text
stringlengths
11
12.4k
meta
dict
ย่านชุมชนเก่า: ศรีโคมคำ ที่อยู่: ตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ศรีโคมคำ เป็นชุมชนตลาด ชุมชนริมน้ำ และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน โดยพบกลุ่มชาติพันธุ์ในชุมชน คือ จีนฮ่อ ไทยลื้อ ลาหู่ ม้ง เมี่ยน ลีซู และอาข่า วัดศรีโคมคำเป็นวัดที่สร้างขึ้นภายหลังจากการก่อสร้างพระเจ้าตนหลวง ตัววิหารหลังเดิมไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าผู้ใดสร้าง เนื่องจากเมืองพะเยามีการอพยพผู้คนจากภัยสงคราม ทำให้ตัวเมืองถูกปล่อยร้าง จนกระทั่งมีการฟื้นฟูเมืองขึ้นมาใหม่หลังยุคกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบตั้งอยู่ทิศตะวันออกของกว๊านพะเยา ภายในชุมชนมีเรือนไม้สองชั้นที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ยังคงมีลักษณะเด่นจากฝาผนังและรูปทรงหลังคา เป็นกลุ่มสังคมเมืองขนาดเล็กมีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ลักษณะเศรษฐกิจเป็นแบบผสมผสานระหว่างการค้าขายรายย่อยกับรูปแบบการค้าแบบใหม่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ท่ากว๊าน ที่อยู่: ตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ท่ากว๊าน เป็นชุมชนตลาด ชุมชนริมน้ำ และชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ โดยพบกลุ่มชาติพันธุ์ในชุมชน คือ จีนฮ่อ ไทยลื้อ ลาหู่ ม้ง เมี่ยน ลีซู และอาข่า เป็นชุมชนที่มีการย้ายถิ่นฐานของชุมชนร่องไฮมาอยู่ที่ท่ากว๊าน และประกอบอาชีพทำนาเลี้ยงสัตว์ ต่อมามีประชากรเริ่มอพยพมาจากบ้านกาดเมฆ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มาทำมาหากินตั้งถิ่นฐาน โดยการนำเอาวัฒนธรรมการตีมีดมาด้วย จนทำให้เป็นอาชีพของชาวบ้านร่องไฮ ซึ่งประชากรที่อพยพมาจากลำปาง เริ่มมาเมื่อปี พ.ศ. 2458 ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบ ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกว๊านพะเยา ปัจจุบันสภาพแวดล้อมของชุมชนโดยรวมมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ยังคงมีเรือนแถวไม้ขนาดเล็กหลงเหลืออยู่ในตรอกซอกซอยซึ่งห่างไกลจากถนนหลัก เขตเมืองสมัยใหม่ทั้งบ้านพักค้าขายอาคารทางราชการ แหล่งเศรษฐกิจที่ทันสมัยของอำเภอ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: หนองระบู ที่อยู่: ตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: หนองระบู เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ โดยพบกลุ่มชาติพันธุ์ คือ จีนฮ่อ ไทยลื้อ ลาหู่ ม้ง เมี่ยน ลีซู และอาข่า เป็นศูนย์กลางของตลาดการแลกเปลี่ยนสินค้าของเมืองพะเยามานาน เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางของเมืองพะเยา ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบ ถูกขนาบด้วยกว๊านพะเยาทางฝั่งซ้าย และถนนพหลโยธินทางฝั่งขวา มีเรือนแถวไม้สองชั้น ชั้นล่างเพื่อการค้าขาย ชั้นบนเพื่อพักอาศัย ลักษณะเด่นที่รูปแบบของฝาผนัง และราวระเบียงที่มีความสวยงาม รวมถึงบ้านบางหลังยังคงใช้รั้วไม้แบบโบราณอยู่ เป็นชุมชนเศรษฐกิจที่เป็นศูนย์กลางของจังหวัดในหลาย ๆ ด้าน มีการเตรียมการพัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านการรักษาโรคด้วยสมุนไพร
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ภูกามยาว ที่อยู่: ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ภูกามยาว เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ชุมชนโดยรอบโบราณสถาน และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวจีนฮ่อ ไทยลื้อ ลาหู่ ม้ง เมี่ยน ลีซู และอาข่า ในสมัยพ่อขุนงำเมือง "เมืองภูกามยาว" เคยมีเอกราชสมบูรณ์ มีกษัตริย์ปกครองปรากฏตามตำนานเมืองพะเยา และได้ถูกรวมกับอาณาจักรล้านนาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2386 ลักษณะภูมิประเทศของชุมชนคือ ตั้งอยู่บนที่ราบ ส่วนวัดสำคัญทั้งสองแห่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ลักษณะชุมชนมีการปลูกสร้างบ้านเรือนกระจายตัว โดยมีวัดเป็นศูนย์กลางชุมชน ลักษณะเรือนเป็นเรือนไม้ขนาดเล็ก ชุมชนชนบทขนาดเล็กมีการทำการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ และค้าขายรายย่อยอีกส่วนหนึ่ง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: วังกรด ที่อยู่: ตำบลวังกรด อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: วังกรด เป็นชุมชนตลาด ชุมชนริมน้ำ ชุมชนโดยรอบทางรถไฟ และชุมชนความทรงจำ ตลาดวังกรดตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองพิจิตรประมาณ 10 กิโลเมตรเท่านั้น เดิมชื่อ "บ้านวังกลม" และเปลี่ยนเป็น "วังกรด" ตามชื่อสถานีรถไฟ ตลาดวังกรดเป็นตลาดที่เกิดจากการเป็นชุมทางของการเดินทางที่สำคัญ คือการเกิดของทางรถไฟสายเหนือ "และสถานีรถไฟบ้านวังกลม" ในปี พ.ศ. 2451 เกิดการสร้างตลาดขึ้น เป็นชุมชนค้าขายโดย "หลวงประเทืองคดี" จากวันนั้นตลาดวังกรด จึงกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าขายแหล่งใหญ่ของจังหวัดพิจิตร เรียกได้ว่า "เศรษฐกิจการค้าดีมากกว่าในเมืองพิจิตรเสียอีก" นอกจากนี้วังกรดยังมีประวัติศาสตร์ความทรงจำในเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับโฮจิมินห์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบริมแม่น้ำ มีตลาดโบราณเรือนไม้ ที่ยังคงสภาพดั้งเดิมให้เห็นอยู่ ผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขายเป็นหลัก เป็นศูนย์กลางการซื้อขายแลกเปลี่ยนตั้งแต่อดีต
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ท่าฬ่อ ที่อยู่: ตำบลท่าฬ่อ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ท่าฬ่อ เป็นชุมชนตลาด ชุมชนริมน้ำ ชุมชนโดยรอบทางรถไฟ และชุมชนความทรงจำ ชาวท่าฬ่อส่วนใหญ่มีเชื้อสายชาวจีนไหหลำ ที่คนรุ่นปู่ รุ่นพ่อ เป็นชาวจีนมาจากเกาะไหหลำ ข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ทำมาค้าขายเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดการทำธุรกิจการค้าขยายตัว มีตลาดร้านค้าถึง 2 แห่ง คือ ตลาดใต้ และตลาดเหนือ มีทั้งร้านตัดเสื้อผ้า ร้านถ่ายรูป ช่างไม้ ช่างบัดกรี ร้านอาหารข้าวมันไก่ ซาลาเปาหมูสับเห็ดหอม มีร้านตัดผมที่มีพัดลมแผ่นผ้าใบปักลวดลายสวยงาม เดินเร่ขายปลาเค็มชั้นหนึ่งประเภทปลากุเลา และปลาสละเค็มกลิ่นหอม มีโรงสี 2 โรง และโรงเลื่อย 1 โรง จนทำเศรษฐกิจท่าฬ่อเฟื่องฟูมาช้านาน มีชื่อเสียงโด่งดัง มีทั้งสถานีรถไฟ ท่าน้ำโรงเรียนภาษาจีน และศูนย์กลางการขนส่งในระดับตำบลชั้นนำ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบริมแม่น้ำ มีอาคารเรือนไม้ที่กระจายไปในพื้นที่ที่ลึกไปจากแนวถนนสายหลัก เป็นตลาดโบราณเป็นศูนย์กลางทางการค้าในอดีต เเละเริ่มซบเซาลงไปเมื่อมีตัดถนนเพิ่มมากขึ้น การเดินทางหรือขนส่งทางน้ำลดลง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดบางมูลนาก ที่อยู่: ตำบลบางมูลนาก อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ตลาดบางมูลนาก เป็นชุมชนตลาด ชุมชนริมน้ำ ชุมชนโดยรอบทางรถไฟ และชุมชนความทรงจำ ชุมชนตลาดบางมูลนากเป็นศูนย์การค้ามาหลายชั่วคน ส่วนใหญ่เป็นการค้าขนาดเล็ก และขนาดกลางซื้อมาขายไปเป็นหลัก จะมีประเภทที่เป็นอุตสาหกรรมยุคบุกเบิก ได้แก่ โรงเลื่อย โรงสี และโรงน้ำแข็งส่วนบริเวณรอบนอกออกไปก็เป็นชุมชนเกษตรที่กว้างใหญ่ไพศาล และยืนยงจนทุกวันนี้ ในอดีตเคยเป็นเมืองภูมิมาก่อน ซึ่งมีทำการอยู่ที่บ้านหนองเต่า ตำบลภูมิ จากคำเล่ากันต่อ ๆ มาแต่โบราณว่า มีพระธรรมยาเป็นผู้ว่าราชการเมืองสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นหรือสมัยอยุธยาก็ได้ ปัจจุบันมีผู้สร้างศาลพระธรรมยาที่วัดหนองเต่า ตำบลภูมิ มีคนนับถือกันมาก และมีคนบนบานศาลกล่าวกันอยู่เสมอ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มติดแม่น้ำน่าน มีบ้านเรือนโดยรอบมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ยังคงเห็นสภาพเดิมในตลาดและพื้นที่ใกล้เคียง เป็นชุมชนโบราณขนาดใหญ่มีการทำการเกษตรควบคู่กับการค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดตะพานหิน ที่อยู่: ตำบลตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ตลาดตะพานหิน เป็นชุมชนตลาด ชุมชนริมน้ำ และชุมชนโดยรอบทางรถไฟ เป็นชุมชนพาณิชยกรรมขนาดใหญ่และเก่าแก่แห่งหนึ่งของ จังหวัดพิจิตร โดยตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำน่านทางทิศตะวันตก และสถานีรถไฟตะพานหินในด้านทิศตะวันออก ประกอบด้วยกลุ่มอาคารพาณิชยกรรมที่เป็นเรือนแถวไม้ สลับกับตึกแถวในรูปแบบสถาปัตยกรรมยุคโมเดิร์น กระจายตัวอยู่ระหว่างแนวตะวันออก-ตกของแม่น้ำน่าน และสถานีรถไฟตะพานหิน เป็นชุมชนย่านการค้าที่สำคัญที่สุดของอำเภอ ตะพานหิน ที่รวมสินค้าหลากหลายประเภท ได้แก่ ร้านค้าปลีก ร้านขายทอง ตลาดสด เป็นต้น
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตรอกกล้าตะพานหิน ที่อยู่: ตำบลตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ตรอกกล้าตะพานหิน เป็นชุมชนเกษตรกรรรม ชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทยพื้นถิ่น ไทยเชื้อสายจีน และลาวพวน อำเภอตะพานหินตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน ห่างจากตัวเมืองจังหวัดพิจิตรไปทางทิศใต้ประมาณ 28 กิโลเมตรที่มาของชื่อ "ตะพานหิน" สืบเนื่องมาจากเดิมมีหินดานขวางอยู่กลางแม่น้ำน่านเหนือตะพานหินขึ้นไปประมาณ 1 กิโลเมตร ตรงที่ทำการประปาส่วนภูมิภาค อำเภอตะพานหินในปัจจุบันลักษณะของหินดานนี้จะเห็นได้เฉพาะฤดูแล้งขณะน้ำลด เป็นหินดานที่ยื่นจากฝั่งตะวันออกและขวางแม่น้ำน่านเกือบจรดถึงฝั่งตะวันตก เหลือช่วงน้ำลึกไว้เพียงเล็กน้อยพอที่เรือขนาดเล็กจะแล่นผ่านไปมาได้ ลักษณะคล้ายสะพานหิน ชุมชนตรอกกล้าตะพานหินมีอาชีพดั้งเดิมคือ เป็นย่านลิเก ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบติดแม่น้ำ มีบ้านไม้ขนาดเล็กมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น ที่สร้างตามธรรมเนียมแบบดั้งเดิม มีสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลา มีการปรับปรุงและเปลี่ยนให้เหมาะสมตามสภาพการอยู่อาศัยของแต่ละหลัง ลักษณะของสังคมและความเป็นอยู่เป็นชุมชนแบบชนบท มีอาชีพทางการเกษตรเป็นส่วนใหญ่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ชุมชนชาวแพ ที่อยู่: ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ชุมชนชาวแพ เป็นชุมชนริมน้ำที่ตั้งอยู่ทางด้านฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำน่าน ชุมชนเป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา มีลักษณะเป็นบ้านเรือนแพ ประกอบด้วยเรือนหลักและเรือนเล็ก ซึ่งเป็นที่ประกอบอาหารและห้องน้ำ ปัจจุบันหลงเหลือน้อย เดิมเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่าง อำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดพิษณุโลก สินค้าที่นำมาขายมีข้าว สัตว์ป่า และของป่า ปัจจุบันเป็นย่านการค้าและตลาดสด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ท่ามะปราง ที่อยู่: ตำบลท่ามะปราง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ท่ามะปราง เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ ก่อตั้งมาเมื่อประมาณ 230-250 ปี ที่ผ่านมา เดิมชื่อ หมู่บ้านทับปราง และเปลี่ยนมาเป็นท่ามะปราง เพราะบริเวณหมู่บ้านตั้งอยู่ใกล้ลำคลอง ซึ่งมีต้นมะปรางขึ้นอยู่รอบ ๆ โดยผู้คนบริเวณนั้นจะทำท่าน้ำเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน จึงได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อท่ามะปราง เป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญในสมัยประวัติศาสตร์จึงเป็นแหล่งรวมของทั้งผู้คนและสรรพสินค้าต่าง ๆ นอกจากกลุ่มชาวไทยแล้ว ยังมีกลุ่มชาวจีนและแขกอิสลามที่อพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาค้าขาย ทำมาหากินปะปนกันอยู่ด้วย ลักษณะภูมิประเทศตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน เป็นพื้นที่อยู่ในย่านการค้าเก่าโบราณ มีพระปรางค์ขนาดย่อมคล้ายวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ ภายในวัดท่ามะปราง บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นรูปแบบสมัยปัจจุบัน คงเหลือบ้านไม้เก่าริมน้ำอยู่จำนวนไม่มากนัก อาชีพส่วนใหญ่คือค้าขาย และรับจ้างทั่วไป
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตาปะขาวหาย ที่อยู่: ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ตาปะขาวหาย เป็นชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ชุมชนริมน้ำ ชุมชนความทรงจำ และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน เดิมเรียกว่าบ้านเตาไห เป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาประเภทไห จึงเรียกว่า บ้านเตาไห ผลิตส่งออกขายภายในประเทศและต่างประเทศ พบหลักฐานเครื่องปั้นดินเผาที่วัดจุฬามณี และที่อ่าวไทยในซากเรือสำเภาล่ม เป็นหลักฐานสำคัญ แต่ปัจจุบันเรียกบ้านตาปะขาวหาย ลักษณะภูมิประเทศ เป็นชุมชนโบราณตั้งอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำน่าน แต่เดิมมีวัดโบราณหลายแห่งแต่ถูกทำลายจนหมด มีวัดตาปะขาวหาย เป็นวัดโบราณที่หลงเหลืออยู่ โดยมีวิหารและพระพุทธรูปองค์ประธาน เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา และมีเตาเผาโบราณบริเวณริมฝั่งแม่น้ำน่าน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และเครื่องปั้นดินเผา
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ปากพิงตะวันตก ที่อยู่: ตำบลงิ้วงาม อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ปากพิงตะวันตก เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนความทรงจำ เป็นพื้นที่ที่มีเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายเหตุการณ์ เช่น ศึกอะแซหวุ่นกี้ ศึกสงคราม 9 ทัพ รวมทั้งเป็นชุมชนที่ปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์เรื่องการรบของพระเจ้าตากสิน เป็นที่ตั้งของกองทัพ ในสมัยที่พระเจ้าตากสินรบกับพม่า ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีคลองชลประทานผ่านหมู่บ้าน และมีแม่น้ำน่านไหลผ่านหมู่บ้าน พื้นที่เหมาะแก่การทำการเกษตร บ้านเรือนเป็นรูปแบบสมัยใหม่ตั้งกระจายอยู่ทั่วชุมชน มีบ้านไม้เก่ายกใต้ถุนสูงอยู่บริเวณทิศเหนือของชุมชนประมาณ 10 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีภูมิปัญญาด้านการรักษาโรค เช่น พ่นฝีคางทูม พ่นป่วง พ่นตาแดง นมหลง งาแซง และมีดสับเส้น
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านใหม่ ที่อยู่: ตำบลวัดพริก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: บ้านใหม่ เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ เดิมชื่อบ้านทราย มีอาณาเขตกว้างขวางมาก อยู่ในตำบลวังน้ำคู้ เดิมบริเวณนั้นเป็นป่า มีประชากรอาศัยอยู่เล็กน้อย ต่อมามีผู้คนจากที่อื่นอพยพเข้ามาทำการค้าขายพืชไร่กับหมู่บ้านใกล้เคียง จึงทำให้มีตลาดเจริญรุ่งเรืองมาก ต่อมาทางราชการได้ใช้วัดเหนือและวัดบางทรายแบ่งเขต ปรากฏว่าตำบลวังน้ำคู้ได้ส่วนหนึ่งของตลาด ด้านตำบลวัดพริกได้ตลาดเกือบทั้งหมด จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า ตลาดบ้านใหม่ ต่อมาชื่อกร่อนลงเหลือเพียงบ้านใหม่ อยู่ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลกประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ย่านการค้า พาณิชยกรรม มีตลาดบ้านใหม่ที่เป็นอาคารไม้เก่าโบราณ ลักษณะเป็นเรือนแถวชั้นเดียวตลอดแนว และมีเรือนใหม่เก่าริมคลอง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย และเกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: พรหมพิราม ที่อยู่: ตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: พรหมพิราม เป็นชุมชนตลาด เป็นชุมชนที่ทอดตัวขนานทางรถไฟในทิศตะวันออก และขนานกับแม่น้ำน่านทางทิศตะวันตก ที่เจริญขึ้นมาจากการเป็นชุมทางการค้าขายระหว่างพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางในอดีต จากลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีเส้นทางคมนาคมได้หลากหลายเช่นนี้ ทำให้ชุมชนพรหมพิราม เกิดเป็นเมืองที่เจริญเติบโตขึ้นตามลำดับ ภายในชุมชนประกอบด้วย กลุ่มอาคารแถวไม้สูงสองชั้นที่มีความหนาแน่น ขนาบด้วยแม่น้ำน่านและทางรถไฟ โดยเกิดเป็นชุดห้องแถวขนานตลอดเส้นถนนที่เชื่อมระหว่างแม่น้ำกับทางรถไฟเป็นย่านการค้าที่สำคัญระดับอำเภอ เป็นศูนย์กลางการบริการและการให้บริการสินค้าหลากหลายชนิด อาทิ ตลาดสด และร้านค้าปลีก
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: นครไทย ที่อยู่: ตำบลนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: นครไทย เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวม้ง โดยมีชนเผ่าม้งอาศัยอยู่บนพื้นที่อุทยานภูหินร่องกล้า พบข่าวความเคลื่อนไหวของชนเผ่าม้งในพื้นที่ชุมชนตำบลนครไทย ลักษณะภูมิประเทศมีสภาพพื้นที่ทางทิศเหนือของตำบลเป็นภูเขา เป็นที่ราบสูงทางเหนือแล้วลาดลงมาทางใต้ ซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม และมีแม่น้ำแควน้อยเป็นแนวเขตตำบล พื้นที่บางแห่งเป็นลุ่มน้ำมีน้ำท่วมประจำทุกปี ภายในชุมชนมีบ้านเรือนที่มีลักษณะเป็นบ้านไม้สองชั้นยกใต้ถุน แสดงให้เห็นการใช้ประโยชน์ของอาคาร ที่สัมพันธ์กับวิถีชีวิตและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับภาคเกษตร ได้แก่ สวน ยุ้งข้าว พื้นที่อำเภอนครไทยเคยเป็นหนึ่งในฐานที่ตั้งหลักของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งมีโรงเรียนการเมืองการทหารที่เป็นศูนย์กลางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันเป็นชุมชนหมู่บ้านของกลุ่มม้งที่เป็นสหายปฏิวัติเดิม อยู่บนที่สูง ซึ่งเป็นที่จัดสรรให้อยู่หลังจากมีการมอบตัวของพรรคคอมมิวนิสต์
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านสะเดียง ที่อยู่: ตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: บ้านสะเดียง เป็นชุมชนเกษตรกรรม เดิมเขียนว่า เสดียง เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ประมาณ 700 ปี มีมาพร้อม ๆ กับสมัยสุโขทัย ตำบลสะเดียงตั้งชื่อตามชื่อของสายเสดียง ซึ่งหมายถึง หวายเส้น ที่มีขนาดยาว ชาวบ้านนำมาจากป่าเพื่อถวายพระสำหรับใช้เป็นราวตากผ้าของพระสงฆ์ เป็นชุมชนพื้นเมืองโบราณดั้งเดิมของเพชรบูรณ์ มีภาษา วัฒนธรรม ประเพณี ที่โดดเด่นเป็นอัตลักษณ์ของตัวเอง ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเมืองเพชรบูรณ์ มีถนนบุรกรรมโกวิทผ่านกลางชุมชน วิ่งเป็นแนวตะวันออก-ตะวันตก ภายในชุมชนมีบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้โบราณหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนของร้านค้า และบ้านพักอาศัยทั่วไป ตลอดแนวถนนในชุมชน อาชีพหลัก คือ ทำนา ทำสวน ทำไร่ และอาชีพเสริม คือรับจ้างทั่วไป
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: หล่มเก่า ที่อยู่: ตำบลหล่มเก่า อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: หล่มเก่า เป็นชุมชนตลาด โดยมีถนนรณกิจปรีชาเป็นถนนสายสำคัญของเมืองหล่ม ที่ท้ายถนน คือ แม่น้ำป่าสัก มีท่าน้ำไว้สำหรับขนสินค้าที่มาทางเรือขึ้นฝั่ง เพื่อเอามาค้าขายแลกเปลี่ยนกันที่ตลาดนายหมายนายสง่า ซึ่งเป็นตลาดดั้งเดิมของหล่มสัก มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480 และบริเวณย่านเศรษฐกิจแห่งนี้ก็มีตรอกสำคัญตรอกหนึ่ง ชื่อ ตรอกโรงยา เป็นตรอกที่คนไทยเชื้อสายจีนสมัยก่อนจะมานั่งสูบยาฝิ่นกันที่นี่ เพราะเชื่อว่าจะช่วยรักษาอาการปวดท้องได้ เป็นพื้นที่อยู่ในเทศบาลหล่มเก่า ลักษณะสภาพแวดล้อมเป็นถนนเก่าแก่โบราณ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นย่านพาณิชยกรรม เป็นตลาดโบราณมีห้องแถวไม้ 2 ชั้นเก่า อายุกว่า 100 ปี อยู่ตลอดสองฝั่งถนน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ศรีเทพ ที่อยู่: ตำบลศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ศรีเทพ เป็นชุมชนความทรงจำ และชุมชนที่อยู่โดยรอบโบราณสถาน ซากเมืองโบราณนี้ถูกพบครั้งแรกในขณะที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเดินทางไปตรวจราชการมณฑลเพชรบูรณ์ ใน พ.ศ. 2448 ลักษณะของเมืองโบราณมีคูน้ำและกำแพงดินขนาดใหญ่มากล้อมรอบ เป็นรูปวงกลมซ้อนกันอยู่ 2 วง ซึ่งสันนิษฐานกันว่าแนวคูเมือง กำแพงเมืองที่ซ้อนกันนั้น จะเป็นการขยายตัวของชุมชนในภายหลัง เป็นพื้นที่ชุมชนอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นรูปแบบสมัยใหม่ ปลูกกระจายอยู่ทั้งพื้นที่ของชุมชน ไม่พบบ้านเรือนรูปแบบโบราณหลงเหลืออยู่ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขายและรับจ้างทั่วไป
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านม้งเข็กน้อย ที่อยู่: ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: บ้านม้งเข็กน้อย เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวม้ง ที่ได้อพยพเข้ามาอยู่ ในเขต 3 จังหวัด เมื่อประมาณ 70 ปีมาแล้ว โดยชาวเขาชุดแรกอพยพมาจากอำเภอปัว จังหวัดน่าน ผ่านมาทางอำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ และลงมาทางอำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร แล้วเดินทางมาตั้งถิ่นฐานในจังหวัดเพชรบูรณ์ ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ใกล้เคียงกับบริเวณ ภูทับเบิก เขาค้อ และทุ่งแสลงหลวง เป็นหมู่บ้านม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีรูปแบบบ้านเรือนแบบชาวม้งดั้งเดิม สลับกับบ้านไม้ทั้งหนึ่งและสองชั้น ตั้งอยู่กันเป็นกลุ่มภายในชุมชน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร และผ้าปักลาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านแม่คำมีท่ามีล้อ ที่อยู่: ตำบลแม่คำมี อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านแม่คำมีท่ามีล้อ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวกะเหรี่ยง ยองมลาบรี ม้ง ลีซู และอาข่า เป็นชุมชนโบราณขนาดเล็ก มีจุดเด่นคือ มีแม่น้ำผ่านกลางชุมชน ซึ่งโดยทั่วไปแม่น้ำจะผ่านด้านเดียว ในชุมชนมีแนวกำแพงโบราณอยู่ และยังพบภาชนะดินเผามากมายที่มีลักษณะคล้ายที่เวียงสองและเวียงเทพ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบมีแม่น้ำแม่คำมีผ่านกลางชุมชน มีเรือนไม้ใต้ถุนสูง ชั้นล่างต่อเติมเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน ยังคงหลงเหลือบางหลังที่มีการรักษารูปแบบการใช้ต้นไม้เป็นแนวรั้วบ้าน เป็นชุมชนขนาดเล็ก พื้นที่ใกล้ถนนจะทำการค้าขายเป็นหลัก ส่วนพื้นที่ด้านหลังทำการเกษตรเป็นหลัก ไม่มีการใช้งานการขนส่งทางน้ำ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านทุ่งโฮ้ง ที่อยู่: ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านทุ่งโฮ้ง เป็นชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ชุมชนโดยรอบโบราณสถาน และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทยพวนที่อพยพมาจากเมืองพวน แขวงเมืองเชียงราย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประมาณ พ.ศ. 2360-2380 อาชีพหลักของชาวบ้านทุ่งโฮ้ง คือการทำผ้าม่อฮ่อม เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดแพร่ จนได้รับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP เชิงหัตถกรรม ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบที่ทำการเกษตร มีเรือนไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง มีลักษณะเด่นที่ฝาไม้ ทำจากไม้แผ่นขนาดใหญ่ เรียงอย่างสวยงาม เป็นชุมชนที่รองรับการท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบ รายได้หลักพึ่งพาจากการผลิตและขายผ้าม่อฮ่อมเป็นหลัก บางส่วนยังคงทำการเกษตรอยู่บ้าง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านดง ที่อยู่: ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านดง เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ และชุมชนชาติพันธุ์ของอึมปี้ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ เพียง 300 กว่าหลังคาเรือน ที่ใช้ภาษาอึมปี้เพียงชุมชนเดียวในประเทศไทย แม้อยู่ท่ามกลางผู้คนที่หลากหลายทั้งคนไทยวนไทลื้อ และชุมชนตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองแพร่มากนัก ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มมีแหล่งน้ำธรรมชาติ มีบ้านเรือนส่วนใหญ่มีเสาไม้ขนาดใหญ่ ผนังเป็นไม้แผ่นขนาดใหญ่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของชุมชนในอดีต สังคมของชาวบ้านดงอยู่กันอย่างแบบเครือมิตรเป็นญาติพี่น้อง ทำการเกษตรและรับจ้าง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เวียงสันทราย ที่อยู่: ตำบลบ้านเวียง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: เวียงสันทราย เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน เป็นชุมชนโบราณขนาดใหญ่ยังคงพบเห็นคูและคันดินได้บ้าง แต่ถูกชาวบ้านสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ทับแทบหมดเเล้ว เคยมีการขุดพบภาชนะดินเผาโบราณ เชื่อว่าชุมชนถูกสร้างโดยพวกม่านแต่ถูกทิ้งร้างมานาน ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบการเกษตรมีแม่น้ำเล็กไหลผ่านด้านทิศใต้ ภาพรวมของสภาพแวดล้อมในชุมชนมีการเปลี่ยนแปลงจากการปรับปรุงบ้านเรือน ที่มีการนำวัสดุสมัยใหม่เข้ามาใช้ทำให้เอกลักษณ์ลดเลือนไป เป็นชุมชนด้านการเกษตร ทำนา ทำไร่ ทำการค้าขายในส่วนที่ติดถนนหลักของชุมชน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านแม่บงเหนือ ที่อยู่: ตำบลแม่ป้าก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านแม่บงเหนือ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนโดยรอบโบราณสถาน และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวลัวะซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของล้านนาในอดีต ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างสมัยใด ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบแคบ ๆ ระหว่างภูเขา มีเรือนพักอาศัยของชาวลัวะที่ทำจากไม้ไผ่กับหญ้าแฝก ปลูกสร้างกระจายอยู่โดยรอบพื้นที่ เป็นสังคมชนบทอาชีพทำไร่นา ค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตรอกสลอบ ที่อยู่: ตำบลวังชิ้น อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ตรอกสลอบ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน ชื่อ "ปากสลอบ" เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกัน ในจารึกที่พบจากวัดบางสนุก ปรากฏชื่อ "เมืองตรอกสลอบ" คำว่า "สลอบ" น่าเชื่อว่าเป็นคำเดียวกับคำว่า "สอบ" หมายถึง มีลักษณะเรียวลงด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้าน ตรงกับลักษณะภูมิศาสตร์ที่ตั้งของเมืองในช่องเขาริมแม่น้ำยมแห่งนี้ ลักษณะภูมิประเทศเป็นเมืองที่มีคูน้ำและคันดินเป็น 2 ชั้น ล้อมรอบเมืองอยู่บนฝั่งขวาลำน้ำยม มีบ้านเรือนในพื้นที่ ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ยังคงหลงเหลือบ้านที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ของกะเหรี่ยงโบราณอยู่ในเขตป่า มีพิธีกรรมความเชื่อของชาววังชิ้นมีมาแต่อดีต และสืบทอดเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นหลายชั่วอายุคน ขั้นตอนของพิธีกรรมความเชื่อเกิดตามสภาพปัญหาของสภาพแวดล้อมในพื้นที่ และความสามารถของคนในท้องถิ่น
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เวียงต้า ที่อยู่: ตำบลเวียงต้า อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: เวียงต้า เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนโดยรอบโบราณสถาน และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวกะเหรี่ยงยอง มลาบรี ม้ง ลีซู และอาข่า ไม่ปรากฏหลักฐานผู้สร้างเมืองและเมื่อไร แต่ในพื้นที่มีการขุดพบกล้องยาโบราณ ขวานโบราณภาชนะดินเผาโบราณ แต่ในยุคหลังมีพวกพม่ามาบูรณะวัดและชุมชน ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลูกคลื่นใกล้ภูเขา มีเรือนไม้โบราณทั้งชั้นเดียวและสองชั้น ตั้งกระจายอยู่ตามเส้นทางหลักของชุมชน มีลักษณะเด่นที่การใช้ไม้เป็นสิ่งปลูกสร้างทั้งตัวบ้านและบริเวณโดยรอบ การทำไร่ ทำนา และรับจ้างเป็นอาชีพของคนในชุมชนวิถีเป็นไปอย่างเรียบง่าย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เวียงลองเก่า ที่อยู่: ตำบลปากกาง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: เวียงลองเก่า เป็นชุมชนชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวกะเหรี่ยงยอง มลาบรี ม้ง ลีซู และอาข่า เป็นชุมชนโบราณขนาดใหญ่ เป็นเมืองหน้าด่านทางทิศใต้ของอาณาจักรล้านนา เมืองลองได้ย้ายไปเนื่องจากน่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในอดีต เนื่องจากกระเเสน้ำในลำน้ำยมเปลี่ยนทิศ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบติดริมน้ำยม มีเรือนไม้ชั้นเดียวและสองชั้นที่ตั้งกระจายอยู่ตามแนวถนน บางหลังยังคงรักษายุ้งฉางโบราณไว้ ปัจจุบันเป็นชุมชนที่มีความเงียบสงบ มีการทำไร่ทำนาเป็นหลัก
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านในสอย ที่อยู่: ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านในสอย เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทใหญ่ กะเหรี่ยงขาว กะเหรี่ยงแดง จีนฮ่อ และคนเมือง เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ติดเขตชายแดนพม่า เป็นชุมชนในเขตอำเภอเมือง แต่เป็นชุมชนในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า และอยู่ใกล้กับที่พักพิงผู้ลี้ภัยจากรัฐกะเรนนี ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบภูเขาสลับซับซ้อน มีบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นรูปแบบพื้นถิ่นดั้งเดิม สูง 1 ชั้น และ 2 ชั้น โดยใช้วัสดุธรรมชาติ ตั้งอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ โดยแบ่งพื้นที่เป็นพื้นที่ค้าขายสำหรับบริการนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านปางหมู ที่อยู่: ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านปางหมู เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทใหญ่ เป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่เดิมอยู่ที่ดอยเวียปอน มาจากคำว่า "พร" หรือเมืองที่มีสิริมงคล ตั้งอยู่ในหุบเขาอยู่ห่างจากอำเภอขุนยวม ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำปายไหลผ่าน ทำให้พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การทำการเกษตร มีพื้นที่ป่าชุมชนอยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ มีบ้านเรือนเป็นรูปแบบสมัยใหม่ เป็นอาคารไม้สลับกับคอนกรีต โดยยังคงเหลือบ้านไม้รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบไทใหญ่อยู่เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกข้าวถั่วเหลือง ที่เหลือประกอบอาชีพค้าขายและรับจ้างทั่วไป
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านรักไทย ที่อยู่: ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านรักไทย เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของม้ง เดิมชื่อว่า แม่ออใหม่ เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนาน อดีตทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) "ก๊กมินตั๊ง" ยังมีการสืบทอดประเพณีของชาวจีนฮ่อหลายอย่าง ทั้งการพูดและการเขียน ลักษณะภูมิประเทศเป็นหมู่บ้านสุดท้ายที่มีชายแดนติดกับประเทศพม่า ตั้งอยู่บริเวณที่ราบภูเขา มีภูเขาล้อมรอบ สภาพป่าเสื่อมโทรม มีอ่างเก็บน้ำตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่เหมาะสมสำหรับการปลูกชาพันธุ์ดี และพืชเมืองหนาว มีอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นรูปแบบของบ้านดิน มีลักษณะที่เป็นบ้านแบบเก่าที่ทำมาจากดินเหนียวผสมฟางข้าว ประดับประดาด้วยอักษรจีน คล้ายกับชุมชนชนบทของเมืองจีน ส่วนใหญ่ทำการค้าขาย และเป็นชุมชนการท่องเที่ยว
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านรุ่งอรุณ ที่อยู่: ตำบลห้วยผา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านรุ่งอรุณ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของจีนยูนาน เดิมชื่อว่าหมู่บ้านแม่สุยะ (จีน) เป็นหมู่บ้านของคนจีนและครอบครัวอดีตทหารคณะชาติ ที่อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2473-2504 ลักษณะภูมิประเทศตั้งอยู่บริเวณที่ราบระหว่างภูเขา พื้นที่โดยรอบหมู่บ้านเป็นภูเขาสูง สภาพภูเขาเป็นภูเขาหินเกิดจากการสลายตัวของภูเขาไฟในอดีต มีลำห้วยแม่สุยะไหลผ่านไปบรรจบกับลำน้ำของ และไหลลงสู่ลำน้ำปาย มีบ้านเรือนเป็นรูปแบบจีนโบราณ นิยมใช้วัสดุเป็นคอนกรีต โดยมีพื้นที่สำหรับเก็บและตากผลผลิตจากพืชไร่ และมีเรือนเก่าบางส่วนที่มีการผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมของชาวไทยใหญ่ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านห้วยเสือเฒ่า ที่อยู่: ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านห้วยเสือเฒ่า เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของกะเหรี่ยง มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ กะยัน และปาดอง ได้อพยพจากประเทศพม่าและมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยที่บ้านห้วยเสือเฒ่า มีวัฒนธรรมการสวมห่วงทองเหลืองเกี่ยวพันกับความงาม ความโดดเด่นของร่างกายและเผ่าพันธุ์ โดยห่วงห้าชั้นแรกจะใส่ตอนอายุ 10 ขวบปี (แต่ปัจจุบันพบว่ามีอายุ 5 ขวบปี) พร้อมกับพิธีเฉลิมฉลอง และจะเติมมากขึ้น ๆ จนโตเป็นสาว หญิงปาดองจะมีห่วงคอถึง 20 ชั้น ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นธรรมชาติ โดยรอบจะเป็นป่าไม้ร่มรื่น ทางเข้าของบ้านห้วยเสือเฒ่าจะผ่านฝายทดน้ำที่มีน้ำล้นหลายฝาย ลักษณะบ้านเรือนจะยกพื้น หลังคามุงด้วยใบตองตึง ปลูกลดหลั่นไปตามแนวลาดของภูเขา ส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านห้วยฮี้ ที่อยู่: ตำบลห้วยปูลิง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านห้วยฮี้ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของกะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ) เป็นหมู่บ้านมีอายุกว่า 200 ปี ชื่อหมู่บ้านเรียกตามพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเหมือนไม้ไผ่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน ป่าเขาสลับซับซ้อน โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,722 เมตร บริเวณสูงสุดคือ ดอยปุย เป็นเนินเขาและทุ่งหญ้า สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ 360 องศาบ้านเรือนส่วนใหญ่ยังเป็นรูปแบบพื้นถิ่นดั้งเดิม โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ หลังคามุงด้วยใบตองตึง ปลูกอยู่กระจายไปตามไหล่เขา เป็นหมู่บ้านที่ดำเนินวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ย่านถนนสิงหนาถบำรุง ที่อยู่: ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ย่านถนนสิงหนาถบำรุง เป็นชุมชนตลาด และชุมชนชาติพันธุ์ของไทใหญ่ (ไต) เดิมเป็นย่านธุรกิจการค้าตั้งแต่สมัยอดีต เป็นตลาดเก่าและมีประตูเมืองเก่าเรียกว่าประตูดำ เป็นประตูที่นำศพคนตายไปสู่ป่าช้า โดยถนนสายนี้จะผ่านหน้าบ้านพญาสิงหนาทราชา ผู้ปกครองเมืองแม่ฮ่องสอนองค์แรก ระหว่างปี พ.ศ. 2410-2427 จึงได้ตั้งชื่อถนนว่า " ถนนสิงหนาทบำรุง" ลักษณะภูมิประเทศเป็นชุมชนตั้งบ้านเรือนอยู่ริม 2 ฝั่ง ข้างถนนสิงหนาทบำรุง มีบ้านเรือนเก่าสมัยรัชกาลที่ 5 รวม 10 หลังคาเรือน ลักษณะของบ้านไม้เรือนเก่าจะปลูกเป็นสองชั้นยกพื้นสูงหลังคามุงด้วยสังกะสีลอนใหญ่อยู่ตลอดสองข้างทางถนน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านจ่าโบ่ ที่อยู่: ตำบลแม่ยาว อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านจ่าโบ่ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของลาหู่หรือมูเซอดำ ที่นับถือศาสนาพุทธ นิกายหินยาน/ผีบรรพบุรุษ ย้ายมาจากห้วยยาวโดยการนำของ นายจ่าโบ่ ไพรเนติธรรม เพราะเกิดโรคระบาดขึ้น โดยตั้งเป็น "ชุมชนจาโบ่" ซึ่งมาจากชื่อของผู้นำหมู่บ้าน ลักษณะภูมิประเทศ เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่บนเขาสูงประมาณ 900 เมตร รายล้อมด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันบ้านจ่าโบ่มีประชากรทั้งหมด 226 คน มีจำนวน 53 ครัวเรือน เป็นบ้านเรือนรูปแบบเก่าสลับกับสมัยใหม่ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเรือนไม้ ยกพื้นสูง ปลูกติดริมถนนและกระจายไปตามไหล่เขา มีภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับวิธีการนวดแผนโบราณ และการจักสาน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านถ้ำลอด ที่อยู่: ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านถ้ำลอด เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของไทใหญ่ โดยมีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของชาวไทยใหญ่จากแนวชายแดนไทย และพม่าจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาอยู่ประเทศไทยและกระจายมาอยู่ตั้งแต่บ้านผามอญ เรื่อยมาจนถึงบริเวณบ้านถ้ำลอดปัจจุบัน ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่บนเนินเขาริมน้ำลาง แบ่งออกเป็นถ้ำลอดเหนือและถ้ำลอดใต้ มีลำห้วยแห้งอ่อน มีความลาดชันไม่สูงมากนัก แวดล้อมด้วยป่าไม้ที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มีการปลูกสร้างบ้านเรือนนิยมปลูกบริเวณที่ราบภูเขา ตั้งอยู่ห่าง ๆ กัน โดยเป็นลักษณะพื้นถิ่น ใช้วัสดุธรรมชาติสร้างติดกับพื้นดิน ส่วนใหญ่มีอาชีพด้านการท่องเที่ยวและรับจ้างปลูกพืชเกษตรแบบพันธะสัญญา
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านเมืองแพม ที่อยู่: ตำบลแม่ยาว อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านเมืองแพม เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนชาติพันธุ์ของกะเหรี่ยง (ปะกาเกอญอ) ที่อพยพมาจากสองทางใหญ่ ๆ ได้แก่ บ้านแม่ยาน อำเภอปาย และห้วยปูลิง จนมาถึงบ้านเมืองแพม ลักษณะภูมิประเทศ หมู่บ้านตั้งอยู่ตามไหล่เขา มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ และมีลำห้วยที่มีน้ำไหลผ่านตลอดปี มีซากเมืองเก่า เมื่อครั้งทหารญี่ปุ่นใช้เป็นเส้นทางเดินทัพไปพม่า บ้านเรือนในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้สองชั้นแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน มีภูมิปัญญาชาวบ้านในเรื่องทอผ้า จักสาน สมุนไพร นิทาน-บทเพลง ความรู้เรื่องการจักสานภาชนะไม้ไผ่ มีวิถีชีวิตเรียบง่าย อาศัยการพึ่งพาธรรมชาติเป็นหลักมีการผลิตข้าวแบบนาดำ (นาขั้นบันได) ควบคู่ไปกับพื้นที่ทำไร่หมุนเวียน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านแม่ละนา ที่อยู่: ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านแม่ละนา เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของไทใหญ่ (ไต) เดิมชื่อแม่ลัดนา เนื่องจากมีแม่น้ำไหลผ่านทุ่งนาและหมู่บ้าน ต่อมามีการออกเสียงเพี้ยนจนกลายเป็นแม่ละนา นายฮ้อยสามซึ่งเป็นคนไทใหญ่ได้มาทำการสำรวจพื้นที่บริเวณนี้ และเห็นว่ามีความอุดมสมบูรณ์ จึงได้ทำการถางพื้นที่โดยใช้ช้างในการชักลากไม้ใหญ่และปรับเปลี่ยนเป็นที่นา ทั้งเป็นที่ราบกลางหุบเขามีความเก่าแก่มากกว่า 200 ปี ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบกลางหุบเขา มีพื้นที่หมู่บ้านรวมทั้งหมด 11,950 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ทำนา 350 ไร่ พื้นที่ทำไร่ 421 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นรูปแบบสมัยใหม่ ยังคงมีบางส่วนที่มีรูปแบบไทใหญ่ดั้งเดิม โดยเฉพาะที่เด่นชัดที่สุดคือวัดแม่ละนา มีภูมิปัญญาการทำน้ำมันงา การอบสมุนไพร (วัฒนธรรม 12 เดือน) การแสดงพื้นบ้านทางวัฒนธรรม เช่น ลิเกไทใหญ่ (จ๊าดไต) รำนก รำดาบ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านห้วยห้อม ที่อยู่: ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านห้วยห้อม เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของกะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ) เป็นชุมชนแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประชากรเป็นชาวกะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ) นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์/ผีบรรพบุรุษ ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่บนไหล่เขาในป่าสงวนแห่งชาติทางด้านทิศตะวันออกของอำเภอแม่ลาน้อย มีแหล่งน้ำและทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์กาย มีบ้านเรือนเป็นเรือนไม้เก่า ทั้งแบบสูง 1-2 ชั้น ปลูกอยู่ตามไหล่เขา และในบางส่วนถูกปรับเปลี่ยนบ้านพักของตัวเองให้เป็นโฮมสเตย์ มีการปลูกกาแฟอาราบิก้าที่ขึ้นชื่อ และมีภูมิปัญญาผ้าทอขนแกะ (แห่งเดียวในไทย) เพื่อการรองรับนักท่องเที่ยว
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านป่าแป๋ ที่อยู่: ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านป่าแป๋ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของลัวะ เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ตั้งมานาน เชื่อว่าเคยมีถิ่นฐานอยู่ใน จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่ในเทือกเขาธงชัยกลาง มีภาษาและวัฒนธรรมการแต่งกายแบบชาวละเว๊อะดั้งเดิม ลักษณะภูมิประเทศตั้งอยู่ในเทือกเขาธงชัยกลาง ชุมชนอยู่เชิงเขาสองฝั่งของลำห้วยอมลาน บ้านเรือนตั้งอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ บางส่วนของบ้านเรือนส่วนใหญ่ ถูกปรับเปลี่ยนใช้วัสดุรูปแบบสมัยใหม่ผสมผสานกับวัสดุดั้งเดิม มีภูมิปัญญาการทอผ้าในแบบลวดลายของละเว๊อะดั้งเดิม มีพิธีกรรมส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการทำอาชีพเกษตรกรรม มีภาษาละเว๊อะที่มีเอกลักษณ์
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านแม่สามแลบ ที่อยู่: ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านแม่สามแลบ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวพื้นเมือง กะเหรี่ยง ไทใหญ่ มุสลิม และพม่า เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าแม่น้ำคง บรรพบุรุษลี้ภัยมาจากพม่า จุดเด่น คือ การอยู่ร่วมกันของคนหลากหลายชาติพันธุ์ ลักษณะภูมิประเทศป็นหุบเขาสูง และอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน ลักษณะการสร้างบ้านเรือนตั้งเรียงรายอยู่ริมฝั่งถนนที่ทอดยาวไปจรดริมฝั่งน้ำ บ้านเรือนมีเอกลักษณ์ โดยเป็นบ้านชั้นเดียวขนาดกะทัดรัดเรียงชิดติดกัน แต่มีการต่อเติมลงไปด้านล่างอีก 2-3 ชั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวริมน้ำสาละวิน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านแม่หลุย ที่อยู่: ตำบลแม่สวด อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านแม่หลุย เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวกะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ) โดยอพยพมาจากพื้นที่ภูเขาสูงเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา มีการอนุรักษ์พันธุ์ป่า และป่าชุมชน เป็นหมู่บ้านที่มีกฎระเบียบเคร่งครัดเกี่ยวกับป่าไม้ มีภาษาพูดและวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่สูง เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว และบ้านดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยงที่ปลูกกระจายโดยรอบชุมชน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านต่อแพ ที่อยู่: ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านต่อแพ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทใหญ่ คำว่า "ต่อแพ" สันนิษฐานว่ามาจาก "ต่อแป" หมายถึง การนำไม้ไผ่มาต่อเป็นแพ เนื่องจากในอดีตเป็นแหล่งผลิตข้าวและใช้แพในการขนย้ายข้าวไปตามลำน้ำยวม หมู่บ้านมีอายุไม่น้อยกว่า 300 ปี แต่เดิมเป็นชุมชนโบราณ ลักษณะภูมิประเทศตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำ และหุบเขามีแม่น้ำยวมไหลผ่านทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีบ้านเรือนเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมไทใหญ่ปลูกรวมกันเป็นกลุ่ม ผสมกับเรือนร้านค้าสำหรับค้าขายผ้าพื้นเมือง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านเมืองปอน ที่อยู่: ตำบลเมืองปอน อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านเมืองปอน เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทใหญ่ เป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่เดิมอยู่ที่ดอยเวีย "ปอน" มาจากคำว่า "พร" หรือเมืองที่มีสิริมงคล ตั้งอยู่ในหุบเขาอยู่ห่างจากอำเภอขุนยวม ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่ในหุบเขาอยู่ห่างจากอำเภอขุนยวม ประมาณ 12 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 10,568 ไร่ แบ่งเป็นป่าสงวนเป็น 6,727 ไร่ ที่สาธารณะประมาณ 57 ไร่ ที่อยู่อาศัยประมาณ 522 ไร่ และพื้นที่ทำการเกษตรประมาณ 3,251 ไร่ มีลำน้ำปอนใช้ในการเกษตรกรรม อุปโภค บริโภค มีวัดไตเมืองปอนเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมไทใหญ่ รวมทั้งเป็นหมู่บ้านภูมิทัศน์วัฒนธรรมชุมชนบ้านเมืองปอนที่ยังคงอนุรักษ์รูปแบบไทใหญ่ไว้อย่างชัดเจน บางส่วนจัดเป็นโฮมสเตย์บ้านปิลันธน์ มีภูมิปัญญาท้องถิ่นคือ การต้องลาย เป็นการฉลุลวดลายบนของแข็งต่าง ๆ เช่น กระดาษ แผ่นโลหะ แผ่นไม้ เพื่อนำไปใช้ประดับประดาอาคาร สถานที่ และมีเอกลักษณ์การใส่เสื้อไต (การแต่งกายแบบคนไต)
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านกล้วย ที่อยู่: ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านกล้วย เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของไทยลื้อ เป็นหมู่บ้านที่เกิดขึ้นมานานและมีประวัติการก่อตั้งหมู่บ้านที่ยาวนาน มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมเป็นของตนเองทั้งภาษาพูด การแต่งกาย และความเป็นอยู่ รวมทั้งที่อยู่อาศัย ชุมชนบ้านกล้วยหลวงเป็นชุมชนที่อยู่รวมกันค่อนข้างเป็นชุมชนใหญ่ ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบติดแม่น้ำ มีบ้านไม้ขนาดเล็ก มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่สร้างตามธรรมเนียมแบบดั้งเดิม มีสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลา มีการปรับปรุงและเปลี่ยนให้เหมาะสมตามสภาพการอยู่อาศัยของแต่ละหลัง ลักษณะของสังคมและความเป็นอยู่เป็นชุมชนแบบชนบท มีอาชีพทางการเกษตรเป็นส่วนใหญ่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ปงสนุก ที่อยู่: ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ปงสนุก เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ของไทยลื้อ จากประวัติศาสตร์พบว่าเป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การอพยพผู้คนในเหตุการณ์ช่วงปี พ.ศ. 2306 ที่พญากาวิละได้ยกทัพเข้าโจมตีเมืองเชียงแสน ซึ่งเป็นที่ตั้งมั่นของพม่าและได้กวาดต้อนชาวเชียงแสน ซึ่งเป็นชาวบ้านบ้านปงสนุกมาตั้งถิ่นฐานที่ลำปาง รวมถึงการอพยพของคนเมืองพะยาวที่หนีศึกพม่าลงมายังลำปาง ชาวปงสนุก เชียงแสน และชาวพะเยา จึงได้ตั้งบ้านเรือนจนกลายเป็นหมู่บ้าน ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำวัง โดยมีวัดปงสนุกเป็นศูนย์กลางของเมือง รูปแบบเรือนที่ปรากฏยังคงมีลักษณะเดิมอยู่บ้างแต่จำนวนน้อย อันเนื่องมาจากการทรุดโทรมของวัสดุตามกาลเวลา เรือนบางหลังยังคงมีลักษณะแบบดั้งเดิมอยู่ เป็นชุมชนขนาดเล็ก มีการทำนาการเกษตรเป็นหลัก
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: กาดกองต้า ที่อยู่: ตำบลสวนดอก อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: กาดกองต้า เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ไทย–จีน กาดกองต้า หรือ ตลาดจีน ที่ชาวบ้านเรียกติดปาก เป็นย่านตลาดเก่าตั้งอยู่ขนานกับลำน้ำวังในซอยตลาดจีนริมน้ำ มีอาคารโบราณอายุร้อยปีบนถนนตลาดเก่าตลอดทั้งสาย กาดกองต้า หมายถึง ตลาดตรอกท่าน้ำ เป็นเมืองท่าที่สำคัญเชื่อมต่อศูนย์กลางการค้าเมืองปากน้ำโพ (นครสวรรค์) กับภาคเหนือตอนบน เป็นแหล่งกระจายสินค้าเข้าออกแหล่งชุมชนเศรษฐกิจที่รุ่งเรือง ตลาดจีนหรือตลาดเก่าแม่น้ำวัง เป็นเส้นแม่น้ำสายสำคัญของประวัติศาสตร์ เป็นท่าล่องซุงไม้สัก ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบริมแม่น้ำ มีอาคารเรือนแถวที่มีลักษณะทางกายภาพหลากหลาย เช่น เรือนไม้สองชั้น และอาคารเรือนแถวก่ออิฐฉาบปูนในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีลักษณะผสมผสานกับสถาปัตยกรรมตะวันตก เป็นตลาดโบราณเป็นศูนย์กลางทางการค้าในอดีตเเละเริ่มซบเซาลงไป เมื่อมีการตัดถนนเพิ่มมากขึ้นการเดินทางหรือขนส่งทางน้ำลดลง ปัจจุบันปรับตัวเป็นเป็นตลาดย้อนยุคในวันเสาร์อาทิตย์
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านหลุก ที่อยู่: ตำบลนาครัว อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านหลุก เป็นชุมชนตลาด ชุมชนริมน้ำ และชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ พบกลุ่มชาติพันธุ์ของไทยลื้อ บ้านหลุกเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านแกะสลักของจังหวัดลำปาง แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงทางด้านงานแกะสลัก และผลิตภัณฑ์จากไม้และเถาวัลย์ ของอำเภอแม่ทะจังหวัดลำปาง ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบริมแม่น้ำจาง ปัจจุบันบ้านเรือนในชุมชนบ้านหลุกมีการแปรเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม เนื่องจากการปรับพื้นที่เพื่อรองรับกิจกรรมการแกะสลักไม้ ทำให้รูปแบบทางสถาปัตยกรรมมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ในปี พ.ศ. 2535 ได้มีการรวมกลุ่มแกะสลักขึ้นจำนวน 40 กลุ่ม ส่วนไม้ที่นำมาใช้แกะสลัก ได้แก่ ไม้ฉำฉา (จามจุรี) เถาวัลย์ และไม้เนื้ออ่อน ซึ่งจะแกะสลักด้วยความประณีตจนออกมาเป็นชิ้นงานที่สวยงามและคงทน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ลำปางหลวง ที่อยู่: ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ลำปางหลวง เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน บริเวณที่ตั้งเดิมเป็นทางน้ำของลำน้ำแม่ยาวซึ่งไหลมาจากทิวเขาขุนตาล (เขาผีปันน้ำ) เขตติดต่อกับจังหวัดลำพูน ผ่านตำบลใหม่พัฒนาและตำบลไหล่หิน มาบรรจบกับแม่น้ำวังที่ตำบลเกาะคา ครั้นนานเข้าน้ำได้พัดเอาตะกอนดินหินและทรายมากองรวมกัน จนกลายเป็นสันดอนทรายขึ้น (สันดอนทรายชาวบ้านพื้นเมืองเรียกว่า เกาะ) ภายหลังลำน้ำแม่ยาวได้เปลี่ยนทางเดินของร่องน้ำ ทำให้เกิดสันดอนทรายเป็นบริเวณกว้างแล้วกลายสภาพเป็นพื้นดินปนทรายซึ่งมีหญ้าคาขึ้นงอกงามเต็มที่ เมื่อมีชาวบ้านไปตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนในบริเวณดังกล่าวชาวบ้านจึงเรียกว่า "เกาะคา" ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบ อยู่ห่างจากถนนสายหลัก บ้านเรือนโดยรอบมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ยังคงรูปแบบเดิมอยู่ในส่วนของยุ้งฉาง เป็นชุมชนขนาดใหญ่ เน้นการค้าขายเป็นหลัก
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ไหล่หิน ที่อยู่: ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ไหล่หิน เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าวัดไหล่หินหลวงสร้างขึ้นเมื่อใด แต่ ดร.ฮันส์เพนธ์ ได้พบคัมภีร์ใบลานที่เก่าแก่ที่สุดของวัด ระบุจุลศักราช 833 หรือ พ.ศ. 2014 ส่วนชุมชนโดยรอบนั้นบริเวณที่ตั้งตำบล แต่เดิมเป็นทางน้ำของลำน้ำแม่ยาว ซึ่งไหลมาจากทิวเขาขุนตาล (เขาผีปันน้ำ) เขตติดต่อกับจังหวัดลำพูนผ่านตำบลใหม่พัฒนาและตำบลไหล่หินมาบรรจบกับแม่น้ำวังที่ตำบลเกาะคา ครั้นนานเข้าน้ำได้พัดเอาตะกอนดิน หินและทรายมากองรวมกันจนกลายเป็นสันดอนทรายขึ้น (สันดอนทรายชาวบ้านพื้นเมืองเรียกว่า เกาะ) ภายหลังลำน้ำแม่ยาวได้เปลี่ยนทางเดินของร่องน้ำ ทำให้เกิดสันดอนทรายเป็นบริเวณกว้าง แล้วกลายสภาพเป็นพื้นดิน ปนทราย ซึ่งมีหญ้าคาขึ้นงอกงามเต็มที่ เมื่อมีชาวบ้านไปตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนในบริเวณดังกล่าว ชาวบ้านจึงเรียกว่า "เกาะคา" ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มติดแม่น้ำยาว ลักษณะเด่นของสถาปัตยกรรมโบราณหายไป เนื่องจากมีการต่อเติมและปรับปรุงบ้านเรือน เป็นชุมชนโบราณขนาดใหญ่ มีการทำการเกษตรควบคู่กับการค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านทุ่งยาว ที่อยู่: ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านทุ่งยาว เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทยองที่ได้อพยพมาจากบ้านสันคะยอม เพื่อมาหาที่ทำกินใหม่ ในปี พ.ศ. 2458 ส่วนที่มาของทุ่งยาวนั้น มาจากลักษณะพื้นที่รูปตัวแอล มีลำน้ำสารไหลผ่านหมู่บ้าน มีการอนุรักษ์ป่าอย่างจริงจัง มีพื้นที่ป่าซึ่งเรียกว่า ป่าน้ำจำ (ป่าที่มีน้ำซับออกมา) ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบ มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มีลำน้ำสารไหลผ่านหมู่บ้าน มีพื้นที่ป่าซึ่งเรียกว่า "ป่าน้ำจำ" เป็นแหล่งเรียนรู้และอนุรักษ์ป่าและน้ำของหมู่บ้าน โดยป่าอยู่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ บ้านเรือนเป็นรูปแบบสมัยใหม่ ตั้งอยู่ตลอดสองข้างถนนในชุมชน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตรกรรรม ทำสวนลำไย ทำสมุนไพรจากภูมิปัญญาชาวบ้าน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: วัดประตูป่า ที่อยู่: ตำบลประตูป่า อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: วัดประตูป่า เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทยอง โดยชุมชนนั้นมีมานานตั้งแต่ก่อนยุคประวัติศาสตร์ จากหลักฐานและข้อมูล พบคนยองเข้ามาตั้งถิ่นฐานและครอบครองพื้นที่ชุมชน เริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2348 ประกอบด้วย 8 หมู่บ้าน ประชากรเป็นชาวไทยอง พูดภาษายอง มีประเพณีลอยโขมดเป็นประเพณีเก่าแก่ที่ชุมชนถือปฏิบัติมาช้านาน ลักษณะภูมิประเทศเป็นชุมชนตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง โดยรอบเป็นป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีวัดประตูป่าเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของผู้คนในชุมชน และเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยอง และบ้านเรือนโดยทั่วไปเป็นรูปแบบสมัยใหม่ ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรรม ทำสวนลำไย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านดอนหลวง ที่อยู่: ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านดอนหลวง เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนตลาด และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไท ยอง เดิมชื่อหมู่บ้านกอถ่อน ในรัชสมัยของเจ้ากาวิละ ได้กวาดต้อนผู้คนจากเมืองยอง ประเทศ-พม่าเข้ามาตั้งบ้านเรือน โดยชาวยองกลุ่มนี้ได้เข้าอยู่ ณ ที่ตั้งหมู่บ้านดอนหลวงซึ่งตั้งอยู่ปัจจุบัน โดยนับถือศาสนา-พุทธ และพูดภาษายอง ลักษณะภูมิประเทศ เป็นพื้นที่ราบลุ่ม และมีพื้นที่ทำการเกษตร มีวัดดอนหลวงที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างล้านนา พม่า และยอง และมีบ้านเรือนโบราณของชาวไทยองอยู่หลายหลัง โดยบ้านเรือนแต่ละหลังจะมีการทอผ้าแบบโบราณ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำสวนลำไย ชุมชนขึ้นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือ ซึ่งสืบทอดกันมาเป็นประเพณี จนเป็นที่กล่าวขานของชาวต่างชาติ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านหนองดู่ ที่อยู่: ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านหนองดู่ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวมอญ บริเวณที่ตั้งชุมชนเดิมเป็นหนองน้ำใหญ่ มีต้นประดู่ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงตั้งชื่อว่า "หมู่บ้านหนองดู่" เรียกเป็นภาษามอญว่า "วานแน๊ะบี" เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง มีภาษาพูดเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง คือ ภาษามอญ รองลงมาคือ ภาษาล้านนา มีเทศกาลฟ้อนผีเม็ง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเดียวที่ยังถูกถ่ายทอดมาจนถึงลูกหลาน ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม มีบ้านเรือนเก่าไม้ชั้นเดียว และสองชั้นกระจายอยู่ภายในชุมชน และวัดหนองดู่ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ในชุมชน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตรกรรม ทำนา ทำสวน มีอาชีพเก่าแก่ คือ อาชีพทำขนมเส้นเม็ง (ขนมจีน) ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างชื่อเสียงให้ชาวมอญในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: พระบาทห้วยต้ม ที่อยู่: ตำบลตะเคียนปม อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: พระบาทห้วยต้ม เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวกะเหรี่ยง เผ่าสะกอว์ละ เผ่าโปว์ มีความเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณ ถูกเรียกว่า ห้วยข้าวต้ม หรือห้วยต้มข้าว ลักษณะภูมิประเทศ ประกอบด้วย 7 หมู่บ้าน ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบ มีความลาดชันเล็กน้อย พื้นดินมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย ลึกลงไปเป็นศิลาแลง มีแม่น้ำไหลผ่านทั้ง 4 ทิศทาง พื้นที่อยู่อาศัยมีการใช้เอกลักษณ์ดั้งเดิมของกะเหรี่ยงในการปลูกบ้าน โดยมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส และมีขนาดของแปลงเท่ากันหมด คือ 4 ไร่ โดยใช้ถนนกว้าง 6 เมตร ตัดผ่านเป็นการแบ่งอาณาเขต และใช้พื้นที่ครัวเรือนละ 2 งาน โดยสร้างแบบถาวรยกพื้นต่ำและมุงหลังคาด้วยหญ้าคา ฝาทำด้วยไม้ไผ่ ส่วนใหญ่ปลูกข้าวไร่และข้าวนาดำ และปลูกพืชเศรษฐกิจในช่วงฤดูหนาว เช่น ดอกดาวเรือง นอกจากนี้ยังประกอบอาชีพทอผ้า จักสาน ทำเครื่องเงิน ตีเหล็ก และฟันศิลาแลง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: วัดบ้านปาง ที่อยู่: ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: วัดบ้านปาง เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทยอง เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของอำเภอลี้ ผู้ก่อตั้งบ้านปางคือ หมื่นผาบ เดิมทีสันนิษฐานว่า มีกลุ่มผู้เดินทางมาจากลำพูนจะมาอำเภอลี้ และมาแวะพัก เนื่องจากมืดค่ำจึงจัดทำป๋าง (เพิงพักชั่วคราว) สำหรับพักค้างคืน แล้วจึงเดินทางต่อ ต่อมามีคนมาอยู่อาศัยมากจึงตั้งเป็นหมู่บ้านขึ้น การเรียกชื่อจึงเพี้ยนจากบ้านป๋าง เป็นบ้านปางในปัจจุบัน ลักษณะภูมิประเทศ เป็นพื้นที่ราบลุ่มในหุบเขา ประกอบด้วย 3 หมู่บ้าน คือ บ้านปาง บ้านศรีบุญเรือง และบ้านบารมีศรีวิชัย มีบ้านเรือนรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยองอยู่หลายหลัง และมีวัดบ้านปาง เป็นวัดซึ่งครูบาศรีวิชัยบวชเรียนเป็นวัดแรก ภายในบริเวณวัดร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีโบสถ์วิหารสวยงาม พิพิธภัณฑ์อัฐบริขาร ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพโดยการเลี้ยงช้าง วัว ควาย และทำไร่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อเที่ยวชมนกยูงจำนวนมากของหมู่บ้าน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านห้วยไซกลาง ที่อยู่: ตำบลห้วยหยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านห้วยไซกลาง เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทยอง แต่เดิมเกิดจากชาวไทลื้อที่อาศัยอยู่สิบสองปันนาและอพยพมาตั้งถิ่นฐานใหม่ในบริเวณปัจจุบัน โดยไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างมานานเท่าไหร่ แต่คาดว่าน่าจะนับ 100 ปี แต่เดิมชื่อบ้านห้วยใส่ และเรียกเพี้ยนมาเป็นห้วยไซ ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอำเภอบ้านธิ ลักษณะของชุมชนเป็นที่ราบลุ่ม และที่ราบเชิงเขาในบางส่วน เนื้อที่ของชุมชนประมาณ 28 ไร่ ดินมีลักษณะเป็นดินเหนียวปนทราย มีจำนวนบ้านเรือน 1,000 กว่าหลังคาเรือน มีทั้งหมด 6 หมู่บ้าน และมีบ้านเก่าของชุมชนสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2497 อยู่หลายหลัง บริเวณบ้านมียุ้งข้าวเก่า และมีโรงบ่มใบยาสูบ โดยมีเตาบ่มทั้งหมดกว่า 200 เตา ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โรงบ่มใบยาสูบ และทำน้ำหนังควายซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดริมยม ที่อยู่: ตำบลกง อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ตลาดริมยม เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนตลาด ปัจจุบันตลาดอาจไม่ครึกครื้นเหมือนก่อน เพราะตัวอำเภอที่เคยตั้งอยู่บนเกาะถูกย้ายออกไปตั้งให้ติดกับเส้นทางคมนาคมด้านนอก ทำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นตลาดเก่ามีสภาพเกือบร้าง จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ ชาวบ้านกลับมาพูดคุยกันว่า น่าจะฟื้นอดีตแห่งความรุ่งเรืองนั้นขึ้นมา จึงชักชวนกันเปิดตลาดริมยมเมื่อปี พ.ศ. 2437 โดยมีเทศบาลตำบลกงไกรลาศเป็นโต้โผใหญ่ ซึ่งปี พ.ศ. 2437 ก็คือปีที่กงไกรลาศได้รับการสถาปนาให้เป็นอำเภอ ลักษณะภูมิประเทศ เป็นชุมชนตั้งอยู่ติดแม่น้ำยมทางด้านทิศเหนือ โดยมีการขยายตัวในแนวแกน เหนือ-ใต้ ไปจนจรดถนนสายหลัก เป็นย่านพาณิชยกรรมในระดับอำเภอ ประกอบด้วยเรือนแถวไม้สูงสองชั้น สลับบ้านเดี่ยวไม้ องค์ประกอบอื่น ๆ อาทิ ตลาดขายปลา และท่าเรือ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของท้องถิ่นและวิถีชีวิตทางการประมง เป็นท่าขึ้นปลาน้ำจืด และมีการรับปลาไว้แล้วมีรถมารับไปขายต่อ ชุมชนยังอยู่ริมน้ำทำอาชีพประมง ส่วนที่อยู่ริมถนนจะมีอาชีพค้าขายเพราะเป็นหนึ่งในอำเภอที่ต้องพบเจอกับสถานการณ์น้ำหลากแทบทุกปี ซึ่งกงไกรลาศถือเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในสุโขทัย และยังเป็นตลาดปลาแห่งแรกในประเทศไทยด้วย โดยมีการซื้อขายกันอยู่ในบริเวณบ้านเรือนไม้เก่าริมแม่น้ำยม ที่เรียกว่า "ท่าเรือบ้านกง"
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ศรีสำโรง ที่อยู่: ตำบลศรีสำโรง อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ศรีสำโรง เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนตลาด ลักษณะภูมิประเทศ เป็นชุมชนที่ทอดตัวอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของริมน้ำน่าน เป็นพื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง มีอาคารเกือบทั้งหมดเป็นอาคารเรือนแถวไม้ 2 ชั้น เป็นย่านพาณิชยกรรมดั้งเดิม ที่เจริญมาจากการค้าขายและขนส่งสินค้าทางน้ำ เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าเกษตร ระหว่างพื้นที่เพาะปลูกกับอำเภออื่น ๆ ภายหลังเมื่อมีการตัดถนน การค้าขายในชุมชนก็ซบเซาลง ส่วนใหญ่ชาวไทยเชื้อสายจีน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดใต้สวรรคโลก ที่อยู่: ตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ตลาดใต้สวรรคโลก เป็นชุมชนโดยรอบทางรถไฟ ชุมชนริมน้ำ และชุมชนตลาด สวรรคโลกนั้นเป็นหัวเมืองใหญ่ที่เจริญเติบโตมาช้านาน แต่ชุมชนตลาดใต้สวรรคโลกเป็นชุมชนที่เจริญเติบโตเป็นย่านพาณิชยกรรมจากฐานการเข้ามาของระบบรถไฟ กล่าวคือ เมื่อเกิดทางรถไฟสายเหนือขึ้น ชุมชนได้กลายมามีบทบาทในความเป็นย่านการค้าสำคัญของอำเภอ ลักษณะภูมิประเทศ เป็นชุมชนพาณิชยกรรมขนาดใหญ่และเก่าแก่แห่งหนึ่งของ จังหวัดสุโขทัย โดยตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำน่าน ทางทิศตะวันตกและสถานีรถไฟสวรรคโลกในด้านทิศตะวันออก ประกอบด้วยกลุ่มอาคารพาณิชยกรรมที่เป็นเรือนแถวไม้ สลับกับตึกแถวในรูปแบบสถาปัตยกรรมยุคโมเดิร์น กระจายตัวอยู่ในแนวขนานกันระหว่างแม่น้ำน่านและสถานีรถไฟสวรรคโลก เป็นย่านการค้าที่สำคัญที่สุดของอำเภอสวรรคโลก ที่รวมสินค้าหลากหลายประเภท ได้แก่ ร้านค้าปลีก ร้านขายทอง ตลาดสด เป็นต้น
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ชุมชนสถานีรถไฟศรีนคร/บ้านปลายราง ที่อยู่: ตำบลศรีนคร อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ชุมชนสถานีรถไฟศรีนคร/บ้านปลายราง เป็นชุมชนโดยรอบทางรถไฟ ชุมชนริมน้ำ และชุมชนตลาด ลักษณะภูมิประเทศ เป็นชุมชนพาณิชยกรรมระดับอำเภอ โดยตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำน่านทางทิศตะวันตกและสถานีรถไฟคลองมะพลับในด้านทิศใต้ ประกอบด้วยกลุ่มอาคารพาณิชยกรรมที่เป็นเรือนแถวไม้ 2 ชั้น มีลักษณะกายภาพที่สมบูรณ์ กระจายตัวอยู่ในแนวขนานกันระหว่างแม่น้ำน่านและสถานีรถไฟคลองมะพลับ ชุมชนบ้านปลายรางเป็นชุมชนพาณิชยกรรม ที่รวมสินค้าหลากหลายประเภท ได้แก่ ร้านค้าปลีก ร้านขายทอง ตลาดสด เป็นต้น แต่ปัจจุบันได้มีการทิ้งร้างพื้นที่พาณิชยกรรมจำนวนมาก เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซาจากการย้ายออกของประชาชน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านด่านลานหอย ที่อยู่: ตำบลลานหอย อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: บ้านด่านลานหอย เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนความทรงจำ คนกลุ่มแรกที่มาก่อตั้งหมู่บ้าน เป็นคนดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยโบราณซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านลานหอยและบ้านเชิงคีรี ชื่อเดิมของชุมชนนี้ชื่อ "บ้านด่าน" กับ "บ้านลานหอย" เมื่อมีการแบ่งพื้นที่อำเภอเมืองสุโขทัยตั้งเป็นกิ่งอำเภอ จึงนำเอาชื่อหมู่บ้านเก่าแก่ที่สุดมารวมกันเป็นชื่ออำเภอ จึงได้กลายไปเป็น "บ้านด่านลานหอย" ลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบ อยู่ทางทิศตะวันตกของอุทยานแห่งชาติรามคำแหง มีแนวเขาขนาดเล็กผ่ากลางตำบลในแนวเหนือ-ใต้ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตร ทำนา ไร่ สวน พื้นที่เขามีสภาพตามธรรมชาติ โดยทั่วไปมีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นบ้านไม้สองชั้นทรงจั่ว รายรอบด้วยบริเวณซึ่งเป็นสวนครัวและอาหารตามแบบฉบับของวิถีเกษตร โดยทั่วไปประกอบอาชีพทำนา และทำไร่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านทุ่งหลวง ที่อยู่: ตำบลทุ่งหลวง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: บ้านทุ่งหลวง เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ตั้งอยู่ทางใต้สุดของจังหวัดสุโขทัย เป็นพื้นที่ราบ มีอุทยานแห่งชาติรามคำแหงอยู่ในซีกทิศตะวันตกของอำเภอ นอกนั้นที่เหลือทั้งหมด ประมาณร้อยละ 75 เป็นพื้นที่เกษตรกรรม มีพื้นที่เก็บน้ำขนาดใหญ่ ชื่อว่า "คลองข้างใน" อยู่กลางอำเภอข้างพื้นที่อุทยาน มีลักษณะเป็นเรือนเดี่ยวไม้ แทรกตัวอยู่ตามพื้นที่เกษตรกรรม มีเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียง เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งอารยธรรมสังคโลกอันเลื่องชื่อของสุโขทัย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านเกษตรดั้งเดิม วิถีชีวิตแบบเดิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ศรีสัชนาลัย ที่อยู่: ตำบลศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ศรีสัชนาลัย เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ไม่ทราบที่มาการก่อตั้งที่แน่ชัด แต่มีลักษณะเป็นชุมชนที่อยู่รอบโบราณสถานร้าง โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดสุโขทัย มีลักษณะเป็นที่ราบบริเวณแม่น้ำยม มีลักษณะเป็นเรือนไม้เกาะกลุ่มกันเป็นหมู่บ้าน ตามลักษณะของหมู่บ้านเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม โดยรอบโบราณสถานและเมืองเก่า ในสมัยก่อนชุมชนประกอบอาชีพเกษตรกรรม เนื่องจากอยู่ในบริเวณเมืองเก่า และในเขตใกล้กับอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ทำให้บางส่วนเปลี่ยนไปประกอบอาชีพค้าขาย และธุรกิจท่องเที่ยวมากขึ้น
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านหาดเสี้ยว ที่อยู่: ตำบลหาดเสี้ยว อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: บ้านหาดเสี้ยว เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ และชุมชนชาติพันธุ์ของกลุ่มลาวพวน เป็นชุมชนหมู่บ้านตั้งอยู่บนถนนสาย 101 มีลักษณะเป็นกลุ่มบ้านความหนาแน่นไม่มาก รูปแบบอาคารเป็นหมู่บ้านลาวพวน ในลักษณะบ้านไม้สองชั้น มีลานบ้านอยู่โดยรอบ ใต้ถุนบ้านเป็นพื้นที่วางกี่ทอผ้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นลักษณะความสัมพันธ์ของอาชีพและการใช้ที่ว่าง เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรม มีอาชีพและฐานทางวัฒนธรรมที่เลี่องชื่อได้แก่ การทอผ้า โดยเฉพาะผ้าตีนจกบ้านหาดเสี้ยว ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมทอผ้าพื้นที่สำคัญและโดดเด่นที่หนึ่งของประเทศ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ชุมชนบ้านคุ้งตะเภา ที่อยู่: ตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ชุมชนบ้านคุ้งตะเภา เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนความทรงจำ เป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ริมน้ำ เป็นพื้นที่ลาดน้อย ใช้ทำการเกษตร ริมน้ำมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับการเพาะปลูก ได้แก่ สวนผัก และสวนผลไม้ โดยมีกลุ่มที่อยู่อาศัยห่างออกมาเป็นลักษณะที่ราบสูง เหมาะกับการตั้งบ้านเรือน เนื่องจากพื้นที่ริมน้ำประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากุ กลุ่มอาคารเรือนไทยภาคกลางโบราณที่ยังคงคุณสมบัติการใช้วัสดุเดิมที่มีการดูแลรักษาอยู่ในสภาพดี ได้แก่ กระเบื้องหลังคาว่าว ผนัง และเสาไม้ ที่ยังปรากฏฝีมือช่างสมัยก่อน โดยพบว่าบ้านเหล่านี้กระจายตลอดริมน้ำเจ้าพระยาควบคู่กับภูมิทัศน์ที่มีการใช้สอยเพื่อการเกษตรและเป็นพื้นที่รับน้ำ (Watershed) ในฤดูน้ำหลาก เป็นย่านชุมชนเก่าที่ใช้ประโยชน์เพื่อการพักอาศัยมายาวนาน ผู้อาศัยในรุ่นปัจจุบัน และลูกหลานคนในชุมชน ปัจจุบันทำอาชีพนอกภาคเกษตร อาทิ รับราชการ ค้าขาย พนักงานบริษัท
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: พระฝางสว่างบุรีมุณีนาถ ที่อยู่: ตำบลผาจุก อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: พระฝางสว่างบุรีมุณีนาถ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน เมืองฝางเป็นเมืองหน้าด่านให้สุโขทัย เคยเป็นชุมนุมที่สำคัญและมีประวัติศาสตร์ต่อเนื่อง ยุคต้นของอาณาจักรธนบุรี เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ขนานไปตามแม่น้ำน่านในแนวตะวันออก-ตะวันตก สภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ชุมชนที่อาศัยอยู่โดยรอบวัดพระฝางสว่างบุรีมุณีนาท เป็นโบราณสถานสำคัญคู่เมืองอุตรดิตถ์ บ้านเรือนที่อยู่โดยรอบเป็นบ้านไม้สองชั้น มีระเบียงด้านหน้า ภายในบริเวณรอบอาคารมีสวนครัว มีฐานเศรษฐกิจด้านการเกษตรโดยรอบโบราณสถานที่สำคัญ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านท่าเสา ที่อยู่: ตำบลท่าเสา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: บ้านท่าเสา เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนโดยรอบทางรถไฟ เป็นชุมชนที่ทอดตัวขนานทางรถไฟในทิศตะวันออก-ตก และขนานกับแม่น้ำน่านทางทิศเหนือ โดยเจริญขึ้นมาจากการเป็นชุมทางการค้าขายระหว่างพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางในอดีต จากลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีเส้นทางคมนาคมได้หลากหลายเช่นนี้ ทำให้ชุมชนท่าเสาเกิดเป็นเมืองที่เจิรญเติบโตขึ้นตามลำดับกายภาพสำคัญ ชุมชนท่าเสาประกอบด้วยกลุ่มอาคารแถวไม้สูงสองชั้นที่มีความหนาแน่น ขนาบด้วยแม่น้ำน่านและทางรถไฟ โดยเกิดเป็นชุดห้องแถวขนานตลอดเส้นถนนที่เชื่อมระหว่างแม่น้ำกับทางรถไฟ เป็นย่านการค้าที่สำคัญระดับตำบล เป็นศูนย์กลางการบริการ และการให้บริการสินค้าหลากหลายชนิด อาทิ ตลาดสด ร้านค้าปลีก
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ทุ่งยั้ง ที่อยู่: ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ทุ่งยั้ง เป็นชุมชนความทรงจำ และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน เมืองทุ่งยั้งเป็นเมืองเก่าสมัยสุโขทัยและมีเมืองซ้อนกันอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า "เวียงเจ้าเงาะ" โดยเมืองทุ่งยั้งเดิมเป็นเมืองขึ้นของเมืองพิชัย แต่ต่อมา แม่น้ำน่านเกิดเปลี่ยนเส้นทางน้ำ ทำให้เมืองทุ่งยั้งเกิดความแห้งแล้งชาวบ้านจึงอพยพออกจากพื้นที่ไปอาศัยในแถบ บางโพ-ท่าอิฐแทน ทำเมืองทุ่งยั้งกลายเป็นเมืองร้าง และพังทลายลงในที่สุด คงเหลือไว้แต่พระธาตุทุ่งยั้งเพียงอย่างเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ว่าเป็นเมืองโบราณ เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่โดยรอบโบราณสถาน ขนานไปตามแม่น้ำน่านในแนวตะวันออก-ตะวันตก สภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำ ชุมชนที่ตั้งบ้านเรือนโดยรอบพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้สองชั้น เป็นชุมชนที่มีฐานเศรษฐกิจด้านการเกษตรโดยรอบโบราณสถานที่สำคัญ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ด่านนาขาม ที่อยู่: ตำบลบ้านด่านนาขาม อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ด่านนาขาม เป็นชุมชนเกษตรกรรม ตำบลบ้านด่านนาขาม มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานตำบลหนึ่ง ซึ่งเดิมพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นที่อาศัยของพวกขอม พม่า สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ไทยได้เสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่า ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 ตรงกับปีขาล และสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงกอบกู้เอกราชได้สำเร็จ และทรงตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี หลังจากนั้นได้ส่งคนกลุ่มหนึ่งมาเฝ้ารักษาด่าน ต่อมามีผู้มาตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และได้ตั้งชื่อว่า "บ้านด่านนาขาม" ตามลักษณะภูมิประเทศที่มีต้นมะขามขนาดใหญ่ขึ้นอยู่บนจอมปลวกบริเวณหน้าวัดซึ่งเป็นที่นา มีสภาพภูมิประเทศทั่วไปแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ พื้นที่ราบสูงสลับกับภูเขาในตอนเหนือของตำบล และพื้นที่ราบในตอนใต้ของตำบล หมู่บ้านตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ราบ มีการทำเกษตรกรรมบริเวณรอบชุมชน พื้นที่ราบสูงในตอนบนมีสภาพเป็นป่าตามธรรมชาติ มีบ้านไม้เก่าทรงจั่ว มีความสูงสองชั้นสลับสวนบ้าน ความหนาแน่นต่ำ ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทำสวนแบบดั้งเดิม อยู่บนเขารอยต่อระหว่าง 2 จังหวัด ผลผลิตขึ้นชื่อ ได้แก่ ลองกอง ทุเรียนหลงลับแล หลินลับแล ปัจจุบันชาวบ้านจะทำสวนผลไม้บนภูเขา และใช้มอเตอร์ไซค์ขึ้นไปขนผลไม้ลงมาขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เมืองลับแล ที่อยู่: ตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: เมืองลับแล เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนตลาด และชุมชนความทรงจำ บรรยากาศทั่วไปเยือกเย็นยามพลบค่ำ ดวงอาทิตย์ ไม่ทันตกดิน ก็มืดแล้ว เพราะมีดอยม่อนฤๅษีสูงใหญ่เป็นฉากกั้นแสงอาทิตย์ ป่าบริเวณนี้เรียกว่า "ป่าลับแลง" ต่อมาจึงเพี้ยนเป็นคำว่า "ลับแล" บริเวณที่เป็นที่มาของชื่อ "ลับแล" คือ ห้าตำบลด้านเหนืออำเภอลับแล ตำบลชัยจุมพล ตำบลศรีพนมมาศ ตำบลฝายหลวง ตำบลแม่พูล ตำบลนานกกก ชาวลับแลมีอาชีพทำสวนทุเรียน สวนลางสาดบนภูเขา ผู้ชายใช้ชีวิตส่วนใหญ่ ดูแลสวน ทิ้งลูกหลานอยู่ที่บ้าน ใครผ่านไป ก็เจอแต่ผู้หญิง นี่ก็คือที่มาของฉายา "เมืองแม่ม่าย" เป็นชุมชนที่อยู่ในชายป่าเดิม ห่างไกลกับแหล่งน้ำผิวดิน เป็นที่ราบเชิงเชา บ้านเรือนกระจายแทรกตัวอยู่กับพื้นที่ เป็นอาคารบ้านเดี่ยว กระจายตัวสลับพื้นที่ว่างและสวน เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยมีลักษณะเป็นบ้านไม้สองชั้น มีการใช้พื้นที่โดยรอบที่พักอาศัยเป็นส่วนหนึ่งของการแปรรูปสินค้าเกษตรพื้นบ้าน ในชุมชนมีการใช้พื้นที่พักอาศัยประกอบอาชีพและอุตสาหกรรมเกษตรในครัวเรือน อาทิ การปลูกหอมแดง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดสถานีรถไฟเมืองพิชัย/ชุมชนหลักเมือง ที่อยู่: ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเหนือ ลักษณะสำคัญ: ตลาดสถานีรถไฟเมืองพิชัย/ชุมชนหลักเมือง เป็นชุมชนตลาด ชุมชนความทรงจำ และชุมชนโดยรอบทางรถไฟ โดยมีตำนานของพระยาพิชัยดาบหัก ชุมชนตลาดเมืองพิชัยเป็นชุมชนที่ทอดตัวอยู่ด้านทิศตะวันออกของริมน้ำน่าน คู่ขนานกับทางรถไฟในด้านทิศตะวันตก เป็นพื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง อาคารเกือบทั้งหมดเป็นอาคารเรือนแถวไม้ 2 ชั้น เป็นย่านพาณิชยกรรมดั้งเดิม ที่เจริญมาจากการค้าขายและขนส่งสินค้าทางน้ำและเส้นทางการเดินรถไฟ เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าเกษตร ระหว่างพื้นที่เพาะปลูกกับอำเภออื่น ๆ ภายหลังเมื่อมีการตัดถนน การค้าขายในชุมชนก็ซบเซาลง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เรือนแพริมน้ำสะแกกรัง ที่อยู่: ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: เรือนแพริมน้ำสะแกกรัง เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ โดยตั้งอยู่ในลำน้ำของแม่น้ำสะแกกรังช่วงอำเภอเมืองอุทัยธานี ชุมชนเป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัยอยู่ในแม่น้ำ มีลักษณะเป็นบ้านเรือนแพ ประกอบด้วยเรือนหลัก และเรือนเล็ก ซึ่งเป็นที่ประกอบอาหารและห้องน้ำปัจจุบันหลงเหลือน้อย เดิมเป็นชุมชนที่ค้าขายในลำน้ำ เป็นศูนย์กลางการค้าระหว่าง อำเภอต่างๆ ของจังหวัดอุทัยธานี สินค้าที่นำมาขายมีข้าว สัตว์ป่า และของป่า ปัจจุบันเป็นย่านการค้าและตลาดสด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดบ้านเก่าสะแกกรัง (ตรอกโรงยา) ที่อยู่: ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ตลาดบ้านเก่าสะแกกรัง (ตรอกโรงยา) เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ ประกอบด้วยกลุ่มอาคารพาณิชยกรรมที่เป็นเรือนแถวไม้ขนาดยาว และกลุ่มอาคารพาณิชยกรรม 2-3 ชั้น บริเวณทางตะวันตกของแม่น้ำสะแกกรัง ถนนคนเดินตรอกโรงยาเป็นถนนคนเดินเล็ก ๆ ที่มีระยะทางเพียง 150 เมตรเท่านั้น สองข้างทางเรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณที่ยังคงสภาพเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ถนนหนทางถูกจับจองเป็นพื้นที่ตั้งของร้านรวงต่าง ๆ ตั้งแต่ร้านแบกับดิน แผงลอย ไปจนถึงร้านค้าขนาดใหญ่ที่ยึดเอาบริเวณชั้นล่างของบ้านเปิดเป็นร้านขายของ เป็นย่านการค้าที่สำคัญที่สุดของเมืองอุทัยธานี ที่รวมสินค้าหลากหลายประเภท ได้แก่ ร้านค้าปลีก ร้านขายทอง ตลาดสด เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านเก่า ที่อยู่: ตำบลบ้านเก่า อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: บ้านเก่า เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของชุมชนมอญ และเป็นศูนย์กลางของการจัดประเพณีของคนมอญ องค์ประกอบทางภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของสังคมเกษตรกรรม ได้แก่พื้นที่ปลูกข้าว และองค์ประกอบของวัฒนธรรมมอญ ได้แก่ วัดใหญ่ โดยมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงระหว่าง พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ความเชื่อ ชุมชนมอญบ้านเก่า ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านเก่า อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนมอญขนาดเล็ก ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ ทำนา อยู่ใกล้แม่น้ำสะแกกรัง และเขาสะแกกรัง ซึ่งมีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับชาวมอญ และพระราชวงศ์จักรี ซึ่งนักประวัติศาสตร์ยกให้เมืองอุทัยธานี เป็นเมืองของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก และยังมีตำนานที่กล่าวถึงเมืองอุทัยธานี ในสมัยกรุงสุโขทัย รวมทั้งชุมชนมอญโบราณด้วย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ชุมชนไทขาวหรือลาวพุทธ ที่อยู่: ตำบลทัพคล้าย อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: ชุมชนไทขาวหรือลาวพุทธ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวไทขาว (ลาวพุทธ) ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ที่สืบเชื้อสายมาจาก "ลาว" แห่งอาณาจักรศรีสัตนาคนหุต และได้อพยพมามายังประเทศไทยเมื่อครั้งเวียงจันทน์ถูกตีแตก ชาวทัพคล้ายจะเรียกตัวเองว่า "ลาวเวียง" ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่บริเวณสองฝั่งของลำห้วยกระเสียว โดยทางฝั่งตะวันตก ของลำห้วยกระเสียวมีบ้านเรือนตั้งอยู่หนาแน่นกว่าจึงเรียกว่าบ้านใหญ่ ส่วนบริเวณตะวันออกนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและที่ราบทำนา การตั้งบ้านเรือนจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ตามเครือญาติ เป็นรูปแบบสมัยใหม่ร่วมกับสมัยเก่า โดยส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้เก่า ๒ ชั้น ปลูกกระจายอยู่ตลอดสองข้างถนนในชุมชน ส่วนใหญ่มีอาชีพ ทำนา ทำไร่ และทำสวน มีภูมิปัญญา เช่น การจักสาน ทอผ้า หมอพื้นบ้าน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านเจ้าวัดยางแดง ที่อยู่: ตำบลเจ้าวัด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: บ้านเจ้าวัดยางแดง เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวกะเหรี่ยง (นับถือลัทธิฤาษี) เกิดจากกลุ่มบ้านเจ้าวัดที่เข้าไปอพยพใหม่ มีต้นไม้ชนิดหนึ่งขึ้นอยู่ในบริเวณที่ตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นจำนวนมาก คือ ต้นยางแดง ชาวบ้านเจ้าวัดนำต้นไม้ยางแดงเจาะเอาน้ำมันยางแดงทำเป็นน้ำมันขี้ไต้ โดยผสมกับไม้เก่า ๆ ที่นำมาจุดเป็นขี้ไต้ ต่อมาบ้านยางแดงมีผู้นำชื่อ นายตองโพ่ เจะเละ นุ่งขาวห่มขาว และอบรมสั่งสอนจนชาวบ้านยางแดงนับถือและตั้งให้เป็นผู้นำกลุ่มบ้าน ลักษณะภูมิประเทศ เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแนวยาวในเขตอุทยานแห่งชาติ ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง สลับกับบ้านเรือนไม้ไผ่ยกสูงตามรูปแบบของบ้านชาวกะเหรี่ยง มีอาชีพทำการเกษตรสินค้าหัตถกรรม ผ้าทอพื้นเมืองสีธรรมชาติ เครื่องจักสานไม้ไผ่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านโคกหม้อ ที่อยู่: ตำบลโคกหม้อ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ภาคกลาง ลักษณะสำคัญ: บ้านโคกหม้อ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวลาวครั่ง ชาวบ้านโคกหม้อเป็นชาวลาวอพยพมาจากเวียงจันทน์ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และได้มีการค้นพบเศษหม้อดินเผาในบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก จึงได้ตั้งชื่อตำบลนี้ว่า "ตำบลโคกหม้อ" มาจนถึงปัจจุบัน โดยสันนิษฐานว่าเป็นชื่อที่ชาวมอญตั้งไว้มีประเพณีและวัฒนธรรมที่เก่าแก่มานาน คาดว่าก่อตั้งหมู่บ้านประมาณ 156 ปี มีแม่น้ำแควตากแดด ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำสะแกกรังไหลผ่าน มีบ้านเรือนรูปแบบสถาปัตยกรรมทรงไทยทรงปั้นหยาอยู่บ้าง แต่ส่วนมากเป็นบ้านเรือนสมัยใหม่ และมีเตาเผาโบราณอยู่ท้ายหมู่บ้าน ส่วนใหญ่มีอาชีพทอผ้าไหม และหม้อดินเผา
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เกาะกลาง ที่อยู่: ตำบลคลองประสงค์ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เกาะกลาง เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ สันนิษฐานว่า เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้มานานเกือบ 100 ปี แต่เดิมประกอบอาชีพประมง ออกทะเลหาสัตว์น้ำในบริเวณใกล้ ๆ และทำสวนบริเวณผืนดินด้านใน เป็นหมู่บ้านริมน้ำตั้งอยู่ริมคลองประสงค์ ซึ่งเป็นคลองแยกจากบริเวณปากแม่น้ำกระบี่ พื้นที่ตั้งของหมู่บ้านประกอบด้วยบ้านเรือนแบบเรือนชนบท เป็นเรือนชั้นเดียว ยกใต้ถุนสูง มีชานใช้ทำกิจกรรมในเวลากลางวัน และมีท่าเรือทุกหลัง ชาวบ้านในชุมชนส่วนมากเป็นชาวมุสลิม ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่หลากหลาย โดยยังใช้วิธีทำการเกษตรแบบพึ่งพาธรรมชาติเป็นหลัก ได้แก่ ประมงเรือเล็ก การวางอวนโป๊ะน้ำตื้น และการเลี้ยงปลาในกระชัง นอกจากนี้ยังมีการทำนาข้าวสังข์หยด ในบริเวณพื้นที่ดอนห่างจากริมน้ำเข้าไป ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ได้จากธรรมชาติ เช่น การสักหอย การทำเรือหัวโทง การทำผ้าปาเต๊ะ ชาวบ้านในชุมชนส่วนมากเป็นชาวมุสลิม ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น คือ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชนมุสลิมที่รักสันติ สงบ และเรียบง่าย มิตรภาพและน้ำใจไมตรีของผู้คน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: แหลมตง เกาะพีพี ที่อยู่: ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: แหลมตง เป็นชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวเล ที่อพยพมาจากหลายเผ่า เช่น ชาวเลสิงห์ อูรักลาโว๊ย และมอร์เกน โดยเมื่อมาอยู่รวมกันก็ได้มีการแต่งงานข้ามเผ่า และรวมกันเป็นหมู่บ้านแหลมตงแห่งนี้จนถึงปัจจุบัน จากคำบอกเล่าทราบว่าชุมชนชาวเลแห่งนี้เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะพีพี ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีผู้คนนิยมเข้ามาท่องเที่ยว แต่เดิมเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ อยู่ริมทะเล โดยตั้งอยู่บริเวณแหลมด้านทิศเหนือของเกาะพีพี ไม่ปรากฏลักษณะบ้านแบบเรือนพักชาวเลดั้งเดิม ปัจจุบันพบแต่เพียงเรือนพัก ยกใต้ถุนไม่สูงมาก มุงหลังคาสังกะสี และตีฝาไม้อัด หรือวัสดุทั่วไปที่พอหาได้ ชาวเลส่วนมาก มีความเชื่อในเทพเจ้าประจำศาล โดยยึดถือเป็นที่พึ่งทางใจ ยกย่องนับถือโต๊ะเป็นผู้นำประจำชุมชน และเป็นที่ปรึกษาด้านพิธีกรรม ส่วนมากจะมีการสร้างศาลประจำหมู่บ้าน เป็นที่ประกอบพิธีกรรม และแก้บนต่าง ๆ เมื่อเริ่มมีกลุ่มนายทุนอพยพมาจากสตูล และพวกมุสลิมอพยพมาจาก เกาะยาว เข้ามาตั้งบ้านเรือนและทำกิจการบนเกาะพีพี ทำให้ชาวเลต้องตกอยู่ภายใต้ระบบทุน ประกอบกับการไม่ได้รับรองสัญชาติ ยิ่งทำให้ถูกกดขี่ และเอารัดเอาเปรียบจากสังคมมาจนถึงทุกวันนี้
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ศรีรายา ที่อยู่: ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ศรีรายา เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ แต่เดิมเป็นท่าเทียบเรือสินค้า ที่มาจอดหลบพายุ และเป็นศูนย์กลางการค้าในย่านนี้ มีการติดต่อกับมลายู อินเดีย และจีน ได้มีการก่อสร้างที่ว่าการอำเภอเกาะลันตาขึ้น เป็นอาคารโคโรเนียลสไตล์ เพื่อเป็นศูนย์กลางการปกครอง โดยชุมชนตั้งอยู่ริมทะเล บริเวณท่าเรือ หน้าที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา (เก่า) บ้านเรือน มีลักษณะเรือนแถวไม้ สองข้างถนน เป็นย่านการค้าขาย ตัวอาคารหันหน้าเข้าหาถนนศรีรายา และมีการต่อเติมตัวบ้านออกไปในทะเล เป็นที่มาของชื่อ บ้านยาวศรีรายาเป็นชุมชนย่านการค้า ต่อมามีชาวเลมุสลิม ตั้งถิ่นฐานเป็นหมู่บ้านชาวประมงอยู่ข้างเคียง ชื่อ ชุมชนหัวแหลม โดยมีกิจกรรมทางสังคมที่สัมพันธ์กัน ทั้งชาวไทย ชาวจีน และชาวมุสลิม แต่ในปัจจุบันกระแสการท่องเที่ยวเชิงนิเวศกำลังได้รับความนิยม จึงทำให้มีกลุ่มนายทุนทั้งจากภายนอกและภายในชุมชนเอง ได้ทำการดัดแปลงบ้านยาว เป็น GUESTHOUSE เพื่อรับนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยพุทธ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: สังกาอู้ ที่อยู่: ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: สังกาอู้ เป็นชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวเล เผ่าฮูลักลาโว้ย จากความทรงจำของคนในหมู่บ้าน ชาวเล ฮูลักลาโว้ย เข้ามาตั้งบ้านเรือนในบริเวณหมู่บ้านสังกาอู้ แห่งนี้มาเป็นระยะเวลามากกว่า 50 ปี หมู่บ้านสังกาอู้ อยู่บริเวณริมทะเลด้านทิศตะวันออกของเกาะลันตาใหญ่ ใกล้กับบริเวณซึ่งเป็นที่จอดเรือหลบพายุ และอยู่ไม่ไกลจากที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา มักจะตั้งอยู่ริมทะเล ใกล้กับที่จอดเรือ เพื่อที่จะออกเรือจับปลาได้ง่าย บ้านเรือนในหมู่บ้านสังกาอู้มีการก่อสร้างในลักษณะของเรือนไม้พื้นบ้าน ซึ่งเป็นบ้านเรือนถาวรแบบทั่วๆ ไป ไม่ได้เป็นเรือนเครื่องผูกแบบหมู่บ้านโต๊ะบาหลิว หมู่บ้านชาวเลแห่งนี้ยังคงมีวิถีชีวิต และธรรมเนียมประเพณี ตามอย่างชาวเลดั้งเดิมอยู่อย่างครบถ้วน เช่น พิธีนอนหาด พิธีลอยเรือน และยังมีการสร้างหลาโต๊ะประจำหมู่บ้านไว้ หลังจากเหตุการณ์ธรณีภิบัติสึนามิ ทำให้ทางราชการมีแผนการย้ายชุมชนแห่งนี้จากพื้นที่เดิม โดยมีความคาดหวังจากกลุ่มนายทุนเอกชน ในการก่อสร้างรีสอร์ทในบริเวณนี้ ทดแทนพื้นที่หมู่บ้านที่จะต้องถูกย้ายออกไป
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ในไร่ คลองดาว ที่อยู่: ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ในไร่ คลองดาว เป็นชุมชนชาติพันธุ์ของชาวชาวเล เผ่าฮูลักลาโว้ย สันนิษฐานว่าชาวเล เผ่าฮูลักลาโว้ย เข้ามาตั้งบ้านเรือน ในบริเวณที่เป็นหมู่บ้านในไร่ คลองดาวแห่งนี้มามากกว่า 50 ปี เนื่องจากมีสุสาน ที่สามารถไล่ลำดับวงศ์ตระกูลได้ หมู่บ้านในไร่ คลองดาว อยู่ใกล้กับชายหาดด้านทิศตะวันตกของเกาะลันตาใหญ่ เป็นชุมชนชาวเลที่ตั้งบ้านเรือนถอยร่นขึ้นไปบนบก ไม่ได้อยู่ริมทะเล ลักษณะบ้านพักของชาวเลในหมู่บ้านนี้ ลักษณะบ้านเรือนของบ้านในไร่คลองดาว มีลักษณะเป็นบ้านกึ่งถาวรทั่วไป มีการใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น ฝาไม้ไผ่สาน ไม้เนื้อแข็ง สังกะสี มีลักษณะคล้ายกับชาวมอร์แกน (ชาวเลขึ้นบก) ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านบางส่วนยังมีการออกเรือหาปลา และมีที่จอดเรืออยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน ส่วนชาวบ้านอีกส่วนหนึ่ง เปลี่ยนวิถีชิวิตมาทำงานทั่วไป รับจ้าง ค้าขาย หากแต่ชาวเล ยังคงขนบธรรมเนียม และประเพณีดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น และมีการสร้างเปลว (สุสาน) ไว้ในบริเวณที่ไม่ห่างจากหมู่บ้าน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: โต๊ะบาหลิว ที่อยู่: ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: โต๊ะบาหลิว เป็นชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวเล เผ่าฮูลักลาโว้ย สันนิษฐานว่า เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณพื้นที่แห่งนี้มากกว่า 80 ปี หมู่บ้านโต๊ะบาหลิว อยู่บริเวณริมทะเลด้านทิศตะวันตกของเกาะลันตาใหญ่ ซึ่งเป็นด้านตรงข้ามกับที่จอดเรือหลบพายุ ซึ่งชาวเลจำเป็นต้องตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้กับจุดที่ออกจับปลาได้ง่าย หมู่บ้านโต๊ะบาหลิวแห่งนี้ยังคงหลงเหลือรูปแบบของบ้านชาวเลดั้งเดิมไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีแนวป่าชายเลน ขนาบอยู่หลังหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงมีการสร้างสะพานข้ามคลอง (ป่าชายเลน) ซึ่งมีลักษณะเป็นสะพานชาวเล ทำด้วยไม้ไผ่ทั้งหมด ชาวเลบ้านโต๊ะบาหลิวดำรงชีวิตด้วยการออกเรือหาปลา ซึ่งเป็นอาชีพหลักของหมู่บ้านปัจจุบันความเจริญของการท่องเที่ยวเริ่มรุกเข้ามาใกล้ชุมชนแห่งนี้เป็นอย่างมาก มีการสร้างท่าแพขนานยนต์ ไม่ไกลจากหมู่บ้าน และย่านชุมชนการค้าของนักท่องเที่ยวมีการขยายตัวเข้ามาใกล้หมู่บ้านมากขึ้น ทุกวันนี้ชาวบ้านสังกาอู้บางส่วนทำอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อสร้าง และลูกจ้างร้านอาหาร
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เกาะจำ ที่อยู่: ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เกาะจำ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ สันนิษฐานว่า เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้มานานเกือบ 100 ปี โดยตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลเกาะศรีบอยา เกาะจำมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะปู ภูมิประเทศเป็นผืนดินที่มีน้ำล้อมรอบ แต่เดิมเป็นชายฝั่ง แต่แม่น้ำ คูคลอง ทำให้ผืนดินแยกออกจากฝั่ง มีลักษณะคล้ายเกาะ ตั้งอยู่ถัดจากเกาะศรีบอยา ออกมาทางฝั่งทะเลอันดามัน บ้านพักอาศัยในหมู่บ้านเกาะจำ ส่วนมากเป็นเรือนรูปแบบเรือนชนบทของท้องถิ่นภาคใต้ เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ยกใต้ถุน ฝาไม้ หลังคามุงสังกะสี มีระเบียงภายนอก เชื่อมต่อกับท่อเรือของแต่ละบ้าน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง โดยใช้เรือขนาดเล็กออกจับสัตว์ในแม่น้ำ และออกทะเลไม่ไกลจากฝั่งมากนัก นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงปลาในกระชัง และบริเวณห่างจากริมน้ำเข้าไปมีการทำสวนเกษตรบ้าง ชุมชนมีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ทั้งวัฒนธรรมไทยพุทธ และไทยมุสลิม อยู่รวมกันอย่างกลมเกลียว ปัจจุบันทาง อบต.คลองประสงค์ มีโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ พร้อมกับการอนุรักษ์ชุมชนวิถีธรรมชาติแห่งนี้ให้คงอยู่ และเป็นแหล่งเรียนรู้แก่นักท่องเที่ยวชาวบ้านในชุมชนประกอบด้วย ชาวพุทธ และชาวมุสลิม อาศัยอยู่รวมกัน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: นาหลวง ที่อยู่: ตำบลปกาสัย อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: นาหลวง เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนความทรงจำ ที่ตั้งชุมชนบ้านนาหลวงแห่งนี้เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเมืองกระบี่ในสมัยโบราณ โดยชื่อ "นาหลวง" มาจากการที่เป็นพื้นที่ปลูกข้าว ซึ่งทางราชการจัดไว้ให้ทำนา แสดงถึงประวัติศาสตร์ความเก่าแก่ และความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ชุมชนตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลปกาสัย ใกล้กับโรงไฟฟ้าจังหวัดกระบี่ บ้านพักอาศัย ส่วนมากเป็นเรือนรูปแบบเรือนชนบทของท้องถิ่นภาคใต้ เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ยกใต้ถุน ฝาไม้ หลังคามุงสังกะสี มีระเบียงภายนอก เชื่อมต่อกับท่าเรือของแต่ละบ้าน ปัจจุบันตัวเมืองกระบี่มีการพัฒนาขึ้นมาก ประกอบกับมีการพัฒนาถนน เส้นทางการคมนาคมใหม่ ๆ ทำให้พื้นที่แห่งนี้คงหลงเหลือเป็นเพียงพื้นที่ประวัติศาสตร์ตัวแทนของความทรงจำในอดีต และหมู่บ้านชนบทที่ยังทำอาชีพเกษตรกรรม และทำประมงในคลองเล็กๆ หลังจากมีการสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ขึ้นที่อำเภอเหนือคลอง ซึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ห่างไกลจากที่ตั้งชุมชน และมีแผนในการขยายโรงไฟฟ้าจากเดิม จึงเกิดกระแสการคัดค้าน และกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างภาครัฐ และชุมชนมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ และไทยมุสลิม อาศัยอยู่รวมกันในหมู่บ้าน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: นาโพธิ์ ที่อยู่: ตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: นาโพธิ์ เป็นชุมชนตลาด และชุมชนโดยรอบสถานีรถไฟ เป็นตลาดที่มีตึกแถวไม้ยาวนับร้อยเมตร อยู่ริมแม่น้ำ เป็นที่ที่นายมุตัน แซ่ฮุ่น (ฮุ่นตระกูล) คหบดีชาวจีนไหหลำ ได้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านเพื่อสร้างโรงสีข้าว โรงเลื่อย และบ้านพักอาศัยของครอบครัว ต่อมาได้บุกเบิกพื้นที่ สร้างเป็นตลาด สมัยก่อนเป็นชุมทางของเรือที่สัญจรมาจาก ถิ่นอื่น เพื่อขนของไปขึ้นรถไฟ ของที่ซื้อขายกันในสมัยนั้นก็เป็น ข้าว ผลไม้ ของป่า สมุนไพร จากบ้านนาสัก บ้านทุ่งระยะ บ้านนาโพธิ์ มีลักษณะเป็นชุมชนเมือง ที่มีความหนาแน่นปานกลาง แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเรียกว่าตลาดล่าง เป็นการตั้งถิ่นฐานยุคแรกในทางตอนใต้ของสถานีรถไฟ อีกส่วนคือตลาดบนเป็นพื้นที่พาณิชยกรรมที่เกิดขึ้นภายหลัง เนื่องจากการตั้งสถาบันต่าง ๆ ของอำเภอ เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2466 เมื่อนายมุตัน แซ่ฮุน และครอบครัวได้สร้างห้องแถวไม้สองชั้นตลอดแนวสองฟากถนนวานิชบำรุง ซึ่งเป็นถนนหลักของชุมชน เพื่อใช้เป็นบ้านเช่าพักอาศัยและค้าขายจนกลายเป็นตลาดร้านค้าที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น ภายหลังตลาดบนได้เจริญเติบโตมากขึ้นโดยลำดับ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางทางสถาบันต่าง ๆ ในอำเภอ ฐานเศรษฐกิจของชุมชนเป็นย่านการค้า ได้แก่ ตลาด และแหล่งการค้าปลีกที่สำคัญของอำเภอ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดหลังสวน ที่อยู่: ตำบลหลังสวน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดหลังสวน เป็นชุมชนตลาด และชุมชนโดยรอบสถานีรถไฟ เป็นการตั้งถิ่นฐานชุมชนบริเวณแม่น้ำหลังสวนซึ่งเป็นแม่น้ำสายสั้น ๆ และมีที่ราบลุ่มน้อย ชุมชนในบริเวณดังกล่าวจึงไม่อาจจะพัฒนาเป็นชุมชนเกษตรกรรมขนาดใหญ่เหมือนเมืองชุมพร ไชยา นครศรีธรรมราช และพัทลุง ได้ บทบาทของเมืองหลังสวนในระยะเริ่มแรกจึงเป็นเพียงชุมชนท่าเรือข้ามคาบมหาสมุทร และหมู่บ้านเกษตรกรรมขนาดเล็ก บ้านเรือนแถวไม้ทรงโบราณฉลุลายไทย มีการตกแต่งด้วยไม้ลายฉลุด้วยมือ แสดงถึงฝีมือของช่างไม้ที่มีความสามารถของอำเภอหลังสวน อนุรักษ์ไว้ให้อนุชนได้ศึกษาวิถีชีวิตของคนรุ่นก่อน ฐานเศรษฐกิจของชุมชนเป็นย่านการค้า ได้แก่ ตลาด เป็นย่านการค้าปลีกที่สำคัญของอำเภอ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ย่านเมืองทับเที่ยง ที่อยู่: ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ย่านเมืองทับเที่ยง เป็นชุมชนตลาด ที่ตั้งของตัวเมืองตรังนั้นมีการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้ง ตามหลักฐานตั้งแต่ ยุคอาณาจักรโบราณ ลัดเลาะตามริมฝั่งแม่น้ำตรัง จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 6 พระยารัษฎานุประดิษฐ์ (สินธุ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ได้ทูลขอย้ายเมืองมาตั้งอยู่ ณ ตำบลทับเที่ยง โดยให้ชื่อว่า อำเภอบางรัก และต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอทับเที่ยง ในปี พ.ศ. 2459 เหตุที่เรียกว่าทับเที่ยงนั้นเพราะพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว (ร.5) ได้เสด็จมาที่จังหวัดตรัง และได้มาถึงจังหวัดตรังในเวลาตอนเที่ยง จึงได้สร้างที่ประทับตอนเที่ยง จึงกลายเป็นตำบลทับเที่ยง ลักษณะภูมิประเทศมีสภาพเป็นเนินสูงต่ำสลับกับที่ราบ มีแม่น้ำสำคัญไหลผ่าน คือ แม่น้ำตรัง มีอาคารตึกแถวแบบชิโนโปรตุกีส ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย เนื่องจากเป็นชุมชนเมือง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดห้วยยอด ที่อยู่: ตำบลห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดห้วยยอด เป็นชุมชนตลาด ที่มีชื่อเรียกว่า "ห้วยยอด" เนื่องมาจากภูมิประเทศของอำเภอห้วยยอด โดยคำว่า "ห้วย" หมายถึง ลำห้วยต่างๆ ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำตรัง อันเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดที่พาดผ่านพื้นที่ส่วนต่างๆ ของอำเภอ ส่วนคำว่า "ยอด" หมายถึง ยอดเขาที่เรียงรายตลอดแนวทางด้านทิศตะวันออกของอำเภอ ซึ่งเรียกว่า "ภูเขาบรรทัด" โดยพื้นที่ห้วยน้ำและยอดเขาสลับกันไปมา จึงได้เรียกว่า "ห้วยยอด" มาจนปัจจุบัน ภูมิประเทศมีลักษณะเป็นทางลาดชันเล็กน้อย อาคารเรือนแถวไม้และคอนกรีตสองชั้น ตั้งเรียงตัวติดถนน 2 ช่องทาง ทุกอาคารมีทางเดินใต้อาคารที่เป็นทางเท้า อาคารสร้างตามความลาดชันก่อให้เกิดลักษณะพิเศษ เป็นชุมชนพาณิชยกรรม ที่ยังมีกิจกรรมการค้าขายที่คึกคัก
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดท่าข้าม ที่อยู่: ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดท่าข้าม เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ ตำบลท่าข้าม ในสมัยก่อนการคมนาคมไม่สะดวก โดยเฉพาะทางบก การติดต่อค้าขายหรือสัญจรไปมาต้องอาศัยทางเรือ ซึ่งในตำบลนี้มีท่าเรือที่สามารถติดต่อกับ ตำบลทุ่งหว้า อำเภอละงู จังหวัดสตูล ตำบลเกาะสุกร ตำบลตะเสะ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ทำให้ชาวบ้านเรียกกันว่า "ตำบลท่าข้าม" ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบพื้นที่ติดคลองเป็นท่าเรือ และสะพานปลาเก่า อาคารแถวไม้สองชั้น ตั้งเรียงตัวติดถนน 4 ช่องทาง มีอาคารแถวลักษณะชิโนโปรตุกีสปะปนบางส่วน เป็นที่อยู่อาศัยปะปนกับย่านพาณิชยกรรม เมื่อก่อนมีความสัมพันธ์ค้าขาย กับท่าเรือหยง-สตาร์ ปัจจุบันส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวน ประมง และแปรรูปอาหารทะเล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: หยงสตาร์ ที่อยู่: ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: หยงสตาร์ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนความทรงจำ ก่อนที่จะเกิดชุมชนท่าข้ามนั้นจะมีชุมชนหยงสตาร์อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว มีคนสันนิษฐานว่าสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี พุทธศาสนาเริ่มเข้ามาเผยแพร่ในแถบภาคใต้ทางเมืองพัทลุง (นางเลือดขาว) ได้ไปติดต่อสมณทูตจากเมืองลังกาให้มาเผยแพร่ศาสนา ตามประวัติกล่าวว่า คณะทูตมาขึ้นเรือที่ท่าเรือปะเหลียนซึ่งเป็นเมืองด่านหน้าของเมืองพัทลุง ก่อนที่จะเดินทางผ่านไปยังเมืองต่าง ๆ สันนิษฐานว่าจะเป็นท่าเรือตันหยงสตาร์ หรือท่าเรือบ้าน ควนสระ (ตำบลสุโสะ) หรือท่าเรือลิพัง ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบ ตั้งถิ่นฐานลึกเข้ามาจากลำคลอง อาคารเรือนไม้เดี่ยวใต้ถุนสูง ตั้งเรียงตามแนวถนนหลัก มีเรือนเก่าที่มีคุณค่าอยู่บางส่วน เป็นชุมชนเกษตร อาชีพ ทำสวน ปาล์ม ยาง มีการออกประมงตามฤดูกาล
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านด่าน ที่อยู่: ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บ้านด่าน เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ เป็นด่านศุลกากรเดิม ชาวบ้านส่วนใหญ่ย้ายมาจากเกาะ ลักษณะภูมิประเทศ มีพื้นที่ติดชายเลน และด่านศุลกากรเดิม อาคารแถวไม้ชั้นเดียว ตั้งเรียงตัวติดแนวถนนหลัก ภายในมีท่าเรือเล็ก ๆ และศาลเจ้าของชุมชน ส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงปลา ปู ขายส่งตลาดในตัวอำเภอ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดทุ่งยาว ที่อยู่: ตำบลทุ่งยาว อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดทุ่งยาว เป็นชุมชนตลาด คนกลุ่มแรกซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวทุ่งยาวได้อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เดินทางมาขึ้นเรือที่ท่าเรือเกาะสุกร แหลมตะเสะ หาดสำราญ หยงสตาร์ และทุ่งหว้า ก่อนจะย้ายมาตั้งหลักแหล่งที่ตำบลทุ่งยาวในปัจจุบันนี้ คนกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งรกรากที่ตำบลทุ่งยาวคือ คนตระกูลโค้ว หรือแซ่โค้ว 10 คน เข้ามาอาศัยอยู่ที่หยงสตาร์ก่อนย้ายมาอยู่ที่ทุ่งยาว และมีคนยืนยันว่า เป็นตระกูลที่เดินทางมาจากตำบลปั๊กซัวเถา อำเภอโผวเล้งจังหวัดแต้จิ๋ว มณฑลกวางตุ้ง อาคารแถวเรือนไม้ตั้งแต่ชั้นครึ่งถึงสองชั้น ลักษณะหลังคาเป็นหลังคาสังกะสีขนาดใหญ่ ตั้งเรียงตัวติดถนน 4 ช่องทาง เป็นชุมชนพาณิชยกรรมค้าขายสมัยใหม่ของชาวจีนฮกเกี้ยน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดกันตัง ที่อยู่: ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดกันตัง เป็นชุมชนตลาด และชุมชนโดยรอบทางรถไฟ เป็นเมืองท่าสำคัญแห่งหนึ่งทางฝั่งมหาสมุทรอินเดีย เป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญมาแต่โบราณ และในปี พ.ศ. 2436 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) เจ้าเมืองตรังย้ายที่ตั้งเมืองตรัง จากตำบลควนธานี มาตั้งที่ตำบลกันตังโดยขึ้นกับมณฑลภูเก็ต ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำตรัง ห่างจากปากน้ำตรัง 27 กิโลเมตร อาคารเรือนแถวไม้สองชั้น ตั้งเรียงตัวติดถนน 4 ช่องทาง เป็นแบบผสมผสานของการตกแต่งอาคารหลายรูปแบบ ตั้งอยู่ในเมือง เป็นชุมชนในเมือง ส่วนใหญ่เป็นพาณิชยกรรม มีมัสยิด ศาลเจ้าที่เป็นตึกแถว
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดท่าวัง ที่อยู่: ตำบลคลัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดท่าวัง เป็นชุมชนตลาด ย่านท่าวัง แต่เดิมบริเวณแห่งนี้เคยเป็นท่าเรือโดยสารของวังเจ้าเมือง มีการตั้งถิ่นฐานของชุมชน และมีบทบาทในการเป็นย่านการค้า สินค้าอุปโภค-บริโภค มีความเก่าแก่ของเมือง ลักษณะภูมิประเทศ ตั้งอยู่บนถนนท่าวัง ต่อเนื่องจาก ถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นถนนสายหลักของตัวเมืองนครศรีธรรมราช ตัวอาคารเป็นตึกแถวชิโนโปรตุกีสสองชั้น ซึ่งปัจจุบันยังคงหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันย่านท่าวังยังคงมีการค้าขาย และกิจกรรมทางเศรษฐกิจอยู่ แต่การขยายตัวของเมือง และระบบการคมนาคมที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดความซบเซาของย่านการค้า ไม่คึกคักเหมือนในอดีต ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ และชาวจีน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดแขก ที่อยู่: ตำบลคลัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดแขก เป็นชุมชนตลาด ความสำคัญของชุมชนแห่งนี้ คือ เป็นถิ่นฐานที่ตั้งบ้านเรือนที่เก่าแก่ของชาวมุสลิม ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ย่านตลาดแขก ตั้งอยู่ในบริเวณรอบ ๆ สี่แยกตลาดแขก ซึ่งเป็นจุดที่ถนนราชดำเนิน ตัดกับถนนพะเนียด ในย่านชุมชนแห่งนี้ มีมัสยิดซาเมียะ เป็นมัสยิดแห่งแรกในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันยังเป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลามในจังหวัด จากความเก่าแก่และคุณค่าของตัวอาคาร อาจถือได้ว่ามัสยิดแห่งนี้เป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ชุมชนมุสลิมแห่งนี้ ยังคงวิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันดีงาม ตามความเชื่อทางศาสนาไว้อย่างเหนียวแน่น และคงสืบสานให้แก่รุ่นต่อไปอย่างเข้มแข็ง ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดท่าม้า ที่อยู่: ตำบลคลัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดท่าม้า เป็นชุมชนตลาด และชุมชนความทรงจำ สันนิษฐานว่าแต่เดิม เป็นที่ตั้งคอกม้าของเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อมีการพัฒนาเมือง และการคมนาคมจนเลิกใช้ม้า บริเวณซึ่งเคยเป็นคอกม้าจึงถูกรื้อถอนออกไป และมีการก่อสร้างตัวอาคาร ตลาดสดขึ้นทดแทน ตั้งอยู่ในถนนราชดำเนิน บริเวณใกล้กับโรงเรียนชูทิพย์ศึกษา ตัวคอกม้าเดิม ไม่หลงเหลือสภาพให้เห็นในปัจจุบัน แต่ยังคงมีอาคารเรือนแถวไม้เก่าแก่ หลงเหลืออยู่ เป็นชุมชนดั้งเดิมซึ่งเคยเป็นที่พักอาศัยของข้าราชการ และชาวบ้านซึ่งอาจเคยทำงานเกี่ยวข้องกับวังเจ้าเมือง หรือเกี่ยวพันกับคอกม้า ได้มาตั้งถิ่นฐานใกล้กับบริเวณใกล้ ๆ กับคอกม้า ซึ่งไม่ห่างไกลจากวัง ทั้งนี้เมื่อคอกม้าถูกรื้อไป แต่ลูกหลานของผู้คนเหล่านี้ยังมิได้ย้ายไปไหน เมื่อมีการสร้างตลาดขึ้น จึงเกิดความเป็นย่านการค้าจนถึงในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านหมน ที่อยู่: ตำบลท่าเรือ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บ้านหมน เป็นชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ บ้านหมนเป็นชื่อเรียกย่านชุมชนเก่าแก่ ซึ่งเป็นกลุ่มหัตถกรรมจักสานย่านลิเพา อันเป็นสินค้าประจำท้องถิ่น และเป็นสินค้าที่โดดเด่นของจังหวัดนครศรีธรรมราช ชุมชนตั้งอยู่บริเวณพื้นที่สองข้างถนนทางหลวงสาย 4012 จรดกับทางหลวง 408 โดยวิ่งออกจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร ผ่านแยกไปปากพนัง ครอบคลุมพื้นที่บริเวณ หมู่ที่ 5 บ้านแคสูง และบ้านไร่ ตำบลท่าเรือ ย่านชุมชนเก่าแก่แห่งนี้ มีลักษณะเป็นชุมชนที่มีองค์ประกอบที่ไม่ใช่กายภาพ กล่าวคือ ลักษณะของบ้านเรือนในบริเวณนี้ไม่ได้มีความโดดเด่นหรือคุณค่าทางด้านสถาปัตยกรรม หากแต่คุณค่าอยู่ที่ วิถีชีวิต และภูมิปัญญาเก่าแก่ที่ยังคงสืบสานกันอยู่กับผู้คนในบริเวณนี้ ในปัจจุบันพบว่ามีชาวบ้านจำนวนไม่มากที่ยังสามารถประดิษฐ์ย่านลิเพาได้ และบ้านเรือนของคนเหล่านี้มิได้อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน หากแต่กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ ปัจจุบันมีการจัดตั้งศูนย์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านย่านลิเพาขึ้น โดยศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณวัดบ้านหมน มีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์ และส่งเสริม ภูมิปัญญาแห่งย่านลิเพาให้คงอยู่ ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ หรือคนนครศรีธรรมราชดั้งเดิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }