txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# แพลตฟอร์มคนอื่นนี่เร็วจัง กูเกิลอัพเดตแอพตัวเองให้รองรับ Lock Screen ของ iOS 16 แล้ว
พร้อมๆ กับที่แอปเปิลปล่อยอัพเดต iOS 16 ให้ผู้ใช้ทั่วไป กูเกิลก็ประกาศว่าจะอัพเดตแอพของตัวเองบน iOS ให้รองรับหน้าจอ Lock Screen แบบใหม่ทันที
แอพที่รองรับ widget บนหน้า Lock Screen มีทั้ง
Search รองรับการค้นหาด้วยเสียงและภาพ
Chrome มีปุ่มเรียกแอพหน้าปกติ, incognito รวมไปถึงเล่นเกมไดโนเสาร์
Drive แสดงไฟล์ที่ให้ดาวไว้ เพื่อให้เข้าถึงไฟล์ได้ง่าย
Maps หมุดพิกัดของที่บ้าน ที่ทำงาน และสถานที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ
Gmail แสดงจำนวนอีเมลใหม่ ทั้งใน inbox และหมวดย่อยต่างๆ
News แสดงหัวข่าวล่าสุด ถ้าสนใจกดเข้าไปอ่านในแอพได้อีกที
กูเกิลบอกว่าจะเริ่มปล่อยอัพเดต widget เหล่านี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา - Google |
# หลุดภาพแว่น Meta Quest Pro เจ้าของลืมทิ้งไว้ในห้องพักโรงแรม
บริษัท Meta เพิ่งประกาศจัดงาน Meta Connect วันที่ 12 ตุลาคมนี้ สินค้าหลักที่จะเปิดตัวคือแว่น Meta Quest Pro หรือ Project Cambria ที่โชว์ข้อมูลกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
ล่าสุดมีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งชื่อ Ramiro Cardenas ถ่ายคลิปวิดีโอโชว์ต้นแบบของแว่น Quest Pro ที่หลุดออกมา โดยระบุว่าแว่นชุดนี้ถูกวางลืมไว้ในห้องพักโรงแรม (เหตุการณ์คุ้นๆ) บนกล่องมีข้อความเขียนว่า Meta Quest Pro อย่างชัดเจน
ภาพของ Quest Pro ที่หลุดออกมา แสดงให้เห็นดีไซน์แบบใหม่ที่เน้นความโค้งมน และคอนโทรลเลอร์แบบใหม่ ที่ย้อนกลับมาใช้แบบแท่งมีปุ่มกด ตัดวงแหวนที่เป็นเอกลักษณ์ของแว่น Oculus/Quest ยุคหลังๆ ออกไป
ที่มา - Facebook Reels, Engadget |
# iPhone และ iPad สามารถตรวจ AirPods ปลอมได้แล้วใน iOS 16 ขึ้นแจ้งเตือนขณะเชื่อมต่อ
iPhone, iPad และ iPad touch สามารถตรวจว่า AirPods ที่ต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เป็นของแท้หรือไม่หากอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการ iOS 16 แล้ว หาก AirPods ไม่ใช่ของแท้ที่ผลิตโดย Apple ขณะที่ผู้ใช้เชื่อมต่อจะขึ้นแจ้งเตือนบนอุปกรณ์นั้น ๆ ว่า “Cannot Verify AirPods”
ทั้งนี้ หากเป็น AirPods ปลอม ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะยังดำเนินการเชื่อมต่อหรือไม่ หากไม่ต้องการเชื่อมต่อแล้วสามารถกดเลือกคำสั่ง “Don’t Connect” และหากต้องการเชื่อมต่อสามารถกด “Connect in Bluetooth Settings” เพื่อไปตั้งค่าบลูทูธได้
ที่มา: Apple |
# Galaxy Watch 4 ขายดี ดันส่วนแบ่งการตลาด Samsung พร้อมดัน Wear OS ของ Google
บริษัทวิจัยตลาด Canalys เผยว่าการจัดส่งอุปกรณ์สวมใส่ (รวมทั้งแบบอัจฉริยะและนาฬิกาธรรมดา) เพิ่มขึ้น 2 % ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โดยจัดส่งราว 41.7 ล้านเครื่อง โดยหากนับเฉพาะสมาร์ทวอทช์ การส่งมอบเติบโตขึ้น 9.3%
Apple ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในตลาดสมาร์ทวอทช์โดยได้ส่วนแบ่งไป 26.4% (8.4 ล้านเครื่อง)ขณะที่ Samsung ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ชนะ Huawei โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเพื่อขึ้นมาอยู่ที่ 8.9% (2.8 ล้านเครื่อง) ขณะที่ Huawei ได้ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 8.3% (2.6 ล้านเครื่อง) ภายหลังจากที่ Samsung จำหน่าย Galaxy Watch 4 และ Galaxy Watch 4 Classic เป็นหลักในไตรมาสที่ 2 แม้ว่าจะเพิ่งปล่อย Galaxy Watch 5 ออกมาในเดือนสิงหาคม
การที่ยอดขายสมาร์ทวอทช์ของ Samsung มีส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นถือเป็นข้อดีต่อระบบปฏิบัติการ Wear OS ที่พัฒนาโดย Google ให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและได้รับการผลักดันมากขึ้น
ที่มา: Canalys via 9to5Google |
# เอกสารภายใน Meta เผย Reels ยังสู้ TikTok ไม่ได้แม้พยายามเลียนแบบ
หลังจาก TikTok ได้รับความนิยมมากขึ้นทำให้กระแสวิดีโอขนาดสั้นได้รับความนิยมไปด้วย Meta ได้ออกฟีเจอร์ Instagram Reels เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานและแข่งขันกับ TikTok
สำนักข่าว Wall Street Journal ได้สรุปข้อมูลจากเอกสารที่เผยแพร่ภายในบริษัท Meta หัวข้อ “Creators x Reels State of the Union 2022” ที่เผยแพร่ในเดือนสิงหาคม เปิดเผยว่าผู้ใช้ Instagram ได้ใช้เวลารวม 17.6 ล้านชั่วโมงต่อวันเพื่อชม Reels ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่น้อยกว่า 1 ใน 9 ของจำนวนชั่วโมงที่ผู้ใช้ดูวิดีโอใน TikTok ที่คิดเป็น 197.8 ล้านชั่วโมง
เอกสารภายในระบุว่าใน Meta มีปัญหาเรื่องความนิยมของ Reels ทั้งทางฝั่งผู้ผลิตเนื้อหาและผู้ชม โดยเผยว่ายอด engagement ของผู้ใช้ Reels ลดลง 13.6% เมื่อเทียบกับเมื่อ 4 สัปดาห์ก่อนและผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็แทบไม่มี engagement เลย
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของ Instagram คือ ไม่มีผู้ผลิตเนื้อหา แม้ว่าจะมีครีเอเตอร์ราว 11 ล้านคนสำหรับ Instagram ในสหรัฐแต่มีเพียงแค่ 20.7% ที่โพสต์ลง Reels ในทุก ๆ เดือน นอกจากนี้ 1 ใน 3 ของโพสต์ใน Instagram Reels ส่วนใหญ่เป็นเนื้อหาที่ผลิตจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นรวมถึง TikTok ทาง Meta ได้พยายามจำกัดการแสดงเนื้อหาจากแพลตฟอร์มอื่นแล้วแต่ก็ยังคงมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Meta ได้สร้างกองทุนเพื่อจ้างครีเอเตอร์ให้ผลิตเนื้อหาลงใน Reels รวมมูลค่า 1 พันล้านเหรียญภายในสิ้นปีนี้ เอกสารระบุว่าขณะนี้ Meta ได้ใช้เงินกับ Reels ไปแล้ว 120 ล้านเหรียญ
ขณะที่ TikTok แสดงเนื้อหาแนะนำจากบัญชีที่ผู้ใช้ไม่ได้กดติดตามโดยเลือกเนื้อหาที่ตรงตามความสนใจของผู้ใช้และได้รับความนิยมอย่างมาก การที่ Instagram พยายามทำตาม TikTok โดยเปลี่ยนจากการเน้นแสดงโพสต์จากบัญชีที่ผู้ใช้ติดตามมาแสดงเนื้อหาจากบัญชีของบุคคลอื่นเพื่อให้ตรงตามความสนใจกลับได้ผลตรงกันข้ามและสร้างความไม่พอใจในกลุ่มผู้ใช้
ทั้งนี้ ด้านโฆษกของ Meta ตอบโต้ว่ายอด engagement จาก Reels เพิ่มมากขึ้นในแต่ละเดือน รวมถึงข้อมูลตัวเลขในเอกสารก็ไม่ได้รับการอัปเดตและไม่ครอบคลุม แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม
ที่มา: Wall Steet Journal |
# Apple แนะนำคนใช้ Apple Watch Ultra ถ้าใช้แท่นชาร์จ MagSafe ชาร์จไม่เข้า "ลองถอดสายดู"
แอปเปิลอัพเดตข้อมูลในหน้า Support เรื่องการแก้ไขปัญหาหาก Apple Watch ชาร์จไฟไม่เข้า สำหรับคนที่ใช้แท่นชาร์จแบบ Dock หรือใช้ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ ซึ่งออกแบบมาสำหรับ Apple Watch ตัวเดิมขนาดหน้าปัดใหญ่สุด 45 มม. จึงอาจมีปัญหาถ้านำมาชาร์จ Apple Watch Ultra ที่หน้าปัดใหญ่ขึ้นเป็น 49 มม.
แอปเปิลบอกว่าหากพบปัญหาชาร์จไฟไม่เข้า เมื่อใช้ที่ชาร์จดังกล่าว ผู้ใช้งานอาจต้องลองขยับปรับตำแหน่งให้เข้าที่ หรืออาจต้องปรับแท่นชาร์จเป็นแนวนอนแทน กรณีใช้ Apple Watch Ultra แล้วยังชาร์จไม่ได้ อาจต้องถอดสายนาฬิกาออกไปเลย เพื่อให้หน้าปัดทำแนวขนานกับที่ชาร์จได้ดีขึ้น
ที่ชาร์จ MagSafe แบบคู่ เป็นสินค้าที่แอปเปิลเปิดตัวตั้งแต่ปี 2020 มาพร้อมคุณสมบัติ MagSafe ที่ชาร์จ iPhone และ Apple Watch พร้อมกันได้ อย่างไรก็ตามสินค้าไม่รองรับการชาร์จเร็วสำหรับ Apple Watch รุ่นใหม่ ๆ รวมทั้งรายละเอียดผลิตภัณฑ์เอง ก็ไม่ได้บอกว่าสามารถทำงานร่วมกับ Apple Watch Ultra ได้ด้วย (แต่ Series 8 ใช้ได้)
ที่มา: MacRumors |
# PlayStation จัดงาน State of Play ตี 5 พรุ่งนี้เช้าเวลาไทย
PlayStation ประกาศจัดงาน State of Play วันที่ 14 กันยายน เวลาตี 5 ตามเวลาประเทศไทย โดย PlayStation บอกว่าจะมีอัพเดตจากสตูดิโอเกมฝั่งญี่ปุ่น และเซอร์ไพร์สเล็กๆ น้อยๆ จากสตูดิโออื่นๆ
ตัวงานจะมีระยะเวลาประมาณ 20 นาที ทั้งเปิดตัวเกม, อัพเดต, ฟุตเทจเกมเพลย์ รวมกันทั้งหมด 10 เกม ที่จะปล่อยลงบน PS4, PS5 และ PS VR2
ที่มา - PlayStation |
# งานวิจัยพบแม่ใช้กัญชาระหว่างตั้งครรภ์เกี่ยวข้องกับปัญหาพฤติกรรมลูกแม้เด็กโตถึง 12 ปี
โครงการวิจัย Adolescent Brain Cognitive Development Study (ABCD) รายงานพบความเกี่ยวข้องระหว่างการที่แม่ใช้กัญชาระหว่างตั้งครรภ์และปัญหาพฤติกรรมในเด็ก โดยรายงานระบุว่าความเกี่ยวข้องนี้ยังพบได้แม้เด็กจะมีอายุในช่วง 11-12 ขวบแล้วก็ตาม
ก่อนหน้านี้ ABCD เคยรายงานถึงความเกี่ยวข้องระหว่างการที่แม่ใช้กัญชาระหว่างตั้งครรภ์กับเด็กมีปัญหาพฤติกรรมในช่วง 9-10 ขวบมาก่อนแล้ว รายงานนี้แสดงให้เห็นว่าแม้ระยะเวลาผ่านมาอีกสองปีก็ยังคงมีความเกี่ยวข้องกันอยู่ ปัญหาใหญ่คือมีแม่ตั้งครรภ์ใช้กัญชาสูงขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2002 พบการใช้งาน 3% และเพิ่มเป็น 7% ในปี 2017
ABCD ติดตามเด็กจำนวน 12,000 เพื่อติดตามพัฒนาการระยะยาว มีการเก็บภาพ MRI สมองเป็นระยะ และเก็บข้อมูลด้าจิตวิทยา, สภาพแวดล้อม, และความรับรู้ของเด็ก เพื่อหาปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็กและพัฒนาการด้านอารมณ์
ที่มา - NIH
ภาพโดย My 420 Tours |
# งานวิจัยพัฒนาเครื่องช่วยฟังให้สามารถอ่านริมฝีปากคู่สนทนาที่สวมหน้ากากอนามัยได้
ทีมวิจัยนำโดย University of Glasgow พัฒนาเครื่องช่วยฟังสำหรับผู้มีปัญหาเรื่องการได้ยินที่ไม่เพียงจะช่วยเพิ่มความดังของเสียงพูดจากคู่สนทนาให้ผู้ใช้งานได้ยินชัดขึ้นแล้ว ยังมีระบบเซ็นเซอร์คลื่นวิทยุช่วยอ่านริมฝีปากคู่สนทนาได้แม้ว่าขณะนั้นผู้พูดจะสวมหน้ากากอนามัยอยู่ก็ตาม
หลักการทำงานโดยพื้นฐานของเครื่องช่วยฟังนั้นจะเป็นการขยายความดังของเสียงรอบๆ ผู้ใช้งาน หรือว่าง่ายๆ ก็เสมือนเป็นการรวมร่างระหว่างไมโครโฟนซึ่งทำหน้าที่รับเสียงจากพื้นที่รอบตัวกับลำโพงที่จะขยายเสียงเหล่านั้นให้ดังขึ้น รวมกันอยู่ในอุปกรณ์เล็กจิ๋วตัวเดียวที่ผู้ใช้งานสามารถสวมใส่ไว้ที่หูขณะใช้งาน
อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงระหว่างการสนทนากับผู้อื่นในบางสถานการณ์เช่นในพื้นที่ซึ่งมีเสียงรบกวนจากภายนอกเป็นจำนวนมากนั้น ผู้ใช้อุปกรณ์ช่วยฟังอาจต้องอาศัยทักษะการอ่านริมฝีปากเข้าช่วยด้วยเพื่อให้เข้าใจคำพูดของคู่สนทนาได้ถูกต้อง ทว่าในปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 การสวมใส่หน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งที่ทำกันทั่วไปและเป็นปัญหาใหญ่เพราะทำให้ไม่สามารถอ่านริมฝีปากคู่สนทนาได้อย่างที่เคยทำในอดีต นี่จึงกลายเป็นโจทย์สำคัญในการพัฒนาเครื่องช่วยฟังแบบใหม่
ทีมวิจัยจึงพยายามหาทางให้เครื่องช่วยฟังมีระบบเซ็นเซอร์ที่อ่านริมฝีปากของคู่สนทนาได้ด้วย เนื่องจากโจทย์ที่ต้องใช้งานได้แม้ในกรณีที่ผู้พูดสวมใส่หน้ากากอนามัย ดังนั้นระบบเซ็นเซอร์แบบที่อาศัยภาพนิ่งหรือวิดีโอจึงไม่สามารถนำมาใช้งานได้ พวกเขาจึงหาทางออกโดยการใช้การอ่านสัญญาณคลื่นวิทยุซึ่งเป็นคลื่นที่สามารถทำงานได้โดยไม่ถูกขวางกั้นด้วยหน้ากากหรือเสื้อผ้า
หลักการอ่านสัญญาณคลื่นวิทยุที่ว่านี้เป็นการใช้อุปกรณ์ 2 ประเภทอันได้แก่เครื่องส่งสัญญาณ Wi-Fi และเครื่องส่งสัญญาณเรดาร์ทำการส่งคลื่นวิทยุออกไป แล้วจากนั้นก็อ่านค่าสัญญาณวิทยุที่สะท้อนกลับมาแล้ววิเคราะห์รูปแบบของคลื่นสะท้อนเหล่านั้น โดยคลื่นวิทยุที่สะท้อนกลับมาจากคู่สนทนาผู้กำลังออกเสียงพูดสระต่างๆ นั้นจะมีลักษณะเฉพาะของรูปคลื่นที่แตกต่างกันออกไป หากระบบเซ็นเซอร์ซึ่งเชื่อมต่อกับปัญญาประดิษฐ์สามารถแยกแยะได้ว่าคลื่นวิทยุที่สะท้อนมานี้ตรงกับรูปแบบไหนก็เท่ากับมันสามารถอ่านได้ว่าผู้พูดกำลังออกเสียงพูดสระอะไร หรือก็เท่ากับเป็นการอ่านริมฝีปากได้สำเร็จนั่นเอง
หลักการทำงานโดยรวมของเครื่องช่วยฟังที่มีระบบเซ็นเซอร์คลื่นวิทยุเพื่ออ่านริมฝีปากของคู่สนทนาได้แม้ผู้พูดสวมหน้ากากอนามัย
แรกเริ่มทีมวิจัยได้ขอให้อาสาสมัครทั้งชายและหญิงมาช่วยในการบันทึกข้อมูลรูปแบบสัญญาณคลื่นวิทยุขณะทำการพูดออกเสียง โดยอาสาสมัครแต่ละคนจะพูดออกเสียงสระ A, E, I, O, U โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย จากนั้นก็ทำการบันทึกข้อมูลระหว่างการพูดออกเสียงทั้งหมดอีกครั้งแต่ใส่หน้ากากขณะพูดด้วย ในระหว่างที่อาสาสมัครพูดออกเสียงตามขั้นตอนทั้งหมดนี้ก็มีการส่งคลื่นวิทยุจากเครื่อง Wi-Fi และเครื่องเรดาร์ไปสแกนบริเวณใบหน้าอาสาสมัคร ซึ่งทีมวิจัยจะทำการบันทึกรูปแบบสัญญาณคลื่นวิทยุที่สะท้อนมาจากการสแกนไปด้วยตลอดเวลา
ภาพอธิบายการเก็บข้อมูลสัญญาณคลื่นวิทยุที่สะท้อนจากอาสาสมัครในระหว่างการพูดออกเสียงสระต่างๆ (บน: การใช้คลื่นวิทยุจากเครื่องเรดาร์ Xethru X4M03, ล่าง: การใช้คลื่น Wi-Fi)
หลังการเก็บข้อมูลด้วยวิธีข้างต้นกว่า 3,600 ตัวอย่าง ทีมวิจัยก็ได้สอนให้ปัญญาประดิษฐ์ทำการเรียนรู้โดยอาศัย machine learning เพื่อให้มันสามารถแยกแยะสัญญาณคลื่นสะท้อนของการพูดสระแต่ละตัวได้อย่างถูกต้อง จากนั้นนำเอาโมเดลที่ผ่านการเรียนรู้นี้ไปทดสอบอ่านริมฝีปากอีกครั้งเพื่อประเมินความแม่นยำ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบคือ
การอ่านสัญญาณคลื่นสะท้อนจาก Wi-Fi สามารถอ่านริมฝีปากผู้พูดขณะไม่สวมหน้ากากได้ถูกต้อง 95% และขณะสวมหน้ากากอ่านได้ถูกต้อง 80%
การอ่านสัญญาณคลื่นสะท้อนจากเรดาร์สามารถอ่านริมฝีปากผู้พูดขณะไม่สวมหน้ากากได้ถูกต้อง 91% และขณะสวมหน้ากากอ่านได้ถูกต้อง 83%
ตัวอย่างรูปแบบคลื่นวิทยุสะท้อนจากใบหน้าผู้พูดออกเสียงสระต่างๆ ไล่จากซ้ายไปขวา A, E, I, O, U เปรียบเทียบกับตอนไม่ออกเสียง (แถวกลาง: สัญญาณคลื่นสะท้อนจากเครือ่ง Wi-Fi, แถวล่าง: สัญญาณคลื่นสะท้อนจากเครื่องเรดาร์)
ผลจากการพัฒนาเทคนิคการแปลผลสัญญาณคลื่นวิทยุเพื่ออ่านริมฝีปากนี้สามารถนำไปประยุกต์เพื่อพัฒนาเครื่องช่วยฟังได้ โดยเพิ่มการเชื่อมต่ออุปกรณ์ช่วยฟังกับปัญญาประดิษฐ์เพื่อให้ช่วยอ่านริมฝีปากแบบเรียลไทม์ จากนั้นก็เติมเสียงพูดสังเคราะห์ให้ผู้ใช้เครื่องช่วยฟังได้ยินเสียงสระที่ชัดเจนมากขึ้นในระหว่างการสนทนา
หนึ่งในข้อดีของการเลือกใช้เทคนิคแปลผลสัญญาณคลื่นวิทยุเพื่ออ่านริมฝีปากคู่สนทนานี้คือเรื่องการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งถือว่าดีกว่ามากนำไปเทียบกับเทคนิคการวิเคราะห์ภาพวิดีโอที่บันทึกใบหน้าผู้พูดเพื่ออ่านการขยับปาก
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานวิจัยเซ็นเซอร์เพื่อการอ่านริมฝีปากภายใต้หน้ากากอนามัยนี้ได้ที่นี่
ที่มา - Tech Xplore |
# Bonnie Ross หัวหน้าสตูดิโอ 343 Industries ผู้พัฒนา Halo ลาออกจากไมโครซอฟท์
Bonnie Ross หัวหน้าสตูดิโอ 343 Industries ผู้รับผิดชอบสูงสุดในการพัฒนาเกม Halo ประกาศลาออกจากไมโครซอฟท์ ด้วยเหตุผลเรื่องส่วนตัวที่ต้องไปดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว
Bonnie Ross เป็นพนักงานของไมโครซอฟท์มายาวนานตั้งแต่จบการศึกษา และอยู่ในทีมพัฒนาเกมของไมโครซอฟท์มาตั้งแต่ยุคแรกๆ เมื่อไมโครซอฟท์แยกทางกับ Bungie ในปี 2007 เธอจึงเป็นคนก่อตั้งสตูดิโอ 343 Industries ขึ้นมารับช่วง Halo ต่อจาก Bungie และมีบทบาทช่วยดูแลการพัฒนาเกม Halo ทุกภาคหลังจากภาค 3 เป็นต้นมา เป็นเวลานาน 15 ปี
ไมโครซอฟท์แต่งตั้ง Pierre Hintze หัวหน้าฝ่ายโปรดักชันของ 343 Industries ขึ้นมาเป็นหัวหน้าสตูดิโอแทน Ross
ที่มา - IGN |
# [ลือ] กูเกิลยุบทีม Pixelbook ที่ทำ Chromebook แบรนด์ตัวเอง โยกพนักงานไปทีมอื่น
The Verge รายงานข่าวไม่ยืนยันว่า กูเกิลยกเลิกโครงการโน้ตบุ๊ก Pixelbook เวอร์ชันใหม่ ยุบทีมและโยกพนักงานไปอยู่กับทีมอื่นแทน
เมื่อปี 2017 กูเกิลเปิดตัว Pixelbook เป็นแโน้ตบุ๊กแบบพับคีย์บอร์ดเป็นแท็บเล็ตได้ ใช้ระบบปฏิบัติการ ChromeOS จากนั้นในปี 2019 ก็เปิดตัว Pixelbook Go ที่มีราคาถูกลง แต่ใช้หน้าตาแบบโน้ตบุ๊กธรรมดาแทน
ตามข่าวบอกว่าทีม Pixelbook กำลังพัฒนา Pixelbook รุ่นใหม่ ที่เตรียมเปิดตัวในปีหน้า 2023 ด้วยเหตุผลว่าต้องการลดค่าใช้จ่ายภายในบริษัท ที่กูเกิลเองก็ชะลอการจ้างงานลง และปรับโครงสร้างทีมภายในใหม่
เว็บไซต์ The Verge ประเมินว่าสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะตลาด Chromebook เปลี่ยนไปจากเดิม ในยุคที่กูเกิลเริ่มทำ Pixelbook ใหม่ๆ ผู้ผลิต OEM ยังไม่สนใจออก Chromebook มากนัก แต่ช่วงหลังเมื่อตลาดเริ่มบูม ผู้ผลิต OEM หันมาออกสินค้าเยอะขึ้น มี Chromebook ที่เจาะตลาดพรีเมียมมากขึ้น ทำให้ความจำเป็นของกูเกิลในการพัฒนา Chromebook แบรนด์ของตัวเองมีน้อยลงไปด้วย
ภาพ Pixelbook Go ที่ออกในปี 2019
ที่มา - The Verge |
# Meta ยกโครงการ PyTorch ให้ Linux Foundation ดูแลต่อแทน
บริษัท Meta ประกาศยกโครงการ PyTorch เฟรมเวิร์คสำหรับงาน AI ให้กับ Linux Foundation ไปดูแลต่อ
Linux Foundation จะตั้งองค์กรลูก PyTorch Foundation โดยมีตัวแทนจากบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรม ได้แก่ AMD, Amazon Web Services, Google Cloud, Meta, Microsoft Azure, Nvidia ร่วมเป็นคณะกรรมการกำกับดูแลทิศทางการพัฒนา PyTorch ต่อไป
PyTorch เริ่มพัฒนาในปี 2016 โดยเป็นการต่อยอดจากเฟรมเวิร์ค Torch ที่เขียนด้วยภาษา Lua แต่ปรับให้เป็นภาษา Python ที่ใช้งานกว้างขวางกว่าแทน (โครงการ Torch ก็หยุดพัฒนาไปตั้งแต่ปี 2018) ถือเป็นเฟรมเวิร์ค machine learning ยอดนิยมอีกตัวเคียงคู่กับ TensorFlow/Keras ที่สร้างโดยฝั่งกูเกิล
ฝั่งของ Linux Foundation ก็รับช่วงดูแลโครงการโอเพนซอร์สดังๆ หลายตัว เช่น Kubernetes, Node.js, Let's Encrypt และมีการใช้แนวทางตั้งองค์กรลูกมารับผิดชอบงานเฉพาะด้าน เช่น ตั้ง Cloud Native Computing Foundation (CNCF) มาดูแลโครงการเกี่ยวกับ container หรือตั้ง OpenJS Foundation มาดูแลโครงการสาย JavaScript เป็นต้น
ที่มา - Meta, PyTorch |
# iOS 16 จะมีฟีเจอร์ Clean Energy Charging สำหรับผู้ใช้ iPhone ในอเมริกา ภายในปีนี้
iOS 16 เปิดให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัพเดตกันไปแล้ว โดยฟีเจอร์บางอย่างเช่น iCloud Shared Photo Library หรือ คลังรูปภาพ iCloud ที่แชร์ ยังไม่เปิดให้ใช้งาน แต่ขณะเดียวกัน แอปเปิลก็บอกใบ้ถึงฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่เคยพูดถึงมาก่อนอีกอย่างด้วย
คุณสมบัติใหม่ที่ว่าคือ Clean Energy Charging หรือการชาร์จด้วยพลังงานสะอาด ซึ่งแอปเปิลยังไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก แต่บอกว่ามีเป้าหมายในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของ iPhone ด้วยการปรับเวลาขณะชาร์จให้เหมาะกับช่วงเวลา โดยเน้นโหลดมากขึ้นถ้าระบบไฟฟ้าตอนนั้นใช้แหล่งพลังงานสะอาด ซึ่งแอปเปิลบอกว่ามีผลเฉพาะผู้ใช้งานในอเมริกาเท่านั้น
ฟีเจอร์อื่นของ iOS 16 ที่ยังไม่เปิดใช้งาน และระบุว่าจะมาในปีนี้เช่นกันคือ Live Activities แสดงผลเรียลไทม์ตอนล็อกหน้าจอ ทั้งผลการแข่งขันกีฬา แอปเรียกรถ และแอปสั่งอาหาร
ที่มา: 9to5Mac |
# Oracle ไตรมาสล่าสุด เติบโต 18% จากธุรกิจ Cloud และ Cerner ที่ซื้อกิจการมา
ออราเคิลรายงานผลประกอบการ ของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดเดือนสิงหาคม รายได้รวม 11,445 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิ ตามบัญชี GAAP 1,548 ล้านดอลลาร์
รายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจหลักมีการเติบโตสูง บริการคลาวด์และสนับสนุนไลเซนส์ รายได้เพิ่มขึ้น 14% ส่วนไลเซนส์คลาด์และไลเซนส์ออนพรีมิส เพิ่มขึ้น 11% ในไตรมาสนี้ยังเป็นไตรมาสแรกที่ออราเคิลเริ่มบันทึกรายได้จาก Cerner บริษัทที่ซื้อกิจการมา โดยมีรายได้ส่วนนี้ราว 1.4 พันล้านดอลลาร์
Safra Catz ซีอีโอออราเคิล กล่าวว่าบริษัทมีการเติบโตสูงทั้งธุรกิจแอพพลิเคชัน และโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่บนคลาวด์ เฉพาะสองธุรกิจนี้มีรายได้คิดเป็นมากกว่า 30% ของรายได้รวมแล้ว
ที่มา: ออราเคิล |
# Splatoon 3 ทำสถิติยอดขาย 3 วันแรกในญี่ปุ่น สูงสุดของทุกเกมบนทุกคอนโซล
นินเทนโดประกาศสถิติยอดขาย Splatoon 3 เกมยิงหมึกสีภาคล่าสุดบน Nintendo Switch ที่เริ่มขายเมื่อวันที่ 9 กันยายน เฉพาะในญี่ปุ่นทำยอดขาย 3 วันแรกได้ 3.45 ล้านชุด ซึ่งเป็นสถิติยอดขายเกมสูงสุดในญี่ปุ่นช่วง 3 วันแรก
ตัวเลขเปรียบเทียบสำหรับยอดขาย 3 วันแรกในญี่ปุ่น Animal Crossing: New Horizons ทำได้ 1.88 ล้านชุด ส่วน Pokémon Sword and Shield ขายได้ 1.365 ล้านชุด อย่างไรก็ตามนินเทนโดให้ข้อมูลเฉพาะยอดขายในญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่ได้รายงานตัวเลขในภูมิภาคอื่น
Splatoon เป็นซีรี่ส์เกมยิงหมึกสีแบบดวลกันออนไลน์ระหว่าง 2 ทีม เปิดตัวภาคแรกใน Wii U ปี 2015 และภาคสองบน Switch ปี 2017
อัพเดต: เพิ่มเติมข้อมูลที่แจ้งมาทาง Facebook เป็นเกมทำสถิติสูงสุดของญี่ปุ่น (รวมทุกคอนโซล) อ้างอิง
ที่มา: นินเทนโด ผ่าน IGN |
# Apple อัพเดต iOS 15.7, iPadOS 15.7, Monterey 12.6 แก้ปัญหาช่องโหว่ระดับ Kernel
นอกจาก iOS 16 ที่เปิดให้อัพเดตแล้ว แอปเปิลยังออกอัพเดตย่อยของระบบปฏิบัติการ iOS 15.7 และ iPadOS 15.7 สำหรับผู้ใช้ iPhone และ iPad เพื่อแก้ไขปัญหาช่องโหว่ความปลอดภัยเท่านั้นอีกด้วย
iOS 15.7 สามารถอัพเดตได้ทั้งผู้ใช้งานอุปกรณ์รองรับ iOS 15 ที่ไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS 16 (iPhone 6s, iPhone 7 และ iPhone SE รุ่นแรก) รวมทั้งผู้ใช้งานที่ยังไม่ต้องการอัพเดตเป็น iOS 16 ก็สามารถเลือกอัพเดตแค่ iOS 15.7 ก่อนได้ ส่วนผู้ใช้ iPad ที่รองรับ iPadOS 15 สามารถอัพเดตได้ทุกคน เนื่องจาก iPadOS 16 ยังไม่ออกมา
ในอัพเดตนี้ แอปเปิลบอกว่าได้แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยหลายรายการ โดยมีหลายช่องโหว่ที่ระดับเคอร์เนล รวมทั้ง CVE-2022-32917 ที่มีรายงานการโจมตีแล้ว จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดตทันที รวมทั้งผู้ใช้ iPhone ที่ยังไม่ต้องการอัพเดตเป็น iOS 16
แอปเปิลยังออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ macOS ทั้ง Monterey 12.6 และ Big Sur 11.7 แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยดังกล่าวเช่นกัน
ที่มา: MacRumors [1], [2] |
# Zoom Chat เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Zoom Team Chat เพื่อชูจุดขายแชตหากันได้ ไม่ต้อง VDO Call
Zoom ประกาศเปลี่ยนชื่อบริการแชตข้อความ ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติการทำงานที่มีอยู่แล้วในแอป จากชื่อ Zoom Chat เป็น Zoom Team Chat เพื่อสะท้อนการเป็นแอปรองรับการติดต่อสื่อสาร สำหรับการทำงานร่วมกันในทุกรูปแบบมากยิ่งขึ้น
Sharvari Nerurkar หัวหน้าทีมผลิตภัณฑ์ของ Zoom Team Chat บอกว่าเหตุผลที่เพิ่มคำว่า Team ลงไป เนื่องจากลูกค้าให้ความเห็นว่าสับสนกับระบบแชตระหว่างการประชุม ซึ่งเป็นคนละตัวกัน การเปลี่ยนชื่อนี้เพื่อชูจุดขายของระบบแชตภายในองค์กร ที่ไม่จำเป็นต้องวิดีโอคอลนั่นเอง
Zoom ยังบอกว่าการเน้นระบบแชตนี้ ยังช่วยให้ผู้ใช้งานที่วิดีโอคอลบน Zoom เป็นหลักอยู่แล้ว สามารถติดต่อกับทีมผ่านข้อความจบได้ในแอปเดียว ไม่จำเป็นต้องสลับไปหาแอปอื่น ทั้งนี้บริการคู่แข่งไม่ว่าจะ Slack, Microsoft Teams หรือบริการของกูเกิล ต่างก็มีเครื่องมือติดต่อสื่อสารในทีมหลายช่องทางอยู่เช่นกัน
ที่มา: The Verge |
# iOS 16 และ watchOS 9 เปิดให้อัพเดตสำหรับผู้ใช้งานแล้ววันนี้
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 16 สำหรับผู้ใช้ iPhone วันนี้ รองรับผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA โดยไปที่ Settings > General และเลือก Software Update
ในอัพเดต iOS 16 นี้ อุปกรณ์ที่รองรับคือ iPhone 8 ขึ้นไป ส่วนอุปกรณ์ที่ไม่ได้ไปต่อคือ iPhone 6s, iPhone 7 และ iPhone SE รุ่นแรก
iOS 16 มีฟีเจอร์เด่นคือ หน้าจอล็อกที่ปรับแต่งรายละเอียดข้อมูลที่แสดงได้, Focus แบบใหม่ที่ลงรายละเอียดข้อมูลที่อนุญาตให้แสดงในการเตือน, ลูกเล่นเพิ่มเติมใน Messages, ฟีเจอร์แยกวัตถุออกจากพื้นหลังในรูปภาพ, Live Text แปลข้อความอัตโนมัติ และอื่น ๆ
แอปเปิลยังออกอัพเดต watchOS 9 ระบบปฏิบัติการสำหรับ Apple Watch ด้วยเช่นกัน รองรับ Apple Watch Series 4 เป็นต้นไป โดยต้องทำงานร่วมกับ iOS 16 ในเวอร์ชันนี้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ของการออกกำลังกาย, ตัวจับการนอนหลับที่ละเอียดขึ้น ส่วนฟีเจอร์การเก็บประวัติภาวะสัญญาณหัวใจ AFib ยังไม่เปิดใช้งานในไทย
ทั้งนี้ iPadOS 16 และ macOS Ventura ยังไม่ออกอัพเดตพร้อมกันในวันนี้ โดยแอปเปิลบอกก่อนหน้านี้ว่าจะเปิดให้อัพเดตได้ในเดือนตุลาคม
ระบบปฏิบัติการอื่นที่ออกอัพเดตวันนี้เช่นกันคือ tvOS 16 สำหรับ Apple TV และ HomePod 16
ที่มา: แอปเปิล [1], [2] |
# Starbucks เข้าวงการ NFT ขายแสตมป์ให้สมาชิกสะสม แลกรับสิทธิพิเศษ
Starbucks เปิดบริการ Starbucks Odyssey ให้บริการกับทั้งลูกค้าที่เป็นสมาชิก Starbucks Reward และพนักงานในร้าน โดยจะมีภารกิจต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สะสมแสตมป์ที่เป็น NFT หรือแสตมป์บางรุ่นจะขายผ่านเว็บแอปเท่านั้
แสตมป์ NFT ทุกชิ้นจะสามารถซื้อขายไปมาระหว่างสมาชิกด้วยกันได้ แต่แสตมป์แต่ละชิ้นจะมีคะแนนติดตัวอยู่ หากสมาชิกสามารถสะสมคะแนนได้ครบก็จะปลดล็อกสิทธิพิเศษต่างๆ ตั้งแต่สิทธิพื้นๆ อย่างการเข้าดูบทเรียนทำเครื่องดื่มพิเศษ ไปจนถึงการร่วมอีเวนต์ หรือทริปไปต่างประเทศ
แม้ว่า Starbucks Odyssey จะบันทึกความเป็นเจ้าของแสตมป์ NFT บนบล็อคเชน Polygon แต่ผู้ใช้ก็ไม่ได้สัมผัสบล็อคเชนโดยตรงแต่อย่างใด การซื้อขายใช้บัตรเครดิตตามปกติ การเปิดตัวครั้งนี้จะเปิดให้ลงชื่อแสดงความสนใจเท่านั้น คาดว่าจะเปิดบริการได้จริงภายในปีนี้ในสหรัฐฯ เท่านั้น
ที่มา - Starbucks |
# VMware พบประสิทธิภาพลินุกซ์ 5.19 บน ESXi ตกลงมากเพราะอุดช่องโหว่ Retbleed
VMware รายงานผลทดสอบประสิทธิภาพเคอร์เนลลินุกซ์เวอร์ชั่น 5.19 พบว่าประสิทธิภาพตกลงมากเนื่องจากเวอร์ชั่นนี้มีแพตช์แก้ช่องโหว่ Retbleed เข้ามาด้วย โดยกระทบโหลดประมวลผลสูง (compute) สูงสุด 70%, โหลดเน็ตเวิร์คกระทบ 30% และโหลดแบบสตอเรจกระทบ 13%
ผลกระทบนี้นับว่าสูงกว่าผลกระทบที่นักวิจัยจาก ETH Zurich เคยรายงานไว้ในงานวิจัยว่าน่าจะกระทบประสิทธิภาพลินุกซ์ 14-39% ช่องโหว่ Retbleed นี้เป็นช่องโหว่กลุ่มเดียวกับ Spectre ที่อาศัยฟีเจอร์ของซีพียูที่พยายามเร่งความเร็วในการประมวลผลด้วยการคาดเดาว่าต้องรันคำสั่งใดเป็นคำสั่งต่อไป
แพตช์อุดช่องโหว่ Retbleed สามารถคอนฟิกปิดได้หากผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยง โดยคอนฟิกบูตพารามิเตอร์ spectre_v2=off เพิ่มเข้าไป ประสิทธิภาพก็จะกลับมาเท่าเดิม
ที่มา - Linux Kernel Mailing List |
# Ubisoft เผยยุทธศาสตร์ใหม่ ดันเกมดังเป็นแฟรนไชส์ที่ทุกคนรู้จัก มีทั้งเกม หนัง ซีรีส์ นิยาย
เมื่อวานนี้เราเห็นการแถลงข่าว Assassin's Creed ชุดใหญ่ มีทั้งภาคหลักภาคใหม่ Mirage และภาคแยกย่อยอีกรวม 5 เกม, โปรเจคซีรีส์ Netflix, โปรเจค Infinity Hub ถือว่าเป็นเซอร์ไพร์สพอสมควรที่เปิดตัวโปรเจคเยอะขนาดนี้
เรื่องนี้มีที่มาที่ไป เพราะสะท้อนยุทธศาสตร์ใหม่ของ Ubisoft ที่หันมาเน้นพัฒนาสื่อที่เกี่ยวข้องเกมดังในเครือมากขึ้น มีตั้งตำแหน่ง Chief Portfolio Officer และทีม Brand Portfolio Management ขึ้นมารับหน้าที่ "คุมธีม" ภาพรวมของแฟรนไชส์เกมดังเป็นการเฉพาะ
Sandrine Caloiaro ผู้ดำรงตำแหน่ง Chief Portfolio Officer ให้สัมภาษณ์ว่าเป้าหมายของเธอคือสร้างแฟรนไชส์สื่อที่ทุกคนรู้จักและจดจำได้ (iconic media franchises) ซึ่งตอนนี้แฟรนไชส์เกมระดับท็อปของ Ubisoft มี 3 เกมคือ Assassin’s Creed, Far Cry, Rainbow Six
แนวทางของ Ubisoft คือการันตีว่าเกมต้องมีคุณภาพสูงเสมอ และทำงานร่วมกับผู้สร้างภาพยนตร์ ซีรีส์ คนเขียนนิยาย ฯลฯ เพื่อขยายพรมแดนของแบรนด์ออกไป ซึ่ง Assassin’s Creed คือตัวอย่างแรกของนโยบายใหม่นี้
Ubisoft ยังบอกว่านโยบายใหม่นี้ใช้กับเกมอื่นๆ ในเครือด้วย โดยยกตัวอย่างเกม Mario + Rabbids ที่ร่วมมือกับนินเทนโด หรือการนำเกมอินดี้จากนักพัฒนารายย่อยมาอยู่บน Ubisoft+
ส่วนประเด็นเรื่องการควบคุมคุณภาพของเกม มีการตั้งตำแหน่ง VP, Editorial โดยดึง Fawzi Mesmar มารับตำแหน่งนี้ หน้าที่ของเขาคือรีวิวเกมที่กำลังพัฒนาโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ กำหนดมาตรฐานคุณภาพภายใน การันตีว่าเกมได้รับการตรวจสอบบั๊กอย่างทั่วถึง และบำรุงรักษาตลอดอายุของเกม รวมถึงย้อนดูเกมที่ออกไปแล้วว่ามีบทเรียนใดควรนำไปปรับใช้บ้าง
ที่มา - Ubisoft |
# นักวิจัยสร้าง AI ที่ปรับความยากของเกมให้เหมาะกับความเก่งและความสนุกของผู้เล่นได้เอง
ทีมนักวิจัยจาก Gwangju Institute of Science and Technology ประเทศเกาหลีใต้ได้แผยแพร่งานวิจัยในการพัฒนาระบบ DDA (dynamic difficulty adjustment) ซึ่งเป็นระบบปรับความยากของเกมในระหว่างการเล่นที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น โดยระบบสามารถปรับความยากไม่เพียงให้สอดคล้องกับความเก่งของผู้เล่นเท่านั้น แต่ยังสัมพันธ์ความรู้สึกสนุกของผู้เล่นด้วย
เทคโนโลยี DDA นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว ในปัจจุบันระบบ DDA ที่มีใช้งานอยู่จะอาศัยการเก็บข้อมูลของผู้เล่นเกมเพื่อประเมินระดับฝีมือว่าเล่นได้เก่งเพียงใดและปรับความยากของเกมให้มีความท้าทายเหมาะสมกับฝีมือการเล่นนั้น หากผู้เล่นทำคะแนนได้ดีตัวเกมก็จะถูกปรับให้ยากขึ้นโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามทีมวิจัยคิดว่าการที่ผู้เล่นสามารถทำคะแนนได้ดีแล้วเจอเกมที่ยากขึ้นไม่ได้แปลว่าผู้เล่นจะรู้สึกสนุกขึ้นตามไปด้วยเสมอ
ทีมวิจัยจึงพัฒนาระบบ DDA ที่ไม่เพียงแต่สนใจแค่ความเก่งในการเล่นที่วัดได้จากคะแนนของผู้เล่นเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่สะท้อนถึงความสนุกในการเล่นเกม โดยระบบจะมุ่งเพิ่มระดับความพึงพอใจของผู้เล่นในด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้านในมิติเหล่านี้
ความท้าทายของเกม หรือก็คือความยากในการเล่นนั่นเอง
ความเก่งของระบบ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการเพิ่มความยากหรือความท้าทายของเกมเสมอไป ตัวอย่างเช่น ระบบผู้ช่วยในเกมที่เก่งขึ้น อาจทำให้รู้สึกเพลิดเพลินหรือรู้สึกเล่นเกมง่ายขึ้นด้วยซ้ำ
ความลื่นไหล หรือความต่อเนื่องของการเล่น
ความน่าดึงดูด คือความน่าสนใจและสะกดให้ผู้เล่นจดจ่ออยู่กับเกมนานขึ้น
ทีมวิจัยเชิญอาสาสมัครมาร่วมทำการทดลองเล่นเกมประเภทเกมต่อสู้โดยให้แข่งกับคอมพิวเตอร์ที่มีความยากระดับต่างๆ กันหลายระดับ จากนั้นเก็บข้อมูลจากอาสามาสมัครโดยให้ตอบแบบสอบถามว่าการเล่นเกมที่ผ่านมานั้นทำให้พวกเขามีความรู้สึกอย่างไร
จากนั้นทีมวิจัยนำเอาข้อมูลที่ได้จากการสอบถามไปเทรนให้ระบบ DDA ทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างระดับความยากแต่ละระดับกับความรู้สึกพึงพอใจในแต่ละมิติของกลุ่มผู้เล่นได้ดีขึ้น พวกเขาใช้เทคนิค Monte-Carlo tree search ในการปรับปรุงระบบ DDA ให้สามารถปรับระดับความยากของเกมได้ดีช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกมากขึ้น
ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของงานวิจัยนี้ได้ที่นี่
ที่มา - Tech Xplore |
# ญี่ปุ่นผลิตช้อนและชามทำให้อาหารเค็มขึ้นโดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม ใช้กระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ
มหาวิทยาลัยเมจิและบริษัทเครื่องดื่มสัญชาติญี่ปุ่น Kirin ร่วมกันพัฒนาช้อนและชามที่ทำให้ผู้รับประทานอาหารรู้สึกว่าอาหารมีรสชาติเค็มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ร่วมมือกันพัฒนาตะเกียบสร้างรสเค็มเสมือนไป
ช้อนและชามมีส่วนที่สร้างกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ซึ่งจะส่งผ่านพื้นผิวของช้อนและชามเพื่อเข้าไปสู่อาหารและแตกตัวเป็นไอออนอย่างโซเดียมคลอไรด์ที่ไปกระตุ้นการรับรสให้ผู้บริโภครู้สึกว่าอาหารมีรสชาติเค็มขึ้นกว่ารสชาติจริง 1.5 เท่าโดยไม่ต้องเติมเกลือลงในอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภคเกลือ
ช้อนและชามช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้ตะเกียบที่ประดิษฐ์ไปก่อนหน้า เนื่องจากตะเกียบมีพื้นที่ผิวน้อยทำให้ติดตั้งแหล่งสร้างกระแสไฟฟ้าได้ยาก ผู้ใช้จึงต้องสวมสายรัดข้อมือขณะรับประทานอาหาร แต่ช้อนและชามมีพื้นที่ผิวกว้างกว่าทำให้สามารถบรรจุแบตเตอรี่ลงไปได้เลย รวมทั้งบรรจุอาหารได้มากขึ้น
อุปกรณ์ทั้ง 2 จะวางขายภายในปีหน้าและจะใช้ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “Erekisoruto”
ที่มา: SoraNews24 |
# จีนดำเนินภารกิจไปดวงจันทร์ต่อ ส่งยานไปอีก 3 ลำใน 10 ปี หลังพบแร่ใหม่จากดวงจันทร์
Liu Jizhong เจ้าหน้าที่ศูนย์สำรวจดวงจันทร์และอวกาศจีนเปิดเผยว่า องค์การ National Space Adminictration (NASA ของจีน) ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินภารกิจ Chang’e (Chang’e lunar program) ต่อโดยส่งยานอวกาศที่ไม่มีมนุษย์ไปดวงจันทร์เพิ่มอีก 3 ลำในช่วง 10 ปีต่อจากนี้ ภายหลังจากที่จีนค้นพบแร่ดวงจันทร์ใหม่จากตัวอย่างที่เก็บมาจากภารกิจ Chang’e-5
แร่ที่เพิ่งค้นพบถูกตั้งชื่อว่า Changesite-(Y) สำนักข่าวซินหัวของจีนอธิบายว่ามีลักษณะเหมือนคริสตัลโปร่งแสงและไม่มีสีที่มีก๊าซฮีเลียม-3 อยู่ภายใน ซึ่งคาดการณ์ว่าก๊าซดังกล่าวอาจเป็นแหล่งพลังงานในอนาคต การค้นพบแร่นี้ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ 3 ที่ค้นพบแร่ใหม่จากดวงจันทร์
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจีนมุ่งดำเนินภารกิจอวกาศตั้งแต่การตั้งสถานีอวกาศเทียนกง การริเริ่มภารกิจไปดาวอังคารไปจนถึงภารกิจไปดวงจันทร์ จีนยังตั้งเป้าหมายสร้างสถานีวิจัยนานาชาติบนดวงจันทร์อีกด้วย
ภารกิจไปดวงจันทร์รวมทั้งการสำรวจเพื่อค้นหาแร่ใหม่ ๆ ในอวกาศอาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้การแข่งขันและความกดดันระหว่างสหรัฐอเมริกและจีนเข้มข้นขึ้น หลังจากภารกิจ Altemis I ของสหรัฐล่าช้าและ NASA กล่าวหาว่าจีนขโมยเทคโนโลยีอวกาศและสร้างขยะอวกาศจากชิ้นส่วนจรวดของจีน
ที่มา: Bloomberg
ภาพจาก Unsplash ของ NASA |
# Corsair เปิดตัวคีย์บอร์ด K100 AIR แมคคานิคอลคีย์บอร์ดแบบบาง สูงเพียง 11 มิลลิเมตร
Corsair ผู้ผลิตอุปกรณ์เกมมิ่งเปิดตัวคีย์บอร์ด K100 AIR แมคคานิคอลคีย์บอร์ดแบบบางที่ใช้สวิตช์ Cherry MX Ultra Low Profile โดยรวมตัวถังแล้วยังมีความสูงรวมเพียง 11 มิลลิเมตรเท่านั้น
ตัวคีย์บอร์ดรองรับทั้งการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้ 3 เครื่อง และต่อแบบ USB ที่ตอบสนองระดับ 8,000Hz อายุแบตเตอรี่ใช้งานได้ 50 ชั่วโมงหากเปิดไฟคีย์บอร์ด และได้ 200 ชั่วโมงหากปิดไฟ ฟีเจอร์อื่นๆ เช่น รองรับมาโคร, มีที่หมุนปรับระดับเสียง, และสตอเรจ 8MB สำหรับเก็บโปรไฟล์การใช้งานได้ 50 ชุด
ตอนนี้ทาง Corsair ยังไม่เปิดราคา แต่จะประกาศราคาในวันที่ 4 ตุลาคมนี้
ที่มา - Corsair |
# [ลือ] Google อาจเปิดตัว Chromecast with Google TV รุ่นใหม่ วันที่ 6 ตุลาคมนี้ คาดเป็นรุ่นราคาถูก
เว็บไซต์บราซิล Technoblog เผยรูป Chromecast with Google TV รุ่นใหม่ที่มาจากเอกสารของ National Telecommunications Agency (กสทช. บราซิล) มีความเป็นไปได้ว่า Google อาจเปิดตัวในวันที่ 6 ตุลาคมนี้พร้อมกับสมาร์ทโฟน Pixel 7
รูปจาก Technoblog แสดงให้เห็นว่า Chromecast with Google TV ใหม่มีลักษณะคล้ายกับรุ่นล่าสุดและมีป้ายติดว่า “Google G454V” ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับชื่อในเอกสารที่ยื่นต่อ FCC (กสทช. ของสหรัฐ) จากข่าวลือก่อนหน้านี้ เป็นไปได้ว่ารุ่นใหม่นี้จะเป็นรุ่นที่มีราคาถูกกว่ารุ่นปัจจุบันราว 40% (รุ่นล่าสุดราคาเปิดตัวที่ราว $50) และอาจแสดงผลได้เพียง 1080p 60Hz จากรุ่นล่าสุดที่แสดงผล 4K
ทั้งนี้ เอกสารจาก FCC ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นอุปกรณ์ Chromecast โดยตรงแต่เป็นการบรรยายลักษณะที่ตรงกับ Chromecast เท่านั้น โดย Chromecast with Google TV รุ่นใหม่น่าจะมาพร้อมกับรีโมทดังเดิม และสามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth LE หากอ้างอิงตามเอกสารที่ยื่นต่อ FCC
ที่มา: The Verge |
# บริษัทเทคสหรัฐฯ ยอมรับ TikTok เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว นักการเมืองเกรงจะผูกขาด
การเติบโตอย่างรวดเร็วของแอปพลิเคชันสัญชาติจีนอย่าง TikTok นำไปสู่ความกังวลของบริษัทผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวกับทางการเมืองในสหรัฐ หลัง TikTok เติบโตสวนทางกับแอปอื่นที่ได้รับความนิยมลดลง
ในงาน Code Conference 2022 แอปพลิเคชัน TikTok เป็นหัวข้อที่ได้รับการพูดถึงจากผู้บริหารในวงการเทคโนโลยีและนักการเมืองในสหรัฐ แม้ว่าตัวแทนของ TikTok จะไม่ได้เข้าร่วมงานก็ตาม
Evan Spiegel ซีอีโอของ Snap บริษัทแม่ของแอป Snapchat ให้ความเห็นว่า TikTok เติบโตอย่างรวดเร็วเพราะการลงทุนมหาศาลเพื่อดึงให้ผู้ใช้เข้ามาใช้งานแอปอย่างที่บริษัทสตาร์ทอัพอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้ ผลที่ตามมาจากการมีผู้ใช้งานจำนวนมากคือ TikTok สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้และทำให้อัลกอริธึมแนะนำเนื้อหาพัฒนาขึ้นและเลือกเนื้อหาได้ตรงตามความสนใจผู้ใช้มากขึ้นซึ่งยิ่งทำให้จำนวนผู้ใช้มากขึ้นไปอีก ส่วน Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ได้ยอมรับว่า TikTok เป็นคู่แข่งสำคัญของ YouTube ที่ปรากฎตัวโดยไม่มีใครรู้ตัว สามปีก่อนยังไม่มีใครพูดถึง TikTok เลย
ในส่วนของฝั่งนักการเมือง Amy Klobuchar สมาชิกวุฒิสภาพรรคเดโมแครตก็ได้เตือนว่า TikTok อาจได้รับการเพ่งเล่งจากการละเมิดกฎหมายห้ามผูดขาดในอนาคตหาก TikTok เติบโตจนมีขนาดใกล้เคียงกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่น ๆ ของสหรัฐ
Mathias Dopfner ซีอีโอของบริษัท Axel Springer ที่เป็นเจ้าของสำนักข่าว Insider, Politico และ Protocol เสนอว่า TikTok ควรถูกแบนออกจากสหรัฐและประเทศประชาธิปไตยอื่น ๆ ด้วยซ้ำ โดยให้เหตุผลว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของสหรัฐไม่สามารถเข้าไปให้บริการในจีนได้แล้วทำไม TikTok ถึงใหบริการในสหรัฐได้ นอกจากนี้ ผลของความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นของ TikTok ไม่ใช่แค่ผลเสียเชิงธุรกิจแต่มีผลเสียด้านการเมืองจากผลกระทบของ TikTok ต่อทัศนคติของผู้ใช้ด้วย
ส่วนทางฝั่งของ Tim Cook ซีอีโอของ Apple กล่าวแค่ว่าบริษัทไม่ได้ทำสมาร์ทโฟนมาเพื่อให้ใครเลื่อนดูฟีดอย่างไม่รู้จบ โดยไม่ได้ระบุชื่อแอป และกล่าวว่าตัวเขาเองไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้าน TikTok
ที่มา: Forbes และ Axios |
# FCC ออกกฎใหม่ให้กำจัดดาวเทียมภายใน 5 ปีหลังใช้งานเสร็จ ป้องกันขยะล้นอวกาศ
FCC (กสทช. ของสหรัฐอเมริกา) ร่างกฎใหม่ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการต่างๆ ที่เป็นเจ้าของดาวเทียมวงโคจรต่ำต้องรับผิดชอบดำเนินการกำจัดดาวเทียมเหล่านั้นภายในระยะ 5 ปีหลังดาวเทียมหมดอายุการใช้งาน กฎใหม่นี้ถูกร่างขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาระยะยาวเรื่องขยะล้นอวกาศ
ข้อบังคับที่ FCC ร่างขึ้นใหม่นี้จะมีสถานะการบังคับใช้เป็นกฎหมาย จากที่ในปัจจุบันนี้มีแต่เพียงแนวปฏิบัติมาตรฐานตามคำแนะนำของ NASA ซึ่งใช้กันมาตั้งแต่ 1990 ที่ระบุให้กำจัดดาวเทียมภายในกรอบเวลา 25 ปีหลังเสร็จสิ้นการใช้งาน ซึ่งไม่มีผลผูกพันบังคับใช้ในทางกฎหมายจริงจัง
การกำจัดดาวเทียมที่ว่านี้หมายถึงการบังคับควบคุมให้ดาวเทียมกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งชิ้นส่วนของดาวเทียมเหล่านี้จะลุกไหม้จากการเสียดสีกับอากาศในระหว่างที่มันตกสู่พื้นโลก
กฎใหม่เรื่องการกำจัดดาวเทียมหลังเสร็จสิ้นภารกิจการใช้งานนี้ จะถูกยกเว้นให้กับดาวเทียมที่มีใช้งานแล้วในขณะนี้และที่กำลังจะปล่อยภายในช่วง 2 ปีข้างหน้า การบังคับใช้กฎนี้จะครอบคลุมผู้ที่ขอใบอนุญาตใช้งานดาวเทียมของสหรัฐฯ ทั้งหมด รวมทั้งบริษัทต่างชาติที่แม้จะได้ใบอนุญาตดาวเทียมจากประเทศอื่นแต่ต้องการนำดาวเทียมของตนเองมาให้บริการแก่ผู้คนในสหรัฐฯ ก็จะเข้าข่ายต้องทำตามกฎนี้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม FCC ระบุว่าอาจมีข้อยกเว้นให้กับโครงการบางอย่าง โดยเฉพาะการใช้งานดาวเทียมเพื่องานวิจัยค้นคว้าด้านวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างเช่นโครงการต่างๆ ของ NASA ซึ่ง FCC จะพิจารณายกเว้นให้เป็นรายกรณี
ที่มา - Ars Technica |
# ก.ล.ต.สหรัฐ เตรียมตั้งแผนกจัดการสินทรัพย์คริปโตแยกต่างหาก
SEC หรือสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐ ประกาศตั้งหน่วยงานใหม่ในสังกัด 2 แห่ง อยู่ภายใต้ฝ่าย Division of Corporation Finance ได้แก่
Office of Crypto Assets รับผิดชอบงานเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโตโดยเฉพาะ ในอนาคตงานเอกสารด้านการจดทะเบียนและขอใบอนุญาตเกี่ยวกับคริปโต จะต้องผ่านสำนักงานนี้
Office of Industrial Applications and Services รับผิดชอบการขอใบอนุญาตด้านอุตสาหกรรม ที่ไม่เกี่ยวกับสายงานด้านยาและไบโอเทค ซึ่งมีจำนวนมากขึ้น เพื่อให้แยกจากงานของ Office of Life Sciences ที่มีอยู่แล้ว
ก.ล.ต. สหรัฐมีหน่วยงานเฉพาะอุตสาหกรรมอยู่แล้ว 7 แห่ง ซึ่งจะช่วยรับผิดชอบงานสาขาต่างๆ ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ
ที่มา - SEC |
# สหรัฐเสนอแก้กฎหมาย แพลตฟอร์มโซเชียลต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาของผู้ใช้
สหรัฐอเมริกามีกฎหมายความเหมาะสมด้านการสื่อสาร (Communications Decency Act) ที่ออกในปี 1996 เน้นควบคุมเนื้อหาอนาจารในอินเทอร์เน็ต กฎหมายฉบับนี้มีมาตราสำคัญคือมาตรา 230 ที่มีสาระสำคัญว่า ผู้ให้บริการไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่ผู้ใช้โพสต์ลงบนแพลตฟอร์ม
มาตรา 230 เป็นแกนกลางสำคัญของการถกเถียงเรื่องเนื้อหาของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในช่วงหลัง โดยเฉพาะในยุคข่าวปลอมระบาด เพราะกลายเป็นยกประโยชน์ให้แพลตฟอร์มไม่ต้องรับผิดใด ๆ ในขณะที่มีหลายฝ่ายเริ่มมองว่า แพลตฟอร์มจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่ผิด ๆ หรือสร้างความแตกแยกในสังคม
ก่อนหน้านี้ได้มีความพยายามจะแก้ไขมาตรานี้แล้วแต่ไม่สำเร็จ ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็เคยเรียกร้องให้มีกฎหมายคุ้มครองเยาวชนในทางออนไลน์ และเสนอให้แก้มาตรา 230 ไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด คณะกรรมาธิการด้านพลังงานและการพาณิชย์ (House Energy and Commerce Commitee) ของสภาผู้แทนราษฏร ได้โหวตผ่านร่างกฎหมาย American Data Privacy and Protection Act (ADPPA) ที่มุ่งคุ้มครองความเป็นส่วนตัวข้อมูลของผู้ใช้มากขึ้นและจำกัดการยกเว้นจากความรับผิดชอบของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่
ในคำแถลงการณ์ของรัฐบาลได้ชมเชยว่าทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างให้ความสนใจกับการผ่านร่างกฎหมาย ADPPA และสนับสนุนให้ยุติ “การคุ้มครองทางกฎหมายเป็นพิเศษสำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่” (special legal protections for large tech platforms) ซึ่งเป็นการจำกัดการยกเว้นความรับผิดชอบของบริษัทเทคโนโลยีตามที่ระบุไว้ในมาตรา 230
อย่างไรก็ตาม Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐและผู้แทนราษฎรจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องการชะลอกฎหมายนี้ไว้ก่อนเพราะเกรงว่ากฎหมายนี้จะขัดต่อ California Privacy Act และ California Privacy Rights Act ซึ่งเป็นกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของรัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยความกังวลว่ากฎหมายใหม่จะขัดขวางการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของแคลิฟอร์เนียจะดำเนินไปอย่างรวดเร็วในอนาคต
อ่านละเอียดกฎหมาย American Data Privacy and Protection และ ข้อเสนอ 6 ประการจากแถลงการณ์
ที่มา: Protocol และ iapp |
# บทเรียน GameFi ที่อิง Minecraft ผู้เล่นหดหาย ราคาเหรียญพังทลาย หลัง Minecraft แบน NFT
เว็บไซต์ข่าว Rest of the World มีบทความถึงผลกระทบของนโยบาย Minecraft ที่ห้ามการเชื่อมโยงกับ NFT และคริปโต ทำให้บริการ GameFi หลายตัวที่อิงกับโลก Minecraft ถึงกับล่มสลาย
บริการเกม GameFi ที่อิงกับ Minecraft มีหลายตัว เช่น NFT Worlds เหรียญ @WRLD ที่ประกาศแนวทางว่าจะทำเกมใหม่เอง ส่วนในข่าวนี้เป็นอีกตัวชื่อ Critterz
Critterz เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2021 โดยตั้งใจแก้ปัญหาของเกม Axie Infinity ที่กวาดจำนวนผู้เล่นได้มากจากระบบเศรษฐกิจในเกม แต่โดนวิจารณ์ว่าเกมไม่สนุก คนมาเล่นเพื่อหาเงินเป็นหลัก ไอเดียของ Critterz คือนำเกมที่สนุกอยู่แล้วมาเพิ่มระบบ play-to-earn แทน ซึ่งเกมนั้นคือ Minecraft ที่อนุญาตให้ผู้เล่นตั้งเซิร์ฟเวอร์เกมแบบคัสตอมของตัวเองได้
Critterz ใช้แนวทางเดียวกับ Axie Infinity คือขาย NFT นอกเกม เพื่อใช้เป็นตั๋วให้เข้าไปเล่นเกมได้ ตั๋ว NFT ชุดแรก 2,650 ตัวขายหมดทันที และราคาขายมือสองพุ่งไปถึงตัวละ 7,000 ดอลลาร์บน OpenSea (ราคาตั้งขายบน OpenSea ณ ขณะที่เขียนคือประมาณ 0.11 ETH หรือประมาณ 1,700 ดอลลาร์)
เกมเพลย์ของ Critterz ปรับแต่งจาก Minecraft แบบปกติตรงที่เพิ่มระบบ "เจ้าของที่ดิน" (landlord) มีแต่เจ้าของที่ดินเท่านั้นที่สามารถขุดบล็อคในบริเวณนั้นได้ และการเล่นเกมจะได้เหรียญ $BLOCK ที่นำไปซื้อไอเทม ที่ดินในเกม รวมถึงแลกกลับเป็นเงินจริงได้
กระแสความนิยมที่ตกลงของ Axie Infinity ทำให้คนย้ายมาเล่น Critterz มากขึ้น มีระบบ guild ที่จ้างผู้เล่นจำนวนมาก (โดยเฉพาะจากฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นฐานหลักของ Axie Infinity) มาเล่นเกมเพื่อแลกกับเหรียญ $BLOCK เป็นผลตอบแทน การที่เงื่อนไขการเล่นต้องเป็นเจ้าของ NFT ราคาแพงก่อน ส่งผลให้เกิดการให้เช่า NFT หรือระบบ guild ที่ผลัด "กะ" ของผู้เล่นให้ใช้ประโยชน์จาก NFT ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เจ้าของ guild ในเกมประเมินว่าผู้เล่นสามารถทำเงินได้ 60-130 ดอลลาร์ต่อวัน ส่วนแบ่งรายได้ 60:40 (ผู้เล่นรับ 60%) ตัวอย่าง guild รายใหญ่ชื่อ Big Chief Academy มี NFT ในสังกัด 60 ตัว มีผู้เล่นในสังกัดราว 200 คน มีที่ดินในเกมผืนใหญ่ต่อกัน 133 แปลง และจ้างนักออกแบบสถาปัตยกรรม Minecraft มืออาชีพมาช่วยออกแบบสิ่งปลุกสร้างในเกม
แต่ตามธรรมชาติของ GameFi เมื่อผู้เล่นมีจำนวนเยอะขึ้น เหรียญ $BLOCK มีปริมาณมากขึ้น และมีแต่คนอยากขายเหรียญออกเพื่อทำเงินในโลกจริง ทำให้ราคาเหรียญ-ราคาที่ดินในเกมค่อยๆ ตกลง ยิ่งเมื่อ Minecraft ประกาศแบน NFT ทำให้ราคา $BLOCK ลดลงทันทีครึ่งหนึ่ง ผู้เล่นก็หายหน้าไป จากเดิมที่มีผู้เล่นในเซิร์ฟเวอร์ราว 2,000 คนก็เหลือเพียงหลักหน่วยเท่านั้น
ทีมผู้สร้าง Critterz ยอมรับว่าอนาคตไม่ง่าย ทางเลือกที่เป็นไปได้ในระยะสั้นคือ ถอดระบบ NFT ออกเพื่อไม่ให้ Minecraft แบนเซิร์ฟเวอร์, ทำสำเนาข้อมูลออกมาจากบล็อกเชน เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ ในเกม ผู้เล่นสามารถเล่นเกมต่อได้แต่ไม่สามารถซื้อขายทำธุรกรรมได้อีกแล้ว
ส่วนในระยะยาว อาจเปลี่ยนไปใช้เกมเลียนแบบ Minecraft เกมอื่นหรือพัฒนาเกมเอง แต่การพัฒนาเกมให้ได้ระดับเดียวกับ Minecraft ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
ที่มา - Rest of the World |
# Assassin's Creed Valhalla จะออก DLC สุดท้าย The Last Chapter บทสรุปเนื้อเรื่องภาคนี้
นอกจากการเปิดตัว เกม Assassin's Creed ภาคใหม่ ชุดใหญ่ Ubisoft ยังประกาศออกเนื้อหาเสริมภาคสุดท้ายของ Assassin's Creed Valhalla ชื่อว่า The Last Chapter เป็น DLC อัพเดตฟรีที่จะออกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
Assassin's Creed Valhalla ถือเป็นภาคที่มีเนื้อหาเสริมมากที่สุดภาคหนึ่ง ประกอบด้วย DLC ย่อยหลายตัว และภาคเสริม (expansion) ที่เป็นเนื้อเรื่อง 3 ภาคคือ Wrath of the Druids, The Siege of Paris, Dawn of Ragnarök
เนื้อเรื่องของภาค Valhalla จะต่อกับภาค Mirage ที่จะออกในปี 2023 แต่เหตุการณ์ของภาค Mirage เกิดก่อนหน้า 20 ปี โดยมีตัวละคร Basim เป็นตัวเชื่อมโยงเรื่องทั้งสองภาคเข้าด้วยกัน (รูปแบบเกมเพลย์ของ Mirage จะกลับไปเน้นแอคชั่นลอบสังหาร ในขณะที่ Valhalla เป็น RPG โอเพนเวิลด์)
ภาพประกอบการเกมเวอร์ชันปัจจุบัน ยังไม่ใช่ The Last Chapter
ที่มา - Kotaku |
# [ลือ] Apple ยังเดินหน้าแผนขาย iPhone แบบจ่าย subscription รายเดือน อาจเปิดตัวในปีนี้
จบงานเปิดตัว iPhone เดือนกันยายนไปแล้ว ก็ได้เวลาของข่าวลือสำหรับงานอีเวนต์ถัดไป โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg ให้ข้อมูลล่าสุดในจดหมายข่าว Power On ไว้ดังนี้
ประเด็นคือแพ็คเกจสมัครใช้งาน iPhone รายเดือนแบบ subscription ซึ่งเขายืนยันว่าแอปเปิลยังเดินหน้าโครงการนี้ บริการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของ Apple One บริการเหมาจ่ายออนไลน์ เปิดตัวได้เร็วที่สุดช่วงปลายปี หรืออาจเป็นปีหน้า
ส่วนราคาค่าใช้บริการรายเดือน เขาบอกว่าจะไม่ใช่การนำราคาเครื่องเปล่า iPhone มาหาร 12 หรือ 24 เดือนตรง ๆ แต่ตัวเลขยังไม่มีข้อสรุป อาจแตกต่างกันไปแล้วแต่รุ่นและชนิดอุปกรณ์ รวมทั้งยังไม่มีข้อสรุปว่าจะให้ลูกค้าอัพเกรดอุปกรณ์เมื่อมีรุ่นใหม่ได้ทันทีหรือไม่
สำหรับข้อมูลงานอีเวนต์เปิดตัวสินค้าใหม่เดือนตุลาคม Gurman คาดว่า จะมี iPad 10th Gen ซึ่งเปลี่ยนมาใช้ USB-C, Mac รุ่นใหม่ที่ใช้ M2 อย่างน้อยสองรุ่นวางขายในปีนี้ และ iPad Pro ซีพียู M2
ที่มา: 9to5Mac |
# นักวิจัยพัฒนาระบบค้นหาและระบุตำแหน่งกับระเบิดด้วยภาพถ่ายทางอากาศจากโดรน
Demining Research Community คือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่พยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการเก็บกู้กับระเบิด ซึ่งในปัจจุบันทีมวิจัยขององค์กรได้พัฒนาระบบค้นหาและระบุตำแหน่งกับระเบิดด้วยภาพถ่ายทางอากาศที่ได้จากการบินถ่ายภาพด้วยโดรน เป้าหมายขององค์กรคือช่วยให้ภารกิจการเก็บกู้กับระเบิดในประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่แม้สงคราบจะจบไปนานแล้วสามารถทำได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการค้นหาและระบุตำแหน่งกับระเบิดที่ทำโดยทั่วไปในปัจจุบันนั้นจะเน้นการใช้เจ้าหน้าที่เดินค้นหาโดยอาศัยเครื่องตรวจโลหะเพื่อค้นหากับระเบิดที่อาจยังคงหลงเหลือซุกซ่อนอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ หลังการสู้รบ ซึ่งวิธีดังกล่าวนอกจากจะต้องใช้แรงงานและเวลาเป็นอย่างมากแล้ว ยังเป็นการเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่จะต้องพาตัวเองเข้าสู่ดงกับระเบิดอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ทีมงาน Demining Research Community จึงคิดว่าหากสามารถใช้โดรนบินค้นหาและระบุตำแหน่งกับระเบิดได้โดยใช้คนคอยควบคุมจากระยะไกลก็จะช่วยให้การปฏิบัติงานในภาพรวมมีความปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่มากยิ่งขึ้น
พวกเขาใช้โดรนบินถ่ายภาพพื้นที่ซึ่งมีกับระเบิดวางเอาไว้อยู่ในพื้นที่ จากนั้นก็ป้อนข้อมูลเพื่อสอนให้ระบบปัญญาประดิษฐ์รู้จักกับระเบิดประเภทต่างๆ ด้วยข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศหลากหลายประเภทที่ได้มาจากโดรน ทั้งภาพถ่ายแบบปกติ, ภาพถ่ายด้วยกล้องอินฟราเรด รวมทั้งภาพถ่าย multispectral ซึ่งเป็นเทคนิคการถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าด้วยคลื่นที่มีความถี่แตกต่างกันหลายคลื่น ทั้งนี้เพื่อให้การค้นหาและระบุตำแหน่งกับระเบิดสามารถทำได้แม้ว่าตัวกับระเบิดนั้นจะถูกบดบังด้วยต้นไม้หรือดินทรายและหิมะที่อาจฝังกลบมันจนทำให้หลุดรอดจากการค้นหาด้วยภาพถ่ายแบบปกติ
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของทีมวิจัยนั้น พวกเขาได้ทำการทดสอบภาคสนามในการใช้โดรนบินเพื่อค้นหาและระบุตำแหน่งของกับระเบิดชนิดต่างๆ ทั้งแบบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล, ทุ่นระเบิดดักรถถัง รวมทั้งกับระเบิดลูกปราย ซึ่งมีหน้าตาหลากหลายรูปแบบ โดยตอนนี้ระบบสามารถระบุข้อมูลได้ถูกต้องแม่นยำ 92%
ทีมงานของ Demining Research Community วางแผนจะไปทดสอบระบบของพวกเขาที่ประเทศกัมพูชาเร็วๆ นี้ เพื่อทดสอบการค้นหากับระเบิดในสถานที่ซึ่งมีความซับซ้อนและยากต่อการระบุตำแหน่งมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ได้เรียนรู้ข้อมูลให้มีความฉลาดยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งพวกเขาหวังว่าวันหนึ่งระบบที่พวกเขาพัฒนาขึ้นนี้จะถูกนำไปใช้งานเพื่อการเก็บกู้กับระเบิดในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกและช่วยให้ชีวิตของผู้คนปลอดภัยยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ในแต่ละปีมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากกับระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ต่างๆ แม้ว่าการสู้รบที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่เหล่านั้นจะจบไปนานหลายปีแล้วก็ตาม โดยในปี 2020 มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากกับระเบิดเก่ารวม 7,073 คนในพื้นที่ต่างๆ 54 แห่งทั่วโลก
สามารถอ่านบทความงานวิจัยระบบค้นหาและระบุตำแหน่งกับระเบิดซึ่งทีมวิจัยเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะฟรีได้ที่นี่
ที่มา - Interesting Engineering |
# Yeelight เปิดให้ดาวน์โหลดแอพควบคุมหลอดไฟอัจฉริยะบนพีซี
หลังจาก Yeelight เปิดให้ทดสอบแอพบนพีซีในวงปิดมาได้ระยะหนึ่ง ล่าสุดทางบริษัทก็เปิดให้ดาวน์โหลดแอพ Yeelight Station 1.0 ให้ผู้ที่ต้องการควบคุม, ตั้งค่า, ซิงก์หลอดไฟอัจฉริยะบนพีซีได้ใช้งานกันโดยทั่วไปแล้ว
ภาพแอพ Yeelight Station จากฟอรั่ม Yeelight
ในส่วนของฟีเจอร์แอพ Yeelight Station 1.0 มีความสามารถไม่ต่างไปจากเวอร์ชันทดสอบแต่อย่างใด พอสรุปได้ดังนี้
Color Play: ฟีเจอร์ซิงก์สีหลอดไฟ RGB กับภาพที่แสดงบนหน้าจอพีซี สามารถนำไปใช้จัดแสง ambiance light โดยรอบหรือหลังจอมอนิเตอร์ได้
Music Flow: ฟีเจอร์สั่งไฟกระพริบตามจังหวะดนตรี
Game Sync: ฟีเจอร์ซิงก์สีหลอดไฟกับอุปกรณ์ Razer Chroma RGB ผ่านซอฟต์แวร์ Razer Synapse
Customized Scene: ฟีเจอร์กำหนด scene สำหรับใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ไว้ล่วงหน้า (เช่นสั่งหรี่ไฟขณะดูหนัง, เปิดไฟทำงาน)
โดยปัจจุบันสามารถใช้งานแอพได้กับหลอดไฟแบรนด์ Yeelight ได้ทั้งรุ่นที่เป็นหลอดไฟทั่วไป (W3 Color/1S Color), หลอดไฟขั้ว GU10 (W1 Color), ไฟเส้น (LED Lightstrip 1S/Pro), ไฟแขวนจอ (Monitor Light Bar Pro), ไฟตกแต่งผนัง (Smart LED Light Panels) ไปจนถึงโคมไฟข้างเตียง (Smart Lamp D2) ตามภาพ
แอพ Yeelight Station ติดตั้งใช้งานได้บนพีซีระบบปฏิบัติการ Windows 8 หรือใหม่กว่าดาวน์โหลดได้ที่นี่
ส่วนหลอดไฟที่ต้องการใช้งานจำเป็นต้องอยู่เน็ตเวิร์คเครือข่ายเดียวกันกับพีซีที่ติดตั้งแอพและต้องเปิดการตั้งค่า LAN Control บนหลอดไฟด้วยแอพ Yeelight บนสมาร์ทโฟนก่อนจึงจะสามารถควบคุมผ่านแอพบนพีซีได้ครับ
ที่มา - หน้าดาวน์โหลดแอพ Yeelight Station, ทวิตเตอร์ @Yeelight |
# Verily รับเงินเพิ่มทุน 1 พันล้านดอลลาร์, เปลี่ยนซีอีโอ
Verily Life Sciences บริษัทวิจัยด้านสุขภาพในเครือ Alphabet ประกาศรับเงินเพิ่มทุนอีก 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมี Alphabet เอง เป็นผู้ลงทุนหลัก
บริษัทระบุว่าเงินเพิ่มทุนนี้ จะนำมาใช้พัฒนาแพลตฟอร์มและงานวิจัย มีเป้าหมายทำให้สุขภาพในระดับปรับแต่งวิธีการเฉพาะบุคคลดียิ่งขึ้น รวมทั้งนำมาใช้ลงทุนกับกิจการพาร์ตเนอร์ หรือซื้อกิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
Verily ยังประกาศเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูง โดย Andy Conrad ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง จะรับตำแหน่งใหม่เป็นประธานฝ่ายบอร์ดบริหารสูงสุด ส่วน Stephen Gillett ประธานบริษัทปัจจุบันจะมารับตำแหน่งซีอีโอแทน มีผลเดือนมกราคมปีหน้า
ที่มา: Verily |
# ยิ่งกว่าที่ลือ Ubisoft ยืนยันการสร้าง Assassin’s Creed อีก 5 ภาคนอกเหนือจาก Mirage
จากข่าวหลุดที่มีมาก่อนหน้านี้ว่า Ubisoft เตรียมเปิดตัวเกมตระกูล Assassin’s Creed คราวเดียว 4 ภาครวดรวมภาคหลัก ล่าสุดหลังจากที่เปิดเผยรายละเอียด Assassin's Creed Mirage อันเป็นภาคหลักตัวถัดไปแล้วแล้ว ยังมีเกมเวอร์ชั่นอื่นๆ ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาอีก 5 เวอร์ชั่น รวมทั้งหมดเป็น 6 ภาคด้วยกัน (ไม่ใช่แค่ 4)
Marc-Alexis Côté หัวหน้าทีมสร้างเกมตระกูล Assassin’s Creed เป็นผู้ให้ข้อมูลเรื่องนี้เอง พร้อมมีข้อมูลบางส่วนเผยแพร่ทั้งทางเพจ Assassin's Creed และบัญชี Twitter ของ Assassin's Creed
เริ่มกันที่ตัวแรกภายใต้ชื่อรหัส RED เป็นเกมที่ดำเนินเนื้อเรื่องในประเทศญี่ปุ่นยุคโบราณ พัฒนาโดย Ubisoft Quebec ซึ่ง Côté บอกว่านี่จะเป็น "เกมพรีเมียมตัวถัดไป" โดยทีมงานจะใช้เวลาพัฒนานานกว่าตอนทำเกมภาค Odyssey ซึ่งในตอนนั้นใช้เวลาในการพัฒนาราว 3 ปี โดย Côté บอกว่าทีมงานได้งบในการพัฒนาเกมเท่าเดิมแต่มีเวลาทำงานมากขึ้นจึงคาดหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยทีมงานตั้งใจพัฒนาเกมภาค RED นี้ให้มีความยาวในการเล่นจุใจพอๆ กับภาค Odyssey และ Valhalla (ยาวร่วม 150 ชั่วโมง)
ต่อกันที่ภาคถัดมาคือ HEXE พัฒนาโดย Ubisoft Montreal เนื้อเรื่องในเกมถูกกำหนดไว้เป็นช่วงท้ายๆ ของยุคจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งภาคนี้จะถูกปล่อยออกมาหลังภาค RED โดย Côté บอกว่าความยาวของเกมเพลย์สำหรับภาค HEXE นี้จะไม่ยาวเหมือนกับภาค RED
ทั้งนี้หากสังเกตจากภาพตัวอย่างซึ่งได้กลิ่นอายของยุคมืดและมนต์ดำ กอปรกับชื่อรหัส "HEXE" อันเป็นคำภาษาเยอรมันที่แปลว่า "แม่มด" แล้ว ก็พอจะคาดเดาได้ว่าเนื้อเรื่องในภาคนี้จะมีความเกี่ยวพันกับตำนานแม่มดในยุโรป
ลำดับต่อมาเป็นเกมแบบเล่นฟรีบนมือถือ และชื่อชั่วคราวในตอนนี้ของมันคือ JADE ซึ่งเป็นเกมแนว RPG โลกเปิด เนื้อเรื่องของภาคเป็นเหตุการณ์ในประเทศจีนยุคโบราณช่วง 215 ปีก่อนคริศตกาล ตรงกับรัชสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้
มาถึงลำดับที่ 5 ของเกม Assassin’s Creed ที่เปิดเผยออกมา ภาคนี้ยังไม่มีการระบุชื่อภาค ไม่มีข้อมูลบอกใบ้ว่าเนื้อเรื่องเป็นเหตุการณ์ในประเทศไหนยุคสมัยไหน ข้อมูลที่มีในตอนนี้คือนี่เป็นเกมที่ Ubisoft พัฒนาร่วมกับ Netflix เท่านั้นโดยจะเป็นเกมสำหรับเล่นบนมือถือ พร้อมกันนี้จะมีการสร้าง Assassin’s Creed ฉบับคนแสดงด้วย
และท้ายที่สุดลำดับที่ 6 ของเกม Assassin’s Creed จะเป็นการพัฒนาเกมแบบเล่นออนไลน์ร่วมกันหลายคนในชื่อ Invictus จากทีมงานนักพัฒนาเกม Rainbow 6 Siege และ For Honor อย่างไรก็ตาม Ubisoft ยังไม่มีการเผยแพร่สื่อใดๆ บอกเล่าข่าวเกี่ยวกับเกมภาค Invictus นี้ผ่านแพลตฟอร์ม Facebook หรือ Twitter มีแค่เพียงการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อเท่านั้น
นอกจาก Ubisoft ยังเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อ Assassin’s Creed Infinity ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มที่รวมเกม Assassin’s Creed ทุกภาคทั้งในอดีต, ปัจจุบัน และที่จะออกมาในอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน
ใครรักใครชอบเกมตระกูลนี้ก็อดทนรอแล้วก็ค่อยๆ ทยอยเล่นกันไป
ที่มา - Engadget, Axios |
# เปิดตัวทางการ Assassin's Creed Mirage เนื้อเรื่องเป็นแบกแดด ศตวรรษที่ 9
Ubisoft เปิดตัว Assassin's Creed Mirage เกมภาคหลักภาคใหม่ ตามที่เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ นับเป็นภาคหลักภาคที่ 10 ของเกมซีรีส์นี้
ข้อมูลของ Mirage ตรงตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้ทุกอย่าง เนื้อเรื่องเกิดก่อนภาค Valhalla 20 ปี ตัวเอกคือ Basim วัย 17 ปี ที่เติบโตขึ้นในนครแบกแดดช่วงศตวรรษที่ 9 ในฐานะโจรลักเล็กขโมยน้อยทั่วไป แต่ฝันเห็น "นิมิตร" ที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
เกมเพลย์ของ Mirage ย้อนกลับไปเน้นการซ่อนตัว เป็นนักฆ่า เหมือนกับเกมภาคแรก โดย Basim ไปฝึกวิชาลอบสังหารกับองค์กรชื่อ Hidden Ones (ก่อนยุคที่มี Assassin) ฉากในเกมเน้นการต่อสู้บนหลังคาหรือหอคอยของเมืองขนาดใหญ่ และมีนกอินทรีช่วยเฝ้ามองจากมุมสูงให้ด้วย
เกมจะออกในปี 2023 ยังไม่ระบุช่วงเวลาชัดเจน ลงแทบทุกแพลตฟอร์มคือ Xbox Series X|S, Xbox One, PS5, PS4, PC, Amazon Luna, Ubisoft+
ที่มา - Ubisoft |
# นักวิจัยสร้างแผ่นเซ็นเซอร์ติดลำคอนักกีฬา ช่วยแจ้งเตือนหากศีรษะโดนกระแทกรุนแรง
นักวิจัยจาก Michigan State University สร้างแผ่นเซ็นเซอร์ตรวจวัดแรงกระแทก ออกแบบมาเพื่อแปะไว้บริเวณส่วนคอของนักกีฬา ใช้สำหรับช่วยประเมินความรุนแรงของแรงกระแทกที่ทำต่อศีรษะของนักกีฬาผู้ติดเซ็นเซอร์
ในบางครั้งการได้รับแรงกระแทกกระทำต่อศีรษะในระหว่างการเล่นกีฬาอาจสร้างความเสียหายหรือส่งผลต่อการทำงานของสมองของนักกีฬาได้โดยที่เจ้าตัวเองอาจไม่รับรู้ถึงความผิดปกติ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของความพยายามพัฒนาระบบช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเพื่อปกป้องนักกีฬาจากความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บซึ่งเจ้าตัวอาจไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ซึ่งอเมริกันฟุตบอลก็เป็นหนึ่งในกีฬาที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการกระทบกระแทกส่วนศีรษะระหว่างผู้เล่นด้วยกันมากที่สุด
ที่ผ่านมาเคยมีการสร้างเซ็นเซอร์ติดหมวกนิรภัยเพื่อตรวจจับแรงกระแทกที่อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บต่อสมองของนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล อย่างไรก็ตามเซ็นเซอร์ดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์นัก เนื่องจากบางครั้งก็ส่งสัญญาณแจ้งเตือนทั้งที่ไม่ได้มีการกระแทกรุนแรงต่อตัวนักกีฬาเกิดขึ้นจริง ในขณะที่บางครั้งเมื่อนักกีฬาได้รับการกระทบกระเทือนศีรษะแต่เซ็นเซอร์ก็กลับไม่แจ้งเตือน ทั้งนี้เป็นเพราะเซ็นเซอร์ในหมวกนั้นเน้นการตรวจจับการเคลื่อนที่หรือการโดนกระแทกที่หมวก ซึ่งในบางครั้งหากหมวกเลื่อนไถลออกจากศีรษะของผู้ใส่ก็อาจเกิดการแจ้งเตือนที่ผิดพลาดได้
นักวิจัยของ Michigan State University จึงพยายามพัฒนาเซ็นเซอร์ด้วยแนวทางใหม่ที่เน้นไปที่การติดเข้ากับร่างกายนักกีฬาโดยตรง โดยสังเกตว่าเมื่อนักกีฬาได้รับแรงกระแทกที่ศีรษะ ส่วนศีรษะของนักกีฬาผู้นั้นจะสะบัดอย่างรวดเร็วซึ่งนั่นย่อมมีแรงกระทำส่งต่อไปถึงส่วนคอของนักกีฬา จึงเกิดเป็นไอเดียในการพัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจจับการแรงกระแทกที่เกิดต่อศีรษะแต่นำไปติดไว้บริเวณลำคอของนักกีฬาแทน
การทดสอบเซ็นเซอร์โดยติดไว้ตรงส่วนที่จำลองโครงสร้างลำคอของมนุษย์
สาเหตุหนึ่งที่นักวิจัยเลือกพัฒนาเซ็นเซอร์ไปติดไว้บริเวณคอของนักกีฬาเพราะพวกเขาพัฒนาเซ็นเซอร์ด้วยวัสดุเพียโซอิเล็กทริก (piezoelectric material) ซึ่งหมายถึงวัสดุที่สามารถสร้างสัญญาณไฟฟ้าได้จากการเปลี่ยนแปลงของความเค้นหรือความเครียดในเนื้อวัสดุ เมื่อศีรษะของนักกีฬาสะบัดตามแรงกระแทกจะทำให้ผิวหนังส่วนลำคอของนักกีฬาเกิดการยืดหรือหด (ขึ้นอยู่กับทิศทางของแรงกระแทกและตำแหน่งซึ่งติดเซ็นเซอร์เอาไว้) ซึ่งนั่นจะทำให้วัสดุที่ใช้ทำแผ่นเซ็นเซอร์สามารถสร้างสัญญาณไฟฟ้าได้สัมพันธ์กับแรงกระทำต่อศีรษะของนักกีฬาที่ติดเซ็นเซอร์ไว้ โดยแผ่นเซ็นเซอร์ที่นักวิจัยพัฒนาขึ้นนี้มีขนาดใกล้เคียงกับพลาสเตอร์ปิดแผลและมีความหนาเพียง 0.1 มิลลิเมตร
หน้าตาของแผ่นเซ็นเซอร์ที่นักวิจัยพัฒนาขึ้น
นักวิจัยได้ทำการทดสอบแผ่นเซ็นเซอร์โดยการนำเอาหุ่นจำลองศีรษะนักกีฬามาทดสอบทิ้งในแนวตั้งในระยะ 2 ฟุต แล้วติดแผ่นเซ็นเซอร์ไว้ตรงตำแหน่งที่เป็นคอของหุ่น แล้วติดตั้งเซ็นเซอร์วัดอัตราเร่งในด้านในส่วนศีรษะของตัวหุ่นเพื่อเก็บข้อมูลเปรียบเทียบกัน พวกเขาพบว่าสัญญาณที่เซ็นเซอร์จากส่วนคอวัดได้กับอัตราเร่งที่วัดได้จากเซ็นเซอร์ในศีระของหุ่นนั้นสอดคล้องกัน โดยตัวแผ่นเซ็นเซอร์ติดคอนั้นสามารถตรวจจับแรงกระแทกได้โดยไม่ผิดพลาด
ข้อมูลเปรียบเทียบสัญญาณจากเซ็นเซอร์ติดคอ (กราฟสีส้ม) เปรียบเทียบกับสัญญาณจากเซ็นเซอร์วัดอัตราเร่ง (กราฟสีฟ้า) โดยแถวบนเป็นการทดสอบเมื่อติดเซ็นเซอร์บริเวณหลังคอ และแถวล่างคือการทดสอบโดยติดไว้ด้านหน้าลำคอ
อย่างไรก็ตาม เซ็นเซอร์นี้ยังไม่สามารถนำไปใช้งานได้จริงในตอนนี้ โดยโจทย์สำคัญขั้นต่อไปคือการพัฒนาเซ็นเซอร์ให้สามารถส่งข้อมูลไปยังระบบบันทึกและตรวจจับได้ด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดของงานวิจัยเซ็นเซอร์นี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
ที่มา - New Atlas |
# เด็กโตขึ้นทุกวัน Roblox บอกผู้เล่นเกินครึ่งอายุเกิน 13 แล้ว, เตรียมเพิ่มระบบเรตติ้ง-บิลบอร์ดโฆษณา
Roblox อาจเป็นที่รู้จักในฐานะเกมสำหรับเด็กๆ แต่เมื่อฐานผู้เล่นเด็กเดิมโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ Roblox เองต้องปรับตัวตาม จากสถิติของ Roblox เองระบุว่าตอนนี้มีผู้เล่น 58.5 ล้านคนต่อวัน ในจำนวนนี้ เกินครึ่งมีอายุมากกว่า 13 ปีแล้ว และกลุ่มผู้เล่นที่เติบโตเร็วที่สุดมีอายุ 17-24 ปี
สิ่งที่ Roblox จะทำในฐานะแพลตฟอร์มคือเพิ่มระบบเรตติ้งตามอายุของผู้เล่น (age recommendations) ในโลกแต่ละโลกที่ถูกสร้างขึ้นมา (ภาษา Roblox เรียก "experiences") เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเกมตามอายุที่เหมาะกับตัวเอง และในอีกทางพ่อแม่ผู้ปกครองก็คัดกรองเกมที่เหมาะกับอายุของลูกได้ง่ายขึ้น ผ่านฟีเจอร์ Parental Control
Roblox บอกว่าจากนี้ไป โลกในเกมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ เนื้อหาสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี และสำหรับเด็กอายุ 13 ปีขึ้นไป (ต้องยืนยันอายุ) ซึ่งจะเห็นเนื้อหาที่เปิดกว้างมากขึ้น เช่น มีเห็นเลือดในเกมได้
นอกจากนี้ Roblox ยังเพิ่มโมเดลการหารายได้แบบใหม่ๆ ด้วยบิลบอร์ดแบบใหม่ที่เรียกว่า Immersive Ads หน้าตาในเกมดูเหมือนป้ายบิลบอร์ดธรรมดา แต่ผู้เล่นสามารถเดินลอดประตูใต้บิลบอร์ดเพื่อเข้าไปยัง "โลก" ของผู้ลงโฆษณาได้ด้วย (โฆษณาแบบเมตาเวิร์สหน้าตาอย่างนี้สินะ)
ฝั่งระบบเทคนิคในเกม Roblox ยังเพิ่มฟีเจอร์ด้านกราฟิกอีกหลายอย่าง เช่น
Facial Animations อวตารสามารถแสดงออกทางสีหน้าและท่าทางได้มากขึ้น
Animation Capture ฟีเจอร์ด้านโมชั่นแคปเจอร์ ให้ถ่ายทอดความเคลื่อนไหวของร่างกายไปยังอวตารง่ายขึ้น
ปรับเอนจิน 3D ให้แสดงภาพความละเอียดสูงกว่าเดิม รองรับการประมวลผลสคริปต์ภาษา Luau แบบขนาน ให้การเคลื่อนไหวลื่นขึ้น
เพิ่มไลบรารีของวัสดุในเกม (material library) ให้รองรับการแสดงพื้นผิวที่สมจริงในสภาพแสงแบบต่างๆ
ที่มา - Roblox, Protocol, The Verge |
# Surplex รองเท้า VR จับท่วงท่าร่างกายได้ให้สมบูรณ์ทั้งตัว
นอกเหนือจากอุปกรณ์สวมศีรษะและจอยควบคุมที่ใช้มือจับแล้ว เราแทบไม่เคยเห็นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับระบบ VR เลย แต่ตอนนี้มีทีมผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์สร้างรองเท้าเพื่อเติมเต็มจุดนี้ในชื่อว่า Surplex
Surplex เป็นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาในลักษณะของรองเท้าหุ้มส้นเน้นให้สวมใส่ง่าย ความพิเศษของมันอยู่ที่ระบบเซ็นเซอร์ซึ่งมีทั้ง IMU (Inertial Measurement Unit) ซึ่งก็คือเซ็นเซอร์วัดความเฉื่อยที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว, ความเร็วในการเคลื่อนที่, การหันทิศทาง และการหมุนของรองเท้า ร่วมด้วยเซ็นเซอร์วัดแรงกดที่พื้นรองเท้าข้างละ 240 ตัวที่จะทำหน้าที่วัดแรงกดจากร่างกายของผู้สวมใส่ซึ่งไม่เพียงทำให้สามารถตรวจจับการเดินหรือวิ่งของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ระบบสามารถเข้าใจการเคลื่อนไหวร่างกายช่วงลำตัวได้ด้วย
Surplex
ผู้พัฒนาระบุว่าเซ็นเซอร์ในรองเท้าสามารถตรวจจับการเคลื่อนด้วยระดับความแม่นยำที่คลาดเคลื่อนไม่เกิน 5 เซนซิเมตร และมีความหน่วงในการรับส่งข้อมูลกับระบบแค่ 0.03 วินาทีเท่านั้น ตัว Surplex สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน Wi-Fi ได้โดยตรง ซึ่งทางผู้พัฒนาชูเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งในจุดขายของรองเท้า ลดความยุ่งยากในการใช้งานโดยไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์อื่นใดเพื่อการเชื่อมต่อสัญญาณให้เกะกะภายในบ้าน
Surplex ตอนนี้มีด้วยกัน 2 รุ่น โดยรุ่นธรรมดานั้นจะมีอัตราการรีเฟรชข้อมูล 30 Hz ส่วนรุ่น Pro นั้นจะรีเฟรชเร็วกว่าเป็น 2 เท่าด้วยความถี่ 60 Hz
อย่างไรก็ตามผู้พัฒนา Surplex ระบุว่าตอนนี้รองเท้ายังใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เฉพาะที่รองรับมาตรฐาน SteamVR เท่านั้น ซึ่งนั่นหมายถึงจะต้องใช้งานคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา เนื่องจากอุปกรณ์สวมศีรษะ VR แบบเดี่ยวๆ นั้นยังไม่มีมาตรฐานโปรโตคอลที่รองรับระบบตรวจจับท่าทางแบบเต็มตัวในตอนนี้ ซึ่งหากในอนาคตมีการพัฒนามาตรฐานกลางของอุปกรณ์ VR อย่างเช่น OpenXR ที่รองรับการตรวจจับท่าทางร่างกายแบบเต็มตัวได้ พวกเขาก็จะพัฒนา Surplex ให้ใช้งานร่วมกับมาตรฐานดังกล่าวให้ได้เช่นกัน
Surplex แต่ละคู่มีน้ำหนักประมาณ 220 กรัม และมีขนาดตั้งแต่เบอร์ 38 ถึง 46 ตามขนาดรองเท้ามาตรฐานยุโรป สามารถใช้งานเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกายผู้ใช้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 5-120 กิโลกรัม และสามารถใช้งานนานต่อเนื่อง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์ไฟ 1 ครั้งสำหรับรุ่นธรรมดา ส่วนรุ่น Pro นั้นจะใช้งานได้นานกว่าเป็น 9 ชั่วโมง
Surplex Pro สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 9 ชั่วโมง
ตอนนี้ Surplex เปิดระดมทุนผ่านทาง Kickstarter ซึ่งได้เงินทะลุเป้า 10,000 เหรียญไปแล้วเรียบร้อย โดยตอนนี้สามารถสั่งจองรองเท้ารุ่นธรรมดาได้ด้วยราคาถูกสุดคือ 169 เหรียญ (จากราคาขายจริงที่ตั้งเป้าไว้ 266 เหรียญ) ส่วนรุ่น Pro นั้นราคาตอนนี้เริ่มต้นที่ 199 เหรียญ (จากราคาเต็ม 339 เหรียญ) ใครที่สนใจสามารถเข้าไปสนับสนุนโครงการได้ที่นี่
ที่มา - New Atlas |
# Marvel เปิดตัวเกมใหม่ ตัวเอกเป็น Captain America และ Black Panther พัฒนาโดย Skydance
Marvel เปิดตัวเกมใหม่ที่พัฒนาโดย Skydance New Media สตูดิโอเกมที่ตั้งขึ้นใหม่ในเครือบริษัทภาพยนตร์ Skydance Media
เกมใหม่นี้ยังไม่ระบุชื่อ แต่ใช้ตัวละครหลักเป็น Captain America กับ Black Panther ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง มีเอ่ยถึงองค์กร Hydra ในเทรลเลอร์ด้วย (ฉากหลังของเกมคือปารีสยุคสงคราม และ Wakanda) เกมยังไม่ระบุแพลตฟอร์มและวันวางขาย
ความน่าสนใจของเกมนี้อยู่ที่สตูดิโอ Skydance New Media แม้เป็นสตูดิโอตั้งใหม่เมื่อปี 2019 และยังไม่เคยมีเกมออกมาเลย แต่ชื่อชั้นของผู้ก่อตั้งไม่ธรรมดา เธอคือ Amy Hennig อดีตผู้บริหารของ Naughty Dogs และ Crystal Dynamics ก่อนหน้านี้เป็นผู้กำกับ-ผู้เขียนบทเกมดังหลายเกม ทั้งเขียนบท-กำกับซีรีส์ Legacy of Kain: Soul Reaver และเป็นผู้เขียนบท Uncharted สามภาคแรก (แถมยังไปรับเขียนบท Forspoken ให้ Square Enix ด้วย) การที่เธอออกมาตั้งสตูดิโอเกมใหม่โดยมี Skydance เป็นนายทุน จึงน่าจับตา
ก่อนหน้านี้ Skydance New Media เพิ่งประกาศสร้างเกม Star Wars เกมใหม่ที่ยังไม่ระบุรายละเอียด โดยตัวของ Hennig เคยคุมโปรเจคเกม Star Wars โค้ดเนม Project Ragtag ของ Respawn ที่ถูกยกเลิกไป ทำให้หลายคนมองว่าจะเป็นการนำแนวคิดของ Ragtag กลับมาอีกครั้ง
ที่มา - Marvel |
# ของฝากคนขี้เกียจ Gboard เพิ่มปุ่ม Emojify ใช้ AI ช่วยเติม Emoji ให้ข้อความที่พิมพ์
กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ให้แอพคีย์บอร์ด Gboard ผู้ใช้สามารกดปุ่มไม้กายสิทธิ์ที่มุมด้านขวา เพื่อให้ Gboard เลือกใส่ emoji ที่เกี่ยวข้องกับข้อความที่พิมพ์ให้อัตโนมัติ
ตัวอย่างคือข้อความ "OMG that cake was amazing" สิ่งที่เราจะได้กลับมาคือ emoji ที่เกี่ยวข้อง เช่น 😮🤩🍰 แต่ถ้า Gboard เลือกมาให้แล้วยังไม่โดนใจ ผู้ใช้สามารถกดปุ่มไม้กายสิทธิ์ย้ำๆ เพื่อเปลี่ยน emoji ที่เลือกเป็นรูปแบบอื่นๆ แทนได้ พอใจแล้วค่อยกดส่งข้อความให้ผู้รับ (ถ้านึกไม่ออก ลองดูแอนิเมชัน)
ตอนนี้ฟีเจอร์นี้ยังรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ และยังใช้ได้เฉพาะใน Gboard Beta เท่านั้น ผู้ใช้เวอร์ชันหลักจะทยอยได้ฟีเจอร์นี้ในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
นอกจากนี้ กูเกิลยังประกาศขยายฟีเจอร์ Emoji Kitchen ของ Gboard ที่นำ emoji 2 ตัวมาผนวกกันเป็นตัวใหม่ ว่าเพิ่มจำนวน emoji ที่เป็นไปได้อีกจำนวนมาก
ที่มา - Google |
# Garmin ต้อนรับ Apple Watch Ultra บอกแบตของเรานับเป็นเดือน ไม่ได้นับเป็นชั่วโมง
การมาถึงของ Apple Watch Ultra ที่เน้นผู้ใช้สายออกกำลังกาย ถึกทน แบตอึด ถือเป็นการเปิดศักราชของแอปเปิลเข้าสู่ดินแดนของเจ้าตลาดเดิม Garmin อย่างชัดเจน
ฝั่ง Garmin เองก็ต้อนรับน้องด้วยการโพสต์ข้อความสั้นๆ ว่า นาฬิกาของเรานับหน่วยการใช้งานแบตเตอรี่เป็น "เดือน" ไม่ได้นับเป็น "ชั่วโมง"
ถ้าเทียบกันแล้ว Apple Watch Ultra แบตอยู่ได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมง (โหมดประหยัดพลังงาน 60 ชั่วโมง) ส่วน Garmin Enduro 2 รุ่นที่นำมาเทียบ แบตอยู่ได้นานสูงสุด 34 วัน (46 วันด้วยแสงอาทิตย์) และหากเปิดโหมดประหยัดพลังงาน จะอยู่ได้ 111/550 วันตามลำดับ
ที่มา - Notebookcheck |
# ฟีเจอร์ iCloud Shared Photo Library จะยังใช้งานไม่ได้ในอัพเดตแรกของ iOS 16
แอปเปิลอัพเดตข้อมูลในหน้ารายละเอียดของ iOS 16 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone ที่จะเปิดให้อัพเดตสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปสัปดาห์หน้า ว่าฟีเจอร์ iCloud Shared Photo Library หรือ คลังรูปภาพ iCloud ที่แชร์ เลื่อนกำหนด โดยจะใช้งานได้ภายในปีนี้
iCloud Shared Photo Library ให้ผู้ใช้งานแชร์รูปภาพและวิดีโอผ่านโฟลเดอร์ร่วมกับคนอื่นได้สูงสุด 5 คน แบบอัตโนมัติ โดยกำหนดค่าได้ทั้งโฟลเดอร์ ช่วงวันที่ หรือบุคคลในภาพที่ระบุ
เมื่อปีที่แล้วฟีเจอร์เปิดตัวบางอย่างของ iOS 15 ก็ไม่ออกมาในอัพเดตแรกเช่นกัน เช่น SharePlay หรือ Universal Control ของ iPadOS 15
ที่มา: The Verge |
# Niantic เปิดตัวเกมใหม่ Marvel World of Heroes ผู้เล่นเป็นซูเปอร์ฮีโร่เองในโลก AR
Niantic เปิดตัวเกมใหม่ Marvel World of Heroes ผสมผสานเกมแนว AR อิงสถานที่จริง กับคาแรกเตอร์ซูเปอร์ฮีโร่ของ Marvel
ตอนนี้ Niantic เพิ่งเปิดเผยเฉพาะเทรลเลอร์เปิดตัวเกม ที่ยังไม่โชว์เกมเพลย์จริงๆ แต่เล่าว่าเกมนี้ผู้เล่นจะสร้างฮีโร่ของตัวเอง ช่วยดูแลพื้นที่รอบๆ บ้านจากอาชญากรรม ร่วมกับเพื่อนๆ และคาแรกเตอร์ดังๆ ของ Marvel เพื่อปกป้องมัลติเวิร์ส
ทีมงานของ Niantic ระบุว่าเนื้อเรื่องในเกมนี้เป็นการเล่าเรื่อง Marvel Multiverse จากหลายๆ จักรวาล บนพื้นที่เชิงกายภาพเดียวกัน แตกต่างจากเกมทั่วๆ ไปที่นำเนื้อหาจากจักรวาล Marvel เพียงเวอร์ชันเดียว
เกมจะเปิดทดสอบในวงจำกัดเร็วๆ นี้ และเปิดบริการอย่างเป็นทางการในปี 2023
ที่มา - Niantic |
# iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max ขายดี - สั่งตอนนี้ ได้ของตุลาคม
แอปเปิลเปิดให้สั่งจอง iPhone 14 ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่ม ประเทศไทย เมื่อคืนนี้ (9 กันยายน) โดยช่องทางการสั่งซื้อผ่าน Apple Store ออนไลน์ ในอเมริกามีผู้พบปัญหาสั่งซื้อไม่สำเร็จ หรือช้ากว่าปกติทั้งการซื้อผ่านเบราว์เซอร์เว็บ หรือทางแอป Apple Store โดยเริ่มใช้งานได้ตามปกติหลังผ่านไป 30-45 นาที รวมทั้งในประเทศไทย
iPhone 14 จะเริ่มจัดส่งลอตแรกวันที่ 16 กันยายนนี้ ยกเว้น iPhone 14 Plus ที่เริ่มจัดส่ง 7 ตุลาคม อย่างไรก็ตามสินค้าในหน้าเว็บก็หมดอย่างรวดเร็ว โดยหลายรุ่นขึ้นข้อความว่าจัดส่งสินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม เป็นต้นไป หรือต้องรอมากกว่า 1 เดือน
สำหรับ Apple Store ประเทศไทย พบว่า iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ทุกสีและทุกขนาดความจุ ขึ้นเวลาที่จัดส่งสินค้าได้ เป็นเดือนตุลาคมทั้งหมดแล้ว ส่วน iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ยังสามารถจัดส่งได้ในวันแรกตามที่ประกาศ
ที่มา: Apple Insider |
# Samsung จัดทวีตหนึ่งชุด ต้อนรับสินค้า "นวัตกรรม" ที่เพิ่งเปิดตัววันก่อน
เป็นเรื่องปกติทุกปีที่เราจะเห็นซัมซุง มีแคมเปญโฆษณาเพื่อแซวสินค้าใหม่ของแอปเปิลในแง่มุมต่าง ๆ โดยหลังจากเปิดแล้วไปหนึ่งรอบก่อนงาน iPhone 14 ล่าสุดซัมซุงก็ทวีตต่ออีกชุด บอกว่าเป็นรีแอคชันของเราสำหรับสินค้านวัตกรรมนั้น
โดยทวีตทั้งหมดมาพร้อมกับนาฬิกานับเวลา เพื่อบอกว่าซัมซุงได้ทำสมาร์ทโฟนพร้อมนวัตกรรมใหม่ ๆ มานานแล้วเป็นเวลาเท่าใด ซึ่งแอปเปิลยังไม่มีสินค้าประเภทดังกล่าวออกมา ทั้งสมาร์ทโฟนจอพับตัวเล็ก Galaxy Z Flip, จอพับตัวใหญ่ Galaxy Z Fold ไปจนถึงกล้องหลังสมาร์ทโฟนที่บอกตรง ๆ เลยว่าตอนนี้เราทำได้ 108MP แล้ว ส่วนแอปเปิลยัง 48MP
เฉพาะเรื่องกล้องหลัง 108MP นั้น ซัมซุงก็ลงทุนถึงขนาดซื้อบิลบอร์ดเพื่อโฆษณาเรื่องนี้เลยทีเดียว
ที่มา: 9to5Mac |
# BenQ เปิดตัวสมาร์ทโปรเจคเตอร์ที่มีซีพียู Intel รัน Windows 11 ฉายภาพไม่ต้องต่อพีซี
บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) เปิดตัวโปรเจคเตอร์รุ่นแรกของโลก ที่มีซีพียู Celeron และรัน Windows 11 ในตัว ทำให้ฉายภาพโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อพีซีภายนอก สามารถคีย์บอร์ดและเมาส์เพื่อกลายร่างเป็นพีซีปกติ และต่อเว็บแคมเพื่อประชุมออนไลน์ได้ทันที
โปรเจคเตอร์ BenQ รุ่น EH620 ใช้ซีพียู Celeron 4000 Series, ระบบปฏิบัติการเป็น Windows 11 IoT Enterprise ครอบด้วย BenQ Uni Launcher UI ที่เพิ่มปุ่มลัดสำหรับการประชุม, แอพที่มีมาให้ในตัวคือ Chrome, Edge, Teams, Google Meet, Skype for Business, TeamViewer Meeting และสามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้เองจาก Microsoft Store
หากไม่สะดวกใช้เป็นพีซี ก็สามารถยิงภาพขึ้นจอแบบไร้สายผ่าน Miracast, Airplay, Google Cast และ BenQ InstaShare รองรับการยิงขึ้นจอพร้อมกันสูงสุด 4 หน้าจอในครั้งเดียว
ก่อนหน้านี้ BenQ มีสินค้ากลุ่มสมาร์ทโปรเจคเตอร์อยู่ก่อนแล้ว แต่เป็นระบบปฏิบัติการ Android รุ่นปรับแต่ง (เบราว์เซอร์เป็น Firefox) ส่วน EH620 เป็นรุ่นแรกที่ใช้ Windows
BenQ EH620 เน้นกลุ่มลูกค้าองค์กร ราคา 59,900 บาท
ที่มา - BenQ |
# Amazon ซื้อกิจการ Cloostermans บริษัทพัฒนาหุ่นยนต์และระบบจัดการคลังสินค้าจากเบลเยี่ยม
Amazon ประกาศข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ Cloostermans บริษัทออกแบบและพัฒนาโซลูชันแมคคาทรอนิกส์จากเบลเยี่ยม ซึ่ง Amazon ได้นำเทคโนโลยีของบริษัทมาใช้งานในคลังสินค้าตั้งแต่ปี 2019 ทั้งงานเคลื่อนย้าย ซ้อนพาเลท ไปจนถึงจัดการแพ็คเกจสินค้า
ในดีลนี้ Amazon บอกว่าเป็นการนำเทคโนโลยีการจัดการในคลังสินค้า มาช่วยให้คนทำงานมีความปลอดภัยในการทำงาน และได้ประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น
พนักงานของ Cloostermans ทั้งหมดกว่า 200 คน จะเข้าไปร่วมทีม Amazon Global Robotics สำนักงานในยุโรป เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสนับสนุนการทำงานของ Amazon ต่อไป
ก่อนหน้านี้ Amazon เพิ่งเปิดตัว Proteus หุ่นยนต์ช่วยเหลือในคลังสินค้า ตลอดจนโซลูชันอีกหลายอย่างเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการทำงาน
ที่มา: Amazon |
# อินเทลเผยสเปกจีพียู Arc สำหรับเดสก์ท็อป แยก 4 รุ่นย่อย A770, A750, A580, A380
ที่ผ่านมา อินเทลเปิดตัวจีพียู Arc สำหรับโน้ตบุ๊ก, Arc Pro สำหรับโน้ตบุ๊ก ส่วนจีพียูเดสก์ท็อปตระกูล Arc ยังมีวางขายเพียงรุ่นเดียวคือ A380 ที่เป็นตัวล่างสุด (แถมช่วงแรกก็มีปัญหาไดรเวอร์)
วันนี้อินเทลออกมาประกาศสเปกของ Arc รุ่นเดสก์ท็อปทั้ง 4 ตัว แม้ยังไม่ประกาศวันวางขายแต่ก็น่าจะใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว
Arc 7 A770 คอร์ Xe หลัก 32 คอร์, คอร์ Raytracing 32 คอร์, คอร์ XMX 512 คอร์, แรม 8/16GB
Arc 7 A750 คอร์ Xe หลัก 28 คอร์, คอร์ Raytracing 28 คอร์, คอร์ XMX 448 คอร์, แรม 8GB
Arc 5 A580 คอร์ Xe หลัก 24 คอร์, คอร์ Raytracing 24 คอร์, คอร์ XMX 384 คอร์, แรม 8GB
Arc 3 A380 คอร์ Xe หลัก 8 คอร์, คอร์ Raytracing 8 คอร์, คอร์ XMX 128 คอร์, แรม 6GB
กรณีของการ์ดรุ่นท็อป Arc 7 A770 จะแยกเป็น 2 รุ่นย่อยตามแรม โดยรุ่นปกติที่ขายผ่านแบรนด์พาร์ทเนอร์ผู้ผลิตการ์ดจอต่างๆ มีแรม 8GB แต่จะมีรุ่นพิเศษ Limited Edition แปะแบรนด์อินเทลเอง มีแรม 16GB
ที่มา - Intel |
# Disney บุกวงการการ์ดเกม เปิดตัว Lorcana สินค้าขายจริงปลายปี 2023
Disney เข้าสู่วงการการ์ดเกม (trading card game หรือ TCG) เต็มตัว โดยเปิดตัวแบรนด์การ์ดของตัวเองชื่อ Lorcana ที่นำคาแรกเตอร์ของบริษัทมาทำเป็นการ์ด
Lorcana เป็นความร่วมมือของ Disney กับบริษัทของเล่นสัญชาติเยอรมัน Ravensburger ที่มีชื่อเสียงเรื่องสินค้าจิ๊กซอและบอร์ดเกม โดย Ravensburger เคยทำบอร์ดเกมชุด Disney Villainous ที่ใช้คาแรกเตอร์ตัวร้ายจากภาพยนตร์การ์ตูนของ Disney หลายๆ เรื่อง
สินค้า Lorcana เซ็ตแรกจะวางขายช่วงปลายปี 2023 โดยทีมผู้สร้างนำการ์ด 7 ใบแรกมาให้ดูกันก่อน มีตัวละครดังๆ อย่าง Mickey Mouse, Elsa, Cruella De Vil, Maleficent, Captain Hook, Robin Hood และ Stitch การ์ดชุดแรก 7 ใบนี้จะวางขายในงานสัมมนา D23 ของ Disney เท่านั้น
ที่มา - Polygon |
# Uber ประกาศความร่วมมือ 10 ปี กับ Nuro นำรถไร้คนขับวิ่งส่งอาหาร-สินค้า
Uber ประกาศความร่วมมือระยะยาวเป็นเวลา 10 ปี กับ Nuro สตาร์ทอัพพัฒนายานพาหนะเคลื่อนที่อัตโนมัติสำหรับส่งสินค้า โดยจะนำมาใช้กับบริการส่งอาหาร Uber Eats ในอเมริกา
ในช่วงแรกของการให้บริการร่วมกัน รถส่งอาหารและสินค้าของ Nuro จะดำเนินการในเมือง Houston รัฐเท็กซัส และเมือง Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นสองแห่งแรก และมีแผนจะขยายต่อไปยัง Bay Area
Nuro ระบุว่า ปัจจุบันมีเพียง 3 บริษัทในอเมริกาที่ได้รับใบอนุญาตให้ใช้ยานพาหนะอัตโนมัติส่งสินค้า ซึ่งมีเพียงไม่กี่รัฐที่อนุญาต ซึ่ง Nuro เป็นบริษัทแรกที่ได้รับในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งนอกจาก Uber บริษัทก็มีความร่วมมือกับทั้งร้านขายสินค้า, ร้านอาหารบางแห่ง, บริษัทขนส่งพัสดุ ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ
ที่มา: Uber |
# Intel/Broadcom ทดสอบ Wi-Fi 7 ข้ามผู้ผลิต ได้แบนวิดท์ 5 Gbps
Intel และ Broadcom รายงานการทดสอบส่งข้อมูลผ่าน Wi-Fi 7 ที่มาตรฐานยังไม่ออกเป็นทางการแต่เริ่มมีชิปที่รองรับแล้ว โดยทั้งสองบริษัทระบุว่านี่เป็นการทดสอบข้ามผู้ผลิต (cross vendor) เป็นครั้งแรก
Wi-Fi 7 จะใช้คลื่น 6GHz ซึ่งเปิดให้ใช้งานเสรีเพียงบางประเทศเท่านั้น ทาง Broadcom ระบุว่ากำลังพูดคุยกับประเทศต่างๆ เพื่อให้เปิดคลื่น 6GHz ให้ใช้งานได้เพิ่มขึ้น ตัว Wi-Fi 7 มีฟีเจอร์ในการใช้คลื่นให้เต็มที่กว่าเดิม เช่น การเชื่อมต่อหลายย่านความถี่ และการใช้แถบคลื่นที่ไม่ต่อเนื่อง (multi-resource unit puncturing)
เนื่องจากมาตรฐานจริงยังไม่ออก ตอนนี้ Wi-Fi Alliance จึงยังไม่มีการตรวจสอบความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ที่จะใช้ Wi-Fi 7 การทดสอบเช่นนี้จึงเป็นการทดสอบกันเองระหว่างผู้ผลิตไปก่อน ทางอินเทลหวังว่าการทดสอบนี้จะเป็นฐานสำหรับการทดสอบผู้ผลิตอื่นๆ ในอนาคตต่อไป
ที่มา - Intel |
# Netflix เปิดตัว Lucky Luna เกมผจญภัยฉาก 2D ด้วยวิธีลากนิ้ว ทีมสร้างเดียวกับ Alto's Adventure
Netflix เปิดตัวเกม Lucky Luna เกมผจญภัยแนวตะลุยฉาก 2D ที่มีจุดเด่นเรื่องวิธีการควบคุมผ่านการลากนิ้วบนจอ (swipe) แทนการกดปุ่มควบคุมเหมือนเกมแนว platformer ทั่วไป
ปีที่แล้ว เราเห็น Netflix ประกาศให้บริการเกมบนมือถืออย่างจริงจัง แต่เกมในช่วงแรกยังเป็นเกมที่ดัดแปลงจากซีรีส์ของ Netflix ซะมาก และปริมาณผู้เล่นก็ยังไม่เยอะนัก
ช่วงหลังๆ มานี้เราจึงเห็น Netflix ขยายปริมาณเกมของตัวเองมากขึ้น มีการซื้อสตูดิโอเกมหลายแห่ง และซื้อไลเซนส์เกมดังๆ เช่น Into the Breach มาอยู่ในสังกัด หรืออย่างเกม Lucky Luna เกมนี้ก็เป็นผลงานของสตูดิโอ Snowman ที่เคยทำ Alto's Adventure เกมสกีแบบ endless run มาก่อน
ทีมผู้สร้างเกม Lucky Luna บอกว่าการได้ Netflix มาช่วยสนับสนุน ทำให้การออกแบบเกมง่ายขึ้นมาก เพราะไม่ต้องกังวลว่าเกมจะขายได้หรือไม่ หรือในอีกทางคือไม่ต้องทำเกม free-to-play แล้วมาคิดวิธีขายไอเทมให้ผู้เล่นเสียประสบการณ์ที่ดีไป การเป็นเกมของ Netflix ทำให้สามารถสร้างเกมเต็มรูปแบบ ที่เล่นฟรีทั้งหมดและไม่มีโฆษณามารบกวนด้วย
ที่มา - Gamespot |
# Instagram เตรียมเปิดให้ทดสอบฟีเจอร์ Reposts วงจำกัด
Instagram เตรียมให้ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถรีโพสต์ (repost) โพสต์ของผู้ใช้คนอื่นได้ คล้ายกับการรีแชร์ (reshare) Instagram Story หรือคล้ายกับ retweet ใน Twitter โดยจะเปิดให้ทดสอบเฉพาะผู้ใช้กลุ่มจำกัด
Instagram ยังไม่ประกาศฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการ แต่มีคนสังเกตเห็นแท็บ Reposts ในหน้าโปรไฟล์ของ Adam Mosseri ผู้บริหารของ Instagram
สำหรับ Instagram โพสต์ที่ผู้ใช้รีโพสต์จะปรากฎขึ้นในหน้าโปรไฟล์ของผู้ใช้ในแท็บ Reposts และในหน้าฟีดของผู้ติดตามด้วย นอกจากนี้ ผู้ใช้จะสามารถแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ที่กดรีโพสต์ได้ คล้ายกับการ quote tweet ใน Twitter
ยังไม่มีข้อมูลว่า Instagram ว่า Instagram จะปล่อยให้ใช้ฟีเจอร์นี้โดยทั่วไปหรือไม่ และเมื่อไร
ที่มา: TechCrunch |
# Meta ยุบทีมดูแลผลกระทบทางลบของ Facebook และ Instagram กระจายพนักงานไปฝ่ายอื่นแทน
Meta ยุบทีม Responsible Innovation ที่มีหน้าที่จัดการเรื่องผลกระทบทางลบ (negative impact) ที่อาจเกิดขึ้นจากบริการของบริษัท ซึ่งรวมถึงแอปพลิเคชัน Facebook และ Instagram
แต่เดิมทีมนี้ประกอบด้วยวิศวกรรมซอฟต์แวร์, นักจริยศาสตร์ และพนักงานอื่น ๆ ประมาณ 20 ราย มีหน้าที่ทำงานร่วมกับทีมพัฒนาบริการต่าง ๆ เพื่อประเมินผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากบริการของบริษัท
ทั้งนี้ Meta ชี้แจงว่าเผยว่ายังให้ความสำคัญกับการจัดการกับผลกระทบต่อผู้ใช้เช่นเดิม โดยพนักงานจากทีมนี้ ส่วนใหญ่กระจายเข้าไปทำหน้าที่อย่างเดิมในฝ่ายอื่นๆ แทน
Meta อยู่ในช่วงปรับโครงสร้างองค์กร บริษัทได้ลดการจ้างงานลงและเน้นไปที่การพัฒนานวัตกรรม หลังรายได้ลดลงในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ที่มา: CNET และ Wall Street Journal |
# Android เพิ่มฟีเจอร์อัดเสียงที่เกิดขึ้นในบ้าน ให้มือถือช่วยฟังเสียง แล้วแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ
กูเกิลออกฟีเจอร์ของ Android ช่วยผู้พิการทางการได้ยิน ผู้ใช้สามารถสั่งให้มือถือ "ฟังเสียง" ในบ้านตามที่ต้องการ เช่น เสียงเครื่องซักผ้า-เตาไมโครเวฟทำงานเสร็จ, เสียงหมาเห่า, เสียงกริ่งประตู เพื่อให้มือถือทำหน้าที่ตรวจจับเสียงแบบเดียวกัน และแจ้งเตือนผู้ใช้ด้วยวิธีการต่างๆ ได้ เช่น แจ้งเตือนบนหน้าจอ, แสดงไฟกระพริบ, สั่น หรือทางนาฬิกาสมาร์ทวอทช์
ฟีเจอร์นี้เป็นการต่อยอดจาก Sound Notifications ที่เปิดตัวเมื่อปี 2020 ใช้มือถือช่วยแจ้งเตือนเสียงอันตรายรอบตัว เช่น ไฟไหม้ แตรรถ ให้คนที่มีปัญหาทางการได้ยิน รอบนี้กูเกิลเปิดให้สามารถดักจับเสียงแบบคัสตอมได้ตามต้องการแล้ว
นอกจากนี้ Google TV ยังเพิ่มไลบรารีภาพยนตร์ที่มีคำบรรยายถึงเสียงที่เกิดขึ้นในเรื่อง (audio description) โดยผู้ใช้สามารถสั่ง “Search audio description movies” ได้จาก Google Assistant
ที่มา - Google |
# Shopee ปลดพนักงานในละตินอเมริกา 3 ประเทศ และถอนตัวจากอาร์เจนตินา
สำนักข่าว Reuters รายงานว่าบริการอีคอมเมิร์ซ Shopee ของบริษัท Sea Ltd. ต้องปลดพนักงานออกในประเทศแถบละตินอเมริกา ได้แก่ ชิลี โคลอมเบีย เม็กซิโก และถึงขั้นต้องถอนตัวจากอาร์เจนตินาไปเลย
Reuters อ้างอีเมลภายในของ Chris Feng ซีอีโอของ Shopee ที่ส่งหาพนักงาน และบอกว่าต้องลดจำนวนพนักงานตามสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทั้งนี้ Reuters ระบุว่าบราซิลเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคที่ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะ Shopee ไปได้ดีในตลาดบราซิล
ตัวแทนของ Shopee ยืนยันข่าวนี้ โดยระบุว่าธุรกิจในชิลี โคลอมเบีย เม็กซิโก จะลดเหลือการขายสินค้าระหว่างประเทศเท่านั้น ส่วนธุรกิจในอาร์เจนตินาจะปิดเลย
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือนมิถุนายน Shopee เพิ่งปลดพนักงานส่วนหนึ่งออกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนผลประกอบการของ Sea ไตรมาสล่าสุด ถึงแม้ธุรกิจฝั่งอีคอมเมิร์ซยังมีรายได้เติบโต แต่ฝั่ง Garena กลับมีรายได้ลดลง
ที่มา - Reuters, ภาพจาก Sea Group |
# สหรัฐฯ ฟ้อง Google ผูกขาด จ่ายหนักเพื่อรักษาอันดับหนึ่งในตลาด Search Engine
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐยื่นฟ้อง Google ฐานละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดหลังจากมีรายงานว่าเตรียมยื่นฟ้องไปในเดือนสิงหาคม โดยบอกว่า Google ทำสัญญาจ่ายเงินหลายพันล้านเหรียญต่อปีให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เพื่อให้ใช้กูเกิลเป็นบริการค้นหาเริ่มต้น ซึ่งกระทวงยุติธรรมมองว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด
ทนายความของกระทรวงฯ ระบุว่า Google ทำสัญญาจ่ายเงินให้กับบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อย่าง Apple, Samsung และ Motorola รวมถึงเบราวเซอร์เกือบทุกตัว และบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ AT&T, Verizon และ T-Mobile เพื่อให้ Google เป็น search engine ตั้งต้นในสมาร์ทโฟนและเบราว์เซอร์ของบริษัทดังกล่าว กระทรวงยุติธรรมจึงมองว่าการได้เป็นบริการค้นหาเริ่มต้น ถือเป็นการกีดกันคู่แข่ง
Google โต้แย้งกลับว่ามุมมองของกระทรวงฯ ที่มอง Google เทียบกับคู่แข่ง Search Engine รายเล็ก ถือเป็นการมองในมุมแคบเกินไป เพราะยังมีบริษัทรายใหญ่อื่น ๆ อีกที่เป็นคู่แข่งของ Google เช่น TikTok, Meta และ Amazon
นอกจากนี้ Google ระบุว่าทำสัญญากับ Apple และ Mozilla มาตั้งนานแล้ว และสาเหตุที่บริษัททำสัญญาแบ่งรายได้กับ Mozilla ก็เป็นเพราะต้องการสนับสนุน Mozilla ที่ให้บริการผู้ใช้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
การพิจารณาคดีนี้จะเกิดขึ้นในปีหน้า
ที่มา: Bloomberg |
# YouTube เปิดให้แอพสายการศึกษา ฝังคลิปได้แบบไม่มีโฆษณา ไม่มีลิงก์ ไม่มีแนะนำคลิป
YouTube เปิดตัว YouTube Player for Education ที่อนุญาตให้ฝังตัวเล่นคลิปของ YouTube ลงในแอพเพื่อการศึกษา แบบไม่มีโฆษณา ไม่มีลิงก์ ไม่มีการแนะนำคลิปอื่นๆ เพื่อไม่ให้ผู้ชมคลิปเสียสมาธิหรือถูกรบกวนจากสิ่งเหล่านี้
YouTube Player for Education จะช่วยให้ YouTube กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโฮสต์คลิปวิดีโอเพื่อการศึกษา แล้วให้บริการผ่านแอพตัวอื่นๆ ได้ง่ายกว่าเดิม กูเกิลบอกว่าที่ผ่านมามี YouTube embedded player ที่ใช้ใน Google Classroom อยู่แล้ว และนำมาต่อยอดรวมถึงเปิดให้องค์กรภายนอกใช้ด้วย
เบื้องต้นกูเกิลยังเปิดให้เฉพาะพาร์ทเนอร์บางรายในสหรัฐ เช่น EDpuzzle, Purdue University, Purdue Global ใช้งาน
นอกจากนี้ กูเกิลยังจะเปิดให้เจ้าของช่องเพื่อการศึกษา สามารถ "ขายคอร์ส" จากช่องได้เลย โดยผู้ชมที่ซื้อคอร์สสามารถดูคลิปได้แบบไม่มีโฆษณา และเปิดคลิปในแบ็คกราวน์ได้ (เหมือน YouTube Premium) ตอนนี้ยังมีเฉพาะในสหรัฐและเกาหลีใต้
ที่มา - YouTube Blog |
# กูเกิลอัพเดต Nearby Share ส่งไฟล์ให้เครื่องอื่นของตัวเองไม่ต้องกดรับก่อน ปิดหน้าจอก็รับไฟล์ได้
กูเกิลประกาศอัพเดตฟีเจอร์ Nearby Share ของ Android และ ChromeOS ให้แชร์ไฟล์ไปยังอุปกรณ์เครื่องอื่นของผู้ใช้คนเดียวกันง่ายขึ้น สามารถโอนไฟล์ข้ามกันได้เลย โดยที่ปลายทางไม่ต้องกดรับก่อน และแชร์ได้แม้เครื่องปลายทางปิดจอเอาไว้
Nearby Share เป็นฟีเจอร์ของ Android ที่เหมือนกับ Airdrop ฝั่งของแอปเปิล โดยใช้เทคโนโลยีไร้สายหลายแบบ เช่น Bluetooth, Wi-Fi, NFC, UWB, WebRTC (เลือกให้อัตโนมัติตามความเหมาะสม) ในการส่งไฟล์ข้ามเครื่องแบบไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต
ในกรณีทั่วไปที่เป็นการส่งไฟล์ข้ามอุปกรณ์ให้ผู้ใช้คนอื่น ปลายทางจำเป็นต้องตั้งค่าว่าจะเลือกรับไฟล์จากใคร (Everyone, Contacts, Only Me) แต่ถ้าเป็นการส่งข้ามอุปกรณ์ของตัวเอง (ดูจากบัญชี Google Account) กูเกิลก็ปรับให้รับส่งได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม
ที่มา - Google |
# EA ตั้งสตูดิโอใหม่ Ridgeline Games เน้นพัฒนาโหมดเนื้อเรื่องของ Battlefield
EA ประกาศตั้งสตูดิโอภายในแห่งใหม่ Ridgeline Games ขึ้นมาเพื่อพัฒนาโหมดเนื้อเรื่องของเกม Battlefield โดยเฉพาะ และตอนนี้เริ่มพัฒนาเกมใหม่ในซีรีส์ Battlefield แล้ว
ทิศทางของซีรีส์ Battlefield ในช่วงหลังเน้นโหมดเนื้อเรื่องน้อยลงมาก โดย Battlefield 1 (2016) และ V (2018) มีโหมดเนื้อเรื่องที่ไม่ยาวนัก ส่วน Battlefield 2042 (2021) ตัดโหมดเนื้อเรื่องออกไปเลย มีแต่การเล่นมัลติเพลเยอร์เท่านั้น แต่ด้วยยอดขายที่ย่ำแย่ของ Battlefield ภาคหลังๆ ทำให้ EA ต้องปรับนโยบายหลายอย่าง และโยก Vince Zampella อดีตซีอีโอของ Infinity Ward ทีมสร้าง Call of Duty มาคุมซีรีส์นี้แทน
สตูดิโอแห่งใหม่ Ridgeline Games อยู่ที่เมืองซีแอทเทิล นำโดย Marcus Lehto อดีตผู้บริหารของ Bungie ที่มีผลงานฝ่ายกำกับศิลป์ซีรีส์ Halo มาตั้งแต่ภาคแรกสุด หลังลาออกจาก Bungie เขาออกไปเปิดบริษัทเกมของตัวเอง V1 Interactive ทำเกมยิง FPS ชื่อ Disintegration แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก และย้ายมาทำงานกับ EA ตั้งแต่ปี 2021
ตอนนี้ EA ใช้สตูดิโอภายใน 4 แห่งช่วยกันทำเกม Battlefield
DICE ยังเป็นสตูดิโอหลักเช่นเดิม เน้นทำมัลติเพลเยอร์ตามที่ถนัด
Ripple Effect ที่ก่อตั้งในปี 2013 (เดิมคือ DICE Los Angeles) ตอนนี้กำลังทำเกมใหม่ในจักรวาล Battlefield อยู่เช่นกัน
Industrial Toys ที่ซื้อมาในปี 2018 เพื่อทำ Battlefield Mobile
Ridgeline ถือเป็นสตูดิโอลำดับที่สี่ของ Battlefield กำลังพัฒนาแคมเปญที่เน้นการเล่าเรื่อง (narrative campaign) ในจักรวาล Battlefield
ที่มา - EA |
# รู้จักกับดาวเทียม Globalstar ผู้เชื่อมต่อ iPhone 14 ไปได้ทุกที่แม้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
ในการประกาศสินค้าชุดใหม่ของแอปเปิลเมื่อวานนี้ ฟีเจอร์สำคัญตัวหนึ่งคือ Emergency SOS ที่ iPhone 14 จะสามารถเชื่อมต่อดาวเทียมเพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินได้ เนื่องจากเป็นการส่งข้อความผ่านดาวเทียมทำให้ไม่มีข้อจำกัดว่าพื้นที่ที่อยู่จะมีเครือข่ายโทรศัพท์มือถือหรือไม่ ขอเพียงแค่มองเห็นท้องฟ้า แล้วเล็งโทรศัพท์ให้ตรงดาวเทียมก็สามารถเชื่อมต่อและส่งข้อความขอความช่วยเหลือได้
ในงานเปิดตัวแอปเปิลบอกรายละเอียดของบริการนี้น้อยมาก เรารู้เพียงว่า ผู้ซื้อ iPhone 14 จะใช้งานบริการนี้ได้ฟรีสองปี และเริ่มใช้งานได้จริงเดือนพฤศจิกายนนี้แม้ว่า iPhone 14 จะเริ่มขายก่อนหน้านั้นก็ตาม ในงานไม่ระบุชื่อเครือข่ายดาวเทียมที่ใช้งานด้วยซ้ำ
แต่หลังจากจบงานบริษัท Globalstar ก็ยื่นแบบ FORM 8-K รายงานธุรกรรมที่มีความสำคัญต่อบริษัท ซึ่งก็คือการประกาศเป็นพันธมิตรกับแอปเปิลเพื่อให้บริการเครือข่าย แก่บริการ Emergency SOS หลังจากทั้งสองบริษัทร่วมกันพัฒนาบริการ ตั้งแต่การสร้างเกตเวย์ที่สถานีภาคพื้นดินเพิ่มเติม, ยิงดาวเทียมเสริม, และทดสอบพื้นที่ให้บริการว่าครอบคลุม
จุดเริ่มต้นบริษัท เกิดจาก Qualcomm
Globalstar เดิมเริ่มมาตั้งแต่ปี 1991 ที่ Qualcomm ไปร่วมทุนกับบริษัทเทคโนโลยีทางการทหาร Loral Corporation พยายามยิงดาวเทียมเพื่อบริการโทรคมนาคม แม้จะยิงดาวเทียมได้สำเร็จและเปิดบริการไปได้พักหนึ่งแต่ก็ประสบปัญหาทางการเงินจนต้องยื่นล้มละลายไป ก่อนจะปรับโครงสร้างใหม่ในแบรนด์เดิม โดย Thermo Companies เข้ามาลงทุนถือหุ้น 65% ในปี 2004 ทำให้บริษัทมีทุนมายิงดาวเทียมรุ่นที่ 2 ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2013
ดาวเทียมรุ่นที่สองของ Globalstar มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถรับส่งข้อมูลที่แบนวิดท์ 256kbps (32kBps) เทียบกับรุ่นแรกที่รองรับเพียง 9.6kbps เท่านั้น และยังมีอายุใช้งานถึง 15 ปี เป็นสองเท่าจากรุ่นแรก ขณะที่ใช้ทุนในการสร้างเครือข่ายดาวเทียมเพียงพันล้านดอลลาร์ เทียบกับรุ่นแรกที่ใช้ถึง 5,000 ล้านดอลลาร์
คลื่น n53 บริการหลักของ Globalstar
บริการของ Globalstar นั้นโดยหลักๆ แล้วคือการสื่อสารผ่านดาวเทียม ทุกวันนี้บริษัทมีลูกค้า 745,000 ราย (ตัวเลขปี 2021) โดยบริษัทถือช่องสัญญาณอยู่ 3 ช่วง ได้แก่ S-Band บริเวณ 2.4GHz แทบจะติดกับ Bluetooh และ Wi-Fi ทาง 3GPP ได้กำหนดให้คลื่นย่านนี้เป็นย่าน n53 สำหรับการใช้งานโทรศัพท์มือถือ
แม้ว่าจะเป็นบริการดาวเทียม แต่ช่องสัญญาณ n53 ก็ต้องขออนุญาตใช้งานจากประเทศต่างๆ ก่อนเปิดให้บริการ ตอนนี้บริษัทสามารถขออนุญาตได้เพียง 10 ประเทศแม้เครือข่ายดาวเทียมที่ยิงไปจะให้บริการได้แทบทั้งโลกและมีการสร้างสถานีฐานแล้วทั่วโลกก็ตาม นอกจาก n53 แล้ว Globalstar ยังมีคลื่น L-Band (1610-1618.725) ให้บริการอีกด้วย แต่ก็ดูจะไม่ได้พยายามทำตลาดมากนัก
การใช้งานคลื่น n53 จะใช้ผ่านโมเด็มของ Globalstar ที่ต้องนำไปพัฒนาต่อ หรือใช้อุปกรณ์สำเร็จรูปในแบรนด์ SPOT ที่มีทั้งเครื่องติดตามทรัพย์สิน, เพจเจอร์แบบสองทางส่ง SMS ได้, และ SPOT Gen4 ที่ส่งได้เฉพาะข้อความที่ตั้งไว้ล่วงหน้า นับว่าใกล้เคียงกับการใช้งานใน iPhone 14 ที่เปิดให้ผู้ขอความช่วยเหลือสามารถเลือกรูปแบบเหตุที่เกิด โดยไม่สามารถพิมพ์ข้อความเองได้
ค่าบริการต่ำสุดของ Globalstar อยู่ที่ 8.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน (สัญญา 12 เดือน) สำหรับการส่งข้อมูลวันละ 1 ข้อความ ตอนนี้แอปเปิลยังไม่ระบุว่าค่าบริการของ Emergency SOS จะเป็นเท่าใดแต่เราพอคาดเดาได้ว่าน่าจะถูกกว่าลูกค้าปกติ เพราะ iPhone 14 ไม่ต้องส่งข้อมูลกลับดาวเทียมตลอดเวลา และลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่ได้ส่งข้อความแม้แต่ข้อความเดียวเพราะแอปเปิลจำกัดการใช้งานไว้ที่การแจ้งเหตุฉุกเฉินเท่านั้น |
# ลูกสาว Steve Jobs โพสต์มีมแซว iPhone 14 ไม่ต่างอะไรจาก iPhone 13
ลูกคนดังทำอะไรก็เป็นข่าว เมื่อ Eve Jobs ลูกสาวของ Steve Jobs โพสต์ภาพมีมใน Instagram Stories ของตัวเอง เป็นภาพชายคนหนึ่งชูเสื้อใหม่ที่หน้าตาเหมือนเสื้อที่ตัวเองใส่อยู่ พร้อมข้อความว่า Me upgrading from iPhone 13 to iPhone 14 from Apple's announcement today
Steve Jobs มีลูกทั้งหมด 3 คน โดย Eve เป็นลูกคนสุดท้องที่เกิดเมื่อปี 1998
ที่มา - Android Authority |
# แฟนรถไฟ JR เตรียมพบกับ JR EAST Train Simulator บน Steam วันที่ 20 กันยายนนี้
JR East บริษัทรถไฟฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นได้ออกเกมจำลองการขับรถไฟ JR EAST Train Simulator สำหรับเล่นบน PC โดยจะเริ่มขายผ่าน Steam วันที่ 20 กันยายนนี้
ตัวเกมอิงจากระบบจำลองการขับรถไฟที่ใช้เพื่อฝึกอบรมพนักงานของ JR East ซึ่งเสียงในเกมรวมทั้งภาพวิวทิวทัศน์ต่างๆ ก็เป็นการนำเอาภาพและเสียงที่บันทึกจากเส้นทางรถไฟของจริงมาใส่ไว้ด้วย โดยผู้เล่นสามารถเลือกปรับระดับความยากของเกมได้ ซึ่งหลักๆ แล้วเป็นการตัดสินให้คะแนนจากความแม่นยำในการจอดรถและการควบคุมเวลาเดินรถ
สำหรับตัวเกมนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการจำลองการขับรถไฟ KiHa 100 สาย Hachiko (ระหว่างสถานี Takasaki ถึง Kuragano) และรถไฟ E233 วิ่งเส้นทางสาย Keihin Tohoku (จากสถานี Omiya ถึง Urawa) ซึ่งในอนาคตจะมีการเพิ่มเส้นทางรถไฟสายอื่นและรถไฟรุ่นอื่นๆ เข้ามาในเกม
ใครที่อยากลองขับรถไฟ JR East ก็เข้าไปกดจองคิวกันได้ที่นี่
ที่มา - SoraNews24 |
# บริษัทผู้ดูแล iCloud ในจีน เตือนรัฐบาลจีนล็อคดาวน์ Zero-Covid ทำให้พนักงานออกจากตึกไม่ได้
Guizhou Cloud Big Data พาร์ทเนอร์ผู้ดูแลศูนย์เซิร์ฟเวอร์ข้อมูล iCloud ของ Apple ในจีน ประกาศเตือนผ่าน WeChat ว่ารัฐบาลจีนได้ใช้มาตรการ Zero-Covid ล็อคดาวน์ทั้งเมืองกุ้ยหยางที่เป็นที่ตั้งของบริษัท ทำให้พนักงานของบริษัทไม่สามารถออกจากตึกได้ และหลายคนไม่ได้กลับบ้านมาเป็นสัปดาห์แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้ระบุว่าการล็อคดาวน์จะมีผลกระทบต่อเซิร์ฟเวอร์ของ Apple และลูกค้ารายอื่นๆ ของบริษัทอย่างไรบ้าง
Guizhou Cloud Big Data เป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนและเป็นผู้ดูแลข้อมูลทั้งหมดบน iCloud ของผู้ใช้ iPhone ภายในประเทศจีนซึ่งมีจำนวนหลายร้อยล้านคน ภายหลังจากที่กฎหมายจีนบังคับให้ Apple ต้องปล่อยให้บริษัทสัญชาติจีนเป็นผู้ควบคุมข้อมูล
ที่มา: Bloomberg |
# กัมพูชายืนยันการจัดแข่งอีสปอร์ตใน SEA Games 2023 แข่ง 5 เกมชิง 9 เหรียญทอง
สมาพันธ์อีสปอร์ตของกัมพูชา (E-Sports Federation Cambodia) ได้ประกาศรายชื่อเกมที่จะทำการแข่งขันในมหกรรมกีฬา SEA Games ครั้งที่ 32 ปี 2023 รวมทั้งสิ้น 5 เกม โดยแบ่งประเภทการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 9 เหรียญทอง ดังนี้
AK2 (PC) ประเภทเดี่ยว
AK2 (PC) ประเภททีม
PUBG Mobile ประเภทเดี่ยว
PUBG Mobile ประเภททีม
Mobile Legends: Bang Bang (Mobile) ประเภททีมชาย
Mobile Legends: Bang Bang (Mobile) ประเภททีมหญิง
League of Legends: Wild Rift (Mobile) ประเภททีมชาย
League of Legends: Wild Rift (Mobile) ประเภททีมหญิง
Cross Fire (PC) ประเภททีม
สำหรับเกม PUBG Mobile, Mobile Legends: Bang Bang, League of Legends: Wild Rift และ CrossFire นั้นมีการจัดแข่งมาแล้วในมหกรรม SEA Games ครั้งก่อนหน้านี้ที่ประเทศเวียดนามซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนเกม FIFA Online, Arena of Valor, Garena Free Fire และ League of Legends (PC) ซึ่งเคยแข่งกันที่เวียดนามถูกถอดออกไปในการแข่ง SEA Games ที่กัมพูชาปีหน้า
ที่มา - เพจ E-Sports Federation Cambodia ผ่าน CNN Philippines |
# คนใกล้ชิดร่วมสร้างเว็บ Steve Jobs Archive บันทึกเรื่องราวของ Jobs ที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน
คนใกล้ชิดของ Steve Jobs ได้แก่ Tim Cook ซีอีโอของ Apple, Jony Ive อดีตหัวหน้าฝ่ายออกแบบ และ Laurene Powell Jobs ผู้ก่อตั้งบริษัทด้านการศึกษา Emerson Collective และภรรยาของ Steve Jobs อดีตซีอีโอของ Apple เปิดเผยในงาน Code Conference 2022 ว่าร่วมมือกันสร้างเว็บไซต์บันทึกความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับ Steve Jobs ที่ใช้ชื่อว่า Steve Jobs Archive
เว็บไซต์ Steve Jobs Archive ประกอบด้วยภาพ คลิปเสียง วิดีโอ รวมถึงอีเมลที่ Steve Jobs ส่งหาตัวเอง ซึ่งยังไม่เคยเปิดเผยสู่สาธารณะมาก่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อรำลึกถึง Steve Jobs และสิ่งที่ Jobs ได้สร้างไว้และมีอิทธิพลต่อวงการเทคโนโลยี
ในเว็บไซต์มีอีเมลหนึ่งที่ Steve Jobs ส่งถึงตัวเองในปี 2010 ที่เขียนคล้ายกลอนซึ่งสะท้อนมุมมองต่อการใช้ชีวิตของ Jobs ที่มีประโยคอย่าง “I am moved by the music I did not create myself” และ “When I needed medical attention, I was helpless to help myself survive”
นอกจากนี้ เว็บไซต์จะเป็นพื้นที่ของการริเริ่มโครงการใหม่ เป็นแหล่งข้อมูลของโครงการต่าง ๆ รวมถึงการให้ทุนสำหรับคนรุ่นใหม่
สามารถเข้าชมเว็บไซต์ได้ที่ Steve Jobs Archive
ที่มา: 9to5Mac
ภาพอีเมลที่ Steve Jobs ส่งถึงตัวเองในปี 2010 |
# เงินยูโรอ่อนค่าหนัก ราคา iPhone 14 ในยุโรปพุ่ง สูงกว่าในสหรัฐเกือบ 30%
แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะเงินเฟ้อและปัญหาซัพพลายเชน Apple ก็ยังคงวางจำหน่าย iPhone 14 ด้วยราคาเท่าเดิมในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ราคา iPhone 14 ในยุโรปกลับเพิ่มขึ้นถึงราว $300-$400 (ราว 10,900-14,500 บาท) ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมาเกือบ 30% จากปัญหาค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐโดย 1 ดอลลาร์สหรัฐจะเทียบเท่ากับ 0.9991 ยูโร
ราคา iPhone 14 ในสหรัฐเทียบกับในยุโรปเป็นดังนี้
iPhone 14 ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $799 ราคาในยุโรปขึ้นมาถึง $999 (€999)
iPhone 14 Plus ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $899 ราคาในยุโรปขึ้นมาถึง $1,149 (€1,149)
iPhone 14 Pro ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $999 ราคาในยุโรปขึ้นมาถึง $1,299 (€ 1,299)
iPhone 14 Pro Max ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $1,099 ราคาในยุโรปขึ้นมาถึง $1,449 (€1,299)
เท่ากับว่าราคาของไลน์ iPhone 14 Pro เพิ่มขึ้นมาเกือบ 30%
ภาพจากเว็บไซต์ Apple ประเทศเยอรมนี
นอกจากนี้ หากเทียบราคากับหน่วยเงินปอนด์ของสหราชอาณาจักรจะเพิ่มขึ้นมาประมาณ $200-$300 (ประมาณ 7,290-10,900 บาท) ดังนี้
iPhone 14 ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $799 ราคาในสหราชอาณาจักรขึ้นมาถึง $977 (£849)
iPhone 14 Plus ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $899 ราคาในสหราชอาณาจักรขึ้นมาถึง $1,090 (£949)
iPhone 14 Pro ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $999 ราคาในสหราชอาณาจักรขึ้นมาถึง $1,260 (£1,099)
iPhone 14 Pro Max ในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ $1,099 ราคาในสหราชอาณาจักรขึ้นมาถึง $1,379 (£1,199)
ภาพจากเว็บไซต์ Apple สหราชอาณาจักร
ส่วนราคา iPhone 14 ในไทยเพิ่มขึ้นไม่มากนักโดยแพงกว่าเดิมราว 3000-4000 บาทเพราะค่าเงินบาทอ่อนตัว
ที่มา: SamMobile, GSMArena และ Independent.ie |
# ไมโครซอฟท์ออกจอย Xbox Elite Series 2 รุ่น Core ไม่แถมปุ่มเสริม ราคาถูกลง 50 ดอลลาร์
ไมโครซอฟท์ออกจอยรุ่นโปร Xbox Elite Wireless Controller Series 2 รุ่นย่อย Core สีขาว ที่ราคาถูกลงเหลือ 129.99 ดอลลาร์ ถูกกว่ารุ่นปกติสีดำล้วน ที่เปิดตัวในปี 2019 และตั้งราคา 179.99 ดอลลาร์
ความแตกต่างของจอยรุ่น Core กับรุ่นปกติคือ อุปกรณ์เสริมในชุดที่น้อยลง (ดูภาพประกอบ) ตัดปุ่มสำรอง ตัวก้าน thumbstick ที่ปรับระดับได้ และเคสสำหรับใส่จอยออก แลกกับการลดราคาลงมา 50 ดอลลาร์ ช่วยให้เหล่าเกมเมอร์เข้าถึงจอยรุ่นโปรได้ในราคาสบายกระเป๋ามากขึ้น
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังนำปุ่มสำรองและอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ พร้อมกับสาย USB-C และแท่นชาร์จ มาจัดเป็นชุดขายต่างหากในชื่อ Complete Component Pack ได้ทุกอย่างไม่รวมตัวจอย ขายราคา 59.99 ดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ คู่แข่งโซนี่เพิ่งเปิดตัวจอยรุ่นโปร DualSense Edge ของ PS5 ออกมาเช่นกัน แม้ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่าย
ที่มา - Xbox |
# ระบบขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียมของ iPhone 14 ใช้ดาวเทียม Globalstar แอปเปิลจองคลื่นไป 85%
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 14 ไปเมื่อคืนที่ผ่านมาโดยฟีเจอร์สำคัญอันหนึ่งคือการส่งข้อความขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียมที่ให้บริการฟรีสองปีเมื่อซื้อ iPhone 14 ทางบริษัท Globalstar ผู้ให้บริการการสื่อสารผ่านดาวเทียมก็ออกมารายงานสัญญาการให้บริการกับแอปเปิลต่อตลาดหลักทรัพย์
Globalstar ระบุว่าสัญญาให้บริการกับแอปเปิลจะเป็นการให้บริการคลื่นในช่องสัญญาณ n53 โดยสัญญานี้จะทำให้แอปเปิลได้สิทธิ์ใช้ช่องสัญญาณไปถึง 85% ส่วนที่เหลือทาง Globalstar จะทำตลาดขายส่งช่องสัญญาณและให้บริการ IoT ต่อไป
รายงานแสดงให้เห็นว่าแอปเปิลลงทุนกับระบบนี้อย่างหนัก โดยจ่ายเงินให้ Globalstar ทั้งการลงทุนยิงดาวเทียม ค่าใช้โครงข่าย และเงินโบนัสเมื่อทาง Globalstar สามารถพัฒนาบริการได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้
ตัว Globalstar เองผลิตอุปกรณ์ขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียมคล้ายกับฟีเจอร์ใน iPhone 14 มาก่อนแล้ว แต่เป็นอุปกรณ์แยกที่ราคาค่อนข้างแพงและมีขนาดใหญ่ การที่แอปเปิลรวมฟีเจอร์นี้เข้าใน iPhone 14 ก็นับเป็นการเปิดตลาดให้คนจำนวนมากเข้าถึงการสื่อสารผ่านดาวเทียมได้
ที่มา - SEC.report |
# Tim Cook ตอบคำถามชัด Apple ยังไม่สนใจรองรับ RCS บน iPhone
ปัจจุบัน Google กำลังผลักดัน RCS ให้เป็นโปรโตคอลระบบส่งข้อความแบบใหม่ แต่ปัญหาคือ iPhone ไม่รองรับ RCS จนทำให้ Google สร้างแคมเปญ #GetTheMessage เพื่อเรียกร้องให้ Apple ซัพพอร์ต RCS บน iPhone เสียที
ล่าสุด ในงาน Code 2022 ของ Vox Media ที่มี Kara Swisher เป็นพิธีการ และมีแขกรับเชิญคือ Jony Ive, Laurene Powell Jobs และ Tim Cook ทางซีอีโอ Tim Cook ได้ตอบคำถามเรื่องนี้ ซึ่งลักษณะการตอบคำถามของ Cook เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า Apple ยังไม่สนใจนำ RCS มาลง iPhone
Tim Cook ตอบคำถามชัดเจนว่า เขาไม่เห็นว่าผู้ใช้จะเรียกร้องให้เร่งทำฟีเจอร์นี้ (RCS) ในตอนนี้ และผู้สอบถามก็ได้ถามต่อไปว่าแม่เขาใช้ Android และเขาส่งวิดีโอให้แม่ไม่ได้เนื่องจาก SMS คำตอบของ Cook คือ “ซื้อ iPhone ให้แม่คุณสิ”
RCS เป็นมาตรฐานการส่งข้อความบน Android ที่ Google กำลังผลักดันมาแทนที่ SMS เพราะรองรับฟีเจอร์แอปส่งข้อความยุคใหม่ อย่างเช่นการเข้ารหัส end-to-end, คุยแบบกลุ่ม, แชร์ไฟล์ โดยเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา RCS มีผู้ใช้บนแอป Google Messages แล้วกว่า 500 ล้านคน และเรียกร้องให้ Apple รองรับ RCS บน iPhone เสียทีผ่านแคมเปญ #GetTheMessage
คำตอบล่าสุดจาก Tim Cook เป็นการสื่อความอย่างชัดเจนว่า Apple ไม่สนใจ และคงจะไม่อิมพลีเมนต์ระบบ RCS ลง iPhone ในระยะเวลาอันใกล้นี้ และ Apple ยังคงยึดมั่นในระบบส่งข้อความ iMessage ของตนเองเท่านั้น
ที่มา - The Verge, 9to5Mac |
# CD Projekt เผย The Witcher ภาคใหม่อาจมีมากกว่า 1 เกม, Cyberpunk วางแผนภาคเสริมแค่ภาคเดียว
CD Projekt แถลงผลประกอบการไตรมาส 2 ของปี 2022 มีสิ่งที่เกมเมอร์ควรรู้ดังนี้
Cyberpunk 2077 ภาคเสริม Phantom Liberty ที่เพิ่งเปิดตัว และจะวางขายปี 2023 ตอนนี้ยังเป็นภาคเสริมเดียวที่วางแผนเอาไว้
กำลังทีมงานส่วนใหญ่ในตอนนี้ทุ่มไปที่ Phantom Liberty เป็นหลัก ตามด้วย The Witcher ภาคใหม่ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม
The Witcher ภาคใหม่เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่ (new saga) ของ The Witcher และบริษัทกำลังพิจารณาจะทำเกมมากกว่า 1 เกม
The Witcher 3 next-gen หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Complete Edition จะเพิ่มเนื้อหาจากซีรีส์ Netflix ด้วย และตั้งเป้าออกไตรมาส 4/2022
ที่มา - CD Projekt, CD Projekt (PDF), Eurogamer (1), Eurogamer (2) |
# โซนี่เผย ไมโครซอฟท์เสนอต่อสัญญา Call of Duty บน PlayStation อีก 3 ปี ข้อเสนอไม่ดีพอ
Jim Ryan ซีอีโอของ PlayStation ออกมาเปิดปากพูดในประเด็นเรื่องอนาคตของ Call of Duty บนแพลตฟอร์ม PlayStation หลังไมโครซอฟท์ซื้อ Activision Blizzard ซึ่งเป็นแกนกลางของการถกเถียงเรื่องผูกขาดในหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก เช่น CMA ของสหราชอาณาจักร และ บราซิล
แถลงการณ์ของ Jim Ryan ออกมาตอบโต้ Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ที่เปิดเผยกับ The Verge ว่าเซ็นสัญญากับ PlayStation แล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 โดยขยายระยะเวลาที่ Call of Duty จะลงเครื่อง PlayStation ต่อไปอีกหลายปี (แต่ไม่ระบุตัวเลขจำนวนปี)
Ryan บอกว่าจริงๆ ไม่อยากพูดเรื่องสัญญาระหว่างเอกชนด้วยกัน แต่เมื่อ Spencer เปิดประเด็นก่อน เขาจึงอยากให้ข้อมูลอีกด้านว่า ไมโครซอฟท์เสนอต่อสัญญา 3 ปี นับจากสัญญาฉบับเดิมสิ้นสุดลง (คาดกันว่าสัญญาฉบับเดิมคือสิ้นสุดปี 2024) ซึ่งข้อเสนอนี้ไม่ดีพอในหลายมิติ (their proposal was inadequate on many levels) โดยเป้าหมายของโซนี่คือต้องการการันตีว่าเกมเมอร์ PlayStation จะได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดของ Call of Duty ต่อไป
ที่มา - GamesIndustry |
# AMD ปรับระบบเลขรุ่น Ryzen Mobile ใหม่ ใช้เลข 4 ตัวเหมือนเดิม แต่เลขตัวแรกบอกปีที่ออก
AMD ประกาศระบบเลขรุ่นของซีพียู Ryzen Mobile แบบใหม่ที่เริ่มใช้ในปี 2023 เป็นต้นไป ตัวแบรนด์ Ryzen 3,5,7,9 ยังเหมือนเดิม และตัวเลขรุ่นยังเป็นเลข 4 หลัก + ตัวอักษรห้อยท้ายเหมือนเดิม (เช่น 7640U ตามภาพ) แต่ตัวเลขแต่ละหลักมีความหมายชัดเจนและเป็นระบบมากขึ้น จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดคือเลขหลักแรกที่เป็นซีรีส์ และก่อนหน้านี้ไม่มีระบบมากนัก เปลี่ยนมาเป็นเลขอิงปีที่ออกขายแทน
หลักแรก ปีที่ออก 7 = 2023, 8 = 2024, 9 = 2025 (แต่ยังไม่บอกว่าถ้าเกินจากนั้นแล้วจะทำอย่างไร)
หลักที่สอง ระดับความพรีเมียมของซีพียู เช่น 3,4 = Ryzen 3, 5-6 = Ryzen 5
หลักที่สาม รุ่นของสถาปัตยกรรม Zen ที่ใช้ ใช้เลขตรงตัวเลยคือ 1 = Zen 1, 4 = Zen 4
หลักที่สี่ ระดับความพรีเมียมของฟีเจอร์ เป็นเลขย่อยของหลักที่สอง 0 = ระดับล่าง, 5 = ระดับบน
ตัวอักษร บอก form factor/TDP เช่น U = 15-28W, HS = 35W, HX = 55W, C = U แบบ Chromebook
การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มมีผลกับ Ryzen 7000 Mobile ที่จะออกในช่วงปลายปี 2022 ตัวอย่างการอ่านรหัสรุ่นแบบใหม่คือ
Ryzen 9 7945HX = 7 (ปี 2023), 9 (Ryzen 9), 4 (Zen 4), 5 (ฟีเจอร์ระดับบน), HX (55W)
Ryzen 3 7420U = 7 (ปี 2023), 4 (Ryzen 3), 2 (Zen 2), 0 (ฟีเจอร์ระดับล่าง), U (15-28W)
ที่มา - AMD, Tom's Hardware, Videocardz |
# AirPods 3 เพิ่มตัวเลือก เคสชาร์จด้วยสาย Lightning เท่านั้น ชาร์จไร้สายไม่ได้ ถูกลง 200 บาท
นอกจาก AirPods Pro 2 ที่เปิดตัวไปเมื่อคืนนี้ แอปเปิลยังอัพเดตรายละเอียดสินค้าหูฟังไร้สายรุ่นทั่วไป AirPods 3 ด้วย โดยเพิ่มตัวเลือก เป็นเคสชาร์จแบบใช้สาย Lightning เท่านั้น ไม่สามารถชาร์จแบบไร้สาย หรือใช้ MagSafe ได้ โดยมีราคาถูกลง 200 บาท
AirPods 3 เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยมีเฉพาะเคสที่ชาร์จได้ทั้งแบบไร้สายรองรับ MagSafe และใช้สาย Lightning ซึ่งต่อมา AirPods Pro รุ่นแรก ก็อัพเดตโดยเคสชาร์จรองรับ MagSafe ด้วยเช่นกัน การออกเคสชาร์จแบบใช้สาย Lightning ได้อย่างเดียว จึงอาจดูแปลกไปสักหน่อยสำหรับแอปเปิล
แอปเปิลยังเขียนคำแนะนำในหน้าสั่งซื้อ กรณีเลือกไม่ถูกว่าจะใช้เคสแบบไหนว่า ชาร์จเคสทั้งสองแบบใช้ Lightning ได้ แต่มีเพียงเคสชาร์จ MagSafe เท่านั้นที่ชาร์จด้วย MagSafe หรือชาร์จไร้สายอื่นได้
ราคาขายในร้านออนไลน์ของแอปเปิลสำหรับ AirPods Pro 3 รุ่นเคสชาร์จที่รองรับ MagSafe อยู่ที่ 6,990 บาท ส่วนเคสแบบ Lightning อยู่ที่ 6,790 บาท
ที่มา: The Verge |
# เฉพาะอเมริกา - iPhone 14 ไม่มีถาดใส่ซิม รองรับเฉพาะ eSIM เท่านั้น
ทิศทางการผลักดัน eSIM ของแอปเปิลเริ่มชัดเจนมากขึ้น โดย iPhone 14 ทุกรุ่นที่ขายในอเมริกา จะไม่มีถาดใส่ซิมในเครื่อง การใช้งานทำได้เฉพาะ eSIM เท่านั้น โดยรองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 เลขหมาย
ส่วน iPhone 14 ที่ขายในประเทศอื่นรวมทั้งไทย ยังมีถาดใส่ nano-SIM 1 ช่อง และรองรับการเปิดใช้ eSIM คู่ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ iPhone 13 แล้ว
แอปเปิลเริ่มรองรับ eSIM ตั้งแต่ iPhone XS และ XR ในปี 2018 รวมทั้งขยายการใช้งานใน Apple Watch กับ iPad ด้วย ตอนนี้ปัญหาจึงอาจเกิดกับผู้ใช้งานอเมริกา ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้วอยากซื้อซิมจากผู้ให้บริการประเทศนั้น ๆ เนื่องจากต้องหาเฉพาะผู้ให้บริการที่รองรับ eSIM
ที่มา: Engadget |
# Twitter ระบุฟีเจอร์แก้ไขทวีต นอกจากให้แก้ไขใน 30 นาที ยังแก้ได้เพียง 5 ครั้งเท่านั้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Twitter ประกาศเพิ่มฟีเจอร์แก้ไขทวีต ให้เฉพาะสมาชิก Twitter Blue โดยสามารถแก้ไขข้อความที่ทวีตได้ภายใน 30 นาที อย่างไรก็ตามมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
โดย TechCrunch ตรวจสอบและยืนยันกับทาง Twitter ว่านอกจากการแก้ไขข้อความจะต้องทำใน 30 นาทีแล้ว ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขข้อความได้ 5 ครั้งเท่านั้น ภายในระยะเวลาดังกล่าว ซึ่ง 5 ครั้ง ก็ฟังดูเพียงพอสำหรับกรณีสะกดผิด ลืมแนบรูปหรือลิงก์ แต่ Twitter ให้เหตุผลที่ต้องจำกัดเพื่อป้องกันการก่อกวนจากการใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว ซึ่ง Twitter จะตรวจสอบดูพฤติกรรมใช้งาน และอาจปรับเงื่อนไขนี้ในอนาคต
คุณสมบัติแก้ไขข้อความนี้ จะเริ่มทดสอบใช้งานเฉพาะลูกค้า Twitter Blue ในนิวซีแลนด์ก่อน แล้วเตรียมขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ต่อไป
ที่มา: TechCrunch |
# Apple ประกาศ iOS 16 และ watchOS 9 จะออกอัพเดต 12 กันยายนนี้, iPadOS 16 มาตุลาคม
แอปเปิลประกาศรายละเอียดการออกอัพเดตสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ของระบบปฏิบัติการ iOS 16 ใน iPhone โดยจะอัพเดตได้ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน เป็นต้นไป (ไม่ระบุเวลา) รวมทั้ง watchOS 9 ระบบปฏิบัติการของ Apple Watch
เพิ่มเติม: สรุป iPhone, iPad, Mac, Apple Watch ใครได้ไปต่อกับ OS เวอร์ชันใหม่ปีนี้
iOS 16 มีฟีเจอร์เด่นคือล็อกสกรีนที่ปรับแต่งรายละเอียดได้ และ widget แสดงข้อมูลรูปแบบใหม่ ส่วน watchOS 9 เพิ่มฟีเจอร์การออกกำลังกาย โหมดการทำงาน Low Power และเก็บประวัติ AFib
ส่วน iPadOS 16 ของ iPad และ macOS Ventura ของ Mac แอปเปิลยังไม่ได้กำหนดวัน แต่บอกว่าอัพเดตจะออกมาในเดือนตุลาคม
ที่มา: MacRumors [1], [2] |
# Apple ปรับไลน์สินค้า iPhone - เลิกขาย iPhone 11 และ iPhone 12 mini
แอปเปิลปรับไลน์สินค้า iPhone หลังเปิดตัว iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max โดยยกเลิกการขายบางรุ่น และปรับราคาในรุ่นเก่าที่ยังขายอยู่
iPhone รุ่นที่แอปเปิลเลิกขายผ่านช่องทางออนไลน์แล้วคือ iPhone 11 และ iPhone 12 mini แต่ยังอาจหาซื้อได้ผ่านตัวแทนจำหน่าย ที่น่าสนใจคือแม้ iPhone 14 จะเลิกขายรุ่น mini ที่หน้าจอขนาดเล็กแล้ว แต่แอปเปิลยังคงมี iPhone 13 mini ขายต่อไปเป็นทางเลือก
ราคาขายที่ปรับใหม่ของ iPhone รุ่นเก่าและรุ่นใหม่เป็นดังนี้
iPhone SE เริ่มต้น 17,900 บาท (64GB) เพิ่มขึ้นจากราคาเปิดตัวเมื่อต้นปี
iPhone 12 เริ่มต้น 24,900 บาท (64GB) เดิม 25,900 บาท
iPhone 13 mini เริ่มต้น 24,900 บาท (128GB) เดิม 25,900 บาท
iPhone 13 เริ่มต้น 29,900 บาท (128GB) ราคาเท่ากับตอนเปิดตัว
iPhone 14 เริ่มต้น 32,900 บาท (128GB)
iPhone 14 Plus เริ่มต้น 37,900 บาท (128GB)
iPhone 14 Pro เริ่มต้น 41,900 บาท (128GB)
iPhone 14 Pro Max เริ่มต้น 44,900 บาท (128GB)
มีข้อสังเกตว่าราคา iPhone รุ่นเก่าปรับลงไม่มาก หรือกรณีของ iPhone SE นั้น ปรับเพิ่มขึ้นเสียอีก (เท่าที่ตรวจสอบ ราคาผ่านตัวแทนจำหน่ายอาจต่างออกไป) ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับราคาไทย iPhone 14 ที่แพงขึ้น
ที่มา: MacRumors |
# AppleCare+ ปรับเงื่อนไขคุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุ เป็นไม่จำกัดจำนวนครั้ง
แอปเปิลปรับปรุงเงื่อนไขแผนการรับประกันเพิ่มเติม AppleCare+ หลังการเปิดตัว iPhone 14 และ iPhone 14 Pro โดยสำหรับ iPhone เปลี่ยนเป็น คุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุไม่จำกัดจำนวนครั้ง จากเดิมกำหนดไว้ 2 ครั้งต่อปี
ทั้งนี้ในความเสียหายแต่ละครั้ง แอปเปิลกำหนดค่าธรรมเนียมการให้บริการเพิ่มเติมด้วย โดยหากเป็นหน้าจอหรือกระจกด้านหลังเครื่อง อยู่ที่ 1,000 บาท และ 3,300 บาท สำหรับความเสียหายอื่นจากอุบัติเหตุ
ราคา AppleCare+ ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นของ iPhone เริ่มต้นที่ 6,490 บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 2 ปี สำหรับ iPhone 14 สูงสุดที่ 8,290 บาท สำหรับ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max
ทั้งนี้เงื่อนไขการคุ้มครองความเสียหายแบบไม่จำกัดจำนวนครั้งของ AppleCare+ ยังขยายไปยัง Mac, iPad และ Apple Watch ด้วย
อัพเดต: การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับลูกค้า AppleCare+ ปัจจุบันด้วย
ที่มา: MacRumors |
# Apple เลิกขาย Apple Watch Edition และ Apple Watch Series 3 แล้ว
หลังการเปิดตัวของ Apple Watch ทั้ง 3 รุ่นใหม่คือ Apple Watch Series 8, Apple Watch SE รุ่นใหม่ และ Apple Watch Ultra แอปเปิลก็ยกเลิกการขาย Apple Watch รุ่นเก่าด้วยเช่นกัน
Apple Watch ที่หยุดขายผ่านช่องทางออนไลน์ของแอปเปิลได้แก่ Apple Watch Series 3 ซึ่งขายมาตั้งแต่ปี 2017 โดยแอปเปิลวางตำแหน่งเป็นรุ่นราคาถูกที่สุดเริ่มต้นที่ 6,900 บาท ส่วนอีกรุ่นคือ Apple Watch Edition ที่เป็นรุ่นย่อยของ Apple Watch รุ่นหลักแต่ละปี ตัวเรือนใช้วัสดุไทเทเนียม แอปเปิลก็หยุดการขายเช่นเดียวกัน
Apple Watch Edition เป็นไลน์สินค้าของ Apple Watch ที่อยู่คู่มาตั้งแต่ Apple Watch รุ่นแรกเมื่อครั้งเปิดตัว เพื่อให้เป็นสินค้าแฟชั่นหรูหรา มีราคาสูงหลักแสนบาท ในตอนนั้นมีรุ่นที่ใช้ตัวเรือนเคลือบทองคำ 18 กะรัต ต่อมาปรับเป็นเซรามิกด้วยราคาที่ลดลง จากนั้นจึงใช้ไทเทเนียมจนถึง Apple Watch Series 7
Apple Watch รุ่นที่ตัวเรือนเป็นไทเทเนียมตอนนี้มีเฉพาะ Apple Watch Ultra ส่วนรุ่นที่เน้นความหรูหรายังมี Apple Watch Hermès สำหรับ Series 8 โดยรุ่นใหม่ได้เพิ่มตัวเลือกสายแบบ H Diagonal เข้ามา
ที่มา: MacRumors [1], [2] |
# ขึ้นสู่ Tier-1 ครั้งแรก - iPhone 14 ประเทศไทย วางจำหน่ายพร้อมอเมริกา
ประเด็นหนึ่งที่พูดถึงกันมานานของการขาย iPhone ในประเทศไทย คือสินค้าเริ่มวางขายช้ากว่าหลายประเทศ ซึ่งแอปเปิลจะเริ่มเปิดจองและส่งมอบสินค้าเป็นกลุ่ม ๆ ประเทศ ไล่ไปเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งบางครั้งไทยก็อยู่ในกลุ่มที่ 3 หรือไกลกว่านั้น แม้ไทยมี Apple Store สองสาขาในประเทศก็ตาม
ตัวอย่างเช่น iPhone 12 ไทยเริ่มขายช้ากว่าอเมริกา 1 เดือน ส่วน iPhone 13 เมื่อปีที่แล้วลดลงมาช้ากว่า 2 สัปดาห์
โดยในประกาศของ iPhone 14 นั้น ประเทศไทยถูกระบุว่าเปิดให้จองและส่งมอบ iPhone เป็นประเทศกลุ่มแรก หรือที่เรียกกันว่าเทียร์ 1 พร้อมกับในอเมริกา นั่นคือเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน เวลา 19.00น. เป็นต้นไป เริ่มจัดส่งสินค้าตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน ยกเว้น iPhone 14 Plus ที่เริ่มจัดส่ง 7 ตุลาคม
รายชื่อประเทศที่แอปเปิลระบุว่าอยู่ในเทียร์ 1 ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น ซาอุดีอาระเบีย สิงคโปร์ สเปน ไทย ยูเออี อังกฤษ อเมริกา และอีก 30 ประเทศ
ที่มา: แอปเปิล |
# แอปเปิลเปิดตัวชิป A16 Bionic ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตรตัวแรก
แอปเปิลเปิดตัวชิป A16 Bionic ใช้งานกับ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เป็นชิปตัวแรกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีการผลิต 4 นาโนเมตร
ภายในชิปมี ซีพียูประสิทธิภาพสูง 2 คอร์ ซีพียูประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ส่วนกราฟิก 5 คอร์ และหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์อีก 16 คอร์ เฉพาะหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์สามารถคำนวณได้ 17 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที โดยรวมแล้วส่วนประกอบไม่ต่างจาก A15 มากนัก แต่แอปเปิลก็ชูประเด็นประหยัดพลังงานว่าชิปใหม่นี้ประสิทธิภาพพลังงานดีกว่าเดิมมาก และแบนวิดท์หน่วยความจำก็สูงขึ้นถึง 50% และตัวคอร์ประสิทธิภาพสูงก็กินพลังงานน้อยลง 20%
พลังประมวลผลในชิป A16 ถูกใช้ในการประมวลผลภาพอย่างหนัก แอปเปิลระบุว่าการถ่ายภาพแต่ละภาพจะถูกประมวลผลด้วยคำสั่งถึง 4 ล้านล้านคำสั่ง
ที่มา - Apple |
# ราคาไทย iPhone 14 มาแล้ว แพงขึ้นทุกรุ่นจากปีก่อน 3-4 พันบาท ตามค่าเงินดอลลาร์ สูงสุด 66,900 บาท
แอปเปิลประเทศไทยประกาศราคาขายสินค้าตระกูล iPhone 14 ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยราคานี้เป็นราคาเครื่องเปล่าของการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บแอปเปิล หากซื้อกับผู้ให้บริการเครือข่ายอาจมีราคาที่แตกต่างออกไป
รายละเอียดราคาทั้งหมดเป็นดังนี้
iPhone 14 เริ่มต้น 128GB 32,900 บาท, 256GB 36,900 บาท และ 512GB 45,900 บาท
iPhone 14 Plus เริ่มต้น 128GB 37,900 บาท, 256GB 41,900 บาท และ 512GB 50,900 บาท
iPhone 14 Pro เริ่มต้น 128GB 41,900 บาท, 256GB 45,900 บาท, 512GB 54,900 บาท และ 1TB 63,900 บาท
iPhone 14 Pro Max เริ่มต้น 128GB 44,900 บาท, 256GB 48,900 บาท, 512GB 57,900 บาท และ 1TB 66,900 บาท
หากเทียบกับราคาไทยของ iPhone 13 ตอนเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วในรุ่นเดียวกัน พบว่าราคาปรับเพิ่มขึ้นมา 3,000-4,000 บาท ขึ้นอยู่กับความจุ และทำให้ iPhone รุ่นที่ราคาแพงสุดคือ iPhone 14 Pro Max ความจุ 1TB ทำสถิติราคาใหม่ที่ 66,900 บาท ถึงแม้ราคาเปิดตัวในอเมริกาหน่วยเงินดอลลาร์จะเท่าเดิม สาเหตุหลักจึงน่าจะมาจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาทช่วงปีที่ผ่านมา
iPhone 14 ในประเทศไทย เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน เวลา 19.00น. เป็นต้นไป และเริ่มส่งมอบสินค้าตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน ยกเว้น iPhone 14 Plus เริ่มส่งมอบ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยวางขายพร้อมกับในอเมริกา
ที่มา: แอปเปิล [1], [2] |
# Apple เปิดตัว AirPods Pro 2 ตัดเสียงรบกวนดีกว่าเดิม 2 เท่า หาเคสแบบ AirTag ได้แล้ว
Apple เปิดตัวหูฟังไร้สาย AirPods Pro 2 ที่เปลี่ยนมาใช้ชิป H2 รวมถึงมีระบบ ANC ที่สามารถตัดเสียงรบกวนออกได้เป็น 2 เท่าของ AirPods Pro รุ่นแรกและยังคงมีระบบ Spatial Audio ที่ทำให้ได้ยินเสียงรอบทิศทาง โดยสามารถใช้กล้อง TrueDepth สแกนและสร้างโปรไฟล์สำหรับ Spatial Audio ได้ด้วย
สิ่งที่เพิ่มมาใหม่อีกอย่าง คือ Adaptive Transparency ที่ทำให้ผู้ใช้ยังคงสามารถได้ยินเสียงรอบตัวแต่จะตัดเสียงรบกวนให้อัตโนมัติ เช่น เสียงก่อสร้าง รวมถึงผู้ใช้สามารถใช้ Touch Control โดยการลากขึ้นลงเพื่อเพิ่มหรือลดเสียงจากแต่เดิมที่ต้องกดปุ่มอย่างเดียว
แบตเตอรี่ AirPods Pro สามารถอยู่ได้ถึง 6 ชั่วโมงสำหรับการชาร์จครั้งเดียว และอยู่ได้ 30 ชั่วโมงเมื่อรวมแบตเตอรี่จากเคส และ AirPods Pro สามารถชาร์จได้ด้วยแท่นชาร์จ Apple Watch และหาเคสได้แล้วอย่าง AirTag วางขายราคา 8,990 บาท ยังไม่มีกำหนดจำหน่าย |
# PlayStation 5 เพิ่มความละเอียด 1440p และการเสิร์ช YouTube ด้วยเสียงในอัพเดทใหม่
PlayStation เปิดเผยรายละเอียดการอัพเดทซอฟต์แวร์เครื่อง PlayStation 5 รอบล่าสุดว่า ตัวเครื่องจะเพิ่มทางเลือกความละเอียด 1440p ให้เมื่อใช้งาน พร้อมเปิดให้ผู้ใช้สร้าง Gamelists ของตัวเองเพื่อบริหารจัดการ หรือค้นหาเกมที่ตัวเองชอบได้ง่ายขึ้น โดยจะสร้างได้ 15 Gamelists และใส่เกมได้สูงสุด 100 เกม
นอกจากนี้ตัวเครื่อง PlayStation 5 ยังเปิดให้ผู้ใช้ขอ Share Screen จากสมาชิกใน Party เพื่อร่วมสนุกในการเล่นเกมไปด้วยกัน และเข้าถึงหน้าโปรไฟล์ของเพื่อน รวมถึงได้รับการแจ้งเตือนเมื่อถูกชวนให้เข้ามาเล่นเกมด้วยกันได้เร็วกว่าเดิมผ่าน Party Chat
ทั้งสามารถเปรียบเทียบระบบเสียง 3D กับสเตอริโอได้ในหน้าจอเดียวกัน รวมถึงการสั่งค้นหาเนื้อหาต่าง ๆ บน YouTube ผ่านระบบเสียงได้ แต่ยังรองรับแค่ภาษาอังกฤษ และใช้ได้กับเจ้าของเครื่อง PlayStation 5 ที่ลงทะเบียนในสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรเท่านั้น
อ้างอิง // PlayStation |
# เปิดตัว Apple Watch Ultra สมาร์ทวอทช์สำหรับสายเอ็กซ์ตรีม ราคา 31,900 บาท
Apple เปิดตัว Apple Watch Ultra สมาร์ทวอทช์เน้นการใช้งานที่สมบุกสมบันเอ็กซ์ตรีมมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้านี้ โดยมีหน้าจอใหญ่กว่าเดิม 49 มม. หน้าจอผลึกแซฟไฟร์แบบแบนเรียบ ความสว่างสูงสุด 2,000 nits
ส่วนการออกแบบ Apple Watch Ultra เพิ่มปุ่มใหม่ขนาดใหญ่ด้านซ้าย ใช้สีส้มสากลที่เห็นเด่นชัด ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าเพื่อการใช้งานที่ต้องการ เช่น ออกกำลังกาย, เรียกเข็มทิศ หรืออื่น ๆ
เนื่องจากเป็นการออกแบบเพื่อการใช้งานในสภาวะที่ไม่ปกติ Apple Watch Ultra จึงเพิ่มไมโครโฟนเป็น 3 ตัว ทำให้สนทนาได้ชัดเจนแม้สภาพแวดล้อมจะมีเสียงรบกวนจากลมแรงก็ตาม
นอกจากตัวเรือน สายก็ออกแบบใหม่เช่นกัน ทั้งสาย Trail Loop ที่ทนทานกว่าเดิม, Alpine Loop ที่ทำตัวล็อกแบบใหม่แน่นกระชับขึ้น และ Ocean Band สายทำจากยางฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์เหมาะกับใส่เล่นกีฬาทางน้ำ
อีกจุดขายของกีฬาทางน้ำ คือการดำน้ำสกูบาที่ได้ถึงระดับความลึก 40 เมตร ทนน้ำที่ระดับ WR100 และได้รับการรับรองมาตรฐาน EN13319 ซึ่งเป็นมาตรฐานวัดความลึกของนักดำน้ำระดับสากล
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ GPS แบบสองคลื่นความถี่คือ L1 ค่าปกติ และเพิ่ม L5 เข้ามา ทำให้ได้พิกัดและระยะทางที่แม่นยำยิ่งกว่าเดิม ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 60 ชั่วโมงบน Low Power Mode และมีหน้าปัดใหม่เวย์ไฟน์เดอร์ที่มีกลไกหน้าปัดจุดอ้างอิงเข็มทิศเพิ่มเติมมา เฉพาะใน Apple Watch Ultra
Apple Watch Ultra ราคาขายอยู่ที่ 31,900 บาท ในประเทศไทยจะเปิดให้สั่งจองเร็ว ๆ นี้ ส่วนในอเมริกาเปิดให้สั่งจองตั้งแต่วันนี้ และเริ่มส่งมอบสินค้า 23 กันยายน 2022 เป็นต้นไป
ที่มา: แอปเปิล |
# เปิดตัว iPhone 14 และ iPhone 14 Plus เปลี่ยนไม่เยอะ ชิปเดิม เพิ่มแค่ระบบ SOS
Apple เปิดตัว iPhone 14 รุ่นล่าง แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักตามข่าวลือ ชิปยังเป็น A15 Bionic ตัวเดิม เพิ่มเติมคือเพิ่ม GPU เป็น 5 คอร์ มีการปรับขนาดไซส์ของรุ่นจอใหญ่ โดยกลับไปเรียกเป็นรุ่น Plus (ไม่ Max แล้ว) เป็น 6.7 นิ้ว ส่วนจอเล็ก 6.1 นิ้ว
เรื่องกล้อง ยังเหมือนเดิมแต่ Apple บอกว่ามีการปรับรูรับแสง และ อัลกอริทึมให้สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น โดยกล้องหลังดีขึ้น 49% (ไม่บอกเทีบบกับรุ่นไหน) ส่วนกล้องหน้า 38% และโฟกัสในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นจากกล้อง True Depth ส่วนวิดีโอก็ได้โหมดใหม่ Action Mode ลดการสั่นขณะถ่ายลง และก็ยังได้ฟีเจอร์ Crash Detection แบบ Apple Watch 8 ด้วย
ของใหม่คือ Emergency SoS via Satellite กรณีที่อยู่ที่ห่างไกล ไม่มีเสาสัญญาณ สามารถขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียม ใช้ได้เฉพาะสหรัฐและแคนาดาก่อน โดยเปิดใช้เดือนพฤศจิกายนนี้ และฟรีค่าบริการ 2 ปีแรก
iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มี 5 สีคือ Midnight, Starlight, สีฟ้า, สีม่วงและ Product Red ราคาเริ่ม 32,900 บาท แพงสุด 45,900 บาท พรีออเดอร์ 9 กันยายนนี้ เวลา 19.00 น. โดย iPhone 14 เริ่มวางจำหน่าย 16 กันยายน และ iPhone 14 Plus เริ่มวางจำหน่าย 7 ตุลาคม |
# Apple Watch SE รุ่นที่สอง ใช้ชิปรุ่นเดียวกับ Watch 8 ราคาเริ่ม 9,900 บาท
แอปเปิลเปิดตัวนาฬิกา Apple Watch SE รุ่นที่สอง อัพเกรดชิปภายใน SiP 8 รุ่นเดียวกับ Apple Watch 8 ที่เปิดตัวมาพร้อมกัน ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น 20% เทียบกับ SE รุ่นก่อนหน้านี้ พร้อมกับฟีเจอร์ตรวจจับอุบัติเหตุรถยนต์
Apple Watch SE รุ่นที่สองมี 3 สี คือ Midnight, Starlight, และ Silver รุ่นนี้ตัวถังด้านหลังจะสีตรงกัน
เปิดให้สั่งในสหรัฐฯ แล้ว และเริ่มวางขายจริง 16 กันยายนนี้ ราคาเริ่มต้น 249 ดอลลาร์สำหรับรุ่นธรรมดาและ 299 สำหรับรุ่นเซลลูลาร์ เทียบกับ SE รุ่นแรกที่เริ่มต้น 279 ดอลลาร์แล้วถูกลงพอสมควร แต่ราคาในไทยเริ่มต้น 9,900 บาทสำหรับรุ่น 40 มิลลิเมตร และ 10,900 บาทสำหรับรุ่น 44 มิลลิเมตร
ที่มา - TechCrunch, MacRumors |
# Apple Watch Series 8 เพิ่มฟีเจอร์นับวันไข่ตก, ตรวจจับอุบัติเหตุรถชน และ Low Power Mode
แอปเปิลเปิดตัว Apple Watch Series 8 รุ่นใหม่ประจำปี มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง ทั้งเรื่องการเก็บข้อมูลสุขภาพ ตรวจจับความปลอดภัย และการเชื่อมต่อที่นานขึ้น
ฟีเจอร์แรกคือการนับวันไข่ตกสำหรับผู้หญิง ที่ขยายจากฟีเจอร์การนับประจำเดือนที่มีอยู่แล้ว อาศัยข้อมูลเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิร่างกายที่ละเอียดมากขึ้น โดยจะวัดค่าอุณหภูมิทุก 5 วินาทีตอนกลางคืน ด้วยสเกลละเอียดระดับ 0.1 องศา
คุณสมบัติต่อมา Apple Watch สามารถตรวจจับการเกิดอุบัติเหตุรถชน อาศัยข้อมูลเซ็นเซอร์ใหม่ที่วัดการเคลื่อนไหว 3 แกน รวมกับเซ็นเซอร์วัดแรงกระแทก และส่งการเตือน SOS ไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉิน
สุดท้ายคือคุณสมบัติ Low Power Mode ที่ทำให้ใช้งาน Apple Watch ได้ยาวนานขึ้นสูงสุด 36 ชั่วโมง โดยลดการทำงานของฟีเจอร์บางอย่าง
นอกจากนี้ Apple Watch Series 8 ยังรองรับการเชื่อมต่อโรมมิ่งต่างประเทศ และรองรับการชาร์จเร็วอีกด้วย
Apple Watch Series 8 ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท สำหรับรุ่น GPS และ 19,900 บาท สำหรับรุ่น GPS+Cellular ในอเมริกาเปิดให้สั่งจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สินค้าเริ่มส่งมอบ 16 กันยายน 2022 เป็นต้นไป ส่วนประเทศไทยยังไม่มีกำหนด
ที่มา: Apple Event Far Out |
# NTT ส่งข้อมูลระดับ 1.2 เทราบิตต่อวินาทีต่อช่องสัญญาณในสายไฟเบอร์ได้สำเร็จ
NTT ประกาศความสำเร็จในการส่งข้อมูลระดับ 1.2 เทราบิตต่อวินาทีต่อช่องสัญญาณ (wavelength) ได้สำเร็จ นับเป็นความเร็ว 1.5 เท่าตัวจากเดิมที่เคยมีงานวิจัยส่งข้อมูลระดับ 800 กิกะบิตต่อวินาที กระบวนการส่งสัญญาณจะเข้ารหัส (modulate) แบบ 64QAM ที่อัตรา 140 giga baud
ในอุตสาหกรรมทุกวันนี้ยังใช้งานที่แบนวิดท์ระดับ 100 กิกะบิตต่อวินาทีต่อช่องสัญญาณ
รายงานของ NTT ไม่บอกรายละเอียดของความสำเร็จนัก เช่น ระยะทางส่งข้อมูลที่ใช้งานได้ แต่ระบุว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการส่งข้อมูลที่แบนวิดท์ต่ำกว่านี้เพื่อให้ส่งข้อมูลได้ไกลขึ้น
ที่มา - NTT |
# ก.ล.ต. กล่าวโทษ Zipmex และซีอีโอ ต่อตำรวจ ฐานไม่ส่งข้อมูลผู้เสียหายจากกรณี ZipUp+
สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) และ นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ซีอีโอ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ก.ล.ต. ที่สั่งให้แจ้งรายละเอียดของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากกรณี ZipUp+
สำนักงาน ก.ล.ต. ระบุว่าสั่งให้ Zipmex และนายเอกลาภ นำส่งข้อมูลเกี่ยวกับกิจการและการดำเนินงาน เช่น ข้อมูลกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ (wallet) ที่ใช้เก็บทรัพย์สินของลูกค้า และรายละเอียดเกี่ยวกับรายการโอนหรือถอนสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ Zipmex และนายเอกลาภมีพฤติการณ์ไม่นำส่งข้อมูลดังกล่าวแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ภายในเวลาที่กำหนด และเมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ได้นำส่งข้อมูลเพียงบางส่วน ไม่ครบถ้วน รวมทั้งมีพฤติการณ์ประวิงเวลาไม่นำส่งข้อมูลตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ร้องขอ โดยที่ไม่มีเหตุอันควรหรือข้ออ้างไม่สมเหตุผล
พฤติการณ์นี้ทำให้สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวโทษต่อกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (บช.สอท.) เพื่อให้ บช.สอท. ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นความผิดและมีระวางโทษตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นความผิดอาญาต่อไป
ที่มา - สำนักงาน ก.ล.ต. |
# BYD เตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระยอง หวังเป็นแหล่งผลิตในอาเซียน รัฐบาลไทยหนุน
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BoI) ระบุว่า บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน BYD จะเข้ามาลงทุนเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในจังหวัดระยองด้วยเงินมูลค่า 17.9 พันล้านบาท โดยซื้อที่ดิน 700 ไร่จากนิคมอุตสาหกรรม WHA ในประเทศไทย ซึ่ง BYD หวังจะให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
BoI ได้อนุมัติการลงทุนของ BYD แล้วดังนั้นการลงทุนจะต้องเริ่มขึ้นภายใน 3 ปี ส่วนการแถลงข่าวของ WHA และ Liu Xeuliang ผู้จัดการฝั่งเอเชียแปซิฟิกของ BYD จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
BYD เพิ่งร่วมมือกับบริษัทไทย Rever Automotive เป็นตัวแทนเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตจากจีน และมีแผนขายรถยนต์รุ่น Dolphin ในไทยภายในสิ้นปีนี้
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากเงินอุดหนุนการผลิตจากรัฐบาลซึ่งอาจมากถึง 150,000 ต่อคันซึ่งจะทำให้บริษัทตั้งราคาได้ถูกลง และเนื่องจาก BYD เป็นบริษัทสัญชาติจีนก็จะได้ประโยชน์จากข้อตกลงอาเซียน-จีน ตั้งแต่ปี 2005 ทำให้สามารถนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าโดยไม่เสียภาษี
ก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยได้ลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจาก 8% เหลือ 2% เพื่อให้ผู้ผลิตเข้ามาลงทุนในไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ไทยกลายเป็นแหล่งรถยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน รวมถึงมีสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าถึง 30% จากยานพาหนะที่ขายได้ทั้งหมดในประเทศภายในปี 2030
ที่มา: Nikkei Asia |
# PowerToys ออกเวอร์ชัน 0.62 เพิ่มไม้บรรทัดวัดระยะพิกเซลบนจอ, ตัวอ่านข้อความในรูปภาพ
ไมโครซอฟท์ออก PowerToys เวอร์ชัน 0.62 มีของใหม่เป็นเครื่องมือใหม่ 3 อย่าง
Screen Ruler (Shift+Win+M) ไม้บรรทัดวัดระยะพิกเซลของจุดต่างๆ บนจอ โดยวัดระยะจากขอบพิกเซลถึงขอบอีกด้านให้อัตโนมัติ (ดูจากความต่างสีบนจอ ปรับแต่งเองได้) มีโหมดวัดได้ทั้งแนวนอน แนวตั้ง และทั้งสองแกน
Text Extractor (Shift+Win+T) เครื่องมือ OCR แปลงข้อความในภาพเป็น text ลงใน clipboard นำไปใช้ต่อได้เลย
Quick Accent ใช้พิมพ์ตัว accent ในภาษายุโรปบางภาษาได้ง่ายขึ้น โดยกดปุ่มตัวอักษรที่ต้องการค้างไว้ จะมีรายการตัวอักษร accent ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ
นอกจากนี้เครื่องมืออื่นๆ ในชุดก็มีการแก้บั๊ก หรือปรับปรุงย่อยๆ อีกหลายอย่าง อ่านรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงได้จาก PowerToys GitHub
ที่มา - Neowin |
# รถไฟใต้ดินนิวยอร์กจะยกเลิกเครื่องขายบัตร MetroCard ปีหน้า พร้อมเดินหน้าระบบจ่ายเงิน Contactless เต็มรูปแบบ
Metropolitan Transportation Authority หรือ MTA ผู้ดูแลรถไฟใต้ดินนิวยอร์กเผยผ่านทวิตเตอร์ว่าทางหน่วยงานจะยกเลิก MetroCard Machine เร็ว ๆ นี้ และแทนที่ด้วยเครื่องแบบใหม่ที่เรียกว่า OMNY
MetroCard คือบัตรแถบแม่เหล็กที่ใช้รูดเข้ารถไฟใต้ดินนิวยอร์ก สามารถซื้อหรือเติมเงินได้ผ่านเครื่อง MetroCard Machine โดยทางรถไฟนิวยอร์กให้บริการเครื่องนี้มาตั้งแต่ปี 1999
ปัจจุบัน MTA กำลังดำเนินการปรับปรุงรถไฟใต้ดินให้รองรับบัตรเครดิต เดบิต และพรีเพดแบบ Contactless รวมถึงอุปกรณ์พกพาที่รองรับ ซึ่งระบบใหม่เรียกว่า OMNY เริ่มใช้ได้ตั้งแต่ต้นปี 2021 และจะนำเครื่องขายบัตร OMNY มาแทน ตัวเครื่องแบบใหม่จะไม่ได้สำคัญเท่ากับ MetroCard Machine แล้ว เพราะผู้โดยสารใช้ Contactless แตะเข้ารถไฟได้เลย แต่ยังต้องมีไว้ให้บริการขายตั๋วราคาพิเศษหรือตั๋วค่าโดยสารแบบลดหย่อนสำหรับผู้ใช้งานบางประเภท
ตามแผนของ Cubic Transportation Systems ผู้ดูแลระบบ MetroCard และ OMNY คือทางบริษัทจะเริ่มนำเครื่อง OMNY เข้ามาทดแทนเครื่อง MetroCard ในปีหน้า และจะแทนที่เครื่องทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2023
ที่มา - Curbed, NBC New York, Travel Noire
MTA MetroCard ภาพจาก Mr.TinMD/Flickr |
# Google Docs เพิ่มการพิมพ์ @ ตามด้วยชื่อสถานที่ เพื่อแทรกลิงก์ไป Google Maps
Google Docs ยังเดินหน้าเพิ่มฟีเจอร์ให้การพิมพ์ @ เพื่อแท็กสิ่งต่างๆ (ล่าสุดคือ @ เพื่อพิมพ์ Emoji) ล่าสุดเราสามารถพิมพ์ @ ตามด้วยชื่อสถานที่ เพื่อแทรกลิงก์พิกัดสถานที่จาก Google Maps ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ Google Docs รองรับการแทรกลิงก์แผนที่สถานที่มาสักระยะแล้วผ่านเมนู Insert (นอกจากนี้ยังสามารถแทรกปฏิทินนัดหมาย หรือไฟล์ในระบบ Google Drive โดยอยู่ในหมวดชื่อ Smart chips) สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือเราสามารถใช้ @ ในการแทรกสถานที่ลงในเอกสารได้ด้วย
ผมลองกับบัญชี Google Docs ของตัวเองก็พบว่าใช้งานได้แล้ว
ที่มา - Google Workspace via Android Police |
# เซี่ยงไฮ้วางแผนกระตุ้นการผลิตรถยนต์ไร้คนขับ หวังรถอัตโนมัติบางส่วนอย่างน้อย 70% ในปี 2025
เทศบาลนครเมืองเซี่ยงไฮ้มองว่าเทคโนโลยี intelligence cars หรือรถยนต์ไร้คนขับเป็นอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพและเติบโตสูง และมีแผนตั้งเป้าว่าภายในปี 2025 จะผลิต รถยนต์ไร้คนขับให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 5 แสนล้านหยวน (ราว 7.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) รวมถึงในปี 2025 จะผลิตรถยนต์ไร้คนขับภายในเมืองให้ได้ 70% ซึ่งนับเป็นเกือบ 2 ล้านคัน
เป้าหมายนี้ไม่ได้บังคับว่าต้องผลิตรถไร้คนขับเต็มรูปแบบจำนวนมาก แต่ระบุว่าอย่างน้อย 70% ของรถยนต์ที่ผลิตภายในปี 2025 ควรจะเป็นรถยนต์ที่มีระบบไร้คนขับระดับ 2 หรือ 3 ที่มีความสามารถในขับอัตโนมัติบางส่วน พร้อมกับวางเป้าว่าจะมีการใช้งานรถอัตโนมัติระดับ 4 ที่รถควบคุมตัวเองโดยคนควบคุมไม่ต้องพร้อมช่วยเหลือในบางพื้นที่และการใช้งานบางกรณี (ระดับ 2 และ 2+ เป็นระบบที่จำเป็นต้องมีคนขับพร้อมที่จะควบคุมรถตลอดเวลา, ระดับ 3 คือรถยนต์คนขับไม่จำเป็นต้องควบคุมพวงมาลัยหรือแบบ “hands-off” ส่วน 4 เป็นแบบ “eyes-off” ที่ไม่จำเป็นต้องมีคนขับ) ในปัจจุบัน รถยนต์อัตโนมัติในเซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 2 หรือ 2+ และมูลค่าของรถยนต์ไร้คนขับมีตอนนี้ยังน้อยกว่า 1 แสนล้านหยวน
รัฐบาลเมืองเซี่ยงไฮ้กระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีและบริษัทวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ไร้คนขับซึ่งรวมถึงชิป อัลกอริธึม และระบบควบคุมภายในรถ โดยรัฐบาลสัญญาว่าจะสนับสนุนการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับโดยการจัดหากองทุนและเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง
เซี่ยงไฮ้เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตรถยนต์ที่สำคัญอย่างโรงงาน Gigafactory 3 ของ Tesla และเป็นที่ตั้งโรงงานความร่วมมือระหว่าง General Motors และ SAIC Motor ด้วย
ที่มา: South China Morning Post |
# [ไม่ยืนยัน] Ubisoft เตรียมเปิดตัว Assassin's Creed ใหม่ 4 ภาครวด มีภาคเหตุการณ์ในญี่ปุ่น
เว็บไซต์ Kotaku รายงานว่า วันที่ 10 ก.ย. 2022 ภายในงาน Ubisoft Forward จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกม Assassin's Creed ถึง 4 ภาคด้วยกัน เบื้องต้นมีเกมภาคที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น และเกมบนโทรศัพท์มือถือภาคใหม่
เจาะไปที่รายละเอียดจะพบว่า 4 ภาคนั้นประกอบด้วย
เกมบนโทรศัพท์มือถือ ยังไม่ประกาศชื่อ และบริษัทผู้พัฒนา
เกมภาคที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ยังไม่มีการประกาศชื่อ พัฒนาโดย Ubisoft Quebec
เกมภาคที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในยุคหลังจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่ประกาศชื่อ พัฒนาโดย Ubisoft Montreal
Assassin’s Creed Mirage ที่มีเนื้อเรื่องอยู่ในกรุงแบกแดดช่วงยุค ค.ศ. 800s
สำหรับตัวเกมที่เนื้อเรื่องเกิดในญี่ปุ่น และจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2024 หรือหลังจากนั้น ส่วน Assassin’s Creed Mirage จะเปิดตัวช่วงต้นปี 2023 โดยตัวเกมจะลดความสำคัญของระบบ RPG ที่เห็นในเกมภาคล่าสุด และจะกลับมาเน้นการเล่นแบบลอบเร้นเหมือนเกมต้นตำหรับ
ขณะเดียวกันตัวเกมที่มีเนื้อเรื่องในญี่ปุ่น และจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จะเป็นส่วนหนึ่งของเกม Assassin’s Creed Infinity ที่มาในรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์ และสามารถเพิ่มเนื้อหาใหม่ได้ตลอดเวลา ต่างจากเดิมที่จะจบเป็นเนื้อเรื่องตามแต่ละสถานที่หลัก
ทั้งนี้ Kotaku อ้างอิงข้อมูลข้างต้นจากการรายงานของสำนักข่าว Bloomberg และมีการสอบถามกลับไปที่ Ubisoft เกี่ยวกับข้อเท็จจริงเหล่านี้ แต่ทางผู้ผลิตเพิกเฉยต่อคำถามดังกล่าว
อ้างอิง // Kotaku
ภาพจาก Twitter ของ Assassin's Creed |
Subsets and Splits
No saved queries yet
Save your SQL queries to embed, download, and access them later. Queries will appear here once saved.