดยไม่ต้องมีอินเทอร์เน็ต (ผ่าน NFC) อย่างไรก็ตาม หยวนดิจิทัลกลับยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก ด้วยเหตุผลว่ามีฟีเจอร์ต่างจากระบบจ่ายเงินภาคเอกชนอย่าง Alipay หรือ WeChat Pay ไม่มากนัก (ต่างกันจริงๆ แค่เรื่อง NFC) ทำให้คนจีนส่วนใหญ่ยังนิยมใช้ Alipay หรือ WeChat Pay ที่คุ้นเคยมากกว่ากันต่อไป Nikkei Asia อ้างแหล่งข่าวในธนาคารกลางจีนว่า สถานะของโครงการหยวนดิจิทัลตอนนี้รองรับฟีเจอร์พื้นฐาน คือการจ่ายเงินให้สะดวก รวดเร็ว ธุรกรรมไม่ล่าช้าได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการพัฒนาให้ใช้งานง่ายขึ้น สะดวกขึ้น มีนวัตกรรมมากขึ้น ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า จีนจะเปิดใช้งานหยวนดิจิทัลอย่างเป็นทางการในวงกว้างเมื่อใด แต่แหล่งข่าวของ Nikkei ก็บอกว่าตอนนี้โครงการ CBDC ของจีนยังนำหน้าประเทศอื่นๆ อยู่มาก จึงยังไม่รีบร้อนในเรื่องนี้ ที่มา - Nikkei Asia
# [ลือ] Apple Watch Series 8 จะเพิ่มรุ่น Pro หน้าปัดใหญ่ขึ้น 7% - อยู่ได้หลายวันด้วยโหมด Low Power Mark Gurman แห่ง Bloomberg ให้ข้อมูลล่าสุดในรายการ Power On เกี่ยวกับ Apple Watch Series 8 รุ่นใหม่ที่จะออกมาในปีนี้ โดยมีรุ่นบนเพิ่มเติม (ซึ่งตามข่าวก่อนหน้าคือ Apple Watch Pro) จุดขายนอกจากความทนทาน ก็คือดีไซน์ใหม่ที่แตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ เขาบอกว่า Apple Watch Series 8 รุ่นบน ที่เรียกชื่อว่า Pro ในตอนนี้ จะใช้ดีไซน์ใหม่เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ Apple Watch Series 4 เมื่อปี 2018 หน้าปัดมีขนาดใหญ่ขึ้นแบบสังเกตเห็นได้ชัดเจนคือราว 7% ตัวเรือนใช้วัสดุไทเทเนียมเพื่อเพิ่มความทนทานเป็นพิเศษ ส่วนรูปทรงยังเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนเดิม เพียงแต่ปรับการออกแบบ ประเด็นที่คนสนใจเยอะอย่างแบตเตอรี่ ข้อมูลบอกเพียงใช้ได้นานขึ้นหลายวัน แต่อาศัยโหมดการทำงาน Low Power แบบใหม่เข้ามาช่วย ในแง่ฟีเจอร์การใช้งาน ยังคงตามข่าวก่อนหน้านี้คือเพิ่มตัววัดอุณหภูมิร่างกาย ส่วนฟีเจอร์วัดความดันเลือด หรือการวัดระดับน้ำตาล ยังไม่มีเข้ามาในรุ่นของปีนี้ ที่มา: MacRumors
# ผู้กำกับ Bayonetta 3 ยืนยัน โหมดมิดชิดทำขึ้นเพื่อผู้เล่นเกม ไม่มีใบสั่งจาก Nintendo ก่อนหน้านี้ PlatinumGames ได้ประกาศวันวางขายเกม Bayonetta 3 ในวันที่ 28 ตุลาคม 2022 ซึ่งจะลงเฉพาะ Nintendo Switch รวมทั้งประกาศโหมดเกม Naive Angel ที่ตัวละครจะแต่งกายมิดชิดขึ้น ซึ่งทำให้หลายคนคาดว่านินเทนโดน่าจะเป็นคนสั่งให้เพิ่มฟีเจอร์นี้ แต่ล่าสุด Hideki Kamiya ผู้กำกับเกม ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าว ยืนยันว่านินเทนโดไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายเรื่องการเซ็นเซอร์ตัวละคร โหมดการเล่น Naive Angel นี้ถูกเพิ่มมาด้วยเหตุผลที่เคยบอกไปแล้ว นั่นคือให้สามารถเล่นเกมได้อย่างสบายใจมากขึ้น เขายังบอกว่าหลังจากร่วมงานแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับนินเทนโดมานาน นินเทนโดเป็นบริษัทที่เปิดกว้างทางความคิด และให้อิสระในการพัฒนาเกมโดยตลอด ที่มา: Nintendo Life
# รัฐบาลอังกฤษสรุป Loot box ไม่เข้าข่ายการพนัน แต่ผู้ผลิตเกมต้องดูแลเข้มงวด ย้อนไปเมื่อปี 2020 รัฐบาลอังกฤษได้เรียกประชุมผู้ผลิตเกม เพื่อหารือในประเด็น Loot box ว่าเข้าข่ายการพนันหรือไม่ ซึ่งหากเข้าข่ายจะต้องใช้กฎหมายกำกับดูแลเฉพาะแบบการพนัน และส่งผลต่อเนื่องจากหลายอย่าง รวมทั้งควบคุมการเล่นของเยาวชน อย่างไรก็ตามกระทรวงดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อ และกีฬาของอังกฤษ ได้เผยแพร่ข้อสรุป บอกว่า Loot box ในเกม ไม่ต้องถูกกำกับดูแลแบบการพนันในตอนนี้ แต่ขอให้อุตสาหกรรมเกมพยายามกำกับดูแลกันเอง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบจนต้องออกกฎหมายควบคุม แนวทางที่หน่วยงานอังกฤษระบุ ว่าผู้ผลิตเกมควรดูแลจัดการ เช่น ควบคุมผู้เล่นเยาวชน เปิดเผยอัตราการสุ่ม หรือเพิ่มความโปร่งใสสำหรับผู้เล่น มีรายงานว่ามีสองเหตุผลที่อังกฤษตัดสินใจยังไม่นับ Loot box เป็นการพนัน เนื่องจากผู้ผลิตเกมเอง ก็ปรับปรุงระบบไม่ให้มีปัญหากับผู้เล่นเกมมาโดยตลอดอยู่แล้วในช่วงหลายปี อีกทั้งหากสรุปว่าเกมมี Loot box เป็นการพนัน ผู้ผลิตเกมอาจตัดสินใจปิดให้บริการไปเลยแบบที่เกิดในเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ ที่มา: PC Gamer
# ราคาหุ้น Snap ลดลงกว่า 39% หลังรายงานผลประกอบการโตน้อยกว่าที่คาด Snap รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2022 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 1,111 ล้านดอลลาร์ ขาดทุนสุทธิมากขึ้นเป็น 422 ล้านดอลลาร์ จำนวนผู้ใช้งานประจำทุกวัน DAU เพิ่มเป็น 347 ล้านบัญชี ถึงแม้ตัวเลขจะเติบโต แต่ก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไปมาก ส่งผลให้ราคาหุ้น Snap ในวันศุกร์หลังรายงานผลประกอบการ ปรับลดลงถึง 39% นอกจากนี้บริษัทยังบอกว่าไม่ให้ตัวเลขคาดการณ์ของไตรมาสปัจจุบัน เนื่องจากมีปัจจัยแวดล้อมที่ท้าทายหลายอย่าง โดยให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าน่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 3 ปีก่อน Snap บอกว่าไตรมาสที่ผ่านมามีความท้าทายมากกว่าที่บริษัทคาด สิ่งที่สามารถทำได้ตอนนี้คือชะลอการรับพนักงานใหม่ และลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด ที่มา: CNBC และ Snap (pdf)
# Naughty Dog โชว์คลิป The Last of Us Part I รีเมคทั้งกราฟิก เกมเพลย์ และ AI Naughty Dog ออกคลิปความยาว 10 นาที โชว์เบื้องหลังการพัฒนาเกม The Last of Us Part I เวอร์ชันรีเมคที่ยกเครื่องจากเดิมทุกด้าน ทั้งกราฟิก เกมเพลย์ และการใช้ฟีเจอร์ฮาร์ดแวร์ของ PS5 กราฟิก สามารถเล่นได้ระดับ Native 4K 30 FPS หรือ Dynamic 4K 60 FPS โดยปรับกราฟิกใหม่ให้สวยและความละเอียดสูงระดับเดียวกับ Part II, ทีมผู้สร้างยังปรับปรุง motion capture ใหม่ให้ท่าทางของตัวละครสมจริงขึ้นด้วย เกมเพลย์ ปรับปรุงระบบฟิสิกส์ให้สมจริงขึ้น ตามศักยภาพฮาร์ดแวร์ของ PS5, ระบบ AI ที่ฉลาดกว่าเดิม ในคลิปมีแสดงการทำงานของ AI ให้เราเห็นว่าศัตรูหรือเพื่อนในเกมมองเห็นอะไร และตอบสนองต่อการกระทำของผู้เล่นอย่างไร ฟีเจอร์ของ PS5 ใช้ทั้ง 3D audio ให้ผู้เล่นฟังเสียงของศัตรูได้ก่อนเจอตัว และรองรับ adaptive trigger ของจอย PS5 ทั้งการยิงปืน ยิงธนู หรือสัมผัสสิ่งต่างๆ ในเกม ปรับปรุงฟีเจอร์ accessibility มีเสียงบรรยายทั้งเกม (Audio Description) สำหรับคนที่มีปัญหาด้านการมองเห็น เกมยังมีโหมดใหม่ๆ เพิ่มมา เช่น permadeath ตายได้ครั้งเดียว, speedrun และเพิ่มเสื้อผ้าใหม่ๆ เข้ามาอีกมาก The Last of Us Part I มีกำหนดขาย 5 กันยายน 2022 บน PS5 ส่วนเวอร์ชันพีซีจะวางขายหลังจากนั้น ที่มา - PlayStation Blog
# NASA ประกาศกรอบเวลายิงจรวด Artemis I รอบใหม่ ระหว่าง 29 สิงหาคม-5 กันยายน NASA ประกาศกรอบเวลาใหม่สำหรับการยิงจรวด Space Launch System (SLS) พายานอวกาศ Orion ขึ้นไปวนรอบดวงจันทร์ หลังล่าช้ามาแล้วหลายรอบ (รอบล่าสุดจากปัญหาเชื้อเพลิงรั่วระหว่างซ้อมวางบนฐานยิงที่ Kennedy Space Center จนต้องกลับไปซ่อมมาใหม่) กรอบเวลายิงจรวด (launch opportunity) ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งของดวงจันทร์ มุมการรับแสงอาทิตย์ของแผงโซลาร์บนยาน สภาพอากาศ ฯลฯ โดย NASA ประกาศกรอบเวลายิงเบื้องต้น (potential launch opportunities) 3 ช่วงคือ 29 สิงหาคม (กรอบเวลายิง 2 ชั่วโมง) กลับโลก 10 ตุลาคม 2 กันยายน (กรอบเวลายิง 2 ชั่วโมง) กลับโลก 11 ตุลาคม 5 กันยายน (กรอบเวลายิง 1.5 ชั่วโมง) กลับโลก 17 ตุลาคม Artemis I เป็นภารกิจแรกในซีรีส์ 3 ภารกิจของ Artemis โดยภารกิจ I เป็นการซ้อมบินรอบดวงจันทร์, ภารกิจ II พามนุษย์วนรอบดวงจันทร์ และภารกิจ III พามนุษย์ลงดวงจันทร์ ภาพจรวด Space Launch System (SLS) ตั้งบนฐานยิงที่ Kennedy Space Center การที่ Artemis I ยังไม่มีมนุษย์ขึ้นไปบนจรวดด้วย ทำให้ NASA ทำหุ่นนักบินอวกาศ (manikin) ขึ้นไปนั่งในยานอวกาศ Orion แทนเพื่อทดสอบระบบความปลอดภัย ทั้งชุดอวกาศรุ่นใหม่ของ Orion และระบบที่นั่งในยาน ซึ่งหุ่นที่ส่งมี 3 ตัว ได้รับการตั้งชื่อแล้วดังนี้ Commander Moonikin Campos กัปตันเพศชายของยาน ตั้งชื่อตาม Arturo Campos ผู้จัดการระบบไฟฟ้าของยาน Apollo 13 Zohar ผู้โดยสารเพศหญิง ตั้งชื่อโดยหน่วยงานอวกาศของอิสราเอล Israel Space Agency (ISA) Helga ผู้โดยสารเพศหญิง ตั้งชื่อโดยหน่วยงานอวกาศของเยอรมนี German Aerospace Center (DLR) ที่มา - NASA, ภาพทั้งหมดจาก NASA
# WHO ประกาศปรับระดับ Monkeypox เป็นฉุกเฉินสูงสุด หลังพบการระบาดแล้ว 70 ประเทศ องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ประกาศปรับระดับโรคฝีดาษวานร (Monkeypox) เป็นระดับฉุกเฉินสูงสุด โดยมองว่าการระบาดตอนนี้เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก และต้องการความร่วมมือในระดับนานาชาติ ครั้งสุดท้ายที่ WHO ประกาศระดับฉุกเฉินสูงสุดแบบนี้ คือเดือนมกราคม 2020 ซึ่งเป็นการระบาดของโควิด 19 Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการ WHO กล่าวว่า การระบาดของ Monkeypox ตอนนี้เกิดขึ้นทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และเป็นรูปแบบการระบาดแบบใหม่ ซึ่งเรายังมีความเข้าใจอยู่น้อย จึงเป็นสาเหตุให้ต้องประกาศยกระดับโรคนี้สู่ระดับฉุกเฉินสูงสุด มีรายงานผู้ป่วยโรค Monkeypox แล้วมากกว่า 16,000 ราย ใน 70 ประเทศปีนี้ และเฉพาะเดือนกรกฎาคมเทียบกับช่วงปลายมิถุนายน จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 77% ทั้งการระบาดในระดับโลกยังไม่มาก แต่พบจำนวนสูงในแถบยุโรป ปัจจุบันมีโรคระบาดที่ WHO ยังคงสถานะเป็นระดับฉุกเฉินคือ โควิด 19 และโปลิโอ ที่มา: CNBC
# [ลือ] Intel จะเปิดตัว Core 13th Gen Raptor Lake 28 กันยายน, ของขายจริง 17 ตุลาคม เริ่มมีข่าวลือของ Raptor Lake ซีพียูรุ่นใหม่ของอินเทล (นับเป็น 13th Gen) ตามกำหนดวางขายช่วงปลายปีนี้ ECSM_Official นักปล่อยข่าวหลุดฮาร์ดแวร์จากฝั่งจีน ออกมาให้ข้อมูลว่าอินเทลจะเปิดตัว Raptor Lake ชุดแรกเป็นซีพียูเดสก์ท็อปตัวแรงรหัส K อย่างเป็นทางการในงาน Intel Innovation 2022 วันที่ 28 กันยายน 2022 และสินค้าจะวางขายจริง 17 ตุลาคม หลังจากนั้นจะเปิดตัวซีพียูชุดที่สองในงาน CES 2023 หลังปีใหม่ ซีพียู Raptor Lake ชุดแรกมีด้วยกัน 3 รุ่นย่อยคือ Core i9-13900K 24 คอร์ (8P+16E) รุ่นเดิม 12900K 16 คอร์ (8P+8E) Core i7-13700K 16 คอร์ (8P+8E) รุ่นเดิม 12700K 12 คอร์ (8P+4E) Core i5-13600K 14 คอร์ (6P+8E) รุ่นเดิม 12500K 10 คอร์ (6P+4E) เบนช์มาร์คของ Raptor Lake ที่ออกมาก่อนหน้านี้ระบุว่าแรงขึ้นจาก Alder Lake (12th Gen) และแรงกว่า Ryzen 5000 อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว Raptor Lake รอบนี้จะต้องเจอกับ Ryzen ซีรีส์ 7000 ที่จะออกมาช่วงไล่เลี่ยกัน ที่มา - Wccftech, Tom's Hardware, Videocardz
# TikTok เปิดให้เรียกดูคำบรรยาย Closed Captions อัตโนมัติ ได้ทุกคลิป TikTok ประกาศขยายความสามารถการสร้างคำบรรยายใต้คลิป หรือ Closed Captions จากเดิมที่ฟีเจอร์นี้ ครีเอเตอร์ต้องเปิดใช้งานในคลิป โดยคราวนี้ผู้ใช้งานสามารถเปิดเรียกคำบรรยายได้เองในคลิป เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเนื้อหา ในช่วงแรกภาษาที่รองรับคือ อังกฤษ โปรตุเกส เยอรมัน อิตาลี อินโดนีเซีย เกาหลี จีนแมนดาริน สเปน และตุรกี นอกจากนี้ TikTok ยังเพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาสติกเกอร์ โดยหากคลิปนั้นมีสติกเกอร์ข้อความอยู่ด้วย ก็สามารถให้แปลภาษาที่ต้องการได้ด้วย ที่มา: TikTok
# [ลือ] FTX เจรจาซื้อกิจการ Bithumb กระดานซื้อขายคริปโตของเกาหลีใต้ มีรายงานจาก Bloomberg ว่าแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตรายใหญ่ FTX กำลังเจรจาขอซื้อกิจการ Bithumb กระดานซื้อขายคริปโตของเกาหลีใต้ โดยได้เจรจามาหลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุป Bithumb เริ่มให้บริการซื้อขายคริปโตมาตั้งแต่ปี 2014 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายงานปัญหาการถูกแฮกอยู่หลายต่อหลายครั้ง ล่าสุดก็อยู่ในกลุ่มกระดานซื้อขายที่ถูกสอบสวนขอข้อมูลจากทางการ ในประเด็น TerraUSD หลังจากตลาดคริปโตรวมมีราคาปรับลดลงมาก FTX ประกาศแนวทางชัดเจนว่าต้องการซื้อกิจการหรือเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทด้านคริปโตที่ประสบปัญหา โดยดีลที่ประกาศแล้วมีทั้ง Bitvo, BlockFi และ Voyager ที่มา: The Block
# Google Meet เพิ่มฟีเจอร์ จัดประชุมแล้วถ่ายทอดไลฟ์ผ่าน YouTube โดยตรงได้เลย กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ให้ Google Meet ที่อาจหาคู่แข่งมาสู้ลำบาก นั่นคือระหว่างการประชุมออนไลน์สามารถกดไลฟ์ออก YouTube ได้ทันที ฟีเจอร์นี้ทำให้การจัดประชุมสัมมนา ที่เนื้อหาอาจไม่เป็นความลับภายในขององค์กรไปให้คนทั่วไปดูได้ง่ายขึ้น (ไม่ต้องล็อกอินหรือยืนยันตัวตนเพื่อเข้า Meet) การใช้งานจำเป็นต้องเชื่อมต่อบัญชี Meet กับช่อง Youtube ก่อน และจำเป็นต้องให้แอดมิน Google Workspace ขององค์กรเปิดฟีเจอร์นี้ด้วย จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับ Google Workspace Individual สำหรับบุคคลทั่วไปด้วย นั่นแปลว่าถ้าจ่ายเงินซื้อ Google Workspace อยู่แล้ว จะสามารถจัดสัมมนาออนไลน์ผ่าน Google Meet เชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุย และไลฟ์ขึ้น YouTube ได้โดยตรง โดยไม่ต้องพึ่งพาแอพช่วยจัดไลฟ์ (เช่น Streamyard หรือจำพวก OBS) เลยหากไม่ต้องการฟีเจอร์ระดับสูงบางอย่าง ที่มา - Google Workspace
# ผู้ก่อตั้งกองทุนคริปโต Three Arrows โผล่ให้สัมภาษณ์หลังหนีหาย 5 สัปดาห์ บอกไม่ได้เชิดเงิน หลังจาก Three Arrows Capital (3AC) กองทุนคริปโตรายใหญ่จากสิงคโปร์ประกาศล้มละลาย และลากเอาบริษัทคริปโตหลายแห่งล้มละลายหรือมีปัญหาสภาพคล่องตามไปด้วย Su Zhu และ Kyle Davies สองผู้ก่อตั้ง 3AC ก็เงียบหายไป ติดต่อไม่ได้เลยเป็นเวลานาน 5 สัปดาห์ ก่อนโผล่มาให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg โดยไม่ยอมเปิดเผยว่าอยู่ที่ไหน แต่ Bloomberg อ้างข้อมูลจากทนายของทั้งคู่ว่าเป้าหมายปลายทางอยู่ที่ UAE ผู้ก่อตั้งทั้งสองคนอธิบายเหตุผลที่หนีไปเพราะบอกว่าได้รับคำขู่ฆ่า แต่ก็ยังรักษาการติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่วันแรก (กองทุนจดทะเบียนที่ British Virgin Islands แต่สำนักงานอยู่ในสิงคโปร์) โพสต์ทวิตเตอร์ครั้งสุดท้ายของ Su Zhu เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. Su Zhu ปฏิเสธข่าวว่าเขาหอบเงินของนักลงทุนหนีไป เขาบอกว่าจริงๆ แล้วเขาลงเงินส่วนตัวเพิ่มไปในกองทุนในช่วงท้ายๆ ด้วยซ้ำ ถ้าใครวิจารณ์ว่าเขาโง่ก็ยอมรับ แต่ไม่ได้เชิดเงินหนีแน่นอน ส่วน Davies บอกว่าเขาเชื่อในทุกสิ่งที่ทำไป นำทรัพย์สินส่วนตัวเกือบทั้งหมดมาลงในกองทุน ที่ผ่านมากองทุนทำผลงานได้ดี แต่เมื่อตลาดย่ำแย่ พวกเขาก็สูญเงินเกือบทั้งหมด ทั้งสองคนยอมรับว่าเสียเงินหนักหลังจากลงทุนใน Luna และ Terra UST โดยอธิบายว่าไม่คิดว่า Luna จะล่มสลายลงในระยะเวลาไม่กี่วัน และส่งผลต่อเนื่องให้เกิดปัญหาสภาพคล่องไปทั้งอุตสาหกรรมคริปโต ในเอกสารคำฟ้องของเจ้าหนี้ 3AC ระบุว่ากองทุนติดค้างเงินอยู่เป็นมูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ หน้าเว็บของ 3AC แสดงการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่มา - Bloomberg
# Microsoft Office กลับมาปิด VBA macro เป็นค่าดีฟอลต์อีกครั้ง หลังปิดแล้วเปิดกลับมารอบ ไมโครซอฟท์ประกาศไว้เมื่อเดือน ก.พ. ว่าจะ ปิด การทำงานของ VBA macro ใน Office เป็นค่าดีฟอลต์ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย แต่เมื่อต้นเดือน ก.ค. เปลี่ยนใจ เปิด กลับเป็นเหมือนเดิม หลังผู้ใช้งานเรียกร้อง แต่ก็บอกว่าเป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น ล่าสุด 20 ก.ค. ไมโครซอฟท์ประกาศกลับมา ปิด การทำงานของ VBA อีกรอบ โดยบอกว่าตัดสินใจจากเสียงของผู้ใช้เช่นกัน (ไม่รู้กลุ่มไหนกันแน่) หลังจากปรับปรุงเอกสารคู่มือให้ชัดเจนขึ้นเรียบร้อยแล้ว เว็บไซต์ Bleeping Computer ระบุว่าไมโครซอฟท์ปรับข้อความแจ้งเตือนการปิด VBA macro ให้ชัดเจนขึ้น จากเดิมที่บอกว่า disabled เฉยๆ มาเป็นบอกว่า this file is untrusted พร้อมลิงก์ไปอ่านเอกสารเพิ่มเติม ที่มา - Microsoft, Bleeping Computer
# กูเกิลไล่พนักงานที่อ้างว่าปัญญาประดิษฐ์ LaMDA มี 'ความรู้สึก' ออกแล้ว เดือนที่แล้วมีข่าวใหญ่เรื่องพนักงานกูเกิลคนหนึ่ง Blake Lemoine พบว่าโปรเจค AI LaMDA พัฒนาจนมี "ความรู้สึก" (sentience) ของตัวเอง เขาถึงขั้นให้สัมภาษณ์ว่าเขาเชื่อว่า LaMDA เป็นบุคคลจริงๆ ("I legitimately believe that LaMDA is a person.") การให้ข่าวของ Lemoine อาจผิดกระบวนการไปหน่อยเพราะไม่ได้ขออนุญาตต้นสังกัดก่อน และเป็นข่าวที่สร้างความแตกตื่นไปทั่วโลก จนกูเกิลต้องออกมาแก้ข่าวในภายหลัง ล่าสุดมีรายงานว่า Lemoine โดนไล่ออกแล้ว โฆษกของกูเกิลชี้แจงว่าคำกล่าวอ้างของ Lemoine ไม่เป็นความจริง และพูดคุยเป็นการภายในกับเขามาหลายเดือนแล้วแต่ไม่เป็นผล สุดท้าย Lemoine ก็ยังละเมิดกฎของพนักงานและนโยบายด้านข้อมูลของบริษัท จนทำให้ถูกปลดออก ตอนงาน Google I/O 2022 กูเกิลมีแผนเตรียมเปิด LaMDA ให้เล่นกันผ่านหน้าเว็บ AI Test Kitchen แต่การมีข่าวของ Lemoine ก็อาจทำให้แผนต้องเลื่อนออกไป (ใครอยากดูการโต้ตอบของ LaMDA ลองดูตัวอย่างในหน้าเว็บได้) คลิปเปิดตัว LaMDA 2 ที่งาน Google I/O Blake Lemoine ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ที่มา - Engadget
# Zoom เพิ่มฟีเจอร์เข้ารหัส end-to-end ให้บริการ Zoom Phone และ Breakout Rooms Zoom ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ E2EE หรือการเข้ารหัสแบบ end-to-end ให้กับสองบริการหลักบนแพลตฟอร์ม คือ Zoom Phone บริการโทรด้วยเสียงของ Zoom แบบหนึ่งต่อหนึ่ง และ Breakout Rooms หรือห้องประชุมกลุ่มย่อย Zoom Phone แบบ E2EE จะรองรับเฉพาะการโทรระหว่างผู้ใช้ 2 คนภายใต้บัญชี Zoom ของบริษัทเดียวกันเท่านั้น, รองรับเฉพาะ Zoom Phone ผ่านไคลเอนท์บนเดสก์ท็อปหรือมือถือเท่านั้น (ไม่รองรับ PSTN), ต้องปิดระบบอัดเสียงโทรศัพท์อัตโนมัติ และแอดมินจะต้องเปิดให้ใช้งานฟีเจอร์นี้ผ่านเว็บพอร์ทัลของ Zoom ด้วย วิธีใช้งาน Zoom Phone แบบ E2EE คือผู้ใช้จะต้องโทรก่อน จากนั้นกดปุ่ม More เลือก End-to-End Encryption เพื่อปรับให้การโทรอยู่ในโหมด E2EE ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการไม่กี่วินาที ซึ่งเมื่อใช้งาน E2EE แล้วผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะการใช้งานได้โดยแจ้งรหัสความปลอดภัยให้ฝ่ายตรงข้าม นอกจากนี้ Zoom ระบุว่า E2EE บน Zoom Meetings จะขยายไปยัง Breakout Rooms (ห้องประชุมกลุ่มย่อย) ด้วย ซึ่ง Zoom ระบุว่าการเปิด E2EE กับ Breakout Rooms จะยังคงประสบการณ์เหมือน E2EE ในมีตติ้งหลัก ยกเว้นห้องประชุมกลุ่มย่อยแต่ละห้องจะมีกุญแจเข้ารหัสเป็นของตัวเอง และแอดมินจะต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ผ่านพอร์ทัลก่อน ตอนนี้ฟีเจอร์ E2EE สำหรับ Zoom Phone สามารถใช้งานได้แล้ว ส่วน Breakout Rooms จะเปิดใช้งานตามมาในภายหลัง ที่มา - Zoom
# ผลประกอบการไตรมาส Twitter รายได้ลดลงเล็กน้อย เหตุ ปัญหาเศรษฐกิจ และ Elon Musk Twitter รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2022 รายได้รวม 1,176.6 ล้านดอลลาร์ ลดลง 1% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 270.0 ล้านดอลลาร์ Twitter ระบุในรายงานว่ารายได้จากโฆษณาที่ลดลง เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจภาพรวม และอีกสาเหตุคือดีลที่ Elon Musk เสนอซื้อกิจการทำให้มีความไม่แน่นอนจากฝั่งผู้ซื้อโฆษณา ซึ่งจากการที่ Musk ขอล้มดีล ทาง Twitter ก็ได้ฟ้องศาลเพื่อให้ดีลเดินหน้าต่อ โดยจะเริ่มการพิจารณาคดีเดือนตุลาคม จำนวนผู้ใช้งานประจำทุกวันเฉลี่ยที่สร้างรายได้ หรือ mDAU (monetizable daily active users) ซึ่งเป็นตัววัดจำนวนผู้ใช้งานที่ Twitter เลือกรายงาน เพิ่มขึ้นเป็น 237.8 ล้านบัญชี แบ่งเป็นผู้ใช้ในอเมริกา 41.5 ล้านบัญชี และต่างประเทศ 196.3 ล้านบัญชี ที่มา: Twitter (pdf)
# Google Maps กำลังทดสอบฟีเจอร์เลือกเส้นทางประหยัดพลังงานที่สุดตามประเภทเครื่องยนต์ เว็บไซต์ 9to5Google รายงานว่า Google กำลังทดสอบฟีเจอร์เลือกเส้นทางให้ประหยัดพลังงานที่สุดตามประเภทของเครื่องยนต์ โดยมีให้เลือกทั้งแบบไฟฟ้า, ไฮบริด และรถยนต์สันดาปทั่วไป ปกติแล้ว Google Maps มักจะเลือกเส้นทางที่เร็วที่สุดให้ผู้ใช้เป็นค่าเริ่มต้น แต่ช่วงหลังก็เพิ่มตัวเลือกเข้ามาเรื่อย ๆ เมื่อปลายปีที่แล้วเพิ่งจะเพิ่มเส้นทางประหยัดน้ำมันที่สุด และตอนนี้ Google ก็เริ่มทดสอบฟีเจอร์เลือกเส้นทางที่ประหยัดพลังงานที่สุดตามขุมพลังของรถยนต์ ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซิน, ดีเซล, ไฮบริด และไฟฟ้า ตอนนี้ข้อมูลยังไม่แน่ชัดว่า Google Maps ใช้วิธีเลือกเส้นทางอย่างไรให้ประหยัดพลังงานที่สุด แต่จากข้อมูลทั่วไปพบว่ารถยนต์สันดาปทั่วไปมักจะใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อวิ่งด้วยความเร็วระดับหนึ่ง ดังนั้นเป็นไปได้ว่า Google Maps จะเน้นเสนอเส้นทางวิ่งผ่านถนนสายหลัก ในขณะที่รถยนต์ไฮบริดมักจะประหยัดพลังงานโดยเฉพาะในสถานการณ์ความเร็วต่ำ ซึ่งเป็นไปได้ว่า Google Maps ก็จะเสนอเส้นทางเลี่ยงจากถนนสายหลักเพื่อไม่ต้องใช้ความเร็วสูงมาก แต่ถ้าเลือกรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นไปได้ว่า Google จะเสนอเส้นทางผ่านจุดชาร์จไฟให้มากที่สุด ตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวยังอยู่ระหว่างทดสอบ ซึ่งจะต้องรอต่อไปอีกสักพักกว่า Google จะปล่อยให้ใช้งานกัน ที่มา - 9to5Google
# Baidu โชว์รถยนต์ไร้คนขับรุ่นใหม่ Apollo RT6 พวงมาลัยพับได้ ราคาราว 1.4 ล้านบาท Baidu มีบริการแท็กซี่ไร้คนขับ Apollo Go เปิดบริการในจีนมาตั้งแต่ปลายปี 2021 ล่าสุดบริษัทเปิดตัวรถไร้คนขับรุ่นใหม่ Apollo RT6 หน้าตาล้ำสมัย มีพวงมาลัยพับเก็บได้หากเข้าโหมดไร้คนขับอย่างสมบูรณ์ (ตามกฎหมายจีนยังต้องมีคนขับนั่งอยู่หลังพวงมาลัยเสมอ) หน้าตาของ Apollo RT6 เน้นความโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย มีหลังคาซันรูฟที่ฝังเซ็นเซอร์ไว้กับโครงสร้าง, ประตูเลื่อนด้านข้าง, ที่นั่งด้านหน้าสามารถเปลี่ยนเป็นกล่องใส่ของหรือโต๊ะทำงานได้ ฟีเจอร์อย่างอื่นของ Apollo RT6 คือกล้องรอบคัน 12 ตัว, เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิก 12 ตัว, มีเรดาร์ 1 ชุด และไลดาร์วัดแสง 8 ชุด, รองรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 4 หน่วยประมวลผลมีสมรรถนะ 1200 Tops ราคาของ Apollo RT6 อยู่ที่คันละ 250,000 หยวน หรือประมาณ 1.4 ล้านบาท Baidu ตั้งเป้านำมาใช้จริงในระบบแท็กซี่ของตัวเองช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ที่มา - Baidu Apollo, BBC
# เทรลเลอร์แรก Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves ภาพยนตร์จากเกมซีรีส์ D&D Paramount Pictures เผยเทรลเลอร์แรกของ Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจาก Dungeons & Dragons เกมกระดานยอดนิยม มีกำหนดฉายจริง 3 มีนาคม 2023 โครงการทำภาพยนตร์ Honor Among Thieves เริ่มมาตั้งแต่ปี 2013 โดยตอนนั้น Warner Bros. ได้สิทธิ แต่ก็มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิและสคริปต์ จนเปลี่ยนมือมาอยู่กับ Paramount เมื่อปี 2017 และได้กำหนดฉายจริงสักทีในปี 2023 เนื้อเรื่องของ Honor Among Thieves เป็นเรื่อในโลกแฟนตาซี Forgotten Realms ของ D&D (อันเดียวกับเกม Baldur's Gate และ Neverwinter) ตัวเอกเป็นนักผจญภัย 5 คนที่มีอาชีพต่างกัน นำโดย Chris Pine (Star Trek และ Wonder Woman) ที่รับบทเป็นกวี (Bard) จากในเทรลเลอร์ เราจะเห็นโทนของหนังที่ค่อนข้างเบาสมองมากกว่าแฟนตาซีมืดหม่น เป็นหนังแนวร่วมกันปล้น (heist) ที่ใช้ฉากหลังในโลกแฟนตาซีที่มีเวทย์มนตร์และมอนสเตอร์มากกว่า ที่มา - Polygon
# HUAWEI MateBook D 16 แล็ปท็อปหน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว บางเบา แต่ประสิทธิภาพแรงไม่เบา บน 12th Gen Intel® Core™ H Series ไม่น่าเชื่อว่าในปัจจุบัน จุดเด่นของแล็ปท็อปที่ผู้คนมองหาเป็นอันดับต้นๆ จะเป็นความบางเบาของตัวเครื่องเพื่อความสะดวกในการพกพาซึ่งสอดรับกับเทรนด์การทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาหรือ Work from Anywhere ที่กำลังมาแรงทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แล็ปท็อปไซส์เล็กที่มีน้ำหนักเบามักจะมีประสิทธิภาพที่ไม่แรงเท่าใดนักตามไปด้วย ผู้ใช้งานจึงต้องคิดหนักก่อนตัดสินใจจ่ายเงินซื้อ PC คู่ใจสักเครื่อง แต่ต่อไปนี้คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการทำงานนอกออฟฟิศไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งอีกต่อไปเพราะอีกไม่กี่อึดใจ หัวเว่ยกำลังจะเปิดตัวแล็ปท็อปรุ่นล่าสุดที่นอกจากจะมาพร้อมหน้าจอใหญ่ขนาด 16 นิ้ว ยังครบเครื่องทั้งเรื่องความสะดวกสบายในการพกพาและประสิทธิภาพในการใช้งานอย่าง HUAWEI MateBook D 16 แต่จะมีคุณสมบัติเด่นด้านไหนบ้าง ไปติดตามและเตรียมจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย หน้าจอ 16 นิ้วพร้อมดีไซน์เบาบางกระแทกตา ใครเห็นเป็นต้องมอง HUAWEI MateBook D 16 ตอกย้ำดีไซน์บางเบาด้วยสไตล์การออกแบบที่ทำให้ขอบจอของเครื่องหนาเพียง 4.6 มิลลิเมตรและบอดี้ที่ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ มอบทั้งความเบาและความแข็งแกร่งในตัวเครื่องที่หนักเพียง 1.7 กิโลกรัมและมีความหนาเพียง 18.4 มิลลิเมตรเท่านั้น จะพับเก็บใส่กระเป๋าเป้ก็สะดวกง่ายดายหรือจะหิ้วไปทำงานที่ไหนก็รวดเร็ว นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังโดดเด่นด้วยหน้าจอ HUAWEI FullView Display ขนาดใหญ่ 16 นิ้วที่มาในขนาดตัวเครื่องเท่ากับรุ่น 15 นิ้วและยังน้ำหนักใกล้เคียงกันอีกด้วย พร้อมกับความละเอียด 1920x1200 อัตราส่วนแบบ 16:10 มีสัดส่วนของจอแสดงผลภาพกินพื้นที่มากถึง 90% ของทั้งจอ ทั้งยังช่วยถนอมสายตาด้วยมาตรฐานรับประกันการลดแสงสีฟ้าและการกระพริบจาก TÜV Rheinland ใช้งานได้ยาวๆ แบบไม่ต้องกังวลเลยทีเดียว สเปกจัดหนักจัดเต็ม แรงสุดสำหรับทุกการใช้งาน แม้ตัวเครื่องจะทั้งบางและเบา แต่ HUAWEI MateBook D 16 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลทรงพลังที่คุณเลือกได้ระหว่าง 12th Gen Intel® Core™ i5-12450H และ 12th Gen Intel® Core™ i7-12700H ช่วยให้การใช้งานทุกรูปแบบเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วตั้งแต่สตาร์ทเครื่องไปจนถึงการเปิดโปรแกรมต่างๆ บอกเลยว่าจะเปิดไฟล์งาน ไฟล์เอกสาร หรือไฟล์ขนาดใหญ่ก็ใช้เวลาน้อยลงเห็นๆ เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต 11th Gen แถมยังมีการ์ดจอรุ่น Iris® Xe รองรับการเคลียร์งานด้านกราฟิกดีไซน์และการประมวลผลหนักๆ อย่างการเล่นเกมได้แบบไม่มีสะดุด หมดกังวลว่าต้องให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นมาแบกไปได้เลยเพราะเฟรมเรตลื่นไหลไม่มีกระตุกแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้น ตัวเครื่องยังใช้เทคโนโลยีพัดลมระบายความร้อนทรงครีบฉลาม (Shark Fin) ช่วยถ่ายเทความร้อนอย่างเต็มประสิทธิภาพและไร้เสียงรบกวน เรียกได้ว่าเครื่องเดียวจัดเต็มสเปกแบบครบจบรอบด้านทั้งซีพียู กราฟิก และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่สำคัญ ยังรองรับ HUAWEI Super Device ทลายกำแพงการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ในอีโคซิสเต็มของหัวเว่ยเพื่อการทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ! ประสบการณ์สุดสมาร์ทเพื่อไลฟ์สไตล์การทำงานอัจฉริยะ นอกจากสเปก น้ำหนักและดีไซน์ของตัวเครื่อง อีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามก่อนเลือกซื้อแล็ปท็อปสมัยนี้คือฟีเจอร์พิเศษที่ให้มาพร้อมกับตัวเครื่องซึ่งจะช่วยให้การทำงานและใช้ชีวิตง่ายขึ้น อย่าง HUAWEI MateBook D 16 มาพร้อมความโดดเด่นในด้าน Smart Conference ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การประชุมให้ดียิ่งขึ้นด้วยกล้อง AI 1080P1 ที่เพิ่มความคมชัดขึ้นจากกล้องหน้า 720P บนแล็ปท็อปทั่วไป เสริมด้วยฟังก์ชัน FollowCam จับภาพตามผู้พูดขณะเคลื่อนไหว ฟังก์ชัน Eye Contact ที่จะช่วยปรับการมองกล้องให้ดูเป็นธรรมชาติ อัลกอริธึมลดเสียงรบกวนด้วยนวัตกรรม AI และฟีเจอร์ Personal Voice Enhancement ซึ่งช่วยให้คู่สนทนาอีกฝ่ายได้ยินเสียงพูดอย่างชัดเจน พร้อมทั้งรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยเสาอากาศแบบ Metaline Antenna เพื่อคุณภาพการเชื่อมต่อออนไลน์ที่เร็วแรงไร้รอยต่อ รับรองว่าแย่งสัญญาณ Wi-Fi มาใช้เวลาประชุมนอกสถานที่ได้แบบไม่มีสะดุด นอกจากนี้ยังจัดเต็มกับแป้นตัวเลขหรือ Numpad ช่วยให้การทำงานกับตัวเลขเป็นไปได้อย่างราบรื่นผ่านคีย์บอร์ดที่แป้นพิมพ์ทรงสูงกำลังดีขนาด 1.5 มิลลิเมตร กดสบายให้ความรู้สึกนุ่มนวลและเคาะเสียงไม่ดังรบกวนการใช้งาน ปิดท้ายด้วยฟีเจอร์ AI Search ที่เพียงแค่พิมพ์คีย์เวิร์ดก็ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาไฟล์ต่างๆ ทั้งในโน้ตบุ๊คและในสมาร์ทโฟนหัวเว่ยที่เชื่อมต่อกับเครื่องได้อย่างง่ายดาย ครอบคลุมทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ไฟล์งาน ไฟล์วิดีโอ หรือไฟล์ภาพ 1 เฉพาะแล็ปท็อป HUAWEI บางรุ่นที่ใช้ PC Manager 13.0.1 หรือใหม่กว่าเท่านั้นที่รองรับฟังก์ชันนี้ ฟังก์ชันนี้จะเปลี่ยนเป็น 0 ตามค่าเริ่มต้น เข้าถึงศูนย์ควบคุมได้บนแถบบาร์เพื่อเปิดหรือปิดฟังก์ชันนี้ตามความต้องการของคุณ เปิดตัวในไทย 27 กรกฎาคม 2565 เตรียมจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย หาก HUAWEI MateBook D 16 คือแล็ปท็อปหน้าจอใหญ่สุดบางเบาที่ใช่ ตอบโจทย์ตรงใจทั้งในแง่น้ำหนักเบาเพียง 1.7 กิโลกรัมแต่ทรงพลังและครบครันด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะ เตรียมติดตามการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ พร้อมประกาศราคาและข้อเสนอพิเศษอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 27 กรกฎาคม 2565 นี้ได้เลย โดยสามารถสั่งจองได้ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store ที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยที่ร่วมรายการ ส่วนใครที่สนใจรุ่นชิปเซ็ต 12th Gen Intel® Core™ i7-12700H Processor เป็นพิเศษ ไปเตรียมตัวกดสินค้าใส่ตะกร้ากันได้บนร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยใน JD Central เท่านั้น ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน HUAWEI AppGallery #HUAWEIMateBookD16 #บางเบาเต็มประสิทธิภาพ #WorkSmartWithHUAWEI ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ได้ที่: Website: http://consumer.huawei.com/th Facebook: http://www.facebook.com/HuaweiMobileTH LINE: HuaweiMobileThailand, IG: Huawei.TH
# Epic เป็นสปอนเซอร์ Open 3D เอนจินเกมโอเพนซอร์ส ให้ใช้ Assets ร่วมกับ Unreal ได้ เมื่อปี 2021 Amazon เปิดซอร์สโค้ดเอนจินเกม Lumberyard เป็นโอเพนซอร์ส ภายใต้ชื่อโครงการใหม่ว่า Open 3D Engine (O3DE) และยกให้ Linux Foundation ดูแลต่อ ตัวองค์กรผู้ดูแล Open 3D Foundation มีบริษัทใหญ่เข้าร่วมสนับสนุนหลายราย ทั้งชื่อบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับ Adobe, AWS, Microsoft, Intel, Huawei ที่สนับสนุนโครงการแนวนี้เป็นปกติอยู่แล้ว และสตูดิโอเกมอย่าง Lightspeed Studios ของจีน (ทำ PUBG Mobile) กับ Niantic เป็นต้น แต่ล่าสุด Open 3D Foundation ได้สมาชิกใหม่ที่น่าสนใจคือ Epic Games ที่เป็นเจ้าของเอนจินคู่แข่ง Unreal ซึ่งอาจทำให้หลายคนถามว่า Epic เข้ามาสนับสนุนทำไม เหตุผลของ Epic คือเข้ามาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาเกมสามารถใช้งาน assets (ไฟล์ภาพหรือโมเดลในเกม) และสคริปต์ร่วมกันข้ามเอนจินได้สะดวกขึ้น หากเอนจินยอดนิยม 2 ตัวสามารถใช้ assets ร่วมกันได้ จะประหยัดแรงของนักพัฒนาลงได้อีกมาก การเข้ามาสนับสนุนของ Epic ส่งผลให้ Marc Petit ผู้บริหารตำแหน่ง VP of Unreal Engine Ecosystem เข้ามาเป็นบอร์ดของ Open 3D Foundation และเข้ามามีบทบาทแนะนำแนวทางการพัฒนา Open 3D Engine ด้วย ที่มา - Open 3D via Phoronix
# SCB ประกาศแอป SCB Easy จะใช้ได้แค่ 1 อุปกรณ์ ตั้งแต่ 26 สิงหาคมเป็นต้นไป SCB ประกาศเปลี่ยนนโยบายของแอป SCB Easy จากเดิมที่สามารถล็อกอินทิ้งไว้พร้อมกันได้ 3 เครื่อง จะปรับเป็นให้เหลือเครื่องเดียว เหมือนแอปธนาคารแห่งอื่น โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป แม้ทาง SCB จะไม่ได้ระบุเหตุผล แต่ก็คาดว่าน่าจะหนีไม่พ้นเรื่องความปลอดภัย ขณะที่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ทำลายจุดเด่นเล็กๆ จุดนึงของ SCB Easy ที่สร้างความสะดวกสบายจากการล็อกอินได้หลายเครื่องไป ที่มา - SCB Thailand
# John Romero บิดาแห่ง Doom ประกาศทำเกม FPS อีกครั้ง ใช้ Unreal Engine 5 John Romero บิดาผู้ให้กำเนิดเกม Doom ประกาศว่าเขาหวนคืนวงการเกม FPS อีกครั้ง โดยจะเป็นเกมใหม่ทั้งหมดไม่อิงกับแฟรนไชส์เกมเดิมๆ และระบุว่าใช้เอนจิน Unreal Engine 5 เท่านั้น เกมใหม่เกมนี้จะพัฒนาโดย Romero Games สตูดิโอของ John Romero เองที่ก่อตั้งเมื่อปี 2015 และระบุว่าจะจัดจำหน่ายโดยบริษัทใหญ่ (major publisher) ที่ยังไม่ระบุชื่อ ผลงานก่อนหน้านี้ของ Romero Games คือเกมมาเฟีย Empire of Sin ที่ขายในปี 2020 (หัวหน้าทีมคือ Brenda Romero ภรรยาของ John Romero) ส่วนตัว John Romero เองมีเกมล่าสุดคือ Sigil ฉากใหม่ของเกม Doom บนเอนจินต้นฉบับ ที่มา - Eurogamer
# FBI จับกุมอดีตพนักงาน Coinbase ใช้ข้อมูลภายในแอบซื้อเหรียญก่อนบริษัทนำเข้ากระดานซื้อขาย FBI จับกุม Ishan Wahi อดีตพนักงานตำแหน่ง Product Manager ของ Coinbase พร้อมกับ Nikhil Wahi น้องชายของ Ishan และแจ้งความดำเนินคดีกับ Sameer Ramani เพื่อนของ Nikhil ในฐานที่ร่วมกันใช้ข้อมูลภายในซื้อขายเหรียญคริปโตที่กำลังจะเข้าสู่กระดานซื้อขายของ Coinbase Ishan ทำงานในทีมเลือกเหรียญเข้ากระดานโดยตรง ทำให้เขารู้ล่วงหน้าว่ากำลังจะมีเหรียญคริปโตใดได้เข้าซื้อขายในกระดานบ้าง หลังจากทำงานไปเกือบปี เขาเริ่มส่งข้อมูลให้ Nikhil และ Sameer ทั้งสองคนใช้บัญชี Ethereum ไม่เปิดเผยตัวตนเข้าซื้อเหรียญเท่านี้ล่วงหน้า เป็นจำนวน 14 ครั้ง รวมสินทรัพย์ 25 ตัว และขายออกหลังจาก Coinbase ประกาศนำเหรียญเข้ากระดานแล้ว รวมได้กำไรไปประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์ Coinbase สอบสวนเรื่องนี้เป็นการภายใน และเรียก Ishan เข้าออฟฟิศ แต่ Ishan กลับซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวกลับอินเดียก่อนวันนัดหมายเพียงวันเดียว แต่ถูกควบคุมตัวได้ที่สนามบิน ตอนนี้ทั้ง Ishan และ Nikhil ถูกคุมตัวแล้ว ส่วน Sameer กำลังอยู่ระหว่างการตามตัว ที่มา - Justice.gov
# เลขา ก.ล.ต. บอกจะแก้กฎระเบียบกำกับดูแลคริปโตให้เข้มงวดขึ้น คุ้มครองนักลงทุนรายย่อย นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าจะแก้กฎระเบียบด้านการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ส่วนใหญ่ออกเมื่อปี 2561 ให้เข้มงวดกว่าเดิม เพื่อคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย ที่อาจสูญเสียเงินเก็บทั้งหมดกับสินทรัพย์ดิจิทัล นางสาวรื่นวดี ไม่ได้ให้ข้อมูลละเอียดว่า ก.ล.ต. จะแก้กฎระเบียบเกี่ยวข้องกับคริปโตอย่างไร บอกเพียงว่าการออกใบอนุญาตและการกำกับดูแลคริปโตจะเข้มงวดขึ้น ข้อมูลของ ก.ล.ต. ระบุว่ามีบัญชีคริปโตในประเทศเคลื่อนไหว 305,000 บัญชีในเดือนมิถุนายน ลดลงจาก 556,000 บัญชีในเดือนพฤษภาคม นางสาวรื่นวดี ยังให้ความเห็นต่อกรณี Zipmex ว่าเป็นกรณีเฉพาะ (individual case) ที่มาจากธุรกิจเกี่ยวเนื่องกัน แต่ภาพรวมของธุรกิจคริปโตในประเทศยังเป็นปกติ และสินทรัพย์ของนักลงทุนยังได้รับการดูแล หากใช้บริการผ่านหน่วยงานที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ที่มา - Bloomberg
# กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์สลับการเชื่อมต่อหูฟังไร้สายกับ Android หลายเครื่องให้อัตโนมัติ กูเกิลประกาศปล่อยฟีเจอร์สลับการใช้งานหูฟังไร้สาย กับอุปกรณ์ Android หลายเครื่อง (audio switching) เช่น ดูหนังอยู่บนแท็บเล็ต มีคนโทรเข้ามือถือ ก็กดปุ่มรับสาย แล้วสลับไปคุยโทรศัพท์ผ่านหูฟังได้ทันที ฟีเจอร์ audio switching ต่อยอดจากฟีเจอร์ Fast Pair การเชื่อมต่อหูฟังไร้สายข้ามอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว เบื้องต้นจะรองรับหูฟังไร้สาย Google Pixel Buds Pro รุ่นใหม่ เป็นอย่างแรก และจะรองรับหูฟังบางรุ่นของ Sony กับ JBL ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ที่มา - Google
# เปิดตัว EA FIFA 23 เกม FIFA ภาคสุดท้ายของ EA, เพิ่มสโมสรฟุตบอลหญิงเป็นครั้งแรก EA เปิดตัวเกม FIFA 23 ซึ่งจะเป็นเกมภาคสุดท้ายที่ใช้ชื่อ EA FIFA ก่อนเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่ EA Sports FC ในปีหน้า ของใหม่ที่สำคัญใน EA FIFA 23 คือเพิ่มสโมสรฟุตบอลหญิงเข้ามาเป็นครั้งแรกในซีรีส์ โดยช่วงแรกมีให้เล่น 2 ลีกคือ FA Women's Super League ของอังกฤษ และ Division 1 Arkema ของฝรั่งเศส, ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก World Cup 2022 Qatar และ Women's World Cup Australia and New Zealand 2023 ด้านเอนจินของเกม อัพเกรดระบบความสมจริงของผู้เล่นเป็น HyperMotion 2 และรองรับการเล่น Cross-Play ข้ามแพลตฟอร์ม (เฉพาะคอนโซลเจนเดียวกัน แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ Xbox Series X|S, PS5, Stadia, PC กับกลุ่ม Xbox One, PS4) หลังเริ่มทดสอบมาใน EA FIFA 22 ส่วนโหมดเกมอื่นๆ ยังเหมือนเดิมทั้ง Career Mode, Volta Football, Ultimate Team เกมจะเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการ 30 กันยายน 2022 ตอนนี้เปิดขายแบบพรีออเดอร์แล้วบนทุกแพลตฟอร์ม ที่มา - EA
# Ubisoft ยกเลิกเกม Ghost Recon Frontline และ Splinter Cell VR, เลื่อนเกม Avatar Ubisoft ประกาศยกเลิกเกมที่กำลังพัฒนาอยู่ทั้งหมด 4 เกม แบ่งเป็นเกมที่เปิดตัวต่อสาธารณะไปแล้ว 2 เกม คือ Ghost Recon Frontline เกมแนว Battle Royale ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2021 แล้วโดนแฟนๆ ถล่มเพราะไม่อยากได้เกม Battle Royale อีกต่อไป อีกเกมที่ถูกยกเลิกคือ Splinter Cell VR ที่เคยประกาศไว้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 แล้วเงียบหายไปนาน (ลงแพลตฟอร์ม Oculus ตั้งแต่ยังเป็นชื่อเดิม) ส่วนเกม Assassin's Creed VR ที่เปิดตัวพร้อมกันนั้นยังไม่มีข่าวว่าถูกยกเลิก นอกจากนี้ เกม Avatar: Frontiers of Pandora ที่เตรียมวางขายพร้อมกับภาพยนตร์ Avatars 2 ช่วงปลายปี 2022 ก็ต้องเลื่อนเป็นเดือนมีนาคม 2023 แทน ที่มา - Eurogamer, Kotaku
# Instagram จะให้โพสต์วิดีโอใหม่ทั้งหมด บังคับเป็น Reels มีผลไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากทดสอบไปก่อนหน้านี้ วันนี้ Instagram ประกาศการเปลี่ยนแปลงสำคัญของโพสต์แบบวิดีโอ ที่ส่งสัญญาณมาระยะหนึ่งแล้วว่าจะเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นคลิปสั้นแนวตั้งแบบ Reels โดย Instagram บอกว่าในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โพสต์วิดีโอที่มีความยาวน้อยกว่า 15 นาที จะถูกแชร์ในวิดีโอแบบ Reels ทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่มีผลกับวิดีโอที่เคยโพสต์ไปก่อนหน้านี้ สิ่งสำคัญที่เปลี่ยนไป กรณีผู้ใช้งานเป็นบัญชีเปิดสาธารณะ วิดีโอใหม่ที่เป็น Reels สามารถถูกแสดงผลใน Discovery ได้ โดยคลิปนั้นต้องมีความยาวไม่เกิน 90 วินาที ส่วนกรณีเป็นบัญชีปิด Private จะไม่ถูกนำไปแสดง ในหน้า Profile ผู้ใช้งาน แถบวิดีโอกับ Reels ก็จะนำมารวมกัน ถือเป็นการปรับครั้งล่าสุดจากฝั่ง Instagram ที่เน้นวิดีโอคลิปสั้นและระบบ Discovery มากขึ้น ต่อเนื่องจาก Facebook ที่เพิ่งประกาศปรับปรุงหน้าฟีดให้คล้าย TikTok มากขึ้น ที่มา: Instagram
# SoundCloud เซ็นสัญญาเริ่มใช้ระบบส่วนแบ่งรายได้แบบ fan-powered กับ Warner Music Group SoundCloud เซ็นสัญญากับ Warner Music Group เพื่อเปิดใช้ fan-powered โมเดลจ่ายเงินให้ศิลปินแบบใหม่ที่เปิดตัวปีที่แล้ว ถือเป็นค่ายเพลงใหญ่รายแรกที่ได้เซ็นสัญญา fan-powered กับ SoundCloud อย่างเป็นทางการ สำหรับ fan-powered royalty system ของ SoundCloud เป็นโมเดลใหม่ที่ตั้งใจออกแบบให้เงินสนับสนุนจากแฟนคลับไปถึงศิลปินที่ต้องการสนับสนุนโดยตรง ทำให้ส่วนแบ่งรายได้ตกถึงศิลปินอิสระหรือศิลปินอินดี้มากขึ้น แตกต่างจากโมเดล pro-rata ที่นิยมใช้ในสตรีมมิ่งที่รายได้มักจะไปตกอยู่กับศิลปินซุปเปอร์สตาร์ ส่วนศิลปินอิสระจะได้รับส่วนแบ่งรายได้น้อยมาก โดยรายงานจาก Rolling Stone ระบุว่ารายได้ 90% จากสตรีมมิ่งตกอยู่กับศิลปินเพียง 1% เท่านั้น การเซ็นสัญญากับ WMG ครั้งนี้เท่ากับว่า SoundCloud ได้พาร์ทเนอร์โมเดลรายได้แบบใหม่เป็นรายใหญ่ในวงการเพลงแล้ว แม้ว่า WMG จะเป็นอันดับสาม รองจาก Universal และ Sony แต่ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีว่าโมเดลใหม่ของ SoundCloud เริ่มมีคนในวงการเพลงสนใจและน่าจะมีค่ายเพลงที่สนใจโมเดลรายได้แบบใหม่นี้มากขึ้นอีก ที่มา - The Verge, The Verge
# Joe Gebbia ผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb ลาออกจากตำแหน่งงานประจำในบริษัท Joe Gebbia หนึ่งในสามผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb ประกาศลาออกจากตำแหน่งงานประจำในบริษัท ซึ่งถือเป็นผู้ร่วมก่อตั้งคนแรกที่ลาออกจากตำแหน่ง นับตั้งแต่บริษัทก่อตั้งเมื่อปี 2008 โดยก่อนหน้านี้เขาดูแล Samara สตูดิโองานออกแบบของ Airbnb และรับผิดชอบมูลนิธิ Airbnb.org ที่ช่วยหาที่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน Gebbia จะยังคงมีตำแหน่งในบอร์ดบริหาร ส่วนงานประจำกับ Airbnb จะลดบทบาทเป็นที่ปรึกษาให้กับอีกสองผู้ก่อตั้งคือ Brian Chesky และ Nathan Blecharczyk เขาให้เหตุผลที่ออกจากตำแหน่ง ว่าเขามีไอเดียธุรกิจใหม่ ๆ ที่อยากไปทำ ซึ่งคงจะได้เห็นกันเร็ว ๆ นี้ Gebbia เริ่มก่อตั้ง Airbnb กับ Chesky ซึ่งเป็นรูมเมตในห้องพักที่ซานฟรานซิสโก แนวคิดเดิมคือให้คนมาเช่าเตียงโซฟาค้างคืนพร้อมอาหารเช้า จึงตั้งชื่อบริษัทว่า AirBed & Breakfast และเมื่อเข้าร่วมโครงการปั้นสตาร์ทอัพ Y Combinator ของ Paul Graham ก็เปลี่ยนชื่อเป็น Airbnb ผลงานเด่นของ Gebbia คืองานด้านดีไซน์ออกแบบทั้งหมด รวมทั้งการจัดช่างภาพอิสระ มาช่วยถ่ายภาพห้องพักให้กับโฮสต์ เพื่อให้ภาพที่นำเสนอบน Airbnb ดูดีน่าสนใจมากขึ้น ที่มา: TechCrunch และ Airbnb
# กูเกิลหยุดจ้างพนักงานใหม่ชั่วคราว 2 สัปดาห์, ไมโครซอฟท์ถอดตำแหน่งงานว่างออกจากหน้าเว็บ เว็บข่าวไอที The Information รายงานข่าวว่า กูเกิลประกาศเป็นการภายใน หยุดจ้างพนักงานใหม่ชั่วคราวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ยกเว้นเฉพาะกรณีคนที่กูเกิลเคยเสนอตำแหน่งงานให้ก่อนแ้ลว สอดคล้องกับบันทึกภายในของ Sundar Pichai ก่อนหน้านี้ ในบันทึกยังให้เหตุผลว่า กูเกิลจะใช้เวลาช่วงนี้ตรวจสอบว่าต้องการรับพนักงานเพิ่มอีกเท่าไร และจัดลำดับความสำคัญของการรับพนักงานใหม่ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ด้าน Bloomberg ก็รายงานว่าไมโครซอฟท์ได้นำตำแหน่งงานว่างที่ประกาศบนหน้าเว็บออกไปเป็นจำนวนมาก แม้ยังมีเปิดรับอยู่บ้างก็ตาม ไมโครซอฟท์ระบุแบบเดียวกันว่าตำแหน่งที่เสนอให้พนักงานไปแล้วก็ยังคงรับอยู่ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ก็ประกาศว่าชะลอการจ้างงานลงเช่นกัน ภาพจาก Google ที่มา - The Information, Bloomberg
# Amazon ซื้อกิจการเครือข่ายคลินิก One Medical มูลค่าดีล 3,900 ล้านดอลลาร์ Amazon ประกาศซื้อกิจการ One Medical ผู้ให้บริการเครือข่ายคลินิกสาธารณสุขมูลฐาน (Primary Health Care) ในอเมริกา โดยซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท ด้วยเงินสดมูลค่าราว 3,900 ล้านดอลลาร์ ดีลนี้ Amazon จะนำมาเสริมกับธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพ ซึ่ง Neil Lindsay รองประธานอาวุโสส่วนธุรกิจ Amazon Health Services บอกว่าธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพ เป็นเรื่องลำดับต้น ๆ ที่ Amazon มองว่าต้องปรับปรุง และสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้า One Medical เมื่อคลินิกในเครือข่าย 188 แห่ง ใน 25 รัฐ และมีเจ้าหน้าที่สมาชิกกว่า 7 แสนคน นอกจากนี้ยังให้บริการปรึกษาแพทย์ทางไกล Telemedicine ด้วย Amazon พยายามรุกตลาดด้านสุขภาพและสาธารณสุขมาหลายปีแล้ว ทั้งจากดีลซื้อ PillPack ร้านยาออนไลน์ ในปี 2018 และเปิดตัวบริการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ Amazon Care เมื่อปี 2019 ที่มา: CNBC
# กูเกิลเปิดบริการจำลองคอมพิวเตอร์ควอนตัมให้ใช้งานฟรี เฟรมเวิร์ค Cirq เข้าสู่เวอร์ชั่น 1.0 กูเกิลเปิดตัวบริการ Quantum Virtual Machine (QVM) คอมพิวเตอร์จำลองคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่พยายามเลียนแบบชิป Sycamore ผู้สนใจสามารถเรียกใช้งานผ่านบริการ Colab ได้ฟรี ชิปที่ QVM จำลองการทำงานได้มีสองรุ่น คือ Weber ซึ่งเป็นชิปที่กูเกิลใช้รันงานระดับ Quantum Supremacy เป็นครั้งแรก และ Rainbow ที่รัน variational quantum eigensolver (VQE) เพื่อจำลองปัญหาทางเคมีขนาดปานกลาง เช่น พลังงานในห่วงโซ่ไฮโดรเจน แม้ QVM จะใช้งานได้ฟรีแต่ก็จำกัดจำนวนคิวบิตที่ใช้งานได้ ในกรณีที่ต้องการจำลองคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็สามารถเช่าเซิร์ฟเวอร์จาก Google Cloud มาขยายเพิ่มได้ พร้อมกับการเปิดบริการ QVM นี้กูเกิลก็เปิดเฟรมเวิร์ค Cirq สำหรับพัฒนาซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ควอนตัม เป็นเวอร์ชั่น 1.0 ที่ API นิ่งเป็นที่เรียบร้อย โดยตอนนี้ Cirq รองรับการพัฒนาซอฟต์แวร์โปรแกรมสำหรับคอมพิวเตอร์ควอนตัมระดับร้อยคิวบิต โดยกูเกิลคาดว่าในห้าปีข้างหน้าฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะขยายไปถึงระดับร้อยหรือระดับพันคิวบิต ตอนนี้เองซอฟต์แวร์ที่เขียนด้วย Cirq สามารถรันบนฮาร์ดแวร์ที่เริ่มมีให้บริการตอนนี้ได้หลากหลายยี่ห้อ ที่มา - Google Blog
# Blockchain.com ปลดพนักงาน 15% จากตลาดคริปโตขาลง และการลงทุนใน Three Arrows ข่าวร้ายของวงการคริปโตยังตามมาอย่างต่อเนื่อง Blockchain.com ตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตชื่อดังอีกราย (คนละแห่งกับ Crypto.com และ Bitcoin.com แม้ชื่อคล้ายๆ กัน) ประกาศปลดพนักงานออก 150 คน หรือคิดเป็น 25% ของพนักงานทั้งบริษัท รวมถึงลดเงินเดือนพนักงานระดับบริหารและซีอีโอ เหตุผลก็คล้ายๆ กับของบริษัทอื่น (เช่น Coinbase ที่ปลดถึง 1,100 คน หรือ Crypto.com ปลด 260 คน) คือตลาดคริปโตอยู่ในช่วงขาลง นอกจากนี้ Blockchain.com ยังได้รับผลกระทบจากกองทุน Three Arrows Capital ล้มละลาย มูลค่าความเสียหาย 270 ล้านดอลลาร์ การปลดพนักงานของ Bitcoin.com ยังเกี่ยวโยงกับการปิดสำนักงานในอาร์เจนตินา (44% ของพนักงานที่ปลดอยู่ในอาร์เจนตินา ที่เหลืออยู่ในประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร) และเลิกทำธุรกิจบางอย่าง เช่น การให้กู้เชิงสถาบันการเงิน การขยายไปธุรกิจเกมและ NFT ที่มา - CoinDesk
# Facebook แยก Feeds เป็น 2 ส่วน แสดงตามอัลกอริทึมและตามเวลา แยกดูเฉพาะเพื่อน-เพจได้ Facebook ประกาศเปลี่ยนแปลงระบบ Feed ครั้งใหญ่ แยกออกเป็น 2 ส่วนคือ Home แสดงข้อมูลแบบเดิม เรียงตามอัลกอริทึมที่ผู้ใช้น่าจะสนใจ กับ Feeds การเรียงตามลำดับการโพสต์ล่าสุด โดยสามารถแยกหมวดการแสดงผลย่อยๆ คือ All, Favorites, Friends, Groups, Pages ได้ตามต้องการ Mark Zuckerberg ประกาศว่านี่เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เรียกร้องมามากที่สุด จึงได้ปรับวิธีการแสดงผล Feeds แยกเป็น 2 แบบให้เลือกเปิดได้ตามใจชอบ ที่มา - @MetaNewsroom, Mark Zuckerberg
# Zipmex ชี้แจง นำเงินไปฝากกับ Babel 48 ล้านดอลลาร์ Celsius อีก 5 ล้านดอลลาร์ Zipmex ออกเอกสารชี้แจงเพิ่มเติม หลังจากเมื่อคืนนี้ได้ชี้แจงว่าส่วนที่เกิดปัญหาคือบริการ ZipUp+ ซึ่งเป็นการนำเงินคริปโตไปฝากกินดอกเบี้ยกับ Babel Finance มูลค่ารวม 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ Celsius มูลค่าร่วม 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจาก Celsius นั้นเข้าสู่กระบวนการล้มละลายแล้ว ความหวังที่จะได้ทรัพย์สินคืนมาเต็มจำนวนคงมีค่อนข้างน้อย แต่สำหรับทาง Babel นั้นทาง Zipmex ระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างการประเมินทางเลือก สำหรับการแก้ไขทางอื่นๆ ยังคงเหมือนที่ ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Zipmex Thailand แถลงเมื่อคืนที่ผ่านมา คือ ทาง Zipmex มองช่องทางการระดมทุนเพิ่มเติม, การดำเนินการตามกฎหมาย (ดร.เอกลาภระบุถึงการฟ้องแบบกลุ่มเพื่อขอทรัพย์สินกลับมา), และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ ที่มา - Facebook: Zipmex Thailand
# (ใช้งานได้แล้ว) Microsoft Teams ล่ม กระทบผู้ใช้งานทั่วโลก Microsoft Teams มีปัญหาไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย โดยบัญชี Twitter Microsoft 365 Status รายงานปัญหานี้ตั้งแต่เวลา 8:47น. ไมโครซอฟท์ยังไม่ได้ให้รายละเอียดปัญหาเพิ่มเติม แต่ระบุว่าจะอัพเดตสถานะผ่านเลขปัญหา TM402718 ข้อมูลจาก Downdetector พบว่ามีการรายงานปัญหาตั้งแต่เวลาประมาณ 8 โมงเช้า อัพเดต: ไมโครซอฟท์แจ้งว่า Microsoft Teams กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้วสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ สาเหตุเกิดจากการดีพลอยที่กระทบกับการเชื่อมต่อของสตอเรจ ที่มา: Reuters
# ซัมซุงเผยยอดขายมือถือจอพับในปี 2021 เกือบ 10 ล้านเครื่อง, 70% คือ Galaxy Z Flip TM Roh ประธานฝ่ายสมาร์ทโฟนของซัมซุง เปิดเผยว่าในปี 2021 ทั้งปี ซัมซุงขายมือถือจอพับ (นับรวมทั้ง Z Fold และ Z Flip) รวมกันได้ "เกือบ 10 ล้านเครื่อง" ซึ่งเติบโตขึ้น 300% เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2020 TM Roh ระบุว่าสัดส่วนยอดขาย 70% เป็น Galaxy Z Flip ที่เน้นการโชว์ตัวตน ส่วนที่เหลือเป็น Galaxy Z Fold ที่เน้นการทำงาน (productivity) เขาบอกว่าโมเมนตัมของมือถือจอพับได้จะขยายตัวต่อไป และขอให้ติดตามชม การเปิดตัวมือถือจอพับรุ่นใหม่ Galaxy Z Flip 4 และ Z Fold 4 ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ที่มา - Samsung
# Xbox รองรับการคุยเสียงผ่าน Discord แล้ว แถมทำเสร็จก่อนฝั่ง PlayStation ไมโครซอฟท์ประกาศผนวกฟีเจอร์สนทนาด้วยเสียง Discord Voice ลงในระบบปฏิบัติการของ Xbox Series X|S และ Xbox One ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่นิยมคุยกันผ่าน Discord มากขึ้นเรื่อยๆ Xbox มีฟีเจอร์ voice chat ของตัวเองอยู่แล้ว แต่จำกัดเฉพาะผู้เล่น Xbox ด้วยกัน (หรือคุยผ่านแอพ Xbox ในพีซี) เท่านั้น ในขณะที่โลกของเกมยุคหลังเน้นการเล่นแบบ cross-play เกมเดียวกันข้ามแพลตฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ Discord กลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดของเกมเมอร์ การอัพเดตของไมโครซอฟท์รอบนี้ส่งผลให้ Discord กลายเป็นช่องทางคุยเสียงอีกทางนอกจากของ Xbox เอง (สลับไปมาได้ตามต้องการ) ฟีเจอร์นี้ยังอัพเดตให้เฉพาะกลุ่ม Xbox Insiders และคงต้องรออีกสักระยะกว่าจะปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ทั่วไป เว็บไซต์ The Verge ตั้งข้อสังเกตว่าฝั่ง Xbox ได้ฟีเจอร์คุยเสียง Discord ก่อนหน้าฝั่ง PlayStation แม้ว่า Sony เข้าไปลงทุนใน Discord ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021 และประกาศเชื่อมระบบกันตั้งแต่ตอนนั้น แต่มาถึงวันนี้ยังไม่เห็นวี่แวว ที่มา - Xbox, Discord
# Google Calendar เพิ่มตัวเลือกแสดงอีเว้นท์ในปฏิทินเฉพาะผู้ส่งที่รู้จักเท่านั้น ป้องกันปัญหาแสดงสแปมในปฏิทิน Google Calendar เพิ่มตัวเลือกแสดงอีเว้นท์บนปฏิทินจากผู้ส่งที่รู้จักเท่านั้น เพื่อป้องกันสแปมก่อกวนปฏิทินของผู้ใช้งาน สามารถใช้งานได้ทั้งกลุ่มผู้ใช้ Google Workspace, G Suite Basic และ Business รวมถึงบัญชี Google ส่วนตัว วิธีตั้งค่า Google Calendar ให้แสดงอีเว้นท์เฉพาะคนรู้จัก ให้ไปที่ Settings > Event settings หัวข้อ Add invitations to my calendar ให้เลือก Only if the sender is known ส่วนแอดมินที่ดูแลระบบสามารถปรับค่านี้ได้ใน Google Admin เช่นกัน รายการผู้ส่งที่ Google ระบุว่าเป็นผู้ส่งที่รู้จักมีอยู่ 3 กลุ่ม คือคนที่อยู่ในโดเมนบริษัทเดียวกัน, คนที่อยู่ในรายชื่อติดต่อ และคนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ส่วนผู้ที่อยู่นอกกลุ่มนี้ก็ยังคงส่งคำเชิญอีเว้นท์มาได้เหมือนเดิม (รวมถึงสแปมด้วย) เพียงแต่จะยังไม่แสดงในปฏิทินทันที ต้องกดรับอีเว้นท์ก่อนเท่านั้น Google เริ่มทยอยปล่อยฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้งาน Google Calendar แล้ว เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่มา - Google Workspace Updates ภาพจาก Google
# Minecraft แบน NFT ทั้งในเกม-นอกเกม บอกว่าขัดแย้งกับจิตวิญญาณของเกม Mojang Studios สตูดิโอผู้สร้างเกม Minecraft ประกาศจุดยืนไม่สนับสนุนและไม่อนุญาต NFT ในจักรวาลเกมของ Minecraft ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการห้ามเชื่อมระบบ NFT/Blockchain กับไคลเอนต์ของ Minecraft และการนำสกิน ไอเทม ม็อด เวิลด์ของ Minecraft ไปทำเป็น NFT ขายนอกระบบของเกมด้วย Mojang ให้เหตุผลว่า NFT เป็นการสร้างความขาดแคลน (scarcity) และความเอ็กซ์คลูซีฟของไอเทม เพื่อปั่นราคาให้สูงขึ้น แนวทางนี้ขัดแย้งกับจิตวิญญาณของ Minecraft ที่เน้นการเข้าถึงของทุกคน เพราะ NFT ยิ่งเป็นการแบ่งแยกระหว่างคนที่มีไฟล์กับไม่มีไฟล์ แถมการปั่นราคายังทำให้คนหันไปสนใจเรื่องเงินแทนความสนุกจากการเล่นเกม Mojang ยกตัวอย่างกิจกรรมของบางบริษัทที่สร้าง NFT จากไฟล์เวิลด์ Minecraft หรือกลับกันคือเปิดให้เล่นเกม Minecraft ในเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว โดยมีเป้าหมายเพื่อเก็บสะสม NFT ซึ่ง Mojang ได้อัพเดตเงื่อนไขของเกม Minecraft ห้ามทำกิจกรรมเหล่านี้ทั้งหมด ที่มา - Minecraft
# Google Docs เพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนทางอีเมล ทุกครั้งที่เอกสารถูกแก้ไข กูเกิลอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ให้ Google Docs ซึ่งหลายคน(น่าจะ)ต้องการ คือส่งอีเมลแจ้งเตือน เมื่อเอกสารถูกแก้ไข โดยอีเมลจะระบุรายละเอียดว่ามีการแก้ไขเอกสารส่วนใด โดยใคร และเมื่อใด ทำให้การตรวจสอบจัดการเอกสารที่มีการแก้ไขหลายคนทำได้ดีขึ้น ฟีเจอร์นี้จะปิดการทำงานเป็นค่าเริ่มต้น และต้องเปิดใช้งานทีละไฟล์ หากผู้ใช้งานต้องการเปิดรับการแจ้งเตือน สามารถเปิดการตั้งค่าได้ทั้งผ่าน Gmail ส่วนดรอปดาวน์ของ Notification settings หรือผ่าน Google Docs ที่ Tools > Notification settings อัพเดตนี้มีผลกับผู้ใช้งานทุกคนทั้ง Google Workspace, G Suite Basic และ Business ตลอดจนผู้ใช้งานบัญชีกูเกิลทั่วไป ที่มา: กูเกิล
# Apple ออกอัพเดต iOS 15.6, iPadOS 15.6 และระบบปฏิบัติการในเครือ แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ iOS 15.6 และ iPadOS 15.6 รวมทั้งระบบปฏิบัติการอื่นในวันนี้ ซึ่งเป็นเวลา 2 เดือนนับจาก iOS 15.5 ออกมา ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ โดยไปที่ Settings > General และเลือก Software Update ในอัพเดตนี้มีการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาหลายอย่าง เช่น ปรับปรุงการดูถ่ายทอดสดกีฬาในแอป TV, แก้บั๊กอักษรเบรลล์เมื่ออ่านเมล, แก้ปัญหา Settings แสดงพื้นที่หน่วยความจำว่าเต็ม แม้ลบไฟล์แล้ว, iPadOS 15.6 แก้ปัญหาบั๊กชาร์จไฟไม่เข้าของ iPad mini รายละเอียดอัพเดตของระบบปฏิบัติการอื่นมีดังนี้ macOS Monterey 12.5 อัพเดตแอป TV และแก้บั๊กใน Safari watchOS 8.7 ปรับปรุงการทำงานและความปลอดภัยทั่วไป tvOS 15.6 อัพเดตรายการทั่วไป HomePod 15.6 Siri รองรับการฟังภาษาจีนกลาง จีนกวางตุ้ง และภาษาญี่ปุ่น ที่มา: MacRumors [1], [2], [3], [4], [5]
# Tesla ไตรมาส 2/2022 รายได้รวมโต 42%, โรงงานเบอร์ลินเพิ่มกำลังการผลิต, ขาย BTC ออกมา 75% Tesla รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2022 หลังจากรายงานตัวเลขการส่งมอบรถไปเมื่อต้นเดือน รายได้รวม 16,934 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 42% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 2,259 ล้านดอลลาร์ และมีกระแสเงินสดอิสระ 621 ล้านดอลลาร์ ซีอีโอ Elon Musk ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงแถลงผลประกอบการว่า โรงงานใหม่ในเบอร์ลินตอนนี้มีความสามารถในการผลิตได้มาก 1,000 คันต่อสัปดาห์แล้ว ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนโรงงานใหม่อีกแห่งที่เมืองออสติน น่าจะผ่านตัวเลข 1,000 คันต่อสัปดาห์ ได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เขายังตอบคำถามที่นักวิเคราะห์สอบถามความคืบหน้าโครงการรถกระบะ Cybertruck บอกว่าตัวรถยนต์สำหรับในโชว์รูม น่าจะส่งมอบได้กลางปีหน้า และยังตอบคำถามเรื่องต้นทุนการผลิต บอกว่าต้นทุนสินค้าต่าง ๆ มีการปรับเพิ่มขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ แต่แนวโน้มน่าจะลดลงในช่วงปลายปีถึงปีหน้า ยกเว้นลิเทียม ที่ราคายังเพิ่มต่อเนื่อง เขายังบอกว่านักธุรกิจควรเข้ามาลงทุนขอใบอนุญาตโรงงานลิเทียมกัน เพราะนี่คือเครื่องพิมพ์เงินสด Tesla อัพเดตการถือครองบิตคอยน์บอกว่า ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 2 บริษัทขายบิตคอยน์ที่มีประมาณ 75% ไปเป็นเงิน fiat คิดเป็นเงินสดลงในบัญชีงบดุล 936 ล้านดอลลาร์ โดย Musk อธิบายว่าความไม่แน่นอนหลายอย่าง โดยเฉพาะเมื่อจีนมีคำสั่งล็อคดาวน์ ทำให้บริษัทต้องแปลงการลงทุนต่าง ๆ เป็นเงินสดให้มากที่สุด ส่วน Dogecoin ไม่มีการขายออกมา ที่มา: Tesla (pdf) และ CNBC
# OpenAI ปรับสถานะ DALL·E เป็นเบต้า นำรูปไปใช้เพื่อการค้าได้ มีเครดิตเพิ่มเติมขาย OpenAI ประกาศปรับสถานะบริการ DALL·E ปัญญาประดิษฐ์สร้างภาพตามคำบรรยายเข้าสู่สถานะเบต้า พร้อมใช้งานจริงยิ่งขึ้น โดยความเปลี่ยนแปลงหลักๆ เทียบกับตอนนี้คือ กระบวนการสมัครขอใช้งานจะง่ายขึ้น, ผู้ใช้สามารถนำภาพไปใช้งานเชิงการค้าได้, และมีขายเครดิตเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่รอคิวขอใช้งาน OpenAI ระบุว่ากำลังแจกคำเชิญใช้งานจำนวน 1 ล้านคำเชิญภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ ดังนั้นใครที่รอมานานก็น่าจะได้ใช้แล้ว โดยผู้ใช้จะสามารถส่งคำสั่งได้ 50 คำสั่งในเดือนแรก (แต่ละคำสั่งสร้างได้ 4 ภาพ) และเดือนต่อๆ ไปจะได้ 15 คำสั่ง สามารถซื้อเพิ่มเป็นแพ็ก 115 เครดิต ในราคา 15 ดอลลาร์ หรือ 550 บาท ภาพที่สร้างขึ้นผู้ใช้จะได้สิทธิ์เต็มที่ ทั้งการใช้งานเชิงการค้า สามารถนำไปทำซ้ำหรือขายต่อได้อย่างอิสระ การให้สิทธิ์นี้รวมถึงภาพที่ผู้ใช้สร้างไปก่อนหน้านี้ด้วย ทาง OpenAI ระบุว่ายังคงมอนิเตอร์การใช้งานอย่างผิดๆ ต่อเนื่อง โดยห้ามใช้ DALL·E สร้างภาพบุคคลที่มีตัวตนจริง, ห้ามสร้างภาพรุนแรงหรือมีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ รวมถึงพยายามให้ภาพที่สร้างขึ้นสะท้อนถีงประชากรกลุ่มต่างๆ โดยทั่วกัน ที่มา - OpenAI
# คนจริงทดสอบบนโปรดักชั่น ASML ระบุลูกค้าขอติดตั้งเครื่องจักรผลิตชิปเร่งด่วน ไม่ต้องทดสอบให้ครบ ASML รายงานผลประกอบการไตรมาสสองประจำปี 2022 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รายได้ 5,431 ล้านยูโร กำไรขึ้นต้น 2,665 ล้านยูโร คิดเป็น 49.1% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,411 ล้านยูโร ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อที่ได้รับมาตอนนี้มูลค่า 8,500 ล้านยูโรไปแล้ว ทำให้ไตรมาสนี้เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท แม้ว่าคำสั่งซื้อจะหนาแน่น แต่ ASML เตือนว่ารายได้รวมปีนี้อาจจะไม่เติบโตเร็วอย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ เพราะคำสั่งจำนวนหนึ่งลูกค้าขอให้ส่งมอบเร่งด่วน (fast shipment) ซึ่งเป็นแนวทางที่ ASML ข้ามการทดสอบบางอย่างก่อนส่งมอบเครื่องจักรให้ลูกค้า แล้วลูกค้าไปทดสอบต่อที่โรงงานหลังติดตั้งและเริ่มผลิตเลยทีเดียว แนวทางนี้แม้ลูกค้าจะได้รับเครื่องเร็ว แต่ ASML จะไม่รับรู้รายได้จนกว่าการรับมอบเครื่องจักรครบถ้วน ทำให้บันทึกรายได้เข้ามาช้าลงไป โดยเครื่อง EUV ที่กำลังส่งมอบมีทั้งหมด 55 เครื่อง ในจำนวนนี้ 15 เครื่องเป็นการส่งมอบแบบเร่งด่วน ปัญหาอีกอย่างของปีนี้คือชิ้นส่วนต่างๆ มีราคาแพงขึ้น เมื่อต้นปี ASML คาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นถึง 53% แต่กลับทำได้เพียง 49% เนื่องจากต้นทุนแพงขึ้นทั้งค่าแรง, ค่าขนส่ง, และชิ้นส่วนต่างๆ โดยตอนนี้ ASML กำลังเจรจากับลูกค้าให้แบ่งกันรับภาระต้นทุนนี้ ที่มา - ASML, ASML Video Interview Transcript ภาพเครื่อง ASML EXE:5000 High-NA EUV โดย ASML
# กูเกิลเสนอภาษา Carbon โครงการทดลองใช้ทดแทน C++ ทีมพัฒนาจากกูเกิลเสนอโครงการภาษา Carbon ภาษาโปรแกรมมิ่งใหม่ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะใช้ทดแทนภาษา C++ มุ่งเป้าองค์กรที่มีโครงการภาษา C++ ขนาดใหญ่ และโยกย้ายไปภาษาอื่นได้ยาก โดย Carbon มีเป้าหมายที่จะทำงานร่วมกับ C++ ได้เป็นเนื้อเดียวกัน โค้ดภาษา Carbon สามารถเรียกโค้ด C++ ได้ และโค้ด C++ ก็เรียกโค้ด Carbon ได้ ในแง่ประสิทธิภาพและการทำงานกับฟีเจอร์ระดับล่างของซีพียูก็ทำได้ระดับเดียวกัน รวมถึงในอนาคตก็จะพัฒนาเครื่องมือที่แปลงโค้ดภาษา C++ เป็น Carbon โดยอัตโนมัติได้ด้วย แม้จะทำงานร่วมกันได้อย่างแนบแน่น แต่ภาษา Carbon ก็จะพยายามสร้างฟีเจอร์ของตัวเอง เช่น พยายามปรับปรุงความปลอดภัยในการในงานหน่วยความจำให้ดีขึ้น ตัวโครงการระบุว่าแนวทางของภาษาโปรแกรมมิ่งใหม่ๆ ที่พัฒนาภาษาใหม่ที่เข้ากันได้กับภาษาเดิมอย่างมากไม่ใช่เรื่องใหม่ เช่น JavaScript ก็มี TypeScript หรือ Java ก็มี Kotlin ที่ทำงานร่วมกันกับภาษาเดิมได้อย่างแนบแน่นแต่เสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ ของภาษาใหม่ไปพร้อมกันได้ แนวทางนี้ต่างจากการเชื่อมภาษาที่ต่างกันมากๆ เช่น Rust กับ C++ ที่การเชื่อมให้โค้ดสองภาษาทำงานร่วมกันได้กลายเป็นงานก้อนใหญ่ โครงการ Carbon แทบไม่ระบุว่าทีมงานมาจากกูเกิล โดยเอกสารโครงการระบุว่าพยายามให้เป็นโครงการของชุมชนรวม แต่ตอนนี้หากนักพัฒนาส่งโค้ดเข้าโครงการก็ต้องมอบสิทธิ์ของโค้ดให้กับกูเกิลไป โดยโครงการ Carbon ระบุว่าในอนาคตจะมอบสิทธิ์ขาดของโค้ดให้กับองค์กรกลางอื่นๆ เป็นผู้ดูแลต่อไป ที่มา - Github: Carbon Language
# Bitkub, Satang และ Bitazza ยืนยันฝากถอน-เทรด ได้ตามปกติ ไม่มีการนำสินทรัพย์ไปลงทุนต่อ จากประกาศของ Zipmex ที่แถลงว่าบริการ ZipUp นำสินทรัพย์ไปลงทุน และขาดสภาพคล่องทำให้ลูกค้าที่ฝากสินทรัพย์ไว้ได้รับผลกระทบ ก็ทำให้ผู้ให้บริการ exchange รายอื่นในไทย ทยอยออกประกาศชี้แจงเรื่องดังกล่าว สำหรับลูกค้าของตน โดยทั้ง Bitkub, Satang และ Bitazza ต่างชี้แจง หลังจากมีประกาศของ Zipmex ออกมา โดยเนื้อหาคล้ายกัน บอกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้านั้นจะถูกฝากไว้และเก็บรักษา ไม่มีนโยบายนำไปหาผลประโยชน์ต่อ ลูกค้าสามารถฝากถอน หรือซื้อขายได้ตามปกติ ที่มา: Bitkub, Satang และ Bitazza
# Shopify ร่วมกับ YouTube เชื่อมแชนแนลเข้ากับหน้าร้านออนไลน์ พร้อมใช้โปรโมตสินค้าในวิดีโอหรือไลฟ์ได้ทันที Shopify ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับเปิดร้านค้าออนไลน์และหน้าร้านประกาศร่วมมือกับ YouTube เพื่อนำประสบการณ์ช้อปปิ้งบน Shopify ไปสู่ YouTube ด้วยความร่วมมือนี้ ผู้สร้างสรรค์วิดีโอบน YouTube ที่ได้รับอนุญาตสามารถเชื่อมต่อสโตร์บน Shopify เพื่อแสดงสินค้าบนแชนแนลได้ทันที โดยเริ่มต้นการใช้งานได้ผ่านแท็บ Shopping บน YouTube Studio ที่สามารถใช้บริหารจัดการแท็กสินค้าต่าง ๆ ได้ โดยวิธีการโปรโมตสินค้า Shopify บน YouTube มีดังนี้ ไลฟ์สตรีม: สามารถแท็กหรือปักหมุดสินค้าได้ในไลฟ์สตรีม วิดีโอ: แสดงรายการสินค้าหากผู้ใช้ดูวิดีโอ แท็บร้านค้า: เพิ่มแท็บร้านค้าในแชนแนลบน YouTube ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าต่าง ๆ หากผู้ใช้ต้องการซื้อสินค้าผ่าน YouTube ก็กดลิงก์เข้าไปซื้อสินค้าได้ทันที ส่วนผู้ใช้ในสหรัฐฯ จะมีฟีเจอร์ซื้อและชำระเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากเว็บไซต์ YouTube นอกจากนี้ YouTube ยังเพิ่มฟีเจอร์ช้อปปิ้งในแท็บ Explore คือจะแสดงคอนเทนต์ที่สามารถซื้อสินค้าได้ โดยฟีเจอร์นี้จะยังจำกัดการใช้งานเฉพาะในสหรัฐฯ, อินเดีย และบราซิลเท่านั้น ในอนาคตจะทยอยเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ในประเทศอื่นต่อไป ที่มา - Shopify, YouTube, TechCrunch
# Netflix เข้าซื้อสตูดิโออนิเมชั่นออสเตรเลีย Animal Logic เสริมทัพภาพยนตร์ครอบครัว Netflix ประกาศเข้าซื้อสตูดิโออนิเมชั่น Animal Logic เพื่อเสริมศักยภาพในงานด้านอนิเมชั่นของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง โดยคาดว่าจะปิดดีลได้ภายในปีนี้ Animal Logic เป็นสตูดิโอด้านอนิเมชั่นจากออสเตรเลีย ผลงานเด่น ๆ คือ Happy Feet, The Lego Movie และ Peter Rabbit ซึ่งตอนนี้ทางสตูดิโอก็มีงานร่วมกับ Netflix บ้าง เช่น The Magician’s Elephant ที่จะปล่อยในปี 2023 และ The Shrinking of Treehorn การเข้าซื้อ Animal Logic จะเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในด้านภาพยนตร์ครอบครัวให้กับแพลตฟอร์ม Netflix โดยเป้าหมายของ Netflix คือต้องการให้บริษัทมีความสามารถในการผลิตงานอนิเมชั่นได้ตั้งแบบ end-to-end และจะทำให้ธุรกิจของ Netflix แข็งแกร่งพร้อมแข่งกับคู่แข่งอย่าง Disney+ ได้ดีขึ้น ที่มา - Netflix, TechCrunch ภาพจาก Netflix
# Android เริ่มรองรับ DNS-over-HTTP/3 ประสิทธิภาพใกล้เคียง DNS แบบไม่เข้ารหัสขึ้น กูเกิลประกาศอัพเกรดระบบ DNS บนแอนดรอยด์ให้รองรับ DNS-over-HTTP/3 (DoH3) นับเป็นการเข้ารหัส DNS ที่โดยที่ประสิทธิภาพของการคิวรีโดยรวมลดลงไม่มากนับ เทียบกับ DNS ไม่เข้ารหัสแบบเดิมๆ โปรโตคอล DNS แบบเข้ารหัสที่ได้รับความนิยมสูงตัวแรกคือ DNS-over-TLS (DoT) นั้นอาศัยการเชื่อมต่อ TLS ที่เสียเวลาเปิดการเชื่อมต่อยาวนาน ทำให้ประสิทธิภาพลดลงมาก DoH3 ช่วยแก้ปัญหาลดงได้หลายอย่าง เนื่องจากมันรองรับ stream หลายชุดภายใต้การเชื่อมต่อ TLS ครั้งเดียว และการกลับมาเปิดการเชื่อมต่อซ้ำก็สามารถทำได้รวดเร็ว ในบางกรณี เช่น กรณีเครือข่ายไม่น่าเชื่อถือมากๆ มีแพ็กเก็ตสูญหายบ่อย DoH3 อาจจะมีประสิทธิภาพดีกว่า DNS ปกติเสียอีก อัพเดตครั้งนี้เป็นการอัพเดตผ่าน Google Play ทำให้โทรสัพท์แอนดรอยด์ทุกตัวตั้งแต่ Android 11 เป็นต้นไปจะได้ฟีเจอร์นี้โดยอัตโนมัติ ที่มา - Google Security Blog
# PyPI ประกาศบังคับใช้กุญแจ U2F สำหรับโครงการสำคัญ เตรียมแจกกุญแจ Google Titan PyPI บริการโฮสต์แพ็กเกจไลบรารีภาษาไพธอนประกาศปรับปรุงความปลอดภัยด้วยการบังคับให้โครงการที่เข้าข่ายสำคัญยิ่งยวด จำนวน 3,500 โครงการ ต้องใช้กุญแจล็อกอิน FIDO U2F ในการล็อกอินแบบ WebAuthn พร้อมกันนี้ทีมงาน Google Open Source Security ก็สปอนเซอร์กุญแจ Titan พร้อมค่าส่งฟรี โครงการที่เข้าข่ายสำคัญยิ่งยวดจะคำนวณจากโครงการที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุด 1% แรกจากโครงการบน PyPI ทั้งหมด 350,000 โครงการในห้วงเวลา 6 เดือน ดังนั้นจึงมีโครงการชุดแรกเข้าข่าย 3,500 โครงการ แต่รายชื่อโครงการจะคำนวณใหม่ทุกวัน และโครงการที่หลุดจาก 1% แรกก็ยังได้สถานะสำคัญยิ่งยวดต่อไป ทำให้โดยรวมจะมีโครงการที่เข้าข่ายเกิน 1% และทางกูเกิลก็เตรียมคูปองสำหรับสั่งซื้อกุญแจไว้ให้ทั้งหมด 4,000 ชุด การโจมตีผ่านทางไลบรารีต่างๆ ด้วยการแทรกโค้ดมุ่งร้ายผ่านทางบริการโฮสต์แพ็กเกจ (supply-chain attack) เกิดขึ้นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลัง ก่อนหน้านี้ npm ก็บังคับผู้ดูแลแพ็กเกจยอดนิยม 100 อันดับแรกต้องล็อกอินแบบสองขั้นตอนไปก่อนแล้ว WebAuthn นับเป็นการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยสูงสุดในตอนนี้ โดยสามารถป้องกันเหตุในกรณีรหัสผ่านรั่วไหล และการโจมตีด้วยเว็บปลอม (phishing) ได้เพราะเบราว์เซอร์และกุญแจจะล็อกกระบวนการยืนยันตัวตนเข้ากับโดเมนโดยตรง ที่มา - PyPI
# กูเกิลประกาศทดสอบ "แว่นแปลภาษา" AR รุ่นต้นแบบในที่สาธารณะ เริ่มเดือนสิงหาคมนี้ ถ้ายังไม่ลืมกัน ในงาน Google I/O เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กูเกิลโชว์คลิปเดโมของ "แว่นแปลภาษา" ที่ยังไม่มีชื่อเรียก มีความสามารถฟังเสียงพูดของคู่สนทนา แล้วแปลภาษาแบบเรียลไทม์ แสดงผลข้อความบนกระจกแว่นได้ทันที ล่าสุดกูเกิลบอกว่าจะเริ่มทดสอบแว่น AR รุ่นต้นแบบในที่สาธารณะ เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป้นต้นไป เพื่อทดสอบว่าแว่น AR สามารถใช้งานในสภาพจริงๆ ดีแค่ไหน นอกเหนือจากการทดสอบในแล็บเพียงอย่างเดียว การทดสอบจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากกลุ่มพนักงานกูเกิลและเทสเตอร์จำนวนไม่มากก่อน กูเกิลระบุว่าแว่นนี้มีความสามารถจำกัด ทำได้แค่ฟังเสียงและแปลภาษาเท่านั้น แม้มีกล้องในตัว แต่ไม่รองรับการถ่ายภาพและวิดีโอ ภาพจากกล้องจะถูกใช้แสดงผลบนหน้าจอกระจกแว่นเท่านั้น (เช่น ถ่ายเมนูอาหารภาษาต่างประเทศ แล้วขึ้นเมนูที่แปลแล้วบนจอ) ที่มา - Google
# Zipmex แถลง บริการ ZipUp นำสินทรัพย์ดิจิทัลไปลงทุนผิดพลาด, ระบบเทรดยังปกติ ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Zipmex Thailand แถลงการณ์ผ่านไลฟ์เมื่อเวลา 19.00 ว่าสาเหตุของปัญหาเกิดจากบริการ ZipUp ซึ่งเป็นบริการที่เปิดให้ลูกค้าสามารถนำสินทรัพย์ดิจิทัลไป "ฝาก" (stake) ไว้เพื่อแลกกับโบนัสหรือผลตอบแทนเพิ่มเติมได้ (เรียกอีกอย่างว่า "นำสินทรัพย์ดิจิทัลของเราไปให้กู้" ก็ได้) สินทรัพย์ที่ฝากไว้กับ ZipUp จะถูกโอนไปยัง Zipmex Global ที่สิงคโปร์ ซึ่งจะนำไปลงทุนด้านต่างๆ อีกทอดหนึ่ง โดย ดร.เอกลาภ ระบุชัดเจนว่า Zipmex Global นำไปลงทุนกับ Babel Finance ที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง และ Celsius ที่เพิ่งประกาศล้มละลายไป ทำให้ลูกค้าของ ZipUp ในไทยโดนผลกระทบไปด้วย (ประเภทสินทรัพย์ที่โดนคือ BTC, ETH, USDT, USDC ส่วนยอดความเสียหายยังไม่ประกาศตัวเลขในวันนี้) ส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินบาทที่ฝากไว้ในบัญชีซื้อขายปกติ (trade wallet) ของ Zipmex ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ และ Zipmex จะเปิดระบบเทรดให้กลับมาทำงานตามปกติในเวลา 20.00 ของวันนี้ (20 กรกฎาคม) ดร.เอกลาภ ระบุว่าจะแก้ปัญหาเรื่องสินทรัพย์ของลูกค้า ZipUp ด้วยการฟ้องร้องแบบกลุ่ม (class action) เพื่อพยายามนำสินทรัพย์กลับคืนมา รวมถึงกำลังเจรจานักลงทุนในการซื้อกิจการของ Zipmex หากดีลนี้ประสบความสำเร็จ เงินที่ได้จะนำมาชำระคืนลูกค้า
# Zipmex ประกาศระงับการถอนทั้งเงินบาทและคริปโตชั่วคราว ไม่ระบุระยะเวลา Zipmex ประกาศสั่งระงับการถอนเงินออกจากแพลตฟอร์ม ทั้งเงินบาทและคริปโต (all fiat and crypto) เพื่อเสถียรภาพของแพลตฟอร์ม ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ Zipmex ระบุก็หนีไม่พ้นความผันผวนของตลาด ปัญหาการเงินจากคู่ค้าและเหตุการณ์ Black Swan (เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับเหรียญ Luna และ Three Arrows Capital) Zipmex ระบุว่าคำสั่งระงับนี้มีผลชั่วคราว จนกว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติม ที่มา - Zipmex
# Bungie ตัดสินใจฟ้องเกมเมอร์ Toxic มีพฤติกรรมโกงเกม ขู่ทำร้ายพนักงานของบริษัท ปัญหาเกมเมอร์มีพฤติกรรม toxic คงเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่มีวันจบสิ้น ที่ผ่านมาค่ายเกมก็ใช้มาตรการต่างๆ ในการจำกัดพื้นที่ของเกมเมอร์เหล่านี้ แต่ล่าสุดสตูดิโอ Bungie เลือกใช้วิธีฟ้องเกมเมอร์รายหนึ่งที่มีพฤติกรรมแย่ๆ มากมาย และถึงขั้นขู่ทำร้ายพนักงานของ Bungie ด้วย เกมเมอร์รายนี้ชื่อว่า Luca Leone มีพฤติกรรมใช้โปรแกรมโกงในเกม Destiny 2, ขายไอเทมในเกมที่มาจากบัญชีที่ถูกขโมย พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เขาเคยโดนแบนไปแล้วนับสิบครั้ง แถมยังเคยโพสต์ในโซเชียลว่าอยากไปวางเพลิงที่สำนักงานของ Bungie ที่เมืองซีแอทเทิลด้วย Bungie เรียกค่าเสียหาย 150,000 ดอลลาร์ และขอให้ศาลสั่งห้าม Leone มาขู่ แอบติดตาม ยุ่งเกี่ยว กับพนักงานของ Bungie รวมถึงผู้เล่น Destiny 2 คนอื่นๆ ด้วย ประเด็นเรื่องนักพัฒนาหรือพนักงานของบริษัทเกม โพสต์แสดงความเห็นในโซเชียลแล้วโดน "ทัวร์ลง" จากแฟนๆ บางกลุ่ม เป็นชนวนขัดแย้งมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการเกมช่วงหลัง กรณีของ Bungie ก็มีพนักงานหลายคนที่โดนถล่มในลักษณะนี้ การที่ Bungie ตัดสินใจฟ้องศาลในกรณีของ Leone ก็เป็นที่ถกเถียงกันในชุมชนผู้เล่นเช่นกันว่าสมควรหรือไม่ เส้นแบ่งที่เหมาะสมอยู่ตรงไหน เพราะฝ่ายที่สนับสนุนก็มองว่านักพัฒนาหรือบริษัทก็ต้องปกป้องตัวเองเช่นกัน ที่มา - Kotaku
# Western Digital เริ่มวางขายฮาร์ดดิสก์ความจุ 22TB แล้ว ราคา 599 ดอลลาร์ Western Digital เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ขนาด 22TB สำหรับซีรีส์มาตรฐาน Gold (ศูนย์ข้อมูล), Red Pro (NAS) และ Purple Pro (กล้องวิดีโอ) หลังจากเปิดตัวฮาร์ดดิสก์ 22TB/26TB รุ่น Ultrastar สำหรับตลาดศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ฮาร์ดดิสก์ 22TB ชุดนี้ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกัน ได้แก่ OptiNAND หน่วยความจำแฟลชสำหรับแคช, ใช้ขาหัวอ่าน 3 ขั้น (triple-stage actuator หรือ TSA), การเรียงข้อมูลบนดิสก์แบบ (energy-assisted PMR หรือ ePMR) และการใช้ก๊าซฮีเลียมเพื่อลดแรงเสียดทานแทนอากาศ (HelioSeal) ส่งผลให้สามารถอัดความจุได้ 2.2TB ต่อจานหนึ่งแผ่น ราคาขายบนหน้าเว็บ WD ในสหรัฐอยู่ที่ 599 ดอลลาร์ (ประมาณ 22,000 บาท) เท่ากันทั้ง 3 รุ่นย่อย ที่มา - Western Digital
# Nova Launcher ขายกิจการให้ Branch บริษัททำระบบ Deep-Link วัดผลการตลาด Nova Launcher แอพลอนเชอร์ชื่อดังของ Android ประกาศข่าวว่าขายให้ Branch บริษัทด้านการตลาดออนไลน์ โดยยังจ้าง Kevin Barry ผู้สร้าง Nova Launcher ทำงานต่อในตำแหน่งเดิม บริษัท Branch อาจไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก แต่โดยหลักแล้วให้บริการ deep-link เพื่อเปิดลิงก์ในแอพ ใช้วัดผลของแคมเปญการตลาดต่างๆ เช่น เปิดลิงก์ทางโซเชียลหรืออีเมลประชาสัมพันธ์แล้วเด้งขึ้นไปยังหน้าที่ต้องการในแอพ Barry ระบุว่า Branch ซื้อ Nova Launcher และแอพอีกตัวของเขาคือ Sesame Search ที่ใช้ค้นหาและสร้างช็อตคัตคำสั่งบน Android เพื่อใช้เป็นช่องทางในการทดสอบฟีเจอร์ด้าน deep-link ไปยังอุปกรณ์จำนวนมาก บริษัท Branch มองว่า Nova เป็นแพลตฟอร์มในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากกว่าใช้เป็นช่องทางหารายได้ Barry สัญญาว่าโมเดลธุรกิจของ Nova Launcher จะยังเป็นเหมือนเดิม (มี Nova Launcher Prime เวอร์ชันพรีเมียมขายแยกต่างหาก) แต่ก็จะเพิ่มฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับระบบของ Branch เข้ามามากขึ้น ที่มา - Nova Launcher, Android Police
# เปิดตัว Snapdragon W5 และ W5+ Gen 1 สำหรับนาฬิกา ใช้สถาปัตยกรรมชิปไฮบริด 2 ตัว Qualcomm เปิดตัวชิป Snapdragon W5+ Gen 1 และ Snapdragon W5 Gen 1 สำหรับสมาร์ทวอทช์ (นับรุ่นต่อจากซีรีส์ 4100 ที่เปิดตัวในปี 2020 แต่เปลี่ยนมาใช้ระบบรุ่นแบบเลขหลักเดียว) ของใหม่ในชิปรุ่นนี้คือรุ่น W5+ Gen 1 ใช้สถาปัตยกรรมแบบไฮบริด ตัวชิปหลักเป็น Cortex-A53 ควอดคอร์ ใช้กระบวนการผลิต 4nm พ่วงด้วยชิปช่วยประมวลผลสำหรับ always-on ที่เป็น Cortex-M55 ขนาด 22nm มาช่วยแบ่งเบาภาระงานที่ใช้พลังประมวลผลน้อยๆ แต่ต้องทำต่อเนื่อง เช่น เก็บสถิติการออกกำลังกาย การนอนหลับ การเต้นของหัวใจ ช่วยให้ประหยัดพลังงานลง 50% ส่วนรุ่น W5 Gen 1 มีเฉพาะชิปประมวลผลหลักอย่างเดียว ไม่มีตัวช่วยประมวลผลร่วม แต่เฉพาะชิปตัวหลักที่ผลิตแบบ 4nm ก็ช่วยให้ชิปโดยรวมมีขนาดเล็กลง บางลง นำไปใช้กับอุปกรณ์สวมใส่ได้หลากหลายประเภทมากขึ้น ฟีเจอร์อื่นของ Snapdragon W5 Gen 1 ซีรีส์นี้คือ รองรับ Bluetooth 5.3 แบบกินไฟต่ำ, การจัดเรียงชิปส่วน Wi-Fi, GNSS, Audio แบบกินไฟต่ำ และรองรับสถานะ Deep Sleep/Hibernate ในกรณีที่ต้องการประหยัดไฟแบบสุดๆ แบรนด์สินค้าที่ประกาศใช้งานแล้วคือ Oppo จะใช้รุ่น W5 กับนาฬิกา Oppo Watch 3 ที่จะเปิดตัวในเดือนสิงหาคม และ Mobvoi ใช้รุ่น W5+ กับ TicWatch รุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน ส่วน Qualcomm เองให้ข้อมูลว่ามีสินค้าจากแบรนด์ต่างๆ รวม 25 รุ่นย่อยรอทยอยเปิดตัว ที่มา - Qualcomm
# MinIO โวย Nutanix นำซอฟต์แวร์สตอเรจโอเพนซอร์สไปใช้ โดยไม่ให้เครดิต MinIO Inc. ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สตอเรจที่เปิด API แบบ AWS S3 แบบโอเพนซอร์ส เขียนบล็อกแสดงความไม่พอใจที่ Nutanix นำซอฟต์แวร์ MinIO Object Storage ไปใช้พัฒนา Nutanix Objects โดยไม่ให้เครดิตทาง MinIO ให้ครบถ้วน ปีที่แล้ว MinIO ประกาศเปลี่ยนไลเซนส์โครงการโอเพนซอร์สจาก Apache 2 ซึ่งไม่มีเงื่อนไขการใช้งานมากนักนอกจากการให้เครดิต มาเป็นไลเซนส์แบบ AGPL ซึ่งมีข้อจำกัดมากกว่า โดยบังคับให้ต้องเปิดซอร์สโค้ดส่วนที่แก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นโอเพนซอร์สไปด้วย แนวทางนี้เป็นแนวทางเดียวกับโครงการโอเพนซอร์สจำนวนมากที่บริษัทผู้พัฒนาพยายามสร้างรายได้จากตัวซอฟต์แวร์ แต่กลับเจอคู่แข่งที่นำโครงการโอเพนซอร์สไปพัฒนาต่อ เช่น MongoDB, Elasticsearch, หรือ Grafana บริษัทผู้ถือสิทธิ์ขาดในตัวซอฟต์แวร์จึงพยายามเปลี่ยนไลเซนส์ให้คู่แข่งที่ต้องการทำซอฟต์แวร์ไปใช้งานต่อนั้นทำได้ยากขึ้น ไม่แน่ชัดนักว่า Nutanix Objects พัฒนาต่อจาก MinIO เวอร์ชั่นใด หากเป็นเวอร์ชั่นที่เป็น Apache 2 ก็จะแก้ไขได้เพียงแค่แจ้งไลเซนส์ของ MinIO ให้ครบถ้วน บล็อกของ MinIO เองก็เขียนค่อนข้างคลุมเครือว่าบริษัทเชื่อว่า Nutanix อาจจะละเมิดเวอร์ชั่น AGPL ด้วย update: หลังจากข่าวนี้ออกมาระยะหนึ่งทาง Nutanix ได้ออกมายอมรับว่าให้เครดิตตกไป โดยได้แก้ไขในเอกสารออนไลน์แล้วและเตรียมจะแก้ไขในเวอร์ชั่นถัดไปด้วย อย่างไรก็ดีทาง Nutanix ยืนยันว่าโค้ดที่นำมาใช้นั้นเป็นโค้ด Apache 2 เท่านั้น และความผิดพลาดนี้ไม่ได้สร้างความเสี่ยงใดๆ ให้กับลูกค้า ที่มา - MinIO
# ByteDance บริษัทแม่ TikTok เป็นบริษัทจีนรายล่าสุดที่สนใจออกแบบชิปใช้งานเอง ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ระบุว่ากำลังสนใจออกแบบชิปของตัวเอง หลังไม่สามารถหาชิปในท้องตลาดที่ตรงกับความต้องการของบริษัท ที่เน้นบริการด้านวิดีโอและความบันเทิง แนวทางการออกแบบชิปเองของ ByteDance ไม่ใช่เรื่องใหม่ของบริษัทไอทีจากจีน ก่อนหน้านี้เราเห็นบริษัทรายอื่น เช่น Alibaba ออกแบบชิปเซิร์ฟเวอร์ Arm, RISC-V, ชิปประมวลผล AI ของตัวเอง, Tencent ทำชิปเองหลายตัว หรือ Baidu ก็มีเช่นกัน ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า ByteDance จะทำชิปด้านไหน แต่โฆษกของบริษัทยืนยันว่าจะเน้นการออกแบบเพื่อใช้เองอย่างเดียว จ้างคนอื่นผลิตให้ และไม่ทำขายบริษัทอื่น ที่มา - CNBC
# Google Play เปิดทางจ่ายเงิน Alternative Billing ในยุโรป ลดค่าธรรมเนียมให้อีก 3% เราเห็นข่าวหน่วยงานภาครัฐทั่วโลกพยายามบี้แอปเปิลและกูเกิล ให้ปลดล็อคเรื่องการจ่ายเงินในร้านขายแอพของตัวเอง ตัวอย่างคือ กรณีของ App Store ในเกาหลีใต้ ที่ลดค่าธรรมเนียมเหลือ 26% หากใช้ระบบจ่ายเงินอื่น, กรณีของกูเกิลในเกาหลีใต้ หรือ กรณีของ App Store ในเนเธอร์แลนด์ แต่เฉพาะแอพหาคู่เดต ล่าสุดเป็นคิวของฝั่งกูเกิลบ้าง ที่ออกมาประกาศทำตามกฎหมาย Digital Market Act ของยุโรป โดยร้าน Google Play ที่ให้บริการในเขตเศรษฐกิจยุโรป European Economic Area (EEA) รวม 30 ประเทศ จะรองรับช่องทางจ่ายเงินอื่นที่ไม่ใช่ของกูเกิลด้วย ซึ่งกูเกิลจะลดค่าธรรมเนียมลงให้ 3% ปีที่แล้ว กูเกิลประกาศลดค่าธรรมเนียมของนักพัฒนารายเล็ก (รายได้ไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี) จาก 30% เหลือ 15% มาก่อนแล้ว เท่ากับว่าจะได้ส่วนลดอีกต่อเหลือ 12% หากใช้ระบบจ่ายเงินอื่น (alternative billing) ตอนนี้นโยบาย alternative billing ยังมีผลเฉพาะแอพที่ไม่ใช่เกมเท่านั้น แต่กูเกิลก็ประกาศว่าจะขยายผลไปยังเกมด้วยในอนาคต ก่อนกฎหมาย Digital Market Act มีผลบังคับใช้งาน เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กูเกิลเคยประกาศทดสอบการจ่ายเงิน alternative billing กับ Spotify มาก่อนแล้ว ที่มา - Google
# Instagram ปรับปรุงแผนที่ ค้นหาร้านค้า-สถานที่น่าสนใจรอบตัวได้ Instagram ปรับปรุงระบบแผนที่ เพื่อให้ค้นหาสถานที่ยอดนิยมใกล้ตัวได้ง่ายขึ้น โดยแสดงผลบนแผนที่ พร้อมกับโพสต์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ได้แชร์ฟีเจอร์นี้ลงในสตอรี่ของเขา วิธีการเข้าไปหน้าแผนที่ของ Instagram ทำได้สองทางคือเลือกสถานที่ซึ่งแท็กในโพสต์ จากนั้นหน้าแผนที่จะแสดงสถานที่น่าสนใจใกล้เคียง หรือไปที่ส่วน Explore แล้วเสิร์ชหาสถานที่ ก็เข้าถึงหน้าแผนที่ได้เช่นกัน ด้านบนของแผนที่จะมีปุ่มให้ค้นหาสถานที่น่าสนใจ พร้อมมีฟิลเตอร์ เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรมที่พัก เป็นต้น ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้งานแล้วกับผู้ใช้ทุกคน ที่มา: Instagram
# Apple ยอมจ่าย 50 ล้านดอลลาร์ ยุติข้อพิพาทคดีปัญหาคีย์บอร์ด Butterfly ใน MacBook แอปเปิลตัดสินใจจ่ายเงิน 50 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติข้อพิพาทจากคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มเมื่อปี 2018 ที่ผู้ใช้ MacBook รุ่นปี 2015 ถึง 2019 พบปัญหาจากคีย์บอร์ดแบบ Butterfly MacBook ทุกรุ่นทั้ง MacBook Pro, MacBook Air และ MacBook ช่วงปี 2015 และ 2016 เปลี่ยนมาใช้คีย์บอร์ดแบบ Butterfly ซึ่งตอนนั้นชูจุดเด่นคือความบาง และสัมผัสการกดที่ราบรื่น แต่หลังสินค้าเริ่มขาย ผู้ใช้งานจำนวนมากร้องเรียนในปัญหาที่เจอเวลาใช้งาน จนนำไปสู่การฟ้องร้องแบบกลุ่ม และต่อมาแอปเปิลก็ออกโปรแกรมซ่อมฟรีด้วย ในด้านสินค้า ปัญหานี้จบลงที่แอปเปิลเปลี่ยนมาใช้คีย์บอร์ดแบบ scissor เหมือนเดิมตั้งแต่ปี 2019 แต่ปรับปรุงการออกแบบโดยเรียกชื่อว่า Magic Keyboard ที่มา: MacRumors
# Twitter vs. Elon Musk กำหนดไต่สวนช่วงตุลาคม ระยะเวลา 5 วัน ความคืบหน้าของคดี Twitter ฟ้อง Elon Musk เนื่องจากขอล้มดีลซื้อกิจการ ซึ่งฝ่าย Elon Musk ขอเลื่อนวันพิจารณาคดี โดยศาล Delaware สรุปให้การพิจารณาเริ่มในเดือนตุลาคมนี้ เป็นระยะเวลา 5 วัน แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นวันใด ก่อนหน้านี้ทีมทนายของ Twitter ขอให้การพิจารณาคดีเริ่มเร็วที่สุดคือเดือนกันยายน เป็นเวลา 4 วัน ส่วนทนายของ Elon Musk เสนอให้พิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ข้อสรุปในเดือนตุลาคมนี้ ผู้พิพากษามองว่าเหมาะสม เพราะหากเลื่อนไกลเกินไป Twitter จะได้รับความเสียหาย ที่มา: The Verge
# Netflix ไตรมาส 2/2022 สมาชิกลดลงอีก 9.7 แสนราย น้อยกว่าที่บริษัทคาดไว้ก่อนหน้านี้ Netflix รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 มีรายได้รวม 7,970 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.6% เทียบกับไตรมาส 2/2021 และมีกำไรสุทธิ 1,441 ล้านดอลลาร์ ไฮไลท์ของไตรมาสนี้ที่หลายคนจับตาดูคือจำนวนสมาชิก เนื่องจากไตรมาสก่อนหน้านี้จำนวนสมาชิกลดลงเป็นครั้งแรก ซึ่งไตรมาสล่าสุดยังคงลดลงอีก 9.7 แสนราย อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ดีกว่าที่ Netflix เคยคาดว่าลดลง 2 ล้านราย ส่วนจำนวนสมาชิกทั่วโลกรวมมี 220.67 ล้านราย เอเชียแปซิฟิคเป็นภูมิภาคที่ Netflix ให้ความสำคัญเนื่องจากยังเติบโต ไตรมาสที่ผ่านมารายได้เฉพาะภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น 23% ทำให้ขนาดธุรกิจใกล้เคียงกับลาตินอเมริกาแล้ว จำนวนสมาชิกใหม่เพิ่ม 1.1 ล้านราย ส่วนภูมิภาคที่สมาชิกลดลงคืออเมริกาและยุโรป ทั้งนี้บริษัทประเมินว่าไตรมาสปัจจุบัน จำนวนสมาชิกจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านราย Netflix ให้ข้อมูลเพิ่มเติมของแพ็คเกจใหม่แบบมีโฆษณา โดยจะเข้ามาเป็นทางเลือกแพ็คเกจที่ราคาถูกลง ไม่ยกเลิกแพ็คเกจแบบเดิมที่ไม่มีโฆษณา ในช่วงแรกจะมีเฉพาะประเทศที่ตลาดมีการใช้จ่ายงบโฆษณาสูง ส่วนแผนเก็บค่าบริการเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่แชร์บัญชีกัน ซึ่ง Netflix บอกว่ามีมากกว่า 100 ล้านหลังคาเรือน คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ทั่วไปในปี 2023 ที่มา: Netflix (pdf)
# อากาศร้อนในยุโรปทำคลาวด์มีปัญหา Google Cloud และ Oracle Cloud กระทบบางส่วน คลื่นความร้อนกำลังเคลื่อนเข้าทวีปยุโรปและสหราชอาณาจักร ทำให้อากาศร้อนอย่างผิดปกติจนเกิน 40 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่ ตอนนี้เริ่มกระทบต่อบริการไอที เมื่อผู้ให้บริการคลาวด์บางรายได้รับผลกระทบ ตอนนี้ Google Cloud และ Oracle Cloud ก็มีรายงานว่าบางศูนย์ข้อมูลมีปัญหาอยู่ Google Cloud ระบุว่าโซน europe-west2-a เกิดปัญหาระบบทำความเย็นเสียหาย จนระบบปิดเซิร์ฟเวอร์บางส่วนลง และสตอเรจบางส่วนเปลี่ยนไปทำงานโหมด single redundant ทาง Google Cloud แนะนำให้ลูกค้าเปิดเซิร์ฟเวอร์ในโซนอื่นๆ ทดแทน Oracle Cloud ระบุว่าระบบทำความเย็นในศูนย์ข้อมูลลอนดอนมีปัญหาเช่นกัน ตอนนี้กระทบทั้งบริการเน็ตเวิร์ค, block storage, object storage, และ Oracle Integration ตอนนี้ทีมงานกำลังกู้ระบบคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงก่อนระบบจะเริ่มกลับมา ที่มา - The Register ภาพโดย ColossusCloud
# Microsoft Teams เพิ่ม Viva Engage โซเชียลในที่ทำงาน ลงสตอรี่ได้ด้วย ไมโครซอฟท์เปิดตัว Viva Engage พอร์ทัลใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาใน Microsoft Teams เพื่อให้การสนทนาระหว่างเพื่อนร่วมงาน มีชีวิตชีวาและสีสันมากขึ้น ซึ่งไฮไลท์สำคัญก็คือความสามารถในการใส่วิดีโอแบบ Stories ในหน้าของ Viva Engage จะมีพื้นที่แสดงโพสต์ต่าง ๆ ของเพื่อนร่วมงานเรียกว่า Storyline มีเนื้อหา 2 รูปแบบคือ Stories ในแถบบนสุด และโพสต์ทั่วไปทั้งแบบข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ซึ่งเรียกส่วนนี้ว่าฟีด Stories ใน Viva Engage แตกต่างจาก Stories ในแอปโซเชียลอื่น โดยจะไม่ถูกลบออกไปใน 24 ชั่วโมง แต่จะแสดงเรียงในหน้าโปรไฟล์ของผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งสามารถเข้าชมได้ผ่านแอปอื่นด้วย ฟีเจอร์ Viva Engage จะมาแทนที่ Communities โดยการเปลี่ยนนี้เฉพาะลูกค้า Microsoft 365 commercial ซึ่งผู้ใช้งานต้องมึไลเซนส์ Yammer เปิดพับลิกพรีวิวตั้งแต่สิงหาคมนี้ ที่มา: ไมโครซอฟท์
# Samsung แจกคำใบ้ กำหนดวันจัดงาน Unpacked เดือนสิงหาคม ซัมซุงแจกคำใบ้กำหนดวันจัดงานเปิดตัวสินค้า Unpacked ครั้งถัดไป โดยโพสต์ 3 รูป ในบัญชี Twitter เป็นชุดตัวอักษร ชุดสี และชุดที่น่าจะเป็นคำตอบ พร้อมแคปชันว่า เรามีความลับมาบอก #SamsungUnpacked เมื่อจับแถบชุดสีรูปสุดท้าย มาเชื่อมโยงกับชุดสีในรูปที่สอง แล้วโยงกับตำแหน่งในรูปแรก (ดูการแกะรหัสจากที่มา) ก็จะได้คำตอบว่า 081022 ซึ่งสื่อได้ว่างาน Unpacked จะจัดวันที่ 10 สิงหาคม 2022 นั่นเอง สินค้าใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในงานเดือนหน้าคือ Galaxy Fold 4 และ Galaxy Flip 4 นอกจากนี้อาจมี Galaxy Watch 5 and Watch 5 Pro ด้วย อัพเดต: ซัมซุงยืนยันการจัดงานเป็นทางการ ในวันที่ 10 สิงหาคม 2022 ที่มา: The Verge
# Amazon Prime Video ปรับหน้าตาใหม่บน Android และสมาร์ททีวี ดีไซน์คล้ายค่ายอื่นมากขึ้น Amazon Prime Video บริการสตรีมมิ่งในเครือ Amazon ปรับอินเทอร์เฟซของแอพใหม่ เปลี่ยนมาใช้หน้าตาคล้ายกับสตรีมมิ่งค่ายอื่นๆ ที่เราคุ้นเคย โดยเริ่มจากเวอร์ชัน Android และสมาร์ททีวี กล่องสตรีมมิ่ง เกมคอนโซลก่อน จากนั้นเวอร์ชัน iOS และเว็บจะตามมาทีหลัง อินเทอร์เฟซแบบใหม่ของ Prime Video ใช้แนวทางเมนูแยกหมวดหมู่แนวตั้ง วางชิดที่ขอบซ้ายมือสุดของหน้าจอ ส่วนรายการในแต่ละหมวดจะเป็นแถบเลื่อนแนวนอน พร้อมโชว์ภาพโปรโมทขนาดใหญ่บนหน้าจอ ตัวแทนของ Amazon บอกว่าออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่ให้เรียบง่ายขึ้น หน้าตาไม่รกเหมือนเวอร์ชันก่อน กระบวนการออกแบบและพัฒนาใช้เวลาทั้งหมด 18 เดือน นอกจากนี้อินเทอร์เฟซใหม่ยังโชว์รายการกีฬาสด (ในสหรัฐ) ให้เด่นชัดขึ้นด้วย Amazon Prime Video กำลังจะมีซีรีส์ฟอร์มยักษ์คือ The Lord of The Rings: The Rings of Power เริ่มฉายในเดือนกันยายนนี้ ที่มา - The Verge
# เบื้องหลังไมโครซอฟท์ชนะดีลทำโฆษณาให้ Netflix เป็นเพราะสัญญาว่าจะไม่ทำสตรีมมิ่งแข่ง หนึ่งในข่าวเซอร์ไพร์สของแวดวงไอทีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือ Netflix เลือกไมโครซอฟท์เป็นพาร์ทเนอร์โฆษณา สำหรับบริการสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณาที่ประกาศไว้ ถือว่าพลิกโผจากเดิมที่มีชื่อของ Comcast และกูเกิลว่าเข้ามาแข่งขันด้วย (เมื่อพูดถึงชื่อไมโครซอฟท์ คงไม่มีใครนึกถึงในแง่โฆษณาแบบวิดีโอสักเท่าไรนัก) Wall Street Journal รายงานเบื้องหลังการชิงชัยครั้งนี้ว่า เหตุผลหนึ่งที่ไมโครซอฟท์ชนะ เป็นเพราะยืนยันว่าจะไม่ทำบริการสตรีมมิ่งมาแข่งกับ Netflix แน่นอน ส่วนเอกสารภายใน Netflix เองระบุว่าเลือกไมโครซอฟท์เพราะนโยบายด้านข้อมูลส่วนตัว, แพลตฟอร์มเทคโนโลยี และทีมเซลส์ของบริษัท แกนหลักสำคัญของดีลนี้คือ Xandr บริษัทเทคโนโลยีโฆษณาที่ไมโครซอฟท์ซื้อจาก AT&T เมื่อปี 2021 ทำให้ไมโครซอฟท์สามารถตอบโจทย์ Netflix เรื่องขายซื้อขายโฆษณาเพื่อแสดงผลบนวิดีโอสตรีมมิ่ง จากเดิมที่ไมโครซอฟท์มีเครือข่ายโฆษณา Microsoft Audience Network ที่ใช้กับโฆษณาบนเว็บอยู่แล้ว Netflix มีแผนจะเปิดแพ็กเกจแบบมีโฆษณาอย่างน้อย 10 ประเทศภายในสิ้นปี 2022 ประเทศที่ระบุชื่อแล้วคือแคนาดา และสหราชอาณาจักร ที่มา - Wall Street Journal
# เว็บอนิเมะ Crunchyroll ลดราคาสมาชิก แพ็กเกจพรีเมียมในไทยเหลือ 69 บาท/เดือน Chrunchyroll เว็บสตรีมมิ่งอนิเมะรายใหญ่ของโลก ที่ปัจจุบันอยู่ในเครือ Sony Pictures ประกาศลดราคาค่าสมาชิกรายเดือนลงในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ราคาแพ็กเกจพรีเมียมของประเทศไทย แบบพื้นฐาน (Fan) ลดเหลือ 69 บาท/เดือน ส่วนแพ็กเกจแบบ Mega Fan ที่รองรับการชมออฟไลน์ และสตรีมพร้อมกันได้ 4 จอ อยู่ที่ 89 บาท/เดือน หากซื้อรายปีจะเหลือ 899 บาท หรือตกเดือนละ 75 บาท (ลดจากรายเดือนอีก 16%) Crunchyroll ไม่ได้ระบุว่าทำไมถึงสวนกระแสตลาด ด้วยการลดราคาครั้งใหญ่ในหลายประเทศมาก เหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้คือหลัง Sony ซื้อกิจการและรวมบริการ Crunchyroll กับ Funimation เข้าด้วยกัน จึงปรับแพ็กเกจราคาที่แตกต่างกันให้ไปในทิศทางเดียวกัน ที่มา - Crunchyroll
# เกม Grounded คนจิ๋วผจญภัยของ Obsidian กำลังจะกลายเป็นซีรีส์แอนิเมชัน Grounded เกมคนจิ๋วผจญภัยในสวนหลังบ้านของ Obsidian Entertainment (ปัจจุบันเป็นสตูดิโอในเครือ Xbox) เป็นเกมล่าสุดที่จะได้ดัดแปลงเป็นซีรีส์แอนิเมชัน เนื้อเรื่องเกิดในจักรวาลเดียวกับเกม เป็นเรื่องของกลุ่มเด็ก 4 คนที่บังเอิญกลายเป็นคนตัวจิ๋วแล้วต้องเอาตัวรอดจากแมลงและสัตว์ต่างๆ เว็บข่าวบันเทิง Deadline ระบุว่า Obsidian จะทำร่วมกับบริษัทผลิตซีรีส์ Waterproof Studios/SC Productions, Kinetic Media, Bardel Entertainment โดยได้ Brent Friedman มือเขียนบทของ Star Wars: Clone Wars มาเขียนบทให้ และได้ Brien Goodrich ผู้กำกับภาพยนตร์ในเกม Halo 4-5 มาเป็นผู้กำกับ ตอนนี้ยังไม่ระบุว่า Grounded จะฉายลงสตรีมมิ่งเจ้าใด แต่ผลงานก่อนหน้านี้ของเกมในเครือไมโครซอฟท์คือ ซีรีส์ Halo ภาคคนแสดง ฉายกับ Paramount+ เกม Grounded ถือเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ตัวเลขล่าสุดที่ Obsidian เปิดเผยคือมีผู้เล่นถึง 10 ล้านคน (เป็นเกมขายราคา 29.99 ดอลลาร์ และมีเฉพาะบน Xbox กับพีซีเท่านั้นด้วย) เกมกำลังจะออกเวอร์ชันสมบูรณ์ 1.0 (ที่ผ่านมายังเป็น Early Access) ในเดือนกันยายน 2022 ที่มา - Grounded, Deadline
# Google Docs เพิ่มฟีเจอร์ eSignature เซ็นลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ได้ในตัว ไม่ต้องใช้แอพอื่น กูเกิลประกาศฟีเจอร์ใหม่ให้ Google Docs คือการเซ็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (eSignature) แบบทำได้ในตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาแอพภายนอกมาเชื่อมต่อกับ Google Docs เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน วิธีการใช้งานคือ Google Docs จะมีฟิลด์ใหม่เพิ่มมาอีก 2 ฟิลด์คือ ลายเซ็น (signature) และวันที่เซ็น (date signed) ที่สามารถลากไปวางตรงไหนก็ได้ในเอกสาร และสามารถส่ง request a signature เพื่อขอลายเซ็นจากผู้อนุมัติได้โดยตรง ไม่ต้องดาวน์โหลดไฟล์ใดๆ เมื่อเซ็นเสร็จแล้ว ระบบจะส่งไฟล์ PDF ที่เซ็นเรียบร้อยแล้วไปให้ทั้งผู้ขอและผู้เซ็นเป็นการยืนยัน ฟีเจอร์ eSignature จะเปิดทดสอบแบบเบต้าในเร็วๆ นี้ โดยผู้ใช้ Google Workspace Individual ที่ใช้บัญชีกูเกิลแบบธรรมดาก็สามารถใช้งานได้ด้วย ที่มา - Google
# Citizen Lab รายงานการใช้มัลแวร์ Pegasus ในไทย พบมาตั้งแต่ปี 2014 ระบุยังมีเซิร์ฟเวอร์ทำงานอยู่ เมื่อวานนี้ iLaw เปิดรายงานการใช้มัลแวร์ Pegasus ในประเทศไทย ทาง Citizen Lab ที่ร่วมสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ออกรายงานของตัวเองมาเหมือนกัน โดยนอกจากจะมีลำดับเหตุการณ์เหมือนกับรายงานของ iLaw แล้วก็ยังมีข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์ Pegasus ที่ใช้ควบคุมมัลแวร์เหล่านี้เพิ่มเติมเข้ามา อย่างไรก็ดีทาง Citizen Lab ไม่ได้ยืนยันตรงๆ ว่าโทรศัพท์ของนักกิจกรรมในไทยถูกควบคุมผ่านเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้หรือไม่ เซิร์เวอร์ที่ Citizen Lab พบเปิดใช้งานมาแล้วตั้งแต่ปี 2014 โดยเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้มีชื่อโดเมนที่ชื่อเกี่ยวกับประเทศไทยชี้ไปยังเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้น เมื่อสืบกลับไปถึงผู้จดโดเมนก็จะพบว่าอีเมลหนึ่งที่ใช้จดโดเมนคือ [เซ็นเซอร์][email protected] ในขณะที่อีเมลอีกอันหนึ่งที่ใช้จดโดเมนถูกนำไปสมัครเฟซบุ๊กด้วยชื่อผู้ใช้ "Nsbtest Nsbtest" อาจแสดงให้เห็นว่ากลุ่มปฎิบัติการนี้เรียกชื่อหน่วยงานตัวเองว่า NSB และตอนนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์อย่างน้อยหนึ่งชุดที่เปิดทำการอยู่ ทาง Citizen Lab ระบุว่าหลักฐานที่ได้จากการตรวจสอบโทรศัพท์ยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นหน่วยงานใดที่เป็นผู้ใช้มัลแวร์ Pegasus กับนักกิจกรรมในไทย แต่หลักฐานแวดล้อมก็แสดงให้เห็นว่าน่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทย เนื่องจากเหยื่อเป็นกลุ่มผู้สนใจรัฐบาลไทยอย่างมาก, การแฮกอาศัยเครื่องมือประสิทธิภาพสูง ต้องใช้เงินทุนสูงมาก, เหตุการณ์แฮกแต่ละครั้งเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ในการเมืองไทย, และคาดว่ารัฐบาลไทยจะมี Pegasus ใช้งานมาเป็นเวลานานแล้ว สำหรับการวิเคราะห์โทรศัพท์ที่ถูกแฮก ทาง Citizen Lab วิเคราะห์ช่วงเวลาจากข้อมูลในโทรศัพท์ และเครื่องบางส่วนให้ Security Lab ของ Amnesty International ตรวจสอบซ้ำเพื่อยืนยันว่าได้ผลตรงกัน ที่มา - Citizen Lab
# Slack ประกาศขึ้นราคา เฉพาะผู้ใช้งาน Pro - ใช้ฟรีเปลี่ยนเป็นค้นข้อความย้อนได้ 90 วัน Slack ประกาศขึ้นราคาค่าใช้บริการ มีผลเฉพาะผู้ใช้งานแบบ Pro เท่านั้น ซึ่ง Slack บอกว่าเป็นการขึ้นราคาครั้งแรกนับตั้งแต่มีแผนใช้งานนี้ การขึ้นราคานี้เพื่อสะท้อนกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ Slack ใส่เพิ่มตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2022 เป็นต้นไป ผู้ใช้งาน Pro แบบจ่ายรายเดือน ค่าบริการจะเพิ่มเป็น 8.75 ดอลลาร์ต่อเดือน (เดิม 8 ดอลลาร์) ส่วนผู้ใช้งาน Pro แบบจ่ายรายปี ค่าบริการเพิ่มเป็น 87 ดอลลาร์ต่อปี (เดิม 80 ดอลลาร์) ทั้งนี้ผู้ใช้งานแบบ Business+ และ Enterprise ไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคา ประกาศนี้ยังมีผลต่อผู้ใช้งานฟรีด้วย จากเดิมที่สามารถเข้าถึงได้ 10,000 ข้อความย้อนหลัง และพื้นที่ใช้งานสูงสุด 5GB จะเปลี่ยนเป็น เข้าถึงข้อความได้ 90 วันย้อนหลัง แต่ไม่จำกัดขนาดพื้นที่ มีผลตั้งแต่ 1 กันยายน 2022 เช่นกัน ที่มา: Slack