txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# Apple ออกอัพเดต iOS 15.2.1 และ iPadOS 15.2.1
แอปเปิลออกอัพเดตย่อย iOS 15.2.1 และ iPadOS 15.2.1 วันนี้ ซึ่งเป็นอัพเดตถัดจาก iOS 15.2 ที่ออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว
ผู้ใช้งาน iPhone, iPad สามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ในอัพเดตนี้แอปเปิลระบุว่ามีการแก้ไขปัญหาแอป Message อาจไม่โหลดรูปภาพที่ส่งโดยใช้ลิงก์ iCloud และแก้ปัญหาบั๊กแอป 3rd Party อาจไม่ตอบสนองบน CarPlay
ที่มา: MacRumors |
# PUBG Battlegrounds เปลี่ยนโมเดลมาเป็นเล่นฟรี ผู้เล่นเดิมได้อัพเกรดสิทธิ
เกม PUBG Battlegrounds ทั้งบนพีซีและคอนโซล ออกอัพเดตเวอร์ชัน 15.2 เปลี่ยนโมเดลจากการขายเกมมาเป็นเล่นฟรี (free-to-play) ตามที่เคยประกาศไว้ช่วงปลายปี 2021 ตามกระแสของเกมแนว Battle Royale หรือ FPS ส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่เปิดให้เล่นฟรีเกือบทุกเกมแล้ว รวมถึงเกมเวอร์ชันมือถือ PUBG Mobile ที่เปิดให้เล่นฟรีมาตั้งแต่แรก
ต้นสังกัด Krafton บอกว่าตัดสินใจเปลี่ยนโมเดลมาเป็นเล่นฟรี เพื่อขยายฐานผู้เล่นให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้เล่นเก่าด้วย เพราะมีคนมาร่วมเล่นในเกมแต่ละแมตช์มากขึ้น
ผู้เล่นเดิมที่เคยจ่ายเงินซื้อเกมไปแล้ว จะได้อัพเกรดเป็นสมาชิกระดับพรีเมียม Battlegrounds Plus แทน (สมัครเพิ่มเองจ่าย 12.99 ดอลลาร์) ได้ชุดไอเทมและโหมดการเล่นพิเศษเพิ่มจากปกติ
ที่มา - PUBG Thailand, Polygon |
# Nintendo เผยข้อมูลเพิ่มเติม Kirby and the Forgotten Land วางขาย 25 มีนาคมนี้
นินเทนโดปล่อยตัวอย่างใหม่ของ Kirby and the Forgotten Land เกมภาคใหม่ในซีรี่ส์ Kirby ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยมีข้อมูลตอนนั้นเพียงตัวเกมเป็นแบบ 3D พร้อมกับฉากใหม่
ในตัวอย่างใหม่นั้น นอกจากความสามารถในการลอกเลียนทักษะจากศัตรูแล้ว Kirby ยังต้องช่วยเหลือ Waddle Dees ที่ถูกจับไป และมี Bandana Waddle Dee เป็นผู้ช่วยในการผจญภัยครั้งนี้ ซึ่งสามารถควบคุมโดยผู้เล่นที่ 2 ได้ด้วย เกมยังมีสถานที่เรียกว่า Waddle Dee Town สำหรับเพิ่มทักษะให้ Kirby รวมทั้งมีมินิเกมต่าง ๆ ด้วย
Kirby and the Forgotten Land กำหนดวางขาย 25 มีนาคม 2022 นี้
ที่มา: Nintendo Life |
# LINE ออกอัพเดต ผู้ใช้ iOS 15 สามารถกำหนดรายละเอียดในข้อความแจ้งเตือนได้
LINE ออกอัพเดตเวอร์ชัน 12.0 ทั้งบน Android และ iOS โดยมีการปรับปรุงที่สำคัญคือการคุยเสียง และคุยวิดีโอแบบกลุ่ม ซึ่งปรับเมนูแสดงผล สามารถแชร์หน้าจอขณะคุยเสียงแบบกลุ่มได้ และปิดเสียงไมโครโฟนได้
ในอัพเดตนี้ยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมเฉพาะผู้ใช้ iOS ซึ่งรองรับ iOS 15 ขึ้นไปเท่านั้น โดยตั้งค่ารายละเอียดรูปแบบการแสดงข้อความแจ้งเตือนได้ ว่าจะให้แสดงข้อความ, โปรไฟล์คนส่งข้อความ, รูปภาพที่แนบมาในข้อความ ด้วยหรือไม่
ผู้ใช้งานสามารถกำหนดค่าเหล่านี้ได้ โดยไปที่ Settings ในแอปด้านขวาบนในหน้า Home > Notifications และเลือกกำหนดค่าในส่วน New messages
ที่มา: LINE |
# ซัมซุงเลื่อนเปิดตัวชิป Exynos 2200 บอกจะเปิดตัวพร้อม Galaxy S22
เมื่อปลายปี ซัมซุงโปรโมทว่าจะเปิดตัว Exynos 2200 ซึ่งเป็นชิปมือถือตัวแรกที่จะใช้จีพียู AMD RDNA 2 ในวันที่ 11 มกราคม 2022 แต่สุดท้ายกลับเงียบหายไป ไม่มาตามนัด ท่ามกลางข่าวลือว่า Exynos 2200 มีปัญหาจนต้องเลื่อนออกไปเป็นกลางปี โดย Galaxy S22 จะใช้ Snapdragon ล้วนแทน
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของซัมซุงให้ข่าวกับสื่อเกาหลีใต้ว่า เลื่อนการเปิดตัว Exynos 2200 จริง แต่ยืนยันว่าตัวชิปไม่มีปัญหาอะไร โดยจะเปิดตัว Exynos 2200 พร้อมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ (ซึ่งก็คือ Galaxy S22 ที่ตามปกติแล้วเปิดตัวช่วงเดือนกุมภาพันธ์) แต่ก็ไม่ให้เหตุผลว่าทำไมถึงต้องเลื่อน
ที่มา - Business Korea, ภาพจาก Samsung |
# รีวิว Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro ฟอกอากาศไว รองรับห้องใหญ่ถึง 60 ตารางเมตร
ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา คงไม่มีเครื่องฟอกอากาศแบรนด์ไหน ที่จะฮิตติดตลาดได้เท่ากับแบรนด์ Xioami ที่เข้ามาตีตลาดได้ด้วยคุณภาพที่ดี ไส้กรองที่เปลี่ยนง่าย หาซื้อง่าย และราคาที่จับต้องได้ รวมถึงความสามารถอัจฉริยะต่างๆ ในการใช้งานผ่านแอป Mi Home และเชื่อมต่อกับผู้ช่วยอัจฉริยะ เช่น Google Assistant ผ่าน Google Home และ Alexa ก็ทำให้หลายๆ คนกลายเป็นแฟนระบบอีโค่ซิสเท็มของ Xiaomi ไปเรียบร้อย
ส่วน Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro เป็นเครื่องฟอกอากาศรุ่นล่าสุดจาก Xiaomi ที่รองรับขนาดห้องตั้งแต่ 35-60 ตารางเมตร เรียกได้ว่าครอบคลุมห้องคอนโดใหญ่ๆ ได้ทั้งห้องโดยใช้แค่เครื่องเดียวไปเลย ไม่ต้องซื้อหลายเครื่อง รวมถึงมีประสิทธิภาพในการกรองอากาศสูงถึง 99.97% และมาพร้อมระบบเซนเซอร์ตรวจจับ PM2.5 และ PM 10 ความแม่นยำสูง และวันนี้ Blognone จะมารีวิวการใช้งานเบื้องต้นของเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ให้ได้ชมกัน
Disclaimer: เครื่อง Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro ได้รับการสนับสนุนจาก เสียวหมี่ ประเทศไทย
สเปก Mi Air Purifier 4 Pro
PCADR (กรองอนุภาค) : 500 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง
FCADR (กรองฟอร์มาลดีไฮด์) : 185 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง
มีระบบปล่อยประจุไอออนลบ เพิ่มความสะอาดให้อากาศ
รองรับห้องขนาด 35-60 ตารางเมตร
กรองอากาศห้อง 165 ตารางเมตรได้ภายใน 1 ชั่วโมง (สำหรับห้อง 60 ตร.ม. ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง)
ผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้ 8,330 ลิตรต่อนาที
อายุการใช้งานไส้กรอง : 6-12 เดือน
ระดับเสียงเมื่อเครื่องทำงาน 34~64dB
น้ำหนักรวม ประมาณ 8.7 กิโลกรัม
ขนาด 275 * 275 * 680 มิลลิเมตร
รองรับการสั่งงานผ่านเสียง Google Assistant และ Amazon Alexa
ราคา 8,490 บาท
ตัวเครื่องยังเป็นกล่องสีเหลี่ยมสีขาวรูปลักษณ์เดิม ด้านหน้าเป็นจอ OLED แบบสัมผัส แสดงผล PM 2.5 (หน่วยเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³) ปุ่มซ้ายเป็นปุ่มเปิดปิด ปุ่มขวาเป็นเปลี่ยนโหมดพร้อมปรับความแรงลม โดยมีโหมดอัตโนมัติ (A) โหมดเงียบ (รูปพระจันทร์เสี้ยว) และโหมดตั้งเอง (รูปหัวใจ) โดยสามารถตั้งค่าผ่านในแอปได้ หรือจะปรับลมก็มีความแรงให้สามระดับ
ด้านหลังมีปุ่มปรับความสว่างของหน้าจอ ปรับได้สามระดับ และมีเซ็นเซอร์เลเซอร์เพื่อตรวจจับอนุภาคในอากาศ ซึ่งสามารถใช้ไขควงปากแบนแงะออก แล้วใช้ที่เป่าลม (ลมเย็น) เป่าเพื่อทำความสะอาดได้ ถ้ารู้สึกว่าใช้งานไปเรื่อยๆ แล้วหน้าจอตรวจสอบอนุภาคต่างๆ เริ่มไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง
ฝาตะแกรงด้านบนของรุ่นนี้สามารถไขน็อตแล้วถอดออกเพื่อนำไปล้างทำความสะอาด จากที่รุ่นก่อนๆ จะไม่สามารถทำได้ ตัวไส้กรองเป็นแบบ 3 ชั้น ชั้นแรกเป็น Pre-Filterกรองฝุ่นทั่วไปที่มีขนาดใหญ่ ชั้นกลาง เป็น HEPA-Filter ชั้นนี้สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กอนุภาคระดับไมครอนอย่าง PM2.5 และแบคทีเรียต่างๆ ชั้นในสุดเป็น Carbon-Filter ใช้ดูดแก๊สฟอร์มาลดีไฮด์ สารพิษอันตรายอื่นๆ และขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไส้กรองของรุ่นนี้ออกแบบมาโดยเฉพาะกับ 4 Pro เท่านั้น ไม่สามารถใช้ร่วมกับรุ่น 3H, 2S หรือรุ่นอื่นได้ ตอนเลือกซื้อไส้กรองเพิ่ม อย่าลืมดูว่ารองรับรุ่น 4 Pro นะครับ
ก่อนใช้งานอย่าลืม เปิดฝาด้านหลัง เอาห่อพลาสติกของไส้กรองออกแล้วใส่ไส้กรองเข้าไปใหม่ หยิบสายไฟออกมาเสียบด้านล่าง เสียบสาย เปิดเครื่อง จากนั้นก็โหลดแอป Mi Home มา เปิด Bluetooth แล้วเตรียมเชื่อมต่อเครื่องกับ WiFi ในบ้านตามคำแนะนำในแอป โดย Xiaomi Air Purifier 4 Pro ยังรองรับ WiFi แค่แบบ 2.4Ghz
กดเพิ่มอุปกรณ์ในแอป Mi Home ตัวแอปก็จะตรวจพบ ต่อ WiFi ให้เรียบร้อย จากนั้นก็กดเชื่อมต่อกับเครื่อง
เชื่อมต่อเสร็จก็เลือกห้องที่จะเพิ่มเครื่องนี้ไว้ พร้อมกับตั้งชื่อเครื่องให้เรียบร้อย เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ โดยจะสามารถดูสถานะต่างๆ ของห้อง ทั้งอนุภาค PM 2.5 อุณหภูมิ ความชื้น เปอร์เซ็นต์ไส้กรองที่ยังเหลือ เปิดปิด Negative Ion เปิดระบบล็อกกันเด็ก รวมถึงตั้งเวลาเปิดปิดได้จากในแอป Mi Home
การเชื่อมต่อกับแอป Google Home ก็ทำได้ไม่ยาก เปิดแอป Google Home ขึ้นมา กดเครื่องหมายบวก กด Set up a device เลือก Works with Google เลือก Mi Home กด Check for new devices
ถ้าเชื่อมต่อ Smart Air Purifier 4 Pro กับแอป Mi Home เรียบร้อย เครื่องก็จะขึ้นโชว์ที่หน้านี้ กดเพิ่ม เลือกห้อง แล้วใช้งานได้เลย โดยสำหรับ Google Home บน iOS ของเครื่องผู้เขียน ฟีเจอร์การสั่งจะจำกัดอยู่ที่เปิด-ปิด เครื่อง แต่สามารถใช้คำสั่งเสียงเปลี่ยนโหมดต่างๆ ได้
ด้านการทำงาน ถือว่าทำงานได้เงียบเชียบพอสมควร ถ้าไม่เร่งแรงลมมากนัก แทบจะไม่รู้ตัวว่าเครื่องทำงานอยู่ แต่ถ้าอยากให้เครื่องฟอกอากาศได้เร็วขึ้น อาจต้องเร่งกำลังลมขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าเปิดทิ้งไว้ทั้งคืน ก็สามารถใช้โหมดอัตโนมัติได้ โดยการฟอกอากาศก็จะเป็นไปตามมาตรฐานของประเทศผู้ผลิต ตามสเปกระบุไว้ว่า สร้างอากาศหมุนเวียนถ่ายเทในห้องขนาด 40 ตารางเมตรได้ภายใน 15 นาที
สรุป
Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro เป็นเครื่องกรองอากาศมาตรฐานของ Xiaomi อีกรุ่นที่เหมาะสำหรับคนอยู่ห้องใหญ่ ในราคา 8,490 บาท แม้รายละเอียดภายนอกจะปรับปรุงแค่เล็กๆ น้อยๆ แต่ประสิทธิภาพการกรองอากาศก็เพิ่มขึ้นพอสมควรจาก Mi Air Purifier 3H เช่นการกรองอนุภาคที่เพิ่มเป็น 500 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง จาก 380 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และรองรับห้องถึงขนาด 60 ตารางเมตร จาก 45 ตารางเมตรใน 3H นอกจากนี้การทำงานที่เงียบสนิท ก็ยังไม่รบกวนการประชุมงานหรือการนอนหลับเหมือนเช่นเคย |
# อะไรๆ ก็เขียนด้วยเว็บ Fedora ประกาศเขียนตัวติดตั้งใหม่ด้วยเทคโนโลยีเว็บแทน GTK+
ในยุคนี้ การเขียนแอพแบบดั้งเดิมหลายอย่างถูกเปลี่ยนมาเขียนด้วยเทคโนโลยีเว็บแทน กระแสนี้ลามไปถึงตัวติดตั้งระบบปฏิบัติการ (OS installer) ที่เราเห็นเป็นอย่างแรกๆ ตั้งแต่เครื่องพีซียังไม่มีระบบปฏิบัติการด้วยซ้ำ
ดิสโทรลินุกซ์ Fedora มีตัวติดตั้งชื่อ Anaconda ถูกใช้งานมายาวนาน (ใช้กับทั้ง Fedora และดิสโทรในสาย Red Hat ทั้ง RHEL และ CentOS) เดิมที Anaconda เขียนด้วย GTK+ ซึ่งเป็นชุดพัฒนา GUI สำหรับลินุกซ์ (ตัวเดียวกับ GNOME และ GIMP) แต่มันกำลังจะถูกเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีเว็บแทน
ทีม Anaconda บอกว่ามองหาเทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัยขึ้น และสุดท้ายมาลงตัวกับ Cockpit ชุดพัฒนา GUI สำหรับลินุกซ์ด้วยเทคโนโลยีเว็บ เป้าหมายหลักของ Cockpit คือการสร้างหน้าเว็บสำหรับแอดมินเซิร์ฟเวอร์ จึงพัฒนาส่วนการดึงข้อมูลจากระบบ (เช่น DBus) มาพร้อมอยู่แล้ว ทีม Anaconda จึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเขียน installer ที่ต้องติดต่อกับฮาร์ดแวร์จำนวนมากได้ทันที
ทีม Anaconda ยังให้เหตุผลว่า การเปลี่ยนมาใช้สถาปัตยกรรมไคลเอนต์-เซิร์ฟเวอร์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้การติดตั้งระบบปฏิบัติการแบบรีโมทจากระยะไกลง่ายขึ้น (ปลายทางแค่เปิดเบราว์เซอร์ ต่างจากระบบปัจจุบันที่ต้อง VNC) อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางทีมเพิ่งตัดสินใจเปลี่ยนเทคโนโลยี ยังไม่มีกำหนดว่าเราจะเห็นของใหม่จริงๆ กันเมื่อไร
หมายเหตุ: ค่าย Ubuntu เพิ่งประกาศเขียน installer ใหม่ไปเมื่อเร็วๆ นี้ แต่เลือกใช้ Flutter แทน
หน้าตาปัจจุบันของ Anaconda จาก Fedora
ที่มา - Fedora via Phoronix |
# ตำรวจ LA โดนไล่ออก เพราะเล่น Pokemon Go ขณะออกตรวจ ไม่สนว่ามีคดีปล้น อุทธรณ์ไม่สำเร็จ
Louis Lozano และ Eric Mitchell ตำรวจแอลเอสองนายที่ถูกกรมตำรวจแอลเอไล่ออกในปี 2017 เนื่องจากเล่นเกม Pokemon Go อยู่ในรถสายตรวจ และไม่สนใจวิทยุว่ามีคดีปล้นกำลังเกิดขึ้นในห้าง Macy’s ในละแวกนั้น จนทำให้ผู้กองของหน่วยต้องมาระงับเหตุแทน แล้วเห็นรถของตำรวจสองนายนี้จอดอยู่โดยไม่ทำอะไร
หลังถูกไล่ออก Lozano และ Mitchell พยายามยื่นอุทธรณ์กับศาล โดยระบุว่าไม่ได้ยินเสียงวิทยุ แต่วิดีโอและเครื่องอัดเสียงในรถ จับเสียงตำรวจสองนายคุยกันเรื่องจะตอบรับวิทยุดีหรือไม่ จน Lozano พูดว่า “ช่างมันเถอะ” (Aw, screw it.) ได้ หลังจากนั้นตำรวจทั้งสองนายก็คุยกันเรื่องจับโปเกม่อนเช่น Snorlax และ Togetic หายาก ตามจุดต่างๆ ต่ออีกกว่า 20 นาที
ส่วนอีกประเด็นที่ Lozano และ Mitchell นำมาโต้แย้ง คือคลิปเสียงสนทนาส่วนตัวในรถสายตรวจ ถูกนำมาใช้ในศาลอย่างไม่ถูกต้อง แต่ก็โดนศาลปัดตกเช่นกัน และตัดสินว่าที่กรมตำรวจไล่ตำรวจสองนายนี้ออกเป็นการกระทำที่เหมาะสม ส่วนศาลอุทธรณ์ล่าสุดก็ตัดสินเห็นตรงกับศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2022 ที่ผ่านมา ไม่ได้รับการชดเชย หรือบรรจุกลับเข้าทำงานแต่อย่างใด
ที่มา - CBS News |
# ระบบอัพสเกล RSR ของ AMD เพิ่มประสิทธิภาพเกมได้สูงสุด 70% เตรียมเปิดใช้ ไตรมาสแรกปีนี้
Fidelity Super Resolution หรือ FSR เป็นระบบอัพสเกลภาพของ AMD ที่ใช้อัลกอริทึมในการอัพเสกลก่อนหน้านี้ระบบยังมีข้อจำกัดคือยังต้องทำงานร่วมกับผู้พัฒนาเพื่อปรับใช้ระบบนี้กับเกมโดยเฉพาะ แต่ AMD ก็เตรียมออกระบบใหม่ ชื่อ Radeon Super Resolution หรือ RSR ที่จะรองรับเกมมากขึ้น และโชว์วิดีโอใหม่ ที่เปิดเผยประสิทธิภาพเพิ่มเติม และระบุช่วงที่จะเปิดตัวระบบนี้ เป็นภายในไตรมาสแรกของปี 2022
RSR จะนำอัลกอริทึมอัพสเกลลงไปอยู่ในระดับไดรเวอร์ ทำให้รองรับเกมได้มากขึ้น ไม่ต้องพัฒนาระบบให้รองรับเป็นเกมๆ ไปเหมือนเดิม ทำให้รองรับเกมมากกว่า FSR และในช่วงท้ายคลิป AMD ระบุว่า ณ เดือน มกราคมปี 2022 ระบบ RSR สามารถใช้งานได้บนการ์ดจอ RDNA และ RDNA2 ตระกูล RX 5000 และ RX 6000 เท่านั้น แต่การมีเดือนระบุไว้ อาจแปลว่าในอนาคต ระบบนี้อาจรองรับการ์ดจอรุ่นอื่นเพิ่มเติม
ตัวอย่างในคลิปที่ AMD นำมาโชว์ เป็นเกม Warframe สามารถเรนเดอร์ความละเอียด 1440p และอัพสเกลให้แสดงผลที่ 4K โดยประสิทธิภาพเพิ่มจากการเล่นเกมที่เรนเดอร์ 4K แบบ native คิดเป็น 1.7 เท่า หรือเพิ่มมา 70% ทั้งนี้สิ่งที่ AMD นำมาโชว์ น่าจะเป็นประสิทธิภาพ “สูงสุด” ที่ RSR ทำได้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ส่วนการใช้งานทั่วไปอาจต่างจากนี้เล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้อาจต้องรอดูประสิทธิภาพเมื่อระบบนี้เปิดให้ใช้งานจริงกันอีกที เพราะการปรับระบบอัพสเกลเป็นเกมๆ ไปก็มีข้อดี เช่นหน้าจอ UI ต่างๆ ในเกม ยังสามารถเรนเดอร์ในความละเอียดระดับ native ได้ คงต้องดูว่าการใช้ RSR ที่จะอัพสเกลทุกอย่างที่แสดงผลบนหน้าจอ จะส่งผลอย่างไรต่อ UI เช่นตัวหนังสือต่างๆ และจะคุ้มค่ากับประสิทธิภาพที่ได้เพิ่มมาหรือไม่
ที่มา - Tom’s Hardware |
# Call of Duty: Vanguard เพิ่มชุดตัวละครหน่วยสำรวจจาก Attack on Titan
เป็นการ crossover ข้ามค่ายที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว Activision ประกาศว่าไอเทมจากอนิเมชื่อดัง Attack on Titan จะไปโผล่ในเกม Call of Duty ทั้งภาค Vanguard และ Warzone
ผู้เล่นสามารถซื้อชุดบันเดิลไอเทม Tracer Pack: Attack on Titan — Levi Edition Bundle ที่อิงสไตล์มาจากตัวละคร Levi Ackerman ในการ์ตูน ไอเทมหลักคือดาบ Titan Piercer ที่นำมาจากดาบฟันไททันในการ์ตูน
Daniel Yatsu ตัวละครจากภาค Vanguard มัลติเพลเยอร์ จะได้เครื่องแต่งกายเป็นยูนิฟอร์มของหน่วยสำรวจ (Survey Corps) ใน Attack on Titan ด้วย
นอกจากนี้ Activision ยังประกาศตัวละครใหม่ Isabella Rosario Dulnuan Reyes ของภาค Vanguard และอัพเดตความคืบหน้าของโหมด Zombies ภาค Vanguard (โหมดนี้พัฒนาโดยสตูดิโอ Treyarch) จะเปิดให้เล่นในปี 2022 แน่นอน
ที่มา - Call of Duty |
# Kim Kardashian และ Floyd Mayweather ถูกฟ้องเพราะโปรโมตเหรียญคริปโตที่มีการปั่นราคา
Kim Kardashian ดาราดังจากรายการเรียลลิตี้โชว์, Floyd Mayweather Jr. นักมวยชื่อดัง และ Paul Pierce อดีตนักบาส NBA ถูกผู้เสียหายรวมตัวกันฟ้องในศาลแขวงสหรัฐฯ รัฐแคลิฟอร์เนีย ข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการหลอกลวงให้ซื้อเหรียญคริปโต EthereumMax ที่ถูกปั่นราคาให้พุ่งสูงก่อนทุบราคาอย่างรุนแรง (pump and dump scheme)
Kim Kardashian และ Paul Pierce โพสต์โปรโมตเหรียญบนช่องทางโซเชียลของตัวเอง ส่วน Floyd Mayweather Jr. ก็เปิดแคมเปญให้แฟนคลับซื้อตั๋วเข้าชมนัดชกของเขากับ Logan Paul โดยใช้เหรียญ EthereumMax เมื่อช่วงกลางปี 2021
EthereumMax เปิดขายเหรียญในวันที่ 16 พฤษภาคม 2021 ที่ราคา 0.0000000588 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ก่อนจะราคาพุ่งสูงถึง 0.0000008546 ดอลลาร์ หรือพุ่งเกิน 1,000% ในวันที่ 29 พฤษภาคม ก่อนจะตกลงมาเรื่อยๆ และปัจจุบันอยู่ที่ 0.0000000168 ดอลลาร์ มูลค่าเหลือน้อยกว่า 1 ใน 3 ของราคาเปิดตัว
การปั่นราคาเหรียญคริปโต หลักการคือเจ้าของเหรียญโปรโมตเหรียญอย่างหนัก ก่อนเปิดขายเหรียญในราคาต่ำ เพื่อให้คนมาซื้อเหรียญเยอะๆ และเทขายเหรียญทั้งหมดที่ตัวเองมีเมื่อราคาพุ่งจนถึงจุดหนึ่งที่มีกำไรจากค่าโปรโมตและค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว ทำให้เหรียญราคาตกอย่างแรง จากนั้นก็ปล่อยเหรียญทิ้งไป ไม่ได้มีการนำไปใช้ต่อ หรือพัฒนาต่ออย่างที่เคยโฆษณา
การปั่นเหรียญคริปโต คล้ายการปั่นหุ้นที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายในแทบจะทุกประเทศ แต่ในโลกคริปโต ยังไม่มีกฎหมายหรือหน่วยงานที่เข้ามาควบคุมอย่างชัดเจน และหลายครั้งผู้เสียหายก็ต้องรวมตัวกันฟ้องเป็นคดีฉ้อโกง ซึ่งการที่ดาราดังถูกฟ้องด้วยในครั้งนี้ ถือเป็นอีกคดีที่น่าติดตามว่าจะจบลงอย่างไร
ที่มา - CNET |
# Firefox 96 ออกแล้ว ปรับปรุงเสียงตอนวิดีโอคอลล์ให้ดีขึ้นเล็กน้อย
Mozilla ออก Firefox 96 ตามรอบการออกทุก 6 เดือน เวอร์ชันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไม่เยอะนัก ได้แก่
ปรับปรุงเรื่อง noise-suppression และ auto-gain-control ให้เสียงดีขึ้นเล็กน้อยตอนคุยวิดีโอคอลล์
ลดโหลดการทำงานของเธร็ดหลักของตัวเบราว์เซอร์
เริ่มเปิดใช้ Cookie Policy: Same-Site=lax เป็นค่าดีฟอลต์ ลดการโจมตีแบบ Cross-Site Request Forgery (CSRF)
บน macOS แก้บั๊กกด Cmd+click ลิงก์บน Gmail แล้วไม่เปิดในแท็บใหม่
ที่มา - Mozilla |
# ฝันที่เกินเอื้อม NVIDIA เปิดตัว RTX 3080 รุ่นแรม 12GB ราคา 1,250 ดอลลาร์
NVIDIA เปิดตัวการ์ดจอ RTX 3080 รุ่นแรม (GDDR6X) 12GB เพิ่มจากก่อนหน้านี้ที่แรมสูงสุด 10GB แถมเพิ่มแกน CUDA เป็น 8960 แกน จากเดิม 8704 แกน และมีแบนด์วิธเพิ่มขึ้นเป็น 912 GB/s จากเดิม 760.3 GB/s เนื่องจาก Memory Bus ที่เพิ่มเป็น 384 bit จาก 320 bit ด้านการกินไฟ NVIDIA ยังแนะนำซัพพลาย 750W อยู่ แต่ตัวการ์ดเองจะใช้ไฟ 350W เพิ่มจากรุ่นเดิมที่ 320W
ราคาของ RTX 3080 รุ่นแรม 12GB จะขึ้นอยู่กับแบรนด์ผู้ผลิต ปัจจุบันมีแบรนด์ที่ออกราคามาแล้วคือ EVGA อยู่ที่ 1249.99 ดอลลาร์ (ราว 41,750 บาท) ส่วนแบรนด์อื่นก็อาจแตกต่างกันไปเล็กน้อย นับว่าราคาขึ้นมาค่อนข้างมาก เทียบกับสมัยเปิดตัว RTX 3080 ตัวแรกที่ราคาตั้งเพียง 699 ดอลลาร์ โดยราคานี้ก็น่าจะสะท้อนราคาที่แท้จริงในตลาดมากขึ้น แต่จุดสำคัญคือน่าจะหายากเหมือนเคย และถ้าเหลือมาถึงบ้านเรา ก็อาจบวกราคาอีกหลายพัน หรืออาจถึงหลักหมื่นบาท
ที่มา The Verge |
# โซนี่เตรียมผลิต PlayStation 4 ต่อเนื่อง แก้ปัญหา PlayStation 5 ขาดตลาด
โซนี่เตรียมยืดอายุการผลิต PlayStation 4 ออกไปอย่างน้อยอีก 1 ปี โดยปี 2022 นี้จะผลิต PS4 อย่างต่อเนื่อง รวมประมาณ 1 ล้านเครื่อง เพื่อชดเชยกับปัญหา PlayStation 5 ขาดตลาด
Bloomberg อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวระบุว่าแผนเดิมของโซนี่คือจะหยุดผลิต PlayStation 4 ช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา แต่แผนการนี้เป็นเพียงแผนภายในที่โซนี่ไม่เคยประกาศสู่ภายนอก
ปัญหาชิปขาดแคลนทำให้บริษัทจำนวนมากต้องหาทางออกต่างๆ กันไป ทางแก้หนึ่งคือการผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีเก่าและยังพอหาโควต้าผลิตได้ เช่น NVIDIA ก็ผลิตชิป RTX 2050 ที่ใช้กระบวนการผลิต 12nm มาเปิดตัวปลายปี 2021
ที่มา - Strait Times |
# 5 วิธีดูรีวิวบ้าน ให้ได้บ้านตรงใจ
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านใหม่ หากเป็นเมื่อก่อนคงต้องขับรถเข้าไปดูโครงการนั้น ๆ ด้วยตัวเอง เข้าโครงการโน้นที ออกโครงการนั้นที ออกมาอาจผิดหวังบ้าง ถูกใจบ้าง หรือหากไปถึงในแบบที่ไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า อาจไม่มีใครพาชมโครงการอีก แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้คุณสามารถค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้อย่างสะดวกมากขึ้น สามารถค้นหาเว็บไซต์ที่รวบรวมโครงการบ้านต่าง ๆ ไว้ได้ไม่ยาก แต่รีวิวบ้านที่ดี ที่จะทำให้เราได้บ้านตรงใจ ต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ไปติดตามกัน
1. ระบุข้อมูลโครงการชัดเจน
เพื่อเป็นการทำความรู้จักกับโครงการบ้านนั้น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการแนะนำโครงการผ่านรายละเอียดต่าง ๆ คล้ายกับเป็นสารบัญของโครงการ เริ่มตั้งแต่ชื่อโครงการบ้าน, ผู้พัฒนาโครงการ, ทำเลที่ตั้งโครงการ, ขนาดพื้นที่ใช้สอย, สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและภายนอกโครงการ, การเดินทาง และราคา เป็นต้น
ขอบคุณภาพ @casamediacasamedia จาก Envato Elements
2. รายละเอียดโครงการ
เป็นการพูดถึงโครงการโดยรวมเริ่มตั้งแต่สไตล์ของบ้านเป็นแบบไหน ภายในโครงการนั้นมีบ้านกี่แบบ จากนั้นจึงอธิบายลงลึกไปในบ้านแต่ละแบบว่ามีแบบไหนบ้าง ลักษณะบ้านภายนอกเป็นอย่างไร มีพื้นที่กี่ตารางวา ภายในบ้านมีกี่ห้อง แบ่งเป็นห้องอะไรบ้าง เป็นต้น
3. สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและภายนอกโครงการ
การมีพื้นที่สีเขียวในโครงการหรือสวนหย่อมให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ กับครอบครัวในวันหยุด นอกจากนี้ โครงการบ้านที่ดีควรตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยการมีแหล่งอำนวยความสะดวกภายนอกที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา และโรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งควรระบุไว้ในการรีวิวด้วยเช่นกัน
4. รายละเอียดภายในบ้าน
เนื่องจากเป็นการหาข้อมูลของโครงการต่าง ๆ ผ่านการรีวิวบ้านจากหน้าจอ ดังนั้น เพื่อให้ได้บ้านเดี่ยวที่ตรงใจมากที่สุด การรีวิวนั้น ๆ ควรมีภาพถ่ายพร้อมคำอธิบายแนะนำบ้าน ทั้งภายนอกและภายในบ้าน รวมถึงพื้นที่ใช้สอยบริเวณรอบ ๆ ว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร ดียิ่งขึ้นหากมีระบบนำชมเสมือนจริง หรือ Virtual Tour ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจในการซื้อบ้านได้ดีขึ้น
ขอบคุณภาพ @casamediacasamedia จาก Envato Elements
5. การเดินทาง
ข้อนี้เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเข้า-ออกโครงการ รวมถึงการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ว่าสามารถเดินทางได้ทางใดบ้าง เช่น ติดถนนสายหลักเส้นไหนบ้าง ใกล้ทางด่วนหรือเปล่า มีรถประจำทาง วินมอเตอร์ไซค์ หรือใกล้รถไฟฟ้า BTS และ MRT สถานีใด รีวิวบ้านควรมีให้รายละเอียดส่วนนี้อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ที่กำลังมองหาบ้านได้พิจารณาว่าที่ตั้งของโครงการนั้นเหมาะสมกับวิธีการเดินทางและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวหรือไม่
ปัจจุบันนี้ การรีวิวเข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสินค้านั้นมีราคาหลักล้านอย่างอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน ควรเลือกอ่านรีวิวบ้านที่ให้รายละเอียดครบถ้วนและชัดเจน เพราะสิ่งนี้แสดงออกได้ถึงการเป็นมืออาชีพเรื่องบ้านและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ได้บ้านที่ตรงใจ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกด้านอีกด้วย
ค้นหาโครงการบ้านทำเลต่าง ๆ พร้อมติดตามข้อมูล และสาระดี ๆ เกี่ยวกับบ้านและอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมได้ที่ DDproperty.com เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ได้รวบรวมข้อมูลประกาศซื้อ ขาย เช่า ที่น่าสนใจทั้งโครงการใหม่และบ้านมือสองในหลากหลายทำเลครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมเป็นแหล่งรวมความรู้ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการซื้อ-ขาย-เช่า เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการตัดสินใจซื้อให้ผู้ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองสามารถเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด |
# ไมโครซอฟท์ออกแพตช์รอบเดือนมกราคม IIS มีช่องโหว่รันโค้ดเสี่ยง Worm ควรเร่งอัพเดต
ไมโครซอฟท์ออกแพตช์ตามรอบปกติเดือนมกราคม รวม 97 รายการ มีช่องโหว่ระดับวิกฤติ 9 รายการ ส่วนใหญ่เป็นช่องโหว่รันโค้ดระยะไกลใน Exchange Server, Office, Codec, และ Curl
ในบรรดาช่องโหว่ทั้งหมด ไมโครซอฟท์แนะนำให้จัดลำดับการแพตช์ช่องโหว่ CVE-2022-21907 ของ HTTP Stack ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพราะช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์รันโค้ดผ่านเน็ตเวิร์คได้โดยไม่ต้องล็อกอิน อย่างไรก็ตามคอนฟิกเริ่มต้นไม่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้ ผู้ใช้ต้องเปิดฟีเจอร์ HTTP Trailer Support จึงกระทบ
ในบรรดาช่องโหว่ 97 รายการ มีช่องโหว่ที่ถูกเปิดเผยข้อมูลแล้ว 6 รายการ ยังไม่พบการโจมตีช่องโหว่ใดๆ
ที่มา - Microsoft Security Response Center. Bleeping Computer |
# บริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ Aptiv ซื้อกิจการ Wind River ผู้สร้างระบบปฏิบัติการฝังตัว VxWorks
บริษัท Wind River Systems ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการฝังตัว VxWorks และ Wind River Linux มีอันต้องเปลี่ยนเจ้าของอีกแล้ว โดย Aptiv บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ เข้าซื้อกิจการจากเจ้าของเดิมคือบริษัทลงทุน TPG Capital ในราคา 4.3 พันล้านดอลลาร์
WindRiver ถูกเปลี่ยนเจ้าของมาแล้วหลายครั้ง บริษัทก่อตั้งเมื่อปี 1983 และเริ่มสร้างชื่อมาจากระบบปฏิบัติการ VxWorks โดย Wind River เคยถูกอินเทลซื้อกิจการเมื่อปี 2009 จากนั้น TPG Capital มาซื้อต่อในปี 2018 และล่าสุดคือขายให้ Aptiv ในปี 2022
ส่วนผู้ซื้อบริษัท Aptiv อาจเป็นชื่อที่ไม่คุ้นกันนัก แต่หลายคนอาจคุ้นกับชื่อเดิม Delphi Automotive กันมากกว่า (Delphi เดิมแยกเป็น 2 บริษัทเมื่อปี 2017 คือ Aptiv และ Delphi Technologies) ปัจจุบัน Aptiv เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก มีรายได้ประมาณ 13 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ทำธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์หลากหลายประเภท เน้นไปที่ระบบความปลอดภัย ระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร และระบบช่วยขับขี่
Aptiv ให้เหตุผลของการซื้อกิจการว่า อุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เข้าสู่ยุค software-defined จึงสนใจซื้อ Wind River ที่เป็นผู้นำในตลาดระบบปฏิบัติการฝังตัวอยู่แล้ว เข้ามาผนวกเป็นโซลูชันทั้งฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์ภายใต้บริษัทเดียวกัน
ที่มา - Wind River, Aptiv |
# สเปก PCIe 6.0 มาแล้ว อัตราส่งข้อมูลเพิ่มขึ้น 2 เท่าจาก PCIe 5.0
PCIe 5.0 ยังไม่ได้ใช้กันแพร่หลาย วันนี้กลุ่มอุตสาหกรรม PCI-SIG ที่ดูแล PCI Express ประกาศออกสเปก PCIe 6.0 อย่างเป็นทางการแล้ว
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ PCIe 6.0 คือเพิ่มอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดขึ้นจาก PCIe 5.0 อีกเท่าตัว ถ้าวัดเป็น raw data rate คือ 64 GT/s (gigatransfer) เทียบกับของเดิมคือ 32 GT/s หรือถ้าวัดด้วยหน่วยที่เราคุ้นกันคือ 256 GB/s (ทิศทางละ 128 GB/s) สำหรับคอนฟิกแบบ x16
ของใหม่อย่างอื่นเป็นฟีเจอร์เรื่องการส่งสัญญาณ เช่น Pulse Amplitude Modulation with 4 levels (PAM4), Lightweight Forward Error Correct (FEC), Cyclic Redundancy Check (CRC) และรองรับการ encoding แบบ Flit (flow control unit) ที่ใช้ PAM4 ช่วยเพิ่มแบนด์วิดท์ 2 เท่า
ขั้นถัดไปคือผู้ผลิตฮาร์ดแวร์นำสเปก PCIe 6.0 ไปผลิตสินค้า ซึ่งคาดว่าใช้ประมาณ 12-18 เดือน คาดว่าเราน่าจะเริ่มเห็นสินค้า SSD PCIe 6.0 สำหรับเซิร์ฟเวอร์ออกมาเป็นอย่างแรกภายในปีหน้า 2023
ที่มา - PCI-SIG, AnandTech |
# [ลือ] Tencent เจรจาซื้อกิจการสมาร์ทโฟนเกมมิ่ง Black Shark
มีรายงานว่า Tencent อยู่ในขั้นตอนเจรจาเพื่อซื้อกิจการ Black Shark ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเกมมิ่งของ Xiaomi โดยมูลค่าดีลอยู่ที่ 420 ล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่มีข้อสรุปตอนนี้
รายงานยังระบุว่าสิ่งที่ Tencent ต้องการจาก Black Shark คือการผลิตฮาร์ดแวร์ โดยบริษัทมีแผนจะให้ Black Shark เป็นผู้ผลิตเฮดเซต VR ให้ด้วย โดยฝั่ง Tencent จะผลิตคอนเทนต์และเกมป้อนให้
ช่วงที่ผ่านมา Pony Ma ซีอีโอ Tencent มองโอกาสของ metaverse ว่าบริษัทสามารถเข้าไปได้ในหลายรูปแบบ จึงอาจเป็นที่มาของดีลซื้อกิจการ Black Shark นี้
ที่มา: Kr-Asia |
# Apple เผยสถิติธุรกิจ Services นักพัฒนาทำเงินบน App Store ไปแล้วมากกว่า 2.6 แสนล้านดอลลาร์
แอปเปิลรายงานสถิติตัวเลขของกลุ่มธุรกิจบริการ (Services) ซึ่งประกอบด้วย App Store, Apple Music, Apple Maps, Apple Pay, Apple News, Apple Podcasts, Apple Fitness+, Apple TV+, Apple Arcade และอื่น ๆ โดยมีบัญชีผู้ใช้งานที่สมัครจ่ายเงินแบบ subscription แล้วมากกว่า 745 ล้านบัญชี สะท้อนรูปแบบการรับข้อมูลความบันเทิง ที่เปลี่ยนไปของผู้คน
สถิติอื่นที่น่าสนใจมีดังนี้
นักพัฒนาทำเงินผ่านการขายสินค้าดิจิทัลและบริการผ่าน App Store มากกว่า 2.6 แสนล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ App Store เปิดตัวในปี 2008
รายได้เฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุด เติบโตระดับเลขสองหลักจากปีก่อน
มีการใช้บัตรดิจิทัลบน Wallet มากกว่า 30 ล้านครั้ง ในอเมริกาและแคนาดา
คอนเทนต์ Apple TV+ ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัล 763 รายการ และได้ 190 รายการ
ที่มา: แอปเปิล |
# Meta แต่งตั้ง Tony Xu ซีอีโอ DoorDash ร่วมคณะบอร์ดบริหาร
Meta ประกาศแต่งตั้ง Tony Xu ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง DoorDash แอปเดลิเวอรีรายใหญ่ในสหรัฐ เข้าร่วมคณะบอร์ดบริหารของบริษัท โดยมีผลทันที
Mark Zuckerberg ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Meta กล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่บริษัทจะมีผู้นำจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เข้าร่วมคณะกรรมการบอร์ด ซึ่ง Tony มีประสบการณ์โดยตรงในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนของธุรกิจร้านค้า ซึ่งเขาคาดหวังจะได้มุมมองจาก Tony ในการร่วมสร้าง metaverse
Tony Xu รับตำแหน่งซีอีโอและบอร์ดบริหาร DoorDash ตั้งแต่ปี 2013 และขึ้นเป็นประธานบอร์ดเมื่อปี 2020 การแต่งตั้ง Tony มาร่วมประธานบอร์ดล่าสุดนี้ สะท้อนว่า Meta ยังคงโฟกัสที่บริการด้านการซื้อขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลักดันผ่าน Facebook, Instagram และ WhatsApp มาโดยตลอด
ปัจจุบันคณะกรรมการบอร์ด Meta ประกอบด้วย Mark Zuckerberg, Peggy Alford (รองประธานบริหาร Global Sales ของ PayPal), Marc L. Andreessen (กองทุน Andreessen Horowitz), Drew Houston (ซีอีโอ Dropbox), Nancy Killefer (พาร์ตเนอร์ McKinsey), Robert M. Kimmitt (ที่ปรึกษากฎหมาย WilmerHale LLP), Sheryl K. Sandberg (ซีโอโอ Meta), Peter A. Thiel (Founders Fund), Tracey T. Travis (ซีเอฟโอ Estée Lauder) และล่าสุดคือ Tony Xu
ที่มา: Meta ผ่าน TechCrunch |
# Surface เปลี่ยนจากสินค้าซ่อมยาก สู่ยุคไมโครซอฟท์ทำวิดีโอสอนซ่อม Surface ให้เลย
ท่าทีเรื่องสิทธิในการซ่อม (Right-to-Repair) ของไมโครซอฟท์เปลี่ยนไปจากเดิมมาก จากในอดีต Surface Pro 4 ได้คะแนนซ่อมง่าย 0 คะแนนจาก iFixit กลายมาเป็น ไมโครซอฟท์ตอบรับนโยบาย Right-to-Repair จากการเรียกร้องของกลุ่มผู้ถือหุ้น
ทิศทางใหม่ของไมโครซอฟท์เริ่มจากการขายอุปกรณ์ซ่อม Surface ร่วมกับ iFixit และล่าสุดไปไกลกว่านั้นคือ โพสต์คลิปสอนซ่อมโน้ตบุ๊ก Surface Laptop SE บนช่องของ Surface เอง (เหมือนดูคลิป iFixit แต่เป็นเวอร์ชันไมโครซอฟท์ทำเอง)
นอกจากคลิปวิดีโอแล้ว ไมโครซอฟท์ยังเผยแพร่เอกสารคู่มือซ่อม Surface Service Guideline ของ Surface รุ่นต่างๆ ไว้บนเว็บไซต์ให้ดาวน์โหลดไปอ่านกันด้วย
ที่มา - Ars Technica |
# คุมโทนง่ายกว่าเดิม - Instagram ทดสอบหน้าโปรไฟล์แบบใหม่ เรียงรูปได้ตามต้องการ
Alessandro Paluzzi นักแกะโค้ดแอปเปิดเผยข้อมูลว่า Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ Edit Grid ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเรียงโพสต์ในหน้าโปรไฟล์ได้ตามต้องการ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับหน้าโปรไฟล์ศิลปิน หรือหน้าของร้านค้า ที่จะทำให้การแสดงลำดับภาพสวยงามตามต้องการทำได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบันโพสต์ในหน้าโปรไฟล์จะแสดงผลเรียงตามลำดับการโพสต์
ทั้งนี้ Engadget ได้สอบถามไปยัง Instagram แต่ยังไม่ได้คำตอบว่าฟีเจอร์นี้เป็นแค่การทดลอง หรืออาจเปิดให้ใช้งานจริงกับผู้ใช้งานทุกคน ดูตัวอย่างได้จากทวีตท้ายข่าว
ที่มา: Engadget |
# Multiprocess Labs เปิดโครงการ dsq คิวรี JSON, CSV, Excel, Nginx log ด้วย SQL
Multiprocess Labs ผู้พัฒนา DataStation ที่เป็น IDE สำหรับการคิวรีข้อมูล โอเพนซอร์สโครงการ dsq สำหรับการคิวรีข้อมูลไฟล์ต่างๆ ด้วยภาษา SQL
โครงการโอเพนซอร์สสำหรับคิวรีข้อมูลในไฟล์ด้วย SQL นั้นมีมาก่อนหน้านี้แล้วหลายโครงการ แต่ไลบรารี DataStation นั้นมีจุดเด่นที่การรองรับไฟล์ฟอร์แมตหลากหลายกว่า เช่น Excel, OpenOffice Sheet, JSONL (JSON ที่แบ่งตามบรรทัด), Apache2 log, และ nginx log
เบื้องหลังของโปรแกรมในกลุ่มนี้ เช่น textql หรือ q มักใช้ SQLite เป็นเอนจินด้านหลัง และตัวโปรแกรมก็แปลงข้อมูลเพื่อส่งเข้าไปยัง SQLite ก่อนจะรันคิวรีอีกที แต่การมีโปรแกรมลักษณะนี้ก็ช่วยทำให้งานหลายประเภทที่ต้องการคิวรีเป็นครั้งคราวใช้งานได้สะดวกขึ้นมาก
ที่มา - DataStation |
# Firefox Focus บน Android เพิ่มฟีเจอร์ Total Cookie Protection บล็อคคุกกี้ไม่ให้เห็นข้อมูลระหว่างไซต์
Mozilla ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Total Cookie Protection ให้ Firefox Focus เบราว์เซอร์เน้นความเป็นส่วนตัวบน Android เพื่อจำกัดความสามารถในการติดตามข้ามไซต์และปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
Total Cookie Protection เป็นฟีเจอร์ของ Mozilla ที่ออกแบบมาเพื่อหยุดไม่ให้คุกกี้ติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์ โดยไอเดียคือการทำโหลเก็บคุกกี้ (cookie jar) ที่แยกกันระหว่างไซต์ ดังนั้นทุกครั้งที่เว็บไซต์หรือคอนเทนต์จาก third-party ฝังคุกกี้ลงเบราว์เซอร์ Firefox Focus จะกำหนด cookie jar อันใหม่ขึ้นมาสำหรับไซต์หนึ่ง ทำให้คุกกี้จากแต่ละไซต์ไม่สามารถไปเก็บข้อมูลจากไซต์อื่นได้
นอกจาก Total Cookie Protection แล้ว Firefox Focus บน Android ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ SmartBlock เพื่อมาแก้ปัญหาหาก Total Cookie Protection ทำงานแล้วไปบล็อคฟีเจอร์บางอย่างบนเว็บไซต์ Firefox จะแก้ไขให้เว็บไซต์ทำงานได้ อาจจะด้วยการแทนที่แทร็กเกอร์บางตัวเพื่อทำให้ฟีเจอร์ทำงานได้
ที่มา - Mozilla |
# สำนักข่าว AP เตรียมนำภาพข่าวที่ได้รับรางวัลออกขายเป็น NFT
สำนักข่าว Associate Press หรือ AP เตรียมเข้ามาสู่สนาม NFT อย่างจริงจัง โดยเตรียมขายภาพข่าว (photojournalism) ออกเป็น NFT โดยร่วมมือกับ Xooa
คอลเลคชั่นภาพข่าว AP ที่จะนำมาขายผ่าน NFT จะมีทั้งภาพที่ได้รับรางวัล Pulitzer ในหลายหมวดหมู่ ทั้งอวกาศ, สภาพอากาศ และสงคราม โดยแต่ละภาพจะใส่เมตะดาต้าเพื่อแสดงวันเวลา, สถานที่ และอุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายภาพนั้น ๆ ด้วย ซึ่ง AP ระบุว่า NFT ที่ออกจะมิ้นท์บนบล็อกเชน Polygon ที่ออกแบบมาประหยัดพลังงานกว่าเชนอื่น ๆ
AP จะเริ่มออก NFT ชุดแรกในวันที่ 31 มกราคมนี้ โดยรายได้จากการขาย NFT จะนำไปเป็นเงินทุนเพื่อหล่อเลี้ยงกิจการสื่อสารมวลชนของ AP ต่อไป
ที่มา - Engadget, AP |
# หมูแพง แต่ดี หมอสหรัฐฯ เปลี่ยนถ่ายหัวใจหมูดัดแปลงพันธุกรรมมาใส่คน ครั้งแรกของโลก
David Bennett Sr. ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับหัวใจชายอายุ 57 ปี ในสหรัฐอเมริกา กลายเป็นมนุษย์คนแรกของโลกที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจจากหมูที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้อวัยวะเข้ากันกับมนุษย์ได้ดีขึ้นมาใส่ในร่างกาย และเสริมด้วยยากดภูมิรูปแบบใหม่ที่ลดการต่อต้านอีกขั้น หลังอาการของเขารุนแรง และร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะรับการเปลี่ยนถ่ายหัวใจจากมนุษย์ได้
การผ่าตัดทำโดยทีมงานจากวิทยาลัยแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ (University of Maryland School of Medicine) การผ่าตัดที่บัลติมอร์เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยผ่านช่วง 48 ชั่วโมงแรกที่เป็นช่วงอันตรายไปได้อย่างปลอดภัย แม้ยังใส่เครื่องบายพาสเพื่อช่วยในการหายใจ และยังต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อโรคต่างๆ อยู่ แต่ก็เป็นปกติของผู้ป่วยที่เพิ่งทำการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ
การผ่าตัดนี้ถือเป็นความสำเร็จอีกครั้งหลังการนำไตจากหมูที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมมาเปลี่ยนถ่ายให้มนุษย์สำเร็จ เมื่อเดือนตุลาคมปี 2021 ที่ผ่านมา
แม้ยังมีอุปสรรคอีกมากกว่าการเปลี่ยนถ่ายเช่นนี้จะถูกนำไปใช้ในวงกว้าง เพราะยังมีปัญหาและร่างกายก็ยังอาจต่อต้านได้ (ยังไม่นับเรื่องข้อจำกัดด้านศาสนาและอื่นๆ) แต่นักวิจัยก็หวังว่าเทคนิคใหม่นี้จะนำไปสู่ยุคที่อวัยวะเปลี่ยนถ่ายในมนุษย์สามารถหาได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
คุณหมอ Bartley Griffith (ซ้าย) ผู้ทำการเปลี่ยนถ่ายหัวใจ
กับ David Bennett Sr. (ขวา) ผู้รับการเปลี่ยนถ่าย
ที่มา - NYTimes |
# Facebook เลื่อนกำหนดให้พนักงานกลับเข้าสำนักงาน ออกไปเป็นเดือนมีนาคม
Meta บริษัทแม่ของ Facebook ประกาศเลื่อนการกลับเข้ามาทำงานในสำนักงานออกไปอีกครั้ง จากเดิมปลายเดือนมกราคม เป็น 28 มีนาคมนี้
ผู้บริหารของ Meta กล่าวว่าในสถานการณ์นี้บริษัทต้องการให้พนักงานมีเวลามากพอ ที่จะเลือกว่าจะกลับเข้ามาทำงานที่สำนักงานหรือทำงานจากที่บ้านต่อไป จึงขยายเวลาทำงานที่บ้านออกไประยะหนึ่ง โดยหากเลือกทำงานที่บ้านต่อ ต้องแจ้งล่วงหน้าภายในกลางเดือนมีนาคม และบริษัทจะขยายเวลาไปอีก 3-5 เดือน
ทั้งนี้ Meta กำหนดว่าพนักงานที่จะกลับมาทำงานที่สำนักงานต้องได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์แล้วเท่านั้น
ที่มา: CNBC |
# แอปเปิลยอมแล้ว เปิดให้มีวิธีจ่ายเงินอื่นบน App Store เกาหลีใต้ แต่ยังเก็บค่าธรรมเนียม
KCC หรือสำนักงาน กสทช. ของเกาหลีใต้ให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์ The Korea Herald ว่า แอปเปิลยอมปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ของเกาหลีใต้ อนุญาตให้มีวิธีการจ่ายเงินแบบอื่นบน App Store แล้ว
กฎหมายใหม่ของเกาหลีใต้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 โดยกูเกิลยอมทำตามตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แต่ก็มีเงื่อนไขว่าจะเก็บเงินส่วนแบ่งรายได้จากนักพัฒนาอยู่ดี (ในอัตราที่ลดลงจาก 30%)
กรณีของแอปเปิลก็มาแบบเดียวกันคือ ยอมเปิดให้จ่ายเงินผ่านช่องทางอื่นได้ แต่ยังเก็บส่วนแบ่งในอัตราที่ลดลง ซึ่งยังไม่ระบุว่าเท่าไร และไม่ระบุว่าจะเริ่มดำเนินการได้เมื่อไร
ที่มา - The Korea Herald |
# Linux Mint เซ็นสัญญา Mozilla เปลี่ยนมาใช้ Firefox แบบได้ส่วนแบ่งรายได้จาก Google
ดิสโทร Linux Mint ประกาศเซ็นสัญญา "เชิงพาณิชย์" กับ Mozilla เพื่อใช้ Firefox เป็นดีฟอลต์เบราว์เซอร์ในแบบที่ Mozilla ต้องการ
ในอดีต Linux Mint ใช้วิธีนำซอร์สโค้ดของ Firefox มาคัสตอมเอง ปรับค่าคอนฟิกต่างๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนหน้าเริ่มต้นเป็น https://www.linuxmint.com/start/ และใช้เสิร์ชเอนจินที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Mint (เช่น Yahoo, DuckDuckGo)
ภายใต้สัญญาใหม่ Linux Mint จะใช้ Firefox เวอร์ชันของ Mozilla เอง ซึ่งให้ประสบการณ์ใช้งานเหมือนกับบน OS อื่นๆ ซึ่ง Mint ระบุว่าลดภาระการดูแลแพ็กเกจ Firefox ของตัวเองลงด้วย การเปลี่ยนแปลงจะมีผลใน Firefox 96 เป็นต้นไปบน Linux Mint 19x, 20, 20.1, 20.2 และ LMDE 4 ส่วน Linux Mint 20.3 ตัวใหม่ล่าสุดเปลี่ยนมาใช้ Firefox ตัวใหม่เรียบร้อยแล้ว
การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือตัวเสิร์ชเอนจิน ที่เปิดเผยชัดเจนว่ากรณีของ Firefox ถ้าผู้ใช้เสิร์ชผ่าน Google แล้วจะสร้างรายได้ให้ Mint ทำให้คนที่ตั้งค่าดีฟอลต์เสิร์ชเอนจินของ Firefox เป็นตัวอื่นจะถูกรีเซ็ตกลับเป็น Google ด้วย (สามารถเปลี่ยนเป็นเสิร์ชตัวอื่นเองได้ภายหลัง และในเบราว์เซอร์ตัวอื่นบน Mint พาร์ทเนอร์เสิร์ชคือ Yahoo, DuckDuckGo, Startpage ซึ่งสามารถใช้งานได้ต่อไป)
ที่มา - Linux Mint |
# ซีอีโอ Signal ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ให้ผู้ก่อตั้ง WhatsApp เป็นซีอีโอชั่วคราว ระหว่างหาซีอีโอใหม่
Moxie Marlinspike ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Signal แอปแชตที่ชูจุดขายเรื่องความเป็นตัว ประกาศลาออกจากตำแหน่งมีผลในเดือนหน้า ซึ่งเขาบอกว่าได้วางแผนมาระยะหนึ่งแล้ว โดยตั้งมูลนิธิ Signal Foundation เพื่อเป็นหน่วยงานในการดูแลแอปต่อในอนาคต
Marlinspike บอกว่า Signal เริ่มต้นจากเขาคนเดียวในการเขียนโค้ดทั้งบนแอป Android, เซิร์ฟเวอร์ และดูแลระบบทั้งหมด ตอนนี้ทีมขยายมาเป็น 30 คน ซึ่งทุกอย่างสามารถดำเนินไปได้เป็นอย่างดี โดยที่เขาแทบไม่ต้องยุ่งกับโค้ดหรือการดูแลระบบแล้ว จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการส่งต่อให้ซีอีโอคนใหม่
เขาจะยังคงอยู่ในบอร์ดของ Signal ต่อไป และโฟกัสที่การหาซีอีโอคนใหม่ ส่วนการบริหารงานทั่วไปนั้นจะให้ Brian Acton ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp (ซึ่งเป็นผู้ลงทุนเริ่มต้นใน Signal Foundation) มาเป็นซีอีโอชั่วคราวไปก่อน
ที่มา: Signal |
# Bolt แอปเรียกรถจากยุโรป รับเงินเพิ่มทุนรอบล่าสุดถึง 2.3 หมื่นล้านบาท มูลค่ากิจการสูงถึง 2.8 แสนล้านบาทแล้ว
Bolt แอปเรียกรถแท็กซี่จากเอสโตเนีย ซึ่งเน้นทำตลาดในยุโรป ประกาศรับเงินเพิ่มทุนรอบใหม่ 628 ล้านยูโร (ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท) นำโดย Sequoia และ Fidelity Management ทำให้มูลค่ากิจการของ Bolt เพิ่มเป็น 7,400 ล้านยูโร (ประมาณ 2.8 แสนล้านบาท)
Markus Villig ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Bolt กล่าวว่าจะนำเงินทุนก้อนนี้มาใช้ขยายธุรกิจ และปรับปรุง ทั้งบริการรถโดยสารและเดลิเวอรี โดยตอนนี้ตลาดหลักของ Bolt มีใน 45 ประเทศ 400 เมือง ในยุโรปและแอฟริกา
สำหรับประเทศไทย Bolt เริ่มทดสอบให้บริการแล้วในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต
ที่มา: Bolt |
# Uber เป็นแอปล่าสุดที่ประกาศหยุดการใช้งานบน Apple Watch
Uber เป็นแอปล่าสุดที่หยุดให้บริการบน Apple Watch โดยตัวแอปส่วน Apple Watch ยังดาวน์โหลดบน App Store ได้ แต่เมื่อเปิดแอปขึ้นมา จะแสดงข้อความแจ้งว่าให้เปลี่ยนไปใช้งานแอปใน iPhone แทน เนื่องจากแอป Uber บน Apple Watch หยุดการสนับสนุนแล้ว
ในหน้า Support ของ Uber ก็ยังไม่ได้พูดถึงการหยุดสนับสนุนแอปบน Apple Watch นี้
ฟังก์ชันของแอป Uber บน Apple Watch ทำงานได้จำกัด จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ Uber ตัดสินใจหยุดสนับสนุนแอป ส่วนคู่แข่ง Lyft ถอดแอปออกไปแล้วตั้งแต่ 2018 ซึ่งช่วงนั้นหลายแอปต่างทยอยถอดแอปบน Apple Watch เนื่องจากพื้นที่แสดงผลที่จำกัด ทำให้ประสบการณ์ใช้งานแอปไม่ดีนัก เช่น Instagram, Twitter, Amazon
ที่มา: MacRumors |
# ตลาดหลักทรัพย์เตรียมเปิดกระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล คาดเริ่มให้บริการไตรมาส 3
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศแผนการลงทุน โดยจะเปิดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (Thai Digital Assets Exchange: TDX) คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดการให้บริการว่า TDX จะเป็นรูปแบบใด หรือมีเงินคริปโตตัวใดอยู่บนกระดานบ้าง
ตอนนี้ผู้ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมีทั้งหมด 8 ราย (Huobi ถูกระงับ 1 ราย และ SCBS ยังไม่เริ่มธุรกิจอีก 1 ราย) หากทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะเข้ามาเป็นศูนย์ซื้อขายภายในไตรมาส 3 เราก็น่าจะได้เห็นการเริ่มขอใบอนุญาตและนโยบายการเลือกสินทรัพย์เข้ากระดานในอีกไม่ช้า
นอกจากการเปิดบริการ TDX แล้วตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังขยายแพลตฟอร์มระดมทุนบริษัท SME และสตาร์ตอัพเป็น LiVE Exchange เปิดให้ซื้อขายภายในไตรมาส 1 ของปีนี้
ที่มา - SET.or.th
ภาพโดย PIX1861 |
# เกมเอาตัวรอด Rust ขายได้กว่า 12 ล้านชุดแล้ว DLC ขายได้เกินล้านชุด แม้รีวิวช่วงแรกไม่ค่อยดี
ทีมผู้สร้างเกม Rust เกมเอาตัวรอดออนไลน์ในโลกรกร้าง เขียนบล็อกลง Steam สรุปความสำเร็จในปี 2021 ปีที่ 8 ของเกมหลังเริ่มจำหน่ายครั้งแรกในปี 2013 ทีมงานระบุว่าปัจจุบันเกมขายไปแล้วกว่า 12,481,079 ชุด, DLC อีก 1,111,846 ชุด มีผู้เล่นพร้อมกันถึง 267,211 คน
ทีมงานระบุเพิ่มเติมว่าผู้เล่นจะได้พบกับคอนเทนต์ Arctic ใหม่ๆ ในปี 2022 ตั้งแต่ อาวุธ สิ่งก่อสร้าง อีเว้นต์ ยานพาหนะ และสัตว์ชนิดใหม่ เตรียมออกอัพเดตปรับปรุงคุณภาพชีวิตในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และจะออกอัพเดตทุกวันพฤหัสแรกของเดือน รวมถึงมี hotfix และอีเว้นต์พิเศษตามวันเทศกาลต่างๆ เรื่อยๆ
ปัจจุบัน Rust ถือว่าเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จพอสมควร และยังมีคนเล่นอยู่สม่ำเสมอ แม้จะได้คะแนนรีวิว Metacritic เฉลี่ยที่ 69 คะแนน และคะแนนผู้เล่นแค่ 6.4 คะแนนซึ่งไม่ดีนัก แต่ปัจจุบันรีวิวบน Steam ก็อยู่ในระดับแง่บวกเป็นอย่างมาก และทีมพัฒนาก็ปรับปรุงเกมอย่างต่อเนื่อง
ที่มา - Steam |
# OnePlus 10 Pro เปิดตัวในจีนแล้ว ชิป Snapdragon 8 Gen 1 แบต 5,000mAh ชาร์จ 80W
OnePlus เปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นล่าสุดในประเทศจีนแล้ว คราวนี้มีแค่รุ่น Pro ไม่มีรุ่นธรรมดามาด้วย มาพร้อมชิปเรือธงรุ่นล่าสุด Snapdragon 8 Gen 1 รวมถึงให้แบตเตอรี่มา 5,000mAn รองรับชาร์จมีสายที่ 80W และชาร์จไร้สายที่ 50W ไม่ต้องกลัวแบตหมดกันไป ส่วนสเปกภายในโดยรวมมีดังนี้
OnePlus 10 Pro
หน้าจอ AMOLED 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รีเฟรชเรต 1Hz-120Hz (LTPO 2.0)
ชิป Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1
แรม 12GB
หน่วยความจำ 128GB / 256GB แบบ UFS 3.1
แสกนลายนิ้วมือใต้จอ
แบตเตอรี่ 5,000 mAh
รองรับชาร์จเร็ว 80W SuperVOOC ชาร์จไร้สาย 50W AirVOOC
ชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่นได้ (reverse wireless charging)
กล้องหลัง Hasselblad กล้องหลัก 48MP, กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP, กล้องเทเล 8MP
กล้องหน้า 32MP, Sony IMX615
รัน Android 12 ในจีนครอบด้วย ColorOS 12.1 เครื่องโกลบอลจะได้เป็น OxygenOS 12
OnePlus 10 Pro วางขายในประเทศจีน 13 มกราคมนี้ มีสี Volcanic Black (ดำ) และ Emerald Forest (เขียว) แต่ละรุ่นราคาดังนี้
8GB + 128GB: 4,699 หยวน (ราว 24,700 บาท)
8GB + 256GB: 4,999 หยวน (ราว 26,300 บาท)
12GB + 256GB: 5,299 หยวน (ราว 27,900 บาท)
ที่มา - XDA Developers |
# Honor เปิดตัว Honor Magic V มือถือเรือธงจอพับได้ รุ่นแรกที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 1
Honor บริษัทมือถือจากประเทศจีน เปิดตัว Honor Magic V มือถือเรือธงจอพับได้ และเป็นมือถือจอพับได้รุ่นแรกที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 1 รุ่นล่าสุดจาก Qualcomm ที่เปลี่ยนเกณฑ์การตั้งชื่อใหม่ต่อจาก Snapdragon 888 หน้าจอภายนอกเป็นกระจก nano crystaline glass ซีอีโอถึงกับทำดรอปเทสต์ให้ดูบนเวทีเพื่อโชว์ความคงทน ส่วนสเปกโดยรวมเป็นดังนี้
Honor Magic V
ชิป Snapdragon 8 Gen 1
จอด้านนอก ขนาด 6.45 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1080 พิกเซล เป็นจอโค้ง 44 องศา อัตราส่วน 21:9
เมื่อกางออกเป็นจอ 7.9 นิ้ว ความละเอียด 2272 x 1984 พิกเซล แสดงผลสีมาตรฐาน DCI-P3 ได้ 100% อัตรารีเฟรช 120hz ผ่านมาตรฐาน IMAX Enhanced
กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก, กล้อง Ultrawide และกล้องถ่ายเสปกทรัม ความละเอียด 50MP
กล้องหน้า ความละเอียด 42MP
แรม 12GB
หน่วยความจำภายใน 256GB และ 512GB
แบตเตอรี่ 4,750 mAh, รองรับการชาร์จ 66 W
รัน Android 12 ครอบด้วย Magic UI 6.0
Honor Magic V มีสามสีคือ Black, Space Silver และ Burnt Orange เริ่มขายในประเทศจีน วันที่ 18 มกราคมนี้ ราคา 9,999 หยวน (ราว 52,600 บาท) สำหรับรุ่น 12GB+256GB และ 10,999 หยวน (ราว 57,900 บาท) สำหรับรุ่น 12GB+512GB
ดรอปเทสต์โชว์กันสดๆ
ที่มา - Honor |
# ถอดความสำเร็จการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ธนาคารดิจิทัลของ CIMB Thai กับรางวัลด้าน Digital Banking และ HR
CIMB Thai เริ่มมีการปรับเปลี่ยนเข้าสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลเมื่อราวปี 2019 จากการสร้างทีม Digital Technology ขึ้นมาภายใน เปรียบเสมือนเป็นสตาร์ทอัพซอฟต์แวร์เฮ้าส์ภายในองค์กร แบบมีกระบวนการทำงานและวัฒนธรรมที่แยกตัวเป็นอิสระ
ล่าสุดทางธนาคารก็มีการปรับปรุงโครงสร้างอีกครั้ง นำเอาทีม Digital Technology ที่เดิมแยกตัวเป็นอิสระ ให้มารวมกับทีมเทคโนโลยีเดิมของธนาคารและอยู่ภายใต้ทีมใหม่ Technology & Data เพื่อให้ธนาคารสามารถขับเคลื่อนธุรกิจธนาคารดิจิทัล รวมถึงเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากกว่าเดิม ปรับปรุงกระบวนการทำงาน ที่นำเอาวิธีการทำงานแบบใหม่ที่ใช้อยู่ในทีม Digital Technology เดิม มาประยุกต์และผสานเข้ากับการทำงานในทีมใหม่นี้ด้วย เพื่อให้ทีมงานด้านเทคโนโลยีสามารถส่งเสริมการทำงานด้านดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ผ่านมา 2 ปี การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ซึ่งสะท้อนได้จากรางวัลที่ได้รับมากมาย โดยเฉพาะรางวัลด้าน Digital Banking และด้าน Human Resources
รางวัลสะท้อนความสำเร็จ
ปีนี้ CIMB Thai ได้รับรางวัลหลากหลายสาขาจากหลายสถาบัน อาทิ รางวัล Wealth Management Platform of the Year ซึ่งเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และ รางวัล Digital Banking Initiative of the Year จาก Asian Banking & Finance Retail
ส่วนด้าน Human Resources (HR) ก็ได้รางวัล ‘Best Companies to work for in Asia’ จาก HR Asia (เป็นปีที่ 2 ) และ Gold Winner in Excellence in Graduate Recruitment and Development จาก HR Excellence
คุณไพศาล ธรรมโพธิทอง ตำแหน่ง Head, Transaction Banking and Head, Technology & Data ซึ่งเป็นผู้บริหารที่ดูแลทีมใหม่ Technology & Data เล่าว่ากระบวนการด้านเทคโนโลยีในธนาคารแบบเดิม จะแบ่งเป็น 2 สายหลักๆ คือทีม Digital Technology ที่เป็นเหมือนสตาร์ทอัพ พัฒนาแอปและแพลตฟอร์มใหม่ๆ สำหรับลูกค้า และทีม Information Technology เดิมของธนาคาร ที่ดูแลระบบหลักของธนาคาร เช่น Core Bank
การรวม 2 ทีมเข้าด้วยกัน ได้นำเอากระบวนการทำงานในแบบใหม่อย่าง agile, scrum, automated testing และ CI/CD มาใช้ ทำให้เกิดการทำงานแบบทีมเวิร์คและคล่องตัวมากขึ้น ไม่มีการทำงานแบบคนละส่วนแล้วส่งไม้ต่อให้อีกทีมในแบบเดิมๆ
คุณไพศาล ธรรมโพธิทอง (พี่หน่อง): Head, Transaction Banking and Head, Technology & Data
คุณสมภพ ตั้งบุญธินา ตำแหน่ง Head, Digital Technology บอกว่าปัจจุบัน tech stack หลังบ้านของ CIMB Thai ล้วนเป็นเทคโนโนโลยีใหม่บนมัลติคลาวด์ ซึ่งเมื่อเสริมกับสิ่งที่คุณไพศาลเล่าถึงกระบวนการทำงาน ทั้งหมดเป็นวิธีการทำงานภายใน CIMB Thai ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ธุรกิจและความยืดหยุ่นในการทำงานของนักพัฒนารุ่นใหม่ๆ ด้วย
ขณะเดียวกันก็มีการทำงานร่วมกันในเชิงกลยุทธ์ระหว่างหลายทีม เช่น ทีม Customer Experience ทีม Technology & Data และทีมงานฝั่งธุรกิจ (business) มากยิ่งขึ้น ทำให้นักพัฒนามีความเข้าใจในแง่มุมธุรกิจเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการมากยิ่งขึ้น ไม่ได้แค่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร แต่เข้าใจว่าทำไปทำไม ผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นมีส่วนร่วมกับธุรกิจ มีผลกับการเติบโตของธุรกิจอย่างไร เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสบการณ์ลูกค้าอย่างไร ทำให้ทีมงานสามารถเพิ่มคุณค่าของตัวเองเข้าไปในตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการมากยิ่งขึ้น
คุณสมภพ ตั้งบุญธินา (พี่เอ): Head, Digital Technology
กระบวนการทำงานในแต่ละ Squad จะได้สัมผัสตั้งแต่ต้นน้ำ คือเหตุผลทางธุรกิจ สิ่งที่ลูกค้าต้องการ สิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้า เรื่อยมาจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ ทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน การเชื่อมต่อกับระบบ Core Bank เชื่อมต่อกับพาร์ทเนอร์ ความปลอดภัยและกฎระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย ไปจนถึงปลายน้ำ คือ ความพึงพอใจของลูกค้าหลังใช้งาน
คุณคีทจิน ตัน (Keat Jin Tan) ตำแหน่ง Head, Consumer Banking บอกว่า สิ่งที่ยืนยันความสำเร็จของการดำเนินงาน ที่ผ่านมา คือการที่ธนาคารได้รับการยอมรับและคำชื่นชมจากลูกค้า พนักงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งออกมาในรูปแบบของรางวัลต่าง ๆ ที่ได้รับจากองค์กรระดับภูมิภาค ซึ่งแสดงว่าเรากำลังเดินมาถูกทาง ตามวิสัยทัศน์ที่จะเป็นธนาคารชั้นนำของไทยที่ใช้กระบวนการดิจิทัลเป็นตัวนำในการบริการลูกค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้วยศักยภาพความเป็นผู้นำในอาเซียน ของ CIMB Group
Keat Jin Tan (เคเจ): Head, Consumer Banking
งานที่ได้เรียนรู้และท้าทายไปพร้อมกัน
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการทำงานในฐานะนักพัฒนาของ CIMB Thai จะได้เรียนรู้เนื้องานตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ และด้วยการทำงานแบบเป็น Squad ทำให้คนรุ่นใหม่ยังสามารถเรียนรู้และดูดซึมทักษะ แนวคิด ประสบการณ์ต่างๆ จากพี่ๆ ที่อยู่มาก่อนหน้าด้วย นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้ทำโปรเจ็คที่หลากหลาย มีโจทย์และเงื่อนไขแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะด้านการบริหารจัดการความมั่งคั่ง (wealth management) ที่ให้ลูกค้าได้ซื้อหุ้นกู้หรือกองทุนรวมผ่านแอป หรือระบบกู้ผ่านแอป (digital lending) เป็นต้น
คุณสิร์ภัสนัน กิตติธนัฐกุล (แป๋ม) ตำแหน่ง Quality Assurance เล่าว่า การทำงานในฐานะทีมพัฒนาของธนาคาร ได้เรียนรู้งานและมีโจทย์ที่ท้าทายมากกว่าการทำงานที่เก่าที่เคยทำด้าน E-Commerce ค่อนข้างมาก ยกตัวอย่างการเชื่อมต่อแพลตฟอร์ม E-Commerce แค่เชื่อมต่อบริการต่างๆ เข้ากับแพลตฟอร์มเดียว แต่พอเป็นธนาคาร ที่มีหลายบริการ หลายแพลตฟอร์ม ระบบเชื่อมต่อต่างๆ ก็มีมากขึ้น แถมต้องใส่ใจด้านความปลอดภัยและกฎระเบียบต่างๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทยมากกว่าด้วย แต่ต้องไม่กระทบ UX ของลูกค้า
คุณสิร์ภัสนันบอกด้วยว่า สิ่งที่ชอบในการทำงานที่นี่ มีทั้งโจทย์ที่ท้าทายกว่า อย่างการทำให้ลูกค้าที่ใช้ Mobile Banking ต้องเห็นข้อมูลการโอนเงินแบบเรียลไทม์ ถูกต้อง ปลอดภัย รวมถึงยังสนุกกว่าด้วย จากการได้ทำทั้งผลิตภัณฑ์ภายในธนาคารเองและกับพาร์ทเนอร์อย่าง Fintech ต่างๆ และเมื่อผลิตภัณฑ์ออกไปถึงมือลูกค้าที่หลากหลายและผลตอบรับออกมาดี ก็รู้สึกภูมิใจมากกว่าด้วย รวมถึงในแง่สวัสดิการที่รู้สึกว่าธนาคารดูแลค่อนข้างดี เช่น ช่วงโควิด ก็มีมาตรการต่าง ๆ เพื่อดูแแลพนักงานให้ปลอดภัยจากโควิด หรือหากจำเป็นต้องใช้เงินก็สามารถใช้สิทธิพนักงานกู้ซื้อบ้าน รถ ด้วย อัตราดอกเบี้ยพิเศษได้ รวมถึงมี MacBook และอุปกรณ์ที่จำเป็นให้ใช้งานได้ทั้งที่บ้าน (Work from home) และที่ออฟฟิศ
คุณสิร์ภัสนัน กิตติธนัฐกุล (แป๋ม): Quality Assurance
สรุป
ถือเป็นการก้าวเดินไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของ CIMB Thai ที่ค่อนข้างถูกทาง ทั้งในแง่ธุรกิจและกระบวนการทำงานภายใน โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือและวิธีการใหม่ๆ ร่วมกับการปรับโครงสร้างผสานให้คนรุ่นเก่า ยังคงสามารถทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ได้อย่างกลมกลืน ซึ่งตอบโจทย์นักพัฒนารุ่นใหม่ๆ ที่ได้ใช้เครื่องมือพัฒนาที่ทันสมัย ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้เนื้องานจากคนที่มีประสบการณ์ตรงมากกว่าด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจสมัครงาน ดูข้อมูลและตำแหน่งได้ที่ Blognone Jobs |
# โรงพยาบาลศิริราชระบุข้อมูลไม่ได้รั่วไหล หลังมีคนโพสขายข้อมูล 39 ล้านรายการระบุว่าเป็นของโรงพยาบาล
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ใช้ WraithMax บนเว็บไซต์ RaidForums ประกาศขายข้อมูลส่วนบุคคลประมาณ 39 ล้านรายการ โดยระบุว่าเป็นข้อมูลผู้ป่วยโรงพยาบาลศิริราช ล่าสุดทางโรงพยาบาลชี้แจงว่าได้ตรวจสอบร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) แล้วพบว่าไม่ใช่ข้อมูลของโรงพยาบาล
WraithMax ไม่ได้ให้ข้อมูลตัวอย่างไว้ แต่ให้ติดต่อขอข้อมูลตัวอย่างเป็นรายคน และไม่ได้บอกแหล่งที่มาของข้อมูล บอกเพียงว่าเพิ่งโหลดออกมาสัปดาห์ที่แล้ว
ที่มา - โรงพยาบาลศิริราช
ภาพโดย madartzgraphics |
# iMessage บีบวัยรุ่นสหรัฐต้องซื้อ iPhone ตามเพื่อน, ผู้บริหารกูเกิลเรียกร้องให้รองรับ RCS
Hiroshi Lockheimer หัวหน้าทีม Android และ Chrome ออกมาเรียกร้องให้แอปเปิลรองรับมาตรฐานส่งข้อความ RCS (Rich Communication Services) เพื่อความเข้ากันได้ระหว่าง iOS และ Android
เรื่องเริ่มมาจากบทความของ Wall Street Journal ที่ระบุว่าฟีเจอร์ iMessage เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นในสหรัฐต้องซื้อ iPhone เพราะถ้าใช้โทรศัพท์ที่ไม่รองรับ iMessage จะหลุดจากกลุ่มเพื่อนๆ (ถ้า iMessage ด้วยกันจะเห็นกล่องข้อความสีฟ้า ถ้าไม่ใช้จะเห็นสีเขียว) ซึ่งในบางกรณี วัยรุ่นถูกเพื่อนๆ กลั่นแกล้งหรือล้อเลียนจากการไม่ใช้ iMessage เลยด้วยซ้ำ
บทความนี้ทำให้ Lockheimer ออกมาแสดงความเห็นว่า iMessage เป็นกลยุทธ์ "ล็อค" ผู้ใช้ให้อยู่กับแพลตฟอร์มผ่านแรงกดดันในกลุ่มเพื่อน (peer pressure)
โพสต์ของ Lockheimer ได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารกูเกิลออกมาพูดเรื่องนี้ตรงๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ไม่ได้เรียกร้องให้แอปเปิลนำ iMessage มาลง Android แต่เรียกร้องให้ iMessage สนับสนุนมาตรฐานการส่งข้อความที่มีอยู่แล้วอย่าง RCS
ภาพจาก Apple
ที่มา - Wall Street Journal |
# Russ Cox ระบุ NPM ควรเลิกดึงเวอร์ชั่นล่าสุด แก้ปัญหา color.js/faker.js
Russ Cox วิศวกรกิตติมศักดิ์ (Distinguished Engineer) ของกูเกิล และทีมพัฒนาภาษา Go เขียนบล็อคถึงประเด็นที่นักพัฒนาโมดูล color.js และ faker.js ใส่โค้ดทำให้แอปอื่นๆ พังโดยจงใจ ว่ายังดีที่โค้ดนี้ไม่ได้ทำอะไรมุ่งร้ายมากไปกว่าทำให้แอปพังเพราะโค้ดพิมพ์ขยะจนเต็มหน้า แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ NPM ควรปรับปรุงเพื่อรับมือปัญหาแบบนี้ในอนาคต
แนวทางของ Cox เสนอให้ NPM เลิกดึงเวอร์ชั่นล่าสุดของ dependency เป็นค่าเริ่มต้น เพราะพฤติกรรมแบบนี้จะทำให้เวอร์ชั่นใหม่สุดที่ยังไม่ได้ทดสอบเป็นวงกว้างถูกดาวน์โหลดไปใช้งานทันที ขณะที่ภาษาอื่นๆ เช่น ภาษา Go นั้นจะดึงเวอร์ชั่นที่ใหม่พอที่จะใช้งานได้เท่านั้น ทำให้เมื่อนักพัฒนาอัพโหลดเวอร์ชั่นใหม่เอี่ยมก็จะถูกใช้งานในวงจำกัดไปก่อน และโมดูลต่างๆ ค่อยอัพเดตเลขเวอร์ชั่นกันตามมาภายหลัง
เขายังระบุว่า NPM ไม่ต้องทำตาม Go เพราะโครงการที่ใช้ NPM ก็มีไฟล์ package-lock.json อยู่แล้ว ทำให้รู้ว่าแต่ละโครงการทดสอบกับ dependency เวอร์ชั่นอะไรบ้าง หาก NPM ดึงแพ็กเกจตามนั้นก็จะได้ dependency เวอร์ชั่นที่ทดสอบแล้วโดยแต่ละโครงการ เหตุการณ์เช่น AWS CDK รันไม่ได้ก็จะไม่เกิดขึ้นเอง นอกจาก NPM แล้ว Cox ก็ยังระบุว่าบริการ package manager อื่นๆ ก็ควรสำรวจว่าจะรับมือกับปัญหารูปแบบนี้อย่างไร เพราะในอนาคตการโจมตีรูปแบบเดียวกันนี้จะร้ายแรงกว่าครั้งนี้
ที่มา - research!rsc |
# เครือข่ายโทรศัพท์มือถือในยุโรปเรียกร้องให้แบน Private Relay ของแอปเปิลหวั่นจัดการทราฟิกไม่ได้
ผู้บริหารเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในยุโรป 4 ค่ายใหญ่ คือ Vodafone, Telefonica, Orange, และ T-Mobile เรียกร้องสหภาพยุโรปให้แบนบริการ Private Relay ของแอปเปิล เนื่องจากกระทบต่อการจัดการเครือข่าย
บริการ Private Relay ของแอปเปิลเป็นบริการ VPN ที่ซ้อนสองชั้นทำให้ตรวจจับได้ยากว่าผู้ใช้กำลังเชื่อมต่อกับบริการใด หรือเชื่อมต่อจากเครือข่ายใด นอกจากนี้บริการ Private Relay ยังรวมอยู่ในแพ็กเกจ iCloud+ ซึ่งน่าจะมีคนใช้งานเป็นวงกว้าง เพราะต้องการบริการอื่นๆ เช่น การดูภาพกล้องวงจรปิด หรือการซ่อนอีเมล
แม้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะเข้ารหัสแทบทั้งหมดแล้วในช่วงหลัง แต่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่ายโทรศัพท์มือถือก็ยังเก็บข้อมูลการใช้งานจาก metadata ได้เป็นจำนวนมาก ทั้งปลายทางของการเชื่อมต่อและประเภทโปรโตคอลที่เชื่อมต่อ ทำให้สามารถจัดการทราฟิกได้ รวมถึงการให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรีเป็นบางบริการ ไม่แน่ชัดว่าการใช้ VPN เป็นวงกว้างจะกระทบผลประโยชน์ส่วนใดของผู้ให้บริการจนต้องออกมาเรียกร้องครั้งนี้
ที่มา - The Telegraph |
# Cloudflare พบผู้ใช้ถูกยิง DDoS เพราะกลุ่มเรียกค่าไถ่สูงขึ้นมาก
Cloudflare รายงานผลสำรวจการโจมตี DDoS ประจำไตรมาส 4 ปี 2021 โดยมีอัตราการโจมตีสูงขึ้น เฉพาะเดือนธันวาคมเดือนเดียวมีจำนวนครั้งที่โจมตีสูงกว่าไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 เสียอีก และมีประเด็นน่าสนใจคือปริมาณการโจมตีแบบมีการเรียกค่าไถ่ (Ransom DDoS) สูงขึ้นมาก
Cloudflare สำรวจอัตราการเรียกค่าไถ่โดยส่งแบบสอบถามไปยังผู้ใช้โดยอัตโนมัติเมื่อถูกโจมตี DDoS เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตี ผู้ตอบแบบสำรวจ 22% ระบุว่าคนร้ายส่งจดหมายเรียกค่าไถ่มาก่อนโจมตี เทียบกับไตรมาส 4 ปี 2020 ที่อยู่ที่ 17% และไตรมาสหลังจากนั้นก็ต่ำลง
การโจมตี DDoS ที่ Cloudflare ต้องรับมือนั้นมีทั้ง Application-layer DDoS ที่เป็นการส่ง HTTP request เข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ การโจมตีนี้มาจากจีนมากที่สุด 0.33% และไทยติดอันดับ 10 อยู่ที่ 0.03% ขณะที่การโจมตี Network-layer DDoS นั้นอาศัยการส่งข้อมูลโปรโตคอลอื่นๆ แต่มุ่งจะยิงทราฟิกจนเน็ตเวิร์คเต็ม Cloudflare พบว่าคนร้ายอาศัยโปรโตคอล SNMP สำหรับจัดการอุปกรณ์เน็ตเวิร์ค และ Microsoft SQL ที่เปิดพอร์ตผ่านอินเทอร์เน็ต
ที่มา - Cloudflare |
# PowerToys เพิ่มฟีเจอร์ตั้งหน้าต่างเป็น Always on Top, ค้นหาเว็บได้จาก PowerToys Run
ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตให้กับ PowerToys ชุดโปรแกรมอรรถประโยชน์บน Windows อีกครั้งโดยในคราวนี้ ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง Always on Top ซึ่งจะช่วยผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้หน้าต่างโปรแกรมใดๆ ให้แสดงอยู่เหนือหน้าต่างอื่นอยู่เสมอได้อย่างรวดเร็ว
เพียงแค่กดคีย์ลัด Win+Ctrl+T ขณะกำลังใช้งานหน้าต่างที่ต้องการเท่านั้น และหากต้องการคืนค่าหน้าต่าง Always on Top กลับเป็นหน้าต่างปกติก็สามารถทำได้เพียงแค่กดคีย์ลัดข้างต้นซ้ำอีกครั้ง
ภาพตัวอย่างการใช้งาน หน้าต่างที่ Always on Top จะปรากฏขอบไฮไลท์ตามที่กำหนดไว้ในหน้า Setting
สำหรับการปรับปรุงอื่นๆ ที่น่าสนใจพอสรุปได้ดังนี้
File Explorer
เพิ่มการรองรับการแสดงภาพแบบ thumbnail และบน preview pane ให้กับไฟล์ G-code
PowerToys Run
เพิ่มตัวช่วยค้นหาเว็บซึ่งจะเรียกใช้ search engine และเว็บเบราว์เซอร์หลักบนเครื่อง สั่งงานได้ผ่านการพิมพ์ ?? ขึ้นต้นตามด้วยคำค้นหา
Video Conference Mute
เปลี่ยนคีย์ลัดตั้งต้นสำหรับการปิดกล้องพร้อมไมโครโฟนจาก Win+N เป็น Win+Shift+Q เพื่อไม่ให้ซ้ำกับคีย์ลัดของ Windows 11
ท่านใดสนใจเข้าไปดาวน์โหลดตัวติดตั้ง PowerToys (ยังเป็นเวอร์ชันทดลอง) ได้จากหน้า Release ของโปรเจ็กต์บน GitHub ครับ
ที่มา - หน้า GitHub ของ PowerToys via MSPoweruser |
# Salesforce บังคับผู้ใช้ต้องล็อกอินแบบ MFA ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ห้ามใช้ SMS หรือโทรศัพท์
Salesforce เตรียมบังคับผู้ใช้ทั้งหมดต้องล็อกอินแบบยืนยันตัวตนหลายชั้นหรือ MFA ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากประกาศมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว โดยจุดน่าสนใจคือนโยบายของ Salesforce นั้นนับว่าเข้มกว่าบริการอื่นๆ ที่มักเปิด MFA เป็นทางเลือก หรือหากบังคับก็มักจะมีตัวเลือกหลากหลาย โดยเฉพาะ SMS ที่ไม่ปลอดภัยนัก
Salesforce บังคับใช้ MFA โดยระบุชัดเจนว่าการยืนยันตัวตนผ่านโทรศัพท์, SMS, และอีเมล นั้นไม่นับเป็นการยืนยันตัวตนที่น่าเชื่อถือ ต้องใช้กระบวนการยืนยันตัวตนสมัยใหม่ เช่น แอป TOTP เช่น Google Authenticator หรือ Microsoft Authenticator, กุญแจ U2F/WebAuthn, ตลอดจนการยืนยันตัวตนกับอุปกรณ์ เช่น Touch ID/Face ID/Windows Hello
นอกจากการกำหนดนโยบาย MFA อย่างเข้มข้นแล้ว Salesforce ยังกำหนดไปถึงองค์กรที่ใช้บริการล็อกอินภายนอก (single sign-on - SSO) เช่น Azure AD, Keycloak ว่าต้องกำหนดรูปแบบการล็อกอินให้แข็งแรงระดับที่กำหนดด้วยเหมือนกัน แม้ว่า Salesforce จะไปบังคับให้ลูกค้าคอนฟิกระบบ SSO ให้แข็งแรงตามที่กำหนดไม่ได้ แต่หากคอนฟิกนโยบายการล็อกอินไม่ครบก็จะถือว่าหลุดจาก compliance ตามสัญญาระหว่าง Salesforce และลูกค้าซึ่งทางบริษัทแนะนำให้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของลูกค้าแต่ละรายว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง
นโยบายนี้นับว่าแข็งกว่ามาตรฐาน NIST SP 800-63B ที่ออกมาเมื่อปี 2017 ให้ใช้งาน SMS และโทรศัพท์ได้แต่ต้องมีทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยกว่า
ที่มา - Salesforce, The Register |
# ซีอีโอ Pfizer บอกวัคซีนสูตรใหม่สำหรับ Omicron พร้อมใช้เดือนมีนาคม
Albert Bourla ซีอีโอของบริษัทยา Pfizer ให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ช่อง CNBC ให้ข้อมูลว่าวัคซีนสูตรใหม่สำหรับไวรัสสายพันธุ์ omicron จะพร้อมใช้งานในเดือนมีนาคมนี้
Bourla บอกว่าวัคซีนสูตรใหม่ถูกปรับปรุงเพื่อใช้กับไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ ด้วย ไม่ใช่ omicron อย่างเดียว และตอนนี้ Pfizer เริ่มผลิตวัคซีนสูตรปรับปรุงในจำนวนหนึ่งแล้ว เผื่อว่ารัฐบาลต้องการใช้งานจะได้มีวัคซีนพร้อมใช้ทันที
ที่มา - CNBC |
# Take-Two Interactive ประกาศซื้อกิจการ Zynga ขยายสู่ตลาดเกมมือถือ มูลค่าดีล 12,700 ล้านดอลลาร์
Take-Two Interactive บริษัทแม่ของบริษัทเกมใหญ่ Rockstar Games ผู้สร้าง GTA และ 2K Games ผู้สร้าง NBA 2K ประกาศเข้าซื้อกิจการ Zynga บริษัทผู้พัฒนาเกมมือถือ มูลค่าดีล 12,700 ล้านดอลลาร์ โดยจ่ายเป็นเงินสดและหุ้นของ Take-Two
Strauss Zelnick ซีอีโอ Take-Two กล่าวว่า การซื้อกิจการนี้จะทำให้บริษัทขยายฐานเกมที่บริษัทโดดเด่นอยู่แล้ว บนคอนโซลและพีซี ไปสู่แพลตฟอร์มมือถือ ผ่านผู้จัดจำหน่ายเกมที่มีฐานผู้เล่นมานาน
นอกจาก GTA และ NBA 2K แล้ว ฝั่ง Take-Two ยังมีเกมเด่นในมืออาทิ Civilization, BioShock ส่วนฝั่ง Zynga มีเกมมือถืออย่าง FarmVille, CSR Racing, Words With Friends และ Harry Potter: Puzzles & Spells
ที่มา: CNBC และ Take-Two |
# รีวิว Huawei P50 Pro เรือธงกล้องเทพเหมือนเคย ซอฟต์แวร์พอไหว แต่ไม่รองรับ 5G
แม้ช่วงหลังๆ Huawei จะแผ่วไปบ้าง หลังถูกสหรัฐฯ กีดกันไม่ให้บริษัท Google ทำการค้าด้วย จนเสีย Google Mobile Services และแอป Google ไป แต่อย่างไรก็ตาม Huawei ยังมีดีที่ด้านฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะด้านกล้อง ถึงขั้นที่หลายๆ คนพกไว้เป็นโทรศัพท์เครื่องที่สอง เพื่อไว้ถ่ายรูปโดยเฉพาะ
Huawei P50 Pro กลับมาพร้อมกล้องระดับเทพแบบไม่ต้องสงสัย ณ ขณะที่เขียนรีวิวนี้ ก็ครองตำแหน่งกล้องที่ทำคะแนนอันดับ 1 ประจำเว็บไซต์ DXOMark ยาวตั้งแต่เปิดตัว แต่จุดที่ผู้ใช้งานอยากจะรู้กัน น่าจะเป็นด้านซอฟต์แวร์ของ Huawei และเรื่องแอปพลิเคชั่นต่างๆ ในเครื่องมากกว่า ซึ่งวันนี้ Blognone จะมารีวิวให้ดูกันว่าการใช้งานเช่นดาวน์โหลดแอปต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง
สเปกเบื้องต้น
หน้าจอ - หน้าจอ OLED 10-Bit ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2700 x 1228 พิกเซล
หน้าจออัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz, อัตราตอบสนองการสัมผัส 300Hz
ซีพียู Qualcomm Snapdragon 888 (รองรับแค่ 4G), จีพียู Adreno 660
แรม 8GB หน่วยความจำ 256GB
แบตเตอรี่ 4,360mAh
ระบบชาร์จ ชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 66W
4 กล้องหลัง
กล้องหลังหลัก 50MP True-Colour f/1.8 มีกันสั่น OIS, กล้องโมโน True Color 40MP f/1.6, กล้องอัลตร้าไวด์ 13MP f/2.2, กล้อง SuperZoom 64MP f/3.5 มี OIS รองรับ AF
กล้องหน้า 13MP f/2.4 มุมกว้าง 100 องศา
รองรับ WiFi 6, Bluetooth 5.2
น้ำหนัก 195 กรัม
รัน EMUI 12
ลักษณะภายนอก
หน้าจอเป็นแบบขอบโค้งตามสไตล์มือถือยุคนี้ ทั้งด้านหน้าและหลังเป็นกระจก ค่อนข้างดูดรอยนิ้วมือ แต่ถ้าใส่เคสก็ไม่มีปัญหา ลำโพงเป็นแบบลำโพงคู่บน-ล่าง ชาร์จด้วยพอร์ต USB-C ช่องใส่ซิมอยู่ด้านข้างพอร์จชาร์จ ปุ่มเปิดปิด และเพิ่ม-ลดเสียง อยู่ฝั่งขวาทั้งหมด
ตัวโมดูลกล้องมาแบบวงกลมสองวง ด้านบนจะมีกล้องธรรมดา กล้องอัลตร้าไวด์ และกล้องโมโน ส่วนด้านล่างเป็นกล้องซูมกับแฟลชแยกออกมา คาดว่าเพื่อจัดการพื้นที่ให้กับกล้องซูมแบบ Periscope ไม่ไปเบียดกล้องตัวอื่น ตัวเครื่องขนาดพอดีมือ ไม่รู้สึกใหญ่เกินไป น้ำหนัก 195 กรัม ใกล้เคียงกับ iPhone 13 Pro ที่ 204 กรัม
การใช้งาน ดาวน์โหลดแอป
ตัว EMUI 12 ใช้งานไม่ยากนัก การใช้งานจะคล้ายคลึงกับแอนดรอยด์ในเวอร์ชั่นปรับแต่ง การตั้งค่าต่างๆ แทบจะถอดแบบกันมา ลากจากด้านบนจอด้านขวาเพื่อดูการตั้งค่า และด้านซ้ายสำหรับดูการแจ้งเตือนต่างๆ ปลดล็อกก็ลากจากด้านล่างขึ้นบนตามปกติ ผู้ที่คุ้นเคยกับแอนดรอยด์อยู่แล้วคงใช้เวลาไม่นานให้ชิน
การดาวน์โหลดแอปหลักๆ มีสองช่องทาง ช่องทางแรกอย่างเป็นทางการคือ Huawei App Gallery ซึ่งจะมีแอปที่ Huawei รองรับอย่างเป็นทางการให้ดาวน์โหลด แต่ก็จะไม่มีแอปที่เกี่ยวข้องกับ Google ให้ดาวน์โหลดโดยตรง แต่ก็มีแอปไทยที่หลายคนต้องใช้อย่างหมอพร้อม เป๋าตัง ไทยชนะ หรือแอปธนาคารเช่น SCB Easy รวมถึงแอปสั่งอาหารเช่น Grab, Lineman และ Foodpanda แต่ยังไม่มี Robinhood
ด้านแอป Google เมื่อผู้ใช้ทำการค้นหาใน Huawei App Gallery ตัวแอปก็จะแสดงสิ่งที่เรียกว่า Results from Petal Search ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเป็นเซิร์ชเอนจิ้นสำหรับหาไฟล์ APK ของแอนดรอยด์มาให้ผู้ใช้ ซึ่งเมื่อกดเข้าไป ก็จะส่งผู้ใช้ไปหน้าเว็บเพจที่สามารถดาวน์โหลดไฟล์ APK ของแอป Google ต่างๆ เช่น Google Maps, YouTube หรือ Gboard ได้ (คีย์บอร์ดเริ่มต้นในเครื่องเป็น Microsoft SwiftKey และ Kaka)
หรือผู้ใช้จะกดเข้าไปในแอป Petal Search เลยก็ได้ ซึ่งตัวแอปจะทำหน้าที่เป็นเหมือนแอปศูนย์กลางคล้าย Google Now ที่จะรวมข่าวต่างๆ รวมถึงเป็นเซิร์ชเอนจิ้นสำหรับดาวน์โหลดแอปจากทั้ง App Gallery และ APK ภายนอก รวมถึงมีฟีเจอร์จิปาถะอย่างสถานที่น่าสนใจที่อยู่ใกล้ๆ หรือแม้แต่ช็อปปิ้ง ติดอย่างเดียวที่หน้าตาของตัวแอปจะมีข้อมูลหลายอย่างเยอะไปหมด อาจจะดูรกไปบ้าง
กล้องถ่ายภาพ
ด้านกล้องถ่ายภาพนี่หายห่วง กล้องหลังหลัก 50MP ถ่ายภาพได้ชัดเจน สีสด รายละเอียดครบถ้วน แม้ในวันที่ทดสอบเครื่องท้องฟ้าจะมีเมฆมาก ทำให้แสงที่ได้ค่อนข้างน้อย แต่ภาพก็ยังออกมาไม่ดูมืดจนเกินไป
กล้องอัลตร้าไวด์คุณภาพดี ถ่ายแล้วขอบภาพบิดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดูขัดตาอะไร การถ่ายภาพกลางคืนเก็บแสงได้มากโดยไม่ต้องถือกล้องนิ่งมากหรือใช้ขาตั้ง และสีสันยังสดใส ครบถ้วน
กล้องซูมทำได้ดีจนถึงระยะประมาณ 10x แต่เมื่อเกินจากนั้นไปภาพก็จะถูก AI ปรับแต่งจนรายละเอียดต่างๆ เริ่มกลายเป็นเหมือนภาพสีน้ำมันเล็กน้อย แต่ก็ยังพอใช้ได้ และเป็นปกติสำหรับการซูมในระดับเกินกว่า 10x ขึ้นไปบนกล้องมือถือ แม้จะเป็นเลนส์ Periscope ก็ตาม
ตัวอย่างภาพถ่าย
ภาพจากกล้องหลัก
ภาพจากกล้องอัลตร้าไวด์
ซูม 10x
ซูม 100x
ภาพจากกล้องหลัก
ภาพจากกล้องอัลตร้าไวด์
ซูม 10x
ซูม 100x
ภาพถ่ายด้วยโหมดกลางคืน
สรุป
Huawei P50 Pro น่าจะเหมาะกับผู้ใช้งานที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ ตัวกล้องยังครบครัน และเป็น “กล้องเทพ” ของมือถือเหมือนเคย หน้าจอ OLED คุณภาพดี อัตรารีเฟรชทั้งของหน้าจอและของการตอบสนองการสัมผัสสูง ให้ความรู้สึกว่าเครื่องตอบสนองรวดเร็ว
น่าเสียดายเล็กน้อยตรงที่แม้จะใช้ชิป Snapdragon 888 ที่เป็นชิปเรือธง แต่เครื่องกลับรองรับแค่ 4G เท่านั้น ถ้าไม่ได้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมือถือหนักๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าจะใช้งานอินเทอร์เน็ตเยอะๆ หรือต้องการใช้มือถือให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฝั่งซอฟต์แวร์แม้จะไม่มี GMS แล้ว ตัวทั้งตัว Huawei App Gallery และ Petal Search ก็เข้ามาทดแทนได้ดีพอสมควร แม้อาจจะติดขัดหรือมีปัญหาด้านความเข้ากันได้ของแอปบ้าง แต่สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่น่าจะเป็นจุดใหญ่อะไร
สุดท้ายความคุ้มค่าของ Huawei P50 Pro น่าจะต้องรอไปตัดสินกันที่ราคาไทยที่ใกล้ประกาศเร็วๆ นี้ แต่ถ้าดูจากราคาประเทศจีน รุ่นเริ่มต้น ที่แรม 8GB หน่วยความจำ 128GB ราคา 5,988 หยวน หรือราว 30,465 บาทแล้ว ผู้ที่จะซื้อมาใช้ น่าจะต้องเป็นผู้ที่ถูกใจกล้องของ Huawei มายาวนานจริงๆ |
# สรรพากรรับลูกนายก เตรียมนัดถกภาษีคริปโต ระบุเสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคมนี้
กรมสรรพากรระบุว่ากำลังเร่งดำเนินการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางการคิดภาษีจากกำไรการขายหรือลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือคริปโทเคอเรนซี ให้เหมาะสมและเป็นปัจจุบัน ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มอบหมาย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม ปี 2565 นี้
กรมสรรพากรระบุด้วยว่าเตรียมคุยกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงเดินหน้าเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนที่ดำเนินการ ในเรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดความเหมาะสม และมีประโยชน์กับทุกฝ่าย พร้อมยืนยันยึดหลักผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลาง
ยังไม่แน่ชัดว่านโยบายจะออกมาแบบไหน และเหตุใดจึงไม่มีการปรึกษาหารือหรือพูดคุยกับฝ่ายต่างๆ ก่อนจะออกนโยบายภาษี น่าสนใจว่าเวลาภายในเดือนมกราคมที่เหลืออยู่เพียง 21 วัน กับกระบวนการทำงานที่น่าจะมีความสลับซับซ้อนและต้องประสานงานกับหลายฝ่าย จะทำให้สุดท้ายแล้วมาตรการภาษีที่ได้รับการปรับปรุง จะออกมาในรูปแบบใด
ที่มา - กรมสรรพากร |
# [แก้ไขแล้ว] แอป SCB Easy ขัดข้อง ผู้ใช้พบปัญหาเกี่ยวกับการโอนเงินและเติมเงิน
ช่วงบ่ายวันนี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากพบว่าแอป SCB Easy ไม่สามารถโอนหรือเติมเงินได้ ขึ้นเป็นแฮชแท็กติดเทรนด์ #scbล่ม ขณะเขียนข่าวยังมีผู้ใช้พบปัญหาอย่างต่อเนื่อง และแอคเคาท์ทวิตเตอร์ของ @scb_thailand ยังไม่มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการว่าระบบขัดข้อง
อัพเดต: ช่วง 13.50 แอปสามารถโอนเงินได้ปกติแล้ว
ที่มา - Twitter |
# เลื่อนจนต้องลบ, Tesla ลบราคาและกำหนดวางจำหน่าย Cybertruck ออกจากหน้าเว็บจนหมดแล้ว
หลัง Tesla เปิดตัว Cybertruck ครั้งแรกในปี 2019 พร้อมลงกำหนดวางจำหน่ายภายในปี 2021 แต่สุดท้ายก็ผลิตไม่ทันจนสุดท้ายต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายเป็นปี 2022
ดูเหมือนว่าแฟนคลับ Tesla อาจจะมีแววได้ซิ่ง Cybertruck ช้ากว่าที่คาด เพราะตอนนี้ Tesla ลบข้อมูลรุ่นและราคา รวมถึงกำหนดวันวางจำหน่ายออกจากหน้าเว็บจนหมด เหลือไว้แค่ข้อความ “คุณจะสามารถปรับแต่ง Cybertruck ได้ เมื่อรถใกล้เริ่มผลิต” และมูลค่าเงินมัดจำ 100 ดอลลาร์เท่านั้น
ยังไม่แน่ชัดว่าการที่ Tesla ลบข้อมูลเหล่านี้ออกไป แปลว่ารถจะผลิตและวางจำหน่ายไม่ทันภายในปีนี้หรือไม่ หรือ Tesla แค่ต้องการเปลี่ยนแปลงราคาของการปรับแต่งต่างๆ หลังเตรียมเพิ่มราคาแพ็กเกจ FSD เป็น 4 แสนบาทภายในวันที่ 17 มกราคมนี้
ภาพก่อน Tesla ลบข้อมูล
ภาพหน้าเว็บปัจจุบันของ Cybertruck
ที่มา - Tesla |
# 8 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ใช้ง่ายและฟรี ไม่ง้อ Premiere Pro
สำหรับมือใหม่ที่พึ่งหัดตัดต่อวิดีโอ มักพบเจอปัญหาไม่รู้ใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโออะไรดี ครั้นจะไปใช้โปรแกรมตระกูล Adobe อย่าง Premiere Pro ก็ต้องเสียเงินใช้เป็นรายเดือน เดือนละหลายบาท จะใช้ของก็อปก็ผิดกฎหมาย เสี่ยงโดนค่าปรับที่ไม่คุ้มกันอีก วันนี้เราเลยจะมาแนะนำโปรแกรมตัดต่อเบื้องต้นแบบที่ใช้ง่าย ฟังก์ชั่นหลากหลาย ได้ภาพสวยคมชัด และที่สำคัญคือ ใช้ฟรี! จนไม่ต้องง้อ Premiere Pro ก็ได้ ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีโปรแกรมอะไรบ้างมาเริ่มที่โปรแกรมแรกกันเลย
สำหรับกลุ่มเริ่มต้น (Best for beginners)
1. Adobe Creative Cloud Express (ชื่อเดิม Adobe Spark)
Adobe Creative Cloud Express จัดเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่เหมาะอย่างมากสำหรับมือใหม่ เนื่องจากลักษณะโปรแกรมจะเป็นแบบสำเร็จรูป เบื้องต้นใช้ตัดต่อวิดีโอ ปรับสีตามได้ตามใจชอบ และที่สำคัญเราสามารถเลือก ธีม (Theme) เพื่อปรับแต่งนิดหน่อยก็ได้เป็นวิดีโอชิ้นหนึ่งแล้ว ซึ่งช่วยประหยัดเวลาเราได้มากทีเดียว นอกจากการใช้งานที่ง่ายแล้ว เรายังสามารถ Save เพื่อฝากไฟล์ได้อีกด้วย
แม้จะเป็นโปรแกรมที่รวมเครื่องมือทั้งหมดไว้ในโปรแกรมขนาดเล็กสุดกะทัดรัด แต่ก็มีข้อจำกัดที่ความล่าช้าในบางที หรือตัวอักษรและเครื่องมือมีให้เลือกน้อย จึงเหมาะสำหรับออกแบบวิดีโอเล่น ๆ ทั่วไป
รองรับระบบปฏิบัติการ : Windows, Mac และ Linux
ราคาเมื่ออัพเดตเป็น Pro : ใช้ฟรี
2. VideoPad
VideoPad จัดเป็นโปรแกรมทางเลือกที่ดีตัวหนึ่งสำหรับตัดต่อวิดีโอคุณภาพสูงสักชิ้นหนึ่งในแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องปรับค่าอะไรมากมาย เนื่องจาก User Interface ของโปรแกรมได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย จึงหมดปัญหามือใหม่ที่กำลังหัดตัดแต่งวิดีโอ ส่วนฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้ในขั้นพื้นฐานอย่างเช่น การใส่ Special Effect การใส่ตัวอักษรเข้าไป การ Transition ในรูปแบบต่าง ๆ ร่วมกับการสามารถปรับสีวิดีโอให้ได้สีสันตามใจต้องการ พร้อม Export ไฟล์ไปยัง Social Media อย่าง YouTube, Facebook, Google Drive หรืออุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่ทั้งง่ายและรวดเร็ว
นอกจากนี้ VideoPad ยังสามารถใช้ตัดต่อวิดีโอแบบ 3D หรือจะเป็นการจัดเก็บ Sound Effect ต่าง ๆ เพื่อเรียกใช้ปรับแต่งวิดีโอของเราให้ได้สไตล์ที่เรากำหนดในระดับเบื้องต้นได้ แต่สำหรับใครที่ต้องการความละเอียดของวิดีโอในระดับสูงกว่า 4K ตัวนี้ยังไม่ตอบโจทย์นัก
รองรับระบบปฏิบัติการ : Windows และ Mac
ราคาเมื่ออัพเดตเป็น Pro : ใช้ฟรี
สำหรับผู้ใช้ระดับปานกลาง (Best for intermediate editors)
3. OpenShot
สำหรับผู้ใช้ที่พอมีประสบการณ์มาบ้าง OpenShot เป็นตัวหนึ่งที่ตอบโจทย์การใช้ได้พอสมควร ซึ่งนอกจากจะใช้ตัดต่อวิดีโอพื้นฐานแล้ว ยังแถมเครื่องมือสำหรับใช้งานในระดับที่ซับซ้อนขึ้น ด้วย Interface ที่ได้รับการดีไซน์แบบง่าย ๆ แต่ครบเครื่องแบบสุด ๆ ซึ่งเหมาะอย่างมากกับธุรกิจเล็ก ๆ ที่ใช้สำหรับปรับขนาด ตัดต่อหัวท้ายทั้งภาพและเสียงหรือจะขยายสั้นยาวก็ใช้ได้ พร้อมด้วยฟีเจอร์ Preview เพื่อดูวิดีโอและแก้ไขแบบ Real-time โดยสามารถส่งไฟล์ที่มีความละเอียดระดับ 4K UHD 60fps และนอกจากนี้ยังสามารถใช้ออกแบบวิดีโออนิเมชั่นได้อีกด้วย แต่ภาพที่ได้อาจไม่ละเอียดนัก หากใช้สำหรับอนิเมชั่นที่ฉายในโรงหนัง
รองรับระบบปฏิบัติการ : Windows, Mac และ Linux
ราคาเมื่ออัพเดตเป็น Pro : ใช้ฟรี
4. WeVideo
ตัวที่สามที่เหมาะจะใช้ตัดต่อเพื่อลงสื่อโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, IG, Line, TikTok คือ WeVideo ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปแทบทุกกลุ่ม มีฟังก์ชั่นสำหรับตัดต่อวิดีโอที่ใช้ง่าย และสะดวกในการลงแชร์บนโซเชียลมีเดียได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถเก็บไฟล์วิดีโอไว้ในโปรแกรมบนระบบ Cloud ได้ไม่จำกัด รวมทั้งสามารถแชร์ไฟล์ให้กับทีมได้สะดวกไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม
รองรับระบบปฏิบัติการ : Chromebook, Mac, Windows, iOS และ Android
ราคาเมื่ออัพเดตเป็น Pro : $4.99 หรือตกเฉลี่ย 167 บาท/เดือน
สำหรับผู้ชำนาญและกลุ่มมืออาชีพ (Best for advanced Editors)
5. Blender (เหมาะกับ 3D)
Blender จัดเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ใช้ฟรี ซึ่งทำมาเพื่อใช้ออกแบบ 3D โดยเฉพาะ เหมาะอย่างมากสำหรับใครที่ต้องการใช้สร้างและเรนเดอร์อนิเมชั่นแบบ 3 มิติ โดยตัวซอฟต์แวร์ได้รับการออกแบบร่วมกับนักพัฒนาหลายร้อยคนจากทั่วโลกทีเดียว
ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานนั้นครอบคลุมทั้งระดับพื้นฐานและระดับมืออาชีพ ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์ใช้งานในระดับหนึ่ง
รองรับระบบปฏิบัติการ : Windows, Mac และ Linux
ราคาเมื่ออัพเดตเป็น Pro : ใช้ฟรี
6. Kdenlive
Kdenlive เป็นโปรแกรมตัดต่อแบบ opensource อีกตัวที่ใช้งานได้หลากหลายและมีประสิทธิภาพดี แม้ตัว UI จะดูไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้เท่าไร อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้พอสมควร แต่ในหน้าเว็บไซต์ก็มีคู่มือผู้ใช้ เป็นภาษาอังกฤษสำหรับมือใหม่อยู่
หลังใช้จนคล่องมือแล้ว ผู้ใช้จะพบว่าความสามารถของ Kadenlive ก็ไม่ด้อยไปกว่าโปรแกรมอื่น อีกทั้งความสามารถในการจัดการทรัพยากรเครื่องเมื่อเปิดไฟล์ใหญ่ๆ อาจดีกว่าหลายๆ โปรแกรมฟรีอื่นด้วย แถมยังสามารถปรับแต่ง UI รวมถึงคีย์ลัดเพิ่มเติมได้เอง รวมถึงมีระบบแบ็คอัพไฟล์อัตโนมัติ และมีเครื่องมืออย่าง Audio Meter, Histogram, Waveform, Vectorscope และ RGB Parade มาให้อย่างครบครัน ถือเป็นอีกโปรแกรมฟรีที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานระดับสูงขึ้นมาอีกนิด
รองรับระบบปฏิบัติการ : Windows, Mac และ Linux
ราคาเมื่ออัพเดตเป็น Pro : ใช้ฟรี
7. Davinci Resolve
Davinci Resolve จัดเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอตัวถัดมาที่ใช้ได้เหมือนกับ Adobe Premiere Pro โดยสามารถหยิบเครื่องมือมาใช้ได้ง่ายและสะดวก อีกทั้งได้รับการใช้อย่างแพร่หลายใน Youtuber จนกระทั่งถึงวงการภาพยนตร์ระดับโลกเลยทีเดียว เหมาะอย่างมากสำหรับทำภาพยนตร์หรือทำหนังสั้นส่งประกวด หรือโอกาสต่าง ๆ จุดเด่นคือ สามารถใช้ปรับ Color Grading สีของวิดีโอให้สวยและได้ความคมชัดระดับ Ultra-HD และหากใครต้องการใช้ทำงานในระดับสูงขึ้น ไร้ลายน้ำไร้สะดุด ก็สามารถอัพเดตเป็นแบบ Pro ได้ เพียง 8,987 บาท
เพื่อประสิทธิภาพของภาพที่ใช้ตัตต่อวิดีโอ หากใช้คู่กับคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือแลปท็อปที่มีเกรดซีพียู ตั้งแต่ Inter Core i5, i7 ถึง i9 กับการ์ดจอที่ให้ความละเอียดสูง ตรงตามค่าคาริเบท เมื่อทดลองใช้ถ่ายทอดวิดีโอกับอุปกรณ์ตัวอื่น เช่น สมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ เป็นต้น โดยสามารถเข้าไปอ่านบทความ
“แนะนำ 5 โน๊ตบุ๊คทำงาน ราคาไม่เกิน 20,000 บาท ประจำปี 2022 เสปกครบ จอชัด เชื่อมต่อดี เพิ่มเติมได้เลยครับ
รองรับระบบปฏิบัติการ : Mac, Windows และ Linux
ราคาเมื่ออัพเดตเป็น Pro : $269 หรือตกเฉลี่ย 8,987 บาท เมื่ออัพเดตเพื่อใช้งานแบบ Full Studio Version
8. HitFilm Express
HitFilm จัดเป็นโปรแกรมตัดต่อภาพระดับท็อปในวงการศิลปินและชาว Video Editor ในระดับโลก แต่สามารถหยิบมาใช้ได้ฟรีอย่างจุใจ ด้วยรูปแบบการจัดวางแถบคู่มือฟังก์ชั่นได้ดี (User Interface) ทำให้ผู้ใช้เรียนรู้การใช้งานได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ตัดต่อลื่นไหลไร้สะดุด และหากใครต้องการใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอสำหรับรีวิวสินค้า ใช้ประกอบการทำบล็อก หรือใช้ลงสื่อโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊คให้คนรู้จัก การใช้เวอร์ชั่นฟรีถือว่าเพียงพอระดับหนึ่งเลย โดยเครื่องมือพื้นฐานที่เราจะได้ใช้มีหลากหลายตัวอย่าง เครื่องมือสำหรับตัดต่อภาพและเสียงจวบจนกระทั่งสร้างงาน 3D หรือ 4K ที่มีความซับซ้อนได้ เรียกได้ว่าครบจบในหนึ่งเดียว
นอกจากนี้หากใครสนใจใช้งานในระดับสูงกว่านี้ ก็สามารถซื้อการใช้งานแบบ Pro ได้ในราคา $369 หรือตกราคา 11,660 บาท/เดือน ซึ่งเหมาะกับงานอนิเมชั่น หรือผู้รับงานตัดต่อระดับสูงอย่างภาพยนตร์ระดับ High-end แน่นอนว่าคุณจะได้เครื่องมือปรับค่าแสงสีที่ละเอียดพอสำหรับการแสดงผลของมิติ ภาพ สี และความสว่างที่มีความละเอียดระดับที่มากกว่า 8K
รองรับระบบปฏิบัติการ : Mac และ Windows
ราคาเมื่ออัพเดตเป็น Pro : $349 หรือตกเฉลี่ย 11,660 บาท
อ้างอิง: Edit Videos Like a Pro : The 13 Best Free Video Editing Software for 2022 |
# โดนกันหมด Canon ประกาศผลิตหมึกเครื่องพิมพ์แบบไม่มีชิปชั่วคราว เพราะชิปขาดแคลน
วิกฤตชิปขาดแคลนดูจะกระทบไปทุกภาคส่วน หลังเว็บไซต์ Canon ออสเตรเลีย ระบุว่าบริษัทประสบปัญหาอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนเช่นกัน ทำให้ Canon เตรียมผลิตหมึกเครื่องพิมพ์ หรือโทนเนอร์แบบไม่มีชิปเป็นการชั่วคราว
เดิม Canon ใช้ชิปในโทนเนอร์เพื่อระบุความเป็นของแท้จาก Canon รวมถึงระบุสถานะว่าหมึกเหลือเท่าไร แต่แม้จะไม่มีชิปก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการพิมพ์ โดยโทนเนอร์แบบไม่มีชิปจะเริ่มวางจำหน่ายในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ โดยมีรหัสรุ่นโทนเนอร์ที่ได้รับผลกระทบบอกบนหน้าเว็บไซต์
ส่วนปัญหาชิปขาดแคลนของ Canon จะส่งผลกระทบกับประเทศอื่นแค่ไหน และบ้านเราจะได้ใช้โทนเนอร์แบบไม่มีชิปด้วยหรือไม่ คงต้องติดตามบนเว็บไซต์ Canon ประเทศไทย ต่อไป
ที่มา - Canon Australia |
# Alexa และ Webex จะถูกขึ้นจรวดไปดวงจันทร์กับภารกิจ Artemis I ของ NASA
Amazon และ Cisco ประกาศแผนการส่งบริการ Alexa และ Webex ของตัวเองขึ้นยานอวกาศ Orion ของ NASA ไปดวงจันทร์ในภารกิจ Artemis I ซึ่งคาดว่าจะมีกำหนดยิงช่วงกลางปี 2022 นี้
Artemis I ถือเป็นภารกิจแรกของโครงการ Artemis ส่งมนุษย์กลับไปดวงจันทร์อีกครั้ง โดย Artemis I เป็นภารกิจทดสอบที่ไม่มีมนุษย์ขึ้นอวกาศไปด้วย ยานจะบินรอบดวงจันทร์แล้วกลับโลกโดยไม่ลงจอด, จากนั้นจะตามมาด้วย Artemis II ที่มีมนุษย์ไปด้วยแต่บินรอบเหมือนกัน และ Artemis III ที่นำมนุษย์กลับไปเหยียบดวงจันทร์ (คาดว่าเป็นปี 2024/2025 ตามลำดับ)
ภารกิจ Artemis I มีชุดเทคโนโลยีชื่อ Callistro ที่พัฒนาโดยบริษัท Lockheed Martin เพื่อสาธิตการนำเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ไปใช้กับนักบินอวกาศ โดยนักบินอวกาศสามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Alexa เพื่อให้แจ้งข้อมูลสถานะต่างๆ ของยานอวกาศ และวิดีโดอคอลล์ผ่าน Webex กับศูนย์ควบคุมที่พื้นโลกได้
กรณีของ Alexa บนยาน Orion ไม่สามารถใช้วิธีประมวลผลผ่านคลาวด์บนโลกได้ เพราะระยะเวลาตอบสนองจะนานเกินไป จึงต้องใช้คอมพิวเตอร์บนยานเป็นหลักแทน ส่วนกรณี Webex จะเป็นเวอร์ชันคัสตอม รันบน iPad ที่ขึ้นยานอวกาศไปด้วย บริการทั้งสองตัวจะสื่อสารกับศูนย์ควบคุมผ่านเครือข่ายสื่อสาร Deep Space Network ของ NASA
ที่มา - NASA, Amazon, Cisco |
# Microsoft Teams เพิ่มฟีเจอร์ปิดแจ้งเตือนระหว่างประชุม, ตั้งเวลาส่งข้อความได้
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ 2 อย่างให้ Microsoft Teams ที่ถูกเรียกร้องจากผู้ใช้มานาน และน่าจะช่วยให้ชีวิตของผู้ใช้ดีขึ้น
อย่างแรกคือการปิด notification ไม่ได้เด้งขึ้นมารบกวนระหว่างการประชุม โดยสามารถปิดได้ทั้งหมด (global setting) และปิดเฉพาะการประชุมแต่ละครั้ง โดยจะกดปิดได้ในเมนู ... ของห้องประชุม ฟีเจอร์นี้จะเริ่มปล่อยในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
ฟีเจอร์ที่สองคือ การตั้งเวลาส่งข้อความล่วงหน้า เพื่อไม่ให้รบกวนเพื่อนร่วมงานนอกเวลางาน หรือตั้งเวลาเพื่อแจ้งเตือนงานบางอย่างตามเวลาที่ต้องการ (Slack มีมาสักระยะแล้ว) ฟีเจอร์นี้บอกว่าจะอัพเดตในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เช่นกัน
ที่มา - MSPoweruser (1), MSPoweruser (2) |
# ผู้จัดการ BioWare บอกขอกู้ศรัทธาแฟนๆ คืนมาด้วย Dragon Age และ Mass Effect ภาคใหม่
ผลงานของ BioWare ในช่วงหลังๆ เรียกได้ว่ายับเยิน ทั้ง Mass Effect Andromeda ที่มีปัญหาคุณภาพ และ Anthem ที่ถึงขั้นต้องเลิกพัฒนาไปเลย เท่ากับว่าเกมที่ออกในครึ่งหลังของทศวรรษ 2010s ไม่มีเกมไหนประสบความสำเร็จเลย
Gary McKay ผู้จัดการสตูดิโอ BioWare คนปัจจุบัน (เป็นผู้บริหารคนนอก ที่เข้ามารับตำแหน่งช่วงปลายปี 2020 แทน Casey Hudson ที่ลาออกไปรอบสอง) เขียนโพสต์ลงบล็อกของ BioWare ต้อนรับปี 2022 ประกาศว่าจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อกู้ศรัทธาของแฟนๆ กลับคืนมา (rebuilding our reputation)
McKay บอกว่า Mass Effect Legendary Edition ภาครีมาสเตอร์ ได้รับเสียงตอบรับที่ดี แม้เจออุปสรรคจากการต้อง work from home ในช่วงโควิดที่ต้องปรับวิธีการทำงานอย่างมาก เดิมทีนโยบายของ BioWare รับพนักงานโดยมีเงื่อนไขว่าต้องย้ายมาอยู่เมืองเดียวกับสำนักงาน Austin และ Edmonton เท่านั้น แต่ตอนนี้บริษัทก็ปรับตัว รับคนเก่งจากที่ไหนก็ได้ในอเมริกาเหนือ
ลำดับถัดไป BioWare จะออกภาคเสริม Legacy of the Sith ของเกม Star Wars: The Old Republic ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะทุ่มทรัพยากรไปทำ Dragon Age และ Mass Effect ภาคใหม่ ให้เต็มที่ การได้กลับมาทำเกมแนวที่ถนัดย่อมทำให้บริษัทสามารถสร้างเกมคุณภาพสูงสุดตามที่แฟนๆ คาดหวัง
McKay อ้างรีวิวของ GameSpot ถึง Mass Effect: Legendary Edition ว่านี่คือการย้ำเตือนว่า BioWare มีดีขนาดไหนหากเดินเครื่องเต็มที่ และเขาอยากทำแบบเดียวกันนี้กับเกมอื่นๆ ที่กำลังพัฒนาอยู่
ที่มา - BioWare via Eurogamer |
# นักพัฒนาทำเอง ผู้ดูแลโมดูล color.js และ faker.js ใส่โค้ดลูปทำแอปจำนวนมากพัง, GitHub แบนแล้ว
ผู้ใช้ GitHub ชื่อบัญชี Marak เป็นผู้ดูแลโครงการโอเพนซอร์สจำนวนมากและช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาใส่โค้ดรัน infinite loop เข้าไปยังโครงการ color.js (4,300 stars) และ faker.js (795 stars) ส่งผลให้โมดูลและแอปอื่นๆ ที่ใส่โมดูลเหล่านี้เป็น dependency ไม่สามารถทำงานได้ หน้าจอจะค้างและพิมพ์ขยะออกมาไม่หยุด
Marak ไม่ได้แถลงบอกเหตุผลที่เขาทำแบบนี้ไว้โดยตรงแต่เขาแสดงภาพ Aaron Swartz โปรแกรมเมอร์นักกิจกรรมที่ฆ่าตัวตาย หลังถูกจับเนื่องจากเอาคอมพิวเตอร์ไปเชื่อมต่อเครือข่ายของ MIT เพื่อดาวน์โหลดรายงานวิทยาศาสตร์
โครงการดังๆ จำนวนมากได้รับผลกระทบจากการใส่โค้ด infinite loop ครั้งนี้ เช่น CDK ของ AWS โดยทั่วไปน่าจะแก้ไขได้ไม่ยากเพียงแค่ล็อกเลขเวอร์ชั่นก่อนหน้า แต่การที่โครงการมี dependency กับนักพัฒนาที่ไม่น่าไว้ใจเช่นนี้ก็อาจจะต้อง fork โครงการเพื่อความปลอดภัย ที่ผ่านมาเหตุการณ์โมดูลใน npm ถูกวางยาโค้ดอันตรายจนกระทบโครงการอื่นๆ ที่มี dependency เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แต่ส่วนมากเกิดจากแฮกเกอร์เจาะระบบเพื่อวางโค้ด
Marak ออกมาโพสทวิตเตอร์ระบุว่าบัญชีของเขาถูก GitHub แบนไปแล้ว
ที่มา - BleepingComputer
โค้ด infinite loop ที่ Marak ใส่เข้าโมดูล color.js |
# Roblox ปิดให้บริการในจีนชั่วคราว เพื่อแก้ไขเกมให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางการ
Roblox ได้ปิดให้บริการเซิร์ฟเวอร์สำหรับผู้เล่นจีน ซึ่งมีชื่อเรียกว่า LuoBuLeSi หลังจากเปิดให้บริการทดสอบมาได้ 5 เดือน เฉพาะบน iOS และ Android โดยบอกว่าระบบได้ลบข้อมูลผู้เล่นทั้งหมด เนื่องจากสถานะให้บริการยังเป็นเพียงขั้นทดสอบเท่านั้น
บริการของ LuoBuLeSi เป็นความร่วมมือของ Roblox กับ Tencent ผู้ให้บริการเกมรายใหญ่ในจีน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในการกำกับดูแลเกมของทางการจีน
Roblox ชี้แจงว่า LuoBuLeSi ไม่ได้ยุติแผนการให้บริการ แต่ต้องกลับมาประเมินแก้ไขหลายอย่าง เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่หน่วยงานกำกับดูแลของทางการจีนกำหนดไว้
ที่มา: TechCrunch |
# กลุ่มโรงแรมสแกนดิเนเวียถูก Ransomware โจมตี ตัดสินใจเปลี่ยน Windows เป็น Chrome OS
Nordic Choice Hotels กลุ่มเชนโรงแรมใหญ่ในสแกนดิเนเวียที่มีโรงแรมมากกว่า 200 สาขา เจอปัญหา ransomware ถล่มระบบคอมพิวเตอร์ และยึดไฟล์ข้อมูลของพนักงานเพื่อเรียกค่าไถ่ ทำให้พนักงานต้องเปลี่ยนมาทำงานด้วยกระดาษ-กระดานกันชั่วคราว
เรื่องดูเหมือนองค์กรทั่วไปที่โดน ransomware โจมตี แต่สิ่งที่ Nordic Choice เลือกทำต่างออกไปคือเปลี่ยนพีซีวินโดวส์กว่า 2,000 เครื่องมาเป็น Chrome OS แทน (Nordic Choice มีโครงการเปลี่ยนมาใช้ Chrome OS อยู่แล้ว แต่พอเจอ ransomware เข้าไปเลยเปลี่ยนทั้งหมดทันที)
โซลูชันที่ Nordic Choice เลือกใช้งานคือเปลี่ยน OS จากวินโดวส์เป็น CloudReady ของบริษัท Neverware ซึ่งเป็นการนำ Chrome OS มาปรับแต่งให้ติดตั้งเองบนพีซีเก่าได้ (Neverware เพิ่งถูกกูเกิลซื้อไปเมื่อปลายปี 2020)
กระบวนการเปลี่ยน OS ทั้งหมดทำแบบรีโมทจากสำนักงานใหญ่ ซึ่งเสร็จสิ้นภายใน 48 ชั่วโมง โดยซีทีโอ Kari Anna Fiskvik บอกว่านี่เป็นสถิติโลก "เพราะไม่เคยมีใครต้องทำแบบนี้มาก่อน"
ปัจจุบัน Nordic Choice ระบุว่าเปลี่ยน OS ในพีซีไปแล้วกว่า 3,500 เครื่อง หรือประมาณ 95% ของพีซีทั้งหมดในองค์กร แต่การเปลี่ยน OS ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด มีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องแก้ต่อ เช่น ระบบคีย์การ์ดที่ล่มไปด้วย หรือข้อมูลส่วนตัวของพนักงานที่ถูกขโมยไป
ที่มา - E24 (ภาษานอร์เวย์) via 9to5google |
# Google BigQuery รองรับฟิลด์แบบ JSON เปิดทางประมวลข้อมูลแบบไม่มี schema
กูเกิลอัพเพิ่มฟีเจอร์บริการ BigQuery บน Google Cloud ให้รองรับฟิลด์แบบ JSON ทำให้ผู้ใช้สามารถใส่ข้อมูลกลุ่มที่ไม่มี schema ชัดเจนเข้ามา
ก่อนหน้านี้ BigQuery รองรับข้อมูลประเภท STRUCT ที่เป็นออปเจกต์ซับซ้อนภายในได้อยู่แล้ แต่ก็ต้องประกาศโครงสร้างข้อมูลไว้ล่วงหน้า หากคิวรีโดยอ้างฟิลด์ที่ไม่มีข้อมูลก็จะ error ไปเลย แต่สำหรับ JSON การคิวรีจะใช้ syntax แบบเดียวกันกับ STRUCT แต่หากอ้างถึงฟิลด์ที่ไม่มีข้อมูลก็จะได้ค่า NULL
ข้อมูลชนิด JSON กลายเป็นชนิดข้อมูลพื้นฐานของบริการฐานข้อมูลจำนวนมาก เช่น PostgreSQL ก็รองรับ JSON มาเป็นเวลานานและเพิ่งปรับ syntax การคิวรีให้เป็นธรรมชาติขึ้น ความจำเป็นที่จะใช้งานฐานข้อมูลเฉพาะเพื่อเก็บข้อมูล JSON ก็คงน้อยลงไปเรื่อยๆ ในช่วงหลัง
ฟีเจอร์ JSON ยังอยู่ในช่วง Pre-GA และตอนนี้เป็นการทดสอบวงปิดต้องขอเข้าใช้งานล่วงหน้าเท่านั้น
ที่มา - Google Cloud Blog |
# [Y2K22] ผู้ใช้ Honda Accord, CR-V ในสหรัฐรายงานปัญหา นาฬิการีเซ็ตเป็นปี 2002
มีรายงานจากผู้ใช้รถยนต์แบรนด์ Honda และ Acura (แบรนด์ลูกของ Honda ในตลาดอเมริกาเหนือ) แจ้งปัญหานาฬิกาของรถยนต์กลายเป็นปี 2002 หรือรีเซ็ตเวลาย้อนหลังกลับไป 20 ปีจากปี 2022 ในปัจจุบัน (ปัญหานี้มีชื่อเล่นตอนนี้ว่า Y2K22)
รถยนต์รุ่นที่พบปัญหาเป็นรถยนต์รุ่นเก่าสักหน่อย ที่มีรายงานคือระหว่างปี 2004-2012 รุ่นที่มีระบุชื่อคือ Accord, CR-V, Odyssey รุ่นที่ขายในสหรัฐ
บริษัท Honda สาขาสหรัฐอเมริกายอมรับว่าทราบปัญหานี้แล้ว กำลังตรวจสอบและหาแนวทางแก้ไข ส่วนฟอรั่มของ CR-V ให้ข้อมูลว่าปัญหาเรื่องเวลาเพี้ยนจะมีไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2022 แล้วจะหายไปเองได้
เว็บไซต์ Jalopnik รายงานว่าปัญหาลักษณะนี้เคยเกิดกับ Honda/Acura มาแล้วในปี 2017 และ 2021 คาดว่าสาเหตุมาจากการซิงก์เวลากับ GPS ซึ่งบรอดคาสต์เวลาเป็นลำดับของสัปดาห์ 10 บิต (จำกัดที่ 1023 สัปดาห์ก่อนรีเซ็ตใหม่) หากซอฟต์แวร์ในรถยนต์ไม่ได้เตรียมเรื่องนี้ไว้ จะทำให้นาฬิกาเพี้ยนได้
ภาพนาฬิกาจากผู้ใช้ Chris Callopy ในฟอรั่มของ Honda
ที่มา - Jalopnik |
# ยุคนี้อะไรก็แพง Tesla ขึ้นราคาแพ็กเกจ Full Self-Driving (FSD) เป็น 4 แสนบาท
Elon Musk ประกาศข่าวการขึ้นราคาแพ็กเกจซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ Full Self-Driving (FSD) ของรถยนต์แบรนด์ Tesla เป็น 12,000 ดอลลาร์ (ราว 4 แสนบาท) มีผลวันที่ 17 มกราคมนี้
Tesla ค่อยๆ ขึ้นราคาแพ็กเกจ FSD มาเรื่อยๆ โดยช่วงแรกเริ่มที่ 8,000 ดอลลาร์ ขยับขึ้นมาเป็น 10,000 ดอลลาร์ และล่าสุดคือ 12,000 ดอลลาร์ โดยที่ยังมีสถานะเป็น Beta อยู่ในตอนนี้ และ Elon Musk ระบุว่าจะขึ้นราคาอีกเรื่อยๆ เมื่อซอฟต์แวร์เข้าใกล้สถานะใช้งานจริง (production)
แพ็กเกจ FSD มีวิธีการซื้อ 2 แบบคือซื้อขาด และจ่ายรายเดือน 199 ดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ขึ้นราคา
Tesla ยังถูกวิจารณ์มาตลอดว่าแพ็กเกจ Full Self-Driving เป็นชื่อที่ชวนให้เข้าใจผิด เพราะรถยนต์ไม่ได้ขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มที่จริงๆ เหมือนอย่างชื่อแพ็กเกจ
ที่มา - Electrek |
# สำเร็จตามคาด กล้อง James Webb Space Telescope กางกระจกเสร็จทั้งหมดแล้ว
หลังกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb Space Telescope ถูกยิงขึ้นอวกาศเมื่อวันคริสต์มาส ก็ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ค่อยๆ คลี่ฉากกั้นแสงอาทิตย์ 5 ชั้น และกางกระจกทั้ง 3 ส่วนออกมาอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ผู้สร้างกล้องกังวลว่าถ้ามีความผิดพลาดใดๆ ขึ้นมาแม้นิดเดียว จะส่งผลให้โครงการมูลค่ามหาศาลล้มเหลวไปเลย
เมื่อคืนนี้ James Webb Space Telescope เสร็จสิ้นการกางกระจกชิ้นสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างทำงานได้ดีอย่างที่คาดไว้ ตอนนี้กล้องอยู่ในสถานะที่เกือบพร้อมทำงานแล้ว ขั้นตอนที่เหลือคือให้กล้องเดินทางไปยังจุด Lagrange 2 ซึ่งใช้เวลาอีกประมาณ 14 วัน
ภาพกราฟิกของ NASA แสดงหน้าตาของกล้องเมื่อทำงานเต็มรูปแบบแล้ว
วิดีโออธิบายการคลี่ฉากและกางกระจกของ James Webb Space Telescope
ที่มา - NASA, NASA |
# Dropbox เริ่มทดสอบแอปบน Mac ที่ใช้ Apple Silicon แล้ว เตรียมออกเบต้าให้ผู้ใช้ทั่วไปในเดือนนี้
เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว Dropbox โดนผู้ใช้โวยเนื่องจากไม่มีแผนทำแอปเนทีฟสำหรับ Mac ที่ใช้ชิป Apple Silicon ทำให้ซีอีโอต้องทวีตขอโทษที่ทำให้สับสนและยืนยันว่าจะออก Dropbox ที่ซัพพอร์ต Apple Silicon ภายในปี 2022
ล่าสุดวันนี้ Dropbox ได้แจ้งทาง MacRumors ว่าเริ่มทดสอบแอปเนทีฟบน Apple Silicon แล้ว โดยตอนนี้ยังอยู่ระหว่างทดสอบกับผู้ใช้กลุ่มเล็ก และคาดว่าจะเริ่มให้ผู้ใช้ Mac ทั่วไปทดสอบเบต้าได้ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้
ปัจจุบัน แอป Dropbox สามารถใช้งานบน Mac ที่ใช้ชิป Apple Silicon ได้ โดยตัวแอปต้องรันบน Rosetta 2 ที่จะใช้วิธีแปลงโค้ดที่คอมไพล์มาสำหรับ Intel ให้ใช้งานได้กับ Apple Silicon แต่ประสิทธิภาพก็จะด้อยกว่าแอปเนทีฟที่คอมไพล์มารองรับสถาปัตยกรรมของ Apple โดยตรง
ที่มา - MacRumors |
# AngularJS เวอร์ชัน 1.x สิ้นอายุขัยแล้ว จากนี้ไปเหลือแต่ Angular เฉยๆ
เฟรมเวิร์ค AngularJS เวอร์ชันแรก 1.x ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2010 หมดระยะซัพพอร์ตแล้วเมื่อสิ้นปี 2021 ถือเป็นการปิดตำนาน AngularJS เวอร์ชันแรกที่เขียนด้วยภาษา JavaScript
เมื่อปี 2015 กูเกิลจับมือกับไมโครซอฟท์สร้างเฟรมเวิร์ค Angular (ไม่มี JS) ด้วยภาษา TypeScript ขึ้นมาใหม่แทนการพัฒนา AngularJS เวอร์ชันแรกต่อ และยังใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน (เวอร์ชันล่าสุดขณะที่เขียนคือ 13.x ออกเมื่อปลายปี 2021)
การที่ Angular ทั้งสองเวอร์ชันมีชื่อคล้ายกัน (แต่ใช้ด้วยกันไม่ได้) ทำให้เกิดความสับสนไม่น้อย เพื่อให้แยกแยะได้ง่าย หลายคนเลือกเรียกโครงการใหม่ว่า Angular 2 หรือ Angular 2+ แทน
กูเกิลประเมินว่าปัจจุบันยังมีผู้ใช้ประมาณ 14% ใช้ AngularJS ตัวเดิมอยู่ ซึ่งมีความเสี่ยงในแง่ความปลอดภัย เพราะไม่มีการออกแพตช์อุดช่องโหว่หรือแก้บั๊กใดๆ อีกแล้ว
ที่มา - AngularJS, InfoWorld |
# กองทัพสวิสประกาศแบนแอปแชทต่างชาติ ให้ใช้แอป Threema ของสวิสแทน
กองทัพของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ออกประกาศแบนบริการส่งข้อความต่างชาติทั้งหมดเมื่อเดือนที่แล้ว และระบุว่ากองกำลังจะต้องใช้งานแอป Threema ซึ่งเป็นแอปส่งข้อความของสวิสเท่านั้น
การที่กองทัพสวิสออกประกาศบังคับให้ใช้ Theema เนื่องจากข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว เพราะตามกฎหมาย CLOUD Act คือถ้าบริการใดก็ตามตกอยู่ภายใต้อำนาจศาลของสหรัฐฯ จะต้องสืบหลักฐานได้ไม่ว่าเซิร์ฟเวอร์จะตั้งอยู่ที่ไหนก็ตาม ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ของ Threema นั้นตั้งอยู่ในสวิสและอยู่ภายใต้กฎหมายด้านข้อมูลของยุโรป จึงไม่อยู่ในอำนาจศาลของสหรัฐฯ และไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามหากศาลสหรัฐฯ ต้องการสืบพยาน
Delphine Schwab-Allemand โฆษกของกองทัพสวิสได้ให้ข้อมูลกับ AP ผ่านทางอีเมล โดยยืนยันว่ากองทัพสวิสได้ออกประกาศดังกล่าวจริง แต่ที่กองทัพให้ใช้แอป Threema เป็นเพียง “คำแนะนำ” ไม่ใช่ “บังคับ”
สำหรับตัวแอป Threema นั้น ผู้พัฒนาชูจุดเด่นด้านความเป็นส่วนตัวโดยระบุว่าแอปเข้ารหัสแบบ end-to-end และไม่ได้บังคับให้ผู้ใช้กรอกเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลแอดเดรส ซึ่งตัวแอปจะสร้าง Threema ID เป็นค่าสุ่มที่ไม่ผูกกับไอดีอื่นของผู้ใช้เพื่อเป็นไอดีสำหรับใช้งานใน Threema - threema.ch
ที่มา - The Verge, AP
ภาพจาก JonHoefer/Pixabay |
# Sega ยอมรับ ถ้าบริษัทเกมประกาศทำ NFT และ Play-to-Earn จะโดนกระแสด้านลบ
ผู้บริหารระดับสูงของ Sega แสดงความเห็นต่อกระแส play-to-earn (P2E) และ NFT ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในวงการเกม คำตอบค่อนข้างเซอร์ไพร์สพอสมควร เพราะความเห็น Sega ไม่ได้ออกมาหนุนสุดตัวเหมือนค่ายเกมอื่นๆ (เช่น Ubisoft หรือ Square Enix)
Sega มองว่า NFT เป็นหนึ่งในสิ่งที่อยากทดลอง แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่อง play-to-earn ว่าจะทำอย่างไร โดย Sega ยกกรณีของความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ในต่างประเทศ และชี้ว่ามีปฏิกิริยากลับมาในทางลบ บริษัทจึงต้องระมัดระวัง ทั้งในแง่เสียงตอบรับจากผู้เล่นในญี่ปุ่น และกรอบกฎหมายของญี่ปุ่นด้วย
Sega ยกหลักการว่าจะทำอะไรก็ตาม ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทที่ว่า “Constantly Creating, Forever Captivating” แต่ถ้าเป็นการหาเงินอย่างเดียว บริษัทจะไม่ทำ
Sega ยังตอบคำถามเรื่องมุมมองต่อ Metaverse ว่าในความเข้าใจของบริษัท หมายถึงสถานที่ซึ่งผู้คนไปรวมตัวกัน ดังนั้น Fortnite หรือ Animal Crossing ก็ถือว่าเป็น Metaverse ในนิยามนี้ บริษัทจึงมองว่าเกม Phantasy Star Online 2 ที่มีส่วนของคอนเสิร์ตในเกม ถือเป็น Metaverse เช่นกัน
Sega บอกว่าเกมในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้าต้องมีส่วนที่เป็น Metaverse ไม่อย่างนั้นจะล้าสมัย แต่ก็ย้ำว่าเป้าหมายหลักต้องไม่ใช่การสร้าง Metaverse แต่ต้องมองเรื่องการสร้างเกมที่มีคุณภาพต่างหาก
ที่มา - Sega (PDF) via Ars Technica |
# ผู้ร่วมก่อตั้ง Reddit มอง อีก 5 ปีข้างหน้า เกมจะมีแต่แบบ Play-to-earn
Alexis Ohanian ผู้ร่วมก่อตั้ง Reddit ให้ความเห็นในรายการพอดคาสต์ Where It Happens ตอนล่าสุด ว่าเกมประเภท play-to-earn ซึ่งมีผลตอบแทนเป็นเงินคริปโต จะกลายมาเป็นเกมหลักที่คนทั่วไปเล่นกันใน 5 ปีข้างหน้า
เขามองว่าจากนี้คนเล่นเกม 90% จะไม่เล่นเกมที่ไม่ให้คุณค่าแลกกับเวลาที่เสียไป ซึ่งเกมนอกจากให้ความสนุก ยังต้องตอบมีผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมด้วย
Play-to-earn อาจเป็นเกมรูปแบบใหม่ในปีที่ผ่านมา แต่บริษัทเกมขนาดใหญ่หลายแห่งเริ่มให้ความสนใจ ที่จะนำรูปแบบนี้ไปใส่ในเกมของตนมากขึ้น
Ohanian ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับวงการคริปโต ประเด็นแรกคือคนจะสนใจ DAO กันมากขึ้น และคนจะให้ความสำคัญกับสถานะของตนบนโลกออนไลน์ มากยิ่งกว่าสถานะตัวตนในชีวิตที่รัฐกำหนดเสียอีก
ที่มา: Business Insider ภาพ Seven Seven Six |
# โน้ตบุ๊กจอพับได้ Lenovo Yoga อายุครบ 10 ปี, ออก Yoga 9i, 7i, 6 รุ่นอัพเกรดปี 2022
โน้ตบุ๊กแบรนด์ Yoga ของ Lenovo ถือเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นในเรื่องโน้ตบุ๊ก 2-in-1 พับจอได้ 360 องศา ปีนี้ถือเป็นการครบรอบ 10 ปีของ Yoga รุ่นแรก (IdeaPad Yoga เมื่อปี 2012) และ Lenovo ได้เปิดตัว Yoga รุ่นใหม่ของปี 2022 มาทั้งหมด 3 รุ่นคือ
Yoga 9i รุ่นท็อปสุด หน้าจอ 14" ราคาเริ่มต้น 1,399 ดอลลาร์ เริ่มขายไตรมาส 2
Yoga 7i เน้นน้ำหนักเบา พกพาสะดวก มีหน้าจอ 14" และ 16" ราคาเริ่มต้น 949 และ 899 ดอลลาร์ เริ่มขายไตรมาส 2
Yoga 6 หน้าจอ 13" ซีพียู Ryzen 5000 ใช้วัสดุรีไซเคิล ราคาเริ่มต้น 749 ดอลลาร์ เริ่มขายไตรมาส 2
วิดีโอฉลอง 10 ปี Yoga
Lenovo Yoga 9i ของปี 2022 นับเป็น Gen 7 แล้ว ใช้วัสดุอะลูมิเนียมและดีไซน์พรีเมียม ขอบด้านข้างเครื่องโค้งมน ใช้วัสดุสะท้อนแสงให้ดูหรูหรา มีซาวน์บาร์ตรงบานพับจอ มีให้เลือก 2 สีคือเทา Storm Grey และ Oatmeal
สเปก เปลี่ยนมาใช้ซีพียู 12th Gen Core (สูงสุด i7-1260P) ที่แรงกว่ารุ่น U, หน้าจอเลือกได้สูงสุดคือ 4K OLED IPS สัดส่วน 16:10 อัตรารีเฟรช 60Hz รองรับ Dolby Vision, แรมใส่ได้สูงสุด 16GB LPDDR5, สตอเรจสูงสุด 1TB SSD, แบตเตอรี่ 75Whr มีชาร์จเร็ว, ลำโพงรวม 4 ตัวรองรับ Dolby Atmos, ทัชแพดขนาดใหญ่ขึ้น 45%, พอร์ต Thunderbolt 2 พอร์ต, น้ำหนัก 1.48 กิโลกรัม
ของใหม่ที่น่าสนใจคือ คีย์บอร์ดของ Yoga 9i มีคอลัมน์พิเศษด้านขวามือสุด (ดูในภาพที่สองหรือในคลิป) เป็นปุ่มลัดสำหรับฟังก์ชันพิเศษบางอย่าง เช่น กดเบลอพื้นหลังตอนวิดีโอคอลล์, สลับโหมดพลังงาน, ปรับโหมดเสียง (เกมมิ่ง ฟังเพลง ดูหนัง), สลับ dark/light mode ของวินโดวส์ และปุ่มสุดท้ายเป็นตัวอ่านลายนิ้วมือ
Lenovo Yoga 7i มีให้เลือก 2 ขนาดหน้าจอคือ 14" และ 16" (รุ่น 14" แพงกว่า) ทั้งสองรุ่นใช้ดีไซน์ขอบโค้งเหมือนกัน มีอุปกรณ์เสริมเป็นปากกาซื้อแยกได้
Yoga 7i รุ่น 14" ใส่ซีพียูได้สูงสุด Core i7-12600P และจีพียูเป็น Iris Xe, หน้าจอสูงสุด 2.8K OLED 100% DCI-P3, แบตเตอรี่ 71Whr รองรับชาร์จเร็ว, มีให้เลือกสองสีคือ Storm Grey และ Stone Blue, น้ำหนัก 1.4 กิโลกรัม
Yoga 7i รุ่น 16" ใส่ซีพียูได้สูงสุด Core i7-12700H และจีพียูเป็น Intel Arc, หน้าจอสูงสุด 2.5K LCD 60Hz 16:10, แบตเตอรี่ใส่ได้สูงสุด 100Whr รองรับชาร์จเร็ว, มีให้เลือกสองสีคือ Storm Grey และ Arctic Grey, น้ำหนัก 1.9 กิโลกรัม
Lenovo Yoga 6 น้องเล็กของซีรีส์ Yoga ปี 2022 ใช้หน้าจอขนาด 13" Full HD 16:10, ซีพียูสาย AMD ใส่ได้สูงสุดคือ Ryzen 7 5700U, แบตเตอรี่ใส่ได้สูงสุด 59Whr รองรับชาร์จเร็ว, น้ำหนัก 1.38 กิโลกรัม
Yoga 6 มีรุ่นสีเขียว Dark Teal เน้นรักษ์โลก สามารถเลือกฝาหลังได้สองแบบคืออะลูมิเนียมรีไซเคิล หรือผ้าที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล, 25% ของเซลล์แบตเตอรี่มาจากพลาสติก และตัวแพ็กเกจกล่องก็ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลเช่นกัน
สินค้าสายคอนซูเมอร์ตัวอื่นที่น่าสนใจ คือ Lenovo Q27h-20 จอมอนิเตอร์ขนาด 27" IPS QHD ฐานรองมีร่องเสียบสมาร์ทโฟนได้ ราคาเริ่มต้น 349.99 ดอลลาร์ เริ่มขายเดือนพฤษภาคม
ที่มา - Lenovo |
# AMD เผย Radeon 6500 XT ตั้งใจออกแบบให้แรมน้อย แบนด์วิดท์ต่ำ ไม่เหมาะกับขุดเหมือง
AMD เพิ่งเปิดตัว Radeon RX 6500 XT การ์ดจอรุ่นเล็กราคา 199 ดอลลาร์ หวังมาแก้ปัญหาการ์ดจอขาดตลาดในปัจจุบัน
ประเด็นที่น่าสนใจคือ 6500 XT ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพด้านขุดเหมืองน้อยลงตั้งแต่แรก เพื่อให้ชาวเหมืองไม่สนใจซื้อไปใช้งาน การเปลี่ยนแปลงสำคัญมี 2 เรื่องคือ
มีเฉพาะรุ่นแรม 4GB ไม่มีรุ่น 8GB
ใช้อินเทอร์เฟซหน่วยความจำ 64-bit แทนที่จะเป็น 128-bit ตามอย่างจีพียูยุคใหม่
สองปัจจัยนี้ทำให้การ์ดไม่เหมาะกับการขุดเหมือง ซึ่งต้องใช้หน่วยความจำเยอะและมีแบนด์วิดท์กว้าง (การขุด Ethereum ต้องใช้หน่วยความจำมากกว่า 4GB) ในขณะที่แรม 4GB นั้น AMD บอกว่าเพียงพอสำหรับเกม AAA ส่วนใหญ่แล้ว
AMD ชดเชยเรื่องประสิทธิภาพหน่วยความจำ โดยเพิ่มคล็อคจีพียูให้สูงขึ้น คล็อคสูงสุดของ 6500 XT อยู่ที่ 2815MHz ซึ่งสูงกว่าการ์ดตัวท็อปอย่าง 6900 XT (2250 MHz) ซะอีก และถ้าเทียบกับการ์ดระดับเดียวกันเจนก่อน 5500 XT มีคล็อคสูงสุดที่ 1845MHz เท่านั้น
แนวคิดเรื่องการปรับการ์ดให้ไม่เหมาะกับการขุดเหมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ NVIDIA เคยทำมาก่อนแล้วกับการปรับเฟิร์มแวร์ (Lite Hash Rate) แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนักเพราะถูกแก้ไขได้ ในขณะที่วิธีของ AMD คือปรับตั้งแต่ระดับกายภาพเลย
ที่มา - Ars Technica |
# PayPal กำลังศึกษาการออก Stablecoin ผูกกับ US Dollar
ข่าวนี้เริ่มจากนักพัฒนาแอป Steve Moser ได้ค้นพบข้อมูลในแอป PayPal บน iPhone ระบุถึง PayPal Coin ซึ่งน่าจะเป็น Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจเตรียมสร้างเงินคริปโตของตนเองออกมา
ต่อมาโฆษกของ PayPal ยืนยันข้อมูลนี้โดยบอกว่า บริษัทกำลังศึกษาการออก Stablecoin และหากบริษัทต้องการออกเหรียญนี้จริง ๆ ก็จะหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลให้เรียบร้อยก่อน
ช่วงที่ผ่านมา PayPal ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มให้บริการจ่าย-รับเงิน มีความสนใจในตลาดเงินคริปโตมาต่อเนื่อง เช่นการเพิ่มตัวเลือกซื้อเงินคริปโตผ่านบัญชี PayPal ในหลายสกุล
ที่มา: CoinDesk |
# AWS รองรับ IPv6 บน Kubernetes เปิดทางใส่ Pod ในเครื่องเพิ่มขึ้น, ลด latency รวมของแอป
AWS เพิ่มฟีเจอร์ IPv6 ให้กับบริการ Amazon EKS เปิดทางให้สามารถสร้าง pod ในคลัสเตอร์โดยมีไอพีเป็น IPv6 ทั้งหมด โดยมีความได้เปรียบ 3 ประเด็น ได้แก่
ใส่ pod ในเน็ตเวิร์คได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องกังวลว่า IP จะหมด
เชื่อมต่อกับบริการอื่นๆ ทั้งของ AWS เองและบริการภายนอก โดยมี latency ต่ำลง เพราะไม่ต้องผ่าน NAT
ลดภาระวิศวกรเครือข่ายที่จะต้องดูแลเน็ตเวิร์คที่ซับซ้อน
ตอนนี้ยังใช้งานกับคลัสเตอร์สร้างใหม่เท่านั้น และต้องใช้กับลินุกซ์อย่างเดียว ตอนนี้ใช้งานได้ทั่วโลกโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ที่มา - AWS |
# ซีรีส์ Fallout ของ Amazon มีกำหนดเริ่มถ่ายทำในปี 2022 นี้, ได้ผู้สร้าง Westworld มากำกับ
เมื่อกลางปี 2020 Amazon ประกาศทำซีรีส์จากวิดีโอเกม Fallout ของ Bethesda สร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆ เกมซีรีส์นี้ แต่หลังจากนั้นข่าวคราวของซีรีส์ก็เงียบหายไปราวปีครึ่ง
ล่าสุด ซีรีส์ Fallout ประกาศแผนการเริ่มถ่ายทำภายในปี 2022 นี้ โดยได้ Jonathan Nolan ผู้สร้างซีรีส์ Westworld มาเป็นผู้กำกับเองในตอนแรก (pilot episode) รวมถึงมีทีมงานเขียนบท Captain Marvel และ Silicon Valley มาร่วมงานด้วย
ตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลว่าเนื้อเรื่องของภาคซีรีส์จะเกี่ยวข้องกับเกมแค่ไหน (และยึดภาคไหนเป็นหลัก) รวมถึงยังไม่มีข้อมูลนักแสดงออกมา
ที่มา - IGN |
# [ลือ] IBM เตรียมขายธุรกิจการแพทย์ Watson Health เพราะไม่ทำกำไรอย่างที่หวัง
เมื่อต้นปี 2021 เคยมีข่าวลือมารอบหนึ่งแล้วว่า IBM อยากขายธุรกิจ Watson Health ออกไป เพราะเป็นธุรกิจที่ยังไม่สามารถทำกำไรได้อย่างที่คิด
ต้นปีนี้มีข่าวลืออีกรอบจากเว็บไซต์ Axios ว่า IBM กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการหาผู้ซื้อ โดยปิดรับข้อเสนอจากบริษัทต่างๆ ในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงสิ้นเดือนมกราคม ตามข่าวบอกว่ามีบริษัทอื่นเสนอซื้อในเชิงยุทธศาสตร์ 1 ราย ที่เหลือเป็นบริษัทลงทุน (private equity) ที่อยากซื้อกิจการไปปั้นขายหรือขายหุ้น IPO ในอนาคต
ธุรกิจ Watson Health เกิดจากการที่ IBM ไล่ซื้อบริษัทด้านข้อมูลการแพทย์หลายแห่ง เช่น Truven Health Analytics, Phytel, Merge Healthcare ใช้เงินรวมกันไปแล้วราว 4 พันล้านดอลลาร์ แต่ธุรกิจในภาพรวมยังขาดทุน ทำรายได้ประมาณปีละ 1 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น ทำให้ IBM อยากขายกิจการทิ้ง
ที่มา - Axios |
# TP-Link เปิดตัวเราท์เตอร์หันเสาอากาศหาผู้ใช้อัตโนมัติ เริ่มใช้พอร์ต WAN แบบ 10G
TP-Link เปิดตัวเราท์เตอร์รุ่นใหม่ในงาน CES 2022 ทั้งหมด 3 รุ่น โดยรุ่นที่เด่นเป็นพิเศษคือ Archer AXE200 Omni เราท์เตอร์ที่มาพร้อมกับเสาอากาศแบบเคลื่อนไหวได้เอง (robotic antenna) ทำให้สามารถสั่งปรับทิศทางเสาเพื่อเร่งความแรงสัญญาณได้
เสาอากาศของ Archer AXE200 Omni สามารถปรับเพื่อเน้นความแรงได้ 6 โหมด ได้แก่ รอบตัว, บนล่าง, หน้า, หลัง, ซ้าย, และขวา หรือจะสั่งผ่านแอปที่อุปกรณ์ที่กำลังใช้งานให้เราท์เตอร์ปรับเสามาหาผู้ใช้ก็ได้เช่นกัน
นอกจาก Archer AXE200 Omni แล้ว TP-Link ยังออกเราท์เตอร์รุ่นใหญ่พร้อมกันอีก 2 รุ่น คือ Archer AXE300, Deco XE200 ทั้งสามรุ่นมีพอร์ตแลน 10G ทั้งหมด และยังมีรุ่นย่อยอีกหลายตัว เช่น Deco XE75 ระบบ mesh ราคาประหยัด, Deco X50 สำหรับขยายพื้นที่ Wi-Fi มีรุ่นใช้ภายนอก, รับพลังงานผ่าน PoE, หรือเชื่อมต่อผ่านสายไฟ
ที่มา - TP-Link |
# อะไรๆ ก็พับได้ Samsung Display โชว์จอโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตแบบพับสามทบ ในงาน CES
หลัง Samsung ประสบความสำเร็จพอสมควรกับกระแสมือถือจอพับได้อย่าง Galaxy Z Fold และ Galaxy Z Flip ดูท่าว่าบริษัทจะมีไอเดียทำมือถือจอพับได้อีกเยอะในอนาคต จากเทคโนโลยีล่าสุดที่ฝั่ง Samsung Display นำมาโชว์ในบนอุปกรณ์ต้นแบบในงาน CES ในปีนี้ โดย Samsung ทำวิดีโอทดลองจับแบบ Official ให้โชว์ในงานโดยไม่ได้อัพโหลดขึ้นโซเชียล แต่มียูทูบเบอร์ Abhijeet Mishra อัพโหลดวิดีโอเหล่านี้แทน
แท็บเล็ตพับสามทบ Flex S, Flex G
เริ่มต้นด้วยหน้าจอ OLED พับสามทบ รุ่น Flex S และ Flex G ที่วิธีการพับของแต่ละรุ่นเหมือนตัวอักษรชื่อรุ่น รุ่น Flex S เป็นการพับซ้อนสามทบโดยยังสามารถใช้งานจอด้านนอกได้อยู่ ส่วนรุ่น G พับหนึ่งทบเข้ามาด้านในเหมือนตัว G และจะไม่มีหน้าจอด้านนอก
ซึ่ง Samsung Display ได้นำ Flex S และ Flex G มาโชว์หลายขนาด น่าสนใจสำหรับการทำให้แท็บเล็ตขนาดใหญ่ พับเก็บเข้ามาได้จนเหลือขนาดใกล้เคียงกับโทรศัพท์ใหญ่ๆ เครื่องหนึ่งเท่านั้น แม้จะยังหนาพอสมควร และไม่ได้ปิดรอยพับได้สนิท
Flex Note โน้ตบุ๊กจอพับได้
เครื่องต้นแบบต่อมาที่ Samsung Display นำมาโชว์คือ Flex Note โน้ตบุ๊กจอ OLED แบบพับได้ รูปแบบคล้ายคลึงกับ ASUS Zenbook 17 Fold OLED ที่เปิดตัวในงาน CES และ Thinkpad X1 Fold ที่วางขายตั้งแต่ปีที่แล้ว
ตัวเครื่องจะเหมือนกับโน้ตบุ๊ก 13 นิ้วที่ไม่มีคีย์บอร์ด แต่เป็นหน้าจอทั้งสองฝั่ง ซึ่งเมื่อกางออกมาเต็มที่จะเหมือนเป็นแท็บเล็ตหน้าจอขนาด 17 นิ้ว ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับคนที่อยากได้โน้ตบุ๊ก เพราะถ้าต้องการพิมพ์งานและไม่อยากใช้แป้นพิมพ์บนทัชสกรีน น่าจะต้องพกคีย์บอร์ดแยกไปอีกชิ้น แต่อาจจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตจอใหญ่พกพาง่าย สำหรับวาดรูปหรือดูคอนเทนต์มากกว่า
AI Speaker
นอกจากแท็บเล็ตและโน้ตบุ๊ก Samsung ยังโชว์ AI Speaker ที่มาพร้อมหน้าจอ OLED 12 นิ้วที่พับโค้งแนบไปกับตัวลำโพง และสั่งการให้หน้าจอกางออกมาเป็นจอบอกสถานะต่างๆ ได้ ซึ่งอาจจะเหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน เช่นเป็นส่วนหนึ่งของระบบสมาร์ทโฮม และระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในอนาคต
น่าสนใจว่าไอเดียของเครื่องต้นแบบจากฝั่ง Samsung Display เหล่านี้ จะถูกฝั่งมือถืออย่าง Samsung Mobile เตรียมนำไปพัฒนาเป็นอุปกรณ์อื่นๆ ที่วางขายจริงอย่างไรบ้าง และน่าติดตามว่าเทรนด์มือถือและแท็บเล็ตจอพับได้ จะเป็นอนาคตของวงการมือถือจริงหรือไม่ หรือจะค่อยๆ เสียความนิยมไป คล้ายกับทีวีจอโค้ง
ที่มา - Abhijeet Mishra via Ars Technica |
# จีนออกกฎใหม่ ต้องให้รัฐบาลตรวจสอบความปลอดภัยไซเบอร์ก่อนทำ IPO นอกประเทศ
จีนประกาศกฎควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทที่กำลังนำหุ้นไประดมทุนในตลาดต่างประเทศ ป้องกันไม่ให้รัฐบาลต่างประเทศเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ตามกฎนี้บริษัทที่จะนำหุ้นเข้าไปซื้อขายในบริษัทต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ และมีข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้เกิน 1 ล้านราย จะต้องส่งข้อมูล การสะสม, จัดเก็บ, ประมวลผล, ส่งต่อ, นำเสนอ, และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลให้กับหน่วยงานรัฐ 13 หน่วยงานตรวจสอบก่อน และหากพบว่าข้อมูลมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศก็จะห้ามไม่ให้นำหุ้นไประดมทุนได้
กฎใหม่นี้ออกมาเพื่อปิดทางระดมทุนบริษัทขนาดใหญ่แบบเดียวกับ Didi ที่รัฐบาลจีนมองว่าข้อมูลจำนวนมหาศาลมีผลกระทบต่อความมั่นคงจนกระทั่ง Didi ถูกวางมาตรการเพิ่มเติมจำนวนมากหลักจากเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จนสุดท้ายต้องถอนหุ้นออกจากตลาดสหรัฐฯ ในที่สุด
ที่มา - Cyberspace Administration of China, CGTN
ภาพโดย Leslin_Liu |
# ผู้กำกับเกม Days Gone น้อยใจ ขายดีกว่า Ghost of Tsushima แต่โซนี่บอกว่าผิดหวัง
เกิดดราม่าระหว่างเกมในสังกัด PlayStation Studios ด้วยกันเอง เรื่องเริ่มจากเกม Ghost Of Tsushima ของสตูดิโอ Sucker Punch ออกมาประกาศความสำเร็จยอดขายแตะ 8 ล้านชุด ซึ่งดูไม่มีอะไรมาก เพราะแม้เป็นยอดขายที่ค่อนข้างดี แต่ยังห่างจากแชมป์คือ God of War ภาครีบูตที่ทำไว้ 19.5 ล้านชุด
แต่จู่ๆ Jeff Ross ผู้กำกับเกม Days Gone จากสตูดิโออีกแห่งคือ Bend Studio ในสังกัดโซนี่เช่นกัน ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ว่าตอนนั้นเกม Days Gone ทำยอดขายได้ 8 ล้านชุดเหมือนกัน แต่ผู้บริหารของโซนี่กลับรู้สึกว่าเป็นยอดขายที่น่าผิดหวังมาก (Jeff Ross ลาออกจากบริษัทไปตั้งแต่ปลายปี 2020)
การออกมาเปิดประเด็นของ Ross ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์กว้างขวาง ทั้งประเด็นเรื่องคะแนนรีวิวของเกมที่ Ghost of Tsushima ดีกว่า (คะแนนเฉลี่ย 83% vs 71%) หรือการเลือกปฏิบัติของโซนี่ต่อ Bend Studio ทำให้ไม่สามารถทำภาคต่อของ Days Gone ได้สักที
Days Gone วางขายในปี 2019 ปัจจุบันยอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านชุด เกมถูกพอร์ตมาลงพีซีในปี 2021 ส่วน Bend Studio ยังไม่ได้เปิดเผยผลงานใหม่หลังจากนั้นออกมา
ที่มา - Kotaku |
# ซัมซุงเปิดตัว Samsung Home Hub แท็บเล็ต 8 นิ้วสำหรับควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม
ซัมซุงเปิดตัว Samsung Home Hub มันคือแท็บเล็ตขนาด 8.4 นิ้วพร้อมแท่นชาร์จ ที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมภายในบ้าน
แท็บเล็ตตัวนี้สามารถใช้ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมของซัมซุงที่เป็น SmartThings ทั้งหมด เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น แอร์ เครื่องฟอกอากาศ แบ่งได้เป็น 6 หมวดคือ Cooking, Clothing Care, Pet, Air, Energy, Home Care Wizard ซัมซุงบอกว่าในอนาคตจะสามารถเชื่อมกับอุปกรณ์อื่นได้ด้วย เช่น หลอดไฟ และล็อคประตูอัจฉริยะ แต่ยังไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
เดิมที อุปกรณ์เหล่านี้สามารถควบคุมได้ผ่านสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว แต่อาจไม่สะดวกในการใช้งาน ซัมซุงจึงออกแท็บเล็ตนี้มาให้เป็นอุปกรณ์แสดงสถานะและสั่งการบ้านแยกเฉพาะ มีฟีเจอร์ Bixby รองรับการสั่งงานด้วยเสียง
ดูจากหน้าตาแล้วเหมือนแท็บเล็ตแอนดรอยด์ของซัมซุงทั่วไป แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าใช้งานประเภทอื่น (เช่น เว็บ โซเชียล) รวมถึงติดตั้งแอพเพิ่มเติมจาก Google Play/Galaxy Store ได้หรือไม่
สินค้าจะเริ่มขายในเกาหลีใต้เป็นประเทศแรกเดือนมีนาคมนี้ ยังไม่ประกาศราคา
ที่มา - Samsung |
# แชมป์อีกแล้ว มนต์แคน แก่นคูน ยังเป็นศิลปินที่ถูกสตรีมมากสุดบน YouTube ประเทศไทย ปี 2021
หลังเมื่อปีก่อน Chartmaster โชว์ผลว่ามนต์แคน แก่นคูน ครองแชมป์ศิลปินที่เพลงถูกสตรีมมากที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2020 เป็นการนับรวมจาก content ID ด้วย และนับรวมทุกบทเพลงของศิลปินรายนั้น ไม่ใช่เพียงจากแชนแนลหลักแต่อย่างเดียว และปีนี้มนต์แคน แก่นคูน เจ้าของบทเพลง วอนหลวงพ่อรวย ก็ยังครองแชมป์ศิลปินที่เพลงถูกสตรีมมากที่สุดในปี 2021 เหมือนเดิม
อันดับ 2 ยังคงเป็น Blackpink ส่วน Illslick โดดจากอันดับ 4 ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 แทน Youngohm ที่ร่วงลงไปอยู่อันดับ 7 ส่วน Saran ที่ปี 2020 ไม่ติดอันดับ เข้ามาติดชาร์ตใหม่เป็นอันดับ 4 ในปี 2021 และบังทัน BTS วงบอยแบนด์จากเกาหลี ก็ขยับจากอันดับ 7 ในปี 2020 ขึ้นมาเป็นอันดับ 5
ดูจากชาร์ตแล้ว เทรนด์ศิลปินแรปเปอร์ชาวไทยยังคงมาแรงเหนือกว่าทุกประเภทในชาร์ตนี้ จาก 10 อันดับ เป็นศิลปินแรปเปอร์หรือฮิปฮอปไปแล้วกว่า 5 อันดับ ยอดสตรีมรวมกว่า 2,460 ล้านครั้ง ตามมาด้วยศิลปินเพลงไทยประเภทอื่น เอนไปในทางลูกทุ่งและเพื่อชีวิต อย่าง มนต์แคน แก่นคูน พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ และลาบานูน ยอดสตรีมรวมราว 1,624 ล้านครั้ง และหมวดสุดท้ายคือศิลปินเกาหลี 2 อันดับ Blackpink และ BTS ที่มียอดสตรีมรวมราว 1,251 ล้านครั้ง
ที่มา - Chartmaster.org |
# Clubhouse ฟังผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ต้องใช้แอพ ไม่ต้องล็อกอินก็ฟังได้
Clubhouse ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ที่เรียกร้องกันมานานคือ ฟังการสนทนาผ่านเว็บเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องใช้แอพมือถือ แถมยังฟังได้เลยไม่ต้องมีล็อกอินด้วยซ้ำ ฟีเจอร์นี้ยังมีสถานะเป็น experimental เฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา
หมายเหตุ: ผมลองใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ ก็พบว่าใช้ฟังห้องที่บันทึกเสียงไว้ (Replay) ได้แล้ว (ตัวอย่าง) แต่ยังไม่ได้ลองฟังห้องที่เป็นคุยสด
นอกจากเรื่องการฟังผ่านเบราว์เซอร์แล้ว Clubhouse ยังเพิ่มฟีเจอร์การแชร์ห้องสนทนา ที่เดิมทีแชร์ได้แต่ข้างนอกแอพ (เช่น โพสต์ลงโซเชียลหรือส่งให้เพื่อนทางแชท) มาเป็นการแชร์ภายในระบบ Clubhouse ด้วยกันเอง โดยคนที่ติดตามเราใน Clubhouse จะเห็นข้อความที่แชร์ผ่านระบบ notification เพื่อร่วมเข้ามาฟังในห้องนั้นได้
ที่มา - Clubhouse, Engadget |
# Razer เปิดตัว Razer Blade ใหม่ยกชุด ทั้ง 14, 15, 17 แรม DDR5 การ์ดจอสูงสุด RTX 3080 Ti
Razer เปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง Razer Blade 14, 15, 17 ในงาน CES ปีนี้ มาพร้อมซีพียูทั้ง 12th Gen Intel และ AMD Ryzen 6000 การ์ดจอสูงสุด RTX 3080 Ti รวมถึงอัพเกรดแรมเป็นแรม DDR5 และรัน Windows 11 มาจากโรงงาน รายละเอียดของแต่ละรุ่นมีดังนี้
Razer Blade 14
สำหรับสาวก AMD คงต้องมาทาง Razer Blade 14 เพราะเป็นรุ่นเดียวจากสามรุ่นที่ใช้ซีพียู Ryzen 9 6900HX แรม DDR5 16GB ความเร็ว 4800MHz การ์ดจอสูงสุด RTX 3080 Ti และ SSD PCIe Gen 4 1TB อัพเกรดเพิ่มได้เป็น 2TB กล้องหน้า 1080p รองรับ Windows Hello
ราคาเริ่มต้น 1,999.99 ดอลลาร์ (ราว 67,200 บาท) เริ่มขาย 10 กุมภาพันธ์ใน Razer Store และภายในไตรมาสแรกของปีนี้ในร้านทั่วไป
Razer Blade 15
Razer Blade 15 มาพร้อมซีพียู 12th Gen Intel Core i7-12800H หน้าจอ IPS LCD 15 นิ้วมีตัวเลือกตั้งแต่ ความละเอียด Full HD 360Hz จนถึง QHD 240Hz และ UHD 144Hz รองรับมาตรฐานสี DCI-P3 ที่ 100% การ์ดจอสูงสุด RTX 3070 Ti แรม 16GB DDR5 กับ SSD PCIe Gen 4 1TB มีช่อง SSD อีกหนึ่งช่อง อัพเกรดได้ถึง 2TB
ราคาเริ่มต้น 2,499.99 ดอลลาร์ (ราว 84,000 บาท) เริ่มขาย 25 มกราคมใน Razer Store และภายในไตรมาสแรกของปีนี้ในร้านทั่วไป
Razer Blade 17
Razer Blade 17 ซีพียู 12th Gen Intel Core i7-12800H เช่นกัน หน้าจอ IPS LCD 17.3 นิ้ว ความละเอียดสูงสุด QHD 240Hz การ์ดจอสูงสุด RTX 3070 Ti ใส่ SSD PCIe Gen 4 1TB มาให้พร้อมช่อง SSD อีกหนึ่งช่อง อัพเกรดได้ถึง 4TB มีลำโพงมาให้ 8 ตัว แถมที่ชาร์จ GaN ชาร์จไวแบบ 280W มาให้
ราคาเริ่มต้น 2,699.99 ดอลลาร์ (ราว 90,700 บาท) เริ่มขาย 25 มกราคมใน Razer Store และภายในไตรมาสแรกของปีนี้ในร้านทั่วไป
ที่มา - Razer |
# กูเกิลแพ้คดีละเมิดสิทธิบัตร Sonos, ตัดฟีเจอร์ลำโพง Google Home เล็กน้อยให้ขายต่อได้
กูเกิลมีคดีกับแบรนด์เครื่องเสียง Sonos มาตั้งแต่ปี 2020 โดย Sonos ฟ้องกูเกิลว่าขโมยทรัพย์สินทางปัญญาหลังพัฒนาลำโพงอัจฉริยะร่วมกัน แล้วภายหลังกูเกิลออกลำโพง Google Home/Nest Mini ของตัวเอง ซึ่งมีฟีเจอร์แบบเดียวกับของ Sonos
วันนี้คณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศ (ITC) ของสหรัฐอเมริกา ตัดสินว่ากูเกิลละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของ Sonos เป็นสิทธิบัตร 5 รายการ และสั่งห้ามกูเกิลนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรชุดนี้เข้ามาขายในสหรัฐอเมริกา (อำนาจของ ITC เป็นเรื่องนำเข้าสินค้าเข้าประเทศ)
ฝ่ายกูเกิลเองประกาศในกลุ่มผู้ใช้ Nest ว่าจะปรับรูปแบบการทำงานของลำโพง Google Home/Nest เล็กน้อยเพื่อเลี่ยงปัญหาสิทธิบัตร
สิ่งที่เปลี่ยนคือฟีเจอร์ Speaker Group ที่ใช้ควบคุมเสียงของลำโพงหลายตัวพร้อมกัน จะปรับเสียงเป็นกลุ่มไม่ได้อีก ต้องแยกปรับเสียงของลำโพงทีละตัว และผู้ใช้บางส่วนอาจต้องใช้แอพ Device Utility ในกระบวนการติดตั้งลำโพงใหม่ด้วย
โฆษกของกูเกิลระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของ ITC แต่ก็ขอบคุณ ITC ที่ยอมให้กูเกิลปรับซอฟต์แวร์ แล้วยังขายสินค้าที่ดัดแปลงแล้วได้ต่อไป
ที่มา - ITC (PDF), CNET, 9to5google |
# Lenovo เปิดตัว ThinkBook Plus Gen 3 จอกว้าง 21:10 มีทัชสกรีนด้านข้างคีย์บอร์ด
Lenovo มีไลน์สินค้า ThinkBook Plus ที่ทดลองไอเดียใหม่ๆ แหวกแนวมาตั้งแต่ปี 2010 โดย ThinkBook Plus Gen 1 ใส่จอ E Ink มาที่ฝาหลังด้านนอก ส่วน Gen 2 ยังคงไอเดียเดิม ปรับสเปกให้ดีขึ้น
ปีนี้ ThinkBook Plus Gen 3 ฉีกไอเดียใหม่อีกครั้ง ปรับขนาดเครื่องให้ใหญ่ขึ้นเป็น 17.3" จอกว้าง ultrawide สัดส่วน 21:10 แล้วนำที่ว่างที่เพิ่มมาใส่จอทัชสกรีนขนาด 8" ด้านข้างของคีย์บอร์ด ใช้ทำงานได้หลากหลาย เช่น เป็น Numpad กดตัวเลข, เครื่องคิดเลข, ใช้วาดรูปหรือจดโน้ตลง OneNote (มีปากกาให้ในตัว เสียบใต้เครื่องเหมือน Galaxy Note), เป็นคำสั่งลัดของแอพที่รองรับ, ลากแอพบางตัวลงไปได้เพื่อดูเทียบเป็นหน้าจอที่สอง (รองรับหน้าจอแชทของ Zoom, Teams, Skype), mirror หน้าจอสมาร์ทโฟนมาแสดงผล (รองรับเฉพาะ Motorola ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Lenovo)
เอาเข้าจริงแล้ว แนวคิดการฝังจอที่สองที่เป็นจอสัมผัสไม่ใช่เรื่องใหม่นัก อย่าง ASUS เคยลองมาแล้วในปี 2019 กับ ZenBook Duo
สเปกเครื่องของ ThinkBook Plus Gen 3 คือ
หน้าจอหลัก 17.3" สัดส่วน 21:10 (3072x1440) อัตรารีเฟรช 120Hz, ความสว่าง 400 nit, รองรับ Dolby Vision
หน้าจอรอง 8" ทัช ความละเอียด 800x1280
ซีพียู Intel 12th Gen Core H-Series
แรมสูงสุด 32GB LPDDR5, สตอเรจสูงสุด 2TB SSD
ปุ่ม Power มีตัวอ่านลายนิ้วมือ
เว็บแคม FHD Infrared มีแผงปิดกล้อง
ลำโพง Harman Kardon รองรับ Dolby Atmos
Wi-Fi 6E
ราคาเริ่มต้น 1399 ดอลลาร์ เริ่มขายเดือนพฤษภาคม 2022
ที่มา - Lenovo |
# HP เปิดตัวมอนิเตอร์พร้อมเว็บแคม รุ่นใหญ่สุดจอโค้ง 40" 5K:2K พร้อมเว็บแคม 4K
จอมอนิเตอร์พร้อมเว็บแคมสำหรับประชุมออนไลน์ เป็นเทรนด์สำคัญของสินค้างาน CES 2022 ปีนี้ (ข่าวจอมอนิเตอร์เว็บแคมของ Dell และ Lenovo)
HP เป็นอีกแบรนด์ที่เปิดตัวมอนิเตอร์หลายซีรีส์ ซึ่งมีเว็บแคมมาให้พร้อมประชุมออนไลน์ ดังนี้
HP Curved Display (Z40c, Z34c) จอโค้งสำหรับงานเวิร์คสเตชัน จอรุ่นใหญ่ Z40c เป็นจอ 40" ความละเอียด 5K:2K (5120x2160) สัดส่วน 21:9 พร้อมเว็บแคม 4K (13MP) หมุนได้ รองรับ Windows Hello, มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว, ผ่านการรับรองจาก Zoom ราคา 1499.99 ดอลลาร์, รุ่นเล็ก Z34c ความละเอียดลดลงมาเป็น 3440x1440 และเว็บแคม 5MP ราคา 949 ดอลลาร์
ภาพ HP Z40c รุ่นท็อปสุด
HP Conferencing Monitors (E24m, E27m, E34m) จอมอนิเตอร์สำหรับภาคธุรกิจ ความละเอียด FHD 1080p มีเว็บแคม 5MP ที่หมุนปรับมุมได้ 25 องศา ตัวเว็บแคมรองรับ Windows Hello, จอมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน-ลำโพงคู่ด้านหน้า จอชุดนี้ผ่านการรับรองจาก Zoom การันตีภาพและเสียงคมชัด ราคา 399, 549, 699 ดอลลาร์ ตามขนาดหน้าจอ
HP Webcam Monitors (M24, M27) จอมอนิเตอร์สำหรับใช้งานในบ้าน ความละเอียด FHD 1080p เว็บแคม 5MP (หมุนไม่ได้) จอมีลำโพงและไมโครโฟนในตัว, ไม่มีการรับรองจาก Zoom แต่รองรับ AMD FreeSync, ราคา 319.99, 359.99 ดอลลาร์ ตามขนาดหน้าจอ
ที่มา - HP |
# Twitter ทดสอบ Quote Tweet รูปแบบใหม่ ทำคลิป Reaction กับทวีตนั้น ๆ
Twitter ประกาศทดสอบฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้งานแอปบน iOS โดยตอนนี้ทดสอบในกลุ่มเล็กก่อน ซึ่งสามารถตอบกลับทวีตนั้น ๆ เป็นคลิป Reaction ได้
โดยผู้ใช้งานที่ได้ฟีเจอร์ใหม่นี้ เมื่อกด Retweet จะมีตัวเลือกที่ 3 เพิ่มขึ้นมานอกจาก Retweet และ Quote Tweet คือ Quote Tweet with reaction เมื่อเลือกวิธีนี้ แอปจะเปิดกล้องเพื่อบันทึกวิดีโอสำหรับทำ Reaction กับทวีตนั้น
Twitter ไม่ได้ระบุว่าวิดีโอที่บันทึกนั้นกำหนดความยาวสูงสุดเท่าใด และยังไม่ได้บอกว่าจะมีแผนนำมาใช้งานทั่วไปหรือไม่เนื่องจากยังอยู่ในสภานะทดสอบ
ที่มา: 9to5Mac |
# Mozilla หยุดรับเงินบริจาคเป็นคริปโตชั่วคราว ให้เหตุผลเรื่องสิ่งแวดล้อม
เรื่องมีอยู่ว่า Mozilla ได้ประกาศผ่านทวิตเตอร์ต้อนรับปี 2022 ว่าจะรับเงินบริจาคผ่านช่องทาง BitPay ทำให้ผู้ใช้งานสามารถบริจาคเป็นเงินคริปโตได้อีกวิธีการหนึ่ง
อย่างไรก็ตามมีเสียงคัดค้านตามมา เช่น Jamie Zawinski ผู้ก่อตั้ง Mozilla และ Peter Linss ผู้ออกแบบเอ็นจิน Gecko ที่ Firefox ใช้งานอยู่ เสนอว่า Mozilla ควรหยุดสนับสนุนเงินคริปโต
ล่าสุด Mozilla จึงอัพเดตข้อมูล โดยพูดถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญขององค์กร Mozilla เองด้วย จึงหยุดรับเงินบริจาคที่เป็นเงินคริปโตชั่วคราว จนกว่าจะหาข้อสรุปในเรื่องนี้ได้
ที่มา: ZDNet |
# E3 ประกาศยกเลิกการจัดงานปีนี้แบบ In-Person จากสถานการณ์โควิด 19
สมาคม ESA (Entertainment Software Association) ผู้จัดงาน E3 ประกาศว่าเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์ Omicron การจัดงาน E3 ปีนี้จะไม่มีการจัดงานในสถานที่แบบพบปะกันหรือ In-Person
ESA บอกว่ายังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมในแผนการจัดงาน E3 2022 แต่แจ้งข้อมูลสำคัญนี้ก่อนเท่านั้น
งาน E3 ในปี 2020 ได้ประกาศยกเลิกไป ส่วนในปี 2021 เดิมทีมีแผนจะจัดงานในรูปแบบเดิม แต่ก็ต้องเปลี่ยนมาจัดในรูปแบบออนไลน์แทน จากการระบาดของโควิดสายพันธุ์ Delta ซึ่งเมื่องานต้องจัดในรูปแบบออนไลน์เท่านั้น ขณะที่ค่ายเกมรายใหญ่ต่างเปลี่ยนมาจัดงานออนไลน์เองได้เช่นกัน จึงเกิดคำถามว่างาน E3 ยังจำเป็นหรือไม่?
ที่มา: Kotaku |
# คาซัคสถานตัดอินเทอร์เน็ตทั้งประเทศหลังเกิดเหตุประท้วงรุนแรง
คาซัคสถานตัดอินเทอร์เน็ตทิ้งทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุประท้วงรุนแรงจนรัฐบาลขอความช่วยเหลือจากรัสเซียให้ส่งกองกำลังเข้าควบคุมความสงบให้
อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือถูกตัดไปก่อนตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้ทราฟิกโดยรวมลดลง แต่หลังจากนั้นอินเทอร์เน็ตทั้งหมด 10 เครือข่ายก็หายไป และอินเทอร์เน็ตกลับมาใช้งานได้ประมาณ 3 ชั่วโมงในช่วงที่ประธานาธิบดีประกาศขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย
อินเทอร์เน็ตในคาซัคสถานมีชื่อเสียงในการเซ็นเซอร์อย่างหนัก ในปี 2020 รัฐบาลเคยพยายามบอกให้ประชาชนติดตั้งใบรับรองของรัฐบาล โดยอ้างความปลอดภัยไซเบอร์
ที่มา - Cloudflare |
# ASUS เปิดตัวโน้ตบุ๊ก TUF Gaming F15, F17 และรุ่นบาง TUF Dash F15 การ์ดจอสูงสุด RTX 3070
นอกจากตระกูล Zenbook, ExpertBook แล้ว ASUS ยังเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งในตระกูล ASUS TUF อีกสามรุ่น คือ TUF Gaming F15, F17 และรุ่นตัวเครื่องหนาไม่เกิน 20 มิลลิเมตรอย่าง TUF Dash F15 ด้วย แต่ละรุ่นยังไม่เปิดเผยราคา และวันวางจำหน่าย แต่มีสเปกเบื้องต้นดังนี้
TUF Gaming F15, F17
ทั้ง TUF Gaming F15 รุ่น 15 นิ้ว และ TUF Gaming F17 รุ่น 17 นิ้ว มีสเปกภายในเหมือนกัน คือซีพียู Intel 12th Generation Core i7-12700H และการ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 3070 พลังไฟบนกราฟฟิกการ์ดสูงสุด (Max TGP) ที่ 140W
มีระบบ MUX Switch ใช้โปรแกรม Armoury Crate เปลี่ยนใช้งานการ์ดจอออนบอร์ด กับการ์ดจอแยกได้ พัดลม Arc Flow ออกแบบใหม่ ASUS ระบุว่าเงียบเหมือนเดิม แต่เพิ่มการไหลเวียนอากาศได้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อน 13%
ตัวเลือกหน้าจอทั้งรุ่น 15 นิ้ว และ 17 นิ้ว มีถึงความละเอียดตั้งแต่ FHD อัตรารีเฟรช 300Hz ไปจนถึง QHD ที่อัตรารีเฟรช 165Hz ทั้งสองรุ่นผ่านมาตรฐานการทดสอบทางทหาร MIL-STD-810H และมีสี Mecha Gray กับ Jaeger Gray
TUF Dash F15
TUF Dash F15 เป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง TUF รุ่นความหนาไม่เกิน 20 มม.ซีพียูเป็น Intel Core i7-12650H และการ์ดจอสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 3070 พร้อม MUX Switch เช่นกัน มาพร้อมแรม DDR5 ความเร็ว 4800 MHz ใส่ SSD PCIe 4.0 แบบสองสล็อต (แต่ไม่ระบุความจุสูงสุด)
หน้าจอ 15 นิ้ว เป็นแบบ QHD 165 Hz ที่ครอบคลุมมาตรฐานสี DCI-P3 100% มีพอร์ต Thunderbolt 4 และรองรับชาร์จเร็วแบบ Power Delivery (PD) ผ่านพอร์ต USB Type-C สูงสุด 100W
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ |
# Lenovo ออก ThinkVision VoIP ชุดเว็บแคม-ซาวน์บาร์แปะจอภาพ ถอดแยกกันได้
สินค้าแปลกใหม่อีกตัวจาก Lenovo ในงาน CES 2022 คือชุดเว็บแคมสำหรับแปะด้านบนจอมอนิเตอร์ ใช้ชื่อว่า ThinkVision VoIP Modular Stack ความแปลกคือมันเป็นเว็บแคมและซาวน์บาร์แยกชิ้นกัน นำมาต่อกันผ่าน USB ได้พอดีโดยไม่ต้องใช้สายเคเบิล และประกอบกันเสร็จแล้วก็เสียบเข้ากับจอของ Lenovo โดยไม่ต้องใช้สายอีกเช่นกัน
อุปกรณ์ชิ้นแรกคือเว็บแคม Modular Webcam (MC60) ความละเอียด FHD มีไมโครโฟนแบบ dual-array ในตัว เลือกมุมได้ 65/78/90 องศา และมี privacy shutter ปิดเมื่อไม่ต้องการใช้งาน ราคา 129 ดอลลาร์
อุปกรณ์ชิ้นที่สอง Modular Soundbar (MS30) เป็นแถบลำโพงกำลังขับ 2 วัตต์ 2 ตัว ใช้สำหรับวิดีโอคอลล์ มีล็อคเพื่อกันขโมย ราคา 39 ดอลลาร์
ข้อจำกัดของ ThinkVision VoIP Modular Stack คือต้องใช้กับจอมอนิเตอร์ของ Lenovo รุ่นที่รองรับเท่านั้น ซึ่งตอนนี้มีแค่ 2 รุ่นคือ ThinkVision P27h-30 และ P27q-30 ที่เปิดตัวมาพร้อมกัน และยังไม่มีการการันตีว่าจะใช้กับจอมอนิเตอร์รุ่นอื่นๆ ของ Lenovo ในอนาคตได้
ที่มา - Lenovo |
# Lenovo ออกฐานตั้งจอ TIO Flex เชื่อมต่อ Tiny PC กับจอมอนิเตอร์ ใช้กับจอยี่ห้ออื่นได้
Lenovo เปิดตัวสินค้าแปลกใหม่น่าสนใจที่งาน CES 2022 คือ "ฐานตั้งจอ" ที่ใช้เป็น Dock ให้กับพีซีขนาดเล็ก (tiny PC) ได้ด้วย
ฐานตั้งจอรุ่นนี้มีชื่อว่า TIO Flex (TIO มาจากคำว่า Tiny-in-One) ตัวฐานมีราคา 49.99 ดอลลาร์ เราสามารถนำอุปกรณ์ 2 อย่างมาเสียบกับฐาน ได้แก่
พีซีขนาดเล็ก รองรับ ThinkCentre Tiny ของ Lenovo เอง โดยรองรับย้อนหลังตั้งแต่ Gen 4-8 ถ้ามีของเก่าอยู่แล้วก็นำมาใช้ได้เลย
จอมอนิเตอร์ รองรับจอ ThinkVision T Series ขนาด 22/24/27 นิ้ว และสามารถใช้จอยี่ห้ออื่นได้ โดยต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเป็น VESA mounting เพิ่ม
การเชื่อมระหว่างพีซี ThinkCentre กับจอภาพ จะผ่านสายภายในฐานตั้ง ทำให้ไม่มีสายเกะกะ ประหยัดที่กว่าเดิม (แนะนำให้ดูวิดีโอจะเห็นภาพกว่า) ตัวฐานยังมีฟีเจอร์เล็กๆ คือร่องสำหรับวางโทรศัพท์มือถือด้วย
ที่มา - Lenovo |
# ASUS เปิดตัวโน้ตบุ๊กในงาน CES เพียบ นำมาโดย Zenbook 17 Fold OLED โน้ตบุ๊ก 17.3 นิ้วจอพับได้
ASUS ยกโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่มาเปิดตัวในงานแถลง The Incredible Unfold ในงาน CES ปีนี้เพียบ นำมาโดยโน้ตบุ๊กตระกูล Zenbook อย่าง Zenbook 17 Fold OLED โน้ตบุ๊กจอ 17.3 นิ้วแบบพับได้, Zenbook 14X OLED, Zenbook 14 OLED ยังมี ASUS Chromebook Flip CX5 กับ ASUS ExpertBook B5 Series อีก โน้ตบุ๊กที่เปิดตัวส่วนใหญ่ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่าย แต่รายละเอียดเบื้องต้นมีดังนี้
Zenbook 17 Fold OLED
Zenbook 17 Fold OLED เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ค่อนข้างแหวกในตระกูล Zenbook เพราะมาพร้อมกับหน้าจอ OLED 17.3 นิ้วแบบพับได้ หน้าจอแบบเต็มจะเป็นจอ 17.3 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1920 พิกเซล อัตราส่วน 4:3 แต่สามารถพับครึ่งเป็นหน้าจอ12.3 นิ้ว อัตราส่วน 3:2 ได้ คีย์บอร์ดเป็นแบบแยกส่วน
สเปกภายในใช้ซีพียู Intel 12th Gen Core i7 รหัส U แรม 16GB SSD ความจุ 1TB และโปรแกรม ScreenXpert 2 ช่วยจัดระเบียบหน้าจอ แบตเตอรี่ 75Wh และเตรียมวางขายไตรมาสที่สองของปีนี้ โดยยังไม่เปิดเผยราคา
Zenbook 14X OLED Space Edition
Zenbook 14X OLED Space Edition สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครั้งที่บริษัทส่งโน้ตบุ๊กขึ้นไปกับสถานีอวกาศ MIR เป็นโน้ตบุ๊ก 14 นิ้ว หน้าตาล้ำๆ มาพร้อมจอ OLED ความละเอียด 2880×1800 พิกเซล กางได้ 180 องศา ซีพียู Core i9-12900H แรม 32GB และ SSD PCIe 4.0 ความจุ 1TB ด้านนอกมีจอ ZenVision ขนาด 3.5 นิ้ว แสดงเวลาและสัญลักษณ์ตกแต่งต่างๆ ได้ แบตเตอรี่ 63Wh มีสแกนรอยนิ้วมือเพื่อปลดล็อก
Zenbook 14 OLED
Zenbook 14 OLED เป็นรุ่นทั่วไปรองลงมาจากรุ่นด้านบน หน้าจอ OLED 14 นิ้ว ความละเอียด 2880x1800 พิกเซลเช่นกัน แต่สเปกต่างกันเล็กน้อย ซีพียูมีตัวเลือก Intel 12th gen Core i7 และ Ryzen 7 5826U ถ้าเลือกฝั่ง Intel จะได้แรม LPDDR5 ส่วนฝั่ง Ryzen จะได้แรม LPDDR4X แทน แต่ความจุ 16GB เท่ากัน แบตเตอรี่ใหญ่กว่าเล็กน้อย เป็น 75Wh ลำโพงจูนโดย Harman Kardon และรองรับ Windows Hello
ASUS Chromebook Flip CX5 (CX5601)
Chromebook Flip CX5 มาพร้อมกับข้อต่อแบบ Ergolift กลับด้านได้ 360 องศา หน้าจอ NanoEdge ขนาด 16 นิ้ว ขอบบาง อัตราส่วน 16:10 อัตราส่วนหน้าจอต่อขอบอยู่ที่ 87% สเปกภายในตัวเลือกซีพียูสูงสุด Intel 12th Gen Core i7 จีพียู Intel Iris Xe แรม 16GB และรองรับ WiFi 6E ลำโพง 4 ตัว จูนเสียงโดย Harman Kardon กล้องหน้า FHD
ASUS ExpertBook B5 Series
ด้านโน้ตบุ๊ก ทำงาน ASUS ExpertBook B5 Series คราวนี้มาทั้งรุ่นธรรมดา ExpetBook B5 และแบบทูอินวัน ExpertBook B5 Flip คราวนี้แพแนลหน้าจอมาในขนาด 14 นิ้ว จาก ExpertBook เดิมๆ ที่เคยเป็นหน้าจอ 13 นิ้ว สเปกภายในซีพียู Intel Core i7 จีพียู Iris Xe ใส่แรมได้สูงสุด 48GB SSD 1TB รุ่นน้ำหนักเบาสุด หนักแค่ 1.25 กิโลกรัม รุ่น Flip มีปากกา Stylus พร้อมที่เก็บในตัว
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์, XDA Developers |
# ดูจอใหญ่สบายกว่า Android Auto รองรับแอพคนขับบนหน้าจอในรถ เริ่มต้นด้วย Lyft
ในการเรียกรถแบบ ride-hailing สิ่งที่เราเห็นคือคนขับรถ กดรับคำสั่งจากผู้โดยสารจากสมาร์ทโฟนที่แขวนไว้ที่กระจกหน้าหรือแท่นบนคอนโซลหน้ารถ ข้อเสียของแนวทางนี้คือหน้าจอเล็ก มองลำบาก อาจเกิดอุบัติเหตุได้
วงการรถยนต์เองก็เริ่มใช้หน้าจอ infotainment แบบสัมผัสที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และสามารถนำมาใช้แก้ปัญหาข้างต้นได้ วันนี้กูเกิลจึงประกาศว่ารถยนต์ที่รองรับ Android Auto จะสามารถแสดงแอพของคนขับ (driver app) บนหน้าจอได้โดยตรง เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนขับมองเห็นข้อมูลได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้แอพที่รองรับยังมีสองตัวคือ Lyft และ Kakao Mobility ในเกาหลีใต้
ที่มา - Google |
# Volvo แก้ปัญหารถร้อนเพราะจอดตากแดด "Hey Google เปิดแอร์ในรถให้หน่อย"
กูเกิลประกาศความร่วมมือกับ Volvo Cars เพิ่มฟีเจอร์สำคัญคือรองรับการสั่งงานด้วยเสียงจากระยะไกล
เราสามารถสั่ง "Hey Google" ผ่านอุปกรณ์ใดๆ ที่รองรับ Google Assistant (ไม่ว่าจะเป็นมือถือหรือลำโพงอัจฉริยะ) ให้เปิดแอร์ เปิดฮีทเตอร์ สั่งล็อค-ปลดล็อครถ และดูสถานะของรถยนต์ (เช่น แบตเตอรี่) ในกรณีของคำสั่งสำคัญๆ อย่างการปลดล็อครถ จะมีระบบ two-factor authentication ยืนยันตัวตนอีกชั้น
ฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงจากระยะไกล จะใช้ได้กับรถยนต์ Volvo ที่ใช้ระบบความบันเทิงในรถเป็นแอนดรอยด์ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่ามีรถรุ่นใดบ้าง และใช้ได้ในประเทศไหนบ้าง
นอกจากฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงแล้ว กูเกิลยังเปิดให้รถยนต์ Volvo ที่ใช้ระบบความบันเทิงแอนดรอยด์ ติดตั้งแอพจาก Google Play ได้ อำนวยความสะดวกการขับรถด้วยแอพนำทาง, แอพจุดชาร์จไฟฟ้า, แอพที่จอดรถ และจะชมคลิปวิดีโอจาก YouTube ขณะรถจอดนิ่งได้ด้วย
ที่มา - Google, Volvo |
# สิงคโปร์ประกาศจะถือว่าคนที่ได้วัคซีน booster เท่านั้นจึงถือว่าฉีดครบ คนฉีด Sinovac/Sinopharm ต้องฉีดสี่เข็ม
สิงคโปร์ประกาศกฎการฉีดวัคซีนใหม่ เริ่มใช้งานวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะถือว่าผู้ที่ได้รับเข็มสาม (booster) เท่านั้นจึงจะถือว่าฉีดวัคซีนครบแล้ว ส่วนผู้ได้รับวัคซีนเชื้อตายทั้ง Sinovac/Sinopharm ครบ 3 เข็มจะต้องเติมเข็มที่ 4
กฎใหม่นี้ไม่ได้บังคับให้ทุกคนไปฉีดวัคซีนทันที แต่กำหนดว่าต้องฉีด booster ภายใน 270 วันหลังจากได้รับ mRNA ครบ 2 เข็ม หรือได้รับวัคซีนเชื้อตายมาแล้ว 3 เข็ม โดยรัฐบาลจะเชิญให้ไปฉีด booster ตั้งแต่ได้รับวัคซีนชุดแรกครบ 150 วันเป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้สิงคโปร์มีท่าทีไม่สนับสนุนวัคซีนเชื้อตายนัก ด้วยการไม่ออกค่าใช้จ่ายให้ หรือบังคับว่าต้องฉีดวัคซีนเชื้อตายสามเข็มจึงจะถือว่าฉีดครบ รอบนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ทางการบังคับให้ฉีดเข็มที่ 4
สถานะฉีดวัคซีนครบถ้วนของสิงคโปร์ใช้สำหรับการใช้บริการสถานที่ปิดทั้งหลาย เช่น ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, ห้องสมุด ฯลฯ
note: เวอร์ชั่นแรกของบทความระบุว่า booster ต้องเป็น mRNA หลังจากตรวจสอบซ้ำพบว่าคลาดเคลื่อนทางสิงคโปร์ไม่ได้กำหนดโดยตรง
ที่มา - MoH Singapore
ภาพวัคซีน BNT162b2 จาก BioNTech |
# เปิดตัว Realme GT 2 Pro สเปกเรือธง Snapdragon 8 Gen 1, กล้องอัลตร้าไวด์ 150 องศา
Realme เปิดตัวมือถือเรือธง Realme GT 2 Pro ในประเทศจีน จุดเด่นคือใช้ Snapdragon 8 Gen 1 ตามที่เคยประกาศไว้ และใช้วัสดุเป็นไบโอโพลิเมอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ออกแบบร่วมกับดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น นาโอโตะ ฟุคาซาวา
สเปกของ Realme GT 2 Pro มีดังนี้
หน้าจอ 6.7" AMOLED ความละเอียด 2K UHD (525 PPI), อัตรารีเฟรช 1-120Hz, รองรับสี 10-bit, กระจก Gorilla Glass Victus
หน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1
กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX766, กล้องอัลตร้าไวด์มุมกว้าง 150 องศา 50MP เซ็นเซอร์ Samsung JN1, กล้องซูม 40 เท่า
แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 65W
Android 12 พร้อม Realme UI 3.0
ราคาในจีนของ Realme GT 2 Pro เริ่มต้นที่ 3,699 หยวน (ประมาณ 19,500 บาท) นอกจากนี้ยังมี Realme GT 2 รุ่นธรรมดา ใช้ Snapdragon 888 ตั้งราคาที่ 2,599 หยวน (ประมาณ 14,000 บาท)
ที่มา - @RealmeIndia |
# Konami ฉลอง 35 ปี Castlevania ด้วยการจัดประมูล NFT อาร์ตเวิร์ค, BGM จากเกม
ปีนี้ครบรอบ 35 ปีของเกมตระกูล Castlevania ซึ่งถ้าใครหวังประกาศเกมใหม่หรือรีมาสเตอร์ใดๆ ก็น่าจะเลิกหวังได้เลย เมื่อ Konami เลือกจะฉลองการครบรอบด้วยการประกาศประมูล NFT อาร์ตเวิร์คที่วาดขึ้นใหม่, BGM และฉากต่อสู้สั้นๆ จากในเกม
Konami เลือกใช้แพลตฟอร์ม OpenSea ในการประมูล โดยจะเริ่มประมูลตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม เวลาตี 5 จนถึง 15 มกราคมเวลา 9 โมงตามเวลาไทย
ที่มา - Konami |
# ขาดทุนคือกำไร สรรพากรแจงเก็บภาษีคริปโต คิดทุกรายการ ขาดทุนนำมาหักกลบไม่ได้
เมื่อเช้านี้คุณสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี และโฆษกกรมสรรพากร ให้ข้อมูลในรายการ The Morning Wealth ถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีคริปโต (ช่วงนาทีที่ 33 เป็นต้นไป) โดยระบุว่าการคิดภาษี เป็นการคิดภาษีเงินได้ คิดจากการทำธุรกรรมคริปโตทุกรายการ (transactions) ที่มีกำไรเป็นเงินสด
หากตีความจากคำอธิบายนี้ สมมุติว่าผู้เสียภาษีทำการแลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน 10 รายการในปีนั้น โดยขายเหรียญได้กำไรเป็นเงินสด (THB) 5 รายการ รวม 200,000 บาท แต่อีก 5 รายการ ขายเหรียญแล้วขาดทุน 500,000 บาท รวมทั้งปีผู้เสียภาษีขาดทุนจากการแลกเปลี่ยนรวม 300,000 บาท ภาษี 15% นั้นก็จะต้องระบุเงินได้เพื่อเสียภาษีจากกำไร 200,000 บาทอยู่ดี แม้ยอดรวมทั้งปีจะขาดทุน หรือแม้จะยังไม่ได้ถอนเงินบาทออกมาจากพอร์ตบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนก็ตาม เนื่องจากสรรพากรถือว่าการสั่งขายเป็นเงินได้ทันที แม้จะยังไม่ได้ถอนเงินออกมา
ทั้งนี้กรมสรรพากรระบุว่ามี Big Data และ Data Analytic มาช่วยในการวิเคราะห์ หากผู้เสียภาษีอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเสียภาษีไม่ถูกต้อง ผู้เสียภาษีอาจต้องทำการพิสูจน์ว่าการยื่นแบบเสียภาษี ต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่ ถ้าต่ำกว่าก็ต้องชำระเพิ่มในส่วนที่ยื่นขาด และยังต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ในส่วนที่ยื่นขาด และกำลังประสานกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการนำส่งข้อมูลภาษีของผู้ซื้อและผู้ขายให้กับกรมสรรพากร
ที่มา - คุณสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ในรายการ The Morning Wealth นาที่ที่ 33.11 |
# ก.ล.ต. ระบุหาก NFT มีสิทธิอย่างอื่นจะเข้าข่าย Utility Token ถูกกำกับตามพ.ร.ก.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกประกาศระบุถึงสถานะการเป็น “สินทรัพย์ดิจิทัล” ของ NFT หรือ non-fungible token แล้ว โดยระบุอ้างอิงพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ที่ออกมาก่อนหน้านี้
ก.ล.ต. ระบุว่าหน่วยงานมีหน้าที่กำกับการเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภท investment token และ utility token แบบไม่พร้อมใช้ตามใน พรก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ทำให้การกำกับดูแล NFT ของ กลต. ต้องดูว่า NFT นั้นเข้าข่าย สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทใดประเภทหนึ่งตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ หรือไม่ และในประกาศวันนี้ได้กำหนดไว้ดังนี้
ประเภทแรกคือ NFT ที่มีการกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้า บริการ หรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง เช่น มีการออก NFT ที่ให้สิทธิในการได้มาซึ่งทรัพย์สิน ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งของที่มีลักษณะทางกายภาพที่จับต้องได้ (physical) หรือไฟล์ดิจิทัล หรือมีการสะสม NFT แล้วให้สิทธิแก่ผู้ถือไปแลกของหรือสิทธิอย่างอื่น
NFT ประเภทนี้จะเข้านิยาม utility token ไม่พร้อมใช้ ตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ การประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ NFT ประเภทนี้จึงต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ภายใต้ พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ
แต่หาก NFT นั้น เป็นตัวทรัพย์สินนั้นเอง เวลาซื้อขายหรือโอนก็ติดไปด้วยกัน ไม่อาจแยกกันได้ และไม่ได้มีการกำหนดสิทธิใดๆ เพิ่มเติม และไม่มีวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยน เช่น NFT ที่สร้างขึ้นโดยการเก็บ digital file บน Interplanetary File System (IPFS) โดย digital file และเหรียญนั้นจะโอนติดไปด้วยกัน ไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลง และไม่สามารถแยกกันได้ NFT ดังกล่าวจะไม่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล และไม่ถูกกำกับดูแลโดย พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ
ภาพจากแพลตฟอร์ม NFT Opensea
ก.ล.ต. ระบุว่า การประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับ NFT ที่เข้าข่ายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ในลักษณะการเป็นศูนย์กลางหรือเครือข่ายใด ๆ ที่จัดให้มีขึ้นเพื่อการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยน หรือก็คือ NFT marketplace นั้น ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก่อน
พร้อมระบุว่าปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มี NFT marketplace ที่ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเลย และศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตก่อนหน้านี้ ไม่สามารถนำ NFT ที่เข้าข่ายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ มาให้บริการซื้อขายได้ โดยอ้างถึงประกาศของก.ล.ต. ที่ระบุให้ศูนย์ซื้อขายต้องมีหลักเกณฑ์การคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาให้บริการซื้อขาย และหลักเกณฑ์นั้นต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ก่อนประกาศเกณฑ์ใหม่ (จึงเหมือนการขออนุญาต ก.ล.ต. ก่อนให้บริการ)
ที่มา - สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.