txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# Elon Musk บอก Tesla จะเปิดสถานีชาร์จให้รถยี่ห้ออื่นใช้ ไม่เป็นคุกกระจกแบบแอปเปิล
เราเห็น Elon Musk ออกมาวิจารณ์แอปเปิลอยู่เรื่อยๆ (ข่าวเก่าปี 2018) ล่าสุดในงานแถลงผลประกอบการของ Tesla ไตรมาส 2/2021 เขาตอบคำถามนักวิเคราะห์ โดยพาดพิงถึงแอปเปิลใน 2 ประเด็น
ประเด็นแรกเป็นเรื่องแบตเตอรี่ เขาพูดถึงประเด็นที่แอปเปิล (และบริษัทไอทีอื่นๆ) ใช้โคบอลต์ในแบตเตอรี่สินค้าต่างๆ และถูกวิจารณ์ว่าซัพพลายเออร์ของแอปเปิลกดขี่แรงงานในเหมืองโคบอลต์ โดย Musk บอกว่า Tesla แทบไม่ใช้โคบอลต์เลย ถ้าให้เทียบต่อน้ำหนักเฉลี่ย แอปเปิลใช้โคบอลต์ 100% ในขณะที่ Tesla ใช้ 2% เท่านั้น
ประเด็นที่สอง Musk วิจารณ์แอปเปิลเรื่องเป็น "สวนที่มีกำแพงล้อม"/"คุกกระจก" (walled garden) โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง App Store ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักในช่วงนี้ เขาพูดถึงการเปิดสถานีชาร์จของ Tesla ให้รถจากบริษัทคู่แข่งเข้ามาใช้งาน โดยบอกว่าเป้าหมายของเขาคือผลักดันการใช้พลังงานที่ยั่งยืน ไม่ใช่การสร้างสวนที่มีกำแพงล้อมเพื่อกำจัดคู่แข่ง แบบที่บางบริษัททำ ก่อนจะแกล้งไอแล้วบอกว่า "แอปเปิล"
ที่มา - CNBC, ภาพจาก Elon Musk Instagram |
# MediaTek เปิดตัวชิป Kompanio 1300T สำหรับแท็บเล็ตที่รองรับ 5G ในตัว
MediaTek ออกชิป SoC ซีรีส์ Kompanio รุ่นใหม่ที่เน้นใช้งานกับแท็บเล็ตและ Chromebook ที่รองรับ 5G โดยชิปรุ่นใหม่ Kompanio 1300T ใช้กระบวนการผลิต 6nm TSMC มีสเปกดังนี้
ซีพียู 8 คอร์ Arm Cortex-A78 x4 + Cortex-A55 x4
จีพียู 9 คอร์ Arm Mali-G77
รองรับ 5G ในตัว ครบทั้ง 5G sub-6GHz, 5G-2CA และรองรับ 5G สองซิม
รองรับการแสดงผลความละเอียด 2.5K อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz, HDR10+, ตัวถอดรหัส AV1 ในตัว
รองรับการประมวลผลกล้องหลายตัว สูงสุด 108MP, ถ่ายวิดีโอ 4K 60fps
ฟีเจอร์ด้าน AI สำหรับประมวลผลเสียงโดยใช้พลังงานต่ำ
ฟีเจอร์ HyperEngine 3.0 ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านเล่นเกม
MediaTek บอกว่าแท็บเล็ตที่ใช้ Kompanio 1300T จะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาส 3 ของปี 2021 ซึ่งก็น่าจะทยอยเปิดตัวกันในเร็วๆ นี้
ที่มา - MediaTek |
# YouTube แบนคลิปของ Jair Bolsonaro ประธานาธิบดีบราซิล ให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับ COVID-19
YouTube แบนวิดีโอของ Jair Bolsonaro ประธานาธิบดีบราซิลจำนวน 15 คลิป ด้วยเหตุผลว่าผิดกฎของแพลตฟอร์ม เนื่องจาก Bolsonaro โพสต์วิดีโอที่ให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับ COVID-19 เช่น วิธีการรักษาโรคที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์
YouTube ยังบอกว่าหาก Bolsonaro โพสต์วิดีโอที่ผิดกฎอีก บัญชีของเขาจะโดนแบน 1 สัปดาห์ และถ้าทำผิดซ้ำๆ ก็จะแบนบัญชีอย่างถาวร ปัจจุบันช่องของ Bolsonaro มีผู้ติดตามประมาณ 3.44 ล้านคน
ช่วงหลังเราเห็นข่าวแพลตฟอร์มโซเชียลที่แบนเนื้อหาจากนักการเมืองหรือผู้นำประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างกรณีของ Donald Trump ที่เคยถูกแบนบน YouTube เช่นกัน
ที่มา - Vice |
# Master & Dynamic เปิดตัว MW08 Sport หูฟัง True Wireless ใหม่ ปรับดีไซน์เล็กน้อย พร้อมเคสชาร์จไร้สาย
Master & Dynamic เปิดตัวหูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ MW08 Sport รุ่นต่อยอดจาก MW08 โดยรวมดีไซน์ยังคงคล้ายเดิมแต่ปรับแต่งชิ้นส่วนบางอย่างเพื่อให้เข้ากับการใช้งานออกกำลังกาย
สำหรับตัว MW08 Sport ทาง Master & Dynamic เลือกใช้กระจกแซฟไฟร์แทนที่เซรามิกเดิม ซึ่งจะช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น และยังป้องกันการแตกละเอียดได้ดี ตัวหูฟังกันน้ำและเหงื่อตามมาตรฐาน IPX5 เหมาะสำหรับการออกกำลังกายแบบสมบุกสมบัน ซึ่ง Master & Dynamic ใส่ ear tips เป็นโฟมมาให้ 2 คู่ และแบบซิลิโคนอีก 5 คู่
ส่วนเคส Master & Dynamic ออกแบบใหม่ เปลี่ยนจากสแตนเลสสตีลแบบเงามาเป็น Kevlar แทน ซึ่งตัวเคสสามารถกันน้ำและเงื่อได้ตามมาตรฐาน IPX4 และรองรับระบบชาร์จไร้สาย
ในด้านของสเปคของตัวหูฟังยังคงคล้ายเดิม ได้แก่ ใช้งานฟังเพลงต่อเนื่องได้ 10 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC หรือ 12 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC ส่วนเคสชาร์จขยายได้ระยะเวลาใช้งานได้อีก 30 ชั่วโมง มีโหมดตัดเสียงรบกวนและโหมดฟังเสียงรอบข้าง มีอะคูสติคไดรเวอร์เป็น 11mm Beryllium เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.2
Master & Dynamic วางจำหน่าย MW08 Sport ในราคา 349 ดอลลาร์ หรือราว 11,500 บาท มีให้เลือก 4 สี คือดำ, ขาว, น้ำเงิน หรือเขียว และมีแท่นชาร์จไร้สาย 10 วัตต์จำหน่ายที่ราคา 69 ดอลลาร์ หรือราว 2,300 บาท มีให้เลือก 2 สี คือเทาและดำ
ที่มา - Master & Dynamic The Verge |
# ซีอีโอ Activision Blizzard ขอโทษเรื่องคดีทางเพศ, พนักงานเตรียมวอล์คเอาท์ประท้วง
รวมความเคลื่อนไหวของกรณี Activision Blizzard ถูกฟ้องจากประเด็นการคุกคามทางเพศพนักงาน ที่ยืดเยื้อมาเกือบหนึ่งสัปดาห์
ล่าสุด Bobby Kotick ซีอีโอของ Activision Blizzard เขียนจดหมายขอโทษพนักงานแล้ว ที่ปฏิกิริยาของบริษัทในช่วงแรกดูไม่สนใจเรื่องนี้ (ปฏิเสธคำฟ้องว่าไม่มีปัญหาเรื่องคุกคามทางเพศ) เขาบอกว่าตอนนี้ฝ่ายบริหารได้ยินปัญหานี้อย่างชัดเจนแล้ว และจะรีบแก้ปัญหาเพื่อให้สภาพแวดล้อมการทำงานของบริษัทปราศจากการกลั่นแกล้ง ดูถูก หรือปฏิบัติต่อกันอย่างไม่เท่าเทียม
Kotick ยังให้ข้อมูลว่าจ้างบริษัทกฎหมายภายนอกเข้ามาตรวจสอบนโยบายของบริษัทแล้ว และถ้าพนักงานคนใดมีปัญหาเรื่องการถูกคุกคาม สามารถแจ้งไปยังบริษัทกฎหมายเพื่อให้ข้อมูลโดยไม่ต้องกลัว
ฝั่งเกม World of Warcraft ก็ประกาศถอดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกจากเกม โดยเกม WoW มีตัวละคร NPC ชื่อ Afrasiabi ซึ่งนำมาจาก Alex Afrasiabi หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของ WoW ที่มีเอี่ยวในคดีฟ้องร้องว่ามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศกับพนักงานหญิงของบริษัท
ด้านพนักงานของ Activision Blizzard ประกาศว่าจะประท้วงโดยการ "วอล์คเอาท์" เดินออกจากที่ทำงานพร้อมกันในเวลางาน วันนี้ (28 ก.ค.) ตามเวลาสหรัฐ
ที่มา - VentureBeat, World of Warcraft, Kotaku, Bloomberg |
# TikTok เพิ่มฟีเจอร์เพื่อครีเอเตอร์ ตั้งเวลาเพื่อโปรโมทไลฟ์, กรองคำที่ไม่ต้องการ, LIVE Q&A
TikTok เพิ่มฟีเจอร์และลูกเล่นใหม่ๆ ในไลฟ์หลายตัว เริ่มจากครีเอเตอร์ตั้งปฏิทิน Live Event เพื่อโปรโมทคลิปที่กำลังจะไลฟ์ แฟนๆ สามารถกดลงทะเบียนเพื่อไม่พลาดการแจ้งเตือนได้, LIVE Q&A เปิดให้แฟนๆ ถามคำถามระหว่างไลฟ์ และโฮสต์เลือกคำถามขึ้นมาตอบระหว่างไลฟ์ได้ง่าย
เพิ่มความสามารถ Picture-in-Picture ระหว่างไลฟ์ คนดูสามารถดูไลฟ์และทำอย่างอื่นบนมือถือไปพร้อมกันได้ด้วย, Go LIVE Together ไลฟ์ทีเดียว 2 บัญชีได้, เพิ่มฟิลเตอร์กรองคำที่ไม่ต้องการบนไลฟ์ รวมถึงเพิ่มคนอื่นเข้ามาช่วยดูและจัดการบล็อกผู้ใช้งานที่พิมพ์คอมเม้นท์ด้วยคำที่ไมาเหมาะสม
ที่มา - TikTok |
# Twitter เริ่มทดสอบแบนเนอร์แจ้งผู้ใช้หากบัญชีถูกล็อกหรือระงับถาวร
Twitter เริ่มทดสอบแสดงแบนเนอร์สำหรับแจ้งเตือนผู้ใช้ที่ทำผิดกฎของบริษัทจนบัญชีถูกล็อกหรือระงับถาวร เพื่อประกาศให้ผู้ใช้รับทราบสถานะของบัญชีตัวเอง
สำหรับผู้ใช้ Twitter กรณีบัญชีถูกล็อก จะแจ้งผู้ใช้ว่าหลังจากตรวจสอบสอบแล้วพบว่าบัญชีผิดกฎของ Twitter ดังนั้นบัญชีจึงเข้าสู่โหมดอ่านอย่างเดียวชั่วคราว ผู้ใช้ไม่สามารถทวีต, รีทวีต หรือไลค์ได้ ส่วนมากจะได้รับการคืนสถานะเข้าใช้งานเต็มรูปแบบภายใน 1 สัปดาห์ แต่บางกรณีอาจนานกว่านั้น
ส่วนกรณีบัญชีถูกระงับถาวร Twitter จะแจ้งผู้ใช้ว่าหลังจากตรวจสอบสอบแล้วพบว่าบัญชีผิดกฎของ Twitter ดังนั้นบัญชีจึงเข้าสู่โหมดอ่านอย่างเดียวเป็นการถาวร ผู้ใช้ไม่สามารถทวีต, รีทวีต หรือไลค์ได้ รวมถึงไม่สามารถสร้างบัญชีใหม่ได้ด้วย ถ้าผู้ใช้ยืนยันว่าการโดนแบนไม่ถูกต้อง สามารถยื่นเรื่องได้ พร้อมแนบลิงก์ยื่นเรื่องมาให้ในแบนเนอร์
โฆษกของ Twitter ระบุว่า ทางแพลตฟอร์มเริ่มทดสอบฟีเจอร์นี้เพราะผู้ใช้แจ้งมาว่ากว่าจะรับทราบว่าบัญชีอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียวก็คือหลังจากพยายามทวีตหรือติดตามบัญชีใหม่เท่านั้น ซึ่งแบนเนอร์นี้จะแสดงเหนือสุดของฟีด ตอนนี้กำลังทดสอบกับผู้ใช้ Twitter ในกลุ่มผู้ใช้บน iOS, Android และเว็บ
ที่มา - The Verge |
# Apple ไตรมาสล่าสุด เติบโตสูง รายได้จากการขาย iPhone เพิ่มขึ้น 50%
แอปเปิลรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 26 มิถุนายน 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 36% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 81,434 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดประจำไตรมาสเดือนมิถุนายน และมีกำไรสุทธิ 21,744 ล้านดอลลาร์
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลกล่าวว่าในไตรมาสนี้ ทีมงานยังคงส่งมอบนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้งาน บนช่วงเวลาที่เทคโนโลยีมีบทบาทต่อผู้คนมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แอปเปิลยังมองไปข้างหน้าเพื่อสร้างคุณค่าที่เท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างนักพัฒนารุ่นใหม่ จนถึงเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมในปี 2030
ยอดขายของแอปเปิลเติบโตสูงระดับสองหลักในทุกกลุ่มสินค้า โดย iPhone เพิ่มขึ้น 49.8% เป็น 39,570 ล้านดอลลาร์, ธุรกิจ Service เพิ่มขึ้น 33% เป็นสถิติใหม่สูงสุดอีกไตรมาสที่ 17,486 ล้านดอลลาร์, กลุ่ม Wearables และอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 40% เป็น 8,775 ล้านดอลลาร์, Mac เพิ่มขึ้น 16% 8,235 ล้านดอลลาร์ และ iPad เพิ่มขึ้น 12% เป็น 7,368 ล้านดอลลาร์
มีประเด็นเพิ่มเติมที่น่าสนใจจากช่วงแถลงผลประกอบการ โดยซีอีโอ Tim Cook และซีเอฟโอ Luca Maestri ดังนี้
จำนวนลูกค้าที่จ่ายเงิน subscription ผ่านแพลตฟอร์มของแอปเปิลมีมากกว่า 700 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าจาก 4 ปีก่อน
กลุ่มสินค้า Wearable ยังเติบโตดี จากไลน์สินค้าใหม่ที่เพิ่มมาอย่าง Apple TV 4K ตัวใหม่ และ AirTag
ยอดขาย Mac ยังเติบโตสูง จากรุ่นที่เป็นชิป M1
มากกว่าครึ่งหนึ่งของลูกค้า Apple Watch, Mac และ iPad ในไตรมาสที่ผ่านมา เป็นลูกค้าใหม่
ปัญหาซัพพลายการผลิตในไตรมาสปัจจุบันสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะใน iPad และ Mac
ปัญหาชิปขาดแคลนยังมีอยู่ แต่จะกระทบกับไลน์สินค้ารุ่นเก่ามากกว่า
ยอดขาย iPhone ในหลายประเทศทำสถิติสูงสุดของไตรมาสมิถุนายน
ที่มา: แอปเปิล และ MacRumors |
# Instagram ตั้งบัญชีผู้เยาว์ต่ำกว่า 16 ปีเป็น private, ปรับเงื่อนไขโฆษณาเจาะกลุ่มวัยรุ่นยากขึ้น
Instagram เพิ่มฟังก์ชั่นปกป้องผู้เยาว์หลายอย่าง โดยผู้ใช้งานอายุไม่เกิน 16 ระบบจะตั้งค่าบัญชีให้เป็นบัญชี private เป็นค่าตั้งต้น เท่ากับว่าเจ้าของบัญชีกำหนดได้ว่า ใครที่สามารถเห็นรูปของเราและคอมเม้นท์รูปของเราได้บ้าง รูปและวิดีโอของเจ้าของบัญชีผู้เยาว์จะไม่ปรากฏใน Explore และแฮชแท็กด้วย
ส่วนผู้ใช้งานเด็กๆ คนอื่น ที่ตั้งค่าบัญชีของตัวเองให้เป็น public ระบบจะแสดงคำแจ้งเตือน และประโยชน์ต่างๆ จากการตั้งค่าบัญชีเป็น private ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
Instagram บอกด้วยว่าได้พัฒนาเทคโนโลยีตัวหนึ่ง ที่จะไม่แนะนำบัญชีหรือรูปและวิดีโอของผู้เยาว์ให้ปรากฏใน Explore, Reels และ Accounts Suggested For You ไม่สามารถค้นหาชื่อบัญชีโดยตรงได้ รวมถึงไม่สามารถมองเห็นคอมเม้นท์ของเด็กๆ ตามโพสต์อื่นๆ ได้ด้วย ฟังก์ชั่นนี้จะเริ่มเปิดตัวในสหรัฐฯ, ออสเตรเลีย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น
การทำโฆษณาบน Instagram, Facebook, Messenger จะไม่สามารถกำหนดเป้าหมายไปที่วัยรุ่นได้โดยตรง แต่จะถูกจำกัดให้กำหนดเป้าหมายโฆษณาตามอายุ เพศ และสถานที่ของวัยรุ่น ซึ่งแตกต่างจากตัวเลือกที่มีอยู่ก่อนหน้านี้อย่างกิจกรรมที่ผู้ใช้อาจสนใจ
ที่มา - Instagram, Gizmodo |
# Microsoft ไตรมาสล่าสุด เติบโตทุกกลุ่มธุรกิจ ภาพรวมโต 21%
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 46,152 ล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงาน 19,095 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 42% และกำไรสุทธิ 16,458 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 47%
ซีอีโอ Satya Nadella กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่ออกมา แสดงให้เห็นว่าไมโครซอฟท์ได้มีบทบาทช่วยทุกธุรกิจ เพื่อนำเทคโนโลยีจากทุก Tech Stack มาใช้ในงานต่าง ๆ มากขึ้น เมื่อธุรกิจเติบโต บริษัทก็เติบโตแบบที่เห็นในธุรกิจคลาวด์ บริษัทยังขยายแนวทางนี้ไปยังธุรกิจอื่นอย่าง เกม ความปลอดภัย และ LinkedIn ซึ่งทั้งสามธุรกิจต่างมีรายได้ต่อปีสูงกว่าระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว
ตัวเลขผลการดำเนินงานที่น่าสนใจมีดังนี้
กลุ่มธุรกิจ Productivity and Business Processes รายได้เพิ่มขึ้น 25% เป็น 14,691 ล้านดอลลาร์ เฉพาะ Office 365 Commercial เพิ่มขึ้น 25%
Microsoft 365 Consumer มีจำนวนผู้สมัครใช้งานเพิ่มขึ้น 51.9 ล้านบัญชี
LinkedIn รายได้เพิ่มขึ้น 46% จาก Marketing Solutions ที่โต 97%
กลุ่มธุรกิจ Intelligent Cloud รายได้เพิ่มขึ้น 30% เป็น 17,375 ล้านดอลลาร์ เฉพาะ Azure เพิ่มขึ้น 51%
กลุ่มธุรกิจ More Personal Computing รายได้เพิ่มขึ้น 9% เป็น 14,086 ล้านดอลลาร์
Windows Commercial รายได้เพิ่มขึ้น 20%
Surface ยอดขายลดลง 20% ซึ่งไมโครซอฟท์บอกว่าสาเหตุจากปัญหาซัพพลายเชน
ที่มา: ไมโครซอฟท์ และ The Verge |
# HP ซื้อกิจการ Teradici ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ Remote Desktop
HP ประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ Teradici บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านรีโมทคอมพิวติ้ง โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของดีลดังกล่าว ซึ่ง HP จะนำมาเสริมกับกลุ่มธุรกิจ Personal Systems
Alex Cho ประธานกลุ่มธุรกิจ Personal Systems ของ HP กล่าวว่าเทคโนโลยีของ Teradici มีจุดเด่นด้านความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการแสดงผล ถูกนำมาใช้งานร่วมกับผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ทุกราย
HP ให้ข้อมูลน่าสนใจว่าตลาดซอฟต์แวร์ Remote Desktop มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 17% และจากการทำงานแบบไฮบริดที่มากขึ้น ทำให้ 67% ของคนทำงานต้องใช้ซอฟต์แวร์รีโมทอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
ที่มา: HP |
# Alphabet รายงานผลประกอบการไตรมาส YouTube โต 84% Google Cloud โต 54%
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2021 มีรายได้เพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 61,880 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 18,525 ล้านดอลลาร์
ซีเอฟโอ Ruth Porat กล่าวว่ารายได้ที่เติบโตสูงนี้ สะท้อนการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้น และการซื้อโฆษณาที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมาจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมของทีมงาน
ตัวเลขที่น่าสนใจของ Alphabet มีดังนี้
รายได้ โฆษณา YouTube เพิ่มขึ้น 84% เป็น 7,002 ล้านดอลลาร์
รายได้ Google Cloud เพิ่มขึ้น 54% เป็น 4,628 ล้านดอลลาร์ ขาดทุนเฉพาะส่วนนี้ 591 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจใหม่ Other Bets 192 ล้านดอลลาร์ ขาดทุนเฉพาะส่วนนี้ 1,398 ล้านดอลลาร์
Philipp Schindler หัวหน้าฝ่ายธุรกิจของกูเกิลให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การรับชม YouTube ผ่านโทรทัศน์ เป็นส่วนที่มีการเติบโตเร็วที่สุด มีคนดู YouTube ผ่านทีวีมากกว่า 120 ล้านคนต่อเดือน ส่วนวิดีโอสั้น YouTube Shorts มีคนดูมากกว่า 15,000 ล้านครั้งต่อเดือน
ที่มา: Alphabet และ CNBC |
# AMD ไตรมาส 2/2021 รายได้เติบโตสูงอีกไตรมาส จากทุกกลุ่มธุรกิจ
AMD รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 99% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 12% ถ้าเทียบกับไตรมาส 1/2021 เป็น 3,850 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 710 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Lisa Su กล่าวว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตรวดเร็วกว่าภาพรวมตลาด จากความต้องการสินค้าที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่ม บริษัทยังประเมินภาพรวมตลอดปีนี้ ว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 60%
รายได้ของกลุ่ม Computing and Graphics เพิ่มขึ้น 65% เป็น 2,250 ล้านดอลลาร์ มาจากยอดขายทั้งซีพียูและจีพียู ที่มีราคาต่อหน่วย (ASP) เพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่ม Enterprise, Embedded และ Semi-Custom เพิ่มขึ้น 183% เป็น 1,600 ล้านดอลลาร์ จากยอดขายของ Semi-Custom และ EPYC
ที่มา: AMD |
# PowerToys ได้รับอัพเดตเพิ่ม Awake ช่วยป้องกันเครื่องเข้าโหมด sleep ชั่วคราว
ไมโครซอฟท์อัพเดตเวอร์ชัน 0.41.x PowerToys ชุดโปรแกรมอรรถประโยชน์บน Windows โดยครั้งนี้ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง Awake เข้ามาเพื่อช่วยให้สามารถสั่งไม่ให้คอมพิวเตอร์เข้าสู่โหมด sleep เป็นการชั่วคราว ทำให้ไม่คอยต้องเข้าไปเปลี่ยนแปลงค่า power plan ภายใต้ settings ของ Windows หากต้องการให้โหมด sleep กลับมาทำงานเป็นปกติ
Awake ยังมาพร้อมตัวเลือกป้องกันการเข้าสู่โหมด sleep ถึงสองแบบ คือเลือกให้เครื่องตื่นตลอดเวลาจนกว่าผู้ใช้จะสั่งปิดการใช้ awake ด้วยตัวเอง หรือจะกำหนดเวลาที่ต้องการให้เครื่องตื่นและกลับมา sleep ตามปกติภายหลังจากนั้นก็ทำได้ และยังสามารถสั่งให้เปิดหน้าทิ้งไว้ตลอดเวลาได้ด้วย
ภาพตัวอย่างฟีเจอร์ Awake จากเว็บ Microsoft Docs
การปรับปรุงในส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจพอสรุปได้ดังนี้
Shortcut guide เปลี่ยนจากกดปุ่ม Windows ค้างไว้ เป็น Windows + ? แทน
PowerToys Run
เพิ่มตัวช่วยแปลงหน่วยสามารถสั่งงานได้ผ่านการพิมพ์ %% ขึ้นต้น ตัวอย่างเช่น %% 10 ft in m เพื่อแปลงค่า 10 ฟุตเป็นหน่วยเมตร
เพิ่มตัวช่วยค้นหา settings ของ Windows สั่งงานได้ผ่านการพิมพ์ $ ตามด้วยการตั้งค่าที่ต้องการค้นหา เช่น $ Add/Remove Programs
เพิ่มคำสั่งเปิดเว็บเบราว์เซอร์อย่างรวดเร็วผ่านการพิมพ์ //
ปรับปรุงเครื่องคิดเลขให้ใช้เครื่องหมาย % เพื่อคำนวณ modulo ได้
ท่านใดสนใจเข้าไปดาวน์โหลดตัวติดตั้ง PowerToys (ยังเป็นเวอร์ชันทดลอง) ได้จากหน้า Release ของโปรเจ็กต์บน GitHub ครับ
ที่มา - หน้า GitHub ของ PowerToys via MSPoweruser |
# Sony เปิดตัว ZV-E10 กล้อง Mirrorless ขนาดเล็กเน้นถ่ายวิดีโอ จับกลุ่ม vlogger
Sony เปิดตัว ZV-E10 กล้อง Mirrorless ขนาดเล็ก เป็นกล้องรุ่นแรกในกลุ่ม Sony Alpha ที่จับตลาด vlogger โดยตัวกล้องจะใช้ฐานจากรุ่น A6100 ซึ่งเป็นกล้องรุ่นเริ่มต้นของ Sony Alpha มาใส่ฟีเจอร์สำคัญสำหรับการถ่ายวิดีโอ vlog เพิ่มเข้าไป
สเปคของตัวกล้อง ZV-E10 ใช้เซนเซอร์ APS-C Exmor CMOS 24.3 ล้านพิกเซล พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ BIONZ X พร้อมรองรับฟีเจอร์อัดวิดีโอ 4K 3840x2160 และถ่ายวิดีโอโหมด Slow Motion 120 เฟรมต่อวินาทีที่ Full HD มีโหมดกันสั่นเพื่อให้วิดีโอที่บันทึกออกมามีความสมูทขณะเดินถือกล้องถ่ายด้วยมือ พร้อมทำงานร่วมกับระบบโฟกัสอัตโนมัติ Fast Hybrid AF, Real-time Eye AF และ Real-time Tracking รวมถึงระบบบันทึกเสียงคุณภาพสูง
ส่วนฟีเจอร์สำคัญสำหรับ vlog เช่น Background Defocus สามารถปรับระหว่างแบคกราวน์ชัดและเบลอได้แบบสมูท, Product Showcase Setting โหมดสำหรับเปิดให้กล้องปรับโฟกัสโดยอัตโนมัติจากหน้าของคนหลักในกล้องมาเป็นวัตถุที่ไฮไลต์ได้
ตัวกล้องของ ZV-E10 มีน้ำหนักเบาเพียง 343 กรัม จอหลังกล้องเป็นแอลซีดีแบบปรับหมุนได้ ซึ่งจะปรับเป็นโหมดประหยัดพลังงานเมื่อปิดจอ และเปิดกล้องกลับมาเมื่อหมุนจอออกมาใช้งาน มีพอร์ต USB-C ที่สามารถชาร์จไฟได้ รองรับการไลฟ์สตรีมเป็นระยะเวลานาน ๆ, Wi-Fi สำหรับการถ่ายโอนไฟล์ภาพและวิดีโอ
สำหรับ ZV-E10 มีสองสีให้เลือกคือดำและขาว โดย Sony กำหนดราคาจำหน่ายสำหรับบอดี้อย่างเดียวอยู่ที่ 700 ดอลลาร์ หรือราว 23,000 บาท หรือบอดี้พร้อมเลนส์คิท E PZ 16-50mm F3.5-5.6 OSS อยู่ที่ 800 ดอลลาร์หรือราว 26,000 บาท
อัพเดต 28 กรกฎาคม 17:49: Sony ประเทศไทยเปิดราคามาแล้ว โดยราคาพรีออร์เดอร์บอดี้พร้อมเลนส์คิท 16-50mm อยู่ที่ 23,990 บาท
ที่มา - dpreview, Engadget |
# Discord เพิ่มคุณสมบัติ Threads สำหรับคุยแยกประเด็นใหม่ ในห้องสนทนาเดิม
Discord ประกาศเพิ่มคุณสมบัติใหม่ Threads เพื่อให้การสนทนาโดยเฉพาะประเด็นที่อาจไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหลักของห้อง ดำเนินต่อไปได้ภายในห้องนั้น ๆ โดย Threads จะถูกเก็บ (archived) ออกไปจากห้อง หากไม่มีการสนทนาต่อใน 24 ชั่วโมง
การสร้าง Thread ทำได้โดยไปที่ข้อความที่ต้องการขยายต่อประเด็นสนทนา เลือกปุ่ม # และสร้าง Thread พร้อมกำหนดหัวเรื่องขึ้นมา ซึ่งจะแสดงเป็นส่วนย่อยของห้องสนทนานั้น สำหรับห้องที่เป็น Level 2 จะสามารถสร้าง Private Threads ได้ด้วย
ฟีเจอร์ Threads เริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานแล้วในทุกแพลตฟอร์ม
ที่มา: Discord |
# HappyFresh รับเงินทุนซีรี่ส์ D เพิ่มอีก 65 ล้านดอลลาร์
HappyFresh แอปส่งสินค้าอุปโภค-บริโภค ประกาศรับเงินเพิ่มทุนซีรี่ส์ D 65 ล้านดอลลาร์ นำโดยกลุ่มนักลงทุนได้แก่ Naver Financial Corporation และ Gafina B.V. รวมทั้งนักลงทุนเดิม Mirae Asset-Naver Asia Growth และ Z Venture Capital
ก่อนหน้านี้ HappyFresh รับเงินทุนซีรี่ส์ C ไป 20 ล้านดอลลาร์ ในปี 2019
HappyFresh เป็นสตาร์ทอัพจากอินโดนีเซีย ปัจจุบันให้บริการใน 3 ประเทศคือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย บริษัทกล่าวว่าจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ทราฟิกการใช้งานเพิ่มขึ้น 10-20 เท่าตัว เงินทุนใหม่นี้จะนำมาใช้ขยายส่วนการดำเนินงานต่าง ๆ
ที่มา: TechCrunch |
# Box เปิดตัวบริการลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ Box Sign
บริษัทคลาวด์สตอเรจ Box เปิดตัวบริการลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ของตัวเองในชื่อ Box Sign อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการซื้อ SignRequest เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาและนำมาเชื่อมต่อกับระบบของตัวเอง
Box Sign เน้นจับกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจและองค์กรเป็นหลัก โดยลูกค้าที่ใช้งานแพลน Business และ Enterprise อยู่แล้วจะสามารถใช้ฟีเจอร์ Box Sign ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และบริการ Box Sign จะอินทิเกรตเข้ากับระบบ Box โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือจากบุคคลที่สามอีกต่อไป
Diego Dugatkin ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Box ระบุว่า ทุกวันนี้ธุรกรรมกระดาษที่ทำมือย้ายมาเป็นคลาวด์มากขึ้นทุกวัน และ Box มองว่าเทรนด์นี้กำลังเติบโตด้วยความเร่งไปพร้อม ๆ กับบริษัทที่เปลี่ยนไปเป็นการทำงานแบบไฮบริด
ฟีเจอร์หลักของ Box Sign เช่น
ส่งเอกสารเพื่อให้เซ็นอิเล็กทรอนิกส์ได้ทันทีจาก Box ไปหาใครก็ได้แม้จะไม่มีบัญชี Box
รองรับระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานของ Box และ compilance profile เช่น HIPAA, SOC, ISO, FedRAMP และอื่น ๆ
อินทิเกรตกับ Box for Salesforce ลูกค้าสามารถสร้างและส่ง NDA, สัญญา และเอกสารอื่น ๆ ได้โดยตรงจาก Salesforce
Box Sign API สำหรับเชื่อมต่อกับบริการอื่น ๆ
ตอนนี้ Box Sign จะเปิดให้ใช้งานแล้วกับผู้ใช้งานแพลน Business และ Enterprise ก่อน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และในปีนี้จะให้ผู้ใช้แพลน Starter ใช้ฟีเจอร์นี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
นอกจาก Box Sign แล้ว Box ยังเปิดตัวแพลนใหม่ด้วยในชื่อว่า Enterprise Plus ที่รวม add-on ตัวสำคัญของบริษัททั้งหมด ทั้ง Box Shield, Box Governance, Box Relay, Box Platform และ Box Sign
ที่มา - Box, BusinessWire, TechCrunch |
# Logitech ไตรมาสล่าสุด ยอดขายเติบโตสูงทั้งกลุ่มเกมมิ่ง และสินค้าสำหรับประชุมทางวิดีโอ
Logitech รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2022 (เมษายน-มิถุนายน) ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 66% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 1,312 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 186.8 ล้านดอลลาร์
ยอดขายแยกตามประเภทสินค้ามีการเติบโตสูงเกือบทุกหมวด โดยสินค้ากลุ่มเกมมิ่งเพิ่มขึ้น 76% กลุ่มสินค้าสำหรับประชุมทางวิดีโอเพิ่มขึ้น 72% และเว็บแคมสำหรับพีซีเพิ่มขึ้น 73%
Bracken Darrell ซีอีโอ Logitech กล่าวว่ายอดขายในกลุ่มสินค้าสำคัญของบริษัทต่างเติบโตระดับเลขสองหลัก ซึ่งสะท้อนความต้องการของตลาดทั้งกลุ่มเกมมิ่ง วิดีโอสตรีมมิ่ง งานความคิดสร้างสรรค์ เพื่อรองรับการทำงานแบบไฮบริด และการใช้งานวิดีโอในทุกที่
ที่มา: Logitech (pdf) |
# Disney+ Hotstar อินเดียทำแพ็กเกจดูบนมือถือ ราคาแค่ 220 บาทต่อปี
Disney+ Hotstar ในอินเดียเพิ่มแพ็กเกจดูบนมือถือ สำหรับคนที่ไม่มีจอใหญ่ และอยากประหยัดเงิน โดยราคาอยู่ที่ 499 รูปีต่อปี หรือเพียง 220 บาทเท่านั้น ตัวแพ็กเกจมีผลวันที่ 1 กันยายนนี้
ความละเอียดบนมือถือสูงสุดที่ HD นอกจากเนื้อหาออริจินัลแล้ว ยังได้ดูรายการในเครือข่ายอย่าง HBO, FX, Showtime รวมถึงการแข่งขันกีฬาอย่าง Indian Premier League (IPL), English Premier League, F1 เป็นต้น
สำหรับคู่แข่งอื่นในอินเดียก็ทำแพ็กเกจมือถือในอินเดียเหมือนกัน อย่าง Netflix คิดราคา 99 บาทต่อเดือน Amazon Prime ราคา 40 บาทต่อเดือน
ที่มา - The Next Web |
# 1Password ผู้ทำโปรแกรมจัดการรหัสผ่านระดมทุนเพิ่ม 100 ล้านดอลลาร์ มูลค่าบริษัททะลุ 2 พันล้านดอลลาร์แล้ว
บริษัททำโปรแกรมจัดการรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญ 1Password ระดมทุนเพิ่ม 100 ล้านดอลลาร์ นำการระดมทุนโดยบริษัทลงทุน Accel จนตอนนี้ 1Password มีมูลค่าบริษัท 2 พันล้านดอลลาร์แล้ว
ตัวแพลตฟอร์มให้ผู้ใช้จัดเก็บรหัสผ่านได้ และสามารถลงชื่อเข้าใช้บริการออนไลน์ต่างๆ ได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว 1Password ยังสามารถใช้เก็บเอกสารที่เป็นความลับได้ด้วย
ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา 1Password เปิดตัวโซลูชั่นใหม่หลายอย่าง ทั้ง Secrets Automation เครื่องมือสำหรับจัดการรหัสผ่านและสิทธิการเข้าถึง สำหรับลูกค้าระดับองค์กร, API ใหม่สำหรับทีมงานด้านความปลอดภัย และการเปิดตัวรุ่นลินุกซ์เต็มรูปแบบ
Jeff Shiner ซีอีโอ 1Password เผยว่า มีปัจจัยที่ผลักดันให้บริษัทสนใจการจัดการรหัสผ่านมากขึ้น ตอนนี้ธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กถูกบังคับให้ต้องทำงานระยะไกล บริษัทส่วนใหญ่ที่เคยชินกับสำนักงานแบบรวมศูนย์ ต้องสนับสนุนอุปกรณ์ให้พนักงานซึ่งอาจใช้งานบนเครือข่ายที่ไม่ปลอดภัย ต้องใช้เครื่องมือ SaaS มากมายเพื่อให้ทำงานต่อได้ ทำให้ต้องใช้รหัสผ่านหลายตัวเพื่อเข้าใช้งาน
ที่มา - Venture Beat |
# AIS จับมือ IBM เปิดบริการให้คำปรึกษาด้านโอเพนซอร์สกับลูกค้าองค์กรไทย
AIS Business ประกาศความร่วมมือกับ IBM Thailand เปิดบริการ Open Source Support Service ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สสำหรับลูกค้าองค์กรในไทย
บริการนี้เป็นการให้คำปรึกษาด้านโอเพนซอร์สในภาพรวม ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่ระบุชื่อคือ MongoDB, Kubernetes, Red Hat OpenShift ซึ่งไม่น่าแปลกใจนัก เพราะ IBM ยุคใหม่มี OpenShift เป็นศูนย์กลาง
ผมสอบถามไปยัง AIS ได้ข้อมูลว่าบริการนี้จะซัพพอร์ตลูกค้าในไทย บนคลาวด์ยี่ห้อใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้คลาวด์ของ AIS แต่ AIS จะถือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศรายแรกที่มีบริการให้คำปรึกษาด้านโอเพนซอร์สเต็มรูปแบบ
ที่มา - AIS |
# แบงค์ชาติออกแนวทางการใช้บล็อคเชนกับบริการทางการเงิน ระบุหากใช้เครือข่ายสาธารณะต้องขอเป็นรายกรณี
ธนาคารแห่งประเทศไทยออกแนวปฏิบัติการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ในการให้บริการทางการเงิน วางกรอบแนวทางภาพรวม เช่น การรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย, ความปลอดภัยของ smart contract ไปจนถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
เอกสารระบุถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้บล็อคเชนไว้หลายด้าน เช่น การโจมตีที่ตัว Smart Contract เอง, การโจมตีด้วยการขโมยกุญแจ, หรือโจมตีที่กระบวนการ consensus ของฐานข้อมูล จากนั้นระบุแนวทางการจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ด้วยการ ออกแบบระบบให้ปลอดภัย มีการทดสอบความปลอดภัยโดยบุคคลภายนอก รวมถึงการตรวจสอบความปลอดภัยของโค้ด smart contract และการสำรองข้อมูล สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต้องเก็บไว้นอกบล็อคเชน (off-chain)
สำหรับผู้ให้บริการทางการเงินที่ต้องการใช้บล็อคเชนแบบปิด (private chain) นั้นสามารถทำตามแนวทาง regulatory sandbox หรือร่วมกับธุรกิจตามกรอบ own sandbox เพื่อทดสอบก่อนให้บริการในวงกว้าง แต่สำหรับการใช้บล็อคเชนสาธารณะ (public chain) นั้นต้องหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นรายกรณี
ที่มา - Bank of Thailand |
# จีนสั่งห้าม WeChat รับผู้ใช้ใหม่ ระบุต้องอัพเกรดความปลอดภัย
ทางการจีนสั่งให้ Tencent ผู้ให้บริการแอป WeChat หยุดรับสมัครผู้ใช้ใหม่โดยทันที โดยระบุว่าบริษัทต้องอัพเกรดความปลอดภัยให้ได้มาตรฐานรัฐบาลเสียก่อน
ตอนนี้ WeChat แจ้งผู้ใช้ว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนผู้ใช้ใหม่อีกครั้งภายในต้นเดือนสิงหาคม
บริการ WeChat นับเป็นบริการใหญ่ มีผู้ใช้ถึงพันล้านคน ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนเข้ามาควบคุมธุรกิจของ Tencent หลายอย่าง เช่น การเข้าซื้อบริษัทสตรีมเกม หรือการเซ็นสัญญาลิขสิทธิ์เพลง
ที่มา - TechCrunch |
# รู้จัก Fully Homomorphic Encryption (FHE) วิธีเข้ารหัสที่ประมวลผลได้ โดยไม่ต้องถอดรหัส
ช่วงหลังเราเริ่มเห็นการเข้ารหัสแบบ Fully Homomorphic Encryption (FHE) กันมากขึ้น เช่น ข่าวโครงการ DPRIVE ของ DARPA ที่จับมือกับภาคเอกชนหลายรายเพื่อพัฒนาชิปเฉพาะกิจ ช่วยให้ประมวลผล FHE ได้เร็วกว่าเดิม
FHE เป็นการปฏิวัติวิธีคิดเรื่องการเข้ารหัส (encryption) แบบเดิมๆ ที่ใช้กันมาเป็นพันปี (Caesar cipher)
แนวคิดของการเข้ารหัสแบบดั้งเดิมมีไว้เพื่อปกป้องสารที่อยู่ภายในไม่ให้คนอื่นเข้าใจ ทั้งในระหว่างจัดเก็บ (storage) และขนส่ง (transport) แต่เมื่อรหัสถูกส่งถึงปลายทาง จะต้องถอดรหัส (decrypt) กลับมาเป็นข้อความเดิมที่ไม่ได้เข้ารหัส (plaintext) เพื่อนำไปประมวลผล (compute) ต่อ
แนวคิดของ FHE คือการเข้ารหัสด้วยโมเดลทางคณิตศาสตร์ ที่สามารถนำไปประมวลผลต่อได้โดยไม่ต้องถอดรหัสก่อน เท่ากับว่าในกระบวนการทั้ง 3 (storage, transport, compute) ข้อความจะถูกเข้ารหัสอยู่ตลอดเวลา ประโยชน์ของมันคือการใช้งานวิเคราะห์ข้อมูลบางอย่าง ภายใต้เงื่อนไขว่าไม่ต้องการให้รู้ข้อมูลสำคัญที่เก็บอยู่ภายใน เช่น ข้อมูลทางการเงินหรือสุขภาพของบุคคล
FHE เป็นไอเดียที่ถูกพูดถึงในโลกคอมพิวเตอร์มาหลายสิบปีแล้ว แต่มาเป็นจริงได้ครั้งแรกในปี 2009 โดย Craig Gentry นักวิจัยของ IBM Research ในตอนนั้น เสนออัลกอริทึม FHE (ตัวอัลกอริทึมค่อนข้างซับซ้อน ใครสนใจอ่านได้จาก เปเปอร์ของ Gentry ตีพิมพ์ใน ACM เมื่อปี 2009)
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของ FHE คือการประมวลผลต้องใช้เวลานานมาก อัลกอริทึมต้นฉบับของ Gentry ต้องใช้เวลาประมวลผลนานถึง 30 นาทีต่อ 1 bit operation ทำให้ในทศวรรษถัดมา โลกคอมพิวเตอร์จึงพัฒนาเทคนิคการเข้ารหัส FHE แบบใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น Brakerski-Gentry-Vaikuntanathan (BGV) ที่ร่วมพัฒนาโดยตัว Gentry เอง หรือ Cheon-Kim-Kim-Song (CKKS) จากทีมของมหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซล ที่ใช้เรื่องตัวเลขประมาณ (approximate number) มาช่วยให้ไม่ต้องแปลรหัสแบบแม่นยำมากนัก แต่ลดระยะเวลาทำงานลงได้
เนื่องจากโจทย์ของวงการ FHE ต้องหาจุดสมดุลระหว่างความปลอดภัยกับความเร็วในการใช้งาน จึงต้องยอมให้ใช้ข้อมูลประมาณการณ์แทน เมื่อบวกกับพลังการคำนวณที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา แนวทางใหม่ๆ ของโลก FHE ยุคหลังคือใช้ machine learning มาช่วยอ่านข้อมูลของข้อความที่เข้ารหัสแล้ว เพื่อพยากรณ์ผลที่เป็นไปได้แบบยอมรับได้
ข้อมูลของ IBM ตอนนี้ระบุว่าเราสามารถประมวลผล 1 บิตโดยใช้เวลาหลัก "วินาที" (seconds) ได้แล้ว ซึ่งเร็วกว่าในอดีตมาก และเริ่มพอใช้งานได้จริงสำหรับการใช้งานบางประเภทแล้ว
IBM ในฐานะบ้านเกิดของ FHE ก็ผลักดันเรื่องนี้มาตลอด โดยออกไลบรารี HElib เป็นโอเพนซอร์ส มารองรับการเข้ารหัส FHE ทั้งแบบ BGV และ CKKS รวมถึงยังมี FHE Toolkit ที่รวมเอา HElib และเครื่องมืออื่นๆ ในฝั่ง ML ให้นักพัฒนาที่สนใจ FHE สามารถนำข้อมูลตัวอย่างไปบีบอัดและทดสอบของจริงได้
ตัวอย่างการใช้งาน FHE ของ IBM คือการตรวจสอบว่ามีการโกง (fraud) บัตรเครดิต โดยใช้ข้อมูลตัวอย่างของรายการธุรกรรมต่างๆ นำมาเข้ารหัสแบบ FHE แล้วนำไปประมวลผลว่ามี fraud จริงหรือไม่ โดยไม่ต้องถอดรหัสข้อมูลชุดนี้ออกมา
ในแง่บริการทางไอที IBM ก็เปิดบริการชื่อ Homomorphic Encryption Services เป็นบริการย่อยของ IBM Security ซึ่งรวมบริการด้าน ML และการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญเข้ามา
ข้อมูลเพิ่มเติม
IBM Helps Prepare Clients for Next Generation Encryption Technology |
# ธุรกิจรับจ้างผลิตชิป Intel Foundry Services มีลูกค้า 2 รายแล้ว Qualcomm และ AWS
เมื่อต้นปีนี้ อินเทลประกาศแผน IDM 2.0 เปิดโรงงานของตัวเองรับผลิตชิปให้คนอื่น ในงานแถลงข่าวของอินเทลเมื่อคืนนี้ บริษัทเปิดชื่อลูกค้าแล้ว 2 รายคือ Qualcomm และ AWS
Qualcomm ซึ่งปัจจุบันใช้บริการโรงงานของ TSMC ผลิตชิป Snapdragon ระบุว่าสนใจเทคโนโลยีการผลิต 20A ระดับอังสตรอมของอินเทล ที่จะเริ่มผลิตจริงในปี 2024
ส่วนกรณีของ Amazon ที่ช่วงหลังออกแบบชิป Graviton ของตัวเอง ก็ระบุว่าจะใช้เทคโนโลยีด้านแพ็กเกจชิปที่เพิ่งเปิดตัว แต่ก็ไม่บอกว่าตัวไหนและช่วงเวลาใด
นอกจาก Qualcomm และ AWS แล้ว อินเทลยังเคยบอกว่าพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตชิปรถยนต์ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่ามีบริษัทใดบ้าง
ที่มา - Intel |
# อินเทลเปิดแผนเทคโนโลยีแพ็กเกจชิป ระยะห่างขาต่ำกว่า 10 ไมครอนภายในปี 2023
ในงาน Intel Accelerate วันนี้นอกจากการประกาศแผนเทคโนโลยีการผลิตชิปแล้ว อินเทลยังประกาศแผนแพ็กเกจแยกจากกัน โดยวางแผนการลดระยะห่างระหว่างขา (bump pitch) ให้ลดลงไปจนถึงระดับต่ำกว่า 10 ไมครอนภายในปี 2023 (ไมครอนคือ 1 ใน 1000 ของมิลลิเมตร) โดยเทคโนโลยีที่อยู่ในแผนได้แก่
EMIB (embedded multi-die interconnect bridge) เทคโนโลยีแพ็กเกจตั้งแต่ปี 2017 แต่ในชิปเซิร์ฟเวอร์ Sapphire Rapids จะใช้ EMIB รุ่นต่อไป ที่ลดระยะห่างระหว่างขาจาก 55 ไมครอนเหลือ 45 ไมครอน
Foveros อินเทลระบุว่าจะมีแนวทางการเรียงชิปแบบ 3 มิติแบบใหม่ และลดระยะห่างระหว่างขาเหลือ 36 ไมครอน ซีพียูสำหรับไคลเอนต์ Meteor Lake จะใช้เทคโนโลยีนี้
Foveros Omni เทคโนโลยีเชื่อมชิปในแพ็กเกจได้อิสระขึ้น โดยชิปด้านบนสามารถเชื่อมกับชิปด้านล่างได้หลายชิป รวมถึงสามารถเชื่อมกับชิปที่เทคโนโลยีการผลิตต่างกัน คาดว่าจะเริ่มผลิตได้จริงในปี 2023
Foveros Direct เชื่อมระหว่างชิปโดยมีความต้านทานต่ำจนแทบทำงานได้เหมือนเป็นชิปเดียวกัน ระยะห่างระหว่างขาเหลือต่ำกว่า 10 ไมครอน คาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2023 เช่นกัน
ในการแถลงข่าวครั้งนี้มี AWS ประกาศว่าจะใช้เทคโนโลยีแพ็กเกจของอินเทลเป็นรายแรก โดยไม่ได้ระบุชัดเจนว่าใช้เทคโนโลยีใด
ที่มา - Intel |
# The Coalition สตูดิโอเจ้าของ Gears of War โชว์เดโมแสดงพลังกราฟิก Unreal Engine 5
The Coalition สตูดิโอในสังกัดไมโครซอฟท์ เจ้าของซีรีส์ Gears of War โชว์คลิปเดโม 2 คลิปที่แสดงพลังของเอนจิน Unreal Engine 5 ตัวใหม่ของ Epic Games บน Xbox Series X
เดโมตัวแรกชื่อ "Alpha Point" มีความยาวสั้นๆ เพียง 1 นาที เน้นที่กราฟิก โดยเฉพาะเรื่องแสง dynamic lighting & reflection แบบเรียลไทม์
ส่วนเดโมที่สองเป็นการทดสอบเรนเดอร์ตัวละครด้วย UE5 ที่เห็นรายละเอียดของผิวหนัง เส้นขน ผม หนวดเครา เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย อย่างสมจริง
เมื่อเดือนพฤษภาคม The Coalition เพิ่งประกาศว่ากำลังทำเกมใหม่ด้วย UE5 แต่ไม่ให้รายละเอียดว่าเป็นเกมอะไร แต่นับจากปี 2014 เป็นต้นมา สตูดิโอ The Coalition ทำเฉพาะเกมในซีรีส์ Gears of War เพียงอย่างเดียว ไม่เคยทำเกมอื่นเลย |
# ทวงบัลลังก์มือถือถึกทน Nokia เปิดตัว XR20 ทนกระแทก 6 ฟุต ราคา 18,000 บาท
Nokia กลับมาทวงบัลลังก์มือถือถึกทนทาน เปิดตัว XR20 ตกจากพื้นสูง 6 ฟุตได้ แม้ไม่ใส่เคส มาพร้อมกระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass Victus ที่อ้างกันว่าทนทานต่อการขีดข่วนมากกว่าหน้าจอสมาร์ทโฟนทั่วไป 4 เท่า ราคาอยู่ที่ 550 ดอลลาร์ หรือราว 18,000 บาท
HMD บริษัทแม่ Nokia ยังบอกด้วยว่า XR20 ได้รับการทดสอบให้ทำงานในอุณหภูมิสูง 131 องศาฟาเรนไฮต์หรือต่ำถึง -4 องศา สามารถทนการจมน้ำ 5 ฟุตได้ 1 ชั่วโมง
ด้านสเปกอื่นๆ ของ XR20 คือจอแสดงผล 6.67 นิ้ว 2400 x 1080, ชิป Snapdragon 480 5G, RAM 6GB, พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB และช่องเสียบการ์ด microSD กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 MP, กล้องหลัก 48 MP และกล้องมุมกว้างพิเศษ 13 MP, พอร์ต USB-C สำหรับชาร์จและช่องแจ็ค 3.5 มม., รองรับการชาร์จแบบไร้สาย Qi 15 วัตต์, แบตเตอรี่ 4,630 mAh และที่สำคัญคือ XR20 จะได้อัพเดตแพตช์ความปลอดภัยสี่ปีเต็มพร้อมกับการอัปเกรดซอฟต์แวร์สูงสุดสามปี
ที่มา - Gizmodo |
# อินเทลประกาศแผนเทคโนโลยีการผลิต เปลี่ยนชื่อเป็น Intel 7, Intel 4, Intel 3 เตรียมเข้าสู่ยุคอังสตรอม
อินเทลแถลงข่าวประกาศแผนการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต เปลี่ยนชื่อเทคโนโลยีการผลิตให้กลายเป็นแบรนด์อินเทลแทนเลขนาโนเมตรเช่นเดิม และภาพใหญ่ที่สุดคือการเตรียมพร้อมสู่เทคโนโลยีระดับอังสตรอม โดยเทคโนโลยีที่ประกาศออกมาแล้วได้แก่
Intel 7 จะใช้งานในซีพียูเดสก์ทอป Alder Lake ที่จะเปิดตัวในปลายปี 2021 นี้ และซีพียูเซิร์ฟเวอร์ Sapphire Rapids ที่จะเริ่มผลิตปี 2022
Intel 4 ใช้เทคโนโลยี EUV และคาดว่าประสิทธิภาพต่อพลังงานจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% โดยจะพร้อมผลิตปลายปี 2022 และเริ่มส่งมอบสินค้าจริงปี 2023 จะใช้งานกับซีพียู Meteor Lake สำหรับไคลเอนต์ และ Granite Rapids สำหรับเซิร์ฟเวอร์
Intel 3 ใช้เทคโนโลยี FinFET รวมกับ EUV ทำให้ประสิทธิภาพต่อพลังงานเพิ่มขึ้นจาก Intel 4 ไปอีกประมาณ 18% คาดว่าจะเพิ่มเดินสายการผลิตได้ปลายปี 2023
Intel 20A เทคโนโลยีระดับอังสตรอมตัวแรก เปลี่ยนเทคทรานซิสเตอร์ให้เป็นแบบ RibbonFET นับเป็นการเปลี่ยนใหญ่ครั้งแรกนับจากที่อินเทลใช้ FinFET ตั้งแต่ปี 2011 และ PowerVia เทคโนโลยีการจ่ายพลังงานด้านหลังเวเฟอร์ คาดว่าจะผลิตได้จริงปี 2024
Intel 18A เทคโนโลยียุคต่อไปที่อยู่ระหว่างการพัฒนาร่วมกับ ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตชิป โดยใช้เทคโนโลยี High Numerical Aperture (High NA) EUV
สำหรับเทคโนโลยี Intel 20A นั้น Qualcomm ประกาศแล้วว่าจะมาใช้โรงงานผลิตชิปด้วย ตามแนวทางของ Pat Gelsinger ซีอีโอใหม่ที่เริ่มรับผลิตชิปให้กับบริษัทภายนอก
ที่มา - Intel |
# Facebook ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ ก้าวจากบริษัทโซเชียลเป็นบริษัท Metaverse
Facebook ประกาศตั้งทีม Metaverse Product Group ทำคอนเทนต์โลกเสมือนจริง ประกอบด้วยทีมย่อยคือ Horizon โซเชียลแบบ VR และทีมคอนเทนต์ที่ดึงมาจาก Facebook Gaming
หัวหน้าทีม Metaverse คือ Vishal Shah ที่ปัจจุบันเป็นผู้บริหารของ Instagram โดยจะขึ้นตรงกับ Andrew Bosworth หัวหน้าฝ่าย AR/VR ของ Facebook อยู่แล้ว
Bosworth บอกว่า Facebook มีทีมฮาร์ดแวร์อย่าง Oculus และ Portal ที่ย้ายตัวเราไปอยู่ในห้องเสมือนจริงร่วมกับคนอื่นๆ อยู่แล้ว แต่ยังขาดการสร้างประสบการณ์ที่ต่อเชื่อมพื้นที่เหล่านี้เข้าด้วยกัน เพราะสุดท้ายแล้ว การเคลื่อนย้ายตัวเองในโลกเสมือน ต้องง่ายในลักษณะเดียวกับการเดินข้ามห้องในโลกกายภาพจริงๆ
Mark Zuckerberg เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ ว่าต้องการยกระดับ Facebook จากบริษัทโซเชียลมีเดีย ไปเป็นบริษัท metaverse ซึ่งการตั้งทีม Metaverse ถือเป็นก้าวแรกของแผนการนี้
ที่มา - Andrew Bosworth, ภาพจาก Facebook |
# พนักงาน Activision Blizzard ร่วมประณามบริษัทหลังปฏิเสธข้อกล่าวหาคุกคามทางเพศในที่ทำงาน
จากประเด็น Activision Blizzard ถูกฟ้องจากสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการคุกคามทางเพศในที่ทำงานแล้วบริษัทออกมาปฏิเสธคำฟ้องนั้น ทำให้พนักงานกว่า 800 ราย ลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกถึงบริษัทว่า การปฏิเสธข้อกล่าวหา สร้างบรรยากาศความไม่เชื่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ และเรียกร้องให้บริษัทแก้ไขสิ่งนี้ให้ถูกต้อง
นอกจากนี้ กลุ่มพนักงานยังให้ผู้บริหาร Fran Townsend ลาออกจากบทบาทของเธอในฐานะผู้สนับสนุนเครือข่ายสตรีของบริษัท หลังจากที่เธอส่งอีเมลอ้างว่าคดีดังกล่าวนั้นบิดเบือนความเป็นจริง
ในจดหมายบอกอีกว่า เรื่องนี้ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความสามารถของบริษัทในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และทำให้ตั้งคำถามว่า บริษัทส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้ตกเป็นเหยื่อในอนาคตได้อย่างไร ทำให้พนักงานไม่ไว้วางใจว่าผู้นำองค์กรจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานมากกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง
ตัวเลขพนักงาน Activision Blizzard ล่าสุดเดือนธันวาคม 2020 มีราว 9,500 คน
ที่มา - The Verge |
# Bezos อาสาออกเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ให้ NASA ถ้าเลือก Blue Origin ทำยานลงจอดดวงจันทร์
หลังจาก Jeff Bezos เกษียณตัวเองจาก Amazon หันมาทำ Blue Origin เต็มตัว เราก็เห็นข่าวอย่างต่อเนื่อง (ทั้งหมดยังไม่พ้นเดือนแรกหลังเกษียณด้วยซ้ำ) เริ่มจากการนั่งจรวดขึ้นอวกาศความสูงระดับ 10 กิโลเมตร ที่เป็นข่าวไปแล้วทั่วโลก
ล่าสุด Bezos เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง NASA อาสาจ่ายเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ ให้โครงการ Human Landing System (HLS) พัฒนายานอวกาศไปดวงจันทร์รอบใหม่ ที่ถูกรัฐบาลสหรัฐตัดงบประมาณลง
ท่าทีของ Bezos ต้องย้อนกลับไปดูข่าว NASA เลือก SpaceX เป็นบริษัททำยานลงจอดดวงจันทร์ในโครงการ HLS เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดย Blue Origin เข้าแข่งขันด้วยแต่ไม่ได้รับเลือก
Bezos อธิบายว่าเดิมที NASA จะคัดเลือกแปลนจาก 2 บริษัท ให้ทุนทั้งสองฝ่ายเพื่อมาแข่งขันหาดีไซน์ที่ดีที่สุด แต่รอบนี้ NASA เลือก SpaceX เพียงรายเดียว ด้วยเหตุผลว่าไม่มีงบ ซึ่งจะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมอวกาศของอเมริกา เพราะ SpaceX ได้ผูกขาดโครงการอยู่รายเดียว ชิ้นส่วนอื่นๆ ต้องล็อคสเปกตามแปลนของ SpaceX ไม่เกิดการแข่งขันในระยะยาว
Blue Origin จึงอาสาแก้ปัญหาให้ NASA โดยงดเว้นการเรียกเก็บเงินจาก NASA (หาก Blue Origin ได้รับเลือกให้ทำโครงการต่อ ขนานไปกับ SpaceX) มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปีงบประมาณ และยินดีออกทุนเอง เพื่อยิงจรวดทดสอบระบบลงจอดบนดวงจันทร์ (ในวงโคจรต่ำของโลก) เพิ่มเองเพื่อลดความเสี่ยงของโครงการ NASA ลงด้วย
ที่มา - Blue Origin |
# ยืนยันแล้ว Samsung Galaxy Z จะมาพร้อม S Pen ที่ออกแบบเพื่อมือถือพับได้โดยเฉพาะ
ก่อนหน้านี้มีข่าวหลุดว่า Samsung Galaxy Z Fold 3 รองรับปากกา S Pen ล่าสุดมีแถลงการณ์จากซัมซุงระบุว่า มือถือในซีรีส์ Galaxy Z ที่จะเปิดตัวในงาน Galaxy Unpacked 11 สิงหาคมนั้น จะได้เห็น S Pen รุ่นแรกที่ออกแบบมาสำหรับโทรศัพท์พับได้โดยเฉพาะ
เนื่องจากปีนี้ไม่มีการเปิดตัวมือถือตระกูล Galaxy Note รุ่นใหม่ ซัมซุงจึงนำฟีเจอร์เด่นของ Note อย่างการรองรับปากกาเข้ามาใช้งานในมือถือตระกูลพับได้ อย่างไรก็ตาม ซัมซุงไม่ได้พูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับปากกาเพิ่มเติม แต่จากข่าวลือก่อนหน้าบอกว่า Galaxy Z Fold 3 จะไม่มีช่องใส่ปากกา
ซัมซุงยังเผยด้วยว่าทำงานร่วมกับกูเกิลและพาร์ทเนอร์หลากหลายเพื่อสร้างบริการที่เข้ากันกับมือถือพับได้ Galaxy Z Flip จะมาพร้อมวัสดุที่ทนทานกว่าเดิม ด้าน Z Fold จะเป็นการรวมกันของมือถือและแท็บเล็ตที่ดีที่สุด
ที่มา - Engadget, ซัมซุง |
# กูเกิลประกาศนโยบาย Enterprise API ไม่ฆ่าผลิตภัณฑ์เก่าง่ายๆ แต่เฉพาะฝั่งลูกค้าองค์กร
Google Cloud ประกาศนโยบาย Google Enterprise API ให้ผลิตภัณฑ์กลุ่มองค์กร เช่น Google Cloud, Google Workspace, Google Maps Platform การันตีไม่ถอดฟีเจอร์หรือ API ง่ายๆ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าเลือกใช้ API ของกูเกิลไปได้นานๆ
นโยบายกว้างๆ ของ Google Enterprise API คือ
ถ้าฟีเจอร์นั้นยังมีคนใช้งาน จะไม่ถอดออก หรือถ้าจำเป็นต้องถอดจริงๆ เป็นภาระของกูเกิลในการย้าย ไม่ใช่ลูกค้า
ลูกค้าจะได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และการย้ายไปใช้ API เวอร์ชันใหม่ต้องมีฟีเจอร์และประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่าเดิม
การเปลี่ยนแปลง API ใดๆ ต้องผ่านการอนุมัติของคณะกรรมการภายในของกูเกิลเสมอ
กูเกิลมีชื่อเสียงเรื่องการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แล้วฆ่าทิ้งอยู่บ่อยครั้ง แม้แต่งานฮัลโลวีนภายในของบริษัทเองยังทำ "สุสานกูเกิล" มาแซวตัวเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ลูกค้าองค์กรจะไม่เชื่อถือกูเกิลในเรื่องนี้สักเท่าไร
อย่างไรก็ตาม นโยบาย Enterprise API บังคับใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ฝั่งองค์กรเท่านั้น ไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์ฝั่งคอนซูเมอร์ เราจึงมีโอกาสเห็นการ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" อีกเรื่อยๆ ในอนาคตอยู่ดี
ที่มา - Google |
# Tesla ไตรมาส 2/2021 รายได้-กำไร ทำสถิติใหม่สูงสุด แม้มีความท้าทายจากปัญหาซัพพลายเชน
Tesla รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ทำสถิติใหม่สูงสุดในทุกรายการ ส่งมอบรถยนต์ได้มากกว่า 2 แสนคัน รายได้รวม 11,958 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 98% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2020 และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 1,142 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกของบริษัท
Elon Musk ซีอีโอ Tesla ให้ข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการว่าสิ่งท้าทายในไตรมาสปัจจุบัน คือการจัดซื้อชิ้นส่วนจำเป็นให้มีจำนวนมากพอ โดยเฉพาะถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัย ซึ่งปัญหานี้ส่งผลต่อการผลิตรถยนต์ในโรงงานของ Tesla ทั่วโลก ส่วนปัญหาชิปขาดแคลน Tesla ได้เข้าร่วมแก้ไขปัญหากับซัพพลายเออร์อยู่แล้ว
จากปัญหาดังกล่าว Tesla บอกว่า Model Y ยังคงผลิตได้ตามแผนภายในปีนี้จากโรงงานเบอร์ลินและออสติน ส่วนหัวรถบรรทุก Semi-Truck จะเลื่อนออกไปเป็นปี 2022
ที่มา: Tesla (pdf) และ CNBC |
# Apple ออกอัพเดต iOS 14.7.1 แก้ไขช่องโหว่ Zero-Day
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 14.7.1 และ iPadOS 14.7.1 หนึ่งสัปดาห์หลังจากมีอัพเดตเวอร์ชัน 14.7 ออกมา โดยเป็นการแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงที่มีการรายงานออกมาแล้ว ผู้ใช้งานจึงควรอัพเดต โดยไปที่ Settings แล้วเลือก General > Software Update
ช่องโหว่ดังกล่าวคือ CVE-2021-30807 เป็นช่องโหว่ IOMobileFrameBuffer ที่ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งได้ที่ระดับเคอร์เนล มีผลกระทบต่อการทำงานของหน่วยความจำ
แอปเปิลยังออกอัพเดต macOS Big Sur 11.5.1 ที่แก้ไขช่องโหว่เดียวกัน
นอกจากนี้ใน iOS 14.7.1 ยังแก้ไขปัญหา iPhone รุ่นที่ใช้ Touch ID ไม่สามารถปลดล็อกเมื่อจับคู่กับ Apple Watch ด้วยฟีเจอร์ Unlock with iPhone อีกด้วย
ที่มา: MacRumors |
# GoTo เตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้นอินโดนีเซีย มูลค่ากิจการอาจสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์
มีรายงานว่า GoTo สตาร์ทอัพรายใหญ่ของอินโดนีเซีย ที่มาจากการควบรวมกิจการของ Gojek และ Tokopedia เตรียมเพิ่มทุนจากการขายหุ้นไอพีโอราว 2,000 ล้านดอลลาร์ ก่อนนำบริษัทซื้อขายในตลาดหุ้นทั้งที่อินโดนีเซียและอเมริกา
มูลค่ากิจการที่ GoTo ประเมินไว้อยู่ที่ 25,000-30,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นอินโดนีเซียก่อนภายในปีนี้ และนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นอเมริกาปีหน้า
หลังการควบรวมของ GoTo ทำให้บริษัทมีผู้ลงทุนรายสำคัญจากทั้งสองฝ่ายอาทิ Alibaba, BlackRock, Facebook, Google, JD.com และ PayPal
ที่มา: Pymnts |
# Spotify ทำปุ่มแจ้งเตือน เมื่อศิลปินคนโปรดปล่อยเพลงใหม่
Spotify ทำ What’s New ปุ่มแจ้งเตือนใหม่ เป็นไอคอนระฆังแจ้งให้รู้เมื่อศิลปินที่เราติดตาม หรือรายการพอดแคสต์ที่เราติดตามออกเพลงใหม่หรือรายการใหม่ โดยจะมองเห็นเป็นปุ่มด้านบนขวามือ
What’s New รวมเนื้อหาเพลงและพอดแคสต์เข้าด้วยกัน โดยใช้คีย์เวิร์ดกรองเพื่อค้นหาได้ง่ายขึ้น Spotify บอกว่าการแจ้งเตือนอัพเดตเรียลไทม์ทันทีที่ศิลปินปล่อยเพลงใหม่ โดยจะใช้งานได้ทั้งในแอปมือถือทั้ง iOS และ Android ภายในสัปดาห์นี้
ที่มา - Engadget |
# Find My และบริการ iCloud หลายตัว มีปัญหา กระทบผู้ใช้บางส่วน (แก้ไขแล้ว)
แอปเปิลรายงานในหน้าสถานะระบบ ว่าบริการ iCloud ของหลายตัวมีปัญหา ตั้งแต่เวลา 18:37น. วันนี้ (อัพเดต: แอปเปิลระบุว่าเป็นปกติตั้งแต่ 21:27น.)
โดยบริการของ iCloud ที่แอปเปิลระบุว่ามีปัญหาได้แก่ Find My, iCloud Bookmarks, iCloud Calendar, iCloud Contacts, iCloud Drive, iCloud Keychain, iCloud Mail และ Photos
แอปเปิลบอกว่าปัญหาดังกล่าวกับผู้ใช้บางส่วน และปัญหาที่พบจะเกิดขึ้นเป็นครั้งเป็นคราว ไม่ได้เกิดขึ้นตลอด
ที่มา: 9to5Mac |
# LG เปิดตัว Tone Free หูฟัง True Wireless ซีรีส์ใหม่ 3 รุ่น พร้อมรองรับ Spatial Audio ในตัว
LG เปิดตัวหูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ในกลุ่ม LG Tone Free ทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ FP5, FP8 และ FP9 ซึ่งทั้งสามรุ่นทั้งหน้าตาและฟีเจอร์ทั่วไปเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันในบางจุด
สำหรับตัวดีไซน์ LG ระบุว่า Tone Free รุ่นใหม่ปรับให้ก้านของหูฟังสั้นลง 4.4 มิลลิเมตร ส่วนฟีเจอร์หลักคือไมโครโฟน 3 ตัว, ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ, กันน้ำตามมาตรฐาน IPX4 และระบบที่รองรับ spatial audio ที่มีทั้ง Spatial Processing จาก Meridian Audio และ 3D Sound Stage ที่นำ spatial audio มาพัฒนาเพิ่มเติมจาก Sound Stage เดิม
ส่วนฟีเจอร์ที่แตกต่างกันระหว่างรุ่น คือ FP9 จะมีฟีเจอร์ Plug & Wireless เสียบสายจากอุปกรณ์ที่รองรับเพื่อใช้ตัวเคสเป็นตัวปล่อยสัญญาณไร้สายไปหาหูฟังแทบการเชื่อมต่อบลูทูธตรงจากอุปกรณ์ได้, FP8 มีฟีเจอร์ชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย, FP9 และ FP8 มีฟีเจอร์ UVnano ปล่อยแสง UV-C LED เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อตัวหูฟัง ซึ่ง LG เคลมว่าลดแบคทีเรียลงได้ 99.9% ภายในระยะเวลาเพียง 5 นาที
LG Tone Free มีให้เลือก 3 สี โดยสี Chacoal Black และ Pearl White จะมีให้เลือกทั้งสามรุ่น ส่วนสี Haze Gold จะมีให้เลือกเฉพาะรุ่น FP8 และ FP9 เท่านั้น
ที่มา - LG Newsroom, Engadget |
# จีนประกาศอินเทอร์เน็ตทั้งหมดในจีนต้องใช้ IPv6 ภายในปี 2030
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตประเทศจีน (Cyberspace Administration of China) ประกาศแผนการ"ย้าย" เพื่อให้ใช้งาน IPv6 เพียงอย่างเดียวภายในปี 2030 นี้
โดยแผนการและกำหนดการคร่าวๆ คือ ภายในปี 2023 อุปกรณ์ที่วางขายใหม่จะต้องรองรับและเปิดใช้งาน IPv6 ไว้เสมอ ผู้ใช้งาน 700 ล้านคน และอุปกรณ์ IoT อีกกว่า 200 ล้านชิ้นจะใช้งานผ่าน IPv6 เป็นหลัก ผู้ให้บริการคลาวด์, CDN ศูนย์ข้อมูลและระบบโดเมนจะต้องรองรับ IPv6 อย่างสมบูรณ์ และตั้งแต่สิ้นปี 2023 เครือข่ายที่ติดตั้งใหม่จะต้องไม่ใช้งาน Private IPv4 (ทำ NAT) อีก
ปี 2025 จีนตั้งเป้าเป็นที่หนึ่งด้านสัดส่วนการใช้งานบน IPv6 โดยบังคับเว็บไซต์หน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจะต้องรองรับการใช้งานจาก IPv6 และคาดว่าจะมีผู้ใช้งานบน IPv6 กว่า 800 ล้านคน อุปกรณ์ IoT อีก 400 ล้านชิ้น สัดส่วนการใช้งานผ่าน IPv6 บนเครือข่ายมือถือเกิน 70% รวมถึงผลักดันให้เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือทั้งหมดรองรับการใช้งานผ่าน IPv6 ไม่น้อยกว่า 95%
หลังจากนั้นอีก 5 ปีจะทยอยยกเลิกการใช้งาน IPv4 ออก เพื่อให้ภายในปี 2030 เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนเป็นเครือข่าย IPv6 ล้วนแบบสมบูรณ์
ทั้งนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางจีนได้มีการทดสอบเครือข่าย Backbone ใหม่สำหรับการใช้งาน IPv6 ล้วนๆ จำนวน 31 node ที่เชื่อมต่อหากันด้วยความเร็วกว่า 200 Gbps ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่มา: The Register, ประกาศต้นฉบับ Cyberspace Administration of China
ภาพโดย LoboStudioHamburg |
# Gurman: งานเปิดตัว iPhone 13 ยังเป็นแบบออนไลน์, ผลักดัน Face ID มาแทนที่ Touch ID
Mark Gurman นักข่าวจาก Bloomberg ที่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับสินค้าใหม่แอปเปิลอย่างต่อเนื่อง ได้ให้ข้อมูลผ่านจดหมายข่าว Power On มีประเด็นสำคัญดังนี้
เรื่องแรกคืองานเปิดตัว iPhone 13 ซึ่งตามรอบปกติจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน เขาระบุว่าแอปเปิลอาจเลือกจัดงานแบบออนไลน์เหมือนกับงานเปิดตัว iPhone 12 ในปีที่แล้ว หากพนักงานส่วนใหญ่ ยังเลือกไม่กลับเข้ามาทำงานในสำนักงาน ซึ่งมีรายงานข่าวก่อนหน้านี้
เมื่อปีที่แล้ว iPhone 12 ก็ได้เลื่อนงานเปิดตัวออกไปเป็นเดือนตุลาคม เนื่องจากการระบาดของโควิด-19
ข้อมูลที่สองเป็นเรื่องโร้ดแมพสินค้าของแอปเปิล Gurman บอกว่าแอปเปิลมีแผนที่จะใช้ Face ID กับทุกสินค้าถ้าหากทำได้ โดยเชื่อว่าแอปเปิลจะทำสำเร็จในไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ปัจจุบันยังต้องมี Touch ID ในกลุ่มสินค้า iPhone SE และ iPad รุ่นที่ไม่ใช่ Pro เนื่องจากข้อจำกัดของต้นทุน ส่วน Mac เป็นปัญหาว่าหน้าจอมีขนาดบางเกินไป ไม่สามารถใส่เซ็นเซอร์วัดความลึกในตอนนี้
ที่มา: 9to5Mac [1], [2] |
# Google Groups ปรับโลโก้ใหม่ ต่อจากปีก่อนที่เป็น material design
Google Groups บริการเก่าแก่ตัวหนึ่งของกูเกิล ได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ หลังจากเปิดตัวเวอร์ชัน material design เมื่อปีที่แล้ว
โลโก้ใหม่นั้นได้ปรับให้มินิมอลมากขึ้น จากเดิมเป็นภาพรูปสองคนในกล่องสนทนา ก็ปรับมาเป็นสองคนขนาดเท่ากันสีน้ำเงินล้วน แล้วเพิ่มปลายด้านซ้าย ที่เหมือนสัญลักษณ์การสนทนาเข้ามาแทน
ที่มา: 9to5google |
# จีนออกคำสั่ง ธุรกิจกวดวิชาต้องจดทะเบียนไม่แสวงหากำไร กระทบบริษัทและสตาร์ทอัพสาย EdTech
ทางการจีนได้ออกคำสั่ง กำหนดให้ธุรกิจการศึกษาแบบกวดวิชา ที่เป็นวิชาหลักในหลักสูตรการศึกษา ต้องจดทะเบียนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และไม่มีการออกใบอนุญาตใหม่เพิ่มเติม คำสั่งนี้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีการศึกษาหรือ EdTech ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพหมวดที่มาแรงโดยเฉพาะในจีน โดยในคำสั่งมีรายละเอียดหลายประเด็น เช่น ห้ามนำบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้น ห้ามระดมทุนจากนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มเติม ไปจนถึงการกำหนดค่าธรรมเนียมการสอน
เหตุผลของคำสั่งดังกล่าว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเรียนกวดวิชาของผู้ปกครองในจีน
คำสั่งนี้ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทด้าน EdTech ของจีน ทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงและสหรัฐ ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา อาทิ New Oriental, Scholar Education, Koolearn Technology, TAL Education และ Gaotu Techedu
ที่มา: Reuters [1], [2] ภาพ Gaotu Techedu |
# ศาลอาญาวางแนวการปิดเว็บไซต์ ส่งหมายแจ้งผู้ดูแลให้เข้ามาคัดค้านได้ภายใน 7 วัน
นายสิทธิโชค อินนทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาออก "คำแนะนำอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาว่าด้วยแนวทางการพิจารณาคำร้องขอให้ระงับการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 20" วางแนวทางการไต่สวนคำร้องขอบล็อคเว็บจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อให้เว็บไซต์สามารถเข้ามาโต้แย้งได้ หลังกระทรวงดิจิทัลยื่นคำร้องขอให้ปิด VoiceTV ทุกช่องทางออนไลน์เมื่อปี 2020 ไม่ใช่เพียงแค่ปิดกั้นข้อความที่ผิดกฎหมายเท่านั้น
จากเดิมที่การปิดเว็บไซต์เป็นการไต่สวนจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงดิจิทัลฝ่ายเดียว แนวทางหลังจากนี้เมื่อกระทรวงดิจิทัลยื่นขอปิดเว็บไซต์ ศาลจะแจ้งผู้รับผิดชอบผ่านทางเว็บไซต์ศาล (e-Notice System) พร้อมกับกระทรวงดิจิทัลแจ้งผ่านช่องทางอื่นๆ เช่นแชตหรืออีเมล โดยให้เวลา 7 วันในการขอคัดค้าน ในกรณีเป็นเหตุฉุกเฉินหรือผู้ถูกกล่าวหาไม่มาคัดค้านก็จะไต่สวนฝ่ายเดียวต่อไป
แนวทางนี้ทำให้รายชื่อเว็บไซต์ที่ถูกกระทรวงดิจิทัลยื่นคำร้องขอสั่งปิดจะไปปรากฎบนเว็บไซต์ศาล อย่างไรก็ดีตัวประกาศนั้นจะระบุเพียงชื่อหน่วยงานผู้ร้อง, เว็บไซต์ที่ถูกกล่าวหา, และวันที่ไต่สวนเท่านั้น จะไม่ระบุรายละเอียดความผิดแต่อย่างใด
ที่มา - Facebook: สื่อศาล |
# ลูกค้า Krungthai NEXT ได้รับแจ้งเตือน "ถ้าเธอโกรธ...เราจะง้อ" ธนาคารชี้แจงว่าเป็นโฆษณา ไม่สามารถปิดได้
ธนาคารกรุงไทยเริ่มใช้แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ในการส่งข้อความโฆษณามาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2564 โดยลักษณะจะเป็นแจ้งเตือนเพื่อประชาสัมพันธ์บริการของธนาคาร เช่น ประกันภัย หรือโปรโมชั่นต่าง ๆ
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 มีรายงานว่าผู้ใช้ Krungthai NEXT หลายรายได้รับแจ้งเตือนว่า "ถ้าเธอโกรธ...เราจะง้อ" ซึ่งเมื่อกดเข้าไปจะพบว่าเป็นการโฆษณาบริการเติมเงิน
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้หลายรายได้ตั้งข้อสังเกตทั้งในเรื่องความเหมาะสมของข้อความดังกล่าวรวมถึงช่องทางการประชาสัมพันธ์ เนื่องจากแอปพลิเคชันทางการเงินควรใช้เพื่อแจ้งเตือนด้านการเงินเป็นหลัก หากต้องการประชาสัมพันธ์ควรใช้ช่องทางอื่นที่เหมาะสมกว่าหรือควรมีตัวเลือกให้ปิดแจ้งเตือนโฆษณาได้
ผู้เขียนข่าวเป็นหนึ่งในผู้ใช้ Krungthai NEXT ที่ได้รับแจ้งเตือนดังกล่าว โดยในเบื้องต้นได้สอบถามไปยัง call center ว่าข้อความถูกส่งเข้ามาได้อย่างไร และสามารถปิดไม่รับข้อความสแปมได้หรือไม่ แต่ในครั้งแรกที่สอบถามนั้นทาง call center ปฏิเสธว่าข้อความดังกล่าวถูกส่งมาจากธนาคาร และได้ขอหลักฐานเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ต่อมาทางธนาคารได้ติดต่อกลับมายอมรับว่าเป็นข้อความแจ้งเตือนจากธนาคารจริง และจะพิจารณาความเหมาะสมของการส่งข้อความหลังจากนี้ รวมถึงรับปากว่าจะพิจารณาอนุญาตให้ผู้ใช้ปิดไม่รับแจ้งเตือนสแปมจากธนาคารได้ในอนาคต
ที่มา - พบเอง และสอบถามยืนยันกับ call center |
# สิงคโปร์จะออกกฎหมาย ขายกล่องทีวีเถื่อนมีความผิดอาญา, StarHub ออกโปรแลกกล่องแท้ ฟรี 2 ปี
เครือข่าย StarHub ของสิงคโปร์ ออกแคมเปญนำกล่องทีวีเถื่อน มาแลกเป็นกล่อง StarHub TV+ ของแท้ ใช้ฟรีนาน 2 ปี มูลค่า 120 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 3 พันบาท)
ประเทศสิงคโปร์กำลังจะมีกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ (Copyright Act) อยู่ในกระบวนการของสภา กฎหมายฉบับนี้ระบุว่าการขายกล่องเถื่อนมีความผิดอาญา มีทั้งโทษปรับและจำคุก ทำให้ StarHub ชิงจังหวะออกโปรโมชั่นให้นำกล่องเถื่อนละเมิดลิขสิทธิ์ มาแลกเป็นกล่อง TV+ แบบไม่ต้องเสียค่าเช่านาน 2 ปี ระหว่างที่กฎหมายยังไม่ผ่าน โปรโมชั่นนี้มีถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2021
StarHub ระบุว่าจะนำกล่องเถื่อนที่นำมาแลก ถือเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ากระบวนการรีไซเคิลอย่างเหมาะสม
กล่อง TV+ ของ StarHub เป็นกล่อง Android TV ที่รองรับบริการสตรีมมิ่งหลายค่าย เช่น Disney+, Netflix, HBO Go
ที่มา - StarHub, ChannelNewsAsia |
# [ข่าวลือ] Nintendo Switch Pro จะใช้จีพียู Lovelace ตัวเดียวกับ RTX 40
ข่าวลือของ Nintendo Switch Pro คงไม่มีวันจบสิ้นจนกว่าจะมีเครื่องจริงๆ ออกมาให้เห็น ล่าสุดมีข่าวใหม่ของชิป NVIDIA "Lovelace" ที่จะใช้กับ GeForce RTX 40 ว่าจะถูกใช้ใน Switch Pro ด้วย
Nintendo Switch รุ่นปัจจุบันใช้ชิป Tegra X1+ รหัส "Mariko" ที่ใช้จีพียูสถาปัตยกรรม Maxwell ซึ่งเก่ามากแล้ว (Maxwell ออกปี 2014)
ก่อนหน้านี้คาดกันว่า Switch Pro จะใช้ชิป Tegra ตัวใหม่โค้ดเนม "Orin" จีพียูเป็น Ampere (ตัวเดียวกับ GeForce RTX 30) แต่ข้อมูลใหม่คือนินเทนโดจะข้ามไปใช้จีพียู Lovelace เลย ข่าวนี้มาจากช่อง YouTube ชื่อ Moore's Law is Dead ตามคลิปด้านล่าง
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง เราน่าจะเห็น Lovelace ออกขายในช่วงปลายปี 2022 ตามรอบจีพียูทุก 2 ปีของ NVIDIA เท่ากับว่า Switch Pro ก็น่าจะออกได้อย่างเร็วในช่วงปลายปี 2022 เช่นกัน
ชิป Lovelace ตั้งชื่อตาม Ada Lovelace โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก นอกจากนี้ NVIDIA ยังมีชิปสำหรับเซิร์ฟเวอร์โค้ดเนม Hopper ที่ตั้งชื่อตาม Grace Hopper โปรแกรมเมอร์หญิงอีกคนเช่นกัน
ที่มา - Notebookcheck |
# Facebook อัพเกรดไปใช้ MySQL 8.0 สำเร็จ แม้มีแพตช์เฉพาะของตัวเองจำนวนมาก
Herman Lee และ Pradeep Nayak จากเฟซบุ๊กเล่าถึงประสบการณ์การอัพเกรดจาก MySQL 5.6 ไปยัง MySQL 8.0 รุ่นล่าสุด ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่เพราะเฟซบุ๊กเองดัดแปลง MySQL อย่างหนัก มีแพตช์รวม 2,300 ชุด, มีสตอเรจเอนจินของตัวเองที่ชื่อ MyRocks, หรือแม้แต่ error code สำหรับตอบกลับไคลเอนต์ก็มีโค้ดเฉพาะของเฟซบุ๊กเอง
เฟซบุ๊กอัพเกรดมาใช้ MySQL 5.6 โดยใช้เวลาย้ายระบบนานถึงหนึ่งปี และเมื่อ MySQL 5.6 กำลังหมดอายุซัพพอร์ตก็ต้องตัดสินใจว่าจะอัพเกรดไปยัง MySQL 5.7 หรือจะย้ายไป MySQL 8 เลยทีเดียว และหลังจากพิจารณาแล้วทีมงานก็ตัดสินใจอัพเกรดใหญ่ไปยัง MySQL 8 เนื่องจากมีฟีเจอร์หลายตัวเพิ่มเข้ามา เช่น Document Store ทีมงานแยกแพตช์ออกเป็นกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่จะทิ้งไปเนื่องจากฟีเจอร์ซ้ำซ้อนกับ MySQL 8.0 อยู่แล้ว, กลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเซิร์ฟเวอร์โดยตรง, กลุ่มที่ไม่เกี่ยวกับสตอเรจเอนจิน, และกลุ่มเกี่ยวกับสตอเรจเอนจิน MyRocks รวมใช้เวลาหลายปีจึงพอร์ตแพตช์ทั้งหมดสำเร็จ
ระบบขนาดใหญ่เช่นเฟซบุ๊กไม่สามารถปิดระบบเพื่ออัพเกรดได้ ทีมงานอาศัยการเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ MySQL 8.0 เข้าไปในคลัสเตอร์เดิม โดยให้เป็นเซิร์ฟเวอร์ secondary แล้วค่อยๆ เปิดให้ภายนอกเข้าไปอ่านข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ใหม่ จากนั้นจึงค่อยๆ ปิดเซิร์ฟเวอร์ MySQL 5.6 ไป
ทีมงานระบุว่าการตัดสินใจข้ามเวอร์ชั่น 5.7 ไปทำให้พบปัญหาใหญ่ๆ 2 ประการ คือ ไม่สามารถอัพเกรดเซิร์ฟเวอร์โดยตรงได้ แต่ต้องอาศัย dump มาสร้างเซิร์ฟเวอร์ใหม่ซึ่งใช้เวลาหลายวัน และใน MySQL 5.7 มีการเตือนว่า API เตรียมเลิกซัพพอร์ตแล้ว หากได้อัพเกรดไป 5.7 ก่อนก็จะเห็นคำเตือนเหล่านี้และมีโอกาสแก้ปัญหาล่วงหน้า
ที่มา - Facebook |
# Oculus ประกาศเลิกใช้ API ของตัวเองปี 2022 เปลี่ยนมาใช้มาตรฐานกลาง OpenXR
Oculus ประกาศเลิกใช้ Proprietary API ของตัวเอง เปลี่ยนมาใช้มาตรฐานกลาง OpenXR ที่ดูแลโดยกลุ่ม Khronos (กลุ่มเดียวกับ OpenGL และ Vulkan) การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้เกม AR/VR บนแพลตฟอร์ม Oculus สามารถใช้กับแพลตฟอร์ม VR อื่นๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย
นโยบายใหม่ของ Oculus จะเริ่มจาก SDK v31 โดยฟีเจอร์ใหม่ๆ จะถูกเขียนขึ้นตามสเปกของ OpenXR แทน จากนี้ไป OpenXR จะมีสถานะเป็น preferred API แทน Oculus API เดิม (ที่ยังใช้งานได้ต่อไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2022)
ในแง่ของเครื่องมือพัฒนา Oculus จะออกปลั๊กอิน OpenXR กับทั้ง Unity และ Unreal เพื่อใช้ทดแทนปลั๊กอิน Oculus VR (OVR) ของเดิมด้วย
Oculus อยู่ในกลุ่มร่วมก่อตั้ง OpenXR มาตั้งแต่แรก การเปลี่ยนมาใช้ OpenXR เต็มตัวจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก และถือเป็นทิศทางที่ดี ที่เราเห็นผู้เล่นรายสำคัญๆ ของตลาด VR มุ่งเข้าสู่มาตรฐานกลางเดียวกัน
ที่มา - Oculus |
# สายการบินญี่ปุ่นกังวล หากรัฐบาลยังไม่ทำใบรับรองฉีดวัคซีน COVID-19 แบบดิจิทัล อาจกระทบการเดินทางระหว่างประเทศ
ประเทศญี่ปุ่นกำลังจะเริ่มออกใบรับรองการฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการหลังจากที่ทางรัฐบาลเริ่มดำเนินการฉีดให้ประชาชนในประเทศแล้ว และรัฐบาลญี่ปุ่นก็เริ่มออกใบรับรองฉีดวัคซีนเหมือนกับหลายประเทศบ้างแล้ว
ตัวอย่างเช่น ยุโรปที่ออกแบบฟอร์แมตใบรับรองฉีดวัคซีนเพื่อ QR โดยเฉพาะ สามารถออกใบรับรองผ่านแอปหรือจะพิมพ์เป็นกระดาษเองก็ได้ ส่วนสหรัฐฯ ก็เริ่มมีใบรับรองดิจิทัลให้ใช้ผ่าน Google Pay แล้ว ในขณะที่ใบรับรองการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นยังคงออกมาเป็นรูปแบบกระดาษ และสายการบินญี่ปุ่นกังวลว่าอาจเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางระหว่างประเทศในอนาคต
Juichi Hirasawa รองประธานอาวุโสายการบิน ANA ระบุว่า หลายประเทศก้าวหน้าไปถึงใบรับรองดิจิทัลแล้ว และรวดเร็วด้วย ญี่ปุ่นจะต้องไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ส่วน Yuji Akasaka ประธาน Japan Airlines ระบุว่า เราจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังหากเราไล่ตามความสมบูรณ์แบบ การไปสู่ดิจิทัลจะลดความเสี่ยงในความผิดพลาดเมื่อเทียบกับกระดาษ และขอให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วย
ตอนนี้สายการบินเริ่มดำเนินการทดสอบแอปเพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการยืนยันว่าผู้โดยสารฉีดวัคซีนแล้ว แต่แอปยังต้องให้รัฐบาลอนุมัติเพื่อให้ดำเนินการต่อได้ รวมถึงการอัพโหลดบันทึกการฉีดวัคซีนโดยหน่วยงานภาครัฐหรือท้องถิ่น ซึ่งน่าจะเป็นโจทย์ใหญ่อีกครั้งที่จะต้องให้ข้อมูลของแต่ละประเทศมาเชื่อมต่อกันให้ได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารที่มีข้อมูลการฉีดวัคซีน COVID-19 แล้วสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
ที่มา - Nikkei Asian Review
ภาพจาก Wikipedia |
# Amazon ยืนยัน New World ไม่มีปัญหา แต่ออกแพตช์ล็อคเพรมเรตให้, EVGA ส่งการ์ดจอใหม่ให้
ต่อจากข่าว ผู้เล่นพบปัญหา เล่นเกม New World ของ Amazon แล้วการ์ดจอพัง ส่วนมากเป็น RTX 3090 ของบริษัท EVGA
ล่าสุดทางตัวแทนของบริษัท EVGA บอกกับเว็บไซต์ PCWorld ว่าได้ส่งการ์ด GeForce RTX 3090 FTW3 ตัวใหม่ให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบแล้ว แต่ไม่บอกจำนวนว่าแค่ไหน
ฝั่งของ Amazon Games ยืนยันว่าเกม New World ไม่ได้เป็นสาเหตุของปัญหา และเรียกใช้ DirectX ผ่าน Windows API มาตรฐานเหมือนเกมอื่นๆ แต่ก็ออกแพตช์มาเพื่อความปลอดภัย ให้ผู้เล่นตั้งค่าล็อคเฟรมเรตไม่ให้เพิ่มขึ้นสูงผิดปกติได้ ฝั่งของ EVGA ก็ระบุว่าไม่ได้รับรายงานการ์ดที่มีปัญหาเพิ่มเติม หลัง New World มีแพตช์ใหม่แล้ว
YouTuber Jayztwocents พยายามผลิตซ้ำปัญหานี้ โดยเล่นเกม New World บน EVGA GeForce RTX 3090 FTW3 แต่ก็ไม่สำเร็จ การ์ดทำงานได้ปกติดี
ที่มา - PCWorld |
# ใช้จริง แอปเตือนเข้าใกล้ผู้ป่วย COVID-19 ในอังกฤษ แจ้งเตือนสัปดาห์ละหกแสนครั้งหลังเปิดเมือง
หลังสหราชอาณาจักรปลดมาตรการ COVID-19 ออกแทบทั้งหมด แอปติดตามตัวผู้ป่วยอย่าง NHS Test and Trace ก็ยังทำหน้าที่เตือนให้ผู้เข้าใกล้ผู้ป่วย COVID-19 ต้องกักตัวเอง (self-isolate) ต่อไป โดยระหว่างวันที่ 8 ถึง 14 กรกฎาคมที่ผ่านมาตัวแอปแจ้งเตือนไปแล้ว 607,486 ครั้งเฉพาะในอังกฤษ และอีก 11,417 ครั้งในเวลส์ โดยเฉลี่ยแล้วแอปจะแจ้งเตือนผู้เข้าใกล้ผู้ป่วย 3.2 คนต่อผู้ป่วยที่พบ 1 คน
อัตราการแจ้งเตือนสูงเช่นนี้ทำให้ธุรกิจหลายประเภทขาดคนทำงาน ทำให้ตัวมีเสียงเรียกร้องว่าควรปรับความไวของแอปให้ต่ำลง หรือเปลี่ยนมาตรการจากที่ต้องกักตัวมาเป็นการสั่งให้ผู้เข้าใกล้ไปตรวจ COVID-19 แทน
ตอนนี้แอปออกแบบเงื่อนไขให้เตือนผู้ที่เข้าใกล้ผู้ป่วยระยะใกล้กว่า 2 เมตร เป็นเวลานาน 15 นาทีขึ้นไป เมื่อได้รับแจ้งเตือน ตัวแอปจะแนะนำให้ผู้เข้าใกล้ต้องกักตัวเองเป็นเวลา 10 วัน อย่างไรก็ดีมาตรการกักตัวนี้ไม่ได้เป็นการบังคับด้วยกฎหมายแต่อย่างใด
ที่มา - BBC |
# เมนูคลิกขวา Windows 11 ออกแบบใหม่ สั้นลง จัดระเบียบครั้งแรกนับจาก Windows XP
ไมโครซอฟท์อธิบายเบื้องหลังการออกแบบเมนูคลิกขวา (context menu) ของ Windows 11 ที่แตกต่างจาก Windows 10 อยู่พอสมควร การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือลดขนาดของเมนูให้สั้นลง จัดกลุ่มคำสั่งแบบเดียวกันไว้ด้วยกัน ย้ายคำสั่งที่ใช้บ่อยๆ เช่น Cut, Copy, Paste, Rename ไปไว้ด้านบนสุดของเมนู
ไมโครซอฟท์บอกว่า เมนูคลิกขวาไม่เคยถูกจัดระเบียบเลยนับตั้งแต่ Windows XP เป็นต้นมา มีหลายคำสั่งที่ไม่ค่อยมีคนใช้งาน และแอพที่ติดตั้งในระบบสามารถเพิ่มคำสั่งเข้ามาได้ไม่จำกัด
การแก้ไขของ Windows 11 จึงจัดกลุ่มคำสั่งของแอพ (app extensions) เข้าด้วยกัน และนำคำสั่งที่ไม่ค่อยมีใครใช้ไปรวมกันในกลุ่ม Show more options ที่จะโหลดเมนูเพิ่มในตอนหลัง ช่วยให้การโหลดเมนูเร็วขึ้น
เมนูของ Windows 10
เมนูของ Windows 11
นอกจากเมนูคลิกขวาแล้ว Windows 11 ยังปรับหน้าตาของ Share Dialog ใหม่ด้วยเล็กน้อย จัดกลุ่มของ Nearby Sharing ใหม่ และเปิดให้แอพต่างๆ เข้ามาเรียกใช้ Share Dialog ของ OS ได้ง่ายขึ้น เว็บแอพที่เป็น PWA ก็สามารถใช้งาน Share Dialog ได้ด้วย
ที่มา - Microsoft |
# Instagram เพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาต่างประเทศใน Stories
Instagram ประกาศเพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาต่างประเทศใน Stories โดยเมื่อพบข้อความที่เป็นภาษาต่างประเทศในสตอรี่นั้น ๆ จะมีตัวเลือก See Translation ที่มุมบนซ้าย ผู้ใช้งานสามารถกดเพื่อแสดงคำแปลตามภาษาที่ตั้งค่าไว้
ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานแล้วสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก รองรับการแปลมากกว่า 90 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย
ทั้งนี้ Instagram มีฟีเจอร์แปลภาษาสำหรับแคปชั่นในโพสต์ปกติตั้งแต่ปี 2016
ที่มา: The Verge และ Instagram |
# Unity ซื้อกิจการซอฟต์แวร์สร้างกราฟิกต้นไม้ SpeedTree
Unity ประกาศซื้อกิจการบริษัท Interactive Data Visualization (IDV) ผู้สร้างซอฟต์แวร์สร้างภาพต้นไม้ชื่อดัง SpeedTree
SpeedTree มีชื่อเสียงในวงการกราฟิก 3D มานาน จากความสามารถสร้างต้นไม้ ใบไม้ ป่า ที่ซับซ้อนและสมจริง ตัวมันถูกใช้ในวงการเกม ภาพยนตร์ (Avatar) สถาปัตยกรรม ซิมูเลชัน ฯลฯ อย่างกว้างขวาง
Unity บอกว่าจะซัพพอร์ต SpeedTree ต่อไปดังเดิม และไม่จำกัดการใช้งาน SpeedTree กับเอนจิน Unity เพียงอย่างเดียว (ปัจจุบัน SpeedTree มีปลั๊กอินเชื่อมต่อกับ Unreal และ Amazon Lumberyard ด้วย) ส่วนในระยะยาว จะเชื่อมระบบเวิร์คโฟลว์ระหว่าง Unity กับ SpeedTree ให้แนบแน่นกว่าเดิม ซึ่งจะเริ่มเห็นผลในเอนจิน Unity 2021.2 รุ่นถัดไป
ที่มา - Unity |
# ใช้งานได้จริง ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว Android เตือนคนฟิลิปปินส์ล่วงหน้าหลายวินาที
เมื่อกลางปี 2020 กูเกิลประกาศทำเครือข่ายการแจ้งเตือนแผ่นดินไหว โดยใช้ accelerometer จากอุปกรณ์ Android ทั่วโลกช่วยวัดการสั่นไหว แล้วแจ้งเตือนผ่านมือถือในพื้นที่แผ่นดินไหว เพื่อให้คนในพื้นที่รับมือทัน
เมื่อวานนี้ (24 กรกฎาคม) ช่วงเช้ามืดเกิดเหตุแผ่นดินไหวทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ความแรง 6.7 ซึ่งคนฟิลิปปินส์พบว่าระบบแจ้งเตือนของกูเกิลทำงานได้จริง สามารถแจ้งเตือนก่อนแผ่นดินไหวเริ่มสั่นเล็กน้อย (ระยะเวลาขึ้นกับว่าอยู่ห่างจากจุดแผ่นดินไหวแค่ไหน บางคนบอกว่า 10 วินาที)
ที่มา - Reddit, 9to5google |
# Oracle ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล SQL แต่เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลครบวงจร
หลายคนอาจมีภาพจำว่า Oracle เป็นซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลแบบ relational database แต่ปัจจุบันเมื่อความต้องการใช้งานข้อมูลหลากหลายมากขึ้น Oracle ก็ปรับตัวเองเป็น Converged Database แพลตฟอร์มเดียวรองรับข้อมูลรูปแบบอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นโซลูชันที่ยืดหยุ่น รองรับการใช้งานทั้งแบบ on-premise, public cloud, Cloud@Customer
รูปแบบการเก็บข้อมูลเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่ Relational Database แบบดั้งเดิม
ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา โลกธุรกิจอาศัยอยู่บนระบบฐานข้อมูลแบบ relational database หรือฐานข้อมูลที่ใช้ภาษา SQL ในการจัดการข้อมูลขององกร โดย Oracle ถือเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล SQL ระดับแถวหน้าที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกไว้วางใจ เลือกใช้งานในแอปพลิเคชั่นแกนกลางของธุรกิจเรื่อยมา
แต่โลกธุรกิจวันนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก ข้อมูลมีความซับซ้อนกว่าเดิมมาก ข้อมูลหลายประเภทไม่ได้อยู่ในรูปแบบตารางที่เหมาะกับการจัดการแบบ SQL แต่เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบอื่นๆ เช่น เอกสาร JSON, ข้อมูลพิกัด (spatial data), ข้อมูลกราฟที่ใช้อธิบายความสัมพันธ์ได้หลากหลาย, หรือข้อมูล key-value ที่ได้รับความนิยมกับแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ มากขึ้น
ความหลากหลายของข้อมูลทำให้องค์กรต้องเรียนรู้เครื่องมือจัดการข้อมูลแบบใหม่ๆ มากขึ้น การจัดการข้อมูลแยกส่วนกัน การควบคุมการเข้าถึงข้อมูล และการจัดการความปลอดภัยก็ทำได้ลำบากกว่าเดิม
นอกจากนี้ระบบไอทียุคใหม่ยังมีต้องอัพเกรดระบบให้แข่งขันได้ในทางธุรกิจ โหลดงานหลายประเภทถูกย้ายขึ้นคลาวด์เพื่อให้ขยายระบบตามจำนวนผู้ใช้ได้ทันท่วงที แต่ในอีกด้าน ยังมีข้อมูลหลายประเภทมีเงื่อนไขทั้งทางธุรกิจและทางกฎหมายบังคับไว้ ทำให้ต้องเก็บข้อมูลแบบ on-premise ต่อไป ภาระในการดูแลระบบที่หลากหลายจึงเพิ่มขึ้นอีก
Oracle รับรู้ความลำบากขององค์กร จึงนำเสนอแนวทาง Any Data, Anywhere ช่วยเหลือทุกธุรกิจให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทุกมิติได้พร้อมกัน
Converged Database ฐานข้อมูลเดียวรับข้อมูลได้ทุกประเภท
แนวทาง Converged Database ของออราเคิล เปิดทางให้องค์กรรองรับรูปแบบการใช้ฐานข้อมูลที่หลากหลายกว่าฐานข้อมูลแบบ SQL ดั้งเดิม ไม่ว่านักพัฒนาต้องการเข้าถึงฐานข้อมูล SQL, เชื่อมต่อผ่าน REST API, คิวรีแบบ Graph, หรือจัดการข้อมูลแบบ events ก็สามารถจัดการได้บนแพลตฟอร์มเดียว ลดความเสี่ยงจากการใช้เครื่องมือหลายตัวที่องค์กรขาดความเชี่ยวชาญ
ถ้าให้เทียบฐานข้อมูลรูปแบบ Converged Database กับสินค้าไอที ในยุคก่อนเราอาจมีกล้องถ่ายภาพ, เครื่องเล่น MP3, นาฬิกา, โทรศัพท์มือถือ, หรือ PDA แยกชิ้นจากกันทั้งหมด แต่ทุกวันนี้ทุกชิ้นล้วนเป็นชิ้นเดียวคือสมาร์ตโฟนเท่านั้น
นอกจากประเด็นเรื่องประเภทของข้อมูลที่รองรับ ในแง่ฟีเจอร์ระดับสูงอย่าง machine learning เพื่อทำนายความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ, ปรับรูปแบบการนำเสนอข้อมูล visualization ไปยังลูกค้าให้มีประสิทธิภาพ ฯลฯ เทคโนโลยีเหล่านี้ธุรกิจต่างๆ เคยต้องอิมพลีเมนต์ด้วยตัวเอง แต่ปัจจุบัน ระบบฐานข้อมูล Oracle มีฟังก์ชั่นเข้ามาให้ในตัวหมดแล้ว
รูปแบบใช้งานหลากหลาย On-Premise, Cloud, Cloud@Customer
ทุกธุรกิจมีเงื่อนไขการรันงานที่แตกต่างกันไป ระบบฐานข้อมูล Oracle จึงมีตัวเลือกหลากหลาย รองรับเงื่อนไขของแต่ละธุรกิจอย่างเหมาะสม ทั้งการใช้ฐานข้อมูลแบบ on-prem, การใช้งานคลาวด์, หรือตัวเลือกคลาวด์ในศูนย์ข้อมูลขององค์กรเอง
จุดเด่นอีกข้อของ Oracle คือมีบริการฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง ที่หลายคนอาจคุ้นเคยกับชื่อ Exadata มาบ้าง
Oracle Exadata เป็นผลงานทางวิศวกรรมที่ออราเคิลออกแบบเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจมาเพื่องานฐานข้อมูลโดยเฉพาะ ทำให้ได้เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพการรันฐานข้อมูลสูงสุด เช่น เซิร์ฟเวอร์สตอเรจ Exadata Storage สามารถทำการประมวลผล SQL ได้ในตัว ทำให้การประมวลผลฐานข้อมูลไม่ต้องเสียเวลาส่งข้อมูลไปมาระหว่างเซิร์ฟเวอร์สตอเรจเก็บข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมภายในของเซิร์ฟเวอร์สตอเรจแต่ละตัวใน Exadata ก็ยังมีการแบ่งชั้นข้อมูล (tiering) ตามความเร็วในการเรียกข้อมูล ทั้ง persistent memory ที่ความเร็วใกล้เคียงกับหน่วยความจำ แต่ยังคงคุณสมบัติข้อมูลไม่หายแม้ปิดเซิร์ฟเวอร์ (non-volatile) สำหรับเก็บข้อมูลที่ใช้งานบ่อยที่สุด, หน่วยความจำแบบแฟลชสำหรับเก็บข้อมูลรองลงมา, และฮาร์ดดิสก์ที่ความเร็วน้อย แต่ประสิทธิภาพราคาต่อพื้นที่ดีที่สุด
สำหรับองค์กรที่ไม่ต้องการดูแลฮาร์ดแวร์ด้วยตัวเอง แต่ยังต้องการเก็บข้อมูลไว้ภายในศูนย์ข้อมูลของตัวเอง ลูกค้ากลุ่มนี้มีโซลูชัน Oracle Exadata Cloud@Customer เป็นทางเลือก โดยใช้ฮาร์ดแวร์ Exadata พร้อมกับซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล Oracle Database เต็มรูปแบบ ใช้งานได้ทุกฟีเจอร์ มาวางไว้ที่ศูนย์ข้อมูลขององค์กร แต่เปลี่ยนวิธีจัดการมาให้ Oracle ดูแลแทน โดยคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง
ไม่ว่าองค์กรจะเลือกวิธีเช่าเซิร์ฟเวอร์แบบ Cloud@Customer หรือเช่าคลาวด์โดยตรงเลยคือ Oracle Cloud Infrastructure จะได้ฟีเจอร์สำคัญคือ Autonomous Database ระบบฐานข้อมูลที่ช่วยลดงานของผู้ดูแลฐานข้อมูลลงไปอีกขั้น ฐานข้อมูลขยายระบบได้ตามโหลดงานจริง, เรียนรู้รูปแบบการใช้งานและทำ index เพิ่มประสิทธิภาพให้ฐานข้อมูลได้เอง รวมไปถึงการจัดการแพตช์ความปลอดภัยต่างๆ ให้อัตโนมัติ
ล่าสุด Larry Ellison เพิ่งจะประกาศห้าวในการ ลดค่า MA 25% กับทุกๆการใช้ Oracle Cloud ไม่ว่าจะเป็น public cloud หรือ PaaS ที่เป็น cloud บน Exadata Cloud@Customer และนำมาลด MA ของซอฟท์แวร์ได้ในรอบบิลถัดไป เรียกว่าเป็นข้อเสนอพิเศษสุด ที่ช่วยให้ลูกค้าปัจจุบันลดค่า MA ได้โดยหันมาใช้ cloud มากขึ้น
Oracle โซลูชันที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ
จากแนวทางทั้งหมด จะเห็นว่าโซลูชันจัดการข้อมูลของ Oracle สามารถตอบโจทย์องค์กรทุกประเภท ไม่ว่าการใช้งานข้อมูลในองค์กรจะเป็นรูปแบบใด ตั้งแต่แอปพลิเคชั่นเดิมขององค์กรที่ต้องการอัพเกรดประสิทธิภาพ หรือจะเป็นแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่ต้องการเก็บข้อมูลในรูปแบบใหม่ๆ นอกเหนือจากข้อมูลแบบ relational
ไม่ว่าองค์กรต้องการเริ่มจากฐานข้อมูลขนาดเล็กบนคลาวด์, ต้องการขยายขนาดฐานข้อมูลสำหรับแอปพลิเคชั่นที่ซับซ้อน, หรือจะเป็นฐานข้อมูลที่ต้องอยู่ในศูนย์ข้อมูลขององค์กร Oracle ก็พัฒนาโซลูชันเพื่อให้มั่นใจได้ว่าองค์กรทุกกลุ่มจะเข้าถึงนวัตกรรมต่างๆ ในระดับเดียวกัน
ศึกษาข้อมูลโซลูชันการจัดการข้อมูลจาก Oracle เพิ่มเติมได้ที่
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ +662-696-4798 / [email protected] |
# Kaseya ประกาศได้กุญแจถอดรหัสข้อมูลสำหรับเหยื่อทุกราย กำลังแจกจ่ายลูกค้า
Kaseya ผู้ผลิตซอฟต์แวร์จัดการเครือข่ายที่ถูกแฮกเพื่อปล่อยแพตช์ที่ฝังมัลแวร์ไปยังลูกค้า จนมีเหยื่อนับพันราย ประกาศว่าได้รับกุญแจถอดรหัสแบบครอบจักรวาล สามารถถอดรหัสให้กับเหยื่อทุกรายได้
Kaseya ระบุว่าได้รับกุญแจนี้มาจากมือที่สาม (third party) โดยไม่ระบุชื่อบุคคลหรือหน่วยงานชัดเจน และไม่เปิดเผยว่ายอมจ่ายค่าไถ่แทนเหยื่อที่เป็นองค์กรธุรกิจต่างๆ หรือไม่ ก่อนหน้านี้กลุ่ม REvil ประกาศเรียกค่าไถ่เหยื่อรายละ 5 ล้านดอลลาร์ แต่เปิดโอกาสให้เหมาจ่ายแทนเหยื่อทุกรายพร้อมกัน 70 ล้านดอลลาร์
กุญแจทดสอบโดย Emsisoft และยืนยันว่าใช้งานได้จริง โดยตอนนี้บริษัทกระจายโปรแกรมถอดรหัสไปให้บริษัทจำนวนหนึ่งและยังไม่เจอปัญหา
ที่มา - Kaseya |
# [ลือ] แอปเปิลพัฒนาจอภาพ Pro Display รุ่นใหม่ มีชิป SoC A13 ฝังมาให้ในตัว
9to5mac รายงานข่าวว่า แอปเปิลกำลังพัฒนาจอมอนิเตอร์รุ่นใหม่ที่จะอัพเดตจาก Apple Pro Display XDR โดยจุดต่างสำคัญคือการมีชิป A13 Bionic (ตัวเดียวกับ iPhone 11) และชิป Neural Engine ฝังมาในตัวจอเลย
ประโยชน์ของการใส่ SoC มาในจอ มีตั้งแต่การรองรับฟีเจอร์อย่าง AirPlay ในตัว, ลดภาระการประมวลผลภาพของคอมพิวเตอร์ที่นำมาต่อด้วย และอาจไปถึงขั้นการใช้ชิป 2 ตัว (ทั้งฝั่งจอและคอมพิวเตอร์) ช่วยประมวลผลเพื่อให้ได้ความละเอียด-ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
9to5mac ชี้ว่าในปี 2016 ก็เคยมีข่าวลือลักษณะคล้ายๆ กันนี้ แต่พอ Apple Pro Display XDR วางขายก็ไม่เป็นไปตามข่าวลือ จึงมีโอกาสเช่นกันที่แผนการนี้ไม่เวิร์ค และแอปเปิลเปลี่ยนใจในภายหลัง
ที่มา - 9to5mac |
# กลุ่ม PropertyGuru เจ้าของ DDproperty ในไทย เตรียมเข้าตลาดหุ้นด้วยวิธี SPAC
PropertyGuru บริษัทด้านข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์รายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเตรียมนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นที่อเมริกาด้วยวิธี SPAC โดยบริษัทที่จะเข้ามาซื้อกิจการคือ Bridgetown 2 Holdings ซึ่งมีผู้ลงทุนหลักคือ Richard Li ผ่าน Pacific Century Group และ Peter Thiel ผ่าน Thiel Capital มูลค่ากิจการเบื้องต้นอยู่ที่ราว 1,780 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน PropertyGuru ให้บริการธุรกิจมาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย มีข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 2.8 ล้านแห่งต่อเดือน ผู้ใช้งานค้นหามากกว่า 37 ล้านคนต่อเดือน และมีตัวแทนมากกว่า 49,000 ราย
PropertyGuru ให้บริการในประเทศภายใต้แบรนด์ DDproperty ก่อนหน้านี้บริษัทได้ประกาศซื้อกิจการ REA Group ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บไซต์ในไทยคือ ThinkofLiving.com และ Prakard.com
ที่มา: PropertyGuru ผ่าน Bloomberg |
# AIS, dtac, True ให้โทรฟรี สายด่วนโควิด 1668, 1669 และสายด่วนสุขภาพ ประกันสังคม
จากประเด็นข่าวเมื่อวานนี้ ที่ว่าโทรศัพท์สายด่วนด้านโควิดคิดค่าใช้บริการ 1.50 บาทต่อนาที โดย กสทช. ยังไม่ได้นำเบอร์โทรศัพท์เหล่านี้เข้ามาในกลุ่มขอยกเว้นค่าธรรมเนียม
ล่าสุด โอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ค่ายใหญ่คือ AIS, dtac, True ประกาศให้ลูกค้าโทรฟรีในหมายเลขฉุกเฉินต่างๆ ดังนี้
1668 สายด่วนโควิด
1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
1330 สปสช.
1323 สายด่วนสุขภาพจิต
1422 กรมควบคุมโรค
1646 ศูนย์เอราวัณ
1506 ประกันสังคม
ที่มา - AIS, dtac, TrueMoveH |
# Spotify ร่วมมือกับ GIPHY ค้นหา GIF ศิลปิน แล้วเชื่อมต่อไปยังลิงก์ฟังเพลง
Spotify ประกาศความร่วมมือกับ GIPHY แพลตฟอร์มรวมรูป GIF ชื่อดัง โดยเมื่อผู้ใช้งานค้นภาพใน GIPHY ที่เป็นมีมหรือภาพจากมิวสิควิดีโอเพลงของศิลปิน ในหน้าทางการของศิลปินนั้น ๆ จะมีลิงก์เชื่อมต่อไปยังเพลงบน Spotify ด้วย
ศิลปินที่รองรับคุณสมบัตินี้ในช่วงแรก อาทิ Doja Cat, The Weeknd, Post Malone, Nicki Minaj และ The Kid LAROI
การค้นหา GIF ที่รองรับนี้ มีทั้งบนเว็บ GIPHY.com และในแอปมือถือ GIPHY โดยจะพบลิงก์ Listen on Spotify เพื่อเชื่อมต่อไปยังเพลงของศิลปินคนนั้น ๆ
ที่มา: Spotify |
# Apple Music บน Android รองรับ Spatial Audio และ Loseless Audio แล้ว
Apple Music ออกอัพเดตบน Android เพิ่มฟีเจอร์สำคัญคือ Spatial Audio (Dolby Atmos), Loseless Audio, Automatic Crossfade ตามหลังแพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งแอปเปิลเปิดทดสอบแบบ Beta บน Android มาสักระยะแล้ว
อ่านบทความ อธิบาย Spatial Audio ของแอปเปิล ประกอบ
ที่มา - Apple, Apple Insider |
# Google Drive เพิ่มฟีเจอร์บล็อคไม่ให้คนอื่นแชร์ไฟล์ให้เรา แก้ปัญหาสแปม
ผู้ใช้ Google Drive อาจเคยเจอปัญหาสแปม จาก "ใครก็ไม่รู้" ที่แชร์ไฟล์มายังอีเมลของเรา ปัญหานี้แก้ไขยากกว่าอีเมลสแปมทั่วไป เพราะเป็นอีเมลที่ถูกส่งมาจากระบบของกูเกิลเอง (เป็นการใช้ช่องโหว่จากระบบแชร์ของกูเกิล) แถมยังเห็นการแชร์เข้ามาในระบบของ Google Drive อีกทางด้วย
เวลาผ่านมาหลายปี ในที่สุดกูเกิลก็คิดแก้ปัญหานี้ ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์บล็อคไม่ให้เจ้าของอีเมลที่ระบุ แชร์ไฟล์มาให้เราได้อีกในอนาคต
วิธีใช้งานคือกดเข้าไปยังหน้า Shared with Me ใน Google Drive เลือกไฟล์ที่ต้องการ แล้วกดเลือกเมนู Block ตามภาพ
ที่มา - Google Drive |
# การแสดงโดรนในพิธีเปิดโอลิมปิก 2020 เป็นผลงานของอินเทล ใช้โดรน 1,824 ตัว
ในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียวเมื่อวานนี้ มีการแสดงโดรนประกอบเป็นรูปโลกลอยอยู่เหนือสนามแข่งขัน ซึ่งบริษัทที่จัดแสดงโดรนชุดนี้คือ อินเทล
ข้อมูลนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะอินเทลมีทีมแสดงโดรนของตัวเองชื่อ Intel Drone Light Shows มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว จัดงานแสดงมาแล้วทั่วโลก และเคยแสดงโดรนในโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 มาก่อนแล้ว
การแสดงโดรนในโอลิมปิก 2020 รอบนี้ใช้โดรนทั้งหมด 1,824 ตัว เพิ่มจากชุดปี 2018 ที่ใช้ 1,218 ตัว ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดเบื้องหลังการแสดงออกมามากนัก คาดว่าอีกสักระยะ อินเทลน่าจะออกมาเล่าเบื้องหลังเหมือนกับรอบของปี 2018
นอกจากโดรนแล้ว อินเทลยังเป็นสปอนเซอร์ด้านเทคโนโลยีให้การแข่งขันโอลิมปิก 2020 อีกหลายด้าน เช่น 3D Athlete Tracking ใช้จับภาพนักกีฬาได้เป็น 3D, Intel True View ติดกล้องรอบสนามเพื่อให้สามารถหมุนภาพรีเพลย์ 360 องศาได้
มุมมองจากด้านนอกสนาม
ที่มา - Intel, DroneDJ |
# Corning เปิดตัว Gorilla Glass DX กระจกปิดหน้าเลนส์คุณภาพสูงสำหรับกล้องในสมาร์ทโฟน
Corning ผู้ผลิตกระจกหน้าจอสมาร์ทโฟน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Gorilla Glass DX และ Gorilla Glass DX+ ซึ่งเป็นการขยายไลน์สินค้าสู่กระจกปิดหน้าเลนส์สำหรับกล้องในสมาร์ทโฟน
Jaymin Amin รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Gorilla Glass อธิบายว่าตามปกติกระจกหน้าเลนส์ของกล้องจะมีการเคลือบผิว หรือที่เรียกว่าโค้ทหน้าเลนส์ เพื่อลดการสะท้อนแสง แต่ก็แลกกับโอกาสที่ผิวจะเป็นรอยขูดขีดง่ายขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพของภาพถ่าย กระจกปิดหน้าเลนส์ของ Gorilla Glass จึงพัฒนาขึ้นให้แสงผ่านได้ที่ 98% และมีความทนทานตามมาตรฐาน Gorilla Glass รวมทั้งปรับขนาดได้ตามการออกแบบกล้องของสมาร์ทโฟนนั้น
Corning บอกว่าซัมซุงจะเป็นบริษัทแรกที่นำกระจก Gorilla Glass DX ไปใช้งาน ซึ่งก็ต้องตามกันต่อไปว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใด
ที่มา: Corning |
# Cloudflare โวย AWS หากินกับค่าแบนวิดท์ บวกกำไรสูงไม่ยอมช่วยลูกค้าลดราคา
Matthew Prince ซีอีโอ Cloudflare และ Nitin Rao รองประธานอาวุโส เขียนบล็อกวิจารณ์ถึงนโยบายราคาแบนด์วิดท์แบบ egress ของ AWS ว่าเป็นช่องทางทำกำไรใหญ่ และ AWS บวกกำไรนับสิบเท่าตัวจากต้นทุนโดยไม่ยอมลดราคาตามต้นทุนที่ลดไปเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป
บทความระบุว่าต้นทุนของผู้ให้บริการรายใหญ่นั้นมักซื้อแบนด์วิดท์กันเป็นความเร็ว ไม่ใช่ปริมาณข้อมูล แต่ AWS คิดค่าบริการจากลูกค้าตามปริมาณข้อมูลที่ส่งไปตามโซนต่างๆ โดยทั่วไปแล้วผู้ให้บริการรายใหญ่นั้นใช้แบนด์วิดท์ประมาณ 20-40% โดยเฉลี่ย และหากคำนวณราคาที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ๆ ซื้อแบนด์วิดท์และคิดอัตราการใช้งานที่ 20% ราคาที่ AWS คิดลูกค้าก็ยังแพงกว่าต้นทุน 3.5 เท่า ไปจนถึง 80 เท่าตัว โดยโซนที่ AWS เพิ่งเปิดไม่นานก็มักจะบวกราคาน้อยกว่า
จุดที่ทำให้ Cloudflare ออกมาวิจารณ์ AWS ครั้งนี้น่าจะเป็นเพราะ AWS ไม่ยอมเข้าร่วม Bandwidth Alliance ที่ Cloudflare ตั้งขึ้นร่วมกับผู้ให้บริการคลาวด์จำนวนมาก เพื่อเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คเข้าหากันและลดค่าแบนด์วิดท์ระหว่างกันลง โดยระบุว่าเคยชวน AWS แล้วแต่ AWS กลับปฎิเสธ เงื่อนไขนี้ทำให้ลูกค้าจำนวนมากที่ใช้ Cloudflare ร่วมกับ AWS ต้องแบกค่าแบนด์วิดท์ระหว่าง AWS และ Cloudflare ในราคาส่งข้อมูลออกอินเทอร์เน็ตเต็ม
แนวทางการคิดค่าแบนด์วิดท์ของ AWS ทำให้การใช้บริการหลายอย่างต้องระวัง เช่น การเก็บข้อมูลเข้า S3 นั้นการใส่ข้อมูลขาเข้านั้นไม่คิดค่าแบนด์วิดท์ ขณะที่การดึงข้อมูลออกมีค่าแบนด์วิดท์ ทำให้องค์กรที่สำรองข้อมูลบนคลาวด์เมื่อต้องใช้ข้อมูลจริงๆ จะพบว่ามีค่าใช้จ่ายในการดึงข้อมูลออกค่อนข้างสูง
ที่มา - Cloudflare |
# Alphabet ตั้งบริษัทใหม่ Intrinsic เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับหุ่นยนต์อุตสาหกรรม
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล ประกาศตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Intrinsic โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจที่เน้นเทคโนโลยีใหม่ Other Bets เหมือนกับ Waymo, Wing และ Verily
Wendy Tan White ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอของ Intrinsic อธิบายว่าเป้าหมายของบริษัท คือการปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ และโอกาสทางเศรษฐกิจของหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เพื่อธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักพัฒนา ให้เข้าถึงการใช้งานที่ง่ายขึ้น มีค่าใช้จ่ายที่ถูกลง และมีความยืดหยุ่น
Intrinsic ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นหน่วยงานภายใต้ X ได้ทดลอง ศึกษา และพัฒนารูปแบบหุ่นยนต์ที่สามารถเรียนรู้ และปรับการทำงานได้ตามสถานการณ์ โดยตัวอย่างที่นำเสนอ เช่น งานประกอบชิ้นส่วนเฟอนิเจอร์ หรืองานประกอบโครงสร้างไม้ เป็นต้น
ที่มา: Alphabet ผ่าน The Verge |
# พิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิก นำเพลงจากวิดีโอเกมหลายเกม มาเปิดระหว่างนักกีฬาเข้าสู่สนาม
ในขณะนี้มีพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก Tokyo 2020 ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการคาดเดาเนื้อหาที่ประเทศเจ้าภาพจะนำเสนอหลายอย่าง แต่ที่อาจเซอร์ไพรส์เกมเมอร์ ก็คือระหว่างนักกีฬาแต่ละประเทศเดินเข้าสู่สนาม เพลงที่ใช้เปิดวนสร้างบรรยากาศ เป็นเพลงธีมจากวิดีโอเกมจำนวนมาก
ตัวอย่างเกมที่ถูกเลือกมาเป็นเพลงประกอบในช่วงเดินเข้าสู่สนามของนักกีฬา อาทิ Final Fantasy, Dragon Quest, Monster Hunter, Ace Combat, Sonic the Hedgehog และอีกหลายเกม
รายชื่อเพลงทั้งหมดที่เปิดในช่วงดังกล่าว เว็บไซต์ NikkanSports ได้รวบรวมเอาไว้แล้ว
ที่มา: NBC Chicago ภาพ @Olympics |
# Microsoft Azure เริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มวันที่ 1 กันยายนนี้ตามประกาศสรรพากร
วันนี้ไมโครซอฟท์เริ่มส่งเมลหาลูกค้าบริการ Azure แจ้งว่าจะเริ่มคิดภาษีมูลค่าเพิ่มนับแต่วันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไปตามกฎหมาย e-Service ของไทย
สำหรับลูกค้าที่เป็นองค์กรธุรกิจ ไมโครซอฟท์ขอให้ลูกค้าทุกรายต้องไปแจ้งหมายเลข VAT ของตัวเอง และหลังจากแจ้งแล้วไมโครซอฟท์จะไม่เก็บค่าบริการเพิ่มอีก 7% ที่เป็น VAT แต่ฝั่งลูกค้าต้องเป็นผู้ยื่น ภ.พ. 36 ด้วยตัวเองไปยังกรมสรรพากรเช่นเดิม
เมนูแจ้งหมายเลขผู้เสียภาษีอยู่ในเมนู Cost Management + Billing > Properties > Manage Tax IDs
ที่มา - อีเมลจาก Microsoft Azure: "Action recommended: Provide your valid Thai VAT registration number" |
# กลต. สำรวจตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยครึ่งปีแรก มูลค่าซื้อขายรวมราว 808 พันล้านบาท มีบัญชีเทรดรวม 1.17 ล้านบัญชี
เฟซบุ๊กเพจสำนักงาน กลต. เปิดผลสำรวจภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยรายสัปดาห์ ช่วงครึ่งปีแรกจนถึงวันที่ 19 กรกฎาคม นอกจากเรื่องความผันผวนที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับ SET Index แต่มีผลตอบแทนที่สูงกว่า ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจอื่นๆ ดังนี้
มูลค่าการซื้อขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ช่วงเดือนมกราคมอยู่ที่ 89 พันล้านบาท ก่อนพุ่งเป็น 165 พันล้านในเดือนเมษายน และสูงสุดที่ 218 พันล้านช่วงเดือนพฤษภาคม (คาดว่าเป็นเพราะ[เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงราคาหลายครั้งในรอบเดือน เช่นผลกระทบจาก Tesla และรัฐบาลจีน) ก่อนลดลงมาอยู่ที่ 85 พันล้าน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
เทียบราคาสินทรัพย์ 5 อันดับแรก บนเว็บ Exchange ไทย 5 เจ้า คือ Bitkub, Zipmex, Satang Pro, Upbit และ Z.com ในวันที่ 19 กรกฎาคม พบมีราคาสูงกว่าราคาอ้างอิงบน coinmarketcap.com ทุกเว็บไซต์ ราคาแตกต่างสูงสุดคือ Z.com ที่ราคา Ethereum หนึ่งเหรียญอยู่ที่ 63,000 บาท และใกล้เคียงที่สุดคือ Satang Pro ที่ 60,255 บาท เทียบกับ 59,733 บาท บน coinmarketcap.com
มูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ดิจิทัลในไทยตั้งแต่ต้นปีจนถึง 19 กรกฎาคม อยู่ที่ราว 808 พันล้านบาท เหรียญ Bitcoin ยังมีมูลค่าซื้อขายสูงสุด รองลงมาเป็น Dogecoin และ Ethereum
Bitcoin มูลค่าการซื้อขาย 131.46 พันล้านบาท คิดเป็น 16.26%
Dogecoin มูลค่าซื้อขาย 121.87 พันล้านบาท คิดเป็น 15.08%
Ethereum มูลค่าซื้อขาย 89.71 พันล้านบาท คิดเป็น 11.1%
Tether 69.7 พันล้านบาท คิดเป็น 8.63%
XRP 59.52 พันล้านบาท คิดเป็น 7.37%
Binance Coin (BNB) มูลค่าซื้อขาย 54.64 พันล้านบาท คิดเป็น 6.74%
Cardano 43.79 พันล้านบาท คิดเป็น 5.42%
เหรียญอื่นๆ มูลค่าซื้อขาย 237.42 พันล้านบาท คิดเป็น 29.38%
ปัจจุบันบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน มีจำนวนทั้งหมด 1,177,937 บัญชี ส่วนใหญ่เป็นบัญชีของบุคคลธรรมดา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนบัญชีบุคคลธรรมดาต่างชาติ มียอดขายบนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยมากกว่าซื้อทุกเดือน (ขายสุทธิ) ตั้งแต่ 1 มกราคม จนถึง 19 กรกฎาคม
ที่มา - เพจ สำนักงาน กลต. |
# EA ประกาศวันขาย Lost in Random เกมผจญภัยงานภาพสไตล์ Tim Burton วันที่ 10 ก.ย.
ในงาน EA Play Live ของผู้จัดจำหน่ายเกม Electronic Arts มีประกาศวันเปิดขายเกมใหม่ๆ หลายตัว หนึ่งในนั้นคือเกม Lost in Random ที่การออกแบบนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ Tim Burton ผู้กำกับหนังชื่อดัง พัฒนาโดย Zoink
เนื่องเรื่องของ Lost in Random คือ Even ต้องทอยลูกเต๋าผจญภัย ช่วยชีวิตน้องสาว Odd โดยมีลูกเต๋าวิเศษ Dicey เข้าร่วมภารกิจนี้ด้วย รูปแบบการเล่นเกมมีความผสมผสานกันระหว่าง เกมผจญภัยบุคคลที่สาม กับเกมแนว Deck Building
ตัวเกมวางจำหน่าย 10 กันยายนนี้ทาง Nintendo Switch, PC, Xbox One, PlayStation 4, PS5, Xbox One and Xbox Series X/S
ที่มา - Engadget |
# แฟนเกม Humankind ขอทีมงานเอา DRM ออกหลังเกมเปิดตัว ทีมงานตัดสินใจเอาออกให้ทันที
Humankind เกมแนว 4X สร้างอารายธรรมมนุษย์ คล้าย Civilization จากทีมงาน Amplitude Studios (Endless Space, Endless Legend) เคยประกาศว่าจะเปิดตัวในวันที่ 17 สิงหาคม พร้อมระบบ DRM ชื่อ Denuvo ระบบเดียวกับในเกม Resident Evill: Village ที่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพไปก่อนหน้านี้
แฟนคลับคนหนึ่งของ Amplitude Studios จึงตั้งกระทู้ในฟอรั่มของเกม มีหัวข้อว่า “วันที่ Amplitude ทำผมใจสลาย” พูดถึงปัญหาของ Denuvo ทั้งเรื่องประสิทธิภาพ และการทำให้เกมเล่นโดยไม่ต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ พร้อมแสดงความเข้าใจว่า อาจเป็นการตัดสินใจของ Sega (เจ้าของ Amplitude Studios) ที่ให้ใส่ DRM ตัวนี้เข้ามา เพื่อปกป้องยอดขายช่วงเดือนแรกๆ แต่ก็ขอร้องทีมงานว่าเมื่อหมดช่วงแรกไปแล้ว ช่วยเอา Denuvo ออกให้ด้วย
Romain de Waubert de Genlis ซีซีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Amplitude Studios เข้ามามาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง พร้อมบอกว่าตัวเกมจะวางขายโดยไม่มี Denuvo แล้ว เพราะแม้ Denuvo อาจช่วยป้องกันเกมโดนแฮกไปขายได้ช่วงหนึ่ง แต่ปัญหาประสิทธิภาพจาก Denuvo ที่ทีมงานพบช่วง closed beta ก็หนักเกินรับไหว และทีมงานไม่น่าจะแก้ไขทันก่อนเกมออก
หลังจากนั้นผู้ตั้งกระทู้ข้างต้น จึงแก้หัวกระทู้ของตัวเองเป็น “วันที่ Amplitude ทำผมใจสลาย (แล้วประกอบมันขึ้นมาใหม่)”
หลังเว็บไซต์ Ars Technica รายงานเรื่องนี้ ก็สอบถามไปทางผู้สร้าง DRM Denuvo ว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร ซึ่งทีมงาน Denuvo ไม่ได้ตอบคำถามของ Ars Technica อย่างชัดเจนนัก แต่แนบอีเมลไปยังทีมงานของ Sega และ Amplitude Studios ให้ชี้แจงเรื่องนี้เพิ่มเติมแทน
Denuvo ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมหลากหลายเกม นอกจาก RE:Village และ Humankind แล้ว เกม Doom:Eternal ก็พบผลกระทบจนต้องถอด Denuvo ออกไป แถมมีผลกระทบมายาวนาน ตั้งแต่สมัย Final Fantasy: XV แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้สักที
ที่มา - Ars Technica |
# วุฒิสมาชิกสหรัฐฯเสนอเอาผิดโซเชียลมีเดีย ปล่อยให้มีข้อมูลเท็จต่อต้านวัคซีนโควิด-19
จากประเด็นข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะข่าวปลอมเรื่องวัคซีนโควิด-19 ทำให้บริษัทโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Twitter, YouTube เป็นเป้าโจมตีของหน่วยงานรัฐอีกครั้ง โดยรัฐมองว่าเพราะข่าวปลอมทำให้การฉีดวัคซีนให้ประชากรไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ล่าสุด วุฒิสมาชิกสภาสหรัฐ Amy Klobuchar และ Ben Ray Luján เสนอกฎหมาย Health Misinformation Act เพื่อเอาผิดบริษัทโซเชียลมีเดียที่จัดการข้อมูลปลอมไม่ดีพอ อัลกอริทึมส่งเสริมข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จากเดิมที่บริษัทโซเชียลเหล่านี้มีกฎคุ้มครองคือ Section 230 บริษัทไม่ต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่โพสต์โดยผู้ใช้ Health Misinformation Act ก็มีเป้าหมายที่จะลบกฎคุ้มครองนั้นออกไป
ภาพจาก Facebook
Ben Ray Luján กล่าวในการแถลงการณ์ว่า ตลอดช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 บริษัทโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Twitter และ YouTube ไม่ได้จัดการอะไรเลย ในขณะที่ข้อมูลเท็จแพร่กระจายบนแพลตฟอร์ม ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ส่งเสริมทฤษฎีสมคบคิด และทำให้ชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยง
ด้าน Kevin Martin รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Facebook บอกว่าทางบริษัทส่งเสริมการปฏิรูป Section 230 และหวังว่าจะได้ร่วมงานกับสภาคองเกรสและอุตสาหกรรมต่างๆ ในการแก้ปัญหาข้อมูลผิดเรื่องสุขภาพ
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้ง Klobuchar และ Luján ส่งจดหมายถึง Mark Zuckerberg และ Jack Dorsey พบว่าประมาณ 65% ของเนื้อหาต่อต้านวัคซีน สามารถสืบย้อนไปจังตัวบุคคล 12 ราย ขอให้แพลตฟอร์มทำการแบนพวกเขา ด้านโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มองว่าโซเชียลมีเดียกำลังฆ่าคนทางอ้อม ปล่อยให้มีข้อมูลเท็จวัคซีน
ที่มา - CNET |
# Codemasters เปิดตัวเกมแข่งรถ Grid Legends เกมแรกใต้ร่มเงาเจ้าของใหม่ EA
Codemasters สตูดิโอเจ้าพ่อเกมแข่งรถ ที่ปัจจุบันกลายเป็นบริษัทลูกของ EA ไปแล้ว เปิดตัวเกมรถแข่งใหม่ GRID Legends ซึ่งถือเป็นเกมแรกภายใต้ร่มธงของ EA ในงาน EA Play เมื่อคืนนี้
Codemasters มีเกมรถแข่งอยู่ 3 ซีรีส์หลักคือ F1 (รถ Formula ในสนาม), Grid (touring car คือรถทั่วไปมาปรับแต่ง วิ่งในสนาม) และ Dirt (รถทั่วไปมาปรับแต่ง วิ่งบนถนนจริง)
กรณีของ Grid Legends ชัดเจนว่าอยู่ในซีรีส์ Grid (ภาคล่าสุดก่อนหน้านี้ออกเมื่อปี 2019) โดยเกมภาค Legends จะเน้นที่เนื้อเรื่อง การขับเคี่ยวกันระหว่างนักขับแต่ละคนเพื่อเป็นตำนานของวงการ มีการเมืองภายในระหว่างทีม ส่วนตัวเกมเพลย์ก็เพิ่มสนามแข่งและรถยนต์อีกจำนวนมาก
Grid Legends มีกำหนดออกปี 2022 บน PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X|S, PC
ที่มา - EA, Eurogamer |
# NOSTRA Map เปิดให้ค้นหาวัดเผาศพผู้ป่วยโควิด-19 ใน กทม.และปริมณฑล อิงข้อมูลตามสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
บริษัท โกลบเทค จำกัด ผู้ให้บริการข้อมูลแผนที่ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน NOSTRA นำข้อมูลตำแหน่งฌาปนสถานศพผู้ป่วยโควิด-19 ของวัดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามข้อมูลของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แสดงตำแหน่งในแอปพลิเคชัน NOSTRA เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้สามารถเช็กข้อมูล ค้นหาสถานที่ทำการฌาปนกิจผู้เสียชีวิต
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้รวบรวมรายชื่อวัดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีความพร้อมฌาปนกิจศพผู้ป่วยโรคโควิด -19 และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน NOSTRA จึงได้นำมาจัดทำรายละเอียดบนแอปฯ แผนที่ดิจิทัล NOSTRA Map ให้ดูง่าย และสามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลได้แบบทันทีทั้งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น NOSTRA
ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์ |
# เปิดตัว OnePlus Nord 2 5G ชิป Dimensity 1200-AI, กล้องหน้า 32 MP, ชาร์จเร็ว 65W เริ่ม 399 ยูโร
เปิดตัว OnePlus Nord 2 5G หน้าจอ Fluid AMOLED 90Hz ขนาด 6.43 นิ้ว เปลี่ยนจากใช้ชิป Snapdragon 765G ใน OnePlus Nord รุ่นแรก เป็น Mediatek Dimensity 1200-AI กล้องหลัง 3 กล้อง กล้องไวด์, อัลตร้าไวด์ และโมโน กล้องหน้า 32MP ความละเอียดสูงสุดในมือถือตระกูล OnePlus สเปกภายในดังนี้
หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 90Hz
ชิป Dimensity 1200-AI
แรม LPDDR4X 6GB/8GB/12GB
หน่วยความจำ UFS 3.1 ความจุ 128GB / 256GB
กล้องหลัง 3 ตัว กล้องไวด์ 50MP f/1.88 มี OIS, กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP f/2.25 ใช้ EIS, กล้องโมโน 2MP f/2.4
กล้องหน้า 32MP f/2.45
สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
รองรับ Bluetooth 5.2, โคเด็คเสียง aptX & aptX HD & LDAC & AAC
รองรับ Wi-Fi 6
รองรับ 5G
แบตเตอรี่ 4500 mAh ชาร์จไว Warp Charge 65W
ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11.3 ครอบทับ Android 11
น้ำหนัก 189 กรัม
OnePlus Nord 2 5G มี 3 สี ได้แก่ สีฟ้า Blue Haze, สีเทา Grey Sierra และสีเขียว Green Woods มีวางจำหน่ายเฉพาะในอินเดีย ราคารุ่นเริ่มต้น 399 ยูโร หรือราว 14,500 บาท เท่า OnePlus Nord เปิดให้จองแล้วในยุโรป มี 3 ความจุ ดังนี้
ที่มา - OnePlus |
# Google Search ทำ About This Result ให้รู้ว่ากูเกิลเอาคำใดมาแสดงผลการค้นหาให้เรา
Google Search เพิ่มการแสดงผล About This Result หรือการให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ระบบใช้คำไหนที่เราพิมพ์ค้นหาไปสร้างผลการค้นหาบ้าง เป็นการให้ภาพรวมแก่ผู้ใช้งานเพิ่มเติมว่า ทำไมกูเกิลถึงแสดงผลการค้นหาให้เราแบบนี้
ในกล่อง About This Result แสดงให้เห็นว่า คำไหนที่ผู้ใช้ค้นหาแล้วสามารถจับคู่กับเนื้อหาบนเว็บไซต์ต่างๆ ได้ รวมถึงคำที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับคำที่เราค้นหา แม้เราจะไม่ได้ใช้คำนั้นแบบเจาะจงก็ตาม รวมถึงแสดงรายการเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคำค้นหาของเรา และสถานที่ ดูจากภาษาที่เราใช้
ผู้ใช้งานสามารถดู About This Result ได้จากการกดปุ่มสามจุดด้านขวาบนของผลการค้นหา เริ่มใช้งานในสหรัฐฯและอังกฤษก่อน
ที่มา - กูเกิล |
# กูเกิลประกาศแผนอัพเกรด Wear OS 3 กลางปี 2022, มีนาฬิกาได้ไปต่อแค่ไม่กี่รุ่น
กูเกิลประกาศข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการ Wear ที่ร่วมพัฒนากับซัมซุง โดยฝั่งกูเกิลจะเรียกระบบปฎิบัติการนี้ว่า Wear OS 3 (ฝั่งซัมซุงเรียก One UI Watch ทำให้ยิ่งงงเข้าไปอีก)
ข่าวร้ายตามความคาดหมายคือจะมีนาฬิกา Wear OS เดิมเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ได้อัพเกรดเป็น Wear OS 3 ได้แก่ TicWatch Pro 3 GPS, TicWatch Pro 3 Cellular/LTE, TicWatch E3 เท่านั้น กระบวนการอัพเกรดจะเริ่มในช่วงกลางถึงปลายปี 2022 โน่นเลย
กูเกิลบอกว่าการอัพเกรด OS จะทำให้ข้อมูลเดิมทั้งหมดหายไปด้วย ทำให้กูเกิลจะเสนอการอัพเกรดเป็นทางเลือก (opt-in) ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งาน Wear OS เดิมต่อได้ โดยยังจะได้อัพเดตฟีเจอร์บางอย่าง (เช่น Gboard) และการันตีอัพเดตความปลอดภัยอย่างน้อย 2 ปีนับจากวันวางขาย
นอกจากนี้ กูเกิลยังประกาศว่าฮาร์ดแวร์ของ Mobvoi TicWatch และ Fossil ในอนาคตจะใช้ Wear OS 3 ด้วย ถ้านับรวมซัมซุงด้วย ตอนนี้เรามีนาฬิกาที่ใช้ OS ตัวใหม่แล้ว 3 แบรนด์
ที่มา - Google |
# Twitter ไตรมาส 2/2021 รายได้โตถึง 74% จากรายได้โฆษณาที่เพิ่มขึ้น
Twitter รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2021 รายได้เพิ่มขึ้น 74% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 1,160 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นรายได้จากโฆษณา 1,053 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 87% และรายได้จากการขายไลเซนส์ข้อมูล 137 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% โดยมีมีกำไรสุทธิ 65.6 ล้านดอลลาร์
จำนวนผู้ใช้งานประจำทุกวันที่สร้างรายได้ หรือ mDAU (monetizable daily active users) เพิ่มขึ้น 7 ล้านบัญชีจากไตรมาส 1/2021 เป็น 206 ล้านบัญชี แบ่งเป็นผู้ใช้งานในอเมริกา 37 ล้านบัญชี ต่างประเทศ 169 ล้านบัญชี
ในไตรมาสที่ผ่านมา Twitter ได้เพิ่มบริการใหม่หลายอย่าง เช่น บริการ subscription Twitter Blue, ห้องคุยเสียง Spaces และการจ่ายทิป Tip Jar
ที่มา: Twitter (pdf) |
# Intel ไตรมาส 2/2021 เติบโตสูงจากธุรกิจพีซี และ Mobileye
อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2021 มีรายได้รวมตามวิธีทางบัญชี GAAP 19,631 ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,061 ล้านดอลลาร์
Pat Gelsinger ซีอีโออินเทลกล่าวว่า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ การเปลี่ยนผ่านทุกอย่างสู่ดิจิทัลได้สร้างโอกาสกับอินเทลในทุกกลุ่มธุรกิจ ผลประกอบการที่ออกมาสะท้อนว่าการดำเนินงานของอินเทลมีทิศทางที่ดี
กลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตสูง ได้แก่ Client Computing ซึ่งมีสินค้าหลักคือชิปของพีซี มีรายได้เพิ่มขึ้น 6% เป็น 10,109 ล้านดอลลาร์ และ Mobileye ธุรกิจชิปสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ รายได้เพิ่มขึ้น 124% เป็น 327 ล้านดอลลาร์
Gelsinger ได้ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ชิปขาดแคลนว่าน่าจะแย่ที่สุดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากนั้นจะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ก็ยังมีซัพพลายที่จำกัด ส่วนข่าวที่อินเทลสนใจซื้อกิจการ GlobalFoundries นั้น เขาปฏิเสธที่จะให้ความเห็น
ที่มา: อินเทล และ CNBC |
# Battlefield 2042 เปิดตัวโหมด Portal สร้างเกมเองตามใจ ผสมแผนที่ อาวุธ ยานพาหนะจากภาคเก่าได้
Battlefield 2042 เปิดตัวโหมดใหม่ Portal โหมดใหม่ที่จะให้ผู้เล่นสร้างเกมที่ตัวเองต้องการได้จากการผสมแผนที่ อาวุธ ยานพาหนะ และอุปกรณ์จากภาคเก่าและภาค 2042 และแบ่งปันเล่นกับเพื่อนและออนไลน์ได้ตามใจ โดย EA จัดแผนที่ยอดฮิตในแต่ละภาคมาให้ดังนี้
Battlefield 1942 - Battle of the Bulge, El Alamen
Battlefield Bad Company 2 - Valparaiso, Arica Harbor
Battlefield 3 - Caspian Border, Noshahr Canal
รวมแล้วมีอาวุธมากกว่า 40 ชนิด อุปกรณ์มากกว่า 30 ชนิด และยานพาหนะมากกว่า 40 ชนิด ที่ผู้เล่นสามารถผสมกฎเกณฑ์ ยานพาหนะ อาวุธ อุปกรณ์ต่างยุคต่างสมัยได้ตามใจ เช่นจัดให้ฝั่งหนึ่งมีเครื่อง A-10 Warthog ส่วนอีกฝั่งมี P-51 Mustang หรือจะให้ทหารฝั่งหนึ่งใช้แค่มีด ปะทะทหารอีกฝั่งที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจเท่านั้นก็ได้
ทุกแผนที่ถูกปรับให้รองรับผู้เล่นได้สูงสุด 128 คน (64 คนบนเครื่องคอนโซลเจ็นเก่า) และเพิ่มเทคโนโลยีใหม่เข้าไป เช่น Battle of the Bulge ที่ผู้เล่นสามารถทำลายอาคารต่างๆ ได้แล้ว ส่วน Arica Harbor ก็มีช่วงน้ำลง ที่จะเปลี่ยนเลย์เอ้าท์ของแผนที่แบบไดนามิก
Battlefield 2042 วางจำหน่ายเดือนตุลาคมนี้ เตรียมเปิดทดสอบ open Beta ผู้สั่งจองล่วงหน้าเล่นได้ตั้งแต่ 4 กันยายน ส่วนคนทั่วไปเล่นได้วันที่ 6 กันยายน จนถึง 11 กันยายนนี้
ที่มา - The Verge |
# เปิดตัว Dead Space รีเมคบน Frostbite Engine ลง PC, PS5, Xbox Series X|S
EA เปิดตัว Dead Space ภาครีเมคโดย EA Motive ทีมสร้าง Star Wars: Battlefront 2 (2017) และ Star Wars: Squadrons รีเมคครั้งนี้เป็นการทำ Dead Space ภาคแรกมาสร้างใหม่บน Frostbite Engine
EA ระบุว่าเนื้อเรื่อง ตัวละคร และเกมเพลย์จะมีการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น ผู้เล่นจะได้กลับไปพบกับความสยองขวัญและปริศนาบนยาน USG Ishimura อีกครั้ง แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นและวันวางจำหน่าย แต่ระบุลง PC, PS5 และ Xbox Series X|S
ที่มา - EA Play Live 2021 |
# บริการ iCloud หลายตัว มีปัญหาทำงานช้า หรืออาจใช้งานไม่ได้ (เป็นปกติแล้ว)
แอปเปิลรายงานปัญหาในหน้าสถานะระบบ ว่าบริการหลายรายการมีปัญหาในการใช้งานตั้งแต่เวลา 20:33น. (อัพเดต - ใช้งานได้ตามปกติแล้วตั้งแต่ 00:16น.)
บริการที่ระบุว่ามีปัญหาได้แก่ iCloud Drive, iCloud Backup, iCloud Mail, iCloud Storage Upgrades และ Photos โดยอาจทำงานได้ช้า หรือไม่สามารถใช้งานได้
แอปเปิลไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับ Edge DNS ของ Akamai มีปัญหา จึงอาจมาจากสาเหตุเดียวกัน
ที่มา: iMore |
# Akamai Edge DNS ล่ม พา Disney+, PlayStation Network, Steam ล่มตาม
Akamai บริการ CDN รายใหญ่พบปัญหา Edge DNS ล่มบางส่วน แต่กระทบบริการหน้าเว็บของลูกค้าจำนวนมาก ที่ผู้ใช้ในไทยตอนนี้พบปัญหาเช่น Disney+ Hotstar, PlayStation Network, และ Steam ที่ไม่สามารถใช้งานได้
นอกจากบริการเกมในไทยแล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้ยังกระทบธนาคารในต่างประเทศหลายธนาคาร เช่น Tesco Bank ในสหราชอาณาจักรนั้นไม่สามารถ resolve DNS โดเมน www.tescobank.com ได้เลย
เมื่อเดือนที่แล้ว Fastly บริการ CDN รายใหญ่อีกรายก็ล่มไปเช่นกัน
ที่มา - Akamai Status |
# Google Doodle ต้อนรับ Tokyo Olympics ด้วยเกมเกาะแห่งแชมป์ เรโทรแบบ 16 บิต
กูเกิลเปิดตัว Google Doodle หรือภาพโลโก้หน้าแรก โดยคราวนี้มาในรูปแบบเกม Champion Island หรือชื่อภาษาไทย เกาะแห่งแชมป์ ซึ่งถือเป็นเกม Doodle ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา เพื่อต้อนรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งจะจัดขึ้นที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.)
Champion Island เป็นการพัฒนาเกมร่วมกับ STUDIO4°C ของญี่ปุ่น ตัวเกมให้สไตล์แบบย้อนยุค 16 บิต ผู้เล่นจะรับบทเป็น Lucky แมวนินจาที่เดินทางค้นพบเกาะ Champion Island ซึ่งในนั้นมีมินิเกมจำลองการแข่งขันกีฬา 7 อย่าง ผู้เล่นต้องสู้กับมืออาชีพในด่านนั้น ๆ โดยทั้ง 7 กีฬา ได้แก่ เทเบิลเทนนิส สเกตบอร์ด ยิงธนู รักบี้ ระบำใต้น้ำ ปีนเขา และวิ่งมาราธอน
ผู้เล่นจะเริ่มต้นโดยเลือกอยู่ 1 ใน 4 ทีม ได้แก่ แดง น้ำเงิน เหลือง เขียว (สีกูเกิล) และร่วมกับเก็บสะสมคะแนนให้มากที่สุดจากมินิเกมต่าง ๆ ตัวเกมยังออกแบบเป็นแผนที่ให้เราเดินเพื่อแก้เควสต์ต่าง ๆ พร้อมมีเนื้อเรื่องให้บรรยากาศแบบเกม RPG อีกด้วย
Champion Island จะเริ่มสะสมคะแนนตั้งแต่เวลา 11 นาฬิกา วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม ตามเวลาในประเทศไทย กูเกิลยังไม่ได้กำหนดว่าเกมจะเปิดให้เล่นถึงเมื่อใด สำหรับใครที่อยากลองเล่นก่อนสามารถไปลองกันได้ที่นี่
ที่มา: The Verge และ 9to5Google |
# Tesla เตรียมเปิดเครือข่าย Supercharger ให้รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นใช้ด้วยภายในปีนี้
Tesla เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเครือข่ายสถานีชาร์จของตัวเองที่ครอบคลุมมากที่สุดในโลก และได้รับการอัพเกรดใหญ่มาแล้ว 2-3 ครั้งเพื่อให้ชาร์จไฟได้เร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นผู้เล่นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบบจริงจังรายแรก ทำให้ต้องพัฒนาหัวชาร์จแบบเฉพาะของตนเองขึ้นมา ซึ่งเคยมีการเปิดเผยว่ามาตรฐานของหัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในสมัยนั้นไม่ดีพอสำหรับ Tesla จึงต้องพัฒนาขึ้นมาเอง แต่ประเด็นนี้ก็ถูกนำมาวิจารณ์ Tesla อยู่เรื่อยๆ ว่ามีเครือข่ายสถานีชาร์จที่ครอบคลุม แต่รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นกลับใช้ด้วยไม่ได้
ล่าสุดก็มีคนทวีตวิจารณ์เรื่องนี้อีกและเสนอให้แบน Tesla แต่ Elon Musk ตอบกลับไปว่า Tesla จะเปิดเครือข่ายสถานี Supercharger ให้รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นเข้ามาใช้บริการได้ด้วยภายในปีนี้ ทั้งนี้ ยังไม่มีรายละเอียดว่าเงื่อนไขการใช้บริการจะเป็นอย่างไร
ขณะนี้หลายประเทศก็พยายามผลักดันการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากันเรื่อยๆ อย่างในเยอรมนี รัฐมนตรีคมนาคมก็เคยโน้มน้าว Tesla ให้เปิดสถานีชาร์จของตนให้รถยนต์ยี่ห้ออื่นเข้ามาใช้ด้วยได้ หรือด้านสหรัฐอเมริกาก็สนับสนุนงบประมาณถึง 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.4 แสนล้านบาท) เพื่อพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านรถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงสถานีชาร์จด้วย นอกจากนี้ผู้เล่นภาคเอกชนก็พยายามขยายเครือข่ายสถานีชาร์จกันอยู่เช่นกัน
ที่มา - Reuters |
# Evernote ประกาศเพิ่มฟีเจอร์หลายรายการ แต่ใช้ได้เฉพาะแบบเสียเงิน
Evernote ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ อาทิ Tasks สำหรับสร้างลิสต์ To-Do และแชร์ให้ผู้ใช้งานคนอื่นได้, Calendar เพิ่มความสามารถเชื่อมต่อกับ Google Calendar, รองรับการใช้งานบน Linux (สถานะเบต้า) และเพิ่มเสิร์ชแบบบูลีน
แม้มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มมา แต่ Evernote ก็ประกาศปรับแผนในการใช้งานด้วย ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีอาจเข้าถึงบางคุณสมบัติไม่ได้ รายละเอียดดังนี้
Evernote Free (ชื่อเดิม Basic) ใช้ได้ 2 อุปกรณ์เหมือนเดิม อัพโหลดสูงสุด 60MB ต่อเดือน
Evernote Personal ราคา 100 บาทต่อเดือน รองรับ Tasks และเชื่อมต่อกับ Google Calendar ได้ 1 บัญชี
Evernote Professional 129 บาทต่อเดือน เชื่อมต่อ Google Calendar ได้หลายบัญชี และรองรับเสิร์ชแบบบูลีน
Evernote Teams (ชื่อเดิม Business) ราคา 390 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน สำหรับการใช้งานลูกค้าธุรกิจและองค์กร
ที่มา: Evernote |
# Uber Freight ซื้อกิจการ Transplace ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มลอจิสติก มูลค่าดีล 2,250 ล้านดอลลาร์
Uber Freight ธุรกิจในเครือ Uber ที่ให้บริการจับคู่ธุรกิจที่ต้องการขนส่งสินค้า กับคนขับรถบรรทุก ประกาศซื้อกิจการ Transplace ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารการขนส่งและลอจิสติกรายใหญ่ ที่มูลค่าดีล 2,250 ล้านดอลลาร์ โดยซื้อจากเจ้าของปัจจุบันคือกองทุน TPG Capital ทั้งนี้ Uber Freight จะจ่ายเป็นหุ้นของ Uber มูลค่า 750 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลือเป็นเงินสด
Lior Ron หัวหน้าฝ่าย Uber Freight กล่าวว่าดีลนี้เป็นก้าวที่สำคัญ ไม่ใช่แค่กับ Uber Freight แต่กับทั้งภาพรวมของลอจิสติก เพราะเป็นการรวมกันของสองบริษัท เพื่อสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และมีต้นทุนที่คุ้มค่า
Uber Freight อธิบายว่าจากนี้ผู้จัดส่งสินค้าจะเข้าถึงโซลูชัน เพื่อเลือกบริการขนส่งในทุกรูปแบบ ขณะที่ผู้ให้บริการขนส่ง จะเข้าถึงผู้จัดส่งสินค้าได้ง่ายมากขึ้น
ที่มา: Uber |
# Visual Studio 2022 for Mac เปิดทดสอบกลุ่มปิด, ใช้ UI แบบเนทีฟของ macOS แล้ว
ไมโครซอฟท์เริ่มเปิดทดสอบ Visual Studio 2022 ฝั่งพีซีมาสักพัก ฝั่งของ Visual Studio 2022 for Mac ก็เริ่มเปิดทดสอบแบบ Private Preview กันแล้ว
การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่สุดของ Visual Studio 2022 for Mac คือการปรับมาใช้ UI แบบเนทีฟของ macOS โดยตรง ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้น ลื่นขึ้น แก้ปัญหาด้านประสิทธิภาพและเสถียรภาพ รวมถึงได้ฟีเจอร์ด้าน accessibility จากตัว OS โดยตรงด้วย
ไมโครซอฟท์บอกว่าขอเวลาแก้บั๊กสำคัญๆ อีกระยะหนึ่ง และจะเปิดทดสอบแบบ Public Preview ตามมาในไม่ช้า
ที่มา - Microsoft |
# ไมโครซอฟท์ซื้อบริษัทความปลอดภัย CloudKnox ระบบจัดการสิทธิบนคลาวด์
ไมโครซอฟท์ประกาศซื้อกิจการ CloudKnox Security บริษัทความปลอดภัย Cloud Infrastructure Entitlement Management (CIEM) โดยไม่เปิดเผยมูลค่า
ซอฟต์แวร์ด้าน CIEM (บ้างก็เรียกว่า permissions management platform) เป็นการจัดการสิทธิการเข้าถึง (permission/privileged access) ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของโลกไอทีในปัจจุบัน ที่การจัดการสิทธิมีความยุ่งยากซับซ้อน และมักกลายเป็นช่องโหว่ที่คาดไม่ถึง
ซอฟต์แวร์ชอง CloudKnox ช่วยให้แอดมินเห็นภาพรวมของสิทธิการเข้าถึงทั้งองค์กร ช่วยวางแผนการเข้าถึงสิทธิของผู้ใช้แต่ละคนให้เหมาะสม โดยจุดเด่นที่ CloudKnox โฆษณาเอาไว้คือการทำงานแบบ multi-cloud รองรับคลาวด์หลายค่าย ทั้ง AWS, Azure, Google Cloud, VMware เป็นต้น
CloudKnox จะถูกผนวกเข้ากับ Microsoft Azure Active Directory และเชื่อมกับบริการด้านความปลอดภัยอื่นๆ เช่น Microsoft 365 Defender, Azure Defender, Azure Sentinel
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศซื้อบริษัทความปลอดภัย RiskIQ และ Refirm Labs โดยบริษัทระบุว่าตอนนี้มีพนักงานในสายงานความปลอดภัยมากกว่า 3,500 คนแล้ว
ที่มา - Microsoft |
# เตรียมใส่หน้ากากกันยาวๆ LG ออกหน้ากากฟอกอากาศ PuriCare รุ่นใหม่ มีไมค์กับลำโพงช่วยขยายเสียงพูด
เมื่อปีที่แล้ว LG วางขายหน้ากากฟอกอากาศLG PuriCare ราคา 5,490 บาท ล่าสุด LG เตรียมออกรุ่นอัพเดตแล้ว โดยปรับปรุงให้มอเตอร์เครื่องฟอกอากาศมีขนาดเล็กและเงียบกว่าเดิม รวมถึงเพิ่มไมค์และลำโพงสำหรับช่วยขยายเสียงพูดในตัว
ไมโครโฟในหน้ากากจะตรวจจับและขยายเสียงพูดอัตโนมัติ แก้ปัญหาพูดผ่านแมสก์แล้วผู้ฟังไม่ได้ยิน LG เรียกระบบนี้ว่า VoiceON ตัวหน้ากากมีน้ำหนัก 94 กรัม 9แบตเตอรี่ 1,000mAh ชาร์จผ่าน USB เต็มภายในสองชั่วโมง และเคลมว่าสวมใส่สบายได้นาน 8 ชั่วโมง
LG เตรียมวางจำหน่ายหน้ากาก PuriCare รุ่นใหม่ในประเทศไทย ภายในเดือนหน้า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าระบบกรองอากาศเป็นแบบใด จากเดิมที่รุ่นก่อนหน้านี้เป็นแผ่นกรองแบบ HEPA H13 class
ที่มา - The Verge |
# ไมโครซอฟท์แจ้งเตือนช่องโหว่เปิดทางผู้ใช้บนวินโดวส์อ่านฐานข้อมูลรหัสผ่านในเครื่อง
ไมโครซอฟท์ตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ระบบผิดพลาดทำให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ใน %windir%\system32\config\ ซึ่งรวมถึงไฟล์ sam ที่เป็นฐานข้อมูลรหัสผ่านของผู้ใช้ในระบบด้วย เปิดทางให้ผู้ใช้ที่อ่านไฟล์ได้จะสามารถขโมยค่าแฮชของรหัสผ่านออกมาได้
ฐานข้อมูล sam นั้นเก็บเฉพาะค่าแฮช NTLM ของวินโดวส์ซึ่งปกติหากฐานข้อมูลหลุดออกไปก็ยังต้องอาศัยการยิงค่าแฮชเพื่อหารหัสผ่านจริง แต่วินโดวส์นั้นยอมให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนด้วยค่าแฮชในบางกรณี จนเป็นกลุ่มการแฮกที่เรียกว่า pass the hash แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านผู้ใช้โดยใช้เพียงค่าแฮช NTLM เท่านั้น ทำให้แฮกเกอร์ที่อ่านฐานข้อมูล sam ได้จะยึดเครื่องด้วยสิทธิผู้ดูแลระบบได้ทันที
โดยปกติแล้วฐานข้อมูล sam จะถูกอ่านตลอดเวลาโดยระบบทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเปิดไฟล์ไม่ได้แม้จะมีสิทธิ์ อย่างไรก็ดีหากระบบมี shadow volume ผู้ใช้ก็สามารถเข้าถึงไฟล์ shadow ของไฟล์ sam อยู่ดี
ผู้รายงานช่องโหว่นี้คือ Jonas Lykkegaard อย่างไรก็ดี Will Dormann และ Jeff McJunkin ระบุว่าไมโครซอฟท์เพิ่งเปลี่ยนสิทธิไฟล์ SAM นี้ใน Windows 10 1809 แต่หากติดตั้งใหม่ด้วยไฟล์ติดตั้งเวอร์ชั่นหลังๆ สิทธิ์ไฟล์ก็ตั้งไว้ถูกต้องแล้ว แสดงว่าไมโครซอฟท์แก้ไขสิทธิ์นี้ไปแล้วแต่ไม่ได้กลับไปแก้เครื่องที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้า
ไมโครซอฟท์ยังไม่ได้ออกแพตช์ แต่ผู้ใช้สามารถรันคำสั่งเพื่อปิดสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ด้วยตัวเอง และควรต้องลบ shadow volume ออกด้วยเพื่อไม่ให้คนร้ายเข้าถึงได้อีก สำหรับผู้ใช้ที่ใช้เครื่องคนเดียวอาจจะไม่มีความเสี่ยงใดเป็นพิเศษนัก
ที่มา - Bleeping Computer, Microsoft |
# ผลทดสอบ FSR เทคโนโลยี upscale ของ AMD ยังไม่ดีเท่า NVIDIA DLSS แต่ใช้งานได้หลายรุ่นกว่า
VentureBeat ทดสอบเปรียบเทียบเทคโนโลยี FidelityFX Super Resolution (FSR) ของ AMD ที่ใช้เทคนิค linear กับ non-linear อัพสเกลภาพความละเอียดต่ำเพื่อให้เฟรมเรตเพิ่มขึ้น โดยใช้ได้กับการ์ดจอหลายรุ่น แม้แต่การ์ดจอของคู่แข่งอย่าง NVIDIA เอง ต่างจากเทคโนโลยี Deep Learning Super Sampling (DLSS) ของ NVIDIA ที่ใช้ machine learning อัพสเกล แต่ใช้ได้กับการ์ดจอตระกูล RTX เท่านั้น
ข้อแตกต่างของ FSR กับ DLSS อีกอย่างคือ FSR มีระดับการตั้งค่าแบบ Ultra Quality เพิ่มเข้ามา นอกเหนือจากระดับ Quality, Balanced และ Performance โดยในระดับการตั้งเท่ากัน FSR มีเฟรมเรตสูงกว่า DLSS ประมาณ 10-15%
ผลการทดสอบเปรียบเทียบภาพนิ่งจากเกม Marvel’s The Avengers โดยไม่เน้นด้านเฟรมเรต แต่เน้นเทียบรายละเอียดของภาพแบบ 4K
เมื่อเปรียบเทียบระดับ Quality เท่ากัน VentureBeat พบว่ารายละเอียดของภาพ เช่นลายแกะสลักถุงมือของ Miss Marvel และต้นหญ้าในแบคกราวด์ ของ DLSS มีความละเอียดมากกว่า และ machine learning ก็เติมรายละเอียดในบางส่วนของภาพ เช่นลายบนถุงมือ จนคมชัดกว่าบนความละเอียด native 4K ด้วยซ้ำ
เมื่อเปิดระดับ Ultra Quality ของ FSR เทียบกับ Quality ของ DLSS แล้ว รายละเอียดภาพแทบไม่ต่างกัน น่าเสียดายที่ VentureBeat ไม่ระบุจำนวนเฟรมเรตของการเปรียบเทียบแบบที่สองไว้
ส่วนการเปรียบเทียบแบบ Balanced ก็ได้ผลคล้ายกันคือ FSR คุณภาพภาพต่ำกว่า แต่เฟรมเรตสูงกว่า 10-15%
ผู้ทดสอบของ VentureBeat ทิ้งท้ายไว้ว่าหากมีตัวเลือกระหว่าง FSR หรือ DLSS เขาจะเลือกใช้ DLSS แม้จะได้เฟรมเรตน้อยกว่า เพราะให้ภาพที่รายละเอียดครบครันกว่า และหากต้องการเฟรมเพิ่มจริงๆ ก็จะปรับลดการตั้งค่าแทน แต่หากไม่มีตัวเลือก เขาก็มองว่าเทคนิค FSR ของ AMD นั้น ดีพอสำหรับการใช้งานของเกมเมอร์ส่วนใหญ่
ส่วนตัวผู้เขียนมีประสบการณ์ใช้ DLSS บนความละเอียด 1440p จากแพทช์ล่าสุดของเกม Red Dead Redemption 2 พบว่าเฟรมเรตเพิ่มขึ้น 10-15% จากการตั้งค่าปกติ โดยได้คุณภาพของภาพใกล้เคียงกัน แต่เมื่อตัวละครเคลื่อนไหวรวดเร็ว อาจมี artifact แปลกๆ หรือรายละเอียดภาพระยะไกลที่ขาดหายบ้างเมื่อเทียบกับการเรนเดอร์แบบ native
ที่มา - VentureBeat |
# Skull & Bones เกมโจรสลัดของ Ubisoft ทำมา 8 ปี ยังไม่เสร็จ ปัญหาเพียบ อนาคตยังไม่แน่นอน
Skull & Bones เป็นเกมออนไลน์แนวโจรสลัด พัฒนาโดย Ubisoft Singapore เป็นทีมหลัก เริ่มต้นพัฒนาจากการเป็นภาคเสริมของ Assassin’s Creed Black Flag ในปี 2013 ก่อนจะแยกออกมาเป็นเกมเดี่ยวเต็มตัว
เกมนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน E3 ปี 2017 ก่อนจะโชว์เกมเพลย์เพิ่มเติมในปี 2018 และมีกำหนดวางจำหน่ายในปีเดียวกัน
ตัวเกมถูกเลื่อนวางจำหน่ายหลายครั้ง จากปี 2018 เป็นปี 2019 จากปี 2019 ไปเป็นหลังเดือนมีนาคม 2020 หลังมีนาคม 2020 ไปเป็นช่วงเมษายน 2021 ถึงมีนาคม 2022 และล่าสุดถูกเลื่อนไปเป็นช่วง เมษายน 2022 จนถึงมีนาคมปี 2023 แทน รวมถูกเลื่อนมาแล้ว 4 ครั้งในระยะเวลา 3 ปี
เว็บไซต์ Kotaku สัมภาษณ์ทีมงานและอดีตทีมงานไม่เปิดเผยตัวตนกว่า 20 ชีวิต ได้ความว่าตัวเกมใช้เวลาพัฒนามา 8 ปี หมดเงินไปแล้วกว่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการรีเฟรช เปลี่ยนเซ็ตติ้งหลายรอบ ทั้งเคยจะใช้โลกจริงและมหาสมุทรอินเดียเป็นฉากหลัง ไปจนถึงใช้โลกจำลองชื่อ Hyperborea
เกมเพลย์เองก็ถูกเปลี่ยนหลายแบบ ทั้งเป็นเกมที่จบเป็นแมตช์ไปแบบ Rainbow Six Siege แต่มีโหมด Hunting Grounds ซึ่งคล้าย Dark Zone ของ The Division ไปจนถึงพยายามทำตามเกมแนวเอาตัวรอดแบบ Rust หรือ Ark: Survival Evolved และปัจจุบันก็ยังไม่มีใครแน่ใจว่าเกมจะออกมาแบบไหน
ทีมงานหลายคนที่ให้สัมภาษณ์ต่างก็เล่าสาเหตุต่างกันไป ทั้งทีมบริหารที่แก่งแย่งอำนาจและขาดทิศทาง บางคนก็ระบุว่าเกมเร่งสร้างเกินไป และทีมงาน Ubisoft Singapore ทีมที่เคยทำเกมฝั่ง Assasin’s Creed และทีมฝั่ง Ghost Recon Phantoms มีระบบการทำงานต่างกัน และทำให้เกิดการขัดแย้งทางวัฒนธรรมการทำงาน
ทีมงานส่วนใหญ่บอกว่าถ้าเป็นบริษัทอื่น โปรเจกต์เกมนี้คงถูกพับไปนานแล้ว และตอนนี้เกมนี้ “ใหญ่เกินกว่าจะพัง” เพราะ Ubisoft ลงเงินและเวลาไปมากกับเกมนี้ นอกจากนี้ Ubisoft ติดสัญญารับเงินสนับสนุนกิจการจากรัฐบาลสิงคโปร์ ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องออกเกมไอพีใหม่ที่สร้างโดยทีม Ubisoft Singapore ให้ได้อีกด้วย
ปัจจุบัน Ubisoft ยืนยันกับ Kotaku ว่าตัวเกมผ่านขั้น Alpha แล้ว และจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคต แต่จากปัญหาหลากหลายที่ Kotaku รายงาน ก็ยังไม่แน่ชัดว่าตัวเกมจะออกตามกำหนดการล่าสุดคือภายใน เมษายน 2022 จนถึงมีนาคมปี 2023 ได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา - Kotaku |
# ทวิตเตอร์ทดสอบให้โหวตข้อความใต้โพสต์ แก้ปัญหา reply เยอะจนหาความเกี่ยวข้องไม่เจอ
ทวิตเตอร์ประกาศทดสอบเพิ่มปุ่ม upvote และ downvote ตรงข้อความ reply ใต้โพสต์ เทียบได้กับการ like และ dislike โดยแสดงให้เจ้าของโพสต์เห็นด้วยว่า โพสต์ไหนมีคนกดเห็นด้วยมาก เป้าหมายของการทดสอบคือแก้ปัญหาข้อความ reply เยอะเกินไปจนหาไม่เจอ เป็นฟังก์ชั่นหมือนกับที่มีใน Reddit นั่นเอง
ทวิตเตอร์ประกาศทดสอบเฉพาะผู้ใช้งานกลุ่มหนึ่งบน iOS แต่ละคนจะมองเห็นหน้าตาฟีเจอร์แตกต่างกันไป 3 แบบ ตามรูปภาพด้านล่าง ทวิตเตอร์ยังชี้แจงด้วยว่า นี่ไม่ใช่ฟีเจอร์เพิ่มปุ่ม dislike ผลโหวตจะมองเห็นเฉพาะเจ้าของโพสต์เท่านั้น และการโหวตจะไม่เปลี่ยนแปลงลำดับของข้อความ reply
ที่มา - Engadget |
# Activision Blizzard ถูกฟ้องจากสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน
Activision Blizzard ถูกฟ้องเนื่องจากมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่เต็มไปด้วยการเลือกปฏิบัติทางเพศ และการคุกคามทางเพศ โดยโจทก์ฟ้องคือ กรมการจ้างงานและการเคหะที่เป็นธรรม หรือ DFEH (Department of Fair Employment and Housing)
เอกสารคำฟ้องระบุว่า ผู้หญิงต้องเจอการคุกคามในที่ทำงาน โดยเฉพาะจากผุ้กระทำที่อยู่ในตำแหน่งสูง ในอเมริกา มีเกมเมอร์ผู้หญิงเกือบครึ่ง แต่ในอุตสาหกรรมเกมยังคงถูกครอบงำโดยผู้ชาย และยังระบุเหตุการณ์ที่มีพนักงานหญิงฆ่าตัวตายหลังเดินทางทริปธุรกิจ ซึ่งมีสาเหตุจากความสัมพันธ์ไม่ดีกับผู้มีตำแหน่งสูงกว่า
ด้าน Activision-Blizzard ปฏิเสธคำฟ้อง โดยบอกว่า DFEH บิดเบือนข้อเท็จจริง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การสอบสวนเริ่มต้นขึ้น บริษัทได้ทำการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของบริษัทและสะท้อนความหลากหลายมากขึ้นภายในทีมผู้บริหาร
ขณะนี้บริษัทสร้างเกมหลายรายเจอคดีความฟ้องร้องประเด็นล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ ก่อนหน้านี้ ซีอีโอRiot Games ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศอดีตพนักงานหญิง ล่าสุดจ่าย 10 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดี, Ubisoft โดนสหภาพแรงงานในฝรั่งเศสฟ้องฐานยินยอมให้เกิดการคุกคามเพศในองค์กร
ที่มา - CNET |
# Pfizer/BioNTech ร่วมมือบริษัทแอฟริกาใต้ตั้งโรงงานผลิตวัคซีน COVID-19 เริ่มเดินสายการผลิตสิ้นปีนี้
Pfizer และ BioNTech ประกาศความร่วมมือกับ Biovac Institute ผู้ผลิตยาในแอฟริกาใต้เตรียมผลิตวัคซีน COVID-19 จากโรงงานของ Biovac ในเมือง Cape Town คาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ภายในสิ้นปีนี้ และเมื่อเดินหน้าผลิตได้เต็มที่จะมีกำลังผลิตปีละ 100 ล้านโดส
วัคซีนจากโรงงานของ Biovac จะขายเฉพาะในเครือสหภาพแอฟริกัน (African Union) ที่มีสมาชิก 55 ชาติเท่านั้น
Biovac เคยรับจ้างผลิตวัคซีน Prevnar 13 ให้กับ Pfizer มาตั้งแต่ปี 2015 การประกาศความร่วมมือครั้งนี้แม้จะเป็นเพียงการลงนามจดหมายแสดงเจตจำนงค์ (letter of intent) แต่ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและติดตั้งอุปกรณ์ทันที
ที่มา - Pfizer |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.