txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# เปิดตัว AIS x Microsoft for Startups ให้สตาร์ทอัพไทยใช้ Cloud Azure ฟรี พร้อมโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้า
ทั้งเอไอเอสและไมโครซอฟท์ต่างมีโครงการเพื่อสตาร์ทอัพอยู่แล้วคือ AIS The StartUp และ Microsoft for Startups ล่าสุดทั้งสองประกาศความร่วมมือ เปิดตัวโครงการ AIS x Microsoft for Startups รับสมัครสตาร์ทอัพไทยที่ทำธุรกิจ B2B หรือ Business to Business เข้ามาสมัครเพื่อเข้าถึงการใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ของไมโครซอฟท์ รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผ่านช่องทางเอไอเอสและไมโครซอฟท์ด้วย
สิ่งที่สตาร์ทอัพจะได้จากการเข้าร่วมโครงการคือ สามารถเลือกใช้โซลูชั่นต่างๆ ฟรี เช่น Cloud : Microsoft Azure, Development : Visual Studio Enterprise, Productivity : Microsoft 365, Dynamic 365 : for Sales รวมถึงการเข้าถึงตลาด และการเติบโต โดยในโครงการมีช่องทางขายให้กับสตาร์ทอัพที่ ทั้งในส่วนของพนักงานขายจาก เอไอเอสและไมโครซอฟท์, Telesell, การนำเสนอผ่านพาร์ทเนอร์บน Market Place
นายซันเจย์ แอนดรูว์ โทมัส หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ AIS พูดถึงความท้าทายของสตาร์ทอัพในโลกปัจจุบันว่าล้มเหลวไปแล้ว 92% ด้วยเหตุผลว่า ผลิตภัณฑ์ที่ทำออกมาไม่มีตลาดรองรับ, เทคโนโลยีไม่มีประสิทธิภาพมากพอ, ไม่สามารถระดมทุนได้เพิ่ม ป้าหมายของโครงการนี้จะช่วยให้สตาร์ทอัพได้เข้าถึงตลาด พร้อมยกระดับสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีที่ใช้งานอยู่ให้ดีขึ้น
นอกจากการเข้าถึงเทคโนโลยีและช่องทางขายแล้ว ไมโครซอฟท์จะช่วยให้คำแนะนำเมื่อต้องอัพเกรดเทคโนโลยีรองรับความต้องการใช้งานมากขึ้น แนะนำสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีที่เหมาะสม และให้คำแนะนำเรื่อง GDPR และ PDPA เพื่อให้เก็บข้อมูลลูกค้าสอดคล้องกับกฎคุ้มครองข้อมูลใหม่
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกสตาร์ทอัพ ต้องทำธุรกิจ B2B, มีอายุไม่เกิน 7 ปี, รายได้ไม่เกิน 25 ล้านเหรียญ สตาร์ทอัพที่สนใจสามารถสมัครผ่าน thestartup.ais.co.th
ที่มา - งานแถลงข่าว |
# ทักษิณ เปิดเว็บใหม่ Thaksin Official รวมแนวคิด วิสัยทัศน์ และพอดแคสต์ที่เคยทำมา
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือที่รู้จักกันในโลกออนไลน์ชื่อว่า Tony Woodsome เปิดเว็บไซต์ใหม่ Thaksin Official เป็นเว็บรวมแนวคิดทางการเมืองและวิสัยทัศน์ทั้งในรูปแบบวิดีโอ และพอดแคสต์ Good Monday โดยมีแท็กไลน์หลักสำหรับเว็บไซต์คือ "เราต้องมีความหวังในวันนี้และวันพรุ่งนี้"
ปัจจุบัน ทักษิณ สื่อสารในโลกออนไลน์มากขึ้น ทั้งการพูดคุยบน Clubhouse, Facebook Live เป็นต้น ผู้มีบทบาทสำคัญในการเปิดตัวเว็บคือ นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นการเปิดเว็บไซต์เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 72 ปีของนายทักษิณ ชินวัตร
ที่มา - ไทยรัฐ |
# กูเกิลเลิกขายกุญแจ U2F Titan รุ่น Bluetooth เพราะอุปกรณ์รองรับ NFC กันหมดแล้ว
กูเกิลเริ่มวางขายกุญแจ U2F Titan Security Key มาตั้งแต่ปี 2018 โดยแยกเป็นรุ่น USB-A/NFC และรุ่น USB-A/Bluetooth แล้วออกรุ่น USB-C ตามมาในปี 2019
ล่าสุดกูเกิลประกาศหยุดขายกุญแจ Titan รุ่น USB-A/Bluetooth แล้ว ด้วยเหตุผลว่าสมาร์ทโฟนยุคใหม่รองรับ NFC กันหมดแล้ว ความจำเป็นของกุญแจแบบ Bluetooth จึงน้อยลงไป (แต่กุญแจเดิมก็ยังใช้งานได้ตามปกติ)
ตอนนี้กูเกิลจึงเหลือ Titan ขายแค่ 2 รุ่นคือ USB-A/NFC กับรุ่น USB-C เท่านั้น การใช้งานกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB-A/USB-C จึงเลือกตามรุ่นของพอร์ตได้เลย แต่ถ้าใช้ iPad ที่เป็นพอร์ต lightning คำแนะนำของกูเกิลคือให้ซื้อรุ่น USB-A แล้วต่อผ่านหัวแปลง lightning แทน
ที่มา - Google, Bleeping Computers |
# เอกชนเอาด้วย Amazon ให้คนทำงานที่ฉีดวัคซีนครบ ลุ้นลอตเตอรี่รางวัลรวม 2 ล้านดอลลาร์
นอกจากหน่วยงานรัฐ เช่นรัฐบาลวอชิงตันดีซีที่จูงใจประชาชนให้ฉีดวัคซีนด้วยการแจก AirPods ฝั่งเอกชนก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน ล่าสุด Amazon ให้บุคคลากรที่ทำงานจุดเสี่ยงที่ต้องพบปะผู้คนของบริษัท เช่นพนักงานร้าน Whole Foods Market พนักงาน Amazon Fresh และพนักงานดาต้าเซ็นเตอร์ของ Amazon Web Services ในสหรัฐฯ ได้ลุ้นลอตเตอรี่รางวัลรวมกว่า 2 ล้านดอลลาร์ หากฉีดวัคซีนจนครบ
แคมเปญนี้ชื่อ Max Your Vax มีรางวัลทั้งหมด 18 รางวัล มีทั้งรางวัลเงินสด 500,000 สองรางวัล เงินสด 100,000 ดอลลาร์ หกรางวัล รถยนต์ ห้ารางวัล และ แพ็คเกจท่องเที่ยวฟรีอีกห้ารางวัล
ปัจจุบัน Amazon มีพนักงานกว่า 1.3 ล้านคน แต่ยังไม่บังคับฉีดวัคซีนสำหรับพนักงานที่ต้องการกลับเข้าออฟฟิศ แค่บังคับผู้ที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบว่าต้องใส่หน้ากากตลอดเวลาทำงานเท่านั้น ต่างจาก Microsoft, Google, และ Facebook และเลื่อนวันกลับเข้าทำงานจาก 7 กันยายน ไปเป็น 7 มกราคมปีหน้า หลังเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าระบาด
ที่มา - Bloomberg |
# Toshiba เปิดเครื่องมือทดสอบช่องโหว่เครือข่ายแบบหลายชั้น
โตชิบาร่วมกับ Peraton Labs สร้างเครื่องมือสำรวจเส้นทางการแฮกระบบ เพื่อทดสอบการเจาะระบบที่ต้องอาศัยช่องโหว่หลายชั้น โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมที่มักแยกเครือข่ายของเซิร์เวอร์และระบบควบคุมในโรงงานออกจากกัน
ซอฟต์แวร์ Automated Attack Path Planning and Validation (A2P2V) อาศัยฐานข้อมูลช่องโหว่สาธารณะมาทดสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ต่างๆ ในเครือข่าย เพื่อจำลองความเป็นไปได้ที่ระบบจะถูกเจาะ เช่นการเจาะไฟร์วอลล์เข้าไปยังพรินเตอร์เพื่อกระโดดไปยังตัวควบคุมเครื่องจักรในที่สุด
ทั้งสองบริษัทเสนอเครื่องมือ A2P2V ในงาน Black Hat 2021 ที่ผ่านมา และเปิดโค้ดไว้บน GitHub
ที่มา - Toshiba |
# Amazon และ GoPro รวมตัวฟ้องบริษัทจีนที่ขายอุปกรณ์ GoPro ปลอมบน Amazon
Amazon และ GoPro ได้ยื่นฟ้องกลุ่มบริษัทจีนที่ขายผลิตภัณฑ์ GoPro ปลอมใน Amazon ทำการลอกเลียนแบบอุปกรณ์เสริมยอดนิยมของ GoPro และใช้ตราสินค้าอย่างโจ่งแจ้งเพื่อพยายามหลอกล่อผู้ซื้อให้เข้าใจว่านี่คือสินค้า GoPro ของจริง
ตัวอย่างสินค้าที่ถูกปลอมขึ้นมาได้แก้ ด้ามจับ 3-Way และตัวอุปกรณ์เสริม The Handler ซึ่งมีการทำขึ้นมาเหมือนกับของจริงมาก แตกต่างกันเล็กน้อยตรงสีโฟมด้ามจับ
Kebharu Smith ผู้อำนวยการของ Amazon ที่ดูแลเรื่องลิขสิทธิ์โดยเฉพาะ ระบุว่า นี่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทและยังทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดและทำลายชื่อเสียงของ Amazon ในฐานะที่เป็นแหล่งซื้อสินค้าของแท้
ปัญหาสินค้าปลอมบน Amazon ดูเหมือนว่าจะกำจัดไม่หมดไม่สิ้น ย้อนไปในปี 2016 แอปเปิลบอกว่าประมาณ 90% ของสาย Lightning และที่ชาร์จที่ระบุป้ายว่า "Fulfilled by Amazon" นั้นเป็นของปลอม
ที่มา - Engadget |
# Apple อาจออกอัพเดต iOS 14.8 ถึงแม้ใกล้กำหนดอัพเดตทั่วไปของ iOS 15 แล้ว
ถึงแม้ iOS 15 ระบบปฏิบัติการ iPhone/iPad ของแอปเปิล คาดว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดทั่วไปในช่วงเดือนกันยายน แต่แอปเปิลอาจยังออกอัพเดตของ iOS 14 อีก โดยตัวล่าสุดที่ออกมาคือ iOS 14.7.1 เมื่อปลายเดือนที่แล้ว
รายงานนี้มาจากบัญชี Twitter ของ Brendan Shanks ซึ่งพบว่า ใน Xcode 13 เบต้า 4 แอปเปิลได้ระบุถึงชื่อ iOS 14.8 จึงแปลว่าแอปเปิลอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาอยู่นั่นเอง และจะเป็นครั้งแรกที่ iOS มีอัพเดตใหญ่ถึงเลข .8
การที่ iOS ออกอัพเดตใหญ่ในระบบปฏิบัติการเดิม แม้เวอร์ชันใหม่ใกล้ออกมา ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด ในปีที่แล้วแอปเปิลก็ออกอัพเดต iOS 13.7 จากนั้นอีกสองสัปดาห์ iOS 14 ก็เปิดให้ดาวน์โหลด
ที่มา: 9to5Mac |
# Sony ปิดดีล 1,175 ล้านดอลลาร์ ซื้อกิจการเว็บสตรีมมิ่งอนิเมะ Crunchyroll แล้ว
Sony Pictures Entertainment (SPE) ประกาศว่าการเข้าซื้อกิจการ Crunchyroll เว็บบริการสตรีมมิ่งอนิเมะ ได้เสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดแล้ว โดยจากนี้ Crunchyroll จะเป็นบริการในเครือของ Funimation บริษัทที่มี SPE และ Aniplex ที่เป็นส่วนธุรกิจของ Sony Music (Japan) ถือหุ้นอยู่
Crunchyroll เป็นบริการสตรีมมิ่งอนิเมะ มีผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 120 ล้านคนในกว่า 200 ประเทศ บริการมีทั้งแบบรับชมโดยติดโฆษณา และแบบเสียเงินรายเดือน ซึ่งตอนนี้มีผู้ใช้งานแบบจ่ายเงินประมาณ 5 ล้านคน
ดีลนี้โซนี่ประกาศเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยเป็นการซื้อกิจการจาก WarnerMedia บริษัทในเครือของ AT&T มีมูลค่าดีล 1,175 ล้านดอลลาร์
ที่มา: โซนี่ |
# แอปเปิลเพิ่มเอกสารชี้แจงการสแกนภาพโป๊เด็กบนโทรศัพท์: ไม่ทำงานหากปิด iCloud, จะไม่ยอมสแกนข้อมูลอื่นอีกแล้ว
แอปเปิลเพิ่มเอกสารคำถามพบบ่อยสำหรับระบบสแกนภาพโป๊เด็กบน iPhone และ iPad โดยตอบประเด็นที่ถูกวิจารณ์หลายประเด็น ได้แก่
แอปเปิลจะสแกนภาพทุกภาพในโทรศัพท์หรือไม่: แอปเปลยืนยันว่าจะสแกนเฉพาะภาพที่กำลังอัปโหลดขึ้น iCloud Photos เท่านั้น และระบบจะไม่ทำงานหากปิดการทำงาน iCloud Photos ทิ้ง
ระบบนี้ใช้ตรวจสอบภาพแบบอื่นได้หรือไม่: แอปเปิลยืนยันว่าจะรับแฮชภาพที่เข้าข่ายจากองค์กรที่ทำงานด้านความปลอดภัยเด็กเท่านั้น และจะไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐโดยอัตโนมัติ แต่เจ้าหน้าที่ของแอปเปิลจะตรวจสอบซ้ำเสมอ
จะทำอย่างไรหากรัฐบาลบังคับให้ค้นภาพชนิดอื่น: แอปเปิลยืนยันว่าจะปฎิเสธคำขอจากรัฐบาลต่างๆ ให้ตรวจสอบภาพแบบอื่น และยืนยันว่าที่ผ่านมาต่อสู้กับคำขอของรัฐบาลที่จะให้ช่วยลดความเป็นส่วนตัวผู้ใช้
ประเด็นต่างๆ ในเอกสารนี้เป็นการย้ำข้อความในเอกสารที่แอปเปิลเคยแจ้งมาก่อนแล้วในวันเปิดตัวระบบนี้ แต่น่าสังเกตว่าแอปเปิลย้ำถึงการต่อสู้กับ FBI ที่สั่งให้แอปเปิลทำรอมปลดล็อกโทรศัพท์เพื่อสอบสวนคดี แต่แอปเปิลกลับยอมย้ายข้อมูล iCloud ของลูกค้าในจีนออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทภายนอกตามคำสั่งรัฐบาลจีนโดยไม่โต้แย้งอะไร หรือบางกรณีเช่นก่อนหน้านี้แอปเปิลเคยไม่เปิดบริการ FaceTime ในซาอุดิอาระเบีย, ปากีสถาน, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แม้ว่าจะปล่อยอัพเดตเพิ่มบริการมาในบางประเทศภายหลัง
ที่มา - Apple |
# SpaceX ซื้อกิจการ Swarm ผู้พัฒนาดาวเทียมขนาดเล็กสำหรับ IoT
SpaceX ได้เข้าซื้อกิจการ Swarm Technologies สตาร์ทอัพผู้ให้บริการระบบดาวเทียมขนาดเล็กแบบกลุ่ม (constellation) สำหรับอุปกรณ์ IoT โดยข้อมูลนี้มีการเปิดเผยจากเอกสารที่ทาง Swarm ยื่นขอคำอนุมัติต่อ FCC หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐ เนื่องจากต้องโอนย้ายดาวเทียมและสถานีฐานให้กับ SpaceX
ดีลนี้มีความน่าสนใจเพราะปกติ SpaceX มักไม่ซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจ แต่เลือกพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเอง ทั้งนี้เอกสารระบุว่าดีลนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของดีล
ปัจจุบัน Swarm มีดาวเทียมขนาดเล็กทั้งหมด 120 ดวง ให้บริการรับส่งข้อมูลขนาดเล็ก เน้นกลุ่มลูกค้าทั้งภาคการเกษตร พลังงาน และขนส่ง ผ่าน IoT ซึ่งบริษัทมองว่าจะสามารถแย่งส่วนแบ่งจากบริการดาวเทียมแบบเดิมได้
Swarm เปิดเผยการเพิ่มทุนครั้งล่าสุดในปี 2019 โดยตอนนั้นบริษัทมีมูลค่ากิจการราว 85 ล้านดอลลาร์
ที่มา: Space News และ CNBC |
# Facebook เพิ่มความสามารถ ย้ายข้อมูลผู้ใช้งานไปที่ Photobucket และ Google Calendar ได้แล้ว
Facebook ประกาศเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ให้กับเครื่องมือโอนย้ายสำเนาข้อมูลออกจากเว็บ (TYI - Transfer Your Information) โดยผู้ใช้งานสามารถย้ายรูปภาพไปยัง Photobucket ได้เพิ่มอีกหนึ่งบริการ จากก่อนหน้านี้มีทั้ง Google Photos, Dropbox, Google Docs, Wordpress และอีกหลายบริการ นอกจากนี้ยังเพิ่มประเภทข้อมูล Facebook Events ให้สามารถย้ายออกมาได้เพิ่มเติม โดยรองรับการย้ายไปที่ Google Calendar
นอกจากนี้ Facebook ยังปรับปรุงหน้าตาเครื่องมือย้ายข้อมูลใหม่ ให้เรียบง่ายและสามารถจัดการชุดข้อมูล และจุดหมายที่จะย้ายข้อมูลไปได้สะดวกมากขึ้น
ที่มา: Facebook |
# หน่วยงานให้ทุนวิจัยของอังกฤษ บังคับเปเปอร์ต้องเป็น Open Access, Creative Commons
UK Research and Innovation (UKRI) หน่วยงานด้านการให้ทุนวิจัยของสหราชอาณาจักร (เทียบกับบ้านเราคงใกล้เคียงกับ สกว./สกสว.) ประกาศนโยบายใหม่ว่า งานวิจัยที่รับทุนจาก UKRI และจะส่งเผยแพร่หลังจากเดือนเมษายน 2022 เป็นต้นไป จะต้องเผยแพร่ต่อสาธารณะโดยไม่ต้องเสียเงิน (open access) รวมถึงใช้สัญญาอนุญาตแบบ Creative Commons
นโยบาย open access ถูกนำมาใช้แก้ปัญหางานวิจัยตีพิมพ์ลงในวารสารที่ต้องเป็นสมาชิกแบบเสียเงินถึงจะอ่านได้เท่านั้น ทำให้การต่อยอดงานวิจัยทำได้ยาก โดยเฉพาะถ้าเป็นงานวิจัยที่ได้รับเงินอุดหนุนจากหน่วยงานของรัฐอยู่แล้ว ทำให้หน่วยงานอย่าง UKRI ออกมากำหนดนโยบายเรื่อง open access สำหรับงานที่ต้องการรับทุน
ก่อนหน้านี้ UKRI มีนโยบาย open access อยู่แล้วมาตั้งแต่ปี 2013 แต่เปิดให้เลือกได้ 2 แบบคือ
Gold Route เปิดให้อ่านฟรีบนเว็บไซต์ของวารสารวิชาการ (ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งจากนักวิจัยจ่ายเงินให้วารสารเอง)
Green Route นักวิชาการเผยแพร่เปเปอร์วิจัยฉบับ (เกือบ) สมบูรณ์ผ่านช่องทางอื่นๆ หลังตีพิมพ์ในวารสารวิชาการไปแล้ว 1 ปี
เงื่อนไขใหม่ของ UKRI คือไม่ยอมรับเงื่อนไขรอ 1 ปีหลังตีพิมพ์แล้ว ดังนั้น นักวิจัยที่รับทุนจาก UKRI จะต้องเผยแพร่เปเปอร์ของตัวเองทันที เมื่อเปเปอร์ได้ตีพิมพ์บนวารสารวิชาการ
นอกจากนี้ UKRI ยังเพิ่มกฎอีกข้อว่างานวิจัยที่ได้รับทุนอุดหนุน จะต้องใช้สัญญาอนุญาตแบบ Creative Commons Attribution (CC-BY) เท่านั้น เพื่อการันตีว่างานจะถูกเผยแพร่ต่อได้อย่างเสรี ด้วยเหตุผลว่าเป็นงานวิจัยที่มาจากเงินภาษีของประชาชน
บทความเก่าที่เกี่ยวข้อง: วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของ Stephen Hawking เปิดให้ดาวน์โหลดไปอ่านกันได้แล้ว โดย Hawking บอกว่างานของเขาเกิดขึ้นได้ เพราะเขามีโอกาสเข้าถึงงานของคนรุ่นก่อนหน้าอย่าง Isaac Newton, James Clerk Maxwell, Albert Einstein จึงต้องการเปิดงานของตัวเองให้คนรุ่นหลังเข้าถึงได้ด้วย
ที่มา - UKRI, UKRI, Sciencemag |
# Google Cloud เพิ่มหน้าจอแจ้งเตือนโปรเจคโดนทิ้งร้าง
Google Cloud เพิ่มฟีเจอร์ Unattended project recommender แจ้งเตือนให้ผู้ดูแลคลาวด์สามารถจัดการโครงการที่ถูกทิ้งร้าง จนอาจจะสร้างค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น หรือกระทั่งเปิดช่องโหว่ให้กับระบบ
บริการนี้วิเคราะห์การใช้งานในโครงการต่างๆ ย้อนหลัง 30 วัน โดยแยกประเภทการแจ้งเตือนสองประเภท คือประเภทที่มีการใช้งานต่ำต่อเนื่อง จะแนะนำให้รีวิวโปรโจคใหม่หรืออาจจะลบโปรเจคทิ้งไป อีกประเภทคือโปรเจคที่มีการใช้งานสูง แต่กลับไม่มีผู้ดูแลโครงการ ระบบจะแนะนำให้ตั้งผู้ดูแลโครงการเสียใหม่
การจัดการค่าใช้จ่ายบนคลาวด์กลายเป็นฟีเจอร์ที่ผู้ผลิตซอฟต์แวร์จำนวนมากพยายามนำเสนอในช่วงหลัง เนื่องจากเกิดเหตุใช้ทรัพยากรบนคลาวด์โดยไม่มีการใช้งานจริง หรือใช้งานไม่คุ้มค่ากันบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการวางไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วบนคลาวด์สตอเรจ หรือเปิดเซิร์ฟเวอร์ทดสอบไว้แล้วไม่ปิด
ผู้ใช้ฟีเจอร์นี้ต้องเปิด Recommender API มาใช้งานด้วย และตอนนี้ฟีเจอร์นี้ยังไม่เข้าสถานะ GA ทำให้การซัพพอร์ตยังจำกัดอยู่
ที่มา - Google Cloud |
# ออสเตรเลียร่างกฎหมายผู้ให้บริการออนไลน์ต้องตรวจสอบข้อมูลผิดกฎหมายแม้เข้ารหัส, จำกัดการใช้งานแบบไม่ระบุตัวตน
กระทรวงการสื่อสาร, โครงสร้างพื้นฐาน, เมือง, และศิลปะของออสเตรเลียเสนอร่างข้อบังคับสำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์ ชื่อว่า "Draft Online Safety (Basic Online Safety Expectations) Determination 2021" กำหนดกรอบความรับผิดชอบของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เพื่อการควบคุมการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การสร้างความรังเกียจกัน (cyber-bully), การเผยแพร่ภาพโดยไม่ได้รับความยินยอม, ไปจนถึงการกระตุ้นให้ใช้ความรุนแรง
ส่วนหนึ่งของร่างข้อบังคับนี้ ระบุว่าหากผู้ให้บริการมีบริการที่เข้ารหัส ผู้ให้บริการต้องวางกระบวนการที่สมเหตุสมผลเพื่อตรวจสอบเนื้อหาหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายหรือเป็นอันตราย
ตัวกฎไม่ได้ระบุไว้ชัดว่าผู้ให้บริการต้องทำอย่างไรเพื่อตรวจสอบเนื้อหา ในเมื่อข้อมูลถูกเข้ารหัสไว้แล้ว แนวทางนี้อาจจะตีความได้ว่าตรงกับแนวทางของแอปเปิลที่อาศัยการตรวจสอบข้อมูลก่อนอัพโหลดขึ้นแพลตฟอร์ม
นอกจากการตรวจสอบเนื้อหาแล้ว ประกาศยังระบุให้มีมาตรการเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้แบบไม่ระบุตัวตน (anonymous account) เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เหล่าโพสเนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือเป็นอันตราย ตลอดจนต้องมีกระบวนการไม่ให้ผู้ใช้สร้างบัญชีใหม่ไปเรื่อยๆ
ที่มา - ZDNet
ภาพโดย OpenClipart |
# Back 4 Blood เกมยิงซอมบี้จากทีม Left 4 Dead มีผู้เล่น closed beta สูงสุดเกือบ 1 แสนคน
Back 4 Blood เกมยิงซอมบี้เกมใหม่จากทีมผู้สร้าง Left 4 Dead ที่ยังอยู่ในช่วง closed beta ทำสถิติผู้เล่นสูงสุด 98,024 คน ช่วงพีคเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ติดอันดับ 8 ของเกมที่มีผู้เล่นสูงสุดบน Steam อ้างอิงจาก SteamDB ชนะ Warframe และ Team Fortress 2
Back 4 Blood เป็นเกมภาคต่อทางจิตวิญญาณของ Left 4 Dead ที่ทีมพัฒนาต้องใช้ชื่อใหม่เพราะลิขสิทธิ์ Left 4 Dead ยังอยู่กับ Valve แม้ผลตอบรับช่วง closed beta ยังไม่ดีนัก แต่ดูเหมือนจะมีผู้เล่นที่สนใจเกมยิงซอมบี้ใหม่นี้มากพอสมควร ตัวเกมเตรียมเปิด open beta อีกรอบวันที่ 12-16 สิงหาคมนี้ ก่อนวางจำหน่ายวันที่ 13 ตุลาคมนี้ ซึ่งคงต้องดูกันอีกทีว่าจะได้รับการปรับปรุงแค่ไหน และเสียงตอบรับจะเป็นอย่างไรเมื่อวางจำหน่ายเกมเต็ม
ที่มา - Kotaku |
# บริษัทแคนาดาเตรียมส่งดาวเทียมจิ๋วพร้อมป้ายโฆษณา เช่าป้ายได้ผ่านคริปโต อาจรับ Dogecoin
Geometric Energy Corporation (GEC) บริษัทวิจัยและพัฒนาสัญชาติแคนาดา เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของดาวเทียม CubeSat หลังจ่ายเงินเช่าพื้นที่ Falcon 9 ในภารกิจ Doge-1 ของ SpaceX เป็นเหรียญ Dogecoin ล้วนๆ โดย CubeSat จะมีด้านหนึ่งเป็นจอภาพ พร้อมกล้องถ่ายหน้าจอสไตล์ไม้เซลฟี่ที่จะถ่ายทอดสดหน้าจอลง Youtube และ Twitch ด้วย
Doge-1 เป็นภารกิจส่งจรวด Falcon 9 ของ SpaceX ไปยังดวงจันทร์ ซึ่ง GEC เช่าพื้นที่สำหรับดาวเทียมน้ำหนัก 40 กิโลกรัมนี้ไว้ ก่อนหน้านี้ระบุว่าจะเป็นดาวเทียมเก็บข้อมูลอวกาศและดวงจันทร์ แต่ข้อมูลตอนนี้ระบุว่าดาวเทียมจะมีจอโฆษณาอยู่ด้วย โดย Doge-1 จะปล่อยดาวเทียมนี้โคจรในวงโคจรรอบโลก ก่อนจรวดจะบินต่อไปยังดวงจันทร์ต่อไป
ผู้ที่ต้องการแสดงภาพบนหน้าจอ จะต้องซื้อโทเค่นด้วยเงินคริปโตเพื่อเช่าพิกเซล โดยจะมีโทเค่นที่ต้องซื้อ 5 ชนิด คือ Beta ระบุตำแหน่งพิกเซลในแกนนอน (X), Rhoe ระบุตำแหน่งพิกเซลแกนตั้ง (Y), Gamma ระบุความสว่าง Kappa ระบุสี และ XI ระบุระยะเวลาที่จะแสดงภาพ เงินคริปโตที่ใช้ซื้ออาจเป็นสกุลหลักเช่น BTC หรือ ETH ก่อน แต่ GEC มีเป้าหมายจะพัฒนาให้รองรับ Dogecoin ในอนาคต แต่ยังไม่เปิดเผยราคาค่าแสดงข้อความบนดาวเทียม
Samuel Reid ระบุว่าเขาต้องการที่จะ “ทำให้การเข้าถึงอวกาศเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และมีส่วนร่วมแบบไร้ตัวกลางได้” เขายังหวังว่า “ผู้คนจะไม่เสียเงินไปกับการแสดงอะไรที่ไม่เหมาะสม ไม่สุภาพ หรือคุกคามผู้อื่น” บนป้ายโฆษณานี้
ว่ากันตรงๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะห้ามอะไรแบบนี้ หากมีการอนุญาตให้เช่าหน้าจอได้ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยใช้เงินคริปโตที่ติดตามตัวยาก และไม่มีการตรวจสอบก่อนแสดงภาพ ไม่นานก็คงมีภาพมีม หรือภาพไม่เหมาะสมอยู่บนจอแน่ๆ แต่คงต้องรอดูช่วงต้นปีหน้าว่าจะป่วนแค่ไหน
ที่มา - Business Insider, Space Insider |
# Microsoft Edge ลองทำโหมดปลอดภัยสุดๆ ปิดการทำงาน JIT เพื่อลดช่องโหว่
ไมโครซอฟท์เขียนบล็อกอธิบายการทดลองสร้าง "โหมดปลอดภัยสุดๆ" (Super Duper Secure Mode) ของ Microsoft Edge โดยใช้แนวคิดสุดขั้วคือปิดการทำงานของ JIT (Just-In-Time Compilation) ในเอนจิน V8 ของ Chromium ไปเลย เพื่อลดพื้นที่ในการถูกโจมตี (attack surface)
แนวคิดของไมโครซอฟท์คือ JIT ของ Chromium ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ (ข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2) เกิดบั๊กจำนวนมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และหากดูสถิติช่องโหว่ความปลอดภัย (CVE) ของเอนจิน V8 หลังปี 2019 เป็นต้นมา มีช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับ JIT คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 45% ของช่องโหว่ V8 ทั้งหมด
การปิด JIT ไปเลยจึงเป็นวิธีแก้ไขง่ายๆ ที่ทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม การปิด JIT ย่อมมีผลกระทบในมุมกลับที่ทำให้การประมวลผลจาวาสคริปต์ช้าลง
แต่การทดสอบของทีม Edge พบว่ามันไม่ได้ช้าขนาดนั้น ถ้านำเบราว์เซอร์ที่ปิด JIT ไปรันเบนช์มาร์คอย่าง Speeometer 2.0 จะได้ผลช้าลงถึง 58% แต่ในการท่องเว็บทั่วๆ ไป พบว่าไม่รู้สึกมาก มีบางกรณีที่ได้ผลแย่ลง และบางกรณีมีผลดีขึ้นด้วยซ้ำ ขึ้นกับประเภทการใช้งานเว็บของผู้ใช้แต่ละคน
ทีมงาน Edge บอกว่าจะทดลอง Super Duper Secure Mode ต่อไปอีกหลายเดือน เพื่อดูผลกระทบในมิติต่างๆ แต่ถ้าใครอยากลองเล่นก็สามารถทำได้จาก Edge Canary, Dev, Beta โดยเปิดโหมดนี้ในหน้า edge://flags ด้วย
ที่มา - Microsoft |
# กระทรวงยุติธรรมตัดสินรอลงอาญา ปล่อยตัว ลีแจยอง ทายาทซัมซุงผู้มีเอี่ยวคดีสินบนอดีต ปธน.
เดือนมกราคมที่ผ่านมา ลีแจยอง (Lee Jae Yong) รองประธานกรรมการบริหารของกลุ่มซัมซุง ทายาทของลีคุนฮี (Lee Kun-hee) อดีตประธานกลุ่มซัมซุงผู้ล่วงลับ ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือนข้อหาจ่ายสินบนให้อดีตประธานาธิบดี พัค กึน-เฮ จำนวน 8.6 พันล้านวอน (7.51 ล้านดอลลาร์)
ล่าสุด กระทรวงยุติธรรมในวันจันทร์ตัดสินให้รอลงอาญา ลีแจยอง เขาจะออกจากสถานกักกันกรุงโซลในวันศุกร์นี้ (13 ส.ค.) โดยลีแจยอง จะได้รับการปล่อยตัวพร้อมๆ กับผู้ต้องขังหลายร้อยคน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมเนียมปฏิบัติอันยาวนานของเกาหลีใต้ในวันประกาศอิสรภาพ ซึ่งตรงกับวันที่ 15 ส.ค.
การต่อสู้คดีของ ลีแจยอง กินเวลายาวนานมาตั้งแต่ปี 2017 มีการตัดสินและยื่นอุทธรณ์หลายครั้ง จนคำตัดสินล่าสุดในเดือนมกราคมที่ผ่านมาคือจำคุก 2 ปี 6 จนมาในช่วงนี้มีกระแสเรียกร้องให้ผ่อนปรน ด้วยเหตุผลที่ว่า ซัมซุงต้องการผู้นำที่แข็งแกร่ง ที่จะพาบริษัทต่อสู้กับสงครามชิปเซมิคอนดักเตอร์
ลีแจยอง ขณะเข้าให้การกับรัฐสภาเกาหลีใต้เมื่อปี 2016
ที่มา - Korea Herald |
# [WSJ] พบพฤติกรรมใหม่ ผู้ค้าใน Amazon ส่งอีเมลซ้ำๆ มากดดันลูกค้าที่รีวิวแย่ให้ลบรีวิวออก
Wall Street Journal รายงานเผยให้เห็นพฤติกรรมใหม่ของผู้ค้าขายบน Amazon มีการติดต่อกับลูกค้าที่ให้รีวิวแย่ผ่านอีเมล เพื่อเสนอข้อแลกเปลี่ยน หรือเงินคืนเพื่อแลกกับการลบรีวิวออก และถ้าไม่ลบ ทางผู้ค้าก็จะส่งอีเมลมาอีกเรื่อยๆ
WSJ ได้สัมภาษณ์หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบคือ Katherine Scott เธอเล่าให้ฟังว่า เธอเขียนรีวิววิจารณ์สเปรย์น้ำมันสำหรับใช้ในครัวเพราะไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่โฆษณาไว้ หนึ่งสัปดาห์ต่อมา มีคนอ้างว่าเป็นตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าจากผู้ขายติดต่อทางอีเมลเพื่อเสนอเงินคืนแลกกับการลบรีวิวของเธอ
ในอีเมลยังบอกด้วยว่า เรายินดีคืนเงินเต็มจำนวน เมื่อเราไม่ได้รับการตอบกลับ เราจะถือว่าคุณไม่เห็นมัน และจะส่งอีเมลต่อไป และเราหวังว่าคุณจะพิจารณาการลบความคิดเห็นนั้นๆ ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบคนอื่นให้สัมภาษณ์ไปในทางเดียวกันว่า ร้านค้าเสนอเงินให้ 20-30 ดอลลาร์เพื่อให้ลบรีวิว หลายๆ ครั้งเงินที่เสนอให้ก็มากกว่าราคาสินค้าแล้ว และยังคงใช้พฤติกรรมส่งอีเมลมากดดันซ้ำๆ
ภาพประกอบจาก Amazon
WSJ รายงานเรื่องของ Katherine Scott ไปยัง Amazon ก็พบว่าทั้งแบรนด์หายไปจากหน้า Amazon แล้ว
นโยบาย Amazon ระบุเรื่องการแชร์ข้อมูลกับผู้ค้าภายนอกว่า Amazon จะเผยแพร่เฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเหล่านั้น เฉพาะผู้ขายที่ผ่านการรับรอง จะสามารถใช้บริการส่งข้อความระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้ แต่ใช้เป็นที่อยู่อีเมลเข้ารหัสแทน ไม่ใช้ชื่ออีเมลตรงๆ ของลูกค้า
ส่วนวิธีที่ผู้ค้าภายนอกได้อีเมลลูกค้ามานั้น คาดว่ามาจากบริษัทที่มีบริการค้นหาอีเมลโดยเฉพาะ หนึ่งในบริษัทที่ WSJ พบว่ามีบริการลักษณะนี้คือ Matic Chain มีบริการแยกอีเมลสำหรับผู้ขายของ Amazon โดยเฉพาะ อีกบริษัทคือ ZonBoost ที่โฆษณาบนหน้าเว็บของตัวเองว่ามีระบบ Reviewer Lookup หรือค้นหาอีเมลของผู้เขียนรีวิวบน Amazon เลยทีเดียว
หากใครพบพฤติกรรมดังกล่าว ทาง Amazon แนะนำให้เขียนอีเมลมาร้องเรียนที่ [email protected] หรือคลิก Report Abuse ที่หน้าร้านค้า
ที่มา - Gizmodo |
# เกาหลีใต้เตรียมทดสอบโดรนยิงลูกระเบิด 40 มิลลิเมตร ระยะทำการ 2 กิโลเมตร
หน่วยงาน Defense Acquisition Program Administration (DAPA) ของเกาหลีใต้ แถลงเปิดตัว โดรนสองรุ่นใหม่สำหรับใช้งานทางทหาร เริ่มทดสอบในช่วงครึ่งแรกของปี 2022
รุ่นแรกเป็นโดรนยิงลูกระเบิด ระยะควบคุม 2 กิโลเมตร ยิงลูกระเบิดขนาด 40 มิลลิเมตรได้ 6 ลูก ยิงติดต่อกันได้ เว้นระยะ 2 วินาทีต่อ 1 ลูก มีกิมบอล 2 แกนและตัวซับแรงกระแทกจากการยิง เพื่อช่วยในการรักษาระนาบของโดรน นอกเหนือจากกล้องทั่วไปยังติดกล้องจับความร้อน และเลเซอร์วัดระยะ สำหรับช่วยในการเล็งยิง
อีกรุ่นเป็นโดรนขนาดเล็ก น้ำหนักเบากว่า 2 กิโลกรัม ที่สามารถถอดและใส่อุปกรณ์พิเศษสำหรับการใช้งานแตกต่างกันได้ เช่น กล้อง กล้องความร้อน เลเซอร์วัดระยะ ลำโพง ไฟฉายกำลังสูง โดยโดรนรุ่นนี้เน้นใช้งานในการสอดแนมและตรวจจับศัตรู
ที่มา - The Register, DAPA
ภาพจากเอกสารแนบของ DAPA |
# Tesla เลื่อนวันผลิตและวางจำหน่าย Cybertruck ไปเป็นภายในปี 2022
หลัง Tesla เปิดตัว Cybertruck ที่ระบุวันวางจำหน่ายว่าเป็นภายในปี 2021 และช่วงแถลงผลประกอบการไตรมาส 2/2021 Tesla ก็ยังระบุว่า Cybertruck เตรียมผลิตที่ Gigafactory Texas ต่อจาก Model Y ซึ่งแม้ Model Y จะเริ่มผลิตช่วงปลายปี แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่า Cybertruck ที่ต่อคิวผลิต จะยังอยู่ในปีนี้ หรือเลื่อนไปปีหน้า
ล่าสุด Tesla น่าจะยืนยันชัดเจนแล้วว่าการผลิตถูกเลื่อนไปเป็นปี 2022 เพราะบนหน้าสั่งจอง Cybertruck มีข้อความระบุสำหรับทั้งสามรุ่นย่อยของ Cybertruck ว่าผู้สั่งจองจะสามารถปรับแต่งรถเพิ่มเติมได้ เมื่อใกล้ช่วงเริ่มผลิตในปี 2022
ข่าวนี้น่าจะสร้างความผิดหวังให้กับผู้สั่งจอง Cybertruck ที่มียอดจองถึง 1 ล้านคันไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาไม่น้อย และเมื่อ Tesla เริ่มผลิตในปีหน้า ไทม์ไลน์ก็อาจไปใกล้เคียงกับ Ford F150 Lighting ที่เตรียมวางขายในปีหน้าเช่นกันมากขึ้น ซึ่งก็ต้องติดตามว่าจะส่งผลกระทบกันแค่ไหน
ส่วนรถกระบะไฟฟ้าที่น่าจะยังผลิตในปีนี้ มี Rivian R1T ที่เลื่อนช่วงผลิต จากเดือนกรกฎาคมออกไป แต่ยังอยู่ในช่วงเดือนกันยายน ส่วน GM ก็ยังคงเตรียมวางขาย Hummer EV ในปีนี้เช่นเดิม
ที่มา - electrek |
# วอชิงตันดีซี แจก AirPods ให้วัยรุ่นที่มาฉีดวัคซีน พ่อแม่ได้บัตรของขวัญ Visa อีก 51 ดอลลาร์
สหรัฐอเมริกายังคงประสบปัญหาประชากรไม่ยอมมาฉีดวัคซีนที่ยังมีจำนวนมาก แต่ละรัฐจึงเริ่มหาวิธีต่างๆ มาดลใจ แทนการบังคับหรือจำกัดสิทธิ์ เช่นล่าสุดรัฐวอชิงตันดีซี นายกเทศมนตรี Muriel Bowser ประกาศว่ารัฐจะแจก AirPods ให้กับวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี ที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกกับโรงเรียนที่รัฐคัดเลือก
นอกจากนี้ผู้มาฉีดยังได้ร่วมลุ้นรางวัลที่จะแจก iPad พร้อมหูฟัง 8 รางวัล และทุนการศึกษา 25,000 ดอลลาร์ สองรางวัลทุกสัปดาห์ เริ่มต้นสิ้นเดือนนี้ นอกจากนี้พ่อแม่ที่ต้องพาลูกไปฉีดวัคซีน ยังได้รับบัตรของขวัญ Visa ใช้ลดตอนซื้อของผ่านบัตรเครดิต เป็นจำนวนเงินอีก 51 ดอลลาร์ ต่อเยาวชนหนึ่งคนที่พาไปฉีด
ไม่ใช่แค่วอชิงตันดีซี แต่ยังมีรัฐอื่นที่เริ่มออกแคมเปญจูงใจมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ออกลอตเตอรี่ให้ผู้มาฉีดวัคซีน มีรางวัลสไตล์รัฐของคนชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นปืนไรเฟิลล่าสัตว์, ปืนลูกซอง, รถกระบะ, เงิน 1 ล้านดอลลาร์ และใบอนุญาตตกปลาและล่าสัตว์แบบตลอดชีวิต และแต่ละรัฐก็เริ่มออกแคมเปญจูงใจฉีดวัคซีนแข่งกันอย่างเต็มที่ เพื่อชะลอการระบาดและลดความอันตรายของสายพันธุ์เดลต้าที่มีต่อผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน
ที่มา - Gizmodo |
# เล่นเกมดึกๆ ไม่ปวดตา ไมโครซอฟท์ทดสอบ Xbox โหมดกลางคืน หรี่ไฟบนจอและปุ่มคอนโทรลเลอร์
ไมโครซอฟท์ประกาศทดสอบ Xbox โหมดกลางคืน ในกลุ่ม Xbox Insider เพิ่มโหมดกลางคืนเป็นคุณสมบัติใหม่ในการตั้งค่า รวมถึงสามารถหรี่แสงหน้าจอได้รวมถึงหรี่ไฟ LED บนคอนโซลและคอนโทรลเลอร์ได้ด้วย
ในการตั้งค่าผู้ใช้สามารถเลื่อนระดับการกรองแสงสีฟ้า และความสว่างได้ รวมถึงตั้งเวลาให้กลับมาใช้งานโหมดปกติตามเวลาที่ต้องการได้ การทดสอบยังจำกัดวงเฉพาะการใช้งานในภาษาอังกฤษเท่านั้น
ที่มา - Engadget, Xbox Insider |
# อังกฤษลงทุนเกือบ 200 ล้าน วางสายไฟเบอร์ออฟติกส์ตามท่อน้ำ พร้อมระบบมอนิเตอร์ท่อน้ำเสียหาย
รัฐบาลอังกฤษลงทุน 4 ล้านปอนด์หรือกว่า 185 ล้านบาทวางสายไฟเบอร์ออฟติกส์ตามท่อน้ำ เพื่อขยายการใช้งานอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลแบบไม่ต้องเจาะถนน และส่วนหนึ่งของการลงทุนจะสร้างระบบมอนิเตอร์การชำรุดของท่อน้ำด้วย ลดปริมาณน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคที่ต้องเสียหายไปจากการชำรุด
Matt Warman รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการขุดถนนเป็นอุปสรรคใหญ่ที่บริษัทโทรคมนาคมต้องเจอ เมื่อต้องขยายการใช้งานอินเทอร์เน็ตไปในพื้นที่ชนบท แต่ในพื้นดินยังมีเครือข่ายท่อน้ำที่วิ่งไปทั่วประเทศ รัฐบาลอังกฤษจึงเปิดรับผู้สร้างนวัตกรรมมาพัฒนาระบบที่ช่วยให้ประหยัดน้ำ และเสริมสร้างการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ภาพสายไฟเบอร์ออฟติกส์ทั่วไป
พื้นที่กว่า 96% ของสหราชอาณาจักรจะสามารถเข้าถึงบรอดแบนด์ความเร็วสูงได้แล้ว โดยมีความเร็วในการดาวน์โหลดอย่างน้อย 24 Mbps แต่มีเพียง 12% ที่สามารถเข้าถึงความเร็วที่เร็วขึ้นผ่านบรอดแบนด์แบบไฟเบอร์ได้เต็มรูปแบบ
โซลูชันใดๆ ที่จะใช้ทดสอบสายเคเบิลใยแก้วนำแสงในท่อจ่ายน้ำจะต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานตรวจสอบน้ำดื่ม หรือ DWI ก่อนนำไปใช้งานจริง โดยเปิดให้หน่วยงาน หรือบริษัทที่สนใจสร้างนวัตกรรมสมัครเข้ามาภายในวันที่ 4 ตุลาคม
ที่มา - The Guardian, Gov.UK |
# Redmonk จัดอันดับภาษาโปรแกรมยอดนิยม JavaScript นำ, Python/Java อันดับสองร่วม
Redmonk บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลนักพัฒนา ออกรายงานอันดับภาษาโปรแกรมยอดนิยมประจำไตรมาสสามปี 2021 โดยใช้แหล่งข้อมูลจาก GitHub (จำนวนโค้ด/แกนนอน) และ Stack Overflow (จำนวนการพูดคุย/แกนตั้ง) มาผสมกัน
ผลจากการจัดอันดับของ Redmonk ไม่ต่างจากอันดับของสำนักอื่นๆ (เช่น JetBrains หรือ GitHub) เพราะ Top 3 เป็นภาษายอดนิยมชุดเดียวกัน โดยอันดับหนึ่งคือ JavaScript ตามด้วย Python และ Java เป็นอันดับสองร่วม
Redmonk บอกว่า Java ตกไปเป็นอันดับสามอยู่พักหนึ่ง และกลับมาตีตื้น Python จนได้เป็นอันดับสองร่วมได้สำเร็จ อีกภาษาที่อันดับขยับขึ้นช้าๆ คือ TypeScript ขึ้นจากอันดับ 9 เป็นอันดับ 8 ในขณะที่ภาษารุ่นใหม่อื่นๆ คือ Go/Kotlin/Rust อันดับไม่ขยับ
ภาษาใหม่ที่มาแรงในการจัดอันดับรอบนี้คือ Dart ที่เข้ามาติด Top 20 เป็นครั้งแรก จากอิทธิพลของ Flutter ที่เริ่มนิยมมากขึ้น
20 อันดับแรกจากการจัดอันดับของ Redmonk (มีอันดับ 2 ร่วมและอันดับ 5 ร่วม)
1 JavaScript
2 Python
2 Java
4 PHP
5 CSS
5 C++
5 C#
8 TypeScript
9 Ruby
10 C
11 Swift
12 R
13 Objective-C
14 Shell
14 Scala
16 Go
17 PowerShell
18 Kotlin
19 Rust
20 Dart
ที่มา - Redmonk |
# Focus Sessions หนึ่งในของใหม่ Windows 11 แอปช่วยให้มีสมาธิทำงาน กดเล่นเพลงจาก Spotify ได้
หนึ่งในฟีเจอร์น่าสนใจของ Windows 11 คือ Focus Sessions เป็นฟังก์ชั่นช่วยให้เรามีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานมากขึ้น โดย Focus Sessions มีรูปแบบเป็นภารกิจให้เราทำให้สำเร็จในแต่ละวัน เช่นมีสมาธิจดจ่อกับการทำรายงาน 30 นาทีโดยไม่วอกแวก ในพาเนลมีทั้งนาฬิกาจับเวลา รายการสิ่งที่ต้องทำ ความคืบหน้าในการมีสมาธิจดจ่อกับงาน
Focus Sessions ยังสามารถทำงานร่วมกันกับ Spotify สามารถกดเล่นเพลงในเพลย์ลิสต์ที่ช่วยให้เรามีสมาธิได้จากพาเนลบนหน้าจอ Windows 11 และสามารถกดจับเวลาที่เราต้องการสมาธิสูงสุดในการทำงานได้ด้วย
ที่มา - The Next Web |
# กูเกิลเริ่มพอร์ต Chrome ไปรันบนระบบปฏิบัติการ Fuchsia แล้ว
เราเห็นระบบปฏิบัติการ Fuchsia ของกูเกิลเริ่มเครื่องติด โดยปีนี้ กูเกิลเปลี่ยนไส้ในของ Nest Hub รุ่นแรกจาก CastOS มาเป็น Fuchsia แต่ยังแทบไม่เห็นความแตกต่างในมุมของผู้ใช้ เพราะ UI ที่ครอบยังเป็นแบบเดิม
ล่าสุดในฐานข้อมูลบั๊กของ Chromium ระบุว่ากูเกิลเริ่มพอร์ต Chrome ไปยัง Fuchsia แล้ว กระบวนการนี้ยังต้องใช้เวลาอีกมาก และมีบั๊กย่อยๆ อีกมากมายที่ต้องแก้ก่อน Chrome จะสามารถรันบน Fuchsia ได้เต็มรูปแบบ
การที่ระบบปฏิบัติการยุคปัจจุบันต้องมีเบราว์เซอร์ ทำให้การพอร์ต Chrome มารันบน Fuchsia ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก (Android ในช่วงแรกเองก็ต้องรอนานพอสมควรกว่าจะมี Chrome ตัวเต็มมารันแทน Android Browser) แต่กูเกิลเองก็ประกาศไว้ชัดว่า Fuchsia จะยังเน้นที่อุปกรณ์ IoT เป็นหลัก มากกว่าการใช้แทนที่ Android หรือ Chrome OS ที่มีตลาดของตัวเองอยู่แล้ว
ที่มา - 9to5google |
# เอกสารชั้นศาลเผย กูเกิลเคยคิดซื้อ Epic Games แก้ปัญหา Fortnite เลี่ยงไม่ลง Play Store
คดีฟ้องร้องระหว่าง Epic Games กับกูเกิล ในประเด็น Google Play ผูกขาด มีเอกสารใหม่เพิ่มมาในชั้นศาล
เอกสารใหม่จากฝั่ง Epic ระบุว่าได้รับคำขู่จากกูเกิลในกรณีให้ลงเกม Fortnite Android แบบ sideloading ไม่ต้องผ่าน Google Play เพื่อเลี่ยงการหักส่วนแบ่ง 30% โดยกูเกิลมองว่าวิธีการของ Epic เป็น "โรคติดต่อ" (contagion) ที่บริษัทอื่นจะอยากทำตามบ้าง จึงหาวิธีต่างๆ มาสกัดกั้นแนวทางนี้ของ Epic โดยถึงขั้นมีไอเดียว่าจะเข้ามาซื้อหุ้นบางส่วน/ทั้งหมดของ Epic เลยด้วยซ้ำ
Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า เขาไม่ทราบแผนการเรื่องซื้อหุ้นของกูเกิลมาก่อน จนมาเห็นเอกสารในชั้นศาลหลังฟ้องกันแล้ว เพราะสุดท้ายกูเกิลไม่ได้ตัดสินใจซื้อ และไม่เคยติดต่อมายัง Epic
นอกจากนี้ Epic ยังระบุว่าได้รับ "ข้อเสนอพิเศษ" จากกูเกิลให้เลิก sideload เกม Fortnite Android เพราะมองว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีของผู้ใช้งาน โดยเอกสารภายในของกูเกิลยอมรับว่าการ sideload มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากด้วย
ที่มา - the Verge |
# จำนวนผู้ใช้ Firefox ลดลง 46 ล้านคนใน 3 ปีล่าสุด, ผู้ใช้ต่อเดือนน้อยกว่า 200 ล้านแล้ว
จากข้อมูลของ Mozilla เอง สถิติผู้ใช้งานต่อเดือนของ Firefox เวอร์ชันเดสก์ท็อปในเดือนกรกฎาคม 2021 ลดลงเหลือ 197 ล้านคนต่อเดือนแล้ว ลดลงจากสถิติในเดือนธันวาคม 2018 ที่มีผู้ใช้ 244 ล้านคนต่อเดือน เท่ากับว่าในระยะเวลาเกือบ 3 ปี ผู้ใช้ Firefox หายไปถึง 46 ล้านคน หรือประมาณ 1/5 ของฐานผู้ใช้เดิม
ส่วนเหตุผลที่ Firefox มีผู้ใช้ลดลงอย่างมากยังเป็นที่ถกเถียงกันต่อไป (ข่าวนี้เขียนด้วย Chrome)
ที่มา - Firefox User Activity, Gizmodo, Reddit |
# กูเกิลเลิกใช้ Sign-in JavaScript library ปี 2023, ให้ย้ายไป Google Identity Services
กูเกิลประกาศหยุดรองรับ Google Sign-in JavaScript library สำหรับเว็บไซต์ที่ล็อกอินด้วยบัญชีกูเกิล หลังเปิดตัว Google Identity Services ที่เป็น SDK ตัวใหม่ เมื่อไม่กี่วันก่อน
Google Sign-in JavaScript library ของเดิมจะสามารถใช้งานได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2023 โดยกูเกิลออกเอกสารคู่มือการย้ายมาใช้ SDK ตัวใหม่ ให้เรียบร้อยแล้ว
ประกาศนี้มีผลต่อ Google Sign-in JavaScript library เวอร์ชันเว็บเท่านั้น ไม่รวมถึง SDK สำหรับแอพ Android/iOS และแอพที่เรียกใช้ OAuth2/OpenID ของกูเกิลโดยตรง
ที่มา - Google
หน้าตาของปุ่ม Sign-in with Google แบบใหม่ |
# เกมอวกาศ Kerbal Space Program หยุดพัฒนาหลังทำมา 10 ปี, หันไปทำเกมภาค 2
Kerbal Space Program เกมจำลองยานอวกาศที่กราฟิกแนวการ์ตูน แต่หลักการฟิสิกส์สุดสมจริง ประกาศหยุดการพัฒนาเกมภาคแรกแล้ว หลังจากนี้จะทุ่มทรัพยากรไปทำ Kerbal Space Program 2 ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019
สตูดิโอ Squad จากประเทศเม็กซิโก เริ่มพัฒนา Kerbal Space Program มาตั้งแต่ปี 2011 นับจนถึงตอนนี้คือ 10 ปีพอดี โดยแพตช์เวอร์ชันสุดท้าย 1.12.2 เป็นการแก้บั๊กต่างๆ ทีมงานบอกว่ายังอาจออกแพตช์แก้บั๊กเล็กๆ ให้อีกในอนาคต แต่จะทุ่มกำลังไปทำเกมภาค 2 แทนแล้ว
ปัจจุบัน สิทธิของเกม Kerbal Space Program เป็นของ Take-Two ที่มาซื้อไปตั้งแต่ปี 2017 โดยเกมภาค 2 ใช้สตูดิโอพัฒนา 2 แห่งคือ Squad และ Intercept Games สตูดิโอใหม่ของ Take-Two เอง เกมมีกำหนดวางขายในปี 2022
เทรลเลอร์เปิดตัว Kerbal Space Program 2 ในปี 2019
ที่มา - Kerbal Space Program (Steam), Eurogamer |
# นักวิจัยความปลอดภัยร่วมลงนามจดหมาย ค้านแอปเปิลใช้โทรศัพท์ตรวจพฤติกรรมผู้ใช้
หลังแอปเปิลประกาศเพิ่มซอฟต์แวร์สแกนภาพโป๊เด็กบนโทรศัพท์ของผู้ใช้โดยตรง กลุ่มนักวิจัยความปลอดภัยและผู้ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้จำนวนมากก็ร่วมกับลงนามในจดหมายเปิดผนึกถึงแอปเปิล
ผู้แสดงความเห็นในตัวจดหมาย เช่น Matthew D. Green ผู้นำข่าวนี้มาเปิดเผยครั้งแรก ระบุว่าแนวทางของแอปเปิลทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมข้อมูลของตัวเองได้อีกต่อไป และหลังจากนี้จะมีแรงกดดันจากรัฐบาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ, จีน, หรืออินเดีย [เพื่อใช้งานตามแนวทางของตัวเอง]
Nadim Kobeissi นักวิจัยด้านความปลอดภัยอีกคนหนึ่ง ระบุว่าแอปเปิลมีแนวทางโอนอ่อนต่อรัฐบาลต่างๆ เรื่อยมา เช่น ในซาอุดิอาระเบียเองนั้นไอโฟนก็ไม่มี FaceTime เพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้มีบริการโทรศัพท์เข้ารหัส Kobeissi ถามถึงแอปเปิลว่าจะเป็นอย่างไรหากรัฐบาลออกกฎให้ต้องสแกนภาพโป๊ที่ไม่ใช่เพียงแค่ภาพโป๊เด็ก แต่รวมถึงภาพแสดงการรักเพศเดียวกัน (ซึ่งผิดกฎหมายซาอุ) หรือแม้แต่ภาพหมิ่นกษัตริย์ซาอุ
จดหมายเปิดผนึกนี้เรียกร้องให้แอปเปิลยกเลิกโครงการนี้ทันที และให้แอปเปิลออกแถลงการณ์ยืนยันว่ายังคงสนับสนุนความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และการเข้ารหัสแบบปลายทางถึงปลายทางต่อไป
ที่มา - Apple Privacy Letter |
# ซีอีโอ Binance US ประกาศลาออก หลังทำงานได้เพียง 3 เดือน
Brian Brooks ซีอีโอของบริษัทคริปโต Binance US สาขาสหรัฐอเมริกา ประกาศลาออกหลังทำงานเป็นซีอีโอมาได้เพียง 3 เดือน โดยให้เหตุผลว่ามีมุมมองด้านยุทธศาสตร์ที่แตกต่างจากบริษัท
ก่อนมาทำงานที่ Binance ไม่นาน Brooks เคยทำงานอยู่ในภาครัฐ เคยเป็นถึงรักษาการผู้อำนวยการ Office of the Comptroller of the Currency หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของรัฐบาลสหรัฐ และก่อนหน้านั้นเขาเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ Coinbase บริษัทคริปโตชื่อดังอีกแห่ง
Binance เป็นบริษัทคริปโตที่มีจุดกำเนิดในประเทศจีน (ซีอีโอยังเป็นคนจีนคือ Changpeng Zhao) แต่ภายหลังก็ย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่หมู่เกาะเคย์แมน และใช้วิธีตั้งบริษัทสาขา เช่น Binance US หรือ Binance UK มาทำธุรกิจในแต่ละประเทศ เมื่อไม่นานมานี้ Binance UK เพิ่งโดนรัฐบาลสหราชอาณาจักรแบนการทำธุรกรรมไป
ที่มา - Nikkei |
# หลุดสเปก Pixel 5a ใช้ Snapdragon 765G ตัวเดิม, กล้องเหมือน Pixel 5, ราคา 450 ดอลลาร์
เว็บไซต์ FrontPageTech อ้างว่าได้ข้อมูลสเปกของ Pixel 5a มือถือที่กูเกิลเคยยืนยันว่ากำลังพัฒนาอยู่ และระบุว่าจะวางขายเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นเพียง 2 ประเทศเท่านั้น เนื่องจากปัญหาชิปขาดตลาด
หน้าจอ 6.4" 60Hz บังคับเป็น 90Hz ได้ (forced 90Hz)
หน่วยประมวลผล Snapdragon 765G (ตัวเดียวกับ Pixel 4a 5G)
แรม 6GB
แบตเตอรี่ 4650 mAh ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย
ใช้กล้องตัวเดียวกับ Pixel 5
กันน้ำ IP67
มีช่องเสียบหูฟัง
มีสีเดียวคือดำ Mostly Black
ตามข่าวบอกว่า Pixel 5a ตั้งราคาขาย 450 ดอลลาร์ ถูกกว่า Pixel 4a 5G ที่ขาย 499 ดอลลาร์ มีกำหนดขาย 26 สิงหาคม 2021 ตรงกับข่าวลือก่อนหน้านี้ที่บอกว่าจะขายเดือนสิงหาคม
ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า กูเกิลจะขาย Pixel 5a ก่อน Pixel 6 ที่เพิ่งเปิดตัว หรือจะวางขายทั้งสองรุ่นพร้อมกันเลย
ภาพเรนเดอร์ Pixel 5a จาก @OnLeaks ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021
ที่มา - FrontPageTech |
# Bukalapak อีคอมเมิร์ซจากอินโดนีเซีย IPO วันแรก ราคาหุ้นปรับเพิ่มถึงซิลลิ่ง 25%
Bukalapak อีคอมเมิร์ซจากอินโดนีเซีย ได้นำบริษัทไอพีโอเข้าตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นจากราคาไอพีโอ 850 รูเปีย (ประมาณ 1.92 บาท) ปิดการซื้อขายที่ราคาสูงสุดที่สามารถซื้อขายได้ระหว่างวัน (ซิลลิ่ง) ที่ 25% เป็น 1,060 รูเปียต่อหุ้น
บริษัทขายหุ้นไอพีโอได้เงินทุนเพิ่มประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการไอพีโอที่มูลค่าสูงสุดของตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และมีมูลค่ากิจการที่ประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์ มีผู้ลงทุนหลักอาทิ Ant Group , Emtek ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ในอินโดนีเซีย, กองทุน GIC ของสิงคโปร์ และไมโครซอฟท์
Bukalapak เป็นอีคอมเมิร์ซที่เน้นกลุ่มร้านค้าขนาดเล็ก เพื่อให้ร้านเหล่านี้มีช่องทางการขายจากออฟไลน์มาสู่ออนไลน์มากขึ้น ทั้งนี้สตาร์ทอัพรายใหญ่อื่นในอินโดนีเซียก็มีแผนเข้าตลาดหุ้นเช่นกัน โดยกลุ่ม GoTo มีแผนเข้าในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ส่วน Traveloka มีรายงานว่าอาจใช้วิธี SPAC
ที่มา: CNBC ภาพ @bukalapak |
# Huawei รายงานผลประกอบการครึ่งแรกปี 2021 รายได้กลุ่มลูกค้าองค์กรยังเติบโต
Huawei รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2021 โดยมีรายได้รวม 3.204 แสนล้านหยวน ลดลง 29% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน มีอัตรากำไรสุทธิที่ 9.8%
ผลประกอบการแยกตามกลุ่มธุรกิจแบ่งเป็น ธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่าย (Carrier) 1.369 แสนล้านหยวน ธุรกิจลูกค้าองค์กร (Enterprise) 4.29 หมื่นล้านหยวน และธุรกิจลูกค้าทั่วไป (Consumer) 1.357 แสนล้านหยวน รายได้ส่วนที่ลดลงมากมาจากกลุ่มธุรกิจลูกค้าทั่วไป จากการขาย Honor ออกไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
Eric Xu ประธาน Huawei กล่าวว่าบริษัทได้วางกลยุทธ์เอาไว้แล้วใน 5 ปีข้างหน้า ให้บริษัทสามารถดำเนินงานต่อได้อย่างยั่งยืน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ แม้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่อธุรกิจลูกค้าทั่วไป และบริษัทยังมั่นใจในธุรกิจลูกค้าเครือข่ายและองค์กรว่ายังเติบโตได้มั่นคง
ที่มา: Huawei |
# Cloudflare ไตรมาส 2/2021 เติบโต 53% ทำสถิติใหม่อีกไตรมาส
Cloudflare รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 53% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 152.4 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิแบบ GAAP 35.5 ล้านดอลลาร์
Matthew Prince ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Cloudflare กล่าวว่าไตรมาสเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่บริษัทเข้าตลาดหุ้น และบริษัทยังได้ลูกค้ารายใหญ่เพิ่มขึ้น
Cloudflare มีลูกค้าแบบจ่ายเงินมากกว่า 1.26 แสนราย เป็นลูกค้าใน Fortune 1000 ประมาณ 19% และเป็นลูกค้าที่สร้างรายได้ระดับเกินหนึ่งแสนดอลลาร์ต่อปี 1,088 ราย
ที่มา: Cloudflare |
# หัวหน้าฝ่าย WhatsApp ระบุ กังวลต่อฟีเจอร์สแกนภาพของ Apple อาจถูกใช้เป็นระบบสอดแนม
หลังจากข่าวเรื่อง Apple เตรียมเพิ่มฟีเจอร์รายงานผู้ใหญ่เมื่อเด็กรับหรือส่งภาพโป๊ เพิ่งประกาศออกมาก็เป็นประเด็นใหญ่ในเรื่องความเป็นส่วนตัว ล่าสุด หัวหน้าฝ่าย WhatsApp ของ Facebook ได้แสดงความกังวลต่อแผนนี้
Will Cathcart หัวหน้าฝ่าย WhatsApp โพสต์ผ่าน Twitter บัญชี @wcathcart ว่า Apple สร้างและดำเนินระบบสอดแนบที่ใช้สแกนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเหตุผลใดก็ได้ที่ Apple เองหรือรัฐบาลตัดสินใจว่าสิ่งนี้ต้องควบคุม พร้อมแสดงความกังวลในกรณีหากรัฐบาลจีนหรือรัฐบาลประเทศอื่นจะใช้ระบบนี้อย่างไร? หรือจะโดนบริษัทสปายแวร์นำไปใช้ในทางที่ผิดหรือไม่?
โฆษกของ Apple ได้โต้ Cathcart โดยระบุว่าผู้ใช้สามารถสั่งปิด iCloud Photos ได้ โดย Apple เทรนดาต้าเซ็ทด้วยภาพจาก NCMEC และองค์กรที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ และเนื่องจากระบบถูกฝังไว้ใน iOS จึงไม่สามารถทำงานแยกตามพื้นที่ได้อยู่แล้ว
Apple กับ Facebook มีปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวกันมาสักพักใหญ่แล้ว ซึ่งฝั่ง Apple เองพยายามไม่ให้ Facebook เก็บข้อมูลในหลายช่องทาง ซึ่งอาจส่งผลกับรายได้โฆษณาของ Facebook ได้
ที่มา - Engadget |
# เอกสารภายใน Apple ระบุ ทราบข้อกังวลความเป็นส่วนตัว เรื่องระบบสแกนภาพแล้ว
เว็บ 9to5Mac อ้างเอกสารภายในของแอปเปิล ซึ่งส่งให้กับทีมงานของโครงการระบบสแกนภาพถ่าย เพื่อค้นหาภาพอนาจารเด็ก (child sexual abuse material - CSAM) หลังจากแอปเปิลประกาศโครงการนี้อย่างเป็นทางการต่อสาธารณะ และเกิดข้อกังวลเรื่องกระบวนการค้นหาภาพ ที่อาจไม่สร้างความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้งาน
เนื้อหาในเอกสารนี้เริ่มด้วยการขอบคุณทีมงานทุกฝ่าย ที่ร่วมกันทำให้โครงการนี้สำเร็จ โดยสามารถปกป้องเด็กได้ และยังสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งานที่แอปเปิลให้ความสำคัญ นอกจากนี้ยังกล่าวว่าหลังประกาศโครงการออกไป กระแสตอบรับทางบวกก็มีอยู่มาก แต่บางคนยังเข้าใจไม่ถูกต้อง และบางส่วนแสดงความกังวลในการใช้งานจริง ซึ่งแอปเปิลจะเผยแพร่รายละเอียดให้มากขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
ประเด็นที่ถูกตั้งคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งานนั้น นอกจากผู้อ่าน Blognone แล้ว ก็ยังมีการตั้งคำถามจากทั้ง Edward Snowden และองค์กร EFF ด้วย
ที่มา: 9to5Mac |
# PUBG เปลี่ยนชื่อเกมเป็น PUBG: Battlegrounds เพื่อขยายจักรวาล เตรียมเพิ่มเกมใหม่
เกม PUBG ที่เรารู้จักกันดี มีชื่อเต็มๆ ว่า PlayerUnknown's Battlegrounds (PlayerUnknown เป็นชื่อในวงการของ Brendan Greene ผู้สร้างเกมนี้ ที่ทุกวันนี้ไม่ได้ทำเกมนี้แล้ว) แต่เนื่องจากชื่อเกมยาวมาก ทำให้ทุกคนเรียกชื่อย่อ PUBG กันแทน
ล่าสุด Krafton ต้นสังกัดได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการของเกมแล้ว จากเดิม PlayerUnknown's Battlegrounds มาเป็น PUBG: Battlegrounds การเปลี่ยนแปลงนี้มีทั้งในบัญชีโซเชียล และหน้าร้านขายเกมอย่าง Steam
เหตุผลของการเปลี่ยนชื่อคือ จักรวาล PUBG จะขยายออกไปจากเดิม เกมต้นฉบับ Battlegrounds จะเป็นเพียงเกมแรกในจักรวาลนี้เท่านั้น มีเกมใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา ที่เปิดตัวแล้วคือ PUBG: New State เกมมือถือแนวแบทเทิลรอยัล 100 คน ที่ใช้ฉากเป็นโลกอนาคตปี 2051
ที่มา - PCGamer |
# [ลือ] ชิป Tensor ใน Pixel 6 แท้จริงแล้วคือ Exynos 9855 รุ่นคัสตอม ประสิทธิภาพใกล้เคียง S21
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดทางเทคนิคของชิป Google Tensor ใน Pixel 6 ออกมามากนัก
ล่าสุดมีข่าวลือออกมาจากเว็บ Galaxy Club ของเนเธอร์แลนด์ ระบุว่าชิป Tensor ตัวนี้คือ Exynos 9855 รุ่นคัสตอมของซัมซุง ที่ใช้โค้ดเนมว่า Whitechapel ซึ่งตรงกับข่าวลือก่อนหน้านี้
ชิปตัวนี้จะมีสมรรถนะอยู่ตรงกลางระหว่าง Exynos 9840 ตัวที่ใช้ใน Galaxy S21 และ Exynos 9925 ตัวใหม่ที่จะใช้ใน Galaxy S22 (เป็นตัวเดียวกับที่จะใช้จีพียู AMD RDNA2) ทำให้คนที่คาดหวังประสิทธิภาพระดับเรือธงของ Pixel 6 ก็น่าจะไม่ผิดหวังกัน เพราะน่าจะใกล้เคียงกับ S21 เป็นอย่างน้อย
ข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือออกมาว่ากูเกิลร่วมพัฒนา Whitechapel ร่วมกับซัมซุง และหากประเมินว่ากูเกิลไม่เคยทำ SoC ของตัวเองมาก่อนเลย การอิงกับสถาปัตยกรรมซีพียู-จีพียู-โมเด็มของ Exynos ที่มีอยู่แล้ว แล้วใส่ชิป AI ของกูเกิลเพิ่มเข้ามา ก็น่าจะเป็นวิธีการที่สมเหตุสมผลที่สุด
ที่มา - Galaxy Club via SamMobile |
# IBM Power Systems ทางเลือกสำหรับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยและเสถียรภาพสูงสุด
ระบบไอทีในองค์กรแทบทุกองค์กรกำลังปรับตัวไปสู่ยุค Hybrid Cloud ที่ทุกคนต้องการปรับปรุงโครงสร้างไอทีขององค์กรให้เข้าสู่ยุคใหม่ สามารถขยายระบบได้คล่องตัวตามการใช้งานที่อาจคาดเดาได้ยาก ระบบเหล่านี้ต้องรองรับแอปพลิเคชันเดิมขององค์กรที่เคยใช้งานมายาวนานได้โดยดัดแปลงแก้ไขแอปพลิเคชันไม่มากนัก, มีความปลอดภัยสูงพร้อมรับมือกับการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน, ระบบมีความเสถียรสูงสุดและต้องไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายสูงเกินไป
ไอบีเอ็มเสนอ IBM Power Systems เซิร์ฟเวอร์สำหรับองค์กรที่เตรียมอัปเกรดระบบโดยมีความต้องการหลายด้านเช่นนี้ อาศัยแพลตฟอร์ม โอเพนซอร์สจาก Red Hat ทำให้องค์กรสามารถอัปเกรดแอปพลิเคชันขึ้นมาบนแพลตฟอร์มสมัยใหม่แบบ Hybrid Multicloud ได้เต็มรูปแบบ
รากฐานมั่นคงเริ่มจากเสถียรภาพ
ความได้เปรียบของ IBM Power Systems เริ่มจากซีพียู IBM POWER9 ที่องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกเลือกใช้งานเป็นจำนวนมาก โดยไอบีเอ็มออกแบบซีพียูที่คำนึงถึงระบบงานทางธุรกิจที่องค์กรใช้งาน โดยทำหน้าที่เป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์โครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้ระบบงานหรือแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่มีความเร็วตอบสนองความต้องการของธุรกิจและผู้ใช้ได้รวดเร็วทันใจ และเน้นด้านการป้องกันความเสียหายที่เกิดจาก Cybersecurity มีความปลอดภัยของข้อมูลและเสถียรภาพสูงสำหรับทุกธุรกิจ
ผลสำรวจจาก Information Technology Intelligence Consulting (ITIC) แสดงให้เห็นว่า IBM Power Systems เป็นระบบที่มีเสถียรภาพสูงสุด มีช่วงเวลาปิดระบบโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า (unplanned downtime) เพียง 0.11 ชั่งโมงต่อปี หรือเท่ากับ 6.6 นาทีต่อปีเท่านั้น ซึ่งดีกว่าระบบปฏิบัติการลีนุกซ์อื่น ๆ ที่ใช้ซีพียูตระกูล x86
นอกจากความน่าเชื่อถือของฮาร์ดแวร์แล้ว IBM Power Systems ยังออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในทุกระดับตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ เฟิร์มแวร์ จนถึงระดับแอปพลิเคชัน
รองรับ Cloud Workload ที่ตอบโจทย์ธุรกิจด้วย Red Hat OpenShift
องค์กรจำนวนมากกำลังปรับโครงสร้างไอทีไปสู่ Cloud Native App Modernization ไอบีเอ็มก็เป็นอีกบริษัทที่ลงทุนกับแพลตฟอร์ม Cloud อย่างเต็มตัวด้วยการควบรวมธุรกิจกับ Red Hat ทำให้ทำงานร่วมกันได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และทำให้ไอบีเอ็มกลายเป็นผู้ให้บริการ Hybrid Cloud และ Enterprise Container Platform อันดับต้น ๆ ของโลก
ผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันต่าง ๆ ที่ออกสู่ท้องตลาดเองก็ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าผ่านการตรวจสอบและการทำงานที่เข้ากันได้ตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์หรือ Infrastructure-as-a-Service ไปจนถึงระดับ Platform-as-a-Service หรือ Software-as-a-Service ได้อย่างไม่มีปัญหา อย่างเช่น ความสามารถของเครื่องเซิร์ฟเวอร์สำหรับลูกค้าองค์กรที่ออกแบบอยู่บนพื้นฐานสถาปัตยกรรมหน่วยประมวลผล IBM POWER9 และล่าสุดคือ IBM POWER10 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็ว ๆ นี้ รองรับระบบงานสำคัญขององค์กรในแต่ละกลุ่มธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพสูงกว่า x86 หลายเท่าตัว
องค์กรขนาดใหญ่มักมีแอปพลิเคชันจำนวนมากทำงานเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะ Cloud Native Application หรือโปรแกรมในรูปแบบคอนเทนเนอร์ที่องค์กรกำลังพัฒนาหรือใช้งานอยู่ เมื่อรัน Red Hat OpenShift บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ซีพียู IBM POWER9 หรือ IBM POWER10 ล่าสุด จะรองรับจำนวนคอนเทนเนอร์ต่อคอร์ ได้ปริมาณสูงกว่าเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในตระกูล x86 ถึง 3.2 เท่าตัว ในขณะที่ประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันในแต่ละคอนเทนเนอร์ไม่ได้ด้อยลงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับทำงานได้เร็วกว่า ทำให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะสามารถทำงานได้มากขึ้นด้วยทรัพยากรที่เทียบเท่ากัน หรือในทางกลับกันคือด้วยปริมาณงานที่เท่า ๆ กัน องค์กรสามารถลงทุนทางด้าน IT Infrastructure สำหรับระบบคลาวด์ที่ต่ำกว่าได้ ทำให้ประสิทธิภาพต่อราคาของโซลูชัน IBM Power Systems ดีกว่าถึง 2.6 เท่าตัว เมื่อเทียบกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ x86
เซิร์ฟเวอร์ IBM Power Systems ยังรองรับงานประเภทใหม่ ๆ โดยเฉพาะงานปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI), การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning), และการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ได้เป็นอย่างดี และยังเพิ่มเติมออปชันเสริมอย่างหน่วยประมวลผล GPU หรืออุปกรณ์ประมวลผลเฉพาะทางที่สามารถโปรแกรมได้ (Field Programmable Gate Array – FPGA) เพื่องานเฉพาะทางได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ในส่วนของการทำงานหรือบริการทางด้านคลาวด์ ไอบีเอ็มเสนอ IBM Cloud Paks หรือชุดซอฟต์แวร์คลาวด์สำเร็จรูปที่มาพร้อมเครื่องมือและโปรแกรมทางธุรกิจสำหรับระบบงานและการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับคลาวด์ให้ทำงานร่วมกับ IBM Power Systems หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี องค์กรที่ใช้งานสามารถ เข้าถึงแพ็กเกจซอฟต์แวร์แบบเปิดหรือโอเพ่นซอร์สได้อย่างกว้างขวาง และมั่นใจกับความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม ความยืดหยุ่นและง่ายในการพัฒนาหรือใช้งาน ความปลอดภัยที่มีมาให้ ไปจนถึงการดูแลแก้ปัญหาจากผู้เชี่ยวชาญของไอบีเอ็ม
อัปเกรดระบบเพื่อรองรับ Workload ใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพให้ Workload เดิม
องค์กรธุรกิจจำนวนมากมี Workload ที่รันอยู่บนแพลตฟอร์ม IBM AIX, IBM i, หรือ SAP HANA ซึ่งเป็นระบบหลักหรือหัวใจสำคัญของธุรกิจ การอัปเกรดและเลือกใช้ IBM Power Systems เป็นฮาร์ดแวร์พื้นฐานเปิดโอกาสให้องค์กรรันระบบงานเหล่านี้ด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด แอปพลิเคชันหลักขององค์กรเหล่านี้ก็จะสามารถรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งยังเพิ่มความเร็วในการประมวลผลและตอบสนองการให้บริการได้รวดเร็วเพียงพริบตา ที่ผ่านมาองค์กรทั่วโลกไว้วางใจและอัปเกรดเซิร์ฟเวอร์ระบบ ERP บนเครื่อง IBM Power Systems กันเป็นจำนวนมาก รวมถึงลูกค้าที่ใช้งาน SAP ECC และต้องการอัปเกรดมาเป็น SAP HANA หรือ S/4 HANA ก็ยังเลือกใช้เครื่อง IBM Power Systems เป็นเซิร์ฟเวอร์หลักทั้งการใช้งานแบบ On-premises หรือใช้งานบนคลาวด์ได้ก็ตาม
เพื่อการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องการความรวดเร็ว ทำงานได้อย่างอัตโนมัติ และลดภาระของผู้ดูแลระบบ ทำให้ทางไอบีเอ็มและ Red Hat ออกเอกสารการันตีว่าลูกค้าสามารถใช้งาน Red Hat Ansible Automation Platform บริหารจัดการเครื่อง IBM Power Systems ระบบปฏิบัติการ AIX และ IBM i ทั้งเก่าและใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ลดงานดูแลระบบที่ต้องทำงานซ้ำๆในแต่ละวันที่ลงไปได้อย่างเห็นผลทันที ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสุขภาพของระบบและฮาร์ดแวร์ หรือการติดตั้ง Patch หรือฺ Bug Fix ได้อัตโนมัติ ช่วยให้เจ้าหน้าที่ไอทีมีเวลาในการทำงานอื่นๆมากขึ้น และยังช่วยลดความผิดพลาดในการทำงานไปพร้อมกัน
ใช้งานใน Data Center ก็สามารถจ่ายตามการใช้งานจริงแบบคลาวด์
ธุรกิจในช่วงวิกฤตินี้ อาจต้องเตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน IBM Power Systems และ IBM Storage เสนอทางเลือกสร้างความยืดหยุ่นให้กับทุกองค์กร ด้วยการใช้งานแบบ จ่ายตามจริง (Pay-As-You-Go หรือ PAYG) ช่วยให้องค์กรจัดการกระแสเงินลงทุนในช่วงวิกฤตแบบนี้ได้ง่ายขึ้น
ธุรกิจสามารถเช่าใช้ทรัพยากรบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ IBM Power Systems ตามการใช้งานจริงได้ตั้งแต่เริ่มต้น แนวทางนี้ยังเปิดให้องค์กรสามารถติดตั้งฮาร์ดแวร์รองรับการขยายตัวในอนาคตไว้ล่วงหน้า และเมื่อธุรกิจขยายตัวจนถึงจุดที่ต้องการใช้งานก็เพียงเปิดใช้ทรัพยากรเหล่านั้น โดยจ่ายค่าใช้งานรายเดือนเพิ่มเติมได้รวดเร็วแทบจะทันที ไม่ต้องกังวลกับการปิดระบบเพื่ออัปเกรดฮาร์ดแวร์ หรือต้องมาเสียเวลากับการรอสั่งซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมอีกต่อไป
ติดต่อทีมงานเพื่อขอใช้บริการ Cloud Assessment and Migration Workshop ได้ฟรี
ความสามารถของ IBM Power Systems พร้อมต่อการอัปเกรดโครงสร้างไอทีในองค์กรไปสู่โครงสร้างพื้นฐานแบบ Hybrid Multicloud ได้ง่ายกว่า คุ้มค่ากว่า และยืดหยุ่นกว่า ทั้งยังเสริมด้วยผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจไอทีอย่างทีมงาน Metro Connect ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า บริษัท Metro Connect และไอบีเอ็มสามารถเป็นเพื่อนคู่คิดให้กับคุณและองค์กรในการวางแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างไอทีไปสู่องค์กรคลาวด์เต็มรูปแบบ สร้างความต่อเนื่องเพื่อการขับเคลื่อนทางธุรกิจ รวมไปถึงการช่วยออกแบบวางแผนเพื่อให้คุณสามารถเดินตามแผน Digital Transformation หรือ Industry 4.0 Roadmap และอื่น ๆ ได้ จากประสบการณ์และความรู้ในสายงานที่ผ่านมา หากลูกค้าสนใจหรือกำลังมองหาผู้ช่วยในการวางแผนการปรับปรุงไอทีให้เป็น Hybrid Multicloud ทางเราสามารถนำเสนอบริการ Cloud Assessment and Migration Workshop โดยให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปศึกษาและเก็บข้อมูล เพื่อผลดังต่อไปนี้
ประเมินปริมาณการใช้ทรัพยากรของระบบบนสภาพแวดล้อมสำหรับ Hybrid Multicloud Journey
ประเมินความคุ้มค่าในการย้าย Workload หรือระบบต่างๆ มาอยู่บนแพลตฟอร์ม Red Hat OpenShift และ IBM Power Systems
ประเมินประสิทธิภาพโดยรวมของระบบงาน Database และระบบ SAP ให้รองรับ Digital Transformation
ประเมินด้านความพร้อมของระบบไอทีและออกแบบให้รองรับ Cyber Resiliency อย่างถูกต้องเหมาะสม
ประเมินระบบสำรองข้อมูลและความสามารถในการปกป้องข้อมูลจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น (Modernized Data Protection)
ฟรี..ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น รวมไปถึงสนใจผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันจาก IBM Power Systems และ IBM Systems Storage และโซลูชันไอทีอื่น ๆ สามารถติดต่อทีมงาน Metro Connect เพื่อขอคำปรึกษาหรือขอรับบริการดังกล่าวได้ทันที ผ่านทางอีเมล์ : [email protected] หรือโทร : 02-0894880 รวมไปถึงสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ https://www.metroconnect.co.th/products/ibm-hardware/ |
# CoD: Black Ops Cold War เพิ่มโหมด Double Agent ตามล่าสายลับในทีม สไตล์ Among Us
Call of Duty: Black Ops Cold War เตรียมเพิ่มโหมด Double Agent ในอัพเดต Season 5 วันที่ 12 สิงหาคมนี้ เป็นโหมดทีม 10 คน สมาชิกในทีม 8 คนเป็น Operatives ที่ต้องทำภารกิจในแผนที่ให้สำเร็จ
สมาชิก 1 คนในทีมรับบท Double Agent หรือสายลับสองหน้า คอยฆ่าผู้เล่นคนอื่น และใช้ Kill Streaks เช่น Gas Mines, Counter Spy Planes, Combat Bows, และ Attack Helicopters ขัดขวางไม่ให้ ผู้เล่นคนอื่นทำภารกิจได้สำเร็จ
อีก 1 คนเป็น Investigator ฝั่งซัพพอร์ต ที่จะมีข้อมูลบอกใบ้ว่า Double Agent เป็นใคร สามารถช่วยทีมด้วยการใช้ Trophy Systems, Stimshots และ Handcannons ได้ มองเห็นรอยเท้าของ Double Agent ในระยะ และตั้งค่าหัวผู้ที่ถูกสงสัย ด้วย Wanted Orders ได้
น่าสนใจว่าตัวเกมจะจูงใจผู้เล่นให้เล่นตามบทอย่างไร เมื่อผู้เล่นทุกตำแหน่งสามารถยิงเพื่อนในทีมคนใดก็ได้เสมอ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้เล่นจะคอยป่วนโดยการฆ่าผู้เล่นคนอื่น แม้เป็น Operatives ก็ตาม
ที่มา - Gamerant |
# ศาลแพ่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนายกฯ บังคับใช้คำสั่งตัดเน็ตผู้เสนอข่าว
จากประเด็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกข้อกำหนดฉบับที่ 29 พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ให้อำนาจ กสทช. สามารถตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของสำนักข่าว หากมีการเสนอข่าวที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร จนภาคประชาชน สื่อมวลชนเข้ายื่นฟ้อง พล.อ. ประยุทธ์ ที่ออกคำสั่งขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
ล่าสุดวันที่ 6 ส.ค. ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนายกรัฐมนตรีบังคับใช้ข้อกำหนดที่ห้ามเสนอข่าวที่ทำให้ประชาชนหวาดกลัว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง กล่าวคือ นายกฯไม่มีอำนาจระงับอินเทอร์เน็ตระหว่างการคุ้มครองนี้
ที่มา - The Reporters |
# Virgin Galactic ขายตั๋วบินชมขอบอวกาศอีกครั้ง ที่นั่งละ 15 ล้านบาท บินปลายกันยานี้
หลัง Richard Branson บินชมอวกาศบนยาน VSS Unity ในเที่ยวบิน Unity 22 ไปเมื่อเดือนก่อน ล่าสุดบริษัท Virgin Galactic ของเขาก็กลับมาเปิดขายตั๋วบินชมขอบอวกาศบนยาน SpaceShipTwo ให้คนทั่วไปอีกครั้ง ในเที่ยวบิน Unity 23 หลังหยุดไปเพราะเกิดอุบัติเหตุระหว่างการซ้อมบินเมื่อปี 2014
Virgin Galactic คิดราคาที่นั่งบนเที่ยวบิน Unity 23 ที่ละ 450,000 ดอลลาร์ หรือราว 15 ล้านบาท แต่มีผู้เคยซื้อตั๋วไว้ก่อนหน้านี้แล้วราว 600 คน และผู้ที่วางเงินมัดจำไว้ 1,000 ดอลลาร์อีกราว 1,000 คน ที่จะได้คิวตีตั๋วขึ้นบินก่อน ตามมาด้วยสมาชิก Spacefarer Community กลุ่มสมาชิกที่สนับสนุน Virgin Galactic เป็นรายแรกๆ หลังจากนั้นจึงเป็นสิทธิ์คนทั่วไป
เที่ยวบินนี้มีกำหนดช่วงปลายเดือนกันยายน จาก Spaceport America ขึ้นไปชมขอบอวกาศ แล้วไปลงจอดที่ New Mexico โดยจะบรรทุกอุปกรณ์ทดลองในสภาพแรงโน้มถ่วงต่ำ และเจ้าหน้าที่สามคนจากกองทัพอากาศอิตาลีไปด้วย โดยที่นั่งพิเศษพร้อมสิทธิ์ในการทดลองสภาพแรงโน้มถ่วงต่ำเหล่านี้มีราคาถึง 600,000 ดอลลาร์ หรือราว 20 ล้านบาทต่อที่นั่ง จึงมักเป็นการอุดหนุนจากรัฐบาลหรือหน่วยงานของประเทศต่างๆ
ที่มา - The Verge
ภาพจาก Virgin Galactic |
# กูเกิลออกกล้อง Nest Cam และกริ่งประตู Nest Doorbell รุ่นใหม่ มีแบบไร้สายใช้แบต
กูเกิลเปิดตัวสินค้าใหม่ในแบรนด์ Nest ได้แก่ กล้องวงจรปิด และกริ่งประตูอัจฉริยะ รวมทั้งหมด 4 รุ่นคือ
Nest Cam (battery) กล้องวงจรปิดแบบไม่ต้องต่อปลั๊ก ใช้ได้ทั้งในและนอกบ้าน 179.99 ดอลลาร์
Nest Doorbell (battery) กริ่งประตูอัจฉริยะพร้อมกล้อง ใช้แบตเตอรี่ 179.99 ดอลลาร์
Nest Cam with floodlight กล้องวงจรปิดพร้อมไฟส่องสว่าง 279.99 ดอลลาร์
Nest Cam (wired) กล้องวงจรปิดภายในบ้าน ต่อปลั๊ก รุ่นอัพเกรด 99.99 ดอลลาร์
ของใหม่ใน Nest Cam/Doorbell ชุดนี้คือฟีเจอร์ด้านการตรวจจับคน สัตว์ ยานพาหนะ และพัสดุที่ดีขึ้น กระบวนการตรวจจับประมวลผลในฮาร์ดแวร์เลย ไม่ต้องต่อเน็ต ไม่ต้องจ่ายค่ารายเดือนเพิ่ม (แต่มีบริการ Nest Aware สำหรับเก็บวิดีโอย้อนหลังได้นานที่สุด 60 วัน)
ที่มา - Google |
# ไมโครซอฟท์จะรวมแอพ OneNote for Windows เข้าด้วยกัน ใช้ตัว Win32, เลิกใช้ตัว UWP
ไมโครซอฟท์ประกาศแผนการในอนาคตของ OneNote บนวินโดวส์ ที่ปัจจุบันมีแอพ 2 เวอร์ชันคือ OneNote 2016 (Win32) และ OneNote for Windows 10 (UWP) จะเหลือเพียงตัวเดียวคือ Win32 (ลาก่อน UWP)
ในระยะสั้น แอพทั้งสองตัวจะได้รับการอัพเกรดหน้าตาใหม่ตาม Microsoft Office สีพาสเทล จากนั้น ไมโครซอฟท์จะทยอยนำฟีเจอร์ของเวอร์ชัน UWP พอร์ตกลับไปยังเวอร์ชัน Win32
เมื่อฟีเจอร์พร้อมแล้ว ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ไมโครซอฟท์จะเริ่มแจ้งให้ผู้ใช้ OneNote UWP เปลี่ยนไปใช้แอพ OneNote Win32 ส่วนผู้ที่ใช้ Win32 ก็ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม รออัพเดตอย่างเดียว
ไมโครซอฟท์ระบุว่า OneNote UWP จะหมดระยะซัพพอร์ตในเดือนตุลาคม 2025 ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ Windows 10 หมดระยะซัพพอร์ต
หน้าตาใหม่ OneNote (Win32)
หน้าตาใหม่ OneNote for Windows 10 (UWP)
เมื่อปี 2018 ไมโครซอฟท์ประกาศแบบเดียวกัน แต่เป็นการหยุดพัฒนาแอพ Win32 ให้ไปใช้แอพ OneNote UWP แทน แต่ในปี 2019 ก็เปลี่ยนใจ ปลุกชีพ OneNote Win32 กลับคืนมาใหม่ รอบนี้คือเปลี่ยนมายึด Win32 เป็นหลัก เลิกใช้ UWP
ที่มา - Microsoft via Neowin |
# แอปเปิลเพิ่มฟีเจอร์รายงานผู้ปกครองเมื่อเด็กได้รับหรือกำลังส่งภาพโป๊
แอปเปิลเพิ่มฟีเจอร์ในแอป Message โดยเพิ่มปัญญาประดิษฐ์สำหรับวิเคราะห์หาภาพโป๊ (sexually explicit) ในแชต
เมื่อปัญญาประดิษฐ์ตรวจพบภาพที่เข้าข่าย ในกรณีได้รับภาพตัวแอป Message จะเบลอภาพออก หากเด็กกดขอดูภาพจะขึ้นหน้าจอเตือน หากยืนยันดูภาพจะส่งข้อความแจ้งผู้ปกครอง ส่วนในกรณีส่งภาพหน้าจอจะขึ้นคำเตือนทันที และจะส่งข้อความแจ้งผู้ปกครองหากเด็กยืนยันส่งภาพ
ฟีเจอร์นี้ใช้กับบัญชี iCloud แบบ Family เท่านั้น และจะใช้งานได้ทั้งบน iPhone, iPad, และ Mac
ทื่มา - Apple |
# Facebook แบนเพจวิจัยการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณาการเมือง FTC ชี้ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง
ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับ Facebook อีกครั้ง โดยเรื่องราวเริ่มต้นจากคณะนักวิจัยจากสถาบัน New York University เปิดโครงการวิจัย NYU Ad Observatory เพื่อศึกษาว่าผู้โฆษณาทางการเมืองเลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างไร กลุ่มไหนที่เป็นเป้าหมายบ้าง
เมื่อโครงการวิจัยเปิดตัวบนแพลตฟอร์ม Facebook ก็ประกาศปิดการใช้งานบัญชี แอป เพจ และการเข้าถึงแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับ Ad Observatory Project โดยให้เหตุผลว่าละเมิดความเป็นส่วนตัว มีการเข้าไปเก็บข้อมูลผู้ใช้ จึงต้องระงับเพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งของ FTC แต่กลายเป็นว่า FTC ออกมาบอกว่าที่ Facebook ทำนั้นไม่ถูกต้อง ที่สำคัญ FTC ยังไม่ได้รับแจ้งจาก Facebook เรื่องระงับเพจโครงการวิจัยเลย
ด้าน Facebook ให้เหตุผลเพิ่มเติมเรื่องการระงับ Ad Observatory Project ว่า นักวิจัยรวบรวมข้อมูลโดยการสร้างส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่ติดตั้งโปรแกรมหลบเลี่ยงระบบตรวจจับการดูดข้อมูลบน Facebookและยังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้โดยไม่ได้ยินยอมให้มีการรวบรวมด้วย
ทันทีที่ Facebook ระงับ Ad Observatory Project ก็เกิดการถกเถียงในวงกว้างว่าที่ Facebook ทำนั้นถูกต้องแล้วหรือ ส.ว. Mark Warner, พรรคเดโมแครต ระบุว่ารัฐสภาต้องดำเนินการเพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้นในโลกของการโฆษณาออนไลน์
ด้าน Laura Edelson หัวหน้านักวิจัยที่อยู่เบื้องหลัง NYU Cybersecurity for Democracy ออกแถลงการณ์ว่า งานวิจัยมีเป้าหมายเพื่อเผยให้เห็นวิธีการบิดเบือนข้อมูล แต่ Facebook กำลังปิดปากเราโดยเอาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลมาเป็นข้ออ้าง
ประเด็นโฆษณาการเมืองทำให้ Facebook ตกที่นั่งลำบากมาแล้ว ฐานปล่อยให้มีการแทรกแซงการเลือกตั้งแระธานาธิบดีปี 2016 ด้วยการเผยแพร่โฆษณาและข่าวปลอมใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคล อ่านย้อนหลังได้ ที่นี่ ผลของมหากาพย์ครั้งนั้นทำให้ Facebook จ่ายค่าปรับสูงสุด 150,000 ล้านบาท และทำให้ Facebook ต้องสร้างมาตรการรับมือใหม่ทั้งหมด
ที่มา - Reuters, Facebook, CNET, Engadget |
# Asus ออกอัพเดต BIOS เวอร์ชั่นใหม่ เปิดใช้ TPM อัตโนมัติ เตรียมรับ Windows 11
Asus เริ่มออกอัพเดต BIOS ให้กับบนเมนบอร์ดเวอร์ชั่นต่างๆ เพื่อรองรับ Windows 11 และเปิดใช้งานชิป TPM (Trusted Platform Module) เช่น PTT ของฝั่ง Intel และ PSP fTPM ของฝั่ง AMD โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานสามารถดูรายการเมนบอร์ดที่รองรับ TPM สำหรับ Windows 11 แบบเต็มได้ ที่ลิงก์นี้
Windows 11 ต้องการชิป TPM ขั้นต่ำ (hard floor) เวอร์ชัน 1.2 แต่แนะนำ (soft floor) เป็นเวอร์ชัน 2.0 แปลว่าซีพียูที่ไม่มี TPM จะไม่สามารถใช้งาน Windows 11 ได้ แต่ซีพียูส่วนใหญ่ที่มีอายุ 5-7 ปี จะมีชิป TPM มาด้วยอยู่แล้ว แค่อาจต้องเปิดใช้งานใน BIOS ด้วยตัวเองเท่านั้น
การอัพเดตครั้งนี้ จะทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อเมนบอร์ดที่มาพร้อมกับ BIOS ใหม่นี้ในอนาคต ไม่ต้องเข้าไปเปิด TPM ใช้งานเองอีกต่อไป หรือถ้าใครที่ไม่รู้ว่า TPM เข้าไปเปิดตรงไหน ก็สามารถใช้การอัพเดต BIOS เป็นการเปิดใช้ TPM โดยอัตโนมัติได้ด้วยเช่นกัน
ที่มา - Asus |
# ร้านค้าแอปบางแห่งในจีนลบ Duolingo ออก คาดเป็นคำสั่งรัฐบาลจีนเพ่งเล็งธุรกิจ EdTech
Bloomberg รายงานว่าร้านค้าแอปบางแห่งในจีนลบ Duolingo แอปสอนภาษาต่างประเทศออก คาดเป็นผลจากกฎใหม่ของรัฐบาลจีนที่สั่งห้ามธุรกิจกวดวิชา รวมถึงสตาร์ทอัพ EdTech แสวงหากำไร ทางบริษัท Duolingo ระบุในอีเมลว่า “เรากำลังดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ และหวังว่าแอปจะได้รับการคืนสถานะในระยะเวลาอันใกล้นี้”
มาตรการรัฐบาลจีนกระทบธุรกิจ EdTech อย่างมาก ล่าสุดมีรายงานว่า ByteDance ต้องปิดแอปเพื่อการศึกษาและยุบธุรกิจในส่วนของการศึกษาเลยทีเดียว
Duolingo ถือเป็นอีกแอปเพื่อการศึกษาที่คนนิยมใช้ ล่าสุด ได้ระดมทุนเพิ่ม 35 ล้านดอลลาร์ จาก Durable Capital Partners และ General Atlantic และกำลังยื่นไฟลิ่งเตรียม IPO เข้าตลาดหุ้น Nasdaq แล้ว
ที่มา - Bloomberg |
# Qualcomm เสนอซื้อกิจการ Veoneer ผู้พัฒนาโซลูชัน ADAS ในรถยนต์ มูลค่าดีล 4,600 ล้านดอลลาร์
Qualcomm ประกาศยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ Veoneer บริษัทพัฒนาระบบช่วยเหลือการขับขี่รถ (ADAS) จากสวีเดน ที่ราคา 37 ดอลลาร์ต่อหุ้น คิดเป็นวงเงินรวม 4,600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวสูงกว่า Magna International ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากแคนาดา ที่เคยเสนอซื้อกิจการ Veoneer ที่มูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Magna ยังมีเวลาในการยื่นข้อเสนอกลับที่สูงกว่า
ผลิตภัณฑ์ของ Veoneer เป็นชุดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ติดตั้งในรถโดยสาร เพื่อช่วยแนะนำการตัดสินใจให้กับผู้ขับขี่สภาพแวดล้อมต่าง ๆ
Cristiano Amon ซีอีโอ Qualcomm อธิบายที่มาของข้อเสนอซื้อกิจการนี้ว่า ธุรกิจยานยนต์กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผู้ผลิตรถต่างต้องการพาร์ทเนอร์มาร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้โดดเด่นจากคู่แข่ง การเสนอซื้อกิจการนี้เพื่อนำโซลูชัน ADAS ของ Veoneer มารวมกับผลิตภัณฑ์ที่ Qualcomm มีอยู่แล้วสำหรับกลุ่มยานยนต์
ที่มา: TechCrunch |
# Twitter Spaces เพิ่มฟังก์ชั่น co-host แล้ว ส่วน Fleets ที่หายไปจะเป็นพื้นที่ของ Spaces
ในที่สุดทวิตเตอร์ก็เพิ่มฟังก์ชั่น co-host บน Spaces ห้องคุยเสียงแบบ Clubhouse ให้คนอื่นมาเป็น co-host ได้ 2 คน คอยจัดการงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชิญสปีกเกอร์ขึ้นมาพูด, การจัดการ request, การลบคนออกจากห้อง เป็นต้น ทวิตเตอร์บอกด้วยว่า Fleets หรือ Stories ที่หายไป จะกลายเป็นพื้นที่ของ Spaces หรือ Spaces bar
ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์พยายามเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ใน Spaces หลายอย่างหลังเริ่มมีคนนิยมใช่้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การแชร์ลิงค์ Spaces บนไทม์ไลน์ได้เพื่อเชิญชวนให้คนเข้ามาพูดคุยได้ด้วยการกดปุ่มเดียว โดยในอนาคต ทวิตเตอร์เตรียมเปิดใช้ Voice Transformer ซึ่งก็คือการเปลี่ยนเสียงพูดของเราโดยใช้เอฟฟเฟกต์ เช่น Bee, Cartoon, Helium, Incognito, Karaoke, Microphone, Phone, Spatial, Stadium, Stage ซึ่งจะเป็นลูกเล่นใหม่ที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังช่วยปกปิดตัวตนเราได้อีกทางหนึ่งด้วย
ที่มา - 9to5Mac |
# เป็นทางการ แอปเปิลเปิดตัวระบบสแกนภาพโป๊เด็กบน iPhone/iPad, บล็อคการค้นหาผ่าน Safari/Siri ด้วย
แอปเปิลเปิดตัวระบบสแกนภาพถ่ายเพื่อหาภาพอนาจารเด็ก (child sexual abuse material - CSAM) บน iPhone และ iPad อย่างเป็นทางการ พร้อมกับเพิ่มระบบบล็อคคำค้นที่เกี่ยวข้องกับภาพโป๊เด็กบน Safari และ Siri ทั้งบน Apple Watch, iPhone, iPad, และ Mac ตรงตามที่ Matthew Green นักวิจัยความปลอดภัยไซเบอร์นำข้อมูลมาเปิดเผยเมื่อวานนี้
ระบบสแกน CSAM จะทำงานสแกนภาพก่อนจะอัพโหลดขึ้น iCloud เท่านั้น โดยแอปเปิลระบุว่าเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เนื่องจากไม่ต้องการไปสแกนภาพบนคลาวด์โดยตรง เมื่อสแกนแล้วจะสร้างรายการภาพที่ตรงกับฐานข้อมูลภาพโป๊เด็กจากหน่วยงานรัฐ เรียกว่า safety voucher แล้วอัพโหลดขึ้น iCloud ไปพร้อมกับภาพ
เมื่อภาพอัพโหลดขึ้น iCloud จะตรวจสอบว่าจำนวนภาพที่ตรงกับฐานข้อมูลเกินกำหนดหรือยัง หากเกินแล้วจะมีพนักงานของแอปเปิลมาตรวจสอบ และหากยืนยันว่าเป็นภาพโป๊เด็กจริงก็จะรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าแอปเปิลยกเลิกโครงการเข้ารหัสไฟล์บน iCloud แบบ end-to-end เปิดทางให้หน่วยงานรัฐสามารถขอข้อมูลผู้ใช้จากแอปเปิลโดยตรงได้ การสร้างระบบแจ้งเตือนที่ซับซ้อนเช่นนี้จึงดูไม่จำเป็นนัก เพราะในความเป็นจริงแอปเปิลก็สแกนภาพบน iCloud ได้โดยตรง แต่กระบวนการที่ซับซ้อนเหล่านี้ช่วยให้แอปเปิลมั่นใจได้ว่าพนักงานที่เกี่ยวข้องจะไม่เข้าไปดูข้อมูลผู้ใช้โดยไม่จำเป็น
กระบวนการสแกนภาพใช้อัลกอริทึม NeuralHash ที่สามารถจับภาพได้แม้ถูกแปลงบางส่วน เช่น การหมุนภาพ, เอากล้องมาถ่ายภาพจากหน้าจอ, หรือการวางลายน้ำทับภาพ
นอกจากการสแกนภาพแล้วแอปเปิลยังอัปเดต Siri และ Safari ให้แจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อพยายามค้นหาด้วยคำที่เกี่ยวข้องกับภาพอนาจารเด็ก พร้อมกับขึ้นลิงก์สายด่วนให้ความช่วยเหลือผู้มีความคิดและพฤติกรรมเสี่ยง แอปเปิลเตรียมอัพเดตใส่ฟีเจอร์นี้บน iOS, iPadOS, watchOS, และ mac OS ภายในปีนี้
ที่มา - Apple |
# Dropbox ไตรมาส 2/2021 เติบโตต่อเนื่อง ผู้ใช้งานเสียเงิน 16.14 ล้านคน
Dropbox รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2021 รายได้รวม 530.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิแบบบัญชี GAAP 88.0 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 17.5 ล้านดอลลาร์
ตัวเลขรายได้แบบต่อเนื่องใน 1 ปี หรือ ARR เพิ่มขึ้น 12.2% เป็น 2,166 ล้านดอลลาร์ และมีจำนวนผู้ใช้งานแบบเสียเงินเพิ่มขึ้นเป็น 16.14 ล้านคน โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าปี 133.15 ดอลลาร์
Drew Houston ซีอีโอ Dropbox กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่ออกมา สะท้อนความแข็งแกร่งของรูปแบบธุรกิจปัจจุบัน และความสามารถที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัท
ที่มา: Dropbox |
# Ring Fit Adventure เป็นเกมขายดีตลอดกาลของ Nintendo Switch ลำดับที่ 10 แล้ว
ในรายงานผลประกอบการของนินเทนโดไตรมาสที่ผ่านมา มีสถิติน่าสนใจหนึ่งคือยอดขายสะสมของแต่ละเกม ที่นินเทนโดจะอัพเดตข้อมูลทุกไตรมาส โดยล่าสุด Ring Fit Adventure เกมออกกำลังกายที่มาพร้อมอุปกรณ์วงแหวน ไต่อันดับแบบเงียบ ๆ จนขึ้นมาเป็นเกมขายดีตลอดกาลของ Nintendo Switch อันดับที่ 10 แซง New Super Mario Bros. U Deluxe ไปแล้ว ด้วยตัวเลข 11.26 ล้านชุด
ส่วนอันดับที่ 1 ยังคงเป็น Mario Kart 8 Deluxe (37.08 ล้านชุด) ตามด้วย Animal Crossing: New Horizons (33.89 ล้านชุด) และ Super Smash Bros. Ultimate (24.77 ล้านชุด) ในลำดับที่ 2 และ 3 หากดูจากแนวโน้มแล้ว Ring Fit อาจมียอดขายเพิ่มขึ้นได้อีก โดยอันดับที่ 9 ตอนนี้คือ Splatoon 2 ที่ 12.45 ล้านชุด
ไตรมาสที่ผ่านมาเกมขายดีของ Nintendo Switch คือ New Pokemon Snap ขายได้ 2.07 ล้านชุด ส่วนอันดับ 2 คือ Mario Kart 8 Deluxe ที่ 1.69 ล้านชุด และอันดับ 3 Mario Golf: Super Rush 1.34 ล้านชุด
ที่มา: Nintendo Life |
# [Counterpoint] Xiaomi ครองส่วนแบ่งสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลก ในเดือนมิถุนายน 2021
บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint Research รายงานส่วนแบ่งยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกของเดือนมิถุนายน 2021 โดย Xiaomi มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 เป็นครั้งแรก ที่ 17.1% ส่วนซัมซุงและแอปเปิลอยู่ในอันดับ 2-3 ทั้งนี้หากดูส่วนแบ่งรวมตลอดไตรมาสที่ 2 Xiaomi จะอยู่ในอันดับที่ 2
Tarun Pathak นักวิจัยของ Counterpoint ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการเติบโตของ Xiaomi ก่อนหน้านี้ มาจากการชิงส่วนแบ่งจากหัวเหว่ย และเฉพาะในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทยังได้ประโยชน์จากที่ซัมซุงมีปัญหาในการผลิตสมาร์ทโฟนด้วย ซึ่งต้องดูว่าสำหรับ Xiaomi จะเป็นการขึ้นมาแซงได้แบบต่อเนื่องหรือไม่
ที่มา: Counterpoint |
# ปธน. Biden ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ภายในปี 2030 รถยนต์ 50% ที่ขายในสหรัฐฯ ต้องเป็น EV
เราเห็นนโยบายเรื่องมลพิษจากรถยนต์ออกมาจากหลายประเทศที่ล้วนไปในทิศทางเดียวกันคือเพิ่มความเข้มงวดด้านการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ไปพร้อมกับการบีบให้เปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
ล่าสุดมีท่าทีเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาจากสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยประธานาธิบดี Biden ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร (executive order) ตั้งเป้าว่าภายในปี 2030 รถยนต์ 50% ที่ขายในประเทศต้องไม่ปล่อยมลพิษ (zero-emission) อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 50% ที่ Biden ระบุยังคงรวมถึงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ยังมีเครื่องยนต์อยู่ และนอกจากรถยนต์ไฟฟ้าแล้วก็ยังรวมรถยนต์ fuel cell ด้วย
ด้านผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกันอย่าง GM, Ford และ Stellantis (มี Chrysler เป็นบริษัทแม่) ก็ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าทางกลุ่มตั้งเป้าว่ายอดขาย 40-50% ในสหรัฐฯ จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030
ประธานาธิบดี Biden จะประชุมร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ในวันนี้ และไม่ได้เปิดเผยว่าผู้ผลิตรายใดได้รับเชิญบ้าง แต่ในวงนั้นไม่มี Tesla เพราะ Elon Musk ได้ทวีตว่า "มันแปลกที่ Tesla ไม่ได้รับเชิญ"
นอกจากนี้ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสามรายข้างต้นยังระบุด้วยว่าการจะบรรลุเป้าหมายนี้ ภาครัฐต้องเข้ามาช่วยอุดหนุนและให้ส่วนลดทางภาษีอย่างหนัก รวมถึงช่วยลงทุนด้าน R&D ด้วย ส่วน BMW, Honda, Volkswagen, Ford และ Volvo ก็แถลงร่วมกันว่าสนับสนุนนโยบายนี้ แต่รัฐบาลต้องช่วยสร้างดีมานด์ให้กับผู้บริโภคด้วย
ที่มา - Reuters
ภาพจาก Facebook: President Joe Biden |
# Amazon Games เลื่อนเปิดตัวเกมผจญภัย New World เพราะคุณภาพงานยังไม่ได้
หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อเกม New World เป็นครั้งแรกจากปัญหาเล่นแล้วการ์ดจอบางรุ่นพัง แม้เป็นการเปิดตัวที่อาจไม่ค่อยสวยงามนัก แต่ New World ถือเป็นเกมที่สตูดิโอ Amazon Games หมายมั่นปั้นมือมาก หลังเปิดมานานแต่ทำเกมอย่างไรก็ไม่ดัง แถมเกมล่าสุดคือ Crucible ก็ถูกยกเลิกโครงการ
แต่ล่าสุด New World ก็ต้องเลื่อนกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการเข้าจนได้ โดยทีมงาน Amazon Games ระบุว่าต้องการเวลาเพิ่มอีกหน่อยเพื่อปรับคุณภาพเกมให้ดีขึ้น จึงขอเลื่อนกำหนดเปิดตัวเป็น 28 กันยายน 2021
New World เป็นเกมแนว open-world MMO โลกแฟนตาซีที่ได้แรงบันดาลใจจากการบุกเบิกทวีปอเมริกา ผู้เล่นจะได้ผจญภัยบนเกาะ Aeternum โดยเลือกได้ระหว่างฝ่ายของชนเผ่าท้องถิ่น หรือผู้บุกรุกจากทวีปอื่น
เกมยังมีเฉพาะบนพีซี ถึงแม้เป็นเกมแนว MMO แต่ราคาไม่ฟรี ราคาขายบน Steam ของไทยอยู่ที่ 549 บาท
ที่มา - Polygon |
# ผลประกอบการ EA ไตรมาส 2/2021 ออกมาดี FIFA และ Apex Legends ยังเป็นตัวทำเงิน
EA ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2021 (ตัวเลขตามปีการเงินคือ 1/2022) ยังออกมาสวยงาม รายได้รวม 1,551 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่คาด และสูงกว่าตัวเลขของปีที่แล้วที่ทำไว้ 1,459 ล้านดอลลาร์ หักค่าใช้จ่ายแล้วมีกำไร 204 ล้านดอลลาร์
เกมเด่นของ EA ยังเป็นกลุ่มเกมกีฬาเช่นเคย โดย FIFA 21 มีผู้เล่นรวม 31 ล้านคน (ไตรมาสที่แล้ว 25 ล้านคน), FIFA Online 4 ในจีนก็ทำลายสถิติผู้เล่นสูงสุด ส่วนอีกเกมที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นกำลังสำคัญของ EA ไปแล้วคือ Apex Legends มีผู้เล่นต่อสัปดาห์ 13 ล้านคน (ไตรมาสที่แล้ว 12 ล้านคน)
ฝั่งเกมแบบขายขาดที่วางขายในไตรมาสที่ผ่านมาคือ Mass Effect Legendary Edition และ Knockout City ซึ่งทำรายได้ตามเป้า และไตรมาส 3/2021 เราจะเห็นเกมใหญ่ๆ คือ FIFA 22, Madden NFL 22, Lost in Random และ F1 2021 ของ Codemasters ออกวางขาย ส่วนไตรมาสสุดท้ายของปีจะเป็นคิวของ Battlefield 2042 ที่แฟนๆ รอกันมานาน
ที่มา - EA |
# [Reuters] ByteDance ยุบและปลดคนในหน่วยธุรกิจการศึกษา เพราะจีนสั่งห้ามธุรกิจกวดวิชาแสวงหากำไร
จากประเด็นรัฐบาลจีนออกคำสั่งให้ธุรกิจการศึกษาแบบกวดวิชาที่เป็นวิชาหลักในหลักสูตรการศึกษา ต้องจดทะเบียนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร กระทบบริษัท EdTech เต็มๆ ล่าสุด Reuters รายงานว่า ByteDance บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ของจีนเข้าของ TikTok มีแผนจะเลิกจ้างพนักงานในธุรกิจการศึกษา และยุบทีมปฏิบัติการด้านการศึกษาบางส่วน
นอกจากนี้ ByteDance เตรียมจะเลิกจ้างครู พนักงานขายโฆษณาในหน่วยการศึกษา และจะปิดโรงเรียนกวดวิชากวดวิชา รวมถึงปิดแอปเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว Gogokid เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับด้วย
ByteDance ยังเป็นเจ้าของแอปเพื่อการศึกษา Guagua Long และ Qingbei ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแอปดังกล่าว และจะกระทบผู้ใช้งานอย่างไร
เป้าหมายของคำสั่งคือบรรเทาแรงกดดันทางการเงินของครอบครัวที่ต้องจ่ายเพื่อการศึกษา อันมีส่วนทำให้อัตราการเกิดต่ำ แต่กลับปล่อยให้ธุรกิจภาคการศึกษาต้องเจอผลกระทบแทน
ที่มา - Reuters |
# Nintendo กำไรสุทธิไตรมาสล่าสุดลดลง 13% ยอดขาย Nintendo Switch ลด 22% จากปีก่อน
Nintendo รายงานกำไรสุทธิประจำไตรมาส เมษายน-มิถุนายน 2021 อยู่ที่ 92 พันล้านเยน (ราว 27.9 พันล้านบาท) ลดลง 13% เมื่อเทียบกับปี 2020 ที่ 106 พันล้านเยน เนื่องจากดีมานด์ที่สูงจากช่วงโควิดระบาดในปีก่อน เริ่มปรับลดลงในปีนี้
กำไรจากการดำเนินงานลดลง 17% เหลือ 119 พันล้านเยน (36 พันล้านบาท) รายได้ลดลง 10% เหลือ 322 พันล้านเยน (97.6 พันล้านบาท) ยอดขายเครื่อง Switch รวมรุ่น Lite ด้วย ปีนี้ขายได้ 4.45 ล้านเครื่อง ลดลง 22% จาก 5.68 ล้านเครื่องในปีก่อน
ยอดขายซอฟต์แวร์ลดลง 10.2% เหลือ 45.29 ล้านชุด จาก 50.43 ชุดในปีก่อน เนื่องจากปีก่อนเป็นช่วงที่เกม Animal Crossing: New Horizons เปิดตัวในช่วงที่หลายประเทศล็อกดาวน์อยู่บ้านพอดี
Nintendo ยังคาดการณ์กำไรสุทธิของทั้งปีนี้ไว้ที่ 500 พันล้านเยน และยังคาดการณ์ยอดขายเครื่อง Switch ทั้งปีไว้ที่ 25.5 ล้านเครื่องเหมือนเดิม ซึ่งเป็นเป้าที่น้อยกว่าที่ทำได้จริงในปีก่อน
ที่มา - Nikkei Asia, Reuters |
# AWS ประกาศ fork ไลบรารี Elasticserch เข้า OpenSearch หลัง Elastic เพิ่มโค้ดตรวจเวอร์ชั่น
หลังจาก AWS ประกาศแยกโครงการ OpenSearch ออกจาก Elasticsearch โดยใช้ซอร์สโค้ดที่เป็นไลเซนส์แบบ Apache 2.0 มาพัฒนาต่อ ทั้งสองฝั่งก็เริ่มมีฟีเจอร์ต่างกันไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีไคลเอนต์ที่ใช้ฟีเจอร์พื้นฐานส่วนมากก็ยังเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้ทั้งสองตัว แต่เดือนที่ผ่านมา Elastic ก็เพิ่มโค้ดตรวจสอบว่าเชื่อมต่อกับ Elasticsearch จริงหรือไม่ ทำให้ไคลเอนต์ที่เคยเชื่อมต่อกับ OpenSearch ได้กลับใช้งานไม่ได้เมื่ออัพเดตไลบรารี
ไลบรารี elasticsearch-py นั้นดูแลโดยบริษัท Elastic เอง เริ่มเพิ่มเงื่อนไขการเชื่อมต่อ โดยตรวจสอบข้อมูลเซิร์ฟเวอร์แม้ไม่จำเป็นต่อการทำงาน ได้แก่ tag line ว่าตรงกับ Elasticsearch ที่ใช้ว่า "You know, for Search", ตรวจสอบ build_flavor ว่าเป็น default เท่านั้น, และตรวจสอบ HTTP header ว่าฟิลด์ X-Elastic-Product ต้องมีค่า Elasticsearch เท่านั้น
ฝั่ง AWS เตรียม fork โครงการไลบรารีไคลเอนต์ที่ตอนนี้ดูแลโดย Elastic ทั้งหมด โดยสัญญาว่าไลบรารีทั้งหมดจะสามารถเชื่อมต่อกับ OpenSearch หรือ Elasticsearch ได้ต่อ รวมไลบรารีทั้งหมด 11 โครงการ และสเปคของ API ในภาษา TypeScript อีก 1 โครงการ
คาดว่าไลบรารีทั้งหมดจะพร้อมใช้งานในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา - AWS |
# IMDb TV สตรีมมิ่งดูฟรีมีโฆษณาเปิดให้ดาวน์โหลดแล้วในสหรัฐฯ ทั้งมือถือและทีวี
IMDb TV สตรีมมิ่งของ IMDb ฐานข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ และยังเป็นบริษัทลูกของ Amazon เปิดให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นบนมือถือแล้ว แต่ยังเปิดเฉพาะในสหรัฐฯ หลังเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเปิดตัวแอปบนทีวี LG Smart TVs, PlayStation 4, NVIDIA
IMDb TV ถือเป็นอีกหนึ่งบริการสตรีมมิ่งที่ Amazon พยายามปลุกปั้น โดยใช้โมเดลดูฟรีมีโฆษณาแทนการเก็บค่าบริการรายเดือน เนื้อหาเด่นๆ มี Chicago Fire, All in the Family, Wolf of Wall Street, How to Train Your Dragon, Leverage: Redemption ก่อนหน้านี้ Amazon เซ็นสัญญากับ Universal Filmed Entertainment Group เพื่อนำเนื้อหามาลงใน Amazon Prime Video และ IMDb TV
นอกจากนี้ยังมีรายงานเมื่อปีที่แล้วว่า Amazon กำลังมองหาตลาดนอกสหรัฐฯในการขยายสตรีมมิ่ง IMDb TV ไปยังเม็กซิโก และอังกฤษต่อไป
ที่มา - Engadget |
# Sony ขาย PS5 รุ่นใส่แผ่น ราคา 499 ดอลลาร์ ได้แบบไม่ขาดทุนแล้ว
หลัง Sony ประกาศข่าว PS5 ขายได้ 10 ล้านเครื่อง ล่าสุด Bloomberg ระบุว่า Hiroki Totoki ซีเอฟโอของ Sony ให้ข้อมูลว่าเครื่อง PS5 รุ่นใส่แผ่น ราคา 499 ดอลลาร์ เป็นราคาที่ขายได้แบบไม่ขาดทุนแล้ว (จากต้นทุนการผลิตที่เริ่มถูกลงด้วยสเกลการผลิตและอื่นๆ)
ส่วน PS5 รุ่นดิจิทัล ราคา 399 ดอลลาร์ แม้จะยังขาดทุนอยู่ แต่อยู่ในแผนที่ Sony จะใช้กำไรจากการขาย อุปกรณ์เสริมอื่นและ PS4 ที่ยังขายได้ถึง 500,000 เครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา เพื่อมาทดแทนได้
PS5 ใช้เวลาราว 9 เดือน หลังเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 เพื่อขายไม่ขาดทุน ส่วน PS4 ใช้เวลาราว 6 เดือน และ PS3 ใช้เวลานานหลายปี ก่อนจะขายแล้วไม่ขาดทุนได้ ถือว่า PS5 ที่แม้จะมีข่าวว่าใช้ชิ้นส่วนต่างๆ ที่มีราคาแพง แต่ก็ใช้เวลามากกว่า PS4 ไม่นานในการลดต้นทุนจนราคาไม่ขาดทุน
ที่มา - Bloomberg |
# Google Maps บน iOS เพิ่ม Dark Mode, แชร์ live location ไป iMessage ได้
Google Maps บน iOS ออกอัพเดตหลายอย่าง ที่เด่นๆ คือรองรับ Dark Mode แล้ว, แชร์ live location ไป iMessage ได้ เลือกแชร์สถานที่ได้แบบเจาะจง และขยายเวลาแชร์ได้สูงสุดสามวัน
นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มวิดเจ็ต Google Maps บนหน้าจอ iPhone ได้ด้วย
ที่มา - กูเกิล |
# [ไม่ยืนยัน] นักวิจัยความปลอดภัยระบุ แอปเปิลเตรียมใช้เครื่องมือสแกนภาพโป๊เด็กใน iPhone
Matthew Green นักวิจัยความปลอดภัยไซเบอร์ชื่อดัง อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนหลายรายว่าแอปเปิลกำลังเปิดใช้งานตัวสแกนภาพโป๊เด็กบนไอโฟน
เนื้อหาทางเพศจากการละเมิดเด็ก (child sexual abuse material - CSAM) เป็นประเด็นสำคัญในโลกเทคโนโลยีเนื่องจากเป็นเนื้อหาที่มีความผิดจากการครองครองเพียงอย่างเดียว แต่เทคโนโลยีการเข้ารหัสทุกวันนี้ทำให้กระบวนการตรวจสอบว่าใครครอบครองหรือเผยแพร่เนื้อหาเหล่านี้ทำได้ยากขึ้น
แนวทางการสร้างฐานข้อมูลภาพโป๊เด็กและสแกนหาภาพเหล่านี้บนบริการคลาวด์มีมานานแล้ว โดยไมโครซอฟท์ได้พัฒนาโปรแกรม PhotoDNA เพื่อหาภาพที่ตรงกับฐานข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2014 ทั้งกูเกิล, ทวิตเตอร์, และเฟซบุ๊กก็ใช้งานเครื่องมือนี้ แต่ที่ผ่านมายังจำกัดอยู่เฉพาะบริการออนไลน์เท่านั้น หากแอปเปิลนำเครื่องมือนี้มาสแกนบน iPhone จริงก็นับว่าเป็นการนำเครื่องมือมาสแกนบนอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรงเป็นวงกว้างครั้งแรกๆ
Green ระบุว่าเครื่องมือจะดาวน์โหลดฐานข้อมูลแฮชลักษณะภาพ (perceptual hash) ลงมายังโทรศัพท์ และสแกนหาภาพที่ตรงกับค่าแฮช หากพบภาพที่ตรงจำนวนเกินที่ตั้งไว้ก็จะแจ้งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์แอปเปิล แนวทางนี้ทำให้แอปเปิลสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ แม้ผู้ใช้จะไม่เปิดบริการคลาวด์ใดๆ เพื่อซิงก์ภาพออกจากโทรศัพท์เลยก็ตาม อย่างไรก็ดี Green ระบุว่าในช่วงแรกแอปเปิลจะตรวจสอบค่าแฮชเฉพาะภาพที่แชร์ขึ้นคลาวด์แล้วเท่านั้น แต่การสร้างโปรแกรมเพื่อรันในเครื่องผู้ใช้โดยตรงนั้นก็ไม่น่ามีวัตถุประสงค์อื่นนอกจากต้องการสแกนทุกภาพในเครื่อง
ที่ผ่านมาระบบแชตแบบเข้ารหัสจากปลายทางถึงปลายทาง (end-to-end) เป็นประเด็นถกเถียงกันมากเนื่องจากหน่วยงานรัฐไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลในแชตผ่านทางผู้ให้บริการได้ แต่ต้องยึดโทรศัพท์และตรวจสอบข้อความจากโทรศัพท์โดยตรงเท่านั้น แนวทางการฝังโปรแกรมสแกนเนื้อหาและขอให้แจ้งเตือนเมื่อเนื้อหาในโทรศัพท์ตรงตามเงื่อนไขจึงเป็นแนวทางที่หน่วยงานรัฐหลายชาติเสนอให้ใช้งาน หลายปีก่อนโปรแกรม LINE ในจีนก็เคยดาวน์โหลดฐานข้อมูลคำสำคัญเพื่อบล็อคคำต้องห้าม
ที่มา - Hacker News, @matthew_d_green
ภาพจาก Pexels |
# AMD จ้างนักพัฒนาไดรเวอร์จีพียูบนลินุกซ์เพิ่ม หลังมีลูกค้าใหม่ๆ อย่าง Steam Deck, Tesla
AMD ประกาศจ้างนักพัฒนาสายลินุกซ์เพิ่ม เพื่อมาพัฒนาไดรเวอร์จีพียูลินุกซ์ให้ดีขึ้น ในประกาศรับสมัครงาน ระบุชัดเจนว่ามาจากความต้องการของลูกค้าใหม่ๆ อย่าง Steam Deck และรถยนต์ Tesla Model S
ในวงการโอเพนซอร์สรู้กันดีว่า ไดรเวอร์จีพียูฝั่ง AMD (Radeon Mesa) มีคุณภาพไม่ดีนัก (เมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยเฉพาะอินเทล) การที่ AMD มีลูกค้าที่ใช้ลินุกซ์หนักๆ อย่าง Steam Deck ของ Vale หรือ Tesla ที่ประกาศใช้ Radeon ทำให้ AMD จำเป็นต้องจ้างพนักงานเพิ่ม ก็ถือเป็นสัญญาณอันดีสำหรับผู้ใช้ AMD บนลินุกซ์อื่นๆ ด้วย
ที่มา - Phoronix, ExtremeTech |
# Xiaomi ครองแชมป์ตลาดสมาร์ทโฟนยุโรป ไตรมาส 2/2021 ด้วยส่วนแบ่ง 25.3%
Strategy Analytics เปิดผลวิจัยตลาดสมาร์ทโฟนยุโรปประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 พบว่ามียอดจัดส่งรวม 50.1 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้น 14% จากปีที่แล้วที่มีวิกฤตโควิด แต่ลดลง 15% จากไตรมาสแรกของปีนี้
อันดับ 1 ในตลาดคือ Xiaomi ครองส่วนแบ่งตลาด 25.3% มียอดจัดส่งสมาร์ทโฟน 12.7 ล้านเครื่อง อันดับ 2 คือ Samsung ส่วนแบ่งตลาด 24% ยอดจัดส่ง 12 ล้านเครื่อง และอันดับ 3 คือ Apple ส่วนแบ่งตลาด 19.2% ยอดจัดส่ง 9.6 ล้านเครื่อง
ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนของ Xiaomi เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 67.1% ส่วน Apple เพิ่มขึ้น 15.7% จากยอดขาย iPhone 12 ในขณะที่ Samsung ยอดจัดส่งมือถือลดลง 7% แม้มือถือที่รองรับ 5G ตระกูล Galaxy A จะยังขายดีอยู่ แต่มือถือในระดับไฮเอนด์ต้องปะทะกับ Apple ส่วนระดับกลางถึงล่างก็ต้องปะทะกับมือถือค่ายจีนแบรนด์อื่น เช่น Oppo และ Realme
Oppo และ Realme มียอดจัดส่งมือถือ 2.8 และ 1.9 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งตลาด 5.6% และ 3.8% ตามลำดับ แต่เทียบกับปีที่แล้ว ยอดจัดส่งของ Oppo เติบโตถึง 180% จากตระกูล A และ Reno ส่วน Realme ยอดจัดส่งเพิ่มถึง 1800% จากมือถือรุ่นใหม่ตระกูล Realme 8
ที่มา - Strategy Analytics |
# Tencent บีบเวลาเล่นเกม Honor of Kings ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 เหลือวันละ 1 ชม. และวันหยุด 2 ชม.
บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในจีนกำลังถูกกดันจากรัฐบาลจีนในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่ด้านการผูกขาด เนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย และเกม ซึ่งเป็นเนื้อหาที่รัฐบาลพยายามควบคุมมานานแล้ว โดยเฉพาะประเด็นเด็กติดเกม ถึงขั้นเปรียบเทียบเกมกับสารเสพติดเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 18 ปีได้รับอนุญาตให้เล่น Honor of Kings สูงสุด 1.5 ชั่วโมงในวันปกติและ 3 ชั่วโมงในวันหยุด ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของรัฐบาลที่ออกกฎในปลายปี 2019 ล่าสุด Tencent ออกกฎเข้มงวดขึ้น ลดเวลาเหลือเล่นได้แค่วันละ 1 ชั่วโมงในวันธรรมดา และ 2 ชั่วโมงสำหรับวันหยุด และยังคงกฎห้ามเล่นช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 8.00 น. ไว้ด้วย
มาตรการใหม่ของ Tencent ยังจำกัดการซื้อของในเกม โดยผู้เล่นอายุระหว่าง 12-16 ปีสามารถใช้จ่ายได้เพียง 200 หยวน ต่อเดือน ส่วนผู้เล่นอายุระหว่าง 16-18 ปี จำกัดไว้ที่ 400 หยวนต่อเดือน
Honour of Kings เป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีผู้เล่นหลักร้อยล้านต่อวัน พัฒนาโดยสตูดิโอ TiMi Studio Group ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Tencent โดย Honor of Kings กลายเป็นวิดีโอเกมเกมแรกในโลกบนทุกแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้เฉลี่ยมากกว่า 100 ล้านคนต่อวัน ข้อมูลจาก Sensor Tower ระบุด้วยว่าตัวเกมทำรายได้ถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์จากการซื้อในแอปในปีที่แล้ว ถือเป็นเกมที่ทำกำไรได้มากที่สุดในโลก
ที่มา - SCMP |
# โซนี่ขาย Ghost of Tsushima: Legends โหมดมัลติเพลเยอร์เป็นเกมเดี่ยว ราคาไทย 690 บาท
โซนี่ประกาศวางขาย Ghost of Tsushima: Legends โหมดออนไลน์มัลติเพลเยอร์ของเกม Ghost of Tsushima เป็นเกมแยกต่างหาก และขายเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมไทย) ในราคา 690 บาท (ทั้ง PS4/PS5) กำหนดวางขาย 3 กันยายน 2021
Ghost of Tsushima: Legends เป็นอัพเดตฟรีที่ตามมาในช่วงปลายปี 2020 เป็นโหมดมัลติเพลเยอร์ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก (แต่เหตุการณ์เกิดบนเกาะ Tsushima เหมือนกัน) แล้วประสบความสำเร็จอย่างมาก
โซนี่ยังประกาศเพิ่มเนื้อหาเสริมให้ภาค Legends อีกชุด คือโหมดใหม่ Rivals จับคู่เป็นทีม 2 คนต่อสู้กับศัตรูที่บุกถล่มเป็นชุดๆ และเมื่อกำจัดศัตรูก็จะได้พลังไปโจมตีทีมอื่นได้ และเพิ่มระบบ Gear Mastery สำหรับคนที่สะสมไอเทมในเกม แล้วอัพเกรดไปถึงเลเวล 120 ได้
เนื้อหาเสริมนี้จะอัพเดตให้ทั้งคนที่ซื้อ Ghost of Tsushima เวอร์ชันเต็ม, เวอร์ชัน Director's Cut และคนที่ซื้อภาค Legends แยกจะได้ทุกอย่างเหมือนกันหมด เล่นด้วยกันได้
ที่มา - PlayStation |
# Walter Isaacson กำลังเขียนชีวประวัติของ Elon Musk และเรื่องราวของ Tesla, SpaceX อยู่
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวเกี่ยวกับหนังสือ Power Play: Tesla, Elon Musk, and the Bet of the Century เขียนโดย Tim Higgins นักข่าว The Wall Street Journal ที่ตัว Elon Musk ออกมาบอกเองว่าเต็มไปด้วยเรื่องไร้สาระ ล่าสุด Elon เผยว่ากำลังจะมีหนังสือชีวประวัติของเขาอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว
ในทวีตของ Elon Musk ระบุว่า Walter Isaacson นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกัน กำลังเขียนหนังสือชีวประวัติเล่มใหม่เกี่ยวกับตัว Elon เอง รวมไปถึงเรื่องราวของ Tesla และ SpaceX ด้วย แต่ยังไม่มีกำหนดการใดๆ ออกมา รวมถึงบนทวิตเตอร์ของ Walter Isaacson ก็ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นชีวประวัติอย่างเป็นทางการ เราอาจได้รู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
Walter Isaacson เป็นนักเขียนที่มีผลงานหนังสือชีวประวัติของบุคคลสำคัญของโลกมากมาย สำหรับโลกไอทีก็คือหนังสือ Steve Jobs ที่ออกมาในปี 2011 หรือแขนงอื่นๆ เช่น Leonardo da Vinci, Benjamin Franklin และ Albert Einstein
ที่มา - @elonmusk
ภาพโดย Getty Images |
# โปรแกรมบัญชี FlowAccount ระดมทุน Series A กว่า 4 ล้านดอลลาร์ นำโดย Sequoia India
FlowAccount สตาร์ตอัพด้านโปรแกรมบัญชีออนไลน์ของไทย ประกาศระดมทุนรอบ Series A กว่า 4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 130 ล้านบาท) นำโดย Sequoia Capital India (สาขาของบริษัท VC ชื่อดัง Sequoia ในสหรัฐ) ส่วนนักลงทุนรายอื่นคือ Money Forward และ SBI Investment จากญี่ปุ่น
คุณกฤษฎา ชุตินธร ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง FlowAccount เปิดเผยว่าตอนนี้มีผู้ใช้งานในระบบมากกว่า 50,000 ราย และจะนำเงินก้อนนี้ขยายจากด้านบัญชีกับระบบจัดการเงินเดือน ไปสู่การชำระเงินออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ ฟินเทค
ส่วน Rohit Agarwal จาก Sequoia India ระบุว่าเห็นจุดเด่นของ FlowAccount เรื่องการเข้าถึงผู้ประกอบการ SME ที่ซอฟต์แวร์องค์กรขนาดใหญ่ไม่ตอบโจทย์ ในขณะที่ Harutoshi Tanaka ตัวแทนจาก Money Forward ของญี่ปุ่น บอกว่าซอฟต์แวร์บัญชีคลาวด์เป็นกุญแจช่วยเร่งประสิทธิภาพธุรกิจ และจะเชื่อมเรื่องการบริหารทรัพยากรบุคคลกับฟินเทคเข้าด้วยกัน |
# ของมันต้องมี TikTok ทำ TikTok Stories ต่างจาก Instagram ตรงที่คอมเม้นท์เป็น public
TikTok ยืนยันการพัฒนาฟีเจอร์คลิปที่หายไปเองภายใน 24 ชั่วโมงหรือ Stories ของ Instagram โดยใช้ชื่อว่า TikTok Stories ทาง TikTok บอกว่า TikTok Stories จะเป็นอีกทางเลือกของการโพสต์แสดงตัวตนนอกเหนือจาก วิดีโอ, Duets, Stitch และ LIVE
TikTok Stories ยังอยู่ในช่วงเปิดใช้งานเฉพาะกลุ่ม และยังไม่มีรายละเอียดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไร เมื่อดูจากหน้าตาฟีเจอร์จะต่างจาก Stories บน Instgram ตรงที่เนื้อหาของคนอื่นจะปรากฏด้านซ้ายมือของหน้าจอ โดยมีปุ่มกล้องอยู่ด้านซ้ายบน และคอมเม้นท์จะเห็นเป็น public คนอื่นสามารถเข้ามาเลื่อนดูได้ ไม่ถูกซ่อนไว้แบบ Instagram
ถือเป็นอีกความท้าทายของวงการโซเชียล เพราะทั้งคลิปสั้น และคลิปที่หายไปได้เองกลายเป็นสิ่งจำเป็น แต่ใช่ว่าจะได้ผล เพราะ Twitter เพิ่มปิดใช้งาน Fleets หรือ Stories ในเวอร์ชั่นของตัวเองไป เพราะไม่มีคนสนใจใช้งานมากเท่าที่คิด
ที่มา - TechCrunch |
# Facebook ออกแบบหน้าตั้งค่าใหม่สะอาดตาขึ้น เน้นการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เด่นกว่าเดิม
Facebook ปรับปรุงหน้าตั้งค่าใหม่ ดีไซน์ให้สะอาดตาขึ้น และไฮไลต์การตั้งค่าเพื่อความเป็นส่วนตัวให้โดดเด่นกว่าการตั้งค่าอื่นๆ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนชื่อเมนูตั้งค่าให้สั้นกระชับ และอ่านเข้าใจง่ายมากขึ้นว่าเป็นการตั้งค่าเกี่ยวกับอะไร สามารถดูความแตกต่างระหว่างเมนูตั้งค่าเวอร์ชั่นเก่าและใหม่ได้ตามรูปภาพด้านล่าง
การตั้งค่าถูกจัดกลุ่มเป็น 6 หมวดหมู่กว้างๆ คือ Account (การตั้งค่าบัญชี), Preferences (การตั้งค่าการมองเห็นเนื้อหาต่างๆ บน Facebook), Audience and Visibility (การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย), Permissions (การอนุญาต), Your Information (ข้อมูล), และ Community Standards and Legal Policies (นโยบายและมาตรฐานชุมชน) นอกจากนี้ยังมีการจัดกลุ่มตั้งค่าใหม่ เช่น ย้ายการตั้งค่า News Feed จากเดิมที่แยกเป็นเมนูเดี่ยว ย้ายมาไว้ในกลุ่ม Preferences
การตั้งค่าเวอร์ชั่นใหม่จะเปิดใช้งานเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคมนี้ ทั้งเวอร์ชั่นแอป iOS, Android, เว็บบนมือถือ และ FB Lite
ที่มา - Facebook |
# Uber ไตรมาส 2/2021 รายรับรวมโต 114% บันทึกกำไรพิเศษจาก Didi และ Aurora
Uber รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 รายรับสุทธิ (Gross Bookings) เพิ่มขึ้น 114% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 21,900 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นธุรกิจการเดินทาง 8,640 ล้านดอลลาร์ (+184%) และเดลิเวอรี 12,912 ล้านดอลลาร์ (+85%) คิดเป็นรายได้ 3,929 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 105% และมีกำไรสุทธิ 1,144 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกำไรที่บริษัทถือหุ้นใน Didi และการขายธุรกิจให้ Aurora
Dara Khosrowshahi ซีอีโอ Uber ให้ข้อมูลว่าแพลตฟอร์มของ Uber มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยดูได้จากฐานลูกค้าทั้งหมดมากกว่าครึ่งหนึ่ง ที่ใช้บริการทั้งสองส่วนคือรถโดยสารและเดลิเวอรี
Uber มีการลงทุนในบริษัทหลายแห่งทั้ง Didi, Grab, Aurora, Zomato และ Lime
ที่มา: Uber |
# Stack Overflow รายงานผลสำรวจนักพัฒนา React แซงหน้า jQuery, PostgreSQL แซง MongoDB
Stack Overflow ออกรายงานสำรวจนักพัฒนาประจำปีอีกครั้ง (ข่าวเก่า 2018, 2019, 2020) โดยรอบนี้สำรวจนักพัฒนา 83,439 คนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ตอบอยู่ในสหรัฐฯ 15,288 คน
ในแง่ของเทคโนโลยีเว็บมีความเปลี่ยนแปลงสำคัญ คือ React.js กลายเป็นเว็บเฟรมเวิร์ตที่มีการใช้งานอันดับหนึ่ง แทนที่ jQuery เรียบร้อยแล้ว แถมอันตราการแซงค่อนข้างเร็ว โดยมีผู้ใช้ React.js ถึง 40.14% (จาก 35.9%) ขณะที่ jQuery ลดลงเหลือ 34.42% (จาก 43.3%) ส่วน Angular ก็มีการใช้งานลดลงเช่นกัน โดยมี Express แซงหน้าขึ้นมา ฝั่งไพธอนนั้น Flask ยังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ และ FastAPI ติดอันดับเป็นครั้งแรก แต่เมื่อถามถึงเฟรมเวิร์คที่นักพัฒนารักที่สุด Svelte และ ASP.NET Core กลับได้ที่หนึ่งด้วยคะแนนเท่ากัน
ภาษาโปรแกรมมิ่งนั้น Rust ยังคงเป็นภาษาที่นันพัฒนารักที่สุดเป็นปีที่ 5 แต่เมื่อถามว่าต้องการใช้ภาษาใด ภาษาไพธอนก็ยังครองแชมป์เป็นปีที่ 6 น่าสนใจคือภาษา Go กลับตกลงไปเป็นอันดับสี่ และผลสำรวจความต้องการใช้งานใกล้เคียงกับ Rust แล้ว
ตัวฐานข้อมูล PostgreSQL ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของฐานข้อมูลที่นักพัฒนาต้องการใช้งานที่สุด แซงหน้า MongoDB เพียงเล็กน้อย แต่เมื่อถามถึงระบบฐานข้อมูลที่นักพัฒนารักที่สุดกลับเป็น Redis แซงหน้า PostgreSQL ไปเล็กน้อย
แนวโน้มเงินเดือนนักพัฒนาปีนี้สูงขึ้นค่อนข้างชัดเจน ตำแหน่ง SRE เพิ่มขึ้นเป็น 84,000 ดอลลาร์จาก 80,000 ดอลลาร์ ตำแหน่ง DevOps Specialist เพิ่มเป็น 70,264 ดอลลาร์จาก 68,000 ดอลลาร์ ตำแหน่ง Full-Stack Developer เพิ่มเป็น 56,038 ดอลลาร์จาก 54,000 ดอลลาร์ (ทั้งหมดเป็นค่า median ของผู้ที่ตอบผลสำรวจ)
ที่มา - Stack Overflow |
# Grab รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2021 ก่อนเข้าตลาดหุ้น NASDAQ
Grab รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2021 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารในขั้นตอนการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น NASDAQ ผ่านวิธี SPAC โดยให้ Altimeter Growth Corp. เข้ามาซื้อกิจการ
บริษัทมียอดขายสุทธิ (GMV - Gross Merchandise Value) 3,644 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2020 บันทึกเป็นรายได้ 216 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 652 ล้านดอลลาร์ จำนวนผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มที่มีการใช้จ่ายใน 1 เดือน (MTU - Monthly Transacting Users) 23.8 ล้านบัญชี
ธุรกิจเดลิเวอรีมี GMV เพิ่มขึ้น 49% ส่วนบริการรถโดยสารมี GMV คิดเป็น 64% ของปี 2020
ที่มา: Grab |
# Apple ปรับเว็บไซต์ใหม่ เพิ่มหัวข้อ Store สำหรับการเลือกซื้อสินค้าโดยเฉพาะ
แอปเปิลได้ปรับปรุงเว็บไซต์ Apple.com ใหม่ โดยมีสิ่งเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือเพิ่มหัวข้อ Store (ร้าน) ในแถบด้านบนสุด ซึ่งเป็นหน้าของการเลือกซื้อสินค้าโดยเฉพาะ และมีการปรับหน้าตาใหม่
ในอดีตแอปเปิลมีส่วนของ Apple Online Store แยกโดเมนออกมาโดยเฉพาะ ส่วนตัวเว็บไซต์แอปเปิลเป็นการนำเสนอสินค้าเพียงอย่างเดียว และมีการปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อปี 2015 โดยไม่มีส่วนของ Store โดยเฉพาะ แต่เพิ่มปุ่ม Buy แทรกในหน้ารายละเอียดของสินค้าแทน
ในหน้า Store แบบใหม่นี้มีเนื้อหาหลายส่วนตั้งแต่สินค้าใหม่ ที่แสดงแบบ carousel ปัดดูตามแนวนอน ส่วนของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอรายละเอียด การเปรียบเทียบ จนถึงโปรโมชันต่าง ๆ ทั้งนี้ปุ่ม Buy ในหน้ารายละเอียดสินค้าก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม
ที่มา: MacRumors |
# [ไม่ยืนยัน] เอกสารหลุดระบุกูเกิลไล่พนักงานออกทุกปี เพราะเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เว็บ Motherboard อ้างถึงรายงานภายในของกูเกิลที่หลุดออกมา ระบุถึงอัตราการไล่พนักงานออกเนื่องจากเข้าถึงหรือใช้งานข้อมูลไม่ถูกต้อง จำนวน 18 คนในปี 2018, 26 คนในปี 2019, และ 36 คนในปี 2020
เฉพาะปี 2020 นั้น พนักงานถูกไล่ออกเพราะความผิดด้านความปลอดภัย เช่น การส่งเอกสารความลับออกไปนอกบริษัท จำนวน 31 คน ประมาณ 4 คนเป็นความผิดฐานใช้ข้อมูลของผู้ใช้หรือพนักงานไม่ถูกต้อง
การไล่ออกเป็นมาตรการระดับร้ายแรงที่กูเกิลลงโทษพนักงาน โดยพนักงานอาจถูกลงโทษเบากว่า เช่น ตักเตือน, หรือต้องเข้าฝึกการใช้ข้อมูลใหม่ โฆษกของกูเกิลระบุว่าการไล่ออกส่วนใหญ่เป็นความผิดจากการใช้ข้อมูลความลับของบริษัท ส่วนข้อมูลผู้ใช้นั้นถูกจำกัดเฉพาะคนที่จำเป็นต้องเข้าถึงเท่านั้นอยู่แล้ว และการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นต่ำมากไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่
ข่าวกูเกิลไล่พนักงานออกเนื่องจากแอบเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้นั้นมีไม่บ่อยนัก ครั้งที่เป็นข่าวใหญ่ที่สุดคือปี 2010 ที่กูเกิลไล่ David Barksdale ออกจากบริษัทฐานเข้าถึงอีเมลและแชตของผู้เยาว์ 4 คน โดยครั้งนั้นกูเกิลระบุว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งที่สองของบริษัท
ที่มา - Vice
ภาพโดย gabrielle_cc |
# Sony ไตรมาสล่าสุด ภาพรวมโต 15% จาก PS5 และธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์
Sony รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2021 ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 2.257 ล้านล้านเยน และมีกำไรสุทธิ 2.12 แสนล้านเยน
กลุ่มธุรกิจเกมเป็นปัจจัยหลักของยอดขายและกำไร Sony ในไตรมาสที่ผ่านมา ยอดขายรวม 6.16 แสนล้านเยน (+2%) ซึ่งมาจาก PS5 เป็นหลัก Sony ยังคงตั้งเป้ายอดขาย PS5 ในปีแรกไว้ที่มากกว่า 14.8 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ PS4 ทำไว้ ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Sony ก็ได้ประกาศยอดขาย 10 ล้านเครื่อง
ตัวเลขในธุรกิจอื่นของ Sony กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น 59% จากยอดขายโทรทัศน์และกล้องดิจิทัล กลุ่มธุรกิจเซ็นเซอร์ถ่ายภาพ เพิ่มขึ้น 6% ธุรกิจเพลงเพิ่มขึ้น 44% และ Sony Pictures เพิ่มขึ้น 17%
ที่มา: Sony (pdf) |
# สหราชอาณาจักรอาจห้าม NVIDIA ซื้อ Arm จากข้อกังวลความมั่นคงและการผูกขาด
NVIDIA เริ่มดำเนินการซื้อ Arm บริษัทชิปสัญชาติอังกฤษเจ้าของสถาปัตยกรรม ARM ต่อจาก Softbank มูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2020 และดีลจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนปีนี้
แต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Oliver Dowden รัฐมนตรีว่าการดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อ และกีฬา ยื่นเรื่องต่อหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางธุรกิจและการค้า (Competition and Markets Authority) ว่าการซื้อบริษัทครั้งนี้เข้าข่ายมีปัญหาด้านการผูกขาดหรือข้อกังวลด้านความมั่นคงอื่นหรือไม่
รายงานนี้เสร็จสิ้นเบื้องต้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนที่เกี่ยวข้องกับวงสนทนานี้ระบุกับ Bloomberg ว่าคณะกรรมการพบข้อกังวลด้านความมั่นคงหลายประการ และเอนเอียงไปด้านที่จะระงับดีลนี้ โดยยังไม่มีการตัดสินใจเด็ดขาด และคงต้องมีการรีวิวต่อไป แต่ก็อาจจะอนุญาตให้ดีลเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขบางอย่างได้
อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กลายเป็นประเด็นทางการเมืองอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา หลังเหตุชิปขาดตลาดกระทบไปหลายอุตสาหกรรม ตัวอย่างหนึ่งคือการที่ TSMC กลายมาเป็นหนึ่งในบริษัทที่สำคัญของไต้หวัน จนได้รับอนุญาตให้เป็นผู้เจรจาซื้อวัคซีน Pfizer จากสหรัฐฯ แทนหน่วยงานรัฐ และปฏิเสธไม่ได้ว่าสหรัฐยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีการผลิตชิปของ TSMC อยู่มาก แม้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะกำลังพยายามอัดฉีดงบการผลิตชิปในประเทศมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาชิปขาดแคลน และลดการพึ่งพาฐานการผลิตและเทคโนโลยีต่างประเทศก็ตาม
Anand Srinivasan นักวิเคราะห์ของ Bloomberg Intelligence ระบุว่าหากดีลนี้ถูกหน่วยงานรัฐห้ามจริง ความสามารถในการครองตลาดชิปประมวลผลของ NVIDIA อาจลดลง แต่นักลงทุนก็ไม่ได้คาดหวังว่าดีลนี้จะสำเร็จอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะกระทบมูลค่าบริษัทมากนัก
ที่มา - Bloomberg |
# คนแห่คอมเม้นท์วิจารณ์ Windows 11 ใต้คลิปไมโครซอฟท์ ล่าสุดลบและปิดคอมเม้นท์แล้ว
อย่างที่ทราบกันว่าไมโครซอฟท์กำหนดฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำที่จะสามารถลงหรืออัพเกรด Windows 11 เป็นประเด็นที่ทำให้ไมโครซอฟท์ถูกวิจารณ์อย่างมาก
ล่าสุดเว็บไซต์ Notebook Check ไปเจอวิดีโอตัวหนึ่งของไมโครซอฟท์ Windows 11 upgrade paths and deployment tools มีคอมเม้นท์วิจารณ์เรื่อง Windows 11 มากมาย แต่ไมโครซอฟท์ลบ และปิดไม่ให้คอมเม้นท์แล้ว
Aria หนึ่งในกลุ่มพนักงานระดับผู้จัดการของไมโครซอฟท์ยอมรับในวิดีโอว่า เป็นสถานการณ์ที่แย่สำหรับลูกค้าที่ไม่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ แต่ทุกคนจะเพลิดเพลินไปกับการปรับปรุงสมรรถภาพ, ความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงาน
ปัจจุบัน Windows 11 รองรับ AMD Ryzen 2000 ขึ้นไป, Intel Core 8th Gen ขึ้นไป, Qualcomm Snapdragon 850, 7c, 8c, 8cx, Microsoft SQ1/SQ2 ซึ่งไมโครซอฟท์ให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัย
ตัววิดีโอดังกล่าวปิดไม่ให้คอมเม้นท์ และตอนนี้ก็มียอด dislike มากกว่ายอด like หลายเท่า
ที่มา - Notebook Check |
# ผู้บริหารกูเกิลให้สัมภาษณ์ ชิป Tensor อาจอยู่บนอุปกรณ์ AR เช่น smart glasses ในอนาคต
หลังอุปกรณ์ AR (augmented reality) ของบริษัทอย่าง Google Glass ไม่ประสบความสำเร็จกับผู้บริโภคทั่วไปนัก และ Google หยุดอัพเดต Google Glass Explorer ไปเมื่อปี 2019 แม้ยังมีอัพเดตเช่น Google Meet ให้กับลูกค้าองค์กรบ้าง แต่ Google ก็พูดถึงอุปกรณ์ชนิดนี้น้อยมาก
ล่าสุด หลัง Google เปิดเผยข้อมูลถึงชิป Tensor ผู้บริหาร Rick Osterloh ตำแหน่งรองผู้บริหารอาวุโสฝ่ายอุปกรณ์และบริการของ Google ก็ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider พูดถึงอุปกรณ์ AR อีกครั้ง ว่าก่อนหน้านี้เทคโนโลยียังไม่ล้ำหน้าเพียงพอที่จะซัพพอร์ตอุปกรณ์ประเภทนี้
เขาคิดว่าชิป Tensor น่าจะกลายเป็นรากฐานที่สำคัญของอุปกรณ์ AR ที่เน้นการประมวลผลแมชชีนเลิร์นนิ่ง เช่น การประมวลผลภาพถ่ายด้วยคอมพิวเตอร์ (computational photography) และการตอบสนองต่อเสียงพูด (speech recognition) และยังระบุว่าอุปกรณ์เช่น smart glasses จะมีประโยชน์กับ AR มากในอนาคต แต่ปัจจุบันมือถือน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้งาน AR มากที่สุด
แม้ไม่ได้มีการยืนยันอะไรมาก แต่มุมมองของ Osterloh ก็อาจสะท้อนมุมมอง Google ว่า Google Glass นั้นมาเร็วเกินไปในขณะที่เทคโนโลยียังไม่ถึงขั้น และเมื่อ Google มีชิปแบบคัสตอมของตัวเองอย่าง Tensor แล้ว ก็ยังมีความเป็นไปได้ในอนาคตที่ Google จะกลับมามอง smart glasses โดยผนวกชิปประมวลผลของตัวเองเข้ามาด้วย
ที่มา - Business Insider via 9to5Google |
# GitLab ออก Package Hunter เครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัยของ Dependency ที่ใช้
ประเด็นเรื่องความปลอดภัยของแพ็กเกจซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ที่ถูกใช้เป็น dependency ในโครงการต่างๆ กลายเป็นจุดสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ (ข่าวเก่าของ npm และ PyPI)
ล่าสุด GitLab ออกเครื่องมือตัวใหม่ชื่อ Package Hunter ช่วยสแกนหาช่องโหว่ความปลอดภัยของแพ็กเกจที่ใช้งานในโปรเจค
วิธีทำงานของ Package Hunter คือลองติดตั้งแพ็กเกจที่เราเรียกใช้จริงๆ ในสภาพแวดล้อม sandbox แล้วเฝ้าระวังดูว่ามีการเรียก system call อะไรบ้าง (การสแกนระบบใช้ Falco) ตอนนี้ยังรองรับเฉพาะแพ็กเกจของ Node.js และ Ruby Gems
การใช้งานผ่านระบบของ GitLab ต้องสร้างสร้างเทมเพลต CI แล้วเพิ่มงาน Package Hunter job ในโปรเจคต์ เพื่อเซ็ตเซิร์ฟเวอร์ Package Hunter ในการรันซอฟต์แวร์
GitLab ระบุว่าลองใช้งาน Package Hunter เป็นการภายในมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 เมื่อพร้อมแล้วก็เปิดให้คนภายนอกใช้งานด้วย ตัวโครงการเปิดเป็นโอเพนซอร์ส
ที่มา - GitLab |
# เซฟการบ้านไว้กลับมาทำต่อได้ Google Forms ให้ save draft ได้ บันทึกนาน 30 วัน
Google Forms เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่มีการเรียกร้องเข้ามาเยอะคือสามารถ save draft ได้ บันทึกได้นาน 30 วัน อำนวยความสะดวกในเวลาที่ต้องตอบคำถามยาว หรือทำการบ้าน สามารถทำค้างไว้ แล้วค่อยกลับมาทำต่อวันหลังได้
ตรงด้านบนสดของ Form จะมองเห็นเป็นข้อความ Saving ในระหว่างที่เรากรอกข้อมูล ฟีเจอร์นี้ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะนักเรียนที่ต้องทำการบ้านเยอะๆ หรือต้องสลับใช้งานอุปกรณ์ รวมถึงช่วยแก้ปัญหาเรื่องเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วย ให้การบ้านที่ทำค้างไว้ไม่หายไปเมื่อเน็ตล่ม
Google Forms จะตั้งค่า save draft เป็นค่าเริ่มต้น สามารถปิดใช้งานได้ด้วยวิธีไปที่เมนู Settings > Presentation > Restrictions และเลือก “Disable autosave for all respondents”
ที่มา - 9to5Google |
# Diablo Immortal ล่าเจ้าปีศาจภาคมือถือ เลื่อนวางจำหน่ายเป็นครึ่งปีแรกของปี 2022
Blizzard Entertainment ระบุว่าเกม Diablo Immortal เกมล่าเจ้าปีศาจภาคมือถือ ถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายเป็นภายในครึ่งปีแรกของปี 2022 แทน หลังเคยระบุในรายงานรายได้ประจำปีว่าเตรียมวางจำหน่ายภายในปี 2021
Diablo Immortal เปิดตัวในงาน BlizzCon 2018 พร้อมกับเสียงโห่จากแฟนๆ เดนตายที่รอภาคต่อมายาวนาน แต่กลับได้เกมมือถือแทน จนมีแฟนเกมคนหนึ่งถามในงานว่า “นี่มันเป็นมุก April Fools หลงฤดูหรือเปล่า?”
ตัวเกมทดสอบ Closed Beta ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และ Blizzard ระบุในประกาศล่าสุดว่าต้องเลื่อนวางจำหน่ายไปเป็นปี 2022 เพราะต้องปรับปรุงช่วงท้ายเกม ปรับระบบ PvP และเพิ่มการรองรับการเล่นผ่านคอนโทรลเลอร์
ประกาศนี้มีออกมาหลัง Activision Blizzard กำลังถูกฟ้องเรื่องการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน และผู้บริหารทั้งประธาน Blizzard และผู้บริหารฝ่าย HR ก็เพิ่งลาออกไปก่อนหน้านี้ อาจเป็นอีกสาเหตุของปัญหาที่ทำให้เกมล่าช้าได้
ที่มา - Blizzard |
# Jesse Meschuk ผู้บริหารฝ่าย HR ของ Blizzard ลาออกตามไปอีกคน
ดูเมื่อ Activision Blizzard จะสูญเสียทีมงานตำแหน่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด Jesse Meschuk ตำแหน่งรองผู้บริหารอาวุโสฝ่าย HR ของ Blizzard ลาออกไปอีกคน พร้อมกับลบบัญชีทวิตเตอร์ของตัวเองออก หลัง J. Allen Brack ประธาน Blizzard ลาออกไปเมื่อวานนี้
ฝ่าย HR ของ Blizzard ถูกระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน เพราะใกล้ชิดกับผู้กระทำ และเคยกล่าวกับพนักงานที่ร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาคุกคามทางเพศว่าให้ “ทนๆ เอาหน่อย” (suck it up) และบอกว่าผู้ร้องเรียน “ทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจ” (acting like a brat) รวมถึงเข้าข้างพนักงานที่คุกคามทางเพศ โดยให้ผู้ถูกกระทำเลือกย้ายแผนก หรือเลือกทำงานจากบ้านแทน และพูดกับเหยื่อเหมือนกับเป็นความผิดเหยื่อเอง (“...he says that you were really friendly with him.”)
วิกฤตครั้งนี้ของ Activision Blizzard น่าจะไม่จบง่ายๆ คงต้องติดตามต่อไปว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีกหรือไม่หลังจากนี้
ที่มา - The Verge |
# กูเกิลเปิดตัว Google Identity Services SDK ใหม่สำหรับล็อกอินด้วยบัญชีกูเกิล
กูเกิลประกาศรวม API ด้านการล็อกอินและยืนยันตัวตนหลายๆ ตัว (ที่กระจัดกระจาย) เข้าด้วยกันเป็นตัวเดียว ภายใต้ชื่อ Google Identity Services เพื่อให้นักพัฒนาเว็บ-แอพที่ต้องการเรียกใช้การล็อกอินผ่านบัญชีกูเกิล มี SDK เหลือเพียงตัวเดียวไม่ให้สับสน
ระบบล็อกอินภายใต้ Google Identity Services SDK มีด้วยกัน 2 วิธี ทั้งสองวิธีจะใช้ token ยืนยันตัวตนว่าล็อกอินกับบัญชีกูเกิลแล้วจริงๆ ไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
อย่างแรกคือปุ่ม Sign in with Google ที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว มันถูกปรับดีไซน์ใหม่ให้ชัดเจนขึ้น โดยจะแสดงชื่อ, อีเมล, ภาพโพรไฟล์ของผู้ใช้ในปุ่มด้วยเลย เพื่อให้รู้ว่าจะล็อกอินหน้าเว็บหรือแอพนั้น ด้วยบัญชีกูเกิลอันไหน
อย่างที่สองเป็นของใหม่เรียกว่า One Tap จะแสดงพรอมต์สำหรับล็อกอินในหน้าเว็บ-แอพนั้นๆ เลย ไม่ต้อง redirect ไปยืนยันที่หน้าเว็บของกูเกิลอีกรอบ (แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน) กระบวนการคือผู้ใช้กดปุ่ม Sign in หรือ Sing up บนเว็บ-แอพ จะเห็นป๊อปอัพ One Tap โผล่ขึ้นมา กด Continue แล้วก็ใช้งานเว็บหรือแอพได้เลย
กูเกิลบอกว่าการล็อกอินผ่าน Google Identity Services มีความปลอดภัยสูง มีระบบป้องกันการดักคลิก (click-jacking) หรือการตามรอยด้วยวิธี pixel-tracking ด้วย นอกจากนี้ การที่ระบบบัญชี Google Account มีระบบป้องกันสแปมหรือบัญชีปลอมอยู่แล้ว เว็บ-แอพที่รองรับการล็อกอินด้วยบัญชีกูเกิลก็จะลดภาระในการดูแลบัญชีสแปมในระบบลงได้
ตอนนี้เว็บใหญ่ๆ ที่เริ่มใช้ SDK ตัวใหม่แล้วคือ Reddit และ Pinterest
ที่มา - Google |
# WhatsApp เปิดใช้งาน View Once รูปภาพที่ส่งในห้องแชทจะหายไปเองเมื่อเพื่อนกดดูแล้ว
WhatsApp เปิดใช้งานโหมด View Once ส่งรูปภาพเข้าไปในห้องแชท โดยที่รูปจะหายไปเองเมื่อเพื่อนเปิดดูรูปแล้ว ไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บรูปภาพในเครื่อง
โดยผู้ใช้งานต้องกดที่เลข 1 ตามรูปภาพ ก่อนกดส่งเช้าห้องแชท เพื่อเป็นการเปิดโหมดใช้งาน View Once เมื่อเพื่อนเปิดดูแล้ว จะมีไอคอนแสดงใต้รูปภาพที่ส่งว่ามีการเปิดดูแล้ว
ที่มา - 9to5Mac |
# American Airlines ให้ผู้โดยสารใช้งาน TikTok บนเครื่องฟรี 30 นาที ดูแก้เบื่อระหว่างบิน
American Airlines เพิ่ม TikTok เป็นส่วนหนึ่งของความบันเทิงบนเครื่องบิน โดยผู้โดยสารสามารถเข้าใช้งาน TikTok ได้ฟรี 30 นาที
เริ่มจากผู้โดยสารเปิดใช้งานโหมดเครื่องบิน และเชื่อมต่อกับสัญญาณ AA-Inflight หลังจากนั้นระบบจะพาไปเชื่อมต่อ Wi-Fi ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้งาน TikTok ฟรีได้จากตรงนี้ หรือหากยังไม่ได้ดาวน์โหลด TikTok ก็สามารถดาวน์โหลดได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้งาน Wi-Fi เพิ่ม
ปีที่แล้ว American Airlines ก็เปิดให้ใช้งาน Facebook Messenger ฟรี ส่วนสายการบินอื่นอย่าง Southwest และ Delta ก็ให้ใช้งานแอปสนทนาฟรีด้วยเช่นกัน
ภาพจาก American Airlines Newsroom
ที่มา - CNET |
# Spotify ทดสอบ Spotify Plus จ่าย 1 ดอลลาร์ต่อเดือน ฟังเพลงกดข้ามได้ แต่ยังมีโฆษณา
Spotify มีทั้งรูปแบบใช้งานฟรีมีโฆษณาและพรีเมี่ยม ล่าสุดมีการทดสอบเพิ่มอีกทางเลือกคือ Spotify Plus จ่ายถูกกว่า ในราคา 0.99 ดอลลาร์ หรือราว 32 บาท ด้วยความสามารถที่ใกล้เคียงกับพรีเมี่ยม แต่ยังมีโฆษณาอยู่
Spotify Plus ไม่จำกัดจำนวนเพลงที่ผู้ฟังกดข้าม เลือกเพลงไหนขึ้นมาฟังก็ได้ ซึ่งรูปแบบฟังฟรีนั้นทำไม่ได้ โดยรูปแบบฟังฟรีจำกัดข้ามเพลงที่ 6 เพลงต่อชั่วโมง ไม่สามารถเลือกเพลงมาฟังได้อย่างอิสระ แต่เลือกเพลงมาฟังจากเพลย์ลิสต์ที่กำหนดให้เท่านั้น
Spotify ยืนยันการทดสอบ Spotify Plus จริง แต่ไม่ยืนยันว่าจะเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการหรือไม่
ที่มา - The Verge |
# Netflix ประกาศทำสารคดีภารกิจ Inspiration4 ของ SpaceX ไปพร้อมๆ กับภารกิจ
Netflix ประกาศสารคดี Countdown: Inspiration4 Mission To Space ติดตามภารกิจ Inspiration4 ที่เป็นภารกิจพลเรือนล้วนขึ้นสู่อวกาศไปกับยาน Dragon โดยตัวสารคดีจะฉายคร่อมไปกับตัวภารกิจที่น่าจะขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 15 กันยายนนี้
สารคดีมีทั้งหมด 5 ตอน สองตอนแรกจะฉายในวันที่ 6 กันยายน และอีกสองตอนจะฉายวันที่ 13 กันยายน ส่วนตอนสุดท้ายจะฉายสิ้นเดือนกันยายนหลังจบภารกิจ และวันที่ 14 กันยายนจะมีอนิเมชั่นเรื่อง A StoryBots Space Adventure ฉายคั่นโดยเป็นอนิเมชั่นสำหรับครอบครัวเล่าเรื่องภารกิจ Inspiration4 ตั้งแต่การทำงานของจรวด และการฝึกของนักบิน
ภารกิจ Inspiration4 จะขึ้นไปโคจรรอบโลกที่ความสูง 590 กิโลเมตรเป็นเวลา 5 วัน
Jared Isaacman ซีอีโอของบริษัท Shift4 Payment เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายสำหรับภารกิจนี้โดยไม่เปิดเผยมูลค่า และตอนนี้เขาใช้ภารกิจมาระดมทุนการกุศลให้กับโรงพยาบาลเด็ก St. Jude ตั้งเป้าระดมทุน 200 ล้านดอลลาร์ เริ่มจากตัวเขาเองบริจาค 100 ล้านดอลลาร์
ที่มา - Inspiration4 |
# Boeing เลื่อนยิงจรวดนำส่งยาน Starliner ก่อนยิงเพียงสองชั่วโมงครึ่ง
Boeing เลื่อนยิงตรวด Atlas-5 เพื่อนำส่งยาน Starliner ขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ แม้ว่าจะนับถอยหลังเหลือเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น แต่จะเตรียมยิงอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
ภารกิจยิงยาน Starliner แบบไร้คนขับเพื่อทดสอบยานของ Boeing เริ่มยิงครั้งแรกตั้งแต่ปลายปี 2019 แต่ภารกิจล้มเหลวโดยยานไม่สามารถขึ้นไปถึงวงโคจรได้ ทำให้ Boeing ต้องทำภารกิจทดสอบ OFT-2 ครั้งนี้ให้นาซ่าฟรี กระทบไปถึงตารางภารกิจนำส่งยานแบบมีมนุษย์อวกาศขึ้นไปด้วย จนกระทั่งนักบินลาออกจากตำแหน่งนักบินไปทำงานจัดการโครงการแทน
Boeing ได้สัญญานำส่งมนุษย์อวกาศไปยังสถานีอวกาศนานาชาติในโครงการ Commercial Crew พร้อมๆ กับ SpaceX โดยมูลค่าโครงการของฝั่ง Boeing นั้นแพงกว่ามาก แต่นาซ่ามีนโยบายไม่พึ่งบริษัทใดบริษัทหนึ่ง จึงทำสัญญากับทั้งสองบริษัทแม้ว่า Boeing จะแพงกว่าก็ตาม
ที่มา - BBC |
# Alibaba ไตรมาสล่าสุด รายได้รวมโต 34%
Alibaba รายงานผลประกอบการของไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน 2021 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 34% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 31,865 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 6,991 ล้านดอลลาร์ ตามบัญชีแบบ GAAP
Alibaba มีจำนวนลูกค้าที่มีการใช้งานบนแพลตฟอร์มรวม 1.18 พันล้านคน ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้ 45 ล้านคน
ข้อมูลในส่วนธุรกิจการค้า เทศกาลลดราคา 6.18 ที่ผ่านมา Alibaba กล่าวว่ามีร้านค้าเข้ารวมเพิ่มมากกว่าเท่าตัวจากปีก่อน, ไฮเปอร์มาร์เก็ต Sun Art มีคำสั่งซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้น 28% บริการ O2O Ele.me มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 50% และ Lazada มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 90%
ธุรกิจคลาวด์ของ Alibaba มีรายได้เพิ่มขึ้น 29% เป็น 2,486 ล้านดอลลาร์ ส่วนธุรกิจสื่อดิจิทัลและความบันเทิง รายได้เพิ่มขึ้น 15% เป็น 1,250 ล้านดอลลาร์
ที่มา: Alibaba (pdf) |
# CNCF รายงานอัตราการ commit โครงการในความดูแล: Kubernetes เริ่มใกล้ลินุกซ์, OpenTelemetry และ Argo มาแรง
CNCF องค์กรผู้ดูแลโครงการโอเพนซอร์สที่เกี่ยวข้องกับ Kubernetes รายงานถึงการสำรวจอัตราการพัฒนาซอฟต์แวร์โครงการต่างๆ ภายใต้ความดูแลของ CNCF โดยสำรวจจากมิติของอัตราการ commit, อัตราการส่ง pull request (PR), และจำนวนนักพัฒนาที่เข้าร่วมในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา
โครงการหลักของ CNCF คือ Kubernetes นั้นนำห่างในทุกมิติ โดยอัตราการพัฒนาเข้าใกล้ลินุกซ์ มีนักพัฒนาร่วมพัฒนาประมาณ 4,300 คนแต่จำนวน commit และ PR ยังน้อยกว่ามาก
โครงการที่เติบโตเร็วขึ้นขึ้นมาคือ OpenTelemetry ชุดเครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลทั้งล็อกและค่ามาตรวัดต่างๆ ของซอฟต์แวร์ และ ArgoCD ซอฟต์แวร์ continuous delivery ยอดนิยม อีกโครงการที่มีการพัฒนาในระดับใกล้กันคือ Envoy ที่เป็น service proxy ที่ใช้งานในบริการ service mesh ยอดฮิตอย่าง Istio
ทาง CNCF สังเกตว่าโครงการ Rust ซึ่งไม่ได้อยู่ใน CNCF นั้น การพัฒนาก็ค่อนข้างคึกคักขึ้นมากเช่นกัน โดยเป็นไปในแนวทางเดียวกับโครงการใน CNCF ที่เริ่มนิยม Rust มากขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา - CNCF |
# NSA, CISA ออกคู่มือการเพิ่มความปลอดภัยให้ Kubernetes
NSA และ CISA ออกคู่มือแนะนำการเสริมความปลอดภัย (hardening) ให้ Kubernetes หหลังจากคลัสเตอร์ Kubernetes ตกเป็นเป้าโจมตีมากขึ้น ตั้งแต่ความพยายามขโมยข้อมูล, หรือแฮกเพื่อขุดเงินคริปโต
คำแนะนำโดยทั่วไปคล้ายกับแนวทางการคอนฟิกเสริมความปลอดภัยอื่นๆ โดยมีหลัก 7 ประการได้แก่
สแกนคอนเทนเนอร์หาช่องโหว่หรือการคอนฟิกผิดพลาด
รันคอนเทนเนอร์โดยให้สิทธิ์น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
แยกเน็ตเวิร์คแต่ละส่วนออกจากกัน
ใช่ไฟร์วอลล์เพื่อป้องกันการเชื่อมต่อที่ไม่ต้องการ และเข้ารหัสการเชื่อมต่อ
ยืนยันตัวตนผู้ใช้ด้วยระบบที่แข็งแกร่ง และจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้เท่าที่จำเป็น
เก็บล็อกสำหรับตรวจสอบการทำงานเสมอ
รีวิวคอนฟิกเป็นช่วงๆ เพื่อลดความเสี่ยง
คำแนะนำลงรายละเอียดค่อนข้างมาก ระบุแนวปฎิบัติที่ดีสำหรับการคอนฟิก ทั้งการเขียน Dockerfile, การคอนฟิก Pod, การคอนฟิกไฟร์วอลล์, และการเปิดใช้งาน audit policy
ที่มา - NSA |
# Z Holdings บริษัทเจ้าของ LINE รายงานผลประกอบการไตรมาส รายได้รวมโต 36%
Z Holdings บริษัทโฮลดิ้งเจ้าของ Yahoo! Japan และ LINE Corporation รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2021 รายได้รวมทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้น 36% จากปีก่อนเป็น 3.73 แสนล้านเยน และมีกำไร EBITDA 8.63 หมื่นล้านเยน
เฉพาะธุรกิจของ LINE ไตรมาสนี้รายได้เพิ่มขึ้น 20.8% เป็น 7.05 หมื่นล้านเยน และมีกำไรจากการดำเนินงาน 7.6 พันล้านเยน
Z Holdings แบ่งธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่ม หลังรวมธุรกิจของ LINE เข้ามา มีดังนี้
ธุรกิจสื่อ (Media) รายได้รวมโต 96% จากทั้งโฆษณาบน Yahoo! Japan และ LINE
ธุรกิจการค้า (Commerce) ได้แก่ธุรกิจ Shopping, Reuse และ ASKUL รายได้รวมเพิ่มขึ้น 12%
ธุรกิจกลยุทธ์ (Strategic) ได้แก่ธุรกิจฟินเทค LINE Pay และ PayPay รายได้รวมโต 35%
รายงานผลประกอบการนี้ยังพูดถึง LINE ประเทศไทย ว่ามีจำนวนผู้ใช้งาน DAUs 38 ล้านบัญชี และ MAUs 50 ล้านบัญชี
ที่มา: Z Holdings |
# HotPlay สตาร์ทอัพไทยแพลตฟอร์มโฆษณาในเกม ควบรวมกิจการและเข้าตลาดหุ้น Nasdaq ในชื่อ NextPlay
HotPlay สตาร์ทอัพจากไทย ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโฆษณาผ่านเกม ประกาศรวมกิจการกับ Monaker Group Inc. และนำบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้น Nasdaq ภายใต้ชื่อใหม่ NextPlay Technologies โดยมีตัวย่อในการซื้อขาย NXTP
จุดเด่นของ NextPlay คือเทคโนโลยีด้านโฆษณา (AdTech) ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มรูปแบบต่าง ๆ ทั้งทีวีดิจิทัล แพลตฟอร์มการท่องเที่ยว เกม ฟินเทค จนถึงคริปโตเคอเรนซี่ และมีซีอีโอคือคุณนิธินันท์ บุญวัฒนพิศุทธิ์
คุณนิธินันท์กล่าวว่า การควบรวมกิจการในครั้งนี้ทำให้เกิดการร่วมมือทางยุทธศาสตร์ เพื่อเชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่าง ๆ ด้านสื่อบันเทิงและฟินเทคเข้าด้วยกัน และจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่สำคัญในอุตสาหกรรม
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์ |
# AIS ไตรมาส 2/2564 รายได้เติบโต 1.2% ยังรักษาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแย่
AIS ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2564 รายได้ 42,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ที่เริ่มได้ผลกระทบจาก COVID-19) มีกำไร 23,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
แยกหมวดรายได้ดังนี้
รายได้จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ 29,098 ล้านบาท ลดลง 1.5% จากปีก่อน จากปัจจัย COVID-19 ระลอกใหม่ และการแข่งขันด้านราคาที่กลับมารุนแรงขึ้น
รายได้จากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2,038 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน โดยรายได้เฉลี่ยต่อหัว (ARPU) ลดลงเพราะลูกค้านิยมสมัครแพ็กเกจราคาต่ำ
รายได้จากบริการอื่นๆ 1,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เช่น บริการคลาวด์ ความปลอดภัย บริการ ICT
รายได้จากการขายเครื่องและซิม 7,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% จากปีก่อนที่อยู่ในช่วงปิดเมืองรอบแรก แต่ลดลง 27% จากไตรมาสก่อน
AIS ระบุว่าควบคุมต้นทุนค่าการตลาดได้ลดลง 23% จากปีก่อน สุดท้ายมีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ที่ 23,006 ล้านบาท (+3.2%), กำไรจากการดำเนินงาน 9,613 ล้านบาท (+2.3%), และกำไรสุทธิ 7,041 ล้านบาท (+0.6%) ถือว่าดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ภาพรวมก็ค่อนข้างทรงตัว จากภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยการระบาดของ COVID-19 ทำให้ AIS คาดว่าตัวเลขรายได้ทั้งปี 2564 จะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย
AIS ยืนยันว่ายังจะลงทุนในเครือข่าย 5G ต่อไปแม้เศรษฐกิจชะลอตัว โดยตั้งงบลงทุนในปี 2564 ที่ 25,000-30,000 ล้านบาท
ตัวเลขอื่นที่น่าสนใจ
จำนวนผู้ใช้บริการ 43.2 ล้านราย เพิ่มขึ้น 5.4% จากปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 1.1% จากไตรมาสก่อน
รายได้ต่อเลขหมาย (ARPU) อยู่ที่ 225 บาท ลดลง 6.2% จากปีก่อน
ปริมาณข้อมูลเฉลี่ยต่อเลขหมาย 19.7GB ต่อเดือน เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน
มือถือ 4G มีสัดส่วนเป็น 80% ของมือถือทั้งหมดในระบบแล้ว (ปีที่แล้ว 75%)
ลูกค้า 5G มีจำนวนเกิน 1 ล้านรายแล้ว ตั้งเป้าปีนี้ 2 ล้านราย
จำนวนลูกค้าไฟเบอร์ 1.535 ล้านราย เติบโต 28% จากปีก่อน
ความเคลื่อนไหวสำคัญในไตรมาส 2 คือ จับมือเป็นพันธมิตรคลาวด์กับไมโครซอฟท์ และ Disney+ Hotstar
ที่มา - AIS (PDF) |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.