txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# สหรัฐสั่งห้ามบริษัทเทคที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act ตั้งโรงงานด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงในจีนเป็นระยะเวลา 10 ปี
ก่อนหน้านี้ สหรัฐอเมริกาได้ผ่านร่างกฎหมาย CHIPS and Science Act เพื่อให้เงินสนับสนุนราว 52,000 ล้านเหรียญกับการลงทุนและวิจัยในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศรวมถึงการลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทที่ตั้งโรงงานผลิตชิปในสหรัฐ โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดการพึ่งพาประเทศอื่นโดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงงานจำนวนมาก ภายหลังจากที่บริษัทต่าง ๆ ประสบปัญหาการขาดแคลนชิปจากการหยุดชะงักของซัพพลายเชนจากมาตรการ Zero-COVID ของจีน รวมถึงการแข่งขันกันเพื่อเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีนด้วย
ในงานแถลงข่าว Gina Raimondo เลขาธิการด้านการค้าของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยแผนการและข้อบังคับในกฎหมาย CHIPS ว่าบริษัทเทคโนโลยีที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงทุนในประเทศอื่น และข้อสำคัญ คือ ห้ามสร้างโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในจีนเป็นระยะ 10 ปี รวมถึงห้ามไม่ให้ส่งออกเทคโนโลยีล่าสุดด้วย แต่ยังสามารถตั้งโรงงานเพื่อผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีเก่า (mature node) เพื่อขายในตลาดจีนได้ ข้อบังคับนี้ยิ่งเป็นการเพิ่มความกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและจีนไปอีก
แนวทางที่สหรัฐฯ บีบไม่ให้โรงงานผลิตชิปในจีนเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นแนวทางต่อเนื่องมาหลายปี จากการบีบไม่ให้ ASML ขายเครื่องจักรเทคโนโลยี EUV ให้โรงงานในจีน และยังมีข่าวว่าจะบีบแม้แต่เครื่องในกลุ่ม DUV สำหรับชิปสำเร็จรูปเองสหรัฐก็ได้สั่งห้ามไม่ให้ NVIDIA และ AMD ส่งชิประดับสูงไปยังจีนและรัสเซียด้วย
อ่านรายละเอียดงานแถลงข่าวได้ที่ White House
ที่มา: BBC News
ภาพจาก Pixabay |
# Twitter เผยหลักฐาน Elon Musk จะยกเลิกดีลเพราะกลัวสงครามโลกครั้งที่ 3
ในการไต่สวนคดีดีลซื้อกิจการระหว่าง Twitter และ Elon Musk ในวันอังคารที่ผ่านมา Twitter ได้เปิดเผยหลักฐานเป็นข้อความแชทระหว่าง Elon Musk และผู้จัดการเรื่องการลงทุนของเขาชื่อ Michael Grimes โดยในข้อความนี้ Musk เสนอกับ Grimes ให้เลื่อนการซื้อกิจการไปก่อนเพราะ “ไม่สมเหตุสมผลที่จะซื้อ Twitter ถ้าเรากำลังเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 3” (wouldn’t make sense to buy Twitter if we’re heading into world war three) ซึ่งหมายถึงสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่เริ่มต้นขึ้น
Twitter โชว์หลักฐานนี้ เพื่อตอบโต้ประเด็นข้อกล่าวหาว่าเรื่องการนับบัญชีบ็อตหรือการร้องเรียนของ Peiter Zatko อดีตผู้บริหารฝ่ายความปลอดภัยของ Twitter ต่อ ก.ล.ต. สหรัฐ เป็นเพียงข้ออ้างของ Musk เพื่อยกเลิกดีลเท่านั้น
ขณะที่ฝั่ง Musk ต้องการเลื่อนการตัดสินคดีในเดือนตุลาคมออกไปเพราะต้องการเพิ่มเติมเรื่องการร้องเรียนของ Zatko ลงในคำฟ้องและหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่ทาง Twitter ได้ระบุว่า Peiter Zatko ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลเรื่องบัญชีสแปมแต่อย่างใด และก่อนที่ Zakto ร้องเรียนต่อ ก.ล.ต. Musk ก็หาเหตุผลเพื่อจะยกเลิกดีลอยู่แล้ว
ทางด้านผู้พิพากษายังไม่ได้ตัดสินในประเด็นใด ๆ
ที่มา: Engadget และ Financial Times |
# Cyberpunk 2077 เปิดตัวภาคเสริมแรก Phantom Liberty ออกปี 2023 ไม่มีบนคอนโซลเจนเก่าแล้ว
CD Projekt Red ประกาศข่าวอัพเดตสำคัญของเกม Cyberpunk 2077 หลายอย่าง
ที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้น Cyberpunk 2077: Phantom Liberty ภาคเสริมภาคแรกของเกมที่แฟนๆ รอคอยกันมานาน เพราะ CDPR ต้องใช้เวลาปีแรกๆ ไปกอบกู้ตัวเกมภาคหลักให้กลับมาเล่นได้ก่อน
เนื้อหาของ Phantom Liberty เป็นเกมแนวสปายสืบสวน ฉากหลังจะเป็นโซนใหม่ของเมือง Night City ที่ไม่มีในเกมภาคหลัก กำหนดวางขายปี 2023 ยังไม่ระบุเดือน (เท่ากับว่าห่างจากภาคหลักเกิน 2 ปีเลยทีเดียว) เกมจะมีเฉพาะคอนโซลรุ่นใหม่คือ PS5, Xbox Series X|S กับพีซีและ Stadia ไม่มีเวอร์ชัน PS4 และ Xbox One อีกแล้ว
ส่วนเกมภาคหลัก ยังออกแพตช์เวอร์ชัน 1.6 ที่เรียกว่า Edgerunners Update สอดคล้องกับการฉายซีรีส์อนิเม Cyberpunk: Edgerunners ทาง Netflix วันที่ 13 กันยายนนี้
ของใหม่ในแพตช์เวอร์ชัน 1.6 มีเนื้อหาใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา เช่น อาวุธใหม่ 11 อย่าง, ภารกิจเสริมใหม่ 3 อย่าง, เสื้อผ้า, มินิเกม โดยเนื้อหาบางอย่างนำมาจากเวอร์ชันซีรีส์ให้สอดคล้องกัน (รายการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด)
แพตช์เวอร์ชัน 1.6 ยังจะเป็นเวอร์ชันสุดท้ายบนคอนโซลเจนเก่าทั้ง PS4 และ Xbox One ด้วย ถือเป็นจุดสิ้นสุดของ Cyberpunk 2077 บนคอนโซลเจนเก่าแล้ว
ถัดมาคือ REDmod ชุดเครื่องมืออย่างเป็นทางการสำหรับนักม็อดเกม ช่วยให้ดาวน์โหลด ติดตั้ง และโหลดม็อดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น สามารถปรับแต่งได้ทั้งเสียง แอนิเมชัน สคริปต์ของเกม ดาวน์โหลดได้ฟรีจากหน้าเว็บ REDmod
สุดท้ายคือ Roach Race เกมมือถือบน Android/iOS เป็นมินิเกม 2D ที่ให้เราควบคุมม้า Roach ของ Geralt จากเรื่อง The Witcher ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ซึ่งมีให้เล่นในตู้เกมอาเขตของเมือง Night City ใน Edgerunners Update แต่ถ้าไม่มีเกมภาคหลักก็สามารถเล่นได้ฟรีบนมือถือได้เลย
ที่มา - Cyberpunk 2077 |
# NASA เลือกซีพียู RISC-V จาก Microchip สำหรับคอมพิวเตอร์ในอวกาศยุคต่อไป
NASA ประกาศเลือกชิป RISC-V จาก Microchip สำหรับโครงการ High Performance Spaceflight Computing (HPSC) คอมพิวเตอร์สำหรับภารกิจในอวกาศรุ่นต่อไป โดยเตรียมใช้คอร์ซีพียูเป็น SiFive X280 เป็นคอร์หลัก ส่วนตัวซีพียูจะออกแบบโดย Microchip
โครงการ HPSC เคยให้ Boeing ออกแบบคอมพิวเตอร์แบบเดียวกันโดยใช้สถาปัตยกรรม Arm มาตั้งแต่ปี 2017 ในตอนนั้น Boeing เลือกใช้คอร์ Arm Cortex-A53 เป็นแกนหลัก
รอบนี้ Microchip จะมีเวลา 3 ปีในการออกแบบคอมพิวเตอร์ ชิปที่ได้ต้องมีเสถียรภาพสูงและทนทานต่อความเสียหายกว่าคอมพิวเตอร์ในอวกาศเดิม พร้อมกับใช้พลังงานน้อยลง ทางนาซ่าจะจ่ายเงินให้ Microchip รวม 50 ล้านดอลลาร์และทาง Microchip ต้องออกค่าใช้จ่ายที่เกินไปเอง แต่ชิปที่ได้อาจจะสามารถใช้งานในอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกจากอวกาศ เช่น การใช้งานในอุตสาหกรรม หรืองาน IoT ทั้งหลาย
ที่มา - SiFive, NASA, EE News Europe |
# Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 6 Gen 1 และ 4 Gen 1
Qualcomm เริ่มทยอยเปิดตัวชิประดับรองๆ ที่เปลี่ยนระบบเลขรุ่นจากเลข 3 ตัว มาเป็นเลขหลักเดียว + Gen แทน หลังจากที่เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 1 และ Snapdragon 7 Gen 1
รอบนี้ Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 6 Gen 1 และ Snapdragon 4 Gen 1 มาพร้อมกันสองรุ่นรวด
Snapdragon 6 Gen 1 สำหรับมือถือระดับกลาง ใช้กระบวนการผลิต 4nm สินค้าจะวางขายจริงไตรมาส 1/2023 แบรนด์มือถือที่ประกาศใช้แล้วคือ Motorola ยังไม่ระบุรุ่น
ซีพียู Kryo ไม่ระบุรุ่นย่อย (หลังๆ เลิกบอกแล้ว) คล็อคสูงสุด 2.2GHz, ประสิทธิภาพดีขึ้น 35%
จีพียู Adreno ไม่ระบุรุ่นย่อย ประสิทธิภาพดีขึ้น 30%
ตัวช่วยเร่งประมวลผล Hexagon Vector eXtensions (HVX) สำหรับชุดคำสั่งเวกเตอร์
โมเด็ม Snapdragon X62 5G อัตราดาวน์โหลดสูงสุด 2.9 Gbps, รองรับสเปก 5G 3GPP Release 16
เป็นซีรีส์ 6 ตัวแรกที่มี Fuse Accelerator Architecture ช่วยประหยัดแบตเตอรี่เหมือนชิปซีรีส์ 7/8 แล้ว
ชิปสื่อสาร FastConnect 6700 รองรับ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2, LE Audio
รองรับการชาร์จเร็ว Quick Charge 4+
Snapdragon 4 Gen 1 สำหรับมือถือระดับล่าง ใช้กระบวนการผลิต 6nm สินค้าจะวางขายจริงไตรมาส 3/2022 แบรนด์มือถือที่ประกาศใช้งานแล้วคือ iQOO Z6 Lite
ซีพียู Kryo ไม่ระบุรุ่นย่อย คล็อคสูงสุด 2.0GHz, ประสิทธิภาพดีขึ้น 15%
จีพียู Adreno ไม่ระบุรุ่นย่อย ประสิทธิภาพดีขึ้น 10%
ตัวช่วยเร่งประมวลผล Hexagon Vector eXtensions (HVX) สำหรับชุดคำสั่งเวกเตอร์
โมเด็ม Snapdragon X51 5G อัตราดาวน์โหลดสูงสุด 2.5 Gbps
ชิปสื่อสาร FastConnect 6200 รองรับ Wi-Fi 5, Bluetooth 5.2
รองรับการชาร์จเร็ว Quick Charge 4+
ที่มา - Qualcomm |
# ยืนยันแล้ว Google Pixel 7 ใช้ชิปตัวใหม่ Google Tensor G2
กูเกิลอัพเดตหน้าเว็บของ Pixel 7 และ Pixel 7 Pro ก่อนงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 6 ตุลาคม ว่ามือถือทั้งสองรุ่นจะใช้ชิปตัวใหม่ Google Tensor G2 ที่เป็นเวอร์ชันอัพเกรดจาก Tensor รุ่นแรกที่ใช้กับ Pixel 6 ของปีที่แล้ว ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดอื่นของ Tensor G2 ยกเว้นชื่อรุ่น แต่ก็คาดกันว่าน่าจะเป็นชิปคัสตอมบนฐาน Samsung Exynos เหมือนกับ Tensor รุ่นแรก จุดต่างสำคัญคือกูเกิลใช้ซีพียูสูตร 2+2+4 แทนสูตร 1+3+4 ที่ซัมซุงใช้
ข้อความบรรยายชิป Tensor G2 ก็บอกคร่าวๆ เพียงแค่จะช่วยทำ personalization ของฟีเจอร์ต่างๆ ได้ดีกว่าเดิมเท่านั้น
ที่มา - Google, Android Police |
# เครือโรงแรม IHG โดนโจมตีทางไซเบอร์ ส่งผลระบบจองห้องพักของโรงแรมใช้งานไม่ได้
InterContinental Hotels Group หรือ IHG เชนโรงแรมขนาดใหญ่ยืนยันว่าระบบไอทีของบริษัทถูกโจมตี กระทบกับช่องทางการจองห้องพักและแอปอื่น ๆ เริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้
IHG รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนว่าระบบเทคโนโลยีของบริษัทบางส่วนมีกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยช่องทางจองห้องพักและแอปอื่น ๆ ของ IHG ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เมื่อวานนี้ ตอนนี้ทางบริษัทกำลังพยายามนำระบบกลับมาให้เร็วที่สุด และประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวกระทบกับช่องทางดิจิทัลของเครือ IHG ทั้งเว็บและแอป ซึ่งก่อนหน้านี้เว็บไซต์แจ้งว่าเป็น scheduled maintenance ส่วนลูกค้าที่ใช้งานแอป IHG จะล็อกอินไม่ได้โดยพบข้อความ “Something went wrong. The credentials you entered are invalid. Please reset your password or contact Customer Care.” (จากการทดสอบของผมตอนนี้ พบว่าล็อกอินผ่านแอปได้แล้ว)
อย่างไรก็ดี จากเหตุการณ์ดังกล่าว IHG ยังไม่ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าเป็นการโจมตีในรูปแบบใด
IHG ถือเป็นบริษัทเชนโรงแรมขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก มีแบรนด์โรงแรมในมือจำนวนมาก เช่น Six Senses, Regent, InterContinental, Kimpton, Hotel Indigo, Holiday Inn, Holiday Inn Express ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมในเครือกว่า 6,000 แห่งจาก 100 ประเทศทั่วโลก
ที่มา - Loyalty Lobby, Bleeping Computer, London Stock Exchange, IHG Newsroom
Kimpton Tokyo Shinjuku ภาพจาก IHG |
# GNU Grep ออกเวอร์ชัน 3.8 แจ้งเตือนให้เลิกใช้คำสั่ง egrep และ fgrep
grep โปรแกรมค้นหาข้อความที่อยู่คู่กับยูนิกซ์มายาวนาน (สร้างโดย Ken Thompson ผู้สร้างยูนิกซ์ในปี 1973 อายุโปรแกรมตอนนี้ 48 ปี) ที่ผ่านมาเคยมีเวอร์ชันแยกย่อย เช่น egrep และ fgrep ที่มีพฤติกรรมการทำงานแตกต่างกันเล็กน้อย
grep เวอร์ชันที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันคือ GNU Grep ล่าสุดเพิ่งออกเวอร์ชัน 3.8 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือจะแจ้งเตือนผู้ใช้เวลาสั่ง egrep และ fgrep แล้ว ให้เปลี่ยนไปใช้คำสั่ง grep -E และ grep -F แทน
คำสั่ง egrep และ fgrep ถูกปรับสถานะเป็นล้าสมัย (deprecated) ตั้งแต่ปี 2007 และผ่านมา 15 ปี เพิ่งมีการแจ้งเตือนว่าไม่ควรใช้ ส่วนในอนาคตจะใช้งานไม่ได้จริงๆ เมื่อใดก็คงต้องรอดูกันต่อไป
ที่มา - Grep 3.8 via Phoronix |
# Tencent ประกาศเพิ่มการลงทุนใน Ubisoft
Tencent ประกาศซื้อหุ้น Ubisoft เพิ่มขึ้น โดยเป็นการซื้อหุ้นผ่านบริษัทลงทุนของตระกูล Guillemot ผู้ก่อตั้งบริษัท โดย Tencent จ่ายเงินสำหรับดีลนี้อีก 300 ล้านยูโร ที่มูลค่ากิจการของ Ubisoft ราว 1 หมื่นล้านยูโร
รายละเอียดการลงทุนนั้น Tencent จะเข้ามาถือหุ้น 49.99% ใน Guillemot Brothers บริษัทการลงทุนของตระกูลผู้ก่อตั้ง ซึ่งปัจจุบันถือหุ้น Ubisoft 15% และ Tencent จะได้สิทธิการโหวตเพิ่มขึ้น 5% ทำให้ Tencent ถือหุ้นรวมทั้งหมดทั้งทางตรงและทางอ้อมเป็น 11% นอกจากนี้ข้อตกลงดังกล่าวยังให้สิทธิ Tencent ซื้อหุ้นทางตรงเพิ่มได้อีกสูงสุดเป็น 9.99% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 4.5% ทั้งนี้ Tencent ไม่มีสิทธิขายหุ้นเป็นเวลา 5 ปี และข้อจำกัดการซื้อหุ้นเพิ่มมีผล 8 ปี
Tencent เริ่มลงทุนใน Ubisoft ตั้งแต่ปี 2018 รวมทั้งให้เงินกู้ระยะยาวกับบริษัทตามข้อตกลงอีกด้วย ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Ubisoft อาจเป็นบริษัทเกมถัดไปที่ถูกซื้อกิจการตามเทรนด์ในช่วงที่ผ่านมา แต่ผลของดีลนี้น่าจะช่วยให้ Ubisoft ไม่จำเป็นต้องขายกิจการให้ใคร
ที่มา: Reuters |
# Twitch ประกาศปิด Host Mode มีผล 3 ตุลาคม เป็นต้นไป
Twitch ประกาศปิด Host Mode มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2022 เป็นต้นไป ผู้ใช้งานจะไม่สามารถใช้คำสั่ง /host ในช่องแชต หรือเปิด Host Mode ได้ โดยส่วนของ Autohost จะเปลี่ยนเป็น Suggested Channels แทนใน Settings
Host Mode เป็นฟีเจอร์ที่ Twitch ใส่เข้ามาตั้งแต่ปี 2014 ให้สตรีมเมอร์สามารถสตรีมคอนเทนต์จากช่องอื่นมาในช่องของตนได้อีกที (คล้าย ๆ การ Embed) แต่ระบบแชตจะแยกขาดจากกันเป็นของช่องที่นำมาสตรีมต่อ
Twitch อธิบายว่าฟีเจอร์นี้ในตอนแรก ถูกใช้เพื่อให้แต่ละช่องของสตรีมเมอร์เติบโตร่วมกัน สามารถส่งต่อคนดูไปให้ช่องอื่นได้หลังจบการสตรีม อย่างไรก็ตามเมื่อแพลตฟอร์มเติบโตถึงจุดหนึ่ง แนวทางที่ดีกว่าคือการให้คนดูได้สนทนากับสตรีมเมอร์ผ่านช่องทางหลักช่องทางเดียว
ที่มา: Dot Esports |
# บราซิลสั่งห้ามขาย iPhone เนื่องจากไม่แถมที่ชาร์จ - Apple เตรียมยื่นอุทธรณ์
กระทรวงยุติธรรมของบราซิล ออกคำสั่งให้แอปเปิลหยุดขาย iPhone ทุกรุ่น ที่ไม่ให้ที่ชาร์จมาในกล่อง โดยระบุว่าเป็นการขายสินค้าไม่สมบูรณ์ และเป็นผลเสียต่อลูกค้า
ถ้าหากจำได้ แอปเปิลมีประเด็นกับหน่วยงานของบราซิลมาตั้งแต่ iPhone 12 ซึ่งแอปเปิลตัดสินใจเลิกให้หูฟังกับที่ชาร์จเป็นปีแรก เพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่รัฐเซาเปาลูไม่เห็นด้วยและสั่งปรับแอปเปิลคิดเป็นเงินไทย 60 ล้านบาท อย่างไรก็ตามแอปเปิลยังคงขาย iPhone ในบราซิลโดยไม่ให้ที่ชาร์จมาในกล่องอยู่ดี
คำสั่งของกระทรวงยุติธรรมบราซิลนี้ สั่งปรับแอปเปิลอีก 12.275 ล้านรีล หรือประมาณ 85 ล้านบาท รวมทั้งเตรียมให้หน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคม ยกเลิกใบอนุญาตขาย iPhone ทุกรุ่นที่ไม่ให้ที่ชาร์จมาในกล่อง
ตัวแทนของแอปเปิลชี้แจงว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อคำสั่งดังกล่าว ยืนยันว่าการไม่ให้ที่ชาร์จนั้นช่วยลดการใช้แร่สังกะสี และพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบของที่ชาร์จ ลดปริมาณคาร์บอนได้มากกว่า 2 ล้านตันต่อปี
ที่มา: MacRumors |
# Chrome ออกอัพเดตฉุกเฉิน แก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ที่พบใน Mojo
กูเกิลออกอัพเดต Chrome เวอร์ชัน 105.0.5195.102 ทั้งบน Windows, Mac และ Linux ซึ่งแก้ไขบั๊ก Zero-Day โดยมีความรุนแรงระดับ High จึงแนะนำให้ผู้ใช้งาน Chrome อัพเดตทันที
ช่องโหว่ที่แก้ไขคือ CVE-2022-3075 ที่อาศัยช่องโหว่ในไลบรารี่ของ Mojo ทั้งนี้กูเกิลระบุว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของบั๊กนี้เมื่อมีผู้อัพเดตเบราว์เซอร์เป็นจำนวนมากพอสมควร แม้มีรายงานการโจมตีแล้ว
อัพเดตดังกล่าวเป็นการแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ครั้งที่ 6 ในปีนี้ของ Chrome
ที่มา: Bleeping Computer |
# Meta ประกาศจัดงาน Connect เน้นเรื่อง AR/VR และเตรียมเปิดตัวเฮดเซตรุ่นใหม่ 11 ตุลาคมนี้
Meta ประกาศจัดงานสัมมนา Meta Connect กำหนดการตามเวลาในไทยคือวันพุธที่ 12 ตุลาคม เวลาเที่ยงคืน (คืนวันที่ 11 ตุลาคม) โดยเป็นการถ่ายทอดสดออนไลน์
Meta บอกว่าเนื้อหาในงาน จะอัพเดตความคืบหน้าและวิสัยทัศน์ของ metaverse มีทั้งคีย์โน้ตและหัวข้อย่อยสำหรับนักพัฒนา สามารถลงทะเบียนได้ที่ metaconnect.com
ในงานคาดว่า Meta จะเปิดตัวเฮดเซต VR รุ่นใหม่ด้วย ซึ่งซีอีโอ Mark Zuckerberg เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้
ที่มา: Meta Quest |
# Masayasu Ito ผู้นำทีมออกแบบ PS4 และ PS5 เตรียมเกษียณอายุเดือนหน้า
Sony Interactive Entertainment (SIE) ประกาศข่าวการลงจากตำแหน่งของ Masayasu Ito กรรมการบริหารคนปัจจุบันซึ่งผ่านงานรับผิดชอบงานพัฒนาฮาร์ดแวร์ PlayStation มามากมาย เนื่องจากเขามีอายุครบ 60 ปีในปีนี้ โดยผู้ที่จะมาทำหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมรับช่วงต่อจาก Ito คือ Lin Tao ผู้บริหารหญิงที่ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการของ SIE
สำหรับ Ito นั้นเข้าทำงานกับ Sony ตั้งแต่ปี 1986 ก่อนจะย้ายมาอยู่ในหน่วยธุรกิจ PlayStation เมื่อปี 2008 ดูแลงานด้านวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ให้กับ PlayStation เป็นหลัก เขาดูแลงานด้านวิศวกรรมของ PS4 และเป็นผู้รับผิดชอบการพัฒนา PSVR, PS4 Pro และ PS5 เครื่องคอนโซลรุ่นล่าสุดของค่าย Sony
ส่วนทางด้าน Tao ผู้บริหารหญิงที่จะมาทำหน้าที่ต่อนั้นได้เข้ามาร่วมงานในหน่วย PlayStation ในช่วงหลังการเปิดตัว PS2 และได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา PS3 ก่อนจะย้ายไปทำงานในหน่วยธุรกิจมือถือ Sony Ericsson และ Sony Mobile เป็นเวลา 8 ปี ก่อนจะได้กลับมาทำงานในธุรกิจเกมอีกครั้ง โดยเธอได้รับตำแหน่งเป็นรองประธานอาวุโส SIE ดูแลฝ่ายการเงินเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
Ito จะลงจากตำแหน่งปัจจุบันในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ แต่จะยังคงทำงานให้กับ Sony ต่อไปโดยจะผันตัวไปทำงานในหน่วยธุรกิจยานยนต์ซึ่ง Sony ได้ประกาศข่าวร่วมทุนกับ Honda ตั้งบริษัทใหม่เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ส่วนงานด้านวิศวกรรมและการออกแบบฮาร์ดแวร์ของ PlayStation นั้น ผู้รับผิดชอบหลักจากนี้คือ Hideaki Nishino รองประธานอาวุโสอีกคนของ SIE
Lin Tao ว่าที่กรรมการบริหาร SIE คนใหม่
ที่มา - SIE ผ่าน The Verge, SIE.Blog, Gematsu |
# Google เตรียมจัดงานถ่ายทอดสดเปิดตัว Pixel 7 วันที่ 6 ตุลาคมนี้
หลังจากปล่อยภาพออกมาให้ดูกันล่วงหน้าหลายเดือน ในที่สุด Google ก็ประกาศวันจัดงานถ่ายทอดสดเพื่อเปิดตัว Pixel 7 อย่างเป็นทางการมาแล้วเป็นวันที่ 6 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ในเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารอัพเดตเกี่ยวกับ Pixel 7 เพิ่มเติมได้ที่นี่
ที่มา - เพจ Made by Google
It's all coming together.
Join us live for #MadeByGoogle on October 6th at 10am ET as we feature the latest additions to our family of devices: goo.gle/events
โพสต์โดย Made by Google เมื่อ วันอังคารที่ 6 กันยายน 2022 |
# สีเดิมยังผลิตไม่ค่อยทัน Sony โชว์ขยันออกของแต่ง PS5 โฉมใหม่ลายพราง
Sony เปิดตัวฝาครอบเครื่อง PS5, จอย DualSense และหูฟังไร้สาย Pulse 3D ในลวดลายแบบใหม่ใช้ชื่อชุด Gray Camouflage Collection ลายพรางโทนสีเทาซ่อนรายละเอียดสัญลักษณ์ PlayStation ในลวดลายด้วย
ตัวฝาครอบเครื่อง PS5 นั้นสามารถใช้ได้กับรุ่นมีช่องใส่แผ่นและรุ่นที่ไม่มีช่องใส่ โดยสินค้าทั้งชุดนั้นจะเริ่มเปิดให้สั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนนี้ ส่วนกำหนดส่งมอบสินค้านั้นจะเริ่มจากฝาครอบเครื่องและจอย DualSense ซึ่งจะปล่อยของวันที ่14 ตุลาคม ส่วนหูฟังไร้สาย Pulse 3D นั้นจะเป็นในช่วงเดือนธันวาคม
ใครอยากได้ก็นับถอยหลังสู่วันเริ่มจองกันได้เลย
ที่มา - PlayStation.Blog |
# Ethereum เริ่มอัพเกรดบล็อกเชนเฟสแรก, คาดวันรวมสายเชน 13-15 กันยายน
Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum ประกาศสถานะของแผนการอัพเกรดบล็อกเชนครั้งใหญ่ The Merge โดยเฟสแรกการอัพเกรดสายเชน Beacon Chain เป็นซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ (Bellatrix Upgrade) เดินหน้าตามแผนที่อัพเดตวันนี้ (6 ก.ย.)
ขั้นถัดไปคือการรวมสายเชนทดสอบ Beacon Chain และสายเชนหลัก Mainnet เข้าด้วยกันเป็นสายเดียว ที่เรียกว่า Paris Upgrade ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน (วันที่แน่ชัดขึ้นกับค่าแฮชรวมในระบบ) เมื่อเสร็จแล้ว Ethereum จะเปลี่ยนวิธีจาก Proof of Work (PoW) มาเป็น Proof of Stake (PoS) อย่างสมบูรณ์ |
# แอพจัดการรหัสผ่าน Bitwarden ระดมทุน 100 ล้านดอลลาร์ สัญญาแอพจะฟรีตลอดไป
Bitwarden แอพจัดการรหัสผ่านแบบโอเพนซอร์ส ประกาศระดมทุน 100 ล้านดอลลาร์ จากบริษัทลงทุน 2 แห่งคือ PSG และ Battery Ventures เพื่อนำไปขยายธุรกิจ
โมเดลธุรกิจของ Bitwarden คือมีแอพเวอร์ชันฟรี (ใช้งานได้ไม่จำกัดอุปกรณ์) และแอพเวอร์ชันพรีเมียมที่มีฟีเจอร์มากขึ้น (เช่น รองรับ 2FA ผ่าน YubiKey/FIDO2) รวมถึงแอพสำหรับธุรกิจที่ใช้งานเป็นทีม
Bitwarden ย้ำว่าแอพเวอร์ชันฟรีของตัวเองจะยังฟรีตลอดไป ใช้สถาปัตยกรรมโอเพนซอร์สเพื่อความโปร่งใส และผู้ใช้สามารถโฮสต์ข้อมูลเอง (self-host) แต่เงินที่ได้จะเน้นการขยายธุรกิจฝั่งองค์กรให้มากขึ้น
ที่มา - Bitwarden |
# Huawei เปิดตัว MateBook E Go แท็บเล็ต Windows 11 ชิป Arm ใช้ Snapdragon 8cx Gen 3
นอกจากมือถือ Huawei Mate 50 Series ที่เปิดตัวในวันนี้ ยังมีโน้ตบุ๊ก-แท็บเล็ต Huawei MateBook E Go ที่อธิบายง่ายๆ ว่ามันคือ Surface Pro X ของ Huawei (ชิป Arm + Windows 11)
Huawei MateBook E Go เป็นแท็บเล็ตแบบมีขาตั้ง ต่อคีย์บอร์ดได้ ใช้หน้าจอ 12.53" ความละเอียด 2.5K อัตรารีเฟรช 120Hz รองรับปากกา M-Pencil น้ำหนัก 710 กรัม
จุดเด่นคือหน่วยประมวผลพลัง Arm ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8cx Gen 3 ที่ออกเมื่อปลายปี 2021, ตามสเปกบอกว่าทำงานทั่วไปได้นาน 7 ชั่วโมง ดูวิดีโอต่อเนื่อง 14.1 ชั่วโมง, แบตเตอรี่ 45.84 Wh รองรับชาร์จเร็ว 65W
สเปกอย่างอื่นคือกล้องหน้า 8MP, กล้องหลัง 13MP, รองรับ LTE, มีตัวสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power ด้านข้าง
ตอนนี้ Huawei MateBook E Go ยังมีขายเฉพาะในจีน ราคาเริ่มต้น 4,199 หยวน (ประมาณ 22,000 บาท) สำหรับรุ่นแรม 8GB+128GB รวมคีย์บอร์ดแล้ว
ที่มา - Huawei, Huawei Central |
# Huawei เปิดตัวสมาร์ทโฟน Mate 50 มีฟีเจอร์สื่อสารผ่านดาวเทียม ตัดหน้า Apple
Huawei เปิดตัวสมาร์ทโฟน Mate 50 Series ที่มีจุดเด่น คือ รองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียมทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อมูลขนาดสั้นหรือเปิดระบบ GPS ได้โดยใช้ระบบดาวเทียมนำทางของ BeiDou (BeiDou Navigation Stellite System - BDS) ซึ่งเป็นระบบ GPS เวอร์ชันจีน
Huawei ใช้ชิปที่พัฒนาโดยบริษัท CETC Acoustic-Optic-Electronic Technology ทำให้สามารถเชื่อมกับระบบดาวเทียม BeiDou ได้ และในปัจจุบันมีเพียงผู้ผลิตชิปของจีนเท่านั้นที่ได้รับการอนุญาตให้ผลิตชิปที่เชื่อมต่อกับ BeiDou
Huawei Mate 50 series ประกอบด้วย Huawei Mate 50, Mate 50 Pro และ Porsche Design Mate 50 RS
Huawei Mate 50 ใช้จอ OLED ที่มี refresh rate 90Hz แรม 8GB ความจุ 256GB กล้องหลังมี 3 ตัว ได้แก่ กล้อง Ultra Aperture 50MP กล้อง Ultra-Wide 13MP และกล้อง Telephoto 12MP ส่วนกล้องหน้า Ultra-Wide 13MP ใช้แบตเตอรี่ 4460 mAh ชาร์จได้สูงสุด 66W มี 2 สี คือ Black และ Silver
ส่วน Mate 50 Pro ใช้จอ OLED มี refresh rate อยู่ที่ 120Hz มีทั้งแบบซิมเดียวและ 2 ซิม แบบซิมเดียวมีแรม 8GB และความจุ 256GB ขณะที่แบบ 2 ซิมจะมีเพิ่มความจุ 512 GB ให้เลือกด้วย ส่วนกล้องหลังมี 3 ตัวเช่นเดียวกันต่างกันแค่กล้อง Telephoto มีความละเอียด 64MP ส่วนกล้องหน้า Ultra-Wide 13MP และมีเซนเซอร์ถ่ายวัดระยะแบบ 3D (3D Depth Sensing Camera) แบตเตอรี่ความจุ 4700 mAh ชาร์จได้สูงสุด 66W เช่นเดียวกัน Mate 50 Pro มี 3 สี คือ Black, Silver และ Orange
Porsche Design Mate 50 RS ใช้จอ OLED มี refresh rate อยู่ที่ 120Hz แรม 8GB ความจุ 512GB กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้อง Ultra Aperture 50MP กล้อง Ultra-Wide 13MP และกล้อง Super TeleMacro 48MP พร้อมกล้องหน้า Ultra-Wide 13MP มีเซนเซอร์วัดระยะ 3D เช่นเดียวกับรุ่น Pro แบตเตอรี่ความจุ 4700 mAh ชาร์จได้สูงสุด 66W รุ่นนี้มี 2 สี คือ Ink Blue และ Purple
ทั้ง 3 รุ่นใช้ชิป Snapdragon 8+ Gen 1 และจะใช้ระบบปฏิบัติการ Harmony OS นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เปลี่ยนข้อความเป็นเสียง ทำให้สามารถคุยโทรศัพท์ด้วยการพิมพ์ข้อความลงไป และมีฟีเจอร์การแปลภาษาแบบทันที อย่างไรก็ตาม Mate 50 รองรับแค่ 4G ไม่สามารถใช้ 5G ตามข้อจำกัดของสหรัฐ
ที่มา: Nikkei Asia, Huawei |
# Parler แอปโซเชียลฝ่ายขวา กลับเข้า Google Play แล้ว หลังโดนแบนเมื่อปีที่แล้ว
แอปโซเชียลมีเดีย Parler ที่เป็นแอปที่ได้รับความนิยมจากผู้มีแนวคิดฝ่ายขวาได้กลับเข้าสู่ Google Play Store แล้ว หลังจากถูกแบนไปในเดือนมกราคมของปีที่แล้ว
Parler ถูกนำออกจาก Apple Store และ Google Play Store เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่มีนโยบานกลั่นกรองเนื้อหาที่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรง และกลายเป็นแพลตฟอร์มที่กลุ่มม็อบสนับสนุนโดนัล ทรัมป์ใช้ในการพูดคุยกันเพื่อรวมตัวบุกรัฐสภาสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม Parler ได้กลับเข้าสู่ Apple Store ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
Parler ตกลงที่จะแก้ไขแอปพลิเคชันเพื่อจัดการกับเนื้อหาที่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงและสร้างระบบที่รายงานและบล็อกบัญชีผู้ใช้ที่เผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสม
ที่มา: Bloomberg |
# Appsumer เผยระบบโฆษณาของ Apple มีนักโฆษณาใช้เยอะขึ้น หลังไม่ให้แอป track ข้อมูลบน iOS 14
Apple เริ่มบังคับใช้มาตรการความเป็นส่วนตัวที่เข้มข้นขึ้นในราวปี 2021 หลังปล่อย iOS 14 ที่มีฟีเจอร์ AppTrackTransparency (ATT) ทำให้ผู้ใช้ต้องกดเลือกตั้งแต่เปิดแอปครั้งแรกว่าจะให้แอปติดตามข้อมูลหรือไม่
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกระทบเจ้าของแพลตฟอร์มที่ทำโฆษณา Targets อย่าง Google หรือ Facebook มากที่สุด ซึ่งรายหลังมีความพยายามการงัดข้อกับ Apple ด้วยว่าบังคับให้คนอื่นทำ แต่ตัวเองไม่ทำตาม ด้วย
อย่างไรก็ตามการเปิดใช้ ATT ดูเหมือนจะกลายเป็นผลกับ Apple มากกว่าแค่ภาพลักษณ์การรักษาความเป็นส่วนตัว เพราะรายงานจาก AppSumer ชี้ว่า ATT ทำให้ธุรกิจโฆษณาของ Apple เติบโตขึ้น
ตัวเลขการสำรวจข้อมูลของ AppSumer จากไตรมาส 2 ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ชี้ว่า ระบบโฆษณาของ Apple มี อัตราการใช้งานจากนักโฆษณา (adoption rate) เพิ่มขึ้นเป็น 94.8% แล้ว ขึ้นมาตีคู่กับ 2 รายใหญ่อย่าง Meta ที่มีอัตราการใช้งาน 82.8% และ Google ที่ 94.8%
Shumel Lais ผู้จัดการทั่วไปของ AppSumer ระบุว่าการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของ ATT เหมือนว่าแทบจะไม่มีผลกับ Apple มันก็อาจจะบอกได้ว่า Apple มีข้อได้เปรียบหรือเห็นข้อมูลมากกว่าบนแพลตฟอร์มตัวเอง
ส่วนในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดของเม็ดเงินโฆษณา Google ยังนำมาเป็นที่หนึ่งที่ 34% Meta ที่ 28% และ Apple 15% ส่วน TikTok และ Snap ที่โดนผลกระทบจาก ATT ไปด้วยเหลือส่วนแบ่ง 3% และ 2% ตามลำดับ
ที่มา: VentureBeat, CNBC |
# LINE อัพเดต แท็ก @All หาทุกคนในกรุ๊ปหรือห้องแชทรวมได้แล้ว
LINE ประกาศอัพเตดล่าสุด สามารถแท็กทุกคนในห้องแชทหรือกรุ๊ปแชทได้แล้วด้วย @All ไม่ต้องไล่แท็กทีละคนแล้ว ซึ่งฟีเจอร์นี้ใช้ได้บนเวอร์ชันพีซีหรือ macOS ด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถสลับลำดับออเดอร์ของสติ๊กเกอร์ได้โดยตรง จากชุดคีย์บอร์ดสติ๊กเกอร์แล้ว จากเดิมที่ต้องเข้าหน้า Setting และปรับออเดอร์ในหน้าสติ๊กเกอร์ นอกจากนี้ยังเพิ่มการใส่พิน 6 หลัก เวลาสำรองข้อมูลด้วย
ที่มา - App store, Play Store |
# เว็บบอร์ด Kiwi Farms ย้ายหนีไปรัสเซีย ไม่ถึง 24 ชม. ก็โดนผู้ให้บริการรัสเซียแบน
ความคืบหน้าของเว็บบอร์ด Kiwi Farms ที่โดน Cloudflare บล็อค และย้ายไปใช้บริการ DDoS-Guard ของรัสเซีย ล่าสุดผ่านมา 1 วัน DDoS-Guard ก็หยุดป้องกันการโจมตี Kiwi Farms ด้วยเช่นกัน ตอนนี้ Kiwi Famrs ออฟไลน์ไปแล้วเรียบร้อย
Joshua Moon ผู้ก่อตั้งและเจ้าของเว็บ Kiwi Farms โพสต์ข้อความในห้อง Telegram บอกว่า "รัสเซียเป็นประเทศเสรี" นั้นไม่เป็นความจริง เขายังบอกว่าการโจมตี Kiwi Farms เป็นความร่วมมือของฝ่ายต่างๆ อย่างเป็นระบบ และป้ายสีให้ชุมชน Kiwi Farms เป็นคนร้าย
เขายังบอกว่าไม่เห็นหนทางที่ Kiwi Farms จะกลับมาได้ดังเดิม โดยยกตัวอย่างว่าอาจเป็นเหมือนบอร์ด 8chan ที่เปลี่ยนรูปแบบไป หรือต้องย้ายโฮสต์-โดเมนไปเรื่อยๆ เหมือนบอร์ด Daily Stormer
ฝั่งของสตรีมเมอร์ Clara “Keffals” Sorrenti ที่รณรงค์แคมเปญ #DropKiwifarms ก็ประกาศชัยชนะต่อสงครามครั้งนี้ และทิ้งท้ายไว้ว่ายังมีเว็บไซต์อื่นๆ ลักษณะนี้อีกมาก ซึ่งแคมเปญ #DropKiwifarms แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถกดดันผู้ให้บริการอย่าง Cloudflare หรือ DDoS-Guard ให้ไม่ยุ่งกับเว็บไซต์เหล่านี้ได้สำเร็จ
ที่มา - Kotaku |
# เล่นเกมเพลินๆ ก็เป็นหนี้หัวโต เมื่อเงินในเกมติดลบหลัง Blizzrd ลบเงินที่ผู้เล่นได้มาแบบผิดกฎ
Diablo Immortal หนึ่งในเกมที่ขึ้นชื่อว่าอยากจะเทพต้องเปย์หนัก มีการกวาดล้างลบข้อมูลเงินในเกมที่ผู้เล่นบางคนได้มาแบบผิดกฎ ทำให้หลายคนจู่ๆ ก็มีเงินติดลบในระบบทันที และทางเดียวที่ผู้เล่นจะกลับมาเล่นเกมได้ตามปกติคือต้องใช้เงินจริงซื้อเงินในเกมเหล่านั้นให้บัญชีพ้นจากสถานะตัวแดง ซึ่งก็คือต้องซื้อจากช่องทางหลักของ Blizzard เท่านั้น
เงินในเกมที่ถูกกล่าวถึงนี้คือไอเทม Eternal Orbs ซึ่งเป็นสกุลเงินแบบพรีเมียมภายในเกม Diablo Immortal นั่นคือเป็นสกุลเงินในเกมที่ผู้เล่นสามารถเติมได้ด้วยการใช้เงินจริงซื้อมันมา และถ้าหากอยากจะมีชุดเท่ๆ อาวุธเจ๋งๆ หรืออัพเกรดตัวละครได้แบบรุดหน้าจริงจังแล้ว Eternal Orbs คือสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้เยอะมาก
ราคาขาย Eternal Orbs ภายในเกมนั้นก็แบ่งออกเป็นหลายแพคเกจ ตั้งแต่แพคเกจถูกสุดที่จะได้ 60 ชิ้นในราคา 0.99 เหรียญ ไปจนถึงแพคเกจใหญ่สุด 7,200 ชิ้นซึ่งมีราคาขายอยู่ที่ 99.99 เหรียญ
อย่างไรก็ตามผู้เล่นหลายคนก็อยากจะประหยัดเงินแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี จึงเลือกไปซื้อไอเทม Eternal Orbs จากร้านค้านอกเกม ซึ่งมีการตั้งราคาถูกกว่าแพคเกจภายในเกม อย่างแพคเกจแบบ 7,200 ชิ้นนั้นร้านค้าภายนอกอาจขายถูกกว่าในเกม 10-50 เหรียญ ซึ่งตอนแรกทุกอย่างก็ดูปกติดี คนซื้อก็ได้ Eternal Orbs มาจับจ่ายในเกมได้โดยไม่มีปัญหาอะไร
ทว่าจู่ๆ Blizzard ก็เพิ่งทำการลบข้อมูล Eternal Orb ส่วนที่ผู้เล่นซื้อมาจากร้านค้านอกเกมเหล่านี้ออกไปจนหมด โดยให้เหตุผลว่าร้านค้าดังกล่าวได้ทำการขายไอเทมโดยละเมิดข้อตกลงการใช้งานของเกม โดยพฤติกรรมที่เรียกว่าละเมิดนั้นมีทั้งการตั้งราคาขายไอเทมด้วยการอาศัยส่วนต่างค่าเงินระหว่างประเทศที่ไม่เท่ากัน, การใช้กลิตช์ของระบบร้านค้าในเกม, การขโมยข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรกำนัลมาใช้ชำระค่าไอเทม และผลจากการลบ Etrnal Orbs ที่เข้าข่ายเหล่านี้ไปจากระบบคือทำให้ผู้เล่นบางคนมีบัญชีในเกมติดลบ
Shia ผู้เล่น Diablo Immortal คนหนึ่งโพสต์คลิปโชว์ให้เห็นว่าบัญชีของเขาในตอนนี้มีค่าเงิน Etrnal Orbs อยู่ -2,491,025 และถ้าเขาไม่สามารถเคลียร์ให้มันพ้นสถานะติดลบได้ เขาก็จะไม่สามารถเข้าร่วมปาร์ตี้หรือทำกิจกรรมกลุ่มกับผู้เล่นอื่นได้เลย และทางเดียวที่จะเคลียร์ตัวเลขได้คือต้องจ่ายเงินซื้อ Etrnal Orbs จากช่องทางหลักภายในเกมเท่านั้น ซึ่งคิดเป็นค่าเงินจริงราว 35,000 เหรียญ
ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งบอกว่าผู้เล่นครึ่งหนึ่งในแคลนของเขาตอนนี้มีเงินในเกมติดลบกันถ้วนหน้า (แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่าติดลบกันมากน้อยเท่าไหร่)
ทาง PCGamesN ได้ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปทาง Blizzard แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ ซึ่งในขณะนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่าในท้ายที่สุด Blizzard จะดำเนินการอย่างไรเพิ่มเติมกับผู้เล่นที่มีค่าเงินติดลบในเกมเป็นเวลานาน
ที่มา - PCGamesN |
# ผู้เล่น Red Dead Online งงหนัก อุตส่าห์ช่วยรายงานคนโกงตั้งเยอะแต่ตัวเองกลับโดนแบน
Kevin Daly ผู้เล่น Red Dead Online รายหนึ่งโพสต์ระบายความอัดอั้นเมื่อตัวละครในเกมของเขาถูกแบนชั่วคราวและล้างค่าทุกอย่างจนต้องไปเริ่มเล่นจากเลเวล 1 ใหม่ หลังจากที่เขาพยายามรายงานเรื่องคนโกงในเกมต่อทีมงาน Rockstar ผู้พัฒนาเกม
Daly เล่าว่าเขาเจอผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามหลายคนที่ใช้กลิตช์ God Mode, ใช้ช่องว่างอย่างอื่นของระบบทำให้ตัวผู้เล่นไม่ปรากฎในเรดาร์ของเกม, รวมทั้งการทำบางอย่างที่ผู้เล่นคนอื่นไม่สามารถล็อกเป้าเพื่อทำการโจมตีบนตัวละครได้ ซึ่ง Daly ก็ได้ส่งรายงานการพบเห็นสิ่งปกติเหล่านี้ให้ทางฝ่ายสนับสนุนผู้เล่นของทาง Rockstar เพื่อให้มีการตรวจสอบหลายต่อหลายครั้ง พร้อมทั้งให้ข้อมูลชื่อตัวละครที่ต้องสงสัยว่าโกงเหล่าน้นและได้แนบคลิปวิดีโอที่จับภาพจากหน้าจอขณะเล่นเกมแนบไปเป็นหลักฐานด้วย
อย่างไรก็ตาม Daly ตอบว่านอกจากเขาจะไม่ได้รับข่าวการตรวจสอบหรือแบนผู้เล่นเหล่านั้นแล้ว สิ่งที่ Rockstar ตอบกลับเขามาคือคำปฏิเสธรับเรื่อง
ถึงกระนั้น Daly ก็ยังคงพยายามติดต่อทีมงาน Rockstar ทางอีเมล และมีการส่งรายงานแจ้งเรื่องการโกงในเกม Red Dead Online ในกรณีอื่นๆ เพิ่มเติมตามไปอีกหลายครั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมากลับกลายเป็นว่าตัว Daly เองกลับโดนแบนชั่วคราว 30 วันด้วยข้อหาละเมิดเงื่อนไขการใช้งานของเกม โดยใจความตอนหนึ่งของข้อความที่ Rockstar แจ้งต่อ Daly มีดังนี้
หลังจากนั้นก็เดาได้ไม่ยากว่าขาเกมใน Reddit จะออกมาแสดงความเห็นถึงเรื่องนี้กันในทิศทางไหน หลายคนบอกว่าการทำอย่างนี้มีแต่จะทำให้เกมเต็มไปด้วยผู้เล่นโกง เพราะคงไม่มีใครกลัวโดนแบนอีกต่อไปแล้ว
หลังจากนั้น (โดยไม่รู้ว่ามีทัวร์ตามไปลงที่ไหนบ้าง) ทีมงาน Rockstar ก็ได้ติดต่อกลับมาหา Daly ใหม่ คราวนี้ข้อความจาก Rockstar ระบุว่า
หลังจากนั้น Rockstar ก็ได้เสนอช่องทางการรายงานผู้เล่นโกงให้ Daly สามารถรายงานถึงทีมงานเพื่อให้มีการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต
ทีมงาน PCGamesN ได้ติดต่อ Rockstar เพื่อสอบถามว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ และได้รับคำตอบว่ามีการพูดคุยกับ Daly จริง และข้อความที่ทีมงานส่งไปให้ Daly ทั้งการปฏิเสธรับเรื่องการโกงเกมในครั้งแรก และข้อความครั้งหลังที่เรียกว่าแทบจะยูเทิร์นหัวทิ่ม ต่างก็เป็นอีเมลจากฝ่ายสนับสนุนผู้เล่นของบริษัทจริงๆ ทั้ง 2 ครั้ง โดย Rockstar อ้างว่าที่มาของการตอบกลับไปแบบนั้นในครั้งแรกมาจาก "การสื่อสารผิดพลาด"
Daly บอกต่อ PCGamesN ว่าหลังจากตัวละครของเขาถูกปลดแบนแล้ว ค่าสถานะทุกอย่างที่โดนรีเซ็ตก็ยังคงอยู่ที่เลเวล 1 ทั้งหมดไม่ได้คืนค่าสถานะเดิม ซึ่งเจ้าตัวก็แสดงความรู้สึกน้อยใจว่าทีมงานผู้พัฒนาดูจะไม่แคร์ผู้เล่นเท่าไหร่นัก เขารู้สึกว่า Rockstar ตอนนี้สนใจแต่การทำ GTA Online และก็ปล่อยให้คนโกงเพ่นพ่านเต็ม Red Dead Online ไปหมด โดยเขาบอกว่าเขาไม่มีกะใจจะกลับไปปั้นตัวละครใหม่อีกแล้ว
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (5 กันยายน 2022) ทีมงาน PCGamesN ได้ติดต่อสอบถาม Rockstar อีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องการแบนและรีเซ็ตสถานะตัวละครของ Daly ซึ่งทาง Rockstar ชี้แจงว่าจากการตรวจสอบพบว่าตอนนี้ตัวละครของ Daly นั้นในขณะนี้ไม่ได้ติดโทษแบนใดๆ อย่างไรก็ตามล่าสุดตัวละครได้ถูกผู้เล่นทำการลบไปเองแล้ว
ที่มา - PCGamesN |
# ByteDance ปลดพนักงานฝั่งเกมออกหลายร้อยคน หลังจีนคุมเข้มขึ้น
แหล่งข่าวของ South China Morning Post รายงานว่า ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ได้ปลดพนักงานทางฝั่งดูแลวิดีโอเกมออกหลายร้อยคน โดยได้ปลดและโยกย้ายพนักงานส่วนใหญ่ใน Washuang Studio ในเซี่ยงไฮ้หลังจากปิด 101 Studio ไปแต่จะยังคงดำเนินงานโปรเจคที่เริ่มไปแล้วในเมืองเซี่ยงไฮ้อยู่ นอกจากนี้ บริษัทยังปลดพนักงานใน Jiangnan Studio ซึ่งเป็นสตูดิโอพัฒนาเกมที่อยู่ในเมืองหางโจวออกด้วย
นักวิเคราะห์บางคนมองว่า อุตสาหกรรมเกมของจีนได้เติบโตผ่านจุดสูงสุดไปแล้วหลังจากหน่วยงานเซนเซอร์ของรัฐบาลจีนได้ตรวจสอบเกมใหม่ ๆ อย่างละเอียดเพื่อแก้ปัญหาการติดเกมและเกมมีเนื้อหาไม่เหมาะสม ที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้ลดการออกใบอนุญาตสำหรับเกมใหม่ทำให้นักพัฒนาเกมต่างไม่มั่นใจว่าเกมที่พัฒนาขึ้นจะได้ปล่อยออกมาหรือไม่
นอกจากนี้ Liang Rubo ซีอีโอคนใหม่ของบริษัทก็ได้ใช้กลยุทธ์ตัดธุรกิจที่ทำกำไรได้น้อยหรือธุรกิจที่อาจซบเซาลงในอนาคตออกด้วย
ในช่วงนี้ บริษัทหลายแห่งก็ได้ลดจำนวนพนักงานลงอย่างเช่น Tencent, Xiaomi และ Huawei
ที่มา: South China Morning Post |
# Poolin กลุ่มขุดเหมืองรายใหญ่ของโลก หยุดให้ถอนเงินชั่วคราวเพราะปัญหาสภาพคล่อง
Poolin กลุ่มขุดเหมืองบิตคอยน์ (mining pool) รายใหญ่อันดับสี่ของโลก (เป็นบริษัทจีน แต่มีเหมืองขุดอยู่ในเท็กซัส) ประกาศหยุดถอนเงินบิตคอยน์ออกจากระบบชั่วคราว หลังประสบปัญหาสภาพคล่อง มีผลตั้งแต่ช่วงกลางคืนเมื่อวานนี้ (21.00 น. ของวันที่ 5 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย)
Kevin Pan ซีอีโอของ Poolin บอกว่าบริษัทกำลังหาทางแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง จากการถอนเงินของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลังๆ บริษัทขอใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ และอาจต้องกู้เงินจากที่อื่นเพื่อมาเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้าถอนเงินได้
Poolin ยังประกาศงดเว้นค่าธรรมเนียมการขุด BTC และ ETH เป็นเวลานาน 3 เดือน ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม และลูกค้ารายใหญ่ที่ถือ 1 BTC หรือ 5 ETH ขึ้นไปจะได้งดเว้นค่าธรรมเนียมนาน 1 ปีด้วย
Poolin ไม่ได้อธิบายสาเหตุที่แน่ชัดของปัญหาสภาพคล่อง (เช่น นำเหรียญไปลงทุนอื่นแล้วมีปัญหา) แต่ก่อนหน้านี้ก็มีบริษัทด้านคริปโตหลายรายที่ต้องหยุดให้ถอนเงินออกชั่วคราว
ภาพจาก @officialpoolin
ที่มา - Poolin, Poolin, CoinDesk, The Block |
# CVS ชนะ Amazon ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทสุขภาพ Signify Health มูลค่าดีล 8 พันล้านดอลลาร์
CVS Health ร้านขายยารายใหญ่ของอเมริกา ประกาศซื้อกิจการ Signify Health บริษัทผู้ให้บริการระบบรักษาพยาบาลที่บ้าน ที่มูลค่าดีลราว 8,000 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้มีข่าวผู้สนใจร่วมประมูลซื้อกิจการ Signify Health หลายราย ซึ่งรวมทั้ง Amazon และร้านขายยา Walgreens ด้วย
CVS บอกว่าดีลนี้จะช่วยเสริมกลยุทธ์การเป็นแพลตฟอร์มด้านสุขภาพครบวงจรของบริษัท ซึ่งตอนนี้ทั้ง Walgreens, Walmart รวมทั้ง Amazon ที่เป็นธุรกิจค้าปลีกต่างสนใจเข้ามาในพื้นที่นี้
ที่มา: CVS |
# Binance ประกาศหยุดสนับสนุน stablecoin คู่แข่งทั้ง USDC, USDP และ TUSD
Binance ผู้ให้บริการซื้อขายคริปโตรายใหญ่ ประกาศแผนการหยุดสนับสนุน stablecoin หรือเหรียญที่ผูกกับเงินที่กำกับโดยรัฐบาล บนแพลตฟอร์ม โดยมีเหรียญที่ได้รับผลกระทบ 3 สกุล ได้แก่ USDC, USDP และ TUSD
โดย Binance บอกว่าตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2022 เวลา 03:00 UTC หรือ 10 นาฬิกา ตามเวลาไทย ผู้ใช้งานที่ถือครอง USDC, USDP และ TUSD จะถูกแปลงอัตโนมัติมาเป็น BUSD ซึ่งเป็น stablecoin ที่ออกโดย Binance ในอัตราส่วน 1:1 นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกแปลงเงินก่อนถึงกำหนดได้เช่นกัน และประกาศนี้ไม่มีผลหากผู้ใช้ต้องการถอนเงินทั้ง 3 สกุล ออกมาก่อน
ผลสืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้ รายการซื้อขายทั้งหมดที่อิงกับ USDC, USDP และ TUSD บน Binance จะถูกระงับหลังเวลาดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันตลาด stablecoin อ้างอิงจากข้อมูลของ Coinmarketcap BUSD ที่ออกโดย Binance มีมูลค่ารวมเป็นอันดับ 3 ของโลกที่ 1.94 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วน USDC ที่ออกโดย Circle ซึ่งเป็นเหรียญที่ Binance ประกาศถอนออกนั้นมีมูลค่าเป็นอันดับ 2 ที่ 5.19 หมื่นล้านดอลลาร์ และอันดับ 1 คือ USDT ของ Tether มูลค่ารวม 6.75 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ USDP กับ TUSD มีมูลค่าระดับพันล้านดอลลาร์
คาดว่าผลจากประกาศดังกล่าว จะทำให้เกิดการแปลง stablecoin ใน 3 สกุล มาเป็น BUSD ด้วยจำนวนที่มากพอสมควร
ที่มา: Binance ผ่าน Coindesk |
# ไอร์แลนด์สั่งปรับ Instagram กว่า 14,000 ล้านบาท จากปัญหาการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งานเยาวชน
หน่วยงานกำกับดูแลของไอร์แลนด์ สั่งปรับ Instagram เป็นเงิน 405 ล้านยูโร หรือราว 14,000 ล้านบาท เนื่องจากละเมิดข้อกำหนดการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งานของยุโรปหรือ GDPR
ในข้อร้องเรียนระบุว่า Instagram ไม่ได้ป้องกันข้อมูลผู้ใช้งานกลุ่มเด็กและเยาวชนดีพอ โดยพบว่าบัญชีที่เป็น Business สามาถเข้าถึงข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ได้ นอกจากนี้ผู้ใช้งานที่เป็นเด็กจะได้บัญชีแบบสาธารณะเป็นค่าเริ่มต้น อย่างไรก็ตามตัวแทนของ Meta ชี้แจงว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นการตั้งค่าแบบเดิม ขณะที่ปัจจุบัน Instagram ได้แก้ไขการตั้งค่าเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวไปทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม Meta ไม่เห็นด้วยกับจำนวนเงินที่ถูกสั่งปรับและเตรียมอุทธรณ์ต่อไป
ทั้งนี้เงินค่าปรับ 405 ล้านยูโร ถือว่าสูงที่สุดสำหรับการสั่งปรับแพลตฟอร์มโซเชียล เท่าที่มีการสั่งปรับจากกรณี GDPR ส่วนกรณีสูงที่สุดคือ Amazon เมื่อปีที่แล้ว
ที่มา: BBC |
# [ลือ] Amazon สนใจเข้าสู่ธุรกิจจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ ในประเทศญี่ปุ่น
มีรายงานจาก Nikkei เผยว่า Amazon มีแผนเข้าสู่ธุรกิจจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ในประเทศญี่ปุ่น โดยจะเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกับร้านขายยาขนาดเล็กและกลางในประเทศ
ข้อมูลบอกว่า Amazon พร้อมดำเนินธุรกิจส่วนนี้ทันที เมื่อระบบจ่ายใบสั่งยาแบบอิเล็กทรอนิกส์ มีผลใช้งานในปีหน้า ปัจจุบันยาที่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ถูกควบคุมราคาโดยรัฐบาลญี่ปุ่น มีร้านยาขายส่งที่ได้รับอนุญาต 70 แห่งทั่วประเทศ และร้านรายย่อยกว่า 60,000 แห่ง ซึ่ง Amazon แห่งโอกาสจากช่องว่างดังกล่าว
ที่ผ่านมามีข่าวการเข้าสู่ธุรกิจยาและสุขภาพของ Amazon มาโดยตลอด ตั้งแต่การซื้อร้าน PillPack ร้านขายยาออนไลน์ จนถึงกิจการเครือข่ายคลินิก One Medical
ที่มา: Reuters |
# เธอไปไม่ลาสักคำ! อยู่ๆ บัญชี PornHub บน Instagram ก็ปลิวหายไป
ตอนนี้บัญชี Instagram ของ PornHub ซึ่งมีผู้ติดตาม 13.1 ล้านคน พร้อมประวัติการโพสต์รูปภาพอีก 6,200 ครั้งก็กลายเป็นแค่ความทรงจำไปแล้ว หลังจาก Instagram จู่ๆ ได้ตัดสินใจถอดบัญชีทางการของเว็บดังรวมหนังผู้ใหญ่ออกไปจากแพลตฟอร์มโดยไม่ให้คำอธิบายเหตุผลใดๆ
ที่ผ่านมา PornHub ใช้พื้นที่บน Instagram โพสต์ภาพเพื่อโปรโมทเว็บไซต์ของตัวเองโดยไม่ได้ใช้ภาพโป๊เปลือยอนาจาร อย่างไรก็ตามเนื้อหาที่สื่อออกมาก็เป็นการโปรโมตสื่อทางเพศอย่างชัดเจน และมีการโน้มน้าวชักจูงคนให้มาลองเป็น "นักแสดงในวงการ" ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้นักรณรงค์หลายฝ่ายพยายามผลักดันแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ทำการแบน PornHub
แม้ว่า PornHub จะหายไปจาก Instagram แล้ว แต่บัญชี Twitter ซึ่งมีผู้ติดตาม 3.4 ล้านคน และช่อง YouTube ที่มีคนตาม 882,000 คนยังคงอยู่
ที่มา - Vareity |
# ร้อนไปด้วยกัน! บ้านนับหมื่นในสหรัฐฯ โดนล็อกระบบแอร์เพราะ "ภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน"
ไม่กี่วันที่ผ่านมาลูกค้าราว 22,000 หลังคาเรือนของบริษัทการไฟฟ้าภาคเอกชน Xcel Energy ใน Colorado ต้องพากันเหงื่อแตกเพราะตัวปรับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในบ้านโดนสั่งล็อกจากทางไกลไม่ให้ปรับใช้งานได้ พร้อมข้อความแจ้งจาก Xcel Energy ว่าสั่งล็อกเพราะ "ภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน"
ข้อความแจ้งเตือนที่ลูกค้า Xcel Energy ได้รับมีดังนี้
ผลก็คือแม้อากาศในบ้านจะร้อนแค่ไหน แต่ลูกค้า Xcel Energy กลุ่มนี้ก็ไม่สามารถปรับตั้งค่าอุณภูมิของระบบปรับอากาศได้ตามต้องการ มีผู้ใช้บางคนโพสต์ระบายอารมณ์เล่าว่าที่บ้านของเขาร้อนถึง 32 องศาเซลเซียส แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะระบบปรับอากาศถูกล็อกเอาไว้ไม่ให้ปรับลดอุณหภูมิห้อง (กรุณาจินตนาการนึกภาพการเปิดแอร์แล้วมันถูกล็อกค่าอุณหภูมิไว้สัก 30 องศาเซลเซียส ซึ่งก็คงไม่รู้จะเปิดไปทำไม)
ด้าน Xcel Energy บอกว่าพวกเขาได้ล็อกระบบปรับอากาศของลูกค้ากลุ่มนี้จริงด้วยเหตุผลเพื่อลดปริมาณการใช้ไฟโดยรวมของระบบไม่ให้พุ่งสูงเกินไปดังที่ได้แจ้งไว้ผ่านข้อความ ทั้งนี้ Xcel Energy ระบุว่ามีเฉพาะลูกค้าที่สมัครใจเข้าร่วมโปรแกรม Community Energy Savings กับทางบริษัทเท่านั้นที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการประหยัดพลังงานแบบไม่ได้ตั้งใจในครั้งนี้ โดยโปรแกรมดังกล่าวเป็นโครงการที่ Xcel Energy เสนอให้ลูกค้าโดยมีข้อแลกเปลี่ยนเป็นเครดิตค่าไฟแรกเข้า 100 เหรียญ และได้เครดิตเพิ่มเติมปีละ 25 เหรียญตลอดเวลาที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้
งานนี้อาจทำให้หลายคนใน Colorado รู้สึกอยากคิดใหม่เลยทีเดียวกับการใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮม
ที่มา - BGR
ภาพ: Wikimedia Commons |
# QNAP แจ้งเตือน Photo Station มีช่องโหว่ ล่าสุดแรนซัมแวร์ DEADBOLT เริ่มโจมตีแล้ว
QNAP แจ้งเดือนว่าแรนซัมแวร์ DEADBOLT เริ่มโจมตีแอป Photo Station ในตัว NAS ทำให้สามารถเข้ารหัสสตอเรจได้ทั้งหมด และควรอัพเดตเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดทันที
สำหรับการใช้งานระยะยาว QNAP แนะนำให้ย้ายจาก Photo Station ไปยัง QuMagie แทน นอกจากนั้นยังควรซ่อน NAS ไม่ให้สามารถเข้าถึงจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง ไม่ว่าจะใช้ myQNAPcloud Link หรือ VPN บนตัว QNAP เอง เพื่อลดความเสี่ยง
ทาง QNAP ระบุว่าออกแพตช์ได้ภายใน 12 ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีรายงานครั้งนี้
ที่มา - QNAP |
# OpenAI เพิ่มฟีเจอร์ Outpainting เติมภาพรอบๆ ให้ปัญญาประดิษฐ์วาดภาพ DALL·E
OpenAI ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Outpaiting ฟีเจอร์วาดภาพของ DALL·E โดยคาดเดาจากภาพเดิม ทำให้สามารถขยายภาพเป็นสัดส่วนที่ต้องการได้อย่างสมจริง พร้อมกับคงรูปแบบภาพเดิมเอาไว้ครบถ้วน
ก่อนหน้านี้ DALL·E มีฟีเจอร์ Inpainting สำหรับการเติมส่วนที่ขาดหายไปในภาพได้อยู่แล้ว แต่ Outpainting ทำให้สามารถขยายภาพไปได้เรื่อยๆ เท่าที่ต้องการ
ก่อนหน้านี้ OpenAI เปิดให้ใช้งาน DALL·E เชิงพาณิชย์แล้ว พร้อมกับเก็บค่าใช้งานหลังใช้เกินเครดิตฟรี แต่การใช้งานก็ยังต้องรอคิวอยู่ และตอนนี้ก็ยังต้องรอคิวเข้าใช้งานกันนานนับเดือน
ที่มา - OpenAI Blog
ภาพ Girl with a Pearl Earring โดย Johannes Vermeer ถูกเติมภาพรอบๆ โดย DALL·E |
# BYD ครองอันดับ 2 ผู้ผลิตแบตรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด แซงหน้า LG ในเดือนกรกฎาคม
ข้อมูลของบริษัทวิจัย SNE ของเกาหลีใต้ ระบุว่า ในเดือนกรกฎาคม บริษัทผลิตแบตเตอรี่รถยนต์สัญชาติจีน BYD ได้ครองอันดับ 2 ในการจัดอันดับบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายมากที่สุด (6.4 GWh) แซงหน้า LG Energy ที่ตกลงไปอยู่ดันดับที่ 3 (4.4 GWh)โดยอันดับที่ 1 ยังคงเป็น CATL (13.3 GWh) เช่นเดิม
ทั้งนี้ ส่วนแบ่งการตลาด BYD ยังคงเป็นอันดับที่ 3 ตามหลัง CATL และ LG ตามลำดับ โดย CATL ได้ส่วนแบ่งการตลาด 34.7% LG ได้ 14.2% และ BYD ได้ส่วนแบ่งไป 12.6 %
บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ของจีนเติบโตขึ้นในขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้รายใหญ่รวมกันได้แก่ LG, Samsung และ SK ลดลงเหลือ 25.9% จาก 34.2%
แม้ว่าความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทผลิตแบตเตอรี่ของจีน แต่ต้นทุนของการผลิตแบตก็เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสหรัฐอเมริกาก็ได้ผลักดันให้ลดการพึ่งพาส่วนประกอบจากจีนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และบางประเทศได้ให้เงินอุดหนุนบริษัทภายในประเทศเองเพื่อผลักดันการเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้า เช่น ในสหราชอาณาจักรและเยอรมนี
ที่มา: Bloomberg |
# บริษัทสตาร์ทอัพอินเดียพัฒนาหมวกกันน็อคกรองมลพิษ พร้อมเชื่อมแอปผ่านบลูทูธ
Shellios Technolabs บริษัทสตาร์ทอัพในกรุงเดลี ประเทศอินเดียผลิตหมวกนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ (หมวกกันน็อค) ที่สามารถฟอกอากาศเพื่อป้องกันมลพิษโดยใช้ชื่อว่า PUROS
หมวกนิรภัยมีระบบกรองอากาศอยู่ที่ด้านท้ายหมวก ประกอบด้วยพัดลมมอเตอร์บัสเลส BLDC รวมถึงตัวกรองอนุภาคที่มีประสิทธิภาพสูง (HEPA) และวงจรไฟฟ้าที่จะดึงอากาศจากภายนอกเข้าสู่ระบบกรองก่อนที่จะเข้าถึงตัวผู้ขับขี่ วัสดุภายนอกทำจากไฟเบอร์กลาสทำให้มีความทนทานเป็นพิเศษ
ทางบริษัทอ้างว่าหมวกนิรภัยสามารถป้องกันมลพิษตามมาตรฐานได้ถึง 80% อ้างอิงจากผลทดลองของ NABL (National Accreditation Board for Testing and Calibration Laboratories) และมีประสิทธิภาพป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 99% นอกจากนี้ยังมีพอร์ตชาร์จ micro-USB และแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับบลูทูธเพื่อแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาที่ควรทำความสะอาดหมวก
หมวกนิรภัยได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตรแล้วและวางขายแล้วในอินเดียในราคาราว 2,050 บาท
ที่มา: The Indian Express |
# ไมโครซอฟท์ปล่อยอัพเดต Windows Defender ผิดพลาด แจ้งเบราว์เซอร์กลายเป็นมัลแวร์ ล่าสุดแก้ไขแล้ว
ไมโครซอฟท์ปล่อยอัพเดตสำหรับ Windows Defender เวอร์ชั่น 1.373.1508.0 เมื่อวานนี้ โดยเพิ่ม signature สำหรับมัลแวร์ Win32/Hive.ZY เข้ามาด้วย แต่ปรากฎว่า signature นี่มีความผิดพลาด ทำให้ Windows Defender แจ้งเตือนแอปกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเบราว์เซอร์และ Electron ทั้งหมดว่ากลายเป็นมัลแวร์
แอปที่ถูกตรวจผิดพลาดมีตั้งแต่ Edge ของไมโครซอฟท์เอง, Google Chrome, Discord และแอป Electron อีกจำนวนมาก สร้างความตกใจให้กับผู้ใช้ว่าเครื่องติดมัลแวร์
ล่าสุดไมโครซอฟท์ปล่อยอัพเดต 1.373.1537.0 แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ใครที่ได้รับแจ้งว่าเครื่องติดมัลแวร์ควรอัพเดตแล้วตรวจซ้ำอีกรอบ
ที่มา - Bleeping Computer
ภาพจาก Shutterstock |
# จีนอนุมัติการใช้วัคซีน COVID-19 แบบสูดของ CanSinoBio เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
เมื่อวานนี้ National Medical Products Administration of China (NMPA) ซึ่งเป็นหน่วยงานคล้ายองค์การอาหารและยาของจีนได้อนุมัติให้วัคซีน COVID-19 แบบสูดของบริษัท CanSinoBio สามารถใช้การได้เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
วัคซีนนี้มีชื่อทางการค้าว่า Convidecia Air เป็นวัคซีนเหลวที่ใช้เครื่องพ่นละอองยาพ่นวัคซีนให้ผู้ใช้ทำการสูดหายใจเข้าทางปาก โดย CanSinoBio ระบุว่าการสูดหายใจเพียงครั้งเดียวก็จะได้รับวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัว Convidecia Air เป็นวัคซีนแบบใช้ไวรัสเป็นพาหะเช่นเดียวกับ Convidecia ซึ่งเป็นวัคซีนแบบฉีดที่ CanSinoBio ได้ผลิตและผ่านการอนุมัติให้ใช้งานก่อนหน้านี้ (วัคซีนยี่ห้ออื่นแบบใช้ไวรัสเป็นพาหะที่คนไทยได้ยินบ่อยมีทั้ง Astra Zeneca และ Johnson and Johnson)
ทั้งนี้ CanSinoBio แจ้งว่า Convidecia Air ได้ถูกนำไปทดสอบกับคนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 และล่าสุดผ่านการทดสอบเฟส 3 พร้อมตีพิมพ์ผลการทดสอบในวารสาร The Lancet เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยพบว่าวัคซีนแบบสูดนี้สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งแบบสารน้ำ (humoral immunity), แบบพึ่งเซลล์ (cellular immunity) และแบบเยื่อเมือก (mucosal immunity) ได้ดี ซึ่งช่วยทั้งเรื่องป้องกันการติดเชื้อและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
อย่างไรก็ตาม CanSinoBio ยังไม่แน่ใจว่าวัคซีนแบบสูด Convidecia Air นี้จะสามารถขายจริงได้เมื่อไหร่ เนื่องจากยังต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานอื่นนอกเหนือจาก NMPA เพิ่มเติมด้วย
ที่มา - CGTN, Reuters |
# จีนกล่าวหาสหรัฐ แฮ็กข้อมูลสำคัญจากมหาวิทยาลัยวิจัยโพลีเทคนิคของจีน
ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางด้านไวรัสคอมพิวเตอร์ของจีน (National Computer Virus Emergency Response Center) รายงานว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ (NSA) ได้โจมตีทางไซเบอร์ต่อมหาวิทยาลัย Northwestern Polytechnical University ในเมืองซีอานของจีนหลายครั้ง รวมถึงได้โจมตีมุ่งร้ายมากกว่า 10,000 ครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและได้ขโมยข้อมูลสำคัญทางเทคโนโลยีของจีนไปกว่า 140GB
Northwestern Polytechnical University อยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนและทำงานวิจัยด้านวิศวกรรมการบิน อวกาศ และเทคโนโลยีทางทะเลให้กับจีน
ที่มา: Bloomberg |
# LG เปิดให้ใช้แพลตฟอร์มซื้อขาย NFTs บนสมาร์ททีวี เฉพาะในสหรัฐเท่านั้น
LG ปล่อยแพลตฟอร์มซื้อขายผลงาน NFT ที่ใช้ชื่อว่า LG Art Lab ให้ใช้แล้วบนสมาร์ททีวีของ LG ที่ใช้ระบบปฏิบัติการตั้งแต่ webOS 5.0 ขึ้นไป โดยผู้ใช้สามารถเข้าผ่านหน้าโฮม
LG Art Lab เกิดจากความร่วมมือกับ Hedera Network เพื่อสร้างแอปพลิเคชันซื้อขายผลงาน NFT โดยสามารถชำระเงินผ่าน Wallypto ซึ่งเป็นวอลเล็ตเพื่อชำระเงินคริปโตในสมาร์ทโฟน แพลตฟอร์ม LG Art Lab มีฟีเจอร์ Drops ที่ช่วยแสดงโปรไฟล์และตัวอย่างผลงานของศิลปิน และฟีเจอร์ Live Drops เพื่อแจ้งเตือนผลงาน NFT ใหม่ ๆ นอกจากนี้ การร่วมมือกับ Hedera ทำให้ผู้ใช้เสียค่าธรรมเนียมราคาถูกและไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
ทั้งนี้ ในขณะนี้ LG Art Lab ใช้ได้แค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ที่มา: TechCrunch |
# โค้งสุดท้าย! ร่วมตรวจสอบเสียงใน Common Voice เพื่อช่วยพัฒนา AI รู้จำเสียงภาษาไทย
Common Voice เป็นโครงการที่ Mozilla ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ได้สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนชุดข้อมูลเสียงที่เป็นสาธารณสมบัติ (ไม่มีลิขสิทธิ์) ที่ทุกคน ทุกหน่วยงาน สามารถมีส่วนร่วมและใช้เพื่อสอนระบบ AI ต่าง ๆ เช่นระบบพิมพ์ด้วยเสียงได้
ปัจจุบันในภาษาไทยมีจำนวนเสียงที่บันทึกแล้ว 393 ชั่วโมง แต่ตรวจสอบไปเพียง 154 ชั่วโมง (ไม่ถึงครึ่งของจำนวนเสียงที่บันทึกไว้ทั้งหมด) ในขณะที่ชุดข้อมูลรอบถัดไปจะตัดรอบในวันที่ 7 กันยายน 2565 นี้ เราจึงต้องการให้ทุกคนเข้ามาร่วมตรวจสอบเสียงง่าย ๆ โดยไม่ต้องโหลดแอปใด ๆ ตามขั้นตอนด้านล่างนี้
กดที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าตรวจสอบเสียง
ประโยคจะปรากฏบนหน้าจอ กดปุ่มเล่น (สามเหลี่ยม) 1 ครั้งเพื่อเล่นคลิปเสียง
ประโยคจะต้องไม่มีการสะกดผิด ตัวอักษรภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาไทย หรือตัวเลข ส่วนคลิปเสียงต้องพูดให้ถูกต้องทุกคำ ไม่ขาด ไม่เกิน ไม่มีพูดผิดแล้วพูดใหม่ (ไม่จำเป็นต้องชัดเจน ขอแค่ฟังรู้เรื่องและมีเสียงรบกวนน้อย)
หากถูกต้องให้กด "ใช่" แต่ถ้าไม่ถูกต้อง เสียงเบาเกินไป หรือกระตุก ให้กด "ไม่" (หากพบปัญหาในประโยคหรือคลิปเสียง ควรกด "รายงาน" เพื่อรายงานปัญหา)
นอกจากนี้ยังมีส่วนอื่น ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะการตรวจสอบประโยคใหม่สำหรับการบันทึกเสียง สามารถดูเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ (หมายเหตุ: ควรชะลอการบันทึกเสียงและเพิ่มประโยคใหม่ไปก่อน จนกว่าจะตรวจสอบคลิปเสียงและประโยคที่มีอยู่เดิมได้มากพอ)
ขอให้สนุกกับการมีส่วนร่วมครับ!
ที่มา: Common Voice, ข้อมูลวันที่ตัดรอบชุดข้อมูลจากห้องแชท Matrix ของ Common Voice |
# ซีอีโอ ttb ออกจดหมายขอโทษลูกค้า อธิบายปัญหาแอพล่มเกิดจากปริมาณธุรกรรมค้าง
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาตหรือ ttb ออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจงปัญหาแอพ ttb touch ล่มในช่วงวันที่ 1-3 กันยายน 2022
นายปิติระบุว่าสาเหตุเกิดจากการอัพเกรดเวอร์ชันของแอพ ttb touch ที่มีผู้ใช้จำนวน 4.5 ล้านราย บวกกับปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษในช่วงปลายเดือนสิงหาคมต่อต้นเดือนกันยายน ทำให้ระบบไม่สามารถตอบสนองการใช้งานของลูกค้าได้ ทีมงานจึงปิดระบบเป็นระยะเพื่อเคลียร์ธุรกรรมที่ค้างอยู่ แต่เมื่อมีปริมาณธุรกรรมค้างมากขึ้นก็ต้องปิดระบบยาวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ใช้งาน
นายปิติบอกว่า ธนาคาร ttb ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น ขยายเวลาเปิดสาขานอกห้าง, ยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ และบอกว่ามีแผนปรับปรุงแอพ ttb touch ให้มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาว
ที่มา - ttb |
# เว็บ Kiwifarms ย้ายเซิร์ฟเวอร์ไปรัสเซีย หลังโดน Cloudflare บล็อคการเข้าถึง
จากกรณี Cloudflare บล็อคการเข้าถึงเว็บบอร์ด Kiwifarms ล่าสุดมีรายงานว่า Kiwifarms ย้ายเซิร์ฟเวอร์ไปอยู่ในรัสเซียแล้ว ซึ่งจะทำให้การบล็อค Kiwifarms ทำได้ยากกว่าเดิม
ข้อมูลนี้มาจาก Frank Figliuzzi อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการ FBI ซึ่งหลังเกษียณแล้วผันตัวมาเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลสายความมั่นคงให้สถานีทีวี NBC
Figluizzi โพสต์ข้อมูลหมายเลขไอพีของ Kiwifarms ในปัจจุบัน ที่ระบุว่าเป็นของบริษัทรัสเซีย DDoS-Guard และมีพิกัดอยู่ที่เมือง Rostov-on-Don ในรัสเซีย
ฝั่งกลุ่มเคลื่อนไหว #DropKiwifarms ที่รณรงค์ให้ Cloudflare เลิกป้องกันเซิร์ฟเวอร์ของ Kiwifarms ก็ออกมาแสดงความยินดีที่ Cloudflare ตัดสินใจตามคำเรียกร้องของกลุ่ม แต่ก็ชี้ว่าสงครามยังไม่จบ และจะตามสู้กับเว็บ Kiwifarms ต่อไป
ที่มา - Kotaku |
# ธปท. สั่งผู้บริหาร ttb เข้าชี้แจงปัญหาแอพล่ม, ทำแผนปรับปรุงเสถียรภาพในระยะยาว
นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ชี้แจงแนวทางของ ธปท. ต่อเหตุการณ์ระบบแอพมือถือ ttb touch ของธนาคารทีเอ็มบีธนชาตล่มระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2022
ธปท. ได้สั่งการ 3 ข้อดังนี้
ผู้บริหาร ttb เข้ารายงานข้อเท็จจริงและแนวทางแก้ไขปัญหาระยะสั้น
ttb ต้องจัดทำแผนปรับปรุงและยกระดับมาตรฐานของระบบ เพื่อให้บริการ mobile banking ของ ttb มีความเสถียร โดยให้คณะกรรมการธนาคารกำกับดูแลการนำแผนไปปฏิบัติและประเมินผลอย่างจริงจัง รวมทั้งรายงานผลให้ ธปท. ทราบเป็นระยะ
คณะกรรมการธนาคารต้องพิจารณาความพร้อมของระบบการให้บริการ ก่อนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านดิจิทัล หรือก่อนเปลี่ยนระบบงานที่จะส่งผลต่อการให้บริการ Mobile Banking อย่างรอบคอบ
ธปท. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการกับ ttb เพิ่มเติมจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ที่มา - ธนาคารแห่งประเทศไทย (PDF) |
# ผู้ร่วมพัฒนาเกม Tamagotchi ตั้งบริษัทสร้างตุ๊กตา Avatar พาคนสู่โลกความเป็นจริง
Kazue Murase ผู้มีส่วนทำให้เกม Tamagotchi กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วงปี 2004 หลังจากเพิ่มฟีเจอร์สื่อสารระหว่างกันและออกลูก ได้ลาออกจากบริษัท Bandai Namco ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และมาตั้งบริษัทใหม่ของตัวเองที่มีชื่อว่า Fundard เพื่อสร้างตุ๊กตาอวตาร โดย Murase มีแนวคิดที่อยากให้ตุ๊กตาอวตารเป็นตัวแทนให้ผู้คนสื่อสารกันในโลกความเป็นจริง
ตัวอวตารมีชื่อว่า Jibungurumi เป็นตุ๊กตาที่มีขนาด 22 เซนติเมตร ผู้ใช้สามารถปรับแต่งผ่านทางเว็บไซต์ได้เองว่าจะให้ตุ๊กตามีหน้าตาแบบใด โดยเลือกได้ทั้งตา จมูก ปาก รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ เช่น แว่นตา โดยจะผสมกันได้รวมทั้งหมด 33.4 พันล้านแบบ
Jibungurumi จะเริ่มวางขายในเดือนตุลาคมในราคา $50 (ราว 1,830 บาท) โดยก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้วางขายตุ๊กตาแบบ crowdfunding มาก่อนหน้านี้แล้ว
ที่มา: Nikkei Asia |
# แอปเปิลย้ายโครงการ WebKit จาก Subversion ขึ้น GitHub
แอปเปิลประกาศย้ายโครงการซอร์สโค้ดของ WebKit จุดกำเนิดของเบราว์เซอร์ยุคใหม่ (ที่ใช้กับทั้ง Safari, Chromium และอื่นๆ แทบทุกตัวที่ไม่ใช่ Firefox) จากเดิมโฮสต์บนระบบ Subversion ของตัวเอง มาสู่ GitHub
ตัวโครงการ WebKit เปิดซอร์สมาตั้งแต่แรก เพียงแต่อยู่บน Subversion ระบบจัดการซอร์สโค้ดที่ถือกำเนิดมาก่อน Git เมื่อโลกเริ่มหมุนมาสู่ Git ด้วยจุดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาดีกว่า ทำให้แอปเปิลตัดสินใจเลือกย้ายจาก Subversion มายัง Git
แอปเปิลบอกว่ามีตัวเลือกโฮสต์ Git หลายทาง แต่สุดท้ายเลือก GitHub เพราะมีฐานชุมชนนักพัฒนาขนาดใหญ่ และมี API ใช้ง่าย ปรับแต่งสคริปต์อัตโนมัติเดิมเพียงเล็กน้อยก็ใช้งานได้ทันที
อย่างไรก็ตาม แอปเปิลพบจุดอ่อนของ Git คือค่าแฮชไม่เรียงลำดับตามการคอมมิต จึงแก้ไขด้วยการเพิ่มค่าใหม่ที่เรียกว่า commit identifier เข้าไปในเวิร์คโฟลว์ของทีม (รายละเอียดอ่านได้จากลิงก์ที่มา)
ที่มา - WebKit |
# คุยกับแบงค์ชาติเรื่องการทดสอบ Retail CBDC ในไทย เมื่อตัวเลขในแอปจะเป็นเงินของเราจริงๆ
เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศเตรียมเริ่มทดสอบเงินบาทดิจิทัล (Retail CBDC) ในวงจำกัดกับประชาชนราวหนึ่งหมื่นคน นับเป็นครั้งแรกที่คนไทยทั่วไปจะได้สัมผัสเงินบาทดิจิทัลกันจริงๆ ผมพูดคุยกับคุณกษิดิศ ตันสงวน ผู้อำนวยการ กลุ่มงานยุทธศาสตร์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงการทดสอบในครั้งนี้ ว่าเรากำลังทดสอบอะไร และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเลือกใช้งานจะเป็นอย่างไรหากมีการใช้งาน CBDC เป็นการทั่วไปจริงๆ
CBDC มีหลายแบบ คนละปัญหา และเป็นคนละเทคโนโลยี
ข่าวการทดสอบ CBDC นั้นมีมาแล้วหลายรอบนานนับปี โดยที่ผ่านมาเราอาจจะได้ยินความเชื่อมโยงระหว่างโครงการ CBDC ต่างๆ และเทคโนโลยีบล็อคเชน แต่ในการทดสอบ Retail CBDC รอบนี้จะเป็นระบบที่ใช้ฐานข้อมูลรวมศูนย์
คุณกษิดิศ ตันสงวน ผู้อำนวยการ กลุ่มงานยุทธศาสตร์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย
การทดสอบ CBDC รอบแรกๆ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยทดสอบนั้นใช้เทคโนโลยี Corda R3 ที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่ธนาคารกลางหลายประเทศ แต่รอบต่อมาก็ปรับไปทดสอบ Hyperledger Besu โดยโครงการทดสอบเหล่านี้เป็นการทดสอบสำหรับสถาบันการเงินที่มีเงื่อนไขการใช้งานต่างกัน เช่น การโอนเงินระหว่างสถาบันการเงินมีปริมาณธุรกรรมไม่มากนัก และความเร็วในการโอนไม่ใช่เงื่อนไขเหมือนการโอนรายย่อย แต่ผลการทดสอบ CBDC ระหว่างสถาบันการเงินในประเทศไทยเองกลับไม่ได้สร้างประโยชน์มากนัก เทียบกับระบบการโอนเงินที่ใช้งานทุกวันนี้เช่น BATHNET หรือ RTGS ที่ระบบของไทยเองโอนสำเร็จภายในวันเดียวอยู่แล้ว ขณะที่หลายประเทศอาจจะมีระบบโอนเงินที่ช้ากว่านี้
ภาพกระบวนการโอนเงินข้ามประเทศเมื่อสองธนาคารไม่มีความสัมพันธ์ (มีบัญชีธนาคารระหว่างกัน) โดยตรง แต่ทำให้ต้องใช้ธนาคารตัวกลาง (correspondent bank) มาช่วยส่งต่อเงิน ภาพโดย Bank of England
อย่างไรก็ดีเมื่อหันมามองปัญหาการโอนเงินข้ามประเทศ (cross border) ยังมีโอกาสที่จะใช้งาน CBDC บน Blockchain มาใช้งาน เพราะทุกวันนี้กระบวนการโอนเงินข้ามประเทศยังช้ามาก การทำงานจริงต้องผ่านตัวกลางหลายชั้น เพราะธนาคารแต่ละประเทศไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับธนาคารปลายทาง และการโอนภายในประเทศปลายก็มีปัญหาเวลาทำการที่ไม่ตรงกัน การใช้งาน CBDC จะช่วยให้ ธนาคารในเครือข่ายสามารถเชื่อมต่อกันได้โดยตรงแบบ peer-to-peer, ทำงานได้ตลอดเวลา, และสามารถยืนยันได้ว่าธุรกรรมจะสมบูรณ์ หรือหากไม่สำเร็จก็ยกเลิกไป (all-or-nothing)
CBDC สำหรับสถาบันการเงินยังมีปัญหาที่ต้องการสำรวจทางแก้ไขต่อไป เช่น กระบวนการกำกับดูแลที่แต่ละชาติจะมีเงื่อนไขต่างกัน และ CBDC ที่เชื่อมต่อหลายชาติเข้าด้วยกันต้องรองรับเงื่อนไขเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไข governance เช่น กระบวนการอนุญาตให้สถาบันการเงินเชื่อมต่อระบบเข้ากับเครือข่ายว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อมองเทคโนโลยีสำหรับการจ่ายเงินรายย่อย เงื่อนไขที่เปลี่ยนไปคือเงินที่เราใช้งานกันนั้นอาศัยความเชื่อใจในธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว การโอนเงินรายย่อยมีปริมาณธุรกรรมจำนวนมากและต้องการความรวดเร็ว จึงไม่มีเงื่อนไขที่ตรงบล็อคเชนเหมือนการโอนเงินข้ามประเทศ และเมื่อสำรวจเทคโนโลยีต่างๆ จึงพบว่าการออกแบบของ G+D Filia นั้นตรงกับความต้องการใช้งานจึงนำมาใช้ในการทดลองครั้งนี้ แต่การใช้เทคโนโลยีในการทดลองก็ไม่ใช่การเลือกเทคโนโลยีในระบบจริงแต่อย่างใด แนวทางนี้เลือกเทคโนโลยีสำหรับทำ Retail CBDC นั้นหลายชาติก็มักเลือกมายังระบบรวมศูนย์
G+D Filia ตัวเลือกหนึ่งสำหรับการสร้าง Retail CBDC ในอนาคต
G+D Filia เป็น 1 ใน 3 เทคโนโลยีที่ได้รางวัลจากธนาคารกลางสิงคโปร์เมื่อปี 2021 โดยมีจุดแตกต่างจากโซลูชั่นอื่นๆ คือ เงินทั้งหมดที่สร้างขึ้นในระบบเป็นโทเค็น และการโอนเงินไม่ต้องบันทึกธุรกรรมลงในฐานข้อมูลแต่อย่างใด นอกจากจะเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้แล้ว แนวทางของ G+D Filia ยังทำให้ระบบรองรับการจ่ายเงินแบบออฟไลน์ โดยทั้งผู้รับและผู้โอนไม่ต้องเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ รวมถึงเมื่อได้รับเงินแบบออฟไลน์มาแล้วก็สามารถโอนต่อไปได้ทันทีโดยไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์เช่นกัน
คุณกษิดิศ เล่าถึงกระบวนการเลือกเทคโนโลยีว่าการใช้งานออฟไลน์มีเงื่อนไขหลายอย่าง โดยการออกแบบระบบนั้น มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่ฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานต้องเชื่อถือได้จริง ไม่เช่นนั้นก็อาจจะมีการโจมตี double spending ในระบบได้ และข้อจำกัดอีกอย่างหนึ่งคือระบบการโอนเงินแบบออฟไลน์ของ G+D Filia นั้นยังเป็นระบบปิด (proprietary) ของบริษัทเอง หากในอนาคตจะมีการใช้งาน CBDC เป็นวงกว้างจริงธนาคารแห่งประเทศไทยก็อาจจะต้องพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองมาใช้งาน
การใช้งาน G+D Filia ผ่านโทรศัพท์มือถือ ภาพจาก G+D
การเปิดให้ใช้เงินบาทดิจิทัลแบบออฟไลน์นั้นยังมีเงื่อนไขที่ต้องคิดอีกมากว่าหากเปิดใช้งานจริงจะเป็นรูปแบบใด เพราะโดยทั่วไปแล้วชาติที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สูงก็ไม่มีความจำเป็นมากนัก ยังมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่อาจจะกำหนดได้หากเปิดใช้งานจริง เช่น สามารถใช้งานออฟไลน์ได้ช่วงเวลาหนึ่ง และต้องกลับมายืนยันรายการกับระบบออนไลน์ หรืออาจจะยอมให้ออฟไลน์เพียงข้างเดียวแบบเดียวกับที่เราจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตทุกวันนี้ สำหรับการทดสอบในปลายปีนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยจะทดสอบแบบออฟไลน์กับพนักงานของธนาคารแห่งประเทศไทยเองเท่านั้น ไม่เปิดให้คนนอกใช้งาน
Retail CBDC ของไทย ยังเป็นการทดสอบ รูปแบบการใช้งานไม่ต่างจากพร้อมเพย์
แม้ว่าเทคโนโลยีเบื้องล่างของ CBDC จะต่างจากเงินในบัญชีปกติ แต่การทดสอบวงกว้าง Retail CBDC ของไทยในปลายปีนี้ยังไม่มีการทดสอบแบบออฟไลน์ แต่อย่างใด ผู้ใช้ต้องโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารเข้าไปยังบัญชี CBDC ที่เลขบัญชีต่างออกไป (อาจจะมีทั้งตัวเลขและตัวอักษร ความยาวเพิ่มขึ้น) ในแต่การใช้งานยังต้องมีการเปิดบัญชีเหมือนบัญชีธนาคารอยู่ กระบวนการทดสอบจะเป็นการสร้างทราฟิกการใช้งานจริง มีผู้ใช้ถือ CBDC และมีร้านค้ารับจ่ายค่าสินค้าด้วย CBDC จริง
กระบวนการทดสอบนี้จะทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถทดสอบกระบวนการทำงานด้านหลัง เช่น กระบวนการออกโทเค็น CBDC ว่าการทำงานภายใน ทำให้สามารถประเมินระบบอย่างสมจริง แต่สำหรับผู้ใช้ปกติก็จะไม่ต่างจากการใช้งานพร้อมเพย์ทุกวันนี้นัก
ขณะที่การพัฒนานวัตกรรม ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็กำลังเปิดรับความเห็นให้ทุกคนส่งแนวทางการการใช้งานที่เป็นนวัตกรรมไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย ผ่านทาง CBDC Hackathon เพื่อสำรวจว่าภาคธุรกิจมีความต้องการใช้งานประเภทใดบ้าง
กระบวนการทดสอบนี้จะมีช่วงเวลาจำกัด คาดว่าจะทดสอบถึงกลางปี 2023 แล้วหยุดการทดสอบเพื่อประเมินผลต่อไป ไม่เหมือนโครงการทดสอบ Retail CDBC ของจีนที่ทดสอบเป็นวงกว้างมากและขยายไปเรื่อยๆ
Retail CBDC ถ้าใช้งานจริงต้องมีเทคโนโลยีของตัวเอง สร้างนวัตกรรมใหม่
คุณกษิดิศยังระบุถึงอนาคตของ Retail CBDC ว่าหากมีการใช้งานจริงในอนาคตก็นับเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ควรผูกกับผู้ผลิตรายใดรายหนึ่ง แม้ตอนนี้ช่วงทดสอบจะใช้เทคโนโลยีของ G+D ไป แต่หากจะใช้งานจริงก็ต้องสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อให้มีความยืดหยุ่น สามารถควบคุมความเสี่ยงต่างๆ ด้วยตัวเองได้
การใช้งาน Retail CBDC ของแต่ละประเทศอาจจะต่างกันเพราะแต่ละประเทศก็มีปัญหาต่างกันไป เช่น จีนมีปัญหาที่ระบบโอนเงินอยู่ในมือของเอกชนไม่กี่ราย หรือสวีเดนที่มีอัตราการจ่ายผ่านบัตรสูงมาก สำหรับประเทศไทยเองกระบวนการจ่ายเงินผ่านพร้อมเพย์สามารถใช้งานได้ดีและไม่มีการผูกขาดกับผู้ให้บริการน้อยรายนัก แนวทางของไทยนั้น CBDC การสร้าง CBDC จึงเป็นการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คุณสมบัติ programmability เข้าไปกำหนดการทำงานของเงิน หรือการถ่ายโอนมูลค่าไปยังระบบอื่นๆ เป็น synthetic CBDC ซึ่งกระบวนการเหล่านี้อาจจะทำได้ยากในระบบธนาคารเดิมๆ ที่ไม่ใช่ CBDC เพราะธนาคารต้องบริหารสภาพคล่องของตัวเอง การเปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างเงื่อนไขกับบัญชีตัวเองได้อย่างอิสระก็จะมีความเสี่ยงสภาพคล่องเพิ่มขึ้นมา ขณะที่ผู้ให้บริการ CBDC นั้นเป็นเพียงผู้ถือเงินแทนเจ้าของเท่านั้น ไม่มีความเสี่ยงสภาพคล่องแต่อย่างใด |
# หัวหน้าทีม Web3 ของ Snap บอกโดนสั่งปิดโครงการ ปลดพนักงานออกยกทีม
เราเห็นข่าว Snap ปลดพนักงานครั้งใหญ่ 20% ของพนักงานทั้งหมด ปิดหลายแผนกที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท เช่น ฮาร์ดแวร์โดรน, ทีมผลิตซีรีส์สั้น Snap Originals, เกมและมินิแอพ
ล่าสุด Jake Sheinman อดีตผู้จัดการทีม Web3 ของ Snap ออกมาเปิดเผยว่าบริษัทปิดโครงการ Web3 และปลดพนักงานทีมของเขาออกด้วยเช่นกัน ตัวเขาและทีมเข้ามาทำงานนี้ด้วยความเชื่อว่าแนวคิด "ความเป็นเจ้าของ" (digital ownership) ของ web3 จะไปกันได้กับ augmented reality (AR) ที่ Snap ยังผลักดันอยู่
Snap ไม่ได้พูดถึงโครงการ web3 ในประกาศปลดคนครั้งที่ผ่านมา โฆษกของ Snap แถลงว่าโครงการ web3 เป็นการสำรวจหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของบริษัท มีทีมงานไม่กี่คน และไม่ได้เกี่ยวกับแผนการด้าน AR ของบริษัทโดยตรง
ที่มา - Bloomberg |
# ซัมซุงอัพเดตฟีเจอร์จาก Z Flip/Fold 4, Galaxy Watch 5 ให้มือถือจอพับ-นาฬิการุ่นเก่า
ซัมซุงประกาศปล่อยอัพเดต One UI 4.1.1 ที่มาพร้อมกับ Galaxy Z Fold 4 และ Z Flip 4 ให้กับมือถือจอพับรุ่นเก่า ย้อนกลับไปตั้งแต่ Galaxy Z Fold รุ่นแรก
One UI 4.1.1 อิงอยู่บน Android 12L ของกูเกิล ทำให้มีทาสก์บาร์เพิ่มเข้ามาใน UI หลัก, จับคู่แอพใน Taskbar ให้เปิดแอพทีเดียว 2 ตัวพร้อมกัน, รองรับการลากแอพเข้าขอบด้านข้างเพื่อเปิดหน้าต่างแบบ split view, รองรับการถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลังแล้วพรีวิวบนจอหน้า, แสดงข้อมูลเพิ่มขึ้นบนจอเล็กของ Z Flip เป็นต้น
ซัมซุงยังปล่อยอัพเดต One UI Watch 4.5 ของนาฬิกา Galaxy Watch 5 ให้กับนาฬิการุ่นเก่าเช่นกัน โดย Galaxy Watch 4 ได้ฟีเจอร์ทัดเทียมกัน ส่วน Galaxy Watch 3 และ Watch Active 2 จะได้ฟีเจอร์บางอย่างของ One UI Watch 4.5
ที่มา - Samsung |
# ลือก่อนงาน Far Out: iPhone 14 มี 4 รุ่นย่อย, Apple Watch Pro และ AirPods Pro 2 เปิดตัวด้วย
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลผ่านจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On โดยครั้งนี้เป็นข้อมูลล่าสุดก่อนงาน Far Out คืนวันพุธนี้ มีรายละเอียดดังนี้
เริ่มที่ iPhone 14 จะมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย และเป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้คือยกเลิกรุ่น mini จะแบ่งเป็นรุ่นจอปกติ 6.1 นิ้ว คือ iPhone 14 กับ iPhone 14 Pro และรุ่นจอ 6.7 นิ้ว iPhone 14 Plus และ iPhone 14 Pro Max ฟีเจอร์เด่นที่เป็นจุดขายจะอยู่ในรุ่น Pro เป็นหลัก ทั้งชิป A16, หน้าจอแบบ Always-On, กล้องหลัง 48MP, ด้านหน้าแนวเซ็นเซอร์ Face ID ขนาดเล็กลง
ถึงแม้ iPhone จะเป็นสินค้าชูโรงของงานเดือนกันยายน แต่จะมีสินค้าอื่นเปิดตัวในงานด้วยคือ Apple Watch รุ่นทนทาน ที่ตอนนี้เรียกว่ารุ่น Pro, รวมทั้ง Apple Watch Series 8 รุ่นอัพเกรดประจำปี และ Apple Watch SE รุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังมี AirPods Pro รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวด้วย
สุดท้าย Gurman ให้ข้อมูลล่าสุดสินค้าใหม่อื่น ๆ ของแอปเปิล แต่ยังไม่เปิดตัวในงานสัปดาห์นี้ โดยเฮดเซต VR เขาได้ข้อมูลว่าจะใช้ชื่อ Reality Pro หรือ Reality One กำหนดวางขายปีหน้า
ที่มา: Bloomberg |
# นักพัฒนาแอปเกาหลีใต้โอด โดนหักเงินส่วนแบ่งค่าแอปใน App Store เกินไปหลายพันล้าน
KMGA (Korea Mobile Game Association) สมาคมนักพัฒนาเกมมือถือของเกาหลีใต้ได้ร้องเรียนต่อ FTC เมื่อเดือนก่อน ให้ช่วยตรวจสอบ Apple ในประเด็นการหักเงินส่วนแบ่งการขายแอปและไอเทมอื่นๆ ใน App Store เกินจากที่กำหนดไว้
ข้อกำหนดของ Apple นั้นระบุว่านักพัฒนาต้องแบ่งรายได้จากการขายแอปและไอเทม 30% ให้ทาง Apple แต่ Hwang Sung-ick ประธาน KMGA ระบุว่าความจริงแล้ว Apple เก็บเงินส่วนแบ่งจากพวกเขาในสัดส่วน 33% ซึ่งเกินกว่าที่กำหนดไว้ในข้อตกลง สาเหตุเป็นเพราะ Apple นำเอาราคาขายหลังบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% มาเป็นฐานในการคำนวณส่วนแบ่ง
Hwang อธิบายว่าการขายแอปและไอเทมนั้นจะมีการบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% เพิ่มไปจากราคาที่ตั้งไว้เดิม ทำให้ผู้ใช้ต้องจ่ายเงิน 110% ของราคาดั้งเดิมของแอปและไอเทมนั้น ยกตัวอย่างเช่น หากตั้งราคาแอปไว้ที่ 1,000 วอน ผู้ที่ซื้อแอปจะต้องจ่ายเงินจริงเป็นจำนวน 1,100 วอน ซึ่งในกรณีนี้นักพัฒนาคิดว่าส่วนแบ่งที่ต้องจ่ายให้ Apple ควรอยู่ที่ 300 วอนเท่านั้น (30% ของราคาแอปก่อนบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่ในความเป็นจริงพวกเขาจะถูก Apple หักเงินไป 330 วอน
Hwang ระบุว่าส่วนต่างของเงินที่เป็นประเด็นขัดแย้งนี้อิงจากมูลค่าเงินที่มีการซื้อแอปและไอเทมผ่าน App Store ในช่วงปี 2015 ถึงปี 2020 มีมูลค่าสูงถึง 345 พันล้านวอน (ประมาณ 9.3 พันล้านบาท)
นักกฎหมายรายหนึ่งให้ความเห็นต่อ Korea JoongAng Daily ว่าถึงแม้เนื้อความที่ Apple ระบุในเงื่อนไขการใช้งานแพลตฟอร์มนั้นยากต่อการตีความในทางกฎหมาย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ Play Store ของ Google ซึ่งหักส่วนแบ่งโดยคิดจากยอดเงินที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็อาจทำให้ประเด็นนี้มีน้ำหนักพอที่จะโน้มน้าวให้ FTC รับเรื่องเพื่อตรวจสอบ
ที่มา - Korea JoongAng Daily |
# ช่อง YouTube ของรัฐบาลเกาหลีใต้ถูกแฮคกลายเป็นช่อง "SpaceX Invest"
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ช่อง YouTube ของรัฐบาลเกาหลีใต้และหน่วยงานรัฐอื่นๆ รวม 3 ช่องถูกแฮค โดยช่องหลักของรัฐบาลถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "SpaceX Invest"
ช่อง YouTube หลักของรัฐบาลเกาหลีใต้ "대한민국 정부" ถูกแฮคในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 3 กันยายนผ่านมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงวัฒนธรรมจะทราบเรื่องจากการเห็นคนโพสต์ข้อความออนไลน์พร้อมภาพประกอบว่าช่องดังกล่าวในขณะที่แพร่ภาพคลิปสัมภาษณ์ Elon Musk หลังจากนั้นไม่นานทางกระทรวงวัฒนธรรมก็สามารถกู้สิทธิ์ควบคุมช่องกลับคืนมาได้ในช่วงเช้าวันเดียวกัน
ช่อง "대한민국 정부" ของรัฐบาลเกาหลีใต้
ก่อนหน้านั้นในวันพฤหัสบดี ช่อง "Imagine Your Korea" ของสำนักงานท่องเที่ยวเกาหลีใต้ซึ่งเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งภาครัฐก็โดนแฮคเช่นกันก่อนที่ทีมงานจะสามารถกู้ช่องคืนมาได้ในช่วงเย็นวันเสาร์ และย้อนไปก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ช่อง "국립현대미술관" ซึ่งเป็นช่องของพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และศิลปะร่วมสมัยแห่งชาติของเกาหลีใต้ก็ถูกแฮคก่อนจะช่องจะได้รับการกู้คืนมาภายในวันเดียวกัน
ช่อง YouTube ทั้ง 3 ช่องที่ว่ามานี้อยู่ในความรับผิดชอบดูแลของเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ทั้งหมด ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้จัดประชุมด่วนเมื่อวันเสาร์เพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้รวมทั้งวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยตอนนี้ทั้ง Google และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนเหตุการณ์เพื่อหาว่าการแฮคครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ที่มา - The Korea Herald |
# งานวิจัยแบตเตอรี่จากกระดองปู ทางเลือกแบตเตอรี่ราคาถูกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นักวิจัยจาก University of Maryland พัฒนาแบตเตอรี่ที่นำเอาสารสกัดจากกระดองปูมาทำแบตเตอรี่ เปิดความเป็นไปได้ในการพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดใหม่เพื่อใช้งานในเชิงพาณิชย์ซึ่งไม่เพียงจะมีราคาถูกลงแต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
ในปัจจุบันนี้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนได้รับความนิยมใช้งานมากเนื่องจากความสามารถในการเก็บประจุและความเสถียรในการใช้งานซ้ำ แต่ปัญหาสำคัญของแบตเตอรี่ชนิดนี้คือลิเธียมและโคบอลต์ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญนั้นหายากทำให้มีต้นทุนในการผลิตค่อนข้างสูง และนี่คือที่มาของงานวิจัยนี้
ทีมวิจัยได้พุ่งความสนใจไปที่การสร้างแบตเตอรี่ที่ใช้ไอออนสังกะสีแทนลิเธียมไอออน เนื่องจากสังกะสีนั้นเป็นธาตุที่หาได้ง่ายกว่ามาก อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการพัฒนาแบตเตอรี่สังกะสีมีอุปสรรคสำคัญคือการเกิด dendrite ขึ้นในแบตเตอรี่ซึ่งเกี่ยวพันกับเรื่องอายุการใช้งานของแบตเตอรี่, ประสิทธิภาพในการใช้งานหลังชาร์จไฟ รวมทั้งเรื่องความเสี่ยงของการลัดวงจรในตัวแบตเตอรี่
dendrite ที่ว่านี้หมายถึงโครงสร้างเนื้อโลหะรูปร่างคล้ายเฟิร์นที่เกิดขึ้นจากอนุภาคโลหะของขั้วไฟฟ้ามาสะสมก่อตัวกันซึ่งเป็นเรื่องปกติในการใช้งานแบตเตอรี่ สำหรับแบตเตอรี่ที่เกิด dendrite ได้ง่ายและเกิดเร็วนั้นจะมีอายุการใช้งานสั้น และประสิทธิภาพการจ่ายไฟจะแย่ลงมากหลังการชาร์จไฟ และยิ่งหาก dendrite ที่เกิดขึ้นมีโครงสร้างงอกรุกล้ำผ่านชั้นวัสดุกั้นกลางของแบตเตอรี่แล้วมันจะทำให้เกิดการลัดวงจรระหว่างขั้วไฟฟ้าภายในตัวแบตเตอรี่เอง
และด้วยความสำคัญของปัญหา dendrite ดังที่ว่ามาจึงทำให้โจทย์สำคัญของงานวิจัยนี้ก็คือการหาวิธีที่จะสร้างแบตเตอรี่ไอออนสังกะสีที่จะไม่เกิด dendrite โดยง่าย ซึ่งพวกเขาคิดหาทางด้วยการพัฒนาสารอิเล็กโตรไลท์ชนิดพิเศษ
สารอิเล็กโตรไลท์ที่ว่านี้คือสารที่เป็นสื่อกลางในการถ่ายเทประจุไอออนระหว่างขั้วไฟฟ้าทั้ง 2 ภายในตัวแบตเตอรี่ ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นของเหลว, ครีมข้น หรือเป็นเจลก็ได้ (น้ำกรดในแบตเตอรี่รถยนต์ก็เป็นสารอิเล็กโตรไลท์อย่างหนึ่ง) คุณสมบัติของสารอิเล็กโตรไลท์นั้นขั้นต้นคือต้องนำไอออนของธาตุที่ใช้เป็นขั้วแบตเตอรี่ได้ซึ่งในที่นี้ก็คือสังกะสี ส่วนคุณสมบัติสำคัญข้อต่อมาสำหรับงานวิจัยนี้คือมันจะต้องช่วยลดการเกิด dendrite ของธาตุสังกะสี ยิ่งเกิด dendrite ได้ยากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้แบตเตอรี่มีความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มอายุการใช้งานและจำนวนรอบในการชาร์จซ้ำโดยยังคงประสิทธิภาพการจ่ายไฟได้ดีด้วย และสุดท้ายสารอิเล็กโตรไลท์ที่ทีมวิจัยต้องการนั้นจะต้องมีต้นทุนในการผลิตต่ำและหาวัสดุมาทำได้ง่าย
จากการค้นคว้าทีมวิจัยพบว่า chitosan คือคำตอบสำหรับพวกเขา มันช่วยลดการเกิด dendrite ของอนุภาคสังกะสีได้ดี ทั้งยังเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายจากวัสดุเหลือทิ้งที่มีอยู่มากมายอย่างกระดองปู เนื่องจาก chitosan เป็นสารสกัดจาก chitin อันเป็นพอลิเมอร์ที่มีอยู่อย่างมากมายตามธรรมชาติซึ่งสามารถพบได้ทั้งในสัตว์เปลือกแข็งอย่างปูและกุ้ง รวมทั้งผนังเซลของราบางชนิด
จากการทดสอบทีมวิจัยพบว่าแบตเตอรี่ไอออนสังกะสีที่ใช้ chitosan มาทำเป็นสารอิเล็กโตรไลท์นั้นยังคงประสิทธิภาพในการจ่ายไฟสูงถึง 99.7% หลังการชาร์จไฟซ้ำ 1,000 รอบ
นอกจากนี้แบตเตอรี่ของทีมวิจัยยังมีข้อเด่นอีกประการคือมันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน เนื่องจากจุลชีพนั้นสามารถย่อยสลาย chitosan ได้ง่าย ทีมวิจัยระบุว่าองค์ประกอบ 2 ใน 3 ของแบตเตอรี่ที่พวกเขาพัฒนาขึ้นนั้นสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติภายในเวลา 5 เดือน ส่วนสังกะสีที่หลงเหลือหลังจากนั้นก็สามารถนำมารีไซเคิลเพื่อใช้งานใหม่ได้อีก ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในปัจจุบันที่มีชิ้นส่วนบางอย่าง เช่น โพลีคาร์บอเนตและโพลีโพรพีลีนที่ใช้ในแบตเตอรี่ ต้องอาศัยเวลานานหลายร้อยหรือหลายพันปีกว่าจะย่อยสลายได้หมด
เรียกได้ว่างานวิจัยนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการแบตเตอรี่ที่วันหนึ่งอาจส่งผลให้อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ฟาร์มผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์, ฟาร์มผลิตไฟฟ้าพลังงานลม หรือรถยนต์ไฟฟ้า มีความรุดหน้าและแพร่หลายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดของงานวิจัยนี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
ที่มา - Interesting Engineering
ภาพ: Diego Delso, delso.photo, License CC-BY-SA |
# แอพเรียกรถ Yandex Taxi ของรัสเซียถูกแฮ็ก เรียกแท็กซี่ไปรวมกันสร้างรถติดในมอสโก
มีรายงานจากสำนักข่าวรัสเซีย @runews ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนแฮ็กระบบของแอพเรียกรถ Yandex Taxi และสั่งให้แท็กซี่ที่ว่างอยู่ตอนนั้นไปรวมตัวกันที่ถนน Kutuzovsky Prospekt กลางกรุงมอสโก และเกิดภาวะจราจรติดขัดบริเวณนั้น
โฆษกของ Yandex ยืนยันการแฮ็กระบบครั้งนี้จริง แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าถูกโจมตีได้อย่างไร บอกแค่ว่าภาวะการจราจรคลี่คลายภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง
เหตุการณ์นี้อาจคล้ายๆ กับภาพยนตร์ The Fate of the Furious (Fast and Furious ภาค 8) ที่ตัวละครในหนังสร้างภาวะรถติดในนครนิวยอร์กด้วยการแฮ็กระบบรถยนต์ แต่กรณีการแฮ็ก Yandex ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดจากแอพเรียกรถลักษณะนี้
ที่มา - Vice |
# [Gartner] ตลาด Conversational AI จะมาลดต้นทุน Call Center ได้ถึง 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2026
บริษัทวิจัยตลาด Gartner พยากรณ์ว่าจะมีการลงทุนใน AI สำหรับตอบโต้บทสนทนา (Conversational AI) เพื่อใช้ในงาน Call Center รวมราว 2 พันล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2022 ผลจากการลงทุนนี้จะช่วยลดต้นทุนแรงงานคนได้ถึง 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในปี 2026
Daniel O’Connell รองประธานฝ่ายวิเคราะห์ของ Gartner ให้ข้อมูลว่าองค์กรส่วนใหญ่ ประสบปัญหาท้าทายของการขาดแคลนแรงงานในฝ่าย Call Center และต้นทุนส่วนใหญ่ของธุรกิจนี้ก็คือค่าแรง การนำ AI มาช่วยจึงลดต้นทุนส่วนนี้ได้ และ AI ประเภทดังกล่าวก็มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาก ในแง่ประสบการณ์ของฝั่งลูกค้า
ปัจจุบันการสนทนาผ่าน Call Center ที่เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมดมีอยู่ราว 1.6% Gartner คาดว่าตัวเลขในปี 2026 จะเพิ่มเป็น 10% ส่วนปัจจัยท้าทายที่สุดคือเทคโนโลยี ซึ่งยังมีราคาสูง โดยเฉพาะรูปแบบบทสนทนาและเนื้อหาดูแลที่ซับซ้อน
ที่มา: Gartner ภาพ Pixabay |
# ภัยเงียบรถไฟฟ้า: เครื่องแรง น้ำหนักเยอะ โครงสร้างดุเท่ ส่อเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
เว็บไซต์ Slate.com รายงานว่า ผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาต่างเดินหน้าพัฒนา และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น พร้อมจูงใจผู้ซื้อด้วยตัวรถที่มีสมรรถนะสูง และการออกแบบที่ดุดันตามความชื่นชอบของผู้ซื้อที่นั่น แต่ในมุมบวกเหล่านั้นกลับมีภัยร้ายซ่อนอยู่ นั่นคือ อุบัติเหตุ บนท้องถนนที่จะร้ายแรงขึ้น โดยเว็บดังกล่าวมองไว้ 3 เรื่องคือ
1.น้ำหนักของรถยนต์ไฟฟ้าที่มากกว่ารถยนต์ปกติ ทำให้เวลาเกิดการชนย่อมมีความเสียหายกับรถยนต์คันอื่น หรือผู้คนมากกว่าเดิม โดยเหตุที่รถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน เพราะต้องติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จนตัวรถมีน้ำหนักหลายตัน เช่น Hummer EV ของกลุ่ม GM ที่มีน้ำหนักแบตเตอรี่ถึง 4 ตัน มากกว่า Honda Civic ทั้งคันที่มีน้ำหนักราว 1.4 ตัน
2.สมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าที่แรงเกินไปทำให้ง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่า ซึ่งทุกค่ายผลิตรถยนต์ต่างนำสมรรถนะนี้มาสื่อสารเป็นอีกจุดขาย เช่น รถยนต์แบบ SUV ของ Chervolet รุ่น Blazer EV สามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4 วินาที เทียบเท่ากับรถยนต์ Muscle Car อย่าง Dodge Charger และ Ford Mustang รวมถึง Tesla รุ่น Model X Plaid ที่เร่งในความเร็วดังกล่าวได้ภายใน 2.5 วินาที
3.การออกแบบที่เน้นความดุดันเพื่อจูงใจผู้ซื้อในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะ เช่น Ford รุ่น F-150 Lightning ที่ทำพื้นที่กระโปรงหน้าคล้ายเดิม โดยเปลี่ยนเป็นที่เก็บของ พร้อมตั้งชื่อเท่ ๆ ว่า Frunk (Front+Trunk) เพราะตัวรถไม่มีเครื่องยนต์อีกต่อไป ส่วนแบตเตอรี่จะวางอยู่ใต้ตัวรถ แทนที่จะออกแบบให้กระโปรงหน้าลาดเอียงเพื่อช่วยลดแรงประทะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และผู้ขับขี่มองเห็นด้านหน้าได้ง่ายขึ้น
ทั้งหมดนี้ยังไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นจริงเป็นจัง และทางเว็บดังกล่าวมองว่าเป็นอันตรายบนท้องถนนที่ควรระวัง ซึ่งทางแก้ที่ไม่ต้องหวังพึ่งผู้ผลิตรถยนต์อาจต้องให้หน่วยงานกำกับเกี่ยวกับการใช้ท้องถนนออกกฎ เช่น มีขีดจำกัดในการใช้เวลาเร่ง 0-100 กม./ชม. บนท้องถนน, การนำน้ำหนักรถมาคิดภาษีเพิ่มเพื่อลดการจูงใจในการซื้อ รวมถึงการเข้ามากำกับเรื่องการออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่ใส่ใจคนเดินถนนด้วย
อ้างอิง // Slate
ภาพจาก Ford |
# Nokia เปิดตัว Circular บริการ Subscription ใช้งานสมาร์ทโฟนแบบจ่ายรายเดือน
HMD Global เปิดตัวสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต แบรนด์ Nokia 4 รุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัวบริการใช้งานมือถือแบบ Subscription มีรายละเอียดดังนี้
สมาร์ทโฟน 4 รุ่นใหม่ HMD Global บอกว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุดเท่าที่มีมา ได้แก่ Nokia X30 5G สมาร์ทโฟนที่ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% และพลาสติกรีไซเคิล 65%, Nokia G60 5G ใช้พลาสติกหลังจากการรีไซเคิล 100% พร้อมแนวคิด 3-3-3 คือการันตีอัพเดต Android 3 ปี, มีอัพเดตความปลอดภัยทุกเดือน 3 ปี และรับประกัน 3 ปี
Nokia C31 สมาร์ทโฟนตระกูล C เน้นแบตเตอรี่อึด ใช้งานได้นาน 3 วัน และ Nokia T21 แท็บเล็ตตัวเครื่องอะลูมิเนียม ใช้พลาสติกรีไซเคิล 60% หุ้มเสาอากาศ
ไฮไลท์ของการเปิดตัวนี้คือบริการชื่อ Circular ที่เป็นบริการ Subscription จ่ายค่าใช้สมาร์ทโฟนแบบรายเดือน ทำให้ไม่ต้องจ่ายเครื่องราคาเต็ม (ขออภัยด้วยที่อีกแบรนด์ยังไม่ได้ทำ) โดย Nokia จะใช้แอป MyDevice ในการควบคุมปิดเปิดการใช้งาน ผู้ใช้งานจะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า และจ่ายค่าใช้เครื่องรายเดือน เบื้องต้น Nokia จะให้บริการนี้เฉพาะในอังกฤษและเยอรมนี ซึ่งต้องซื้อเครื่องกับทาง Nokia โดยตรง ไม่ผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย
HMD Global บอกว่าบริการนี้จะทำให้การใช้สมาร์ทโฟนมีความยั่งยืน เพราะ Nokia จะควบคุมทั้งการนำไปรีไซเคิล นำไปซ่อมแก้ไข จนถึงนำไปให้ผู้ใช้งานคนอื่นต่อ ลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ผู้สมัครใช้งานยังได้รับการประกันความเสียหายของเครื่องด้วย
ที่มา: HMD Global |
# The Lord of the Rings: The Rings of Power ทำสถิติผู้ชมทั่วโลกวันแรก 25 ล้านคน สูงสุดของ Prime Video
Amazon ประกาศว่าซีรี่ส์ออริจินัล The Lord of the Rings: The Rings of Power มีผู้ชมทั่วโลกในวันแรกที่ออกฉาย 2 ตอนแรก รวม 25 ล้านคน เป็นสถิติสูงสุดที่เคยมีมาของแพลตฟอร์ม Prime Video โดยซีรี่ส์ดังกล่าวเผยแพร่ในกว่า 240 ประเทศทั่วโลก
ซีรี่ส์ The Lord of the Rings: The Rings of Power สร้างจากนิยายของ J.R.R. Tolkien และเป็นซีรี่ส์ฉายทางโทรทัศน์ที่ลงทุนสูงสุดเท่าที่เคยมีมา โดยกำหนดฉายเป็นรายสัปดาห์ไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคมนี้
ก่อนหน้านี้ HBO ก็เพิ่งประกาศว่า House of the Dragon ซีรี่ส์ที่เล่าเรื่องก่อน Game of Thrones ก็เปิดตัวด้วยจำนวนผู้ชมสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของแพลตฟอร์มเช่นกัน
ที่มา: Amazon ผ่าน CNBC |
# กองทัพบกสหรัฐ เริ่มรับมอบแว่น HoloLens ทางการทหารจากไมโครซอฟท์แล้ว
Bloomberg รายงานว่ากองทัพบกสหรัฐ เริ่มรับมอบแว่น HoloLens ที่ใช้ในการทหารจากไมโครซอฟท์แล้ว หลังมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าผลการทดสอบยังไม่เป็นที่น่าพอใจของกองทัพ
ไมโครซอฟท์ชนะประมูลโครงการ Integrated Visual Augmentation System (IVAS) ของกองทัพบกสหรัฐ เมื่อเดือนเมษายน 2021 โดยกองทัพบกสหรัฐตั้งเป้าสั่งซื้อแว่น 120,000 ชุดในอีก 10 ปีข้างหน้า
แว่นของไมโครซอฟท์เป็น HoloLens เวอร์ชันปรับแต่งเพื่อการใช้งานทางทหาร เพื่อให้ผู้บัญชาการสามารถสั่งการหรือประกาศข้อมูลขึ้นบนจอภาพของแว่นได้
แว่นชุดแรกที่สั่งซื้อมีจำนวน 5,000 ชุด ตอนแรกมีข่าวว่าผลการทดสอบไม่ดีนัก แต่เมื่อไมโครซอฟท์ปรับแก้ไขตามที่กองทัพต้องการ ฝั่งของทัพก็เริ่มรับมอบแว่นบางส่วนบ้างแล้ว และจะมีการทดสอบขั้นสุดท้ายช่วงเดือนตุลาคมนี้
ภาพจาก กองทัพสหรัฐ
ที่มา - Bloomberg, Yahoo News |
# Cloudflare เปลี่ยนใจ บล็อคเว็บบอร์ด Kiwifarms เป็นกรณีพิเศษ เพราะคุกคามชีวิตคน
สัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นเรื่องเว็บบอร์ด Kiwifarms ที่ก่อตั้งโดย Josh Moon อดีตทีมงานบอร์ด 8chan และมีแนวคิดต่อต้านบุคคลข้ามเพศ (anti-trans) โดยสมาชิกของกลุ่ม Kiwifarms นิยมการเปิดเผยตัวตน (doxxing) ของบุคคลที่เป็นเป้าหมาย หรือโทรเรียกตำรวจให้บุกบ้านเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งความรุนแรงในบ้านที่ไม่มีอยู่จริง (swatting) จนถึงขั้นมีคนอย่างน้อย 3 คนต้องฆ่าตัวตายเพราะตกเป็นเป้าหมายของ Kiwifarms มาแล้ว
สมาชิกของ Kiwifarms ยังถึงขั้นตามรอย Clara Sorrenti หรือ "Keffals" สตรีมเมอร์ Twitch ข้ามเพศรายหนึ่งไปทั่วโลก เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ที่อยู่ของเธอและคนในครอบครัว เรียกตำรวจไปบุกบ้าน ทำให้เธอตอบโต้กลับด้วยแคมเปญเรียกร้องให้ Cloudflare หยุดให้บริการป้องกันเว็บ Kiwifarms จากการโจมตีประเภทต่างๆ (เช่น DDoS) ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนทางอ้อมให้คนไม่ดีมีที่ยืน
ประเด็นนี้ทำให้ Cloudflare ต้องออกมาประกาศนโยบายว่าไม่ยุ่งกับเนื้อหาในเว็บของลูกค้า เพราะมองตัวเองเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure provider เท่านั้น) และยืนยันว่าจะให้บริการกับ Kiwifarms ในฐานะลูกค้าของตัวเองต่อไป
แต่ล่าสุด Cloudflare กลับคำแล้ว เปลี่ยนใจมาบล็อคการเข้าถึงเว็บ Kiwifarms ในเครือข่ายของ Cloudflare โดยให้เหตุผลว่าเกิดเหตุการณ์ "ฉุกเฉิน" ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตคน (ไม่ระบุรายละเอียดว่าใคร) บริษัทจึงตัดสินใจบล็อค Kiwifarms เป็นกรณีพิเศษ
Cloudflare ชี้แจงว่า Kiwifarms อาจย้ายเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองไปยังผู้ให้บริการรายอื่น และกลับมาออนไลน์ได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่อาจเข้าถึงได้ผ่านเครือข่ายของ Cloudflare
ที่มา - Cloudflare, NBC |
# NASA ยกเลิกการยิงจรวดตามภารกิจ Artemis I รอบที่สอง เจอปัญหาเชื้อเพลิงรั่วอีกแล้ว
ภารกิจ Artemis I ยังเป็นมหากาพย์ไม่จบไม่สิ้น หลัง NASA เตรียมพยายามยิงจรวดเป็นรอบที่สองคืนนี้ราว 1.17 น.
ล่าสุด NASA ประกาศยกเลิกการยิงจรวดแล้ว หลังพบปัญหาไฮโดรเจนเหลวรั่วขณะเติมในถังเชื้อเพลิงของจรวด Space Launch System (SLS) ซึ่งเป็นอาการคล้ายๆ กับปัญหาของรอบที่แล้ว แต่รายละเอียดยังต้องรอการสอบสวนของ NASA อีกครั้ง
ที่มา - NASA |
# แอพ TTB Touch กลับมาใช้งานได้แล้ว ธนาคารออกมาตรการชดเชยลูกค้า
ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต แจ้งว่าแอพมือถือ TTB Touch ที่ล่มมาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2022 กลับมาใช้งานได้แล้ว ในช่วงประมาณ 20.21 น. ของวันที่ 3 กันยายน 2022 (นับตามเวลาที่ประกาศ) โดยระบุว่าลูกค้าบางคนอาจยังเข้าใช้งานไม่ได้ หรือใช้เวลานานในการเข้าระบบหรือทำธุรกรรม อันเนื่องมาจากปริมาณธุรกรรมสะสมจำนวนมาก ธนาคารขอแนะนำให้ลูกค้าเว้นระยะและเข้าใช้งานใหม่ในภายหลัง
ธนาคารยังประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ 4 ข้อดังนี้
ลูกค้าที่ไม่มีบัตรเดบิตของธนาคาร สามารถติดต่อเพื่อขอออกบัตรฯ ได้ โดยจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม สำหรับบัตรฯ ที่ออกใหม่ จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2565
ลูกค้าที่ถือบัตรเดบิตของธนาคารอยู่แล้ว จะได้รับการชดเชยเงินค่าธรรมเนียมรายปีตามสัดส่วน สำหรับช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แอป ttb touch ขัดข้อง
ลูกค้าที่ทำธุรกรรมโอนเงินรายย่อยข้ามธนาคาร (ORFT) ณ สาขาทีเอ็มบีธนชาตทั่วประเทศ จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมฯ จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2565
ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากระบบที่ขัดข้อง ทำให้การชำระค่างวดสินเชื่อล่าช้า
สำหรับลูกค้าสินเชื่อทีเอ็มบีธนชาตจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลาที่ระบบขัดข้อง
สำหรับลูกค้าสินเชื่อของสถาบันการเงินอื่น ท่านสามารถแจ้งผ่านช่องทาง ttb contact us คลิก https://ttbbank.com/web-contact เพื่อรับการช่วยเหลือและประสานงานกับทางสถาบันการเงินอื่น ในเรื่องค่าติดตามทวงถามหนี้
ที่มา - TTB |
# [ลือ] Crypto.com ล้มดีลสปอนเซอร์ UEFA Champions League มูลค่า 495 ล้านดอลลาร์
เว็บข่าวสายธุรกิจกีฬา SportBusiness รายงานข่าวว่าบริษัทคริปโต Crypto.com ถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันฟุตบอล UEFA Champions League แม้ตกลงเรื่องเงื่อนไขกับ UEFA เรียบร้อยแล้วก็ตาม
การแข่งขัน UEFA Champions League ปีนี้มีสปอนเซอร์เก่าหายไปหนึ่งรายคือ Gazprom บริษัทพลังงานของรัสเซีย จากปัจจัยสงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้ Crypto.com เข้ามาเสียบในที่ว่างนี้ และเจรจาสปอนเซอร์นาน 5 ปี มูลค่า 495 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม SportBusiness บอกว่า Crypto.com ตัดสินใจล้มดีล เพราะมีปัญหาด้านกฎหมายและกฎระเบียบกับหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศต่างๆ ของยุโรป
Crypto.com เป็นบริษัทคริปโตที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ด้านกีฬาอย่างจริงจัง เช่น ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์, ซื้อชื่อสนามแข่งของทีม L.A. Lakers, สปอนเซอร์การแข่งขัน F1 แต่ช่วงหลังเมื่อตลาดคริปโตอยู่ในช่วงขาลง Crypto.com ก็ลดงบการตลาดลง และมีข่าวว่าต้องปลดพนักงานออกหลายร้อยคน
ที่มา - SportBusiness via CoinDesk |
# Leica เปิดตัวโปรเจกเตอร์ Cine 1 เทคโนโลยี Ultra-Short ราคาขายเฉียด 3 แสน
Leica เปิดตัว Leica Cine 1 โปรเจกเตอร์เลเซอร์ความละเอียดสูงที่รองรับคุณสมบัติหลายอย่าง ทั้งการแสดงภาพระดับ 4K 60Hz รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และมีตัวรับสัญญาณโทรทัศน์ในตัว
โปรเจกเตอร์เลเซอร์นี้ใช้เทคโนโลยี UST หรือ Ultra-Short Throw ทำให้สามารถแสดงภาพได้แม้โปรเจกเตอร์อยู่ใกล้กับฉากรับระดับ 15 เซนติเมตร ขนาดภาพใหญ่ที่สุดคือ 100 นิ้ว ในระยะ 30 เซนติเมตร มี 3 พอร์ตเชื่อมต่อคือ HDMI 2.1, USB 2.0 และ USB 3.0
ราคาขายสำหรับ Cine 1 รุ่นขนาดภาพสูงสุด 100 นิ้ว ก็ต้องสมศักดิ์ศรีชื่อแบรนด์อยู่ที่ 7,900 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.9 แสนบาท และมีรุ่นขนาดภาพ 80 นิ้ว ในราคา 6,900 ดอลลาร์ กำหนดขายในยุโรปไตรมาส 2 ปี 2023 ตามด้วยจีนและอเมริกาภายในปีเดียวกัน
ที่มา: Leica ผ่าน The Verge |
# Pinduoduo บุกตลาดอเมริกา เปิดแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแฟชั่น Temu
Pinduoduo แอปโซเชียลคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน เปิดตัวแพลตฟอร์มขายสินค้าในอเมริกา โดยใช้ชื่อว่า Temu ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์กระจายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ จากก่อนหน้านี้เน้นเฉพาะตลาดจีนในเมืองรอง
Temu เน้นขายสินค้าแฟชั่นในหลากหลายหมวด ด้วยราคาที่ดึงดูด ซึ่งถูกมองว่ามีรูปแบบคล้ายกับ Shein ที่ประสบความสำเร็จอย่างดีในหลายประเทศ
แพลตฟอร์มรายใหญ่จากจีน ที่ก่อนหน้านี้โฟกัสเฉพาะในประเทศ ตอนนี้เริ่มหันมาเจาะตลาดต่างประเทศกันมากขึ้น โดยนอกจาก Shein และ Pinduoduo ในชื่อ Temu แล้ว TikTok ก็เปิด TikTok Shop เพื่อเข้าสู่อีคอมเมิร์ซ โดยทดสอบตลาดในอังกฤษ และอีก 6 ประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งไทยด้วย
ที่มา: WSJ |
# EU ออกร่างข้อเสนอแล้ว สมาร์ทโฟนในยุโรปต้องมีอะไหล่รองรับอย่างน้อย 5 ปี
คณะกรรมการยุโรป (European Commission) ได้เผยแพร่ร่างข้อเสนอ กำหนดให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ขายในยุโรป ต้องมีอะไหล่ขายสำหรับซ่อมแซม 15 ชิ้นส่วนหลัก เป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มขาย ซึ่งเคยมีรายงานเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าวตั้งแต่ปีที่แล้ว
15 ชิ้นส่วนสำคัญที่อยู่ในร่างข้อเสนอ อาทิ แบตเตอรี่, ฝาหลัง, กล้องหน้า-หลัง, ส่วนเชื่อมต่อเสียง, พอร์ตชาร์จไฟ, ลำโพง เป็นต้น
Ursula Von Der Leyen ประธานคณะกรรมการฯ ให้เหตุผลของข้อกำหนดดังกล่าว ว่าเพื่อลดผลกระทบของสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการผลิตสมาร์ทโฟนที่ผู้ผลิตพยายามให้เปลี่ยนรุ่นใหม่ในระยะเวลาสั้น ๆ นั้น สร้างขยะและใช้พลังงานในการผลิตสูง จึงเป็นเรื่องดีหากลดผลกระทบดังกล่าวได้
ข้อเสนอนี้ยังมีรายละเอียดอื่นเพิ่มเติม เช่น ต้องแสดงฉลากการใช้พลังงาน ซึ่งปัจจุบันใช้กับทีวี-ตู้เย็นในยุโรป, แบตเตอรี่ต้องเก็บความจุระดับ 80% ได้ ในการชาร์จ 1,000 ครั้ง หากผู้ผลิตไม่มีตัวเลือกเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง ไปจนถึงข้อกำหนดว่าซอฟต์แวร์ที่อัพเดต ต้องพิสูจน์ว่าไม่กระทบต่อการประสิทธิภาพแบตเตอรี่ เป็นต้น
ที่มา: PC Mag |
# เผย SoftBank เตรียมปลดพนักงานกองทุน Vision Fund ประมาณ 100 คน
มีรายงานจาก Bloomberg ว่า SoftBank เตรียมปลดพนักงานส่วนของกองทุน Vision Fund ออก 20% หลักจากผลประกอบการกองทุนในครึ่งแรกของปีขาดทุนสูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัท ซึ่งส่วนของกองทุน Vision Fund มีพนักงานราว 500 คน พนักงานที่ได้รับผลกระทบจึงมีประมาณ 100 คน
DiDi เป็นบริษัทที่มีผลการลงทุนขาดทุนมากที่สุดในพอร์ตของ Vision Fund ตอนนี้ ซึ่งทำให้ซีอีโอ Masayoshi Son ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ ว่าบริษัทจะเข้มงวดและคัดเลือกบริษัทที่ลงทุนมากขึ้นกว่าเดิม
ตัวอย่างการตัดสินใจล่าสุดของ SoftBank ที่น่าจะสะท้อนแนวคิดปัจจุบัน คือการไม่ลงทุนเพิ่ม และขายหุ้นทั้งหมดของ Cruise สตาร์ทอัพรถยนต์ไร้คนขับของ GM ซึ่งผู้ซื้อหุ้นส่วนนี้ไปก็คือ GM นั่นเอง
ที่มา: Crunchbase |
# Qualcomm เซ็นสัญญา Meta ใช้ชิป Snapdragon ในแว่น VR ต่อไปอีกหลายปี
Qualcomm ประกาศเซ็นสัญญากับ Meta ในการใช้ชิป Snapdragon XR กับแว่น VR ต่ออีกหลายปี (multi-year)
ข่าวนี้อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะแว่น Meta/Oculus Quest ทั้งสองรุ่นก็ใช้ชิป Snapdragon มาตลอดอยู่แล้ว (Quest รุ่นแรกใช้ Snapdragon 835, Quest 2 ใช้ Snapdragon XR2) แต่การที่ Meta ยังมีแว่นรุ่นใหม่ๆ รอเปิดตัวอยู่อีกหลายรุ่น เช่น Project Cambria การเซ็นสัญญาครั้งนี้ก็ถือเป็นการการันตีกลายๆ ว่าแว่นในอนาคตจะยังใช้ชิป Snapdragon ต่อไป
ที่มา - Qualcomm |
# หน่วยงานกำกับดูแลอังกฤษ กังวลดีลไมโครซอฟท์ซื้อ Activision Blizzard ทำลายการแข่งขัน
Competition and Markets Authority (CMA) หน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันของสหราชอาณาจักร ออกรายงานผลการสอบสวนดีลไมโครซอฟท์ซื้อ Activision Blizzard ในระยะแรก (Phase 1 investigation) แสดงความ "กังวล" ว่าดีลนี้จะทำให้ระดับการแข่งขันในตลาดเกมลดลง
มุมมองของ CMA ระบุว่าหากไมโครซอฟท์ซื้อ Activision Blizzard สำเร็จ อาจกีดกันไม่ให้คู่แข่งเข้าถึงเกมในเครือ Activision Blizzard ซึ่งได้รับความนิยมสูง หรืออาจยังให้ด้วยเงื่อนไขธุรกิจที่แย่กว่าเดิม
CMA ยังมองไปถึงการใช้อิทธิพลของไมโครซอฟท์ในตลาดคลาวด์ (Azure) และพีซี (Windows) ร่วมกับเกมของ Activision Blizzard ทำลายการแข่งขันในตลาดคลาวด์เกมมิ่งที่กำลังเติบโต
CMA ขอให้ไมโครซอฟท์ชี้แจงต่อข้อกังวลเหล่านี้ภายใน 5 วัน และหากไม่มีแนวทางที่ดีพอ ก็จะเริ่มการสอบสวน Phase 2 ที่เป็นเชิงลึกมากขึ้น และมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาช่วยให้ความเห็นด้วย
ฝั่งไมโครซอฟท์ออกบทความชี้แจงต่อสาธารณะ ยืนยันว่าแนวทางธุรกิจของตัวเองเป็นการเพิ่มทางเลือก (choices) ให้ผู้เล่นคอนโซลแบบดั้งเดิมใน 2 วิธี ได้แก่ Game Pass ที่ช่วยให้ผู้เล่นมีตัวเลือกเล่นเกมใหม่ๆ มากขึ้นในราคาที่ถูกลง และการเล่นเกมผ่านคลาวด์ เพื่อให้ผู้เล่นเกมมือถือสามารถเข้าถึงเกมคอนโซลได้
ไมโครซอฟท์ยังยืนยันว่าจะออก Call of Duty บน PlayStation วันเดียวกับแพลตฟอร์มอื่นๆ และสนับสนุนการเล่น cross play ข้ามแพลตฟอร์ม โดยยกหลักฐานว่าทำมาก่อนแล้วกับ Minecraft นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังเปิดกับ The Verge ว่าเซ็นสัญญากับ Sony ไว้ว่าหลังสัญญา Call of Duty บน PlayStation ฉบับปัจจุบันสิ้นสุดลง จะการันตีการออก Call of Duty ให้ต่ออีกหลายปี (at least several more years)
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังยกตัวอย่างว่าบริษัทอื่นๆ อย่าง Tencent และ Sony เองก็ไล่ซื้อกิจการสตูดิโอเกมเป็นจำนวนมากเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าตลาดเกมยังมีไดนามิกอยู่
ที่มา - CMA, Microsoft |
# ttb touch แจ้งใช้งานได้ตามปกติแล้ว ตั้งแต่ช่วงตี 1 เมื่อคืนนี้
ตามที่แอปพลิเคชัน ttb touch ของธนาคารทีเอ็มบีธนชาต ไม่สามารถใช้งานได้ช่วงวันที่ 1-2 กันยายน ล่าสุดธนาคารได้อัปเดตเมื่อเวลาเกือบ 1 นาฬิกา ของคืนที่ผ่านมาว่าแอปสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว
อัพเดต: แฮชแท็ก #ttbล่ม ยังคงอยู่ในเทรนด์ของ Twitter ประเทศไทย โดยผู้ใช้จำนวนมากรายงานว่ายังใช้งานไม่ได้
ที่มา: Twitter: ttb bank |
# Real Madrid โชว์คลิปฝึกซ้อม ใช้หุ่นยนต์มาเป็นกำแพงให้ซ้อมยิงฟรีคิก
สโมสรฟุตบอล Real Madrdid แชมป์เก่าฟุตบอลลีกประเทศสเปนและแชมป์ยุโรปปีล่าสุด เผยแพร่คลิปวิดีโอการฝึกซ้อมของนักเตะก่อนลงแข่งกับทีม Real Betis ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่สิ่งที่ดูจะดึงดูดความสนใจจากผู้คนไม่น้อยกว่าทักษะของบรรดาแข้งดัง คือหุ่นยนต์ที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการซ้อมยิงฟรีคิก
หุ่นยนต์ที่ว่านี้ถูกออกแบบมาเป็นกำแพงให้นักเตะใช้เพื่อการซ้อมยิงฟรีคิก ตัวหุ่นยนต์ถูกออกแบบมาเป็นแผงล้อเลื่อนที่ประกอบไปด้วยหุ่นรูปร่างคล้ายคนจำนวน 6 ตัวจัดวางเรียงกันเป็นหน้ากระดานคล้ายกับกำแพงมนุษย์ในเกมฟุตบอลของจริงที่พร้อมป้องกันประตูเมื่อทีมเสียลูกฟรีคิกในระยะอันตราย
ตัวหุ่นมีช่วงลำตัวที่ยืดออกได้ ทำให้ผู้ฝึกสอนสามารถปรับขนาดของหุ่นให้ยืดสูงขึ้นได้ตามต้องการผ่านการสั่งงานด้วยแท็บเล็ต ซึ่งการปรับยืดตัวหุ่นนี้ก็เป็นการเลียนแบบจำลองนักเตะคู่แข่งที่มีส่วนสูงแตกต่างกันไปในแต่ละคน ในการซ้อมยิงฟรีคิกนั้น จังหวะที่บอลถูกยิงผ่านมาที่กำแพงหุ่นยนต์ ตัวหุ่นจะเคลื่อนที่ขึ้นด้านบนอย่างรวดเร็วคล้ายการกระโดดของนักเตะในเกมฟุตบอลจริงเพื่อสร้างความคุ้นชินและความท้าทายให้แก่ผู้ฝึกซ้อมการยิง
นอกจากนี้หุ่นยนต์กำแพงฟรีคิกนี้ยังถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ผู้ฝึกสอนสามารถเลือกพับเก็บหุ่นจาก 6 ตัวในกำแพงให้เหลือเพียง 4 หรือ 5 ตัวได้ อย่างไรก็ตามไม่มีรายละเอียดทางเทคนิคของหุ่นที่เปิดเผยว่าการใช้งานจริงนั้นมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนที่ของลูกบอลเพื่อสั่งการให้หุ่นยนต์ "กระโดด" หรือไม่ หรืออาศัยการควบคุมผ่านแท็บเล็ตของผู้ฝึกสอน
ด้วยจุดเด่นของหุ่นยนต์ที่มีการเคลื่อนไหวแม่นยำ และสามารถเคลื่อนไหวซ้ำได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย (เช่นการกระโดดป้องกันลูกฟรีคิกอย่างหุ่นยนต์ของ Real Madrid นี้) ไม่แน่ว่าจากนี้ไปเราอาจได้เห็นการนำหุ่นยนต์มาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการฝึกซ้อมนักกีฬาเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ที่มา - ช่อง YouTube Real Madrid, Twitter @realmadrid |
# โกะก็แล้ว หมากรุกก็แล้ว ได้เวลา DeepMind หัดเล่นฟุตบอล
DeepMind เผยแพร่งานวิจัยใหม่โชว์ผลการฝึกปัญญาประดิษฐ์ให้หัดเล่นฟุตบอลตั้งแต่พื้นฐาน ตั้งแต่เริ่มยืน, วิ่งไล่ลูกบอล ไปจนถึงการเลี้ยงหลบ, เข้าสกัด และการเล่นเป็นทีม
งานวิจัยนี้เป็นการฝึก DeepMind ให้ควบคุมหุ่นที่ถูกเรียกว่า "agent" ซึ่งหมายถึงหุ่นจำลอง 3 มิติในระบบคอมพิวเตอร์ที่มีการกำหนดเงื่อนไขกลไกการเคลื่อนไหวร่างกายตามหลักฟิสิกส์เลียนแบบธรรมชาติของร่างกายคน (ซึ่งใช้เอนจิน MujoCo ที่บริษัทซื้อมา) ให้เรียนรู้วิธีการเล่นฟุตบอลโดยเริ่มตั้งแต่ศูนย์ในระดับที่ agent ไม่รู้แม้กระทั่งวิธีทรงตัวให้ยืนอยู่ในสนามฟุตบอลได้ จนกระทั่งมันรู้จักวิธีเล่นฟุตบอลกันเป็นทีม
ภายใน 3 วันหลังเริ่มการเทรนให้ DeepMind (เทียบเท่ากับการจำลองเกมการแข่งฟุตบอลจริง 5 ปี) มันการเริ่มรู้จักการควบคุมร่างกายของ agent ให้เคลื่อนที่หาลูกฟุตบอลและพยายามกระแทกลูกบอลให้ไปเข้าประตูทีมฝั่งตรงข้าม
ผ่านไป 50 วันหลังการเทรน DeepMind รู้จักการสั่งให้ agent เล่นฟุตบอลโดยการพยายาม "เตะ" ลูกฟุตบอล ไม่ใช่แค่การวิ่งชนกระแทกลูกบอลอีกต่อไป นอกจากนี้มันยังรู้จักการออกบอลไปยังพื้นที่ว่างที่ไม่มีผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม รู้จักการหลบหลีกคู่ต่อสู้ ทั้งยังพัฒนาการเคลื่อนที่ตอนไม่มีบอลด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือภาพรวมของการฝึกให้ปัญญาประดิษฐ์รู้จักเกมฟุตบอลและเริ่มหัดเล่นด้วยตัวมันเอง เสมือนการปล่อยให้คนทำความรู้จักการเล่นฟุตบอลด้วยตนเอง แตกต่างกันแต่เพียงแค่ว่านี่คือการฝึกให้ปัญญาประดิษฐ์ควบคุมร่างกายของหุ่นในโลกเสมือนแห่งคอมพิวเตอร์ให้เรียนรู้และค่อยๆ พัฒนาทักษะกีฬาแทนการใช้ร่างกายจริง
แน่นอนว่าเมื่อมองดูภาพการเล่นฟุตบอลของ DeepMind แล้ว มันช่างแตกต่างจากภาพที่เราเห็นจากเกมฟุตบอลอย่าง FIFA หรือ PES แบบคนละเรื่อง ซึ่งเกมเหล่านี้ก็มีโหมดที่ผู้เล่นสามารถแข่งกับทีมของคอมพิวเตอร์หรือปล่อยให้คอมพิวเตอร์ควบคุมทีมแข่งกันเอง และแน่นอนว่าโหมดเกมเหล่านั้นล้วนมีปัญญาประดิษฐ์อยู่เบื้องหลังคอยควบคุมตัวผู้เล่นต่างๆ ในเกมให้เคลื่อนไหวและพยายามเอาชนะคู่แข่ง
ปัญญาประดิษฐ์ในเกมเหล่านั้นมีความซับซ้อนในการเรียนรู้และควบคุมการเคลื่อนที่ต่างๆ น้อยกว่าสิ่งที่ DeepMind ถูกฝึกให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฟิสิกส์เชิงกลของร่างกาย agent (หรือก็คือตัวผู้เล่นในเกมฟุตบอล) ซึ่งในเกมมีรายละเอียดซับซ้อนน้อยกว่าเอนจิน MujoCo ที่ DeepMind ต้องคอยควบคุม ไหนจะวิธีการเคลื่อนไหวร่างกายที่เกมอย่าง FIFA หรือ PES นั้นมีการออกแบบท่วงท่าหรือรูปแบบการเคลื่อนไหวเตรียมข้อมูลเอาไว้ให้พร้อมอยู่ก่อนแล้ว เหลือเพียงให้ปัญญาประดิษฐ์ของเกมเลือกดึงเอาชุดรูปแบบการเคลื่อนไหวเหล่านั้นมาใช้ให้เหมาะสมต่อสถานการณ์
ในแง่การเคลื่อนที่ในเชิงแทคติกการเล่นร่วมกันเป็นทีม หากมองถึงความลื่นไหลของเกมอย่าง FIFA หรือ PES ก็ดูเหมือนคอมพิวเตอร์จะรู้จักวิธีการเล่นเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ แต่นั่นก็เพราะว่าในการพัฒนาเกมย่อมต้องใส่ข้อมูลแทคติกเหล่านี้เอาไว้ให้คอมพิวเตอร์อยู่ก่อนแล้วเช่นกัน ในขณะที่ DeepMind นั้นต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ใหม่หมดด้วยตัวมันเองทุกอย่าง ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวมันเอง เปรียบเหมือนคนที่ต้องหัดเล่นฟุตบอลโดยหัดคิดเอง ปราศจากโค้ชที่จะคอยมาสอนว่าทำแบบไหนจึงจะเป็นวิธีที่ดีและถูกต้อง
เบื้องหลังการเรียนรู้วิธีเล่นฟุตบอลของ DeepMind นั้น ทีมงานได้แบ่งขั้นตอนการฝึกปัญญาประดิษฐ์ออกเป็น 3 ช่วงใหญ่ๆ โดยแรกเริ่มพื้นฐานการเรียนรู้เรื่องการขยับร่างกาย, วิธีการทรงตัว, การยืน, การวิ่ง, การเหวี่ยงเท้าเพื่อเตะ เหล่านี้อาศัยการฝึกปัญญาประดิษฐ์ด้วยข้อมูลจากการทำ motion capture จากร่างกายคนจริงๆ ในขั้นตอนนี้เป็นการเทรนให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้การควบคุม agent แบบเดี่ยว
ขั้นถัดมาคือการฝึกให้ DeepMind เข้าใจพื้นฐานการเล่นฟุตบอล โดยให้เลือกนำเอาการเคลื่อนไหวร่างกายที่มันได้เรียนมาจากข้อมูล motion captue ในขั้นตอนแรกมาใช้ในการเล่นฟุตบอลขึ้นพื้นฐาน ปัญญาประดิษฐ์จะถูกฝึกให้มันพยายามทำสิ่งต่างๆ เช่น การเคลื่อนที่ร่างกาย agent ให้ไปยังตำแหน่งต่างๆ ตามที่ถูกกำหนด, การเลี้ยงลูกฟุตบอลในทิศทางต่างๆ ตามที่โจทย์ระบุ รวมถึงการเตะลูกฟุตบอลให้เข้าประตู เหล่านี้อาศัยการปล่อยให้ปัญญาประดิษฐ์ใช้เวลาฝึกฝนโดยงัดเอาข้อมูลการเคลื่อนไหวร่างกายที่เรียนรู้ไว้มาใช้ให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งขั้นตอนนี้ก็เป็นการเทรนปัญญาประดิษฐ์ให้ควบคุม agent แบบเดี่ยวเช่นกัน
และการฝึกขั้นสูงสุดก็คือการฝึกเรื่องการเล่นร่วมกันของ agent มากกว่า 1 ตัว มีทั้งการฝึกการผ่านบอลให้กัน, การหาตำแหน่ง, การสกัดฝ่ายตรงข้าม โดย DeepMind จะตัองดึงเอาสิ่งที่มันได้เรียนรู้ผ่านการฝึกใน 2 ขั้นตอนแรกมาใช้งานให้บรรลุเป้าหมาย
ด้วยการปล่อยให้มันเรียนรู้และได้ฝึกนานพอ DeepMind สามารถเล่นฟุตบอลโดยรู้จักทักษะการเล่นหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นการแตะหลบเพื่อเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้, การบังบอล, การวางบอลยาว, การจ่ายบอลทะลุช่อง, การวิ่งหาตำแหน่งรับบอล, การโยกหลอก, การเข้าสกัด, การพลิกบอล, การงัดบอลโด่งข้ามคู่ต่อสู้, การสกัดบอลหน้าประตู, การถอยไปยืนตำแหน่งเกมรับ, การซ้อนตำแหน่งเพื่อนร่วมทีม
เรียกได้ว่าน่าสนใจมากกับการเห็นคอมพิวเตอร์หัดเล่นฟุตบอลได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
ที่มา - The Next Web, DeepMind |
# Cloudflare เลิกใช้ Elasticsearch เก็บ log หันไปใช้ ClickHouse แทน
Cloudflare รายงานถึงการเปลี่ยนฐานข้อมูลสำหรับเก็บ log จากเดิมที่ใช้ Elasticsearch หันมาใช้ฐานข้อมูลแบบคอลัมน์ ClickHouse หลังจากพบข้อจำกัดของ Elasticsearch หลายอย่าง ได้แก่
Mapping Explosion: เนื่องจากข้อมูล log มักมีฟิลด์เปลี่ยนไปมาเรื่อยๆ แต่ Elasticsearch พยายาม index ทุกฟิลด์แยกจากกัน ทำให้เมื่อถังข้อมูลมีฟิลด์จำนวนมากเข้าก็จะกินหน่วยความจำมาก ทางแก้ปัญหาของ Elasticsearch คือจำกัดฟิลด์ที่ใช้งานแต่ก็จะทำให้ไม่สามารถค้นหาฟิลด์ที่ไม่ได้ระบุไว้
Multi-tenancy: ตอนนี้ Elasticsearch ไม่สามารถจำกัดจำนวนเอกสารที่ผู้ใช้ต้องสแกนในการคิวรีแต่ละครั้ง ส่งผลให้ผู้ใช้คนใดคนหนึ่งส่งคำสั่งคิวรีหนักๆ ก็จะทำทั้งคลัสเตอร์ช้าไปได้
การจัดการยาก: หากคลัสเตอร์ Elasticsearch ทำงานผิดพลาดจนกลายเป็น degrade แล้วกระบวนการกู้คืนจะใช้เวลานาน การ index ฐานข้อมูลใหม่กินเวลานาน และกระบวนการย้ายข้อมูลจากฐานข้อมูล hot ไป cold กระทบประสิทธิภาพคลัสเตอร์
การจัดการหน่วยความจำจาวา: เนื่องจาก Elasticsearch ใช้จาวาจึงมีช่วงเวลาที่ garbage collector ทำงาน ทำให้เสียประสิทธิภาพในช่วงนั้น ทาง Cloudflare พยายามเปลี่ยนตัว garbage collector แล้วแต่ก็ไม่ดีขึ้นนัก
การเปลี่ยนไปใช้ ClickHouse ได้เปรียบหลายอย่าง เช่น การเพิ่ม index ในฟิลด์ใดๆ สามารถทำได้ทันที, ตัวฐานข้อมูลบีบอัดเป็นค่าเริ่มต้นและคอนฟิกแยกกระบวนการบีบอัดรายฟิลด์ได้, และการขยายคลัสเตอร์ได้ประสิทธิภาพตามขนาดคลัสเตอร์ที่ขยาย (linearly scalable)
ในบทความนี้ Cloudflare ยังแนะนำถึงการใช้ ClickHouse ว่าควรเลือกรูปแบบการเก็บข้อมูลว่าจากเก็บแยกฟิลด์แบบ SQL ปกติที่ต้อง ALTER TABLE ทุกครั้งเพื่อเพิ่มฟิลด์ หรือจะใช้ JSON เพื่อเก็บฟิลด์ที่ไม่แน่นอน แต่มีข้อจำกัดว่าไม่ควรมีข้อมูลเกิน 1,000 ฟิลด์ สำหรับ Cloudflare ที่มีฟิลด์จำนวนมากก็เลือกเก็บข้อมูลเป็น array ของฟิลด์อื่นๆ ทั้งหมด
ผลที่ได้จากการเปลี่ยนไช้ ClickHouse ทำให้ Cloudflare ลดการใช้ซีพียูและหน่วยความจำจากการเขียนลง 8 เท่า ขนาดข้อมูลลดลง 10 เท่า ทำให้ Cloudflare สามารถเก็บข้อมูลเต็มรูปแบบไม่ต้อง sampling บางส่วน, และการคิวรีเกือบทั้งหมดประสิทธิภาพดีขึ้นมาก
แม้จะชม ClickHouse ค่อนข้างมากแต่ทาง Cloudflare ก็ระบุว่า Elasticsearch เป็นตัวค้นหาแบบ full text ที่ดี และการใช้งานของแต่ละที่ก็อาจจะต่างกันจึงควรพิจารณาการใช้งานจริงด้วย
ที่มา - Cloudflare |
# Amazon ทดสอบวางตู้ล็อกเกอร์รับพัสดุในสถานีตำรวจ หวังแก้ปัญหาตู้โดนงัดแงะ
ตู้ล็อกเกอร์รับพัสดุเป็นหนึ่งในบริการที่ผู้ประกอบการขนส่งพัสดุนำเสนอเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่ไม่สะดวกให้นำพัสดุไปส่งถึงหน้าบ้าน แต่หนึ่งในปัญหาที่ผู้ให้บริการพบเจออยู่หลายครั้งคือการโดนคนงัดแงะตู้ด้วยหวังจะขโมยพัสดุที่อยู่ข้างใน และหนึ่งในผู้ประกอบการขนส่งอย่าง Amazon ก็เจอปัญหานี้เช่นกัน นั่นจึงเป็นที่มาของไอเดียใหม่ที่จะป้องกันปัญหาโดยการนำตู้ล็อกเกอร์ไปวางให้บริการในพื้นที่สถานีตำรวจ
ด้วยความร่วมมือจากหน่วยงานตำรวจของ Washington DC ตั้งแต่สัปดาห์นี้ Amazon จะเริ่มนำตู้ล็อกเกอร์ไปให้บริการในพื้นที่สถานทีตำรวจ 2 แห่ง และหากผลการทดลองใช้งานเป็นไปด้วยดีก็จะขยายผลเพิ่มจุดให้บริการในพื้นที่สถานีตำรวจแห่งอื่นต่อไป
อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าในความร่วมมือครั้งนี้ทาง Amazon ได้เสนอความช่วยเหลือในด้านใดเพื่อตอบแทนหน่วยงานตำรวจหรือไม่
ที่มา - Engadget |
# Cruise อัปเดทซอฟต์แวร์ไร้คนขับใหม่ หลังแท็กซี่ไร้คนขับเกิดอุบัติเหตุรถชน
ในรายงานของหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนถนนหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) ระบุว่า Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ General Motors ได้อัปเดทซอฟต์แวร์ระบบขับขี่อัตโนมัติหรือ ADS ใหม่ หลังรถแท็กซี่ไร้คนขับเกิดอุบัติเหตุรถชนในซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนมิถุนายน
อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อรถแท็กซี่ไร้คนขับของ Cruise เลี้ยวซ้ายตรงที่สัญญาณไฟจราจรไม่มีลูกศรสีเขียวชี้ทิศทาง ทำให้ระบบ ADS คาดเดาผิดว่ารถยนต์คันอื่นจะมุ่งตรงไปทางทิศทางใด จึงชนเข้ากับรถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมงในพื้นที่ที่จำกัดความเร็ว 25 ไมล์ต่อชั่วโมง
Cruise ยังคงต้องแก้ไขระบบขับขี่อัตโนมัติด้วยหลังจากรถยนต์ไร้คนขับเป็นสิบคันจอดที่ทางแยกเดียวกันจนบริษัทต้องส่งพนักงานไปนำรถกลับ
ที่มา: Bloomberg |
# MoviePass เตรียมกลับมาให้บริการ 5 กันยายนนี้ แพคเกจแพงสุดดูหนังได้ 5 เรื่องต่อเดือน
MoviePass บริการดูหนังในโรงแบบไม่อั้นที่เคยปิดตัวไปเมื่อปี 2019 ก่อนจะกลับมาฟื้นฟูกิจการใหม่และมีข่าวการปรับรูปแบบธุรกิจเสียใหม่ ตอนนี้ก็มีความชัดเจนมากขึ้นในรายละเอียดค่าบริการโดยสมาชิกสามารถดูหนังได้สูงสุด 5 เรื่องต่อเดือน ซึ่งจะเริ่มกลับมาให้บริการในวันที่ 5 กันยายนนี้
รูปแบบธุรกิจใหม่ของ MoviePass นั้นเป็นการเก็บเงินค่าสมาชิกแล้วให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกรับชมหนังที่ต้องการได้ในโรงหนังที่ทำข้อตกลงกันไว้ โดยแพคเกจของ MoviePass นั้นมีค่าบริการต่อเดือน 3 ราคา คือ 10 เหรียญ, 20 เหรียญ และ 30 เหรียญ ซึ่งสมาชิกจะสามารถเลือกดูหนังในแต่ละเดือนได้ 3 เรื่อง, 4 เรื่อง และ 5 เรื่องตามลำดับ
การเปิดให้บริการต้นเดือนกันยายนนี้ยังจำกัดพื้นที่แค่ใน Chicago, Kansas City และ Dallas ซึ่งเป็นตลาดหลักของ MoviePass ก่อน
สำหรับกระแสตอบรับการกลับมาเปิดบริการใหม่ขอ MoviePass นั้นก็มีสัญญาณที่ดีทีเดียว โดย Stacy Spikes ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเผยว่าในช่วง 5 วันที่เปิดให้คนลงทะเบียนสมัครบริการนั้นมีคนเข้ามาลงชื่อมากกว่า 775,000 คน โดยในช่วง 5 นาทีแรกที่เปิดให้ลงชื่อนั้นมีคนเข้ามาในระบบมากกว่า 30,000 รายจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทล่มไปชั่วขณะ
ต้องรอดูว่าการกลับมาครั้งนี้ของ MoviePass จะไปได้สวยจริงหรือไม่ท่ามกลางการแข่งขันของอุตสาหกรรมนี้ที่ผู้ประกอบการโรงหนังหลายรายต่างก็เปิดให้สมัครบริการเพื่อดูหนังจากโรงในเครือกันมากมายหลายเจ้า
ที่มา - Engadget |
# ธนาคารทีเอ็มบีธนชาตแจ้งขออภัยแอปล่ม ยกเว้นค่าธรรมเนียมโอนต่างธนาคาร
ธนาคารทีเอ็มบีธนชาตแจ้งขออภัยผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน ttb touch ที่ไม่สามารถใช้บริการแอปได้ในวันที่ 1-2 กันยายนหรือใช้เวลานานในการเข้าสู่ระบบ ธนาคารแจ้งว่ามีสาเหตุมาจากที่มีผู้ใช้บริการทำธุรกรรมเป็นจำนวนมากในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมและช่วงต้นเดือนกันยายน ทำให้ธนาคารปิดบริการแอปชั่วคราวตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 1 กันยายน
ธนาคารระบุว่า จะเร่งแก้ไขให้ระบบกลับมาใช้งานได้โดยเร็ว ส่วนผู้ที่ต้องการทำธุรกรรมสามารถทำผ่านตู้เอทีเอ็มได้ 24 ชั่วโมง และผู้ที่โอนเงินต่างธนาคารจะได้ลดค่าธรรมเนียม รวมถึงวันนี้ (2 กันยายน) ธนาคารจะขยายเวลาให้บริการของสาขานอกห้างจนถึงเวลา 18:00 น. (ยกเว้น สาขาระยอง ซอยนครระยอง 35, สาขาหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ เปิดให้บริการถึงเวลา 16:00 น. และสาขาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดให้บริการถึงเวลา 16:30 น.) สำหรับสาขาในห้างจะเปิดให้บริการตามเวลาทำการปกติ
หากผู้ใช้พบปัญหาสามารถแจ้งผ่าน ttb contact us
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์ |
# บริษัทเทครายใหญ่เริ่มย้ายฐานการผลิตออกจากจีน หวั่นปัญหาการเมืองและซัพพลายเชน
The New York Times เขียนบทความพิเศษที่ชี้ว่า บริษัทเทคโนโลยีใหญ่หลายเจ้าเริ่มทยอยเคลื่อนย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศจีนแล้วโดยมีสาเหตุจากแรงกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนตั้งแต่สงครามการค้าสมัยประธานาธิบดี Donald Trump และกดดันมากขึ้นหลัง Nancy Pelosi เยือนไต้หวัน ไปจนถึงค่าแรงของจีนที่แพงมากขึ้น และกำแพงภาษีที่มีมาตั้งแต่สมัย Trump
นอกจากนี้ การหยุดชะงักของซัพพลายเชนจากมาตรการ Zero-Covid ที่ล็อคดาวน์ทั้งเมืองตั้งแต่ 2020 และปัจจุบันก็ยังมีอยู่เนืองๆ ทำให้โรงงานในจีนหลายแห่งถูกปิดยังทำให้บริษัทเทคโนโลยีกังวลว่าจะเกิดปัญหาด้านซัพพลายเชนอีกในอนาคต
จีนเป็นฐานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมาเป็นระยะเวลานานเพราะมีแรงงานที่มีฝีมือและมีกำลังการผลิตมาก แต่การผลิตของจีนเริ่มหดตัวลงหลังบริษัทใหญ่เริ่มมองหาฐานการผลิตใหม่ เศรษฐกิจจีนยังซบเซาลงจากมาตรการล็อคดาวน์ด้วย
บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Google, Microsoft และ Amazon เริ่มย้ายฐานการผลิตไปเวียดนามแทน รวมถึง Foxconn ซัพพลายเออร์เจ้าใหญ่ของ Apple ก็เตรียมสร้างโรงงานที่เวียดนามด้วย อย่างไรก็ตาม Apple นอกจากจะมีโรงงานในเวียดนามอยู่แล้ว ยังวางแผนจะเริ่มผลิต iPhone ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนนี้บางส่วนในอินเดียด้วยแม้โรงงานส่วนใหญ่จะยังคงอยู่ในจีน
ที่มา: New York Times
รูปจาก Apple |
# ASUS เปิดตัวโน้ตบุ๊กจอพับ Zenbook 17 Fold OLED ขนาดหน้าจอ 17.3"
ASUS เปิดตัวโน้ตบุ๊กจอพับได้ Zenbook 17 Fold OLED (UX9702) ขนาดหน้าจอ 17.3"
ตัวหน้าจอหลักเป็นหน้าจอ OLED 60Hz แบบพับได้ขนาด 17.3" ความละเอียด 2.5K สัดส่วน 4:3 เมื่อพับแล้วจะได้จอขนาด 12.5" ความละเอียด 1920x1280 สัดส่วน 3:2 สองจอ ผู้ใช้สามารถใช้จอล่างเป็นคีย์บอร์ดเสมือน หรือจะต่อคีย์บอร์ดบลูทูธก็ได้เช่นกัน
สเปกอย่างอื่นคือ ซีพียู Core i7-1250U, จีพียู Iris Xe, แรม 16GB, SSD PCIe 1TB, พอร์ต USB-C 2 พอร์ต รองรับ Thunderbolt 4 ในตัว, แบตเตอรี่ 75Whr รองรับชาร์จเร็ว 65W, กล้อง IR พร้อมชิป Intel Visual Sensing Controller, กล้องหน้า 5MP สำหรับวิดีโอคอลล์
ตัวคีย์บอร์ดเสริม ErgoSense Bluetooth รวมมาให้ในชุดอยู่แล้ว มีระยะกดปุ่มลึก 1.4mm และความกว้างระว่างปุ่ม 19.05mm เทียบเท่าคีย์บอร์ดเดสก์ท็อป, มีทัชแพดให้ในตัว
ราคาเริ่มต้น 3,499 ดอลลาร์ เริ่มวางขายทั่วโลกไตรมาส 4/2022
ที่มา - ASUS |
# พาชม CP Innovation for Sustainability Center สัมผัสแนวคิดและการดำเนินธุรกิจโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ขับเคลื่อนองค์กรสู่เส้นทางความยั่งยืนของเครือซีพี
บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ เครือซีพี เป็นหนึ่งในธุรกิจชั้นนำของไทยที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับ และเพื่อเป็นการร่วมแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์กว่า 100 ปีของการทำธุรกิจ จึงได้เกิดเป็น CP Innovation for Sustainability Center ศูนย์แสดงนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่รวบรวมแนวคิด มุมมอง วิสัยทัศน์และการทำธุรกิจของเครือซีพี มาจัดแสดงไว้ให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชม
สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของเครือซีพีคือ การเน้นหลักการความยั่งยืน (Sustainability) มาตลอด รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี เข้ามาผสมผสานในทุกส่วนของการดำเนินธุรกิจ โดยภายใน CP Innovation for Sustainability Center ได้แบ่งออกเป็น 6 โซน ที่บอกเล่าเรื่องราวจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผ่านยุทธศาสตร์ความยั่งยืน 3Hs Heart – Health – Home โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้
SEEDING FROM BELIEF เมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อ
ความสำเร็จตลอด 100 ปีของการทำธุรกิจ องค์ประกอบสำคัญคือ มุมมองความคิด ค่านิยม และวิสัยทัศน์ของผู้นำเครือซีพี เริ่มตั้งแต่ วิสัยทัศน์ของคุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์, คุณสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่สะท้อนให้เห็นทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรอย่างชัดเจน
ตัวอย่างที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ เช่น แนวคิดของคุณธนินท์ที่กล่าวว่า ความสำเร็จดีใจได้วันเดียว เมื่อถึงพรุ่งนี้ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ทันที จะมัวแต่หลงดีใจกับความสำเร็จที่กลายเป็นอดีตไปแล้วไม่ได้ เป็นต้น
SEEDING FROM THE PAST เมล็ดพันธุ์ที่งอกงามจากอดีต
ตลอดระยะเวลากว่า 100 ปีของการทำธุรกิจ มีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในเครือซีพี โซนนี้จะบอกเล่า Timeline เส้นทางการดำเนินธุรกิจ พร้อมกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแต่ละธุรกิจ จนถึงปัจจุบันเครือซีพี ที่กำลังจะขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น Tech Company อย่างเต็มตัว
นอกจากนี้ยังสอดแทรก ค่านิยม 6 ประการ ซึ่งเป็นแก่นสำคัญให้พนักงานและทุกคนในองค์กรได้ยึดถือและปฏิบัติ ประกอบด้วย
3 ประโยชน์ (Three Benefits)
ทำเร็วและมีคุณภาพ (Speed with Quality)
ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย (Simplification)
ยอมรับการเปลี่ยนแปลง (Adapting to Change)
สร้างสรรค์สิ่งใหม่ (Innovation)
คุณธรรมและความซื่อสัตย์ (Ethics & Integrity)
นำเสนอผลงานนวัตกรรมในการผลิตอาหารที่ปลอดภัยเพื่อทุกชีวิตบนโลก ภายใต้กระบวนการผลิตที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ พร้อมดูแลสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่ Feed-Farm-Food (อาหารสัตว์-ฟาร์มเลี้ยงสัตว์-อาหารคน)
โซน 3 จะมีหน้าจอ Interactive ให้ผู้ชมได้ทดลองเล่น ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินไปพร้อมกัน
SEEDING THE MIND เมล็ดพันธุ์แห่งความคิด
เครือซีพี ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาโดยตลอด เพราะถือเป็นพื้นฐานสำคัญสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้นเครือซีพีจะร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนอื่นๆ ในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการทรูปลูกปัญญา และมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี
โซนนี้ มีหน้าจอ Interactive ขนาดใหญ่ ให้ผู้ชมได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ จินตนาการถึงโรงเรียนในฝันและส่งขึ้นไปแสดงที่จอขนาดใหญ่ พร้อมกับหุ่นยนต์ที่คอยกล่าวต้อนรับและให้ข้อมูล
SEEDING THE WORLD เมล็ดพันธุ์สร้างสรรค์โลก
เมื่อนึกถึงหลักการความยั่งยืน หนึ่งในสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การทำเพื่อโลกและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเครือซีพี จึงกำหนดเป้าหมายการเป็นองค์กร Zero Waste และ Zero Carbon ในปี 2030 เพื่อสะท้อนถึงการเป็นองค์กรที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ ซีพีร้อยรักษ์โลก โครงการตอบแทนโลกสองเมตร และ การอนุรักษ์ฟื้นฟูท้องทะเลไทย พร้อมกับชวนทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะเครือซีพีองค์กรเดียวไม่สามารถขับเคลื่อนเรื่องนี้ได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน
โซนนี้ จะมีหน้ากิจกรรมให้ร่วมสนุก เป็นหน้าจอแสดงให้เห็นถึงขยะในทะเล ผู้ชมสามารถสแกน QR Code เพื่อเข้าเว็บไซต์แล้วกดปุ่ม Make a Change เพื่อกำจัดขยะในทะเล เป็นการแสดงว่าทุกคนสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้
SEEDING A NEW HORIZON เมล็ดพันธุ์สู่ขอบฟ้าใหม่
5 โซนแรกบอกเล่าเรื่องราวความคิด ความมุ่งมั่น วิสัยทัศน์ และการลงมือทำจริงจากอดีตถึงปัจจุบันเมื่อถึงโซน 6 จะเป็นเรื่องราวในอนาคต แผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ของเครือซีพี ภายใต้แนวคิด Reimagining Horizons เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เพื่อร่วมสนับสนุนและพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ให้กับประเทศไทยในอนาคต
ที่โซนนี้จะแสดงให้เห็นว่า รถไฟความเร็วสูง สามารถทำความเร็วได้ดี สามารถรองรับผู้โดยสารได้จำนวนมาก และใช้พลังงานที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยวิธีอื่น มีความปลอดภัย และตลอดการเดินทางยังเชื่อมต่อกับโลกได้โดยไม่สะดุดอีกด้วย
ความยั่งยืนเพื่อองค์กร เพื่อโลก เพื่อทุกคน
สรุปแล้ว CP Innovation for Sustainability Center ศูนย์แสดงนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการทำธุรกิจของเครือซีพี เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ ได้เห็นทิศทางในอนาคต ทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมเครือซีพีจึงเป็นองค์กรธุรกิจชั้นนำของไทย ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่ง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมและศึกษาแนวคิดการดำเนินธุรกิจตลอด 100 ปี ตามหลักการความยั่งยืนของเครือซีพี ได้ที่ ชั้น 6 อาคารเพกาซัส ทรู ดิจิทัล พาร์ค สุขุมวิท 101 |
# สหรัฐฯ และรัสเซีย ส่งตัวแทนแย่งตำแหน่งเลขาธิการ ITU หลังคนปัจจุบันจะหมดวาระสิ้นปีนี้
International Telecommunication Union (ITU) หรือสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หน่วยงานในสังกัดสหประชาชาติ กำลังจะดำเนินการสรรหาผู้ทำหน้าที่เลขาธิการคนใหม่ซึ่งเป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่ผู้บริหารสูงสุดของ ITU โดยตอนนี้มีตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาและรัสเซียฝ่ายละคนเป็นตัวเลือก 2 คนสุดท้ายที่จะได้รับโอกาสทำงานนี้
ตัวแทนจากสหรัฐฯ นั้นคือ Doreen Bogdan-Martin ซึ่งปัจจุบันดูแลงานสำนักพัฒนาโทรคมนาคมของ ITU มาตั้งแต่ปี 2018 โดยเธอเริ่มทำงานด้านนี้ในสำนักงานโทรคมนาคมและสารสนเทศแห่งชาติอันเป็นหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เมื่อปี 1989
ส่วนทางด้านรัสเซียนั้นเสนอ Rashid Ismailov อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาดิจิทัล, การสื่อสารและสื่อมวลชน ซึ่งเป็นกระทรวงหนึ่งของรัสเซีย ทั้งยังเคยเป็นประธานของ VimpelCom บริษัทลูกประจำภาคพื้นรัสเซียของ Veon ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมจากประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้เขายังเคยทำงานให้กับ Ericsson, Nokia และ Huawei มาแล้ว
ซ้าย: Doreen Bogdan-Martin, ขวา: Rashid Ismailov (ภาพจาก Wikimedia Commons - 1, 2)
การเลือกเลขาธิการคนใหม่นี้เพื่อหาผู้มาปฏิบัติงานต่อในปีหน้าหลังจาก Houlin Zhao เลขาธิการคนปัจจุบันจากประเทศจีนซึ่งทำหน้าที่ 2 วาระมาต่อเนื่อง 8 ปี จะสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้
การตัดสินใจแต่งตั้งเลขาธิการ ITU คนใหม่จะทำโดยการลงคะแนนเลือกในงานประชุม Plenipotentiary Conference ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญที่จัดขึ้นทุกๆ 4 ปี โดยรอบนี้จะจัดในวันที่ 26 กันยายนถึงวันที่ 14 ตุลาคม ที่เมือง Bucharest ประเทศโรมาเนีย โดยพร้อมกันนี้จะมีการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บริหารสำคัญอื่นๆ ของ ITU อีก 4 ตำแหน่งด้วย อันได้แก่ รองเลขาธิการ ITU, ผู้อำนวยการสำนักกิจการวิทยุคมนาคม, ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานโทรคมนาคม และผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคม (ซึ่งเป็นตำแหน่งปัจจุบันของ Doreen Bogdan-Martin)
การแต่งตั้งตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ ITU ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะ ITU เป็นหน่วยงานนานาชาติที่มีชาติสมาชิก 193 ประเทศ มีประวัติยาวนานถึง 157 ปี (ก่อตั้งเมื่อปี 1865 เพื่อกำกับดูแลมาตรฐานการสื่อสารโทรเลขในระดับนานาชาติ) โดยบทบาทหน้าที่ของ ITU นั้นไม่เพียงแต่จะเป็นผู้กำหนดทิศทางและมาตรฐานของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม แต่ยังมีสภาพเป็นเสมือนผู้คุมกฎกลายๆ ในเรื่องกิจการโทรคมนาคมและการสื่อสารระหว่างประเทศด้วย
ที่มา - Capacity |
# Pokimane ประกาศลดเวลาสตรีมมิงบน Twitch หันไปทำเนื้อหาไลฟ์สไตล์บนแพลตฟอร์มอื่นแทน
Pokimane หนึ่งในสตรีมเมอร์คนสำคัญของ Twitch ประกาศลดเวลาการสตรีมมิงบนแพลตฟอร์มดังกล่าว เพราะเหนื่อยจากการทำอาชีพสตรีมเมอร์ และต้องการแบ่งเวลาไลฟ์สตรีมไปสร้างเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองในปัจจุบัน และนำไปโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มอื่น เช่น Twitter, Instagram และ TikTok มากกว่า
ปัจจุบัน Pokimane อยู่ระหว่างหยุดพักสตรีมชั่วคราวมาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2022 แต่การประกาศดังกล่าว Pokimane ยืนยันว่า จะไม่ใช่การเลิกไลฟ์สตรีมบนแพลตฟอร์ม Twitch เพียงแต่จะกลับมาเล่นเกม หรือพูดคุยกับคนดูบนแพลตฟอร์มนี้เมื่อเธอต้องการ
Pokimane เริ่มไลฟ์สตรีมบนแพลตฟอร์ม Twitch เมื่อ 9 ปีก่อนในตอนที่เธออายุเพียง 17 ปี และปัจจุบันมีผู้ติดตามบน Twitch ถึง 9.2 ล้านบัญชี ถือเป็นสตรีมเมอร์คนล่าสุดที่เริ่มชะลอการไลฟ์สตรีมบน Twitch และหันไปใช้แพลตฟอร์มอื่นในการสร้างเนื้อหาที่ถูกจริตกับตัวเองในปัจจุบัน
ในทางกลับกัน Pokimane ย้ำว่า การทำอาชีพสตรีมเมอร์ค่อนข้างเหนื่อย และมีการแข่งขันสูง เพราะต้องเกาะติดทุกกระแสเพื่อนำมาดึงดูดผู้ชม รวมถึงแข่งขันกับสตรีมเมอร์คนอื่นที่ทำเนื้อหาใกล้เคียงกันเพื่อยกระดับตัวเองให้อยู่ในระดับบน ที่สำคัญ การเล่นเกม และการไลฟ์สตรีม อาจไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบันของเธอแล้ว
อ้างอิง // Polygon |
# LG เปิดตัวชุดตู้เก็บรองเท้า ที่มีทั้งตู้โชว์ถนอมรองเท้าและตู้อบทำความสะอาด
อีกหนึ่งสินค้าที่ LG นำไปเปิดตัวในงาน IFA 2022 ที่ Berlin ประเทศเยอรมนีคือตู้เก็บรองเท้าที่จัดวางเป็นตู้โชว์ได้ Styler ShoeCase และตู้อบทำความสะอาด Styler ShoeCare
Styler ShoeCase เป็นตู้เก็บรองเท้าที่มีผนังใสกันความชื้น ตัวผนังเคลือบด้วยสารดูดซับรังสีอุลตร้าไวโอเลท ช่วยปกป้องให้รองเท้าจากแสงแดดและแสงไฟ ด้านในมีจานหมุน 360 องศา เพิ่มลูกเล่นสำหรับการจัดวางโชว์รองเท้า ออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถเรียงตู้ซ้อนกันได้เพื่อการประหยัดพื้นที่และตกแต่งพื้นที่ในบ้านได้ง่าย
ชุดตู้เก็บรองเท้า Styler ShoeCase และ Styler ShoeCare
ส่วนตู้ Styler ShoCare เป็นตู้ทำความสะอาดรองเท้าที่ด้วยความร้อนจากไอน้ำ พร้อมฟิลเตอร์ zeolite ที่ช่วยดูดกลิ่นและความชื้นส่วนเกินจากรองเท้า ลดปัญหากลิ่นอับของรองเท้า สามารถใช้งานได้กับรองเท้าหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นรองเท้าหนัง, รองเท้าหนังกลับ หรือรองเท้ากีฬา ผู้ใช้สามารถเลือกรูปแบบการทำงานอบทำความสะอาดได้ 10 รูปแบบ โดยใช้เวลาเฉลี่ยในการทำความสะอาดรองเท้า 4 คู่พร้อมกันในเวลา 37 นาที
ตู้ Styler ShoeCare สามารถทำความสะอาดรองเท้าต่างชนิดพร้อมกันได้ 2 แบบในเวลาเดียวกัน ภายในมีหัวพ่นไอร้อนที่ช่วยให้การทำความสะอาดด้านในรองเท้าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ใช้สามารถปรับตำแหน่งหัวพ่นได้เองให้เหมาะกับความสูงของรองเท้าแต่ละคู่
การเปิดใช้งานตู้อบรองเท้า Styler ShoeCare
ตู้เก็บและตู้ทำความสะอาดรองเท้า Styler ShoeCase และ Styler ShoeCare นี้สามารถควบคุมการทำงานผ่านแอป ThinQ ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามสถานะการทำงานและสั่งการอุปกรณ์ได้โดยสะดวก
สำหรับราคาและวันเริ่มจำหน่ายนั้นทาง LG ยังไม่เปิดเผยข้อมูลออกมาในขณะนี้
ที่มา - LG Newsroom |
# แอป ttb touch ล่มต่อเนื่อง ยังคงใช้งานไม่ได้ บริษัทระบุกำลังเร่งแก้ไข
หลังจากแอป ttb touch ของธนาคารธนชาติล่มเมื่อวานนี้ วันนี้ (2 กันยายน) แอปพลิเคชันก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ ทางธนาคารได้โพสต์ผ่านหน้าเพจ Facebook ยืนยันรับทราบปัญหาแล้วและกำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ รวมถึงแนะนำให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมผ่านทางตู้ ATM ไปก่อน
ที่มา: เพจ ttb bank |
# ภาพวาดจาก AI Midjourney ชนะการประกวดหมวด Digital Arts
ศิลปิน Jason Allen โพสต์รายละเอียดในห้อง Discord ของ Midjourney ว่า รูปที่ใช้ Midjourney วาดและพิมพ์ลงผืนผ้าใบของเขาในชื่อ “Théâtre D'opéra Spatial” ชนะการประกวด Colorado State Fair ในหมวด Digital Arts
Allen ระบุว่าเขาสร้างภาพด้วย Midjourney จากคำสั่งของเขากว่า 100 ภาพก่อนจะเลือก 3 ภาพที่ดีที่สุดมาอัพสเกลด้วย Gigapixel และพิมพ์ลงผืนผ้าใบ ซึ่งเขาก็ระบุตอนส่งผลงานประกวดด้วยว่า ภาพนี้เป็นภาพที่ใช้ AI สร้างขึ้นมา
ประเด็นของ Allen ทำให้เกิดข้อถกเถียงและการตั้งคำถามอย่างมาก ไม่ว่าจะบน Twitter, Reddit หรือ Discord เช่น อนาคตของศิลปินที่เป็นมนุษย์จริง ๆ จะเป็นอย่างไรต่อไป บางคนก็บอกว่าเราก็น่าจะปรับตัวในแง่การใช้งานจริงกับเทคโนโลยี แบบเดียวกับเสียงสังเคราะห์ในอุตสาหกรรมเพลง
ที่มา: Vice และ Ars Technica
ภาพ Théâtre D'opéra Spatial - courtesy of Jason Allen |
# มาตรฐาน USB4 ออกเวอร์ชั่น 2.0 อัตราการส่งข้อมูลเป็น 80Gbps บนสายเดิม
USB Promoter Group เปิดมาตรฐาน USB4 2.0 โดยปรับปรุงสถาปัตยกรรม physical layer ทำให้รองรับอัตราการส่งข้อมูลเพิ่มจาก 40Gbps เป็น 80Gbps โดยใช้สายเส้นเดิมที่รองรับ USB4 อยู่แล้ว
แบนวิดท์ที่เพิ่มเขึ้นเป็นระดับ physical เท่านั้น โปรโตคอลที่มารันบนสายจะทำแบนวิดท์ได้ต่างกันไป สำหรับ USB 3.2 สามารถส่งข้อมูลเกิน 20Gbps บนมาตรฐานใหม่นี้ โปรโตคอลอื่นๆ เช่น PCI Express หรือ DisplayPort ก็อาจจะทำแบนวิดท์ได้สูงกว่านี้
มาตรฐานนี้ยังคงใช้งานกับมาตรฐานก่อนหน้า USB4 1.0, Thunderbolt 3 ได้ต่อไป
ที่มา - BusinessWire |
# หัวหน้าทีม Android ประกาศเอง Android 14 จะรองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม
Hiroshi Lockheimer หัวหน้าทีม Android โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ยืนยันว่า Android 14 เวอร์ชันหน้าจะรองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียมด้วย ซึ่งตรงกับทิศทางของตลาดมือถือช่วงนี้ ที่ T-Mobile เพิ่งประกาศความร่วมมือกับ SpaceX ให้ดาวเทียม Starlink รุ่นหน้ากระจายคลื่นย่านของโทรศัพท์ได้ด้วย และ ข่าวลือว่า iPhone 14 ก็รองรับการส่งข้อความผ่านดาวเทียม
ที่ผ่านมา กูเกิลค่อนข้างมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับค่าย T-Mobile มาตลอด (มือถือ Android รุ่นแรกของโลกคือ T-Mobile G1 ซึ่ง Hiroshi ก็อ้างถึง) จึงไม่น่าแปลกใจที่ Android 14 จะรองรับฟีเจอร์เครือข่ายใหม่ๆ ของ T-Mobile ด้วย
เป้าหมายของ SpaceX คือยิงดาวเทียม Starlink V2 ช่วงปลายปี 2023 ซึ่งเราคงต้องรอกันอีกนานทีเดียวกว่าจะได้ใช้งานจริง นอกจาก SpaceX มีผู้เล่นอื่นๆ ในตลาดมือถือเชื่อมต่อดาวเทียม เช่น Lynk และ AST SpaceMobile ด้วยเช่นกัน
ที่มา - Android Central |
# Xbox Game Pass ออกแพ็กเกจ Friends & Family เล่นได้ 5 คนไม่ต้องบ้านเดียวกัน ยังมีแค่ 2 ประเทศ
ไมโครซอฟท์เปิดตัวบริการ Game Pass Friends & Family เล่นเกมแบบเหมาจ่าย 5 คนไม่ต้องอยู่บ้านเดียวกัน ที่เพิ่งเริ่มทดสอบเมื่อต้นเดือนสิงหาคม
ไมโครซอฟท์เปิดแพ็กเกจใหม่แค่ใน 2 ประเทศที่ทดสอบไปแล้วคือไอร์แลนด์และโคลอมเบีย โดยราคาในไอร์แลนด์อยู่ที่ 21.99 ยูโร เทียบกับแพ็กเกจ Ultimate สำหรับผู้เล่นคนเดียวคือ 12.99 ยูโร แล้วถือว่าถูกมาก เพราะซื้อเล่นแค่ 2 คนก็คุ้มกว่าซื้อแยก 2 บัญชีแล้ว
ในแง่คุณสมบัติของแพ็กเกจ Friends & Family เหมือนกับแพ็กเกจ Ultimate ทุกอย่าง (เล่นได้ทั้งพีซี คอนโซล คลาวด์) แต่มีผู้ใช้หลัก (primary account holder) เป็นคนจ่ายเงินและจัดการสมาชิกในกลุ่มอีก 4 คน โดยสามารถแปลงอายุสมาชิก Game Pass เดิมมาเป็นอายุสมาชิกแพ็กเกจใหม่ได้ด้วย
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าไมโครซอฟท์จะขยายพื้นที่บริการของแพ็กเกจ Friends & Family อีกเมื่อไร
ที่มา - Microsoft Ireland via The Verge |
# Lenovo เปิดตัว IdeaPad 5i Chromebook จอใหญ่ 16" 120Hz เน้นตลาดคอนซูเมอร์
ช่วงหลังๆ เราเริ่มเห็นสินค้าตระกูล Chromebook ที่เน้นสเปกแรงขึ้น-จอใหญ่ขึ้น จับตลาดพรีเมียมมากขึ้น ตัวอย่างคือ Chromebook แบบจอพับ 16" ของ ASUS หรือ Chromebook สาย Enterprise ของ HP
Lenovo เป็นอีกค่ายที่ส่ง Chromebook จอใหญ่ 16" สู่ตลาดในชื่อ IdeaPad 5i Chromebook เน้นที่ลูกค้าคอนซูเมอร์ จุดเด่นหลักคือหน้าจอ 16" ความละเอียด 2.5K อัตรารีเฟรช 120Hz ที่เริ่มเป็นมาตรฐานของพีซีสมัยใหม่
สเปกอื่นคือซีพียู Pentium 8505 หรือ Core i3-1215U, แรม 4GB/8GB, สตอเรจ 64GB-512GB, แบตเตอรี่ 12 ชั่วโมง, คีย์บอร์ดมีระยะกด 1.5mm, กล้องหน้า FHD พร้อมชัตเตอร์ปิดกล้อง, ลำโพงสเตอริโอ ปรับจูนโดย Waves MaxxAudio, น้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม
IdeaPad 5i Chromebook เริ่มวางขายเดือนกันยายน ราคาเริ่มต้น 549 ยูโร
ที่มา - Lenovo |
# Withings เปิดตัวเครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะใหม่ Body Comp พร้อมบริการโค้ชสุขภาพแบบสมัครสมาชิก Health+
Withings เปิดตัวฮาร์ดแวร์ชิ้นใหม่ Body Comp เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะใหม่ที่สามารถคำนวณค่าและวิเคราะห์สุขภาพได้ รวมถึงระบบ Health+ บริการโค้ชด้านสุขภาพแบบสมัครสมาชิกในงาน IFA 2022
สำหรับ Body Comp เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะที่เชื่อมต่อเข้ากับแอปได้ โดยตัวเครื่องจะวัดค่าต่าง ๆ ด้วยการส่งกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ไปทั่วร่างเพื่อวิเคราะห์กล้ามเนื้อ, น้ำ, กระดูก และไขมัน และเครื่องจะวิเคราะห์อายุของหลอดเลือด, ไขมันตามร่างกาย และสุขภาพของระบบประสาทในเครื่องเดียว โดย Body Comp จะวางจำหน่ายที่ราคา 209.95 ดอลลาร์
Health+ คือบริการสมาชิกแบบใหม่ของ Withings ซึ่งบริการนี้จะปลดล็อกฟีเจอร์เพิ่มเติมใน Health Mate ซึ่งเป็นแอปสุขภาพของ Withings ซึ่งโดยมากจะเป็นอินไซต์เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีกว่าเดิม เช่น การแพลนมื้ออาหาร, คำแนะนำในการออกกำลังกายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเร็วขึ้น ซึ่ง Health+ จะรองรับเครื่องชั่งน้ำหนักทั้ง Body Comp และ Body Scan ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ จะทยอยซัพพอร์ตในอนาคต
Withings จะคิดค่าบริการ Health+ ที่ 79.95 ดอลลาร์ต่อปี โดยหากผู้ใช้ซื้อ Body Comp จะได้ใช้ Health+ ฟรี 1 ปี
ที่มา - The Verge, Engadget
Withings |
# Samsung US ออกโฆษณาตัวใหม่ พูดถึง 2 ฟีเจอร์ล้ำ ๆ ที่ iPhone รุ่นใหม่ก็จะไม่มี
ซัมซุงอเมริกาออกโฆษณาตัวใหม่ เพื่อต้อนรับงาน Apple Event "Far Out" ที่คาดว่าจะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในสัปดาห์หน้า โดยเน้นไปที่คำว่านวัตกรรม
เนื้อหาในโฆษณาพูดถึงสองฟีเจอร์นวัตกรรม คือกล้องความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล และซูมระดับ 100 เท่า ที่ทำให้ซูมพระจันทร์ได้ชัดเจน ซึ่งทั้งสองคุณสมบัตินี้มีใน Galaxy S22 Ultra แต่จะไม่มีใน iPhone รอบตัวของคุณ พร้อมปิดท้ายด้วยภาพของ Galaxy Z Flip 4
หากอ้างตามข่าวลือที่ผ่านมา คาดว่า iPhone 14 รุ่นบนสุด จะมาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และรองรับการถ่ายวิดีโอ 8K
ที่มา: MacRumors |
# OnlyFans ทำสถิติผลประกอบการปี 2021 จ่ายเงินครีเอเตอร์ไปเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์
OnlyFans รายงานผลประกอบการประจำปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน รายได้รวมเพิ่มขึ้น 160% จากปีก่อนเป็น 932 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิก่อนหักภาษี 433 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากปี 2020 ซึ่งอยู่ที่ 61 ล้านดอลลาร์ เป็นการเติบโตสูงสุดของบริษัท
เงินที่ OnlyFans จ่ายให้กับครีเอเตอร์ก็เป็นสถิติสูงสุดเช่นกัน เพิ่มขึ้น 115% เป็น 3,860 ล้านดอลลาร์ ทำให้เงินที่บริษัทจ่ายกับครีเอเตอร์เป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2016 สะสมรวมมากกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ จำนวนครีเอเตอร์เพิ่มขึ้นเป็น 2.16 ล้านคน ส่วนผู้ใช้งานเพิ่มเป็น 188 ล้านคน
Amrapali "Ami" Gan ซีอีโอ OnlyFans กล่าวว่าแนวทางให้ความสำคัญกับครีเอเตอร์เป็นอันดับแรก เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย ทำให้บริษัททำสถิติรายได้สูงสุดในปีที่ผ่านมา
ที่มา: Variety |
# Facebook ประกาศปิดฟีเจอร์ Neighborhoods ที่ทดสอบในอเมริกา-แคนาดา ก่อนหน้านี้
Facebook ยืนยันการปิดฟีเจอร์ Neighborhoods ที่ให้ผู้ใช้งานสร้างโปรไฟล์แยก สำหรับแชร์ข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ละแวกเดียวกับที่พักอาศัย ซึ่งเริ่มทดสอบไปเมื่อกลางปีที่แล้ว เฉพาะในอเมริกาและแคนาดา
การทำงานของ Neighborhoods คล้ายกับแอปชื่อ Nextdoor ที่ให้คนในละแวกชุมชนเดียวกันแลกเปลี่ยนข้อมูล นัดทำกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่
ส่วนเหตุผลที่ Facebook ปิดตัวฟีเจอร์น่าจะมาจากสองอย่าง คือ Facebook Groups ของแต่ละพื้นที่ชุมชน ก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีอยู่แล้ว อีกทั้ง Facebook ก็ประกาศทิศทางเน้นการแนะนำเนื้อหาที่น่าสนใจ จึงอาจลดบทบาทคอนเทนต์ของพื้นที่รอบตัวนั่นเอง
ที่มา: TechCrunch |
# [ลือ] Netflix อาจเริ่มให้บริการแพคเกจแบบมีโฆษณา 1 พฤศจิกายนนี้
ข่าวลือเกี่ยวกับบริการแบบมีโฆษณาของ Netflix ค่อยๆ ทยอยออกมาเรื่อยๆ หลังก่อนหน้ามีข้อมูลเรื่องค่าบริการแพคเกจแบบมีโฆษณา ล่าสุดมีข้อมูลที่อ้างว่า Netflix แบบมีโฆษณาที่ว่านี้จะเริ่มให้บริการ 1 พฤศจิกายนนี้
ข้อมูลนี้มาจากหนึ่งในผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้ติดต่อซื้อโฆษณากับ Netflix โดยแหล่งข่าวรายเดียวกันนี้ยังระบุว่า Netflix คิดค่าโฆษณา $65 ต่อการรับชมของผู้ชมจำนวน 1,000 ครั้ง ซึ่งถือว่าสูงกว่าแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งส่วนใหญ่ค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ Netflix ยังมีการจำกัดให้ผู้สนใจซื้อโฆษณาแต่ละรายสามารถซื้อได้สูงสุดแค่ 20 ล้านเหรียญต่อปี ทั้งนี้คาดว่าเป็นมาตรการป้องกันไม่ให้มีการซื้อโฆษณาแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งจนมากเกินไปจนทำให้ผู้ชมเห็นแต่โฆษณาแบรนด์เดิมซ้ำๆ โดยแหล่งข่าวรายเดิมยังระบุว่า Netflix ต้องการให้ผู้ซื้อโฆษณาตัดสินใจทำสัญญาซื้อโฆษณาเป็นรายปีให้เรียบร้อยภายในเดือนกันยายนนี้
ที่มา - The Wall Street Journal |
# LG เปิดตัว LG OLED Flex ทีวีที่สามารถปรับระดับความโค้งของหน้าจอได้
LG เปิดตัว LG OLED Flex ทีวี OLED ขนาด 42 นิ้ว ที่ไม่เพียงใช้งานเพื่อการรับชมทีวีได้เท่านั้น แต่ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่มเกมโดยเฉพาะ มาพร้อมจุดเด่นตรงที่ปรับความโค้งของหน้าจอได้
การเปิดตัวทีวีของ LG นี้เรียกว่ามาตามหลังการเปิดตัว Xeneon Flex ซึ่งเป็นจอเกมที่ผู้ใช้สามารถดัดความโค้งของจอได้แบบติดๆ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะ LG เองก็มีชื่อเป็นผู้ร่วมพัฒนาหน้าจอ Xeneon Flex ให้ Corsiar ด้วย โดยบทบาทหลักคือการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหน้าจอ OLED ที่มีความยืดหยุ่นปรับให้โค้งได้นั่นเอง
ทีวี 42 นิ้ว LG OLED Flex
ทีวีรุ่น LG OLED FLex สามารถปรับความโค้งของหน้าจอได้ด้วยการกดปุ่มสั่งงานจากรีโมทคอนโทรลเลอร์ ผู้ใช้สามารถเลือกระดับความโค้งหน้าจอได้ 20 ระดับ โดยความโค้งสูงสุดนั้นอยู่ที่ 900R (เป็นความโค้งที่มีระยะรัศมี 900 มิลลิเมตร) ความละเอียดของหน้าจอ 4K, ความถี่ในการรีเฟรชหน้าจอ 120 Hz, มาพร้อมช่องต่อสัญญาณ HDMI 2.1, ช่องต่ออุปกรณ์ USB รวมทั้งไมโครโฟนในตัว นอกจากนี้ยังรองรับมาตรฐาน NVIDIA G-SYNC และ AMD FreeSync Premium
สามารถปรับความโค้งหน้าจอได้สูงสุดถึงระดับ 900R โดยการสั่งงานผ่านรีโมทคอนโทรลเลอร์
LG นั้นออกแบบ LG OLED Flex เน้นสำหรับผู้ใช้งานเพื่อการเล่นเกมเป็นหลัก ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการใช้งานทีวีเพื่อเล่นเกมบางประเภทก็สามารถปรับการแสดงภาพบนหน้าจอเพื่อลดขนาดภาพจาก 42 นิ้วลงเหลือ 32 นิ้ว หรือ 27 นิ้วได้ ด้วยการปรับในเมนู Gaming Dashboard (LG ให้ข้อมูลว่าการเล่นเกมบางประเภท เช่น เกมวางกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ หรือเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ผู้ใช้อาจต้องการจอแสดงภาพที่มีขนาดเล็กลงเพื่อให้สามารถกวาดตาและมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่บนหน้าจอได้ครอบคลุมและรวดเร็วยิ่งขึ้น) นอกจากนี้ตัวทีวียังมีลูกเล่นตรงไฟด้านหลังเครื่องที่จะเปลี่ยนสีให้สัมพันธ์กับภาพที่กำลังแสดงอยู่บนหน้าจอ ช่วยสร้างบรรยากาศในห้องระหว่างการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
LG นำทีวีรุ่นใหม่ที่ดัดจอโค้งได้นี้ออกแสดงในงาน IFA 2022 ที่ประเทศเยอรมนีด้วย อย่างไรก็ตามในตอนนี้ยังไม่มีการประกาศราคาขายหรือวันที่จะเริ่มวางจำหน่ายแต่อย่างใด
ที่มา - Android Authority, LG Newsroom |
# Ubisoft ยืนยัน Assassin's Creed Mirage ภาคใหม่ เปิดตัว 11 กันยายน เวลา ตี 2
หลังจากลือแบบไม่ค่อยมีมูลกันมานานมานานเรื่อง Assassin's Creed ภาคใหม่ ที่ตัวละครเอกจะเป็น Basim จาก Assassins' Creed Valhalla ก่อนที่เมื่อวาน จะมีข่าวลือ พร้อมการยืนยันของ Jason Schrier นักข่าวสายเกมของ Bloomberg ออกมาย้ำเรื่องนี้อีกครั้ง พร้อมระบุชื่อภาคว่าเป็น Assassins' Creed Mirage
ล่าสุดแอคเคาท์ทวิตเตอร์ Assassin's Creed ยืนยันแล้วว่าเกมนักฆ่าลอบสังหารภาคใหม่จะใช้ชื่อนี้จริง พร้อมเผยโฉมภาคแรกเป็นตัวละครเชื้อสายอาหรับ ซึ่งก็น่าจะเป็น Basim วัยหนุ่มตามข่าวลือ พร้อมภาคแบ็คกราวด์เป็นเมืองในตะวันออกกลาง โดย Ubisoft จะเปิดตัวเกมเต็มๆ ในงาน Ubisoft Forward วันที่ 11 กันยายน เวลาตี 2 ของไทย
ที่มา - @assassinscreed |
# เข้าเดือนกันยายน แอป ttb touch ล่มยาวตั้งแต่เช้า, SCB Easy ล่มตามไปตอนบ่าย
วันนี้ (1 กันยายน 2022) ผู้ใช้งานแอป ttb touch ของธนาคารทีเอ็มบีธนชาตประสบปัญหาไม่สามารถใช้งานแอปได้ตามปกติตั้งแต่ช่วงเช้าของวัน จนเกิดกระแสการทวีต #ttbล่ม ใน Twitter ตลอดวัน ล่าสุดตอนนี้ 22.30 น. ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทางธนาคารทีเอ็มบีธนชาตได้โพสต์ผ่านทางหน้าเพจ Facebook และบัญชี Twitter ยืนยันรับทราบปัญหาและแนะนำให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมผ่านทางตู้ ATM ไปก่อน
ในวันเดียวกันช่วงเวลาบ่าย ก็เริ่มปรากฎอีกหนึ่งกระแส #scbล่ม และมีผู้ใช้ Twitter หลายรายโพสต์ภาพหน้าจอแอป SCB Easy ที่ไม่สามารถใช้งานทำธุรกรรมได้ (ขณะนี้ 22.30 น. ก็ยังมีผู้ทวีตถึงปัญหานี้อยู่) โดยจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการแถลงยืนยันหรือปฏิเสธเรื่องปัญหานี้จากทางธนาคารไทยพาณิชย์ในช่องทางใดๆ ทั้งทางหน้าเพจ Facebook และบัญชี Twitter
ที่มา - เพจ ttb bank, #ttbล่ม, #scbล่ม |
# Cloudflare ประกาศแนวทางกำกับเนื้อหา จะตรวจสอบเองถึงระดับ CDN เท่านั้น
Cloudflare ประกาศแนวทางการกำกับเนื้อหาที่วิ่งผ่านบริการของ Cloudflare โดยระบุว่าเนื้อหาที่โฮสต์บน Cloudflare โดยตรง เช่น การใช้บริการ Pages, Worker KV, Stream, Images จะถูกดูแลด้วยแนวทางเนื้อหาที่ยอมรับได้ แต่บริการระดับล่างกว่านั้น เช่น DDoS Protection หรือ WAF ตลอดจนบริการจดโดเมนนั้นทาง Cloudflare จะใช้กระบวนการตามกฎหมายเป็นหลัก
ที่ผ่านมา Cloudflare เป็นบริษัที่หลีกเลี่ยงไม่เข้าไปยุ่งกับเนื้อหาของผู้ใช้มากนัก และมักจะยืนยันว่าบริการของตนเป็นทางผ่าน (conduit) เท่านั้น และผู้ให้บริการทางผ่านเช่นนี้ไม่ต้องเข้าไปดูแลเนื้อหาว่าจะมีเนื้อหาประเภทใดวิ่งผ่านบ้าง
เนื้อหาหลายอย่างแม้ไม่ได้ผิดกฎหมายโดยตรง แต่บริษัทผู้ให้บริการก็มักมีกฎต่างๆ กัน เพื่อห้ามไม่ให้บริการเนื้อหาบางประเภทมาใช้งานแพลตฟอร์ม เช่น เนื้อหาทางเพศหรือเนื้อหาปลุกเร้าความรุนแรง ตลอดจนเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ทาง Cloudflare ระบุว่าการดูแลเนื้อหาของบริษัทไม่ต่างกันทั้งเว็บที่มาใช้งานฟรีและผู้ใช้จ่ายเงิน บางกรณีมีลูกค้าต่อต้าน LGBTQ+ มาใช้บริการ ทาง Cloudflare ก็ให้บริการต่อไปแต่เอาค่าบริการทั้งหมดไปบริจาคหน่วยงานสนับสนุน LGBTQ+ แทน
ในปี 2017 Cloudflare เคยบล็อคเนื้อหากลุ่ม white supremacy พร้อมๆ กับบริษัทไอทีอื่นๆ จำนวนมาก แต่หลังจากนั้นบริษัทก็พบว่ารัฐบาลเผด็จการหลายชาติพยายามขอให้บล็อคเว็บสิทธิมนุษยชนบ้าง แถมมักนำเหตุผลที่ Cloudflare บล็อคเว็บกลับมาอ้างบ้าง
ที่มา - Cloudflare |
Subsets and Splits
No saved queries yet
Save your SQL queries to embed, download, and access them later. Queries will appear here once saved.