txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# Java ฉลองครบ 25 ปี, Oracle ยืดระยะซัพพอร์ต Java SE 8 ให้ถึงสิ้นปี 2030
Oracle ประกาศฉลอง Java อายุครบ 25 ปี (เปิดตัวครั้งแรกปี 1995) ด้วยสโลแกน “Our World. Moved by Java.” และประกาศยืดอายุซัพพอร์ตของ Java SE 8
Java SE 8 สำหรับผู้ใช้ทั่วไป (ฟรี) แผนเดิม หยุดอัพเดตเดือนธันวาคม 2020 เปลี่ยนเป็น อัพเดตให้ต่อเนื่องอย่างไม่มีกำหนดสิ้นสุด (indefinitely) โดยสัญญาว่าจะแจ้งก่อน 18 เดือนเมื่อกำหนดวันสิ้นสุดได้แล้ว
Java SE 8 เชิงพาณิชย์ (เสียเงิน) แผนเดิม อัพเดตและซัพพอร์ตให้ถึงเดือนมีนาคม 2025 เปลี่ยนเป็นเดือนธันวาคม 2030
Java Web Start ให้บริการซัพพอร์ตเชิงพาณิชย์ถึงเดือนธันวาคม 2030, ใช้งานส่วนตัวได้เท่าอายุของ Java SE 8 ที่ยังไม่กำหนดวัน
JavaFX แผนเดิม ซัพพอร์ตถึงเดือนมีนาคม 2022 ขยายเป็นเดือนมีนาคม 2025, ยืนยันว่ายังพัฒนาโครงการ OpenJFX ต่อไป
ปัจจุบัน Java ใช้ระบบการออกรุ่นใหม่ทุก 6 เดือน เวอร์ชันล่าสุดในตอนนี้คือ Java 14 แต่จะมีรุ่น LTS ที่มีระยะซัพพอร์ตยาวนานให้องค์กรใช้กัน โดย LTS รุ่นล่าสุดคือ Java 11 ที่ใช้ได้นานถึงปี 2026
ที่มา - Oracle (1), Oracle (2) |
# Epic Games Store แจก GTA V ฟรีถึง 21 พฤษภาคม, ทำเว็บล่มเรียบร้อย
หลังจากที่ Epic Games ประกาศจะแจกเกมฟรีปริศนา ก่อนที่เริ่มมีข่าวหลุดออกมาเป็น GTA V ล่าสุด Epic Games Store เริ่มแจกฟรีเกม GTA V วันนี้ (14 พฤษภาคม) เวลา 4 ทุ่ม โดยจะแจกถึงวันที่ 21 พฤษภาคมนี้
อย่างไรก็ตามอาจจะด้วยความเป็นเกมใหญ่ระดับ GTA V ทำให้ตอนนี้ Epic Games Store ล่มเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ 4 ทุ่มที่ผ่านมา
ที่มา - Epic Games |
# Ampere มาแล้ว NVIDIA เปิดตัว A100 จีพียูเซิร์ฟเวอร์และ AI พลัง 19.5 TFLOPS
NVIDIA เปิดตัว A100 จีพียูตัวแรกบนสถาปัตยกรรมใหม่ Ampere โดยเป็นจีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูลและงานประมวลผล AI พร้อมด้วยการเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ NVIDIA DGX-A100 ที่ยัดเอาการ์ด A100 ทั้งหมด 8 ใบให้ทำงานร่วมกัน
ตัว NVIDIA A100 มีทรานซิสเตอร์ทั้งหมด 5.4 หมื่นล้านหน่วย บนชิปขนาด 7 นาโนเมตร มี CUDA Core จำนวน 6,912 คอร์ แรมขนาด 40GB บนแบนด์วิธ 1.6Tbps พลังประมวลผลจำนวนเลขทศนิยม (FP32) ที่ 19.5 teraflop
จีพียูตัวก่อนหน้าของ NVIDIA A100 ต้องเทียบกับ NVIDIA Tesla V100 ที่เป็นสถาปัตยกรรม Volta ที่ออกในปี 2017 และเป็นจีพียูตัวแรกที่มี Tensor Core (A100 จะนับเป็น Tensor Core รุ่นที่สาม)
ของใหม่ใน A100 คือการประมวลผลทศนิยมแบบใหม่ที่เรียกว่า Tensor Float (TF32) กับ Floating Point 64 (FP64) โดย TF32 จะเหมือนกับทศนิยมแบบ FP32 ปกติ แต่เปลี่ยนวิธีประมวลผลใหม่ด้วย Tensor Core ให้ความเร็วการประมวลผล AI เร็วขึ้นได้สูงสุดถึง 20 เท่า โดยไม่ต้องแก้ไขโค้ดเดิม
ขณะที่เซิร์ฟเวอร์ DGX-A100 เป็นการเอาการ์ด A100 8 ใบมาทำงานร่วมกันผ่านบัส NVLink ทำให้มีพลังประมวลผลถึง 5 petaflops ส่วนประกอบอื่นๆ คือใช้ซีพียู AMD Epyc 7742 สองชุด, แรมทั้งหมด 320GB, สตอเรจ NVMe 15TB, เน็ตเวิร์คการ์ดของ Mellanox ที่เพิ่งซื้อกิจการมา 9 ใบ มีแบนด์วิธ 2 ทาง (bidirectional) รวมกันกว่า 3.6Tbps
ราคา DGX-A100 เริ่มที่ 199,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6.4 ล้านบาท ตอนนี้ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่เกือบทุกรายก็ประกาศนำ A100 ไปใช้งานในระบบของตัวเอง และผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์หลายรายก็ประกาศเตรียมผลิตเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ A100 เช่นกัน
ที่มา - NVIDIA (1, 2), The Verge |
# Nintendo เปิดตัว Paper Mario: The Origami King ภาคที่ 6 ของ Mario เวอร์ชันกระดาษ
นินเทนโดเปิดตัวเกมภาคใหม่ของซีรี่ส์ Paper Mario ในชื่อ Paper Mario: The Origami King ซึ่งจะลงในแพลตฟอร์ม Nintendo Switch ถือเป็นภาคที่ 6 ต่อจากภาคก่อนหน้าบน Wii U
เนื้อหาในภาคนี้ Mario จะมีผู้ช่วยคนใหม่ชื่อ Olivia ร่วมกันช่วยเจ้าหญิง Peach จากการรุกรานของศัตรู ที่คราวนี้มารูปแบบของงานพับกระดาษ ตามชื่อตอน Origami และแก้ปัญหาต่าง ๆ ตลอดเกม ก่อนที่โลกนี้จะถูกพับกระดาษทบจนหมด
นินเทนโดระบุว่าลูกเล่นสำคัญในภาคนี้คือ Mario สามารถต่อแขนเพื่อใส่อุปกรณ์เสริมสำหรับแก้ไขปัญหาหรือต่อสู้ในฉากต่าง ๆ
เกมจะวางจำหน่าย 17 กรกฎาคมนี้ ทั้งแบบตลับเกมและผ่าน eShop ราคาขายในอเมริกา 59.99 ดอลลาร์ และญี่ปุ่น 6,578 เยน (รวมภาษี)
ที่มา: นินเทนโด |
# รัฐบาลทรัมป์ต่อระยะเวลาคำสั่งแบน Huawei เพิ่มไปอีกปี
กลางเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกคำสั่งบริหาร ห้ามบริษัทสัญชาติอเมริกันทำธุรกิจและใช้อุปกรณ์สื่อสารกับบริษัทที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าพุ่งเป้าไปที่ Huawei และ ZTE เป็นหลัก โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 1 ปี ล่าสุดประธานาธิบดีสั่งขยายคำสั่งบริหารดังกล่าวออกไปอีก 1 ปี
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ ที่มีอำนาจในการออกใบอนุญาตให้กับบริษัทอเมริกันเพื่อทำธุรกิจกับ Huawei (พิจารณาเป็นกรณีไป) ก็น่าจะขยายใบอนุญาตดังกล่าวที่กำลังจะหมดอายุในวันพรุ่งนี้ออกไปเช่นกัน
ที่มา - Reuters |
# ประยุทธ์เป็นคนตั้งชื่อแอปไทยชนะเอง เพราะฟังแล้วฮึกเหิมดี
จากประเด็นแอปไทยชนะที่รัฐบาลเปิดตัว หวังเป็นแพลตฟอร์มจัดการความหนาแน่นในร้านค้าต่างๆ ในช่วงผ่อนปรน มีรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยว่า คนที่ตั้งชื่อแอปไทยชนะ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, รมว.กลาโหม และ ผู้อำนวยการ ศบค. เนื่องจากให้ความรู้สึกฮึกเหิมดี
แอปไทยชนะ คือ กระบวนการที่ให้ร้านค้าติด QR ให้ลูกค้ามาลงแอปพลิเคชั่นสำหรับการ check-in/check-out เพื่อให้ทางศบค. สามารถเรียกผู้ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อตามช่วงเวลาที่เข้าใกล้ผู้ติดเชื้อ โดยผู้ที่ได้รับข้อความแจ้งเตือนจะสามารถนำข้อความไปยังโรงพยาบาลเพื่อขอรับการตรวจได้ฟรี
ภาพจาก Facebook ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ที่มา - ข่าวสด |
# ซีอีโอ Epic เผย SSD บน PS5 เหนือกว่าบนพีซี, รันเดโม UE5 ที่ 1440p เกือบตลอดเวลา
จากการเปิดตัว Unreal Engine 5 ไปเมื่อคืน Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games ได้ให้สัมภาษณ์กับ Eurogamer ในเรื่องของตัวเอนจิน โดยมีประเด็นที่น่าสนใจคือ Sweeney ยอมรับว่าสถาปัตยกรรม SSD บน PS5 เหนือกว่าตัวท็อปบนพีซีอยู่หลายขุม
Sweeney อธิบายว่า Unreal Engine ตัวใหม่ดึงศักยภาพฮาร์ดแวร์ออกมามหาศาลเพื่อเรนเดอร์โพลีกอนและแสงให้ออกมาละเอียดและเหมือนจริงอย่างที่ได้เห็น หนึ่งในนั้นคือการดึงศักยภาพ SSD รุ่นใหม่ออกมา ที่ช่วยให้การโหลดโพลีกอนเร็วกว่าเดิมมาก ๆ โดย Sweeney บอกว่าสถาปัตยกรรมด้าน SSD ของโซนี่บน PS5 คือระดับเทพ (god-tier) ที่ล้ำหน้าสถาปัตยกรรมที่ใช้บนไฮเอนด์พีซี และเมื่อทำงานร่วมงาน NVMe เลยช่วยให้ประสิทธิภาพของเดโมออกมาอย่างที่เห็น
นอกจากนี้ Sweeney บอกด้วยว่าตัวเดโมที่เรนเดอร์ได้แบบเรียลไทม์นั้น เป็นเพราะแสดงความละเอียดแบบ dynamic resolution แต่ก็กลับสามารถแสดงผลได้ที่ 1440p เกือบตลอดเวลา (most of the time)
ทั้งนี้ ตอนที่ Mark Cerny หัวหน้าสถาปนิกที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ PS5 5 ออกมาอธิบายสเปก เขาก็บอกว่าโซนี่ออกแบบแฟลชคอนโทรลเลอร์สำหรับ SSD และระบบ I/O ข้างในขึ้นมาใหม่ ที่เปลี่ยน paradigm การทำงานและการพัฒนาเกมไปเลย ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ Sweeney ออกมาแสดงความเห็นข้างต้น
ที่มา - Eurogamer |
# AMD เปิดตัว Radeon Pro VII จีพียูเวิร์คสเตชันพลัง Vega ชูจุดเด่น Double Precision
AMD มีจีพียูกลุ่มเวิร์คสเตชันแบรนด์ Radeon Pro (เป็นคู่แข่งกับ Quadro) สำหรับตลาดมืออาชีพเฉพาะทางในหลายระดับราคา ล่าสุด AMD เปิดตัว Radeon Pro VII มาทำตลาดเพิ่มเติม
Radeon Pro VII เป็นจีพียูเวอร์ชันอัพเกรดของ Radeon VII ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2019 โดยยังเป็นจีพียูสถาปัตยกรรม Vega แบบ 7 นาโนเมตร (โค้ดเนม Vega20) ตัวเดียวกัน มีจำนวนหน่วยประมวลผล 3840 ตัว และแรม HBM2 16GB เท่ากัน แต่เพิ่มสมรรถนะการคำนวณทศนิยมแบบ double precision (FP64) จากเดิม 3.5 TFLOPS มาเป็น 6.5 TFLOPs ถือว่าเยอะที่สุดในบรรดา Radeon Pro ทุกตัวตอนนี้ (ซึ่งรวมถึง Radeon Pro ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA ที่ใหม่กว่าด้วย)
อีกฟีเจอร์ที่เพิ่มมาในรุ่น Pro คือรองรับบัสความเร็วสูงแบบ Infinity Fabric Link สำหรับเชื่อมต่อ Radeon Pro VII สองตัวเข้าด้วยกัน ซึ่ง AMD คุยว่าซื้อ Radeon Pro VII สองตัวมาต่อกันแบบนี้ ให้ประสิทธิภาพต่อราคาดีกว่าซื้อ NVIDIA Quadro ในรุ่นที่จับตลาดเดียวกันมาก (ดูตารางประกอบ)
ราคาขายตัวละ 1,899 ดอลลาร์ เริ่มวางขายช่วงกลางเดือนมิถุนายน และพีซีเวิร์คสเตชันที่ใช้ Radeon Pro VII จะเริ่มวางขายในช่วงครึ่งหลังของปี 2020
ที่มา - AMD, AnandTech, Notebookcheck |
# OnePlus 8 เปิดราคาในไทย เริ่ม 28,990 บาท, OnePlus 8 Pro เริ่ม 34,990 บาท
OnePlus 8 Series เปิดราคาวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้
OnePlus 8 เริ่มต้นที่ 28,990 บาท
OnePlus 8 Pro เริ่มต้นที่ 34,990 บาท
OnePlus เปิดให้จองตั้งแต่ 15.00 น. วันนี้ (14 พฤษภาคม) ไปจนถึง 22 พฤษภาคมนี้ ผ่านช่องทาง AIS, Lazada, JD Central, Shopee และ This Shop พร้อมของแถม VIP Card ประกันจอแตก 1 ครั้ง ต่อ 1 ปี และ Special Box Set ที่ภายในมีของแถม เช่น เคส หูฟังไร้สาย และอื่นๆ จำนวนจำกัด ก่อนจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้
ที่มา - Live ของ OnePlus |
# อินเทลเปิดตัวซีพียู Core 10th Gen กลุ่ม vPro สำหรับภาคธุรกิจ ทั้งเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊ก
หลังจากเปิดตัว Core 10th Gen สำหรับเดสก์ท็อปได้ประมาณ 2 สัปดาห์ อินเทลก็เติมสินค้าให้ครบไลน์ด้วยการเปิดตัวซีพียู Core 10th Gen กลุ่ม vPro สำหรับโน้ตบุ๊ก-เดสก์ท็อปฝั่งธุรกิจตามมา
Core 10th Gen vPro ที่เปิดตัวชุดนี้ มีทั้งซีพียูกลุ่มโน้ตบุ๊ก (รหัส H และ U) และซีพียูกลุ่มเดสก์ท็อป (Comet Lake-S) ซึ่งรวมถึงซีพียูกลุ่ม Xeon Workstation (รหัส W) ด้วย
ในแง่ตัวผลิตภัณฑ์คงไม่มีอะไรต่างจากซีพียูตัวเดียวกันรุ่นที่ไม่ห้อย vPro นอกจากฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย (Intel Hardware Shield), ฟีเจอร์ด้านการจัดการจากระยะไกล (Intel Active Management Technology และ Intel Endpoint Management Assistance) และการันตีว่าซัพพลายเชนของอินเทลปลอดภัย ตรวจสอบย้อนกลับได้
การเปิดตัว Core 10th Gen vPro ทำให้อินเทลเริ่มส่งมอบสินค้าให้ผู้ผลิตพีซี OEM และน่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์เริ่มออกขายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว AMD ก็เพิ่งเปิดตัว Ryzen Pro ซีรีส์ 4000 เวอร์ชันสำหรับพีซีธุรกิจ ที่มีฟีเจอร์แบบเดียวกัน
ที่มา - Intel |
# ศบค. เตรียมเปิดแพลตฟอร์มไทยชนะสำหรับการลงเวลาเข้าออกร้านค้า, หากได้รับแจ้งเตือนได้ตรวจฟรี
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดตัวแพลตฟอร์มออกแพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" ทดแทนการลงชื่อใช้บริการร้านค้าในช่วงผ่อนปรน
กระบวนการของไทยชนะจะให้ร้านค้าติด QR ให้ลูกค้ามาลงแอปพลิเคชั่นสำหรับการ check-in/check-out เพื่อให้ทางศบค. สามารถเรียกผู้ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อตามช่วงเวลาที่เข้าใกล้ผู้ติดเชื้อ โดยผู้ที่ได้รับข้อความแจ้งเตือนจะสามารถนำข้อความไปยังโรงพยาบาลเพื่อขอรับการตรวจได้ฟรี
ทางศบค. ระบุว่าข้อมูลทั้งหมดจะดูแลโดยกรมควบคุมโรคและใช้งานเพื่อการติดตามโรคเท่านั้น โดยหากร้านค้าหรือผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้งาน QR ได้ก็ต้องลงทะเบียนด้วยสมุดลงทะเบียนการใช้งานแทน
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าแอปพลิเคชั่นที่จะให้ประชาชนใช้ check-in เป็นตัวใด แต่ทางศบค. ระบุว่าจะมีฟีเจอร์ในการบอกความหนาแน่นของร้านค้า และสามารถรีวิวได้ว่าร้านค้าทำตามมาตรการควบคุมโรคครบถ้วนหรือไม่
ที่มา - การแถลงข่าวศบค. |
# Unreal Engine เลิกเก็บส่วนแบ่ง 5% จากยอดขาย จนกว่าเกมจะทำรายได้ถึง 1 ล้านเหรียญ
ก่อนหน้านี้ ผู้สร้างเกมสามารถใช้ Unreal Engine (UE) สร้างเกมได้ฟรี แต่จะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ 5% จากยอดขาย หากทำเงินได้ตั้งแต่ 3,000 เหรียญสหรัฐต่อไตรมาสขึ้นไป ล่าสุด UE ให้ผู้สร้างเกมใช้งานได้ฟรี และจะเริ่มเก็บ 5% หลังเกมทำเงินได้เกิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น
เช่น หากผู้สร้างมีรายได้จากการขายเกม 2 ล้านเหรียญ ก็จะต้องจ่ายเพียง 5 หมื่นเหรียญ ซึ่งเป็น 5% ของเงิน 1 ล้านที่เกินมา และถ้าจำหน่ายเกมบน Epic Game Store ก็จะไม่ต้องเสีย 5% นี้เลย ไปเสียแค่ 12% ที่ต้องจ่ายให้ Epic Game Store เท่านั้น (เทียบกับ 30% บน Steam)
ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี สำหรับผู้ทำเกมอิสระ หรือรายเล็กๆ แต่ในขณะเดียวกันเอนจิ้น Unity ก็ไม่มีการเรียกเก็บเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย แต่ใช้เป็นการขาย Pro License ปีละ 1,800 เหรียญแทน เป็นอีกทางเลือกที่ดีของผู้สร้างเกมมือใหม่ เพราะจะขายได้เท่าไร ก็จ่ายต่อปีเท่าเดิม
Unreal Engine 5 เปิดให้ใช้งานปีหน้า โดยเกมที่สร้างบน Unreal Engine 4 จะสามารถพอร์ตมาเป็น Unreal Engine 5 ได้ด้วย ส่วนโมเดลการเก็บเงินใหม่นี้ จะถูกนำไปใช้กับ Unreal Engine ทุกเวอร์ชั่น
ที่มา - PCGamer |
# 3 ค่ายมือถือ เปิดให้จอง iPhone SE รุ่นใหม่แล้ววันนี้
ในวันนี้ 14 พฤษภาคม 2563 ทั้งสามผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ และเว็บแอปเปิล apple.com/th ได้เปิดให้จอง iPhone SE รุ่นใหม่ วันนี้วันแรก ซึ่งราคาของผู้ให้บริการ 3 ค่าย ก็มีทั้งราคาเครื่องเปล่า และราคาแบบพร้อมแพ็คเกจติดสัญญาใช้งาน ซึ่งทำให้ราคาเครื่องถูกลง สินค้าจะเริ่มจัดส่งหรือรับได้ตั้งแต่ 31 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
iPhone SE มีตัวเลือก 3 สี ขาว ดำ และแดง (PRODUCT)RED มี 3 ขนาดความจุ โดยราคาเครื่องเปล่าเป็นดังนี้
64GB 14,900 บาท
128GB 16,900 บาท
256GB 20,900 บาท
ราคาเครื่องแบบติดสัญญาเริ่มต้นที่ 8,300 บาท สำหรับ 64GB ซึ่งแตกต่างออกไปตามผู้ให้บริการ รูปแบบแพ็คเกจ และระยะเวลาสัญญา สามารถดูข้อมูลได้จากที่มาของแต่ละผู้ให้บริการ
ที่มา: เอไอเอส , ดีแทค และ ทรูมูฟ เอช |
# Alienware เปิดตัว Area-51m R2 แล็บท็อปเกมมิ่งที่อัพเกรดสเปกภายในได้
หลังเปิดตัว Area-51m ได้ปีเดียว ทั้งที่ขายความสามารถว่าเป็นเกมมิ่งแล็บท็อปที่ใช้ชิ้นส่วนเหมือนเดสก์ท็อปและสามารถอัพเกรดได้ ล่าสุด Alienware เปิดตัวรุ่นใหม่แล้วในชื่อ Area-51m R2
ซีพียูมีตัวเลือกสูงสุดคือ Core i9-10900K แรมสูงสุด DDR4 3200MHz 32GB สตอเรจสูงสุด 4TB (2+2 และทำ RAID0) การ์ดจอสูงสุด RTX 2080 Super 8GB หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด FHD (144Hz) หรือ UHD (60Hz) เริ่มสั่งได้ 9 มิถุนายน ราคาเริ่มต้น 3,049.99 เหรียญ (ราว 98,000 บาท)
ทั้งนี้ปัญหาของ Area-51m รุ่นแรกที่ถึงแม้จะอัพเกรดได้ แต่กลายเป็นว่าสามารถอัพเกรดได้เฉพาะซ๊พียูหรือการ์ดจอเจนเดียวกัน ที่ออกมาสำหรับ Area-51m เท่านั้น (เช่นเปลี่ยนจาก GTX 1660Ti มาเป็น RTX 2070) ไม่สามารถข้ามมาใช้ RTX 2070 Super ที่ออกให้กับ Area-51m R2 ได้ เช่นเดียวกับซีพียูที่ไม่สามารถเปลี่ยนจาก 9th Gen มา 10th Gen ได้ (อันนี้คงต้องโทษ Intel ด้วยเรื่องเปลี่ยนซ็อกเก็ต)
ที่มา - Notebookcheck, The Verge |
# The Culling 2 เกม Battle Royale ที่เจ๊งเพราะไม่มีคนเล่น กลับมาใหม่แบบต้องจ่ายเงินเล่นทุกแมตช์
The Culling 2 เกม Battle Royale ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2018 ช่วงที่ PUBG และ Fortnite กำลังบูม และไม่สามารถแย่งผู้เล่นมาจากเกมดังได้ จนต้องเลิกขายเมื่อผ่านไปอาทิตย์เดียว เตรียมนำภาคแรกกลับมาเปิดตัวใหม่บน Xbox One แทน ในชื่อ The Culling: Origins วันที่ 14 พฤษภาคมนี้
ผู้เล่นที่ไม่ได้ซื้อเกมนี้ตอนวางจำหน่ายรอบแรก ต้องจ่ายเงินซื้อในราคา 5.99 เหรียญสหรัฐ และจะได้เล่นฟรี แค่ 1 แมตช์ ต่อวัน หลังจากนั้นจะต้องซื้อ tokens เพื่อเข้าเล่นแมตช์ต่อไป โดย Xaviant ผู้สร้างเกม กล่าวว่าจะมี “แพ็ค tokens สำหรับเล่นออนไลน์และ pass ที่ใช้เล่นเกมแบบสัปดาห์ หรือแบบเดือนขายด้วย” หรือไม่ผู้เล่นก็ต้องเล่นให้ชนะ เพื่อรับรางวัลเป็น tokens ไว้เล่นแมตช์ต่อไป
เกมแนว Battle Royale 1 แมตช์ อาจจบได้ภายในเวลาไม่กี่วินาทีหลังโดดร่ม (หรือพุ่งตัว) ลงไปเริ่มเกมเท่านั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือและดวงพอสมควร การขาย tokens เพื่อเข้าเล่นแบบ 1 แมตช์ จึงเป็นอะไรที่ประหลาดมาก แถม Xaviant ยังไม่ขายกล่องสุ่มของ หรือของตกแต่งตัวละครแล้วด้วย แต่หวังพึ่งโมเดลขาย tokens อย่างเดียว
ที่มา - Polygon |
# พบช่องโหว่ยกระดับสิทธิบนปลั๊กอิน Google Site Kit ให้เข้าถึงและควบคุม Search Console
Google Site Kit คือปลั๊กอินที่แสดงผลต่างๆ จากเครื่องมือของ Google ไม่ว่าจะเป็น Analytics, Page Speed, Search Console และ Adwords ผ่านระบบหลังบ้านของ WordPress
ล่าสุดนักวิจัยของ WordFrence ได้ค้นพบช่องโหว่ระดับร้ายแรงบนปลั๊กอินที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ บน Google Search Conosle ได้ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไข sitemap, ลบเพจออกจากผลการค้นหาหรือเปลี่นนเส้นทางเพื่อหวังผลทาง SEO และมันสามารถทำให้ผู้โจมตีเปลี่ยนสิทธิ์ของผู้ใช้ภายในเว็บไซต์ WordPress จาก subscriber ซึ่งเป็นสิทธิ์ต่ำสุดกลายเป็น administator ได้เอง
WordFrence แจ้งเรื่องนี้ไปทาง Google แล้วเมื่อวันที่ 21 เมษายน โดยทาง Google ก็ได้ปล่อยอัปเดตปลั๊กอินเวอร์ชัน 1.8.0 เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้แล้วเช่นกัน หากผู้ใช้ที่ยังคงใช้งานเวอร์ชันต่ำกว่า แนะนำให้อัปเดตทันทีเพื่อเลี่ยงต่อการถูกโจมตีได้
ที่มา : Search Engine Journal, WordFrence |
# Uber เตรียมให้คนขับถ่ายเซลฟี่ยืนยันว่าใส่หน้ากากจริง, จำกัดจำนวนคนในรถไม่เกิน 3 คน
Uber เตรียมมาตรการรับมือกับ new normal ให้คนขับและผู้โดยสารใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง, ภายในรถต้องมีคนนั่งไม่เกิน 3 คน, ไม่ให้ผู้โดยสารนั่งเบาะหน้าคู่กับคนขับ เริ่มมีผลใช้งานวันที่ 18 พ.ค. นี้ และเตรียมให้ให้คนขับถ่ายรูปเซลฟี่ในแอปเพื่อยืนยันว่าใส่หน้ากากอนามัยจริง
Dara Khosrowshahi ซีอีโอ Uber ยังประกาศด้วยว่าได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์กันเชื้อให้คนขับ 50 ล้านเหรียญไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ทิชชู่เช็ดทำความสะอาด นอกจากนี้บริษัทยังได้สำรองหน้ากากอนามัยให้คนทำงานทั้งคนขับรถ Uber และคนส่งอาหารทั่วโลกแล้วกว่า 23 ล้านชิ้น
COVID-19 ส่งผลกระทบทางตรงต่อ Uber ก่อนหน้านี้ก็ปลดพนักงานไปแล้ว 3,700 คน
ที่มา - The Verge |
# ผู้ใช้ Facebook ในสหรัฐฯ สร้างตัวอวตารของตัวเองโพสต์ในคอมเม้นท์ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ Facebook เปิดตัว Facebook Avatars ให้ผู้ใช้งานสร้างตัวละครอวตารของตัวเองไว้ใช้ในโอกาสต่างๆ ล่าสุดเริ่มเปิดใช้งานในสหรัฐฯ แล้ว วิธีใช้งานคือ กดที่ Make Your Avatar ในเมนูสติกเกอร์ ก็สามารถสร้างตัวละครอวตารของตัวเองได้ เลือกทรงผม สีผิว เสื้อผ้าได้
การสร้างอวตารเป็นฟีเจอร์ที่ Snapchat ก็มีคือ BitMoji แต่ต้องโหลดเป็นแอปแยกเพื่อที่จะใช้งานตัวอวตารใน Snapchat ได้ จนถึงตอนนี้ Facebook Avatars ยังใช้ได้เฉพาะการโพสต์ใต้คอมเม้นท์เพื่อนๆ เป็นรูปโปรไฟล์ใน Facebook Gaming และใช้ใน Facebook Messenger
ที่มา - Engadget |
# Slack ปล่อยแอปเวอร์ชันใหม่บนมือถือ ปรับโฉม UI เป็นระบบแท็บให้ใช้งานง่ายขึ้น
Slack เริ่มทดสอบแอปเวอร์ชันเบต้ามาสักระยะหนึ่ง ตอนนี้ Slack เริ่มเปิดให้ผู้ใช้ทั้ง iOS และ Android ได้ใช้ฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการแล้ว
ทีมงาน Slack ระบุว่าการรีดีไซน์แอปบนมือถือเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ออกแอปเวอร์ชันใหม่บนเดสก์ท็อป โดย Slack เวอร์ชันใหม่จะเป็นการคิดใหม่เพื่อทำให้แอปใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่ยกมาจากแอปบนเดสก์ท็อปทั้งหมด โดยจุดที่น่าสนใจคือ Slack เลือกใช้ระบบแท็บในการนำทางตัวแอป, ย้าย DM มาเป็นแท็บเพื่อให้เข้าใช้งานได้ง่ายขึ้น, เพิ่มหน้า Mentions & Reactions สำหรับเก็บรายละเอียดต่าง ๆ แทน Activity เดิม รวมถึงเพิ่ม gesture ปาดซ้ายปาดขวาเพื่อให้ใช้งานได้สะดวก
ตอนนี้ Slack เวอร์ชันใหม่อัพเดตได้แล้วผ่าน App Store และ Google Play ซึ่งทาง Slack จะทยอยเปิด UI แบบใหม่ให้ทุกคนได้ใช้งานครบภายในสัปดาห์หน้า
ที่มา - Slack
ภาพจาก Slack |
# Cisco ไตรมาสล่าสุด มองโอกาสที่องค์กรให้พนักงานทำงานแบบรีโมทมากขึ้น
Cisco รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2020 (กุมภาพันธ์-เมษายน) รายได้รวม 11,983 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,774 ล้านดอลลาร์
Chuck Robbins ซีอีโอ Cisco ระบุว่าสถานการณ์โรคระบาด ทำให้องค์กรทั่วโลกต้องปรับการทำงานมาเป็นดิจิทัลมากขึ้น และสนับสนุนการทำงานแบบรีโมทให้ได้ความเร็วและรองรับผู้ใช้งานมากที่สุดเท่าที่มีมา Cisco จึงโฟกัสไปที่การนำเทคโนโลยีและโซลูชันมาตอบสนองความต้องการลูกค้านี้
กลุ่มธุรกิจหลัก Infrastructure Platform ที่เป็นการขายอุปกรณ์เครือข่าย รายได้ลดลง 15% เป็น 6,429 ล้านดอลลาร์ สาเหตุหลักจากปัญหาการผลิต และการขาดแคลนชิ้นส่วน ส่วน WebEx ที่เปิดให้ทดลองใช้งาน Cisco มองว่าเป็นโอกาสสร้างรายได้ในอนาคต
ที่มา: Cisco และ CNBC |
# Chrome เพิ่มฟีเจอร์จัดกลุ่มแท็บ เริ่มใช้ได้แล้วในเบต้า
Chrome ประกาศฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า tab groups จัดกลุ่มแท็บโดยสามารถตั้งชื่อและกำหนดสีให้แต่ละกลุ่มได้ หลังจากทดสอบในวงจำกัดมาแล้วหลายเดือน
ระหว่างการทดสอบกูเกิลพบว่าผู้ใช้มักตั้งชื่อกลุ่มตามหัวข้อการใช้งาน, ความรีบด่วนของงาน (ทันที, สัปดาห์นี้, ทำทีหลัง), ตามสถานะงาน (เริ่มแล้ว, กำลังทำ, ติดตามผล) โดยกูเกิลแนะนำว่าสามารถใช้อีโมจิเป็นชื่อกลุ่มก็ได้เหมือนกัน
tab group รองรับ Chrome บนวินโดวส์, แมค, ลินุกซ์, และ Chrome OS โดยตอนนี้เปิดใช้งานในเ Chrome Beta แล้ว และจะเข้าเวอร์ชั่นเสถียรในสัปดาห์หน้า
ที่มา - Google Blog |
# Google ผิดหวังกับ Pixel 4, หัวหน้าทีม Pixel กับหัวหน้าทีมพัฒนากล้องลาออกแล้ว
เว็บไซต์ The Information เผยแพร่รายงานเบื้องหลังทีมพัฒนาสมาร์ทโฟน Google Pixel ที่ได้รับการยกย่องว่าคุณภาพกล้องอยู่อันดับต้นๆ เสมอมา โดยรายงานระบุว่า Rick Osterloh หัวหน้าทีมฮาร์ดแวร์ของ Google รู้สึกผิดหวังกับ Pixel 4 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งภายในทีมเองก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับผลิตภัณฑ์ของตัวเองตั้งแต่ก่อนเปิดตัวด้วยซ้ำ
รายงานบอกว่า Rick ผิดหวังที่ Pixel 4 มีแบตเตอรี่ที่เล็ก รวมถึงเรื่องการออกแบบและการตัดสินใจในเรื่องสเปก ซึ่งหลังเปิดตัวก็มีการประเมินว่า Pixel 4 ขายไม่ดีเท่า Pixel 3 รวมถึงหัวหน้าฝ่ายฮาร์ดแวร์ก็ออกอาการผิดหวังด้วย ทำให้สมาชิกหลักของทีม Pixel ลาออกไปแล้วถึง 2 คน
สมาชิกทีมคนแรกที่ลาออกคือ Mario Queiroz ที่อยู่ Google มาตั้งแต่ปี 2005 โดยเขาเป็นหัวหน้าทีม Pixel มาตั้งแต่ Pixel รุ่นแรก และมีส่วนร่วมกับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Google นั่นก็คือ Nexus One ด้วย
สมาชิกคนถัดมาที่ลาออกคือ Marc Levoy นักวิจัยและหัวหน้าทีมพัฒนากล้องอันเป็นที่เลื่องลือของ Pixel โดยเขาเป็นผู้นำการพัฒนาเทคโนโลยีกล้องใน Pixel เช่น HDR+, Portrait Mode และ Night Sight ซึ่งหากจำกันได้ เขาเป็นคนพูดเรื่องกล้องของ Pixel 4 บนเวทีเปิดตัวเองเลย
Marc Levoy บนเวทีเปิดตัว Pixel 4
ก็เป็นที่น่าใจหายที่หัวหอกในการพัฒนากล้องซึ่งเป็นจุดขายหลักของ Pixel นั้นไม่อยู่เสียแล้ว คงต้องรอดูปลายปีนี้ว่า Pixel 5 จะทำออกมาได้น่าตื่นเต้นและทวงแชมป์กล้องมือถืออันดับต้นๆ กลับมาได้หรือไม่
ที่มา - 9to5Google, Android Authority |
# ทวิตเตอร์เปิดบัญชี @TwitterThailand แต่ถูกต้อนรับด้วยแฮชแท็ก #ไม่เอาทวิตเตอร์ไทยแลนด์ หลังเอ่ยถึงความร่วมมือกับรัฐบาลไทย
ทวิตเตอร์เปิดบัญชีสำหรับผู้ใช้ในไทยอย่างเป็นทางการในชื่อบัญชี @TwitterThailand โดยระบุว่าจะเป็นช่องทางเชื่อมทวิตเตอร์เข้ากับผู้ใช้ในไทย แต่หลังจากเปิดบัญชีได้เพียงครึ่งวันทวิตเตอร์ในไทยก็มีแฮชแท็ก #ไม่เอาทวิตเตอร์ไทยแลนด์ ขึ้นอันดับหนึ่งในประเทศไทยแสดงความกังวลว่าทวิตเตอร์จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการจำกัดเสรีภาพการแสดงออก
เหตุผลของความไม่พอใจมีต่างๆ กันไป ตั้งแต่ บล็อคเปิดตัวพูดถึงกระแสในทวิตเตอร์หลายอย่างแต่ไม่พูดถึงกระแสทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลายครั้ง, การเปิดตัวพูดถึงความร่วมมือกับรัฐบาลไทย และฝังโพสของพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดีอีที่เป็นโพสการพูดคุยกับทวิตเตอร์ในการปราบข่าวปลอม ไปจนถึงบางคนก็ระบุว่าโลโก้ของบัญชีคล้ายกับโลโก้พรรคพลังประชารัฐ
ทางทวิตเตอร์สร้างไอคอนพิเศษฉลองการเปิดบัญชีประเทศไทยครั้งนี้หากใส่แฮชแท็ก เช่น #ทวิตเตอร์ประเทศไทย, #TwitterThailand แต่ดูเหมือนแฮกแท็กต่อต้านจะได้รับความนิยมมากกว่ามาก
ที่มา - Twitter Blog |
# Unreal Engine 5 เปิดตัว เน้นความสมจริงของแสงไปอีกขั้น พร้อมโชว์เดโมบน PS5
Epic Games เปิดตัว Unreal Engine 5 ที่เน้นความสมจริงในแบบ photorealism (ภาพเขียนที่เหมือนภาพถ่าย) ในระดับเดียวกับ CG พร้อมโชว์เดโมแบบไลฟ์ (ไม่ใช่พรีเรนเดอร์) ที่รันบน PlayStation 5 ในชื่อ Lumen in the Land of Nanite ที่เน้นโชว์คอร์เทคโนโลยีใหม่ของเอนจิน 2 ตัว
ตัวแรก Lumen (แสง) ที่เน้นไปที่การสะท้อน การกระจายและการดูดซับแสงของวัตถุรอบ ๆ ต้นกำเนิดแสงให้มีความสมจริงมากที่สุด และตัวที่สองคือ Nanite สำหรับสร้างวัตถุและสิ่งแวดล้อมรอบตัวจากโพลีกอนขนาดเล็กระดับพิกเซลรวมกันนับล้าน ๆๆ โพลีกอน สามารถอิมพอร์ทจากเครื่องมือสร้างภาพ 3 มิติได้โดยตรง โดยตัวเอนจินจะปรับและสเกลให้อัตโนมัติ
Unreal Engine 5 จะเปิดให้พรีวิวในช่วงต้นปี 2021 และปล่อยตัวจริงในช่วงครึ่งหลังของปี ส่วนโมเดลการคิดเงินยังคงฟรีและหักจากส่วนแบ่งรายได้เหมือนเดิม ทว่า Epic จะเว้นการเก็บเงินจากรายได้ 1 ล้านเหรียญแรกที่ตัวเกมขายได้ด้วย
ที่มา - Epic Games |
# SpaceX ออกเกมจำลองการนำแคปซูล Crew Dragon เข้าเทียบท่า ISS เล่นได้ผ่านเบราว์เซอร์
โครงการ Crew Dragon ของ SpaceX มีแผนจะส่งนักบินอวกาศสองนายไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ หรือ ISS ในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ หลังผ่านการทดสอบส่งแคปซูล Crew Dragon พร้อมหุ่นนักบินอวกาศไปยัง ISS เมื่อต้นปี 2019
ล่าสุด SpaceX ได้ปล่อยเกมจำลองการนำแคปซูล Crew Dragon เข้าเชื่อมต่อ (dock) กับ ISS โดยระบุว่าการควบคุมทั้งหมดเหมือนที่นักบินจะใช้จริงๆ
เมื่อเริ่มเกมมาเราจะอยู่ห่างจาก ISS ราว 200 เมตร และมุมของแคปซูลรวมถึงทิศทางต่างๆ จะหันมั่วๆ หน้าที่เราคือบังคับแคปซูลให้เข้าเชื่อมต่อกับ ISS ให้ได้โดยการจัดมุมก้ม, เงย, การหมุน และทิศทางให้ถูกต้อง
หากสนใจเข้าเล่นได้ที่ ISS Docking Simulator เล่นได้ทั้งในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือ หากเล่นในคอมสามารถบังคับด้วยปุ่ม W, A, S, D, Q, E และ Numpad ได้
นอกจากนี้เกมยังแทรกความกวนเข้ามา โดยสามารถปรับให้โลกแบนได้ด้วย
ที่มา - The Verge |
# Tencent ไตรมาส 1/2020 รายได้โตจากธุรกิจเกมมือถือ เพราะคนต้องกักตัวอยู่บ้าน
Tencent รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2020 รายได้รวม 15,252 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,822 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Ma Huateng กล่าวว่าในช่วงการระบาดของ COVID-19 นี้ บริษัทสามารถเติบโตได้จากให้บริการออนไลน์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถติดต่อหากัน, รับข้อมูลข่าวสาร, ทำงาน และให้ความบันเทิง เขายังให้ความเห็นเพิ่มเติมในช่วงแถลงผลประกอบการ ว่าภาคธุรกิจจะมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ เนื่องจากต้องมีพื้นที่ออนไลน์สำหรับเข้าถึงลูกค้า โดยเฉพาะกับองค์กรที่ไม่เคยมีมาก่อน
รายได้จากธุรกิจเกมออนไลน์เพิ่มขึ้น 31% โดยเฉพาะจากเกมบนสมาร์ทโฟนเนื่องจากคนต้องกักตัวอยู่บ้าน รวมทั้งรายได้จากการขายไอเท็มในเกมก็เพิ่มขึ้นสูง มีเกมเด่นได้แก่ Honour of Kings กับ Peacekeeper Elite ในจีน และ PUBG Mobile, League of Legends กับ Brawl Stars ในตลาดนอกประเทศจีน
โฆษณาซึ่งเป็นอีกธุรกิจหลักของ Tencent มีรายได้เพิ่มขึ้นหากเทียบกับปีก่อน แต่มีข้อมูลน่าสนใจคืองบการซื้อโฆษณาของลูกค้ากลุ่มบริการอินเทอร์เน็ต กับเรียนออนไลน์ นั้นเพิ่มขึ้น ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคเปลี่ยนแปลงเร็ว (FMCG), รถยนต์ และท่องเที่ยว ลดงบการโฆษณาลง
อีกตัวเลขที่น่าสนใจคือธุรกิจ FinTech มีรายได้ลดลง 12% หากเทียบกับไตรมาส 4/2019 เนื่องจากมาตรการให้คนอยู่บ้าน ทำให้การใช้จ่ายออฟไลน์ลดลงมาก รวมทั้งเสียโอกาสในช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย
ที่มา: Tencent และ SCMP |
# Dell เปิดตัว XPS 15 และ XPS 17 รุ่นปี 2020 ใช้ขอบจอบาง 4 ด้าน, ซีพียู Core 10th Gen
Dell เปิดตัวโน้ตบุ๊กระดับพรีเมียม XPS 15 และ XPS 17 เวอร์ชันปี 2020 โดยอัพเกรดดีไซน์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนมาใช้จอสัดส่วน 16:10 ขอบจอบางทั้ง 4 ด้านเหมือน XPS 13 ที่เปิดตัวช่วงต้นปี
การเปิดตัว Dell XPS 17 ยังเป็นการกลับมาของโน้ตบุ๊กแบรนด์ XPS ขนาดจอ 17 นิ้ว หลังจากเว้นช่วงไปนานเกือบ 10 ปี (ซึ่งจะมาชนกับ MacBook Pro 16" ตรงๆ) โดย Dell ระบุว่าผลจากการลดขอบจอ ทำให้มันคือโน้ตบุ๊กจอ 17 นิ้วที่ขนาดเล็กที่สุดในโลก เล็กกว่าโน้ตบุ๊กจอ 15" หลายๆ ตัวด้วยซ้ำ
ดีไซน์ของทั้ง XPS 15 และ XPS 17 ใช้แนวทางเดียวกัน คือ เป็นอะลูมิเนียมที่ตัดด้วยเครื่อง CNC และตัวแผ่นรองมือเป็นคาร์บอนไฟเบอร์
สเปกของ Dell XPS 17 มาแบบจัดเต็ม ตั้งแต่ ซีพียู Intel Core 10th Gen Comet Lake-H ตัวใหม่ล่าสุด (สูงสุด Core i9-10885H), จีพียูใส่ได้สูงสุด GeForce RTX 2060, แรมสูงสุด 64GB, สตอเรจ SSD PCIe สูงสุด 2TB
ส่วน XPS 15 ที่ปรับมาใช้ดีไซน์เดียวกัน ต่างกันแค่เครื่องเล็กลง (Dell โฆษณาว่าเป็นโน้ตบุ๊กจอ 15.6" ที่เล็กที่สุดเช่นกัน) สเปกเครื่องลดลงมาเล็กน้อย ซีพียูเป็น Core 10th Gen Comet Lake-H, ใส่แรมได้ 64GB, SSD 2TB เหมือนกัน ต่างกันที่จีพียูสูงสุดแค่ GeForce GTX 1650 Ti Max-Q เท่านั้น
หน้าจอของทั้ง XPS 15 และ XPS 17 มาแบบสเปกโปรคือ รุ่นปกติเป็นความละเอียด 1920x1200 โดยรองรับสี 100% Adobe RGB และ 94% DCI-P3, ความสว่าง 500 nit, อัตราคอนทราสต์ 1650:1, รองรับ Dolby Vision HDR และมีรุ่นจอ 4K UHD+ 3840x2400 พร้อมทัชสกรีนให้เลือกซื้อถ้าเงินเยอะพอ
ส่วนฟีเจอร์อื่นของทั้งสองรุ่นคือ ระบบเสียง Waves Nx 3D audio, Wi-Fi 6, ตัวอ่านลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิดเครื่อง, เว็บแคมขนาดเล็กรองรับ Windows Hello
XPS 15 เริ่มวางขายแล้ววันนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 1,299 ดอลลาร์ (รุ่นท็อปสุดเริ่มต้นที่ 2,449 ดอลลาร์ ถ้าคอนฟิกฮาร์ดแวร์สุดทุกอย่างอยู่ที่ 3,049 ดอลลาร์) ส่วน XPS 17 ราคาเริ่มต้นที่ 1,499 ดอลลาร์ เริ่มวางขายช่วงกลางปี
ที่มา - Dell, LaptopMag |
# Sony ไตรมาสล่าสุด PS4 ยอดขายสะสมทะลุ 110 ล้านเครื่องแล้ว
โซนี่รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (มกราคม-มีนาคม 2020) รายได้รวม 1.749 ล้านล้านเยน ลดลง 18% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 1.01 หมื่นล้านเยน
รายได้ที่ลดลงส่วนใหญ่ในไตรมาสนี้มาจากกลุ่มบริการทางการเงิน ขณะที่ธุรกิจเกมรายได้ลดลงเล็กน้อย เช่นเดียวกับกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนธุรกิจภาพยนตร์และเซ็นเซอร์กล้อง มีรายได้เพิ่มขึ้น และธุรกิจดนตรีรายได้ใกล้เคียงกับปีก่อน
โซนี่รายงานผลกระทบของธุรกิจจาก COVID-19 โดยบอกว่าธุรกิจเกมนั้น ฮาร์ดแวร์ PlayStation 4 มีแนวโน้มขายได้มากขึ้น เช่นเดียวกับรายได้จากบริการออนไลน์ รวมทั้งยืนยันว่า PS5 จะออกขายได้ตามแผนเดิม ส่วนธุรกิจดนตรีและภาพยนตร์ ได้รับผลกระทบจากการเลื่อนเปิดตัว ยกเลิกกิจกรรม ตลอดจนงานโปรดักชัน และร้านค้าปิดทำให้ขาดช่องทางการขาย
PlayStation 4 ขายได้ในไตรมาสนี้อีก 1.5 ล้านเครื่อง ทำให้ยอดขายสะสมตั้งแต่เริ่มจำหน่ายเป็น 110.4 ล้านเครื่อง เป็นคอนโซลขายดีตลอดกาลรองจาก PlayStation 2 (155 ล้าน), Nintendo DS (154 ล้าน) และ Game Boy กับ Game Boy Color (118 ล้าน) ส่วนธุรกิจสมาร์ทโฟน โซนี่รายงานว่า Xperia ขายไปได้ราว 4 แสนเครื่อง ในไตรมาสที่ผ่านมา
ที่มา: โซนี่, Phone Arena และ Engadget |
# ธุรกิจยุคโควิด-19 ปรับสู่ดิจิทัลโดยผู้ให้บริการโซลูชั่นที่รันบนคลาวด์ Microsoft Azure
ปัจจุบันเมื่อโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง การดำเนินชีวิตในรูปแบบใหม่ รวมถึงกระบวนการทำงานต่างๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป การเว้นระยะและลดการเดินทางกลายเป็นมาตรการสำคัญและอาจกลายเป็น new normal
ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้เทคโนโลยีคลาวด์ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะเทคโนโลยีสามารถอุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่ไม่ปกตินี้ได้
หนึ่งในเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยรับมือกับการทำงานและการดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ก็คือ Microsoft Azure ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในวิถีใหม่ผ่าน 4 มิติ ทั้งการบริหารจัดการดูแลลูกค้า การเสริมประสิทธิภาพให้พนักงาน การเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานต่างๆ และ การนำเทคโนโลยีมาปรับให้เกิด บริการ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ของตลาด
ทั้งหมดนี้ไมโครซอฟท์ มีพันธมิตรคุณภาพผู้ให้บริการโซลูชั่นบน Microsoft Azure ที่สามารถให้คำปรึกษา พร้อมนำเสนอโซลูชั่นและเทคโนโลยีที่จะเข้ามาตอบโจทย์ในยุคแห่ง new normal นี้ได้
งานวิจัยจาก Boston Consulting Group ให้ภาพรวมช่วงโควิด-19 ว่า โลกจะเข้าสู่การเดินทางสามช่วง คือ Flatten, Fight, Future ซึ่งเป็นเส้นทางที่ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อสนองตอบต่อวิกฤตนี้
Flatten คือการจำกัดจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างเร่งด่วน นำมาสู่การปิดเมืองซึ่งส่งผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจ
Fight คือหาทางสู้กับไวรัส ไม่ว่าจะด้วยการคิดค้นวัคซีน มาตรการฆ่าเชื้อต่างๆ แล้วค่อยๆ ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ฟื้นคืนกลับมา ในขณะที่ภาคธุรกิจต้องรับเอามาตรการเว้นระยะต่อกันเข้าไปเป็นวิถีชีวิตใหม่
Future คืออนาคตสดใสที่มนุษย์ควบคุมโรคระบาดได้ เศรษฐกิจกลับมาโตมีการจ้างงานเพิ่ม
จากการสำรวจพบว่าบริษัทหลายแห่งมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจซบเซาไว้แล้ว โดย 60% ของบริษัทที่ให้การสำรวจมีการประเมินสภาพคล่องภายใต้สถานการณ์วิกฤต, 56% มีการประเมินแผนการลงทุน และการตัดสินใจเพื่อความอยู่รอด รวมถึงทำแผนการลดต้นทุน, 23% มีการปรับเปลี่ยนแผนการใช้จ่าย และอีก 25% มีการประเมินโอกาสการควบรวมกิจการจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ในงานวิจัยยังเสนอแนะวิธีที่ผู้นำทางธุรกิจจะสามารถนำไปใช้เพื่อปรับตัวสู่ new normal ได้ หลักๆ คือทำแผนรับมือสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ทั้งในแง่กำลังคน, อุปสงค์และอุปทาน, กระแสเงินสด รวมถึงวางกฎระเบียบเมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับเข้าไปทำงาน จะจัดการอย่างไรให้ปลอดภัย ปรับปรุงกระบวนการให้สามารถทำงานระยะไกลได้ ทำให้การเปลี่ยนผ่านงานสู่ new reality เกิดความติดขัดน้อยที่สุด
และประเด็นที่น่าสนใจคือ การเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้ว และโรคระบาดทำให้ธุรกิจต้องเร่งกระบวนการนี้อยากหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป โรคระบาดจึงเรียกได้ว่าเป็นโอกาสสำคัญที่ธุรกิจจะปรับปรุงการทำงานให้เป็นดิจิทัลเพื่อความคล่องตัวและเพิ่มขีดความสามารถในการปรับรับสถานการณ์เพื่อความอยู่รอด
ดังนั้นเชื่อได้เลยว่า คลาวด์จะยิ่งทวีความสำคัญในยุคโควิดและอนาคตต่อจากนี้
11 โซลูชั่นพร้อมใช้สำหรับธุรกิจ จากขุมพลัง Microsoft Azure
Microsoft Azure คือผู้ให้บริการคลาวด์ที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะใช้ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์เป็นระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ในองค์กร หรือจะหันมาพลิกโฉมองค์กรด้วยการเริ่มต้นใช้คลาวด์ ที่ค่าใช้จ่ายจะยืดหยุ่นตามการใช้งาน ลดค่าใช้จ่ายและลดภาระการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ไปพร้อมๆ กัน
และนี่คือผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ 11 รายที่ให้บริการโซลูชั่นที่รันบน Microsoft Azure ที่จะช่วยให้ธุรกิจมีความปลอดภัยและเสริมศักยภาพธุรกิจ ด้วยต้นทุนที่ดีที่สุด เป็นทางเลือกให้องค์กรที่ต้องทำการ digital transformation อย่างเร่งด่วนและเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจโตต่อไปได้
Microsoft Azure กับการยกระดับประสิทธิภาพของธุรกิจ
1. AsiaOneClick คือผู้ให้บริการเครื่องมือการจองตั๋วเครื่องบินของบริษัทแบบออนไลน์ Online Corporate Air Ticket Booking Tool (OCT) เป็นแพลตฟอร์มสำหรับให้บริการประมูลตั๋วเครื่องบินอัตโนมัติ สามารถเชื่อมต่อกับตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งได้ในเวลาเดียวกัน ประมูลได้แบบเรียลไทม์ เมื่อผู้ใช้งานต้องการจองตั๋วเครื่องบินสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจ แพลตฟอร์มนี้จัดทำขึ้นมาเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
พิเศษสำหรับตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวที่สนใจบริการของ AsiaOneClick ในแพ็กเกจพิเศษ ได้รับสิทธิ์ฟรีค่าติดตั้ง 250,000 บาทและฟรีค่าบำรุงรักษาตลอด 6 เดือนแรก ติดต่อได้ที่ [email protected] หรือโทร 081-939-9817
2. Double Pine ระบบการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจ (ERP) มีฟีเจอร์สำคัญคือ ระบบซื้อ-ขาย, ระบบสินค้าคงคลัง, ระบบบัญชีแยกประเภท และให้รายงานข้อมูลแบบอินไซต์ ตอบโจทย์ความต้องการที่มากขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตที่ยั่งยืนของธุรกิจ
ตอนนี้ Double Pine กำลังมีโปรโมชั่นพิเศษสู้โควิด ซื้อ MAC-5 Legacy สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ใช้งาน 5 คน ตอนนี้ในราคาเพียง 160,000 บาท (จาก 190,000 บาท) ฟรี สิทธิการใช้งานผ่านคลาวด์* สำหรับผู้ใช้งาน 5 คน 1 ปีเต็ม และฟรี บริการติดตามช่วยเหลือแบบออนไลน์ 3 เดือน และ บริการนำเข้ารหัสต่างๆ นำเข้าข้อมูลตั้งต้นระบบมูลค่ากว่า 42,000 บาท ติดต่อได้ที่ [email protected] หรือโทร 082-440-0779
ผู้ที่สนใจสามารถจองโปรนี้ไว้ก่อนได้ในราคา 10,000 บาทเท่านั้น โดยโปรโมชั่นนี้สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2563 (เก็บสิทธิ์ได้ถึง 31 ธันวาคม 2563)
3. Nested โปรแกรมบัญชีบนคลาวด์ รองรับทุกประเภทธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ที่มีฟังก์ชั่นครบทั้งการบริหาร บัญชี การเงิน สินทรัพย์ จัดซื้อ ขายคลังในที่เดียว
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่เริ่มใช้บริการภายใน 31 สิงหาคม 2563 ฟรีค่าบริการติดตั้งระบบเริ่มต้นและค่าใช้บริการ 1 เดือนรวมมูลค่า 30,000 บาท ติดต่อที่ [email protected] หรือโทร 089-991-9650
4. Wolf Approve ซอฟต์แวร์การอนุมัติและจัดการเอกสาร ในลักษณะ Paperless หรือ Workflow ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการพลิกโฉมธุรกิจ การขออนุมัติหรือการจัดเก็บเอกสารให้มีความสะดวก รวดเร็ว ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้
ฟีเจอร์เด่นของ Wolf Approve คือติดตั้งและใช้งานได้ง่าย ผู้ที่ไม่มีทักษะด้านการเขียนโปรแกรมก็สามารถสร้างแบบฟอร์ม หรือ Workflow ด้วยตนเองได้ง่ายดาย มีตัวอย่าง Templates มากกว่า 50 แบบให้ลูกค้าเลือกใช้
แพ็กเกจ Wolf Approve
Wolf Approve สำหรับการใช้งานแบบ subscription ราคา 350 บาท ต่อ 1 ผู้ใช้งานต่อเดือน (ราคานี้ไม่รวม Microsoft 365)
Wolf Approve สำหรับการใช้งานแบบ subscription ราคา 499 บาท ต่อ 1 ผู้ใช้งานต่อเดือน (ราคานี้รวม Microsoft 365 Business Basic) สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่มี Microsoft 365 มาก่อน
สามารถติดต่อ Wolf ได้ ถ้าหากต้องการ Option แบบ On-premise ติดต่อได้ที่ [email protected] หรือโทร 02 634 4409
Microsoft Azure กับการเสริมศักยภาพให้กับพนักงาน
5. DRVR แอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนช่วยมอนิเตอร์พนักงานที่ทำงานนอกสถานที่จากทางไกลรวมทั้งแจ้งพิกัดเมื่อทำงานบนยานพาหนะ เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยด้วยระบบการติดตามแบบเรียลไทม์ ช่วยจัดการงานและติดตามผู้ปฏิบัติงานด้วยฟังก์ชั่นการแจ้งเตือนฉุกเฉิน (SOS function)
โปรโมชั่นพิเศษ : ใช้งานฟรีถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2563 โดยหลังเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ค่าบริการ 5 เหรียญสหรัฐ (163 บาท) ต่อผู้ใช้งาน 1 คน ต่อเดือน และฟรีค่าติดตั้ง ติดต่อได้ที่ [email protected]
6. Feedback 180 ยกระดับประสบการณ์การทำงานของพนักงาน โดยโปรแกรมจะช่วยเก็บความต้องการ สิ่งที่พนักงานคาดหวังว่าจะต้องมี และความชอบต่างๆ ของพนักงานมาพิจารณา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจเซ็นสัญญารายปี Campaign: Feedback Voice of Employee หากมีบริษัทสนใจใช้บริการ สามารถติดต่อเข้ามาเพื่อขอใช้บริการได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อได้ที่ [email protected] หรือโทร 095-865-4449
Microsoft Azure การสื่อสารและให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
7. aCommerce แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและผู้ให้บริการแบรนด์โซลูชันแบบครบวงจร ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบริการซื้อขายของออนไลน์ การพัฒนาด้านไอที การดูแลลูกค้า การให้บริการเพื่อให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายและให้คำแนะนำช่องทางในการจัดส่งสินค้า
แพ็กเกจน่าสนใจในช่วงนี้
aCommerce starter pack
แพคเกจ jump start สร้างและเริ่มต้นใช้งานเว็บไซต์ e-commerce ได้ใน 4-6 สัปดาห์
มีราคาพิเศษ early bird สำหรับผู้สมัครใช้งานเปิดหน้าร้านในเดือน มิ.ย. ติดต่อได้ที่ [email protected]
8. Buzzebeesโซลูชันแพลตฟอร์ม B-Commerce ที่ช่วยให้องค์กรเริ่มต้นใช้งาน e-commerce ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ต้นทุนต่ำและปราศจากค่าบำรุงรักษา รองรับทั้งการใช้งานบนเว็บไซต์อย่างเดียวหรือการใช้งานร่วมกับบัญชีทางการของ LINE มาพร้อมฟีเจอร์การจัดกลุ่มหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ การจัดการสินค้าคงคลัง การติดตามสถานะการจัดส่ง การรวมเข้ากับระบบสมาชิกที่มีอยู่ และมีวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ทั้งบัตรเครดิต / เดบิต การชำระเงินปลายทาง หรือกระเป๋าเงินทรูมันนี่
โปรโมชั่น
ค่าธรรมเนียมการติดตั้ง 1 ครั้ง 50,000 บาท (ลด 50% จากแพ็คเกจมาตรฐาน)
ค่าคอมมิชชั่น ติดตั้งแพลตฟอร์มอย่างเดียว ลด 10%, ติดตั้งแพลตฟอร์มพร้อมบริการเต็มรูปแบบ ลด 15%
ติดต่อได้ที่ [email protected] หรือโทร 089-444-5641
9. Digital Dialogue ให้บริการระบบสื่อสารลูกค้าแบบ Omni Channel หรือการให้บริการเพื่อการติดต่อสื่อสารแบบหลายช่องทาง ช่วยเพิ่มรายได้ผ่าน Chatbot ตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ช่วยโต้ตอบและพูดคุยผ่านดิจิทัล และช่วยเก็บข้อมูล คัดสรร และนำไปสู่แนวทางการเพิ่มยอดขายกับลูกค้าใหม่ๆ
แพ็คเกจเริ่มต้นใช้งาน ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน ติดต่อได้ที่ [email protected] หรือโทร 090-195-3959
10. Privazy บริหารจัดการความยินยอมและแพลตฟอร์มการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นำเสนอทางออกที่ง่ายที่สุดสำหรับการปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ช่วยให้องค์กรดำเนินการและสอดคล้องกับกฎระเบียบมาตรฐานระดับชาติและระดับสากล พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายพร้อมชุดเครื่องมือและแบบฟอร์มในตัว
ปรึกษาฟรีในครั้งแรก พร้อมส่วนลด 50% ของค่าธรรมเนียมการใช้งานเดือนแรก ติดต่อได้ที่ [email protected] หรือโทร 092-996-9546
11. ZipEvent ผู้ให้บริการ ZIPSPACE แพลตฟอร์มการบริหารจัดการข้อมูลผู้มาติดต่อแบบดิจิทัล บริหารจัดการเก็บบันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อแบบดิจิทัลด้วยแท็บเล็ต โดยสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยด้วยการแทรคข้อมูลของผู้มาติดต่อ ทั้งเวลา และเรื่องที่มาประชุม และบุคคลที่มาพบด้วย
โปรโมชั่น ฟรี 2 เดือน สำหรับสัญญารายปี (เริ่มต้น 1,500 บาท ต่อเดือน)
สรุป
digital transformation หรือการเปลี่ยนผ่านองค์กรให้เป็นดิจิทัลเป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้ว และโรคระบาดมาช่วยเร่งกระบวนการนี้อย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ธุรกิจจะปรับปรุงการทำงานให้เป็นดิจิทัลเพื่อความคล่องตัว สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ทั้งในยุคโควิด และยุคหลังโควิดผ่านพ้นไปแล้วได้ด้วยดี
ค้นหาโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจ เรียนรู้เพิ่มเติมและลงทะเบียนเพื่อรับการติดต่อกลับ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจได้ดีกว่า ได้ที่ https://aka.ms/ISV_TH |
# Motorola ยืนยัน จะอัพเดต Android ให้ Motorola Edge+ อย่างน้อย 2 เวอร์ชั่น
หลัง Motorola เปิดตัว Edge และ Edge+ มือถือรุ่นเรือธงของค่ายไป แต่ Motorola ให้ข้อมูลกับ Wired ว่าจะอัพเดตเวอร์ชั่น Android OS ของรุ่น Edge+ ให้ถึง Android 11 เท่านั้น (ปกติมือถือเรือธงของค่ายแอนดรอยด์จะได้รับอัพเดตอย่างน้อย 2 เวอร์ชั่น)
ล่าสุด Motorola ได้ส่งอีเมลแถลงกับสื่อต่างๆ ว่าจะอัพเดต Edge+ ให้ถึง Android 12 แล้ว โดยกล่าวว่า ผู้ใช้ Motorola Edge+ จะได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 และจะได้รับอัพเดต Android OS อย่างน้อยสองเวอร์ชั่น ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่กำลังคิดจะซื้อมือถือเรือธงราคา 999 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 32,000 บาท) เครื่องนี้
ที่มา - Android Authority |
# ในที่สุดผู้ใช้งาน Google Play Music ก็สามารถย้ายเพลงไป YouTube Music ได้แล้ว
เป็นความสงสัยของผู้ใช้งาน Google Play Music ว่าจะสามารถย้ายเพลงไปยัง YouTube Music ที่มาเปิดตัวทีหลังได้อย่างไร ล่าสุดกูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน YouTube Music ให้สามารถย้ายเพลงจาก Google Play Music เข้ามาได้แล้ว
ผู้ใช้งาน Google Play Music จะได้รับอีเมลแจ้งคำแนะนำในการย้ายเพลง วิธีการย้ายเพลงคือเริ่มจากดาวน์โหลดแอป YouTube Music จะพบแบนเนอร์ให้สามารถกดปุ่ม transfer เพื่อย้ายข้อมูลเพลย์ลิสต์, เพลงที่ซื้อ, เพลงที่อัพโหลดและกดไลค์จาก Google Play Music มาไว้ใน YouTube Music ได้
เมื่อกระบวนการถ่ายโอนเสร็จสิ้น ผู้ใช้จะเห็นเมนูเพลงที่ย้ายมาจาก Google Play Music อยู่ด้านบนของแอป YouTube Music หน้าจอหลัก
ภาพจาก YouTube Blog
ที่มา - Engadget |
# Riot แบนผู้เล่น Valorant ที่โกง เกือบ 9,000 คนแล้ว, บอกเพิ่งแค่เริ่มต้น
Valorant เกมยิงที่ผสมผสาน Counter-Strike เข้ากับระบบสกิลแบบ Overwatch ของค่าย Riot กำลังอยู่ในช่วง closed-beta แต่ก็ประสบปัญหาพบผู้เล่นที่ใช้โปรแกรมโกงเป็นจำนวนมาก และ Riot ก็พยายามแบนผู้เล่นเหล่านี้โดยใช้ Vanguard ระบบตรวจจับโปรแกรมโกง ที่จะรันตั้งแต่เปิดเครื่องและรันตลอดเวลาแม้จะไม่ได้เปิดเกมเล่นอยู่ (แต่สามารถปิดได้)
ถึงแม้จะมีประเด็นเรื่อง Vanguard รันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ดูเหมือนว่าระบบตรวจจับนี้จะได้ผล ล่าสุด Phillip Koskinas วิศวกรฝั่ง anti-cheat data ของ Riot ทวีตว่าได้แบนผู้เล่นที่ใช้โปรแกรมโกงไปแล้วถึง 8,873 คน ส่วนทวิตเตอร์ของ Riot Vanguard ยังรีทวีตมาย้ำอีกว่า นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น
ปัจจุบัน Riot ไม่เปิดเผยจำนวนผู้เล่นทั้งหมด แต่ 8,873 คน บน closed-beta ก็นับเป็นจำนวนที่มากพอสมควร นอกจากนี้ Riot ยังออกแพทช์ใหม่ ปรับสมดุลและแก้บั๊กต่างๆ แถมระบุไว้ในหมวด “Quality of Life” ว่า “cheaters” หรือคนที่ใช้โปรแกรมโกง จะไม่ถูกเรียกว่า “hackers” อีกต่อไป
ที่มา - PCGamer |
# Adobe เผยอีคอมเมิร์ซสหรัฐฯโต 49% ในเดือนเดียว, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขายดีแม้มีแนวโน้มราคาสูง
รายงาน Adobe’s Digital Economy Index เผยยอดอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ พุ่งสูง เหตุเพราะ COVID-19 ตัวรายงาน วิเคราะห์ธุรกรรมออนไลน์มากกว่าหนึ่งล้านล้านรายการ ในหน่วยจำแนกประเภทสินค้า (SKU) ที่ต่างกันถึง 100 ล้านรายการ โดย Adobe ได้ทำงานร่วมกับร้านค้าปลีกออนไลน์ในสหรัฐฯ 80 แห่งเพื่อให้ได้ข้อมูลมา
ในรายงานพบว่า ยอดอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ เดือนเมษายนเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมหรือช่วงก่อนจะปิดเมืองอย่างจริงจัง 49% โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ก็มียอดขายช่องทางออนไลน์สูงขึ้น 58% และยังพบแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้นด้วยเพราะมีดีมานด์สูงในช่วงนี้ และคาดว่าจะเป็นอย่างนี้ไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ด้านสินค้าเสื้อผ้า ราคาออนไลน์หดตัวลง 12% ซึ่งถือว่าเยอะมากในรอบ 5 ปี จากปกติจะมีราคาเฉลี่ยเดือนต่อเดือนลดลง 2.9% เท่านั้น ซึ่งการลดราคาเสื้อผ้ามีส่วนช่วยดันยอดขายเสื้อผ้าออนไลน์เพิ่มขึ้น 34% โดยเสื้อผ้าที่ขายดีคือชุดนอน และเสื้อผ้าใส่สบาย กางเกงขาสั้น เสื้อยืด แต่เสื้อผ้าออกงาน ใส่เที่ยวมียอดซื้อลดลง
ในรายงานยังบอกด้วยว่า การจับจ่ายซื้อของชำออนไลน์ในสหรัฐ มียอดขายรายวันเพิ่มขึ้น 110% ในเดือนเมษายน เพราะคนไม่สามารถออกไปซื้อของชำด้วยตัวเองได้ การกดซื้อของชำจึงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว
ที่มา - Adobe’s Digital Economy Index |
# โซนี่ยืนยัน PlayStation 5 จะเปิดตัวและขายทันช่วงเทศกาลปลายปีตามแผน แม้มี COVID-19
ไมโครซอฟท์และโซนี่ต่างกำหนดวางขายคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง Xbox Series X และ PlayStation 5 ในก่อนช่วงเทศกาล (Thanksgiving ต่อคริสต์มาส) ปลายปีนี้
ล่าสุดโซนี่ออกมายืนยันในการประกาศผลประกอบการว่า PlayStation 5 จะเปิดตัวและวางจำหน่ายทันตามที่กำหนดไว้ แม้จะมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 จนทำให้พนักงานต้องทำงานที่บ้าน ระงับการเดินทางและส่งผลกระทบต่อไลน์การผลิต พร้อมทั้งยืนยันว่ายังไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคใหญ่ในไปป์ไลน์การผลิตเกม ทั้งในฝั่งสตูดิโอของโซนี่และพาร์ทเนอร์
ทั้งน้ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า โซนี่เองก็คาดว่าดีมานด์ของ PlayStation 5 ในช่วงแรกจะต่ำและจะผลิตออกมาไม่เยอะ
ที่มา - The Verge |
# ไมโครซอฟท์อัพเดตแพตช์สุดท้ายให้ Windows 10 May 2020 Update ก่อนออกตัวจริง
ไมโครซอฟท์ออกอัพเดต (ที่น่าจะเป็นตัวสุดท้าย) ให้ Windows 10 May 2020 Update (v2004) ก่อนจะปล่อยตัวจริงในเร็วๆ นี้
Windows 10 May 2020 Update หรือ 20H1 เข้าสถานะ Release Preview มาตั้งแต่กลางเดือนเมษายน แต่ช่วงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ก็ทยอยอัพเดตแพตช์ย่อยให้เรื่อยๆ โดยยังไม่ระบุวันที่จะออกตัวจริง
การอัพเดตรอบนี้เป็นเลข Build 19041.264 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคืออุดช่องโหว่ความปลอดภัยรอบ Patch Tuesday และแก้บั๊กอื่นอีกเล็กน้อย
เว็บไซต์ ZDNet ให้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่าไมโครซอฟท์ตั้งใจจะปล่อย Windows 10 May 2020 Update ในวันนี้ แต่พอเจอปัญหาช่องโหว่ความปลอดภัย จึงต้องออกแพตช์มาอุดช่องโหว่ และเลื่อนแผนการออกไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไมโครซอฟท์เริ่มปล่อย Windows 10 May 2020 Update ให้กับลูกค้ากลุ่มนักพัฒนาที่มีไลเซนส์ MSDN แล้ว เป็นสัญญาณว่าการปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ทั่วไป น่าจะรออีกไม่นาน
ที่มา - Microsoft, ZDNet |
# เฟซบุ๊กยอมจ่ายเงินชดเชยให้คนคัดกรองเนื้อหา ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจกว่า 52 ล้านเหรียญ
ปีที่แล้ว อดีตคนคัดกรองเนื้อหาของเฟซบุ๊กฟ้องร้องบริษัท หลังมีผลกระทบทางจิตใจ (PTSD) จากการดูเนื้อหารุนแรง
ล่าสุดเฟซบุ๊กยินยอมโดยหลักการแล้วว่าจะจ่ายเงินชดเชยให้ทั้งพนักงานและอดีตพนักงานที่ได้รับผลกระทบหรือมีปัญหาสุขภาพจิต เป็นเงินทั้งหมดราว 52 ล้านเหรียญ และหากเป็นพนักงานปัจจุบันจะมีที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิตให้ขณะทำงานด้วย
พนักงานแต่ละคนจะได้รับเงินชดเชยราว 1,000 เหรียญและหากมีอาการป่วยทางจิตอื่น ๆ ก็จะได้รับเพิ่มขึ้นอีกตามอาการป่วยและความเสียหายที่เกิด โดยข้อตกลงนี้ครอบคลุมพนักงานคัดกรองเนื้อหาราว 11,250 คน
ที่มา - The Verge |
# Disco Elysium ออกแพทช์ใหม่ ลดสเปกขั้นต่ำ แรมจาก 4 เหลือ 2 GB ซีพียูแค่ Core 2 Duo
Disco Elysium เกม RPG แบบ Isometric (มุมมองจากด้านบน) ม้ามืดจากค่ายอินดี้ ZA/UM ประเทศเอสโตเนีย ที่ได้คะแนนรีวิวรวมบน Metacritic ถึง 91 คะแนน
ล่าสุดทีมงานออกแพทช์ใหม่ Working Class Update! ที่นอกจากอัพเดตภาษาที่กำลังแปลอยู่ เปลี่ยนเวอร์ชั่นของเอนจิ้น Unity และแก้บั๊กต่างๆ ยังปรับปรุงประสิทธิภาพเกม และลดสเปกขั้นต่ำ เพื่อให้ผู้เล่นเข้าถึงได้มากขึ้นด้วย
จากเดิมที่ต้องใช้ซีพียู Intel i5-7500 หรือ AMD 1500 ก็ปรับลงเป็น Intel Core 2 Duo จากเดิมใช้การ์ดจอขั้นต่ำเป็น Intel HD620 (ซึ่งก็ต่ำมากอยู่แล้ว) ลดเหลือแค่ การ์ดจอที่รองรับ Windows 7 และ DirectX 11 ที่มี VRAM ขั้นต่ำ 512MB เท่านั้น นอกจากนี้ยังลดความต้องการ RAM ขั้นต่ำ จาก 4 GB เหลือ 2 GB และเนื้อที่ฮาร์ดดิสก์จาก 22 GB เหลือ 20 GB อีกด้วย
ที่มา - Gamespot |
# ยอดขายรวม Resident Evil ทุกภาค เกือบ 100 ล้านยูนิตแล้ว
Capcom รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2020 เปิดเผยว่าเกมในแฟรนไชส์ Resident Evil จำหน่ายไปแล้วกว่า 98 ล้านยูนิต เพิ่มขึ้นประมาณ 3 ล้านยูนิต นับจากการแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของ ปี 2019 นอกจากนี้ยังแถลงด้วยว่า Resident Evil 2 ภาครีเมค มียอดจำหน่ายรวมถึง 6.5 ล้านยูนิตแล้ว และ Resident Evil 3 ก็ทำยอดจำหน่ายได้ถึง 2 ล้านชุด ใน 5 วันแรก
อันดับสองเป็นแฟรนไชส Monster Hunter ที่มียอดจำหน่าย 63 ล้านยูนิต โดยตัวเสริมภาคล่าสุด Monster Hunter World: Iceborne ทำยอดขายไปกว่า 5 ล้านยูนิต รองลงมาเป็นแฟรนไชส์ Street Fighter ที่ 44 ล้านยูนิต Megaman ที่ 36 ล้านยูนิต Devil May Cry 22 ล้านยูนิต และ Dead Rising 13 ล้านยูนิต
ที่มา - Gameindustry.biz |
# ครม. เคาะ เลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลบางหมวด 1 ปี ให้เอกชนปรับตัวได้ทัน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยคณะรัฐมนตรีมีมติขยายเวลาการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 บางหมวดออกไป 1 ปี ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
โดยหมวดที่มีการเลื่อนบังคับใช้คือ หมวด 2 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล, หมวด 3 สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล, หมวด 5 การร้องเรียน, หมวด 6 ความรับผิดทางแพ่ง, หมวด 7 บทกำหนดโทษ และความในมาตรา 95 และมาตรา 96 ซึ่งจากเดิมจะมีการบังคับใช้ในวันที่ 27 พ.ค. นี้
น.ส.รัชดา กล่าวว่า เนื่องจากหากมีการบังคับใช้ตามกำหนดเวลาเดิมในขณะที่ทุกภาคส่วนยังไม่พร้อม อาจทำให้เกิดการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายได้โดยไม่ตั้งใจ รวมทั้งอาจเป็นช่องทางให้ผู้ที่ทุจริตแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มว่า และด้วยการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ภาคเอกชนไม่ว่าขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เกิดปัญหาสภาพคล่องในการลงทุนเพื่อปรับปรุงกระบวนงาน ระบบสาระสนเทศ และการจัดหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย การเลื่อนบังคับใช้กฎหมายจึงเอื้อต่อภาคเอกชนให้มีเวลาได้เตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสม ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ จะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวาระต่อไป
ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ |
# ไมโครซอฟท์ออก Patch Tuesday เดือนพฤษภาคม 2020 ทั้งหมด 111 ตัว
ไมโครซอฟท์ออก Patch Tuesday รอบเดือนพฤษภาคม 2020 อัพเดตแพตช์ชุดใหญ่ให้ Windows, Edge, IE, Office, Visual Studio, Dynamics, .NET, Power BI รวมอุดช่องโหว่ทั้งหมด 111 ตัว
แพตช์สำคัญในเดือนนี้คืออุดช่องโหว่ไดรเวอร์ของเคอร์เนล (Win32k), Windows Graphics Component, Microsoft Color Management, Windows Media Foundation จึงส่งผลต่อ Windows แทบทุกรุ่น อย่างไรก็ตาม ช่องโหว่ประจำเดือนนี้ยังไม่มีรายงานว่าถูกใช้โจมตีโดยแฮ็กเกอร์ เหมือนที่เกิดขึ้นในเดือนที่แล้ว
แพตช์เหล่านี้ยังรวมถึง Windows 7 และ Windws Server 2008 R2 ด้วย แต่จำกัดเฉพาะลูกค้าที่จ่ายเงินซื้อ Extended Security Updates (ESU) เท่านั้น
ที่มา - Microsoft, ZDNet, Threatpost |
# ซีอีโอ NVIDIA โชว์ภาพจีพียูตัวใหม่โค้ดเนม Ampere ก่อนวันเปิดตัว
NVIDIA โพสต์คลิปวิดีโอสั้นของซีอีโอ Jensen Huang กำลังทำอาหารอยู่ที่บ้าน โดยเปิดเตาอบออกมาแล้วเป็นจีพียูตัวใหม่ โค้ดเนม Ampere ที่จะเปิดตัวในงาน GPU Technology Conference ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ตามเวลาสหรัฐ (ตรงกับวันที่ 15 บ้านเรา)
คาดกันว่า NVIDIA จะเลือกเปิดตัว "Ampere" ที่เป็นจีพียูฝั่งเซิร์ฟเวอร์ก่อน (แบรนด์ DGX และ HGX) ส่วนจีพียูเวอร์ชันคอนซูเมอร์อย่าง GeForce น่าจะตามมาในลำดับถัดไป
ที่มา - AnandTech |
# Google Meet เวอร์ชันฟรีเปิดให้ทุกคนใช้แล้ว ไม่ต้องลงแอพ ขอแค่มีบัญชีกูเกิล
เมื่อกลางเดือนที่แล้ว กูเกิลประกาศเปิด Google Meet ให้ทุกคนใช้งานฟรีโดยไม่ต้องมีบัญชี G Suite วันนี้ Google Meet ฟรีมาแล้ว สามารถเข้าไปสร้างห้องประชุมได้ที่หน้าเว็บ meet.google.com โดยไม่ต้องลงแอพอะไรเพิ่มเติม ขอเพียงแค่มีบัญชี Google Account เท่านั้น
Google Meet เวอร์ชันฟรี จำกัดระยะเวลาการประชุมครั้งละ 60 นาที แต่ช่วงนี้กูเกิลปลดล็อคให้ใช้งานไม่จำกัดไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน
กูเกิลยังบอกว่าจะเพิ่มปุ่ม Meet ในหน้าเว็บ Gmail ฝั่งคอนซูเมอร์ในอีกไม่กี่วันนี้
ที่มา - Google |
# DXOMARK ให้คะแนนกล้อง Galaxy S20+ ออกมาดี ตามหลัง S20 Ultra ไม่มาก
วงการกล้องมือถือปีนี้อาจให้ความสนใจ Galaxy S20 Ultra ที่เป็นมือถือรุ่นท็อปของซัมซุง แม้คะแนนทดสอบ DXOMARK ที่ 122 คะแนน ยังตามหลังคู่แข่ง Huawei P40 Pro ที่ได้ไป 128 คะแนน
แต่ซัมซุงยังมี Galaxy S20+ รุ่นรองที่คนอาจลืมๆ กันไปบ้าง ล่าสุดผลคะแนน DXOMARK ออกมาแล้ว ได้ 118 คะแนน ตามหลัง S20 Ultra ไม่มากนัก แม้ใช้เซ็นเซอร์หลักคนละตัวกันคือ 12MP กับ 108MP
DXOMARK ให้คะแนนภาพนิ่งของ S20+ ที่ 127 คะแนน, คะแนนวิดีโอ 100 คะแนน เป็นรอง S20 Ultra (132/103 คะแนน) เล็กน้อย ถ้าแยกดูหมวดย่อย จุดที่ S20+ ได้คะแนนน้อยกว่าชัดเจนคือหมวดถ่ายกลางคืน (night) และการซูม (zoom) เท่านั้น ตรงนี้คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะ S20+ ใช้ระบบ hybrid zoom ต่างจาก S20 Ultra ที่มีเลนส์ซูมจริงๆ
ผลของการรีวิวนี้ทำให้ Galaxy S20+ ยังติด Top 10 ของกล้องมือถือ DXOMARK อยู่ที่อันดับ 10 พอดี ส่วน S20 Ultra อยู่ที่อันดับ 6 ร่วม
DXOMARK ให้ความเห็นว่าการที่คะแนนกล้องของ S20+ กับ S20 Ultra ต่างกันไม่มากนัก ทำให้ S20+ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า เพราะคุณภาพกล้องโดยรวมค่อนข้างดี ในราคาที่ถูกกว่ากันพอสมควร
ที่มา - DXOMARK |
# ข้อมูลการส่งมอบสมาร์ทโฟนในจีนเดือนเมษายน เห็นแนวโน้มดี เพิ่มขึ้น 17%
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานตัวเลขการจัดส่งสมาร์ทโฟนจากโรงงานผู้ผลิตในประเทศจีน พบว่าตัวเลขของเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบเดือนเมษายนของปี 2019 ซึ่งข้อมูลนี้มาจากหน่วยงานของรัฐบาล
ตัวเลขดังกล่าวอาจสะท้อนการฟื้นตัวของตลาดสมาร์ทโฟนในจีน โดยจำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้นมาเป็น 40.8 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้แยกรายงานตามระบบปฏิบัติการ จึงไม่สามารถประเมินได้ว่าเป็น Android เท่าใด และ iPhone เท่าใด
ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาด อาทิ Canalys หรือ IDC ก่อนหน้านี้ระบุภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนจีนช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาว่าลดลงในระดับเปอร์เซ็นต์เลขสองหลัก
ที่มา: Reuters รูป Pixnio |
# พบนักพัฒนาคอนฟิก Firebase ผิดกว่า 4,000 แอป ทำข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล
บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ Comparitech ตรวจสอบแอปกว่าห้าแสนตัวใน Google Play และพบว่าในจำนวนนี้ 4.8% ใช้ Firebase เป็นสตอเรจสำหรับแอป และพบว่าแอป 4,282 รายการนั้นคอนฟิก Firebase อย่างไม่ถูกต้อง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าไปดาวน์โหลดฐานข้อมูลออกมาได้
Firebase Realtime Database เป็นระบบฐานข้อมูลหลักของบริการในกลุ่ม Firebase ที่นิยมใช้เก็บข้อมูลผู้ใช้ในแอป โดยค่าเริ่มต้นของฐานข้อมูลนั้นจะเปิดให้เฉพาะผู้ใช้ที่ล็อกอินแล้วเท่านั้น แต่ไม่ได้จำกัดข้อมูลว่าใครเป็นเจ้าของบ้าง โดยนักพัฒนาต้องคอนฟิกกฎเพิ่มเติมภายหลังเอง
ในบรรดาแอปที่คอนฟิกผิดเหล่านี้ Comparitech พบว่ามีอีเมลกว่า 7 ล้านรายการ, ชื่อผู้ใช้กว่า 4.4 ล้านรายการ, หมายเลขโทรศัพท์ 5.3 ล้านรายการ, ชื่อบุคคล 18.3 ล้านรายการ, ข้อความแชต 6.8 ล้านรายการ, ไปจนถึงพิกัด GPS 6.2 ล้านรายการ แม้แต่ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรจากหน่วยงานรัฐ เช่น หนังสือเดินทางก็พบได้
ทาง Comparitech แจ้งเรื่องนี้ผ่านทางกูเกิล และกูเกิลได้ยืนยันว่าส่งเรื่องไปยังนักพัฒนาแอปแต่ละแอปแล้ว
ที่มา - Comparitech, ภาพจาก Firebase |
# AWS เปิดให้ใช้เครื่อง M6g ซีพียู Graviton2 เริ่มต้นเดือนละ 27.72 ดอลลาร์
AWS เปิดตัวซีพียู Graviton2 มาตั้งแต่งาน re:Invent ปีที่แล้ว ตอนนี้เครื่อง M6g ก็เปิดให้ใช้งานได้จริงแล้ว
ตัวเครื่องเริ่มต้นที่ m6g.medium ซีพียู 1 คอร์และแรม 4GB ราคาในสหรัฐฯ ชั่วโมงละ 0.0385 ดอลลาร์หรือเดือนละ 27.72 ดอลลาร์ ไล่ขึ้นไปถึง m6g.16xlarge ซีพียู 64 คอร์ แรม 256GB ชั่วโมงละ 2.464 ดอลลาร์ หรือเดือนละ 1774.08 ดอลาร์
ทาง AWS ยืนยันว่างานหลายประเภทคุ้มค่ากว่าเมื่อรันบนชิป Graviton2 เทียบกับซีพียู x86 โดยลูกค้าที่ออกมายืนยันเช่น Nielsen ที่ใช้รันแอปพลิเคชั่นภายในสำหรับงาน I/O สูงๆ โดยเคยใช้เครื่อง Graviton มาก่อนแล้ว และพบว่า Graviton2 รับโหลดได้เพิ่มเป็นเท่าตัว
ชิป Graviton2 ยังมีเครื่องรุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้แต่ยังไม่เปิดให้ใช้งาน ได้แก่ C6g ที่เน้นซีพียู และ R6g เน้นใช้แรมสูง ตอนนี้ยังใช้งานได้เฉพาะศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ, ไอร์แลนด์, และญี่ปุ่น
ที่มา - AWS Blog |
# Twitter ประกาศพนักงานที่ทำงานที่บ้านได้จะได้รับอนุญาตให้ไม่ต้องเข้าสำนักงานตลอดไป แม้จบ COVID-19
ทวิตเตอร์ประกาศอัพเดตมาตรการรับมือ COVID-19 โดยระบุว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาบริษัทพบว่าสามารถทำงานกันได้แม้พนักงานจะทำงานจากที่บ้าน ทำให้หลังจากนี้หากตำแหน่งงานเอื้ออำนวย และพนักงานไม่ต้องการเข้าสำนักงานก็จะสามารถทำงานจากที่บ้านต่อไปได้ แม้จะจบการปิดเมืองจาก COVID-19 แล้วก็ตามที
นอกจากการประกาศแนวทางนี้แล้วทวิตเตอร์ยังประกาศแนวทางการกลับมาทำงานในสำนักงาน โดยสำนักงานจะไม่เปิดก่อนเดือนกันยายนนี้ และหากประกาศเปิดสำนักงานแล้วพนักงานก็ยังเลือกทำงานจากที่บ้านต่อไปได้ โดยบริษัทไม่ต้องการให้ทุกคนกลับสำนักงานพร้อมๆ กัน การเดินทางสำหรับธุรกิจจะต้องเลื่อนออกไปอย่างน้อยถึงเดือนกันยายนเช่นกัน ยกเว้นกรณีเฉพาะมากๆ และงานอีเวนต์เจอหน้ากันในปี 2020 จะยกเลิกไปทั้งหมด ส่วนปี 2021 จะประเมินอีกครั้ง
ที่มา - Twitter |
# จุดจบแอนตี้ Instagram เปิดให้ลบคอมเมนต์เป็นชุด, ปักหมุดคอมเมนต์ที่ชอบ, จำกัดคนเมนชั่น
Instagram ประกาศเพิ่มมาตรการจำกัดคอมเมนต์เชิงลบ และสนับสนุนการใช้งานอย่างสร้างสรรค์ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์การจัดการคอมเมนต์และเมนชั่น/แท็กให้เจ้าของบัญชีมีตัวเลือกมากขึ้น
การจัดการคอมเมนต์จะเปิดให้เจ้าของบัญชีลบหรือแบนผู้ใช้ไม่ให้คอมเมนต์ได้เป็นชุด โดยเมนู "Manage Comments" จะเปิดให้ลบคอมเมนต์หรือแบนผู้ใช้ได้ทีละ 25 คน พร้อมกับเน้นคอมเมนต์เด่นด้วย Pinned Comments ให้คอมเมนต์อยู่ด้านบนเสมอ
สำหรับการแท็กและเมนชั่นจากนี้จะสามารถจำกัดได้ว่า จะให้ทุกคนแท็กได้, เฉพาะคนเราที่ฟอลโล่, หรือไม่มีใครแท็กได้เลย รูปแบบนี้คล้ายเฟซบุ๊ก โดยเฉพาะการแท็กนั้นสามารถตรวจสอบได้เองด้วย โดยมีผลทั้งการโพสภาพปกติหรือ Story
ที่มา - Instagram |
# Eclipse Foundation เตรียมย้ายจากสหรัฐฯ ไปเบลเยียม
Eclipse Foundation มูลนิธิที่ดูแลโครงการโอเพนซอร์สจำนวนมากถึง 375 โครงการ โดยโครงการที่สร้างชื่อคือ Eclipse IDE ประกาศเตรียมย้ายมูลนิธิไปเป็นองค์กรในยุโรป โดยก่อตั้ง Eclipse Foundation AISBL ในกรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยียมขึ้นมาเพื่อเตรียมการย้ายตัวองค์กรให้กลายเป็นมูลนิธิภายใต้กฎหมายยุโรป
อย่างไรก็ดี Mike Milinkovich ผู้บริหารของ Eclipse Foundation ระบุว่าตอนนี้ยังไม่มีแผนจะย้ายพนักงานกว่า 300 คนที่ทำงานอยู่ทั่วโลก และสำนักงานในบรัสเซลช่วงแรกก็จะเป็นสำนักงานเล็กๆ ไว้รับเอกสาร ส่วนความเปลี่ยนแปลงในอนาคตก็อาจจะเปลี่ยนสกุลเงินหลักสำหรับค่าสมาชิกเป็นยูโร
ซอร์สโค้ดโครงการต่างๆ ที่ส่งเข้ามายังโครงการที่ Eclipse Foundation ดูแลมาจากยุโรปมากกว่า 30% อยู่ก่อนแล้ว ขณะที่โค้ดจากสหรัฐฯ อยู่ที่ 12.7%
คาดว่ากระบวนการจดทะเบียน Eclipse Foundation AISBL จะเรียบร้อยภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ที่มา - Eclipse Foundation, The Register |
# โซนี่ประกาศรีแบรนด์สตูโอเกมในเครือทั้งหมดให้อยู่ภายใต้ PlayStation Studios
ปีที่แล้วไมโครซอฟท์รีแบรนด์ Microsoft Studios เป็น Xbox Game Studios ล่าสุดโซนี่รีแบรนด์ SIE Worldwide Studios ที่ดูแลสตูดิโอเกมในเครือตัวเองเป็น PlayStation Studios บ้างแล้ว
Eric Lempel รองประธานและหัวหน้าการตลาดของ SIE ระบุว่าแบรนด์ PlayStation Studios จะเริ่มใช้งานกับเกมบน PlayStation 5 ทั้งตัวโลโก้ใหม่ที่จะใช้ในการตลาด, บนกล่องและแผ่นเกม และแอนิเมชันที่จะปรากฎก่อนเข้าเกม (ดูได้ท้ายข่าว) ซึ่งแบรนด์นี้จะใช้งานกับเกมที่พัฒนาโดยสตูดิโอในเครือและเกมที่โซนี่พาร์ทเนอร์กับสตูดิโอภายนอก
ขณะที่เกมเอ็กคลูซีฟบน PlayStation 4 ก็จะใช้แบรนด์นี้ด้วย แต่เกมที่กำลังจะขายอย่าง The Last of Us Part II และ Ghosts of Tsushima จะยังไม่มีโลโก้ (คาดว่าสั่งผลิตไปแล้ว) ที่สำคัญคือ Lempel บอกด้วยว่าแบรนด์นี้จะไม่ปรากฎเฉพาะเกมเอ็กคลูซีฟบน PlayStation แต่จะปรากฎบนเกมที่สตูดิโอในเครือพัฒนาและขายบนแพลตฟอร์มอื่นด้วย (เช่นกรณี Horizon: Zero Dawn บนพีซี แต่แค่ Horizon ไม่ทันใช้เช่นกัน)
ที่มา - GameIndustry |
# เปิดตัว ROG Strix เกมมิ่งเดสก์ท็อปซีพียู Ryzen 3000 ราคาเริ่ม 32,990 บาท
ASUS เปลี่ยนซีพียูมาเป็น AMD Ryzen ยกชุดตั้งแต่แล็บท็อป VivoBook, แล็บท็อปเกมมิ่ง ROG Zephyrus G14 และ TUF Gaming A15 และล่าสุดก็เกมมิ่งพีซี ROG Strix แบ่งเป็นรุ่นย่อยที่ใช้ชิปเซ็ต B450 (GA15) และ X570 (GA35) รับประกัน Perfect Warranty 1 ปีแรกและ 3 ปีแบบออนไซด์
รุ่นชิปเซ็ต B450 มี 2 รุ่นย่อยคือ Ryzen 5 3600X + GTX 1660Ti และ Ryzen 7 3700X + RTX 2060 Super 8GB ทั้งสองรุ่นมาพร้อมแรม DDR4 3200MHZ 16GB (8+8), M.2 PCIe 512GB, PSU 500W 80+, ฝาเครื่องด้านข้างใสพร้อมไฟ Aura Sync รัน Windows 10 Home
รุ่น Ryzen 5 ราคา 32,990 บาท ส่วน Ryzen 7 ราคา 40,990 บาท
สำหรับชิปเซ็ต X570 มี 3 รุ่นย่อยคือ Ryzen 7 3700X หรือ Ryzen 9 3900X แถม Liquid Cooler ขนาด 240มม. ทั้งคู่ การ์ดจอเหมือนกันคือ RTX 2070 Super 8GB แรม DDR4 3200Mhz 16GB (8+8) M.2 PCIe 512GB, PSU 700W 80+ Gold, ฝาข้างใส Aura Sync, ROG Keystone รัน Windows 10 Home
โดยรุ่น Ryzen 7 ราคา 53,990 บาท ส่วนรุ่น Ryzen 9 ราคา 65,990 บาท
ขณะที่รุ่นท็อปเป็น Ryzen 9 3900X (240mm Liquid Cooler) การ์ดจอ RTX 2080Ti 11GB, แรม DDR4 3200MHz 32GB (16+16) M.2 PCIe 512GB + HDD 7200rpm 1TB, PSU 700W 80+ Gold ฝาข้างใส Aura Sync, ROG Keystone รัน Windows 10 Home ราคา 99,900 บาท |
# Microsoft Family Safety แอพเพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว เปิดทดสอบแล้ว
เมื่อเดือนมีนาคม ไมโครซอฟท์ประกาศรีแบรนด์ Office 365 เป็น Microsoft 365 พร้อมเพิ่มแอพ 2 ตัวให้ลูกค้าฝั่งคอนซูเมอร์คือ Microsoft Teams (ที่เดิมมีเฉพาะลูกค้าธุรกิจ) และแอพตัวใหม่ Family Safety เพื่อความปลอดภัย (หลายด้าน) ของคนในครอบครัว
ตอนนี้แอพ Microsoft Family Safety เริ่มเปิดทดสอบในวงจำกัดแล้วทั้งบน Android/iOS โดยมีฟีเจอร์ตามที่ประกาศไว้ ได้แก่ รายงานสถิติการใช้หน้าจอ (ได้ทั้งมือถือ, พีซี และ Xbox), ควบคุมเนื้อหาที่เด็กๆ เข้าถึงได้ (content control) และการแชร์พิกัดของคนในครอบครัวแบบเรียลไทม์
ผู้สนใจต้องลงทะเบียนกับไมโครซอฟท์ แล้วรอลิงก์เชิญร่วมทดสอบ ซึ่งยังมีจำนวนจำกัดในช่วงแรก
ที่มา - Microsoft |
# ASUS เปิดตัว ROG Zephyrus G14 และ TUF Gaming A15 ใช้ Ryzen 4000
ASUS เปิดตัวแล็บท็อปเกมมิ่งใหม่ 2 รุ่นคือ ROG Zephyrus G14 และ TUF Gaming A15 ที่เปลี่ยนมาใช้ซีพียู Ryzen 4000 ทั้งคู่
ROG Zephyrus G14 ซีพียูมี Ryzen 5 4600HS (6C/12T), Ryzen 7 4800HS (8C/16T) และ Ryzen 9 4900HS (8C/16T) แรม 16GB (8+8) และ 32GB (16+16) DDR4 3200MHZ การ์ดจอ GTX 1650Ti และ RTX 2060 Max-Q พร้อม ROG Boost ทั้งคู่
หน้าจอ 14 นิ้ว IPS FHD รีเฟรชเรท 120Hz หรือ WQHD 60Hz ได้การรับรองจาก Pantone หน่วยความจำ M.2 PCIe 512GB/1TB รองรับ Wi-Fi 6 รัน Windows 10 Home รองรับชาร์จผ่าน USB-PD ราคาเริ่ม 39,900 บาท สูงสุด 64,990 บาท
ส่วน TUF Gaming A15 หน้าจอ 15.6 นิ้ว FHD IPS รีเฟรชเรท 144Hz ซีพียูมี Ryzen 5 4600H (6C/12T) และ Ryzen 7 4800H (8C/16T) การ์ดจอ GTX 1650Ti และรุ่นสูงสุด RTX 2060 ROG Boost แรม DDR4 3200MHz ขนาด 8GB และ 16GB (8+8) M.2 PCIe 512GB และ 1TB รัน Windows 10 Home ราคาเริ่ม 26,990 บาท สูงสุด 39,990 บาท |
# ASUS เปิดตัว VivoBook ใหม่ใช้ Ryzen 4000 ราคาเริ่ม 19,990 มาพร้อม Office 2019
ASUS เปิดตัวแล็บท็อปตระกูล VivoBook ใหม่ที่ใช้ Ryzen 4000 Mobile ทั้ง 2 รุ่นย่อยคือ 14 นิ้ว (D433/D413) และ 15.6 นิ้ว (D533) หน้าจอ IPS ขอบจอบางความละเอียด FHD ซีพียูมีให้เลือก 2 ตัวเลือกคือ Ryzen 5 4500U (6C/6T) และ Ryzen 7 4700U (8C/8T) แรม DDR4 8GB หน่วยความจำ M.2 PCIe ขนาด 512GB พร้อมช่องอัพเกรดอีก 1 ช่อง (ไม่ได้ระบุว่า 2.5 นิ้วหรือ M.2)
ตัวคีย์บอร์ดมีไฟ backlight สีขาว รองรับ Wi-Fi 6 ลำโพง Harman/Kardon น้ำหนักราว ๆ 1.4 กก. มาพร้อม Windows 10 Home และ Office Home and Student 2019 รุ่นย่อยและราคาแบ่งเป็นดังนี้
VivoBook 14 รุ่น Ryzen 5 มี 3 สีคือ Indie Black, Hearty Gold และ Transparent Silver ราคา 19,990 บาท ส่วน Ryzen 7 มีแค่ Indie Black ราคา 22,900 บาท
Hearty Gold
Indie Black
Transparent Silver
ขณะที่ VivoBook 15 รุ่น Ryzen 5 มี 4 สีคือ Dreamy White, Resolute Red, Indie Black และ Gaia Green ราคา 20,900 บาท ส่วน Ryzen 7 มีแค่ Indie Black เช่นกัน ราคา 23,990 บาท
Dreamy White
Indie Black
Gaia Green
Resolute Red |
# POCO F2 Pro เปิดตัว สเปคเรือธง Snapdragon 865 ราคาเริ่มราว 17,000 บาท
POCO เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับเรือธงตัวแรกของบริษัทในชื่อ POCO F2 Pro (น่าซอยรุ่นไม่ Pro ราคาถูกตามมา?) หน้าจอ AMOLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ Gorilla Glass 5 รองรับ HDR10+ ชิปเซ็ต Snapdragon 865 แรม 6GB (LPDDR4X) และ 8GB (LPDDR5) หน่วยความจำ UFS 3.1 128GB/256GB มีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ
กล้องหลัง 4 ตัว กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ IMX686 กล้องอัลตร้าไวด์ 123 องศา 13 ล้านพิกเซล กล้องเทเลมาโคร 5 ล้านพิกเซลและกล้องวัดระยะลึก 2 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอสูงสุด 8K24 และ 4K60 ไทม์แลบส์ 4K30 โหมดกันสั่นและโบเก้สำหรับวิดีโอ กล้องหน้าป๊อปอัพ 20 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายสโลโมชัน 120fps
แบตเตอรี่ 4,700mAh ที่ชาร์จ 30W รองรับ 5G รัน Android 10 ครอบด้วย MIUI ที่ปรับแต่งโดย POCO ราคาเริ่มต้น 499 ยูโร (ราว 17,500 บาท) สำหรับรุ่น 6GB/128GB และ 599 (ราว 21,000 บาท) สำหรับรุ่น 8GB/256GB มี 4 สีคือ Neon Blue, Electric Purple, Cyber Grey และ Phantom White
ที่มา - Xiaomi |
# ไอซ์แลนด์มีสัดส่วนโหลดแอป Contract Tracing เยอะสุดในโลก แต่ไม่เห็นผลมากนัก
หนึ่งในความพยายามรับมือกับ COVID-19 คือแอป Contract Tracing ติดตามการพบปะผู้คนกรณีที่ป่วย เพื่อค้นหาและยับยั้งการแพร่ระบาด โดยประเทศไอซ์แลนด์มีจำนวนคนโหลด Rakning C-19 แอป Contract Tracing ที่รัฐสนับสนุนที่ 38% จากจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 360,000 คน ซึ่งมีสัดส่วนสูงที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคระบาดของไอซ์แลนด์ระบุว่า ผลการใช้งานกลับออกมาไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับการติดตามในแบบเดิม ๆ อย่างการสอบถามปากเปล่าหรือโทรศัพท์ถาม แม้จะพอมีประโยชน์อยู่บ้างในการติดตามเคสผู้ป่วยใหม่ ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นตัวพลิกเกม (game changer) ในการยับยั้งการระบาด
ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของ COVID-19 ปัจจุบันมีเคสที่ได้รับการยืนยันแล้วราว 1,800 ราย เสียชีวิตแค่ 10 ราย และตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างนิ่งมาหลายสัปดาห์แล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญของไอซ์แลนด์ระบุว่า ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการไล่ตรวจผู้ป่วยเชิงรุก ติดตามอาการและคัดแยกผู้ป่วยตั้งแต่เนิ่น ๆ
ที่มา - MIT Technology Review
ภาพจาก Getty Images |
# ใหญ่ฟัดใหญ่ เทียบสเปกซีพียูเดสก์ท็อป Intel Core 10th Gen vs AMD Ryzen 3000 Series ในระดับต่างๆ
หลัง Intel เปิดตัวซีพียูเดสก์ท็อป 10th Gen ไป ทำให้ปัจจุบันซีพียูในท้องตลาดมีมากมายหลายรุ่นไปหมด ตัวเลขก็เยอะขึ้นจนอาจทำให้ผู้บริโภคปวดหัวกันได้ วันนี้ผู้เขียนจึงอยากนำเสนอการเปรียบเทียบสเปกเบื้องต้นซีพียูของทั้งสองค่าย ในระดับต่างๆ ที่ใกล้เคียงกัน เพื่อช่วยผู้บริโภคอีกแรงในการเลือกซื้อซีพียูที่มีขายในท้องตลาดปัจจุบัน
การเทียบในบทความนี้คือจะพยายามใช้รุ่นใกล้กัน ที่มีราคาใกล้เคียงกันที่สุดมาเปรียบเทียบ ผู้เขียนจะใช้ซีพียูฝั่งอินเทลที่เป็นระดับ K มาเทียบกับรหัส X ของฝั่ง AMD เนื่องจากซีพียูรุ่นที่ไม่มีตัว X ของ AMD หลายรุ่น เป็นรุ่นที่มีจำหน่ายสำหรับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปโดยเฉพาะ ไม่สามารถซื้อแยกชิ้นได้ ส่วนซีพียูรหัส K ของ Intel เป็นซีพียูที่ไม่มีการล็อกตัวคูณสำหรับการโอเวอร์คล็อก และมีความเร็วคล็อกสูงกว่ารุ่นปกติ ซึ่งน่าจะคล้ายคลึงกับรหัส X ของฝั่ง AMD มากกว่า (แม้จะมีต้นทุนที่สูงขึ้นอีกเล็กน้อย เนื่องจากรหัส K ไม่มีพัดลมระบายความร้อนแถมมาให้)
คู่แรก ระดับเริ่มต้น Core i3-10100 vs Ryzen 3 3100
คู่แรกกับซีพียู Intel 10th Gen รุ่นเริ่มต้นอย่าง Core i3-10100 กับ Ryzen 3100 ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบรุ่นราคาถูกสุดของทั้งสองค่าย ในเจ็นใหม่นี้ Intel ใส่ Hyper Threading มาให้ Core i3 รุ่นเริ่มต้นด้วย ทำให้มี 4 คอร์ 8 เธร็ด เท่ากับฝั่ง AMD แต่ฝั่ง Intel ก็ยังไม่รองรับ PCIe 4.0 และราคายังแพงกว่าอยู่ โดย Core i3 3100 เริ่มต้นที่ประมาณ 122 เหรียญสหรัฐ ส่วน Ryzen 3 3100 อยู่ที่ประมาณ 99 เหรียญ สำหรับผู้ประกอบคอมที่มีงบจำกัด AMD ชนะไปในด้านของความประหยัดในยกนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของซีพียูรุ่นเริ่มต้น ส่วนในฝั่ง Intel จะได้เปรียบในด้านบูสต์คล็อก ที่มากกว่าอยู่ 300MHz เท่านั้น
หรือถ้าขยับขึ้นมาหน่อยในเรทราคาใกล้กันขึ้นมาอีกเล็กน้อย AMD จะมี Ryzen 3 3300X ที่ได้ 4 คอร์ 8 เธร็ด คล็อค 4.3/3.8GHz แต่ผลเบนช์มาร์คออกมาเหนือกว่า Ryzen 3 3100 แถมมี CCX แค่ชุดเดียว ลดความหน่วงระหว่างคอร์ลงด้วย
คู่สอง รุ่นกลาง Core i5-10600K ปะทะ Ryzen 5 3600X
รุ่นกลางในระดับราคาประมาณ 250-260 เหรียญสหรัฐ แม้รุ่น 10600K ของ Intel จะแพงกว่าเล็กน้อย และไม่มีพัดลมระบายความร้อนมาให้ แต่ก็ชนะไปด้านความเร็วคล็อก ถึงจะแพ้ไปในด้านการรองรับ PCIe 4.0 และ จำนวน Cache ก็ตาม แต่ปัจจุบัน PCIe 4.0 ก็ยังไม่มีการใช้งานที่แพร่หลายนัก แต่อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ในระยะยาว
คู่ที่สาม รุ่นใหญ่ Core i7-10700 ปะทะ Ryzen 7 3700X
คู่ที่สาม เป็นคู่รุ่นใหญ่ราคาประมาณ 320-330 เหรียญสหรัฐ ฝั่ง Intel เป็น Core i7-10700 ส่วนฝั่ง AMD เป็น Ryzen 7 3700X ยกนี้ AMD ชนะไปในด้านความเร็วคล็อกพื้นฐาน ส่วน Intel มีความเร็วบูสต์สูงกว่า แต่ ก็แพ้ไปในด้านความจุ cache และการไม่รองรับ PCIe 4.0 เช่นเคย
คู่ตัวท็อป Core i9-10900K ปะทะ Ryzen 9 3900X (พร้อมแขกรับเชิญ Ryzen 9 3950X)
ถ้าวัดกันเรื่องตัวท็อปในราคา 400 เหรียญปลายๆ คงต้องจับ Core i9-10900K มาชนกับ Ryzen 9 3900X เพราะระดับราคาใกล้เคียงกันซึ่ง AMD จะชนะไปในแทบทุกด้าน ยกเว้นความเร็วบูสต์ (ซึ่ง Intel ก็เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงได้ด้านนี้แทบจะทุกรุ่น) แต่จำนวนคอร์และเธร็ดของ AMD ที่มากกว่า น่าจะทำให้การทำงานแบบ multi-threads ทำได้ดีกว่าพอสมควร
แต่ฝั่ง AMD ยังมีอีกรุ่นที่เป็นตัวท็อปจริงๆ คือ Ryzen 9 3950 X ซึ่งเป็นรุ่นที่มีราคากระโดดไปมาก คิดว่านำมาเปรียบเทียบกับ 10900K โดยตรง อาจจะแตกต่างเกินไป แต่จะได้จำนวนคอร์/เธร็ด ถึง 16 คอร์ 32 เธร็ด ที่แม้ความเร็วคล็อกจะต่ำกว่า แต่น่าจะถล่ม Intel ในด้านการทำงานแบบ multi-threads ไปเลย ติดที่ราคาจะกระโดดไปถึงประมาณ 749 เหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับ 488 เหรียญ ของ i7-10700K
สรุป
สเปกของ Intel Core 10th Gen กับ Ryzen 3000 Series อาจจะดูใกล้เคียงกัน โดย Intel มีความได้เปรียบกว่าในเรื่องความเร็วบูสต์ (เทคโนโลยี Turbo Boost Max ของ Intel) แต่ AMD ก็ยังมีข้อได้เปรียบเรื่องจำนวนคอร์ สถาปัตยกรรม 7nm ความจุ cache ที่มากกว่า และการรองรับ PCIe 4.0 (บนเมนบอร์ด X570 และ B550)
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการเปรียบเทียบแค่สเปกบนหน้ากระดาษเท่านั้น ส่วนประสิทธิภาพคงต้องรอ benchmark เปรียบเทียบจากฝั่ง Intel Core 10th Gen ในแง่การทำงานด้านต่างๆ กันต่อไป
นอกจากนี้ ต้องไม่ลืมว่า Ryzen 3000 series เป็นรุ่นที่ออกมาก่อน Intel Core 10th Gen และเราอาจได้เห็น Ryzen 4000 Series บนเดสก์ท็อปกันภายในปีนี้ หลัง 4000 Series ในโน้ตบุ๊ก ทำประสิทธิภาพได้ดี จน Intel ต้องร้อนๆ หนาวๆ
ผู้บริโภคอาจต้องขอบคุณ AMD ที่ในระยะหลังพัฒนาสถาปัตยกรรม Zen ได้ดีจนแซงหน้า Intel ไปแล้วหลายช่วงตัว ก่อให้เกิดการแข่งขันและลดราคาต่อประสิทธิภาพของซีพียูลงเมื่อเทียบกับช่วงที่ Intel ครองตลอดเจ้าเดียว ซึ่งก็ไม่รู้ว่า Intel จะก้าวข้ามสถาปัตยกรรมเก่าที่สืบทอดมาจาก Skylake ตั้งแต่ปี 2015 และเดินหน้าเต็มตัวไปกับ Sunny Cove ที่ขนาด 10 นาโนเมตร ก่อนจะต่อยอดไป 7 นาโนเมตรได้เมื่อไหร่ |
# Moto RAZR (2019) ได้ Android 10 แล้ว โทรออก ตอบข้อความ นำทางได้จากหน้าจอนอก
Motorola RAZR ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และรันบน Android Pie โดย Motorola แจ้งว่าจะได้อัพเกรดเป็น Android 10 ในภายหลัง วันนี้เริ่มได้ทยอยอัพเดตเป็น Android 10 แล้ว และมีฟีเจอร์ใหม่ดังนี้
ปัดซ้ายจากหน้าจอด้านนอก (Quick View) เพื่อดู Favorite Contacts แล้วโทรออกได้ทันที กด Numpad โทรออกโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ และตอบข้อความได้ทันทีด้วยคีย์บอร์ดบนจอ Quick View
ถ่ายเซลฟี่แบบ Group Shot, Portrait Mode ได้จากกล้องหน้า หรือถ้าพับหน้าจอไว้ และไม่ได้ล็อกเครื่อง จะสามารถปัดหน้าจอจากขวาไปซ้าย เพื่อเปิดกล้องหน้าได้ทันที หรือใช้ Quick Capture ขยับข้อมือเพื่อถ่ายภาพได้
ใช้ turn-by-turn navigation ของ Google Maps และควบคุมแอปเล่นวิดีโอเช่น YouTube หรือแอปฟังเพลงเช่น Spotify หรือ YouTube Music บนหน้าจอ Quick View ได้
ที่มา - Motorola Blog |
# OPPO ยอมรับ ยิ่งชาร์จเร็ว ยิ่งทำแบตเสื่อมไว เป็นความจริง
ยุคหลังๆ หนึ่งในฟีเจอร์หลักที่หลายค่ายสมาร์ทโฟนใช้โปรโมต คือฟีเจอร์ชาร์จเร็ว ซึ่ง OPPO ก็เป็นอีกแบรนด์ที่มีฟีเจอร์นี้ และ OPPO Ace 2 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้ว นั้นสามารถชาร์จเร็วแบบไร้สายได้ถึง 40W (เมื่อใช้ระบบชาร์จ AirVOOC ของ Oppo) และชาร์จแบบมีสายได้ถึง 65W (ด้วย SuperVOOC 2.0)
Andrei F. ทีมงานเว็บไซต์ AnandTech ได้ทวีต ว่า OPPO ยืนยันว่า ในรอบการชาร์จ (cycle) เท่ากัน กำลังไฟ 40W จะทำให้ความจุแบตเหลือ 70% เมื่อเทียบกับกำลังไฟ 15W ที่ความจุแบตจะเหลือถึง 90%
นี่อาจเป็นเหตุผลที่ปัจจุบัน Apple ให้ที่ชาร์จเร็วสุดแค่ 18W, Samsung ที่ 25W และ OnePlus ที่ 30W และผู้ใช้ที่ไม่ชอบเปลี่ยนสมาร์ทโฟนบ่อยๆ ใช้เครื่องหนึ่ง 2-3 ปี อาจต้องคิดหนักหน่อยเวลาจะซื้อมือถือที่มีฟีเจอร์ชาร์จเร็วที่มีจำนวนวัตต์สูงๆ แต่หากเปลี่ยนโทรศัพท์บ่อย ทุก 1 ปี หรือต่ำกว่า อาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในแง่นี้
ส่วน OPPO เอง เปิดตัวเทคโนโลยีชาร์จเร็ว SuperVOOC 2.0 65W, VOOC Flash Charge ชาร์จไร้สายแบบ 30W และ VOOC 4.0 ชาร์จเร็วแบบมีสาย 30W ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
ที่มา - Android Community |
# เคาะแล้ว Adobe Max ปี 2020 จัดผ่านออนไลน์ 19-21 ต.ค. เข้าร่วมได้ฟรี
Adobe Max งานใหญ่ประจำปีของ Adobe เป็นอีเว้นท์ปล่อยของใหม่ Adobe Creative Cloud จัดช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี ล่าสุดทางบริษัทประกาศออกมาแล้วว่าปีนี้ จะจัดอีเว้นท์ช่องทางออนไลน์ เนื่องจาก COVID-19
Adobe ยังบอกด้วยว่า ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย จากเดิมที่จัดเป็นอีเว้นท์เสียเงิน โดยงาน Adobe Max ปี 2020 จะจัดขึ้นในวันที่ 19 –21 ตุลาคม
จุดเด่นของงาน Adobe Max อยู่ที่การปล่อยฟีเจอร์ใหม่ๆ ของแอปพลิเคชั่นออกแบบในเครือ Adobe Creative Cloud การจัดพูดคุยกับครีเอทีฟและนักออกแบบชื่อดัง รวมถึงการเวิร์กชอปต่างๆ
ที่มา - Adobe |
# สรุปรีวิว Microsoft Surface Go 2 ดีกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ยังไม่ดีพอในราคานี้
Microsoft Surface Go แท็บเล็ตรุ่นจิ๋ว เน้นพกพาในตระกูล Surface ที่เพิ่งเปิดตัวรุ่น 2 ไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีข้อแตกต่างหลักคือเพิ่มขนาดหน้าจอจาก 10 นิ้ว เป็น 10.5 นิ้วในตัวเครื่องขนาดเดิม และเพิ่มซีพียู Intel Core m3 และรุ่นรองรับ LTE เข้ามา
ในภาพรวม สื่อทุกสำนักยังคงชม Surface Go ในด้านของการออกแบบ คุณภาพของวัสดุแมกนีเซียม การประกอบ และความคล่องตัวในการพกพาของเครื่องที่มีขนาดเท่าเดิม น้ำหนักเพียง 1.22 ปอนด์ หรือประมาณ 5.5 ขีด ส่วนหน้าจอที่เพิ่มมาครึ่งนิ้ว แม้จะดูน้อย แต่บนตัวเครื่องขนาดนี้ แค่ครึ่งนิ้วก็มีความหมาย รวมถึง kickstand ของ Surface Go 2 ก็ยังสะดวกต่อการใช้งานในด้านการวาดภาพ และหน้าจอ PixelSense ก็ยังคงคุณภาพและรักษาอัตราส่วน 3:2 ของ Surface ในความละเอียด 1920 x 1280 ไว้เหมือนเดิม
ข้อติที่สื่อหลายเจ้ามีเหมือนกัน คือถึงแม้ประสิทธิภาพในรุ่น Core m3 (Intel 8th Gen) จะดีขึ้นกว่า Pentium Gold ใน Surface Go พอสมควร แต่ในรุ่นเริ่มต้น ราคา 399 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 12,800 บาท) ก็ยังใช้ซีพียู Pentium Gold อยู่ดี แม้จะเปลี่ยนจาก รหัส 4415Y สถาปัตยกรรม Kaby Lake ในรุ่นก่อน มาเป็น 4425Y บนสถาปัตยกรรม Amber Lake ก็ตาม แต่ต่างกันแค่ความเร็วคล็อกที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อเปรียบเทียบกับ iPad Mini ที่เป็นแท็บเล็ตขนาดเล็ก ราคาเริ่มต้นที่ 399 เหรียญเช่นเดียวกัน (ราคาไทย 13,900 บาท) จะได้ซีพียู A12 Bionic ที่ประสิทธิภาพในการใช้งานแซง Pentium Gold ไปไกล ส่วนหน่วยความจำภายในของ Surface Go 2 เริ่มต้น 64GB และยังเป็นแบบ eMMC อยู่ มีความเร็วต่ำกว่า SSD ทั่วไป และ flash memory ใน iPad พอสมควร
นอกจากนี้ ยังมีเสียงบ่นในด้านราคาของอุปกรณ์เสริม Type Cover ราคา 129 เหรียญ (ประมาณ 4,200 บาท) และ Surface Pen ราคา 99 เหรียญ (ประมาณ 3,200 บาท) ที่ยังขายแยกอยู่ เพราะแม้ว่า Apple จะขายอุปกรณ์เสริมของแท็บเล็ตตัวเองแยกเช่นกัน แต่ Surface Go 2 นั้นดูไม่สมบูรณ์เท่าไรหากขาด Type Cover ที่มีคีย์บอร์ดไป เพราะทั้งซอฟต์แวร์ Windows ที่เน้นรองรับคีย์บอร์ดมากกว่า และขนาดหน้าจอที่แม้จะเพิ่มมาเป็น 10.5 นิ้ว แต่ก็ยังพิมพ์ได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร
หากซื้อรุ่นแบบจัดสเปกเต็ม Intel Core m3 + LTE (ใส่ซิมได้) รวมกับอุปกรณ์เสริม Type Cover อาจมีราคาถึง 858 เหรียญ (ประมาณ 27,600 บาท) และถ้าใครต้องการใช้งาน Surface Pen เป็นตัวเลือกเสริม ราคาก็จะเพิ่มขึ้นไปถึง 957 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว (ประมาณ 31,000 บาท)
ในด้านแบตเตอรี่ แม้ Microsoft จะคุยว่าแบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้น แต่จากการทดสอบของ Engadget โดยการเปิดวิดีโอความละเอียด HD วนลูป แบตเตอรี่ของ Microsoft Surface Go 2 อยู่ได้ 9 ชั่วโมง 55 นาที มากกว่า Surface Go รุ่นแรก ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น แทบจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไร
สรุป
แม้ตัวเลือกซีพียู Core m3 อาจจะเพียงพอต่อการใช้งาน Surface Go 2 ในฐานะแท็บเล็ต แต่ด้วยราคาที่กระโดดไป 629 เหรียญสหรัฐ (หรือแม้แต่ Pentium Gold ในราคา 399 เหรียญสหรัฐ) เมื่อเทียบประสิทธิภาพต่อราคา และเทียบกับคู่แข่งอย่าง iPad แล้ว ความน่าสนใจและความน่าซื้อ Surface Go 2 ถือว่าน้อยมาก ๆ ไม่รวมการถูกบังคับกลาย ๆ (จากการใช้งาน Windows) ให้กับการต้องซื้อ Type Cover เพิ่มอีก 99 เหรียญ
Surface Go 2 ในท้ายที่สุดอาจตอบโจทย์เฉพาะคนที่ต้องการแท็บเล็ต Windows แบบพกพาสะดวก เล็กและเบา โดยไม่เกี่ยงประสิทธิภาพและราคา
คะแนนจากสื่อต่างๆ
Engadget - 79 / 100
Digital Trends 3 / 5
PCWorld 3.5 / 5 |
# Instagram Lite หายไปจากร้านค้าแอป บริษัทบอกเวอร์ชั่นปรับปรุงจะกลับมา
Instagram Lite หรือ Instagram เวอร์ชั่นประหยัดเน็ต เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018 ล่าสุดตัวแอปหายไปจากร้านค้าแอป Google Play เมื่อสอบถามไปยัง Instagram ได้รับคำตอบมาว่ากำลังปรับปรุงให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ และจะสามารถกลับไปใช้ได้ดังเดิมในประเทศที่ใช้งานได้อยู่ก่อนแล้ว
ไม่มีรายละเอียดว่า Instagram จะปรับปรุงเป็นเวอร์ชั่นใหม่อย่างไร หรือจะเอาข้อด้อยอะไรไปแก้ไข สำหรับผู้ใช้ที่จะใช้ Instagram Lite จะได้รับคำแนะนำให้ใช้เวอร์ชั่นปกติ หรือสามารถใช้เวอร์ชั่นเว็บเพื่อประหยัดเน็ตได้
ที่มา - Engadget |
# Ubisoft คอนเฟิร์ม Xbox Series X ก็ยังรัน Assassin's Creed Valhalla ที่ 4K 60FPS ไม่ได้
แม้สเปคบนกระดาษฝั่ง Xbox Series X จะกินขาด Playstation 5 แต่ถึงกระนั้นก็อาจจะไม่แรงพอที่จะรัน Assassin's Creed Valhalla ที่ความละเอียด 4K 60fps
โฆษก Ubisoft ยืนยันกับ Eurogamer ของโปรตุเกสว่าตัวเกมจะรันได้ที่อย่างน้อยที่ 30fps บนความละเอียด 4K ซึ่งก็คงต้องรอตัวเกมและเครื่องวางจำหน่ายจริงว่าสุดท้ายจะรันได้ที่ fps เฉลี่ยเท่าไหร่ และเครื่องพีซีต้องสเปคขนาดไหนถึงจะได้ 4K 60fps
ที่มา - Notebookcheck |
# AIS เตรียมเปิดจอง iPhone SE วันที่ 14 พ.ค. นี้
เอไอเอส ประกาศผ่านบัญชีทวิตเตอร์ @AIS_Thailand ว่าจะเริ่มจำหน่าย iPhone SE ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เวลา 8.00น. เป็นต้นไป
ราคาขายพร้อมแพ็คเกจของตอนนี้ยังไม่มีออกมา แต่หากดูราคาเครื่องเปล่าที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์ของเว็บแอปเปิล เริ่มต้นอยู่ที่ 14,900 บาท สำหรับความจุ 64GB ส่วนความจุที่สูงขึ้น 128GB 16,900 บาท และ 256GB 20,900 บาท
iPhone SE เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของแอปเปิล ที่เน้นสเปกแรง ในราคาที่ไม่สูง ซึ่ง Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ก็เคยกล่าวไว้ว่าสเปกนี้เร็วกว่ามือถือ Android รุ่นที่เร็วที่สุด
ที่มา: เอไอเอส |
# Spotify ออก Group Session ให้ผู้ใช้พรีเมี่ยมช่วยกันเป็นดีเจ คุมเพลย์ลิสต์ได้ในสถานที่เดียวกัน
Spotify ออกฟีเจอร์ใหม่เอาใจสายปาร์ตี้คือ Group Session ให้ผู้ใช้งานพรีเมี่ยมมากกว่า 1 รายช่วยกันคุมเพลย์ลิสต์เพลงที่เปิดในสถานที่เดียวกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเลือกเพลงมาอยู่ในคิว เปลี่ยนเพลง ข้ามเพลง คือให้เพื่อนมาเป็นดีเจร่วมกันได้แบบเรียลไทม์
ในการให้เพื่อนเข้ามาช่วยคุมเพลย์ลิสต์ ตัวโฮสต์ต้องกด Connect ที่ด้านซ้ายล่างของหน้าจอเล่นเพลง และให้เพื่อนสแกนบาร์โค้ดที่เป็นสไตล์ของ Spotify เอง ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์ Group Session ได้ สามารถกด Leave Session เพื่อจบการควบคุมเพลย์ลิสต์ได้ด้วย
Spotify มีฟีเจอร์ในลักษณะโซเชียลคือ Family Mix เพลย์ลิสต์ที่รวมเอาเพลงที่ผู้และสมาชิกคนอื่นในประเภทสมาชิก Family ฟัง แต่ Group Session นั้นต่างออกไป เพราะสามารถคุมเพลย์ลิสต์ได้แบบเรียลไทม์
ภาพจาก Spotify Media Kit
ที่มา - TechCrunch |
# Civilization VI ประกาศ DLC ชุดใหม่ New Frontier เพิ่มชนชาติใหม่อีก 8 ชาติ
Firaxis ประกาศเพิ่มเนื้อหา DLC ให้เกม Civilization VI เพิ่มเติมจากภาคเสริมสองภาค (Rise and Fall และ Gathering the Storm ที่ออกมาก่อนหน้า)
เนื้อหาชุดนี้เรียกว่า New Frontier Pass ประกอบด้วย DLC ทั้งหมด 6 ตัว ที่จะทยอยออกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2021
DLC ทั้ง 6 ตัวจะเพิ่มชนชาติใหม่เข้ามาอีก 8 ชาติ (เปิดเผยชื่อแล้วคือ Maya, Gran Colombia, Ethiopia), โหมดใหม่ๆ อีก 6 โหมด (เปิดเผยแล้วคือ Apocalypse และ Secret Societies) รวมถึงสิ่งปลูกสร้างและทรัพยากรใหม่ๆ อีกจำนวนหนึ่ง เนื้อหาส่วนใหญ่เล่นได้บนตัวเกมภาคหลัก แต่บางอย่างจำเป็นต้องมีภาคเสริมด้วย
New Frontier Pass จะมีให้บนทุกแพลตฟอร์มคือ PC, Mac, PS4, Xbox One, Switch แต่ยังไม่บอกราคาค่า Pass ว่าเท่าไร
นอกจากนี้ Firaxis ยังบอกว่าจะมีอัพเดตฟรีสำหรับผู้เล่นทุกคน ที่เพิ่มแผนที่และซีนาริโอใหม่ๆ รวมถึงปรับสมดุลของเกมเพิ่มเติมด้วย
ที่มา - Civilization |
# ทวิตเตอร์ออกป้ายกำกับใต้โพสต์ที่เนื้อหาส่อให้ข้อมูลผิดเกี่ยวกับ COVID-19
ทวิตเตอร์ออกป้ายกำกับใต้โพสต์ที่มีเนื้อหาผิดหรือชวนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับ COVID-19 พร้อมลิงค์กดไปดูข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และยังออกฟิลเตอ์บังข้อความบนโพสต์ที่มีเยื้อหาขัดแย้งกับข้อมูลทางการ เป็นการขึ้นเตือนให้ดูก่อนจะกดเข้าดูเนื้อหาบนทวีตนั้นๆ ได้
นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ยังเผยระดับของข้อมูลว่าเนื้อหาระดับนี้จะถูกจัดการอย่างไร โดย Misleading information หรือข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิด จะถูกติดป้ายกำกับหรือลบออกจากแพลตฟอร์ม, Disputed claims หรือเนื้อหาที่มีการอ้างสิทธิ์ที่โต้แย้งกับเนื้อหาวิชาการอื่นๆ จะถูกติดป้ายกำกับ และขึ้นคำเตือน
ที่มา - ทวิตเตอร์ |
# Twitch เปิดขายบัตรของขวัญ เอาไว้ซื้อของบนแพลตฟอร์มได้
Twitch เปิดขายบัตรของขวัญหรือ gift card ให้ผู้ใช้เอาไปซื้อไอเท็มและเนื้อหาอื่นๆ บนแพลตฟอร์มได้ มีราคา 25, 50, 100 และ 200 ดอลลาร์ จนถึงตอนนี้ซื้อได้ผ่านช่องทางดิจิทัลเท่านั้น โดย Twitch จะจัดส่งบัตรของขวัญมาให้ทางอีเมล แต่ในอนาคตจะเปิดขายบัตรของขวัญใน Best Buy และ GameStop ด้วย เริ่มเปิดใช้งานในสหรัฐฯก่อน
ปัจจุบัน Twitch มีช่องทางทำเงินคือ ขายระบบสมัครมาชิก Subscription ติดตามสตรีมเมอร์ที่ชอบ ราคาเริ่มต้น 4.99 ดอลลาร์, Bits หรืออีโมจิให้กำลังใจสตรีมเมอร์ และ Gift Subscriptions
ภาพจาก Twitch
ที่มา - The Verge |
# บรรเทาทุกข์โควิด Google ให้ธุรกิจเพิ่มลิงค์รับบริจาคเงินในหน้าโปรไฟล์
Google เพิ่มฟีเจอร์ช่วยธุรกิจที่กำลังเดือดร้อนจาก COVID-19 ให้ธุรกิจเพิ่มลิงค์รับบริจาคเงินบนหน้าโปรไฟล์ได้ ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถกดปุ่มบริจาค และกดปุ่มบัตรของขวัญหรือ gift card เพื่อสนับสนุนเงินช่วยเหลือธุรกิจได้
ธุรกิจสามารถเข้าใช้งานบน portal Google My Business ใส่ข้อความระบุเพื่อเป็นข้อมูลได้ว่าเงินที่ได้มาจะเอาไปทำอะไร โดยลิงค์กดเพื่อบริจาคจะเริ่มเปิดใช้งานภายในเดือนนี้ เริ่มต้นที่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
สามารถเข้าไปอ่านเงื่อนไขธุรกิจที่สามารถใช้งานฟีเจอร์รับบริจาคได้ ที่นี่
ที่มา - Google Blog |
# AIS Business กับภารกิจช่วยธุรกิจให้เดินหน้าเต็มประสิทธิภาพ แม้ในช่วง COVID-19
ในภาวะโรค COVID-19 ระบาด ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องปรับตัวให้พนักงานแทบทั้งหมดทำงานจากที่บ้านโดยที่ไม่ได้เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า เมื่อระบบการทำงานต่างๆ ไม่มีความพร้อม ธุรกิจจึงติดขัดอยู่บ้าง ปัญหานี้ทำให้บริษัทโทรคมนาคมอย่าง AIS กลายเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนเข้าสู่การ Work from Home อย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น การออกแพ็กเกจเน็ต Work From Home ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของวิกฤติครั้งนี้
แต่บริการอินเทอร์เน็ตอย่างเดียว คงไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าองค์กร ที่มีปัจจัยอื่นๆ ให้ต้องคำนึงถึง เช่น การตั้งสำนักงานสำรอง (BCP office), ระบบการประชุมออนไลน์ ไปจนถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ประเด็นเหล่านี้ถือเป็นโอกาสที่ AIS Business จะเข้ามาช่วยสนับสนุนลูกค้ากลุ่มนี้ได้
คุณยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล Chief Enterprise Business Office (CEBO) ของ AIS Business เล่าว่าแต่ละองค์กรมีความจำเป็นที่แตกต่างกัน ทำให้โซลูชันที่ AIS Business เข้าไปช่วยจึงต้องหลากหลายครอบคลุม
ประชุมออนไลน์ โซลูชันหลากหลายตั้งแต่ SME จนถึง Enterprise
เมื่อพูดถึงการทำงานจากที่บ้าน สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงคือการประชุมออนไลน์ แต่เอาเข้าจริง การประชุมออนไลน์ก็มีรูปแบบหลากหลาย มีตั้งแต่การประชุมที่มีคนเข้าร่วมเพียง 3-4 คนไปจนถึงหลักร้อย การประชุมบางอย่างต้องมีการนำเสนอ การแชร์หน้าจอ การบันทึกวิดีโอไว้ใช้อ้างอิงในภายหลัง
บางงานที่เป็นประชุมเล็ก ทุกคนอยู่นอกสถานที่ ประชุมผ่านสมาร์ทโฟนที่มีอยู่แล้วก็พอ ในขณะที่บางองค์กรอาจจำเป็นต้องใช้โซลูชันฮาร์ดแวร์เต็มรูปแบบ ทั้งลำโพง ไมโครโฟนลดเสียงสะท้อน กล้องวิดีโอความละเอียดสูงที่หมุนได้ เป็นต้น
ส่วนองค์กรที่มีแพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ และคุ้นชินกับการใช้งานระบบเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่ต้องการขยาย หรือปรับเปลี่ยนตามความต้องการใหม่ AIS Business ก็ได้เตรียมโซลูชันการประชุมที่หลากหลาย เช่น CISCO Webex, Polycom เพื่อให้ยืดหยุ่นต่อลูกค้าในการเลือกใช้ และยังอำนวยความสะดวกให้องค์กรด้วยการเป็น single provider ที่ให้บริการได้ตั้งแต่ชุดอุปกรณ์, โครงสร้าง Network, Conference platform และ License รวมถึงบริการติดต้ังและให้คำปรึกษาการใช้งาน
ปรับปรุงเครือข่ายให้พร้อม แม้ไม่ได้ออกแบบไว้สำหรับ Work from Home
อีกประเด็นที่คนไม่ค่อยคิดถึงกันมากนัก คือ ระบบหลังบ้าน โดยเฉพาะระบบเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานทางไอที ที่อาจกลายเป็นข้อจำกัดของการทำ Work from Home ได้เช่นกัน องค์กรขนาดใหญ่อาจคุ้นเคยกับการใช้โซลูชัน VPN หรือ VDI อยู่แล้ว แต่แบนด์วิดท์ที่เคยออกแบบไว้ เป็นสถานการณ์สำหรับการมาทำงานในออฟฟิศตอนกลางวันเท่านั้น พอทุกคนต้องทำงานจากที่บ้าน เชื่อมต่อเข้ามายังเครือข่ายในสำนักงานก็ไม่พอใช้งาน
การปรับระบบโครงสร้างพื้นฐานคงไม่มีคำตอบที่ตายตัว เพราะความต้องการของแต่ละองค์กรต่างกัน บางองค์กรอาจต้องการใช้แค่ web application ที่ใช้ทราฟฟิกไม่เยอะ แต่บางองค์กรต้องโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ตลอดเวลาก็จะต่างไป รวมถึงประเด็นเรื่องการใช้งานพร้อมๆ กัน (concurrent users) ที่มักเป็นสาเหตุของระบบเครือข่ายภายในที่ช้าจนทำให้งานสะดุด
เรื่องนี้ AIS ในฐานะบริษัทโทรคมนาคม มีความเชี่ยวชาญเรื่องการบริหารเครือข่าย สามารถเข้าไปช่วยแนะนำเรื่องการปรับปรุงเครือข่ายให้เหมาะสำหรับการทำงานช่วงนี้ ตั้งแต่การปรับโครงสร้าง ปรับแบนด์วิดท์ ไปจนถึงการจัดความสำคัญของแอปพลิเคชันให้เหมาะสม เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานของพนักงานจำนวนมากที่ทำงานจากที่บ้าน อีกทั้งมีบริการ Corporate Internet Bandwidth on Demand โซลูชั่นที่เปิดให้สามารถปรับสปีดการใช้งานอินเทอร์เน็ตองค์กร หรือเครือข่ายส่วนตัวขององค์กร (DDC MPLS) ได้ตามความต้องการ
ส่วนทราฟฟิกที่เพิ่มขึ้นจากการใช้งานในช่วงนี้ AIS มีมาตรการเฝ้าระวังการใช้งานเครือข่ายทั้งหมดในช่วงสถานการณ์พิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายแบบมีสาย (Fibre) และไร้สาย (4G/5G/Wi-Fi) ให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าทั้งหมด
บทบาทของคลาวด์ในยุค Work from Home ถ้าใช้คลาวด์อยู่แล้วปรับตัวได้เร็วกว่า
เราพบว่าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์อยู่แล้ว หรืออย่างน้อยๆ คือใช้งานศูนย์ข้อมูลของเราอยู่ก่อนหน้า สามารถปรับตัวให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้สะดวกกว่า เพราะข้อมูลที่จำเป็นอยู่บนคลาวด์เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องแก้ปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อกลับไปยังเครือข่ายในสำนักงานอีก
ตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของคลาวด์ เพราะหากแบนด์วิดท์ไม่พอก็แค่แจ้งขอเพิ่มแบนด์วิดท์ได้ทันที สถานการณ์นี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้องค์กรในประเทศไทยเริ่มทำ digital transformation ย้ายระบบขึ้นคลาวด์ได้เร็วขึ้น เพราะได้สัมผัสกับปัญหาจริงๆ ด้วยตัวเอง
AIS เตรียมความพร้อมเรื่องคลาวด์ โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการ public cloud ต่างๆ อย่าง AWS และ Microsoft Azure โดยมีการเชื่อมต่อเครือข่ายโดยตรง (Express Route) เพื่อให้ลูกค้าของเราเข้าถึงเครือข่ายคลาวด์เหล่านี้ได้สะดวกรวดเร็วที่สุด
Single Provider มาที่เดียวครบ จัดการให้ได้ทุกอย่าง
จุดเด่นอีกประการของ AIS Business คือการเป็น single provider ที่ให้บริการได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ชุดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ประชุม โครงข่ายอินเทอร์เน็ต พื้นที่เช่าศูนย์ข้อมูล การเชื่อมต่อกับคลาวด์ ไลเซนส์ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงบริการติดตั้ง ให้คำปรึกษา บริการหลังการขาย 24 ชั่วโมง
แม้ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 เราสามารถจัดการเรื่องจดทะเบียนซื้อแพ็กเกจ ส่งซิมใหม่ไปให้พนักงานที่กระจายตัวกันตามที่ต่างๆ ได้ โดยมีแพ็กเกจ on-top หลากหลายทั้งค่าเน็ต และค่าโทร องค์กรสามารถเลือกสมัครให้เบอร์มือถือ AIS ที่จดทะเบียนในนามองค์กร เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างไม่ติดขัด อีกทั้งในกรณีเบอร์มือถือ AIS ที่จดทะเบียนในนามพนักงานเอง AIS Business ก็มีระบบที่ช่วยให้องค์กรสามารถส่งแพ็กเกจ on-top เหล่านี้ไปให้เบอร์พนักงานได้ด้วยเช่นกัน (พนักงานไม่ต้องจ่ายเงินเอง, องค์กรออกค่าใช้จ่ายให้)
นอกจากนี้เรายังมี campaign อื่นๆ เช่น SME ยิ้มสู้ ที่นอกจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการให้มีเครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์ในยุคที่ธุรกิจกำลังปรับตัวด้วย
รายละเอียดของโซลูชันจาก AIS Business สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://business.ais.co.th/workingfromhome
และดูรายละเอียดความพร้อมในการให้บริการหลังการขายได้ที่ https://business.ais.co.th/customercare |
# Galaxy S20 Ultra 5G รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G ในไทยแล้ว
หลังจากเปิดตัวและวางขาย Galaxy S20 Ultra 5G ในไทยมาได้สักระยะหนึ่ง ซัมซุงประเทศไทยก็ประกาศรองรับการใช้งาน 5G ในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะใช้ได้กับทั้งเครือข่าย AIS และ TrueMove H
ในเพจของ Samsung Thailand ระบุว่าต้องอัพเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด (G988BXXU1ATD3 / G988BOXM1ATD7 / G988BXXU1ATD1) เช็คได้จากการกด *#1234#
ที่มา - Samsung Thailand |
# Tesla กลับมาเปิดโรงงานในแคลิฟอร์เนีย ฝ่าฝืนคำสั่งหน่วยงานรัฐ Elon Musk ท้าให้จับเลย
ต่อเนื่องจากข่าว Elon Musk ขู่ย้ายสำนักงานใหญ่ Tesla ออกจากแคลิฟอร์เนีย เพราะไม่พอใจคำสั่งให้อยู่บ้าน
ล่าสุดวันนี้ Elon Musk ทวีตข้อความว่าโรงงาน Tesla ที่เมือง Freemont เริ่มกลับมาเดินสายการผลิตใหม่แล้ว โดยตั้งฝ่าฝืนคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านของเขต Alameda County และตัวของ Musk จะไปอยู่ที่หน้าสายการผลิตด้วย ซึ่งถ้าทางเขตจะจับกุมใครจากการฝ่าฝืนคำสั่งนี้ ขอให้เป็นเขาคนเดียว
เว็บไซต์ TechCrunch สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ภาครัฐในเมือง Freemont และเขต Alameda County ได้ข้อมูลว่ากำลังเจรจากับ Tesla อยู่
ที่มา - TechCrunch
ภาพจาก GettyImages |
# มือถือเดิมขายใหม่ Huawei P30 Pro New Edition สเปกเดิม เปลี่ยนสี มี GMS
หลังจากมือถือรุ่นใหม่ๆ ของ Huawei อย่าง Mate 30 หรือ P40 ไม่สามารถใช้งาน Google Mobile Services (GMS) จนส่งผลต่อยอดขาย
ทางออกล่าสุดของ Huawei คือนำมือถือเรือธงตัวสุดท้ายที่ยังมี GMS คือ P30 กลับมาวางขายอีกครั้งในชื่อ Huawei P30 Pro New Edition
Huawei ยังสามารถขาย P30 Pro แบบมี GMS ได้เพราะ "ถือเป็น" มือถือรุ่นเดิมที่ผ่านการรับรองจากกูเกิลแล้ว แต่นำมาปรับแต่งใหม่เล็กน้อยให้เป็น New Edition แล้วกลับมาทำตลาด-โปรโมทใหม่
สเปกของ Huawei P30 Pro New Edition ยังเหมือนกับของเดิมเกือบทุกประการ ทั้งซีพียู หน้าจอ กล้อง (เพราะต้องรักษาความเป็นมือถือรุ่นเดิมไว้) สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือสตอเรจขนาด 256GB (ของเดิมมีให้เลือก 128GB/512GB) มีให้เลือก 3 สีคือ ดำ, สีเขียว Aurora, และสีใหม่เงิน Silver Frost (แบบเดียวกับ P40)
Huawei P30 Pro New Edition จะเริ่มวางขายในเยอรมนีวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ราคา 749 ยูโร (ประมาณ 26,000 บาท) ถูกลงจากตอนเปิดตัวครั้งแรก ที่ราคาในยุโรปคือ 1,099 ยูโร (38,000 บาท) และซื้อตอนนี้ยังแถมหูฟัง FreeBuds 3 ด้วย
Huawei P30 Pro New Edition ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่อยากได้มือถือ Huawei ที่สเปกยังเกือบล่าสุด และยังมี GMS ให้ใช้งานด้วย (แถมราคาถูกลงเพราะถือว่าตกรุ่นแล้ว) ต้องรอดูว่า Huawei จะนำมาทำตลาดในประเทศอื่นๆ ด้วยหรือไม่
ที่มา - Huawei Germany, Android Authority |
# Bitcoin เข้าสู่บล็อค 630,000 ค่าขุดเหลือ 6.25BTC แล้ว
Satoshi Nakamoto ออกแบบบิตคอยน์ไว้โดยในแนวทางออกแบบข้อหนึ่งคือการทำให้เงินมีปริมาณจำกัด โดยออกแบบให้เงินทั้งระบบ 21 ล้าน BTC และอาศัยการคืนค่าขุดบิตคอยน์ที่เป็นการออกเงินใหม่เข้าระบบในอัตราที่ลดลงเรื่อยๆ และวันนี้ก็ถึงรอบการลดอัตราค่าขุดรอบที่ 3 ทำให้ต่อจากนี้แต่ละบล็อคจะมีค่าขุดเหลือ 6.25BTC
เมื่อบิตคอยน์เริ่มเปิดใช้งานในปี 2009 มีค่าขุดบล็อคละ 50BTC (ประมาณชั่วโมงละ 6 บล็อค) และทุกๆ 210,000 บล็อคจะลดค่าขุดลงเรื่อยๆ ในเดือนพฤศจิกายน 2012 ก็ลดรอบแรกเหลือ 25BTC และเมื่อกรกฎาคม 2016 ก็เหลือ 12.5BTC
หลังจากค่าขุดลดลงเรื่อยๆ กลุ่มผู้ขุดยังคงได้รับค่าธรรมเนียมการโอนจากผู้สั่งโอน โดยบล็อคหลังๆ มีค่าโอนประมาณ 1BTC ต่อบล็อค จากปริมาณการโอนเกือบ 30,000BTC เท่ากับว่าค่าธรรมเนียมการโอนต่อมูลค่าอยู่ที่ 0.0035% เท่านั้น
บล็อค 630,000 ขุดโดยกลุ่ม AntPool โดยขุดได้หลังบล็อค 629,999 เพียงนาทีเดียว (น่าจะทำให้หลายคนที่ countdown รออยู่งงไปตามๆ กัน) โดยบล็อคมีมูลค่าการโอน 3311.6BTC จากรายการโอน 3,134 รายการ และค่าธรรมเนียมการโอน 0.909BTC
ที่มา - CoinMarketcap: Halving
ภาพโดย MichaelWuensch |
# Volvo ประกาศเตรียมผลิตรถพร้อมสำหรับระบบขับอัตโนมัติบนทางด่วนในปี 2022 หลับตาปล่อยมือได้เลย
Volvo ประกาศความร่วมมือกับบริษัท Luminar ที่ลงทุนไว้ตั้งแต่ปี 2018 โดยเตรียมจะพัฒนารถภายใต้สถาปัตยกรรม SPA2 ที่ฮาร์ดแวร์จะพร้อมสำหรับระบบขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (fully self-driving) ภายในปี 2022 แต่ฟีเจอร์จะใช้งานจริงหลังอัพเดตซอฟต์แวร์หลังจากนั้น
แนวทางของ Volvo จะเปิดโหมดขับอัตโนมัติเฉพาะบนทางด่วน (highway) เท่านั้น จึงเรียกฟีเจอร์ว่า Highway Pilot โดยเมื่อรถยืนยันว่าสภาพถนนพร้อมสำหรับการขับอัตโนมัติจึงจะเปิดใช้งานได้ โดย Henrik Green CTO ของ Volvo ระบุว่าเมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้แล้ว Volvo จะเป็นผู้รับผิดชอบการขับขี่ทั้งหมด ผู้ขับสามารถหลับตาหรือปล่อยมือจากพวงมาลัยได้เลย โดยพื้นที่ที่ใช้งานโหมดนี้จะค่อยๆ ขยายขึ้นเรื่อยๆ ไปตามการอัพเดตในอนาคต
ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่า SPA 2 จะมีเซ็นเซอร์อะไรบ้าง แต่ทาง Volvo ระบุว่ากำลังสำรวจแนวทางการใช้ LiDAR มาเป็นส่วนประกอบที่อาจจะใช้งานในระบบช่วยขับได้ด้วย โดยอาจจะใส่ LiDAR เป็นมาตรฐานในรถ SPA2 ทุกคัน
เดิม Volvo เคยหวังจะผลิตรถอัตโนมัติได้ในปี 2021 ประกาศนี้ก็อาจจะทำให้แผนการเลื่อนไปอีกหนึ่งปี ขณะที่ Tesla นั้นอัพเดตล่าสุดรองรับการขับบนทางหลวงได้ค่อนข้างมากแล้ว ส่วนการขับขี่ในเมืองยังระบุว่า "ในปีนี้" แม้จะเลื่อนมาจากปีที่แล้วก็ตามที
ที่มา - Volvo |
# อินเทลร่วมมือไมโครซอฟท์ สร้างปัญญาประดิษฐ์จับมัลแวร์ด้วยการแปลงไบนารีเป็นภาพ แล้วจัดหมวดหมู่เหมือนภาพปกติ
อินเทลและไมโครซอฟท์เผยแพร่งานวิจัยการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ STAMINA (STAtic Malware-as-Image Network Analysis) ที่มีแนวคิดสำคัญคือการสร้างปัญญาประดิษฐ์มาจับมัลแวร์แทนที่การจับจากค่าแฮชหรือความเหมือนของโค้ดแบบเดิมๆ แต่อาศัยโมเดลปัญญาประดิษฐ์แบบ deep learning มาหารูปแบบมัลแวร์แทน
แนวทางของงานวิจัยนี้อาศัยการแปลงภาพชนิดไบต์ต่อไบต์มาเป็นพิเซล จากนั้นย่อภาพให้เหลือขนาดเท่าที่โมเดลปัญญาประดิษฐ์รองรับ โดยใช้โมเดลจัดหมวดหมู่ภาพ Inception v1 ที่ฝึกกับข้อมูล ImageNet มาก่อนแล้วเป็นตัวตั้งต้น จากนั้นออกแบบส่วนท้ายของโมเดลเสียใหม่เพื่อการทำนายว่าเป็นมัลแวร์หรือไม่ แล้วจึงนำโมเดลมา fine tune ด้วยข้อมูลมัลแวร์เกือบห้าแสนตัวผสมเข้ากับไบนารีไม่มุ่งร้าย
ผลที่ได้สำหรับไบนารีขนาดเล็กได้ความแม่นยำถึง 99.07% แต่เมื่อพยายามพัฒนาโมเดลที่รองรับภาพใหญ่ขึ้นโดยอาศัยการแบ่งส่วนภาพ (segmentation) ความแม่นยำก็ลดลงเหลือ 95.97% ข้อได้เปรียบของ STAMINA คือโมเดลสามารถมองภาพรวมของไบนารีและหาลักษณะร่วมของไฟล์ได้ แม้ความแม่นยำจะไม่ดีนักโดยเฉพาะเมื่อไฟล์มีขนาดใหญ่ขึ้น
ทีมวิจัยระบุว่าเตรียมจะทดสอบประสิทธิภาพของโมเดลที่จับสร้างภาพจากโมเดล deep learning อื่นอีกครั้ง
ที่มา - Intel, ZDNet |
# นักวิเคราะห์คาดที่ไมโครซอฟท์ยังไม่เปิดราคา Xbox Series X เพราะรอตัดราคา PS5
รายละเอียดคอนโซลรุ่นปีในปีนี้ฝั่ง PlayStation 5 ของโซนี่ที่ผ่านมาเปิดเผยแค่สเปค ข้อมูลเชิงเทคนิคและจอย DualSense ยังไม่เปิดเผยหน้าตาตัวเครื่อง ขณะที่ฝั่ง Xbox Series X ของไมโครซอฟท์ที่เปิดเผยรายละเอียดออกมาจนแทบทั้งหมดแล้ว เหลือแค่ราคาเท่านั้น
Michael Pachter นักวิเคราะห์ธุรกิจวิดีโอเกมและ Peter Moore อดีตผู้บริหารไมโครซอฟท์และ EA ให้สัมภาษณ์ในพ็อดคาสต์ของ Geoff Keighley พิธีกรและโปรดิวเซอร์ของ The Game Awards แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ที่ไมโครซอฟท์ยังไม่เปิดเผยราคาของ Xbox Series X เพราะรอตัดราคาหลังโซนี่เปิดราคา PlayStation 5 ซึ่งเป็นกลยุทธที่โซนี่ประสบความสำเร็จมาแล้วสมัย PlayStation 4 vs Xbox One
Pachter คาดว่า Xbox Series X อาจตั้งราคาได้ถูกกว่า PlayStation 5 ถึง 100 เหรียญ ขณะที่ด้วยต้นทุนของ PlayStation 5 ทำให้ราคาเครื่องอาจไปถึง 500 เหรียญเลยด้วยซ้ำ
ด้าน Peter Moore เสริมว่าทั้งสองบริษัทตอนนี้น่าจะกำลังปวดหัวอยู่กับการคำนวนว่าจะยอมเข้าเนื้อมากน้อยแค่ไหน อัตราส่วนขาดทุนฮาร์ดแวร์และกำไรซอฟต์แวร์จะประมาณเท่าไหร่ ตลอดระยะเวลา 12-18 เดือนหลังวางขาย โดยฝั่งไมโครซอฟท์ ด้วยราคาหุ้น ด้วยมูลค่าบริษัท ด้วยงบดุลมหาศาลตอนนี้ ทำให้มีภาษีดีกว่าโซนี่ในการกดราคาคอนโซลตัวเองค่อนข้างมาก
ที่มา - VG247 |
# ชิป 5G ของ Qualcomm ทำต้นทุนพุ่ง อาจเป็นจุดจบมือถือนักฆ่าเรือธงในปีนี้
เว็บไซต์ XDA-Developers เขียนบทความเกี่ยวกับสถานการณ์เชิงบังคับของการใช้งาน 5G บนสมาร์ทโฟน ที่ทำให้มือราคาเรือธงราคาแพงขึ้นกว่าเดิม แถมอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มือถือนักฆ่าเรือธงไปไม่รุ่งในปีนี้
ในบทความยกตัวอย่าง OnePlus One ที่วางจำหน่ายในราคา 299 เหรียญ หรือเพียงครึ่งเดียวของ Galaxy S5 มือถือเรือธงของค่ายแอนดรอยด์ในปีนั้นที่วางจำหน่ายในราคา 500 เหรียญ เป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า “นักฆ่าเรือธง”
คำนี้กลายเป็นชื่อเรียกของโทรศัพท์ที่มีสเปกสูสีกับมือถือเรือธง แต่มีราคาถูกกว่า และตัดหรือลดคุณภาพบางอย่าง เช่นคุณภาพหน้าจอ กล้อง หรือวัสดุลงไป และหลังจากนั้น แม้ OnePlus จะมีราคาสูงขึ้น แต่ก็ยังมีโทรศัพท์จากค่ายจีนบางบริษัท เช่น POCO F1 ที่ยังได้ชื่อว่าเป็นนักฆ่าเรือธงอยู่
แต่ราคาของเรือธงในปี 2020 กลับแพงขึ้นมากในแบบปีต่อปี โดยเว็บไซต์ ArsTechinca เปิดเผยว่าชิป Snapdragon 865 ไม่มีโมเด็มทั้ง 4G และ 5G พ่วงมาบนชิปด้วย ผู้ผลิตจำต้องซื้อชิปโมเด็ม X55 เพิ่ม แถมถ้าอยากรองรับ 5G ให้ครอบคลุมทุกคลื่น ก็ต้องซื้อเสาสัญญาณเพิ่มเพื่อให้รับ 5G คลื่น mmWave ได้อีก ทำให้มือถือที่ต้องมีทั้งชิปเซ็ตหลักและชิปโมเด็มแยก มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้หน้าจอและแบตเตอรี่ ก็ต้องใหญ่ขึ้นตามไปด้วย และอาจมีราคาแพงขึ้นถึง 200-300 เหรียญสหรัฐ
เว็บไซต์ TechInsight แยกราคาส่วนประกอบของ Xiaomi Mi 10 5G พบว่าตัว Snapdragon 865 ราคา 81 เหรียญสหรัฐ โมเด็ม X55 ราคา 26.50 และตัวเสาสัญญาณอีก 33.50 รวมต้นทุนถึง 141 เหรียญ
มีเพียงรุ่น iQOO 3 ในอินเดียเท่านั้น ที่ยังเป็นมือถือชิป Snapdragon 865 ที่มีราคาในระดับกลางอยู่ คือ 38,990 รูปี (ประมาณ 16,600 บาท) แถมยังเอาชนะ Realme X50 Pro ที่มีราคา 39,999 รูปี (ประมาณ 17,000 บาท) ได้ แต่ก็เฉพาะในรุ่น 4G เท่านั้น (ซึ่ง XDA Developers ก็ไม่ทราบว่าทำรุ่นที่ตัด 5G ออกไป และตัดราคาขนาดนี้ได้อย่างไร) ส่วนรุ่นที่รองรับ 5G ก็เปิดตัวที่ราคา 46,990 รูปี (ประมาณ 19,990 บาท) ซึ่งถือว่ามีราคาแพงพอสมควรสำหรับตลาดประเทศอินเดีย
ยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าปี 2020 อาจเป็นปีเดียวที่นักฆ่าเรือธงมีราคาแพงขึ้นก็ได้ เพราะเป็นปีแรกที่มีการเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี 5G อย่างจริงจัง และต้นทุนที่ใช้ในการผลิตสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยีนี้ อาจลดลงในปีหน้า แต่ผู้ผลิตก็อาจใช้ต้นทุนที่ลดลงในด้านชิป ไปลงทุนกับหน้าจอ วัสดุ การผลิต หรือด้านอื่นๆ ที่ดีขึ้นต่อไป และคงราคาไว้เท่าเดิมก็เป็นได้
สุดท้ายแล้วเทคโนโลยีก็ต้องใช้เงินทุนในการพัฒนา และราคาที่สูงขึ้น ก็อาจทำให้นักฆ่าเรือธง สุดท้ายก็กลายเป็นเรือธงไปซะเอง
ในบทความก่อนหน้า ของผู้เขียน ให้ความเห็นไว้ว่าในช่วงปีถึงสองปีนี้ สมาร์ทโฟนรุ่นกลาง อาจจะมีส่วนแบ่งของตลาดที่สูงขึ้น และหลายๆ ค่าย อาจหันไปใช้ชิปรุ่นรองเช่น Snapdragon 765G หรือ Snapdragon 768G ที่เพิ่งเปิดตัวไป เพื่อลดต้นทุน และรักษายอดขายในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแบบนี้ ทำให้มือถือรุ่นกลาง อาจมาแทนที่ “นักฆ่าเรือธง” ในตลาดต่อไป
ที่มา XDA-Developers, ArsTechinica, TechInsights |
# [ไม่ยืนยัน] Eric Schmidt ไม่ได้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเทคนิคใน Alphabet แล้ว
Eric Schmidt เป็นซีอีโอ Google ในปี 2001 - 2011, ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดของ Google มาตั้งแต่ปี 2011 ก่อนที่จะเป็นประธานบอร์ดของ Alphabet หลังการปรับโครงสร้างในปี 2015 ต่อมาก็ลาออกไม่รับตำแหน่งในบอร์ดใดๆ เหลือไว้เพียงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคนิคให้กับ Alphabet ซึ่งล่าสุด CNET รายงานว่า Schmidt ไม่ได้ทำตำแหน่งนี้แล้ว
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันใดๆ จากบริษัท และตัวแทนของ Schmidt
ตอนนี้ Eric Schmidt มีตำแหน่งประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมการป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และยังเป็นประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์ซึ่งให้คำแนะนำแก่สภาคองเกรสเกี่ยวกับ AI ด้านการป้องกันประเทศ
ล่าสุด Andrew Cuomo ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า Schmidt จะมาเป็นประธานคณะกรรมาธิการที่ได้รับมอบหมายงานปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีและการปฏิบัติของรัฐในระหว่างและหลังการระบาดของโรค COVID-19 หลักๆ คือเป็นทีมดูเล telehealth, อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์, การเรียนรู้ทางไกล
Eric Schmidt
ภาพจาก Shutterstock โดย Frederic Legrand - COMEO
ที่มา - CNET |
# Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 768G ไส้ในคือ Snapdragon 765G โอเวอร์คล็อก
Qualcomm เปิดตัวชิปเซ็ต Snapdragon 768G ใหม่ที่เป็นการจับเอา Snapdragon 765G มาเพิ่มคล็อกสปีดโดยที่สถาปัตยกรรมและไส้ในส่วนใหญ่เหมือนเดิม
ซีพียูเป็น Kryo 475 แปดคอร์สัญญาณนาฬิกา 2.8GHz (เดิม 2.4GHz) จีพียู Adreno 620 ที่ประสิทธิภาพดีขึ้นจาก Snapdragon 765G ที่ 15% อัพเกรดชิปบลูทูธรองรับ Bluetooth 5.2 (เดิม 5.0) รองรับการอัพเดต GPU ผ่าน Project Mainline ชิป 5G เป็น Snapdragon X52 เหมือนเดิม
ที่มา - Qualcomm, XDA |
# Google เพิ่มฟีเจอร์บน Search ดูการทำงานของเซลล์, ระบบร่างกายคนได้แบบ AR
Google เพิ่มวัตถุ AR บน Search สามารถเรียนรู้ระบบการทำงานของร่างกายมนุษย์, การทำงานของระบบเซลล์, ยาน Apollo 11, วัตถุและสิ่งของจากพิพิธภัณฑ์ Smithsonian National Air และ Space Museum ได้บน Google Search เลย และยังปรากฏเป็นวัตถุ AR ให้เห็นชัดๆ อีกด้วย
วิธีการทำงานของฟีเจอร์ AR บน Search คือ เลือกค้นหาในหมวด circulatory system หรือระบบไหลเวียน กดปุ่ม “View in 3D” ผู้ใช้งานก็จะมองเห็นโครงกระดูกมนุษย์เป็นวัตถุ AR ซูมเข้าเพื่อดูรายละเอียดการทำงานของระบบได้ และยังกด View in your space เพื่อกดวางวัตถุ AR ในฉากบ้านของเราได้ ผู้ใช้งานยังสามารถค้นหาในหมวด animal cell เพื่อดูการทำงานและส่วนประกอบของเซลล์สิ่งมีชีวิตได้ด้วย
ฟีเจอร์ดังกล่าวทำงานได้ในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต Android 7.0 หรือสูงกว่า และ iPhone / iPad: iOS 11.0 หรือสูงกว่า
ก่อนหน้านี้ Google เปิดตัวฟีเจอร์จำลองภาพสัตว์แบบเสมือนจริงด้วย AR บน Search ช่วยให้ผู้ใช้งานได้เห็นสัตว์จำลองตัวเป็นๆ และถ่ายรูปกันสนุกสนานได้ ล่าสุดขยายเนื้อหาจากสัตว์จำลองไปยังการเรียนรู้อื่นๆ เป็นประโยชน์กับเยาวชนที่ไม่สวามารถไปโรงเรียนได้ในขณะนี้
ที่มา - Google Blog |
# Citizen Lab รายงาน WeChat สอดส่องห้องแชตแม้อยู่นอกจีน ตรวจหาภาพต้องห้ามสำหรับสร้างฐานข้อมูลเซ็นเซอร์
Citizen Lab ออกรายงานสำรวจแนวทางการทำงานของแอป WeChat ที่ให้บริการทั่วโลก แต่กลับใช้ข้อมูลจากผู้ใช้นอกจีนในการสร้างฐานข้อมูลไฟล์ต้องห้าม เพื่อให้ WeChat สามารถเซ็นเซอร์ข้อมูลตามเวลาจริง
รายงานอาศัยห้องแชตสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็นห้องแชตลงทะเบียนนอกจีน (non-China group) และอีกกลุ่มลงทะเบียนในจีน จากนั้นทีมงานทดสอบส่งเอกสาร และภาพข้อความล่อแหลมต่อการเมืองจีนในกลุ่มนอกจีนโดยเป็นภาพที่สร้างขึ้นใหม่ไม่ให้ค่าแฮชตรงกับภาพในฐานข้อมูล แล้วทดลองส่งภาพเข้าไปยังบัญชีที่ลงทะเบียนในจีนเพื่อสำรวจว่าระบบแบนภาพทำงานอย่างไร
ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าระบบเซ็นเซอร์ข้อมูลทำงานได้ทันที หาก WeChat เคยพบภาพแม้แต่กลุ่มนอกจีนมาก่อน แสดงให้เห็นว่ามีการตรวจสอบการส่งข้อมูลไม่ว่าจะในหรือนอกจีน โดยหากเป็นกลุ่มนอกจีนก็จะเก็บภาพเหล่านั้นไว้แม้ไม่ได้เซ็นเซอร์โดยตรงแต่ก็สร้างฐานข้อมูลค่าแฮชเพื่อนำไปเซ็นเซอร์ในจีน
การเซ็นเซอร์ตามเวลาจริงอาศัยค่าแฮชแบบ MD5 ที่อ่อนแอ ทาง Citizen Lab ทดลองสร้างภาพที่จีนอ่อนไหวให้ค่าแฮชตรงกับภาพธรรมดา จากนั้นส่งภาพที่จีนอ่อนไหวเข้ากลุ่มแชตนอกจีน แล้วทดสอบส่งภาพธรรมดาเข้าไปยังกลุ่มจีน พบว่าภาพที่ส่งเข้าจีนทั้งหมดถูกเซ็นเซอร์ทันที และนอกจากนั้นทีมงานพบว่าการเซ็นเซอร์ด้วยค่าแฮชนี้ยังทำงานอยู่ แม้ภาพจะส่งผ่านแชตไปเป็นเวลาสั้นๆ และลบออกทันทีก็ตาม
ช่วงท้ายของการทดสอบนี้ นักวิจัยยื่นขอข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายไปยัง Tencent เพื่อขอดาวน์โหลดข้อมูล หลังกจากยื่นขอดาวน์โหลดข้อมูลแล้ว ข้อมูลที่ดาวน์โหลดได้ไม่พบว่ามีค่าแฮช MD5 ของภาพที่ทีมงานอัพโหลดเข้าไปอยู่ในข้อมูลที่เปิดเผยว่าเก็บไปแต่อย่างใด
ที่มา - Citizen Lab |
# สิงคโปร์ใช้หุ่น Boston Dynamics เดินเตือนผู้คนในสวนสาธารณะเรื่อง Social Distancing
ทางการสิงคโปร์เริ่มทดสอบนำหุ่นยนต์ Spot ของ Boston Dynamics มาเดินลาดตระเวนในสวนสาธารณะ Bishan-Ang Mo Kio เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมเปิดเสียงเตือนให้ผู้คนอย่าลืมทำ Social Distancing
มาตรการนี้เป็นความร่วมมือของ National Parks Board และ Smart Nation and Digital Government Group (SNDGG) โดยภาพจากกล้องหน้าของหุ่น Spot จะถูกเก็บนำไปวิเคราะห์บนระบบของ GovTech เพื่อวิเคราะห์และคำนวนปริมาณผู้เข้ามาใช้งานสวนสาธารณะ โดยวิดีโอที่ได้จากกล้องจะไม่มีและไม่สามารถตรวจจับใบหน้าหรือเก็บข้อมูลส่วนตัวใด ๆ
ภาพจาก Boston Dynamics
ตัวหุ่น Spot สามารถเดินหลบสิ่งกีดขวางเองได้จากกล้องรอบตัว โดนชนเบาๆ แล้วไม่ล้ม กันน้ำกันฝุ่น ขณะที่ GovTech ก็เพิ่มความสามารถให้กับ Spot เข้าไปอย่างการควบคุมจากระยะไกล, ระบบทำแผนที่ 3 มิติและระบบเคลื่อนที่กึ่งอัตโนมัติ และกำลังพัฒนาระบบวิเคราะห์เพื่อให้ Spot ตรวจสอบได้เลยว่าผู้คนในสวนมีการทำ Social Distancing หรือไม่
นอกจากในสวนแล้ว Spot ยังถูกนำไปทดสอบในศูนย์กักกันผู้ป่วยที่ศูนย์ประชุม Changi สำหรับการขนส่งสิ่งของจำเป็นและยาให้ผู้ป่วย ขณะที่ SNDGG กำลังมองหาวิธีการนำหุ่นยนต์มาใช้งานและช่วยเหลือมนุษย์ในสถานการณ์ COVID-19 ระบาดเพิ่มเติมอยู่ด้วย
ที่มา - Strait Times |
# NotebookCheck พบจอ Macbook Air 2020 สว่างขึ้น 30% เมื่อรันบน Windows
เว็บไซต์ NotebookCheck ทดสอบหน้าจอ Macbook Air ปี 2020 แล้วค้นพบว่าหน้าจอเพิ่มความสว่างสูงสุดได้ถึง 550 nits เมื่อรันบน Windows 10 (ด้วย Bootcamp) จากปกติ 400 nits ตามสเปกบนหน้าเว็บอย่างเป็นทางการ และเมื่อรันบน Mac OS แต่ค่าความดำ (black value) และความเที่ยงตรงของสีก็ลดลงเมื่อรันบน Windows เช่นกัน
NotebookCheck สันนิษฐานเหตุผลที่ Apple ต้องจำกัดความสว่างของหน้าจอไว้สามข้อ ดังนี้
หน้าจอแต่ละ panel อาจมีคุณภาพไม่เท่ากัน Apple อาจอยากให้ผู้บริโภคได้รับคุณภาพความสว่างที่เท่ากันมากที่สุด จึงจำกัดค่าความสว่างสูงสุดไว้ที่ 400 nits
หน้าจอที่สว่างขึ้นบน Windows แลกมาด้วยความเที่ยงตรงของสีที่ลดลง Apple อาจอยากคุมให้หน้าจอมีความเที่ยงตรงของสีมากที่สุด และอาจทำได้ดีสุดที่ระดับความสว่าง 400 nits
Apple อาจอยากให้หน้าจอสว่างได้แค่ 400 nits เพื่อเพิ่มข้อแตกต่างระหว่าง Macbook Air กับ Macbook Pro 13 นิ้ว ที่หน้าจอสว่างได้ถึง 500 nits
ส่วนเหตุผลที่แท้จริง คงไม่มีใครตอบได้นอกจาก Apple เอง ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าจำนวนชั่วโมงการใช้งานแบตเตอรี่ที่ลดลงเมื่อหน้าจอสว่างมากเกินก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุได้เช่นเดียวกัน
ที่มา NotebookCheck |
# Epic Games ออก Unreal Engine 4.25 ซัพพอร์ท PlayStation 5 และ Xbox Series X
Epic Games ออกอัพเดต Unreal Engine 4 เวอร์ชัน 4.25 ให้ซัพพอร์ทคอนโซลเจนใหม่ทั้ง PlayStation 5 และ Xbox Series X แล้ว รวมถึงรองรับฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่างเช่นระบบเสียงของ PlayStation 5, รองรับระบบออนไลน์และรองรับ ray tracing แบบเรียลไทม์
ปัจจุบัน Unreal Engine ไปไกลกว่าการเป็นแค่เอนจินสำหรับเกมแล้ว เพราะตัวเอนจินเองก็รองรับการทำงานและถูกนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ หรือการสร้างภาพ 3D จากการสแกน (point cloud) จากเซ็นเซอร์ LiDAR รวมถึงการรองรับ Mixed Reality บน HoloLens 2
ที่มา - Unreal Engine |
# ไม่ได้โม้ พบแอป Contact Tracing ของอังกฤษทำงานได้จริงบน background แต่ต้องปลดล็อกหน้าจอ
หลังจากอังกฤษยืนยันจะพัฒนาแอป Contact Tracing ของตัวเองต่อไปโดยไม่ใช้ Exposure Notification API ของกูเกิลและแอปเปิล ล่าสุดเมื่อทาง NHSX ปล่อยแอปพร้อมซอร์สโค้ด บน GitHub ก็มีผู้ทดสอบแล้วว่าทำงานได้จริงดังที่ทีมงานระบุไว้ แต่มีข้อจำกัดคือต้องมีเครื่องใดเครื่องหนึ่งปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์อยู่
ผู้ใช้ GitHub ชื่อบัญชี lukeredpath ทดสอบแอปบน iOS จาก iPad และ iPhone พบว่าโทรศัพท์จะสามารถบันทึกการเข้าใกล้กันได้อย่างถูกต้อง หากมีโทรศัพท์เครื่องใดเครื่องหนึ่งปลดล็อกหน้าจออยู่ โดยไม่ต้องทำงาน foreground แต่อย่างใด ข้อจำกัดอีกอย่างหนึ่งคือ แม้หน้าจอจะเปิดอยู่ แต่หากไม่มีการเรียกแอป หรือพบ Contact ใหม่เป็นเวลานานประมาณสองชั่วโมง ตัวแอปก็จะหยุดทำงานไป
NHSX อาศัยเทคนิคหลายอย่างข้ามข้อจำกัดของ iOS ทำให้ถูกตั้งคำถามว่าแอปเปิลยินยอมให้ใช้ API ในรูปแบบนี้หรือไม่ นอกจากนี้แอปเวอร์ชั่นแอนดรอยด์ยังขอสิทธิ์เข้าถึง GPS (ACCESS_FINE_LOCATION) ไว้แม้ไม่ได้ใช้งานก็ตาม
แอปกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบในเกาะไวท์
ที่มา - The Register
ภาพโดย JESHOOTS-com |
# Facebook และ Google ให้พนักงานทำงานจากบ้านยาวๆ ถึงสิ้นปี 2020
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ออกมาประกาศให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ยาวๆ ถึงเดือนตุลาคมปี 2020 แต่ Facebook และ Google ให้ทำงานจากที่บ้านได้นานกว่านั้น คือยาวนานจนถึงสิ้นปีนี้เลยทีเดียว
โดย Google จะให้พนักงานบางส่วนที่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศจริงๆ สามารถกลับมาทำงานได้ในช่วงเดือน มิ.ย. แต่จะมีพนักงานแค่ราว 10%-15% ที่เข้ามาทำงานได้ ด้าน Facebook ก็มีแผนจะเปิดให้เข้าออฟฟิศในวันที่ 6 ก.ค. และให้อิสระถ้าพนักงานอยากจะทำงานที่บ้านได้ถึงสิ้นปี 2020
พนักงาน Facebook และ Google เริ่มทำงานจากที่บ้านอย่างจริงจังตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ภาพจาก Facebook
ที่มา - Variety |
# Nintendo ยื่นคำร้องถึงเว็บฝากไฟล์ ให้ลบ Super Mario 64 เวอร์ชั่น PC เพราะผิดลิขสิทธิ์
หลังจากมีแฟนเกมทำ Super Mario 64 เวอร์ชั่น PC จนเล่นได้แบบลื่นไหลในระดับ 4K ล่าสุด TorrentFreak รายงานว่าทนายความของ Nintendo เริ่มยื่นคำร้องละเมิดลิขสิทธิ์ไปตามเว็บฝากไฟล์ต่างๆ เพื่อให้ลบเกมออกจากหน้าเว็บแล้ว
นอกจากนี้วิดีโอเกมเพลย์บน Youtube ก็เริ่มถูกลบแล้ว แต่ก็ยังหลงเหลืออยู่มากพอสมควร จากผู้ที่เล่นเกมแล้วอัพโหลดวิดีโอเกมเพลย์ของตัวเองขึ้นมา
ส่วนตัวเกม ก็ยังพอหาได้ ถ้าตั้งใจค้นหาใน reddit แต่อาจจะต้องใช้ความพยายามมากสักหน่อย เพราะพอเริ่มมีการลบเกมออก ก็แทบจะไม่มีใครยอมแจกลิงก์ให้คนอื่นแล้วในตอนนี้ เพื่อกันไม่ให้ไฟล์เกมถูกลบไปจากเว็บฝากไฟล์จนหมด
ที่มา PC Gamer, TorrentFreak |
# โซนี่ระงับบริการ PS Store ในจีนไม่มีกำหนด อ้างอัพเกรดความปลอดภัย
แอคเคาท์ PlayStation บน Weibo ของจีนประกาศระงับการให้บริการ PlayStation Store ในจีนเมื่อวานนี้ โดยให้เหตุผลว่าอัพเกรดความปลอดภัย ทว่ายังไม่ระบุหรือกำหนดวันที่จะกลับมาเปิดให้บริการ
Daniel Ahmad นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเกมทวีตว่า มีแฟนบอย Xbox ระบุใน Weibo ว่าได้แจ้งเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่รัฐว่าค้นพบแบ็คดอร์ของ PlayStation Store ทำให้สามารถสลับสโตร์และเข้าถึงคอนเทนท์จากต่างประเทศได้ ขณะที่เกมที่ขึ้นสโตร์ในจีนก็ต้องผ่านการคัดกรองและรับรองจากทางการจีนก่อน Ahmad ระบุว่าอาจเป็นไปได้ว่าถูกระงับบริการเพื่อตรวจสอบแบ็คดอร์ดังกล่าว
ที่มา - @ZhugeEX via vg247 |
# เปิดงานแฟชั่นโชว์ไม่ได้ ดีไซเนอร์จึงออกคอลเลกชั่นใหม่ผ่านเกม Animal Crossing
COVID-19 ทำทุกกิจกรรมหยุดชะงักไม่เว้นแม้แต่การเดินแฟชั่นโชว์ ซึ่งเป็นพื้นที่ปล่อยของของบรรดาดีไซเนอร์แบรนด์ดังต่างๆ ล่าสุด ดีไซเนอร์แบรนด์ Marc Jacobs, Sandy Liang และ Valentino จึงหันมาปล่อยคอลเลกชั่นใหม่ผ่านเกม Animal Crossing เสียเลย แบรนด์ Liang นอกจากให้ตัวละครใส่เสื้อผ้าใหม่แล้ว ยังทำ pop-up store ในเกมด้วย
Animal Crossing ถือว่าเป็นเกมที่มาถูกเวลา นอกจากจะช่วยให้ผู้เล่นทั่วไปคลายเครียดจากการโรคระบาดแล้ว ยังเป็นอีกพื้นที่แสดงออกทางการเมืองของคนฮ่องกง และพื้นที่ของแบรนด์ไว้แสดงเนื้อหาให้คนยังจดจำแบรนด์ได้
ที่มา - Engadget |
# นักการเมืองหญิง Alexandria Ocasio-Cortez เยี่ยมประชาชนผ่านเกม Animal Crossing
นักการเมืองหญิง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จากเขตเลือกตั้งรัฐนิวยอร์ก Alexandria Ocasio-Cortez หรือ AOC โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ว่าเธอตั้งเป้าจะเยี่ยมเยียนประชาชนผ่านเกม Animal Crossing และจะเขียนโน้ตบอกประชาชนที่เธอได้ไปเยี่ยมที่เกาะของพวกเขาด้วยว่า เธอมาเยี่ยมแล้วนะ โดย AOC เปิดใช้ DMs ในทวิตเตอร์เป็นเวลา 4 นาที เปิดโอกาสให้คนอื่นทิ้งโค้ด Dodo ไว้ เพื่อที่เธอจะได้ไปเยี่ยมที่เกาะของพวกเขาได้
Animal Crossing เป็นอีกเกมที่กำลังมาแรงในช่วงที่ทุกคนต้องอยู่บ้าน ก็สามารถหาความบันเทิงและผ่อนคลายความเครียดจากการเล่นเกมนี้ได้ Animal Crossing ยังเป็นพื้นที่แสดงออกทางการเมืองของคนฮ่องกงด้วย
ที่มา - Kotaku |
# GOG Galaxy เริ่มปล่อยอัพเดตเวอร์ชัน 2.0, ตั้งใจเป็นศูนย์กลางสำหรับการเล่นเกมบนพีซี
GOG Galaxy แพลตฟอร์มเกมของ GOG (Good Old Games) ร้านขายเกมออนไลน์ที่ชื่อเสียงจากการขายเกมเก่า ไร้ระบบตรวจสอบลิขสิทธิ์ (DRM-free) ได้ออกอัพเดตเวอร์ชัน 2.0 ซึ่งมาพร้อมกับพีเจอร์ที่จะทำให้ GOG Galaxy กลายเป็นแอพศูนย์กลางสำหรับการเล่นเกมบนพีซี
เชื่อว่าเกมเมอร์ที่เล่นเกมบนพีซีเป็นประจำ ปัจจุบันแทบทุกคนจะต้องมีแอพสำหรับใช้เล่นเกม ติดตั้งไว้กับเครื่องพีซีมากกว่าหนึ่งแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นไคลเอนต์ของร้านขายเกมที่ฮิตติดลมบนไปแล้วอย่าง Steam ไปจนถึงไคลเอนต์ของบางหน้าร้านที่เน้นขายแต่เกมที่บริษัทพัฒนาเองอย่าง Origin หรือ Uplay
ปัญหาคือเมื่อเราจำเป็นต้องใช้งานไคลเอนต์เฉพาะสำหรับร้านขายเกมแต่ละร้าน การสลับใช้ไคลเอนต์เพื่อเลือกเปิดเกมที่อยากเล่น จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาจทำให้การนัดแนะเพื่อนมาเล่นเกมด้วยกันกลายเป็นเรื่องที่ยากลำบาก (รายชื่อเพื่อนกระจัดกระจายหลายแพลตฟอร์ม / เปิดไคลเอนต์ขึ้นมาคนละแอพกัน)
GOG Galaxy 2.0 จึงถูกพัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาข้างต้น โดยได้เพิ่มฟีเจอร์เชื่อมต่อกับ account ของแพลตฟอร์มเกมเจ้าอื่น เพื่อรวบรวมไลบรารีเกมและรายชื่อเพื่อนให้สามารถเข้าถึงได้จากแอพเดียว โดยผู้ใช้จะสามารถสั่งติดตั้ง, จัดการ, เปิดเกม ตรวจสอบสถานะออนไลน์และเกมที่เพื่อนกำลังเล่น จากแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อไว้บนแอพ GOG Galaxy 2.0 ได้เลย
สำหรับแพลตฟอร์มเกมที่สามารถเชื่อมต่อได้ในขณะนี้ ก็อย่างเช่น Steam, Epic Games Store, Origin, PlayStation Network, Uplay ไปจนถึง Xbox Live (ซึ่งในตอนนี้เป็นเพียงแพลตฟอร์มเดียวที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทต้นสังกัดอย่างเป็นทางการ - ข่าวความร่วมมือกับไมโครซอฟท์)
ปัจจุบัน GOG Galaxy 2.0 ยังคงแปะป้ายเบต้า เนื่องตัวแอพยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาฟีเจอร์ให้ครบตามที่ทีมงานโฆษณาไว้เมื่อครั้งเปิดตัว แต่หลังจากที่ได้เปิดทดสอบแอพมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ทีมงานก็ได้ตัดสินใจปล่อยอัพเดตให้กับผู้ใช้ทุกคนเป็นที่เรียบร้อย
สนใจดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ GOG Galaxy ส่วนคนที่เคยติดตั้งเวอร์ชันก่อนหน้านี้ไว้ลองกดเช็กอัพเดตได้จากตัวแอพครับ
ที่มา - ทวิตเตอร์ @GOGGalaxy, Windows Central (1, 2) |
# แก้ปัญหา Reply All อีเมลในองค์กรขนาดใหญ่ Exchange เพิ่มฟีเจอร์บล็อคการตอบเมล
ปัญหาอย่างหนึ่งของระบบอีเมล ที่คนออกแบบในยุคแรกคงไม่เคยนึกถึง คือการ Reply All ในเมลกลุ่มที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากๆ (เช่น กด Reply All ขององค์กรที่มีคนเป็นล้าน) จนทำให้ระบบอีเมลล่มไปหลายวัน
ไมโครซอฟท์เองก็เคยเจอปัญหานี้ (มีคน Reply All ในกลุ่มที่มีพนักงาน 52,000 คน) และประกาศแก้ปัญหานี้ที่ระดับเมลเซิร์ฟเวอร์ Exchange ล่าสุดฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้งานแล้วบน Exchange Online เวอร์ชันโฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ไมโครซอฟท์สำหรับลูกค้า Office 365
ฟีเจอร์นี้มีชื่อเรียกว่า Reply All Storm Protection จะเริ่มทำงานเมื่อมีการ reply all อีเมลที่มีผู้รับเกิน 5,000 คนเป็นจำนวน 10 ครั้งภายในเวลา 60 นาที หากเกิดสถานการณ์ตามเงื่อนไขข้างต้น เซิร์ฟเวอร์ Exchange จะบล็อคการตอบอีเมลฉบับนี้ชั่วคราวเป็นเวลา 4 ชั่วโมง ผู้ตอบเมลจะเห็นหน้าจอแจ้งเตือนดังภาพ
ไมโครซอฟท์บอกว่าจะทยอยเปิดให้ลูกค้า Office 365 ใช้งาน และรับฟังความเห็นเพื่อปรับจูนตัวเลขที่เหมาะสม รวมถึงเปิดให้แอดมินองค์กรปรับแต่งค่าคอนฟิกได้เองในอนาคต
ที่มา - Microsoft via ZDNet |
# LINE ลง Huawei AppGallery แล้ว
Huawei ประกาศเพิ่ม LINE ลงในร้านขายแอพ AppGallery ของตัวเองแล้ว ช่วยให้คนที่ซื้อสมาร์ทโฟน Huawei รุ่นใหม่ๆ ที่ไม่มี Google Mobile Services และ Google Play Store (เช่น Mate 30 หรือ P40) สามารถดาวน์โหลด LINE ได้อย่างเป็นทางการ |
# Elon Musk ขู่ย้ายสำนักงานใหญ่ Tesla ออกจากแคลิฟอร์เนีย เพราะไม่พอใจคำสั่งให้อยู่บ้าน
Elon Musk โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า Tesla ยื่นฟ้องเขต Alameda County ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัท เพราะไม่พอใจคำสั่งให้อยู่บ้าน (shelter-in-place) ของเขต ที่ทำให้พนักงานของ Tesla กลับเข้าไปทำงานในออฟฟิศ-โรงงานไม่ได้
Musk ยังบอกว่าเหตุการณ์นี้ยังทำให้ Tesla ตัดสินใจย้ายสำนักงานใหญ่ออกจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ไปอยู่ที่รัฐเท็กซัส/เนวาดา (ที่ตั้งของโรงงาน Gigafactory) แล้ว ส่วนโรงงานแห่งแรกที่เมือง Fremont ในแคลิฟอร์เนียจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นกับว่ารัฐบาลของรัฐแคลิฟอร์เนียดูแล Tesla ดีแค่ไหนในอนาคต
Musk บอกว่าตอนนี้ Tesla ถือเป็นบริษัทรถยนต์รายสุดท้ายในแคลิฟอร์เนียแล้ว ถ้าหาก Tesla ย้ายออกไป แคลิฟอร์เนียก็จะไม่มีผู้ประกอบการด้านรถยนต์เหลืออยู่
หลังจาก Musk โพสต์ข้อความนี้ เว็บไซต์ Tesla ก็โพสต์บล็อกชื่อ Getting Back to Work มีเนื้อหาแบบเดียวกัน (แต่ละเอียดขึ้น) วิจารณ์แนวทางของเขต Alameda ที่ไม่ยอมให้คนกลับมาทำงาน แม้เขตใกล้เคียงกันยอมเปิดแล้ว
ก่อนหน้านี้ Musk ออกมาวิจารณ์คำสั่ง shelter-in-place ของรัฐแคลิฟอร์เนียหลายครั้ง และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาบอกว่าคำสั่งนี้เป็นเผด็จการ (fascist) ด้วย
ภาพโรงงาน Tesla Factory ที่ Fremont
ที่มา - Tesla |
# Duo เพิ่ม Kid Mode เพิ่มลูกเล่นระหว่างคอลล์, ขยายเพื่อนร่วมประชุมเป็น 32 คน
ช่วงนี้ Google Duo ขยันอัพเดต หลังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในเดือนที่แล้ว เดือนนี้ก็มีฟีเจอร์เพิ่มมาอีกชุดใหญ่
Family Mode เพิ่มเกมและเอฟเฟคต์เล็กๆ น้อยๆ สำหรับการใช้คุยในครอบครัว เช่น เกมวาดรูปบนหน้าจอ
Duo เวอร์ชันเว็บ รองรับการคุยวิดีโอแบบเป็นกลุ่มแล้ว (group call) จากเดิมที่ใช้ได้เฉพาะบนแอพ
ปรับหน้าจอตอนประชุมแบบกลุ่ม ให้เห็นเพื่อนร่วมการสนทนาเยอะขึ้น (จากภาพจะเป็น 32 คน เพิ่มขึ้นมาจากปัจจุบัน 12 คน)
ที่มา - Google |
# ผู้บริหาร Apple พูดถึงความสำเร็จของ AirPods ระบุว่าเติบโตดีกว่าที่คาดไปมาก
ความนิยมของหูฟัง AirPods นั้นสูงมาก คนที่ใช้สินค้าแอปเปิลก็คงทราบกันดี ล่าสุด Wired ได้สัมภาษณ์ Greg Joswiak รองประธานฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล โดยเขายอมรับว่าการเติบโตของ AirPods เหมือนไฟป่าที่ขยายวงไปเรื่อย ๆ ซึ่งดีมากกว่าที่แอปเปิลเคยคาดกันไว้
ข้อมูลจากผลประกอบการแอปเปิลไตรมาสล่าสุด ธุรกิจอุปกรณ์สวมใส่ ซึ่งรวม AirPods และ Apple Watch มีรายได้ส่วนนี้ถึง 6,284 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่กว่า iPad หรือ Mac แล้ว
Joswiak ยังเล่าถึงที่มาของ AirPods ว่ามาจากการผลักดันกลยุทธ์อุปกรณ์ทุกอย่างให้ไร้สาย ซึ่งเริ่มต้นในการเปิดตัว iPhone 7 ที่ตัดช่องหูฟังออกไป จึงเป็นการเปิดตัว AirPods ในงานนั้นด้วย
นอกจากนี้เขายังเล่าถึงการออกแบบ AirPods Pro ซึ่งหากใครจำได้ ตอนที่แอปเปิลเปิดตัวหูฟัง EarPods แอปเปิลบอกว่าได้ศึกษารูปแบบหูจำนวนมาก จนได้ดีไซน์ที่เข้ากับหูดีที่สุด แต่ใน AirPods Pro แอปเปิลได้ศึกษารูปแบบที่มากขึ้นและเชิงลึกขึ้น จึงต้องมีจุกยางออกมา 3 ขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละคนนั่นเอง
ที่มา: MacRumors |
# [ลือ] Apple เตรียมออกเฮดโฟนของตนเอง คาดใช้ชื่อ AirPods Studio
ข่าวลือนี้มาจาก Jon Prosser เจ้าของช่องยูทูป Front Page Tech โดยเขาระบุว่า แอปเปิลเตรียมเปิดตัวเฮดโฟนคุณภาพสูง ใช้ชื่อว่า AirPods Studio ราคาขายอยู่ที่ 349 ดอลลาร์ โค้ดเนมสินค้า B515
เพื่อให้เทียบเคียงราคาไทยกันล่วงหน้าได้ AirPods Pro ในอเมริกา ราคาขายอยู่ที่ 249 ดอลลาร์ ราคาไทย 9,490 บาท
สำหรับข่าวลือเรื่องแอปเปิลทำเฮดโฟนแบรนด์ของตนเองนั้นมีมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งจะแยกจากแบรนด์ Beats ที่ซื้อกิจการมา
ระดับความแม่นยำในการให้ข่าวของ Jon Prosser ช่วงหลังนั้นสูงมาก ผลงานล่าสุดคือการระบุวันเปิดตัว iPhone SE และ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นใหม่ ที่ถูกต้องทั้งสองสินค้า
ที่มา: MacRumors ภาพเป็นหูฟัง Beats Solo3 |
# Square Enix ลดราคา 95% แพครวมเกม 54 เกม Eidos รายได้มอบให้องค์กรการกุศล
Square Enix เป็นอีกบริษัทที่เข้าร่วมแคมเปญ #StayHomeAndPlay ลดราคาแพคเกมแบบจัดหนักจัดเต็มเพื่อสนับสนุนให้คนอยู่บ้าน แพคที่ลดคือแพค Square Enix Eidos Anthology รวมเกม 54 เกมซึ่งเน้นแฟรนไชส์ดังๆอย่าง Tomb Raider, Just Cause, Deus Ex โดยลดราคา 95% จากราคา 21,623.07 บาทเหลือ 1,081.15 บาท โดยราคานี้จะลดไปอีกถ้าเรามีบางเกมในแพคอยู่แล้ว
ถึงแม้หลายๆเกมจะเป็นเกมเก่าไปสักหน่อย เกมเก่าที่สุดในแพคนี้ขายตั้งแต่ปี 1996 แต่ถึงกระนั้นด้วยคุณภาพและจำนวนเกมที่เหลือแถมรายได้ทั้งหมด Square Enix จะมอบให้องค์กรการกุศลในอเมริกาเหนือและยุโรป ก็ทำให้แพคนี้น่าสนใจมิใช่น้อย โดยการลดราคานี้จะหมดวันที่ 11 พ.ค. เที่ยงคืนตามเวลาประเทศไทย
รายชื่อเกมในแพค
1. Rise of the Tomb Raider
2. Just Cause 3
3. Deus Ex: Mankind Divided
4. Life is Strange: Complete Season
5. Sleeping Dogs: Definitive Edition
6. Tomb Raider (2013)
7. Tomb Raider I
8. Tomb Raider II
9. Tomb Raider III
10. Tomb Raider IV: The Last Revelation
11. Tomb Raider V Chronicles
12. Tomb Raider VI: The Angel of Darkness
13. Tomb Raider Legend
14. Tomb Raider Anniversary
15. Tomb Raider Underworld
16. Lara Croft and the Guardian of Light
17. Lara Croft and the Temple of Osiris
18. Just Cause
19. Just Cause 2
20. Kane and Lynch: Dead Men
21. Kane and Lynch 2: Dog Days
22. Deus Ex: Human Revolution - Director’s Cut
23. Deus Ex: Game of the Year Edition
24. Deus Ex: Invisible War
25. Deus Ex: The Fall
26. Thief
27. Thief: Deadly Shadows
28. Thief II: The Metal Age
29. Thief Gold
30. Battlestations: Pacific
31. Battlestations: Midway
32. Project Snowblind
33. Mini Ninjas
34. Order of War
35. Flora’s Fruit Farm
36. Supreme Commander 2
37. Conflict: Desert Storm
38. Conflict: Denied Ops
39. Legacy of Kain: Soul Reaver
40. Legacy of Kain: Soul Reaver 2
41. Legacy of Kain: Defiance
42. Blood Omen 2: Legacy of Kain
43. Dungeon Siege
44. Dungeon Siege II
45. Dungeon Siege III
46. Anachronox
47. Pandemonium
48. Deathtrap Dungeon
49. Daikatana
50. Omikron: The Nomad Soul
51. Goetia
52. Hitman GO: Definitive Edition
53. Lara Croft GO
54. The Turing Test
ที่มา - Square Enix Eidos Anthology Steam Store |
# รีวิว Vivo V19 ฟีเจอร์จัดเต็ม คุ้มแบบจุกๆ แค่หมื่นต้น ได้กล้องหน้าคู่ ชาร์จเร็ว เซลฟี่กลางคืน
ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ หลายๆ คนคงหันมามองมือถือระดับกลางที่ให้ฟังก์ชั่นครบ คุ้มค่าต่อราคา ใช้งานได้หลากหลาย แต่เหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้น แทนที่จะต้องจ่ายแพงๆ ผ่อนยาวๆ
Vivo V19 เป็นอีกรุ่นที่น่าจะตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่าต่อราคา เพราะให้ฟังก์ชั่นมาแบบจัดเต็ม ในราคาแค่ 12,999 บาท ทั้งหน้าจอ Super AMOLED แบบ FHD+ ที่แสดงผลสี DCI-P3 ได้ถึง 100% มีกล้องหน้าคู่ 32MP ที่ถ่ายโบเก้ ถ่ายมุมกว้าง และถ่ายกลางคืนได้ กับกล้องหลัก 48 MP เลนส์ Super Wide-Angle 8 MP กับแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 4,500 mAh และรองรับชาร์จเร็วแบบ 33W อีกด้วย
แกะกล่อง
Vivo V19 กล่องมาพร้อมกับอุปกรณ์ครบชุด มีหูฟังแบบ 3.5 มม. มาให้ด้วย แถมเคส TPU แบบใส ที่ชาร์จแบบ Vivo Fast Charge 2.0 ชาร์จเร็วแบบ 33W และสายชาร์จ USB-C หนึ่งเส้น ตัวเครื่องติดฟิล์มป้องกันรอยหน้าจอมาให้ด้วยเลย แกะมาใส่เคสก็พร้อมใช้งานได้ทันที มีรูหูฟัง 3.5 มม. ด้วย
ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ และปลดล็อกด้วยใบหน้า
Vivo V19 มีระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือแบบ optical บนหน้าจอ และยังมีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้ามาให้เป็นอีกตัวเลือก จากการใช้งานพบว่าการปลดล็อกด้วยใบหน้าจะทำได้เร็วกว่าลายนิ้วมืออยู่พอสมควร
พอร์ตเชื่อมต่อ
V19 ยังมีรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรมาให้อยู่ แถมยังมีหูฟังมาให้ในกล่อง พร้อมใช้งานได้ทันที หรือถ้าใครมีหูฟังตัวโปรดอยู่แล้วก็ใช้งานได้เลย เครื่องเป็นลำโพงเดี่ยว แต่เสียงดังหายห่วง เปิดเร่งเสียงสูงๆ เสียงไม่แตก มีรูชาร์จแบบ USB-C ที่ขอบอีกด้านมีช่องใส่ซิม ใส่ได้พร้อมกันสองซิมและ microSD card
หน้าจอ และ UI
หน้าจอของ Vivo V19 เป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 ที่สีสันสวยสดงดงาม รองรับมาตรฐานการแสดงผลสีแบบ DCI-P3 ถึง 100% และมีโหมดลดแสงสีน้ำเงินถนอมสายตา
รอมของ V19 ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย UI Funtouch OS 10 ตอนเปิดเครื่องครั้งจะถามว่าต้องการลงแอปไหนบ้าง เราสามารถเลือกไม่ลงแอปที่ไม่จำเป็นได้ ตัว Funtouch OS เองถือว่ามี bloatware ติดมาน้อย และมี Google Apps ให้มาอย่างครบถ้วนับ
ประสิทธิภาพ
Vivo V19 ใช้ซีพียู Snapdragon 712 ผู้เขียนทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอป Geekbench ได้คะแนนประมวลผลแบบแกนเดียวไป 414 คะแนน และแบบหลายแกนที่ 1534 คะแนน ถือว่าใกล้เคียงกับ Vivo รุ่นอื่นที่ใช้ซีพียูตัวนี้
จีพียูเป็น Adreno 616 ได้คะแนนทดสอบ Vulkan ไป 928 คะแนน
แรม 8GB หน่วยความจำภายใน 128GB โดยเป็นสตอเรจแบบ UFS 2.1 และรองรับการใส่ microSD card เพิ่ม
กล้อง
กล้องหลังเป็นแบบ 4 กล้อง มีสเปกดังนี้
เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
เลนส์สอง Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
เลนส์สาม Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
เลนส์สี่ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
เลนส์หลัก โหมด Photo
เปิดใช้ Super wide angle
เลนส์ Super macro
เลนส์ Super macro
มี Super Night Mode เก็บแสงในภาพมาประมวลผลเพิ่มขึ้น ช่วยให้ภาพที่ถ่ายตอนกลางคืนดูสว่างขึ้น
ถ่ายในโหมด Photo ปกติ
ถ่ายด้วย Night Mode
ถ่ายด้วย Night Mode
กล้องหน้า เป็นกล้องหน้าคู่ที่เลนส์หลัก 32 MP กับเลนส์ Super Wide-Angle 8 MP ที่จะเพิ่มมุมมองในการถ่ายเซลฟี่ให้กว้างขึ้น สามารถเก็บคน หรือภาพรอบตัวได้แบบสบายๆ แถมยังมีโหมดโบเก้ ทำหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วย
กล้องหน้ามีโหมด Super Wide-Angle ถ่ายมุมกว้าง และ Super Night Selfie ช่วยในการถ่ายภาพเซลฟี่ตอนกลางคืนได้อย่างสว่างไสว พร้อมตัวช่วย beauty ที่สามารถปิดได้ และขณะใช้ Super Night Mode ก็จะไม่สามารถใช้เลนส์แบบ Super Wide-Angle ของกล้องหน้าได้
ถ่ายในโหมด Super Wide-Angle
ถ่ายในโหมด Super Night Selfie
แบตเตอรี่
ในด้านแบตเตอรี่ก็ถือได้ว่าหายห่วง เพราะ Vivo V19 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh อยู่ได้แบบอึดๆ ทั้งวันแน่นอน แถมยังมีชาร์จเร็ว Vivo Fastcharge 2.0 ที่ชาร์จได้ถึง 54% ภายใน 30 นาที
สรุป
Vivo V19 เป็นโทรศัพท์รุ่นกลางราคาเพียง 12,999 บาทแต่ให้ฟังก์ชั่นในการใช้งานมาอย่างครบถ้วน จัดเต็ม เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในยุคเศรษฐกิจไม่ดี มีวิกฤตเกิดขึ้นต่อเนื่องแบบนี้
ด้านที่โดดเด่น คือการมีเลนส์แบบ Super wide angle และ night mode ทั้งกล้องหน้าหลัง แถมคนยังเหมาะกับคนชอบถ่ายรูปเซลฟี่ ที่พร้อมเสมอไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืนด้วยโหมด Night Selfie กล้องหน้าคู่พร้อม Depth sensor ในมือถือรุ่นกลางแบบนี้ สายเซลฟี่น่าจะชอบ
อีกอย่างที่เด่นไม่แพ้กัน คือหน้าจอ Super AMOLED ที่ให้สีสด และแสดงผลสีมาตรฐาน DCI-P3 ได้ถึง 100% แถมสว่างพอสู้แดดเมืองไทยตอนกลางวันได้ ให้ความละเอียดมาถึง FHD+ เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh พร้อม Fast Charge 2.0 แบบ 33W ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้ทั้งวัน แล้วไปถ่ายเซลฟี่ต่อตอนกลางคืนได้แบบยาวๆ |
Subsets and Splits
No saved queries yet
Save your SQL queries to embed, download, and access them later. Queries will appear here once saved.