text
stringlengths
11
12.4k
meta
dict
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดขนอม ที่อยู่: ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดขนอม เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนตลาด สันนิษฐานว่าเป็นการตั้งบ้านเรือนของชาวประมง ที่นิยมจอดเรือในคลองที่ออกสู่ปากอ่าว เพื่อหลบพายุ จึงมีการตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้กับที่จอดเรือ ต่อมาจึงเกิดการยกระดับเป็นหมู่บ้าน ชุมชนตั้งอยู่บริเวณใกล้กับปากน้ำขนอม แต่บริเวณที่ตั้งของตลาดและชุมชนแห่งนี้ กลับตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลเข้ามาตามลำคลอง ประมาณ 20 กิโลเมตร สภาพบ้านเรือนในชุมชน บริเวณริมถนนใหญ่ ซึ่งเป็นย่านตลาด มีลักษณะเป็นเรือนแถวไม้สองชั้น ส่วนบ้านพักที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง มีลักษณะเป็นเรือนยกใต้ถุน มุงสังกะสี ฝาไม้ เมื่อมีผู้คนมากขึ้น การประมงและการค้าขายเติบโตขึ้น จึงพัฒนาเป็นตลาดกลางค้าขายสินค้าในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง ปัจจุบันชุมชนยังมีวิถีชิวิตและลักษณะการหาปลาแบบประมงเรือเล็กหลงเหลืออยู่ สังเกตจากเรือและวิธีการจับปลา ส่วนความเป็นย่านตลาดมีความสำคัญลดลง เนื่องจากมีถนนการคมนาคมทางบกที่ดีขึ้นมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธพื้นเมือง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ปากน้ำสิชล ที่อยู่: ตำบลสิชล อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ปากน้ำสิชล เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ ชุมชนปากน้ำสิชล แต่เดิมเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ทำอาชีพประมงเรือเล็ก ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำใกล้กับบริเวณปากน้ำสิชล โดยชุมชนดั้งเดิมตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของแม่น้ำ และมีชุมชนใหม่ขยายตัวออกไปบริเวณทิศเหนือของแม่น้ำ ในบริเวณฝั่งตรงข้าม บ้านพักอาศัยแบบดั้งเดิมในชุมชน มีลักษณะเป็นเรือนแถวไม้ชั้นเดียว สร้างอยู่สองข้างถนน ในปัจจุบันบ้านส่วนมากไม่มีคนพักอาศัย จึงอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมมาก เมื่อธุรกิจประมงมีการขยายตัวอย่างมาก มีการสร้างห้องเย็นและสะพานปลาในพื้นที่ ทำให้มีการขยายพื้นที่ สะพานปลา ห้องเย็น และท่าเทียบเรือ ไปอยู่ริมแม่น้ำบริเวณทิศเหนือในฝั่งตรงข้ามกับชุมชนดั้งเดิม ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงวิธีการหาปลาโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เรือจับปลาลำใหญ่ขึ้น และมีแรงงานเข้ามาทำงานมากขึ้น ทำให้ชุมชนส่วนขยายมีลักษณะเป็นชุมชนแออัดริมน้ำเป็นที่พักของแรงงาน ปัจจุบันพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของชุมชนดั้งเดิม ซึ่งมีลักษณะคับแคบ จึงเป็นเพียงที่พักของคนพื้นที่ดั้งเดิม หลงเหลือเพียงห้องแถวไม้เก่าแก่ และบ้านไม้ อยู่ไม่กี่แถว ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ พื้นเมือง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดปากพนัง ที่อยู่: ตำบลปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดปากพนัง เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ ตลาดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการค้าขาย สินค้าประมง และสินค้าจากแดนไกล โดยเป็นทั้งตลาดกลางการแลกเปลี่ยนสินค้า และชุมทางการเดินทางจากทะเลสู่แผ่นดินใหญ่ มายาวนานมากกว่า 100 ปี ชุมชนตั้งอยู่บริเวณฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำปากพนัง บริเวณไม่ห่างไกลจากปากแม่น้ำปากพนัง ในพื้นที่รอบ ๆ ตลาดปากพนัง มีอาคารเก่าแก่อยู่มากมาย เช่น อาคารตึกแถว ชิโนโปรตุกีส เรือนแถวไม้ชั้นเดียว เรือนแถวไม้สองชั้น และบ้านไม้ที่สร้างเป็นห้องแถวชุด ปัจจุบันตัวตลาดปากพนังยังคงความสำคัญไม่ต่างไปจากในอดีต หากแต่มีกิจการบ้านนกนางแอ่น เข้ามาในบริเวณตลาด และพื้นที่ใกล้เคียงกัน ในช่วงระยะเวลา 10 กว่าปีมานี้ ธุรกิจบ้านนกมีการขยายตัวออกไปอย่างมาก และได้มีการเปลี่ยนแปลงอาคารเก่า รวมถึงการสร้างอาคารใหม่ เพื่อใช้เป็นบ้านนกอย่างมากมาย จนอาจกล่าวได้ว่าพื้นที่ปากพนังแห่งนี้เป็นย่านบ้านนกนางแอ่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ ลักษณะเช่นนี้มีผลต่อภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม และชาวจีน ซึ่งเป็นคนดั้งเดิมในพื้นที่ และผู้ใช้แรงงานบางส่วนที่เข้ามาทำมาหากิน รวมทั้งแรงงานต่างด้าวจากหลายประเทศ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดปากเชียร (ตลาดออก-ตลาดตก) ที่อยู่: ตำบลเชียรใหญ่ อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดปากเชียร (ตลาดออก-ตลาดตก) เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ ตลาดปากเชียรแต่เดิมเป็นท่าเรือที่แลกเปลี่ยนสินค้า จากเรือประมงจากตลาดปากพนัง เพื่อส่งสินค้าไปตามคูคลองสายต่าง ๆ ชุมชนตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำปากพนัง เป็นย่านตลาดเก่าเล็ก ๆ ที่ขยายตัวไปตามแนวแม่น้ำปากพนัง สิ่งก่อสร้างสร้างอยู่ริมแม่น้ำ หันหน้าเข้าสู่ถนนเลียบแม่น้ำ ต่อมามีการสร้างตึกแถวบริเวณ ฝั่งตรงข้าม หันหน้าเข้าหาถนน โดยมีท่าเรือเป็นศูนย์กลางของพื้นที่ เมื่อมีการสร้างตึกแถวไม้ขนานแนวถนน แผ่ขยายยาวออกไปเรื่อย ๆ ทำให้ตัวตลาดขยายตัวไปทางด้านยาวมากขึ้น จนสุดท้ายมีการแบ่งแยกตลาดออกเป็นสองส่วน โดยมีท่าเรือเป็นศูนย์ เรียกว่า ตลาดออก - ตลาดตก หมายถึง ตลาดด้านทิศตะวันออก และด้านทิศตะวันตก ปัจจุบันการพัฒนาด้านการคมนาคมทางบก และการตัดถนนใหม่ ๆ ทำให้การขนส่งสินค้าทางเรือลดบทบาทลงไปอย่างมาก ตลาดปากเชียรจึงถูกลดบทบาทลง เหลือเพียงมีบทบาทในแง่ของการเป็นตลาดการค้าในท้องถิ่นเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธดั้งเดิมในพื้นที่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดปากแพรก ที่อยู่: ตำบลทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดปากแพรก เป็นชุมชนตลาด ชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ และชุมชนโดยรอบทางรถไฟ แต่เดิมอำเภอทุ่งสง โดยเฉพาะสถานีรถไฟทุ่งสง ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคใต้ เนื่องจากเป็นทางแยกของการเดินทางจากฝั่งตะวันตกไปฝั่งตะวันออก แม้ว่าต่อจะมามีการตัดถนน แต่อำเภอทุ่งสงยังคงเป็นทางแยกสำหรับการเดินทางทางบก ชุมชนตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ใกล้กับสถานีรถไฟทุ่งสง สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ มีลักษณะเป็นอาคารเรือนแถวชั้นเดียวและสองชั้น สร้างเป็นกลุ่มอาคารขยายตัวออกมาทางด้านถนนเพชรเกษม ตลาดปากแพรก เป็นตลาดกลางที่ตั้งขึ้นรองรับศูนย์กลางการคมนาคม ปัจจุบันบริเวณซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดปากแพรกเดิม ยังคงหลงเหลือสิ่งก่อสร้าง และกิจกรรมการค้าขายให้เห็นอยู่บางส่วน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธดั้งเดิมในพื้นที่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านทอน ที่อยู่: ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บ้านทอน เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ที่ตั้งและภูมิประเทศมีลักษณะเป็นชุมชนที่มีพื้นที่ยาวไปตามชายฝั่งทะเล ประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก มีพื้นที่เกษตรกรรมไม่มากนัก องค์ประกอบของชุมชนประมงดั้งเดิม ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เป็นชุมชนประมง มีอาชีพเสริมที่สัมพันธ์กับอาชีพหลัก คือ ต่อเรือกอและ เรือกอและจำลอง ทอเสื่อ และผลิตภัณฑ์จากกระจูด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บาเละฮีเล ที่อยู่: ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บาเละฮีเล เป็นชุมชนริมน้ำ และชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ เป็นชุมชนประมงดั้งเดิม ตั้งอยู่บริเวณใกล้ปากแม่น้ำบางนรา พื้นที่ชุมชนมีลักษณะเป็นช่วงที่แม่น้ำมีเกาะและแหลมบังลมจากทะเล ทำให้มีความเหมาะสมกับการจอดเรือประมง ลักษณะองค์ประกอบภาพรวมของชุมชนประมงแบบดั้งเดิม ทั้งอาคารบ้านเรือน ท่าเรือ ที่จอดเรือ รวมทั้งพื้นที่ชายเลน และอาคารเรือนแถวค้าขายบริเวณตลาด ส่วนใหญ่ชุมชนประกอบอาชีพหลัก คือ ประมง เนื่องจากอยู่ในเขตเมืองจึงมีเขตพื้นที่ค้าขายต่อเนื่องกัน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตันหยงมัส ที่อยู่: ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตันหยงมัส เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนตลาด และชุมชนโดยรอบทางรถไฟ เป็นที่ตั้งของเมืองระแงะเดิมก่อนจะย้ายไปตั้งศูนย์กลางที่บางนรา ชุมชนในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส ประกอบด้วยชุมชนที่เป็นศูนย์กลางการค้าขาย อันเป็นศูนย์กลางเมืองระแงะแต่เดิม มีสถานีรถไฟตันหยงมัสที่เป็นชุมทางสำคัญ และชุมชนที่มีลักษณะเป็นชุมชนหมู่บ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืชสำคัญ คือ ลองกอง อันเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของตำบลตันหยงมัส ชุมชนมีเศรษฐกิจหลัก คือ ค้าขาย และเกษตรกรรม โดยเฉพาะสวนลองกอง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ดุซงญอ ที่อยู่: ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ดุซงญอ เป็นชุมชนตลาด และชุมชนความทรงจำ "ดุซงญอ" หมายถึงชื่อของสวนเจ้าของเมืองระแงะที่ได้มาทำสวนในพื้นที่บ้านดุซงญอ ตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญในความทรงจำที่เรียกกันว่า "กบฏดุซงญอ" เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2491 เนื่องจากความเข้าใจผิดและมีผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก มีลักษณะเป็นชุมชนตลาดการค้า และชุมชนหมู่บ้าน จึงมีสถาปัตยกรรมทั้งเรือนแถวไม้ในตลาด และเรือนไม้โบราณ รวมไปถึงศาสนสถาน ชุมชนบ้านดุซงญอส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ประกอบอาชีพทำสวนยางพาราและค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตะโละมาเนาะ ที่อยู่: ตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตะโละมาเนาะ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาบูโดในจังหวัดนราธิวาส กลางหมู่บ้าน มีธารน้ำสายหนึ่งไหลมาจากภูเขาลงสู่ไร่นา ที่ตั้งมัสยิดและบรรดาบ้านเรือนตั้งอยู่ด้านเหนือของธารน้ำ ส่วนด้านใต้ของธารน้ำเป็นบริเวณสุสานที่กว้างปราศจากพุ่มไม้ ลักษณะการตั้งบ้านเรือนของชาวมุสลิมที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม บ้านเรือนในหมู่บ้านและอาคารมัสยิดตะโละมาเนาะที่นับเป็นอาคารมัสยิดไม้เก่าแก่ที่สำคัญ บ้านตะโละมาเนาะเป็นชาวมุสลิม ประกอบอาชีพทำนา ทำสวน ทำไร่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ละหาร ที่อยู่: ตำบลละหาร อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ละหาร เป็นชุมชนเกษตรกรรม บ้านละหารตั้งอยู่ในอำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ลักษณะชุมชนแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของชุมชนมุสลิมดั้งเดิม พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นขุนละหาร ชุมชนบ้านละหารส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก เป็นชุมชนดั้งเดิม มีการจัดการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเพื่อศึกษา สืบสานและต่อยอดงานด้านวัฒนธรรมของชุมชน โดยผู้นำชุมชนเอง ทำให้ชุมชนเป็นตัวอย่างที่สามารถสืบสาน และถ่ายทอดประเพณีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมมาปรับกับวิถีปัจจุบันได้
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดยี่งอ ที่อยู่: ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดยี่งอ เป็นชุมชนตลาด "เมืองยี่งอ" อาจจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เมืองยือรีงา" ถือเป็นเมืองเก่าเมืองหนึ่ง ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจ และมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม อาคารเรือนแถวในตลาด อาคาร และสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์เมืองยี่งอ ยี่งอเป็นเมืองเก่าจึงมีการพัฒนาการด้านสังคมและเศรษฐกิจแบบสังคมเมือง ประกอบด้วยชุมชนย่านตลาดการค้าและชุมชนเกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดสุไหงปาดี ที่อยู่: ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดสุไหงปาดี เป็นชุมชนตลาด และชุมชนโดยรอบทางรถไฟ เป็นแหล่งการค้าแต่เดิม ที่ย้ายมาจากตำบลสุไหงปาดี เนื่องจากการตัดถนน รวมทั้งการสร้างทางรถไฟ และสถานีรถไฟสุไหงปาดีที่ตำบลนี้ ชุมชนตั้งอยู่ในเทศบาลตำบลปะลุรู มีพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มมีคลองโคกปริเม็งเป็นสายหลัก ในสมัยก่อนประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก เป็นพื้นที่ที่มีป่าพรุ และพื้นที่เกษตรกรรมมาก เรือนแถวในตลาดสุไหงปาดี และเรือนพักอาศัยของชุมชนเกษตรกรรม ผู้คนในชุมชน ประกอบด้วย ทั้งชาวพุทธและชาวมุสลิมอาศัยอยู่ร่วมกัน แต่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: รูสะมิแล ที่อยู่: ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: รูสะมิแล เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ ในสมัยก่อนสภาพทั่วไปของตำบลรูสะมิแล เต็มไปด้วยป่า ต่อมามีการตั้งถิ่นฐาน โดยมีอาชีพประมงเป็นอาชีพหลัก รูสะมิแล เป็นภาษายาวี แปลว่า "สนเก้าต้น" บริเวณที่ตั้งของบ้านรูสะมิแล อยู่บริเวณที่เรียกว่า ทะเลนอก ที่ชาวบ้านใช้เรียกพื้นที่ทะเลรอบนอกของอ่าวปัตตานี ลักษณะการตั้งถิ่นฐานของชุมชนประมงดั้งเดิมนอกอ่าวปัตตานี ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และประมง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตันหยงลุโละ ที่อยู่: ตำบลตันหยงลุโละ อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตันหยงลุโละ เป็นชุมชนเกษตกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนโดยรอบโบราณสถาน ตำบลตันหยงลุโละ เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี ซึ่งเดิมเป็นเมืองปาตานี สมัยก่อนเคยเป็นเมืองศูนย์กลางของอาณาจักรปาตานีและของเอเซียอาคเนย์ ที่คนทั่วไปได้เคยมาติดต่อค้าขาย รวมทั้งเป็นอารยธรรมอิสลาม เป็นที่รู้จักกันทั่วไปในสมัยนั้น ซึ่งมีร่องรอยประวัติศาสตร์ปรากฏอยู่ เช่น คลองปาเปรี บ่อฮังตูวะห์ มัสยิดเก่ากรือเซะ ฮวงซุ้ยเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นต้น ตันหยงลุโละ หมายถึง แหลมที่เต็มไปด้วยเพชร พลอยและสิ่งของที่มีค่า ที่ทำให้ประชาชนในตำบลทำมาหากินง่าย และเป็นตำบลที่อุดมสมบูรณ์ ชุมชนตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองปัตตานี ใกล้อ่าวปัตตานี ลักษณะการตั้งถิ่นฐานของชุมชนประมงดั้งเดิมรอบอ่าวปัตตานี มัสยิดกรือเซะ ฮวงซุ้ยเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว บริเวณบ้านตันหยงลูโละ แสดงให้เห็นการอยู่ร่วมกันของคนจีนและคนมุสลิม แต่เดิมเศรษฐกิจชุมชนมีลักษณะเป็นประมงพื้นบ้านรอบอ่าวปัตตานี ที่มีความสัมพันธ์กับระบบคลองและแม่น้ำ ปัจจุบันประสบปัญหาเกี่ยวกับการเข้ามาทำประมงแบบอวนลากของนายทุน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: สะบารัง ที่อยู่: ตำบลสะบารัง อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: สะบารัง เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำปัตตานี มีการทำประมงและท่าเรือมาแต่เดิม เป็นพื้นที่ด่านภาษีบริเวณปากน้ำปัตตานี เป็นท่าเรือประมง เป็นชุมชนเมืองปัตตานีเดิมที่ขยายตัวมาจากฝั่งขวา ปัจจุบันมีลักษณะสังคมแบบเมือง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: หัวตลาด ที่อยู่: ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: หัวตลาด เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ ย่านเมืองเก่าจะมีถนนที่มีความสำคัญ 2 เส้น คือ ถนนฤดีและถนนอาเนาะรู อันเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอดีต เป็นแหล่งรวมของธุรกิจสินค้าของย่านปัตตานีมาตั้งแต่โบราณ เนื่องจากทำเลที่ตั้งที่มีปากทางของถนนอยู่ติดแม่น้ำปัตตานี ทั้ง 2 แห่ง ซึ่งแต่ก่อนเป็นที่ตั้งของท่าเรือขนถ่ายสินค้า ท่าเรือประมง ถือเป็นย่านการค้าที่สำคัญมาก ชุมชนตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำปัตตานีทางฝั่งขวา มีอาคารแบบชิโนโปรตุกีส และบ้านทรงจีนโบราณ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: กรือเซะ ที่อยู่: ตำบลตันหยงลุโละ อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: กรือเซะ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนรอบโบราณสถาน เป็นพื้นที่ของเมืองปัตตานีเก่า ก่อนถูกเผาและทิ้งร้างก่อนย้ายไปอยู่บริเวณปากแม่น้ำปัตตานีในปัจจุบัน มีมัสยิดกรือเซะเป็นศูนย์กลางเก่า อันสืบเนื่องกับตำนานและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ทั้งของกลุ่มชาวจีนและชาวมุสลิมในปัตตานี ชุมชนอยู่ห่างจากเมืองประมาณ 9 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนถนนใกล้อ่าวปัตตานี ภายในชุมชนมีมัสยิดกรือเซะ และศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว แสดงให้เห็นการอยู่ร่วมกันของชาวไทยมุสลิมและชาวไทยเชื้อสายจีนแต่ดั้งเดิม ผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนาเกลือ ประมง และค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บาราเฮาะ ที่อยู่: ตำบลบาราเฮาะ อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บาราเฮาะ เป็นชุมชนเกษตรกรรม แต่เดิมชุมชนแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า "สะนิง" แปลว่า "สักครู่" ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณนี้จะเป็นทางผ่านไปจังหวัดยะลา นราธิวาส หรือที่อื่น ๆ ซึ่งเมื่อผู้เดินทางจะไปแห่งใดก็มักจะมาหยุดพักที่นี่เพื่อเดินทางต่อ สำหรับคำว่า "บาราเฮาะ" นั้น แปลว่า สมบูรณ์หรือสงบสุข เนื่องจากในเขตตำบลนี้มีสภาพดินอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การทำการเกษตร ฉะนั้นในการตั้งชื่อตำบลอย่างเป็นทางการจึงใช้ชื่อคำว่า "บาราเฮาะ" ในที่สุด ตำบลบาราเฮาะ อยู่ทางทิศใต้ของที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี ระยะทาง 5 กิโลเมตร ลักษณะพื้นที่เป็นที่ลุ่ม ในฤดูฝนจะมีน้ำท่วมขัง น้ำจากแม่น้ำปัตตานีจะไหลผ่านหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 8 มีเรือนไม้แบบเกษตรกรรมชนบท ส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ดาโต๊ะ ที่อยู่: ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ดาโต๊ะ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ ชุมชนความทรงจำ และชุมชนรอบโบราณสถาน เดิมหมู่บ้านดาโต๊ะ เป็นที่ดินงอกอยู่ระหว่างคลองยะหริ่งและทะเลตะโละกาโปร์ มีพ่อค้าที่มีชื่อเรียกว่า โต๊ะปาแย ค้าขายแร่ทองแดงระหว่างเมืองหมู่บ้านดาโต๊ะ สมัยนั้นอยู่ในการครอบครองของเมืองปาเระ มีเจ้าเมืองชื่อนาจาแย เป็นชุมชนประมงดั้งเดิมรอบอ่าวปัตตานี ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ชุมชนตั้งอยู่บริเวณอ่าวปัตตานี ต้นทางของแหลมโพธิ์ มีพื้นที่ใกล้ป่าชายเลนยะหริ่ง ลักษณะการตั้งถิ่นฐานแบบดั้งเดิมของชุมชนชาวประมงพื้นบ้าน แต่เดิมรอบอ่าวปัตตานีมีประชาการหนาแน่น ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน บ้านดาโต๊ะ ผู้ชายเปลี่ยนไปทำงานรับจ้าง ผู้หญิงออกไปทำงานโรงงานอุตสาหกรรมหรือขายของในตลาด มีการทำ "ข้าวเกรียบปลา" เป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน และมีการขุดบ่อเลี้ยงปลาดุกเพื่อเสริมรายได้
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตะโละสะมิแล ที่อยู่: ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตะโละสะมิแล เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ เป็นชุมชนดั้งเดิมรอบอ่าวปัตตานี ตั้งอยู่บนแหลมโพธิ์ ติดอ่าวปัตตานี เป็นชุมชนประมงดั้งเดิม ประชากรประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก นอกจากนั้นยังมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปลาดุก ปลากระพง หอยแครง หอยแมลงภู่ ฯลฯ เป็นอาชีพเสริม และในปัจจุบันจากการที่มีแผ่นดินงอกจากการสร้างกำแพงกันคลื่น บริเวณนี้จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บูดี ที่อยู่: ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บูดี เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ เป็นชุมชนประมงดั้งเดิมรอบอ่าวปัตตานี ตั้งอยู่บนแหลมโพธิ์ ติดอ่าวปัตตานี ประชากรประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก นอกจากนั้นยังมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปลาดุก ปลากระพง หอยแครง หอยแมลงภู่ ฯลฯ เป็นอาชีพเสริม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตะโละกาโปว์ ที่อยู่: ตำบลตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตะโละกาโปว์ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ ตะโละกาโปร์ เป็นภาษามลายูพื้นเมือง คำว่า "ตะโละ" แปลว่า อ่าว คำว่า "กาโปร์" แปลว่า ปูน รวมความหมายแปลว่า อ่าวปูน ในสมัยก่อนกล่าวกันว่า บริเวณพื้นที่ตรงนี้ เป็นที่เก็บเปลือกหอย และนำเปลือกหอยเหล่านี้มาเผาไฟจนสุก และกลายเป็นปูนขาว นำมากินกับหมาก ปัจจุบันสันนิษฐานว่าเป็นเปลือกหอยขาวหรือหอยแครง เพราะว่าหอยขาวเป็นหอยประจำอ่าว ชาวประมงจะเก็บมากินเนื้อ และเป็นสินค้าออกของอำเภอยะหริ่ง เปลือกหอยจะมีหินปูน จึงเรียกตำบลนี้ว่า ตำบลตะโละกาโปร์ เป็นชุมชนที่มีพื้นที่ติดทะเล เป็นลักษณะชุมชนประมงดั้งเดิม ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการทำประมง รับจ้าง และค้าขาย ซึ่งการค้าขายจะมาจากผลผลิตที่ได้จากการทำประมง โดยการค้าขายจะผ่านพ่อค้าคนกลาง ขายปลีก หรือการนำไปแปรรูปเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น ปลาแห้ง ข้าวเกรียบ หมึกแห้ง กุ้งแห้ง กะปิ ยา เป็นต้น
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บางปู (บ้านบาลอดูวอ) ที่อยู่: ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บางปู (บ้านบาลาดูวอ) เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนตลาด เล่ากันว่าหมู่บ้านแห่งนี้เดิมอยู่ริมทะเล (อ่าว) ในทะเลมีปลาชุกชุม ชาวบ้านประกอบอาชีพประมงน้ำตื้น ทุกครอบครัวจะมีเรือและเครื่องมือจับปลา ซึ่งยังคงสืบทอดมายังในปัจจุบัน และบางปูได้เปลี่ยนแปลงฐานะจากสุขาภิบาลเป็นเทศบาล เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2542 โดยประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2542 ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบติดกับพื้นที่ป่าชายเลน ลักษณะการตั้งชุมชนแบบดั้งเดิม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ยามู ที่อยู่: ตำบลยามู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ยามู เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ บ้านยามู เป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอยะหริ่ง คำว่า "ยามู" เป็นภาษายาวี แปลว่า "ชมพู่" กล่าวกันว่าในสมัยก่อน ในบริเวณนี้มีต้นชมพู่อยู่มากมาย ขึ้นเองเกือบทั้งหมู่บ้าน และยังมีอยู่เกือบจะทุกหมู่บ้าน ปลูกหรือขึ้นตามธรรมชาติบริเวณบ่อน้ำ หรือใกล้ ๆ บ่อน้ำ เป็นไม้ผลที่ให้ผลเยอะ ๆ ปีละครั้ง แต่ไม่ค่อยมีค่ามากนัก ภูมิประเทศเป็นที่ราบ มีแม่น้ำยามูไหลผ่านใจกลางอำเภอ ซึ่งแม่น้ำยามู มีต้นน้ำอยู่ที่อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี อาคารเรือนแถวในตลาดยามู และสภาพที่ตั้งชุมชนประมงคลองยามู ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ประมงพื้นบ้าน และรับจ้าง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ควนลังงา ที่อยู่: ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ควนลังงา เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนรอบโบราณสถาน เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานก่อนรัชกาลที่ 5 ครั้งพระยาภักดีชุมพลอพยพผู้คนเดินทางมาจากเมืองไทรบุรี อันเนื่องจากไทรบุรีต้องตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ โดยครัวเรือนที่ตั้งขึ้นประกอบไปด้วยผู้คนที่พื้นเพดั้งเดิมจากตรังกานู ไทรบุรี ปะสิส และปีนัง ปนเปกันไปทั้งพุทธและมุสลิม สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีแนวเทือกเขาสันกาลาคีรีเชื่อมเขตจังหวัดยะลา ปัตตานี และสงขลา มีทรัพยากรทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ กลุ่มเรือนแบบดั้งเดิม อาคารมัสยิดนัจมุดีน และวัดทรายขาวที่มีความสัมพันธ์กันทางประวัติศาสตร์ชุมชน อันเป็นลักษณะทางกายภาพที่แสดงให้เห็นการอยู่ร่วมกันของชาวมุสลิมและชาวไทยพุทธในพื้นที่เดียวกัน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ท่ากำชำ ที่อยู่: ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ท่ากำชำ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ ท่ากำชำ เดิมเป็นหมู่บ้าน ซึ่งมีต้นไม้ชนิดหนึ่งชื่อ "ต้นกำชำ" ขึ้นอยู่ทั่วไปมากมาย ต่อมาหมู่บ้านนี้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น จึงมีการยกฐานะการปกครองขึ้นเป็นตำบลกำชำ ขึ้นกับอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี คำว่า "ท่า" มีความหมายว่า ชุมชน หรือ มาก "กำชำ" หมายถึง ผลไม้ชนิดหนึ่ง เป็นต้นไม้ประจำท้องถิ่น เป็นช่อ เมื่อผลสุกจะมีสีดำ จึงทำให้คนทั่วไปเรียกกันติดปากว่า บ้านท่ากำชำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตำบลท่ากำชำมีจำนวน 7 หมู่บ้าน มีพื้นที่ติดต่อกับทะเลฝั่งอ่าวไทย การตั้งถิ่นฐานของชุมชนเกษตรกรรม ประมง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ประมง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตันหยงเปาว์ ที่อยู่: ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตันหยงเปาว์ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ พื้นที่ติดอ่าวปัตตานี โดยตั้งบ้านเรือนอยู่ริมคลองที่มีแนวลำน้ำออกสู่ทะเล ลักษณะการตั้งบ้านเรือนแบบชุมชนประมงดั้งเดิม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง ประสบปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ปัญหาการขาดแคลนน้ำจืด และปัญหาอวนลากเข้ามาลับลอบลากอวน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ปะเสยะวอ ที่อยู่: ตำบลปะเสยะวอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ปะเสยะวอ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ ตำบลปะเสยะวอ จัดตั้งมาตั้งแต่สมัยใดไม่ทราบแน่ชัด แต่ตั้งมาหลายชั่วอายุคนแล้ว สาเหตุที่มาของชื่อตำบลนั้น มาจากคำว่า "ปะเสปลาฆอ" เป็นคำมลายูแปลว่า ทรายชนกัน กล่าวคือ ที่หมู่บ้านปะเสยะวอ (หมู่ที่ 3) เป็นจุดที่แม่น้ำสายบุรี และคลองทุ่งเค็จไหลมาชนกัน ทำให้เกิดเป็นสันทรายที่แม่น้ำทั้งสองพัดมา ทำให้เกิดทรายชนกัน เรียกว่า "ปะเสปลาฆอ" ซึ่งต่อมาคำดังกล่าวก็เพี้ยนเป็น "ปะเสยะวอ" ไปในที่สุด ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบสูงติดชายฝั่งทะเล และที่ราบลุ่มติดฝั่งทะเลอ่าวไทย ลักษณะชุมชนประมงพื้นบ้าน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง เกษตรกรรม มีชื่อเสียงในการทำเรือกอและ น้ำบูดู และปลาไส้ตันตากแห้ง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดสายบุรี ที่อยู่: ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดสายบุรี เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ สายบุรี เป็นอำเภอเก่าแก่ของจังหวัดปัตตานี ประมาณ พ.ศ. 2428 พื้นที่นี้มีความสำคัญมีฐานะเป็นเมืองหนึ่งในจำนวน 7 หัวเมือง เรียกว่า "เมืองสายบุรี" ชุมชนตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำสายบุรี ที่ไหลลงสู่อ่าวไทย เป็นอาคารเรือนแถวในตลาด และเป็นย่านการค้าที่มีกิจกรรมการค้าขายต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านพิเทน ที่อยู่: ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บ้านพิเทน เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของกลุ่มคนไทยพูดสำเนียงพิเทน สำเนียงพิเทนเป็นรอยต่อระหว่างภาษาไทยถิ่นใต้ กับสำเนียงตากใบ พร้อมกับอิทธิพลของภาษามลายูปัตตานีที่รายล้อม ทำให้สำเนียงพิเทนเกิดการผสมผสานระหว่างภาษาไทยถิ่นใต้กับภาษาตากใบ และได้นำคำมลายูปัตตานีมาใช้ จนภาษามลายูปัตตานีมีอิทธิพลมากต่อภาษาถิ่นพิเทน คำว่า "พิเทน" เดิมมาจากคำว่า พี่เณร เป็นชื่อของบุคคลที่ออกตามหาช้างเผือกคู่บ้านคู่เมือง จากการเล่าสืบต่อกันมามากกว่า 300 ปี ชาวพิเทนอพยพมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งในสมัยนั้นช้างเผือกคู่บ้านคู่เมืองสูญหาย พระเจ้าแผ่นดินมีราชโองการให้องครักษ์ผู้ดูแลช้างออกติดตาม ปรากฏว่าช้างสูญหายลงมาทางใต้ และร่องรอยสูญหายไปในพื้นที่เมืองปัตตานี คือจังหวัดปัตตานีในปัจจุบัน เมื่อติดตามช้าง แต่ไม่สามารถนำช้างกลับไปได้ พี่เณรและพี่น้องทั้งหมดไม่กล้าเดินทางกลับอยุธยาเพราะกลัวอาญาแผ่นดิน จึงตั้งรกรากอยู่ในป่าทึบ คือตำบลพิเทน ในปัจจุบัน ส่วนคำว่า "พิเทน" สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคำว่า พี่เณร ในสมัยก่อนนั้นเอง และชาวบ้านตำบลพิเทนก็พูดภาษาไทยพิเทน ซึ่งสืบทอดมาจากพี่เณรนั่นเอง ลักษณะทางกายภาพเหมือนชุมชนเกษตรกรรมทั่วไป มีอาคารไม้แบบชนบท มีเรือนแถวไม้บริเวณตลาด ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา สวนยาง และปักผ้าคลุมสำหรับผู้หญิงมุสลิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เกาะปันหยี ที่อยู่: ตำบลตะกั่วทุ่ง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เกาะปันหยี เป็นชุมชนริมน้ำ และชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ชุมชนเกาะปันหยี แต่เดิมเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ที่เป็นชาวมุสลิมทั้งหมู่บ้าน ตั้งบ้านเรือนอยู่บนแพ ซึ่งผูกติดกับริมฝั่งของตัวเกาะปันหยี ชุมชนตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำ ด้านทิศใต้ของ อำเภอตะกั่วทุ่ง แต่เดิมบ้านเรือนในชุมชน เป็นบ้านไม้ ปักเสาลงในน้ำ ต่อมาเมื่อมีประชากรมากขึ้น ประกอบกับรูปแบบบ้านที่สามารถสร้างอยู่บนน้ำทะเลได้อย่างดี จึงมีการขยายตัวออกไปในทะเลอีกมาก นอกจากนี้ยังมีการสร้างบาราย (มัสยิดย่อย) ขึ้นบริเวณกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านเกือบทั้งหมดทำอาชีพประมง ออกเรือหาปลา และเลี้ยงปลาในกระชัง ปัจจุบันจากภาวะการท่องเที่ยวที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกาะปันหยีมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก มีการสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ เพิ่มขึ้น แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ยังรักษาวิถีชีวิตแบบมุสลิมไว้อย่างเหนียวแน่น และพยายามคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชุมชนแบบดั้งเดิมไว้ด้วย ผู้คนในชุมชนส่วนมากเป็นชาวไทยมุสลิม มีชาวไทยพุทธเพียงเล็กน้อย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดใหญ่ เมืองตะกั่วป่า ที่อยู่: ตำบลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดใหญ่ เมืองตะกั่วป่า เป็นชุมชนตลาด เป็นศูนย์กลางการค้า และชุมชนทางการคมนาคม บนเส้นทาง ภูเก็ต-ท้ายเหมือง-ตะกั่วป่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการค้าในยุคเหมืองแร่ตะกั่วป่า ชุมชนตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันออกของตัวเมืองตะกั่วป่าในปัจจุบัน ลักษณะบ้านเรือนดั้งเดิม เป็นอาคารรูปแบบชิโนโปรตุกีส ที่มีรูปแบบคล้ายกับในตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งคาดว่าน่าจะสร้างในยุคสมัยใกล้เคียงกันหลังจากการยกเลิกสัมปทานการทำเหมืองแร่ (บก) ทำให้การค้าขายในย่านนี้ซบเซาลงเป็นอย่างมาก และย่านตลาดแห่งนี้ก็ค่อย ๆ หมดความสำคัญลงไป อีกทั้งการสร้างศูนย์ราชการ และย่านเมืองใหม่ตะกั่วป่าขึ้นในบริเวณริมถนนเพชรเกษม ทำให้ย่านตลาดนี้ลดความสำคัญลง เป็นเพียงย่านชุมชนพักอาศัยเก่าแก่ ที่ยังคงหลงเหลือสถาปัตยกรรมที่สวยงานในอดีตไว้อย่างมาก ปัจจุบันชาวชุมชนแห่งนี้มีความพยายามในการฟื้นฟูชุมชน โดยการจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับประเพณีดั้งเดิม เช่น งานกินเจ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ชุมชนให้คงอยู่ต่อไป ผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ชาวไทยพุทธ ที่มาทำมาหากิน และค้าขายมาตั้งแต่สมัยยุคเหมืองแร่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ทับตะวัน ที่อยู่: ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ทับตะวัน เป็นชุมชนชาติพันธุ์ของชาวเล เผ่ามอร์แกน จากคำบอกเล่าของชาวบ้านในชุมชน กล่าวว่า กว่า 50 ปีที่แล้ว มีชาวมอร์แกนได้ล่องเรือมาจากเกาะสุรินทร์ ได้มาปักหลักจอดเรือ และสร้างบ้านเรือน จนกลายเป็นหมู่บ้านทุกวันนี้ ที่ตั้งของหมู่บ้านแห่งนี้ อยู่ไม่ไกลจากชายหาด และบริเวณที่จอดเรือหลบพายุ หลังจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้หมู่บ้านทับตะวันได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด เมื่อมีการสร้างชุมชนขึ้นใหม่ มีความพยายามสร้างตัวบ้านพักอาศัยให้มีลักษณะใกล้เคียงกับบ้านแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ความสามารถเชิงช่างไม้ของคนในหมู่บ้าน ยังถูกดัดแปลงมาเป็นองค์ประกอบของอาคาร เช่น ราวระเบียงไม้ ทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านของชาวมอร์แกนที่มีลักษณะผสมผสาน ประกอบด้วย ชาวเลที่ยังออกเรือหาปลา และชาวเลที่เลิกออกเรือ เปลี่ยนอาชีพไปแล้ว ลักษณะเด่นของชุมชนมอร์แกนเห่งนี้ คือ เป็นหมู่บ้านที่มีฝีมือด้านการต่อเรือ และงานช่างไม้ จนมีการสร้างอู่ต่อเรือ สำหรับสร้างและซ่อมแซมเรือในหมู่บ้าน โดยอู่ต่อเรือตั้งอยู่บริเวณขุมน้ำที่ลัดออกทะเลได้
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ทุ่งหว้า ที่อยู่: ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ทุ่งหว้า เป็นชุมชนชาติพันธุ์ของชาวมอร์แกน (ชาวเลขึ้นบก) ที่เข้ามาตั้งบ้านเรือนในบริเวณนี้เป็นกลุ่มแรก สันนิษฐานว่า ล่องเรือมาจากเกาะสุรินทร์ ได้เข้ามาจอดเรือเพื่อหลบพายุในบริเวณนี้ และได้สร้างบ้านเรือนพักอาศัยขึ้นบริเวณใกล้กับชายฝั่ง ต่อมาจึงได้มีการย้ายหมู่บ้านถอยร่นเข้ามาเรื่อย ๆ จนหมู่บ้านมีขนาดใหญ่ขึ้น ชุมชนตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ห่างจากชายฝั่งทะเลของหาดคึกคักเข้ามาด้านถนนเพชรเกษม รูปแบบของบ้านมีการสร้างในลักษณะบ้านกึ่งชั่วคราว เป็นบ้านชั้นเดียว ยกใต้ถุนไม่สูงมาก เน้นการใช้วัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่น เช่น ไม้เนื้อแข็ง ไม้มะพร้าว ฝาไม้ไผ่สาน สังกะสี วิถีชีวิตของชาวมอร์แกน มีบางส่วนยังคงออกทะเลหาปลา และบางส่วนเลิกออกทะเล เปลี่ยนมาทำอาชีพรีบจ้าง ค้าขาย หาของเก่า กรรมกรก่อสร้าง แต่ชาวบ้านยังคงรักษาขนบธรรมเนียมของ ชาวเลไว้ เช่น พิธีนอนหาด การไหว้ศาลบรรพบุรุษ จากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัย คลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้หมู่บ้านทุ่งหว้าแห่งนี้ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด หลังจากนั้นได้มีการสร้างชุมชนขึ้นใหม่ โดยตั้งอยู่บริเวณที่เดิม ปัจจุบันชาวบ้านได้รับอนุญาต และการรับรองจากท้องถิ่นในการอยู่อาศัยในพื้นที่อย่างถาวรแล้ว
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดท้ายเหมือง ที่อยู่: ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดท้ายเหมือง เป็นชุมชนตลาด ซึ่งเป็นย่านการค้าริมทาง และจุดแวะพักบนเส้นทาง ภูเก็ต-ท้ายเหมือง-ตะกั่วป่า มีความสำคัญเป็นเครือข่ายย่านการค้า ในยุคเหมืองแร่ ชุมชนตั้งอยู่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ใกล้กับที่ว่าการอำเภอท้ายเหมือง ตัวอาคารมีลักษณะเป็นเรือนแถวไม้สองชั้น สร้างอยู่ริมถนนทั้งสองฝั่ง รวมถึงศาลเจ้าและวัดอยู่ในบริเวณเดียวกัน ปัจจุบันการคมนาคมที่สะดวกสบายกว่าเดิม ทำให้ตลาดแห่งนี้มีบทบาทในการเป็นตลาดซื้อขายสินค้าในท้องถิ่นเท่านั้น และยังคงหลงเหลืออาคารรูปแบบชิโนโปรตุกีส ซึ่งมีการตกแต่งและประดับประดาอาคารเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับอาคารชิโนโปรตุกีส ในภูเก็ตและตะกั่วป่า ผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และชาวไทยพุทธ เป็นคนดั้งเดิมในพื้นที่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ทับปลา ที่อยู่: ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ทับปลา เป็นชุมชนชาติพันธุ์ของชาวมอร์แกน (ชาวเลขึ้นบก) โดยชาวมอร์แกนในหมู่บ้านทับปลาแห่งนี้ สันนิษฐานว่า เป็นชาวเลเผ่ามอร์แกน ที่ล่องเรือมาจากหมู่เกาะสุรินทร์ ออกมาหาปลา และมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนในบริเวณนี้มานานกว่า 50 ปี ที่ตั้งของหมู่บ้านแห่งนี้ อยู่ไม่ไกลจากชายหาดท้ายเหมือง แต่เดิมบ้านในหมู่บ้านมีลักษณะเป็นเรือนเครื่องผูก ยกใต้ถุนไม่สูงมาก หลังคามุงหญ้าแฝก ฝาบ้านทำด้วยไม้ไผ่สาน ใช้หวายมัดโครงสร้างไม้เข้าด้วยกัน แต่ในปัจจุบันวัสดุเหล่านี้ล้วนหายาก และมีราคาแพง ทำให้มีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุในปัจจุบันทดแทนเกือบหมดแล้ว แต่ยังคงพบบ้านที่มีรูปแบบใกล้เคียงกับบ้านเดิมยังหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่หลัง บ้านทับปลาแห่งนี้ มีลักษณะเป็นชาวเลที่เลิกออกเรือ เปลี่ยนอาชีพไปแล้ว เช่น รับจ้าง ค้าขาย กรรมกร หาของเก่า ชาวมอร์แกนที่ไม่ได้ออกทะเล จะมีความผูกพันกับประเพณีดั้งเดิมน้อยลง สิ่งที่ยังคงแสดงอัตลักษณ์ความเป็นชาวเล ได้แก่ ศาลหลาโต๊ะ (ศาลเจ้าที่ประจำหมู่บ้าน) และเปลว (สุสาน) และชาวชุมชนยังคงช่วยกันอนุรักษ์องค์ประกอบทางจิตวิญญาณอย่างเข้มแข็ง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: หินลาด ที่อยู่: ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: หินลาด เป็นชุมชนชาติพันธุ์ของชาวมอร์แกน (ชาวเลขึ้นบก) สันนิษฐานว่า เป็นชาวเล เผ่ามอร์แกน ที่ล่องเรือมากจากหมู่เกาะสุรินทร์ ออกมาหาปลา และมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนในบริเวณนี้มานานกว่า 50 ปี ซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกับ บ้านทับปลา และบ้านลำปี ที่ตั้งของหมู่บ้านแห่งนี้ อยู่ไม่ไกลจากชายหาดท้ายเหมือง แต่เดิมบ้านในหมู่บ้านมีลักษณะเป็นเรือนเครื่องผูก ยกใต้ถุนไม่สูงมาก หลังคามุงหญ้าแฝก ฝาบ้านทำด้วยไม้ไผ่สาน ใช้หวายมัดโครงสร้างไม้เข้าด้วยกัน แต่ในปัจจุบันวัสดุเหล่านี้ล้วนหายาก และมีราคาแพง ทำให้มีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุในปัจจุบันทดแทนเกือบหมดแล้ว บ้านหินลาดแห่งนี้ มีลักษณะเป็นชาวเลที่เลิกออกเรือ เปลี่ยนอาชีพไปแล้ว เช่น รับจ้าง ค้าขาย กรรมกร หาของเก่า ชาวมอร์แกนที่ไม่ได้ออกทะเล จะมีความผูกพันกับประเพณีดั้งเดิมน้อยลง สิ่งที่ยังคงแสดงอัตลักษณ์ความเป็นชาวเล ได้แก่ ศาลหลาโต๊ะ (ศาลเจ้าที่ประจำหมู่บ้าน) และเปลว (สุสาน)
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: อ่าวบอนใหญ่ เกาะสุรินทร์ ที่อยู่: ตำบลคุระบุรี อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: อ่าวบอนใหญ่ เป็นชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวเล เผ่ามอร์แกน หมู่บ้านมอร์แกน เกาะสุรินทร์ มีความเชื่อมโยงกับชาวมอร์แกนหมู่บ้านอื่น ๆ ในบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ซึ่งมีความเป็นเครือญาติ มีวิถีชีวิต และขนบธรรมเนียมที่เหมือนกัน ซึ่งสันนิษฐานว่าชาวมอร์แกนบนหมู่เกาะสุรินทร์เป็นกลุ่มที่เก่าแก่ที่สุด มีการตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณชายทะเลด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้ ซึ่งเป็นด้านที่หันเข้าหาฝั่ง รูปแบบบ้านเรือนยังมีลักษณะแบบเรือนชาวเลแบบดั้งเดิม คือ เป็นเรือนเครื่องผูก สร้างด้วยโครงสร้างไม้ ฝาและหลังคามุงหญ้าแฝกหรือใบจาก เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลจากชายฝั่งและตัวเมืองมาก ทำให้การขนส่งวัสดุมีความยากลำบากและมีต้นทุนที่สูงพอสมควร จึงทำให้รูปแบบและวัสดุในการสร้าง และต่อเติมตัวบ้านมีลักษณะเป็นแบบดั้งเดิมส่วนมาก ชาวหมู่บ้านมอร์แกนแห่งนี้ยังดำรงวิถีชีวิตอาชีพออกทะเล และประเพณีต่าง ๆ ตามแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ท่าแป๊ะโย้ย เกาะพระทอง ที่อยู่: ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ท่าแป๊ะโย้ย เกาะพระทอง เป็นชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวเล เผ่ามอร์แกน สันนิษฐานว่า ชาวเลบนเกาะพระทอง เป็นกลุ่มของชาวมอร์แกน ที่ย้ายมาจากเกาะสุรินทร์ ซึ่งล่องเรือหาปลา และร่อนเร่มาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้มากกว่า 50 ปี ชุมชนตั้งอยู่บริเวณริมทะเลด้านทิศตะวันออกของเกาะพระทอง ซึ่งเป็นทะเลด้านที่หันเข้าหาฝั่ง สามารถหลบพายุ เหมาะแก่การตั้งบ้านเรือน โดยบ้านเรือนในหมู่บ้านมอร์แกน เกาะพระทอง มีการก่อสร้างในลักษณะของเรือนเครื่องผูก แต่เดิมใช้ไม้ทั้งหมด แต่ในปัจจุบันมีการใช้วัสดุทดแทน เช่น หลังคามุงสังกะสี ชาวมอร์แกนส่วนมากยังคงมีวิถีชีวิตเรียบง่าย และยังถือปฏิบัติธรรมเนียมประเพณี ตามอย่างชาวเลดั้งเดิมอยู่อย่างครบถ้วน เช่น พิธีนอนหาด พิธีลอยเรือ หลังจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับผลกระทบพอสมควร การได้รับความช่วยเหลือในช่วงเหตุการณ์สึนามิ ทำให้กรณีความเดือดร้อนของชาวมอร์แกน เกาะพระทองได้รับการสนใจจากสังคม ผนวกกับชุมชนมอร์แกนในที่อื่น ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความเป็นมาที่เชื่อมโยง หรือเป็นเครือญาติกันแทบทั้งสิ้น
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ท่าน้ำหัวนอน ที่อยู่: ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ท่าน้ำหัวนอน เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ บริเวณชุมชนเริ่มต้นจากบริเวณริมแม่น้ำ ขยายตัวออกมาจนถึงถนนใหญ่ของเมืองพัทลุง อีกฝั่งของแม่น้ำเป็นชุมชนตลาดลำปำ เชื่อมกันด้วยสะพาน เป็นชุมชนเรือนไม้เดี่ยว วางตัวต่อเนื่องกันบนถนน 2 เลน ขนาดเล็ก มีสภาพดี และการปรับปรุงอาคารยังคงรักษาสภาพเดิมของอาคารไว้ได้ มีการใช้งานอาคารเป็นที่อยู่อาศัย บางอาคารใช้ชั้นล่างเป็นพื้นที่ค้าขายของสด และของใช้ทั่วไป มีการทำเกษตรและประมงระดับครัวเรือน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดเก่าลำปำ ที่อยู่: ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดเก่าลำปำ เป็นชุมชนตลาด ชุมชนริมน้ำ ชุมชนความทรงจำ และชุมชนรอบโบราณสถาน ลำปำเคยเป็นพื้นที่ตั้งของวังเจ้าเมืองเก่า ชุมชนตั้งอยู่ทางทิศเหนือของคลองลำปำ เป็นชุมชนที่มีทั้งเรือนเดี่ยวและเรือนแถวขึ้นสลับกัน อยู่ริมถนนใหญ่ 4 เลน มีเกาะกลางถนน มีวังเจ้าเมืองพัทลุงเป็นเรือนไทยโบราณได้รับการอนุรักษ์และเป็นศูนย์กลางชุมชน มีความเป็นพื้นที่ศูนย์กลางราชการในสมัยเก่า มีการใช้งานอาคารเรือนแถวเป็นอาคารพาณิชยกรรม อาคารเรือนเดี่ยวเป็นที่อยู่อาศัย ประกอบอาชีพเกษตรกรรม/เลี้ยงสัตว์ในระดับครัวเรือน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ย่านสี่กั๊ก ตลาดเมืองพัทลุง ที่อยู่: ตำบลเสกัก อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ย่านสี่กั๊ก ตลาดเมืองพัทลุง เป็นชุมชนตลาด และชุมชนรอบทางรถไฟ ย่านสี่กั๊กเมืองพัทลุงเป็นย่านตลาดการค้าที่เกิดขึ้นจากการสร้างทางรถไฟและสถานีรถไฟ จุดที่ตัดกันระหว่างทางรถไฟและทางสัญจรเดิมเป็นกากบาทจึงเรียกว่า สี่กั๊ก ชุมชนตั้งอยู่ระหว่างภูเขาหินเล็ก ๆ 2 ลูก มองเห็นได้จากแต่ละด้านของถนน เป็นจุดสังเกต เป็นชุมชนเรือนแถวสูง 2-3 ชั้น วางตัวต่อเนื่องกัน บนถนน 2 เลน มีการสัญจรหนาแน่น ตั้งอยู่กลางเมืองพัทลุง มีทั้งอาคารไม้เก่าและอาคารคอนกรีตสถาปัตยกรรมตะวันตกสภาพเก่า มีการใช้งานอาคารเป็นพาณิชยกรรม มีร้านค้าที่ทันสมัยเต็มไปด้วยป้ายร้านและโฆษณา
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ปากประ ที่อยู่: ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ปากประ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ โดยชุมชนอยู่ใกล้กับทะเลสาบสงขลา บริเวณปากอ่าว พื้นที่โดยรอบมีลักษณะตามธรรมชาติ เป็นชุมชนเรือนไม้เดี่ยววางตัวห่างกัน มีพื้นที่ว่างสูง ไม่มีทางเท้า เกาะอยู่บนถนน 2 เลน มีการทำประมงบริเวณปากอ่าวทะเลสาบสงขลา ซึ่งเต็มไปด้วยโครงยกยอจำนวนหลายสิบอัน มีการทำเกษตรกรรม โดยเฉพาะนาข้าว ที่ดินเป็นที่ดินเอกชนถือกรรมสิทธิ์โดยชาวบ้านเอง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ทะเลน้อย ที่อยู่: ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ทะเลน้อย เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ชุมชนอยู่ติดกับทะเลสาบสงขลา เชื่อมต่อกันด้วยถนน 2 เลน พื้นที่โดยรอบมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบน้ำท่วมถึง มีพื้นที่ลาดลงสู่ทะเล ชุมชนมีลักษณะควนวางเป็นแนวยาว เหมือนกำแพงขวางกั้นจึงได้ชื่อว่า "พนางตุง" มาจากคำว่า "พนัง" ซึ่งแปลว่า ที่กั้น ดังนั้น "พนางตุง" จึงหมายถึง ควนที่กั้นระหว่างพื้นที่ด้านตะวันออกและทิศตะวันตกของตำบล เป็นชุมชนเรือนเดี่ยวยกใต้ถุนสูงสำหรับเหตุน้ำท่วม ลักษณะเรือนครึ่งบกครึ่งน้ำ มีทางเดินคอนกรีตยกระดับเท่ากับพื้นบ้านชื่อว่า ถนนสายกลางบ้าน อาคารส่วนใหญ่เป็นอาคารรูปแบบเก่า สภาพดี อาคารส่วนใหญ่มีการใช้งานอยู่อาศัย อาชีพประจำชุมชน คือ การทำเสื่อกระจูด และปลาดุกร้า ชุมชนนี้ได้รับการดูแลและส่งเสริมจากหน่วยงานรัฐ ที่ดินมีโฉนด ถือกรรมสิทธิ์โดยชาวบ้านเอง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดปากคลอง ที่อยู่: ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดปากคลอง เป็นชุมชนตลาด และชุมชนรอบทางรถไฟ ชุมชนตั้งอยู่บนถนน 4048 เส้นทางสู่ทะเลน้อย เป็นชุมชนตลาดเรือนแถวสูงไม่เกิน 2 ชั้นวางตัวต่อเนื่องกัน มีสถานีรถไฟตัดผ่านชุมชน ลักษณะชุมชนเรียงตัวเป็นแนวยาวอยู่บนถนนสายหลักขนาด 4 เลน มีกลุ่มโรงสีข้าวรวมกันอยู่ในถนนสายย่อยจำนวน 3-5 โรง เรือนแถวบนถนนสายหลักมีการใช้งานเป็นพาณิชยกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดเขาชัยสน ที่อยู่: ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดเขาชัยสน เป็นชุมชนตลาด และชุมชนรอบทางรถไฟ มีเขาชัยสนเป็นภูมิทัศน์ของพื้นที่ เป็นชุมชนเรือนแถว 2-3 ชั้น วางตัวต่อเนื่องกัน บนถนน 2 เลน มีอาคารคอนกรีตสมัยใหม่สูง 3 ชั้น ขึ้นผสมอยู่กับอาคารไม้เก่า 2 ชั้น มีศาลเจ้าเป็นศูนย์กลางของชุมชน มีการใช้งานอาคารเป็นพาณิชยกรรมและอยู่อาศัย มีร้านค้าสมัยใหม่ผสมผสานอยู่ด้วยกัน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: อ่าวบาเต็ง ที่อยู่: ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: อ่าวบาเต็ง เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ ที่ตั้งชุมชนอยู่ติดทะเลสาบสงขลา พื้นที่โดยรอบชุมชนเป็นที่ว่างตามธรรมชาติเป็นชุมชนเรือนเดี่ยวไม้-สังกะสี ยกใต้ถุนสูง วางตัวเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ส่วนมากกระจายตัวออกห่างจากกัน มีถนนขนาด 2 เลน ทางเดินเป็นดินลูกรังหรือสะพานไม้แคบ ๆ ใช้งานอาคารเป็นที่อยู่อาศัย ทำอาชีพการประมงเป็นหลัก และมีการทำเกษตรกรรมครัวเรือน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดบางแก้ว ที่อยู่: ตำบลท่ามะเดื่อ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดบางแก้ว เป็นชุมชนตลาด และชุมชนรอบทางรถไฟ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบไม่ติดทะเล เป็นชุมชนเรือนแถวสูงไม่เกิน 2 ชั้น วางตัวต่อเนื่องกันรอบถนนขนาด 4 เลน มีอาคารไม้และคอนกรีตวางตัวสลับกันตลอดแนวถนน การใช้งานเรือนแถวเป็นพาณิชยกรรม มีตลาดสดบางแก้วเป็นศูนย์กลางชุมชน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ปากพะยูน ที่อยู่: ตำบลปากพะยูน อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ปากพะยูน เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ คำว่า "ปากพะยูน" สันนิษฐานว่า มากจากคำว่า "ปลาพะยูน" ซึ่งเป็นปลาที่มีลักษณะคล้ายกับปลาวาฬเลี้ยงลูกด้วยนม สมัยก่อนปลานี้มีอยู่มากในทะเลสาบสงขลาตอนใน แต่มีบางท่านว่า มาจาก คำว่า ปากพูน ซึ่งแปลว่า "ปากน้ำ" ชุมชนตั้งอยู่บริเวณทางใต้ของเกาะหมาก ลำน้ำขั้นกลางเรียกว่า หลวง เป็นชุมชนเรือนแถววางตัวต่อเนื่องกัน ติดทะเลสาบสงขลา อยู่รอบถนนขนาด 2 เลน มีมัสยิดเป็นศูนย์กลางชุมชน การใช้งานเรือนแถวเป็นพาณิชยกรรม ชาวชุมชนเป็น พุทธ-มุสลิม ในอัตราส่วนโดยประมาณ 40-60
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: แหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ ที่อยู่: ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: แหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ เป็นชุมชนชาติพันธุ์ของชาวเล เผ่ามอร์แกน ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ที่ตั้งหมู่บ้านอยู่ห่างจากชายทะเลเข้ามาบนบก แต่มีคลองเชื่อมต่อออกทะเลได้ สันนิษฐานว่าเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณนี้มามากกว่า 50 ปี ชุมชนตั้งอยู่บริเวณแหลมตุ๊กแก ซึ่งอยู่ในพื้นที่อ่าวทางด้านทิศใต้ของเกาะภูเก็ต ลักษณะบ้านเรือนเป็นบ้านเดี่ยว ยกใต้ถุนไม่สูงมาก ใช้วัสดุทั่วไปที่หาได้ง่ายในพื้นที่ เช่น ไม้ สังกะสี ยังคงหลงเหลือบ้านแบบชาวเลดั้งเดิมอยู่น้อยมาก ปัจจุบันชาวบ้านยังคงรักษาวัฒนธรรม และประเพณีแบบดั้งเดิมของชาวเลไว้ได้อย่างเข้มแข็ง พื้นที่ตั้งของชุมชนชาวเลแห่งนี้ถูกรายรอบด้วยท่าเรือ สะพานปลา ห้องเย็น และชุมชนผู้ใช้แรงงาน ซึ่งย้ายถิ่นฐานเข้ามาเป็นลูกเรือ ทำให้ชุมชนขยายจากตัวเมืองภูเก็ตมาถึงเกาะสิเหร่ในปัจจุบัน ความเสี่ยงภัยของชุมชนแห่งนี้ จึงเป็นประเด็นด้านกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งยังไม่มีการออกเอกสารสิทธิ์ หรือรับรองการอยู่อาศัยของชุมชนจากทางราชการ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: หาดราไวย์ ที่อยู่: ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: หาดราไวย์ เป็นชุมชนชาติพันธุ์ ของชาวเล เผ่ามอร์แกน ที่ถือได้ว่าเป็นชุมชนชาวเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ถึงขนาดเคยมีคนเรียกชุมชนแห่งนี้ว่าเป็น เมืองหลวงของชาวเล หาดราไวย์ตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของเกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถออกทะเลได้สะดวกที่สุด โดยหมู่บ้านจะตั้งอยู่บริเวณใกล้กับชายหาด และมีพื้นที่จอดเรืออยู่ในคลองไม่ไกลจากหมู่บ้าน ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังคงหลงเหลือบ้านชาวเลแบบดั้งเดิมอยู่เป็นจำนวนมาก มีลักษณะเป็นบ้านยกใต้ถุนไม่สูงมาก โครงสร้างเป็นไม้เนื้อแข็ง ไม้มะพร้าวหรือไม้ไผ่ ฝาเรือนเป็นฝาไม้ไผ่สาน หลังคามุงหญ้าแฝก และยังคงมีหลาโต๊ะ (ศาลเจ้าที่) ชาวมอร์แกนยังคงประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก และมีบางส่วนหันมาทำอาชีพรับจ้าง ค้าขายและแรงงาน ซึ่งพื้นที่ตั้งของหมู่บ้านมอร์แกน หาดราไวย์แห่งนี้ เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ ตามเอกสารสิทธิ์ ทางหน่วยงานท้องถิ่นกำลังมีแผนจะพัฒนาชุมชน และคุณภาพชีวิตของชุมชนแห่งนี้
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: สะปำ ที่อยู่: ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: สะปำ เป็นชุมชนชาติพันธุ์ของชาวมอร์แกน เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณชายหาดด้านทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต หมู่บ้านแห่งนี้มีการตั้งถิ่นฐานมามากกว่า 50 ปี แต่เดิมหมู่บ้านตั้งอยู่บริเวณชายหาด ร่นเข้ามาบนบกเล็กน้อย ซึ่งมีหลักฐานคือ หลาโต๊ะ (ศาลเจ้าที่) แต่ดั้งเดิม ในปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ถูกไล่รื้อจากเอกชน จึงต้องถอยร่นออกไปสร้างหมู่บ้านอยู่ในทะเล มีสะพานทางเดินเชื่อมต่อบ้านแต่ละหลัง ทำให้ต้องถอยห่างออกไปไกลจากศาลเจ้าที่ ซึ่งชาวชุมชนไม่สามารถขัดขวางการไล่รื้อ และจำต้องถอยร่นออกไปจากพื้นที่เดิม หากแต่ยังมีความพยายามในการรักษาศาลเจ้าที่ของเดิมให้ตั้งอยู่ในตำแหน่งเดิมไว้เป็นหลักฐานในการตั้งถิ่นฐานเพียงชิ้นเดียว รูปแบบบ้านเรือนในปัจจุบัน เป็นบ้านยกเสาสูง ตัวบ้านอยู่เหนือระดับน้ำทะเล หลังคาและฝาเป็นสังกะสี (น้ำหนักเบา) ชาวชุมชนสะปำ เป็นชาวมอร์แกนทั้งหมด ส่วนมากยังมีอาชีพออกเรือหาปลา ตามแบบดั้งเดิม มีการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีของชาวมอร์แกนไว้อย่างเหนียวแน่น
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่อยู่: ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ย่านเมืองเก่าภูเก็ต เป็นชุมชนตลาด ที่ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการค้า ที่มั่งคั่ง และมีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ที่ตั้งชุมชนครอบคลุมพื้นที่ในใจกลางของตัวเมืองภูเก็ต ประกอบด้วย ถนนภูเก็ต ถนนรัษฎา ถนนระนอง ถนนพังงา ถนนมนตรี ถนนถลาง ถนนกระบี่ ถนนสตูล ถนนดีบุก ถนนเยาวราช ถนนเทพกระษัตรี ลักษณะเด่นที่สุดของย่านเมืองเก่าภูเก็ตแห่งนี้ คือ กลุ่มอาคารรูปแบบชิโนโปรตุกีส ซึ่งเป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลของศิลปะจีน และโปรตุเกส ซึ่งเป็นแบบสมัยนิยมในยุคล่าอาณานิคม โดยถือว่าเป็นเครื่องแสดงความมั่งคั่งของชุมชนในยุคนั้น จากสภาพพื้นที่และองค์ประกอบทางกายภาพที่ยังคงหลงเหลืออยู่ อาจถือได้ว่าเป็นย่านที่มีอาคารแบบชิโนโปรตุกีสที่หลงเหลืออยู่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่เดิมเป็นย่านการค้า และชุมชนพักอาศัยที่สำคัญ ต่อมาเมืองมีการขยายตัวของเมืองภูเก็ตออกไปรอบนอก มีย่านการค้าเกิดใหม่ขึ้นภายนอกเมือง ทำให้ย่านการค้าแห่งนี้ลดบทบาทลง แต่ยังคงความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองภูเก็ต ผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ ชาวจีน และชาวไทยมุสลิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: แหลมหลา ที่อยู่: ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: แหลมหลา เป็นชุมชนชาติพันธุ์ ประกอบด้วยชาวมอร์แกนดั้งเดิม และมีชาวไทยพุทธและมุสลิม ย้ายเข้ามาอยู่ร่วมกันในชุมชนแห่งนี้ชาวมอร์แกนรุ่นแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณบ้านแหลมหลาแห่งนี้ สันนิษฐานว่าล่องเรือมาพร้อมกับชาวมอร์แกนหาดราไวย์ และชาวมอร์แกนเกาะสิเหร่ ชุมชนตั้งอยู่บริเวณชายทะเลด้านทิศเหนือของภูเก็ต ใกล้กับสะพานสารสินและไม่ไกลจากหาดไม้ขาว มากนัก รูปแบบบ้านพักอาศัยในชุมชนมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก เมื่อไม่สามารถหาวัสดุก่อสร้างตามแบบเดิมมาใช้ได้ เช่น ฝาสาน หลังคาหญ้าแฝก ก็มีการนำวัสดุสมัยใหม่เข้ามาทดแทน เช่น สังกะสี อิฐบล๊อก แต่ยังคงมีบ้านรูปแบบเดิมหลงเหลืออยู่อีกเพียงไม่กี่หลัง บ้านแหลมหลาเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ชาวมอร์แกน มาตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัย และยังดำรงวิถีชีวิตอาชีพออกทะเล และประเพณีต่างๆ ตามแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน ส่วนวิถีชีวิตของมอร์แกนในชุมชนแห่งนี้ ยังคงดำเนินไปใกล้เคียงกับในอดีต มีการออกทะเล มีประเพณีนอนหาด มีประเพณีลอยเรือ นอกจากนี้ยังมีหลาโต๊ะ (ศาลเจ้าที่) ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: มอร์แกนหินลูกเดียว ที่อยู่: ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: มอร์แกนหินลูกเดียว เป็นชุมชนชาติพันธุ์ของชาวมอร์แกน โดยชาวมอร์แกนรุ่นแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณบ้านหินลูกเดียวแห่งนี้ สันนิษฐานว่าล่องเรือมาพร้อมกับชาวมอร์แกนหาดราไวย์ และชาวมอร์แกนเกาะสิเหร่ โดยมาตั้งถิ่นฐานที่บ้านแหลมหลา และบ้านหินลูกเดียว ซึ่งส่วนมากเป็นเหมือนพี่น้องกัน มักตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้กับชายหาด บริเวณด้านทิศเหนือของเกาะภูเก็ต บ้านพักของชาวมอร์แกนหินลูกเดียว ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติสึนามิเป็นส่วนมาก หลังจากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ในการสร้างบ้าน ทำให้ชาวมอร์แกนในหมู่บ้านเกือบทั้งหมด ได้ทำการวางผังและสร้างบ้านพักชึ้นใหม่ โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านชาวเลแบบดั้งเดิมไว้ เช่น การใช้ฝาไม้ไผ่สาน และการทาสีบ้านแบบฉูดฉาด ส่วนมากประกอบอาชีพประมง ซึ่งสามารถทำได้ทั้งประมงเรือเล็กออกทะเล และประมงพื้นบ้านในบริเวณป่าชายเลนได้อีกด้วย และชาวมอร์แกนหินลูกเดียว ยังได้ดำรงรักษาวัฒนธรรม และประเพณีของชาวเล เช่น การนอนหาด การทำบุญเดือนแปด พิธีลอยทะเล ไว้อย่างเหนียวแน่น
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ปูดำ ที่อยู่: ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ปูดำ เป็นชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ สันนิษฐานว่า มีชาวมุสลิมเข้ามาจับสัตว์ในป่าชายเลน และตั้งถิ่นฐานในบริเวณใกล้กับป่าชายเลนแห่งนี้ มามากกว่า 30 ปี ชุมชนตั้งอยู่ในบริเวณป่าชายเลน ทางด้านทิศเหนือของเกาะภูเก็ต ติดกับชายขอบของป่าชายเลน พื้นที่โดยรอบมีลักษณะเป็นป่าโกงกางหนาแน่น สลับกับลำคลองคดเคี้ยว สามารถเชื่อมออกสู่ทะเลได้ ส่วนรูปแบบของบ้านในชุมชน เป็นบ้านชั้นเดียว ใต้ถุนเตี้ย ใช้วัสดุในท้องถิ่น เช่น ไม้เนื้อแข็ง ไม้ไผ่ ฝาไม้ไผ่สาน หลังคาหญ้าแฝก หรือสังกะสี ชาวชุมชนปูดำ ส่วนมากเป็นชาวมุสลิม ประกอบอาชีพหาของป่าในป่าชายเลนขาย เช่น ปลา กุ้ง ปู และนำของเหล่านี้มาขายปลีก บริเวณริมถนนหน้าหมู่บ้านเป็นที่มาของชื่อชุมชนปูดำ การใช้ชีวิตในพื้นที่ป่าชายเลน ทำให้เกิดการสะสมภูมิปัญญาในด้านเทคนิคการประกอบอาชีพ และเทคนิคในการดูแลรักษาป่า เช่น การตกแต่งรากไม้ให้แตกยอดใหม่ การจัดการขยะ เป็นจุดเด่นของชุมชนเก่าที่มีวิถีชีวิตกลมกลืนกับธรรมชาติได้ ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมดั้งเดิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ท่าสัก ที่อยู่: ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ท่าสัก เป็นชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ชุมชนแห่งนี้เริ่มตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้ประมาณ 50 ปี แต่เดิมเป็นพื้นที่รกร้างที่อยู่ใกล้กับคลองที่สามารถออกทะเลได้ ซึ่งเหมาะกับการจอดเรือ การตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้ๆ ที่จอดเรือจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งหมู่บ้าน ต่อมาเมืองมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น และเป็นชาวมุสลิมด้วยกัน จึงเริ่มมีการสร้างบาราย (มัสยิดย่อย) ขึ้นในหมู่บ้าน สำหรับกิจกรรมทางศาสนา และเป็นโรงเรียนสอนภาษาและศาสนา ชุมชนตั้งอยู่บริเวณชายทะเลทางด้านทิศตะวันออก ของเกาะภูเก็ต ลักษณะบ้านเรือนในชุมชน เป็นเรือนพื้นถิ่นทางภาคใต้ เรือนชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง หลังคามุงสังกะสี ฝาเป็นไม้ไผ่ขัดแตะ หรือฝาไม้ เป็นชุมชนมุสลิมทั้งหมู่บ้าน ประกอบอาชีพประมงเรือเล็กเป็นส่วนมาก มีลักษณะของชุมชนที่ยังคงวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะทางด้านศาสนา ปัจจุบันชุมชนท่าสักได้รับการรับรองจากเทศบาลให้สามารถอยู่ในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐ ในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และก่อสร้างบ้านพักอาศัยถาวรขึ้น ตามผังแม่บทที่ชุมชนได้ร่วมกันกำหนดขึ้น
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ย่านสายกลาง ที่อยู่: ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ย่านสายกลาง เป็นชุมชนตลาด เป็นชุมชนดั้งเดิมของเมืองยะลา แต่ปัจจุบันเปลี่ยนสภาพไปมาก ลักษณะภูมิประเทศ เป็นพื้นที่ราบลุ่ม ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำปัตตานีทางทิศตะวันออก เป็นชุมชนเมือง อาคารส่วนใหญ่เป็นอาคารเรือนแถวคอนกรีต มีลักษณะผังเมืองที่ได้รับการออกแบบเป็นแบบใยแมงมุมสวยงาม มีความเป็นระเบียบและสะอาด มีสวนสาธารณะระดับจังหวัดชื่อว่า สวนขวัญเมือง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของวงเวียนกลางเมือง ทำอาชีพค้าขายสินค้า เป็นพาณิชยกรรมสมัยใหม่ที่พบในสังคมเมือง เป็นชุมชนที่มีการอยู่ร่วมกันระหว่าง คนจีน คนไทยพุทธ และคนมุสลิม อาศัยอยู่ตามการแบ่งเขตพื้นที่ภายในย่าน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ยาลอ ที่อยู่: ตำบลยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ยาลอ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนรอบโบราณสถาน เป็นพื้นที่เมืองเก่ายะลา ลักษณะภูมิประเทศ เป็นพื้นที่ที่มีสภาพราบลุ่มสลับกับเนินเขาเตี้ย ๆ พื้นที่โดยรอบยังมีความเป็นธรรมชาติสูง มีลักษณะอาคารเกาะตัวอยู่รอบถนนสายหลัก อาคารส่วนมากเป็นเรือนเดี่ยว มีทั้งเรือนไม้และคอนกรีต วางกระจายตัวห่างกัน มีการทำนาเป็นอาชีพหลัก จำนวนประชากรในเขต อบต. 3,023 คน และจำนวนหลังคาเรือน 536 หลังคาเรือน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: กูเบ ที่อยู่: ตำบลบันนังสาเรง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: กูเบ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนความทรงจำ เดิมเป็นเขตที่อยู่ของตลกหลวง ชุมชนตั้งอยู่ในตำบลบันนังสาเรง ซึ่งภูมิประเทศทางด้านทิศตะวันออกจะเป็นเนินสูงและมีภูเขาตลอดแนว ทางด้านตอนกลางและทิศตะวันตกจะเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำปัตตานีไหลผ่านมีลักษณะอาคารเกาะตัวอยู่รอบถนนสายหลัก 2 เลน อาคารส่วนมากเป็นเรือนเดี่ยว มีทั้งเรือนไม้และคอนกรีต วางกระจายตัวห่างกันในอดีต กูเบ หรือ กูแบ มาจากคำว่า "จูเบร์" แปลว่าได้ว่า "ตลกหลวง" เป็นผู้ที่เล่นเป็นตัวตลกเมื่อเวลามีการละเล่นที่เหมือนกับเล่นละคร (มาลายูเรียกว่า เบอร์ซาวัน) ซึ่งทางเจ้าเมืองก็ได้จัดพื้นที่ให้แก่พวกตลกเหล่านั้นก็คือ บ้านจูเบร์ หรือบ้าน กูเบ ในปัจจุบันชาวบ้านมีอาชีพหลัก ได้แก่ การทำนา ทำสวน รับจ้าง และค้าขาย มีอาชีพเสริม ได้แก่ การเลี้ยงสัตว์
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ปาโจ ที่อยู่: ตำบลยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ปาโจ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนความทรงจำ เป็นพื้นที่สำหรับตระกูลหมอผีและช่าง ลักษณะภูมิประเทศ เป็นพื้นที่ซึ่งมีต้นไม้ขึ้นหนาแน่นภายในบริเวณชุมชน แต่โดยรอบชุมชนนั้นเป็นทุ่งนาบริเวณกว้าง เป็นเรือนเดี่ยวสมัยใหม่ ตั้งลึกออกมาจากถนนหลัก 2 เลน เชื่อมด้วยทางลูกรังซึ่งมีลักษณะคดเคี้ยว มีต้นไม้ขึ้นหลังอาคารหนาแน่น ภายในชุมชนมีโรงเรียนและมัสยิดเราะสุลยามานเป็นสถานที่หลัก สมัยก่อน พื้นที่ส่วนใหญ่ของหมู่บ้านจะเป็นป่า ไม่ค่อยมีผู้คนเข้าออกมากนัก ชาวบ้านจึงเรียกพื้นที่นี้ว่า "ปาโจ" ซึ่งแปลได้ว่า ไหลผ่าน การติดต่อกับบุคคลภายนอกต้องอาศัยการขี่ม้า หรือเดินเท้า การรักษาโรคของคนในหมู่บ้านจะใช้หมอบ้านหรือการใช้สมุนไพร การทำนาเป็นอาชีพหลักของชุมชน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เปาะเส้ง ที่อยู่: ตำบลเปาะเส้ง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เปาะเส้ง เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนความทรงจำ คำว่า "เปาะเส้ง" เพี้ยนมาจากคำว่า "พ่อไอเสง" เล่ากันว่า ในตำบลนี้มีครอบครัวชาวจีนอยู่ครอบครัวหนึ่ง มีลูกชายชื่อ "เบอเสง" สามีภรรยาคู่นี้ เป็นผู้มีอัธยาศัยดี ราษฎรที่มาหาของป่าและตัดไม้นำไปขาย จะมาขอน้ำดื่มและหยอกเย้าเล่นกับลูกชายเสมอ จนเป็นคำกล่าวกันติดปากเมื่อพบกันว่า "ไปบ้านพ่อของไอเฮง" "ไปดื่มน้ำบ้านพ่อไอเฮง" ภาษามลายูพื้นเมืองจะพูดว่า "เปาะบือเฮง" และเพี้ยนมาเป็น "เปาะเส้ง" จนทุกวันนี้ ชุมชนตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอเมืองยะลา เป็นที่ราบและมีเนินเขา เป็นที่เลี้ยงช้างม้าของเจ้าเมือง มีอาชีพหลัก ได้แก่ การทำนา ทำสวนยางพารา ค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: หน้าถ้ำ ที่อยู่: ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: หน้าถ้ำ เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชรอบโบราณสถาน ตำบลหน้าถ้ำเคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พบร่องรอยศาสนสถาน เมืองโบราณ ซึ่งเป็นศาสนสถานที่พบเทวรูปสำริด กำแพงเมือง พระพิมพ์ดินดิบแบบทวารวดีศรีวิชัย ภาพเขียนสีพระพุทธรูปฉาย ภาพเขียนสีราชรถมีสัตว์เทียม มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 15-17 ยะลาเป็น ชุมชนเกษตร นักโบราณคดีได้พบภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์บริเวณถ้ำคูหาภิมุข เป็นภาพพระพุทธฉายและภาพราชรถแกะสลักไว้บนหน้าผา ภายในบริเวณถ้ำคูหาภิมุข ลักษณะภูมิประเทศเป็นชุมชนบนพื้นที่ราบใกล้เนินเขาและถ้ำ มีแหล่งน้ำอยู่โดยรอบ บริเวณโดยทั่วไปของพื้นที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น สภาพเป็นป่าตามธรรมชาติอย่างมาก เป็นลักษณะชุมชนชาวพุทธรอบโบราณสถานสำคัญ มีอาชีพหลักเป็นการทำสวน ทำนา มีอาชีพเสริมเป็นการรับจ้าง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ท่าสาป ที่อยู่: ตำบลท่าสาป อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ท่าสาป เป็นชุมชนเกษตรกรรม อดีตเป็นศูนย์กลางการค้าขายระหว่างเมืองยะลาและเมืองอื่นๆ เนื่องด้วยเป็นปากทางเข้าตัวเมืองยะลา และอยู่ติดแม่น้ำซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยมาก่อน ตามประวัติบ่งบอกว่า ในสมัยก่อนนั้นสะพานข้ามแม่น้ำปัตตานียังไม่มี ชาวบ้านข้ามแม่น้ำโดยการใช้แพเป็นพาหนะในการเดินทาง ซึ่งจะมีกลุ่มหนังตะลุง มโนราห์ หมอดู กลุ่มคนเหล่านี้เลื่อมใสในทางไสยศาสตร์มาก เชื่อกันว่าเมื่อข้ามแพนี้แล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะเสื่อมลงทันทีจะไม่ขลังเหมือนเก่า และทางข้ามแพนี้จะมีสิ่งอาถรรพณ์มากมาย จะสังเวยเอาชีวิตประชาชนปีละ 1 คน เป็นประจำทุกปี ชาวบ้านจึงเรียกท่าแห่งนี้ว่า "ท่าสาป" ชุมชนตั้งอยู่ระหว่างแยกบ้านเนียงและตัวเมืองจังหวัดยะลา โดยติดแม่น้ำปัตตานีในทางทิศตะวันออกของแม่น้ำ สภาพภูมิประเทศเป็นที่รวมแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไหลผ่าน คือ แม่น้ำปัตตานี บึง และคลองกำปั่น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตร สวนผลไม้ สวนยางพารา และทุ่งนา มีลักษณะเป็นชุมชนเรือนแถวสมัยใหม่ ซึ่งมีทั้งเรียงตัวแนวยาวตามขอบถนนหลัก และกระจุกตัวกันอยู่เป็นกลุ่มในถนนสายย่อย มีโรงเรียนบ้านท่าสาปและ วัดดิตถมงคล หรือ วัดท่าสาป ป็นศูนย์กลางชุมชน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดเสรีหรือตลาดเก่า ที่อยู่: ตำบลทุ่งยาว อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดเสรีหรือตลาดเก่า เป็นชุมชนตลาด และชุมชนรอบทางรถไฟ ลักษณะภูมิประเทศ ทิศตะวันตกติดแม่น้ำปัตตานี และมีทางรถไฟเป็นขอบเขต อาคารแถวเรือนไม้ตั้งแต่ชั้นครึ่งถึงสองชั้น มีกรงนกหน้าบ้าน ถนนมีเกาะกลาง มีหอนาฬิกาเป็นจุดหมายตาที่สำคัญ แต่เดิมเป็นตลาดที่มีความสำคัญกับตัวเมืองยะลามาก เพราะอยู่ติดกับสถานีรถไฟ ปัจจุบันยังคงเป็นย่านพาณิชยกรรม รวมทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: โกตาบารู ที่อยู่: ตำบลโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: โกตาบารู เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนความทรงจำ และชุมชนรอบโบราณสถาน เมืองโกตาบารู เดิมเป็นเมืองที่เจริญอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีทั้งช้าง ป่าไม้ ทอง และแร่ทับทิม มีอาณาเขตขยายกว้างไปถึงเมืองเปอร์ลิสของมาเลเซีย มีเจ้าเมืองปกครองติดต่อกันหลายคนที่สำคัญ และเป็นที่นับถือชาวพุทธ มุสลิมและชาวจีนทั้งในถิ่นและนอกถิ่น คือ โต๊ะนิจาแว หรือเรียกสั้น ๆ ว่า โต๊ะนิ ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบลุ่ม อาคารบ้านเรือนไม้ดั้งเดิม สุสานโต๊ะนิ วังเจ้าเมืองเก่า เจ้าเมืองโกตาบารู เป็นคนที่ชอบความสนุกสนาน ชอบการกีฬา โดยเฉพาะศิลปะการป้องกันตัวที่เรียกว่า "สิละ" เจ้าเมืองได้ฝึกชายหนุ่มในวังให้รำสิละเป็นทุกคน โดยหาครูฝึกมาจากเมืองโกตาบารู รัฐกลันตันของมาเลเซีย พอถึงวันสำคัญก็จะมีการแข่งขันรำสิละ ตกกลางคืนจะมีการแสดงลิเกฮูลู ลิเกฮูลูจึงถือกำเนิดที่เมืองโกตาบารูเป็นครั้งแรก ก่อนจะขยายไปสู่เมืองอื่น ๆ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดเบตง ที่อยู่: ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดเบตง เป็นชุมชนตลาด เมืองเบตงถูกรายล้อมด้วยภูเขา ทำให้อำเภอเบตงเหมือนแอ่งกะทะ อาคารบริเวณตลาดเบตงจะมีการปะปนกันของอาคารเก่า (อาคารพาณิชย์ไม้สองชั้น) และอาคารพาณิชย์ใหม่ที่เป็นคอนกรีตสี่ชั้น เป็นตลาดใจกลางเมืองเบตง มีนักท่องเที่ยวเข้ามามาก คนในพื้นที่มีทั้งจีนฮกเกี๊ยน จีนแคะ และชาวมุสลิม ยังประกอบอาชีพค้าขายกันตามวิถีชีวิตแบบเดิม ตลาดเบตงมีชื่อเสียงหลายด้าน ทั้งเรื่องความหลากหลายของศาสนา สถานที่ท่องเที่ยว และอาหาร ทำให้เมืองเบตงเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวได้มาก
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้าน กม. 4 ที่อยู่: ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บ้าน กม. 4 เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของจีนแคะ ชุมชน กม. 4 เดิมชาวบ้านเรียกว่า "สี่เทียวปี่" ซึ่งภาษาจีนแคะแปลว่าห่างจากตัวเมือง 4 กิโลเมตร ในอดีตเป็นที่ที่ทางการอนุญาตให้ชาวจีนมาจับจองที่ทำกินได้ มีชาวบ้านมาตั้งบ้านเรือนเป็นร้านค้าไม่กี่หลัง เมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบจากขบวนการจีนคอมมิวนิสต์มาลายา ทำให้ชาวบ้านที่เดิมอยู่บริเวณเรือกสวนไร่นา เข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ลักษณะภูมิประเทศ ที่ราบเชิงเขามีถนนตัดผ่าน ตั้งบ้านเรือนสัมพันธ์กับแหล่งน้ำธรรมชาติ อาคารเรือนไม้เดี่ยว ตั้งเรียงตัวติดถนน มีเรือนเก่าที่มีคุณค่าอยู่บางส่วน เป็นชุมชนเกษตร มีอาชีพทำสวนยางพารา มีเชื้อสายเป็นชาวจีนแคะ เป็นต้นตำหรับของเฉาก๊วยโบราณจากจีน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้าน กม. 9 ที่อยู่: ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บ้าน กม. 9 เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนชาติพันธุ์ของจีนแคะ ชุมชน กม. 9 เดิมชาวบ้านเรียกว่า "เก๊าเทียวปี" ซึ่งภาษาจีนแคะ แปลว่า ห่างจากตัวเมือง 9 กิโลเมตร มีการจับจองตั้งบ้านเรือน จากเหตุการณ์ไม่สงบจากขบวนการจีนคอมมิวนิสต์มาลายา ทำให้ชาวบ้านที่เดิมอยู่บริเวณเรือกสวนไร่นา เข้ามาอยู่อาศัยเพิ่ม ในอดีตบ้าน กม. 9 เป็นชุมชนขนาดใหญ่แต่เนื่องด้วยปัญหาอัคคีภัย และการตัดถนน ทำให้จำนวนบ้านเรือนลดลงไป ลักษณะภูมิประเทศเป็นไหล่เขา มีความลาดเอียงจากทิศเหนือลงสู่ทิศใต้ จนบรรจบกับแนวลำธารขนาดเล็ก พื้นที่ชุมชนจะอยู่ต่ำกว่าถนนสายหลักมาก มีเรือนแถวไม้ 2 ชั้นแบบดั้งเดิม เป็นชุมชนเกษตร มีอาชีพทำสวนยางพารา มีเชื้อสายเป็นชาวจีนแคะ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ซาไกบ้านแหร ที่อยู่: ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ซาไกบ้านแหร เป็นชุมชนชาติพันธุ์ของชาวพื้นเมืองชาวซาไก ปัจจุบันมีคนต่างถิ่นอพยพเข้ามาในชุมชนบ้าง ซาไก คือ ชนเผ่าพื้นเมืองเผ่าสุดท้ายที่เหลืออยู่ทางภาคใต้สุด ที่ชอบเร่ร่อนอยู่ในป่าไปมาระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย นามสกุล "ศรีธารโต" เป็นนามสกุลพระราชทานจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อปี พ.ศ. 2516 ป่าบนแนวเทือกเขาสันกะลาคีรี ของป่าสงวนแห่งชาติเบตง ที่บ้านซาไก ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ซึ่งปัจจุบันแทบไม่เหลือเพราะการอพยพไปประเทศเพื่อนบ้าน ลักษณะภูมิประเทศมีลำธารหลายสายไหลผ่าน การตั้งที่อยู่อาศัย ซาไกจะเลือกบริเวณที่เป็นเนินสูง มีลำธารหรือน้ำตกอยู่ใกล้ ๆ มีป่าไม้ใหญ่ปกคลุม ซึ่งเป็นที่มาของอาหาร ยา ใช้ไม้ไผ่ทำเครื่องมือเครื่องใช้ ลักษณะบ้านเรือนสร้างจากวัสดุพื้นถิ่นที่หาได้ง่าย เช่น จาก ไม้ไผ่ ยกใต้ถุนเล็กน้อย ปัจจุบันมีการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บาโงยซิแน ที่อยู่: ตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บาโงยซิแน เป็นชุมชนเกษตรกรรม บ้านบาโงยซิแน เดิมชื่อ กำปงบือแน แปลว่า ต้นข่อย ชนดั้งเดิมเป็นมุสลิมซึ่งมาจากถิ่นอื่น เช่น ไทรบุรี โกตาบารู และจังหวัดปัตตานี โดยตั้งถิ่นฐานเป็นกลุ่มชื่อต่าง ๆ ยึดอาชีพในการทำนา ทำไร่ และเลี้ยงสัตว์ ตำบลบาโงยซิแน อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 13 กิโลเมตร และห่างจากที่ว่าการอำเภอยะหาเป็นระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 13,576 ไร่ หรือ 20 ตารางกิโลเมตร มีจำนวน 6 หมู่บ้าน ตัวชุมชนเก่าอยู่ใกล้กับชุมชนบ้านเนียง ถัดมาทางทิศตะวันตกจากแยกบ้านเนียง เป็นชุมชนริมถนน มีทั้งเรือนแถวและเรือนเดี่ยว ไม้/คอนกรีต มีลักษณะอยู่ในถนนย่อยขนาด 2 เลน อาคารวางตัวห่างกัน ไม่หนาแน่น หลังอาคารบางหลังเชื่อมต่อออกไปสู่ทุ่งนา ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม และเลี้ยงสัตว์
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เกาะเหลา ที่อยู่: ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เกาะเหลา เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ ชาวไทยทั่วไป และชาวมอร์แกน ซึ่งไม่มีบัตรประชาชนและสิทธิ์ขั้นพื้นฐานจากรัฐบาล ซึ่งมอร์แกนจะอยู่ในส่วนที่เรียกว่า เกาะเหลานอก ซึ่งแต่โบราณเดิมเป็นชาติพันธุ์ที่เร่ร่อนอยู่ตามทะเลอันดามันจนเมื่อ 30 ปีก่อน จึงมีการเริ่มสร้างบ้านเรือนตั้งหลักแหล่ง โดยการชักชวนของจ่าทวี ผู้ซึ่งอาศัยก่อน โดยต้องการให้หยุดเร่ร่อนตามเกาะแก่งอันดามัน เกาะเหลา อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือปากน้ำระนองประมาณ 30 นาที ฝั่งตรงข้ามอยู่ติดกับจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า บนเกาะแห่งนี้มีประชากร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนไทย และกลุ่มมอร์แกน อาศัยอยู่กันคนละฟากเกาะ ซึ่งตั้งห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร ไปมาหาสู่กันได้ทั้งทางเรือและเดินเท้า เป็นชุมชนริมหาด เรือนไม้หรือสังกะสียกพื้นสูง หลังคามุงจาก ตั้งอยู่บนพื้นทราย บางหลังยื่นลงไปในทะเลเชื่อมต่อกับท่าเรือ ระบบสาธารณสุขไม่ดี ใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟฟ้า ชาวไทยในเกาะเหลาส่วนใหญ่มีชีวิตผูกติดกับทะเล มีการทำประมงพื้นบ้าน ทั้งการวางอวนปู และกระชังปลา อีกส่วนบนเกาะเหลานอกซึ่งเป็นชาวมอร์แกนนั้น หลังจากเหตุการณ์สึนามิ ทำให้พื้นที่ทำมาหากินและบ้านเรือนเสียหาย ก็มีการรับจ้างทำงานผิดกฎหมายด้วย โดยเฉพาะการรับจ้างไปจับสัตว์น้ำในเขตทะเลประเทศเพื่อนบ้าน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เกาะพยาม ที่อยู่: ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เกาะพยาม เป็นเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ของชาวประมงมอร์แกน เป็นชุมชนชาวเลที่ตั้งอยู่บนเกาะ โดยมีแหล่งที่ตั้งอยู่ริมหาดเพื่อการทำประมงขนาดเล็ก ส่วนที่เหลือประกอบอาชีพการเกษตรบนเกาะ ได้แก่ การทำสวน ชุมชนเก่ามีลักษณะบ้านเป็นเรือนเดี่ยวฝาไม้ไผ่ ยกพื้นสูงและปลูกติดทะเล ส่วนที่ขยายและเปลี่ยนแปลงไปนั้นตั้งอยู่ใกล้หรือติดภูเขา ตัวบ้านยกพื้นด้วยเสาปูน ผนังบ้านทำจากไม้ฝาสำเร็จรูป มีหน้าต่างกระจก และหลังคากระเบื้อง อาชีพพื้นถิ่นเดิมของชุมชน คือ การประกอบอาชีพประมง และการปลูกต้นกาหยู แต่ปัจจุบันเริ่มมีการไปรับจ้างตามรีสอร์ท และร้านอาหารซึ่งเกิดขึ้นมาใหม่ เนื่องจากกระแสการท่องเที่ยว
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ย่านเมืองเก่าสงขลา ที่อยู่: ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ย่านเมืองเก่าสงขลา เป็นชุมชนตลาด เมื่ออดีตราว 200 ปีก่อน ตัวเมืองสงขลาตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ เรียกว่า "เมืองสงขลา ฝั่งแหลมสน" จนกระทั่ง พ.ศ. 2385 จึงขยายมาทางฝั่งทิศตะวันออกบริเวณตำบลบ่อยาง เรียกกันว่า "เมืองสงขลาฝั่งบ่อยาง" ชุมชนตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ฝั่งตะวันออกของทะเลสาบสงขลา ครอบคลุมพื้นที่ถนนนครนอก ถนนนครใน ถนนนางงาม และพื้นที่ใกล้เคียง มีลักษณะเป็นแหลมทางทิศตะวันออกติดกับอ่าวไทย สิ่งก่อสร้างที่หลงเหลืออยู่ ประกอบด้วย ประตูเมืองสงขลา (เดิม) ห้องแถวไม้แบบจีน ตึกรูปแบบชิโนโปรตุกีส และยังมีอาคารตึกแถวแบบจีนโบราณของชาวจีนฮกเกี้ยนอยู่ปะปนกันทั้งสองฟากฝั่งถนน โดยอาคารหลายหลังมีการปรับปรุง ทาสีใหม่ แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอาคารเก่าเหล่านี้ สะท้อนภาพการเป็นเมืองสำคัญด้านการปกครองปัจจุบันคนในพื้นที่นอกจากกิจการทั่วไปแล้ว ยังมีการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและคึกคักของจังหวัดสงขลา ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ ชาวจีน และชาวมุสลิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เกาะยอ ที่อยู่: ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เกาะยอ เป็นชุมชนริมน้ำ และชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ประวัติศาสตร์ชุมชน หมู่บ้านเกาะยอ แต่เดิมเป็นหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่ยุคของเมืองสงขลาดั้งเดิม "เมืองสงขลา ฝั่งแหลมสน" ต่อมาเมื่อย้ายเมืองสงขลาไปอยู่ฝั่งบ่อยาง หมู่บ้านเกาะยอยังคงเป็นหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ที่สงบเงียบ มิได้มีการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ชุมชนตั้งอยู่ริมทะเลสาบสงขลา ตลอดแนวริมทะเลด้านทิศตะวันตก ตัดเชื่อมด้วยถนน 2 เลน มีชายฝั่งเป็นดินความลึกไม่มาก บ้านเรือนตั้งเรียงรายอยู่สองฝั่งถนน ความหนาแน่นไม่มาก อาคารเรือนไม้เก่าจะยกใต้ถุนสูง มีสภาพดีและมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี เดิมประกอบอาชีพประมงและทำสวน แต่ในปัจจุบันมีการทำประมงลดลงมาก บ้านเรือนส่วนมากมีแต่ผู้สูงอายุอยู่ หรือมีการเปลี่ยนมือไปแล้ว ภาวะการท่องเที่ยวเกิดขึ้นในพื้นที่ ทำให้อาคารบางหลังถูกใช้เป็นบ้านพักโฮมสเตย์สำหรับนักท่องเที่ยว และเปิดเป็นร้านอาหารซีฟู๊ด ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ และไทยมุสลิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: วิถีพุทธคลองแดน ที่อยู่: ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: วิถีพุทธคลองแดน เป็นชุมชนตลาด และชุมชนริมน้ำ สันนิษฐานว่า มีชาวสวนเข้ามาบุกเบิก และตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณนี้มาเกือบ 100 ปีซึ่งแต่เดิมพื้นที่บริเวณนี้เป็นชุมทางการสัญจรทางน้ำ (สายคลอง) จากสงขลาไปเมืองนครฯ ชุมชนตั้งอยู่บริเวณทางฝั่งตะวันออกของทะเลสาบสงขลา มีคลองระโนดที่เชื่อมต่อทะเลสาบสงขลากับทะเลอ่าวไทย โดยผ่านตลาดน้ำระโนด เดิมมีการปล่อยให้ทิ้งร้าง ต่อมามีการปรับปรุงตลาดโดยได้รับความร่วมมือจากการเคหะ ทำให้ตลาดมีสภาพที่ใกล้เคียงของเดิม คือ มีสภาพเป็นบ้านไม้ริมน้ำ ไม่มีรั้ว มีทางเดินริมน้ำตลอดคลอง ชุมชนคลองแดนเคยเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองมาก มีร้านทอง ร้านตัดเสื้อผ้า ร้านขายของชำ ร้านยา ร้านตัดผม โรงสี ชาวจีนที่มาตั้งรกรากได้ชักชวนญาติพี่น้องมาอาศัยอยู่ที่นี่เพิ่มมากขึ้น มีการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนกันอย่างหนาแน่นตลอดแนวริมน้ำคลองแดน คลองระโนด คลองชะอวด และคลองปากพนัง จนกระทั่งเมื่อทางหลวงสาย 408 เริ่มใช้งาน ทำให้ความนิยมในการใช้การสัญจรทางน้ำลดลง คนเริ่มอพยพออกจากพื้นที่ ปัจจุบันไม่มีการใช้การสัญจรทางน้ำอีกเลย ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ และชาวจีน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ย่านการค้าเก่าชุมทางรถไฟหาดใหญ่ ที่อยู่: ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ย่านการค้าเก่าชุมทางรถไฟหาดใหญ่ เป็นชุมชนตลาด และชุมชนรอบทางรถไฟ พื้นที่บริเวณนี้แต่เดิมเป็นย่านการค้าที่บุกเบิกขึ้นพร้อมกับการสร้างสถานีรถไฟหาดใหญ่ ชุมชนตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองหาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่กว้างประมาณ 1 กิโลเมตร ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ตั้งอยู่ประชิดทางรถไฟ บริเวณถนนนิพัทอุทิศ 1 และ 2 และถนนประชาธิปัตย์ แต่เดิมเป็นอาคารเรือนแถวไม้และเรือนแถวปูน สร้างเรียงรายอยู่สองฝากฝั่งถนน มีลักษณะเป็นตึกแถวพาณิชย์ชั้นล่างและอยู่อาศัยชั้นบนรูปแบบชิโนโปรตุกีส มีทางเท้าที่มีหลังคากันแดดกันฝน ต่อมาการพัฒนาของเมืองหาดใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็วทำให้เกิดการรื้ออาคารเก่าลง และสร้างเป็นอาคารสมัยใหม่ขึ้นทดแทนอาคารเดิม ปัจจุบันคงเหลือแต่เพียงชุดตึกแถวปูนชิโนโปรตุกีส บริเวณถนนนิพัทอุทิศ 1 หลงเหลืออยู่หลายหลังเรียงรายกันเป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีอาคารตึกแถวไม้ และตึกแถวปูนกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ ซึ่งไม่เห็นภาพของกลุ่มก้อนอาคารเดิมแล้ว ย่านการค้าแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเมืองหาดใหญ่ ปัจจุบันเป็นศูนย์การค้า กลางเมืองหาดใหญ่ มีการพัฒนาไปจากในอดีตมาก แต่บทบาทสำคัญยังไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ และชาวจีน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ท่านางหอม ที่อยู่: ตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ท่านางหอม เป็นชุมชนเกษตรกรรม สันนิษฐานว่ามีการตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้มามากกว่า 100 ปี ชุมชนตั้งอยู่บริเวณริมลำคลองเล็ก ๆ ข้างวัดท่านางหอม ซึ่งเป็นลำคลองที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทะเลสาบสงขลาได้ ลักษณะอาคารในชุมชนมีลักษณะเป็นบ้านเรือนเดี่ยว ยกใต้ถุน ตามลักษณะของเรือนภาคใต้หลังคามุงกระเบื้องดินเผา แต่เดิมชุมชมแห่งนี้เป็นชุมชนเกษตรกรรม ตั้งอยู่รอบ ๆ วัด ประกอบอาชีพทำนา ทำสวนผลไม้ สวนปาล์ม ผลจากการตัดถนนจากตัวเมืองหาดใหญ่ไปยังตัวเมืองสงขลา เป็นถนนที่ผ่านเข้ามาใกล้ชุมชน แต่พื้นที่โดยรอบมิได้มีสถานที่หรือชุมชนอาศัยหนาแน่น ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นเพียงทางผ่านรถ และทางเข้าออกสู่ถนนใหญ่ของคนในชุมชน ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบบ้านพักอาศัยเป็นบ้านสมัยใหม่ คงเหลือบ้านแบบดั้งเดิมเพียงไม่กี่หลัง และคู คลอง ที่แต่เดิมใช้เป็นทางสัญจร ก็มิได้ถูกใช้งาน แต่สภาพความเป็นสวน และภูมิทัศน์ของชุมชนชนบท ยังมิได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: คูขุด ที่อยู่: ตำบลคูขุด อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: คูขุด เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ สันนิษฐานว่ามีการตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้มามากกว่า 100 ปี ชุมชนตั้งอยู่บนคาบสมุทรสทิงพระ ทางทิศตะวันออกติดอ่าวไทย ส่วนทางทิศตะวันตกติดกับทะเลสาบสงขลา ได้รับอิทธิพลของน้ำทะเล ทำให้เกิดเป็นลักษณะของทางน้ำไหล พายุมีอิทธิพลต่อพื้นที่นี้อย่างมาก และมักเกิดอุทกภัยและวาตภัยบ่อยครั้ง บ้านไม้ยกใต้ถุนไม่สูง หลังคากระเบื้องดินเผา ฝาผนังสังกะสี ลักษณะเรือนพื้นถิ่นในภาคใต้ แต่เดิมเคยเป็นเมืองท่า เดินทางจากชุมชนรอบทะเลสาบสงขลาตอนกลาง สามารถเดินทางมาด้วยเรือ ใกล้กว่าไปติดต่อค้าขายที่ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง และยังเดินทางไปต่อรถที่ อำเภอสทิงพระ ต่อไปสงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช ได้สะดวก เอกลักษณ์เด่นของชุมชนบ้านคูขุด คือ การแสดงพื้นบ้านหลายอย่าง เช่น หนังตะลุง มโนราห์ ลิเกป่า ดนตรีไทย และรำวง การแสดงหนังตะลุงนั้นในอดีตครอบครัวศิลปินคูขุด ซึ่งเป็นต้นตระกูลทิพย์ดนตรีชื่อ นายหนังจ้วนคูขุด มีอาชีพ รุนกุ้ง (จับกุ้งขาย) กลายเป็นตัวหนังตะลุงโด่งดัง ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพุทธ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ย่านถนนบุรีวานิช ที่อยู่: ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ย่านถนนบุรีวานิช เป็นชุมชนตลาด เป็นถนนการค้าสายเก่าแก่ของจังหวัดสตูล ชุมชนตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางอำเภอเมืองสตูล อาคารแถวพาณิชยกรรมสูง 2 ชั้น บนถนน 4 ช่องจราจร มีการฟื้นฟูอาคาร ยังคงมีรูปแบบหลังคาทรงจีนแบบเดิมอยู่บ้าง ทางเท้ามีร่มเงาจากรูปแบบอาคาร เป็นการค้าขายร่วมสมัย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เกาะอาดัง ที่อยู่: ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เกาะอาดัง เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเกาะที่มีชาวเลอูรักลาโว้ยมาตั้งถิ่นฐาน โดยแต่เดิมเป็นเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่เร่ร่อนในทะเลมานาน และได้เริ่มตั้งถิ่นฐานตามเกาะต่าง ๆ ในทะเลอันดามัน ชุมชนตั้งอยู่บนเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กม. ห่างจากตัวเมืองประมาณ 80 กม. เป็นสวนแห่งปะการังใต้ท้องทะเล บางบริเวณอยู่ในน้ำตื้นสามารถมองเห็นได้จากผิวน้ำ ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูง มีป่าปกคลุมแลดู เขียวครึ้ม ทางด้านหลังมีน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดปี อาคารบนเกาะมีลักษณะเป็นเรือนเดี่ยว ส่วนมากใช้เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ มีอาคารบนเกาะเบาบาง และชุมชนชาวเลอาศัยปะปนไปกับอาคาร ของการท่องเที่ยว ที่อยู่ริมรอบชายฝั่งทะเล คำว่า "อาดัง" มาจากคำเดิมในภาษามลายูว่า "อุดัง" มีความหมายว่า "กุ้ง" เพราะบริเวณนี้เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้งทะเล รายได้หลักของเกาะอาดังมาจากการท่องเที่ยว ไม่แน่ชัดว่ามีการประมงอยู่หรือไม่
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เกาะหลีเป๊ะ ที่อยู่: ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เกาะหลีเป๊ะ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเกาะที่มีชาวเลอูรักลาโว้ยมาตั้งถิ่นฐาน แต่เดิมเป็นเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่เร่ร่อนในทะเลมานาน และได้เริ่มตั้งถิ่นฐานตามเกาะต่าง ๆ ในทะเลอันดามัน ชุมชนตั้งอยู่หนึ่งในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา อยู่สุดเขตแดนใต้แถบหมู่เกาะอาดัง – ราวี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะตะรุเตา ห่างจากเกาะตะรุเตา 45 กิโลเมตร ห่างจากฝั่งท่าเรือปากบารา 62 กิโลเมตร เป็นเกาะขนาดเล็ก ถือเป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางตอนใต้ของทะเลอันดามันของไทย เกาะมีสภาพเป็นชุมชนเมือง มีอาคารและการใช้งานที่หลากหลายตามความต้องการสำหรับการท่องเที่ยว พื้นที่ริมหาดส่วนใหญ่เป็นร้านค้า สถานที่ให้บริการท่องเที่ยว และบ้านพักโฮมสเตย์ เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเล (ชาวน้ำ) ประมาณ 500 คน ซึ่งกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เกาะหลีเป๊ะอยู่บนเกาะลันตาในจังหวัดกระบี่ พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการประมง และการเพาะปลูกผัก ปลูกข้าว เกาะหลีเป๊ะอยู่ในเขตอุทยานฯ แต่ว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นของชาวบ้านซึ่งอยู่อาศัยบนเกาะมาเป็นร้อยกว่าปีก่อนการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นการจัดการพื้นที่บนเกาะจึงอยู่นอกเหนืออำนาจของอุทยานฯ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชุมชนบริการจัดการ โดยอุทยานแห่งชาติคอยดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตันหยงโป ที่อยู่: ตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตันหยงโป เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ ตำบลตันหยงโป เป็นพื้นที่ที่เป็นแหลมทอดยาวออกไปในทะเล มีป่าชายเลนขึ้นอยู่รอบหมู่บ้าน มีไม้ยืนต้นชนิดหนึ่งขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านเรียกว่า "ต้นปาบ" มีลักษณะคล้ายต้นมะม่วง หรือทางชาวมุสลิมเรียกว่า "ต้นโป" ต่อมาเรียกว่า "บ้านตันหยงโป" (ตันหยง แปลว่า แหลม) พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าชายเลน และแนวหินโสโครกชายฝั่ง ดินทั่วไปจะเป็นดินเค็ม บางส่วนเป็นพื้นที่ราบลุม และเนินเขาเตี้ย มีคลอง 2 สาย คือ คลองควาย และคลองโตะครู และมีชายหาด 2 แห่ง คือ หาดตันหยงโป และหาดทรายยาว อาคารเรือนไม้เดี่ยวยกใต้ถุนสูง มีถนนเรียบหาดที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่สองฝั่งถนน มีโครงการการสนับสนุนชุมชน ชุมชนมีอาชีพประมง ส่งออกมาเลเซีย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตำมะลัง ที่อยู่: ตำบลตำมะลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตำมะลัง เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ ชุมชนตั้งอยู่ใกล้บริเวณปากแม่น้ำที่ไหลออกสู่ทะเลอันดามัน ใต้สุดของประเทศไทยลักษณะที่อยู่อาศัยกลมกลืนกับธรรมชาติ (ใช้วัสดุจากป่าชายเลน) ในอดีตพื้นที่อ่าวตำมะลังมีผู้คนอาศัยอยู่เพียงไม่กี่ครัวเรือน และเริ่มมีการแลกเปลี่ยนค้าขายกัน ต่อมามีชาวอินโดนีเซียได้เดินทางโดยเรือเพื่อมาค้าขายและแวะพักแรมบนเกาะ และได้พบเห็นนกอินทรีถูกผูกติดอยู่กับต้นไม้บนเกาะนั้น จึงเรียกขานอ่าวนี้ว่า "อ่าวตำมะลัง" ตามที่ได้เห็นนกอินทรีถูกผูกไว้ ต่อมาเมื่อมีผู้คนมาตั้งถิ่นฐานเพิ่มมาก ขึ้นมีการจัดตั้งเป็นชุมชนหมู่บ้านและตำบลโดยใช้ชื่อว่า "ตำมะลัง" ชุมชนที่อาศัยอยู่บริเวณอ่าวตำมะลังนี้ส่วนใหญ่มีเชื้อสายมาลายู หรือ ไทย-มาลายู มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับหลักปฏิบัติของศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นศาสนาที่คนส่วนใหญ่นับถือ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เกาะบุโหลนดอน บุโหลนเล ที่อยู่: ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เกาะบุโหลนดอน เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชาติพันธุ์ของชาวอุรักลาโว้ย ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานแต่เดิม ชุมชนตั้งอยู่บนเกาะในหมู่เกาะบุโหลน เป็นชุมชนชาวเลดั้งเดิม เกาะบุโหลนเลเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีราษฎรอาศัยอยู่ประมาณ 68 ครัวเรือน มีฐานะความเป็นอยู่ค่อนข้างดีกว่าเกาะบุโหลนดอน จำนวนราษฎรทั้งสองเกาะ 474 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเล (อุรักลาโว้ย) นับถือศาสนาอิสลาม มีอาชีพทำประมงเป็นหลัก รองลงไปก็มีอาชีพรับจ้างและค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ปากละงู ที่อยู่: ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ปากละงู เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ บ้านปากละงูมีตำนานที่เกี่ยวกับชื่อหมู่บ้าน คือ บ้านปากงูอยู่ในตำบลละงู อำเภอละงู มีเรื่องเล่าว่ามีสามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นชาวละงู สามีเป็นคนหาของป่าขาย วันหนึ่งสองสามีภรรยาได้เดินทางไปที่บ้านปากงู ระหว่างทางภรรยาได้เห็นงูยักษ์ตัวหนึ่งเลื้อยเข้ามาหานาง สามีจึงเอาหอกพุ่งเข้าปากงู ทำให้เลือดงูไหลท่วมบริเวณนั้นเต็มไปหมด ชาวบ้านทราบเรื่องจึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า หมู่บ้านปากงู แต่คำว่า "ละงู" เข้าใจว่าชื่อเดิมคงเป็น กรางู หรือ กะละงู หรือ กราละงู คำว่า "กรา" เป็นภาษาโบราณซึ่งแปลว่า ปาก เป็นชุมชนเลียบชายฝั่งอ่าวบารา ชุมชนประมง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดทุ่งหว้า ที่อยู่: ตำบลทุ่งหว้า อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดทุ่งหว้า เป็นชุมชนตลาด เดิมอำเภอทุ่งหว้ามีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีเรือกลไฟจากต่างประเทศมาติดต่อค้าขายเป็นประจำ สินค้าออกที่สำคัญ คือ พริกไทย การปลูกพริกไทยได้รับการส่งเสริมโดยเชิญชาวจีนจากเกาะปีนัง มาสาธิตเป็นตัวอย่าง ทำให้ทุ่งหว้ามีความเจริญรุ่งเรืองมากรองจากปีนัง จนได้รับการขนานนามว่า "ปีนังน้อย" หรือ "ปีนัง 2" ในอดีตทุ่งหว้ามีการจัดงานมหรสพเฉลิมฉลองบ่อยโดยจะมีการแสดงงิ้ว หุ่นจีน หนังตะลุง ลิเกป่า และมโนราห์ คราวละหลายคืน การค้าขายจะมีพ่อค้าชาวจีน ญี่ปุ่น และชาติอื่นๆ มาติดต่อค้าขายทำให้มีการหมุนเวียนของเงินมาก ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบมีถนนเชื่อมกับท่าเรือเก่า มีอาคารตึกแถวแบบชิโนโปรตุกีสปัจจุบันเป็นย่านพาณิชยกรรมร่วมสมัย ของชาวจีนฮกเกี้ยน แต่เดิมการค้าในตลาดมีความสัมพันธ์กับท่าเรือของเมืองสตูล (ท่าเรือสุไหงอุเป)
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านควน ที่อยู่: ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บ้านควน เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชื่อตำบลบ้านควนมาจากภาษามลายูที่แปลว่า เนิน หรือ ควนคือ หรือ กำปงกัวะ แต่เดิมบ้านควนมีความหมายเฉพาะพื้นที่หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวที่อยู่บนเนินสูง แต่ปัจจุบันบ้านควนถูกยกขึ้นเป็นชื่อตำบล มีพื้นที่ครอบคลุมหลายหมู่บ้าน สภาพภูมิประเทศเป็นพื้นราบและเป็นพื้นที่ป่าเขา ลักษณะลาดเทจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีพื้นที่ทั้งหมด 26,706 ไร่ หรือประมาณ 42.72 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับทำสวนผลไม้ ยางพารา นาข้าว และเลี้ยงสัตว์ มีอาคารเรือนไม้เกษตรกรรม และอาคารสถานที่ราชการเก่า ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดฉลุง ที่อยู่: ตำบลฉลุง อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดฉลุง เป็นชุมชนตลาด และชุมชนความทรงจำ บ้านฉลุงในอดีตเป็นป่าดงดิบ มีช้างมากมาย และเป็นศูนย์กลางติดต่อค้าขายแลก เปลี่ยนสินค้าทางการเกษตร เป็นที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และเป็นที่อยู่ของเจ้าพระยาชื่อ กวนตู ซึ่งต่อมาได้หายสาบสูญโดยไม่ทราบสาเหตุ มีความชำนาญในด้านคล้องช้าง ซึ่งที่บ้านฉลุงมีการทำพิธีคล้องช้าง มีการจับช้างและมีการฝึกช้างไว้ใช้งาน คำว่า "ฉลุง" มาจากภาษามลายูว่า กำปงโฉลง คำว่า "กำปง" แปลว่าหมู่บ้าน คำว่า "โฉลง" แปลว่า คอก โดยล่อให้ช้างเข้าไป ต่อมาได้เพี้ยนตามภาษาไทยมาเป็น ฉลุง มาถึงทุกวันนี้ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม ตั้งอยู่บนถนนสายฉลุง-ตรัง มีอาคารตึกแถวเก่าแบบชิโนโปรตุกีส ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขายและเกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: เกาะใหญ่ ที่อยู่: ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: เกาะใหญ่ เป็นชุมชนเกษตรกรรม เดิมคนในหมู่บ้านนี้อพยพมาจากบ้านย่านซื่อ ซึ่งมี โต๊ะสัน บาหลัง เป็นคนแรกที่มาตั้งหลักแหล่งที่นี่ เพื่อประกอบอาชีพการทำนา ต่อมาได้มีผู้อพยพเข้ามาอยู่เพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากบริเวณนี้มีสัตว์ดุร้าย เช่น เสือ หมูป่า ทำให้ไม่มีใครเข้าไปตั้งบ้านเรือนอยู่ตามลำพัง จึงต้องมาตั้งบ้านเกาะกลุ่ม รวมกันเป็นหมู่บ้าน จึงเรียกชื่อว่า บ้านเกาะใหญ่ เป็นหมู่บ้านที่เป็นทางผ่านการเดินทางจากสงขลาไปยังสตูล ซึ่งบริเวณที่ติดถนนสายหลัก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลขที่ 406 เป็นที่รู้จักกันคือ "สามแยกนิคม" บริเวณโดยรอบเป็นที่ราบเชิงเขา ทำการเกษตร (นา) โดยหมู่บ้านดั้งเดิมจะตั้งอยู่บนควน (ที่สูง) และพื้นที่ต่ำกว่ารอบ ๆ เป็นพื้นที่เกษตรกรรม มีอาคารเรือนเดี่ยวยกใต้ถุนสูง มัสยิดไม้ เป็นชุมชนเกษตร (นาข้าว สวนปาล์ม ยาง) มีศูนย์กลางชุมชนที่มัสยิด
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: คลองน้อย ที่อยู่: ตำบลคลองน้อย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: คลองน้อย เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ ตำบลคลองน้อยแรกเริ่มเดิมมีชื่อว่า ตำบลป่าเหล้า โดยการตั้งชื่อตามเจ้าที่คือ พ่อตาเหล้า แม่ยายเศร้าสร้อย โดยเอาชื่อของตามาตั้งคือ พ่อตาเหล้า มาตั้งเป็นชื่อตำบลป่าเหล้า เพราะสภาพในตอนนั้นเป็นป่ามาก ลักษณะภูมิประเทศ ป็นที่ราบมีเครือข่ายลำคลองในการสัญจรและเกษตรกรรม ลักษณะการตั้งชุมชนชาวสวนแบบดั้งเดิม ทั้งอาคารบ้านเรือนและทรัพยากรธรรมชาติ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชาวสวน โดยใช้ระบบเครือข่ายคลอง เชื่อมต่อกับชุมชนเครือข่ายคลองอื่น ๆ เช่น บางใบไม้ ลักษณะการตั้งถิ่นฐานหนาแน่นบริเวณริมคลองบางช่วง ถัดเข้ามาเป็นบ้านกระจายตัวล้อมรอบด้วยพื้นที่สวน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บางใบไม้ ที่อยู่: ตำบลบางใบไม้ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บางใบไม้ เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชุมชนริมน้ำ และชุมชนความทรงจำ ตำบลบางใบไม้ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นตำบลที่มีลำคลองเป็นจำนวนมาก สองข้างเป็นป่าไม้เบญจพรรณ ในลำคลองจะมีใบไม้ลอยทับถมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำขึ้นลงไม่สะดวก ซึ่งเกิดขึ้นในทุกหมู่บ้านทั้งตำบล ราษฎรจึงได้ให้ ชื่อว่าตำบลบางใบไม้ สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ ลักษณะภูมิประเทศ เป็นพื้นที่ราบลุ่ม ติดคลองหรือแม่น้ำ บริเวณโดยรอบเป็นป่า ต้นไม้สูง ส่วนมากเป็นต้นมะพร้าวและต้นจาก มีจำนวนประชากรในเขต อบต. 2,344 คน และจำนวนหลังคาเรือน 984 หลังคาเรือน บ้านเป็นเรือนไม้ยกพื้นหลังคาทรงปั้นหยา มุงกระเบื้องว่าว แทบทุกหลังมีสะพานอยู่ที่ท่าน้ำหน้าบ้าน มีวัดบางใบไม้เป็นวัดเล็กๆ มีพระพุทธรูปปั้นจากข้าวสุกก้นบาตร อายุประมาณ 70 ปี ภายนอกหุ้มด้วยทองเหลือง มีการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ปลูกต้นจากและผลิตภัณฑ์จากใบจาก และการทำสวนมะพร้าว และ ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะ เช่น โคมไฟ ชุดกาแฟ กระเป๋าถือ พาน ชุดหม้อแบ่งข้าว กาน้ำ ถ่านกะลามะพร้าว และมะพร้าวอ่อนน้ำหอม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บางหลา ที่อยู่: ตำบลบางชนะ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บางหลา เป็นชุมชนเกษตรกรรมและประมงริมคลองดั้งเดิม เป็นที่ราบลุ่มริมคลอง มีการใช้เครือข่ายคลองในการสัญจรและเกษตรกรรม ชุมชนบริเวณฝั่งในบางตรงข้ามกับตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ประกอบอาชีพประมง มีลักษณะการตั้งบ้านเรือนบนเกาะและชายคลองน้ำท่วมถึง มีอาคารบ้านเรือนแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ และลักษณะการตั้งถิ่นฐานของชุมชนชาวสวนและประมงพื้นบ้านแบบดั้งเดิม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดบ้านดอน ที่อยู่: ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดบ้านดอน เป็นชุมชนตลาดและชุมชนริมน้ำ อำเภอบ้านดอน เป็นอีกชื่อหนึ่งของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นชื่อท้องถิ่นที่เรียกกันมาแต่โบราณ ตามสภาพของบริเวณนั้น ซึ่งเป็นที่ดอน น้ำท่วมไม่ถึงนั่นเอง บริเวณบ้านดอน ในสมัยโบราณเป็นอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ของเมืองไชยา ตรงบริเวณปากน้ำแม่น้ำตาปี ต่อมามีความเจริญมากขึ้นตามลำดับ จนในสมัยรัชกาลที่ 6 พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองไชยาเดิมมาตั้งที่เมืองบ้านดอน และต่อมาในปี พ.ศ. 2459 มีรับสั่งให้เปลี่ยนชื่อเมืองไชยาที่บ้านดอนเป็นเมืองสุราษฎร์ธานี มาตราบจนปัจจุบันนี้ เป็นที่ราบปากแม่น้ำตาปี เป็นชุมชนพาณิชยกรรมขนาดใหญ่ของเมืองสุราษฎร์ ตั้งบนที่ดอน มีการผสมผสานลักษณะอาคารทั้งเรือนแถวไม้ และอาคารตึกแถว ตามการพัฒนาของเมือง ในสมัยก่อนพื้นที่บ้านดอนเป็นอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ของเมืองไชยา และถูกยกเป็นเมืองไชยา และเมืองสุราษฎร์ ตามลำดับ เนื่องจากเป็นตลาดศูนย์กลางเมือง ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพค้าขายและธุรกิจต่าง ๆ
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: บ้านหน้าด่าน ที่อยู่: ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: บ้านหน้าด่าน เป็นชุมชนตลาดและชุมชนริมน้ำ ชุมชนตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำตาปี น่าจะเป็นบริเวณที่มีด่านแต่เดิม เป็นชุมชนตลาดเกาะกับถนนตลาดล่าง หันหลังให้แม่น้ำตาปี ประกอบไปด้วยเรือนแถวไม้ชั้นเดียว 2 ชั้น ริมถนน ถัดเข้าไปเป็นกลุ่มบ้านพักอาศัย ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: พุมเรียง ที่อยู่: ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: พุมเรียง เป็นชุมชนกลุ่มอาชีพเฉพาะ ชุมชนความทรงจำ และชุมชนรอบโบราณสถาน แหลมโพธิ์ ในอดีต สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาส และสร้างศาลาไว้ ซึ่งได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมาจนทุกวันนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านมีอาชีพทอผ้า ผ้าทอพุมเรียง มีลักษณะเด่น คือ เป็นผ้าทอยกดิ้นเงิน หรือดิ้นทอง มีลวดลายเฉพาะตัวที่สวยงาม ทำให้กลายเป็นสินค้าพื้นเมือง ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมชนอยู่ในพื้นที่ในเขตเทศบาลพุมเรียงเป็นชุมชนชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของอำเภอไชยา ตั้งอยู่จุดเหนือสุดของอ่าวบ้านดอน บริเวณปากคลองพุมเรียงใหญ่ มีสภาพเป็นที่ดอนจุดกึ่งกลางสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 10 เมตร การตั้งชุมชนในเขตเทศบาลรวมกลุ่มกันบริเวณริมคลองพุมเรียงเป็นส่วนใหญ่ มีอาคารไม้ดั้งเดิม และการตั้งชุมชนเกษตรกรรม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทอผ้าไหมที่มีชื่อเสียง ประมง ค้าขาย เกษตรกรรม
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ตลาดไชยา ที่อยู่: ตำบลตลาดไชยา อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ตลาดไชยา เป็นชุมชนตลาด และชุมชนรอบทางรถไฟ อำเภอไชยาเดิมเป็นเมืองเก่าแก่มาแต่โบราณ มีหลักฐานทางโบราณคดีว่า เคยรุ่งเรืองมากในอาณาจักรศรีวิชัย (พุทธศตวรรษที่ 12-18) ถึงกับมีผู้สันนิษฐานว่าเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัย นักประวัติศาสตร์บางท่านสันนิษฐานว่าเป็นที่ตั้งของราชวงศ์ไศเลนทร์ เมื่ออาณาจักรเสื่อมลงได้แยกเป็นเมืองคือ เมืองไชยา จนกระทั่งเมื่อ ร.ศ. 117 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแบ่งเขตการปกครองทั่วราชอาณาจักรใหม่ออกเป็นมณฑลไชยา เป็นเมืองขึ้นกับมณฑลชุมพร ต่อมาได้ลดฐานะเป็นอำเภอโดยมีเมืองเก่าตั้งอยู่ที่พุมเรียง และได้เปลี่ยนกลับมาเป็นอำเภอไชยา ในรัชกาลที่ 6 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2458 เป็นชุมชนตลาดตามถนนสายหลักซึ่งเป็นย่านธุรกิจหลัก 3 สาย คือถนนรักษ์นรกิจ ถนนวิชิตภักดี และถนนชวนะนันท์ ซึ่งเป็นถนนสายแรกเริ่มของเมืองไชยา มีเรือนแถวไม้ 2 ชั้นที่มีรูปแบบหลากหลาย มีความสัมพันธ์กับสถานีรถไฟเป็นชุมชนพาณิชยกรรมในเขตเมือง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ลีเล็ด ที่อยู่: ตำบลลีเล็ด อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ลีเล็ด เป็นชุมชนเกษตรกรรม และชุมชนริมน้ำ ในสมัยที่มีหัวเมืองไชยาเป็นศูนย์กลางการปกครอง ขึ้นตรงกับกรุงศรีอยุธยา (ก่อน พ.ศ. 2439) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ (ร. 5) ทรงเสด็จไปบ้านดอน (ทางเรือ) แล้วเจอกับพายุฝน จึงทรงเสด็จไปตามคลองสายนี้ ทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นคลองลัด จึงเรียกชื่อคลองสายนี้ว่า "คลองลัด" พื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม และบางส่วนติดกับทะเลมีน้ำเค็มท่วมถึง ชายฝั่งมีสภาพเป็นป่าชายเลนขนาดใหญ่ มีแม่น้ำเล็กๆ เชื่อมออกสู่ทะเลหลายสาย สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่มีบ้านเรือนเบาบาง มีการอยู่อาศัยตามริมแม่น้ำแต่ละสายตามถิ่นฐานเดิมจากอดีต บ้านเรือนส่วนมากเป็นเรือนไม้ยกพื้นสูง เพราะเป็นพื้นที่น้ำท่วมถึง และมีท่าเทียบเรือเป็นของตัวเอง ชาวบ้านในคลองลัด ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา จึงมีชาวจีนล่องเรือมารับซื้อข้าวอยู่เป็นประจำ ชาวจีนเรียก คลองลัดเพี้ยนไปเป็น คลองเล็ด แต่เดิมชาวบ้านมีอาชีพทำนากับสวน ต่อมาเริ่มหันมาทำประมงพื้นบ้าน หรือนากุ้ง กับสวนมะพร้าว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันมีการส่งเสริมให้พื้นที่มีการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีการตั้งศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนและส่งเสริมศิลปะพื้นบ้าน เช่น ลิเกป่า หรือวัฒนธรรมการประมงต่าง ๆ ของชุมชน
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }
ย่านชุมชนเก่า: ท่าข้าม ที่อยู่: ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ ลักษณะสำคัญ: ท่าข้าม เป็นชุมชนตลาด ชุมชนความทรงจำ และชุมชนรอบทางรถไฟ ในอดีตท่าข้ามเป็นท่าเรือริมแม่น้ำตาปีสำหรับข้ามแม่น้ำ เป็นที่ตั้งด่านชายแดนสำหรับตรวจผู้คนและเก็บภาษีอากร และมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำตาปี ปัจจุบันคือ สะพานจุลจอมเกล้า " ท่าข้าม" เป็นชื่อเรียกอำเภอพุนพินเป็นเวลา 31 ปี คือระหว่างปี พ.ศ. 2473-2504 ท่าข้ามเคยมีความสำคัญในฐานะชุมทางและจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ นอกจากจะเป็นท่าเรือสำหรับข้ามแม่น้ำตาปีแล้ว ยังเป็นสถานที่สำคัญในการเดินทางติดต่อผ่านแม่น้ำตาปี ทั้งการเดินทางไปยังคีรีรัฐนิคม พนม ตะกั่วป่า พังงา และภูเก็ต หรือไปตามลำน้ำตาปี ลักษณะพื้นที่ตอนใต้เป็นที่สูง ตอนเหนือเป็นที่ราบตั้งอยู่ริมแม่น้ำตาปี เป็นอาคารเรือนแถวไม้ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย เกษตรกรรม และรับจ้าง
{ "domain": "articles", "license": "CC BY", "source": "https://data.go.th/th/dataset/gdpublish-http-ocd-onep-go-th", "title": "Thai old community area" }