sysid
stringlengths 1
6
| title
stringlengths 8
870
| txt
stringlengths 0
257k
|
---|---|---|
697325 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 20
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒๐[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๐ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๐ วงเงิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ (LB196A) อายุ ๑๐.๐๕ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๘๑,๙๙๔ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๕.๗๓ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๗๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๓ มิถุนายน และ ๑๓ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๐ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยจ่ายรับล่วงหน้า
(บาท)
๑๘ กันยายน ๒๕๕๖
๑๕,๐๐๐
๓.๘๗๕๐
๑๕,๑๕๖,๑๕๙,๙๐๘.๙๐
-๑,๔๙๔,๑๔๑.๑๐
๑๕๗,๖๕๔,๐๕๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล
คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๖ พฤศจิกายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๔๘ ง/หน้า ๒๗/๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ |
697323 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 16
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๖[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖ วงเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙ (LB616A) อายุ ๕๐.๓๒ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๘๒,๒๐๕ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๔๗.๙๖ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๗ มิถุนายน ๒๖๐๔ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๘๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์
และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่
สหกรณ์ออมทรัพย์
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ ๒ ดำเนินการเมื่อวันที่
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖ จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท และวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยจ่ายรับล่วงหน้า
(บาท)
๑๐ กรกฎาคม
๒๕๕๖
๕,๐๐๐
๔.๖๘๗๗
๕,๑๗๐,๔๗๐,๒๗๓.๕๐
๑๕๓,๘๖๐,๖๗๓.๕๐
๑๖,๖๐๙,๖๐๐.๐๐
๒๘ สิงหาคม
๒๕๕๖
๕,๐๐๐
๔.๘๓๒๖
๕,๐๖๔,๖๕๒,๘๗๑.๐๐
๑๕,๔๘๘,๔๗๑.๐๐
๔๙,๑๖๔,๔๐๐.๐๐
รวม
๑๐,๐๐๐
๔.๗๖๐๔
๑๐,๒๓๕,๑๒๓,๑๔๔.๕๐
๑๖๙,๓๔๙,๑๔๔.๕๐
๖๕,๗๗๔,๐๐๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๖ พฤศจิกายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๔๘ ง/หน้า ๒๕/๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ |
696769 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงินด้วยวิธีการออกตั๋วเงินคลังในเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการกู้เงินด้วยวิธีการออกตั๋วเงินคลังในเดือนกันยายน
พ.ศ. ๒๕๕๖[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกตั๋วเงินคลังในเดือนกันยายน
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ออกจำหน่ายตั๋วเงินคลังในเดือนกันยายน
๒๕๕๖ วงเงินรวม ๑๐๒,๑๓๕ ล้านบาท โดยมีวิธีการจัดจำหน่ายตั๋วเงินคลัง
ดังนี้
๑.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลัง
ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ และสำนักงานประกันสังคม
๑.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลัง
๒. ผลการประมูลตั๋วเงินคลัง ในเดือนกันยายน
พ.ศ. ๒๕๕๖ วงเงินรวม ๑๐๒,๑๓๕ ล้านบาท ได้รับเงินจำนวน
๑๐๑,๙๔๙,๑๖๐,๐๓๓.๓๙ บาท โดยมีส่วนลดจำนวน
๑๘๕,๘๓๙,๙๖๖.๖๑ บาท
งวดที่
วันที่ลง
ในตั๋วเงินคลัง
วันที่ครบกำหนด
อายุ
(วัน)
จำนวน
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย
ที่ประมูลได้
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงินที่ประมูลได้
(บาท)
ส่วนลด
(บาท)
๑/๒๗/๕๖
๕
กันยายน ๒๕๕๖
๒
ตุลาคม ๒๕๕๖
๒๗
๒๗,๑๓๕
๒.๔๔๔๖๔
๒๗,๐๘๖,๐๑๘,๖๑๓.๘๓
๔๘,๙๘๑,๓๘๖.๑๗
๒/๒๗/๕๖
๑๒
กันยายน ๒๕๕๖
๙
ตุลาคม ๒๕๕๖
๒๗
๒๕,๐๐๐
๒.๔๔๒๖๖
๒๔,๙๕๔,๙๐๙,๑๐๖.๐๓
๔๕,๐๙๐,๘๙๓.๙๗
๓/๒๗/๕๖
๑๙
กันยายน ๒๕๕๖
๑๖
ตุลาคม ๒๕๕๖
๒๗
๒๕,๐๐๐
๒.๔๔๒๐๑
๒๔,๙๕๔,๙๒๑,๐๐๑.๕๑
๔๕,๐๗๘,๙๙๘.๔๙
๔/๒๘/๕๖
๒๖
กันยายน ๒๕๕๖
๒๔
ตุลาคม ๒๕๕๖
๒๘
๒๕,๐๐๐
๒.๔๓๙๐๔
๒๔,๙๕๓,๓๑๑,๓๑๒.๐๒
๔๖,๖๘๘,๖๘๗.๙๘
รวม
๑๐๒,๑๓๕
๒.๔๔๒๑๔
๑๐๑,๙๔๙,๑๖๐,๐๓๓.๓๙
๑๘๕,๘๓๙,๙๖๖.๖๑
๓. ธนาคารแห่งประเทศไทยคิดค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับตั๋วเงินคลังร้อยละ
๐.๐๑ ของจำนวนตั๋วเงินคลังที่จำหน่ายได้
๔. ในการกู้เงินโดยการออกตั๋วเงินคลังของกระทรวงการคลังเป็นการกู้เงินในรูปเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรักษาระดับเงินคงคลังให้เพียงพอกับการใช้จ่ายของรัฐบาล
โดยการกู้เงินในขณะหนึ่ง ๆ จะต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนด
เว้นแต่จะมีการลดวงเงินหรือเพิ่มวงเงินตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.
๒๕๔๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๕๑ โดย ณ ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
มีวงเงินตั๋วเงินคลังเพื่อใช้ในการบริหารเงินสดรับ - เงินสดจ่ายของรัฐบาลจำนวน ๑๐๒,๑๓๕ ล้านบาท ซึ่งวงเงินดังกล่าวแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนที่ ๑ เป็นวงเงินที่ได้ขออนุมัติเพิ่มเติมในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อนำมาใช้ในการบริหารเงินสดของรัฐบาลจำนวน ๘๐,๐๐๐
ล้านบาท และส่วนที่ ๒
เป็นวงเงินที่เกิดจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณในปีที่ผ่านมาจำนวน ๒๒,๑๓๕ ล้านบาท
ประกาศ
ณ วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๖
จุฑามาศ/ผู้ตรวจ
๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๔๑ ง/หน้า ๑๓/๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ |
696528 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 4 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔[๑]
ตามประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ ลงวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๖
ได้กำหนดการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ วงเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นล้านบาทถ้วน)
ในวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open)
พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ (ILB283A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๕๕,๐๐๐ ล้านบาท
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรุ่นนี้เพิ่มขึ้นเป็น ๖๕,๐๐๐
ล้านบาท นั้น
กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
ในการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๖
ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตร ทำให้พันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้ยังคงมียอดคงค้างจำนวน
๕๕,๐๐๐ ล้านบาท (ห้าหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน)
ประกาศ ณ วันที่ ๑๙
กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
รักษาราชการแทน
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๓๗ ง/หน้า ๔๔/๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๖ |
696396 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายตั๋วเงินคลังในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายตั๋วเงินคลังในเดือนตุลาคม
พ.ศ. ๒๕๕๖[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา
๑๐ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอนและการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๑
จะดำเนินการออกจำหน่ายตั๋วเงินคลังตามวงเงินและรายละเอียดในตารางกำหนดการจำหน่ายตั๋วเงินคลัง
ประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท. นว.(ว) ๑๐๘๖/๒๕๓๘
เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ
๑ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายตั๋วเงินคลังให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒)
จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่ มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ
๒ การจำหน่ายตั๋วเงินคลังผู้ประสงค์จะซื้อตั๋วเงินคลังจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding)
ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๔ ตำแหน่ง) และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า
๑๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้านโดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒)
ผู้ประสงค์จะซื้อตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า ๔ ล้านบาท ต่อ MOF Outright PD ๑ ราย
แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท และไม่มีเศษของหลักล้าน
และ MOF Outright PD
ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อตั๋วเงินคลังจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ
๓ กระทรวงการคลังจะจัดสรรตั๋วเงินคลัง
ดังนี้
(๑)
ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรตั๋วเงินคลังให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรตั๋วเงินคลังให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒)
ในการเสนอซื้อ กระทรวงการคลังจะจัดสรรตั๋วเงินคลังให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ
๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลตั๋วเงินคลังรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน
MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน
๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ
๔ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังจะต้องชำระราคาภายในเวลา
๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD
ที่เสนอซื้อแทนภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยMOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าตั๋วเงินคลังที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ
๕ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังได้ชำ
ระราคาตามข้อ ๔ แล้ว
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากตั๋วเงินคลังเข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังที่บริษัท
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ
๖ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังไม่ชำระราคาค่าตั๋วเงินคลังภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ
๗ ตั๋วเงินคลังตามข้อ ๑
มีราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย หน่วยละหนึ่งพันบาท โดยมีดอกเบี้ยเป็นส่วนลด
และใช้เงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อครบกำหนดอายุนับแต่วันที่ลงในตั๋วเงินคลัง หากวันครบกำหนดอายุตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ทั้งนี้
ในกรณีที่มีการออกใบตั๋วเงินคลัง
ผู้ถือกรรมสิทธิ์จะต้องส่งคืนใบตั๋วเงินคลังถึงธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนวันครบกำหนดอายุไถ่ถอนอย่างน้อย
๑ วัน และธนาคารแห่งประเทศไทยจะใช้เงินให้เมื่อได้รับใบตั๋วเงินคลังแล้ว
ข้อ
๘ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินตั๋วเงินคลังและจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้
ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ
๙ ให้บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากตั๋วเงินคลังประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ
๑๐ ค่าธรรมเนียมจัดการตั๋วเงินคลังอัตราร้อยละ
๐.๐๑ ของวงเงินตั๋วเงินคลังที่จำหน่ายได้
ข้อ
๑๑ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำตั๋วเงินคลังให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ
๑๒ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากตั๋วเงินคลัง
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ
๑๓ กรณีที่มีการออกตั๋วเงินคลัง
มิให้ถือว่าตั๋วเงินคลังฉบับใดสมบูรณ์
เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในตั๋วเงินคลังฉบับนั้นแล้ว
ข้อ
๑๔ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑)
ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรตั๋วเงินคลังให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายตั๋วเงินคลังไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ ณ วันที่ ๒๔
กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖
จุฬารัตน์ สุธีธร
ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑.
ตารางกำหนดการจำหน่ายตั๋วเงินคลัง ประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
๒.
แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๓.
แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๓๖ ง/หน้า ๑๗/๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๖ |
692226 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 4 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ วงเงิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ (LBA37DA) อายุ
๒๕ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๔,๐๐๐
ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๒๔.๓๔ ปี
โดยจะทยอยชำระคืนเงินต้นงวดแรกเมื่อพันธบัตรมีอายุครบ ๒๑ ปี
โดยจะแบ่งการชำระคืนเงินต้นเป็นจำนวนห้างวด งวดละเท่า ๆ กัน เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๗๖ และชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๘๐ หากวันที่ชำระคืนเงินต้นตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๒๖ ต่อปี
จ่ายดอกเบี้ยปีละ ๒ งวด คือ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายน และ ๑๒ ธันวาคม ของทุกปี
หากวันจ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป และจะไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
เว้นแต่ปีที่เริ่มทยอยชำระคืนเงินต้นจนถึงวันจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้าย
จะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยจ่ายรับล่วงหน้า
(บาท)
๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๖
๘,๐๐๐
๔.๔๘๓๑
๗,๘๑๓,๓๙๒,๓๙๓.๐๐
-๒๔๗,๒๙๘,๐๐๗.๐๐
๖๐,๖๙๐,๔๐๐.๐๐
หมายเหตุ : วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๖ กันยายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๘ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๑๖ ง/หน้า ๑๗/๑๒ กันยายน ๒๕๕๖ |
692224 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 19
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๙[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙ วงเงิน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔ (LB21DA) อายุ ๑๑.๐๘ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๘๑,๑๑๐ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๘.๓๔ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๖๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์
และสำนักงานประกันสังคม
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยจ่ายรับล่วงหน้า
(บาท)
๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๖
๑๒,๐๐๐
๓.๘๗๗๕
๑๑,๘๗๘,๐๕๕,๒๒๙.๑๔
-๑๙๓,๙๔๔,๗๗๐.๘๖
๗๒,๐๐๐,๐๐๐.๐๐
หมายเหตุ : วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๖ กันยายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๘ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๑๖ ง/หน้า ๑๕/๑๒ กันยายน ๒๕๕๖ |
692222 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 18
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๘[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘ วงเงิน ๓,๐๗๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓ (LB27DA) อายุ ๑๕.๘๐ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๗๐,๗๘๐ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๑๔.๓๘ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๗๐ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๕๘ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ สำนักงานประกันสังคม และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่
สหกรณ์ออมทรัพย์
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยจ่ายรับล่วงหน้า
(บาท)
๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
๓,๐๗๐
๔.๒๖๖๔
๒,๘๕๘,๙๐๖,๒๗๑.๔๐
-๒๒๔,๙๔๔,๘๙๓.๒๐
๑๓,๘๕๑,๑๖๔.๖๐
หมายเหตุ : วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๖ กันยายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๘ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๑๖ ง/หน้า ๑๓/๑๒ กันยายน ๒๕๕๖ |
692220 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 17
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๗[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗ วงเงิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้
(พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่
๑ (LB326A) อายุ ๒๐.๔๒ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๘,๕๘๑ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๑๘.๙๕ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๗๕
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๗๗๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๒๕ มิถุนายน และ ๒๕ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์
สำนักงานประกันสังคม และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่
สหกรณ์ออมทรัพย์
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยจ่ายรับล่วงหน้า
(บาท)
๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๔.๓๒๕๒
๕,๕๙๐,๖๕๖,๙๕๗.๒๕
-๔๒๔,๒๓๖,๑๘๒.๗๕
๑๔,๘๙๓,๑๔๐.๐๐
หมายเหตุ : วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๖ กันยายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๘ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๑๖ ง/หน้า ๑๑/๑๒ กันยายน ๒๕๕๖ |
692218 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 11 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๑[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑
เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ วงเงิน ๔,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ (LB416A) อายุ ๓๐.๖๕ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๙๐,๙๓๖ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๒๗.๘๘ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๘๔
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๔ มิถุนายน และ ๑๔ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ บริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
๔,๐๐๐
๔.๕๓๗๐
๓,๕๕๖,๓๘๖,๕๒๐.๐๐
-๔๖๔,๐๑๘,๙๖๐.๐๐
๒๐,๔๐๕,๔๘๐.๐๐
หมายเหตุ : วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๖ กันยายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๘ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๑๖ ง/หน้า ๙/๑๒ กันยายน ๒๕๕๖ |
692216 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 10 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๐[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐
เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ วงเงิน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ (LB196A) อายุ ๑๐.๐๕ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๖๖,๙๙๔ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๕.๘๘ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๗๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๓ มิถุนายน และ ๑๓ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
และบริษัทหลักทรัพย์
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ซึ่งผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่
สหกรณ์ออมทรัพย์
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖
๑๒,๐๐๐
๓.๕๑๘๑
๑๒,๒๗๙,๕๙๗,๖๖๘.๕๐
๒๒๔,๘๑๖,๘๒๘.๕๐
๕๔,๗๘๐,๘๔๐.๐๐
หมายเหตุ : วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๖ กันยายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๘ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๑๖ ง/หน้า ๗/๑๒ กันยายน ๒๕๕๖ |
691797 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ครั้งที่ 3) ให้กับธนาคารออมสิน วันที่ 2 กันยายน 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓
(ครั้งที่ ๓)
ให้กับธนาคารออมสิน วันที่
๒ กันยายน ๒๕๕๖[๑]
ตามที่กระทรวงการคลังได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา
๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓
(ครั้งที่ ๓) ให้กับธนาคารออมสิน ลงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท
แบ่งเป็น ๓ วงเงิน คือ ๓,๕๐๐ ล้านบาท ๓,๕๐๐ ล้านบาท และ ๓,๐๐๐ ล้านบาท อายุ ๗ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๔๒ ต่อปี ร้อยละ ๑.๔๓ ต่อปี และร้อยละ ๑.๔๔ ต่อปี ตามลำดับ
ซึ่งตามข้อ ๔ วรรคสอง ของประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
กระทรวงการคลังจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในวันที่ ๒ มีนาคม และวันที่ ๒ กันยายน
ของทุกปีโดยคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยอัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน
ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) ๔ แห่ง บวกร้อยละ ๐.๗๒ ต่อปี ร้อยละ ๐.๗๓ ต่อปี และร้อยละ ๐.๗๔ ต่อปี
ตามลำดับ และเมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๖
ได้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๓) ให้กับธนาคารออมสินเป็นร้อยละ ๒.๗๗๐ ต่อปี ร้อยละ ๒.๗๘๐
ต่อปี และร้อยละ ๒.๗๙๐ ต่อปี ตามลำดับ นั้น
เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ดังกล่าว
จึงเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๓) ให้กับธนาคารออมสินจากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๒.๗๗๐ ต่อปี ร้อยละ
๒.๗๘๐ ต่อปี และร้อยละ ๒.๗๙๐ ต่อปี เป็นร้อยละ ๒.๗๐๘ ต่อปี ร้อยละ ๒.๗๑๘ ต่อปี
และร้อยละ ๒.๗๒๘ ต่อปี ตามลำดับ
ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๗
สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๐ กันยายน ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๗ กันยายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๑๒ ง/หน้า ๔/๓ กันยายน ๒๕๕๖ |
691361 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายตั๋วเงินคลังในเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายตั๋วเงินคลังในเดือนกันยายน
พ.ศ. ๒๕๕๖[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลัง
จะออกจำหน่ายตั๋วเงินคลังตามวงเงินและรายละเอียดในตารางกำหนดการจำหน่ายตั๋วเงินคลัง
ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท. นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายตั๋วเงินคลังให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์
ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคล เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ
วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ
โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๒ การจำหน่ายตั๋วเงินคลังผู้ประสงค์จะซื้อตั๋วเงินคลังจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑) ผู้ประสงค์จะซื้อตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๔ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้านโดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง ให้ผู้ประสงค์จะซื้อตั๋วเงินคลังจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะจัดสรรตั๋วเงินคลัง
ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรตั๋วเงินคลังให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรตั๋วเงินคลังให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรตั๋วเงินคลังให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลตั๋วเงินคลังรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อนกรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ
๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๔ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังจะต้องชำระราคาภายในเวลา
๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าตั๋วเงินคลังที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายตั๋วเงินคลังโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๕ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังได้ชำระราคาตามข้อ
๔ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากตั๋วเงินคลังเข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๖ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังไม่ชำระราคาค่าตั๋วเงินคลังภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรตั๋วเงินคลังผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๗ ตั๋วเงินคลังตามข้อ ๑
มีราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย หน่วยละหนึ่งพันบาท โดยมีดอกเบี้ยเป็นส่วนลด
และใช้เงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อครบกำหนดอายุนับแต่วันที่ลงในตั๋วเงินคลัง หากวันครบกำหนดอายุตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการออกใบตั๋วเงินคลัง ผู้ถือกรรมสิทธิ์จะต้องส่งคืนใบตั๋วเงินคลังถึงธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนวันครบกำหนดอายุไถ่ถอนอย่างน้อย
๑ วัน และธนาคารแห่งประเทศไทยจะใช้เงินให้เมื่อได้รับใบตั๋วเงินคลังแล้ว
ข้อ ๘ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินตั๋วเงินคลังและจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้
ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๙ ให้ บริษัท
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
เป็นผู้รับฝากตั๋วเงินคลังประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๐ ค่าธรรมเนียมจัดการตั๋วเงินคลังอัตราร้อยละ
๐.๐๑ ของวงเงินตั๋วเงินคลังที่จำหน่ายได้
ข้อ ๑๑ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำตั๋วเงินคลังให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ
บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๒ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากตั๋วเงินคลัง
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๓ กรณีที่มีการออกตั๋วเงินคลัง
มิให้ถือว่าตั๋วเงินคลังฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในตั๋วเงินคลังฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๔ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร
(๒) กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรตั๋วเงินคลังให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายตั๋วเงินคลังไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
จุฬารัตน์
สุธีธร
ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. ตารางกำหนดการจำหน่ายตั๋วเงินคลัง ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖
๒. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๓. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓ กันยายน ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๐ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๐๘ ง/หน้า ๓๑/๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ |
691359 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 4 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก
การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง และปรับด้วย Index Ratio ณ วันที่ชำระเงิน
ตามที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ (ILB283A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๕๕,๐๐๐ ล้านบาท
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๕,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนแท้จริงร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนแท้จริงต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนแท้จริงเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ
๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนแท้จริงที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงโดย
MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา
๑๐.๐๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลประเภท
อัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการ
เปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔ (ILB283A)
อายุคงเหลือ ๑๔.๕๐ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๒๕ ต่อปี
จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท
๑๑ ก.ย. ๒๕๕๖
๑๐,๐๐๐
๑๓ ก.ย. ๒๕๕๖
๑๒ ก.ย. ๒๕๕๖
๑๒ มี.ค. ๒๕๗๑
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๕,๐๐๐ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่
๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
๓. Index Ratio ณ วันที่ชำระเงินในวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๖ เท่ากับ ๑.๐๐๙๘๑
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรุ่นนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๑.๒๕ ต่อปี และมีส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนดอกเบี้ย และส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนต้นเงิน โดยมีวิธีการคำนวณดอกเบี้ยและส่วนชดเชย
ดังนี้
(๑) ดอกเบี้ยและส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนดอกเบี้ย = ต้นเงิน x อัตราดอกเบี้ย x Index Ratio x จำนวนวันตามจริง/๓๖๕
(๒) ส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนต้นเงิน (จ่าย ณ วันครบกำหนด) = ต้นเงิน x Index Ratio
หมายเหตุ กระทรวงการคลังจะประกาศ Index Ratio ประมาณ ๑ เดือน
ก่อนวันจ่ายดอกเบี้ยแต่ละงวดหรือก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน
การคำนวณดอกเบี้ยเริ่มคำนวณจากวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๖
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๗
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๒ มีนาคม และ ๑๒ กันยายน ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไปโดยไม่คำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
เว้นแต่การเลื่อนชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันไถ่ถอนจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๒ มีนาคม ๒๕๗๑ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคืนใบพันธบัตร
หรือตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งจาก บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์ฝากพันธบัตรไว้กับบริษัท
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓ กันยายน ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๐ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๐๘ ง/หน้า ๒๓/๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ |
691357 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 21 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒๑[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๑
จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท (ห้าพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ (LB416A) ซึ่งมียอดคงค้าง จำนวน ๙๐,๙๓๖ ล้านบาท
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๙๕,๙๓๖ ล้านบาท
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๑
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคล เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๑ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๑ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๑ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่
๒๑ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๑ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๑
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒๑ (LB416A)
อายุคงเหลือ ๒๗.๗๕ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐ ต่อปี
จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท
๑๘ ก.ย. ๒๕๕๖
๕,๐๐๐
๒๐ ก.ย. ๒๕๕๖
๑๔ มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๔ มิ.ย. ๒๕๘๔
หมายเหตุ :- ๑
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๙๕,๙๓๖ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๐ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖)
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๖ โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด
คือ วันที่ ๑๔ มิถุนายน และ ๑๔ ธันวาคม ของทุกปี สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
ณ วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๔ มิถุนายน ๒๕๘๔ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๕,๐๐๐ ล้านบาท (ห้าพันล้านบาทถ้วน)
(๒) กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓ กันยายน ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๐ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม
๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๐๘ ง/หน้า ๑๘/๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ |
691355 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 20 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒๐[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๐
จำนวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ (LB196A) ซึ่งมียอดคงค้าง จำนวน ๑๖๖,๙๙๔ ล้านบาท
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๘๑,๙๙๔ ล้านบาท
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๐
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่สถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคล เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๐
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๐ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ
๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๐ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒๐ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย นายทะเบียน
และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๐ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒๐
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒๐ (LB196A)
อายุคงเหลือ ๕.๗๓ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๗๕ ต่อปี
จำนวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท
๑๘ ก.ย. ๒๕๕๖
๑๕,๐๐๐
๒๐ ก.ย. ๒๕๕๖
๑๓ มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๒
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น
๑๘๑,๙๙๔ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๗๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด
คือ วันที่ ๑๓ มิถุนายน และ ๑๓ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓ กันยายน ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๐ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๐๘ ง/หน้า ๑๓/๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ |
691353 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 18 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๘[๑]
โดยที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘ ลงวันที่ ๑ กรกฎาคม
๒๕๕๖ วงเงิน ๖,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐
บาท (หกพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่
๓ (LB27DA) จำหน่ายได้จริง จำนวน ๓,๐๗๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(สามพันเจ็ดสิบล้านบาทถ้วน)
กระทรวงการคลังจึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า กระทรวงการคลังได้ปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘ จากจำนวน ๖,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หกพันล้านบาทถ้วน) เป็นจำนวน ๓,๐๗๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(สามพันเจ็ดสิบล้านบาทถ้วน) ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๗๐,๗๘๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(เจ็ดหมื่นเจ็ดร้อยแปดสิบล้านบาทถ้วน)
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓ กันยายน ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๐ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๐๘ ง/หน้า ๑๒/๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ |
691351 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ครั้งที่ 2) ให้กับธนาคารออมสิน วันที่ 18 สิงหาคม 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารออมสิน
วันที่ ๑๘
สิงหาคม ๒๕๕๖[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา
๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓
(ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารออมสิน ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท แบ่งเป็น ๒ วงเงิน วงเงินละ ๓,๐๐๐
ล้านบาท อายุ ๖ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๔๙ ต่อปี และ ๑.๕๐ ต่อปี ตามลำดับ
ซึ่งตามข้อ ๔ วรรคสอง ของประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
กระทรวงการคลังจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ และวันที่
๑๘ สิงหาคม ของทุกปี
โดยคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยอัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน
ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) ๔ แห่ง บวกร้อยละ ๐.๗๙ ต่อปี และ ๐.๘๐ ต่อปี ตามลำดับ และเมื่อวันที่ ๑๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ได้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารออมสินเป็นร้อยละ ๒.๘๔๐ ต่อปี และร้อยละ ๒.๘๕๐
ต่อปี ตามลำดับ
เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ดังกล่าว
จึงเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารออมสินจากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๒.๘๔๐ ต่อปี และร้อยละ
๒.๘๕๐ ต่อปี เป็นร้อยละ ๒.๗๗๘ ต่อปี และร้อยละ ๒.๗๘๘ ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๖
เป็นต้นไป
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓ กันยายน ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๐ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๐๘ ง/หน้า ๙/๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ |
691349 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ครั้งที่ 2) ให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) วันที่ 18 สิงหาคม 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
วันที่ ๑๘
สิงหาคม ๒๕๕๖[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา
๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓
(ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
จำนวน ๓,๐๐๐ ล้านบาท อายุ ๖ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๔๙
ต่อปี ซึ่งตามข้อ ๔ วรรคสอง ของประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
กระทรวงการคลังจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ และวันที่
๑๘ สิงหาคม ของทุกปี
โดยคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยอัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน
ประเภทบุคคลธรรมดาเฉลี่ย ๗ วัน ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) ๔ แห่ง บวกร้อยละ ๐.๗๙ ต่อปี และเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ได้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เป็นร้อยละ ๒.๘๔๐ ต่อปี
เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ดังกล่าว จึงเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
จากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๒.๘๔๐ ต่อปี เป็นร้อยละ ๒.๗๗๘ ต่อปี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๖
เป็นต้นไป
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓ กันยายน ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๐ กันยายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๐๘ ง/หน้า ๘/๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ |
690549 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ครั้งที่ 1) ให้กับธนาคารออมสิน วันที่ 4 สิงหาคม 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๑)
ให้กับธนาคารออมสิน
วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๖[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา
๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓
(ครั้งที่ ๑) ให้กับธนาคารออมสิน ลงวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท แบ่งเป็น ๒ วงเงิน วงเงินละ ๓,๐๐๐
ล้านบาท อายุ ๕ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๕๓ ต่อปี และ ๑.๕๔ ต่อปีตามลำดับ ทั้งนี้
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนกำหนดจากธนาคารออมสินในวันที่
๒๙ กันยายน ๒๕๕๔ จำนวน ๑,๓๐๐ ล้านบาท
ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนกำหนดจากธนาคารออมสิน
ลงวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๔
ทำให้มีต้นเงินกู้คงเหลือจากการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ดังกล่าว
จำนวน ๔,๗๐๐ ล้านบาท ซึ่งตามข้อ ๔ วรรคสอง ของประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
กระทรวงการคลังจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ และวันที่
๔ สิงหาคม ของทุกปี
โดยคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยอัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน
ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) ๔ แห่ง บวกร้อยละ ๐.๘๓ ต่อปี และ ๐.๘๔ ต่อปี ตามลำดับ และเมื่อวันที่ ๔
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ได้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๑) ให้กับธนาคารออมสินเป็นร้อยละ ๒.๘๘๐ ต่อปี และร้อยละ ๒.๘๙๐
ต่อปี ตามลำดับ
เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ดังกล่าว
จึงเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๑) ให้กับธนาคารออมสินจากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๒.๘๘๐ ต่อปี และร้อยละ
๒.๘๙๐ ต่อปี เป็นร้อยละ ๒.๘๑๘ ต่อปี และร้อยละ ๒.๘๒๘ ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๖
เป็นต้นไป
ประกาศ
ณ วันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
รักษาราชการแทน
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๔ สิงหาคม
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ สิงหาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๙๗ ง/หน้า ๕/๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ |
689999 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 3 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ วงเงิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ (LBA37DA) อายุ ๒๕ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๔๖,๐๐๐ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๒๔.๕๓ ปี
โดยจะทยอยชำระคืนเงินต้นงวดแรกเมื่อพันธบัตรมีอายุครบ ๒๑ ปี
โดยจะแบ่งการชำระคืนเงินต้นเป็นจำนวนห้างวด งวดละเท่า ๆ กัน เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๗๖ และชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๘๐
หากวันที่ชำระคืนเงินต้นตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๒๖ ต่อปี
จ่ายดอกเบี้ยปีละ ๒ งวด คือ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายน และ ๑๒ ธันวาคม ของทุกปี หากวันจ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
และจะไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
เว้นแต่ปีที่เริ่มทยอยชำระคืนเงินต้นจนถึงวันจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์
สำนักงานประกันสังคม และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตรา
ผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่ลงในพันธบัตร
จนถึงวันจ่ายดอกเบี้ยงวดแรก
(ปิดพักทะเบียน)
(บาท)
๕ มิถุนายน ๒๕๕๖
๘,๐๐๐
๔.๒๘๘๒
๗,๙๖๖,๕๖๑,๓๐๙.๖๐
-๒๘,๗๗๐,๒๑๐.๔๐
-๔,๖๖๘,๔๘๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๘ สิงหาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๙๑ ง/หน้า ๑๑/๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689997 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 15 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๕[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕ วงเงิน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔ (LB21DA) อายุ ๑๑.๐๘ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๖๙,๑๑๐ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๘.๕๓ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวน
ในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๖๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
และบริษัทหลักทรัพย์
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่
สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตรา
ผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่ลงในพันธบัตร
จนถึงวันจ่ายดอกเบี้ยงวดแรก
(ปิดพักทะเบียน)
(บาท)
๕ มิถุนายน ๒๕๕๖
๑๒,๐๐๐
๓.๕๔๔๐
๑๒,๐๘๑,๐๓๔,๕๗๘.๗๕
๙๓,๐๓๔,๕๗๘.๗๕
-๑๒,๐๐๐,๐๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระ และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๘ สิงหาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๙๑ ง/หน้า ๙/๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689995 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 13 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๓[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓ วงเงิน ๑๐,๗๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓ (LB27DA) อายุ ๑๕.๘๐ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๗,๗๑๐ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๑๔.๖๕ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๗๐ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๕๘ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ และสำนักงานประกันสังคม
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่
สหกรณ์ออมทรัพย์
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๖ จำนวน ๗,๐๐๐ ล้านบาท
และวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ จำนวน ๓,๗๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓
ดังนี้
วันที่
จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตรา
ผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๒๔ เมษายน ๒๕๕๖
๗,๐๐๐
๓.๕๒๐๓
๗,๑๓๖,๘๙๕,๘๘๑.๕๐
๔๗,๖๔๑,๑๒๑.๕๐
๘๙,๒๕๔,๗๖๐
๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๖
๓,๗๐๐
๔.๒๔๒๖
๓,๔๔๐,๖๖๗,๗๕๙
-๒๖๓,๓๒๔,๑๗๑
๓,๙๙๑,๙๓๐
รวม
๑๐,๗๐๐
๓.๗๗๒๔
๑๐,๕๗๗,๕๖๓,๖๔๐.๕๐
-๒๑๕,๖๘๓,๐๔๙.๕๐
๙๓,๒๔๖,๖๙๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๘ สิงหาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๙๑ ง/หน้า ๗/๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689959 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 11 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๑[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออกการซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขายและคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ จำนวน ๔,๐๐๐ ล้านบาท (สี่พันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ
(Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒
(LB416A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๘๖,๙๓๖ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๙๐,๙๓๖ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคล เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ นาฬิกา ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑
รุ่นพันธบัตร
วันที่
จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่
ชำระเงิน
วันเริ่ม
คำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบ
กำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๑ (LB416A)
อายุคงเหลือ ๒๗.๘๘ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐ ต่อปี
จำนวน ๔,๐๐๐ ล้านบาท
๓๑ ก.ค. ๒๕๕๖
๔,๐๐๐
๒ ส.ค. ๒๕๕๖
๑๔ มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๔ มิ.ย. ๒๕๘๔
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๙๐,๙๓๖ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๐ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖)
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๖ โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด
คือ วันที่ ๑๔ มิถุนายน และ ๑๔ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๔ มิถุนายน ๒๕๘๔ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๔,๐๐๐ ล้านบาท (สี่พันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๗ สิงหาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๙๐ ง/หน้า ๑๕/๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689957 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 10 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๐[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ จำนวน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท
(หนึ่งหมื่นสองพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ (LB196A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๑๕๔,๙๙๔ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๖๖,๙๙๔ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่สถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคล เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ นาฬิกา ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐
รุ่นพันธบัตร
วันที่
จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่
ชำระเงิน
วันเริ่ม
คำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบ
กำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๐ (LB196A)
อายุคงเหลือ ๕.๘๘ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๗๕ ต่อปี
จำนวน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท
๒๔ ก.ค. ๒๕๕๖
๑๒,๐๐๐
๒๖ ก.ค. ๒๕๕๖
๑๓ มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๒
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๖๖,๙๙๔ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๗๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด
คือ วันที่ ๑๓ มิถุนายน และ ๑๓ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นสองพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๗ สิงหาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๙๐ ง/หน้า ๑๐/๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689947 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินระยะสั้นเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ ฯ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 5 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินระยะสั้นเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ)
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๕[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ได้ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข
ดังต่อไปนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงินจำนวน
๓ แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย
จำกัด (มหาชน) วงเงินรวม ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท
(หนึ่งหมื่นหกพันล้านบาทถ้วน) โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ ๒.๗๑ ต่อปี เพื่อนำมาใช้ในการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖ (เนื่องจากวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖
ตรงกับวันหยุดทำการของสถาบันการเงิน
จึงเลื่อนการชำระคืนต้นเงินพันธบัตรรัฐบาลเป็นวันทำการถัดไป)
๒. เบิกเงินกู้ทั้งจำนวนในวันที่
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖
๓. อายุเงินกู้ไม่เกิน
๑ เดือน นับตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ (ครบกำหนดชำระวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๖)
๔. กรณีที่มีการชำระคืนหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
โดยจะชำระค่าดอกเบี้ยคงค้างของหนี้เงินต้นที่ชำระคืนก่อนกำหนดพร้อมกับการชำระหนี้เงินต้นก่อนกำหนดนั้นด้วย
หากวันครบกำหนดชำระหนี้ตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป
และจะคำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้ การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริงเศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
๕. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด
ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๗ สิงหาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๙๐ ง/หน้า ๙/๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689636 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 4 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามมาตรฐานการคำนวณราคาตราสารหนี้ประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
(Amortizing/Amortized Bond) ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย) โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง
ตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่
๔ จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
(แปดพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open)
พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ (LBA37DA) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๔๖,๐๐๐ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๔,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding)
ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ นาฬิกา ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า ๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย
แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท และไม่มีเศษของหลักล้าน
และ MOF Outright PD
ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD
ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐
ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD
ได้ยื่นประมูลก่อนกรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนโดย
MOF Outright PD
ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอย
ชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ
พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ (LBA37DA)
อายุคงเหลือ
๒๔.๓๔ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๔.๒๖ ต่อปี
จำนวน
๘,๐๐๐ ล้านบาท
๑๔ ส.ค. ๒๕๕๖
๘,๐๐๐
๑๖ ส.ค. ๒๕๕๖
๑๒ มิ.ย.
๒๕๕๖
๑๒ ธ.ค. ๒๕๘๐
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๔,๐๐๐ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๔.๒๖ ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยปีละ ๒ งวด คือ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายน และ ๑๒ ธันวาคม
ของทุกปี โดยเริ่มคำนวณดอกเบี้ยจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๒ มิถุนายน
๒๕๕๖) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๕๖ โดยจำนวนดอกเบี้ยในแต่ละงวดดอกเบี้ยจะถูกคำนวณโดยการนำจำนวนเงินต้นคงเหลือ
ณ ต้นงวดดอกเบี้ยของพันธบัตร ซึ่งผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรแต่ละรายมีอยู่
คูณด้วยอัตราดอกเบี้ย โดยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน
และนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ การคำนวณดอกเบี้ยหากมีเศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
หากวันจ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
และจะไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้ เว้นแต่ปีที่เริ่มทยอยชำระคืนเงินต้นจนถึงวันจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่
๑๒ ธันวาคม ๒๕๘๐ โดยจะทยอยชำระคืนเงินต้นงวดแรกเมื่อพันธบัตรมีอายุครบ ๒๑ ปี
โดยจะแบ่งการชำระคืนเงินต้นเป็นจำนวนห้างวดงวดละเท่า ๆ กันเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๗๖ และชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๘๐ หากวันที่ชำระคืนเงินต้นตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
การชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตร
จะกระทำได้ต่อเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคืนใบพันธบัตร หรือตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด
กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์ฝากพันธบัตรไว้กับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย)
จำกัด
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท (แปดพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใด
เป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๙ กรกฎาคม
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ สิงหาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๗ ง/หน้า ๔๐/๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689634 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 19 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๙[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙
จำนวน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นสองพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔ (LB21DA) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๑๖๙,๑๑๐ ล้านบาท
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๘๑,๑๑๐ ล้านบาท
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ นาฬิกา ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำ
หรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง (MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า ๔
ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD
ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD
ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐
ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD
ได้ยื่นประมูลก่อนกรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐
ล้านบาทจะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนโดย
MOF Outright PD
ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๙
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๙ (LB21DA)
อายุคงเหลือ
๘.๓๔ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๖๕ ต่อปี
จำนวน
๑๒,๐๐๐ ล้านบาท
๑๔ ส.ค. ๒๕๕๖
๑๒,๐๐๐
๑๖ ส.ค. ๒๕๕๖
๑๗ มิ.ย.
๒๕๕๖
๑๗ ธ.ค. ๒๕๖๔
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔
ครั้งที่ ๔ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๘๑,๑๑๐
ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๖๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖)
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
ณ วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นสองพันล้านบาทถ้วน)
(๒) กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใด
เป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๙ กรกฎาคม
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ สิงหาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๗ ง/หน้า ๓๔/๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689632 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 18 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๘[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘
จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓ (LB27DA) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๖๗,๗๑๐ ล้านบาท
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาล รุ่นนี้เป็น ๗๓,๗๑๐ ล้านบาท
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคล เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ นาฬิกา ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า ๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน
๑๐๐ ล้านบาท และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD
ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD
ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐
ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD
ได้ยื่นประมูลก่อนกรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐
ล้านบาทจะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนโดย
MOF Outright PD
ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนโดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๘
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๘ (LB27DA)
อายุคงเหลือ
๑๔.๓๘ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๕๘ ต่อปี
จำนวน
๖,๐๐๐ ล้านบาท
๓๑ ก.ค. ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๒ ส.ค. ๒๕๕๖
๑๗ มิ.ย.
๒๕๕๖
๑๗ ธ.ค. ๒๕๗๐
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕
ครั้งที่ ๓ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๗๓,๗๑๐
ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๕)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๕๘ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖)
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
ณ วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๗๐ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใด
เป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๙ กรกฎาคม
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ สิงหาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๗ ง/หน้า ๒๙/๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689629 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 17 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๗[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗
จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open)
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ
พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ (LB326A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๖๒,๕๘๑ ล้านบาท
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๘,๕๘๑ ล้านบาท
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคล เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ นาฬิกา ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำ
หรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง (MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า ๔
ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD
ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD
ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐
ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐
ล้านบาทจะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวัน งานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๗
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๗ (LB326A)
อายุคงเหลือ
๑๘.๙๕ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๗๗๕ ต่อปี
จำนวน
๖,๐๐๐ ล้านบาท
๑๗ ก.ค. ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๑๙ ก.ค. ๒๕๕๖
๒๕ มิ.ย.
๒๕๕๖
๒๕ มิ.ย.
๒๕๗๕
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้
(พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕
ครั้งที่ ๑ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๘,๕๘๑
ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๕)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๗๗๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด
(วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๒๕ มิถุนายน และ ๒๕ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๒๕ มิถุนายน ๒๕๗๕ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใด เป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓) ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๙ กรกฎาคม
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ สิงหาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๗ ง/หน้า ๒๔/๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689627 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 16 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๖[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖
จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙ (LB616A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๗๒,๒๐๕ ล้านบาท
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๘๒,๒๐๕ ล้านบาท
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ นาฬิกา ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า ๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน
๑๐๐ ล้านบาท และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD
ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD
ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐
ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD
ได้ยื่นประมูลก่อน กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท
จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๖
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๖ (LB616A)
อายุคงเหลือ
๔๗.๙๖ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๔.๘๕ ต่อปี
จำนวน
๑๐,๐๐๐ ล้านบาท
๑๐ ก.ค. ๒๕๕๖
๒๘ ส.ค. ๒๕๕๖
๕,๐๐๐
๕,๐๐๐
๑๒ ก.ค. ๒๕๕๖
๓๐ ส.ค. ๒๕๕๖
๑๗ มิ.ย.
๒๕๕๖
๑๗ มิ.ย.
๒๕๕๖
๑๗ มิ.ย.
๒๖๐๔
๑๗ มิ.ย.
๒๖๐๔
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔
ครั้งที่ ๙ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๘๒,๒๐๕
ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๔)
๒. ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๔.๘๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๗ มิถุนายน ๒๖๐๔ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓) ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๙ กรกฎาคม
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ สิงหาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๗ ง/หน้า ๑๙/๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689455 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 13 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๓[๑]
โดยที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓ ลงวันที่ ๓ เมษายน
๒๕๕๖ วงเงิน ๑๕,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐
บาท (หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓ (LB27DA) จำหน่ายได้จริงจำนวน ๑๐,๗๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นเจ็ดร้อยล้านบาทถ้วน)
กระทรวงการคลังจึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๓ จากจำนวน ๑๕,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐
บาท (หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน) เป็นจำนวน ๑๐,๗๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นเจ็ดร้อยล้านบาทถ้วน) ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น
๖๗,๗๑๐,๐๐๐,๐๐๐
บาท (หกหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยสิบล้านบาทถ้วน)
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๖ ง/หน้า ๒๙/๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689453 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 6
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๖[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกอบกับมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ จึงได้ดำเนินการกู้เงิน โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ให้กู้ :
ธนาคารออมสิน
๒. วัตถุประสงค์ในการกู้ :
เพื่อนำมาใช้ในโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
๓. รายละเอียดเงื่อนไข
:
๓.๑ วงเงินกู้ : ๕๖,๔๓๗.๐๐ ล้านบาท
(ห้าหมื่นหกพันสี่ร้อยสามสิบเจ็ดล้านบาทถ้วน)
๓.๒ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
(อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน
ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย)
บวกด้วย Spread โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุกงวด ๖ เดือน
หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
โดยดอกเบี้ยงวดแรกมีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงบวก Spread เฉลี่ย ร้อยละ ๑.๘๙๑ ต่อปี
๓.๓ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐
ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ โดยจะเบิกที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดก่อน
โดยจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
๓.๔ การชำระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ ทุกงวด ๖ เดือน
ในวันที่ ๑ เมษายน และวันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี โดยจะชำระดอกเบี้ยงวดแรก ในวันที่
๑ เมษายน ๒๕๖๑ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายพร้อมต้นเงินกู้ ณ วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้
การชำระดอกเบี้ยงวดแรก กระทรวงการคลังจะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ตั้งแต่วันที่ ๒๔-๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ เป็นฐานในการคำนวณ
สำหรับอัตราดอกเบี้ยในงวดต่อ ๆ ไป จะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง เฉลี่ย ๗ วัน ก่อน ๒
วันทำการ ก่อนวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยเพื่อใช้คำนวณดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา ๖ เดือน
ถัดมา
๓.๕ การชำระต้นเงิน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวน ณ
วันสิ้นสุดสัญญากู้ยืมเงิน คือ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔
๓.๖ การชำระหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนโดยจะทยอยคืนหนี้เงินกู้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน
ทั้งนี้
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑ เดือน
๓.๗
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป
โดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้
๓.๘ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๖ ง/หน้า ๒๗/๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689451 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 5
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๕[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกอบกับมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ จึงได้ดำเนินการกู้เงิน โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ให้กู้ :
ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
๒. วัตถุประสงค์ในการกู้ :
เพื่อนำมาใช้ในโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
๓. รายละเอียดเงื่อนไข
:
๓.๑ วงเงินกู้ : ๖๓,๒๓๗.๐๐ ล้านบาท
(หกหมื่นสามพันสองร้อยสามสิบเจ็ดล้านบาทถ้วน)
๓.๒ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
(อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน
ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย)
บวกด้วย Spread โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุกงวด ๖ เดือน
หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง โดยดอกเบี้ยงวดแรกมีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงบวก
Spread เฉลี่ย ร้อยละ ๑.๘๗๓ ต่อปี
๓.๓ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙
ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ โดยจะเบิกที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดก่อน
โดยจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
๓.๔ การชำระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ ทุกงวด ๖ เดือน
ในวันที่ ๑ เมษายน และวันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี โดยจะชำระดอกเบี้ยงวดแรก ในวันที่
๑ เมษายน ๒๕๖๐ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายพร้อมต้นเงินกู้ ณ วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้
การชำระดอกเบี้ยงวดแรก กระทรวงการคลังจะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ตั้งแต่วันที่ ๒๔-๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ เป็นฐานในการคำนวณ
สำหรับอัตราดอกเบี้ยในงวดต่อ ๆ ไป จะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง เฉลี่ย ๗ วัน ก่อน ๒
วันทำการ ก่อนวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยเพื่อใช้คำนวณดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา ๖ เดือน
ถัดมา
๓.๕ การชำระต้นเงิน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวน ณ
วันสิ้นสุดสัญญากู้ยืมเงิน คือ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓
๓.๖ การชำระหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนโดยจะทยอยคืนหนี้เงินกู้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน
ทั้งนี้
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑ เดือน
๓.๗
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป โดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้
๓.๘ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๖ ง/หน้า ๒๕/๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689449 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 4
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกอบกับมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ จึงได้ดำเนินการกู้เงิน โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ให้กู้ :
ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
๒. วัตถุประสงค์ในการกู้ :
เพื่อนำมาใช้ในโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
๓. รายละเอียดเงื่อนไข
:
๓.๑ วงเงินกู้ : ๗๒,๐๑๗.๐๐ ล้านบาท
(เจ็ดหมื่นสองพันสิบเจ็ดล้านบาทถ้วน)
๓.๒ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
(อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน
ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย)
บวกด้วย Spread โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุกงวด ๖ เดือน
หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง โดยดอกเบี้ยงวดแรกมีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงบวก
Spread เฉลี่ย ร้อยละ ๑.๘๗๙ ต่อปี
๓.๓ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘
ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ โดยจะเบิกที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดก่อน
โดยจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
๓.๔ การชำระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ ทุกงวด ๖ เดือน
ในวันที่ ๑ เมษายน และวันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี โดยจะชำระดอกเบี้ยงวดแรก ในวันที่
๑ เมษายน ๒๕๕๙ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายพร้อมต้นเงินกู้ ณ วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้
การชำระดอกเบี้ยงวดแรก กระทรวงการคลังจะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ตั้งแต่วันที่ ๒๔ - ๓๐ กันยายน
๒๕๕๘ เป็นฐานในการคำนวณ สำหรับอัตราดอกเบี้ยในงวดต่อ ๆ ไป จะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ก่อน ๒ วันทำการ ก่อนวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยเพื่อใช้คำนวณดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา
๖ เดือน ถัดมา
๓.๕ การชำระต้นเงิน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวน ณ
วันสิ้นสุดสัญญากู้ยืมเงิน คือ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒
๓.๖ การชำระหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนโดยจะทยอยคืนหนี้เงินกู้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน
ทั้งนี้
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑ เดือน
๓.๗
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป โดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้
๓.๘ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๖ ง/หน้า ๒๓/๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689436 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 3
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกอบกับมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ จึงได้ดำเนินการกู้เงิน โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ให้กู้ :
ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย
จำกัด (มหาชน)
๒. วัตถุประสงค์ในการกู้ :
เพื่อนำมาใช้ในโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
๓. รายละเอียดเงื่อนไข
:
๓.๑ วงเงินกู้ : ๑๐๑,๐๖๗.๐๐ ล้านบาท
(หนึ่งแสนหนึ่งพันหกสิบเจ็ดล้านบาทถ้วน)
๓.๒ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
(อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน
ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย)
บวกด้วย Spread โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุกงวด ๖ เดือน
หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
โดยดอกเบี้ยงวดแรกมีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงบวก Spread เฉลี่ย ร้อยละ ๑.๘๗๔ ต่อปี
๓.๓ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗
ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ โดยจะเบิกที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดก่อน
โดยจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
๓.๔ การชำระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ ทุกงวด ๖ เดือน
ในวันที่ ๑ เมษายน และวันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี โดยจะชำระดอกเบี้ยงวดแรก ในวันที่
๑ เมษายน ๒๕๕๘ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายพร้อมต้นเงินกู้ ณ วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้
การชำระดอกเบี้ยงวดแรก กระทรวงการคลังจะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ตั้งแต่วันที่ ๒๔ - ๓๐ กันยายน
๒๕๕๗ เป็นฐานในการคำนวณ สำหรับอัตราดอกเบี้ยในงวดต่อ ๆ ไป จะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ก่อน ๒ วันทำการ
ก่อนวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยเพื่อใช้คำนวณดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา ๖ เดือน ถัดมา
๓.๕ การชำระต้นเงิน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวน ณ
วันสิ้นสุดสัญญากู้ยืมเงิน คือ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑
๓.๖ การชำระหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนโดยจะทยอยคืนหนี้เงินกู้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน
ทั้งนี้
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑ เดือน
๓.๗
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป
โดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้
๓.๘ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๖ ง/หน้า ๒๑/๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689434 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกอบกับมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ จึงได้ดำเนินการกู้เงิน โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ให้กู้ :
ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
๒. วัตถุประสงค์ในการกู้ :
เพื่อนำมาใช้ในโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
๓. รายละเอียดเงื่อนไข
:
๓.๑ วงเงินกู้รวม จำนวน ๒๖,๙๗๓.๐๐ ล้านบาท
(สองหมื่นหกพันเก้าร้อยเจ็ดสิบสามล้านบาทถ้วน)
๓.๒ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
(อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน
ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย)
บวกด้วย Spread โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุกงวด ๖ เดือน
หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
โดยดอกเบี้ยงวดแรกมีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงบวก Spread เฉลี่ย ร้อยละ ๑.๖๓๑ ต่อปี
๓.๓ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖
ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ โดยจะเบิกที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดก่อน
โดยจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
๓.๔ การชำระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ ทุกงวด ๖ เดือน
ในวันที่ ๑ เมษายน และวันที่ ๑ ตุลาคม ของทุกปี โดยจะชำระดอกเบี้ยงวดแรก ในวันที่
๑ เมษายน ๒๕๕๗ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายพร้อมต้นเงินกู้ ณ วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้
การชำระดอกเบี้ยงวดแรก กระทรวงการคลังจะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ตั้งแต่วันที่ ๒๔ - ๓๐ กันยายน
๒๕๕๖ เป็นฐานในการคำนวณ สำหรับอัตราดอกเบี้ยในงวดต่อ ๆ ไป จะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ก่อน ๒ วันทำการ
ก่อนวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยเพื่อใช้คำนวณดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา ๖ เดือน ถัดมา
๓.๕ การชำระต้นเงิน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวน ณ
วันสิ้นสุดสัญญากู้ยืมเงิน คือ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐
๓.๖ การชำระหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนโดยจะทยอยคืนหนี้เงินกู้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน
ทั้งนี้
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑ เดือน
๓.๗
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป
โดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้
๓.๘ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๖ ง/หน้า ๑๙/๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689432 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 1 (เพิ่มเติม)
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑
(เพิ่มเติม)[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกอบกับมาตรา ๑๒
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ จึงได้ดำเนินการกู้เงิน โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ให้กู้ :
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) วงเงินกู้ ๔,๘๗๕.๐๐ ล้านบาท
(สี่พันแปดร้อยเจ็ดสิบห้าล้านบาทถ้วน)
๒. วัตถุประสงค์ในการกู้ :
เพื่อนำมาใช้ในโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
๓. รายละเอียดเงื่อนไข
:
๓.๑ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
(อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน
ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย)
บวกด้วย Spread โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุกงวด ๖ เดือน หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง โดยดอกเบี้ยงวดแรกมีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
บวก Spread ร้อยละ ๑.๕๐ ต่อปี
๓.๒ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม
๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ โดยจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒
วันทำการ
๓.๓ การชำระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ ทุกงวด ๖ เดือน
ในวันที่ ๑ พฤษภาคม และวันที่ ๑ พฤศจิกายน ของทุกปี โดยจะชำระดอกเบี้ยงวดแรก
ในวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายพร้อมต้นเงินกู้ ณ
วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้
การชำระดอกเบี้ยงวดแรก กระทรวงการคลังจะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๕ - ๒๑ มีนาคม
๒๕๕๖ เป็นฐานในการคำนวณ สำหรับอัตราดอกเบี้ยในงวดต่อไป ๆ จะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ก่อน ๒ วันทำการ
ก่อนวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยเพื่อใช้คำนวณดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา ๖ เดือน ถัดมา
๓.๔ การชำระต้นเงิน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวน ณ
วันสิ้นสุดสัญญากู้ยืมเงิน คือ วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐
๓.๕ การชำระหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วน ทั้งนี้
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑ เดือน
๓.๖
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป
โดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้
๓.๗ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๖ ง/หน้า ๑๗/๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689430 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 9 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๙[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙
เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ วงเงิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ (LB416A) อายุ ๓๐.๖๕ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๘๖,๙๓๖ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๒๘.๐๒ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๘๔
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๔ มิถุนายน และ ๑๔ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์
และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ ดังนี้
วันที่
จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตรา
ผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ยงวดล่าสุดจนถึงวันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๔.๖๑๙๕
๕,๒๓๑,๖๐๑,๓๓๒
-๗๖๘,๓๙๘,๖๖๘
-
หมายเหตุ : วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๖ ง/หน้า ๑๕/๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689428 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 8 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๘[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘
เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ วงเงิน ๓,๗๐๙ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้
(พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่
๑ (LB326A) อายุ ๒๐.๔๒ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๒,๕๘๑ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๑๙.๐๙ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๗๕
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๗๗๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๒๕ มิถุนายน และ ๒๕ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ และสำนักงานประกันสังคม
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ ดังนี้
วันที่
จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตรา
ผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงใน
พันธบัตร
(บาท)
๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖
๓,๗๐๙
๓.๗๕๒๒
๓,๗๗๙,๒๒๘,๔๖๐.๒๖
๑๑,๕๓๗,๓๕๕.๕๓
๕๘,๖๙๑,๑๐๔.๗๓
หมายเหตุ : วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระ และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม
๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๖ ง/หน้า ๑๓/๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
689426 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 7 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๗[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗
เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ วงเงิน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ (LB196A) อายุ ๑๐.๐๕ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๕๔,๙๙๔ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๖.๐๕ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๗๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๓ มิถุนายน และ ๑๓ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
และบริษัทหลักทรัพย์
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ ดังนี้
วันที่
จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตรา
ผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงใน
พันธบัตร
(บาท)
๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖
๑๔,๐๐๐
๒.๙๔๑๒
๑๔,๙๖๕,๑๓๓,๙๐๖.๙๐
๗๑๙,๘๙๔,๒๒๖.๙๐
๒๔๕,๒๓๙,๖๘๐
หมายเหตุ : วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ
๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กรกฎาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๘๖ ง/หน้า ๑๑/๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ |
688232 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 8 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๘[๑]
โดยที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘
ลงวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ วงเงิน ๖,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก.
ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ (LB326A) จำหน่ายได้จริง จำนวน ๓,๗๐๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามพันเจ็ดร้อยเก้าล้านบาทถ้วน)
กระทรวงการคลังจึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ปรับลดวงเงินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ จากจำนวน ๖,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หกพันล้านบาทถ้วน) เป็นจำนวน ๓,๗๐๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(สามพันเจ็ดร้อยเก้าล้านบาทถ้วน) ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๒,๕๘๑ ล้านบาท (หกหมื่นสองพันห้าร้อยแปดสิบเอ็ดล้านบาทถ้วน)
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๕ มิถุนายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๗๔ ง/หน้า ๕/๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๖ |
687626 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 9 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๙[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขายและคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑
กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ (LB416A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๘๐,๙๓๖ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น
๘๖,๙๓๖ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖
ข้อ ๒
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓
กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๙ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย
ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD
ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD
ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐
ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD
ได้ยื่นประมูลก่อนกรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖
ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘
ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย นายทะเบียน
และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐
ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑
ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒
การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓
ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔
กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์
เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕
กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนดไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๙ (LB416A)
อายุคงเหลือ ๒๘.๐๒ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐ ต่อปี จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท
๑๒
มิ.ย. ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๑๔
มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๔
มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๔
มิ.ย. ๒๕๘๔
หมายเหตุ :- ๑. เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๘๖,๙๓๖ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖
พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐ ต่อปี
คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด
(วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๔ มิถุนายน และ ๑๔ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗
พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๘๔
เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘
กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้ วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน
ต้องไม่เกิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๔ มิถุนายน
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๙ ง/หน้า ๘/๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ |
687624 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินระยะสั้นเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ ฯ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 4
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินระยะสั้นเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ)
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ได้ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข
ดังต่อไปนี้
๑.
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่
๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยการกู้เงินระยะสั้นวงเงินรวม ๖,๐๐๐ ล้านบาท
จากสถาบันการเงินโดยมีเงื่อนไขและรายละเอียด ดังนี้
ลำดับที่
สถาบันการเงิน
วงเงินกู้
(ล้านบาท)
อัตราดอกเบี้ย
(ร้อยละต่อปี)
๑.
ธนาคารกสิกรไทย
จำกัด (มหาชน)
๓,๐๐๐
๒.๗๖
๒.
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
๓,๐๐๐
๒.๗๗
รวมทั้งสิ้น
๖,๐๐๐
๒. เบิกเงินกู้ทั้งจำนวนในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
๓. อายุเงินกู้ไม่เกิน ๑ เดือน นับตั้งแต่วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ (ครบกำหนดชำระวันที่
๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๖)
๔. กรณีที่มีการชำระคืนหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
โดยจะชำระค่าดอกเบี้ยคงค้างของหนี้เงินต้นที่ชำระคืนก่อนกำหนด
พร้อมกับการชำระหนี้เงินต้นก่อนกำหนดนั้นด้วย หากวันครบกำหนดชำระหนี้ตรงกับวันหยุดราชการ
หรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป
และจะคำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้ การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
๕. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๓ มิถุนายน
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๙ ง/หน้า ๖/๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ |
687356 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับลดวงเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ครั้งที่ 2 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การปรับลดวงเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕
ครั้งที่ ๒[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๒ ลงวันที่ ๓๐ มกราคม
๒๕๕๕ วงเงินกู้จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐
บาท และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การขยายระยะเวลาการเบิกเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๒ ลงวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๖ จากเดิมตั้งแต่วันที่
๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ จนถึงวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เป็นตั้งแต่วันที่ ๓ กุมภาพันธ์
๒๕๕๕ จนถึงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเบิกเงินกู้ ณ วันที่
๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ได้มีการเบิกเงินกู้จริงจำนวน ๑,๔๙๔,๙๕๓,๘๗๙ บาท ทำให้รายละเอียดและเงื่อนไขที่ระบุในข้อ
๓.๒ วรรคหนึ่ง ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๒ มีการเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังได้ปรับลดวงเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๒ จากจำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองพันล้านบาทถ้วน) เป็นจำนวน ๑,๔๙๔,๙๕๓,๘๗๙ บาท (หนึ่งพันสี่ร้อยเก้าสิบสี่ล้านเก้าแสนห้าหมื่นสามพันแปดร้อยเจ็ดสิบเก้าบาทถ้วน)
ข้อ ๒ รายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินอื่น
เป็นไปตามประกาศเดิมทุกประการ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๐ มิถุนายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๓ มิถุนายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๘ ง/หน้า ๑๖/๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ |
687354 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การปรับลดวงเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ครั้งที่ 1 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การปรับลดวงเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕
ครั้งที่ ๑[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ ลงวันที่ ๒๖ ตุลาคม
๒๕๕๔ วงเงินกู้จำนวน ๑๒,๓๐๓,๐๖๐,๐๐๐
บาท และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การขยายระยะเวลาการเบิกเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ ลงวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๖ จากเดิมตั้งแต่วันที่
๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๔ จนถึงวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๖ เป็นตั้งแต่วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๔
จนถึงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๖ และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเบิกเงินกู้ ณ วันที่ ๒๘
เมษายน ๒๕๕๖ ได้มีการเบิกเงินกู้จริงจำนวน ๙,๔๕๔,๙๒๓,๘๔๖.๖๙ บาท
ทำให้รายละเอียดและเงื่อนไขที่ระบุในข้อ ๓.๒ วรรคหนึ่ง ของประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑
มีการเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังได้ปรับลดวงเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ จากจำนวน ๑๒,๓๐๓,๐๖๐,๐๐๐ บาท
(หนึ่งหมื่นสองพันสามร้อยสามล้านหกหมื่นบาทถ้วน) เป็นจำนวน ๙,๔๕๔,๙๒๓,๘๔๖.๖๙ บาท
(เก้าพันสี่ร้อยห้าสิบสี่ล้านเก้าแสนสองหมื่นสามพันแปดร้อยสี่สิบหกบาทหกสิบเก้าสตางค์)
ประกอบด้วย
วงเงินที่ ๑ จำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามพันล้านบาทถ้วน)
วงเงินที่ ๒ จำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามพันล้านบาทถ้วน)
วงเงินที่ ๓ จำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามพันล้านบาทถ้วน)
วงเงินที่ ๔ จำนวน ๔๕๔,๙๒๓,๘๔๖.๖๙ บาท
(สี่ร้อยห้าสิบสี่ล้านเก้าแสนสองหมื่นสามพันแปดร้อยสี่สิบหกบาทหกสิบเก้าสตางค์)
ข้อ ๒ รายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินอื่น
เป็นไปตามประกาศเดิมทุกประการ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๐ มิถุนายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๓ มิถุนายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๘ ง/หน้า ๑๕/๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ |
687199 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 3 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล
ประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ วงเงิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ (ILB283A) อายุ ๑๕ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๕,๐๐๐ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๑๔.๘๓ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๗๑ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๒๕ ต่อปี
และมีส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนดอกเบี้ย และส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนต้นเงิน
โดยมีวิธีการคำนวณดอกเบี้ยและส่วนชดเชย ดังนี้
(๑) ดอกเบี้ยและส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนดอกเบี้ย = ต้นเงิน x อัตราดอกเบี้ย x Index Ratio x จำนวนวันตามจริง/๓๖๕
(๒) ส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนต้นเงิน (จ่าย ณ วันครบกำหนด) = ต้นเงิน x Index Ratio
หมายเหตุ กระทรวงการคลังจะประกาศ Index Ratio ประมาณ ๑ เดือน ก่อนวันจ่ายดอกเบี้ยแต่ละงวดหรือก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน
การชำระดอกเบี้ยจะชำระปีละ ๒ ครั้ง ในวันที่ ๑๒ มีนาคม และ ๑๒
กันยายน ของทุกปี สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
และสำนักงานประกันสังคม
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๑๕ พฤษภาคม
๒๕๕๖
๑๕,๐๐๐
๑.๑๔๖๔
๑๕,๒๙๗,๘๑๕,๑๑๔.๑๐
๒๖๓,๗๙๒,๐๖๐.๘๙
๓๔,๐๒๓,๐๕๓.๒๑
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๖ มิถุนายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๐ มิถุนายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๗ ง/หน้า ๑๐/๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ |
687197 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 14 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๔[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔ วงเงิน ๔,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙ (LB616A) อายุ ๕๐.๓๒ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๗๒,๒๐๕ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๔๘.๑๔ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๗ มิถุนายน ๒๖๐๔ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๘๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ บริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖
๔,๐๐๐
๔.๒๐๑๐
๔,๖๑๐,๙๔๘,๖๕๕.๐๐
๕๓๔,๔๑๑,๖๕๕.๐๐
๗๖,๕๓๗,๐๐๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๖ มิถุนายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๐ มิถุนายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๗ ง/หน้า ๘/๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ |
687195 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 12 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๒[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒ วงเงิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ (LB416A) อายุ ๓๐.๖๕ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๘๐,๙๓๖ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๒๘.๑๙ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๔ มิถุนายน ๒๕๘๔ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๔ มิถุนายน และ ๑๔ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สำนักงานประกันสังคม และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๑๐ เมษายน ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๔.๒๐๐๖
๕,๖๗๙,๕๗๗,๖๘๓.๕๐
-๓๙๔,๗๕๖,๕๕๖.๕๐
๗๔,๓๓๔,๒๔๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระ และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๖ มิถุนายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๐ มิถุนายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๗ ง/หน้า ๖/๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ |
687130 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 4 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลัง
ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่
๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข
ดังต่อไปนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ รุ่นอายุ ๑๐ ปี ให้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด
(มหาชน) จำนวนเงิน ๓,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐
บาท (สามพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน)
๒. ตั๋วสัญญาใช้เงินนี้จะออกให้กับธนาคารกรุงเทพ
จำกัด (มหาชน) ในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
๓. ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกตามในข้อ
๒ มีกำหนดชำระคืนต้นเงินกู้งวดสุดท้ายในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖
๔. ตั๋วสัญญาใช้เงินนี้มีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
(อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน
ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย)
บวกด้วย Spread โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุก ๖ เดือน
หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕
วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันที่
๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ โดยดอกเบี้ยงวดแรกของตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกให้ในวันที่ ๒๑
พฤษภาคม ๒๕๕๖ มีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ ๓.๖๖๘ ต่อปี
๕. การชำระดอกเบี้ย
ตลอดเวลาที่สัญญายังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ ในวันที่ ๒๑
พฤษภาคม และ ๒๑ พฤศจิกายน ของทุกปี
โดยคำนวณดอกเบี้ยที่จะชำระในแต่ละงวดจากต้นเงินคงค้างก่อนการชำระคืน
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันเปิดทำการถัดไป
โดยคำนวณเงินจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
๖. การชำระคืนต้นเงินกู้
แบ่งทยอยชำระคืนต้นเงินกู้เป็น ๒๐ งวด ทุกวันที่ ๒๑ พฤษภาคม และ ๒๑ พฤศจิกายน
ของทุกปี สำหรับการชำระคืนต้นเงินกู้ในงวดที่ ๑ - ๒๐ จะทยอยชำระงวดละเท่า ๆ กัน จำนวน
๑๗๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งจะชำระคืนต้นเงินกู้งวดแรกในวันที่
๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ และงวดสุดท้ายในวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖
หากวันครบกำหนดชำระต้นเงินกู้ตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันเปิดทำการถัดไป ทั้งนี้
กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนก็ได้
โดยแจ้งให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน
๗. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด
ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
จักรกฤศฏิ์
พาราพันธกุล
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านทรัพย์สิน
รักษาราชการแทน
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๕ มิถุนายน
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๗ มิถุนายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๖ ง/หน้า ๔/๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ |
686948 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 1 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
ได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑ อายุ ๓ ปี จำนวน ๓,๙๓๐,๒๔๗,๐๐๐ บาท (สามพันเก้าร้อยสามสิบล้านสองแสนสี่หมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน)
ข้อ ๒
พันธบัตรนี้เป็นพันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร (Scripless)
ราคาหน่วยละหนึ่งพันบาท โดยมีรายละเอียดการจำหน่าย ดังนี้
๒.๑ กำหนดการจำหน่ายในวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ - ๕ เมษายน ๒๕๕๖
ผ่านเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา และเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย โดยวงเงินซื้อขั้นต่ำ ๑,๐๐๐
บาท จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูง ๒,๐๐๐,๐๐๐
บาทต่อ ๑ ธนาคารตัวแทนจำหน่าย โดยซื้อเพิ่มเป็นจำนวนเท่าของ ๑,๐๐๐ บาท
๒.๒ ผู้มีสิทธิ์ซื้อประกอบด้วย บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ
และนิติบุคคลอื่นใดที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร
(ผู้ไม่มีสิทธิ์ซื้อ ประกอบด้วย ธนาคาร
บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
บริษัทประกัน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนส่วนบุคคลที่บริหารโดยสถาบันการเงิน กองทุนรวม คณะบุคคล บรรษัท
สำนักงานประกันสังคม รัฐวิสาหกิจ บริษัท ห้างร้าน หน่วยงานธุรกิจ
นิติบุคคลที่แสวงหากำไร นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร โรงพยาบาลเอกชน
และสถานศึกษาเอกชน)
๒.๓ วันชำระเงินค่าพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑ และวันจดทะเบียนคือ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ - ๕ เมษายน
๒๕๕๖ โดยมีผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่เป็นบุคคลธรรมดา ๔,๓๕๕ ราย จำนวน ๓,๘๑๐,๒๙๘,๐๐๐ บาท มูลนิธิ ๓๒
ราย จำนวน ๔๙,๔๗๕,๐๐๐ บาท
สหกรณ์ออมทรัพย์, ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ ๑๕ ราย จำนวน ๒๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท
สถาบันอื่นที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ไม่แสวงหากำไร ๑๕ ราย จำนวน ๒๕,๗๑๔,๐๐๐ บาท ส่วนราชการสังกัดรัฐบาลกลาง ๘ ราย จำนวน
๑๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท และวัด ๕ ราย จำนวน ๗๖๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๔,๔๓๐ ราย จำนวนรวม ๓,๙๓๐,๒๔๗,๐๐๐ บาท
ข้อ ๓
ให้ธนาคารตัวแทนจำหน่าย ๔ แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์
จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายพันธบัตร
และผู้รับฝากพันธบัตรจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตร (Custodian) รุ่นนี้และจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้
ข้อ ๔
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นนายทะเบียน
และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรุ่นนี้และจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้
ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕
ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรุ่นนี้และจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้
ตามพิธีปฏิบัติของบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ข้อ ๖
กระทรวงการคลังโดยธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะออกสมุดพันธบัตรรัฐบาล (Bond Book) ให้กับผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรรายใหม่
เพื่อแสดงการรับฝากพันธบัตร ซึ่งจะได้รับในวันที่ซื้อหรืออาจได้รับภายหลังไม่เกิน
๓๐ วันทำการ สำหรับผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่มี Bond Book อยู่แล้ว ให้นำ Bond Book
ไปปรับปรุงข้อมูลรายการซื้อให้เป็นปัจจุบันได้ที่ธนาคารตัวแทนจำหน่ายที่ทำรายการซื้อภายหลังไม่เกิน
๓๐ วันทำการ โดยผู้ถือกรรมสิทธิ์จะนำไปใช้อ้างอิงสำหรับการทำธุรกรรมได้
รายการที่ปรากฏอยู่ใน Bond Book
เป็นรายการซื้อที่แสดงมูลค่าตามราคาตรา (Par Value) ในวันที่จดทะเบียน และในวันที่ทำรายการจะแสดงมูลค่าตามราคาตลาด (Market Value) ของแต่ละธนาคารตัวแทนจำหน่าย
โดยจะถือว่าถูกต้องเมื่อรายการดังกล่าวตรงกันกับรายการที่บันทึกไว้ที่ธนาคารตัวแทนจำหน่าย ทั้งนี้
จะปรากฏเฉพาะรุ่นพันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร (Scripless) ที่ซื้อผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น
โดยผู้ถือกรรมสิทธิ์สามารถนำ Bond Book
ไปปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายที่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ทำรายการซื้อเท่านั้น
สำหรับการชำระคืนต้นเงินพันธบัตรเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนตามราคาตรา (Par Value)
ข้อ ๗
ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรสามารถใช้พันธบัตรเป็นหลักประกันให้กับหน่วยงานราชการและองค์กรของรัฐ
เช่น การประกันทางศาล หรือการประกันไฟฟ้า
และสามารถใช้พันธบัตรเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินหรือบุคคลอื่นได้ ทั้งนี้
ขึ้นอยู่กับระเบียบหลักเกณฑ์การรับหลักประกันของหน่วยงานหรือบุคคลนั้น ๆ
โดยจะต้องติดต่อธนาคารตัวแทนจำหน่ายที่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ทำรายการซื้อ
เพื่อขอถอนพันธบัตรจากระบบ Scripless
โดยมีค่าธรรมเนียมการถอนพันธบัตร ตามรายละเอียดข้อ ๑๔
ข้อ ๘
การโอนกรรมสิทธิ์สามารถกระทำได้ตั้งแต่วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
ยกเว้นการโอนกรรมสิทธิ์เพื่อเป็นหลักประกัน หรือโอนทางมรดก
หรือการแบ่งทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการหย่า หรือล้มละลาย หรือการชำระบัญชี
ให้กระทำได้หลังจากวันที่ทำรายการซื้อแล้ว ๓๐ วัน ทั้งนี้ การโอนกรรมสิทธิ์จะกระทำในระหว่างระยะเวลา
๓๐ วัน ก่อนวันครบกำหนดชำระคืนต้นเงินมิได้
การโอนกรรมสิทธิ์พันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร (Scripless)
สามารถกระทำได้
โดยอาจเป็นการโอนให้กับลูกค้ารายใหม่หรือลูกค้าเดิมภายในกลุ่มผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ซื้อผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายเดียวกัน
และไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ระหว่างธนาคารตัวแทนจำหน่ายได้
โดยผู้ถือกรรมสิทธิ์จะต้องนำสมุดพันธบัตรรัฐบาลกระทรวงการคลัง (Bond Book)
ไปติดต่อธนาคารตัวแทนจำหน่ายที่ได้ฝากพันธบัตรไว้
การโอนกรรมสิทธิ์พันธบัตรแบบมีใบตราสาร
ให้เป็นไปตามพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๙
พันธบัตรรุ่นนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๗๕ ต่อปี ชำระดอกเบี้ยปีละ ๒ งวด
คือในวันที่ ๒๒ พฤษภาคม และ ๒๒ พฤศจิกายน ของทุกปี โดยชำระเป็นเงินงวดละเท่า ๆ กัน
จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนด ยกเว้นงวดแรก และงวดที่ ๒
จะคำนวณดอกเบี้ยโดยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน
และนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไปโดยไม่คำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
เว้นแต่ดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝาก (ยกเว้นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษและบัญชีเงินฝากประจำ)
ของผู้ถือกรรมสิทธิ์
ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งรายชื่อและข้อมูลจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด (กรณีพันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร) หรือตามรายชื่อทางทะเบียน
(กรณีพันธบัตรแบบมีใบตราสาร) ณ วันทำการสุดท้ายของธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนถึงช่วงระยะเวลา
๓๐ วัน ก่อนวันถึงกำหนดชำระดอกเบี้ย
ข้อ ๑๐ ภาระภาษี
ผู้ถือพันธบัตรจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยตามอัตราที่ประกาศในประมวลรัษฎากร
ข้อ ๑๑
การขายพันธบัตรก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรสามารถขายพันธบัตรก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนได้ตั้งแต่วันที่
๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป โดยดำเนินการได้ ดังนี้
พันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร (Scripless)
สามารถขายพันธบัตรก่อนวันครบกำหนดได้ที่ธนาคารตัวแทนจำหน่ายที่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ทำรายการซื้อ
ตามราคาที่ตกลงกัน (ธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะมีการกำหนดราคารับซื้อพันธบัตร
รวมถึงสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยจะมีการกำหนดราคามาตรฐาน)
พันธบัตรแบบมีใบตราสาร
สามารถขายพันธบัตรก่อนวันครบกำหนดให้แก่สถาบันการเงินหรือบุคคลอื่นตามราคาที่ตกลงกัน
ทั้งนี้ การขายพันธบัตรจะกระทำในระหว่างระยะเวลา ๓๐ วัน ก่อนวันครบกำหนดชำระคืนต้นเงินมิได้
ข้อ ๑๒
พันธบัตรรุ่นนี้ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
หากวันครบกำหนดไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
กรณีพันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร ธนาคารแห่งประเทศไทยจะชำระคืนต้นเงิน
โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝาก
(ยกเว้นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษและบัญชีเงินฝากประจำ)
ให้แก่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามรายชื่อและข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด
กรณีพันธบัตรแบบมีใบตราสาร การชำระคืนต้นเงินตามพันธบัตร
จะกระทำได้ต่อเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคืนใบพันธบัตร
ข้อ ๑๓
กรณีที่มีการออกใบพันธบัตร มิให้ถือว่าพันธบัตรฉบับใดสมบูรณ์
เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่นายทะเบียนโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๔
กำหนดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ จากการทำธุรกรรม
ภายหลังการซื้อพันธบัตรของผู้ถือกรรมสิทธิ์ ดังนี้
ประเภทธุรกรรม
ผู้เรียกเก็บ
บริษัท ศูนย์รับฝาก
หลักทรัพย์ฯ
(ต่อรายการ
ไม่รวม VAT)
ธนาคารแห่ง
ประเทศไทย
(ไม่คิด VAT)
ธนาคารตัวแทนจำหน่าย
(ต่อรายการ
รวม VAT)
กรณีไร้ใบตราสาร
(๑)
การถอนพันธบัตรจากระบบ Scripless เพื่อขอออกใบพันธบัตร
๖๕ บาท
บุคคลธรรมดา
๒๐ บาท/ฉบับ
นิติบุคคล
๑๐๐ บาท/ฉบับ
๒๐๐ บาท
(๒)
การฝากพันธบัตร
เข้าระบบ
Scripless
(ภายหลังการถอนแล้ว
ต้องการนำฝากใหม่)
๑๐ บาท
๑๐ บาท/
รายการ
๒๐๐ บาท
(๓)
การขายพันธบัตร
ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน
-
-
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
(๔)
การโอนกรรมสิทธิ์
-
-
ไม่คิดค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ระหว่างลูกค้าเดิมภายในกลุ่มผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ซื้อผ่านธนาคารเดียวกัน ทั้งนี้
หากเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ระหว่างลูกค้าเดิมให้กับลูกค้ารายใหม่
ธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์จากลูกค้ารายใหม่ ๒๕๐ บาท
(๕)
การขอแก้ไขชื่อที่
จดทะเบียนกรรมสิทธิ์
ในพันธบัตร
ที่อยู่ บัญชีรับ
ดอกเบี้ยและต้นเงิน
-
-
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
(๖)
การขอออก Bond
Book ใหม่กรณีสูญหาย
-
-
คิดค่าธรรมเนียมการออก Bond Book ใหม่
ตามอัตราที่แต่ละธนาคารประกาศกำหนด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่าง ๕๐ - ๑๐๐ บาท
ต่อเล่ม
(๗)
การขอหนังสือรับรอง
ยอดพันธบัตร
-
-
คิดค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือรับรองยอดพันธบัตรตามอัตราที่แต่ละธนาคารประกาศกำหนด
ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่าง ๕๐ - ๒๐๐ บาทต่อฉบับ
(๘)
การขออายัดพันธบัตร
-
-
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
กรณีมีใบตราสาร
การทำธุรกรรมต่าง
ๆ ของ
พันธบัตรแบบมีใบตราสาร
(เช่น
การโอน การจำนำ
การถอนจำนำ
การขอแยกหน่วยพันธบัตร การขอ
หนังสือรับรองยอด เป็นต้น)
-
บุคคลธรรมดา
๒๐ บาท/ฉบับ
นิติบุคคล
๑๐๐ บาท/ฉบับ
-
ข้อ ๑๕
ธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะชำระค่าธรรมเนียมการฝากพันธบัตรให้กับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด
เพื่อเป็นการนำฝากพันธบัตรออมทรัพย์ซึ่งเป็นพันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร (Scripless) โดยคำนวณตามมูลค่าพันธบัตรคงเหลือล้านละ ๑.๐๐ บาทต่อเดือน สำหรับราคาที่ใช้ในการคำนวณมูลค่าพันธบัตรคงเหลือให้ใช้ตามราคาตราของพันธบัตร
ข้อ ๑๖
กำหนดค่าธรรมเนียมในการเป็นผู้จัดจำหน่ายพันธบัตร
และผู้รับฝากพันธบัตรจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตร (Custodian) ให้แก่ธนาคารตัวแทนจำหน่ายในอัตรา ๒๕๐ บาทต่อรายการ
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของ Custodian แล้ว)
เรียกเก็บได้เฉพาะรายการซื้อที่เกิดขึ้นจริงทั้งการซื้อผ่านเคาน์เตอร์และเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ
(ATM) และชำระเงินได้ถูกต้อง
โดยไม่นับรวมรายการที่มาลงทะเบียนไว้ แต่ไม่มีการทำรายการซื้อ
ธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะต้องแจ้งยอดค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายทั้งหมดมายังกระทรวงการคลังเมื่อสิ้นสุดการจำหน่าย
หรือเมื่อจำหน่ายครบตามวงเงินที่ได้รับจัดสรรแล้ว
และธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะไม่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ
เพิ่มเติมในภายหลัง
ข้อ ๑๗
กำหนดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนี้
๑๗.๑
ค่าธรรมเนียมในการเป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงินเกี่ยวกับพันธบัตรในอัตราร้อยละ
๐.๑ ของดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
๑๗.๒ ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรตามที่จ่ายจริง
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๔ มิถุนายน
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๗ มิถุนายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๔ ง/หน้า ๑๒/๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
686777 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง รายงานสถานะหนี้สาธารณะ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556 และรายการการกู้เงินและค้ำประกันระหว่างเดือนตุลาคม 2555 ถึงเดือนมีนาคม 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
รายงานสถานะหนี้สาธารณะ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ และรายการการกู้เงินและค้ำประกัน
ระหว่างเดือนตุลาคม
๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖[๑]
ด้วยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ มาตรา ๑๖ วรรค ๒
กำหนดให้กระทรวงการคลังสรุปรายงานสถานะหนี้สาธารณะและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ภายใน ๖๐ วัน หลังจากวันสิ้นเดือนมีนาคมและเดือนกันยายนของทุกปี
โดยรายงานดังกล่าวต้องแสดงหนี้สาธารณะที่เกิดจากการกู้เงินและค้ำประกัน ณ
วันสิ้นเดือนดังกล่าว
รวมทั้งรายการการกู้เงินและค้ำประกันที่เกิดขึ้นใหม่ในช่วงระยะเวลาระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม
และเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน ตามลำดับ
กระทรวงการคลังขอรายงานสถานะหนี้สาธารณะ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖
และรายการการกู้เงินและค้ำประกัน ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖
ดังนี้
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ มีจำนวน ๕,๑๒๑,๓๐๐.๗๓ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๔๔.๑๖
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) โดยเป็นหนี้ของรัฐบาลกู้โดยตรง จำนวน ๓,๕๕๖,๔๖๐.๖๒ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน ๑,๐๖๔,๗๔๖.๑๗ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน
(รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน ๔๙๔,๕๓๒.๐๓ ล้านบาท
และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ จำนวน ๕,๕๖๑.๙๑ ล้านบาท
ส่วนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินนั้นไม่มีหนี้คงค้าง
รายละเอียดดังปรากฏตามตารางที่ ๑
หนี้สาธารณะจำนวนดังกล่าวจำแนกตามอายุของหนี้เป็นหนี้ระยะยาว ๔,๙๕๙,๐๕๖.๖๗ ล้านบาท และหนี้ระยะสั้น ๑๖๒,๒๔๔.๐๖ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๙๖.๘๓ และร้อยละ ๓.๑๗ ตามลำดับ
และจำแนกตามแหล่งที่มาเป็นหนี้ต่างประเทศ ๓๓๔,๙๙๐.๓๓ ล้านบาท
และหนี้ในประเทศ ๔,๗๘๖,๓๑๐.๔๐ ล้านบาท
หรือคิดเป็นร้อยละ ๖.๕๔ และร้อยละ ๙๓.๔๖ ตามลำดับ
ตารางที่
๑ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖
หน่วย
: ล้านบาท
รายการ
๓๑ มี.ค.
๒๕๕๖
% GDP
๑.
หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง
๑.๑ หนี้ต่างประเทศ
๑.๒ หนี้ในประเทศ
๓,๕๕๖,๔๖๐.๖๒
๔๓,๖๘๙.๖๒
๓,๕๑๒,๗๗๑.๐๐
๓๐.๖๗
๒.
หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน
๒.๑ หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน
- หนี้ต่างประเทศ
- หนี้ในประเทศ
๑,๐๖๔,๗๔๖.๑๗
๔๕๕,๐๙๖.๙๕
๑๒๕,๕๗๕.๖๐
๓๒๙,๕๒๑.๓๕
๙.๑๘
๒.๒ หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน
- หนี้ต่างประเทศ
- หนี้ในประเทศ
๖๐๙,๖๔๙.๒๒
๑๖๑,๖๔๕.๕๘
๔๔๘,๐๐๓.๖๔
๓.
หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)
๓.๑ หนี้ต่างประเทศ
๓.๒ หนี้ในประเทศ
๔๙๔,๕๓๒.๐๓
๔,๐๗๙.๕๓
๔๙๐,๔๕๒.๕๐
๔.๒๖
๔.
หนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ
๔.๑ หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน
๔.๒ หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน
-
-
-
๐.๐๐
๕.
หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ
๕.๑ หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน
๕.๒ หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน
๕,๕๖๑.๙๑
-
๕,๕๖๑.๙๑
๐.๐๕
๖.
รวม ๑.+๒.+๓.+๔.+๕.
๕,๑๒๑,๓๐๐.๗๓
๔๔.๑๖
หมายเหตุ :- ๑.
GDP ปี ๒๕๕๕ เท่ากับ ๑๑,๓๖๓ พันล้านบาท และประมาณการ GDP ๒๕๕๖ เท่ากับ ๑๒,๒๙๕ พันล้านบาท (สศช. ณ ๑๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖)
๒. สบน. ได้ปรับวิธีการคำนวณ GDP ในแต่ละเดือน เพื่อให้สัดส่วน Debt/GDP
สะท้อนค่าที่ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุดโดยคำนวณ GDP
ของเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ ดังนี้ [(GDP ปี ๕๕/๑๒)*๙]+[(GDP ปี ๕๖/๑๒)*๓] เท่ากับ ๑๑,๕๙๖ พันล้านบาท
๓.
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอัตราเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อและขาย
ณ วันทำการสุดท้ายของเดือน
๔. ตัวเลขในตารางเป็นตัวเลขเบื้องต้น (Preliminary) และไม่รวมหนี้ของ SPV จำนวน ๒๒,๔๙๙.๙๐ ล้านบาท
ที่รัฐบาลมีภาระผูกพันต้องจ่ายภายใต้สัญญาเช่าพื้นที่อาคารสัญญาบริหารจัดหาเฟอร์นิเจอร์
และสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องของโครงการศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถ. แจ้งวัฒนะ
๑. รายการการกู้เงินและค้ำประกัน ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๕
ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖
คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีได้จัดทำแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ เพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ
ประกอบด้วย ๔ แผนย่อย และได้ปรับปรุงแผนฯ ในระหว่างปี
เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงินกู้และบริหารหนี้ ซึ่งหลังการปรับปรุงแผนฯ
ครั้งที่ ๑ ทำให้วงเงินรวมในแผนฯ ที่จะบริหารจัดการมีจำนวนทั้งสิ้น ๒,๐๖๙,๙๑๕.๓๒ ล้านบาท โดยในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม
๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖
กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการกู้เงินและบริหารหนี้ เป็นวงเงินทั้งสิ้น
๘๖๑,๐๘๑.๒๖ ล้านบาท ดังปรากฏตามตารางที่ ๒
ตารางที่
๒ การกู้เงินและการบริหารหนี้ ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖
หน่วย
: ล้านบาท
รายการ
วงเงินแผน
ผลดำเนินงาน
(ต.ค. ๕๕ - มี.ค. ๕๖)
๑.
แผนการก่อหนี้ใหม่
๙๘๖,๕๖๑.๘๗
๓๔๙,๖๖๘.๙๐
๑.๑ รัฐบาล
๑.๒ รัฐวิสาหกิจ
๖๗๐,๗๔๑.๒๒
๓๑๕,๘๒๐.๖๕
๑๘๔,๙๑๗.๙๖
๑๖๔,๗๕๐.๙๔
๒.
แผนการปรับโครงสร้างหนี้
๗๓๘,๕๑๑.๕๗
๔๒๒,๐๖๔.๖๗
๒.๑ รัฐบาล
๒.๒ รัฐวิสาหกิจ
๕๖๒,๖๙๓.๒๕
๑๗๕,๘๑๘.๓๒
๓๖๒,๖๐๒.๒๓
๕๙,๔๖๒.๔๔
๓.
แผนการบริหารความเสี่ยง
๒๒๓,๑๓๘.๓๘
๑๖,๔๗๐.๙๘
๔.
แผนการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจ
ที่ไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนฯ
๑๒๑,๗๐๓.๕๐
๗๒,๘๗๖.๗๑
๔.๑ การก่อหนี้ใหม่
๔.๒ การบริหารหนี้
๖๓,๘๓๗.๑๖
๕๗,๘๖๖.๓๔
๖๘,๓๗๖.๗๑
๔,๕๐๐.๐๐
รวม (๑ - ๓)
๑,๙๔๘,๒๑๑.๘๒
๗๘๘,๒๐๔.๕๕
รวม (๑ - ๔)
๒,๐๖๙,๙๑๕.๓๒
๘๖๑,๐๘๑.๒๖
ซึ่งมีสาระสำคัญ
ดังนี้
๑.๑ แผนการก่อหนี้ใหม่ ช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖
ประกอบด้วย
๑.๑.๑ การก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาล (หนี้ในประเทศ) วงเงินรวม ๑๘๔,๙๑๗.๙๖ ล้านบาท
เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณในช่วงเดือนตุลาคม
๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ วงเงินรวม ๑๖๓,๗๕๗.๙๖ ล้านบาท
โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรออมทรัพย์
เงินกู้เพื่อการนำส่งเข้ากองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ
กระทรวงการคลังได้ลงนามในสัญญาเงินกู้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
เพื่อนำเงินส่งเข้ากองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ จำนวน ๒,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
เงินกู้มาเพื่อให้กู้ต่อ
กระทรวงการคลังได้ลงนามในสัญญาเงินกู้กับธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย จำกัด
(มหาชน)
เพื่อนำไปให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทยกู้ต่อ
วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑๘,๖๖๐.๐๐ ล้านบาท
๑.๑.๒ การก่อหนี้ใหม่ของรัฐวิสาหกิจ วงเงินรวม ๑๖๔,๗๕๐.๙๔ ล้านบาท
๑.๑.๒.๑ หนี้ในประเทศ วงเงินรวม ๑๖๔,๗๕๐.๙๔ ล้านบาท
เงินกู้เพื่อลงทุน
รัฐวิสาหกิจ ๓ แห่ง กู้เงินเพื่อลงทุนในโครงการ วงเงินรวม ๑๒,๕๐๘.๐๐ ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน ๒,๕๐๘.๐๐ ล้านบาท และหนี้ที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน จำนวน ๑๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท ได้แก่
(๑) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยออกพันธบัตร วงเงินรวม ๔,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน
เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจะนะ ชุดที่ ๒ (งานก่อสร้างโรงไฟฟ้า)
จำนวน ๒,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท
โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมวังน้อย ชุดที่ ๔ (งานก่อสร้างโรงไฟฟ้า) จำนวน ๑,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท และโครงการขยายระบบส่งไฟฟ้าระยะที่ ๑๑ จำนวน ๑,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท
(๒) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคออกพันธบัตร วงเงินรวม ๖,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน
เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าระยะที่ ๗ ส่วนที่ ๒ จำนวน ๓๘.๔๘
ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าระยะที่ ๗ ส่วนที่ ๑ จำนวน ๒๑.๖๐
ล้านบาท โครงการก่อสร้างและปรับปรุงเสริมระบบจำหน่ายระยะที่ ๖ จำนวน ๓๖.๙๖ ล้านบาท
โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าระยะที่ ๘ ส่วนที่ ๑ จำนวน ๙๔.๐๒ ล้านบาท
โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าระยะที่ ๘ ส่วนที่ ๒ จำนวน ๓๖๗.๐๐ ล้านบาท
โครงการติดตั้งระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟระยะที่ ๒ จำนวน ๒๙๘.๐๐ ล้านบาท
โครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าระยะที่ ๒ จำนวน ๑๔๕.๑๒ ล้านบาท
โครงการก่อสร้างและปรับปรุงเสริมระบบจำหน่ายระยะที่ ๗ จำนวน ๕๐๕.๕๑ ล้านบาท
โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบจำหน่าย จำนวน ๔๓๑.๑๓ ล้านบาท
โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้พื้นที่ทำกินทางการเกษตร ๑๕๘.๙๕ ล้านบาท
โครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะต่าง ๆ (เกาะมะพร้าว, เกาะนาคาใหญ่ จ.ภูเก็ต) จำนวน ๐.๓๙ ล้านบาท โครงการก่อสร้างสายส่งเคเบิลใต้น้ำ
๑๑๕ เควี (วงจรที่ ๓) ไปยังเกาะสมุย จ. สุราษฎร์ธานี จำนวน ๑,๖๙๓.๐๐ ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๙ ส่วนที่ ๑
จำนวน ๓๓๒.๐๐ ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๙ ส่วนที่ ๒
จำนวน ๑๕๔.๘๐ ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๙ ส่วนที่ ๓
จำนวน ๓๘๐.๓๒ ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๙ ส่วนที่ ๔
จำนวน ๑๙๕.๐๐ ล้านบาท โครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าระยะที่ ๓ จำนวน
๙๒๕.๐๘ ล้านบาท โครงการพัฒนาการอ่านหน่วยด้วยระบบอัตโนมัติ (Automatic Meter Reading : AMR) สำหรับผู้ใช้ไฟรายใหญ่ ระยะที่ ๒ จำนวน ๒๒๒.๔๖
ล้านบาท และโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะต่าง ๆ
(เกาะกูด, เกาะหมาก จ.ตราด) จำนวน ๐.๑๘ ล้านบาท
(๓) การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ วงเงินรวม ๒,๕๐๘.๐๐ ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน
เพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงทางระยะที่ ๖
เงินกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไปและอื่น
ๆ รัฐวิสาหกิจ ๒ แห่ง กู้เงินเพื่อดำเนินกิจการทั่วไปและอื่น ๆ
วงเงินรวม ๑๕๒,๒๔๒.๙๔ ล้านบาท
โดยเป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน ๑๕๗,๒๔๒.๙๔
ล้านบาท ได้แก่
(๑) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ วงเงินรวม ๒,๔๔๒.๙๔ ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อเป็นค่าน้ำมัน
ค่าเหมาซ่อม (ปีงบประมาณ ๒๕๕๖) จำนวน ๑,๑๕๐.๐๐ ล้านบาท
และเพื่อเป็นค่าดอกเบี้ยที่ครบกำหนด ในปีงบประมาณ ๒๕๕๖ จำนวน ๑,๒๙๒.๙๔ ล้านบาท
(๒) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์
วงเงินรวม ๑๔๙,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน
เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลทางการเกษตรตามนโยบายของรัฐบาล
ในปีงบประมาณ ๒๕๕๖ นอกจากนี้
กระทรวงการคลังยังได้ดำเนินการค้ำประกันเงินกู้ให้แก่องค์การสวนยางที่กู้ต่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรอีก
จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท
เพื่อใช้ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง
ทำให้วงเงินที่กระทรวงการคลังค้ำประกันรวมเป็น ๑๕๔,๐๐๐
ล้านบาท
(๓) การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ จำนวน ๘๐๐.๐๐
ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน
๑.๑.๒.๒ หนี้ต่างประเทศ
รัฐวิสาหกิจยังไม่ได้ดำเนินการก่อหนี้ต่างประเทศในช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๕๕
ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖
๑.๒ แผนการปรับโครงสร้างหนี้ ช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม
๒๕๕๖ ประกอบด้วย
๑.๒.๑ การปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาล
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาล รวมทั้งสิ้น ๓๖๒,๖๐๒.๒๓ ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินเพื่อ Roll-over จำนวน
๒๕๓,๕๙๒.๐๕ ล้านบาท และการชำระคืนหนี้เดิมที่มีแผนจะ Roll-over จำนวน ๑๐๙,๐๑๐.๑๘ ล้านบาท ดังนี้
หนี้เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณหรือเมื่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้
(๑) ตั๋วเงินคลัง
ในช่วงต้นปีงบประมาณ ๒๕๕๖
กระทรวงการคลังมียอดตั๋วเงินคลังที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดรวม ๑๐๒,๑๓๕.๐๐ ล้านบาท จำแนกเป็น ๑. ตั๋วเงินคลังเพื่อใช้ในการบริหารดุลเงินสด
จำนวน ๘๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท และ ๒.
ตั๋วเงินคลังที่กู้มาเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน ๒๒,๑๓๕.๐๐
ล้านบาท โดยในช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ กระทรวงการคลังมีการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดชำระในช่วงเดือนตุลาคม
๒๕๕๕ จำนวน ๑๐๒,๑๓๕.๐๐ ล้านบาท
ด้วยการใช้เงินคงคลังชำระคืนหนี้ตั๋วเงินคลังดังกล่าว
(๒) พันธบัตร/ตราสารอื่น ๆ
กระทรวงการคลังดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลและตั๋วสัญญาใช้เงินที่ครบกำหนดไถ่ถอนในช่วง
๖ เดือนแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๖ จำนวน ๑๓๖,๓๖๕.๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑)
กระทรวงการคลังดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่
๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ จำนวน ๒ รุ่น วงเงินรวม ๒๐,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท
โดยการกู้เงินระยะสั้น อายุไม่เกิน ๑ เดือน
เพื่อชำระคืนหนี้ในวันที่ครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน ๒๐,๕๐๐.๐๐
ล้านบาท และภายหลังได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ จำนวน ๒ รุ่น
ในวันที่ ๑๖ และ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ วงเงินรวม ๒๐,๕๐๐.๐๐
ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้ไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นดังกล่าว
๒) กระทรวงการคลังดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาล
และพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖
จำนวน ๖ รุ่น วงเงินรวม ๙๙,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท
โดยการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ (Pre - funding) ด้วยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้
(R-bill)
และพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ (Inflation Linked Bond) วงเงินรวม ๖๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท และกู้เงินระยะสั้น อายุไม่เกิน ๒ เดือน
ในวันที่ครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน ๓๙,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท และภายหลังได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
จำนวน ๔ รุ่น ในวันที่ ๒๐, ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖ และวันที่ ๑๐
เมษายน ๒๕๕๖ วงเงินรวม ๓๙,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท
เพื่อนำเงินที่ได้ไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นดังกล่าว
๓) กระทรวงการคลังดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖ จำนวน ๑๖,๘๖๕.๐๐ ล้านบาท
โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ จำนวน ๒ รุ่น ในวันที่ครบกำหนดไถ่ถอน
วงเงินรวม ๑๖,๘๖๕.๐๐ ล้านบาท
หนี้เงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้
FIDF
(๑) FIDF 1
กระทรวงการคลังชำระคืนหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน ปีงบประมาณ ๒๕๕๕ ครั้งที่
๓/๓ และ ๓/๔ ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน
โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ
วงเงินรวม ๔,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท แบ่งเป็น ๑.
ชำระคืนหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน ปีงบประมาณ ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓/๓ จำนวน ๑,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท และ ๒. ชำระคืนหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน ปีงบประมาณ ๒๕๕๕
ครั้งที่ ๓/๔ จำนวน ๓,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท
ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ ๗๐๗.๙๐ ล้านบาท
(๒) FIDF 3
๑) กระทรวงการคลังปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออมทรัพย์ ปีงบประมาณ
๒๕๔๙ ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ ปีงบประมาณ ๒๕๕๕
และเงินกู้ระยะสั้น ปีงบประมาณ ๒๕๕๕ ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในช่วง ๖
เดือนแรกของปีงบประมาณ วงเงินรวม ๑๐๗,๒๒๗.๐๕ ล้านบาท
โดยการกู้เงินระยะสั้น จำนวน ๔๐,๒๙๕.๘๕ ล้านบาท
การทดรองจ่ายเงินจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง จำนวน ๕๐,๕๘๑.๒๐
ล้านบาท และการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน ๑๖,๓๕๐.๐๐ ล้านบาท
และภายหลังได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาล จำนวน ๙๐,๒๔๕.๐๐
ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้ไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นและเงินทดรองจ่ายบางส่วน
๒)
กระทรวงการคลังดำเนินการชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะยาวเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้
ปีงบประมาณ ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑/๑ ก่อนครบกำหนดชำระ วงเงินรวม ๓๗๕.๑๘ ล้านบาท
ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ ๘.๓๙ ล้านบาท
หนี้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
กระทรวงการคลังดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
วงเงินรวม ๑๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท
จากสัญญาเงินกู้ระยะยาวให้เป็นพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
หนี้เงินกู้มาเพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยกู้ต่อ
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยชำระคืนหนี้เงินกู้ที่ได้กู้ต่อจากกระทรวงการคลังก่อนครบกำหนดชำระ
โดยใช้เงินงบประมาณ จำนวน ๒,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท
ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ ๑๙๐.๙๒ ล้านบาท
๑.๒.๒ การปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐวิสาหกิจ : หนี้ในประเทศ
รัฐวิสาหกิจ จำนวน ๘ แห่ง ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ วงเงินรวม ๕๙,๔๖๒.๔๔ ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน ๕๗,๔๒๗.๒๐ ล้านบาท และกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน ๒,๐๓๕.๒๔
ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินเพื่อ Roll-over จำนวน ๕๘,๔๒๗.๒๐ ล้านบาท และการชำระคืนหนี้เดิมที่มีแผนจะ Roll-over จำนวน ๑,๐๓๕.๒๔ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
(๑) การเคหะแห่งชาติออกพันธบัตร จำนวน ๑,๖๐๐.๐๐ ล้านบาท และกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ จำนวน ๕๐๐.๐๐ ล้านบาท เพื่อ Roll-over พันธบัตรและหนี้เงินกู้ที่ครบกำหนดชำระ โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน
(๒) การทางพิเศษแห่งประเทศไทยออกพันธบัตร จำนวน ๔,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท และกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ จำนวน ๗๐๐.๐๐ ล้านบาท เพื่อ Roll-over พันธบัตรที่ครบกำหนดชำระโดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน และใช้เงินรายได้
จำนวน ๒๓.๐๐ ล้านบาท ชำระคืนหนี้ในวันที่ครบกำหนดชำระ
(๓) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยออกพันธบัตร จำนวน ๑,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท เพื่อ Roll-over พันธบัตรที่ครบกำหนดชำระ
โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน
(๔) การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ จำนวน ๒,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท เพื่อ Roll-over
หนี้เงินกู้ที่ครบกำหนดชำระ โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน
(๕) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพออกพันธบัตร จำนวน ๔,๗๐๐.๐๐ ล้านบาท และกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ จำนวน ๒๑๙.๐๐ ล้านบาท เพื่อ Roll-over พันธบัตรและหนี้เงินกู้ที่ครบกำหนดชำระ โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน
และใช้เงินรายได้ จำนวน ๖๗.๘๓ ล้านบาท ชำระคืนหนี้ในวันที่ครบกำหนดชำระ
(๖) องค์การคลังสินค้าชำระคืนหนี้เงินกู้ที่ครบกำหนดชำระ โดยใช้รายได้จากการระบายข้าว
จำนวน ๑๔๙.๕๑ ล้านบาท
(๗) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรชำระคืนหนี้เงินกู้ที่ครบกำหนดชำระ
โดยใช้เงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร จำนวน ๗๐๕.๙๐ ล้านบาท
(๘) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์
จำนวน ๔๓,๗๐๘.๒๐ ล้านบาท เพื่อ Roll-over
หนี้เงินกู้ที่ครบกำหนดชำระ โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน
และใช้เงินรายได้ชำระคืนหนี้ก่อนครบกำหนดชำระ จำนวน ๘๙ ล้านบาท
ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ทั้งสิ้น ๐.๑๒ ล้านบาท
๑.๓ แผนการบริหารความเสี่ยง ช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม
๒๕๕๖ ประกอบด้วย
๑.๓.๑ การบริหารความเสี่ยงหนี้ของรัฐบาล วงเงินรวม ๔,๐๐๓.๔๗ ล้านบาท ประกอบด้วย
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระคืนหนี้เงินกู้ก่อนครบกำหนดชำระ
วงเงินรวม ๑๐๒.๘๓ ล้านบาท แบ่งเป็น ๑. การชำระคืนหนี้เงินกู้ FIDF 3 จำนวน ๑๖.๔๒ ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ ๑.๐๒ ล้านบาท และ ๒.
การชำระคืนหนี้เงินกู้เพื่อการนำส่งเข้ากองทุนส่งเสริมประกันภัยพิบัติ จำนวน ๘๖.๔๑
ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ ๓.๙๗ ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระคืนหนี้เงินกู้ต่างประเทศก่อนครบกำหนดให้กับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น
(JICA) วงเงินรวม ๑๐,๒๘๗.๕๙ ล้านเยน หรือเทียบเท่า ๓,๙๐๐.๖๔ ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ทั้งสิ้น ๔๑๐.๒๔ ล้านบาท
๑.๓.๒ การบริหารความเสี่ยงหนี้ของรัฐวิสาหกิจ วงเงินรวม ๑๒,๔๖๗.๕๑ ล้านบาท ประกอบด้วย
หนี้ในประเทศ
(๑) การเคหะแห่งชาติชำระคืนหนี้เงินกู้ก่อนครบกำหนดชำระ วงเงิน ๑,๖๐๐.๐๐ ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ย ได้ทั้งสิ้น ๔.๙๙ ล้านบาท
(๒) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชำระคืนหนี้เงินกู้ก่อนครบกำหนดชำระ
วงเงินรวม ๒,๘๘๕.๑๒ ล้านบาท แบ่งเป็น ๑. เงินกู้ธนาคารกรุงไทย
จำกัด (มหาชน) จำนวน ๙๒.๕๖ ล้านบาท และ ๒. เงินกู้ธนาคารออมสิน จำนวน ๒,๗๙๒.๕๖ ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ทั้งสิ้น ๘.๖๗ ล้านบาท
(๓)
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระคืนหนี้เงินกู้ก่อนครบกำหนดชำระ
วงเงินรวม ๖,๓๓๕.๕๐ ล้านบาท แบ่งเป็น ๑.
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๑/๒๕๕๒ จำนวน ๖,๑๒๙.๕๐
ล้านบาท และ ๒. โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๔/๒๕๕๕ จำนวน ๒๐๖.๐๐
ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ทั้งสิ้น ๓๔๗.๒๔ ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศ
(๑)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยชำระคืนหนี้เงินกู้ในวันที่ครบกำหนดชำระ วงเงินรวม
๗.๐๗ ล้านยูโร หรือเทียบเท่า ๒๙๗.๑๑ ล้านบาท
(๒) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชำระคืนหนี้เงินกู้ในวันที่ครบกำหนดชำระ
วงเงินรวม ๓.๖๘ ล้านยูโร หรือเทียบเท่า ๑๕๔.๖๙ ล้านบาท
(๓) การประปานครหลวงชำระคืนหนี้เงินกู้ในวันที่ครบกำหนดชำระ
วงเงินรวม ๒๗๔.๓๗ ล้านเยน หรือเทียบเท่า ๑๑๒.๔๙ ล้านบาท
(๔) การรถไฟแห่งประเทศไทยชำระคืนหนี้เงินกู้ในวันที่ครบกำหนดชำระ
วงเงินรวม ๐.๒๘ ล้านยูโร หรือเทียบเท่า ๑๑.๘๐ ล้านบาท
(๕)
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยชำระคืนหนี้เงินกู้ในวันที่ครบกำหนดชำระ
วงเงินรวม ๒,๕๙๒.๘๑ ล้านเยน หรือเทียบเท่า ๑,๐๖๓.๐๕ ล้านบาท
(๖) การเคหะแห่งชาติชำระคืนหนี้เงินกู้ในวันที่ครบกำหนดชำระ วงเงิน
๐.๒๕ ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า ๗.๗๕ ล้านบาท
๑.๔
แผนการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนฯ
วงเงินรวม ๗๒,๘๗๖.๗๑ ล้านบาท ประกอบด้วย
๑.๔.๑ การก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม ๖๘,๓๗๖.๗๑ ล้านบาท
เงินกู้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัด
(๑) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
ได้กู้เงินเพื่อชำระค่าจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A330-300 ลำที่ ๕
- ๗ และ A380-800 ลำที่ ๒ - ๔ วงเงินรวม ๒๔,๖๖๖.๗๑ ล้านบาท
(๒) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ได้กู้เงินโดยการออกหุ้นกู้และลงนามสัญญาเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐ วงเงินรวม ๑,๔๑๐.๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า ๔๓,๗๑๐.๐๐
ล้านบาท
๑.๔.๒ การบริหารหนี้ วงเงินรวม ๔,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) Roll-over
หนี้ที่ครบกำหนดชำระโดยการออกหุ้นกู้ในประเทศ จำนวน ๔,๕๐๐.๐๐
ล้านบาท
๒. สรุปผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ในช่วง ๖
เดือนแรกของ ปีงบประมาณ ๒๕๕๖
๒.๑ จากผลการดำเนินงานที่กล่าวมาแล้ว ในช่วงระยะเวลา ๖
เดือนแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๖ (ตุลาคม ๒๕๕๕ - มีนาคม ๒๕๕๖) กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะตามกรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๗๘๘,๒๐๔.๕๕ ล้านบาท
โดยมีความก้าวหน้า คิดเป็นร้อยละ ๔๐.๔๖ ของแผนการบริหารหนี้สาธารณะทั้งปี
๒.๒ ผลการกู้เงินและบริหารจัดการหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ในช่วง ๖ เดือนแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๖
รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๗๒,๘๗๖.๗๑ ล้านบาท
๒.๓ จากการดำเนินการตามข้อ ๒.๑ - ๒.๒
กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๘๖๑,๐๘๑.๒๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๑.๖๐ ของแผนการบริหารหนี้สาธารณะทั้งปี
ทั้งนี้ การกู้เงินและการบริหารหนี้ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
แบ่งเป็น ๑. หนี้ของรัฐบาลจำนวน ๕๕๑,๕๒๓.๖๖ ล้านบาท ๒.
หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน จำนวน ๙๗,๓๗๙.๔๖
ล้านบาท และ ๓. หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน ๒๑๒,๑๗๘.๑๔ ล้านบาท นอกจากนี้
กระทรวงการคลังยังได้ดำเนินการค้ำประกันเงินกู้ให้แก่องค์การสวนยางที่กู้ต่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรอีก
จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง
ทำให้วงเงินที่กระทรวงการคลังได้ค้ำประกันไปแล้วในปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ณ วันที่ ๓๑
มีนาคม ๒๕๕๖ เท่ากับ ๒๑๗,๑๗๘.๑๔ ล้านบาท
ผลของการบริหารหนี้ที่ได้ดำเนินการทั้งในส่วนของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ
(รายละเอียดปรากฏตามข้อ ๑.๒ ข้อ ๑.๓ และข้อ ๑.๔.๒) วงเงินรวมทั้งสิ้น ๔๔๓,๐๓๕.๖๕ ล้านบาท นั้น สามารถลดยอดหนี้ได้ทั้งสิ้น ๑๒๖,๕๑๖.๔๐ ล้านบาท รวมทั้งประหยัดดอกเบี้ยได้ทั้งสิ้น จำนวน ๑,๖๘๓.๔๖ ล้านบาท (รายละเอียดปรากฏตามข้อ ๑.๒.๑ ข้อ ๑.๒.๒ ข้อ ๑.๓.๑ และข้อ
๑.๓.๒)
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
กิตติรัตน์ ณ ระนอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
หมายเหตุ :- FIDF หมายถึง
กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
FIDF1 หมายถึง
พันธบัตรที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งรวมทั้งเงินกู้หรือตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน ๑ ปี
FIDF3 หมายถึง
พันธบัตรที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕
Refinance หมายถึง การกู้เงินจากแหล่งใหม่เพื่อนำไปใช้คืนแหล่งเงินกู้เดิม
ซึ่งเป็นการลดต้นทุนการกู้เงิน
Roll-over หมายถึง การกู้เงินใหม่เพื่อนำไปชำระเงินกู้ที่ครบกำหนดชำระ
เพื่อให้เงินกู้ดังกล่าวมีระยะเงินกู้สอดคล้องกับระยะคืนทุน
Swap หมายถึง
การแปลงหนี้ที่นิยมดำเนินการมี
๒ วิธี คือ การแปลงสกุลเงิน เช่น การแปลงหนี้สกุลเงินเยนเป็นเงินบาท
และการแปลงอัตราดอกเบี้ย เช่น
การแปลงอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๙ พฤษภาคม
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๗ มิถุนายน
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๒ ง/หน้า ๒/๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
686680 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 8
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๘[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขายและคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ
(Re-open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก.
ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ (LB326A) ซึ่งมียอดคงค้าง จำนวน ๕๘,๘๗๒ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๔,๘๗๒ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง) และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า
๑๐๐ ล้านบาท และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย(ล้านบาท)
วันที่
ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๘ (LB326A)
อายุคงเหลือ ๑๙.๐๙ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๗๗๕ ต่อปี
จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท
๒๒ พ.ค. ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๒๗ พ.ค. ๒๕๕๖
๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๕
๒๕ มิ.ย. ๒๕๗๕
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก.
ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๔,๘๗๒ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๕)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๗๗๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๒๕ มิถุนายน และ ๒๕ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๒๕ ธันวาคม ๒๕๗๕ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
(๒) กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนดกระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๘ พฤษภาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๘ พฤษภาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๑ ง/หน้า ๒๒/๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
686678 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 7 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๗[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขายและคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ จำนวน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท
(หนึ่งหมื่นสี่พันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ (LB196A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๑๔๐,๙๙๔ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๕๔,๙๙๔ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่สถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้านหากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐
ล้านบาทจะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
โดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย(ล้านบาท)
วันที่
ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๗ (LB196A)
อายุคงเหลือ ๖.๐๕ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๗๕ ต่อปี
จำนวน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท
๒๒ พ.ค. ๒๕๕๖
๑๔,๐๐๐
๒๗ พ.ค. ๒๕๕๖
๑๓ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๒
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๕๔,๙๙๔ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๗๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๓ มิถุนายน และ ๑๓ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้ วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน
ต้องไม่เกิน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นสี่พันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๘ พฤษภาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๘ พฤษภาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๑ ง/หน้า ๑๗/๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
686676 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินระยะสั้นเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ ฯ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 3
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินระยะสั้นเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้
(พ.ร.บ.
การบริหารหนี้สาธารณะฯ)
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ได้ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข
ดังต่อไปนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพฤษภาคม
๒๕๕๖ โดยการกู้เงินระยะสั้นวงเงินรวม ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท แบ่งเป็น
วงเงินที่ ๑ จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท และวงเงินที่ ๒ จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท อายุเงินกู้ไม่เกิน ๑ เดือน นับตั้งแต่วันที่เบิกเงินกู้
โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียด ดังนี้
วงเงินที่ ๑
ลำดับ
ที่
สถาบันการเงิน
วงเงินกู้
(ล้านบาท)
อัตราดอกเบี้ย
(ร้อยละต่อปี)
วันที่เบิกเงินกู้
วันที่ครบกำหนด
๑.
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด
(มหาชน)
๓,๐๐๐
๒.๗๘๙
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖
๘ มิถุนายน ๒๕๕๖
๒.
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด
(มหาชน)
๗,๐๐๐
๒.๗๙๘
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖
๘ มิถุนายน ๒๕๕๖
รวมทั้งสิ้น
๑๐,๐๐๐
วงเงินที่ ๒
ลำดับ
ที่
สถาบันการเงิน
วงเงินกู้
(ล้านบาท)
อัตราดอกเบี้ย
(ร้อยละต่อปี)
วันที่เบิกเงินกู้
วันที่ครบกำหนด
๑.
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด
(มหาชน)
๓,๐๐๐
๒.๗๘๙
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖
๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๖
๒.
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด
(มหาชน)
๗,๐๐๐
๒.๗๙๘
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖
๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๖
รวมทั้งสิ้น
๑๐,๐๐๐
๒. กรณีที่มีการชำระคืนหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
โดยจะชำระค่าดอกเบี้ยคงค้างของหนี้เงินต้นที่ชำระคืนก่อนกำหนด
พร้อมกับการชำระหนี้เงินต้นก่อนกำหนดนั้นด้วย
หากวันครบกำหนดชำระหนี้ตรงกับวันหยุดราชการ หรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป
และจะคำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้ การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
๓. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด
ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๘ พฤษภาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๘ พฤษภาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๑ ง/หน้า ๑๕/๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
686672 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ในปีงบประมาณ 2556 ครั้งที่ 1
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ
และสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕
ในปีงบประมาณ
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกอบกับมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๕ จึงได้ดำเนินการกู้เงิน โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ให้กู้ :
ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) วงเงินกู้รวมทั้งสิ้น ๑๕,๓๙๓.๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นห้าพันสามร้อยเก้าสิบสามล้านบาทถ้วน)
๒. วัตถุประสงค์ในการกู้
: เพื่อนำมาใช้ในโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ
๓. รายละเอียดเงื่อนไข
:
๓.๑ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
(อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน
ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย)
บวกด้วย Spread โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุก ๖ เดือน
หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง โดยดอกเบี้ยงวดแรกมีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
บวก Spread เฉลี่ย ร้อยละ ๑.๔๔ ต่อปี
๓.๒ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม
๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ โดยจะเบิกที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดก่อน
โดยจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
๓.๓ การชำระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ ทุกงวด ๖ เดือน
ในวันที่ ๑ พฤษภาคม และวันที่ ๑ พฤศจิกายน ของทุกปี โดยจะชำระดอกเบี้ยงวดแรก
ในวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายพร้อมต้นเงินกู้ ณ วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้
การชำระดอกเบี้ยงวดแรกกระทรวงการคลังจะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
เฉลี่ย ๗ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๕ - ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๖ เป็นฐานในการคำนวณ
สำหรับอัตราดอกเบี้ยในงวดต่อไป ๆ จะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง เฉลี่ย ๗ วัน ก่อน ๒
วันทำการ ก่อนวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยเพื่อใช้คำนวณดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา ๖
เดือนถัดมา
๓.๔ การชำระต้นเงิน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวน ณ
วันสิ้นสุดสัญญากู้ยืมเงิน คือ วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐
๓.๕ การชำระหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วน
โดยจะทยอยคืนหนี้เงินกู้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน ทั้งนี้
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑ เดือน
๓.๖
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป
โดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้
๓.๗ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๘ พฤษภาคม
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๘ พฤษภาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม
๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖๑ ง/หน้า ๑๓/๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
685988 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 6 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๖[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖
เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ วงเงิน ๑๑,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔ (LB21DA) อายุ ๑๑.๐๘ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๕๗,๑๑๐ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๘.๖๙ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวน ในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๖๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
และบริษัทหลักทรัพย์
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๑๐ เมษายน
๒๕๕๖
๑๑,๐๐๐
๓.๓๕๓๓
๑๑,๓๗๑,๘๔๐,๗๓๕.๒๐
๒๔๔,๒๔๐,๗๓๕.๒๐
๑๒๗,๖๐๐,๐๐๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๖ ง/หน้า ๓๓/๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
685986 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 5 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๕[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕
เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ วงเงิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก.
ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ (LB326A) อายุ ๒๐.๔๒ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๘,๘๗๒ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๑๙.๒๕ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวน ในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๗๕
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๗๗๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๒๕ มิถุนายน และ ๒๕ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ และสำนักงานประกันสังคม
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๒๗ มีนาคม
๒๕๕๖
๘,๐๐๐
๔.๐๑๒๑
๗,๘๒๕,๑๗๘,๓๕๔.๕๐
-๒๕๒,๕๙๗,๐๐๕.๕๐
๗๗,๗๗๕,๓๖๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๖ ง/หน้า ๓๑/๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
685984 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 4 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔
เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ วงเงิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙ (LB616A) อายุ ๕๐.๓๒ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น
๖๘,๒๐๕ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๔๘.๒๗ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวน ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๖๐๔
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๘๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๒๐ มีนาคม
๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๔.๓๖๓๖
๖,๖๖๑,๒๑๘,๒๕๓.๒๕
๕๘๕,๔๗๘,๕๑๓.๒๕
๗๕,๗๓๙,๗๔๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๖ ง/หน้า ๒๙/๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
685982 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 3 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓
เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ วงเงิน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ (LB196A) อายุ ๑๐.๐๕ ปี ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น
๑๔๐,๙๙๔ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๖.๒๓ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวน ในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๗๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๓ มิถุนายน และ ๑๓ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
และบริษัทหลักทรัพย์
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๒๐ มีนาคม
๒๕๕๖
๑๔,๐๐๐
๓.๒๘๓๕
๑๔,๖๑๐,๒๙๙,๙๓๕.๕๐
๔๖๓,๑๕๖,๑๕๕.๕๐
๑๔๗,๑๔๓,๗๘๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ
วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๖ ง/หน้า ๒๗/๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
685980 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ อายุ ๑๕ ปี จำนวน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท (สี่หมื่นล้านบาทถ้วน)
ข้อ ๒ พันธบัตรนี้เป็นพันธบัตรชนิดออกในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตร
และจดทะเบียนตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย หน่วยละหนึ่งพันบาท โดยวงเงินซื้อขั้นต่ำ
๑๐๐,๐๐๐ บาท และซื้อเพิ่มเป็นจำนวนเท่าของ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
และไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูง โดยมีรายละเอียดการจำหน่าย ดังนี้
๒.๑ ผู้มีสิทธิ์ซื้อประกอบด้วย นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ
และผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศ
๒.๒ วันจำหน่ายพันธบัตรรุ่นนี้ คือ วันที่ ๘ และ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๖ โดยกำหนดวันจดทะเบียนเป็นวันที่
๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผู้ถือกรรมสิทธิ์ ดังนี้
ประเภทผู้ถือกรรมสิทธิ์
จำนวน
(รายการ)
จำนวนเงิน
(ล้านบาท)
สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ
๓
๒๕,๕๗๐.๐๐
กองทุนต่าง
ๆ
๑๐๐
๗,๗๑๓.๔๐
ธนาคารพาณิชย์ในประเทศ
๓
๕,๓๓๐.๐๐
สหกรณ์ออมทรัพย์
๕
๕๘๖.๒๐
บริษัทประกันชีวิต
๔
๔๓๕.๐๐
บริษัทหลักทรัพย์
๑
๑๗๐.๐๐
สถาบันอื่นที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ไม่แสวงหากำไร
๒
๑๓๒.๕๐
ส่วนราชการสังกัดรัฐบาลกลาง
๖
๓๑.๑๐
บริษัทประกันภัย
๒
๒๕.๕๐
ผู้ลงทุนรายใหญ่
๑
๕.๐๐
สถาบันการศึกษาของเอกชน
๑
๑.๓๐
รวมทั้งสิ้น
๑๒๘
๔๐,๐๐๐.๐๐
๒.๓ ให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารดอยซ์แบงก์
เอจี (สาขากรุงเทพฯ) และธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด (สาขากรุงเทพฯ)
เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายพันธบัตร
ข้อ ๓ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นนายทะเบียน
และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรุ่นนี้และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๔ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๕ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะออกใบตราสาร
หรือนำฝากพันธบัตรรุ่นนี้เข้าบัญชีผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๖ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรสามารถใช้พันธบัตรเป็นหลักประกันให้กับหน่วยงานราชการและองค์กรของรัฐ
เช่น การประกันทางศาล หรือการประกันไฟฟ้า
และสามารถใช้พันธบัตรเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินหรือบุคคลอื่นได้ ทั้งนี้
ขึ้นอยู่กับระเบียบหลักเกณฑ์การรับหลักประกันของหน่วยงานหรือบุคคลนั้น ๆ
ข้อ ๗ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ต้องการโอนกรรมสิทธิ์พันธบัตรรุ่นนี้สามารถกระทำได้หลังจากได้รับใบพันธบัตร
หรือหลังจากได้รับการฝากเข้าบัญชีที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย)
จำกัด แล้ว แต่จะกระทำในระหว่างระยะเวลา ๑๐ วัน ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนมิได้
การโอนกรรมสิทธิ์ให้ปฏิบัติตามพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๘ พันธบัตรรุ่นนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๒๕
ต่อปี และมีส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนดอกเบี้ย และส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนต้นเงิน
โดยมีวิธีการคำนวณดอกเบี้ยและส่วนชดเชย ดังนี้
(๑) ดอกเบี้ยและส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนดอกเบี้ย = ต้นเงิน x อัตราดอกเบี้ย x Index Ratio x จำนวนวันตามจริง/๓๖๕
(๒) ส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนต้นเงิน (จ่าย ณ
วันครบกำหนด) = ต้นเงิน x Index Ratio
หมายเหตุ กระทรวงการคลังจะประกาศ Index Ratio ประมาณ ๑ เดือน
ก่อนวันจ่ายดอกเบี้ยแต่ละงวดหรือก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน
การคำนวณดอกเบี้ยเริ่มคำนวณจากวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยคำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรโดยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน และนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริงเศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๖ โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด
คือ วันที่ ๑๒ มีนาคม และ ๑๒ กันยายน ของทุกปีจนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนด
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไปโดยไม่คำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
เว้นแต่ดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝาก
(ยกเว้นบัญชีเงินฝากประจำ) ของผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ฝากไว้ที่ธนาคารใดก็ได้
(ธนาคารในประเทศไทยเท่านั้น) ตามที่ผู้ถือกรรมสิทธิ์แจ้งไว้ในคำเสนอขอซื้อพันธบัตร
หรือตามที่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงต่อธนาคารแห่งประเทศไทยในภายหลังหรือตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์ฝากพันธบัตรไว้กับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งในการโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชี
ธนาคารเจ้าของบัญชีเงินฝากอาจหักค่าธรรมเนียมการโอนเงินตามอัตราที่แต่ละธนาคารประกาศหรือกำหนด
การจ่ายดอกเบี้ยของพันธบัตรในแต่ละงวด
จะจ่ายให้แก่ผู้ถือกรรมสิทธิ์โดยถือตามรายชื่อทางทะเบียน ณ
วันทำการสุดท้ายของธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนถึงช่วงระยะเวลา ๑๐ วัน
ก่อนถึงวันกำหนดชำระดอกเบี้ย
ข้อ ๙ พันธบัตรรุ่นนี้ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่
๑๒ มีนาคม ๒๕๗๑ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
ไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันครบกำหนดไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๐ การชำระต้นเงินตามพันธบัตร
จะกระทำได้ต่อเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคืนใบพันธบัตร
หรือตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์ฝากพันธบัตรไว้กับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด
ข้อ ๑๑ กรณีที่มีการออกใบพันธบัตร
มิให้ถือว่าพันธบัตรฉบับใดสมบูรณ์
เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่นายทะเบียนโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๒ กำหนดค่าธรรมเนียมในการจำหน่ายพันธบัตรในอัตราร้อยละ
๐.๐๙ ของวงเงินพันธบัตรที่จำหน่ายได้ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
โดยแบ่งให้แก่ผู้ร่วมจัดจำหน่ายในจำนวนที่เท่ากันโดยกระทรวงการคลังกำหนดชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวทั้งจำนวนให้กับธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น
จำกัด (สาขากรุงเทพฯ) และธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด (สาขากรุงเทพฯ)
จะชำระค่าธรรมเนียม (หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง)
ให้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารดอยซ์แบงก์
เอจี (สาขากรุงเทพฯ) ภายในวันทำการถัดจากวันที่ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น
จำกัด (สาขากรุงเทพฯ) ได้รับชำระค่าธรรมเนียมจากกระทรวงการคลัง
ข้อ ๑๓ กำหนดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังนี้
๑๓.๑ ค่าธรรมเนียมในการเป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงินเกี่ยวกับพันธบัตรในอัตราร้อยละ
๐.๑ ของดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
๑๓.๒ ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรตามที่จ่ายจริง
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๖ ง/หน้า ๒๒/๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ |
685683 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 3 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามมาตรฐานการคำนวณราคาตราสารหนี้ประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
(Amortizing/Amortized Bond) ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย) โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง
ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่
๓ จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
(แปดพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ (LBA37DA) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน
๓๘,๐๐๐ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๔๖,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding) พ.ศ.
๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding) ภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลประเภท
ทยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓ (LBA37DA)
อายุคงเหลือ ๒๔.๕๓ ปี
อัตราดอกเบี้ย
ร้อยละ ๔.๒๖ ต่อปี
จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
๕
มิ.ย. ๒๕๕๖
๘,๐๐๐
๗
มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๒
ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๒
ธ.ค. ๒๕๘๐
หมายเหตุ :- ๑. เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open)
พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๔๖,๐๐๐ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๔.๒๖ ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยปีละ ๒ งวด คือ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายน และ ๑๒ ธันวาคม
ของทุกปี โดยเริ่มคำนวณดอกเบี้ยจากวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๒
มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยจำนวนดอกเบี้ยในแต่ละงวดดอกเบี้ยจะถูกคำนวณโดยการนำจำนวนเงินต้นคงเหลือ
ณ ต้นงวดดอกเบี้ยของพันธบัตร ซึ่งผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรแต่ละรายมีอยู่
คูณด้วยอัตราดอกเบี้ย โดยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน
และนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้
การคำนวณดอกเบี้ยหากมีเศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง หากวันจ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
และจะไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
เว้นแต่ปีที่เริ่มทยอยชำระคืนเงินต้นจนถึงวันจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่
๑๒ ธันวาคม ๒๕๘๐ โดยจะทยอยชำระคืนเงินต้นงวดแรกเมื่อพันธบัตรมีอายุครบ ๒๑ ปี
โดยจะแบ่งการชำระคืนเงินต้นเป็นจำนวนห้างวด งวดละเท่า ๆ กัน เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๗๖ และชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๘๐ หากวันที่ชำระคืนเงินต้นตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
การชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตร
จะกระทำได้ต่อเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคืนใบพันธบัตร
หรือตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด
กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์ฝากพันธบัตรไว้กับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย)
จำกัด
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท (แปดพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ พฤษภาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๔ ง/หน้า ๔๖/๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ |
685681 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 3 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก
การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว) ๑๐๘๖/๒๕๓๘
เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง
และปรับด้วย Index Ratio ณ วันที่ชำระเงิน
ตามที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ จำนวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ (ILB283A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding) พ.ศ.
๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนแท้จริงร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding) ภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนแท้จริงต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนแท้จริงเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ
๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนแท้จริงที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริง
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่นๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลประเภท
อัตราดอกเบี้ยแปรผัน
ตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ (ILB283A)
อายุคงเหลือ ๑๔.๘๓ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๒๕ ต่อปี จำนวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท
๑๕
พ.ค. ๒๕๕๖
๑๕,๐๐๐
๑๗
พ.ค. ๒๕๕๖
๑๒
มี.ค. ๒๕๕๖
๑๒
มี.ค. ๒๕๗๑
หมายเหตุ :- ๑. เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๕,๐๐๐ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
๓. Index Ratio ณ วันที่ชำระเงินในวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖
เท่ากับ ๑.๐๐๓๕๑
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรุ่นนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๒๕
ต่อปี และมีส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนดอกเบี้ยและส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนต้นเงิน โดยมีวิธีการคำนวณดอกเบี้ยและส่วนชดเชย
ดังนี้
(๑) ดอกเบี้ยและส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนดอกเบี้ย = ต้นเงิน x อัตราดอกเบี้ย x Index Ratiox จำนวนวันตามจริง/๓๖๕
(๒) ส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนต้นเงิน (จ่าย ณ วันครบกำหนด) = ต้นเงิน x Index Ratio
หมายเหตุ กระทรวงการคลังจะประกาศ Index Ratio ประมาณ ๑ เดือน
ก่อนวันจ่ายดอกเบี้ยแต่ละงวดหรือก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน
การคำนวณดอกเบี้ยเริ่มคำนวณจากวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริงเศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๒ มีนาคม และ ๑๒ กันยายน ของทุกปี สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
ณ วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไปโดยไม่คำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
เว้นแต่การเลื่อนชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันไถ่ถอนจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๒ มีนาคม ๒๕๗๑ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคืนใบพันธบัตร
หรือตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด
กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์ฝากพันธบัตรไว้กับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย)
จำกัด
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนแท้จริงของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ พฤษภาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๔ ง/หน้า ๔๐/๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ |
685679 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 15 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๕[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕
จำนวน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นสองพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔ (LB21DA) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๑๕๗,๑๑๐ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๖๙,๑๑๐ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding) พ.ศ.
๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล โดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding) ภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐
ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๕
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๕ (LB21DA) อายุคงเหลือ ๘.๕๓ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๖๕ ต่อปี จำนวน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท
๕
มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๒,๐๐๐
๗
มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๗
ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๗
ธ.ค. ๒๕๖๔
หมายเหตุ :- ๑. เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๖๙,๑๑๐ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๖๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕)
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด
คือ วันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
ณ วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นสองพันล้านบาทถ้วน)
(๒) กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๔ ง/หน้า ๓๕/๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ |
685677 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 14 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๔[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔
จำนวน ๔,๐๐๐ ล้านบาท (สี่พันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙ (LB616A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๖๘,๒๐๕ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๗๒,๒๐๕ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓
กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding)
ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า ๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน
๑๐๐ ล้านบาท และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD
ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding)
ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD
ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔
ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐
ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD
ได้ยื่นประมูลก่อน กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท
จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖
ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗
เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ ๖ แล้ว
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘
ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย นายทะเบียน
และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่นๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐
ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑
ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล ในอัตราไม่เกินร้อยละ
๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒
การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓
ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔
กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์
เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕
กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๔ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๔ (LB616A) อายุคงเหลือ ๔๘.๑๔ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๘๕ ต่อปี จำนวน ๔,๐๐๐ ล้านบาท
๘
พ.ค. ๒๕๕๖
๔,๐๐๐
๑๐
พ.ค. ๒๕๕๖
๑๗
ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๗
มิ.ย. ๒๖๐๔
หมายเหตุ :- ๑. เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น
๗๒,๒๐๕ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๔)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖
พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๘๕ ต่อปี
คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด
(วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗
พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๖๐๔
เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘
กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๔,๐๐๐ ล้านบาท (สี่พันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ พฤษภาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๔ ง/หน้า ๓๐/๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ |
685675 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 13 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๓[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓
จำนวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓ (LB27DA) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๕๗,๐๑๐ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๗๒,๐๑๐ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓
กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding)
พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า ๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน
๑๐๐ ล้านบาท และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD
ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding)
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD
ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓
ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐
ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD
ได้ยื่นประมูลก่อน กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท
จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖
ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗
เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ ๖ แล้ว
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘
ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐
ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑
ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒
การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓
ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔
กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์
เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕
กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๓ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๓ (LB27DA) อายุคงเหลือ ๑๔.๖๕ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๕๘ ต่อปี จำนวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท
๒๔
เม.ย. ๒๕๕๖
๒๖
มิ.ย. ๒๕๕๖
๗,๐๐๐
๘,๐๐๐
๒๖
เม.ย. ๒๕๕๖
๒๘
มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๗
ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๗
มิ.ย. ๒๕๕๖
๑๗
ธ.ค. ๒๕๗๐
๑๗
ธ.ค. ๒๕๗๐
หมายเหตุ :- ๑. เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๗๒,๐๑๐ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๕)
๒. ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖
พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๕๘ ต่อปี
คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด
(วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๗๐ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘
กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน)
(๒) กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓) ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๔ ง/หน้า ๒๕/๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ |
685673 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 12 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๒[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒
จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ (LB416A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๗๔,๙๓๖ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๘๐,๙๓๖ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓
กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding)
ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า ๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน
๑๐๐ ล้านบาท และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD
ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding)
ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD
ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒
ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐
ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD
ได้ยื่นประมูลก่อน กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐
ล้านบาทจะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖
ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗
เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ ๖ แล้ว
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘
ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย นายทะเบียน
และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐
ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑
ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล ในอัตราไม่เกินร้อยละ
๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒
การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓
ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔
กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์
เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕
กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๒ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๒ (LB416A)
อายุคงเหลือ
๒๘.๑๙ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๐ ต่อปี
จำนวน
๖,๐๐๐ ล้านบาท
๑๐ เม.ย.
๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๑๒ เม.ย.
๒๕๕๖
๑๔ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๔ มิ.ย.
๒๕๘๔
หมายเหตุ :- ๑.
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open)
พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๘๐,๙๓๖ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖
พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐ ต่อปี
คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด
(วันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๔ มิถุนายน และ ๑๔ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗
พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๘๔
เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘
กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๐ พฤษภาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๕๔ ง/หน้า ๒๐/๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ |
684946 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑.
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ วงเงิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ (LBA37DA) อายุ ๒๕ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๓๘,๐๐๐ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๒๔.๗๖ ปี
โดยจะทยอยชำระคืนเงินต้นงวดแรกเมื่อพันธบัตรมีอายุครบ ๒๑ ปี
โดยจะแบ่งการชำระคืนเงินต้นเป็นจำนวนห้างวด งวดละเท่า ๆ กัน เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๗๖ และชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๘๐
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๒๖ ต่อปี
จ่ายดอกเบี้ยปีละ ๒ งวด คือ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายน และ ๑๒ ธันวาคม ของทุกปี
หากวันจ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป และจะไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
เว้นแต่ปีที่เริ่มทยอยชำระคืนเงินต้นจนถึงวันจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
๒.
วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
สำนักงานประกันสังคม และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓.
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ ๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖
โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๑๓
มีนาคม ๒๕๕๖
๘,๐๐๐
๔.๒๖๑๒
๘,๐๘๘,๔๕๘,๖๓๗.๕๐
๑,๖๒๔,๖๓๗.๕๐
๘๖,๘๓๔,๐๐๐.๐๐
หมายเหตุ :-
วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔.
กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๔ เมษายน ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๗ พฤษภาคม
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๔๙ ง/หน้า ๒/๑๙ เมษายน ๒๕๕๖ |
684692 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 3 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลัง
ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ อายุ ๖ เดือน ให้กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด
(มหาชน) เป็นจำนวนเงิน ๕,๔๓๒,๕๐๐,๐๐๐
บาท (ห้าพันสี่ร้อยสามสิบสองล้านห้าแสนบาทถ้วน)
๒. ตั๋วสัญญาใช้เงินนี้จะออกให้กับธนาคารกสิกรไทย
จำกัด (มหาชน) ในวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖
๓. ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกตามในข้อ
๒ มีกำหนดชำระคืนต้นเงินกู้ ในวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๖
๔. ตั๋วสัญญาใช้เงินนี้มีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ
๒.๙๑๘ ต่อปี
๕. ชำระดอกเบี้ยในวันที่
๒๘ กันยายน ๒๕๕๖ โดยจะชำระพร้อมต้นเงินกู้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินในวันที่ไถ่ถอน
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
โดยคำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้
๖. กำหนดชำระคืนต้นเงินกู้ภายใน
๖ เดือน นับตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖ กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนก็ได้
ทั้งนี้
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน
โดยหากวันครบกำหนดชำระต้นเงินกู้ตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันเปิดทำการถัดไป
๗. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด
ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๗ เมษายน ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๙ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๔๗ ง/หน้า ๑๖/๑๑ เมษายน ๒๕๕๖ |
684690 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลัง
ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่
๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข
ดังต่อไปนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ รุ่นอายุ ๙ ปี ๒๗ วัน ให้กับธนาคารออมสิน
และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงินรวม ๙,๓๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (เก้าพันสามร้อยล้านบาทถ้วน)
๒. ตั๋วสัญญาใช้เงินนี้จะออกให้กับธนาคารออมสิน
และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๖
๓. ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกตามในข้อ
๒ มีกำหนดชำระคืนต้นเงินกู้งวดสุดท้ายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๕
๔. ตั๋วสัญญาใช้เงินนี้มีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
(อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน
ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย)
บวกด้วย Spread โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุก ๖ เดือน
หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕
วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันที่ ๓๐
เมษายน ๒๕๖๕ โดยดอกเบี้ยงวดแรกของตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกให้ในวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๖
มีอัตราดอกเบี้ยถัวเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ ๓.๕๘๓ ต่อปี
๕. การชำระดอกเบี้ย
ตลอดเวลาที่สัญญายังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ ในวันที่ ๓๐
เมษายน และ ๓๐ ตุลาคม ของทุกปี
โดยคำนวณดอกเบี้ยที่จะชำระในแต่ละงวดจากต้นเงินคงค้างก่อนการชำระคืน หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันเปิดทำการถัดไป
โดยคำนวณเงินจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
๖. การชำระคืนต้นเงินกู้
แบ่งทยอยชำระคืนต้นเงินกู้เป็น ๑๘ งวด ทุกวันที่ ๓๐ เมษายน และ ๓๐ ตุลาคม ของทุกปี
สำหรับการชำระคืนต้นเงินกู้ในงวดที่ ๑ - ๑๗ จะทยอยชำระงวดละเท่า ๆ กัน จำนวน ๕๑๖,๖๖๖,๖๖๖.๖๖ บาท และงวดที่ ๑๘ จำนวน ๕๑๖,๖๖๖,๖๖๖.๗๘ บาท
โดยจะทยอยคืนหนี้เงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน
ซึ่งจะชำระคืนต้นเงินกู้งวดแรกในวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ และงวดสุดท้ายในวันที่ ๓๐
เมษายน ๒๕๖๕
หากวันครบกำหนดชำระต้นเงินกู้ตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันเปิดทำการถัดไป
๗. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด
ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๗ เมษายน ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๙ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๔๗ ง/หน้า ๑๔/๑๑ เมษายน ๒๕๕๖ |
684688 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 1 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลัง
ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑ รุ่นอายุ ๒ ปี ให้กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด
(มหาชน) และธนาคารออมสิน เป็นจำนวนเงินรวม ๑๑,๔๓๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท
(หนึ่งหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยสามสิบสองล้านห้าแสนบาทถ้วน)
๒. ตั๋วสัญญาใช้เงินนี้จะออกให้กับธนาคารกสิกรไทย
จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน ในวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖
๓. ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกตามในข้อ
๒ มีกำหนดชำระคืนต้นเงินกู้ ในวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๘
๔. ตั๋วสัญญาใช้เงินนี้มีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
(อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดาเฉลี่ย ๗ วัน
ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ๔ แห่ง (FDR) ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย
บวกด้วย Spread โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุก ๖ เดือน
หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปี มี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๖ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันที่ ๒๘
มีนาคม ๒๕๕๘ โดยดอกเบี้ยงวดแรกของตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกให้ในวันที่ ๒๘ มีนาคม
๒๕๕๖ มีอัตราดอกเบี้ยถัวเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ ๓.๑๗๐ ต่อปี
๕. การชำระดอกเบี้ย
ตลอดเวลาที่สัญญายังมีอายุอยู่ให้แบ่งการชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ ในวันที่ ๒๘
มีนาคม และวันที่ ๒๘ กันยายน ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมต้นเงินกู้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินในวันที่ไถ่ถอน
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
โดยไม่นับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้
๖. การชำระคืนต้นเงินกู้
กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนครบกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนก็ได้
โดยจะทยอยคืนหนี้เงินกู้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน ทั้งนี้
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน
และจะชำระค่าดอกเบี้ยคงค้างของหนี้เงินต้นที่ชำระคืนก่อนกำหนดพร้อมกับการชำระหนี้เงินต้นก่อนกำหนดนั้นด้วย
โดยหากวันครบกำหนดชำระต้นเงินกู้ตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันเปิดทำการถัดไป
๗. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๗ เมษายน ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๙ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๔๗ ง/หน้า ๑๒/๑๑ เมษายน ๒๕๕๖ |
683979 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 6 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๖[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ จำนวน ๑๑,๐๐๐ ล้านบาท
(หนึ่งหมื่นหนึ่งพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔ (LB21DA) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๑๔๖,๑๑๐ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๕๗,๑๑๐ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อนกรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ
๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๖ (LB21DA)
อายุคงเหลือ ๘.๖๙ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๖๕ ต่อปี
จำนวน ๑๑,๐๐๐ ล้านบาท
๑๐ เม.ย. ๒๕๕๖
๑๑,๐๐๐
๑๒ เม.ย. ๒๕๕๖
๑๗ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๗ ธ.ค. ๒๕๖๔
หมายเหตุ :- ๑. เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๕๗,๑๑๐ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓)
๒
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๖๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้ วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน
ต้องไม่เกิน ๑๑,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นหนึ่งพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๙ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๘ ง/หน้า ๒๔/๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683977 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 5 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๕[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขายและคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท (แปดพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้
(พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕
ครั้งที่ ๑ (LB326A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน
๕๐,๘๗๒ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๘,๘๗๒ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง) และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า
๑๐๐ ล้านบาท และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนโดย
MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา
๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๕ (LB326A)
อายุคงเหลือ ๑๙.๒๕ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๗๗๕ ต่อปี
จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
๒๗ มี.ค. ๒๕๕๖
๘,๐๐๐
๒๙ มี.ค. ๒๕๕๖
๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๕
๒๕ มิ.ย. ๒๕๗๕
หมายเหตุ :- ๑. เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้
(พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕
ครั้งที่ ๑ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๘,๘๗๒ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๕)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๗๗๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ วันที่
๒๕ มิถุนายน และ ๒๕ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๒๕ ธันวาคม ๒๕๗๕ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท (แปดพันล้านบาทถ้วน)
(๒) กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๙ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๘ ง/หน้า ๑๙/๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683975 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 4 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขายและคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ
(Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙
(LB616A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๖๒,๒๐๕ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๘,๒๐๕ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคล เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนโดย
MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา
๑๐.๐๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๔
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๔ (LB616A)
อายุคงเหลือ ๔๘.๒๗ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๘๕ ต่อปี
จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท
๒๐ มี.ค. ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๒๒ มี.ค. ๒๕๕๖
๑๗ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๗ มิ.ย. ๒๖๐๔
หมายเหตุ :- ๑. เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๘,๒๐๕ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๔)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๔.๘๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ วันที่
๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๗ มิถุนายน ๒๖๐๔ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้ วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน
ต้องไม่เกิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๙ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๘ ง/หน้า ๑๔/๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683973 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 3
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขายและคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ จำนวน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท
(หนึ่งหมื่นสี่พันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ (LB196A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๑๒๖,๙๙๔ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๔๐,๙๙๔ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่สถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล โดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนโดย
MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา
๑๐.๐๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓ (LB196A)
อายุคงเหลือ ๖.๒๓ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๗๕ ต่อปี
จำนวน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท
๒๐ มี.ค. ๒๕๕๖
๑๔,๐๐๐
๒๒ มี.ค. ๒๕๕๖
๑๓ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๒
หมายเหตุ :- ๑.
พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น
๑๔๐,๙๙๔ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒)
๒.
ราคาพันธบัตรที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลต้องชำระเป็นไปตามสูตรการคำนวณราคาซึ่งได้คำนึงถึงดอกเบี้ยค้างรับไว้แล้ว
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๗๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ วันที่
๑๓ มิถุนายน และ ๑๓ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นสี่พันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๙ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๘ ง/หน้า ๙/๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683971 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินระยะสั้นเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ ฯ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินระยะสั้นเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้
(พ.ร.บ.
การบริหารหนี้สาธารณะฯ)
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ได้ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข
ดังต่อไปนี้
๑.
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่
๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖ โดยการกู้เงินระยะสั้นวงเงินรวม ๓๙,๐๐๐ ล้านบาท
จากสถาบันการเงิน ๒ แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย
จำกัด (มหาชน) โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียด ดังนี้
ลำดับที่
สถาบันการเงิน
วงเงินกู้
(ล้านบาท)
อัตราดอกเบี้ย
(ร้อยละต่อปี)
๑.
ธนาคารกสิกรไทย
จำกัด (มหาชน)
๕,๐๐๐
๒.๗๙๕
๒.
ธนาคารกสิกรไทย
จำกัด (มหาชน)
๕,๐๐๐
๒.๘๑
๓.
ธนาคารกสิกรไทย
จำกัด (มหาชน)
๕,๐๐๐
๒.๘๒
๔.
ธนาคารกรุงไทย
จำกัด (มหาชน)
๑๐,๐๐๐
๒.๘๔
๕.
ธนาคารกรุงไทย
จำกัด (มหาชน)
๑๐,๐๐๐
๒.๘๕
๖.
ธนาคารกรุงไทย
จำกัด (มหาชน)
๔,๐๐๐
๒.๘๖
รวมทั้งสิ้น
๓๙,๐๐๐
๒. เบิกเงินกู้ทั้งจำนวนในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖
๓. อายุเงินกู้ไม่เกิน ๒ เดือน นับตั้งแต่วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖ (ครบกำหนดชำระวันที่
๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖)
๔. การชำระคืนต้นเงินกู้
จะนำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓ - ครั้งที่ ๖ มาทยอยชำระคืนภายในวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ทั้งนี้
กระทรวงการคลังจะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
โดยจะชำระค่าดอกเบี้ยคงค้างของหนี้เงินต้นที่ชำระคืนก่อนกำหนด
พร้อมกับการชำระหนี้เงินต้นก่อนกำหนดนั้นด้วย หากวันครบกำหนดชำระหนี้ตรงกับวันหยุดราชการ
หรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป
และจะคำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้ การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
๕. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๕ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๘ ง/หน้า ๗/๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683969 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 3 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๓[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลัง
ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๕ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ ประกอบมาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๕
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ได้ดำเนินการกู้เงิน โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ให้กู้ : ธนาคารออมสิน
๒. วัตถุประสงค์ในการกู้ : เพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย
๓. รายละเอียดเงื่อนไข :
๓.๑ ระยะเวลากู้เงิน ๒ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
๓.๒ วงเงินกู้ จำนวน ๒,๔๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองพันสี่ร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน)
๓.๓ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๖
จนถึงวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๗ โดยจะแจ้งผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
๓.๔ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ ๓.๒๕ ต่อปี
๓.๕ การชำระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ทุกงวด ๖ เดือน
ในวันที่ ๘ มีนาคม และ ๘ กันยายน ของทุกปี โดยจะชำระดอกเบี้ยงวดแรก ในวันที่ ๘
กันยายน ๒๕๕๖ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายพร้อมต้นเงินกู้ ณ วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้
๓.๖ การชำระต้นเงิน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวน ณ
วันสิ้นสุดสัญญากู้เงิน คือวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๘
๓.๗ การชำระหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังสามารถชำระหนี้คืนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนครบกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ได้
โดยกระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
๓.๘ หากวันครบกำหนดชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ยคราวใดตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป โดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าว
เข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงก่อนวันชำระหนี้
๓.๙ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๕ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๘ ง/หน้า ๕/๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683678 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 11
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๑[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ วงเงิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ (LB416A) อายุ ๓๐.๖๕ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๗๔,๙๓๖ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๒๘.๓๓ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๔ มิถุนายน ๒๕๘๔ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๔ มิถุนายน และ ๑๔ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
สำนักงานประกันสังคม และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๒๐
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๔.๒๘๙๒
๕,๕๖๕,๓๐๔,๓๗๖.๐๐
-๔๗๘,๔๒๑,๖๔๔.๐๐
๔๓,๗๒๖,๐๒๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล
คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ
๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๘ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๕ ง/หน้า ๒๒/๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683674 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 10
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๐[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ วงเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔ (LB21DA) อายุ ๑๑.๐๘ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๔๖,๑๑๐ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๘.๘๔ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๖๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
และบริษัทหลักทรัพย์
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๑๓
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
๑๐,๐๐๐
๓.๔๖๙๓
๑๐,๑๙๖,๖๒๕,๔๕๑.๗๐
๑๓๖,๖๒๕,๔๕๑.๗๐
๖๐,๐๐๐,๐๐๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล
คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๘ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๕ ง/หน้า ๒๐/๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683672 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 9
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๙[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ วงเงิน ๗,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓ (LB27DA) อายุ ๑๕.๘๐ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๗,๐๑๐ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๑๔.๘๖ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๗๐ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๕๘ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์
และสำนักงานประกันสังคม
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๖ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
๗,๐๐๐
๓.๙๕๒๘
๖,๗๔๕,๔๒๐,๕๐๙.๑๐
-๒๙๐,๙๖๘,๐๑๐.๙๐
๓๖,๓๘๘,๕๒๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล
คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระ และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๘ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๕ ง/หน้า ๑๘/๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683668 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 8
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๘[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ วงเงิน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ (LB196A) อายุ ๑๐.๐๕ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๒๖,๙๙๔ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๖.๓๖ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๗๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๓ มิถุนายน และ ๑๓ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๓๐ มกราคม
๒๕๕๖
๑๔,๐๐๐
๓.๓๘๗๗
๑๔,๔๖๒,๑๐๒,๒๔๒.๐๐
๓๘๗,๗๘๗,๑๖๒.๐๐
๗๔,๓๑๕,๐๘๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล
คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระ และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๘ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๕ ง/หน้า ๑๖/๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683664 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 7
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๗[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ วงเงิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก.
ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ (LB326A) อายุ ๒๐.๔๒ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๐,๘๗๒ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๑๙.๔๓ ปี
โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๗๕
และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๗๗๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๒๕ มิถุนายน และ ๒๕ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์
สำนักงานประกันสังคม และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๒๓ มกราคม
๒๕๕๖
๘,๐๐๐
๔.๒๓๘๘
๗,๕๓๘,๒๒๕,๖๓๙.๓๐
-๔๘๗,๔๒๓,๖๔๐.๗๐
๒๕,๖๔๙,๒๘๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล
คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๘ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๕ ง/หน้า ๑๔/๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683660 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 6
| ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๖[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑.
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ วงเงิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙ (LB616A) อายุ ๕๐.๓๒ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๒,๒๐๕ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๔๘.๔๔ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๗ มิถุนายน ๒๖๐๔ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๘๕ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒.
วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์
และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓.
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ ๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๖
โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖
ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตราผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่ายดอกเบี้ย
งวดล่าสุดจนถึง
วันที่ลงในพันธบัตร
(บาท)
๑๖ มกราคม
๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๔.๔๕๙๒
๖,๔๘๙,๓๗๔,๙๙๒.๔๐
๔๖๓,๘๖๒,๖๙๒.๔๐
๒๕,๕๑๒,๓๐๐.๐๐
หมายเหตุ :- วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล
คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔.
กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๘ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๕ ง/หน้า ๑๒/๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683656 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ครั้งที่ 3) ให้กับธนาคารออมสิน วันที่ 2 มีนาคม 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๓) ให้กับธนาคารออมสิน วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๖[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา
๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓
(ครั้งที่ ๓) ให้กับธนาคารออมสิน ลงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท แบ่งเป็น ๓ วงเงิน คือ ๓,๕๐๐ ล้านบาท ๓,๕๐๐ ล้านบาท และ ๓,๐๐๐ ล้านบาท อายุ ๗ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๔๒ ต่อปี ร้อยละ ๑.๔๓ ต่อปี และร้อยละ ๑.๔๔ ต่อปี ตามลำดับ
ซึ่งตามข้อ ๔ วรรคสอง ของประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
กระทรวงการคลังจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในวันที่ ๒ มีนาคม และวันที่ ๒ กันยายน ของทุกปี
โดยคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยอัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน
ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) ๔ แห่ง บวกร้อยละ ๐.๗๒ ต่อปี ร้อยละ ๐.๗๓ ต่อปี และร้อยละ ๐.๗๔ ต่อปี ตามลำดับ
และเมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๕
ได้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๓) ให้กับธนาคารออมสินเป็นร้อยละ ๓.๑๐๑ ต่อปี ร้อยละ ๓.๑๑๑
ต่อปี และร้อยละ ๓.๑๒๑ ต่อปี ตามลำดับ
เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ดังกล่าว
จึงเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๓) ให้กับธนาคารออมสินจากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๑๐๑ ต่อปี ร้อยละ
๓.๑๑๑ ต่อปี และร้อยละ ๓.๑๒๑ ต่อปี เป็นร้อยละ ๒.๗๗๐ ต่อปี ร้อยละ ๒.๗๘๐ ต่อปี
และร้อยละ ๒.๗๙๐ ต่อปี ตามลำดับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๘ เมษายน ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๕ ง/หน้า ๑๑/๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683237 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ครั้งที่ 2) ให้กับธนาคารออมสิน วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารออมสิน
วันที่ ๑๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา
๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
เพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารออมสิน ลงวันที่
๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท แบ่งเป็น ๒ วงเงิน
วงเงินละ ๓,๐๐๐ ล้านบาท อายุ ๖ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๔๙
ต่อปี และ ๑.๕๐ ต่อปี ตามลำดับ ซึ่งตามข้อ ๔ วรรคสอง ของประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ กระทรวงการคลังจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในวันที่
๑๘ กุมภาพันธ์ และวันที่ ๑๘ สิงหาคม ของทุกปี
โดยคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยอัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน
ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) ๔ แห่ง บวกร้อยละ ๐.๗๙ ต่อปี และ ๐.๘๐ ต่อปีตามลำดับ และเมื่อวันที่ ๑๘
สิงหาคม ๒๕๕๕ ได้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารออมสินเป็นร้อยละ ๓.๑๗๑ ต่อปี
และร้อยละ ๓.๑๘๑ ต่อปี ตามลำดับ
เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ดังกล่าว
จึงเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารออมสินจากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๑๗๑ ต่อปี และร้อยละ
๓.๑๘๑ ต่อปี เป็นร้อยละ ๒.๘๔๐ ต่อปี และร้อยละ ๒.๘๕๐ ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
เป็นต้นไป
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๙ มีนาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๓ ง/หน้า ๑๕/๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683233 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ครั้งที่ 2) ให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
วันที่ ๑๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา
๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓
(ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
จำนวน ๓,๐๐๐ ล้านบาท อายุ ๖ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๔๙
ต่อปี ซึ่งตามข้อ ๔ วรรคสองของประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ กระทรวงการคลังจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในวันที่
๑๘ กุมภาพันธ์ และวันที่ ๑๘ สิงหาคม ของทุกปี โดยคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยอัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ
๖ เดือน ประเภทบุคคลธรรมดาเฉลี่ย ๗ วัน ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) ๔ แห่ง บวกร้อยละ ๐.๗๙ ต่อปี และเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๕
ได้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เป็นร้อยละ ๓.๑๗๑ ต่อปี
เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ดังกล่าว จึงเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๒) ให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
จากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๑๗๑ ต่อปี เป็นร้อยละ ๒.๘๔๐ ต่อปี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
เป็นต้นไป
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๙ มีนาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๓ ง/หน้า ๑๔/๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683159 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลัง
ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๔ และวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๕
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ ประกอบมาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๕
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้ดำเนินการกู้เงิน
โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ให้กู้ :
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
๒. วัตถุประสงค์ในการกู้
: เพื่อให้กู้ต่อสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ
ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
๓. รายละเอียดเงื่อนไข
:
๓.๑ ระยะเวลากู้เงิน ๒ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
เป็นต้นไป
๓.๒ วงเงินกู้ จำนวน ๔,๗๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สี่พันเจ็ดร้อยสี่สิบล้านบาทถ้วน)
๓.๓ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ ๘ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖ จนถึงวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ โดยจะแจ้งผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒
วันทำการ
๓.๔ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ ๓.๑๕ ต่อปี
๓.๕ การชำระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ทุกงวด ๖ เดือน
ในวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ และ ๘ สิงหาคม ของทุกปี โดยจะชำระดอกเบี้ยงวดแรก ในวันที่ ๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายพร้อมต้นเงินกู้ ณ
วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้
๓.๖ การชำระต้นเงิน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวน ณ
วันสิ้นสุดสัญญากู้เงิน คือวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
๓.๗ การชำระหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังสามารถชำระหนี้คืนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนครบกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ได้
โดยกระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
๓.๘
หากวันครบกำหนดชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ยคราวใดตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไปโดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าว
เข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงก่อนวันชำระหนี้
๓.๙ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๔ มีนาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๒ ง/หน้า ๔/๑๑ มีนาคม ๒๕๕๖ |
683157 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 1 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑[๑]
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลัง
ขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๓ และวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๕
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ ประกอบมาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๕
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้ดำเนินการกู้เงินโดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข
ดังต่อไปนี้
๑. ผู้ให้กู้ :
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
๒. วัตถุประสงค์ในการกู้
: เพื่อให้กู้ต่อสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ
- ท่าพระ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
๓. รายละเอียดเงื่อนไข
:
๓.๑ ระยะเวลากู้เงิน ๒ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
เป็นต้นไป
๓.๒ วงเงินกู้ จำนวน ๑๑,๔๗๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(หนึ่งหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยเจ็ดสิบล้านบาทถ้วน)
๓.๓ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ ๘ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖ จนถึงวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ โดยจะแจ้งผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒
วันทำการ
๓.๔ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ ๓.๑๕ ต่อปี
๓.๕ การชำระดอกเบี้ย
กระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้ให้กู้ทุกงวด ๖ เดือน
ในวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ และ ๘ สิงหาคม ของทุกปี โดยจะชำระดอกเบี้ยงวดแรก ในวันที่ ๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายพร้อมต้นเงินกู้ ณ
วันสิ้นสุดสัญญาเงินกู้
๓.๖ การชำระต้นเงิน
กระทรวงการคลังจะชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวน ณ
วันสิ้นสุดสัญญากู้เงิน คือวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
๓.๗ การชำระหนี้ก่อนกำหนด
กระทรวงการคลังสามารถชำระหนี้คืนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนครบกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ได้
โดยกระทรวงการคลังจะแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
๓.๘
หากวันครบกำหนดชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ยคราวใดตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลังจะชำระหนี้ในวันเปิดทำการถัดไป โดยไม่นับวันหยุดราชการหรือวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าว
เข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดชำระ
ยกเว้นการชำระหนี้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงก่อนวันชำระหนี้
๓.๙ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ
ประกาศ
ณ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๔ มีนาคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๑๘ มีนาคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๓๒ ง/หน้า ๒/๑๑ มีนาคม ๒๕๕๖ |
681695 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (ครั้งที่ 1) ให้กับธนาคารออมสิน วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๑) ให้กับธนาคารออมสิน วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๔ และมาตรา
๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การกู้เงินโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓
(ครั้งที่ ๑) ให้กับธนาคารออมสิน ลงวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท แบ่งเป็น ๒ วงเงิน วงเงินละ ๓,๐๐๐
ล้านบาท อายุ ๕ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๕๓ ต่อปี และ ๑.๕๔ ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนกำหนดจากธนาคารออมสิน
ในวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๔ จำนวน ๑,๓๐๐ ล้านบาท
ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนกำหนดจากธนาคารออมสิน ลงวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๔
ทำให้มีต้นเงินกู้คงเหลือจากการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ดังกล่าว
จำนวน ๔,๗๐๐ ล้านบาท ซึ่งตามข้อ ๔ วรรคสอง ของประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
กระทรวงการคลังจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ และวันที่
๔ สิงหาคม ของทุกปี
โดยคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยอัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๖ เดือน
ประเภทบุคคลธรรมดา เฉลี่ย ๗ วัน ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) ๔ แห่ง บวกร้อยละ ๐.๘๓ ต่อปี และ ๐.๘๔ ต่อปี ตามลำดับ และเมื่อวันที่ ๔
สิงหาคม ๒๕๕๕ ได้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๑) ให้กับธนาคารออมสินเป็นร้อยละ ๓.๒๑๑ ต่อปี
และร้อยละ ๓.๒๒๑ ต่อปี ตามลำดับ
เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ดังกล่าว
จึงเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการบริหารหนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๑) ให้กับธนาคารออมสินจากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๒๑๑ ต่อปี และร้อยละ
๓.๒๒๑ ต่อปี เป็นร้อยละ ๒.๘๘๐ ต่อปี และร้อยละ ๒.๘๙๐ ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
เป็นต้นไป
ประกาศ
ณ วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๘ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๒๑ ง/หน้า ๒๕/๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ |
681692 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามมาตรฐานการคำนวณราคาตราสารหนี้ประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
(Amortizing/Amortized Bond) ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย) โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง
ตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่
๒ จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
(แปดพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ (LBA37DA) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน
๓๐,๐๐๐ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๓๘,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่
ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่ มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย
ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding) ภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
โดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
วันที่
ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณ
ดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาลประเภท
ทยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๒ (LBA37DA)
อายุคงเหลือ ๒๔.๗๖ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๔.๒๖ ต่อปี
จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
๑๓ มี.ค. ๒๕๕๖
๘,๐๐๐
๑๕ มี.ค. ๒๕๕๖
๑๒ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๒ ธ.ค. ๒๕๘๐
หมายเหตุ :
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๓๘,๐๐๐ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕)
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๔.๒๖ ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยปีละ ๒ งวด คือ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายน และ ๑๒ ธันวาคม
ของทุกปี โดยเริ่มคำนวณดอกเบี้ยจากวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๒
มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยจำนวนดอกเบี้ยในแต่ละงวดดอกเบี้ยจะถูกคำนวณโดยการนำจำนวนเงินต้นคงเหลือ
ณ ต้นงวดดอกเบี้ยของพันธบัตร ซึ่งผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรแต่ละรายมีอยู่
คูณด้วยอัตราดอกเบี้ย โดยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน
และนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้
การคำนวณดอกเบี้ยหากมีเศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
หากวันจ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไปและจะไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
เว้นแต่ปีที่เริ่มทยอยชำระคืนเงินต้นจนถึงวันจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่
๑๒ ธันวาคม ๒๕๘๐ โดยจะทยอยชำระคืนเงินต้นงวดแรกเมื่อพันธบัตรมีอายุครบ ๒๑ ปี
โดยจะแบ่งการชำระคืนเงินต้นเป็นจำนวนห้างวด งวดละเท่า ๆ กัน เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๗๖ และชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๘๐
หากวันที่ชำระคืนเงินต้นตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
การชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตร
จะกระทำได้ต่อเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคืนใบพันธบัตร
หรือตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย)
จำกัด กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์ฝากพันธบัตรไว้กับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย)
จำกัด
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท (แปดพันล้านบาทถ้วน)
(๒) กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๑๘ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๖ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๒๑ ง/หน้า ๑๙/๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ |
681334 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การขยายระยะเวลาการเบิกเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ครั้งที่ 2 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การขยายระยะเวลาการเบิกเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๕
ครั้งที่ ๒[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้มีการขยายระยะเวลาการเบิกเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๒ สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ
ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ทำให้รายละเอียดและเงื่อนไขที่ระบุในข้อ ๓.๒
วรรคสอง ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๒ ลงวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๕ มีการเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
ข้อ ๑
การกู้เงินตามประกาศดังกล่าว กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้
นับตั้งแต่วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ จนถึงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยจะแจ้ง
ผู้ให้กู้ ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
ข้อ ๒
รายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินอื่น เป็นไปตามประกาศเดิมทุกประการ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๗ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๑ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๗ ง/หน้า ๑๑/๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ |
681332 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การขยายระยะเวลาการเบิกเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ครั้งที่ 1 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การขยายระยะเวลาการเบิกเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๕
ครั้งที่ ๑[๑]
ด้วยกระทรวงการคลังได้มีการขยายระยะเวลาการเบิกเงินกู้เพื่อให้กู้ต่อ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง
- บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ทำให้รายละเอียดและเงื่อนไขที่ระบุในข้อ ๓.๒ วรรคสอง ของประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง การกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ ลงวันที่ ๒๖
ตุลาคม ๒๕๕๔ มีการเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
ข้อ ๑
การกู้เงินตามประกาศดังกล่าว กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้
นับตั้งแต่วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๔ จนถึงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๖ โดยจะแจ้ง ผู้ให้กู้
ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๒ วันทำการ
ข้อ ๒
รายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินอื่น เป็นไปตามประกาศเดิมทุกประการ
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๗ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๑ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๗ ง/หน้า ๑๐/๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ |
681330 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
ข้อ ๑
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาลประเภททยอยชำระคืนเงินต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ อายุ ๒๕ ปี จำนวน ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท (สามหมื่นล้านบาทถ้วน)
ข้อ ๒
พันธบัตรนี้เป็นพันธบัตรชนิดออกในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตร
และจดทะเบียนตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย หน่วยละหนึ่งพันบาท โดยวงเงินซื้อขั้นต่ำ
๑๐๐,๐๐๐ บาท และซื้อเพิ่มเป็นจำนวนเท่าของ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
และไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูง โดยมีรายละเอียดการจำหน่าย ดังนี้
๒.๑ ผู้มีสิทธิ์ซื้อประกอบด้วย นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ
และผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศ
๒.๒ วันจำหน่ายพันธบัตรรุ่นนี้ คือ วันที่ ๗ และ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๕
โดยกำหนดวันจดทะเบียนเป็นวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ โดยมีรายละเอียดผู้ถือกรรมสิทธิ์
ดังนี้
ประเภทผู้ถือกรรมสิทธิ์
จำนวน
(รายการ)
จำนวนเงิน
(ล้านบาท)
บริษัทประกันชีวิต
๑๓
๑๗,๖๒๐
กองทุนต่าง
ๆ
๖
๔,๖๒๐
ธนาคารพาณิชย์ในประเทศ
๓
๔,๒๕๐
สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ
๓
๒,๘๙๐
บริษัทประกันภัย
๒
๔๑๐
สหกรณ์ออมทรัพย์
๒
๒๑๐
รวมทั้งสิ้น
๒๙
๓๐,๐๐๐
๒.๓ ให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี
(สาขากรุงเทพฯ) และธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด
(สาขากรุงเทพฯ) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย
ข้อ ๓
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นนายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรุ่นนี้
และจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๔
ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
เป็นผู้รับฝากพันธบัตรประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๕
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะออกใบตราสาร
หรือนำฝากพันธบัตรรุ่นนี้เข้าบัญชีผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๖
ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรสามารถใช้พันธบัตรเป็นหลักประกันให้กับหน่วยงานราชการและองค์กรของรัฐ
เช่น การประกันทางศาล หรือการประกันไฟฟ้า และสามารถใช้พันธบัตรเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินหรือบุคคลอื่นได้
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระเบียบหลักเกณฑ์การรับหลักประกันของหน่วยงานหรือบุคคลนั้น ๆ
ข้อ ๗
ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ต้องการโอนกรรมสิทธิ์พันธบัตรรุ่นนี้สามารถกระทำได้หลังจากได้รับใบพันธบัตร
หรือหลังจากได้รับการฝากเข้าบัญชีที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย)
จำกัด แล้ว แต่จะกระทำในระหว่างระยะเวลา ๑๐ วัน ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนมิได้
การโอนกรรมสิทธิ์ให้ปฏิบัติตามพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๘
พันธบัตรรุ่นนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๒๖ ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยปีละ ๒ งวด
คือ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายน และ ๑๒ ธันวาคม ของทุกปี
จำนวนดอกเบี้ยในแต่ละงวดดอกเบี้ยจะถูกคำนวณโดยการนำจำนวนเงินต้นคงเหลือ ณ
ต้นงวดดอกเบี้ยของพันธบัตร ซึ่งผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรแต่ละรายมีอยู่
คูณด้วยอัตราดอกเบี้ย โดยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน
และนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ การคำนวณดอกเบี้ยหากมีเศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
หากวันจ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
และจะไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้
เว้นแต่ปีที่เริ่มทยอยชำระคืนเงินต้นจนถึงวันจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มตามจำนวนวันที่เลื่อนออกไป
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝาก
(ยกเว้นบัญชีเงินฝากประจำ) ของผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ฝากไว้ที่ธนาคารใดก็ได้ (ธนาคารในประเทศไทยเท่านั้น)
ตามที่ผู้ถือกรรมสิทธิ์แจ้งไว้ในคำเสนอขอซื้อพันธบัตร
หรือตามที่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงต่อธนาคารแห่งประเทศไทยในภายหลัง
หรือตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์ฝากพันธบัตรไว้กับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งในการโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชี
ธนาคารเจ้าของบัญชีเงินฝากอาจหักค่าธรรมเนียมการโอนเงินตามอัตราที่แต่ละธนาคารประกาศหรือกำหนด
การจ่ายดอกเบี้ยของพันธบัตรในแต่ละงวด
จะจ่ายให้แก่ผู้ถือกรรมสิทธิ์โดยถือตามรายชื่อทางทะเบียน ณ
วันทำการสุดท้ายของธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนถึงช่วงระยะเวลา ๑๐ วัน
ก่อนถึงวันกำหนดชำระดอกเบี้ย
ข้อ ๙
พันธบัตรรุ่นนี้ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๘๐
โดยจะทยอยชำระคืนเงินต้นงวดแรกเมื่อพันธบัตรมีอายุครบ ๒๑ ปี
โดยจะแบ่งการชำระคืนเงินต้นเป็นจำนวนห้างวด งวดละเท่า ๆ กัน เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๗๖ และชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรในวันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๘๐ หากวันที่ชำระคืนเงินต้นตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๐
การชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตร
จะกระทำได้ต่อเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคืนใบพันธบัตร
หรือตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด
กรณีผู้ถือกรรมสิทธิ์ฝากพันธบัตรไว้กับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย)
จำกัด
ข้อ ๑๑
กรณีที่มีการออกใบพันธบัตร มิให้ถือว่าพันธบัตรฉบับใดสมบูรณ์
เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่นายทะเบียนโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๒
กำหนดค่าธรรมเนียมในการจำหน่ายพันธบัตรในอัตราร้อยละ ๐.๐๘
ของวงเงินพันธบัตรที่จำหน่ายได้ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
โดยแบ่งให้แก่ผู้ร่วมจัดจำหน่ายในจำนวนที่เท่ากัน โดยกระทรวงการคลังกำหนดชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวทั้งจำนวนให้กับธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น
จำกัด (สาขากรุงเทพฯ) และธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด
(สาขากรุงเทพฯ) จะชำระค่าธรรมเนียม (หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง)
ให้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี (สาขากรุงเทพฯ)
ภายในวันทำการถัดจากวันที่ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด
(สาขากรุงเทพฯ) ได้รับชำระค่าธรรมเนียมจากกระทรวงการคลัง
ข้อ ๑๓
กำหนดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนี้
๑๓.๑
ค่าธรรมเนียมในการเป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงินเกี่ยวกับพันธบัตรในอัตราร้อยละ
๐.๑ ของดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
๑๓.๒ ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรตามที่จ่ายจริง
ประกาศ
ณ วันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๗ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
โชติกานต์/ผู้ตรวจ
๑๑ กุมภาพันธ์
๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๗ ง/หน้า ๖/๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ |
680371 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 11 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๑[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑
จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ (LB416A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๖๘,๙๓๖ ล้านบาท
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๗๔,๙๓๖ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่
๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ รายแต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐
ล้านบาทจะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่
๑๑ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล ในอัตราไม่เกินร้อยละ
๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์
เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย (ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๑ (LB416A) อายุคงเหลือ ๒๘.๓๓ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐
ต่อปี จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท
๒๐ ก.พ. ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๒๒ ก.พ. ๒๕๕๖
๑๔ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๔ มิ.ย. ๒๕๘๔
หมายเหตุ :-
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น
๗๔,๙๓๖ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓)
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๐ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๕)
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด
คือ วันที่ ๑๔ มิถุนายน และ ๑๔ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๔ มิถุนายน ๒๕๘๔ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓) ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓๑ มกราคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๓ ง/หน้า ๕๘/๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ |
680369 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 10 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๐[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐
จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ
(Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔
(LB21DA) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๑๓๖,๑๑๐ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๔๖,๑๑๐ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐
ล้านบาทจะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๑๐
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล ในอัตราไม่เกินร้อยละ
๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์
เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย (ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐ (LB21DA) อายุคงเหลือ ๘.๘๔ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๖๕
ต่อปี จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท
๑๓ ก.พ. ๒๕๕๖
๑๐,๐๐๐
๑๕ ก.พ. ๒๕๕๖
๑๗ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๗ ธ.ค. ๒๕๖๔
หมายเหตุ :-
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๔ ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น
๑๔๖,๑๑๐ ล้านบาท
(เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓)
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๖๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕)
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด
คือ วันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓) ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓๑ มกราคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๓ ง/หน้า ๕๓/๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ |
680367 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 9 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๙[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ จำนวน
๗,๐๐๐ ล้านบาท (เจ็ดพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓ (LB27DA) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๕๐,๐๑๐ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๗,๐๑๐ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐
ล้านบาทจะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๙
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย (ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๙ (LB27DA) อายุคงเหลือ ๑๔.๘๖ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๕๘
ต่อปี จำนวน ๗,๐๐๐ ล้านบาท
๖ ก.พ. ๒๕๕๖
๗,๐๐๐
๘ ก.พ. ๒๕๕๖
๑๗ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๗ ธ.ค. ๒๕๗๐
หมายเหตุ :-
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๗,๐๑๐ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๕)
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๕๘ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕)
ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี
๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง
ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด
คือ วันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๗ ธันวาคม ๒๕๗๐ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๗,๐๐๐ ล้านบาท (เจ็ดพันล้านบาทถ้วน)
(๒) กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓๑ มกราคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๓ ง/หน้า ๔๘/๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ |
680365 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 8 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๘[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลัง ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ จำนวน
๑๔,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นสี่พันล้านบาทถ้วน)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re - open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓ (LB196A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๑๑๒,๙๙๔ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๒๖,๙๙๔ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่สถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD)
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย
ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e - Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖
ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e - Bidding) ภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ
๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อนกรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ
๒๐ ของวงเงินจำหน่าย จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๘ เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย นายทะเบียน
และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย (ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๘ (LB196A)
อายุคงเหลือ ๖.๓๖ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๗๕ ต่อปี จำนวน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท
๓๐ ม.ค. ๒๕๕๖
๑๔,๐๐๐
๑ ก.พ. ๒๕๕๖
๑๓ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๒
หมายเหตุ :-
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งที่ ๑๓
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๑๒๖,๙๙๔ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒)
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๘๗๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๑๓ มิถุนายน และ ๑๓ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๑๔,๐๐๐ ล้านบาท (หนึ่งหมื่นสี่พันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓) ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓๑ มกราคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๓ ง/หน้า ๔๓/๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ |
680362 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 7 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๗[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน
พ.ศ. ๒๕๕๐ กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ จำนวน
๘,๐๐๐ ล้านบาท (แปดพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก.
ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑ (LB326A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๔๒,๘๗๒ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๐,๘๗๒ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑)
จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ
ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อหากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ
๒๐ ของวงเงินจำหน่าย
จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนโดย
MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา
๑๐.๐๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๗
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย (ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ (LB326A) อายุคงเหลือ ๑๙.๔๓ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๗๗๕ ต่อปี จำนวน ๘,๐๐๐ ล้านบาท
๒๓ ม.ค. ๒๕๕๖
๘,๐๐๐
๒๕ ม.ค. ๒๕๕๖
๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๕
๒๕ มิ.ย. ๒๕๗๕
หมายเหตุ :-
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก.
ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๑
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๕๐,๘๗๒ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๕)
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๓.๗๗๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖
โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ
วันที่ ๒๕ มิถุนายน และ ๒๕ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๒๕ ธันวาคม ๒๕๗๕ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท (แปดพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓)
ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓๑ มกราคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๓ ง/หน้า ๓๘/๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ |
680360 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 6 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๖[๑]
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎกระทรวง
กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อขาย การโอน
และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. ๒๕๕๐
กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖
โดยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนและวิธีการเสนอซื้อ
(โดยใช้สูตรการคำนวณราคาตามหนังสือเวียนธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ ธปท.นว.(ว)
๑๐๘๖/๒๕๓๘ เรื่อง มาตรฐานเสนอซื้อขาย
และคำนวณราคาสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รัฐบาลในตลาดรอง)
โดยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการแทนกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยวิธีการออกพันธบัตรเงินกู้ประเภทที่เรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ จำนวน
๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน) ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙ (LB616A) ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน ๕๖,๒๐๕ ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๒,๒๐๕ ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๖
ข้อ ๒ พันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖
เป็นชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้เป็นหน่วย
หน่วยละหนึ่งพันบาท
ข้อ ๓ กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ
ดังนี้
(๑) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่
ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน
บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม
สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่น ๆ
ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
(๒) จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่ มูลนิธิ สหกรณ์
นิติบุคคล เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี
การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่น ๆ โดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์มาแบ่งปันกัน
และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน
ข้อ ๔ การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องดำเนินการ ดังนี้
(๑)
ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ต้องส่งข้อมูลทางระบบการประมูลตราสารหนี้โดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) พ.ศ. ๒๕๔๖ ไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทยภายในเวลา
๙.๓๐ น. ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยระบุราคาตรารวมที่เสนอประมูลและต้องเสนอว่าจะประมูลในอัตราผลตอบแทนร้อยละเท่าใดไม่เกิน
๓ อัตรา (ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง)
และในการเสนอประมูลแต่ละอัตราต้องระบุราคาตราที่เสนอประมูลไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน
โดยวงเงินรวมที่เสนอประมูลต้องไม่เกินวงเงินจำหน่ายตามประกาศกระทรวงการคลัง
(๒) ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอซื้อ
ต้องเสนอซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง
(MOF Outright PD) โดยระบุราคาตราที่เสนอซื้อไม่ต่ำกว่า
๔ ล้านบาทต่อ MOF Outright PD ๑ ราย แต่เมื่อรวมผู้ค้าหลักทุกรายแล้วต้องไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท
และไม่มีเศษของหลักล้าน และ MOF Outright PD ต้องนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทางระบบการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(e-Bidding) ภายในเวลา ๙.๓๐ น.
ของวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน ทั้งนี้ MOF Outright PD ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดด้วย
กรณีระบบสำหรับการประมูลขัดข้อง
ให้ผู้ประสงค์จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะต้องเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือเสนอซื้อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย
ตามแบบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๕ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ ดังนี้
(๑) ในการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยต่ำสุดก่อน
แล้วจึงจัดสรรให้แก่ผู้เสนอประมูลที่เสนออัตราผลตอบแทนต่อร้อยสูงขึ้นไปตามลำดับจนครบวงเงิน
และจะแจ้งผลการจัดสรรให้ผู้เสนอประมูลทราบในวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ในกรณีที่มีผู้เสนอประมูลเสนออัตราผลตอบแทนเท่ากันหลายราย
และจำนวนที่เสนอประมูลของผู้เสนอประมูลในกลุ่มนั้นรวมกันแล้วเกินวงเงินที่กำหนดไว้
กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลในกลุ่มดังกล่าวตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอประมูล
โดยไม่มีเศษของหลักล้าน หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร
กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอประมูลที่ได้เสนอประมูลก่อนในกลุ่มนั้น
(๒) ในการเสนอซื้อ กระทรวงการคลังจะจัดสรรพันธบัตรให้แก่ผู้เสนอซื้อไม่เกินร้อยละ
๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
ในอัตราถัวเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่มีผู้ประมูลได้ตามวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นเดียวกัน
ในกรณีที่มีผู้เสนอซื้อเกินร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่ายแต่ละรุ่น
กระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดสรรตามสัดส่วนจำนวนที่เสนอซื้อ
หากมีเศษเหลือจากการจัดสรร กระทรวงการคลังจะจัดสรรให้กับผู้เสนอซื้อที่ MOF Outright PD ได้ยื่นประมูลก่อน
กรณีที่มีผู้เสนอซื้อไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินจำหน่าย จะนำวงเงินส่วนที่เหลือไปรวมกับวงเงินที่จำหน่ายโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
หากผู้เสนอซื้อยื่นความจำนงผ่าน MOF Outright PD ทุกรายรวมกันเกิน ๑๐๐ ล้านบาท จะไม่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด
ข้อ ๖ ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ จะต้องชำระราคาภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เสนอซื้อที่ได้รับการจัดสรรจะต้องโอนเงินผ่านระบบบาทเนตหรือให้มีการหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้เสนอซื้อให้กับ
MOF Outright PD ที่เสนอซื้อแทน
ภายในเวลา ๙.๓๐ น. ของวันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดย MOF Outright PD ต้องรับผิดชอบชำระราคาค่าพันธบัตรที่เสนอซื้อภายในเวลา ๑๐.๐๐ น.
ของวันทำการที่สองถัดจากวันจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
โดยยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือโอนเงินผ่านระบบบาทเนตเข้าบัญชีกระแสรายวันงานจัดการตราสารหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ ๗ เมื่อผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้ชำระราคาตามข้อ
๖ แล้ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำฝากพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๖
เข้าบัญชีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด หรือออกเป็นใบตราสาร
ทั้งนี้
เป็นไปตามที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไว้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลไม่ชำระราคาค่าพันธบัตรรัฐบาลภายในวันและเวลาที่กำหนด
ให้ถือว่าผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้
กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิการทำธุรกรรมประมูลหรือเสนอซื้อของผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายนั้นเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
ข้อ ๙ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จำหน่าย
นายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ และจัดการอื่น ๆ
ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๑๐ ให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับฝากพันธบัตรรัฐบาลประเภทไร้ใบตราสาร
ข้อ ๑๑ ให้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรรัฐบาล
(๒) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาล
ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑ ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้
ดอกเบี้ยที่ชำระและต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ข้อ ๑๒ การโอนกรรมสิทธิ์หรือการจำนำพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้
ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย
หรือบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๓ ถ้าผู้ฝากซึ่งหมายถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้รับจำนำมีความประสงค์จะขอถอนคืนการฝากพันธบัตรรัฐบาล
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะพิจารณาดำเนินการตามพิธีปฏิบัติที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ข้อ ๑๔ กรณีที่มีการออกพันธบัตรรัฐบาล
มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว
ข้อ ๑๕ กระทรวงการคลังได้กำหนดแผนการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตารางการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖
รุ่นพันธบัตร
วันที่จำหน่าย
วงเงินจำหน่าย (ล้านบาท)
วันที่ชำระเงิน
วันเริ่มคำนวณดอกเบี้ย
วันครบกำหนด
ไถ่ถอน
พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๕๖ ครั้งที่ ๖ (LB616A) อายุคงเหลือ ๔๘.๔๔ ปี
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๘๕
ต่อปี จำนวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท
๑๖ ม.ค. ๒๕๕๖
๖,๐๐๐
๑๘ ม.ค. ๒๕๕๖
๑๗ ธ.ค. ๒๕๕๕
๑๗ มิ.ย. ๒๖๐๔
หมายเหตุ :-
เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๙
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้ เป็น ๖๒,๒๐๕ ล้านบาท (เปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๔)
ข้อ ๑๖ พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
๔.๘๕ ต่อปี คำนวณจากมูลค่าของพันธบัตรรัฐบาล
โดยเริ่มคำนวณจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕) ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลหนึ่งวัน
การคำนวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี ๓๖๕ วัน แล้วนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง
เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยตลอดเวลาที่พันธบัตรรัฐบาลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด
คือ วันที่ ๑๗ มิถุนายน และ ๑๗ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล ณ
วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
ข้อ ๑๗ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีกำหนดไถ่ถอนคืนในวันที่
๑๗ มิถุนายน ๒๖๐๔ เป็นการไถ่ถอนครั้งเดียวเต็มตามจำนวนที่ออก
และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตร
ข้อ ๑๘ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์
ดังนี้
(๑) ปรับเปลี่ยนการจำหน่ายตามที่กระทรวงการคลังเห็นสมควร ทั้งนี้
วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายทุกงวดรวมกัน ต้องไม่เกิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท (หกพันล้านบาทถ้วน)
(๒)
กระทรวงการคลังจะไม่รับการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนของผู้เสนอประมูลหรือการเสนอซื้อของผู้เสนอซื้อรายใดก็ได้
และจะจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ผู้เสนอประมูลหรือผู้เสนอซื้อรายใดเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้
ตามแต่จะเห็นสมควร
(๓) ในกรณีที่การดำเนินการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามความเหมาะสม
ประกาศ
ณ วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[เอกสารแนบท้าย]
๑. แบบเสนอประมูลตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบแข่งขันราคา (Competitive Bid : CB))
๒. แบบเสนอซื้อตราสารหนี้รัฐบาล (โดยวิธีประมูลแบบไม่แข่งขันราคา (Non-competitive Bid : NCB))
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๓๑ มกราคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๑๓ ง/หน้า ๓๓/๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ |
680048 | ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 5 | ประกาศกระทรวงการคลัง
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
ผลการออกพันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
ครั้งที่ ๕[๑]
เพื่ออนุวัติตามความในมาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินโดยวิธีการออกพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ วงเงิน ๘,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
๑.๑ พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการเพิ่มปริมาณ (Re-open) พันธบัตรรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๒ (LB416A) อายุ ๓๐.๖๕ ปี
ทำให้วงเงินรวมของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้เป็น ๖๘,๙๓๖ ล้านบาท
๑.๒ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ ๒๘.๕๐ ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจำนวนในวันที่
๑๔ มิถุนายน ๒๕๘๔ และไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
หากวันไถ่ถอนตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป
โดยการชำระคืนต้นเงินกู้ตามพันธบัตรรัฐบาลนี้
จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับคืนพันธบัตรรัฐบาล
๑.๓ พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๐ ต่อปี ชำระปีละ ๒
ครั้ง ในวันที่ ๑๔ มิถุนายน และ ๑๔ ธันวาคม ของทุกปี
สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมกับต้นเงินของพันธบัตรรัฐบาล
หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยก็ให้เลื่อนไปชำระในวันทำการถัดไป
๒. วิธีการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
มีดังนี้
๒.๑ วิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน
ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
สำนักงานประกันสังคม และบริษัทประกันชีวิต
๒.๒ วิธีการเสนอซื้อ ไม่มีผู้ได้รับการจัดสรรพันธบัตรรัฐบาล
๓. การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ
๒ ดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๕ โดยมีรายละเอียดผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๕ ดังนี้
ผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๓ ดังนี้
วันที่จำหน่าย
วงเงิน
จำหน่าย
(ล้านบาท)
อัตรา
ผลตอบแทน
เฉลี่ย
(ร้อยละต่อปี)
จำนวนเงิน
ที่จำหน่ายได้
(บาท)
ส่วนเพิ่ม/
ส่วนลด
(บาท)
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
ตั้งแต่วันที่จ่าย
ดอกเบี้ยงวดล่าสุด
จนถึงวันที่จำหน่าย
(บาท)
๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๕
๘,๐๐๐
๔.๓๐๐๙
๗,๓๕๒,๐๔๖,๒๓๒.๕๐
-๖๕๓,๗๘๓,๙๒๗.๕๐
๕,๘๓๐,๑๖๐
หมายเหตุ :-
วันที่ลงในพันธบัตรรัฐบาล คือ วันทำการที่สองถัดจากวันที่จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล
๔. กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย
นายทะเบียนและตัวแทนรับจ่ายเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร
โดยกำหนดค่าธรรมเนียมในการจัดการในอัตราไม่เกินร้อยละ ๐.๑
ของราคาพันธบัตรรัฐบาลที่จำหน่ายได้ ดอกเบี้ยที่ชำระ
และต้นเงินกู้ตามพันธบัตรที่ชำระคืน
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
สุภา ปิยะจิตติ
รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
ปฏิบัติราชการแทน
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
๒๑ มกราคม ๒๕๕๖
อุษมล/ผู้ตรวจ
๒๑ มกราคม ๒๕๕๖
[๑] ราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๓๐/ตอนพิเศษ ๖ ง/หน้า ๑๓/๑๗ มกราคม ๒๕๕๖ |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.