txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# Dell เปิดตัว Latitude 9000 และ 7000 ใหม่ ซีพียู Intel 10th Gen vPro เริ่ม 32,000 บาท
Dell เปิดตัวโน้ตบุ๊กองค์กรตระกูล Latitude 9000 รุ่นรีเฟรช เริ่มต้นที่ 1,800 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 57,400 บาท) และ Latitude 7000 รุ่นรีเฟรช เริ่มต้นที่ 1,000 เหรียญ (ประมาณ 32,000 บาท) ซีพียูอัพได้สูงสุดถึง Intel 10th Gen Core i7 vPro ทั้งสองรุ่น
Latitude 9000 นำมาด้วย Latitude 9510 ที่ Dell เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นไปเมื่อเดือนมกราคม โน้ตบุ๊กแบบ 2-in-1 ขนาด 15 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 1.4 กิโลกรัม ซีพียูอัพได้สูงสุดที่ Intel 10th Gen Core i7 vPro รองรับ Wi-Fi 6 (802.11x) แบตอยู่ได้สูงสุดถึง 34 ชั่วโมง และรองรับ 5G มีสเปกโดยรวมดังนี้
หน้าจอ 15 นิ้ว 1920 x 1080 มีตัวเลือกจอสัมผัส
ซีพียู สูงสุด Intel 10th Gen Core i7 vPro
จีพียู Intel UHD
แรม สูงสุด 16GB LPDDR3 2,133 MHz
ฮาร์ดดิสก์ NVMe SSD สูงสุด 1TB
พอร์ต Thunderbolt 3 x2, USB 3.2 Gen 1 Type-A x1, HDMI 2.0
การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.1, มีตัวเลือก 4G LTE หรือ 5G, และมีตัวเลือก NFC
แบตเตอรี่ ตัวเลือก 52 Wh หรือ 88 Wh
ที่ชาร์จ ตัวเลือกแบบ 60W หรือ 90W ชาร์จผ่าน USB Type-C
เริ่มต้นที่ 1,900 เหรียญ (ประมาณ 61,000 บาท)
ส่วนรุ่น 9410 เป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 น้ำหนัก 1.36 กิโลกรัม หน้าจอขอบบาง รองรับ LTE (4G) แบตเตอรี่อยู่ได้สูงสุด 27 ชั่วโมง มีสเปกดังนี้
หน้าจอ 14 นิ้ว 1920 x 1080 มีตัวเลือกจอสัมผัส
ซีพียู สูงสุด Intel 10th Gen Core i7 vPro
จีพียู Intel UHD
แรม สูงสุด 16GB LPDDR3 2,133 MHz
ฮาร์ดดิสก์ NVMe SSD สูงสุด 2TB
พอร์ต Thunderbolt 3 x2, USB 3.2 Gen 1 Type-A x2, HDMI 2.0
การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.1, มีตัวเลือก 4G LTE หรือ 5G, และมีตัวเลือก NFC
แบตเตอรี่ ตัวเลือก 52 Wh หรือ 78 Wh
ที่ชาร์จ ตัวเลือกแบบ 60W หรือ 90W ชาร์จผ่าน USB Type-C
เริ่มต้นที่ 1,800 เหรียญ (ประมาณ 48,000 บาท)
Latitude 7000 มีสามรุ่น คือ 7410, 7310 และรุ่น 7210 ที่ถอดหน้าจอเป็นแท็บเล็ตได้ คล้ายตระกูล Surface ของ Microsoft แต่ละรุ่นมีสเปกดังนี้
Latitude 7210 2-in-1 ถอดหน้าจอได้ น้ำหนักหน้าจอเริ่มต้น 0.85 กิโลกรัม ส่วนคีย์บอร์ดน้ำหนัก 0.35 กิโลกรัม
หน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว 1920 x 1080
ซีพียู สูงสุด Intel 10th Gen Core i7 vPro
จีพียู Intel UHD 620
แรม สูงสุด 16GB LPDDR3 2,133 MHz
ฮาร์ดดิสก์ NVMe SSD สูงสุด 2TB
พอร์ต Thunderbolt 3 x2, USB 3.2 Gen 1 Type-A x1
การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.1, มีตัวเลือก 4G LTE หรือ 5G, และมีตัวเลือก NFC
แบตเตอรี่ 38Wh
ที่ชาร์จ ตัวเลือกแบบ 45W หรือ 90W ชาร์จผ่าน USB Type-C
เริ่มต้นที่ 1,000 เหรียญ (ประมาณ 32,000 บาท)
Latitude 7310 โน้ตบุ๊กหน้าจอ 13.3 นิ้ว น้ำหนักเริ่มต้น 1.22 กิโลกรัม
หน้าจอ 13.3 นิ้ว มีตัวเลือก 1366 x 768 หรือ 1920 x 1080 มีตัวเลือกจอสัมผัสและตัวเลือกแบบ 2-in-1 พับจอเป็นแท็บเล็ตได้
ซีพียู สูงสุด Intel 10th Gen Core i7 vPro
จีพียู Intel UHD
แรม สูงสุด 32GB DDR4 2,666 MHz
ฮาร์ดดิสก์ NVMe SSD สูงสุด 1TB
พอร์ต Thunderbolt 3 x2, USB 3.2 Gen 1 Type-A x1, HDMI 2.0
การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.1, มีตัวเลือก 4G LTE, มีตัวเลือก NFC
แบตเตอรี่ ตัวเลือก 39 Wh หรือ 52 Wh
ที่ชาร์จ ตัวเลือกแบบ 65W หรือ 90W ชาร์จผ่าน USB Type-C
เริ่มต้นที่ 1,500 เหรียญ (ประมาณ 48,000บาท)
Latitude 7410 โน้ตบุ๊กหน้าจอ 14 นิ้ว น้ำหนักเริ่มต้น 1.3 กิโลกรัม
หน้าจอ 14 นิ้ว มีตัวเลือก 1366 x 768 หรือ 1920 x 1080 มีตัวเลือกจอสัมผัสและตัวเลือกแบบ 2-in-1 พับจอเป็นแท็บเล็ตได้
ซีพียู สูงสุด Intel 10th Gen Core i7 vPro
จีพียู Intel UHD
แรม สูงสุด 32GB DRR4 2,666 MHz
ฮาร์ดดิสก์ NVMe SSD สูงสุด 1TB
พอร์ต Thunderbolt 3 x2, USB 3.2 Gen 1 Type-A x1, HDMI 2.0
การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.1, มีตัวเลือก 4G LTE, มีตัวเลือก NFC
แบตเตอรี่ ตัวเลือก 39 Wh, 52 Wh, และ 68 Wh
ที่ชาร์จ ตัวเลือกแบบ 65W หรือ 90W ชาร์จผ่าน USB Type-C
เริ่มต้นที่ 1,500 เหรียญ (ประมาณ 48,000บาท)
ทุกรุ่นวางจำหน่ายแล้วในต่างประเทศ ส่วนวันวางจำหน่ายและราคาในไทย ต้องติดตามต่อไป
ที่มา - Windows Central, Liliputting |
# PlayStation Now บริการคลาวด์เกมมิ่งมีผู้ใช้งานถึง 2.2 ล้านคนแล้ว
หลังเปิดบริการมาได้ราว 6 ปี ล่าสุดโซนี่ระบุในพรีเซนต์งบการเงินว่า PlayStation Now บริการคลาวด์เกมมิ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการแตะ 2.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเท่าตัว โดยจำนวนผู้ใช้งานเมื่อสิ้นสุดเดือนมีนาคมปีที่แล้วอยู่ที่ราว 1 ล้านคนเท่านั้น
โซนี่ระบุว่าจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากการเปิดฟีเจอร์ให้ดาวน์โหลดเกมเอามาไว้ในเครื่อง เสริมเข้าไปจากตัวเลือกสตรีมอย่างเดียว ไม่รวมการลดราคาเมื่อปลายปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตามในแง่การตลาด PlayStation Now ยังค่อนข้างตามหลัง Xbox Game Pass ของไมโครซอฟท์ โดยเฉพาะกรณีการไม่นำเกมใหม่มาลงแพลตฟอร์มตั้งแต่วันแรก ขณะที่จำนวนผู้ใช้งาน Xbox Game Pass แตะระดับ 10 ล้านคนไปเรียบร้อยแล้ว
อ่านประกอบ : Cloud Gaming แพลตฟอร์มเกมยุคหน้าที่อาจทำให้ไมโครซอฟท์กลับมาครองตลาดเกม
ที่มา - GameIndustry |
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว Project Reunion แผนการรวม API ของ Win32 กับ UWP เข้าด้วยกัน
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Project Reunion ความพยายามในการรวม API ของแอพ Win32 แบบดั้งเดิม และแอพ UWP แบบใหม่ที่เริ่มในยุค Windows 8 เข้าด้วยกันเป็น API ชุดเดียว
Project Reunion ประกอบด้วยโครงการย่อยๆ หลายตัว มีตั้งแต่แยก API ของแอพออกจากตัว OS ให้ขาดจากกัน (เพื่อให้ Reunion เป็นแพลตฟอร์มพัฒนาแอพที่ไม่ขึ้นกับเวอร์ชันของ Windows ในอนาคต), ถอด API เก่าบางตัวออก, เพิ่ม API ตัวใหม่ที่จำเป็น
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ เพื่อให้ Reunion สามารถเรียกใช้ API ใหม่ๆ บน Windows รุ่นเก่าๆ ได้ ไมโครซอฟท์สัญญาว่าจะทำ polyfill หรือการเติมฟังก์ชันของ API ใหม่บนระบบปฏิบัติการเก่าให้ด้วย แต่ยังไม่มีรายละเอียดออกมาว่าจะทำถึงขั้นไหน
โครงการย่อยของ Reunion ที่เปิดตัวมาแล้วคือ
WinUI 3.0 แพลตฟอร์มสร้าง UI กลางสำหรับ Win32/UWP
WebView2 เอนจินแสดงผลหน้าเว็บ ที่เปลี่ยนมาใช้ Edge Chromium
รูปแบบแพ็กเกจที่จะแจกจ่ายแอพคือ MSIX ที่ใช้มาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยมาแทน AppX ของ UWP เดิม และ Installer แบบดั้งเดิม
ไมโครซอฟท์ยังพูดถึงแผนว่าอนาคตจะรองรับแอพ Windows ที่เขียนด้วย React Native ด้วย
แผนการขั้นสุดท้ายของ Project Reunion
ที่มา - Project Reunion, Microsoft |
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว Edge WebView2 แอพฝังหน้าเว็บ เรนเดอร์ด้วยเอนจิน Chromium
หลังจาก Microsoft Edge ย้ายมาใช้เอนจิน Chromium เสร็จสมบูรณ์ ก็ได้เวลาที่ไมโครซอฟท์จะทยอยเปลี่ยนเอนจิน EdgeHTML ของเดิมมาเป็น Chromium มากขึ้น
เอนจิน EdgeHTML ฝังมากับ Windows 10 และยังไม่ถูกนำออกในเร็ววัน เพราะถูกเรียกใช้ในแอพพลิเคชันอื่นๆ ที่ต้องการเรนเดอร์หน้าเว็บอีกต่อหนึ่งผ่าน Microsoft Edge WebView อีกที
สิ่งที่ไมโครซอฟท์เพิ่มเข้ามาคือ Microsoft Edge WebView2 ที่เปลี่ยนมาใช้ Chromium แทนให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ข้อดีสำหรับนักพัฒนาคือการที่มันใช้เอนจิน Chromium ที่นิยมอยู่แล้ว ปัญหาเรื่องการเรนเดอร์หน้าเว็บจึงหมดไป
Edge WebView2 รองรับการเชื่อมต่อกับแอพบนวินโดวส์ที่เขียนด้วย Win32 C/C++, WPF/WinForms บน .NET Framework 4.6.2 ขึ้นไป หรือ .NET Core 3.0 และ WinUI 3.0
ไมโครซอฟท์จะพอร์ต Edge WebView2 ไปยังระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าๆ ย้อนไปถึง Windows 7 และ Windows Server 2008 R2 ให้ด้วย (เรียกได้ว่า Windows เวอร์ชันไหนมี Edge Chromium ก็มี WebView2)
ตอนนี้ Edge WebView2 ยังมีสถานะเป็นพรีวิว สามารถดาวน์โหลด SDK มาทดลองใช้งานได้แล้ววันนี้
ที่มา - Microsoft |
# เป็นทุกอย่างนอกจากแชตที่ดี LINE เปิดเผยว่าผู้ใช้ Add บัญชีทางการอะไรไว้บ้างผ่านฟีเจอร์ Explore ต้องให้ผู้ใช้ปิดกันเอง
LINE เปิดฟีเจอร์ Explore มาตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยพยายามเปลี่ยนแอปแชตให้เป็นแอปสังคมออนไลน์ แต่ล่าสุดผู้ใช้หลายคนก็พบว่า LINE จะถือว่าการ Add บัญชีทางการทั้งหลายเป็นการ follow Timeline ไปพร้อมกัน และ LINE ก็เปิดเผยข้อมูลการติดตามนี้ให้คนอื่นเห็นได้ด้วย โดยผู้ใช้ต้องไปปิดเอาเอง
ทาง LINE เลือกที่จะแจ้งวิธีปิดข้อมูลนี้ผ่านทางหน้า timeline โดยตอนนี้หลายคนน่าจะเห็นเป็นโพสแรก
ฟีเจอร์ Timeline ของ LINE เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2012 ทำให้เราสามารถติดตามข่าวสารจากบัญชีทางการหรือบัญชีส่วนตัวได้ แม้หลายคนจะไม่ได้ใช้งานมากนักและมักติดตามบัญชีทางการทั้งหลายผ่านทางแชตมากกว่า แต่ฟีเจอร์ Timeline และแชตก็ผูกกันเรื่อยมา
ที่มา - LINE Today |
# YouTube เปิดตัว YouTube Select โปรแกรมโฆษณาใหม่ เจาะกลุ่มคนดูบนทีวีด้วย
YouTube เปิดตัว YouTube Select โปรแกรมโฆษณาพรีเมี่ยมแบบใหม่ ให้เข้าถึงกลุ่มคนดูได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยนอกเหนือจากจะเข้าถึงผ่านรสนิยมคนดูอย่าง กีฬา เพลง อาหาร ความงาม ความบันเทิง แฟชั่น ยังเพิ่มการเจาะกลุ่มไปยังคนดู YouTube บนทีวีและคนที่ดูคอนเทนต์ YouTube Originals ด้วย
YouTube ระบุว่า ในสหรัฐอเมริกามีกว่า 100 ล้านคนที่ดู YouTube และ YouTube TV ในแต่ละเดือน และจากข้อมูลของ Comscore ระบุว่า YouTube เข้าถึงผู้ชมในครัวเรือนมากขึ้น มีการดูมากกว่าบริการวิดีโอที่มีโฆษณา 3 เจ้ารวมกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ YouTube รวมเอากลุ่มคนดูทีวีเข้ามาอยู่ใน YouTube Select ด้วย
YouTube Select คล้ายกับ Google Preferred หรือโปรแกรมโฆษณาที่ให้แบรนด์นำโฆษณามาลงในช่อง YouTube ที่ได้รับความนิยมสูง โดยขายโฆษณาในราคาสูงกว่า กำหนดเป้าหมายเป็นช่องยอดนิยม 5% แรกใน YouTube ได้ แต่ YouTube Select จะทำไลน์อัพการเจาะกลุ่มคนดูให้ครอบคลุมคนดูช่องดังใน category ต่างๆ รวมถึงคนดู YouTube ผ่านทีวี
ที่มา - YouTube, Search Engine Land |
# เราไม่ทิ้งกัน Airbnb, Uber เปิดเว็บรวมโปรไฟล์ เพื่อช่วยพนักงานที่ถูกปลดหางานใหม่
ก่อนหน้านี้ตอนที่ Airbnb ประกาศปลดพนักงานเพราะ COVID-19 บริษัทได้เปิดเว็บที่รวบรวมข้อมูลโปรไฟล์ของพนักงานที่ถูกปลด เพื่อช่วยเหลือพนักงานเหล่านี้ให้หางานใหม่ได้ง่ายขึ้น ก่อนทีต่อมา Uber จะเปิดเว็บแบบเดียวกัน หลังจากประกาศปลดพนักงาน
เว็บเพจเหล่านี้จะมีข้อมูลของพนักงานที่โดนปลด ตำแหน่ง ประสบการณ์ พร้อมข้อมูลอื่น ๆ ด้วยเช่นสามารถทำงานรีโมต หรือย้ายที่อยู่ได้ด้วยหรือไม่
แต่สำหรับ Agoda ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในไทยด้วย และเพิ่งประกาศปลดพนักงานยังไม่พบเว็บรูปแบบเดียวกัน เพื่อทำการช่วยเหลือพนักงานแต่อย่างใด
สำหรับใครที่อยากเข้าไปดูโปรไฟล์ สามารถไปดูได้ที่ uber.com/talent และ airbnb.com/d/talent |
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว DirectX บนลินุกซ์ Windows Subsystem for Linux 2
ในข่าว Windows Terminal 1.0 ไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะเรนเดอร์กราฟิกของแอพจากลินุกซ์ด้วย GPU ด้วย เบื้องหลังของมันคือสิ่งที่อาจจินตนาการไม่ถึงเมื่อหลายปีก่อนอย่าง DirectX บนลินุกซ์ (ในความหมายนี้คือลินุกซ์ที่ติดตั้งบน Windows Subsystem for Linux 2 หรือ WSL 2)
ไมโครซอฟท์อธิบายว่าพัฒนาเทคนิค GPU paravirtualization (GPU-PV) บนวินโดวส์มาหลายปีแล้ว และใช้งานในโปรแกรมฝั่งวินโดวส์หลายตัว เช่น Windows Defender Application Guard, Windows Sandbox และอีมูเลเตอร์ของ Hololens
ที่ผ่านมา GPU-PV รองรับเฉพาะ guest OS ที่เป็นวินโดวส์เท่านั้น แต่ล่าสุดไมโครซอฟท์ขยายมายัง guest ลินุกซ์ด้วย โดยเพิ่มไดรเวอร์ตัวใหม่ชื่อ dxgkrnl ที่ฝั่งเคอร์เนลวินโดวส์ที่เป็น host OS ส่วนฝั่งลินุกซ์ที่เป็น guest อยู่บนระบบ WSL2 จะมองเห็นเป็น /dev/dxg ตามภาพ
เมื่อฝั่งลินุกซ์มองเห็น GPU (เสมือน) เรียบร้อยแล้ว ไมโครซอฟท์จึงพอร์ตบางส่วนของ DirectX (ในที่นี้คือ DirectX Core และ Direct3D) มาบนลินุกซ์ โดยตัว libd3d12.so ของลินุกซ์เป็นการคอมไพล์โค้ดตัวเดียวกับ d3d12.dll ของวินโดวส์ ที่มีความสามารถและประสิทธิภาพทัดเทียมกัน (ในการใช้งานจริงจะเสียประสิทธิภาพจาก virtualization ไปบ้าง)
เมื่อโครงสร้างพื้นฐานทั้งไดรเวอร์จีพียู และ API ของ DirectX พร้อมแล้ว ทำให้โปรแกรมฝั่งลินุกซ์สามารถเรียกใช้งานจีพียูได้อย่างเต็มที่ ไมโครซอฟท์ยกตัวอย่างการใช้งานที่พบบ่อยมา 3 แบบ ได้แก่
โปรแกรมลินุกซ์มักเรียกใช้ API กราฟิกจากค่าย Khronos (OpenGL, OpenCL, Vulkan) ไมโครซอฟท์จึงเริ่มพัฒนาระบบ mapping ระหว่างฝั่ง Khronos มายัง DirectX อีกที ในขั้นแรกจะรองรับเฉพาะ OpenGL และ OpenCL ส่วน Vulkan อยู่ในแผนขั้นต่อไป
งานด้าน AI ที่เรียกใช้ผ่าน DirectML ของไมโครซอฟท์เอง (ที่ขี่อยู่บน Direct3D อีกที) ไมโครซอฟท์พอร์ต DirectML มาอยู่บนลินุกซ์แล้วเช่นกัน
แต่โปรแกรมสายใช้จีพียูช่วยประมวลผล (เช่น งาน AI) มักเรียกใช้งานผ่าน NVIDIA CUDA โดยตรง (ไม่ต้องผ่าน Direct3D) ตรงนี้ไมโครซอฟท์จับมือกับ NVIDIA แก้ปัญหานี้เรียบร้อยแล้ว โดย CUDA เวอร์ชันใหม่จะรองรับไดรเวอร์ /dev/dxg ได้โดยตรง
ฟีเจอร์ทั้งหมดจะอยู่ในไดรเวอร์ WDDM (Windows Display Driver Model) เวอร์ชัน 2.9 และจะเริ่มเปิดให้ใช้งานใน Windows Insider กลุ่ม Fast Ring ในเร็วๆ นี้
ที่มา - Microsoft |
# Facebook เปิดตัว Facebook Shops สร้างหน้าร้านออนไลน์ได้ฟรี, ซื้อสินค้าได้จบในแพลตฟอร์ม
Facebook และ Instagram มีฟีเจอร์เพื่อธุรกิจอยู่แล้วคือ Facebook Marketplace หรือใน Instagram ก็มีฟีเจอร์ให้กดดูและซื้อสินค้าผ่านแบรนด์ที่ลงโฆษณา แต่ Facebook ต้องการไปให้ไกลกว่าเดิม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ร้านรวงรายเล็กปิดเพราะโรคระบาด
ล่าสุด Facebook เปิดตัว Facebook Shops เครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจรายเล็กสร้างหน้าร้านออนไลน์เองได้ฟรี เข้าถึงผู้ใช้งานทั้งใน Facebook และ Instagram คนขายเลือกผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการนำเสนอจากแคตตาล็อก ปรับแต่งรูปลักษณ์และเลือกสีให้เข้ากับแบรนด์ตัวเอง พร้อมใส่ข้อความซึ่ง Facebook Shops มีเทมเพลทให้เลือกด้วย
ด้านประสบการณ์ฝั่งคนซื้อ คือเหมือนซื้อของออนไลน์ตามแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์เลย คือกดดูสินค้า เลือกสินค้าเข้าตะกร้า กดจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต กดแชทกับคนขายได้ขบในแพลตฟอร์มเดียว โดยผู้ใช้งานสามารถหา Facebook Shops เจอได้ในหน้าโปรไฟล์เพจของธุรกิจหรือแบรนด์นั้นๆ ผ่านโปรไฟล์บน Facebook และ Instagram และมองหาปุ่ม View Shops ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดตัวในสหรัฐฯก่อน
และในอนาคต คนขายก็จะสามารถไลฟ์ขายของบน Facebook Shops โดยที่มีแท็กสินค้าปรากฏอยู่ด้านล่างวิดีโอ คนซื้อสามารถกดเข้าไปซื้อได้เลย ตอนนี้กำลังทดสอบอยู่
ที่มา - Facebook |
# Walmart ปิดบริการ Jet.com แล้ว เน้นผลักดันอีคอมเมิร์ซผ่านแบรนด์หลักแทน
Jet.com เป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซมาแรงที่ถูกจับตามองว่าจะมาเป็นคู่แข่ง Amazon และ Walmart ก็ซื้อ Jet เพื่อพัฒนาบริการอีคอมเมิร์ซของตัวเองเมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วยมูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์
แต่ช่วงหลัง Walmart เริ่มผลักดัน Walmart.com ขึ้นมาแทน โดยให้บริการขายสินค้าออนไลน์เป็นส่วนต่อขยายของร้านค้า Walmart เช่น การขยาย Express Delivery ไปยังร้านค้ากว่า 2,000 แห่งทั่วสหรัฐฯ รวมถึงทดสอบบริการสมัครสมาชิกลักษณะเดียวกับ Amazon Prime ล่าสุด Walmart จึงประกาศปิดตัวเว็บไซต์ Jet.com อย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้แบรนด์ Walmart.com แข็งแกร่งมากพอแล้ว ซึ่งทางบริษัทระบุว่าการซื้อ Jet เข้ามาเมื่อ 4 ปีที่แล้วถือเป็นจุดสำคัญในการเร่งขยายช่องทางขายของบริษัท
หากย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วช่วงที่ Walmart ปรับโครงสร้างธุรกิจ มีบทวิเคราะห์จาก Vox ระบุว่า Marc Lore ซีอีโอ Jet ที่เข้ามานั่งตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอีคอมเมิร์ซต้องการให้ Walmart ลงทุนหนักกับธุรกิจออนไลน์ซึ่งอาจจะขาดทุนหนักได้ถึงพันล้านดอลลาร์เพื่อให้ทัน Amazon ซึ่งความเห็นนี้ขัดแย้งกับบอร์ดบริหารของ Walmart
ที่มา - Engadget
ภาพจาก Jet.com |
# Chrome 83 รองรับ DNS-over-HTTPS, ปรับหน้าจอ Security ใหม่, เพิ่มปุ่ม Extension
กูเกิลออก Chrome 83 โดยข้าม Chrome 82 ตามที่เคยประกาศไว้ (จาก 81 มาเป็น 83 เลย) เวอร์ชันนี้มีของใหม่เป็นจำนวนมาก โดยเน้นที่ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
หมายเหตุ: ฟีเจอร์หลายตัวจะทยอยเปิดให้ใช้งาน ผมลองอัพเดต Chrome เป็นเวอร์ชัน 83 แล้วก็พบว่ายังไม่ได้ฟีเจอร์เกือบทั้งหมดที่ประกาศไว้
จัดเรียงหน้า Settings ใหม่ เพิ่มหมวด Safety Check เข้ามา ให้ตรวจเช็คว่ามีรหัสผ่านหลุดบนอินเทอร์เน็ต, ดาวน์โหลดมัลแวร์หรือเข้าเว็บอันตราย
หน้าจอ Settings หมวด Privacy & Security นำตัวเลือก Clear browsing data มาไว้บนสุด เพราะคนใช้บ่อย
ปรับหน้าจอจัดการคุกกี้ใหม่หมด กำหนดค่าต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น การบล็อคคุกกี้เป็นบางเว็บ หรือ บล็อคทั้งหมด
โหมด Incognito สามารถรันแบบบล็อคคุกกี้ได้แล้ว และสรุปสถิติการบล็อคคุกกี้ให้ด้วย
เพิ่มปุ่มไอคอนรูปจิ๊กซอบนทูลบาร์ รวม Extensions ทั้งหมดไว้ที่เดียว แก้ปัญหาลง Extensions เยอะๆ แล้วทูลบาร์รก
ฟีเจอร์ Enhanced Safe Browsing เมื่อเปิดใช้แล้วจะยกระดับความปลอดภัยขึ้น บล็อคการเข้าเว็บอันตรายแบบเรียลไทม์ (ซึ่งในด้านกลับจะแชร์ข้อมูลการท่องเว็บกลับไปยังกูเกิลด้วยแบบเรียลไทม์เช่นกัน ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องล็อกอินบัญชีกูเกิลที่ตัว Chrome)
Secure DNS หรือการรองรับ DNS-over-HTTPS ที่จะเปิดใช้อัตโนมัติ หาก ISP รองรับ สอดคล้องกับทิศทางของเบราว์เซอร์อื่นๆ อย่าง Firefox ที่เพิ่งประกาศรองรับเมื่อไม่นานมานี้
แผนภาพของ Chrome อธิบายการทำงานของ DNS แบบไม่เข้ารหัส ที่อาจเป็นช่องโหว่ให้ถูกโจมตี
แผนภาพแสดงการทำงานของ DNS-over-HTTPS
ที่มา - Chrome, Chromium, Google Security |
# ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows Package Manager (Winget) ตัวจัดการแพ็กเกจของวินโดวส์
ผู้ใช้ลินุกซ์คงคุ้นเคยกับระบบจัดการแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่มีมายาวนาน ล่าสุดไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows Package Manager ของตัวเองแล้วในชื่อว่า winget
winget เป็นตัวจัดการแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่ทำงานผ่านคอมมานด์ไลน์เท่านั้น คำสั่งมาตรฐานเหมือนกับตัวจัดการแพ็กเกจยี่ห้ออื่นๆ เราสามารถสั่ง winget install terminal ได้โดยตรง คำสั่งอื่นที่มีก็อย่างเช่น show/source/search/validate เป็นต้น
ไมโครซอฟท์อธิบายว่าลองพิจารณาตัวจัดการแพ็กเกจที่มีอยู่แล้วหลายตัว และตัดสินใจสร้างขึ้นเอง ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเป็นหลัก ทำให้ winget เชื่อมต่อกับคลังซอฟต์แวร์ (repository) ที่เชื่อถือได้ และมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยหลายอย่าง เช่น ตรวจ hash SHA256, การวิเคราะห์โครงสร้างไฟล์, บล็อคมัลแวร์ด้วยฐานข้อมูล SmartScreen ที่ไมโครซออฟท์ใช้ใน Edge เป็นต้น
winget ยังมีสถานะเป็นพรีวิวเวอร์ชัน 0.1 มีแผนจะออกเวอร์ชัน 1.0 ในเดือนพฤษภาคม 2021 และใช้ได้กับ Windows 10 v1709 ขึ้นไป
ตอนนี้หากอยากลองใช้งานต้องเข้าร่วมโครงการ Windows Insider ก่อน แล้วค่อยติดตั้งผ่าน Microsoft Store (ไมโครซอฟท์จะออกเวอร์ชันใหม่ทุกเดือน และอัพเดตให้อัตโนมัติผ่าน Store) หรือสามารถดาวน์โหลดโค้ดมาคอมไพล์เองได้จาก GitHub
ที่มา - Microsoft |
# ไมโครซอฟท์เปิดฟีเจอร์ Edge Insider: เซฟเว็บเข้า OneNote/Pinterest, รองรับ PWA, ค้นหาคำขึ้นด้านข้างเว็บ
ไมโครซอฟท์เปิดฟีเจอร์ของ Microsoft Edge รุ่นต่อไป โดยปรับรูปแบบการใช้งานให้สะดวกขึ้น
ฟีเจอร์ Collections เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วและสร้างความฮือฮาด้วยการเซฟข้อมูลลง Excel ปีนี้ Collections รองรับการส่งรายการเว็บที่เซฟไว้ไปยัง Pinterest และ OneNote เพิ่มเติม
Sidebar ฟีเจอร์ค้นหาคำบนเว็บที่หลายครั้งเรามักคลิกขวาบนคำต่างๆ เพื่อค้นหาความหมาย แต่มักเป็นการเปิดแท็บใหม่ ฟีเจอร์ Sidebar จะเป็นการเปิดเว็บขึ้นมาด้านข้างแทนทำให้ไม่รกแท็บ
Progressive Web Apps (PWAs) จะสามารถแชร์ข้อมูลไปยังแอปอื่นๆ ในวินโดวส์และเป็นแอปที่รับการแชร์จากแอปอื่นได้เช่นกัน ผ่านฟีเจอร์ Web Apps Identity Proxy ใน Edge เวอร์ชั่น Canary
การซิงก์ข้อมูลปรับแต่งได้มากขึ้นว่าต้องการซิงก์อะไรข้ามอุปกรณ์บ้าง
Automatic Profile Switching ในกรณีที่เบราว์เซอร์เปิดใช้งานหลายโปรไฟล์ เช่นแยกบัญชีที่ทำงานกับบัญชีส่วนตัว หากเข้าเว็บที่ล็อกอินคนละโปรไฟล์เอาไว้ Edge จะแนะนำให้เปิดหน้าต่างใหม่โปรไฟล์ที่ล็อกอินไว้แล้ว
DevTools ตัวใหม่มีหน้าจอแสดงออปเจกต์ในเว็บแบบสามมิติ
ไมโครซอฟท์ยังคงยืนยันว่า Edge ที่ใช้ Chromium นี้เป็นความร่วมมือกับโลกโอเพนซอร์สอยู่ โดยจนถึงตอนนี้ไมโครซอฟท์ส่งโค้ดกลับไปยัง Chromium แล้วกว่า 3,000 commit ส่วนฟีเจอร์ที่ประกาศในงานนี้ส่วนมากจะมาใน Edge Insider ก่อน สำหรับผู้ใช้ที่ลงเวอร์ชั่นเสถียรอาจจะต้องรออีกหลายเดือนจึงได้ใช้ครบ
ที่มา - Windows Blog |
# AMD กลับตัว ซีพียู Ryzen แกน Zen 3 จะสามารถใช้กับชิปเซ็ต X470 และ B450 ได้
ในงาน CES 2017 นั้น AMD ได้ประกาศว่าจะสนับสนุนซ็อคเก็ต AM4 ไปจนถึงปี 2020 ซึ่งก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ แต่มีการประกาศออกมาว่า ถ้าจะใช้ซีพียู Ryzen รุ่นหน้าที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 3 หรือ Ryzen 4000 Series นั้น จะต้องใช้กับเมนบอร์ดชิปเซ็ตซีรี่ย์ 500 ขึ้นไป ได้แก่ X570 และ B550 เท่านั้น ทำให้ทาง AMD ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มากอยู่พอสมควรในเรื่องนี้
ล่าสุดทาง AMD ได้เปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ทำให้เมนบอร์ดชิปเซ็ต X470 และ B450 จะสามารถใช้งานกับ Ryzen แกน Zen 3 ที่จะเปิดตัวได้ โดยจะเป็นไบออสเวอร์ชันเบต้าที่ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดมาอัพเดตได้ ซึ่งไบออสนี้จะถูกปิดการรองรับซีพียูรุ่นเก่าๆ ไป และเมื่ออัพเดตไบออสแล้ว จะไม่สามารถย้อนกลับมาเวอร์ชันก่อนหน้า เพื่อให้รองรับซีพียูที่ถูกปิดไปได้แล้ว หรือก็คือเป็นการอัพเดตแบบทางเดียว
นอกจากนี้ทาง AMD ยังมีการป้องกันไม่ให้คนที่ไม่ได้ใช้ Ryzen แกน Zen 3 แต่เผลอไปอัพเดตไบออสเบต้าตัวนี้ ด้วยการเปิดให้ดาวน์โหลดไบออสเบต้านี้เฉพาะผู้ที่ได้ซื้อ Ryzen แกน Zen 3 นี้แล้วเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม AMD แนะนำว่า สำหรับ Ryzen แกน Zen 3 นั้นควรใช้งานบนเมนบอร์ดชิปเซ็ตซีรี่ย์ 500 เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ของซีพียูมากที่สุด
สำหรับชิปเซ็ตซีรี่ย์ 400 นั้น Ryzen แกน Zen 3 จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ชิปเซ็ตนี้รองรับ
ที่มา: Tom's Hardware
แผนเดิมของ AMD ที่ Zen 3 จะใช้ได้เฉพาะ X570 และ B550 |
# โซนี่เปิดตัว PS4 Pro พร้อมหูฟังและ HDD ลาย The Last of Us Part II
เป็นประจำกับการเปิดตัวเกมเอ็กคลูซีฟที่จะต้องมาพร้อมกับบันเดิล PlayStation 4 Pro ลายพิเศษแบบ Limited Edition และรอบนี้เป็นคิวของ The Last of Us Part II
ตัวเครื่องและ Dualshock 4 ยังคงสีดำ มีโลโก้เกมพร้อมลายต้นเฟิร์นที่เป็นลายสักของ Ellie ขณะที่ในบันเดิลยังมี SteelBook พร้อมตัวเกมเต็มมาให้ด้วย โดยนอกจากตัวเครื่องแล้วรอบนี้ยังมีหูฟัง Gold Wireless Headset สีดำและ HDD Game Drive ของ Seagate ขนาด 2TB สลักลายใบเฟิร์นและโลโก้เกมเช่นเดียวกันด้วย
ตัวบันเดิล PS4 Pro ราคา 399.99 เหรียญหรือราว 12,800 บาท DualShock 4 ขายแยกที่ 64.99 เหรียญหรือราว 2,100 บาท ส่วนหูฟัง Gold Wireless ราคา 99.99 เหรียญหรือราว 3,200 บาท ส่วน Game Drive ของ Seagate อยู่ที่ 89.99 เหรียญหรือราว 2,900 บาท
ที่มา - PlayStation Blog |
# [BUILD2020] Windows Terminal ออกรุ่น 1.0, WSL รองรับแอป GUI จากลินุกซ์
งาน Microsoft Build 2020 ปีนี้จัดเป็นงานออนไลน์ และไมโครซอฟท์กำลังเปิดบริการออกมาชุดใหญ่ โดยหนึ่งในนั้นคือ Windows Terminal ที่ออกรุ่น 1.0 ถือเป็นรุ่นพร้อมใช้งานจริงจังรุ่นแรกนับแต่ไมโครซอฟท์ประกาศโครงการมา
แต่จุดที่เปลี่ยนเยอะกว่าคือ Windows Subsystem for Linux หรือ WSL ที่ประกาศจะรองรับ GPU ในการประมวลผล พร้อมกับรองรับแอป GUI จากลินุกซ์ได้โดยตรง ทำให้นักพัฒนาสามารถติดตั้งแอป GUI โดยไม่ต้องติดตั้ง X Server เพิ่มเติมอีกต่อไป
นอกจากการเพิ่มฟีเจอร์แล้ว WSL จะสามารถติดตั้งด้วยคำสั่ง wsl.exe --install ใน command line ได้โดยตรง
ที่มา - Windows Blog |
# [BUILD2020] ไมโครซอฟท์ปล่อย WinUI 3 Preview 1 รองรับ .NET 5
ไมโครซอฟท์ปลอ่ย WinUI 3 Preview 1 รุ่นพรีวิวแรกหลังจากปล่อยรุ่นอัลฟ่าไปเมื่อเดือนกุมพาพันธ์ โดย WinUI 3 จะเป็นเวอร์ชั่นแรกที่รองรับทั้งแอปแบบเดสก์ทอปและ UWP (Universal Windows Platform)
ในเวอร์ชั่น Preview 1 มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมหลักคือรองรับ .NET 5 สำหรับการพัฒนาแอปแบบเดสก์ทอป, WebView2 ที่เพิ่งปรับไปใช้เอนจิน Chromium รองรับจอความละเอียดสูง
เวอร์ชั่นนี้ต้องการ Visual Studio 2019, version 16.7 Preview 1 สามารถดาวน์โหลดได้แล้วเช่นกัน
ที่มา - Windows Blog |
# Honor เปิดตัว Honor Choice เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหลากหลายชนิด ชน Xiaomi
นอกจาก Magicbook Pro และ Viewpad 6 แล้ว วันนี้ Honor ยังเปิดตัวเครื่องใช้จิปาถะในไลน์ Honor Choice มากมาย ราวกับจะท้าชน Xiaomi โดยมีอุปกรณ์ดังนี้
Honor Choice Vacuum Cleaner เครื่องดูดฝุ่น มอเตอร์ 350W แบตเตอรี่อยู่ได้ 65 นาที พร้อมบอกแคลอรี่ที่ใช้ไประหว่างดูดในแอป ราคา 1,599 หยวน (ประมาณ 7,175 บาท)
Honor Choice Air Multiplier พัดลมไร้ใบพัด ที่พัดได้ทั้งลมอุ่นและเย็น ราคา 999 หยวน (ประมาณ 4,480 บาท) เครื่องให้ความชื่นในอาการ
Honor Choice Humidifier เครื่องให้ความชื้นในห้อง ราคา 699 หยวน (ประมาณ 3,135 บาท)
Honor Choice Electric Toothbrush แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบอัลตร้าโซนิก ราคา 129 หยวน (ประมาณ 580 บาท)
Honor Choice TWS Earbuds X1 หูฟังไร้สาย แบตเตอรี่รวมเคส ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง ในราคา 169 หยวน (ประมาณ 760 บาท)
Honor Choice Smart Vehicle Mounted Phone Holder (ชื่อยาวไปไหน) ที่วางและชาร์จมือถือบนรถ
ชาร์จแบบไร้สาย 15W ราคา 199 หยวน (ประมาณ 895 บาท)
ทั้งหมดนี้วางจำหน่ายในประเทศจีนแล้ว และอาจมีจำหน่ายในต่างประเทศในอนาคต
ที่มา Honor Live |
# Honor เปิดตัว Viewpad Pro 6 แท็บเล็ตจอ 2K ขนาด 10.4 นิ้ว ชิป Kirin 985 รองรับ 5G
แท็บเล็ต Honor Viewpad Pro 6 แท็บเล็ตหน้าจอ 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2K อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 84% ใช้ชิป Kirin 985 จีพียู Mali-G77 แรม 6 GB หน่วยความจำภายใน 128 GB แบตเตอรี่ 7,250 mAh รองรับชาร์จเร็ว 22.5W กล้องหน้า 8MP f/2.0 กล้องหลัง 13MP f/1.8 รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 มาพร้อม Magic Pencil ปากกาที่มีการตอบสนองแรงกด 4096 ระดับ รันบน Honor'a Magic UI 3.1 บนพื้นฐาน Android 10
Honor Viewpad Pro 6 ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้
ที่มา - Honor Live |
# Honor เปิดตัว MagicBook Pro (2020) โน้ตบุ๊ก Intel 10th Gen ราคาเริ่ม 27,000 บาท
Honor เปิดตัว MagicBook Pro (2020) โน้ตบุ๊ก Intel 10th Gen ราคาเริ่ม 27,000 บาท
Honor แถลงผ่าน Live เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่เย็นวันนี้ ที่โดดเด่น มี Honor MagicBook Pro รุ่นปี 2020 หน้าจอ FullView ขนาด 16.1 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 มาพร้อม Core i5-10210U และ Core i7-10510U พร้อมการ์ดจอแยก Nvidia Geforce MX350 แรม 16 GB DDR4, SSD 512 GB แบตเตอรี่ 56Wh ใช้งานสูงสุด 14 ชั่วโมง ติดตั้ง Windows 10 มาให้จากโรงงาน พร้อมพอร์ต USB Type-C 1x, USB 3.0 3x, HDMI และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
Honor MagicBook Pro เริ่มจำหน่ายแล้วในประเทศจีน
- รุ่น Core i5 ราคา 5,999 หยวน (ประมาณ 27,000 บาท)
- รุ่น Core i7 ราคา 6,699 หยวน (ประมาณ 30,100 บาท)
ที่มา - Honor Live |
# Xiaomi เปิดตัว MIUI 12 รองรับ Dark Mode และเพิ่ม App Drawer
Xiaomi เปิดตัว MIUI 12 ที่พัฒนาบนฐานของ Android 10 แล้ว เพิ่มตัวเลือกในการให้สิทธิเข้าถึงข้อมูลของแอป เพิ่ม Dark Mode, ปรับปรุงระบบประหยัดแบตและเพิ่ม App Drawer มาให้แล้ว โดย Xiaomi บอกว่าเพราะเห็นว่า App Drawer ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ใช้ POCO
MIUI 12 จะปล่อยดาวน์โหลดในช่วงเดือนหน้ากับ Mi 9, Mi 9T, Mi 9T Pro, Redmi K20 และ Redmi K20 Pro ก่อน ส่วนรุ่นอื่น ๆ ที่จะได้รับอัพเดตตามมามี
Redmi Note 7/ Redmi Note 7 Pro/ Redmi Note 7S/ Redmi Note 8 Pro/ Redmi Note 9/ Redmi Y2/ Redmi S2/ Redmi Note 5/ Redmi Note 5 Pro / Redmi 6A/ Redmi 6/ Redmi 6 Pro/ Redmi Note 6 Pro/ Redmi Y3/ Redmi 7/ Redmi 7A/ Redmi Note 8/ Redmi Note 8T/ Redmi 8/ Redmi 8A/ Redmi 8A Dual/ Redmi Note 9s/ Redmi Note 9 Pro/ Redmi Note 9 Pro Max/
Mi 10 Lite/Mi Note 10/ Mi 8/ Mi 8 Pro/ Mi MIX 3/ Mi MIX 2S/ Mi 9 SE/ Mi 9 Lite / Mi Note 3/ Mi MIX 2/ Mi MAX 3/ Mi 8 Lite/ Mi Note 10 Lite/ Mi 10 Pro /Mi 10
POCOPHONE F1/ POCO F1/ POCO F2 Pro/ POCO X2
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ |
# OnePlus เตรียมถอดฟีเจอร์กล้อง Color Filter ส่องทะลุพลาสติกใน OnePlus 8 Pro
หลังจากเป็นประเด็นไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังมีคนพบโหมด Color Filter บน OnePlus 8 Pro ทำให้สามารถส่องทะลุพลาสติกบางชนิดได้
ล่าสุด OnePlus เผยว่าเตรียมอัพเดตและถอดฟีเจอร์ Color Filter ออกจาก OnePlus 8 Pro โดยให้เหตุผลว่าเพราะเคารพความเป็นส่วนตัวสูงสุด และตัดความเป็นไปได้ทุกอย่างที่ฟีเจอร์นี้จะก่อให้เกิดความไม่สบายใจและละเมิดความเป็นส่วนตัว โดยอัพเดตจะเริ่มทยอยปล่อยภายใน 1 สัปดาห์
ที่มา - Engadget |
# ไม่หลังหักอีกต่อไป Epic Games Store คืนเงินส่วนต่างให้คนซื้อเกมราคาเต็ม ก่อนวันลดราคา
ก่อนหน้านี้ ทั้ง Epic Games Store และ Steam แนะนำให้ผู้เล่นขอ refund แล้วซื้อเกมใหม่อีกรอบ หากเกมที่เพิ่งซื้อไป ลดราคาภายในเวลาไม่นานหลังจากที่ผู้เล่นซื้อไปในราคาเต็ม
แต่ตอนนี้ Epic Games Store เริ่มใช้ระบบอัตโนมัติ คืนเงินบางส่วนให้กับผู้เล่นที่ “หลังหัก” โดยจะแจ้งไปทางอีเมล ว่าเกมที่ซื้อไปไม่นานเพิ่งลดราคา และ Epic Games Store ขอคืนเงินส่วนต่างให้กับคุณ (ข้อมูลยังไม่แน่ชัดว่าต้องภายในกี่วัน)
ถือเป็นนโยบายที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่จะไม่ต้องก่นด่าโชคชะตาอีกต่อไป และมีโอกาสที่ Steam อาจจะจำเป็นต้องเร่งทำระบบนี้ขึ้นมาบ้าง หลังจากที่ทั้งการแจกเกมฟรี และนโยบายต่างๆ ของ Epic Games Store ที่ถึงจะยังตามหลัง Steam อยู่ แต่ก็เร่งเครื่องจ่อคอหอยเข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
ถึงแม้ผู้บริโภคอาจจะเกิดความยุ่งยากที่ต้องดาวน์โหลด launcher หลายๆ ตัว เพื่อเข้าเล่นเกมที่ตัวเองเป็นเจ้าของ หรือต้องผจญกับการแย่งเกม Exclusive ของ Epic แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแข่งขันในปัจจุบัน ทำให้เกิดนโยบายที่เป็นมิตรต่อผู้เล่น และการพัฒนาระบบร้านขายเกมที่ดีขึ้นมากกว่าสมัยที่ Steam ผูกขาดตลาดแต่เพียงเจ้าเดียว
ที่มา - Kotaku |
# Samsung เปิดตัวเซ็นเซอร์ภาพ ISOCELL GN1 ขนาด 50MP มีโหมดได้ภาพความละเอียด 100MP
Samsung เปิดตัวเซ็นเซอร์ ISOCELL GN1 เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.3 นิ้ว ความละเอียด 50MP เป็นเซ็นเซอร์ตัวแรกที่มีทั้งระบบออโต้โฟกัสแบบ dual-pixel ที่มี โฟโต้ไดโอดสองตัว วางข้างกันในหนึ่งพิกเซล เพื่อรับแสงจากมุมต่างกันและใช้สำหรับ phase-detection ช่วยเพิ่มความเร็วของออโต้โฟกัส นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Tetracell รวมแสงจากพิกเซลใกล้กัน 4 พิกเซลให้ได้ภาพที่สว่างขึ้น สามารถรวมพิกเซลขนาด 1.2μm ที่เป็น native size ให้กลายเป็นภาพ 12.5MP ที่มีขนาดพิกเซล 2.4μm เพื่อเก็บแสงในภาพถ่ายกลางคืน หรือในที่แสงน้อยได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีโหมดที่ให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้ความละเอียด 100MP จากเซ็นเซอร์ 50MP ได้ มีระบบ Smart ISO มีระบบกันสั่นแบบ gyro-based (กันสั่นโดยใช้เซ็นเซอร์ gyro วัดความเอียงมาช่วย) และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 8K 30 เฟรมต่อวินาที และยังถ่ายวิดีโอ 1080p แบบ 240 เฟรมต่อวินาที (แบบมีออโต้โฟกัส) และ 400 เฟรมต่อวินาที (แบบไม่มีออโต้โฟกัส) ได้อีกด้วย
ISOCELL GN1 จะเริ่มผลิตภายในเดือนนี้ เพื่อประชันกับเซ็นเซอร์ภาพยอดนิยมในตระกูล IMX ของ Sony คาดว่าสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่จะใช้เซ็นเซอร์ใหม่ของ Samsung จะเป็นสมาร์ทโฟนจากค่าย Vivo ที่จะวางจำหน่ายภายในปีนี้
ที่มา - SAMMOBILE |
# Artifact เตรียมเปิดให้ผู้เล่นลองเล่นเวอร์ชั่น Beta สัปดาห์หน้า สุ่มจากผู้ที่เคยซื้อเกม
หลังจากอัพเดตโรดแมปไปเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม Artifact ก็มาแถลงถึงความคืบหน้าอีกครั้ง โดยเตรียมเปิดให้ผู้เล่นได้เข้ามาทดสอบตัวเกมในเวอร์ชั่น Beta โดยจะสุ่มแจก invite สำหรับการเข้าไปทดลองเล่นให้กับผู้ที่ซื้อ Artifact ก่อนวันที่ 30 มีนาคม 2020 ที่ผ่านมา ผ่านทางอีเมล
สำหรับระบบที่จะมีการทดสอบและให้ทดลองเล่นใน Artifact เวอร์ชั่น Beta นี้ ประกอบด้วย ตัวเกม สมดุลของตัวเกม เอกลักษณ์ของฮีโร่และการ์ดในแต่ละสี ฟีเจอร์ด้านการสื่อสารระหว่างกันในเกม การปลดล็อกการ์ด การเล่นโหมดจัดอันดับ รีเพลย์การเล่น ระบบชมการเล่นของผู้อื่น และ โหมดแคมเปญ
สำหรับผู้ที่ได้รับ invite สำหรับช่วง Beta นี้สามารถสตรีมและแชร์ข้อมูลให้กับคนอื่นได้โดยไม่มีข้อจำกัดแต่อย่างใด
ที่มา: Artifact |
# Grafana ออกรุ่น 7.0: พัฒนาปลั๊กอินง่ายขึ้น, แปลงข้อมูลก่อนแสดงผล, แสดงสถิติการใช้งาน
Grafana โครงการ dashboard แบบโอเพนซอร์สออกรุ่น 7.0 ที่ปรับทั้งโครงสร้างภายในฟีเจอร์ที่มองเห็นได้หลายอย่าง
ส่วนที่มองเห็นได้ มีตั้งแต่ชุดไอคอนใหม่, panel แบบตาราง (table) รูปแบบใหม่ที่แสดงข้อมูลได้ซับซ้อนกว่าเดิม เช่นการแสดงแท่งกราฟในตาราง, Tracing แสดงข้อมูลการประมวลผลส่วนต่างๆ ตาม trace ID, และฟีเจอร์แสดงสถิติการใช้งานตัว dashboard เองว่ามีผู้เข้ามาดูข้อมูลมากน้อยเพียงใด
การปรับโครงสร้างภายในมีหลายส่วน เช่น Unified Data Model ที่ปรับค่าคอนฟิกให้ตรงกันไม่ว่าจะเป็นการแสดงข้อมูลแบบใด, Plugins Platform ชุดเครื่องมือการพัฒนาปลั๊กอินใหม่ที่ทำให้พัฒนาได้ง่ายขึ้น, Transformation เปิดให้แปลงข้อมูลก่อนแสดงผล
เปิดให้ดาวน์โหลดได้แล้วทั้งแบบไบนารี และคอนเทนเนอร์
ที่มา - Grafana |
# Tinder ปล่อยฟีเจอร์ถ่ายเซลฟี่เพื่อยืนยันตัวตนให้ผู้ใช้งานในไทย
Tinder ปล่อยฟีเจอร์ Photo Verification ให้ผู้ใช้งานในไทย ถ่ายรูปเซลฟีเพื่อยืนยันตัวตนก่อนใช้งาน เป็นการยืนยันว่าผู้ใช้งานมีตัวตนอยู่จริง โดยโปรไฟล์ที่ได้รับการยืนยันว่าผ่าน จะมีเครื่องหมายถูกสีฟ้าด้านหลังชื่อและอายุ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานนรู้ว่าคนที่เราแมตช์และคุยด้วยอยู่นั้นมีตัวตนจริง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นฟีเจอร์ทดลองในบางตลาดเท่านั้น
วิธีการใช้งาน
1.เปิดแอป Tinder และแตะหน้าโปรไฟล์
2.แตะเครื่องหมายถูกสีเทาถัดจากชื่อและอายุ
3.เลือก ‘ยืนยันโปรไฟล์’
4.ถ่ายรูปเซลฟีตามท่าตัวอย่าง
5.หากมั่นใจว่ารูปเซลฟีของคุณตรงกับท่าที่กำหนด แตะ ‘ส่งเข้ารับการตรวจสอบ’
6.ทำตามขั้นตอนข้อ 4 และ 5 อีกครั้ง หลังจากนั้นรอผลการยืนยันโปรไฟล์
ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์ |
# Logitech เปิดตัว Circle View Camera กล้องนิรภัย รองรับ Apple Homekit
Logitech เปิดตัว Circle View Camera กล้องนิรภัย ที่รองรับโปรโตคอล Apple Homekit และรองรับ Homekit Secure Video ระบบกล้องนิรภัยของ Apple
Circle View Camera เป็นกล้องนิรภัยความละเอียด 1080p มุมมอง 180 องศาพร้อมแสงอินฟราเรด มองเห็นได้ไกลถึง 15 ฟุต และสามารถปัดกล้องลง หรือกดปุ่มปิดเสียงและภาพชั่วคราวได้ หากต้องการความเป็นส่วนตัว
Homekit Secure Video ของ Apple จะใช้ระบบตรวจสอบบนเครื่องเพื่อระบุว่ามีบุคคล ยานพาหนะ หรือสัตว์ เคลื่อนไหวอยู่ในกล้อง ก่อนจะบันทึกวิดีโอลงบน iCloud โดยไม่กินพื้นที่ความจุของผู้ใช้ และสามารถดูวิดีโอที่บันทึกได้ผ่านแอป Apple Home
Logitech Circle View วางจำหน่ายบนเว็บไซต์ Logitech และ Apple.com ในอเมริกาแล้ว ในราคา 159.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,100 บาท)
ที่มา - Logitech Blog |
# โซนี่เปิดตัว XH90 ทีวี 4K 120FPS สำหรับคอนโซลรุ่นใหม่ รัน Android TV รองรับ HomeKit
เครื่องคอนโซลยังไม่พร้อมแต่ทีวีพร้อมแล้ว โซนี่เปิดตัวทีวีรุ่น XH90 ความละเอียด 4K รองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 120fps ที่โซนี่บอกว่าเหมาะกับการใช้ร่วมกับคอนโซลรุ่นใหม่
XH90 มีชิป HDR Processor X1 สำหรับประมวลผลภาพ จอเป็นแพแนล LED รัน Android TV มีโหมด Netflix Calibrated เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพและสีใกล้เคียงกับที่สตูดิโอหรือผู้กำกับต้องการมากที่สุด (เฉพาะ Netflix Original)
แม้จะรัน Android TV และรองรับ Google Assistant เป็นค่าดีฟอลต์และ XH90 ก็รองรับ Amazon Alexa, AirPlay 2 และ HomeKit ของแอปเปิลด้วย ราคาไล่ไปตามขนาด 55 นิ้ว 1,299 ปอนด์หรือราว 50,700 บาท, 65 นิ้ว 1,499 ปอนด์หรือราว 58,500 บาท, 75 นิ้ว ราคา 2,199 ปอนด์หรือราว 85,900 บาทและ 85 นิ้ว ราคา 3,299 ปอนด์หรือราว 129,000 บาท เริ่มขายในสหราชอาณาจักรและยุโรปสิ้นเดือนนี้
ที่มา - Sony, NotebookCheck |
# ทัวร์นาเมนต์เลื่อนแต่ Euro 2020 บน PES 2020 กำหนดออกเดือนหน้าตามเดิม
แม้การแข่งขันฟุตบอล Euro 2020 จะเลื่อนไปเป็นปีหน้า (แต่ใช้เลขเดิม) เพราะ COVID-19 แต่ Konami ที่มีกำหนดปล่อยอัพเดตอัพเดตทัวร์นาเมนต์ Euro 2020 ให้กับ PES 2020 จะยังคงกำหนดเอาไว้ตามเดิมที่วันที่ 6 มิถุนายน หลังเคยเลื่อนมาแล้วจาก 30 เมษายน
อัพเดตนี้จะเป็นอัพเดตให้ฟรี เป็นโหมดทัวร์นาเมนต์ที่ฟอร์แมทเหมือนการแข่งขันจริง มีทีมชาติทั้งหมด 55 ชาติในรอบคัดเลือกและ 24 ทีมในรอบสุดท้าย โดย Konami ได้ลิขสิทธิ์ในทัวร์นาเมนต์นี้ไปทั้งหมด ทั้งชื่อ ชุด สนามและลูกฟุตบอล
ที่มา - Konami |
# watchOS ออกอัพเดต 6.2.5 เพิ่มหน้าปัด Pride แบบใหม่
แอปเปิลออกอัพเดต watchOS ระบบปฏิบัติการสำหรับ Apple Watch เวอร์ชัน 6.2.5 โดยผู้ใช้ Apple Watch สามารถอัพเดตได้ผ่านแอปบน iPhone แล้วไปที่ General เลือก Software Update ซึ่งยังมีเงื่อนไขเดิม นั่นคือมีแบตเตอรี่อย่างต่ำ 50% ชาร์จไฟอยู่ และมี iPhone อยู่ในระยะขณะอัพเดต
ฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชันนี้นอกจากแก้ไขบั๊กต่าง ๆ ยังมีรายการสำคัญนั่นคือ เพิ่มการรองรับ ECG และตรวจจับการเต้นหัวใจผิดปกติ สำหรับผู้ใช้งานในซาอุดีอาระเบีย
นอกจากนี้แอปเปิลยังเพิ่มลวดลายหน้าปัดในธีม Pride เพิ่มเติมอีก เพื่อให้เข้ากับสายนาฬิการุ่นใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่ายด้วย
ที่มา: MacRumors |
# Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ชี้ ทำงานที่บ้านถาวรไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตคนทำงาน
หลังทวิตเตอร์ประกาศมาตรการ พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ยาวๆ แม้จะหมด COVID-19 แล้วก็ตาม Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ ก็แสดงความเห็นว่า การทำงานที่บ้านถาวรไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตคนทำงาน ทำลายปฏิสัมพันธ์ทางสังคมหรือ social interaction
Satya ยังบอกด้วยว่า การประชุมวิดีโอคอลก็ไม่สามารถทดแทนการประชุมแบบเจอกันต่อหน้าได้ เพราะเราไม่ได้สื่อสารกับคนที่เรานั่งอยู่ข้างๆได้เหมือนตอนประชุมแบบเจอกัน และบางครั้งเขาก็รู้สึกว่ามันเป็นการทำลายต้นทุนทางสังคมที่เราสร้างกันมา
ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ อย่าง Google, Facebook ให้พนักงานทำงานที่บ้านยาวๆ ถึงสิ้นปี 2020 ส่วนไมโครซอฟท์ยืดเวลาให้สูงสุดถึงแค่เดือนตุลาคมนี้เท่านั้น
ที่มา - The Times of India |
# Instagram เปิดตัว Guides แหล่งรวมคอนเทนต์ดูแลสุขภาพกายและใจในช่วง COVID-19
Instagram เปิดตัว Guides แหล่งรวมคอนเทนต์แนะนำการดูแลสุขภาพกายและใจที่ดีในช่วง COVID-19 เป็นคอนเทนต์จากอินฟลูเอนเซอร์ บุคคลสาธารณะ หน่วยงานองค์กรไม่แสวงหากำไรต่างๆ โดยนำเสนอเป็นเนื้อหาขนาดยาว
อินฟลูเอนเซอร์ หรือบุคคลสาธารณะจะสามารถสร้างเนื้อหาแบบยาวเพื่อแนะนำวิธีดูแลสุขภาพได้ภายใน Instagram เมื่อผู้ใช้งานทั่วไปกดเข้าไปดูในบัญชีเหล่านั้นจะเห็นไอคอนรูปหนังสืออยู่ตรงกลางหน้าโปรไฟล์ตามรูปภาพด้านล่าง กดเข้าไปจะเจอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องรวมอยู่ด้วยกันทั้งบทความและวิดีโอ
Instagram ยกตัวอย่างบัญชีที่ใช้ Guides แล้ว และสามารถเข้าไปกดดูได้คือ @afspnational, @heads_together, @vitaalere, @klicksafe, @headspace_aus, @deepikapadukone, @sudahdong and @eenfance สามารถแชร์คอนเทนต์ไปยัง Stories ได้ด้วย
ที่มา - Instagram |
# แอป Google Search ในรูปแบบ dark mode มาแล้ว ทั้งผู้ใช้ iOS และแอนดรอยด์
Google เริ่มเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่น Google Search ในรูปแบบ dark mode แล้ว หลังเริ่มทดลองแบบเบต้ามาราว 2-3 เดือน ผู้ใช้งานอุปกรณ์ระบบ Android 10 และ iOS 13 และ 12 จะได้ใช้ dark mode ก่อน และสามารถปิดโหมดได้ในเมนูตั้งค่า
ทาง Google ระบุว่า Google Search ในรูปแบบ dark mode เริ่มปล่อยให้ใช้ในวันอังคารนี้ (19 พ.ค.) และจะค่อยๆ ทยอยให้ใช้กันในวงกว้างขึ้นภายในสัปดาห์ถัดไป
ที่มา - MacRumors |
# Kevin Mayer ผู้บริหารฝ่ายสตรีมมิ่งดิสนีย์ลาออกไปรับตำแหน่งซีอีโอ TikTok
ดิสนีย์ประกาศ Kevin Mayer ผู้บริหารฝ่ายสตรีมมิ่งดิสนีย์ ได้ลาออกไปรับตำแหน่งใหม่คือ ซีอีโอ TikTok และตำแหน่ง ซีโอโอ ByteDance เจ้าของ TikTok ด้วย
โดย ByteDance เจ้าของ TikTok ระบุว่า Mayer จะมาดูแลงานหลักของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ขับเคลื่อนการพัฒนาทั่วโลก ดูแลเรื่องการปฏิบัติการในต่างประเทศ เรื่องกฎหมาย ความปลอดภัย รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกม เพลง และธุรกิจใหม่ๆ ของ TikTok โดยเขาจะเร่ิมงานใหม่ที่ TikTok วันที่ 1 มิถุนายนนี้
บทบาทสำคัญของ Mayer ในดิสนีย์คือ ขับเคลื่อนและร่วมสร้าง Disney+ สตรีมมิ่งรายใหม่ที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดก็มีผู้ใช้งานแล้ว 50 ล้านราย และยังมีบทบาทในการควบรวมกิจการสำคัญเช่น Pixar, Lucasfilm, Marvel Studios และ 21st Century Fox
สำหรับงานใหม่ใน TikTok ก็ถือว่าเป็นความท้าทายที่ต้องขับเคลื่อนให้แข่งกับโซเชียลมีเดียรายใหญ่ได้ Mayer บอกว่ารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งกับทีม TikTok ที่สามารถสร้างสิ่งใหม่ที่หาได้ยาก และเป็นชุมชนโลกออนไลน์เชิงบวกที่สร้างสรรค์
ส่วนตำแหน่งเก่าที่ดิสนีย์ของ Mayer นั้น ผู้ที่มารับตำแหน่งแทนคือ Rebecca Campbell ที่เคยดูแล Disneyland Resort, Disneyland, California Adventure
ภาพจาก ดิสนีย์
ที่มา - The Verge |
# บริษัทรับจ่ายเงิน Square ของซีอีโอทวิตเตอร์ ให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ถาวร
Jack Dorsey ซีอีโอทวิตเตอร์ประกาศมาตรการให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ตลอดไปแม้จะหมด COVID-19 ไปแล้วก็ตาม ล่าสุด บริษัทรับจ่ายเงิน Square ของ Dorsey ก็ประกาศมาตรการเดียวกัน
พนักงาน Square เริ่มกักตัวทำงานจากบ้านตั้งแต่เดือนมีนาคม เช่นกันกับบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ด้าน Facebook, Google เองก็ประกาศมาตรการให้พนักงานสามารถกลับมาทำงานที่ออฟฟิศได้อีกทีคือปี 2021 เลย
ภาพจาก Square
ที่มา - The Verge |
# Uber ประกาศปลดพนักงานเพิ่มอีก 3,000 คน ผลกระทบจาก COVID-19
The Wall Street Journal อ้างอีเมลภายในจากซีอีโอ Dara Khosrowshahi ถึงพนักงาน Uber ระบุว่า Uber เตรียมปลดพนักงานเพิ่มอีก 3,000 คน จากผลกระทบของ COVID-19 ที่ทำให้จำนวนผู้เรียกใช้รถโดยสารลดลงถึง 80% เพื่อเป็นการรักษาบริษัทให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้
การประกาศปลดพนักงานครั้งนี้เป็นจำนวนเพิ่มเติมจากรอบก่อนหน้า ที่ประกาศปลด 3,700 คน คิดเป็น 14% ของพนักงานทั่วโลก
นอกจากลดจำนวนพนักงานแล้ว Uber ยังเตรียมปิดสำนักงาน 45 แห่งทั่วโลก รวมทั้งปรับโครงสร้างบางแผนก โดย Khosrowshahi ระบุว่าเพื่อให้บริษัทกลับมาโฟกัสที่หัวใจหลักนั่นคือ การช่วยเคลื่อนย้ายผู้คน และจัดส่งสิ่งของต่าง ๆ
ที่มา: The Verge |
# Swiggy แพลตฟอร์มเดลิเวอรีรายใหญ่ของอินเดีย ปลดพนักงาน 1,100 คน จาก COVID-19
เราเพิ่งเห็นข่าว Zomato แพลตฟอร์มร้านอาหารและเดลิเวอรีของอินเดียปลดพนักงาน 13% ล่าสุดคู่แข่งเพื่อนร่วมชาติ Swiggy ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า ก็ประกาศปลดพนักงานออก 1,100 คน หรือ 14% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่ายในช่วง COVID-19
Swiggy ระบุว่าธุรกิจหลักอย่างเดลิเวอรีได้รับผลกระทบหนักจากนโยบายปิดเมืองของอินเดีย แต่คาดว่าจะกลับมาโตได้อีกครั้งในระยะยาว แต่บริษัทจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายลง ด้วยการปลดคน และหยุดทำธุรกิจข้างเคียงอื่นๆ เช่น ธุรกิจครัว cloud kitchen
Swiggy มีพนักงานประมาณ 8,000 คน โดยผู้ที่ปลดออกจะได้รับเงินเดือนอย่างน้อย 3 เดือน และได้สิทธิประกันสุขภาพให้ครอบครัวไปจนถึงสิ้นปี 2020
ที่มา - Swiggy, Reuters |
# Agoda ปลดพนักงาน 1,500 คน (25% ของพนักงานทั้งหมด) จากวิกฤต COVID-19
เว็บไซต์จองโรงแรม Agoda ประกาศปลดพนักงานออก 1,500 คน หรือประมาณ 25% โดยเป็นผลจากวิกฤต COVID-19 ทำให้รายได้ของบริษัทลดลงมาก
ซีอีโอ John Brown ประกาศเรื่องนี้ในที่ประชุมพนักงานช่วงบ่ายวันนี้ (18 พ.ค.) ว่าบริษัทพยายามลดค่าใช้จ่ายแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังจำเป็นต้องปลดพนักงานออก โดยพนักงานฝ่ายที่ได้รับผลกระทบหนักคือฝ่าย Customer Experience Group แต่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไอที การเงิน พาร์ทเนอร์ การตลาด ก็โดนปลดด้วยเช่นกัน
นอกจากการปลดพนักงานแล้ว ผู้บริหารระดับสูงยังจะลดเงินเดือนตัวเองลง 20% ด้วย และตัวของ Brown เองก็ไม่รับเงินเดือนตลอดทั้งปีนี้
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์อื่นในเครือ Booking Holdings อย่างเว็บจองตั๋ว Kayak และเว็บจองร้านอาหาร OpenTeable ก็ประกาศปลดพนักงานมาแล้วเช่นกัน โดยบริษัทแม่ Booking Holdings เพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2020 รายได้ลดลงไปจากเดิม 19%
ที่มา - Skift
ภาพจาก Facebook Agoda Careers |
# Minecraft ครบ 11 ปี ยอดขายรวมแตะ 200 ล้านชุด ผู้เล่นต่อเดือน 126 ล้านคน
Minecraft ฉลองครบ 11 ปี ประกาศสถิติยอดขายแตะ 200 ล้านชุด และตัวเลขผู้เล่นจริงต่อเดือน 126 ล้านคน
ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นมาจากเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ทำไว้ 176 ล้านชุด ซึ่งตอนนั้นก็ถือว่าเป็นเกมที่ขายดีที่สุดตลอดกาลอยู่แล้ว และถ้าเทียบกับตอนที่ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ Mojang ตอนนั้นยอดขายยังอยู่ที่ 50 ล้านชุดเท่านั้น
เมื่อวานนี้ Mojang เพิ่งเปลี่ยนชื่อเป็น Mojang Studios พร้อมเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ส่วนเกมใหม่ล่าสุดในซีรีส์คือ Minecraft Dungeons จะวางขายในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้
ที่มา - Xbox Wire, PCGamer, The Verge |
# Sea ไตรมาส 1/2020: Free Fire มีผู้เล่นวันเดียวทะลุ 80 ล้านคน, Shopee โตมากกว่า 110%
Sea กลุ่มบริษัทแม่ของ Garena และ Shopee รายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 1 ปี 2020 รายได้รวมทั้งกลุ่ม เพิ่มขึ้น 57.9% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 913.9 ล้านดอลลาร์ EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย-ภาษี-ค่าเสื่อมราคา-ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย) ขาดทุน 69.9 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 280.8 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจสื่อบันเทิง (Garena) รายได้เพิ่มขึ้น 30.3% เป็น 512.4 ล้านดอลลาร์ มี EBITDA 298.4 ล้านดอลลาร์ จำนวนผู้ใช้งานในไตรมาส (QAUs) เพิ่มขึ้นเป็น 402.1 ล้านบัญชี อีกไฮไลท์คือเกม Free Fire ที่ Garena พัฒนาขึ้นเอง จำนวนผู้เล่นภายในวันเดียวสูงสุดทำสถิติใหม่มากกว่า 80 ล้านคน
กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (Shopee) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 110.5% เป็น 314.0 ล้านดอลลาร์ EBITDA ส่วนนี้ขาดทุน 260.0 ล้านดอลลาร์ จำนวนออเดอร์ยังเติบโตสูง มีจำนวน 429.8 ล้านคำสั่ง และยอดขายสุทธิ (GMV) มากกว่า 6,200 ล้านดอลลาร์
ที่มา: Sea |
# กลุ่มทรู ไตรมาส 1/2563 รายได้รวมเพิ่ม 5.7%, ขาดทุน 161 ล้านบาท
ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2563 มีรายได้รวม 34,844 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2562 EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย-ภาษี-ค่าเสื่อมราคา-ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย) 12,219 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 161 ล้านบาท ซึ่งทรูบอกว่ามาจากผลของการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS 16 (ปรับปรุงรายการสินทรัพย์ตามสัญญาเช่า)
ผลการดำเนินงานแยกตามกลุ่มธุรกิจเป็นดังนี้
ทรูมูฟ เอช รายได้รวมเพิ่มขึ้น 8.9% จำนวนลูกค้าสุทธิ 30.3 ล้านเลขหมาย
ทรูออนไลน์ รายได้เพิ่มขึ้น 3.2% มีลูกค้ารวมเพิ่มขึ้นเป็น 3.9 ล้านราย
ทรูวิชั่นส์ รายได้ลดลง 11.3% เหตุหลักจาก COVID-19 (รายได้ส่วนนี้รวมธุรกิจบันเทิง โฆษณา อีเวนต์ ถ่ายทอดสดกีฬา)
ที่มา: ทรู |
# [ลือ] Huawei เร่งสั่งชิป 5nm และ 7nm จาก TSMC ล็อตใหญ่กว่า 700 ล้านเหรียญ
ต่อเนื่องจากข่าวลือว่า TSMC ยอมทำตามคำสั่งสหรัฐ หยุดรับออเดอร์จาก Huawei โดยทางฝั่ง Huawei เตรียมสตอคล่วงหน้าไว้แล้วกว่า 1 ปีนั้น
ล่าสุดมีรายงานว่า Huawei ได้เร่งสั่งซื้อชิป 5 นาโนเมตรและ 7 นาโนเมตรจาก TSMC ล็อตใหญ่ (น่าจะเร่งสั่งก่อนคำสั่งรัฐบาลสหรัฐมีผลบังคับใช้) เป็นมูลค่ากว่า 700 ล้านเหรียญ
ปัจจุบันชิป Kirin ของ Huawei ผลิตที่ขนาด 7 นาโนเมตร ขณะที่ชิป 5 นาโนเมตรคาดว่าจะเป็นรุ่น Kirin 1000 ที่มีกำหนดออกในช่วงปลายปีนี้
ที่มา - Huawei Central |
# MediaTek เปิดตัวชิป Dimensity 820 รองรับ 5G และจอ 120Hz สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นกลาง
MediaTek บริษัทผลิตชิปสัญชาติไต้หวัน เปิดตัว Dimensity 820 ชิป รุ่นราคาถูกที่อัพเกรดจาก Dimensity 800 ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว (ยังไม่มีการใช้งานในมือถือรุ่นไหน)
Dimensity 820 เป็นซีพียูสถาปัตยกรรม TSMC 7nm แบบ 8 แกน เป็น ARM Cortex-A76 ความเร็ว 2.6GHz จำนวน 4 แกน (จาก 2.0GHz บนรุ่น 800) และ ARM Cortex-A55 ความเร็ว 2.0GHz อีก 4 แกน (เท่ารุ่น 800) เพิ่มการรองรับหน้าจอ FHD+ แบบ 120Hz มีหน่วยประมวลผลด้านภาพ (Image Signal Processor) ที่ดีขึ้น ใช้จีพียู ARM Mali G57 รุ่น 5 แกน รองรับ 5G แบบ Sub-6GHz และวางระดับตลาดไว้ที่สมาร์ทโฟนระดับกลางบน
ในงานแถลงเดียวกันนั้น ทีมงานจาก Xiaomi ขึ้นมาแถลงด้วยว่า Redmi 10X สมาร์ทโฟนรุ่นถัดไปในไลน์ Redmi จะเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Dimensity 820
ที่มา - XDA Developers |
# หมดยุค! Youtube เลิกแปะป้าย HD บนความละเอียด 720p แล้ว
จากเมื่อก่อนที่ความละเอียดพื้นฐานของหน้าจอส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 720p หรือความละเอียด HD ก่อนจะขยับไปเป็น FHD 1080p ซึ่งที่ผ่านมา YouTube แปะป้ายของทั้ง 2 ความละเอียดว่าเป็น HD
ปัจจุบันความละเอียดของหน้าจอและคอนเทนท์เริ่มเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยความละเอียดพื้นฐานก็ขยับขึ้นมาเป็น FHD 1080p ทำให้ล่าสุด YouTube เอาป้าย HD ออกจากตัวเลือกความละเอียด 720p แล้ว ขณะที่ 1080p ยังมีอยู่เหมือนเดิมและปรับป้ายของตัวเลือกความละเอียด 1440p ให้กลายเป็น HD แทน ส่วน 4K บนความละเอียด 2160p และ 8K บนความละเอียด 4320p ยังคงเหมือนเดิม
จากนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าคุณภาพวิดีโอบน Youtube จะพัฒนาไปไกลแค่ไหน เพราะแค่คุณภาพวิดีโอสูงสุดบน Youtube ที่ 8K (4320p) แบบ 60 fps ในปัจจุบัน หน้าจอมอนิเตอร์ หรือทีวีที่รองรับก็ยังมีราคาสูงมากอยู่ |
# อินโดนีเซียเตรียมเรียกเก็บภาษีบริษัทอินเทอร์เน็ต เช่น Netflix, Spotify 10% มีผล ก.ค. นี้
อินโดนีเซียเตรียมออกกฎ กำหนดให้บริษัทอินเทอร์เน็ตอย่างบริการสตรีมมิ่ง, เกม ที่ไม่ได้เป็นบริษัทก่อตั้งในประเทศ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล 10% เริ่มบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคมนี้
ก่อนหน้านี้ ทางการอินโดนีเซียเคยบอกว่า กลุ่มบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix, Spotify อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีเพิ่ม ซึ่งทั้งสองบริษัทยังไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้
การผลักดันให้เกิดการจัดเก็บภาษีบริษัทอินเทอร์เน็ตเริ่มชัดเจนมากขึ้นโรคระบาด ที่ส่งผลบริษัทอินเทอร์เน็ตมียอดผู้ใช้งานและรายได้เพิ่มขึ้น ประเทศฝรั่งเศสเองก็พยายามจะเก็บภาษีอินเทอร์เน็ตด้วยเช่นกัน
ภาพจาก Shutterstock
ที่มา - The Register, Reuters |
# Samsung ผลิตชิปหน่วยความจำ มากขึ้นถึง 57% ใน Q1/2020 แม้เจอวิกฤต COVID-19
แม้จะมีวิกฤต COVID-19 แต่ฝั่งผลิตชิปของ Samsung ก็มียอดผลิตชิปมากขึ้นถึง 57.4% ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2019 โดยส่วนมากเป็นชิป DRAM และชิป NAND flash ทำให้ Samsung มีส่วนแบ่งในตลาด DRAM เพิ่มเป็น 44.1% เทียบกับ 43.5% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2019
Samsung เป็นบริษัทผลิตชิปหน่วยความจำที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน โรงงานผลิตชิปของ Samsung ใช้กำลังผลิตถึง 100% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 ผลิตชิปไปถึง 277.4 พันล้านชิ้น เมื่อเทียบกับ 176.2 พันล้านชิ้น ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว
การเร่งผลิตนี้ เพื่อตอบสนองเซิฟเวอร์ และศูนย์ข้อมูลต่างๆ ที่มีความต้องการใช้ชิปหน่วยความจำเพิ่มขึ้น จากการที่ผู้คนทำงานจากบ้าน เรียน และเสพย์คอนเทนต์ออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำให้ศูนย์ข้อมูลรับภาระหนักขึ้นเช่นกัน
จากการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2020 ธุรกิจชิปหน่วยความจำ เป็นพระเอกที่ทำให้ผลกำไรของ Samsung ยังเติบโตอยู่ แม้ยอดจำหน่ายจอแสดงผล และสมาร์ทโฟนจะลดลง
ที่มา - SAMMOBILE |
# พบหลักฐานในโค้ด ไมโครซอฟท์กำลังรองรับ x86-64 บนอีมูเลเตอร์ ARM64
ปัญหาสำคัญของระบบปฏิบัติการ Windows on ARM (ที่ใช้ในพวก Surface Pro X) คือรองรับแอพพลิเคชัน x86 ผ่านอีมูเลเตอร์ แต่ได้เฉพาะแบบ 32 บิต (x86-32) เท่านั้น ด้วยข้อจำกัดของอีมูเลเตอร์ที่ไมโครซอฟท์ใช้งาน หากแอพพลิเคชันนั้นคอมไพล์มาเป็น x86-64 ก็ไม่สามารถใช้งานได้
ไมโครซอฟท์ไม่เคยพูดว่าจะรองรับ x86-64 บน ARM เมื่อไร แต่มีคนตาดีไปเห็นโค้ดบน GitHub ว่าไมโครซอฟท์กำลังพัฒนาการรันโค้ด x64 (หมายถึง x86-64) บนอีมูเลเตอร์ของซีพียู ARM64 แล้ว
โค้ดนี้อยู่ในโครงการ C++/WinRT หรือการรันโปรแกรมด้วยภาษา C++ บนแพลตฟอร์ม WinRT ที่ไมโครซอฟท์ใช้ใน Windows ยุคใหม่ ส่วนผู้สั่ง commit คือ Kenny Kerr ที่มีตำแหน่งเป็น Principal Software Engineer ของไมโครซอฟท์
ที่มา - GitHub, MSpoweruser |
# Zoom ล่มขณะรัฐบาลอังกฤษกำลังแถลงเรื่อง COVID-19
เมื่อวานนี้ช่วงค่ำตามเวลาบ้านเรา Zoom เกิดล่มในหลายประเทศทั่วโลกจนไม่สามารถโฮสต์หรือเข้าร่วมการประชุมได้ หนึ่งในผลกระทบใหญ่เกิดกับรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่กำลังแถลงอัพเดตสถานการณ์ COVID-19 ประจำวัน จนทำให้นักข่าวไม่สามารถถามคำถามแบบไลฟ์สดได้ตามปกติ และต้องพิมพ์ส่งคำถามเข้าไป (อาจจะช่องทางอื่น) ให้อ่านออกอากาศแทน
Zoom แถลงหลังจากเกิดปัญหาไม่นานว่า จำนวนผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัด ก่อนจะกลับมาใช้งานได้ปกติในอีกราว 2 ชม. ถัดมา
ที่มา - The Guardian, @Zoom_us
ภาพจาก Shutterstock |
# [ลือ] TSMC ยอมสหรัฐฯ หยุดรับออเดอร์จาก Huawei
หลังจากสหรัฐฯ ขยายกฎให้บริษัทนอกสหรัฐฯ ต้องขออนุญาตสหรัฐฯ หากจะขายสินค้าเทคโนโลยีให้ Huawei วันนี้ทางสำนักข่าว Nikkei ก็อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตน ระบุว่าทาง TSMC ได้หยุดรับคำสั่งซื้อจาก Huawei แล้ว
ทาง Huawei ไม่แสดงความเห็นต่อข่าวนี้ ขณะที่ทาง TSMC ระบุว่าบริษัทไม่เปิดเผยข้อมูลการสั่งซื้อลูกค้า และข้อมูลที่เป็นข่าวก็เป็นเพียงข่าวลือ
Nikkei อ้างแหล่งข่าวอีกแหล่งระบุว่า Huawei เองก็เตรียมพร้อมกับเหตุการณ์เช่นนี้ไว้แล้ว โดยเตรียมสต็อกชิปไว้ใช้ได้นานกว่าหนึ่งปี
ที่มา - South China Morning Post, Nikkei Asian Review |
# จีนเอาคืน เตรียมใส่ชื่อ Apple, Qualcomm, Boeing เป็นบริษัทไม่น่าเชื่อถือ
หลังรัฐบาลสหรัฐใส่ชื่อ Huawei เข้าไปใน Entity List บริษัทที่รัฐบาลกังวลในประเด็นด้านความมั่นคงและบริษัทสหรัฐจะต้องขอใบอนุญาตก่อนเพื่อทำธุรกิจด้วย ล่าสุด The Global Times รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า รัฐบาลจีนเตรียมจะทำแบบเดียวกับบริษัทสหรัฐแล้ว
บริษัทสหรัฐที่มีรายชื่อว่าน่าจะโดนมาตรการนี้คือ Apple, Cisco, Qualcomm และ Boeing ซึ่งอาจจะทั้งโดนสอบสวนและอยู่ในรายชื่อบริษัทที่ไม่น่าไว้ใจ (unreliable entity list)
ทั้งนี้ The Global Times อยู่ในเครือของ People's Daily ซึ่งเป็นสื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ที่มา - Reuters
ภาพจาก Shutterstock |
# Huawei เปิดตัว P40 Lite 5G ชิป Kirin 820 รองรับ 5G ไม่มี GMS ราคาหมื่นกลาง
Huawei เปิดตัว P40 Lite 5G มือถือตระกูล P รุ่นราคาถูก ยังไม่มี GMS เช่นเคย มีสเปกดังนี้
หน้าจอ LTPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว
สแกนรอยนิ้วมือด้านข้าง
ชิป Kirin 820 รองรับ 5G
จีพียู Mali-G57MP6
แรม 6 GB
หน่วยความจำภายใน 128 GB แบบ UFS 2.1
กล้องหน้าแบบเจาะรู ความละเอียด 16 MP
กล้องหลัง 4 กล้อง กล้องหลัก 64 MP เซ็นเซอร์ Sony IMX582 กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP กล้องมาโคร 2 MP และกล้องวัดระยะชัดลึก 2 MP
แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAH รองรับชาร์จเร็ว 40W
ชาร์จแบบ USB-C มีรูหูฟัง 3.5 มม.
รันบน EMUI 10.1 ฐาน Android 10
P40 Lite 5G มี 3 สี คือ Space Silver, Crush Green, และ Midnight Black เปิดให้จองในยุโรปแล้ววันนี้ วางจำหน่ายวันที่ 29 พฤษภาคม ในราคา 400 ยูโร (ประมาณ 14,000 บาท) ส่วนการวางจำหน่ายและราคาในบ้านเรา ต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา - XDA Developers |
# สตูดิโอเกมอินดี้บน Xbox Series X บอกก้าวกระโดดบนคอนโซลยุคหน้าคือซีพียู ไม่ใช่ SSD
หนึ่งในจุดเด่นของ PlayStation 5 ที่โซนี่พยายามขายในคลิปอธิบายสเปคและสถาปัตยกรรมของตัวเครื่องคือเรื่องของ SSD ที่โซนี่ออกแบบระบบ I/O และชิปคอนโทรลเลอร์เอง ทำให้ได้ความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลดิบ (raw data) ถึง 5.5GBps ขณะที่ Unreal Engine 5 ที่เพิ่งเปิดตัวไป ก็โชว์ศักยภาพของความเร็ว SSD ให้เห็นในเดโมด้วย
อย่างไรก็ตาม Ljubomir Peklar ผู้กำกับ Scorn เกมสยองขวัญมุมมองบุคคลที่ 1 และเป็น Xbox Series X เอ็กคลูซีฟ พัฒนาโดย Ebb Software สตูดิโออินดี้จากเซอร์เบียกลับมองต่าง เขาบอกว่าจริงอยู่ที่ SSD อาจช่วยเรื่องการโหลดและเคลื่อนย้าย asset แต่ตัวที่เป็นปัญหาหลักของคอนโซลยุคปัจจุบันคือซีพียู และตัวที่เป็นก้าวกระโดดในคอนโซลยุคใหม่ (จากยุคปัจจุบัน) ก็คือซีพียูนี่แหละ
Peklar ไม่ได้ให้เหตุผลโดยตรง แต่เขาอธิบายว่าสาเหตุที่ไม่ทำเกม Scorn ลงคอนโซลยุคปัจจุบัน เพราะต้องการให้เกมรันได้ที่ 60fps ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ปรับลดคุณภาพด้านอื่น ขณะที่คอนโซลยุคหน้าเป็นเรื่องของความเร็วในการตอบสนอง ความลื่นไหล และการเสียเวลาน้อยกว่าเดิม (ไม่แน่ใจบริบทนี้หมายถึงเสียเวลากับอะไร) ซึ่งฟีเจอร์ของคอนโซลยุคหน้าที่บอกมานี้ ไม่สามารถจะสื่อออกมาได้ง่าย ๆ ผ่านวิดีโอหรือสกรีนช็อต
Peklar บรรยายด้วยว่าทีมพัฒนาต้องการนำเสนอเกม Scorn ทั้งในแง่ความน่ากลัวและความจิตของเกมผ่านงานภาพระดับไฮเอนด์และสมรรถนะของเกมที่เพอร์เฟ็ค ซึ่งฮาร์ดแวร์ของคอนโซลยุคใหม่ช่วยให้งานเหล่านี้ง่ายขึ้น ทีมงานแค่ใส่ใจกับงานศิลป์เป็นหลักเท่านั้น
ที่มา - MSPowerUser |
# NVIDIA ร่วมมือ BMW เตรียมนำแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์หุ่นยนตร์ไปพัฒนาสายการผลิต
NVIDA ประกาศความร่วมมือกับ BMW ในการนำแพลตฟอร์ม ISAAC พัฒนาหุ่นยนต์ในสายการผลิตให้รองรับกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน รองรับตัวเลือกสำหรับรถยนต์ที่ลูกค้าสั่งได้มากขึ้น
แพลตฟอร์ม ISAAC เป็นแพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หุ่ยนต์โดยเฉพาะ โดยมีสองส่วนคือส่วน SDK และซอฟต์แวร์จำลองโลกจริง ที่สามารถสร้างโรงงานจำลองเพื่อฝึกปัญญาประดิษฐ์ให้ควบคุมหุ่นยนต์ให้ทำตามงานที่กำหนด
BMW เตรียมพัฒนาหุ่นยนต์ด้วยแพลตฟอร์ม ISAAC ในหุ่นยนต์หลายประเภท เช่น หุ่นยนต์ขนสินค้า (smart transport robot - STR), หุ่นยนต์จับวางชิ้นงาน (PlaceBot), และหุ่นยนต์เรียงชิ้นงาน (SortBot) เป็นต้น การฝึกหุ่นยนต์สามารถทำได้ด้วยการสร้างโรงงานจำลองที่มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ มีการจัดวางชั้นวางสินค้าใหม่ เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้ที่จะทำงานต่อไปได้แม้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปจากเดิม
ทาง BMW เน้นความสำคัญของการพัฒนาหุ่นยนต์ครั้งนี้ว่าเป็นเรื่องของจำนวนชิ้นส่วนของรถยนต์ที่มีจำนวนมาก โดยรวม BMW จัดการชิ้นส่วนมากกว่า 230,000 รายการ และรถแต่ละคันมีตัวเลือกเฉลี่ย 100 แบบ การพัฒนาหุ่นยนต์มารองรับความซับซ้อนในสายการผลิตได้ จะทำให้กระบวนการปรับแต่งรถก้าวหน้าไปอีกขั้น
ที่มา - NVIDIA |
# แจ็ค หม่า ลาออกจากบอร์ด SoftBank แล้ว หลังอยู่ในบอร์ดมา 13 ปี
แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Alibaba ลาออกจากบอร์ด SoftBank แล้ว หลังมีตำแหน่งอยู่ในบอร์ดมา 13 ปี
Masayoshi Son ผู้ก่อตั้ง SoftBank มีความสัมพันธ์ยาวนานกับ Alibaba โดยได้ลงทุนใน Alibaba ตั้งแต่ปี 2000 และถือว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากมากที่สุดครั้งหนึ่ง จนถึงตอนนี้ SoftBank ก็ยังมีหุ้นใน Alibaba 25% ซึ่งแจ็ค หม่า เข้าร่วมบอร์ด SoftBank ในปี 2007 และวางมือจาก Alibaba ไปเมื่อปี 2019
นอกจากนี้ SoftBank ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการใหม่ 3 คน คือ Yoshimitsu Goto ซีเอฟโอของ SoftBank เอง, Lip-Bu Tan ผู้ก่อตั้ง Walden International และ Yuko Kawamoto ศาสตราจาร์ที่สถาบัน Waseda Business School ซึ่ง 2 ใน 3 คนนี้จะเป็นกรรมการอิสระ
ที่มา - Nikkei Asian Review |
# Epic Games Store แจกเกมฟรีแล้วกว่า 108 เกม มูลค่ารวมเกือบ 68,000 บาท
นับตั้งแต่ Epic Games Store เปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2018 กลยุทธในการดึงคนเข้าแพลตฟอร์มคือการใช้เงินทั้งการจ่ายให้นักพัฒนาเพื่อขายเกมแบบเอ็กคลูซีฟ ขายเกมลดราคาและการแจกเกมฟรี
PCGN สรุปยอดรวมเกมที่ Epic Games Store แจกฟรีมาทั้งหมด สิริรวมแล้ว 108 เกม มูลค่าทั้งหมดคิดเป็นจำนวนเงินจากเกมราคาเต็มรวมกันราว 2,140.94 ดอลลาร์สหรัฐหรือตีเป็นเงินกลม ๆ ก็ราว 68,000 บาท
ที่มา - PCGN |
# กองทุน General Atlantic ประกาศลงทุนใน Jio Plarforms เครือข่ายมือถือเบอร์หนึ่งอินเดีย 870 ล้านดอลลาร์
Jio Plarforms ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเบอร์หนึ่งของอินเดีย ยังคงเป็นบริษัทร้อนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดกองทุน General Atlantic ประกาศลงทุน 870 ล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับหุ้นของ Jio 1.34% โดยมูลค่ากิจการที่ลงทุนนั้นอยู่ราว 65,000 ล้านดอลลาร์ เท่ากับที่กองทุน Silver Lake ซื้อหุ้นก่อนหน้านี้
General Atlantic เป็นกองทุนที่มีผลงานการลงทุนเด่นในบริษัทเทคโนโลยีมามากมาย อาทิ Airbnb, Alibaba, Ant Financial, Box, ByteDance (เจ้าของ TikTok), Facebook, Slack, Snapchat และ Uber
Reliance Jio เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในอินเดีย ที่ก่อตั้งเมื่อปลายปี 2016 ทำให้บริษัทมีอายุยังไม่ถึง 4 ปี แต่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งในประเทศอันดับ 1 โดยบริษัทอยู่ในเครือของ Reliance กลุ่มทุนรายใหญ่ของอินเดีย ช่วงที่ผ่านมา Jio ได้รับเงินลงทุนจากทั้ง Facebook ตามด้วยกองทุนอีกทั้ง Silver Lake, Vista Equity Partners และล่าสุดก็คือ General Atlantic นั่นเอง
ที่มา: TechCrunch |
# Zomato แพลตฟอร์มร้านอาหารจากอินเดีย ปลดคนออก 13% จากวิกฤต COVID-19
Zomato แพลตฟอร์มร้านอาหารและเดลิเวอรีรายใหญ่จากประเทศอินเดีย (ชนะ Uber Eats และซื้อธุรกิจในอินเดียจาก Uber) ประกาศปลดพนักงานออก 520 คนหรือ 13% ของพนักงานทั้งหมด รวมถึงลดเงินเดือนของพนักงานที่ยังเหลืออยู่ด้วย
Zomato บอกว่าได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และมาตรการปิดร้านอาหารของอินเดีย ทำให้รายได้หดหาย เขาคาดว่าร้านอาหารในอินเดียจะมีจำนวนลดลง 25-40% ในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า จึงต้องปรับยุทธศาสตร์ของบริษัทให้ลดจำนวนประเทศที่ทำธุรกิจลง ลดค่าใช้จ่ายของบริษัทลงผ่านมาตรการต่างๆ เช่น ปิดสำนักงาน ลดเงินเดือน และปลดคน แต่ก็ยืนยันว่ายังมีเงินสดเหลือเฟือที่ธุรกิจไม่ล้มละลาย
พนักงานที่ถูกปลดออกจะได้เงินเดือน 50% และประกันสุขภาพต่อไปเป็นเวลานาน 6 เดือน รวมถึงยกโน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือของบริษัทให้เป็นของพนักงานเลย
Deepinder Goyal ซีอีโอของ Zomato ยืนยันว่าจะยังทำธุรกิจเดลิเวอรีต่อไป โดยเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงขยายบริการสั่งซื้อของสด (grocery delivery) ไปทั่วอินเดีย และขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบตะวันออกกลาง
ที่มา - Zomato, Economic Times |
# ไมโครซอฟท์ซื้อ Metaswitch Networks ผู้สร้างซอฟต์แวร์สำหรับโอเปอเรเตอร์ยุค 5G
สัปดาห์ที่แล้ว ไมโครซอฟท์ประกาศซื้อกิจการ Metaswitch Networks บริษัทด้านซอฟต์แวร์เครือข่ายสำหรับลูกค้ากลุ่มโอเปอเรเตอร์ โดยจะดึงเข้ามาอยู่ในธุรกิจของ Azure
ซอฟต์แวร์ของ Metaswitch มีหลากหลาย ทั้งด้านการทำ virtualized network (VNF), จัดการ voice/data ที่วิ่งผ่านเครือข่าย, unified communication ไปจนถึงซอฟต์แวร์จัดการคอลล์เซ็นเตอร์ผ่านคลาวด์
ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลของการซื้อกิจการว่า คลาวด์และเครือข่ายเข้าใกล้กันมากเรื่อยๆ ทำให้ตัดสินใจซื้อ Metaswitch เพื่อนำซอฟต์แวร์เหล่านี้มาให้บริการลูกค้ากลุ่มโอเปอเรเตอร์ ที่เริ่มใช้งาน Azure กันแพร่หลายแล้ว และการมาถึงของเครือข่ายยุค 5G ยิ่งทำให้โอเปอเรเตอร์ต้องบริหารเครือข่ายแบบ virtualized มากขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา - Microsoft |
# โรงเรียนมัธยมในชิบุยะเตรียมแจก Surface Go 2 ให้นักเรียนใช้เอากลับไปเรียนที่บ้านได้
โรงเรียนทั้งมัธยมต้นและมัธยมปลายในเขตชิบุยะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เตรียมนำแท็บเล็ต Surface Go 2 มาเสริมทัพการเรียนการสอนในโรงเรียน รวมถึงให้นักเรียนนำกลับไปใช้เรียนที่บ้านทั้งหมด 12,000 เครื่อง เริ่มใช้งานภายในเดือนกันยายนนี้ ครอบคลุมโรงเรียน 26 แห่ง
เหตุที่เลือก Surface Go 2 เพราะตรงตามมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ หรือข้อกำหนดที่จำเป็นสำหรับหลักสูตรนวัตกรรมและเกตเวย์สำหรับโรงเรียน หรือ Global Innovation and Gateway for All (GIGA) และยังมีฟังก์ชั่นการเขียนบนหน้าจอ กล้องความละเอียดสูงทั้งกล้องหน้าและหลัง ซึ่งเหมาะจะใช้ในแพ็กเกจการสอนที่สอดคล้องกับ GIGA
ภาพจาก ไมโครซอฟท์
ที่มา - Japan Today |
# Mojang สตูดิโอผู้พัฒนา Minecraft เปลี่ยนชื่อเป็น Mojang Studios พร้อมโลโก้ใหม่
Mojang สตูดิโอเกมจากสวีเดนเจ้าของ Minecraft ซึ่งปัจจุบันเป็นสตูดิโอลูกของ Xbox Game Studios ประกาศเปลี่ยนชื่อ (เล็กน้อย) เป็น Mojang Studios พร้อมเปลี่ยนโลโก้ใหม่ด้วย
Mojang ให้เหตุผลของการเปลี่ยนชื่อว่า เดิมที Mojang เป็นสตูดิโอที่พัฒนาเกม Minecraft เกมเดียวจากเมืองสตอกโฮล์ม แต่ตอนนี้แตกแขนงมายังเกมอื่นๆ เช่น Minecraft Earth, Minecraft Dungeons, ภาพยนตร์, รายการทีวี และกำลังมองหาไอเดียสร้างเกมใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ Minecraft ด้วย ในแง่สถานที่ทำงานก็มีสตูดิโอใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทั่วโลก จึงตัดสินใจเพิ่มคำว่า Studios เข้ามาเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ส่วนเรื่องโลโก้ใหม่ก็ปรับตามชื่อใหม่ไปพร้อมกัน
โลโก้เก่าของ Mojang
คลิปแนะนำโลโก้ใหม่ Mojang Studios
ที่มา - Minecraft |
# VMware มั่นใจ สู้กับ Red Hat ในตลาด Kubernetes ได้ เพราะมีฐานลูกค้าเก่า VM เยอะ
สงคราม Kubernetes สำหรับตลาดไฮบริดคลาวด์เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่มี Red Hat OpenShift เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกตลาด ก็เริ่มมีคู่แข่งรายใหญ่คือ VMware Tanzu เข้ามาแข่งขัน ซึ่ง[ซีอีโอของ Red Hat เองก็ยอมรับว่า VMware เป็นคู่แข่งโดยตรงในตลาดนี้
ล่าสุด Sanjay Poonen ซีโอโอของ VMware ออกมาให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ และพูดถึงการแข่งขันกับ Red Hat เช่นกัน เขายอมรับว่า VMware บุกมาในตลาดนี้ช้ากว่า แต่ก็มั่นใจว่าจะสามารถแซงหน้า OpenShift ได้ในแง่จำนวนลูกค้าองค์กร ด้วยปัจจัยว่าผลิตภัณฑ์ดีกว่า (VMware ซื้อกิจการ Pivotal และ Heptio ของผู้ก่อตั้ง Kubernetes) และปัจจัยว่า VMware มีฐานลูกค้า virtualization มากถึง 500,000 องค์กร ที่พร้อมจะขยับมาใช้ Tanzu ได้ไม่ยาก
ภาพจาก VMware
Poonen อ้างถึงตัวเลขลูกค้า OpenShift ประมาณ 2,000 ราย โดยบอกว่า VMware จะแซงหน้าไปที่ลูกค้า 5,000 รายได้ก่อน และขยับเป็น 50,000 รายในระยะถัดไป เขาบอกว่าการแข่งขันนี้จะเป็นการแข่งขันอย่างมีเกียรติ ผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าจะเป็นผู้ชนะในระยะยาว
Poonen ยังเล่าถึงความสัมพันธ์ของ VMware กับ IBM ที่แนบแน่น ตัวเขาเองซึ่งเป็นคนอินเดียก็ภูมิใจใน Arvind Krishna ซีอีโอคนใหม่ของ IBM ที่เป็นคนอินเดียเหมือนกัน และแม้ว่า IBM ซื้อ Red Hat ที่เป็นคู่แข่งมาแล้วก็ตาม ถ้าลูกค้าเลือกใช้ OpenShift ทาง VMware ก็ยินดีสนับสนุนให้ระบบ OpenShift ตัวนั้นทำงานบน VMware Cloud Foundation หรือ vSphere ได้ดีที่สุด
ที่มา - CRN |
# ไมโครซอฟท์ขยาย Fluent UI มายัง React Native, เตรียมออกปลั๊กอินให้ดีไซเนอร์บน Figma
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Fluent Design ตั้งแต่ปี 2017 และเริ่มนำมาใช้งานในแอพของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในรอบปีที่ผ่านมา
แนวทางของไมโครซอฟท์คือสร้าง Fluent UI ขึ้นมาใช้เองเป็นหลัก แต่ก็สนับสนุนให้นักพัฒนารายอื่นๆ มาร่วมใช้งานด้วย ผ่านชุดคอมโพเนนต์บนแพลตฟอร์ม UI ต่างๆ เช่น WinUI (Windows), Fluent UI React (Web), Fluent UI Apple (iOS/macOS), Fluent UI Android และล่าสุดคือ Fluent UI React Native สำหรับคนที่เขียนแอพมือถือข้ามแพลตฟอร์มด้วย React Native อยู่แล้ว โค้ดอยู่บน GitHub เรียบร้อยแล้ว
ไมโครซอฟท์อธิบายหลักการของ Fluent UI ที่ต้องหาจุดสมดุลระหว่างหน้าตาเหมือนกันบนทุกแพลตฟอร์ม และการอิงกับความเป็นเนทีฟของแพลตฟอร์มนั้นๆ ว่ายึดกฎ 80/20 โดยใช้แพทเทิร์น UI แบบเนทีฟ 80% สำหรับงานหลักๆ และอีก 20% เป็นการสร้างคอมโพเนนต์เฉพาะของ Fluent ขึ้นมาบนทุกแพลตฟอร์มที่รองรับ
ปัญหาอีกอย่างที่ไมโครซอฟท์เผชิญคือ แพลตฟอร์มทั้ง 5 ที่รองรับ (Web, Windows, iOS, macOS, Android) มีระบบธีมที่แตกต่างกัน การสร้างประสบการณ์ใช้งานที่เหมือนกันจึงทำได้ยากในมุมของนักออกแบบ-นักพัฒนา ทางออกของไมโครซอฟท์จึงเป็นการสร้างระบบธีมกลาง ที่ใช้หน่วยเป็นตัวแปร (agnostic variables หรือ design tokens) แทนการกำหนดตัวเลขตายตัว เพื่อให้ปรับธีมครั้งเดียว แล้วเหมือนกันบนทุกแพลตฟอร์ม
ไมโครซอฟท์พบว่าดีไซเนอร์ส่วนใหญ่ของบริษัทใช้โปรแกรม Figma อยู่ล้ว จึงพัฒนาปลั๊กอินบน Figma สำหรับการสร้าง UI ที่ทำงานกับธีมแบบข้ามแพลตฟอร์มได้ด้วย (กำหนดค่าเป็น token แทนค่าตายตัวของ Figma)
ไมโครซอฟท์ยังไม่บอกว่าจะปล่อยตัวปลั๊กอิน Figma ให้คนนอกบริษัทใช้กันเมื่อไร
ที่มา - Microsoft |
# Bing Wallpaper ออกแอพเวอร์ชัน Android ช่วยเปลี่ยนภาพพื้นหลังโฮม/ล็อคสกรีน ตาม Bing
หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้ออก Bing Wallpaper แอพช่วยเปลี่ยนพื้นหลังเดสก์ทอปตามภาพถ่ายประจำวันของ Bing ให้กับผู้ใช้งาน Windows เมื่อประมาณกลางเดือนที่แล้ว
ล่าสุดทางบริษัทก็ได้ปล่อยแอพ Bing Wallpaper เวอร์ชัน Android ให้ผู้ใช้สามารถนำภาพถ่ายสวยๆ ของ Bing มาตั้งเป็นภาพพื้นหลังของโฮมสกรีนและล็อคสกรีนบนอุปกรณ์ฝั่งระบบปฏิบัติการ Android เป็นที่เรียบร้อย
ตัวแอพเวอร์ชัน Android จะเปิดให้เข้าถึงภาพถ่ายประจำวันของ Bing ตั้งแต่ในอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน พร้อมฟังก์ชั่นค้นหารูปผ่านตัวกรองอย่าง โทนสี, หมวดหมู่ จนไปถึงตำแหน่งที่ตั้ง เพื่อช่วยเลือกรูปภาพที่ถูกใจก่อนนำไปใช้เป็นภาพพื้นหลัง
และหากผู้ใช้ต้องการให้แอพช่วยเปลี่ยนภาพพื้นหลังอัตโนมัติ เช่น ตั้งให้เปลี่ยนตามภาพถ่ายประจำวันของ Bing แบบเดียวกับ Bing Wallpaper บน Windows ก็สามารถทำได้ผ่านเมนู Auto Change Wallaper
การมาของแอพ Bing Wallpaper นับเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการใช้ภาพถ่ายของ Bing บนอุปกรณ์ฝั่ง Android จากที่ก่อนหน้าผู้ใช้จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอพของไมโครซอฟท์ตัวอื่นที่มีฟังก์ชั่นเปลี่ยนภาพพื้นหลังอัตโนมัติพ่วงมาด้วยอย่าง Microsoft Launcher หรือ Bing App ซึ่งสองแอพหลังนั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์อื่นๆ ซึ่งผู้ใช้อาจไม่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแอพ Bing Wallpaper ในขณะนี้จะถูกจำกัดการใช้งานอยู่แค่เพียงบางประเทศเท่านั้น ตัวผู้เขียนลองดาวน์โหลดผ่าน Google Play แล้วพบว่ายังใช้ในไทยไม่ได้ ท่านใดสนใจเข้าไปทดลองดาวน์โหลดดูได้ที่ลิงก์นี้ครับ
ที่มา - Windows Central, The Next Web |
# Lenovo อัพเกรด ThinkBook รุ่นปี 2020 ใช้ซีพียู Intel Core 10th Gen แล้ว
Lenovo อัพเกรดโน้ตบุ๊กแบรนด์ ThinkBook ซึ่งเป็นแบรนด์ย่อยของ ThinkPad ที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2019 (ทดลองจับฉบับ Blognone) มาใช้ซีพียูตัวใหม่ Intel Core 10th Gen และอาจมีเวอร์ชัน Ryzen 4000 ตามมาในเร็วๆ นี้
ThinkBook รุ่นปี 2020 ยังใช้บอดี้แบบเดิม ใช้สีเงินตามสไตล์ ThinkBook ที่ต่างไปจากสีดำของ ThinkPad และยังมีให้เลือก 2 ขนาดหน้าจอคือ ThinkBook 14 กับ ThinkBook 15
สเปกซีพียูมีให้เลือกตั้งแต่ Core i5-1035G1 และ Core i7-1065G7, แรม 8-16GB, สตอเรจ SSD 256-512GB ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 800 ดอลลาร์
บัญชีทวิตเตอร์ @_rogame ที่มีประวัติปล่อยข่าวหลุดสายฮาร์ดแวร์พีซีหลายครั้ง ระบุว่าเราจะได้เห็น ThinkBook เวอร์ชัน Ryzen 4000 Mobile ในเร็วๆ นี้ด้วย
ที่มา - Lenovo, Notebookcheck |
# Dell เปิดตัว G3 และ G5 แล็บท็อปเกมมิ่งเริ่มต้น ซีพียู Intel, AMD รุ่นล่าสุด
นอกจาก XPS 15 และ 17 รุ่นใหม่แล้ว Dell ยังเปิดตัวแล็บท็อปเกมมิ่งในระดับเริ่มต้นทั้ง G3 และ G5 ขนาด 15 นิ้ว รุ่นปีนี้ที่เปลี่ยนมาใช้ซีพียูรุ่นใหม่ของทั้ง 2 ค่ายคือ Comet Lake-H และ Ryzen 4000 Mobile
Dell G3 15 3500 เป็นรุ่นเริ่มต้น หน้าจอ 15.6 นิ้ว IPS FHD 60Hz / 144Hz ซีพียูมี Core i5-10300H (4C/8T) / Core i7-10750H (6C/12T) การ์ดจอ GTX 1650 4GB / GTX 1650 Ti 4GB / GTX 1660 Ti 6GB และ RTX 2060 6GB แรม DDR4 2933MHZ 8-16GB
สตอเรจมีให้เลือก 2 แบบคือสตอเรจเดี่ยวเป็น PCIe M.2 SSD เริ่ม 128GB สูงสุด 1TB และสตอเรจคู่เป็น M.2 เริ่ม 128GB คู่กับ HDD 1TB และสูงสุดคือ M.2 คู่ที่ความจุ 512GB ทั้งคู่
พอร์ท HDMI 2.0, USB 3.2 Gen 1, USB 2.0, SD Card, RJ45, Thunderbolt 3, mimiDP, หูฟัง/ไมค์ รองรับ WI-Fi 5 และ 6 ราคาเริ่มต้น 779.99 เหรียญหรือราว 25,000 บาท เริ่มขาย 21 พฤษภาคมนี้
ส่วน Dell G5 มี 2 รุ่นย่อยคือ G5 15 (5500) ที่ใช้ซีพียู Intel คู่กับ GeFroce บอดี้สีดำและ G5 15 SE (5505) ที่ใช้ Ryzen คู่กับ Radeon บอดี้สีขาว
รุ่น G5 15 (5500) หน้าจอ 15.6 IPS FHD 60Hz / 144Hz / 300Hz ซีพียูมี Core i5-10300H (4C/8T) / Core i7-10750H (6C/12T) การ์ดจอ GTX 1650 Ti 4GB / GTX 1660 Ti 6GB / RTX 2060 6GB และ RTX 2070 Max-Q 8GB แรม DDR4 2933MHZ 8-16GB (ได้ถึง 32GB แต่ต้องซื้อแยก)
สตอเรจ 2 ตัวเลือกเช่นกันคือแบบเดี่ยว PCIe M.2 SSD เริ่ม 128GB สูงสุด 1TB ส่วนสตอเรจคู่เป็น M.2 เริ่ม 128GB คู่กับ HDD 1TB และสูงสุดคือ M.2 คู่ที่ความจุ 512GB ทั้งคู่
พอร์ท HDMI 2.0, USB 3.2 Gen 1, USb 2.0, SD Card, USB-C DP Alt Mode, Thunderbolt 3, miniDP, RJ45 รองรับ Wi-Fi 5 และ 6 พอร์ทหูฟังและไมค์
ส่วน G5 15 SE (5505) หน้าจอ 15.6 IPS FHD 60Hz / 144Hz ซีพียู Ryzen 5 4600H (6C/12T) / Ryzen 7 4800H (8C/16T) / Ryzen 9 4900H (8C/16T) การ์ดจอ Radeon RX 5600M แรม DDR4 3200 8-16GB (ได้ถึง 32GB แต่ต้องซื้อแยก)
สตอเรจแบบเดี่ยว PCIe M.2 125GB สูงสุด 1TB สตอเรจคู่มีแค่ PCIe M.2 512GB 2 ลูก พอร์ท HDMI 2.0, USB 3.2 Gen 1, USB 2.0, miniDP, USB-C DP Alt Mode, RJ 45, SD, หูฟัง/ไมค์ รองรับ Wi-Fi 5
G5 15 ทั้งสองรุ่นราคาเริ่ม 829.99 เหรียญ หรือราว 27,000 บาท เริ่มขาย 21 พฤษภาคมนี้
ที่มา - Notebookcheck (1, 2) |
# Ubisoft ฟ้องกูเกิล-แอปเปิล ปล่อยให้เกมจีน Area F2 เลียนแบบ Rainbow Six Siege ขึ้นสโตร์
Ubisoft ยื่นฟ้องกูเกิลและแอปเปิล ในข้อหายอมปล่อยให้เกม Area F2 ซึ่งเป็นเกมโคลน Rainbow Six Siege ขึ้นให้ดาวน์โหลดบนสโตร์ของทั้งสองแพลตฟอร์ม
Ubisoft ให้เหตุผลว่า Area F2 เป็นเกมโคลนแทบจะ 100% (a near carbon copy) ของเกม Rainbow Six Siege ตั้งแต่หน้าจอเลือกตัวละครไปจนถึงหน้าจอแสดงสกอร์ตอนจบเกม ที่ผ่านมาบริษัทพยายามติดต่อให้ทั้งกูเกิลและแอปเปิลนำเกมออก แต่ก็ถูกปฏิเสธ
เกม Area F2 สร้างโดย Ejoy.com บริษัทจีนในเครือ Alibaba (ชื่อผู้สร้างเกมในสโตร์คือ Qookka Games ส่วนบนเว็บไซต์ระบุว่าเป็น Ejoy.com) ส่วน Rainbow Six Siege ไม่มีเวอร์ชันบนอุปกรณ์พกพา
ที่มา - Kotaku |
# สหรัฐออกกฎเข้ม บริษัทนอกสหรัฐที่จะขายชิปให้ Huawei ต้องขออนุญาตก่อน
กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ปรับกฎเกณฑ์คุมเข้มการทำธุรกิจกับ Huawei มากขึ้น
Wilbur Ross รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกแถลงการณ์ว่าที่ผ่านมา กระทรวงฯ ออกกฎคุมการทำธุรกิจกับ Huawei และบริษัทในเครือ แต่ก็ยังพบว่า Huawei ยังเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐได้อยู่ โดยเฉพาะธุรกิจด้านชิปแบรนด์ HiSilicon ที่เป็นผู้สร้างชิป Kirin
กระทรวงจึงปรับกฎให้เข้มงวดขึ้น โดยจำกัดการขายชิปเซ็ตที่ "ผลิตนอกสหรัฐ" แต่สั่งผลิตโดย Huawei, HiSilicon หรือบริษัทในเครือ จำเป็นต้องขอใบอนุญาตจากสหรัฐด้วย
กฎข้อนี้จะส่งผลกระทบต่อบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ๆ นอกสหรัฐ (เช่น TSMC) หรือซัพพลายเออร์ที่รับจ้างผลิตชิ้นส่วนชิปให้กับ Huawei ด้วย ทาง TSMC ให้ข้อมูลกับ Reuters ว่าทราบเรื่องกฎใหม่แล้วแต่ขอวิเคราะห์เนื้อหาในทางกฎหมายก่อน
กฎข้อนี้มีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) แต่มีระยะให้เตรียมตัวเป็นเวลา 120 วัน
ที่มา - Department of Commerce, Reuters |
# เมื่อ J.K. Rowling ผู้เขียน Harry Potter ขอให้คนในทวิตเตอร์อธิบายเรื่อง Bitcoin
J.K. Rowling ผู้แต่งนิยายเรื่อง Harry Potter โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ พูดคุยกับ Leigh Cuen นักเขียนของเว็บไซต์ CoinDesk ขอให้ช่วยอธิบายเรื่อง Bitcoin ให้เธอเข้าใจหน่อย
ผลจากข้อความทวีตนี้ทำให้มีคนเข้ามาตอบ J.K. อย่างล้นหลาม รวมถึงบัญชี @Bitcoin และคนดังสายเหรียญอย่าง Vitalik Buterin ผู้สร้าง Ethereum ด้วย ซึ่งตัว J.K. เองก็ตอบกลับและเล่นมุขกับคนที่มาตอบอย่างสนุกสนาน |
# เว็บไซต์ ไทยชนะ.com เปิดแล้ว เปิดให้ลงทะเบียนร้านค้าแล้ว
จากที่ก่อนหน้านี้ ศบค. เปิดตัวแพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" ซึ่งนายกฯ มีส่วนร่วมในการตั้งชื่อ และดูแลโดยธนาคารกรุงไทย เพื่อให้ร้านค้าใช้รับลงทะเบียนลูกค้าในการเข้า-ออกในช่วงผ่อนคลายมาตรการตามข้อกำหนดฯ ที่ประกาศไปเมื่อวานนี้ ล่าสุด เว็บไซต์ www.ไทยชนะ.com (หรือ www.thaichana.com) ก็เปิดให้เข้าชมได้แล้วตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
เมื่อสำรวจในเว็บไซต์ ณ ขณะนี้ (ช่วงค่ำวันที่ 16 พ.ค.) พบว่ามีเพียงประกาศกำหนดการเปิดใช้งานระบบฯ ในวันที่ 17 พ.ค. เวลา 06:00 น. และคู่มือการใช้งานโดย ศบค. โดยสรุป ระบบดังกล่าวจะให้ร้านค้าลงทะเบียนประเภทร้านค้า ชื่อ ที่ตั้ง ข้อมูลผู้ติดต่อ (มีการตรวจสอบเลขประจำตัวประชาชนและรหัสประจำบัตรคล้ายกับโครงการเราไม่ทิ้งกัน) และมีแบบประเมินความพร้อมในการให้บริการของร้าน เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วน ระบบจะสร้าง QR code และข้อมูลโดยสังเขปพร้อมรหัสประจำร้านเพื่อให้ลูกค้าใช้โทรศัพท์มือถือเข้าถึงระบบฯ ต่อไป
สำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการ จากการทดลองใช้งาน ลูกค้าสามารถสแกน QR code ที่สร้างจากระบบ เพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ไทยชนะ แล้วกดเข้าร้าน เมื่อกรอกหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าเสร็จ จะขึ้นหน้าจอแสดงยืนยันการเข้าร้านระบุเวลาลงทะเบียน และเมื่อจะออกจากร้าน ลูกค้าจะต้องสแกน QR code เดิม เลือกออกจากร้าน ระบบจะให้ประเมินร้าน โดยระบุเวลาที่ใช้บริการ และการทำตามมาตรการฯ ของร้านค้า เมื่อประเมินเสร็จ ระบบจะแสดงผลการประเมินพร้อมระบุเวลาออกเช่นกัน
แผนผังแสดงกระบวนการในการใช้งานระบบไทยชนะ (จากคู่มือการใช้งานฯ ซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์)
ตัวอย่างหน้าจอแสดงการลงทะเบียนออกจากร้านของลูกค้า
ที่มา: ไทยชนะ, ช่อง 3 |
# CBS สร้างซีรีส์ Star Trek: Strange New World เรื่องราวของ Pike และ Spock
CBS ประกาศสร้างซีรีส์ Star Trek: Strange New World ที่เป็นเรื่องราวของกัปตัน Pike ช่วงที่เป็นกัปตันยาน USS Enterprise (ก่อนยุค Kirk) และมี Spock และ Number One เป็นเหมือนมือซ้ายและมือขวา
Star Trek: Strange New World เปรียบเสมือนสปินออฟจากภาค Star Trek: Discovery เพราะได้นักแสดงหน้าเก่าจาก Discovery ชุดเดิมกลับมาทั้ง Anson Mount ในบท Christopher Pike, Ethan Peck ในบท Spock และ Rebecca Romjin ในบท Number One โดย Strange New World นับเป็นซีรีส์เรื่องที่ 3 ที่ CBS ประกาศสร้างต่อจาก Discovery และ Picard (ไม่รวม Star Trek: Lower Decks ที่เป็นการ์ตูนและมีกำหนดฉายปีนี้)
Star Trek: Strange New World จะถูกฉายบน CBS All Access แต่ก็ต้องติดตามว่านอกสหรัฐ จะมีการฉายช่องทางอื่นเหมือน Discovery (Netflix) และ Picard (Amazon Prime Video) หรือไม่และช่องทางไหน
ที่มา - Variety |
# เปิดตัว LINE POD แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ มีเกมเอ็กคลูซีฟ เล่นได้ทั้งพีซีและมือถือ
LINE เปิดตัวบริการ LINE POD (Play on Desktop) แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ที่รวมเกมของทั้งบนพีซีและมือถือ โดยเปิดให้บริการในไทย, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊า, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์และพม่า เชื่อมต่อกับแค่ LINE ID
เบื้องต้นเกมที่มีบน LINE POD ได้แก่ Free Style เกมสตรีทบาส, Game of Thrones Winter is Coming เกมแนววางแผลกลยุทธ และมีเกมเอ็กคลูซีฟอย่าง ArcheAge เกมแนว MMORPG, Hunters' Arena: Legend เกมแนว Action RPG ผสมกับ Battle Royale และ Rebirth Online เกม MMORPG แนว Openworld เกมทั้งหมดเล่นฟรี แต่มีระบบซื้อขายภายในเกม
LINE POD เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้า 14-27 พ.ค. นี้ผ่านทาง LINE POD TH (@linepodth) หรือผ่านหน้าเว็ปไซต์ www.linepodth.com ลุ้นรับของรางวัลอย่างหูฟังเกมมิ่งอย่าง Razer 30 รางวัล ก่อนจะเปิดให้บริการจริง 28 พ.ค. นี้ |
# Red Hat เปิดตัว Amazon Red Hat OpenShift แบบโฮสต์และบริหารโดย AWS
Red Hat ประกาศความร่วมมือกับ AWS เปิดตัว Amazon Red Hat OpenShift ซึ่งเป็นการนำแพลตฟอร์ม OpenShift สำหรับจัดการ Kubernetes เชิงพาณิชย์ของ Red Hat ไปรันบน AWS โดยทั้งสองบริษัทร่วมกันบริหารและซัพพอร์ตให้ (ก่อนหน้านี้ AWS รัน OpenShift ได้อยู่แล้ว แต่ผู้ใช้ต้องจัดการระบบเอง)
ในแง่ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์คงไม่มีอะไรต่างจาก OpenShift เวอร์ชันปกติของ Red Hat แต่จุดขายหลักคือการทำงานร่วมกับระบบของ AWS เช่น การเรียกใช้งาน Auto Scaling เพื่อขยายจำนวนโหนดในระบบ และช่วยเปิดทางให้ลูกค้าองค์กรสามารถย้ายโหลดงานจาก OpenShift แบบ on-premise มารันบนเครื่องของ AWS ได้ด้วย
Red Hat ระบุว่าเริ่มเปิดทดสอบ Amazon Red Hat OpenShift แบบ early access ในเร็วๆ นี้ โดยยังไม่ระบุราคา
AWS ไม่ได้เป็นคลาวด์เจ้าแรกที่มี OpenShift ให้บริการ เพราะ Azure มีความร่วมมือแบบนี้กับ Red Hat ตั้งแต่ปี 2019 ส่วน Google Cloud ที่มีบริการคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง Anthos ยังไม่มี OpenShift ให้เลือกใช้งาน
Sathish Balakrishnan ผู้บริหารของ Red Hat ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ว่าข้อตกลงลักษณะนี้ เป็นสิ่งยืนยันว่า Red Hat ยังเป็นอิสระจาก IBM และสามารถมีความร่วมมือกับ AWS หรือ Azure ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ IBM Cloud ได้ด้วย
Red Hat ยังให้ข้อมูลว่าตอนนี้ OpenShift มีลูกค้าองค์กรมากกว่า 2,000 รายแล้ว
ที่มา - Red Hat |
# Google ประเทศไทย รายงานเทรนด์การค้นหาเกี่ยวกับ COVID-19 เดือนเมษายน
กูเกิลประเทศไทย เปิดเผยเทรนด์การค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และโรค COVID-19 ในไทย โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 225 ของโลก ที่มีความสนใจค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา
การค้นหาในเดือนเมษายนที่ผ่านมา สูงสุดวันที่ 18 เมษายน คำค้นเกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรนาที่มีการค้นหาเพิ่มสูงมากได้แก่ โคโรนาไวรัสล่าสุด (+5,000%), Report coronavirus case (+4,250%), Coronavirus tips (+2,850%) ส่วนหัวข้ออื่นที่เกี่ยวข้อง คำว่า ทะเบียน เกษตรกร เยียวยา และ ตรวจเช็คสิทธิ์เราไม่ทิ้งกัน ต่างเพิ่มขึ้นมากกว่า 5,000%
หลายคนอาศัยช่วงเวลาอยู่บ้านฝึกทำอาหาร ทำให้คำค้นเกี่ยวกับอาหารก็เพิ่มขึ้น โดยกูเกิลบอกว่าเมนูผักและอาหารดอง เป็นกลุ่มที่เพิ่มสูง คำค้น แกงไก่หน่อไม้ดอง และ วุ้นเส้นผัดไข่ ต่างเพิ่มขึ้นกว่า 5,000%
ที่มา: กูเกิลประเทศไทย |
# กูเกิลเปิดตัว Google Cloud VMware Engine รองรับ VMware เต็มรูปแบบบนคลาวด์
กูเกิลเปิดตัว Google Cloud VMware Engine บริการสำหรับรัน VM จาก VMware เต็มรูปแบบบนเครื่องของ Google Cloud
เมื่อกลางปี 2019 กูเกิลจับมือกับ VMware เปิดตัวบริการลักษณะเดียวกันนี้ แต่บริหารโดยบริษัทพาร์ทเนอร์ชื่อ CloudSimple ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน กูเกิลก็ซื้อกิจการ CloudSimple มันซะเลย
หลังซื้อกิจการเรียบร้อยแล้ว กูเกิลจึงนำโซลูชันของ CloudSimple มาให้บริการภายใต้ชื่อกูเกิลเองโดยตรง กลายมาเป็น Google Cloud VMware Engine นั่นเอง
กูเกิลบอกว่าบริการ VMware Engine เป็นการดูแลโครงสร้างพื้นฐานทั้งฮาร์ดแวร์ เครือข่าย และซอฟต์แวร์สาย VMware ทั้งหมดโดยกูเกิลเอง ผู้ใช้จึงลดภาระในการดูแลระบบ อัพเกรดระบบลงไปได้มาก นอกจากนี้ การที่มันเป็นบริการใต้ร่ม Google Cloud เต็มรูปแบบ จึงเชื่อมต่อกับบริการอื่นๆ อย่าง BigQuery, Cloud Operations, Cloud Storage, Anthos ได้โดยตรงอีกด้วย
VMware มีความร่วมมือแบบนี้กับ AWS ตั้งแต่ปี 2016 ในชื่อว่า VMware Cloud on AWS และมีบริการแบบเดียวกันกับ Azure ในปี 2019 ชื่อ Azure VMware Solutions บริการของกูเกิลจึงถือเป็นคลาวด์ลำดับที่สามที่ซัพพอร์ต VMware เต็มรูปแบบ
ตอนนี้ Google Cloud VMware Engine เริ่มให้บริการแล้วในเขต North Virginia และ Log Angeles และจะขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ (รวมถึงสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลที่ใกล้บ้านเราที่สุด) ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ที่มา - Google |
# Windows 10 จะเลิกออกอิมเมจแบบ 32 บิต แต่มีผลเฉพาะผู้ผลิตพีซี OEM เท่านั้น
ไมโครซอฟท์ปรับเงื่อนไขด้านฮาร์ดแวร์ของ Windows 10 May 2020 Update (v2004) บังคับให้ผู้ผลิตพีซี OEM ต้องใช้ซีพียูแบบ 64 บิตทั้งหมดแล้ว โดยจะไม่มีอิมเมจแบบ 32 บิตให้กับ OEM อีกต่อไป
ส่วนผู้ใช้ตามบ้านเดิมที่ยังใช้ซีพียู 32 บิตอยู่ ไมโครซอฟท์ยังไม่ยกเลิกการออก Windows 10 แบบ 32 บิต เงื่อนไขนี้มีผลเฉพาะกับผู้ผลิตพีซีเท่านั้น
ในทางปฏิบัติแล้ว พีซีใหม่ที่ใช้ซีพียู 32 บิตไม่น่าจะหาได้แล้วในสมัยนี้ จึงไม่น่ามีผลกระทบมากนัก แต่ก็แสดงให้เห็นการผลักดันโลกให้ไปทาง 64 บิตของไมโครซอฟท์นั่นเอง
ก่อนหน้านี้ Ubuntu เคยพยายามยกเลิกอิมเมจแบบ 32 บิต แต่ไม่สำเร็จ เพราะติดปัญหากับซอฟต์แวร์หลายตัว โดยเฉพาะฝั่งเกม
ที่มา - Microsoft via ZDNet |
# JD.com ไตรมาส 1/2020 รายได้โต 20.7% ผู้ใช้งานเพิ่มเป็น 387.4 ล้านคน
JD.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในจีน รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2020 รายได้รวม เพิ่มขึ้น 20.7% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน เป็น 20,602 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากธุรกิจบริการเพิ่มขึ้น 29.6% เป็น 2,275 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 149 ล้านดอลลาร์
Richard Liu ซีอีโอของ JD.com กล่าวว่าบริษัทสามารถดำเนินงานได้เต็มกำลังปกติตลอดช่วงการระบาดของ COVID-19 ผลการดำเนินงานที่ออกมาสะท้อนว่าลูกค้าใช้บริการ JD.com มากขึ้นในช่วงที่ต้องเก็บตัวอยู่บ้าน
จำนวนผู้ลูกค้าบนแพลตฟอร์มที่แอคทีฟย้อนหลัง 12 เดือน ก็สะท้อนภาพดังกล่าว โดยจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 24.8% เป็น 387.4 ล้านคน และเป็นผู้ใช้งานบนมือถือเพิ่มขึ้น 46%
ที่มา: JD.com |
# Facebook ซื้อกิจการ GIPHY พอร์ทัลรวมรูป GIF ที่นิยมใช้กันใน IG
Facebook ประกาศเข้าซื้อกิจการ GIPHY เว็บพอร์ทัลรวมรูป GIF โดยทีมงานทั้งหมดจะมาเป็นส่วนหนึ่งของทีม Instagram เพื่อเพิ่มเติมบริการรูป GIF ต่อไป จากที่ปัจจุบัน GIPHY ก็เป็นพาร์ทเนอร์ของคลังรูป GIF ใน Instagram อยู่แล้ว โดยทราฟิกกว่า 50% ของ GIPHY ก็มาจากแพลตฟอร์มเครือของ Facebook ซึ่งหลัก ๆ ก็คือ Instagram นั่นเอง
รายได้หลักของ GIPHY มาจากการร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ สร้างคอนเทนต์เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ผ่าน GIF โดยทีมงานของ GIPHY ระบุว่าบริการของ GIPHY โดยเฉพาะ API สำหรับเชื่อมต่อข้อมูลจะยังมีอยู่ต่อไป
ดีลดังกล่าวไม่มีการเปิดเผยมูลค่าอย่างเป็นทางการ แต่เว็บ Axios ระบุว่าอยู่ที่ 400 ล้านดอลลาร์ และการเจรจาระหว่างสองบริษัทก็เริ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนช่วง COVID-19 ระบาดแล้ว
ที่มา: Facebook และ Axios |
# Lenovo เปิดตัว ThinkPad P14s และ P15s จับตลาดเวิร์คสเตชัน ใช้ระบบเลขรุ่นแบบใหม่
Lenovo ออกโน้ตบุ๊ก ThinkPad ซีรีส์ P สำหรับเวิร์คสเตชันขนาดเล็กรุ่นใหม่ โดยเปลี่ยนระบบเลขรุ่นจากของเดิม P43s/P53s (ตัวเลขหน้าคือขนาดจอ ตัวหลังคือลำดับรุ่น มาเป็น P14s และ P15s แทน (ตัวเลขทั้งสองตัวคือขนาดหน้าจอโดยตรงเลย ไม่มีลำดับรุ่น) เหมือนกับซีรีส์ T และ X ที่อัพเดตไปก่อนหน้านี้
การอัพเกรดที่สำคัญคือเปลี่ยนมาใช้ซีพียู Intel Gen 10 vPro รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว โดยเป็นซีพียูรหัส U อัตราการใช้พลังงาน 15 วัตต์ ส่วนจีพียูยังคงใช้ NVIDIA Quadro P520
สินค้าเริ่มขายเดือนพฤษภาคมนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 1,599 ดอลลาร์ (P14s) และ 1,579 ดอลลาร์ (P15s)
ที่มา - Notebookcheck |
# โหมดกล้อง Color Filter ของ OnePlus 8 Pro พบส่องทะลุพลาสติกบางชิ้นได้
ผู้ใช้ combat goofwing โพสต์ในฟอรั่มของ XDA Developers ว่าเขาค้นพบฟังก์ชั่นถ่ายทะลุพลาสติกของ กล้อง OnePlus 8 Pro โดยไม่ได้ตั้งใจ พร้อมกับลงวิดีโอ Youtube ยืนยันว่าเป็นความจริง พร้อมกับผู้ใช้รายอื่นยืนยันในคอมเม้นต์ ว่าทดสอบแล้วทำได้เช่นเดียวกัน
การเลือกฟิลเตอร์ Photochrom บน OnePlus 8 Pro จะทำให้กล้อง Color Filter ซึ่งเป็นกล้องที่ OnePlus โฆษณาว่าใช้ถ่ายฟิลเตอร์กรองสีต่างๆ ทำงาน แต่ดูเหมือนว่าจะมีฟังก์ชั่นอื่นซ่อนอยู่ด้วย เพราะกล้อง Color Filter ไม่มีฟิลเตอร์กรองแสง Infrared ซึ่งเป็นแสงในช่วงความถี่ที่สามารถส่องทะลุพลาสติกบางๆ ได้ ทำให้กล้องสามารถถ่ายทะลุพลาสติกบางชนิดที่ไม่หนามากนัก เช่นรีโมตทีวี ให้เห็นแผงวงจรข้างในได้ แต่ฟังก์ชั่นนี้ก็ไม่สามารถส่องทะลุเสื้อผ้าได้แต่อย่างใด
ที่มา - XDA Developers, Youtube - Alan Goodwin (combat goofwing) |
# Lenovo โพสต์คลิปใหม่โน้ตบุ๊กพับจอได้ ThinkPad X1 Fold คาดไม่เลื่อนเหมือน Surface Neo
เมื่อต้นปี Lenovo เปิดตัว ThinkPad X1 Fold โน้ตบุ๊กที่พับครึ่งจอได้เหมือนสมุด โดยระบุว่าจะเปิดขายจริงช่วงกลางปี 2020 จากนั้นก็เงียบหายไป
ล่าสุด Lenovo โพสต์วิดีโอใหม่ของ ThinkPad X1 Fold ทาง YouTube ของบริษัท เพื่อเกริ่นว่าสินค้าน่าจะใกล้วางขายแล้ว (แต่ก็ยังไม่บอกเวลาที่ชัดเจน)
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศเลื่อน Surface Neo ไม่มีกำหนด และปรับโฟกัส Windows 10X เน้นอุปกรณ์จอเดียว แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อ X1 Fold เพราะ Lenovo ประกาศไว้ตั้งแต่แรกว่าสินค้าเวอร์ชันแรกที่วางขายจะใช้ Windows 10 รุ่นปกติ และจะออกรุ่น Windows 10X ตามมาในภายหลัง
Lenovo เคยประกาศราคาเริ่มต้นของ ThinkPad X1 Fold ไว้ที่ 2,499 ดอลลาร์ (ประมาณ 76,000 บาท) |
# กลุ่มสิทธิชี้ TikTok ยังคงละเมิดกฎความเป็นส่วนตัวเด็กในสหรัฐฯ
กลุ่มสิทธิเช่น Campaign for a Commercial-Free Childhood, Center for Digital Democracy และหน่วยงาน Electronic Privacy Information Center เป็นต้น ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานเฝ้าระวังว่า TikTok ยังคงละเมิดกฎความเป็นส่วนตัวเด็กสหรัฐฯ และละเมิดข้อตกลงกับ FTC หลังตัดสินปรับ TikTok ไปแล้ว 5.7 ล้านดอลลาร์
ในคำร้องเรียนระบุว่า หลังจากผ่านการตัดสินปรับไป 1 ปี และเด็กๆก็ใช้งาน TikTok มากขึ้นเพราะผลจากการกักตัว ยังคงพบว่า TikTok ล้มเหลวในการลบข้อมูลส่วนบุคคลที่รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้จากเด็ก และยังคงเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง
ด้าน TikTok กล่าวว่ายังไม่เห็นการร้องเรียนดังกล่าว แต่บริษัทให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวอย่างจริงจังและมุ่งมั่นที่จะทำให้มั่นใจว่า TikTok ยังคงเป็นชุมชนที่ปลอดภัยและสนุกสนานสำหรับผู้ใช้งาน
ภาพจาก TikTok
ที่มา - Financial Times |
# Strategy Analytics เผย Samsung Galaxy A51 มือถือแอนดรอยด์ขายดีสุด ไตรมาส 1/2020
Strategy Analytics บริษัทวิจัยตลาดสมาร์ทโฟน เปิดผลวิจัยตลาด รายงานว่าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ครองตลาด 86 เปอร์เซ็นต์ของสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายทั้งโลกในไตรมาสแรกของปี 2020 และ Samsung Galaxy A51 เป็นสมาร์ทโฟนฝั่งแอนดรอยด์ที่ขายดีที่สุด
Samsung Galaxy A51 ครองยอดขาย 2.3% ของยอดขายสมาร์ทโฟนทั้งโลก ตามมาด้วย Xiaomi Redmi 8 ที่ 1.9% Samsung Galaxy S20+ ที่ 1.7% (เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นพรีเมี่ยม รุ่นเดียวใน 6 อันดับแรก) ส่วน 3 อันดับต่อมา เป็น Samsung Galaxy A10s, Xiaomi Redmi Note 8, และ Samsung Galaxy A20s ถือว่า Samsung ครองไปถึง 4 อันดับเลยทีเดียว
Juha Winter ผู้บริหาร Strategic Analytics กล่าวว่า หลังจากที่ผู้ให้บริการเครือข่าย ลดการให้ส่วนลดค่าเครื่องลง และเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวเนื่องจากโคโรน่าไวรัส ทำให้เรื่องราคาสมาร์ทโฟน ส่งผลกระทบกับผู้บริโภคมากกว่าที่เคย โดยผู้บริโภคจะเล็งหาสมาร์ทโฟนที่ให้ประสิทธิภาพคุ้มราคามากที่สุด (biggest bang for their bucks) และจากผลวิจัยตลาด ที่มีสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมติดอันดับเพียงรุ่นเดียว ก็ชี้ให้เห็นว่าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ กำลังเข้าสู่ยุค post-premium หรือเป็นยุคที่โทรศัพท์รุ่นประหยัด จะขายดีกว่าที่ผ่านๆ มา
ที่มา - Strategy Analytics |
# หัวหน้าทีม Xbox กล่าวว่า COVID-19 จะส่งผลกระทบจริงจัง กับเกมที่มีกำหนดออกในปี 2021
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox และรองประธานบริหารด้านเกมมิ่งของ Microsoft ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ว่าเกมที่มีกำหนดวางจำหน่ายปีหน้า จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มากกว่า
สาเหตุหลักมาจากเกมที่มีกำหนดออกปีหน้า จะติดขัดในขั้นตอนการทำโมแคป (Motion Capture) รวมทั้งงานลงเสียงพากย์ และการทำเพลงประกอบโดยใช้วงซิมโฟนี่ ซึ่งต้องใช้คนจำนวนมาก และใช้พื้นที่สตูดิโอในการทำงาน ที่ต้องหยุดลงโดยสิ้นเชิงในช่วงนี้ (ส่วนเกมที่มีกำหนดออกปีนี้ อาจเสร็จสิ้นขั้นตอนเหล่านี้ไปหมดแล้ว)
ล่าสุดเกม Guild Wars 2 ก็ออกประกาศ ว่าจะไม่มีการเพิ่มเสียงพากย์ในอัพเดตใหม่ ส่วนเกม FPS อินดี้ Witchfire ก็เริ่มทำสตูดิโอโมแคปในโรงรถ เพื่อทำแอนิเมชั่นโหลดกระสุนเองแล้ว
แต่ Phil Spencer ก็เชื่อว่า แม้กำหนดวางจำหน่ายของเกมในช่วงปี 2021 อาจล่าช้าไปบ้าง แต่วงการเกมในภาครวม จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และจะมีเกมออกมาให้เล่นกันตามปกติ
ที่มา - Business Insider via PCGamer |
# หลุดสไลด์ Epic Games เผยเกมแจกฟรีคิวต่อไป Civ VI, Borderlands และ Ark Survival
Epic Games มีคิวแจกเกมฟรีทั้งหมด 4 เกมในทุกสัปดาห์เริ่มตั้งแต่ GTA V เมื่อวานที่ผ่านมา โดยขึ้นเป็น Mystery Game ในหน้าสโตร์ ล่าสุดมีภาพหลุดคิวเกมแจกฟรีอีก 3 เกมที่เหลือออกมาเผยแพร่บน Reddit ซึ่งเพื่อนของผู้เขียนที่เคยทำงานกับ Epic ก็ยืนยันว่าเป็นสไลด์ที่ส่งให้พนักงานภายใน และภาพหลุดนี้น่าจะเป็นของจริง
เกมที่ Epic Games Store มีคิวแจกฟรีได้แก่
Civilization VI วันที่ 21 พฤษภาคม
Borderlands: The Handsome Collection วันที่ 28 พฤษภาคม
Ark Survival Evolved วันที่ 4 มิถุนายน
ที่มา - Reddit |
# NVIDIA ยืนยัน GeForce พลัง Ampere มาแน่ จะมาแทนทั้ง Volta และ Turing
NVIDIA เปิดตัวจีพียู A100 ตัวแรกของสถาปัตยกรรม Ampere ไปแล้วเมื่อคืนนี้ โดยเป็นซีพียูสำหรับเซิร์ฟเวอร์และงานด้าน AI
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ เราจะได้เห็น Ampere บนจีพียูคอนซูเมอร์อย่าง GeForce หรือไม่ เพราะในยุคปัจจุบัน NVIDIA มีสถาปัตยกรรมจีพียูสองตัวคือ Volta ที่เปิดตัวในปี 2017 และใช้กับซีพียูฝั่งเซิร์ฟเวอร์-อุปกรณ์ฝังตัวเท่านั้น (Tesla, Titan V, Xavier) จากนั้นถึงมี Turing ตามมาในปี 2018 ที่จับตลาดการ์ดกลุ่ม GeForce/Quadro
เรื่องนี้ Jen-Hsun Huang ซีอีโอของ NVIDIA ให้สัมภาษณ์ยืนยันแล้วว่า Ampere จะมาแทนทั้ง Volta และ Turing โดยจะเป็นซีพียูสถาปัตยกรรมเดียวของ NVIDIA ในอนาคตอันใกล้นี้ เท่ากับว่าเราจะได้เห็น GeForce พลัง Ampere ตามมาอย่างแน่นอน
ที่มา - PCGamer |
# TSMC เตรียมสร้างโรงงานผลิตชิปขนาด 5nm ในแอริโซนา
TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวันประกาศเตรียมสร้างโรงงานผลิตชิปขนาด 5 นาโนเมตรในแอริโซนา มีกำลังผลิตเวเฟอร์ราว 20,000 แผ่นต่อเดือน สร้างงานราว 1,600 ตำแหน่ง โดยจะเริ่มสร้างโรงงานในปีหน้าและมีกำหนดแล้วเสร็จราวปี 2024
โครงการนี้แน่นอนว่าเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐ ที่ต้องการจะผลักดันการสร้างงานรวมถึงต้องการรักษาสายการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ขนาดเล็กเอาไว้ หลังมีปัญหาทางการค้าและการทูตกับจีน ขณะที่ฝั่ง TSMC ก็จะได้ประโยชน์จากใบอนุญาตให้สามารถทำธุรกิจกับ Huawei ได้ โดยโรงงานที่แอริโซนาจะเป็นโรงงานที่ 2 ของ TSMC ในสหรัฐต่อจากโรงงานในเมือง Camassia มลรัฐวอชิงตัน
นอกจาก TSMC ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐพูดคุยกับ Intel และ Samsung เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปในสหรัฐอยู่ด้วยเช่นกัน
ที่มา - WSJ
ภาพจาก Facebook TSMC |
# โซนี่เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องพร้อมหน่วยประมวลผล AI สำหรับอุปกรณ์ปลายทางที่ติดกล้อง
โซนี่เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องที่พ่วงมากับหน่วยประมวลผล AI สำหรับติดตั้งในอุปกรณ์ IoT หรืออุปกรณ์ปลายทาง (edge) ที่ติดกล้อง ตัวเซ็นเซอร์จะช่วยประมวลผลข้อมูลภาพให้ก่อนส่วนหนึ่ง ช่วยลดปริมาณหรือขนาดข้อมูลที่จะส่งกลับไปยังคลาวด์ลง
ตัวเซ็นเซอร์จะมีชิป 2 ตัวคือพิกเซลชิป สำหรับรับภาพ เป็นเซ็นเซอร์ที่รับภาพได้ความละเอียดราว 12.3 ล้านพิกเซล และโลจิคชิป ที่มีหน่วยประมวลผลภาพ (Image Signal Processor) และ Digital Signal Processor สำหรับประมวลผล AI หน่วยความจำสำหรับเก็บโมเดล AI
ขณะที่เอาท์พุทก็สามารถเลือกฟอร์แมทของเอาท์พุทได้ตามการใช้งาน โดยมีตัวเลือกให้ออกมาเป็น metadata เพื่อลดปริมาณการส่งข้อมูลและรักษาความเป็นส่วนตัว เช่นเดียวกับวิดีโอที่จะประมวลผล แยกแยะวัตถุในภาพให้ในทุกเฟรม ลดปริมาณข้อมูลที่ส่งและทำให้การแยกแยะวัตถุทำได้แบบเรียลไทม์มากขึ้น
ตัวชิปมี 2 แพ็กเกจคือชิปเปล่า (IMX500) ราคาประมาณ 10,000 เยนและแพ็กเกจพร้อมใช้งาน (IMX501) ราคาราว 20,000 เยน
ที่มา - Sony |
# [แก้ไขแล้ว] SCB Easy ล่มตั้งแต่ช่วง 11 โมงที่ผ่านมา ช่องทางอื่นยังใช้งานได้ ผู้ใช้บางส่วนโอนแล้วเงินไม่เข้าปลายทาง
note: จากการตรวจสอบช่วงบ่ายสองพบว่าใช้งานได้เรียบร้อยแล้ว
SCB Easy ของธนาคารไทยพาณิชย์มีปัญหาใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ช่วงก่อน 11 โมงเล็กน้อย ล่าสุดทางธนาคารแนะนำให้เว้นช่วงทำรายการ หรือใช้ช่องทางอื่น ตั้งแต่เว็บ SCB Easy Net, ตู้ ATM, และตู้ CDM
นอกจากตัวแอปใช้งานไม่ได้แล้ว ยังมีผู้ใช้จำนวนหนึ่งรายว่ามีปัญหายอดเงินไปไม่ถึงปลายทาง (1, 2, 3, 4) ดังนั้นใครจะโอนเงินจำนวนมากๆ อาจจะต้องรอให้ทางธนาคารประกาศว่าระบบกลับมาทำงานปกติกันก่อน
ที่มา - @SCB_Thailand |
# Samsung เปิดตัว Galaxy A31 ราคา 8,999 บาท และ Galaxy A11 ราคา 5,199 บาท
Samsung เปิดตัว Galaxy A31 และ Galaxy A11 สมาร์ทโฟนรุ่นราคาต่ำกว่าหมื่นในซีรีส์ A อีกสองรุ่น มีสเปกและราคาดังนี้
Galaxy A31
หน้าจอ Super AMOLED 6.4 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
ชิป Mediatek Helio P65
กล้องหน้า 20 MP
กล้องหลัง 48 MP + กล้องอัลตร้าไวด์ 8 MP + กล้องมาโคร 5 MP + Depth sensor 5 MP
แรม 6 GB หน่วยความจำภายใน 128 GB รองรับ microSD Card
แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W
มีสามสี Prism Crush Black, Prism Crush Blue และ Prism Crush White
ราคา 8,999 บาท
Galaxy A11
หน้าจอ TFT LCD 6.4 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1560 พิกเซล
ชิป Octa-Core 1.8 GHz
กล้องหน้า 8 MP
กล้องหลัง 13 MP + กล้องอัลตร้าไวด์ 5 MP + Depth sensor 2 MP
แรม 3 GB หน่วยความจำภายใน 32 GB รองรับ microSD Card
แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W
มีสองสี Black และ Blue
ราคา 5,199 บาท
ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์ |
# HBO ออกฟีเจอร์ดูหนังและวิดีโอคอลพร้อมกันสูงสุด 20 คน ให้ผู้ใช้ HBO Now และ HBO Go
HBO ร่วมมือกับบริษัท Scener ผู้ทำระบบ virtual movie theater ให้ผู้ใช้งาน HBO Now และ HBO Go สตรีมหนังและวิดีโอคอลกับเพื่อนไปด้วยพร้อมกัน (คล้าย Watch Party ของ Facebook) คือเป็นการดูหนังด้วยกันแม้ตัวจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม ดูได้พร้อมกันสูงสุด 20 คน
ผู้ใช้งานเริ่มเปิดใช้งาน virtual movie theater ได้โดยดาวน์โหลดส่วนขยายของ Scener ได้จาก Chrome Web Store บนอุปกรณ์ Windows, Mac หรือ Chromebook
HBO ยืนยันว่าทาง WarnerMedia ได้ติดต่อไปยัง Scener เพื่อให้ทำฟีเจอร์ดูหนังพร้อมกันรองรับการใช้งาน HBO Now และ HBO Go โดยที่ยังคง IP ของตัวเองไว้ แต่ไม่มีรายละเอียดว่าฟีเจอร์นี้จะขยายไปยัง HBO Max ที่จะเปิดตัวในวันที่ 27 พ.ค. นี้หรือไม่
อ่านย้อนหลัง ความแตกต่างระหว่าง HBO GO, HBO Now และสตรีมมิ่งใหม่สดๆร้อนๆ HBO Max
ภาพจาก Scener
ที่มา - TechCrunch |
# Amazon เตรียมผลิต face shield ขายในราคาถูก เริ่มขายคนที่จำเป็นต้องใช้ก่อนขายให้คนทั่วไป
Amazon เตรียมบุกธุรกิจ PPE (personal protective equipment) โดยในบล็อกของบริษัทเขียนโดย Brad Porter รองประธาน Amazon ระบุว่า Amazon เตรียมผลิตหน้ากาก face shield ขาย เริ่มขายแก่กลุ่มคนที่จำเป็นต้องใช้ก่อน เช่น บุคลากรทางการแพทย์, คนทำงานด่านหน้า ถึงจะค่อยเปิดขายให้แก่ลูกค้าทั่วไปผ่านเว็บไซต์ Amazon
ในบล็อกระบุว่าจนถึงตอนนี้ Amazon ได้บริจาค face shield เกือบ 10,000 ชิ้นและกำลังจะส่งมอบอีก 20,000 ชิ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และเพื่อตอบสนองความต้องการที่มากขึ้นจึงเตรียมผลิต face shield เอง ตั้งเป้าส่งมอบให้ได้ภายในช่วงสองสามสัปดาห์ต่อจากนี้ และมั่นใจว่าจะสามารถขายในราคาถูกได้
ภาพจาก Amazon
ในการออกแบบ face shield นั้น Amazon เปิดโมเดลออกแบบโอเพ่นซอร์ส โดยทีมออกแบบได้รับการรับรองการออกแบบจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) เพื่อให้แน่ใจว่าหน้ากากมีคุณภาพ สอดคล้องกับมาตรฐานทางการแพทย์ และ Amazon ไม่ใช่บริษัทเดียวที่หันมาผลิต face shield เพราะ Apple, Space X, HP และ Ford ก็ใช้ทรัพยากรที่มีมาผลิต face shield เพื่อบริจาคด้วยเช่นกัน แต่ Amazon เป็นรายแรกที่ตั้งเป้าผลิตเพื่อขายด้วย
ด้าน face shield ที่ลงขายโดยผู้ค้าภายนอกมีราคาอยู่ที่ราว 12 - 35 เหรียญ และคาดว่าทันทีที่ Amazon เปิดขายของตัวเอง ราคาจะลดลงมาอีก นอกจากนี้ หน่วยงานองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) และสถาบันมาตรฐานอังกฤษ (BSI) ได้ออกมาเตือนว่า face shield ที่ผลิตขึ้นเองโดยใช้เครื่องพิมพ์สามมิติหรือทำเองแบบโฮมเมดนั้นไม่ได้ช่วยป้องกันใบหน้าจากเชื้อไวรัสได้เต็มที่
มีข้อสงสัยที่ชวนคิดด้วยว่า หน้ากาก face shield ที่ Amazon จะผลิตนั้น คนงานในโกดังสินค้าจะได้ใช้ด้วยหรือไม่ เพราะเป็นคนทำงานด่านหน้าเหมือนกัน และล่าสุดก็มีตัวเลขยืนยันคนทำงาน Amazon เสียชีวิตจาก COVID-19 เป็นรายที่ 6 แล้ว
ที่มา - Amazon, BBC |
# Messenger Rooms วิดีโอคอลคุยพร้อมกัน 50 คนเปิดใช้ในสหรัฐ, เม็กซิโก, แคนาดาแล้ว
Facebook เปิดตัว Messenger Rooms ฟังก์ชั่นคุยวิดีโอคอลรองรับการคุยพร้อมกันสูงสุด 50 คน ไม่จำกัดเวลา ล่าสุดเริ่มเปิดใช้งานในสหรัฐ, เม็กซิโก, แคนาดาแล้ว และจะทยอยให้คนทั่วโลกใช้ภายในสัปดาห์ถัดไป
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เขียนในโพสต์ว่า WhatsApp และ Messenger เป็นวิดีโอที่นิยมกันทั่วโลกอยู่แล้ว แต่บริการวิดีโอคอลส่วนใหญ่นั้น ออกแบบมาสำหรับการทำงาน ไม่ใช่เพื่อโซเชียล
Messenger Rooms เชื่อมต่อกับทุกบริการในเครือของ Facebook โดยเราสามารถสร้างห้องประชุมและแชร์ได้บน Facebook News Feed และในอนาคตจะสร้างห้องได้จาก Instagram Direct, WhatsApp และอุปกรณ์ประชุม Portal ด้วย
ที่มา - มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก |
# Elastic Stack 7.7 ออกแล้ว: Workplace Search เข้าสู่สถานะ GA, Kibana เพิ่มระบบการเสิร์ชแบบ background
Elastic ออกซอฟต์แวร์ในกลุ่ม Elastic Stack เวอร์ชัน 7.7 แล้ว โดยรอบนี้มีสิ่งสำคัญคือ Workplace Search ระบบเสิร์ชเอนจินสำหรับใช้กับองค์กรเข้าสู่สถานะ GA พร้อมใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว
Workplace Search เป็นแพลตฟอร์มการค้นหาสำหรับภาคองค์กร เป็นเครื่องมือชิ้นใหม่ภายใต้โซลูชั่น Elastic Enterprise Search โดยตัว Workplace Search สามารถเชื่อมเข้ากับ Microsoft 365, G Suite, Salesforce, Google Drive, OneDrive, Dropbox, GitHub, Jira, SharePoint Online และอื่น ๆ เพื่อซิงค์ข้อมูลเข้ามายัง Elasticsearch สำหรับทำเสิร์ชเอนจินได้
ส่วนฟีเจอร์อื่นที่น่าสนใจในอัพเดตครั้งนี้
Kibana เพิ่ม alerting framework ใหม่ ใช้งานได้ง่ายขึ้น สร้าง alert ได้จากใน SIEM, APM, Metrics และ Uptime, อินทิเกรตกับบริการภายนอกอย่าง Slack หรือ PagerDuty
Elasticsearch เพิ่มระบบค้นหาแบบ asynchronous ถ้าระบบใช้เวลาเสิร์ชนานเกินไป Kibana จะแจ้งเตือนให้เลือกว่าจะเสิร์ชต่อไปเป็น background จนกว่าจะเสร็จหรือไม่ โดยระหว่างเสิร์ชเป็น background ผู้ใช้สามารถทำอย่างอื่นก่อนได้
Elastic APM เพิ่มแผนภาพ Service Map แสดง dependency ระหว่างแอพพลิเคชั่นกับเซอร์วิสภายนอก โดย APM จะใช้ข้อมูลที่เก็บมาวาดกราฟ
Elastic Observability อินทิเกรตกับ Prometheus, Pivotal Cloud Foundry, Istio, MQTT และขยายความสามารถในการรองรับ AWS, GCP และ Azure
ภาพจาก Elastic
ที่มา - Elastic Blog |
# [ลือ] iPad รุ่น entry ตัวใหม่ วางขายครึ่งหลังปีนี้, iPad mini ใหม่ เริ่มไม่มินิ จออาจ 9 นิ้ว
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์คนเดิม ที่มีประวัติให้ข้อมูลไทม์ไลน์สินค้าใหม่แอปเปิลได้แม่นยำที่สุด ออกรายงานฉบับใหม่เกี่ยวกับ iPad (รุ่น entry ราคาถูก) และ iPad mini ตลอดจนสินค้าใหม่แว่นตา AR เอาไว้ดังนี้
Kuo ระบุว่า iPad รุ่น entry ตัวใหม่ จะวางขายในครึ่งหลังของปีนี้ 2020 มีหน้าจอเพิ่มขึ้นเป็น 10.8 นิ้ว เทียบกับรุ่นปัจจุบันที่ 10.2 นิ้ว ส่วน iPad mini ก็เริ่มไม่เล็กตามชื่อ โดยขนาดหน้าจอจะเพิ่มเป็นราว 8.5-9 นิ้ว จากปัจจุบัน 7.9 นิ้ว วางขายในครึ่งแรกของปีหน้า 2021
รายงานระบุว่า iPad ทั้งสองรุ่น จะเน้นทำราคาให้ไม่สูง เป็นกลยุทธ์เดียวกับที่ใช้ของ iPhone SE ตอนนี้
นอกจากนี้ Kuo ยังระบุถึงสินค้าใหม่ที่แอปเปิลพัฒนาอยู่คือแว่นตา AR โดยจะวางขายได้เร็วที่สุดในปี 2022 แต่ยังไม่มีรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม
ที่มา: The Verge |
# Apple ซื้อกิจการ NextVR ผู้ให้บริการ VR สำหรับการชมกีฬาและคอนเสิร์ต
แอปเปิลได้เข้าซื้อกิจการ NextVR ผู้ให้บริการ Virtual Reality ที่เน้นสำหรับถ่ายทอดสดงานด้านบันเทิง และการแข่งขันกีฬา โดยไม่ได้เปิดเผยมูลค่าของดีล ซึ่งเป็นไปตามข่าวลือที่ออกมาเดือนที่แล้ว ทั้งนี้หากอ้างตามข่าวลือเดิม ดีลนี้มีมูลค่าที่ราว 100 ล้านดอลลาร์
NextVR ให้บริการรับการถ่ายทอดสดกีฬา คอนเสิร์ต ผ่านอุปกรณ์ VR โดยมีพาร์ทเนอร์รายสำคัญ อาทิ NBA, Fox Sports และ Wimbledon
ตัวแทนของแอปเปิลยืนยันการซื้อกิจการดังกล่าว ด้วยประโยคชี้แจงแบบเดิม ว่าแอปเปิลซื้อกิจการด้านเทคโนโลยีขนาดเล็กอยู่ตลอด ซึ่งบริษัทจะไม่ชี้แจงถึงแผนงานในอนาคต
ประเด็นที่น่าสนใจของดีลนี้นั่นคือแอปเปิลเริ่มแสดงความสนใจในตลาด VR แล้ว จากที่ผ่านมาบริษัทแสดงท่าทีโฟกัสแต่เพียง AR มาโดยตลอด
ที่มา: CNBC |
# Chrome จะแบนโฆษณาที่กินพลังซีพียูเยอะ ใช้ปริมาณข้อมูลมาก เริ่มปลายเดือน ส.ค.
Chrome ประกาศแผนการแบนโฆษณาที่กินทรัพยากรสูง (resource-heavy ads) ที่ส่งผลต่อประสบการณ์ใช้งานเบราว์เซอร์
เงื่อนไขของโฆษณาที่กินทรัพยากรสูง จะต้องเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่ง
ใช้ปริมาณข้อมูลผ่านเครือข่ายเกิน 4MB
ใช้เวลาซีพียูเกิน 15 วินาที ในช่วงเวลาทุก 30 วินาที
ใช้เวลาซีพียูเกิน 60 วินาที
Chrome ยกตัวอย่างโฆษณากลุ่มนี้คือ โฆษณาที่แอบฝั่งสคริปต์ขุดคริปโต หรือโฆษณาที่เขียนโปรแกรมมาไม่ดี ไม่ได้ปรับแต่งทรัพยากรให้เหมาะสม เมื่อถึงขีดจำกัดที่ Chrome ตั้งไว้ โฆษณากลุ่มนี้จะถูกบล็อค กลายเป็นช่องว่างๆ ที่เขียนว่า "Ad removed" แทน
Chrome ให้ข้อมูลทางสถิติว่า โฆษณากลุ่มนี้มีสัดส่วนเพียง 0.3% ของโฆษณาทั้งหมด แต่กลับกินพลังซีพียูรวมกันถึง 28% และใช้ปริมาณข้อมูลถึง 27% จึงต้องถูกจำกัดเพื่อรักษาประสบการณ์ของผู้ใช้
Chrome จะเริ่มทดลองแบนโฆษณากลุ่มนี้ช่วงปลายเดือนสิงหาคม และทดลองไปอีกหลายเดือนเพื่อให้ผู้สร้างโฆษณามีเวลาปรับตัว
ที่มา - Chromium Blog |
# ผู้สร้าง Nodejs ปล่อย Deno โครงการรันจาวาสคริปต์นอกเบราว์เซอร์ที่เขียนด้วย Rust
Ryan Dahl ผู้เริ่มโครงการ Nodejs เมื่อปี 2009 และออกจากโครงการไปเมื่อปี 2012 กลับมาพัฒนาโครงการ Deno ที่เป็นรันไทม์สำหรับรันจาวาสคริปต์นอกเบราว์เซอร์เหมือนกัน แต่พัฒนาขึ้นด้วยแนวคิดที่ต่างออกไป โดยเลือกใช้ภาษา Rust ในการพัฒนา และสร้างโครงการ rust_v8 สำหรับนำเอาเอนจิน V8 มาใช้งาน และตอนนี้ Deno ก็ออกเวอร์ชั่น 1.0 พร้อมสำหรับการใช้งานจริงแล้ว
ฟีเจอร์สำคัญของ Deno ได้แก่
รันโค้ดด้วยความปลอดภัยสูงสุดเป็นค่าเริ่มต้น โค้ดไม่สามารถเชื่อมต่อเน็ตเวิร์ค, เขียนไฟล์, หรือเข้าถึงระบบภายนอกได้หากไม่ได้อนุญาตเป็นพิเศษ เช่นจะทำเว็บเซิร์ฟเวอร์ต้องใส่แฟลก --allow-net
รองรับ TypeScript เป็นมาตรฐาน
ติดตั้งด้วยไบนารีเดียว
มีระบบตรวจสอบ dependency มาในตัว และตัวฟอร์แมตโค้ดแบบมาตรฐาน
มีไลบรารีมาตรฐานโดยไม่ต้องพึ่งโครงการภายนอก โดยพอร์ตจากไลบรารีของ Go เป็นหลัก
Ryan Dahl, Bert Belder, และ Bartek Iwańczuk ผู้ประกาศเวอร์ชั่น 1.0 นี้เตือนว่าแม้ Deno จะคล้าย Nodejs แต่มันเป็นคนละโครงการกันเด็ดขาด บางโครงการอาจจะไม่พร้อมที่จะมาใช้ Deno ทดแทน โดยเฉพาะระบบโมดูลที่ไม่สามารถใช้ npm ได้
ที่มา - Deno |
# AWS เปิดตัว cdk8s คอนฟิก Kubernetes เป็นโค้ดแบบเขียนโปรแกรม รองรับ JavaScript, TypeScript, และ Python
AWS เปิดตัวโครงการ Cloud Development Kit for Kubernetes (cdk8s) เฟรมเวิร์คสำหรับการแปลงโค้ดภาษาโปรแกรมที่นักพัฒนาคุ้นเคยมามาสร้างคอนฟิก YAML สำหรับ Kubernetes
ก่อนหน้านี้ AWS มีโครงการ CDK อยู่ก่อนแล้วแต่เป็นการสร้างคอนฟิกสำหรับ CloudFormation ของ AWS เอง ในรอบนี้ cdk8s จะสามารถใช้งานกับ Kubernetes ใดๆ ก็ได้
cdk8s จะทำให้ออปเจกต์ใน Kubernetes ที่ต้องเขียนคอนฟิกกลายเป็นคลาสในภาษาโปรแกรม กระบวนการสร้างคอนฟิกสามารถใส่เงื่อนไขต่างๆ ลงไปในโค้ด เช่นคลัสเตอร์สำหรับพัฒนามีขนาดเล็กกว่าโปรดักชั่น หรือคนละ namespace โดยตอนนี้รองรับออปเจกต์มาตรฐานของ Kubernetes เอง, CRD และมีแผนจะรองรับ Helm chart
โครงการอยู่ในระดับอัลฟ่า รองรับภาษา JavaScript, TypeScript, และ Python โดยเตรียมรองรับ Java, .NET และ Go ต่อไป
ที่มา - AWS Blog |
# Windows 10 เริ่มทดสอบ DNS-over-HTTPS
มาตรฐาน DNS-over-HTTPS (DoH) เริ่มได้รับความนิยมจากเบราว์เซอร์และระบบปฎิบัติการหลายตัวในช่วงหลัง ล่าสุดไมโครซอฟท์ก็เริ่มทดสอบ DoH ใน Windows 10
ฟีเจอร์นี้เปิดให้ Windows Insider กลุ่ม Fast Ring เท่านั้น (เลข Build 19628) โดยจะเพิ่ม registry ที่ชื่อว่า "EnableAutoDoh" เข้ามา
ตอนนี้การใช้ DoH บน Windows 10 ยังไม่สามารถคอนฟิกใช้งานได้เอง แต่หากเปิดฟีเจอร์ไว้และคอนฟิก DNS ที่ไมโครซอฟท์รู้ว่ารองรับ DoH ก็จะสลับไปใช้งานเอง โดยตอนนี้รองรับ Cloudflare (1.1.1.1), Google (8.8.8.8), และ Quad9 (9.9.9.9) หลังจากคอนฟิกและบูตเครื่อง น่าจะไม่เห็นข้อมูลวิ่งไปยังพอร์ต 53 อีกต่อไป
ที่มา - Microsoft TechCommunity |
Subsets and Splits
No saved queries yet
Save your SQL queries to embed, download, and access them later. Queries will appear here once saved.